Design of exhibition wiang thakan museum

Page 1

การเสนอแนวทาง

นิ ท รรศการพิ พ ิ ธ ภั ณ ฑ์ เ วี ย งท่ า กาน

ธณิกา มณีวรรณ



ธณิกา มณีวรรณ

ก า ร เ ส น อ แ น ว ท า ง

นิ ท รรศการ พ ิ พ ิ ธ ภั ณ ฑ์ เ วี ย งท่ า กาน

1



ศูนนักย์ท่อบงเทีริ่ยกวเวีารข้ อ มู ล ย งท่ า กาน


4


ศูนย์บริการข้อมูลนักท่องเที่ยวเวียงท่ากาน เวียงท่ากานเป็นเมืองโบราณสถาน

ตั้งอยู่ในเขต บ้านท่ากาน ตำ�บล บ้านกลาง อำ�เภอสันป่าตอง จังหวัดเชียงใหม่ มีลักษณะเป็นเมืองรูป สี่เหลี่ยมผืนผ้า ยาว 700เมตร กว้าง 500 เมตรโดยประมาณ ปรากฏ แนวคูเมือง 1 ชั้น และมีกำ�แพงดินหรือคันดินล้อมรอบ 2 ชั้น ปัจจุบัน เหลือสภาพแนวคูน้ำ�คันดินให้เห็น 3 ด้านยกเว้นทิศใต้ การเดินทางมายังเวียงท่ากานจากตัวเมืองเชียงใหม่บนทางหลวงหมายเลข 108 (เชียงใหม่–ฮอด) เป็นระยะทางประมาณ 34 กิโลเมตรจนถึงทางแยก เข้าบ้านท่ากานบริเวณปากทางบ้านทุง่ เสีย้ วเลีย้ วซ้ายเข้าไปเป็นระยะทาง 2 กิโลเมตร โดยประชากรส่วนใหญ่ทอ่ี ยูอ่ าศัยในเวียงท่ากานเป็นเชือ้ สายชาว ไทลือ้ ทีเ่ รียกตัวเองว่า “ชาวยอง” อพยพมาจากประเทศพม่าเข้ามาบริเวณ เวียงท่ากานเป็นระยะเวลากว่า 200 ปีซง่ึ ตรงกับสมัยพระเจ้ากาวิละ ปัจจุบนั คนในชุมชนส่วนมากจะอาศัยอยู่ท้ังนอกตัวเมืองโบราณและภายในเมือง โบราณ ประกอบไปด้วยประชากรประมาณ 424 ครัวเรือน และทีเ่ วียงท่ากาน นี้เรายังมีศูนย์บริการข้อมูลนักท่องเที่ยวเวียงท่ากานเนื่องจากเวียงท่ากานนั้น เป็นเมืองประวัติศาสตร์ท่มี ีความสำ�คัญและมีโบราณสถานกระจัดกระจายอยู่ ทั่วในช่วงเวลาที่ผ่านมาชาวบ้านเวียงท่ากานได้รักหวงแหนและแสดงออกถึง ภาคภูมิใจมรดกวัฒนธรรมแห่งนี้เป็นอันมากได้ร่วมแรงร่วมใจกันปกปักรักษา โบราณสถานเหล่านัน้ มิให้ถกู ทำ�ลาย จนสามารถรักษาเมืองประวัตศิ าสตร์ แห่งนี้ไว้ได้จึงทำ�ให้ได้รับโล่ห์พระราชทานรางวัลอนุรักษ์มรดกไทยดีเด่นใน นามของ “กลุม่ ประชาอาสาอนุรกั ษ์เมืองประวัตศิ าสตร์เวียงท่ากาน” จาก สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เมือ่ ปีพทุ ธศักราช 2530 นอกจากนีช้ าวบ้านเวียงท่ากานยังเป็นชุมชนทีม่ เี จตนาและจิตสำ�นึกสูงต่อการ อนุรักษ์และรักษามรดกท้องถิ่นของตนโดยเฉพาะอย่างยิ่งทางกรมศิลปกรได้ เข้ามาให้ความรูท้ ง้ั ด้านประวัตศิ าสตร์ โบราณสถานและโบราณวัตถุท�ำ ให้เกิด มีแนวคิดก่อตัง้ ศูนย์บริการข้อมูลแก่นกั ท่องเทีย่ วขึน้

5


ศูนย์บริการข้อมูลนักท่องเที่ยวเวียงท่ากานมีการเก็บรวบรวมโบราณวัตถุ และสื่อจัดแสดงข้อมูลความรู้เกี่นวกับโบราณวัตถุ 6


7


8


โครงการ

การจัดตั้งพิพิธภัณฑ์เวียงท่ากาน

9


10


โครงการการจัดตั้งพิพิธภัณฑ์เวียงท่ากาน พิพิธภัณฑ์กล่าวตามความหมายของพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน

ให้ความหมายไว้ว่าสิ่งของต่างๆ ที่รวบรวมไว้เพื่อประโยชน์ในการศึกษา เช่น โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ เป็นต้น โดยมีหน้าที่ 3 ประการคือ เก็บ รวบรวม สงวนรักษา และแสดงถึงสิ่งต่างๆ โดยบรรดาสิ่งต่างๆ เหล่า นั้น อาจเป็นวัตถุธรรมชาติที่เกี่ยวกับภูมิวิทยา ดาราศาสตร์ หรือชีววิทยา หรือแสดงเกี่ยวกับกำ�เนิดของมนุษย์ในประวัติศาสตร์ ศิลปะ วิทยาศาสตร์ วัตถุประสงค์ของพิพิธภัณฑ์อาจมุ่งเน้นเฉพาะอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือทั้ง 3 ประการดังกล่าวข้างต้น หรือแสดงออกซึ่งปรัชญาความนิยมความมุ่งหวัง ตลอดจนทีท่าของชุมชนก็ได้ เวียงท่ากานเป็นเมืองโบราณสถานที่มีหลักฐานทางโบราณคดีที่สำ�คัญอยู่เป็น จำ�นวนมากแต่ยังขาดพิพิธภัณฑ์ ดังนั้น จึงมีโครงการจัดตั้งพิพิธภัณฑ์เวียง ท่ากานซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการในพระดำ�ริของพระเจ้าหลานเธอ พระองค์ เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์ ด้วยทรงเห็นความสำ�คัญของโบราณสถานเวียงท่ากาน ต.บ้านกลาง อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่โดยมีการออกแบบผังจัดแบ่งสัดส่วนคือ ส่วนที่ 1 ส่วนของการบริหารและการจัดการ ประกอบด้วยอาคารสำ�นักงาน บริหาร ส่วนที่ 2 ส่วนพิพิธภัณฑ์ ประกอบด้วยอาคารส่วนนิทรรศการ ถาวร อาคารนิทรรศการชั่วคราว อาคารประชาสัมพันธ์ ส่วนที่ 3 ส่วนของ การศึกษา ประกอบด้วย อาคารการเรียนรู้ รูปแบบสถาปัตยกรรม รูปแบบ อาคารเป็นแบบล้านนาแบบร่วมสมัยเพื่อความเหมาะสมกับการใช้งาน โดย มีวัตถุประสงค์และขอบเขตการจัดแสดงนิทรรศการเพื่อนำ�เสนอแนวทาง รูปแบบการจัดนิทรรศการถาวรและนิทรรศการหมุนเวียน เพื่อให้ทราบถึง ประวัติความเป็นมาของเวียงท่ากาน สังคม วัฒนธรรมและประเพณีของกลุ่ม ชาติพันธุ์เมืองโบราณเวียงท่ากาน อำ�เภอสันป่าตอง จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งโดย ได้กำ�หนดกลุ่มเป้าหมายไว้ที่ กลุ่มประชาชนทั่วไป นักเรียน นักศึกษา นัก วิชาการ และนักท่องเที่ยวที่มีความสนใจในด้านประวัติศาสตร์และหลักฐาน ทางโบราณคดีตลอดจนถึงเรื่องราวของสังคม วัฒนธรรม ประเพณีของท้อง ถิ่น ส่วนขอบเขตการจัดแสดงใช้อาคารส่วนที่ 2 ประกอบด้วยอาคารส่วน นิทรรศการถาวร อาคารนิทรรศการชั่วคราว อาคารประชาสัมพันธ์ ในส่วน ของแปลนที่เขียนว่าห้องบรรยาย

11


แสดงแปลนพื้นที่ของอาคารพิพิธภัณฑ์เวียงท่ากาน ที่มา : https://drive.google.com/file/d/0B_Ii-nA7TgEBYVQyS1ktWUtpeDA/view

12


แสดงรูปแบบการออกแบบพิพิธภัณฑ์เวียงท่ากานในรูปแบบ 3D ที่มา : สานตำ�นานยิ่งใหญ่ พิพิธภัณฑ์เวียงท่ากาน (2 ตุลาคม 2558). ไทยรัฐออนไลน์ . สืบค้นจาก http://www.thairath.co.th/content/529250

13


14


นิทรรศการถาวร

15


นิทรรศการถาวร เป็นห้องโถงใหญ่มีประตูเข้าออกเพียงประตูเดียวโดยจะใช้หลักการ จัดแสดงนิทรรศการของห้องแบบห้องต่อห้อง (Room to Room Arrangement) คือการชมนิทรรศการโดยไม่ต้องย้อนกลับทางเดิม แต่มีการใช้ทางสัญจรร่วมกันดังนั้นจึงจะใช้การระบุสีและสัญลักษณ์ ของการชมลำ � ดั บ นิ ท รรศการไว้ ที่ บ ริ เวณพื้ น เพื่ อ ให้ เ กิ ด ความต่ อ เนื่ อ งของการชมนิ ท รรศการซึ่ ง เป็ น วิ ธี ก ารจั ด วางแผนผั ง สำ � หรั บ นิทรรศการถาวร

16


1 1

1

1

1 1

จำ�ลองส่วนจัดแสดงส่วนของการบรรยายประวัติความเป็นมาก่อนชมนิทรรศการ (หมายเลข1 สีน้ำ�เงิน) 2

2

2

2

2

จำ�ลองส่วนจัดแสดงหลักฐานทางโบราณคดีอัน ประกอบไปด้วยหลักฐานทางศิลปกรรมและหลัก ฐานทางสถาปัตยกรรมของเวียงท่ากาน (หมายเลข 2 ส่วนสีเขียว)

3

จำ�ลองส่วนจัดแสดงสภาพแวดล้อมหรือสิ่งแวดล้อม ของเวียงท่ากาน (หมายเลข 3ส่วนสีชมพู)

4

จำ�ลองส่วนจัดแสดงประวัติบุคคลสำ�คัญในท้องถิ่น เวียงท่ากานและประวัติการดำ�เนินการเกี่ยวกับเวียง ท่ากานในช่วงที่ผ่านมา (หมายเลข 4ส่วนสีเทา)

17


ส่วนจัดแสดงที่ 1 แสดงประวัติความเป็นมาของเวียงท่ากานประวัติ ความเป็นมาของ การจัดตั้งพิพิธภัณฑ์เวียงท่ากาน เวียงท่ากาน

สมัยหริภุญไชย แสดงประวัติความเป็นมาของเวียงท่ากานในส่วนแรกเป็น ห้ อ งบรรยายจะแสดงเป็ น เรื่ อ งประวั ติ ศ าสตร์ ข องเวี ย งท่ า กานเริ่ ม ตั้ ง แต่ ประวัติศาสตร์ของเวียงท่ากานตั้งแต่ยุคสมัยหริภุญไชย ล้านนา จนถึง รัตนโกสินทร์จนถึงปัจจุบันจากหนังสือเรื่องตำ�นานพื้นเมืองเชียงใหม่ ฉบับ เชียงใหม่ 700 ปีได้พูดถึงประวัติความเป็นมาของเวียงท่ากานดังต่อไปนี้

เวียงท่ากานสมัยหริภุญไชย

เวี ย งท่ า กานไม่ ป รากฏเรื่ อ งราวในเอกสารว่ า สร้ า งขึ้ น สมั ย ไหนแต่ จ าก หลักฐานที่พบทั้งภายในและภายนอกและนอกตัวเวียงจำ�นวนหนึ่งที่เป็น ภาชนะดินเผา พระพิมพ์ดินเผา ซึ่งบางองค์มีจารึกเป็นอักษรมอญโบราณ รูปพระโพธิสัตว์ที่ระบุด้วย สำ�ริด เงิน และทองคำ�ล้วนเป็นหลักฐานของ ศิลปกรรมในสมัยหริภุญไชยมีความเจริญมั่นคงและเป็นเมืองบริวารของเมือง หริภุญไชย อย่างไรก็ตามเวียงท่ากานยังคงเป็นชุนชนที่มีผู้คนอาศัยอยู่สืบ เนื่องมา

เวียงท่ากานสมัยล้านนา

18

เวี ย งท่ า กานก็ ต กเป็ น เมื อ งขึ้ น ของล้ า นนาด้ ว ยเช่ น กั น ช่ ว งก่ อ นตั้ ง เมื อ ง เชียงใหม่ ได้ปรากฏชื่อในตำ�นานพื้นเมืองเชียงใหม่ว่า เวียงพันนาทะการ คงจะเป็นเมืองที่มีความสำ�คัญเมืองหนึ่ง เพราะพญามังรายโปรดให้นำ�ต้นโพธิ์ ที่นำ�มาจากลังกาทวีปต้นหนึ่ง ในจำ�นวน 4 ต้น มาปลูกที่เวียงพันนาทะการ ดังปรากฏในตำ�นานพื้นเมืองเชียงใหม่ เวียงท่ากานเป็นเมืองที่มีเจ้าปกครอง ภายใต้การปกครองของเมืองเชียงใหม่ เป็นแหล่งสะสมเสบียงอาหารเพราะ เป็นถิ่นอุดมสมบูรณ์ ชื่อของเวียงท่ากานปรากฏในเอกสารโบราณสถานเกี่ยว กับเมืองเชียงใหม่สมัยพระเจ้าติโลกราช(พ.ศ. 1984-2030) กล่าวว่าพระองค์ ได้ยกทัพไปตีเมืองเงี้ยวและได้เชลยชาวเงี้ยวไปอยู่ที่เวียงพันนาทะการ คงจะ หมายความว่าในช่วงนี้เวียงพันนาทะการมีฐานเป็นเมืองขึ้นหน้าเมืองหนึ่ง ของเชียงใหม่เพราะคำ�ว่า “พันนา” ภาษาไทยเหนือ หมายถึง ตำ�บล ดัง ปรากฏในตำ�นานพื้นเมืองเชียงใหม่ ความว่า “พระเป็นเจ้าไปเมืองเงี้ยวบาง


นั้นได้เงี้ยว 11 เมือง เมืองสู่หนึ่ง เมืองลายข้าหนึ่ง เมืองจีดหนึ่ง เมืองจางหนึ่ง เมืองกิงหนึ่ง เมืองลอกจอกหนึ่ง เมืองจาคำ�หนึ่ง เมืองยองห้วยหนึ่ง เมืองหนองบอนหนึ่ง เมืองสี่ป้อหนึ่ง เข้ากันเป็น 11 เมือง และสมัยพระ เมืองแก้ว (พ.ศ. 2038-2068) ในตำ�นานพื้นเมืองเชียงใหม่ได้กล่าวถึงพระ เมืองแก้วโปรดให้นำ�ไพร่ที่เจ้าเมืองนายนำ�มาถวายไปอยู่ที่พันนาทะการ ความว่า “ปีระวายไจ้ศักราช 828 (พ.ศ. 2059) ชาวเชียงใหม

เวียงท่ากานสมัยรัตนโกสินทร์จนถึงปัจจุบัน

ในสมัยพระยากาวิละเข้ามาบูรณะเมืองเชียงใหม่ ได้ยกทัพไปตีเมืองต่างๆ แล้วกวาดต้อนคนมาอยู่ตามเมืองเหล่านั้น รวมทั้งท่ากานและลำ�พูน พระยากาวิละกวาดต้อนพวกไทยยองเข้ามาตั้งบ้านเรือนใหม่ ทำ�ให้ช่วงนี้เวียง ท่ากานมีคนอยู่อีกครั้ง ซึ่งชาวบ้านเวียงท่ากานที่อาศัยอยู่ในปัจจุบันคือคนไท ลือที่เรียกตัวเองว่า คนยอง มาจนถึงปัจจุบัน ความหมายของชื่อ ท่ากานนั้น ได้มีการกล่าวกันว่า มาจากคำ�ว่า ต๊ะก๋าน จากคำ�บอกเล่าในท้องถิ่นถึงเรื่อง ในสมัยก่อนว่า มีกาเผือกตัวใหญ่ที่มักจะบินลงมาทำ�ความเสียหายทำ�ลาย พืชผลทางเกษตรและอ้างถึงพระพุทธเจ้าว่าเคยเสด็จมาโปรดสัตว์และยก พระหัตถ์ห้ามกาเผือกไม่ให้ลงมาทำ�ความเสียหายในชุมชนจากลักษณะการ ยกพระหัตถ์ห้ามของพระพุทธองค์ในภาษาถิ่นเรียกว่า ต๊ะก๋าน อันมีลักษณะ คล้ายคลึงกับชื่อเวียง/เมืองที่ในสมัยหลังนิยมนำ�เข้าไปผูกเรื่องสัมพันธ์กับ พุทธประวัติดังปรากฏเป็นประวัติของชุมชน/บ้านเมืองในลักษณะต่างๆ เช่น เวียงแหง เวียงฮอด/เวียงกาหลง ฯลฯ

ประวัติโครงการจัดตั้งพิพิธภัณฑ์เวียงท่ากาน

พิพิธภัณฑ์เวียงท่ากานเป็นหนึ่งโครงการในพระดำ�ริของพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์ ด้วยทรงเห็นความสำ�คัญของโบราณสถานเวียง ท่ากาน ต.บ้านกลาง อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ ซึ่งมีคุณค่าทางศิลปวัฒนธรรม และเป็นหลักฐานสำ�คัญทางประวัติศาสตร์ที่อยู่คู่กับชุมชนมาเป็นเวลานาน ขณะนี้ยังขาดพิพิธภัณฑสถานสำ�หรับเก็บรวบรวมและเป็นแหล่งศึกษาเรียน รู้คุณค่าทางประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรมให้แก่นักเรียน นักศึกษา ประชาชนทั่วไป โดยเฉพาะเยาวชนในท้องถิ่นควรได้รับการส่งเสริมให้เกิด การอนุรักษ์และสืบทอดมรดกของท้องถิ่น

19


ส่วนจัดแสดงที่ 2 แสดงหลักฐานทางโบราณคดีอันประกอบไปด้วยหลักฐานทาง ศิลปกรรมและหลักฐานทางสถาปัตยกรรมของเวียงท่ากาน การจัดแสดงส่วนนี้

แบ่งออกเป็น 3 ส่วน ส่วนแรกเป็นส่วนของหลักฐานทางสถาปัตยกรรมที่สร้างขึ้นในพุทธ ศตวรรษที่ 17 ถึงพุทธศตวรรษที่ 21 หลักฐานของสถาปัตยกรรมนั้นได้แก่ เจดีย์ ชิ้นส่วน ของลวดลายประดับสถาปัตยกรรม ส่วนที่สองเป็นส่วนของศิลปกรรมที่เป็นโบราณวัตถุใน ช่วงพุทธศตวรรษที่ 17 -18 ซึ่งมีเอกลักษณ์ของหริภุญไชย

สถาปัตยกรรม

20

สถาปัตยกรรมในเมืองโบราณเวียงท่ากานจะเป็นลักษณะของศาสนาสถานในรูปแบบของ เจดีย์ วิหารซึ่งมีทั้งสมบรูณ์และไม่สมบูรณ์อยู่กระจัดกระจายตามพื้นที่ต่างๆ โดยจะแบ่ง ออกเป็น 3 กลุ่มใหญ่ๆ ได้แก่ กลุ่มที่ 1 ตั้งอยู่ทางทิศเหนือ ประกอบด้วย เจดีย์ วิหาร แนวกำ�แพง และซุ้มประตู โขง กลุ่มที่ 2 ตั้งอยู่ช่วงกลางใช้แนวกำ�แพงร่วมกับกลุ่มที่ 3 ประกอบไปด้วยวิหาร เจดีย์ อาคารขนาดเล็ก และศาลาโถง กลุ่มที่ 3 ตั้งอยู่ทางทิศใต้ด้านซ้ายสุดของกลุ่มมีพื้นที่มากที่สุดประกอบด้วยกลุ่ม ของเจดีย์ วิหาร พระอุโบสถ อาคาร และเจดีย์รายขนาดเล็ก


โบราณวัตถุ

ที่เป็นเอกลักษณ์ของหริภุญไชย คือ พระพิมพ์ดินเผาแบบที่เรียกว่าพระสาม พระสิบสอง และพระแผง(พระห้าร้อย) คติการสร้างพระพิมพ์ดินเผาสืบต่อมาจากทวารวดี ที่นิยมสร้าง ขึ้นเป็นพุทธบูชา มีอายุประมาณพุทธศตวรรษที่ 17 - 18 ที่เวียงท่ากานได้ขุดพบพระพิมพ์ แบบนี้เป็นจำ�นวนมาก และยังพบพระปางประทานอภัยสวมมงกุฎทรงเทริดทำ�ด้วยสำ�ริด ลักษณะของพระแบบนี้เป็นคติมหายานที่นิยมในสมัยราชวงศ์ปาละของอินเดีย ประมาณ พุทธศตวรรษที่ 14 - 17 ซึ่งได้แพร่หลายเข้ามายังพม่า ไทย ในประเทศไทยเคยพบพระ พุทธรูปแบบนี้ที่ลพบุรี และเวียงมโน ที่เวียงท่ากานเคยพบจำ�นวน 4 องค์ ปัจจุบันหายไป แล้ว พระพุทธรูปแบบนี้กำ�หนดอายุไว้ประมาณพุทธศตวรรษที่ 17 - 18 นอกจากนี้ยังมีพวก ภาชนะดินเผาแบ่งได้ดังนี้ภาชนะดินเผาที่พบที่เวียงท่ากาน สามารถจำ�แนกออกเป็น 2 กลุ่ม ใหญ่ ตามแหล่งภาชนะดินเผาที่ผลิตจากแหล่งเตาในประเทศภาชนะดินเผาที่ผลิตจากแหล่ง เตาต่างประเทศ ซึ่งได้มีการขุดค้นพบเครื่องเคลือบดินเผาที่สำ�คัญของสมัยราชวงศ์หมิงและ ราชวงศ์หยวนในลักษณะสภาพสมบูรณ์แบบ โดยมีแบบจำ�ลองจัดแสดงไว้ที่ศูนย์บริการ ข้อมูลนักท่องเที่ยวเวียงท่ากาน

21


1.วัดกลางเวียง

3. วัดป่าเป้า

5. วัดพระเจ้าก่ำ�

22


2. วัดอุโบสถ

4. วัดหนองหล่ม

6. วัดหัวข่วง

23


7. วัดป่าไผ่รวก

9. วัดต้นโพธฺื๋

11. วัดต้นกอก

24


8. วัดกู่ไม้แดง

10. วัดน้อย

12. โบราณวัตถุและสิ่งของจัดแสดงที่ เกี่ยวข้องกับเวียงท่ากาน

25


ส่วนจัดแสดงที่ 3 แสดงสภาพแวดล้อมหรือสิ่งแวดล้อมของเวียงท่ากาน จัดแสดง

ถึงลักษณะทางกายภาพสิ่งแวดล้อมทั่วไปของชุมชนเวียงท่ากานในปัจจุบันที่ตั้งและเส้นทาง คมนาคม เวียงท่ากาน มีลักษณะเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า กว้าง 500 เมตร ยาวโดยประมาณ 750 เมตร มีแนวคูเมือง 1 ชั้น กว้างประมาณ 8 เมตร และมีกำ�แพงเมืองเป็นคันดินล้อมรอบ 2 ชั้นซึ่ง ปัจจุบันเหลือสภาพที่ให้เห็นชัดเจนมีแค่เพียง 3 ด้าน ยกเว้นด้านทิศตะวันออกจะลบเลือน เหลือให้เห็นแค่บางส่วนเท่านั้น จากหลักฐานทางประวัติศาสตร์พบว่าเมืองโบราณแห่งนี้ สร้างขึ้นในสมัยหริภุญไชย มีประตูเมืองของเวียนท่ากานมีทั้งหมดอยู่ 5 ประตูคือ 1.ประตูยางกวงอยู่บริเวณกึ่งกลางกำ�แพงเมืองด้านทิศเหนือ 2.ประตูปู่ห้อยอยู่บริเวณกึ่งกลางกำ�แพงเมืองด้านทิศตะวันตก 3.ประตูหัวเวียงอยู่บริเวณกึ่งกลางกำ�แพงเมืองด้านทิศตะวันออก 4.ประตูพญาเงี้ยวอยู่มุมกำ�แพงเมืองด้านทิศตะวันตกเฉียงเหนือ 5.ประตูไม่ทราบชื่อ อยู่ทางทิศตะวันออกใกล้บริเวณวัดพระเจ้าก่ำ�

ส่วนจัดแสดงที่ 4 ประวัติบุคคลสำ�คัญในท้องถิ่นเวียงท่ากานและประวัติการดำ�เนิน การเกี่ยวกับเวียงท่ากานในช่วงที่ผ่านมา จัดแสดงรายละเอียดของการดำ�เนินการเกี่ยว

26

กับเวียงท่ากานในช่วงเวลาที่ผ่านมาและรายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับบุคคลสำ�คัญที่มีส่วนช่วย เหลือดูแลรักษาอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรม ปี พ.ศ. 2508 มีการค้นพบเวียงท่ากานเป็นครั้งแรก โดยชมรมศึกษาวัฒนธรรม โบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปกร และภายหลังมีผู้สนใจศึกษา นักวิชาการต่างๆ มาสำ�รวจ ศึกษาโบราณสถานและโบราณวัตถุของเมืองโบราณแห่งนี้เรื่อยมา กลางปี พ.ศ. 2527 คณะอาจารย์จากภาควิชาประวัติศาสตร์ คณะมนุษย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ รวมกับหน่วยศิลปากรที่ 4 กองโบราณคดี ทำ�การขุดหลุมทดสอบ ทางโบราณคดี โดยมีเป้าหมายเพื่อศึกษารูปแบบภาชนะดินเผาในเมืองโบราณเวียงท่ากาน โดยหลุมทดสอบทางด้านทิศตะวันตกของวัดท่ากาน ปรากฏโครงกระดูกมนุษย์จำ�นวน 2 โครง กลางปี พ.ศ. 2528 หน่วยศิลปกรที่ 4 กองโบราณคดี ได้ขุดค้นทางโบราณคดีใน บริเวณที่พบกระดูกดังกล่าวอีกครั้ง เพื่อศึกษารายละเอียดของชั้นดิน ผลจากการศึกษา อธิบายได้ว่าโครงกระดูกที่พบนั้นอายุไม่มาก อยู่ในสมัยล้านนาในสมัยนั้นยังประเพณีการฝัง ศพเช่นนี้อยู่


ระหว่างปี พ.ศ. 2526 – 2530 หน่วยศิลปกรที่ 4 เชียงใหม่ ร่วมกับประชาชน ภายในชุมชนเวียงท่ากาน จัดตั้งกลุ่มประชาคมพิทักษ์รักษามรดกวัฒนธรรมเวียงท่ากาน ทำ�การอนุรักษ์และพัฒนาเวียงท่ากาน และปะชาสัมพันธ์ทำ�ให้เวียงท่ากานเป็นที่รู้จักโดย ทั่วไป และได้รับพระราชทานรางวัลอนุรักษ์มรดกไทยดีเด่นประจำ�ปี 2530 พ.ศ. 2531 หน่วยศิลปกรที่ 4 เชียงใหม่ กรมศิลปากรได้เริ่มเข้ามาดำ�เนินการขุด ค้นขุดแต่งและบูรณะโบราณสถานเจดีย์กลางเมือง 2 องค์ คือเจดีย์แปดเหลี่ยมแบบหริภุญ ไชยและเจดีย์ทรงปราสาทยอดระฆัง พบโบราณวัตถุจำ�นวนมาก ปีงบประมาณ พ.ศ. 2541 สำ�นักงานโบราณคดีและพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติที่ 6 เชียงใหม่(หน่วยศิลปากรที่ 4 เดิม) ทำ�การขุดค้นศึกษาแหล่งโบราณคดีเวียงท่ากาน หลุม ขุดค้นขนาด 3 × 3 เมตร บริเวณหลังวัดท่ากาน ในที่ดินของนายจันทร์ติ๊บ สมบุญพบโครง กระดูกมนุษย์จำ�นวน 8 โครง ชิ้นส่วนกระดูกสัตว์ จำ�นวนหลายชิ้น กลุ่มเศษภาชนะดินเผา 1 กลุ่ม และภาชนะดินเผาจำ�นวนหนึ่ง ต่อมาได้ขยายหลุมขุดค้นออกไปทางทิศตะวันออก อีก 1 เมตร พบโครงกระดูกมนุษย์เพิ่มอีก 1 โครง จากการวิเคราะห์โครงกระดูกมนุษย์ โดย อาจารย์สุภาพร นาคบัลลังก์ พบว่า โครงกระดูกมนุษย์ที่พบทั้งหมดเป็นโครงผู้ใหญ่ วัยเจริญ พันธุ์ เพศชาย 3 โครง หญิง 1 โครง และจากผลการวิเคราะห์โบราณวัตถุที่ฝั่งร่วมชั้นกัน ส่วนใหญ่เป็นเศษภาชนะดินเผา และภาชนะประเภทแจกันเป็นของที่ผลิตจากเตาล้านนา ได้แก่ แหล่งเตาสันกำ�แพง และเตาเวียงกาหลงส่วนเศษภาชนะดินเผาจากต่างประเทศที่พบ คือ เครื่องถ้วยจีนสมัยราชวงศ์หมิง (พ.ศ.1991–2197) ปี พ.ศ. 2543 ได้มีการขุดแต่งศึกษาโบราณสถานอีกจำ�นวน 5แห่ง ได้แก่ วัดน้อย วัดหนองหล่ม วัดป่าเป้า วัดป่าไผ่รวก และวัดสันมะเดื่อ (กู่ไม้แดง) รวมทั้งสร้างศูนย์บริการ ข้อมูลขึ้นในบริเวณกลุ่มโบราณสถานกลางเวียง พ.ศ. 2548 กลุ่มประชาคมตำ�บลบ้านกลางได้จัดทำ�แผนงานโครงการอรุรักษ์และ พัฒนาเมืองประวัติศาสตร์เวียงท่ากาน ตำ�บลบ้านกลางอำ�เภอสันป่าตอง จังหวัดเชียงใหม่

27


28


29


30


นิทรรศการหมุนเวียน

31


นิทรรศการหมุนเวียน ใช้หลักการจัดแสดงนิทรรศการแบบการจัดแบบมีโถงจ่าย (Corridor Room Arrangement) เป็นการเดินแนวยาว และมีทางแยกเข้าสู่ ส่วนแสดงทำ�ให้เลือกชมได้สบายใช้ในการจัดนิทรรศการหมุนเวียน

32


ส่วนจัดแสดงที่ 1 ศาสนา ความเชื่อและประเพณีพิธีกรรม

ในส่วนการจัดแสดงนี้จะแสดงเนื้อหาเกี่ยวกับศาสนา ความเชื่อของชาวบ้าน และประเพณีพิธีกรรมที่ชาวบ้านในของชุมชนเวียงท่ากานให้ความสำ�คัญและ ประเพณี 12 เดือนของล้านนาซึ่งจะหมุนเวียนไปเดือนต่างๆแบบล้านนา

กิจกรรมและวัฒนธรรมที่ชาวบ้านในเวียงท่ากานให้ความสนใจมีราย ละเอียดดังต่อไปนี้ กิจกรรมในประเพณียี่เป็ง หรือลอยกระทง ประเพณียี่เป็งซึ่งจะมีการจัดงานที่ยิ่งใหญ่อลังกาลเป็นประจำ�ทุกๆปี ใน บริเวณโบราณสถานและจะมีการจัดกิจกรรมร่วมด้วยในช่วงประเพณียี่เป็ง คือโครงการจัดหาทุนสมทบเพื่อสร้างพิพิธภัณฑ์เวียงท่ากานภายใต้โครงการ ของพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์ จะจัดเพียง 2 ปีหนึ่งครั้ง ซึ่งปี พ.ศ. 2558 ได้จัดโครงการที่ชื่อว่า “สานตำ�นานยิ่งใหญ่ สายใยชุมชน ท้องถิ่น สร้างสรรค์ศิลป์ พิพิธภัณฑ์เวียงท่ากาน” เป็นครั้งที่ 5 โดยภายใน งานมีกิจกรรมที่ชาวบ้านได้มีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมขึ้นมา โดยภายใน งานประกอบไปด้วยการจัดแสดงแบบจำ�ลองพิพิธภัณฑ์เวียงท่ากาน ซึ่งผ่าน การทำ�ประชาพิจารณ์จากชาวบ้านในพื้นที่ และเป็นแบบที่จะใช้ในการจัด สร้างฯ นอกจากนี้ยังมีการจัดกิจกรรมการประกวดการออกแบบจัดห้อง นิทรรศการหมุนเวียน และการประกวดออกแบบยูนิฟอร์มมัคคุเทศก์เยาวชน ส่วนกิจกรรมด้านศิลปะ จะมีศิลปินที่มีชื่อเสียงอย่าง อ.เฉลิมชัย โฆษิต พิพัฒน์ มาร่วมวาดภาพ และนำ�มาจัดแสดง นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมให้ความ รู้เยาวชนในการวาดภาพลายเส้นโบราณวัตถุที่ขุดค้นพบ โดยศิลปินรุ่นใหม่ที่ มีชื่อเสียงในวงการศิลปะ พร้อมทั้งให้ความรู้ทางด้านโบราณคดีจากวิทยากร ผู้เชี่ยวชาญด้านโบราณคดี

การจัดกิจกรรมในวันที่ 2 เมษายน จะจัดงานวันอนุรักษ์ มรดกไทย ภายในงานจะมีกิจกรรมที่ร่วมสืบสานวัฒนธรรม มีการฟ้อน ซอ ฟ้อนยอง ฟ้อนดาบ ร้องเพลงพื้นถิ่น ฟ้อนมอญ มีการร่วมทำ� work shop การตัดตุง ธง ตุงช่อ ตุงชัย โคมลอยภายในงานประกอบไปด้วยชาวบ้านที่มาร่วมงาน ซึ่งใน

33


อดีตมีการแต่งกายด้วยกลุ่มชาติพันธุ์ไทยอง ไทลื้อ ไทเขิน เนื่องจากเป็นกลุ่ม ชาติพันธุ์ที่อาศัยอยู่บริเวณนั้น

การนับเดือน

มีการนับเดือนเป็นแบบล้านนาและแบบสากลทั่วไป

ความเชื่อและพิธีกรรมสำ�คัญ

ในส่วนของพิธีกรรมและความเชื่อ ชาวบ้านเวียงท่ากานมีความเชื่อในเรื่อง ของการบูชาผีบรรพบุรุษจะมีพิธีกรรมการขึ้นหอหลวง เส้นไหว้ผีบรรพบุรุษ โดยจะมีการจัดพิธีการฟ้อนผีที่บริเวณวัดกลางเวียง

34


แสดงถึงการดำ�เนินชีวิต อาชีพ ความสัมพันธ์กับโครงสร้างทางสังคมของ คนในชุมชนเวียงท่ากาน

วัฒนธรรมจะแบ่งวัฒนธรรมเป็นด้านต่างๆ ดังนี้

วัฒนธรรมด้านการกิน การกินโดยทั่วไปจะเป็นอาหาร พื้นเมืองแบบเชียงใหม่ เป็นของกินพื้นถิ่น เช่น น้ำ�พริก ผักลวก คั่วน้ำ�เมี้ยง ยำ�ใหญ่ ผักส้ม เป็นต้น วัฒนธรรมด้านการแต่งกาย การแต่งกายใน ปัจจุบัน จะไม่หลงเหลือการแต่งการแบบชาติพันธุ์อย่างในอดีต เนื่อง ด้วยสภาพทางสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป แต่จะมีการจำ�ลอง ภาพการแต่งกายในอดีตของชาวไทลื้อและไทเขิน

สานปลา

วัฒนธรรมด้านงานศิลปกรรมและหัตถกรรม สิ่งที่โดดเด่นของ ชุมชนเวียงท่ากาน คือการทำ�โคมแต่คนที่ทำ�จะเป็นพระสงฆ์ที่ เป็นสล่าด้านการทำ�โคมโดยตรง แต่ละปีก็จะมีการเอาโคมมา ประกวดกันในช่วงเทศกาล ส่วนงานหัตกรรมอื่นๆ ก็ได้แก่พวกงานจักสาน ทำ�ดอกไม้กระดาษ ตัดตุง

วัฒนธรรมด้านพิธีกรรมศพ ที่เวียงท่ากานมักจะนิยมจัดงาน ศพไว้ที่บ้านสำ�หรับบ้านไหนที่มีคนตายก็จัดไว้ที่บ้านคนนั้นและเผา ที่ป่าช้า ดังนั้นจึงเรียกการจัดงานศพว่า “บ้านศพ” ซึ่งเป็นชื่อเรียกตามการ จัดงาน วิถีชีวิตปัจจุบัน การดำ�รงชีวิตของชาวบ้านในเวียงท่ากานปัจจุบันยังคง เป็นสังคมแบบครอบครัวใหญ่ มีการช่วยเหลือ เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ซึ่งกันและ กัน มีการทำ�การเกษตรลดลง ตลาดท่ากานเป็นศูนย์กลางในการค้าขายแลก เปลี่ยนของผู้คนภายในชุมชน

35


36


37


การจำ�ลองการแต่งกายไทเขินในอดีต 38


การจำ�ลองการแต่งกายไทลื้อในอดีต 39


การเสนอแนวทางน ทิ รรศการพ พิ ธิ ภํณฑ์เวียงท่ากาน ธณ กิ า มณ วี รรณ ภาพและเนื้อเรื่อง © 2016 (พ.ศ. 2559) โดย ธณ กิ า มณีวรรณ สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัต ิ พิมพ์ครั้งแรก เดือนตุลาคม พ.ศ. 2559 จัดพิมพ์โดย ภาควิชาศิลปะไทย คณะวิจิตรศิลป์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ออกแบบและจัดรูปเล่มโดย ธณิกา มณีวรรณ ออกแบบโดยใช้ฟอนต์ TH SarabunPSK 16pt. หนังสือเล่มนี้เป็นผลงานทางวิชาการ จัดทำ�ขึ้นเพื่อส่งเสริมและต่อยอดศักยภาพการศึกษา ภายในภาควิชาศิลปะไทย คณะวิจิตรศิลป์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

40



เวียงท่ากานเป็นเมืองโบราณสถาน

ตั้งอยูใ่ นเขต บ้านท่ากาน ตำ�บล บ้านกลาง อำ�เภอสันป่าตอง จังหวัดเชียงใหม่ มีลักษณะเป็นเมือง รูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าโดยมีกำ�แพงและคันดินล้อมรอบบริเวณตัวเมือง


Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.