A Lesson in Trading Psychology ยอนกลับไปในป 2004, ตอนผมเพิ่มเขาบริษัทเทรดใหมๆ ผมโชคดีมากที่มี โอกาสไดเรียนรู และ “สังเกต” วิธีทํางานของ เทรดเดอรที่ประสบความสําเร็จ หลายๆ ทาน มีอยูบทเรียนหนึ่งที่โดดเดนมากในใจผม, เหตุการณคือ นักเทรดทานหนึ่ง เห็นแรงซื้อเขามาในตลาด เขาโดดขึ้นเขาออเดอรซื้อทันที ผมสังเกตจาก ปริมาณที่เขาซื้อก็พอบอกไดวา เขาเขาซื้อเพราะเขาเห็นโอกาสที่จะ Break High สูง, แตหลังจากเขาซื้อแลว ปรากฏวาไมเปนไปดังที่คาดคิดไว, ราคากลับ ย่ําอยูกับที่ ไปไมถึงเปาหมาย แลวก็หักหัวลง, เทรดเดอรทานนั้น โดดออกจาก ออเดอรทันทีโดยเสียไป 1 ชองราคา เขาหันมาบอกผมวา “ฉันเพิ่งจายคาซื้อ ขอมูลไป” จากนั้นอีกหลายนาทีตอมา ราคาเดงขึ้นอีกครั้ง สูงกวาเดิมเล็กนอย แต Volume นั้นนอย ไมมีผุเลนรายใหญอยูฝง Long, เทรดเดอรทานนั้นก็ Sell อยางหนัก และ ไดกําไรมาหลายจุด อยางรวดเร็ว เหตุการณนี้สอนไววา, ครั้งแรก เขาไดเขาเทรด (ซึ่งเปนการเขาที่ดี) แต ปรากฏวาไมไดดีอยางที่คาดไว เขาไมไดมองวามันเปนความเสียหาย ความ ลมเหลว หรือ ภัยคุกคาม, เขามองวาเปนแคการซื้อขอมูล, ตลาดกําลังบอกเขาวา ราคาคงไมสามารถเอาชนะ High เดิมไดจริงๆ เขาเขาออเดอรแรก และ ออกจากออเดอร แลวใชออเดอรที่แพเล็กๆ นั้น ใน การเตรียมตัว เพื่อใหไดมาซึ่ง ออเดอรอันตอมาซึ่งชนะ, นี่เปนตัวอยางที่ดีมาก เรื่อง “จิตวิทยาการเทรด” ถาการอาน “สัญญาณลวงหนา” (Set up) ของคุณนั้นถูกตอง, ผลลัพธมันจะ มีแค 2 ชนิด, 1.ออเดอรที่ทํากําไรใหคุณ และ 2.ออเดอรที่ใหขอมูลกับคุณ
Accepting the Obvious (ยอมรั (ยอมรับสิง่ ทีเ่ ห็นชัดๆ) ๆ)
สัปดาหที่ผานมา ผมไดรับอีเมลที่มีคําถาม ที่ทําใหคิดถึงมุมมองเกาๆ ของผม, เนื้อหาคือ ทําไมมีเทรดเดอร ตอตาน การ break out หรือ เทรดสวนเทรน แมวา มันเห็นชัดมาก ? บางครั้งผมเห็น เทรดเดอร ปฏิเสธที่จะเขาออเดอร ตอนที่ทะลุ Low เดิม เพียงเพราะวา “ฉั ฉันไมอยากจะขายที่ Low”, ที่แยกวานั้นคือ เทรดเดอร ทื่ถือออเดอรที่ตานเทรนอยู อยู เพราะพยายามเชื่อวา “มั มันจะตองกลับมา” มา หรือ “ตลาดกําลังถูกปนจากเจา” งานนี้ตองยอนกลับไปถึงพื้นฐานการเทรด Volume จะบอกคุณวา เทรดเดอรและ นักลงทุน กําลังยอมรับราคา ณ เวลา นั้นๆ, ถาตลาดตลาดกําลังเทรดอยูในชวงราคาแคบๆ มาระยะเวลาหนึ่ง จากนั้น ทะลุขอบบนของช บนของชวงราคาไป ดวย Volume มากๆ, มันหมายถึงวา ตลาดได ยอมรับราคาที่สูงขึ้นเรียบรอย, ย สมมุติวา คุณเปนเจาของชิ้นงานศิลปะ ในงาน ประมูล พอเริ่มประมูลก็พบวา มีผูประมูลจํานวนมาก เสนอราคาประมูลสูงๆ และ เสนออยางตอเนื่องอยางไมหยุดหยอน, น ณ ตอนนั้น ที่คนกลังเริ่มรุมประมูล คุณ ควรเขาใจวา ชิ้นงานศิลปะของคุณ ยังไมถึงราคาขายที่ดีที่สุด ดังนั้นเห็นไดชัด วา คุณไมควรจะขายงานศิลปะของคุณใหกับ กลุมผูประมูลกลุมแรกๆ ที่เริ่มแขง กันอยางดุเดือด ที่ราคาเริ่มตน !
ตลาดก็ดําเนินในลักษณะเดียวกัน บนพื้นฐาน
ของการประมูล Bid-Offer, Offer, (ดู ( หนังสือ Mind Over Markets , หนังสือที่ยอด
เยี่ยมของ Jim Dalton และ ผูแตงอื่นๆ สําหรับการพูดถึงเรื่อง ทฤษฏี การประมูล และ ใชประโยชนจาก สภาพตลาด) ในแตละวัน, เราไดเห็นการประมูลเหมือน งานศิลปะ ในตลาด S&P, NASDAQ, พันธบัตร, ฯลฯ
การเคลื่อนไหวอยาง
ไมหยุดหยอนระหวาง คนซื้อ กับ คนขาย เปนสิ่งกําหนดราคาของตลาด, เมื่อเรา เห็น Volume ขยายออกพรอมๆ กับเมื่อราคาวิ่ง เมื่อนั้นเราก็ควรจะหนักวา ตลาดไมสมดุลอีกตอไป มันจะวิ่งไปในทิศนั้นๆ จนกวามันจะไดแรงที่สมดุลระ หวา แรงซื้อกับแรงขาย ที่ราคาใหมจึงจะหยุดลงได
บางครั้ง ผมลองถามเท
รดเดอรวา ตอน Break out นั้น เกิดอะไรขึ้นกับ Volume ? บอยมากที่ผมจะ ไดรับคําตอบวา “ไมร”ู เพราะ เทรดเดอรนั้นสนใจแตกับราคา และ ความอยาก เขาทําตอการวิ่งของราคา จึงทําใหพลาดความสําคัญของ พื้นฐานเรื่องการ ประมูลไป มันมีกฎอันหนึ่งที่กลาวถึงกัน คือ เมื่อมีเหตุการณสําคัญเกิดขึ้นในตลาด เทรด เดอรที่ดี จะสนใจตอตลาด และ ความหมายของเหตุการณ, สวนเทรดเดอรที่แย จะสนใจตัวเขาเอง และ ความหงุดหงิดจากการพลาดเหตุการณนั้น แลวมัวแตคิด วา จะเอาคืนไดอยางไรเปนตน, ผมเคยเห็นแมแตการพลาดเทรนชัดๆ ทั้งวัน เพียงเพราะพวกเขามัวแตยึดติดวา ไดพลาดการเลน Break out ตอนแรกไป นอกจากนี้ ก็ยังมีอีกเหตุผล จะทําใหพลาด การเคลื่อนไหวที่เห็นชัดๆ, จะ ยกตัวอยางสักสามอันที่เกี่ยวของกันใหดู วา “การปฏิเสธที่จะยอมรับ สิ่งที่ เห็นชัดๆ” 1. ผูหญิงคนหนึ่งไปหาที่ปรึกษา เรื่องปญหาครอบครัว, หลอนเลาวา สามีกลับบานดึกตลอด ไมใชเวลารวมกับเธอ บอกวาทํางานบริษัทดึก แตเวลา โทรไปบริษัทเขาไมเคยอยูที่นั่น, มีครั้งหนึ่งเขาพบของใชผูหญิงในรถ เมื่อถาม สามี เขาก็ตอบวาเปนของภรรยานั่แนหละที่ลืมทิ้งไวนานแลว, ที่ปรึกษาเลยบอก วา สามีคงจะมีหญิงอื่น ผูหญิงคนนั้นไดยินแลว โกรธมาก และตอวาที่ปรึกษาวา หลอนมาเพื่อซอมแซมความเสียหาย ไมใชมาทําลาย, หลังจากนั้นไมกี่สัปดาห สามีก็ยายออกจากบานไปอยูกับผูหญิงคนใหม
2. คนไขมะเร็งระยะสุดทายคนหนึ่ง วันหนึ่งอาการแยลงกระทันหัน, ผลการตรวจแลป ชี้วามะเร็งระยะสุดทายไดลุกลามไปทั่วรางกาย, หมอไดนัด พูดคุยกับครอบครัว เรื่อง การบรรเทาความเจ็บระยะสุดทาย ดวยการปลอย ผูปวยใหไปดวยดี ครอบครัวผูปวยโมโหมาก และยืนยันใหใชการรักษาที่เขมขน ขึ้นอีก เพื่อที่ผุปวยจะไดกลับบานและทํางานตอได, ขณะที่กําลังพูดกันนั้น ผุปวย ไมสามารถถืออะไรได แมแตอาหารที่จะเขาปาก เพราะรางกายซูบผอมจัด ติด กระดู และ คนนอกเห็นไดชัดมากวา กําลังทรมาน 3. ผูหญิงคนหนึ่งที่ถูกทารุณกรรมทางเพศในวัยเด็กโดยพอของ หลอนเอง ไดยืนยันวา พอของหลอนดูแล หวงใย และ พยายามทําใหหลอน เจ็บปวดนอยที่สุดในวัยเด็ก, ซึ่งขัดกับหลักฐานวาหลอนถูกลวงละเมิดทางเพศ ถูกทุบตี และ ถูกทําใหอับอายขายหนาบอยๆ, หลอนยืนยันวา คนที่ผิดคือหลอน ที่ทําใหพอไมพอใจบอยๆ และ ไมยอมรับคําวา ทารุณ กับเหตุการณที่เกิดขึ้น, หลอนอยูในภาวะหดหูมาตลอดถึงทุกวันนี้ แตก็ยังพยายามติดตอพอซึ่งปฏิเสธ โทรศัพทมาตลอด ทั้งสามกรณีที่ยกมา ความยากในการยอมรับสิ่งที่เห็นชัดๆ เปนผลมาจาก “ความตองการเชื่อ” ที่จะเชื่อในสิ่งที่แตกตางออกไป, ปญหาไมใชแค ตาบอด จากโลกความเปนจริง แตหนักกวานั้นคือ ความตองการที่จะมีโลกที่แตกตางจาก ความเปนจริง, กลับมาที่การเทรด, ถาเทรดเดอรพลาดที่จะเขาตอน Breakout (หรือเลวรายกวานั้นคือ อยูฝงตรงขามแลวกําลังเจ็บหนัก) เทรดเดอรจะอยูใน ภาวะที่ตองการตลาดที่แตกตางจากความจริง, และเมื่อความตองการนี้กลายมา เปนสวนหนึ่งในการวิเคราะหตลาด มันก็เริ่มกลายเปนความเห็นของพวกเขา และ เมื่ออีโก(ความทรนงในตนเอง) เขาครอบงําแลวก็จะกลายเปนภาวะที่มีชื่อ เฉพาะที่เรียกกันวาภาวะ “แตงงานกับความเห็นของตัวเอง” วิธีที่ผมพบวามีประโยชน คือ การสรางแผน “ถาเกิดวา...” ซึ่งจะชวย เตรียมการไวใหกับสภาวะจิตของเราอยางชัดเจน, สมมุติ เรากําลังจะเลนแคเดง ในกรอบราคาจํากัด ใหคิดลวงหนาไวเลยวา “ถาเกิดวา”ราคา ทะลุเสนขอบเขต การเดงของเราออกมา ดวย Volume, เราจะรับมืออยางไร ? ถาหุนขนาดกลาง ทะลุเสนออกมาเหนือชวงขอบเขต แมวาตลาดโดยรวมจะยังเดงในขอบเขตละ ?
เราจะทําอยางไร, “ถาเกิดวา”ราคาไปทดสอบ High แตวา Volume ไมมีละ? พวกแผน “ถาเกิดวา…” เหลานี้จะปองกันเทรดเดอรจากการถูกดักอยูในความคิด ของเขาเอง ซึ่งจะกลายเปนความเห็น และ การแตงงานกับความเห็น, “วางแผน เทรดแลว เทรดตามแผน” คือวิธีหลักที่ดี แตเทรดเดอรที่ดี ยอมจะมีแผนสํารอง เสมอ ทายสุด, ลองพิจารณาสถานการณตรงกันขาม, เมื่อเทรดเดอรอยากจะเชื่อวา การ Break out กําลังจะเกิด แตตลาด อยูในสภาพ Sideway, ราคาเดงไปเดงมา อยูในกรอบเดิม, “คามตองการเชื่อ” อาจจะทํางานอีกครั้งตรงนี้, เทรดเดอรที่เขา ออเดอรโดยหวัง Break out เอาไว ยอมรับความจริงไมไดวา ตลาดเจอราคาที่ สมดุลและย่ําอยูตรงนี,้ Volume นอยๆ สามารถบอกอะไรกับเราอยางชัดเจนไดดี พอๆ กับ Volume มากๆ หากคุณเปดใจรับฟงมัน, ตลาดที่มีปริมาณ Volume นอยๆ ไมสามารถดึงดูดผูเลนจาก Time Frame อื่นๆ ได จึงขับเคลื่อนดวย กําลัง จากเฉพาะผูเลนเดิมๆ, ซึ่งถาเราไปคาดการณ Break out ก็จะสามารถ overtrade งายมาก หากไมรอหลักฐานที่เพียงพอ, ลางบอกเหตุสําหรับเรื่องนี้คือ เทรดเดอรเริ่มบนกันวา “ตลาดจะไมขยับเลยใชไหม”, พวกเขาหงุดหงิด เพราะ พวกเขากําลังขัดขืน และพยายามตอสูกับตลาด แทนที่จะกาวตามสิ่งที่ตลาดทํา (Note ผุแปล : หมายความวา ถาตลาดเปน Sideway เราก็ควรจะเลนโหมด Sideway คือเลนเดง ไมใชหวังเลน Break out) เปนจริงตามที่เขากลาวกันวา ปญหาสวนมากจะหาทางออกดวย การหนี ความจริง เมื่อความตองการเชื่อของเรา ขัดกับ โลกความเปนจริง
สิง่ ทีท ่ าํ ใหเทรดเดอรหนาใหม ประสบความสําเร็จ (Training New Traders: What Makes for Success)
ในวงการเทรดเปนที่เขาใจและยอมรับกันอยางเอกฉันทวา ยิ่งนานวัน ตลาดยิ่งมีประสิทธิภาพมากขึ้นเรื่อยๆ, ทําใหจะหาทางทํากําไรจากชองวางเล็กๆ นอยๆ ยากขึ้นเรื่อยๆ, ความทาทายของตลาดก็มากขึ้นเรื่อยๆ และ เริ่มมีการใช คอมพิวเตอรเขามาชวยมากขึ้นเรื่อยๆ, จะเห็นไดวา มีคนจํานวนหลายพันคน ที่ พยายามแขงขันจริงจัง เพื่อเอาชนะการเทรดในระดับที่เลี้ยงดูครอบครัวได คุณ ตองตระหนักวา การเทรดเองก็ไมแตกตางจาก การแสดง หรือ การแขงขันกีฬา : มีคนถูกเรียกเขามาทดสอบจํานวนมาก, แตมีเพียงไมกี่คนที่ประสบความสําเร็จ แรงจูงใจ เปนสิ่งจําเปนสําหรับความสําเร็จ, แตแคนั้นยังไมเพียงพอ, มันยังมี สิ่งอื่นที่จําเปนสําหรับความสําเร็จในการเทรด เชนเดียวกับนักกีฬา, นักแขง หมากรุก หรือ นักแสดง, คงไมมีใครบอกวาเขาควรจะไดเขาทีม บาส Chicago Bulls หรือ รวมแสดงกับ Joffrey Ballet เพียงเพราะเขามีแรงจูงใจมากพอ, เทียบเคียงดังนี้แลว เพียงแค “แรงจูงใจ” ยอมจะไมเพียงพอสําหรับการเปนเทรด เดอรที่ดีแนๆ ที่นาสนใจมากคือ “แรงจูงใจ” ที่เกิด มักจะเปนเพียงแคความอยาก “ประสบ ความสําเร็จ” ไมใช ความอยาก “ทําใหประสบความสําเร็จ”, มีเทรดเดอรจํานวน มากที่บอกวา พวกเขามีแรงจูงใจมากกับการเทรด แตเมื่อถึงเวลาตลาดปดปุบ ก็ ออกจากบริษัทหลักทรัพยปบ ไมเคยเห็นความพยายามของพวกเขาในการศึกษา ตลาด นอกเวลาทํางานเลย, รวมทั้งใชความพยายามนอยมากในการศึกษาการ เทรดของตัวเอง, เมื่อเทรดเดอรเหลานี้จําเปนตองบันทึกการเทรดตามหนาที่ ก็จะ เห็นแตขอความทํานองวา “ตองมีวินัยมากกวานี้” โดยไมเขียนระบุวา วินัยแบบ ไหน อะไรที่ทําผิดวินัยลงไป ทําไมถึงผิดวินัย จะไมใหผิดวินัยในอนาคตได อยางไร การกระทําไหนที่จะปองกันการผิดวินัย จะติดตามการแกปญหาเรื่อง วินัยอยางไร ? คําถามทั้งหมดนี้ไมเคยไดรับการตอบ เพราะการจะตอบนี้เปน งานเต็มๆ และ เปนงานหนักซะดวย, แคความอยากไมใชแรงจูงใจ, แรงจูงใจ ควรจะวัดจากการแสดงความพยายามออกมา ไมใชแคความอยากหรือความหวัง ที่ปราศจากการลงมือทํา เทรดเดอรที่ประสบความสําเร็จจํานวนมากที่ผมรูจัก พวกเขาเริ่มตนจากการ ทบทวนการเทรดของพวกเขาอยางจริงจังหลังจากจบการเทรดแตละชวง, นอก
เวลางาน พวกเขาก็จะศึกษาการเทรดของพวกเขา ทบทวนการเคลื่อนไหวของ ตลาด ทบทวนการตัดสินใจของพวกเขา ระหวางการศึกษา พวกเขาจะทําการ บันทึกดวย และเนนจุดสําคัญที่ทําถูก และ ทําผิด, จากการบันทึกเหลานี้ พวกเขา ไดพัฒนาสิ่งพิเศษที่พวกเขาเห็นและเขาใจตลาด(ระบบ)ขึ้นมา, การทบทวน เหลานี้ตองใชเวลาเปนชั่วโมงๆ ซึ่งหยาดเหงื่อแรงงานเหลานี้ จะทําใหเทรดเดอร มีการเตรียมตัวที่ดีกวาเทรดเดอรคนอื่น, เมื่อเวลาผานไปหลายๆเดือน ความ พยายามที่สะสมมาทุกวันพวกนี้จะทําใหเกิดผลกระทบตามมาอยางที่เลี่ยงไมได คือ พวกเขาจะมีประสบการณที่ไดสัมผัสกับมุมมองของตลาดมากกวาคนอื่น อยางเห็นไดชัด และที่สําคัญกวาคือ การไดสัมผัสกับระบบของตัวเอง จนเขาใจ ถองแท, ซึ่งเปนสิ่งที่บริษัท มองหามากกวาเทรดเดอรที่พูดลอยๆวา “ผมมี แรงจูงใจ” โดยสวนตัว ผมเชื่อวา พวกเราอยูในยุคที่ตองพัฒนาศักยภาพของเทรดเดอร โดยการพัฒนา “เปาหมาย” โดยการวางแผนระยะยาว มากกวา “ผลลัพธ”เฉพาะ หนา เชน รายงานของตัวเอง และ สรุปผลลัพธการเทรด P/L งายๆ, เพราะตลาด นับวันจะมีประสิทธิภาพมากขึ้นเรื่อยๆ บริษัทหลักทรัพยจึงตองหาทางสกัดเอา คุณคาที่ซอนอยูลึกไปไกลกวา “แรงจูงใจ” นั่นคือ “aptitudes” (ในบริษัท เรามี การฝก intern โดยใหมี mentor (พี่เลี้ยง) กํากับโดยตรง, มีการเก็บสถิติในแตละ ชวงการเทรด และจะมีการใหคําแนะนําในสภาวะตลาดจริง, จากนั้นจะสงเสริม ให Advance-Intern ทดลองกลยุทธตางๆ และ จะชวยชี้จุดแข็ง จุดออนของ พวกเขา, เราเชื่อวา การขัดเกลาดวยวิธีนี้จะทําใหเรงกระบวนการเรียนรูไดดี และ ลดเวลาในการเดินทางกวาจะเปน “พอรตเขียว” ของเทรดเดอรใหมๆ ได บริษัทหลักทรัพยมักจะพูดวา พวกเขามองหาเทรดเดอรและแรงจูงใจ, แต คําพูดนี้เปน ดาบสองคม, ตัวบริษัทแมมี “แรงจูงใจ” ในการอยากไดเทรดเดอรที่ ประสบความสําเร็จ แตอาจจะแสดง “ความพยายาม” ในการพัฒนาตัวเทรดเดอร ไมเพียงพอ, เวลา แรงงาน การสอน การประกบ การเก็บขอมูลอยางละเอียดเปน สิ่งที่ตองคํานึงถึง ถาตองการพัฒนาศักยภาพของเทรดเดอร เชนเดียวกับ กีฬา หรือ การแสดง, โคชหรือครูสอน ตองฝกรวมกับ นักกีฬา/นักแสดง อยางหนัก ทุกวัน, ลองคิดดูวา ถาบริษัทตองให mentor มาประกบเทรดเดอรใหม เพื่อสอน
ทุกวัน ตัว mentor คงไมมีเวลาเทรดเต็มที่ ซึ่งหมายถึงรายไดที่ลดลง, การที่ บริษัทรับภาระชดเชยรายไดให mentor นี่เปนการแสดงออกถึงความทุมเทอยาง มาก, ถาบริษัทไหนที่ พัฒนาเทรดเดอรใหม โดยการให mentor แนะนําไมกี่คํา หลังการเทรด เพราะ mentor ตองเทรดของตัวเองเต็มที่แลว คงตองพิจารณาถึง คําวา “แรงจูงใจ” ของบริษัทหลักทรัพยเชนกัน เทรดเดอรที่ประสบความสําเร็จ มีบางอยางที่เหนือกวาเทรดเดอรอื่นๆ นับพัน ในตลาดการแขงขันนี,้ อะไรคือ บางอยางที่วานั้น ? ถึงตรงนี้คุณนาจะพอเห็น ภาพแลววา “ความชื่นชอบในสิ่งนั้น” (Passion), “แรงจูงใจ” (Motivation), “แรงปรารถนา” (Desire) และ “ทํางานหนัก” (Hard work) คือ สิ่งที่ตองมี และ สุดทายแลว จําเปนที่จะตองแปลงสิ่งเหลานั้นออกมาเปน “ทักษะ” ดวยการฝกฝน, ใหอานเรื่องราวของเทรดเดอรที่ประสบความสําเร็จ สังเกต หรือ ถามีโอกาสก็ สอบถาม เทรดเดอรเหลานั้นวาอะไรคือทักษะสําคัญเหลานั้น แลว ฝกฝน เลียนแบบทักษะเหลานั้น, แลวคอยถามตัวเองอยางตรงๆ วา มีทักษะเหลานั้นหรือ ยัง, ถามีแลว ใหพัฒนาแผนที่จะรักษาสิ่งเหลานั้นไวใหได นี่แหละคือ สิ่งที่จะทํา ใหการเทรดประสบความสําเร็จ !
การฝกซ้าํ ๆ เพื ่ ใหเกิดทักษะ เพือ มีงานวิจัยจํานวนมาก ที่คนควาไวเกี่ยวกับเรื่อง จิตวิทยาของผูที่ประสบ ความสําเร็จ ทั้งในสาขา ศิลปะ, วิทยาศาสตร, กีฬา และ การเมือง. Dean Keith Simonton นักจิตวิทยาจาก Univ. of California และ K. Anders Ericsson นักจิตวิทยาจาก Florida State Univ. เปนสองทานที่มีผลงานดานนี้อยางโดด เดน, ทั้งสองไดชี้ไววา ความสําเร็จขั้นสูง ไมวาจะเปนในสาขาวิชาใด ลวนเปน ผลมาจาก ความตอเนื่อง, ความจริงจัง และ การฝกฝนอยางทุมเท ซึ่งจะ กอใหเกิดเปนทักษะขั้นสูงฝงลึกเขาไปในตัวบุคคล จนกระทั้งเมื่อถึงจุดหนึ่งจะทํา
ไดอยาง “อัตโนมัติ
มีบทความอันหนึ่ง ไดกลาวถึง นักเบสบอลในตํานาน
Sandy Koufax (ตําแหนงคนขวางลูก), Koufax ไดใหขอ สังเกตไววา สิ่งที่ดีกวา การพยายาม นั่งหาวาอะไรคือตัวแปรในการขวางที่ดี คือ การซอมขวางซ้ําๆไป เลย, การฝกซ้ํา คือ กุญแจสําคัญสําหรับ การซอมกอลฟ หรือ ฝกตีลูกเบสบอล, นักขวางเบสบอล อยากขวางใหไดเหมือนเดิมเปะ ทุกครั้งที่ตองการ. Jane Leavy, ผูแตงหนังสือ ชีวประวัติ Koufax ไดเขียนไววา สี่งที่ยากที่สุดสําหรับ นักกีฬาไมใช การทําใหผลงานไดดีหนึ่งครั้ง แคเปนการทําผลงานดีใหไดซา้ํ ๆ ยอนกลับมาที่การเทรดของผมเอง, ผมสามารถทําซ้ําในระดับที่นาพอใจ โดยการพัฒนา “ชุดเงื่อนไข” ที่กําหนด การเขา ออก และ ขนาดของออเดอร ชุด เงื่อนไข เหลานี้สวนใหญ มาจากการคนควาของผมในเรื่อง คุณภาพของเทรน, ผมตองการจะเขาเมื่อ ตลาดเริ่มมีทิศทาง และ ความเปนเทรนเริ่มมากขึ้น จากนั้น ก็ออกตอนที่เทรนเริ่มหมดลง, และ มีสามารถเขาออเดอรเพิ่มไดอีก ถา เทรน ระยะสั้น กับ ระยะกลางเริ่มชี้ไปทางเดียวกัน เพื่อบังคับใหตัวเอง อยูในเงื่อนไข เหลานี,้
สิง่ สําคัญสุดในการโคชการเทรดใหตว ั เอง ตนฉบับ “ผมไมมีเงินมากพอที่จะจาง โคชการเทรด, ถาอยากจะโคชใหตัวเอง ผมตองทํา อะไรบาง” เชนเดียวกับ คําพูดเกี่ยวกับสุขภาพ วา “เราจะเปนไปตามสิ่งที่เรากิน เขาไป”, ในเชิงจิตวิทยาก็เชนกัน คือ ประสบการณที่เราไดรับเขาไปในจิตใจ จะ หลอหลอมตัวตนของเราขึ้นมาใหเปนเรานั่นเอง ถาเรามีแตประสบการณที่เลวราย ภายในจิตใจของเราจะเริ่มสราง การขาด ความมั่นใจ และ ขาดแรงจูงใจ, ทางกลับกัน ถาเรามีประสบการณที่ดี มันจะ สงเสริมใหเรามีมุมมองที่ดี ตอทั้งเรื่องนั้นๆและตอตัวเราเอง
ถาอยากจะ ฝกฝนการเทรดใหตัวเอง, กาวที่สําคัญที่สุดคือ การสราง ประสบการณทีดี ในการเรียนใหแกตนเอง เพื่อใหมี แรงจูงใจ ความอยากทําตอ และ ฝกไดอยางมีประสิทธิภาพ, ดังนั้น ในการฝกยอยแตละขั้น เปาหมายตองไม ยากเกินไป เราไมสามารถควบคุมการเคลื่อนไหวของตลาดได ดังนั้นเราจึงไมสามารถ ควบคุมไดวา การเทรดครั้งหนึ่งๆนั้นจะชนะเสมอไปหรือไม, แตเราสามารถที่จะ ควบคุมไดวา เราจะเทรดอยางไรได นั่นคือ 1.จะเขาอยางไร 2.จะเขาดวยขนาด (Volume) เทาไหร 3.จะออกอยางไร และ 4.จะจํากัดการขาดทุนอยางไร, การมี เงื่อนไขเหลานี้จะชวยใหเรามีเปาหมายที่ชัดเจนในการเทรด สิ่งสําคัญมากใน การจะเปนโคชการเทรดใหตัวเอง ไมแพการมีชุดเงื่อไข (ระบบ) คือ เปาหมาย แตละครั้ง ตองอยูในระดับที่พอทําได และ ชัดเจน, เพื่อใหตัวเราเองคอยไดรับ ประสบการณเชิงบวกที่ดี เพื่อคอยพัฒนาจิตวิทยาของเราใหชื่นชอบการเทรด จะไดเดินหนาฝกเทรดตอไปไดเรื่อยๆ และในการฝกแตละครั้ง ก็ตองมีเปาหมาย ที่ชัดเจน, ถาฝกโดยปราศจากเปาหมาย ก็จะไมมีความรูสึกในการถึงเปาหมาย ซึ่งจะไมกอใหเกิดการสรางความรูสึกวา เกิดทักษะ และ ความมั่นใจ ภายใน จิตใจ ทุกๆขั้นของการฝก จึงควรจะมีการวางเปาหมายที่ แนนอน ชัดเจน พอทําได จริง และ มุงหนาสู เปาหมายใหญ, ซึ่งเปาหมายสูงสุดของการฝกเทรด คือ การ เทรดไดดี เชนเดียวกับ นักกีฬาที่ตองการจะเลนกีฬาไดดี ซึ่งรูลวงหนาไดเสมอ วา ถาคุณฝกไดบอยและมากพอ คุณจะไดรับผลตอบแทนในสวนนั้นๆอยาง แนนอน ถาฝกโดยมีทั้ง “เปาหมายที่ชัดเจน” และ “เปาหมายอยูในระดับที่พอทําได” แลวถาคุณก็ทําไดสําเร็จ, กาวตอกาว, คุณกําลังสราง ความรูสึกเชิงบวก ในการ มุงหนาสูเปาหมายสูงสุดของการเทรดนั่นเอง 1.ใหฝกโดยพยายามเขาใจรายละเอียดของความรูสวนยอยแตละสวนๆ กอน สวนเปาหมายใหญ คือ 1.สําหรับชวงแรกใหฝกใน Demo/Paper กอน เพื่อสรางความคุนเคยกับทั้ง ระบบ และ ตอสภาวะแวดลอมการเทรดกอน
2..จากนั้นคอยลงเงินจริง โดยมีเปาหมายแรกของพอรตเงินจริงอยูที่ เทรดใหได เทาทุนกอน (เรียกวาเทรดใหได 0%) เพื่อไมใหเกิดการทอระหวางการฝก จากนั้นถาทําไดแลวคอยๆเพิ่ม เปาทีละนิด 5-10% ไมแนะนําใหตั้งเปาเยอะๆ เชน 50-100% 3.รักษาวินัยใหได โดยไมเสียทั้ง Money Management และ ไมออกนอกระบบ, เปาหมายขั้นนี้คือ ใหเกิดเปนทักษะติดตัว ซึ่งจะสังเกตไดวา แตละขั้นตอน มีเปาหมายที่ชัดเจน และ ความยากอยุใน ระดับที่พอทําได แตก็ไมงายจนรูสึกวาไมตองทําก็ถึงเปาแนๆ)
คําถามสําคัญทีจ ่ ะชวยใหหลุดจากภาวะการเทรด ตกต่าํ ฤดูมรสุมเกิดขึ้นทุกป, ภาวะตกต่ําในชีวิตก็จะเกิดกับทุกคน ทุกเรื่อง ไมเวน แมแตการเทรด ตามวิชาสถิติ, เทรดเดอรที่มี win rate 60% จะมีโอกาส 2.5% ที่จะเกิดภาวะแพติดตอกัน 4 ครั้งรวด, แมวาจะดูเหมือนโอกาส 2.5% นั้นไมเยอะ แตดวยโอกาสความนาจะเปน ถาคุณเปนเทรดเดอรที่เทรดนานๆ เมื่อปริมาณ ออ เดอรเยอะพอ เหตุการณนี้จะตองเกิดแน, และเมื่อเทรดเดอรเผชิญกับภาวะแพ ติดตอกันแบบนั้น มักจะตีความกันวา อยูในภาวะ “ตกต่ํา” เทรดเดอรบางคน ถึงกับกลัวภาวะตกต่ํานี้ เพราะเคยเห็นเทรดเดอรคนอื่นใน ภาวะที่นากลัวนี้ พอรตติดลบหนัก หรือ แมแตโดนไลออกจากอาชีพเทรดเดอร, จึงทําใหคอยกังวลวาผลงานตัวเองสักวันจะแย ซึ่งยิ่งทําใหคําทํานายวา “เทรด เดอรทุกคนจะมีชวงที่ตําต่ํา” เปนจริงงายยิ่งขึ้นไปอีก เมื่อเทรดเดอรอยูในภาวะตําต่ํา คําถามแรกที่จะผุดขึ้นมาในใจคือ “ฉันทํา อะไรผิด” ซึ่งคําถามนี้แมเกิดจากความตั้งใจที่ดีในการแกปญหา คือ พยายามหา ที่มาของปญหา แตบางครั้ง คําถามวา “ทําอะไรผิด” นี้เองที่ทําใหเกิดปญหาที่
แทจริง, จิตใจของเทรดเดอรนั้น ไปยึดติดกับคําวา “ปญหา” มากเกินไป จนลืม คิดถึง “ความแข็งแกรง” ของตัวเองที่เปนตัวนําพาพวกเขามาถึงจุดที่ประสบ ความสําเร็จตรงนั้น เพราะเหตุผลนี้ คําถามที่สําคัญที่สุดในภาวะตกต่ําคือ “อะไรคือสิ่งที่ฉันทําได ดี” “อะไรคือจุดแข็งของฉันที่คนอื่นไมมี” หรือ “อะไรคือสิ่งที่นําพาฉันให กาวหนามาถึงตรงนี้ได” แบบเดียวกับที่เห็น เทรดเดอรที่กําลังชนะติดตอกันเยอะๆ จะเริ่มเลนนอกเกม ที่ถนัดของพวกเขา, เมื่อเทรดเดอรแพติดตอกันเยอะๆ ก็จะเริ่มมีปญหากับการ ตัดสินใจ และ จิตวิทยาพื้นฐาน, วิธีแกที่ถูกตองสําหรับทั้งสองกรณี (ทั้งชนะเยอะ และ แพเยอะ จนออกนอกเสนทาง) คือ ใหโฟกัสไปที่การพัฒนา และ ยอนกลับ ไปที่พื้นฐาน, ใหยอนกลับมาใช “ความแข็งแกรงเฉพาะตัว” ของคุณ เมื่อคุณ กําลังรูสึกผิดปกติ, ดวยวิธีนี้คุณจะหลีกเลี่ยงไดทั้ง มั่นใจเกินไป และ ขาดความ มั่นใจ ซึ่งเกิดจากการชนะหรือแพติดตอกัน ที่เปนผลมาจากโอกาสความนาจะ เปนลวนๆ นี่เปนตัวอยางคําถามที่จะชวยใหเราโฟกัสอยูบนความแข็งแกรง เฉพาะตัวของเราได -
ตลาดไหนที่เราเทรดแลวประสบความสําเร็จ
-
Time Frame ไหน (รวมถึงระยะเวลาที่ถือนานแคไหน) ที่ประสบ
ความสําเร็จ -
ชวงเวลาไหน ในหนึ่งวัน ที่รูสึกวาชนะบอยสุด
-
สัญญาณและแผนการเทรดไหนที่ใชแลวชนะบอยที่สุด
-
เลนสั้นกับเลนยาว อันไหนทําใหกําไรดีกวากัน สําหรับคุณ
-
ขนาดของออเดอร และ Stop Loss แบบไหนที่เขากับคุณที่สุด
-
การเตรียมตัวแบบไหน ที่คุณจะทําตอนที่อยูในภาวะที่พรอมที่สุด
-
ในภาวะที่คุณเทรดไดดี คุณรับมือกับการแพอยางไร
แนวคิดหลักคือใหรับมือกับภาวะตกต่ํานี้ โดยการกลับมาเลนในเกมที่คุณทํา ไดดี ซึ่งมายความวา คุณจะตองคอยเก็บสถิติมาตลอดอายุการเทรดของคุณ และ ระหวางทางตองคอยตรวจสอบ เพื่อระบุวา ภาวะไหนจะสงเสริม ความเจิดจรัส ของคุณไดดีที่สุด, ซึ่งความเจิดจรัสนี้ จะเกิดจาก พรสวรรค ทักษะ ความสนใจ และ โอกาส ของคุณเอง มันยากที่จะอยูในวินัย และ ขยันตอไปอยาเคย เมื่อทุกอยางในชีวิตไปได สวยและงายไปหมด, ทางกลับกัน มันก็ยากที่จะโฟกัส “วิธีแกปญหา” เมื่อเกิด ปญหา, ถาคุณเอาแตถามคําถามวา “ปญหาเกิดจากอะไร” ก็จะทําใหจิตวิทยา ของคุณโฟกัสผิดที่ และทําใหแกปญหาหนักขึ้นไปอีก ภาวะตกต่ํา นั้นจะอยูแคชั่วคราว ถาคุณไมลืม “จุดแข็งที่ดีที่สุดของคุณ” และ ยืนหยัดฝาฟนรวมกับมัน ดังที่คุณเคยทํามาในอดีต พูดงายๆคือ เวลาเกิดภาวะตกต่ํา อยาไปพยายามหาวาทําอะไรผิด แตใหคิดวา เราเคยทําอะไรถูก ถนัดอะไรแทน แลวก็กลับมาทําในสิ่งเหลานั้นแทนจนกวาจะ ผานพนภาวะตกต่ํานั้นไป
วิธท ี าํ งานของ เทรดเดอรชน ั้ นํา 1. เทรดเดอรชั้นนํา จํานวนมาก จะติดตาม และ เทรดในตลาดหลายๆ แหง , พวกเขาจะไปยังที่ที่โอกาส กําลังเกิดขึ้น ณ ตอนนั้น, ถาขณะใดขณะหนึ่ง ตลาดหนึ่งกําลังเงียบเหงา ไร Volume พวกเขาก็ยังมีตลาดอื่นใหมอง, แตกตาง จากเทรดเดอรมือใหม รายยอย ที่จะปกหลักอยูที่ตลาดแหงเดียว แตจะเทรด ปริมาณเยอะขึ้นเพื่อพยายามทําใหบัญชีเล็กเติบโตขึ้นได แมในภาวะที่ตลาดเดิม เหือดแหง, เทรดเดอรมืออาชีพจะมีมุมมองตอตลาดแบบมุมอง ภาพใหญ สูภาพ ยอย ที่ครอบคลุม (มองภาพจากแนวโนมของเศรษฐกิจใหญ หรือ ทั้งกลุมธุรกิจ แลว ไปดูบริษัทแตละอัน) และ พวกเขาจะมีแบบแผน วิธีมองตลาดที่ชัดเจน เพราะทําจนชิน ซึ่งเทรดเดอรที่ไรประสบการณจะไมมีเรื่องนี้ 2. เทรดเดอรชั้นนํา จํานวนมาก จะมองภาพรวม, เนื่องจากพวกเขาติดตาม ตลาดหลายๆแหง พวกเขาจึงระวังความสําพันธระหวางตลาดเหลานั้น, สิ่งนี้ทํา ใหพวกเขาพัฒนาแนวคิดที่เชื่อมตลาดทั้งหลายเขาดวยกัน สรางภาพใหญขึ้นมา
เปนหนึ่งเดียว, ตัวอยางที่ชัดมากคือ การรูวา อัตราดอกเบี้ยรอบโลกเปนอยางไร ที่ไหนถูก ที่ไหนแพง จึงทําใหเห็นงายมาก วาเงินจะไหลจากไหนไปสูที่ไหน, อีก ตัวอยางคือ การรูวา สินทรัพยหนึ่ง ถูกตั้งราคาไวเทานี้ แลวถาเทียบกับสินทรัพย เดียวกันที่ตลาดอื่น พบวาราคาไมตรงกัน ก็จะเห็นโอกาส, เทรดเดอรมือใหม มักจะเพงอยูกับรูปแบบเล็กๆ จนทําใหลืมมองสิ่งแวดลอมขางๆ ทําใหขาดการ มองภาพใหญ และ ไมมีความคิดเกี่ยวกับราคาที่เหมาะสม หรือ ไมเหมาะสมแบบ ที่มืออาชีพมอง 3. ทุกบริษัทเทรดชั้นนํา มีตําแหนง “ผูจัดการความเสี่ยง” ซึ่งจะคอยติดตาม ผลงานของ เทรดเดอรแตละคน และ ผลงานรวมของทั้งบริษัท, ผูจัดการความ เสี่ยง จะชวยปรับขนาดของออเดอร ตามความหมาะสมสําหรับเทรดเดอรแตละ คน และ จะมีสวนสําคัญอยางมาก ในชวงที่เทรดเดอรเขาสูภาวะตกต่ํา , หนาที่ บริหารความเสี่ยงนี้หากจะใหเทรดเดอรแตละคนทําดวยตัวเอง มันจะยากมาก, แตเทรดเดอรระดับมือเอก ก็จะพยายามใชเวลา และ ความพยายามคอนขาง เยอะในการบริหารความเสี่ยงนี้ดวยตัวเองพวกเขาจะรูวาตองการกําไรสําหรับ แตลออเดอรเทาไหร แลวก็จะใชความเสี่ยงที่เหมาะสมลงไป, เปนเรื่องปกติที่จะ เห็น “เทรดเดอรเล็กๆ จะใชความเสี่ยงที่มากกวา เทรดเดอรใหญๆ” ( พอรตทุน เทากัน มือใหมมักจะอยากเทรด Lot หนักมากกวากันเยอะ เทียบกับมืออาชีพ) 4. เทรดเดอรชั้นนํา จํานวนมาก หวังไมเวอร (มีเปาเติบโตที่สมเหตุสมผล) , เรื่องนี้นาสนใจมาก ผมไมเคยไดยินเทรดเดอรมืออาชีพคุยกันวา ตั้งเปาจะทําให ทุนโตขึ้นเปนสามเทาในหนึ่งป, แตเปาหมายขนาดนี้จะไดยินจาก เทรดเดอรเล็ก ที่รูสึกหลังชนฝา จนตองมีเปาขนาดนี้เพื่อใหรอดตอไป และใชความเสี่ยง ระดับสูงแบบนี้, เทรดเดอรชั้นนํา จะมุงเนนอยูที่ “ความยั่งยืน” และ ชอบ ผลตอบแทนที่มาจาก ความเสี่ยงที่ปรับแลว, ผมไมเคยเจอ เทรดเดอรเล็ก สนใจ เรื่อง การปรับความเสี่ยง หรือ Sharp Ratio ของเขา, ยกตัวอยางเชน ผมไมคิด วา เทรดเดอรมือใหม สามารถอธิบายถึง หลักการของ VAR คืออะไรดวยซ้ําไป (VAR : Value at Risk , ขออนุญาตอธิบายคราวๆดวยความเขาใจอันมีนอย นิดของผมวา VAR คือ คา(Value) ที่จะมีโอกาสเสี่ยง(Risk) ที่จะสูญเสียไปใน ชวงเวลาที่กําหนด เชน ถาพอรตเรามี 5% VAR ที่จะเสีย 1ลาน ในหนึ่งวัน
หมายความวา ในหนึ่งวันพอรตเราจะมีโอกาสเสียเงินหนึ่งลานเปนโอกาส 5% (โดยเงินทุนรวมในพอรตคงจะมีมากกวา 1 ลาน เชนอาจจะมี 500 ลาน) หรือ กลาวอีกมุมวา ตัวเลขนี้แสดงถึงวา พอรตเรามีโอกาสที่จะเสียเงิน 1 ลาน ภายใน 1 วัน ถาเราเทรดติดตอกัน 20 วัน (1 / 20 = 5% ), ซึ่งคา VAR นี้นิยมใชกัน มากใน การประเมินความเสี่ยง, ในหนังเรื่อง “Margin Call” ที่พูดถึงกราฟ อันหนึ่งไววา ความเสี่ยงของบริษัท LEHMAN-BROTHERS ไดเกินขอบเขตที่ รับไดของกราฟไปแลว อันเปนจุดเริ่มตนของการลมสลายของบริษัทนี้ และ นําไปสู Hamburger Crisis ของอเมริกา ในหนังไมไดอธิบายวากราฟอะไร แต นาจะเกี่ยวของกับคานี้ดวย) 5.เทรดเดอรชั้นนํา จํานวนมาก ใชจิตวิทยาเปนจุดแข็งของตัวเอง , เทรด เดอรมือใหมมักจะไมมีประสบการณดานจิตวิทยาการเทรด, ปกติแลว ถาเทรด เดอรขาด วินัย, การคุมอารมณ, ฯลฯ พวกเขาก็จะไมไดเขาทํางานในบริษัทเท รดดีๆดวยซ้ําไป, ที่จริง แมแตเทรดเดอรที่ยอดเยี่ยม ก็จะมีวัน Draw Down เชนกัน, แตพวกเขาจะฝาฟนมันไปโดยมุงเนนหาจุดแข็งของตัวเอง (Note ผู แปล : เหมือนที่พูดถึงไวใน บทแปลจิตวิทยาตอนที่ 6 วาจะฝาฟนชวงตกต่ําไป ได ตองหาจุดแข็งไมใชจมอยูกับจุดออนและปญหา) ไมใชพยายามฝาโดยการ ไปพัฒนาอะไรงายๆเชน แผนการเทรดใหมๆ, จุดแข็งที่สําคัญนั้นแหละ ที่เปนสิ่ง ที่เกี่ยวของโดยตรงกับ จิตวิทยาการเทรด ซึ่งมือใหมไมมี, “เมื่อผลการเทรดแย ลง ตองคิดบวกใหมากขึ้น” นี่แหละคือสิ่งที่มือใหม ไมเขาใจกัน บทสรุป : สุดทายแลว สิ่งที่จะแยกระหวาง เทรดเดอรมืออาชีพ กับ มือใหม ออกจากกันคือ “วิธีทํางาน” ไมใช “แผนการเขาออก”, ถาอยากจะเปนมืออาชีพ ก็ตองทํางานแบบที่มืออาชีพทํากัน, เทรดเดอรชั้นเยี่ยมที่ผมรูจัก จะใชเวลา คอนขางเยอะในเรื่อง ศึกษาตลาด, สรางภาพรวมการเทรด และ ติดตามความ เปนไปรอบโลก, เราอาจจะวัด ความเปนมืออาชีพ ไดจาก อัตราสวนของเวลาที่ ใช ระหวาง เวลาเตรียมตัว กับ เวลาเทรดจริง, เทรดเดอรที่เกงที่สุด ก็เหมือน นักกีฬาที่เกงที่สุด คือ พวกเขาจะใชเวลาในการฝก ขัดเกลาฝมือตลอดเวลา นอกเวลาแขงขัน, และระหวางการฝกฝน พวกเขาไมเพียงแคใช จิตวิทยาใน
การพัฒนาผลการฝก แตพวกเขาถึงขั้นมีจิตวิทยาวา การพัฒนาผลงานใหดีขึ้น เปนสวนหนึ่งของความเปนมืออาชีพ และ เปนสวนหนึ่งของชีวิตประจําวันไปเลย
จิตวิทยาการลงทุ ่ กังวลวาเทรดไดไมดี ยาการลงทุน : เมือ มีปญหาอยูอันหนึ่งเปนปญหาโลกแตก สําหรับเทรดเดอรทุกคน ไมวาจะปน เทรดเดอรใหญในธนาคารแหงชาติ หรือ เทรดเดอรอิสระ Part-time ก็ตาม ก็จะ มีปญหา “ความกังวล เรื่องผลงาน” ความกังวลเรื่องผลงาน มีผลกระทบโดยตรงตอฝมือ แมแตกับ คนที่ประสบ ความสําเร็จอยางสูง ไมวาในสาขา กีฬา, ศิลปะการแสดง, และ เกมใชทักษะสูง เชน หมากรุก หรือ โปกเกอร, ผลกระทบมันจะเกิดขึ้นเมื่อเกิดความตระหนักใน ความสําคัญของการกระทําตอนนั้น ซึ่งจะไปสงผลรบกวนผลงานหรือฝมือดั้งเดิม ฝมือ หรือ ทักษะ ในการแขงขันระดับสูงนั้น ปกติแลวตองฝกกันใหอยูใน ระดับ “อัตโนมัติ” ที่เหนือกวาขั้น “ความรูตัว”, ซึ่งความเปนอัตโนมัตินี้ จะยิ่ง สําคัญ ถาเปนการแขงขันที่ใชความเร็วสูง เชน รถแขง, นักบินรบ, นักกีฬาเบส บอล ตําแหนงตีลูก และ เทรดเดอรเทรดสั้น, เมื่อนักกีฬา ไปโฟกัสกับความสําคัญ ของผลลัพธมาก ก็จะนําไปสูการดึงเอา “ความรูตัว” ขึ้นมาแทนที่เหนือ ความเปน “อัตโนมัติ” , จึงกลายเปนวา ผลงาน (ที่ปกติเกิดจาก อัตโนมัติลวนๆ) ถูกรบกวน เต็มๆนั้นเอง อีกตัวอยางหนึ่งที่ชัดเจนคือ นักกีฬาบาสเก็ตบอกที่ กําลังยิงลูกโทษ ตอน วินาทีสุดทายของเกม ที่เปนลูกที่ตัดสินแพชนะทั้งเกมเลย หรือนักกอลฟที่ กําลังพัตตลูกตัดสินแพชนะทั้งทัวนาเมนท, การตะหนักถึงความสําคัญของ ผลลัพธของลูกสําคัญนั้น ทําใหนักกีฬา เล็งลูกอยางระมัดระวังมากขึ้นเปนพิเศษ จึงทําใหผิดเพี้ยนจากทาธรรมชาติปกติโดยสิ้นเชิง, เทียบเคียงแบบเดียวกัน สําหรับการเทรด เทรดเดอรจะคิดมากเกิน ระวังตัวมากเกิน ทําใหไมกลาเทรด แบบธรรมชาติ ซึ่งมักจะทําใหไมกลาเขาดวยสัญญาณที่ปกติกลาเขา จึงทําให พลาดโอกาสไปจํานวนมาก, การไปลด ความเสี่ยง (จากที่คํานวณไวแลววา
เหมาะสม) ยอมทําให โอกาสได รางวัลลดลงตาม ซึ่งจะสงผลกระทบโดยตรงตอ ผลงาน แลวอะไรคือสาเหตุของ “ความกังวล เรื่องผลงาน” นี้ ? มันเกิดไดจากสาเหตุ มากมาย เชน การเทรดเสียหนึ่งออเดอร แลวก็กังวลวาเปนจุดเริ่มตนของการ ตกต่ํา จึงกลายเปนปญหาจริงๆตามมา, หรือ เปลี่ยนสิ่งแวดลอม เชน ยายบริษัท หลักทรัพย จึงใจรอนอยากจะสรางผลงาน สรางความประทับใจใหบริษัทใหม, การมีลูก ซึ่งทําใหตระหนักถึงภาระทางการเงินที่เพิ่มขึ้น หรือแมแต การ ปรับเปลี่ยนขนาดของออเดอร, เปลี่ยนความเสี่ยง ก็ตาม, การไปโฟกัสวามีการ เปลี่ยนแปลงพวกนี้จะทําใหอารมณ บรรยากาศ และความรูสึกของเทรดเดอร เปลี่ยนไป, ซึ่งจะเปนชนวนในการเกิดความกังวลตอมา มันมีเทคนิคหลายอันที่จะเอาชนะ “ความกังวล เรื่องผลงาน” นี้, แตกอนที่ผม (Dr. Brett) จะนําเสนอใหทุกทานอาน ผมก็อยากจะไดรับการตอบสนองจาก ผูอาน โดยอยากใหคอมเมนทวิธีของทานเองกอน
ความกังวลเรื่องผลงาน เปน
สิ่งทาทายอยางหนึ่ง ที่เทรดเดอร ทุกคนตองเจอ ณ จุดใดจุดหนึ่ง หากเลือก เดินเสนทางสายเทรด, สิ่งที่สําคัญก็คืออยาปลอยใหความกังวล กลายเปน จุดเริ่มตนของปญหา, คําใบที่จะทําใหคุณผานไปไดก็เชน ความเชื่อมั่นในตัวเอง , อยาสงสัยในตัวเอง, ความแข็งแกรงของจิตใจ เปนตน, หากคุณเดินทางมาได ไกลพอ ดวยฝมือของคุณแลว กาวตอไปของคุณ มันก็แคอีกกาว, ออเดอรตอไป ของคุณ ก็เปนแคหนึ่งออเดอรแคนั้น ถาคุณเลนตามแผน เทรดตาม Money management แลว แคหนึ่งออเดอรคงจะไมถึงกับเปลี่ยนชีวิตของคุณทั้งชีวิต หรอก จริงไหม ?
[จิตวิทยาการลงทุน]: การเสพติดการเทรด
การเสพติดการเทรด กอนที่เราจะไปสูเรื่อง การเสพติดการเทรด, ผมจะ อธิบายวา นักจิตวิทยา จะประเมินปญหาการเสพติดแอลกอฮอลจากผูเสพติด อยางไร, นี่เปนคําถามที่มักจะใชกันในการประเมินการเสพติดแอลกอฮอล 1.คุณพบวาการดื่มเหลาของคุณ นําปสูเหตุการณที่ไมพึงประสงค 2.คุณเคยรูสึกผิดกับการดื่มของคุณ 3.คุณตองการจะดื่มในปริมาณที่มากเกินจุดที่ทําใหรูสึกดี 4.คุณรูสึกวาตัวเองเปลี่ยนไป เมื่อดื่มมากเกินขนาดพอดี 5.คุณรูสึกวา มันยากที่จะหยุดพักการดื่ม, แมวาลึกๆแลวจะรูวา ตรงไหนที่จะดื่ม พอดีและควรหยุดตรงนั้น 6.คุณดื่มเพราะมันทําใหคุณรูสึกดี รูสึกวาคุณมีคาอีกครั้ง 7.คุณไมสามารถควบคุมไดวาคุณควรจะดื่มเทาไหรในบางครั้ง 8.คุณรูสึกโกรธถามีคนถามเกี่ยวกับการดื่มของคุณ 9.คุณสัญญากับตัวเองวา จะดื่มปริมาณแคนั้น เพื่อใหไดไปดื่ม, แตสุดทายก็ดื่ม มากกวาที่สัญญาไว 10.คุณจะดื่มทุกครั้งที่มีจังหวะใหดิ่ม แมวาความจริงแลวไมควรดื่มใน สถานการณนั้น
สําหรับหัวขอ การเสพติดการเทรด : เปลีย ่ น คําถามขางบน ทั้งหลายจาก "การดิม ่ " เปน "การ เทรด" เทรด" ก็จะไดดงั นี้ 1b.คุณพบวาการเทรดของคุณ นําปสูเหตุการณที่ไมพึงประสงค
2b.คุณเคยรูสึกผิดกับการเทรดของคุณ 3b.คุณตองการจะเทรดในปริมาณที่มากเกินจุดที่ทําใหรูสึกดี 4b.คุณรูสึกวาตัวเองเปลี่ยนไป เมื่อเทรดมากเกินขนาดพอดี 5b.คุณรูสึกวา มันยากที่จะหยุดพักการเทรด, แมวาลึกๆแลวจะรูวา ตรงไหนที่จะ เทรดพอดีและควรหยุดตรงนั้น 6b.คุณเทรดเพราะมันทําใหคุณรูสึกดี รูสึกวาคุณมีคาอีกครั้ง 7b.คุณไมสามารถควบคุมไดวาคุณควรจะเทรดเทาไหรในบางครั้ง 8b.คุณรูสึกโกรธถามีคนถามเกี่ยวกับการเทรดของคุณ 9b.คุณสัญญากับตัวเองวา จะเทรดปริมาณแคนั้น เพื่อใหไดไปดิ่ม, แตสุดทายก็ เทรดมากกวาที่สัญญาไว 10b.คุณจะเทรดทุกครั้งที่มีจังหวะใหเทรด แมวาความจริงแลวไมควรเทรดใน สถานการณนั้น เปนที่ยอมรับกันวา ความกลัว และ ความโลภ เปนปจจัยที่จะกระทบตอการเท รด, แตปญหาที่ใหญที่สุดของการเทรดที่ผมพบในฐานะนักจิตวิทยา คือ "การ เสพติดการเทรด", เทรดเดอรที่ประสบความสําเร็จตองการที่จะเทรด จะมี "ความรัก" ตอการเท รด คือทําดวยความเขาใจ ยอมรับทั้งขอดีและขอเสียของการเทรด โดยเฉพาะ การเขาใจวาแพเปนสวนหนึ่งของการเทรด, สวนเทรดเดอรที่เสพติดการเทรดจะมี "ความหลง" ในการเทรด คือคิดถึงการ เทรดในลักษณะอยากจะ"ทํา" เพราะมันตื่นเตน ติดใจในการไดเทรด, เทรดเดอร ที่อยูในภาวะเสพติด จะไมยอมบริหารความเสี่ยง จะใชความเสี่ยงที่สูงมาก เพราะความเสี่ยงและความตื่นเตน คือสิ่งที่พวกเขากําลังมองหา ไมไดทําเพราะ เปนหนาที่, พวกเขาจะไมยอมหยุดเทรด แมวาจะเสียเงิน เพราะเปาหมายของ พวกเขาคือการ "ไดเทรด" ไมใช"กําไร", ผูเสพติด จะมีวงจรที่วนอยูระหวาง รูจัก
ผิดชอบชั่วดี กับ ขาดความรูสึกผิดแลวเขากระทํา เทรดเดอรที่ดีจะเทรดอยาง สม่ําเสมอ, ผูเสพติดการเทรด จะเทรดอยางเยอะเกินพอดี เมื่อคุณแยกออกระหวางสองประเภทนี้แลวก็ใหทําในสิ่งที่ควรทํา กอนที่การ เสพติดจะทําลายชีวิตการเทรดของคุณ และ ผูที่ฝากชีวิตไวกับคุณ, คุณ เปลี่ยนแปลงมันได ! จงรักษาสมดุลระหวาง การเทรด กับ ความสุขในชีวิตเถอะ !
แนวคิดของ เทรดเดอรทป ี่ ระสบความสําเร็จ ชวยบอกหนอยวา เทรดเดอรสามารถพัฒนาการเทรดของตัวเอง โดยการ โฟกัสในสิ่งที่ตัวเองทําไดดี, เพราะเทรดเดอรสวนใหญชอบโฟกัสในสิ่งที่ตัวเอง ทําพลาด, รวมทั้งความสําคัญเกี่ยวกับการบันทึกการเทรดสักเล็กนอย หัวใจของการบําบัดแบบ “โฟกัสที่การแกปญหา” คือ ใหตรวจสอบวา คุณกําลัง ทําอะไร เมื่อคุณมุงหนาสูเปาหมายของคุณ, ตอนที่คุณทําเปาหมายสําเร็จ คุณ ทําอะไรบาง? การกระทําไหนที่ทําใหคุณสําเร็จ? คุณอยากจะระบุสิ่งนั้นใหได (สิ่งที่คุณทําไดดี จนทําใหคุณสําเร็จ) เพื่อที่วาคุณจะไดทําสิ่งนั้นๆ มากขึ้นอีก ซึ่ง จะทําใหคุณทําในสิ่งที่เหมาะกับคุณมากขึ้นเรื่อยๆ, ผมคิดวาหลักการนี้ ใชไดดี กับการเทรดเชนเดียวกัน ซึ่งเราไดเรียนรูมาจาก เทรดเดอรที่ประสบความสําเร็จ สวนใหญวาเขาก็ใชวิธีนี้, เชนที่ผมตรวจสอบการเทรด โยการระบุรายละเอียด ของการเทรด เชน ความยาวนานในการถือออเดอร, ชวงเวลาของวันในการเขา ออเดอร, ขนาดของออเดอรโดยเฉลี่ย ก็จะเห็นไดวา การเทรดแบบไหนที่ ผมทํา ไดดี และ แบบไหนไมดี, ไมไดพูดถึงความสําคัญของการบันทึกตรงๆ แตก็จะเห็นไดจากคําพูดวา ถา ไมเคยมีการบันทึกการเทรด จะไมสามารถวิเคราะหไดเลย วารูปแบบการเทรด ไหนที่เราทําไดดี และ ทําไดไมด,ี ดังนั้น การบันทึกการเทรดจึงเปนเหมือนบันได ขั้นแรกสูการพัฒนา)
อีกสิ่งที่ชวยทําใหพัฒนาไดมากเลย สําหรับผม, และผมคิดวาเทรดเดอรทาน อื่นก็นาจะเหมือนกัน, คือ การที่เลิกโทษตัวเองเมื่อแพ และ เขาใจวาการสูญเสีย เปนสวนหนึ่งของการทําธุรกิจทุกชนิด และ ไมตองไปยึดติดกับมัน แตใหไป โฟกัสที่การเทรดที่เราชนะ และ ศึกษามันออกมาวา ทําไมถึงชนะ และ ก็ทําในสิ่ง เหลานั้นใหมากขึ้น อืม, ฟงดูเหมือน วิธีที่ใชกันในการเติบโตของ อาณาจักรธุรกิจใหญๆ คือ การ บริหารความสูญเสีย โดยเขาใจวา มันเปนคาใชจายในการทําธุรกิจที่เลี่ยงไมได ใชแลว, ผมคิดวา มันคือ แนวคิดที่สําคัญ ที่จะชวยไดเยอะ, ถาคุณเปนนักกีฬา บาสเก็ตบอล แมวาคุณจะเกง แตคุณก็จะยิงพลาดจํานวนครึ่งหนึ่ง, ถาคุณเปน นักกีฬา เบสบอล แมวาคุณจะเกง คุณก็จะ Out มากกวาตีโดน และ walk, ดังนั้น คุณจะตองเขาใจวาการพลาดเปนสวนหนึ่งของเกม และ ไมไปยึดติดวามันเปน ความลมเหลวของคุณ, แนวคิดหลักคือ ตองไดโอกาสที่ดีในการเลน เลือกเขาทํา (ยิง/ตีลูก) เมื่อโอกาสสวย ซึ่งถาทําแบบนี้ความนาจะเปนจะเขามาชวยคุณใน ระยะยาว, ซึ่งหลักการนี้ใชไดเหมือนกันในการเทรด, ฉะนั้นถาคุณเลิกโทษ ตัวเองวาคุณพลาด แลวมาโฟกัสในสิ่งที่คุณทําไดถูก ทําไดดี แลวก็ทํามันตอไป มากขึ้นเรื่อยๆ ความนาจะเปนก็จะเขามาชวยใหคุณ มีโอกาสชนะการเทรดมาก ขึ้น เทรดไดดีขึ้นกวาเดิมมาก
[จิตวิทยาการลงทุน]: การเทรดสอนอะไรให ชีวต ิ ประจําวัน การเทรด เปรียบเสมือนการเรงเวลา ของชีวิตคน, ภายในเวลาหลักนาที การเทรดจะรวมความทาทายที่มนุษยตองเจอตลอดชีวิต มาทดสอบ ตั้งแต ความ จําเปนที่ตองตัดสินสิ่งตางๆ, วางแผน และ การประเมินคุณคาของสิ่งตางๆ ภายใตสภาวะที่มีความเสี่ยง และ ความไมแนนอน, ในการฝกฝนการเทรด เรา
จําเปนที่จะตองเผชิญหนากับตัวเอง และ เอาชนะตัวเอง, ในชีวิตจริงเองก็มี เรื่องราวที่ ไดรางวัลเมื่อเราพัฒนาตัวเองสําเร็จ และ มีบทลงโทษเมื่อขาดการ พัฒนาตนเองอยูตลอด มีบทเรียนชีวิตมากมาย ที่เราสามารถสะทอนออกมาจากการเทรด เชน 1. ตองมี การวาง Stop-Loss ในทุกกิจกรรม ไมวาจะเปน การงาน, ความสัมพันธ, และ เรื่องสวนบุคคล, คนที่ประสบความสําเร็จ จะรูจักตัดเรื่องที่ กําลังลมเหลวทิ้งไป และ ทําตอในเรื่องที่กําลังสําเร็จไปไดดวยดี 2. การใชความหลากหลาย เปนเรื่องที่มักจะไดผล ทั้งในเรื่องของชีวิต และ การ เทรด, การบริหารความเสี่ยง โดยการใชทรัพยาการจากหลายๆแหลงที่ไม เกี่ยวของกัน เปนวิธีที่ดี ไมวาจะใชกับแงมุมใดของชีวิต 3. ไมวาจะเปนในชีวิต หรือในตลาด, การเปลี่ยนแปลง จะสรางประโยชนใหกับ ผูที่เตรียมตัวลวงหนาอยางดี, การไมวางแผน เทากับ กําลังวางแผนสูความ ลมเหลวนั่นเอง 4. การประสบความสําเร็จในการเทรดและชีวิต มาจากการรูขอไดเปรียบของ ตัวเอง, เมื่อโอกาสมาถึง ตองผลักดันความไดเปรียบนั้นออกมา และ ใชใหเต็มที่, และ เมื่อความไดเปรียบนั้นหมดไป ก็ใหนั่งรอเฉยๆตอไป 5. Risk (ความเสี่ยง) และ Reward (ผลตอบแทน) นั้น มาคูกันเสมอ, ไมวาจะ เปนชีวิตคน หรือ ในตลาด, การจะไดผลตอบแทนที่ดีมา ตองมีการบริหารความ เสี่ยง อยางพิถีพิถันกอนเสมอ 6. ความสุข คือกําไรที่เราเก็บเกี่ยวจากชีวิตของเรา, กิจกรรมทุกอยางในชีวิต ควรจะมีการทบทวนเปนระยะๆวา ผลตอบแทนที่ไดมาจากการลงทุนในเรื่องนั้น
คุมคาหรือไม, เทียบกวา การลงแรง ลงเวลากับเรื่องใดๆนั้น ใหความสุขเรา ไดมากนอยเพียงใด 7. จงอาแขนยอมรับการเปลี่ยนแปลง, เพราะแมวา การเปลี่ยนแปลง จะ นํามาซึ่ง ความอันตราย แตก็จะมาพรอมกับโอกาสดวยเสมอ 8. ทุกแนวโนม และ วัฎจักร จะมีที่สิ้นสุดเสมอ, ใครที่มีการประเมินอนาคต ลวงหนาไดดี จะไดรับประโยชนจากเรื่องนี้ 9. ไมวาจะเปนในการเทรด หรือ ในชีวิต, การตัดสินใจที่เลวรายที่สุด จะมาจาก อยางใดอยางหนึ่ง ระหวาง เชื่อมั่นมากเกินไป หรือ ขาดซึ่งความเชื่อมั่น 10. สูตรสําเร็จ ทั้งในวงการเงิน และ ชีวิต คือ อยาถือการลงทุนใดๆ ที่ถาใหคุณ ซื้อใหมตอนนี้ คุณไมอยากซื้อ ทบทวนดีๆ จะเห็นไดวาหลักการหลายๆอยาง เปนเรื่องที่คอนขางชัดเจน แตเรา อาจจะลืมคิดไป และ เมื่อถึงเวลาก็ถูกอารมณครอบงํา จนไมสามารถปฏิบัติได อยางถูกตองอยางที่ควรจะทํา, เหมือนกับตอนเทรดซึ่งขาดวินัยเพราะ ถูก อารมณครอบงํา, ฉะนั้นในชีวิต ก็ตองมีสติ และ วินัย ที่จะทําในสิ่งที่ถูกตอง มากกวา ไปกระทําตามสิ่งเราที่เขามายั่วยวนใหดี
จิตวิทยาการลงทุน] การฟน ฟูการเทรดของคุณ จาก “แย” ใหเปน “เยีย ่ ม” ม” ชวงปลายปของ 2-3 ปที่ผานมา ผม ไดสังเกตเห็นบางอยางที่นาสนใจ เกี่ยวกับหนังสือจิตวิทยาการเทรดของผม นั่นก็คือยอดขายของ ::::::::ไดกระโดด ขึ้นอยางนาประหลาดใจ กอนที่จะคอยๆตกลงมา, สําหรับผูที่ไมคุนเคยกับ::::::, เมื่อไมนานมานี้ ยอดขายของแอมะซอนมีปริมาณการขายเพิ่มขึ้นมากกวาที่ผาน มา ดังนั้นยอดขายรวมที่เพิ่มขึ้น จึงชวยใหยอดขายของหนังสือผมเพิ่มขึ้นดวย
แตการกระโดดขึ้นของยอดขายหนังสือของผม มีรูปแบบที่พบวามีปริมาณการ ซื้อหนังสือมากในวันหยุด, เนื่องจากหนังสือของผมตางก็ไมไดมีรสชาดดีเหมือน เคกผลไม และก็ไมสนุกที่จะเปดเหมือนกระเชาของขวัญ ผมจึงตองทึกทัก วามี แรงจูงใจอื่นๆ ที่มาทําใหซื้อหนังสือชวงปลายปเหลานี้ การคาดการณที่ดีที่สุดของผมคือ ลูกคามีความกังวล, เหมือนกับผูคาหลาย คนที่สงอีเมลมาใหผม คือ ปนี้พวกเขาประสบกับปที่แยในการเทรดและอยากจะ ใหปหนานั้นเปนการเริ่มตนที่ดีกวา พวกเขามองวาการใหความสนใจกับ จิตวิทยาของพวกเขาเปนทางเลือกหนึ่งของการทําการปรับปรุงแกไข พวกเขา จึงคิดที่จะเริ่มตนจากการหาความรูโดยการอานหนังสือกัน การแกปญหา ไมไดจบที่แค การคิดจะแกปญหาเคนั้น, เราจะตองจริงใจใน การแกปญหา ตั้งแตหาสาเหตุของปญหา วางแผนแกปญหา มีระยะเวลากําหนด ที่ชัดเจน และ การติดตามวาทําได, ทําไมได หรือ ไมไดทําดวย จุดมุงหมายของผมในการเขียนบทความจิตวิทยาการเทรดก็เพื่อที่จะชวย ผูอานทําการแกไขการเทรด และทําใหมีไฟในการแกไขปญหาการเทรด สําหรับปใหม ซึ่งเปนสิ่งที่ผมกําลังจะลงมือทําจริงกับกลุมผูคามืออาชีพในเมืองชิ คาโก และ ผมจะไดรับเกียรติในการเปนสวนหนึ่งของการฟนฟูการเทรดของ พวกเขา และ หวังวาจะชวยเปนสวนหนึ่งของการฟนของคุณดวยเชนกัน
**********Eี้ ด ั ทําขึน ้ **********E-book ไฟลนจ เพือ ่ เทรดเดอรมอ ื ใหมและมือเกา ของประเทศไทยจะไดโหลดไปอาน บทความนี้คด ั ลอกมาจาก http://www.chiangmaifx.com/co
mponent/content/article/93mponent/content/article/93articlearticle-byby-rojer/107rojer/107-tradingtradingpsychology.html#part12
ของคุณโรเจอร แหง chingmai forex school ที่ตอ งมีการตัดคัด ทิ้งขอความบางสวนออกเพือ ่ ปองกันการฟองรองทางกฎหมาย งทางกฎหมาย จาก บุคคลหรือบริษท ั นัน ้ ๆนะครับ เพราะวาไมรว ู า เขาจะคิดอะไรยังไง กับเราหรือเปลา
อาจจะคัดลอกตกหลนบางตัด ออกไปบางก็เพือ ่ ใหอา นไดงา ยๆ และเขาใจงายสําหรับคนทีม ่ ี ประสบการณในการเทรดมาระดับ หนึ่งแลวนะครับมือใหมๆอาจจะงง เยอะ ก็ตามไปอานไดที่ ลิงคไดเลย ครับ