กินอย่างไร ? สุขภาพดี

Page 1

¡Ô¹Í‹ҧäÃ? ÊØ¢ÀÒ¾´Õ ¾ÔÁ¾ ¤ÃÑ้§·Õ่ 1

- à¤Å็´äÁ‹ÅѺ·Õ่ÃÍãËŒ¤Ø³¾ÔÊÙ¨¹ -

ÁÙ¹ÕàÃÒÐË ÊÒàÁÒÐ


หนังสือ : กินอย่างไร? สุขภาพดี ผู้เขียน : มูนีเราะห์ สาเมาะ พิมพ์ครั้งที่ ๑ ธันวาคม ๒๕๕๗ จำ�นวนพิมพ์ ๑ เล่ม ราคา ๑๒๐ บาท ข้อมูลบรรณานุกรม มูนีเราะห์ สาเมาะ กินอย่างไร ? สุขภาพดี : น้ำ�ครึ่งแก้ว | ๒๕๕๗ ๑๐๐ หน้า | ความรูทั่วไป บรรณาธิการเล่ม : มูนีเราะห์ สาเมาะ ผู้ช่วยบรรณราธิการ : ฮาฟิส ยะผา ออกแบบปก/รูปเล่ม : มูนีเราะห์ สาเมาะ พิสูจน์อักษร : มูนีเราะห์ สาเมาะ ควบคุมการผลิต : มูนีเราะห์ สาเมาะ จัดพิมพ์ : สำ�นักพิมพ์น้ำ�ครึ่งแก้ว จัดจำ�หน่าย : สำ�นักพิมพ์น้ำ�ครึ่งแก้ว


จาก สำ�นักพิมพ์

สุขภาพที่ดี เป็นการเริ่มต้นของการมีดำ�รงชีวิตที่ดี ประโยคนี้ หลายคนคงละเลยและไม่เป็นที่คุ้นเคย ปัจจุบันในยุคของสังคมที่มีแต่ความเร่งรีบ หลายคนละเลยการ ดูแลสุขภาพซึ่งนั่นเป็นต้นเหตุของการเกิดโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ การดูแล สุขภาพเป็นสิ่งที่จำ�เป็นที่ไม่ควรละเลย และหนึ่งในการดูแลสุขภาพคือ การเลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ ซึ่งอาหารที่มีประโยชน์นั้นมีมาก แต่ จะทานอย่างไรให้เหมาะสมตัวเองนั้น หนังสือกินอย่างไร? สุขภาพดี มีวิธี การรับประทานอาหารที่ทำ�ให้คุณผู้อ่านมีสุขภาพดีและห่างไกลจากโรคภัย ไข้เจ็บต่างๆ การมีสุขภาพดีและห่างไกลจากโรคภัยไข้เจ็บต่างๆนั้นไม่ยาก เพียงหันมาใส่ใจตัวเองและเลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ที่เหมาะสมกับ ตัวเอง เท่านี้ก็จะทำ�ให้คุณผู้อ่านมีสุขภาพดีและมีชีวิตที่ดีได้

สำ�นักพิมพ์น้ำ�ครึ่งแก้ว


จาก ผู้เขียน หนังสือเรื่อง กินอย่างไร ? สุขภาพดี เป็นหนังสือที่เกี่ยวกับเรื่อง การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์อย่างไรที่เหมาะสมกับตัวเองในสังคม ที่มีความเร่งรีบ ซึ่งเนื้อหาทั้งหมด เกิดจากการค้นคว้าทางอินเตอร์เน็ต อาหารที่มประโยชน์นั้นมีมากแต่จะรับประทานอย่างไรให้เหมาะ สมกับตัวเองนั้นคุณผู้อ่านหลายคนคงยังไม่ทราบ หากคุณผู้อ่านเลือกรับ ประทานอาหารที่มีประโยชน์และเหมาะสมกับตัวเองนั้น สุขภาพดีคงอยู่ ใกล้แค่เอื้อม หนังสือเล่มนี้จึงเหมาะกับคุณผู้อ่านทุกคนที่อยากเริ่มต้นรับ ประทานอาหารที่มีประโยชน์ที่เหมาะสมกับตัวเองเพื่อสุขภาพที่ดี.

มูนีเราะห์ สาเมาะ


สารบัญ โกโก้ ช่วยให้ชีวิตยืนยาว 7 7 สุดยอดอาหาร อารมณ์ดี 9 8 Healthy Food 18 ผลไม้กินดี ยามท้องว่าง 23 กินอย่างไร ไม่กรน 25 อาหารเลว ที่ดีต่อสุขภาพ 28 ล้างสารพิษง่ายๆ ด้วยตัวเอง 31 ใครว่าเปลือกผลไม้ไร้ค่า 34 ข้อควรระวังในการดื่มชา 37 อาหารที่ควงดในขณะท้องว่าง 39 เลือกอาหารตามกรุ๊ปเลือด 42 อาหารต้องห้าม ยามป่วย 48 น้ำ�สมุนไพร ช่วยคลายร้อน 52 กินอย่างไรไม่อ้วน 57 ประโยชน์จากอาหารไฮไฟ 61 7 สิ่งกินแล้วเยาว์ 63 วิธีกินต้านมะเร็ง 66 อาหารดี ต้านคอเลสเตอรอล 69 เคล็ดลับการกินอาหารเพื่อสุขภาพ 72 น้ำ�ทับทิม ยับยั้งเซลล์มะเร็ง 76 ใยอาหาร ลดอ้วนล้างพิษ 80 สมุนไพรรักษาสิว 84 เคี้ยวนาน ฉลาดมาก 87 5 อัศวิน พิชิตอ้วน 90 15 นาที เพื่อชีวิตที่ดีขึ้น 94 กินได้ แบบไร้โรค 97 ผลเสียของสุขนิสัยที่ไม่ดี 99



กินอย่างไร ? สุขภาพดี

โกโก้

ช่วยให้ชีวิต ยืนยาว

ทุ ก ท่ า นคงไม่ คิ ด ว่ า การรั บ ประทานโกโก้ แล้วทำ�ให้ชีวิตยืนยาว แต่เนื่องจากผลการ วิ จั ย ของนั ก วิ จั ย ชาวดั ท ช์ ร ะบุ ว่ ผู้ ช ายที่ รั บ ประทานโกโก้ จ ะช่ ว ยลดการเสี ย ชี วิ ต จาก โรคภั ย ไข้ เ จ็ บ ได้ อ ย่ า งมากถึ ง 50เปอร์ เ ซ็ น ต์ เลยทีเดียวเมื่อเปรียบเทียบกับคนที่ไม่ได้รับ ประทาน

7


8

กินอย่างไร ? สุขภาพดี อย่างที่เรารู้กันว่าได้มีการศึกษาก่อนหน้านี้ที่ระบุว่า โกโก้ มีสารออกฤทธิ์ที่ช่วยลดความดันโลหิตได้ แต่ก็ยังคงถกเถียงกัน อยู่มากเกี่ยวกับผลในการช่วยลดโอกาสเกิดโรคหัวใจ เนื่องจาก มันมีพวกไขมัน น้ำ�ตาล และให้พลังงานสูง อย่างไรก็ตามข้อมูลการ รายงานผลการศึกษาล่าสุดจากวารสาร Archives of Internal Medicine ระบุว่ามันช่วยลดอัตราการเสียชีวิตลงอย่างชัดเจนค่ะ โดยคนที่รับประทานโกโก้มากที่สุด จะส่งผลให้มีความดันโลหิตลด ลง และยังพบว่ากลุ่มคนที่รับประทานโกโก้ มีจำ�นวนผู้ป่วยโรค หัวใจน้อยกว่ากลุ่มคนที่ไม่ได้รับประทานอีกด้วยทั้งนี้น่าจะมาจาก ผลของสารต้านอนุมูลอิสระ และสารฟลาโวนอยด์ที่มีมากในโกโก้ ที่จะช่วยให้ระบบการทำ�งานต่างๆ ของเซลสิ่งมีชีวิตทำ�งานได้ดีขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเซลของระบบหลอดเลือดต่างๆ และมันยังช่วยลด ผลกระทบจากพวกไขมันคอเลสเตอรอลและสารเคมีอื่นๆ ที่ก่อให้ เกิดโรคหัวใจ มะเร็ง และโรคปอด สารฟลาโวนอยด์นี้ยังสามารถพบ ได้ในผักหลายๆ ชนิด รวมทั้งพวก ชาเขียวและไวน์แดง

งานวิจัยชิ้นนี้เขาได้ทำ�การศึกษามานานกว่า 15 ปี ในชาย อายุระหว่าง 65-84 ปี จำ�นวนเกือบ 500 คนที่อาศัยในเมือง Zutphen ประเทศเนเธอร์แลนด์ พบว่า 1 ใน 3 ของคนกลุ่มนี้ไม่ได้รับ ประทานโกโก้ ขณะที่ค่าเฉลี่ยมัธยฐานของกลุ่มของการรับประทาน โกโก้จะอยู่ที่ 4.2 กรัมต่อวัน ในจำ�นวนอาสาสมัครกลุ่มนี้พบว่า ใน ช่วงระหว่างปี พ.ศ.2528-2543 มีอาสาสมัครเสียชีวิตลง 314 คน ซึ่งพบว่าคนที่รับประทานโกโก้มากที่สุด มีความเสี่ยงลดลงครึ่งหนึ่ง ของคนที่ไม่ได้รับประทาน

ข้อมูล : http://www.healthdd.com ภาพ : http://img.kapook.com/u/ suttichai/a999996/vv6.jpg


กินอย่างไร ? สุขภาพดี

7

สุดยอดอาหาร อารมณ์ดี

เ ป็ น ธ ร ร ม ด า ที่ ค น เ ร า ต้ อ ง มี วั น ที่ อารมณ์ เ สี ย หรื อ หงุ ด หงิ ด กั น บ้ า งแต่ ทราบไหมคะว่ า เราสามารถแก้ ไ ขอา รมณ์ บู ด ๆของเราด้ ว ยอาหารที่ รั บ ประทานเข้าไปในแต่ละวันได้ด้วย

9


10

กินอย่างไร ? สุขภาพดี Susan Moores โฆษกจากสมาคมโภชนาการของ อเมริกา และที่ปรึกษาด้านสารอาหารในเซนต์ปอล กล่าวไว้ว่า “ประจำ�วันเป็นสิ่งสำ�คัญที่จะช่วยรักษาสมดุลของอารมณ์ เพราะ นอกจากอาหารจะให้พลังงานแล้ว ยังสร้างเซโรโทนิน ซึ่งเป็นเคมีใน สมองทำ�ให้จิตใจคุณสงบและเย็นขึ้น ดังนั้นเมื่อคนเราเลือกอาหาร ที่ดี อารมณ์ของเราก็จะดีไปด้วย” และยังกล่าวต่ออีกว่า เดี๋ยวนี้ คนหันมานิยมการรับประทานอาหารแบบโลว์คาร์โบไฮเดรตกันมาก เป็นเหตุให้มีผลทางด้านอารมณ์ เนื่องจากคาร์โบไฮเดรตจะมีผล ต่อการสร้างเซโรโทนิน เมื่อเราขาดแคลนคาร์โบไฮเดรตอารมณ์ของ คนเราก็เปลี่ยนไปด้วย... และถ้าคุณอยากเปลี่ยนตัวเองให้เป็นคน อารมณ์ดี อาหารเหล่านี้เป็นสิ่งที่เหล่าคุณหมอเขาใช้ในการบำ�บัด คนไข้

1.ปลาซัลมอนและแม็กคาเรล

ปลา 2 ประเภทนี้มีโอเมก้า 3 อยู่เยอะมาก ดังนั้นจึงแนะนำ�กันว่าเป็น อาหารที่เยี่ยมมากสำ�หรับมื้อดินเนอร์ ที่สำ�คัญมีการวิจัยมาแล้วว่า โอเมก้า 3 มีผลกับอารมณ์ของคนเรา นอกเหนือจากที่โอเมก้า 3 ช่วยป้องกันโรคหัวใจและมะเร็ง ที่ดีไปกว่านั้นซัลมอนยังเต็มไปด้วย เซเลเนียม ที่เป็นสาระสำ�คัญในการต่อต้านอนุมูลอิสระด้วย

2.คาโนลาออยล์

เป็นน้ำ�มันจากดอกคาโนลาซึ่งกำ�ลังได้รับความนิยมมาก เนื่องจาก เต็มไปด้วยวิตามินอี ซึ่งมีผลต่อระดับอารมณ์ของคนเรา แต่ด้วย ความที่ในน้ำ�มันจะมีไขมัน ทำ�ให้แนะนำ�กันว่าให้รับประทานได้ไม่เกิน วันละ 6 ช้อนชา หรือ 24 กรัม โดยพยายามใช้น้ำ�มันนี้เวลาคุณ ทอดปลาซัลมอน หรือทำ�อาหารสุขภาพรับประทาน


กินอย่างไร ? สุขภาพดี

3.ผักโขมและถั่วสด

ในผักใบสีเขียวเข้มอย่างผักโขมหรือถั่วนั้นมีโฟเลตสูง ซึ่งช่วยให้ อารมณ์ของคนเราอยู่ในระดับปกติ เนื่องจากโฟเลตมีส่วนสำ�คัญ ในการสร้างเซโรโทนิน นอกจากนั้นการรับประทานถั่วยังได้รับ วิตามินซีและไฟเบอร์ด้วย แต่มีคำ�แนะนำ�ว่าถั่วกระป๋องจะมีสาร อาหารน้อยกว่าถั่วสดดังนั้นถ้าเป็นไปได้คุณควรเลือกรับประทาน ถั่วสด ๆ เพื่อสารอาหารที่เต็มที่... ผสมถั่วลงในทูน่าสลัด หรือ เพิ่มผักใบเขียวในชามสลัดของคุณก็จะเป็นมื้ออาหารที่ไม่เลวเลยที เดียว

4.ถั่ว Chickpeas

เป็นอาหารที่มีโฟเลตสูงแต่ไขมันต่ำ� และสำ�หรับคนที่ไม่รับประทาน เนื้อสัตว์ สามารถที่จะทานถั่วชนิดนี้แทนได้เพราะมีโปรตีนอยู่สูง แถมมีรสอร่อย นอกจากนั้นชิกพียังมีไฟเบอร์, ไอออน และวิตามินอี อยู่เยอะ การประกอบอาหารง่าย ๆ จากถั่วชิกพี ให้นำ�ชิกพีกระป๋อง มาเทเอาน้ำ�ออก ผสมกระเทียมสับใส่ลงไป ใส่น้ำ�มะนาว และน้ำ�มัน มะกอกหรือน้ำ�มันคาโนลา ปั่นในเบลนเดอร์หรือเครื่องผสมอาหาร เติมเกลือพริกไทยหรือเครื่องปรุงรสที่ชอบ แค่นี้ก็จะได้อาหาร สุขภาพที่นำ�มาจิ้มรับประทานกับผักสดแล้ว

5.ไก่

เป็นอาหารที่มีวิตามินบี 6 อยู่มาก ซึ่งโดยหลักแล้วจะช่วยสร้างเซ โรโทนินขึ้นในร่างกายของเรา นอกจากนั้นในไก่ยังเป็นแหล่งของเซ เลเนียม วิตามินและสารอาหารอื่น ๆ ด้วย เพียงแต่ต้องคำ�นึงถึงนิด หนึ่งว่าการรับประทานหนังไก่จะช่วยเพิ่มไขมันให้กับเราไม่น้อยเช่น กันฉะนั้นเลือกรับประทานอกไก่ที่ปราศจากหนังดีกว่าค่ะ เพราะให้ พลังงานเพียง 106 แคลอรี/3.5 ออนซ์ (ประมาณครึ่งอก) เท่านั้น ข้อมูล : http://board.narak.com ภาพ : http://alo-lawyers.com/wp-content/ uploads/2014/10/kids%20eating%20lunch-PTkV.jpg

11


12

กินอย่างไร ? สุขภาพดี

ชาชนิดไหน? เหมาะกับคุณ

การนิยมดื่มชาของคนไทยนั้น นับวันจะมีมากขึ้นเห็น ได้จากชาต่างๆที่วางขายตามท้องตลาด ให้ผู้คนได้เลือก ซื้อตามรสชาติที่ตนเองโปรดปราน ชาถือเป็นเครื่องดื่ม เพื่อสุขภาพที่มีประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย อาทิ ช่วย กระตุ้ น ให้ ร ะบบประสาทและร่ า งกายสามารถทำ � งานได้ อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยให้กล้ามเนื้อผ่อนคลายมี อิทธิพลต่อขบวนการเมตาโบลิซึมของเซลล์ร่างกาย ช่วย ขยายขนาดหลอดเลือด และป้องกันโรคหัวใจตีบตัน ช่วย แก้กระหายและช่วยในการย่อยอาหาร เหล่านี้เป็นต้น


กินอย่างไร ? สุขภาพดี

ชา

ที่ผลิตออกมาขายในท้องตลาดก็มีมากมายหลาย ชนิด ไม่ว่าจะเป็น ชาเขียว ชาอูหลง ชาดอกไม้ ชาผสมน้ำ�ผึ้ง ซึ่ง แต่ละชนิดก็มีความพิเศษอยู่ในตัวเอง หากเลือกดื่มได้ตรงกับ พฤติกรรมการใช้ชีวิตของเรา ก็จะดีต่อสุขภาพร่างกายยิ่งขึ้นค่ะ เราลองมาดูกันดีกว่าค่ะว่าชาประเภทไหนเหมาะกับสุขภาพของ เรามากที่สุด

ประเภทแรก

สำ�หรับผู้ที่ทำ�งานแบบใช้สมอง ต้องเครียดซีเรียสตลอดทั้งวัน หรือ นักเรียนนักศึกษาที่ตรากตรำ�อ่านตำ�รับตำ�ราจนดึกดื่นต้องดื่มชา มะลิ

ประเภทที่สอง

ผู้ที่ต้องทำ�งานใช้แรงมากๆ หรือเป็นคนที่รักการออกกำ�ลังกาย ใช้ แรงและเสียเหงื่อมาก ชาที่เหมาะกับคนประเภทนี้คือชาอูหลง

ประเภทที่สาม

ผู้ที่ผจญกับมลภาวะอากาศเป็นพิษ คนที่เดินทางสัญจรไปมา อาทิ ผู้ที่ขับขี่รถจักรยานยนตร์ คนใช้รถประจำ�ทาง ตำ�รวจจราจร ควร รับประทานชาเขียว

ประเภทที่สี่

ผู้ที่ต้องนั่งทำ�งานตลอดทั้งวัน ตัวติดเก้าอี้ ไม่ได้ลุกขยับเขยื้อนกาย ไปไหนเลย และเป็นคนที่ไม่ชอบออกกำ�ลังกายด้วยแล้ว ชาที่เหมาะก็ คือชาเขียวกับชาดอกไม้

13


14

กินอย่างไร ? สุขภาพดี

ประเภทที่ห้า

ผู้ที่รักการสังสรรค์ ชอบดื่มสุรา ของมึนเมา ชาที่เหมาะกับคน ประเภทนี้คือชาเชียว

ประเภทที่หก

ผู้ที่ชอบกินเนื้อสัตว์เป็นชีวิตจิตใจ เหมาะกับชาอูหลง

ประเภทที่เจ็ด

ผู้ที่ท้องผูกอยู่เสมอ เข้าห้องน้ำ�แต่ละครั้งช่างทุกข์ทรมานเสียจริงๆ ควรรับประทานชาผสมน้ำ�ผึ้งเป็นประจำ�

ประเภทที่แปด

ผู้ที่มีระดับคอลเรสเตอรอลสูง ไขมันในเลือดสูง เหมาที่จะดื่มชาอู หลง หรือชาเขียว

ประเภทที่เก้า

เป็นมนุษย์ยุคไฮเทคที่ต้องนั่งอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ทั้งวันทั้งคืน ควรดื่มชาเป็นประจำ� จะดีมากๆ ไม่ว่าจะเป็นชาประเภทไหนก็ตาม ยกมาดื่มสักอึกสองอึก จะช่วยแก้กระหาย ช่วยป้องกันรังสีที่แผ่ ออกมาจากเครื่อง อีกทั้งยังช่วยคลายเส้นคลายกระดูก ลดอาการ อ่อนเพลียได้อย่างชะงัดนักแล ข้อมูล : http://www.deedeejang.com ภาพ : http://www.venturetea.com / images/pg5/tea.png


กินอย่างไร ? สุขภาพดี

สมุนไพร พิชิตหวัด หน้าหนาว

เมื่อลมหนาวเริ่มพัดมา อะไรต่อมิอะไรก็ดูดีไปเสียหมด แต่ก็ไม่ แน่เสมอไปเพราะเจ้าอากาศเย็นๆ ชื้นๆ นี้อาจนำ�พามาซึ่งโรคภัย ก็เป็นได้ค่ะ เพราะประเทศไทยมีสภาพอากาศที่มีความชื้นน้อย และมีปริมาณฝุ่นละอองมากกว่าฤดูอื่น จึงมักทำ�ให้เกิดการ ระคายเคืองทางระบบทางเดินหายใจได้ง่ายขึ้น อย่างเช่น ไข้หวัด ที่มักมาพร้อมกับฤดูหนาวทุกปี เราจึงอยากพาคุณมารู้จักกับ 8 สมุนไพรพื้นบ้าน เพื่อเป็นทางเลือกสำ�หรับบรรเทาอาการไข้ หวัด ที่สำ�คัญประหยัดงบในกระเป๋าคุณด้วย

15


16

กินอย่างไร ? สุขภาพดี โดยทั่วไปเมื่อคุณเป็นไข้หวัดแล้ว อาการจะหายได้เอง ประมาณ 1 สัปดาห์ โดยหมั่นจิบน้ำ�อุ่นอย่างต่อเนื่อง พักผ่อนให้ มาก ๆ ห้ามกินยาปฏิชีวนะโดยพลการ เนื่องจากอาจสร้างปัญหา ทำ�ให้เชื้อดื้อยา โดยสิ่งที่เป็นเรื่องน่ารำ�คาญของโรคนี้คือ น้ำ�มูกไหล ไอ จาม เจ็บคอและหายใจลำ�บาก

จากการสำ�รวจพืชสมุนไพรพื้นบ้านของกรมพัฒนาการ แพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกพบว่า มีสมุนไพร ที่สามารถนำ�มาใช้บรรเทาอาการหวัดได้ ในเรื่องนี้นางนิต ยา จันทร์เรือง มหาผล โฆษกกระทรวงสาธารณสุข เปิด เผยว่า มีสมุนไพร8ชนิดที่สามารถนำ�มาใช้บรรเทาอาการ หวัด ลดอาการไอ การระคายคอจากเสมหะได้ ได้แก่ ขิง ดีปลี เมล็ดเพกา มะขามป้อม มะขาม มะนาว มะแว้งเครือ มะแว้งต้น ซึ่งสมุนไพรเหล่านี้มีอยู่ทุกภาคอยู่แล้ว และมี สรรพคุณต่างกัน เลือกใช้ได้ตามอาการ

1.ขิง

มีชื่อเรียกต่าง ๆ กัน ได้แก่ ขิงเผือก ขิงแกลง ขิงแดง สะเอ มีรส หวานเผ็ดร้อน แก้ลมจุกเสียด แก้เสมหะ แก้คลื่นเหียน อาเจียน ส่วนที่ใช้ได้แก่เหง้าแก่สดที่มีอายุ 11-12 เดือน ซึ่งจะมีน้ำ�มันระเหย ประมาณร้อยละ 3 การใช้ขิงรักษาอาการไอ มีเสมหะ ให้ใช้เหง้าขิง ฝนกับน้ำ�มะนาว หรือใช้เหง้าขิงสดตำ�ผสมน้ำ�เล็กน้อย แล้วคั้นเอา น้ำ�ใส่เกลือเล็กน้อย นำ�มากวาดคอหรือจิบบ่อย ๆ


กินอย่างไร ? สุขภาพดี

2.มะนาว

ใช้ผลสดคั้นเอาน้ำ�ใส่เกลือเล็กน้อย จิบบ่อย ๆ หรืออาจทำ�เป็นน้ำ� มะนาวใส่เกลือและน้ำ�ตาลปรุงรสจัด ดื่มบ่อย ๆ ก็ได้

3.เพกา

เพกาหรือมะลิดไม้ ลิดไม้ มะลิ้นไม้ ลิ้นฟ้า ส่วนที่นำ�มาใช้คือ เมล็ด ซึ่งเมล็ดเพกานี้เป็นส่วนประกอบหนึ่งของน้ำ�จับเลี้ยงที่คนจีนใช้ดื่ม แก้ร้อนใน มีสรรพคุณเป็นยาแก้ไข้ ขับเสมหะใช้เมล็ดประมาณ 1 กำ�มือ หนักประมาณ 3 กรัม ใส่น้ำ�ประมาณ 300 มิลลิลิตร ต้มไฟ อ่อน ๆ พอเดือด เคี่ยวประมาณ 1 ชั่วโมง ดื่มวันละ 3 ครั้ง มะขาม ป้อม หรือสันยาก่า มั่งลู่ กำ�ทวด กันโดด ซึ่งเป็นผลไม้ที่มีวิตามิน ซีสูงมาก รสฝาดอมเปรี้ยว ใช้แก้ไอกระตุ้นน้ำ�ลายทำ�ให้ชุ่มคอ แก้ คอแห้ง ขับเสมหะ โดยใช้เนื้อผลสดแก่ครั้งละ 1-3 ผล โขลกพอ แหลกใส่เกลือเล็กน้อย อมหรือเคี้ยวรับประทานวันละ 3-4 ครั้ง

4.มะขาม

มะขามส่วนที่นำ�มาใช้คือเนื้อฝักแก่ มีรสเปรี้ยวเพราะมีกรดอินทรีย์ แพทย์แผนไทยเชื่อว่ามีฤทธิ์ขับเสมหะ ให้นำ�มาจิ้มเกลือรับประทาน หรืออาจคั้นเป็นน้ำ�มะขามใส่เกลือรับประทานเปล่าๆ

ข้อมูล : http://www.deedeejang.com ภาพ : http://www.savoryspiceshop.com/content/ mercury_modules/cart/items/2/9/4/2947/cantanzaroherbs-salt-free-1.jpg

17


18

กินอย่างไร ? สุขภาพดี

8

Healthy Foods

คล็ดลับง่ายๆที่จะช่วยคุณคงความสวยงาม ของผิวและผมไว้ได้ นั่นคือ อาหาร 8 ชนิดนี้ เพียงแค่คุณทานอย่างเป็นประจำ� สม่ำ�เสมอ เชื่อได้ว่า แม้ว่าเวลาจะผ่านไปสักแค่ไหน คุณ ก็จะแลดูอ่อนวัยได้แบบที่สาวๆ อื่นต้องอิจฉา


กินอย่างไร ? สุขภาพดี

1.กล้วย

เพื่อคงความสวยงามของผมให้คงอยู่คู่กับศีรษะไปให้ยาวนาน สาวๆ ทั้งหลายสามารถหยุดอาการผมร่วงด้วยการรับประทานกล้วย ผล ไม้มหัศจรรย์ที่อุดมไปด้วยวิตามินบี ซึ่งมีสรรพคุณป้องกันผมร่วง ได้ดี เป็นสารอาหารสำ�หรับเส้นผมที่ดีมาก การรับประทานกล้วย เข้าไปในปริมาณที่เพียงพอ จึงช่วยรักษาเส้นผมให้อยู่คู่กับหนัง ศีรษะได้นานวัน จะทานแบบเป็นลูก เต็มปากเต็มคำ� หรือว่า จะกิน แบบแปรรูปแล้วก็ได้ไม่ว่ากัน อย่าง น้ำ� หรืออบ ตากแห้งหรือกวน แต่ว่าแบบออริจินัล สดๆ จากต้น มักจะให้ผลที่ดีกว่าเสมอ หรือ จะประยุกต์ใช้อีกวิธี คือผสมกล้วยกับแชมพูที่ทำ�จากน้ำ�ผึ้งแล้วนำ� มาสระผม ก็จะช่วยเน้นประสิทธิภาพในการป้องกันผมร่วงและช่วย ให้ผมนุ่มสลวยขึ้นด้วย

2.ธัญญาหาร

ธัญญาหารจำ�พวกถั่ว งา และอาหารแบบเมล็ดต่างๆ จะช่วยคุณได้ ถ้าหากคุณผิวที่มันมากเกินไป ให้พยายามรับประทานธัญญาหาร ที่อุดมด้วยวิตามินบี 2 ทุกวันจะเป็นตัวช่วยในการหยุดยั้งการผลิต น้ำ�มันส่วนเกินของต่อมผลิตภายในร่างกายซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่ง ของ เส้นผมบางและมันแต่ถ้าไม่สะดวกในการรับประทานธัญญาหาร เปล่าๆ ก็ลองผสมกับนมเย็นๆ เพื่อเพิ่มรสชาติขึ้นก็สามารถช่วยได้

19


20

กินอย่างไร ? สุขภาพดี

3.ดอกพริมโรส

ช่วยหยุดการลอกของผิวหนังด้วยการใช้น้ำ�มันจากพริมโรส ที่มีด อกสีเหลือง ลองรับประทานวันละ 2 แคปซูลทุกเย็นจะช่วยให้ได้ผล ดีอย่างยิ่ง ผิวหนังและหนังศีรษะจะดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แต่ถ้าการ รับประทานอาหารเสริมแคปซูลทำ�ให้เกิดอาการติดคอ หรือไม่ชอบ วิธีนี้ก็เปลี่ยนมารับประทานปลาแซลมอนใส่เกลือรมควัน อาหาร ทะเล หรือสลัดผักสดก็ได้ สิ่งเหล่านี้จะให้สรรพคุณทัดเทียมกับน้ำ� พริมโรสเลยทีเดียว

4.มะม่วง

ผลไม้ พื้ น บ้ า นอย่า งมะม่วงก็ช่วยให้คุณ มีผิวเนีย นเหมือนเด็ก ได้ เพราะในมะม่วงมีเบต้าแคโรทีน ที่ช่วยทำ�ให้ผิวมีสุขภาพดีวิตามิน ในแบต้าแคโรทีนจะช่วยกระตุ้นการสร้างผิวหนังทั่วไป รวมทั้งหนัง ศีรษะให้ทดแทนของเดิมที่หยาบแห้งและขรุขระ ให้กลับมามีความ ชุ่มชื้นและนุ่มเนียนอีกครั้ง แต่ถ้าไม่ชอบมะม่วงก็อาจเปลี่ยนเป็นมัน ฝรั่ง แครอต แอปริคอด แต่ควรรับประทานร่วมกับ ไข่และตับจะได้ ผลดียิ่งขึ้น

5.บลูเบอร์รี่

ผลไม้บำ�รุงผิวชั้นดี อาวุธลับแห่งเครื่องสำ�อางหลายชนิดถูกซ่อน อยู่ภายใต้ผิวสีน้ำ�เงินเข้ม และความเขียวอมม่วงสดของบลูเบอร์ รี่ เพราะสรรพคุณของบลูเบอร์รี่ทำ�ให้ผนังเส้นเลือดมีความแข็งแรง นอกจากนี้ยังหยุดอาการเส้นเลือดเปราะบางและแตกง่ายอีกด้วย


กินอย่างไร ? สุขภาพดี

6.ถั่วลิสงอบเนยและเกล็ดขนมปังอบร้อนๆ

ทั้ง 2 สิ่งนี้ จะช่วยหยุดการเปลี่ยนสีผมได้ ไม่ให้คุณต้องกลาย เป็นหนุ่มผมขาว สาวผมหงอกไปก่อนเวลาอันสมควร โดยให้รับ ประทานก่อนมื้ออาหาร ไอ้เจ้าถั่วและเกล็ดขนมปังนี้สามารถหยุดยั้ง การเปลี่ยนแปลงของสีผม เนื่องจากอาหารดังกล่าวอุดมด้วยวิตามิ นบี ที่สามารถหยุดการเปลี่ยนสีผมให้เป็นสีดอกเลาได้ และยังทำ�ให้ ผิวหนังดูดีขึ้นอีกด้วย หากไม่ชอบถั่วลิสงก็ลองรับประทานมันฝรั่ง อบร้อนและชุ่มด้วยเนยแทน แต่ปัจจุบันนี้ยังไม่มีผลิตภัณฑ์ใดที่ หยุดยั้งการเปลี่ยนสีผมได้แน่นอน ทำ�ได้แค่เพียงชะลอความเร็วของ อาการแก่ง้ำ�ก่อนวัยเท่านั้น

7.ฝรั่ง

ผลไม้ลูกกลมสีเขียว จะช่วยให้คุณแลดูหนุ่มสาวขึ้นอีก 5 ปี เพียง แค่รับประทาน ฝรั่ง หรือน้ำ�ฝรั่งซึ่งอุดมด้วยวิตามินซี วิตามินซี สามารถช่วยแก้รักษาคอลลาเจน ซึ่งเป็นบ่อเกิดแห่งโปรตีนภายใต้ ผิวหนัง ช่วยให้หน้าตา รูปร่างเต่งตึง เป็นสาวรุ่น หรือรับประทาน มะละกอส้ม ลูกเกดสีดำ�อบแห้ง ร่วมกับผลไม้ประจำ�วัน ก็จะช่วย เพิ่ม วิตามินเช่นกัน

8.อะโวคาโด้

ผลไม้รูปร่างประหลาดที่สามารถปกป้องใบหน้าจากมลพิษ ด้วย ความที่มีวิตามินบี ผลอะโวคาโดช่วยทำ�ให้ใบหน้าดูอ่อนกว่าวัย และร่างกายเกิดความต้านทานจากการทำ�ลายจากบรรยากาศแห่ง มลภาวะที่เป็นพิษอีกด้วย หากรับประทานอะโวคาโดอย่างเดียวแล้ว รู้สึกไม่คล่องคอ ขอแนะนำ�ให้ลองรับประทานเมล็ดทานตะวันเคลือบ น้ำ�ผึ้งและเมล็ดงาคั่วควบคู่ไปด้วย จะช่วยให้คุณทานได้คล่องคอขึ้น

21


22

กินอย่างไร ? สุขภาพดี

อาหารทั้ง 8 อย่างนี้ จะช่วยให้คุณสาวและสวยได้ อย่างยาวนาน ส่วนอาหารอื่นๆก็สามารถช่วยคุณคง ความอ่อนวัยได้ เพียงแค่คุณรู้จักเลือกรับประทาน อาหารที่มีประโยชน์และให้สารอาหารกับร่างกายครบ ถ้วนที่สำ�คัญคือ นอกจากการรับประทานอาหารแล้ว การออกกำ�ลังและการดูแลสุขภาพจิตให้ร่าเริงแจ่มใส ก็นับเป็นสิ่งสำ�คัญอย่างหนึ่ง สำ�หรับใครที่อยากเป็น สาวสองพันปีห้ามละเลยเช่นกัน

ข้อมูล : ข้อมูลจากนิตยสาร ชีวจิต รายปักษ์ ปีที่ 8 วันที่ 16 มีนาคม 2549 ภาพ : http://ww.servewell.co.uk/images/products/2524/dscf1202.jpg


กินอย่างไร ? สุขภาพดี

ผลไม้กินดี ยามท้องว่าง

หลายๆคนคงคุ้นเคยกับการกินผลไม้แทนของว่างในแต่ละ มื้อ ซึ่งจะว่าไปแล้วนั่นก็คือประเพณีปฏิบัติในการกิน อาหารแบบไทยๆ แต่คุณทราบหรือไม่ว่าถ้าจะกินผลไม้ให้ ได้ประโยชน์สูงสุดแล้ว เราต้องกินในมื้อใด คำ�ตอบสั้นๆ ง่ายก็คือการกินผลไม้ที่ดีต้องกินตอนท้องว่าง โดยเฉพาะ ตอนเช้าๆหรือกินแทนมื้อเช้าเลยยิ่งดีเพราะการกินผลไม้ ในขณะท้องว่างมีข้อดีคือมื้อเช้าเลยยิ่งดี เพราะการกินผล ไม้ในขณะท้องว่าง

23


24

กินอย่างไร ? สุขภาพดี

ข้อดีของการกินผลไม้ยามท้องว่าง 1. ร่างกายจะดูดซึมวิตามินและแร่ธาตุต่างๆ จากผลไม้ไปใช้ได้อย่าง เต็มที่ 2. ผลไม้จะช่วยร่างกายกวาดล้างสารพิษที่ตกค้างอยู่ภายในระบบ ทางเดินอาหารได้เป็นอย่างดี 3. กระเพาะอาหารและลำ�ไส้ไม่ต้องเหนื่อยไม่ต้องเหนื่อยแรงย่อยผล ไม้ เพราะในผลไม้มีเอนไซม์ที่เป็นประโยชน์และย่อยตัวเองได้อยู่แล้ว ส่วนกากผลไม้ที่หลงเหลือก็เป็นกากที่ขับถ่ายออกง่าย แต่ถ้าเรากินผลไม้พร้อมกับอาหารหรือกินตบท้ายหลังอาหารผลไม้ จะถูกกักรวมอยู่กับอาหารอื่นๆ พร้อมทั้งโดนน้ำ�ย่อยของกระเพาะ อาหารและลำ�ไส้นานเกินไป อาจทำ�ให้สูญเสียเอนไซม์ที่มีประโยชน์ ได้ เพราะฉะนั้นการกินผลไม้ให้ได้ประโยชน์สูงสุดก็ควรจะกินตอน ท้องว่าง

ข้อมูล : นิตยสาร ชีวจิต รายปักษ์ ปีที่ 8 วันที่ 16 มีนาคม 2549 ภาพ : http://www.apolloniadental.com/wp-content/uploads/ 2014/06/sleep-apnea-2.jpg


กินอย่างไร ? สุขภาพดี

กินอย่างไร ไม่กรน ?

ปัญหาการนอนกรนส่วนหนึ่งเกิดจาก การกิ น อาหารแบบไหนควรกิ น หรื อ ควรเลี่ยง

25


26

กินอย่างไร ? สุขภาพดี 1. ไม่ควรกินอาหารก่อนนอนมากเกินไป และควรหลีกเลี่ยงการกิน อาหารหนักๆ ในช่วง 3 ชั่วโมงก่อนนอนถ้าเป็นไปได้ควรกินอาหาร เบาๆ จำ�พวกซุปร้อนๆ เช่น ซุปมิโซะ ซุปฟักทอง ซุปข้าวโพด หรือ กล้วยน้ำ�ว้าสัก 1-2 ผล 2. หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หรือยาที่มีฤทธิ์ทำ�ให้ง่วงซึม โดยทั่วไปแล้วเมื่อเกิดภาวะขาดออกซิเจนสมองและกล้ามเนื้อต่างๆ จะสั่งงานให้ร่างกายตื่นขึ้น แต่ถ้าหากถูกกดเอาไว้ด้วยแอลกอฮอล์ หรือยาที่มีฤทธิ์กดประสาทจะทำ�ให้สมองตื่นช้า และอาจตอบสนอง ต่อภาวะขาดออกซิเจนไม่ทันจนอาจเสียชีวิตได้ 3. ดื่มเครื่องดื่มอุ่นๆ ก่อนนอน การนอนกรนส่วนหนึ่งเกิดขึ้น เพราะนอนหลับไม่สนิท ดังนั้นเพื่อการนอนหลับสนิทจนถึงเช้า ลอง ดื่มนม น้ำ�ผึ้งผสมน้ำ�อุ่น หรือน้ำ�สมุนไพรอุ่นๆ สักแก้วดูนะคะ น่าจะ ช่วยลดปั¬ญหาได้

สมุนไพรลดอาการกรน บางคนมีระบบหายใจที่ขาดความชุ่มชื้นและกล้ามเนื้อคอไม่แข็ง แรง ส่งผลให้ระบบหายใจไม่ดี จึงทำ�ให้นอนกรนลองใช้สมุนไพรใน ครัวต่อไปนี้ดูนะคะ แม้ไม่ได้ช่วยลดปั¬ญหาการกรนโดยตรง แต่ อย่างน้อยก็ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ระบายหายใจ ทั้งยังไม่มีผลข้าง เคียงกับร่างกายด้วย


กินอย่างไร ? สุขภาพดี

1.หอมเล็กแก่จัด

นอกจากจะมีสรรพคุณแก้หวัด คัดจมูกลดไขมันอุดตันในหลอดเลือด แล้ว กลิ่นฉุนของหอมเล็กยังช่วยให้เกิดความชุ่มชื้นในลำ�คอและช่วยให้ ระบบหายใจทำ�งานได้ดีขึ้น จะนำ�มาดมหรือใช้ประกอบอาหารก็ได้

2.พริกขี้หนู

รสเผ็ดของพริกจะช่วยให้ทางเดินหายใจโล่งและเกิดความชุ่มชื้น ในลำ�คอ สารแคปไซซินช่วยลดการหดเกร็งของกล้ามเนื้อรอบ หลอดลม พริกจึงมีประโยชน์ต่อคนที่มีปัญ¬หาเกี่ยวกับระบบ หายใจ

3.ขิง

ใช้เหง้าขิงแก่สดขนาดเท่าหัวแม่มือหรือประมาณ 5 กรัม ทุบให้แตก ต้มเอาน้ำ�ดื่ม จะช่วยให้สดชื่น ระบบทางเดินหายใจทำ�งานสะดวกขึ้น

4.ใบแมงลัก

มีฤทธิ์แก้หวัดและหลอดลมอักเสบ นำ�ใบไปประกอบอาหาร จะช่วย ให้ระบบหายใจทำ�งานดีขึ้น

ข้อมูล : นิตยสาร ชีวจิต รายปักษ์ ปีที่ 8 วันที่ 16 มีนาคม 2549 ภาพ : http://www.apolloniadental.com/wp-content/uploads /2014/06/sleep-apnea-2.jpg

27


28

กินอย่างไร ? สุขภาพดี

อาหารเลว ที่ดีต่อสุขภาพ

ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่รับประทานอาหารเพื่อสุขภาพ อยู่ละก็ เชื่อว่าหลายๆคนคงกำ�ลังหลีกเลี่ยงอาหาร จำ�พวกเนยนมและชีสอยู่เป็นแน่แต่รู้ไหมว่าอาหาร ที่ได้ชื่อว่าเลวร้ายเหล่านี้อันที่จริงกลับมีสารอาหาร ดีๆที่แฝงอยู่อีกทั้งยังให้ประโยชน์มากกว่าโทษเป็น ไหนๆหากรู้จักเลือกรับประทานอย่างพอดี อาหาร เหล่านี้มีอะไรบ้างนั้น ไปดูพร้อมกันเลย


กินอย่างไร ? สุขภาพดี

1.ชีส

แน่นอนชีสอุดมด้วยไขมันและแคลอรี แต่ในขณะเดียวกันมันยังเป็น แหล่งสำ�คั¬ของแคลเซียม รวมทั้งกรดไลโนเลอิกโมเลกุลคู่ซึ่งเป็น ไขมันประเภทดี ทำ�ให้คุณลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็ง โรค หัวใจ เบาหวาน กรดชนิดนี้ยังช่วยในการลดน้ำ�หนักด้วยการไป สกัดกั้นการกักเก็บไขมันในร่างกาย ควรเลือก ชีสชนิด Strong-flavored เช่น เฟต้าชีส บลูชีส และ ชีสพาร์เมซานสด(ไม่ขูด)ซึ่งคุณจะใช้ในปริมาณน้อยหากนำ�ไปปรุง อาหาร หลีกเลี่ยง ชีสประเภทไขมันต่ำ�เพราะชีสพวกนี้มีไขมันเพียง6 กรัมต่อออนซ์ เมื่อนำ�ไปปรุงอาหารแล้วจะไม่ได้รสชาติ เราจึงมักจะ อนุ¬าตให้ตัวเองกินมันมากจนเกินไป

2.ช็อกโกแลต

ลืมไปเลยที่ว่าช็อกโกแลตเป็นสาเหตุของสิว และไมเกรน ที่จริงมันมี ส่วนผสมบาง อย่างที่ต่อต้านการเกิดมะเร็ง และโรคหัวใจเช่นเดียว กับในผักและผลไม้ เว้นแต่ว่ามีไขมันสูงกว่าเท่านั้น แต่ถ้าหากคุณ มองหาช็อกโกแลตในตอนที่หดหู่อยู่ก็ถูกต้องแล้ว เพราะมันจะเพิ่ม สารชีโรโตนินในสมอง ทำ�ให้อารมณ์ดีขึ้นได้เลยล่ะ ควรเลือก ดาร์กช็อกโกแลต ช็อกโกแลตยิ่งเยอะก็หมายความว่า ใส่โกโก้บัตเตอร์ซึ่งอุดมด้วยไขมันน้อยลง หลีกเลี่ยง ช็อกโกแลตที่ผสมคาราเมล มาร์ชแมลโลว และไขมันที่ ทำ�ให้อ้วนอื่น ๆ

29


30

กินอย่างไร ? สุขภาพดี

3.เนื้อวัว

พั ก การทานไก่ ย่ า งชั่ ว คราวแล้ ว หั น มากิ น สเต็ ก สั ก ชิ้ น เนื้ อ วั ว เป็ น แหล่งดีเลิศของโปรตีน และสารอาหารที่ผู้ห¬ิงมักได้รับจากอย่าง อื่นไม่เพียงพอ เช่น เหล็ก สังกะสี และวิตามินบี 12 ควรเลือก เนื้อท่อนโคนขา หรือเนื้อสะโพก ซึ่งเป็นส่วนของเนื้อที่มี เนื้อมากกว่ามัน เพราะจะมีไขมันอิ่มตัวเพียง 4.5 กรัมหรือน้อยกว่า ต่อเนื้อน้ำ�หนัก 3 ออนซ์ ปรุงแบบหมุนย่าง ซึ่งจะทำ�ให้เราเหลือเนื้อที่ ในจานสำ�หรับใส่ผักได้มากขึ้น หลีกเลี่ยง เนื้อซี่โครง และทีโบนชั้นเลิศ เพราะมีไขมันและแคลอรี มากเป็นเท่าตัวของส่วนอื่น ๆ

4.กาแฟ

ไม่จำ�เป็นต้องงดดื่มกาแฟหรอก การวิจัยเร็ว ๆ นี้ปฏิเสธว่า กาแฟ ไม่เกี่ยวข้องกับการเกิดโรคหัวใจ เนื้อเยื่อในหน้าอกผิดปกติ หรือ ความดันโลหิตสูง หากแต่คาเฟอีนช่วยบรรเทาอาการแพ้ ทำ�ให้คุณ กระฉับกระเฉงและสมาธิดีขึ้น ควรเลือก ให้ตัวเองดื่มกาแฟไม่เกิน 2 - 3 แก้วต่อวัน และอย่าใส่ ครีมกับน้ำ�ตาลให้มากนัก หลีกเลี่ยง กาแฟแก้วให¬่พิเศษ ที่อุดมไปด้วยครีม น้ำ�ตาล น้ำ�แร่ และวิปครีม ซึ่งให้แคลอรีมากถึง 300 แคลอรี ข้อมูล : หนังสือนิตรสารผู้หญิงคนนี้ ภาพ : http://blog.tmim.co.uk/ wpsystem/wp-content/themes/ blog/img/coffee.png


กินอย่างไร ? สุขภาพดี

ล้างพิษง่ายๆ ด้วยตัวเอง

ได้ยินกันมานานสำ�หรับคำ�ว่าล้างพิษ แม้ช่วงหลังจะ ไม่ค่อยฮิตติดลมบนสักเท่าไหร่ แต่ก็ยังถือว่าอยู่ใน กระแสเพราะเป็นที่สนใจสำ�หรับคนที่อยากลดความ อ้วนต้องการควบคุมน้ำ�หนักและใส่ใจดูแลสุขภาพ เป็นพิเศษ วันนี้จึงขอแนะนำ�ทางเลือกในการล้างพิษ แบบง่ายๆ ที่ทำ�ได้ด้วยตัวคุณเอง

31


32

กินอย่างไร ? สุขภาพดี ก่อนอื่นต้องมาทำ�ความเข้าใจความหมายของการล้างพิษซะ ก่อน การล้างพิษ หรือ detoxify ในภาษาอังกฤษ แปลว่าการขับ เอาสารที่เป็นพิษออกจากร่างกาย แต่การล้างพิษไม่ได้แปลว่าให้เอา สารอะไรไปล้างอะไร แต่ใช้วิธีส่งเสริม หรือเร่งให้ร่างกายขับล้างพิษ ออกไปให้มากกว่าปกติ การล้างพิษมีหลายวิธี วิธีหนึ่งที่น่าสนใจก็ คือ การอด คำ�ว่า อด ในที่นี้หมายถึง กินให้น้อยกว่า 800 แคลอรี่ ต่อวัน ดังนั้นไม่ว่า จะกินผลไม้ทั้งวัน ดื่มน้ำ�ผลไม้ทั้งวัน หรือทั้งกิน ทั้งดื่ม หรือจะดื่มแต่น้ำ�เปล่าๆ โดยไม่กินอะไรเลยทั้งวันก็ได้ เท่านี้ก็ ถือว่าเป็นการอดเพื่อล้างพิษแล้วล่ะค่ะ

แต่ถ้าคุณจะเริ่มอด ขอแนะนำ�ให้ใช้วิธีกินผลไม้อย่างเดียว และอดเพียงวันเดียว (24 ชั่วโมง) เท่านั้น เริ่มจากให้เลือกผลไม้ที่ ชอบมาอย่างใดอย่างหนึ่ง ยกเว้นทุเรียน น้อยหน่า ลำ�ไย ลิ้นจี่ ขนุน เพราะผลไม้เหล่านี้มีปริมาณคาร์โบไฮเดรตสูง จะทำ�ให้ระบบย่อยไม่ ได้พักอย่างเพียงพอ มิหนำ�ซ้ำ�ยังทำ�ให้อ้วนอีกด้วยแต่ก็ไม่ควรเลือก ทานสัปปะรด เพราะยางอาจจะกัดปากได้ เมื่อเลือกแล้วก็ให้กินผล ไม้นั้นเป็นอาหารเช้า กลางวัน และเย็น ถ้าคุณหิวก็ให้ดื่มน้ำ�ผลไม้ ชนิดนั้นเป็นมื้อเบรกได้

หากคุณตั้งใจจะล้างพิษด้วยการอดแล้วล่ะก็ ควรเป็นวันที่ อยู่กับบ้าน และเริ่มต้นอดตั้งแต่มื้อเช้าไปเรื่อยๆ จนถึงเช้าของอีกวัน ก่อนเลิกอดให้ดื่มน้ำ� 2 ลิตร แต่ละลิตรให้บีบน้ำ�มะนาวลงไป 2 ลูก ใส่เกลือลงไปลิตรละ 2 ช้อนชาพูนๆ ดื่มให้หมด จากนั้นคุณจะถ่าย ออกมาเป็นน้ำ� (ที่คุณดื่มเข้าไปนั่นแหละ) เป็นการทำ�ความสะอาด ล้างท่อลำ�ไส้ เมื่อถ่ายแล้วก็เริ่มกินอาหารเช้าได้ตามปกติ และถ้าคุณ อยากจะอดอีกครั้ง ก็ให้ทำ�แบบเดิมทุก 2 สัปดาห์


กินอย่างไร ? สุขภาพดี สำ�หรับตัวอย่างการอดอาทิเช่น คุณเลือกฝรั่งก็ทานฝรั่ง เฉพาะในมื้อเช้าและเย็น กลางวันให้กินส้มตำ�ฝรั่งได้ มื้อเบรกช่วง เช้าและบ่ายให้คั้นน้ำ�ฝรั่ง(จากเครื่องคั้นน้ำ�ผลไม้แยกกาก) ซึ่งควร ซื้อฝรั่งอย่างน้อย 4 กก. หรือถ้าคุณเลือกแอปเปิลก็ทานแอปเปิล ปอกทั้งเช้าและเย็น โดยมื้อแรกอาจดื่มน้ำ�แอปเปิลสด กลางวันกิน สลัดแอปเปิล ซึ่งถ้าเป็นไปได้คุณควรซื้อแอปเปิลทั้ง2ชนิด (แอปเปิล เขียวและแอปเปิลแดง) และใช้ประมาณ 7-9 ลูก

ผลที่คาดว่าจะได้ก็คือ น้ำ�หนักจะลดลง ควบคุมน้ำ�หนัก ตัวได้ดีขึ้น ไขมันในเลือดลดลง ความดันเลือดต่ำ�ลง กระปรี้กระเปร่ามากขึ้น ผู้ที่เป็นเบาหวานจะควบคุมเบา หวานได้ง่ายขึ้น การอด24ชั่วโมงนี้ถ้าคุณไม่เป็นโรคหัวใจ เบาหวานหรืออ่อนเพลียมากๆก็สามารถทำ�ได้ด้วยตัวเองที่ บ้านได้เลย

แต่ข้อควรตระหนักประการหนึ่งคือคนท้องและเด็กที่อายุไม่ ถึง18ปี ห้ามอดโดยเด็ดขาด และถ้าคุณมีปั¬หาเรื่องโรคหัวใจ เบา หวานหรือมีอาการอ่อนเพลียมาก ควรอยู่ภายใต้การดูแลของผู้ เชี่ยวชา¬เท่านั้น

ข้อมูล : นิตยสารใกล้หมอ ปีที่ 27 ฉบับที่ 1 กุมภาพันธ์ 2546 ภาพ : http://www.abiolatv.com/wp-content/uploads/2013/ 12/energized-food-detox-whole-foods-energy.jpg

33


34

กินอย่างไร ? สุขภาพดี

ใครว่า เปลือกผลไม้ ไร้ค่า

บ้ า นเรามี ผ ลไม้ ห ลากหลายชนิ ด ที่ ไ ม่ นิ ย ม กินทั้งเปลือกอาทิเช่น ส้ม สับประรด กล้วย ทุเรียน (อันนี้ใครกินได้ทั้งเปลือกขอคารา วะ) เราลองมาดูซิว่า เปลือกผลไม้เหล่านี้ถ้า ไม่ทิ้งแล้ว เราสามารถนำ�กลับมาใช้ประโยชน์ อะไรได้บ้าง


กินอย่างไร ? สุขภาพดี

1.เปลือกกล้วย

รู้ไหมเอ่ยว่าเปลือกกล้วยมีคุณสมบัติทำ�ให้ผิวชุ่มชื่น เพียงคุณ นำ�มาล้างให้สะอาดแล้วใช้ถูมือ ข้อเท้า ขา หรือใบหน้า นอกจากจะ เพิ่มความชุ่มชื่นไม่ทำ�ให้ผิวแห้งกร้านแล้วยังทำ�ให้ผิวนุ่มน่าสัมผัส อีกต่างหาก ที่สำ�คั¬เปลือกกล้วยน้ำ�ว้ายังสามารถใช้แทนน้ำ�ยาขัด รองเท้าได้อีกด้วย

2.เปลือกทุเรียน

เวลาที่กินทุเรียนแล้วไม่รู้จะเอาเปลือกไปไว้ไหน ขอแนะนำ�ให้เอาไป ตากแห้งใช้เป็นเชื้อเพลิงแทนถ่านได้ หรือเวลาที่คุณกินทุเรียนแล้ว เกิดอาการร้อนใน ขอแนะนำ�ให้ลองดื่มน้ำ�ที่รินใส่เปลือกทุเรียนผสม กับเกลือเล็กน้อย ช่วยให้อาการบรรเทาได้ ยิ่งไปกว่านั้นน้ำ�ที่ใส่ใน เปลือกทุเรียนหากเอามาล้างมือล้างปากก็สามารถแก้กลิ่นทุเรียนที่ ติดอยู่ได้อีกด้วย

3.เปลือกส้มโอ

นอกจากจะสามารถเอาไปทำ�ส้มโอเชื่อมและส้มโอมือแล้ว เปลือก ส้มโอยังนำ�มาใช้ขัดภาชนะที่ทำ�จากอะลูมิเนียมให้มีความใสและมัน วาวได้อีกด้วย เพียงนำ�เปลือกมาหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ ใส่ในน้ำ�เดือด ประมาณ 20 นาที ก่อนที่จะนำ�เปลือกส้มโอที่ต้มแล้วมาขัดถูภาชนะ พร้อมกับสบู่ แค่นี้เครื่องครัวของคุณก็จะใสปิ๋ง แวววาว โดยไม่ต้อง เปลืองสตางค์ไปซื้อน้ำ�ยาราคาแพงที่ไหนเลยล่ะ

35


36

กินอย่างไร ? สุขภาพดี

4.เปลือกสับปะรด

อันนี้สามารถนำ�มาใช้ขัดภาชนะทองเหลืองได้นะจะบอกให้ เพียงเอา ภาชนะพวกทองเหลืองหรือเครื่องเงินลงไปแช่ในน้ำ� แล้วใส่เปลือก สับประรดลงไปให้มิด ทิ้งไว้สักหนึ่งคืนก่อนที่จะนำ�มาล้างให้สะอาด ด้วยน้ำ�ธรรมดา เครื่องเงินและทองเหลืองของคุณก็จะสดใสงดงาม ราวกับของใหม่

5.เปลือกส้ม

กลิ่นแรงอย่างนี้ ของดีอย่าบอกใคร บ้านไหนที่ยุงชุมขอแนะนำ�ให้ ใช้เปลือกส้มกำ�จัดยุง หลังจากที่กินส้มเขียวหวานเรียบร้อยแล้ว เปลือกส้มเขียวหวานอย่าทิ้ง นำ�ไปตากให้แห้งสักแดดสองแดด แล้ว นำ�มาสุมไฟไล่ยุงได้เป็นอย่างดีโดยที่ไม่มีสารพิษตกค้างอีกด้วย

เมื่อทราบอย่างนี้แล้ว ต่อไปเวลารับประทานผลไม้ ก็อย่า ทิ้งเปลือกให้ไร้ค่า เก็บกลับมาใช้ประโยชน์ได้ตั้งเยอะแหนะ แถมยังช่วยประหยัดอีกต่างหาก

ข้อมูล : นิตยสาร ชีวจิต ปีที่ 6 ฉบับที่ 129 16 กุมภาพันธ์ 2547 ภาพ : http://puigy.files.wordpress.com/2013/06/dsc05882n-nb.png


กินอย่างไร ? สุขภาพดี

ข้อควรระวัง การดื่มชา

“การดื่มชา” ในประเทศไทยกำ�ลังเป็นที่นิยม ไม่ ว่ า จะไปไหนมาไหนก็ มั ก จะเห็ น คนดื่ ม ชา กันเต็มไปหมด อาจเพราะกระแสการรักษา สุขภาพกำ�ลังมาแรงในบ้านเราก็เป็นได้ คนไทย เลยหันมาดื่มชากันมากขึ้น

37


38

กินอย่างไร ? สุขภาพดี

“การดื่มชา” ในประเทศไทยกำ�ลังเป็นที่นิยม ไม่ว่าจะไปไหน

มาไหน ก็มักจะเห็นคนดื่มชากันเต็มไปหมด อาจเพราะกระแสการ รักษาสุขภาพกำ�ลังมาแรงในบ้านเราก็เป็นได้ คนไทยเลยหันมาดื่มชา กันมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือ “ชาเขียว” ซึ่งฮอตฮิตติดอันดับ สุดๆ เพราะนอกจากจะมีรสชาติที่ดีแล้ว ยังพบว่า ในชาเขียวมีสาร “คาเทซิน โพลีฟีนอล” ซึ่งมีคุณสมบัติในการต้านอนุมูลอิสระ และ มีประโยชน์ต่อร่างกาย ช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคมะเร็ง การดื่มชา เขียวเป็นประจำ�จะช่วยให้ร่างกายแข็งแรง ลดระดับคอเลสเตอรอล และยังทำ�ให้ลมหายใจหอมสดชื่นอีกด้วย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องดื่มใน ปริมาณที่พอเหมาะ ไม่มากจนเกินไป ดังนั้นเราจึงมีข้อแนะนำ�ในการ ดื่มชามาฝากกันค่ะ

ชาเขียวและชาทั่วไป มีข้อควรระวังในการดื่มดังนี้ 1. ชาไม่เหมาะกับผู้ป่วยไทรอยด์ ซึ่งอาการกระสับกระส่ายจะยิ่งถูกคาเฟอีนในชากระตุ้นให้รุนแรงขึ้น 2. ห¬ิงตั้งครรภ์ไม่ควรดื่มเครื่องดื่มที่มีกาเฟอีน ชาก็เป็นหนึ่งในนั้น คนที่หัวใจทำ�งานไม่ปกติ กาเฟอีนในชาคงไม่เหมาะสม 3. ผู้ที่เป็นโรคกระเพาะไม่ควรดื่ม แต่หากอดไม่ได้ อาจเติมนมในชา เพื่อยับยั้งการออกฤทธิ์ของแทนนิน 4. ชาที่เข้มข้น อาจทำ�ให้ท้องผูกหรือนอนไม่หลับ 5. การดื่มชาเขียวใส่นมจะไม่ได้ประโยชน์จากชาอย่างเต็มที่ 6. ชาที่ร้อนเกินไปจะสร้างความระคายเคืองต่อระบบทางเดินอาหาร อาจเสี่ยงต่อมะเร็ง ข้อมูล : หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ วันที่ 15 มีนาคม 2548 ภาพ : http://www.placen.com.ua/sites/default/files/files/ trends/ingredients/tea.png


กินอย่างไร ? สุขภาพดี

อาหาร ที่ควรงด ในขณะ ท้องว่าง

หลายต่อหลายครั้งเวลาที่เราหิวจัดๆหรือท้องว่าง เราก็มัก จะรีบรับประทานอะไรเข้าไปเพื่อบรรเทาความหิวโดยไม่รู้เลย ว่าอาหารบางอย่างไม่เหมาะที่จะรับประทานในขณะท้องว่าง เพราะอาจจะส่งผลร้ายที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพตามมาได้ และเพื่อความปลอดภัยของตัวคุณเอง เราจึงมีเมนูอาหาร ต้องห้ามที่ควรหลีกเลี่ยงเป็นอย่างยิ่งในขณะท้องว่างมาฝาก กันค่ะ แต่จะมีอะไรบ้างนั้นต้องไปติดตามกันเลย

39


40

กินอย่างไร ? สุขภาพดี

1.นมและนมถั่วเหลือง

แม้ว่านมถั่วเหลืองจะอุดมไปด้วยโปรตีน แต่จะเกิดประสิทธิภาพมาก ที่สุด เมื่อกระเพาะอาหารมีสารประเภทแป้งอยู่

2.เหล้า

หากดื่มเหล้าในขณะท้องว่าง จะไปกระตุ้นเยื่อบุกระเพาะอาหาร ทำ�ให้ เป็นโรคกระเพาะอาหารอักเสบ และเป็นแผลในกระเพาะอาหารได้

3.น้ำ�ตาลหรืออาหารหวาน

ไม่ควรรับประทานอาหารหวานหรือน้ำ�ตาล เช่น น้ำ�อัดลม ลูกอม ช็อกโกแลต เพราะหากรับประทานขณะท้องว่าง จะทำ�ให้โปรตีน รวมตัวกับน้ำ�ตาล ส่งผลต่อการดูดซึมโปรตีนทุกชนิด และ ลด สมรรถภาพการทำ�งานของระบบหมุนเวียนเลือดและไต

4.ชาที่แก่เกินไป

จะทำ�ให้กรดเกลือในน้ำ�ย่อยกระเพาะอาหารเจือจาง ส่งผลให้การ ทำ�งานของระบบย่อยอาหารลดลง และเกิดอาการ ใจสั่น เวียนศีรษะ มือเท้าไม่มีแรง จิตใจไม่สงบได้

5.กล้วย

เพราะกล้วยอุดมไปด้วยธาตุแมกนีเซียม การรับประทานกล้วย ขณะท้องว่าง จะทำ�ให้ปริมาณธาตุแมกนีเซียมในเลือดสูงขึ้น ทำ�ให้ สู¬เสียสัดส่วนของแคลเซียมและแมกนีเซียมไป เป็นการยับยั้งการ ทำ�งานของหลอดเลือดหัวใจ เป็นอันตราย ต่อสุขภาพอย่างยิ่ง


กินอย่างไร ? สุขภาพดี

6.กระเทียม

การรับประทานกระเทียมเปล่าๆในขณะท้องว่างอาจทำ�ให้เยื่อบุกระ เพาะอาหารได้รับการกระตุ้น จนเกิดโรคกระเพาะอาหารอักเสบได้

7.ผัก

การรับประทานผักอย่างเดียวในขณะท้องว่างอาจทำ�ให้ กระเพาะ อาหารทำ�งานผิดปกติได้ แต่ถ้าทานควบคู่ไปกับเนื้อสัตว์หรืออาหาร ชนิดอื่นก็ไม่เป็นไร ปลอดภัย สุขภาพดีหายห่วงจ้ะ นอกจากอาหาร ที่ควรงดในขณะท้องว่างทั้ง 8 ชนิดแล้ว ยังไม่ควรอาบน้ำ�และออก กำ�ลังกายในขณะท้องว่างด้วย เพราะการทำ�เช่นนั้นอาจทำ�ให้เกิด อาการช็อก เนื่องจากน้ำ�ตาลในเลือดต่ำ�

เมื่อทราบอย่างนี้แล้วควรเปลี่ยนพฤติกรรม การรับประทานอาหารเสียใหม่ เพื่อสุขภาพ ที่ดี

ข้อมูล : http://writer.dek-d.com/haruethai/story/view.php?id=211886 ภาพ : http://www.kizlarnediyor.com/wp-content/uploads/kizlarnediyor/ 1400518078-muz_kilo_verdiriyor-0.jpg

41


42

กินอย่างไร ? สุขภาพดี

เลือกอาหาร ตามกรุ๊ปเลือด

การรับประทานเกี่ยวกับกรุ๊ปเลือดด้วยเหรอ ข้อสงสัยนี้ ได้ถูกไขความกระจ่างขึ้นแล้วเมื่อคณะแพทย์ชาวอเมริกัน วิ จั ย พบว่ า การรั บ ประทานอาหารที่ เ หมาะสมกั บ กรุ๊ ป เลือดจะช่วยสร้างสมดุลที่ดีที่สุดให้แก่ร่างกาย สร้างภูมิ ต้านทาน ระบบย่อย รวมถึงการลดน้ำ�หนักและเพิ่มพละ กำ�ลังที่สำ�คั¬ช่วยทำ�ให้ไม่แก่เร็วอีกด้วย


กินอย่างไร ? สุขภาพดี

กรุ๊ป A 1.เหมาะกับอาหารแบบมังสวิรัติ จึงควรหลีกเลี่ยงเนื้อสัตว์ เพื่อลด ความเสี่ยงของโรคหัวใจและมะเร็ง แต่ต้องระวังอาหารสำ�เร็จรูปเช่น ไส้กรอกและแฮม เพราะมีไนเตรท์ซึ่งกระตุ้นให้เกิดมะเร็งในกระเพาะ อาหารประเภทนม ถั่วแดง และอาหารที่มีแป้งสาลีมากเกินไปไม่เหมาะ กับชาวกรุ๊ป A เพราะมีผลต่อระบบเผาผลา¬ ระบบย่อยอาหารและ ชะลอการทำ�งานของอินซูลิน 2.การไม่กินเนื้อสัตว์ของชาวกรุ๊ป A จะทำ�ให้ขาดธาตุเหล็ก จึงควร กินข้าวกล้อง ถั่ว มะเดื่อ และน้ำ�ตาลโมแลสซิส ( สีดำ�ที่เอามาทำ� ซีอิ๊วหวาน) ควรเสริมอาหารที่มีวิตามินบีและซีมากๆ เพราะจะช่วย ลดปั¬หากรดในกระเพาะต่ำ� เช่น บร็อกคอรี่ ส้มโอ สับปะรด เชอรี่ และมะนาว รวมถึงผักใบเขียวต่างๆด้วย 3.ผู้ห¬ิงเลือดกรุ๊ป A ถ้ามีประวัติครอบครัวเป็นมะเร็งเต้านม ควร รับประทานหอยทาก เพราะ Proteinในหอยจะช่วยกำ�จัดเซลล์มะเร็ง แต่ถ้าอยู่ในวัยกลางคน ควรเสริมด้วยโยเกิร์ตไขมันต่ำ� นมถั่ว เหลืองปลาแซลมอน สิ่งสำ�คั¬ คนเลือดกรุ๊ป A ไม่เหมาะกับการ ออกกำ�ลังกายหนักๆ เพราะจะทำ�ให้ร่างกายเหนื่อยล้า หมดแรง และ ส่งผลโดยตรงให้ภูมิคุ้มกันในร่างกายอ่อนแอลง เจ็บป่วยได้ง่ายค่ะ

43


44

กินอย่างไร ? สุขภาพดี

กรุ๊ป AB 1.เป็นส่วนผสมของกรุ๊ป A และ B อาหารมังสวิรัติจะให้ผลดีต่อ ร่างกาย ผลิตภัณฑ์จากนมและไข่รับประทานได้ แต่ไม่มาก หา กมีปั¬หาไซนัสอักเสบและหูอื้อ ควรงดอาหารจากผลิตภัณฑ์นม เนย ไข่แดง 2.Protein ที่เหมาะสมจะได้จากอาหารทะเล เต้าหู้ แกะ กวางและ กระต่าย แต่ควรรับประทานครั้งละน้อยๆเพราะกระเพาะของคนกรุ๊ป นี้ ไม่ผลิตน้ำ�ย่อยเพียงพอที่จะย่อย Protein มากเกินไป 3.ไม่ควรรับประทานปลาเนื้อขาว และแซลมอนรมควัน ถั่วแดงหลวง โดยเฉพาะถ้าเป็นโรคเกี่ยวกับถุงน้ำ�ดี ไม่ควรรับประทานถั่วเม็ด รวมทั้งน้ำ�มันชนิดต่างๆ ยกเว้นน้ำ�มันมะกอกเพราะจะส่งผลร้ายต่อ ร่างกาย 4.อาหารประเภทข้าวและแป้ง ก็มีประโยชน์กับคนเลือดกรุ๊ปนี้ แต่ให้ ระวังแป้งข้าวโพด เพราะเป็นตัวการสำ�คั¬ทำ�ให้น้ำ�หนักเพิ่มง่าย เกิด เสมหะ ซึ่งชาวกรุ๊ป AB มีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ จึงควรรับประทาน ผักสดมากๆ ช่วยป้องกันมะเร็งและโรคหัวใจ ซึ่งเกิดได้ง่ายกับกรุ๊ป AB แต่ควรหลีกเลี่ยงผลไม้เมืองร้อนบางอย่างเช่น กล้วย มะม่วง ฝรั่ง รวมทั้ง ส้ม ซึ่งไม่ดีต่อกระเพาะ ยกเว้นสับปะรดและส้มโอ ที่ ช่วยย่อยได้ดีมาก 5.ชาเขียวและไวน์แดงดีต่อเลือดกรุ๊ป AB ส่วน เบียร์ ให้ผลเป็นก ลาง แต่ถ้าต้องการลดน้ำ�หนัก ก็ไม่ควรดื่ม


กินอย่างไร ? สุขภาพดี

กรุ๊ป B 1.ร่างกายของคนเลือดกรุ๊ปนี้เหมาะจะรับประทานอาหารเนื้อสัตว์ พวกกระต่าย กวาง แกะ ควรหลีกเลี่ยงเนื้ออกไก่ เพราะจะนำ�ไปสู่ อาการเส้นเลือดแตกหรือตีบในสมอง และโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง จึงควรทานไก่งวง แทน 2.ชาวกรุ๊ป B เป็นเพียงกรุ๊ปเดียวที่ทานอาหารนมเนยได้เต็มที่ ข้าว โอ๊ตและข้าวกล้อง ก็มีประโยชน์มาก แต่ควรเลี่ยงแป้งสาลี ถั่วบาง ชนิดเพราะไม่ดีต่อเลือด เกี่ยวข้องโดยตรงกับโรคเครียดและโรค ภูมิคุ้มกันบกพร่อง 3.ผักส่วนให¬่ดีต่อสุขภาพของคนกรุ๊ปนี้ ยกเว้นมะเขือเทศ ที่ต้อง ห้ามกินโดดเด็ดขาดเพราะมีสารก่อกวนผนังกระเพาะ และข้าวโพด ซึ่งมีผลต่อระบบเผาผลา¬ แต่ควรทานผักใบเขียวมากๆ โดย เฉพาะเด็กกรุ๊ปB เพราะช่วยป้องกันโรคผื่นคัน 4.ผลไม้เหมาะกับคนกรุ๊ปนี้มาก ถ้าทานผลไม้วันละ 2-3 ครั้ง จะ มีผลดีต่อการรักษาโรคและลดความเจ็บปวด ซึ่งชาวกรุ๊ป B จะ ตอบสนองกับความเครียดได้ดี เนื่องจากมีบุคลิกภาพยืดหยุ่น ประนีประนอมสูง ไม่ชอบการเผชิ¬หน้าโดยตรงอย่างคนกรุ๊ป O ขณะเดียวกันร่างกายมีพลังมากกว่ากรุ๊ป A

45


46

กินอย่างไร ? สุขภาพดี

กรุ๊ป O 1.มีระบบที่ย่อยเนื้อแดงดีมาก จึงเหมาะจะรับประทานเนื้อสัตว์ สัตว์ ปีก ปลา รวมทั้งผักและผลไม้ และควรรับประทานอาหารทะเลเป็น ประจำ� เพราะชาวเลือดกรุ๊ปนี้มักมีปั¬หาโรคเลือดไม่แข็งตัวและ ไทรอยด์ รวมทั้งโรคลำ�ไส้อักเสบที่มีโอกาสเกิดขึ้นได้มากกว่าเลือด กรุ๊ปอื่นๆ 2.ห¬ิงสาวกรุ๊ป O ไม่ควรรับประทานแป้งสาลี ข้าวโอ๊ต เพราะมี ผลต่อระบบการย่อย ทำ�ให้เกิดการสะสมไขมัน ทำ�ให้เพิ่มน้ำ�หนัก ตัว เห็ดหอมและมะกอกดองอาจทำ�ให้เกิดอาการแพ้ มะเขือยาวและ มันฝรั่ง ถือเป็นต้นตอให้ปวดข้อ และควรเลี่ยง แคนตาลูป ส้ม สต รอว์เบอรี่เพราะมีกรดสูงเกินไปสำ�หรับคนเลือดกรุ๊ปนี้ 3.ผักใบเขียวจะให้วิตามินเค สูง ซึ่งจะช่วยให้เลือดแข็งตัว 4.กรุ๊ ป Oควรออกเล่ น กี ฬ าและออกกำ � ลั ง กายหนั ก ๆอกแรงมาก ความเร็วการเต้นของหัวใจสูง จะเป็นประโยชน์มาก 5.ชาวกรุ๊ปO ดื่มไวน์ได้บ้าง แต่ไม่ควรดื่มเบียร์ ชา กาแฟ เพราะจะไป เพิ่มกรดในกระเพาะ ซึ่งคนกรุ๊ป O มีมากพออยู่แล้ว


กินอย่างไร ? สุขภาพดี

เห็นไหมว่ากรุ๊ปเลือดแต่ละกรุ๊ปที่แตกต่างกันก็มีผลต่อ การเลือกรับประทานอาหารที่แตกต่างกันด้วย การจะ เลือกรับประทานอะไรนั้นต้องดูให้เหมาะสมกับตัวคุณ เองและเลือดในร่างกายของคุณด้วย เพราะนอกจากจะ สร้างสุขภาพอนามัยที่ดีแล้วยังช่วยขับโรคร้าย...ไปให้ ห่างไกลได้อย่างเหลือเชื่อ

ข้อมูล : วารสาร ชมรมอยู่ร้อยปี – ชีวีเป็นสุข ภาพ : http://thisislifeblood.com/wp-content/ uploads/2013/07/Screen-Shot-2013-07-25-at9.47.14-AM.png

47


48

กินอย่างไร ? สุขภาพดี

อาหาร ต้องห้าม ยามป่วย

ช่ ว งนี้ อ ากาศเปลี่ ย นแปลงบ่ อ ยเดี๋ ย วฝนตกเดี๋ ย วแดด ออก บางวันก็ร้อนอบอ้าวเหลือเกิน หลายต่อหลายคน จึงมีอาการคั่นเนื้อคั่นตัวไม่สบายเอาง่ายๆมีคนเคยบอก ว่าสุขภาพที่ดีมาจากอาหารที่เรารับประทานเข้าไป อันนี้ เห็นจะจริงเพราะอาหารบางชนิดนอกจากจะมีประโยชน์ ต่อร่างกายแล้วยังช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้อีกต่างหาก แต่มี ใครทราบบ้างไหมว่าในช่วงเวลาที่เราไม่สบาย อาหารบาง อย่างก็ไม่สมควรที่จะรับประทานเข้าไป เพราะอาจทำ�ให้โรค กำ�เริบได้แต่จะเป็นโรคอะไรนั้นและอาหารต้องห้ามคืออะไร ต้องไปดูกัน


กินอย่างไร ? สุขภาพดี

1.โรคไข้หวัด

หาก มีไข้สูง ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่ไม่สุก หรืออาหารที่เย็นมากๆ อาหารทอด อาหารมัน ซึ่งเป็นอาหารที่ย่อยยาก จะทำ�ให้เกิดความ ร้อนสะสม เปรียบเสมือนอาหารเชื้อเพลิง ซึ่งจะเป็นการเติมน้ำ�มัน เข้าไปในกองไฟ ส่งผลอุณหภูมิในร่างกายร้อนฉ่า

2.โรคกระเพาะ

ควรหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มประเภทแอลกอฮอล์ และชาแก่ๆ กาแฟ ของ เผ็ด ของทอด ของมันทุกชนิด เพราะอาหารเหล่านี้ ทำ�ให้เกิดความ ร้อนสะสม ทำ�ให้โรคหายยาก ทางที่ดีควรจะรับประทานอาหารปริ มาณน้อยๆ แต่บ่อยครั้ง รับประทานอาหารให้ตรงเวลา และควรเป็น อาหารที่ควรย่อยง่ายด้วย

3.โรคความดันโลหิตสูง

สำ�หรับผู้สูงอายุที่มักมีปั¬ญหาเลือดแข็งตัว ขาดความยืดหยุ่น ควรหลีกเลี่ยงอาหารมัน อาหารที่มีคอเลสเตอรอลสูง เช่น หมูสาม ชั้น ไขกระดูก ไข่ปลา โกโก้ รวมทั้งเหล้า เพราะอาหารเหล่านี้ทำ�ให้ เกิดความร้อนชื้นสะสมในร่างกาย และความชื้นก็มีผลก็ทำ�ให้เกิด ความหนืดของการไหลเวียนทุกระบบในร่างกาย ส่วนความร้อนจะ ไปกระตุ้นให้ความดันสูง นอกจากนี้ ควรหลีกเลี่ยงอาหารรสเผ็ด หรืออาหารหวานมาก รวมทั้งผลไม้อย่างลำ�ไย ขนุน ทุเรียน อีก ด้วย

49


50

กินอย่างไร ? สุขภาพดี

4.โรคตับและถุงน้ำ�ดี

ผู้ที่ประสบกับโรคนี้ควรหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ อาหาร มัน เนื้อติดมัน เครื่องในสัตว์ อาหารทอด อาหารหวานจัด เพราะ แพทย์จีนถือว่า ตับและถุงน้ำ�ดี มีความสัมพันธ์กับระบบย่อยอาหาร การได้อาหารประเภทดังกล่าวมากเกินไป จะทำ�ให้สมรรถภาพของ การย่อยอาหารอ่อนแอลงและเกิดโทษต่อตับและถุงน้ำ�ดีอีกต่อหนึ่ง

5.โรคหัวใจและโรคไต

ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีรสเค็มจัด เพราะจะทำ�ให้มีการเก็บกักน้ำ� การไหลเวียนเลือดจะช้า ทำ�ให้หัวใจทำ�งานหนักขึ้น ไตต้องทำ�งาน ขับเกลือแร่มากขึ้น ส่วนอาหารรสเผ็ดก็ควรหลีกเลี่ยง เพราะทำ�ให้ กระตุ้นการไหลเวียนสู¬เสียพลังงาน และหัวใจก็ทำ�งานหนักขึ้นเช่น กัน

6.โรคเบาหวาน

ก็ต้องหลีกเลี่ยงอาหารรสหวานค่ะ และอาหารที่มีแป้งและแคลอรี่สูง จำ�พวกมันฝรั่ง มันเทศ ควรหันมารับประทานอาหารจำ�พวกถั่ว เช่นเต้าหู้ นมวัว เนื้อสันไม่ติดมัน ปลา ผักสดทดแทน

7.นอนไม่หลับ

โรคฮิตติดลมบนชนิดนี้ ควรหลีกเลี่ยงชา กาแฟ รวมทั้งการสูบบุหรี่ เพราะอาหารเหล่านี้ มีฤทธิ์กระตุ้นประสาท ทำ�ให้ไม่หลับไม่นอน


กินอย่างไร ? สุขภาพดี

8.โรคริดสีดวงทวาร หรือท้องผูก

โควรหลีกเลี่ยงอาหารประเภทหอม กระเทียม ขิงสด พริกไทย พริก เพราะอาหารเหล่านี้อาจจะทำ�ให้ท้องผูก หลอดเลือดแตก และอาการ ริดสีดวงทวารกำ�เริบได้ค่ะ (ต้องรับประทานในปริมาณที่พอเหมาะ)

9.ลมพิษ ผิวหนังอักเสบ หรือโรคหอบหืด

โถ้าเป็นไปได้ควรหลีกเลี่ยงเนื้อแพะ เนื้อปลา กุ้ง หอย ปู ไข่ นม และ อาหารรสเผ็ด เพราะอาจไปกระตุ้นและทำ�ให้อาการผิวหนังกำ�เริบได้ ค่ะ

10.สิว หรือต่อมไขมันอักเสบ

โรคสุดท้ายนี้ นอกจากจะทำ�ให้เราไม่สวยแล้วยังเป็นปั¬ญหากวน ใจวัยใสอีกด้วย ดังนั้นจึงควรงดอาหารเผ็ดและมัน เพราะอาจทำ�ให้ เกิดการสะสมความร้อนชื้นของกระเพาะอาหาร ม้าม มีผลต่อความ ร้อนชื้นไปอุดตันพลังของปอด ที่ควบคุมผิวหนัง ขน ตามร่างกาย จนทำ�ให้เกิดสิวได้

เมื่อทราบอย่างนี้ก็ต้องเลือกรับประทานให้ดีให้ถูกกับโรค ด้วย อย่าเผลอมัวแต่รับประทานอาหารตามใจปากเพราะ อาจเกิดโรคที่11ตามมาได้ โรคที่ว่านั้นก็คือ...โรคอ้วน ทราบ แล้วรีบเปลี่ยนนิสัยการรับประทานโดยด่วน

ข้อมูล : หนังสือพิมพ์สยามรัฐ ปีที่ 55 ฉบับที่ 18844 วันจันทร์ ภาพ : http://everydayfeminism.com/wp -content/uploads/2014/07/Sick-woman-in -bed-with-a-cold.jpg

51


52

กินอย่างไร ? สุขภาพดี

น้ำ�สมุนไพร ช่วยคลายร้อน

อากาศร้ อ นอย่ า งนี้ ห ลายๆคน กำ � ลั ง มองหาเครื่ อ งดื่ ม เย็ น ๆเพื่ อ ช่วยดับกระหายคลายร้อนกันอยู่ วั น นี้ เ ราเอามาเสิ ร์ ฟ ถึ ง ที่ มี เ คล็ ด ลับดีๆในการทำ�น้ำ�สมุนไพรคลาย ร้อนมาฝากกันแถมยังราคาถูกและ หาง่ายอีกด้วยน๊า


กินอย่างไร ? สุขภาพดี

1.น้ำ�กระเจี๊ยบ

เครื่องดื่มชนิดนี้หาง่าย ทำ�ง่าย และอร่อยอย่าบอกใครเลยล่ะ เพราะ ว่าน้ำ�กระเจี๊ยบนอกจากจะช่วยแก้กระหายและทำ�ให้สดชื่นแล้ว ยัง ช่วยขับปัสสาวะ แก้นิ่ว ช่วยย่อยอาหาร และเป็นยาระบายอ่อนๆ แถมยังช่วยลดไข้และแก้ไอได้อีกต่างหาก วิธีทำ�ก็ง่ายนิดเดียวเอง เพียงนำ�กลีบดอกกระเจี๊ยบมาล้างให้สะอาด แล้วใส่ลงในหม้อ ต้มไปเรื่อยๆ จนเนื้อกระเจี๊ยบนุ่ม จากนั้นให้กรอง เอาเนื้อออก แล้วนำ�น้ำ�กระเจี๊ยบมาต้มไฟอ่อนๆ และให้นำ�เกลือและ น้ำ�ตาลใส่ลงไปตามชอบใจ รอจนน้ำ�ตาลละลายดีแล้วยกลงจาก เตาไฟ ตักใส่ขวดแช่เย็น ดื่มดับกระหายคลายร้อนได้ดีนักเชียว

2.น้ำ�เก็กฮวย

น้ำ�เก็กฮวยมีสรรพคุณช่วยแก้ร้อนใน กระหายน้ำ� ช่วยให้สดชื่น ลดอาการครั่นเนื้อครั่นตัวเพราะอากาศร้อน ส่วนผสมของน้ำ� เก็กฮวย ก็มี ดอกเก็กฮวยแห้ง 30 กรัม น้ำ�เปล่า 1 ลิตร และน้ำ�ตาล ทรายแดง วิธีทำ�ก็คล้ายๆ กับน้ำ�กระเจี๊ยบ นำ�ดอกเก็กฮวยแห้งมาล้างน้ำ�ให้ สะอาดแล้วใส่หม้อต้มเคี่ยวประมาณ 5 นาที เติมน้ำ�ตาลทรายแดง ชิมรสตามชอบใจ แค่นี้ก็จะได้น้ำ�เก็กฮวยสีเหลืองอ่อน(รสหวานรับ ประทานง่าย)และถ้าต้องการให้น้ำ�มีสีเหลืองอ่อนน่าดื่มยิ่งขึ้น ให้ใส่ เมล็ดพุดจีนต้มเคี้ยวเข้าไปด้วย เท่านี้ก็จะได้น้ำ�เก็กฮวยสีสวยน่า ดื่มแล้ว

53


54

กินอย่างไร ? สุขภาพดี

3.น้ำ�ว่านหางจระเข้

อันนี้ช่วยบำ�รุงร่างกายดีนักแล ทำ�ให้ร่างกายสดชื่น กระปรี้กระเปร่า แถมยังช่วยให้ระบบขับถ่ายดีและท้องไม่ผูกอีกด้วย เหมาะอย่างยิ่ง สำ�หรับคนนอนดึกและอ่อนเพลีย ส่วนผสมก็มี ใบว่านหางจระเข้ 2 ใบ น้ำ�ต้มสุก 1 ถ้วย และน้ำ�เชื่อม วิธีทำ�ก็ไม่ยาก นำ�ใบว่านหางจระเข้ขนาดให¬่และโตเต็มที่มาปอก เปลือกออกและล้างน้ำ�ให้หมดยางสีเหลือง จากนั้นนำ�ไปใส่เครื่องปั่น เติมด้วยน้ำ�สุก และปั่นให้ละเอียด นำ�มากรองด้วยผ้าขาวบาง เติม น้ำ�เชื่อมเล็กน้อย แล้วนำ�มาใส่ขวดที่นึ่งเก็บไว้ดื่มในตู้เย็น (ไม่ควร เก็บไว้นานเกิน 2 วัน)

4.น้ำ�บัว

เครื่องดื่มสมุนไพรชนิดนี้ ไม่ค่อยมีให้เห็นสักเท่าไหร่ แต่รสชาติก็

อร่อยใช้ได้เลยล่ะ ทำ�มาจากรากบัวต้มกับน้ำ� ใช้ดื่มเพื่อดับกระหาย นอกจากนี้ยังมีสรรพคุณแก้ท้องร่วง แก้ร้อนใน ขับเสมหะ และบำ�รุง กำ�ลัง ส่วนผสมประกอบด้วย รากบัว 2 ถ้วย น้ำ�สะอาด 3 ถ้วย และน้ำ�ตาลทรายแดงตามชอบ สามารถทำ � ได้ โ ดยนำ � รากบั ว มาล้ า งน้ำ � ให้ ส ะอาดแล้ ว ฝานเป็ น ชิ้ น บางๆ นำ�ไปต้มกับน้ำ�แล้วเคี่ยวจนกระทั่งเป็นสีชมพู แล้วกรองเอา กากออก คนที่ชอบหวานก็ให้เติมน้ำ�ตาลทรายแดงเล็กน้อยลงไป จากนั้นนำ�ไปตั้งไฟจนเดือด ชิมรสชาติตามใจชอบ แก้ร้อนใน ดับ กระหายได้ดีทีเดียว


กินอย่างไร ? สุขภาพดี

5.น้ำ�ว่านกาบหอย

หาสมุนไพรใบว่านกาบหอยมาต้มดื่มเพื่อแก้ร้อนในกระหายน้ำ� และ ยังแก้ช้ำ�ในได้อีกด้วย ส่วนผสมก็มีใบว่านกาบหอย 5-15 ใบ น้ำ� สะอาด 2 ถ้วยครึ่ง และน้ำ�ตาลทราย วิธีทำ�คือ นำ�ใบว่านกาบหอยสดมาล้างให้สะอาด แล้วนำ�มาหั่นตาม ขวางเป็นชิ้นเล็กๆ จากนั้นให้นำ�มาใส่ลงในหม้อน้ำ�เดือด ต้มให้เดือด ประมาณ 3-7 นาที แล้วค่อยเติมน้ำ�ตาลทรายลงไปตามชอบใจ แค่ นี้ก็จะได้น้ำ�ว่านกาบหอยสีชมพูอ่อน จากนั้นให้นำ�มากรองใส่ขวดที่ นึ่งแล้ว ตั้งทิ้งไว้ประมาร 20-30 นาทีแล้วค่อยนำ�ไปเก็บใส่ตู้เย็นไว้ ดื่ม

6.น้ำ�บัวบก

ช่วยแก้เจ็บคอ กระหายน้ำ� แก้ช้ำ�ใน ทำ�ให้สดชื่น และยังช่วยลด ความดันโลหิตสูงได้อีกด้วย ส่วนผสมก็มีใบบัวบกสด 2 ถ้วย น้ำ� สะอาด 2 ถ้วย และน้ำ�เชื่อม วิธีทำ�ก็คือ นำ�ใบบัวบกสดๆ ใหม่ มาล้างให้สะอาด แล้วนำ�ไปสับหรือ ตำ�ให้ละเอียด จากนั้นนำ�มากรองด้วยผ้าขาวบาง สำ�หรับคนที่ชอบ รสหวานก็ให้เติมน้ำ�เชื่อมลงไปหน่อย น้ำ�แข็งอีกนิด แค่นี้ก็ได้น้ำ�ใบ บัวบกสีเขียวใสน่าดื่มสำ�หรับหน้าร้อนแล้ว

55


56

กินอย่างไร ? สุขภาพดี

เห็ น ไหมว่ า การทำ � เครื่ อ งดื่ ม ง่ า ยๆก็ ส ามารถคลายร้ อ นได้ เหมือนกัน ไม่ต้องลงทุนเปิดแอร์ให้เปลืองค่าไฟแค่ลงแรงทำ� น้ำ�สมุนไพรก็หายร้อนได้แล้ว เพียงเท่านี้ก็ลดอุณหภูมิใน ร่างกายได้ แถมทำ�ให้สุขภาพดีอีกต่างหาก

ข้อมูล : ข้อมูลจากหนังสือน้ำ�สมุนไพร สถาบันการแพทย์แผนไทย ภาพ : http://thebestcookierecipes.net/wp-content/uploads/ 2014/11/healthy-drinks.jpg


กินอย่างไร ? สุขภาพดี

กินอย่างไร? ไม่อ้วน

การรับประทานอาหารแบบที่เรียกว่า “เลือก รับประทาน เพื่อรักษาหุ่น หรือลดน้ำ�หนัก” เป็นเรื่องง่ายที่จะจำ� แต่อาจเป็นเรื่องยากที่ จะทำ�ดังนั้นเราจึงมีเคล็ดลับการรับประทาน อาหารอย่างไรไม่ให้อ้วนมาฝาก

57


58

กินอย่างไร ? สุขภาพดี

1.ควรรับประทานอาหารเป็นมื้อๆ

คือ มื้อเช้า มื้อกลางวัน และมื้อเย็น ก่อน 6 โมงเย็น นอกเหนือจาก 3 มื้อที่ว่านี้แล้ว ไม่ควรรับประทานสิ่งอื่นใดอีก แต่หากทนไม่ไหว ลองหาชาเขียวร้อนๆ ดื่มแก้ง่วงจะดีกว่า

2.ไม่ควรรับประทานอะไร ขณะที่กำ�ลังทำ�กิจกรรมอื่นๆ

เช่น อ่านหนังสือ ทำ�งาน เล่นอินเทอร์เน็ต ดูทีวี หรือขณะนั่งรถ การทำ�เช่นนี้บ่อย จะทำ�ให้คุณได้รับปริมาณแคลอรีมากเกินกว่า ร่างกายต้องการ ยิ่งทำ�บ่อยแค่ไหน ก็ยิ่งทำ�ให้คุณอ้วนเร็วขึ้น และที่ แย่ไปกว่านั้นคือ อ้วนแบบไม่รู้ตัวด้วย

3.หัดเป็นตัวของตัวเอง

โดยเลือกรับประทานอาหารที่คุณเห็นว่ามีแคลอรีต่ำ� อย่าปล่อยให้ เพื่อนๆ หรือคนรักท้าทายคุณด้วย อาหารที่มีไขมันสูง เช่น ข้าวมัน ไก่ ข้าวขาหมู เป็นอันขาด

4.เวลาทานอาหาร ควรรับประทานช้าๆ เคี้ยวให้ได้อย่างน้อย 10 ครั้งต่อคำ�

5.หากหิวมากๆ ควรอดใจสั่งอาหารเพียง 1 อย่าง

ก่อนที่จะสั่งอย่างที่ 2 มาพร้อมกัน ไม่ว่าคุณจะหิวแค่ไหน อาหาร จานเดียวก็สามารถทำ�ให้คุณอิ่มได้เช่นกัน


กินอย่างไร ? สุขภาพดี

6.มองดูอาหารในจานว่าเป็นอาหารประเภทใด

มีเนื้อสัตว์ และผักขนาดไหน จากนั้นควรเลือกทานผักให้หมดจาน ก่อนเริ่มรับประทานเนื้อสัตว์ ถ้าเป็นไปได้ ควรเขี่ยเนื้อสัตว์ออก นอกจานไปเลย

7.หลีกเลี่ยงอาหารไขมันสูง หรือแกงกะทิ และน้ำ�อัดลม

หากทำ�ได้ จะช่วยให้คุณรักษาน้ำ�หนักเดิมให้คงที่ และสามารถช่วย ลดน้ำ�หนักในอีกต่อไปได้ด้วย หากคุณชอบดื่มชา กาแฟ หรือโอวันติน ลองถามตัวเองว่าเป็นไป ได้ไหมที่จะดื่มเพียงวันละ 1 ถ้วย หรือดื่มแบบไม่ใส่น้ำ�ตาลเลย ทำ�ได้ หรือเปล่า หากคุณต้องการดื่มนม ไม่ว่าจะเป็นนมพร่องมันเนย เปรี้ยว คุณควรดื่มก่อนเข้านอนอย่างน้อย 4 ชั่วโมง

หรือนม

8.เบเกอรี่

เป็นสิ่งที่สาวๆ ชอบ แต่ถ้าอยากผอม ก็ไม่ควรทานเลย หรือทานได้ สัปดาห์ละครั้ง ครั้งละชิ้นสองชิ้นก็พอ

9.หลีกเลี่ยงการทานลูกอม บ่อยๆ

เพราะลูกอมชนิดต่างๆ ไม่ว่าจะทานเล่นหรือเพื่อระงับกลิ่นปาก ล้วน มีน้ำ�ตาลเป็นส่วนผสมทั้งนั้น

59


60

กินอย่างไร ? สุขภาพดี

10.ฝึกรับประทานผลไม้มากๆ

ส่วนผลไม้ต้องห้ามคือผลไม้ที่มีรสหวาน มีแคลอรี และปริมาณ น้ำ�ตาลสูง เช่น ทุเรียน เงาะ ละมุด ลำ�ไย ขนุน

11.ดื่มน้ำ�สะอาดอย่างน้อยวันละ 6 - 8 แก้ว

หากคุณสามารถทำ�ได้ตามที่แนะนำ�ข้างต้น เชื่อว่า อีกไม่ นานหุ่นของคุณจะสวยงามขึ้นและนิสัยการรับประทาน ก็จะเปลี่ยนไป และถ้าคุณต้องการลดน้ำ�หนักให้เร็วขึ้น การออกกำ�ลังกายควบคู่กันไปก็ช่วยให้ไม่อ้วน

ข้อมูล : ข้อมูลจากหนังสือกินเพื่อสุขภาพที่ดี ภาพ : http://legacymedia.localworld.co.uk/ 275785/Article/images/16386564/3887093.png


กินอย่างไร ? สุขภาพดี

ประโยชน์ จาก อาหารไฮไฟ

อาหารไฮไฟ (Hi-Fi) หรือ High Fiber คืออาหารที่มีเส้นใยหรือกาก ใยอาหารสูง อาทิ ข้าวกล้อง ธัญพืช ชนิดไม่ขัดสี ถั่วเมล็ดแห้ง ผักต่าง ๆ และผลไม้บางชนิด เช่น ส้ม ฝรั่ง สับปะรด ฯลฯ

61


62

กินอย่างไร ? สุขภาพดี

อาหารไฮไฟเป็ น อาหารที่ มี ป ระโยชน์ ต่ อ สุ ข ภาพมาก เหมาะสำ�หรับคนทุกเพศทุกวัย รวมถึงผู้ป่วยโรคเบาหวาน มะเร็ง ผู้ป่วยโรคหัวใจ นอกจากนี้ยังมีประโยขน์อีกมายสำ�หรับ ร่างกาย 1.ช่วยดูดซับไขมันและช่วยลดคอเลสเตอรอล 2.เคลือบผิวลำ�ไส้ทำ�ให้ชะลอการดูดซึมน้ำ�ตาล เข้าสู่กระแสเลือด 3.ช่วยลดการขยายตัวของเซลล์มะเร็ง โดย การลดระดับฮอร์โมน เอสโตรเจน 4.ช่วยกวาดกากอาหารไม่ให้ตกค้างในลำ�ไส้ 5.ดักจับสารพิษในลำ�ไส้ทำ�ให้มีความเสี่ยงต่อโรคลำ�ไส้น้อยลง ข้อดีมากอย่างนี้...ต้องเพิ่มอาหารไฮไฟให้มากขึ้นนะคะ...

ข้อมูล : http://women.sanook.com/health/tips/index.php รูปภาพ : http://cdn.roogirl.com/wp-content/uploads/2013/ 10/beans-high-fiber-foods.jpg


กินอย่างไร ? สุขภาพดี

7 สิ่ง กินแล้วเยาว์

อาหาร7อย่างต่อไปนี้จะช่วยชะลอ สั ญ ญาณแห่ ง วั ย ดึ ก ทั้ ง ผมร่ ว ง ผิวแห้ง เฉื่อยชา ให้ดูอ่อนเยาว์ขึ้น ภายใน 3 - 6 เดือน

63


64

กินอย่างไร ? สุขภาพดี

1.หยุดผมร่วง

รับประทานกล้วย ซึ่งอุดมไปด้วยวิตามินบี มีสรรพคุณป้องกันผม ร่วงได้ดี การรับประทานกล้วยเข้าไปในปริมาณที่เพียงพอ จะช่วย รักษาเส้นผมให้อยู่คู่กับหนังศีรษะได้นานวัน

2.ลดผิวมัน

รับประทานธัญญาหารทุกเช้าซึ่งอุดมด้วยวิตามินบี 2 ที่ช่วยหยุด ยั้ ง การผลิ ต น้ำ � มั น ส่ ว นเกิ น ของต่ อ มผลิ ต ภายในร่ า งกายที่ เ ป็ น สาเหตุหนึ่งของเส้นผมบางและมัน

3.หยุดการลอกของผิวหนัง

รับประทานปลาแซลมอนในเกลือรมควันอาหารทะเล หรือสลัดผัก สดก็ได้

4.ผิวเนียนใสเหมือนเด็ก

มะม่วงมีเบต้าแคโรทีนที่ช่วยทำ�ให้ผิวมีสุขภาพดี โดยช่วยกระตุ้น การสร้างผิวหนัง รวมทั้งหนังศีรษะเพื่อทดแทนของเดิมที่หยาบแห้ง และขรุขระ ให้กลับมีความชุ่มชื่นและนุ่มเนียน


กินอย่างไร ? สุขภาพดี

5.ชะลอผมหงอก

รับประทานถั่วลิสงอบเนยรวมกับเกล็ดขนมปังที่อบมาร้อน ๆ ก่อน มื้ออาหารถั่วลิสงมีวิตามินบี ที่สามารถหยุดการเปลี่ยนสีผมให้เป็น สีดอกเลาได้ และยังทำ�ให้ผิวหนังดูดีขึ้นอีกด้วย

7.ปกป้องใบหน้าจากมลพิษ

วิตามินบี ในอะโวคาโดช่วยทำ�ให้ใบหน้าดูอ่อนกว่าวัย และร่างกาย เกิดความต้านทานจากการทำ�ลายในรูปแบบต่าง ๆ ทั้งนี้รวมถึงการ ถูกทำ�ลายจากบรรยากาศที่มลภาวะเป็นพิษ

6.ดูหนุ่มสาวขึ้นอีก 5 ปี

รับประทานฝรั่ง หรือน้ำ�ฝรั่งซึ่งอุดมด้วยวิตามินซี เพราะจะช่วยเก็บ รักษาคอลลาเจนที่เป็นบ่อเกิดแห่งโปรตีนภายใต้ผิวหนัง หรือรับ ประทานมะละกอ ส้ม ลูกเกดสีดำ�อบแห้ง ร่วมกับผลไม้ประจำ�วันก็ จะช่วยเพิ่มวิตามินซีเช่นกัน

ข้อมูล : http://women.sanook.com/health/tips/index.php ภาพ : http://www.visportsnutrition.ca/wp-content/uploads/ 2013/06/shutterstock_110541239.jpg

65


66

กินอย่างไร ? สุขภาพดี

วิธีกิน ต้านมะเร็ง

พฤติกรรมการบริโภคเป็นตัวแปรที่สำ� คัญอย่างหนึ่งของ การเกิดโรคมะเร็ง สถาบันมะเร็งแห่งชาติให้ข้อมูลไว้ว่าการ ปฏิบัติตนให้มีพฤติกรรมที่เหมาะสมและการบริโภคที่เหมาะ สมจะสามารถป้ อ งกั น มะเร็ ง ได้ 3 0-40%ของโรคมะเร็ ง ทั้งหมด ซึ่งจะลดจำ�นวนผู้ป่วยได้ 3-4 ล้านคนต่อปีและยัง สามารถป้องกันโรคอื่น ๆ ได้อีก เช่น โรคหัวใจโรคเบาหวาน ไขมันในเลือดสูง ฯลฯ


กินอย่างไร ? สุขภาพดี

การบรโภคอาหารที่ถูกต้อง 1.กินอาหารให้ครบ5หมู่ ในปริมาณที่เหมาะสมกับวัย โดยกินอาหาร ให้หลากหลาย อย่ากินอาหารชนิดใดชนิดหนึ่งมากเป็นประจำ� เพื่อ ให้ได้สารอาหารครบถ้วนตามที่ร่างกายต้องการ และหลีกเลี่ยงการ สะสมสารพิษจากอาหาร 2.เลือกกินอาหารที่ประกอบด้วยธัญพืช เช่น เมล็ดถั่วต่าง ๆ งา ข้าวโพด ข้าวกล้อง มันฝรั่ง มันเทศ 3.กิ น พื ช ผั ก ผลไม้ ส ดให้ ม ากเป็ น ประจำ � ตามฤดู ก าลโดยควรกิ น ให้ได้อย่างน้อยวันละ 500 กรัม หรือมากกว่าครึ่งของปริมาณ อาหารที่กิน จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็งได้20%หรือ มากกว่า 4.กินอาหารที่มีไขมันต่ำ� ในผู้ใหญ่ผู้ชายควรได้พลังงานวันละ 2,000 แคลอรี ผู้หญิง 1,600 แคลอรีและได้รับไขมันไม่เกิน 2530%ของปริมาณพลังงานทั้งหมดต่อวัน 5.กินอาหารที่เค็มน้อยและหวานน้อย โดยเกลือต้องไม่เกิน 1 ช้อน ชา หรือ 6 กรัม ในอาหารทั้งหมดของแต่ละวัน และควรกินน้ำ�ตาล ไม่เกิน 3 ช้อนโต๊ะต่อวัน

67


68

กินอย่างไร ? สุขภาพดี

การหลีกเลี่ยงอาหารที่ส่งผลให้เป็นมะเร็ง

1.อาหารจากเนื้อสัตว์ ปิ้ง ย่าง รมควัน ควรห่อด้วยกระดาษ อะลูมิเนียม จะช่วยลดสารก่อมะเร็ง และไม่ควรกินในส่วนที่ไหม เกรียม ถ้าให้ดีควรใช้วิธีต้ม นึ่ง อบ หรือใช้ไมโครเวฟ 2.อาหารหมัก ดองเค็ม และเนื้อสัตว์ตากแห้งที่ใส่ดินประสิว (โปแตส เซียมไนเตรท) และสารไนไตรท์สามารถเปลี่ยนเป็นสารไนโตรซามีน ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็งในร่างกายได้ จึงควรกินอาหารเหล่านี้ให้น้อยลง วิตามินซีสามารถป้องกันการเกิดสารไนโตรซามีนในร่างกายได้จึง ควรกินผักสดร่วมกับอาหารประเภทนี้ 3.อาหารที่มีเชื้อราขึ้น มะเร็งตับ

อาจมีสารพิษอัลฟาทอกซินทำ�ให้เกิดโรค

ข้อมูล : http://women.sanook.com/health/tips/index.php ภาพ : http://i.huffpost.com/gen/957808/thumbs/oHEALTH-BLOG-ROUNDUP-facebook.jpg


กินอย่างไร ? สุขภาพดี

อาหารดี ต้าน คอเลสเตอรอล

อ า ห า ร ดี ๆ ต้ า น ค อ เ ล ส เ ต อ ร อ ล ร่ า งกายของคนเราสามารถสร้ า ง คอเลสเตอรอลได้เองอยู่แล้ว ดังนั้น ถ้าเรารับประทานอาหารที่มีไขมันสูง ระดับคอเลสเตอรอลในกระแสเลือด ก็จะมีสูงขึ้นตามไปด้วยเสี่ยงต่อการ เป็นโรคหลอดเลือดอุดตันและหัวใจ วายแน่นอน

69


70

กินอย่างไร ? สุขภาพดี

อ า ห า ร บ า ง อ ย่ า ง มี คุ ณ ส ม บั ติ ช่ ว ย ค ว บ คุ ม คอเลสเตอรอลได้เป็นอย่างดีเยี่ยม 6 อัศวินตัวสำ�คัญนั้น คือ

มะเขือต่างๆ

หอมหัวใหญ่

กระเทียม

ถั่วเหลือง แอปเปิล โยเกิร์ต

วันใดมื้อใดที่คุณมีเมนูอาหารซึ่งอุดมไปด้วยไขมันมากๆ ก็ ควรรับประทานอัศวินตัวหนึ่งตัวใดเพื่อควบคุม ไขมัน เช่น เมื่อ รับประทานแกงกะทิที่มันๆ ก็ควรรับประทานมะเขือเปาะ หรือมะเขือ พวงมากๆ เมื่อรับประทานไข่มากๆ ซึ่งเป็นตัวเพิ่มคอเลสเตอรอลที่ น่ากลัวนัก คุณก็ควรรับประทานหอมหัวใหญ่ร่วมกับไข่เจียวหรือ ไข่ดาวด้วย หรือรับประทานแอปเปิลวันละ 1 ผลทุกๆ วัน หรือ โยเกิร์ตวันละ 1 ถ้วยทุกๆ วัน รับประทานกระเทียมสดๆ เล็กน้อย กับอาหารจานยำ� จานคาวต่างๆ เพื่อขับคอเลสเตอรอลออกจาก ร่างกาย


กินอย่างไร ? สุขภาพดี

อันเป็นเรื่องที่แสนง่ายดายกว่าการเลิกรับประทานอาหา รมันๆ ทุกจานโดยสิ้นเชิง คุณยังสามารถรับประทาน เนย แฮม เบคอน ขาหมู ไข่ หรือ อาหารไขมันสูง จานต่างๆ ได้ในบางมื้อบางวัน หากเพียงคุณรู้จักรับ ประทานอาหารอัศวินเหล่านี้เข้าไปด้วย ซึ่งนอกจากจะ ช่วยลดคอเลสเตอรอลแล้วอาหาร 6 อย่างนี้ยังมีคุณค่า ของสารอาหาร และแร่ธาตุสำ�คัญที่จะนำ�ประโยชน์สู่ ร่างกายของคุณอย่างมากมายในด้านอื่นๆ อีกด้วย เช่น แอปเปิล หอมใหญ่ และโยเกิร์ต ช่วยให้คุณขับถ่ายดี ผิวพรรณสวยงาม

ข้อมูล : http://www.dek-d.com/content/view.php?id=1284 ภาพ : http://fitafterfifty.com/wp-content/uploads/2014/ 06/vegetables.jpg

71


72

กินอย่างไร ? สุขภาพดี

เคล็ดลับ การกินอาหาร เพื่อสุขภาพ

ในแต่ ล ะวั น เราจำ � เป็ น ต้ อ งกิ น อาหาร เข้าไปมากมายเหลือเกิน มีคำ�แนะนำ�จาก หลายสำ�นักให้กินนั่น ห้ามกินนี่จนไม่รู้ จะเชื่อใครดี วันนี้มีเคล็ดลับง่ายๆ ของ การกินให้ได้ประโยชน์สูงสุดต่อสุขภาพ อย่างเต็มที่มาฝาก


กินอย่างไร ? สุขภาพดี

1.กินอาหารเช้า

เป็นพฤติกรรมพื้นฐานที่ส่งผลต่อสภาพจิตใจ และพลังชีวิตของ คุณไปตลอดทั้งวัน การกินอาหารเช้า ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล ในเส้นเลือด ลดอัตราเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจ ช่วยให้การเผา ผลาญพลังงานดีขึ้น ทำ�ให้คุณกินอาหารในมื้ออื่นๆ น้อยลง

2.เปลี่ยนน้ำ�มันที่ใช้ปรุงอาหาร

ยอมจ่ายแพงสักนิดใช้น้ำ�มันมะกอก หรือน้ำ�มันดอกทานตะวัน ปรุง อาหารแทนน้ำ�มันแบบเดิม ที่คุณเคยใช้ดีกว่า เพราะไม่มีไขมันที่เป็น โทษต่อร่างกาย และมีกรดไขมันอิ่มตัวที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย ช่วยลดไขมันในเส้นเลือดได้เป็นอย่างดี

3.ดื่มน้ำ�ให้มากขึ้น

คนเราควรดื่มน้ำ�วันละสองลิตรเป็นอย่างน้อย เพื่อหล่อเลี้ยงเซลล์ ในร่างกาย ฟื้นฟูระบบขับถ่าย รักษาระดับความเข้มข้นของเลือด จะทำ�ให้คุณสดชื่นตลอดวันเลยทีเดียว

4.เสริมสร้างแคลเซียมให้กับกระดูก

ด้วยการดื่มนม กินปลาตัวเล็กทั้งตัวทั้งก้าง เต้าหู้ ผลิตภัณฑ์จาก ถั่วเหลือง ผักใบเขียว เพราะแคลเซียมเป็นสิ่งจำ�เป็น ที่จะเสริมสร้าง ความแข็งแรง ให้กับกล้ามเนื้อและกระดูก ทำ�ให้ระบบประสาททำ�งาน ได้เต็มประสิทธิภาพ

73


74

กินอย่างไร ? สุขภาพดี

5.บอกลาขนม ของจุกจิก

ตัดของโปรดประเภทโดนัท คุกกี้ เค้กหน้าครีมหนานุ่ม ออกจาก ชีวิตบ้าง แล้วหันมากินผลไม้เป็นของว่างแทน วิตามิน และกากใยใน ผลไม้ มีประโยชน์กว่าไขมัน และน้ำ�ตาลจากขนมหวานเป็นไหนๆ

6.สร้างความคุ้นเคย กับการกินธัญพืชและข้าวกล้อง

เมล็ดทานตะวัน ข้าวฟ่างและลูกเดือย รวมทั้งข้าวกล้องที่เคยคิดว่า เป็นอาหารนก ได้มีการศึกษาและค้นคว้าแล้ว พบว่า ช่วยลดความ เสี่ยงต่อโรคหัวใจ ถึงหนึ่งในสามเลยทีเดียว เพราะอุดมไปด้วย ไฟเบอร์ ที่ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล และควบคุมน้ำ�ตาลในเลือด ให้สมดุลย์

7.กินให้ครบทุกสิ่งที่ธรรมชาติ

มีหมายความว่า คุณต้องพยายามรับประทานผักผลไม้ต่างๆ ให้ หลากสี เป็นต้นว่าสีแดงมะเขือเทศ สีม่วงองุ่น สีเขียวบร็อคคอลลี สีส้มแครอท อย่ายึดติดอยู่กับ การกินอะไรเพียงอย่างเดียว เพราะ พืชต่างสีกัน มีสารอาหารต่างชนิดกัน แถมยังเป็นการเพิ่มสีสันการ กินให้กับคุณด้วย

8.ได้เวลาน้ำ�ชาแล้ว

ทั้งชาดำ� ชาเขียว ชาอู่ล่ง หรือเอิร์ลเกรย์ ล้วนแล้วแต่มีคุณสมบัติ ต้านอนุมูลอิสระ การดื่มชาวันละ 1 ถึง 3 แก้ว ช่วยลดอัตราเสี่ยง มะเร็งกระเพาะอาหารถึง 30%


กินอย่างไร ? สุขภาพดี

9.เปลี่ยนตัวเองให้เป็นคนรักปลา

การกินปลาอย่างน้อยอาทิตย์ละครั้ง ได้ทั้งความฉลาดและแข็งแรง เพราะปลามีกรดไขมันโอเมก้า 3 และโปรตีน ที่ช่วยควบคุมการเต้น ของหัวใจให้เป็นปกติ และบำ�รุงเซลล์สมอง ทั้งยังมีไขมันน้อย อร่อย ย่อยง่าย เหมาะสำ�หรับ คนที่ต้องการหุ่นเพรียวลมเป็นที่สุด

10. กินถั่วให้เป็นนิสัย

ทำ�ให้ถั่วเป็นส่วนหนึ่งของอาหารที่คุณต้องกินทุกวัน วันละสักสอง ช้อน ไม่ว่าจะเป็นของหวานของคาว หรือว่าของว่างก็ทั้งโปรตีน วิตามิน และแร่ธาตุสำ�คัญๆ หลายชนิด ต่างพากันไปชุมนุมอยู่ในถั่ว เหล่านี้ ควรกินถั่วอย่างสม่ำ�เสมอ แต่ไม่ควรกินครั้งละมากๆ เพราะ มีแคลอรี่สูง อาจทำ�ให้อ้วนได้

ถ้าปฏิบัติให้ได้ครบทุกข้อ จนเป็นนิสัย สุขภาพดีจะไปไหนเสีย

ข้อมูล : http://www.narak.com/webboard/show.php? Category=narak&No=15517 ภาพ : http://deltadentalwablog.com/wp-content/ uploads/2013/11/aa-girl-eating-salad.jpg

75


76

กินอย่างไร ? สุขภาพดี

น้ำ�ทับทิม ยับยั้ง เซลล์มะเร็ง

ทุ ก ท่ า นคงเคยเห็ น ลู ก ทั บ ทิ ม กั น แล้ ว เป็ น ผลไม้ ที่สวยงามและมีกลิ่นหอมมาก ทับทิมสามารถ ปลู ก ได้ ใ นประเทศไทยแต่ ที่ แ ท้ จ ริ ง เป็ น ผลไม้ ที่ มี ต้นกำ�เนิดมาจากเปอร์เซีย (ประเทศอิหร่านใน ปัจจุบัน) และมีแถบอินเดียตอนเหนือบริเวณ เทือกเขาหิมาลัย ในเมืองไทย


กินอย่างไร ? สุขภาพดี

ทับทิมดูจะเป็นผลไม้ที่ศักดิ์สิทธิ์ และเป็นที่นิยมนำ�ไปถวาย แก่พระแม่กวนอิม ในประวัติศาสตร์พบว่าได้มีการนำ�ทับทิมมาทำ� เป็นยารักษาโรคตั้งแต่ 8,000 ปีมาแล้วในประเทศเปอร์เซียโบราณ มีความเชื่อว่า คุณค่าทางอาหารทุกชนิดที่มีอยู่ในผลไม้ต่างๆ นั้น รวมกันอยู่ในทับทิม ทับทิมจึงเป็นสัญลักษณ์ของผลไม้ ถือว่าเป็น ผลไม้จากสวรรค์หรือเป็นของขวัญจากพระเจ้า

ใ น ผ ล ทั บ ทิ ม มี วิ ต า มิ น ม า ก ม า ย ห ล า ย ช นิ ด ร ว ม ทั้ ง แมกนี เ ซี ย มและแคลเซี ย มซึ่ ง มี ป ระโยชน์ ต่ อ ระบบฟอกโลหิ ต และ ระบบการหมุนเวียนในร่างกายในตำ�ราแพทย์โบราณของเปอร์เซีย (ซึ่ ง ถื อ ว่ า เป็ น ต้ น ตำ � รั บ ของวิ ช าแพทย์ ต ะวั น ตกในปั จ จุ บั น ระบุ ว่ า ทับทิมมีประโยชน์ดังต่อไปนี้ 1. การฟื้นฟูสู่สภาพเดิมของหัวใจและตับ 2.การฟอกไตและท่อปัสสาวะ 3.สมรรถนะในการส่งเสริมการย่อย 4.ขจัดไขมันส่วนเกิด 5.ป็นยาบำ�รุงกำ�ลัง 6.ช่วยป้องกันการแพ้ท้อง 7.ช่วยปรับฮอร์โมนในวัยหมดประจำ�เดือน

77


78

กินอย่างไร ? สุขภาพดี 1.ปรับปรุงระบบการฟอกและหมุนเวียนโลหิต 2.การฟื้นฟูจากโรคเบาหวาน 3.สมรรถนะในการกลั้นเสมหะ 4.ต่อต้านการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศและเพิ่มพลัง 5.ป้องกันโรคขี้หลงขี้ลืมในผู้สูงอายุ 6.ทำ�ให้ผิวหน้าสวย การวิจัยทางการแพทย์ของสหรัฐอเมริกาพบว่าในน้ำ�ทับทิม มีสารต้านนอนุมูลอิสระหลายชนิดและมีประสิทธิภาพสูงมาก งาน วิ จั ย แรกพบว่ า สารจากน้ำ � ทั บ ทิ ม สามารถลดภาวะการแข็ ง ตั ว ของเส้นเลือด จากไขมันในเลือดสูงได้ อีกรายงานยังสรุปว่าทำ�ให้ เส้นเลือดที่หนาตัวและมีไขมันสะสม ซึ่งเป็นเส้นเลือดที่ไม่ดี มีความ หนาตัวลดลง และลดไขมันที่สะสมลงอีกด้วย การวิจัยทางการแพทย์ของสหรัฐอเมริกาพบว่าในน้ำ�ทับทิม มีสารต้านนอนุมูลอิสระหลายชนิดและมีประสิทธิภาพสูงมาก งาน วิ จั ย แรกพบว่ า สารจากน้ำ � ทั บ ทิ ม สามารถลดภาวะการแข็ ง ตั ว ของเส้นเลือด จากไขมันในเลือดสูงได้ อีกรายงานยังสรุปว่าทำ�ให้ เส้นเลือดที่หนาตัวและมีไขมันสะสม ซึ่งเป็นเส้นเลือดที่ไม่ดี มีความ หนาตัวลดลง และลดไขมันที่สะสมลงอีกด้วย


กินอย่างไร ? สุขภาพดี มีรายงานการให้สารจากทับทิมในหนูทดลอง ก่อนที่จะให้ สารพิษคาร์บอนเตตราคลอไรด์ต่อตับ พบว่าหนูที่ได้รับสารจาก ทับทิมมีฤทธิ์ป้องกันการเป็นพิษต่อตับได้จริง ยังมีงานวิจัยอีกว่า ทั้งในรูปน้ำ�สดและผ่านการหมักต่อเซลล์มะเร็งหน้าอกของคน พบ ว่ามีฤทธิ์ในการยับยั้งของเซลล์มะเร็งได้จริงอีกด้วย ในประเทศญี่ ปุ่ น มี ร ายการแนะนำ � ทั บ ทิ ม ทางโทรทั ศ น์ แ ละ หนังสือพิมพ์ว่า ทับทิมมีสรรพคุณในการบรรเทาโรคหัวใจ และ ความดันโลหิตสูง ช่วยเพิ่มพลัง เพิ่มความงาม และประโยชน์อื่นอีก มากมาย ทำ�ให้ทับทิมเป็นที่สนใจอย่างกว้างขวาง ในปัจจุบัน ได้มีการค้นคว้าและแปรรูปทับทิมมากมายจาก หลายประเทศทั่วโลก เช่น ในประเทศเยอรมนี นอกจาก จะมีการ ผลิตสินค้าจากน้ำ�ทับทิมเข้มข้นแล้ว ยังได้นำ�เมล็ด ใบ และดอก มา ใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตสินค้าหลากหลายชนิด

น้ำ�ทับทิมจึงเป็นน้ำ�ผลไม้ชนิดหนึ่งที่มีคุณประโยชน์และ เป็นของที่มาจากธรรมชาติ นับเป็นหนึ่งในอาหารสุขภาพ ที่มีผลบำ�รุงร่างกายที่แท้จริง

ข้อมูล : http://www.expert2you.com/view_article.php?art_id=3132 ภาพ : http://ck.lnwfile.com/_/ck/_raw/pp/yg/pz.jpg

79


80

กินอย่างไร ? สุขภาพดี

ใยอาหาร ลดอ้วน ล้างพิษ

ปั ญ หาทางโภชนาการอย่ า งหนึ่ ง ของคนเรา ปัจจุบันคือ การกินพวกผักและผลไม้น้อย เกินไป ซึ่งแน่นอนว่านอกจากจะไม่ได้รับสาร อาหารที่ครบถ้วนแล้ว อีกตัวหนึ่งที่สำ�คัญไม่ แพ้กันก็คือ เจ้าใยอาหาร หรือภาษาอังกฤษ เรียกว่า Fiber นี้แหละ


กินอย่างไร ? สุขภาพดี

ปั ญ หาทางโภชนาการ อย่ า งหนึ่ ง ของคนเรา ปัจจุบันคือ กินพวกผักและผลไม้ กันน้อยเกินไป ซึ่งแน่น้อย ว่า นอกจากจะไม่ได้รับสารอาหารที่ครบถ้วนแล้ว อีกตัวหนึ่งที่ สำ�คัญไม่แพ้กัน ก็คือ เจ้าใยอาหาร หรือภาษาอังกฤษเรียกว่า Fiber นี้แหละ

ใยอาหารเป็นสารอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรต

หรือ ประเภทแป้ง ที่เมื่อรับประทานเข้าไปแล้ว ร่างกายย่อยในทางเดิน อาหารไม่ได้ เมื่อย่อยไม่ได้ก็ย่อมถูกดูดซึ่มในทางเดินอาหารไม่ ได้ แต่นั้นไม่ได้หมายความว่า มันไม่มีประโยชน์ต่อร่างกาย

81


82

กินอย่างไร ? สุขภาพดี

(1) ใยอาหารชนิดละลายในน้ำ�

ใยอาหารชนิดละลายในน้ำ� ส่วนมากพบในผลไม้แทบจะทุกชนิด และ ในธัญพืชบางชนิด เช่น ข้าวโอ๊ต ข้าวบาร์เล่ย์ ตัวมันจะมีประจุในตัว เองอยู่ส่วนหนึ่ง ดังนั้นมันจึงดึงเอา กรดไขมันและน้ำ�ดีไว้กับตัวเอง บ้าง ใครกินเจ้าใยอาหารประเภทนี้บ่อยๆ หรือกินผลไม้เป็นประจำ� จะมีระดับคอเลสเตอรอลในเลือดลดลง

(2) ใยอาหารชนิดไม่ละลายในน้ำ�

ใยอาหารชนิดไม่ละลายในน้ำ� พวกนี้เราเรียกว่า กากใย เป็นพวกที่ มีโมเลกุลขนาดใหญ่ จะพบในผักและผลไม้ที่มีใยเหนียว เช่น แกน สับปะรด กากในคะน้า ในผักหลายชนิด เจ้านี้จะช่วยทำ�ให้เราถ่าย คล่อง ไม่เป็นท้องผูก นอกจากนี้ ใ ยอาหารยั ง ทำ � หน้ า ที่ เ หมื อ นภารโรงที่ ค อย ทำ�ความสะอาดลำ�ใส้ ช่วยเก็บกวาดสารพิษรวมทั้งสารก่อมะเร็ง ต่างๆออกไปจากร่างกาย อีกอย่างที่บรรดาคนอ้วยเราสนใจ คือ ใย อาหารนี้ไม่มีแคลอรีครับ แต่มันจะทำ�ให้เราอิ่มนาน ไม่รู้สึกหิวบ่อย และไม่ต้องกินจุบกินจิบตลอดเวลา นี้เป็นเหตุผลหนึ่งว่าทำ�ไม ผัก และผลไม้จึงช่วยในการลดความอ้วนได้ นักวิจัยยังพบว่า ใยอาหาร ช่วยป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือด โรคเบาหวาน ความดันโลหิต สูง ไขมันในเลือดสูง โรคนิ่วในถุงน้ำ�ดีนอกจากนี้ยังป้องกันมะเร็งบาง ชนิดได้ด้วย โดยเฉพาะมะเร็งในลำ�ไส้


กินอย่างไร ? สุขภาพดี

เดี่ยวนี้เราสนใจกินผักและผลไม้กันน้อยลง ทำ�ให้ ขาดใยอาหาร ถ้าจะสังเกตุดูอาหารไทยๆเรานี้มีใย อาหารเยอะเพราะเน้นผักและบ้านเราผลไม้ก็เยอะ แต่ วัฒนธรรมอเมริกันถาโถมเข้ามาโดยเฉพาะอาหารขยะ ทั้งหลายที่เน้นการกินเนื้อสัตว์ที่มีไขมันมากๆ ขนม ที่ ทำ � มาจากแป้ ง ฟอกขาวและของหวานที่ ทำ � มาจาก น้ำ�ตาลแปรรูปอื่นๆ พวกนี้ไม่มีใยอาหารเลย

ข้อมูล : http://www.expert2you.com/view_article.php?art_id=2997 ภาพ : http://healthyeating.sfgate.com/DM-Resize/photos. demandstudios.com/60/90/fotolia_3193396_XS.jpg?w=442&h =442&keep_ratio=1

83


84

กินอย่างไร ? สุขภาพดี

สมุนไพร รักษา สิว

อย่างที่เรารู้ๆกันว่า กลไกของการเกิดสิวนั้นมี ด้วยกันหลายอย่าง เช่น อารมณ์ก็ทำ�ให้เกิด สิวได้ เครียดมากก็สิวเห่อ อาหารบางอย่างก็ ทำ�ให้มีสิวได้เหมือนกัน เครื่องสำ�อางยิ่งหนัก ถ้าใช้แล้วแพ้ ล้างไม่สะอาด ไปอุดรูขุมขน


กินอย่างไร ? สุขภาพดี การดูแลใบหน้าให้สวยเปล่งปลั่งนั้น ทางทีดีเราควรจะเริ่ม ตั้งแต่การป้องกันค่ะ ไม่ใช่เกิดปัญหาแล้วค่อยมารักษา ซึ่งปัจจุบัน นี้ทั้งสาวน้อยสาวใหญ่ หันมามอบความไว้วางใจให้กับสมุนไพรกัน มากขึ้น ด้วยหวังว่ามันจะไม่ทำ�ให้เกิดผลกระทบหรือผลข้างเคียงที่ เป็นอันตราย สมุ น ไพรอย่ า งหนึ่ ง ที่ พู ด ถึ ง กั น มากในสรรพคุ ณ ของการ รักษาสิวก็คือ ว่านหางจระเข้ ซึ่งเป็นสมุนไพรจำ�พวกที่ใช้ใบ ภายใน จะมีวุ้นใส ๆ และยางเหลือง ๆ ยางสีเหลืองตัวนี้ต้องระวังนะคะเพราะ อาจทำ�ให้เกิดอาการแพ้ได้ ถ้าเผลอเอาไปทาจะแสบร้อน บางคนก็จะ แพ้เป็นผิวผื่นคัน ซึ่งถ้าหากอยากทราบว่าเราจะแพ้หรือเปล่า ก็ให้ นำ�ว่านหางจระเข้ที่ตัดมาใหม่ ๆ ทางบริเวณท้องแขน ทิ้งไว้ประมาณ 3 นาที ถ้ามีอาการคัน แปลว่าผิวเราแพ้ค่ะ ส่วนใหญ่เราจะเห็นเขานิยมนำ�ว่านหางจระเข้มาทาหน้า แต่ ว่านชนิดนี้จะไม่เหมาะกับคนผิวหน้าแห้งนะคะ ถ้านำ�มาใช้เดี่ยว ๆ จะทำ�ให้ผิวหน้าแห้งลงไปอีก ถ้าจะนำ�มาใช้ให้ผสมกับน้ำ�มันมะกอก หรือไข่แดง คนแรง ๆ ให้เข้ากันเป็นเนื้อเดียวนำ�มาพอกหน้าทิ้งไว้สัก พักแล้วล้างออกผิวหน้าจะใส ชุ่มชื่นค่ะ แต่สำ�หรับคนที่ผิวมันให้นำ� ว่านที่ตัดใหม่ ๆ ไปแช่น้ำ�ให้ยางสีเหลืองไหลออกหมดก่อนแล้วให้ ลอกเอาเฉพาะวุ้นที่อยู่ข้างในมาทาหรือพอกหน้าไว้สักพัก หน้าจะตึง รูขุมขนจะถูกบีบให้เล็กลง ทำ�ให้ความมันบนใบหน้าลดลงได้

85


86

กินอย่างไร ? สุขภาพดี ใครที่เป็นสิวอักเสบก็ไม่ควรใช้ว่านหางจระเข้เช่นกัน เพราะ จะทำ�ให้เกิดการ ติดเชื้อได้ง่าย นอกจากนี้ ใครที่มีความกังวลเรื่อง ฝ้า การใช้ว่านหางจระเข้แม้จะไม่ใช่การรักษา แต่เป็นการป้องกันที่ดี ค่ะ เราสามารถนำ�มาทาเพื่อป้องกันรังสี UV ได้ ซึ่งเมื่อใช้เป็นประจำ� ก็จะทำ�ให้ปัญหาเรื่องฝ้าลดน้อยลง

นอกจากว่านหางจระเข้แล้ว ยังมีสมุนไพรอื่น ๆ อีกที่เรา สามารถนำ�มาใช้บำ�รุงผิวหน้าได้ อย่างเช่น หอมแดง เมื่อ เรานำ�มาฝานเป็นแว่น ๆ บาง ๆ นำ�ไปทาบริเวณที่เป็นสิว รอยด่างดำ� ทาทิ้งไว้ประมาณ 10 นาทีแล้วล้างออก ใช้ เป็นประจำ�รอยสิวจะหายไป

ข้อมูล : http://www.expert2you.com/view_article.php?art_id=2967 ภาพ : http://www.worldmagacy.com/wp-content/uploads/2014/ 11/how-to-get-rid-of-acne-scars-fast.jpg


กินอย่างไร ? สุขภาพดี

เคี้ยวนาน ฉลาดมาก

การเคี้ยวมากจะช่วยให้สมองปราดเปรียว มากขึ้น นักการเมืองชาวอังกฤษท่านหนึ่ง เคยกล่าวไว้ว่า “อาหาร 1 คำ� ต้องเคี้ยว อย่างน้อย 3-12 ที ไม่ว่าอาหารนั้นจะอ่อน แค่ไหนก็ตาม ถ้าคุณไม่มีความอดทนขั้นนี้ ก็อย่าไปหวังว่าจะเป็นผู้ยิ่งใหญ่ได้ ”

87


88

กินอย่างไร ? สุขภาพดี มีอาจารย์ท่านหนึ่งป่วยเป็นโรคกระเพาะอาหารตั้งแต่เด็ก สร้างความกลัดกลุ้มทรมานแก่เขามาก หลังจากเขาทดลองเคี้ยว อาหารคำ�ละ 100 ทีแล้ว ปรากฏว่า เขาหายจากโรคกระเพาะอาหาร ในเวลา 1สัปดาห์ การเคี้ยวอาหารมิเพียงเกี่ยวกับสุขภาพเท่านั้น ยังเกี่ยว พันกับสมรรถนะของสมองอย่างแนบแน่นด้วย การเคี้ยวอาหารจะ กระตุ้นให้ต่อมน้ำ�ลาย (SALIVARY GLAND) และต่อมใต้หู (PAROTID GLAND) หลั่งฮอร์โมนออกมา ขณะเดียวกัน อาการเคี้ยวซึ่งทำ�ให้ฟันบนกับฟันล่างกระทบ กันก็จะกระตุ้นสมองใหญ่ด้วย การกระตุ้นนี้จะทำ�ให้สมองใหญ่ ปราดเปรียวยิ่งขึ้น ช่วยเพิ่มพลังแห่งการวินิจฉัย การขบคิดและ สมาธิ

ข้ า งล่ า งนี้ คื อ ผลที่ ไ ด้ จ ากการทดลองจำ � นวนที ที่ เ คี้ ย ว อาหารสำ�หรับประกอบการพิจารณา ผู้ที่สนใจจะทดลองดูก็ได้ ผลที่ได้จากการเคี้ยวอาหาร

การเคี้ยวอาหาร 30 ที ผลที่ได้จากการกินอาหารแต่ละคำ� ควรเคี้ยวอย่างน้อยที่สุด 30 ที จะช่วยให้เหงือกแข็งแรง และช่วย รักษาอาการขี้หงุดหงิดจิตใจไม่สงบ


กินอย่างไร ? สุขภาพดี การเคี้ยวอาหาร 50 ที จะช่วยลดการกลัดกลุ้มเจ้า อารมณ์ อย่างน้อยที่สุดช่วยให้ลืมเรื่องไม่น่าอภิรมย์ได้ในเวลากิน อาหาร นอกจากนี้ ยังลดความอ้วนได้ เนื่องจากไม่มีส่วนผสมของ น้ำ�ที่เกินจำ�เป็นถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย

การเคี้ยวอาหาร 100 ที ช่วยให้หนักแน่นมากขึ้น สามารถ วินิจฉัยและจัดการปัญหาต่างๆ อย่างสงบเยือกเย็น กินน้อยแต่ ร่างกายดูดซึมสารอาหารได้มาก นอกจากนี้ยังช่วยลดการอยาก อาหารประเภทเนื้อ หรือระคายต่อร่างกายได้ด้วย การเคี้ยวอาหาร 200 ที ถ้ายืนหยัดเคี้ยว 200 ที ต่อ อาหาร 1 คำ�ได้ทุกมื้อแล้ว จะหายจากโรคกระเพาะเรื้อรัง และโรค กระเพาะอาหารเป็นแผลอย่างรวดเร็ว

ข้อมูล : http://www.expert2you.com/view_article.php?art_id=2784 ภาพ : http://www.aksorn.com/userfiles/image/0752/hed/160752_14.jpg

89


90

กินอย่างไร ? สุขภาพดี

5 อัศวิน พิชิตความอ้วน

รู้หรือไม่ว่าที่จริงแล้วร่างกายของเรานั้นสามารถสร้าง คอลลาเจนได้เองอยู่แล้ว ดังนั้นถ้าเรารับประทาน อาหารที่มีไขมันสูง ปริมาณคอเลสเตอรอลในกระแส เลือดก็จะสูงขึ้นตามไปด้วย อันเป็นที่มาของความ อ้วนและโรคต่างๆอย่างหลอดเลือดอุดตัน และหัวใจ วายได้ในที่สุด


กินอย่างไร ? สุขภาพดี อาหารบางประเภทนั้ น ธรรมชาติ เ ขาสร้ า งมาเพื่ อ ช่ ว ย ควบคุมคอเลสเตอรอลในร่างกายให้อยู่ในภาวะที่สมดุล เรียกว่า เป็นอัศวินที่ธรรมชาติส่งมาช่วยมวลมนุษยชาติเลยทีเดียว (ว่าไป นั่น) ซึ่งอัศวินเหล่านี้มีอยู่ 5 คนด้วยกัน ไปทำ�ความรู้จักกับอัศวิน พิชิตอ้วนกันดีกว่า

1.มะเขือ

ในมะเขือทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นมะเขือเปราะ มะเขือพวง มะเขือเทศ ล้วนมีสารอาหารที่ช่วยควบคุมระดับคอเลสเตอรอลอย่าง วิตามิน พี หรือ ไบโอฟลาโวนอยด์ และโพแทสเซียม ดังนั้น การรับประทาน มะเขือทั้งหลายเข้าไปจึงช่วยให้ร่างกายสามารถเผาผลาญไขมันและ คอเลสเตอรอลได้ดียิ่งขึ้น ด้วยเหตุนี้ ในแกงกะทิทั้งหลายจึงมักมี มะเขือเป็นส่วนประกอบอยู่ด้วย อย่างนี้แล้วเมื่อรับประทานแกงกะทิ ที่มันมาก ๆ ก็ควรรับประทานมะเขือเข้าไปด้วย เพราะนอกจากทำ�ให้ ไม่อ้วนแล้ว มะเขือยังช่วยป้องกันโรคหัวใจ ป้องกันผนังเส้นเลือด แข็งตัว และทำ�ให้ความดันโลหิตเป็นปกติอีกด้วยค่ะ

2.ถั่วเหลือง

อัศวินคนที่สองผู้นี้อุดมไปด้วยโปรตีน เส้นใย วิตามินบี 1 บี 6 และ บี 12 กรดโฟลิก คลอไรด์ แคลเซียม ฟอสฟอรัส ไขมันไม่อิ่มตัว (ไขมันดีสำ�หรับร่างกาย) และที่สำ�คัญที่สุดคือ ฮอร์โมนเอสโตรเจน ที่ช่วยลดคอเลสเตอรอลในเส้นเลือดได้ ดังนั้นจึงควรรับประทาน เมล็ดถั่วเหลือง และผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง ฯลฯ รับรองว่าไม่อ้วน ทั้งยังชะลอความแก่และป้องกันโรคมะเร็งเต้านมได้อีกด้วย

91


92

กินอย่างไร ? สุขภาพดี

3.หอมหัวใหญ่

หอมหัวใหญ่นั้นเป็นอาหารที่เหมาะสำ�หรับผู้ต้องการลดความอ้วน ทั้งนี้เพราะหอมหัวใหญ่มีคุณสมบัติที่ช่วยเผาผลาญไขมันและลด ไขมันได้ นอกจากนี้ยังช่วยลดความดันน้ำ�ตาลในเลือด และบรรเทา อาการท้องอืด ท้องเฟ้อ ธาตุเดินไม่ปกติได้อีกด้วย ดังนั้นในเมนูไข่ ทั้งหลายที่เต็มไปด้วยคอเลสเตอรอลจึงควรใส่หอมหัวใหญ่ลงไป แล้วถ้าใครไม่ชอบรับประทานหอมหัวใหญ่ เพราะรู้สึกว่ามีกลิ่นแรง รสฝาด ขอแนะนำ�ว่าให้ปรุงให้สุกเสียก่อน แล้วหอมหัวใหญ่จะมีรส หวานอร่อยมาก ทางที่ดีควรรับประทานหอมหัวใหญ่ให้ได้ทุกวัน วันละ 3 – 4 หัว โดยสับให้เป็นชิ้นเล็ก ๆ แล้วนำ�ไปต้มหรือนึ่ง อาจ เหยาะเกลือเพิ่มรสชาติเล็กน้อยก็ได้

4.กระเทียม

แม้ว่าคุณสมบัติหลัก ๆ ของกระเทียมจะช่วยสร้างระบบการสร้าง ภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง ยับยั้งการเจริญเติบโตของเนื้องอก หรือถ้า ทานสด ๆ จะช่วยป้องกันการเกิดสิวได้ด้วยก็ตาม แต่กระเทียมยัง ช่วยขับคอเลสเตอรอลออกจากร่างกายได้อีกด้วย เพราะการรับ ประทานกระเทียมจะทำ�ให้ระบบเผาผลาญไขมันทำ�งานได้ดียิ่งขึ้น และช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำ�งานเป็นปกติ ดังนั้นในอาหารคาว จานต่าง ๆ จึงควรใส่กระเทียมสดเข้าไปด้วย รับรองว่าเห็นเล็ก ๆ อย่างนี้ แต่คุณสมบัติคับแก้วมาก


กินอย่างไร ? สุขภาพดี

5.แอปเปิล

ถ้าคุณหิวจนตาลายแต่ยังไม่ถึงเวลาอาหาร แอปเปิลสักลูกจะช่วย ลดความหิวได้ดี เพราะแอปเปิลมีแป้งและน้ำ�ตาลในรูปของน้ำ�ตาล โมเลกุลเดี่ยวถึง 75% ทำ�ให้ร่างกายสามารถดูดซึมน้ำ�ตาลพิเศษ ชนิดนี้ได้รวดเร็ว และนำ�ไปใช้ประโยชน์ได้ในเวลาไม่เกินสิบนาที ดัง นั้นความอยากอาหารจึงลดลง ทำ�ให้คุณไม่รู้สึกหงุดหงิดอ่อนเพลีย ระหว่างก่อนเวลารับประทานอาหารมื้อใหญ่ ๆ นอกจากนี้ใน แอปเปิลยังมีสารอาหารจำ�พวกวิตามินซี บี 6 ธาตุเหล็ก ทองแดง และโพแทสเซียม ที่ช่วยในการเผาผลาญไขมานและควบคุมปริมาณ คอเลสเตอรอลในร่างกายได้อีกด้วย

เมื่อรู้จักกับอัศวินพิชิตอ้วนทั้ง 5 ไปแล้ว เวลารับประทาน อาหารที่มีไขมันและคอเลสเตอรอลสูงนั้นก็ควรรับประทาน อัศวินเหล่านี้เข้าไปด้วย โดยเลือกทานได้ตามความเหมาะ สม เช่น ทานแอปเปิลก่อนรับประทานอาหารมื้อหลัก ใส่ หอมหัวใหญ่ในไข่เจียว ใส่มะเขือทั้งหลายในแกงกะทิ มี กระเทียมเป็นส่วนประกอบหลักในอาหาร คุณอาจรับ ประทานน้ำ�นมถั่วเหลืองทุกเช้าหรือเวลาหิว รับรองว่าถ้า ทำ�ได้เป็นนิสัยแล้วสุขภาพคุณจะแข็งแรงและไม่มีปัญหากับ ความอ้วนอีกเลย

ข้อมูล : http://www.expert2you.com/view_article.php?art_id=2782 ภาพ :http://mpics.manager.co.th/pics/Images/557000012050001.JPEG

93


94

กินอย่างไร ? สุขภาพดี

15 นาที เพื่อชีวิตที่ดีขึ้น

การดูแลสุขภาพอาจดูเป็นเรื่องน่าเบื่อและยุ่งยาก แต่ที่จริงช่วงเวลาเล็กๆ น้อยๆ แค่ 5 -15 นาที ก็ช่วยให้ร่างกายดีขึ้นได้แบบง่ายๆ เป็นของขวัญ วันต้นปีที่ดีที่สุดสำ�หรับตัวคุณเอง โดยแบ่งเวลา ก่อนหรือหลังกิจกรรมที่คุณทำ�อยู่แล้วประจำ� วัน แล้วเพิ่มรายละเอียดที่เราแนะนำ�เข้าไปอีกนิด เพื่อชีวิตที่ดีขึ้น


กินอย่างไร ? สุขภาพดี

1.ดื่มน้ำ� 1 นาที ตอนตื่นนอน

เมื่อตื่นนอนแล้วควรดื่มน้ำ�1-2 แก้ว เพื่อกระตุ้นการทำ�งานของ อวัยวะ และระบบขับถ่าย ทำ�ให้รู้สึกสดชื่นกระปรี้กระเปร่าขึ้น หาก กลัวลืมให้วางขวดและแก้วน้ำ�ไว้ที่หัวเตียงก่อนนอน เพื่อที่จะดื่มได้ ทันทีที่ตื่นขึ้น

2.หัวเราะ 15 นาที ก่อนอาหารเย็น

ผลัดกันเล่าเรื่องตลกกับคนในครอบครัวคนละ 1 เรื่องทุกวัน และ หัวเราะเต็มเสียงให้ลมผ่านปาก ลำ�คอ ปอด กระเพาะ ลำ�ไส้ใหญ่ เล็ก จนรู้สึกว่าอวัยวะทุกส่วนเคลื่อนไหว หรือจนรู้สึกเกร็งหน้าท้อง เพื่อให้ร่างกายได้ออกซิเจนมากขึ้น ฟอกปอด ป้องกันการเวียนหัว อ่อนเพลียแถมยังเพิ่มความผูกพันในครอบครัวให้แน่นแฟ้นขึ้นด้วย

3.เดินเพิ่มขึ้น 15 นาที ก่อนเริ่มงาน

เปลี่ยนจากใช้ลิฟท์เป็นเดินขึ้น-ลงบันไดแทน หรือขยับไปจอดรถ ไกลขึ้นอีกหน่อย เพื่อให้เดินไกลขึ้น โดยเดินให้เร็วขึ้นกว่าปกติ และ เพิ่มระยะทางการเดินขึ้นเรื่อยๆ ทุกวัน หากมีเวลาอาจไปเดินเล่น ในสวนสาธารณะ นอกจากได้ออกกำ�ลังกายแล้ว ยังได้รับอากาศ บริสุทธิ์ด้วย วิธีนี้เหมาะสำ�หรับคนทำ�งานที่ต้องนั่งโต๊ะทั้งวันจะช่วย ให้ร่างกายได้เคลื่อนไหวและออกแรงบ้าง

95


96

กินอย่างไร ? สุขภาพดี

4.กะพริบตาทุก 15 นาที เมื่ออยู่หน้าเครื่องคอมพิวเตอร์

กะพริบตาเพิ่มขึ้น 1-2 ครั้ง ทุก 15 นาที และเมื่อเลิกใช้คอมพิวเตอร์ ให้กระพริบตาถี่ๆ เพื่อให้แก้วตาสะอาดและมีน้ำ�หล่อเลี้ยงมากขึ้น โดยเฉพาะคนที่ใส่แว่นตาหรือคอนแทคเลนส์ยิ่งจำ�เป็นเพราะจะช่วย ให้ตาไม่แห้งเกินไป

5.ล้างมือ 1 นาที ก่อนเข้าห้องน้ำ�

มีงานวิจัยพบว่าคนเข้าห้องน้ำ�โดยไม่ล้างมือมีโอกาสเป็นมะเร็งปาก มดลูกมากว่าคนที่ล้างมือก่อนเข้าห้องน้ำ� แม้ยังไม่ได้ข้อสรุปชัดเจน แต่การล้างมือก่อนเข้าห้องน้ำ�ก็ช่วยให้มือคุณสะอาดจากเชื้อโรค หากต้องสัมผัสกับจุดซ่อนเร้นและไม่ก่อโรคให้ตัวเองแบบไม่ตั้งใจ ที่ สำ�คัญออกจากห้องน้ำ�แล้วอย่าลืมล้างมืออีกครั้ง

6.หยุดกิน 5 นาที ก่อนอิ่มจริง

ทุกครั้งเวลากินอาหารมื้อหลัก ให้หยุดกินก่อนอิ่มจริง 5 นาที และ ควรกินอาหารแค่ “เกือบอิ่ม” เท่านั้น กระเพาะอาหารจะได้ไม่ทำ�งาน หนักเกินไป

ข้อมูล : http://www.saranair.com/categories.php?catid=4 ภาพ :http://www.ifyoluku.com/wp-content/uploads/2013/ 09/bigstock-Happy-Black-Woman-12039302.jpg


กินอย่างไร ? สุขภาพดี

กินได้ แบบ ไร้โรค

ปั จ จุ บั น อาหารการกิ น แตกต่ า งจากอดี ต ที่ ผ่ า นมาอย่ า ง มากมาย อาหารต่างประเทศหลั่งไหลเข้ามาสร้างวัฒนธรรม การกินแบบใหม่ให้คนไทยจำ�นวนมาก ทั้งอาหารอเมริกัน อาหารญี่ปุ่น อาหารอินเดีย อาหารสเปน อาหารเม็กซิ กัน ความแปลกใหม่กับรสชาติที่แตกต่าง แถมยังมีให้เลือก หลากหลายอีกด้วยค่ะ ถึงแม้ว่าอาหารพวกนี้จะได้รับความ นิยมในบ้านเรามากเลยทีเดียว แต่น้อยคนนักที่จะตระหนัก ถึงอันตรายของอาหารเหล่านี้ ยิ่งทานกันมากก็ยิ่งป่วยกัน มาก

97


98

กินอย่างไร ? สุขภาพดี

ร่างกายของมนุษย์มีระบบต่างๆสมบูรณ์ ทั้งระบบย่อย การ ขับถ่าย ระบบหายใจ มีกลไกฟื้นฟูและบำ�บัดรักษาตัวเองได้อย่าง วิเศษ เพื่อให้เรามีอายุยืนนาน มีสุขภาพที่แข็งแรงแต่กลับเป็นตัวเรา เองที่ทำ�ร้ายตัวเอง ทำ�ให้ระบบต่างๆเสียสมดุและเกิดการเจ็บป่วย คนเรามีลำ�ไส้ยาวเกือบ 30 ฟุต หรือ 12 เท่าของช่วงตัวใกล้เคียงกับ สัตว์ที่กินหญ้าและกินผลไม้ที่ ลำ�ไส้ยาว 10 เท่า และ 12 เท่าของช่วง ตัว ส่วนสัตว์กินเนื้อมีไส้ยาวเพียง 3 เท่าของช่วงตัว แต่มีน้ำ�ย่อยที่ เป็นกรดแรงกว่าสัตว์กินพืชและของคนเราถึง 20 เท่า ดังนั้นธรรมชาติจึงได้กำ�หนดมาแล้วว่าอาหารของมนุษย์คือ พืช ผักและผลไม้ เพราะลำ�ไส้เรายาวและมีน้ำ�ย่อยที่เจือจางกว่าของ สัตว์กินเนื้อมาก เมื่อเราไปกินเนื้อสัตว์ กรดเกลือก็น้อย ย่อยก็ยาก ลำ�ไส้ของเราก็ดันยาวเสียอีก อาหารที่ไม่ย่อยก็เกิดการหมักหมม เน่าเสียอยู่ในลำ�ไส้ สารพิษที่เกิดจากการหมักหมมก็ถูกดูดซึมเข้าสู่ ร่างกายอีก ก็ทำ�ให้กระแสเลือดของเรามีแต่ของเสีย สุขภาพของเรา ก็เสียตาม แต่ก่อนโปรตีนจากสัตว์ถูกจัดอันดับให้เป็นโปรตีนอันดับ หนึ่ง และโปรตีนจากพืชเป็นโปรตีนอันดับรองลงมา แต่ปัจจุบันนี้นัก วิทยาศาสตร์ต่างยอมรับแล้วว่า โปรตีนจากพืชมีคุณสมบัติไม่แตก ต่างจากโปรตีนของเนื้อสัตว์เลย โดยปกติแล้วสัตว์จะผลิตของเสีย และขับออกทางไต ปอด ตับและลำ�ไส้ ของเสียเหล่านี้ยังคงตกค้างอยู่ ในสัตว์ที่ถูกฆ่าเพื่อทำ�มาขาย นอกจากนี้ยังมีการเปลี่ยนแปลงทาง ชีวเคมีอย่างมากในสัตว์ที่ตกใจกลัวสุดขีด สารพิษต่างๆจะตกค้าง ตามเส้นเลือดและเนื้อเยื่อหรืออาจกล่าวได้ว่า“เนื้อของสัตว์เต็มไป ด้วยเลือดที่มีแต่สารพิษและของเสียอีกมากมาย ข้อมูล : http://www.the-arokaya.com ภาพ :http://thecareco.com/wp-content/ uploads/2014/01/Vegetables.jpg


กินอย่างไร ? สุขภาพดี

ผลเสีย ของสุขนิสัย ที่ไม่ดี

สุขภาพที่ดีนั้นสามารถส่งผลให้ส่วนต่างๆของร่างกาย ทำ�งานได้เป็นปกติส่งผลดีทั้งร่างกายและจิตใจ ฉะนั้น เราจึงควรพิจารณาให้ถ้วนถี่ว่าคุณมีสุขนิสัยอะไรบ้าง ที่ควรแก้ไข เพื่อที่จะคงความสดใสแข็งแรง ให้สุขภาพ ดีๆ อยู่กับตัวเราไปนานๆ ยังไงล่ะ

99


100

กินอย่างไร ? สุขภาพดี

1.นอนไม่พอ

การนอนไม่พอ นอกจะทำ�ให้ขอบตาดำ�จนดูหมองคลำ�แล้ว ยังทำ�ให้ เส้นผมและผิวหนังไม่สวยอีกด้วย เพราะร่างกายคนเรา จะทำ�การ ซ่อมแซมตัวเอง เช่น ผลัดเปลี่ยนเซลล์ผิว ขณะที่เรานอนหลับ และ นอนไม่พออย่างนี้ จะให้มีผิวที่ดีได้อย่างไร

2.อดมื้อกินมื้อ

อดมื้อกินมื้อ ทั้งๆ ที่ไม่ได้ยากจนข้นแค้นอะไร แต่กินอาหารไม่ เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย จนทำ�ให้ได้สารอาหารไม่ ครบ จึงอาจส่งผลต่อร่างกายได้ เช่น เล็บเปราะบางและผิวพรรณ ไม่เปล่งปลั่ง จึงควรจะกินอาหารให้ครบห้าหมู่ และเน้นอาหารที่บำ�รุง ผิวพรรณและชะลอความแก่ เช่น บร็อกโคลี่ ถั่ว มะเขือเทศ พริก หวาน เป็นต้น

3.สูบบุหรี่

นอกจากจะส่งผลต่อปอดและหัวใจแล้ว การสูบบุหรี่ยังทำ�ร้ายผิว พรรณของเรา ด้วยการทำ�ให้เลือดไหลเวียนในร่างกายได้ไม่ดี ทำ�ให้ ผิวขาดความยืดหยุ่น และผลลัพธ์ก็คือ ริ้วรอยเหี่ยวย่นก่อนวัย

4.เครียด

ไม่ว่าจะเป็นวัยเรียนหรือวัยทำ�งานก็เครียดได้ทั้งนั้นและความเครียด จะส่งผลโดยตรงกับการเกิดริ้วรอยเพราะเครียดเมื่อไหร่ต้องขมวด คิ้วนิ่วหน้าซะทุกทีน่ะสิ ข้อมูล : http://www.mkrestaurant.com/ ภาพ : http://i.telegraph.co.uk/multimedia/ archive/01379/stressed_businessM_1379474c.jpg


อ้างอิงเพิ่มเติม แหล่งสืบค้นข้อมูล :

http://writer.dek-d.com/haruethai/story/view.php?id=211886

ภาพ :

http://www.naturalhealth365.com/images/healthy-eating. jpg http://rocksolidptstudio.com/images/orangejuice.png https://dev.giftexpress.us/hurleys/images/products/_large/ FreshSeasonalFruitSalad.png http://www.samunpri.com/wp-content/uploads/2011/12/ %E0%B8%84%E0%B8%B0%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8 %B2.jpg


Êѧ¤Á·Õ่ÁÕ¤ÇÒÁà˧ÃÕº ·ÓãËŒËÅÒ¤¹ÅÐàÅÂ

¡ÒôÙáÅÊØ¢ÀÒ¾ â´Â੾ÒСÒáԹÍÒËÒ÷Õ่ÁÕ»ÃР⪹ «Ö§¤ÇÒÁ¨ÃÔ§áÅŒÇÊØ¢ÀÒ¾·Õ่´Õ໚¹¾×้¹°Ò¹¢Í§ ¡ÒôÓçªÕÇÔµ·Õ่´Õ ´Ñ§¹Ñ้¹¡ÒÃàÃÕ¹ÃÙŒà¤Å็´ÅѺµ‹Ò§æ·Õ่ ໚¹»ÃÐ⪹ µ‹ÍÊØ¢ÀÒ¾¨Ö§à»š¹ÊÔ่§¨Ó໚¹Í‹ҧÂÔ่§ÊÓ ËÃѺÊѧ¤ÁÂؤ¹Õ้

......

ãˌ˹ѧÊ×ÍàÅ‹Á¹Õ้໚¹µÑǪ‹ÇÂáÅеÑÇàÅ×͡˹Ö่§¢Í§¤Ø³ 㹡ÒÃàÅ×Í¡¡Ô¹ÍÒËÒ÷ÕÁÕ»ÃÐ⪹ à¾×่ÍÊØ¢ÀÒ¾·Õ่´Õ

หมวดความรูทั่วไป

ออกแบบปก มูนีเราะห สาเมาะ


Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.