คำ�นำ�
ก่อนขึ้นปี 2014 ฉันตั้งเป้าหมายไว้ว่า ฉันจะลดน้ำ�หนัก จะเก็บเงินให้ ได้เยอะๆ ไป เที่ยวต่างประเทศ หัดแต่งหน้า จะสวย จะค้นหาตัวเอง พัฒนาตัวเองให้เก่งๆ จะทำ�นู่น จะ ทำ�นี่ เยอะแยะไปหมด แต่พอผ่านพ้นปี ใหม่ ไปแปปเดียว ก็กลับไปทำ�ตัวเหมือนเดิม เที่ยว เล่น กิน นอน ปั่นโปรเจคตอนใกล้เดดไลน์ ชอปปิ้งฟุ่มเฟือย ลืมทุกสิ่งทุกอย่างที่ตั้งเป้าหมาย ไว้ตอนวันที่ 1 มกราคม 2014 พอรู้ตัวอีกที ฉันก็อยู่ ในเดือนธันวาคมปี2014 และเตรียมตัว จะขอพรและตั้งเป้าหมายของปีหน้าอีกแล้ว ฉันเชื่อว่าหลายคนก็เป็นแบบนี้ นั่นเป็นเพราะเราใช้ชีวิตไปเรื่อยๆไม่ ได้มองไปรอบๆ ไม่ ได้บันทึก ว่าเราทำ�อะไรไว้บ้าง ฉันเลยเริ่มนั่งนึกย้อนเวลากลับไปตั้งแต่ต้นปี เขียนหนังสือ เล่มนี้ขึ้นมา พื่อบันทึกชีวิตของฉันไว้ว่า ปี 2014 ฉันชอบอะไรบ้าง ทำ�อะไรบ้าง และมันมี อะไรเปลี่ยนแปลงในชีวิตฉันบ้าง นอกจากนี้ยังใช้ บันทึกความทรงจำ�ดีๆ เก็บไว้อ่านเล่นเวลา ว่าง หรือตอนแก่ ไป กลับมาย้อนดูว่าตัวเองเคยเป็นยังไงได้อีกด้วย บันทึกนี้อาจจะดูไร้สาระ แต่มันก็คือชีวิตของฉัน ก็ชีวิตฉันมันไร้สาระนี่ พอรู้ตัวแล้ว ว่าตัวเองไร้สาระ ฉันก็เริ่มมีกำ�ลังใจที่จะผลักดันตัวเองให้ทำ�ตามเป้าหมาย อีกครั้ง เห็นไหม บันทึกนี้มันมีประโยชนแล้ว แล้วคุณล่ะ เริ่มเขียนบันทึก ของตัวเองเอาไว้รึยัง? ถ้ายัง ลอง อ่านของฉันก่อนก็ ได้นะ
MURRAYA
T h row ba c k to 2014
First Time in 2014
ขึ้นรถทัวร์ คนเดียว
ฉันนั่งรถทัวร์คนเดียวครั้งแรกก็เกือบตกรถ เพราะตั๋วของ ฉันเขียนว่ากรุงเทพฯ-แม่จัน พอฉันไปรอที่ชานชาลาก่อนถึงเวลาออก รถครึ่งชั่วโมง เจอแต่รถกรุงเทพฯ-แม่สาย เลยนั่งรอ จนรถคันนี้เริ่ม ขยับจะออกแล้วพนักงานถามว่า “แม่สายแม่จันมีอีกไหมคะ” ฉันเลย รู้ตัวแล้วรีบวิ่งขึ้นรถ นั่งรถทัวร์12ชั่วโมง ฉันคิดว่าสบายๆ หลับๆไป เดี๋ยวก็ถึง ที่ ไหนได้นอนแทบไม่หลับเลยเพราะคนข้างๆพาเด็กทารก มาด้วยแล้วเด็กร้องตลอดทาง พอไม่หลับก็ว่าง โทรศัพท์ก็แบตหมด จะหาเพื่อนคุยก็ ไม่มี เป็นช่วงที่ทรมานและได้แต่ภาวนาให้ถึงเร็วๆ หลังจากวันนั้นคิดเลย ถ้าไม่จำ�เป็นฉันคงไม่นั่งรถทัวอีก
นั่งรถไฟ ฉันนั่งรถไฟครั้งแรกจากสุราษฎร์ธานีมากรุงเทพ ฉันนั่งแบบสปรินเตอร์ ซึ่งตั๋วแพงกว่า แบบอื่นอยู่ประมาณนึง เป็นรถไฟปรับอากาศทั้งคัน เลยไม่ ได้นั่งให้ลมโชยพัดผมปลิวเป็นนางเอก เอ็มวีแบบที่จินตนาการไว้ บนรถไฟสปรินเตอร์มีอาหารบริการด้วย เป็นอาหารแช่แข็งที่เอามาเข้า ไมโครเวฟ รสชาติพอกินได้ สภาพรถไฟดูเหมือนเก่านิดๆแต่ก็ ไม่ ได้ย่ำ�แย่ ฉันเดินทางกลางคืน บน รถไฟปิดไฟให้ผู้ โดยสารนั่งหลับกัน ฉันเลยจำ�รายละเอียดอะไรไม่ค่อยได้ ถ้ามี โอกาสก็อยากลองนั่ง รถไฟอีกสักครั้ง เอาแบบราคาถูกๆ กลางวัน รถลม นั่งริมหน้าต่าง น่าจะสนุกนะ
ฉันเพิ่งเล่นไพ่ครั้งแรกตอนอายุ 19 นี่แหละ ที่ผ่านมาไม่เคย เล่น ไม่ ใช่ว่าเป็นเด็กดีจัด อะไรหรอกนะ แต่ว่าก็รอบตัวมันไม่มี ใคร เล่นไพ่กันเลย ฉันก็ ไม่รู้จะเล่นตอนไหนเหมือนกัน เรียกว่าแทบจะไม่ เคยจับไพ่เลยด้วยซ้ำ� จนตอนปิดเทอมใหญ่ก่อนขึ้นปี2 เรามาทำ�งาน เตรียมรับน้องกัน แล้วมันว่าง เพื่อนก็ชวนเล่น ฉันก็เล่นไม่เป็น เลย ต้องให้เพื่อนสอน ตอนแรกมันยากมากๆที่ต้องนั่งจำ�ว่าอะไรคือ ดอกจิก โพธิ์ดำ� โพธิ์แดง ข้าวหลามตัด อะไรคือชนะ อะไรคือแพ้ วิธีเล่นแต่ละเกมก็ต่างกันออกไปอีก ใหม่ๆอะไรก็เข้าใจยากไปหมด แต่พอเล่นเป็นแล้วก็สนุกไปกับมัน ถ้าแพ้ก็อยากเล่นใหม่ ถ้าชนะก็อยากเล่นอีก รู้ตัวกันอีกทีก็ตีสาม เป็นอย่างงี้อยู่หลายวัน จนงานเสร็จ แยกย้าย ก็เลยเลิกเล่นไป (ตอนนั้นเล่นกันเฉยๆ ไม่ ได้กินเงินนะ)
เล่นไพ่
แผ่นดินไหว
แผ่นดินไหวเชียงราย ออกข่าวตอนฉันอยู่บนรถทัวร์ที่ มาเชียงรายพอดี ตอนนั้นจะขอลงจากรถก็ ไม่ทัน กลัวมาก นึก ภาพแบบตึกถล่มแล้วต้องวิ่งหนีกันเหมือนในหนังโลกแตก แต่ก็ มาถึงเชียงรายอย่างปลอดภัย ตอนแรกฉันคิดว่าไม่มีอะไร คง แผ่นดินไหวไกลๆม. เลยนอนพักในห้อง หลับอยู่ก็สะดุ้งเพราะ เตียงสั่น หลังจากนั้นก็สั่นอยู่เรื่อยๆ จนชินไปเอง และเพราะม. อยู่ห่างจากจุดที่เกิด ตอนที่สั่นฉันรู้สึกเหมือนเรานั่งทับ มือถือ แล้วมีคนโทรเข้า เราเลยรู้สึกว่าพื้นสั่นๆ แค่นั้น นับว่าโชคดีมากที่ฉันไม่เจออะไรร้ายแรง
เกียรติบัตรเรียนดี ฉันได้รับเกียรติบัตรเรียนดี เพราะมีผลการเรียนเป็นอันดับ 1 ในสาขา ประจำ�ปีการศึกษา2556 เกรดเฉลี่ย 3.92 เป็นครั้งแรกใน ชีวิตฉันเลยที่ ได้รับเกียรติบัตรเรียนดี ที่จริงฉันไม่ ใช่คนที่เคร่งเรื่อง เกรดเท่าไหร่ เพราะฉันเชื่อว่าความสามารถและฝีมือ สำ�คัญกว่า แต่เกรดก็เป็นตัวที่บอกความรับผิดชอบและความตั้งใจได้ดี ฉันไม่ ได้เก่งกว่าคนอื่นหรอก แต่เรื่องความตั้งใจเรียน ความรับ ผิดชอบ และเรื่องเซ้นส์ ในการมั่ว ฉันไม่แพ้ ใครแน่นอน (ภูมิใจ?) เกียรติบัตรอาจเป็นแค่ กระดาษ ใบหนึ่งที่ดูเหมือนไม่มีราคา แต่สำ�หรับฉันมันมีค่ามาก เพราะมันมาพร้อมเงินสนับสนุนค่าเทอม!!!! นั่งเรือคลองแสนแสบครั้งแรกได้เจอน้ำ�ดำ�และเหม็นสมคำ�ร่ำ�ลือ บรรยากาศรอบๆก็มีแต่ตึกกับชุมชนแออัด โชคดีที่ฉันเป็นคนจมูกไม่ค่อยดี เลยไม่ค่อยได้กลิ่นเหม็นของคลองมาก แต่เห็นคนอื่นอุดจมูกกันก็พอเข้าใจ เวลาเรือโคลงเคลงจะเวียนหัวนิดๆ ถ้านั่งนานๆจะมีสองแบบคือ ถ้าไม่ชินไปเลย ก็ อ้วกไปเลย แต่การเดินทางด้วยเรือก็ สะดวกและประหยัดดี ติดแค่เวลาขึ้น-ลงท่าเรือ ลองจินตนาการภาพว่าถ้าก้าวแล้วพลาดตกน้ำ� ไม่รู้จะตายเพราะจมน้ำ�หรือเพราะเชื้อโรคในน้ำ�กันแน่
เรือคลอง แสนแสบ
รับเสด็จ ตอนช่วงงานรับปริญญา นักศึกษปี1 จะมี โอกาสได้ รอรับเสด็จ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ความรู้สึกตอน นั้นคือภูมิใจ ดี ใจ ตื่นเต้น อะไรปะปนกันไปหมด วันนั้นจะเห็นนักศึกษาหญิงหน้าเหมือน กันหมด คือหน้าไม่แต่ง คิ้วไม่มี ชุดนักศึกษาถูกระ เบียบเป๊ะ ผมดำ� เก็บหน้าม้า รวบตึง เรากินข้าว เช้ากันตั้งแต่ตีห้า และมาตั้งแถวรอตอน 7โมง อากาศหนาวจัดมากๆ พอช่วง 11โมง ก็ร้อนมาก พอขบวนเสด็จผ่าน ก็ถอนสายบัวทำ�ความเคารพ
บางคนมองเข้าไปในรถเห็นสมเด็จพระเทพฯ ก็ ดี ใจกันไป แต่ฉันไม่เห็นอะไรเลย บางคนก็จำ� ทะเบียนรถไปบอกให้แม่แทงหวย(?) เราตั้งแถว กันจนถึงเที่ยง แล้วต้องไปเข้าซุ้มเพื่อบูมให้รุ่นพี่ บัณฑิตต่อ แต่เราหิวเลยแวะไปกินข้าวกันก่อน ไม่รู้เพราะสับสนอากาศที่เดี๋ยวหนาวจัดเดี๋ยวร้อน จัด หรือว่าฉันกินข้าวเยอะเกินไป อยู่ดีๆก็อ้วก และไข้ขึ้น เลยรีบกลับหอไปล้างหน้าล้างปาก แล้ว ก็ ไปบูมต่อ เป็นวันที่เหนื่อยแต่น่าภูมิใจ เพราะคง ไม่ ได้มี โอกาสแบบนี้บ่อยๆในชีวิต
First Time in 2014
ออกไปท่องเที่ยวข้างนอกบ้าง ไปค้นหาสถานที่ ใหม่ๆ ผู้คนใหม่ๆ ดูความเปลี่ยนแปลงของสถานที่เก่าๆ ไปเที่ยวแล้วเรามีความสุข >>>
เมเจอร์ รัชโยธิน
เมเจอร์รัชโยธินก็เหมือนห้างทั่วไป มีของกิน มีร้านค้า มี โรงหนัง คาราโอเกะ โบว์ลิ่ง ร้านเกม จุดเด่นคือเป็นห้างที่ โรงหนังอลังการล้าน แปดที่สุดในย่านใกล้บ้าน เวลามีหนังที่อยากดูมากๆ หรือ จะดูเป็น 3D ต้องที่นี่เท่านั้น ไม่ต้องไปไกลถึงพารากอน แต่ตั๋วหนังก็แพงมากอยู่ ตอนเย็นๆหน้าเมเจอร์จะมีตลาดแบบปูเสื่อขายกับพื้น พวกสินค้า แฮนด์เมด หรือ ของอาร์ตๆ ฉันชอบเดินดูมากกกก แต่ก็ ไม่ ได้ซื้อเพราะ ราคาค่อนข้างแพงเว่อร์เกินไปหน่อย และหน้าเมเจอร์นี่รถติดเป็นอันดับ 1 เท่าที่เคยเจอมา เลยไม่ค่อยอยากกลับบ้านตอนเย็นๆ
เซ็นทรัล รามอินทรา
เซ็นทรัลรามอินทราเป็นห้างที่ชอบเพราะใกล้บ้าน และไม่ ใช่ย่าน คนรวย ห้างนี้เงียบจนฉันรู้สึกว่ามันน่าจะเจ๊งไปแล้ว คงเป็นเพราะเป็น ห้างที่มีครบครันทุกอย่างเหมือนห้างทั่วไป แต่ ไม่มีอะไรโดดเด่นเลย ฉันชอบมาห้างนี้เฉพาะเวลาอยากอยู่เงียบๆ ช่วงฝากล่องโออิชิแลก ตั๋วหนังฟรี 100 คนแรก ห้างอื่นต้องไปนั่งรอประตูห้างเปิด แล้ววิ่ง แข่งกัน แต่ห้างนี้ มา11โมง เดินเข้าไปชิวๆ ห้างนี้เป็นทางผ่านเวลา กลับบ้าน ถ้ารถติดหน้าห้างมากๆ ขี้เกียจรอ ก็กดกริ่งลงไปเดินเล่น ซักชั่วโมง ค่อยออกมาหารถใหม่ ไม่ต้องรีบอะไรเลยเพราะใกล้บ้านมาก
เดอะมอลล์บางกะปิ + ตะวันนา ช่วงม.ปลายพอชอบมาโยนโบลิ่งที่เดอะมอลล์บางกะปิ เลยได้ติดรถพ่อมาเที่ยวทุก อาทิตย์ แต่พอโบลิ่งที่นี่ปิดไป พ่อย้ายที่เล่น ฉันก็ยังไม่เลิกมาเดอะมอลล์บางกะปิ ห้างนี้ก็เหมือน ห้างทั่วไปที่มีครบครัน(อีกแล้ว) ที่เด็ดคือ ข้างๆห้าง จะมีตลาดนัด ตะวันนา ที่ฉันชอบมาซื้อเสื้อผ้า ราคาค่อนข้างถูก (แต่ ไม่เท่าประตูน้ำ�) แต่แบบเสื้อผ้าก็ทันสมัยและน่าซื้อกว่า ไม่ต้องซื้อทีละ 3ตัว หรือเหมาโหลด้วย ฉันชอบใส่เสื้อผ้าตะวันนา ที่ตัวละ 100-150 มากกว่าเสื้อผ้าแพงๆ เพราะฉัน เบื่อง่าย ถ้าใช้ของแพงแปปเดียวแล้วไม่ ใส่อีก มันไม่คุ้ม ตะวันนามีทั้งเสื้อผ้าผู้หญิง ผู้ชาย ทุกแนว ตั้งแต่ ชุดไปเที่ยวน่ารักๆ ชุดอยู่บ้าน ชุดชั้น ใน เสื้อกันหนาว ชุดราตรี ชุดแฟนซี สูท กางเกงยีนส์ กระเป๋า รองเท้า ครบหมด ร้านทำ�ผม กับ ร้านเครื่องสำ�อางก็เยอะ แต่ก่อนตะวันนาจะคนเยอะ เดินเบียด เลือกซื้อของแทบไม่ ได้ แต่เดี๋ยวนี้ พอตลาดรถไฟย้ายที่มาเปิดที่ ศรีนครินทร์ คนก็แห่ ไป เดินที่นั่นกันหมด ตะวันนาเลยดูเงียบเหงา และร้างไปนิดๆ (แต่ฉันชอบ) ทุกๆปิดเทอม หรือ ทุกครั้ง ที่ ได้กลับกรุงเทพ ต้องรีบพุ่งไปตะวันนา หาเสื้อผ้าใหม่ๆไว้ ใส่เที่ยวปิดเทอม แล้วก็เดินเข้า เดอะมอลล์หาของกิน ดูหนัง เล่นเกม สบายใจ กลับบ้านก็สะดวก นั่งรถเมล์สายเดียวถึง เป็นห้าง ที่ฉันจัดเป็น favorite อีกห้างนึงเลย
เดอะมอลล์งามวงศ์วาน เดอะมอลล์งามวงศ์วาน ห้างดัง คนเยอะ ย่านที่เรียนพิเศษมากมาย ตอนม.ปลายฉันมาบ่อย ทั้งมาเดินเล่นก่อนเข้าเรียนพิเศษ ทั้งโดดเรียน มาเดินเล่น ด้วยความที่ห้างนี้มักจะมี แต่เด็กม.ปลายที่มาเดินช่วงเลิกเรียน เลยมีตู้เกมเยอะและหลากหลายกว่าที่อื่น ฉันชอบมาเล่น guitar hero หรือบางทีก็มาดูคนอื่นเต้น PIU คีบตุ๊กตาไม่เคยได้ แต่ก็ชอบมาคีบอยู่เรื่อยๆ แล้วก็เกมไร้สาระพวก ปาบอล ทุบตุ่น ตักปลา แล้วก็ยังมีเกม ที่ ไม่รู้จักอีกเยอะแยะเลย เป็นสวรรค์ของเด็กๆจริงๆ มาเดินแถวนี้เงินอาจจะหมดได้ ไว อย่างไม่รู้ตัว นอกจากเล่นเกม เวลามา เดอะมอลล์งามวงศ์วานฉันจะต้องเข้าร้าน หนังสือมือสองทุกครั้ง (ชั้นเดียวกันตู้เกม) หนังสือมือสองขายราคาลด 50% จากปก บางเล่มยังดูเหมือนมือหนึ่งอยู่เลย บางทีก็เจอหนังสือแปลกๆน่าสนใจ บางที โชคดี เจอเล่มที่กำ�ลังอยากได้ ก็ ได้มาในราคาครึ่งนึง (ชื่นใจ~) อีกร้านที่น่าสนใจคือ ร้าน แฟนฉัน เป็นร้านขายพวก ขนมและของเล่นโบราณ พวก ขนมไม้ ต้นคริสมาสต์กระดาษที่รดน้ำ�แล้วมีขุยๆขาวๆออกมา ตุ๊กตากระดาษ เกมเก่าๆ เหมาะสำ�หรับมาเดินรำ�ลึกความหลังมากๆ แต่ของราคาแพงไปนิด เลยชอบมาดู แต่ ไม่ค่อยซื้อ เวลาเดินเดอะมอลล์เสร็จ ข้ามฝั่งไป ระหว่างทางไปป้ายรถเมล์ จะมีร้านเบเกอรี่ ซื้อ Victory Bakery อร่อยมาก อร่อยทุกอย่าง แนะนำ�ไม่ถูกเลย ราคาก็ ไม่แพงเท่าไหร่ ฉันซื้อประจำ� (แต่เดี๋ยวนี้เริ่มขึ้นราคาแล้ว เลยห่างๆกันไป)
แฟชั่นไอส์แลนด์ แฟชั่นไอส์แลนด์ อีกห้างที่เดินมาตั้งแต่เด็ก ใกล้บ้านพอๆกับเซ็นทรัลรามอินทรา ห้างนี้ เป็น ห้างชานเมืองที่ ไม่ดังแรงเหมือนพวก พารากอน แต่ดันหรูหราอลังการมากๆ ห้องน้ำ�ที่นี่เป็น แบบ ปุ่มกด ฉีดน้ำ� เป่าลม เหมือนต่างประเทศ (พูดไปงั้นแหละไม่เคยไปต่างประเทศหรอก) เวลา หลง ทาง จะไม่มีแผนผังห้างใหญ่ๆให้ยืนอ่านเหมือนห้างธรรมดา แต่มีตู้ ให้กดว่า เราต้องการ หา ร้านไหน แบ่งให้เลือกตามหมวดหมู่ เช่น ร้านอาหาร ร้านเครื่องใช้ ไฟฟ้า เลือกเสร็จก็เลื่อนดูเอาว่า จะหาร้านไหน ฉันชอบมาดูเล่นเวลาคิดไม่ออกว่าจะกินอะไรดี หรือ ถ้าเจาะจงร้านแล้วแต่ ไม่รู้ว่า อยู่ตรงไหน พิมพ์ชื่อร้านเอาก็ ได้ เสร็จแล้วเครื่องจะบอกรายละเอียด อย่างดีเลยว่า จากจุดที่กด ต้องเดินไปประมาณกี่เมตร เจออะไรแล้วเลี้ยวขวา เลี้ยวซ้าย กี่เมตรๆ ลงบันไดเลื่อนอันไหนใกล้ที่สุด รายละเอียดครบครันมาก หาห้องน้ำ� หรือที่กด ATM จากตู้นี้ก็ ได้ สะดวกและดูไฮโซสุดๆ และข้างๆตู้นี้ จะมีที่รับรหัสไวไฟฟรีอยู่ แค่ ใช้บัตรประชาชนแบบ สมาร์ทการ์ด สอดบัตรเข้าไปเครื่องจะให้ user และ password ออกมา ใช้เล่นได้ อีกอย่างที่ชอบคือตู้ M&M เวลา เดินเล่น แล้วอยากกินขนม ก็ ไม่ต้องเข้าร้าน หยอดเหรียญ10บาท หยิบถุงแก้วมารอง แล้วรอรับ M&M ได้เลย มีตู้กด M&M แบบนี้กระจายอยู่ทั่วห้าง สะดวกสุดๆ
เซนทรัลลาดพร้าวกับยูเนี่ยนมอลล์เป็นห้างที่อยู่ตรงข้ามกัน เวลามา เลยมาเดินควบสองห้าง ทุกครั้ง ยูเนี่ยนมอลล์เป็นแหล่งชอปปิ้งเสื้อผ้าที่แอร์ เย็นกว่า แพงกว่า และเสื้อผ้าดูดีกว่าตะวันนา แต่เสื้อผ้าที่นี่จะเปลี่ยนไปตาม กระแส และมักจะดูเป็นชุดแบบคุณหนู น่ารักๆ ไม่เหมือนตะวันนาที่ มีแต่เสื้อ ยืด กางเกงยีนส์ เป็นส่วนมาก ต่อให้กระแสนิยมแบบไหน ทุกร้านก็ขาย ของ แบบเดิมๆ อีกอย่างเสื้อผ้าที่ยูเนี่ยนมอลล์มีแต่ ไซส์เล็กๆ หาที่ถูกใจและใส่เข้า ยากกว่าตะวันนามาก แต่ฉันชอบมาเดินดูเพราะเสื้อผ้ามันดูดีกว่ามาก จริงๆ ราคาเฉลี่ยของยูเนี่ยนมอลล์จะอยู่ที่ประมาณตัวละ 200 เวลามาเดินยูเนี่ยนมอลล์ ถึงจะไม่เสียเงินให้เสื้อผ้า เพราะใส่ ไม่เข้า แต่รองเท้านี่ ได้เงินฉันไปเต็มๆ รองเท้าที่ ยูเนี่ยนมอลล์เกือบทุกร้าน ถ้าเป็นแบบส้มเตี้ย หุ้มส้น จะราคา 250 บาทเท่ากันหมด และมีแต่แบบสวยๆให้เลือกเยอะแยะมาก คุณภาพก็ดีกว่าของที่ตะวันนาด้วย รองเท้าผ้าใบกับรองเท้า ส้นสูงก็มี ให้เลือกเยอะ แต่ก็แพงขึ้นไปอีก อีกอย่างคือ กระเป๋าแบบที่ฉันชอบ (แฮนด์เมด / กระเป๋าถัก / ลายลูกไม้) ก็มีขายอยู่เต็มไปหมด มาที ไรหมดเงินเป็นพันตลอดเลยห้างนี้ ส่วนเซนทรัลลาดพร้าวหรอ แค่ทางผ่านค่ะ ไม่ค่อยมีอะไรน่าสนใจ
เซ็นทรัล ลาดพร้าว + ยูเนี่ยน มอลล์
สยาม
พวกห้างที่ขึ้นชื่อว่า “สยาม” ฉันไม่ค่อยอยากไปเท่าไหร่ หนึ่ง คือ หลง สอง ของแพง แต่ปีนี้ฉันก็ต้องไปพารากอน 1 ครั้งเพราะไปงาน Comic Con ค่าเข้า 150บาท กับค่ารถหลายร้อย ยังไม่ช้ำ�ใจเท่า ในงานมี สินค้าการ์ตูนน่าซื้อเต็มไปหมด สุดท้ายฉันก็ซื้อ Funko pop เขี้ยวกุด สมุด โน๊ตลายวันพีซ โมเดลชอปเปอร์ พอออกจากงานพ้นเขตการ์ตูนมา ก็รู้ตัวว่า หิวมาก แต่หาของกินไม่ ได้เลย คน เยอะ แน่นไปหมดทุกร้าน เดินไปสยาม ดิสคัฟเวอรี่กับห้างอื่นใกล้ๆ ก็เต็มหมด ต้องทน หิวนั่ง BTSไปกินที่เซนทรัลลาดพร้าว ถ้าไม่จำ�เป็นฉันไม่อยากจะมาแถวนี้อีกเลย
สัปดาห์หนังสือ
งานสัปดาห์หนังสือ เป็นอีกงานที่ทำ�ให้เงินฉันหมดไปอย่างรวดเร็ว ถึงจะบ่นว่าเงินหมดเยอะ แต่ฉันก็ชอบมามากๆ มาทุกครั้ง ปีนี้มหาวิทยาลัย เลื่อนเปิดเทอมเพื่อเตรียมรับ AEC ตอนงานหนังสือรอบ ตุลา เลยเป็นช่วง ที่ฉันกำ�ลังสอบกลางภาคซะงั้น ฉันร้องไห้เลย (ร้องจริงๆนะ) เพราะอยากมา งานหนังสือมาก แต่ถึงไม่ ได้มา ฉันก็สั่งหนังสือออนไลน์ไปหลายพันบาทอยู่ ในงานสัปดาห์หนังสือปกติคนจะแน่นมากทุกรอบ และมีหนังสือน่าซื้อเต็ม ไปหมด ที่สำ�คัญคือพวก ชุดมาสคอตน่ารักๆ ฉันชอบแอบไปตบหัวหรือไม่ ก็เตะตูดจากข้างหลังเบาๆ แล้ววิ่งหนี สนุกดี
น้ำ�ตกนางแลใน
ฉันมาเที่ยวน้ำ�ตกของเชียงราย ครั้งแรกที่น้ำ�ตกนางแลใน เป็นน้ำ�ตกเล็กๆ ดูเหมือน ไม่ ใช่แหล่งท่องเที่ยว ยิ่งตอนที่ฉันไปกับเพื่อน เป็นวันวาเลนไทน์ ขี่มอเตอร์ไซค์ ซ้อนกันไป 5 คัน 10 คน ที่น้ำ�ตกนี้ ไม่มี ใครเลย เหมือนทุกอย่างเป็นของเรา แต่ทางขึ้นน้ำ�ตก ค่อนข้าง ลำ�บากแล้วก็น่ากลัวนิดหน่อย ระหว่างเดินฉันต้องขอเพื่อนจับมือตลอด เพราะกลัวลื่นตะไคร่ แถมโดนก้อนหินบาดเท้าด้วย น้ำ�ตกที่นี่ ไม่แรงมาก แทบจะเหมือนมาแช่น้ำ�ในลำ�ธารนิ่งๆกัน สภาพแวดล้อมแถวนั้นไม่ ได้สวยน่าเที่ยวเท่าไหร่ มันคือธรรมชาติแบบธรรมชาติจริงๆ ป่ารก ทางเดินขรุขระ หินเยอะ แต่น้ำ�ใสน่าเล่นมากๆ ฉันชอบแบบนี้นะ วันนั้นสนุกมาก มีความทรงจำ�สนุกๆเยอะแยะเลย แตงโมโดนพลักตกน้ำ�เพราะยึกยัก ทำ�ท่าเหมือนจะโดดแต่ ไม่ยอมโดดซะที จ๋อมแจ๋มโดนชวนเล่นดำ�น้ำ�แข่งกัน พอจ๋อมดำ�ลงไปปุ๊บ ทุกคนก็หนี ไปซ่อนหมด พอจ๋อมโผล่ขึ้นมา ไม่เจอใคร แทนที่จะตกใจหรือตามหา ดัน ดำ�ลงไป อีกรอบ แล้วโผล่ขึ้นมาใหม่ หาน้ำ�กินแบบชิวๆ พอถามกันก็ ได้คำ�ตอบว่า นึกว่าทะลุมิติมาอีกโลก เลยดำ�ลงไปอีกรอบ เผื่อว่าโผล่ขึ้นมา จะกลับมาที่ โลกเดิมแล้วเจอเพื่อนอีกครั้ง (คิดได้ ไงเนี่ย)
ภูเก็ต
ตอนปิดเทอมฉันนั่งเครืองบินมาเที่ยวภูเก็ตกับเพื่อน เพราะตั๋วลดราคา และเพื่อนมีญาติทำ�รีสอร์ทอยู่ เลยมีคน และรถพาเที่ยวได้ ไม่เสียเงิน ภูเก็ตเป็นเมืองที่สวย ดูตรงไหนก็ สวยไปหมด หาดนั่นหาดนี่มากมาย ไม่รู้กี่สิบหาด ทะเลน้ำ�ใส ท้องฟ้า โปร่ง สีฟ้า สวย บางหาดมีของขายเยอะ ฝรั่งเยอะ นัก ท่องเที่ยวเต็มไปหมด ก็น่าเที่ยว บางหาดเงียบสงบ เป็นส่วนตัว ไม่มี ใคร ไม่มีร้านค้า มีแค่น้ำ�กับทราย ก็น่าเที่ยวไปคนละแบบ
จุดที่ฉันชอบในทริปนี้คือ จุดชมวิว ที่มองจากมุมบน จะเห็นทะเลสามหาดพร้อมกัน ทะเลทั้งสามหาดสวยมากๆ ได้ดูคลื่นแต่ละหาดซัดเข้าฝั่ง ยืนหันหน้ารับลม มองดูผู้คน มอง ท้องฟ้า รู้สึกดีมากจนอยากอยู่ตรงนี้ นานๆเลย ฉันจำ�ไม่ ได้ว่าทั้งสามหาดนั้นชื่อหาดอะไรบ้าง แต่อยู่ ตำ�บล กะรน ถ้าใครได้แวะมาเที่ยวภูเก็ตอยากให้ทุกคนลองไปที่จุดชมวิว ฉันว่าอยู่ตรงนี้ เห็นทั่ว และมีความสุขกว่าเวลาลงไปเล่นน้ำ�ทะเลเยอะเลย อีกที่ยอดฮิตก็คือ แหลมพรหมเทพ ที่คนชอบ มาดูตะวันตกดินและถ่ายรูปกัน เสียดายวันที่ฉันไปมี ฝนตก เลยมี แต่เมฆ ไม่เห็นตะวัน และระหว่างทาง เดินก็เป็นดิน เนิน เดินลงไปที่แหลมลำ�บากนิดหน่อย แต่อยากให้ลองเดินลงไปดู คุ้มค่ามาก มันสวย บรร ยากาศดี ลมพัดเย็นๆ กับคลื่นทะเลที่ซัดเข้ามาเรื่อยๆดู โรแมนติกแบบบอกไม่ถูก มาที่นี่แล้วอยากมีแฟนเลยอ่ะ
ขากลับจากภูเก็ตเรานั่งรถตู้ ไปลงที่สุราษฎร์ธานี เพราะอยากนั่งรถไฟกัน มาถึงตั้งแต่ 5 โมงเย็น แต่ว่าอยากนั่งรถไฟรอบกลางคืน จะได้ถึงกรุงเทพตอนเช้า มีรถเมล์กลับบ้านสะดวกกว่า เรา ซื้อตั๋วรถไฟรอบประมาณ 4 หรือ 5 ทุ่มนี่แหละ เราเลยต้องเดินเล่น หาอะไรทำ�ระหว่างรอขึ้นรถ ก็ เลยเดินเล่นหาร้านอาหารกัน ตอนแรกเจอร้านนึงน่ารักน่าเข้ามาก แต่ปรากฏว่า เขียนว่า ถ้ามานั่ง แล้วไม่สั่งคิดคนละ100บาท แถมอาหารก็ราคาแพงยังกะอยู่ ในสนามบิน เลยเบะปากใส่ แล้วเดินออก โชคดีเพื่อนฉันเล่นแอป Foursqure เจอคนรีวิวว่ามีร้านกาแฟอีกร้านอยู่ ใกล้ๆ เลยลองเดินไปดูกัน ร้านนี้ชื่อร้าน One More Coffee เป็นร้านที่ฉันปลาบปลื้มมาก แทบจะประทับใจร้านนี้ที่สุด ในทริปเที่ยวภูเก็ต อาจจะเป็นเพราะผิดหวังมากจากร้านแรก พอเจอร้านนี้เลยเหมือนสวรรค์ ที่ร้านนี้เครื่องดื่มปั่นประมาณ60บาท แล้วก็มีพวกขนมเค้ก เฟรนฟรายซ์ สปาเก็ตตี้ ไวไฟ ฟรี เจ้าของร้านใจดีมากๆ เรามานั่งรอรถไฟ สั่งกันแค่คนละ 1แก้ว นั่งตั้งแต่6โมงเย็นยัน4ทุ่มก็ ไม่ว่า อะไร ยิ้มแย้มให้ตลอด แถมยังให้ชาร์ตแบตมือถือกันทุกคน และให้เข้าห้องน้ำ�ในร้านทุกคนด้วย จะได้ ไม่ต้องเข้าห้องน้ำ�บนรถไฟ ตอนช่วงใกล้ปิดร้านเจ้าของร้านก็มานั่งคุยด้วย แบบเป็นมิตรมากๆ เขาก็ ชวนคุยว่าไปเที่ยวไหนมาบ้าง ได้ ไปที่นั่นที่นี่รึยัง ดีจังเลยน้า ตอนพี่เรียน เรียนอย่างเดียวไม่ ได้ ไปเที่ยวไหนเลย แล้วก็นั่งคุยกันเยอะแยะ ตอนที่มากินร้านนี้ พวกเราไม่ค่อยมีเงินเลยสั่งแค่คน ละแก้ว แต่พอเจอความน่ารักของเจ้าของร้านและพนักงานเข้าไป ทำ�ให้ฉันรู้สึกอยากกลับมากินอีกครั้งมากๆ ยิ่งตอนไปเข้าห้องน้ำ� ระหว่างทางเดินเห็นตู้เค้ก เค้กไอติมโรลน่ากินมากๆ ไม่แพงด้วย นะแค่ฉันไม่มีเงินเอง ใครที่ ได้มาสุราษฎร์ธานีแถวๆสถานีรถไฟ พุนพิน อยากให้แวะมากินนะ recommend มากค่ะ
สุราษฎร์ธานี
วัดหลวงพ่อปากแดง วัดหลวงพ่อปากแดง จังหวัดนครนายก ขึ้นชื่อเรื่องความศักดิ์สิทธิ์ เลยมักจะมีคนมาขอหวย และมาทำ�บุญกันเยอะมาก ฉันได้ ไปทำ�บุญ มาหนึ่งครั้ง ตอนปิดเทอม บรรยากาศการทำ�บุญก็เหมือนวัดปกติ ในวัดมีตลาดที่ดูออกโบราณๆนิดๆ ขายสินค้าแบบชาเย็นที่ ใส่แก้วดินเผา กระปุกออมสินไม้ ไผ่ และมีตลาดอยู่ ใกล้ๆ ที่เรียกกันว่า โรงเกลือ2 เพราะมีสินค้าแบรนด์เนม(ก็อป) ราคาถูกมาขายมากมาย แม่ๆป้าๆ สนุกกับการชอปใหญ่ ส่วนฉันไม่ ใช่คนชอบใช้ของแบรนด์ตั้งแต่แรกแล้ว เลยออกจะเบื่อๆนิดๆ มาทำ�บุญที่วัดนี้ ฉันเสี่ยงเซียมซี ได้ดวงค่อนข้างดี แต่ความจริงก็ ไม่มีอะไรดี ไม่มีอะไรแย่ ชีวิตปกติสุดๆ (หรือว่านี่คือดีแล้ว?) และซื้อกระปุกออมสินไม้ ไผ่มาอันนึง แค่20บาทเอง แต่ ไม่รู้ว่าถ้าเงินเต็มแล้วจะแคะยังไง? หรือว่าต้องทำ�ลายกระปุก งั้นฉันไม่หยอดละกัน
น้ำ�ตกสาริกา
จังหวัดนครนายกมีน้ำ�ตกสวยๆ น้ำ�ใสๆ และเป็น แหล่งท่องเที่ยวเยอะมาก ติดๆกันไปหมด ฉันได้ ไปเล่นน้ำ� ตกกันที่ น้ำ�ตกสาริกา เราเข้าตรงฝั่งที่ ไม่ ใช่ทางเข้าหลัก เลยมีคนน้อย และไม่เสียเงิน น้ำ�ที่นี่ ใส สะอาด น้ำ�ตก ใหญ่และอลังการกว่าของเชียงรายหลายเท่าเลย ฉันชอบ ที่นี่มากๆ แต่เพราะมันใหญ่เลยแอบน่ากลัวไปหน่อย ฉัน ว่ายน้ำ�ไม่เป็นด้วย เลยได้เล่นอยู่แค่ ใกล้ๆ
ไร่ชา ฉุยฟง ไร่ชาฉุยฟงเป็นอีกสถานที่ฮอตที่คนมาเที่ยวเชียงรายชอบแวะมากัน บรรยากาศข้างใน เหมาะกับการถ่ายละครมากๆ เป็นเนินเขาที่เต็มไปด้วยต้นชาเรียงเป็นแถวๆ หลายๆเนินเต็มไปหมด ต่อให้เป็นคนไม่ชอบกินชามาเห็นก็ยังชอบ อยากลองไปเดินเก็บชาดูบ้าง นอกจากต้นชาแล้วยังมีร้านของที่ระลึก ที่มี ใบชาประเภทต่างๆ สินค้าของทางไร่ชาเอง วางขายให้คนรักชามาซื้อไปกิน หรือ ซื้อเป็นของฝาก แล้วก็มีร้านขนม ที่มีจุดเด่นคือเป็นรสชาจาก ไร่ชา เช่น หมั่นโถวชาเขียว เครปเค้กชาเขียว เค้กชาเขียว ฮันนี่ โทสชาเขียว ไอติมชาเขียว นมชา เขียวปั่น อะไรๆก็ดูน่ากินไปหมด แต่พอเห็นราคาแล้วฉันก็ยอมแพ้ ฉันว่ามันแพงเกินไปหน่อย อาจ จะพอขายได้ สำ�หรับนักท่องเที่ยวที่นานๆมาที คงจะคิดแบบ เอาวะ ลองชิมดูสักครั้ง แต่ราคานี้ ขายไม่ ได้สำ�หรับคน(จน)อย่างฉัน เลยได้แต่มองตาปริบๆ ดูคนอื่นกินท่าทางจะอร่อย ถึงไร่ชานี้จะเหมาะกับการมาท่องเที่ยว ชมบรรยากาศธรรมชาติ ถ่ายรูปเล่น แต่วันที่มา ที่นี่ เป็นวันที่ฉันมาออกกองถ่ายหนังกับเพื่อน เพื่อทำ�โปรเจควิชา Film and Video Production เลยมัวแต่ยุ่งๆอยู่กับโปรเจค จนไม่ ได้ถ่ายรูปเล่นกันเลย แต่ ไม่เป็นไร ไร่ชานี้อยู่ ไม่ ใกล้ ไม่ ไกลจากม. เท่าไหร่ ถ้ามีเวลาว่างคงได้มาอีก (อยากลองชิมเครปเค้กชาเขียวสักครั้งจัง)
เกษตรแฟร์ เกษตรแฟร์ ถ้าฟังจากชื่อฉันนึกว่าจะมีต้นไม้ และ เกษตรกร มาเดินในงาน เยอะๆ แต่จริงๆแล้วเป็นงานเทศกาลคล้ายๆงานวัด มี ตลาดและของกินเยอะแยะมาก เลือกกินแทบไม่ถูก มีอาหารแทบจะ ทุกอย่างที่พอจะนึกออก งานก็ ใหญ่ โตอลังการ จนเดินได้ ไม่ครบ แต่ถ้า เดินจนครบ จะค้นพบว่าร้านมันซ้ำ�ๆกัน โดยเฉพาะร้านมะขามเนี่ย เยอะ มากจนฉันจะเรียกว่ามะขามแฟร์เลย พ่อค้าแม่ค้าแต่ละร้านก็จะพยายาม แย่งกันยื่นมะขามมาให้ชิมฟรี ฉันไม่กล้ารับมากินเท่าไหร่ เพราะกลัว เผลอหลวมตัวซื้อจนเงินหมด แต่พวกร้านแคปหมูฟรี ฉันชอบรับจากทุก ร้าน ร้านละชิ้น เดินครบ1รอบ อิ่มพอดี อีกอย่างคืองานนี้มีบรรยากาศ คล้ายงานวัด มีชิงช้า สวรรค์ ม้าหมุน ปาโป่ง ทาสี ปูนปลาสเตอร์ บิงโก ยิงปืน สอยดาว ตักปลา เยอะแยะ ไปหมด ฉันชอบไปปาโป่งที่สุด บางทีปาไปจะ200บาทยังไม่ ได้ ตุ๊กตาสักตัว แต่ถ้าได้ ไปงานนี้ เมื่อไหร่ ก็ต้องไปปาโป่งตลอด เหมือนเป็นพิธีเปิดก่อนเริ่มเดิน
บุฟเฟ่ต์เค้ก บุฟเฟ่ต์เค้ก ฟังดูเหมือนจะเป็นสวรรค์ กับร้านเค้กที่เรา สามารถกินเท่าไหร่ก็ ได้ ภายในเวลา1ชั่วโมงครึ่ง แต่จาก ราคาแล้วต้องกินประมาณ5ชิ้นถึงจะคุ้ม ร้านSweety Secret ที่ฉันไปกินนี้ มีเค้กและขนมหวานต่างๆให้เลือก มากกว่า 20อย่าง ก่อนเข้าร้านทุกคนจะมีจุดมุ่งหมาย เดียวกันว่า จะฟาดให้เรียบบ จะกินให้หมดทุกอย่างเลย แต่พอเอาเข้าจริงๆ แค่2ชิ้นก็เริ่มเบื่อแล้วค่ะ ฉันคิดว่า ร่างกายมนุษย์ไม่ ได้ถูกสร้างมาเพื่อกินเค้ก กินเยอะ เกินไป มันจะเลี่ยน ถึงเค้กจะน่ารักน่ากินแค่ ไหน ยังไง 3ชิ้น ก็เลี่ยนค่ะ แถมร้านยังอยู่ ไกลจนเสียค่า เดินทางเป็นร้อย กว่าจะได้กิน ครั้งล่าสุดที่ ไปกิน รอคิว เกือบ3ชั่วโมง แถมเครปเค้กหมดอีก ฉันยิ่งรู้สึกไม่คุ้มเข้า ไปใหญ่ เลยขอบายเลยค่ะบุฟเฟ่ต์เค้ก ทุกร้านเลย (แต่ถ้ามีคนเลี้ยง ก็กินนะ) บายเฉพาะที่ต้องจ่ายเอง
Nothing stays the same
ไม่มีอะไรจะคงอยู่เหมือนเดิมได้ตลอดกาล 1ปี ฉันได้อะไรหลายอย่าง สูญเสียอะไรบางอย่าง ผู้คนและสิ่งต่างๆรอบตัว ก็ล้วนมีการเปลี่ยนแปลง >>>
สิ่งที่เข้ามา ฉันกลายเป็นสาวแว่นไปแล้ว หลังจากใช้ชีวิตแบบไม่เคยวัด สายตามานาน พอลองไปวัดดูเลยรู้ว่า สายตาเอียง แต่เอียงน้อยนะ น้อยมากจนแทบไม่ต้องใส่แว่น แต่ที่ร้านเขาบอกให้ ใส่ จะได้ ไม่เอียง มากเพิ่มไปอีก ฉันตัดแว่นมา 1500 บาท ใส่อยู่ช่วงแรกๆ พอหลังๆ ก็ ใส่เฉพาะเวลาเล่นคอมหรืออ่านหนังสือนานๆ สักพัก ก็เริ่มไปวาง แว่นทิ้งไว้ ไหนก็ ไม่รู้ แล้วก็ ไม่ค่อยได้ ใส่อีกเลย มันไม่ชินอ่ะ แถมฉัน ก็ยังมองเห็นทุกอย่างชัดเจนปกติด้วย เลยไม่รู้จะใส่ทำ�ไม
แว่นสายตา
แมวหลงทาง ที่บ้านฉันมีแมวหลงทางมา ตอนแรกไม่ ได้อยากจะเลี้ยงแต่มันไม่ยอมไป ไหนเลย ชอบมานอนร้องอยู่หน้าบ้าน(เสียงร้องมันประหลาดมาก ไม่เหมือนคำ�ว่า เมี้ยว น่ารักๆ แต่ร้องว่า แอ๋ว แอ๋ว เสียงใหญ่ๆ เหมือนกระเทยพูด) พอทนเสียง ร้องไม่ ไหว เลยให้อาหารมันไป และตั้งชื่อมันว่า ไอ้แอ๋ว จากนั้นมันก็อยู่ที่นี่ตลอด แถมยังชอบ ฆ่าจิ้งเหลน ฆ่างู ขาดเป็นสองท่อน แล้วเอามาวางโชว์หน้าบ้านด้วย เก่งจ้าแอ๋วเก่ง แต่ฉันขยะแขยงอ่ะ แกช่วยอยู่เฉยๆน่ารักๆได้ ไหม
รุ้งดาวเป็นกำ�ไลที่อยู่ติดตัวฉันตลอดเวลา เพราะฉัน เคยถอดแล้วเกือบทำ�หาย ตอนนั้นหาอยู่หลายวันมาก จนร้องไห้ สุดท้ายมีเพื่อนเจอติดไปกับกระเป๋าเพื่อน ตั้งแต่ ได้คืนมาฉันก็ ไม่ ถอดอีกเลย ใส่ทั้งตอนอาบน้ำ� ตอนนอน และทุกเวลา เส้นเอ็น ด้านในมันเลยเปื่อยและขาดถึงสองครั้ง ฉันต้องไล่เก็บลูกปัดให้ ครบ แล้วไปซื้อเอ็นยืดมาร้อยใหม่ และดูแลอย่างดี ที่มาของรุ้งดาว ตอนแรกฉันแค่เห็นมันน่ารักดี เลย อ้อนรุ่นพี่เล่นๆ ว่าซื้อให้หน่อย (จริงๆฉันไม่ ใส่เครื่องประดับ) แล้วพี่เขาก็ซื้อให้จริงๆ เลยดี ใจมาก และรักมากๆเลย
รุ้งดาว
สร้อยคอทองคำ� ปีนี้ฉันได้ทองเพิ่มมาหนึ่งเส้น จากเงินตอนรับเกียรติบัตร เรียนดีนั่นแหละ ฉันไม่รู้จะเอาไปทำ�อะไร ถ้าเก็บไว้เป็นเงิน ต้องใช้ หมด แน่ๆ เพราะฉันเป็นคนที่มีเยอะก็ ใช้เยอะ แต่มีน้อยก็ ใช้พอ ฉัน เลย พยายามรีบใช้เงินให้หมดๆไปก่อน จะได้ ไม่ฟุ่มเฟือย ฉันซื้อทอง ได้ 1 บาท เป็นสร้อยทองเล็กๆ ซื้อเก็บไว้เผื่อในอนาคต ไม่มีเงินใช้ ยัง มีทองอยู่ ตอนนี้อาจจะมีน้อยแต่หวังว่าในอนาคต ฉันจะมีเงิน และ ทอง เก็บมากขึ้นเรื่อยๆ อีกนะ
เงิน เก็บ
ปีน้ีฉันลองเก็บเงินตามวิธีแปลกๆดู คือ เก็บแบงค์ห้าสิบ เวลาได้ทอน จากแม่ค้า ตอนแรกคิดว่า นานๆได้ที คงไม่มีอะไรมาก พอได้มา ก็เอามาหยอด ไว้ ในกระปุก และอีกอย่างคือ หยอดเศษเหรียญที่ ใช้เหลือในแต่ละวัน เพิ่งเริ่ม ทำ�ได้ 2เดือน ก่อนสิ้นปี ณ วันที่ 22 ธันวาคม 2557 เวลา 01.11 ฉันลองแกะ มานับดู มีเงินเยอะอย่างไม่น่าเชื่อ ทั้งเหรียญและแบงค์ รวมกันแล้ว 1860.75 บาท เป็นครั้งแรกที่ฉันเก็บเงินได้ และคิดว่าจะเก็บวิธีนี้ต่อไป (สนุกดี ได้ลุ้นว่า วันไหนจะได้เงินทอนเป็นแบงค์ห้าสิบบ้าง) สิ่งสำ�คัญคือต้องมีวินัยและห้ามใช้ เด็ดขาด ต่อให้เหลือแค่แบงค์ห้าสิบใบเดียวในกระเป๋า ก็ต้องเก็บ อดทนทำ�ไป เรื่อยๆ ผลลัพธ์ที่ ได้ก็คุ้มค่า
ฉันเข้าเซเว่นบ่อยๆ เลยลองสะสมแสตมป์ดู ช่วงที่ขนม อันไหนได้แสตมป์เยอะ ก็เปลี่ยนมากินขนมนั้น ซื้อขนมที่ ได้แสตมป์ ไปให้น้องรหัส สะสมแสตมป์เล่นๆ เพราะอยากได้ชุดกล่องนั่ง เล่น ตอนแรกก็ ไม่รู้จะเอามาทำ�ไม แต่พอสะสมได้ก็ดี ใจ มันทำ� ให้ฉันรู้สึกว่าฉันเป็นคนที่มีความพยายามมาก(ในเรื่องไร้ สาระเนี่ย) แต่พอคิดอีกทีนึง กว่าจะได้แสตมป์ครบ 699 บาท นี่ฉันเสียเงินให้เซเว่นไปเท่าไหร่เนี่ย? คุ้มไหม? แถมแลกมาวันแรกฉันก็นั่งทับแล้วกล่องหักเลย สงสัย ต้องรีบลดน้ำ�หนักซะแล้ว แง
ชุดกล่องเซเว่น
สัญลักษณ์ประจำ�สาขาวิชา สัญลักษณ์ประจำ�สาขาวิชา ที่รุ่นพี่ทำ�ให้ฉันใส่ตอนปี 1 เคยถูกยึด ไปด้วยเหตุผลหลายๆอย่าง ตอนช่วงที่สัญลักษณ์ถูกยึดไป ฉันเคยฝันว่าได้ คืนสองครั้ง แล้วสุดท้าย เราก็ ได้คืนมาจริงๆ ขอบคุณเพื่อนๆทุกคนที่ร่วม มือกันไปขอคืนมา ขอบคุณรุ่นพี่ด้วยค่ะ สำ�หรับฉันมันสำ�คัญมาก และดี ใจ มาก ที่ ได้มันมา ตอนนี้ถึงจะไม่ ได้ ใส่มันแล้วแต่ ฉันแขวนทุกชิ้นไว้บนหัวนอน จะได้เห็นทุกวัน และจะไม่ปล่อยให้หายไปไหนอีกแล้ว สัญลักษณ์ประจำ�สาขาวิชาของฉันมีทั้งหมดสามชิ้น มาในธีมชนเผ่า อินเดียแดง ตอนช่วงปี 1 ใส่เดินไปที่ ไหน ก็มีแต่คนทัก เพราะมันโดดเด่นที่สุด สวยที่สุด สาขาอื่นมีแต่คนอยากได้ ถึงตอนใส่แรกๆจะเขินๆไปบ้าง แต่ตอนนี้ฉันอยากใส่มันมากๆเลย แต่เขาไม่ ให้ ใส่แล้วอ่ะ สัญลักษณ์แต่ละชิ้นมีความหมายของมันเอง เท่าที่ฉันจำ�ได้ กำ�ไลข้อมือขนนก เป็นของที่รุ่นพี่ปีสี่ทำ�ให้ ตัวผ้าสีน้ำ�ตาลเป็นสีประจำ� สาขาวิชา ขนนกสีส้มหลายๆอันหมายถึงพวกเราที่มาอยู่รวมตัวกัน กระดิ่งเป็นเหมือนรุ่นพี่ที่จะคอยดูแลให้ความช่วยเหลือเรา เวลาที่เรา ต้องการ แค่ส่งเสียงเรียกพี่ (ตรงนี้ฉันแอบรู้สึกเหมือนเป็นหมาที่สั่น กระดิ่งปลอกคอยังไงไม่รู้ ฮ่าๆ) และกระดุมไม้ตรงกลาง ถ้าจำ�ไม่ผิด น่า จะ หมายถึง มหาวิทยาลัย (เป็นที่ที่รวบรวมเราทุกคนให้อยู่ด้วยกัน)
ผ้าคาดหัวเป็นสัญลักษณ์ที่พี่ปีสามทำ�ให้ ตัวผ้าเป็นสีน้ำ�ตาล สีน้ำ�ตาล มาจากดิน หมายถึงแผ่นดินที่เราอาศัยอยู่ ก็คือ ดินของ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้า หลวง เขียนคำ�ว่า MTA เป็นชื่อย่อของ สาขา และขนนกหลากสี หมายถึงเรา ต่างคนต่างมีความสามารถ แตกต่างกันไป และมาอยู่รวมกันที่แผ่นดินเดียวกัน ดรีมแคชเชอร์ หรือ เครื่องลางดักฝันร้าย อันนี้ฉันชอบที่สุด เป็นสัญลักษณ์ที่พี่ปี 2 ทำ�ให้ ความหมายก็คือดักฝันร้ายและเลือกนำ�แต่ สิ่งดีๆเข้ามา ลูกปัดหลากสีหมายถึง เราต่างคน ต่างที่มา มารวมตัวกัน และมีขนนกฟรุ้งฟริ้ง สีส้ม และ สีเหลือง ซึ่งเป็นสีสาขาด้วย สีส้ม หมายถึง ความคิดสร้างสรรค์ ในการทำ�งาน สีเหลือง หมายถึง ความอบอุ่นและพลังงาน สัญลักษณ์ทุกชิ้นของสาขาฉันเป็นงานแฮนด์เมด ทำ�ให้รู้สึกได้ถึงความปราณีต และตั้งใจที่จะทำ�ให้ ของรุ่นพี่และซาบซึ้งมากเป็นพิเศษ ความหมายของแต่ละชิ้นก็ฟังดูดี ไปหมด ถึงความหมายเต็มๆจะยาวจนเกือบจำ�ไม่ ได้ แต่สำ�หรับฉัน ความหมายจริงๆ แล้วที่เราใส่สัญลักษณ์แบบเดียวกันหมดก็คือ มันจะช่วยบ่งบอกให้ทุกคนรู้ ว่าเราเป็นกลุ่มก้อนเดียวกัน บอกให้ทุกคนรู้ว่า “เรามาจากสาขาอะไร” ขอบคุณนะ สัญลักษณ์ทุกอัน ขอบคุณที่กลับมาอยู่กับฉันอีกครั้ง
มัลติฯ รุ่นที่ 9 กิจกรรมสุดท้ายก่อนจบปี1 ของฉัน เป็นค่ายแต้มสีเติมศิลป์ฯ เป็นค่ายสนุกๆ ที่ วัน สุดท้าย รุ่นพี่จะเอาสีมาทาตัวน้อง และ เรา ก็ ได้เป็น มัลติฯ รุ่นที่ 9 อย่างเต็มตัว ก็เลยได้ ของรักของหวงมาอีกอย่าง เป็นเสื้อเปื้อนสี ที่หาที่ ไหนในโลกนี้ ไม่ ได้อีกแล้ว สัญลักษณ์ของรุ่นที่9 เป็นนกฟินิกซ์ (จริงๆก็นกฟินิกซ์ทุกรุ่น) แต่ละรุ่นจะมีท่า และ เอกลักษณ์ไม่เหมือนกัน ของเราก็เป็นอันนี้ เด่นตรงไหน ก็ ไม่รู้เหมือนกันนะ ตรงที่กรอบ เป็น รูปสามเหลี่ยมมั้ง (ส่วนตัวนก ฉันสารภาพว่า แอบๆดูไม่ออกอ่ะ) พอได้เป็นรุ่นอย่างสมบูรณ์แบบ สิ่งที่ ได้ตามมาก็คือเสื้อโค้ทสาขา เป็นเสื้ออีกตัวที่ ภาคภูมิใจ เพราะกว่าจะได้มาไม่ ใช่ง่ายๆ แต่พอได้มา ฉันก็กลายเป็นคนวิตกจริตทันที เวลา ใส่แล้ว กังวลไปหมด กลัวเดินสวนใครแล้วไม่ ไหว้ จะมีคนมาว่าเด็กมัลติฯไม่มีมารยาท กลัว เผลอทำ�อะไรผิด แล้วจะมีคนมาว่าเด็กมัลติฯ คือมันมีชื่อและสัญลักษณ์ สาขาอยู่กลางหลัง จะทำ�อะไรต้องระมัดระวังตัวเป็นสองเท่า แต่เวลาทำ�อะไรดีๆ ก็จะภูมิใจสุดๆ
ของขวัญที่ได้รับ อายุ 19แล้ว
วันที่ 27 เมษายน 2557 ฉัน อายุครบ 19ปี บริบูรณ์ อายุ19 ฟัง แล้ว รู้สึกเหมือนฉันกำ�ลังจะเริ่มเข้าสู่วัยแก่ ยังไงก็ ไม่รู้ จริงๆฉันชอบตอนพูด ว่า “หนูอายุ 18” มากกว่า มันฟังดูเซ็กซี่ดี พอเริ่มเข้าอายุ 19 ก็รู้สึกว่า เรา ต้อง จริงจังกับอนาคตมากขึ้น ต้องเตรียมตัวเป็นผู้ ใหญ่ ต้องวางแผนชีวิต ฯลฯ คิดอย่างงี้ ได้แค่วันเดียวนั่นแหละ วันต่อไปก็นั่งคุยกับตุ๊กตาเหมือนเดิม
ของขวัญวันเกิดจากพ่อเป็นเค้ก และ พาไปเลี้ยง บาบีคิว พลาซ่า จริงๆปีนี้แอบงอน นะ เพราะปกติพ่อจะให้เงินประมาณ 3-5พัน ตอนวันเกิด ไม่รู้ว่าพ่อลืม หรือว่า ไม่อยาก ให้แล้ว ฉันก็ ไม่ ได้ถามอะไร หรือพ่องอนที่ฉัน เลือกเค้กชอคโกแลต(พ่อไม่ชอบชอคโกแลต) ก็ เลยไม่ ให้เงินก็ ไม่รู้ แต่ยังไงก็ขอบคุณสำ�หรับ เค้กและบาบีคิวพลาซ่านะคะ อร่อยมาก (อ้วนด้วย)
เค้กจากพ่อ
ของขวัญจากแม่ ไม่มีอะไรมาก แม่ ให้ เงินฉันมา 1000บาท ให้ ไปเลือกซื้อของเอาเอง แน่นอนว่าฉันใช้เงินหมดอย่างรวดเร็วแถมยัง ใช้เกิน 1000อีก จริงๆฉันชอบนะที่ ได้ของขวัญ เป็นเงินแบบนี้ จะได้ ได้ของที่ถูกใจแน่นอน แต่ มันก็ ไม่ค่อยตื่นเต้นเลยอ่ะ (ถ้าให้หลายๆพันจะ ตื่นเต้นกว่านี้นะ) แต่ยังไงก็ขอบคุณแม่มากๆนะ คะ คลอดมา เลี้ยงมา แล้ววันเกิดฉัน ยังต้อง มาให้เงินฉันอีก ฮ่าๆๆ
เงินจากแม่
เจ้าหญิงหอยทากเป็นของขวัญวัน เกิด จากเพื่อนตอนม.ปลาย ชื่อพริวพริว(จริงๆ ชื่อพิว) ตัวนี้พิวพาฉันไปเลือกเอง เพราะฉันขอ ไว้ ว่าฉันอยากมีตุ๊กตาหมีที่อลังการ แบบคน อื่นเขาบ้าง ปกติมีแต่ หมีขนเยอะๆ ตัวอ้วนๆ พิวเลยพาไปซื้อหมีอลังการตามคำ�ขอ (ขอบ คุณนะ) ตอนแรกฉันอยากซื้อเสื้อผ้าเพิ่มมานั่ง เล่นแต่งตัวกับตุ๊กตา แต่เพราะความที่เป็นหมี อลังการ เสื้อผ้าเลยราคาอลังการตามไปด้วย ชุดนึงเกือบ 500 แพงกว่าชุดฉันอีก เลยไม่เคย เปลี่ยนชุดให้เจ้าหญิงหอยทากเลย (ที่มาของ ชื่อคือ มันดูอลังการเหมือนเจ้าหญิงและผ้าเป็น ผ้าขนกุหลาบลายม้วนๆเหมือนหอย) ใครได้ยิน ชื่อก็บอกว่าฉันตั้งชื่อได้ประหลาดมาก
เจ้าหญิง หอยทาก
เจ้าหญิงออโรร่าจากเรื่องเจ้าหญิง นิทรา เป็นของขวัญวันเกิดจากมุก (เพื่อนที่ ม.ฟ.ล) ฉันคิดว่ามุกคงเห็นว่าฉันสวยเหมือน เจ้าหญิงนิทราเลยซื้อตัวนี้มาให้ (ถุย) จริงๆ แล้วในบรรดาเจ้าหญิงดิสนีย์ฉันชอบเบลล์ที่สุด นะ แต่ถ้าเป็นตุ๊กตา จะเป็นตัวอะไรก็ ได้ แค่ นุ่มก็ชอบหมดแหละ ตัวนี้ฉันไม่ ได้ตั้งชื่อเพราะ หน้ามันก็บอกอยู่แล้ว ว่ามันคือเจ้าหญิงออโร ร่า เป็นตุ๊กตากึ่งหมอน ท่าทางจะราคาแพงอ ยู่ (ขอบคุณมากนะ) มันดูดีจนฉันแอบไม่กล้า เล่น เก็บไว้ ในตู้ โชว์แทน เพราะฉันกลัวจะทำ� ดำ� หรือทำ�ขาด เนื่องจากฉันเป็นคนเล่นตุ๊กตา รุนแรง
ออโรร่า
ดุ๊งดิ๊งกับไทเกอร์
ดุ๊งดิ๊ง หรือ ตุ๊กตาแมว pusheen สุดน่ารักที่เป็นสติ๊กเกอร์ ในแชทเฟซบุ๊ค เป็น ของขวัญจากแตงโม (เพื่อน ม.ฟ.ล) แตงโม คงเห็นฉันชอบส่งไอ้แมวนี่ ในแชทให้บ่อยๆ เลย ซื้อมาให้ ฉันขอบคุณมากๆนะ อันนี้น่ารักมาก จริงๆ ใครๆก็ชอบ ตอนที่ ไปรษณีย์ส่งมาที่บ้าน เปิดมา มีแต่คนบอกว่า ขอได้ ไหมๆ (ใครจะให้ ยะ?) อันนี้ตลกตรงที่เขาพยายามจะผลิตให้ ออกมาเหมือนในภาพมั้ง แล้วภาพมันเป็นแบบ แบนๆ มองเห็นแค่3ขา บริษัทตุ๊กตาก็เล่นทำ� ออกมาเป็นตุ๊กตาแมวสามขาเลย กลายเป็นตุ๊ก ตาแมวพิการซะงั้น ชื่อดุ๊งดิ๊งเป็นชื่อที่ตั้งจาก ความรู้สึกล้วนๆ คือเห็นแล้วมันรู้สึกได้ถึงคำ�ว่า ดุ๊งดิ๊งอ่ะ ไม่รู้เหมือนกันแปลว่าอะไร
ไทเกอร์ เป็นตุ๊กตาเม่น ของขวัญจาก พี่รหัสฉัน(พี่ชื่ออาฟที่ย่อมาจากอาฟเตอร์) ฉัน ก็ ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำ�ไมต้องเป็นเม่น แต่ มันก็เป็นเม่นที่ตัวกลม น่ารักมาก หนามไม่ แหลมด้วย ยังไงก็ขอขอบคุณท่านพี่รหัสมา ณ ที่นี้เลยนะคะ ที่อุตส่าห์ซื้อตุ๊กตามาให้น้อง >< ด้วยความตัวกลมของมันทำ�ให้มันกอดยากนิด หน่อย และตกเตียงง่ายมาก ฉันชอบเอาไว้ โยน เล่นแทนลูกบอล มากกว่า นอนกอด แต่ฉัน ก็ รักมันเหมือนตุ๊กตาตัวอื่นๆนะ ที่มาของชื่อไทเก อร์นี้คือ จักรยานของพี่รหัสฉันเป็นยี่ห้อ (หรือ ชื่อรุ่นนี่แหละ) ไทเกอร์ เห็นคนเขาชอบเรียก กัน ว่า อาฟเตอร์ไทเกอร์เขียว เลยเอามาตั้ง เป็นชื่อตุ๊กตาซะเลย
การ์ ตูนจากเบียร์ หรือ จุดพร่อง อันนี้เป็นแรร์ไอเท็มมาก ฉันชอบเวลาได้ ของขวัญเป็นรูปวาดหรือของที่ทำ�เองเพื่อฉันเท่านั้น มากกว่าสิ่งของนะ อันนี้เลยเป็น ของขวัญที่ปลาบปลื้มมากเลยตอนที่เบียร์เอามาโพสให้ ไม่รู้จะขอบคุณยังไงเลยอ่ะ
อ่านๆแล้วก็รู้สึกว่าเบียร์รู้จักฉันดีมากๆ ยังอุตส่าห์รู้อีกนะว่า ฉันชอบงอนแต่ ไม่ แสดงออก แล้วทำ�ไม คำ�ว่า เรียนเก่ง เหี้ยๆ คำ�ว่าเหี้ยมันเด่นจังเลย แอบคิดอะไรรึเปล่าเนี่ย ยังไงก็ขอบคุณมากนะ โอ๊ย ชอบ ชอบมาก ไม่รู้จะขอบคุณยังไงแล้ว
ไวท์เทนนิ่งจากใหม่ ไวท์เทนนิ่งยี่ห้อ No.7 ของร้านบูทส์ จากใหม่(เพื่อนม.ปลาย) ตอนนั้นเราไปเดินห้างด้วยกันและฉันอยากได้อันนี้อยู่พอดีแต่เสีย ดายเงิน ช่วงที่กำ�ลังยืนลังเลว่าจะซื้อดี ไหม ใหม่เลยบอกว่า จะซื้อให้ ฉัน เพราะว่ายังไม่ ได้หาของขวัญไว้ ให้ฉันเลยด้วย ตอนนั้นกึ่งดี ใจกึ่ง เกรงใจ เพราะว่ามันตั้ง 600บาท แต่สุดท้ายก็เอามา.... ขอบคุณมากๆ เลยนะใหม่ และขอโทษด้วยนะใหม่ ฉันทาแล้วไม่ขาวขึ้นเลยอ่ะ ลิปมัน จาก จ๋อมแจ๋ม(เพื่อนม.ฟ.ล) จ๋อมรู้ว่าฉันชอบซื้อพวก ลิปมัน ลิปสติก มาก เลยซื้อมาให้ฉัน เพิ่มไว้ ในกรุอีกหนึ่งอัน ขอบคุณมากเลยจ๋อม ตั้งแต่ ได้มา จนถึงปลายปี ฉันยังไม่ ได้แกะห่อใช้เลย เพราะตอนนี้ฉันมีภาระ ลิปสติก 7 แท่ง ที่ต้องใช้ ให้หมดก่อน (นี่ฉันมีกี่ปากเนี่ย ซื้อมาทำ�ไมเยอะแยะ) ถึงจะยังไม่ ได้ลองใช้แต่ฉันก็ดี ใจนะ เวลาได้ของขวัญอะไรฉันก็ดี ใจหมดแหละ ยิ่งเป็นของที่ชอบยิ่งดี ใจ มันไม่ ใช่ดี ใจที่ ได้ของ แต่ดี ใจที่ ได้รู้ว่าเพื่อนรู้ ใจเรา ส่วนลิปมันอันนี้ ใช้ดีหรือไม่ดียังไง ไว้รอได้เปิดใช้เมื่อไหร่ฉันจะมาบอก อีกทีละกันนะ ตอนนี้ขอเคลียร์ของเก่าก่อน
ลิปมันจากจ๋อมแจ๋ม
รูปจากพี่แบคคัส
รูปวาดใน AI จากพี่ แบคคัส เจ้าของเดียวกันกับ รุ้งดาว >< วาดให้ฉันตอนวันเกิด น่ารักมาก ฉันชอบมากอ่ะ ชอบจนเอาขึ้นเป็นภาพหน้าจอมือถือมาตลอดเลยจนถึงวัน นี้ ก็ยังไม่เปลี่ยน ขอบคุณมากๆนะคะ หมีข้างหลังนั่นคือการ ผสมผสานระหว่างไชยโยกับมุ้งมิ้ง (ตุ๊กตาของฉันสองตัว) ใช่ ไหม แล้วเด็กข้างหน้านั่นคือฉันหรอ ผอมไปหน่อยนะ แต่ น่ารักอ่ะ ชอบมากๆ อย่างที่บอกว่าชอบของที่ ตั้งใจทำ�เพื่อ เราเท่านั้น อันนี้เลยเป็นของขวัญที่พิเศษมากและจะไม่มีวัน ลืมเลย ขอบคุณมากๆอีกครั้งค่ะ
คำ�อวยพร จากทุกคน
นอกจากของขวัญที่ ได้รับมาแล้ว ยังมีคำ�อวยพรที่ฉันได้รับจากเพื่อน ในเฟซบุ๊ค และในแชท ทั้งคนรู้จัก คนไม่รู้จัก คนที่จำ�วันเกิดได้จริงๆ และคนที่ เห็นการแจ้งเตือนของเฟซบุ๊ค เลยแวะมาอวยพร ฉันรู้สึกขอบคุณทุกคนมากๆ จริงๆค่ะ ที่มาอวยพรให้ เป็นวันเกิดที่ฉันมีความสุขมากๆเลย ขอให้พรดีๆ กลับ ไปสู่ทุกๆคนเหมือนกันนะคะ // จาก แก้ว อายุ 19
สิ่งที่จากไป เมื่อมีสิ่งที่เข้ามา ก็ต้องมี บางสิ่ง ที่จากไป ที่จริงฉันไม่ค่อยจดจำ�อะไรเท่าไหร่ ถ้าหายไปจากชีวิตฉันสักพัก ฉันก็ลืมมันไปเอง มีแค่บางอย่างที่ฉันผูกพันจริงๆ ที่จำ�ได้ และคงเป็นเพราะฉันไม่มีของมีค่าอะไรมากมายอยู่แล้ว เลยไม่มีอะไรจะเสีย นับว่าเป็นโชคดีนะ สิ่งที่ฉันเสียไป อันดับแรกคงเป็นความรู้สึก ชีิวตคนเรามันไม่ ได้ เป็นไปตามแบบที่ฝันไว้เสมอ แน่นอนว่า ตลอด1ปี ย่อมมีเหตุการณ์ ให้ฉันเสียความ รู้สึกหลายอย่าง ฉันจำ�ได้ว่าฉัน เคยร้องไห้หลายครั้ง เครียดบ่อย โกรธบ่อย เสีย ใจบ่อย แต่บอกตรงๆ เวลาผ่านไปแปปเดียวฉันก็จำ�มันไม่ ได้แล้วว่าฉันเสียความรู้ สึกเพราะอะไรบ้าง และฉันดี ใจที่จำ�ไม่ ได้ เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ถึงแม้ฉันจะเศร้าสัก แค่ ไหน ถ้าตั้งสติได้ อดทน ปล่อยให้เวลาช่วยเยียวยา เราก็จะดีขึ้นเอง อีกอย่างที่ฉันเสียไปแบบโง่ๆคืออมยิ้มจากพี่รหัส จริงๆแล้วฉันได้ มา ตั้งแต่ปี 2013 แต่เพราะมันน่ารัก น่ารักจนฉันไม่กล้ากิน เอาแต่วางโชว์ ไว้บนโต๊ะ นั่งมอง นั่งหยิบมาดู ดมกลิ่น แล้วก็เก็บ หวง เสียดาย ไม่กล้ากิน จนสุดท้าย มดขึ้นและแทะจนแหว่งไปมุมนึงและต้องทิ้งในที่สุด ทำ�ให้ฉันมา คิดได้ว่า อมยิ้มมันทำ�มาเพื่อให้กินไม่ ใช่หรอ ฉันไม่กินซะทีและปล่อยให้อมยิ่ม โดนทิ้งไปอย่างไร้ค่าอมยิ้มมันคงเสียใจแย่เนอะ(เพ้อ) อมยิ้มอันเดียวนี้แหละ สอนให้ฉันรู้ว่า อย่ามัวแต่กลัว อย่ามัวแต่เสียดาย จนสุดท้ายเสียโอกาสไป
อมยิ้ม
กระบอกเก็บงานดรออิ้ง ของสายรหัส ที่ส่งต่อกันมา ตั้งแต่ รุ่นไหนก็ ไม่รู้ ตอนที่ ได้มาฉันรู้สึกเท่มากเลย แต่พอใช้ ไปสัก พักก็รู้สึก รุงรัง ขี้เกียจพกไปเรียน เลยเก็บไว้ที่ห้องเฉยๆ ไม่ ได้สนใจ รู้สึกตัวอีกที ก็ถึงเวลาที่ต้องส่งต่อให้น้องรหัสแล้ว ฉันยังไม่ทันได้ ใช้ ประโยชน์มันซักเท่าไหร่เลยนะ แอบเสียดายอยู่ ที่ ไม่ ได้ ใช้งานให้คุ้ม ค่ากว่านี้ มันเหมือนตอนที่มีอยู่ ใกล้ๆดันไม่รู้คุณค่า แต่พอกำ�ลังจะเสีย มันไป ก็มานั่งเสียดาย (เพ้ออีกแล้ว) แต่ถึงจะเอาคืนมาได้ฉันก็ ไม่ ได้ ใช้แล้วอยู่ดี เพราะฉันไม่มีเรียนดรออิ้งแล้ว ตอนนี้ก็ ได้แค่คิดถึงช่วง เวลาที่หอบของพะรุงพะรัง วิ่งไปเรียน แล้วก็นั่งยิ้มไปกับมัน
กระบอกเก็บงาน
กระดานวาดรูป
ตอนแรกฉันกะจะเก็บกระดานดรออิ้งไว้เป็นที่ ระลึก แต่พอดีว่าฉันมีน้องฟ้าประทาน (น้องที่ ไม่มีพี่รหัส เลยให้รหัสอื่นดูแลแทน) เป็นน้องไอดี 073 น้องเขายังไม่มี กระดาน ฉันเลยคิดว่า ให้กระดานมันได้ ใช้ประโยชน์ ดีกว่า เก็บไว้เฉยๆเนอะ อันนี้เป็นของที่ฉันตั้งใจให้แบบไม่เสียดาย เพราะกระดานนี้ฉันซื้อเอง ใช้เอง แบบไม่ทะนุถนอม แทบ จะ ไม่มีความทรงจำ�ดีๆร่วมกันเท่าไหร่ แต่ยังไงก็หวังว่าน้อง ที่ ได้ ไปจะตั้งใจเรียนและใช้งานอย่างคุ้มค่าที่สุดนะคะ
ความเปลี่ยนแปลง
1 ปี มีอะไรเปลี่ยนแปลงเยอะแยะไปหมด ฉันมองไปรอบๆตัวแล้วบางทียังตกใจ นี่เวลาผ่านไปไว หรือฉันชักช้า ฉันยังไม่ทันทำ�อะไรมากมาย รอบตัวฉันดูแทบจะไม่มี ใครเหมือนเดิม ทุกคนล้วนเปลี่ยนแปลงกันทั้งนั้น
อันดับแรกที่ช็อคสุดคือ พี่สาวฉันแต่งงาน แถมกลายเป็นคนอิสลามไปเลย เป็นข่าวที่สาย ฟ้าแลบจนฉันงงไปหมดว่าจะรีบทำ�ไมเนี่ย แต่ก็ขอแสดงความยินดีด้วยนะ
ต่อมาคือเพื่อนตอนม.ปลาย ทำ�ไมทุกคนดูเป็นสาว และสวยขึ้นกันหมดเลยล่ะ เหลือฉันอยู่คนเดียวที่ ยิ่งเรียนยิ่งโทรม วันๆเอาแต่ปั่นโปรเจค อดหลับอดนอน แล้วคนอื่นเขาไม่มี โปรเจคกันบ้างเลยหรอ? อีกคนที่เปลี่ยนไปคือไอซ์ เพื่อนที่ฉันรู้จักทางอินเตอร์เน็ตตั้งแต่ ป.6 แล้วก็นัดเจอกัน คุยกันมาตลอด ปีนี้ ไอซ์เข้ามหา’ลัยแล้ว สอบติด อักษรฯ จุฬาฯ ตามที่ฝัน ที่จริงฉันรู้อยู่แล้วว่าไอซ์เก่งและขยันมาก ยังไงก็ต้องติดแน่ๆ แต่ก็อดลุ้นไม่ ได้ แล้วสุดท้ายก็ติดจริงๆ ฉันเตรียมของขวัญให้ ไม่ทัน เลยได้แค่ เลี้ยงบาบีคิวพลาซ่าแสดงความยินดีแทน ตอนกลางปี สายรหัส 021 มีการเปลี่ยนแปลง พี่อุ้ย พี่ โอเล่ เรียนจบแล้ว และมีน้องรหัสเข้ามา เป็นน้องอัพ และ น้องดิว และฉันยังมีน้องฟ้าประทานเป็นน้องตั้ม073 อีกด้วย ส่วนเพื่อนมหา’ลัย คงเพราะเราเจอกันอยู่ตลอด เลยไม่ค่อยรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงเท่าไหร่
สิ่งที่ฉันเปลี่ยน พอเห็นการเปลี่ยนแปลงของคนอื่นแล้ว ลองสำ�รวจตัวเองดู ฉันดูราบเรียบมาก แทบจะไม่มีพัฒนาการอะไรเลย สิ่งที่เปลี่ยนอย่างเห็นได้ชัดก็มีแค่สีผม ที่เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาจนผมเสียไปหมด แล้วก็น้ำ�หนัก ที่เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา ขึ้นๆลงๆ แบบคาดเดาไม่ ได้ (ส่วนใหญ่จะขึ้น) อีกอย่างที่เปลี่ยนไป คือการเปลี่ยนจากรุ่นน้องเป็นรุ่นพี่ ทำ�ให้ฉันต้อง มีความรับผิดชอบมากขึ้น จริงจังกับชีวิตมากขึ้น และต้องเสียเงินมากขึ้น การเปลี่ยนแปลงอาจมีทั้งดี และร้าย แต่ทำ�ไมฉันรู้สึกว่าของฉัน มีแต่เรื่องไม่ค่อยจะดียังไงไม่รู้นะ แต่ยังไงฉันก็ดี ใจนะที่ชีวิตฉันยัง พอมีการเปลี่ยนแปลงบ้าง ให้รู้สึกว่าเราได้ ใช้ชีวิตอยู่