Monthly Tax Update
ฉบับที่ 1 มกราคม 2556
มติคณะรัฐมนตรีด้านภาษีอากร วันอังคารที่ 8 มกราคม 2556 มาตรการการคลังและการเงินเพื่อบรรเทาผลกระทบจากการปรับอัตราค่าจ้างขั้นต่่าและเพิ่มขีดความสามารถ ของผู้ประกอบการธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้ เห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร จานวน 3 ฉบับ เพื่อขยายระยะเวลามาตรการ ภาษีในการปรับเปลี่ยนเครื่องจักรเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต การหักค่าเสื่อมเครื่องจักร และช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs ที่ได้รับผลกระทบจากการปรับอัตราค่าจ้างขั้นต่าตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2555 จากเดิม สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2555 เป็นสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2556 เห็น ชอบร่ างพระราชกฤษฎีก าออกตามความในประมวลรั ษ ฎากร ว่ าด้ ว ยการลดอั ต ราและยกเว้ นรั ษ ฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... จานวน 1 ฉบับ เพื่อปรับเพิ่มการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล สาหรับบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล ซึ่ง มี ทุ น ที่ ช าระแล้ ว ในวั น สุ ด ท้า ยของรอบระยะเวลาบั ญ ชีไ ม่ เ กิ น 5 ล้ า นบาท และมี รายได้ จ ากการขายสิ น ค้ า และ การให้บริการในรอบระยะเวลาบัญชีไม่เกิน 30 ล้านบาท เห็นชอบในหลักการการปรับเพิ่มอัตราค่าเช่าที่พักและค่าอาหารในการฝึกอบรมของส่วนราชการให้สอดคล้องกับ ค่าครองชีพและสภาวการณ์ปัจจุบัน เห็ น ชอบหลั ก เกณฑ์ เงื่ อ นไข และงบประมาณส าหรั บ โครงการค้ าประกั น สิ น เชื่ อ ในลั ก ษณะ Portfolio Guarantee Scheme ระยะที่ 5 เห็ น ชอบการขยายระยะเวลา หลั ก เกณฑ์ แ ละเงื่ อ นไขของโครงการสิ น เชื่ อ เพื่ อ พั ฒ นาผลิ ต ภาพการผลิ ต (Productivity Improvement Loan) ของธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) และโครงการค้าประกันสินเชื่อในลักษณะ Portfolio Guarantee Scheme สาหรับผู้ประกอบการใหม่ (PGS New/ Start-up) ทั้งนี้ ในส่วนของมาตรการการคลังที่เป็นมาตรการด้านภาษีอากร มีสาระสาคัญ ดังนี้ (1) ให้ ข ยายระยะเวลามาตรการภาษี เ พื่ อ บรรเทาผลกระทบจากการปรั บ อั ต ราค่ า จ้ า งขั้ น ต่ าและเพิ่ ม ขี ด ความสามารถของ SMEs ออกไปอีก 1 ปี จากเดิมสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2555 เป็นสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2556 โดยมีรายละเอียด ดังนี้ (1.1) ให้ ส ามารถหั ก ค่ า ใช้ จ่ า ยส่ ว นต่ า งค่ า แรงขั้ น ต่ าเดิ ม และค่ า แรงขั้ น ต่ า 300 บาท/วั น ได้ 1.5 เท่ า ตามพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 553) พ.ศ. 2555 (1.2) ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลที่ได้จากการขายเครื่องจัก รเก่าเพื่อซื้อเครื่องจักรใหม่ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ การผลิต ตามพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 551) พ.ศ. 2555 (1.3) ให้สามารถหักค่าเสื่อมเครื่องจักรใหม่ได้ร้อยละ 100 ในปีแรก แทนการทยอยหักค่าเสื่อมภายใน 5 ปี ตามพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการหักค่าสึกหรอและค่าเสื่อมราคาของทรัพย์สิน (ฉบับที่ 552) พ.ศ. 2555 (2) ปรั บ เพิ่ ม การยกเว้ น ภาษี เ งิ น ได้ นิ ติ บุ ค คล ส าหรั บ บริ ษั ท หรื อ ห้ า งหุ้ น ส่ ว นนิ ติ บุ ค คลซึ่ ง มี ทุ น ที่ ช าระแล้ ว ในวัน สุ ดท้ายของรอบระยะเวลาบั ญชีไ ม่เกิน 5 ล้ านบาท และมีรายได้จากการขายสิ นค้าและการให้ บริการในรอบ ระยะเวลาบัญชีไม่เกิน 30 ล้านบาท เพื่อลดภาระภาษีเงินได้นิติบุคคลให้แก่ SMEs ที่มีรายได้น้อย และปรับโครงสร้าง อัตราภาษีของ SMEs ที่เป็นบุคคลธรรมดาและนิติบุคคลให้เท่าเทียมกัน โดยปรับเพิ่มการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล สำนักนโยบำยภำษี
1/7
Monthly Tax Update
ฉบับที่ 1 มกราคม 2556
สาหรับเงินได้ 150,000 บาทแรก เป็น 300,000 บาทแรก เพื่อให้สอดคล้องกับภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาที่ปรับลดลง สาหรับรอบระยะเวลาบัญชีที่เริ่มในหรือหลังวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2556 เป็นต้นไป มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการควบรวมกิจการประเด็นเงินส่ารองของสถาบันการเงินและกิจการประกันภัย1 คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... และร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยรายจ่ายที่ไม่ให้ถือเป็นรายจ่าย ในการคานวณกาไรสุทธิ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... รวม 2 ฉบับ (มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการควบรวมกิจการประเด็น เงินสารองของสถาบั นการเงินและกิจการประกันภัย) ตามที่กระทรวงการคลัง เสนอ และให้ส่งสานักงานคณะกรรมการ กฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้วดาเนินการต่อไปได้ ซึ่งร่างกฎหมายดังกล่าวมีสาระสาคัญ ดังนี้ ก าหนดให้ ย กเว้ น ภาษี เ งิ น ได้ นิ ติ บุ ค คลให้ แ ก่ บ ริ ษั ท เดิ ม อั น ได้ ค วบเข้ า กั น หรื อ เป็ น ผู้ โ อนกิ จ การที่ ต้ อ ง จดทะเบียนเลิก สาหรับเงินได้ที่เป็นเงินสารองซึ่งได้กันไว้ตามมาตรา 65 ตรี (1) แห่งประมวลรัษฎากร และต้องนามารวม เป็นรายได้ในรอบระยะเวลาบัญชีที่ควบเข้ากันหรือโอนกิจการทั้งหมดให้แก่กัน ตามมาตรา 74 (2) และ (3) แห่งประมวล รัษฎากร กาหนดให้รายจ่ายของบริษัทใหม่ที่ควบเข้ากันหรือผู้โอนกิจการจากการโอนกิจการทั้งหมดเป็นจานวนเท่ากับ เงินสารองที่ได้กันไว้ ตามมาตรา 65 ตรี (1) แห่งประมวลรัษฎากร ของบริษัทเดิมอันได้ควบเข้ากันหรือเป็นผู้โอนกิจการ ที่ต้องจดทะเบียนเลิกเป็นรายจ่ายที่ไม่ให้ถือเป็นรายจ่ายในการคานวณกาไรสุทธิตามมาตรา 65 ตรี (20) วันอังคารที่ 15 มกราคม 2555 การยกเว้นภาษีธุรกิจเฉพาะส่าหรับการให้สวัสดิการการให้กู้ยืมแก่ข้าราชการต่ารวจและลูกจ้าง คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการกาหนดกิจการ ที่ได้รับยกเว้นภาษีธุรกิจเฉพาะ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (การยกเว้นภาษีธุรกิจเฉพาะสาหรับการให้สวัสดิการการให้กู้ยืมแก่ ข้าราชการตารวจและลูกจ้าง) ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดาเนินการต่อไปได้ ซึ่งร่างพระราชกฤษฎีกาดังกล่าวมีสาระสาคัญ ดังนี้ 1
เหตุผลของการนาเสนอมาตรการดังกล่าว 1. ตามบทบัญญัติแห่งประมวลรัษฎากร 1.1 มาตรา 65 ตรี (1) บัญญัติให้บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลสามารถนาเงินสารองจากเบี้ยประกันภัย และเงินสารองที่กันไว้เป็นค่าเผื่อหนี้สูญ หรือหนี้สงสัยจะสูญ สาหรับหนี้จากการให้สินเชื่อที่ ธนาคารพาณิชย์ บริษัทเงินทุน บริษัทหลักทรัพย์ หรือบริษัทเครดิตฟองซิเอร์ได้กันไว้ตามกฎหมาย ว่าด้วยการธนาคารพาณิชย์หรือกฎหมายว่าด้วยการประกอบธุรกิจเงินทุน ธุรกิจหลักทรัพย์และธุรกิจเครดิตฟองซิเอร์ แล้วแต่กรณี มาถือเป็น รายจ่าย ในการคานวณกาไรสุทธิเพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคล 1.2 มาตรา 74 (2) และ (3) บัญญัติให้กรณีบ ริษัท หรือห้างหุ้น ส่วนนิติบุคคลเลิกกัน หรือควบเข้ากัน กับ บริษัท หรือห้างหุ้น ส่วนนิติบุคคลอื่น ให้นาเงินสารองหรือเงินกาไรยกมาจากรอบระยะเวลาบัญชีก่อนๆ เฉพาะส่วนที่ยังมิได้เสียภาษีเงินได้ ให้นามารวมคานวณเป็นรายได้ในรอบระยะเวลาบัญชี สุดท้าย และสาหรับกรณีที่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลประกอบกิจการประกันภัยให้นาเงินสารอง ซึ่งได้กันไว้ในรอบระยะเวลาบัญชีก่อ นๆ ตามมาตรา 65 ตรี (1) เฉพาะส่วนที่ยังมิได้นามาเป็นรายได้มารวมคานวณเป็นรายได้ 2. จากบทบัญญัติตามข้อ 1. ข้างต้น เป็นเหตุให้เกิดปัญหาและอุปสรรคในกรณีที่บริษัทที่ดาเนินการดังกล่าวเป็นสถาบันการเงินหรือประกอบกิจการ ประกันภัยที่เลิกกันหรือควบเข้ากันจะต้องนาเงินสารองที่กันไว้มารวมคานวณเป็นรายได้ ซึ่งบริษัทเดิมที่จะควบหรือบริษัทผู้โอนอาจไม่มี สภาพคล่องมาก พอที่จะเสียภาษีจากเงินสารองที่กันไว้ กระทรวงการคลังจึง ได้เสนอปรับปรุงกฎหมายเพื่อสนับสนุนการควบรวมกิจการในประเด็นเงินสารองของสถาบัน การเงินและกิจการประกันภัย โดยกาหนดให้ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลให้แก่บริษัทเดิมที่จะควบหรือบริษัทผู้โอนสาหรับเงินสารองซึ่ งได้กันไว้ และนามา รวมคานวณเป็นรายได้ในรอบระยะเวลาบัญชีสุดท้าย
สำนักนโยบำยภำษี
2/7
Monthly Tax Update
ฉบับที่ 1 มกราคม 2556
กาหนดให้กิจการของสานักงานตารวจแห่งชาติ เฉพาะการจัดสวัสดิการจากเงินกองกลางให้ข้าราชการตารวจ
และลูกจ้างกู้ยืมหรือการสงเคราะห์ด้านที่อยู่อาศัยตามระเบียบที่ผู้บัญชาการตารวจแห่งชาติกาหนด เป็นกิจการที่ได้รับ ยกเว้นภาษีธุรกิจเฉพาะ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2545 เป็นต้นไป มาตรการภาษีเพื่อช่วยเหลือผู้ถูกรอนสิทธิในอสังหาริมทรัพย์ตามข้อกฎหมายว่าด้วยการจ่ากัดสิทธิในการใช้ที่ดนิ คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วย การยกเว้นรัษฎากร (มาตรการภาษีเพื่อช่วยเหลือผู้ถูกรอนสิทธิในอสังหาริมทรัพย์ตามข้อกฎหมายว่าด้วยการจากัดสิทธิ ในการใช้ที่ดิน ) ตามที่กระทรวงการคลั งเสนอ และให้ส่งสานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับ ความเห็นของสานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดาเนินการต่อไปได้ ซึ่งร่างกฎกระทรวง ดังกล่าวมีสาระสาคัญ ดังนี้ กาหนดให้ยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สาหรับเงินได้ค่าทดแทนเนื่องจากการรอนสิทธิในอสังหาริมทรัพย์ เฉพาะในกรณีที่มีกฎหมายโดยเฉพาะของประเทศไทยกาหนดให้ รอนสิ ทธิในอสังหาริมทรัพย์ได้ โดยให้ มีผลใช้บังคับ สาหรับเงินได้ที่ได้รับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2552 เป็นต้นไป การขยายระยะเวลาการยกเว้นอากรขาเข้าส่วนประกอบและอุปกรณ์ประกอบส่าหรับรถยนต์บรรทุก รถหัวลาก รถโดยสาร และรถใช้งานพิเศษ คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการการขยายระยะเวลาการยกเว้นอากรขาเข้าส่วนประกอบและอุปกรณ์ประกอบ สาหรับรถยนต์บรรทุก รถหัวลาก รถโดยสาร และรถใช้งานพิเศษ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งร่างประกาศ กระทรวงการคลัง เรื่อง การลดอัตราอากรและยกเว้นอากรศุล กากรตามมาตรา 12 แห่ งพระราชกาหนดพิกัดอัตรา ศุล กากร พ.ศ. 2530 (ฉบับ ที่ ..) ให้คณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรี ตรวจพิจารณา แล้วดาเนินการต่อไปได้ ซึ่งร่างประกาศดังกล่าวมีสาระสาคัญ ดังนี้ กาหนดให้ขยายระยะเวลาการยกเว้นอากรขาเข้าส่วนประกอบและอุปกรณ์ประกอบไม่ว่าจะเป็นของตามพิกัด ประเภทใด แต่ไม่รวมถึงหม้อน้า ชุดหม้อพักเก็บเสียงและท่อไอเสีย แบตเตอรี่ แหนบตับหน้าและหลัง ยางนอกและยางใน กระจกนิรภัย ดรัมเบรคหน้าและหลัง มอเตอร์สตาร์ต ตัวยึดชุดท่อไอเสี ย ตัวยึดแบตเตอรี่ ฝาครอบแบตเตอรี่ ชุดสาย แบตเตอรี่ ชุดสายไฟ สีรถยนต์ กระจกมองหลังภายในรถ และแผงบังแดดที่นาเข้ามาเพื่อประกอบหรือผลิตเป็นยานบก ตามตอนที่ 87 สาหรับการนาเข้าตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2556 ถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558 ดังต่อไปนี้ (1) ประกอบหรือผลิตเป็นแทรกเตอร์เดินบนถนนสาหรับลากรถกึ่งรถพ่วงตามประเภทย่อย 8701.20 (2) ประกอบหรือผลิตเป็นแชสซีส์ที่มีเครื่องยนต์ติดตั้งพร้อมแค้ปตามประเภท 87.04 (เว้นแต่รถบรรทุก ชนิดแวน ชนิดปิกอัพ และรถที่มีลักษณะคล้ายกับรถดังกล่าว) และประเภท 87.05 (3) ประกอบหรือผลิต เป็นแชสซีส์ที่มีเครื่องยนต์ติดตั้งตามประเภท 87.06 สาหรับรถยนต์หรือยานยนต์ ดังต่อไปนี้ (3.1) แทรกเตอร์ตามประเภท 87.01 (3.2) ยานยนต์สาหรับขนส่งบุคคลตั้งแต่สิบคนขึ้นไป (รวมถึงคนขับ) ตามประเภท 87.02 และยานยนต์ สาหรับขนส่งของตามประเภท 87.04 (เว้นแต่รถบรรทุกชนิดแวน ชนิดปิกอัพ และรถที่มีลักษณะคล้ายกับรถดังกล่าว) (3.3) ยานยนต์สาหรับใช้งานพิเศษตามประเภท 87.05 กาหนดความหมายของคาว่า “ผู้ขอใช้สิทธิยกเว้นอากร” “แบบ (model)” “รูปร่างของรถยนต์ ” และ “ระบบ เกียร์” สำนักนโยบำยภำษี
3/7
Monthly Tax Update
ฉบับที่ 1 มกราคม 2556
ก าหนดหลั ก เกณฑ์ แ ละเงื่ อนไขการยกเว้ น อากรขาเข้ า และส่ ว นประกอบอุ ป กรณ์ ป ระกอบรถยนต์ บ รรทุ ก
ขนาดใหญ่ กาหนดให้สามารถนาแบบ (model) สาหรับการประกอบหรือผลิตเป็นแชสซีส์ที่มีเครื่องยนต์ติดตั้งตามประเภท 87.06 ที่กรมศุลกากรอนุมัติให้ ใช้สิทธิลดอัตราอากรไว้ก่อนวันที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2554 และมิได้มีการขอผ่อนผั น การถอดแยกไปใช้สิทธิในการยกเว้นอากรได้ โดยไม่ต้องยื่นขออนุมัติแบบใหม่ต่อกรมศุลกากร มาตรการทางภาษีและค่าธรรมเนียมจากการควบรวมกิจการตามแผนพัฒนาระบบสถาบันการเงินระยะที่ 22 คณะรัฐมนตรีมีมติ เห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ตรวจพิจารณาแล้วดาเนินการต่อไปได้ ดังนี้ เห็นชอบมาตรการทางภาษีและค่าธรรมเนียมจากการควบรวมกิจการตามแผนพัฒนาระบบสถาบันการเงิ น ระยะที่ 2 และอนุ มัติห ลั กการร่ างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้ว ยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... เห็นชอบในหลักการของ (1) ร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การเรียกเก็บค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมตามประมวล กฎหมายที่ดิน กรณีการควบรวมกิจการตามแผนพัฒนาระบบสถาบันการเงิน ระยะที่ 2 ตามหลักเกณฑ์ที่คณะรัฐมนตรี กาหนด (2) ร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การเรียกเก็บค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมตามกฎหมาย ว่าด้วยอาคารชุด กรณีการควบรวมกิจการตามแผนพัฒนาระบบสถาบันการเงิน ระยะที่ 2 ตามหลักเกณฑ์ที่คณะรัฐมนตรี กาหนด มอบหมายให้ ก ระทรวงอุ ต สาหกรรมและกระทรวงคมนาคม ด าเนิ น การยกร่ า งกฎหมายเพื่ อ ลดหย่ อ น ค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ เครื่องจักร และรถที่อยู่ระหว่างการให้ลูกหนี้เช่าซื้อ และให้ เสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป ให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของกระทรวงอุตสาหกรรมและสานักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจ และสังคมแห่ งชาติที่เห็น ควรให้รั บฟังความคิดเห็ นจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก่อนการดาเนินการ และเร่งรัดการตรา กฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องกับการควบรวมกิจการ และนาเสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจ ารณา เพื่อให้สามารถดาเนินการควบรวม 2
เหตุผลของการนาเสนอมาตรการดังกล่าว (1) พระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 502) พ.ศ. 2553 ซึ่งให้สิทธิประโยชน์แก่สถาบันการเงิน ในการยกเว้น ภาษีเงิน ได้ อัน เนื่องมาจากการที่ ส ถาบั น การเงิน ควบเข้ากัน หรือ โอนกิจการให้แก่กัน ตามแผนพัฒนาระบบสถาบัน การเงิน ระยะที่ 2 ได้สิ้นสุดลงแล้วเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2554 (2) ปัจจุบันยังคงมีสถาบันการเงินบางแห่งอยู่ระหว่างการควบรวมกิจการตามแผนพัฒนาระบบสถาบันการเงิน ระยะที่ 2 ซึ่งยังไม่แล้วเสร็จภายในวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2554 จึงไม่สามารถรับสิทธิประโยชน์ตามพระราชกฤษฎีกาตามข้อ (1) ได้ ดังนั้น เพื่อช่วยให้การควบรวมกิจการตามแผนพัฒนาระบบ สถาบันการเงิน ระยะที่ 2 เป็นไปอย่างต่อเนื่องและเสริมสร้างความมั่นคงให้กับสถาบันการเงิน กระทรวงการคลังจึงเสนอให้มีการขยายระยะเวลาของ มาตรการทางภาษีและค่าธรรมเนียมจากการควบรวมกิจการดังกล่าวออกไปอีกจนถึงวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2557 (3) เนื่องจากการควบรวมกิจการของสถาบันการเงินจะต้องมีการโอนสิทธิและนิติกรรมอื่นที่เกี่ยวข้องระหว่างสถาบันการเงินที่โอนและรับโอนกิจการ ได้แก่ เครื่องจักรและรถที่อยู่ระหว่างการให้ลูกหนี้เช่าซื้อ ซึ่งมีค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมเครื่องจักรและค่าธรรมเนียมการโอนทะเบียน รถที่เป็นค่าใช้จ่าย ซึ่งกระทรวงอุตสาหกรรมและกระทรวงคมนาคมควรดาเนินการยกร่างกฎหมายเพื่อลดหย่อนค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม ที่เกี่ยวข้องในคราวเดียวกันด้วย
สำนักนโยบำยภำษี
4/7
Monthly Tax Update
ฉบับที่ 1 มกราคม 2556
กิ จ การได้ โ ดยเร็ ว รวมทั้ ง รวบรวมมาตรการที่ เ กี่ ย วข้ อ งกั บ การลดหย่ อ น การให้ สิ ท ธิ ป ระโยชน์ แ ละค่ า ธรรมเนี ย ม และวิเคราะห์ผลกระทบที่เกิดจากการดาเนินการ ไปพิจารณาดาเนินการต่อไปด้วย ทั้งนี้ สาระสาคัญของร่างพระราชกฤษฎีกาและร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย มีดังนี้ ร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... กาหนดให้ยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ภาษีเงินได้นิติบุคคล ให้แก่ผู้ถือหุ้นของสถาบันการเงิน และยกเว้น ภาษีเงินได้นิติบุคคล ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีธุรกิจเฉพาะ และอากรแสตมป์ ให้แก่สถาบันการเงินเฉพาะการควบเข้ากันหรือ โอนกิจการให้แก่กัน ที่ได้กระทาภายในวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2557 ตามแผนพัฒนาระบบสถาบันการเงิน ระยะที่ 2 ที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบเมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552 ร่ า งประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่ อ ง การเรี ย กเก็ บ ค่ า ธรรมเนี ย มจดทะเบี ย นสิ ท ธิ แ ละนิ ติ ก รรม ตามประมวลกฎหมายที่ดิน กรณีการควบรวมกิจการตามแผนพัฒนาระบบสถาบันการเงิน ระยะที่ 2 ตามหลักเกณฑ์ ที่คณะรัฐมนตรีก่าหนด กาหนดให้เรียกเก็บค่าจดทะเบียนการโอนและค่าจดทะเบียนการจานองอสังหาริมทรัพย์ กรณีที่มีทุนทรัพย์ ในอัตราร้อยละ 0.01 สาหรับสถาบันการเงินที่ควบเข้ากันหรือโอนกิจการทั้ง หมดหรือบางส่วนให้แก่กันตามแผนพัฒนา ระบบสถาบันการเงิน ระยะที่ 2 ที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบเมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552 ตั้งแต่วันที่ประกาศ มีผลใช้บังคับ ถึงวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2557 ร่ า งประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่ อ ง การเรี ย กเก็ บ ค่ า ธรรมเนี ย มจดทะเบี ย น สิ ท ธิ แ ละนิ ติ ก รรม ตามกฎหมายว่ า ด้ ว ยอาคารชุ ด กรณี ก ารควบรวมกิ จ การตามแผนพั ฒ นาระบบสถาบั น การเงิ น ระยะที่ 2 ตามหลักเกณฑ์ที่คณะรัฐมนตรีก่าหนด กาหนดให้เรียกเก็บค่าจดทะเบียนการโอนและค่าจดทะเบียนการจานองห้องชุด กรณีที่มีทุนทรัพย์ ในอัตรา ร้อยละ 0.01 สาหรับสถาบันการเงินที่ควบเข้ากันหรือโอนกิจการทั้งหมดหรือบางส่วนให้แก่กันตามแผนพัฒนาระบบ สถาบันการเงิน ระยะที่ 2 ที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบเมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552 ตั้งแต่วันที่ประกาศมีผล ใช้บังคับ ถึงวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2557
สำนักนโยบำยภำษี
5/7
Monthly Tax Update
ฉบับที่ 1 มกราคม 2556
วันจันทร์ที่ 21 มกราคม 2555 (การประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ครั้งที่ 1/2556 ณ จังหวัดอุตรดิตถ์) มาตรการขยายระยะเวลาปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้่ามันดีเซล3 คณะรั ฐ มนตรี มี ม ติ อ นุ มั ติ ใ ห้ รั ฐ มนตรี ว่ า การกระทรวงการคลั ง อาศั ย อ านาจตามความในมาตรา 103 แห่ งพระราชบั ญญัติภ าษีส รรพสามิต พ.ศ. 2527 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติภ าษีส รรพสามิต (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2534 ออกประกาศกระทรวงการคลังเพื่อขยายเวลาการปรับลดอัตราภาษีน้ามันดีเซลออกไปอีก 1 เดือน คือ ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 ถึง วันที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 โดยมีสาระสาคัญ ดังนี้
3
(1) คณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2554 เห็นชอบการปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ามันดีเซลที่มีปริมาณกามะถันไม่เกินร้อยละ 0.035 โดยน้าหนัก และน้ามันดีเซลที่มีไบโอดีเซลประเภทเมทิลเอสเตอร์ของกรดไขมันผสมอยู่ไม่น้อยกว่าร้อยละ 4 ตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่อธิ บดี ประกาศกาหนด จากเดิมลิตรละ 5.310 บาท และ 5.040 บาท ตามลาดับ ให้ลดลงเหลือ 0.005 บาท โดยให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2554 ถึง วันที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2554 (2) ต่อมาคณะรั ฐ มนตรีได้มีม ติเ มื่อวัน ที่ 13 กัน ยายน พ.ศ. 2554 เห็น ชอบการขยายระยะเวลาการปรับ ลดอัต ราภาษีส รรพสามิต น้ามัน ดีเซล ตามมาตรการดังกล่าวออกไปอีก 3 เดือน คือ ให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2554 ถึง วันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2554 (3) การประชุม คณะรัฐ มนตรีเมื่อวัน ที่ 27 ธัน วาคม พ.ศ. 2554 มีม ติเห็น ชอบให้ขยายระยะเวลาการปรับลดอัตราภาษี ส รรพสามิต น้ามันดีเซล ตามมาตรการดังกล่าวออกไปอีก 1 เดือน คือ ให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2555 ถึง วันที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2555 (4) การประชุม คณะรัฐมนตรีเมื่อวัน ที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2555 มีม ติเห็นชอบให้ขยายระยะเวลาการปรับ ลดอัตราภาษีส รรพสามิต น้ามันดีเซล ตามมาตรการดังกล่าวออกไปอีก 1 เดือน คือ ให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 ถึง วันที่ 29 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 (5) การประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวัน ที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 มีม ติเห็นชอบให้ขยายระยะเวลาการปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ามันดีเซล ตามมาตรการดังกล่าวออกไปอีก 1 เดือน คือ ให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2555 ถึง วันที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2555 (6) การประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2555 เห็นชอบให้ปรับปริมาณค่ากามะถันของน้ามันดีเซลจากเดิมที่มีปริมาณกามะถันเกินและ ไม่เกินร้อยละ 0.035 โดยน้าหนัก เป็น ที่มีปริมาณกามะถันเกินและไม่เกินร้อยละ 0.005 โดยน้าหนัก รวมทั้งให้ปรับลดอัตราภาษีน้ามันดีเซลที่มีปริมาณ กามะถันไม่เกินร้อยละ 0.005 โดยน้าหนัก และน้ามันดีเซลที่มีไบโอดีเซลประเภทเมทิลเอสเตอร์ของกรดไขมันผสมอยู่ไม่น้อยกว่าร้อยละ 4 ในอัตราตาม ปริมาณลิตรละ 0.005 บาท ออกไปอีก 1 เดือน คือ ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2555 ถึง วันที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2555 (7) การประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2555 เห็นชอบให้ขยายระยะเวลาการปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ามันดีเซลตามมาตรการ ในข้อ (6) ข้างต้นออกไปอีก 1 เดือน คือ ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2555 ถึง วันที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2555 (8) การประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2555 เห็นชอบให้ขยายระยะเวลาการปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ามันดีเซลในข้อ (7) ข้างต้นออกไปอีก 1 เดือน คือ ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2555 ถึง วันที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2555 (9) การประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2555 เห็นชอบให้ขยายระยะเวลาการปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ามันดีเซลในข้อ (8) ข้างต้นออกไปอีก 1 เดือน คือ ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 ถึง วันที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 (10) การประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 เห็นชอบให้ขยายระยะเวลาการปรับลดอั ตราภาษีสรรพสามิตน้ามันดีเซลในข้อ (9) ข้างต้นออกไปอีก 1 เดือน คือ ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2555 ถึง วันที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2555 (11) การประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2555 เห็นชอบให้ขยายระยะเวลาการปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ามันดีเซลในข้อ (10) ข้างต้นออกไปอีก 1 เดือน คือ ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2555 ถึง วันที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2555 (12) การประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2555 เห็นชอบให้ขยายระยะเวลาการปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ามันดีเซลในข้อ (11) ข้างต้นออกไปอีก 1 เดือน คือ ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2555 ถึง วันที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2555 (13) การประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2555 เห็นชอบให้ขยายระยะเวลาการปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ามันดีเซลในข้อ (12) ข้างต้นออกไปอีก 1 เดือน คือ ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 ถึง วันที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 (14) การประชุมคณะรัฐ มนตรีเมื่อวัน ที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 เห็นชอบให้ขยายระยะเวลาการปรับ ลดอัต ราภาษีส รรพสามิต น้ามันดีเซล ในข้อ (13) ข้างต้นออกไปอีก 1 เดือน คือ ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2555 ถึง วันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2555 (15) การประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2555 เห็นชอบให้ขยายระยะเวลาการปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ามันดีเซลในข้อ (14) ข้างต้นออกไปอีก 1 เดือน คือ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2556 ถึง วันที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2556
สำนักนโยบำยภำษี
6/7
Monthly Tax Update
ฉบับที่ 1 มกราคม 2556
ให้ ขยายระยะเวลาการปรั บลดอัตราภาษีน้ ามัน ดีเซลที่มี ปริ มาณกามะถัน ไม่เ กิน ร้อยละ 0.005 โดยน้าหนั ก
ในอัตราภาษี 0.005 บาทต่อลิตร และน้ามันดีเซลที่มีไบโอดีเซลประเภทเมทิลเอสเตอร์ของกรดไขมันผสมอยู่ไม่น้อยกว่า ร้อยละ 4 ในอัตราภาษี 0.005 บาทต่อลิตร ออกไปอีก 1 เดือน คือ ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 ถึง วันที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 หมำยเหตุ มาตรการข้างต้นมีผลบังคับใช้ตามประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง ลดอัตราภาษีสรรพสามิต (ฉบับที่ 106) ลงวันที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2556
ที่มา: ข้อมูลมติคณะรัฐมนตรีจากสานักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี และรายละเอียดเพิ่มเติมที่เกี่ยวข้องโดยผู้จัดทา
สำนักนโยบำยภำษี
7/7