Baankluay magazine free copy

Page 1

B

y a u l k n aa .

MAG

e 39 Issu

ย ว ้ ล ้บานก

2016 t s u Aug

i a h T t Jus


y a u kl

n a a B บ้า

ย ว ้ ล นก

.

G MA

บรรณาธิการผู้พิมพ์โฆษณา : มหาวิทยาลัยกรุงเทพ บรรณาธิการอ�านวยการ : ดร. พีรชัย เกิดสินธุ์ ที่ปรึกษา : ผศ. นันทวิช เหล่าวิชยา ผศ. ณรงค์ศักดิ์ ศรีทานันท์ อาจารย์สมยศ สุขขัง บรรณาธิการบริหาร : นราพร พรหมฤทธิเดชา รองบรรณาธิการบริหาร : ศิริรัตน์ ประยูรพงศ์ เลขานุการกองบรรณาธิการ : พัชชา บัวสุวรรณ เหรัญญิก : พัชชา บัวสุวรรณ ฝ่ายพิสูจน์อักษร : พัชชา บัวสุวรรณ ลลิตา ตันติโชติวงศ์ บรรณาธิการฝ่ายศิลปกรรม : พีรญา พหลเวชช์ บรรณาธิการภาพ : ธนาวุธ วรนุช

ฝ่ายสารคดี : กิตติมา มหรรณพ จุฑามาศ อารีย์ ทศพล ตุงคะเสน ทิพย์สุดา พิสุทธิพันธุ์ สุพัตรา แสงทอง แสงสุรีย์ พรรณรังษี ธนาวุธ วรนุช นัทธ์ลภัส อู่อินทร์ ฝ่ายสัมภาษณ์ : ทิพย์สุดา พิสุทธิพันธุ์ แสงสุรีย์ พรรณรังษี ศิริรัตน์ ประยูรพงศ์ พิชชาภา หลักค�า ลลิตา ตันติโชติวงศ์ ฝ่ายบทความ : จุฑามาศ อารีย์ พัชชา บัวสุวรรณ ธิชากร แซ่ด่าน ทศพล ตุงคะเสน ฝ่ายปกิณกะ : กรรณิกา อุตสาหะ กาญจนาพร มะลิค�า นัทธ์ลภัส อู่อินทร์ ลลิตา ตันติโชติวงศ์ สุพัตรา แสงทอง พีรญา พหลเวชช์ ศศิชา รุ่งเรืองกุล ฝ่ายแฟชั่น : ธิชากร แซ่ด่าน นราพร พรหมฤทธิเดชา ทิพย์สุดา พิสุทธิพันธุ์


บทบรรณาธิการ นราพร พรหมฤทธิเดชา

เมื่อพูดถึง ‘ความเป็นไทย’ ความคิดแรกของใครหลายๆ คน มักจะนึกถึง ‘ภาษาไทย’ เป็น อันดับแรก หรืออาจจะเป็นในเรื่องของ ‘การไหว้’ ซึ่งถือว่าเป็นเอกลักษณ์ของชาติอย่างหนึ่ง ตั้งแต่ อดีตจนถึงปัจจุบัน ประเทศชาติต้องการความสงบสุข มั่นคง นี่คือวิสัยทัศน์ของคนไทยทุกคน ทำให้ ต่ า งชาติ ม องเราเป็ น ผู ้อ ่อ นน้ อ มถ่อ มตน เพราะเมือ่ มองไปทางไหนคนไทยมักจะยิม้ หรือไหว้กอ่ นเสมอ จนได้รับฉายาว่า ‘สยามเมืองยิ้ม’ ตั้ ง แต่ ส มั ย ก่ อ นการด� า รงชี วิ ต ของคนไทยมุ ่ ง เน้ น ไปในทางที่ เรียบง่าย พออยู่พอกิน และใช้ชีวิตอย่างพอเพียง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอาหาร การแต่งกาย หรือ ประเพณีต่างๆ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ก่อให้เกิดวัฒนธรรมที่ทรงคุณค่าขึ้น ดังนั้นจึงเป็นหน้าที่ของคนไทยทุก คนต้องรวมใจอนุรักษ์ ฟื้นฟู เผยแพร่ และสืบสานวัฒนธรรมที่ดีงามสืบไป ตลอดหลายปี ที่ผ ่ า นมา ประเทศไทยได้ รับ อิ ท ธิ พ ลจากวั ฒ นธรรมต่ า งแดนเข้ามาในสังคม ไม่ ว ่ า จะเป็น การแต่ ง กาย เทศกาล หรืออาหาร เป็นต้น แต่ในช่วงไม่กี่ปีมานี้ได้เกิดกระแสชาตินิยม ขึ้นมา ท�าให้เกิดการพัฒนาผลิตภัณฑ์ของกินของใช้ทใี่ ส่ความเป็นไทยลงไป หรือแม้แต่การอนุรกั ษ์ศลิ ปวัฒนธรรม ของชาติทมี่ มี าอย่างยาวนาน นิยามค�าว่า ‘Just Thai’ คือความภูมิใจในสิ่งที่เราได้มาตั้งแต่ยังเล็ก ไม่วา่ จะเป็นเรือ่ งภาษาหรือ วัฒนธรรมทีถ่ กู สอนมาตัง้ แต่เด็ก เพราะสิง่ เหล่านีม้ นั จะติดตัวไปจนวันตาย การยอมรับและภูมใิ จในสิง่ ทีเ่ ราเป็น นัน้ คือเรือ่ งทีส่ า� คัญ เพราะในสังคมปัจจุบนั คนส่วนใหญ่มักจะมองข้ามเรื่องเหล่านี้ และหันไปรับวัฒนธรรม ต่างแดน แต่ ใ นเวลานี้ เ ป็ น ช่ ว งเวลาที่ ค นก� า ลั ง หั น กลั บ มาให้ ค วามส� า คั ญ กั บ วั ฒ นธรรมไทยมากขึ้ น เกิดความคิดสร้างสรรค์มากมายที่จะท�าให้ศิลปวัฒนธรรมนั้นคงอยู่ มีการเร่งปลุกจิตส�านึกคนในชาติ ให้เป็นผู้มีความรับผิดชอบ รู้จักการรักษา และมีความรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ทางกองบรรณาธิการจึงเห็นว่าเป็นจังหวะทีด่ สี า� หรับนิตยสารบ้านกล้วยฉบับฟรีกอ๊ บปี้ กับคอนเซ็ปต์ ‘Just Thai’ ที่จะน�าเสนอความเป็นไทยในทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นสารคดีท่องเที่ยวอย่าง หุ่นละครเล็ก คณะค�านาย จากบ้านศิลปินคลองบางหลวง ที่จะพาผู้อ่านเข้าไปสัมผัสกับบรรยากาศของสถานที่ด้วย ตนเอง นอกจากนีย้ งั มีเรือ่ งราวของบุคคลทีย่ งั คงสืบสานความเป็นต�านานของศิลปะแขนงต่างๆ หรือบุคคลที่ น�าวิถไี ทยกลับมาปลุกกระแสอีกครัง้ อย่าง หญิงเมส ไอดอลชุดไทย รวมถึงบทสัมภาษณ์คนดังจากสายอาชีพ นักร้อง นักแสดง ที่มีบทบาทในการเป็นผู้น�าด้านการอนุรักษ์ศิลปะแขนงต่างๆ ท�าให้พวกเขามีชอื่ เสียง และเป็นตัวแทนคนไทยท�าหน้าทีส่ บื ทอดและเผยแพร่สสู่ าธารณชน ถึงแม้ปจั จุบนั จะมีการอนุรกั ษ์ศลิ ปวัฒนธรรมมากขึน้ แต่มันก็เป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น อนาคต หลังจากนี้จะเป็นเช่นไร บางสิง่ บางอย่างจะหายไปหรือคงอยู่ ไม่ได้ขนึ้ อยูก่ บั คนๆ เดียวแต่ขนึ้ อยูก่ บั ความร่วม มือร่วมใจของคนในชาติไทยทุกคน


สารบัญ 20 ไชยา มิตรชัย เสน่ห์ ‘ลิเก’ ส�ยเลือดของคว�มเป็นไทย ่ งฟุง ้ 26 เปาวลี เฟือ ส�วเสียงใสหัวใจลูกทุ่ง

30 แฟชั่น Simplicite’ เรียบง่�ย 52 สารคดีท่องเที่ยว อนุรักษ์ช้�งที่ป�งไทรโยค 58 หญิงเมส มรรษมณฐ จันทร์ศิริ เน็ตไอดอลชุดไทย


ร้อยเรียงเรื่องราว 6

อนาคตมวยไทยใครสืบสาน

เล่าสู่กันฟัง 20 ไชยา มิตรชัย

เสน่ห์ ‘ลิเก’ ส�ยเลือดของ คว�มเป็นไทย

38 ละครไทยที่ ไม่ ไร้ทางเลือก 40 เพลงเท่แบบไทยเดิม 41 สุขภาพและความงามด้วยสมุนไพร

บ้�นขนมสวย

24 โย่ง เชิญยิม้

42 ต�าต�า a

ผู้สืบส�นตำ�น�นเพลงฉ่อย

26 เปาวลี เฟืองฟุง

46 หญิงเมส มรรษมณ จันทร์ศิริ เน็ตไอดอลชุดไทย

28 โจนัส แอนเดอร์สนั นักร้องฝรั่งหัวใจไทย

ส�วเสียงใสหัวใจลูกทุ่ง

ณ บ้านศิลปิน คลองบางหลวง

a ’ ร้านสุดเก

รสชาติบอกต่อ ตำ�ตำ� Zapp Cafe’

43 ล�าแต้ ๆ ต้อง ‘เ ือนล�าพูน’

เฮือนลำ�พูน

44 หร่อยจัง ู้

ณ ห�ดใหญ่

52 อนุรักษ์ช้างที่ปางไทรโยค

รู้รักษ์รอยไทย

58 ‘ช่างท�าหัวโขน’ แห่งบ้านโขนไทย 8

i it ’ เรียบง่�ย

กับขนมแสนหวาน

13 ขนมไทยใส่ ไอเดีย ชัน้ ขนมหว�น

เส้นท�งสู่ ‘ร�ชินีหมอลำ�’

14 สืบสานต�านานศิลป

30 Si

12 บรรยากาศแสนสวย

22 บานเย็น รากแก่น

ท่องไปตามใจฝัน

แฟชั่น

อร่อยทั่วไทย

‘ไตรทิพย์’ สังฆภัณฑ์แห่งศรัทธา

36 โมคา เดอะ มิวเซียม กับศิลปะ

ความเปลี่ยนแปลงร่วมสมัย

64 ผ้าซิ่นตีนจก ผ้าซิ่นที่ ไม่สิ้น

45 ‘หลายรส’ หลากความอร่อย

หล�ยรส

ข้อความจากใจ 10 อยากบอกเธอ ประเทศไทย

สุขกายสบายใจ 34 อาหารไทยลดความอ้วน


Baankluay | ร้อยเรียงเรื่องราว

6

รสบสา

เร่อง

ทศ ล ตุงค เสน

จุ ามาศ อารีย์

หากจะกล่าวถึงศิลปะการต่อสู้ที่มีทั้งหมด บนโลก ชือ่ แรกๆ ทีน่ กึ ถึงคงต้องมีคา� ว่า ‘มวยไทย’ ศิ ล ปะปองกั น ตั ว ที่ สื บ ทอดกั น มาตั้ ง แต่ ส มั ย บรรพบุ รุ ษ อี ก หนึ่ ง ความภาคภู มิ ใ จของ ประเทศไทยที่มีศิลปะการต่อสู้ดังไกลไปทั่วโลก ซึ่ ง จากการส� า รวจของกระทรวงการต่ า ง ประเทศเมื่อไม่นานมานี้ พบว่ามีค่ายมวยไทย ในต่างประเทศจ�านวน ประเทศ มากถึง ค่าย ท�าให้มีชาวต่างชาติจ�านวนมาก ศึกษามวยไทยอยู่ที่ประเทศของตนเอง และยัง มีอีกบางส่วนที่เดินทางเข้ามาศึกษาต้นต�ารับ ที่ ป ระเทศไทย ในขณะที่ ข ้ อมูลของกระทรวง การท่ อ งเที่ ย วและกี าพบว่ า มี ค ่ า ยมวยใน ประเทศไทยเพียงแค่ ค่ายเท่านั้น แสดง ให้เห็นถึงการยอมรับและความนิยมของมวยไทย ในต่างแดนที่เติบโตมากกว่าประเทศแม่เสียอีก สาเหตุ ห ลั ก มาจากยุ ค สมั ย ที่ เ ปลี่ ย นไป มุมมองของคนไทยในปัจจุบันมองว่ามวยไทย เป็นแค่กี าเพื่อการพนัน ป่าเถื่อนและน่าเบื่อ ท�าให้หลายคนเลือกที่จะหันหลังให้กับอาชีพนัก มวยไทยและหันไปประกอบอาชีพอื่นแทน รวม ถึงยอดคนดูก็ลดลง ผลมาจากความสนุกและ ความตื่นเต้นเร้าใจหายไป สังเกตจากมวยไทย มีกติกาการชกอยู่ท่ี ยก แต่หากได้ลองดูมวย

จริงๆ จะพบว่านักมวยเดินหน้าเข้าชกกันแค่ ยกเท่านั้น สอดคล้องกับค�าให้สัมภาษณ์ ของ สมรักษ์ ค�าสิงห์ อดีตนักชกมวยไทยชื่อ ดังและเจ้าของเหรียญทองมวยสากลสมัครเล่น โอลิ ม ปิ ก คนแรกของไทยกั บ เว็ บ ไซต์ ผู ้ จั ด การ ออนไลน์ เมื่อวันที่ เมษายน ว่า คนไม่ เ ข้ า ไปดู ม วยเยอะเหมื อ นยุ ค ก่ อ นๆ ยอดผ่ า นประตู แ ต่ ล ะครั้ ง ก็ ไ ม่ ค ่ อ ยดี ต้องรอฝรั่งมาดู ยอดถึงจะเยอะ ถ้าเอาเฉพาะ คนไทยเนี่ย มันจะหายไปเรื่อยๆ อาจจะเป็น เพราะว่าระบบการตัดสิน ที่มีการพนันเข้ามายุ่ง เกี่ยว เลยท�าให้คนค่อยๆ หายไป สะท้ อ นให้ เ ห็ น ถึ ง ภาวะถดถอยของ มวยไทยอั น มี ส าเหตุ ม าจากการพนั น ท� า ให้ อรรถรสและความสนุ ก หายไป ส่ ง ผลให้ ร าย ได้ที่กว่าจะผ่านตัวโปรโมเตอร์ไปถึงนักมวยก็ เหลือเพียงหยิบมือ ท�าให้มีนักมวยบางคนหนี ชะตาชี วิ ต เลิ ก ชกกลางคั น และหั น ไปประกอบ อาชีพอื่นแทน สาเหตุตอ่ มาคือการทีเ่ ด็กและเยาวชนสมัย นีเ้ ลือกทีจ่ ะเรียนศิลปะการต่อสูแ้ ขนงอืน่ มากกว่า มวยไทย เช่น คาราเต้ ยูโด โดยเฉพาะเทควันโด ซึ่งเป็นที่นิยมมาก จากค�าให้สัมภาษณ์ของโค้ช เช เช ยอง ซอก กับไทยรั ออนไลน์ เมื่อวัน

ที่ กันยายน ว่า หลังคนไทยประสบ ความส�าเร็จในระดับนานาชาติ ส่งผลให้จ�านวน ประชากรกี าเทควันโดในเมืองไทยมีเพิม่ มากขึน้ เกือบสองล้านคนแล้ว เห็นได้จากบรรดาพ่อแม่ ผู ้ ป กครองส่ ง บุ ต รหลานของตั ว เองไปเรี ย นรู ้ ศิลปะการต่อสู้ชนิดนี้มากขึ้น ซึ่งตัวผู้เขียนเองมองว่า เหตุผลส�าคัญ คือ ภาพลักษณ์ของคนไทยที่มีต่อค่ายมวยจะ เป็นค่ายมวยเก่าๆ สกปรก และมีความรุนแรง รวมถึ ง มองว่ า เป็ น แหล่ ง ซ่ อ งสุ ม ของพวก นั ก เลง อี ก ทั้ ง ยั ง ไม่ มี ค วามเป็ น สากล หาก เทียบกับศิลปะการต่อสู้แขนงอื่นอย่างเทควัน โด ซึ่งมีการโฆษณาภาพลักษณ์ของศูนย์การ ฝกที่ เ น้ น ความสะอาดและปลอดภั ย รวมถึ ง เป็นกี าที่มีความเป็นสากลในระดับนานาชาติ เป็นส่วนส�าคัญที่ผู้ปกครองและเยาวชนมีความ เชื่อมั่นและอยากส่งเสริมมากกว่ามวยไทย ส�าหรับแนวทางฟื้นฟูกี ามวยไทยเริ่มมี ทิศทางที่ดีขึ้น เริ่มจากในปัจจุบันมีนักธุรกิจหัว ใสจัดรายการชกมวยไทยขึ้น โดยผู้จัดเปลี่ยน กติกาการชกจากเดิมที่ชก ยกเหลือเพียง ยกเท่านั้น ส่งผลให้นักมวยต้องเดินหน้าแลก หมัดกันทุกยก ท�าให้เกิดความสนุกสนานเร้าใจ จนเกิดกระแสผู้ชมหน้าใหม่ ท�าให้ธุรกิจมวย


7

กลับมาคึกคักอีกครั้ง รวมถึงจ�านวนแฟนคลับ ของนั ก มวยก็ เ พิ่ ม มากขึ้ น ตามกระแส เช่ น บัวขาว บัญชาเมฆ สุดสาคร ส.กลิ่นมี เป็นต้น นอกจากกระแสมวยที่กลับมาคึกคักขึ้น ในอีกด้านหนึ่งยังมีความพยายามจากสหพันธ์ มวยไทยโลกที่มีแผนจะผลักดันให้มวยไทยถูก บรรจุในการแข่งขันกี าโอลิมปิก เพื่อให้มีความ เป็นสากลมากขึ้น แต่ด้วยเงื่อนไขบางประการที่ ห้ามชื่อกี าบ่งบอกถึงเชื้อชาติเดียว ซึ่งประธาน สหพันธ์มวยไทยโลก พล.ท. อัครชัย จันทรโตษะ ก็ได้เสนอแนวคิดว่าให้ตัดชื่อ ‘ไทย’ ออกจาก ‘มวยไทย’ อีกทั้งให้ยกเลิกพิธีไหว้ครูก่อนขึ้นชก เพือ่ ความเป็นสากล และสามารถท�าให้มวยไทยมี โอกาสถูกบรรจุลงในโอลิมปิกเกมส์ ซึ่งผู้เขียน สนับสนุนแนวคิดนี้ เพราะว่าอาจท�าให้เยาวชน ไทยหันกลับมาสนใจ รวมถึงเข้าไปศึกษาศิลปะ มวยไทยมากขึ้น แม้ ว ่ า แนวคิ ด ดั ง กล่ า วจะมี กระแสคัดค้านจากอีกฝ่ายก็ตาม ซึ่งประเด็นนี้ ยังคงอยู่ในการประชุมหารือเพื่อหาทางออกที่ เป็นกลางกับทุกฝ่าย แม้ ว ่ า กระแสมวยไทยจะเริ่ ม กลั บ มาดี ขึ้นบ้าง แต่ก็ยังคงมีปัญหาเดิมที่ยังไม่สามารถ แก้ไขได้คือ ภาพลักษณ์ของมวยไทยในสายตา ของคนไทยด้วยกันเอง ในขณะที่ชาวต่างชาติ

ร้อยเรียงเรื่องราว | Baankluay

มองว่ า เป็ น ศิ ล ปะการต่ อ สู ้ ชั้ น สู ง มี ค วาม แข็งแกร่ง และน่าเรียนรู้เป็นพื้น านการต่อสู้ แต่ในมุมตรงข้ามคนไทยกลับมองเอกลักษณ์ ประจ�าชาติไทยเป็นกี าป่าเถื่อน กี าของคน ชนบทที่ มี ก ารพนั น เข้ า มาเกี่ ย วข้ อ ง ซึ่ ง ตั ว ผู ้ เขียนเองมองว่าเป็นปัญหาใหญ่ ยากที่จะแก้ไข และหากเป็นเช่นนี้ต่อไปคนที่สืบสานอนุรักษ์ ศิลปะการต่อสู้นี้ไว้อาจไม่ใช่คนไทย แต่กลาย เป็นคนต่างชาติแทน ส่ ว นแนวทางแก้ ไ ขผู ้ เ ขี ย นมองว่ า นอกจากความช่วยเหลือจากทุกภาคส่วนแล้ว ค่ า ยมวยเองก็ ต ้ อ งสร้ า งภาพลั ก ษณ์ ใ หม่ ทั้ ง ความสะอาดและความปลอดภัยของค่ายมวย เพื่อดึงความเชื่อมั่นกลับมา และถ้าหากความ พยายามในการการผลักดันมวยไทยให้ถูกบรรจุ ในโอลิมปิกเกมส์ส�าเร็จ ก็จะช่วยยกระดับความ เป็นสากลของมวยไทยมากขึ้น ซึ่งอาจเป็นสิ่ง ส� า คั ญ ที่ ท� า ให้ เ ยาวชนหั น กลั บ มาสนใจและ สืบสานศิลปะการต่อสู้นี้ไว้แทนที่จะเป็นศิลปะ การต่อสู้แขนงอื่น รวมถึงก่อนหน้านี้กระทรวงศึกษาธิการ มี โ ครงการบรรจุ วิ ช ามวยไทยในหลั ก สู ต รการ เรียนการสอนระดับชั้นมัธยมศึกษา ซึ่งถือว่า เป็นโอกาสที่ดีหากจะเดินหน้าสานต่อโครงการ

ที่วางไว้ให้สมบูรณ์ ตั้งแต่การจัดอบรมมวยไทย ให้แก่ครูผู้ฝ กสอนตามโรงเรียนต่างๆ อย่าง ถูกต้อง เพื่อให้ครูฝ กสามารถน�าวิชามวยไทย ไปสอนได้จริงและถูกต้องตามต้นฉบับ อีกทั้ง ผลักดันให้ครอบคลุมทั่วทุกโรงเรี ย น เพื่ อ ให้ เยาวชนไทยได้สืบสานศิลปะการต่อสู้น้ีไว้ อนาคตมวยไทยคงต้องแก้ไขตั้งแต่ต้น ระบบ โดยทุกฝ่ายต้องร่วมมือกัน ทั้งภาครั ที่ ก�าลังพยายามเดินหน้าผลักดันอย่างจริงจังให้ มวยไทยถู ก บรรจุ ใ นโอลิ ม ปิ ก เกมส์ เ พื่ อ ความ เป็นสากล และน�าศิลปะการต่อสู้นี้บรรจุลงใน หลักสูตรการเรียนการสอน รวมถึงตัวของค่าย มวยเองก็ต้องสร้างภาพลักษณ์ใหม่ให้มีความ น่าสนใจ เพื่อให้เยาวชนไทยได้ศึกษาเรียนรู้ ศิลปะการต่อสู้ที่เป็นเอกลักษณ์ของไทย และ สืบสานความภาคภูมิใจนี้ไว้ให้คงอยู่ต่อไป


Baankluay | ร้ร

รอย ย

8

สั

รั า

เร่อง กาญจนา ร ม ลิค ภาพ : ธนาวุธ วรนุช

ด้วยกาลเวลาแล ยุคสมัยทีเ่ ปลีย ่ นแปลงไป ทาให้รา ้ นสัง

ณ ั ม ์ ากมายในอดีตค่อย

แล เ ่ อ ตอบสนองความต้ อ งการของ ุ ท ศาสนิ ก ชน ู ้ มี ค วามศรั ท าใน ร จุดศูนย์กลางรวบรวมร้านสัง มีรา้ นสัง

ลดน้อยลงไป

ุ ท ศาสนา จงเกิ ด

ัณ ์ไว้มากมายหลายร้านในย่านเสาชิงช้าล่าง บริเวณ นนบารุงเมอง

ณ ั เ์ ก่าแก่ ง ่ อยูค ่ ย ู่ า่ นนีมานานกว่า

ป คอ ร้านไตรทิ ย์ มีสน ิ ค้าให้เลอก อแบบครบวงจร

เจ้ า ของร้ า นไตรทิ พ ย์ ใ นรุ ่ น ปั จ จุ บั น คื อ ‘ภาณุวัฒน์ พงษ์กิตติหล้า’ ที่จบการศึกษาด้าน การบริหารธุรกิจมาจากมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ แล้วน�าความรูท้ ไี่ ด้จากการเรียนมาบริหารกิจการ ของครอบครัวให้เติบโตขึ้นแบบก้าวกระโดด ด้วย การกล้าลงทุนปรับปรุงร้านใหม่ทั้งหมด และ ขยายกิจการจากขายผ้าไตรจีวรเพียงอย่างเดียว มาเป็นการขายปลีกและขายส่งสินค้าสังฆภัณฑ์ ทุ ก ชนิ ด ท� า ให้ ร ้ า นไตรทิ พ ย์ ก ลายเป็ น ร้ า นที่ ประสบความส�าเร็จมากที่สุดร้านหนึ่ง

หากพูดถึงร้านสังฆภัณฑ์ สิ่งแรกที่คนส่วน ใหญ่นึกถึงคงหนีไม่พ้น ‘ชุดสังฆทานและชุ ด ไทยธรรม’ ซึ่งเป็นวัตถุทานที่เป็นปัจจัยสี่ อัน ประกอบไปด้วย อาหาร เครื่องนุ่งห่ม เครื่อง ประกอบทีอ่ ยูอ่ าศัย และยารักษาโรค ทีพ่ ระจ�าเป็น ต้องใช้ ซึ่งร้านนี้ก็มีหลากแบบ หลายขนาด ให้ เลือกสรรตามความต้องการและก�าลังทรัพย์ของ ผู้ซื้อ สินค้าแต่ละชิ้นต่างจัดแต่งอย่างประณีต สวยงาม มีคณ ุ ภาพ และมีฉลากบอกวันหมดอายุ ไว้อย่างชัดเจนตามที่ก หมายก�าหนดทุกชิ้น


ร้ร รอย ย | Baankluay

9

นอกจากเครื่องสังฆทานแล้ว ยังมีสินค้า ชนิ ด อื่ น ที่ ห ลายคนอาจไม่ ค ่ อ ยคุ ้ น เคยอย่ า ง ‘บังแทรก’ เป็นเครื่องสูงอย่างหนึ่ง ที่ใช้กั้นบัง แดดของพระมหากษัตริย์และเจ้านายชั้นสูง และ ใช้ในริ้วขบวนแห่ ซึ่งที่ร้านรับโครงหุ่นมาจาก โรงงาน แล้วเพิ่มความวิจิตรงดงามโดยใช้ช่าง ฝีมอื ของร้านปิดทองและลงยาเป็นลวดลายหลาก สีสัน สินค้าชิ้นต่อมาคือ ‘ผอบและเจดีย์แก้ว’ ส�าหรับบรรจุพระธาตุ มีรูปทรงคล้ายสถูปหรือ เจดีย์ ประดับด้วยทองค�าลงยาเป็นลวดลายตาม ความนิยม อันได้รับอิทธิพลส่วนใหญ่มาจาก สถาปัตยกรรมไทยและล้านนาโบราณ ทีถ่ า่ ยทอด ต่อกันมาจนถึงปัจจุบัน

นอกจากนี้ยังมีสินค้าที่โดดเด่นและเป็นที่ ต้องการในท้องตลาดอีกอย่างหนึง่ ก็คอื ‘รูปเหมือน พระเกจิ’ ทีล่ กู ค้าสามารถสัง่ ท�าได้ตามความต้องการ บางร้านใช้ขผี้ งึ้ ในการท�า ไม่ทนต่อความร้อนและ ละลายได้งา่ ย แต่รา้ นนีม้ คี วามพิเศษทีแ่ ตกต่างออก ไปคือ ใช้วสั ดุไฟเบอร์ทที่ นความร้อนได้ดี มีความ ทนทาน เมือ่ ต้องอยูใ่ ต้แสงของหลอดไฟนานๆ ก็ ไม่ละลาย สินค้าชิน้ ส�าคัญทีข่ าดไม่ได้เลยก็คอื ‘พระพุทธ รูป’ หลากหลายปาง ซึง่ มีตงั้ แต่องค์เล็กเท่าฝ่ามือ ไปจนถึงองค์ใหญ่กว่าตัวคน วัสดุทใี่ ช้ทา� พระพุทธรูป ส่วนใหญ่มี เนือ้ คือ ทองเหลือง และอลูมเิ นียม มองภายนอกเหมือนกันมาก หากไม่พลิกดูใต้ าน จะไม่สามารถรู้ได้เลยว่าเป็นเนื้อใด นอกจากนี้

ทางร้ า นยังมีพระพุทธชินราชแบบพิเศษทีฝ่ งั เพชร สวารอฟสกีเ้ พิม่ ความวิจติ รงดงามให้กบั องค์พระพุทธ รูปอีกด้วย จะเห็นได้วา่ นอกเหนือจากสังฆทานทีเ่ รารูจ้ กั กัน เป็นอย่างดีแล้ว ยังมีสนิ ค้าสังฆภัณฑ์อนื่ ๆ อีกมากมาย ให้เลือกซือ้ ไม่วา่ จะเป็นเครือ่ งบวช เครือ่ งก นิ โต๊ะหมู่ บูชา ตูพ้ ระไตรปิ ก และเครือ่ งทองเหลืองต่างๆ ทีไ่ ม่ เพียงมีความสวยงามโดดเด่นกว่าร้านอืน่ เท่านัน้ แต่ ทางร้านยังใส่ใจในเรือ่ งมาตร านของสินค้าด้วย ท�าให้ สามารถมัน่ ใจได้เลยว่าสินค้าทุกชิน้ ใน ‘รา้ นไตรทิพย์’ แห่งนี้ มีคณ ุ ภาพสมกับราคาแน่นอน


Baankluay |

้อ วา า

10

า บ

ร เรื่อง

ิชชา า หลักค

ภาพ : ธนาวุธ วรนุช

กาลเวลาที่หมุนเปลี่ยน ชีวิตที่แปร ัน ทาให้เกิดเร่องราวต่าง กเปลี่ยนแปลงตามส า แวดล้อม แล้ว วกคุณเคยคิดกันไหม

มากมาย ความนกคิดของมนุษย์

้าปร เทศไทยของเรามีความรู้สกเขาจ

มีความคิดยังไง วันนีเรามาส่งต่อความรูส ้ กนกคิดของนักศกษาชาวมหาวิทยาลัยกรุงเท ทีอ ่ ยากจ บอก ปร เทศของเรากันเ อ

จิรโชค จันทร์ ไข่ คณะนิเทศศาสตร์

วัชระ จันคีรี คณะนิเทศศาสตร์

ชมชืน่ เล็กน้อย คณะมนุษยศาสตร์และการจัดการการท่องเทีย่ ว

แกเคยดีกว่านี้ เหมือนเรารู้จักใครสักคน แล้วเขาเปลี่ยนไปในทางที่ไม่ดี เลยอยากจะบอกเขาว่า แกเคยดีกว่านี้

สามัคคีกันไว้นะ อยู่ด้วยกันมาขนาดนี้แล้ว

อยากให้สามัคคีกันมากกว่านี้ เพราะทุกวันนี้ ความเห็นยังแตกต่างกันอยู่ เลยอยากให้ สามัคคีกันมากขึ้น อยู่ด้วยกันมาขนาดนี้แล้ว

ณั ธิดา ปัน้ เพชร คณะมนุษยศาสตร์และการจัดการการท่องเทีย่ ว

เลิฟลีน ชาบรา วิทยาลัยนานาชาติ

ขวัญธดา ชัยเวช วิทยาลัยนานาชาติ

อยากขอบคุณที่มีพื้นที่ท่องเที่ยวสวยๆ ให้เราได้พักผ่อนกัน

ขอโทษนะ ที่ยังดูแลเธอไม่ดีพอ

อยากให้เข้มแข็งไว้นะ ก็อยากให้สู้ต่อไป ร่วมมือกัน

สุพิชชา พูนชัย คณะบริหารธุรกิจ

คุณาธิป อัศวโรจนไมตรี วิทยาลัยนานาชาติ

พฤพนช ภู่เจริญ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

สู้ๆ นะ เพราะปัญหามาเยอะ สู้ต่อไป อยู่ด้วยกัน

สู้ๆ นะ เพราะว่าผ่านอะไรมาหลายอย่าง ทั้ง เรื่องดีและไม่ดี อยากให้เข้มแข็งไว้

อยากให้กา� ลังใจ หันมาร่วมมือร่วมใจกัน เพื่อประโยชน์ของส่วนรวม

จากค�าตอบของบรรดาหนุ่มสาวในมหาวิทยาลัยกรุงเทพมีความคิดเห็นส่วนใหญ่เป็นการให้ก�าลังใจประเทศไทยให้ผ่านวิกฤตต่างๆ ไปได้ด้วยดี แล้วคุณล่ะ อยากบอกอะไรกับประเทศไทย


อรอย ่ว ย | Baankluay

11

เร่อง / า

ิชากร แ ่ด่าน

หาก ูด งแหล่งรวมร้านขนมไทยที่ได้รับความสนใจของ ู้คน เกา เกรด คงเปนหน่งในส านทีท ่ ป ี่ เิ ส ไม่ได้วา่ มีรา้ นขนมไทยให้เหนอยู่ ตลอดสองฝั่งทางเดินเท้า แต่จ มีสักกี่ร้านที่มีขนมไทยหน้าตาสีสัน สวยงามน่ า รั บ ปร ทานสามาร ดงดู ด สายตานั ก ท่ อ งเที่ ย วได้ ร้านทีเ่ ราจ แน นาวันนีคอ ร้านขนมไทยแม่ทองเติม

ถนนสุขาประชาสรรค์ ซอย ต.เกาะเกร็ด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี โทร เปิด จันทร์ ศุกร์ . . น. เสาร์ อาทิตย์ . . น.

ร้านขนมไทยแม่ทองเติมจะมีขนมไทยหลาก หลายชนิดจัดเรียงกันอย่างสวยงาม ด้วยรูปลักษณ์ที่ มีขนาดเล็กพอดีคา� พร้อมกับรสชาติทไี่ ม่หวานจนเกิน ไป นับเป็นเสน่หท์ หี่ าตัวจับยากของขนมไทยร้านนี้ ขนมไทยสูตรต้นต�ารับชาววัง มีให้เลือกทาน มากกว่า ชนิดทีต่ กทอดจากรุน่ สูร่ นุ่ ซึง่ ขนม แต่ละชิ้นผ่านขั้นตอนการท�าอย่างประณีตและ พิถพี ถิ นั จนได้ขนมไทยทีห่ น้าตาสวยงามเหมือนได้ ทานขนมพร้อมชมผลงานศิลปะไปด้วยกัน เมนูแรกขอแนะน�าให้ชิม ‘กุหลาบชาววัง’ เป็นขนมโบราณที่มีความสวยงามเหมือนดอก กุหลาบ เนือ้ ขนมท�ามาจากแปงสาลี กะทิ น�า้ ตาล มากวนให้เข้ากัน แล้วท�าเป็นรูปดอกกุหลาบ จากนั้นจึงน�าไปเข้าเตาอบให้เนื้อขนมสุก แล้ว ตามด้วยการอบควันเทียนให้มีกลิ่นหอมน่ารับ ประทาน รสชาติจะออกหวาน กรอบนอกนุ่มใน ต่อด้วยขนมทีห่ าทานยากอย่าง ‘จ่ามงกุ ’ ซึ่งจัดเป็นขนมชาววังที่หาทานได้ยาก เนื่องจาก วิธีท�าต้องอาศัยศิลปะในการท�าสูงกว่าขนมชนิด อื่น านมงกุ ท�าจากเม็ดแตงโมชุบน�้าตาล ตัว ขนมมีลกั ษณะคล้ายมงกุ สีทอง ท�าจากแปงสาลี ไข่ไก่ น�้าตาล และกะทิ แล้วตกแต่งด้วยทองค�า เปลว เนื้อขนมจะหวานหอม ตัว านจะมีความ กรอบจากเม็ดแตงโม

นอกจากนั้นยังมี ‘ขนมเสน่ห์จันทร์’ ที่ใช้ ผลลูกจันทร์ป่นผสมกับแปงข้าวเจ้าและแปงข้าว เหนียว ส่งกลิน่ หอมอบอวลไปทัว่ ทัง้ ร้าน เนือ้ ขนม มีความนุ่ม รสชาติจะออกหวานเล็กน้อย หรือจะ เป็น ‘ขนมลืมกลืน’ ทีเ่ ป็นขนมขึน้ ชือ่ ของทางร้าน ท�าจากแปงถั่วเขียว กะทิ น�้าดอกไม้สด และ น�า้ ตาลทราย ขนมถูกบรรจุในถ้วยพลาสติกทีด่ า้ น ล่างเป็นเนือ้ วุน้ ด้านบนถูกราดด้วยกะทิขน้ เหนียว ตามด้วยการโรยหน้าด้วยถั่วแปบ เนือ้ ขนมจะนุ่ม ละมุนลิ้นโดยมีทีเด็ดอยู่ที่รสชาติ หอม หวาน มัน จนอยากเคี้ยวอยู่ในปากให้นานๆ แต่ทพี่ ลาดไม่ได้คอื ‘กระเช้าสีดา’ เป็นขนม ไทยที่หาทานได้ค่อนข้างยาก เนื่องจากต้องใช้ ความประณีตในการท�า โดยตัวขนมท�ามาจากแปง สาลี รูปทรงสวยงามคล้ายกระเช้า ไส้ทา� มาจาก มะพร้าวทึนทึก ที่เนื้อมะพร้าวจะไม่อ่อนไม่แก่จน เกินไป ให้รสชาติหวานมันก�าลังดี นอกจากจะได้ลมิ้ ลองรสชาติขนมไทยสูตร โบราณแล้ว ยังได้อมิ่ เอมกับบรรยากาศแบบไทยๆ ทีน่ า่ จะถูกใจใครหลายคน เพราะที่ ‘เกาะเกร็ด’ เหมาะ กับการมาเทีย่ วพักผ่อนเปลีย่ นบรรยากาศ ไหว้พระ ท�าบุญ และหาขนมไทยอร่อยทาน แถมอยูไ่ ม่ไกลจาก กรุงเทพ อีกด้วย


Baankluay | อรอย ่ว

12

บรร า า ส ส ับ ส า เร่อง / า

กรรณิกา อุตสาห

ร้านขนมหวานสไตล์ไทยที่คงความเปนเอกลักษณ์แบบไทย ในด้านรสชาติแบบดังเดิม มีทังความสวยงามแล เสน่ห์ด้วยรสชาติ ที่อร่อยไม่ าใคร เปนทังของขวัญ ของฝากในเทศกาลต่าง ได้เลอกชมมากมาย แล้วยังแฝงไปด้วยความหมายดี

ให้คุณ

ทีเ่ ปนสิรม ิ งคล

แก่ ู้รับอีกด้วย รู้จักกันในช่อ บ้านขนมสวย

เมื่อเดินเข้ามาในร้าน บรรยากาศภายใน เป็นทั้งบ้านทั้งร้านในเวลาเดียวกัน สไตล์การ ตกแต่งจะเน้นความรู้สึกใกล้ชิดธรรมชาติ ให้ ความร่มเย็นเพื่อเป็นการผ่อนคลาย ในส่วนของ ขนมร้านนี้มีความโดดเด่น ในการผสมผสาน รสชาติขนมหวานและความสวยงามให้ดูทันสมัย อยู่เสมอ เมนูขึ้นชื่อส�าหรับร้านนี้ที่พลาดไม่ได้ คือ ‘ขนมไทยมงคล ชนิด’ มีลกั ษณะเป็นขนมทีอ่ ยู่ บนพานทอง รสชาติอร่อย นุม่ นวล ไม่หวานมาก กลิ่นหอม ขนมในพานมีทั้งหมด ชนิด ได้แก่ ขนมชัน้ ทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง เม็ดขนุน ทองเอก ถ้วยฟู จ่ามงกุ และเสน่ห์จันทร์ ซึ่ง เกี่ยวเนื่องกับความเชื่อของคนไทยสมัยโบราณ ที่เชื่อว่าเลข นั้นหมายถึงความก้าวหน้าและ การมีอายุยืนยาว

เมนูถัดมาเป็น ‘ขนมไทย a ’ ในหนึ่งกล่องนั้นสามารถเลือกขนมได้หลายชนิด ตามความต้องการ ซึ่งในกล่องนี้มีขนมทั้งหมด ชนิด ได้แก่ ขนมทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง เม็ดขนุน ลูกชุบ และขนมชัน้ ดอกกุหลาบ ตัวขนม นั้นมีรสชาติที่กลมกล่อม หอมละมุน ไม่หวาน จนเกินไป จัดเรียงตามช่องเพื่อความสวยงาม สะดุดตาแปลกใหม่ มีความประณีตใส่ใจในทุก รายละเอียด ช่วยเพิ่มความประทับใจในรูปแบบ และสีสันของขนมไทย ส�าหรับใครทีช่ นื่ ชอบขนมไทยมงคลเพือ่ เป็น ของฝากในโอกาสพิเศษ สามารถเข้ามาพิสูจน์ ความอร่อยได้ที่ ‘บ้านขนมสวย’ จากความพิถพี ถิ นั และประสบการณ์การท�าขนมมาอย่างยาวนาน รับรองว่าคุณต้องอยากกลับมาลิ้มลองอีกครั้ง แน่นอน

บ้านเลขที่ ถนนพัฒนาการ หมู่บ้านผาสุก เขตประเวศ กรุงเทพ โทร เปิดทุกวัน เวลา . . น. .a . aa a sua . aa a sua . i : thais t


อรอย ่ว ย | Baankluay

13

ส เร่อง / า

กรรณิกา อุตสาห

เติมความหวานด้วยเมนูขนมไทย อดีคาทีเ่ น้นความสวยงามแล ความปร ณีต เหมา กับช่วงเวลาเทศกาล เิ ศษหรองานมงคล ทีร ่ า้ น ชันขนมหวาน

ร้านขนาดเลกใจกลางเมอง

จุดเริม ่ ต้นของร้านเริม ่ จากการทีเ่ จ้าของร้าน คุณเอิร์ ศัลย์ อิท ส ิ ขุ นันท์ ชอบทาขนมเปนชีวิตจิตใจ แล ร้านชันขนมหวานกเปนมรดกตกทอด จากบรร บุรษ ุ เขาจงอยากจ รักษาไว้ให้คงอยูต ่ อ ่ ไป

ถนนบรรทัดทอง แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน เยื้องซอยจุ า โทร เปิดทุกวัน เวลา . . น. .a . ha a ha . ha a ha . ai : i ha a ha .

ส�าหรับการตกแต่งภายในร้านนั้นเน้นไป ทางโทนสีเขียวอ่อนและสีขาว เพื่อให้ความรู้สึก โปร่งโล่ง สบายตา นอกจากนั้นยังมีมุมถ่ายรูป เล็ ก ๆ ที่ มี ชิ ง ช้ า และน้ อ งหมี ตั ว โตอยู ่ ข ้ า งกั น ประดับด้วยโคมไฟสีสดงดงาม ซึ่งเป็นจุดดึงดูด ความสนใจและสร้างความเพลิดเพลินให้กบั ลูกค้า ที่มานั่งรอขนม เมนูแนะน�าของทางร้านคือ ‘วุ้น’ มีทั้ง หน้าวุน้ ทีเ่ ป็นลูกชุบ พุดดิง้ ฟรุต๊ สลัด และตัวอักษร ที่สมั ผัสได้ถงึ กลิน่ หอมของน�า้ ผลไม้บวกกับ รสชาติที่ไม่หวานจนเกินไป ซึ่งตั ว วุ ้ น นั้ น จะมี ลักษณะพอดีค�า มีการประดิษ ์อย่างพิถีพิถัน ให้มีความน่ารัก ทันสมัย และแปลกตา เพื่อให้ ขนมไทยมีเสน่ห์มากยิ่งขึ้น เหมาะกับการเป็น ของว่างทานเล่นส�าหรับเด็กๆ ‘ขนมชัน้ ’ เป็นเมนูถดั มาทีอ่ ยากเชือ้ เชิญ ให้ ลิ้มลอง เพราะถือว่าเป็นขนมที่รู้จักกันอย่าง

แพร่หลายหรือรู้จักกันตั้งแต่เด็กก็ว่าได้ มีทั้งรส ใบเตย กาแฟ อัญชัน น�า้ แดงเ ลซ์บลูบอย จุดเด่น อยู่ที่ความนุ่มละมุนของตัวขนมชั้น มีรูปทรง เป็นดอกไม้ สีสันสวยงาม สีไม่สดจนเกินไป มีขนาดพอดีคา� ง่ายต่อการรับประทาน ปิดท้ายความอร่อยด้วย ‘ขนมกลีบล�าดวน’ ขนมโบราณที่มีรูปลักษณ์สวยงาม ขนาดเล็ก เป็นกลีบๆ คล้ายดอกไม้ ตัวแปงสัมผัสได้ถึง ความกรุ บ กรอบ เมื่ อ ลองลิ้ ม ชิ ม รสก็ รั บ รู ้ ถึ ง ความเค็มนิดๆ ติดทีป่ ลายลิน้ และละลายในปาก จนท�าให้รู้สึกเพลิดเพลินไปกับการทาน ส�าหรับใครทีช่ น่ื ชอบขนมไทยและการตกแต่ง ร้านทีน่ า่ รัก สามารถแวะเข้ามาลิม้ ลองความอร่อย ได้ที่ ‘ร้านชั้นขนมหวาน’ ha a ha เรียกได้วา่ เป็นร้านทีค่ รบเครือ่ งทัง้ รสชาติ บรรยากาศ เป็นอีกทางเลือกหนึ่งของผู้ที่ชื่นชอบขนมหวาน หลากสไตล์ที่ชวนให้คุณต้องหลงใหล


เรื่อง กิตติมา มหรรณ า

ทิ ย์สุดา ิสุท ิ ัน ุ์

นาวุ วรนุช

Inspiring Artist’s House สบสา า า บา บา เสียงบรรเลงของ ร นาดแล ป่ใน ดังขับกล่อมจังหว ครกครน ปลุกเร้าจนเสียงหัวใจเต้นรัว ลีลา ลดแล่นไปมาของหนุมาน ทหารเอก ของ ร รามที่ได้รับค สั่งให้น ก้อนหินมา มท เลเ ่อสร้างเปน นน ข้ามไปยังกรุงลงกา แต่หากยิง ่ มยิง ่ หายเ รา มวลหมูป ่ ลาน้อยใหญ่ น ดยนางสุ รรณมัจ าคาบก้อนหินไปทิง จงเปนหน้าที่ของลิงขาว หนุ่มที่ต้องไล่จับนางปลาเ ่อให้ค สั่งที่ได้รับมาส เรจลุล่วง ท่วงท่า ทีอ ่ อ ่ นช้อยสวยงามของสุ รรณมัจ าร หว่างการหลบหนี สม สาน กับการเคล่อนไหวที่แขงขันของหนุมาน ช่างเปนส่วน สมที่ลงตัวแล สวยงามเกินกว่าจ บรรยาย ทีมงานมอง า ข้างหน้าที่ปราก ด้วย ความปร หลาดใจ เ รา หุ่นที่เหนราวกับมีชีวิตจริง


การแสดงหุน่ ละครเล็กในปัจจุบนั นับว่าหา ชมได้ไม่ง่ายแล้ว แต่ยังมีอีกหนึ่งสถานที่ที่เปิด แสดงให้ได้ชมโดยไม่เสียสตางค์ เพียงเดินลึกเข้า มาในซอยจรัญสนิทวงศ์ ไม่กี่ร้อยเมตร จะพบ กับชุมชนบ้านไม้ชนั้ เดียวรูปทรงเก่าแก่ซกุ ซ่อนอยู่ ในซอยแคบริมคลอง ให้ความรู้สึกเหมือนได้ย้อน เวลาไปยังอดีตแต่เก่าก่อน บรรยากาศเงียบสงบ วิถีชีวิตดั้งเดิมริมคลองยังคงมีให้เห็น พ่อค้าแม่ ขายพายเรือสวนกันไปมา ในขณะที่เรือโดยสาร สาธารณะก็วิ่งผ่านคลองสายนี้ตลอด ในสถานที่ ที่เรียกว่าชุมชนคลองบางหลวง ยายกิมไน้ ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในชุมชน คลองบางหลวงมาร่วม ปี เล่าถึงสมัยก่อนว่า

น�้าในคลองใสสะอาดมากจนสามารถน�ามาดื่มได้ ทั้งสองฟากฝังเป็นบ้านไม้เก่า คับคั่งไปด้วยผู้คน ทีอ่ าศัยอยูร่ มิ คลอง หญิงชราอายุเฉียดร้อยสีหน้า เปียมสุขทุกครั้งเมื่อถูกถามถึงอดีต และพร้อมจะ ถ่ายทอดประสบการณ์เมื่อครั้งวันวานแก่คนรุ่น หลังเสมอ แต่สิ่งที่ท�าให้ชุมชนเก่าแก่แห่งนี้กลับมา คึกคักอีกครัง้ คือ ‘บ้านศิลปิน’ บ้านไม้ทรงมะนิลา ชั้น อายุราว ปี ที่รวบรวมและจัดแสดง ศิลปะหลากหลายแขนง เป็นสถานที่เพียงไม่กี่ แห่งที่ผู้ชมจะได้สัมผัสกับหุ่นละครเล็กอย่างใกล้ ชิด และได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสืบสานศิลปะ การแสดงไทยที่น่าภาคภูมิใจ

ตี จตุพร นิลโท ผูเ้ ชิดหุน่ ละครเล็กคณะค�า นายเล่าให้ฟังว่า บ้านหลังนี้ถูกซื้อต่อจากคุณ ประไพ รักส�ารวจ ทายาทคนสุดท้ายของบ้าน โดย คุณชุมพล อักพันธานนท์ เจ้าของบ้านศิลปินใน ปัจจุบนั ซึง่ เล็งเห็นถึงความส�าคัญทางศิลปะและ สถาปัตยกรรมของเรือนไม้หลังเก่าที่ควรค่าแก่ การอนุรักษ์ จากนั้นจึงได้ปรับปรุงพื้นที่บางส่วน ของบ้านและเปิดเป็นบ้านศิลปิน แม้ จ ะปรั บ ปรุ ง สภาพบ้ า นแต่ ก ลิ่ น อาย ความเก่าแก่ยังคงไม่เลือนหาย เพราะแค่ก้าวเข้า มาในบ้านก็จะพบกับเจดียเ์ ก่าย่อมุมไม้สบิ สอง ซึง่ มีอายุราว ปี ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่กลางบ้าน สันนิษ านว่าเป็นพระเจดีย์ทิศหนึ่งจากสี่ทิศเพื่อ


Baankluay |

อง า

บอกอาณาเขตของวัดก�าแพงที่ตั้งอยู่ในชุมชน คลองบางหลวง เป็นหลัก านโบราณสถานส�าคัญ ที่บ่งบอกถึงประวัติศาสตร์อันยาวนานของสถาน ที่แห่งนี้ นอกจากความโดดเด่นของตัวบ้าน เมื่อ ทีมงานเดินส�ารวจก็พบว่าบริเวณชัน้ สองของบ้าน เป็นส่วนแสดงงานศิลปะทัง้ ภาพวาดและภาพถ่าย ส่วนชั้นล่างส่วนหนึ่งแบ่งเป็นพื้นที่ท�างานศิลปะ อีกส่วนหนึง่ แบ่งเป็นมุมขายของทีร่ ะลึก มีมมุ ร้าน กาแฟให้ได้สั่งเครื่องดื่มมานั่งจิบพร้อมชมวิว ทิวทัศน์ริมคลองบางหลวง ปล่อยกายใจให้สงบ รับสายลมเอือ่ ย พร้อมกับให้อาหารปลาตัวใหญ่ที่ แหวกว่ายต้อนรับนักท่องเทีย่ วอยูเ่ ต็มคลอง การถือก�าเนิดของบ้านศิลปินมาพร้อมกับ การถือก�าเนิดของหุ่นละครเล็กคณะค�านายเช่น เดียวกัน โดยนักแสดงส่วนหนึ่งเคยท�าการแสดง อยู่สวนลุมไนท์บาซาร์และกลับมารวมตัวกันอีก ครั้งจากค�าชวนของคุณชุมพล อักพันธานนท์

16

เจ้าของบ้านศิลปินที่อยากให้ศิลปะการแสดงหุ่น ละครเล็กยังคงอยู่ หุ่นละครเล็กคณะค�านายมี เสน่หอ์ ยูต่ รงทีเ่ หล่าบรรดานักเชิดหุน่ นอกจากจะ นุ่งด�าห่มด�าแล้ว ยังปกปิดใบหน้าด้วยหน้ากากสี ด�า เพราะต้องการจะลดทอนในส่วนของใบหน้า และสีผวิ ของผูเ้ ชิดลง เพือ่ ให้ตวั หุน่ ละครเด่นทีส่ ดุ จึงท�าทุกอย่างให้เป็นสีด�าทั้งหมด

ในส่ ว นของหน้ า กากเป็ น แนวคิ ด ของ อาจารย์วัชระ ประยูรค�า ศิลปินผู้มีชื่อเสียงใน วงการศิลปะด้านประติมากรรม ที่อยากให้เป็น เอกลักษณ์ของคณะค�านาย เลยปัน้ หน้ากากขึน้ มา แบบเรียบๆ มีลกั ษณะมองต�า่ เหมือนพระพุทธรูป ไม่เห็นอารมณ์ในสีหน้า ไม่เห็นอารมณ์ในแววตา จึงท�าให้ทั้งผู้เชิดและหุ่นเปรียบเสมือนมนุษย์


อง า

17

|

Baankluay

ส�าหรับผูเ้ ชิดหุน่ ละครเล็กต�าแหน่งแรกจะ มีหน้าที่บังคับศีรษะรวมไปถึงแขนด้านซ้ายของ หุ่น ต�าแหน่งถัดมาบังคับเท้าทั้งสองข้าง และ ต�าแหน่งสุดท้ายบังคับมือขวาของหุน่ สามผูเ้ ชิด ต้องมีความสมัครสมานสามัคคีจึงจะสามารถ ถ่ายทอดจิตวิญญาณและหล่อหลอมให้หุ่นโลด แล่นราวกับมีชวี ติ ขึน้ มาได้ นอกจากบ้านศิลปินจะเป็นสถานที่แสดง หุ่นละครเล็กแล้ว ที่นี่ยังเป็นโรงเรียนสอนการ แสดงโขนของชุมชนคลองบางหลวงที่อบอุ่นและ มีชวี ติ ชีวา ช่วงเวลาหลังการแสดงจบ เด็กชายตัว น้อยนุ่งโจงกระเบนสีแดง เตรียมตัวไหว้ครูและ เริม่ เรียนโขนบริเวณลานของบ้าน น้องปุณ ด.ช. กรินทร กาญจนโหติ อายุ ปี ถ่ายทอดความประทับใจในศิลปะการแสดง โขนว่า เริ่มต้นจากการเข้ามาชมการแสดงหุ่น ละครเล็กกับครอบครัวแล้วรู้สึกสนใจ จึงเริ่มเข้า มาเรียนโขน ด้วยความรักผนวกกับความอดทนที่ จะเรียนรู้ ท�าให้นอ้ งปุณได้เรียนโขนกับบ้านศิลปิน มาแล้วร่วม ปี จนมีโอกาสได้แสดงต่อหน้า

ปุถชุ นทีใ่ ช้ลมหายใจเดียวกัน สามผู้เชิดกับหนึ่งหุ่นละครเคลื่อนไหวไป ในทิศทางเดียวกันอย่างน่าอัศจรรย์ สร้างความ ตื่นตาตื่นใจให้กับนักท่องเที่ยวที่มาชมการแสดง อย่างมาก ไม่ว่าจะชาวไทย ชาวต่างชาติ ต่างชม การแสดงอย่างตัง้ ใจราวกับถูกสะกดด้วยมนต์ขลัง นีค่ งเป็นเสน่หอ์ ย่างหนึง่ ทีห่ าไม่ได้จากทีไ่ หน จึง ท�าให้อดสงสัยไม่ได้ว่าพวกเขาท�าให้หุ่นโลดแล่น ราวกับมีชีวิตได้อย่างไร เพียงแค่ขยับหุ่นไปมา เท่านัน้ เมือ่ มองดูแล้วช่างง่ายดายเหลือเกิน แต่ ก็ผดิ ถนัดเมือ่ หนึง่ ในทีมงานถูกเชือ้ เชิญให้ออกไป ร่วมเชิดหุน่ หนุมาน ด้วยท่าทางเก้ๆ กังๆ พร้อม กับมุกตลกขบขันของหุน่ หนุมานทีไ่ ม่พอใจเมือ่ ทีม งานของเราเชิดหุ่นไม่ได้ สร้างเสียงหัวเราะจาก นักท่องเที่ยวได้อย่างมากมาย เมื่อแสดงเสร็จ หนึ่งในทีมงานของเรา เดินลงมาจากเวทีด้วยความเขินอายพร้อมบอก ด้วยน�า้ เสียงจริงจังว่า การเชิดหุน่ มันไม่งา่ ยเลย

ทุกครังทีท ่ การแสดง หุน ่ ล ครจ กลับมามีชว ี ต ิ ทันที แล นีค ่ อเสน่หท ์ เ่ ี ปนมนต์ขลังสามาร ดงดูด ชู้ มได้

การบิดคอและแขนของหุน่ ให้เคลือ่ นไหวนัน้ ค่อน ข้างแข็งและต้องใช้แรงมหาศาล ซึ่งตรงกับค�า บอกเล่าของพีต่ ที​ี บ่ อกกับเราว่า การทีจ่ ะเชิดหุน่ ได้นนั้ ผูเ้ ชิดต้องมีความช�านาญด้านโขนและต้อง ศึกษาศิลปะแขนงนีอ้ ย่างน้อย ปี รวมถึงฝก กลไกการแยกประสาทสัมผัสส่วนต่างๆ เพิม่ อีก ปี จึงจะสามารถออกแสดงได้จริง การเชิดหุน่ ละครเล็กเหมือนเป็นการปรับระดับความท้าทาย ส�าหรับคนเล่นโขนขึน้ เพราะต้องเชิดสามคนไป ในอารมณ์ เ ดี ย วกั น ท่ า ทางเดี ย วกั น และ เคลื่อนไหวเหมือนกัน จึงมีความยากกว่าโขน ธรรมดาอยูห่ ลายเท่า

พระทีน่ งั่ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรม ราชกุมารี ถือเป็นเกียรติประวัตอิ นั ล�า้ ค่าและความ ภาคภูมใิ จสูงสุดของเด็กตัวเล็กๆ คนหนึง่ ผมจะเรียนโขนจนกว่าจะตาย เด็กชาย ตอบด้วยน�า้ เสียงราบเรียบแต่แววตามุง่ มัน่ เมือ่ เราถามว่าตั้งใจจะฝกไปจนถึงเมื่อไหร่ ท�าให้ทีม งานถึงกับขนลุกชัน ในหัวใจเต็มเปี ยมไปด้วย ความอบอุน่ เพราะต้องยอมรับว่ายุคสมัยทีค่ วาม เจริญทางวัตถุเข้ามามีบทบาทกับชีวติ มากขึน้ ส่ง ผลให้ศลิ ปะและรากเหง้าของความเป็นไทยเลือน หายไปตามกาลเวลา จะหาเยาวชนที่ รั ก และ ต้องการสืบทอดนัน้ มีนอ้ ยเหลือเกิน


Baankluay |

อง า

เสียงกรับสอดรับกับจังหวะการยกเท้า สลับขึน้ ลง ครูโขนเรียกการฝกนีว้ า่ ‘ฝกเต้นเสา’ เป็นการหัดใช้จังหวะเท้าในการเต้นให้มีความ สม�า่ เสมอ มีกา� ลังขาแข็งแรง โดยกระทืบฝ่าเท้า ทุกส่วนลงกับพื้นอย่างพร้อมเพรียงด้วยน�้าหนัก เท่าๆ กัน ซึง่ ถือเป็นสิง่ ส�าคัญอย่างหนึง่ ในการ ฝกหัดโขน การเต้นเสาจะต้องยกขาและดึงส้นเท้า ให้สงู เกร็งหน้าขา ยกสลับขาซ้ายขวาตาม

18

เสียงหายไปไหน ดังขึ้นอีก เสียงใหญ่ ตะโกนอย่างเกรี้ยวกราด ท�าให้เหล่านักเรียนตัว น้อยต่างกระทืบเท้าและแผดเสียงนับจังหวะอย่าง แข็ ง ขั น ถึ ง แม้ จ ะดู ดุ ดั น แต่ ก็ ช ่ ว ยกระตุ ้ น ให้ นักเรียนตัง้ ใจและมีสมาธิมากขึน้ ถือเป็นอีกหนึง่ บทบาทของพี่ตี ที่นอกจากจะเป็นผู้เชิดหุ่นละคร เล็กและพิธกี รแล้ว ยังมีหน้าทีเ่ ป็นครูสอนโขนให้ แก่เด็กๆ อีกด้วย การเรียนการสอนโขนของคณะ ค�านายนัน้ เป็นไปในเชิงป บิ ตั ิ ไม่มหี นังสือเรียน ไม่มกี ระดานด�า มีแต่ความตัง้ ใจและความปรารถนา เพียงเพื่อให้มรดกทางวัฒนธรรมมีการส่งต่อ เท่านัน้ ส่วนแนวทางการสอนเป็นการให้แบบ ตรงๆ ครูได้เรียนอะไรมา เคล็ดลับวิชาทุกอย่าง จะให้ศษิ ย์เท่ากันหมด แต่ถา้ ใครช้ามากๆ ก็จะให้ เยอะๆ คนภายนอกทีเ่ คยมาเรียนอายุตา�่ สุด ขวบ ไปจนถึง ปี นอกจากการป บิ ตั จิ ริงแล้วยังสอด แทรกในเรื่องทฤษ ีด้วย เช่น เรื่องการท�าหุ่น ประวัตขิ องบ้าน และประวัตขิ ององค์พระ เพือ่ ให้ นักเรียนได้มคี วามรูอ้ ย่างถ่องแท้ เมือ่ รับรูค้ วามคิดเห็นของพีต่ ท�ี าให้ทมี งาน สัมผัสได้ถึงจิตวิญญาณความเป็นครูอันแรงกล้า

แม้จะไม่ได้สงิ่ ใดตอบแทน เพราะผูท้ สี่ นใจมาเรียน เพียงน�าผ้าแดง ดอกไม้ ธูปเทียน เพื่อจะมา สักการบูชา พร้อมด้วยเงิน บาท มาเป็นค่า ไหว้ครู ก็สามารถมาเรียนทีบ่ า้ นศิลปินได้แล้ว การแสดงหุน่ ละครเล็กคณะค�านาย จะเปิด การแสดงในเวลา . น. ของทุกวัน ยกเว้น วันพุธ ทีบ่ ริเวณลานกว้างชัน้ ล่าง โดยการแสดง จะปรับเปลีย่ นไปในแต่ละวันตามสถานการณ์ ใน บางครัง้ จะมีชดุ การแสดงพิเศษจากนักเรียนทีฝ่ ก เชิดหุน่ ร่วมด้วย และไม่มกี ารเก็บเงินค่าชมแม้แต่ บาทเดียว คณะค�านายถือว่าเป็นการแสดงแบบ เปิดหมวก ด้วยเจตนารมณ์ทอี่ ยากให้คนทีม่ เี งิน หรือไม่มเี งินก็สามารถมาชมการแสดงได้ แม้บางส่วนของสังคมจะมองว่าการแสดง เปิดหมวกเป็นเหมือนการขอทาน แต่การเปิด หมวกในทรรศนะของคณะค�านายคือการแลกกัน หมายถึงเอาความสามารถแลกกับรอยยิ้ม เสียง หัวเราะและความสุขจากการชมการแสดง แต่ดว้ ย วิถชี วี ติ ประจ�าวันทีต่ อ้ งจับจ่ายใช้สอยรวมถึงเลีย้ ง ดูทมี งาน ชีวติ การรับงานแสดงข้างนอกถือ เป็นรายได้หลักของคณะค�านาย โดยรายได้ส่วน หนึง่ น�ามาหารเฉลีย่ เท่าๆ กัน อีกส่วนหนึง่ ก็นา�


อง า

มาเป็นค่าวัสดุปรับปรุงหุ่นละครเล็กเพื่อให้มีการ แสดงใหม่ๆ ให้นกั ท่องเทีย่ วได้ชมกัน ในยุคสมัยทีเ่ ปลีย่ นไปอย่างรวดเร็ว หลาย สิ่งหลายอย่างมีการพัฒนาเพื่อให้เข้ากับสภาพ สังคมและความนิยม จึงท�าให้หุ่นละครเล็กคณะ ค�านายต้องปรับตัวเพื่อรับการเปลี่ยนแปลง ด้วย การน�าเสนอการแสดงทีแ่ ปลกใหม่ สอดแทรกมุก ตลกเพือ่ สร้างความสนุกสนานและความประทับใจ ให้คนดูได้จดจ�า อนุรักษ์ สืบสาน เผยแพร่ เป็นค�า ปณิธานทีห่ นุ่ ละครเล็กคณะค�านายยึดป บิ ตั แิ ละ พูดย�้าอยู่เสมอว่า การแสดงในทุกวันนี้ก็ถือ เป็นการอนุรกั ษ์แล้ว แต่หากไม่ได้รบั การต่อยอด หุ่นละครเล็กก็คงต้องตายไปกับพวกเขา ท�าให้ คณะค�านายเริ่มสอนโขนให้กับเด็กๆ ในชุมชน คลองบางหลวง เพียงหวังว่าศิลปะอันทรงคุณค่า ของชาติชนิ้ นีจ้ ะถูกส่งต่อให้คนรุน่ ต่อไป ถ้าถามว่าสิ่งที่เราท�าตรงนี้มันจะยืนยาว แค่ไหน มันอยูท่ ใี่ จ ใจของคนเชิด คนท�า ว่าสาย ป่านมันจะยาวแค่ไหน ถ้าใจถึงมันก็ไปถึง แต่ถา้ ใจไม่ถงึ มันก็จบ

ชายหนุม่ วัยกลางคนกล่าวเสียงดังฟังชัด แววตาเป็นประกายเต็มไปด้วยความมุง่ มัน่ เพราะ การได้มาเจอหน้าทีมงาน มาท�างานอยูก่ นั แบบ พีน่ อ้ ง ได้เผยแพร่ศลิ ปะรากเหง้าของไทย ก็เป็น ก�าลังใจส�าคัญที่ยังท�าให้คณะค�านายอยู่รวมกัน จนถึงวันนี้ แม้ว่ารายได้จะไม่มากนัก ดังความ หมายของคณะค�านายที่หมายถึง ค�าคือทองค�า นายคือค�าน�าหน้าชือ่ ค�านายในทีน่ กี้ เ็ ปรียบกับตัว บุคคล ตัวศิลปะทีส่ วยงามมีคณ ุ ค่าประดุจทองค�า หรืออีกนัยหนึ่งคือค�าของนาย นายเคยพูดอะไร ไว้ นายจะอนุรกั ษ์ สืบสาน เผยแพร่ นายท�าหรือ ยัง ถ้านายท�าแล้ว นายก็จงท�าต่อไป

|

Baankluay

แรงบันดาลใจที่มั่นคงและเจตนารมณ์ที่ แข็งแกร่ง ท�าให้หนุ่ ละครเล็กคณะค�านาย ยังคง ยึดมั่นรักษามรดกทางวัฒนธรรมเพื่ออนุรักษ์ สืบสาน และเผยแพร่ต่อไป เสียงระนาดค่อยๆ ผ่อนจังหวะช้าลง ประกอบกับหนุมานที่จับนาง สุวรรณมัจฉาได้สา� เร็จ เป็นสัญญาณทีบ่ อกว่าการ แสดงเสร็จสิน้ เสี ย งปรบมื อ ดั ง มาไกลจากทั่ ว ทิ ศ ทาง พร้อมทั้งรอยยิ้มที่ปราก บนใบหน้าของผู้ชม สะท้อนผ่านหน้ากากสีดา� ของผูเ้ ชิด เช่นเดียวกับ บุคคลภายใต้หน้ากากทีม่ คี วามสุขไม่แพ้กนั และ ยังหวังว่าวันหนึ่ง ทุกคนที่เข้ามาชมในวันนี้ จะ หวนกลับคืนมาอีกสักครัง้ ทีบ่ า้ นศิลปิน

สิ่งหน่งที่เราไม่อยากให้ลมคอ รากเหง้าของความเปนไทย

19


รั เร่อง ทิ ย์สุดา า

ิสุท ิ ัน ุ์

นาวุ

วรนุช


เา

21

น ล ก าย ล

ง | Baankluay

วา น ย

ร เอกลิเกเงินล้านที่เคยปร สบความสาเรจสูงสุดคนหน่งในวงการ คงหนีไม่ ้น เอ ไชยา มิตรชัย

ร เอกลิเก ู้มีใบหน้าอ่อนหวาน นัยน์ตาคม เม่อหลายคนได้

รับชมมักจ ช่นชอบแล หลงใหลในนาเสียงอันไ เรา

รวม งลีลาการแสดงอย่าง

อ่อนช้อยงดงาม สร้างความปร ทับใจจนเปนที่ยอมรับจาก ู้ชมอย่างกว้างขวาง

ลิเกถือเป็นศาสตร์การแสดงอีกอย่างหนึง่ ที่เป็นเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมของชาติไทย ซึ่ง มีความโดดเด่นอย่างมากมาย และได้รับความ นิยมอย่างกว้างขวาง ไชยา มิตรชัย เล่าว่าตนเกิดและเติบโตมา ในครอบครัวของคณะลิเกที่มีคุณปู่เป็นคนเขียน ฉาก คุณย่าเป็นคนถักเสือ้ กักในคณะลิเกหอมหวล นอกจากนี้คุณพ่อคุณแม่ยังเป็นพระนางประจ�า คณะ ภาพความทรงจ�าในวัยเด็กคือ คนในคณะ จะมารับพ่อแก่ที่อยู่บนหิ้งในบ้านไปไหว้ครูก่อน การแสดงทุกครั้ง ท�าให้เกิดการซึมซับจนกลาย เป็นความชอบตั้งแต่นั้นมา เมื่ออายุได้ ขวบ คุณพ่อและคุณแม่พา ไปฝากเรียนกับหลวงพ่อวัดสระแก้ว อ�าเภอป่าโมก จังหวัดอ่างทอง ที่เป็นบ้านเกิด โดยได้เข้าร่วม โครงการฝกอาชีพของศูนย์ศลิ ปาชีพ เอจึงได้เลือก ฝกลิเกเนื่องจากมีความสนใจอยู่แล้ว กระทั่งได้ ขึ้ น แสดงลิ เ กในชื่ อ ‘คณะลิ เ กเด็ ก ก� า พร้ า วั ด สระแก้ว’ ตั้งแต่นั้นมา ถือเป็นจุดเริ่มต้นในการ เข้ามาในวงการลิเก กระทั่งเอได้มีโอกาสอัดเทปเพลงเพื่อการ กุศลให้กับวัดสระแก้ว ท�าให้คนจ�านวนมากที่มา ท�าบุญได้ฟงั เทปเพลงทีห่ ลวงพ่อมอบให้ ตัง้ แต่นนั้ มาชื่อของไชยา มิตรชัย ได้ขยายวงกว้างออกไป เป็นที่รู้จัก เมื่ออายุ ปี จึงได้แยกตัวออกมาตั้ง คณะเป็นของตัวเองในชื่อ ‘คณะไชยา มิตรชัย’ โดยช่วงทีม่ ชี อื่ เสียงโด่งดังอย่างท่วมท้น คือช่วงที่ ได้ ไปท�าการแสดงลิเกที่วัดเขียนเขต คลอง อ�าเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี การแสดงในครั้ง นั้นหลวงพ่อต้องทุบก�าแพงวัดออก เพื่อรองรับ

คนทีม่ าชมการแสดง ซึง่ มีจา� นวนมากจนล้นพืน้ ที่ วัด ถือว่าได้รับเสียงตอบรับจากประชาชนอย่างดี และยิง่ สร้างชือ่ เสียงแก่คณะให้เป็นทีก่ ล่าวขานยิง่ ขึ้นไปอีก ส�าหรับแรงบันดาลใจในการแสดงลิเกมา จากการรักอาชีพลิเก ซึง่ ท�าให้มเี งินส่งเสียตัวเอง เรียนจนจบ คณะรั ศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามค�าแหง อีกทัง้ ยังเป็นอาชีพทีค่ รอบครัวแสดงกันมาตัง้ แต่ สมัยรุ่นปู่ย่า รู้สึกภาคภูมิ ใจที่ ได้ ไปแสดงลิเกให้ คนทุกชนชั้นดู และเกิดการยอมรับถึงศิลปะการ แสดงนี้ ในสังคม เอยังกล่าวถึงความส�าคัญของลิเกว่า เป็น ศิ ล ปะดั้ ง เดิ ม แขนงหนึ่ ง ที่ อ ยู่ คู่ บ้ า นคู่ เ มื อ งมา ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ โดยในแต่ละเรื่องของการ แสดงลิเกสามารถถ่ายทอดเรือ่ งราวผ่านละครพืน้ บ้านได้ เช่น เรือ่ งลูกทีถ่ กู ลืม ซึง่ มีเค้าโครงมาจาก เรื่องจริง และวรรณกรรมอิเหนาที่เป็นบทพระ ราชนิพนธ์ ซึ่งได้รับความนิยมอย่างมาก อีกทั้ง ลิเกยังเป็นศาสตร์กลางแจ้งทีม่ เี สน่ห์ จากการร้อง แบบ ราชนิเกลิง ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ โดย เป็นการน�าภาษามาร้อยเรียงขึ้นใหม่ มีการใส่ อารมณ์กระโชกโ ก าก และเทคนิคต่างๆ เพื่อ ให้สามารถเข้าถึงการเล่าเรือ่ งได้ ส่งผลให้ลเิ กเป็น ศิลปะการแสดงที่มีความน่าสนใจอีกแขนงหนึ่ง ในมุมมองความเปลี่ยนแปลงของลิเกนั้น เอบอกว่าเริ่มไปในทิศทางลบ เพราะเด็กรุ่นหลัง ที่หัดลิเกในระยะเวลาไม่นานก็แยกตัวออกมาตั้ง คณะเอง ทัง้ ๆ ทีย่ งั ไม่มคี วามเข้าใจในศาสตร์ของ ความเป็นลิเกที่แท้จริง ส่งผลให้นักแสดงลิเกรุ่น หลั ง ทิ้ ง ขนบธรรมเนี ย มประเพณี ที่ ถื อ ป ิ บั ติ

อย่างเช่นการที่ ไม่ ไหว้พ่อแก่ซึ่งเป็นบรมครูก่อน ขึ้นแสดง ท�าให้แบบแผนที่ยึดถือมาตั้งแต่สมัย ก่อนเลือนหายไป ส่วนเรือ่ งของการอนุรกั ษ์ลเิ กไทยให้คงอยู่ นัน้ ต้องเริม่ จากตัวเราก่อนเป็นอันดับแรก เหมือน ตัวของเอที่ไม่ทงิ้ การแสดงลิเก เพราะทุกครัง้ ที่ไป ออกรายการไหนก็ตาม ช่วงที่สามารถร้องลิเก เข้าไปได้เอก็จะเสริมเข้าไป เพื่อไม่ ให้ศิลปะมัน สูญหาย เอยังแสดงความเห็นเกี่ยวกับการเปิดรับ ศิ ล ปะการแสดงของชาติ ต ะวั น ตกที่ เ ข้ า มามี บทบาทในสังคมไทยถือเป็นเรื่องที่ดี เพราะหาก เรารับชมเพียงด้านใดด้านหนึ่งก็จะมีความรู้กึ่ง เดี ย ว แต่ ว่ า สิ่ ง ที่ น่ า เป็ น ห่ ว งคื อ การปลู ก ฝั ง จิตส�านึกให้ลูกหลานของพ่อแม่ยุคใหม่ ที่ละเลย ความเป็นไทยแล้วหันไปให้ความสนใจวัฒนธรรม ของต่างประเทศ จริงแล้วคนไทยเราต้องศึกษา เกี่ยวกับการแสดงของไทยว่ายังมีอีกหลายแขนง หากคนในประเทศไทยรับชมศิลปะของต่างชาติ มากเกินไป อาจท�าให้ศิลปวัฒนธรรมไทยเลือน หายไปในที่สุด

ศิลป ไทยทุกแขนงมีรากเหง้า ของความเปนไทย จงอยากให้ ศิ ล ป ของเมองไทยยั ง คงอยู ่ แล ช่วยกันรักษาไว้


บา

รา เร่อง ลลิตา ตันติ ชติวงศ์ ภาพ : ธนาวุธ วรนุช


เา

23

้น า

าน

ง | Baankluay

ลา

แม่บานเย็น หรือนิตยา รากแก่น หมอล�าชื่อดังผู้พลิกชีวิตจาก เดกขีอาย รรมดาคนหน่ง สู่ศิลปน นบ้านหมอลา ่งเ อตังใจฝกฝน จนปร สบความสาเรจ แล ได้ ายาว่า ราชินีหมอลา

วัยรุ่นที่ดังที่สุดในสมัยนั้น รางวัลศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการ แสดง การแสดงพื้นบ้าน หมอล�า ประจ�าปี พ.ศ. เป็นรางวัลที่แม่บานเย็นภาคภูมิ ใจ เพราะนอกจากจะมีความสามารถในการแสดง เพลงพื้นบ้านที่ดีแล้ว อีกหนึ่งเหตุผลที่ ได้รับ รางวั ล แม่ บ านเย็ น เชื่ อ ว่ า มาจากชุ ด ที่ ใ ส่ ขึ้ น แสดงทุกครั้ง ซึง่ แม่บานเย็นเป็นคนออกแบบเอง แม่บานเย็นเล่าว่า เป็นคนลงมือออกแบบ ชุดที่ ใช้ในการแสดงเองทั้งหมด เนื่องจากความ ฝันในวัยเด็ก อยากใส่ชุดเจ้าหญิงที่สวยและสง่า งาม แม่บานเย็นจึงพยายามศึกษาข้อมูลจากที่ ต่างๆ เพือ่ ตกแต่งเสือ้ ผ้าให้ออกมาดูดมี สี ไตล์ และ ประยุกต์ชุดให้เข้ากับรูปร่างตัวเองในรูปแบบที่ ทันสมัยไม่ซ้�าใคร แต่ยังคงความเป็นไทยผสม ผสานกั บ วั ฒ นธรรมทางภาคตะวั น ออกเฉี ย ง เหนือ จึงท�าให้ชุดของแม่บานเย็นสามารถดึงดูด สายตาคนทั้งประเทศ รวมถึงชาวต่างชาติที่ชื่น ชอบในการแสดงหมอล�า ซึ่งเสื้อผ้าที่แม่บานเย็น ใส่ ขึ้ น แสดงทุ ก ครั้ ง นั้ น สวยสะดุ ด ตา จึ ง มี ค น ติดต่อชักชวนให้ ไปออกแบบเสื้อผ้าที่ประเทศ ฝรั่งเศส แต่ด้วยความที่แม่บานเย็นไม่ถนัดใน ด้านนี้จึงป ิเสธไป เวลาว่างจากการแสดงหมอล�าแม่บานเย็น ยังไปเป็นอาจารย์พิเศษในสาขาวิชานา ศิลป ที่ มหาวิ ท ยาลั ย ราชภั อุ บ ลราชธานี และเป็ น

เจ้าของ ‘โรงเรียนสอนศิลปะการแสดงอีสาน บานเย็น’ เพื่อถ่ายทอดความรู้ ให้เด็กรุ่นใหม่ที่ สนใจในศิลปะการแสดงพื้นบ้าน และสืบสาน วัฒนธรรมนี้ ให้คงอยู่ต่อไป ส� า หรั บ ฉายาที่ ห ลายคนคงเคยได้ ยิ น ผ่านหูมาบ้างนั้น เริ่มต้นจากผู้ชมที่มาดูหมอล�า ตะโกนเรียกแม่บานเย็นเวลาแสดงว่า ราชินี หมอล�าตัวจริงมาแล้ว ราชินีหมอล�าในดวงใจ ของเรา และเมื่อสื่อต่างๆ ได้ยินจึงน�ามาใช้ เป็ น ฉายาของบานเย็ น รากแก่ น ว่ า ‘ราชิ นี หมอล�า’ มาจนถึงทุกวันนี้

งจ ไปแสดงหมอลาต่าง ปร เทศมามากมาย สุดท้ายกรัก ปร เทศไทยมากที่สุด แล อยาก ให้คนไทยรักกัน

จุดเริ่มต้นในการเป็นหมอล�า เกิดจาก แรงผลักดันของคุณพ่อคุณแม่ ซึ่งแต่ก่อนนั้น แม่บานเย็นเป็นคนเงียบๆ ขี้ อ าย การเป็ น หมอล�าที่ต้องร้องเพลงต่อหน้าคนเยอะๆ จึง เป็นไปได้ยาก แต่เมื่อครอบครัวอยากให้เป็น หมอล�า รวมถึงสิ่งที่แม่บานเย็นยึดถือมาตลอด คือ ต้องเป็นคนที่มีความรับผิดชอบ ถึงแม้จะไม่ ชอบในสิ่งที่ ได้รับมอบหมาย แต่ก็ต้องท�าและ ต้องท�าให้ได้ด้วย เมื่อแม่บานเย็นอายุได้ ปี คุณพ่อคุณ แม่ จึ ง ส่ ง ไปเรี ย นล�ากลอน ซึ่ง เป็นศิล ปะการ แสดงหมอล�าที่เก่าแก่ของภาคอีสาน ลักษณะ เป็นการล�าโต้วาที เกี้ยวพาราสี และชิงดีชิงเด่น ที่มีหมอล�าชายหญิงสองคนล�าสลับกัน โดยมี คุณปาหนูเวียง หนูเวียง แก้วประเสริ ซึ่งเป็น ญาติและหมอล�าชื่อดังของจังหวัดอุบลราชธานี คอยสอน ไม่ว่าจะเหนื่อยหรือท้อ แม่บานเย็นก็ ขยันและอดทนฝกฝนวิชาความรู้ถึง ปีเต็ม กระทั่งอายุได้ ปี คุณปาหนูเวียงจึงเริ่มให้ แสดงล�ากลอนเป็นครั้งแรก หลังจากนั้นก็มีงาน แสดงเรื่อยมา ทั้งในตัวจังหวัดอุบลราชธานีและ จังหวัดอื่นๆ นอกจากนี้ยังมีงานแสดงที่ต่าง ประเทศติดต่อเข้ามา แม่บานเย็นจึงใช้ โอกาสนี้ เผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมของไทย ท�าให้มีชอื่ เสียง และเป็นที่รู้จักเพิ่มมากขึ้น จนกลายเป็นหมอล�า


า า เร่อง ศิริรัตน์ ปร ยูร งศ์ า

นาวุ วรนุช


เา

25

้ บ าน านาน ล

ง | Baankluay

ท่ามกลางกร แสความเปลี่ยนแปลงของ ลกปัจจุบัน อาจท ให้คนไทย หลงลมเ ลง นบ้านไป แต่ ิเชษฐ์ เอี่ยมชาวนา หรอ ย่ง เชิญยิม ที่ ด่งดัง ในวงการตลก ได้น เ ลง ่อยในอดีตมาปร ยุกต์ให้เข้ากับยุคสมัย ท ให้ มีช่อเสียงเร่อยมา

น้าโย่งเล่าถึงช่วงเวลาก่อนที่จะมาเป็น ตลกว่า เคยรับงานแสดงเพลงฉ่อยตามจังหวัด ต่างๆ แต่ก็ท�าได้ไม่นานนัก เนื่องจากเป็นช่วง ที่เพลงพื้นบ้านถูกกระแสของศิลปะแขนงใหม่ เข้ามามีบทบาทในท้องถิ่นมากขึ้น จึงหันไปฝก ลิเกแต่ก็ยังไม่ทิ้งเพลงฉ่อยที่ติดตัวมา โดยน�า เอาเพลงฉ่ อ ยในรู ป แบบเพลงประชั น คารม มาสอดแทรกไว้ เพื่อให้ผู้ชมเข้าถึงการรับฟัง ไปพร้อมๆ กับท�านองร้องลิเก ต่อมาน้าโย่งเริ่มมีความสนใจอยากท�า คณะตลก ซึ่งมีสมาชิกที่เรารู้จักกันดีคือน้าพวง พวง แก้วประเสริ และน้านงค์ นงค์ ปิยะโชติ จนกระทัง่ ทัง้ สามคนมีโอกาสได้ ไปเป็นแขกรับเชิญ ในรายการทอล์คโชว์ของอาจารย์จตุพล ชมภูนชิ จึง เลือกน�าเอาเพลงฉ่อยกลับมาใช้เพื่อเล่นมุกตลก อีกครั้ง ซึ่งถือว่าเป็นความส�าเร็จจากการแสดงที่ สืบสานเพลงพื้นบ้านไทยได้เป็นอย่างดี น้ า โย่ ง ยั ง บอกอี ก ว่ า เคยมี โ อกาสท� า รายการทอล์คโชว์เป็นของตัวเอง แต่ดว้ ยความที่ เพลงฉ่อยเป็นศิลปะแขนงหนึ่ง ท�าให้ต้องใช้พลัง ในการถ่ายทอดผ่านประสบการณ์ทมี่ ี บวกกับอายุ ของตัวเองที่มากขึ้น จึงคิดว่าต้องหาคนมาช่วย แบ่งช่วง รับส่ง จึงตัดสินใจชักชวนเพือ่ นกลุม่ เดิม มาท�าทอล์คโชว์ร่วมกันอีก เพราะเข้าขากันได้ดี จากการปรับตัวและประยุกต์ ใช้ ในวิชาที่ ตัวเองมีมาอย่างยาวนาน จึงท�าให้นา้ โย่งมีโอกาส

ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของรายการ คุณพระช่วย ทางช่องโมเดิร์นไนน์ทีวี ช่วง ‘จ�าอวดหน้าม่าน’ แต่ปัจจุบันได้ย้ายมาทางเวิร์คพอยท์ทีวี ช่อง โดยเป็นการเชิญดารานักแสดงมาร่วมร้องเพลงฉ่อย ซึง่ แสดงให้เห็นถึงการอนุรกั ษ์เพลงพืน้ บ้านของไทย ในมุมมองเกีย่ วกับศิลปวัฒนธรรมต่างชาติ ทีเ่ ข้ามาในประเทศ น้าโย่งกล่าวว่า ด้วยความที่ วัฒนธรรมของเขาเข้ามามีบทบาท จึงอยากให้ คนในประเทศได้เผยแพร่วฒั นธรรม ให้เขาได้เห็น ถึงคุณค่าและเสน่หข์ องความเป็นไทย อย่างเพลง พืน้ บ้านต่างๆ ถือว่าเป็นมรดกของแผ่นดินไทยที่ ทุกคนควรรักษาไว้

เส้ น ทางการเป็ น ตลกดาวค้ า งฟาของ น้าโย่ง เชิญยิ้ม เริม่ จากความรักในการเห็นผูอ้ น่ื มีความสุข โดยใช้สิ่งที่คลุกคลีมานานอย่างเพลง ฉ่อยเป็นตัวสร้างรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ ซึ่งมี ปานกหวีดพี่สาวของคุณพ่อที่เป็นครูเพลงคอย บ่มเพาะและถ่ายทอดการแสดงให้ตั้งแต่เด็ก ส�าหรับ ‘เพลงฉ่อยหรือฉะหน้าโรง’ นั้น ในสมัยโบราณ ฝ่ายชายจะร้องเชิญชวนจนกว่า ฝ่ายหญิงจะออกมาร่วมร้องด้วย ซึ่งมีพ่อเพลงแม่ เพลงเป็นคนเริ่ม การร้องจะมีต้นเสียงและลูกคู่ ร้องรับ ส่วนดนตรี ใช้การปรบมือเป็นจังหวะ มี การร้องเกี้ยวพาราสีหรือการว่ากล่าวเหน็บแนม แต่ถ้อยค�าที่ ใช้ว่ากันจะเต็มไปด้วยค�าหยาบโลน บ้างก็สองแง่สองง่าม เรียกการร้องแบบนี้ว่า ‘ประ’ ย่อมาจาก ‘ประชันคารม’ ซึ่งการร้องนี้ เป็ น สิ่ ง ที่ ผู้ ช มชอบกั น มาก เพราะจะได้ เ ห็ น ความสามารถของทั้งสองฝ่าย ในการใช้ป ิภาณ ร้องแก้กันได้อย่างถึงอกถึงใจ ถือว่าเป็นเสน่ห์ ของเพลงพื้นบ้านแขนงนี้เลยก็ว่าได้ ต่อมาเมือ่ เพลงฉ่อยได้รบั ความนิยมลดลง จึงหันไปเอาดีทางด้านลิเกอยู่ระยะหนึ่ง และผัน ตัวมาท�างานในวงการตลกจนถึงปัจจุบนั แต่ไม่วา่ จะร้องลิเกหรือเล่นตลก น้าโย่งก็จะน�าเพลงฉ่อย มาแต่งเป็นมุกเข้าไปสอดแทรกด้วยเสมอ เพื่อให้ คนดูรสู้ กึ เพลิดเพลินไปกับความมีเสน่หข์ องเพลง พื้นบ้านไทย ส่งผลท�าให้น้าโย่งเป็นที่รู้จักมากขึ้น

แค่เราเกิดเปนคนไทย ก ูมิใจแล้ว แค่นีก อ


ร เร่อง แสงสุรีย์ รรณรังษี า

แสงสุรีย์ รรณรังษี


ง | Baankluay

เา

27

าว ย

ว ลก

จากเดกบ้านนอกสู่เส้นทางแห่งความฝันของการเปนนักร้องลูกทุ่ง รวม งเปน นักแสดง แล มีแฟนเ ลงที่รักเ ออย่างล้นหลาม คอ เปา เปาวลี

ร ิมล นักร้อง

สาวเสียงเหน่อเลอดสุ รรณ ที่ ด่งดังมาจากการปร กวดร้องเ ลง รวมไป ง เอกลักษณ์เงาเสียงที่เหมอนราชินีลูกทุ่ง ุ่ม วง ดวงจันทร์

ต่ า งๆไม่ ว่ า จะเป็ น รางวั ล นั ก แสดงน� า หญิ ง ยอดเยีย่ ม จากภาพยนตร์เรื่อง พุ่มพวง ในงาน คมชัดลึกอวอร์ด ครั้งที่ เมื่อปี พ.ศ. นอกจากนี้เปายังมีการเดินสายทัวร์คอนเสิร์ต และผลงานถ่ายแบบให้กบั นิตยสารต่าง ๆ ซึง่ เป็น การตอกย�้าความสามารถที่หลากหลายของเธอ อีกด้วย แม้ จ ะได้ รั บ โอกาสทางการแสดงและ การเดินแบบ แต่เปาตอบด้วยน�้าเสียงมั่นใจว่า ชอบที่จะเป็นนักร้องลูกทุ่งมากกว่า เพราะเติบโต มากับเสียงเพลง โดยปัจจุบันเปามีผลงานเพลง มากมาย และผลงานชุดล่าสุดของเธอคืออัลบั้ม ที่ ชื่ อ ว่ า ‘แม่ ช อบ’ ชุ ด ที่ ซึ่ ง อั ล บั้ ม ชุ ด นี้ ได้กระแสตอบรับเป็นอย่างดี ด้วยผลงานที่มี ลักษณะโดดเด่นในเรื่องของการร้องและการ เอื้อนค�า ด้วยเสียงเหน่อที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ ตัวของเปาวลี เมือ่ ถามถึงจุดดึงดูดของเพลงลูกทุง่ ไทยใน สมัยปัจจุบัน เปาตอบสั้นๆ ว่า การเปลี่ยนแปลง เกิดขึ้นไปตามยุคสมัย แต่สิ่งที่ยังคงเป็นเสน่ห์ ที่ท�าให้เพลงลูกทุ่งมีความน่าสนใจและแตกต่าง จากเพลงสไตล์อนื่ ๆ คือการเอือ้ นค�า การใช้ลกู คอ ดนตรีที่เป็นเอกลักษณ์ และเนื้อร้องที่กินใจใคร หลายคน เปายั ง พู ด ถึ ง การที่ สั ง คมไทยเปิ ด รั บ ศิลปวัฒนธรรมตะวันตกว่า ส่วนตัวเธอเป็นคนที่

ฟังเพลงหลากหลายแนว บางครั้งก็น�าการเต้น ของต่ า งชาติ ม าประยุ ก ต์ ใช้ กั บ บทเพลงลู ก ทุ่ ง แต่ยังคงเอกลักษณ์ ไทย เปาวลีกล่าวทิ้งท้ายว่า ถ้าเราเอาของเขามาหมด แล้วเราลืมความ เป็นไทย มันก็น่าเสียดาย เปาหวังว่าเยาวชน รุ่นหลังจะยังคงอนุรักษ์เพลงลูกทุ่งให้สืบทอด ต่อไป และเป็นก�าลังใจให้กับทุกคนที่ก�าลังเดิน ในเส้นทางลูกทุ่ง ความเป็ น ไทยของเพลงลู ก ทุ่ ง ไม่ ว่ า จะผ่ า นไปกี่ ยุ ค กี่ ส มั ย เสน่ ห์ แ ละเอกลั ก ษณ์ ก็ ยั ง คงอยู่ ให้ เ รานั้ น ตระหนั ก ว่ า คื อ สิ่ ง ที่ เราควรอนุรักษ์ ไว้ •

ความเปนไทยของเ ลงลูกทุ่ง ไม่ว่าจ

่านไปกี่ยุคกี่สมัย

เสน่ห์แล เอกลักษณ์กยังคงอยู่ให้ เรานันตร หนักว่าคอสิ่งที่ ควรอนุรักษ์ไว้

จุดเริม่ ต้นของการเข้ามาในวงการเพลง ลู ก ทุ่ ง เริ่ ม จากการที่ เ ปาได้ ฝ กร้ อ งเพลงตั้ ง แต่ อายุ ขวบ ท�าให้เกิดการซึมซับเพลงลูกทุ่งไทย จากคุณตาและคุณแม่ของเปา โดยเพลงแรก ทีท่ า� ให้เปามีความฝันอยากทีจ่ ะเป็นนักร้องลูกทุง่ นั้นคือ ‘เพลงส้มต�า’ ของพุ่มพวง ดวงจันทร์ เมื่ออายุได้ ขวบ เปาเดินตามความฝัน ด้ ว ยการไปประกวดร้ อ งเพลงในงานโอทอป บริ เ วณศาลากลางอ� า เภอด่ า นช้ า ง จั ง หวั ด สุพรรณบุรี และคว้ารางวัลรองชนะเลิศอันดับ ที่ ซึ่งท�าให้เธอเริ่มสั่งสมประสบการณ์เรื่อยมา จนมี โ อกาสเข้ า ประกวดร้ อ งเพลงในรายการ ‘คว้าไมค์คว้าแชมป’ และได้ต�าแหน่งชนะเลิศ ประจ�าปี ทางช่องแฟนทีวี เคเบิ้ลทีวี ใน เครือจีเอ็มเอ็มแกรมมี่ รายการคว้าไมค์คว้าแชมปเปรียบเสมือน เป็นบันไดขั้นแรกที่สร้างชื่อเสียงให้เปาได้เป็น ที่รู้จัก ด้วยเสียงเหน่อที่เป็นเอกลักษณ์ ท�าให้เธอ ถูกทาบทามไปคัดเลือกเป็นนักแสดงภาพยนตร์ ไทยชื่อดังเรื่อง ‘พุ่มพวง’ ของค่ายสหมงคลฟิล์ม และนั่นเป็นครั้งแรกที่ประชาชนได้เห็นความ สามารถของเปาผ่านผลงานการแสดง เปาเริ่ ม มี ชื่ อ เสี ย งใน านะนั ก ร้ อ งและ นักแสดงหน้าใหม่ ในวงการบันเทิง เช่น ละคร เรื่ อ งสงครามเพลงที่รับ บทเป็ น ‘เพี ย งดาว’ ออกอากาศทางช่อง รวมไปถึงการได้รบั รางวัล


ัส

รสั เร่อง

ิชชา า หลักค า

นาวุ วรนุช


นก ้

ง | Baankluay

เา

29

จนัส แอนเดอร์สัน หนุ่มชาวสวีเดน ู้หลงใหลการใช้ชีวิตใน เมองไทย ด้วยความรักในการร้องเ ลง จงตังใจฝกฝนเ ลง ลูกทุ่งเ ่อสบสานศิลปวั น รรมที่ตนช่นชอบ ท ให้ช่อของ จนัส ฝรั่งร้องเ ลงไทยเปนที่รู้จักมา งทุกวันนี

จึงป ิเสธไปในตอนแรก แต่สุดท้ายได้ตัดสินใจ เข้าร่วมโครงการสืบสานและส่งเสริมวัฒนธรรม ไทยของรายการเวที ไทย โดยใช้เพลงลูกทุ่งเป็น สื่อ จะน�าเสนอในตัวโจนัสคือฝรั่งร้องเพลงไทย พอรายการได้ออกอากาศไปสร้างความ ือ า อย่ า งมาก เพราะเป็ น รายการร้ อ งเพลงสด จึงท�าให้ โจนัสเป็นที่รู้จักมากขึ้นไปอีก ผลงานทีส่ ร้างชือ่ เสียงให้ โจนัส คือการน�า เพลงที่มีอยู่แล้วมาขับร้องใหม่ เพื่อให้เข้ากับยุค สมัยปัจจุบันมากยิ่งขึ้น โดยมีแนวคิดคือฝรั่งรัก ประเทศไทย ซึ่งจะแตกต่างกับนักร้องคนอื่นที่ สร้างชื่อเสียงจากเพลง ิตของตัวเอง ด้วยความที่เป็นชาวต่างชาติ แน่นอนว่า ต้องมีอปุ สรรคเรือ่ งการใช้ภาษาอยูบ่ า้ ง อย่างของ โจนั ส จะเป็ น เรื่ อ งของการหลุ ด ส� า เนี ย งฝรั่ ง อีกเรือ่ งหนึง่ คือการอ่านภาษาไทยช้า แต่อปุ สรรค ส�าคัญที่สุดคือ เรื่องของแนวเพลงที่ ไม่คุ้นเคย เพราะเพลงลูกทุ่งต้องอาศัยการแสดงออกด้วย ความจริงใจ ดังนัน้ ตัวของโจนัสจึงพยายามซึมซับ ด้วยการฟัง พยายามเข้าใจจังหวะ เข้าใจอารมณ์ เพลงและเทคนิคของการใช้เสียง เพลงลูกทุ่งไทยส�าหรับโจนัส เป็นเพลง ทีม่ คี วามสมบูรณ์ เพราะได้รบั อิทธิพลมาจากเพลง พื้นบ้านและเพลงไทยเดิม ไม่ว่าจะเป็นการแหล่ ลิเก หรือแม้กระทัง่ หมอล�า ทัง้ หมดนีจ้ งึ ท�าให้เพลง ลูกทุง่ ไทยมีความน่าสนใจเพิม่ มากขึน้

การที่วัฒนธรรมตะวันตกและตะวันออก เข้ามามีบทบาทในประเทศไทย โจนัสให้ความเห็น ว่ า เป็ น สิ่ ง ที่ ห้ า มไม่ ไ ด้ แทนที่ จ ะกั ง วลเรื่ อ งนี้ ลองหันมาเปิดหูเปิดตารับสิ่งใหม่ๆ แต่ ในทาง กลับกันคนไทยเองก็ต้องช่วยกันอนุรักษ์เพลงลูก ทุ่งของเราให้คงอยู่ต่อไป เพลงลูกทุ่งไทยถือว่าเป็นวัฒนธรรมไทย แขนงหนึ่งที่ควรค่ากับการอนุรักษ์ ไว้ โจนัสเอง ก็คิดว่า เพลงลูกทุ่งไม่หายไปจากเมืองไทยอย่าง แน่นอน เพราะทุกวันนีเ้ วทีประกวดเพลงลูกทุง่ ยังมี ให้เห็นอยูม่ ากมาย หรือแม้กระทัง่ รายการประกวด ร้องเพลงทั่วไปยังคงมีข้อบังคับให้ผ้ปู ระกวดร้อง เพลงลูกทุ่ง เหล่านี้จึงเป็นสิ่งที่ช่วยอนุรักษ์และ สืบสานให้เพลงลูกทุง่ ยังคงอยูต่ อ่ ไป

จง ูมิใจว่าสิ่งที่เปนไทยนันสุด ยอดแล้ว ไม่น้อยหน้าใคร เ รา มีสิ่งที่ทัง ลกยอมรับ

โจนัสมาอยู่เมืองไทยเมื่อตอนอายุ ปี ช่วงวัยรุน่ เขาได้รวมตัวกับเพือ่ นๆ ทัง้ ชาวไทยและ ชาวต่างชาติ เข้าคอร์สเรียนศิลปะการแสดงด้วยกัน ทีจ่ งั หวัดนครราชสีมา และตัง้ คณะนักแสดงขึน้ มา เพือ่ การกุศล โดยมีการร้องเพลง เล่นละคร เล่นเกม จุดเริ่มต้นในการเข้ามาเป็นนักร้องลูกทุ่ง ของหนุ่มตาน้�าข้าวคนนี้ เริ่มจากโจนัสได้ร้อง เพลงไทยในคณะ และเป็นทีถ่ กู ใจของหลายๆ คน เพราะเห็นว่าฝรั่งร้องเพลงไทยได้ จึงท�าให้มีงาน แสดงติดต่อเข้ามามากมาย จนกระทัง่ มีงานหนึง่ ได้ขอให้ โจนัสร้องเพลงลูกทุง่ ปราก ว่าได้ผลตอบ รับอย่างดี หลังจากนั้นก็มีคนขอให้ร้องเพลงลูก ทุง่ เรือ่ ยมา จึงพยายามฝกฝนจนเป็นที่ อื ามาก ในช่วงนั้น ว่าฝรั่งสามารถร้องเพลงลูกทุ่งได้ จุดเปลี่ยนชีวิตของโจนัสอยู่ที่งานปี ใหม่ งานหนึ่ง ซึ่งคุณวิทวัส สุนทรวิเนตร์ นั่งชมอยู่ ด้วย โจนัสเล่าว่าคุณวิทวัสแปลกใจมากทีเ่ ห็นฝรัง่ ร้องเพลงลูกทุ่ง จึงอยากให้ ไปออกรายการตีสิบ ด้วย โจนัสเห็นว่าเป็นโอกาสที่ดีและน่าสนใจจึง ตัดสินใจไปร่วมรายการ ท�าให้ชีวิตของโจนัสเกิด ความเปลีย่ นแปลงครัง้ ยิง่ ใหญ่ ผูค้ นจ�าได้วา่ โจนัส เป็นฝรัง่ ร้องเพลงไทยจากรายการตีสบิ จึงเป็นจุด เริม่ ต้นการมีชอ่ื เสียงของโจนัสอย่างไม่รตู้ วั หลังจากนั้นเริ่มมีค่ายเพลงติดต่อเข้ามา เพือ่ จะให้ โจนัสเข้าสังกัด ด้วยความที่โจนัสกลัวว่า วงการบันเทิงจะเป็นโลกมายา ไม่มีความจริงใจ

แล ปร ทับใจ ที่อยากจ กลับมา สัม ัสอีกครัง


Simplicite เรียบง่าย




นางแบบ ณภัสนันท์ สิรินดาศุภสิริ สไตลลิสต์ ธิชากร แซ่ด่าน นราพร พรหมฤทธิเดชา แต่งหน้า ธิชากร แซ่ด่าน ช่างภาพ ธนาวุธ วรนุช จุฑามาศ อารีย์ สถานที่ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ


า าร

c

หากกล่าว ง อาหารลดน หนัก ไม่ว่าใครกต้องจินตนาการ งสลัด ต่าง หรออาหารกล่องที่สามาร สั่ง อตามอินเทอร์เนต ดยหลงลมไป ว่าอาหารไทยนันกสามาร ลดน หนักได้เช่นกัน เน่องจากความ ดดเด่นของ อาหารไทยอยู่ที่รสชาติข้มเข้นแล มีเคร่องเทศที่เปนเอกลักษณ์ แต่ความ อร่อยนันมักแลกมาด้วยแคลลอรีที่สูงจากไขมันรวมไป งก ทิท่ีมักมีอยู่ใน เมนูอาหารไทยต่าง ่งในความเปนจริงแล้วอาหารไทยของเราบางชนิด นัน กสามาร น มาปร ยุกต์ความอร่อยได้ ทังยังช่วยลดน หนักแล ท ไม่ ยากอีกด้วย

www.saisawankhayanying.com

เรื่อง / ภาพ : ศศิชา รุ่งเรืองกุล


าย าย

35 ก หล่ ปลีห่อหมูสับทรงเคร่อง

|

Baankluay

วัตถุดิบ

1. หมูสับ 2. แครอทและหัวหอม ซอยละเอียดตำมชอบ 3. ใบกะหล�่ำปลีที่แกะเรียบร้อยแล้ว 4. ซอสปรุงรส 1-2 ช้อนโต๊ะ 5. พริกไทย 6. ซอสหอยนำงรม 1 ช้อนโต๊ะ 7. น�้ำจิ้มสุกี้

ขั้นตอนกำรท�ำ เริ่มต้นกันด้วยเมนูแรกที่คนลดน�้ำหนัก ไม่ ควรพลำดเลยนัน่ ก็คอื ‘กะหล�ำ่ ปลีหอ่ หมูสบั ทรงเครือ่ ง’ ซึ่งเป็นเมนูแคลอรีต�่ำ และสำมำรถท�ำเองได้ง่ำยๆ ไม่ ต้องพึ่งร้ำนอำหำรที่ไหนให้เสียเวลำ นอกจำกนี้แล้ว ยังอิ่มท้องและอร่อยอีกด้วย ไปดูกันว่ำมีวิธีกำรท�ำ อย่ำงไรบ้ำง ต่อกันด้วยอีกหนึง่ เมนูอย่ำง ‘ซุปมันฝรัง่ อกไก่’ อำหำรที่ไม่ว่ำใครก็คงจะรู้จักกันดี โดยเปลี่ยนจำก น่องเป็นส่วนอกแทน เนือ่ งจำกอกไก่ลว้ นไม่รวมหนัง ในปริมำณ 100 กรัม เท่ำกับ 110 แคลอรีเท่ำนั้น ซึ่ง เป็นทีน่ ยิ มส�ำหรับคนทีก่ ำ� ลังลดน�ำ้ หนักอย่ำงมำกเลย ทีเดียว และวิธีกำรท�ำนั้นก็ไม่ยำกอีกด้วย

ุปมันฝรั่งอกไก่

1. น�ำหมูสบั ทีเ่ ตรียมคลุกเคล้ำให้เข้ำกันกับแครอทและหัวหอม แล้วปรุงรสด้วย พริกไทย ซอสหอยนำงรมพอประมำณ หมักทิ้งไว้ 15-20 นำที 2. คลีใ่ บกะหล�ำ่ ปลีให้อยูใ่ นลักษณะแบออก แล้วตักหมูสบั ทีห่ มักไว้ใส่ลงไปก่อน จะม้วนเข้ำหำกัน กลัดด้วยไม้จิ้มฟันให้แน่น 3. ใส่น�้ำลงไปในหม้อให้พอเดือด ปรับไฟปำนกลำง 4. หมัน่ ดูใบกะหล�ำ่ ปลี เมือ่ ใบเริม่ ใสให้ตกั ขึน้ ใส่จำน จัดให้สวยงำมพร้อมเสิรฟ์ ทำนคู่กับน�้ำจิ้มสุกี้รสเด็ด

วัตถุดิบ 1. อกไก่ หั่นเป็นชั้นพอดีค�ำ 2. แครอท 3. หัวหอมใหญ่ 4. มันฝรั่ง 5. มะเขือเทศ หั่นเป็นเต๋ำ 6. พริกไทย 7. กระเทียม โขลกให้ละเอียด 8. ซุปก้อน 9. รำกผักชี 10. ขึ้นฉ่ำย

ขั้นตอนกำรท�ำ 1. ใส่น�้ำลงในหม้อ ต้มน�้ำด้วยไฟปำนกลำง รอให้เดือดแล้วใส่เครื่องเทศที่ โขลกให้เข้ำกัน พร้อมกับซุปก้อนลงไปให้ละลำย 2. ใส่อกไก่ลงไปพร้อมกับมันฝรั่ง รำกผักชี แครอท แล้วรอให้สุก 3. รอจนเดือดอีกครั้งแล้วใส่หัวหอม มะเขือเทศ และผักขึ้นฉ่ำยลงไป ไม่ควรทิ้งไว้นำนมำก เนื่องจำกผักจะเละท�ำให้ดูไม่น่ำรับประทำน 4. ปรุงรสตำมใจชอบแล้วตักใส่ชำมพร้อมเสิร์ฟ จะเห็นได้วำ่ เมนูเหล่ำนี้สำมำรถท�ำได้ง่ำยๆ ไม่ยุ่งยำก ประหยัดเงินในกระเป๋ำ และยังสำมำรถลดน�้ำหนักได้อีกด้วย อย่ำงไรก็ตำม กำรรับประทำน อำหำรเหล่ำนี้สำมำรถช่วยในเรื่องของกำรลดน�้ำหนักได้เพียงส่วนหนึ่งเท่ำนั้น ควรออกก�ำลังกำยควบคู่กันไปด้วยก็จะท�ำให้สุขภำพดีและรูปร่ำงกระชับได้ สัดส่วนมำกยิ่งขึ้น


Baankluay | ร้ร

รอย ย

กบ ิ

36

เร่อง

ีรญา หลเวชช์

การ สม สานอย่างลงตัวร หว่างความหลงใหลในงานศิลปกับความต้องการ ั นาศิลป ไทยให้ มีความร่วมสมัยทัดเทียมกับนานาชาติของเจ้าสัวบุญชัย เบญจรงคกุล ก ู้ อ ่ ตัง ิ ิ สมัย ที่ท่านส สมมานานกว่า

ณ ั ศ ์ ล ิ ป ไทยร่วม

ขนมา เ ่อเปนส านที่ส หรับจัดแสดง ลงานศิลป ป นอกจากนียังมี นที่บางส่วนจัดเปนห้องแสดง ลงานอันทรงคุณค่าของ

ศิลปนแห่งชาติที่มีช่อเสียง ทังนีเ ่อเปนการส่งเสริมสังคมศิลป ในปร เทศไทยให้ขับเคล่อนไปข้างหน้า เทียบเท่านานาอารยปร เทศได้

สิ่ ง แรกที่ สั ม ผั ส เมื่ อ ได้ ย่ า งก้ า วเข้ า มา ภายในพิพิธภัณฑ์ศิลปะไทยร่วมสมัยแห่งนี้คือ ความโปร่งโล่งสบาย ภายในมีทั้งหมด ชั้น ซึ่ง แต่ละชัน้ จัดแสดงผลงานทีแ่ ตกต่างกันไป เริม่ ต้น ที่ชั้นแรก เป็นห้องจัดนิทรรศการหมุนเวียนของ ศิ ล ปิ น แห่ ง ชาติ ภายในชั้ น นี้ จ ะมี ผ ลงาน ประติมากรรมชิ้นเอกของศิลปินที่มีชื่อเสียงผลัด เปลีย่ นกันมาแสดง โดยส่วนใหญ่เป็นผลงานด้าน ประติ ม ากรรมไทย สะท้ อ นให้ เ ห็ น ถึ ง การ เปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์ของงานจากแนวอุดมคติ สู่รูปแบบสากล

เมื่อขึ้นมาถึงชั้นที่สอง เป็นชั้นที่จัดแสดง ความหลากหลายในปัจเจกภาพทางความคิด โดย ผลงานส่วนใหญ่เน้นการสื่อถึงค่านิยมและความ เชื่อของสังคมไทยในบริบทร่วมสมัย อย่างเช่น รูปเด็กผู้หญิงสามคนสวมชุดนักเรียนมัธยมต้น ท�าท่าแต่งหน้าทาปากแดงแจ ผลงานของคุณอัม ริ น ทร์ บุ พ ศิ ริ ศิ ล ปิ น จากคณะจิ ต รกรรม ประติ ม ากรรมและภาพพิ ม พ์ มหาวิ ท ยาลั ย ศิลปากร ซึ่งเมื่อมองดูแล้วท�าให้ต้องย้อนกลับมา มองสังคมนักเรียนในปัจจุบันที่เปลี่ยนแปลงไป จากสมัยก่อนอย่างสิ้นเชิง ทั้งเรื่องการแต่งตัวไป


ร้ร รอย ย | Baankluay

37

จนถึงการแต่งหน้าที่ดูเป็นเรื่องปกติ ไปแล้วใน สังคมของเด็กมัธยมคอซอง จนบางทีเราต้องมา คิดว่ามันเหมาะสมแล้วหรือกับการกระท�าแบบนัน้ อีกภาพทีน่ า่ สนใจคือภาพวาดการเล่นสาดน้า� ช่วง เทศกาลสงกรานต์ ซึ่งมีความเปลี่ยนแปลงไปทั้ง เสื้อผ้าและวิถีการละเล่น เมื่อเดินชมไปเรื่อย ๆ ท�าให้รู้สึกได้ว่าบางครั้งงานศิลปมันก็สะท้อนถึง ความเปลี่ยนไปของสังคมได้เป็นอย่างดี ถัดมาที่ชั้นสาม ซึ่งถือว่าเป็นอีกชั้นหนึ่ง ที่มีความโดดเด่น เนื่องจากมีการรวบรวมเอา ความสวยงามของผลงานภายใต้ แ นวคิ ด ‘ฝัน จินตนาการ และสัญชาตญาณ’ เข้าไว้ด้วย กันอย่างลงตัว ผ่านภาพเรือนร่างของผู้หญิงใน อุดมคติออกมาอย่างไร้ขีดจ�ากัด ไม่ว่าจะเป็น ประติมากรรมรูปปัน้ ไวโอลินทีม่ สี ว่ นของตัวเครือ่ ง คดเคี้ยวเป็นลวดลายช่วงล�าตัวของหญิงสาววัย สะพรั่ ง ขณะที่ ฝั งจิ ต รกรรมภาพเขียนนั้นถูก ถ่ายทอดออกมาตามลักษณะของนางในวรรณคดี ซึ่งมีเครื่องประดับวิจิตรตระการตาปกปิดเรือน ร่างตามอิริยาบทต่าง ๆ เมือ่ เดินมาถึงชัน้ สี่ หลังจากเดินไปตามค�า บอกทางของลูกศรบนพื้นแล้ว ก็เริ่มสัมผัสได้ถึง กลิน่ อายของความดุดนั หนักแน่น ทีถ่ กู ส่งมาจาก

ฝาผนั ง สี แ ดงสลั บ ด� า เพื่ อ ให้ ตั ด กั บ ผลงานที่ แสดงออกถึงพลังแห่งการเคลือ่ นไหวของอารมณ์ ด้วยฝีแปรงของอาจารย์ถวัลย์ ดัชนี ผูเ้ ป็นต�านาน แห่งวงการศิลปะไทยร่วมสมัย สุดท้ายที่ชั้นห้า เป็นชั้นเดียวที่ห้ามถ่าย ภาพ เพือ่ ปองกันความเสียหายต่อชิน้ งานอันทรง คุณค่า เนือ่ งจากภาพจิตรกรรมส่วนใหญ่ลว้ นเป็น ภาพฝี มื อ ของศิ ล ปิ น ยุ โ รปที่ มี ชื่ อ เสี ย งในยุ ค วิ ค ตอเรี ย หรื อ หากจะให้ นั บ แบบไทยก็ เ ที ย บ เท่ากับสมัยรัชกาลที่ นัน่ เอง โดยชัน้ นีถ้ กู จ�าลอง ให้เป็นห้องนิทรรศการในสไตล์พิพิธภัณฑ์แบบ ยุโรป เพื่อรวบรวมงานศิลปะร่วมสมัยจากหลาย ประเทศ ที่มีความโดดเด่นด้วยหลังคากระจกโค้ง รับแสงธรรมชาติ เป็นจริงอย่างทีศ่ าสตราจารย์ศลิ ป พีระศรี ว่า t a ita is ชีวิตสั้น ศิลปะยืนยาว หากมองในอีกมุมหนึ่งงานศิลปเปรียบเสมือน หนังสือบันทึกประวัติศาสตร์ที่สะท้อนให้เห็นถึง ค่านิยมในสมัยนั้น แม้ตัวจะตายแต่ศิลปะยังคง อยู่ ให้ลูกหลานได้ดูและศึกษา เมื่อถูกมองว่าเป็น สิ่งเก่าส่งผลให้น้อยคนนักที่จะเห็นคุณค่า การ ท�าให้ร่วมสมัยมากขึ้นอาจจะเป็นการปรับตัวให้ เข้ากับความเปลี่ยนแปลงของค่านิยมในสังคม

ปัจจุบัน อย่ า งไรก็ ต าม หากไร้ ซึ่ ง ลมหายใจ ศิลปะก็ยังจะคงอยู่ต่อไป ใครที่ ส นใจเข้ า ชมความงดงามของ พิพิธภัณฑ์ร่วมสมัยแห่งนี้ ตั้งอยู่เยื้องกับท่า อากาศยานดอนเมื อ ง หากมาจากถนน วิภ าวดีรังสิตขาออก ให้เ ลี้ยวซ้า ยแยกเข้า วัด เสมียนนารี แล้ววิ่งขนานกับทางรถไฟไปจน ข้ า มแยกไฟแดง ก็ จ ะพบกั บ สถานที่ จั ด แสดง ศิ ล ปะไทยร่ ว มสมั ย ที่ เ ปิ ด ให้ บ ริ ก ารในเวลา . . น. ทุกวันอังคาร อาทิตย์ โดยมีอัตราค่าเข้าชมท่านละ บาท และยัง สามารถเลือกซื้อของฝากทั้งหนังสือหรือศิลปะ หายาก ที่ล้วนแต่มีดี ไซน์เป็นเอกลักษณ์หลัง เยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ ได้อีกด้วย


Baankluay | ร้อยเรียงเรื่องราว

38

ร า

เรื่อง : พัชชา บัวสุวรรณ า

จุ ามาศ อารีย์

ถ้าให้นกึ ถึงบทละครไทยในปัจจุบนั คงหนี ไม่พ้นบทชิงรักหักสวาทกันอย่างถึงพริกถึงขิง หรือบททะเลาะวิวาทระหว่างตัวร้ายกับตัวเอก เนือ้ หาเหล่านีว้ นเวียนอยูใ่ นละครจอแก้วของบ้าน เรามาอย่างยาวนาน โดยไม่มที ที า่ ว่าจะมีบทละคร แนวอื่นขึ้นมาตีตื้นติดตลาดได้เลย ซึ่งส่งผลให้ ผู้ชมส่วนใหญ่ หันไปรับชมละครต่างประเทศ (ซีรีส์) ที่มีการด�าเนินเรื่องรวมถึงสามารถให้ แง่คิดที่เป็นประโยชน์กับคนดูได้มากกว่า ผูเ้ ขียนเองเป็นหนึง่ ในคนบริโภคสือ่ ทีเ่ บือ่ หน่ายกับบทละคร (น�้าเน่า) ซึ่งมักมีฉากตบตี ระหว่างนางร้ายกับนางเอก โดยจากงานวิจยั เรือ่ ง ‘การศึกษาความเป็นบันเทิงไทยผ่านอุตสาหกรรม ละครโทรทัศน์’ ของนางสาวพัชราภรณ์ ไชยวัณณ์ นั ก ศึ ก ษาปริ ญ ญาโท มหาวิ ท ยาลั ย เชี ย งใหม่ ได้รวบรวมถึงประเภทของละครไทยที่ฉายทาง โทรทัศน์ พบว่า แนวรักเชือดเฉือนมีเปอร์เซ็นต์ สูงเป็นอันดับต้นๆ และถึงแม้นางเอกจะถูก วิวัฒนาการให้สู้คนเป็นบ้างแล้ว แต่ไม่ได้ท�าให้ ความเป็นบทละครซ�า้ ซากน้อยลง

ใช่ จ ะบอกว่ า ละครไทยไม่ ดี ไ ปเสี ย หมด ละครไทยน�้าดีแฝงแง่คิดต่อการใช้ชีวิตในหลาย ด้านก็ยงั มีให้เห็น และก�าลังมีจา� นวนเพิม่ มากขึน้ ในปัจจุบนั จะเห็นได้จากบทสัมภาษณ์ของผูจ้ ดั ละคร หลายค่ายในเว็บไซต์โพสทูเดย์ ที่กา� ลังผลักดันให้ เกิดละครน�้าดีแนวรักชาติอิงประวัติศาสตร์ ให้ เป็นอีกหนึง่ ทางเลือกส�าหรับผูช้ มทีจ่ ะได้บริโภคสือ่ ทีม่ คี วามแตกต่างไปจากเดิม แต่ยงั มีนอ้ ยกว่าหาก เทียบกับละคร (น�า้ เน่า) ที่เนื้อหาไม่เคยวนเวียน ไปไกลจากค�าว่าชิงรักหักสวาททีเ่ น้นให้ความบันเทิง เสียส่วนใหญ่ อาศัยความรัก โลภ โกรธ หลง ของตัวละครเป็นแกนหลักในการด�าเนินเรือ่ งราว เพือ่ สนองต่อความพึงพอใจของผูช้ ม ถึงจะมีทางเลือกเพิ่มขึ้น แต่หากความ สมจริงบางอย่างในฉากของละครก็ยงั ขาดหายไป ตัวอย่างเช่น ฉากปั๊มหัวใจช่วยชีวิตที่ควรให้ผู้ชม ทราบถึงวิธีการที่ถูกต้อง เพราะเป็นเหตุการณ์ที่ สามารถพบเจอได้ในชีวติ จริง แต่ละครหลายเรือ่ ง ก็ยงั ท�าฉากนีอ้ อกมาอย่างผิด ๆ หรือฉากในละคร วัยรุ่นที่มีภาพบางอย่างไม่เหมาะสมท�าให้เกิด

พฤติกรรมลอกเลียนแบบ รวมถึงฉากโดนงูกัดที่ มักใช้ปากดูดพิษออก หากมีผู้ชมจ�าแล้วน�าไป ท�าตามคงไม่ใช่เรื่องที่ดี จะเห็นได้ว่าละครไทย ยั ง ขาดการให้ ค วามรู ้ เ พิ่ ม เติ ม ขาดการใส่ ใ จ รายละเอียดบางอย่าง หรือแม้แต่ความสมจริง ของการใช้ชีวิต ในเรื่ อ งความรุ น แรงของละครไทยที่ อาจน� า ไปสู ่ พ ฤติ ก รรมเลี ย นแบบของเด็ ก นั้ น ดร. วัลลภ ปิยะมโนธรรม นักจิตวิทยา ได้แสดง ความคิดเห็นไว้ในบทความหนึง่ ว่า “ยิง่ ได้ดมู ากๆ ก็ยิ่งเป็นการสะสม จนอาจท�าให้เด็กรู้สึกอยาก เลียนแบบมีการท�าตาม ซึ่งเรื่องนี้เป็นทั้งการรู้ เท่าไม่ถึงการณ์ หรือท�าไปโดยไม่รู้ว่าท�าเพื่ออะไร และเป็นเรื่องของจิตวิทยาด้วย” ทางด้าน รศ.ดร. เสรี วงศ์มณฑา นักแสดง และนักวิชาการด้านสือ่ สารมวลชนและการตลาด เคยบรรยายในหัวข้อ ‘ผลกระทบจากละครโทรทัศน์ ต่อสังคม’ กล่าวถึงผลกระทบทางลบจากละครไทยไว้ บางประการ เช่น ก่อให้เกิดปัญหาเรือ่ งเพศ วัตถุนยิ ม และความรุนแรง โดยปัญหาดังกล่าวขึ้นอยู่กับ


39

พืน้ ฐานนิสยั ของผูช้ มด้วย ซึง่ เป็นปัญหาทีห่ ลีกเลีย่ ง ไม่ได้เพราะเป็นค่านิยมของสังคม แต่อาจก่อให้ เกิดปัญหาได้ถ้าผู้ชมดูละครด้วยความไม่มีสติ ละครน�า้ เน่านีไ้ ม่ได้มเี ฉพาะในประเทศไทย เท่านั้น ในฝั่งของละครต่างประเทศเองก็มีฉาก น�้าเน่าเพื่อให้ความบันเทิงอยู่บ้างเช่นกัน แต่ ละครของเขายังแฝงสาระความรู้ ความภาคภูมใิ จ และแรงบันดาลใจอีกด้วย อย่างซีรีส์เกาหลีเรื่อง ‘DescenDants of Sun’ (ชีวติ เพือ่ ชาติ รักนีเ้ พือ่ เธอ) ที่ก�าลังเป็นกระแสดังในไทย จนพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ถึงกับเอ่ยปากว่า อยากให้คนไทยได้ชม คนทีด่ คู งทราบดีวา่ มีเนือ้ หา เกี่ยวกับอาชีพทหารและแพทย์ที่ถูกส่งไปท�างาน ไกลบ้าน บทแสดงให้เห็นถึงความภาคภูมิใจและ ศักดิ์ศรีในอาชีพตน อีกทั้งยังแทรกเกร็ดความรู้ เล็กๆ น้อยๆ เกี่ยวกับการรักษาพยาบาลไว้ด้วย จึงไม่ต้องแปลกใจนักหากเห็นบางผลส�ารวจบอก ว่ า คนไทยตั้ ง แต่ วั ย มั ธ ยมจนถึ ง วั ย ท� า งานให้ ความชืน่ ชอบกับละครต่างประเทศ (ซีรสี )์ มากกว่า ละครไทย

ร้อยเรียงเรื่องราว | Baankluay

มาถึงตรงนีผ้ เู้ ขียนเพียงกล่าวแสดงความ คิดเห็นในฐานะที่เป็นผู้ชมคนหนึ่ง ซึ่งยังบริโภค ทั้งละครไทยและละครต่างประเทศไปพร้อมกัน อย่างน้อยอยากให้คุณผู้อ่านได้กระตุกความคิด เกี่ยวกับเรื่องนี้บ้าง เราสามารถเป็นผู้ที่เลือกรับ สือ่ ได้ และสามารถแสดงความคิดเห็นได้ดว้ ยเช่น กัน ละครเป็นสือ่ ทีส่ ามารถปลูกฝังทัศนคติรวมถึง ค่านิยมให้สังคม ไม่ได้จะบอกว่าละครน�า้ เน่านั้น

ไม่ดีไปเสียหมด แต่ละครคือหนึ่งในเนื้อหาของ สื่ อ มวลชนที่ น อกจากให้ ค วามบั น เทิ ง แล้ ว ยังมีหน้าที่สะท้อนแง่คิดและชี้น�าสังคม ถึงเวลา แล้วที่ละครควรจะพัฒนาไปในทิศทางที่ดีกว่านี้ โดยเฉพาะผู้สร้างละครซึ่งเป็นผู้ผลิตสื่อควรมี จิตส�านึกเพื่อสร้างสรรค์สังคมให้ดีขึ้นมากกว่าจะ หวังผลก�าไรทางธุรกิจเพียงอย่างเดียว


Baankluay | ร้อยเ

เรื่องราว

บบ เรื่อง : ธิชากร แซ่ด่าน า

จุ ามาศ อารีย์

จากการเปลี่ยนแปลงของประวัติศาสตร์ ดนตรีไทยที่เกิดจากแนวคิดการผสมผสานดนตรี ไทยกับดนตรีตะวันตกสมัยใหม่อย่างจริงจัง ส่งผล ต่อพัฒนาการของสังคม วัฒนธรรมไทย หลาก หลายมิติ ท�าให้เกิดกระแสดนตรีรว่ มสมัยกลับมา เป็นที่สนใจของนักฟังเพลงรุ่นใหม่ หากพูดถึงแนวเพลงที่ได้รับความนิยมใน ปัจจุบัน คงหนีไม่พ้นเพลงที่มีการผสมผสาน ระหว่ า งดนตรี ส ากลกั บ ดนตรี ไ ทยอย่ า งแนว โมเดิรน์ เทรดิชนั่ นอล T a iti a ซึ่งถูก หยิบยกน�ามาสร้างเป็นแนวเพลงใหม่ ในยุคก่อน ดนตรีไทยอาจไม่ได้รับความสนใจจากสังคมมาก เท่าที่ควร แต่ด้วยเสน่ห์ของดนตรีไทยส่งผลให้มี การน�ามาประยุกต์ใช้กับดนตรีสากล อย่างเช่น เดอะรู๊บ วงน้องใหม่จากค่ายสไปร์ซซี่ดิสก์ ที่น�า เอกลักษณ์ของเพลงไทยแขนงต่างๆ อย่าง ลูก ทุ่ง ไทยเดิม ฉ่อย ล มาประยุกต์เข้ากับดนตรี สมัยใหม่บนพืน้ านของเพลงปอปพร้อมกับเพลง ’ s สีดา เพลงปอปทีม่ กี ลิน่ อายดนตรีไทย เดิมผสมอย่างลงตัว โดยเพลง ’ s สีดา นัน้ ได้นา� ท�านอง ของเครือ่ งดนตรีและการร้องเเบบไทยเดิมมาผสม จนท�าให้เพลงนี้เป็นที่พูดถึงอย่างมาก หลังจาก

40

ปล่อยเพลงออกมาไม่ถึงอาทิตย์ก็มียอดวิวขึ้นไป กว่าสี่แสนวิวบนยูทูบ เป็นอันดับหนึ่งบนชาร์ต เพลงไทยจากคลื่นวิทยุ . และติด ท็อปชาร์ตทุกอันบน จูค๊ i ati J ท�าให้ มีการแชร์เพลงดังกล่าวเป็นจ�านวนมากบนโลก ออนไลน์ โดยในอดีตนั้นเพลงแนวปอปผสมไทย เดิมหลายเพลงก็กลายเป็นเพลงทีป่ ระสบความส�าเร็จ อย่างมากเมือ่ ถูกปล่อยออกมา อย่างเช่นเพลงเธอ จากวงค็อกเทลทีเ่ ป็นเพลงสร้างชือ่ ของวง หรือเพลง ดัง่ ฝันฉันใด ของวงเคลียร์ ทีใ่ ช้ประกอบละครเรือ่ ง รักข้ามภพ และเพลงดอกราตรี ของวงเอ็นโดรฟิน นอกจากเพลง ติ เหล่านีแ้ ล้ว บางวงดนตรีเองก็เเจ้ง เกิดจากเพลงปอปผสมไทยเดิมเลยอย่างเช่นวงดูโอ้ เดอะพีชแบนด์ ทีแ่ จ้งเกิดกับเพลง ติ อย่างเพลงวอน หลังจากแนวเพลงโมเดิร์นเทรดิชั่นนอล T a iti a เป็นที่นิยมมากขึ้น ก็มี เพลงที่ผสมผสานระหว่างดนตรีไทยและดนตรี สากลออกตามมาอีกมากมาย ซึ่งล้วนแล้วเป็นที่ นิยมอย่างมากบนยูทูบ ไม่ว่าจะเป็นเพลงตัวร้าย ที่รักเธอ ของวงทศกัณ ์ เพลงผีเสื้อสมุทร และ เพลงอาญาสองใจ ของมินตรา น่านเจ้า เอกลักษณ์ ของเพลงคือ การผสมผสานเครื่องดนตรีสากล เข้ากับเครือ่ งดนตรีไทยต่างๆ ไม่วา่ จะเป็น ซอ ขลุย่ หรือระนาด นอกจากนีย้ งั มี วงแบงค็อก เวคอัพ ที่ สร้างชือ่ จากรายการ ไทยแลนด์กอ็ ตทาเลนต์ จน สามารถเข้าถึงรอบรองชนะเลิศ โดยการน�าเครือ่ ง ดนตรีไทยมาผสมผสานกับดนตรีแนวอิเล็กทรอนิกส์ แดนซ์ได้อย่างลงตัว เช่นเดียวกับดีเจ บอทแคช ที่

แจ้งเกิดกับการน�าเพลงไทยเดิมอย่าง เพลง ลาว ดวงเดือน เพลงชมทุง่ มาใส่ดนตรีแนวอิเล็กทรอนิกส์ แดนซ์ ซึ่งในปัจจุบันได้มีผลงานร่วมกับแร็ปเปอร์ เบอร์หนึ่งของประเทศไทยอย่าง โจอี้บอย ใน เพลงเมามาย จนมีผู้ชมในยูทูบมากกว่าสี่ล้านวิว ทัง้ นีผ้ เู้ ขียนเองคิดว่าสิง่ หนึง่ ทีท่ า� ให้ดนตรี ไทยไม่ตาย เพราะดนตรีนนั้ เป็นศิลปะทีไ่ ร้พรมแดน ความอ่อนช้อยของดนตรีไทยนัน้ สามารถสร้างมิติ ความไพเราะทีแ่ ตกต่างรวมไปถึงความคิดสร้างสรรค์ ของวงดนตรีหน้าใหม่ในการน�าเสนอแนวเพลงที่ ไม่เหมือนใคร จนเป็นทีย่ อมรับในสังคมและสร้าง กระแสให้เกิดการพัฒนาแนวเพลงในรูปแบบใหม่ มากยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันก็เปรียบเสมือนการ อนุรักษ์ดนตรีไทยในอีกรูปแบบหนึ่งที่ไม่น่าเบื่อ และได้ผลตอบรับเป็นอย่างดี จึงท�าให้ดนตรีไทย สามารถเข้าถึงคนยุคใหม่ได้ง่ายดาย อย่างไรก็ตาม แม้ว่าคนรุ่นใหม่จะให้การ ตอบรับมากขึน้ แต่วนั หนึง่ กระแสของดนตรีไทย ประยุกต์กจ็ ะถูกหมุนเวียนและเลือนหายไปตามกาล เวลา หากสังคมให้การสนับสนุนและให้ความสนใจ ไม่วา่ เวลาจะผ่านไปกีย่ คุ สมัย ท่วงท�านองทีผ่ สมผสาน ความเป็นไทย ก็จะสามารถกลับมานิยมได้อกี ครัง้


ร้อยเรียงเรื่องราว | Baankluay

41

ส า เร่อง

า า า

จุ ามาศ อารีย์

สมุนไพรเป็นของคูก่ บั คนไทยมาเนิน่ นาน แต่เมือ่ การแพทย์แผนปัจจุบนั เริม่ เข้ามามีบทบาท ในบ้านเรา ท�าให้สรรพคุณและคุณค่าของสมุนไพร ไทยในแบบฉบับภูมปิ ญั ญาชาวบ้านเริม่ ถูกบดบังไป เรือ่ ยๆ จนอาจถูกละเลยหายไปในทีส่ ดุ ด้านการแพทย์สามารถน�าสมุนไพรมาใช้ได้ ทัง้ เรือ่ งของสุขภาพและความงาม เช่น มะเฟือง เป็นยาระบายช่วยให้ขบั ถ่ายดี เสาวรสและเห็ดฟาง ช่วยลดไขมันในเส้นเลือด ท�าให้ระบบไหลเวียนเลือด ดีขึ้น ขมิ้นชันช่วยลดการอักเสบของสิว มะขาม เปี ย กและเปลื อ กมั ง คุ ด ช่ ว ยบ� า รุ ง ผิ ว พรรณให้ เปล่งปลัง่ สดใส เป็นต้น สมุนไพรทีย่ กตัวอย่างมาข้างต้น แม้จะใช้ รักษากันมาเนิน่ นาน แต่คนส่วนใหญ่ยงั กังวลถึง ความปลอดภัยของสมุนไพรไทย เพราะขาดความรู้ ความเข้าใจ ท�าให้เลือกรักษาด้วยยาทางวิทยาศาสตร์ มากกว่ า ยาภู มิ ป ั ญ ญาชาวบ้ า นอย่ า งสมุ น ไพร เนื่องจากมีนายแพทย์ผู้เชี่ยวชาญคอยแนะน�า ท�าให้ดมู คี วามน่าเชือ่ ถือ สอดคล้องกับค�าสัมภาษณ์ ของ ศ.นพ. สิรฤิ กษ์ ทรงศิวไิ ล ผูอ้ า� นวยการศูนย์ นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติกั บ เว็ บ ไซต์ ผู ้ จั ด การ ออนไลน์ เมื่อ มี.ค. ที่ว่า

ผู้ใช้ไม่แน่ใจในคุณภาพ อีกทั้งกลุ่มผู้ใช้ สมุนไพรเป็นผูท้ ม่ี อี ายุ ขึน้ ไป จึงเป็นโจทย์ ว่าท�าอย่างไรให้ขยับผลิตภัณฑ์ลงมาหากลุม่ ผูใ้ ช้ที่ มีอายุนอ้ ยลง และสอดคล้องไลฟสไตล์ของวัยรุน่ มากขึน้ แสดงให้เห็นว่าเยาวชนสมัยใหม่ยงั ขาด ความรูค้ วามเข้าใจและรวมถึงค่านิยมทีม่ องว่า การ รักษาด้วยสมุนไพรไทยเป็นการรักษาของคนสูงวัย การรักษาด้วยสมุนไพรไทยต้องใช้เวลา นานกว่าจะส�าเร็จผล แต่กม็ รี าคาถูกกว่าหากเทียบ กับการรักษาแบบแผนปัจจุบนั อย่างสมุนไพรชนิด ซอง เช่น ผงขมิน้ ชัน ผงมะขามเปียก ยาอมสมุนไพร เป็นต้น สามารถหาซื้อได้ตามร้านผลิตภัณฑ์ เครื่องส�าอางหรือร้านเภสัชเวชกรรมทั่วไปใน ราคาที่จับต้องได้ นอกจากนี้ ส มุ น ไพรยั ง สามารถน� า ไป ประกอบอาหารรับประทานได้ เช่น ขิง ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด พริก เป็นต้น ซึ่งช่วยเพิ่มคุณค่าทาง อาหารและรสชาติให้กลมกล่อม ประกอบกับ ประเทศไทยมีภูมิประเทศที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วย ป่าไม้ มีระบบนิเวศเหมาะแก่การปลูกพืชสมุนไพร จึ ง ท� า ให้ เ กิ ด อาชี พ ใหม่ คื อ เกษตรกรรมปลู ก สมุนไพรเพื่อการค้าและส่งออกอีกด้วย

หากมองในมิติด้านเศรษ กิจ สมุนไพร ไทยยังได้รบั ความนิยมจากประเทศสหรั อเมริกา และประเทศทางยุโรป เนือ่ งจากสมุนไพรได้ถกู จัด เป็นยาในการแพทย์ทางเลือก ซึง่ ข้อมูลจากกรมส่ง เสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ปี เผยว่า มูลค่าของการส่งออกสมุนไพรไปยัง ต่างประเทศ เพิม่ ขึน้ จาก . ล้านบาท ในปี พ.ศ. เป็น . ล้านบาท ในปี และในปี เป็น . ล้านบาท และล่าสุด ในช่วงครึง่ ปีแรก ม.ค. มิ.ย. มีมลู ค่า . ล้านบาท แสดงให้เห็น ว่ามูลค่าการส่งออกของสมุนไพรโดยรวมแล้วมี แนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมถึ ง ก่ อ นหน้ า นี้ ท างภาครั มี ค วาม พยายามที่จะผลักดันให้มีการใช้สมุนไพรไทยให้ มากขึ้ น ทั้ ง ในหมู ่ ค นไทยและชาวต่ า งชาติ จากโครงการ ‘ศู น ย์ ก ลางสุ ข ภาพนานาชาติ ’ เพื่ อ สนั บ สนุ น และผลั ก ดั น ด้ า นสมุ น ไพรของ ประเทศ หากโครงการเดินหน้าต่อไปได้ดี จะส่ง ผลในเศรษ กิจด้านการส่งออกของสมุนไพรไทย เติบโตขึ้น ดังนัน้ ผูเ้ ขียนอยากสนับสนุนให้คนรุน่ ใหม่ หันกลับมาเห็นคุณค่าและอนุรกั ษ์สมุนไพรไทยให้ มากขึน้ เพราะนอกจากจะช่วยทัง้ ด้านสุขภาพและ ด้านความงามแล้ว ยังมีค่าใช้จ่ายไม่แพงมากนัก ทั้งนี้ยังเห็นด้วยกับแนวคิด โครงการของรั บาล ที่ พ ยายามผลั ก ดั น ด้ า นเศรษ กิ จ การส่ ง ออก สมุนไพรของประเทศให้มากขึ้นอีกด้วย


Baankluay | อรอย ่ว

42 เรื่อง ศศิชา รุ่งเรองกุล า

า า

้าน ก

ศศชา รุ่งเรองกุล

ีรญา หลเวชช์

า บ ก

อิ่มท้องไปกับอาหารอีสานเลิศรส เผ็ดจัดจ้านในแบบฉบับไม่เหมือน ใคร ร้อมบรรยากาศร้านสบาย

ไปกับ ร้าน ต ต

ย่านใจกลางกรุง ทีจ ่ ท ให้คณ ุ หลงใหลไปกับอาหารมอนีอย่างแน่นอน

ร้าน ‘ต�าต�า a a ’ ถูกตกแต่งด้วย สไตล์โมเดิร์น ด้วยการน�าภาพวาดกราฟิกน่ารัก มาผสมผสานกับผนังสังกะสีได้อย่างลงตัว จน ท�าให้บรรยากาศดูสบายตา น่านัง่ เหมาะส�าหรับ สังสรรค์กบั เพือ่ นหรือครอบครัว นอกจากตัวร้าน จะมีความน่าสนใจแล้ว อาหารอีสานที่เป็นจุ ด เด่ น ของร้ า นนี้ เ องก็ ดึ ง ดู ด ได้ ไ ม่ แ พ้ กั น ซึ่งจะ เด็ดขนาดไหนนั้นคงต้องไปสัมผัสกับเมนูอาหาร อันหลากหลายของร้านแห่งนี้ด้วยตัวเอง และ รับรองเลยว่าหากได้ลิ้มลองแล้วคุณจะต้องร้อง ออกมาว่า ‘แซ่บ’ เลยทีเดียว เปิ ด ตั ว ด้ ว ยเมนู ที่ ก� า ลั ง ิ ต อยู่ ใ นขณะนี้ อย่าง ‘ต�าถาดลาว’ ที่มีรสชาติเผ็ด ตามด้วยรส เปรีย้ วหวานเข้ากันอย่างลงตัว ถูกเสิรฟ์ มาพร้อม เครื่องเคียงน่ารับประทาน ให้ ได้เลือกตามความ ต้องการ ไม่วา่ จะเป็น ไข่ตม้ ขนมจีน หมูยอ เกี ยว ทอด แคบหมู ปลากรอบ นอกจากนี้แล้วยังมี ผักมากมาย ได้แก่ กะหล่�าปลี ถั่วงอก ถั่วฝักยาว แครอท และผักบุ้ง นับเป็นอาหารที่เต็มไปด้วย ความอร่อยเน้นๆ

ถัดมากับเมนูเด็ดของร้าน ‘ต�าละ มึ่ ’ ที่โดด เด่นในเรือ่ งของความเผ็ดจัดจ้าน และคลุง้ ไปด้วย กลิ่นน�้าปลาร้าอันเป็นตัวชูโรงของจานนี้ ซึ่งถูก ปรุ ง แต่ ง ด้ ว ยวั ต ถุ ดิ บ หลากหลาย อย่ า งเส้ น ขนมจีน กะหล�า่ ปลี ถั่วฝักยาว แครอท มะเขือ เปราะ ปูดอง หมูยอ และแคบหมู ปิดท้ายด้วยการ ปรุงรสชาติจากเครื่องเทศอย่างพริกขี้หนูสวน และกระเทียม เข้ากันกับน�้าปลาร้า ทานคู่กับข้าว เหนียวร้อนๆ ยิง่ ท�าให้เมนูนอี้ ร่อยจนเกินห้ามใจ ตามด้วยเมนูที่ผู้ชื่นชอบเห็ดคงไม่พลาด อาหารจานนี้เป็นแน่กับ ‘แกงเห็ด’ ที่มากไปด้วย ความกลมกล่อม พร้อมหอมกลิ่นเครื่องเทศกลิ่น หอมอย่างตะไคร้ ใบโหระพา ซึ่งตัวแกงเห็ดนั้น ประกอบไปด้วยเห็ด ชนิด ได้แก่ เห็ดฟาง เห็ด เข็มทอง เห็ดนางฟา และฟักทอง แล้วเติมรสชาติ ให้กลมกล่อมมากขึน้ ด้วยพริกแดง และน�า้ ปลาร้า ทั้งยังโดดเด่นด้วยรสชาติของน�้าใบย่านาง ที่ตัด กับความหวานของฟักทองได้เป็นอย่างดี ปิดท้ายด้วยกับแกล้มที่ขาดไม่ได้เลยอย่าง ‘คอหมูยา่ งน�า้ จิม้ แจ่ว’ ทีใ่ ช้หมูสดส่วนสันคอคัดสรร

อย่างดี น�ามาหมักด้วยสูตรเด็ดเฉพาะของทาง ร้านแล้วย่างให้หอมน่ารับประทาน เสิรฟ์ มาพร้อม กับน�า้ จิม้ แจ่วทีร่ สชาติกลมกล่อม หอมข้าวคัว่ เข้า กันดีกับคอหมูย่าง ท�าให้เป็นเมนูที่อร่อยจนต้อง บอกต่อ ร้าน ‘ต�าต�า a a ’ ตัง้ อยูช่ นั้ ของ ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลแจ้งวัฒนะ ซึง่ สามารถหา ได้งา่ ย สะดวกสบายต่อการเดินทาง นอกจากนีแ้ ล้ว ยังมีอกี หลายสาขาใกล้บา้ นคุณอย่างสยามสแควร์ เมกาบางนา และสุขมุ วิท รับประกันว่ารสชาติ อาหารของร้านนี้จะท�าให้อยากกลับมาอีกอย่าง แน่นอน

ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลแจ้งวัฒนะ ชั้น ถนนแจ้งวัฒนะ ปากเกร็ด นนทบุรี โทร เปิด ตั้งแต่เวลา . .


อรอย ่ว ย | Baankluay

43 เร่อง ลลิตา ตันติ ชติวงศ์ า

นาวุ วรนุช

ลา ้

นลา น

เ อนลา ูน ร้านอาหาร นเมองล้านนาเล่องช่อในกรุงเท หลายคนต้ อ งแว มาลิ มลองอาหารรสชาติ ดั งเดิ ม

ที่ใคร

ร้ อ มอิ่ ม เอมไปกั บ

บรรยากาศ รรมชาติที่รายล้อมไปด้วย ัน ุ์ไม้นานาชนิด

สม สานได้

อย่างลงตัวกับส าปัตยกรรมตามแบบ บับของทางเหนอ นอกจากนีทาง ร้านยังมีดนตรีสด ฟล์ค องไว้คอยบริการ ทีจ ่ ทาให้ลก ู ค้าเ ลิดเ ลินไปกับ เสียงเ ลงที่ไ เรา รับรองว่า ลาแต้

เริ่ ม ด้ ว ยเมนู ที่ ใ ครมาเป็ น ต้ อ งสั่ ง อย่ า ง ‘ออเดิร์ฟเหนือ’ เนื่องจากเสน่ห์ของจานนี้อยู่ ตรงน�้าพริกหนุ่ม ซึ่งมีรสชาติเผ็ดน�า ออกเปรี้ยว เล็กน้อย รับประทานคู่กับไส้อั่ว แคบหมู หมูยอ แหนมสด และเครื่องเคียง เรียกได้ว่าสั่งมาเมนู เดียวได้ทานอาหารเหนือเกือบครบ และสัมผัสได้ ถึงความอร่อยอย่างลงตัวของเมนูนี้ เมนูถัดมาคือ ‘แกง ังเล’ ทางร้านจะใช้ หมู ส ามชั้ น ที่ หั่ น พอดี ค� า เครื่ อ งแกง ั ง เลที่ หอมหวน พร้อมน�าสับปะรดมาคลุกเคล้าให้เข้า กันหมักทิ้งไว้ประมาณ ชั่วโมง จากนั้นน�ามา ตั้งไฟ ใส่น�้าเล็กน้อยเคี่ยวให้หมูนุ่มได้ที่ ปรุงรส ด้วยน�้าปลา น�้ามะขาม น�้าตาลปีบ ถั่วเน่า และ ขิงที่ซอยเป็นชิ้นบางๆ จากนั้นเคี่ยวต่อจนน�้า ขลุกขลิกแล้วเติมถั่วลิสงคั่วลงไป ได้แกง ังเลที่ หอมเตะจมูกจนน่ารับประทาน อีกหนึ่งเมนูแนะน�าที่เป็นตัวชูโรงของทาง ร้านต้องยกให้ ‘ขนมจีนน�้าเงี้ยว’ ซึ่งมีส่วนผสม

เป็นเอกลักษณ์คือ ดอกงิ้ว หรือดอกเงี้ยว ที่หา รับประทานได้ยากในกรุงเทพ เพิ่มรสชาติให้ กลมกล่อมโดยการใส่เลือดหมูหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ พอดีคา� โดยน�ามะเขือเทศลงไปต้มให้เข้าที่ โรยหน้า ด้วยกระเทียมเจียว ผักชี และพริกทอดเพื่อเพิ่ม ความอร่อย ท�าให้ขนมจีนน�า้ เงีย้ วเป็นอีกหนึง่ เมนู อาหารพืน้ บ้านของภาคเหนือทีไ่ ด้รบั ความนิยม ปิ ด ท้ า ยความอร่ อ ยด้ ว ยอาหารล้ า นนา โบราณคือ ‘ข้าวกั้นจิ้น’ จุดเด่นของเมนูน้ีอยู่ที่ การน�าเลือดหมูสดคั้นกับใบตะไคร้เพื่อดับกลิ่น คาว คลุกกับข้าวสวย ปรุงรสด้วยซีอวขาว ิ พริกไทย เกลือ น�า้ ตาลทราย น�า้ มันกระเทียมเจียว ห่อด้วย ใบตอง ก่อนน�าไปนึง่ ให้สกุ จนหอม เวลารับประทาน โรยหน้าด้วยกระเทียมเจียว พริกทอด พร้อมผัก เครื่องเคียง เช่น แตงกวา ผักชี ต้นหอม เป็นต้น เมื่อลิ้มลองจะสัมผัสได้ถึงรสชาติความอร่อยที่ หลายคนต้องชื่นชอบ ส�าหรับเมนูนี้ถือได้ว่าเป็น อาหารพื้นเมืองล้านนาที่หาทานยากในปัจจุบัน

เจ้า

ส�าหรับใครที่ชื่นชอบหรืออยากสัมผัสกับ อาหารเหนือ พร้อมฟังเพลงโฟล์คซองสบายๆ จากหนุ่มสาวเสียงหวาน ท่ามกลางบรรยากาศที่ ร่มรื่น บริการเป็นกันเอง ให้ร้าน ‘เ ือนล�าพูน’ เป็นหนึ่งในทางเลือกของคุณ รับรองว่าไม่ผดิ หวัง อย่างแน่นอน

สาขาสวนผัก ตลิ่งชัน ถนนสวนผัก แขวงฉิมพลี เขตตลิ่งชัน กรุงเทพ ตรงข้ามซอยสวนผัก โทร เปิด อังคาร อาทิตย์ เวลา . . น. .hu u hu .


Baankluay | อรอย ่ว

44 เร่อง ศศิชา รุ่งเรองกุล า

ศศิชา รุ่งเรองกุล

ใครทีก ่ ลังมองหาร้านอาหารใต้บรรยากาศเงียบสงบ ร้อมกับลิม รสชาติทจ ี่ ด ั จ้านในแบบ อดี เหมา ส หรับคนกรุงเท

ไม่ควร ลาดร้าน

อาหารทีเ่ ด่นในเร่องรสชาติแบบ บับหาดใหญ่ อย่างร้าน ณ หาดใหญ่ ย่านเหม่งจายแห่งนี คงสามาร ตอบ จทย์ได้อย่างดี

ณ หาดใหญ่ เป็นร้านที่ถูกตกแต่งอย่าง เรียบง่าย ด้วยโทนสีสว่างตา เข้ากันกับสีนา�้ ตาล ของเก้ า อี้ ผสมผสานด้ ว ยสีแดงของผ้าปูโต๊ะ พร้อมเพดานทีย่ กสูงท�าให้ภายในร้านดูโล่ง ปลอด โปร่ง เหมาะกับการมารับประทานพร้อมครอบครัว นอกจากนี้ แ ล้ ว ผนั ง ร้ า นยั ง ถู ก ประดั บ ไปด้ ว ย รูปภาพวิวทิวทัศน์ของหาดใหญ่ตั้งแต่ยุคแรก ซึ่ง สามารถดึงดูดความสนใจจนต้องเดินเข้าไปชม ใกล้ๆ สักครัง้ และแน่นอนว่าเพียงแค่บรรยากาศ อย่างเดียวอาจจะท�าให้สมั ผัสถึงความเป็นใต้ไม่ได้ มากนัก คงต้องให้อาหารที่เป็นตัวชูโรงของร้าน ณ หาดใหญ่แห่งนี้ เป็นสิง่ ทีพ่ าคุณให้อนิ ไปกับรส สัมผัสของความเป็นใต้อย่างแท้จริง เริม่ ต้นจานเด่นเมนูแรกอย่าง ‘แกงไตปลา’ ถูกเสิร์ฟมาพร้อมกับกลิ่นหอมของพริกแกงที่ ลอยคลุ้งแตะปลายจมูก นับเป็นความโดดเด่น เฉพาะอันเป็นเอกลักษณ์ของแกงใต้ จึงท�าให้ตัว เมนูนี้มีความเผ็ดมาก ตามด้วยความกลมกล่อม ของน�้าแกงเข้ากับเนื้อปลาและผักได้เป็นอย่าง ดี ไม่ว่าจะเป็นฟักทอง หรือถั่วฝักยาวที่สดใหม่

ดึงรสชาติของเมนูนี้ให้เด่นชัดมากขึ้น เมนูถดั มากับอาหารทีม่ กี ลิน่ เป็นเอกลักษณ์ อย่าง ‘ผัดสะตอกะปิกงุ้ หมูสบั ’ทีส่ ามารถสัมผัสได้ถงึ ความสดใหม่ของสะตอเม็ดใหญ่สง่ ตรงจากระนอง ผสมผสานเข้ากับเครื่องปรุงรสชาติเข้มข้นคลุก เคล้าหมูสบั จัดตกแต่งด้วยกุง้ ตัวโตทีเ่ ตรียมไว้เพือ่ เพิม่ รสชาติเมนูนใี้ ห้ชวนลิม้ ลองยิง่ ขึน้ ตามด้วยเมนู ‘ใบเหลียงผัดไข่กุ้งแก้ว’ ที่ ถูกผัดด้วยไฟแรงให้เข้ากับไข่ไก่และหัวหอมใหญ่ ซอยทีม่ รี สชาติหวาน จนสุกพอดีไม่แห้งจนเกินไป โรยปิดท้ายด้วยกุ้งแก้วที่รสชาติเค็มเล็กน้อย ท�าให้จานนี้มีความกลมกล่อมอย่างลงตัว ยิ่งเมื่อ ได้รับประทานคู่กับข้าวสวยร้อนๆ ก็เป็นเมนูผัด ที่อร่อยเลิศรสไม่แพ้เมนูไหนเลย ส่งท้ายด้วยเมนูรสเผ็ดร้อนแรงอีกหนึ่ง เมนู กับ ‘น�า้ พริกกุง้ เสียบ’ ทีถ่ กู คัดสรรวัตถุดบิ มา อย่างดี ทั้งเครื่องเทศหลากหลายชนิดอย่าง กะปิ พริกขีห้ นูสด หอมแดง และพระเอกอย่างกุง้ เสียบ โขลกให้เข้ากันจนมีรสชาติจัดจ้านลงตัว แล้วถูก ปรุงให้มีรสกลมกล่อมติดเปรี้ยวถูกปากคนไทย

และขาดไม่ได้คอื เครือ่ งเคียงอย่างแตงกวา ถัว่ งอก ใบบัวบก มะเขือ บวบสด และผักกาดดอง ทีพ่ ร้อม จะท�าให้เมนูนี้อร่อยจนลืมไม่ลง ร้าน ณ หาดใหญ่ สามารถเดินทางได้ สะดวกสบายจากเลียบทางด่วนเอกมัย รามอินทรา แล้วเลี้ยวขวาไปทางถนนประชาอุทิศ ตรงมา เรือ่ ยๆ เลยแยกเหม่งจายเพียงประมาณ เมตร เท่านั้น จะพบกับร้านซึ่งอยู่ตรงข้ามปัมน�้ามัน ปตท. หากใครสนใจที่จะรับประทานอาหารใต้ รสชาติไม่แรงมากในแบบฉบับหาดใหญ่ และบริการ อย่างเป็นกันเอง รับรองว่า ‘ร้าน ณ หาดใหญ่’ จะ ไม่ทา� ให้คณ ุ ผิดหวังอย่างแน่นอน

ถนนประชาอุทิศ แขวงวังทองหลาง เขตวังทองหลาง กรุงเทพมหานคร โทร เปิด ตั้งแต่เวลา . . น. หยุดทุกวันอังคาร


อรอย ่ว ย | Baankluay

45 เรื่อง กาญจนา ร ม ลิค า

ีรญา หลเวชช์ กาญจนา ร ม ลิค

ลาย

ลาก วา

ลิม ้ รสอาหารไทยตำรับชาววัง พร้อมสัมผัสบรรยากาศสบาย ๆ เป็น กันเอง ใจกลางเมืองย่านทองหล่อ ทีร ่ า้ น ‘หลายรส’ ร้านอาหารเล็ก ๆ สไตล์ บราณทีเ่ ปดมานานกว่า

ภายในร้านตกแต่งด้วยโทนสีเขียวมิ้นท์ มองแล้ ว รู ้ สึ ก ผ่ อ นคลายสบายตา บริเวณโต๊ะ อาหารยั ง ประดั บ ด้ ว ยกระถางต้ น ไม้ เ ล็ ก ๆ และแจกั น ดอกไม้ ท� า ให้ บ รรยากาศดู อ บอุ ่ น เป็นกันเองเหมือนได้นั่งรับประทานอาหารใน บ้าน เหมาะส�าหรับผู้ที่มากันเป็นครอบครัว เมนูที่พลาดไม่ได้เด็ดขาดเมื่อมาร้านนี้คือ ‘ข้าวแช่ชาววัง’ ด้วยสูตรต้นต�ารับมาจากในวังของ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าเฉลิมเขตรมงคล โดยที่นี่ใช้ข้าวเก่ามาหุงเช็ดน�้าแบบโบราณให้ เมล็ดข้าวพอแตก ก่อนจะน�าไปนึ่งในน�้าหอมที่ใช้ ดอกไม้นานาชนิด ได้แก่ ดอกกระดังงาลนไฟ ดอก มะลิ ดอกชมนาด และกลีบกุหลาบ อบควันเทียน ค้างไว้ คืน ให้ข้าวมีกลิ่นหอมน่ารับประทาน ในส่วนของเครื่องเคียงมี อย่าง ได้แก่ ลูกกะปิทอด ถือว่าเป็นหัวใจส�าคัญของข้าวแช่ เมื่อรับประทานเข้าไป จะรู้สึกได้ถึงรสเค็มเล็ก น้อยของกะปิ ความหอมของสมุนไพร และปลา แห้งปรุงรส นอกจากนีย้ งั มี พริกหยวกสอดไส้หมูสบั

ผสมกุ้ง น�าไปนึ่งจนสุก แล้วคลุมด้วยไข่ฝอยทอด เมือ่ ได้ลมิ้ ลองจะสามารถสัมผัสได้ถงึ ความนุม่ ของ ไส้และความกรอบของไข่ ต่อมาคือหอมแดงทอด ทีข่ า้ งในเป็นปลาแห้งปรุงรส มีรสหวาน เผ็ด ปน เค็มเล็กน้อย ที่ขาดไม่ได้อีกอย่างคือเนื้อฝอย ที่ น�าไปย่างบนเตาให้สุก แล้วน�ามาผัดเพื่อเพิ่ม ความหอม ทัง้ ยังมีปลายีส่ นผัดหวานกับหัวไชโปว ผัดไข่ ที่เข้ากันได้ดี เมื่อรับประทานคู่กับข้าวแช่ และผักเคียงที่ทางร้านจัดมาให้ เมนูตอ่ มาคือ ‘ข้าวอบสับปะรดเสวย’ ซึง่ เป็น สูตรจากในวังเช่นกัน โดยมีจดุ เด่นทีแ่ ตกต่างจากร้าน อืน่ คือ ทางร้านจะใช้นา�้ พริกแกงแดงมาผัดกับกะทิให้ มีกลิน่ หอม แล้วจึงใส่ขา้ ว เนือ้ สับปะรดและไก่ลงไป ผัดจนแห้ง ตักใส่ลกู สับปะรด ก่อนจะน�าไปอบจนได้ที่ แล้วตกแต่งด้วย ลูกเกด เมล็ดถัว่ ลันเตาและแ ม ท�าให้จานนีม้ รี สชาติเผ็ดเล็กน้อย และไม่เลี่ยนจน เกินไป อีกหนึง่ เมนูแนะน�าคือ ‘แกงมัสมัน่ ไก่’ ทีเ่ คีย่ ว น�า้ แกงจนเข้มข้น ใส่เนือ้ ไก่สว่ นสะโพกทีถ่ กู คัดสรรมา เป็นอย่างดี ตามด้วยมันฝรัง่ หัน่ เป็นชิน้ พอดีคา� ตัด ความเลีย่ นด้วยการใส่ขงิ อ่อนหัน่ ฝอยลงไปด้วย ท�าให้ เมนูนมี้ รี สชาติกลมกล่อมลงตัว

ปิดท้ายด้วย ‘ข้าวคลุกน�า้ พริกลงเรือ’ ทีใ่ ช้ขา้ ว หอมมะลิเกรดคุณภาพ ราดด้วยน�า้ พริกกะปิทเี่ ผ็ด ก�าลังดี โรยปลาดุกฟู กระเทียมดอง พริกขีห้ นู พร้อม ด้วยไข่เค็มทีป่ น้ั เป็นก้อนเล็กๆ คลุกเคล้าให้เข้ากัน แล้วทานคูก่ บั หมูหวานและขมิน้ ขาว แกล้มด้วยผัก เคียงสดใหม่หลากหลายชนิดทีท่ างร้านเตรียมไว้ให้ หากใครได้ชมิ แล้ว รับรองเลยว่าจานนีจ้ ะเป็นอีกหนึง่ เมนูทลี่ มื ไม่ลงเลยทีเดียว หากก�าลังมองหาร้านอาหารชาววังเลิศรส บรรยากาศอบอุน่ ชวนให้รสู้ กึ สบายใจเหมือนได้รบั ประทานข้าวทีบ่ า้ นกับครอบครัว ร้าน ‘หลายรส’ เป็น อีกหนึง่ ตัวเลือกทีส่ ามารถตอบโจทย์นไี้ ด้อย่างลงตัว การเดินทางจากถนนสุขุมวิท ให้เลี้ยวเข้า ซอยสุขุมวิท ตรงเข้ามาในซอยเรื่อยๆ จนถึง โรงพยาบาลสมิติเวช จะเห็นร้านหลายรส ตั้งอยู่ ทางขวามือ ตรงข้ามกับโรงพยาบาลมีปายร้านให้ เห็นชัดเจน ตรงข้ามโรงพยาบาลสมิติเวช ซ.สุขุมวิท คลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร โทร เปิดทุกวัน เวลา . . น. เฉพาะวันจันทร์ เปิดถึง . น.


Idol of Thai dress เรื่อง : สุพัตรา แสงทอง ภาพ : ธนาวุธ วรนุช

วั น รรมการแต่งกายของคนไทย เปนเหมอนกร จกส ท้อนให้เหน งแนวคิด ความเช่อ รวม งวิ ท ี างการด รงชีวต ิ ของ ู้คนในอดีต ง ่ มักจ มีการเปลีย ่ นแปลงตาม ยุคสมัย แต่ยง ั คงความงดงามในแบบของไทยเอาไว้ เ อ ่ สร้างความเปนเอกลักษณ์ให้กบ ั คนไทย



Baankluay |

48

เมสว่าชีวิตหนึ่งของเมส เมสขอทำในสิ่งที่ เมสชอบ แล เมสคิดเสมอว่าต่อให้ รุ่งนี จ ไม่มีชีวิตอยู่เมสก้ไม่เสียใจแล้ว

ชุดไทยนับเป็นเอกลักษณ์อกี อย่างหนึง่ ทีบ่ ง่ บอกถึงความเป็นไทยได้เป็นอย่างดี ไม่วา่ ใครพบเห็นต่างต้องหลงใหลในความสวยงาม ซึง่ ปัจจุบนั ความเป็นไทยนีถ้ กู เปลีย่ น ไปตามยุคสมัย จนหลายคนอาจลืมไปแล้วว่าประเทศไทยมีวฒั นธรรมเกีย่ วกับการเเต่งกาย ทีเ่ ป็นเอกลักษณ์ แต่กับมรรษมณ จันทร์ศิริ เธอกลับมองว่าการแต่งกายด้วยชุดไทย นี้ไม่เคยหายไปจากสายเลือดของเธอเลย หญิงเมส มรรษมณ จันทร์ศริ ิ หรือชือ่ เดิม เมส กรกช จันทร์ศริ ิ สาวประเภท สองเจ้าของฉายาเน็ตไอดอลสาวชุดไทย วัย ปี ทีห่ ลงใหลในความเป็นไทยและอยาก อนุรักษ์ความสวยงามของชุดไทยเอาไว้ โดยปลุกกระแสการน�าชุดไทยมาประยุกต์ใช้ใน ชีวิตประจ�าวันได้อย่างลงตัว เป็นอีกหนึ่งบุคคลที่มีความคิดสร้างสรรค์และสามารถน�า มาเป็นตัวอย่างที่ดีในการด�าเนินชีวิตให้คนรุ่นใหม่ ก่อนจะมาถึงวันนี้หญิงเมสเป็นเพียงเด็กต่างจังหวัดที่ต้องย้ายมาเรียนที่ กรุงเทพ โดยมีคณ ุ แม่ทผี่ ลักดันให้เข้ามาลองเรียนรูก้ ารใช้ชวี ติ ด้วยตัวเองตัง้ แต่มธั ยม ปลาย ปัจจุบันหญิงเมสศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ ซึ่งก่อนหน้านี้หญิงเมสคือ เด็กวัยรุ่นธรรมดา เป็นเพียงแค่สาวประเภทสองที่ชอบมองคุณแม่และคุณยายใส่ชุด ไทยไปวัดเมื่อตอนเด็กเท่านั้น หญิงเมสเล่าให้ฟังว่า เมื่อก่อนเธอเป็นคนที่ชอบแต่งตัว สามารถแต่งตัวได้หลายสไตล์ แต่งตัวไปงานไหนงานนั้นจะชนะเลิศเพื่อนๆ ได้ตลอด แต่ลึกๆ มีความชื่นชอบในความเป็นไทย เลยชอบใส่ชุดไทยไปออกงานอยู่บ่อยครั้ง จากที่หญิงเมสชอบการแต่งตัวเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ประกอบกับการที่เธอชอบ อ่านหนังสือประวัติศาสตร์ และยังมีความสนใจเกี่ยวกับการเรียนรู้ขนบธรรมเนียม ประเพณีของบุคคลที่ใช้ชีวิตอยู่ในวังหลวง ท�าให้หญิงเมสซึมซับความเป็นไทยไว้ในตัว ค่อนข้างมาก และมีแนวคิดอยากจะถ่ายทอดความเป็นไทย ผ่านสิ่งที่คิดว่าเธอท�าได้ดี ที่สุด นั่นคือการแต่งตัวด้วยชุดไทย เพื่อให้สังคมไทยได้เห็นและตระหนักว่าสิ่งที่ บรรพบุรุษของไทยสร้างไว้นั้นไม่ได้น้อยหน้าไปกว่าประเทศอื่น จุดเริม่ ต้นในการใส่ชดุ ไทยทีท่ า� ให้หญิงเมสเป็นทีร่ จู้ กั มาจนถึงทุกวันนี้ เป็นเพียง การรวมตัวของกลุ่มเพื่อนที่ชอบใส่ชุดไทย โดยการใส่ชุดไทยออกไปชมภาพยนตร์กับ เพื่อนๆ ของเธอที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง เพื่อจุดประสงค์เพียงแค่อยากน�ารูปถ่าย ความเป็นไทยมาแลกเปลี่ยนกันเท่านั้น แต่วันนั้นกลับเป็นวันที่เธอได้สร้างความ ประทับใจให้ผู้ที่มาพบเห็นได้อย่างไม่น่าเชื่อ ท�าให้มีสื่อต่างๆ ติดต่อขอให้เธอไปออก รายการอย่างมากมาย ซึ่งเธอเองก็ไม่คิดว่าการท�าเพื่อความสนุกสนานในวันนั้น จะสามารถปลุกกระแสชุดไทยให้กลับมาเป็นที่พูดถึงได้ใหม่อีกครั้ง

อง า


หญิงเมสโด่งดังและเป็นที่รู้จักจากการใส่ชุดไทยเพียงชั่วข้ามคืน และได้รับการตั้ง ฉายาจากนักข่าวหลายส�านัก ชื่อแรกที่ท�าให้เธอเป็นที่รู้จักและเรียกกันติดปากนั้นเป็นชื่อ หญิงไทยสไบงาม ซึ่งเป็นชื่อที่ได้มาโดยไม่รู้ว่าหญิงเมสนั้นไม่ใช่ผู้หญิง เธอจึงตัดสินใจ เปิดเผยตัวตนผ่านรายการทีวรี ายการหนึง่ ซึง่ เชือ่ ว่าสังคมไทยสมัยนีม้ กี ารเปิดรับเพศทีส่ าม มากขึน้ และมัน่ ใจว่าสาวประเภทสองก็สามารถเป็นตัวอย่างทีด่ ใี ห้กบั สังคมได้ แต่กย็ งั สร้าง ความประหลาดใจให้ผทู้ ตี่ ดิ ตามชีวติ ของเธอได้ไม่นอ้ ย เพราะไม่คดิ ว่าหน้าตาทีด่ เู ป็นสาวงาม อย่างไทยจะกลับกลายมาเป็นสาวประเภทสองได้ หลังจากนั้นไม่นานเธอจึงได้รับฉายาใหม่อีกครั้งว่า ‘หญิงเมส เน็ตไอดอลชุดไทย’ หญิงเมสเริม่ ต้นการใช้ชวี ติ อยูภ่ ายใต้ ชือ่ หญิงเมส เน็ตไอดอลชุดไทย ทีม่ ที งั้ เสียงทีช่ นื่ ชม ในการท�าให้ความเป็นไทยกลับมาเป็นทีส่ นใจอีกครัง้ และเสียงทีต่ อ่ ว่าเธอ สร้างกระแสบ้าง แหละ อยากดังบ้างแหละ แต่เธอกลับมองว่าสิ่งที่เธอท�านั้นไม่ได้สร้างความเดือดร้อนให้ ใคร เธอคิดเสมอว่ากระแสทีเ่ ธอสร้างนัน้ เป็นกระแสทีด่ ี จึงไม่จา� เป็นต้องเก็บค�าพูดของทุก คนมาคิด หญิงเมสเชือ่ ว่าเธอวางตัวได้เหมาะสมและให้เกียรติกบั ชุดไทยทุกชุดทีเ่ ธอใส่ออก ไปใช้ในชีวิตประจ�าวัน ส�าหรับเสน่หช์ ดุ ไทยในแต่ละยุคสมัยมีเรือ่ งราวทีบ่ ง่ บอกให้รถู้ งึ อดีตในสมัยโบราณ เธอเล่าว่าชุดไทยของเธอมีหลายแบบ เป็นชุดไทยที่ได้รับมาจากการดูภาพยนตร์ ชุดไทย ดั้งเดิม หรือแม้กระทั่งชุดไทยที่น�ามาประยุกต์ให้ทันสมัยมากขึ้น แต่เธอมักจะเลือกชุดไทย ที่ใส่ในชีวิตประจ�าวันของเธอด้วยไทยแบบโบราณแท้ๆ ทุกชุดจะเป็นชุดไทยนุ่งสด โดยผ้า ทุกชิน้ จะถูกผูกมัดขึน้ มาใหม่ ไม่ใช่ชดุ ไทยทีถ่ กู ตัดมาเป็นชุดส�าเร็จรูป เพราะชุดไทยแบบนุง่ สดจะให้อารมณ์ความรู้สึกถึงความเป็นไทยแท้ที่เธออยากอนุรักษ์ไว้ไม่ให้หายไป


Baankluay |

50

อง า

หญิงเมสยังมีแนวทางที่จะน�าความเป็น ไทยนี้ไปสานต่อความฝัน เธอเล่าว่า หลังจบ ปริญญาตรีที่เมืองไทยแล้ว เธอมีความคิดที่จะไป เรียนต่อต่างประเทศ โดยจะน�าชุดไทยไปใส่ที่นั่น ด้วย เพื่อเป็นการเผยแพร่เสน่ห์ของชุดไทยที่เธอ หลงรักให้คนต่างชาติได้เห็น และเเสดงให้เห็นว่า เธอไม่ เ คยอายที่ จ ะถ่ า ยทอดเอกลั ก ษณ์ ข อง ประเทศที่เธอเกิด นอกเหนือจากความคิดอันเป็นเอกลักษณ์ ที่ส่งผ่านการแต่งกายด้วยชุดไทยของเธอแล้ว หญิ ง เมสยั ง มี แ นวคิ ด ในการด� า เนิ น ชี วิ ต บาง ประการที่แตกต่างไปจากคนอื่นเช่นกัน โดยเธอ มักใช้ชีวิตอยู่บนความชอบและมองความถูกต้อง ควบคูก่ นั ไป เพราะคิดว่าความชอบเป็นสิง่ ทีบ่ งั คับ

ให้ใครชอบเหมือนกันหมดไม่ได้ แต่เธอจะค�านึง เสมอว่าสิง่ ทีเ่ ธอชอบนัน้ ต้องไม่ทา� ให้คนอืน่ เดือด ร้อน เมสว่าชีวิตหนึ่งของเมส เมสขอท�าในสิ่งที่ เมสชอบ และเมสคิดเสมอว่าต่อให้พรุ่งนี้จะไม่มี ชีวติ อยูเ่ มสก็ไม่เสียใจแล้ว เพราะเมสใช้ชวี ติ ได้คมุ้ ค่าที่สุดในทุกๆ วันของเมส การเป็นทีร่ จู้ กั ใน านะ หญิงเมส เน็ตไอ ดอลชุดไทย ก็เป็นเพียงชื่อที่สื่อจ�ากัดความขึ้นมา แต่ในมุมมองของหญิงเมสเอง เธอต้องการเพียง เผยแพร่เอกลักษณ์ของชุดไทย และเธอยังกล่าว อีกว่า ไม่สามารถบังคับให้ใครใส่ชุดไทยแบบเธอ ได้ แต่อย่างน้อยอยากให้เยาวชนหรือคนไทยไม่ลมื สิง่ ทีบ่ รรพบุรษุ ของเราสร้างขึน้ มา และสืบสานต่อ ไม่ให้เลือนหายไปตามกาลเวลา

ท้ายทีส่ ดุ แล้ว ความเป็นไทยจะอยูค่ กู่ บั คน ไทย ไม่ว่ายุคสมัยจะเปลี่ยนแปลงไปแค่ไหน ขอ เพียงแค่เราไม่หลงไปตามกระเเสนิยม หรือละทิง้ ความเป็นไทย เท่านีเ้ อกลักษณ์ของความเป็นไทย จะยังคงอยู่คู่แผ่นดินไทยต่อไปอีกนานแสนนาน




เร่อง แสงสุรีย์ รรณรังษี ทศ ล ตุงค เสน า

นาวุ วรนุช

นาวุ วรนุช จุ ามาศ อารีย์

Simply Life at Saiyok

รั

แปรน แปรน เสียงช้างร้องดังก้องไปทั่ว นปา วกเราหลับตาสูดอากาศ รรมชาติ ร้อมฟังเสียงนกร้องจิบ

สลับกันไปมา สายหมอก อบล้อมท้องฟ้า

ในยามฝน ปรยปราย หอมกลิ่นดินที่เราสูดดม ทาให้สัม ัสได้ ง รรมชาติแล ความสดช่น ร้อมด้วยเหล่าช้างที่ต่างเตมไปด้วยความสุขอย่างไม่เคยมีมาก่อน ณ ที่แห่งนี ปางช้างไทร ยค


Baankluay |

อง า

จุดก�าเนิดปางช้างไทรโยค บนพื้นที่ป่าสี เขียวแห่งนี้เกิดขึ้นจากคุณไชยพงศ์ แสนดี ผู้ชาย ธรรมดา ๆ เดิมประกอบอาชีพเลีย้ งช้าง ในแต่ละ วันเขาจะขับรถกระบะคันเล็กๆ น�าลูกช้างออกไป แสดงโชว์เพื่อหาเงินเลี้ยงชีพ และเมื่อสะสมเงิน ได้จ�านวนหนึ่ง จึงน�ามาซื้อที่ดินผืนนี้จ�านวน ไร่ และเปลีย่ นแปลงให้เป็นปางช้างขนาดใหญ่ ตัง้ ชื่อว่า ‘ปางช้างไทรโยค’ โดยเริ่มด�าเนินกิจการ จากช้างเพียงตัวเดียว พอมีรายรับมากขึ้นก็เริ่ม ขยายให้มีการน�าช้างจากที่อื่นๆ เข้ามาเติมเต็ม ปางช้างแห่งนี้ และเริ่มเปิดเป็นกิจกรรมการ แสดงโชว์ชา้ ง นัง่ ช้าง ล่องแพ เป็นการสร้างสีสนั และสร้างความสุขให้แก่ผู้คนที่เข้ามาเที่ยวชม ท�าให้ธรุ กิจปางช้างไทรโยคเติบโตขึน้ อย่างรวดเร็ว เมื่อวันที่ สิงหาคม ปางช้าง ไทรโยคได้ตัดสินใจเปลี่ยนแปลงนโยบายด�าเนิน กิจการไปในเชิงศูนย์อนุรักษ์และการบริบาลช้าง อย่างเต็มตัว เพือ่ เป็นสถานศึกษาและเรียนรูข้ อง บุคคลทั่วไป จึงได้มีการท�าพิธีอันศักดิ์สิทธิ์ที่เรียก ว่า ‘การแหย่งช้าง’ คือการท�าพิธีขอขมาด้วยการ ปลดกูบช้างหรือที่นั่งบนหลังช้างลง เป็นพิธี ส�าคัญที่ท�าให้ปางช้างไทรโยคก้าวเข้าสู่การเป็น

54

ศูนย์อนุรักษ์ช้างอย่างเต็มตัวเป็นแห่งแรกใน จังหวัดกาญจนบุรแี ละแห่งเดียวในภาคกลาง นัน่ คือเหตุผลทีท่ า� ให้พวกเราเลือกมายังสถานทีแ่ ห่งนี้ เส้นทาง กิโลเมตร จากกรุงเทพมหานคร มุ่งหน้าสู่จังหวัดกาญจนบุรีในเวลาตีสี่ของเช้าวัน หนึง่ ตลอดการเดินทาง พวกเรารูส้ กึ ตืน่ เต้นและ จินตนาการไปต่างๆ นานา ว่าจุดหมายปลายทาง ข้างหน้าจะเป็นอย่างไร ท่ามกลางฝนทีต่ กกระหน�า่ ลงมากระทบกระจกรถหนักขึน้ เรือ่ ยๆ จนเริม่ มอง ไม่เห็นเส้นทาง พวกเราพยายามลดความเร็วเพือ่

ความปลอดภัย จนกระทั่งฝนซา ท้องฟาเปิดให้ เห็นมวลหมูแ่ มกไม้นานาพันธุร์ ายล้อมริมสองฝัง ข้างทาง ตลอดจนทิวเขาทีเ่ ขียวชอุม่ สุดลูกหูลกู ตา และเมฆที่ค่อยๆ เคลื่อนตัวตามเราไปคล้ายกับ เพื่อนร่วมเดินทาง ยิ่งท�าให้รู้สึกตื่นเต้นกับสิ่งที่ เห็น และในที่สุดพวกเราก็เดินทางมาถึงจังหวัด กาญจนบุรโี ดยใช้เวลาเพียง ชัว่ โมง ไม่นานนักเราก็เดินทางมาถึงปางช้าง ไทรโยค สิง่ แรกทีพ่ วกเราพบคือแนวไม้ขนาดใหญ่ ส�าหรับกัน้ ช้าง เพือ่ ไม่ให้รกุ ล�า้ เข้ามายังเขตศาลา


อง า

พวกเราทยอยปีนขึ้นหลังรถอีแตนอย่าง ทุลักทุเล เนื่องจากเสื้อผ้าที่พวกเราสวมใส่ท�าให้ เคลื่อนไหวไม่คล่องตัวนัก รถค่อยๆ ขับออกไป อย่างช้าๆ ด้วยระยะทางประมาณ กิโลเมตร ใน ไม่ชา้ พวกเราก็มาถึงยังทุง่ หญ้าคาทีเ่ ขียวขจีเต็มทุง่ ความสูงของหญ้าเกือบครึง่ ล�าตัว เหมือนมันชูคอ รอให้เราไปตัด กิจกรรมในครัง้ นีไ้ ม่ได้มเี พียงพวก เราเท่านัน้ แต่ยงั มีกลุม่ อนุรกั ษ์ชา้ งไทย ซึง่ เป็น นักศึกษาต่างชาติทมี่ ใี จรักช้างกว่า คนร่วมท�า กิจกรรมในครัง้ นีด้ ว้ ย มือซ้ายจับหญ้ามือขวาถือเคียว พร้อมกับ สองเท้าย�า่ เดินไปเกีย่ วต้นหญ้าคาทีพ่ ริว้ ไหวไปมา ด้วยความระมัดระวัง เพราะหญ้าคามีความคม หากไม่ระวังอาจจะได้รอ่ งรอยมาเป็นที่ระลึกแบบ พวกเราได้ และอีกหนึ่งอุปสรรคส�าหรับเรา คือ ความร้อนจากแสงอาทิตย์ทสี่ าดส่องลงมา ท�าให้ พวกเราต้องปาดเหงือ่ ซ�า้ แล้วซ�า้ เล่า แถมด้วยยุง ป่าตัวโตที่คอยกวนใจบินมากัดพวกเราอยู่ตลอด เวลา จนท�าให้พวกเราเกิดผืน่ แดงตามบริเวณแขน ขากันถ้วนหน้า

“ นัง่ พักส�าหรับผูท้ มี่ าเยือน พวกเรานัง่ พักกันได้ไม่ นาน มีผหู้ ญิงร่างเล็กชือ่ พีก่ ชกร งามเสือ หรือพี่ เงาะ ซึ่งเป็นผู้จัดการปางช้างแห่งนี้ก็ออกมา ต้อนรับและคอยอ�านวยความสะดวกให้กบั พวกเรา ในวันนี้ พีเ่ งาะเล่าให้ฟงั ถึงการพัฒนาปางช้างแห่ง นี้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ เปลี่ยนการ เลี้ยงช้างมาเป็นแบบตามธรรมชาติอย่างเต็มตัว โดยไม่มกี ารใช้ตะขอบังคับช้าง รวมถึงเปิดโอกาส ให้นักท่องเที่ยวได้ใช้ชีวิตร่วมกับช้างอย่างใกล้ชิด เมือ่ สิน้ สุดการสนทนากิจกรรมแรกก็เริม่ ขึน้ ทันที โดยการดูแลของพีว่ รี ะ เสืองาม หรือพีป่ ยุ ซึง่ เป็น ควาญช้าง ได้ให้พวกเราทายากันยุงก่อนจะขึน้ รถ อีแตนคันเก่าเพือ่ ไปตัดหญ้าคามาเป็นอาหารช้าง

|

Baankluay

เมื่อให้หญ้าช้างเสร็จ พวกเราก็ได้เรียนรู้ กิจกรรมทีถ่ อื ว่าแปลกใหม่ คือการท�าอาหารเสริม ส�าหรับช้าง เป็นกิจกรรมที่ต้องใช้แรงมือในการ นวด เริ่มจากน�าข้าวสวยร้อนๆ ผสมกับเกลือ มะขามเปียก และร�าข้าว นวดให้เข้ากัน แล้วปัน้ เป็นก้อนกลม ๆ ขนาดเท่าก�าปัน้ เมือ่ เป็นรูปทรง ที่พอดีจึงน�าไปปอนช้าง โดยมีพี่ๆ ยืนคอยให้ ความช่วยเหลืออยู่ ซึง่ พีค่ วาญช้างบอกว่า การปั้นข้าวโดยการผสมมะขามเปียกลง ไปด้วยนัน้ เหมือนเป็นยาระบายให้กบั ช้าง และกิจกรรมส่งท้ายส�าหรับการให้อาหาร ช้างคือการหัน่ แตงโม โดยจะหัน่ ออกเป็น ส่วน แล้วโยนใส่ตะกร้าเพือ่ จะน�าไปปอนให้กบั เหล่าช้าง พวกเราสังเกตว่าช้างคงชอบกินแตงโมมาก เพราะ มันกินไว หากเราช้าไม่ทนั ใจ ช้างบางตัวก็ยนื่ งวง สะบัดไปมาทางเรา พยายามเหมือนกับจะบอกว่า เร็วๆ หน่อย ขอกินอีก ด้วยกิจกรรมที่แสนสนุกสนานในยามเช้า ท�าให้เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว พอเราเดินกลับมา จากกิจกรรมให้อาหารช้าง ก็พบกับอาหารมือ้ เทีย่ ง

เรารักและดูแลเหมือนกับเขา เปนคนในครอบครัวของเรา

แม้วา่ การมาตัดหญ้าครัง้ นีอ้ าจจะดูเหมือน ล�าบาก แต่มนั กลับเต็มไปด้วยความสนุก พวกเรา ตัดหญ้าอย่างขะมักเขม้นเหมือนก�าลังแข่งเกมใคร ตัดได้เยอะกว่าคนนัน้ ชนะ จนกระทัง่ พีค่ วาญช้าง ทีด่ แู ลต้องบอกให้พอ เพราะหญ้าทีต่ ดั มาอัดแน่น เต็มหลังรถ จากนั้นพวกเราก็นั่งทับบนหญ้าคา กองใหญ่ท้ายรถอีแตนกลับมายังปางช้างด้วย ความสนุกสนาน พอมาถึงก็น�าหญ้าคาเทลงมา กองบนลานดิน ในไม่ชา้ บรรดาช้างทัง้ หลายก็เดิน ต่อแถวกันมาจากโรงเก็บช้างอย่างเป็นระเบียบ พวกมันเดินมายังแนวไม้กนั้ เพือ่ รอกินหญ้าทีเ่ ก็บ เกีย่ วมาด้วยฝีมอื ของพวกเราเอง พวกมันกินหญ้า อย่างเอร็ดอร่อย เมื่อเคี้ยวหมดปากมันจะสะบัด งวงไปมาเพื่อขอหญ้าอีก

55

ทีถ่ กู จัดเตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว โดยใช้วตั ถุดบิ เป็น ผักและโปรตีนเกษตรทั้งหมด เพื่อความสะดวก ของผู้ที่ไม่ทานเนื้อสัตว์ ซึ่งเมนูประกอบไปด้วย ข้าวสวย สปาเกตตี ต้มย�าเห็ด เต้าหูท้ อด ผัดคะน้า น�า้ มันหอย ลาบ และผัดกะเพราหมู แม้รสสัมผัส ของอาหารจะแตกต่างจากทีเ่ คยลิม้ ลอง แต่กไ็ ม่ได้ ด้อยไปกว่าของจริงเลย หลังจากรับประทานอาหารเสร็จ พี่เงาะ เข้ามาแจ้งกับพวกเราว่า ในช่วงเวลาบ่ายโมงเป็น กิจกรรมปลูกป่า และตอนบ่ายสามโมงจะเป็น กิจกรรมอาบน�้าร่วมกับช้าง สามารถเปลี่ยนชุด เพือ่ เตรียมพร้อมกับกิจกรรมดังกล่าวได้เลย พวก เราตื่นเต้นกับกิจกรรมในช่วงบ่าย ยิ่งได้เห็น รูปภาพจากหนังสือของปางช้าง ยิ่ ง อยากให้


Baankluay |

อง า

กิจกรรมเริม่ เสียตอนนีเ้ ลย เมือ่ เวลาบ่ายโมงมาถึง ควาญช้างได้แจก เมล็ดพันธุ์มะขาม ต้นกล้ามะขาม และต้นกล้า กระถิน ให้ทุกคนช่วยกันปลูกในบริเวณป่าของ ทางปางช้าง เพือ่ ให้ผลผลิตจากการปลูกป่าในวัน นี้กลายเป็นอาหารส�าหรับช้างในวันหน้า แล้ว ควาญช้างจึงพาพวกเราลัดเลาะไปยังพืน้ ทีป่ ลูกป่า ริมแม่นา�้ หลายคนดูมงุ่ มัน่ ในการขุดและฝังเมล็ด พันธุ์ รวมถึงการน�าต้นกล้ามาตัง้ ล�าต้นใหม่ นาที ทีเ่ ราใช้มอื กลบดินให้แน่นพอทีต่ น้ กล้าจะสามารถ ยืนล�าต้นได้ดว้ ยตัวของมันเอง แม้วา่ จะดูเป็นสิง่ ทีไ่ ม่ยงิ่ ใหญ่ แต่มนั ท�าให้รสู้ กึ ว่ามีชวี ติ ใหม่ทกี่ า� เนิด ขึน้ และก�าลังเฝารอวันเติบโต เมือ่ ภารกิจปลูกป่าส�าเร็จลุลว่ ง ภารกิจต่อ ไปเป็นกิจกรรมทีเด็ดของปางช้างแห่งนี้ คือการ อาบน�า้ ร่วมกับช้าง โดยพีค่ วาญช้างได้พาพวกเรา พร้อมกับเหล่าช้างเดินไปยังแม่นา�้ พวกเราสังเกต อากั ป กิ ริ ย าของช้ า งทั้ ง หลายที่ ดู ตื่ น เต้ น ดี ใ จ เหมือนพวกมันรูว้ า่ ถึงเวลาอาบน�า้ แล้ว เมือ่ เราเดินมาถึงบริเวณริมแม่นา�้ ฉับพลัน ที่ ส ายตาเหลื อ บไปเห็ น แม่ น�้ า แควตรงหน้ า แสงแดดตกกระทบกับสายน�า้ สะท้อนเป็นประกาย ระยิบระยับ น�า้ ใสสะอาดจนสามารถมองเห็นเหล่า ปลาตัวน้อยแหวกว่ายไปมา ประหนึง่ ต้อนรับการ

56

มาเยือนของพวกเรา ทีมงานทุกคนยืนสงบนิ่ง มองภาพข้างหน้าด้วยความประทับใจ และคิดว่า นี่คงเป็นของขวัญจากธรรมชาติที่สรรค์สร้างโลก ใบนีใ้ ห้สวยงาม เหล่าช้างทัง้ หลายไม่รอช้า เดินมาต่อแถว กันอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยโดยไม่ตอ้ งสัง่ ให้ ความรู้สึกเหมือนเด็กอนุบาลก�าลังเข้าคิวซื้อขนม ซึง่ พีค่ วาญช้างบอกว่า เพราะแดดทีเ่ ริม่ แรงขึน้ ใน ยามบ่ายท�าให้ฝงู ช้างอยากรีบลงเล่นน�า้ เพือ่ คลาย ความร้อน ส่วนพวกเราก็ไม่รอช้า รีบวางสัมภาระ และลงน�้าตามไปทันที ด้วยน�้าที่เย็นสดชื่นท�าให้ ทุกคนสนุกและเพลิดเพลินในการอาบน�้าร่วมกับ ช้ า ง พวกเราเชื่ อ ว่ า น้ อ ยคนที่ จ ะได้ ม าสั ม ผั ส บรรยากาศดีๆ แบบนี้ ในระหว่างทีเ่ ล่นน�า้ เจ้า ‘ชอปเปอร์’ ช้าง ตัวเอกของทางปางที่มีลักษณะเด่นเป็นรูที่ใบหู เหมือนไปเจาะหูมา ก็ชอบท�าเสียงเหมือนกับชื่อ ของมันระหว่างทีเ่ ล่นน�า้ เสียงคล้ายรถชอปเปอร์ ขนาดสองสูบที่หลายคนคงเคยได้ยินตามท้อง ถนนในเมืองกรุง จนเป็นทีม่ าของชือ่ เจ้า ‘ชอปเปอร์’ พวกเราเชือ่ ว่าหลายคนคงไม่เคยเห็นช้างเวลาลง เล่นน�า้ นับว่าเป็นอีกมุมหนึ่งที่ดูน่ารัก และอ่อน โยน หากเปรียบเทียบคงคล้ายกับเด็กน้อยวัยใส ที่เพิ่งได้มาเล่นสระน�้าครั้งแรก มีความสดใส

ร่าเริง ขี้เล่น ท�าตัวน่ารักไร้เดียงสา น่าเอ็นดู ทุกคนเล่นน�า้ ร่วมกันอย่างสนุกสนาน และก็ไม่ลมื ทีจ่ ะเก็บภาพความทรงจ�าดีๆ มาให้ผอู้ า่ นได้ชมกัน เวลาแห่ ง ความสุ ข มั ก ผ่ า นไปเร็ ว เสมอ นา ิกาบอกเวลาเกือบจะสี่โมง ได้เวลาที่จะต้อง กลับไปทีจ่ ดุ พักแล้ว เหล่าควาญต่างก็พากันเรียก ช้างที่ตัวเองดูแลขึ้นจากแม่นา�้ ให้เดินกลับไปยัง ปางเพือ่ เตรียมตัวรับประทานมือ้ เย็น ซึง่ ทุกครัง้ ที่ช้างเล่นน�้าเสร็จ เมื่อขึ้นมาบนฝังพวกมันจะใช้ งวงรวบดิ น ปนทรายแล้ ว สาดขึ้ น ไปบนล� า ตั ว


อง า

เหมือนกับเด็กน้อยวัยใสที่เพิ่งได้มาเล่น สร นาครังแรก มีความสดใส ร่าเริง น่ารักไร้เดียงสา

ลักษณะคล้ายเด็กที่ต้องประแปงหลังจากอาบน�้า เพราะว่าดินทรายจะช่วยกันแมลงและแสงแดด นับว่าเป็นอีกพฤติกรรมหนึง่ ทีน่ า่ รัก และท�าให้เรา ได้เกร็ดความรูเ้ กีย่ วกับธรรมชาติของช้างเพิม่ ขึน้ ระหว่างทางที่เดินกลับปางพร้อมฝูงช้าง พวกเราสังเกตเห็นสีหน้าและแววตาของช้างทีด่ มู ี ความสุข เหมือนคนทีอ่ ารมณ์ดี ผ่อนคลาย และ สบายตัวหลังจากอาบน�า้ เสร็จ เมื่อกลับมาถึงจุด พักก็ไม่ลมื ทีจ่ ะไปปอนอาหารเหล่าช้างอีกครัง้ ซึง่ มื้อเย็นก็ยังคงเป็นหญ้าคาและแตงโมเนื้อสีแดง ชุม่ ฉ�า่ เช่นเดิม ความสนุกสนานยังไม่ทนั จบ พระอาทิตย์ ก็ใกล้ลาลับขอบฟา พวกเรากลัวจะเดินทางกลับถึง กรุงเทพ มืดค�า่ จึงรีบเก็บข้าวของ และก่อนทีจ่ ะ เดินทางกลับพวกเรารู้สึกทันทีว่า ถ้ามีโอกาสอีก ครั้งจะต้องกลับมาเที่ยว ณ ปางช้างไทรโยคอีก แน่นอน พวกเราต่างขึ้นรถด้วยความอิ่มเอมใจ ขณะเดินทางกลับก็เอาแต่พูดคุยถึงกิจกรรมอัน แสนสุขทีท่ า� ร่วมกันในวันนี้ ทว่ามันไม่เพียงได้แต่ ความสนุกสนานอย่างเดียว เรายังได้แนวคิด ต่างๆ ในการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์จากพี่เงาะว่า ปางช้างไทรโยคไม่ได้เป็นแค่สถานที่ท่องเที่ยว เท่ า นั้ น แต่ ที่ นี่ ยั ง สามารถสร้ า งอาชี พ ให้ กั บ ชาวบ้าน ได้ให้มสี ว่ นเข้ามาท�างานเป็นควาญช้าง เป็นพนักงานต้อนรับ เป็นแม่บา้ น และส่งเสริม

อาชีพเกษตรกรในพื้นที่ โดยการรับซื้อผลไม้ ต่าง ๆ ในทุกฤดูกาล เช่น กล้วย สับปะรด แตงโม ล ซึง่ น�ามาใช้เลีย้ งช้างทุกๆ วัน การมาเทีย่ วปางช้างครัง้ นีพ้ วกเราได้เรียนรู้ ว่า ความสุขที่ได้รับจากช้างเกิดขึ้นได้ด้วยการท�า กิจกรรมร่วมกับช้าง เรียนรูว้ ถิ ชี วี ติ ของพวกมัน ได้ เห็นพวกมันใช้ชวี ติ ในแต่ละวัน โดยไม่ตอ้ งแบกหาม สิง่ ของ ไม่ตอ้ งแบกนักท่องเทีย่ วชมป่า ไม่มตี ะขอ และปราศจากโซ่ลา่ ม ความสุขจากการใกล้ชดิ กับ ช้างไม่ได้ลดน้อยลงไป แถมช้างก็ยงั ได้รบั อิสรภาพ ทีค่ คู่ วร สมดัง่ ชือ่ เสียงทีม่ นั เป็นสัตว์คบู่ า้ นคูเ่ มือง ในประวัตศิ าสตร์ชาติไทยมาช้านาน พวกเราก็ได้ แต่หวังอยากให้ปางช้างทุกๆ แห่งในประเทศไทย เป็นเหมือนกับปางช้างไทรโยค แบบอย่างทีด่ ขี อง การอนุรกั ษ์ชา้ งไทยอย่างแท้จริง

|

Baankluay

57

ปางช้างไทรโยค อ�าเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี เวลาท�าการ จันทร์ อาทิตย์ เวลา : : น. โทรศัพท์ พี่เงาะ htt s: .a . Thai ha t a htt : . ha t a . ha t a . php a ta.i a a ai .


เรื่อง นัท ์ล ัส อู่อินทร์ จุ ามาศ อารีย์ า

นาวุ วรนุช

The Mask’s า า ั

บา

เม่ อ เสี ย งบรรเลงจากวงป ่ าทย์ เ ริ่ ม ดั ง ขน เหล่ า ตั ว ล คร ขนใน วรรณคดีกเริ่มบรรจงวาดลวดลายร่ายราตามบทบาทที่ได้รับ อวดความ งามแก่สายตา ู้ชม ดูแล้วช่างสวยงามยิ่งนัก ราวกับต้องมนต์ส กดไม่ให้ ล สายตาจากสิ่งตรงหน้าได้เลย เหล่านีคอ า เบองหน้า แต่ใครจ รู้ว่าเบองหลัง ความสวยงามของ หัว ขนเหล่านีมาจากฝมอช่างกลุ่มหน่งทีม ่ ม ี าตังแต่สมัยอดีต เปนหน่งในช่าง สิบหมู่ หรอที่เรารู้จักกันในนาม

ช่างหัว ขน



การท�าหัวโขนนับเป็นงานศิลปะชั้นสูงที่ รวบรวมเอาช่างที่มีความรู้ความช�านาญหลาย สาขาเข้ า ไว้ ด ้ ว ยกั น เช่ น ช่ า งหุ ่ น ช่ า งปั ้ น ช่างแกะ ช่างกลึง ช่างรัก และช่างเขียน ซึ่งใน ทางป ิบัติกว่าจะได้มาซึ่งหัวโขนที่ถูกต้องตาม ลักษณะจะต้องอาศัยทั้งการสั่งสมวิชาความรู้ รวมถึงความสามารถเฉพาะของช่าง เพื่อให้ได้ หัวโขนที่มีความประณีตสวยงามด้วยศิลปะเชิง ช่าง สมเป็นนา ศิลปชั้นสูง การท�าหัวโขนไม่ปราก หลัก านแน่ชดั ว่า เกิดขึ้นครั้งแรกในสมัยใด แต่มีหลัก านปราก ว่าในสมัยอยุธยาตอนต้น ตามหลัก านมีการ กล่าวถึงพระราชพิธีอินทราภิเษก มีการเล่นชัก นาคดึกด�าบรรพ์ ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นต้นก�าเนิดของ โขน และจากนัน้ ก็มกี ารละเล่นโขนสืบต่อมาจนถึง ปัจจุบัน

พ่อสอนเสมอว่า พ่อทำไว้ดีอยู่แล้ว ขอให้รักษาสิ่งที่ดีนี้ไว้ต่อไป


61

อง า

|

Baankluay

สืบทอดวิชำช่ำงหลวง สุคนธา ล้วนวิลัย หรือพี่หน่อย ช่างหัวโขนแห่งบ้านโขนไทย วัย ปี ลูกสาวคนโตของครูสมชาย ล้วนวิลัย ช่าง หัวโขนเจ้าของรางวัลครูภูมิปัญญา รุ่นที่ สาขาศิลปกรรม ผู้สืบทอดวิชาการท�าหัวโขนมาจากครูชิต แก้วดวงใหญ่ บรมครูเศียรโขนผู้รับการสืบทอดวิชาช่างโขนหลวงมาจากพระเทพยนตร์ จ�ารัส ยันตระปรากรณ์ ช่างหัวโขนหลวงผู้ มีชอื่ เสียงในสมัยรัชกาลที่ บ้านโขนไทยจึงมีการอนุรกั ษ์วธิ กี ารท�าหัวโขนในแบบของช่างหลวงโบราณ ซึง่ จะมีความต่าง จากที่อื่นทั้งในเรื่องของลักษณะหัวโขน วิธีการท�า วัสดุที่ใช้ รวมถึงลวดลายที่เป็นเอกลักษณ์ ทุกขั้นตอนในการท�าถูก บรรจงสร้างสรรค์ออกมาจากฝีมอื ด้วยความประณีต ถ่ายทอดกันมาแบบรุน่ สูร่ นุ่ จนมาถึงรุน่ ของพีห่ น่อยเองก็ยงั คงยืน หยัดที่จะท�าหัวโขนแบบดั้งเดิม ถึงแม้ว่าจะมีวิธีการท�าที่ยากกว่าแบบอื่น และกว่าจะได้หัวโขนแต่ละหัวก็ต้องอาศัยความ อดทนเป็นอย่างสูงก็ตามเกาแต่นั่นก็เป็นการแสดงให้เห็นถึงอัตลักษณ์ของหัวโขนแห่งบ้านโขนไทยได้เป็นอย่างดี ใจรักหรือหน้ำที่ หัวโขนเป็นสิ่งที่สุคนธา ล้วนวิลัย หรือพี่หน่อยคุ้นชินและผูกพันมาตั้งแต่เป็นเด็ก ด้วยความที่พ่อและแม่เป็นช่าง ท�าหัวโขน พี่หน่อยเล่าว่าแต่ก่อนพ่อกับแม่รับจ้างเขียนหัวโขน แต่ไม่ได้ทา� เป็นอาชีพหลักเพราะรับราชการแต่ภายหลัง ได้ออกมาท�าอย่างเต็มตัวจนยึดเป็นอาชีพของครอบครัว พี่หน่อยเห็นพ่อกับแม่ทา� หัวโขนมาตั้งแต่จ�าความได้ จึงมีความ คิดทีอ่ ยากจะช่วยท�าตามประสาเด็ก แต่ทา� ได้เพียงฝกฝีมอื กับผนังบ้าน เห็นพ่อเขียนเราก็เขียนตามไปเรือ่ ย เห็นพ่อทาสี หัวโขนเราก็ช่วยท�า ติดประดับ ติดเพชร แต่ไม่ได้จริงจังอะไร เพราะตอนนั้นหน้าที่หลักคือการเรียน ทุกคนย่อมมีความฝันเป็นของตนเอง และเชื่อว่าหากได้ท�าในสิ่งที่ชอบแล้วจะสามารถประสบความส�าเร็จได้โดย ง่ายพอเรียนจบ ปวส. พีห่ น่อยก็เริม่ หาเส้นทางอาชีพของตนเอง ซึง่ ในเวลานัน้ เธอคิดว่าท�าธุรกิจทีเ่ ป็นของตนเองน่าจะ ดีกว่าเรียกได้ว่าความคิดนี้เป็นจุดเปลี่ยนในชีวิตของเธอ จากนักศึกษาที่เรียนจบในสาขาบัญชีก็เลือกที่จะกลับมาสานต่อ งานของครอบครัว รวมถึงในเวลานัน้ ธุรกิจการท�าหัวโขนเริม่ ขยายตัว ตลาดมีความต้องการในสินค้าด้านศิลปวัฒนธรรม มากยิ่งขึ้น เธอจึงเริ่มต้นเรียนรู้วิชาการเป็นช่างหัวโขนอย่างจริงจังจากพ่อของเธอ โดยเริ่มจากการหัดท�าหัวโขนขนาด เล็กก่อน และรับจ้างเขียนลวดลายบนหัวโขน เป็นการฝกฝีมือเพื่อให้เกิดความช�านาญ ก่อนที่จะลงมือท�าหัวโขนขนาด จริง ก่อนจะมีชื่อเสียง พีห่ น่อยเล่าว่าบ้านโขนไทยมีชอื่ เสียงมาถึงทุกวันนีไ้ ด้ เพราะพ่อแม่เลือกทีจ่ ะยืนหยัดอนุรกั ษ์วฒั นธรรมและด�ารง ไว้ซึ่งวิธีการท�าหัวโขนแบบโบราณ และพ่อสอนเสมอว่า พ่อท�าไว้ดีอยู่แล้ว ขอให้รักษาสิ่งที่ดีนี้ไว้ต่อไป จนสุดท้ายได้รับ การสนับสนุนจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยให้ไปสาธิตการท�าหัวโขนตามงานต่างๆ ท�าให้มีผู้คนสนใจมากขึ้น จึงมี ความคิดที่อยากจะออกร้านจ�าหน่าย และก็เป็นจังหวะดีที่ได้ออกร้านในโครงการครบรอบ ปี เขตคลองสาน จากการ ออกงานในครั้งนั้นมีผู้คนสนใจอย่างล้นหลาม หัวโขนแห่งบ้านโขนไทยจึงกลายเป็นของดีชุมชนคลองสาน เป็นการจุด ประกายให้บ้านโขนไทยเป็นที่รู้จักแก่คนทั่วไป เมื่อหัวโขนแห่งคลองสานเป็นที่รู้จักมากขึ้น การตลาดก็เปิดกว้าง กลุ่มเปาหมายก็มีมากยิ่งขึ้น มีทั้งคนไทยและ คนต่างชาติ หลายคนซื้อเพื่อไปสะสม เพราะหัวโขนจะปั้นตามตัวละครในวรรณคดีเรื่องรามเกียรติ์ทั้งหมด บ้างก็ซื้อไป เคารพบูชาเพราะหัวโขนเป็นศิลปะชั้นสูงที่ควรแก่การสักการบูชา แต่น้อยคนนักที่จะซื้อไปเป็นของฝาก เพราะแต่ก่อน หัวโขนขนาดใหญ่มีราคาถึง บาทต่อหัว พี่หน่อยและครอบครัวจึงริเริ่มการท�าหัวโขนที่มีหลากหลายขนาด เริ่ม จากขนาด นิว้ ในราคา บาท ซึง่ เป็นการตอบสนองกลุม่ เปาหมายได้เป็นอย่างดี นอกจากนีพ้ หี่ น่อยยังให้คา� แนะน�า แก่ผู้ที่สนใจในวิธีการท�าหัวโขนเข้ามาศึกษาเรียนรู้วิธีการท�า โดยไม่มีการเรียกเก็บค่าใช้จ่าย ซึ่งมีคนสนใจเข้ามาเรียน รู้มากพอสมควร


Baankluay |

อง า

ท้ายสุดพี่หน่อยได้กล่าวส่งท้ายฝากถึง เยาวชนรุ่นใหม่ให้หันมาสนใจในศิลปวัฒนธรรม ไทย โขนคือของประจ�าชาติเราตัง้ แต่สมัยอยุธยา วัยรุ่นก็จะมองว่ามันเป็นกาพย์ เป็นกลอน ท�าให้ น่าเบือ่ แต่จริงๆ แล้วเป็นเรือ่ งทีน่ า่ สนใจ จะเห็น ว่าในการแสดงโขนจะมีการสอดแทรกสาระเข้าไป ในแต่ละตัวละคร ทุกวันนี้นับว่าโชคดีที่โลกเปิด กว้างมากขึ้น ทุกคนบนโลกสามารถดูการแสดง โขนได้ทกุ ทีท่ กุ เวลาผ่านทางอินเทอร์เน็ต ต่างจาก สมัยก่อนที่การแสดงโขนจะเป็นสิ่งที่หาดูได้ยาก

62

เพราะเป็นนา ศิลปชั้ันสูง ต้องรองานส�าคัญ จริงๆ ถึงจะได้ดู ปั จ จุ บั น หั ว โขนไม่ ไ ด้ เ ป็ น เพี ย งส่ ว น ประกอบส�าคัญในการแสดงโขนเท่านัน้ แต่หวั โขน ยังกลายเป็นสัญลักษณ์ทางด้านศิลปวัฒนธรรม อย่างหนึ่งของประเทศไทยที่ได้รับความนิยมจน เป็นที่รู้จักในสากล และถูกน�าไปใช้ประดับใน สถานที่สา� คัญๆ หลายแห่ง นอกจากนั้นหัวโขน ยังเป็นของสะสมส�าหรับผู้ที่มีรสนิยมทางศิลปะ อีกด้วย

ศิลปวั นธรรมไทยเป็นเหมือนสิง่ ทีว่ นอยู่ รอบตัวเรำมำตั้งแต่เกิด เรำเป็นคนไทย รำกเหง้ำ ของเรำก็คือควำมเป็นไทย บรรพบุรุษทุกยุคสมัย ได้บรรจงสร้ำงสรรค์สิ่งที่เรียกว่ำเอกลักษณ์ไทย เพือ่ เป็นมรดกทำงวั นธรรมแก่คนรุน่ หลัง หลำย คนเลือกทีจ่ ะสำนต่อเจตนำรมณ์ทมี่ คี ณ ุ ค่ำนีไ้ ว้ แต่ ก็ มี ค นอี ก จ� ำ นวนมำกที่ ล ะเลยและปล่ อ ยให้ เอกลักษณ์นี้สูญหำยไปตำมกำลเวลำ

วิธีกำรท�ำหัวโขน

> ขั้นตอนแรกคือการขึ้นรูป แรกสุดเลยคือต้องทาน�้ามันที่เบ้าหุ่นต้นแบบเพื่อง่ายต่อการแกะ จากนั้นเทปูนปลาสเตอร์ลงไปในเบ้าหุ่นต้นแบบเพื่อสร้างโครงหัวโขน รอให้ แห้งแล้วจึงแกะทุบเปลือกออกมา ก็จะได้หัวโขนตามรูปแบบที่ต้องการ > ขั้นตอนที่สองคือการปิดหุ่น หลังจากทีไ่ ด้หวั โขนทีต่ อ้ งการแล้ว ต่อไปเป็นขัน้ ตอนของการปิดหุน่ โดยน�ากระดาษสามาทากาวลาเท็กซ์แล้วแปะไปให้ทวั่ หัวโขน ประมาณสาม ชั้น พอเสร็จแต่ละชั้นจะน�าไปตากแดด รอให้แห้ง แล้วน�ากลับมาแปะกระดาษซ�า้ จนครบจ�านวนชั้น มีลักษณะคล้ายกับการท�าเปเปอร์มาเช่ หลัง จากนั้นจะท�าการทับและกรีดออกด้วยคัตเตอร์ เสร็จแล้วใช้ลวดเย็บหัวโขนให้เรียบร้อย ซึ่งเหตุผลที่เลือกใช้กระดาษสาเพราะมีน�้าหนักเบา สามารถ ระบายอากาศได้ดี เหมาะส�าหรับใช้ในการแสดง ซึ่งจะต่างจากที่อื่นที่จะใช้เรซิ่นในการท�า แต่มีข้อเสียคือแตกง่ายและมีน�้าหนักเยอะ > ขั้นตอนที่สามคือการปั้นแต่ง เมือ่ ได้โครงหัวโขนตามต้องการแล้ว ซึง่ อาจมีลกั ษณะหน้าตาทีย่ งั ไม่ชดั เจนมากนัก ในขัน้ ตอนนีจ้ ะตกแต่งหัวโขน เรียกว่าการปัน้ หน้าเพือ่ ความ สวยงาม โดยใช้ขี้เลื่อยผสมแปงเปียกมาเพิ่มรายละเอียดให้หัวโขนมีความสวยงามมากยิ่งขึ้น จากนั้นจะน�าไปตากแดด อาจใช้เวลาประมาณหนึ่งวัน หลังจากแห้งสนิทแล้วจะขัดแต่งโดยใช้ตะไบหรือกระดาษทราย เมือ่ ขัดเสร็จจนสวยได้รปู จะท�าการรองพืน้ สี ในส่วนของสีทใี่ ช้จะเป็นสีโปวหรือสีนา�้ มัน แล้วจึงลงลาย ติดประดับส่วนองค์ตา่ งๆ จากนั้นลงรักปิดทอง เขียนหน้า และติดเครื่องประดับเพชร


Baankluay | ร้ร

รอย ย

64

า เร่อง

แม้เวลาจ ล่วงเลยมากว่า

า า

นัท ์ล ัส อู่อินทร์ สุ ัตรา แสงทอง

ป ชาวบ้านในตาบลคูบัว จังหวัดราชบุรี ที่ยังคงสบสานปร เ ณี

ความเช่อ แล วั น รรมของบรร บุรุษชาวไทย ยวนเอาไว้อย่างเหนี่ยวแน่น ไม่ว่าจ เปน าษา ูดแบบ ล้านนา หรอแม้แต่งานหัต กรรม ดยเ

า การทอ ้า ิ่นตีนจกของชาวคูบัว จนได้รับคัดเลอกให้เปน

สินค้า อทอปร ดับห้าดาวของจังหวัด ง ่ มีเอกลักษณ์เ

า ตัวทีม ่ ส ี ส ี น ั สดใส ร้อมทังลวดลายทีส ่ วยงาม

สามาร นามาตัดเยบเปนเคร่องแต่งกายได้หลากหลายรูปแบบ

ผ้าซิน่ คือผ้านุง่ ส�าหรับผูห้ ญิงทีน่ ยิ มใช้กนั มาตั้งแต่สมัยโบราณ มีลักษณะที่ต่างกันออกไป ตามภูมปิ ญั ญาและขนบการทอของแต่ละท้องถิน่ โดยมากจะต่างกันในเรื่องของลวดลาย วิธีการ สวมใส่ และขนาด ในผ้าซิน่ หนึง่ ผืนจะประกอบไป ด้วย องค์ประกอบ ได้แก่ หัวซิ่น ตัวซิ่น และ ตีนซิ่น ซึ่งผ้าซิ่นของประเทศไทยสามารถแบ่งได้ ลักษณะ ตามวิธกี ารใช้งาน อย่างแรกคือผ้าซิน่ ทีใ่ ช้สา� หรับในงานทัว่ ไป และอย่างทีส่ องคือผ้าซิน่ ส�าหรับใช้ในโอกาสพิเศษ

ผ้าซิ่นจะมีลักษณะที่ต่างกันไปในแต่ละ ท้องถิน่ ซึง่ ผ้าซิน่ ทีพ่ บได้ในประเทศไทยมีทงั้ หมด ประเภท คือผ้าซิ่นมัดหมี่ ผ้าซิ่นตีนจก ผ้าซิ่น ลายแตงโม ผ้าซิ่นเชียงแสน ผ้าโ ลเสร็ย และ ผ้าซิน่ ทิวมุก ทัง้ หมดมีลวดลายและความสวยงาม ที่ตา่ งกันออกไป แต่ในบรรดาผ้าซิ่นทั้งหมด ผ้า ซิ่นที่มีความน่าสนใจและคุ้นหูมากที่สุดนั่นก็คือ ‘ผ้าซิ่นตีนจก’ จะเห็นได้ว่าผ้าซิ่นชนิดนี้ก็จะมี ลักษณะลวดลายที่ต่างกันออกไปอีก ส่วนมากมัก จะพบได้ทางภาคเหนือและอีสาน ซึง่ ท�าให้คนส่วน

ใหญ่คิดว่ าผ้ าซิ่นตีนจกมีแค่ในภาคเหนื อ และ อีสานเท่านั้น แต่ใครจะรู้ว่าผ้าซิ่นตีนจกที่ท�าใน ภาคกลางก็มีเหมือนกัน แถมยังมีประวัติความ เป็นมาที่ยาวนานและมีความสวยงามไม่แพ้ภาค อืน่ นัน่ ก็คอื ‘ผ้าซิน่ ตีนจกคูบวั ’ ของจังหวัดราชบุรี ผ้ า ซิ่ น ตี น จกคู บั ว จะมี ลั ก ษณะการทอ ลวดลายต่างไปจากผ้าซิ่นชนิดอื่นคือ ผ้าซิ่นคูบัว จะสร้างลวดลายจากเส้นพุ่งพิเศษในระหว่างการ ถักทอ หรือที่เรียกว่าการจกลายผ้า เป็นการเว้น เส้นยืนเป็นช่วงๆ และใช้ฝายเส้นพุ่งอีกหนึ่งเส้น


65

สอดเข้าไปในช่วงกลางของผ้าท�าให้เกิดลวดลาย ขึน้ โดยผ้าซิน่ ตีนจกคูบวั จะมีความงดงาม จึงเป็น ที่ชื่นชอบแก่ผู้ที่พบเห็น และสร้างความภูมิใจให้ กับผู้ที่สวมใส่ จุดเด่นของผ้าซิ่นตีนจกคูบัวจะมีลักษณะ ต่างไปจากทีอ่ นื่ ตรงทีล่ วดลายจกทีเ่ ป็นเอกลักษณ์ ได้แก่ ลายดอกเซีย ลายหักนกคู่ ลายโก้งเก้ง ลาย หน้าหมอน และลายนกคู่กินน�้า ่วมเต้า ซึ่ง ทัง้ หมดนีค้ อื ลายทีบ่ ง่ บอกถึงเอกลักษณ์ของผ้าซิน่ ตีนจกคูบัว นอกจากนี้ยังมีสีเฉพาะที่ท�าให้รู้วา่ ผ้า ชนิดนี้คือผ้าซิ่นของคูบัว ยกตัวอย่างเช่น ผ้าซิ่น ของทางภาคเหนือจะมีสที เี่ ป็นโทนเดียวกันนัน่ คือ สีโทนทึบ ต่างจากผ้าซิ่นตีนจกคูบัวจะเน้นไปทาง สีสันสดใสคือ สีแดง สีเหลือง สีด�า และสีเขียว รวมถึงขนาดของตีนซิน่ ทีจ่ ะมีความกว้างประมาณ นิ้ว ในช่วงตีนของผ้าจะทอด้วยผ้าที่เป็น พื้นสีด�า ย้อมด้วยมะเกลือหรือครามเท่านั้น ซึ่ง ถือว่าเป็นเอกลักษณ์ทชี่ ดั เจนอีกอย่างหนึง่ ทีย่ งั คง ไว้บนผืนผ้าของผ้าซิ่นตีนจกคูบัว เพียงแค่เห็นก็ สามารถรู้ได้ทันทีว่าผ้าชนิดนี้เป็นผ้าซิ่นตีนจก ของต�าบลคูบัว จังหวัดราชบุรี ป ิเสธไม่ได้ว่าหากนึกถึงผ้าซิ่น ภาพแรก ที่จะเชื่อมโยงในความคิดของเราก็คือ ผ้าที่ใช้ ส�าหรับคนสูงอายุ เป็นภาพลักษณ์ที่ดูล้าหลัง ไม่ทันสมัย แต่หากใครจะรู้ว่าแท้จริงแล้วหลาย ครั้งที่ผ้าซิ่นถูกน�ามาดัดแปลงเพื่อสวมใส่ในชีวิต

ประจ�าวัน ตามที่เห็นก็เมื่อเร็วๆ มานี้ มีการรวม กลุม่ กันทางโซเชียลเน็ตเวิรค์ เพือ่ แต่งกายด้วยชุด ผ้าไทยไปยังสถานทีต่ า่ งๆ กลายเป็นสิง่ ทีถ่ กู พูดถึง บนโลกออนไลน์ เป็นการปลุกกระแสการใส่ผา้ ไทย ปัจจุบันวัยรุ่นนิยมใส่ผ้าไทยมากขึ้น จะ เห็นได้ในงานสงกรานต์ในปีที่ผ่านมา วัยรุ่นหัน มาใส่เสื้อคอกระเช้ากับผ้าซิ่นกลายเป็นอีกหนึ่ง สไตล์การแต่งตัวที่ได้รับความนิยมอยู่ไม่น้อย ไม่ใช่แค่ในประเทศ แต่ผา้ ซิน่ มักถูกเหล่าดีไซเนอร์ ชื่อดังจากต่างประเทศเนรมิตให้ทันสมัย ส�าหรับ คอลเลคชั่นใหม่ในงานแฟชั่นโชว์ของพวกเขา ซึ่ง ไม่ได้มีแค่เสื้อผ้า แต่ยังมีทั้งกระเปา ผ้าพันคอ และหมวก ถือเป็นอีกสิ่งที่สร้างความภูมิใจและ รายได้อย่างมหาศาลให้แก่ประเทศไทย

ร้ร รอย ย | Baankluay หลายคนอาจคิดว่าการอนุรักษ์ผ้าซิ่นไทย เป็นเพียงการน�ากลับมาประยุกต์ใส่ใหม่อีกครั้ง ของวัยรุ่นไทยในปัจจุบันเท่านั้น แต่อาจยังไม่ ทราบว่าผ้าซิ่นไทยของเราถูกน�าไปดัดแปลงเป็น ข้าวของเครื่องใช้จากแบรนด์ดังต่างๆ ทั่วโลก นอกจากนี้ยังมีกลุ่มคนในพื้นที่ที่ยังอนุรักษ์การ ทอผ้า รวมถึงให้การสนับสนุนและให้ความรู้ ส�าหรับผู้ที่สนใจ เพื่อเป็นการวางราก านความรู้ ให้กับประชาชนที่ต้องการจะสืบสานผ้าซิ่นใน แต่ละท้องถิ่นไว้ และในอนาคตจะสามารถน�า ความเป็นเอกลักษณ์ของผ้าซิ่นไปต่อยอดเพื่อ สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทย ผ้าซิ่นตีนจกคูบัว ถือเป็นความภูมิใจใน ภูมิปัญญาของคนไทย ที่สืบทอดมาตั้งแต่สมัย โบราณจากรุ่นสู่รุ่น จนทุกวันนี้ยุคสมัยเปลี่ยนไป เราไม่อาจรูไ้ ด้เลยว่าภูมปิ ญั ญาทีม่ คี า่ นีจ้ ะสูญหาย ไปเมื่อไหร่ ความหวังก็คงอยู่ที่เยาวชนรุ่นหลังว่า จะสืบต่อมรดกทางภูมปิ ญั ญานีไ้ ว้ หรือจะปล่อยให้ สูญหายไปตามกาลเวลา



Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.