Shi27

Page 1

1


2

-อารัมภบท-


3

ทีมท�ำหนังสือ e-book ของ Shi 27 ก�ำหนดหัวข้อ “อารัมภบท” ไว้ และยังบอกว่าประธานรุน่ หมาย ถึงเรา ( ชื่อเล่น เตา ชื่อจริง วิลา วรรณ ) ให้ช่วยเขียนหัวข้อนี้ด้วย เราท�ำท่าหน้าตาแบบหนักใจจนอุน่ ต้องให้ก�ำลังใจว่า เขียนอะไรก็ได้ อยากเล่า อยากคุยอะไรก็ได้ ส�ำนวน สบายๆแบบคุยให้กบั เพือ่ นๆ ฟัง-ก็ เขาอุตส่าห์ใช้ชอื่ หัวข้อว่าอารัมภบท ให้แล้วไง เราเลยขอเล่าทีม่ าของการทีเ่ รา ต้องมาท�ำหน้าทีป่ ระธานโดยไม่นกึ ไม่ฝัน ไม่เคยคิดอยู่ในหัวสมองเรา เลยที่วันหนึ่งจะต้องมาท�ำหน้าที่ นี้ เพราะไม่เคยเชื่อเลยว่าตัวเอง จะมีความสามารถท�ำหน้าที่นี้ให้ เป็นที่พอใจของเพื่อนๆ หรือถูกใจ เพื่อนๆได้เลย เรื่องของเรื่องก็มีอยู่ว่า ช่วง ก่อนหน้านี้สัก 5-6 ปีเราก็ห่างหาย ไปจากการพบปะสังสรรค์กบั เพือ่ น แม้แต่กอล์ฟก็เลิกเล่นไปเลย ขอเอา เวลาที่มีอยู่เพื่อดูแลแม่ที่อายุเกิน กว่า 90 ปีแล้ว เรามีความสุขที่ได้ ดูแลสุขภาพแม่เป็นรายวันอย่างใกล้ ชิด จนในทีส่ ดุ แม่กส็ นิ้ อายุขยั ตอน

ปลายปี 2557 หลังจากปรับตัวได้ สักระยะหนึ่งแล้ว ตอนต้นปี 2558 เราถึงได้มโี อกาสทีจ่ ะได้พบปะพูดคุย กับเพื่อนบางคน และได้กลับไปท�ำ กิจกรรมของสมาคมนิสติ เก่าจุฬาฯ ที่เราเคยมีส่วนร่วมเป็นกรรมการ และที่ปรึกษามากว่า 20 ปี เรามาเป็นเพือ่ นเน้าเข้าประชุม กับชมรมจุฬา 09 บอกตามตรงว่า ตอนนัน้ ในหัวเราว่างเปล่า ไม่รเู้ รือ่ ง เกีย่ วกับจุฬา 09 เลย ก็อย่างทีบ่ อก หลังจากห่างเหินไปกับกิจกรรม ข่าวสารต่างๆ โดยเฉพาะช่วงปี 2557 เป็นปีที่เรางดงานการไปเยอะ วัน นั้นเลยไปเป็นเพื่อนเน้าเพราะเขา ใช้สถานที่ห้องประชุมที่ สนจ.ซึ่ง เป็นที่-ที่เราคุ้นเคย วันนั้นบังเอิญนั่งข้างหมอเรือง ศักดิ์ เขาแนะน�ำตัวว่า เขาดูแลเรือ่ ง ทะเบียนรุ่น จุฬา 09 เขาเลยบอก ไม่รจู้ ะตามรายชือ่ ของเพือ่ นๆคณะ บัญชีจากใคร เขาเลยขอ email address ของเราไปก่อน จากวัน นั้นนั่นเอง ยายเตาก็งานเข้าเลย หลังจากนั้น-มีคนมาบอกว่าพี่สุ(สุ พรรณี) เคยรวบรวมรายชื่อ ที่อยู่ และเบอร์โทรของพวกเรา จากการ


4

ที่มีการจัดงานสังสรรค์เป็นบางปี เรา บอกตามตรงว่าถ้าพูดตามภาษา และต่อมาท๊อฟฟี่ก็น�ำมาช่วยใส่ลง บัญชี เรียกว่า reconcile ไม่ลงตัว ใน Word หรือ Excel เราก็ตามไปที่คณะบัญชี พยายาม ขอรายชื่อจากห้องทะเบียน เขาก็ ความจริงการรวบรวมชื่อของ บอกว่าเขาจัดเก็บเข้ากล่องไว้ ไม่มี เพือ่ นๆนัน้ ได้ทำ� กันหลายครัง้ -หลาย เวลารื้อให้ เพราะรายชื่อรุ่นเรายัง ประธานรุน่ - ตัง้ แต่โต(วิชยั )- เภา(เภา ไม่มีใครช่วยจัดการน�ำลงในระบบ ลีนา)- เน้า(สุรชัย) เมื่อเราน�ำ file คอมพิวเตอร์ เราก็ท�ำใจและยัง ล่าสุดทีไ่ ด้มาจากท๊อฟฟีแ่ ล้ว เราก็ไป ค่อยๆเสาะหาจากหนังสือทุกเล่ม ค้นหาต่อจากหนังสือที่ประธานรุ่น ที่หยิบยืมจากเพื่อนๆ เราต้องขอ คนก่อนๆได้เคยรวบรวมไว้ เปรียบ ขอบใจเพื่อนๆหลายคนที่ยอมให้ เทียบกับหนังสือที่ห้องทะเบียน ยืมหนังสือรุ่นมา และเราก็รับปาก ของคณะบัญชีเคยท�ำไว้โดยการหา ว่าจะดูแลรักษาเท่าชีวติ เพราะรูว้ า่ จ�ำนวนคนทีค่ วรจะเป็นเพือ่ นในรุน่ หนังสือเก่าแบบนีเ้ จ้าของเขารักทนุ


5

ถนอมกันทุกคน เราต้องค่อยๆถ่าย เขาทะเลาะกันขึน้ มา มีหวังเลิกเป็น เอกสารเอาไว้ และต้นฉบับก็ตอ้ งเก็บ ลูกค้าแบงค์ละก็แย่เลย อย่างดี จะค้นหาปู้ยี่ปูย�ำกับฉบับที่ ตอนนั้นเรามีข้อมูลรายชื่อ เราถ่าย copy ไว้เท่านั้น เพื่อนๆอยู่เพียงประมาณสัก 30% อาศัยที่เราเป็นคนท�ำงานด้าน และยังมีหลายคนที่ยังไม่ up to ไอที อยูก่ บั ธนาคารซึง่ เกีย่ วข้องกับ date เราเลยต้องตัดสินใจ ท�ำหน้าที่ การสร้างฐานข้อมูลลูกค้าเรือ่ งชือ่ ที่ เด็ก Call center อาศัยที่เคย Set อยู่ เบอร์โทรศัพย์ ทีอ่ ยูข่ องเจ้าของ up ระบบ Call center ให้กบั แบงค์ บัญชี ทีอ่ ยูเ่ มียหลวง-เมียน้อย-ทีอ่ ยู่ อีกนัน่ แหละ เลยรูว้ า่ เห็นท่าจะต้อง กิก๊ -เราออกแบบให้เก็บไว้ได้หมดจะ ท�ำ Out bound call ซะแล้วซิ เรา ได้รวู้ า่ จะส่งจม.ทวงหนีไ้ ปทีบ่ า้ นไหน เลยเอารายชือ่ ทีเ่ ราเตรียมไว้มาเริม่ ใช้บตั รเครดิทของคนไหนอะไรแบบ โทรหาพวกเรา ตอนนัน้ หลายคนคง นีเ้ พราะเราจะท�ำพลาดไม่ได้ ผ้วเมีย คิดว่าเราจะมาขายประกันหรือขาย


6

ของอะไรเป็นแน่ บางครั้งเรา ต้อง เสียเวลาอธิบายทีม่ าทีไ่ ปว่าพวกเรา ต้องการจะรวบรวมรายชื่อเพื่อนๆ เพื่อจะท�ำทะเบียนรุ่น และก็ขอให้ เขาแนะน�ำเบอร์เพือ่ นทีเ่ ขายังติดต่อ อยู่ หรือพอจะช่วยตามหา เพื่อนๆ หรือบางคนเปลีย่ นชือ่ -นามสกุล-ที่ อยู่ -เบอร์โทรปัจจุบนั ให้หน่อย เรา ต้องขอบใจเพื่อนหลายๆคนที่ช่วย กันตามหาและให้ขอ้ มูลมาเป็นอย่าง ดี-ในทีส่ ดุ เมือ่ ตามรายชือ่ เพือ่ นๆมา ได้ระดับหนึง่ แผนงานต่อไปของเรา ก็คอื การ cleansing data ก็เริม่ ขึน้ ด้วยการน�ำข้อมูลเบื้องต้นจากการ

ตามหาเพือ่ นๆทัง้ หมดเอาเข้าไปลง ใน ห้อง line: CU Shi 27 ซึ่งได้ผล มาก จะเห็นได้วา่ พวกเราทีม่ ชี อื่ อยู่ ในไลน์ กลุ่มนี้ก็ช่วยกันตามหาราย ชือ่ เพือ่ นๆได้เพิม่ ขึน้ มามากมายเป็น ทอดๆกันไป และแล้วตอนประมาณปลาย เดือน กค. 2558 ประธานเน้าได้ดำ� หริที่ให้มีการจัดงานสังสรรค์ โดย เลือกเอาวันศุกร์ที่ 21สค. พวกเรา หลายๆคนก็ช่วยกันกระจายข่าว และชวนเพือ่ นๆมาร่วมสังสรรค์ จน มีคนมาร่วมงานกันทัง้ หมดประมาณ


7

สัก 130 คน นับเป็นการรวมตัวที่ มีคนเป็นจ�ำนวนมากกว่าทีค่ ดิ และ มากกว่าทุกครัง้ เท่าทีพ่ วกเราได้จดั งานสังสรรค์กันในระยะตอนก่อน หน้านี้ อันเป็นผลมาจาก Spirit อัน แรงกล้าของพวกเราทุกคน ทั้งนี้ ต้องขอบใจพวกเราทุกคนที่มีส่วน ร่วมในการจัดงานในครัง้ นัน้ ให้เป็น ทีป่ ระทับใจและพูดถึงมาจนทุกวันนี้ ประมาณหนึง่ อาทิตย์กอ่ นทีถ่ งึ วันจัดงานสังสรรค์ในวันที่ 21 สค. 2558 นั้น ประธานเน้าได้เชิญชวน เพือ่ นๆทีต่ งั้ ใจจะมาช่วยกันจัดงาน ให้มาประชุมร่วมกันเพือ่ เสนอความ คิดเห็นต่างๆที่เกี่ยวกับการจัดงาน ในครั้งนั้น-และหนึ่งในเรื่องส�ำคัญ ที่ยกเอามาพูดถึงกันก็คือ เรื่องที่ เน้า-สุรชัย ชีวมงคล ซึง่ ได้รบั หน้าที่ เป็นประธานรุ่นของ คณะบัญชี จุฬาฯ รุ่น 27 ต่อเนื่องกันมานาน กว่า แปดปีแล้ว ได้เสนอความเห็น ว่าควรจะให้ผอู้ นื่ ได้เข้ามาท�ำหน้าที่ เป็นประธานรุ่น 27แทนบ้าง ผล สรุปจากที่ประชุมคณะกรรมการ การจัดงานเลี้ยงสังสรรค์ของคณะ บัญชีจุฬาฯ รุ่น 27 ได้มีความเห็น พ้องต้องกันว่า เราควรจะได้จดั ให้มี

การเลือกตัง้ ประธานรุน่ บัญชีจฬุ าฯ รุ่น 27 โดยใช้หลักการของวิถีทาง ของประชาธิปไตย คือการจัดให้ เพือ่ นๆทุกคนได้ใช้สทิ ธืในการออก เสียงเลือกตัง้ ประธานรุน่ ดังกล่าว แต่ เดิมก็กำ� หนดกันว่าจะท�ำการหย่อน บัตรเลือกประธานรุน่ คนใหม่กนั ใน งานวันเลี้ยงสังสรรค์วันนั้นเลย-แต่ ด้วยความทีพ่ วกเราไม่ได้เจอะเจอกัน นาน บางคนห่างหายไปเป็นสิบ-ยีส่ บิ ปี มาเจอกันก็มัวแต่ดีใจกันมาก ไม่ อยากท�ำกิจกรรมใดๆ ขอเม้าท์กัน ให้หายคิดถึงดีกว่า เลยท�ำให้การ เลือกตั้งประธานคนใหม่ในวันนั้น ไม่สามารถด�ำเนินได้ หลังจากนัน้ ประธานเน้าได้เชิญ เพือ่ นๆกรรมการจัดงานกลุม่ เล็กมา ปรึกษากันและได้มีการก�ำหนดให้ มีการเลือกตั้งประธานรุ่นคนใหม่ การเลือกตั้งก็ถูกหยิบยกมาพูดคุย มีการก�ำหนดและตกลงกติกากัน บนห้อง line และจี๊ปก็ถูกขอร้อง ให้เป็น กกต. พวกเราต่างแซ่ซ้อง ว่าจี๊ปท�ำหน้าที่ กกต. ได้ดูเหมือน จะดีกว่า กกต. ของรัฐบาลซะอีก เพราะมี good governance โดย กระท�ำการด้วยความบริสุทธิและ


8

เคารพกติกาทีไ่ ด้ตกลงกันไว้ดว้ ยดี พวกเราต่างก็ชว่ ยกันออกความคิดเห็น และกระตุน้ ให้ทกุ คนตระหนักถึงสิทธิในการเลือกตัง้ เพือ่ ให้ได้คนทีเ่ ป็นที่ ยอมรับของเพื่อนๆส่วนใหญ่ตามเสียงข้างมากของพวกเรา และก็มาคิด กันว่าเราจะท�ำอย่างไรที่จะให้พวกเราเกือบทั้งหมดได้รับรู้ข่าวสารและ มาใช้สทิ ธิเลือกตัง้ ให้ได้มากทีส่ ดุ จึงได้มกี ารตัง้ ทีมอาสาท�ำงานส่งข่าวไป ทาง line, email และไปรษณีย์ ลงทะเบียน ( กรณีที่เพื่อนบางคนไม่มี line หรือ email ) ออกไปทั่วประเทศ พยายามให้ข้อมูลนี้ส่งถึงเพื่อนๆ ให้ได้มากที่สุด เท่าที่จะท�ำได้ จีป๊ อาสาดูแลการเลือกตัง้ , การก�ำหนด กรอบเวลา, ก�ำหนดวิธกี ารเสนอ ชือ่ Volunteer ที่จะมาท�ำหน้าทีป่ ระธานรุ่น 27 , การ Vote การแจ้งผล คะแนนแบบเกาะติดหน้าจอ ทีส่ ง่ เข้ามาทัง้ ทาง line และ email รวมทัง้ ไปรษณียบ์ ตั รทีเ่ พือ่ นบางคน Vote มา-รายชือ่ ทีจ่ ะเลือกเป็นประธานนัน้ ให้เพือ่ นเสนอมา หลายคนถูกเสนอชือ่ โดยเพือ่ นๆ และหลายคนทีถ่ กู เสนอ


9

ชือ่ ให้เป็น Candidateซึง่ รวมทัง้ เราด้วย ก็มกี ารขอถอนตัวด้วยเหตุจำ� เป็น แตกต่างกันไป จนในทีส่ ดุ ก็ไม่เหลือคนทีอ่ าสามาท�ำหน้าทีป่ ระธานรุน่ 27 เลยแม้แต่คนเดียว ส่วนเรา- เมือ่ ไม่เหลือใครทีอ่ าสาเข้ามาท�ำงานเลย เรา จึงถูกเพือ่ นๆขอร้องให้รบั หน้าทีน่ ี้ เนือ่ งจากในการเสนอชือ่ Candidate โดยเพือ่ นๆตามกรอบเวลาทีก่ ำ� หนดไว้แล้วนัน้ เผอิญชือ่ เรามีเพือ่ นเสนอ ชื่อเข้ามามากที่สุด เพื่อนหลายๆคนเลยช่วยกันขอร้องแกมบังคับโดยให้ เหตุผลว่าถ้าไม่มใี ตรรับท�ำหน้าทีป่ ระธานรุน่ แล้ว คณะอืน่ ๆจะไปพูดได้วา่ ตณะบัญชี ขาดเอกภาพและ Spirit ,มีการทะเลาะเบาะแว้งกันจนไม่มใี คร กล้าอาสามาท�ำงานให้คณะ แม้แต่ประธานรุ่นก็ยังไม่มีเลย จะท�ำให้เป็น ทีอ่ บั อายขายหน้าคณะอืน่ เป็นอย่างมาก อีกทัง้ ยังมีงานทีส่ ำ� คัญรออยูซ่ งึ่ ก็คืองาน จุฬาฯ ครบ 50 ปี ในปีหน้า ( ปี 2559 ) แถมยังมีเพื่อนๆบาง คนมาข่มขูใ่ ห้ชว่ ยรับหน้าทีน่ ที้ ี ไม่งนั้ จะชวนเพือ่ นๆบุกมาทีบ่ า้ นเราซะอีก ด้วย พวกที่ขู่มานี้ยังรับปากและสัญญาว่าจะช่วยกันหาเพื่อนๆอาสามา ช่วยกันท�ำงานอย่างเต็มที่-เมื่อคิดไปมาหลายตลบ บอกตามตรงว่าสมัย


10

ท�ำงานตอนที่ตัดสินใจจะเปลี่ยนงานยังตัดสินใจได้ง่ายกว่ามารับงานนี้ เลย แต่มาใจอ่อนที่เพื่อนๆพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าแล้วเราจะมาช่วยกัน นีแ้ หละจ้ะ-และเพือ่ เห็นแก่เกียรติภมู ขิ องคณะบัญชีของเราด้วย ในทีส่ ดุ เราตกลงใจทีร่ บั หน้าทีเ่ ป็นประธานรุน่ ที่ 27 แต่เราก็ได้ยนื ยันแล้วว่าเรา จะยอมรับการท�ำหน้าทีน่ เี้ พียงปีเดียวเท่านัน้ เพือ่ นๆทุกคนก็โอเค ปีหน้า ก็ต้องมาท�ำการเลือกตั้ง เฟ้นหาประธานรุ่นคนใหม่กันต่อไป ตอนนี้ การมารับงานในหน้าที่นี้ ก็ผ่านมาได้ครึ่งหนึ่งของวาระที่เรา ท�ำหน้าทีป่ ระธานรุน่ แล้ว ไม่มคี ำ� พูดใดๆทีจ่ ะอธิบายถึงความรูส้ กึ ซาบซึง้ ในมิตรภาพ น�ำ้ ใจ ความยินดีเต็มใจของเพือ่ นๆทีไ่ ด้ให้ความช่วยเหลืองาน ทุกอย่างชนิดทุม่ เทจิตใจสุดๆจริงๆ ทีป่ ระทับใจมากๆก็คอื การมีความเอือ้ อาทรทีด่ ตี อ่ กัน ช่างเป็นช่วงเวลาทีม่ คี วามสุขมากๆในช่วงหนึง่ ของชีวติ ที่ เรามาได้เจอะเจอกัน จากความเป็นเพื่อนกัน ก็กลายเป็นความสนิทกัน มากยิ่งขึ้น-ยิ่งขึ้น - มาถึง ณ. ตรงนี้อยากจะบอกจากใจจริงว่า :เราดีใจ มากที่เราได้มีส่วนช่วยให้ ”การ สานใจ ของพวกเรา ชาวบัญชี จุฬาฯ 27 ให้เป็นหนึง่ เดียว ได้บรรลุผลตามเจตนารมณ์ ของพวกเราทุกๆคน “. ขอยืมค�ำพูดของจีป๊ ทีเ่ คยเขียนถึงค�ำว่า “ เพือ่ น “ มาลงอีกครัง้ เราว่ามัน มีความหมายทีต่ รึงใจและจะช่วยเตือนใจให้พวกเรามีความรักซึง่ กันและ กันและคงอยู่ในความทรงจ�ำที่ดีของกันและกันตลอดไป: เพื่อน คนเราคบหาร่วมทางกัน – มีค่าตรงที่ – รู้จักกัน คนเรารู้จักคุ้นเคยกัน – มีค่าตรงที่ – รู้ใจกัน คนเรารู้ใจกันแล้วจากกัน – มีค่าตรงที่ – อยู่ในความทรงจ�ำที่ดีของ กันและกัน.


11


12

-ชีวิตนิสิต-


13

การเข้าสู่การศึกษาระดับ อุดมศึกษา ถือเป็นเรือ่ งส�ำคัญยิง่ ของ ชีวิต เพราะนั่นจะเป็นสิ่งที่ก�ำหนด อนาคตของพวกเรา และเราเป็นผู้ ที่มีบทบาทมากที่สุดในการตัดสิน ใจครั้งนี้ ทีจ่ ะต้องเลือกทาง เดินชีวติ ด้วยตนเอง ต่างกับสมัยเด็ก ทีก่ ารเข้าศึกษาถือเป็นหน้าทีท่ ต่ี อ้ ง ท�ำ โดยมีผู้ก�ำกับดูแลทุกขั้นตอน ตั้งแต่เลือกโรงเรียน และแม้แต่ค�ำ ชี้แนะให้เลือกเรียนสายใด - วิทย์ หรือ ศิลป์ (สมัยนั้น มีเพียงสอง สายนี้เท่านั้น) แต่การเลือกที่จะ ศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา เป็นทัง้ ความตั้งใจ ความชอบส่วนตัว และ ปัจจัยอีกหลาย ๆ อย่าง ทีท่ ำ� ให้ผทู้ ี่ จะเรียนต้องประเมินตัวเองว่า อะไร คือสิง่ ทีต่ อ้ งการและเหมาะสมกับตัว เรามากที่สุด

โลก ความเข้าใจชีวติ และการด�ำรง ตนอยูใ่ นสังคมอย่างเป็นผูท้ มี่ คี วาม หมาย (ทัง้ กับผูอ้ นื่ และทีส่ ำ� คัญคือ กับตัวเราเอง) โดยไม่จ�ำเป็นต้องมี ยศ ต�ำแหน่ง หรือ คนอื่นมาคอย เยินยอ สรรเสริญ ทุกคนได้ทำ� ดีทสี่ ดุ ในสิง่ ทีต่ นรัก และเลือกทีจ่ ะท�ำ ไม่ ว่าจะเป็นเรือ่ งเรียน ดนตรี กีฬา ท่อง เที่ยว หรือกิจกรรม อื่น ๆ เรามี ท่านอาจารย์ทตี่ งั้ ใจและเต็มใจทีจ่ ะ ประสิทธิประสาทวิชาความรูใ้ ห้เรา อย่างเต็มความสามารถ ด้วยความ ปรานี และท่านยังช่วยชี้แนะและ สนับสนุนให้เราท�ำในสิง่ ทีถ่ กู ต้องดี งามในทุก ๆ เรื่อง เรามีพี่ ๆ ที่เป็น ทัง้ ก�ำลังใจ และผูใ้ ห้ความช่วยเหลือ ในเรื่องกิจกรรมต่าง ๆ ที่ขาดไม่ได้

คือเพือ่ น ซึง่ เป็นเสมือนเงาทีร่ ว่ ม ทุกข์ร่วมสุขกับเรามาตลอดระยะ นอกจากเรื่องการเรียน ซึ่ง เวลาที่อยู่ในรั้วมหาวิทยาลัย เป็นหัวใจหลักของการเข้าสู่รั้ว ความทรงจ�ำดี ๆ ทีเ่ กิดขึน้ ในช่วง มหาวิทยาลัยแล้ว เรายังต้องปรับตัว กับสิง่ แวดล้อมใหม่ๆ หลายอย่าง เรา ของชีวติ นิสติ จึงเป็นเรือ่ งทีพ่ วกเรา พบเจอเพือ่ นมากขึน้ เรามีกจิ กรรม อยากจะจดจ�ำไว้ให้นานที่สุดเท่าที่ มากขึน้ ทุกวันเวลาทีผ่ า่ นไป เราได้ จะนานได้ เพราะสิ่งเหล่านั้น เป็น ตระหนักว่า สถานศึกษาเป็นที่บ่ม พลังส�ำคัญที่หล่อหลอม ผลักดัน เพาะ ทัง้ วิชาการ ความรู้ ความเข้าใจ และช่วยน�ำทางเราไปสู่เส้นทางที่ เป็นตัวเราในปัจจุบัน


14

ถวายบังคม วันปิยมหาราช


15

วันปิยมหาราช เป็นวันที่พวก เราชาวไทยรูจ้ กั คุน้ เคยกันมาตัง้ แต่ เด็ก แม้เราจะเกิดไม่ทนั ในสมัยของ พระองค์ แต่เราต่างก็มีความจงรัก ภักดีตอ่ พระองค์ เมือ่ เรียนหนังสือ ก็ได้เรียนรู้ถึงพระราชกรณียกิจ ของพระองค์ท่าน รวมถึงพระวิสัย ทัศน์ท่ีกว้างไกลซึ่งก่อให้เกิดความ ก้าวหน้าต่อประเทศไทยเป็นอย่าง มากในหลาย ๆ ด้าน

อยู่มากมายตระการตา ด้วยความ ซาบซึ้ง เด็กหลายคนใฝ่ฝันว่า วัน หนึง่ เราก็จะเป็นหนึง่ ในขบวนของ นิสิต นักศึกษา ที่ไปถวายบังคมฯ และคงจะเป็นการดีมากขึน้ ไปอีก ถ้า เราจะได้แต่งชุดนิสิต ติดพระเกี้ยว เดินอยู๋ในขบวนของจุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย ได้มีโอกาสเข้าไปนั่ง และถวายบังคมพระบรมราชานุ สาวรียข์ องพระองค์ ในวันส�ำคัญนัน้

วันที่ 23 ตุลาคมของทุกปี เรา จะเฝ้าติดตามดูข่าวตามสื่อต่าง ๆ ที่น�ำเสนอพิธีถวายพวงมาลาหรือ พุ่มดอกไม้รวมถึงการถวายบังคม พระปิยมหาราช ทีล่ านพระบรมรูป ทรงม้า ของนักเรียน นิสติ นักศึกษา ข้าราชการ พ่อค้า และประชาชน อันเป็นการแสดงถึงความจงรัก ภักดีของประชาชนคนไทยที่มีต่อ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้า เจ้าอยู่หัว และที่ประทับใจเรา มาก คือขบวนของนิสิตจุฬาฯ ซึ่ง แต่งเครื่องแบบสวยงาม ดูภูมิฐาน ยิง่ และพวงมาลายังท�ำเป็นรูปพระ เกี้ยว ซึ่งเป็นเอกลักษณ์มาก เมื่อ พิธีการถวายบังคมเสร็จสิ้น พ่อแม่ จะพาลูกหลานไปดูพวงมาลาที่ตั้ง

เมือ่ เข้าสูร่ วั้ จามจุรี ได้เป็นหนึง่ ในนิสติ จุฬาฯ ได้แต่งเครือ่ งแบบนิสติ ติดพระเกีย้ ว ได้อยูใ่ นมหาวิทยาลัย ซึ่งใช้พระปรมาภิไธยเดิมของท่าน เป็นชือ่ มหาวิทยาลัย ท�ำให้เกิดความ ภาคภูมใิ จจริง ๆ และเมือ่ ได้ศกึ ษา ประวัติของมหาวิทยาลัยแล้ว ก็ยิ่ง เกิดความตืน้ ตันใจ ร�ำลึกถึงพระคุณ ของพระองค์ท่านเป็นทวีคูณ ที่ ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณอันยิ่ง ใหญ่ ด้วยทรงมีพระเมตตาที่จะให้ ประชาชนชาวไทยได้รบั การศึกษาใน ระดับสูงขึน้ ท�ำให้เกิด จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย เพื่อการศึกษาระดับ อุดมศึกษาของประชาชนทัว่ ไป เป็น แห่งแรกในประเทศไทย


16

วันที่ 23 ตุลาคม 2509 จึงเป็น วันทีน่ สิ ติ จุฬาฯ ปี1 เฝ้ารอคอยอย่าง ใจจดใจจ่อ เพราะพวกเราจะได้มี โอกาสเป็นครั้งแรกที่ร่วมในขบวน ถวายพวงมาลา และถวายบังคมใน เครือ่ งแบบนิสติ เมือ่ ถึงวันจริง ทุก คนก็พร้อมกันทีล่ านพระบรมรูป ฯ ตามจุดทีน่ ดั หมาย เราตืน่ เต้นมาก เพราะได้เห็นประชาชนสองข้างทาง

ต่างเฝ้าดูขบวนและพิธีการถวาย บังคมกันอย่างคับคั่ง เราเดินไปใน ขบวนด้วยความรูส้ กึ ภาคภูมใิ จ ขณะ เดียวกัน เราก็รสู้ กึ ขอบคุณประชาชน คนไทยทัง้ หลายทีม่ คี วามจงรักภักดี ต่อพระองค์ ด้วยการร่วมสมทบทุน สร้างพระบรมรูปทรงม้ากันอย่าง มากมาย ท�ำให้มีเงินเหลือไปสร้าง จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย



18


19


20


21

เมื่อเรานั่งลงที่พื้นตรงลานพระบรม รูป ฯ อย่างเป็นระเบียบ และถวายบังคม พร้อม ๆ กันนั้น ความรู้สึกตื้นตันเอ่อล้น ขึ้นมาจริง ๆ รู้สึกเหมือนได้รับเวทมนต์ ศักดิ์สิทธิ์ ที่จะท�ำให้ชีวิตเราประสบแต่สิ่งดี งาม และมีความเจริญรุ่งเรืองสืบไป ถึงกับ ตั้งปณิธานไว้ว่า เราจะต้องถวายความจงรัก ภักดีอย่างที่สุด ด้วยการท�ำคุณประโยชน์ให้ ประเทศชาติอย่างเต็มก�ำลังความสามารถ ให้สมกับที่เป็นคนไทย และมีโอกาสได้เข้า ศึกษาในมหาวิทยาลัยที่พระมหากษัตริย์ทรง พระราชทานก�ำเนิด

ข้อมูลโดย : เสาวนีย์ (อุณ) และ อุ่นใจ


22

วันทรงดนตรีเป็นอีกวันหนึง่ ทีร่ อ คอยส�ำหรับนิสิตทุกคน โดยเฉพาะ น้องใหม่ เพราะพวกเราจะได้มโี อกาส เฝ้าชมพระบารมีของล้นเกล้า ฯ ทุก พระองค์ที่เสด็จ ฯ มาร่วมงาน จะ ได้ชมพระอิริยาบทสบาย ๆ ของ ทุกพระองค์ ในบรรยากาศที่อบอุ่น รื่นรมย์ ด้วยวงดนตรีที่ยิ่งใหญ่ และ ไพเราะอย่างที่สุด เป็นโอกาสและ ความทรงจ�ำทีจ่ ารึกในใจพวกเราทุก คนไม่รู้ลืม


23

วันทรงดนตรี


24


25

น้องใหม่ทุกคนที่ไปคอยรับ เสด็จฯ จะได้มีโอกาสเฝ้าชมพระ บารมีของทุกพระองค์ ตั้งแต่รถ พระทีน่ งั่ เลีย้ วเข้าประตูมหาวิทยาลัย มา เราต่างชะเง้อคอจ้องมองไปทาง เดียวกันเมือ่ ใกล้เวลาเสด็จฯ โดยไม่ สนใจกับดินฟ้าอากาศ ณ เวลานั้น เมือ่ รถพระทีน่ งั่ จอดและทุกพระองค์ เสด็จฯ เข้าไปในหอประชุมแล้ว น้อง ใหม่ทกุ คนต่างกระวีกระวาดกรูกนั เข้าไปในหอประชุม มีทวี่ า่ งตรงไหน ก็นั่งตรงนั้น บางคนก็ยืน

ในปีต่อๆ มา พวกเรามักจะไม่ เลือกนั่งเก้าอี้ แต่จะเลือกนั่งที่พื้น เพราะจะได้อยู่ใกล้เวทีมากที่สุด ได้เฝ้าชมพระบารมีของล้นเกล้าฯ ทุกพระองค์ซงึ่ ทรงมีพระเมตตาต่อ นิสติ ทุกคนมาก พวกเรามีความสุข ที่สุดตลอดช่วงเวลาในหอประชุม จนไม่นา่ เชือ่ ว่าเวลาจะผ่านไปอย่าง รวดเร็ว จนใกล้เวลาเสด็จฯ กลับ จะมีการร้องเพลงสุดท้าย........ทีไ่ ม่ ค่อยจะจบง่ายๆ เพราะพวกเราจะ ร้องซ�้ำซ�้ำ เมื่อถึงช่วงสุดท้าย ก็จะ ร้องซ�ำ้ ท่อนนัน้ อีก ร้อง.. ร้อง.. ร้อง ....เพื่อได้มีเวลาเฝ้าชมพระบารมี ให้นานที่สุดเท่าที่จะท�ำได้ จนต้อง จ�ำใจหยุดเมื่อได้รับสัญญาณ จาก นั้นพวกเราก็จะรีบออกไปเพื่อร่วม กันเข็นรถพระที่นั่ง ด้วยการเดินๆ วิ่งๆ จนรถพระที่นั่งลับสายตา แต่ รอยยิ้มของพวกเรายังติดตามเรา กลับบ้านทุกครั้ง

ให้ข้อมูลโดย: เสาวนีย์ (อุณ) และ อุ่นใจ


26

ในการเล่าเรื่องความประทับ ใจ ของ Shi27 ที่จะลงในอีบุ๊ค มี เพื่อน ๆ เขียนเล่าถึงความทรงจ�ำ ที่น่าประทับใจในวันทรงดนตรี 2 บทความ เป็นบทความที่ผู้เขียน เขียนแล้วคนอ่านสนุก และมีความ รูส้ กึ ร่วมในเรือ่ งความจงรักภักดี และ ความตืน้ ตันในพระมหากรุณาธิคณ ุ ของทุกพระองค์อย่างหาที่สุดมิได้ จึงน�ำมาใส่ไว้ทั้ง 2 บทความ

ความทรงจำ�ในวันทรงดนตรี


27

นับเป็นความโชคดีของพวกเรา เหล่านิสิตจุฬาฯในช่วงเวลานั้น ที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรง พระราชทานความเมตตา เสด็จฯ มาทรงดนตรีและพระราชทาน ปริญญาบัตรแก่นสิ ติ ทุกคนซาบซึง้ และรอคอยที่จะได้เข้าเฝ้าใกล้ชิด พระองค์ท่าน ในวันทรงดนตรี น้องใหม่แทบ ไม่มีโอกาสเข้าไปนั่งในหอประชุม เพราะต้องรับเสด็จฯ พวกพี่ ๆ เข้าไปจับจองที่นั่งกันเต็มไปหมด น้อง ๆ ก็ต้องชะเง้อรออยู่ข้างนอก นึกในใจว่าไว้ปี 2 เถอะจะเข้าไป จองเป็นคนแรกเลย ถึงปี 2 แล้ว เรามีโอกาสดีเพราะ อยู่หอพักเป็นชาวซีมะโด่ง ถึงวัน ที่รอคอยรีบไปรอที่หน้าประตูหอ ประชุม พอประตูเปิดใครมีฝีเท้า เท่าไรใส่กนั เต็มที่ ไม่ใช่ไปนัง่ ทีเ่ ก้าอี้ นะ เราจะวิ่งไปที่พื้นข้างหน้าให้ ชิดเวทีมากที่สุด จะได้เฝ้าชม พระ บารมีพระองค์ท่านทุกพระองค์ อย่างใกล้ชิด


28

พวกเราทุกคนคงจดจ�ำภาพของ พระองค์ทา่ นทุกพระองค์ ในวันทรง ดนตรี ในพระอิรยิ าบถอันเป็นทีน่ า่ ประทับใจได้อย่างแม่นย�ำ เหมือน เหตุการณ์เพิ่งจะเกิดขึ้นเมื่อวาน

อิสริยยศในขณะนั้น) ท่านทรงหัน พระพักตร์มามองแล้วแย้มพระ สรวล จึงรู้ตัวว่าเราวิ่งมาคนเดียว รีบกราบทูลว่า ทรงพระเจริญเพคะ แล้วรถพระทีน่ งั่ ก็ผา่ นไป เราเดินตัว ลอยด้วยความสุขกลับหอ (แต่เมื่อ รูส้ กึ ตัว ก็รสู้ กึ อายว่าตัวเราท�ำอะไร ลงไป) ภาพในรถพระทีน่ งั่ และรอย แย้มพระสรวลของพระองค์ท่าน ยังติดอยู่ในความทรงจ�ำมาตราบ จนทุกวันนี้

ที่สุดของความประทับใจคือ ขณะอยู่ปี 1 ในวันทรงดนตรี เมื่อ พระองค์ท่านเสด็จฯกลับ พวกเรา หลายคนก็วงิ่ ตามรถอย่างไม่กลัวรถ ในขบวนจะแล่นมาชน บางคนวิ่ง ไปหน่อยแล้วก็หยุด แต่เราวิง่ เต็มที่ ตามรถพระทีน่ งั่ ออกจากประตูใหญ่ ครั้งหนึ่งในชีวิตที่ได้เห็นภาพ วิง่ ไปตามถนนใหญ่ จนมีความรูส้ กึ อย่างนี้ ใครเคยเห็นบ้างคะ ว่ารถชะลอลง เพราะเราไม่มที างวิง่ เร็วไปกว่ารถได้ แล้วเห็นเจ้าฟ้าหญิง สิรินธร(พระนามโดยย่อตามพระ ให้ข้อมูลโดย: เบญจวรรณ

ความทรงจำ�ในวันทรงดนตรี


29

วันทรงดนตรีส�ำหรับพวกเรา นิสติ จุฬาเป็นวันพิเศษเสมอ ไม่วา่ จะ เรียนอยู่ปี 1 หรือปีไหน เราจะรอ คอยวันนีอ้ ย่างใจจดใจจ่อ ตืน่ เต้น ดีใจทีจ่ ะได้เข้าเฝ้าพระองค์ทา่ นทุก พระองค์ อยากฟังดนตรีทพี่ ระองค์ ท่านทรงบรรเลง และมากกว่านัน้ อยากเข้าเฝ้าใกล้ชิดเท่าที่จะท�ำได้

หมดทุกประตูแล้ว จึงยืนเกร่ ที่ประตูด้านข้างที่ใกล้เวทีด้วยใจ กระวนกระวาย อยากเข้าไปข้างใน คงเป็นบุญของ เรา 2 คน ขณะ นั้นมีรุ่นพี่เปิดประตูออกมา จึง ไปอ้อนวอนขอเข้าไปจนได้ ตรง ที่เราเข้าไปมีคนยืนอยู่เต็ม ต่างก็ ชะเง้อยืดตัวมองไปทีเ่ วที เรา 2 คน ก็ท�ำเช่นเดียวกัน แต่เมื่อนานเข้า ก็ถูกเบียดไปถึงขั้นบันไดเวทีขั้นที่ สอง จึงนัง่ หมอบกระแตอยูบ่ นขัน้ บันไดนัน้ เอง การทรงดนตรีดำ� เนิน ไปเรื่อยๆ ทุกคนมีใบหน้ายิ้มแย้ม แจ่มใส ทั้งฟังดนตรีที่บรรเลงโดย พระองค์ท่าน ทั้งดูภาพตรงหน้าที่ หาดูได้ยากยิ่ง

วันทรงดนตรีในปีที่มิใช่น้อง ใหม่ นิสิตรุ่นพี่จะได้รับอนุญาต ให้เข้านัง่ ในหอประชุมให้เรียบร้อย ก่อนที่พระองค์ท่านจะเสด็จฯ ใน ปีที่พวกเราเรียนอยู่ปีสอง วันทรง ดนตรีเป็นวันทีเ่ ราเรียนหนังสือตาม ปกติ ถ้าจะไปจองทีใ่ นหอประชุมก็ จะต้องรีบไป โดยโดดเรียนชัว่ โมง ปรากฏว่าขณะนั้นมีการส่ง Calculus เรา 2 คนปรึกษากัน แล้วตกลงว่าเรียนก่อนแล้วค่อยไป เงินต่อๆกันมาจากนิสติ ในหอประชุม พอหมดชัว่ โมงเรียนก็รบี วิง่ ไปทีห่ อ เพือ่ ถวายพระองค์ท่าน พระองค์ ประชุม แต่ปรากฏว่าประตูปิด ทรงชีม้ าทีเ่ รา2 คนให้เป็นผูร้ บั แล้ว ส่งต่อให้ทา่ นผูใ้ หญ่ในวงดนตรี เรา 2 คนได้ท�ำหน้าที่นั้นจนจบ ความ ประทับใจนั้นมีมาตราบทุกวันนี้ เห็นเป็นภาพทีช่ ดั เจนไม่เคยลืมเลย


30

ขอพระองค์ทรงพระเจริญ มีพระชนมายุยิ่งยืนนาน ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ ข้าพระพุทธเจ้า นางพรทิพย์ ประสานทอง และ นางสุรยี ์ หงษ์ลดารมภ์


31


32

-การศึกษา-


33

การสอบเข้า

ในปีก่อน ๆ ที่พวกเรายัง เรียนไม่จบระดับมัธยมศึกษาตอน ปลาย การสอบเข้ามหาวิทยาลัย (Entrance) จัดสอบรวมทีเดียว ทั้งประเทศ ถือเป็นการเสี่ยงดวง ครั้งใหญ่ ผู้เข้าสอบสามารถเลือก คณะ และ มหาวิทยาลัย ทีต่ อ้ งการ ได้ 6 อันดับ จะเป็นคณะเดียวกัน แต่ต่างมหาวิทยาลัยก็ได้ โดยการ เลือกต้องระบุให้ชดั ว่าจะเรียงล�ำดับ อย่างไร จากนั้น ก็ไปเข้าสอบตาม วัน-เวลา ที่ก�ำหนดส�ำหรับแต่ละ วิชา (ซึ่งถูกก�ำหนดไว้แล้วว่า ถ้า เลือกมหาวิทยาลัยนัน้ คณะนัน้ จะ ต้องสอบวิชาอะไรบ้าง) พวกเรา ส่วนใหญ่จะใช้วธิ ดี คู ะแนนสอบเข้า ของปีกอ่ น ๆ เพือ่ ประเมินตัวเองว่า จะได้ประมาณไหน เป็นคณะและ มหาวิทยาลัยทีช่ อบหรือไม่ แต่ความ ชอบกับความใช่ อาจไม่ไปด้วยกัน อยากได้เรียนในที่หนึ่ง อาจติดอีก ที่หนึ่ง ก็ต้องถือว่าไปตามดวง ถ้า พลาดก็ต้องรอปีต่อไป

ปี พ.ศ.2509 ซึ่งเป็นปีที่พวก เราจบการศึกษาระดับมัธยมปลาย การสอบเข้ามหาวิทยาลัยเป็นเรือ่ ง ทีน่ า่ ตืน่ เต้นและท้าทายมาก เพราะ มีการเปลีย่ นวิธกี ารสอบเข้าเป็นการ สอบแยกแต่ละมหาวิทยาลัย (ดีที่ ไม่จัดพร้อมกัน) ท�ำให้พวกเรามี ตัวเลือกมากขึ้น ปวดหัวมากขึ้นใน การวางแผนว่าจะเข้าอะไรที่ไหน เพราะตัวเลือกเพิ่มขึ้น เป็นหลาย เท่าตัว แต่ในวิกฤตที่เกิดขึ้นนั้น ก็ ต้องถือเป็นโอกาสทีพ่ วกเราสามารถ สอบติดได้หลายมหาวิทยาลัย คน ที่เรียนเก่งอาจเลือกเพียงคณะ และมหาวิทยาลัยเดียว หรือ สอง มหาวิทยาลัย เพราะมัน่ ใจว่าอย่างไร ก็ติดแน่ ๆ ไม่อยากเสียเวลาวิ่ง สอบที่นั่นที่นี่ แต่ส่วนใหญ่ เรามัก เลือกสอบกันสามมหาวิทยาลัยขึ้น ไป ท�ำให้ต้องวิ่งรอกไปสอบหลาย แห่ง และพวกที่เรียนสายวิทย์ก็จะ เป็นพวกทีต่ อ้ งปวดหัวหนักกว่าสาย ศิลป์ เนื่องจากมีตัวเลือกมากกว่า เลยตัดสินใจยากว่าจะไปทางไหน แน่ ถ้าตัดสินใจเลือกคณะที่รับทั้ง


34

วิทย์และศิลป์ นั่นหมายถึงวิชา ที่จะสอบก็ต้องมีทั้งด้านวิทย์และ ศิลป์ บางคนสอบทุกวัน เกือบทั้ง เดือน เพือ่ เพิม่ โอกาสทีจ่ ะได้เข้าเรียน มหาวิทยาลัยที่ไหนสักแห่ง การประกาศผล แต่ ล ะ มหาวิทยาลัยก็ประกาศกันเอง ต้องตามดูทกุ ทีท่ ไี่ ปสอบ บางคนติด หลายแห่ง ตัดสินใจไม่ได้วา่ จะเลือก เรียนทีไ่ หนดี ก็อาจจะไปรายงานตัว ไว้ก่อนเพื่อรักษาสิทธิ พอตัดสินใจ ได้แน่นอนแล้วว่าจะเรียนที่ใดก็ไป สละสิทธิที่อื่น เป็นเรื่องวุ่นวาย มาก ท�ำให้หลายมหาวิทยาลัยต้อง ประกาศเรียกเพิม่ แทนคนทีส่ ละสิทธิ หลังจากนัน้ จึงมีการเปลีย่ นกลับมา เป็นสอบเอนทรานซ์รวมเหมือนเดิม


35

ทำ�ไมต้องเป็น

บัญชี-จุฬา ถ้าจะมีการตั้งค�ำถามว่า ท�ำไม คุณจึงเลือกเรียนทีจ่ ฬุ า เราจะได้คำ� ตอบทีห่ ลากหลายมาก บางคนเลือก เพราะพ่อแม่และพี่ๆ ต่างก็อยู่จุฬา มาก่อน และด้วยความมีชอื่ เสียงของ มหาวิทยาลัยทีเ่ ป็นมหาวิทยาลัยแห่ง แรกของประเทศ รวมถึงความเป็น มาของมหาวิทยาลัยที่ท�ำให้หลาย คนอยากเข้ามาสัมผัส “เกียรติภูมิ จุฬา” บางคนก็เลือกเพราะอยูใ่ กล้ บ้าน เดินทางสะดวก บางคนอาจ จะเลือกเพราะได้ทนุ เรียน (สมัยนัน้ จุฬาจะยกเว้นค่าเล่าเรียนให้ผทู้ ผี่ า่ น การสอบเข้าทีไ่ ด้คะแนนสูงสุดอันดับ ต้น ๆ ของผู้สอบเข้าได้ในคณะนั้น ๆ) บางคนเลือกเพราะเพือ่ นทีเ่ รียน มัธยมมาด้วยกันติดทีเ่ ดียวกัน ฯลฯ

แต่ถ้าตั้งค�ำถามใหม่ว่า ท�ำไม คุณจึงเลือกเรียนบัญชี เราจะได้คำ� ตอบทีค่ อ่ นข้างใกล้เคียงกันมากขึน้ เป็นต้นว่า หางานง่าย จบออกไปมี งานท�ำค่อนข้างแน่นอน (เพราะมี พรบ.การบัญชี ก�ำหนดให้ร้านค้า และโรงงานอุตสาหกรรมต้องจัดท�ำ บัญชีขนึ้ ตามกฎหมาย) นอกจากนี้ หน่วยงานทั้งรัฐบาล รัฐวิสาหกิจ ตลอดจน ธนาคารทั้งหลาย ต่างก็ ต้องการนักบัญชีทั้งนั้น เพราะใน สมัยนัน้ การเงินและการบัญชีแยก กันไม่ออก ถือเป็นเรือ่ งเดียวกัน และ จะว่าไป ด้วยเหตุนเี้ อง ผูท้ เี่ รียนจบ บัญชี จึงรอบรู้และรู้เรื่อง การเงิน การธนาคาร ด้วย


36

เกณฑ์การให้คะแนน

อย่างไรก็ตาม ในการเดินทางไป สูค่ วามส�ำเร็จ อาจมีขวากหนามอยู่ บ้าง นอกเหนือจากการมีกิจกรรม นอกหลักสูตรที่หลากหลายแล้ว ระบบการศึกษาสมัยนั้น ถือได้ว่า โหดพอสมควรทีเดียว เพราะวิชา ที่เปิดสอนตามหลักสูตรจะตายตัว ในแต่ละเทอม การคิดคะแนนไม่ใช้ วิธกี ารตัดเกรดแบบปัจจุบนั ทีม่ กั ใช้ วิชาสถิติมาช่วย แต่จะคิดคะแนน ตามจริงเป็นร้อยละ การให้เกรด จะเป็นไปตามคะแนนที่ก�ำหนดไว้ ล่วงหน้าว่าอยู่ในช่วงใด คะแนนที่ ถือว่าสอบผ่านคือ 60% ส่วนที่ โหดคือ ถ้าสอบไม่ผ่านวิชาใดวิชา หนึ่ง นั่นหมายความว่า คุณก�ำลัง อยู่ในจุดเสี่ยงเพราะจะมีขั้นตอนที่ ต้องท�ำต่อไปนี้

1. ถ้าสอบไม่ผา่ น (ได้คะแนน ต�่ำกว่า 60%) ในวิชาใด แต่ได้ คะแนนรวมไม่ตำ�่ กว่า 60% จะต้อง สอบซ่อม (re-exam) 2. ถ้าสอบซ่อมไม่ผา่ น แม้เพียง วิชาเดียว จะต้องเรียนซ�ำ้ ชัน้ ในปีถดั ไป คือเรียนกับรุ่นน้อง (repeat) 3. ถ้า repeat แล้วไม่ผ่าน ต้องออก (retire) เป็นเรือ่ งที่น่ายินดีส�ำหรับนิสติ รุ่นหลัง ๆ ที่ระบบนี้เลิกใช้แล้ว


37


38

หลักสูตร

หลักสูตรการเรียนของคณะเรา มีขอ้ เด่นหลายอย่าง นอกเหนือจาก วิชาทีเ่ กีย่ วข้องกับการเงินและการ บัญชีโดยตรงแล้ว ยังมีสารพัดวิชา ที่เกี่ยวกับการบริหารจัดการ พวก เราต้องเรียนวิชากฎหมายถึง 5 วิชา และต้องเรียนวิชาภาษาอังกฤษทุก เทอม ที่โหดแต่ไม่มีปัญหาคือ วิชา External Reading ซึง่ ท่านอาจารย์ จะก�ำหนดหนังสือเป็นเล่ม ๆ (pocket book เล่มไม่ใหญ่มาก แต่ก็เสีย เวลาอ่านน่าดู) พวกเราต้องไปอ่าน หนังสือเหล่านีเ้ อง ตอนสอบอาจารย์ ก็จะตั้งค�ำถามเกี่ยวกับเนื้อหาใน หนังสือเล่มนั้น ๆ ในวิชานี้ เป็น วิชาที่พวกเราเห็นความส�ำคัญของ เพื่อนเป็นอันมาก คือ เพื่อนที่เก่ง และขยันอ่านจะท�ำหน้าทีข่ องเพือ่ น ที่ดีมาก จะอ่านหนังสือได้ค่อนข้าง รวดเร็ว แล้วจับใจความ สรุปเป็น ภาษาไทยแบบค่อนข้างยาว (เพื่อ ไม่ให้เพือ่ นพลาดเนือ้ หาทีอ่ าจออก สอบ) จากนั้น ก็ท�ำโรเนียวแจกกัน ซึง่ ช่วยประหยัดเวลาเพือ่ น ๆ ได้มาก ทีเดียว เพราะเพือ่ น ๆ สามารถอ่าน

หนังสือ (ฉบับภาษาอังกฤษ) แบบ ผ่าน ๆ เพียงเพื่อจับใจความใหญ่ ๆ และให้คุ้นกับศัพท์ในหนังสือ เท่านั้น ส่วนเนื้อหาที่ละเอียดกว่า นั้น สามารถอ่านจากฉบับโรเนียว ซึ่งเป็นภาษาไทย นอกจากหลักสูตรที่มีเนื้อหา วิชาการเข้มข้น ครบทุกรสแล้ว ใน วิชาบัญชีสว่ นใหญ่ จะมีทงั้ tutorial และการท�ำ lab (คือการท�ำแบบ ฝึกหัด) ท�ำให้ความรูท้ เี่ ราได้รบั จาก การเรียนนัน้ ติดตัวเราอย่างแน่นแฟ้น มาก เมื่อจบหลักสูตร เรารู้สึกได้ ว่าเรารอบรู้ทุกด้าน และสามารถ ท�ำได้ทุกเรื่อง


39

คณาจารย์

ทีป่ ระทับใจมากในการเรียน คือเรือ่ งของคณาจารย์ เราโชคดีมาก ทีม่ ที า่ นอาจารย์ทนี่ อกจากมีความรู้ ความสามารถทางวิชาการแล้ว ยัง มีวิธีการถ่ายทอดความรู้ ตลอดจน ความเอาใจใส่อย่างดียงิ่ มีอาจารย์ เก่ง ๆ ทัง้ จากในคณะและนอกคณะ ทั้งนี้ ต้องถือเป็นวิสัยทัศน์ และ ความใจกว้างของทางคณะฯ จริง ๆ ที่เสาะหาท่านอาจารย์เฉพาะ ทาง (ส่วนใหญ่คอื วิชากฎหมาย และ ภาษาอังกฤษ) มาสอนพวกเรา วิชา เฉพาะทางเหล่านัน้ ค่อนข้างยากใน การท�ำความเข้าใจ เนื่องจากไม่ใช่ วิชาที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจบัญชีและ การเงินโดยตรง และไม่มี tutor แต่ท่านอาจารย์ทุกท่าน ทั้งท่าน อาจารย์ประจ�ำ และท่านอาจารย์ พิเศษ ต่างก็มเี มตตาถ่ายทอดความ รู้ให้พวกเราอย่างเต็มที่ รวมไปถึง การให้เวลาในการซักถามข้อสงสัย ที่ไม่เข้าใจในบทเรียน

บางท่านให้ความเมตตา กับ นิสิตในเรื่องอื่นๆ ด้วย เช่น ท่าน อาจารย์วิกรม เมาลานนท์ (สอน วิชากฎหมาย) ทีส่ ามารถยกตัวอย่าง สนุกๆ ท�ำให้เราเรียนกฎหมายอย่าง ไม่นา่ เบือ่ และจ�ำเนือ้ หาในบทเรียน ได้โดยไม่ต้องท่องจ�ำ นอกจากนั้น ท่านยังมีเมตตา แต่งเพลง “เคารพ พี”่ ให้พวกเราด้วย (มีการซ้อมร้อง เพลงนีใ้ นห้องเรียนตอนท้ายชัว่ โมง) ซึ่งเพลงนี้ ถือเป็นเพลงหากินของ พวกเรา ตอนไปทัศนาจรหรือไปท�ำ กิจกรรมที่มีรุ่นพี่มาให้การต้อนรับ พวกเราก็จะร่วมกันร้องเพลงนี้ ขอบคุณพี่ ๆ เป็นการตอบแทน

ให้ข้อมูลโดย: บัณฑิต ปวลี ภรณี เสาวนีย์ (อุณ)


40

การรับน้องใหม่


41

Shi27 กับการรับน้องใหม่ใน เรา การเข้าไปนั่งอยู่ในหอ จุฬา ประชุมที่ดูโอ่โถงและยิ่งใหญ่ ชีวิตนิสิตจุฬา คงจะไม่ค่อย สมบูรณ์นักถ้าเราจะไม่ได้อยู่ใน พิธีการรับน้องใหม่ของพี่ ๆ ดังนั้น วันรับน้องใหม่จึงเป็นอีกวันหนึ่งที่ รอคอย (แบบอกสัน่ ขวัญแขวนเล็ก น้อย – เพราะไม่รวู้ า่ จะเกิดอะไรขึน้ บ้าง) พวกเรา Shi27 ตั้งแถว เป็น ขบวนจากคณะ ฯ เพื่อเดินไปเข้า หอประชุม รุ่นพี่ของพวกเราน�ำกิ่ง จามจุรีท�ำเป็นมาลัยมาคล้องคอให้ น้องใหม่ทุกคน พวกเราลุกขึ้นยืน เมื่อเพลง “มหาจุฬาลงกรณ์” เริม่ กระหึม่ ชึน้ ในขณะที่พี่ๆ ที่อยู่ชั้นบนของหอ ประชุม ต่างก็โปรยใบจามจุรีลงมา ในช่วงนี้ เป็นความประทับใจ ที่อยากเก็บไว้กับตัวตลอดไปไปถึง หอประชุม ก็เข้าไปนั่งตามที่ที่จัด ไว้ให้คณะ

ในเครือ่ งแบบน้องใหม่นนั้ ท�ำให้ รู้สึกหัวใจพองโต และ ผยองในศักดิ์ศรีขึ้นมานิด ๆ เมื่อออกจากหอประชุมแล้ว ล�ำดับต่อไป เราต้องไปผ่านซุ้มรับ น้องของคณะต่าง ๆ พี่ ๆ ให้การ ต้อนรับน้องด้วยการให้น้องลอด ซุม้ จามจุรี ซึง่ บางซุม้ ท�ำไว้คอ่ นข้าง เตี้ย คนสูงต้องก้มมากหน่อย โดย เฉพาะผู้ชาย ส�ำหรับน้องใหม่ผู้ หญิงที่สวย ๆ พี่ ๆ มักจะให้ความ เอ็นดูเป็นพิเศษ ถามค�ำถามง่ายๆ สนุกๆ แต่หลายค�ำถามหน่อย เพื่อ ได้คุยนาน ๆ แล้วก็ให้ผ่าน น้อง บางคนได้ดอกไม้แถมด้วย แต่ถ้า ไม่เข้าข่ายได้รับความเอ็นดูพิเศษ ก็มักจะถูกสั่งให้ร้องเพลงเชียร์มั่ง ท�ำท่า แปลกๆ มั่ง ใช้เวลาไม่มาก แต่กส็ นุกสนานครืน้ เครงกันทัว่ หน้า


42

การรับน้องใหม่ของคณะบัญชี น้องใหม่บัญชี ดูจะมีเสน่ห์ไป อีกแบบ เมื่อนิสิตหญิงนุ่งกระโปรง จีบสีฟา้ เข้ากันกับผ้าพันคอสีฟา้ ใน ขณะทีน่ สิ ติ ชายใส่ชดุ ราชปะแตน มี แผงคอเสือ้ เป็นสีฟา้ ทีพ่ เิ ศษคือท่าน คณบดี จะแจกเข็มเครื่องหมายรูป ส�ำเภาสีฟ้า ซึ่งเป็นตราสัญลักษณ์ ของคณะพาณิชยศาสตร์และการ บัญชี ให้นิสิตใหม่ทุกคน


43


44


45


46

บรรยากาศ “พี่ ๆ รับน้องใหม่ Shi27”

ตอนที่น้อง ๆ เดินผ่านรุ่นพี่ จะ ถูกเขียนหน้านิดหน่อย ด้วยแป้ง ดินสอพอง มีการถามค�ำถาม ให้ ท�ำอะไรเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่นร้อง เพลง หรือ กระโดดโลดเต้นบ้าง ซึ่งเป็นการรับน้องที่อบอุ่นมาก เพราะเป็นเสมือนการท�ำความรูจ้ กั กันฉันท์พี่น้อง ท�ำให้เกิดความรู้สึก

ดี ๆ มั่นใจว่าเราจะอยู่ในคณะนี้ได้ อย่างมีความสุข เพราะมีพี่ ๆ คอย ช่วยเหลือและให้ก�ำลังใจเราตลอด เวลา เสร็จจากพิธีการ ฯ น้องใหม่ ทุกคนต่างก็ไปล้างหน้าล้างตา และ เข้าร่วมโต๊ะอาหารกับพี่ ๆ อย่าง เป็นกันเอง


47


48


49


50


51


52


53


54


55


56

พี่ ๆ ข2รับน้องใหม่ Shi27 ที่บางแสน


57

นอกจากการรับน้องใหม่ Shi27 ที่ คณะ ฯ แล้ว ยังมีการจัดรับน้องใหม่ แต่ละกลุม่ ต่างหากอีก ซึง่ พี่ ๆ แต่ละ กลุ่มจะก�ำหนดวัน เวลา และ สถาน ที่ ตามความสะดวก มักจะมีความ สนุกสนานครื้นเครงมากกว่าการจัด ที่คณะ ฯ ถือเป็นการท�ำความรู้จัก และคุ้นเคยกันให้มากขึ้นฉันท์พี่น้อง


58


59

ค�ำว่า Seniority เป็นสิ่งที่พวก เรายินดีและเต็มใจรับไว้ในใจของเรา การรับน้องใหม่เป็นการกระชับความ สัมพันธ์ระหว่างนิสติ ใหม่และนิสติ เก่า แม้พวกเราจะจากมหาวิทยาลัยและ แยกย้ายกันไปท�ำหน้าที่ของแต่ละ คนแล้ว แต่เมือ่ ไรทีเ่ ราต้องการความ ช่วยเหลือจากรุ่นพี่หรือรุ่นน้อง เรา มักได้รับการตอบรับที่อบอุ่นเสมือน วันรับน้องใหม่

ให้ข้อมูลโดย: ปวลี พรรณี เสาวนีย์ (อุณ)


60

กีฬาพาที Shi27


61

เป็นที่ทราบกันดีว่านิสิตน้อง ต้องท�ำให้เต็มที่ คือตะเบ็งเสียงให้ ใหม่ที่เข้า จุฬาฯ ในปี 2509 คณะ ดังที่สุด เพื่อข่มคู่ต่อสู้ พาณิชยศาสตร์และการบัญชี มี จ�ำนวนสูงสุดมากกว่า 360 คน (มี 8 คณะ ณ เวลานัน้ ) น้องใหม่คณะ บัญชีปนี นั้ มีนกั กีฬาทีส่ ร้างชือ่ เสียง ให้กบั คณะฯ ในการแข่งขันกีฬาน้อง ใหม่ กีฬาภายในระหว่างคณะ และ เป็นก�ำลังส�ำคัญให้กับจุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย ในกีฬามหาวิทยาลัย หลากหลายประเภทด้วยกัน ทั้ง กรีฑา ฟุตบอล รักบี้ฟุตบอล ว่าย น�้ำ โปโลน�้ำ บาสเกตบอล กีฬาใน ร่ม ฯลฯ แต่กอ่ นทีจ่ ะเข้าสูเ่ รือ่ งกีฬา คงต้องกล่าวถึงเรื่องกองเชียร์ก่อน เพราะเป็นสิง่ ควบคูไ่ ปด้วยกัน โดย เฉพาะน้องใหม่ทกุ คนต่างก็ประจักษ์ แจ้งแก่ใจว่า การเชียร์สำ� คัญอย่างไร นอกเหนือจากการเรียนแล้ว ผูท้ ไี่ ม่ใช่ นักกีฬา (ซึง่ เป็นส่วนใหญ่ของนิสติ ) จะใช้เวลาทีเ่ หลือเกือบทัง้ หมดไปกับ การประชุมเชียร์ และการเชียร์จริง ๆ จัง ๆ พวกเราต่างก็ตระหนัก ว่ามันเป็นหน้าที่ของน้องใหม่ที่จะ ต้องเข้าร่วมประชุมเชียร์ เพื่อซ้อม ร้องเพลงเชียร์ อย่างไม่ควรบิดพลิว้ และเมื่อถึงเวลาเชียร์ พวกเราก็จะ


62


63


64

ฟุตบอลประเพณี จุฬา-ธรรมศาสตร์ กีฬาใหญ่ ๆ ที่พวกเราได้แสดง ศักยภาพ นอกเหนือจากกีฬาทีแ่ ข่ง กันในมหาวิทยาลัยแล้ว เรายังมี ฟุตบอลประเพณี จุฬา-ธรรมศาสตร์ ซึ่งแข่งกันมาช้านาน และเป็น ประเพณีที่พวกเราตื่นเต้นกันมาก ในแต่ละปี ทีมงาน (รุ่นพี่) จะมีการ ออกแบบเสื้อเชียร์ และกองเชียร์ รวมทั้งการแปรอักษร ที่อลังการ มาก ๆ ในขณะที่ผลการแข่งกีฬา นี้ ดูจะเป็นเรือ่ งไม่สำ� คัญนัก เพราะ เป็นเสมือนกีฬากระชับมิตร แต่กอง เชียร์กลับมีการแข่งขันกันอย่างดุ เดือดกว่า ว่าใครจะท�ำได้เด่นและ

สวยกว่ากัน พวกเราน้องใหม่ก็ ท�ำหน้าที่ประชาสัมพันธ์กันตั้งแต่ เช้าของวันแข่งขัน โดยจัดหารถ และตะลอนไปทั่วกรุงเทพ ฯ และ ปริมณฑล โดยใส่เสื้อเชียร์ของปี นั้น เพื่อให้ผู้คนทั้งหลายไม่ลืมวัน ส�ำคัญวันนี้ เพื่อให้เขาทั้งหลายได้ จับตา มองดูกองเชียร์ของพวกเรา เมื่อลงสนาม พูดง่าย ๆ คือหาพวก และอยากได้กำ� ลังใจจากผูช้ มให้ได้ มากที่สุด


65

ฟุตบอลประเพณี จุฬา-ธรรมศาสตร์


66

สาว-หนุ่ม Shi27 ต่างมุ่งมั่นทำ�หน้าที่อย่างเข้มแข็ง


67

ตระเวนทั่วกรุงตั้งแต่เช้า โดยพาหนะหลากหลาย ตอยู่ในชุดเตรียมพร้อม ตั้งแถวเตรียมเดินไปสนามกีฬา ฯ


68

กีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 5 ในปี 2509 พระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยูห่ วั ฯ เสด็จพระราชด�ำเนิน ไปเป็นองค์ประธานในพิธีเปิดการ แข่งขันกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ พร้อม สมเด็จพระบรมราชินีนาถ ฯ และ พระเจ้าลูกเธอ ทัง้ สามพระองค์ นับ เป็นโชคดีของพวกเราในฐานะเป็น น้องใหม่จฬุ า ทีไ่ ด้รบั เสด็จ ฯ อีกครัง้ หนึ่งในโอกาสนี้ ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ ประเทศไทยได้เป็นเจ้าภาพการจัด แข่งกีฬาเอเชีย่ นเกมส์ และแน่นอน ว่า กิตติศัพท์ของพวกเรานั้นเป็นที่ รับรู้กันทั่วไป ดังนั้น พวกเราจึงได้ ใส่เสื้อเชียร์กีฬาเอเชี่ยนเกมส์ เข้า

ร่วมเดินขบวนในสนามกีฬา และ แปรอักษรด้วย ช่างเป็นเกียรติ จริง ๆ เพราะพวกเราถือได้ว่าเป็น ตัวแทนของประเทศไทยเลยทีเดียว


69


70

นอกจากพวกเราจะได้ใส่เสื้อ เชียร์กฬี าเอเชีย่ นเกมส์ เข้าร่วมเดิน ขบวนและแปรอักษรแล้ว เพื่อน Shi27 ของเราคนหนึง่ คือ ตุม้ (มณฑิ นี) ยังได้รบั คัดเลือกให้เป็นหนึง่ ในผู้ ถือป้ายประเทศ เช่นเดียวกับสาว งามอีกหลายคน โดยตุ้ม ถือป้าย ประเทศจีน


71

บรรยากาศ


72

ในส่วนกีฬามหาวิทยาลัยนั้น เนือ่ งจากมีหลากหลายมาก เพราะ มีกฬี าหลายประเภท จึงน�ำมาลงไว้ เฉพาะเรือ่ งทีม่ ปี ระเด็นน่าสนใจ หรือ เป็นเรือ่ งไม่ธรรมดา ซึง่ เนือ้ เรือ่ งใน ส่วนนี้ ได้มาจากเพือ่ น ๆ หลายคน ที่ ช่วยกันรือ้ ฟืน้ ความทรงจ�ำ ถ่ายทอด

ประสบการณ์ เกียรติประวัติ และ เรือ่ งราวของเพือ่ นนักกีฬา ทัง้ ในแง่ ประสบการณ์ตรง และในฐานะกอง เชียร์/ผู้ชม ซึ่งได้น�ำเนื้อหามาลงไว้ ตามต้นฉบับ


73

แต่ก่อนที่จะไปถึงส่วนนั้น มี เรื่องหนึ่งที่น่าจะต้องกล่าวถึง เกียรติประวัติของนักกีฬา Shi27 ที่มาจากความทรงจ�ำจากเพื่อน CU09 คณะรัฐศาสตร์ (คุณเสถียร) ดังนี้:

บัญชี มีชอื่ คมจักร ศักดิศ์ รี หล่อ หุ่นดี เป็นนักรักบี้ที่เก่งมาก เคยมี การแข่งรักบีจ้ ฬุ าฯ กับมหาวิทยาลัย โตเกียว ญี่ปุ่นแข็งแรงมาก ตัวกลม ล�่ำอย่างกับลูกโบว์ลิ่ง วิ่งเร็วหลอก ล่ออย่างลิง นักดูรกั บีท้ งั้ หลายบอก


74

ว่าดูแบบไม่ตอ้ งลุน้ เพราะญีป่ นุ่ วาง ทรัยเอาวางเอา ราวสัก 40 กว่าจุด จุฬายัง 0 แต่ไม่วา่ คนเล่นหรือคนดู จะถอดใจอย่างไร กองเชียร์ยังคง ท�ำหน้าที่อย่างสม�่ำเสมอ (เพราะ กองเชียร์ไม่มีทางแพ้....) มาได้ลูก โทษญี่ปุ่นหนเดียว ตั้งเตะไกลลิบ โลก คมจักรเป็นผู้เตะเปลี่ยน ตูม

เดียวลูกลอยพุ่งเข้าหาประตูข้าม คานเข้าช่องกลางไปอย่างสวยงาม กองเชียร์จุฬาฯ กรี๊ดลั่นสนาม ..ไข่ แตกแล้ว แม้แต้มจะแพ้หลุดลุย่ ไม่มี หูรูดก็ตาม ...

ให้ข้อมูลโดย: นงนุช บัณฑิต ภรณี เสาวนีย์


75

กรีฑา ฉัน (ลัย) เป็นนักวิ่งในทีมวิ่ง ผลัด 4 คนในกีฬาน้องใหม่ มีอี๊ด เป็นหัวหน้าทีม อัมพร วิมตุ ิ ลัย การ ฝึกซ้อมก็ไปวิ่งตอนเย็นรอบสนาม ฟุตบอลของมหาวิทยาลัย ซื่งเป็น ที่ฝึกซ้อมกีฬาประเภทต่างๆ ต่าง กลุม่ กีฬาก็ซอ้ มกันไป นักวิง่ ได้วงิ่ ผ่าน กลุม่ เหล่านี้ เห็นการซ้อมทีน่ า่ สนใจ

หลายแบบอย่าง เวลาวิง่ ผ่านเพือ่ น ที่รู้จัก ก็มีเสียงเชียร์หรือล้อเล่นให้ รู้สึกสนุก ในกลุ่มของเรา อี๊ดวิ่งเร็ว มาก และเป็นแรงดันส�ำคัญทีท่ ำ� ให้ พวกเราได้ชนะเลิศ


76

นอกจากการวิง่ เร็วแล้ว ฉันเป็น นักกระโดดข้ามไม้ด้วย พี่ประสงค์ เป็นคนฝึก การกระโดดข้ามไม้สมัย นั้น ฉันต้องยืนในจุดหนึ่งที่ก�ำหนด ห่างออกมา และวิง่ เร็วกระโดดข้าม ไม้กนั้ โดยไม่ให้ตวั ถูกไม้เลย ฝัง่ ตรง ข้ามเป็นดินนุ่มผสมกองทราย ซึ่ง เวลากระโดดลงไปก็พอเจ็บตัวนิด หน่อย สมัยนีจ้ ะใช้เบาะรองอีกข้าง เหตุที่ต้องเจ็บตัวนิดหน่อย ฉันเลย ไม่ชอบกีฬานี้มาก แต่วันแข่งฉัน ได้ที่ 3 ได้เหรียญทองแดงมาให้ชื่น ใจ ด้วยความประหลาดใจของตัว เอง จ�ำได้ว่าวิ่งข้ามไม้สูงราว 1.10 เมตรในขณะทีต่ วั เองสูง1.60 ม. คาด ว่าสมัยนั้นนักกีฬากระโดดข้ามไม้ ขาไม่ยาวมาก ไม่เหมือนเด็กสมัยนี้

แอ๊ (ภรณี) เป็นนักแข่งกรีฑาอีก คนหนึ่งที่มีประสบการณ์แตกต่าง จากนักกีฬาอีกหลาย ๆ คน ซึ่งแอ๊ ได้เล่าเรื่องของตนเองดังต่อไปนี้: เรื่องการเป็นนักกีฬากระโดด ไกลจ�ำเป็นของเรา ซึ่งจ�ำไม่ได้ว่า ใครหนอช่างเลือก เรา และ ต้อย (สราญตา) อาจ เพราะตัวใหญ่ทงั้ คูม่ งั้ เลยเอาไปเป็น นักกีฬากระโดดไกลของคณะ ทั้ง ทีท่ งั้ คูไ่ ม่เคยเล่นกีฬาชนิดนีม้ าก่อน แถมมาซ้อมก่อนแข่งแป๊บเดียว เสือ้ กีฬาก็คบั ติว้ จนซอกแขนระบมและ แสบมาก แต่ก็ยังอุตส่าห์ฟลุ๊กได้ที่ 3 ... เพราะมีแค่ 8 คณะ เราดูรูป ครั้งใด ก็ท�ำให้นึกถึงต้อยเพื่อนเรา ทีจ่ ากไปเร็วมาก เราคิดถึงต้อยนะ

ให้ข้อมูลโดย: ภรณี


77

กีฬายิงปืน เริ่มเล่นตอนอยู่ปี 2 โดยการ ชวนของพีห่ วู (สารศักดิ)์ พีห่ วูรจู้ กั นายต�ำรวจทีเ่ ป็นเลขาธิการสมาคม ยิงปืนทีห่ วั หมาก สามารถเข้าไปยิง ปืนทีน่ นั่ ได้ ก็ชวนจัน่ ตุ๊ ต้อย ไปกัน ตุเ๊ ป็นคนยิงปืนสัน้ ได้ดี ส่วนจัน่ และ ต้อยก็แค่ยิงแบบเฮฮามาตลอด ไม่ ได้เก่งอะไรเลย จั่นยิงปืนยาว

ยาวเลย มาขออยู่หลายหนจน จั่นยอมเข้าแข่ง วันทีแ่ ข่งเป็นวันที่ 25 ธันวาคม

วันที่ 24 เพื่อนๆ โรงเรียนเก่า (รร.วัฒนา) ชวนให้ไปออกร้องเพลง Serenade ตามทีเ่ คยไปกันมาแทบ ทุกปี จัน่ ก็ไปกับเค้าด้วย ตะเวน เล่นมาเรือ่ ยๆจนถึงปี 4 รุน่ น้อง ร้องเพลงกันไปทั้งคืน พอเช้าก็ไป ชื่อนพพร มาขอให้จั่นช่วยลงแข่ง เข้าโบสถ์จนสว่าง ในนามคณะ เพราะไม่มใี ครเล่นปืน


78

เสร็จจากโบสถ์ ก็ตรงไปสนาม แข่งขันยิงปืนเลย ความทีไ่ ม่ได้นอน ทัง้ คืน ท�ำให้ประสาทแข็งค้าง ตาค้าง มือค้างไปหมด เลยนิง่ มากๆ ยิงเข้า เป้าเยีย่ มยอด ได้สกอร์สงู สุดแบบไม่ เคยมาก่อน แชมป์ยงิ ปืนยาว สจม.

จึงตกเป็นของจัน่ อย่างงงๆ ถูกส่งตัว ไปเข้าชิงชัยในกีฬามหาวิทยาลัย (ตอนนั้นมีอยู่แค่ 5 มหาวิทยาลัย) ก็อย่างที่บอกแต่แรกว่า จั่นไม่ได้มี ฝีมือเลย แค่สนุกๆไปเท่านั้น ผล ที่ได้คือแพ้แบบไม่เห็นฝุ่น

ให้ข้อมูลโดย: สุนทรียา


79

ฟุตบอลหญิง ลัย (ปรียา) พูดเรือ่ งกีฬาฟุตบอล หญิงว่า ปีนั้น พี่ป๊อด (สรรเสริญ) นักฟุตบอล อยากตัง้ ทีมฟุตบอลหญิง เป็นครัง้ แรกของคณะ ฯ ได้มาชวน พวกเราเล่น ผูเ้ ล่นเท่าทีจ่ ำ� ได้มี เป้า (สุรีย์) น้า (ศิริพร) ต้อย (สราญ ตา) จั่น (สุนทรียา) หมู(พัชรี) ลัย (ปรียา) พีป่ อ๊ ดพยายามสอนกฎการ เล่นและฝึกพวกเราด้วยความอดทน พวกเราได้แข่งกับทีมรัฐศาสตร์ ซึ่ง วันนัน้ มีเพือ่ นและรุน่ พีไ่ ปเชียร์มาก

การมาเชียร์เป็นเรือ่ งสนุกมากกว่าดู พวกเราเล่นจริงจัง ฉันเล่นด้วยไม่ นานก็เลิก แต่มีหลายคนที่เล่นต่อ เช่นเป้า จัน่ ต้อย.. จ�ำไว้อย่างภูมใิ จ ว่าได้เป็นคนหนึง่ ในทีมฟุตบอลหญิง ทีมแรกของคณะ เป้า ไม่อยากพูดอะไรมากเกีย่ ว กับเรือ่ งนี้ ขอส่งรูปมาให้ดู 2 รูป ซึง่ เป๋อ (พรทิพย์) เป็นผู้บรรยายภาพ


80

ปี 2509 มีการเตะบอลหญิงไม่แน่ใจว่าระหว่างคณะครุศาสตร์ หรือรุ่นพี่บัญชี กับปีหนึ่งของพวกเรา คนเตะที่พอจำ�ได้มี สุรีย์ วิสุทธิ์ ศิริพร(พจนานนท์) สุนทรียา. ปีหนึ่งกำ�ลังถูกบุก!!! เป้าเจตนาส่งลูกให้ประตูเรารับ แต่รับไม่ได้ เลยกลายเป็นเตะเข้า ประตูตัวเอง(น่าจะเตะกับรุ่นพี่มากกว่าไม่เช่นนั้น ประธานเชียร์ ให้พวกเราซ้อมเชียร์มหาโหดไม่ได้กลับบ้านแน่นอน) ให้ข้อมูลโดย: สุรีย์


81


82

กีฬาว่ายน�ำ้ เรื่องมีอยู่ว่าผมไม่ถนัดในการ เข้าประชุมเชียร์ตอนเป็นน้องใหม่ จึงพยายามหลีกเลี่ยงที่จะต้องเข้า ประชุมเชียร์และร้องเพลงเชียร์ใน ตอนเย็น ทางเดียวที่จะได้รับการ ยกเว้นคือต้องเป็นนักกีฬา ผมสนใจ กีฬาอยู่สามประเภทคือ วิ่งระยะ

กลาง 800 หรือ 1,500 เมตร ซึ่ง ตอนเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยน ก็ เป็นตัวแทนทีมของโรงเรียนที่ไป เรียนชื่อ Bayless High School อีกประเภทหนึ่งคือ เล่นรักบี้ และ ประเภททีส่ ามคือ ว่ายน�ำ้ เรือ่ งทีน่ า่ สนใจคือ ตอนไปคัดตัวเป็นนักว่าย


83

น�ำ้ ของคณะ พีค่ นหนึง่ ตอนนัน้ เป็น senior ชือ่ พีส่ กุ รี คุม้ พันธ์ หลังจาก คัดตัวเสร็จ พี่สุกรีก็มาบอกผมว่า ลื้อว่ายน�้ำท่าลูกหมาตกน�้ำ อั๊วไม่ รับลือ้ เข้าทีมด้วยหรอก ลือ้ ต้องว่าย ท่าโอลิมปิค ก็รสู้ กึ งงๆว่า ว่ายน�ำ้ ท่า โอลิมปิคว่ายแบบไหนกัน เพราะผม เองก็ยงั ไม่ทราบว่ามีทา่ อืน่ นอกเหนือ จากท่าทีผ่ มว่ายอีก เพราะตอนเริม่ หัดว่ายน�้ำใหม่ๆ ก็เริ่มหัดด้วยวิธีนี้ เมื่อได้ยินพี่สุกรีพูดเช่นนั้น ก็รู้สึก โกรธท�ำนองว่าพี่สุกรีท�ำไมมาดูถูก

เรา เพราะตอนที่ว่ายแข่งเล่นๆกับ ฝรัง่ ก็วา่ ยท่านีแ้ หละและก็ชนะด้วย ทัง้ ๆทีโ่ กรธ แต่อกี ใจหนึง่ ก็กลับ คิดว่า ก็อยากจะรูว้ า่ ท่าโอลิมปิคมัน ว่ายแบบไหนกัน ถ้าว่ายท่าลูกหมา ตกน�้ำได้และยังว่ายท่าโอลิมปิคได้ ด้วย ก็จะยิ่งดี เลยขอให้พี่เขาสอน ท่าโอลิมปิค พี่สุกรีก็สอนว่ายท่า โอลิมปิค ต้องว่ายแบบนี้ ขาสอง ข้างเกือบจะเหยียดตรง ห้ามงอเข่า ใช้ปลายเท้าในการขับเคลื่อนตัว ไปข้างหน้า ล�ำตัวเกือบตรงท�ำมุม


84

ประมาณ 15 องศากับแนวระนาบ ฝึกหายใจด้วยปาก การใช้แขนใน การขับเคลื่อนตัวไปข้างหน้า ให้ สัมพันธ์กบั การพลิกตัว แน่นอนการ เปลี่ยนการว่ายน�้ำจากท่าลูกหมา ตกน�้ำมาเป็นท่าโอลิมปิคนั้นฝืนทั้ง ความรู้สึกและกล้ามเนื้อ การจะ เปลีย่ นได้ตอ้ งมีจติ ใจทีเ่ ข้มแข็งและมี วิสยั ทัศน์ กล่าวคือ ต้องขจัดวิธกี าร ว่ายน�้ำแบบเก่าๆที่เคยชิน และจะ ต้องเห็นประโยชน์ของอนาคตใน การว่ายน�้ำแบบท่าโอลิมปิค และ คิดว่าถ้ารุน่ พีท่ ำ� ได้เราก็นา่ จะท�ำได้ กว่าจะเปลี่ยนจากท่าลูกหมาตก น�้ำ มาเป็นท่าโอลิมปิคได้ ต้องใช้ เวลาฝึกฝนอยู่เป็นเดือน แน่นอน เมื่อเปลี่ยนแปลงได้ เท่ากับท�ำให้ มาตรฐานในการว่ายน�้ำของเรา เองก็ดีขึ้นอย่างมากมายในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นความเร็ว ไม่ว่าจะเป็น ความสนุกสนานในการว่าย ไม่ว่า จะเป็นความท้าทายในการท�ำลาย สถิติตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นการสร้าง กล้ามเนื้อที่สมส่วนและแข็งแรง นับว่าเป็นประโยชน์ทั้งนั้น แทบ จะหาโทษไม่ได้เลย เมื่อเวลาผ่าน มาจนถึงปัจจุบนั ยังคงนึกถึงค�ำพูด ทีพ่ สี่ กุ รีพดู แบบจริงจังได้เป็นอย่าง

ดี และเอาข้อคิดที่ได้รับนี้ไปสอน นักเรียนนักศึกษา ในเชิงเปรียบ เทียบของการเรียนการสอนภาษา อังกฤษ ต้องเรียนภาษาอังกฤษ แบบโอลิมปิคคือ ให้ฝึกทักษะการ อ่านภาษาอังกฤษให้ถูกต้องตั้งแต่ ต้น และสามารถเอาไปฝึกอ่านได้ ทุกวันอย่างสนุกสนาน และท�ำให้ สติปัญญาแข็งแรงด้วยอีกต่างหาก การฝึกการอ่านภาษาอังกฤษที่ถูก ต้องคือ ต้องอ่านโดยห้ามแปลเป็น ไทยเด็ดขาด ให้ใช้การถอดรหัสความ หมายเอาเอง ด้วยการคาดเดา คิด วิเคราะห์ ใช้เหตุผล ตลอดจนตรรก ใช้สามัญส�ำนึกจากสิ่งแวดล้อม จะ ท�ำได้อย่างนี้ ต้องเริ่มจากการอ่าน หนังสือส�ำหรับฝึกให้เด็กเล็กๆอ่าน คือมีภาพประกอบเยอะ ตัวหนังสือ น้อยๆ เดาได้ง่ายๆ แล้วค่อยเพิ่ม ความยากไป แล้วแต่ความสามารถ ของแต่ละคน หรือฝึกการถอดรหัส จากการร้องเพลงไปด้วย ก็จะสนุก ไปอีกแบบหนึง่ แต่ตอ้ งไม่แปลเป็น ไทยเด็ดขาด เพราะการเรียนภาษา ต่างประเทศ ไม่วา่ ภาษาใด ถ้าเริม่ ต้น ด้วยการท่องศัพท์และแปลศัพท์ ก็จะ ท�ำให้การเรียนภาษาต่างประเทศทุก ภาษาล้มเหลวโดยสิน้ เชิง เพราะขาด


85

องค์ประกอบทีส่ ำ� คัญในการใช้สมอง คือการถอดรหัสหรือแปลงสัญญาณ เป็นความหมายนั่นเอง ขบวนการ เรียนภาษาด้วยการไม่แปล แต่ใช้ ขบวนการถอดรหัส เปรียบเทียบ ได้กับการเรียนภาษาต่างประเทศ แบบท่าโอลิมปิค แต่ถ้าเรียนภาษา ต่างประเทศแบบท่องศัพท์แปล ศัพท์ ดูเหมือนดี ถูกต้อง และง่าย แต่ในความเป็นจริงแล้ว การเรียน ภาษาด้วยวิธีนี้ล้มเหลวโดยสิ้นเชิง เปรียบวิธีการเรียนภาษาด้วยวิธีนี้

ว่า เป็นการเรียนภาษาแบบท่าลูก หมาตกน�้ำ ก็จะเป็นการสื่อที่ใกล้ เคียงที่สุด นี่คือความทรงจ�ำตั้งแต่ สมัยเป็นน้องใหม่ ในปี 2509 และ ยังคงน�ำมาประยุกต์ใช้ในชีวติ ประจ�ำ วัน ตราบจนถึงวันนี้ คือจะท�ำอะไร ต้องเริ่มด้วยวิธีที่ถูกต้องและเป็น สากล จึงจะมีประสิทธิภาพ ต้อง ขอขอบคุณรุน่ พีท่ ชี่ อื่ สุกรี คุม้ พันธ์ เป็นอย่างมากครับ ทีท่ ำ� ให้การเล่น กีฬาว่ายน�้ำของผมมีความสุข และ ประสบความส�ำเร็จ เป็นอย่างดี


86

ทัศนศึกษา


87

เมือ่ พวกเราจ�ำนวนกว่า 300 คน ผ่านรัว้ จามจุรเี ข้ามาอยูใ่ นคณะบัญชี ของเรา แม้ได้ทำ� ความรูจ้ กั กันแล้ว แต่ยังไม่ค่อยสนิทสนมกัน ดังนั้น การพาพวกเราไปทัศนศึกษา ก็คง มีเป้าหมายให้ทำ� ความรูจ้ กั กันมาก ขึ้น ผ่านบรรยากาศการท่องเที่ยว คณะฯ จัดให้นสิ ติ ไปทัศนศึกษา ต่างจังหวัดทุกปี นอกจากจะมีเป้า หมายให้พวกเราท�ำความรูจ้ กั คุน้ เคย กันมากขึ้นแล้ว คงต้องการให้พวก เราได้เรียนรูส้ งิ่ ใหม่ๆ และเปิดหูเปิด ตากับสิง่ รอบตัวนอกจากต�ำราเรียน โดยเฉพาะความเป็นอยูข่ องผูค้ นใน แต่ละท้องถิ่นที่มีความแตกต่างกัน ท�ำให้พวกเรารู้สึกรักเมืองไทยมาก ขึ้น และมีความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น ซึง่ จะเป็นประโยชน์หลังจากพวกเรา จบการศึกษา ทั้งยังได้รู้จักกับรุ่น พี่ ๆ ทีป่ ระสบความส�ำเร็จและออก ไปท�ำงานอยู่ต่างจังหวัด ได้ซาบซึ้ง ในความสัมพันธ์ฉันท์น้องพี่สีชมพู อันอาจเป็นแรงบันดาลใจให้พวก เราแยกย้ายกันไปท�ำงานในภูมภิ าค ต่าง ๆ เมื่อจบการศึกษาแล้ว

ในสมัยนั้น การท่องเที่ยวยัง ไม่ใช่เป็นเรื่องที่ง่ายและสะดวก สบายเหมือนสมัยนี้ การไปเที่ยว แต่ละครัง้ จึงเป็นเรื่องทีพ่ วกเราตืน่ เต้นและเฝ้าคอยให้มาถึงเร็ว ๆ ดัง นั้น นอกจากทัศนศึกษาที่คณะ ฯ จัดแล้ว เหล่านิสิตทั้งรุ่นพี่รุ่นน้อง แต่ละกลุ่ม จึงมีการจัดทัศนศึกษา กันเองอีกด้วย แต่เมือ่ เวลาผ่านไป กว่า 50 ปี ความทรงจ�ำบางส่วนได้ ขาดหายไปบ้าง ทางทีมงานจัดท�ำ อีบคุ๊ จึงขอน�ำเสนอเพียงข้อมูลและ เรื่องราวที่ประทับใจ ซึ่งเพื่อน ๆ ที่ ต้องการแชร์ความทรงจ�ำดี ๆ ช่วย กันส่งเข้ามา ณ ที่นี้


88

เที่ยววังตะไคร้

วังตะไคร้ เป็นทัศนศึกษาครั้ง หยี (พรรณี) เล่าวิธกี ารเล่นมอญ แรกที่คณะฯ จัดให้เฟรชชี่ ดังนั้น ซ่อนผ้าว่า พวกเราจะนัง่ เป็นวงกลม จึงถือเป็นทัศนศึกษาครั้งแรกของ แล้วจะมีคนหนึง่ ถือผ้าเช็ดหน้าเดิน พวกเราในฐานะน้องใหม่ Shi27 รอบวงโดยจะทิ้งผ้าไว้ข้างหลังคน ใดคนหนึ่งในวง ถ้าคนนั้นรู้ตัวก่อน คณะฯจัดให้ไปวังตะไคร้แบบ ก็จะคว้าผ้าเช็ดหน้าไล่ตีคนที่วาง ไปเช้าเย็นกลับ ด้วยรถบัสหลาย แล้วคนที่วางก็ต้องออกจากเกมส์ คัน คงมีเป้าหมายให้พวกเราซึง่ เพิง่ คนทีม่ ผี า้ ในมือก็จะเป็นคนครองผ้า จะเข้ามาเรียน ได้ทำ� ความรูจ้ กั กัน แล้วทิง้ ผ้าให้คนอืน่ ต่อไป แต่ถา้ คน ผ่านบรรยากาศของการท่องเที่ยว ทีว่ าง เดินครบรอบ กลับมาถึงคนที่ ได้พูดคุยกันทั้งในระหว่างเดินทาง มีผา้ เช็ดหน้าอยูข่ า้ งหลัง โดยคนนัน้ และเมื่อไปถึงที่หมายแล้ว ไม่รตู้ วั ว่าถูก(วาง)ซ่อนผ้าไว้ขา้ งหลัง ที่วังตะไคร้การท่องเที่ยวเป็น คนทีว่ างก็จะคว้าผ้าเช็ดหน้าไล่ตคี น แบบปล่อยตามสบาย ให้อิสระใน ที่ถูกวาง คนถูกวางก็ต้องออกจาก การทีจ่ ะท�ำอะไรก็ได้ ส�ำหรับกลุม่ เกมส์ แล้วคนวางผ้าเช็ดหน้าก็ยัง ของเราใช้เวลาไปเดินเล่น ต่อจาก คงเป็นเจ้าครองผ้าเช็ดหน้าต่อไป นัน้ ก็มาจับกลุม่ เล่นมอญซ่อนผ้า(คิด การละเล่นจะด�ำเนินไปจนเหลือ ย้อนกลับไปถึงครัง้ นัน้ เกมส์ของเรา สองคนสุดท้าย แล้วใครจะเป็นผู้ เป็นแค่มอญซ่อนผ้า เป็นการละเล่น ชนะโดยวิธีใด ก็ลืมไปแล้ว ใช้วิธี พื้นบ้าน ถ้าเล่าให้น้องๆรุ่นหลังๆ ปะโป้งหรือเปล่า ฟัง น้องอาจไม่รู้จักการเล่นแบบ การเล่นมอญซ่อนผ้าต้องร้อง นี้ หรือแม้แต่ชอื่ ก็อาจไม่เคยได้ยนิ ) เพลงประกอบการเล่นด้วย “มอญซ่อนผ้า ตุก๊ ตาอยูข่ า้ งหลัง ไว้โน่นไว้นี่ ฉันจะตีตูดเธอ”


89

สมัยนัน้ วัยรุน่ ยังไร้เดียงสามาก ท�ำได้ เพราะเรามีชอ่ งทางเปิดไว้ใน แม้จะอยู่มหาวิทยาลัยแล้ว การ Facebook แล้ว แสดงออกมักไม่มอี าการเสแสร้ง ดัง นัน้ เมือ่ จับกลุม่ ย่อยได้แล้ว ก็จะอยู่ ด้วยกันตลอด สีป่ ใี นรัว้ มหาวิทยาลัย และแม้แต่ละคนต้องแยกย้ายกันไป ตามครรลองชีวิตของตนเอง ก็ยัง เป็นเพื่อนซี้มาตลอดจนถึงปัจจุบัน นอกจากกลุ่ม ก4 แล้ว กลุ่ม อื่นๆก็มีการละเล่น ตามแต่จะหา อะไรมาเล่นกัน กลุ่ม ข4 มีความ คิดริเริม่ ดี ชวนพวกเพือ่ นๆมานัง่ ต่อ กัน แปรอักษรเป็น CU และพระ เกี้ยว แล้วถ่ายรูปเป็นที่ระลึกด้วย ความภาคภูมิใจ โลกเฟรชชี่ของพวกเราสดใส เพิง่ ผ่านชัน้ มัธยมมาใหม่ๆ เป็นโลกที่ รืน่ รมย์เหมือนโลกทัง้ ใบเป็นของเรา ความหลังทีว่ งั ตะไคร้ จดจ�ำอะไร ไม่ได้มากไปกว่านี้ อาจเป็นเพราะ เวลาที่ผ่านมาถึง 50 ปี ท�ำให้ความ ทรงจ�ำลางเลือนไป หรืออาจไม่มี กิจกรรมทีท่ ำ� ให้ตนื่ เต้นไปจากปกติ มากนัก เรา 2 คนจึงเล่าได้เพียงเท่า นี้ ถ้ามีเพือ่ นอยากต่อเติมเรือ่ งนีก้ ็ ให้ข้อมูลโดย : พรรณี ปวลี


90

เที่ยวเขาใหญ่

สมัยนัน้ มีวชิ าเลือกมาก และวิชา ที่โดดเด่นเป็น มิตร เพชรา คือวิชา โรงแรม เพราะใครเลือกวิชานีจ้ ะได้ ไปดูงานโรงแรมทีเ่ ขาใหญ่ และเมือ่ คณะจัด JUNIOR MEETING ทีเ่ ขา ใหญ่ พวกเราก็ได้ไปเที่ยวเขาใหญ่ ตามทีไ่ ด้มงุ่ หมายไว้ จ�ำได้วา่ พวกเรา สนใจเขาใหญ่มากกว่าเรือ่ งวิชาการ โรงแรมเสียอีก พวกเราสนุกกันมาก ได้ท่อง เที่ยวชมความงามของธรรมชาติ ถ่ายรูปกันหลายรูป และแน่นอนที่ ขาดไม่ได้คอื น�ำ้ ตกเหวสุวตั ซึง่ เป็น เสมือน land mark แห่งหนึ่งของ เขาใหญ่ ไม่วา่ จะเดินไปทางไหน ก็ มีแต่พวกเราทั้งนั้น

น�้ำตกเหวสุวัต


91

ที่เขาใหญ่ กลางคืนพวกเรา บางคนออกมานัง่ รถส่องสัตว์ รถนี้ เหมือนรถกระบะ ข้างหลังส�ำหรับ ให้ยืนมองหาสัตว์ที่ออกหากินใน ตอนกลางคืน ตอนหน้าบนหลังคา รถจะมีสปอร์ตไลท์ส่องไฟไปข้าง หน้า คนขับรถบอกว่าแถวนี้มีช้าง บ้าง เสือบ้าง ทีอ่ อกมาในตอนกลาง คืน จึงก�ำชับให้พวกเราอย่าส่งเสียง ดัง ประมาณว่าเราทัง้ นัง่ ทัง้ ยืนและ อดทนกับการรูดซิปปากสักครึ่งชั่ว ยาม จนแล้วจนรอดก็ไม่เห็นเสือ หรือช้างสักตัว เห็นแต่นางอายที่ กอดต้นไม้เป็นระยะๆ อย่างน้อย

เวลาแสงสปอร์ตไลท์ส่องไปปะทะ หน้า เธอก็จะอายม้วนหลบไปหลัง ต้นไม้ทันที

มีอยู่คราวหนึ่ง ตอนลงเขา รถ เกิดเพลาหัก ต้องซ่อมยาวแล้วพวก เราจะลงจากเขาได้ยงั ไง ฟ้าก็ชกั จะ มืดเอาๆ อาจารย์กท็ งิ้ เราไปแล้ว จ�ำ ได้วา่ พวกเราวิง่ กันพล่านอยากกลับ บ้าน กลัวไม่มีข้าวกิน ดีที่สุริยะไป ติดต่อพีไ่ พโรจน์ สุวรรณกร (พีก่ วาง) ซึ่งเป็นหัวหน้าวนอุทยานแห่งชาติ เขาใหญ่ในขณะนัน้ พีก่ วางเอารถ ทีก่ รมป่าไม้ใช้สอ่ งสัตว์ตอนกลางคืน มารับพวกเราลงไปพักทีบ่ า้ นเพือ่ น ทีส่ ดุ เราได้รจู้ กั สัตว์ชนิดหนึง่ ที่ ที่ปากช่อง ชื่อบ้านใหญ่เขาละ ชื่อว่านางอาย(หมีโคล่าไทยจ้า) ซึ่ง


92

เมื่อถึงบ้านที่ปากช่องแล้ว ก็ เกิดการจลาจลโกลาหลอีกครัง้ เมือ่ ทุกคนทั้งตื่นทั้งเต้น บ้างก็ขอเบอร์ โทรศัพท์ทางไกลเพื่อบอกที่บ้าน ว่า เย็นนี้จะยังไม่กลับบ้านนะ จะ กลับพรุ่งนี้ หน้าตาของแต่ละคน เครียดยิ่งนัก แต่หลังจากจบการ ชุลมุน คือที่บ้านรับทราบกันหมด แล้วก็หัวเราะกันสนุกสนาน ลืม เรื่องตื่นเต้นกันหมด จ�ำได้ว่าพวก หนุ่มๆ เสียสละนอนนอกบ้าน ให้ สาวๆนอนกันในห้อง


93

สาว ๆ ช่วยกันทำ�อหาร มีหนุ่งยืนให้กำ�ลังใจอยู่ข้าง ๆ


94

ซึง่ ก็นงั่ นอนรวมกันหลับไม่สนิท ครบคน ต้องแบ่งๆ กันกิน และมี หรอก ใจคิดถึงบ้าน ปัญหาเรือ่ งห้องน�ำ้ ต้องเข้าไปซ่อม ชักโครกหลายครัง้ จากทีเ่ ตรียมไว้ “บ้านใหญ่เขาละ “ คือบ้านที่ ส�ำหรับ17คน ต้องรองรับถึงเกือบ กลุ่มสถิติ 17 คน เตรียมไปพักต่อ ร้อย วุ่นกันแค่ไหนนึกเอา พวกเรา เมื่อลงจากเขาใหญ่ คืนนั้นกลุ่มเรา ไม่ได้นอนกันเลย แต่ดีใจที่ได้ช่วย ไปนัง่ กันใต้ตน้ ไม้นอกบ้าน เราแบ่ง เพือ่ นๆ แล้วทุกอย่างก็ผา่ นไปด้วยดี คนเป็นสามกลุม่ กลุม่ หนึง่ ให้ชว่ ยที่ จนส่งเพือ่ นกลับกรุงเทพ ยังประทับ บ้าน อีกสองกลุม่ นัง่ รถขนหมู เข้า ใจจ�ำได้ไม่ลืม เมืองไปโทรเลขและโทรศัพท์กลับ บ้าน และซือ้ อาหาร พีก่ วางกรุณา มีเรื่องเบื้องหลังรถเพลาขาด พาไปซื้อข้าวห่อที่ตลาดปากช่อง เชาวเลิศเล่าว่า คืนก่อนเกิดเหตุได้ กวาดซื้อมาหมดตลาด ยังได้มาไม่ เดินผ่านกลุม่ คนขับรถ เขาเมาแล้ว


95

พูดจาลองดีกับเจ้าพ่อเขาใหญ่ ได้ แต่นกึ ภาวนาในใจขออย่าให้เกิดเหตุ ร้ายแรงขึน้ เลย คืนนัน้ มีการเล่นรอบ กองไฟหน้าโรงแรม มีเพื่อนเราคน หนึ่งเล่นกีตาร์และร้องเพลงเพราะ มาก จนอาจารย์สมชาย ถามถึงว่า แต่งเพลงเองหรือ เพลงนัน้ คือเพลง สายทิพย์ และเพื่อนคนนั้นก็คือ โต นั่นเอง หลังจากไฟมอดแล้ว พวก เราก็เข้าห้องพัก ไม่มีไฟฟ้า กลาง คืนอยากเข้าห้องน�ำ้ ก็ไม่กล้า เพราะ เขาว่ากันว่าเห็นเสือมาเดินเล่นแถว นี้ เลยต้องอดทนจนถึงเช้า

“บ้านใหญ่เขาละ” เป็นบ้าน ของคุณตาสมบูรณ์วัลย์(แป๊ด) ชื่อ “ขุนวิจติ รพาหนการ” ชือ่ เดิม ใหญ่ ต�ำแหน่งสุดท้ายของท่านเป็นปลัด กระทรวงเกษตร ท่านได้ไปปลูกบ้าน และมีทที่ ำ� ไร่ทนี่ นั่ พวกญาติๆ จะไป กันวันหยุด ชื่อบ้าน “ บ้านใหญ่ เขาละ” เป็นเหมือนค�ำพูดหากมีคน ถามว่าบ้านใคร ก็บ้านใหญ่เขาละ ปัจจุบันบ้านหลังนี้ก็ยังมีอยู่

รวบรวมและเรียบเรียงโดย : นงนุช วัฒนะจรรยา


96

เที่ยวเขาใหญ่

จากเพื่อน ๆ ในไลน์ Shi27

หยี - สมัยนั้นมีวิชาเลือกมาก บ้านรับทราบกันหมดแล้วก็หวั เราะ และวิชาทีโ่ ดดเด่นเป็น มิตร เพชรา กันสนุกสนาน 555 คือวิชาโรงแรม เพราะใครเลือกวิชา หยี - จบตอนเทีย่ วเขาใหญ่ใคร นี้จะได้ไปดูงานโรงแรมที่เขาใหญ่ แต่เผอิญความอดทนถึงขีด พวก จ�ำอะไรได้ชว่ ยเล่าสูก่ นั ฟังบ้างนะจ๊ะ เราก็ได้เที่ยวเขาใหญ่ อิ๊ - ที่เขาใหญ่ วิชามิตรเพชรา เตา - จ�ำได้วา่ พวกเราสนใจเขา นี่แหละตื่นเต้นมาก พอกลับไม่ได้ ใหญ่มากกว่าเรือ่ งวิชาการโรงแรมนะ รถเพลาหัก อาจารย์กท็ งิ้ พวกเราไป แล้ว จ�ำได้วา่ พวกเราวิง่ กันพล่าน หยี - จ�ำได้ว่ามีครั้งหนึ่ง ไม่ อยากกลับบ้าน กลัวไม่มีข้าวกิน แน่ใจว่าเป็น trip นี้หรือไม่ ตอน สุริยะไปติดต่อพี่ไพโรจน์เอารถมา ลงเขา (อีกแล้ว) เพลาหักหรืออะไร รับพวกเราลงไปพักทีป่ ากช่อง รถที่ สักอย่าง รถต้องนอนหลับยาว แล้ว มารับน่ะเป็นรถขนสัตว์นะ ต้องยืน เราจะลงจากเขาได้ไง ท้องฟ้าก็ ไป ไปพักทีป่ ากช่องแล้วแต่ละคน ชักมืดเอาๆ สุดท้ายต้องขอแรงพี่ ก็โทรฯไปบ้าน บางคนส่งโทรเลขไป ไพโรจน์ ซึ่งเป็นหัวหน้าป่าไม้ที่เขา บ้านว่ายังกลับไม่ได้ ไปค้างบ้าน ใหญ่มาบรรทุกพวกเราลงเขามาอยู่ เพือ่ น ชือ่ บ้านใหญ่เขาละ เข้าใจว่า ทีบ่ า้ นเพือ่ นคนหนึง่ จากนัน้ ก็เกิด เป็นของสมบูรณ์วัลย์ 1 คืน แล้วก จลาจลคือทุกคนทัง้ เต้นทัง้ ตืน่ บ้างก็ ลับตอนเช้า ขอเบอร์โทรศัพท์ทางไกลเพือ่ บอกที่ บุญเสริม - ใช่จำ� ได้แล้วสนุกมาก บ้านว่าเย็นนีย้ งั ไม่กลับบ้านจะกลับ พรุ่งนี้ หน้าตาแต่ละคนเครียดยิ่ง ยืนบนรถขนสัตว์ลงเขามาตลอดทาง นัก แต่หลังจบการชุลมุน คือที่ และค้างบ้านแป๊ด


97

ธิดา - นึกถึงตอนนั้นแล้ว ตื่น เต้นกันมาก นัง่ รถขนสัตว์ลงมาตอน ดึก มานอนเบียดกันบ้านแป๊ด สนุก ดี ขอส่งรูปมาแชร์ด้วยนะจ๊ะ มีรูป น้อย(ธีรนารถ) ด้วย เห็นแล้วคิดถึง มากๆเลย Unknown - เมือ่ มีปญ ั หาเรือ่ ง รถ พวกเราก็นอนพัก บ้านใหญ่เขา ละ ซึ่งเป็นบ้านคุณตา อ.สมบูรณ์ วัลย์ หนึ่งคืน และกลับบ้านมารับ โทรเลข ทีต่ ามมาอีกวันหรือสองวัน ถ้าพี่กวางรู้คงไม่ต้องเหนื่อย ขับรถ ไปโทรเลข

นั้นคือสายทิพย์ และเพื่อนคนนั้น คือโตนั่นเอง หมู ชุมศรี – ส�ำหรับรถทีพ่ กี่ วาง (ไพโรจน์ สุวรรณกร)บรรทุกพวก เราคือรถกรมป่าไม้ใช้สอ่ งสัตว์ตอน กลางคืนค่ะ ไม่ใช่รถบรรทุกสัตว์คะ่ อิ๊ - เรื่องเขาใหญ่นี่ ยิ่งเล่ายิ่ง สนุกนะ มีเกร็ดเยอะเชียว ตอนที่ ไปค้างทีป่ ากช่องจ�ำได้วา่ พวกหนุม่ ๆ เสียสละนอนนอกบ้าน ให้สาวๆนอน กันในห้อง ซึง่ ก็นงั่ นอนรวมกันหลับ ไม่สนิทหรอก ใจคิดถึงบ้าน

เลิศ เดชา – เผอิญตอนนั้น เป๋อ - พี่กวางเสียชีวิตไปยี่สิบ พวกเราชาวสถิตินัด meeting ที่ ปีกว่าแล้ว บ้านใหญ่เขาละของคุณตาแป๊ด ใช่ เลิศ เดชา - มีเกร็ดจะเล่าเรื่อง เปล่าเอ่ยช่างประจวบเหมาะพอดี เบื้องหลังรถเพลาขาดให้ฟัง คืน พวกเราไม่ได้นอนกันเลยแต่ดีใจที่ ก่อนเกิดเหตุผมเดินผ่านกลุม่ คนขับ ได้ช่วยเพื่อนๆ เขาเมาแล้วพูดจาลองดีกบั เจ้าพ่อเขา หมู ชุมศรี - “บ้านใหญ่เขาละ” ใหญ่ ผมนึกในใจขอภาวนาขออย่า คือบ้านที่กลุ่มสถิติเตรียมไปพักต่อ ให้เกิดเหตุร้ายแรงเลยครับ เมื่อลงจากเขาใหญ่ คืนนั้นกลุ่มเรา คืนนัน้ มีการเล่นรอบกองไฟหน้า ไปนั่งกันใต้ต้นไม้นอกบ้าน พี่กวาง โรงแรมมีเพือ่ นเราคนหนึง่ เล่นกีตา้ ร์ กรุณาพาหนุม่ ๆไปซือ้ ข้าวห่อทีต่ ลาด และร้องเพลงเพราะมากจนอาจารย์ ปากช่อง กวาดซือ้ หมดตลาด ได้มา สมชายถามถึง ว่าแต่งเองหรือ เพลง ไม่ครบคน ต้องแบ่งๆกันกิน และมี


98

ปัญหาเรื่องห้องน�้ำ เราต้องเข้าไป ซ่อมชักโครกหลายครัง้ จากทีเ่ ตรียม ไว้สำ� หรับ17คน ต้องรองรับถึงเกือบ ร้อย วุ่นกันแค่ไหนนึกเอา แต่ทุก อย่างก็ผา่ นไปได้ดจี นส่งเพือ่ นกลับ กรุงเทพ ประทับใจไม่ลืม เลิศ เดชา - เราแบ่งคนเป็นสา มกลุม่ ๆหนึง่ ช่วยทีบ่ า้ นอีกสองกลุม่ นัง่ รถขนหมูเข้าเมืองไปโทรเลขและ โทรศัพท์บอกค้างบ้านเพื่อนต่ออีก วัน อีกกลุ่มไปสั่งข้าว หยี - camp fire ที่เขาใหญ่ หลังจากไฟมอดแล้ว พวกเราก็เข้า ห้องพัก ไม่มีไฟฟ้า กลางคืนอยาก เข้าห้องน�ำ้ ก็ไม่กล้า เพราะเขาว่ากัน ว่าเห็นเสือมาเดินเล่นแถวนี้ เลยต้อง อดทนจนถึงเช้า ถูกหลอกอีกแล้วซิ หยี - ทีเ่ ขาใหญ่ กลางคืนพวกเรา บางคนออกมานั่งรถส่องสัตว์ รถนี้ เหมือนรถกระบะข้างหลังส�ำหรับให้ ยืนมองหาสัตว์ทอี่ อกหากินในตอน กลางคืน ตอนหน้าบนหลังคารถจะมี

สปอร์ตไลท์สอ่ งไฟไปข้างหน้า คนขับ รถบอกว่าแถวนี้มีช้างบ้าง เสือบ้าง ทีอ่ อกมาในตอนกลางคืน โดยก�ำชับ ให้พวกเราอย่าส่งเสียงดัง ประมาณ ว่าเราทัง้ นัง่ ทัง้ ยืนและอดทนกับการ รูดซิปปากสักครึง่ ชัว่ ยามจนแล้วจน รอดก็ไม่เห็นเสือหรือช้างสักตัว เห็น แต่นางอายทีก่ อดต้นไม้เป็นระยะๆ อย่างน้อยทีส่ ดุ เราได้รจู้ กั สัตว์ชนิด หนึ่งที่ชื่อว่านางอาย(หมีโคล่าไทย จ้า) ซึง่ เวลาแสงสปอร์ตไลท์สอ่ งไป ปะทะหน้าเธอก็จะอายม้วนหลบไป หลังต้นไม้ แป๊ด - พาดพิงถึงบ้านทีป่ ากช่อง เป็นบ้านของคุณตาเรา “ขุนวิจิตร พาหนการ” ชื่อเดิม ใหญ่ ต�ำแหน่ง สุดท้ายของคุณตาเป็นปลัดกระทรวง เกษตร คุณตาไปปลูกบ้านและมีที่ ท�ำไร่ทนี่ นั่ จะไปกันวันหยุด ชือ่ บ้าน “ บ้านใหญ่เขาละ” เป็นเหมือนค�ำ พูดหากมีใครถามว่าบ้านใคร ก็บา้ น ใหญ่เขาละ พิกลุ จ�ำเก่งมากเลยแม้แต่ ชื่อบ้าน ปัจจุบันก็ยังอยู่จ้ะ รวบรวมโดย : นงนุช วัฒนะจรรยา


99


100

เที่ยวภูกระดึง พวกเราเดินทางไปภูกระดึง ตอนอยู่ปี 4 ในเดือน ตุลาคม 2512 เดินทางไปกันหลายคันรถ แวะค้างตามจังหวัดต่างๆหลายคืน ระหว่างการเดินทางพวกเราได้แวะ สถานทีท่ อ่ งเทีย่ ว และโบราณสถาน เช่น ไทรงาม อนุสาวรีย์ย่าโม และ ปราสาทหินพิมาย เป็นต้น


101

ในรถมีการร้องเพลงกันไปตลอด ทาง มีชายหนุม่ เอาเพลงลูกทุง่ ชาว บ้านๆทีไ่ ม่เคยได้ยนิ มาร้องกันเป็น ทีส่ นุกสนานขบขันกันมาก หัวเราะ กันไปตลอดทาง มีอยู่เพลงหนึ่ง มี เนื้อเพลงว่า “โอ้พระรามเดินดง เดินดง ก็ทรงโศกา แสนเป็นห่วง แสนเป็นห่วง สีดา โศกาอยู่ทุกคืน วัน ตั้งแต่ไปอยู่เมืองยักษ์ ลอบรัก กับทศกัณฐ์ ต่อไปนี้เขาคงจะลืม ฉัน ต่อไปนี้ เขาคงจะลืมฉัน สีดา นั้นทุกวันจะโรยรา สีดานั้น ทุกวัน จะโรยรา” แล้วเขาก็ตกี ลองหรือตี กระป๋องให้จังหวะไปด้วย

ช่วงนัน้ มีฝนตกเกือบทุกวัน การ เดินทางขึ้นภูจึงทุลักทุเลพอควร เนื่องจากต้องเดินขึ้นที่สูง และ เป็นทางดินโคลนทีล่ นื่ ต้องใช้ความ ระมัดระวังกันเต็มทีพ่ วกเราจ�ำเพลง ยอดฮิต ...เขาภูกระดึง เสน่ห์ตรึง ใจจริง....ได้ ใคร ๆ ก็อยากไป ชมความงามตามเนื้อเพลงกันทั้ง นั้น โดยเฉพาะ...สูงล�้ำดังค�้ำนภา สูงลิ่วทิวทัศน์ตื่นตา สวยกว่าเทวา สรรค์สร้าง...


102


103


104

ขอบันทึกชื่อผู้ที่พิชิตภูเป็นคน แรก ฝ่ายหญิงคือ เบญจวรรณ แสง สว่าง และฝ่ายชายคือสาธิต อัศนี ยานนท์(ซึง่ ขณะนีไ้ ด้จากพวกเราไป แล้ว) เมื่อถึงที่พักฝนยังตกตลอด เวลา เดินไปเที่ยวที่ไหนก็ตัวเปียก ตกเย็นพากันไปดูพระอาทิตย์ตกก็ เจอฝนอีก บางคนใช้วธิ นี งุ่ ผ้าขาวม้า แบกไม้ไผ่แขวนกางเกงให้แห้ง คืน นั้นบางคนเป็นตะคริวทั้งตัวดีว่าได้ น�้ำมันมวยของเพื่อนทาทั้งตัว

เช้ามืดวันรุ่งขึ้นพากันไปชม พระอาทิตย์ขนึ้ ทีจ่ ดุ ชมวิวทีห่ น้าผา ซึ่งเป็นชะง่อนหินยื่นออกไปใน อากาศ และผลัดกันถ่ายรูปกับวิวที่ สวยงามเป็นทีร่ ะลึก เดินเก็บดอกไม้ ดอก Azalea สีชมพู มาทัดหูกัน


105


106

อยู่บนภูกระดึง เรื่องอาบน�้ำ เป็นเรือ่ งใหญ่มาก และทรมานทีส่ ดุ เพราะอากาศหนาวจับใจน่าสงสาร พวกผูช้ ายต้องไปอาบน�ำ้ ทีล่ ำ� ธารที่ น�ำ้ เย็นเจีย๊ บ เวลาจะไปอาบน�ำ้ จึง ต้องหาพยานไปเป็นเพื่อนว่าวันนี้ ฉันอาบน�้ำแล้วนะ ที่นี่พวกเราได้ รูจ้ กั ตัวปลิงดูดเลือด ได้เข้าห้องน�ำ้ ที่ไม่มีหลังคาแถมยังมองหน้ากัน ได้ ช่างอบอุ่นแท้ อากาศข้างนอก หนาวอยู่แล้ว


107

แต่ใจเราหนาวกว่ากลัวเพื่อน เห็นอะไรๆของเรา ในเรือนนอน ชายตอนเช้ามืดอากาศจะหนาวมาก บางคนทนนอนหนาวไม่ไหวต้องตืน่ มานัง่ ตีไก่คอื นัง่ ยองๆ เอามือสอดใต้ ขาแล้วสั่นพับๆ จนเรือนนอนไหว ไปทั้งหลังเพื่อนคนอื่นจึงพลอยตื่น ไปด้วยเป็นอย่างนี้ทุกเช้ามืด


108


109

การตั้ง Camp Fire ในคืนหนึ่ง มีการทําBon Fire พวกเรานั่งกัน คล้ายๆเป็นสี่เหลี่ยม พอดึกขึ้นมี หมอกลงจัดมากจนหนาทึบ ทําให้ ดูแล้วเหมือนกับพวกเรานัง่ อยูร่ อบ ห้องสี่เหลี่ยม ตรงกลางมีไฟ มีการ เล่นเกมส์ ร้องเพลง และเต้นรํากัน ด้วย เต้นร�ำในสายหมอกกับเพลง “ When the girl in your arms “ กับเพื่อนสาวผู้น่ารัก อีกเพลงที่ ประทับใจและไพเราะมากคือเพลง Meditation เหมือนอยู่ในการเข้า ฌานของการท�ำวิปสั สนาท่ามกลาง ก้อนเมฆที่เคลื่อนผ่านไปช้าๆ ใน ค�ำ่ คืนนัน้ มีชายหนุม่ กลุม่ หนึง่ ได้แอบ ไปเอาเสี้อบราของคุณสุภาพสตรี ที่เอาไปผึ่งไว้ตามราวข้างห้องพัก แล้วเอามาใส่เต้นระบ�ำตามจังหวะ เพลง “Oh cherry นี้ เราเคยภิรมย์ สุขสันต์....” เป็นที่สนุกสนาน ยังมีเพลงสนุกๆ ทีพ่ วกเราร้อง กันอีก ทีร่ อ้ งสนุกสนานมากคือเพลง จดหมายจากเมียเช่า“...ไอเขียนเล็ต เตอร์ถงึ เธอเดียร์จอห์น จากแฟลตที่ ยูเคยนอนจังหวัดอุดรประเทศไทย แลนด์…”เรียกเสียงหัวเราะได้อย่าง ครืน้ เครงเพลง โยธิงโยธิงโยธิง เป็น เพลงที่พวกเราร้องกันตลอดการ เดินทาง

การเดินทางลงจากภูกระดึงใน วันสุดท้าย สภาพทางเดินลื่นมาก จากฝนตกจนทางเดินเป็นโคลน เปียกและยังมีกอ้ นหินตะปุม่ ตะป�ำ่ ทุกคนขาสั่นมากระวังตัวกันเต็มที่ แม้นจะมารอคิวห้องน�้ำ ก็หยุดรอ คิวไม่ได้ขายังสั่นต้องจองคิวแล้ว เดินไปมาบนพื้นราบสักพักจึงจะ หยุดนิง่ กับทีไ่ ด้ พวกทีล่ งไปได้กอ่ น อย่างปลอดภัย ก็ยนื หัวเราะเพือ่ นๆ ทีล่ นื่ ไถลกันลงมา พวกผูห้ ญิงโชคดี หน่อย มีหนุ่มๆอาสาสมัครช่วยถือ เสบียงอาหารให้มเี พือ่ นคนหนึง่ ตอน ลงเขาเดินสะดุดถูกคมของหินบาด เท้าเลือดไหลมากจนน่าตกใจ โชค ดีที่ได้เพื่อนชายเข้ามาช่วยเหลือ ประคองลงมาจนถึงข้างล่าง สรุปการเดินทางเที่ยวนี้ แม้น จะรูส้ กึ ทรมาน แต่กค็ มุ้ ค่ากับความ สวยสดงดงามของธรรมชาติที่เห็น ได้กระชับมิตรภาพระหว่างเพื่อน และยังประทับใจกับการต้อนรับ ของรุ่นพี่ เมื่อพวกเราเดินทางผ่าน จังหวัดต่างๆ ที่เลี้ยงดูพวกเราเป็น ร้อยๆ ขอขอบคุณไว้ ณ ที่นี้ด้วย พวกเราจะจดจ�ำไว้ไม่รู้ลืม


110

เที่ยวภูกระดึง

จากเพื่อน ๆ ในไลน์ Shi27 หยี -พูดถึงcamp fire ท�ำให้ นึกถึงกลุม่ ผูช้ ายทีแ่ อบไปเอาเสีอ้ บรา ของคุณสุภาพสตรีทเี่ อาไปผึง่ ไว้ราว ข้างห้องพัก แล้วเอามาใส่เต้นระบ�ำ ตามจังหวะเพลง “ Oh cherry นี้ เราเคยภิรมย์สขุ สันต์....”ใครเป็นคน แสดงคงจ�ำกันได้เองนะ งานนีเ้ รา ได้รจู้ กั ตัวปลิงดูดเลือด ได้เข้าห้องน�ำ้ ทีไ่ ม่มหี ลังคาแถมยังมองหน้ากันได้ ช่างอบอุน่ แท้ อากาศข้างนอกหนาว อยูแ่ ล้วแต่ใจเราหนาวกว่ากลัวเพือ่ น เห็นอะไรๆของเรา เจอฝนระหว่าง เดินไปดูพระอาทิตย์ตกจนต้องนุง่ ผ้า ขาวม้าแบกไม้ไผ่แขวนกางเกงให้แห้ง พวกพีๆ่ รุน่ ก่อนๆบอกว่างานนีถ้ า้ ไม่ รักกันมากขึ้นก็โกรธกันไปเลย ใคร จะรักจะโกรธกัน ถ้าอยากเล่าให้ เพือ่ นฟัง ก็ได้นะคะ ตอนนีค้ วามรัก ความโกรธมันเปลีย่ นเป็นมิตรภาพ ไปหมดแล้วใช่ไหมคะ

และที่มีพุงโย้เต้นได้สวยงามมาก เลยอาโกโก้ชิดซ้ายไปเลยค่ะ หยี-จ�ำชือ่ ไม่ได้ มันมืดเหมือนใน คลับเลยละ แต่แทนทีจ่ ะเป็นแสงไฟ เราแน่กว่าใช้แสงจันทร์และเปลว แสงของ campfire ระยิบระยับ ฮิฮิ เตา-สรุปใครเป็นคนเต้นแสดง คงต้องให้เพื่อนผู้ชายเฉลยจ้า แหลม-เตาถ้าจ�ำไม่ผิดคิดว่ามี โสภณ คนหนึ่งนะที่เต้นเพลงเชอรี่ พิ้งค์ โสconfirm หน่อยนะว่าใช่ หรือเปล่า จ�ำได้วา่ ผิวขาวจัว๊ ะเลย อิอิ เตา-นอกจากโสแล้ว พวกเรา มีใครรู้ไหมว่า พวกผู้ชายที่เต้นมี ใครอีกจ๊ะ

ปิ๊ด-เล่าเรื่องไป ภูกระดึงกันบ้างซิ ไปรถกันหลาย เตา-หยีเปิดเผยตัวคนเต้นมาเลย คันและค้างตามเมืองต่างๆหลาย คืนนะ ยังพอจําได้มั่ง เรานั่งรถ คัน หยี- เตาจ๊ะให้เจ้าตัวเปิดเผยตัว เดียวกับหยี พีส่ ุ เพราะมีรปู รูว้ า่ ร้อง เอง เพราะเราจ�ำได้ว่ามีทั้งผอมสูง เพลงสนุกมาก และเพือ่ นชายคือเป้


111

ธํารง ลาวัลยวัฒน์เอาเพลงลูกทุ่ง ชาวบ้านๆทีไ่ ม่เคยได้ยนิ มาร้องกัน เป็นทีส่ นุกขบขันมาก หัวเราะกันไป ตลอดทาง ขําๆ มีอยู่เพลงหนึ่งเป้ ร้องว่า “โอ้พระรามเดินดง เดิน ดง ก็ทรงโศกา แสนเป็นห่วง แสน เป็นห่วง สีดา โศกาอยู่ทุกคืนวัน ตั้งแต่ไปอยู่เมืองยักษ์ ลอบรักกับ ทศกัณฑ์ ต่อไปนี้เขาคงจะลืมฉัน ต่อไปนี้ เขาคงจะลืมฉัน สีดานั้น ทุกวันจะโรยรา สีดานั้น ทุกวันจะ โรยรา” มีใครจําได้บ้าง แล้ว เขาตีกลองหรือตีกระป๋องให้จงั หวะ ด้วยนะ Tripไปภูกระดึง รวมทุก คณะ ขึ้นภูกันสนุกมาก ทุกคนยัง แข็งแรงขึ้นสบายปรื๋อ ไม่มีปัญหา ที่ทรมานที่สุด คือเรื่องการอาบนํ้า นํ้าเย็นเจี๊ยบ เกิดมาไม่เคยอาบนํ้า เย็นอย่างนัน้ ไม่นา่ จะอาบเลย และ คืนนั้นมีการทํา Bon Fire พวกเรา นั่งกันคล้ายๆเป็น สี่เหลี่ยม พอดึก ขึ้นมีหมอกลงจัดมาก จนหนาทึบ ทําให้ดแู ล้วหมือนกับพวกเรานัง่ อยู่ รอบห้องสีเ่ หลีย่ ม ตรงกลางมีไฟ และ รู้สึกมีการเล่นเกมส์ และเต้นรํากัน ด้วย วันรุ่งขึ้นไปเดินเที่ยวกัน เก็บ ดอกไม้ ดอกAzalea สีชมพู มาทัด หูกนั และถ่ายรูปสวยงาม ไปนัง่ ชม

วิวที่หน้าผากัน จําได้ว่า ประทับ ใจมากกับการต้อนรับของรุ่นพี่ที่ เลี้ยงดูพวกเราเป็นร้อยๆ ประทับ ใจมาก ผ่านขอนแก่น จําได้คลับ คล้ายคลับคลาว่าข้ามไปลาวด้วย ช่วยเล่ากันหน่อย สนุกมาก เราก็ เลือกวิชาโรงแรมเหมือนกัน แต่ไม่ ได้ไปเขาใหญ่ เพราะต้องทํางาน หรืออะไรสักอย่าง โย-อีกเพลงนึงที่พระเป้(ธ�ำรง) ร้องสนุกสนานมากคือเพลงจดหมาย จากเมียเช่า..ไอเขียนเล็ตเตอร์ถงึ เธอ เดียร์จอนห์น จากแฟลตทีย่ เู คยนอน จังหวัดอุดรประเทศไทยแลนด์.....ซึง่ ภายหลังทราบว่าพระเป้มรณภาพ ไปนานหลายปีแล้ว ปีด๊ -โย เราจําทํานองเขาร้องได้ เลย เรียกเสียงหัวเราะ กันมากมาย โยไปรถคันเดียวกับเราหรือเปล่า พวกผู้ชายจะนั่งข้างหลังรถนะ แต่ เดินกันในรถเหมือนกันเวลาร้องเพลง โย -อีกเหตุการณ์ที่ส�ำคัญคือ การเดินทางลงจากภูกระดึงวัน สุดท้าย เพื่อนพรทิพย์(ซี่)ได้เล่า เรื่องอุบัติเหตุตอนลงเขาซึ่งสภาพ ทางเดินลื่นมากจากฝนตกจนทาง


112

เดินเป็นโคลนเปียกและยังมีก้อน หินตะปุ่มตะป�่ำ จนเดินสะดุดถูก คมของหินบาดเท้าเลือดไหลมาก จนน่าตกใจ ขณะนัน้ ทัง้ แพท(วิทยา) และสุริยะ ฉายเทพประสิทธิ์ได้เข้า มาช่วยเหลือประคองลงมาถึงข้าง ล่างและรู้สึกนึกถึงน�้ำใจเพื่อนที่ดี ทั้งสองมาจนถึงทุกวันนี้ โย- เมื่อวันที่จัดงานปีใหม่ยัง ได้บอกแพท ขอขอบคุณเรื่องใน อดีตอยากเลี้ยงขอบคุณอีกด้วย แต่แพทเพือ่ นผูม้ นี ำ�้ ใจงดงาม บอก ว่าไม่เป็นไรถือว่าเพือ่ นได้ทำ� หน้าที่ ด้วยความเต็มใจ ไม่ว่าใครที่เจอ เหตุการณ์เช่นนี้ก็ต้องช่วยเหลือ โดยไม่ทิ้งกันอยู่แล้ว

ซี-่ ขอบคุณนะโย ทีช่ ว่ ยเล่าเรือ่ ง ทีแ่ พทและสุรยิ ะช่วยกันหิว้ ปีกซีล่ ง จากภูกระดึง เหตุการณ์ครัง้ นัน้ เป็น ความทรงจ�ำ ที่ไม่มีอะไรจะมาลบ เลือนได้ วันนัน้ ฝนตก ขาลงลืน่ มาก พอลืน่ หกล้มก็ใช้เท้ายันกับก้อนหิน ก็ไม่รเู้ หมือนกันว่าก้อนหินก้อนนัน้ ท�ำไมมันคมมาก บาดใต้นวิ้ เท้ายาว จากนิ้วโป้งเกือบถึงนิ้วก้อย เลือด โชกเลยละ อาศัยบุญเก่ายังมี เลยมี อัศวินม้าขาวมาช่วยพยุงปีกลงมาถึง ข้างล่าง ตอนนัง่ รถไฟกลับบ้านเท้า บวมเป่งเลยเชียวละ ขอถือโอกาสนี้ ขอขอบคุณแพทอีกหลายๆครั้งนะ จ๊ะ ส่วนยะตอนเขาป่วยและขึ้นมา ที่กรุงเทพซี่ได้แวะไปหาเขาหลาย ครั้ง และได้ร่วมลงทุนกับยะตอนที่ เขาด�ำริที่จะท�ำกิจการด้วยจ้ะ

โย-ตอบปี๊ด นั่งคันเดียวกันอยู่ แถวหลังสุด ส่วนพระเป้ยนื ร้องเพลง ส�ำหรับแพท หนีบ้ ญ ุ คุณยังไม่มี ตลอดทางไม่ได้นั่งเลย 555 โอกาสได้ทดแทนเลยจ้ะ ขอบคุณ เป๋อ-ปิด๊ จ�ำเพลงโยทิงได้ไหม น่า หลายๆนะจ๊ะแพท จะพระเป้สอนให้ร้องบนภูกระดึง ปี๊ด-เป๋อ เออๆจ�ำได้วา่ ร้องและ พวกเราร้องกันตลอด เต้นโยทิงนะ มีการกระตุกสะโพก โยทิง โยทิง โยทิง รักกันอย่า ด้วย เพลง letterจากเมียเช่า คน ได้ระแวงท�ำไมแหนงหน่ายอย่าได้ เขียนมีอารมณ์ขนั เอามากๆเขาเอา หลายเพลงมารวมกัน มี เพลง Sad ระแวงเมื่อเรารักจริง movie ปนอยู่ด้วยนะ อธิบายถึง


113

ชาวบ้านยุคเมียเช่าแถวอิสาน แก้ ปัญหาชีวิตตอนนั้น แล้วจบด้วย tiger balm กับ DDT เราเพิง่ จะฟัง ก็ตอนไปภูกระดึงนัน่ แหละ แล้วก็ไม่ ได้รอ้ ง หรือฟังเพลงทีเ่ ป้รอ้ งอีกเลย

ปี๊ด-ใช่จริงๆด้วย มีอีก 2วรรค ค่ะ โยทิง โยทิง โยทิง รักจริงก็อย่า ระแวงค�ำชายหน่ายแหนงอย่าระแวง เมื่อเรารักกัน ฉันมาก็ด้วยใจรัก ฉันรักก็ด้วยใจจริง โย้นโย้น ฉัน มาด้วยความรักฉันรัก (เธอ) ด้วย เป๋อ - ค้นดู แล้วเจอเพลง โยทิง ใจจริง โยทิง โยทิง ----อย่างนี้ ใช่ เป็นเพลง สอนเด็กเล็กร้องเพลง : ไหมคะ คุณ มงคล เพลง โยทิง โยทิง โยทิง โยทิง รัก จริงก็อย่าระแวงค�ำชายหน่ายแหนง มงคล-ยังจ�ำได้วา่ ในเรือนนอน อย่าระแวงเมื่อเรารักกัน ฉันมาก็ ชายตอนเช้ามืด อากาศหนาวมาก ด้วยใจรัก ฉันรักก็ดว้ ยใจจริง โย้นโย้น มีเพือ่ นคนหนึง่ ทนนอนหนาวไม่ไหว ต้องตื่นมานั่งตีไก่คือนั่งยองๆ เอา ศรีสพุ ตั ร-ปึด้ สุดยอดส�ำหรับlet- มือสอดใต้ขาแล้วสัน่ พับๆ จนเรือน ter จากเมียเช่า เพิ่งได้ยินเป็นครั้ง นอนไหวไปทัง้ หลัง เพือ่ นคนอืน่ จึง แรกข�ำดีนะ พลอยตืน่ ไปด้วยเป็นอย่างนีท้ กุ เช้า ปิ๊ด-เพลง letter มืดใครคือเพื่อนคนนั้น จากเมียเช่าเขียนโดย อาจินต์ ปัญจ เรื่องอาบน�้ำถือเป็นเรื่องใหญ่ พรรค์ นักเขียนมีชื่อซึ่งแต่งเพลง บนภูกระดึงเพราะอากาศหนาว เป็นงานอดิเรก เมื่อมีสภาพสังคม มากพวกผู้ชายไปอาบน�้ำที่ล�ำธาร เข้ามากระทบใจ และมี แรงบันดาล ทีน่ ำ�้ เย็นเจีย๊ บเวลาจะไปอาบน�ำ้ จึง ใจ เขียนออกมาเป็นเพลง อาจินต์ ต้องหาพยานไปเป็นเพื่อนว่าวันนี้ เขียนเพลงนี้ในไน้ท์คลับ ฉันอาบน�้ำแล้วนะ มงคล-bit จ�ำได้ว่าเพลงโยทิง ตอนเต้นร�ำในสายหมอกกับ มีต่ออีกสองวรรค ว่า ฉันมาด้วย เพลง “ When the girl in your ความรัก ฉันรักเธอด้วยใจจริง โย arms “ กับเพื่อนสาวผู้น่ารักคือ ทิง โยทิง …. ความทรงจ�ำงดงามในหัวใจตราบ


114

จนทุกวันนี้ อีกเพลงที่ประทับใจ หญิงไม่ยอมนอนด้านทิศตะวันตก และไพเราะมากคือเพลงMedita- เพราะกลัวนอนบนทีน่ งั่ นางสะใบค่ะ tionเหมือนอยู่ในการเข้าฌานของ สุพรรณี- ขาขึ้นภูเราช่วยแจ๋ว การท�ำวิปสั สนาท่ามกลางก้อนเมฆ ที่เคลื่อนผ่านไปช้าๆในค�่ำคืนนั้น และดูแข็งแรงมาก พอถึงข้างบน ฝนตกตลอดเดินไปเที่ยวก็ตัวเปียก ปี๊ด-เล่าเก่งจัง สนุก ข�ำ แสน หยีถอดกางเกงเอาผ้าขนหนูพนั รอบ Moranticไม่ใช่ Romantic นะ เอ้ ตัว เอากางเกงแขวนไม้ไผ่ให้แห้ง าRomantic ก็ได้ เพือ่ นสาวทีน่ า่ รัก เราตัวโตท�ำไม่ได้ คืนนัน้ เป็นตะคริว นัน่ คือใคร 55 มีมากกว่าหนึง่ คนหรือ ทัง้ ตัวดีวา่ ได้นำ้� มันมวยของเพือ่ นทา เปล่า เวลาผ่านมานานแล้ว เกือบ ทั้งตัว และขาลงขาสั่นมาก เพื่อน 50 ปี มีใครเต้นร�ำบ้าง ทีน่ ่ารักบอกลากช้างมาด้วย1เชือก มงคล-ขอเก็บไว้เป็นความทรง ศรีสมร-เราจ�ำได้แต่ว่าทรมาน จ�ำที่งดงามในใจ คุม้ กับความสวยงาม จ�ำได้แต่ สมจิต วิง่ ขึน้ ลงเขา ใส่รองเท้าแตะยาง ลง ติ๊-จ�ำได้ว่าเดินลงจากภูกระดึง ไปยืนหัวเราะเพื่อนที่ไถลลื่นลงมา มารอคิวห้องน�้ำหยุดรอคิวไม่ได้ขา ยังสั่นต้องจองคิวแล้วเดินไปมาบน ติ-๊ พวกผูห้ ญิงโชคดีมหี นุม่ ๆอาสา พืน้ ราบสักพักจึงจะหยุดนิง่ กับทีไ่ ด้ สมัครช่วยถือเสบียงอาหารให้ ขา ลงลื่นล้มก้นกระแทกไข่(ดาวยาง เป๋อ-อยากให้ภญ ิ ญาเล่าบ้างเพ มะตูม)แตกแต่ถงุ ไม่ตกจึงยังทานได้ ราะภิญญาเป็นไข้ไม่ได้มาที่กองไฟ แต่ถงุ นีไ้ ม่มใี ครยอมทานต้องเจ้าตัว นอนซมในห้อง รุ่งขึ้น เค้าเล่ากัน ท�ำแตกทานเองเพราะนัง่ ทับเสียแบน ว่าภิญญาเห็นผู้หญิงห่มสะใบนั่ง อยู่ในห้องจริงเท็จให้ภิญญาตอบ เบญจวรรณ - จ�ำเพลงยอดฮิต ด้วยค่า เรานอนบนภูกี่คืน? จ�ำไม่ ...เขาภูกระดึง เสน่ห์ตรึงใจจริง.... ได้รู้แต่ว่าพอเค้าเล่าเรื่องภิญญา ผู้ ได้หรือเปล่า ใคร ๆ ก็อยากไปชม ความงามตามเนื้อเพลงกันทั้งนั้น


115

โดยเฉพาะ...สูงล�้ำดังค�้ำนภา สูง อีก เป็นอย่างนี้อยู่หลายครั้ง มีลม ลิ่วทิวทัศน์ตื่นตา สวยกว่าเทวา มาเมือ่ ไรก็เดินเร็วขึ้นทุกที สรรค์สร้าง... จนกระทัง่ ครัง้ สุดท้าย เห็นชาย ถึงตีนภูใจก็ไปถึงยอดเขาแล้ว หนุม่ คนหนึง่ นัง่ อยูค่ นเดียว ไม่แน่ใจ เดินกันมากลุ่มใหญ่ ถึงซ�ำแฮกคน ว่าเป็นสาธิตหรือเปล่า นัน่ แหละถึง นั่งกันเต็มไปหมด หมดแรงกันตรง แล้วหลังแป ใช้เวลาเดินประมาณ นี้ ฟังมาว่าเดินขึ้นเขาอย่าหยุดนั่ง สองชั่วโมงครึ่งกับระยะทาง 5 กิโล เส้นมันจะยึดแล้วจะเดินไม่ค่อยได้ มาคิดได้ทีหลังว่า ไม่ใช่เพราะ ให้จบิ น�ำ้ ทีละน้อย จึงไม่หยุดพักไม่ เราเก่ง แต่เป็นเพราะเด็กหญิง กินน�้ำตลอดทาง ลูกหาบคนนั้นท�ำให้เรามีความ จากซ�ำแฮกมา หวัง เดินเร็วขึ้นเพื่อจะรับลมเย็น ก็เดินสบาย ๆ เป็นป่าไผ่ ชื่อกก ๆ นั่นเอง ป่านนี้เธอคงเป็นลูกหาบ อะไรต่อมิอะไรหลายกก มาทันเด็ก เดินขึน้ ภูไม่ไหวแล้ว หรือยังเดินขึน้ สาว อ้อเด็กหญิงซิ ตอนนั้นเราเป็น เรือ่ ย ๆ ก็ไม่รู้ เธอหลอกสาวกรุงเทพ สาวนี่ ก็เดินมาพร้อมกัน คุยกันมา ( ฮ่าฮ่า ) ให้เดินเร็วถึงยอดภูเป็น เรือ่ ย ๆ เธอบอกว่า ถ้าจะถึงหลังแป คนแรก เธอคงหลอกไว้อีกหลาย ละก็ จะมีลมเย็น ๆ พัดมาโดนหน้า คน ต้องยกชัยชนะนี้ให้เธอ คิดถึง เราแล้วจะสดชื่นมาก เธอแบกของ เธอนะแม่ลูกหาบตัวน้อย หนักเราเดินสบาย ๆ ก็แซงหน้าเธอ มา อยากรูว้ า่ ลมเย็น ๆทีจ่ ะมาปะทะ หน้าให้สดชื่นน่ะ มันเป็นอย่างไร เดินลับเหลี่ยมหิน มีลมเย็น ๆ พัดมาโดนหน้า ใช่แล้วหลังแป รีบ เดินใหญ่ อ้าว ไม่ใช่ผิดหวังเล็ก ๆ เดินไปอีกก็มลี มเย็น ๆ มาอีก ก็ไม่ใช่


116

เดิน เดิน เดิน พวกเราเพลิดเพลิน เดินขึ้นภูเขา เรา เรา เรา วางกระเป๋า แล้วเรารีบเดิน คุย คุย คุย ไม่เคยหยุดไป เพราะใจอยากเดิน เหนื่อย เหนื่อย เหนื่อย ไปไม่ไหว แล้วใครจะเดิน สวย สวย สวย ทางขึ้นภูเขา มันสวยเหลือเกิน หนาว หนาว หนาว ที่ยอดเขา มันหนาวเหลือเกิน สนุก สนุก สนุก ไม่มีความทุกข์ สนุกเหลือเกิน คิด คิด คิด ถึงเพื่อนสนิท คิดถึงเหลือเกิน


117


118


119

ท่องเหนือ

บันทึกจากการทีไ่ ด้เข้าร่วมเดิน ทางท่องเที่ยวทัศนศึกษาดินแดน ทางภาคเหนือของประเทศ เป็นสิง่ หนึง่ ทีข่ า้ พเจ้าได้เขียนรวบรวมราย ละเอียดต่างๆระหว่างเดินทาง และ ถูกเก็บไว้นานมากจนลืมไปแล้ว เมือ่ ได้รับการชักชวนจากเตา ประธาน รุ่นของเราให้ช่วยส่งภาพพร้อมค�ำ บรรยายสมัยเป็นนิสิตไปให้หน่อย ก็ลองไปค้นหาดู ปรากฏว่ายังถูก เก็บไว้พร้อมต�ำราเรียนเป็นอย่างดี พอพลิกอ่านดูแล้ว ความหลังเก่าๆ ก็ผุดขึ้นมามากมาย ท�ำให้ข้าพเจ้า คิดอยากให้เพือ่ นๆได้รำ� ลึกถึงความ หลังเก่าๆอย่างนี้บ้าง จึงได้น�ำมา เรียบเรียงใหม่และตัดทอนให้สั้น กระชับขึ้นเพื่อให้เหมาะกับเนื้อที่ ใน e-book

เมื่อครั้งที่เป็นนิสิตจุฬาฯปี 2 หลังจากที่สอบ Oral sound วิชา สุดท้ายของภาคเรียนที่ 1 เสร็จ เมื่อวันที่19 ต.ค. 2510 ในช่วง บ่าย ข้าพเจ้าและเพื่อนในกลุ่มอีก 8 คนได้ช่วยกันเตรียมจัดหาข้าว ของเครื่องใช้ที่จ�ำเป็นส�ำหรับการ เดินทางไกลถึง 9วัน เริ่มตั้งแต่วัน ที่ 20 ถึง 29 ต.ค. 2510 อย่าง มีความสุขที่ได้หลุดพ้นจากสภาพ การเรียนการสอบอันหนักอึ้งมาได้ ไม่มีอะไรต้องห่วงอีกแล้วนอกจาก รอคอยให้ถึงวันเริ่มออกเดินทางที่ จะมาถึงในวันพรุ่งนี้


120

20 ต.ค. 2510 วันแรกของการ เดินทาง ทีส่ ถานีรถไฟหัวล�ำโพงช่วง เย็นๆ คลาคล�ำ่ ไปด้วยเพือ่ นๆทัง้ ทีจ่ ะ เดินทางและเพื่อนที่มาส่งมากมาย ทุกคนทักทายกันอย่างตืน่ เต้นและ ดีใจที่จะได้ร่วมเดินทางไปด้วยกัน และจะได้พบเห็นสถานที่และสิ่ง แปลกๆใหม่ๆด้วยกันในไม่ชา้ นี้ พวก เราจับกลุม่ กันทัง้ เล่าทัง้ คุยกันอย่าง สนุกสนานในตูร้ ถไฟทีไ่ ด้เหมาจองไว้ หลายตู้ ตลอดทัง้ คืนรูส้ กึ มีความเป็น อิสระปราศจากความกังวลใดๆทั้ง สิ้น ในที่สุดพวกเราก็ได้ผ่านค�่ำคืน อันแสนสุขและสนุกสนานไปด้วย เสียงเพลงเชียร์ เพลงดังๆทั้งเก่า

และใหม่ คลอด้วยเสียงกีตาร์และ เสียงสรวลเสเฮฮาของเพือ่ นๆซึง่ ถูก กลบด้วยเสียง ชึก่ ชัก่ ชึก่ ชัก่ .....ของ รถไฟตลอดทั้งคืน 21 ต.ค. 2510 รถไฟวิง่ พาเรามา ถึงพิษณุโลกในตอนเช้าตรู่ แวะจอด พักให้พวกเรากินข้าวเช้ากัน หลัง จากนัน้ ก็วงิ่ ต่อไปผ่านถ�ำ้ ขุนตาลใน ช่วงสายๆ ภูมิประเทศแถบนี้เป็น ภูเขาหัวโล้น บางแห่งเป็นเหวลึก บางแห่งเป็นทุง่ หญ้าเขียวชอุม่ แล้ว ก็มาถึงจุดหมายปลายทางที่สถานี เด่นชัย พวกเราได้ขนสัมภาระลง จากรถไฟ เปลี่ยนไปขึ้นรถทัวร์ซึ่ง มาจอดรออยู่แล้ว 4 คัน ออกเดิน


121

ทางต่อไปที่แพร่ ได้แวะเยี่ยมบ้าน และมีพี่ๆคอยบริการน�้ำดื่มและ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ เป็นบ้าน ผลไม้ให้พวกเราอย่างอบอุ่น กลับ หลังใหญ่ สวยงามมาก ถึงทีพ่ กั ในตอนค�ำ่ ได้รบั การต้อนรับ อย่างหรูหรา เป็นครั้งแรกของการ มีลวดลายสถาปัตยกรรมแบบ เดินทางครั้งนี้จากพี่เก่าจุฬาฯ ทั้ง จีน จากนั้น พวกเราก็เดินทางต่อ อาหาร ดนตรี ลีลาศ และรายการ ไป เข้าที่พักที่โรงเรียนป่าไม้ ได้ แสดงต่างๆบนเวทีเป็นทีป่ ระทับอก พบกับท่านผู้ว่าฯ ซึ่งเป็นศิษย์เก่า ประทับใจพวกเราเป็นอย่างมาก จุฬาฯ มารอต้อนรับพวกเราอยูท่ นี่ ี่ ท่านเป็นคนมีอารมณ์ขัน คุยสนุก เป็นกันเองกับพวกเรามาก หลัง จากได้รับประทานอาหารมื้อเที่ยง แล้วก็ออกไปไหว้พระทีพ่ ระธาตุชอ่ แฮ ถ�้ำผานาง ที่นี่มีป้ายผ้าผืนใหญ่ เขียนค�ำว่าต้อนรับพาณิชย์-บัญชี


122

22 ต.ค. 2510 เช้านี้อากาศ หนาว หมอกลงหนักมาก ท�ำให้ บรรยากาศรอบๆโรงเรียนป่าไม้ เหมือนภาพในจินตนาการ เห็น ต้นไม้และดอกไม้นานาพรรณที่ถูก ปลูกไว้รอบๆอาณาบริเวณอันกว้าง ใหญ่ไพศาลลางๆสวยงามเหมือนอยู่ ในความฝัน หลังจากอาหารมือ้ เช้า พีณ ่ รงค์ได้กล่าวขอบคุณและอ�ำลาพี่ เก่าทีแ่ พร่เดินทางต่อไปกว๊านพะเยา ดินแดนทีม่ ภี เู ขายาวขนาบข้างเมือง ไปเป็นระยะทางยาวมาก รถวิง่ ผ่าน ภูเขาลูกแล้วลูกเล่าไป ขนาบข้าง ด้วยเหวลึกข้างทาง อีกทั้งยังต้อง ผจญกับฝุน่ แดงไปตลอดทาง แต่ใน สภาพบรรยากาศที่เลวร้ายเช่นนี้ก็ ยังพอมีล�ำธารสายเล็กๆไหลผ่านคู่

ขนานไปกับเราพอให้สดชืน่ ขึน้ บ้าง แล้วในทีส่ ดุ ก็มาถึงทะเลสาบทีใ่ หญ่ ทีส่ ดุ ในภาคเหนือ พีเ่ ก่าซึง่ ส่วนใหญ่ เป็นพีห่ มอและพีบ่ ญั ชีรอรับพวกเรา อยู่ที่ศาลากลางฯ ซึ่งอยู่ริมกว๊าน พะเยา จากนั้นก็ได้เดินทางต่อไป เข้าทีพ่ กั ทีโ่ รงเรียนอนุบาลเชียงราย และบ้านพักรถไฟ คืนนีพ้ ๆี่ ได้ตอ้ นรับ พวกเราอย่างไม่เป็นทางการ ได้รจู้ กั พีส่ ราภรณ์ (พีเ่ ก่าบัญชี) พีห่ มอจรัส พี่ชาญชัย เป็นพิธีกรบนเวที ทั้งรุ่น พี่และรุ่นน้องสลับกันขึ้นเวทีร้อง เพลงกันสนุกสนาน งานคืนนี้เลิก ไม่ดึกมาก เพราะพรุ่งนี้มีรายการ เที่ยวหนักทั้งวัน


123


124


125

23 ต.ค. 2510 วันนี้ตื่นแต่เช้า มืดไปเดินเทีย่ วตลาดสดแถวใกล้ๆกับ ที่พัก กลับมารับประทานข้าวต้มที่ พีเ่ ก่าได้จดั เตรียมไว้ให้ แล้วเข้าร่วม พิธีถวายบังคมพระบรมรูปพระปิย มหาราช หลังจากนัน้ ก็ออกเดินทาง ไปเชียงของเพือ่ ข้ามไปเทีย่ วฝัง่ ลาว บรรยากาศการเดินทางในรถวันนี้ เริ่มคึกคักเฮฮากันมากขึ้นจากการ ที่ได้นั่งรถสมบุกสมบันกันมา 2 วัน ท�ำให้รสู้ กึ สนิทสนมคุน้ เคยกัน โดย เฉพาะคุณโชเฟอร์คนขับของเราผูท้ ี่ พวกเราจะต้องเฝ้าไม่ให้เขาหลับใน หรือง่วงเป็นอันขาด

แต่เท่าที่สังเกตเขามา 2 วัน ก็ รู้สึกว่ามีความช�ำนาญพอสมควร แล้วเราก็ได้ข้ามไปถึงฝั่งลาวด้วย เรือล�ำใหญ่ซึ่งสามารถจุพวกเราไป ได้ทงั้ หมด พอไปได้เห็นสภาพแหล่ง ค้าขายรูส้ กึ ผิดหวังทีม่ รี า้ นค้าอยูเ่ พียง 7-8 ร้านเท่านั้น สินค้าที่ขายเหมือนๆกัน หมด และราคาแพงขึน้ มาก แต่เพือ่ ไม่ให้เสียเที่ยวต่างก็จ�ำใจต้องหอบ ของกันพะรุงพะรังกลับเข้าฝั่งไทย โดยไม่ต้องผ่านด่านภาษี ส่วนใหญ่ จะชอบซื้อพวกเหล้า บุหรี่ ไพ่ สบู่ แก่นจันทร์ ลูกเกด ลูกพรุน เสื้อผ้า ชุดนอน ชุดชั้นใน เป็นต้น


126

ส�ำหรับงานฉลองวันปิยมหาราช คืนนี้ พีๆ่ จัดงานกันอย่างยิง่ ใหญ่สดุ อลังการ โดยแต่งกายด้วยชุดสากล ราตรียาวทัง้ ชายและหญิงกันอย่าง สวยงาม และไฮไลท์ของงานคืนนี้ คือมีการประกวดเทพีทแี่ ข่งขันและ เชียร์กนั เองอย่างสนุกสนาน พวกเรา ก็ได้แต่ซาบซึง้ ในน�ำ้ ใจน้องพีส่ ชี มพูที่ ให้การต้อนรับเราอย่างอบอุน่ เช่นนี้ 24 ต.ค. 2510 เช้านีห้ ลังจากที่ ได้กล่าวขอบคุณพีๆ่ ทีใ่ ห้การต้อนรับ พวกเราเป็นอย่างดีแล้ว ก็ได้ออกเดิน ทางต่อไปยังแม่สาย ฝนตกพร�ำๆ ตลอดทางจนกระทัง่ รถแล่นเข้าเขต พม่า ก็แวะจอดให้ลงไป ช้อปปิ้ง แต่ไม่คอ่ ยมีอะไรน่าซือ้ เพราะราคา ค่อนข้างแพง สินค้าส่วนใหญ่มาจาก จีนแผ่นดินใหญ่ จากนั้นก็เดินทาง กลับเข้าฝั่งไทย ไปแวะเที่ยวที่ถ�้ำปู ถ�ำ้ ปลา ทีน่ เี่ รายังได้รบั เลีย้ งอาหาร มือ้ เทีย่ ง เป็นข้าวห่อจากพีส่ ราภรณ์ ซึ่งได้ร่วมเดินทางมาจากเชียงราย ด้วยกัน และก็ถึงเวลาที่ต้องอ�ำลา จากกันแล้ว พวกเราเดินทางต่อ โดยแวะกลับมาที่เชียงรายอีกครั้ง เพื่อตรงไปยังล�ำปาง จากนี้ไปเรา จะต้องวิง่ ผ่านเส้นทางทีว่ บิ ากทีส่ ดุ

ของการเดินทาง trip นี้ ซึ่งต้องใช้ เวลา 7-8 ชั่วโมง ขับผ่านภูเขาที่มี ทางวิ่งแคบๆและข้างทางเป็นเหว ลึกดูน่ากลัวและน่าหวาดเสียวว่า ถ้าคนขับหลับในแม้สักวินาทีเดียว พวกเราไม่ได้กลับบ้านแน่ รถวิง่ ไปได้ 3-4 ชัว่ โมง อากาศก็เริม่ ขมุกขมัวขึน้ ทุกทีจนมืดสนิทในที่สุด ต้องอาศัย แสงจากไฟใหญ่หน้ารถเท่านัน้ ทีช่ ว่ ย น�ำทาง ในช่วงวิกฤติแบบนี้ ท�ำให้ ทุกคนหายง่วงเป็นปลิดทิง้ และต่าง ช่วยกันส่งเสียงดังร้องเพลงสลับกับ การเล่นล้อกันไปล้อกันมาระหว่าง พวกทีน่ งั่ ข้างหน้า กับพวกข้างหลัง เป็นทีส่ นุกสนานกันทัง้ คันรถ ท�ำให้ คนขับพลอยข�ำขันไปกับพวกเรา ด้วย ถ้ามีเพื่อนคนไหนที่นั่งรถไป คันเดียวกับกลุ่มของเรา คงจะจ�ำ


127

เสียงหัวเราะอันยียวนกวนประสาท ซึ่งเผยแพร่โดยพี่ๆข้างหลังรถว่า อื๋ออะอะ อื๋ออะอะ อื๋ออะ อื๋ออะ อื๋ ออะอะ ....ข้าพเจ้าจึงมีความรูส้ กึ ว่า สุดยอดของการเดินทางครัง้ นี้ ก็คอื ช่วงเวลาทีเ่ ราเดินทางจากเชียงราย ไปล�ำปางนัน่ เอง ท�ำให้เราไม่สามารถ ที่จะลืมอารมณ์ความรู้สึกหลาก หลาย ที่เกิดขึ้นในรถซึ่งได้เผชิญ ร่วมกันมา ช่างเป็นประสบการณ์ที่ น่าจดจ�ำที่สุดในเสี้ยวหนึ่งของชีวิต เลยทีเดียว และแล้วเราก็เดินทางมา ถึงล�ำปางในตอนกลางดึกด้วยความ เหนือ่ ยล้าและง่วง ได้ยนิ เสียงเพลง ขวัญใจจุฬาดังแว่วมาแต่ไกล ช่วย ปลุกให้ตาสว่างขึ้น รถขับผ่านย่าน การค้ามีรา้ นค้าและธนาคารมากมาย พอถึงทีพ่ กั ก็ถงึ เวลาทีต่ อ้ งร�ำ่ ลาคน

ขับทีแ่ สนดีซงึ่ คอยช่วยตรวจตราไม่ ให้มีใครหลงลืมสิ่งของบนรถ จาก นั้นพวกเรารีบขนกระเป๋าสัมภาระ เข้าทีพ่ กั โรงเรียนการช่างสตรี แล้ว ออกมาหาเช่ารถม้าเทีย่ วรอบเมือง รอบละ 15 บาท รถม้าพาเราวิง่ ผ่าน ตลาด หอนาฬิกา สะพานข้ามแม่นำ�้ วัง ขากลับผ่านย่านทีอ่ ยูอ่ าศัยเป็น บ้านหลังใหญ่ๆมากมาย ร้านค้าหนา แน่นเหมือนกรุงเทพฯ ฝนเริม่ ตกลง มาอีก คนขับเลยรีบควบม้าพากลับ ที่พัก ผ่านเส้นทางที่มืดและเปลี่ยว มาก อาศัยแสงไฟจากตะเกียงข้างรถ ดวงเดียวเท่านั้น บรรยากาศตอน นีท้ ำ� ให้นกึ ถึงภาพยนตร์เรือ่ งแดร็ก คูล่า ได้ยินแต่เสียงฝีเท้าม้าควบฝ่า สายฝนทีย่ งั ตกไม่หยุด ในทีส่ ดุ พวก เราก็ถึงที่พักโดยปลอดภัย


128

25 ต.ค. 2510 เช้านี้ขึ้นรถไฟ ออกจากล�ำปาง 6 โมงเช้า มา ถึงสถานีเชียงใหม่ 10.30 น. ขน สัมภาระต่างๆลงจากรถไฟ แล้วนัง่ รถต่อไปยังทีพ่ กั โรงแรมสุรพล เป็น โรงแรมเพิ่งสร้างใหม่ค่อนข้างทัน สมัยในยุคนัน้ วางกระเป๋าสัมภาระ ทัง้ หมดแล้วก็ขนึ้ รถไปเทีย่ วล�ำพูนป่าซาง ได้รับการต้อนรับจากทาง จังหวัดร่วมกับพี่เก่าที่ศาลากลาง จังหวัดล�ำพูน แล้วก็ไป shopping ต่อทีป่ า่ ซาง ทีน่ เี่ ป็นแหล่งขายสินค้า พื้นเมืองของชาวล�ำพูน ได้ผา้ นวม ผืนใหญ่มา 1 ผืนราคา 68 บาท ถูก มากเมื่อเทียบกับค่าเงินในปัจจุบัน ต่อจากนัน้ เดินทางไปมหาวิทยาลัย

เชียงใหม่ได้เก็บภาพสวยๆและเดิน เทีย่ วบริเวณรอบๆมหาวิทยาลัย แล้ว ชมการแข่งขันฟุตบอลระหว่างคณะ บัญชีจุฬาฯ กับคณะแพทยศาสตร์ เชียงใหม่ หลังจากนัน้ พวกเรากลับ ที่พักเตรียมแต่งกายชุดชาวเหนือ ไปร่วมงานเลี้ยงขันโตกดินเนอร์ที่ แพทย์เชียงใหม่เป็นเจ้าภาพที่สวน ดอก บรรยากาศในงานตลบอบอวล ไปด้วยเสียงเครื่องดนตรีทางเหนือ การฟ้อนเล็บของนักศึกษาหญิง มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ การพูดคุย แลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่าง กัน ท�ำให้มหาวิทยาลัยของเราทั้ง 2 แห่งมีความสัมพันธ์ท่ีดีขึ้นอย่าง รวดเร็ว หลังงานเลิกพวกเรากลับ


129

ไปเปลี่ยนชุดแล้วลงไปกินข้าวต้ม ส่งเตามาที่เชียงใหม่ให้ทันเวลากับ อีกรอบแถวๆหน้าโรงแรมจนอิ่ม พวกเรา หลังจากที่ได้สังสรรค์กับ พีๆ่ เป็นเวลาพอสมควรแล้ว พวก จึงกลับเข้าห้องพัก เราก็ไปเที่ยวต่อที่น�้ำตกแม่สา ทุก 26 ต.ค. 2510 เช้านีร้ บั ประทาน คนรูส้ กึ สดชืน่ ขึน้ เมือ่ ได้เห็นน�ำ้ ใสๆ ข้าวต้มอิม่ ละ 2 บาท แล้วก็ออกเดิน เย็นๆและละอองน�ำ้ ตกทีก่ ระเซ็นใส่ ทางไปถ�้ำเชียงดาว ระหว่างทางรถ ตัวจนเปียกปอนไปหมด ต่างก็วัก เกิดตกหล่มท�ำให้ต้องเสียเวลาอยู่ น�ำ้ ทีเ่ ย็นยะเยือกขึน้ ล้างหน้าล้างตา นานกว่าจะลากขึน้ มาได้ พอไปถึงได้ กันอย่างสนุกสนาน เมื่อได้เวลาก็ เข้าไปในถ�ำ้ จนสุดทางทีม่ แี สงไฟก็ไป เตรียมเดินทางกลับทีพ่ กั ขากลับได้ ต่อไม่ได้ เพราะมืดมากและอันตราย แวะชมโรงงานปั้นเคลือบถ้วยชาม เล่ากันว่าเคยมีฝรั่งเข้าไปแล้วไม่ได้ สวยงามมาก เหมาะทีจ่ ะซือ้ เป็นของ กลับออกมาอีกเลย หลังจากกราบ ฝาก แต่จะต้องบรรจุหบี ห่อให้แน่น ไหว้พระพุทธรูปและอธิษฐานขอ หนากันการกระแทกระหว่างเดิน ให้เดินทางปลอดภัยแล้วพวกเราก็ ทาง ส�ำหรับมือ้ ค�ำ่ วันนีไ้ ม่มรี ายการ กลับออกมานอกถ�้ำ เดินทางต่อ สังสรรค์กับพี่เก่า แต่ก็ได้รับความ ไปอ�ำเภอเชียงดาว รับประทาน อนุเคราะห์อาหารมือ้ เย็นจากพีน่ าย อาหารเที่ยงที่นายอ�ำเภอเชียงดาว รุ่นพี่ปี 3 กรุ๊ป ก 5 ซึ่งเป็นทายาท พี่เก่าจุฬาฯได้จัดเตรียมไว้ต้อนรับ หนึง่ ในตระกูลดังของเชียงใหม่ เมือ่ ระหว่างที่พักรับประทานข้าวที่นี่ ทุกคนอิ่มหน�ำส�ำราญกันแล้ว ก็ได้ พวกเราเพิง่ จะได้ขา่ วว่าเตาไม่สบาย เวลาออกไปเดิน shopping กันต่อ ยังพักอยู่กับพี่หมอที่เชียงรายและ ทีถ่ นนท่าแพซึง่ น่าจะเป็นถนนสาย จะเดินทางด้วยเครื่องบินตามมา วัฒนธรรมของเชียงใหม่ เพราะมีแต่ สมทบกับพวกเราที่เชียงใหม่ในวัน ร้านขายของพืน้ เมืองทัง้ นัน้ เพือ่ นๆ นี้ ได้ทราบจากเตาในภายหลังว่า ต่างก็ได้ของฝากกลับบ้านมากมาย พีห่ มอน่ารักมาก เอาใจใส่ดแู ลเป็น อย่างดีตลอดเวลาทีพ่ กั อยูท่ เี่ ชียงราย ตลอดจนติดต่อจัดหาเที่ยวบินเพื่อ


130

27 ต.ค. 2510 วันนีไ้ ปเทีย่ วออ บหลวงที่ซึ่งเพื่อนนักศึกษาแพทย์ เชียงใหม่ที่รู้จักกันในงานขันโตก ดินเนอร์ ได้คุยให้ฟังว่าสวยงาม มาก พอไปถึงได้เห็นทิวทัศน์งด งามจริงๆ แต่จะต้องปีนป่ายโขด หินขึ้นไปล�ำบากมาก กว่าจะได้ เห็นจุดที่สวยงามที่สุด ก็เลยหมด โอกาสเก็บภาพสวยๆไว้เป็นทีร่ ะลึก ต่อจากนั้นเดินทางต่อไปถึงน�้ำตก แม่กลาง เป็นน�้ำตกที่ใหญ่โตและ สวยงาม ได้พักกินข้าวห่อที่นี่ และ นัง่ เล่นต่อจนถึงเย็นจึงกลับโรงแรม ที่พัก ตอนกลางคืนมีงานสังสรรค์ กับพี่เก่าชาวเชียงใหม่ แต่พวกเรา เหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าจากการเดิน ทางไกลมาตั้ง 6-7 วันแล้วและพัก ผ่อนไม่เพียงพอ จึงขอกลับออกจาก งานไปก่อน ได้กลับถึงทีพ่ กั ด้วยความ ช่วยเหลือจากนิสติ คณะรัฐศาสตร์ปี 3 คนหนึ่งพาไปที่ป้ายรถเมล์ แล้ว เราก็ขนึ้ รถเมล์กลับถึงโรงแรมทีพ่ กั ได้โดยสวัสดิภาพ

28 ต.ค. 2510 วันนีจ้ ะต้องอ�ำลา จากเชียงใหม่แล้ว พวกเราเตรียม แต่งตัวชุดนิสิตเพื่อเข้าเฝ้าสมเด็จ พระบรมราชชนนีที่พระต�ำหนัก ภูพิงค์ราชนิเวศน์ ได้ออกไปรับ ประทานอาหารมื้อเช้าแถวถนน ท่าแพ และก็เดินหาซือ้ ของฝากกัน ต่อส�ำหรับเพือ่ นทีย่ งั ได้ของไม่ครบ หลังจากนั้นออกเดินทางไปแวะดู น�้ำตกห้วยแก้ว แต่ไม่มีใครสนใจ ทีจ่ ะลงจากรถ ก็เลยมุง่ ต่อไปดอยสุ เทพ พอถึงแล้วต้องเดินขึน้ บันไดไป อีกไกลกว่าจะถึงยอดดอย ได้กราบ นมัสการพระธาตุดอยสุเทพบนนัน้ บรรยากาศข้างบนดอยสวยงาม มาก มองลงไปข้างล่างจะเห็นเมือง เชียงใหม่ทงั้ เมือง พอลงจากดอยมา ก็หาก๋วยเตีย๋ วรับประทานกันอย่าง รวดเร็วเพราะเหลือเวลาน้อยมาก ต้องรีบออกรถตรงไปยังพระต�ำหนัก ภูพงิ ค์ฯให้ทนั เวลาทีน่ ดั หมายเอาไว้


131


132

อากาศทีภ่ พู งิ ค์ราชนิเวศน์เย็นสบาย ค่อนข้างจะหนาว มีดอกไม้นานา พันธุท์ กี่ ำ� ลังบาน สีสนั สดสวยงดงาม มากเกินกว่าทีจ่ ะบรรยายได้ สมเด็จ ย่าทรงแย้มพระสรวลอย่างพระทัย ดี และทรงทักทายพวกเราอย่าง เป็นกันเอง ทรงแจกหนังสือและ

ฉายพระรูปทั้งกลุ่มเล็ก กลุ่มรวม ทั้งหมดร่วมกับพวกเราอย่างไม่ถือ พระองค์ หลังจากนั้นทรงน�ำไปชม ยอดดอยอินทนนท์ที่อยู่ไกลลิบลับ ถูกบดบังด้วยเมฆหมอกสีขาวๆ พอ มองเห็นลางๆ


133

หลังจากที่ได้เข้าเฝ้าจนพอสมควร แก่เวลา พวกเราก็เดินทางกลับ โรงแรม เก็บข้าวของสัมภาระ ทั้งหมดเข้ากระเป๋าเตรียมตัวที่จะ เดินทางกลับกรุงเทพฯด้วยขบวน รถไฟเชียงใหม่-กรุงเทพ เวลา 1 ทุ่มตรง ในที่สุดวันเวลาแห่งความ สุขสนุกสนานก็ก�ำลังจะสิ้นสุดลง

แล้ว ต่างคนต่างต้องแยกย้ายกัน กลับไปท�ำหน้าที่ๆรับผิดชอบของ ตนเองต่อไป ลาก่อน .........ลาแล้ว เมืองเหนือ เมืองแห่งถิน่ ไทยงามซึง่ ข้าพเจ้าเคยใฝ่ฝนั ทีจ่ ะได้มโี อกาสมา เยือนสักครั้งหนึ่งในชีวิต

ข้อมูลโดย: รุ่งนภา


134

รายการเที่ยวเหนือจัดขึ้นตอน พวกเราเป็น sophomore แล้ว คณะบัญชีมักจะจัดทัศนศึกษา เพื่อความสามัคคีและสนุกสนาน พวกเราออกเดินทางโดยรถไฟที่ สถานีหวั ล�ำโพงสุดทางทีแ่ พร่ จาก นัน้ เราใช้รถบัสล่องขึน้ จังหวัดต่างๆ ทีแ่ พร่เราชมถ�ำ้ ผานางและพระธาตุ จากนัน้ ต่อไปพะเยา ดูกว๊านพะเยา เป็นเหมือนทะเลสาบใหญ่มาก ทีพ่ กั ระหว่างการเดินทางของเราได้ อานิสงส์จากรุ่นพี่จุฬาที่มีต�ำแหน่ง หน้าทีท่ จี่ งั หวัดนัน้ ๆจัดหาให้ บาง ครัง้ เรานอนทีจ่ วนผูว้ า่ ซึง่ มีชอื่ เสียง ในเรือ่ งน่ากลัวๆ แต่พวกเราก็รอด ปลอดภัยดีมอี าการครบ 32 ทุกคน เมื่อมีที่นอนก็ต้องมีห้องอาบ น�้ำ ที่อาบน�้ำบางครั้งเป็นห้องรวม open air มีแทงก์น�้ำก่อขึ้นมา แล้วใช้วิธีเอาขันตักอาบกัน งาน นี้มีเสียงเฮฮากันสนุกสนานเพราะ สาวๆบางคนนุ่งผ้าถุงไม่เป็น พอ ตักน�้ำรดตัวเท่านั้น ผ้าถุงเจ้ากรรม ไหงจะไหลลงมากองที่พื้นต้องคว้า ไว้ เกือบไม่ทันการ

จากพะเยาไปเชียงของเพือ่ ข้าม ไปลาวโดยนัง่ เรือข้ามฟาก หน้าตา ของเรือเหมือนเรือบ้านมีหม้อ ไห กะละมังด้วย หลังจากนั้นเรา กลับมาเชียงรายพักค้างคืนและเดิน ทางไปแม่สายชายแดนพม่ากับไทย แล้วเดินทางต่อไปล�ำพูน ล�ำปางและ เชียงใหม่พวกเราแวะชมถ�ำ้ เชียงดาว ดอยสุเทพ และสถานที่ๆพวกเรามิ อาจลืมได้ในชีวิตนี้คือ การเข้าไป ภูพิงค์ราชนิเวศน์ ที่ซึ่งสมเด็จย่า ประทับอยู่ ณ ขณะนั้น ท่านทรง โปรดให้พวกเราเข้าเฝ้าและทรงพา พวกเราชมสถานทีแ่ ละพระราชทาน พระราชานุญาตให้ถ่ายรูปหมู่กับ ท่านโดยส�ำนักพระราชวังส่งรูปนัน้ ให้พวกเราภายหลัง การทัศนศึกษาภาคเหนือครั้ง นี้ ท�ำให้เข้าใจและซาบซึง้ ถึงความ ผูกพัน ของพีท่ มี่ ตี อ่ น้อง ดูแลความ เป็นอยูแ่ ละอาหารพร้อมสรรพ อด ภูมิใจมิได้ที่ได้เกิดมาและเข้ามา ศึกษาในจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พร้อมทั้งได้รับประสบการณ์ทั้ง หลายในมหาวิทยาลัยแห่งนี้ ข้อมูลโดย: พรรณี


135

เมือ่ คณะบัญชีจดั ไปเทีย่ วเหนือ ตอนเราอยู่ปี 2 กัน เราก็ขอเป็น ลูกทัวร์ไปกะเขาด้วย มีเพื่อนๆไป กันหลายคน รวมทัง้ มุต(ิ วิมตุ )ิ เพือ่ น สนิทคนหนึ่งที่เป็นจาวเจียงใหม่ พวกเราเมื่ออยู่ปีสอง ได้ผ่านร้อน ผ่านหนาวรอดมาจากโดนรุน่ พีว่ า๊ ก จับให้ตะเบ็งเสียงเชียร์ ดุโน่นเอ็ดนี่ ซึ่งลึกๆแล้ว พี่ๆเหล่านั้นก็ต้องเก๊ก หน้า บางครัง้ ยังเคยเห็นพีๆ่ ว๊ากเก้อ แอบกลั้นหัวเราะก็มี พวกเราตอน อยู่ปี 2 สนิทกันมากขึ้น ดังนั้นพอ คณะฯจัดเที่ยวเหนือก็ตื่นเต้นดีใจ ตั้งแต่ยังไม่เริ่มเดินทาง จ�ำได้ว่าเดินทางคราว นัน้ เราไปรถไฟกัน นึกถึงภาพพวก เราทีไ่ ปคงนัง่ กันไปหลายโบกีท้ เี ดียว จุดหมายปลายทางเราไปลงทีส่ ถานี เด่นชัย จ.แพร่ (ข้อมูลที่ปลายทาง รถไฟไปทีไ่ หนแล้วจึงเปลีย่ นเป็นรถ bus นัน้ บอกตามตรงว่าเราจ�ำไม่ได้ เอาซะเลย ลองไลน์ไปถามจี๊ป ให้ ช่วยนึกหน่อย เขาบอกว่าเป็นสถานี เด่นชัย จ.แพร่) ทีแ่ พร่นกี้ ไ็ ด้ไปเทีย่ ว จ�ำได้วา่ แวะไปบ้านใครหรือสถานที่ อะไรก็ไม่รู้ เป็นอาคารไม้ เสาเป็น ไม้ตน้ ใหญ่ๆ เป็นความทรงจ�ำถึงแพร่

เป็นเมืองไม้สกั ร่มรืน่ มาก พวกเราก็ นั่งรถ bus เที่ยวไปที่ต่างๆ ช่วงอยู่ บนรถ bus กลุ่มเราชอบร้องเพลง กันในรถ แล้วก็ยังเม้าท์กันเสียงดัง เมื่อไรสิ้นเสียงหมดแรง ก็เป็นอัน หลับกันเล็กน้อย อากาศที่เปลี่ยน บวกกับทั้งตะโกนร้องเพลงกัน ให้ เราเริ่มเจ็บคอ เป็นไข้ และตัวร้อน เพื่อนๆทักว่าเราหน้าแดงเชียว แท้จริงไข้ก�ำลังระอุอยู่น่ะ รถ bus น�ำมาถึงเชียงราย เรา ก็เป็นคนป่วยพอดี จ�ำได้ว่ารุ่นพี่ จุฬาฯไม่ว่าจบมาจากคณะไหนใน แต่ละจังหวัดที่เราไป ก็จะจัดการ ต้อนรับน้องจุฬาฯ พวกเราเป็น อย่างดี ไม่ว่าที่พัก หรืออาหาร จัด ดนตรี เต้นร�ำกันสนุกสนาน พอถึง เชียงราย พี่ๆเจ้าภาพก็รู้ว่ามีเรา เป็นไข้ มีพี่หมอที่จบจุฬาฯและ ท�ำงานอยู่เชียงรายรับเราไปตรวจ ที่รพ.ที่เชียงราย ได้ยินพวกพี่ๆ มีทั้งพี่วิศวะฯท�ำงานทางหลวง พี่ผู้ หญิงน่าจะรัฐศาสตร์ พี่บัญชี สาม สี่คนปรึกษากัน และบอกว่าให้เรา พักที่รพ. และให้คณะเดินทางต่อ ไปตามโปรแกรม ซึง่ อีก 2 วันจะถึง เชียงใหม่ ถ้าเราดีขึ้นจะส่งตามไป


136

สมทบกับคณะเดินทางที่เชียงใหม่ เมื่อพี่ๆตกลงตามนี้ พี่ที่คณะก็ขอ ให้เพื่อนพวกเราสักคนอยู่ที่รพ.ที่ เชียงรายเป็นเพื่อนเรา และมุติ เพือ่ นสนิทก็อาสาอยู่กับเราทีร่ พ.ที่ เชียงราย

ตอนค�่ำๆ พี่หมอยังหิ้วหม้อใส่โจ๊ก มาฝากน้องสองคน เรายังนึกถึงเสียง เดินด้วยรองเท้าแตะทีเ่ ป็นไม้(ทีต่ า่ ง จังหวัดยังนิยมใส่มาก สมัยนัน้ เรียก ว่า”เกีย๊ ะ”) เดินเสียงดัง ก๊อก ก๊อก ก๊อก มาตามระเบียงไม้ แล้วเอามา ให้ทหี่ อ้ ง ด้วยความห่วงใยกลัวน้อง ที่รพ.เชียงราย เราจ�ำได้อย่าง จะหิวตอนดึก เรากะมุตเิ ลยได้ทาน ดีเลยว่า มีอาคารเรือนไม้เป็นแถว โจ๊กแสนอร่อยที่เปี่ยมไปด้วยน�้ำใจ เป็นห้องพักคนไข้หลายห้อง เราพัก จากพวกรุ่นพี่ต่างคณะ ห้องเดีย่ ว ก็แน่ละซิ ตอนนัน้ คงเป็น อยู่ได้ 2 คืน เราก็ฟื้นเป็นปกติ คนไข้ vip ของพีห่ มอ และเข้าใจว่า พี่หมอน่าจะเป็น ผอ. รพ.ด้วยนะ ยกเว้นเสียงแหบไป และเสียงก็ เราก็เห็นใจมุติที่เลยอดเที่ยวไปกับ แตกเสียไป จนวันนีต้ อ้ งบอกว่าร้อง ขบวนคณะใหญ่ ต้องมาเป็นเพื่อน เพลงแทบไม่ได้เอาซะเลย พวกพี่ๆ ยายเตาซะแล้ว แต่มตุ กิ แ็ สดงให้เรา ก็ติดต่อกับคณะเที่ยวชุดใหญ่ เพื่อ เห็นว่ายินดีอยูด่ ว้ ยความเต็มใจจริง นัดแนะกันส่งมุตกิ บั เราขึน้ ไปสมทบ ที่เชียงใหม่ ช่วงเวลาที่ป่วย ก็ไม่ได้เรียกว่า เป็นคนไข้ป่วยหนัก แต่ยังจ�ำได้ว่า สมัยก่อนหากขับรถไปส่งที่ พี่หมอถามอาการละเอียดเพื่อหา เชียงใหม่คงใช้เวลานานมาก ในที่ สาเหตุ ถามไปถึงเรื่องการขับถ่าย สุดพี่ๆตัดสินใจที่จะส่งขึ้นเครื่อง และบอกว่าเป็นเพราะเราไม่ถา่ ยมา บิน เพราะจะได้ไปเที่ยวเชียงใหม่ 3 วัน เป็นสาเหตุให้เป็นไข้ เวลาที่ กับคณะใหญ่ได้ทัน เรากะมุติเลย พวกพี่ที่เป็นวิศวกรหรือรัฐศาสตร์ ได้ขนึ้ เครือ่ งบินใบพัด ล�ำไม่ใหญ่นกั มารวมตัวเยี่ยมที่ห้อง ได้ยินเขาคุย แต่ก็ปลอดภัย และตื่นเต้นดี กัน เล่นเอาเราเขินอายไป แต่ก็ให้ อยากบอกว่าเป็นความประทับ ยาจัดการให้ ก�ำจัดให้ จนเราไข้ ลด ที่ประทับใจไม่เคยลืมเลยก็คือ ใจที่เห็นพวกพี่ๆต่างคณะที่มาช่วย


137

กันดูแลน้องผู้ร่วมเรียนสถาบัน เดียวกัน จุฬาฯ สมแล้วกับ ค�ำขวัญของจุฬาฯที่ยังตราตรึงอยู่ ในจิตใจของพวกเราชาวจุฬาฯมา ตราบเท่าทุกวันนี้ SOTUS – Seniority Order Tradition Unity Spirit มันจะคงอยู่ในใจของเราจน วันตาย

ข้อมูลโดย : วิลาวรรณ


138

ล่องใต้

พวกเราไปทัศนศึกษาภาค ใต้ ตอนปลายเดือนตุลาคม 2511 Route ของ trip นีค้ อื นัง่ รถไฟไปลง ทีห่ าดใหญ่ จากนัน้ ใช้รถ bus ตัง้ แต่ หาดใหญ่-Butterworth-Ipoh-KLS’pore-KL-Penang-หาดใหญ่ ขาก ลับพักค้างคืนทีห่ าดใหญ่ 1 คืน ก่อน กลับกรุงเทพฯ 29 ต.ค. 2511 เดินทางถึงสงขลา เข้าพักในโรงแรม จากนั้นก็ตะลุย เที่ยวเมืองสงขลา อยากจะพักโรง แรมสมิหลาแต่ไม่มีโอกาส แต่ยัง ไงๆก็ขอถ่ายรูปงามๆ ในโรงแรม ไว้สักหน่อยโดยไปซื้อน�้ำเป๊ปซี่ใน โรงแรมดืม่ คนละขวดก็ได้ถา่ ยรูปไว้ เป็นที่ระลึกกันแล้ว หลังจากนั้น เราแวะหาดสมิหลา สวนญีป่ นุ่ และ ท่องเที่ยวในเมืองสงขลา


139


140


141


142

31 ต.ค.2511 เดินทางเข้า Malaysia แวะชมสถานที่ส�ำคัญๆ Malaysia แล้วขึ้น Cameron เช่น National Monument และ Highlands ที่นี่ดอกกุหลาบดอก มัสยิด เป็นต้น ใหญ่กว่าของบ้านเรา ทิวทัศน์และ อากาศแสนจะสบาย สดชืน่ พออิม่ อกอิม่ ใจกับบรรยากาศที่ Cameron Highlands แล้ว ก็เดินทางต่อไป ยัง กัวลาลัมเปอร์ เมืองหลวงของ


143

3 พ.ย.2511 เดินทางต่อไปยังSingapore ที่นี่ทางคณะฯเราคงมี การติดต่อกับนักศึกษามหาวิทยาลัย สิงคโปร์ เพราะเวลาพวกเราไป เทีย่ วในสถานทีต่ า่ งๆ จะมีนกั ศึกษา ที่นั่นเป็นguide พาไปดู Jurong แหล่งอุตสาหกรรมของสิงคโปร์ ซึง่ อยู่บนเนินเขา แวะ Tiger Balm ที่ มีชื่อเสียงของสิงคโปร์ในเวลานั้น ชม Van Kleef Aquarium เป็นพิพิธภัณฑ์ปลา มีลักษณะเป็น ห้องมืด มีตู้ปลามากมายตั้งแต่เต่า ปู ปลา เวลาเดินดูปลาเหมือนอยูใ่ ต้ น�ำ้ น่าตืน่ เต้นพอสมควร ได้เข้าชม มหาวิทยาลัยสิงคโปร์ ก่อนทีจ่ ะถึง เวลาทีต่ อ้ งออกเดินทางต่อไป ทาง นักศึกษาได้จัด farewell party ให้แก่พวกเราด้วย มีการเต้นร�ำ

สนุกสนาน และเช้าวันรุง่ ขึน้ ได้อำ� ลา กันบนโต๊ะอาหารเช้า 5 พ.ย.2511 เดินทางไป Penang โดยผ่าน KL ใน Malaysia แล้ว ต่อไปปีนัง ระหว่างเดินทางช่วงนี้ เกิดเหตุการณ์รถบัสคันหนึ่งเพลา หัก ต้องเสียเวลาซ่อม สาวๆที่ชอบตื่นเต้นขอชักภาพ สักภาพเถิด นั่งท้าทายบนถนน highway เป็น queen of the road บนถนน highway เมื่อถึง ท่าเรือข้ามฟากระหว่าง Malaysia และ Penang ได้ถ่ายรูปเป็นที่ ระลึกกับนักศึกษาสิงคโปร์ที่ขับรถ ตามมาส่งพวกเราถึงท่าเรือข้ามไป ปีนัง แล้วเขาก็ขับรถกลับสิงคโปร์


144


145

8 พ.ย.2511 ปีนงั เป็นสถานทีๆ่ นักเรียนไทยมักมาเรียนต่อหลังจบ มัธยมปลาย บ้างก็มาเรียนภาษา เพิม่ เติมก่อนไปศึกษาต่อทีป่ ระเทศ อื่น รถลากที่นี่ใช้แรงงานคนลาก ดังนั้นนักท่องเที่ยวที่มาปีนังมักจะ ขอลองนั่งเสมอๆ พวกเราอยาก นั่งรถลากบ้าง จัดการถามอาแป๊ะ เป็นภาษาอังกฤษ เลยถูกอาแป๊ะ ต่อว่า ว่าหน้าตาก็เป็นอาหมวย แต่พูดภาษาจีนไม่ได้เลย

ปีนังเป็นสถานที่สุดท้ายที่พวก เราได้ไปเยือน หลังจากนัน้ เราเดิน ทางกลับสงขลา และค้างที่นั่น 1 คืนก่อนกลับกรุงเทพ เป็นการเดิน ทางโดยสวัสดิภาพ ตัง้ แต่ตน้ จนจบ การเดินทาง

ข้อมูลโดย: พรรณี กาญจโนภาศ และ นงนุช วัฒนะจรรยา


146

เที่ยวใต้ (ข4 ขอแจม) 1. เดินทางโดยรถไฟสายใต้ ไป สิ้นสุดที่หาดใหญ่ ถึงหาดใหญ่วันที่ 29 ต.ค. 2511 จากนั้นเดินทางต่อ ด้วยรถบัส เที่ยวเมืองสงขลา สวน ญี่ปุ่น และหาดสมิหลา จ�ำได้ว่าไป Cameron Highlands ตามตารางเดินทาง พวก เราควรจะไปถึงตอนเย็น แล้วค้าง 1 คืน รุง่ เช้าจะลงจากเขา แต่มเี หตุ ให้ลา่ ช้า รถต้องขึน้ เขาตอนกลางคืน มองอะไรก็ไม่เห็น ไปถึงประมาณ เกือบตี 3 หนาวมาก ได้นอนแป๊บ เดียวหรือเกือบจะไม่ได้นอน พอ 6 โมงเช้า ต้องลงมาข้างล่าง ตอน ขึ้นไม่เห็นทางเพราะถนนมืดมาก ตอนลงมองเห็นทาง พอเห็นถนน ที่ขึ้นไปเมื่อคืน ยังสงสัยว่าเมื่อคืน นัน้ รอดชีวติ ขึน้ ไปบนเขาได้อย่างไร ถนนแคบมาก และชัน ต้องเลาะไป ตามภูเขาและหน้าผา ซึ่งค่อนข้าง หวาดเสียวมาก ไม่แน่ใจว่ารถคัน อื่นเขาไปถึงก่อนหรือเปล่า แต่รถ คันที่พวกเรานั่งไปถึงหลังสุดเลย ไม่ได้นอน

2. ที่ KL พักที่หอพักของ มหาวิทยาลัย เมื่อไปถึง ก่อนอื่นก็ ต้องส�ำรวจห้องน�ำ้ ก่อน จ�ำได้วา่ ห้อง อาบน�ำ้ มีประมาณสิบกว่าห้อง ไม่มี ประตู แต่กนั้ สายตาด้วยผ้าพลาสติก แขวนทีร่ าวแบบม่าน มีเรือ่ งข�ำตรงที่ ชายม่านทีก่ นั้ ไว้อยูใ่ นระดับค่อนข้าง สูง ประมาณเข่า หรือเลยเข่าพวก เราไป (มารู้ทีหลังว่าอาคารที่พวก เราพักเป็นหอชาย) พวกเราเลยต้อง จัดสรรการเข้าห้องน�ำ้ โดยให้เพือ่ น ที่มีความสูงไม่มากนัก เข้าห้องที่ ชายม่านยาวที่สุด และพยายามให้ อยู่ห้องในสุด จากที่กลัวเลยกลาย เป็นข�ำ เพราะอาบน�ำ้ ไปหัวเราะไป

3. ห้องทีพ่ วกเรานอน มี 2 เตียง (เข้าใจว่า นศ. ชายพักคู่กัน) ที่ตื่น เต้นมากคือ ห้องนอนไม่มีกลอน ประตู หลังจาก survey โดยรอบ แล้ว พวกเราจึงตัดสินใจรวมห้อง จาก 2 ห้อง มานอนรวมกันในห้อง เดียว เพราะเตียงพอจะนอน 2 คน ได้ (อีกห้องเอาไว้วางของ ประเภท เสือ้ ผ้า และใช้เป็นทีพ่ าดผ้า ตากผ้า


147

ด้วย) แต่ก่อนนอน พวกเรา 4 คน พยายามคิดหาวิธีเพื่อให้มั่นใจว่า จะไม่มีใครเข้ามาในห้องระหว่าง หลับ อึ่งนึกได้ ควักของชิ้นหนึ่งมา จากกระเป๋าและบอกว่า “เรามีนี่” มันคือมีดปอกผลไม้เล็ก ๆ ยังข�ำกัน ไม่ทนั จบ อึ่งบอกว่าจะเสียบไว้ตรง หัวนอนระหว่างหัวเตียงกับหมอนที่ ตัวเองนอน เลยยิง่ ท�ำให้ขำ� กันหนัก ขึน้ ว่า ถ้าเกิดกลางดึก อึง่ ละเมอลุก ขึน้ มาจิม้ เอาเพือ่ นทีน่ อนด้วยจะว่า อย่างไร ในทีส่ ดุ เลยต้องหาทางวาง ไว้ให้ปลอดภัย แต่สามารถหยิบได้ เมือ่ จ�ำเป็น และเนือ่ งจากมาตรการ ของอึ่ง ดูจะไม่ work พวกเราเลย ไปขนเก้าอี้ โต๊ะ จากอีกห้องหนึง่ มา ไว้ในห้องทีจ่ ะนอน แล้วเอาทัง้ หมด มาสุมกันไว้ตรงประตู อย่างน้อยก็ น่าจะยากหน่อยในการบุกรุก พอ เสร็จ ก็ล้มตัวลงนอน น้อยนอน เตียงเดียวกับอึ่ง ต่างก็เตรียมนอน ตะแคงโดยหันหลังให้กัน แต่ทันที ทีจ่ มูกแตะหมอน น้อยและอึง่ ก็หนั กลับมาพร้อมกัน หัวของ2คนจึงชน กันพอดี สาเหตุทต่ี อ้ งหันกลับทันที เพราะปลอกหมอนมีกลิ่นแรงมาก (สงสัยจะเป็นกลิน่ น�ำ้ มันใส่ผม?) ได้ ข�ำกันอีกรอบก่อนนอน หลังจากนัน้

ก็ไปหาผ้ามาคลุมหมอน จึงท�ำให้ นอนหลับอย่างสบาย (อาจจะเพราะ ความเพลียด้วย) 4. อีกเรือ่ งหนึง่ คือ พวกเรานัง่ รถ คันเดียวกับพิกลุ ซึง่ พิกลุ จะเป็นคน เดินปลุกเพือ่ นๆไม่ให้หลับ โดยพิกลุ บอกว่ามาเทีย่ วก็ตอ้ งดูววิ ทิวทัศน์สิ ไม่ใช่หลับ (อะไรประมาณนีแ้ หละ จ�ำ wording ไม่ได้จ้ะ) 5. ในระหว่างทางที่นั่งรถบัส เพือ่ น ๆ บางคนเล่นไพ่ บางคนเล่น Bingo พวกเราไม่ได้เอา Bingo มา พอรถจอดข้างทางแถวปีนัง ก็ลง จากรถไปถามร้านค้าแถวนั้นว่ามี Bingo มั้ย เขาตอบว่ามี แล้วก็ไป หยิบปิ่นโตมาให้….ฮา 6. อีกประสบการณ์หนึ่งคือ การแวะเข้าห้องน�้ำข้างทางที่รถวิ่ง ผ่าน พวกเราได้ใช้ส้วมหลุมเป็น ครั้งแรกจ้ะ

ช้อมูลโดย: อรสา น้อย(อรุณี) ติ๋ม(เสาวนีย์ อุณ.)


148

กิจกรรมอื่น ๆ


149

นอกเหนือจากกิจกรรมใน หลักสูตร และนอกหลักสูตร ของ คณะแล้ว เรายังมีกิจกรรมที่ไปท�ำ ร่วมกับคณะอืน่ ๆ ในจุฬา หรือแม้แต่ การไปท�ำกิจกรรมของ Shi 27 นอก รั้วมหาวิทยาลัย นอกจากนี้ Shi27 บางคนก็มกี ลุม่ ของตัวเองทีช่ อบท�ำ กิจกรรมท�ำประโยชน์แก่สงั คมเช่น เลี้ยงเด็กก�ำพร้า สอนหนังสือเด็ก ข้างถนน เอาของไปแจกเด็ก ไป เยี่ยมทหารเจ็บป่วย อ่านหนังสือ ให้คนตาบอด ช่วยงานกาชาดหรือ งานการกุศลอืน่ ๆ ฯลฯ ซึง่ เป็นเรือ่ ง น่าสนใจมาก เพราะแต่ละกิจกรรม ให้ประสบการณ์และความทรงจ�ำทีด่ ี ๆ ทัง้ กับผูท้ ร่ี ว่ มท�ำกิจกรรมด้วยกัน กับผูท้ ไี่ ด้รบั ประโยชน์จากกิจกรรม นัน้ รวมถึงเพือ่ นฝูงทีแ่ ม้จะไม่ได้รว่ ม ท�ำกิจกรรมด้วย แต่ก็มีความรู้สึก

ดี ๆ เมื่อได้รับรู้ถึงการท�ำกิจกรรม เหล่านัน้ จึงสมควรทีจ่ ะรวบรวมน�ำ มาไว้ใน e-book หนังสือแห่งความ ทรงจ�ำของพวกเราด้วย แต่ในส่วน นี้ จะเน้นเฉพาะกิจกรรมที่ท�ำร่วม กับคณะอื่น ๆ ในจุฬา ในช่วงของ ชีวิตนิสิตเท่านั้น ส่วนกิจกรรมที่ แต่ละคน แต่ละกลุ่มไปท�ำตาม ความสนใจนั้น จะน�ำไปเสนอไว้ใน ส่วนของ “ความทรงจ�ำที่ประทับ ใจของ Shi27” ในความเป็นจริง กิจกรรมที่ท�ำ ร่วมกันหลาย ๆ คณะ มีมากมาย แต่ในอีบุ๊คนี้ เราจะน�ำเสนอเฉพาะ กิจกรรมที่เพื่อน Shi27 ส่งเข้ามา เล่าถึงความประทับใจที่ได้ไปท�ำ กิจกรรมร่วมกับคณะอืน่ ๆ ในจุฬาฯ เท่านั้น


150

เมื่อเราเข้าร่วม กิจกรรมวิเทศสัมพันธ์ จุฬาไม่ได้ให้แต่ความรู้เพื่อ ไปประกอบวิ ช าชี พ เท่ า นั้ น มหาวิทยาลัยได้จัดให้พวกเราท�ำ กิจกรรมร่วมกันกับนิสติ คณะอืน่ โดย ให้นสิ ติ เลือกท�ำกิจกรรมตามความ สมัครใจ เช่น ชมรมพุทธ ชมรมค่าย อาสาสมัคร ชมรมดนตรีไทย ชมรม วิเทศสัมพันธ์ ฯลฯ ส�ำหรับเราก็เลือก เข้าชมรมวิเทศสัมพันธ์ เพือ่ นทีบ่ ญั ชี ก็มีสุริยะ พี่สมมาตร(พี่ชายแหลม) ด�ำ(ด�ำรงค์) เด็ก(ชูชัย) ฯลฯ และ เพื่อนอีกหลายคน ทางชมรมได้มี การติดต่อกับชมรมวิเทศสัมพันธ์ ของมหาวิทยาลัย สิงคโปร์ มาเลเซีย ฮ่องกง และ ฟิลิปปินส์ มีการแลก เปลี่ยนนักศึกษาเพื่อเดินทางไป ทัศนศึกษาและพูดคุยแลกเปลี่ยน ความรู้กัน

ทัศนศึกษาไปด้วย พวกเรามี สุรยิ ะ เป็นหัวหน้าทีม คณะเดินทางมีพี่ สมมาตร ด�ำรงค์ ชูชยั จากคณะบัญชี มีวิชาญ พี่อนุวัฒน์ วนานุเวชพงษ์ จากคณะวิศวะ มีสาวอักษรอีกสอง คน พวกเราเดินทางไปแลกเปลี่ยน ที่ มหาวิทยาลัยของมาเลเซีย และ U. Of Singapore

การเดินทางไปทางรถไฟ เพื่อ ไปยังมาเลเซีย มีสรุ ยิ ะผูช้ ำ� นาญเส้น ทางใต้ เพราะเป็นคนหาดใหญ่เป็น หัวหน้าคณะ และนิสติ ชายคนอืน่ ๆ ก็ลว้ นแล้วแต่เป็นสุภาพบุรษุ คอยให้ ความช่วยเหลือนิสิตหญิงผู้ไม่ค่อย ช�่ำชองการเดินทางนัก เมื่อไปถึง กัวลาลัมเปอร์แล้ว พวกเราได้รับ การต้อนรับจากตัวแทนนักศึกษา เป็นอย่างดี เขาได้จัดให้พวกเรา เมื่อตอนเราอยู่ปี 3 เราก็ พักอยู่หอพักนักศึกษา ในครั้งแรก สมัครเป็นตัวแทนเพื่อไปเยี่ยม เขาให้พวกเราไปอยู่หอแขก แขก มหาวิทยาลัย พร้อมทั้งถือโอกาส ที่นั่นมีทั้งอีสลามและฮินดู ปรากฎ


151

ว่าพวกเราทานอาหารทีเ่ ขาจัดให้ที่ โรงอาหารของเขาไม่ได้เลย การใช้ ห้องน�ำ้ ก็มปี ญ ั หา เพราะด้วยวัฒนะ ธรรม หรือศาสนา ห้องน�้ำที่หอพัก จะเป็นห้องน�ำ้ รวม ผูใ้ ช้หอ้ งน�ำ้ ก่อน มักไม่ท�ำความสะอาดให้คนต่อไป พวกเราเริ่มอึดอัดที่จะอยู่ที่หอนี้ อาหารก็ทานไม่ได้ โชคดีที่สุริยะ ได้ช่วยเจรจากับตัวแทนนักศึกษา ทีน่ นั่ พวกเราเลยได้ยา้ ยไปอยูห่ อที่ เป็นคนจีน อาหารการกินค่อยใกล้ เคียงกับทีเ่ ราคุน้ เคย สภาพห้องน�ำ้ ก็ดกี ว่ามากๆ เมือ่ อยูไ่ ด้ครบอาทิตย์ พวกเรา ก็เดินทางต่อไปยังสิงคโปร์ โดยทางรถไฟ

เรา พูดคุยแบบคนมีความรู้ และ ท่านทูตไทยประจ�ำสิงคโปร์กไ็ ด้เชิญ พวกเราไปเลี้ยงข้าวเย็นวันหนึ่งที่ ท�ำเนียบเอกอัครราชทูตด้วย นับ เป็นความประทับใจทีไ่ ด้ประสพการ จากการแลกเปลี่ยนกลุ่มที่ไปหลัง จากกลับมาก็สนิทสนมกันมากขึ้น เพื่อนวิศวะ ก็เวียนแวะมาที่คณะ บัญชี มานั่งคุยกันเมื่อมีโอกาส นอกจากพวกเราไปแลกเปลีย่ น ที่ประเทศอื่นแล้ว นักศึกษาจาก สิงคโปร์ ฮ่องกง และ ฟิลิปปินส์ ก็ มาแลกเปลี่ยนที่ประเทศเรา และ พวกเราก็จดั ตารางพาเขาเทีย่ ว และ ทางสถานทูตของประเทศทีน่ กั ศึกษา นั้นๆก็จะเชิญคนของเขาและพวก เราไปทานเลี้ยงต้อนรับที่ท�ำเนียบ ท่านทูตประจ�ำประเทศไทย ดูผใู้ หญ่ ช่างให้เกียรติพวกเราในฐานะนิสิต จุฬาฯ ท�ำให้พวกเราได้มีเพื่อนต่าง ชาติ และมีการติดต่อทางจม.กัน ยาวนาน ในสมัยนั้นนิยมเรียกกัน ว่า Pen Friends.

ที่ U of Singapore พวกเรา ชอบความทันสมัย ประเทศสะอาด แต่โชคไม่ดีเพราะก่อนที่เราจะเดิน ทางไปถึง ที่นั่นเกิดมีการแบ่งพวก ตีกนั ระหว่างคนจีนกับแขก รัฐบาล เลยมีการประกาศเคอฟิว พอเริม่ ค�ำ่ ก็ไม่ให้ออกไปข้างนอก แต่พวกเรา พักอยูท่ หี่ อพักภายในมหาวิทยาลัย ก็ปลอดภัย ได้แลกเปลีย่ นพูดคุยกับ พวกเพื่อนๆชาวฮ่องกงบาง นักศึกษาที่นั่น ตอนนั้นเรารู้สึกว่า พวกนักศึกษาสิงคโปร์ ช่างมีความ คนก็ย้ายถิ่นฐานไปอยู่ประเทศอื่น คิดความอ่านดูเป็นผู้ใหญ่กว่าพวก เพราะช่วงนั้นเขาไม่รู้ว่าประเทศ จีนจะมายึดเกาะคืนเมื่อไร และ


152

พวกเขาอาจขาดอิสสระภาพ เมื่อ ต้องไปรวมกับจีน บางคนเลือกไป อยู่ออสเตรเลีย และบางคนก็เลือก มาอยูท่ สี่ งิ คโปร์ ซึง่ ทัง้ สองประเทศ ต้องการประชากรเพิม่ ทางสิงคโปร์ ต้องการคนมีการศึกษาดีจากฮ่องไป อยู่ เพื่อสร้างความเจริญให้อย่าง รวดเร็ว พวกฮ่องกงที่ย้ายไป ก็ไป ช่วยเริ่มท�ำการค้าขาย เพราะสิง โปร์มลี กั ษณะภูมปิ ระเทศคล้ายกับ ฮ่องกงมาก ตรงทีเ่ ป็นเกาะทีม่ ขี นาด เล็ก มีทรัพยากรธรรมชาตินอ้ ย ราย ได้ประเทศต้องมาจากการค้าเป็น หลัก สิง่ ทีเ่ พือ่ นฮ่องกงเล่าให้เราฟัง ในตอนนัน้ ก็ได้พสิ จู น์ให้เห็นแล้วใน วันนี้ ว่าเวลาทีผ่ า่ นมาเกือบห้าสิบปี วันนีส้ งิ คโปร์ประสพความส�ำเร็จใน การสร้างทรัพยากรคนอย่างแท้จริง หลังจากจบจากจุฬา สุรยิ ะ ซึง่ มี แววท�ำงานด้านจัดการท่องเทีย่ ว ก็ ประสพความส�ำเร็จในอาชีพทีเ่ จ้าตัว ชอบ ได้เป็น ผจก. รร.บางแสนใน วัยยี่สิบต้นๆ แต่ด้วยความโชคร้าย ในขณะทีท่ ำ� งานทีบ่ างแสน สุรยิ ะก็ ประสพอุบตั เิ หตุจากการขีร่ ถมอเต อร์ไซด์ ท�ำให้พกิ ารตัง้ แต่สะโพกลง ไปถึงเท้า และใช้ชีวิตช่วงกลางวัน

บนรถเข็นมาระยะหนึง่ และสุดท้าย ก็จากพวกเราไปในวัยที่ไม่มากนัก น่าเสียดายมากเพราะสุรยิ ะน่าเป็น เพื่อนรุ่นเดียวกับพวกเราที่น่าจะ สร้างชือ่ เสียงให้เป็นทีเ่ ชิดหน้าชูตาให้ กับคณะบัญชีของเราได้มากทีเดียว ขอให้วญ ิ ญาณของเพือ่ นรักของ พวกเราทุกคนจงไปสูท่ สี่ ขุ คติชวั่ นิจ นิรันดร.


153

หัวหน้าทัวร์มือใหม่ เมื่อต้องมาเป็นหัวหน้า นำ�เที่ยวฮ่องกง ตอนทีเ่ ราเป็นนิสติ ปีสี่ เราเป็น ปฏิคมชมรมวิเทศสัมพันธ์ หน้าที่ หลักที่ท�ำกันเป็นประเพณี ก็คือ การจัดให้สมาชิกได้ไปเที่ยวตาม ต่างจังหวัดที่มีสถานที่ท่องเที่ยว ที่เป็นที่รู้จัก หรือแหล่งท่องเที่ยว ที่พักผ่อนดังๆในสมัยนั้น อย่าง ที่รู้ๆกันว่า สถานที่ซึ่งไม่ไกลนัก และนิยมจัดกันบ่อยๆก็เป็นพัทยา หรือ หัวหิน เราก็วางแผนและคิด กันว่าเราควรจะจัดให้สมาชิกของ ชมรมไปที่ไหนถึงจะเหมาะเพื่อ ท�ำให้สมาชิกได้พบปะแลกเปลี่ยน วัฒนธรรม ภาษา กับต่างชาติได้บา้ ง สมัยนัน้ ก็คงหนีไม่พน้ ทีจ่ ะต้องนึกถึง พัทยาเป็นอันดับแรก แต่เนื่องจาก เรามีประสบการณ์ที่เคยเดินทาง ไปแลกเปลี่ยนที่ประเทศมาเลเซีย และสิงคโปร์เมื่อตอนเป็นนิสิตปีที่

สามมาแล้ว และยังคงท�ำหน้าทีด่ แู ล ต้อนรับนักศึกษาจากประเทศ ฮ่องกง ฟิลปิ ปินส์ มาเลเซีย และสิงคโปร์ ที่ เดินทางมาเยือนประเทศไทยอยูเ่ ส มอๆ เมื่อใดที่เพื่อนๆนักศึกษาของ แต่ละประเทศเดินทางมาเมืองไทย นัน้ พวกเราก็ได้ให้เวลาอยูก่ บั เขากัน เต็มที่ จนท�ำให้เกิดความสนิทสนม กันเป็นอย่างดี อีกทัง้ ยังมีการติดต่อ กันทางจม. ท�ำให้ได้ฝกึ การใช้ภาษา อังกฤษกันอย่างต่อเนือ่ ง ด้วยเหตุนี้ เอง เราก็เกิดความคิด แว็บมาว่า “ท�ำไมเราไม่จัดให้ สมาชิกชมรมไปฮ่องกงซะเลย” ในช่วงเวลาที่พวกเราเป็นนิสิต นั้น เกาะฮ่องกงเป็นที่นิยมของ พวกคนไทย ทีจ่ ะไปเทีย่ วเป็นอย่าง ยิ่ง ได้ไปทานอาหารอร่อยๆ ได้ไป


154

shopping ผู้คนสมัยนั้นก็ไม่ค่อย ได้มีโอกาสเดินทางไปต่างประเทศ กันมากนัก พูดง่ายๆ ว่าถ้าถามพวก เพื่อนนิสิตรุ่นเราในสมัยนั้น ก็แทบ จะนับคนได้ จะมีกเ็ พียงไม่กคี่ นทีเ่ คย ไปเทีย่ วฮ่องกง และตอนนัน้ ฮ่องกง ก็ยงั เป็นทีๆ่ คนนิยมไปและพูดถึงกัน มาก เราเลยตัดสินใจคิดนอกกรอบ จากประเพณีดงั้ เดิมทีเ่ คยแต่จะพา นิสติ ไปเทีย่ วต่างจังหวัดมาเป็นการ เดินทางท่องเที่ยวไปต่างประเทศ บ้างน่าจะดีกว่านะ เราจึงเริ่มต้นปรึกษาสมาชิกที่ เคยร่วมเดินทางบางคน (นิสติ ทีเ่ คย ร่วมเดินทางไปแลกเปลีย่ นนักศึกษา ที่มาเลเซียและสิงคโปร์ เมื่อตอนปี สาม) เพือ่ คอนเฟิรม์ แนวความคิดที่ จะจัดไปเที่ยวฮ่องกงกัน ตอนนั้นก็ มีพี่มาตร (สมมาตร-พี่ชายแหลม) - ด�ำ(ด�ำรงค์)- ป๋อง(ศิริพงษ์) สาม หนุม่ จาก บัญชีและวิชาญ จากคณะ วิศวะ เมื่อเพื่อนทั้งสี่คนเห็นด้วย พวกเราก็เริ่มท�ำการบ้านหาข้อมูล กัน เริ่มต้นด้วยการติดต่อสาย การบินเพื่อค�ำนวณหาต้นทุน(ได้ ใช้ความรู้ที่อาจารย์สอนจากคณะ พาณิชย์ศาสตร์และการบัญชี) สมัย

ก่อนถ้าไปฮ่องกงกับบริษทั ทัวร์ทจี่ ดั น�ำเที่ยว ราคาจะอยู่ที่ไม่ต�่ำกว่าห้า พันกว่าถึงหกพันบาทต่อคน จาก การเจรจาสอบถามราคากับสายการ บินหลายสาย มาถูกใจเอาที่สาย การบิน China Airlines เพราะให้ ราคาต�่ำสุด ผจก.ก็ใจดีกับพวกเรา มาก ตอนนั้นยังไม่รู้หรอกว่าจะมี คนไปเทีย่ วด้วยมากน้อยสักเท่าไหร่ ขณะเดียวกันก็ติดต่อประสานกับ นักศึกษาทีเ่ คยมาแลกเปลีย่ น และ คนทีช่ ว่ ยเหลือประสานงานให้เป็น อย่างดีมากๆก็คอื Kitter กับ Sophie ทีช่ ว่ ยติดต่อเรือ่ งทีพ่ กั หรือหอพักให้ ในทีส่ ดุ ก็ได้ทพี่ กั ซึง่ อยูฝ่ ง่ั ฮ่องกงชือ่ “Diosesan Youth Center” คล้าย YMCA บ้านเรา ราคาถูก สะอาด แต่ต้องอยู่ในระเบียบของเขา ข้อ ส�ำคัญคือห้ามกลับเข้าที่พักเกินสี่ ทุม่ เพราะประตูใหญ่ของหอพักจะ ปิดตอนสี่ทุ่ม การค�ำนวณค่าใช้จา่ ยซึง่ รวมค่า เครือ่ งบิน ค่าหนังสือเดินทางและค่า ท�ำ visa เป็นแบบ Group Tour ค่าที่ พัก ค่ารถ Bus พาน�ำเที่ยว และค่า เข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวรวมทั้งสิ้น 7 วัน อยู่ที่ราคา 2,900 บาท การ


155

ติดต่อเรื่องที่พักและรถ bus นั้น นักศึกษามหาวิทยาลัย ฮ่องกงช่วย เหลือแนะน�ำและช่วยประสานงาน ให้เป็นอย่างดี จ�ำได้ว่าค่าตั๋วเครื่อง บิน China Airlines คิดในราคา เหมาล�ำที่ 1,900 บาทต่อคน และ ค่าที่พักตกคนละไม่ถึง 100 บาท ต่อคนต่อคืนรวมอาหารเช้า เป็น โจ๊กจ�ำได้ว่าอร่อยมากๆ นับว่าเป็น ราคาที่ถูกมากเมื่อเทียบกับต้องไป เอง และในสมัยนั้น ฮ่องกงก็เป็น ประเทศที่คนรุ่นเราใฝ่ฝันอยากจะ ไป เพราะที่นั่นผู้คนแต่งตัวด้วย แฟชั่นดูทันสมัย สินค้าราคาถูกน่า ซือ้ เพราะไม่ตอ้ งเสียภาษีโดยเฉพาะ พวก เครื่องไฟฟ้า นาฬิกาวิทยุ มือ ถือ ปากกา หรือแม้แต่เครื่องคิด เลข ก็มีให้เลือกหลากหลาย ราคา ถูกกว่าบ้านเรามาก ทั้งสี่หนุ่มที่เรากล่าวถึงแล้ว และ หนึ่งหญิง คือเรา ช่วงนั้นก็มี การนัดเจอกันเพือ่ วางแผนและแบ่ง งานกันท�ำ ทุกคนต่างก็มคี วามถนัด กันคนละด้าน (ยกเว้นเรา ที่ค่อน ข้างจะซื่อบื้อไปซะเกือบทุกเรื่อง) หลังจากได้มีการแบ่งงานกันท�ำก็ เลยท�ำให้งานเดินหน้าไปได้อย่าง

รวดเร็ว Mr. Chang ผจก. China Airlines ซึง่ ใจดีเอ็นดูและให้เกียรติ พวกนิสิตจุฬาฯเป็นอย่างมาก ทุก ครั้งที่เราไปติดต่อกับเขาเราก็แต่ง ชุดนิสิตไปพบที่ Office ซึ่งอยู่ที่ ถนนพัฒน์พงษ์ใกล้จุฬาฯ จ�ำได้ว่า เราคุยกันอย่างถูกอัธยาศัย ไปพบ ทุกครัง้ ก็ออ้ นวอนขอต่อราคาค่าตัว๋ จน Mr. Chang ต้องท�ำเรือ่ งขอไปที่ บริษทั แม่ทสี่ ำ� นักงานใหญ่ทไี่ ต้หวัน ทัง้ ๆทีพ่ วกเรายังไม่รจู้ ำ� นวนคนทีจ่ ะ ไปทั้งหมด ในที่สุดทางส�ำนักงาน ใหญ่ก็พิจารณาคิดในราคาพิเศษ แบบเหมาล�ำให้ตั้งแต่ต้นเลย เที่ ย วโรงถ่ า ยของ Shaw Brothers ช่วงนั้นเมืองไทยนิยมหนัง ประเภทก�ำลังภายใน และโรงหนัง โอเดียนก็เป็นโรงหนังทีฉ่ ายหนังจีน ก�ำลังภายในเป็นหลัก สิง่ ทีแ่ ว็บเข้า มาในหัวของทีมงานคือน่าจะจัดให้ ไปเทีย่ วโรงถ่ายของ Shaw Brothers เราได้ขอให้เพือ่ นนักศึกษาทีฮ่ อ่ งกง ได้ลองช่วยขอให้พวกเราเข้าชมโรง ถ่ายของเขาแล้ว แต่ทางโรงถ่ายเข้ม งวดและไม่อนุญาตให้เข้าเยีย่ มชมได้ เราจึงได้ปรึกษาพ่อให้ช่วยแนะน�ำ


156

คนทีเ่ ราควรไปพบทีโ่ รงหนังโอเดีย น พ่อก็ช่วยเขียนจม.สั้นๆถึงคุณ ธวัชชัย ชินสุวพลา เจ้าของโรงหนัง ฝากฝังให้ชว่ ยเหลือเรา จ�ำได้วา่ คุณ ธวัชชัย เป็นคนมีอธั ยาศัยดี ใจดีมาก และเมือ่ พวกเราเล่าถึงวัตถุประสงค์ ของการน�ำนิสิตไปทัศนาจรฮ่องกง แล้ว คุณธวัชชัยก็รบั ปากว่าจะติดต่อ ทาง Shaw Brothers ที่ฮ่องกงให้ อยากบอกว่าตอนนั้นภูมิใจใน เครือ่ งแบบนิสติ จุฬาฯมาก ทีเ่ ราไป ไหนก็ได้รบั ความเอ็นดูตอ้ นรับและ ให้เกียรติในสถาบันของพวกเราเป็น อย่างดี และในทีส่ ดุ ทางโรงหนังโอ เดียน ซึ่งเป็นตัวแทนขายหนังของ Shaw Brothers ในประเทศไทย ก็ ติดต่อไปยังฮ่องกง เพื่อขออนุญาต ให้คณะทัศนาจรจากจุฬาฯ เข้าเยีย่ ม ชมโรงถ่ายหนังของ Shaw Brothers ได้ส�ำเร็จ พวกเราดีใจมากๆ อุปสรรคส�ำคัญที่ต้องฟันฝ่า การจัดพานิสิตไปต่างประเทศ เป็นคณะใหญ่เช่นนี้ยังไม่เคยมีใคร ท�ำมาก่อน ถึงแม้ว่าจะเป็นเพียง แค่ประเทศฮ่องกง ซึ่งก็ไม่ค่อย ไกลนัก ใช้เวลาเดินทางสมัยนั้น

ประมาณสามชั่วโมง แต่กเ็ ป็นเรือ่ ง ที่ฮือฮาและกล่าวขวัญ ปัญหาก็คือ เราต้องน�ำเรือ่ งไปเสนอให้กบั คณะ กรรมการสโมสรนิสิตจุฬาฯ(สจม.) เพื่อขออนุญาตให้จัดการน�ำเพื่อน นิสิตเดินทางไปต่างประเทศได้ ดัง นัน้ การทีจ่ ะจัดไปได้หรือไม่ได้ ก็คอื เราต้องน�ำวาระนีเ้ ข้าไปเสนอในวัน ประชุมคณะกรรมการ สจม. เพือ่ ให้ ที่ประชุมเป็นผู้ตัดสินใจ วันที่มีการประชุมวาระนี้ เป็น เรื่องที่ลุ้นระทึกส�ำหรับพวกเรา เลยนะ เราต้องเข้าไปชี้แจงใน ฐานะปฏิคมหัวหน้าคณะน�ำนิสิต ไปทัศนศึกษา ในชีวิตนี้ยังไม่เคย เข้าร่วมประชุมกับ เลย พวกทีมงาน ชายหนุม่ อีก 4 คนมาเป็นเพือ่ น มา ส่งเราถึงหน้าห้องประชุม และนั่ง ลุ้นรอฟังผลอยู่นอกห้อง ในวันนั้น ดูกรรมการ สจม.หน้าตาคร�ำ่ เครียด ยิ่งกว่าผู้บริหารระดับสูงขององค์ กรใหญ่ๆเสียอีก วาระของเราอยู่ แทบท้ายสุด จ�ำได้ว่ามีวาระส�ำคัญ ก่อนหน้าเรา เป็นเรื่องกีฬาของ มหาวิทยาลัย ขณะที่นั่งรอลุ้นด้วย ใจตุม๊ ๆต่อมๆ ว่าเมือ่ ไหร่จะถึงเรือ่ ง ของเรา ในที่สุด ก็ถึงวาระเรื่อง


157

ของเราซะที ซึง่ โชคดีทเี่ มือ่ ถึงวาระ ของเราเริ่มใกล้ค�่ำแล้ว คนก�ำลัง เหนือ่ ยๆหิวๆ ปรากฏว่ามีการถาม กันแรงเหมือนกัน ถามว่าการจัดไป ต่างประเทศของชมรมวิเทศสัมพันธ์ ไม่คดิ ว่าฟุม่ เฟือยหรือ เราก็ตอบไป ว่า ถึงแม้ว่าเราไม่จัดไป แต่นิสิตก็ หาทางไปกันส่วนตัวอยู่แล้ว เรามี ตัวเลขสถิติคนไปฮ่องกงมาอ้างอิง และบอกว่าหากชมรมวิเทศสัมพันธ์ จัด จะช่วยประหยัดเงิน เพราะจัด เป็นกลุ่มแบบนี้ราคาต�่ำกว่าบริษัท จัดน�ำเทีย่ วกว่าครึง่ หนึง่ ค�ำถามต่อ มาทีท่ างกรรมการสภานิสติ ถามนัน้ เราเดามาล่วงหน้าแล้ว เขาถามเรา ว่าแล้วเราแน่ใจว่าการน�ำพานิสิต ขึน้ เครือ่ งบินไปจะปลอดภัยแค่ไหน เป็นค�ำถามทีค่ าดว่าปานประหนึง่ ให้ เราจนมุมแน่ๆ เราว่าถามมาแบบนี้ เหมือนปัญหาโลกแตก อุบตั เิ หตุใดๆ นั้นไม่มีใครรับประกันได้ว่าจะเกิด หรือไม่เกิด เราเลยต้องถามกลับไป ว่า หน้าที่ของปฏิคมวิเทศสัมพันธ์ นั้น จะมีกิจกรรมหนึ่งที่พานิสิตไป ทัศนศึกษา งัน้ เราขอถามในทีป่ ระชุม ว่า หากเราต้องพานิสิตเดินทางไป ท่องเที่ยวที่พัทยา ใช้เวลาเดินทาง โดยรถยนต์จากกรุงเทพถึงพัทยา

กินเวลาประมาณสามชั่วโมง(สมัย นัน้ ยังไม่มที างไฮเวย์บางนา- ตราด ถนนที่ไปพัทยายังแคบ จึงใช้เวลา เดินทางนานกว่าปัจจุบัน) กับพา นิสิตเดินทางไปโดยเครื่องบินจาก กรุงเทพฯ ไปฮ่องกง กินเวลาสาม ชั่วโมงเช่นกัน จากสถิติการเดิน ทางอันไหนจะมีโอกาสเกิดอุบตั เิ หตุ มากกว่ากัน เราย�ำ้ ว่า”สถิตทิ ผี่ า่ นมา อันไหนจะมีโอกาสจะเกิดมากกว่า กัน” เราขอให้ทปี่ ระชุมช่วยยกมือ โหวตค�ำถามของเรา แล้วก็ลุ้นด้วย ใจระทึกนะตอนนั้น และผลการ โหวต ที่ประชุมก็เลือกว่าการเดิน ทางโดยเครือ่ งบินดังกล่าวโอกาสจะ ปลอดภัยกว่าทางรถยนต์ บอกตาม ตรงว่าเป็นเหตุการณ์ความทรงจ�ำที่ ดีของเราเลยนะ ที่ผ่านการโหวตที่ เสียงข้างมากเห็นด้วยกับการให้จดั เดินทางโดยเครือ่ งบินได้ เราออกมา จากห้องประชุม และรีบบอกข่าวดี กับเพื่อนๆทีมงานที่นั่งรอแบบลุ้น ระทึกไปกับเราด้วยความดีใจ เมือ่ ได้รับอนุมัติให้จัดแล้ว การ ท�ำโปสเตอร์เชิญชวน เปิดรับสมัคร ก็เริ่มคึกคักขึ้น นอกจากนิสิตแล้ว แทบไม่นา่ เชือ่ เลยว่ามีอาจารย์จาก


158

คณะวิศวะ อ.พิเศษ ปัตตพงศ์ และ คณะบัญชี อ. ชมเพลิน จันทร์เรือง เพ็ญ และสามี รุ่นพี่จุฬาฯ(ปรีดา จันทร์เรืองเพ็ญ) ก็ขอร่วมเดินทาง ด้วย พวกเราดีใจและอบอุน่ ทีม่ พี วก ท่านๆร่วมไปด้วย มีเพือ่ นๆชาวบัญชี ไปกันหลายคน ช่วงทีเ่ ราจัดไปฮ่องกง นี้ตรงกับเวลาที่พวกเราอยู่ปีสี่ ซึ่ง ตามประเพณีก็จะไปภูกระดึงกัน เราก็เสียดายมากๆเลยที่ไม่ได้ร่วม ไปเที่ยวภูกระดึงกับพวกเรา ท�ำให้ ขาดประสบการณ์ร่วมทุกข์ร่วมสุข กันตอนไต่เขา ช่วงรับสมัครคนไป ฮ่องกงนั้น เภา(เภาลีนา) ขอร้อง เราให้ไปพบกับคุณแม่เภา เพือ่ ช่วย ขอคุณแม่ให้อนุญาตให้เภาร่วมไป ฮ่องกงด้วย เราจ�ำได้ว่าเภาพาเรา ไปทีบ่ ริษทั อิตาเลเซียฯ อยูต่ รงราช ประสงค์ บริเวณเกษร ไปพบคุณแม่ ให้คณ ุ แม่ดตู วั คนจัดน�ำเทีย่ ว มาถึง ตอนนี้ คิดแล้วก็ข�ำนะ เพราะยาย เตายังไม่เคยไปฮ่องกงมาก่อนเลย แต่ริอาจหาญมาจัดทัศนศึกษาถึง ฮ่องกงนะ ในที่สุดคุณแม่ก็ยอมให้ เภาร่วมเดินทางไปด้วย

Cathay Pacific เพื่อจ่ายมัดจ�ำรถ Bus เซ็นจองที่พัก ฯลฯ ถึงตอนนี้ พ่อเราซึ่งฟังเราเม้าท์ให้พี่น้องฟัง เป็นระยะๆ ก็เริม่ เป็นห่วงว่ายายเตา จะรอดไหมเนีย่ ยังไม่เคยไปฮ่องกง ด้วย ซ�ำ้ อีกทัง้ ยังไม่เคยเดินทางออก นอกประเทศด้วย เราก็ดูท่าทางไม่ เกรงกลัวอะไรตอนนัน้ เพราะมัน่ ใจ ในกลุม่ นักศึกษาฮ่องกงว่าคงจะช่วย เหลือเราได้ และพวกเขาก็มารับเรา ที่สนามบินด้วย แต่พ่อก็ยังคงเป็น ห่วงอยู่ดี ในที่สุดพ่อก็เลยตัดสินใจ ฝากให้เดินทางไปกับเพื่อนรักของ พ่อซึง่ เป็นนักธุรกิจ เดินทางไปมาฮ่อ งกงบ่อยๆ และมีทพี่ กั อยูท่ ฮี่ อ่ งกง ที่ เราเรียกว่าคุณลุง คุณลุงพาลูกสาว เดินทางไปด้วยกันสามคน และพัก ที่ Apartment ของคุณลุง จนกว่า คณะเดินทางชุดใหญ่มาถึงเราจึง จะย้ายไปอยู่ที่ Diosesan Youth Center เมื่อไปถึงก็ติดต่อ Kitter และ Sophie นักศึกษาฮ่องกง ให้ เขามารับที่ Apartmentของคุณลุง แล้วก็พาเราไปจัดการ เตรียมการทุก อย่างให้พร้อม เราเดินทางล่วงหน้า ไปฮ่องกงก่อนคณะใหญ่ประมาณ ตามแผนเราต้องแยกเดินทาง สามวัน คณะใหญ่ก็มาตามก�ำหนด ไปล่วงหน้าคนเดียว ด้วยสายการบิน ทราบมาว่าบนเครื่องบินมีสภาพ


159

เหมือนอยู่บน รถ Bus ขนาดใหญ่ พวกนิสติ ร้องเพลงจุฬากันสนุกสนาน บนเครื่อง เสียดายที่เราไม่ได้อยู่ใน บรรยากาศนั้นจังเลย ระหว่างอยู่ฮ่องกง ทุกคนตื่น เต้นที่จะไปเที่ยวโรงถ่าย Shaw Brothers เขาก�ำลังมีถา่ ยหนัง เป็น ฉากร้านน�ำ้ ชา จ�ำลองฉากเป็นถนน หมู่บ้านเล็กๆ เจอดาราชายยอด นิยมคือ เดวิด เจียง ดาราหญิง จาง เพ่ย เพ่ย ขณะที่ถ่ายท�ำหนังอยู่ พวกเราก็ได้ขอถ่ายรูปกับดารากัน อย่างสนุกสนาน นักศึกษาฮ่องกง ก็ได้เข้าไปเยีย่ มชมโรงถ่ายหนังด้วย รายการเทีย่ วอืน่ ๆก็หนีไม่พน้ ทีข่ นึ้ ไป ดูววิ เกาะฮ่องกงบนยอดเขา Victoria Peak ส่วน Shoppingไม่ตอ้ งพูดถึง ทุกคนซื้อกันอย่างเพลิดเพลิน จน เกือบเข้าที่พักไม่ทันสี่ทุ่ม ทีมงานได้จดั ท�ำหนังสือคูม่ อื การ เดินทางเล่มเล็กๆ ขนาดใหญ่กว่า เครือ่ งโทรศัพท์มอื ถือเล็กน้อย เป็น หนังสือปกสีแดง มีคำ� แนะน�ำ ภาษา กวางตุ้งบางค�ำ สถานที่พักเพื่อส่ง ให้แท็กซี่ดูเผื่อกันหลงทาง หนังสือ เล่มนีค้ ณะเดินทางทุกคนจะต้องถือ ติดตัว โดยเฉพาะตอน Shopping

จะมีตาราง ค่าเงิน 1 เหรียญฮ่องกง ซึง่ ตอนนัน้ เท่ากับเงินไทย 3.50 บาท และท�ำเป็นตารางเทียบเงิน ฮ่องกง กับเงินบาท เพือ่ ทีจ่ ะได้สะดวกเวลา ซือ้ เมือ่ เขาบอกมาเป็นเหรียญฮ่องกง เราก็แค่ดตู ารางปับ๊ ก็จะรูว้ า่ เป็นบาท เท่าไรได้เลย ก็สมัยนั้นพวกเรายัง ไม่มีเครื่องคิดเลขพกพาเล็กๆแบบ ปัจจุบันนะ หนังสือเล่มแดงนี้ทาง China Airlines เป็น Sponsor ค่า ใช้จา่ ยจัดพิมพ์ การท�ำหนังสือเล่ม แดงนี้ต้องให้เครดิตกับ วิชาญหนึ่ง ในทีมงานจากคณะวิศวะ ขากลับเมืองไทย เราต้องเดิน ทางล่วงหน้าก่อนคณะใหญ่ประมาณ สองชัว่ โมงด้วย Cathay Pacific เพือ่ มาติดต่อด่านตรวจคนเข้าเมืองและ เจ้าหน้าที่ศุลกากร เพื่อขออ�ำนวย ความสะดวกให้กับคณะนิสิตที่จะ เดินทางกลับ ซึง่ ทางเจ้าหน้าทีต่ รวจ คนเข้าเมืองและเจ้าหน้าทีศ่ ลุ กากร ก็ได้ให้ความช่วยเหลือเป็นอย่างดี แต่ เครื่องบิน China Airlines เที่ยว นัน้ ก็ Delay ไปสักสองชัว่ โมงได้ ได้ ข่าวว่าเป็นเพราะพวกเรา Shop กัน เพลิน จนเขาประกาศตามตัวกันแล้ว ตามตัวกันอีก กว่าจะมากันพร้อม


160

หน้าพร้อมตา นับเป็นการเดินทาง ที่เราได้ประสบการณ์ และความ ประทับใจของเพือ่ นชาวฮ่องกง ซึง่ หลังจากนัน้ พวกเราก็ยงั มีการติดต่อ ถึงกันต่อเนื่องยาวนาน ในขณะที่ กับบางคนก็ได้มีโอกาสเจอกันบ้าง ตอนทีเ่ ขาเดินทางมาเมืองไทยหรือ เวลาเราไปประเทศของเขา นอกจากนัน้ เพือ่ นๆบางคนเมือ่ จบการศึกษาไปประกอบอาชีพ ก็ยงั มีโอกาสได้ให้ความช่วยเหลือซึง่ กัน และกัน อย่างเช่น ฉุย และปุ๊ (แฟน ฉุย) ซึง่ ได้รว่ มคณะเดินทางในครัง้ นัน้ ด้วย ท�ำให้ทั้งคู่ได้รู้จักกับนักศึกษา ฮ่องกง โดยเฉพาะ Kitter ภายหลัง ฉุยได้มีบริษัทจัดน�ำเที่ยว และได้ เดินทางไปฮ่องกงหลายๆครั้ง ทั้ง คูก่ ส็ นิทกันมากขึน้ และได้มกี ารให้ ความช่วยเหลือซึง่ กันและกันเรือ่ ยมา ตอนหลัง Kitter ก็แต่งงานกับหมอ ชาวสิงคโปร์ และย้ายมาตั้งรกราก อยู่ที่สิงคโปร์ ถึงอย่างไร พวกเรา ก็ยงั มีการติดต่อกันเป็นระยะตามแต่ โอกาสจะอ�ำนวย

อยากจะบอกว่าทีเ่ ราเขียนเรือ่ ง นีข้ นั้ มา ก็เพือ่ ต้องการจะเห็นความ ส�ำคัญของค�ำว่า “สัมพันธภาพ – Relationship” ซึ่งไม่จ�ำเป็นว่า จะต้องเป็นคนเชื้อชาติใด ภาษา ใด เราก็สามารถที่จะเป็นเพื่อนที่ดี ต่อกัน ให้ความช่วยเหลือเกือ้ กูลซึง่ กันและกัน อีกทัง้ ยังอยากให้เห็นถึง ประโยชน์ของ กิจกรรมวิเทศสัมพันธ์ ที่ท�ำให้เราได้รู้จักเพื่อนต่างคณะ หรือ เพื่อนต่างชาติ ท�ำให้เราได้ เรียนรูว้ ฒ ั นธรรมของประเทศต่างๆ ทีเ่ ราได้ตดิ ต่อกัน นับว่าเป็นชมรมที่ ท�ำให้พวกเราได้มปี ระสบการณ์ทดี่ ี และได้น�ำมาใช้กับชีวิตการท�ำงาน ได้เป็นอย่างดีอีกด้วย

วิลาวรรณ วนดุรงค์วรรณ


161


162

หัวหน้าทัวร์มือใหม่ เมื่อต้องมาเป็นหัวหน้านำ�เที่ยวฮ่องกง ตอนที่เราเป็นนิสิตปีสี่ เราเป็น ปฏิคมชมรมวิเทศสัมพันธ์ หน้าที่ หลักที่ท�ำกันเป็นประเพณีนิยมก็ คือการจัดให้สมาชิกได้ไปเทีย่ วตาม ต่างจังหวัดที่มีสถานที่ท่องเที่ยว ที่เป็นที่รู้จัก หรือแหล่งท่องเที่ยว พักผ่อนที่ดังๆในสมัยนั้น อย่างที่ รู้ๆกันว่า สถานที่ซึ่งไม่ไกลนักและ เป็นทีน่ ยิ มจัดกันบ่อยๆก็เป็นพัทยา หรือ หัวหิน เราก็วางแผนและคิด กันว่าเราควรจะจัดให้สมาชิกของ ชมรมไปที่ไหนถึงจะเหมาะเพื่อ ท�ำให้สมาชิกได้พบปะแลกเปลี่ยน วัฒนธรรม และภาษา กับต่างชาติ

ได้บ้าง สมัยนั้นก็คงหนีไม่พ้นที่จะ ต้องนึกถึงพัทยาเป็นอันดับแรก แต่ เนื่องจากเรามีประสพการณ์ที่เคย ได้เดินทางไปแลกเปลีย่ นทีป่ ระเทศ มาเลเซีย และสิงคโปร์เมือ่ ตอนเป็น นิสิตปีที่สามมาแล้ว และยังคงท�ำ หน้าที่ดูแลต้อนรับนักศึกษาจาก ต่างประเทศ เช่น ฮ่องกง ฟิลปิ ปินส์ มาเลเซียและสิงคโปร์ ทีเ่ ดินทางมา เยือนประเทศไทยอยูเ่ สมอๆ เมือ่ ใด ทีเ่ พือ่ นๆนักศึกษาของแต่ละประเทศ เดินทางมาเมืองไทยนัน้ พวกเราก็ได้ ให้เวลาอยูก่ บั พวกเขากันอย่างเต็ม ที่ จนท�ำให้เกิดความสนิทสนมกัน

ทีมทำ�งานมี พี่มาตร (สมมาตร) ดำ� (ดำ�รงค์) เตา (วิลาวรรณ) วิชาญ (คณะวิศวะ) และป๋อง (ศิริพงษ์)


163

เป็นอย่างดี อีกทั้งยังมีการติดต่อ กันทางจม. ท�ำให่ได้ฝกึ การใช้ภาษา อังกฤษกันอย่างต่อเนือ่ ง ด้วยเหตุนี้ เอง เราก็เกิดความคิดแว๊ปขึน้ มาว่า “ท�ำไมเราไม่จดั ให้สมาชิกชมรมไป ฮ่องกงซะเลย”

พวกคนไทย ทีจ่ ะไปเทีย่ วเป็นอย่าง ยิ่ง ได้ไปทานอาหารอร่อยๆ ได้ไป Shoppingผูค้ นสมัยนัน้ ก็ไม่คอ่ ยได้มี โอกาสเดินทางไปต่างประเทศกันมา กนัก พูดง่ายๆ ว่าถ้าถามพวกเพือ่ น นิสติ รุน่ เราในสมัยนัน้ ก็แทบจะนับ คนได้ จะมีก็เพียงไม่กี่คนที่เคยไป ในช่วงเวลาที่พวกเราเป็นนิสิต เที่ยวฮ่องกง และตอนนั้นฮ่องกงก็ นั้น เกาะฮ่องกงจะเป็นที่นิยมของ ยังเป็นที่ ทีค่ นนิยมไปและพูดถึงกัน


164

มาก เราเลยตัดสินใจคิดนอกกรอบ จากประเพณีดงั้ เดิมทีเ่ คยแต่จะพา นิสติ ไปเทีย่ วต่างจังหวัดมาเป็นการ เดินทางท่องเที่ยวไปต่างประเทศ บ้างน่าจะดีกว่านะ เราจึงเริ่มต้นปรึกษาสมาชิกที่ เคยร่วมเดินทางบางคน (นิสติ ทีเ่ คย ร่วมเดินทางไปแลกเปลี่ยนักศึกษา ที่มาเลเซียและสิงคโปร์ เมื่อตอน เรียนอยูป่ ที สี่ าม) เพือ่ คอนเฟิรม์ แนว ความคิดทีจ่ ะจัดไปเทีย่ วฮ่องกงกัน ตอนนัน้ ก็มพี มี่ าตร (สมมาตร-พีช่ าย แหลม) - ด�ำ(ด�ำรงค์)- ป๋อง(ศิรพิ งษ์) สามหนุ่มจาก บช. และก็มีวิชาญ จากคณะวิศวะ เมื่อเพื่อนทั้งสี่คน เห็นด้วย พวกเราก็เริ่มท�ำการบ้าน หาข้อมูลกัน เริ่มต้นด้วยการติดต่อ สายการบินเพือ่ ค�ำนวนหาต้นทุน(ได้ ใช้ความรู้ที่อาจารย์สอนจากคณะ พาณิชย์ศาสตร์และการบัญชี) สมัย ก่อน ถ้าไปฮ่องกงกับบริษทั ทัวร์ทจี่ ดั น�ำเที่ยว ราคาจะอยู่ที่ไม่ต�่ำกว่าห้า พันกว่าถึงหกพันบาทต่อคน การเจ รสอบถามราคากับสายการบินหลาย สาย และมาถูกใจเอาทีส่ ายการบิน

China Airlineเพราะให้ราคาต�ำ่ สุด ผจก.ก็ใจดีกับพวกเรามาก ตอน นั้นยังไม่รู้หรอกว่าจะมีคนไป เที่ยวด้วยมากน้อยสักเท่าไหร่ ขณะเดียวกันก็ติดต่อประสานกับ นักศึกษาทีเ่ คยมาแลกเปลีย่ น และ คนที่ช่วยเหลือประสานงานให้ เป็นอย่างดีมากๆก็คือ Kitter กับ Sophie ที่ช่วยติดต่อเรื่องที่พัก หรือหอพักให้ ในที่สุดก็ได้ที่พักซึ่ง อยูฝ่ ง่ั ฮ่องกงชือ่ “Diosesan Youth Center” คล้าย YMCAบ้านเรา ราคา ถูก สะอาด แต่ต้องอยู่ในระเบียบ ของเขา ข้อส�ำคัญคือห้ามกลับเข้า ที่พักเกินสี่ทุ่ม เพราะประตูใหญ่ ของหอพักจะปิดตอนสี่ทุ่ม การค�ำนวนค่าใช้จ่ายซึ่งรวม – ค่าเครื่องบิน-ค่าหนังสือเดินทาง และค่าท�ำ visa เป็นแบบ Group Tour ค่าทีพ่ กั ค่ารถ Busพาน�ำเทีย่ ว และค่าเข้าชมสถานทีท่ อ่ งเทีย่ วรวม ทั้งสิ้น 7วัน อยู่ที่ราคา 2,900บาท การติดต่อเรือ่ งทีพ่ กั และรถ busนัน้ นักศึกษามหาวิทยาลัย ฮ่องกงจะ ช่วยเหลือแนะน�ำและช่วยประสาน


165

งานให้เป็นอย่างดี จ�ำได้ว่าค่าตั๋ว เครื่องบิน China Airline คิดใน ราคาเหมาล�ำที่ 1,900บาทต่อคน และค่าทีพ่ กั ตกคนละไม่ถงึ 100บาท ต่อคนต่อคืนรวมอาหารเช้า เป็นโจ๊ก ซึง่ เราจ�ำได้วา่ อร่อยมากๆ นับว่าเป็น ราคาทีถ่ กู มากเมือ่ เทียบกับต้องเดิน ทางไปเอง และในสมัยนัน้ ฮ่องกงก็ เป็นประเทศทีค่ นรุน่ เราใฝ่ฝนั อยาก จะไป เพราะที่นั่นผู้คนแต่งตัวตาม แฟชั่นดูทันสมัย สินค้าราคาถูกน่า ซือ้ เพราะไม่ตอ้ งเสียภาษีโดยเฉพาะ พวก เครื่องไฟฟ้า-นาฬิกา-วิทยุมือ ถือ-ปากกา หรือแม้แต่เครือ่ งคิดเลข ก็มใี ห้เลือกหลากหลาย ราคาถูกกว่า บ้านเรามาก ทัง้ สีห่ นุม่ ทีเ่ รากล่าวถึงแล้ว และ หนึ่งหญิงเดียว คือเรา ช่วงนั้นก็มี การนัดเจอกันเพือ่ วางแผนและแบ่ง งานกันท�ำ ทุกคนต่างก็มคี วามถนัด กันคนละด้าน (ยกเว้นเรา ที่ค่อน ข้างจะซื่อบื่อไปซะเกือบทุกเรื่อง) หลังจากได้มีการแบ่งงานกันท�ำก็ เลยท�ำให้งานเดินหน้าไปได้อย่าง รวดเร็ว Mr. Changผจก. China

Airlineซึ่งใจดีและเอ็นดูและให้เกี ยรติพวกนิสิตจุฬาฯเป็นอย่างมาก ทุกครั้งที่เราไปติดต่อกับเค้าเราก็ แต่งชุดนิสิต ไปพบเค้าที่Officeซึ่ง อยู่ที่ถนนพัฒพงษ์ใกล้จุฬาฯ จ�ำได้ ว่าเราคุยกันอย่างถูกอัธยาสัย เรา ไปพบเค้าทุกครั้งก็อ้อนวอนขอต่อ ราคาค่าตั๋ว จน Mr. Changต้องท ำเรือ่ งขอไปทีบ่ ริษทั แม่ทสี่ ำ� นักงาน ใหญ่ทไี่ ต้หวัน ทัง้ ๆทีพ่ วกเรายังไม่รู้ จ�ำนวนคนที่จะไปทั้งหมด ในที่สุด ทางส�ำนักงานใหญ่ก็พิจารณาคิด ในราคาพิเศษที่ซื้อแบบเหมาล�ำให้ ตั้งแต่ต้นเลย


166


167

เที่ยวโรงถ่ายของ “ชอร์บราเดอร์” ช่วงนั้นเมืองไทยนิยมหนัง ประเภทก�ำลังภายใน และโรงหนัง โอเดียน ก็เป็นโรงหนังที่ฉายหนัง จีนก�ำลังภายในเป็นหลัก สิ่งที่แว๊ป เข้ามาในหัวของทีมงานคือน่าจะจัด ให้ไปเที่ยวโรงถ่ายของ “ชอร์บรา เดอร์” เราได้ขอให้เพื่อนนักศึกษา ที่ฮ่องกงได้ลองช่วยขอให้พวกเรา เข้าชมโรงถายของเขาแล้ว แต่ทาง โรงถ่ายเข้มงวดและไม่อนุญาติให้ เข้าเยีย่ มชมได้ เราถึงได้ปรึกษาพ่อ ให้ช่วยแนะน�ำคนที่เราควรไปพบ ที่โรงหนังโอเดียน พ่อก็ช่วยเขียน จม.สั้นๆถึงคุณ ธวัชชัย ชินสุวพลา เจ้าของโรงหนัง ฝากฝังให้ชว่ ยเหลือ เรา จ�ำได้ว่าคุณธวัชชัย เป็นคนมี อัธยาสัยดี-ใจดีมากและเมื่อพวก

เราเล่าถึงวัฒถุประสงค์ของการน�ำ นักศึษาไปทัศนาจรฮ่องกงแล้ว คุน ธวัชชัยก็รับปากว่าจะติดต่อทางช อร์บราเดอร์ ทีฮ่ อ่ งกงให้อยากบอก ว่าตอนนั้นภูมิใจในเครื่องแบบนิ สิตจุฬาฯมาก ที่เราไปไหนก็ได้รับ ความเอ็นดู-ต้อนรับและให้เกียรติ ในสถาบันของพวกเราเป็นอย่างดี และในที่สุด ทางโรงหนังโอเดียน ซึ่งเป็นตัวแทนขายหนังของ ชอร์ บราเดอร์ในประเทศไทย ก็ติดต่อ ไปยังฮ่องกง เพือ่ ขออนุญาตให้คณะ ทัศนาจรจากจุฬา เข้าเยี่ยมชมโรง ถ่ายหนังของชอร์บราเดอร์ได้สำ� เร็จ พวกเราดีใจมากเลย


168

อุปสรรคสำ�คัญที่ต้องฟันฝ่า องค์กรใหญ่ๆเสียอีก วาระของเรา อยู่แทบท้ายสุด จ�ำได้ว่าเขามีวาระ การจัดพานิสิตไปต่างประเทศ ส�ำคัญก่อนหน้าเรา เป็นเรื่องกีฬา เป็นคณะใหญ่เช่นนี้ยังไม่เคยมีใคร ของมหาวิทยาลัย จ�ำได้ว่าใช้เวลา ท�ำมาก่อน ถึงแม้วา่ จะเป็นเพียงแค่ ยาวนานมาก ขณะทีเ่ รานัง่ รอว่าเมือ่ ประเทศฮ่องกง ซึง่ ก็ไม่คอ่ ยไกลนัก ไหร่จะถึงเรือ่ งของเราซะที เราก็รอ ใช้เวลาเดินทางสมัยนัน้ ประมาณสาม ด้วยใจตุ้มๆต่อมๆ จนมาถึงวาระ ชั่วโมง แต่ก็เป็นเรื่องที่ฮือฮาและ เรื่องของเรา ซึ่งโชคดีที่วาระของ กล่าวขวัญ ปัญหาก็คือ เราต้องน�ำ เราเริม่ ใกล้คำ�่ แล้ว คนก�ำลังเหนือ่ ยๆ เรื่องไปเสนอให้กับคณะกรรมการ หิวๆ ก็มาถึงวาระของเรา ปรากฎ สโมสรนิสิตจุฬาฯ (สจม.) เพื่อขอ ว่ามีการถามกันแรงเหมือนกัน ถาม อนุญาตให้จดั การน�ำเพือ่ นนิสติ เดิน ว่าการจัดไปต่างประเทศของชมรม ทางไปต่างประเทศได้ ดังนั้นการที่ วิเทศสัมพันธ์ไม่คดิ ว่าฟุม่ เฟือยหรือ จะจัดไปได้หรือไม่ได้ ก็คือเราต้อง เราก็ตอบไปว่า ถึงแม้วา่ เราไม่จดั ไป น�ำวาระนีเ้ ข้าไปเสนอในวันประชุม แต่นิสิตก็หาทางไปกันส่วนตัวอยู่ กรรมการสโมสรนิสติ จุฬาฯ เพือ่ ให้ แล้ว เรามีตัวเลขสถิติคนไปฮ่องกง ที่ประชุมเป็นผู้ตัดสินใจ มาอ้างอิง และบอกว่าหากชมรม วันที่มีการประชุมวาระนี้ เป็น วิเทศสัมพันธ์จัด จะช่วยประหยัด เรื่องที่ลุ้นนระทึกส�ำหรับพวกเรา เงิน เพราะจัดเป็นกลุม่ แบบนีร้ าคา เลยนะ เราต้องเข้าไปชีแ้ จงในฐานะ ต�่ำกว่าบริษัทจัดน�ำเที่ยวกว่าครึ่ง ปฏิคมหัวหน้าคณะน�ำนิสติ ไปทัศนะ หนึ่ง ค�ำถามต่อมาที่ทางกรรมการ ศึกษา ในชีวิตนี้ยังไม่เคยเข้าร่วม สจม. ถามนั้นเราเดามาล่วงหน้า ประชุมกับ สจม. กับเขาเลย พวก แล้ว เขาถามเราว่าแล้วเราแน่ใจ ทีมงานชายหนุม่ อีกสีค่ น ก็ได้มาเป็น ว่าการน�ำพานิสติ ขึน้ เครือ่ งบินไปจะ เพื่อน มาส่งเราถึงหน้าห้องประชุม ปลอดภัยแค่ไหน เป็นค�ำถามทีพ่ วก และนัง่ ลุน้ รอฟังผลอยูน่ อกห้อง ใน กรรมการคาดว่าจะท�ำให้เราต้องจน วันนัน้ ดูกรรมการ สจม. หน้าตาคร�ำ่ มุมแน่ๆ เราก็ตอบว่าค�ำถามแบบนี้ เครียดยิง่ กว่าผูบ้ ริหารระดับสูงของ มันก็เหมือนปัญหาโลกแตก อุบตั เิ ห


169

ตุใดๆนัน้ ไม่มใี ครรับประกันได้วา่ จะ เกิดหรือไม่เกิด เราเลยต้องถามกลับ ไปว่า หน้าทีข่ องปฏิคมวิเทศสัมพันธ์ นั้น จะมีกิจกรรมหนึ่งที่พานิสิตไป ทัศนศึกษา งัน้ เราขอถามในทีป่ ระชุม ว่า หากเราต้องพานิสิตเดินทางไป ท่องเที่ยวที่พัทยา ใช้เวลาเดินทาง โดยรถยนต์จากกรุงเทพถึงพัทยา กินเวลาประมาณสามชัง่ โมง ( สมัย นั้นยังไม่มีทางไฮเวย์บางนาตราด ถนนที่ไปพัทยายังแคบ จึงใช้เวลา เดินทางนานกว่าปัจจุบัน ) กับพา นิสิตเดินทางไปโดยเครื่องบินจาก กรุงเทพฯ ไปฮ่องกง กินเวลาสาม ชั่วโมงเช่นกัน จากสถิติการเดิน ทางอันไหนจะมีโอกาสเกิดอุบตั เิ หตุ มากกว่ากัน เราย�้ำว่า”สถิติที่ผ่าน มา อันไหนโอกาสจะเกิดมากกว่า กัน” เราขอให้ทปี่ ระชุมช่วยยกมือ โหวตค�ำถามของเรา เราก็ลุ้นด้วย ใจระทึกนะตอนนั้น และผลการ โหวต ที่ประชุมก็เลือกว่าการเดิน ทางโดยเครื่องบินดังกล่าวโอกาส จะปลอดภัยกว่าทางรถยนต์ บอก ตามตรงว่าเป็นเหตุการณ์ในความ ทรงจ�ำที่ดีของเราเลยนะ ที่ได้จัด แบบผ่านการโวตที่เสียงข้างมาก เห็นด้วยกับการให้จัดเดินทางโดย

เครื่องบินได้ เราออกมาจากห้อง ประชุม และรีบบอกข่าวดีกบั เพือ่ นๆ ทีมงานทีน่ งั่ รอแบบลุน้ ระทึกไปกับ เราด้วยความดีใจ เมือ่ ได้รับอนุมัติให้จัดแล้ว การ ท�ำโปสเตอร์เชิญชวนผูส้ นใจจะเดิน ทางไปฮ่องกง และ เปิดการรับสมัคร ซึง่ ก็เริม่ คึกคักขึน้ นอกจากนิสติ แล้ว แทบไม่นา่ เชือ่ เลยว่ามีอาจารย์จาก คณะวิศวะคือ อ.พิเศษ ปัทพงษ์ และคณะบัญชี คือ อ. ชมเพลิน จันทร์เรืองเพ็ญ และสามี รุน่ พีจ่ ฬุ า (ปรีดา จันทร์เรืองเพ็ญ) ก็ขอร่วม เดินทางด้วย พวกเราดีใจและอบอุน่ ทีม่ พี วกท่านๆร่วมไปด้วย มีเพือ่ นๆ ชาวบัญชีกไ็ ปกันบ้างหลายคน ช่วง ที่เราจัดไปฮ่องกงนี้ตรงกับเวลาที่ พวกเราอยูป่ สี ี่ ซึง่ ตามประเพณีกจ็ ะ ไปภูกระดึงกัน เราก็เสียดายมากๆ เลยทีไ่ ม่ได้รว่ มไปเทีย่ วภูกระดึงกับ พวกเรา ท�ำให้ขาดประสพการณ์รว่ ม ทุกข์ร่วมสุขกันตอนไต่ขึ้นภู ช่วงรับสมัครคนไปฮ่องกงนั้น เภา(เภาลีนา) ขอร้องเราให้ไปพบ กับคุณแม่เภา เพื่อช่วยขอให้คุณ แม่อนุญาตให้เภาร่วมไปฮ่องกงด้วย เราจ�ำได้วา่ เภาพาเราไปทีบ่ ริษทั อลิ


170

ตาเรีย อยูต่ รงราชประสงค์ บริเวณ เกษร ไปพบคุณแม่ ให้คุณแม่ดูตัว คนจัดน�ำเทีย่ ว มาถึงตอนนี้ คิดแล้ว ก็ข�ำนะ เพราะยายเตายังไม่เคยไป ฮ่องกงมาก่อนเลย แต่ริอาจหาญ มาจัดทัศนศึกษาถึงฮ่องกงนะ ใน ที่สุดคุณแม่ก็ยอมให้เภาร่วมเดิน ทางไปด้วย ตามแผนเราต้องแยกเดินทาง ไปล่วงหน้าคนเดียว ด้วยสายการบิน Cathay Pacificเพือ่ จ่ายมัดจ�ำรถB usเพื่อจองที่พัก ฯลฯ ถึงตอนนี้พ่อ เราซึ่งฟังเราเม้าท์ให้พี่น้องฟังเป็น ระยะๆ ก็เริ่มเป็นห่วงว่ายายเตา จะรอดไหมเนีย่ ยังไม่เคยไปฮ่องกง ด้วย ซ�ำ้ อีกทัง้ ยังไม่เคยเดินทางออก นอกประเทศด้วย เราก็ดูท่าทางไม่ เกรงกลัวอะไรตอนนัน้ เพราะมัน่ ใจ ในกลุม่ นักศึกษาฮ่องกงว่าคงจะช่วย เหลือเราได้ และพวกเขาก็มารับเรา ที่สนามบินด้วย แต่พ่อก็ยังคงเป็น ห่วงอยู่ดี ในที่สุด เพื่อนรักของพ่อ ซึง่ เป็นนักธุรกิจ เดินทางไปมาฮ่องก งบ่อยๆ และมีทพี่ กั อยูท่ ฮี่ อ่ งกง พ่อ ก็เลยตัดสินใจฝากให้เดินทางไปกับ เพือ่ นพ่อทีเ่ ราเรียกว่าคุณลุง คุณลุง พาลูกสาวเดินทางไปด้วยกันสามคน

และพักที่Apartmentของคุณลุง จนกว่าคณะเดินทางชุดใหญ่มาถึงเรา จึงจะย้ายไปอยูท่ ี่ Diosesan Youth Centerเมือ่ ไปถึงก็ตดิ ต่อ Kitterและ Sophieนักศึกษาฮ่องกง ให้เขามา รับที่ Apartmentของคุณลุง แล้วก็ พาเราไปจัดการ เตรียมการทุกอย่าง ให้พร้อม เราเดินทางล่วงหน้าไป ฮ่องกงก่อนคณะใหญ่ประมาณสาม วัน คณะใหญ่กม็ าตามก�ำหนด ทราบ มาว่าบนเครือ่ งบินมีสถาพเหมือนอยู่ บน รถ Busขนาดใหญ่ พวกนิสิต ร้องเพลงจุฬาฯ กันสนุกสนานบน เครือ่ ง เสียดายจังเลยทีเ่ ราไม่ได้อยู่ ในบรรยากาศนั้นด้วยกัน ระหว่างที่อยู่ที่ฮ่องกง ทุกคนดู ตืน่ เต้นทีจ่ ะได้ไปเทีย่ วโรงถ่ายของช อร์บราเดอร์ขณะนัน้ เขาก�ำลังมีการ ถ่ายหนัง เป็นฉากร้านน�ำ้ ชาจ�ำลอง ในฉากจะมีถนน หมูบ่ า้ นเล็กๆพวก เราพบกับดาราชายยอดนิยมคือ เด วิท เจียง ดาราหญิง จาง เพ่ย เพ่ย ตอนนั้นพวกเราก็เลยถือโอกาสขอ ถ่ายรูปร่วมกับดาราทัง้ สองกันอย่าง สนุกสนาน นักศึกษาฮ่องกงก็เลยมี โอการได้เข้าไปเยีย่ มชมโรงถ่ายหนัง ด้วย รายการเที่ยวอื่นๆก็หนีไม่พ้น


บริเวณชมวิวที่ Vivtoria Peak

171


172

ที่จะต้องขึ้นไปดูวิวเกาะฮ่องกงบน ยอดเขา Victoria Peakส่วนเรื่อง Shoppingก็ไม่ต้องพูดถึง ทุกคน เตรียมตัวและรอเวลาทีจ่ ะมาซือ้ กัน ให้สนุกและเพลิดเพลิน จนเกือบเข้า ที่พักไม่ทันสี่ทุ่มซึ่งก็ไม่รู้เหมือนกัน ว่าถ้าเข้าที่พักไม่ได้แล้วพวกเราจะ ท�ำอย่างไร ไม่อยากคิดเลยแต่กโ็ ชค ดีที่กลับมาทันอย่างฉิวเฉียดจริงๆ

พวกทีมงานได้จดั ท�ำหนังสือคูม่ อื การเดินทางเล่มเล็กๆ ขนาดใหญ่ กว่าเครื่องโทรศัพย์มือถือเล็กน้อย เป็นหนังสือปกสีแดง มีค�ำแนะน�ำ ภาษากวางตุ้งบางค�ำ สถานที่พัก เพื่อส่งให้แท๊กซี่ดูเผื่อกันหลงทาง หนังสือเล่มนี้พวกคณะเดินทางทุก คนจะต้องถือติดตัว โดยเฉพาะ ตอน Shoppingจะมีตาราง ค่าเงิน 1เหรียญฮ่องกง ซึ่งตอนนั้นเท่ากับ เข้าเยี่ยมมหาวิทยาลัยฮ่องกง


173

เงินไทย 3.50บาท และท�ำเป็นตารางเทียบเงิน ฮ่องกงกับเงิน บาท เพื่อที่จะได้สะดวกเวลาซื้อของ เมื่อเขาบอกมาเป็นเงิน เหรียญฮ่องกง เราก็แค่ดูตารางปั๊บก็จะรู้ว่าเป็นเงินบาทเท่าไร ได้เลย ก็สมัยนั้นพวกเรายังไม่มีเครื่องคิดเลขพกพาเล็กๆแบบ ปัจจุบันนะ หนังสือเล่มแดงนี้ทางChina Airlineเป็น Sponsorส�ำหรับค่าใช้จ่ายจัดพิมพ์ ส�ำหรับเรื่องการท�ำหนังสือเล่ม แดงนีต้ อ้ งให้เครดิท ให้ วิชาญ“หนึง่ ในทีมงานจากคณะวิศวะ” ขากลับเมืองไทย เราต้องเดินทางล่วงหน้าก่อนคณะใหญ่ ประมาณสองชั่วโมงด้วย Cathay Pacific เพื่อมาติดต่อด่าน ตรวจคนเข้าเมืองและเจ้าหน้าที่ศุลกากร เพื่อขออ�ำนวยความ สะดวกให้กับคณะนิสิตที่จะเดินทางกลับ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ ตรวจคนเข้าเมืองและเจ้าหน้าที่ศุลกากร ก็ได้ให้ความช่วย เหลือเป็นอย่างดี แต่เครื่องบิน China Airlines เที่ยวนั้น ก็ Delay ไปสักสองชั่วโมงได้ ได้ข่าวว่าเป็นเพราะพวกเรา Shop กันเพลิน จนเขาประกาศตามตัวกันแล้ว ตามตัวกันอีก กว่าจะมากันพร้อมหน้าพร้อมตานับเป็นการเดินทางที่เราได้ ประสบการณ์ และความ ประทับใจของเพื่อนชาวฮ่องกง ซึ่ง หลังจากนั้นพวกเราก็ยังมีการติดต่อถึงกันต่อเนื่องยาวนาน ในขณะที่ กับบางคนก็ได้มีโอกาสเจอกันบ้างตอนที่เขาเดิน ทางมาเมืองไทยหรือเวลาเราไปประเทศของเขา


174

ถ่ายภาพกับนักศึกษาฮ่องกง คนขวาสุด Kitter คนที่สามจากขวา Sophie คนซ้ายสุดนักศึกษาฮ่องกงจำ�ชื่อไม่ได้


175

นอกจากนั้นเพื่อนๆบางคนเมื่อจบการศึกษาไปประกอบอาชีพ ก็ ยังมีโอกาสได้ให้ความช่วยเหลือซึ่งกันและกัน อย่างเช่น ฉุย และ ปุ๊ (แฟนฉุย) ซึ่งได้ร่วมคณะเดินทางในครั้งนั้นด้วย ท�ำให้ทั้งคู่ได้รู้จัก กับนักศึกษาฮ่องกง โดยเฉพาะ Kitter ภายหลังฉุยได้มีบริษัทจัดน�ำ เที่ยว และได้เดินทางไปฮ่องกงหลายๆครั้ง ทั้งคู่ก็สนิทกันมากขึ้น และ ได้มีการให้ความช่วยเหลือซึ่งกันและกันเรื่อยมา ตอนหลัง Kitter ก็ แต่งงานกับหมอชาวสิงคโปร์ และย้ายมาตั้งรกรากอยู่ที่สิงคโปร์ ถึง อย่างไร พวกเราก็ยังมีการติดต่อกันเป็นระยะตามแต่โอกาสจะอ�ำนวย


176


177

อยากจะบอกว่าที่เราเขียนเรื่องนี้ขึ้นมา ก็เพื่อต้องการจะเน้นให้เห็น ถึงความส�ำคัญของค�ำว่า “ สัมพันธภาพ ”–“ Relationship”ซึ่งไม่จ�ำเ ป็นว่าจะต้องเป็นคนเชือ้ ชาติ-ศาสนาใด- ภาษาใด เราก็สามารถทีจ่ ะเป็น เพือ่ นทีด่ ตี อ่ กัน ให้ความช่วยเหลือเกือ้ กูลซึง่ กันและกัน อีกทัง้ ยังอยากให้ เห็นถึงประโยชน์ของ กิจกรรมวิเทศสัมพันธ์ ที่ท�ำให้เราได้รู้จักเพื่อนต่าง คณะหรือ เพื่อนต่างชาติ ท�ำให้เราได้เรียนรู้ขนบธรรมเนียม-วัฒนธรรม ของประเทศต่างๆที่เราได้มีการติดต่อซึ่งกันและกัน นับว่าเป็นชมรมที่ ท�ำให้พวกเราได้มีประสพการณ์ที่ดีและได้น�ำมาใช้กับชีวิตการท�ำงานได้ เป็นอย่างดีอีกด้วย.


178

กิจกรรมของชมรม

พุทธศาสตร์และประเพณี ชื่อชมรมอาจจะไม่น่าสนใจนัก ส�ำหรับบางคน แต่อาจเป็นสิง่ ท้าทาย น่าค้นหาส�ำหรับหลายคน. หยีไป เข้าเพราะอยากเห็นข้อสอบ เราไป ร่วมเพราะชอบเทีย่ วประวัตศิ าสตร์ (โบราณคดีสัญจร) บางคนไปร่วม เพราะเป็นคนชอบท�ำบุญ (ทอด กฐิน) ฯลฯ Shi27 ที่เข้าเป็นสมาชิก ของชมรมพุทธ ฯ อาจมีไม่มากนัก ด้วยเหตุทคี่ วามชอบ ความเชือ่ หรือ เหตุผลต่าง ๆ กัน หยี (พรรณี) และ เปรม เป็นสองคนใน Shi27 ไม่กคี่ น ที่เป็นสมาชิกชมรม หยีเองมีความ คิดว่า เปรมเข้าไปร่วมชมรมนี้ด้วย ความศรัทธาทีต่ า่ งกับหยี เพราะหยี เข้าชมรมนี้ด้วยเหตุผลที่วา่ ถ้าท�ำ สมาธิถงึ จุดหนึง่ จะเห็นข้อสอบ จึงรีบ สมัครเลยเพือ่ จะได้ไม่ตอ้ งดูหนังสือ หนักตอนสอบ ความเชือ่ นีไ้ ม่ได้เกิด กับหยีคนเดียว เนือ่ งจากในช่วงนัน้

ท่านอาจารย์ ดร.อาจอง ชุมสาย ฯ เพิ่งกลับมาจากต่างประเทศ ก�ำลัง โด่งดังมาก เพราะมีความพิเศษตรงที่ เล่าขานกันว่าท่านนัง่ สมาธิได้ดี เวลา อ่านหนังสือท�ำให้สามารถจดจ�ำได้ แม่น เพราะฉะนัน้ จึงไม่ตอ้ งใช้เวลา อ่านหนังสือนาน เวลาสอบท่านก็ จะเห็นค�ำตอบ ท�ำให้เป็นคนเรียน เก่ง จบปริญญาเอกในขณะทีอ่ ายุยงั น้อย และท่านได้รับเชิญให้ไปเป็น อาจารย์ทปี่ รึกษาของชมรมพุทธ ฯ นิสิตสาว ๆ ทั้งหลายเลยพากันตื่น เต้น และไปสมัครเข้าชมรมพุทธ ฯ กันด้วยเหตุผลนี้ ในเวลาไร่เรี่ยกัน ท่านอาจารย์ อาจอง พร้อมด้วย เพือ่ น ๆ จากกระทรวงต่างประเทศ อีกหลายท่าน ต่างก็รวมทีมมาช่วย สอนวิชาภาษาอังกฤษทีค่ ณะ ฯ (โดย การรับเชิญจากท่านอาจารย์ที่เป็น ผู้บริหารของคณะ ฯ) ด้วยความ หล่อเหลาและความเก่งกาจสุดเท่ ของท่านอาจารย์แต่ละท่าน เวลา


179

เรียน พวกเราตาก็เหม่อมองอาจารย์ เนื่องจากชมรมพุทธศาสตร์ ฟังรู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้าง ผลสอบ และประเพณี มีวัตถุประสงค์และ จึงเฉียด ๆ ตก หน้าทีใ่ นการจัดงานด้านท�ำนุบำ� รุง ประเพณี และสืบทอดพระศาสนา จะว่าไป ไม่ว่าผลสอบจะเป็น เป็นประจ�ำอยู่แล้ว ใครสนใจ อย่างไร ท่านอาจารย์ก็ยังเป็นที่ กิจกรรมด้านไหนก็ไปร่วมได้ ไม่ กล่าวขวัญในหมู่พวกเราอยู่ดี ช่วง จ�ำกัดคณะ และไม่ตอ้ งสังกัดชมรมนี้ รับพระราชทานปริญญาบัตร ท่านก็ แต่อย่างใด Shi27 ทีส่ นใจกิจกรรม ให้เกียรติมาร่วมถ่ายรูปกับลูกศิษย์ ประเภททัศนศึกษา ท�ำบุญ ศึกษา ด้วยความยินดี วัฒนธรรมและประเพณีชาวบ้าน จึงสามารถไปเข้าร่วมกิจกรรมกับ ชมรมนี้ได้เมื่อต้องการ


180

ในปี พ.ศ 2510 ทางชมรมพุทธ ศาสตร์และประเพณี จัดโบราณคดี สัญจรไปอยุธยา-บางปะอิน โดยมี ดร.อาจอง ชุมสาย ฯ และ คุณรงค์ วงศ์สวรรค์ เป็นวิทยากรรับเชิญ เน้น ไปชมวัดเก่า ๆ โบราณสถาน และ เรียนรูป้ ระวัตศิ าสตร์ชาติไทย มีทงั้ สาระความรู้ และความบันเทิง และ ยังมีโอกาสได้ท�ำบุญด้วย


181


182


183


184

ไปทอดกฐินกับชมรมพุทธ ฯ – นั่งเรือไปที่วัด


185

ชาวบ้านมาให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น


186

ถึงเวลาอาหาร

ถ่ายรูปหมู่กับเด็ก ๆ สนุกสนานมาก


187

อนุสรณ์สถานดอนเจดีย์ (เจดีย์ยุทธหัตถี) จ.สุพรรณบุรี ปี 2510 กับชมรมพุทธศาสตร์และประเพณี ข้อมูลโดย: พรรณี เสาวนีย์ (อุณ) อุ่นใจ


188

ชีวิตชาวค่ายอาสาสมัคร ในจุฬาฯ มีชมรมต่างๆให้นิสิต เลือกท�ำกิจกรรมตามความสมัคร ใจ หนึ่งในนั้นมีชมรมค่ายอาสา สมัครรวมอยู่ด้วย ผู้ที่สนใจชมรม นีม้ กั จะเป็นผูท้ มี่ อี ดุ มการณ์ทางการ เมือง ให้ความส�ำคัญกับการพัฒนา ประเทศ ส่วนมาก จะเป็นนิสติ คณะ รัฐศาสตร์ ในรุน่ เรา Shi27 มี น้อย (ธีรนาถ) เป็นชาวค่าย สจม. ส่วนแก๊งพวกเรามี เป๋อ เป้า ตุย๋ แหวว แจ๊ว ไก่ น้า(ศิริพร พจนา นนท์) เป็นชาวค่ายอาสาพัฒนา ชนบท ค่ายนีม้ สี มาชิกมาจากจุฬาฯ และธรรมศาสตร์รวมกันหลายคณะ ทัง้ รัฐศาสตร์ วิศวะ อักษร สถาปัตย์ ครุศาสตร์ และ บัญชี พวกเราชาวบัญชีไปเป็นสมาชิก ค่ายนีท้ งั้ ๆ ทีไ่ ม่มอี ดุ มการณ์ทางการ เมืองแต่อย่างไร แต่เป็นเพราะชีวติ ประจ�ำวัน หลังเลิกเรียนที่คณะฯ พวกเราจะไปที่หอพักนักศึกษา คริสเตียน (S.C.C.) ทีเ่ ชิงสะพานหัว ช้างเกือบทุกวัน เพราะทีน่ นั่ สะดวก สบาย มีหอ้ งสมุดใหญ่ มีโรงอาหาร

และเป็นทางผ่านกลับบ้าน เราไป ท�ำการบ้าน อ่านหนังสือสอบ คุย กันจนได้เวลา 17:00 -18:00 น. ก็ แยกย้ายกันกลับบ้าน ทีน่ นั่ เราได้รจู้ กั ชาวหอซึง่ มาจาก จุฬาฯและธรรมศาสตร์หลายคน เมื่อสนิทกันก็คุยกันเรื่องการเมือง รู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้าง รู้แต่ว่า เป็นการปลุกจิตส�ำนึกให้รักชาติ จนในที่สุดก็ชวนกันไปท�ำงานค่าย อาสาสมัครพัฒนาชนบทในช่วงหยุด เทอมใหญ่ เรามีการประชุมร่วม กันโดยใช้สถานที่ของโรงเรียนสม ประสงค์ของท่านอาจารย์หม่อม ดุษฎี บริพัตร ซึ่งท่านเมตตาให้ เรามาประชุมได้ทุกครั้งที่ต้องการ บางครั้งท่านก็เตรียมขนมมาให้ ด้วย เมื่อการประชุมได้ข้อสรุป แล้วว่าจะไปท�ำอะไร ที่ไหน ผลที่ ได้คืออะไร ก็จะท�ำแผนงานออก มาว่า แต่ละโครงการต้องการใช้ เงินเท่าไหร่ หาเงินอย่างไร จ�ำนวน สมาชิกมีเท่าไร ใครเป็นประธาน ค่าย (ประธานค่ายเป็น Hero คล้าย ประธานเชียร์) เป็นต้น


189

พวกเราไปค่ายหลายครั้ง ทั้ง ภาคอีสานคือทีอ่ ำ� เภอโนนสูงจังหวัด อุดรธานี และภาคกลางที่วัดห้วย หวาย อ�ำเภอเสาไห้ จังหวัดสระบุรี แต่ในครัง้ นีข้ อเล่าชีวติ ชาวค่ายทีว่ ดั ห้วยหวายจังหวัดสระบุรี เพราะมี เรื่องไม่คาดคิดเกิดขึ้น โครงการนีจ้ ะไปปรับปรุงอาคาร โรงเรียนสองชั้น ในวันเดินทาง เรา มารวมพลทีโ่ รงเรียนสมประสงค์ใกล้ ประตูนำ�้ เดินทางด้วยรถทีเ่ ช่ามา มี ชาวค่ายประมาณ 20 คน ประธาน ค่ายคือทวีทอง หงษ์ววิ ฒ ั น์ (ปัจจุบนั คือ ดร.ทวีทอง เจ้าของส�ำนักพิมพ์

แสงแดด)จากคณะรัฐศาสตร์ มี เพือ่ นชาวรัฐศาสตร์รนุ่ 09 อีกหลาย คน ที่จ�ำได้คือ วีระยุค พันธุเพชร ปกรณ์ สัตยวณิช เฉลิมลาภ โกศิ น ดร.สุริชัย หวันแก้ว (ปัจจุบัน เพือ่ นเหล่านีเ้ กษียณจากงานประจ�ำ แล้ว แต่บางคนก็ยงั ท�ำงานช่วยเหลือ สังคมตามอุดมการณ์ที่มีอยู่) เมื่อ ไปถึง มีก�ำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และลูก บ้านมาต้อนรับ แจกผ้าขาวม้าใหม่ ให้พวกเราคนละผืน ประธานกล่าว ถึงวัตถุประสงค์ของการมาท�ำค่ายที่ นี่ และฝากเนือ้ ฝากตัวเป็นลูกหลาน ของชาวห้วยหวายด้วย


190

ในการท�ำงานจะมีประกาศ กิจกรรมทีต่ อ้ งท�ำในแต่ละวันว่าใคร อยู่ฝ่ายไหน เช่น ฝ่ายก่อสร้าง ฝ่าย พัสดุ ฝ่ายอาหารและเครือ่ งดืม่ ฝ่าย นันทนาการ พวกเราชาวบัญชีจะได้ อยูฝ่ า่ ยละ2-3คน ถ้าวันไหนอยูฝ่ า่ ย ก่อสร้าง เราท�ำได้เพียงผสมปูน ขน ปูนไปแจกคนที่ก่ออิฐผนังโรงเรียน ถ้าอยูฝ่ า่ ยอาหารก็จะช่วยกันเตรียม

เครือ่ งปรุงท�ำแกงเผ็ด ผัดผัก แกงจืด อาหารประเภทหมูทอดไม่ค่อยมี เพราะเปลืองงบประมาณ เราท�ำ อาหารสามมื้อและขนมยามบ่าย หนึ่งอย่าง เช่น ถั่วเขียวต้มน�้ำตาล มันต้มน�้ำขิง กล้วยบวดชี ระหว่าง เวลาท�ำงานเราจะบริการน�้ำหวาน น�้ำแข็งไส หลังเลิกงาน มีเวลารับ ประทานอาหาร พักผ่อน


191


192

ประมาณ 20:00 น. จะมารวม ตัวกันทีเ่ สาธง ประธานสรุปผลงาน ของวันนีแ้ ละแผนงานของพรุง่ นี้ ทุก คนเสนอปัญหาต่าง ๆ ได้ มีบ้างที่ เป็นปัญหาเรือ่ งชาวค่ายด้วยกันเอง ประธานมีหน้าทีร่ บั ฟังและหาทางแก้ ปัญหา หลังจากนั้นก็ถึงเวลาร้อง เพลงจับคูค่ ยุ กันท่ามกลางแสงจันทร์ บางคูก่ ไ็ ด้เป็นแฟนกันและแต่งงาน กันไปหลายคู่ ประมาณ 24:00 น. ประธานก็จะให้ทุกคนแยกย้ายกัน ไปนอน เตรียมแรงไว้เพื่อวันรุ่งขึ้น พวกเราผูห้ ญิงนอนรวมกัน มีผชู้ าย บางคนนอนเฝ้าหน้าห้อง

มี เ รื่ อ งเกิ ด ขึ้ น ในคื น หนึ่ ง ประมาณตีสอง มีผชู้ ายชาวบ้านปีน หน้าต่างเข้ามาในห้องผู้หญิง น้อง จากคณะรัฐศาสตร์นอนริมหน้าต่าง ก�ำลังหลับสนิท แต่ตอ้ งตกใจตืน่ ขึน้ มาร้องโวยวายว่า พี่ๆๆๆๆ มีผู้ชาย เข้ามา ช่วยหนูด้วย พวกเราทุกคน ตกใจ รีบลุกขึน้ ร้องตะโกนกันลัน่ จน ผู้ชายชาวบ้านคนนั้นกระโดดออก ทางหน้าต่างหนีไป ชาวค่ายชายวิง่ ไล่ตามจับก็ไม่ทนั มองหน้าก็ไม่เห็น เพราะสมัยนัน้ ยังไม่มไี ฟฟ้าใช้ รุง่ ขึน้ ผูใ้ หญ่บา้ นรูเ้ รือ่ งว่าเกิดเรือ่ งไม่ดไี ม่ งามกับเด็กนิสติ นักศึกษา จึงจัดเวร ยามมาเฝ้าให้จนถึงวันปิดค่าย


193

สิ่งที่จ�ำได้มีหลายเรื่องคือ

3) การแต่งกายของชาวค่ายจะ เหมือนกัน ชุดเก่งส�ำหรับเข้าเมือง 1) การอาบน�ำ้ และซักผ้า เราต้อง หรือกลับบ้านคือกางเกงยีนส์ กับ ไปขนน�้ำจากบ่อบาดาลซึ่งอยู่ห่าง เสื้อเชิ้ตลาย สก็อต จากโรงเรียนมาทีละถัง แล้วน�ำมาใส่ ตุ่ม ใครใช้ใครตัก เราชาวบัญชีจะ 4) หลังปิดค่าย มหาวิทยาลัยยัง จับคูก่ นั ใช้นำ�้ ด้วยกัน วันหนึง่ ขณะ ไม่เปิด เราจะนัดเพื่อนชาวค่ายมา ทีข่ นน�ำ้ มาจะถึงตุม่ เพือ่ นชาววิศวะ พบกันเกือบทุกวัน แล้วแต่ใครจะว่าง แกล้งเรา (ไม่เอ่ยชื่อเพราะขณะนี้ เพราะเราสนิทสนมกันมาก อยูร่ ว่ ม เป็นผู้บริหารโรงงานน�้ำตาลอันดับ กันเป็นเดือน จนบัดนีก้ ย็ งั พบปะกัน หนึ่งของเมืองไทย) ได้เอากางเกง อยู่ เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2558 ที่ใช้แล้วเน่ามากของตัวเองจุ่มลง เราได้เรียนเชิญท่านอาจารย์หม่อม ในถังน�ำ้ ของเรา ซึง่ เราต้องเทน�ำ้ ทิง้ ดุษฎี บริพตั ร มาทีบ่ า้ นแหวว และ แต่ไม่เททิ้งธรรมดา เราเอาน�้ำราด ได้กราบท่านเนือ่ งในวันคล้ายวันเกิด หัวเพื่อนคนนั้นให้ได้สติกลับคืนมา ก่อนที่ท่านจะจากพวกเราไปอย่าง ไม่มีวันกลับ (5 กันยายน 2558) 2) การเข้าห้องสุขาในตอนกลาง เพียงเจ็ดเดือนเท่านั้น คืน เป็นเรื่องยากและล�ำบากมาก เพราะห้องน�้ำอยู่ห่างโรงเรียนราว 20 - 30 เมตร เราต้องหาเพื่อน และชวนเพือ่ นผูช้ ายช่วยเดินไปเฝ้า ให้ด้วยความจริงก็กลัวทั้งคนและ ทั้งผีนั่นเอง


194

ย้อนกลับมาจากวันนั้นถึงวันนี้ เป็นเวลาเกือบ 50 ปีแล้ว เมื่อเตา ชวนให้เขียนเรื่องชีวิตชาวค่าย จึง ต้องมานัง่ ร�ำลึก ล�ำดับความ ขณะที่ เขียนก็ยงั รูส้ กึ ภูมใิ จทีค่ รัง้ หนึง่ ได้เคย ไปสัมผัสกับชีวติ ชนบทแท้ ๆ บางครัง้ ก็ไปช่วยเกีย่ วข้าว นวดข้าว ซึง่ เป็น งานที่หนักมาก ๆ ประสบการณ์ที่

ได้รบั มายังได้นำ� มาเล่าให้ลกู ฟังเพือ่ ให้เกิดประโยชน์ในการด�ำเนินชีวติ ต่อไปว่า บางครัง้ พลังของหนุม่ สาว ก็สามารถพัฒนาชนบทเล็กๆ ให้ได้ รับสิ่งดีๆ เพื่อความเจริญของบ้าน เมืองได้เช่นกัน

ผู้ให้ข้อมูล: พรทิพย์ ประสานทอง และ สุรีย์ หงษ์ลดารมภ์


195

กิจกรรมชาวหอ (ซีมะโด่ง) หอพักนิสิตจุฬา (ซีมะโด่ง) ได้ เข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ของจุฬา เสมือนเป็นคณะหนึง่ ของจุฬา บ้าน เล็ก ๆ หลังนีเ้ ป็นทีร่ วมของนิสติ ทุก คณะ และพร้อมทีจ่ ะให้ความร่วมมือ กับทุกคณะ ทีถ่ กู เกณฑ์เป็นประจ�ำ ก็งานบอลประเพณี ต้องไปช่วยใส่ code ภาพเชียร์ทุกปี ช่วยกันอยู่ จนดึก เพราะเขาจะมาขอให้ช่วย ตอนใกล้งาน ซึ่งเราก็เต็มใจที่ได้มี

ส่วนร่วม และเนื่องจากบ้านเรามี ต้นจามจุรีใหญ่ พวกเราก็ปีนขึ้น ไปเอากิ่งลงมาช่วยกันเด็ดใบ เพื่อ ไปไปรยใส่น้องในวันรับน้องใหม่ เป็นประจ�ำเช่นนี้ทุกปี ซีมะโด่งเป็นที่พักของชาวจุฬา ที่มาจากต่างจังหวัด เราใช้ชีวิต แบบบ้าน ๆ เรียบง่าย มีเรื่องเล่า กันมากมาย มีความสุขและมีเรื่อง ให้จดจ�ำไม่รู้ลืมเลย ข้อมูลโดย: เบญจวรรณ


196

การประกอบเหรียญช่วงแรก โดย อุ่นใจ อยู่ๆ...ไม่รู้เนื้อรู้ตัว ช่วงท้าย ปีเก่าใกล้ขึ้นปีใหม่คุณเหรัญญิก ของชมรมจุฬาฯ 09 (คุณนิรมล/ เตียง) คุยกันอยู่ด้วยเรื่องจิปาถะ เธอก็แทรกขึ้นมาว่า.. อุ่น..อุ่นช่วย มองหาคน จัดประกอบเหรียญกัน หน่อยซิ

ราชพิธีฉลองพระชนมายุ ๕ รอบ ๒ เมษายน ๒๕๕๘ สมเด็จพระ เทพรัตนราชสุดาฯสยามบรม ราชกุมารี เพื่อมอบให้ผู้เข้าร่วม กิจกรรม เดิน-วิ่งอุทยานจามจุรี วันที่ ๒๑กุมภาพันธ์ ๒๕๕๙ ซึ่ง จัดขึ้นโดยชมรม จุฬาฯ o๙ ไว้ให้ จ�ำนวน 10,000 เหรียญ เป็นที่ เรียบร้อยแล้ว

ก็เป็นงงถามไปว่าจะให้ ประกอบอะไรกันเพราะแว่วๆมา ว่า ท่านอดีตอธิบดีกรมธนารักษ์ ที่เป็น Shi 27 ด้วยกัน ได้ช่วย อนุเคราะห์จัดหาเหรียญพระ

คุณเหรัญญิกเธอก็อธิบายต่อ อย่างยาวเลย จึงถามเธอไปว่าใน หน้าที่เหรัญญิก ต้องไปเกี่ยวข้อง อะไรกับการประกอบเหรียญ ดัง กล่าว


197

เธอก็ตอบว่าประธานชมรม จุฬาฯ09 ขอให้ช่วยๆกันหน่อย จึงถามว่าให้ช่วยๆท�ำอะไร เธอ บอกว่าช่วยประกอบเหรียญใส่ ตลับแล้วอัดตลับลงกรอบ โดย เป็นความคิดของจุฬาฯ09 กลุ่ม หนึ่งคิดออกแบบแล้วไปจ้างร้าน สั่งอุปกรณ์มาครบแล้ว มาติด ตรงแรงงานที่จะประกอบเหรียญ จ�ำนวน 5,000 เหรียญ ลงกรอบ และใส่ถุงพลาสติกแก้วใส

นี้ตลอดมา เราก็ย้อนว่าใครเป็น คนต้นคิดก็ไปให้เขาท�ำซิ เขามี อุปกรณ์ซื้อหามาครบแล้วก็ให้เขา ไปหาทีมท�ำ เพราะตั้ง 5,000 เหรียญ เขาเป็นคนคิด เขาคงนึก ไว้แล้วว่าจะให้ใครท�ำ หรือไม่ก็ ไปปรึกษากรรมการท่านอื่นๆซิ เรามิใช่กรรมการด้วยสักหน่อย

ครั้นพอสิ้นเดือนมกราคม 2559 คุณเหรัญญิกใช้ความเป็น เพื่อนสรุปเลยว่า อุ่น ไม่รู้จะไป หาใครแล้ว อุ่นช่วยไปชวนเหล่า จึงสงสัยถามไปว่า คนที่คิด เพื่อนๆมาช่วยกันหน่อยนะ คิด ประดิษฐ์เมื่อน�ำเสนอความคิด ว่าท�ำงานเพื่อรุ่นเราแล้วกัน มัน ว่าจะให้ใครท�ำ คิดไว้ครบวงจร หรือยัง ก็ได้รับค�ำตอบว่าไม่ทราบ ใกล้วันที่จะต้องใช้เข้ามามากแล้ว จึงได้แต่ข�ำขัน และบอกคุณ เมื่อเรามองใบหน้าเธอแล้ว เหรัญญิกไปว่า ไปข้างหน้าเถอะ ดูวิตกกังวลประกอบกับความ เพื่อนคุยเรื่องอื่นกันสนุกกว่า เป็นเพื่อนที่ดีต่อกันมาเนิ่นนาน เวลาผ่านไปในเดือนมกราคม ท�ำงานในกระทรวงศึกษาธิการ คุณเหรัญญิกก็มาเล่าว่ายังไม่รู้จะ ร่วมกันมาแต่แรกบรรจุเริ่มท�ำงาน จึงท�ำให้คิดว่าน่าที่เราจะต้องให้ หาใครช่วยประกอบเหรียญห้า พันเหรียญนี้เลย ก็ได้แต่บอก ความร่วมมือกับเธอเสียแล้วและ ว่าเดินหน้าหาต่อไปเถอะ เธอ ตรงกับอุดมคติของเรา ที่ชอบ ก็บอกว่าหาแล้วไม่มีใครรับ เรา เชิดชูคนดี ย�่ำยีคนเลว และเพื่อน ก็ชวนเธอออกนอกเรื่อง คุยกัน เราคนนี้ก็เป็นคนดี จึงรับปากกับ เธอไปว่า จะลองไปขอความร่วม เรื่องอื่นดีกว่า แต่คุณเหรัญญิก เธอก็แผ่นเสียงตกร่องอยู่ในเรื่อง มือจากเพื่อนๆให้มาช่วยกัน


198

ถ้ามีเพื่อนยอมช่วยก็น่าจะได้ แต่ ถ้าหาเพื่อนไม่ได้ก็จนปัญญานะ เพราะคนเดียว 5,000 เหรียญคง เป็นไปไม่ได้ ให้บังเอิญที่เมื่อไป บอกเล่าเชิญชวนเพื่อนด้านซ้าย ด้านขวาด้านหน้าด้านหลัง เพื่อน ก็ดูท่าน่าจะให้ความร่วมมือ แต่ ก็ระดมค�ำถามเช่นเดียวกับที่เรา สงสัยและถามคุณเหรัญญิกไป ก่อนหน้านี้แล้ว ทั้งๆที่ยังไม่ค่อยเข้าใจดีนัก และยังไม่มีค�ำตอบที่กระจ่างพอ ว่า 1. คนคิดท�ำไมไม่ท�ำต่อให้ จบครบวงจร 2. ท�ำไมถึงต้องเป็นเราที่ไม่รู้ เรื่องอะไรมาก่อนเลยต้อง มาท�ำ แล้วจะท�ำเป็นไหม แต่ว่าเมื่อรับปากมาแล้ว ก็มุ่งมั่นร่วมมือเพื่อความ ส�ำเร็จของงานนี้ จึงเริ่มส่งข่าวเชิญชวนนัด หมายเพื่อนฝูงที่เล็งว่าจะไม่ ปฏิเสธเราให้เสียก�ำลังใจในการมุ่ง มั่นท�ำความดีเพื่อรุ่นของเราและ

เป็นการสนองพระคุณของแหล่ง เรียนมา จุฬาลงกรณ์ ชื่นใจเหลือหลายทุกๆเพื่อน ทุกๆคนที่เชิญชวนไปไม่มีใคร ปฏิเสธ ถึงจะถามถึงจะตอบแล้ว ผู้รับฟังยังไม่กระจ่างนักแต่ก็ได้ รับความร่วมมืออย่างยากที่จะลืม เลือนในน�้ำใจของเพื่อนๆ ทั้งที่ เคยสนิทคุ้นเคยกันตั้งแต่เรียนมา ด้วยกัน กับที่ยังไม่เคยสนิทคุ้น เคยกันมาก่อน แต่ล้วนเป็นShi 27 ด้วยกัน ต่าง say yes ให้เรา มีพลังที่จะมุ่งมั่นเดินหน้าท�ำความ ดี ณ บัดนี้ มีเพื่อนคนหนึ่งที่อดไม่ได้ที่ จะขอเล่าถึงเธอ เพื่อนคนนี้สมัย เรียนก็รู้ว่าเธอชื่อนี้หน้าตาเช่นนี้ แต่ดูเหมือนไม่เคยเจรจาสังสรรค์ กันเลย ยามนี้เรารู้สึกว่าเหรียญ ตั้ง 5,000 เหรียญ ถ้าคนไม่มาก พอจะส�ำเร็จเสร็จทันหรือไม่ จะ ไปชวนเพื่อนที่ไหนอีกดี นึกย้อน ถึงเหตุการณ์ ตอนตามเพื่อน ที่ ร่วมด้วยช่วยกันอย่างแข็งขันโดย ไม่แบ่งว่าไม่ใช่ห้องเดียวกัน ไม่ใช่ เพื่อนที่รู้จักกันมาก่อน เธอก็เต็มที่ กับความพยายามหลากหลายวิธีที่


199

ร่วมกันท�ำจนชื่อเธอสะดุดหูสะดุด ตามาก พลันให้นึกถึงเธอว่า ยาม นี้ขอความช่วยเหลือเธอจะดีไหม จะได้ไหม คิดไปคิดมาอย่าทิฐินัก เลย ทั้งๆที่ไม่รู้จักกันส่วนตัวก็ดั้น ด้นหาเบอร์โทรศัพท์ ของเธอจน ได้ จะลองโทรไปเธอจะคิดว่าเรามี วัตถุประสงค์อื่นแอบแฝงอยู่หรือ เปล่าหนอ ถ้าเธอปฏิเสธจะได้อาย ไหมเล่า แต่คิดว่าเธอไม่ใช่คนมอง โลกในแง่ร้าย คงเข้าใจ เราจึงไม่ รีรอโทรทันที เมื่อบอกว่าเราเป็น ใคร เล่าเรื่องความจ�ำเป็นที่อยาก จะหาคนช่วยกันท�ำงานประกอบ เหรียญให้รุ่น หัวใจเราพองโต ทันทีที่เธอตอบรับเราว่าได้เลย ยินดี จะให้ไปที่ไหน อย่างไร เมื่อ ไหร่พร้อมเสมอ ก�ำลังใจมาอักโข ทราบไหมคะว่าเธอคือใคร เดา ออกไหมเฉลยเลยค่ะเธอคือ ปุ๋ย(ปวลี)อยู่ห้องก4 มีวิชา หลายวิชาที่ ก4 ต้องเรียนคู่กับ ข4 จึงรู้หน้าเธอ แต่ไม่เคยคุยกัน เมื่อถึงวันนี้ มีความรู้สึกดีใจและ ภูมิใจมากที่ได้มีโอกาสสนิทกัน ท�ำงานร่วมกันโดยไม่ต้องตาย จากกันไปอย่างไม่รู้ตัวตนที่แท้

จริงของเธอ เธอช่างมีน�้ำใจพร้อม ยื่นมือเข้าไปช่วยในทุกกิจกรรม ที่ต้องการความช่วยเหลือพร้อม สมอง ปัญญา เวลาและใจที่เกิน ร้อย ต้องขอบคุณคุณเหรัญญิก ที่ให้เราช่วยงานนี้จนได้รู้จักเพื่อน คนนี้ คราวนี้ก็จะต้องนึกถึงสถาน ที่ วันเวลา ที่จะรวมพลร่วมมุ่ง มั่นท�ำความดี ถึงจุดนี้ถามคุณ เหรัญญิกว่า จะให้ไปท�ำที่ไหน เธอก็นึกไม่ออกบอกแต่ว่าต้อง มิดชิด สะดวกและปลอดภัย เพราะเหรียญมีค่าและราคารวม กันแล้วก็สูงอยู่ เมื่อคิดที่ไหนไม่ ได้ก็ต้องหันมามองบ้านเรา พอดี บ้านเราอยู่ใกล้หัวล�ำโพง มีรถ ใต้ดินสถานีต้นทาง เดินเข้าซอย ก็ไม่ลึกนัก ในบ้านก็พอมีบริเวณ ให้เพื่อนจอดรถได้บ้าง 4-5 คัน จึงขอใช้ที่บ้านเป็นที่รวมพลร่วม กันท�ำความดี เพื่อนๆก็ขานรับ พร้อมเพรียงกันจะมาในวันพุธที่ 10 กุมภาพันธ์ 2559 คุณเหรัญญิก รีบขนอุปกรณ์ หลากหลายมาส่งไว้พร้อมทั้งร่วม กันท�ำความรู้จักและเรียนรู้เกี่ยว


200

กับอุปกรณ์ต่างๆที่เขาจัดมาให้ แต่โอ้อนิจจัง อีกสามวันแรงงานเพื่อน จะพร้อมพรั่งมากันแล้ว แต่ตัวกรอบที่เป็นแผ่นพลาสติกเจาะรูกลม ส�ำหรับอัดเหรียญที่บรรจุลงตลับแล้วใส่ลงไปในแผ่นนี้ยังไม่พร้อมนัก ยังต้องรอเพราะอะไรหรือจ๊ะ ไหนว่าพร้อมแล้วเสร็จแล้ว รอแรงงาน ไงล่ะ จึงทราบว่าแผ่นกรอบนี้พิมพ์ข้อความตัวทองว่าเดินวิ่ง อุทยาน จามจุรี ๒๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๙ เสร็จเรียบร้อยแล้ว แต่โลโก้ จุฬาฯ o๙ ที่มีหลากสี ซึ่งจะต้องอยู่เหนือตัวหนังสือสองบรรทัดนั้นยังพิมพ์ไม่ เสร็จ ให้เป็นงง ว่าท�ำไมไม่ผลิตให้เสร็จจากแหล่งเดียว ครั้งเดียวจบ ทราบมาว่าที่คิดไว้ตั้งใจจะมาติดสติ๊กเกอร์แต่ทดลองแล้วไม่ประสบผล ส�ำเร็จเป็นที่พอใจ จึงต้องเปลี่ยนเป็นพิมพ์โลโก้แทน


201

1 กรอบที่จะใช้บรรจุเหรียญ

3.ข้อความสีทองที่พิมพ์มาก่อน

2. ช่องที่จะบรรจุเหรียญลงไป

4. โลโก้จุฬา09 ที่ต้องพิมพ์เพิ่ม


202

ด้วยโลโก้ที่ขาดไปนี้ เป็นเหตุ นี้เองก็รีบให้เต็มที่แล้ว ในการรอ ให้บังเอิญให้รู้จักกับเพื่อนที่แสนดี รับงานกับเธอได้สัมผัสถึงความ ‘เอาใจใส่ ในงาน’ อย่างน่าชื่นชม Shi 27 อีกคนหนึ่ง คือเธอจะขอตรวจความเรียบร้อย ที่ได้สัมผัสความดีความมีน�้ำใจ ของการพิมพ์โลโก้ทุกๆแผ่น ความเสียสละเพื่อส่วนรวม โดยที่ ก่อนส่งให้เรามาด�ำเนินการต่อ ตอนเรียน ก็ไม่เคยคบหาสังสรรค์ ซึ่งถ้าไม่ได้เอาใจใส่ในงานแล้วเธอ กันมาก่อนเลย รู้แต่ชื่อและหน้า คงไม่ท�ำเช่นนี้ เธอเข้าใจว่าเรา เธอ ต้องรีบ แต่ก็อดไม่ได้ที่จะช่วย รู้แต่ว่าเธอเป็นลูกสาวร้านเทว ตรวจสอบให้ชั้นหนึ่งก่อน และ กรรมโอสถย่านนางเลิ้ง แค่นั้นเอง คัดอันที่บกพร่องออก โดยเธอ ทยอยส่งของหลายรอบมาก ทราบภายหลังจากที่คุยกันว่า … ดีใจจังพอจะเริ่มท�ำงานเพื่อ เธอก็ไม่รู้ไม่เรื่อง ไม่เกี่ยวไม่ข้อง ความดีก็ได้พบคนดีอีกแล้ว … มาก่อนกับปัญหาอันนี้ แต่เมื่อ ทราบปัญหา เธอก็พร้อมยื่นมือ ไม่ได้สัมผัสความเป็นคนดี เข้ามาช่วยจัดด�ำเนินการให้ โดย เพียงแค่เต่า แม้ผู้ประสานงาน ไม่คิดค่าใช้จ่ายประการใดเลยใน ที่ช่วยน�ำของมาส่งก็น่ารักมาก การพิมพ์โลโก้ทั้ง 5,000 แผ่น เธอ เข้าใจเหตุการณ์ของพวกเรา ว่า คือ เต่า(ทับทิม)อีกหนึ่งดีใจที่ได้ ต้องท�ำงานแข่งกับเวลาอย่างยิ่ง สัมผัสคนดีอีกคนแล้วค่ะ จึงยินดีทยอยมาส่งของให้แม้ว่า เตาช่วยในการเอาแผ่นกรอบ เวลาจะเย็นย�่ำค�่ำแล้ว เพื่อให้เรา พลาสติกนี้ไปพิมพ์สีสวยสดใสของ ได้ใช้ทันเช้าวันที่ 10 กุมภาพันธ์ โลโก้รุ่น และจะทยอยส่งให้เรา เพื่อว่าเมื่อสมาชิกมาถึงจะเริ่ม ประเดิมงานได้โดยไม่สะดุดติดขัด เพื่อมาด�ำเนินการต่อในอีกสาม วันข้างหน้า เธอเล่าให้ฟังว่า ก็ ต้องขอขอบคุณและชื่นชมไว้ ณ ที่ เพิ่งได้รับแผ่นนี้มาเมื่อต้นสัปดาห์ นี้ด้วยเป็นอย่างยิ่ง


203

ส่วนตัวเต่าก็ประสานงาน ใกล้ชิดติดตามข่าวทุกระยะใน ฐานะผู้รับช่วยงานนี้ รู้สึกใจชื้น และก�ำลังใจมาโข โดยที่ยังไม่ สามารถคาดค�ำนวณระยะเวลา อัตราการท�ำงาน จ�ำนวนคน ส�ำหรับการท�ำงานนี้ เนื่องจากยัง ไม่มีผู้ใดที่เคยทดลองท�ำงานนี้มา ก่อน ดังนั้นทีมเราจะต้องเป็น ผู้ริเริ่ม ลองผิดลองถูกจนกว่าจะ เข้าที่ ซึ่งคาดว่าหนึ่งชั่วโมงผ่าน ไปน่าจะพอค�ำนวณได้ ว่าจะต้อง ใช้เวลาทั้งหมดกี่ชั่วโมงจะต้องใช้ คนทั้งหมดกี่คน ในการประกอบ เหรียญ 1,000 เหรียญนี้ เมื่อถึงเช้าวันที่ 10 กุมภาพันธ์ ตรงกับวันพุธทางเราก็จัดเตรียม บ้าน เตรียมสถานที่ อาหาร เครื่องดื่ม อุปกรณ์อ�ำนวยความ สะดวกตามที่คาดคิด รอเพื่อนที่ ทยอยกันมาเรื่อยๆ มารายแรกคือ ปลื้มกมลที่มาพร้อมอาหารจากร้า นวราภรณ์ที่เริ่มตั้งแต่อาหารเช้า กันเลย เธอน�ำมามากมายเสมือน หนึ่งจะมาเปิด สาขา ณ ตรงนี้ จากนั้นเพื่อนๆก็ทยอยมากันทั้ง จากที่อยู่ใกล้และอยู่ไกล ทั้งทาง

รถใต้ดิน รถประจ�ำทาง รถที่ บ้านมาส่ง รถแท็กซี่ รถขับมาเอง อย่างน่าชื่นใจโดยมิบ่นว่าเรื่อง การเดินทาง ทั้ง ก4 และ ข4 กับ หนึ่งสมทบ

อาหารหลากหลายที่ช่วยกัน จัดหามาทั้งจากร้านมีชื่อ/ไม่มี ชื่อคือทำ�เองเริ่มจากมื้อเช้ายัน สายบ่ายเที่ยง ล้วนอิ่มอร่อย คุ้มอ้วนแน่นอนขอยืนยัน


204

หลังจากทักทายย้อนความจ�ำ ทวนความคิดว่าใครเป็นใคร เคย เรียนร่วมกันวิชาใด ระหว่างห้อง ก4 และ ข4 แล้ว ไม่นานความ คุ้นเคยก็รื้อฟื้นขึ้นมา ณ ทันใด สามารถร่วมงานกันได้อย่างน่า ชื่นใจ ถึงจุดนี้เราในฐานะที่รับงาน มาจากเหรัญญิกก็คิดว่าน่าจะ เบาใจได้ เพราะซึ้งในน�้ำใจที่ เพื่อนๆเดินทางกันมา ใกล้ก็มี ไกลก็หลายคนด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม แจ่มใส ไม่เกี่ยงงอน ว่าใช้แรงงาน ประหนึ่งใช้แรงงานชาวต่าง ประเทศ เราเข้าใจแล้วว่าคนเรา การกระท�ำส�ำคัญกว่าค�ำพูด ดัง ภาษิตภาษาอังกฤษที่ว่า Action speaks louder than word รายนี้ขอทำ�ความดีพิเศษส่วนตัว เพราะเพื่อนเราทุกคนร่วมมือกัน นำ�กลับไปทำ�ที่บ้านเพิ่ม 200 ชุด มาช่วยงานจริงๆ ไม่ยึดติดกับ นำ�ส่งจึงขอสอบทวนความถูกต้อง หัวโขนสูงสุดที่เคยใส่มา เพราะ เราทุกคนคือเพื่อนที่พร้อมมาร่วม ท�ำงานกันเพื่อจุฬาฯของเรา


205

เริ่มจากปลื้ม ปาน พิม คิ้ม จากห้อง ก4 สมานสามัคคีกลมเกลียว กันกับ อิ๊ หมวด หน่อง น้อย ลักษณ์ ดาว อรสา จาก ข4 กับอีกหนึ่ง สมทบที่สุดน่ารัก มาอย่างมั่นใจว่าข้ามาคนเดียว(พร้อมอาหารอร่อยมี คุณภาพทางโภชนาการสูงเพียบ) คือแอ๊จ้า

10 ก.พ.59 วันแรกของการประกอบเหรียญ ที่บ้านอุ่นใจ เพื่อน Shi27 จากก4 ข4 สมทบ รวม 14 คนบวกกับฝ่ายสนับสนุน เป็นผู้ช่วยอีก 4 คนร่วมกันเรียนรู้วีธีการไปด้วยกันจาก 9.0015.30 ได้ผลผลิตไม่ถึง 25% ของจำ�นวนที่ต้องทำ� แม้นพลังยัง มีแต่แผ่นกรอบที่ต้องไปพิมพ์โลโก้หมดแล้วคำ�นวนคร่าวๆ พอทราบ ว่า ด้วยจำ�นวนแรงงานเท่านี้คงต้องใช้เวลาไม่น้อยกว่า4 วันจึงนัด รวมพลังกันอีกวันพุธที่ 12 ก.พ.59


206

ใกล้เที่ยงคุณเหรัญญิกก็ย่องมาส�ำรวจ คงยิ้มกระหยิ่มในใจแน่ที่ เห็นเพื่อนๆที่แสนดี มาร่วมมือร่วมใจร่วมแรงกันอย่างเข้มแข็งด้วยจุด มุ่งหมายทดแทนพระคุณของแหล่งเรียนมา จุฬาลงกรณ์ ในวันนั้น พวกเราเรียนรู้การประกอบเหรียญที่มีขั้นตอนมาก และ ละเอียดอ่อนไปทุกขั้นตอน เมื่อประกอบเสร็จแล้วต้องมีการท�ำความสะอาดกรอบ ตรวจสอบ ความถูกต้องของการใส่เหรียญ และความแน่นหนาของกรอบเพื่อไม่ ให้ชิ้นส่วนต่างๆหลุดออกจากกัน เราเรียกขั้นตอนนี้ว่าการท�ำ QC ตก บ่าย ยามแรงใกล้โรยราพร้อมตะวันที่เริ่มคล้อย ประธานเตาก็แวะ มาเติมน�้ำมันพวกเราด้วยปลาหมึกบดย่างกรอบพร้อมน�้ำจิ้มเลิศรสเพิ่ม พลังในการเร่งสปีดให้งานเดินต่อจนเสร็จ แต่อนิจจาหลังจากเพียร นับแล้ว แต่จ�ำนวนที่นับได้ก็ยังไม่ถึง 25% ของ 5,000 และกรอบที่เต่า ส่งมาให้ก็หมด ต้องรอกรอบที่จะส่งมาใหม่ นอกจากตัวเร่งเรื่องเวลาที่จะต้องใช้เหรียญแล้ว ให้บังเอิญที่บ้าน เราจะมีการซ่อมแซมในสัปดาห์หน้า จึงเหลือเวลาที่จะใช้สถานที่ได้ เพียงแค่ วันพฤหัสกับวันศุกร์ แต่กรอบจะมาส่งอีกครั้งคือในวันพฤหัส เย็น ในเย็นวันนั้น จึงจ�ำเป็นต้องขอความอนุเคราะห์จากเพื่อนๆที่แสน ดีในวันศุกร์อีกวันหนึ่ง ด้วยความหวังว่าจะประกอบเหรียญให้ได้มาก ที่สุด เนื่องจากตอนนั้นเรายังหาสถานที่ใหม่ไม่ได้ เย็นวันนั้นพวกเราถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึก แล้วแยกย้ายกันกลับบ้าน สัญญากันว่าจะมาพบกันใหม่วันศุกร์ ถ้าใครไม่ติดนัดไว้ก่อน


207

ประธาน Shi27 แวะหาเยี่ยม พร้อมปลาหมึกบดย่างแสนอร่อยในการ ประกอบเหรียญวันแรก ของเหล่าแรงงานต่าง ๆ ๆ แดนที่เดินทางกันมา หลากหลายวิธี และก็ถึงซอยสุนทรพิมลจนได้


208

เช้าวันศุกร์ที่ 12 กุมภาพันธ์ เรามีนัดกันเพื่อช่วยประกอบ เหรียญต่อ น่าเสียดายที่เพื่อนๆ หลายคนที่เริ่มช�ำนาญในงานแล้ว เมื่อวันพุธที่ 10 กุมภาพันธ์ ติด ธุระล่วงหน้ากันหลายคน จึง มาไม่ได้ในวันนี้แต่หลายคนก็ยัง ยืนยันจะมาช่วยกันให้ได้ ชื่นใจ จริงๆ เช่น หน่อง หมวด ลักษณ์ ดาว น้อย แอ๊ ก็รู้สึกชื่นใจในความ มีน�้ำใจและความร่วมมือของเหล่า เพื่อนๆที่ช่วยเป็นพลังสนับสนุน การท�ำความดี แต่ลึกๆก็ยังกังวล เล็กๆว่าคนน้อยกว่าเมื่อวันจันทร์ หลายอยู่

ช�ำนาญเมื่อวันพุธที่ผ่านมา น่า จะช่วยให้วันนี้ประกอบเหรียญได้ มากกว่าเมื่อวันพุธ ครั้นใกล้เพลเป้าและเป๋อก็มา ถึง Better late than never ประโยคแรกที่คุณเป้าเธอก้าว ลงจากรถเธอก็พูดว่า อุ่น.. เราจะ มาแค่ 2 ชั่วโมงแล้วก็จะไปนะ

พูดซ�้ำอยู่สามสี่ครั้ง หัวใจ ที่พองพอสมควรอย่างมั่นใจใน งานวันนี้ตกลงไปอยู่ที่ตาตุ่มหมด ชนิดจมดิ่ง กัดฟันเก็บไว้ในใจใน ฐานะเธอเป็นแขกมาบ้านเรา ส่วน ในใจนั้นปั่นป่วนกระอักกระอ่วน งานเมื่อวันจันทร์ก็ลุล่วงไป เกินเอื้อนเอ่ย ปล่อยให้เพื่อนๆ ได้ยังไม่ถึง 25% เลย ใจได้ชื้นขึ้น ที่มาแต่เช้าต้อนรับกันไป เมื่อปุ๋ยคนดีศรีสังคม ที่คอยยืน ไม่เป็นไรเราเป็นคนรักษาค�ำพูด คู่อยู่ช่วยในทุกงานที่เดือดร้อน ใครไม่ช่วยเราก็ต้องท�ำจนจบ แต่ มาแต่เช้าและบอกว่าสายๆจะมี แปลกที่คุณเวลคนนี้เธอช่างไม่มี สมาชิกใหม่ของบ้านหัวล�ำโพง สติไตร่ตรอง ว่าเพื่อนทุกคนที่มา มาอีกสองคน(ไม่ใช่สมาชิกใหม่... นั่งช่วยอยู่นี้ ท�ำไมเขาจึงมา ของบ้านทรายทอง) คือเป้าและ ท�ำได้อย่างสนุกสนานและเต็มจิต เป๋อ แต่จะมาสายหน่อย ฟังแล้ว เต็มใจไร้เงื่อนไข เธอผู้นี้ช่างไร้ ใจพองขึ้นมาได้อีก ว่าน่าจะช่วย เครื่องกรองที่ปากและเครื่องคิด ชดเชยสมาชิกส่วนที่ขาดไปใน ที่สมองก่อนเอ่ยค�ำพูดใดๆ ช่าง วันนี้ได้อย่างดี บวกกับความ ไม่เห็นใจและไม่เข้าใจเราบ้าง ไม่


209

ทราบมาให้เปลืองค่าทางด่วนท�ำไม แล้วยังมาพร้อมค�ำพูดป่วนสมอง ป่วนจิตใจเรา เพราะนอกจากการเร่งสปีดการประกอบเหรียญให้เสร็จ ทันงานวันที่ 21 กุมภาพันธ์ แล้ว อีกปัญหาหนึ่งคือบ้านเราจะมีการ ซ่อมใหญ่ และจะมีคนงานเข้ามาเริ่มงานในวันจันทร์นี้แล้ว ไม่สามารถ ใช้พื้นที่ได้ ต้องส่งพื้นที่ให้ผู้รับเหมาในวันจันทร์ ไม่ทราบว่าจะอพยพ เคลื่อนย้ายไปต่อที่ไหนดี สงสารตัวเองจังเลยท�ำไมต้องแบกอะไรมาก จัง คุณเหรัญญิกแท้ๆที่เป็นต้นเรื่องนี้ ระหว่างรับประทานอาหารกลางวันที่เพื่อนๆช่วยกันหอบหิ้วมา ล้วนอย่างเอร็ดอร่อยทั้งจากฝีมือและจากร้านดังแถมเติมน�้ำจิตน�้ำใจลง ไป มันจึงอร่อยมากเมื่อเราได้รับประทานร่วมกันไปกันมาและพูดเรื่อง ปัญหาสถานที่ขึ้น เป๋อก็ได้อนุเคราะห์ให้ไปใช้บ้านเธอเพื่อการนี้ต่อได้ ด้วยความเต็มใจ โดยทีมเพื่อนๆก็ยินยอมพร้อมใจขานรับการเปลี่ยนไม้ ย้ายสถานที่ ในการประกอบเหรียญโดย


210

ศุกร์ 12 ก.พ. สมาชิกก็มาน้อยกว่าวันที่ 10 ก.พ. ใจก็กังวลพอตัว พอใจพองว่ามีสองสาวจะมาเพิ่มนอกจากมาสาย Better late than never. แต่พอก้าวเข้าประตูบ้าน ใจที่พองฟุบแฟบเพราะเธอแจ้งเสียงดัง ฟังชัด ว่าจะอยู่แค่ 2 ชม. ยิ้มสู้ได้แค่กายพอรักษามารยาทเจ้าถิ่นแต่...ทำ� ไปกลายเปลี่ยนเป็น!!


211

รู้สึกเป็นทางออกที่สุขใจอย่าง บอกไม่ถูก ต้องขอขอบคุณเป๋อ อย่างมากมายในความอนุเคราะห์ ครั้งนี้ หลังอาหารเที่ยงคุณเวลเธอก็ ยังง่วนระดมช่วยงาน อย่างลืม ค�ำพูดที่ท�ำจิตเราตกไปแล้ว เวลา ผ่านไปเกิน 2 ชั่วโมงจนเกือบ จะเอื้อนเอ่ยเตือนเธอว่าครบ 2 ชั่วโมงแล้วท�ำไมยังไม่กลับ

แต่เมื่อนึกถึงสุภาษิตที่ว่า Speech is silver silence is golden ทองดีกว่าแพงกว่าเงินก็ เลยเฉยรอดู พูดไปเดี๋ยวพิกุลทอง จะหล่นเสียเปล่าๆ จนจบครบกรอบที่เต่าส่งมา เธอก็ยังนั่งอยู่อย่างเพลิดเพลินจน เกินเวลาที่เธอก�ำหนด ลืมค�ำพูด เธอเมื่อ 6 ชั่วโมงที่ผ่านมา ที่ว่า จะอยู่แค่ 2 ชั่วโมงเสียสนิท ไม่ ส่งไม้ย้ายบ้านเปลี่ยนแปลงจากซอย สุนทรพิมลสู่​่ซอยจอมพลสถานี หัวลำ�โพงสู่สถานีลาดพร้าวกลางแจ้ง ใต้ต้นไม้สู่ห้องแอร์เย็นฉ�่ำ


212

กระวีกระวาดเร่งร้อนกลับ ยัง ร่วมถ่ายรูปหมู่คล้องแขนอย่าง สนุกสนานสนิทสนมกับทีมงาน คนอื่น และ กับคนบางคนที่อาจ ไม่เคยรู้จักมักคุ้นกันมาในชีวิตการ เรียนของShi 27 เป็นแน่แท้ แถมยังได้ยินเธอตกปากรับค�ำ ว่าจันทร์ที่ 15กุมภาพันธ์จะไป บ้านเป๋อ แล้วเธอก็จากไป (คงเป็นเพราะเป็นเพื่อนสนิท กับเธอกระมัง) ไม่เป็นไรจะตาม ไปดู ผลยิ่งอัศจรรย์ เกินคาด เพราะมีภาคพิเศษพิสดารต่อใน คืนวันจันทร์ที่ 15 กุมภาพันธ์ที่ คุณ “3ป” เป๋อ ปุ๋ย เป้า ร่วมกัน เป็นนางเอกแสดง คือเธอมุ่งมั่น ร่วมกันท�ำความดีหลังเพื่อนกลับ จนถึงตีสามและตื่นมาต่องาน ก่อนเพื่อนๆในวันอังคารที่ 16 กุมภาพันธ์ ตั้งแต่ 6โมงเช้าอย่าง สนุกสนาน แม้ใบหน้าจะร่วงโรย เล็กๆจากการนอนหลับเพียง 3 ชั่วโมงแต่จิตใจยังสดใสและคึกคัก ได้ตลอดวัน ขอชื่นชมวีรกรรมครั้ง นี้เป็นอย่างยิ่งนะคะ


213

คนบางคนที่มาก็สายเพล มาถึงก็ประกาศกร้าวว่า... จะอยู่สองชั่วโมงก็จะกลับ (มาให้เสียเวลาทำ�ไม๊) จนห้าโมงเย็น ยังไม่ครบสองชั่วโมง...เลยไปคล้างแขน ยิ้มแป้นถ่ายรูปกะเขา...รู้จักเปล่าใครอะ แล้วติดใจอะไร มิทราบสามวันต่อมาทำ�เพลินเกินเวลานอน...555ตอบด้วยจ้า

เช้าวันที่ 16 กุมภาพันธ์ที่พวกเราไปถึง นอกจากจะได้เห็นความ รุ่งโรจน์ของใบหน้าคุณ “3ป” แล้วยังสังเกตเห็นได้ว่ามีคุณ ป หนึ่งยัง คงใส่เสื้อตัวเมื่อวานนี้ค่ะ 555 ก่อนจะส่งต่อให้เจ้าของบ้านซอยจอมพล ขอเล่าสรุปความรู้สึกที่ สัมผัสได้ถึงน�้ำใจอันสุดประเสริฐของ เพื่อนๆทุกๆห้องทุกๆคนที่ร่วม ภารกิจนี้ ซึ่งเกินกว่าจะหาค�ำพูดมาบรรยาย ไม่เคยนึกเคยคิดว่าในวัย ใกล้เซเว่นอัพนี้จะได้กลับมาสมานสามัคคีร่วมกันท�ำกิจกรรม อันยังมา ซึ่งหลากหลายประโยชน์


214

ทั้งสนุกสุขใจได้พูดคุย ที่ทั้งได้ฝึกทักษะในงานใหม่ ที่ทั้งได้สัมผัสถึงน�้ำใจเอื้ออาทรกันและกัน ที่ทั้งได้มิตรภาพอันใกล้ชิด ที่ทั้งได้พิศได้รู้ได้เห็นตัวตนที่แท้จริง ในหมู่เพื่อนๆที่ทั้งไม่เคยรู้จักมาก่อนเลยเช่นแอ๊ เป็นต้น ในหมู่เพื่อนที่เคยรู้หน้าแต่ไม่รู้ใจเช่น คุณ”3ป” เป็นต้น ในหมู่เพื่อนที่สนิทรู้จักกันมาก่อนก็ได้กลับมารียูเนี่ยนกัน ถึงเวลานี้ขอขอบคุณคุณเหรัญญิกที่จิกใช้งานเราจ้ะ

นอกจากถ้อยค�ำดังกล่าวที่มิอาจบรรยายได้อย่างใจนึกแล้ว ยังขอ ต่อด้วยกลอนบทนี้ซึ่งเขียนโดย รัตนวรรณ CU10 เพื่อนอุ่นใจ ต้องขอ ขอบคุณรัตนวรรณ เพื่อนรัก ไว้ ณ ที่นี้เป็นอย่างยิ่ง


215

มือต่อมือกระชับจับกันแน่น

ความแน่นแฟ้นกาลเก่ายังเนาอยู่

รวมความคิดจิตมั่นกตัญญู

บอกให้รู้รักจุฬาสถาบัน

ห้าสิบปีไมตรีรักสมัครสมาน

ร่วมประสานจัดงาน ๕๐ ปีน้องใหม่

บัญชีจุฬาฯ ๐๙ ไม่คลาไคล

ทักษะใหม่เกิดได้ในฉับพลัน

ต่างมีกันและกันอีกครั้งในครานี้

ได้พบคนที่เคยเรียนร่วมรุ่นมา

ได้พบคนไม่เคยสนิทชิดกายา

คนคบหาเป็นเพื่อนเก่ามาเนานาน

มิตรภาพอาบอุ่นละมุนหอม

ร่วมเด็ดดอมความสุขสนุกสนาน

ชมพูฟ้าเจิดแจ่มแย้มกลีบบาน

งามตระการพวกเราชาวจุฬาฯ


216

การประกอบเหรียญ โดย เป๋อ

ปลูกต้นคึ่นช่ายต้นอ้วนๆอยู่หลาย ตะกร้า อุ่นบอกว่าเวลามีงานการ กุศลจะน�ำไปประมูลขาย ได้เงินมาบ จ�ำได้ว่าวันนั้นเป็นวันศุกร์ที่ ริจาคครั้งละหลายหมื่นบาท 12 กุมภาพันธ์ 2559 เป้ากับเป๋อ ไปเลือกตั้งกรรมการสหกรณ์ออม บริเวณบ้านมีเพื่อนๆ ข4 นั่ง ทรัพย์ของ กฟผ. หลังจากสังสรรค์ ประกอบเหรียญกันใต้ตน้ ไม้ใหญ่ จ�ำ กับเพื่อนๆแล้ว ประมาณ 10.30 ได้วา่ มีอนุ่ (ต่อไปขอเรียกว่าอาจารย์ น. เป๋อชวนเป้าว่าไปบ้านอุน่ สัก2-3 อุ่น เพราะตุ่มซึ่งเป็นแม่บ้านของ ชั่วโมงได้ไหม เผื่อจะช่วยงานอุ่น อุ่นเรียกพวกเราว่าอาจารย์ทุกคน) ได้บ้าง เมื่อเป้าตกลง 2คนก็ขึ้น หน่อง หมวด ดาว ลักษณ์ ปุ๋ย ทางด่วนไปลงพระราม4 ช่วงนั้น ปลื้ม น้อย แอ๊ เตียง ทุกคน รถติดมาก ปุ๋ยโทรมาด้วยเสียงเร่ง ก้มหน้าก้มตาท�ำงานกันไป คุยกัน รีบ ถามว่าเป้าและเป๋อจะเอากาแฟ ไป หัวเราะกันไป เป็นทีส่ นุกสนาน เย็นไหมจะสั่งไว้ให้ ก็ตอบตกลงไป โดยมีอาจารย์อุ่นเป็นผู้ควบคุม ทั้งที่ปกติไม่ใช่คอกาแฟ สักพักใหญ่ตมุ่ ได้เข็นรถเครือ่ งดืม่ เมือ่ มาถึงบ้านอุน่ รูส้ กึ ตืน่ ตาตืน่ ที่เราสั่งกันทุกคนมาแจก ที่ชอบใจ ใจมาก เหมือนหลงย้อนยุคเข้ามา อีกอย่างคือไม่ว่าจะเป็นกาแฟเย็น อีกมิตหิ นึง่ บ้านอุน่ เป็นบ้านเหมือน ชาเย็นที่อยู่ในถุงพลาสติก(ถุงใหญ่ ในนวนิยายช่วงก่อนสงครามโลก มาก) จะใส่มาในถุงกระดาษสีนำ�้ ตาล คือเป็นบ้านตึก 3 ชั้นทรงคล้ายหก อีกชัน้ หนึง่ เพือ่ ท�ำให้นำ�้ แข็งละลาย เหลีย่ มสวยมาก มีรวั้ สังกะสีมรี เู ล็ก ช้าจนอยูไ่ ด้นานเป็นวัน อาจารย์อนุ่ อยู่ขอบบนเรียงเป็นแถว อุ่นบอก เขียนชือ่ เจ้าของไว้บนถุงกลัวสับสน ทีหลังว่าทีเ่ ห็นนัน้ เป็นร่องรอยของ หยิบผิด(ฉลาดดีนะอาจารย์) สะเก็ดระเบิดช่วงสงครามโลกครั้ง ที่2 เพราะบ้านอุ่นอยู่ไม่ไกลจาก หัวล�ำโพง รอบบริเวณบ้านปลูกผัก สวนครัว ในตะกร้าผลไม้ทไี่ ม่ใช้แล้ว


217

ร่วมด้วยช่วยกันประกอบเหรียญ อย่างขมีึนมุ่งมั่นสนุกสนาน เพื่อจุฬา09 อย่างเต็มจิตเต็มใจ ไร้การเกี่ยงงอนใด ๆ อย่างน่าชื่นใจ


218

ใกล้เทีย่ งถึงเวลาอาหาร เรานัง่ กันทีโ่ ต๊ะอาหารซึง่ อยูใ่ กล้ทป่ี ระกอบ เหรียญ เป็นโต๊ะยาวเหมือนในโรง อาหารของคณะ อาหารนานาชนิด ล้นโต๊ะ จ�ำได้ว่ามีข้าวมันไก่จาก ปลื้ม น�้ำพริกปลาทู ส้มต�ำไก่ทอด และอีกหลายอย่าง ทานอาหาร เสร็จก็รบี มาท�ำงานต่อแข่งกับเวลา เพราะยังมีเหรียญที่ต้องประกอบ ให้เสร็จอีกมาก ซึ่งในวันนั้นก็เกิด

การประกอบเหรียญทีเ่ รียกว่า “เป้า โมเดล” เพราะขัน้ ตอนการประกอบ เหรียญต้องใช้เวลามาก และท�ำทีละ ชิ้น มีข้อก�ำหนดว่า เมื่อประกอบ เสร็จ เหรียญด้านที่เป็นพระพักตร์ ของสมเด็จพระเทพรัตนจะต้องตรง ด้านหลังซึง่ เป็นตราสัญลักษณ์พระ ราชพิธฉี ลองพระชนมายุ ๕ รอบจะ ต้องตรงเช่นกัน

สัมผัสได้ตรงกันว่าอาหารจานนี้จานโน้นจานนั้น ล้วน อร่อยทั้งนั้น เพราะทุกอย่างที่เพื่อนคัดสรรกันมาล้วนเติม ใส่น�้ำใจลงไปทุกหยาด


219

วัสดุทใี่ ช้ประกอบเหรียญมี เหรียญ ยางวงกลมสีชมพูใส่ขอบเหรียญ ตลับพลาสติกวงกลม2 ชิน้ ประกบกันเพือ่ ใส่เหรียญ แผ่นพลาสติกสีเ่ หลีย่ ม เจาะวงกลมเพื่อใส่เหรียญที่ประกอบแล้ว ซองพลาสติก วิธีประกอบเหรียญมี 7 ขั้นตอน 1. น�ำตลับพลาสติกวงกลมสองชิ้นๆใหญ่กับเล็ก มาประกบหาคู่ท่ี ขนาดตรงกัน ท�ำไว้เป็นคู่ 2. น�ำ แผ่นพลาสติกสี่เหลี่ยมมีเบ้าวงกลมส่วนบนเหนือ โลโก้ มาเป็นหลักในการประกอบ โดยวางบนตลับ พลาสติ ก ชิ้ น ใหญ่ จ ากข้ อ 1) ที่ แ กะแยกออกแล้ ว

ส่วนประกอบทั้งหมดที่รวมกันบรรจุ เหรียญสมเด็จพระเทพฯลงกรอบ


220

3. น�ำยางวงกลมสีชมพูใส่ไปในตลับชิ้นใหญ่ ในข้อ2 4. วางเหรียญสมเด็จพระเทพรัตนฯลงบนตลับในข้อ 3 ให้พระ พักตร์ตรง 5. วางตลับพลาสติกชิ้นเล็กบน 4) ประกบแล้วกดให้แน่น 6. ประกบเสร็จแล้วใส่ในซองพลาสติก 7. ให้กลุ่มQC ด�ำเนินการตรวจสอบ

เหรียญที่ผ่านการตรวจสอบแล้วบรรจุ ใส่ถุงพลาสติกพร้อมแจก


221

การท�ำตามขัน้ ตอนทีละชิน้ อย่าง นี้ ล่าช้า เป้าเกิดความคิดว่าเราน่า จะท�ำแบบ Mass Productions คือ ขัน้ ตอนที่ 2-5 ให้ทำ� เรียงไว้เป็นแถว ตามความยาวของโต๊ะ เช่น 10-15 ชิน้ เมือ่ ท�ำเสร็จก็รวบรวมให้อกี คน ท�ำการบรรจุซองอย่างเดียว ซึง่ เมือ่ ลองท�ำวิธีนี้ พวกเราท�ำได้เร็วขึ้น มากจนช�ำนาญ ในวันนั้นพวกเรา ประกอบได้ถึง 1,000 หรียญ ก็ได้ เวลาเลิกงาน จึงนัดหมายกันว่าจะ ไปท�ำต่อที่บ้านเป๋อ ลาดพร้าว ใน วันจันทร์ที่ 15 กุมภาพันธ์ เนือ่ งจาก บ้านอาจารย์อนุ่ มีชา่ งเข้ามาปรับปรุง บ้าน พวกเราถ่ายรูปกันเป็นที่ ระลึก อาจารย์อุ่นมอบอุปกรณ์ที่ ใช้ประกอบเหรียญทั้งหมดให้เป๋อ แล้วพวกเราก็แยกย้ายกันกลับบ้าน นัดหมายกันว่าเราจะเจอกันใหม่ที่ บ้านเป๋อ

รุน่ 08.5) นัง่ ประกบคูต่ ลับพลาสติก กันค่อนคืนได้ประมาณ 2,000 คู่

วันจันทร์ที่15 กุมภาพันธ์ ที่ บ้านลาดพร้าวของเป๋อ พวกเรามา รวมตัวกันตัง้ แต่เช้า ทุกคนมีใบหน้า ยิ้มแย้มแจ่มใส พร้อมที่จะช่วยกัน ท�ำงานให้ได้มากทีส่ ดุ ตกสายพวก เรามากันมากขึน้ จนห้องทีเ่ ตรียมไว้ เล็กเกินไปต้องย้ายไปหาห้องใหม่ที่ ใหญ่กว่า วันนีเ้ พือ่ นๆน�ำอาหารมา มากมาย มี ข้าวเกรียบปากหม้อ กับสาคูไส้หมูของไก่ ขนมปังน�ำ้ แข็ง ใส จุ๊ยก้วย ของนุช(สูง) เต้าหู้ทอด ของนุช(สวย ตั้งให้คล้องกับนุชสูง) ไก่ผัดเครื่องเทศของแอ๊ ปลาหมึก ย่างน�้ำจิ้มรสเลิศของประธานเตา ข้าวหน้าไก่ของเป้า สลัดม้วนของ แมว วุ้นกะทิของปุ๋ม เค๊กวันเกิด ของหมวดรวมทั้งวุ้นวันเกิดที่เป็น ฝีมืออาจารย์อุ่นด้วย(วันนี้เป็นวัน คืนวันอาทิตย์ที่14 กุมภาพันธ์ เกิดหมวด) กะหรี่ปั๊ฟใส้ไก่ของ ที่บ้านเป๋อ เป๋อมีความคิดว่าควร ท่านผู้หญิง ข้าวเหนียวมะม่วงแม่ ประกอบตลับเป็นคู่ไว้ก่อน จึงได้ วารีของบุญเสียง(วศ09) ร่วมกับพี่เพ็ญซึ่งเป็นพี่สาว และมี ส่วนร่วมในกิจกรรมหลายๆอย่าง ของเป๋อ(อยากจะเรียกพีเ่ พ็ญว่า Shi


222

นอกจากช่วยกันประกอบเหรียญแล้ว ในวันที่ 15 ก.พ. ตรงกันกับวัน เกิดหมวด พวกเราก็ยังได้ร่วมกันอวยพรวันเกิดเพื่อนด้วยหมวดสั่งเค้ก มาตัดเลี้ยงพวกเราได้เอร็ดอร่อยในยามบ่ายหลังจากมื้อเที่ยงที่ช่วยกัน หอบช่วยกันหิ้วมาร่วมรับประเทานอย่างสนุกสนานโดยไม่เสียงานที่ความ รับผิดชอบร่วมกันด้วยค่ะ


223

จำ�ได้บ้างไหมคะ ว่าคุณยังไม่ได้ รับประทานอะไร หมดเวลาแล้วค่ะ หาซื้อก็คงไม่ได้เช่นนี้ มโนเองนะคะ

สนุกสนานเฮฮา แต่งานก็สำ�เร็จนะคะ


224

นอกจากนี้ยังมี ดาว หน่อง น้อย ลักษณ์ อรสา ทอฟฟี่ เตียง จี๊ด ปลื้ม ปุ๋ย เป๋อ รวม 22 คน เนือ่ งจากพวกเราเริม่ มีความช�ำนาญ การประกอบจึงท�ำกันอย่างเป็น ระบบ ท�ำไปคุยไปสนุกสนาน มีเสียง หัวเราะของพวกเราที่ท�ำงานอย่าง เพลิดเพลิน ไม่หยุดพักนอกจาก เวลารับประทานอาหาร ซึ่งเราก็ จะไปรับประทานกันที่โต๊ะอาหาร อาจารย์อุ่นวางกฎไว้ว่าไม่มีการน�ำ อาหารมารับประทานระหว่างท�ำงาน นอกจากเครื่องดื่ม พวกเราก็รักษา กฎอย่างเคร่งครัด ผลการตรวจQC ของอาจารย์อุ่น นุช อรสา นั้นมี เรื่องให้ต้องหยิบยกมาแซวกัน คือ ประธานเตาภูมิใจในผลงานมาก เพราะท�ำได้ตามข้อก�ำหนด คือพระ พักตร์สมเด็จพระเทพรัตนฯตรงเป๊ะ แต่วางเหรียญกลับด้าน ท�ำให้ตอ้ ง แกะมาท�ำใหม่ คนทีแ่ กะเหรียญเก่ง ที่สุดคือ แอ๊ ใช้วิธีเคาะกับมือ 2-3 ครั้งก็หลุดออกจากแผ่นประกอบ เทคนิคนี้ work มาก พวกเราได้ใช้ ในเวลาต่อมา เพราะมีเหรียญที่ไม่ ผ่านQC ด้วยประการต่างๆอยู่บ้าง

หลังอาหารเย็นประมาณ 18.30 น. พวกเราบางคนแยกย้ายกันกลับ บ้าน ที่เหลือเตรียมตัวไปงานธัชชัย ทีว่ ดั ลาดพร้าว ปุย๋ ก็รำ� พึงขึน้ มาว่า “แหม! ถ้าเราท�ำงานกันไปเรื่อยๆ ทั้งคืนเราน่าจะท�ำได้เยอะเลยนะ” เท่านั้นแหละอีก 2 เสียงก็ประสาน กันออกมาว่า “ เออ!ดี เราท�ำกัน ต่อไปไม่เสร็จไม่เลิก” เนือ่ งจากวันนี้ แม้จะท�ำทัง้ วันก็ได้เหรียญทีป่ ระกอบ แล้วประมาณ1,200 เหรียญ ยัง เหลือทีต่ อ้ งประกอบอีกมาก และ ต้องใช้เหรียญในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ เหลือเวลาเพียง 4วัน และวันที่ 18-20 พวกเราต้องไปช่วยแจกเสือ้ ทีต่ กึ จามจุรี อาจารย์อนุ่ บอกว่าจะ ปิดจ็อบทีบ่ า้ นเป๋อ นัน่ หมายความ ว่าต้องมาท�ำงานที่นี่อีกจนกว่าจะ เสร็จ เมื่อตกลงว่า เป้า ปุ๋ย เป๋อ จะท�ำงานกันต่อ เพื่อนที่จะไปงาน ธัชชัยก็ออกเดินทางไป เหลือแต่ 3 ป อยู่กันต่อ (โปรดสังเกตว่าทั้ง 3คนนี้มาจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิต แห่งประเทศไทย มีแสงไฟที่ไหน เราท�ำงานได้ สู้ตาย)


225

กระจ่างได้ในแหล่งที่ผลิตสินค้าที่ไม่ผ่านการตรวจสอบ ไม่ว่าตัวหนังสือ ต้องกลับหัวอ่าน เหรียญเบี้ยวหมุนได้รอบทิศ ไม่ฟ้องด้วยภาพเช่นนี้คง ยากจะตามหาสาเหตุเหล่านี้/ปฏิเสธขอคารช่างภาพรางวัลเหรียญทองที่ ตามเก็บภาพเหล่านี้นะคะ


226

กลับเข้าสูง่ านประกอบเหรียญหลังจากทัง้ 3 คนอาบน�ำ้ เสร็จ เปลีย่ น เสื้อผ้าใหม่เป็นเสื้อผ้าชุดล�ำลองสบายๆของเป๋อ ก็เริ่มลงมือท�ำงานทันที เราท�ำงานกันเป็นทีมได้รวดเร็วมาก ท�ำไปคุยไป หัวเราะกันไปตลอด เหมือนคนเมากัญชา จับสถิติว่า 1 ชั่วโมงท�ำได้100 เหรียญ ดังนั้นทุก2 ชั่วโมงเราได้ 200 เหรียญไปบรรจุลงกล่องกระดาษ เมื่อpack กล่อง เรียบร้อยก็จะบันทึกเลขทีก่ ล่องและเวลาทีท่ ำ� เสร็จบนหน้ากล่อง ท�ำไปได้ 400 เหรียญเท่ากับ 2 กล่อง ดูเวลาประมาณ5 ทุม่ เป้าบอกว่าเราน่าจะ หาขนมมากินเพิม่ พลังกันดีกว่า อาจารย์อนุ่ คงไม่วา่ เราหรอกนะ ปรากฏ ว่าได้เสียงเอกฉันท์ให้เอาวุน้ ของปุม๋ และอาจารย์อนุ่ มากินกัน สดชืน่ ถ้วน หน้าเพราะได้ของหวานยามดึก

แรงงานยามวิกาล แต่ไม่ใช่เป็นสิ่งผิดกฎหมายเป็นสิ่งดีดีที่เหล่าคนดี มุ่นมั่นอดหลับอดนอนเพื่อความสำ�เร็จของงานให้ทันเวลา เป็นประวัติศาสตร์ที่น่าชื่นชมยิ่งยิ่ง


227

ท�ำงานต่อด้วยความสนุกสนาน และคึกคะนอง(ควรจะใช้คำ� นีใ้ นวัย ใกล้ 70 ด้วยหรือ) เพราะเห็นสถิติ ฝีมอื แรงงานกะกลางคืน แรงดีไม่มี ตก ยิง่ ดึกยิง่ คึกเพราะตัวเลขเหรียญ ทีป่ ระกอบเสร็จวิง่ ขึน้ ไปเรือ่ ยๆจนถึง 700 ท�ำจนถึงตีสามแรงงานยังไม่ ง่วง แต่เป้าบอกว่าเราต้องนอนเอา แรงไว้พรุง่ นีต้ นื่ ขึน้ มาท�ำต่อ ไม่ตอ้ ง ให้เพื่อนมาช่วยแล้ว เราเป็นเลือด สุพรรณว่าอะไรว่าตามกัน จึงตก ลงนอนนนนนนน การนอนก็เป็นประเด็น เพราะ นอนในห้องประกอบเหรียญซึง่ เป็น ห้องนัง่ เล่น เป้ากับเป๋อนอนบนโซฟา ยาวคนละตัวหันหัวไปทางทิศตะวัน ออก ส่วนปุย๋ นอนหันหัวไปทางทิศ เหนือ เพราะโซฟาเป็นรูปตัว L ทุก คนมีผา้ พันคอ(ของเป๋อ)เพราะแอร์ เย็น ไม่นานได้ยนิ ปุย๋ หายใจสม�ำ่ เสมอ แสดงว่าหลับแล้ว อีกไม่นานเป้า กับเป๋อก็หลับ ตืน่ ตีหา้ ครึง่ ฟ้ายังไม่ สาง ทักทายกันว่าหลับสบายไหม จะได้มแี รงท�ำงานกันต่อ ปุย๋ บอกว่า หลังจากเป้ากับเป๋อหลับ ปุ๋ยนอน ไม่หลับเลย เพราะลมแอร์เป่าใส่ ตลอดเวลา จนต้องเอาผ้าพันคอ มาปิดหน้ากันลม และหนาวด้วย

หกโมงเช้าจะเริม่ งานเป้านึกขึน้ ได้วา่ ต้องกินยาลดความดัน แต่ไม่ได้ เตรียมมา ขอกลับบ้านไปจัดการเรือ่ ง ยาและดูแลอาหารเช้าให้ผมู้ พี ระคุณ ที่บ้านก่อน แล้วจะกลับมาท�ำงาน ต่อทันที เหลือปุ๋ยและเป๋อ ก็เริ่ม ท�ำงานต่อ คิดว่าจะกินอาหารเช้า เวลา 7.00 น. แต่บังเอิญแป้งและ นวล(ลูกค่ะ) กลับจากใส่บาตร ซื้อ โจ๊กมัลลิการปากทางลาดพร้าวมา ฝาก หลังอาหารเช้า เราก็ลุยงาน กันต่อ ท�ำไปได้2 ชั่วโมง เป้ากลับ มาร่วมทีม ปุ๋ยไลน์บอกเพื่อนๆว่า วันนีไ้ ม่ตอ้ งมาช่วย เพราะ3 คนท�ำ เสร็จแน่ ยังไม่ทันไรปลื้มก็มาถึง หน้าบ้านแล้ว พร้อมอาหารเต็ม 2มือ ต้องไปช่วยกันหอบหิ้วเข้า บ้าน มีขนมจีบ ซาลาเปาของว ราภรณ์เกือบ 20 กล่อง ส้มเขียว หวาน3กิโล มาถึงก็ตื่นตาตื่นใจ กับดอกบัวสวรรค์บนต้นที่สูงเท่า ตึก2 ชัน้ ถ่ายรูปเก็บไว้เป็นทีร่ ะลึก ไม่นานแมวก็มาอีกคน รวมเป็น 5 คน ท�ำงานต่อไปเรื่อยๆสักพักจี๊ด ก็มา จี๊ดแต่งตัวสวยมากและตั้งใจ ท�ำงานเพราะเป็นน้องใหม่ แค่เพือ่ น แนะน�ำเธอไม่นานก็ท�ำได้ดี


228

เริม่ มีเพือ่ นโทรบ้างไลน์บา้ งเข้า ยังมีเรื่องเก็บตกอันเป็นภาค มาถามว่าจะมาช่วย บอกไปว่างาน สุดท้ายของการประกอบเหรียญให้ ใกล้เสร็จแล้ว ไม่ตอ้ งมาก็ได้ แต่แฟน ได้ติดตามอ่านกันอีก คลับอยากมาบอกไม่ได้ทำ� ก็ไม่เป็นไร มาคุยกันก็ได้ถอื เป็นการมีตติง้ ไปใน ตัว เป็นไงล่ะ ประกอบเหรียญก็ กลายเป็นงานมีตติง้ รุน่ ได้ ตอนใกล้ เทีย่ งท่านผูห้ ญิงส่งพิซซ่ามา 2 ถาด ให้เหล่านักรบเป็นเสบียง อาจารย์ อุ่นก็ไม่ยอมพลาด เพราะต้องมา ตรวจ QC และปิดจ็อบงาน วัน นี้เราประกอบเหรียญสุดท้ายเสร็จ เวลา 14.37 น. ถ่ายรูปเหรียญที่ ประกอบเสร็จสุดท้ายไว้เป็นภาพ ที่ระลึกโดยมีจี๊ดเป็นคนถือเหรียญ ในที่สุดเราก็ประกอบเหรียญ ทั้งหมดเสร็จ ปิดจ็อบการท�ำ เหรียญเพียงเท่านี้ แต่ความสนุก ความรักระหว่างเพื่อนที่ได้ท�ำงาน ยามเย็นวันที่ 16 ก.พ. 59 ร่วมกัน กินด้วยกัน นอนด้วยกัน งานเสร็จแล้วค่ะหลากหลายความ (แค่3คน) ยังประทับอยู่ในความ ทรงจ�ำยังติดตามพวกเรามา จน รู้สึกพึงบังเกิด ทั้งโล่งใจ สบายใจ เมื่อมาเขียนเรื่องนี้ในเวลาที่ผ่าน พร้อมกับความโหลเหลร่วงโรย ณ มากว่าเดือนจึงเขียนได้โดยไม่ต้อง ระดับต่าง ๆ ๆ กันในแต่ละรายค่ะ กระจ่างได้จากภาพแต่ละคน คิด เรื่องนี้หลั่งไหลออกมาเหมือน เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน


229

จี๊ด ผู้บรรจุเหรียญสุดท้าย เหรียญทั้งหมดบรรจุลงกล่อง 16 ก.พ. 59

ม.ล.อรพรรณ อิ๊ ร่วมประกอบเหรียญ ในวันแรก ที่บ้านอุ่นใจ 10 ก.พ. 59


230

เรื่องนี้อิ๊ก็ร่วมเขียนด้วย งานนี้บัญชีรับงานเต็มๆเขาคง เห็นว่าเป็นคุณนายละเอียด เรือ่ งนี้ สนุกไปอีกแบบตอนทีไ่ ด้ไปช่วยท�ำทัง้ วันทีบ่ า้ นอุน่ ใจ(เสียดายไม่ได้ไปท�ำ ต่อทีบ่ า้ นเป๋อ) ตอนแรกนึกว่างาน ง่ายๆพอเอาเข้าจริงๆ อ.จ.อุน่ ใจเธอ ตัง้ ใจมากต้องการงานออกมาเนีย๊ บๆ ไม่ให้เสียชื่อชาวบัญชี เหรียญรูป สมเด็จพระเทพรัตนฯต้องตรงและ ไม่ให้เหรียญขยับได้พวกเราก็ ส.ว. (รุ่นแรงงานต่างประเทศ) บางทีก็ ใส่กลับด้าน ท�ำไป แก้ไป กิน ไป คุยไป สนุกสนานมีรสชาติ มาก พอหมดวันทุกคนสมัครมา ท�ำต่อ ต่อมาได้ทราบว่าไปท�ำต่อ บ้านเป๋ออีก บางคนลงทุนค้าง เลยผวาตื่นมาประกอบเหรียญต่อ กลางดึก สนุกมาก มิตรภาพแน่น

ระลึกบันทึกย้อนความ ทรงจำ�ครั้งหนึ่งในชีวิต


231

เก็ บ ตกจากการประกอบ ค้นหาจนเจอ เพราะหลงอยู่ใน เหรียญ โดย เป๋อ ซองพลาสติกในถังขยะเฉพาะกิจ เราขอเชิดชูอาจารย์อุ่น ค่ะ เรื่องเก็บตกจากการท�ำงาน 2 ดาว น้อย หมวด ลักษณ์ดู ประกอบเหรียญของกลุ่มทีมเวิร์ค เหมือนจะเป็นทีมเล็กภายในทีมใหญ่ เท่าที่ได้ท�ำงานร่วมกันในช่วงเวลา มาด้วยกัน เตรียมอาหารติดมือมา สั้นๆขอพูดตามความเห็นส่วนตัว ด้วยทุกครั้ง ที่เห็นเด่นชัดคือดาว ว่าการท�ำงานของกลุม่ นีเ้ ป็นการรวม ชอบถ่ายรูปอาหารที่เพื่อนๆตักใส่ พลของกลุ่ม ข4 ซึ่งมีอุ่น ติ๋ม ดาว จานก่อนรับประทานดาวจะขอจัด น้อย หน่อง หมวด ลักษณ์ ต่อมามี ผักและ อาหารให้ดูสวยงามแล้ว แอ๊(สมทบ) ปุย๋ ปลืม้ (ก4) เตียง นุช ถ่ายรูป ปุม๋ (ก3) เป้า(ข3) เป๋อ (ข5) ทุกคน ทุม่ เทแรงกายแรงใจถึงเวลาท�ำงาน 3 หน่อง(อุษณา) จะมาที่บ้าน ก็เร่งท�ำให้ทนั เวลา มีประสิทธิภาพ เป๋อง่ายที่สุดเพราะบ้านอยู่ซอย มีเสบียงอาหาร พร้อมมีสถานที่ เดียวกันหน่องมาเริ่มงานเป็นชุด ท�ำงานคือบ้านอาจารย์อุ่น ต่อไป แรก บางครั้งมีธุระที่บ้าน หน่อง ขอพูดถึงเพื่อนที่มาท�ำงานนี้ จะขอตัวกลับไปท�ำธุระแล้วกลับ มาท�ำงานได้อีก 1.อาจารย์อนุ่ พูดจริงท�ำจริงชอบ ไม่ชอบก็บอกตรงๆเห็นชัดว่าเป็นคน 4 เตียงและปุ๋มอยากเรียกว่า เทิดทูนคนดีย�่ำยีคนเลวเนื่องจาก ผู้ประสานสิบทิศเนื่องจากในการ เป็นอาจารย์ทมี่ ลี กู ศิษย์ทวั่ ประเทศ ประกอบเหรียญ ชิ้นส่วนต่างๆไม่ อาจารย์ยึดความถูกต้อง โปร่งใส ได้รับมาจากที่เดียวกัน บางอย่าง ตรวจสอบได้ รู้มาว่าก่อนจะย้าย มีมาก บางอย่างมีน้อย ดังนั้น มาประกอบเหรียญทีบ่ า้ นลาดพร้าว เมือ่ ส่วนไหนขาดก็จะต้องถามเตียง อาจารย์อนุ่ ท�ำการตรวจนับเหรียญ ให้หามาเพิ่มจนครบ ที่ส�ำคัญและ ปรากฏว่าเหรียญ ขาดจ�ำนวนไป 1 มีมูลค่ามากก็คือเหรียญสมเด็จ เหรียญอาจารย์ไม่ยอมปิดบัญชีให้ พระเทพรัตนฯราคาเหรียญละ 50


232

บาทมูลค่า 250,000 บาท มีการ ควบคุมสต๊อกเพื่อความโปร่งใสใน การท�ำงาน เตียงและปุม๋ ในฐานะ เหรัญญิกของจุฬาฯ09 จึงมีงานใน ความรับผิดชอบทุกงาน ซึ่งเตียง และปุ๋มก็ท�ำได้ส�ำเร็จทุกกิจกรรม น่าภูมิใจจริงๆ ส�ำหรับปุ๋มมีความ พิเศษอีกอย่างคือถ้ามาบ้านลาด พร้าว ปุ๋มจะไม่เอาขนมที่ลูกสาว ท�ำที่ขึ้นชื่อแล้วมา แต่จะเอาวุ้น กะทิมาเป็นถาดให้เพื่อนๆได้รับ ประทานทั้งกลางวันและกลางคืน (คือเยอะมาก)

6 แอ๊ (ภรณี) มีชื่อเสียงมากว่า ท�ำอาหารอร่อย ทุกครัง้ ทีม่ าท�ำงาน จะเอาอาหารติดมือมาฝากทีมงาน บางครัง้ ถึงขัน้ ให้สตู รอาหารทีเ่ พือ่ นๆ ชอบ แต่เกรงใจไม่กล้าขอบ่อย เช่น ไก่ผดั เครือ่ งเทศถ้าสนใจถามปุม๋ ได้ เพราะปุม๋ ท�ำแล้ว และรูส้ กึ ว่าสูตรนี้ ได้แชร์ไปในโลกโซเชียลเรียบร้อย เท่าทีร่ อู้ าหารโปรดของเพือ่ นๆ คือ ไก่ผดั เครือ่ งเทศ ไข่ตม้ เค็ม สลัดม้วน เค้กกล้วยหอม แอ๊เป็นอีกคนหนึง่ ที่ Team work ต้องการแม้ตวั ไม่มาไม่ เป็นไรแต่ขออาหารแทนตัวก็ได้ 555

5 เตาในฐานะประธานรุ่นก็ ต้องมาเหมือนกัน แต่ก่อนมาเตา จะต้องไปซือ้ ปลาหมึกย่างน�ำ้ จิม้ รส เลิศทีส่ ลี ม ร้านเปิดเทีย่ งเตาบอกว่า คนขายจะปิ้งอย่างใจเย็นเร่งไม่ได้ เมื่อมาถึงบ้านลาดพร้าวเพื่อนๆมา กันเกือบครบแล้ว และก�ำลังจะรับ ประทานอาหาร ประธานเลย ไม่ตอ้ งท�ำงานกะเช้า ดังนัน้ ต้องท�ำ ชดเชยในกะบ่ายโดยไม่ลกุ จากทีน่ งั่ เลย ขอกระซิบว่าประธานประกอบ เหรียญได้ไม่ช้า(คงไม่ค่อยกินแป้ง) แต่บางชิ้นแผนกQC.ของอาจารย์ อุ่นต้องเคาะออกเหมือนกัน

7 ปุ๋ยเป็นเพื่อนที่ กฟผ. ด้วย ปุย๋ มีลกั ษณะเหมือนคนปิดทองหลัง พระ ขยัน มุ่งมั่น กัดไม่ปล่อย(คอย อ่านจากเรื่องตามหาเพื่อนค่ะ) ปุ๋ย มักจะท�ำงานจนลืมเวลากินและ นอน บางครั้งท�ำงานจนถึงตีหนึ่ง ตีสอง อยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์จน บางวันตืน่ ขึน้ มาตาบวม ถ้าสังเกต จะเห็นว่าทุกงานมีปยุ๋ อยูใ่ นทีม ปุย๋ เรียกตัวเองว่าคนกินแป้ง(พวกใช้ แรงงาน)ซึ่งจะมีเพื่อนกินแป้งอีก สองคน คือเป้าและเป๋อ


233

8 ปลื้มกมล(เป๋อเรียกพี่ปลื้ม) เป็นคนที่มีอารมณ์ขันชอบคุยเสียง ดัง มองโลกมุมเดียวคือมุมโลกสวย แต่มสี งิ่ หนึง่ ทีร่ จู้ กั จากการท�ำงานคือ พี่ปลื้มไม่ชอบดื่มน�้ำ ไม่ทานผัก ดัง นัน้ เป็นหน้าทีข่ องเพือ่ นๆโดยเฉพาะ ปุย๋ อุน่ และเเอ๊ จะต้องกระตุน้ เตือน จนถึงบังคับให้ดมื่ น�ำ้ และรับประทาน ผักเวลากลับบ้านก็จะถูกยัดเยียด ให้เอาผักไปรับประทานต่อที่บ้าน 9 นุช(เปรมานนท์) เราเรียก นุชสวยพวกเราชอบให้นุชมาร่วม ท�ำงานทุกครั้งเพราะมาหนึ่งคนได้ สองแรงงาน คือนุชไปไหนต้องให้ คุณพี่ขับรถมาส่งและรอรับกลับ แต่ในวันประกอบเหรียญเราจ�ำเป็น ต้องให้คุณพี่ท�ำงานด้วยและช่วย เรื่องแรงงานที่เราท�ำไม่ไหวเช่น ย้ายโต๊ะ ย้ายเหรียญและเผลอตัว ตกปากรับค�ำจะเป็นเจ้าภาพเลี้ยง อาหารทีบ่ า้ นให้พวกเราหนึง่ มือ้ ด้วย เห็นไหมว่านุชมีความหมายกับพวก เรามากแค่ไหน

รุ่น จึงเป็นหมอนุช แต่งานนี้นุชมา แบบจัดเต็มคือน�ำอุปกรณ์ท�ำขนม น�ำ้ แข็งใส่มาตะกร้าใหญ่ ขนมจุย๋ ก๊ว ยอีกหนึง่ ถาดและจะต้องประจ�ำอยู่ เฉพาะที่นั้น เพราะต้องท�ำน�้ำแข็ง เกล็ดฝีมอื นุชเอง ในการท�ำงานนัน้ เนือ่ งจากนุชเป็นผูช้ ว่ ยผูว้ า่ การทีก่ าร ไฟฟ้าฝ่ายผลิตและอยูด่ า้ นตรวจสอบ ดังนั้นทีมตรวจสอบซึ่งมี อรสา นุช อาจารย์อนุ่ จึงท�ำงานQC.กันดุเดือด มาก มีบ่อยครั้งที่ทีมประกอบส่ง มาแล้วไม่ผา่ นQC.ทีมนีจ้ ะมองหน้า กันแล้วแอบเคาะเหรียญให้หลุดจาก เบ้า แล้วประกอบใหม่เนื่องจาก กลัวเพือ่ นทีท่ ำ� มาจะท้อ แล้วขอตัว กลับบ้านก่อนเวลา แต่ในความเป็น จริงกลับไม่ได้หรอกเพราะประตูบา้ น เราล็อคไว้แน่นหนา

11 แมว แมวอยู่บ้านใกล้กับ เป๋อในเส้นลาดพร้าวด้วยกัน แมว เคยบอกว่าถ้ามีงานอะไรให้ช่วย อย่าลืมบอกแมวว่าถ้าแมวว่างจะ มาทันที งานนี้ก็เหมือนกันพอแมว รู้ก็นั่งแท็กซี่มาถึงเป็นคนแรกกลับ 10 หมอนุชและอรสา เราเรียก กลุ่มสุดท้ายท�ำงานไม่ค่อยมีเสียง นุชสูงเพราะตัวสูงหรือเรียกหมอนุช ฟังเพือ่ นคุยมากกว่าใครขาดอุปกรณ์ นุชร่วมกิจกรรมหลายกิจกรรมตัง้ แต่ อะไรแมวจัดการเติมให้ทันที แต่งภาพสวยให้เพือ่ นใช้งานทะเบียน


234

12 ทอฟฟี่ ทุกคนคงรูว้ า่ ทอฟฟี่ ช่วยงานรุน่ มาตัง้ แต่ตงั้ ไลน์กลุม่ CU Shi27 ให้พวกเราได้พบปะกัน มี ความจ�ำเรื่องชื่อและความหลัง ได้มาก ส�ำหรับการมาร่วมงาน ประกอบเหรียญทอฟฟี่ไม่ค่อยมี เวลาเพราะไปเรียนอภิธรรม แต่ เมื่อเรียนเสร็จก็รีบมาร่วมท�ำงาน กับพวกเราทันที 13 ไก่( ศรีสุภัทร) เป็นเพื่อน สนิท เราตัง้ ไลน์ขนึ้ มาเหมือนกันมัก จะคุยกันเรื่องสารทุกข์สุขดิบ ชวน ไปทานอาหารกันบ้างจนวันหนึ่ง มีไลน์กลุ่มของรุ่นเรา ดังนั้นเราจึง เปลี่ยนชื่อไลน์กลุ่มเล็กว่า Shi27 คบหาพาอร่อย ส�ำหรับงานประ กอบหรียญได้ชวนเพื่อนในไลน์นี้ ปรากฏว่ามีไก่คนเดียวที่ปลีกตัว มาได้และคุ้นเคยกับที่บ้านอยู่ก่อน แล้ว เมื่อมาถึงไก่ศึกษาวิธีท�ำอยู่ แป๊บเดียวก็ท�ำได้ ไก่เอาสาคูไส้หมู และข้าวเกรียบปากหม้อมาด้วยท�ำ ให้เพื่อนๆได้หยิบรับประทานก่อน ถึงเวลาอาหารเทีย่ ง หลังจากนัน้ ไก่ ก็ประกอบเหรียญแทบไม่หยุดมือ แถมกระซิบว่าที่มานี่นะเพราะกะ ว่าจะช่วยเป๋อเท่านั้น แต่พอเข้า

มาสู่บรรยากาศของทีมเวิร์คแล้วก ลายเป็นช่วยรุ่น 27 ไปเลย 14 เป้า เป้าถือว่างานนีเ้ ป็นการ ตกบันไดพลอยโจน คือปกติเป้า ไม่มเี วลาว่างมาร่วมท�ำกิจกรรมแต่ ตามทีไ่ ด้เล่าในเรือ่ งประกอบเหรียญ ภาคกลางคืนเลยต้องอยูย่ าว เป้าท�ำ อาหารท�ำขนมเก่ง ข้าวหน้าไก่ของ เป้าก็อร่อย ยิง่ อุน่ หลายหนยิง่ อร่อย (ดาวเป็นคนยืนยัน) เป้าก็เป็นกลุ่ม กินแป้งเหมือนกัน ตอนทีเ่ ราตัดสิน ใจท�ำงานประกอบเหรียญในคืนนัน้ เพราะเราเคยไปปฎิบัติธรรมด้วย กันแล้วไม่นอนทั้งคืนเลยคิดว่าเรา คงท�ำงานนี้ได้แต่ว่าครั้งนี้แค่ตีสาม เป้าก็บอกว่าเราอย่าท�ำต่อเลย แค่ นีพ้ อแล้วสามคนรวมกันอายุได้ 200 ปีแล้วจ้า 15 เป๋อ เป๋อไม่ยอมเขียนถึง ตัวเอง เพื่อนเลยต้องเขียนให้ เป๋อเป็นเจ้าของบ้านที่เปิดบ้านให้ พวกเราได้ใช้เป็นสถานที่ประกอบ เหรียญ (เรื่องนี้ได้ยินถึงพระกรรณ ของสมเด็จพระเทพรัตน์ฯ-อ่านได้ จากเรื่องนี้ต้องขยาย) แต่ความที่ ในรั้วบ้านของเธอมีบ้านหลายหลัง ท�ำให้พวกเราต้องย้ายที่ท�ำงานถึง


235

2ครั้งกว่าจะเจอที่เหมาะ เล่นเอา เหนื่อยกว่าจะได้ท�ำงาน แต่เธอ ก็เปิดแอร์เย็นฉ�่ำให้เพื่อนท�ำงาน ด้วยความสบาย นอกจากมีบ้านที่ สะดวกสบาย เดินทางมาง่ายเพราะ อยู่ใกล้สถานีรถใต้ดินลาดพร้าว แล้ว เป๋อยังท�ำงานเหมือนคนกิน แป้งด้วยอีกคน

16 ขอบคุณส�ำหรับ Team work ที่เปิดโอกาสให้เราได้มาพบ กัน ท�ำงานร่วมกันและสนิทสนมกัน มากขึน้ มีความสุขทุกครัง้ ทีค่ ดิ ถึงวัน ที่เคยเป็นน้องใหม่คณะบัญชีจุฬา เมื่อ 50 ปีที่แล้วจ้ะ ข้อมูลโดย : อุ่นใจ พรทิพย์ ม.ล.อรพรรณ


236


Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.