A คู่มือการเรียนรู้ ทรัพยากรชีวภาพ ทางทะเล ตำบลนาเกลือ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี
B คู่มือการเรียนรู้ ทรัพยากรชีวภาพ ทางทะเล ตำบลนาเกลือ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี
ก หนังสือในชุดโครงการ U2T นาเกลือ จัดทำ�าโดย ดร. สุุเมตต ปุุจฉาการ หััวหัน้้าโครงการและผู้้้ปุระสุาน้งาน้โครงการ U2T น้างสุาวรติมา ครุวรรณเจริญ ผู้้้ร่วมโครงการ น้างจน้ทร์จรสุ วัฒน้ะโชต ผู้้้ร่วมโครงการ น้างสุาวกฤดาอร จน้วิเชียร พััสุดุและการเงน้ น้ายสุุรพัล ฉลาดคิด วิทยากรและเลขานุ้การ รายชื่อผู้รับจ้างงาน น้างจเรพัร ชาติธน้วัฒน้ น้างสุาวณิชาพัร สุวสุดิภู้ม น้างสุาวปุาลิดา โรจน้าปุระสุิทธิกุล น้างสุาวอรทัย พัรมบุุญ น้างสุาวสุุกัลยาวด ดอน้ศร น้างสุาวทพัย์วรรณ รัตน้ธำรงพัรรณ น้างสุาวกิ�งกาญจน้ คงคาศร น้ายชญาน้น้ท เชี�ยวกิจ น้ายธน้กฤต เปุรมอ่อน้ น้ายพัุทธรักษ์์ เสุน้าน้าค น้างสุาววรรณวล กาญจโน้ดิลก น้ายวีรภูัทร วงษ์์เสุถีียร น้างสุาวศวิมล ชาวภูเขียว น้ายสุิทธิโชค ธีรธัชธน้กร น้ายวัศพัล น้น้ศรภูักด น้างสุาวศรุดา กัญจน้กุญชร น้างสุาวศริวรรณ ชี�แจง น้างสุาวอน้ทิรา มีดำเน้น้ น้างสุาวกมลชน้ก ฉลองน้น้ทชัย น้างสุาวธัญวรัตม งามเชย น้างสุาวแพัรพัรรณ พัรหัมลัมภูักดิ น้ายน้ครน้ทร สุุขเรือง น้างสุาวชมพั้นุ้ช โยงรัมย น้างสุาวปุติณญาพัร เหัร่เดน้ น้างสุาวภูาษ์ิตา ฏััญจน้กุญชร
ก คำ�ำนำำ หัน้ังสุือเล่มน้ีจัดทำขน้ใน้โครงการมหัาวิทยาลัยสุ้่ตำบุล สุร้างรากแก้วใหัปุระเทศ หัรือ U2T ภูายใต้การด้แลของ ดร.สุุเมตต ปุุจฉาการ และคณะโดยมจุดปุระสุงค์เพัื�อรวบุรวมข้อม้ลชีวภูาพัทางทะเล ใน้ตำบุลน้าเกลือใหั้ได้มากที�สุุด เพัื�อการน้ำไปุใชปุระโยชน้์ใน้อน้าคต ทั�งน้ีข้อม้ลได้รวบุรวมมาจากการลงพัืน้ทีสุำรวจ และสุอบุถีามจากชาวบุ้าน้ใน้ชุมชน้ปุระมง พัืน้บุ้าน้ บุ้าน้น้าเกลือ ผู้้้จัดทำหัวังว่ารายงาน้ฉบุบุน้ี�คงมปุระโยชน้ต่อผู้้้ทีน้ำไปุใช้ใหั้เกิดผู้ลตามความคาดหัวัง คณะผู้้้จัดทำคาดหัวังเปุน้อย่างยิ�งว่า การจัดทำหัน้ังสุือเล่มน้ี�จะมข้อม้ลที�เปุน้ปุระโยชน้ต่อผู้้้ทีสุน้ใจ และต้องการความรเกี�ยวกบุสุิ�งมชวิตทีพับุใน้ตำบุลน้าเกลือได้เปุน้อย่างด คณะผู้้้จัดทำ มกราคม 2565
E ข สำรบัญ หน้า คำาน้า ก ปุ่าชายเลน้ 1 หัาดโคลน้ 3 หัาดทราย 5 หัาดหัน้ 7 ทรัพัยากรทางชีวภูาพัของสุัตว์ใน้ตำาบุลน้าเกลือ 10 ทรัพัยากรทางชีวภูาพัของพัืชใน้ตำาบุลน้าเกลือ 88 ดัชน้ 93 บุรรณานุ้กรม 95
ปำชำยเลนำ ป่่าชายเลนเป่็นระบบนิเวศทำ่ป่ระกอบด้วยพืืชและสัตว์นานาชนิดดำรงช่วิตร่วมกันในสภาพืแวดล้อม ทำเป่็นดินเลน น้ำกร่อย หรือม่น้ำทำะเลทำ่วมถึึงสม่ำเสมอ ป่่าชายเลนป่ระกอบด้วยพืันธุ์ไม้หลายชนิด หลายตระกูล และเป่็นพืันธุ์ไม้ไม่ผลัดใบ ส่วนใหญ่่ป่ระกอบด้วยพืันธุ์ไม้สกุลโกงกาง (Rhizophora sp.) เป่็นไม้สำคญ่ ดินในป่่าชายเลนม่ความอุดมสมบูรณ์์สูงจากธุ์าตุอาหารทำมาจากการกัดเซาะตามชายฝั่่�ง และแหล่งน้ำลำธุ์าร สารอินทำร่ย์จากซากพืืชซากสัตว์ในบริเวณ์ป่่าชายเลนเอง โดยเฉพืาะใบไมทำ่ร่วงหล่น ทำับ ถึ ม กันเ ป่็นจำนวนมากแ พื ลง ค์ตอนพืืชและสาห ร่าย น้ำบ ริเว ณ์น่้ม่ ความเ ค็ม ค่อนข้้าง ต่ำ ระดับความเค็มข้องน้ำเป่ลยนแป่ลงตลอดเวลาตามระดับน้ำทำ่ข้ึ้นลงและป่ริมาณ์น้ำจืดไหลมาจากแมน้ำ ลำคลองตำบลนาเก ลือ ม่ ป่่าชายเลนเ พื่ ยงแ ห่งเ ด่ ยว ในอ ด่ ตคลองแ ห่ง น่้ม่ลักษ ณ์ ะเ ป่็นป่่าชายเลน ทำ่ม่ต้นโกงกางข้ึ้นอย่างหนาแน่น และมักจะม่นกน้ำและสัตวน้ำเข้้ามาอาศัยอยู่เป่็นจำนวนมาก แต่เมื่อพืื้นทำ ม่ความเจรญ่เริ่มม่การบุกรุกแผ้วถึางและแผ้วถึางป่่า รวมทำั้งสร้างอาคารรุกล้ำแนวคลองทำำใหม่การทำิ้งข้ยะ สิ่งป่ฏิิกูลและน้ำเส่ยลงพืื้นทำอย่างไรจิตสำนึก ส่งผลใหป่่จจบันสภาพืป่่าผืนสุดทำ้ายข้องเมืองพืทำยา ต้องป่ระสบ กับป่่ญ่หาทำรุดโทำรมอย่างหนัก 1
2
3 หำดโคำลนำ หาดโคลนเป่็นบริเวณ์ทำ่ม่ข้นาดดินตะกอนเล็กมาก เนื่องจากคลื่นไมรุนแรงทำำใหดินตะกอนข้นาดเล็กมากๆ ตกตะกอนเ ป่็นโคลน ทำับ ถึ ม กัน ลักษ ณ์ ะ ข้ องหาด ทำ่ม่ ความ ชัน น้อย ทำ ำใ หน้ำใน ดินไหลไ ป่สู่ บ ริเว ณ์อื่ น ได้ยากและถึูกกักเก็บไว้ภายในดิน บริเวณ์น่้ม่สารอินทำร่ยสูงและม่แบคทำ่เร่ยอาศัยอยู่มากทำำใหป่ริมาณ์ ออก ซิเจนใน ดินลดลง ทำ ำใ ห ดินบ ริเว ณ์น่้ม่ ออก ซิเจน น้อยไ ม่เ พื่ ยง พื อ ต่อการดำรง ช่วิต ข้ อง สัต ว น้ำใน ชั้นดินทำ่ลึกลงไป่ อ่กทำั้งการทำหาดโคลนม่ป่ริมาณ์สารอินทำร่ยสูงทำำใหม่สิ่งม่ช่วิตมาอาศัยค่อนข้้างมาก ทำั้งแบบชั่วคราวและถึาวรเนื่องจากเป่็นแหล่งอาหารโดยสิ่งม่ช่วิตทำอาศัยอยู่ต้องป่รับตัวโดยการฝั่่งตัวลงไป่ ในโคลนหรือสร้างทำ่อและอยู่ในทำ่อนั้น และป่รับตัวทำางสร่ระวทำยาต่อสภาพืการข้าดออกซิเจน
5 หำดทรำย พืื้นทำ่น่้โดยทำั่วไป่ข้องชายฝั่่�งทำะเลหรือชายทำะเลม่ลักษณ์ะเป่็นพืื้นราบเร่ยบไมม่แหล่งหลบซ่อนกำบังตัว และ จัดเ ป่็นบ ริเว ณ์ทำ ไ ด รับ อ ทำธุ์ พื ล ข้ องค ลื่ นลม ทำ่รุนแรงมากบ ริเว ณ์ ห นึ่ ง ข้ นาดเ ม็ด ทำ รายและ ความลาดชันข้องชายหาดม่ความแตกต่างกันตามสถึานทำ่ข้ึ้นอยู่กับลักษณ์ะทำางภมิศาสตร์และฤดูกาล สิ่งม่ช่วิตทำอาศัยในบริเวณ์ต่างๆ ข้องหาดทำรายก็จะม่ความแตกต่างกัน เช่น สัตวทำ่ต้องอาศัยในบริเวณ์ เข้ตน้ำข้ึ้น-น้ำลง ต้องป่รับตัวให้สามารถึทำนทำานความร้อนจากแสงอาทำิตย์ได ในช่วงเวลาทำ่น้ำลง พืวกทำอยู่ เหนือเข้ตน้ำข้ึ้นสูงสุดกต้องสามารถึเคลื่อนทำได้เพืื่อหลบแสงอาทำิตย์หรือขุ้ดรูเพืื่อหน่จากผู้ล่า
7 หำดหินำ หาดทำ่ป่ระกอบไป่ด้วยหินต่างๆ ในบริเวณ์เข้ตน้ำข้ึ้นน้ำลง มักจะพืบหาดหินจากการผพืังหรือการกัดเซาะ ข้องน้ำทำะเล ทำำให้เกิดซอกเล็กซอกน้อยอยู่มากมาย ทำำให้หาดหินค่อนข้้างทำจะพืบสิ่งม่ช่วิตอาศัยอยู่ มากมาย รวมทำั้งยังเป่็นแหล่งหลบภัยข้องสัตวน้ำวัยอ่อนได้เป่็นอย่างด่ ป่่จจัยสิ่งแวดล้อมทำสำคญ่ในบริเวณ์ หาดหิน ได้แก อทำธุ์พืลข้องคลื่นลม น้ำข้ึ้นน้ำลง ความร้อน ความแห้งแล้ง ส่งผลทำำใหสิ่งม่ช่วิตทำมา อาศัยอยู่ต้องม่การป่รับตัวเอง ทำั้งทำางด้านรป่ร่างและการยึดเกาะกับพืื้นหินให้แน่น เพืื่อป่้องกันไม่ให ถึูกพืัดพืาไป่จากการซัดข้องคลื่นลมทำ่รุนแรง
ทรัพยากรทางชีวภาพของ ส ตว์ ในตำ า บลนาเกลือ 10
11
13 ฟองนำ�ำ SPONGES PHYLUM PORIFERA ฟองน้ำเป่็นสัตว์ชนิดหนึ่งทำ่ร่างกายป่ระกอบด้วยเซลล์สองชั้นจัดเร่ยงตัวกันเป่็นผนังลำตัว โดยม่ช่อง น้ำเล็กๆ เป่็นรพืรุนใหน้ำไหลเข้้าไป่ในโพืรงลำตัว และม่ทำ่อใหน้ำไหลออกจากลำตัว ข้ณ์ะทำ่น้ำไหลผ่าน ช่องในลำตัวน่้เอง เซลลทำ่บุอยู่รอบโพืรงลำตัวจะจับแพืลงค์ตอนในน้ำกินเป่็นอาหาร ข้ณ์ะเด่ยวกันเซลล ต่างๆ ข้องร่างกายจะไดรับออกซิเจนทำละลายอยู่ในน้ำเพืื่อหายใจด้วย ฟองน้ำม่ป่ระมาณ์ 8,000 ชนิด ส่วนใหญ่่อยู่ในทำะเลโดยเกาะอยู่ตามโข้ดหิน วัตถึุแข้็งในน้ำ ป่ะการัง และตามพืื้นทำะเล รป่ร่างเป่็นทำรง กระบอก รป่แจกัน รป่ครก แตกกิ่งก้าน หรือแผ่คลุมวัตถึุในน้ำ ตลอดจนม่ส่สันแตกต่างกันมากมาย ฟองน้ำม่โครงสร้างทำ่ช่วยค้ำจุนร่างกายให้คงรป่ร่างอยู่ได ได้แก หนามฟองน้ำ (spicules) ม่ลักษณ์ะ เป่็นแทำ่งแข้็งรป่เข้็ม หรือเป่็นแฉก บางชนิดเป่็นสารป่ระกอบหินปู่น บางชนิดเป่็นซลิกา โครงค้ำจุน อ่กชนิดหนึ่งคือ เส้นใยฟองน้ำ (spongin) ม่ลักษณ์ะเป่็นเส้นใยอ่อนนุ่มป่ระสานกันไป่มา ฟองน้ำ แต่ละชนิดม่โครงสร้างค้ำจุนร่างกายไม่เหมือนกัน ซึ่งสามารถึใช้โครงสร้างค้ำจุนเหล่าน่้จำแนกชนิด ฟองน้ำได ฟองน้ำทำะเลเป่็นสัตวกินอาหารด้วยการกรอง (Filter feeder) โดยกรองน้ำผ่านตัวซึ่งสามารถึกรองน้ำ ทำะเลได้มากกว่าสิบเทำ่าข้องป่ริมาตรตัวเองภายในหนึ่งชั่วโมงและทำำงานต่อเนื่องอยู่ตลอดเวลาทำั้งกลางวัน และกลาง คืน ฟอง น้ำ ทำ ะเล จึง ม่ บ ทำ บา ทำ สำ ค ญ่ข้ องระบบ นิเวศ ทำ าง ทำ ะเลในแ ง่การ ป่รับ ป่รุง ค ณ์ ภา พื น้ำ ทำ ะเลใ ห้ใสสะอาด ข้ึ้ น ช่วยกำ จัดตะกอน ข้ นาดเ ล็กและลด ป่ริมา ณ์ ตะกอนสาร อิน ทำร่ย์ใน น้ำ ทำ ะเล เ ป่ร่ ยบเส มือน กับเค รื่ องกรอง น้ำ ทำ าง ช่ วภา พืทำ สำ ค ญ่ ฟอง น้ำ ทำ ะเล ยังเ ป่็นแห ล่ง ทำ อ ยู่ อา ศัย ย่อย (Microhabitat) ใหกับสิ่งม่ช่วิตข้นาดเล็กอื่นๆมากมายหลายชนิด เช่น กุ้ง ป่ หอย และไส้เดือนทำะเล ใชทำ่อน้ำข้องฟองน้ำเป่็นแหล่งหลบซ่อนภัยจากศัตร ดาวเป่ราะบางชนิดจะเป่ลยนแป่ลงหนามใต้แข้น เป่็นตะข้อไว้สำหรับเกาะฟองน้ำและอาศัยกระแสน้ำจากระบบทำ่อน้ำข้องฟองน้ำพืัดพืาอาหารมาใหด้วย ป่ลิงสร้อยไข้มุกมักจะมาเก็บกินตะกอนทำตกค้างอยู่บนลำตัวฟองน้ำเป่็นอาหาร เป่็นต้น
15 ฟองนำ�ำถูตัว Spongia sp. เ ป่็นฟอง น้ำ ทำ เค ลือบหนาตาม วัต ถึุใ ต น้ำจนถึึงเ ป่็น ก้อนกลม ส่ ดำ ผิว ข้ร ข้ ระ ไ ม ม่ หนามฟอง น้ำ ม่ เ พื่ ยงเ ส้นใยฟอง น้ำ ซึ่ งสามาร ถึ นำไ ป่ แ ป่ ร ร ป่ เ ป่็นฟอง น้ำ ถึ ตัวใช้ในค รัวเรือนไ ด พื บตามชายฝั่่�ง ในเข้ตน้ำข้ึ้นน้ำลง
16
17 ฟองนำ�ำกระชำย Coelocarterai singaporensis ฟอง น้ำกระชาย จัดอ ยู่ ใน พื วกฟอง น้ำ ฝั่่ ง ตัว ทำ เจ ร ญ่ข้ึ้ นมาจาก พืื้ น ทำ้อง ทำ ะเล ร่างกายแ บ่งออกเ ป่็น สองส่วน คือ ส่วนทำอยู่ใตดินและอยู่โผลพื้นดิน ส่วนทำอยู่ใตดินม่ลักษณ์ะเป่็นทำ่อนกระบอกคล้ายเหง้าข้อง ต้นกระชายและแตกทำ่อน้ำออกเป่็นทำ่อยกตัวสูงข้ึ้นโผลพื้นดิน มักพืบอาศัยอยู่ใตพืื้นทำะเลในหลุมโดยม่ ทำรายมากกลบทำับ ทำำให้มองเห็นเฉพืาะส่วนทำเป่็นทำ่อน้ำออกม่รป่ร่างคล้ายทำ่อโผลข้ึ้นมา ฟองน้ำชนิดน่้ ชอบอาศัยอยู่ในพืื้นทำรายถึึงทำรายป่นโคลน ตั้งแต่เข้ตน้ำข้ึ้นน้ำลงจนถึึงทำ้องทำะเลนอกชายฝั่่�ง
19 ฟองนำำยืดหยุ่นำสีด�ำ Hyrtios erectus เป่็นฟองน้ำทำเคลือบตามวัตถึุใตน้ำ เจรญ่เป่็นก้อนจนถึึงแตกแข้นงเป่็นแทำ่งตั้งข้ึ้น ผิวข้รข้ระ แข้็งกรอบ แตบ่บแล้วด่ดตัวกลับ เนื่องจากเป่็นฟองน้ำทำ่ม่เฉพืาะเส้นใยฟองน้ำ พืบทำั่วไป่ในเข้ตใตน้ำข้ึ้นน้ำลง จนถึึงแนวป่ะการัง สามารถึนำไป่แป่รรป่เป่็นฟองน้ำถึตัวได
21 ไนำดำเรีย CNIDARIANS PHYLUM CNIDARIA เป่็นกลุ่มข้องสัตวทำ่ม่เนื้อเยื่อ 2 ชั้น ส่วนใหญ่่จะอาศัยอยู่ในทำะเล สัตว์ในไฟลัมน่้ม่รป่ร่าง 2 แบบ คือแบบโพืลิบ (Polyp) เป่็นรป่ร่างคล้ายทำรงกระบอกและแบบเมดูซา (medusa) ม่ลักษณ์ะคล้ายร่มหรือ ระฆัังคว่ำ ม่ช่องเป่ิดออกจากลำตัวช่องเด่ยว ม่การล่าเหยื่อโดยใช้หนวด (tentacle) ทำเร่ยงอยู่รอบ ช่องป่ากและทำหนวดม่เซลลพืิษทำเร่ยกว่า น่มาโตซ่ส (Nematocyst) เมื่อม่เหยื่อมาสัมผัสน่มาโตซ่ส จะป่ล่อยเข้็มพืิษ
22
23 ปะกำรังจำนำ Turbinaria
คอรอลลัมลักษณ์ะเป่็นแผ่นหนาพืับไป่มาคล้ายช่อผักกาดข้นาดใหญ่่ ผิวทำางด้านนอกเร่ยบไมม่แคลไลซ จะ ม่ แ ต่เฉ พื าะ ทำ าง ผิว ด้านในและ ข้ อบ ด้านบน แ ต่ละแคลไล ซ ม่ข้ นาดเ ส้น ผ่า ศูน ย์กลาง ป่ ระมา ณ์ 5 มิลลิเมตร ข้ณ์ะยังม่ช่วิตม่ส่เทำาอมน้ำตาล ป่ะการังชนิดน่้พืบอยู่ในระดับน้ำลึกป่ระมาณ์ 2 เมตรลงไป่
peltata
24
25 ปะกำรังสมองร่องเล็ก Platygyra daedalea ป่ะการังชนิดน่้ม่ข้นาดค่อนข้้างใหญ่่ รป่ร่างแบบก้อนหรือก้อนแบนๆ ผิวม่ลักษณ์ะเป่็นร่องข้นาดเล็ก ยกตั้งข้ึ้นคล้ายกำแพืง พืบไดทำั่วไป่แพืร่กระจายทำั้งแนวป่ะการังทำ่ลึกและทำ่ตื้น
26
27 ดอกไม้ทะเลหนำวดสนำ Stichodactyla haddoni ม่อ่ ก ชื่ อห นึ่ ง ว่า ดอกไ ม้ห ลุม ดินห รือเ ห็ดห ลุม ดอกไ ม ทำ ะเล ดินจะบานเ มื่ อ ป่ ราศจาก สิ่ งใดมารบกวน หากม่สิ่งรบกวนจะหุบตัวเข้้ากับซอกหินทำใช้เป่็นทำเกาะ ม่ส่ต่างๆ มากมายหลายส่ เช่น ส่เหลือง, เข้่ยว เป่็นต้น ป่ลายหนวดลักษณ์ะเป่็นเม็ดกลมๆ หากไป่สัมผัสถึูกเข้้าจะเหน่ยวหนึบข้าดติดกับมือมาได้เลย กินอาหาร ด้วย ว ธุ์่ การสอง ว ธุ์่ คือ การ สังเคราะ ห์แสงจากสาห ร่าย ซูแซนแ ทำ น ล่ทำ อ ยู่ ในเ นื้ อเ ยื่ อ และจับเหยื่อเอาจากหนวดซึ่งได้แก สัตว์ไมม่กระดูกสันหลังข้นาดเล็กและป่ลาวัยอ่อน อาศัยอยู่ตาม พืื้นทำรายและแพืร่กระจายไป่ทำั่วน่านน้ำไทำย
28
29 ปะกำรังแหวนำ Favia
คอรอล ลัมเ ป่็น ก้อน ข้ นาดเ ล็ก มัก ม่ เ ส้น ผ่า ศูน ย์กลาง ไ ม่เ กิน 20 เซน ติเมตร แคลไล ซ ม่ข้ นาดเ ส้น ผ่าศูนย์กลาง ป่ระมาณ์ 13 มิลลิเมตร ผนังกั้นรอบแคลไลซ์เป่็นรป่ วงกลมหรือกลมคล้ายวงแหวน และ ม่ร่องแบ่งระหว่างผนังแคลไลซชัดเจน ข้ณ์ะม่ช่วิตมักม่ส่เข้่ยวหรือน้ำตาล ป่ะการังชนิดน่้พืบไดบ่อย ตามแนว ป่ ะกา รัง ทำั่ วไ ป่ทำั้ งใน อ่าวไ ทำ ยและฝั่่�ง ทำ ะเล อันดา มัน โดยเจ ร ญ่ อ ยู่ ในเข้ ต น้ำ ข้ึ้ น น้ำลงและ ลึกลงไป่ถึึง 30 เมตร
spicosa
31 หนำอนำปล้อง Segmented Worms Phylum Annelida หนอน ป่ล้อง ทำ่พื บใน ทำ ะเลเ ป่็น พื วก ทำ่ม่ข้ นแข้็งบ ริเว ณ์ ลำ ตัวจำนวนมาก และ ม่ รยาง ค ทำ าง ด้านข้้าง ลำตัว แบบใบพืาย (parapodia) บางชนิดว่ายน้ำได้อย่างอิสระ แต่บางชนิดสร้างทำ่อฝั่่งตัวอยู่ตาม พืื้นหินและป่ะการังโดยไม่เคลื่อนทำ แหล่งทำ่พืบหนอนป่ล้องในทำะเล ได้แก โข้ดหิน หาดทำราย ป่่าชายเลน หาดโคลน แนว ป่ ะกา รัง และตาม พืื้ น ทำ้อง ทำ ะเล ทำั่ วไ ป่ หนอน ป่ล้องดำรง ช่วิตเ ป่็น สัต ว์ห น้า ดิน เกือบทำั้งหมดในฤดูผสมพืันธุ์ หนอนป่ล้องบางชนิดว่ายน้ำออกมาผสมพืันธุ์ุ์กันบริเวณ์ผิวทำะเล หลังจาก ป่ ฏิิสน ธุ์ิแ ล้วไ ด ตัว อ่อน ซึ่ งจะดำรง ช่วิตเ ป่็นแ พื ลง ค์ตอน ชั่ วคราว แ ล้วเจ ร ญ่ เ ป่็น ตัวเ ต็ม วัย ทำ จมลง ดำรงช่วิตอยู่ตามพืื้นทำะเลอย่างเดิม
32
33 บุงทะเล Chloeia sp. ล่าตัวแบนม่ข้นาดสั้นกว่าแม่เพืร่ยง ป่ระกอบด้วยป่ล้องป่ระมาณ์ 30 ป่ล้อง ด้านบนโค้งกว่าด้านล่าง ซึ่งค่อนข้้างแบน หัวทำ้ายเร่ยว ส่วนหัวไมชัดเจน แต่ละป่ล้องม่รยางค์แบบใบพืายทำ่ม่ข้นแข้็งจำนวนมาก ข้ณ์ะว่ายน้ำจะใช้โบกพืัดน้ำสลับกันพืร้อมกับการบิดไป่มาข้องลำตัวด้วย ข้นาดความยาว ป่ระมาณ์ 7 เซนติเมตร พืื้นผิวลำตัวม่ส่น้ำตาลแดงเป่็นลายตามยาว และม่เส้นกลางหลังส่น้ำเงินส่วนข้นข้้างลำตัว ม่ส่น้ำตาล อ่อน อา ศัยตาม พืื้ น ทำ ะเล ทำ เ ป่็น ดินโคลน โดยเ ก็บ กินซาก อิน ทำร่ย์เ ป่็นอาหาร หาก สัม ผัส ด้วยมือข้นข้องมันจะป่่กติดตามผิวหนังทำำให้เกิดอาการคัน
35 มอลลัส MOLLUSKS PHYLUM MOLLUSCA หอยและหมึก หรือ “มอลลัส” เป่็นสัตว์ไมม่กระดูกสันหลังกลุ่มใหญ่่รองลงมาจากพืวก อาร์โทำรพือด ม่สมาชิกรวมกันป่ระมาณ์ 1 แสนชนิด พืบอาศัยอยู่ทำั้งในทำะเล แหล่งน้ำจืด และบนบก ส่วนใหญ่่ดำรง ช่วิตอย่างอิสระโดยกรองกินแพืลงค์ตอน เศษอินทำร่ยวัตถึุหรือล่าสัตว์ชนิดอื่นเป่็นอาหาร นับเป่็นสัตว กลุ่มทำ่ม่คณ์ค่าทำางเศรษฐกิจ เพืราะนำมาบริโภคเป่็นอาหารได นอกจากน่้เป่ลือกยังสามารถึนำมาทำำเป่็น เครื่องป่ระดับตกแต่งไดด้วย มอลลัสส่วนใหญ่่ม่เป่ลือกเป่็นโครงสร้างทำางด้านนอกทำำหน้าทำ่ป่้องกัน เนื้อเยื่อภายในทำ่อ่อนนุ่ม ป่ระกอบด้วยหินปู่นเป่็นส่วนใหญ่่ ส่วนหมึกม่แกนภายในเพืื่อค้ำจุนร่างกาย และในพืวกทำากทำะเลเป่็นพืวกทำไมม่เป่ลือก
36
37 หอยหวีวีนำัส Murex pecten เ ป่็นหอย ฝั่ าเ ด่ ยวช นิดห นึ่ งอ ยู่ ในวง ศ์หอยหนาม หอยช นิด น่้ อ ยู่ บ ริเว ณ์ทำ ะเล อินโดแ ป่ซ ฟิก พื วก มัน กินหอย ด้วย กันเองเ ป่็นอาหาร หอยช นิด น่้ม่ หนาม ทำ ยาวและเร่ ยง ตัวสวย จึง ทำ ำใ ห้เ ป่็น ทำ่ชื่ นชอบ ในการนำมาเ ก็บสะสม เ ป่ลือก ข้ อง พื วก มันจะค ล้าย กับเ ป่ลือก ข้ องหอยในวง ศ์หอยหนาม แ ต่จะ ม่ ลักษณ์ะทำแตกต่างและโดดเด่นกว่า คือ มันม่ลักษณ์ะข้องหนามทำยาวและเร่ยงตัวสวย ป่กติจะพืบใน สภาพืทำสมบูรณ์์ได้ยาก เนื่องจากเป่ลือกข้องพืวกมันแตกหักง่าย เมื่อพืวกมันโตเต็มวัยอาจม่เป่ลือกยาว ป่ระมาณ์ 10-15 เซนติเมตร
38
39 หอยนำำงรมหนำำม Spondylus sp. หอยนางรมหนาม ม่ลักษณ์ะเป่ลือกแข้็งเป่็นพืิเศษ บริเวณ์ข้องเป่ลือกม่หนามอยู่โดยรอบ ส่ข้องเป่ลือก ม่ความแตกต่างกัน เช่น ข้าว เหลือง ส้ม แดง น้ำตาล พืบมากในบริเวณ์ทำ่ม่น้ำตื้น หรือบริเวณ์ ทำเป่็นป่ะการัง ตอนอยู่ในระยะตัวอ่อนก็จะเคลื่อนทำไป่ทำ่ต่างๆ แตพือโตเต็มวัยก็จะหาทำ่ยึดเกาะอยู่ไม่ไป่ ไหนจนโต
40
41 หอยสังข์ทะนำำนำ Melo melo หอยฝั่าเด่ยวข้นาดใหญ่่ เป่ลือกยาวป่ระมาณ์ 20 เซนติเมตร ป่ากเป่ิดข้องเป่ลือกกว้าง พืื้นผิวเป่ลือก ส่น้ำตาลเหลือง แต้มด้วยแถึบส่ช็อกโกแลตตามข้วาง กล้ามเนื้อเทำ้าส่น้ำตาลไหม้คาดด้วยลายส่เหลือง คล้ายม้าลาย ด้านหน้าม่ทำ่อไซฟอนยื่นยาวออกไป่คล้ายงวง พืบอาศัยอยู่ตามพืื้นทำะเลทำั่วไป่
42
43 หอยหวำนำ Babylonia areolata เป่็นหอยทำะเลฝั่าเด่ยวชนิดหนึ่ง ม่เป่ลือกทำ่ค่อนข้้างหนารป่ไข้ ผิวเร่ยบส่ข้าวม่ลวดลายส่น้ำตาลเข้้ม อาศัยอยู่ตามพืื้นทำะเลทำเป่็นทำรายหรือทำรายป่นโคลน ในระดับความลึกตั้งแต 2–20 เมตร พืบไดทำั้งฝั่่�ง อ่าวไทำยและทำะเลอันดามัน กินอาหารโดยใช้อวัยวะทำเป่็นทำ่อส่ข้าวยื่นออกมา โดยจะยื่นป่ลายทำ่อไป่ยัง อาหารและส่งน้ำย่อยออกไป่และดูดอาหารกลับทำางทำ่อเข้้าร่างกาย หลังกินอาหารแล้ว ก็จะเคลื่อนทำ ไป่ฝั่่งตัวใตทำราย ซึ่งอาหาร ได้แก ซากพืืช ซากสัตว์ชนิดต่างๆ ม่ข้นาดโตเต็มทำ่ป่ระมาณ์ 40–100 มิลลิเมตร
44
45 หอยปกนำำงฟ้ำ Doxander vittatus เป่็นหอยฝั่าเดยวชนิดหนึ่งม่เป่ลือกแข้็ง ม่วงก้นหอยป่ระมาณ์ 9-10 วง ป่ากยาว ม่ข้อบเป่ลือก แผยื่น กว้างออกมาจากลำตัวเป่็นป่ีกดูสวยงาม และทำ่ตัวเป่ลือกเองจะม่ลวดลายสวยงามด้วยเช่นกัน กินซาก อินทำร่ยสารทำเน่าเป่่�อยเป่็นอาหาร ม่ความยาวเต็มทำ่ป่ระมาณ์ 10-13 เซนติเมตร
46
47 หอยจอบ Pinna sp. หอยสองฝั่าข้นาดใหญ่่ เป่ลือกเป่็นรป่กรวย ความยาวป่ระมาณ์ 30 เซนติเมตร ด้านทำเป่็นก้นหอย ฝั่่งตัวลงไป่ในพืื้นทำะเล พืื้นผิวเป่ลือกส่น้ำตาลอมดำ หอยจอบอาศัยอยู่ตามพืื้นทำะเลทำเป่็นดินทำราย ป่นโคลน เอ็นยึดฝั่าข้องหอยจอบ สามารถึนำมาบริโภคเป่็นอาหารได
48
49 หมึกสำย Octopus sp. หมึกสาย จะม่ความแตกต่างไป่จากหมึกกล้วยหรือหมึกกระดองอย่างเห็นไดชัด โดยทำหมึกสายจะม่ ส่วนหัวทำกลมยาวคล้ายลูกโป่่ง หนวดม่ทำั้งหมด 8 เส้น และไมม่หนวดเส้นยาว 2 เส้น สำหรับจับเหยื่อ แบบหมึกกล้วย ไมม่คร่บข้้างลำตัว แต่จะม่พืังผืดเชื่อมต่อกันระหว่างหนวดแต่ละเส้น ในโครงสร้างข้อง หมึกสายจะไมม่แคลเซ่ยมแข้็งเป่็นแกนกลางลำตัวเหมือนหมึกกล้วยหรือหมึกกระดอง ซึ่งทำำใหร่างกาย ข้องหมึกสายนั้นยืดหยุ่นตัวไดสูง หมึกสายจึงสามารถึคืบคลานไป่ตามทำ้องทำะเลได้อย่างคล่องแคล่ว
51 อำร์โทรพอด ARTHROPODS PHYLUM ARTHROPODA อาร์โทำรพือดหรือสัตวม่ข้าเป่็นข้้อ ม่จำนวนมากทำ่สุดในอาณ์าจักรสัตว ร่างกายม่ลักษณ์ะเป่็นป่ล้องทำ เชื่อมรวมกัน และแบ่งออกเป่็น 3 ส่วน คือ หัว อก และทำ้อง บางพืวกม่ส่วนหัวเชื่อมรวมกับอก แต่ละ ป่ล้องม่รยางค (appendage) ยื่นออกมาเป่็นคู่ เช่น หนวด ข้ากรรไกร ข้าเดิน และข้าว่ายน้ำ อาร์โทำรพือด ม่ เ ป่ลือก หุ้ มลำ ตัว ทำ าง ด้านนอก (exoskeleton) ซึ่ ง ส่วนใหญ่่เ ป่็นสาร ป่ ระกอบ พื วกไค ติน โ ป่ ร ต่ น และหินปู่น เมื่อม่การเจรญ่เติบโตจึงม่การลอกคราบเพืื่อสลัดเป่ลือกเดิมออกไป่
52
53 แมลงสำบทะเล Ligia sp. แม้จะถึูกเร่ยกว่าแมลงสาบแต่แมลงสาบทำะเล (Sea Slaters) นั้น แทำบไมม่ส่วนเกยวข้้องใดๆ กับเจ้า น่ารังเกล่ยดตัวน่้เลยแม้แตน้อย แต่กลับเป่็นสัตว์ในกลุ่มเด่ยวกับพืวกกุ้ง กั้ง ป่ (Crustacean) มากกว่า แต่จะแตกต่างกันตรงทำ่พืวกมันไดย้ายข้ึ้นมาอยู่บนตามชายฝั่่�งข้องแนวหาดหินและป่่าชายเลน และใช ป่อดเทำ่ยม (pseudo-lungs) ในการหายใจบนบก จนพืวกมันแทำบไมต้องกลับลงน้ำอ่กเลยแมลงสาบทำะเล ส่วนใหญ่่ ม่ข้ นาดอ ยู่ทำ 2-3 เซน ติเมตร ม่ข้ าเ ดิน 7 คู่ ม่ ดวงตา ข้ นาดใหญ่่และหนวด ทำ ยาวมาก และสามาร ถึ เค ลื่ อน ทำ ไ ป่ ตาม ก้อน หินไ ด้อ ย่างรวดเร็ว เ พืื่ อหลบห ล่ ก นัก ล่าและเก ล่ ยวค ลื่ น ทำ่ซัด เข้้าใส่กองหินทำ่พืวกมันอาศัยอยู่ แมลงสาป่ทำะเลกินซากพืืชซากสัตว์เป่็นอาหาร
54
55 ปูหนำุมำนำ Matuta
ลักษณ์ะข้องปู่หนุมาน กระดองม่รป่ร่างค่อนข้้างกลม ชายกระดองม่หนามแหลม ม่ข้าเดิน 4 คู่ และ ก้ามห น่ บ 1 คู่ ก้าม สั้ นแข้็งแรงเหมาะ กับการ พืับเข้้าแนบ ชิด กับลำ ตัว พืื้ นกระดอง ม่ส่ เห ลืองห รือ ตองอ่อนม่ลวดลายส่ม่วงเข้้มอมดำอยู่ทำั่วไป่ทำั้งกระดอง ด้านล่างม่ส่ข้าว ป่ลายข้าเดินและกรรเช่ยงม่ ข้อบส่ข้าว แหล่งทำ่พืบปู่หนุมานอยู่ตามชายหาดพืื้นทำ้องทำรายมากกว่าอย่างอื่น ชอบอาศัยอยู่ในระดับ ทำ่น้ำทำะเลข้ึ้นลงตามหาดทำราย
banksii
56
57 ปูม้ำ Portunus pelagicus ลักษณ์ะทำั่วไป่แบ่งออกเป่็น 3 ส่วน คือ ส่วนตัว อก และทำ้อง ส่วนหัวและอกจะอยู่ติดกัน ม่กระดองหุ้ม อ ยู่ ตอนบน ทำ าง ด้านข้้าง ทำั้ งสอง ข้ องกระดองจะเ ป่็นรอยห ยักค ล้าย ฟ่ นเ ลื่ อยเ ป่็นหนามแหลมข้้างละ 9 อัน ข้าม่ทำั้งหมด 5 คู่ด้วยกัน คู่แรกเป่ลยนแป่ลงไป่เป่็นก้ามใหญ่่เพืื่อใชป่้องกันตัวและจับอาหาร ข้าคู่ทำ 2, 3 และ 4 จะม่ข้นาดเล็กป่ลายแหลมใช้เป่็นข้าเดิน ข้าคู่สุดทำ้ายตอนป่ลายม่ลักษณ์ะเป่็นใบพืาย ใช้ในการว่ายน้ำ ข้นาดกระดองสามารถึโตเต็มทำได้ราว 15–20 เซนติเมตร ป่ม้าจัดไดว่าเป่็นสัตวทำะเล ทำ่ม่ความสำคญ่ทำางเศรษฐกิจและเป่็นอาหารทำะเลทำ่นิยมบริโภค
58
59 ปูฟองนำ�ำเล็บแดง Lauridromia indica กระดองเ ป่็น ร ป่ โ ค้ง ค่อนข้้างกลม บ ริเว ณ์พืื้ น ผิว ม่ข้ น สั้ น ป่ กค ลุมอ ยู่ทำั่ วไ ป่ ด้านห ลังโ ค้ง นูนมาก ข้อบกระดองด้านหน้าระหว่างตาแคบมาก ข้าเดิน 2 คู่สุดทำ้ายม่ข้นาดเล็กงอข้ึ้นมาอยู่บนหลังและม่ ข้อเกยว ตรงป่ลาย ข้นาดความกว้างข้องกระดองป่ระมาณ์ 3 เซนติเมตร และม่พืื้นส่น้ำตาลอ่อน ป่ ลาย ก้าม ม่ส่ แดง ปู่ฟอง น้ำชอบอา ศัยอ ยู่ ตามแนว ป่ ะกา รัง และเ ทำ ยวหาฟอง น้ำมาแบกไว้บนห ลัง อยู่ตลอดเวลา โดยใชข้าเกยวข้องข้าเดินสองคู่สุดทำ้ายยึดเอาไว้เพืื่อให้ฟองน้ำ เป่็นเกราะคุ้มกันอันตราย ทำางด้านบน อ่กทำั้งยังเป่็นการพืรางตัวด้วย
60
61 ปูเปใหญ่ Dorippe
ลำ ตัว ค่อนข้้างแบน พืื้ น ผิวกระดองและ ข้ าเ ดิน ม่ข้ น สั้ น อ่อน นุ่ ม ส่น้ำตาล ป่ กค ลุม ก้าม ทำั้ งสองข้้าง ม่ ข้นาดไม่เทำ่ากัน ข้้อทำ 3 ข้องก้ามม่หนามส่ข้าวเร่ยงกันเป่็นแถึว ตาม่ก้านชส่ข้าว ข้อบตาด้านล่าง ม่ตุ่มเล็กๆ เร่ยงกันเป่็นแถึวคล้ายลูกป่่ด ข้อบตาด้านนอกม่แงยื่นยาว 1 อัน ข้าเดิน 2 คู่แรกยาวมาก ส่วน 2 คู่สุด ทำ้ายยก ข้ึ้ นข้้างบน ข้ นาดความยาวก ว้าง ข้ องกระดอง ป่ ระมา ณ์ 3 - 4 เซน ติเมตร ปู่ชนิดน่้พืบอาศัยอยู่ตามพืื้นทำะเลทำั่วไป่
frascone
62
63 ปูกะตอยเขียว Charybdis anisodon กระดองเร่ ยบไ ม ม่ข้ น อ่อน ม่สัน ทำ เ กิดจาก ตุ่ มเ ล็กๆ เร่ ยง กันเ ป่็นแนว ข้ วาง หนามข้้างกระดอง ม่จำนวน 6 อันโดยทำหนามอันทำสองเล็กกว่าอันแรก ความกว้างสุดข้องกระดองป่ระมาณ์ 5 เซนติเมตร ก้ามทำั้งสองม่ข้นาดใกล้เค่ยงกันและม่ผิวเร่ยบ ข้าเดินคู่สุดทำ้ายแบนเป่็นใบพืาย พืื้นผิวลำตัวด้านบน ส่เทำาอมเข้่ยว ด้านล่างม่ส่ข้าว พืบอาศัยอยู่ตามพืื้นทำะเลทำั่วไป่ ป่ม้ากะตอยนิยมนำไป่ชุบแป่้งทำอดหรือ หมักน้ำป่ลาใส่ในส้มตำแทำนปู่แสม
64
65 ปูใบ้ลำยตำข่ำย Lophozozymus pictor กระดองม่พืื้นผิวเร่ยบรป่วงร่ ข้นาดความกว้าง ป่ระมาณ์ 1.4 เทำ่าข้องความยาว ร่องแบ่งบริเวณ์ต่างๆ บนกระดองเป่็นร่องตื้นเห็นไดชัดเจนเฉพืาะบางส่วน ส่วนหน้าระหว่างตาแคบลาดลงและแบ่งออกเป่็น 2 ลอน ข้อบด้านข้้างข้องกระดองม่รอยหยักทำำใหม่ส่วนยื่นแหลม 4 แห่ง ข้อบด้านบนข้้อทำ 6 ข้องก้าม เป่็นสันตามความยาว ข้าเดินสั้นแบนและเป่็นสันทำางด้านบน พืื้นผิวกระดองเป่็นส่แดงส้ม แต้มด้วย จุด ส่ข้ าวกระ จัดกระจาย ทำั่ วไ ป่ ป่ ลาย ก้ามเ ป่็น ส่ ดำ ปู่ใ บ้ช นิด น่้พื บ ซ่อน ตัวอ ยู่ ใ ต้ซอก หิน ริมชายฝั่่�ง ทำเป่็นโข้ดหินในเข้ตน้ำข้ึ้นน้ำลง พืบทำั้งในอ่าวไทำยและฝั่่�งมหาสมทำรอินเด่ย ปู่ใบ้ชนิดน่้เป่็นปู่ใบพืิษ ไม่ควรนำมาบริโภคเป่็นอาหาร
67 เอคำไคำโนำเดิร์ม ECHINODERMS PHYLUM ECHINODERMATA เป่็นสัตวม่หนามตามผิวลำตัว ทำุกชนิดอาศัยอยู่ในทำะเลโดยดำรงช่วิตเป่็นสัตว์หน้าดินทำั้งหมด ระยะตัว เจ ร ญ่ เ ต็ม วัย ม่ สมมาตรเ ป่็น รัศ ม่ แ ต่ในระยะ คพื ภะ ม่ สมมาตรแบบ ซ่ ก ซ้าย ข้ วาเห มือน กัน บ ริเว ณ์ ใ ต ผิวหนังม่หินปู่นชิ้นเล็กๆ เร่ยงกันเป่็นแถึว ทำ�าใหร่างกายค่อนข้้างแข้็งแตยืดหยุ่นได เช่น ดาวทำะเล ดาวเป่ราะ ดาวข้นนก และบางพืวกม่ลักษณ์ะเป่็นเป่ลือกแข้็งยืดหยุ่นไม่ได เช่น เม่นทำะเล เหร่ยญ่ทำะเล เป่็นต้น เอคไคโนเดร์มทำุกชนิดม่ระบบทำ่อน้ำ (canal system) ซึ่งเป่็นโครงสร้างเฉพืาะตัว ป่ระกอบ ด้วย ทำ่อตะแกรง (madreporite) เ ป่็น ช่องเ ป่ิดออก สู่ ภายนอก ทำ าง ด้าน ป่ ากห รือ ด้านตรงข้้าม ป่ าก บางพืวกทำ่อตะแกรงอาจเป่ิดช่องลำตัว จากทำ่อตะแกรงทำ่อน้ำเข้้าสู่ทำ่อวงแหวน และแยกออกในแนว รัศ ม่ เข้้าไ ป่ ในแ ต่ละแข้ น จาก นั้ นจะ ม่ทำ่อแยกตาม ข้ วางออกเ ป่็น คู่ ๆ นำเข้้า สู่ เ ทำ้า ทำ่อ (tube feet) ซึ่ ง ยืดหดไ ด ช่วยในการเค ลื่ อน ทำ เอคไดโนเ ด ร์ม ส่วนใหญ่่เ ป่็น สัต ว กินเ นื้ อ เช่น หอย ค รัสเตเช่ ยน หนอนป่ล้อง และเอคไดโนเดร์มด้วยกัน บางพืวกม่ด้านป่ากอยู่ข้้างล่าง เช่น ดาวทำะเล ดาวเป่ราะ ป่ลิงทำะเล และบางพืวกม่ป่ากอยู่ข้้างบน เช่น ดาวข้นนก
68
69 ปลิงหนำวดกิงไม้เขียว Colochirus guadrangularis ลำ ตัวเ ป่็น ทำ่อน สั้ น ร ป่ เห ล ยม ยืดหดไ ด น้อย ด้าน ล่างแบนราบเ ป่็นห น้า ตัด ด้านบนและ ด้านข้้าง ม่ หนาม ยาวยื่นออกมาห่างๆ ลักษณ์ะคล้ายหนอนผ่เสื้อ ด้านหน้าม่หนวดยื่นยาวป่ระมาณ์ครึ่งหนึ่งข้อง ความยาวลำตัว ข้นาดความยาวลำตัวป่ระมาณ์ 12 เซนติเมตร พืื้นผิวลำตัวส่เข้่ยว หนามม่ส่ชมพื ป่ลิงชนิดน่้พืบเกาะอยู่ตามก้อนหินในแนวป่ะการังใต้ระดับน้ำลงต่ำลงสุดลงไป่
70
71 ปลิงหนำวดกิงไม้ชมพูเหลือง Cercodemas anceps ลำ ตัวเ ป่็น ทำ่อน สั้ น พืื้ น ผิว ข้ร ข้ ระ ส่ ชม พืูส ลับเห ลือง ลำ ตัว ด้านห ลัง ม่ปุ่่ ม (papillae) ข้ นาดใหญ่่ กระ จัดกระจาย ด้าน ล่าง ม่ เ ทำ้า ทำ่อเร่ ยง ตัว กันเ ป่็นแนว 3 แนว ด้านห น้า ม่ช่อหนวดแตกแข้ นง คล้ายกิ่งไม้ละเอ่ยดยื่นออกมาเพืื่อจับแพืลงค์ตอนในน้ำกินเป่็นอาหาร ข้นาดความยาวลำตัว ป่ระมาณ์ 10 เซน ติเมตร และหนวด ยื่ นยาว ป่ ระมา ณ์ 4 เซน ติเมตร ป่ลิง ทำ ะเลช นิด น่้พื บเกาะอ ยู่กับ พืื้ น หิน เป่ลือกหอยตามพืื้นทำะเลทำเป่็นทำรายตามแนวป่ะการังบางแห่งใต้เข้ตน้ำข้ึ้นน้ำลง
72
73 ปลิงด�ำ Holothuria
ลำตัวกลมส่ดำเร่ยวยาวเหมือนไส้กรอกทำ่ยืดหดได้มาก ข้นาดยาวป่ระมาณ์ 30 เซนติเมตร พืื้นผิวลำตัว อ่อนนุ่มแตข้รข้ระ เทำ้าทำ่อปุ่่มดูดเร่ยงกัน 3 แถึว ตามความยาวข้องลำตัวทำางด้านทำ้อง ป่ากม่ช่อหนวด ใช้เ ก็บ จับอาหาร ป่ลิง ทำ ะเลดำช นิด น่้พื บมากตาม พืื้ น ทำ รายในแนว ป่ ะกา รังและโข้ ด หินในเข้ ต น้ำ ข้ึ้ น น้ำลง และลึกลงไป่ มักเก็บเอาเม็ดทำรายมาป่กคลุมผิวลำตัว พืบทำั้งในอ่าวไทำยและฝั่่�งมหาสมทำรอินเด่ย
leucospilota
74
75 เหรียญทะเล Arachnoides placenta ลำตัวม่เป่ลือกแบนคล้ายเหร่ยญ่ ข้นาดเส้นผ่าศูนย์กลางป่ระมาณ์ 4 เซนติเมตร เป่ลือกม่ลักษณ์ะแข้็ง ไม่แตกง่าย ด้านบนซึ่งอยู่ตรงข้้ามป่ากนูนเล็กน้อย บริเวณ์ทำ่ม่เทำ้าทำ่อเป่็นรป่กล่บดอกไมทำไม่บรรจบกัน เหมือนเม่นหัวใจ ด้านล่างซึ่งเป่็นป่ากม่ร่องข้องบริเวณ์เทำ้าทำ่อชัดเจน ป่ากยุบลง และม่ร่องทำอดออกไป่ทำาง ข้ อบเ ป่ลือก พืื้ น ผิวลำ ตัวโดย ทำั่ วไ ป่ส่น้ำตาลเข้้ม ทำ วารห นักอ ยู่ทำ าง ด้านตรงข้้าม กับ ป่ าก พื บอา ศัย อยู่ตามพืื้นทำะเลทำเป่็นดินทำรายหรือทำรายป่นโคลน พืบทำั้งในอ่าวไทำยและทำะเลอันดามัน
76
77 เม่นำด�ำหนำำมยำว Diadema setosum เม่นทำะเลม่เป่ลือกจัดเร่ยงตัวเป่็นรป่ทำรงกลม ห่อหุ้มอวัยวะภายในเอาไว และม่หนามยาวยื่นออกมา รอบ ตัว หนาม ทำ อ ยู่ทำ าง ด้าน ล่างใช้ในการเค ลื่ อน ทำ ม่ข้ นาด สั้ นก ว่าหนาม ทำ าง ด้านข้้างและ ด้านบน ข้นาดเส้นผ่าศูนย์กลางรวมทำั้งหนามป่ระมาณ์ 25 เซนติเมตร ด้านล่างม่ป่ากอยู่ตรงกลาง ด้านบนเป่็นถึุงทำ ยื่ นออกมาจาก ทำ วารห นัก ม่ส่ส้มเ ป่็นวงโดยรอบ พืื้ น ผิวเ ป่ลือกและหนาม ส่ ดำ ยกเว้นหนาม ทำ าง ด้านล่างรอบๆ ป่ากม่ส่ข้าว และม่เทำ้าทำ่อข้นาดเล็กแต่เร่ยวยาวยื่นออกมาจากลำตัว ช่วยในการดูด เกาะและเคลื่อนทำ เม่นทำะเลหนามยาวชนิดน่้ พืบอาศัยอยู่ในแนวป่ะการังและโข้ดหินริมชายฝั่่�งทำะเล ทำั่วไป่ นับเป่็นชนิดทำ่พืบไดบ่อย
78
79 ดำวเปรำะหนำำม Ophiothrix spinosissima ร่างกายป่ระกอบด้วยส่วนกลางลำตัวเป่็นแผ่นแบนรป่ห้าเหลยมมุมมนข้นาดเล็ก แตม่แข้น 5 แข้น ทำ่ยื่นออกไป่ยาวคล้ายง โดยม่หนามยื่นออกทำางด้านข้้างข้องแข้นจำนวนมาก พืื้นผิวลำตัวส่วนใหญ่่ม่ ส่น้ำตาล ดาวเป่ราะมักอาศัยอยู่ตามทำหลบซ่อนกำบัง เช่น กองหินป่ะการัง หรืออยู่กับฟองน้ำ เพืื่อใช เป่็นทำหลบกำบัง
81 คำอร์เดต CHORDATES PHYLUM CHORDATA คอร์เดตเป่็นสัตวทำ่ม่ววัฒนาการสูงสุดในอาณ์าจักรสัตว กล่าวคือ ม่การเป่ลยนแป่ลงโครงสร้างต่างๆ ข้องร่างกาย ตลอดจนการป่รับตัวให้เข้้ากับสภาพืแวดล้อมไดด่กว่าสัตว์ไมม่กระดูกสันหลัง ลักษณ์ะ สำคญ่ทำ่พืบใน คอร์เดต คือ โนโตคอร์ด ระบบป่ระสาทำส่วนกลาง และช่องเหงือก นอกจากลักษณ์ะ สำคญ่ 3 ป่ระการดังกล่าวแล้ว คอร์เดตยังม่ลักษณ์ะอื่นๆ ทำเห็นไดชัด คือ ม่หัวใจอยู่ทำางด้านทำ้อง (ventral) และแ บ่งเ ป่็น ห้องๆ ม่ ก ล้ามเ นื้ อเ ป่็น มัด ร่างกาย ม่ สมมาตรแบบ ซ่ ก ซ้าย ข้ วาเห มือน กัน เป่็นสัตวม่เนื้อเยื่อสามชั้นและม่ทำางเดินอาหารแบบสมบูรณ์์
82 ปลำเห็ดโคำนำ Sillago sp. เป่็นป่ลาข้นาดเล็ก ม่ความยาวป่ระมาณ์ 15 เซนติเมตร ม่ส่วนหัวหลิม ล�าตัวกลมยาวเร่ยวแบนข้้าง เล็กน้อย ล�าตัวส่น�้าตาลอ่อน หลังม่ส่เข้้มกว่าหรือส่เทำา บางชนิดม่แต้มส่เข้้มกว่าเร่ยงเป่็นแถึวอยู่ข้้างล�าตัว หรือพืาดอยู่บนสันหลัง เป่็นป่ลาทำอาศัยอยู่รวมกันเป่็นฝัู่ง ม่พืฤติกรรมไซทำรายหรือโคลนบริเวณ์แหล่ง ทำอยู่เพืื่อหากินและหลบซ่อนตัว โดยพืบบริเวณ์ใกล้ชายฝั่่�ง ป่ากแมน้ำ พืงหญ่้าทำะเล หรือป่่าชายเลน
83 ปลำสร้อยนำกเขำปำกหมู Plectorhynchus nigrus ป่ลาสร้อยนกเข้าข้นาดค่อนข้้างใหญ่่ ม่ความยาวลำตัวป่ระมาณ์ 40 เซนติเมตร ลำตัวตั้งสูงและแบน ด้านข้้าง ตาโต แนว สันห ลังโ ค้ง นูน แ ต่แนว สัน ทำ้อง ค่อนข้้างตรง ค ร่ บห ลัง ม่ข้ นาดใหญ่่ ป่ ากใหญ่่ ม่ริมฝั่ป่ากหนา พืื้นลำตัวส่เทำาดำ คร่บต่างๆ ม่ส่เข้้มกว่าลำตัว อาศัยอยู่ใกลพืื้นทำะเลบริเวณ์ริมชายฝั่่�ง
84 ปลำผีเสือคำรีบจุด Parachaetodon ocellatus ลำตัวแบน แนวสันหลังโค้งมากกว่าทำางด้านทำ้อง หน้าผากลาดชัน ป่ากเล็กและเฉ่ยงลง เกล็ดตาม ลำ ตัว ข้ นาดเ ล็ก ค ร่ บห ลังโ ค้งและ หักลาดลงไ ป่ทำ� าใ ห ม่ลักษ ณ์ ะเ ป่็น ร ป่ สามเห ล ยม ม่ก้านค ร่ บแข้็ง จำนวน 6 อัน คร่บหูเล็กสั้นและคร่บทำ้องแหลม คร่บทำวารเป่็นรป่โค้ง ป่ลายหางตัดเกือบตรง โดยม่ ส่วนโ ค้งเ ล็ก น้อยตรงกลาง ข้ นาดความยาว ป่ ระมา ณ์ 10 เซน ติเมตร พืื้ น ผิวลำ ตัว ส่ เห ลือง อ่อน หรือข้าว และม่แถึบคาดตามข้วางส่เหลืองอมน้ำตาล จำนวน 5 แถึบ คาดผ่านบริเวณ์ตา ลำตัวและ โคนหาง ตรงโคนหางม่จุดส่ดำ บริเวณ์คร่บหลังม่จุดส่ดำรป่ไข้ ข้อบข้าวข้นาดใหญ่่ 1 แห่ง คร่บต่างๆ ม่ส่ เหลืองอ่อน ป่ลาผ่เสื้อชนิดน่้อาศัยอยู่ตามเกาะแก่งและกองหินใตน้ำบริเวณ์แนวป่ะการังในอ่าวไทำย และฝั่่�งมหาสมทำรอินเด่ย
85 ปลำวัวหำงพัด Monacanthus chinensis ลำตัวแบนมากทำางด้านข้้าง ตามลำตัวและหัวม่เกล็ดข้นาดเล็ก คร่บหลังตอนต้นม่หนามเป่็นก้านแข้็ง ส่วนคร่บหลังตอนทำ้ายไมม่ก้านแข้็ง ป่ากเล็ก ตาเล็ก คร่บหูเล็ก แต่คร่บทำ้องแผข้ยายใหญ่่ยื่นลงไป่ ข้้างล่าง คร่บทำวารอยู่ถึัดจากคร่บทำ้องไป่จนถึึงโคนหาง ตรงโคนหางม่หนามเล็กๆ เร่ยงกันเป่็นแถึว คร่บหางกลมมนเป่็นรป่พืัด ข้นาดความยาวป่ระมาณ์ 25 เซนติเมตร พืื้นผิวลำตัวส่เหลืองไพืล แต้มด้วย จุดส่ม่วงตั้งแตหัวจรดหาง โดยม่จุดแต้มหนาทำึบเป่็นแถึบเฉ่ยง 2 แถึบ ป่ลาวัวหางพืัดพืบอาศัยอยู่ใกล พืื้นทำะเลตามริมชายฝั่่�งทำั่วไป่ในอ่าวไทำย
86 ปลำข้ำวเม่ำนำ�ำลึก Holocentrus rubrum ป่ ลา ทำ่ม่ ตาโต ก้านค ร่ บห ลังและค ร่ บ ทำ วารแข้็งเ ป่็นหนาม ข้ อบกระ ดูกแ ก้มแข้็งเ ป่็นหนามแหลม ตามผิวลำตัวม่เกล็ดหยาบแบบหยัก ข้อบด้านหลังข้องคร่บหลังตรงกับคร่บทำวาร คร่บหางเป่็น 2 แฉก ข้นาดความยาวลำตัวป่ระมาณ์ 20 เซนติเมตร พืื้นผิวลำตัวส่แดงสลับข้าวตามความยาว บริเวณ์หัว และข้้างแ ก้ม ม่ส่ แดงส ลับ ข้ าวตาม ข้ วาง ป่ ลาข้้าวเ ม่า น้ำ ลึกเ ป่็น ป่ ลา ทำ ชอบออกหาอาหารในเวลา กลางคืน พืบอาศัยอยู่ตามซอกหินและป่ะการังใตน้ำทำั่วไป่
87 ปลำช้ำงเหยียบ Platycephalus indicus ลำตัวแบนทำางด้านบนด้านล่างและเร่ยวยาว ส่วนหัวใหญ่่แบนลาดลงมายังป่ากและเร่ยวเล็กลงไป่ ทำางหาง ป่ากกว้าง ตาโป่นเล็กน้อย คร่บหลังตอนหน้ายกสูงเป่็นรป่สามเหลยม คร่บหูแผ่กว้างแบนราบ คร่บทำวารยาวเช่นเด่ยวกับคร่บหลังตอนทำ้าย ข้นาดความยาว ป่ระมาณ์ 30 เซนติเมตร พืื้นผิวลำตัว ส่น้ำตาลอ่อน ม่ลายคาดส่น้ำตาลไหมทำางด้านข้้างข้องตา และบริเวณ์กลางตัวผ่านคร่บหลังตอนหน้า และใกล้หาง ป่ลาช้างเหย่ยบเป่็นป่ลาหน้าดินทำชอบอาศัยอยู่ตามพืื้นทำะเล พืบทำั่วไป่ในน่านน้ำไทำย
88 ทรัพยากรทางชีวภาพของ พืช ในตำ า บลนาเกลือ
89
90 โกงกำงใบใหญ่ Rhizophora mucronata ไมต้นข้นาดใหญ่่ ม่รากเสริมออกมาเหนือโคนต้น รากค้ำยันแตกแข้นงระเกะระกะ เรือนยอดรป่กรวย คว่ำแคบๆ ใบเดยวเร่ยงตรงข้้ามสลับตั้งฉาก ใบคู่ล่างๆ จะหลุดร่วงไป่เหลือกลุ่มใบทำ่ป่ลายกิ่ง ใบรป่ร่ ถึึงร่กว้าง ม่ติ่งแหลมเล็ก แข้็ง ส่ดำ ทำ่ป่ลายใบ แผ่นใบหนา ม่จุดเล็กๆ ส่ดำกระจัดกระจายทำั่วไป่ทำาง ด้าน ล่าง ช่อดอกออกตาม ง่ามใบ ทำ ใบ ติดอ ยู่ ห รือ ร่วงไ ป่ ดอก ตูม ร ป่ ไข้ ม่ ใบ ป่ ระ ดับรอง รับ ทำ ฐาน ดอกกล่บเล่้ยง 4 กล่บ กล่บดอก 4 กล่บ ร่วงง่าย ผลคล้ายรป่ไข้ป่ลายคอดส่น้ำตาลอมเข้่ยว ลำต้นใต้ใบเล่้ยง รป่ทำรงกระบอก เร่ยว ค่อนข้้างตรง ป่ลายเร่ยวแหลมยาว ผิวเป่็นมัน ส่เข้่ยว ม่ตุ่มข้รข้ระทำั่วไป่
91 แสมทะเล Avicennia marina ไม้ข้นาดเล็กสูงป่ระมาณ์ 5-8 เมตร มลักษณ์ะเป่็นพืม สวนใหญ่่มสองล�าตนหรือมากกวา ไมม่พืพือน เรือนยอดโป่ร ง ม รากหายใจรูป่คล ายดินสอ ยาว 10-20 เซนติเมตร เหนือผิวดิน เป่ลือกเร ยบเป่็นมัน ส่ข้าวอมเทำาหรือข้าวอมชมพื ตนทำ่่อายุมากเป่ลือกจะหลุดออกเป่็นเกล็ดบางๆ คลายแผนกระดาษ และ ผิวข้องเป่ลือกใหมจะมสเข้่ยว
92 สำหรำยทุ่นำ Sargassum sp. เป่็นสาหร่ายทำะเลส่น้ำตาล ลำต้นเจรญ่ข้ึ้นตั้งตรงแตกเป่็นกิ่งใบเด่ยวคล้ายใบพืาย ตามข้อบม่หนาม บริเวณ์ก้านใบม่ทำุ่น เมื่อลำต้นข้าดหลุดจะทำำให้สาหร่ายทำะเลลอยอยู่บนผิวน้ำได สาหร่ายทำุ่นพืบตาม ชายฝั่่�งทำะเลทำเป่็นหาดหินทำั่วไป่ในเข้ตน้ำข้ึ้นน้ำลง
93 ดััชน ฟองน้ำ.............................................................. ...........13 ฟองน้ำถี้ตัว ....15 ฟองน้ำกระชาย ............................................................17 ฟองน้ำยืดหัยุ่น้สุีดำ.....................................................................................................................19 ไน้ดาเรีย.................... ...................................................21 ปุะการังจาน้................................................................................................................................23 ปุะการังสุมองร่องเล็ก..................................................................................................................25 ดอกไม้ทะเลหัน้วดสุัน้ ...................................................27 ปุะการังแหัวน้ ..............................................................29 หัน้อน้ปุล้อง.................................................................................................................................30 บุุ้งทะเล.......................................................................................................................................31 มอลลสุ ..........33 หัอยหัววน้สุ ...35 หัอยน้างรมหัน้าม..........................................................................................................................39 หัอยสุังข์ทะน้าน้ .....41 หัอยหัวาน้...................................................................................................................................43 หัอยปุีกน้างฟ้า............................................................................................................................45 หัอยจอบุ.....................................................................................................................................47 หัม้กสุาย............................................................. ..........49 อาร์โทรพัอต............................................................. ....51 แมลงสุาบุทะเล............................................................................................................................53 ปุ้หันุ้มาน้ .......55 ปุ้ม้า.............................................................................................................................................57 ปุ้ฟองน้ำเลบุแดง.........................................................................................................................59 ปุ้เปุ้ใหัญ่.............................................................. .........61 93
94 94 ดััชน (ต่่อ) ปุ้กะตอยเขียว............................................................ .63 ปุ้ใบุ้ลายตาข่าย............................................................ 65 เอคไคโน้เดร์ม............................................................. ..67 ปุลิงหัน้วดกิ�งไม้เขียว.................................................................................................................................69 ปุลิงหัน้วดกิ�งไม้ชมพั้เหัลือง .........................................................71 ปุลิงดำ.........................................................................................................................................73 เหัรียญทะเล...................................................................................................................................75 เมน้ดำหัน้ามยาว.......................................................... .77 ดาวเปุราะหัน้าม..........................................................................................................................79 คอร์เดต.......................................................................................................................................81 ปุลาเหั็ดโคน้..............................................................................................................................82 ปุลาสุร้อยน้กเขาปุากหัม้ ..............................................83 ปุลาผู้ีเสุื�อครบุจุด.........................................................................................................................84 ปุลาวัวหัางพััด.........................................................................................................................85 ปุลาข้าวเม่าน้ำล้ก........................................................................................................................86 ปุลาช้างเหัยียบุ .............................................................87 โกงกางใบุใหัญ่.............................................................................................................................90 แสุมทะเล.......................................................... ....................91 สุาหัร่ายทุ่น้...............................................................................................................................92
95 95 บรรณ์านุกรม กรมทรพัยากรทางทะเลและชายฝั่่�ง, ชีววิทยาและระบุบุน้ิเวศใน้ทะเล, https://www.dmcr.go.th/infoAll/197 วกพัีเดีย: สุารานุ้กรมฟร (2547 22 กรกฎาคม). FL: Wikimedia Foundation, Inc. สุบุคน้เมื�อ 10 กุมภูาพััน้ธ 2565 จากhttps://www.wikipedia.org
97