Contents ลุย KOEYAdventure
น�้ำทะเลสีฟ้าใส เกาะน้อยใหญ่วางเรียงราย พักผ่อนใจกายที่บูทีค ในชุมชนชิคๆ @ เสม็ดนางชี
16 KOEYTalkเล่า
เรียนรู้วิถีมอแกลน ดินแดนทับตะวัน สร้างฝันเด็กไทยใหม่ สู่การเข้าใจพวกเขาที่บ้านทับปลา
34
6
ลิ้ม KOEYAddicted
หากไม่ได้กินเต้าส้อ ก็เหมือนมาไม่ถึงตะกั่วป่า
26
KOEY
บ.ก. ขอชม
ไดอารี่บอกลา กับ 3 ปีที่ท�ำมา ทรงคุณค่าไม่เคยลืม
Say Koey “น�้ำมันทีไ่ ม่ ร้อน ทอดอะไรก็ไม่ สุก เหมือนกับความ พยายาม ถ้ าไม่ พยายามให้ ถงึ ทีส่ ุด ก็จะไม่ มีทางเกิด ผลส�ำเร็จได้ ” กว่า 15 สถานที่กับ 50 คนที่เราสัมภาษณ์ ในระยะ เวลา 3 ปีที่ทีม KOEY ได้เดินทางมาถึง บางทีก็เร็วเหมือน กันนะ หากใครเป็นนักอ่านขาประจ�ำที่ติดตามกันมาตั้งแต่ ซีซนั่ แรกคงจะรูจ้ กั กันดี แต่สำ� หรับนักอ่านขาจร เราขอแนะน�ำตัว อย่างเป็นทางการอีกครั้ง พวกเรา “ทีม KOEY” (โค้งค�ำนับ) ความเป็น KOEY ทีเ่ ป็นเอกลักษณ์ให้จดจ�ำ เริม่ จากทีมสมาชิก ทีไ่ ม่เคยเปลีย่ นตัว คนแรก คือ “บีม” เด็กผูห้ ญิงผิวคล�ำ้ ผมฟู ที่มีบุคลิกคล้ายกับ “เจ้าเงาะ” (เรื่องสังข์ทอง) เวอร์ชันผู้ หญิง เธออ่านหนังสือบทความต่าง ๆ อย่างขะมักเขม้นเพื่อ หา reference แล้วน�ำมาเขียนเป็นภาษาของตนเอง ซึ่งเธอ ก็ ไ ด้ แ ต่ ห วั ง ว่ า จะสามารถถอดจิต วิญญาณความเป็ น นักเขียนมาใส่ในบทความให้ได้ดีเท่ากับเงาะป่าตัวจริงที่ ถอดรูปเป็นหนุ่มรูปงาม สมาชิกคนต่อมา “โอม” หนุ่มแว่น ที่ส่วนสูงขัดกับความหน้าเด็กของเขา สี่ตาน�ำพาศิลปะ ในหั ว ใจใส่ ล งบนงานกราฟิก จนออกมาเป็นงานสวย ๆ คุณสามารถสังเกตเขาง่าย ๆ เพราะเป็นคนที่ชอบพกกล้อง รุ ่ น ใหญ่ กั บ โน้ ต บุ ๊ ค คู ่ ใ จไปไหนมาไหนด้ ว ยกั น ตลอด อย่างกับสหายที่ไม่มีวันตายจาก พ่วงด้วยอาจารย์ที่ปรึกษา “ครู ไ นน์ ” เปรี ย บท่ า นเหมื อ นกั บ โดเรม่ อ น ตั ว การ์ ตู น หุ่นยนต์แมว ที่มีกระเป๋าวิเศษยื่นออกมา เพราะเราสามารถ ขอค�ำแนะน�ำดี ๆ จากท่านได้เสมอ ความเฮฮาสนุกสนาน ท�ำให้ช่วยสร้างบรรยากาศให้การท�ำงานไม่เครียดเกินไป และปีนี้ก็เกิดอาถรรพ์กับสมาชิกคนที่สี่อีกครั้ง (ออกจาก กลุ่มทุกปี) เราก็ได้เปลี่ยนสมาชิกใหม่เป็น “กังฟู” หนุ่มน้อย ดัดฟัน บุคลิกขี้เล่น แต่เวลาท�ำงานมีความจริงจังมาก และ เป็นคนมีความสามารถรอบด้าน ท�ำให้ช่วยแบ่งเบาภาระ จากพี่ ๆ ได้เยอะเลยทีเดียว การได้รว่ มงานกับบุคคลทีค่ นุ้ เคย ท�ำให้เราท�ำงานได้อย่างราบรื่นและสบายใจ จึงท�ำให้ไม่ ต้องใช้เวลาปรับตัวมากในการเข้าหากัน นับจากวันแรกทีเ่ ราได้เข้าร่วมโครงการ “SCB Challenge กล้าใหม่....ใฝ่รู้” ของธนาคารไทยพาณิชย์ จ�ำกัด มหาชน ในความไม่รขู้ องเราน�ำมาสูก่ ารพัฒนาผลงานอย่างสร้างสรรค์ ท�ำให้เข้าใจความเป็นท้องถิ่นของเราโดยแท้จริงได้สัมผัส ถึ ง วั ฒ นธรรม ประเพณี ธรรมชาติ และความเป็ น อยู ่
เราอยู่บ้านเกิดมาเป็นสิบปี แต่ก็ไม่ได้เรียนรู้เกี่ยวกับมัน อย่างลึกซึ้ง ขอขอบคุณโครงการดี ๆ ที่ให้เราได้เป็นผู้ริเริ่ม การอนุรักษ์ความเป็นชุมชนของเรา รู้จักการท�ำงานเป็นทีม และการวางแผน ท�ำให้เราพร้อมที่จะก้าวไปสู่วัยผู้ใหญ่ อย่างมั่นใจ การท�ำงานในปีที่ผ่านมาเราพยายามอย่างหนักที่ จะหาแนวทางสือ่ สารกับผูอ้ า่ นตลอด เราได้นำ� เสนอความโดด เด่ น ของสิ่ ง ต่ า ง ๆ ที่ มี อยู ่ ใ นจั ง หวั ดพั ง งาแต่ ส�ำ หรั บปี นี้ KOEY ยั ง ท� ำ ในรู ปแบบเดิ ม แต่ เ พิ่ มเติ มในส่ ว นของการ ท่องเที่ยวแบบยั่งยืน โดยใช้ “ความเรียบง่ายของชุมชน” เป็นตัวตั้ง เพื่อเชื่อมโยงระหว่างการท่องเที่ยวโดยชุมชนกับ นักท่องเทีย่ วทีส่ นใจเข้าด้วยกัน เราอยากจะท�ำงานกับชุมชน แบบระยะยาว แล้ ว ให้ ร ายได้ ที่ ไ ด้ จ ากการท่ อ งเที่ ย วมา ช่วยในการพัฒนาชุมชนต่อ ซึ่ ง เราจะสรุ ป เป็ น คอนเซ็ ป ท์ ให้เข้าใจง่ายโดยใช้ค�ำว่า “local are R A I (โลคอลอะไร)” เป็ น แนวคิ ด ที่ อ ยากจะบอกเล่ า ถึ ง ความเป็ น ไลฟ์ ส ไตล์ (Life Style) ของจังหวัดพังงา โดย R-Rhytym of nature คือ การน�ำเสนอความเรียบง่าย ของธรรมชาติ ที่มีความโดดเด่นในตัวของมันเอง ซึ่งก็ดึงดูด ใจให้ นั กท่ องเที่ ยวหลั่ ง ไหลเข้ า มาดั่ ง สายธาร โดยคนใน ชุมชนจะมีการร่วมมือร่วมใจกันพัฒนาชุมชนแห่งนี้ด้วยมือ ของเขาเอง ตัว A-Alife คือ การน�ำเสนอความเป็นวิถีชีวิตของ คนในชุมชนและเรียนรู้ถึงความเป็นอยู่ ตัว I-Identity คือ ความหลากหลายทางเชื้อชาติและ ศาสนาของคนในชุมชน เมื่อรวมตัวกันก่อให้เกิดเอกลักษณ์ ที่ลงตัว ก่อนจะจากกันอยากบอกว่า ที่ KOEY กลับมาในปีนี้ เพียงแค่อยากเป็นหนึ่งในกระบอกเสียง เพื่อสื่อถึงความ เป็นชุมชนของพังงา ที่มีเสน่ห์แบบไม่ได้ปรุงแต่ง และไม่ได้ ต้องการให้มีชื่อเสียงประเดี๋ยวประด๋าว แต่ความเป็นชุมชน นี่ แ หละ ที่ จ ะกวั ก มื อ คุ ณ ให้ เ ข้ า ไปหาด้ ว ยตั ว คุ ณ เอง แล้ ว คุ ณ จะหลงไหลในความเรี ย บง่ า ยของจั ง หวั ด พั ง งา อย่างโงหัวไม่ขึ้นเลยล่ะ
Koey Studio KOEY | 3
Overall season KOEY EXPERIENCE ตลาดสดทับปุด เขานางหงส์
ตะกั่วป่า
วัดบางเหรียง ลูกชก ขมิ้น
เล่าเรื่อง ในหลวง ผ่านศิลปิน
สปาโคลนร้อน
ถ�้ำลอด เสม็ดนางชี ศาลากลาง จังหวัดพังงา
ชาวเล
เต้าส้อ
KOEY | 4
SEASON 1
KOEY Magazine
st
1 edition
First edition
SEASON 2 Journey with KOEY
เขาตะปู
คุณสามารถเรียนรู้เพิ่มเติม ไปกับ KOEY ได้ง่าย ๆ เพียงแค่หยิบโทรศัพท์ขึ้น มาแล้วแสกน QR CODE ดังที่เห็น โดยเราจะแบ่งเป็น
เกาะปันหยี
กรอบสีแดง คือ เล่มผลงาน e-magazine เมื่อสองซีซั่นที่แล้ว กรอบสีเหลือง คือ หนังสือเสียง ส�ำหรับผู้มีเวลาน้อย แต่อยากท�ำความรู้จักกับเรา กรอบสีฟ้า คือ ช่องทางการท�ำ ความรู้จักกับผู้ที่เราสัมภาษณ์ อีกทางหนึ่ง กรอบสีม่วง คือ หนังสั้นที่มีการจัด ท�ำเพื่อถ่ายทอดในอีกรูปแบบหนึ่ง
การเดินทางของนิตยสาร KOEY ได้เ ข้าสู่ปีที่ 3 อย่างเต็มรูปแบบ ในปีแ รก เราได้น�ำเสนอเนื้อหาที่น่าสนใจ เพื่อโปรโมท จังหวัดพังงาอย่างชัดเจน แต่เนื่องจากเป็น จุดเริม่ ต้น ท�ำให้เราหลงทางไปบ้าง เหมือนกับ เด็กทารกที่พึ่งหัดเดิน ซึ่งเราก็ได้แต่หวังว่า เราจะพัฒนาตนเองให้ดียิ่งขึ้น ถัดมาอีกปี เราก็เลือกที่จะน�ำเสนอคอนเซ็ปต์นิตยสาร เล่มใหม่ ในหัวข้อ Journey With KOEY ซึง่ เป็นการเชิญชวนให้ทุกคนได้สัมผัสไปกับเรา ได้ท่องเที่ยวไปด้วยกัน และมีการสะท้อน แนวคิดเด็ด ๆ จากผูม้ ปี ระสบการณ์ สร้างสรรค์ ออกมาพร้อมกับ HP Reveal (โปรแกรมลิงก์ กับโทรศัพท์) ซึ่งท�ำให้เข้าถึงความเป็นยุค เทคโนโลยีมากยิ่งขึ้น และในปีนี้ เราอยากที่ จะน�ำเสนอความเป็นชุมชนของจังหวัดพังงา ที่โดดเด่นและน่าค้นหา ภายใต้ชื่อคอนเซ็ปต์ ว่า Local are RAI พร้อมกับเพิ่มช่องทางใน การท�ำหนังสือเสียงและ QR CODE ลงไป หากคุณอยากรู้ว่าน่าสนใจอย่างไร ลองเปิด หน้าถัดไปดูสิ มีดีสมราคาคุยแน่นอน
KOEY | 5
KOEY
ลุย Adventure
เขียนโดย พรรษา รักษาสรณ์ KOEY | 6
The view is a breathtaking 360-degree panorama facing due east, making it particularly striking at sunrise. You look out at a chain of islands stretching out of sight to both the left and right in the waters of Phang Nga Bay, across about 1.6 km of mangroves. The sun rise between the limestone karsts at about 05:30 to 06:00, depending on the time of year. It is often preceded by the awe-inspiring sight of a sky full of stars, clearly visible overhead, though this also depends on the season. KOEY team stayed in a comfortable tent with a beautiful view of Phang Nga Bay. The food was extremely good, with fresh seafood dishes aplenty. The drinks are very reasonably priced. There were very tasty. If you have a chance to visit Sametnangshe, the ethereal and natural world of Southern Thailand will astonish you.
KOEY | 7
น�้ำทะเลสีฟ้าใส เกาะน้อยใหญ่วางเรียงราย พักผ่อนใจกายที่บูทีค ในชุมชนชิคๆ @ เสม็ดนางชี
เที่ยวครบเซ็ต @ เสม็ดนางชี
“เสม็ดนางชี” สถานที่ทางธรรมชาติที่มีชื่อเสียงระดับโลกความลึ ก ลั บ และน่ า ค้ น หา คื อ มนต์ ข ลั ง ที่ ส ามารถสะกดใจ นั ก ท่ อ งเที่ ย วได้ เ ป็ น อย่างดี เพีย งแค่คุณเดินก้าวย่างเข้ า ไปยั ง ฉากหลั ง ที่ สะท้ อนความสวยงามในตั ว มั นเองโดยไม่ มี การปรุง แต่ง มองแสงอาทิตย์ยามเช้าที่เปล่งประกายตัดกับสีฟ้าครามของน�้ำทะเล ช่างสวยงามราวกับภาพลวงตาหน้าร้อน ภูผาเล็กใหญ่ที่เรียงตัวอย่าง สวยงามดุจดั่งสวรรค์สร้าง ฟังเสียงเรือหางยาวของชาวบ้านเหมือนเสียงดนตรีที่คลอประกอบ สูดกลิ่นไอของธรรมชาติที่สดชื่นชุ่มปอด ท�ำให้รู้สึกว่าเวลาของการพักผ่อนได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว เสม็ ด นางชี ตั้ งอยู่ หมู่ที่ 2 บ้านหินร่ม ต�ำบลคลองเคี ยน อ�ำเภอตะกั่วทุ่ง จังหวัดพังงา ชื่อแปลก ๆ ของ “เสม็ดนางชี” ที่ฟัง แล้ วก็ ส ะกิ ด ใจในครั้ ง แรกนั้น โดยค�ำว่า “เสม็ด ” มาจากค� ำ ว่ า เหม็ดผ้า ในภาษาใต้ ซึ่งแปลว่า การยกชายผ้าขึ้นให้พ้นน�้ำ เนื่องจาก ในสมัยก่อนมีเรื่องเล่า โดยเริ่มมาจากพ่อเฒ่าผู้หนึ่งในเกาะแห่งหนึ่ง ที่ต้องการจะสู่ขอหญิงสาวให้แก่ลูกชาย ในขณะที่ออกเดินทาง มีแม่ชีท่านหนึ่งอยากไปกับพ่อเฒ่าด้วย จึงลุยน�้ำคลองไปหาเรือให้ ท�ำให้ผ้าเปียก เขาจึงให้แม่ชีเหม็ดผ้าขึ้น จนจุดนั้นก็กลายเป็นจุด เสม็ดนางชีมาจนถึงทุกวันนี้ เหล่าแบ็กแพกเกอร์ โดยเฉพาะผู้ชอบการพิชิต ต่างก็ให้ความ สนใจกับที่นี่เป็นอย่างมาก เนื่องจากการที่จะขึ้นไปถึงจุดชมวิวได้ นั้น คุณต้องเดินต้านแรงโน้มถ่วงของโลก ซึ่งองศาในการเดินก็ช่าง ลาดชันยิง่ นัก ในช่วงแรกมีนอ้ ยคนนักทีจ่ ะสามารถถึงจุดสุดยอดนีไ้ ด้ แต่ ใ นสมั ย นี้ ก ารเดิ น ทางขึ้ น กลั บ ง่ า ยดั ง ปอกกล้ ว ยเข้ า ปาก เพียงแค่ยื่นเงิน 90 บาท (ค่ารถ 60 บาท ค่าชมวิว 30 บาท) ให้แก่ พนักงานต้อนรับ สักพักก็จะมีรถกระบะพาคุณไปผจญภัยกับทาง ชันลาดสุด ๆ โปรดจับกรงเหล็กให้มั่น พร้อมประชันความเสียว KOEY | 8
เจ้ า สี่ ล้ อขนาดใหญ่ จ ะพาคุ ณ ไปท้ า ทายกั บการผจญภัยที่คุณจะ ไม่มวี นั ลืม เมือ่ ไปถึงจุดชมวิว มีการบริการเต็นท์ขนาดย่อม ให้สำ� หรับ ผูเ้ ดินทางทีต่ อ้ งการรับชมบรรยากาศของวิวราคาแพงในตอนกลางคืน และตอนเช้ า ตรู ่ เต็ น ท์ ส� ำ หรั บ 2-3 คน ราคาอยู ่ ที่ 350 บาท หากมาเป็ น ครอบครั ว แนะน� ำ ให้ เ ช่ า หน� ำ (กระท่ อ มเล็ ก ๆ) โดยบริการในราคาหลังละ 500 บาท นอกจากนี้ยังมีร้านค้าที่ให้ ความสะดวกทั้งอาหารและของใช้ต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี เพียงเท่านี้ คุณก็จะได้ชมวิวสวย ๆ แบบ 360 องศา ได้อย่างชื่นใจ การเดินทางมายังเสม็ดนางชี มีเคล็ดลับง่าย ๆ คือ สังเกต สะพานลอย ถ้ามาจากทางกระบี่ ให้นบั สะพานลอยที่ 4 แล้วเลีย้ วซ้าย แต่ถ้ามาจากทางภูเก็ต ให้เริ่มนับจากสะพานสารสิน เลี้ยวรถกลับที่ สะพานลอยที่ 3 จากนั้นนับสะพานลอยที่ 3 อีกครั้งแล้วเลี้ยวซ้าย เข้ า ไปยั ง ปากทางท่ า อยู ่ โดยเส้ น ทางที่ เ ข้ า ไป เป็ น เส้ น ทาง 13 กิโลเมตร ที่สวยงามอีกเส้นหนึ่ง ผ่านภูเขาเขียวขจี และนานาพรรณ ไม้ที่เรียงรายอยู่ข้างถนน คุณจะได้สดชื่นกับบรรยากาศที่ปกคลุม ไปด้วยธรรมชาติ และได้รับอ้อมกอดอันอบอุ่น
นายอ�ำร่อน เสล่ราษฎร์ ผู้ใหญ่บ้านต�ำบลคลองเคียน
รู้จักกับก�ำนันอ�ำร่อน ผู้ริเริ่มบุกเบิก เสม็ดนางชี “ก�ำนันอ�ำร่อน” ชื่อที่ชาวบ้านแถวนั้นเรียกเขา ชายวัยกลางคนที่มีผิวคล�้ำแบบชาวใต้ นัยน์ตาของท่าน แผ่รงั สีความมุง่ มัน่ ออกมาชัดเจน ท�ำให้เราเข้าใจถึงความใจ กล้าของท่านที่จะบุกเบิกจุดชมวิว ก�ำนันได้กล่าวว่าท่าน วางแผนจะบุกเบิกในช่วง 5-6 ปี แต่ตอนนั้นการท�ำถนน ท่าเรือ (ถนนทางเข้า) ยังไม่เสร็จ เมื่อเห็นว่าทุกอย่างพร้อม จึ ง เริ่ มด� ำ เนิ น การ โดยแรงบั น ดาลใจมาจากการที่ท ่า น ได้มีโอกาสชมสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติจากที่อื่นมา หลายครั้ง จึงฉุกคิดว่า ท�ำไมพังงาถึงไม่มีสถานที่ที่ดึงดูด นั ก ท่ อ งเที่ ย วได้ ด ้ ว ยตั ว มั น เองบ้ า งเล่ า พอลุ ง มอง สภาพแวดล้อมแถวนั้นที่มีภูเขาเรียงรายประกอบกับทะเล สีคราม ท่านจึงคิดที่จะท�ำจุดชมวิวขึ้นอย่างตั้งใจและ ขะมักเขม้น และไม่คิดว่าที่นี่จะโด่งดังจนสามารถมีชื่อ เสียงระดับประเทศได้ขนาดนี้ ตอนนี้นักท่องเที่ยวจาก ทั่วทุกมุมโลก ต่างก็ต้องการที่จะมาเห็นด้วยตาตัวเอง ว่าสวยเพียงไหน แรงงานต่าง ๆ ที่ใช้ส่วนใหญ่น�ำมาจากชาวบ้าน ที่อยู่ในชุมชนละแวกนั้น ท่านอยากให้ชาวบ้านมีส่วนร่วม ที่จะสร้างแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ของจังหวัด นอกเหนือ จากการท�ำอาชีพประมงซึ่งเป็นอาชีพหลักของพวกเขา เพื่อที่จะหารายได้เข้าสู่ชุมชน โดยทุกคนก็ร่วมมือร่วมใจ กันเป็นอย่างดี มีอะไรขาดเหลือก็ช่วยกันตลอด ท�ำให้การ ท�ำงานราบรื่นไปได้ด้วยดี ซึ่งการที่เสม็ดนางชีมีชื่อเสียง โด่งดังขึ้น ส่งผลให้สถานที่ท่องเที่ยวละแวกนั้นมีจ�ำนวน นักท่องเที่ยวมากขึ้นตามไปด้วย บางคนสนใจลงเรือชม อ่าวพังงาบ้าง ทะเลแหวกบ้าง นับเป็นการต่อยอดการท่อง เที่ยวเพิ่มขึ้นไปอีกขั้น
KOEY | 9
มุ่งสู่เสม็ดนางชีบูทีค นอกจากจุดชมวิวเสม็ดนางชีที่สามารถมองเห็นความสวยงาม ของธรรมชาติแบบครบครันแล้วนั้น ถัดไปอีกไม่ไกล ก็จะพบ โรงแรม เสม็ดนางชีบูทีค ที่นี่เหมาะแก่บุคคลที่ไม่ชอบการผจญภัย แต่อยาก เห็นความงดงามของเสม็ดนางชีในอีกมุมหนึ่ง การเดินทางก็สะดวก มีรถบริการรับส่งอยู่เชิงเขา พอขึ้นมาถึงคุณจะตกตะลึงกับความงาม ราวกับโรงแรมระดับ 5 ดาว สไตล์ของร้านก็จะมีความเป็นสากล ผสมกับ กั บ เอกลั ก ษณ์ ไ ทยที่ ห าได้ ย าก ผนั ง ด้ า นนอกมี ก ารเพนท์ ล าย หลากสี สั น ไว้ ส� ำ หรั บ ผู ้ ที่ ต ้ อ งการมุ ม ถ่ า ยรู ป เพื่ อ อวดโลกโซเชียล แบบชิคๆ หากท่านอยากพักผ่อน ก็มที พี่ กั ให้เลือกหลายแบบ หลายคาแร็กเตอร์ ไม่ ว ่ า จะเป็ น แบบเต็ น ท์ ห รื อ แบบบ้ า นเป็ น หลั ง ๆ เหมาะส� ำ หรั บ คนที่อยากซึมซับบรรยากาศพร้อมดูทางช้างเผือกในยามมืดมิด KOEY | 10
ถึงแม้ราคาจะสูงสักหน่อย แต่ถ้าเทียบกับการที่ได้มาเจอวิวสวย ๆ ราคาหลักล้าน ก็ถือได้ว่าคุ้มค่าที่สุดแล้ว นอกจากการชมวิวทิวทัศน์ ทางโรงแรมก็ได้วางแผนจัดกิจกรรมเพื่อสานสัมพันธ์ โดยออกแบบมา เป็นทริป ซึ่งได้แก่ทริปล่องเรือ และ zipline (การโหนสลิง) เพื่อให้ นักท่องเที่ยวรู้สึกโลดโผนและน่าตื่นเต้น ซึ่งก็จะสามารถสร้างความ ทรงจ�ำที่ดี ๆ ได้อย่างน่าเหลือเชื่อ ในส่วนพนักงานโรงแรมก็ไม่ใช่ใครที่ไหน เป็นชาวบ้านใน ชุมชนนี่เอง พี่พนักงานบอกว่า “พี่มีความสุขที่ได้มาท�ำงานนี้ เพราะพี่ ได้อยู่ใกล้บ้าน สามารถที่จะดูแลครอบครัวได้อย่างใกล้ชิด และการ ท�ำงานทุกขั้นตอนควรมีสมาชิกในชุมชนร่วมอยู่ด้วย เพราะการที่ คนในชุมชนท�ำงานให้ชุมชนและเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างรายได้เข้า ชุมชน จะท�ำให้พวกเขารู้สึกภูมิใจและมีใจรักที่จะท�ำต่อไป” ค�ำพูดที่ เอื้อนเอ่ยท�ำให้เรารู้สึกได้ว่าพี่เขาผูกพันกับชุมชนจริง ๆ
ลิ้มรสอาหารชิคๆ สไตล์พังงา หลังจากเดินชมโรงแรมกันอยู่พักหนึ่ง กลิ่นอาหารที่แสนจะ หอมหวนชวนน�้ ำ ลายไหลได้ พุ ่ ง เข้ า มาเตะจมู ก อย่ า งรุ น แรง จากห้องอาหารสุดหรูทมี่ มุ หนึง่ ด้วยความล้าจากการเดินทางท�ำให้ เสียงน�้ำย่อยในกระเพาะจากที่ร้องอยู่สักพักแล้ว ได้เริ่มร้องปะทะ กันดังขึ้นเรื่อย ๆ ร่างกายทุกคนเหมือนใส่เกียร์ว่างเอาไว้ แล้วโดน ดับเครื่องโดยทันที เดินมุ่งหน้าตามกันไปยังจุดหมายเดียวกัน เข้าไปถึงห้องอาหารเสม็ดนางชีบทู คี ทุกคนเหมือนโดนสตาร์ท เครื่องอีกครั้ง ความงดงาม ความหรูหรา บวกกับวิวสวย ๆ ของ เสม็ดนางชี ที่บานกระจกสุดใสนั้น ท�ำให้ตะลึงกันไปพักใหญ่ เราก็ ไม่พลาดที่จะเดินไปนั่งยังโต๊ะอาหารริมกระจกบานนั้น ในส่วนของ เมนูอาหาร โดยมากจะเป็นซีฟู้ด ซึ่งวัตถุดิบตัวน้อยตัวใหญ่ของเขา ก็ไม่ได้หาจากที่ไหนไกล มาจากชุมชนในละแวกนี้นี่แหละ ท�ำให้ ความสดใหม่มีอยู่ในอาหารตลอดเวลา ด้วยปริมาณและคุณภาพ ที่เต็มเปี่ยม จึงไม่แปลกใจที่ราคาจะสูง โดยเราก็ได้คัดสรร 3 เมนู สุดเด็ดของทางร้านมาให้ได้ชมกันในหน้าถัดไป เรียนรู้วิถีชาวบ้านท่าเรือหินร่ม ท่าเรือบ้านหินร่ม ท่าเรือใจกลางอ่าวพังงา ซึ่งอยู่ละแวกเดียว กับเสม็ดนางชี คุณจะได้เจอกับความงดงามที่ประเมินค่าไม่ได้ บวกกับวิถีชีวิตของคนท้องถิ่นที่อาศัยอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เต็ม ไปด้ ว ยธรรมชาติ อั น โดดเด่ น และวิ ถี ชี วิ ต ชาวประมงพื้ น บ้ า น นอกจากนั้นที่นี่ยังท�ำให้เราได้เข้าใกล้ภูเขาหินปูนที่ตั้ง ตระหง่านสวยงามอยู่ตรงหน้าโดยมีฉากหลังเป็นน�้ำทะเลสีฟ้าอม เขียว ราวกับจะท�ำให้คนมองด�ำดิ่งลึกลงไปในวังวนของธรรมชาติ ส�ำหรับเส้นทางไปยังท่าเรือยังคงเป็นถนนลูกรัง ขับไปฝุ่นก็ ตลบไล่หลัง ขับเข้าไปเรื่อย ๆ สองข้างทางที่เป็นบ้านเรือนเริ่มกลาย เป็นผืนน�้ำที่มีส่ิงปลูกอาศัยเป็นเพิงพัก ไม่ไกลมีสะพานปูนทอด ยาว กับมีเรือหลายล�ำจอดรอท่า ภาพเด็ก ๆ ในหมู่บ้านกระโดดน�้ำ เล่นกันตูมตามท�ำให้บรรยากาศสดใส เมื่อขับรถไปก็จะเจอร้าน อาหารอยู ่ ด้ า นใน กั บท่ า เรื อที่ สามารถข้ า มไปเที่ ยวเกาะอื่น ได้ สบาย ๆ
KOEY | 11
HEAVEN
MOUNTAIN FOOD
Shrimp Fried Chili Salt
กุ้งผัดพริกเกลือ เป็ น อี ก หนึ่ งเมนูที่เอาใจคนชอบทานรสจัด จานนี้ จ ะเค็ มน� ำ ปน ความเผ็ดของพริกเล็กน้อย แต่พอทานแล้วจะมีความกลมกล่อมอยู่ ในนั้นตัวกุ้งได้ผ่านการทอดมาก่อนที่จะผัด เคี้ยวแล้วกรุบกรอบ ทานต่อได้เรื่อย ๆ ความสดในจานนี้ก็ไม่ต้องห่วงเช่นกัน กุ้งที่ได้มา เป็นกุง้ แชบ๊วยทีช่ าวบ้านในชุมชนนิยมเลีย้ งกันอยูแ่ ล้ว นอกจากสด ยังปลอดภัย ไร้สารพิษ ราคา 350 บาท
แน่นอนว่า ความถูกปากในรสชาติของแต่ละคน แตกต่างกัน การวิจารณ์และให้คะแนนกับอาหารนั้นจึง เป็นแค่ความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนเพียงเท่านั้น KOEY | 12
Fresh Shrimp in Fish Sauce
กุ้งสวรรค์แช่น�้ำปลา ความแปลกของชื่อเมนู ที่ฟังดูแล้วเสนาะหู ท�ำให้ต้องลองสักจานที่ ได้เรียกกันว่าชื่อนี้เป็นเพราะการได้ทานกุ้งบนภูเขาสูงพร้อมกับ มองวิวเสม็ดนางชีสวย ๆราวกับนั่งทานอยู่บนสวรรค์ ทั้งอิ่มกาย อิ่มใจยิ่งพอได้ลองทาน สัมผัสแรกที่พบเลยคือความนุ่มและสดใหม่ ของกุ้ง ทั้งเครื่องเคียงที่ดับกลิ่นคาวได้อย่างพอดีถ้าอยากลองขึ้น สวรรค์สักครั้งต้องเมนูนี้เลย ราคา 220 บาท
Meuang Snapper
เมี่ยงปลากะพง เมนูที่ขาดไม่ได้บนโต๊ะก็ต้องเมี่ยงปลากะพง ความแน่นและนุ่มของ เนื้อปลาที่พึ่งขึ้นมาจากน�้ำตอนเช้าตรู่แถวท่าน�้ำของชุมชน ท�ำให้ อรรถรสในการทานสุดเกินจะบรรยาย ยิ่งหากทานคู่กับเครื่องเมี่ยง ความลงตัวที่แท้จริงจะเกิดขึ้น ราคา 450 บาท
KOEY | 13
ความตระการตาของเสม็ ดนางชี แ ละท่ า เรื อหิ นร่ มที่ อยู ่ ละแวกนั้ น บวกกับความทันสมัยของโรงแรมเสม็ดนางชีบูทีคท�ำให้เรารู้สึกได้ว่าพังงาก็มี ความงดงามของธรรมชาติมากมายที่ซ่อนอยู่ ต้องขอขอบคุณ “ก�ำนันอ�ำร่อน” ทีบ่ กุ เบิกสถานที่ คอยให้ความรูเ้ ด็ด ๆ และท�ำให้เรารับรูถ้ งึ ความเป็นชุมชนของทีน่ ี่ แม้การรวมตัวกันภายในชุมชน อาจส่งผลกระทบต่อธรรมชาติบางประการ แต่ถ้า ทุกคนดูแลรักษาสถานที่ให้ดี เราก็จะสามารถอยู่ร่วมกับธรรมชาติแบบนี้สืบไป และก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่าบทความนี้จะเป็นแนวทางที่จะพาท่านผู้อ่านเอ็นจอยไป กับเรา ลองมารับชมการสรรค์สร้างของธรรมชาติที่ลงตัว เราเชื่อว่ามันจะตรึงอยู่ ในความทรงจ�ำอย่างไม่มีวันลืม แล้วเจอกัน @เสม็ดนางชี
KOEY | 14
เสม็ดนางชีบูทีค เบอร์ 063-3398855 Facebook ; Sametnangshe boutique KOEY | 15
Tao Sor is a dessert which is a famous souvenir from Phang Nga. Takua Pa is the epicenter of tasty Tao Sor. It is similar to Chinese Mooncake but smaller and dryer. Tao Sor is made of baked dough stuffed with mashed baked soybean and seasoning to give sweet or salty flavors. It can be eaten with tea and coffee. It is originally Chinese and brought to Thailand by Chinese migrants “Mr. Cheawsui Limsakun� He is the great-grandfather of Tuangrat Kachinrat (the first Tao Sor store in Thailand). Tao Sor had been impressing for customers over 110 years. KOEY | 16
KOEY
ลิ้ม Addicted
เขียนโดย ฟูศักดิ์ สุขช่วง KOEY | 17
เต้าส้อร้อยสิบปี สู่วิถีแห่งชุมชน ต�ำนานความอร่อยของเต้าส้อ “ตวงรัตน์” กลิ่นควันหอม ๆ จากเตายังคงตลบอบอวล ร้อยเรียงเคียงคู่กับเมือง ตะกั่วป่ามากว่า 110 ปี
“มันอยู่ในสายเลือด”
ต้นก�ำเนิดเต้าส้อตะกั่วป่า เจ้าแรกของเมืองไทย ได้เริ่มต้น เรื่องราวมาจาก นายเชียวสุย ลิ่มสกุล (ทวดของคุณตวงรัตน์) ถ้อยค�ำที่เปล่งออกมาจากความภูมิใจของคุณ ซึ่งอพยพมาจากประเทศจีนเมื่อ วันที่ 25 ธันวาคม 2450 โดยได้ ตวงรัตน์ เจ้าของกิจการ “เต้าส้อตวงรัตน์ 110 ปี ” มาอาศัยอยู่ที่ ต�ำบลบางม่วง อ�ำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา และ ขนมชนิดนี้เกิดขึ้นพร้อมกับคนจีนฮกเกี้ยนที่เข้ามาตั้ง รกรากในเมืองท่าที่ส�ำคัญอย่างที่ตะกั่วป่า พังงา เดิมทีพวกเขา ได้พบกับภรรยาใหม่ซึ่งเป็นลูกคนจีนที่มีฝีมือทางด้านการท�ำ ชอบรับประทานถัว่ กวนอยูแ่ ล้ว และเนือ่ งจากพ่อค้า ชาวจีนรูจ้ กั ขนมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นขนมตุ๊บตั๊บ ลิ้นควาย (โรตีกรอบ) ถั่วตัด แป้งสาลีเป็นอย่างดี จึงได้ลองน�ำส่วนผสมทั้งสองอย่างมา (กรองถึง) รวมถึงขนมเต้าส้อด้วย รังสรรค์ขึ้นเป็นขนมชนิดนี้ KOEY | 18
Tuangrat Kachinrat 202 Ratbamrung road Takuapa district Phangnga province 82110 Tel : 081 797 1451 (Tuangrat)
โดยที่มีบุตรชาย นายฉายเอี่ยน ลิ่มสกุล คอยเป็นผู้ช่วย เริ่มจาก การไปฝากขายไว้ที่เหมืองแร่ หรือร้านโกปี้ (กาแฟ) ซึ่งถือว่าเป็น ขนมทีแ่ ปลกใหม่ ณ ขณะนัน้ เพราะเป็นช่วงแรก ๆ ทีไ่ ด้นำ� เต้าส้อ เข้ามาขายในประเทศไทย ต่อมา นายฉายเอีย่ น ได้แต่งงานกับลูก คนจีนที่ต�ำบลบางม่วง แล้วมีลูกด้วยกัน 6 คน ภายหลังแม่เลี้ยง (ภรรยาใหม่ของพ่อ) ได้เสียชีวิต ทางครอบครัวจึงได้ย้ายมาอยู่ ที่ต�ำบลตลาดเหนือ และผันตัวมาเปิดโรงงานท�ำขนมเต้าส้อ
เพียงอย่างเดียว ด้วยเหตุว่าขนมบางอย่างมีกรรมวิธีที่ซับซ้อน และยากต่อการหาคนที่มีฝีมือมาช่วย ปัจจุบัน นางตวงรัตน์ หรือน้าตวง (หลานของนายฉายเอี่ยน) ได้ท�ำหน้าที่สืบทอด เจตนารมณ์ในการท�ำขนมของบรรพบุรุษ และสานต่อกิจการ เต้ าส้ อ ให้มีความหลากหลายและเป็นที่รู้จักกว้างขวางมากขึ้น
KOEY | 19
ด้วยหัวใจหลักของรสชาติอันเป็นที่ น่าติดอกติดใจ น้าตวงจึงได้ให้ค�ำนิยามของ เต้าส้อทีด่ ไี ว้วา่ “ต้องกรอบนอกนิม่ ใน” กรอบนอก คือ แป้งกรอบไม่นมิ่ ไม่แข็งกระด้างจนเกินไป ส่วน นิม่ ใน คือ ตัวไส้กรุน่ กลิน่ หอม นิม่ ละมุนลิน้ ละลายในปาก ทีส่ ำ� คัญรสชาติตอ้ งไปด้วยกัน ได้อย่างกลมกล่อม ยังไม่เพียงเท่านั้น คุณ ตวงรั ต น์ ยั ง ได้ ใ ห้ ก ลเล็ ด ไม้ เ ด็ ด ในการท� ำ ขนมเต้าส้อของร้านไว้อีกด้วย น้าตวงได้กล่าวว่า “แป้งเต้าส้อที่ดี ต้องประกอบไปด้วยแป้งชั้นนอก และ แป้ ง ชั้ น ใน ในอั ต ราส่วน 1:1 โดยแป้ง ชั้นนอก เริ่มจากการผสมแป้งและน�้ำมัน ให้ เ ข้ า กั น ก่ อน จากนั้นจึงเพิ่มน�้ำ และ น�้ ำ ตาลเล็ ก น้ อ ยเพื่ อ ให้ มี ร สชาติ ที่ กลมกล่ อ ม ส่ ว นแป้ ง ชั้ น ในเป็ น เพี ย ง ส่วนผสมระหว่างแป้งและน�้ำมันเท่านั้น” ในส่วนของไส้ ตามทีไ่ ด้กล่าวมาข้างต้นแล้ว คนจีนสมัยก่อนเป็นคนที่ชอบกินถั่ว ท�ำให้ ขนมเต้าส้อมีไส้ที่ท�ำมาจากถั่วเขียว ซึ่งผ่าน การแช่น�้ำจนได้ที่แล้วน�ำไปนึ่งให้สุก จากนั้น ทุบถัว่ ทีน่ งึ่ ไว้ให้ละเอียด ปรุงรสชาติดว้ ยน�ำ้ ตาล เล็กน้อย แล้วน�ำมากวนจนสุกก็จะได้เป็น ไส้หวาน ส่วน ไส้เค็ม คือ ใช้กรรมวิธีเดียว กับไส้หวาน แต่ปรุงรสด้วยพริกไทย เกลือ และหอมเจียวเพื่อเพิ่มรสชาติความละมุน กรุ่นกลิ่นหอม สองความแตกต่างอย่างเห็น ได้ชัดของไส้ 2 ไส้นี้เป็นรสชาติดั้งเดิมที่มีมา ตั้งแต่แรกเริ่ม ต่อมาน้าตวง ได้คิดพัฒนา เพิม่ ขึน้ มาอีก 3 ไส้ โดยไส้แรกเป็นทีต่ อบโจทย์ โดนใจวัยรุ่น คือ ไส้ชาเขียว ซึ่งน้าตวงได้ บอกว่ า ช่ ว งที่ คิ ด เป็ น ช่ ว งที่ ช าเขี ย วก� ำ ลั ง เป็นกระแสอย่างมากในหมู่วัยรุ่น แต่ถ้าหาก จะตีตลาดวัยรุ่นเพียงอย่างเดียวก็เกรงว่าคน กลุม่ อืน่ จะน้อยใจเอาได้ ดังนัน้ ไส้ตอ่ มาน้าตวง จึงอยากเอาใจคนรักสุขภาพหน่อย นั่นคือ ไส้งาด�ำ ซึง่ มีสรรพคุณทีถ่ กู ใจใครหลาย ๆ คน โดยเฉพาะผู้ที่ก�ำลังเป็นกังวลเกี่ยวกับความ หนุ่มสาวที่ค่อย ๆ ลิดรอนไปตามกาลเวลา
KOEY | 20
เนื่องจากงาด�ำสามารถช่วยชะลอความแก่ รวมถึงเป็นขุมทรัพย์อันล�้ำค่าของเจ้าวิตามิน และ แร่ธาตุต่าง ๆ อีกมาก มาถึงไส้สุดท้ายที่ ไม่พูดถึงคงไม่ได้ คือ ไส้ถั่วแดง เป็นรสชาติ ที่ให้ความรู้สึกแตกต่างจากเต้าส้อไส้หวาน แบบดั้งเดิม ซึ่งท�ำมาจากถั่วเขียว โดยรส สัมผัสของไส้ถวั่ แดงนัน้ จะมีความนุม่ ละมุนลิน้ รับรองว่าหากได้ลองชิมเต้าส้อน้าตวงดูสกั ครัง้ จะต้องติดใจเป็นแน่
ช่วงนี้หลายคนคงอยู่ในสภาวะกระเป๋า เงินหย่อน แต่ต้องบอกว่ายังคงสามารถซื้อเต้าส้อ ทานได้จนอิ่มท้อง ด้วยราคาสบายกระเป๋าเพียง กล่องละ 35 บาทต่อเต้าส้อ 8 ชิน้ แถมยังมีโปรโมชัน่ คืนก�ำไรกับลูกค้า ซื้อ 3 กล่องร้อย ถูกแถมดีมีที่นี่ที่ เดียว ถือว่าเป็นของฝากสุดฮิตของตะกั่วป่าเลยก็ว่า ได้ ท� ำ ให้ เ กิ ด ค� ำ ถามที่ ห ลายคนคงเป็ น กั ง วลว่ า หากซื้ อ ไปฝากคนที่ บ ้ า นขนมจะเสี ย หรื อ เปล่ า เรื่องนั้นหายกังวลไปได้เลย เพราะขนมเต้าส้อของ น้าตวง เก็บได้นานถึง 3 เดือน จากเมือ่ ก่อนทีเ่ คยใช้ เพียงแค่ถงุ กระดาษเปล่า ๆ ห่อเต้าส้อ 20 ชิน้ ท�ำให้
เก็บขนมไว้ได้ไม่นานนัก จึงเปลี่ยนเป็นการแพ็คใส่ แพ็คเกจ โดยการลดจ�ำนวนของเต้าส้อ ขนาดแพ็คเกจ ใส่ ถุ ง เค (ถุ ง ดู ด ความชื้ น ) และสารดู ด ความชื้ น เพื่อยืดระยะเวลาในการเก็บรักษาอายุขนมไว้ ความใส่ใจในรสชาติ และความพิถีพิถัน ในขัน้ ตอนการท�ำขนมของน้าตวง และผูช้ ว่ ยมากฝีมอื ยิ่งเข้าใกล้ ยิ่งรับรู้ได้จริง ๆ ว่าทุกคนท�ำงานร่วมกัน ด้วยความสุข ในเมื่อมีโอกาสที่จะใกล้ ชิ ด ทายาท เต้าส้อเจ้าแรกของเมืองไทย มีเหรอ ที่ทีม KOEY จะพลาดการพูดคุยเรื่องราวสุด EXCLUSIVE กับคุณตวงรัตน์
KOEY | 21
“ ถ้าหากมาถึง ตะกั่วป่าแล้ว ไม่ได้ทานเต้าส้อ ก็เหมือนมาไม่ถึง ”
นางตวงรัตน์ คชินทร์รัตน์ เจ้าของร้านเต้าส้อตวงรัตน์
KOEY Studio : คุณน้าคิดว่าอะไรคือจุด ขายของร้าน ทั้งที่มีเต้าส้อหลากหลาย ร้านในละแวกนี้ ?
KOEY Studio : ความผูกพันของคุณน้า กับเต้าส้อเริ่มตั้งแต่ตอนไหน ? น้าตวง : น้าก็ไม่รู้ว่าจะสามารถใช้ค�ำว่าผูกพันได้หรือเปล่า จะเรียกว่าหลัง่ ไหลอยูใ่ นสายเลือดเลยก็ได้ น้าเกิดมาก็เห็นแม่นา้ ท�ำเต้าส้อขายแล้ว เราแทบไม่ต้องเรียนรู้อะไรกันมาก พอจับ ปุ๊บก็เป็นปั๊บ จากธุรกิจที่สืบทอดต่อกันมาเรื่อย ๆ จึงอยากเป็น อีกคนที่ช่วยครอบครัวสานต่ออาชีพที่เลี้ยงปากท้องครอบครัว เรามาหลายต่อหลายรุน่ ตามความประสงค์ของอากงทีอ่ ตุ ส่าห์ ดั้นด้นสร้างอาชีพให้กับลูกหลานอย่างเรา ๆ
KOEY | 22
น้าตวง : จุดขายทีเ่ ห็นได้ชดั ของเราเนีย่ คือ เป็นของดัง้ ของเดิม ของแท้แน่นอน ไม่ได้เสริมเติมแต่งจนหมดความเป็นเอกลักษณ์ เต้าส้อจากจีนฮกเกี้ยน แต่แน่นอน ไปจังหวัดไหนก็จะเห็นป้าย เต้าส้อตะกัว่ ป่าเจ้าเดิมบ้าง เจ้าต้นต�ำรับบ้าง แล้วยังมีเจ้าเก่าอีก น้าเลยตัดปัญหาการตั้งชื่อของร้านให้เป็นเอกลักษณ์และ ชัดเจนไปเลยว่า “เต้าส้อตวงรัตน์ 110 ปี” ลูกค้าหลายคนเล่าให้น้าฟังว่า เคยกินเต้าส้อจากร้านอื่น ทีม่ กี ารเรียกตัวเองว่าเป็นต้นต�ำรับของตะกัว่ ป่าบ้าง สูตรเก่าแก่บา้ ง แต่กลับเกิดความผิดหวัง เนื่องจากไม่ถูกใจในรสชาติ ท�ำให้ ตลาดเต้าส้อได้รับความสนใจน้อยลง แต่เมื่อเปิดใจมาลอง เต้าส้อร้านน้า กลับกลายเป็นว่าติดใจในความสด ใหม่ และอร่อย จนผันตัวมาเป็นแฟนพันธุแ์ ท้ของเต้าส้อกันถ้วนหน้าเลยทีเดียว
KOEY Studio : ขนมโบราณอย่าง เต้าส้อท�ำไมคนถึงติดใจ ? น้าตวง : ไม่วา่ ขนมอะไรก็ตามแต่ ทีค่ นชอบกันมานมนาน หลัก ๆ เลย คือเรือ่ งของรสชาติทถี่ กู ปาก อย่างขนมเต้าส้อ ก็มีการผสมผสานระหว่างความกรอบของแป้ง บวกกับ ความสดใหม่ของไส้ ทีร่ บั ประกันได้วา่ อร่อยอย่างคาดไม่ถงึ ตบท้ายด้วยความนุ่มละมุน และหอมกรุ่น รับรองได้ว่า ไม่ว่าใครก็ต้องประทับใจจนยากที่จะหยุดลงในชิ้นเดียว แม้ว่าขนมชนิดนี้จะโบราณไปบ้าง แต่พี่มั่นใจว่า ความเก่าความแก่ของมันที่คู่กับชุมชนนี้มานานนี่แหละ ที่เป็นจุดเด่น นับวันยิ่งเทคโนโลยีก้าวหน้าไปเรื่อย ๆ คน ก็จะคิดถึงกลิน่ ไอของสิง่ เดิม ๆ ทีเ่ คยลืมเลือนกันไป แล้วก็ เริม่ พากันกลับมาสนใจของเก่า อย่างทีค่ ดิ สูตรขนมใหม่ ๆ เนีย่ น้าว่าคนเราก็มีความต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงไปใน ทางที่ดีขึ้นเป็นธรรมดา แต่ก็ไม่ควรจะทิ้งของดั้งของเดิม ที่บรรพบุรุษเคยได้สร้างไว้ให้ KOEY Studio : หากเปรียบขนมเต้า ส้อกับอะไรสักอย่าง สิ่งนั้นคืออะไร ? น้าตวง : หากเปรียบเต้าส้อ ที่แป้งกรอบ ไส้นุ่ม คงเปรียบ เหมือนกับคนเรา ทีห่ ากมองผิวเผินอาจดูเป็นคนน่าเกรงขาม โหด น่ากลัว แต่ภายในจิตใจลึก ๆ แล้ว เขาอาจจะเป็นที่ อ่อนโยน หรือไม่ได้น่ากลัวอย่างที่ใครคิด ก็เหมือนเป็น ค�ำสอนอย่างหนึ่งว่า คนเราอย่าพึ่งตัดสินคนเพียงเพราะ รูปลักษณ์ภายนอกของเขา เพราะข้างในจิตใจอาจเป็น คนดีคนหนึ่งที่เราชอบใจ น้าจึงอยากให้ทุกคนลองทาน ขนมเก่าแก่ทเี่ คียงคูก่ บั ชุมชนตะกัว่ ป่ามานาน โดยเฉพาะ เยาวชนในชุมชน อยากให้ช่วยกันอนุรักษ์ไว้ ภายนอก อาจดูเป็นขนมแป้งอบธรรมดา ๆ แต่หากได้ทาน น้ารับรอง รสชาติต้องไม่ธรรมดาแน่นอน
KOEY | 23
KOEY Studio : เห็นผู้ช่วยในโรงงานมีเยอะ มีอะไรที่เรียกได้ว่าเป็นเครื่องมัดใจให้อยู่ท�ำงาน ด้วยกันนาน ๆ ? น้าตวง : ลูกน้องเขาจะท�ำงานกันตั้งแต่ครั้งรุ่นแม่น้ายังขายเต้าส้ออยู่ ทุกคนล้วนแล้วแต่อยูใ่ นละแวกนี้ เป็นลูกน้องทีท่ ำ� งานกันมาอย่างต่อเนือ่ ง เป็นรุน่ ๆ ไป เราท�ำงานกันแบบมีความสุขมากกว่า เหมือนเป็นครอบครัว เดียวกันอย่างไรอย่างนั้น บางคนจบจากโรงเรียน ม.3 ก็เข้ามาท�ำงาน ตั้งแต่ลูกของน้ายังตัวน้อย ๆ จนตอนนี้ลูกโตมากแล้ว เขาก็ยังคงท�ำงาน กับเราอยู่ พอได้เลี้ยงปากท้องครอบครัว คอยมอบโอกาสให้แก่พวกเขา ช่วยสร้างรายได้ให้คนในชุมชน เพราะทุกคนในโรงงานจะยึดอาชีพนี้ เป็นหลักเป็นแหล่งเลย KOEY Studio : เต้าส้อตวงรัตน์กับตะกั่วป่า มีความสัมพันธ์กันอย่างไร ? น้าตวง : “ถ้าหากมาถึงตะกั่วป่าแล้วไม่ได้ทานเต้าส้อ ก็เหมือน มาไม่ถึง” ธุรกิจเต้าส้อของเราเติบโตกับที่นี่ ผูกพันกับผู้คนใน ชุมชนแห่งนี้ ที่ได้คอยให้การช่วยเหลือเราตั้งแต่รุ่นอากงเดินเร่ ขายขนม เมือ่ ก่อนอากงก็จะไปขายตามเหมืองแร่ หรือตามร้านโกปี้ ในตลาด เพราะเมื่อก่อนเทคโนโลยีก็ยังล้าสมัย จะเดินทางไป ค้าขายทีหนึ่งก็ต้องเดินเท้าไปด้วยตัวเอง ความอร่อยที่บอกกัน ปากต่อปาก จนได้มาเปิดร้าน และโรงงานขนมเป็นของตัวเอง และอีกอย่างชุมชนตะกัว่ ป่าก็เป็นส่วนหนึง่ ทีท่ ำ� ให้เราได้เติบโตมา ได้มีชีวิต มีการมีงานที่ดีได้ ก็เพราะชุมชนนี้ แม้จะเป็นเพียงชุมชน เล็ก ๆ แต่ความรัก และความอบอุน่ ของชุมชนทีน่ า้ ได้รบั กลับมานัน้ ไม่เล็กเลย KOEY | 24
KOEY Studio : ฝากคติให้กับผู้อ่าน น้าตวง : คติประจ�ำใจที่น้าใช้ท�ำขนมในทุก ๆ ครั้งคือ “ท�ำด้วยความ ตั้งใจไม่ใส่สารกันบูด” (ฟังแล้วดูเป็นคติที่จริงใจและแฝงไปด้วยความ ขบขันในเวลาเดียวกันได้อย่างลงตัวจริง ๆ) ต่อให้ขนมมีอายุอยู่ได้น้อย เราไม่แปลกใจเลย อยากให้ลูกค้าได้ทานสิ่งที่เป็นประโยชน์มากกว่า พูดพลาง น้าตวงก็เกิดมีท่าทีลุกลน ซึ่งท�ำให้สะกิดต่อมอยาก รู้ของเรา จึงได้ทราบว่าน้าตวง ก�ำลังจะไปท�ำบุญที่วัดศักดิ์สิทธิ์แห่งหนึ่ง ที่ตะกั่วป่า คือ วัดควรนิยม (ต�ำตัว) ที่มีเรื่องราวเล่าขานกันว่า พ่อท่าน ปาน อดีตเจ้าอาวาสที่มีชื่อเสียงเลื่องลือในความศักดิ์สิทธิ์ และเป็นที่ เคารพนับถือของชาวบ้าน หากขอพรสิง่ ใดมักจะได้ดงั หวัง เมือ่ ได้ยนิ ดังนัน้ บอกได้เลยว่าทีม KOEY ไม่พลาดแน่นอน
หลังจากได้คุยกันไป คุยกันมา ท�ำให้รู้เลยว่า ในความจริงใจ โดยใช้ใจจริง กับการท�ำขนมอย่างนี้ ถือว่าเป็นมนต์เสน่ห์ที่ไม่สามารถหา ได้จากที่ไหนง่าย ๆ เต้าส้อเมืองเก่าตะกั่วป่า 110 ปี คิดว่าคงคลายข้อสงสัยของใครหลาย ๆ คนได้ว่า ท�ำไมถึงอยู่คู่เมืองตะกั่วป่าได้นับร้อยปี ถึงแม้ตะกั่วป่าจะเป็นแค่เมืองเล็ก ๆ ที่ผู้คนมักจะเริ่มต้นเช้าวันใหม่ด้วยการไหว้พระขอพรก่อนไปท�ำงาน จิบโกปี้สักนิด ลิ้มเต้าส้อกับสหาย สักหน่อย แต่ก็ยังคงความเป็นเอกลักษณ์ที่ทรงคุณค่าคู่เมืองแห่งวัฒนธรรมอันแสนสงบ KOEY | 25
KOEY
เล่า Talk
เขียนโดย พรรษา รักษาสรณ์ KOEY | 26
The Moken or “Chaw Lae”. In the past, They are rove one of three ethnic groups that called the Andaman sea home. There are Morkan (live in Surin island, Phangnga) Moken (live around the beach, Phangnga) and Urak Lawoi (live in Krabi, Satun). Moken in Phangnga settled at Takuapa and Thai Mueang. their knowledge of the sea enables them to live off facilities by using simple tools such as nets and spears to forage for food, coir to cut leaves. Aside from ancestor worship, the Moken have no religion. Their house build with wood that was design and help by Ministry of Culture after was destroyed by Tsunami in 2004 but remain moken identity life. The Moken have a proverb which sums up life quite well “SIMPLE LIFE WITH A SMOOTH SEA THAT IS MY HAPPINESS” (Phrase from Moken gammer)
KOEY | 27
เรียนรู้วิถีมอแกลน ดินแดนทับตะวัน สร้างฝันเด็กไทยใหม่ สู่การเข้าใจพวกเขา ที่บ้านทับปลา KOEY | 28
“ชาวเล”
ชาติพันธุ์ที่ถูกลืมเลือน “ตันหยงตันหยง หยงไรเล่าน้อง หยงดอกจิกเล คลื่นลมก็โหม ระดมเท แต่ชาวสิเหร่ สิเริงรมย์ เรือเอยเรือน้อย เรือเจ้าจะลอย เรือเจ้าจะจม แต่เรือชาวเล ไม่เคยล่ม อ่านน�้ำล�ำจม อ่านฟ้าจ�ำดาว ตันหยงตันหยง หยงไรเล่าน้อง หยงดอกมะพร้าว เจ้าใบไม้เหลือง เล่าเรื่องราว คนหนุ่มคนสาว สร้างเหย้าสร้างเรือ เรือเอยเรือเร่ จะเร่ไปไหน ไปใต้ไปเหนือ จะอยู่ที่ไหน ไม่จางเจือ สืบเลือดสืบเนื้อ ชาวเรือชาวเล” (ชื่อเพลง รองแง็ง)
เนื้อเพลงที่แฝงด้วยความนัยลึกซึ้ง กับเสียงใส ๆ ที่เปล่งออกมา อย่างเสนาะหู ของหญิงสูงวัยอายุกว่า 60 ปี นัยน์ตาทีด่ เู ศร้าหมองได้ ย้อนนึกถึงอดีตทีไ่ ม่นา่ จดจ�ำ นามของท่านคือ “นางสาวลาภ หาญทะเล” ซึ่ง เป็นหนึ่งในกลุ่มชาติพันธุ์ “ชาวเล” โดยท่านมักจะแทนตนเองว่า เป็น ชาวมอแกลน อยู่เสมอ ซึ่งเป็นกลุ่มที่อพยพจากภัยพิบัติสึนามิ โดยเคลื่อนตัวมาตั้งถิ่นฐานบนบก จนได้รับขนานนามว่า “สิงห์บก” ในปัจจุบนั นีช้ าวเลได้ประสบปัญหาด้านความมัน่ คงในทีอ่ ยู่ และเผชิญ กับวิกฤตการณ์ด้านวัฒนธรรมและภาษาที่ก�ำลังจะถูกกลืนหายไป...
นางสาวลาภ หาญทะเล ชาวมอแกลน บ้านทับตะวัน อ�ำเภอตะกั่วป่า KOEY | 29
จุดเริ่มต้นแห่งความไร้ตัวตนใน สังคมไทยของชาวเล เกิดจากคลื่นยักษ์ สึนามิเมื่อปลายปี พ.ศ. 2547 ท�ำให้คน ทัว่ โลกได้รจู้ กั กับกลุม่ ชาติพนั ธุน์ มี้ ากยิง่ ขึน้ ซึ่ ง ชาวเลมี ก ารจั ด กลุ ่ ม ชาติ พั น ธุ ์ ย ่ อ ย ออกเป็น 3 กลุ่ม คือ มอแกน มอแกลน และอูรักลาโว้ย โดยกลุ่ม มอแกลน คือ กลุ ่ ม ที่ อ ยู ่ บ ริ เ วณเกาะพระทอง และ หมู่บ้านชายฝั่งทะเลกว่า 20 หมู่บ้านใน จังหวัดพังงา และภูเก็ต ส่วนกลุม่ มอแกน คือ ชาวเลทีอ่ าศัยทีเ่ กาะเหลา เกาะพยาม และเกาะช้ า งในจั ง หวัด ระนอง และที่ หมูเ่ กาะสุรนิ ทร์จงั หวัดพังงา และ กลุม่ อูรกั ลาโว้ย เป็นชาวเลที่อาศัยแถบเกาะใน จังหวัดภูเก็ต กระบี่ และสตูล โดยทั้ง KOEY | 30
สามกลุ ่ ม จะมี วั ฒ นธรรมและภาษาที่ คล้ า ยคลึ ง กั น แต่ ก็ ต ่ า งมี เ อกลั ก ษณ์ เฉพาะตัวอย่างชัดเจน ในจังหวัดพังงาจะมีการรวมกลุ่ม ของชาวมอแกลนมากที่สุด ได้แก่ ชุมชน บ้านทับตะวัน บ้านทุ่งหว้า โดยคุณยาย ก็เป็นหนึ่งในนั้น และเนื่องจากการขาด ความมั่นใจและภูมิใจในวิถีวัฒนธรรม ดั้ ง เดิ ม การถู ก กี ด กั น ออกจากสิ ท ธิ ใ น การใช้ แ ละเข้ า ถึ ง ทรั พ ยากรธรรมชาติ ของชาวเล ท�ำให้พวกเขาไม่มคี วามมัน่ คง ในทีอ่ ยูอ่ าศัยซึง่ ก่อให้เกิดปัญหาการขาดแคลน ด้านสาธารณูปโภค การขาดแคลนพื้นที่ สาธารณะและพื้นที่สีเขียวบริเวณชุมชน
ส�ำหรับในบริเวณบ้านก็จะมี การเลี้ยงสุกร ไก่ ปลา ไว้รับประทาน เอง และมีอีกสิ่งหนึ่งที่เป็นตัวสร้างราย ได้ให้แก่ยายลาภเป็นอย่างดี นั่นก็คือ “ใบเตยปาหนัน” เป็นพืชตระกูลปาล์ม รอบขอบใบมี ป ลายแหลมเปรี ย บ เสมือนอาวุธร้ายที่จ้องจะคอยทิ่มแทง ผู้จับต้อง แต่ก็ไม่ต้องกังวล ยายมีวิธี ก�ำจัดหนามออกอย่างง่ายดาย โดยจะ แบ่งเป็น 2 แบบ คือ แบบวิธีในสมัย พ่อเฒ่าแม่เฒ่า โดยการน�ำใยมะพร้าวแก่ มาผูกทีน่ วิ้ ชีก้ บั กลางไว้ให้แน่นแล้วกรีด ทีใ่ บเตย แต่ใน แบบปัจจุบนั แค่หักปลาย ส้ อ มที่ ใ ช้ ท านข้ า วมาท� ำ เป็ น อาวุ ธ แล้ ว พั น ติ ด กั บ ไม้ เ อาไว้ ก็ ใ ช้ ไ ด้ แ ล้ ว ซึง่ ยายเรียกมันว่า “เล็บแมว” เมือ่ ได้ใบเตย ไร้อาภรณ์มาแล้ว ท่านก็จะน�ำไปสาน เป็นเครือ่ งจักสานสวย ๆ เช่น เสือ่ กระสอบ ให้เราได้ดกู นั ซึง่ การจักสานเตยปาหนัน เป็เอกลักษณ์เฉพาะถิน่ ในชายฝัง่ ทะเล อันดามัน สาวสูงวัยได้เล่าให้ฟังว่า ยายเคยได้ ไ ปสานเสื่ อ ออกรายการ โทรทัศน์รายการหนึ่ง ซึ่งสร้างความ สนใจให้ กับผู้ชื่นชอบในเสื่อเตยเป็น อย่างมาก ท�ำกันแทบไม่ทันเลยทีเดียว ขายดิบขายดีจริง ๆ หลายพื้นที่ในอดีต ค�ำว่า ชาวเล มักคิดในทางแง่ลบ คือ คนทีอ่ าจละเลย เรื่องความสะอาด คนที่จับจ่ายใช้สอย จนไม่มเี งินเก็บ การให้ความหมายเช่นนี้ สะท้ อ นให้ เ ห็ น ภาพลั ก ษณ์ ท างด้ า น ลบอย่ า งชั ด เจน และเกิ ด การขาด ความเข้ า ใจเกี่ย วกับวัฒนธรรมและ ลักษณะนิสัยทั่วไปของชาวเล ในเวลา ต่อมาก็ได้มีองค์กรพัฒนาเอกชนเข้า มาท� ำ งานร่ ว มกั บ ชุ ม ชนชาวเลเพื่ อ สร้ า งความมั่ น คงในชี วิ ต หลายด้ า น ท�ำให้ชาวเลเกิดการรวมกลุ่มกันอย่าง ที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ชุมชนจึงมีความ เข้มแข็งมากขึน้ โดย ”ชุมชนบ้านทับตะวัน
อ�ำเภอตะกั่วป่า” หรือชุมชนที่คุณยาย ลาภอาศัยอยู่ ก็เป็นหนึ่งในตัวอย่างที่ แสดงให้เห็นถึงความสะอาด โดยได้ รับรางวัล “ชนะเลิศ โครงการประกวด ชุมชนสะอาด หน้าบ้านน่ามองกลุ่ม ชาติพนั ธุช์ าวเล” มาครองอีกด้วย ท�ำให้ รู้สึกว่าค่านิยมทางลบนั้นอาจไม่เป็น จริงเสมอไป แถวบ้านท่านนับถือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และวิญญาณบรรพบุรุษ สังเกตจาก การที่ยายวางแคร่ไว้บนบ้านเพื่อแสดง ความเคารพนั บถื ออยู ่ เ สมอ ในด้ า น ประเพณี ก็ มี ม ากมาย ไม่ ว ่ า จะเป็ น “ประเพณีลอยเรือ” ซึง่ ถือเป็นประเพณี ที่ส�ำคัญที่สุดของชาวเล โดยจะมีการ ท�ำเรือจ�ำลองใส่ของเซ่นไหว้ แล้วน�ำ ไปลอยในทะเล ซึ่งเชื่อว่าเป็นการน�ำ สิ่ ง ชั่ ว ร้ า ยออกจากชุ ม ชน และอี ก ประเพณี หนึ่ ง ที่ เ ด่ น ๆ คื อ “ประเพณี ฉลองศาลวิญญาณบรรพบุรุษ” หรือ หลาทวด จั ดขึ้ น เพื่ อบู ช าบรรพบุ รุ ษ ปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย และเพื่อความเป็น สิ ริ ม งคลของหมู ่ บ ้ า น นอกจากนี้ ชาวมอแกลนแถวนัน้ จะท�ำมาหากินกับ ทะเล โดยมีการแทงโวยวาย (ชื่อหมึก ชนิดหนึ่ง ที่จับโดยใช้เหล็กแหลมแทง ตามชายหาดเมือ่ น�ำ้ ลด) หรือหอยต่าง ๆ มีก ารจับ ไปขายเพื่ อหารายได้ ยัง ชี พ ต่อไป เมื่อเราได้สอบถามชื่อของท่าน กลับพบว่านามสกุล “หาญทะเล” ทีย่ าย ลาภใช้อยู่นั้น ได้รับพระราชทานนาม มาจากสมเด็ จ ย่ า ในรั ช กาลที่ 9 ซึ่ ง พวกเราได้เห็นรอยยิ้มแห่งความภาค ภูมิใจในสีหน้าของคุณยาย ซึ่งท่านก็ ท�ำให้เห็นว่า ถึงแม้พวกเขาจะเคยประสบ กับภัยพิบตั สิ นึ ามิ แต่กย็ งั ยิม้ ได้ยนื หยัด ต่อไปได้ และรู้สึกภูมิใจที่ได้ใช้สกุลนี้ นอกจากนามสกุลหาญทะเลแล้ว ยังมี กล้าทะเล, ณ ทะเล, สมุทรวารี, นารารักษ์
ซึ่ ง ทุ ก ชื่ อ มี ค วามหมายที่ แ ปลว่ า น�้ ำ โดยตั้ ง ขึ้ น เพื่ อ ต้ อ งการให้ ท ราบว่ า พวกเขาเป็นชาวน�้ำ (อีกชื่อหนึ่งของ ชาวเล แต่พวกเขาไม่ชอบใช้กัน)
“นึมม่ะ (สวัสดี) อันน้งไง้ (ท�ำอะไร) นะฮ่อง อันน้งไง้ (ชื่ออะไร)”
ถ้าใครตั้งใจอ่านบทความนี้ คง ผ่านการออกเสียงข้อความด้านบนกัน มาแล้วใช่ไหมล่ะ ? ถ้าจะไม่คุ้นภาษา นี้ก็ไม่แปลก เนื่องจากนี่เป็นภาษามอ แกลน ที่มีความยากตามฉบับของมัน ในครั้ ง นี้ มี คุ ณ ยายบู ล ซึ่ ง เป็ น เพื่ อ น ของคุณยายลาภ ท�ำหน้าที่เป็นคุณครู ชั่วคราว ช่วยสอนให้พูดส�ำเนียงยาก ๆ มีทั้งมึนงงและสนุกสนานไปในคราว เดียวกัน เราคุยกับท่านอย่างเพลิดเพลิน จนเวลาล่ ว งไปเป็ น ชั่ ว โมง ได้ ซึ มซับ ความรู้สึกต่าง ๆ ทั้งสุข เศร้า เคล้า น�้ ำ ตาจากสาวสู ง วั ย ใจรั ก บ้ า นเกิ ด อย่างคุณยายทั้งสอง
KOEY | 31
KOEY | 32
เราได้เข้าไปค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมจาก “โรงเรียนไทยใหม่” ซึ่งเป็นโรงเรียนที่เปิดสอน นักเรียนชาวมอแกลนโดยเฉพาะ พวกเราได้ขออนุญาตผู้อ�ำนวยการโรงเรียนเข้าไปหา บุคคลที่สามารถให้ข้อมูลเกี่ยวกับเด็กมอแกลนได้ ซึ่งจากการสอบถามคุณครูธนพร ทริยา และคุณครูศศิประภา ทองยวน ท่านทั้งสองได้สะท้อนความคิดในด้านบุคลิกลักษณะนิสัย ของนักเรียนชาวมอแกลน ว่าถึงแม้ทบี่ า้ นเด็กจะมีพฤติกรรมแบบไหน แต่เมือ่ มาอยูโ่ รงเรียน ซึ่งเป็นสังคมแห่งการสร้างระเบียบวินัยและการรักษาความสะอาด ก็ต้องได้รับการปลูกฝัง ความคิดที่ดีอยู่แล้ว อย่างไรเสีย พวกเขาก็ไม่ได้ต่างจากเด็กนักเรียนชาวไทยพุทธเลย ดังนั้นควรให้ความส�ำคัญกับพวกเขาอย่างเท่าเทียม เพราะเขาก็เป็นเยาวชนที่โตมาพร้อม ช่วยสร้างประเทศให้เจริญก้าวหน้าได้เหมือนกัน นักเรียนในโรงเรียนนี้หลายคนมีความ สามารถทางด้านศิลปะเป็นอย่างดี จนได้รับรางวัลมากมาย สร้างชื่อเสียงและความ ภาคภูมิใจแก่โรงเรียน และเมื่อเราได้หันไปมองเด็กเหล่านั้น รอยยิ้มที่พวกเขามอบให้ ช่างเป็นภาพที่ประทับอยู่ในหัวใจยากลืมเลือน
นายประทีป นาวารักษ์ ผู้ใหญ่บ้าน บ้านทับปลา อ�ำเภอท้ายเหมือง
นอกจากการได้ รั บ ความอนุ เ คราะห์ ใ นการเข้ า ไปหาข้ อ มู ล จาก ผู้อ�ำนวยการโรงเรียนแล้ว ท่านยังพาเรามายังจุดที่เรียกว่า “ศูนย์ วัฒนธรรมชาวเลบ้านทับปลา” ต�ำบลท้ายเหมือง อ�ำเภอท้ายเหมือง จังหวัดพังงา โดยภายในจะมีการจัดซุ้มข้อมูลเกี่ยวกับชาวเลอย่าง ละเอียด ไม่วา่ จะเป็นทีม่ า ความเชือ่ ประเพณีวฒ ั นธรรมทีห่ ลากหลาย ให้เราได้เรียนรู้กันอย่างเต็มอิ่ม นอกจากนี้ยังมีวิทยากรมาให้ความรู้ เพิ่มเติม ท�ำให้เราเข้าใจถึงวิถีชีวิตของชาวเลมากยิ่งขึ้น ซึ่งเหมาะแก่ การเรียนรู้ส�ำหรับผู้ที่ต้องการศึกษาเพิ่มเติม
สุดท้ายนี้ การบอกเล่าเรือ่ งราวของชาวเลผ่านบทความนี้ มิได้มงุ่ หวัง ให้ผู้อ่านมีความรู้สึกสงสารหรือเห็นใจ เพียงแค่อยากให้มองพวกเขา เป็นเพื่อนมนุษย์ร่วมโลก ที่แตกต่างกันเพียงวัฒนธรรมหรือภาษาก็ เท่านั้น เมื่อได้ไปสัมผัสจริง ๆ ก็เห็นได้ว่าพวกเขานั้นมีความรักและ ผูกพันกับชุมชนของเขาอย่างลึกซึ้ง มีความภูมิใจในรากเหง้าของ ตนเองท�ำให้รสู้ กึ ว่าไม่ได้แตกต่างจากเราเลย ให้พวกเขามีสทิ ธิเสรีภาพ ที่เท่าเทียมกับคุณ ทุกคนบนโลกจะได้อยู่ร่วมโลกกันอย่างสงบสุข KOEY | 33
ความทรงจ�ำครั้งสุดท้ายก่อนจากลา ของชาว KOEY Studio ตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่การเข้าร่วม โครงการ “SCB Challenge กล้าใหม่ใฝ่รู้” ในปีที่ 11 จนถึงปีที่ 13 เราได้รบ ั ประสบการณ์ตา่ ง ๆ มากมาย สามารถเปิดโลกทัศน์ ใหม่ในการท�ำงานและการเข้ า สู ่ วั ย ผู ้ ใหญ่ ได้ เจอมิ ต รภาพที่ จริงใจ และเข้าใจกัน สามารถก้าวข้ามขวากหนามมาด้วยกัน ตลอด พวกเราซึ้งใจและขอบคุณจริง ๆ ก่อนจะจากลา เราก็ ขอฝากเพจหน่ อ ย ทุ ก คนสามารถติ ด ตามเรื่ อ งราวของ พวกเราได้ที่เพจ “KOEY STUDIO” และเนื่องจากนิตยสาร KOEY ฉบับนี้อาจเป็นฉบับสุดท้ายที่เราจะท�ำ จึงถือโอกาสมา
หนู เจ็บ ตา ตอนเข้าค่าย เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับหนูมันเกินความคาดฝัน ส�ำหรับใครหลายคน สตาฟนับสิบต่างวิ่งสาละวนไปมา รถตู้ก็ขับมา จอดตรงหน้ า เหตุ เ กิ ด จากที่ ห นู บ อกพี่ เ ขาว่ า “มุ ม ป้ า ยชื่ อ ที่ ท าง โครงการจัดให้ ทิ่มตาหนูจนใกล้จะมองไม่เห็นแล้วค่ะ” ตอนเจ็บแรก ๆ แทบจะไม่บอกใคร เพราะมันคือความเซ่อของตัวเอง แต่นาน ๆ เข้า ก็เริ่มทนไม่ไหว สรุปโดนดุเสียเยอะเลย (ที่ไม่ยอมบอกว่าเจ็บ) และก็ ต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลไปตามระเบียบ “จากนักเขียนนิยายเพ้อฝัน สู่การขายฝันให้คนอยากเที่ยว” นี่คงเป็นนิยามของหนู ที่กว่าจะเดินทางมาถึงตอนนี้ กว่าจะเข้าใจใน แก่นสารของการเขียนบทความได้ แทบจะอ้วกแตกเลยทีเดียว แต่ก็ ต้องขอขอบคุณทางโครงการที่ให้ทีมหนูได้เข้าไปเรียนรู้และสัมผัสใน วิธีการท�ำงานแบบผู้ใหญ่ ท�ำให้เรามีพัฒนาการที่ดีขึ้น และเป้าหมาย ต่อไปที่หวังจะท�ำมันให้ดี คือ เป็นแรงบันดาลใจให้คนที่เริ่มจะขายฝัน ลองมาสู้และเดินทางไปด้วยกันนะคะ
Beam
Writing Director
อด ทน หน่อย ในการท�ำงานที่แข่งกับเวลาแบบนี้ คือทุกคนมีแต่ความเหนื่อย ล้า ยังมีภารกิจส่วนตัวที่ต้องท�ำ แต่ทุกคนกลับทุ่มเทให้งานนี้มาก และ มี passion ที่พยายามจะท�ำงานออกมาให้ดีที่สุด ไม่ว่าเราจะเหนื่อย ขนาดไหน แต่เราก็ต้องผ่านมันไปให้ได้ ซึ่งทุกวันในการท�ำงานของเรา คนในทีมก็ต่างให้ก�ำลังใจกัน โดยเฉพาะอาจารย์ที่ปรึกษาที่แบกรับ ทุกอย่างไว้หมด และเข้าใจพวกเราเสมอ ซึ่งทุกวันก่อนกลับบ้าน ก็จะ มีการกอด ส่งก�ำลังใจให้ด้วยกัน ละพูดค�ำว่า อดทนหน่อยนะ เดี๋ยวก็ เสร็จแล้ว :) และนี้ก็เป็นปีสุดท้ายของผมในการที่จะท�ำงานชิ้นนี้ออกมาให้ดี ที่สุด ซึ่งโครงการนี้ให้ประสบการณ์ผมหลายอย่างมาก โดยเฉพาะมัน ท�ำให้ผมพัฒนาตัวเองอย่างมากในแต่ละปี โดยแนวโน้มก็เป็นไปใน ทางที่ดีขึ้นเรื่อย ในทุกปีผมได้เป็น Leader คอยจัดการคนในทีม และ จัดการเวลาการท�ำงาน จนท�ำให้ผมสามารถเป็นผู้น�ำที่ดีได้ และผมได้ ใช้หลักการที่เป็นผู้น�ำที่ดีนี้ไปจัดการกับส่วนอื่นๆ ของกิจกรรมผมได้ ด้วยครับ ซึ่งมันเป็นการพัฒนาที่ผมจะไม่มีวันลืมเลยว่าผมได้มันมา จากโครงงการนี้
Ohm Art Director
KOEY | 34
เขียนไดอารี่บอกลา แล้วบันทึกไว้ในนี้เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของ ความทรงจ� ำ ที่ พ วกเราจะจดจ� ำ มั น ไปด้ ว ยกั น ส� ำ หรั บ ผู ้ ที่ บังเอิญเปิดผ่านมา นีอ ่ าจเป็นบทสรุปความรูส ้ ก ึ ของทีม KOEY หลังจากที่ได้ฝ่าฟันอุปสรรคทั้งหลายจนออกมาเป็นนิตยสาร เล่ ม นี้ ฉ บั บ ที่ คุ ณ ถื อ อยู ่ ใ นมื อ แต่ ส� ำ หรั บ พวกเราชาว KOEY Studio บทความนี้อาจเป็น Time Machine ย้อนเวลา ที่ช่วย ย้อนความทรงจ�ำครั้งหนึ่งในช่วงนี้หากพวกเราได้หันกลับมา อ่านใหม่อีกครั้งในอนาคต
ช่วย พี่ ด้วย วลีที่หลุดมาจากปากของกังเองโดยไม่รู้ตัวแล้ว คือคืนหนึ่งได้นัดกับพี่ บีมว่าจะไปท�ำงานและค้างคืนบ้านพี่เขา เข้าบ้านปุ๊บ ประโยคแรกที่ได้ยินนั้น หาใช่การเชิญชวนไม่ แต่กลับบอกว่า “น้องนอนห้องนี้นะ เป็นห้องพักของ แขก คนที่มานอนมักจะฝันเห็นเด็กตัวเล็ก ๆ คนนึง” “เอาแล้วกังเอ๋ย” (ความ คิดหลังพี่บีมพูดจบ) ท�ำงานกันพอได้เค้าได้โครง ก็เข้าห้องไป พยายาม หลับตาลง ตั้งจิตให้เป็นสมาธิ พยายามสื่อสารกับน้องให้ทางโล่งและปลอด “น้องจ๋า พี่เป็นเพื่อนร่วมทีมกับพี่บีม น้องช่วยให้พี่ชนะด้วย หากแข่งครั้งนี้พี่ ชนะคืนนี้น้องไม่ต้องมาเข้าฝันพี่นะ” ความเสี่ยงที่อยู่บนความกลัวนั้นช่างน่า ตื่นเต้นสุดโต่ง สรุปไม่ฝันถึงน้อง คงจะเป็นลางดี ๆ ที่น้องได้มาบอก หวังว่า น้องจะช่วยพี่ได้ส�ำเร็จ KOEY Studio เป็นกลุ่มที่กังได้ติดตามมาตั้งแต่มัธยมต้น และหวังว่า จะได้เข้าไปท�ำงานอยู่ในทีมนี้ตั้งแต่ซีซั่นแรก ผ่านมาสองปี ความฝันกลับ กลายเป็นจริงอย่างเหลือเชื่อ ก้าวเข้ามาในทีมครั้งแรกคือรู้สึกตื่นเต้นอย่าง รุนแรง เพราะพี่ ๆ และคุณครูในทีมมีความสามารถอย่างโดดเด่นมาก แต่ใน ความตื่นเต้นก็มีความดีใจที่ได้ท�ำงานร่วมกับทีมนี้ หลังจากส่งผลงานกันจน ได้รับคัดเลือกเข้ารอบ 30 ทีมสุดท้าย เป็นครั้งแรกที่ได้เข้าร่วมอบรมกับ SCB ไม่แปลกใจเลยที่ ท�ำไม KOEY ถึงแข่งติดต่อกันมาตลอด ทางธนาคารให้การ สนับสนุนทุกคน ทุกทีม อย่างดีมากเป็นการอบรมที่เปิดประสบการณ์ใหม่ ๆ ซึ่งรู้สึกไม่ผิดหวังที่ได้เข้าร่วมทีมมา
Kungfu Editor in Chief
คง คิด ถึง สมาชิกลับคนที่ 4 Inspiration director ใน SCB CHALLENGE ก็เป็นต�ำแหน่ง ที่พวกเด็กคิด ตั้งให้ครูที่ปรึกษาทีม เราเองก็งงเหมือนกันว่ามัน คื อ ? หมายความว่ า อะไรกั น แน่ ! ! เพราะถ้ า พู ด กั น ตามหลั ก ไวยากรณ์ก็คงผิด เพราะมันเป็น ค�ำนาม (N.) ทั้งคู่เลยจริงๆ มัน คงต้องใช้ค�ำว่า “Inspired director” (ก็ยังไม่แน่ใจ 555) แต่ 3 ปีที่ ผ่านมาก็พอจับใจความได้ว่า “คนที่ให้ทุกอย่างที่ทุกคนในทีม ต้องการ ต้องพร้อมยืนข้างๆ ในทุกกรณีที่เกิดขึ้นไม่มีค�ำว่า ไม่มี ไม่พร้อม ไม่สะดวก” (เหนื่อยจัง !! ชีวิตของ Inspired director) แต่ทุกอย่างก็ท�ำไปด้วยเพราะรักในทีม KOEY ของพวกเรา การพักผ่อนแบบทรหด ได้การพักผ่อนที่ไม่เหมือนการพักผ่อนเลย เพราะ ต้องคิด ต้องท�ำ ต้องเครียด ต้องวางแผน ต้องแก้ปัญหา แต่ต้องยอมรับ เรื่องหนึ่ง คือ การดูแลเอาใจใส่ของโครงการ “กล้าใหม่...ใฝ่รู้” ของ SCB นี้จริงๆ สุดยอดครับ!!!!!
KruInspiration Nine Editor KOEY | 35
แสงสีทองส่องทาบอาบผืนน�้ำ เกาะน้อยใหญ่ยืนย�้ำดุจภาพศิลป์ เสม็ดนางชีสวยงามตามยลยิน นับเป็นถิ่นอัศจรรย์วันผ่อนคลาย ตะกั่วป่า มี”เต้าส้อ” ไว้รอท่า แสนอร่อยสมราคาดั่งใจหมาย เนื้อในนุ่มเนื้อนอกกรอบวางเรียงราย แม่ค้าขายยิ้มแย้มแต้มไมตรี มารู้จักชนเผ่าชาว”มอแกลน” พังงาเป็นดินแดนความสุขศรี ทั้งไทยใหม่ไทยเราเอื้ออารี เป็นน้องพี่แดนดินถิ่นเดียวกัน ทีม KOEY ได้ แนะน�ำ สิ่งล�้ำค่า จากสองครั้งผ่านมาอย่างเสกสรร ของดีดีในพังงาสารพัน จะรอวันท่านมาพังงางาม
KOEY Studio