art & culture WWW.OTG-MAG.COM THE FIRST URBAN CULTURE MAGAZINE IN THAILAND NOVEMBER 2012
GRAFFITI / STREET ART / MUSIC / LIFESTYLE /
THE DEFINITIVE URBAN CULTURE MAGAZINE IN THAILAND
มั น เป็ น เวลาเกื อ บปี แ ล้ ว ที ่ พ วกเรามี ค วามฝั น ที ่ จ ะทำ หนังสือเกี่ยวกับ Graffiti และ Street Arts ขึ้นมา แล้วพวกคุณ
รู้มั้ยครับ ความคิดและรูปแบบหนังสือที่พวกเราอยากจะทำมัน เปลี่ยนไปตลอดเวลาเลยจริงๆ จากหนังสือที่พวกเราตั้งใจจะทำ ขายความหนาหลายร้อยหน้านั้น ก็เปลี่ยนเป็นหนังสือนิตยสาร ฉบับย่อมๆ และท้ายที่สุดก็กลายเป็นหนังสือแจกฟรีที่พวกท่าน กำลังจับอยู่นี่แหละครับ การเปลี่ยนไปเรื่อยๆ นี้ก็มีปัจจัยจาก หลายส่วนครับ ไม่ว่างบ้างเพราะทุกคนก็มีงานประจำทำ ขี้เกียจบ้างอันนี้ไม่มีเหตุผลจริงๆ และที่สำคัญที่สุดคือพวกเราทรัพย์น้อยครับ พวกเราเป็นศิลปินที่มีความหลงไหลใน Graffiti และ Street Arts มากถึงขั้นว่าบ้าก็ได้ พวกเราอาจจะไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญ แต่ประสบการณ์การพ่น Graffiti ที่มากกว่าทศวรรษ ทำให้เรียนรู้อะไรหลายๆ อย่าง พวกเราเลยอยากจะถ่ายทอดความชอบที่พวกเรามีลงใน หนังสือเล่มนีเ้ พือ่ ทำให้ศลิ ปะประเภทนีเ้ ป็นทีร่ จู้ กั และยอมรับมากขึน้ ศิลปะแขนงนีเ้ ข้าถึงง่าย และมันอยู่ใกล้ตัวเรากว่าที่คิดครับ เพราะเพียงแค่เดินอยู่ตามถนนท่านก็เสพมันได้แล้ว ขณะนี้ท่านกำลังอ่านความฝัน (ที่เป็นจริง) ของพวกผมอยู่ และ OTG Magazine
เล่มนี้ ก็เป็นเหมือนกับปฐมบทก่อนที่จะปล่อยเล่มจริงออกสู่สาธารณะชนครับ It has been almost a year that we, OTG Crew, dreams to publish our own Graffiti and Street Arts Magazines. Before an advent of this very book; tons of idea and concept developed, from a 3-inch-thick book sold in a bookstore to a regular-size magazine and finally change into this handy free magazine. Our time constrain, our laziness plus our tight budget might be an issue but you know what... the passion drives us more. We are an artist who crazy in Graffiti and Street Arts. We might not being the best artist in this form of arts but being a graffiti artist for a decade makes us know what we are doing. So we want to share our passion to all of you and to make the Graffiti and Street Arts being more accepted. Just wanna let you know that this form of Arts are around you, just go out and appreciate it. You are about to read our dream (comes true). This issue is just an introduction, the real is more to come. 3
Editor : David, BigDel, Cyril, Skum / Art Director & Design : Dale, Cyril, David Marketing : Dale, Saronrat / Writer : Saronrat, Saivijit Photographers : Icezeeman / Special thanks : BKK GRAFF
SHOCK-DSK-REA MITE-BAN HORK DSK-LHC
4
FLORE & COZ 2011
5
GARY 2011
POYD-BAI 2012
6
OSW CREW
CIDER-PMT-MSK
SNEAK-EB
7
DBT-WYS & RIZE-TM-SP 2012
BIGDEL-ESA & GOH-M-ESA 2012 8
9
CRUDE-EB
CODE-BAI-PMT-KD 10
ARES-EDK-SP & BOHER-SP-BAD 2012
REMIX-BA-NSF 2012 11
TG-DBK & DEA-BBK
PUK-ESA
ALEXFACE
PAI-AMP 12
JOKER-EB
PAKORN-BNA & WHY-BNA 13
14
15
16
17
Story by : Go Around / Photo by : ICEZEEMAN
ถนนสายเล็ ก ๆ ริ ม ตะเข็ บ ชายแดน อ.แม่ ส าย จ.เชี ยงราย เด็กชายหอบหิ้ว เอาความฝั น ที่ อ ยากจะเป็ น นั ก ร้ อ งเพลงแร็ ป เดิ นทางเข้าสู่เมืองกรุง ด้วยลีลาการแร๊ปที่กลั่นมา จากความรั กและความหลงใหล ทำให้ความสามารถ ของเขาไปเข้ า ตาโจอี้ บอย เจ้ า พ่ อ เพลงแร็ ป
เมื อ งไทย และเชื้ อ เชิ ญ เข้ า สู่ สั ง กั ด ภายใต้ ชื่ อ
งห์เหนือเสือใต้” ความฝันของเขาเป็นจริง เส้นทาง “สิ สายแร็ ปเปอร์เริ่มขึ้นนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา จนเป็น “Fucking Hero” ณ ปัจจุบัน
ชีวืตในวัยเด็กของคุณเป็นอย่างไร บ้ า นเราอยู ่ ต ิ ด ชายแดน อ.แม่ ส าย ค่ อ นข้ า ง
ห่างไกลความเจริญ โตมาในครอบครัวฐานะทางบ้าน ปานกลางค่อนข้างยากจน คุณพ่อเราเป็นยามธนาคาร คุณแม่รับจ้างตัดเย็บเสื้อผ้า แต่ท่านอยากให้เราเรียน โรงเรียนดีๆ ก็ส่งไปเรียนโรงเรียนเอกชน คุณรู้จักเพลงแร็ปตั้งแต่เมื่อไหร่ รู้จักเพลงแร็ปตั้งแต่ 10 ขวบ จากเพื่อนๆ เขาฟัง เราก็ฟังด้วย จนอายุ 12 ขวบได้ฟังโจอี้ บอย ก็ได้ฟัง
เพลงแร็ปไทยเยอะขึ้น ในตอนนั้นก็จะมีโจอี้บอย ขันที ฟังแล้วก็แกะเนื้อเพลง เพลงที่คนอื่นร้องไม่ได้ เราร้อง ได้ แล้วก็ฝึกร้อง ชอบมาก ช่วงมัธยมปลายก็ทำเพลง เดโม่และเข้ากรุงเทพฯ ไปดักเจอพี่โจ้ (โจอี้ บอย) แล้ว ก็ยื่นเพลงให้ แล้วพี่เค้าก็ติดต่อกลับมา
ความหมายของ “Fucking Hero” คงไม่ตามตัวใช่ ไหม ถ้าความหมายตามตัว ออกหยาบๆ หน่อย แต่ สำหรับเราคำนี้เป็นสแลง ที่แปลว่าโคตรฮีโร่อ่ะ เป็นชื่อ ที ่ ม าจากการทำวงดนตรี ต อนมั ธ ยมปลาย เพื ่ อ น
มือกลองเสนอชื่อนี้ขึ้นมา เออ มันกวนดี ก็เลยตัดสินใจ ใช้คำนี้แหละ เรามองว่าความเป็นฮีโร่อยู่ในตัวทุกคน นะ คือคนธรรมดานี่แหละสามารถเป็นฮีโร่ได้ มีรัก โลภ โกรธ หลง การก้าวมาเป็นศิลปินช่วยให้คุณเติบโตอย่างไร เราใช้เวลาในการปรับตัวนานมาก ตื่นเต้นทุก ครั้งที่ได้เจอศิลปินที่เราเคยชอบ จนตอนนี้เวลายืนบน เวทีข้างๆ ศิลปินที่เราเคยชอบ บอกตัวเองตลอดว่าเรา โคตรโชคดีเลย ที่ได้มาถึงจุดนี้ เมื่อก่อนเราทำได้แค่ มอง แต่ตอนนี้ได้มาอยู่ใกล้ๆ ได้มาร่วมงานด้วย อย่าง พี่โจ้ที่ชวนเราไปทำเพลง เป็นผู้ยื่นโอกาสดีๆ ให้เรา
พี่โจ้สอนการใช้ชีวิต สอนให้เซ็นต์ลายเซ็นต์ตัวเอง เรา ได้ซึมซับ Attitude ที่มันเป็นตัวเรา การอยู่กับพี่โจ้ เหมือนได้อยู่กับพ่อ และอยู่กับอาจารย์ด้วย ไม่ใช่แค่ อาจารย์สอนนะ แต่เปลี่ยนการใช้ชีวิต ความคิด อย่าง เขี ย นเพลง พี ่ โ จ้ ไ ม่ เ คยแก้ เ พลงเรา เป็ น อาจารย์ ท ี ่ นำทางเรา และเป็นเจ้านายที่ดีด้วย สาเหตุที่คุณนำเรื่องสังคมมาใส่ ในเพลงแร็ป สำหรับผมเพลงแร็ปต้องเล่าเรื่องเยอะ ถ้าเขียน เพลงรัก เราเขียนให้แฟน เรามองว่าเพลงรักเนี่ย เล่า น้อยๆ แล้วมันจะดี การจะเล่าเรื่องความรักในเพลง 19
แร็ป มันเล่าได้นะ แต่ไม่ถนัด เรารู้สึกว่าเรื่องสังคมที่ เรารู ้ ส ึ ก หรื อ มองเห็ น นำมาใส่ ใ นเพลงแร็ ป ดี ก ว่ า สามารถเล่าเรื่องได้เยอะ ได้ฟัง NAS แร็ปเปอร์เมือง นอกที ่ เ ราชอบมาก เป็ น แรงบั น ดาลใจ จากเพลง
One Mic ฟังแล้วเหมือนโดนตบหน้า คือเปลี่ยนความ คิดเราไปเลย ไมโครโฟนตัวเดียว สามารถเปลี่ยนโลก ได้ ฟั ง แล้ ว โคตรชอบ สำหรั บ เราทำให้ รู ้ ว ่ า ฮิ ป ฮอป สามารถเปลี่ยนโลกได้ เราเลยอยากทำแบบนั้น อยาก ทำเพลงเพื่อชีวิต นอกจากสนใจเรื่องสังคมแล้ว คุณสนใจประเด็นการเมือง หรือเปล่า เคยทำเพลงเรื่องการเมืองเหมือนกัน โจมตีโน่น โจมตีนี่ เอาอารมณ์เกลียด อารมณ์โกรธไปใส่ แต่มัน
ไม่เวิร์ค ไม่มีผลสะท้อน ไม่มีประโยชน์อะไรกลับมา การที่จะทลายกำแพงนั้น ต้องทลายจากรากมัน ดังนั้น เรามองว่าการจะแก้ไข ต้องแก้ที่ตัวเอง เพราะเราไป เปลี่ยนอะไรไม่ได้ ต้องเปลี่ยนที่จิตใจ อย่างเพลง ราตรี สวัสดิ์ เป็นความเศร้า เป็นเรื่องแย่สำหรับเรามาก คุณแฮปปี้กับถนนสายแร็ปเปอร์นี้แค่ ไหน จนถึงตอนนี้ เราประสบความสำเร็จแล้วนะ รู้สึก แบบนั ้ น มานานแล้ ว ด้ ว ย หากเปรี ย บเป็ น หนั ง มั น แฮปปี้เอนดิ้งแล้ว ได้ทำสิ่งที่เรารัก มีคนชอบเพลงเรา ถึงแม้จำนวนไม่มาก แต่มีผลไปถึงคนฟังเพลงเรา เช่น ช่วยเปลี่ยนชีวิตเขา หรือให้กำลังใจ มันก็โอเคแล้ว
มาทำความรู้จักกับศิลปินฝั่งตะวันตก กันบ้างครับ Serval ศิลปิน Graffiti ชาว สวิสเซอร์แลนด์ ที่คร่ำหวอดอยู่ ในวงการ Graffiti ตั้ ง แต่ ปี 1992 เค้ า มี ค วาม สามารถหลายแขนง ไม่ว่าจะเป็น B-Boy นั ก วาดภาพการ์ ตู น ประกอบ รวมถึ ง Organizer งานอี เ วนท์ Hip Hop มากมาย และเคยมาฝากผลงาน Graffiti ที่เมืองไทยมาแล้วเมื่อหลายปีก่อน
It’s time to introduce a famous Western Artist, Serval. He is a Swiss Graffiti Artist who has been in this field for 20 years. He is not only a Graffiti Artist but also a B-Boy, an cartoon illustrator and a host specialized in Hip Hop event. Believe it or not, he was among the first Graffiti Artists who did a wall art in Thailand.
22
ใครมีอิทธิพลในการทำงาน Graffiti ของคุณ ในช่วงเริ่มต้นส่วนใหญ่จะเป็นคนที่ผมเริ่มทำ Graffiti ด้วย เช่น Cartoon, Kung, Loco และ Tom ซึ่งตอนนั้นผมยัง ไม่มีความรู้เกี่ยวกับศิลปะประเภทนี้เลย ไม่มี internet หรือ หนังสือที่ผมสามารถหาความรู้ได้แบบสมัยนี้ แม้กระทั้ง
ผลงาน Graffiti ก็ยังไม่สามารถหาดูได้ตามถนนแบบสมัยนี้ ซึ่งภายหลังจากที่ผมได้เห็นผลงานศิลปินอื่นๆ ที่ Geneva มากขึ้นมันทำให้ผมชื่นชอบในผลงานของ ReyOne และ Abuse และจากการที่ไปโตที่ฟิลาเดอเฟียก็ทำให้งานของ Pre, Sat and DanOne เข้ามามีอิทธิพลกับผลงาน Graffiti ของผม แต่อย่างไรก็ตามผมคิดว่างานของ Rey มีอิทธิพล กับผมอย่างมาก เพราะโตในอเมริกาเหมือนกัน และเค้ายัง ได้สอนผมในหลายๆ ด้านด้วย Who has influenced you most in the graffiti scene Of course the people I started with, Cartoon, Kung, Loco and Tom, because I really knew nothing about graffiti when I started and information was not as easy to get. There were no magazines, no internet and very few books. I didn’t even see spray can art or subway art until I had been painting for 3 years already. After that it was the people whose work I saw a lot and whose style I liked, so ReyOne and Abuse in geneva, and in Philadelphia where I lived from 17 to 22, Pre, Sat and DanOne. Rey was a big influence because he was living half the time in the US like me, and he had a lot of important connections and knowledge that he shared with us. His style was a big influence, but also a lot of knowledge he passed on to me. 23
24
คุณคิดอย่างไรกับศิลปิน Graffiti ที่ทำแต่ Tags หรือ Throw ups หรือ Full color pieces ? ผมคิดว่า Graffiti เป็นศิลปะที่เปิดโอกาสให้สร้างผลงานในแบบที่
ตัวเองชื่นชอบ แต่ผมคิดว่าการที่เข้าใจในรูปแบบพื้นฐานของ Graffiti และ การ tag มันทำให้คุณเข้าใจในรูปแบบการทำตัวหนังสือแบบต่างๆ ผมไม่มี อคติกับกลุ่มศิลปินที่ทำแต่ tags แต่สำหรับพวกที่ทำผลงานให้ดูซับซ้อน แต่ tags ไม่เป็นผมคิดว่าพวกเค้าไม่เข้าใจหลักการพืน้ ฐานในการทำ Graffiti Do you see a difference between a writer doing only tags, only throws ups or only full color pieces Sure, graffiti is a vast culture there is room for all the different styles of expression. But to understand letters and styles, you need to know the basics, and that starts with tags. I have no problems with people who just do tags. I do have a problem with people who only paint big complicated letters and can’t tag. To me it shows that they don’t really understand the mechanics behind letters and the construction of style. มีคำแนะนำที่อยากจะฝากถึงศิลปิน Graffiti ชาวไทยบ้างมั้ย อย่าพยายามที่จะเป็นคนเก่งภายใน 1 เดือนแต่ให้ใช้เวลาฝึกฝน
ให้มากที่สุด เรียนรู้ก่อนที่จะตามกระแส Graffiti เป็นศิลปะที่ต้องใช้เวลา ก่อนที่คุณจะชำนาญ Some advises for the future thai writers Do your homework, take your time. Don’t try to be good in 1 month. Take the time to practice and learn before you try to follow the trends. Graffiti is a craft and takes time before it is mastered! 25
เรารู้มาว่าคุณก็เป็นหนึ่งใน B-Boy ช่วยเล่าในเราฟังเกี่ยวกับประสบการณ์การเป็น B-Boy ของคุณหน่อย ผมเริ่มเต้น B-Boy ตั้งแต่ปี 1995 ผมและเพื่อนๆ (Amjad, Kash และ Ader) ตั้งกลุ่ม 7dollars ขึ้นมาเพราะสมัยนั้นไม่มีใครสนใจในการเบรกแดนซ์ รูปแบบ Old school และในสวิสเซอร์แลนด์มีแต่พวกเราที่ต้องการเต้น
แบบนั้น แต่ตอนนี้กลับกลายเป็นรูปแบบการเต้นที่ทุกๆ คนชอบ และ
ภายหลังจากที่ Amjad ได้ตั้งกลุ่ม Circle Kingz พวกเราก็เดินทางไปโชว์ หลายครั้ง ซึ่งผมคิดว่ากลุ่มพวกผมก็เป็นที่รู้จักพอสมควร และตอนนี้
พวกผมก็เป็นเหมือนครอบครัวใหญ่ที่มีความชอบในการเต้น We know that you are also a b-boy, can you tell us something about that? (crew, experiences...) I’ve been breaking since about 95. We started 7dollars because at that time (2001) nobody was interested in foundation and classic breaking styles. Now it’s very trendy and everybody loves it, but back then me and Amjad, Kash and Ader were the only people in our part of Switzerland who wanted to dance like that. Later Amjad started organizing Circle Kingz, we all travel a lot, so I guess our crew has gotten a little name from that. The whole crew is just a group of friends, we’re a big family beyond just breaking together. มีอะไรจะทิ้งท้ายมั้ย ผมขอขอบคุณ Ares และ EDK สำหรับการสนับสนุนที่ดีตลอดมา ครอบครัว 7dollars, Att Crew ที่อยู่ในอเมริกา ภรรยาและลูกๆ ของผม
และสุดท้ายกลุ่ม B-Boy ตัวฉกาจ Gonza และ 99Flava ที่กรุงเทพฯ Last words... Thanks to Ares and EDK for the support over the years. My 7dollars fam worldwide. Att crew in the US. My lovely wife and children. Gonza and 99Flava in Bangkok for being a real bboy crew with knowledge and skills.
WOSH-CP & SEYB-TOP FRANCE
28
29
DOES-LL GERMANY ASKEW-TMD
30
VENTS-SD NEW ZEALAND 2011
REALS-TBK USA
ZONE-WST USA 2006
WAND-TM7 USA 31
PISKO-LCP-SP & EFAS-BAD-RFK FRANCE
BROK-3HC & RUDE-3HC FRANCE 2011
STOP-TER-RESO-LCF-SP & DIKSA-CKT-VMD FRANCE 32
ENUE-NSF-COD & DOVES-TC5-FC USA
BATES-AIO-TNB & ORESTE-BNS DANEMARK 2007 KADE-TAD & SEMOR-TAD GERMANY 2011
33
34
OZER-LL & NEOK-WB FRANCE
CAN 2-SUK-TMD & SMEONE GERMANY
35
SWOK-LSD UK 2010
ORES-LME ITALIA AOST-DYM USA
36
TASTE-FUA-ATT USA 2012 ROME USA
NEON-JEN SPAIN 37
RESO-LCF FRANCE 2010
WANE-COD-TC5 USA
WAND-TM7 USA
WAND-COD & ASKEW-TMD USA
38
BKKgraff pop up shop
@ Bangkok Art and Culture Center (BACC)