ติดปีกโบยบินสู่ฝัน สร้างสรรค์มวลชน | หนังสือพิมพ์ฝึกปฏิบัติการประจำ�เดือนกันยายน 2556
Love Syndrome
หนังสือพิมพ์ฝึกปฏิบัติ ส ย า ม เ พ ร ส ฉ บั บ นี้ เป็นส่วนหนึ่งของการ เรียนการสอนรูปแบบ Block Learning ภาค วิ ช าหนั ง สื อ พิ ม พ์ แ ละ สิ่งพิมพ์์ มหาวิทยาลัย สยาม
JOURNALISM
สารคดีพาชิมรอบรั้วมหาวิทยาลัย 6-7 | บทความ JR สานสัมพันธ์พี่น้อง หน้า 12
“ ผกก.ปุ๊ก” เปิดตัว “Love Syndrome รักโง่ๆ” ภาพยนตร์เรื่องแรก ของโตโน่ ภาคิน มหาวิทยาลัยสยามร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการฉายภาพยนตร์ เพื่อดูกระแสตอบรับ | หน้า2
รักโง่ๆ เช็คเรตติ้ง
เดอะมอลล์ vs ซีคอน สองห้างดังย่านฝั่งธนฯ เปิดศึกดึงลูกค้า
| หน้า11
บน - ภาพของ โซนช้อปปิ้ง ซึ่งใช้ชื่อว่า SEASON เปิดให้เช่าพื้นที่ค้าขาย ประกอบด้วย ร้านค้าต่างๆ มากมาย โดยเน้นไปที่สินค้าแฟชั่น ความสวยความงาม อาทิ เสื้อผ้า กระเป๋า และรองเท้า ล่าง – ภาพ ชอปปิ้งของห้างเดอะมอลล์ ที่ทำ�การปรับปรุงใหม่ ภายใต้ชื่อว่า City Walk ซึ่งประกอบไปด้วย ร้านค้าหลากหลายประเภท โดยเฉพาะสินค้าประเภทเสื้อผ้า รองเท้าแฟชั่น
นิ เ ทศฯ ม.สยามผุ ด พื้นที่เก่าเล่าเรื่องใหม่ โครงการ be better
รวมความประทับใจ JR อาสา
ข่าวเจอาร์
ภาคหนั ง สื อ พิ ม พ์ แ ละ สิ่ ง พิ ม พ์ เ จ๋ ง คว้ า แชมป์ แชร์ บ อล ภาคโฆษณา ชนะเลิ ศ ฟุ ต ซอลใน “กี ฬ านิ เ ทศสั ม พั น ธ์ ” | หน้า10
คณะนิเทศศาสตร์ได้แนวความคิดจัด โครงการเพื่อนักศึกษา เป็นโครงการ ของวิชา พื้นฐานสื่อดิจิทัล | หน้า3
หา...ของอร่ อ ยรอบ มหาวิ ท ยาลั ย สยาม “JR สานสัมพันธ์พี่น้อง” | หน้า12
| หน้า
เปิ ด ประตู ก ว้ า งสูู่ ประสบการณ์ครั้งยิ่งใหญ่ ที่ “สยามเซ็นเตอร์” | หน้า9
2 บทบรรณาธิการ
เมื่ อ วั น ที่ 13 ก.ย. 2556 คณะนิ เ ทศศาสตร์ มหาวิ ท ยาลั ย ส ย า ม ร่ ว ม กั บ น า ย พั น ธุ์ ธั ม ม์ ทองสั ง ข์ ผู้ กำ � กั บ ภาพยนตร์ พร้ อ ม ทีมงานได้นำ�ภาพยนตร์เรื่อง “Love Syndromeรั ก โง่ ๆ ” ให้ นั ก ศึ ก ษา มหาวิทยาลัยสยาม ได้รับชม ณ ห้อง Auditorium อาคาร 19 ชั้ น 19 บรรยากาศเต็มไปด้วยเหล่าบรรดา นั ก ศึ ก ษ า ที่ ร อ ช ม ภ า พ ย น ต ร์ โดยมี ดร.มนฑิ ร า ธาดาอำ � นวย ชั ย อ า จ า ร ย์ ป ร ะ จำ � ห ลั ก สู ต ร นิเทศศาสตร์มหาบัณฑิต พร้อมทีม งานและผู้ กำ � กั บ ภาพยนตร์ มาร่ ว ม ฉายหนังให้ได้ชม และได้ให้เหตุผลที่นำ�มาฉาย เพื่อดูผลตอบรับใน มุมมองความคิดของนักศึกษาที่มีต่อ “love syndrome รักโง่ๆ” หลั ง จากจบการฉายภาพยนตร์ ทั้ ง ที ม งานและผู้ กำ � กั บ ร่ ว มถ่ า ย ภาพ พร้อมสัมภาษณ์แสดงความคิดเห็นที่มีต่อภาพยนตร์ “love s y n d r o m e รั ก โ ง่ ๆ ” ว่ า เ ป็ น อ ย่ า ง ไร ค ว า ม คิ ด เ ห็ น ใ ค ร ดี ที่ สุ ด ก็ จ ะ ไ ด้ เ ป็ น ส่ ว น ห นึ่ ง ข อ ง ห นั ง เรื่ อ ง นี้ ใ น ต อ น ท้ า ย ภาพยนตร์ “Love Syndrome รักโง่ๆ” เปิดฉายครั้งแรก ที่มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ตามมาด้วยมหาวิทยาลัยสยาม และภายใน สัปดาห์หน้าจะเดินสายไปในวันพุธที่มหาวิทยาลัยบูรพา วันพฤหัสบดี ที่มหาวิทยาลัยหอการค้า และสุดท้ายจะสิ้นสุดที่ โรงเรียนอัสสัมชัญ และจะเริ่มทำ�การโฆษณาเปิดตัวอย่างเต็มตัว กับผลงานหนังเรื่อง ล่าสุด “Love Syndrome รักโง่ๆ” ในแนวโรแมนติกคอมเมดี้ พร้อม กำ�หนดวันเข้าฉายทั่วประเทศ วันที่ 10 ตุลาคม 2556 “ พี่ ปุ๊ ก พั น ธุ์ ธั ม ม์ ” ให้ สั ม ภาษณ์ ว่ า การที่ นำ � ภาพยนตร์ เ รื่ อ ง “Love Syndrome รั ก โง่ ๆ ” มาฉายเพื่ อ จะดู ก ระแสตอบรั บ จาก หลายสถาบั น ที่ เ ลื อ กทำ � แบบนี้ เ พราะน่ า จะเป็ น อี ก ช่ อ งทางหนึ่ ง ในการโฆษณาได้ ดี เพราะทางเราไม่ มี ทุ น โฆษณามากเพี ย งพอที่ จะประชาสัมพันธ์ได้อย่างกว้างขวาง เลยอยากที่จะให้น้องๆ ตาม สถาบันต่างๆ ที่เราได้เข้าไปฉายภาพยนตร์ช่วยกันบอกต่อช่วยกันแชร์ เพราะเชื่อว่าอย่างน้อยก็น่าจะ เป็นการโฆษณาประชาสัมพันธ์ให้กับ หนังเรื่องนี้อีกช่องทางหนึ่งได้ดี ในส่วนมุมมองและแรงบันดาลใจ ใน
เรามักได้ยินการกล่าวถึงสถิติการอ่านหนังสือของ คนไทย ที่ถูกจำ�กัดเพียงไม่กี่บรรทัดต่อปี ซึ่งเป็น จำ � นวนที่ น้ อ ยเมื่ อ เที ย บกั บ ประเทศอื่ น ๆ ล่ า สุ ด องค์ ก รยู เ นสโกได้ อ อกมาพู ด ถึ ง ผลวิ จั ย ล่ า สุ ด ว่ า “คนไทยอ่ า นหนั ง สื อ น้ อ ยลงอี ก แค่ ปี ล ะ 4 บรรทัด”เช่น อ่านเฉพาะพาดหัวข่าวแต่ไม่อ่านเนื้อข่าว เรากำ�ลังเผชิญ กับปัญหาการไม่รู้หนังสือซึ่งเป็นอุปสรรคของการพัฒนา ประเทศ หากแต่คนทั้งประเทศโดยเฉพาะผู้ใหญ่ควรเริ่ม ปลูกฝังสร้างตัวอย่างให้แก่เด็ก แนะวิธีในการเก็บความ รู้จากการอ่านหนังสือ ปัจจุบันเกิดการแพร่ขยายอย่าง รวดเร็วของกระแสเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่นำ�ทั้งความเจริญ ก้าวหน้าและปัญหาให้กับทุกสังคม เป็นสภาวะที่หลีก เลี่ยงได้ยาก เนื้อหาภายในเล่ม มีทั้งข่าวการเปิดตัวของค่าย โทรศัพท์ยักใหญ่ อย่าง Apple ที่ออกมาเปิดตัวไปแล้ว กับ iPhone 5s และ iPhone 5C พร้อมบทวิเคราะห์ จากการสั ม ภาษณ์ แฟนพั น ธุ์ แ ท้ และมารู้ ซึ้ ง ไปกั บ เทคโนโลยีการติดต่อสื่อสาร ที่มนุษย์ปัจจุบันให้ความ สำ�คัญส่วนใหญ่ไปกับ Smart Phone ศึกษาทั้งข้อดีและ ข้อเสียของการใช้งาน จับตามองกลยุทธ์ทางการตลาดระหว่าง 2 ห้าง ใหญ่ย่านฝั่งธน เดอะมอลล์ และ ซีคอน พร้อมวิเคราะห์ ข้ อ มู ล ไปกั บ บทสั ม ภาษณ์ อาจารย์ เอกสิ ท ธิ์ อวย ชัยวัฒน์ ในฉบับนี้มีสกู๊ปพิเศษเรื่อง เรียนอย่างไรให้ได้ เกียรตินิยมและตรวจชะตาราศี ไปกับการดูดวง 12 ราศี นี่เป็นเพียงบางส่วนที่อยู่ในหนังสือพิมพ์สยาม เพรส ยังมีอีกหลากหลายเรื่องราวทั้งข่าวและบทความที่ พร้อมจะนำ�เสนอ หนังสือพิมพ์สยามเพรสหวังเป็นอย่าง ยิ่งว่าจะเป็นจุดเริ่มต้นให้กับทุกคนเกิดนิสัยรักการ และ สามารถนำ�ประโยชน์จากการอ่านหนังสือพิมพ์สยาม เพรส ไปปรับใช้ในชีวิตประจำ�วันได้เป็นอย่างดี
ผู้กำ�กับปุ๊ก และทีมงาน
การสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้ มุมมองน่าจะมาจากสมัยตอนที่เราเด็กๆ ยังคงเป็นวัยรุ่น ในบางครั้งเราอาจเคยทำ�อะไรโง่ๆ เคยทำ�อะไรที่ไม่ ควรทำ�เพื่อความรัก ซึ่งเราคงรู้จักมันดี ก่อนที่หนังจะออกมาสมบูรณ์ แบบ ใช้ระยะเวลาร่วม 2 ปี โดยการที่เข้าไปพูดคุยกับน้องๆ สังเกตได้ ว่าคนส่วนใหญ่จะผ่านประสบการณ์สมองแพ้หัวใจ ประมาณว่า เพื่อ ความรักก็เลยยอมทำ�อะไรโง่ๆ ลงไปโดยไม่ทันคิด ก็เลยเป็นแรงผลัก ดันหยิบเรื่องราวเหล่านี้ขึ้นมาลองสร้างเป็นภาพยนตร์ ส่วนในด้าน ของแรงบันดาลใจ ผมคิดว่าถ้าจะทำ�หนังรัก เราต้องเข้าใจในรักและ รู้จักมันให้ดี และซึ่งต้องเป็นเรื่องราวหรือบทบาทที่แปลกใหม่ ที่ยัง ไม่เคยถูกสร้างขึ้นมาก่อน และอีกหนึ่งกำ�ลังใจที่ผมได้จากการที่ผม ไปทดลองฉายหนังเรื่องนี้ตามมหาวิทยาลัยต่างๆ มาบ้างแล้ว ปรากฏ ว่า ผลตอบรับดีมาก คนดูมีทั้งยิ้ม หัวเราะ ซึ้งและร้องไห เลยมั่นใจ ว่า “Love Syndrome รักโง่ๆ” จะเป็นหนังที่คนดูจะรักและมีความ สุขเมื่อได้ดูอย่างแน่นอน ผู้กำ�กับ “ปุ๊ก พันธุ์ธัมม์” กล่าวว่า ทำ�ไมถึงเลือก โตโน่ และ ยิปซี มา รับบทบาทนี้ “ผมดูว่าในตัวของโตโน่ เค้าเป็นคนที่มีความสามารถ ในด้านนี้ดีในระดับหนึ่ง เค้าสามารถเล่นได้ทั้งตลกและดราม่า ซึ่งใน ปัจจุบันนักแสดงวัยรุ่นน้อยคนที่จะเล่นใน 2 บทบาทแบบนี้ได้ ซึ่ง เมื่อโตโน่ได้ลองพูดลองซ้อมกับนักแสดงคนอื่นๆ เค้าสามารถทำ�ได้ดี ส่วนยิปซี คือเราอยากได้สาวสวยคนหนึ่งที่กล้าจะพลิกบทบาทแปลง โฉมตัวเองมาเป็นสาวที่ไม่อยากสวย ทั้งหมดนี้ก็คือเหตุผลที่ผมเลือก 2 คนนี้มาเป็นตัวเปิดภาพยนตร์ zอรจิรา เปี่ยมสุวรรณy
เส้นทางแห่งความสำ�เร็จบัณฑิตเกียรตินิยม รางวัลแห่งความภาคภูมิใจ
“เกียรตินิยม” คือผลสำ�เร็จของบัณฑิตที่ตั้งใจเรียนในรั้วมหาวิทยาลัย เกียรตินิยมสามารถเป็นตัวการันตีความขยันและความตั้งใจของตัว เราได้เป็นอย่างดีและจะเป็นสิ่งที่หลายคนมุ่งหวัง เพราะสามารถเป็นเครื่องชี้ชัดได้ว่ามีผลการเรียนที่ดีมาโดยตลอด
นางสาวณิ ช ชารี ย์ วิ ศ วจั น ทรารมย์ หรื อ เกด นั ก ศึ ก ษามหาวิ ท ยาลั ย สยาม คณะนิ เ ทศศาสตร์ สาขา วิชาหนังสือพิมพ์และสิ่งพิมพ์ ชั้นปีที่4 ปัจจุบันเกรดเฉลี่ย 3.68 จะมาเผยเคล็ดลับเรียนยังไงให้ได้เกียรตินิยม Q : เคล็ดลับพิชิต A A : เวลาเรียนก็จะจดทุกคำ� ที่อาจารย์พูด มันน่าจะมีความ หมายตอนสอบ อาจจะเป็ น ขุมทรัพย์เล็กๆน้อยๆ และแรง บันดาลในการเรียนก็คืออยาก เห็นตอนเกรดออกมาแล้ว มี A มาเยอะๆ พอเข้ า ไปดู เ กรดใน เว็บมหาวิทยาลัยแล้วเห็นเกรด ออกมามันก็หายเหนื่อย คุ้มค่า กับที่เราอ่านมาทั้งหลายวิชาที่ สอบมาทั้งอาทิตย์แล้วรีบวิ่งไป บอกพ่อแม่ว่า วิชานี้หนูได้Aวิชา นั้นหนูได้A Q : เทคนิคเตรียมตัวก่อนสอบ A : เป็นคนไม่อ่านหนังสือตอนกลับบ้านนะ แต่จะหนักอ่าน
ช่ ว งสอบ คื อ จะไม่ เ ล่ น อิ น เทอร์ เ น็ ต เลยตลอดระยะเวลา ก่อนสอบ จะอ่านหนักมากๆ อ่านทั้งวัน ถึงจะสอบหลายตัว ภายในวันเดียวก็ต้องอ่านให้ได้ Q : แนวคิดสู่ความสำ�เร็จ A : อยากให้น้องๆ เก็บทุกคำ�พูดของอาจารย์ เพราะตอน สอบทุกคำ�ของอาจารย์มันคือคำ�ตอบทั้งนั้นเลย อยากให้ น้องๆ แบ่งเวลาให้ถูกต้อง 4 ปีมันสั้นมากทำ�เกรดดีๆ เสีย เวลาก่ อ นสอบซั ก พั ก งดเล่ นอิ นเทอร์ เ น็ ต มาอ่ า นหนั ง สื อ ทบทวนบทเรียนดีกว่า นางสาวอัญญนันท์ เสถียรกิจอำ�ไพ ภาค วิ ช าวิ ศ วกรรมอาหาร คณะวิ ศ วกรรมศาสตร์ สถาบั น เทคโนโลยี พ ระจอมเกล้ า เจ้ า คุ ณ ทหาร ลาดกระบัง เกรดเฉลี่ย 3.50 จะมาเผยเคล็ดลับ เรียนยังไงให้ได้เกียรตินิยม Q : เคล็ดลับพิชิต A A : ตั้งใจฟังอาจารย์สอนในห้อง เพราะจะมีการเน้น ใจความสำ � คัญของเรื่องนั้นๆ ถ้าเรีย นไม่เข้าใจ ให้ กลับมาอ่านหนังสือและลองทำ�แบบฝึกหัดเพิ่มเติม แล้วถ้ายังไม่เข้าใจก็จะเปิดดูที่สอนในอินเทอร์เน็ต
Q : เทคนิคเตรียมตัวก่อนสอบ A : มีสมาธิ อย่าตื่นเต้นขอให้มั่นใจว่าที่เราอ่านมาเราเข้าใจ มันถูกแล้ว เพราะการมาเปลี่ยนความคิดก่อนเข้าห้องสอบ มันจะทำ�ให้เราเขวว่าอันไหนจริงไม่จริง ให้เราเชื่อสิ่งที่เรา รู้สึกว่ามันถูก Q : แนวคิดสู่ความสำ�เร็จ A : ขอให้ตั้งใจฟังที่อาจารย์สอน เพราะอาจารย์เค้าจะ มีประสบการณ์บางอย่าง ที่เรายังไม่เคยเจอ หรืออ่านใน หนังสือไม่มี ใบเกี ย รติ นิ ย มจะเป็ น ใบเบิ ก ทางที่ สำ � คั ญ ให้ เรา เป็ น เครื่ อ งหมาย แห่งความสำ�เร็จ นำ�พาตัวเราไปสู่ความ สำ�เร็จในหน้าที่การงาน ถือว่าเป็นก้าว แรกและก้ า วสำ � คั ญ แห่ ง การเริ่ ม ต้ น ชี วิ ต การทำ � งาน แต่ บ างคนจะคิ ด ว่ า เกียรตินิยมไม่ใช่สิ่งที่สำ�คัญที่สุดในชีวิต หน้าที่ความรับผิดชอบต่อตัวเองและ หน้ า ที่ ที่ ไ ด้ รั บ มอบหมายนั้ น เป็ น สิ่ ง ที่ สำ�คัญที่สุด zขนิษฐา อํ่าขําy
3
คณะนิ เ ทศศาสตร์ ไ ด้ แ นวความ คิ ด จั ด โครงการเพื่ อ นั ก ศึ ก ษา เป็ น โครงการของวิ ช าพื้ น ฐาน สื่ อ ดิ จิ ทั ล วั ต ถุ ป ระสงค์ ข อง โครงการนี้ คื อ เพื่ อ ให้ นั ก ศึ ก ษา สร้างสื่อเพื่อการสื่อสารได้อย่าง มีประสิทธิภาพ และให้นักศึกษา ได้เปลี่ยนแปลงตัวเองได้รู้ว่าอะไร ผิ ด อะไรที่ ถู ก และอะไรที่ ไ ม่ ค วร ทำ�ในมหาวิทยาลัย อาจารย์ สุธาวัลย์ ธรรมสังวาลย์ อาจารย์ประจำ�คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิ ท ยาลั ย สยามได้ มี แ นว ความคิดบูรณาการจัดโครงการ เกี่ ย วกั บ การรณรงค์ ภ ายใน มหาวิทยาลัย เป็นโครงการของ รายวิ ช า 140-116 พื้ น ฐานสื่ อ ดิ จิ ทั ล จั ด ขึ้ น เพื่ อ ให้ นั ก ศึ ก ษา ภายในมหาวิ ท ยาลั ย รู้ เ กี่ ย วกั บ ในสิ่ ง ที่ ไ ม่ ค วรทำ � ในมหาวิทยาลัย 8 เรื่องคือ กินอาหารและแต่งหน้าในเวลา เรียน ดื่มเหล้าในมหาวิทยาลัย สูบบุหรี่ในที่ที่ไม่ควรสูบ ใส่ รองเท้าแตะมาเรียน มาเรียนสาย ขับรถเร็ว คุยโทรศัพท์ ในเวลาเรี ย น และเรื่ อ งถุ ง ยางอนามั ย ซึ่ ง นั ก ศึ ก ษาใน มหาวิทยาลัยไม่ค่อยสนใจเรื่องพวกนี้สักเท่าไรอาจจะคิดว่า เป็นเรื่องที่ไม่สำ�คัญสำ�หรับพวกเขา นักศึกษากลุ่มรายวิชา สื่อดิจิทัลจึงได้จัดทำ�โครงการนี้ขึ้นมาเพื่อให้นักศึกษาหันมา สนใจกันมากขึ้น จากการสัมภาษณ์ อาจารย์ สุธาวัลย์ ธรรมสังวาลย์ หรือ อาจารย์ผู้สอน วิชาสื่อดิจิทัล ได้ให้สัมภาษณ์ว่า “โครงการ นี้จัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 นะคะ จัดขึ้นเพื่อสร้างพื้นที่ในการ ผลิ ต สื่ อ ดิ จิ ทั ล โดยมี วั ต ถุ ป ระสงค์ ห ลั ก เพื่ อ ให้ นั ก ศึ ก ษา สามารถสร้ า งสื่ อ เพื่ อ การสื่ อ สารได้ อ ย่ า งมี ป ระสิ ท ธิ ภ าพ โดยสารหลั ก ในการสร้ า งสรรค์ ค วรจะมี เ นื้ อ หาที่ ใ กล้ ตั ว ของนักศึกษาเอง จึงเป็นโจทย์ที่ผู้สอนตั้งขึ้นมาว่าเนื้อหา ที่ นั ก ศึ ก ษาจะสร้ า งสรรค์ แ ล้ ว เป็ น ประโยชน์ ต่ อ ตนเอง และส่ ว นรวมควรเป็ น อะไรดี จึ ง ได้ คำ � ตอบว่ า อยากให้ นั ก ศึ ก ษาได้ ร ณรงค์ เรื่ อ งใกล้ ตั ว เรื่ อ งที่ อ ยากให้ ส ภาพ แวดล้อมเปลี่ยนแปลง โครงการนี้อาจไม่สามารถปรับให้ เกิดพฤติกรรมตามที่ผู้รณรงค์ต้องการ แต่อย่างน้อยที่สุด มันเป็นการเสริมสร้างวิธีคิดที่ดีให้แก่ผู้เรียน เขาจะรู้ผิดรู้ ถูก กล้าคิดต่อต้านความไม่ถูกต้องในมหาวิทยาลัย ซึ่งเป็น
พื้นฐานที่นักนิเทศศาสตร์ทุกคนควรจะมี เรื่องที่อันตราย ที่สุดในโลกทุกวันนี้ก็คือการไม่รู้ผิดถูก หรือยอมรับความผิด โครงการนี้จะช่วยให้ผู้ร่วมกิจกรรมไม่ยอมรับในสิ่งผิดปกติ ในสังคมของเขา” และสุดท้าย อ.อายมีอะไรจะฝากนักศึกษา เกี่ยวกับโครงการนี้ คือ “อยากให้นักศึกษาทำ�โครงการด้วย ความรู้สึกที่อยากปรับปรุงเรื่องราวรอบตัว ไม่ใช่เพื่อคะแนน เพราะหากสามารถทำ � ได้ ต ามวั ต ถุ ป ระสงค์ โ ครงการนี้ จ ะ สามารถสร้างวิธีคิดที่ดีให้กับผู้เรียนได้ค่ะ” ซึ่งโครงการนี้จะมี ทุกปีการศึกษาเพื่อให้นักศึกษาได้ปรับเปลี่ยนตัวเองให้ดีขึ้น กว่าเดิมที่เป็นอยู่ โครงการนี้อาจจะไม่ได้ความร่วมมือจาก นักศึกษาภายในมหาวิทยาลัยมากนักเพราะนักศึกษาไม่ค่อย จะสนใจอาจจะคิดว่าไม่ใช่เรื่องที่จำ�เป็นสำ�หรับตัวเขาเอง แต่โครงการนี้ก็ยังมีต่อไปเรื่อยๆ เพื่อให้นักศึกษาหันมาสนใจ กันเพิ่มมากขึ้นและหันมาเปลี่ยนแปลงตัวเองกันมากขึ้นและ ที่สำ�คัญโครงการนี้ยังช่วยให้นักศึกษาสร้างสรรค์งานและ ผลิตสื่อออกมาให้นักศึกษาในมหาวิทยาลัยสนใจในโครงการ นี้ ม ากขึ้ น ซึ่ ง นั ก ศึ ก ษาส่ ว นใหญ่ จ ะไม่ ค่ อ ยรู้ ว่ า อะไรที่ ผิ ด อะไรที่ถูกและควรทำ�ในมหาวิทยาลัยโครงการนี้จึงเป็นส่วน หนึ่งที่จะช่วยให้นักศึกษารู้ในสิ่งที่ถูกและผิดไม่หลงไปกลับ ความคิดของตัวเองหรือในสังคมที่เขาอยู่ โครงการนี้จึงเป็น โครงการที่สำ�คัญต่อนักศึกษาในรายวิชาและนักศึกษาใน มหาวิทยาลัยได้รู้ถึงการที่ประพฤติตัวอยู่ในทุกๆ วันนั้นเป็น สิ่งที่ไม่ถูกต้อง เราจึงมีการรณรงค์ในเรื่องของการเข้าเรียน
ส า ย ก า ร แ ต่ ง ก า ย แ ล ะ รั บ ป ร ะ ท า น อ า ห า ร ใ น ห้ อ งเรี ย น คุ ย โทรศั พ ท์ ใ น เวลาเรี ย น และใส่ ร องเท้ า แตะมาเรี ย น ซึ่ ง โครงการ พวกนี้ จ ะช่ ว ยให้ นั ก ศึ ก ษา ในมหาวิทยาลัยปรับปรุงตัว เองมากขึ้น ส่วนการรณรงค์ เรื่ อ งของบุ ห รี่ แ ละการดื่ ม เหล้าในมหาวิทยาลัยเพื่อให้ นั ก ศึ ก ษาเลิ ก สู บ บุ ห รี่ แ ละ ดื่ ม เหล้ า ในที่ ที่ ไ ม่ ค วรสู บ หรือดื่มนักศึกษาจะไม่ค่อย สนใจในเรื่ อ งของการห้ า ม สู บ บุ ห รี่ ห รื อ ดื่ ม เหล้ า สั ก เท่าไร จึงต้องมีการรณรงค์ เรื่ อ งของบุ ห รี่ แ ละการดื่ ม เหล้ า ขึ้ น มา การรณรงค์ เรื่ อ งถุ ง ยางอนามั ย อาจ จะคิ ด ว่ า มั น เป็ น เรื่ อ งที่ ไ ม่ จำ � เป็ น สำ � หรั บ นั ก ศึ ก ษาใน มหาวิ ท ยาลั ย แต่ ก ารรณรงค์ เ รื่ อ งนี้ จ ะทำ � ให้ นั ก ศึ ก ษา รู้ ถึ ง ประโยชน์ ข องถุ ง ยางอนามั ย มากขึ้ น แล้ ว หั น มา เปลี่ ย นแปลงตั ว เอง ส่ ว นเรื่ อ งการขั บ รถที่ ร ณรงค์ เรื่ อ งนี้ เ พราะนั ก ศึ ก ษาในมหาวิ ท ยาลั ย สยามขั บ รถ เร็ ว อาจจะทำ � ให้ เ กิ ด อั น ตรายได้ ก ารที่ ร ณรงค์ เ รื่ อ ง นี้ ก็ จ ะทำ � ให้ นั ก ศึ ก ษาเปลี่ ย นแปลงตั ว เองในการขั บ รถให้ ช้ า ลงกว่ า เดิ ม ซึ่ ง ทุ ก เรื่ อ งนี้ เ ป็ น เรื่ อ งที่ สำ � คั ญ สำ � หรั บ นั ก ศึ ก ษาทุ ก คนในมหาวิ ท ยาลั ย สยามมากที่ สุ ด โครงการที่จัดขึ้นมานี้จะช่วยให้นักศึกษาหันมาปรับปรุง และเปลี่ยนแปลงตัวเองมากขึ้นได้รู้ถึงสิ่งที่ผิด ที่ถูก สิ่งที่ ควรทำ�ในมหาวิทยาลัยมากขึ้นกล้าที่จะต่อต้านในสิ่งที่ไม่ ถูกต้อง และโครงการนี้ยังช่วยให้นักศึกษาสร้างสื่อเพื่อ การสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะเรื่องที่ รณรงค์เป็นเรื่องที่ใกล้ตัวของนักศึกษามากที่สุด เป็นเรื่อง ที่นักศึกษาทุกคนเข้าใจได้ง่าย โครงการนี้จะเริ่มจากการ เปลี่ยนตัวเองก่อนและยังสามารถบอกต่อไปเรื่อยๆ เพื่อ ให้ นั ก ศึ ก ษาคนอื่ น เข้ า ใจในโครงการที่ ทำ � ขึ้ น มานี้ หั น มา เปลี่ ย นแปลงตั ว เองกั น มากขึ้ น โครงการนี้ ยั ง ช่ ว ยในการ สร้างสรรค์งาน การผลิตสื่อที่ดีออกมาโครงการนี้ยังสร้าง วิธีคิดให้กับผู้ที่สนใจในเรื่องที่รณรงค์ คิดได้ว่าอะไรผิดอะไร ถู กกล้ าแสดงออกต่ อ ต้ านสิ่ ง ที่ ไ ม่ ถู กต้ อ งในมหาวิ ท ยาลั ย zนันทนา หอมกรุ่นy
ลุ้น! ผลวิจัยการรับข่าวสาร ช่องทางไหนมาแรง
ภาควิชาหนังสือพิมพ์ฯ ม.สยาม ทำ�การวิจัยเรื่องพฤติกรรมการรับข่าวสารและปัจจัยที่มีผลต่อการเลือกเปิดรับข่าวสาร ของนักศึกษาคณะนิเทศศาสตร์ในเขตกรุงเทพมหานคร เพื่อวิเคราะห์แนวโน้ม ความเป็นไป และช่องทางที่เหมาะสมของการรายงานข่าวในอนาคต เมื่ อ วั น ที่ 23 กั น ยายน ที่ ผ่ า นมา ภาควิ ช า หนังสือพิมพ์และสิ่งพิมพ์ คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัย สยาม ได้ มี ก ารแจกแบบสอบถาม ให้ แ ก่ นั ก ศึ ก ษาคณะ นิเทศศาสตร์ เพื่อทำ�การวิจัยในหัวข้อ พฤติกรรมการรับ ข่าวสารและปัจจัยที่มีผลต่อการเลือกเปิดรับข่าวสาร โดย มี วั ต ถุ ประสงค์เพื่อ ศึก ษาพฤติ ก รรมการรั บข่ าวสารของ นักศึกษาคณะนิเทศศาสตร์ในเขตกรุงเทพมหานคร และ ศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อการเลือกเปิดรับข่าวสาร อาจารย์ สุ ธ าวั ลย์ ธรรมสังวาลย์ อาจารย์ประจำ � ภาควิชาหนังสือพิมพ์และสิ่งพิมพ์ ได้ให้สัมภาษณ์ถึงเหตุผล
ของการทำ�วิจัยในครั้งนี้ว่า “เพราะในปัจจุบันเราสามารถ รับข่าวสารได้หลากหลายช่องทาง ทั้งสื่อเก่าและสื่อใหม่ อีก ทั้งพฤติกรรมการรับสารก็มีความเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม จึ ง มี ก ารตั้ ง คำ � ถามว่ า พฤติ ก รรมการรั บ ข่ า วสารของกลุ่ ม นักศึกษาเป็นอย่างไร และปัจจัยอะไรที่จะมีผลต่อการเลือก เปิ ด รั บ ข่ า วสาร ซึ่ ง นั ก ศึ ก ษาคณะนิ เ ทศศาสตร์ น่ า จะเป็ น Gen ใหม่ในการรับส่งข้อมูลข่าวสาร ว่าพวกเขามีพฤติกรรม ในการรับข่าวสารอย่างไร เพื่อที่จะได้สามารถวิเคราะห์แนว โน้มได้ ความเป็นไปของการรายงานข่าว และเป็นฐานข้อมูล ในการปรับปรุงการเรียนการสอนให้ทันสมัยยิ่งขึ้นไป”
เมื่ อ ถามต่ อ ถึ ง การคาดการณ์ ว่ า ผลวิ จั ย นั้ น จะออกมาใน ลักษณะใด อาจารย์ได้ให้ความคิดเห็นถึงประเด็นนี้ว่า “เรา ไม่สามารถคาดเดาผลวิจัยได้ แต่ก็มีความอยากรู้เช่นกัน ว่า ในฐานะนักศึกษานิเทศฯ ผู้ที่จะเป็นอนาคตสื่อฯ กำ�ลังมี พฤติกรรมอย่างไร เขารับข่าวสารจากช่องทางไหน เพราะใน ขณะที่สื่อใหม่กำ�ลังมาแรงแต่สื่อเก่าก็ยังมีความน่าเชื่อถือ ซึ่งถือเป็นเรื่องที่น่าติดตามว่าผลจะออกมาแบบไหน ทิ้งท้าย ไว้ด้วยว่าส่วนผลวิจัยจะออกมาในลักษณะใดนั้น คงต้องรอ ติดตามกันต่อไป” zกัณฐิกา สถานนท์ชัยy
4
หญิงกระดุมซ้าย ชายกระดุมขวา หากจะย้อนไปถึงอดีตที่เป็นจุดเริ่มต้นของการ ติดกระดุมคนละข้าง ระหว่างเพศชายและเพศหญิงใน ยุคปัจจุบัน ก็ขออธิบายก่อนว่าเราเริ่มมีการใช้กระดุมกัน ตั้งแต่เมื่อไหร่ นักโบราณคดีพบหลักฐานในการใช้กระดุม ที่เก่าแก่ที่สุด ในราวๆ 3,000 ปีก่อนคริสตกาล ในสมัย bronze age ในยุคนั้นกระดุมไม่ได้เอาไว้กลัดเสื้อให้ติด กัน แต่เอาไว้เป็นเครื่องประดับตกแต่งเป็นเข็มกลัด หรือ พวกเครื่องมืออื่นๆ เพราะในสมัยนั้นเครื่องแต่งกายยังคง เป็นการใช้หนังสัตว์มานุ่งห่มแบบเรียบง่ายอยู่ แต่การเริ่ม ใช้กระดุมมาเป็นสิ่งที่ทำ�ให้เสื้อผ้าติดอยู่ด้วยกันนั้น เพิ่ง ค้นพบว่าเกิดขึ้นเป็นครั้งแรกในอารยธรรมกรีกและโรมัน แต่ก็ยังไม่ใช่ของที่จำ�เป็นในการทำ�ให้เสื้อผ้าติดกัน จน กระทั่งยุคกลาง ช่วงศตวรรษที่ 13 และ 14 ได้เกิดการ ใช้กระดุมเป็นเครื่องมือในการติดให้เสื้อผ้าเข้ารูปและ เป็นเครื่องตรึงผ้าให้อยู่กับตัวกันอย่างแพร่หลาย ทำ�ให้ ค้นพบว่าในยุคนี้มีการเกิดขึ้นของรังดุมเป็นครั้งแรกใน ยุคกลางนี้เอง และในสมัยศตวรรษที่ 17 ในช่วงนั้นเสื้อ เชิ้ตหรือเครื่องแบบทหารที่มีกระดุม ถูกออกแบบมาเพื่อ เป็นสัญลักษณ์ของผู้คนที่ร่ำ�รวยและมั่งมี แต่ในช่วงนั้น ผู้คนที่หันมานิยมใส่เสื้อเชิ้ตล้วนแต่เป็นกลุ่มผู้ชายเสีย ส่วนใหญ่ ในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 ยุควิคตอเรีย เป็นยุคที่ แฟชั่นและเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายหรูหราฟู่ฟ่า ยุคนี้มีการ ใช้กระดุมเป็นเครื่องมือในการติดยึดตัวเสื้ออย่างแพร่ หลายแล้ว หญิงสูงศักดิ์จำ�นวนไม่น้อยที่รักการแต่งเนื้อ แต่งตัวเป็นชีวิตจิตใจ มักจะมีคนรับใช้คอยช่วยเหลือแต่ง ตัวให้ จึงเป็นการง่ายกว่าที่กระดุมของเสื้อนั้นอยู่ทาง ด้านซ้ายของตัวเสื้อ ซึ่งจะทำ�ให้ผู้ที่เข้ามาช่วยแต่งตัวที่ อยู่ทางด้านตรงกันข้ามจับกระดุมด้วยมือขวาอย่างถนัด ขณะที่ผู้ชายสมัยนั้น ส่วนใหญ่ไม่ชอบให้คนรับใช้เข้ามา ยุ่งเกี่ยวเรื่องการแต่งตัวมากนัก อีกทั้งยังชอบแต่งตัวด้วย ตัวเอง จึงทำ�ให้การติดกระดุมเสื้อที่อยู่ทางขวานั้น เป็น ตำ�แหน่งที่สามารถจับกระดุมด้วยมือขวาอย่างถนัดกว่า และในยุคนั้นมีการผลิตเสื้อในครั้งหนึ่งเป็นจำ�นวนมาก ทำ�ให้การติดกระดุมเริ่มเป็นมาตรฐานเดียวกันปัจจุบัน การใช้งานของกระดุมก็ยังคงเป็นลักษณะเดิมตั้งแต่อดีต อาจมี ก ารพั ฒ นาในรู ป แบบการใช้ บ้ า ง รู ป ลั ก ษณ์ บ้ า ง เพื่อให้เข้ากับยุคสมัยในปัจจุบัน และสะดวกต่อการใช้ งาน ต่อให้เสื้อผ้าแต่ละชุดจะผ่านการออกแบบมามาก ขนาดไหน เสื้อผ้าชายก็ยังคงติดกระดุมไว้ทางขวามือ เสื้อผ้าหญิงก็ยังคงติดกระดุมไว้ทางซ้ายมือ หลักฐานทาง เศรษฐศาสตร์ระบุว่า โรงงานผลิตเสื้อผ้า พยายามที่จะ เปลี่ยนค่านิยมเดิมๆ ด้วยการผลิตเสื้อผ้าสตรีให้มีกระดุม อยู่ทางขวาและผลิตเสื้อผ้าชายให้กระดุมอยู่ทางซ้ายมือ แต่จ นแล้ ว จนรอดก็ ต้ อ งล้มเหลวเพราะทั้งผู้ห ญิงและ ผู้ชายเคยชินกับการสวมใส่เสื้อผ้าในแบบเดิมๆ และเห็น ว่าตำ�แหน่งของกระดุมไม่ใช่ปัญหาในการสวมใส่ และ เป็นข้อดีในการแยกเสื้อผ้าชายและเสื้อผ้าหญิงในบาง กรณีอีกด้วย บางครั้งเรื่องเล็กในปัจจุบันก็คือเรื่องที่ยิ่งใหญ่ใน อดีต บ่อยครั้งที่เราอาจไม่เข้าใจต่อสิ่งที่เกิดขึ้น และตั้งข้อ สงสัยไปต่างๆ นาๆ แต่ทุกครั้งที่เกิดคำ�ถามขอให้จงเชื่อ ว่า ทุกอย่างบนโลกใบนี้ต่างมีที่มาและเหตุผลในตัวมัน เอง ซึ่งบางเรื่องที่เราคิดว่าเล็กน้อย อาจจะมีที่มาที่ใหญ่ หลวง zทิตธวัช ปุณกะบุตรy
คนฝั่งธนฯ เฮ 5ธันวา BTS เปิดใช้ถึงบางหว้า
แหล่งข่าว กทม. มั่นใจว่ารถไฟฟ้าสายสีเขียวในส่วนต่อขยาย จะเปิดให้ใช้บริการได้ถึงสถานีปลาย ทางสถานีบางหว้า ภายในวันที่5 ธันวาคมนี้ อย่างแน่นอน จากเดิมที่ถึงแค่สถานีตลาดพลู รวมทั้ง คิดค่าบริการ 10บาทตลอดสาย เมื่อต้นปีที่ผ่านมา รถไฟฟ้าBTSสายสีเขียวช่วงต่อขยายจาก สะพานตากสิน ถึงบางหว้า ได้มีการเปิดให้ใช้สถานีเพิ่มเติม ต่อจากวงเวียนใหญ่ คือ สถานีโพธิ์นิมิตรกับสถานีตลาดพลู แต่ยังเหลืออีก 2 สถานีที่ยังอยู่ระหว่างก่อสร้าง คือ สถานี วุฒากาศ และ สถานีบางหว้า แต่จะเร่งให้เสร็จก่อนวันที่ 5 ธ.ค. 2556 เพื่อเปิดใช้2สถานีที่เหลือ ทำ�ให้ประชาชนตื่น ตัวและมีกระแสตอบรับจากการที่จะเปิดให้บริการนี้ นายศรัณย์ บุนนาค นักศึกษามหาวิทยาลัยสยาม บอกถึง ความรู้สึกที่รถไฟฟ้าจะเปิดถึงสถานีบางหว้าว่าตนเองก็เป็น คนหนึ่งที่ใช้รถไฟฟ้า อยู่บ่อยครั้งถึงจะไม่ทุกวันก็ตาม แต่ถ้า สถานีรถไฟฟ้าบางหว้าเปิดในวันที่5 ธันวาคมนี้จริงๆ คงจะ สะดวกกับตัวเองอย่างมาก เพราะจะทำ�ให้การเดินทางจาก บ้านมาเรียนที่มหาวิทยาลัยสะดวกยิ่งขึ้น เพราะทุกวันนี้ ต้องนั่งรถเมล์มาเรียนแล้วตอนเช้าช่วงแยกท่าพระจนถึง มหาวิทยาลัยรถจะติดเป็นอย่างมาก ทำ�ให้รู้สึกหงุดหงิดอยู่ บ่อยครั้งยิ่งวันไหนฝนตกรถแทบจะขยับไปไหนไม่ได้เลย แต่ ถ้ า วั น ไหนได้ ขั บ รถมอเตอร์ ไซด์ มาเรี ย นถึ ง จะสะดวก หน่อย แล้วตนเองเป็นคนที่เดินทางไปรังสิตอยู่บ่อยครั้งต้อง ไปนั่งรถตู้ที่ อนุสาวรีย์ชัย ทำ�ให้ตนเองสามารถขึ้นรถไฟฟ้า จากตรงนี้ได้เลยไม่ต้องนั่งรถเมล์ไปขึ้นที่สถานี ธนบุรี หรือ ตลาดพลูแล้ว โดย นายศรัณย์ ยังบอกอีกว่า คงจะทำ�ให้การ เดินทางของหลายๆ คนสะดวกสบายยิ่งขึ้น แล้วตนเองคาด ว่าน่าจะได้ใช้จริงๆ เพราะเวลาผ่านตอนมาเรียน ก็ได้เห็น
ความคืบหน้าของการก่อสร้างใกล้จะแล้วเสร็จจริงๆ นายดำ�รงค์ พรสัย อาชีพมอเตอร์ไซด์รับจาก บริเวณปาก ซอยเพชรเกษม36 ใกล้กับมหาวิทยาลัยสยามและสถานี บางหว้า ที่กำ�ลังจะเปิดให้ใช้บริการ ได้ให้สัมภาษณ์ว่า ถ้า สถานีนี้เปิดให้บริการจริงในวันที่ 5 ธ.ค. จริงตนคงจะมีราย ได้มากขึ้นเพราะจากซอยที่ตนประจำ�อยู่นั้นใกล้กับสถานี นี้พอดี แต่จากปากซอยถึงตัวสถานีก็มีระยะห่างพอสมควร ก็ น่ า จะมี ผู้ ใช้ บ ริ ก ารจ้ า งไปขึ้ น BTS ทำ � ให้ ร ายได้ เ พิ่ ม ขึ้ น ตนเองนั้นขับมอเตอร์ไซด์รับจ้างมาตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่มสร้าง สถานีรถไฟฟ้า รายได้ก็ตกอยู่ประมาณ 500-600 บาทต่อวัน หักค่านํ้ามันและอื่นๆ แล้วก็จะได้เก็บวันละ300-400บาท แล้วแต่วันเพราะรายได้จะไม่ค่อยเท่ากันในแต่ละวัน ตน จึงหวังว่าBTSสถานีบางหว้านี้จะเปิดให้ใช้บริการจริงๆ ใน วันที่ 5 ธ.ค. นี้จะทำ�ให้รายได้ของตนเพิ่มขึ้นเพราะทุกวัน นี้ ข้าวของทุกอย่างแพงขึ้นจึงอยากที่จะมีโอกาสเพิ่มรายได้ มาเลี้ยงดูครอบครัวของตนเพิ่มขึ้นบ้าง ตนมองว่าการเปิดใช้ บริการของสถานีบางหว้าน่าจะเป็นผลดีต่ออาชีพของตน นางสาว ณฐมน สุ พั ต ร พนั ก งานออฟฟิ ศ แถวบางรั ก ให้ สัมภาษณ์ว่า ตนเองบ้านอยู่ใกล้BTSสถานีบางหว้าที่ใกล้ จะเปิดนี้ เวลาไปทำ�งานและกลับบ้านทุกวันรถจะติดมากๆ คิดว่าถ้าสถานีบางหว้านี้เปิดให้บริการทำ�ให้ตนเดินทางได้ สะดวกยิ่งขึ้นไม่เสียเวลาตอนรถติด zหิรัญ ศุภศิริภิญโญy
5
“สมาร์ทโฟน” การสื่อสารกับชีวิตมนุษย์ การสื่อสารถือเป็นปัจจัยหลักในการดำ�รงชีวิตของมนุษย์ ถ้าเราทุกคนขาดการสื่อสารไปนั้น ก็จะไม่สามารถรับข่าวสารอะไรได้เลย ในอดีตการ ติดต่อสื่อสารถือเป็นเรื่องที่ยากกว่าในปัจจุบัน เพราะไม่มีเทคโนโลยีที่พร้อมจะตอบรับความต้องการของมนุษย์ได้อย่างสะดวกรวดเร็วเฉกเช่นสิ่งที่ เป็นอย่างทุกวันนี้
การพั ฒ นาของเครื่ อ งมื อ สื่ อ สารในอดี ต จนถึ ง ปัจจุบันมีการพัฒนาขึ้นมาเรื่อยๆ อย่างเห็นได้ชัด อย่าง จาก การสื่อสารผ่านตัวอักษร เช่นจดหมาย ที่มีระยะเวลาในการ ส่งสารที่ช้า กินเวลาไปถึง 5- 10 วัน บางครั้งก็มากกว่า นั้น ต่อมาได้มีการพัฒนามาเป็น โทรเลข ที่มีความสะดวก รวดเร็วขึ้น แต่ก็มีข้อจำ�กัดในตัวอักษร ที่คิดค่าบริการเป็น ตัวอักษรเลย จึงได้มีการพัฒนามาสู่ เพจเจอร์ เป็นการ สื่อสารผ่านตัวอักษรเช่นกัน การใช้งานก็ยังคงยุ่งยากอยู่ดี เพราะต้องโทรไปบอกศูนย์ฝากข้อความ เพื่อบอกถึงเรื่องที่ ต้องการจะส่งสาร ก่อนที่ข้อความนั้นจะปรากฏอยู่บนหน้า จอเพจเจอร์ของผู้รับ ต่อมาได้มีการพัฒนามาถึง โทรศัพท์ เป็ น สิ่ ง ที่ ต อบโจทย์ ก ารสื่ อ สารได้ อ ย่ า งดี มี ค วามรวดเร็ ว และชั ด เจนในเนื้ อ เรื่ อ งที่ ต้ อ งการสื่ อ สาร เพราะเป็ น การ สื่อสารกันโดยใช้เสียง แต่มีข้อเสียที่ขนาดของโทรศัพท์ ใน สมัยก่อนโทรศัพท์มีเครื่องที่ขนาดใหญ่มาก ไม่สามารถพก ใส่กางเกงได้ และต่อมาเมื่อได้รับความนิยมจากผู้ใช้มากขึ้น ก็ได้มีการพัฒนารูปลักษณ์ให้น่าใช้ยิ่งขึ้น มีขนาดที่เล็กลง มี ความทันสมัยสวยงาม และวิธีการสื่อสารแบบอื่นๆ ก็ค่อยๆ ได้รับความนิยมน้อยลง หลั ง จากที่ โ ทรศั พ ท์ ไ ด้ มี ก ารพั ฒ นารู ป ลั ก ษณ์ ใ ห้ ตอบโจทย์ผู้ใช้ได้ดียิ่งขึ้นแล้ว ก็ได้มีการเพิ่มลูกเล่นอื่นๆ เข้า มา เช่น การใส่เสียงเรียกเข้าที่ไพเราะขึ้น หน้าจอมีสีสวย สดใส ส่งข้อความได้ สามารถสั่นได้เมื่อมีสายเรียกเข้า ฟัง เพลงได้ และใส่เกมเข้ามาเพื่อให้ผู้ใช้ได้เพลิดเพลินกับการ ใช้งานโทรศัพท์ ตลอดจนการถ่ายภาพบนมือถือ ซึ่งการนำ� เข้ามาของการถ่ายภาพนั้น ยิ่งทำ�ให้โทรศัพท์ได้รับการตอบ รับที่ดีขึ้น เป็นที่นิยมสำ�หรับผู้คนทั่วทั้งโลกใครจะไปคิดว่า เครื่องมือที่เอาไว้ใช้สื่อสาร จะเป็นกล้องถ่ายรูปได้ด้วย เมื่อโทรศัพท์ได้เพิ่มลูกเล่นต่างๆ เข้ามาเพื่อตอบสนองความ ต้องการของมนุษย์ที่มีวิถีการดำ�เนินชีวิตที่เร่งรีบไปจากเดิม การพัฒนาของเทคโนโลยีก็ได้เข้ามามากขึ้น ทำ�ให้เปลี่ยน จากโทรศัพท์ ธรรมดา จากคำ�ที่เรียกว่า Mobile Phone สู่โทรศัพท์ที่เรียกว่า Smart Phone การนำ�เข้ามาซึ่งกลไก
ที่มากขึ้นของโทรศัพท์ ทำ�ให้เป็นที่สนใจต่อตลาดทุกระดับ เป็นอย่างมาก เช่น การรับส่งเมล การใช้อินเทอร์เน็ตบน มือถือ การติดต่อสื่อสารกันผ่าน Social Network ที่ไม่ ว่าจะอยู่มุมไหนของโลก เพียงแค่มีสัญญาณอินเทอร์เน็ตก็ สามารถติดต่อสื่อสารกันได้ไม่เสียเงิน ประโยชน์ ข องสมาร์ ท โฟน ไม่ ใช่ แ ค่ เ พี ย งการโทรเข้ า โทร ออกเพียงอย่างเดียว แต่สามารถนำ�มาประยุกต์ใช้ให้เกิด ประโยชน์อีกมากมาย เช่น -การช่วยบันทึกงานหรือนัดสำ�คัญๆ และแจ้งเตือนได้เมื่อถึง เวลานัด -ช่วยในการทำ�งาน เช่นการรับส่ง E-mail หรือแก้งานแบบ เร่งด่วนสมาร์ทโฟน ก็สามารถทำ�หน้าที่เป็นคอมพิวเตอร์ เครื่องน้อยได้ทันที -ช่วยในการผ่อนคลาย เช่น ดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกม หรือ อ่านข่าว เป็นต้น -ใช้ถ่ายรูป หรือบันทึกวีดีโอ บันทึกเสียงได้ทุกสถานที่ -ทำ�ให้โลกการค้าขายแคบลง ไม่จำ�เป็นต้องเดินทางไปยัง ศูนย์การค้า แต่ก็สามารถสั่งซื่อสินค้าต่างๆ แบบออนไลน์ได้ -ช่วยในการติดต่อสื่อสารกับคนที่เรารัก ไม่ว่าจะอยู่มุมไหน ของโลก ก็ทำ�ให้โลกของการสื่อสารแคบลงได้ทันที นอกจากนี้ ในปัจจุบันสมาร์ทโฟน ยังสามารถทำ�ธุรกรรม ทางการเงินได้โดยไม่ต้องพึ่งธนาคารหรือตู้เอทีเอ็ม ไม่ว่าจะ เป็นการโอนเงิน หรือการชำ�ระเงินผ่านธนาคารต่างๆ และ สมาร์ทโฟนนั้น ยังสามารถมาใช้เป็นบัตรควบคุมการเข้า ออก หรือ Access Card จ่ายค่าอาหาร หรือใช้เป็นบัตรผ่าน เครื่องบินในสนามบินบางประเทศได้อีกด้วย โทรศัพท์ Smart Phone อย่างที่เราเห็น มันมีประโยชน์ต่อ การดำ�เนินชีวิตเป็นอย่างมาก หากใช้ให้เกิดผล แต่ถ้าใช้มัน ในทางที่ไม่ถูกต้องหรือละเลยในข้อมูลส่วนตัวที่บันทึกไว้ ก็ จะนำ�มาซึ่งความผิดพลาดที่ไม่สามารถคาดเดาได้ ทั้งทาง ร่างกายและทรัพย์สิน เช่น - ผลกระทบด้านสายตา เกิดขึ้นเช่นเดียวกับการ ใช้ ค อมพิ ว เตอร์ เ ป็ น เวลานานๆ อาจจะมากกว่ า การใช้
คอมพิ ว เตอร์ ด้ ว ยซ้ำ � เพราะสมาร์ ท โฟน มี ข นาดจอที่ เ ล็ ก ทำ�ให้ต้องเพ่งก่อให้เกิดอาการปวดเมื่อยบริเวณกล้ามเนื้อ ตา ภาวะเห็นภาพซ้อน รวมทั้งอาการตาแห้งและในเด็กเล็ก อาจส่งผลต่อภาวะสายตาสั้นได้ -ผลกระทบด้านอารมณ์ นพ.วชิระ เพ็งจันทร์ รองอธิบดีกรม สุขภาพจิต กล่าวว่า หากเล่นโทรศัพท์มาก แบบขาดไม่ได้ ต้องเพิ่มเวลาในการเล่นทุกวัน โดยวันไหนไม่ได้เล่นก็มักจะ มีอารมณ์ฉุนเฉียว โมโหง่ายสิ่งเหล่านี้เรียกว่ามีพฤติกรรมติด สมาร์ทโฟน มีลักษณะเหมือนการติดเกม หากมีพฤติกรรม แบบนี้ในระยะยาวย่อมส่งผลต่อการดำ�รงชีวิตประจำ�วัน อย่างแน่นอน ทั้งการเรียน การทำ�งาน หากเกิดขึ้นกับวัย เด็กย่อมส่งผลต่อการพัฒนาการตามวัย ขาดทักษะในการ สื่ อ สาร ขาดการสร้ า งสั ม พั น ธภาพที่ ดี ต่ อ สั ง คมรอบข้ า ง เนื่องจากสื่อสารผ่านโทรศัพท์เพียงอย่างเดียว ปัจจัยส่วนนี้ จะทำ�ให้เสียสมาธิได้ อาจรวมถึงผลกระทบทางอารมณ์ของ ผู้ใช้งานเองอีกด้วย -อันตรายจากการชิงทรัพย์ Smart Phone แต่ละ เครื่ อ งนั้ น ย่ อ มมี ร าคาที่ สู ง ตามคุ ณ ภาพการใช้ ง านเสมอ ทำ�ให้เกิดเป็นที่ล่อตาล่อใจต่อผู้ประสงค์ร้าย ผู้ใช้ควรหลีก เลี่ยงการใช้โทรศัพท์ในที่สาธารณะเวลากลางคืนหรือ พื้นที่ เปลี่ยว อาจนำ�มาซึ่งความสูญเสียทั้งร่างกายและทรัพย์สิน -ความสัมพันธ์ที่ขาดหาย หลายคนมักลืมคิดไปว่า การก้มหน้าก้มตา จิ้มแต่โทรศัพท์ อาจทำ�ให้ความสัมพันธ์ ระหว่างบุคคลรอบข้าง และคนที่คุณรักหายไป เพราะหาก คุณมากับเขา แต่กลับให้ความสนใจแต่กับโทรศัพท์เพียง อย่างเดียว เขาเหล่านั้นอาจเกิดความรู้สึกที่ไม่ดีต่อตัวคุณได้ สมาร์ ท โฟน คื อ เครื่ อ งมื อ ติ ด ต่ อ สื่ อ สารที่ มี ป ระโยชน์ ต่ อ มนุษย์ในสังคมปัจจุบันเป็นอย่างมาก ต่อให้มีราคาที่แพง ขนาดไหน แต่ ถ้ า สามารถตอบสนองความต้ อ งการของ บุคคลได้ ก็ไม่ใช่เรื่องยากที่หลายคนจะแสวงหามาครอบ ครอง หากใช้ ใ นทางที่ เ กิ ด ผล ก็ จ ะนำ � มาซึ่ ง ประโยชน์ ที่ มหาศาล แต่ถ้าใช้จนเกินขอบเขต สิ่งที่เรียกว่า โทรศัพท์แสน ฉลาดนั้น ก็จะทำ�ให้คุณดูโง่ลงทันที
6
ชีวิตนักศึกษาในรั้วมหาวิทยาลัยสยาม บ่อย ครั้ ง ที่ ก ารออกเที่ ย วหาของอร่ อ ยมารั บ ประทาน เพื่อเพิ่มพละกำ�ลังในการกำ�จัดความเครียดในการ เรี ย นอาหารที่ มี ค วามอร่ อ ยและรสชาติ ติ ด ปาก ทำ�ให้การรับประทานอาหารมีความสุขสำ�หรับนัก ลิ้มลองความอร่อย นอกจากนี้การรู้จักกับสถานที่ ร้านอาหารเครื่องดื่มและขนมหวานรอบๆ บริเวณ มหาวิท ยาลั ย ให้ เ ป็นแนวทางแสวงหาความอร่อ ย เพื่อเพิ่มเมนูอาหารรสชาติใหม่ในหลากหลายเมนู มารู้จักกับร้านอาหารรอบรั้วมหาวิทยาลัยว่ามีร้าน ไหนเด็ดโดนใจบ้าง ร้ า นแรกมี ชื่ อ ร้ า นที่ เรี ย กกั น ว่ า ร้ า นอาหาร จานโต ตั้ ง อยู่ บ ริ เวณหลั ง มหาวิ ท ยาลั ย เป็ น สถาน ที่ใกล้ๆสำ�หรับคนที่ไม่อยากไปหาร้านอาหารไกล ชื่ อ ร้ า นจานโตก็ ม าจากอาหารที่ ไ ด้ เ ยอะตามชื่ อ ร้ า นปริ ม าณอาหารที่ จั ด หนั ก อย่ า งล้ น หลาม เป็ น ร้ า นอาหารตามสั่ ง ตกแต่ ง ร้ า นสไตล์ ธ รรมชาติ บรรยากาศสุดจะโปร่งสบายภายในร้านกว้างขวางมี บริการทีวีเปิดให้ชมตลอดทั้งวัน เพื่อไม่ทำ�ให้เบื่อใน การรออาหารที่กำ�ลังปรุงแต่งเพื่อเสิร์ฟให้เราอย่าง จัดหนักและจัดเต็ม แต่อย่างไรก็ตามชื่อจานโตก็จะ มาพร้อมกับราคาที่จะโตตามอาหารอยู่นิดหน่อย แต่ ไม่แพงจนเกินไป ไม่มีบริการน้ำ�เปล่าฟรี ควรมีการ บริการด้านน้ำ�เปล่าฟรีสำ�หรับผู้ที่ไม่อยากใช้จ่ายยิบ ย่อย อาจจะมีบริการทั้งสองแบบเครื่องดื่มฟรีหรือ เครื่องดื่มแบบเสีย เงิน ร้านที่สองสเต็กชาลีร้านอาหารจะตั้งอยู่ด้าน หน้ามหาวิทยาลัย เดินไปประมาณ 100 เมตร ผ่าน ปั๊มน้ำ�มันไปก็จะเจอ ร้านจะมีสีที่โดนเด่น มีป้ายหน้า ร้านชัดเจน ร้านจะขึ้นชื่อเรื่องสเต็ก สำ�หรับนักศึกษา กระเป๋าหนักทั้งหลาย ยิ่งเมื่อสั่งสเต็กชาลี ยิ่งมีความ
พ า ชิ ม ร อ บ รั้ ว มหาวิทยาลัยสยาม อร่ อ ยเป็ น พิ เ ศษที่ ม าจากชื่ อ ร้ า นนั้ น เอง รสชาติ ถูกปากปริมาณที่เยอะ กิ น คนเดี ย วท้ อ งแน่ น เอี ย ด นอกจากนี้ ท าง ร้านไม่ได้ขึ้นชื่อเรื่องอาหารคาวเพียงอย่างเดียว มี ทั้งทางด้านอาหารหวานอย่าง เฟรนช์โทสที่มีรสชาติ หวานมันของขนมปังบวกกับรสชาติที่เปรี้ยวจี๊ดของ ไอศกรีมสตอเบอร์รี่ทำ�ให้ เข้ า กั น อย่ า งดี ใครที่ เข้ า ไปจะต้ อ งสั่ ง เมนู นี้ ทุ ก โต๊ ะ บรรยากาศภายในร้านเย็นสบาย ตกแต่งร้านแบบ น่ารัก หวาน เรียบง่าย แต่มองดูแล้วสบายตา แต่ถึง อย่างไรก็ตาม การที่มีข้อดีก็ต้องมีข้อเสียตามมา ซึ่ง ข้อเสียก็มาจาก ผักสลัดไม่ค่อยมีความอร่อยบวกกับ ผักที่ไม่สดทำ�ให้การรับประทานอาหารไม่ได้รสชาติ แบบเต็มที่สักเท่าไหร่ ควรที่จะมีการเอาผักสดใหม่ ทุ ก วั น แช่ ผั ก ไว้ ใ นอุ ณ หภู มิ ที่ เ หมาะสมเพื่ อ รองรั บ บริการได้ตลอดทั้งวัน ร้ า นที่ ส าม ชื่ อ ร้ า นลุ ง หลั ง ป้ า ย ที่ รู้ จั ก กั น ดี ของนักศึกษาที่ กลับบ้านฝั่งตรงข้าม มหาวิทยาลัย ร้านลุงหลังป้ายก็มาจากร้านอาหารที่อยู่หลังป้ายรถ ประจำ�ทาง เป็นที่สังเกตง่ายๆ ร้านนี้จะขึ้นชื่อเรื่อง อาหารตามสั่งและก๋วยเตี๋ยวเรือ จุดเด่นคือก๋วยเตี๋ยว
เรือสูตรเด็ดของลุงเจ้าของร้าน เพราะปริมาณที่เยอะ จนล้นชามบวกกับราคาที่ไม่แพง ทำ�ให้รับประทาน เท่าไหร่ก็ไม่รู้สึกเบื่อ ตลอดจนโปรโมชั่นของทางร้าน เมื่อกินฟรีครบ 10 ชาม ฟรีโค้ก 1 ลิตร จึงทำ�ให้มี ทั้ ง นั ก ศึ ก ษาหญิ ง และชายต่ า งแวะเวี ย นกั น ไปใช้ บริการอยู่เป็นประจำ� และเนื่องจากร้านอยู่ริมถนนก็ มักจะหนี ไม่พ้นกับมลพิษจากควันรถที่ลอยเข้ามาร บกวน รวมถึงเสียงรถที่ผ่านไปมา ควรมีการเปิดเพลง สบายๆเพื่อลดเสียงจากภายนอก เพราะเพลงจะช่วย ผ่อคลายความรู้สึกให้ดีขึ้น ร้ า นที่ สี่ ร้ า นนํ้ า ปั่ น ด้ า นหน้ า มหาวิ ท ยาลั ย อยู่ ท่ า มกลางความหิ ว กระหายของเหล่ า บรรดา นักศึกษาที่ผ่านไปผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นนักศึกษาที่ กำ � ลั ง เดิ น ทางมาเรี ย นก็ จ ะต้ อ งแวะเวี ย นกั น มาสั่ ง น้ำ�เพื่อดับกระหาย ดื่มด่ำ�ความสดชื่นให้กับร่างกาย ก่อนเข้ามหาวิทยาลัย เมนูยอดนิยมสำ�หรับหนุ่มสาว นักศึกษา ม.สยาม ให้ความสนใจเป็นพิเศษนั่นก็คือ โกโก้ใส่ไข่มุก นมรสช็อกโกแลตผสมไข่มุกเม็ดโตสี ดำ�เงาผสมกันอย่างลงตัว ทำ�ให้เป็นที่ถูกปากถูกใจ ของใครหลายคน แต่ทางร้านมีเมนูน้ำ�ที่น้อยเกินไป จึงทำ�ให้มีตัวเลือกไม่มากนัก สำ�หรับคนชอบลิ้มลอง เครื่ อ งดื่ ม ที่ แ ปลกใหม่ ทางร้ า นควรเพิ่ ม เมนู น้ำ � ให้
7
มากกว่านี้และควรเป็นรสชาติที่แปลกใหม่ไม่ซ้ำ�จำ�เจ ร้านที่ห้า ร้านโตเกียวรถเข็นที่ตั้งอยู่ตรงหน้า มหาวิทยาลัย เป็นร้านรถเข็นเล็กๆมาพร้อมกับคุณลุง ตัวเล็ก ดูภายนอกอาจจะไม่มีความโดดเด่นน่าสนใจ มากนัก แต่เมื่อได้เข้าไปสัมผัสลิ้มลองในรสชาติที่เชื่อ ได้เลยว่าต้องติดอกติดใจ ในเรื่องของไส้ที่มีความเข้ม ข้นที่ถูกสอดใส่เข้ามาอย่างหนาแน่น มาพร้อมกับแป้ง ที่ บ างนุ่ ม กลิ่ น ไอลอยเรี ย กน้ำ � ย่ อ ยได้ ดี ใ นเมนู นิ ย ม อย่าง “โตเกียวไส้ไข่” ร้านสุดท้าย ร้านที่หก ชื่อร้านถั่วงอก ร้านจะ อยู่ ท างด้ า นหลั ง มหาวิ ท ยาลั ย ออกมาเจอทางแยก ก็เลี้ยวขวา ประมาณ 50 เมตร หน้าร้านจะมีภาพ เขียนและอักษรที่เป็นแบบของทางร้าน ร้านมีการจัด สไตล์ที่ดูเหมือนอยู่ในป่าจริงๆ เต็มไปด้วยเหล่าบรรดา พืชพันธุ์ไม้ต่างๆ ทำ�ให้บรรยากาศในร้านดูร่มรื่นสบาย หูสบายตา ร้านจะเป็นร้านไม่เล็กและไม่ใหญ่ มีโต๊ะ บริการไม่มากนัก เมื่อเดินเข้าไปอีกจะพบห้องสำ�หรับ รับประทานอาหารแบบเงียบๆ ส่วนใหญ่เป็นที่ประจำ� ของอาจารย์ นั ก ศึ ก ษาจะนั่ ง รั บ ประทานอาหารอยู่ ด้านนอกชื่นชมบรรยากาศที่สดชื่น เมนูของร้านจะเป็น อาหารตามสั่ง , ก๋วยเตี๋ยว, และขนมหวาน
เป็นที่ถูกใจของนักศึกษาเพราะราคาอาหารไม่แพง ประมาน 35-40 บาท พร้อมทั้งอาหารที่มีปริมาณมาก และรสชาติที่อร่อยแบบลงตัว อาหารเป็นพลังงานสำ�คัญสำ�หรับเพิ่มกำ�ลัง ให้ดำ�เนินชีวิตต่อไปในแต่ละวัน การที่ได้รับประทาน อาหารที่ถูกปากและถูกใจกับเมนูอาหารใหม่ๆ ถือ เป็นวิธีเพิ่มความสุขให้กับชีวิตและพร้อมที่จะทำ�งาน หรือนั่งเรียนตลอดทั้งวัน การแนะนำ�ร้านอาหารนี้ เป็นการชี้ให้เห็นถึงทางเลือกสำ�หรับการเลือกบริโภค อาหารที่ถูกหลักอนามัย รวมถึงการแนะนำ�ให้สำ�หรับ ผู้ที่ต้องการหาร้านอาหารแปลกใหม่ และมีความน่า สนใจรวมถึงความอร่อยที่จะติดตาตรึงใจไปตลอด ในฐานะ นักศึกษามหาวิทยาลัยสยามคนหนึ่ง เราจึงชอบรับประทานอาหารรอบมหาวิทยาลัยมาก ใครว่าร้านไหนดี ร้านไหนเด่น ดัง อร่อย เราก็จะตาม ไปกิน zอัมรินทร์ เปี่ยมจิตต์y
“นํ้าอัดลม” มีประโยชน์ หรือ ให้โทษต่อร่างกาย….! “น้ำ�อัดลม” ที่ใครๆก็คิดว่าดื่มแล้วทำ�ให้ สดชื่น คลายร้อนได้และสามารถหาซื้อได้ง่าย ตามร้ า นสะดวกซื้ อ ทั่ ว ไป มี ใ ครเคยคิ ด ว่ า บ้ า ง ไหมว่ า ถ้ า ดื่ ม มากๆจะทำ � ให้ ร่ า งกายเราเป็ น อย่างไร ? มันมีประโยชน์ต่อร่างกายของเรามาก แค่ไหน ?
การที่เราดื่มน้ำ�อัดลมมากๆจะทำ�ให้กระดูกพรุน และจะทำ�ให้เป็นกรดไหลย้อน ถ้าเราดื่มตอนที่ท้องว่างๆ มันก็จะให้แสบท้อง ท้องอืดและกัดกระเพราะเราอีก ยิ่ง ถ้าเราดื่มเป็นประจำ�ทุกวันก็จะยิ่งทำ�ให้สุขภาพร่างกาย ของเราแย้ลง และยังมีกรดคาร์บอนิคที่จะเข้าไปกัดฟัน ของเราทำ�ให้ฟังผุได้ แต่ถึงยังไง “น้ำ�อัดลม” ก็ยังเป็นที่นิยมของคน ทุกวัย ไม่ว่าจะเด็กหรือผู้ใหญ่ก็ชอบกันทั้งนั้น เพราะ สมั ย นี้ น้ำ � อั ด ลมมี ห ลายรสชาติ ใ ห้ เ ลื อ กมากมายแถม ยังหาซื้อได้ง่ายอีกด้วย และถ้าอากาศร้อนๆน้ำ�อัดลม เย็นๆเนี้ยแหละจะเป็นสนใจมากกว่านํ้าเปล่าอีก เพราะ ดื่มแล้วทำ�ให้รู้สึกสดชื่น ดับความร้อน มีรสชาติที่หวาน ถู กปากคนบริ โ ภค จนแทบจะดื่ ม แทนนํ้ าเปล่ ากั น เลย โดยไม่รู้ว่าโทษของมันร้ายแรงแค่ไหน ? ซึ่งไม่มีประโยชน์ ต่อร่างกายของเราเลย แต่ถ้าเราดื่มอย่างถูกวิธีมันก็จะ ไม่ทำ�ให้ร่างกายของเราเกิดอันตรายในภายหลังก็ได้ แค่ เราต้องสนใจและศึกษาว่านํ้าอัดลมนั้นมันมีประโยชน์ หรือโทษอย่างไรบ้างและจำ�เป็นต่อร่างกายของคนหรือ เปล่า ? ฉะนั้นการที่เราจะดื่มนํ้าอัดลมก็ควรที่จะศึกษา ก่อนว่ามันมีประโยชน์หรือโทษมากน้อยแค่ไหน จะทำ�ให้ ร่างกายของเราเป็นอันตรายหรือเปล่า และที่สำ�คัญไม่ ควรดื่ ม ในตอนที่ ท้ อ งว่ า งๆเพราะมั น จะทำ � ให้ กั ด กระ เพราะและจะแสบท้ อ งได้ ถ้ า ยิ่ ง ดื่ ม บ่ อ ยๆก็ จ ะทำ � ให้ กระดูกพรุน ใช่ว่าจะมีแต่โทษประโยชน์ของมันก็มีดื่ม แล้วสดชื่น รสชาติหวานถูกปาก แค่เราต้องดื่มอย่างพอดี ไม่มากเกินไป และถ้าคนที่มีปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพก็ไม่ ควรดื่มนํ้าอัดลมอาจจะทำ�ให้สุขภาพแย้ลงกว่าเดิม “น้ำ� อัดลม” มีทั้งโทษและประโยชน์ ถ้าเรารู้ว่าโทษมันคือ อะไร? ประโยชน์มันคืออะไร? ก็จะทำ�ให้ร่างกายของเรา แข็งแรงเหมือนเดิมก็ได้ แต่ถ้าเราไม่กินน้ำ�อัดลมเลยก็ยิ่ง จะทำ�ให้ร่างกายของเราแข็งแรง ไม่ทำ�ให้กระดูกเสื่อม ก็วัยอันควร เราควรที่จะรู้จักการดูแลสุขภาพร่างกาย ของตนเอง ต้องกินอย่างมีสติไม่ใช่เพราะว่ามันมีรสชาติ ที่หวานถูกปากและยังมีหลากหลายรสชาติให้เหลือ ถ้า ยิ่งกินมากก็จะทำ�ให้กระดูกเสื่อมลงเรื่อยๆไม่ใช่ว่ามันจะ เป็นอันตรายแต่ก็ไม่ควรกินบ่อยๆ กินได้แต่ต้องดูขนาด ที่เราจะกินมากไปมันก็ไม่ดีต่อกระเพาะลำ�ไส้ของเราเอง ควรคิดให้ดีก่อนว่าแค่รสชาติที่หลากหลายมีสีสันที่น่า กินนั้นมันให้โทษกับเรามากแค่ไหน ฉะนั้นควรคิดให้ดีๆ ว่า”นํ้าอัดลม” ให้ประโยชน์หรือให้โทษต่อร่างกายของ เรากันแน่ คิดให้ดีๆก่อนบริโภคเพื่อตัวเรา zอัมรินทร์ เปี่ยมจิตต์y
8
Apple เปิ ด ตั ว iPhone5s และ 5c แววจะรุ่ ง หรื อ ร่ ว ง
สาวก Apple เตรียมเฮ iPhone 5s และ 5c บุ ก เมื อ งไทยปลายปี นี้ ลุ้ น จะรุ่ ง หรื อ ร่ ว ง เมื่อเปิดตัวสินค้าทั้ง2 ชนิดออกมาพร้อมกัน
เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2556 Apple เปิดตัว iPhone 5s และ 5c อย่างเป็นทางการที่สำ�นักงานใหญ่ของ Apple ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยจะวางขายจริงวันที่ 20 กันยายนนี้ ใน 9 ประเทศ ได้แก่ ประเทศสหรัฐอเมริกา,ออ สเตรเลีย,จีน,แคนาดา,ฝรั่งเศส,เยอรมณี,ญี่ปุ่น,สิงค์โปร์และ
สหราชอาณาจักร คาดว่าจะเข้ามาตีตลาดที่ประเทศไทย ช่วงเดือนธันวาคมปีนี้ จากการที่ Apple เปิดตัว iPhone 5s และ 5c มาพร้อมกันนั้นทำ�เอาสาวก Apple หลายคน ถึงกับงงว่า “Apple กำ�ลังคิดอะไรอยู่” ถึงได้เปิดตัวสินค้า ทั้ง 2 รุ่นนี้มาพร้อมกัน จากการสัมภาษณ์ คุณขจร เจียรนัยพานิชย์ แฟนพันธุ์ แท้ สตีฟ จ็อบส์ ได้ให้สัมภาษณ์ว่า “การที่ Apple เปิด ตัว iPhone 5s และ 5c มาพร้อมกันนั้นถือเป็นแนวทาง การขายใหม่ของ Apple ที่จะเปิดขายiPhone ปีละ 2 รุ่น แทนที่จะเป็นรุ่นเดียวต่อปี การที่ Apple มาใช้กลยุทธ์นี้ก็ เผื่อวันหนึ่งสินค้า iPhone 5s ขาดตลาดแต่ก็ยังมี iPhone 5c มาขายแทนได้แถมผลิตง่ายกว่าเยอะ สินค้าทั้ง2 ชิ้นนี้ มีอะไรที่แตกต่างกันมากไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยีของ 5s ล้า หน้ามากทั้ง ชิป 64-bit ตัวแรกของโลก,กล้องใหม่แถมตัว เครื่องมีความเร็วมากขึ้น แบตเตอรี่สามารถใช้ได้นานขึ้น กว่าเดิม 10% รองรับได้ 250 ชั่วโมง (เดิม 225 ชั่วโมง) กล้องหน้า 1.2 ล้านพิกเซล กล้องหลัง 8 ล้านพิกเซล แฟลช แบบคู่ตัวใหม่ ถ่ายกลางคืนได้ดีขึ้น เพิ่มระบบถ่ายภาพรัว 10 ภาพต่อวินาทีแถมยังสามารถเลือกภาพที่ดีที่สุดได้อีก ด้วย รองรับการถ่ายภาพ Super Slow Motion120 ความ จุ 16GB 32 GB 64 GB แถมกลับมาคราวนี้ Apple ยังมา พร้อมระบบสแกนลายนิ้วมือ 360 องศาหมุนทางไหนก็ สามารถสแกนได้ ส่วน iPhone 5c เทคโนโลยีเหมือนกับ iPhone5 ทุกอย่างเพียงแค่ตัวเครื่องเป็นพลาสติกผลิตจาก วัสดุโพลีคาร์บอเนตแถมยังมีสีสันที่สดใสและยังมีให้เลือก หลากหลายสี กล้องหน้า1.2 ล้านพิกเซล กล้องหลัง 8 ล้าน พิกเซล ความจุ 16GB 32GB และใช้ชิป Apple A6 เหมือน iPhone5 แถม Apple มาพร้อม ios7+iwork+iLife เป็น ซอฟต์ แวร์ ที่ น่ า กลั ว มาก ส่ ว นตั ว คิ ด ว่ า ทั้ ง สองตั ว ยั ง คงมี
ความน่าสนใจโดยเฉพาะ 5c น่าจะขายดีในประเทศไทย โดยเฉพาะกลุ่มนักเรียน นักศึกษา เพราะว่ามีสีสันที่สวยงาม แถมยังมีให้เลือกหลายสี แล้วราคาก็อยู่ในเกณฑ์ที่ใช้ได้ ถึง แม้ว่าตัว iPhone 5c จะใช้พลาสติกมาเป็นวัสดุก็ไม่ใช่เรื่อง ผิดอะไร ในเมื่อ Samsung ,Nokia ทุกคนก็ใช้พลาสติกกัน หมดแถมราคาก็ยังเหมาะสมกับการรอคอยเพราะ Apple ไม่เคยขายของถูกราคาสินค้าของ Apple อยู่ในเกณฑ์นี้อยู่ แล้ว ราคาที่แน่นอนของ iPhoneทั้ง 2 รุ่นในประเทศไทย iPhone 5c ราคาอยู่ที่ 20,700 บาท ส่วน iPhone 5s ราคา อยู่ที่ 24,550 บาท เพราะเหตุนี้จึงทำ�ให้ iPhone5s และ 5c ออกมาจะต้องรุ่งแน่นอน” จากการสัมภาษณ์ผู้ใช้สินค้าของ Apple อย่างคุณ ปริยากร จารุปาณ นักศึกษาคณะศิลปศาสตร์ ให้ความเห็น ว่า “ไม่ว่า Apple จะออกสินค้ามากี่อย่างก็ได้ผลตอบรับที่ดี มาตลอดไม่เคยตกยุคตกสมัยและแถมยังเป็นที่ต้องการของ คนทั่วไปอีกด้วยเพราะสินค้าแต่ละอย่างที่ออกมาสามารถตี โจทย์ของคนทั่วไปได้เป็นอย่างดีไม่ว่าจะออกมากี่อย่างคน ก็ให้ผลตอบรับที่ดีแถมดีไซน์ของสินค้าที่ออกมาเก๋ไก๋ชวน น่าซื้อ Apple มาคราวนี้ออกสินค้าอย่าง iPhone 5s และ iPhone 5c มาพร้อมกัน จนฉันคิดแล้วว่าอยากจะเปลี่ยน โทรศัพท์ที่ใช้อยู่ในปัจจุบันให้กลายเป็น iPhone 5s หรือไม่ ก็เป็น iPhone 5c ภายในปลายปีนี้ เพราะฉันคิดว่าถ้าไม่มี ครอบครองเหมือนกับขาดอะไรไปเสียอย่างเพราะสินค้า ของ Apple นั้นสามารถทำ�อะไรได้หลายอย่าง” นอกจาก นี้เธอยังกล่าวอีกว่าเธอถือเป็นสาวกตัวจริงของ Apple เพราะไม่ว่า Apple จะออกสินค้าตัวไหนมาเธอก็จะซื้อมา ครอบครอง
กระบองเพชร...เพื่อสุขภาพ? หลายคนที่ใช้เวลาอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานต้องมีอาการปวดหัว ปวดตากันบ้าง เชื่อหรือไม่ว่า ต้นกระบองเพชรพืชสีเขียวที่มีหนามเต็มต้นสามารถช่วยคุณได้ จากการดูดซับรังสีที่กระจายออกมา จากหน้าจอคอมพิวเตอร์ ต้นกระบองเพชร หรือที่รู้จักในชื่อ แคลตัส(caltus) เป็นพืชชนิดหนึ่งที่มีสีเขียวมีหนามแหลมพบอยู่มากในทะเลทราย ถึงแม้ว่าทะเลทรายจะแห้งแล้งและกันดาร ก็สามารถยืนอยู่ได้โดยไม่ตาย เพราะหนามแหลมที่มีอยู่โดยรอบต้น กระบองเพชรนั้นคือใบ เป็นส่วนที่ถูกวิวัฒนาการให้ขนาดเล็กลงเรื่อยๆ เพื่อลดการคายนํ้าทางปากใบ จนกลายเป็น หนามแหลมอย่างที่ได้พบเห็นทั่วไปในปัจจุบัน เนื่องจากมีการเผยแพร่บทความเกี่ยวกับความเจ็บป่วยจากจอคอมพิวเตอร์ของโรเจอร์ (Roger Coghill) โดยโรเจอร์ได้ เขียนอ้างอิงถึงผลการวิจัยของสถาบัน Recherches en Geobiologie สวิตเซอร์แลนด์และนักวิจัย ในอเมริกา โดยนำ�ต้นกระบองเพชรความสูง 40 เซนติเมตรตั้งไว้หน้าจอคอมพิวเตอร์ของผู้ที่มีอาการปวดหัวและ ความอ่อนเพลีย พบว่า สามารถช่วยบรรเทาอาการปวดศีรษะและดวงตาได้้ นอกจากนี้นายแพทย์(จักษุ)ศักดิ์ชัย ใช้จิกจา ผู้อำ�นวยการ มูลนิธิเทียนฟ้า อธิบายผ่านเว็บไซด์เพื่อสุขภาพว่า “รังสีอัลตร้าไวโอเลต หรือรังสียูวี รังสีเหนือม่วง พบในแสงแดด หลอดไฟ โทรทัศน์ และคอมพิวเตอร์ ซึ่งอย่างหลัง คนเราสัมผัสใกล้ชิดมากกว่าอย่างอื่น การใช้คอมพิวเตอร์นานๆ ก่อให้เกิดปัญหาระคายเคืองเยื่อบุตา เคืองและ แสบตา ส่งผลระยะยาวอาจก่อให้เกิดโรคต้อกระจกเร็วกว่าปกติหรือมีปัญหาประสาทเสื่อม โดยการใช้สายตา เพ่งคอมพิวเตอร์เป็นระยะเวลานานทำ�ให้กล้ามเนื้อตาอ่อนล้า ปวดศีรษะ อาเจียนอาจถึงขั้นหมดสติ เมื่อใช้ติดต่อ กันเป็นเวลานานจะทำ�ให้เกิดภาวะอาการสายตาสั้นชั่วคราว แต่ความจริงแล้วเกิดจากการเปลี่ยนแปลงสายตา ในปัจจุบันมีเทคโนโลยีก้าวหน้าจึงมีระบบคอมพิวเตอร์รุ่นใหม่มีระบบกรองรังสี ส่วนตัวเห็นว่ากระบองเพชร สามารถดูดรังสีได้ เพราะว่าเป็นพืชที่มีสีเขียวย่อมมีคลอโรฟิลล์รับแสงแดดอยู่แล้ว จึงมีโอกาสในการรับรังสีจาก จอคอมพิวเตอร์ได้” ถึงแม้ว่าต้นกระบองเพชร นั้นสามารถช่วยบรรเทาอาการปวดศีรษะและปวดตาได้ แต่คงไม่สามารถดูดซับหรือ ป้องกันเราไว้ได้ทั้งหมด ย่อมหมายความว่าคนที่จะดูแลสุขภาพของตัวเราได้ดีที่สุดก็คือตัวเราเอง ควรจัดสรรเวลา ให้เหมาะสมในการใช้คอมพิวเตอร์ หรือการใช้อุปกรณ์ที่ป้องกันรังสีจากจอคอมพิวเตอร์
9
เปิดประตูสู่ประสบการณ์ครั้งยิ่งใหญ่ที่ “สยามเซ็นเตอร์” ส ย า ม เซ็ น เ ต อ ร์ เ ป็ น ศู น ย์ ก ล า ง ก า ร ค้ า ข น า ด ใ ห ญ่ สยามเซ็นเตอร์ได้ปรับปรุงในปี พ.ศ. 2540 ให้ล้ำ�ยุคมาก ขึ้น เป็นการปฏิวัติวงการศูนย์การค้าและการค้าปลีกของ โลก การปรับรูปลักษณ์ที่ทันสมัยปรับให้เข้ากับยุคที่มีความ รวดเร็วล้ำ�หน้าอย่างต่อเนื้อง การน้ำ�เอาศิลปะบวกเข้ากับ แฟชั่นและเทคโนโลยีที่มีความล้ำ�ยุคทำ�ให้สยามเซ็นเตอร์ เป็นศูนย์การค้าที่มีความยิ่งใหญ่และการจัดสินค้าที่ทันสมัย ติดระดับโลก สยามเซ็นเตอร์เป็นศูนย์การค้าเปิดให้บริการครั้ง แรกเมื่อปี พ.ศ.2516 และได้ปรับปรุงครั้งแรกเมื่อ พ.ศ. 2534 ปรับปรุงครั้งที่สองเมื่อ ปี พ.ศ. 2540 ปรับปรุงครั้ง ที่ 3 ระหว่างมกราคม-ตุลาคม พ.ศ. 2548 และปรับปรุงครั้ง ที่4 ระหว่างเดือนกรกฏาคม-ธันวาคม พ.ศ. 2555 ก่อนการ ปรับปรุง ในปี2555 จากอดีต มีการจัดแผนกการขายสินค้า จัดพื้นที่อยู่ประมาน200-400 ตารางเมตร การจัดสินค้าและ การวางแผนกในอดีต ชั้นที่1 คุณจะพบกับสินค้าแฟชั่นสไตร์ ต่างๆ จากนักออกแบบของไทย รวมถึงสินค้าแบรนด์เนม ที่ รวบรวมสินค้าชื่อดังมากมายไว้ที่นี่อย่างมาก นอกจากจะมี สินค้าประเภทอุปกรณ์กีฬาและเสื้อผ้าที่จัดแสดงไว้ในนั้น ชั้นที่2 จะรวบรวมสินค้าทั้งในไทยและต่างประเทศ พื้นที่ จัดเต็มไปด้วยสินค้า ประเภท กระเป๋า รองเท้า และเครื่อง ประดับมากกว่า 20 แบรนด์ รวมทั้งผลิตภันทร์คอสเมติก ที่มีมากเพื่อนตอบโจทย์ความต้องการของวัยรุ่นที่ต้องการ สินค้าที่หลากหลาย มีพื้นความสวยความงาม Beauty shop และเปิดสอนการเสริมความสวยความงาม ตลอด จนการแต่งหน้าทำ�ผม ที่ชั้น 3 จะเป็นพื้นที่จัดจำ�หน่าย และแสดงสินค้าและผลงานของนักออกแบบหน้าใหม่ของ ไทยมาอย่างไม่ซ้ำ�หน้า เป็นการ หมุ่นเวียนดีไซน์เน่อร์ ให้ มาแสดงผลงานที่หลากหลาย ชั้นที่4 มีการรองรับด้วยร้าน อาหารที่หลากหลายในพื้นที่ที่เต็มไปด้วยความอิ่มอร่อย สยามเซ็นเตอร์เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในวันที่ 11 ม.ค 2556 ที่ผ่านมา การปรับปรุงทำ�ให้มีความล้ำ�สมัยมาก ขึ้น สยามเซ็นเตอร์เป็นศูนย์การค้าปลีกได้แบ่งแยกสินค้า ไว้เป็นแผนก ดังนี้ ชั้น 1เมื่อย่างกายเข้าไปแล้วจะพบ กับ Fashion avenue ที่มีความละลานตาความยิ่งใหญ่กั บแฟล็กชิปสโตร์ของแบรนด์ระดับโลกที่มาในลุกค์โปร่งใส สบายตา แฟล็กชิปสโตร์ Zenko เป็นผุ้นำ�ด้านการดีไซน์ ระดับเอเชีย ท่านจะได้ชมการออกแบบจากประเทศฝรั่ง เศษเป็นการแสดงสีสันของป่ากับการผสมผสานชุมชนเมือง และลวดลายเลขาคณิตลักษณ์ของลายพิมพ์แนวภาพลวงตา การพรางตัวให้กับธรรมชาติผสมสีให้ดูลายตาและสามารถ หลอกตาได้อย่างดี ชั้นที่2 คุณจะได้พบกับ Fashion Galleria ร้าน ค้ า มี ก ารออกแบบให้ มี รู ป ทรงที่ แ ปลกใหม่ แ ปลกตาทาง และทั น สมั ย เน้ น ด้ า นโทนสี ข าวดำ � มี สิ น ค้ า แบรนด์ จ าก อินเตอร์เสื้อผ้าและแอ็คแซสเซอรี่ ของกลุ่มแฟชั่นและกลุ่ม คอสเมติกเป็น Concept Shop ชั้นที่3 Fashion Visionary ท่านจะพบกับแฟชั่นดีไซน์เนอร์แบรนด์ต้นๆ ของเมือง ไทยที่เต็มไปด้วยความสวยและความงามที่หาจากที่ไหนไม่ ได้อีกแล้ว มีสินค้าจากแบรนด์ของไทยอย่างครบครันมีการ ตกแต่งร้านส่วนใหญ่เป็นแบบแฟล็กชิปสโตร์มีความโดน ทางเอกลักษณ์ ชั้น 3 จะเป็นการออกแบบออร์แกนนิคลุกส์ ใช้เป็นการตกแต่งด้วยไม้และทองแดงทำ�ให้มีความโดดเด่น เอกลักษณ์เฉพาะและน่าจดจำ� ชั้นที่4 Food Factory ที่
เต็มไปด้วยร้านอาหารมากมาย อย่างภัตตาคารชื่อดัง ร้าน อาหารระดับนานาชาติ เป็นที่ศูนย์รวมความอร่อยจากร้าน อาหารสูตรเด็จดังมากมายจนเลือกรับประทานกันไม่ถูกเลย ทีเดียวเต็มอิ่มกับบรรยากาศสุดแสนจะโปร่งสบายตาพร้อม กับวัสดุที่แปลกใหม่ทำ�ให้มีบรรยากาศในการรับประทาน หรือดื่มกับอย่างสนุกสนาน เปิดบริการตอนเที่ยงคืน เป็นต้นไปสยามเซ็นเตอร์ไม่ใช่แหล่งช็อปปิ้งเพียงอย่างเดียว
การนำ � เอาศิ ล ปะมาบวกกั บ เทคโนโลยี ที่ ทั น สมั ย ทำ � ให้ สยามเซ็นเตอร์เป็นแหล่งศูนย์รวม สินค้าของไทยและนาน ชาติทำ�ให้การช็อปสินค้าเป็นไปอย่างเพลิดเพลินสบาย ตา รวมถึงบรรยากาศที่มีความแปลกให่ของการออกแบบ สุดจะบรรยาย จากจิตกรรมต่างประเทศที่มีความแปลก ใหม่ สำ�หรับนักช็อปที่ชื่นชอบการซื้อสินค้าเป็นชีวิตจิตใจ สยามเซ็นเตอร์จะตอบโจทร์ของคุณได้อย่างไม่น่าเชื่อ
ภาพบน ศูนย์การค้าสยามในอดีต เป็นศูนย์รวมจุดรวมเเฟชั่นที่เป็นลักษณะตึกแห่งเเรกของไทย ภาพบน สยามเซ็นเตอร์ ยังคงเป็นเเหล่งแฟชั่นในปัจจุบัน
10 u ข่าวต่อหน้า
1
คณะนิเทศศาสตร์มหาวิทยาลัยสยามได้จัดงานนิเทศสัมพันธ์ มีการแข่งขันกีฬาแชร์บอลหญิงและฟุตซอล ชาย โดยสาขาหนังสือพิมพ์และสิ่งพิมพ์ได้แชมป์แชร์บอลหญิงหลังเอาชนะสาขาวิชาสื่อดิจิทัลขาดลอย ส่วนแชมป์ฟุตซอลชายได้แก่สาขาโฆษณา ที่เอาชนะสาขาวิทยุโทรทัศน์ภาพยนตร์ไปได้ เมื่อวันที่ 21 กันยายน 2556 ณ ศูนย์กีฬา มหาวิทยาลัยสยาม คณะนิเทศศาสตร์ได้มีการจัดการ แข่งขันกีฬานิเทศสัมพันธ์ขึ้น เพื่อสร้างความสัมพันธ์อันดี ของชาวคณะนิเทศศาสตร์ มีการแข่งขันกีฬา2ประเภทได้แก่ แชร์บอลหญิง และฟุตซอลชาย บรรยากาศภายในคับคั่งไป ด้วยนักศึกษาคณะนิเทศศาสตร์ ชั้นปี3 และ ปี4 ของแต่ละ สาขาวิชาจำ�นวนมาก โดยในคณะนิเทศศาสตร์มีสาขาอยู่ ทั้งหมด 6 สาขาวิชา ได้แก่ สาขาวิทยุโทรทัศน์ภาพยนตร์, สาขาโฆษณา, สาขาประชาสัมพันธ์ ,สาขาสื่อดิจิทัล สาขา การสื่อสารการแสดง สาขาหนังสือพิมพ์และสิ่งพิมพ์ และ นักศึกษาปริญญาโท ที่เข้าร่วมการแข่งขันกีฬา โดยในกีฬา แชร์บอล มีสาขาที่ร่วมส่งทีมเข้าทำ�การแข่งขันอยู่ 6 ทีม ได้แก่ สาขาโฆษณา สาขาสื่อดิจิทัล สาขาการสื่อสารการ แสดง สาขาหนังสือพิมพ์และสิ่งพิมพ์ สาขาประชาสัมพันธ์ และทีมของนักศึกษาปริญญาโท โดยในคู่แรกเป็นการพบ
กันของ ทีมสาขาโฆษณากับทีมนักศึกษาปริญญาโท ผลการ แข่งขันจบลงด้วยการเสมอกันในเวลา 24 ต่อ 24 ทำ�ให้ต้อง ชู้ตลูกโทษตัดสิน เป็นสาขาโฆษณาที่แม่นกว่า เอาชนะไปได้ 2-0 ลูกผ่านเข้ารอบต่อไป ไปพบกับสาขาวิชาสื่อดิจิทัล ที่ได้ ชนะบายในรอบแรกเพราะ สาขาวิทยุโทรทัศน์ภาพยนตร์ ไม่มีนักกีฬามาแข่ง คู่ที่สองเป็นการพบกันระหว่าง สาขา หนังสือพิมพ์และสิ่งพิมพ์กับสาขาประชาสัมพันธ์ เป็นสาขา หนั ง สื อ พิ ม พ์ แ ละสิ่ ง พิ ม พ์ เ อาชนะไปด้ ว ยแต้ ม ที่ ค่ อ นข้ า ง ห่าง 32 ต่อ 12 ผ่านเข้ารอบต่อไปพบกับสาขาการสื่อสาร การแสดงที่จับสลากได้บายมาในรอบแรก รอบรองชนะเลิศ คู่แรกเป็นการพบกันของสาขาสื่อดิจิทัลกับสาขาโฆษณา เป็นสาขาสื่อดิจิทัลที่เอาชนะไปด้วยคะแนน 22 ต่อ 14 ได้ ผ่านเข้าไปรอในรอบชิงชนะเลิศเป็นทีมแรก รอบรองชนะ เลิศคู่ที่สองเป็นการพบกันระหว่าง สาขาหนังสือพิมพ์และ สิ่งพิมพ์กับสาขาการสื่อสารการแสดง ผลการแข่งขันสาขา
ผัดกะเพรา......อาหารสิ้นคิดที่ไม่ธรรมดา
หนังสือพิมพ์และสิ่งพิมพ์เอาชนะไปด้วยคะแนนที่ห่าง 30 ต่อ 2 ผ่านเข้าไปชิงชนะเลิศกับสาขาสื่อดิจิทัล รอบชิงที่ 3 เป็นการพบกันระหว่างสาขาการสื่อสารการแสดงกับสาขา โฆษณา โดยสาขาการสื่อสารการแสดงเอาชนะไปด้วย คะแนน 22 ต่อ 8 คว้าที่ 3 ไปครอง มาถึงคู่ชิงชนะเลิศเป็นการ พบกันของสาขาหนังสือพิมพ์และสิ่งพิมพ์พบสาขาสื่อดิจิทัล โดยเป็นสาขาวิชาหนังสือพิมพ์และสิ่งพิมพ์ที่ปราบสาขาสื่อ ดิจิทัลไปด้วยคะแนนที่ขาดลอย 56 ต่อ 10 คว้าตำ�แหน่ง ชนะเลิศไปครอง ในส่วนของกีฬาฟุตซอลชายมีสาขาเข้า ร่วมการแข่งขัน5ทีม ได้แก่ สาขาวิทยุโทรทัศน์ภาพยนตร์ สาขาโฆษณา สาขาการสื่อสารการแสดง สาขาสื่อดิจิทัล และ สาขาหนังสือพิมพ์และสิ่งพิมพ์ โดยคู่แรกเป็นการ พบกันระหว่าง สาขาสื่อดิจิทัล พบ สาขาวิทยุโทรทัศน์ ภาพยนตร์ เป็นสาขาสื่อดิจิทัลที่เอาชนะไปได้ 2 ประตูต่อ 0 คู่ที่ 2 เป็นการพบกันระหว่าง สาขาหนังสือพิมพ์และสิ่ง พิมพ์พบสาขาการสื่อสารการแสดง เป็นสาขาหนังสือพิมพ์ และสิ่งพิมพ์เอาชนะไปอย่างขาดลอย 7 ประตูต่อ 0 เข้า รอบไปพบกับสาขาโฆษณา ทีมเต็งแชมป์ในรอบรองชนะ เลิศคู่แรกเป็นการพบกันระหว่างสาขาหนังสือพิมพ์และสิ่ง พิมพ์พบสาขาโฆษณาที่จับสลากได้บายมาในรอบแรก ผล การแข่งขันเป็นสาขาโฆษณาเอาชนะสาขาหนังสือพิมพ์และ สิ่งพิมพ์ไปได้ 4 ประตูต่อ 1 เข้าไปรอชิงชนะเลิศเป็นทีม แรก รอบรองชนะเลิศคู่ที่ 2 เป็นการพบกันระหว่างสาขา วิทยุโทรทัศน์ภาพยนตร์พบสาขาสื่อดิจิทัล ผลการแข่งขัน จบลงด้วยการที่เสมอกันในเวลา 3 ประตูต่อ 3 ต้องดวลลูก จุดโทษตัดสินเป็นสาขาวิทยุโทรทัศน์ภาพยนตร์ที่แม่นกว่า เอาชนะไป 2 ประตูต่อ 1 ล้างแค้นได้สำ�เร็จจากการที่เคย แพ้มา 2 ประตูต่อ 0 เข้าไปชิงชนะเลิศกับสาขาโฆษณา คู่ชิง ที่ 3 เป็นการพบกัน ของสาขาหนังสือพิมพ์และสิ่งพิมพ์กับ สาขาสื่อดิจิทัล เป็นสื่อดิจิทัลที่เอาชนะไปได้อย่างเฉียดฉิว 2 ประตูต่อ 1 คว้าตำ�แหน่งที่ 3 ไปครอง คู่ชิงชนะเลิศเป็นการ พบกันของสาขาวิทยุโทรทัศน์ภาพยนตร์ กับ สาขาโฆษณา คู่นี้สู้กันอย่างสนุกแต่สุดท้ายเป็นสาขาโฆษณาที่เอาชนะไป ได้ 6 ประตูต่อ 3 คว้าตำ�แหน่งชนะเลิศไปครอง
ผัดกะเพรา เป็นอาหารที่ทุกคนมักจะรู้จักและคุ้นเคยเป็นอย่างดีสาเหตุส่วนหนึ่งอาจเพราะเป็นอาหารที่ปรุงง่าย แถมรสชาติอร่อยและยังเป็นเมนูอาหารจาน เดียวทีข่ ายดีและนิยมกันมากซึง่ หลายคนเรียกอาหารจานนีว้ า่ “อาหารสิน้ คิด”เพราะเวลาไปกินข้าวทีร่ า้ นอาหารตามสัง่ แล้วคิดเมนูไม่ออกว่าจะกินอะไรดีกจ็ ะนึกถึง “ผัดกะเพรา” เป็นอันดับต้นๆ หลายคนคงปฏิเสธไม่ได้ว่าผัดกะเพรานั้นเป็นเมนูยอดนิยมอีกเมนูหนึ่งที่หารับประทานง่าย สะดวก รวดเร็ว และยังมีประโยชน์ เพราะ ประโยชน์ที่ได้รับจากผัดกะเพรานั้นมี 2 ส่วนด้วยกัน คือ 1.ส่วนที่ได้ประโยชน์จากเกลือแร่ และ 2.ส่วนที่ได้ประโยชน์จากโปรตีนเนื้อสัตว์ ส่วนประกอบในผัดกะเพราที่ได้รับประโยชน์จากเกลือแร่นั้นได้แก่ใบกะเพรา ที่ช่วยแก้องอืด ท้องเฟ้อ ขับลม มีแคลเซียม พริกขี้หนู ให้วิตามินซี มีเบต้า-แคโรทีน ขับปัสสาวะและช่วยดัก จับสารก่อมะเร็ง กระเทียม ให้สารออร์แกโนซัลเฟอร์ต่อต้านการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย และ ส่วนประกอบที่ได้รับประโยชน์โปรตีนจากเนื้อสัตว์ได้แก่ โปรตีนจากเนื้อหมู เนื้อไก่ เนื้อวัว ที่นำ� มาเป็นส่วนประกอบหลักในผัดกะเพรานั้นเอง ผลสำ�รวจจากเว็บไซต์TOPTENTHAILAND ประจำ�เดือนมีนาคม 2556 ปรากฏว่า ผัดกะเพราเป็นอาหารจานเดียว ที่ติดอันดับ 1 ใน10 อาหารจานเดียวยอดนิยมของคนไทย และจาก ประสบการณ์ของผู้เขียนเองก็คิดว่า ผัดกะเพรา เป็นอาหารจานเดียวยอดนิยมและติดอันดับได้นั้นก็เนื่องมาจาก วิธีการทำ�ที่ไม่ยุ่งยากแถมยังรวดเร็ว และรับประทานง่าย เหมาะกับเวลาเร่งรีบ ของผู้คนในยุคปัจจุบัน และจากความคิดเห็นของผู้เขียนเองก็คิดอีกว่า ผัดกะเพราน่าจะเป็นอาหารประจำ�ชาติไทยได้เพราะผัดกะเพรามีความเผ็ดร้อนจากพริกขี้หนูและใบกะเพราอีกทั้งผัด กะเพราเป็นเมนูที่คนไทยนิยมสั่งรับประทานกันบ่อยและสามารถหารับประทานได้แทบทุกที่ของประเทศไทย และด้วยความที่ผัดกะเพรามีรสชาติที่เผ็ดร้อนถูกปาก มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวของ ผัดกะเพรา จึงถือว่าความธรรมดาของผัดกะเพราหนึ่งจาน เป็นอาหารที่ไม่ธรรมดาไปเลย และหลายต่อหลายคนคงจะเห็นด้วยกับความคิดนี้จากการสอบถาม ลุงบุญส่งจันแก้ว เจ้าของร้าน อาหารบริเวณหลังมหาวิทยาลัยสยามบอกกับผู้เขียนว่า “ผัดกระเพราเป็นอาหารยอดนิยมของคนไทยมานานคนทุกเพศทุกวัยสามารถรับประทานได้หมด จึงเป็นอาหาร ที่ขายดีเพราะอร่อยมีรสชาติเเบบอาหารไทย คือจัดจ้าน วิธีการทำ�ก็สะดวกรวดเร็วไม่ต้องรอนาน ส่วนใหญ คนจะนิยมรับประทานผัดกระเพราเนื้อ และผัดกระเพราหมูเป็นส่วนใหญ่” เราจะเห็นได้ว่าผัดกะเพรานั้นถึงแม้จะเป็นอาหารจานเดียวที่ทุกคนเห็นว่ามันเป็นอาหาร ที่สิ้นคิดและแสนจะธรรมดา แต่ผัดกะเพราก็ให้ประโยชน์ที่ไม่ธรรมดาเลย จากที่ผู้เขียนเองได้ ทำ�การสำ�รวจและสอบถาม พ่อค้าแม่ค้า และนักศึกษาภายในมหาวิทยาลัยสยามแล้ว ก็ได้รู้ว่า ผัดกะเพรานั้นเป็นอาหารจานเดียวที่ทุกคนนิยมรับประทานและจึงถือได้ว่าความธรรมดา ของผัดกะเพรานั้น ตรงข้ามกับคำ�ว่า “อาหารสิ้นคิด” ที่แสนจะธรรมดา ไปเลย
11 u ข่าวต่อหน้า
1 เดอะมอลล์ ป รั บ ปรุ ง พื้ น ที่ บ ริ เวณสวนนํ้ า สวนสนุ ก และ ร้ า นค้ า โดยรอบ เพื่ อ ตอบรั บ ไลฟ์ ส ไตล์ ข องนั ก ช็ อ ปยุ ค ใหม่ หวั ง ดึ ง ลู ก ค้ า จากห้ า งคู่ แข่ ง เปิ ด ใหม่ อ ย่ า งซี ค อน หลังจากห้างซีคอนบางแคเปิดตัวไปได้ไม่นาน ฝั่งห้างเจ้า ถิ่นอย่างเดอะมอลล์ บางแค ก็มีการปรับตัวครั้งใหญ่ เพื่อ หวังรักษาลูกค้ากลุ่มเดิมไว้ และดึงดูดลูกค้าใหม่ให้เข้ามา จับจ่ายใช้สอยมากขึ้น โดยเดอะมอลล์ได้ทำ�การปรับปรุง พื้ น ที่ ส วนนํ้ า สวนสนุ ก แฟนตาเซี ย ลากู น บางแค บนชั้ น 4 ให้มีความสวยงาม และทันสมัยมากขึ้น ซึ่งแล้วเสร็จไป ในปีที่ผ่านมา กลายเป็นแม่เหล็กสำ�คัญที่ดึงดูดลูกค้ากลุ่ม ครอบครัวให้เข้ามาใช้บริการเฉลี่ยวันละไม่ตํ่ากว่า 3,000– 5,000 คนต่อวัน และต่อเติมพื้นที่อาคารและลานจอดรถ ให้ สามารถรองรับจำ�นวนรถของลูกค้า ที่จะมีเพิ่มขึ้นในอนาคต และในปี นี้ ก็ ไ ด้ มี ก ารปรั บ ปรุ ง พื้ น ที่ เ พิ่ ม เติ ม บริ เวณชั้ น 4 โดยยุบห้อง เอ็มซีซี.ฮอลล์ สำ�หรับจัดงาน มาเป็นพื้นที่ สำ�หรับร้านอาหาร, ศูนย์การเรียนรู้ และแหล่งช็อปปิ้งอิน เทรนด์ เพิ่มความเป็นไลฟ์สไตล์ เอนเตอร์เทนเมนต์ ช็อป ปิ้ ง คอมเพล็ ก ซ์ ทั้ ง ในส่ ว นสิ น ค้ า และด้ า นการให้ บ ริ ก าร การปรั บ ศู น ย์ ก ารค้ า เดอะมอลล์ ในครั้ ง นี้ เป็ น การ พั ฒ นาพื้ น ที่ ภ ายใต้ ชื่ อ มายสเปซหรื อ พื้ น ที่ แ ห่ ง ความ สุ ข ซึ่ ง ในรู ป แบบพื้ น ที่ แ ห่ ง ความสุ ข นี้ ได้ แ บ่ ง ออกเป็ น 4 โซน คื อ โซนดิ น นิ่ ง อเวนิ ว หรื อ ร้ า นอาหารสุ ด ฮิ ต ที่ ต อบ รั บ พฤติ ก รรมของครอบครั ว รุ่ น ใหม่ ที่ นิ ย มรั บ ประทาน อาหารนอกบ้ า น, ซิ ตี้ ว อล์ ก ช็ อ ปปิ้ ง อิ น เทรนด์ กั บ ร้ า น ค้ า แฟชั่ น ชั้ น นำ � อาทิ ร้ า นขายเสื้ อ ผ้ า กระเป๋ า และ รองเท้ า , เอดดู เ ทนเมนต์ แหล่ ง เรี ย นรู้ คู่ ค วามบั น เทิ ง และสุ ด ท้ า ยคื อ สวนนํ้ า สวนสนุ ก แฟนตาเซี ย ลากู น ความโดดเด่นของมายสเปซ คือ บรรยากาศการตกแต่ง ร้ า นค้ า ต่ า งๆให้ เ ป็ น สไตล์ “ยู โรเปี้ ย น” สถาปั ต ยกรรม
ที่ ส วยงามแบบหมู่ บ้ า นยุ โ รปที่ กำ � ลั ง เป็ น ที่ นิ ย มใน เมื อ งไทย ทำ � ให้ ลู ก ค้ า ได้ ม าสั ม ผั ส บรรยากาศแปลก ใหม่ ที่ ต่ า งไปจากเดิ ม และถ่ า ยรู ป กั บ ร้ า นค้ า สวยๆ ซึ่ ง เ ห ม า ะ กั บ ค ว า ม ต้ อ ง ก า ร ข อ ง ลู ก ค้ า ใ น ปั จ จุ บั น ด้านนายเอกสิทธิ์ อวยชัยวัฒน์ อาจารย์ประจำ�ภาควิชาการ โฆษณา ได้ให้สัมภาษณ์ถึงกลยุทธ์ของทั้ง 2 ห้าง ไว้ดังนี้ “ทั้ง 2 ห้างนี้ตั้งอยู่บนถนนเส้นเดียวกัน ถ้าคนที่อยู่ละแวกนี้ ซึ่งก็ คือถนนเพชรเกษม ประมาณซอยต้นๆ ระหว่างมหาวิทยาลัย ไปถึงห้างซีคอน ก็มักจะเที่ยวที่ซีคอนกันเป็นส่วนใหญ่ แต่ ถ้าเลยขึ้นไปอยู่แถวพุทธมณฑลสาย 2 หรือว่าอยู่แถวถนน กาญจนาภิเษก ก็จะมาเดอะมอลล์ เพราะฉะนั้นถ้าถามว่า ห้างทั้ง 2 เป็นคู่แข่งกันโดยตรงหรือเปล่ามันก็คือเป็นห้าง สรรพสินค้าเหมือนกัน ยังไงก็จะต้องมีการแข่งขันกันอย่าง หลีกเลี่ยงไม่ได้ ถ้าเรามองในมุมของคนที่เป็นผู้บริโภค หรือ คนที่เป็นกลุ่มเป้าหมาย เราก็จะวิเคราะห์ไปว่า ห้างทั้ง 2 จะ ต้องมีการแข่งขันกันอย่างแน่นอน แต่จะใช้วิธีการอย่างไร ในการแข่ ง ขั น กั น จะเลื อ กใช้ ก ลยุ ท ธ์ ดึ ง หรื อ กลยุ ท ธ์ ผ ลั ก กลยุทธ์ดึงก็คือ เป็นการดึงดูดลูกค้า เป็นการดึงดูดกลุ่มเป้า หมาย ให้เข้ามาใช้บริการ เพราะว่าส่วนใหญ่ในห้างสรรพ สินค้า ก็จะมีการขายสินค้าหลากหลายประเภท และจะมี ในส่ วนของสโตร์ ซึ่ ง สโตร์ คือ ส่ วนของในตั วห้ า ง ก็ จ ะขาย สินค้าที่เป็นของห้าง แต่ข้างนอกก็จะเป็นลาน ลานตรงนี้ก็ จะให้เช่าพื้นที่ในการจัดกิจกรรม มีกิจกรรมทางด้านการ ตลาดเกิ ด ขึ้ น เพราะฉะนั้ น ส่ ว นใหญ่ ถ้ า เราพู ด ถึ ง ในห้ า ง สรรพสินค้า เค้าอาจจะแข่งกันในลักษณะของโซน ซึ่งโซน ก็คือ พื้นที่ในการอำ�นวยความสะดวกให้กับคนที่เป็นลูกค้า ถ้าห้างใหญ่เกินไป คนก็ไม่ค่อยอยากจะเดิน เดินไปก็มีแต่ อะไรที่ซ้ำ�ซาก จำ�เจ แต่ถ้าห้างเล็กจนเกินไป คนก็ไม่อยาก เดินเช่นกัน เพราะว่าไม่มีอะไรที่ดึงดูด ไม่มีอะไรน่าสนใจ” zกัณฐิกา สถานนท์ชัยy
5 เหตุผลที่เด็ก.สยาม เข้าเซเว่น อีเลฟเว่น สยามโฟลล์จัดสำ�รวจ ใ น หั ว ข้ อ “ เ ห ตุ ผ ล ที่ คุ ณ เ ข้ า ร้ า น เ ซ เ ว่ น อีเลฟเว่น” จากนักศึกษา ม ห า วิ ท ย า ลั ย ส ย า ม จำ � นวน 50 คน พบ “มี สิ น ค้ า ให้ เ ลื อ กซื้ อ หลาก หลายชนิ ด ” เป็ น อั น ดั บ หนึ่ง มหาวิทยาลัยสยาม มี
ร้านสะดวดซื้อเซเว่น อีเลฟเว่น สยามโพลล์ จัดสำ�รวจถึง เหตุผลที่นักศึกษาเข้าใช้บริการ จากกลุ่มตัวอย่าง นักศึกษา มหาวิทยาลัยสยาม จำ�นวน 50 คน แบ่งเป็น ชาย 25 คน และ หญิง 25 คน จากการสำ�รวจพบว่าเหตุผลที่เป็นอันดับหนึ่ง คือ สะดวกและง่ายต่อการซื้อ คิดเป็นร้อยละ 44 รองลงมา คือ มีสินค้าหลากหลาย ร้อยละ 22 อันดับสาม คือรสชาติ อาหารถูกปาก ร้อยละ 20 อันดับสี่ คือ ภายในร้านมีเครื่อง ปรับอากาศเย็นสบาย ร้อยละ 8 และอันดับสุดท้ายก็คือ มี โปรโมชั่นที่น่าสนใจ ร้อยละ 6 จากกลุ่มตัวอย่างในผู้ชายจำ�นวน 25 คนให้เหตุผล สะดวกและง่ายต่อการซื้อ เป็นอันดับหนึ่ง จำ�นวน 18 คน
รองลงมาคือ ในร้านมีเครื่อง ปรั บ อากาศ จำ � นวน 3 คน สิ น ค้ า ห ล า ก ห ล า ย 2 ค น รสชาติอร่อยถูกปากและยังมี โปรโมชั่น อย่างละ 1 คน ส่วน ในผู้ ห ญิ ง จำ � นวน 25 คน นั้ น มี สิ น ค้ า ให้ เ ลื อ กหลากหลาย เ ป็ น อั น ดั บ ห นึ่ ง จำ � น ว น 9 คน และเหตุ ผ ลรองลงมาที่ ผู้ ห ญิ ง นิ ย มเข้ า มาใช้ บ ริ ก าร เซเว่ น ก็ คื อ มี โปรโมชั่ น ที่ น่ า สนใจ จำ � นวน 8 คน สะดวก แ ล ะ ง่ า ย ต่ อ ก า ร ซื้ อ 4 ค น รสชาติอร่อยถูกปาก 3 คน และภายในมีเครื่องปรับอากาศ จำ�นวน 1 คน จากการสัมภาษณ์ นางสาวลักขณา กาบเครือ นักศึกษา คณะนิเทศศาสตร์ ชั้นปีที่3 ได้ให้เหตุผลว่า “เราเป็นคนชอบ กิ น จุ ก จิ ก ตลอดเวลา จนทำ � ให้ ตั ว เองต้ อ งเข้ า ไปใช้ บ ริ ก าร เซเว่นบ่อย ที่เลือกเซเว่นเพราะว่ามีของให้เลือกเยอะ ไม่ว่า จะเป็นของกิน ของใช้ เครื่องเขียนและที่สำ�คัญคือสะดวก และง่ายต่อการซื้อและสามารถซื้อได้ครบไม่จําเป็นต้องไป เดินซื้อหลายร้าน” zปัทมา ปรีชาวิทย์y
ราศีในแต่ละราศีมีความแตกต่างกัน บ้างก็ดีบ้างก็ไม่ดี ใน
แต่ละปีราศี แล้วราศีคุณละจะดีหรือไม่ดี มาลุ้นกันเถอะ!! ราศีมังกร (14 ม.ค.-12ก.พ.) เป็นราศีแห่งความอดทน เฮฮา มีความจริงใจ คู่ครอง ค่อนข้างที่จะอาภัพเรื่องความรักสักเล็กน้อย มีรักมัก อกหัก ฟันธงชาวราศีมังกร รักใครรักจริงมีความจริงใจ ราศีกุมภ์ (13ก.พ.-15มี.ค.) ราศีของคนฉลาด เป็นคนเรียบร้อย คู่ครองเป็น คนเจ้าชู้อยู่พอตัว เป็นคนมีเสน่ห์ใครอยู่ใกล้ก็หลง รักฟันธงชาวราศีกุมภ์!! ยิ่งอยู่ใกล้ยิ่งหลงรัก ราศีมีน (16 มี.ค.-12เม.ย.) ราศีแห่งความเห็นอกเห็นใจ เมตตากรุณา คู่ครองเป็นคนที่มีเสน่ห์ใครอยู่ใกล้ก็หลงรัก ฟันธงชาวราศีมีนเป็นคนน่าคบหา ยิ่งคุยยิ่งหลงรัก !! ราศีเมษ (13เม.ย.-15พ.ค.) ราศีแห่งความจริงใจ เป็นระเบียบ มีคู่ ครองค่อนข้างที่จะมีดวงในเรื่องความรัก มักไม่มีอุปสรรคมาขวาง ฟันธงน่าคบหาและจริงใจ!! ราศีพฤษภ (16พ.ค.-15มิ.ย.) ราศีแห่งความอดทน รักความเป็นระเบียบ คู่ ครองค่อนข้างจะอาภัพเรื่องคู่ครองสักนิดหน่อย แต่เป็นคนรักใครรักจริง ฟันธงชาวราศีนี้!!รักใคร รักจริง เอ้าใครอยากที่จะมีรักแท้เชิญราศีนี้จ้า ราศีเมถุน(16มิ.ย.-15ก.ค.) ราศีแห่งสติปัญญา เป็นคนที่ใจร้อน คู่ครองมักจะ ถูกใจในเพศเดียวกัน แต่เป็นคนที่มีรูปร่างหน้าตาดี เอ้า!จะตรงกับคุณรึป่าว?ลองมาค้นหาตัวตนของคุณกัน ราศีกรกฎ(16ก.ค.-18ส.ค.) ราศีแห่งความอ่อนโยน ชอบความสงบคู่ครอง เป็นคนรักใครรักจริง รู้จักการมีคู่ครอง ฟันธง ชาวราศีนี้ รักใครรักจริง ใครได้แฟนเป็นชาว ราศีกรกฎโชคดีจริงๆ ไม่โดนหลอกแน่นอนจ๊ะ!! ราศีสิงห์(19ส.ค.-17ก.ย.) ราศีแห่งการเสียสละ มีความรุ่งโรจน์ คู่ครอง เป็นคนที่มีความรักอยู่ในสายเลือด เจ้าชู้พอตัว ฟันธง!!ชาวราศีสิงห์เฮงทั้งเรื่องรัก เรื่องอนาคต ราศีกันย์(18ก.ย.-17ต.ค.) ราศีกันย์ราศีแห่งความฉลาด คล่องแคล่ว เป็นคน ที่มีจิตใจร่าเริง คู่ครองไม่ค่อยสู้ดีนัก มีรักมักจะ ชอบเลือกคู่ครอง ฟันธง!!ราศีกันย์ เลือกนักมักได้แร่ ราศีตุลย์(18ต.ค.-14พ.ย.) ราศีแห่งความยุติธรรม เป็นคนเรียบร้อย คู่ครองมักอาภัพเรื่องความรัก มีคู่แล้วก็มัก ผิดหวัง เป็นคนไม่ค่อยเอาอกเอาใจ ฟันธงชาวราศีนี้!! นิสัยใจคอน่าคบส่วนเรื่องความรักรอลุ้นปีหน้านะจ๊ะ!! ราศีพิจิก(15พ.ค.-16ธ.ค.) ราศีแห่งความกตัญญูจงรักภักดีเป็นคนเจ้า คารม คู่ครองไม่ค่อยสู้ปกตินัก เป็น คนมากรัก มากคู่ เป็นคนที่มีเสน่ห์ เอ้า!! ใครรู้ตัวว่าอยู่ราศีนี้ลองค้นหาตัวตนของ ตนเองให้เจอนะว่าเป็นคนมากรักรึเปล่า!! ราศีธนู (17ธ.ค.-13ม.ค.) ราศีแห่งคุณงามความดี มีสติปัญญา คู่ครองเป็นคนที่มีเสน่ห์ในตัวเอง มักมี แรงดึงดูดกับเพศตรงข้าม มักได้ คู่ครองที่ดีและเป็นคนดี ฟันธงชาวราศีธนู!! เป็นราศีที่มีดวงเรื่องความรักนำ�โด่งกว่าชาวราศีอื่น!!
y
12
ความสัมพันธ์คือสิ่งที่เกิดขึ้นจากความใกล้ชิดสนิท สนม และก่อตัวเป็นสายสัมพันธ์ที่เชื่อมโยงคนที่ไม่เคยรู้จัก ให้มีทั้งความรัก ความห่วงใย และความสามัคคี โดยเฉพาะ ความสัมพันธ์ระหว่างรุ่นพี่กับรุ่นน้องในมหาวิทยาลัย ถึง แม้อาจจะไม่ได้มีสายเลือดเดียวกัน แต่กิจกรรมที่ช่วยสร้าง ความผูกพันนั้น หล่อหล่อมให้เรารู้จักสังคมที่กว้างขึ้น และ มีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี คณะนิเทศศาสตร์ภาควิชาหนังสือพิมพ์และสิ่ง พิมพ์ได้มีโครงการจิตอาสา เพื่อเป็นการช่วยเหลือน้องๆ ที่ ตำ�บลบ้านแหลม อำ�เภอบ้านแหลม จังหวัดเพชรบุรี ให้มี สื่อการเรียนการสอนที่น่าศึกษาค้นคว้าหาความรู้มากยิ่ง ขึ้น อาจารย์สุธาวัลย์ ธรรมสังวาลย์ (อ.อาย) ได้แบ่งกลุ่ม นักศึกษาจำ�นวน 4 กลุ่มและมีสีประจำ�กลุ่มของตนเอง จาก นั้นให้เลือกรุ่นพี่ที่จะมาทำ�งานร่วมกันกับพวกเรา งานแรกที่ อาจารย์ได้มอบหมายให้ก็คือให้พวกเราทำ�กล่องตามสีของ ตนเอง โดยให้พวกเราไปยืนรับบริจาคเพื่อที่จะนำ�เงินส่วนนี้ ไปมอบและซื้ออุปกรณ์ให้กับน้อง ซึ่งต่างคนต่างก็แบ่งหน้าที่ กัน การทำ�งานเป็นหมู่คณะนั้น ย่อมมีต่างคนต่างความ คิด ทำ�ให้การทำ�งานร่วมกันในครั้งนี้ บางคนอาจจะทำ�งาน มาก บางคนทำ�งานน้อย จึงเกิดปัญหาความไม่เข้าใจกันขึ้น เรียกได้ว่าเป็นอุปสรรคหนึ่งในการทำ�งานร่วมกันเลยทีเดียว ดังเช่นการไปรับบริจาคตามสถานที่ต่างๆ บางกลุ่มรุ่นน้อง หรือรุ่นพี่ไม่ได้เข้าไปช่วยเหลือเลย หรือแม้กระทั่งบางกลุ่ม รุ่นพี่กำ�หนดเป้าหมายยอดเงินมากจนเกินไป ทำ�ให้เกิดการ
มากกว่า 60 นาที แต่ไม่ถึง 120 นาที(2ชั่วโมง) ในการรับ ข่ า วสารในแต่ ล ะวั น และเมื่ อ ถามถึ ง ความถี่ ใ นการเปิ ด รั บ ข่ า วสาร พบว่ า นั ก ศึ ก ษาส่ ว นมาก จะเปิ ด รั บ ข่ า วสาร มากกว่า 1 ครั้งต่อวัน สูงถึงร้อยละ 45 รองลงมาคือ กลุ่ม ที่ เ ปิ ด รั บ ข่ า วสาร 1 ครั้ ง ต่ อ วั น ร้ อ ยละ 21 และ 5-6 ครั้ ง ต่อสัปดาห์ ร้อยละ 18 ตามลำ�ดับ ที่เหลือคือส่วนที่เปิดรับ ข่าวสารน้อยกว่า 5 ครั้งต่อสัปดาห์ กันระหว่ส่าวงรุนประเภทข่ า วที่ กอลุงปี ่ ม นั ก3ศึ กโดยใช้ ษาให้ คเวลาอยู วามสนใจ ่นพี่ปี 4 และน้ ่ร่วมกัน อ่เป็า นมากที ่ ส ุ ด คื อ ประเภท ข่ า วบั น เทิ ง คิ ด เป็ น ร้ อ ยละ นเวลา 2 วันกับอีก 1 คืน ซึ่งการเข้าค่ายในครั้งนี้ก็จะมี 40 อั น ดั บ สองคื ฬ า ร้ อ ยละ 16 รองลงมาคื อ ข่ า ว คคี กิจกรรมต่ างๆ อเช่ ข่นากิวกีจกรรมทำ �อาหารที่ต้องใช้ความสามั อาชญากรรม และข่ ง คม ร้ า กั น และเมื ่อ ภายในกลุ่มและทำ�าให้วสัเรารู ้จักอเสียละ 9 เท่ ยสละตนเองเพื ่อส่วนรวม สอบถามเกี วกั บ ประโยชน์ ด รัาบนีข่้เาป็วสาร พบ จากนั้นเป็น่ ยการเฉลยพี ่รหัส จ ากการเปิ สิ่งเหล่ นการละลาย ว่ า ประโยชน์ อั น ดั บ แรกคื อ ช่ ว ยให้ ท ราบสถานการณ์ พฤติกรรมที่มีมาตั้งแต่ต้น ทั้งการเข้าใจผิด ทั้งการไม่พอใจ ปัจจุบันได้อย่างรวดเร็ว คิดเป็นร้อยละ 4.23 จากคะแนน กัน ก็ถูกหลอมรวมให้กลายเป็น JR ที่สามัคคีกันอย่างกลม เต็ ม 5 ประโยชน์ อั น ดั บ สอง คื อ ช่ ว ยให้ ค วามสนุ ก สนาน เกลียว รวมทั้งเกมที่มีรุ่นพี่ รุ่นน้องต้องช่วยเหลือเกื้อกูล และผ่ อ นคลาย ร้ อ ยละ 4.02 รองลงมาคื อ ประเด็ น ความ มพันธ์ระหว่ างรุ่นพี่รุ่งน้อง จึง คิกัดนเห็และเป็ น เกี่ ยนวกัการสานความสั บ องค์ ป ระกอบของข่ า วสาร (News Eleต้องใช้ค่มวามสามั คคีและความเชื ่งกัน่งและกั ment) ที ีผลต่อการเลื อกเปิดรับข่่อาใจซึ วสาร ซึ โดยส่นวในการทำ นมาก � ้อาจจะเป็นอการเชื ่อมรอยต่ อระหว่วางพี่ นักิกจศึกรรมอย่ กษาจะเลืางมาก อกรับข่นีาวสารจากช่ งทางที ่มีความรวดเร็ กับน้องให้มีคาววามสั มพันธ์ที่ดีต่ออกัยละ น เข้4.18 าใจกันและเลื และกัอนกรัมากยิ ในการเสนอข่ (Immediacy) ร้ บ ่ง จากที่เคยมีอปงทางที ัญหาหรื อกระทบกระทั นบ้าง ข่ขึา้นวสารจากช่ ่เสนอข่ าวสารที่ม่งีคกัวามตลกขบขั น หลังจากการเข้าค่ายครั้งนีด้จเป็ ึงขอหยิ บยกประโยค ของชีวิต (Amusement or Drama) คิ นร้อยละ 4.03 ที่ท่านอาจารย์ ระกิ อาษา อทีงทางที ่พิมพ์ข่เสนอข่ ้อความลงในกลุ รองลงมาคื อ เลือปกรั บ ข่จาวสารจากช่ าวสารที่ ่ม มาเป็นเครืร้่อองเตื นคำ�แนะนำม�ใน มีFacebook ความก้าวหน้า (Progress) ยละอนสติ 3.99และเป็ จากคะแนนเต็ 5การทำ เช่นกั�นงานร่วมกันของชาว JR นั่นคือ “การทำ�งานร่วม ่แตกต่างกัข้านงต้ ในด้นชีา้นต่ กันของคนที จากผลโพลล์ ให้เาห็งๆเช่ นว่าน ปัเวลาของคนแต่ จจัยที่มีผลต่อ ละ การเลื บข่นาก็วสารของนั สิ่งมทีัน่สำ�คืคัอญการเรี ก็คือความ ไม่เหมือกรั อนกั ย่อมขัดแย้กศึงกักนษานั บ้า้นงแต่ ยนรู้การ รวดเร็ ว ความสดใหม่ าวสาร และเป็ ข่า่สวที ่มีเนื้อจหาไม่ ทำ�ความเข้ าใจซึ่งกัขนองข่ และกั นแต่ถ้าท้านยที ุดเรามี ุดหมาย หนั กมาก หรือที่อ่เความสำ รียกว่าประเภทเบาสมอง เช่ น ข่าาร่วบั นเทิ ง ปลายทางเพื �เร็จในหนทางข้างหน้ วมกั นเราก็ หรื อ ข่ าอวกี ่ ไ ม่ จาำ �จะจั เป็ นบต้มือองใช้ ก ารวิ ม ากนัอกมกัน ควรให้ ภัยฬกัา ที นเราน่ กันเพื ่อเข้าเ คราะห์ เส้นชัยไปพร้ เป็นะครั นการเปิ ดรับข่าวสารเพื่อรับรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นในแต่ละ บ journalism” วัน และเพื่อเป็นการผ่อนคลาย น า ย อ ร ร ถ สิ ท ธิ์ ห อ ม ด ว ง นั ก ศึ ก ษ า ค ณ ะ นิเทศศาสตร์ ชั้นปีที่ 3 ผู้ตอบแบบสอบถาม กล่าวว่า “ผม เลือกรับข่าวสารผ่านทางสื่อสังคมออนไลน์มากที่สุด เพราะ ว่ า มี ค วามรวดเร็ ว สามารถอ่ า นได้ ต ลอดเวลา อ่ า นได้ ทุ ก ที่ และค่อนข้างที่จะเชื่อถือได้ แล้วผมเองก็ใช้เวลาอยู่หน้า คอมฯค่ อ นข้ า งมาก การรั บ ข่ า วสารผ่ า นเครื อ ข่ า ยสั ง คม ออนไลน์ จึงเป็นช่องทางที่สะดวกที่สุดสำ�หรับผม ที่ใช้ตาม ข่าวก็คือ twitter เว็บนี้จะเป็นอะไรที่รวดเร็วมากบางทีสังคม แต่อาจจะมีข้อเสียอยู่นิดนึง ตรงที่ข่าวสารที่ได้รับรู้มานั้นยัง ไม่ค่อยแน่นอน และไม่ชัดเจนว่าจริงหรือไม่ ก็จำ�เป็นต้องใช้ วิจารณญาณ และพิจารณาดูที่มาของแหล่งข่าว ก่อนที่จะ รีทวีตไปให้คนอื่นอ่าน ข่าวที่ได้อ่านส่วนใหญ่ ก็จะเป็นข่าว ทั่วๆไปที่เกิดขึ้นในสังคมแต่ละวัน เช่น ข่าวอาชญากรรม ข่าวนํ้ามันขึ้นราคา หรือข่าวบันเทิงอะไรพวกนี้ก็อ่าน จะอ่าน ข่าวทุกประเภท ไม่ได้เน้นเรื่องใดเป็นพิเศษ”
JR สานสัมพันธ์พี่น้อง
แข่งขันระหว่างสี ทำ�ให้ปัญหาเริ่มบานปลายขึ้นเรื่อยๆ จน ผลสุดท้ายสิ่งที่เรียกว่า ‘เวลา’ ในการทำ�งานร่วมกัน ก็เป็น เครื่องพิสูจน์ที่ทำ�ให้เรารู้จักถอย รู้จักยอม และเข้าใจกัน มากยิ่งขึ้น ปัญหาดังกล่าว อ.อาย ผู้ควบคุมดูแลกิจกรรม ในครั้งนี้ รวมทั้งเป็นผู้มอบหมายงานได้รู้ถึงเรื่องราวและ ปัญหาที่เกิดขึ้นทั้งภายในกลุ่ม และนอกกลุ่ม จึงเกิดความ เป็นห่วงและได้เตือนสติทั้งรุ่นพี่ - รุ่นน้องว่า “เมื่อทำ�งาน ร่วมกันไม่ได้แปลว่าเราต้องทำ�งานเท่ากัน บางคนแบกรับ ทำ�ทุกอย่าง บางคนสบาย ถ้าวัดกันแค่งานที่ทำ�ร่วมกัน เรา คงสามารถตัดสินได้ว่าใครดี ใครขยัน ใครเห็นแก่ตัว แต่งาน ไม่ก็ไม่ใช่ทั้งหมดของชีวิตเขาหรือเธอคนนั้น ถ้ามีงานอื่นที่ เขาหรือเธอเชื่อว่าสำ�คัญกว่า หรือกิจกรรมอื่นที่รู้สึกอยาก ทำ�มากกว่า ใจเขาใจเรา สิ่งที่สำ�คัญของเรา เขาหรือเธอ อาจไม่คิดกับมันแบบนั้น อย่างไรก็ตามถ้าตัดสินใจทำ�งาน ร่วมกัน คำ�ว่ารับผิดชอบเป็นคำ�ที่สำ�คัญ ควรรับผิดชอบใน หน้าที่ ที่ตนได้รับมอบหมายให้ดีที่สุด ไม่คิดเอาเปรียบด้วย การโยนงานให้ใครจนเกินความสามารถที่เขาจะทำ�ได้ และ ในที่สุดกิจกรรมการรับบริจาคของแต่ละสีก็ผ่านลุล่วงไป ด้วยดี จากคำ�แนะนำ�ของอาจารย์ซึ่งมีความเป็นห่วงและไม่ ต้องการให้ผลของการจัดกิจกรรมสานสัมพันธ์เป็นเช่นนี้ ระยะการทำ�งานได้มาถึงช่วงเวลาที่สำ�คัญ หลังจาก ที่พวกเราได้ไปรับบริจาคในสถานที่ต่างๆ ก็ถึงเวลาที่เรา ต้องเดินทางไปที่โรงเรียนมิตรภาพที่ 34 ตำ�บลบ้านแหลม อำ�เภอบ้านแหลม จังหวัดเพชรบุรี ซึ่งเป็นการเข้าค่ายร่วม
zกัณฐิกา สถานนท์ชัยy
ที่ปรึกษากองบรรณาธิการ อ.ประกิจ อาษา อ.จารุณี วรรณศิริกุล อ.กิตติธัช ศรีฟ้า อ.สุธาวัลย์ ธรรมสังวาลย์ กองบรรณาธิการ ทิตธวัช ปุณกะบุตร ปัทมา ปรีชาวิทย์ กรรณิกา นิยมพร้อม อรจิรา เปี่ยมสุวรรณ ขนิษฐา อํ่าขำ� สิทธิกร ยอดนาค กัณฐิกา สถานนท์ชัย นันทนา หอมกรุ่น นุกูล ยงคงกระพัน อัมรินทร์ เปียมจิตต์ หิรัญ ศุภศิริ