บทที่ 7 สมัยพระสังฆราชลาโน ค.ศ. 1679-1696 (ต่อ) พระศาสนาคาทอลิกในกรุ งสยาม หลังการเบียดเบียนพระศาสนา ค.ศ. 1692-1696 สภาพอันน่ าเศร้ าสลดของกลุ่มคริสตชนต่ างๆ มิชชันนารี มีเจตนาและประพฤติอย่างไรมาแล้วก็ตามโครงการของเขาทําไม่ได้ผลเพราะเหตุใดก็ตามสภาพ ของมิสซังกรุ งสยามในขณะนั้นเป็ นที่น่าเศร้าสลดเป็ นอย่างยิง่ ความหายนะทั้งทางวัตถุและทางใจ กองทับถมอยู่ ทัว่ ไป โบสถ์ใหญ่โบสถ์นอ้ ย สามเณราลัย วิทยาลัยกลาง ถูกปล้นหรื อทําลายสิ้ น กลุ่มคริ สตชนที่อยุธยา ที่บางกอก ที่มะริ ด และที่ถลาง ถูกรังควานอย่างหนัก ; กลุ่มคริ สตชนทางภาคเหนือ คือ ที่พิษณุโลก ที่นครไทย และที่สุโขทัย ล้มหายไปเลย คริ สตังในกลุ่มเหล่านี้หลายคนได้ถูกนํามาขังคุกที่อยุธยา ที่เหลือนอกนั้นคือพวกที่หนีเข้าไปอยูใ่ นป่ าประเทศลาว ก็อยูต่ ่อไป แล้วค่อยๆ ละทิ้งกิจปฏิบตั ิทางศาสนาทุกอย่าง ตั้งแต่ปี ค.ศ.1687 ถึงปี ค.ศ. 1693 ไม่มีมิชชันนารี มาแทนพวกที่ลม้ ป่ วยจนพิการบ้าง ถึงแก่มรณภาพไป บ้าง หรื อถึงเหตุตอ้ งไปจากกรุ งสยามบ้าง ในบรรดาผูท้ ี่ถึงแก่มรณภาพไปนั้น เราบอกแล้วว่ามี คุณพ่อแฌฟฟรารด์ เดอ แลสปี เน, คุณพ่อโมแนสจีเอร์ ,คุณพ่อโปมารด์, คุณพ่อเลอ เชอวาลีเอร์ สําหรับคุณพ่อลีออน ที่เดินทางไปปอนดิ เชรี กบั นายพลแดฟารฌฺ น้ นั ต่อมาท่านจะไปประเทศจีน และจะไม่กลับกรุ งสยามเลย ส่ วนคุณพ่อเฌอนูด์ กับ คุณพ่อโฌเรต์ อยูใ่ นประเทศพม่า คุณพ่อกราเว อยูใ่ นประเทศโคชินจีน แล้วจะมีคุณพ่อมานูแอล มาสมทบกับ คุณพ่อกราเว ในปี ค.ศ. 1693 ด้วย ในปี เดียวกันนี้ คุณพ่อเชอเวรยถึงแก่มรณภาพ หลังจาก ทํางานไม่ได้ต้ งั แต่ นานมาแล้ว ยังเหลือคุณพ่อป๊ อกเกต์ สําหรับปกครองวิทยาลัย และเหลือคุณพ่อมารฺ ตีโน, คุณพ่อแฟเรอ, คุณพ่อแดส เตรชี กับพระสงฆ์พ้ืนเมืองอีก 2-3 องค์ สําหรับ ทําการฟื้ นฟูมิสซัง ซึ่ งก็จะทําได้ยากและช้ามาก เพราะพระเจ้า แผ่นดิน บรรดาขุนนางและประชาชนแสดงความเป็ นอริ ไม่ไว้วางใจ ตั้งแต่ปี ค.ศ.1693 จะมีพระสงฆ์มาช่วย 2 องค์ คือ คุณพ่อกาบรี แอล โบรด์ (Braud) ซึ่งเป็ น ชาวเมืองนังตฺ (Nantes) ในประเทศฝรั่งเศส และเคยเป็ นมิชชันนารี ในภาคตะวันตกของประเทศตังเกี๋ย 2-3 ปี กับคุณพ่ออันโตนิโอ ปิ นโต ซึ่งกลับจาก กรุ งโรมในปี ค.ศ. 1695 1 เนื่องจากมิชชันนารี มีจาํ นวนน้อย และโดยเฉพาะพระเจ้าแผ่นดินไม่ทรงอนุญาตให้เขาออกไปนอกจังหวัด พระนคร เขาจึงแพร่ ธรรมอยูแ่ ต่ในนครหลวงและบริ เวณ ตลอดจนกลุ่มคริ สตชนที่ต้ งั ขึ้นทางภาคใต้แล้ว ฉะนั้นเรา จึงเห็นว่าจะเป็ นการพูดเกินความจริ ง ถ้าจะกล่าวเหมือนกับมิชชันนารี องค์หนึ่งว่า "เรื่ องต่ างๆ ค่ อยๆ เข้ ารู ปเข้ ารอย ในสภาพเดิม" และพวกมิชชันนารี "เป็ นที่นิยมยกย่ องและเป็ นที่รักใคร่ เหมือนในอดีต"
k
iv h rc
e c io d rch
o e s
ko g n a fB
A s e
A l a
ic r o ist
H
1ในบทที่ 5 เล่าว่า สามเณรอันโตนิโอ ปิ นโต ตามคณะทูตสยาม (โกษาปาน) ไปกรุ งฝรั่งเศสในปี ค.ศ. 1686 และในปลายปี นั้น ได้ไปกรุ งโรม พูดบรรยายเทวศาสตร์เรื่ องหนึ่งเฉพาะเบื้องพระพักตร์พระสันตะปาปา จนพระองค์ทรงชื่นชอบพระทัย ทรงบัญชาให้บวชเป็ นพระสงฆ์ก่อน กลับประเทศฝรั่งเศส เราอยากทราบว่าเมื่อบวชแล้ว อันโตนิโอ ปิ นโต เรี ยนต่อที่กรุ งโรม หรื อกลับไปทําอะไรเป็ นเวลานานถึง 9 ปี ใน ประเทศฝรั่งเศส แล้วจึงกลับมากรุ งสยามเอาในปี ค.ศ. 1695 (ผูแ้ ปล)