ชีวประวัติของ ปอล ซาเวียร์ เรื่ องชีวติ ของพ่อที่รัก ช่างเป็ นเรื่ องที่น่าจะเล่าจะบอกใครๆ ถึงความเป็ นมนุษย์ที่มีธรรมในชีวติ แม้จะมี ความผิดบาปตามประสามนุษย์ก็ตาม แต่ชีวติ ของ “พ่อ” ก็เป็ นตัวอย่างที่ดี ถึงความเป็ น “คน” เป็ น “พ่อ” เป็ น “เพื่อน” เป็ น “บุตร” ที่ดีของพระศาสนจักรที่พอ่ รัก และอุทิศตัวในฐานะฆราวาสที่รักมารดาของตนอย่างถึงที่สุด จะขอเล่าถึงชีวติ ของพ่อตามที่ได้เคยได้ยนิ ในฐานะลูกสาวที่พอ่ เลี้ยงดูมาด้วยความรักอันเปี่ ยมพ้น
ชีวติ ในวัยเด็ก พ่อเป็ นลูกชายคนโต ในจานวนพี่นอ้ ง 4 คน บิดาของพ่อเป็ นชาวจีน เดินทางข้ามน้ าข้ามทะเลมาเพื่อเป็ น “หมอสอนศาสนา” (ตามคาเรี ยกในสมัยนั้น) มารดาของพ่อเป็ นหมอจีนแผนโบราณ ชาวบ้านท่านว่า “ซินแซอิ๊ม” พ่อเกิดที่คลองสิ บเอ็ด จังหวัดนครนายก พ่อมีชื่อจีน ว่า “เม่งเซ็ง” น้องชายชื่อ “เม่งเต็ก” น้องสาว 2 คน คือ “เม่งตี ยง และ “เม่งจู” พ่อเกิดวันที่ 24 มิถุนายน ค.ศ. 1916 พ่อบอกว่า พ่อเคยกลับไปเมืองจีน 2 ครั้ง ทางเรื อ ต่อมา ภายหลังครอบครัวย้ายไปอยูท่ ี่ปากน้ า วัดราฟาแอล สมุทรปราการ
o e s
k o gk n a B f
e c dาiห่oมมาคลุมตัว ทาตัวเป็ นพระสงฆ์ อวยพรศีล พ่อบอกว่า เวลาเป็ นเด็กๆ อยากเป็ นพระสงฆ์มาก hเอาผ้ c มหาสนิท โดยใช้พดั ใบตาลทาเป็ นรัศมีของศีลมหาสนิA ท rโดยให้เพื่อนๆ เป็ นชาวบ้าน เป็ นผูม้ าร่ วมพิธี ทาการกราบ เคารพศีลมหาสนิท ถ้าใครไม่กราบ พ่อก็จe ะบัs งคับให้กราบ พ่อถูกส่ งตัวไปอยูบ่ า้ นเณรที่บางนกแขวก จังหวัด v i สมุทรสงคราม เวลานั้นอายุ 12 ปี ch พ่อเป็ นคนเรี ยนเก่งมาก พ่อบอกว่า พ่อไปกับคุณพ่อกิมฮั้ง พ่อบอกว่า ไม่เคยมี r ใครแย่งการสอบ ที่หนึ่งกัlบทีA ่สองไปจากพ่อกับพ่อกิมฮั้งได้เลย จุดหักเหเวลาใกล้จะจบบ้านเณร คุณพ่อชาวฝรั่งเศส a ที่พอ่ รักเสี ยชีวติ rพ่iอcเสี ยใจมาก และเจ็บป่ วย และได้มีโอกาสไปเป็ นครู เณรที่วดั นักบุญเทเรซา เวียงป่ าเป้ า สอนคา to ใ้ หญ่ ภายหลังพ่อลาออกจากการเป็ นเณร พ่อบอกว่า ท่านคงไม่มีกระแสเรี ยก สอนเด็iกs ๆ และผู H กระแสเรียก
ชีวติ ทางาน
ท่านได้ไปทางานกับบริ ษทั อิสต์เอเชียติก เป็ นบริ ษทั ค้าไม้ทางเหนือ ต่อมาพ่อได้งานที่สถานฑูตฝรั่งเศส สมาคมฝรั่งเศส ท่านช่วยดูแลกิจการของวัดเซนต์หลุยส์ดว้ ยในช่วงนั้น ท่านนาหลานๆ มาอยูท่ ี่บา้ น เพื่อจะได้มี โอกาสศึกษาต่อ มีช่วงหนึ่งที่ท่านเกิดความสนใจทานากุง้ นาปลา ซื้อที่ดินแถวๆ บางปะกง แต่ทาไม่สาเร็ จ กิจการ ล้มเหลว ท่านต้องสิ้ นเนื้อปะดาตัว ท่านหนีไปอยูเ่ ชียงใหม่ ท่านบอกว่าเคยคิดจะเสี ยความเชื่อ แต่บุคคลที่ให้กาลังใจ ท่านมากๆ คือ พระสังฆราชแปร์ รอส ที่ประจาอยูเ่ ชียงใหม่สมัยนั้น ท่านบอกว่า พระสังฆราชขี่จกั รยานมาด้านหลัง ท่าน และบอกว่า “อย่าเสี ยใจ เราไม่ได้โกงใคร คนอื่นโกงเรามา เมื่อมีก็ชดใช้ เมื่อไม่มีก็ไม่เป็ นไร พระไม่เอาผิด อะไร” พ่อบอกว่าท่านเกือบน้ าตาไหล ช่วงนี้เอง ที่ท่านเริ่ มทางานแปลจริ งจังมากขึ้น ท่านว่าพระคงให้พระพรท่าน ทางนี้ งานธุ รกิจจึงไม่ประสบความสาเร็ จ