คานาของผู้จดั พิมพ์ หนังสื อ “ประวัติมิสซังกรุ งสยาม” เล่มนี้ เขียนขึ้นมาจากการศึกษาเอกสาร จดหมาย ติดต่อของบรรดามิชชันนารี คณะมิสซังต่างประเทศแห่งกรุ งปารี ส (M.E.P.) ซึ่ งนับว่าเป็ นข้อมูล ชั้นต้นสาหรับนักประวัติศาสตร์ หรื อผูท้ ี่สนใจในการศึกษาประวัติศาสตร์ ทั้งประวัติศาสตร์ ไทย และประวัติศาสตร์พระศาสนจักรในประเทศไทย และแม้ว่าจะมิใช่นกั ประวัติ ศาสตร์ เนื้ อหาเรื่ องราวที่มีอยูใ่ นหนังสื อเล่มนี้ ก็นบั ว่ามีประโยชน์อย่างยิ่ง เพราะจะทาให้ผอู ้ ่านได้ เข้าใจสถานการณ์ที่เป็ นจริ งในการทางานของบรรดามิชชันนารี เข้าใจความขัดแย้งต่างๆ ที่ เกิดขึ้น รวมถึงวิธีการทางานหลายๆ ด้าน อุปสรรคต่างๆ ในการทางาน ซึ่ งเกิดขึ้นทั้งจาก ภายใน และภายนอก ทั้งหมดนี้ จะทาให้ผอู ้ ่านเข้าใจถึงความเป็ นจริ งต่างๆ ของคริ สต์ศาสนา k o นิกายโรมันคาทอลิกในประเทศไทย gk n อัครสังฆมณฑลกรุ งเทพฯ โดย พระคาร์ ดินัล ไมเกิล้ มีชัย fกิจB บุญaชู มีความตั้งใจ ที่จะจัดพิมพ์หนังสื อแปลเล่มนี้ และให้การสนับสนุนเสมอมา e เพื่อoให้เกิดประโยชน์ในทาง s e การศึกษาประวัติศาสตร์ ขอขอบคุณ คุณปอล ซาเวียร์ ผูo ล้ ่วcงลับไปแล้ว รวมทั้งคณะกรรมการ i ผูม้ ีส่วน เกี่ยวข้องทุกท่านในการแปลหนังสื อcอัh นมีdค่ายิ่งเล่มนี้ ขอขอบคุณคณะเซอร์ ร่าที่ได้ Ar ณประโยชน์ท้งั หลาย อันเกิดจากหนังสื อเล่ม ให้การสนับสนุนมาตั้งแต่แรก ความดีงsามและคุ eคณะมิสซังต่างประเทศแห่งกรุ งปารี ส ผูไ้ ด้เสียสละชีวิต นี้ ขอมอบให้แก่บรรดามิชชันนารี v i hนดินสยามนี้เสมอมา c r เพื่ออาณาจักรของพระเจ้ า ในแผ่ A l a ้ อหาและความสาคัญของหนังสือเล่มนี้อย่างละเอียด ขอแนะนาให้ผอู้ ่าน เพื่อให้เiข้cาใจเนื r แ้ ต่ง และคาปรารภของผูแ้ ปล รวมทั้งข้อมูลต่างๆ ซึ่งผูแ้ ปลได้จดั เตรี ยม o ได้อ่านค าน าของผู t s i ไว้H ให้ ก่อนที่จะเข้าสู ้เนื้ อหาเรื่ องราวทางประวัติศาสตร์ ของหนังสื อแปลเล่มนี้ อย่างไรก็ตาม การที่จะเข้าใจเนื้ อหาหลายๆ ตอน ที่มีอยูใ่ นหนังสื อเล่มนี้ ก็จาเป็ นที่จะต้องเข้าใจภูมิหลังทาง ประวัติ ศาสตร์บางข้อบางประเด็นเสี ยก่อน ที่เป็ นเช่นนี้ เพราะผูอ้ ่านจะพบกับเรื่ องราวหลายๆ เรื่ องราว ที่เกี่ยวข้องกับมิชชันนารี ที่มาจากสังกัดประเทศโปรตุเกส และมิชชันนารี ที่มาจาก สังกัดสมณกระทรวงเผยแพร่ ความเชื่ อ หรื อที่เรี ยกกันว่า Propaganda Fide ซึ่ งล้วนแต่เป็ น มิชชันนารี นิกายโรมันคาทอลิก แต่จะไม่เข้าใจว่าเหตุใดจึงต้องเกิดความโต้แย้งขึ้น ทั้งๆ ที่ ต่างก็มีจุดมุ่งหมายเดียวกัน และมิได้ดาเนิ นงานเพื่อผลประโยชน์ใดๆ ทางวัตถุเลย ทั้งหมดนี้ ล้วนมี ที่มาจากเหตุผลทางการเมื องและทางศาสนาในยุคนั้น แม้นแต่เรื่ องจิ ตตารมณ์ ของ บรรดามิ ช ชัน นารี เ อง เป็ นเรื่ อ งต้อ งท าความเข้า ใจจากเรื่ อ ง การแยกตัวออกนิ กาย โรมันคาทอลิกของพวกโปรเตสแตนต์ แองกลีกนั ใน ศตวรรษที่ 16 รวมถึงจิตตารมณ์ อันเคร่ งครัดของสังคายนาที่เมืองเตรนโต
II
ผูจ้ ดั พิมพ์ขอคัดเอาภูมิหลังทางประวัติศาสตร์ที่สาคัญๆ โดยย่อมานาเสนอ โดยคัดมา จากงานศึกษาที่ใช้สอนวิชาประวัติศาสตร์พระศาสนจักรในประเทศไทยเป็ นหลัก เพื่อให้ ผูอ้ ่านสามารถเข้าใจเนื้ อหาต่างๆ ได้อย่างชัดเจนมากขึ้น ภูมิหลังทางประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ ก็มีดงั ต่อไปนี้
1. การสั งคายนาเตรนโต (ค.ศ. 1545-1563) ศตวรรษที่ 16 เป็ นยุคสมัยแห่ งการปฏิรูปโดยแท้จริ ง เพราะเหตุว่ามีปัจจัยหลายด้าน ทาให้เกิดมีการเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่ในพระศาสนจักร ทั้งด้านความเชื่ อและการปกครอง ของพระศาสนาจักร เกิ ดมีแนวความคิดทางเทววิทยาและแนวทางปฏิบตั ิใหม่ๆ ขึ้นมา จนกระทัง่ ก่อให้เกิดมีการแยกตัวของลัทธิ ความเชื่ อต่างๆ เช่น แองกลีกนั , ลูเธอราน, คาลวิ kน, o ซวิงลี พระศาสนจักรคาทอลิกต้องหันมาปฏิรูปตัวเองด้านต่างๆ เพื่อปรับปรุ งnจุดgอ่k อนต่างๆ a ของตน B f o จุดศูนย์กลางของการปฏิรูปพระศาสนจักรคาทอลิก ในเวลานั e ้ นอยูท่ ี่การสังคายนาเมือง s e เตรนโต ซึ่ งถือเป็ นเหมือนพลัง แนวโน้มพิเศษและหลากหลายในการปฏิ รูปด้านต่างๆ ของ c o i d ้งด้านข้อคาสอน ระบบเทววิทยา พระศาสนจักร เป็ นการรวมเอาการตัดสิ นใจทัh้ งหมดทั c r าไว้ดว้ ยกัน การสังคายนาที่เมืองเตรนโต ระเบียบวินยั กฎเกณฑ์ และการอภิบาลวิญA ญาณมาเข้ esนเวลานานถึง 4 ศตวรรษทีเดียว เป็ นจุดอ้างอิงถึงชีวิต เป็ นพลังที่อยูภ่ ายในพระศาสนจักiv รมาเป็ h พระศาสนจักรในแง่มุมA ต่าrงๆc เสมอมา แน่นอนที่สุด บรรดามิชชันนารี ที่เข้ามาแพร่ ธรรม lต่างได้รับการอบรมและเตรี ยมตัวด้วยข้อคาสอนเหล่านี้ของสังคายนา เรา a ตามที่ต่างๆ ทัว่ iโลก c r o งการสังคายนาเตรนโตนี้สกั เล็กน้อยเพื่อจะได้ทราบว่าบรรดาธรรมทูตเหล่านี้มี จึงควรศึsกtษาถึ i จิตH ตารมณ์อะไร และเขามีท่าทีอย่างไรกับศาสนาอื่นๆ ที่พวกเขาได้มาสัมผัสด้วย ผูท้ ี่สนใจ ศึกษาเกี่ยวกับการสังคายนานี้ อย่างละเอียดก็สามารถทาได้ไม่ยากนัก เพราะมีหนังสื อมากมาย ที่ศึกษาถึงเรื่ องนี้ ไว้แล้ว
จุดประสงค์ ของการสั งคายนาที่เตรนโต 1. ตัดสิ นใจลงโทษเฮเรติ๊ก 2. ปฏิรูปพระศาสนจักร 3. เพื่อความเป็ นหนึ่ งเดียวของพระศาสนจักรต่อต้านอันตรายจากพวกเติร์ก
III
สรุปข้ อคาสอนและคาสั่ ง ของการสั งคายนาที่เป็ นประโยชน์ บางประการ - ไม่ได้เกิดใหม่ดว้ ยน้ าและพระจิต ไม่ได้รับความรอด - เกี่ยวกับข้อความเชื่อ สังคายนาที่เตรนโตกาหนดแหล่งต่างๆ ของการเปิ ดเผยของ พระ (Revelation) กาหนดให้หนังสื อพระคัมภีร์เป็ นแหล่งของการเปิ ดเผยของพระ และพระศาสนจักรมีสิทธิ์ ในการตีความพระคัมภีร์ที่แท้จริ งได้ ตัดสิ น ลงโทษการ ตีความส่วนบุคคล - เกี่ยวกับบาปกาเนิ ดและการตัดสิ นความรอด (Justification) สังคายนาบัญญญัตk ิวา่ o k พระหรรษทานเป็ นสิ่ งแรกของขบวนการทั้งหมดของการตัดสิ นความรอดgแต่ n a าตนให้ มนุษย์มีอิสระที่จะร่ วมมือกับพระหรรษทาน ยืนยันว่ามนุษย์สามารถท B f ศักดิ์สิทธิ์ ได้ดว้ ยตนเอง ปฏิเสธข้อคาสอนที่วา่ ความเชื่อeเท่าo นั้นช่วยให้รอดได้ esกาหนดให้มีศีลศักดิ์สิทธิ์ - ให้คาจากัดความข้อคาสอนเกี่ยวกับศีลศักดิ์สิทธิ์ ต่cางๆ io ทั้งหมด 7 ศีล จากัดความว่าศีลศักดิ์สิทh ธิ์ นีd ้ พระเป็ นเจ้าเองเป็ นผูต้ ้งั ขึ้น
c r A
s e v 2. สิ ทธิอุปถัมภ์ ศาสนา i (Padroado) h rงcจะกล่าวถึงอยูน่ ้ี เราใช้คาเรี ยกทับศัพท์เพื่อให้ใช้กนั อย่างถูกต้อง สิ ทธิ พิเศษที่เราก าลั A l a และสากล แม้rวiา่cเราจะไม่เคยชินกับคาว่า "ปาโดรอาโด" มากนัก เวลานี้ กาลังจะศึกษาเพื่อให้รู้ to นมาของสิทธิพิเศษประการนี้ ที่พระศาสนจักรมอบให้แก่ประเทศสเปส ถึงที่มiาและความเป็ s H
และโปรตุเกส สาเหตุอีกประการหนึ่ งที่เราควรศึกษาถึงเรื่ องนี้ กค็ ือ บรรดามิชชันนารี ที่เข้ามา ในสยามในศตวรรษที่ 16 และศตวรรษที่ 17 นั้น ต่างก็เป็ นนักบวชที่มาจากมะละกา, กัว, มาเก๊า และมะนิลา ซึ่ งล้วนเป็ นนักบวชที่ข้ ึนอยูก่ บั สิ ทธิ พิเศษนี้ ท้งั สิ้น และเมื่อบรรดา มิชชันนารี เหล่านี้ ต้องพบและอยูร่ ่ วมกับมิชชันนารี ที่ทางสมณกระทรวงโปรปากันดา ฟี เด ส่งมา ได้แก่ มิชชันนารี ของคณะมิสซังต่างประเทศแห่งกรุ งปารี ส (M.E.P.) ก็เท่ากับมีสอง อานาจที่อยูใ่ นที่เดียวกัน ปัญหาต่างๆ ย่อมเกิดขึ้นอย่างแน่นอน
IV
ต้ นกาเนิด ต้ นกาเนิดนีเ้ ราสามารถแบ่ งออกได้ เป็ น 3 อย่ างด้ วยกัน 2.1 การฟื้ นฟูศิลปวิทยาการ และความเจริ ญก้าวหน้าทางการเดินเรื อของสเปน และโปรตุเกส ทาให้ปาโดรอาโดขยายวงกว้างออกไปยังดินแดนที่คน้ พบขึ้นใหม่ ในประเทศ โปรตุเกสนั้นมีการก่อตั้งคณะแห่งพระคริ สต์ (Order of Christ) ขึ้นมาโดยพระสันตะปาปา ยอห์นที่ 22 เมื่อวันที่ 15 มีนาคม ค.ศ. 1319 โดยเป็ นคณะทหารที่จะปกป้ องพระศาสนจักร จากการรุ กรานของมุสลิมที่กาลังขยายตัวเข้ามาสู่ยโุ รป คณะนี้ อยูภ่ ายใต้การดูแลโดยกษัตริ ย ์ โปรตุเกสเอง และทาหน้าที่เป็ นอธิการของคณะ ดังนั้น กษัตริ ยโ์ ปรตุเกสจึงมีอานาจมาก k ทีเดียวในการปกครองดูแลอาณานิ คมของตนทั้งทางโลกและทางธรรมด้วย การเดินเรืoอของ k โปรตุเกสเริ่ มต้นขึ้นโดยเจ้าชายเฮนรี ซึ่ งได้รับสมญานามว่า "นักเดินเรื อ" เป็ a นโอรสองค์ ng หนึ่ง B เดินเรื อไปจนถึง ของพระเจ้ายอห์นที่ 1 กษัตริ ยโ์ ปรตุเกส (ค.ศ. 1385-1433) เจ้าชายเฮนรี f oาเหนือ และยึดเมืองนีไว้ e เมืองเซวต้า (Ceuta) ซึ่ งอยูใ่ นเมาริ ตาเนี ย ชายฝั่งทะเลของทวีปอาฟริ ก ้ s e c งทรงตั้งให้เซวต้าเป็ นสังฆมณฑล ได้เมื่อวันที่ 21 สิ งหาคม ค.ศ. 1415 พระสันตะปาปาจึ o i dส่วนหนึ่งของอาฟริ กานั้นเป็ นผลดี เพราะ h ขึ้นอยูก่ บั สังฆมณฑลราคา ในโปรตุเกส การเข้ า ยึ ด c r A เท่ากับเป็ นการตัดกาลังพวกแขกมัวร์ (มุsสลิม) ที่กาลังข่มขู่ยโุ รปอยู่ อีกทั้งยังเป็ นการ แพร่ ive ่ มให้อภิสิทธิ์แก่โปรตุเกส คือ อานาจในการปกครอง ขยายพระศาสนาด้วย พระสันhตะปาปาเริ เมือง และดินแดนที่ชlนะมาได้ Arc ทั้งเวลานั้น และในเวลาต่อๆ ไปด้วย โปรตุเกสจึงเริ่ มต้นงาน aทางการเดินเรื อ เจ้าชายเฮนรี พยายามทางานอย่างเต็มที่ที่จะนาคริ สต์ ค้นพบดิ นแดนใหม่ c i r o t ศาสนาเข้ าไปในมหาสมุทรอินเดีย s i H ประเทศสเปนเองก็กาลังขึ้นมาเป็ นประเทศมหาอานาจใหม่ในเวลานั้น ความแข็งแกร่ ง และความเป็ นปึ กแผ่นของสเปนนั้น เกิดขึ้นภายในช่วงระยะเวลาประมาณหนึ่ งศตวรรษ เท่านั้น ทั้งนี้ เพราะในระหว่าง ค.ศ.714 และ 732 พวกแขกมัวร์ได้เข้าครอบครองคาบสมุทรนี้ อยูน่ านทีเดียว ในที่สุดอาณาจักรคริ สเตียนที่เหลืออยู่ 2-3 แห่งทางภาคเหนื อของคาบสมุทร ได้รวมตัวกันขับไล่ออกไป โดยมีอาณาจักรอารากอนและ อาณาจักรคาสตีลเป็ นแกนนา ปี ค.ศ.1469 ดินแดนสเปนรวมเข้าเป็ นรัฐเดียวโดยการอภิเษกสมรสระหว่างพระเจ้าเฟอร์ดินนั โด (Ferdinando) แห่งแคว้นอารากอน และพระนางอิสซาเบลลา (Isabella) แห่งแคว้นคาสตีล สเปนสามารถขับไล่แขกมัวร์ออกไปได้ เมื่อยึดแคว้นกรานาดาได้ในปี ค.ศ. 1492 และที่สุด ยังสามารถยึดโปรตุเกสได้ดว้ ยในปี ค.ศ. 1581
V
ความยิง่ ใหญ่ของสเปนเริ่ มขึ้นเมื่อคริ สโตเฟอร์ โคลัมบัส ค้นพบทวีปอเมริ กาและยึดไว้ ได้ในนามของประเทศสเปนในปี ค.ศ.1492 พระเจ้าเฟอร์ดินนั โดและพระนางอิสซาเบลลาก็ เรี ยกร้องและขอจากพระสันตะปาปาอเล็กซานเดอร์ที่ 6 (ค.ศ.1492-1503) ทันทีโดยขอเอกสาร (Bull) เพื่อยืนยันถึงสิ ทธิ ที่ตนควรได้รับเช่นเดียวกับที่โปรตุเกสได้รับเหนื อทวีปอาฟริ กา มาแล้ว และนับจากนี้ ไปมีสองสิ่ งที่ควบคู่กนั ไปเสมอได้แก่ การล่าอาณานิ คม การสารวจโลกใหม่อย่างจริ งจังทั้งของโปรตุเกสและสเปน การขอสิ ทธิ พิเศษ Padroado เหนื อดินแดนใหม่ อานาจในการปกครอง แพร่ ธรรม ซึ่ งสิ ทธิ พิเศษมีการแก้ไข เปลี่ยนแปลง เพิ่มเติม อยูต่ ลอดเวลา ข้อสังเกตประการหนึ่ งก็คือ แม้วา่ สเปนกับโปรตุเกสจะเป็ นมหาอานาจในยุโรป แต่ k ต่างก็ตอ้ งขออนุญาตจากพระสันตะปาปา เพราะว่าเป็ นเรื่ องของความเชื่อโดยแท้ จริ งว่o า พระ k สันตะปาปาในฐานะเป็ นผูแ้ ทนพระคริ สตเจ้าบนโลกนี้ มีอานาจหน้าที่โดยสมบูรn ณ์ gที่จะถอด a ซึ่งถือศาสนา B ถอนประเทศทั้งหลายของคนต่างศาสนา เพื่อประโยชน์สาหรับนักปกครอง f o e ้ โรมถึงกับเรี ยกทั้ง คริ สต์ และในกรณี ของพระเจ้าเฟอร์ดินนั โดและพระนางอิสซาเบลลานี s eยว c สองพระองค์น้ ี วา่ “คาทอลิกสุดๆ" (Catholicissimus) เลยที เ ดี io
d h c Ar
2.2 การรุกรานของพวกแขกมั วร์ es
v
i 15 แขกมุสลิม หรื อ พวกเติร์ก (Turk) กาลังมีอานาจมาก ในศตวรรษที่ c14hและ r องสาคัญเช่น Constantinople ถูกตีแตกในวันที่ 29 พฤษภาคม A และรุ กรานยุโรปและเมื l a icชาวยุโรปและพระศาสนจักรเองก็เริ่ มกลัวกันว่า ยุโรปจะรอดพ้นมือของพวก ค.ศ. o 1453 r t หรื อไม่ ในยุโรปตอนนั้นก็มีเพียง 2 ประเทศที่มีอานาจและเข้มแข็งเพียงพอที่จะ s i เติ ร ์ ก H ต้านทานการรุ กรานของพวกแขกมุสลิมได้ ได้แก่โปรตุเกสและสเปน นอกจากมีอานาจ และกาลังเพียงพอแล้ว ยังมีความก้าวหน้าในการสารวจดินแดนใหม่ๆ อีกด้วย กษัตริ ย ์ ของทั้ง 2 ประเทศ (ซึ่งเป็ นประเทศคริ สตัง) ต่างก็ขออานาจจากพระสันตะปาปาที่จะทา หน้าที่เผยแพร่ ความเชื่อไปยังดินแดนที่เพิ่งค้นพบใหม่เหล่านั้น บรรดาพระสันตะปาปา ในสมัยนั้นต่างก็เห็นถึงประโยชน์ท้งั ด้านวิญญาณและด้านวัตถุดว้ ย จึงได้มอบสิ ทธิ พิเศษมากมายแก่พวกนักสารวจของโปรตุเกสและสเปน และมอบหมายให้ท้งั 2 ประเทศ นี้ ทาหน้าที่เผยแพร่ ความเชื่อ ในลักษณะเช่นนี้ สิ ทธิ พิเศษเหล่านี้ ทาให้ประเทศโปรตุเกส และสเปน กุมบังเหี ยนการแพร่ ธรรมเอาไว้ รวมทั้งยังประโยชน์ต่างๆ ด้วย
VI
2.3 เอกสารมอบสิ ทธิพเิ ศษ ที่ออกโดยพระสันตะปาปาต่างๆ รายละเอียดจริ งๆ ของสิ ทธิ พิเศษเหล่านี้ กม็ ีอยู่ ในเอกสารต่างๆ เหล่านี้ นี่เอง ต้นกาเนิ ดของสิ ทธิ พิเศษนี้ ที่แท้ได้แก่พระสันตะปาปา
ข้ อสั งเกตบางประการเกีย่ วกับระบบปาโดรอาโด 1. น่าสังเกตว่า แม้ระยะเวลานั้นจะอยูใ่ นศตวรรษที่ 16 แล้วก็ตาม แต่ประเทศโปรตุเกส และสเปนยังคงยึดถือจิตตารมณ์ของสมัยกลางอยู่ นัน่ คือ การยึดติดอยูก่ บั สถาบัน พระสันตะปาปาแทนที่จะยึดติดอยูก่ บั ความโน้มเอียงไปสู่ความเปลี่ยนแปลงจากสมัยกลาง ไปสู่สมัยใหม่ ตามที่มีอยูท่ วั่ ไปในยุโรป เวลานั้น ประเทศทั้งสองจึงกลายเป็ นเสมือนเครื่ องมื อ k ko ที่ พระศาสนจักรใช้ในการขยายพระศาสนจักรไปสู่ดินแดนที่เพิ่งค้นพบใหม่ g n a 2. การก่อตั้งระบบปาโดรอาโด ทาให้ประเทศสเปนและโปรตุเกสต้B องรับหน้าที่ในการ f ต่อสูก้ บั พวกแขกมัวร์มุสลิมที่กาลังคุกคามยุโรปในเวลานั้น และด้ วo ยการสารวจดินแดนใหม่ e s e พระศาสนจักรก็สามารถทาให้มีการกลับใจได้ c o การปกครองของสเปนและเป็ นอยู่ iายใต้ d ่ 3. ในปี ค.ศ. 1580 ประเทศโปรตุเกสตกอยู ภ h c r เช่นนี้ จนกระทัง่ ปี ค.ศ. 1640 เมื่อมีการปฏิA วตั ิกนั ขึ้นและที่สุดก็สถาปนาระบบพระมหากษัตริ ย ์ s ่โปรตุเกสอ่อนแอมากเช่นนี้เอง ก็มีสิ่งใหม่เกิดขึ้น e ปกครองโปรตุเกสต่อไป ในช่วงระยะเวลาที v i h ในพระศาสนจักร นัน่ คือrcการก่อตั้งสมณกระทรวงเผยแพร่ ความเชื่อหรื อ ที่รู้จกั กันในนาม A โปรปา กันดา c ฟี เดal(Propaganda Fide) ทั้งนี้ เป็ นเพราะระบบปาโดรอาโดทาให้เกิดอุปสรรค i r ในการทางานแพร่ ธรรมของพระศาสนจักร เมื่อเป็ นเช่นนี้ สิ ทธิพิเศษปาโดรอาโด กับบุคลากร o t s i นดา ฟี เด ก็ตอ้ งเผชิญหน้ากันในดินแดนที่ท้งั สองต้องทางานร่ วมกันมิสซังสยาม ของ Hโปรปากั ก็ไม่ได้รับการยกเว้น
3. สมณกระทรวงเผยแพร่ ความเชื่อ (Propaganda Fide) การก่อตั้งสมณกระทรวงเผยแพร่ ความเชื่อ นับว่าเป็ นเหตุการณ์ที่สาคัญยิง่ ในประวัติ ศาสตร์พระศาสนจักร และโดยเฉพาะอย่างยิง่ ในประวัติศาสตร์การแพร่ ธรรม เราเห็นแจ้งว่า ระบบปาโดรอาโดนี้ ด้านหนึ่ งก็เท่ากับเป็ นการช่วยพระศาสนจักรในการแพร่ ธรรม ส่วนอีก ด้านหนึ่ งการแพร่ ธรรมได้รับการกระทบกระเทือน เพราะเหตุวา่ อาณานิ คมของโปรตุเกส กว้างใหญ่ไพศาล กษัตริ ยไ์ ม่สามารถดูแลและช่วยคริ สตังได้ทวั่ ถึง ปัญหาต่างๆ ก็ตามมาหลาย อย่างด้วยกัน คุณพ่อกอสเตได้สรุ ปไว้ดงั นี้
VII
หลังสังคายนาเตรนโต พระสันตะปาปาปี โอ ที่ 5 ได้ต้งั คณะกรรมการคณะหนึ่ง เพื่อส่งเสริ มการเผยแพร่ ศาสนา ครั้งแรกมีพระคาร์ดินลั 4 องค์เป็ นกรรมการ ต่อมาเพิ่ม จานวนถึง 11 องค์ (ปี ค.ศ. 1568) ต่อมาปี ค.ศ. 1622 พระสันตะปาปาเกรโกรี ที่ 15 ได้ทรง สถาปนาสมณกระทรวงหนึ่ง เรี ยกว่า สมณกระทรวงการเผยแพร่ ความเชื่อ สมณกระทรวงใหม่เริ่ มทางานโดยทาการสารวจสื บสวน เพื่อทราบสภาพความเป็ นอยู่ ของการแพร่ ธรรมในมิสซังถึง 3 ครั้ง (ปี ค.ศ. 1625, 1628, 1644) สมณกระทรวงได้รับคาตอบ ที่จะสรุ ปได้ดงั ต่อไปนี้ ในมิสซังมีการขัดแย้งกันระหว่างพระสังฆราชกับนักบวช และระหว่างนักบวชด้วยกัน, ธรรมทูตทาการค้าขาย, ธรรมทูตไม่เรี ยนภาษาของชาวบ้านในประเทศที่เขาแพร่ ธรรม, เขต k สังฆมณฑลกว้างเกินไป, ธรรมทูตไปยุง่ กับการเมือง, นักการเมืองไปยุง่ ในงานแพร่ ธรรมของ o k ธรรมทูต, ธรรมทูตไม่มีโครงการจะเตรี ยมคนพื้นเมืองให้บวชเป็ นพระสงฆ์ หรื อgคัดค้านไม่ n a B ยอมให้คนพื้นเมืองบวชเป็ นพระสงฆ์, พระสันตะปาปาไม่สามารถประกาศสมณสาสน์ ใน f o ประเทศมิสซัง ถ้ากษัตริ ยโ์ ปรตุเกสไม่ได้รับรองเสี ยก่อน se ce อันที่จริ งปัญหาเหล่านี้ มีมานานแล้ว เพียงแต่io สมณกระทรวงได้ เริ่ มสอบสวนและหา d นถึงความจาเป็ นในอันที่จะต้องจัดตั้ง h ทางแก้ไขต่อมาเท่านั้น เป็ นอันว่าเราสามารถมองเห็ c r A สมณ กระทรวงเผยแพร่ ความเชื่อขึ้นแล้sว e พระสันตะปาปาเกรโกรีhiทีv่ 15 ก่อตั้งสมณกระทรวงเผยแพร่ ความเชื่อนี้ ข้ ึนเมื่อวันที่ 6 มกราคม ค.ศ. 1622 Arc lตะปาปาทรงมอบหมายให้แก่สมณกระทรวงใหม่น้ีไม่มีอะไรมากไปกว่า a งานที่พriระสั น c ให้ทาทุisกtอย่oางเพื่อช่วยการเผยแพร่ ความเชื่อคาทอลิก สนามงานของสมณกระทรวงได้แก่ H ้งโลก โลกทั คาว่า Mission หรื อที่เราเรี ยกกันว่า มิสซังนั้น ก็ถูกใช้โดยสมณกระทรวงตั้งแต่แรกๆ เลยทีเดียว เพราะคาๆ นี้ หมายถึงการส่งออกไป การส่งออกไปนี้ ได้แก่ การส่งบรรดา "ผูแ้ ทน พระสันตะปาปา" (Apostolic Vicars) ออกไปทางานในนามของพระสันตะปาปาโดยพยายาม หลีกเลี่ยงกับสิ ทธิ พิเศษของโปรตุเกสและสเปนด้วย
VIII
ก. จุดมุ่งหมายของการส่ งผู้แทนพระสั นตะปาปา การก่อตั้งสมณกระทรวงเผยแพร่ ความเชื่อมาจากความจาเป็ นต่างๆ ดังกล่าวมาแล้ว เป็ นต้นว่า การตัดสิ นใจของสังคายนาที่เมืองเตรนโต การต้องการเอาอานาจในการแพร่ ธรรม กลับคืนมาสู่มือพระศาสนจักร การขจัดความไม่สะดวกต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากสิ ทธิ พิเศษต่างๆ ที่โปรตุเกสและสเปนได้รับจากสิ ทธิพิเศษของปาโดรอาโด ประกอบกับเวลานั้นประเทศ โปรตุเกสกาลังสูญเสี ยอานาจของตนไปอันเนื่ องมาจากมีคู่แข่งมากขึ้นทั้งจากอังกฤษ, ฮอล แลนด์, ฝรั่งเศสรวมทั้งสเปนก็เข้าครอบครองโปรตุเกสด้วย นอกจากนี้ ประเทศโปรตุเกสเองก็ ยังไม่สามารถบริ หารงานแพร่ ธรรมในดินแดนต่างๆ ที่ตนยึดครองอยูอ่ ย่างมีประสิ ทธิ ภาพอีก ด้วย ตามที่กล่าวมาแล้วว่า สมณกระทรวงจาเป็ นต้องระมัดระวังที่จะไม่ล่วงล้ าสิk ทธิoพk ิเศษ g n ไปตาม ของโปรตุเกส แต่งานแพร่ ธรรมก็จาเป็ นต้องเริ่ มขึ้น จึงได้จดั ส่ง ApostolicaVicar B ภูมิภาคต่างๆ ของโลก เราอาจจะแปลคาว่า Apostolic Vicar ได้วo า่ f"รองอัครสาวก" หรื อ se งฆราชของสังฆมณฑลใด "ผูแ้ ทน พระสันตะปาปา" โดยเป็ นผูไ้ ด้รับการแต่งตั้งเป็ นeพระสั c Titular Bishop in partibus o สังฆมณฑลหนึ่งหรื อเมืองใดเมืองหนึ่ง ซึ่ งเราเรี ยกว่ า เป็ น i d h c infidelium ซึ่ งหมายความว่าเป็ นพระสังฆราชr แต่ไม่ตอ้ งประจาในท้องที่ที่ถูกกาหนดไว้ตาม s A นตะปาปา สมณกระทรวงยังคงยอมรับสิทธิ ตาแหน่ง แต่ให้ไปทาหน้าที่เป็ นผูe แ้ ทนพระสั v พิเศษปาโดรอาโด แต่เวลาเดีcยhวกัi นก็ปฏิเสธอย่างแข็งขันในดินแดนต่างๆ ดังต่อไปนี้ ดว้ ย คือ r ในดิ นแดนซึ ่l งA ยังไม่เคยถูกโปรตุเกสครอบครองมาก่อน a ่ งเคยถูกโปรตุเกสครอบครอง แต่ได้รับเสรี ภาพแล้วโดยมีผปู้ กครองของ c i ในดิ น แดนซึ r o t s i H ตนเอง ในดิ นแดนที่ถูกยึดครองโดยชาวฮอลแลนด์ และชาวอังกฤษ ตัวอย่างที่เห็นได้ชดั จากเรื่ องนี้ ได้แก่ สมณกระทรวงไม่เคยยอมรับเลยว่าขอบเขตของ สังฆมณฑลมาเก๊าแผ่ขยายเข้าไปจนถึงประเทศจีนด้วย ตามที่ประเทศโปรตุเกสอ้างอยูเ่ สมอ เกี่ยวกับเรื่ องนี้ พระสันตะปาปา Innocent XII สนับสนุนแนวทางของสมณกระทรวงและให้
IX
การรับรองด้วยพระองค์เอง ดังนั้นสมณกระทรวงจึงจัดส่งผูแ้ ทนพระสันตะปาปาเข้าไปใน ดินแดนต่างๆ ดังกล่าว รวมทั้งจีนและอินโดจีนด้วย ผูท้ ี่จะเป็ น Apostolic Vicar ก็ได้รับการ เลือกมาจากพระสงฆ์พ้ืนเมือง (Diocesan Priests) หรื อพระสงฆ์สงั ฆมณฑล หรื อจากผูท้ ี่เป็ น อิสระจากอิทธิพลของปาโดรอาโด และจากอานาจหน้าที่ของอธิ การคณะนักบวชต่างๆ ด้วย และเพื่อมิให้เกิดปัญหากับปาโดรอาโด ก็ได้ย้าเตือนบรรดาผูแ้ ทนพระสันตะปาปาเหล่านี้ ให้ ระวัง และให้ถือตามแนวทางต่างๆ ที่สมณกระทรวงให้ไว้ดว้ ย ด้วยวิธีการนี้ เท่านั้นการแพร่ ธรรมได้กลับมาอยูใ่ นมือของพระสันตะปาปาอีกครั้งหนึ่ ง แน่นอนที่สุด กษัตริ ยโ์ ปรตุเกสได้อา้ งว่า การแต่งตั้งผูแ้ ทนพระสันตะปาปาในลักษณะ เช่นนี้ เป็ นการล่วงล้ าต่อสิ ทธิ พิเศษของตน ในปี ค.ศ. 1680 สมณกระทรวงภายใต้การรับรอง kา ของพระสันตะปาปา ได้ออกประกาศทางการส่งไปให้กษัตริ ยโ์ ปรตุเกส ประกาศให้ทo ราบว่ gk อีก การก่อตั้งสถาบันผูแ้ ทนพระสันตะปาปานี้ มิได้เป็ นการล่วงล้ าปาโดรอาโดแต่ปn ระการใด a B ทั้งยังไม่เกี่ยวข้องกับอานาจหน้าที่ของบรรดาพระสังฆราช ซึ่ งอยูภ่ ายใต้ ร ะบบปาโดรอาโด f o อีกด้วย เพราะเหตุวา่ ผูแ้ ทนพระสันตะปาปา มิได้ถูกแต่งตั้งเข้ าe ไปอยูใ่ นดินแดนที่โปรตุเกส s e ครอบครองอยู่ อีกทั้งสิ ทธิ พิเศษต่าง ๆ ของโปรตุเกสนัi้ นoก็ยcงั อยูค่ รบถ้วนทุกประการด้วย d เดียวกว่าจะประกาศให้กษัตริ ยโ์ ปรตุ h สิ่ งที่น่าสังเกตก็คือ สมณกระทรวงใช้เcวลานานที r A เกสทราบอย่างเป็ นทางการ ในระหว่s างเวลาก่อนหน้านั้นมีเหตุการณ์บาดหมางกันระหว่าง 2 e สถาบันนี้ เกิดขึ้นมากมาย สิ่ งทีh่นi่าvสนใจอีกประการหนึ่ งก็คือ ปลายๆ ศตวรรษที่ 16 และต้นๆ rc ศตวรรษที่ 17 ในดินA แดนของปาโดรอาโดเองก็ เกิดเหตุการณ์ไม่ดีอยูห่ ลายอย่างด้วย ได้แก่ l a างคณะนักบวชต่างๆ, พวกมิชชันนารี ไม่เตรี ยมพระสงฆ์พ้ืนเมือง, ความบาดหมางระหว่ c i r o t ไม่ประยุ ก ต์ ว ฒั นธรรม สมณกระทรวงยังคงพยายามทุกวิถีทางเพื่อให้เกิดความร่ วมมือ s i H างกัน โดยวางแผนและโครงการไว้หลายประการด้วยกันเพื่อแก้ปัญหาเหล่านี้ เพื่อให้ ระหว่ งานแพร่ ธรรมก้าวหน้า แม้วา่ สมณกระทรวงมีขอ้ คาสอนหลายอย่างเกี่ยวกับเรื่ องนี้ แต่เมื่อถึง เวลาที่จะต้องประยุกต์จารี ตต่างๆ ก็ไม่สามารถทาได้ ดังนั้นสิ่ งที่เราน่าจะสนใจเวลานี้ คือ สมณกระทรวงให้ขอ้ คาสอนอะไรแก่บรรดามิชชันนารี ของตนบ้าง
X
ข.ข้ อคาสอนของสมณกระทรวงต่ อบรรดาผู้แทนพระสั นตะปาปา สมณกระทรวงเห็นว่าสิ่ งแรกที่จะต้องทาก็คือ การแสวงหาความคิดทัว่ ๆ ไปเกี่ยวกับ
งานแพร่ ธรรมของพระศาสนจักร ซึ่ งเป็ นงานที่พระสันตะปาปาเกรโกรี ที่ 15 , มอบหมาย จึงได้ขอความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่ องนี้ไปยังบรรดาสมณทูต, พระสังฆราช, มหา อธิ การของคณะนักบวชต่างๆ และขอคาแนะนาจากผูม้ ีความสันทัดในเรื่ องนี้ ดว้ ย พระคาร์ ดินลั Ingoli เลขาธิการของ สมณกระทรวงในเวลานั้น ได้รวบรวมความคิดเห็นต่างๆ และได้ แต่งเป็ นบันทึกความทรงจา (Memorandum) ขึ้นมา 3 เล่ม บรรยายเกี่ยวกับความยากลาบาก ต่างๆ ที่บรรดามิชชันนารี ประสบในตะวันออกไกล และอินเดียตะวันตก พร้อมทั้งแสดงความ คิดเห็นและทางแก้ไขต่างๆ เอาไว้ดว้ ย Ingoli เองเกิดมีความคิดด้านแพร่ ธรรมอันยิง่ ใหญ่ k o ขึ้นมาด้วย นัน่ คือ อบรมและเตรี ยมคณะสงฆ์พ้ืนเมือง และจัดตั้งฐานันดรของพระศาสนจั k กร g n a ท้องถิ่นด้วย (Native Hierarchy) B f o อคาสัง่ สอนต่างๆ ที่ แผนงานต่างๆ ของสมณกระทรวงตามที่มีอยูใ่ นกฤษฎีกาและข้ e จัดทาขึ้นในปี แรกๆ ของการก่อตั้ง รวมทั้งงานเขียนต่างๆcของพระคาร์ es ดินลั อินโกลี ค่อยๆ ถูก io จัดทาขึ้นมาโดยวางพื้นฐานอยูบ่ นแนวทางที่พระสันdตะปาปาเกรโกรี ที่ 15 มอบไว้ รวมทั้งบน h ประสบการณ์และบทสะท้อนของพระคาร์A ดินrลั cอินโกลี เอกสารรู ปแบบของเรื่ องนี้ ได้แก่ ข้อ คาสอนที่มีชื่อเสี ยงมากซึ่ งเราเรี ยกกั นeว่s า "ข้อคาสัง่ สอน ปี ค.ศ. 1659" มอบให้แก่บรรดาผูแ้ ทน v i พระสันตะปาปาแห่งอินโดจี นhมีชื่อว่า "Instructio Vicariorum Apostolicorum ad regna c r Sinarum Tonchiniaetl A Cocincinae proficiscentium 1659" ออกโดยสมณกระทรวง มอบให้ cPallu พระสังฆราชแห่งเอลีโอโปลีส, ฯพณฯ Pierre Lambert de la Motte i r ฯพณฯ Francis to s i พระสั H งฆราชแห่งเบริ ธ และฯพณฯ Ignatius Cotolendi พระสังฆราชแห่งเมแตลโลโปลีส
เราสามารถสรุปส่ วนสาคัญๆ ของภารกิจที่ต้องทาได้ ดงั นี้ 1. คณะสงฆ์พ้ืนเมืองต้องได้รับการก่อตั้งขึ้น และนี่ ตอ้ งถือว่าเป็ นเหตุผลหลัก ของการเดินทางครั้งนี้
XI
2. มิชชันนารี ถูกห้ามไม่ให้ยงุ่ เกี่ยวกับการเมือง และการค้าขายด้วย พวกเขาต้อง อยูห่ ่างๆ จากเรื่ องต่างๆ ทางการเมืองและธุรกิจ และมิให้เข้ารับหน้าที่บริ หาร เรื่ องราวทางบ้านเมือง สมณกระทรวงได้หา้ มเรื่ องเหล่านี้ อย่างจริ งจังและเคร่ งครัด เสมอมา และห้ามเช่นนี้ ต่อไป หากว่ามีใครถลาเข้าไปสู่ความโง่เขลาชนิ ดนี้ เขาจะต้อง ถูกปลดออกจากหน้าที่โดยไม่ตอ้ งลังเลเลย ให้ปลดและขับไล่ออกจากมิสซัง เพื่อมิให้ มีสิ่งใด ถูกพิจารณาว่าเป็ นผูน้ าเอาความพินาศและเป็ นการทาร้ายต่องานของ พระผู้ เป็ นเจ้า 3. การประยุกต์ต่างๆ ต้องถูกนามาใช้กบั วัฒนธรรมและประเพณี ของประชาชน เกี่ยวกับเรื่ องนี้ ขอ้ คาสัง่ สอนกล่าวว่า พวกเขาต้องไม่วิจารณ์การกระทาและการปฏิบตั ิ ใดๆ ของประชาชนไม่วา่ ในส่วนตัวหรื อในที่สาธารณะ พวกเขาต้องไม่ถกเถียo งอย่kาง k รุ นแรง รวมทั้งต้องไม่ให้ความเห็นใดๆ ด้วย แต่พวกเขาต้องสอนความเชืn่อg ซึ่ งไม่โจมตี a และทาร้ายพิธีการและประเพณี ของชนชาติใดเลย เพราะเหตุf วB า่ เป็ นธรรมชาติของ o างยิง่ ต่อชาติของ e มนุษย์ที่จะรักและให้คุณค่าต่อสิ่ งที่เป็ นของตนเอง และโดยเฉพาะอย่ s e c ตาจารย์ของพระศาสนจักร ตนเองพวกเขาต้องพยายามแปลหนังสื อต่างๆ iของบรรดาปิ o d้นเมือง h และหนังสื อชนิ ดต่างๆ เหล่านี้ ให้เป็ นภาษาพื c r A 4. ต้องจัดตั้งการศึกษาทั้งsทางศาสนาและทางวิทยาการ ต้องจัดตั้งโรงเรี ยนขึ้น eางที่สุด และด้วยความมานะอย่างที่สุด เพื่อบรรดา v ทุกแห่งด้วยความเอาใจใส่ อ ย่ i h c r เยาวชนของแคว้A นต่างๆ โดยไม่คิดเงินใดๆ ให้สอนภาษาลาตินและข้อคาสอนของ l คริ สต์rศiาสนาด้ ca วย เพื่อว่าจะไม่มีคาทอลิกคนใดเลยจาต้องส่งบุตรหลานของตนไปรับ toกษาประเภทอื่น เวลาเดียวกันบรรดามิชชันนารี ตอ้ งพยายามหากระแสเรี ยกทาง การศึ s i H ศาสนาในท่ามกลางเยาวชนเหล่านั้น หากเห็นว่าเขามีความศรัทธาและใจกว้าง เมื่อได้อ่านและทาความเข้าใจถึงภูมิหลังทางประวัติศาสตร์ เนื้ อหาในประวัติมิสซัง สยาม แล้วได้นามามองควบคู่ไปกับความเป็ นไปของพระศาสนจักรคาทอลิกไทยในปัจจุบนั เราทราบว่าพระศาสนจักรคาทอลิกไทยมิได้เจริ ญเติบโตอย่างที่คิด แม้ว่าจะมีอิทธิ พลอยู่ใน ระดับหนึ่งในสังคมไทย ประวัติศาสตร์มีบทเรี ยนที่เราควรเรี ยนรู้อีกมากมาย หนังสื อแปลเล่ม นี้ ทาให้เ ราค้น พบความเป็ นจริ งหลายด้า นในการทางานของพระศาสนจักรคาทอลิ กไทย อุป สรรคในการทางานพร้อมทั้งผลที่เกิดขึ้น
XII
แม้วา่ พระศาสนจักรคาทอลิกไทยในปัจจุบนั จะเป็ นเพียงองค์กรศาสนาเล็กๆ องค์กร หนึ่งในประเทศไทย แต่กย็ งั คงเป็ นองค์กรทางศาสนาที่มีความมุ่งมัน่ ในการอุทิศตนเพื่อความ ดีของสังคมไทย โดยเฉพาะทางด้านจิตใจและทางด้านการศึกษา ขออภัยสาหรับข้อบกพร่ องซึ่ งอาจมีอยูใ่ นการจัดพิมพ์หนังสื อแปลเล่มนี้ และขอขอบ คุณสาหรับผูท้ ี่จะมีขอ้ แนะนา เสนอแนะต่างๆ เพื่อให้งานสมบูรณ์ยงิ่ ขึ้นด้วย ขอขอบคุณ คุณอภิญญา บุญลาภ, คุณสุ กญั ญา เหมพรวิสาร, และคุณพิศมัย แซ่เตียว ในการตรวจทาน ก่อนการพิมพ์อย่างละเอียด. คุณพ่ อสุ รชัย ชุ่ มศรีพนั ธุ์ k แผนกงานประวัติศoาสตร์ k อัครสังฆมณฑลกรุ ng งเทพฯ
s i H
c i r to
A l a
iv h rc
A s e
e c io d rch
o e s
a B f
XIII
คานาของคุณพ่ อโลเน "ประวัติมิสซังกรุ งสยาม" มิได้แต่งขึ้นตามแนวความคิดเหมือนในประวัติมิสซัง อินเดีย ทิเบต และจีน ซึ่ งเราพิมพ์เผยแพร่ มาได้ 25 ปี แล้ว ในประวัติของมิสซังทั้งสามนั้น เราเล่าพฤติการณ์ต่างๆ โดยแทรกเข้าไปในเอกสาร ที่อา้ งถึงอย่างยืดยาว หรื อบางทีกอ็ า้ งอิงทั้งหมดทีเดียว วิธีการนี้ ทาได้ เพราะพฤติการณ์ที่เกิดมีมากและบางครั้งเป็ นไปอย่างตื่นเต้นเร้าใจ แต่ "ประวัติมิสซังกรุ งสยาม" นั้นมีลกั ษณะต่างกันคือ มีเอกสารมาก แต่พฤติการณ์มีนอk ้ย o gkนจากัด การแพร่ ธรรมมิได้เป็ นไปอย่างเข้มข้น พวกมิชชันนารี ตอ้ งกระทาอยูแ่ ต่ในขอบเขตอั n a B ผลของการแพร่ ธรรมจึงมีแต่นอ้ ยนิ ด f o e วนที่เป็ นประวัติน้ นั เราจึงเห็นสมควรที่จะแยกพิมพ์เอกสารเป็ นเล่มต่างหาก sและในส่ e c เราจะสรุ ปย่อเหตุการณ์ต่างๆ ชี้ให้เห็นว่าเหตุการณ์เหล่ ioานั้นเกี่ยวโยงกันอย่างไร เกิดเพราะ d h่ อง และการกระทาของเขามีลกั ษณะเป็ น c เหตุไร และมีผลเป็ นประการใด ตัวละครในเรื r A อย่างไร พูดสั้นๆ ก็คือ เราเพียงเป็ นeสืs ่ อช่วยแนะให้อ่านและศึกษาเอกสารต่าง ๆ เนื่องจาก v i h ประวัติและเอกสารนั้นแบ่rงc เป็ นบทๆ แบบเดียวกัน โดยถือสมัยปกครองของพระสังฆราช A เป็ นหลัก เราจึงเห็นไม่จาเป็ นต้องมีหมายเหตุบอกเอกสารที่เนื้อ l และเหตุการณ์ที่สาคั ญ ๆ a c i r าวถึงอยูแ่ ล้ว เรื่ องเล่าสรุtoปและกล่ s i H งานเขียนของเราสิ้นสุดลงในปี ค.ศ. 1811 อันเป็ นยุคที่มิชา้ มิสซังกรุ งสยามจะค่อยๆ เจริ ญขึ้น เพราะกิจการเผยแพร่ ความเชื่อส่งปัจจัยมาให้เพิ่มขึ้น เพราะมิชชันนารี มีจานวนมาก ขึ้น และไม่กี่ปีต่อมา เพราะพระมหากษัตริ ยท์ ี่ทรงพระปรี ชาหลักแหลมพระองค์หนึ่ง1 ได้พระราชทานเสรี ภาพให้มากขึ้น และที่สุดเพราะพระสังฆราชที่เป็ นปราชญ์องค์หนึ่งมี ความช่าชองคล่องแคล่ว2 และประเทศฝรั่งเศสให้ความคุม้ ครอง
1หมายถึงพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยูห่ ัว (ผูแ้ ปล) 2หมายถึงพระสังฆราชปัลเลอกัว (ผูแ้ ปล)
XIV
ถ้าหากวันหนึ่ง เราสามารถเขียนประวัติเรื่ องนี้ ต่อไปจนถึงยุคที่ใกล้กบั ยุคของเรามาก ขึ้น เราก็จะยินดีช้ ีให้เห็น : 1. ความยืนหยัดมัน่ คงอย่างไม่ยอ่ ท้อของมิชชันนารี ที่สามารถแผ่ขยายพระอาณาจักร ของพระเยซูคริ สตเจ้าเข้าไปในดินแดนแห่งหนึ่ ง ซึ่ งขัดขืนไม่ยอมรับพระศาสนา ของพระองค์เป็ นเวลาช้านาน 2. ความดาริ ริเริ่ มของมิ ชชันนารี ที่จะสอนข้อความจริ งแห่ งพระศาสนาคาทอลิกแก่ ชาวจีนเป็ นอันมาก ที่มาตั้งตัวในเมืองและชนบทกรุ งสยาม เพื่อหาขุมสมบัตo ิอื่นkที่ gk มิใช่ ขุมสมบัติในสวรรค์ และ n a B f ส่วนหนึ่ง แล้ว 3. ความกระตือรื อร้นของมิชชันนารี ที่พิชิตดินแดนลาวอันกว้าo งใหญ่ e s ตั้งพระศาสนจักรใหม่ข้ ึน. e
s i H
c i r to
A l a
iv h rc
A s e
c o i d h c r
อาเดรียง โลเน (Adrien LAUNAY)
XV
คาปรารภของผู้แปล เนื่องในวโรกาสสมโภชกรุ งรัตนโกสิ นทร์ครบรอบ 200 ปี ในพ.ศ. 2525 คณะเซอร์ร่า กรุ งเทพฯ ซึ่งเป็ นองค์กรฆราวาสคาทอลิก มีเจตจานงแรงกล้าจะสร้างสรรค์งานสักชิ้นหนึ่ง ไว้เป็ นอนุสรณ์ คณะฯ พิจารณาเห็นว่า "ประวัติพระศาสนจักรในประเทศไทย" เป็ นสิ่ งหนึ่ง ที่ควรส่งเสริ ม จึงได้ต้งั คณะทางานขึ้น โดยมอบให้ขา้ พเจ้ารับผิดชอบฝ่ ายจัดแปลเรื่ องนี้ จาก ต้นฉบับภาษาฝรั่งเศสของคุณพ่ออาเดรี ยง โลเน คุณพ่อโลเน เป็ นสงฆ์คณะมิสซังต่างประเทศแห่งกรุ งปารี ส (M.E.P.)3 สงฆ์คณะนี k้ o k ่ ส่งสมาชิกไปแพร่ ธรรมยังประเทศต่างๆ ทั้งในทวีปเอเชียและแอฟริ กา และก็เป็nนg ธรรมดาที a B สมาชิกของคณะไปอยูท่ ี่ใด ย่อมจะมีการติดต่อเป็ นลายลักษณ์อกั ษรกับfศูนย์กลางคณะเสมอ o e เอกสารการติดต่อเหล่านี้ ทางคณะได้เก็บรักษาไว้ และเมื่อกาลเวลาผ่ s านไปเป็ นสิบเป็ นร้อยปี e เอกสาร ดังกล่าวก็ได้กลายเป็ นหลักฐานทางประวัตdิศาสตร์ iocเกี่ยวกับการแพร่ ธรรม ตลอดจน h c ด้านการเมือง เศรษฐกิจและสังคมในประเทศนั ้ นๆ ด้วย r A s กล่าวเฉพาะประเทศไทย สงฆ์ eคณะนี้มาถึงกรุ งศรี อยุธยาเมื่อวันที่ 22 สิงหาคม ค.ศ. v i 1662 / พ.ศ. 2205 และทีr่พcึงสัhงเกตคือ เป็ นสงฆ์คณะนี้ คณะเดียวที่ยนื หยัดทางานแพร่ ธรรม A ในประเทศไทยติcดaต่อl กันตลอดมาจนกระทัง่ ปัจจุบนั i r อย่tาo งไรก็ดี หนังสื อเล่มนี้ คุณพ่อโลเนได้จดั พิมพ์ข้ ึนเป็ นครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 1920 / s i H 2463 หรื อประมาณ 63 ปี มานี้เอง โดยประมวลเหตุการณ์จากหลักฐานบรรดามี แต่ปี พ.ศ. ค.ศ. 1662 ถึง 1811 เป็ นเวลา 150 ปี คือ ตั้งแต่สมัยพระสังฆราชลังแบรต์ เดอ ลา ม็อต จนถึง พระสังฆราชการฺ โนลต์ หรื อตั้งแต่รัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราชแห่งกรุ งศรี อยุธยา จนถึงแผ่นดินพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยแห่งกรุ งรัตนโกสิ นทร์
3ไม่ใช่บาทหลวงคณะเยสุ อิต ดังที่อาจารย์ขจร สุ ขพานิช เขียนไว้ใน "ข้อมูลประวัติศาสตร์สมัยอยุธยา" พิมพ์ที่โรงพิมพ์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ พ.ศ. 2523 (หน้า 158 บรรทัดที่ 14)
XVI
จาก "คานา" ของคุณพ่อโลเน เราทราบว่าเกี่ยวกับ "ประวัติมิสซังกรุ งสยาม" นี้ ประกอบด้วยหนังสื อ 3 เล่ม: สองเล่มแรกคุณพ่อโลเน รวบรวมจัดพิมพ์เฉพาะที่เป็ น หลักฐานเอกสาร แล้วจึงสรุ ปเหตุการณ์จากหลักฐานนั้น และแทรกความคิดเห็นส่วนตัว ลงไปด้วย จัดพิมพ์เป็ นเล่มที่สาม ชื่อ "ประวัติมิสซังกรุ งสยาม" (Histoire de la Mission de Siam) คือเล่มที่ขา้ พเจ้า ได้รับมอบหมายให้แปล และที่ท่านกาลังถืออ่านอยูน่ ้ ี ส่วนเอกสาร 2 เล่ม ที่ใช้เป็ นหลักฐานอ้างอิงนั้น ทราบว่าหอสมุดวชิรญาณ (ปัจจุบนั คือหอสมุดแห่งชาติ) ได้จดั แปลเป็ นไทยตั้งแต่ พ.ศ. 2469-70 รวมเป็ น 6 ภาค ในชุดประชุม พงศาวดาร ภาคที่ 32, 35, 36, 37, 38 และ 39 (อยูใ่ นประชุมพงศาวดารขององค์การค้าคุรุสภา kวย เล่ม 18-23) แต่เป็ นการเลือกแปลเฉพาะบางตอนไม่สูจ้ ะละเอียดนัก และมีผดิ พลาดด้ o k ดังนั้น หากคาทอลิกเราจะจัดแปลเสี ยใหม่ให้ครบถ้วน และพิมพ์ออกเผยแพร่nก็gอาจจะยัง a B ประโยชน์เกื้อกูลวิชาประวัติศาสตร์พระศาสนจักรและประวัติศาสตร์o ไทย f ดังที่อาจารย์ขจร e ว่า สุขพานิช เขียนไว้ในหนังสื อ "ข้อมูลประวัติศาสตร์สมัยบางกอก" s e c "... เสี ยดายอยูอ่ ย่างหนึ่ งว่า ผูก้ าหนดให้ แio ปล (เอกสารสองเล่มของบาทหลวง d h โลเน) เป็ นภาษาไทย ได้เว้นไม่A ให้rแcปลเสี ยหลายแห่งหลายตอน ผูเ้ ชี่ยวชาญภาษา sจึงน่าจะตรวจสอบเทียบเคียงต้นฉบับกับคาแปล และ ฝรั่งเศสและสนใจในวิv ชานี e ้ i h แปลส่วนที่ขา้ มที rc่เว้นออกเป็ นภาษาไทยให้บริ บูรณ์ จะเป็ นประโยชน์แก่อนุชนคน A l ไป" 4 a ่ รุ่ นใหม่ ต อ ic
r o t is
H อาจารย์ประวัติศาสตร์คนเดียวกันยังกล่าวยกย่องเอกสารสองเล่มของคุณพ่อโลเน
เป็ นความว่าดังนี้ : "... เอกสารในรอบ 150 ปี นั้นมีอยูอ่ ย่างไร ก็นามาตีพิมพ์โดยมิได้แก้ไข เปลี่ยนแปลง เป็ นหลักฐานชั้นหนึ่ ง (หรื อ Primary Source) ซึ่งพวก นักบวชฝรั่งเศสได้สร้างขึ้นให้แก่วิชานี้ ที่เกี่ยวกับประเทศไทย...
4ข้อมูลประวัติศาสตร์สมัยบางกอก ฉบับพิมพ์ครั้งที่สอง ของอาจารย์ขจร สุ ขพานิช พิมพ์ที่โรงพิมพ์แสงรุ ้งการพิมพ์ พ.ศ. 2524 หน้า 9
XVII
เอกสาร 700 หน้านี้ เป็ น "ขุมทอง" ของนักประวัติศาสตร์ทีเดียว..." 5 การแปลหนังสื อเล่มนี้ พยายามแปลให้ใกล้เคียงต้นฉบับมากที่สุด โดยไม่ตดั ไม่เพิ่ม ไม่คานึ งว่าข้อความที่แปลนั้นจะถูกหรื อผิด (เช่นในหนังสื อนี้ บอกปี สวรรคตของพระเพท ราชา ผิดในบทที่ 8) จะเห็นด้วยหรื อไม่เห็นด้วยอย่างไรก็ตาม คาแปลบางคาอาจยัง คลาดเคลื่อน แม้จะได้พยายามสอบถามแล้วก็ตาม ฉะนั้น ถ้าท่านผูร้ ู ้พบเห็นคาแปลผิดพลาด ในที่ใด โปรดได้ทกั ท้วง ซึ่ งข้าพเจ้ายินดีนอ้ มรับเพื่อแก้ไขในการพิมพ์ครั้งต่อไป "ประวัติมิสซังกรุ งสยาม" เล่มนี้ ยงั ไม่ใช่ฉบับที่สมบูรณ์ ต่อไปเราจะเขียน "ประวัติ k พระศาสนจักรในประเทศไทย" ฉบับพิสดาร ที่เรี ยบเรี ยงจากเอกสารหลายร้อยชิ้น และจะให้ o gk ความสมบูรณ์มากขึ้น n a B ในการแปลหนังสื อนี้ เราใช้ปี ค.ศ. เป็ นพื้น น้อยแห่งจะมีปี พ.ศ. fกากับ ฉะนั้น ถ้าท่าน o ใคร่ ทราบว่าปี ค.ศ. ใดตรงกับปี พ.ศ. ใด ก็ให้เอาเลข 543 บวกese c เกือบทุกหน้า ทั้งของผูแ้ ต่งเอง o i อนึ่ง หนังสื อเล่มนี้ เต็มไปด้วยเชิงอรรถ (footnote) d h c (คุณพ่อโลเน ซึ่งมิได้บอกไว้) และของผูแ้ A ปลrตลอดจนกรรมการผูร้ ่ วมงานนี้ ซึ่งได้ระบุนาม s บหนังสือวิชาการ จะช่วยให้เข้าใจเหตุการณ์ใน ไว้แล้ว เชิงอรรถเหล่านี้ จาเป็ นมากส าหรั e v i h อดีตได้โดยง่ายยิง่ ขึ้น rc A l ผูแ้ ปลใคร่ ขaอถื อโอกาสนี้ ขอบคุณอย่างจริ งใจต่อคณะเซอร์ ร่า ผูอ้ ุปถัมภ์การแปล c i r แลธทุiกsๆtoท่านที่มีส่วนช่วยให้หนังสื อนี้ สาเร็ จลุล่วงไปด้วยดี หวังว่าหนังสื อเล่มนี้ จะยัง คุณH ประโยชน์แก่ผใู ้ ช้ตามสมควร.
ปอล ซาเวียร์
5ข้อมูลประวัติศาสตร์สมัยอยุธยา ของอาจารย์ขจร สุ ขพานิช พิมพ์ที่โรงพิมพ์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ พ.ศ. 2523 หน้า 157 และ 171
XVIII
ประมุขมิสซัง และอธิการมิสซังกรุ งสยาม ตั้งแต่ ค.ศ. 1662 ถึง ค.ศ. 1811 นาม พระสังฆราชลังแบรต์
ปี
จานวนปี
ตรงกับรัชสมัย
ปี
1662-1673
11
พระนารายณ์
1656-1688
1674-1688 1688-1696 1696-1700
14 8 4
” พระเพทราชา
1688-1703
1700-1703 1703-1708 1708-1727 1727-1732 1732-1736 1736-1740 1740-1755
3 5 19 5 4 4 15
” พระเจ้าเสื อ (เจ้าเดื่อ) พระเจ้าท้ายสระ
(LAMBERT)
พระสังฆราชลาโน (LANEAU)
คุณพ่อแฟเรอ-โบรด์
”
(FERREUX-BRAUD)
พระสังฆราชเดอ ซีเซ (CICE)
พระสังฆราชเดอ เกราเล (QUERALAY)
คุณพ่อเลอแมรฺ (LEMAIRE) พระสังฆราชเดอ โลเลียรฺ พระสังฆราชบรี โกต์ (BRIGOT)
h c r A
(ปี 1767 ท่านออกจากกรุ งสยามไปเลย)
al
พระสังฆราชเลอบ็อง
c i r พระสังs ฆราชกู toเด i H (Le BON)
ive
1755-1758 1758-1767
3 9
1768-1780
12
1782-1785
3
1786-1809 1809-1811
23 2
(COUDE)
พระสังฆราชการฺ โนลต์ (GARNAULT)
” พระเจ้าบรมโกษฐ์
e c io d rch
sA
(LOLIERE )
o e s
k o gk n a B f
” ”
พระเจ้าอุทุมพร พระเจ้าเอกทัศน์
พระเจ้าตากสิ น พระพุทธยอดฟ้ าจุฬาโลก
1703-1708 1708-1732 1732-1758
10 วัน 1758-1767 4
1768-1782 1782-1809
” พระพุทธเลิศหล้านภาลัย
1809-1824
XIX
ประมุขมิสซังสยาม ตั้งแต่ ปี ค.ศ. 1811 ถึง ค.ศ. 1965 นาม พระสังฆราชฟลอรังส์
ปี
จานวนปี
ตรงกับรัชสมัย
ปี
1811-1824
13
พระพุทธเลิศหล้า
1809-1824
(FLORENS)
นภาลัย 1824-1834
10
พระนัง่ เกล้าเจ้าอยูห่ วั
1834-1841
7
”
พระสังฆราชปั ลเลอกัว
1841-1851
10
(PALLEGOIX)
1851-1862
พระสังฆราชดือปองด์
1864-1868
(DUPOND)
1868-1872
พระสังฆราชหลุยส์ เวย์
1875-1909
พระสังฆราชกูรฺเวอซี (COURVECY)
(VEY)
(PERROS)
l a ” ric to s i ” H
hiv1910-1925
Arc
k o ” 4 gk n พระจุลจอมเกล้าBa 4 1868-1910 f เจ้าอยูo ห่ วั e s e ” 34 oc i d h c r ”
A s e
1909-1910
พระสังฆราชแปร์รอส
11
1
15
(CHORIN)
พระมงกุฎเกล้า เจ้าอยูห่ วั
พระปกเกล้าเจ้าอยูห่ วั
1925-1934
9
1934-1946
12
1946-1947
1
พระเจ้าอยูห่ วั ภูมิพล อดุลยเดช
1947-1965
8
”
”
พระสังฆราชหลุยส์ โชแร็ ง
” พระจอมเกล้าเจ้าอยูห่ วั
1824-1851
พระเจ้าอยูห่ วั อานันท มหิดล
1851-1868
1910-1925 1925-1934 1934-1946 1946-ปัจจุบนั
XX
อัครสั งฆมณฑล และ สั งฆมณฑล แห่ งพระศาสนจักรคาทอลิกในประเทศไทย นามสังฆมณฑล
นามพระสมณะผู้ปกครอง
อัครสั งฆมณฑลกรุ งเทพฯ ก. พระสังฆราชยวง นิตโย
สั งฆมณฑลราชบุรี
a c i or
สั งฆมณฑลเชียงใหม่
สั งฆมณฑลนครสวรรค์
ประมุขมิสซัง
ปี 1965
ข. พระอัครสังฆราชยวง นิตโย
อัครสังฆราชแห่งกรุ งเทพฯ
1965-1973
ค. พระอัครสังฆราชมีชยั กิจบุญชู
อัครสังฆราชแห่งกรุ งเทพฯ
1973-ปัจจุบนั
ก. คุณพ่อกาเยตาโน ปาซ็อตตี
สังฆรักษ์มิสซัง
1934-1941
ข. พระสังฆราชกาเยตาโน ปาซ็อตตี ประมุขมิสซัง
1941-1950
ค. พระสังฆราชเปโตร คาเร็ ตโต
ประมุขมิสซัง
1951-1965
ง. พระสังฆราชเทียนชัย สมานจิต
พระสังฆราชแห่งจันทบุรี
1971-ปัจจุบนั
ก. พระสังฆราชลูเซียง ลากอสต์
ผูร้ ้ ังมิสซัง
1959-1965
ข. พระสังฆราชลูเซียง ลากอสต์
ผูร้ ้ ังสังฆมณฑล
1965-1975
ค. พระสังฆราชรัตน์ บารุ งตระกูล
พระสังฆราชแห่งเชียงใหม่
1975-1987
ง. พระสังฆราชสังวาลย์ ศุระศรางค์
พระสังฆราชแห่งเชียงใหม่
1987-ปัจจุบนั
ก. พระสังฆราชมีแชล ลังเยร์ ข. พระสังฆราชบรรจง อารี พรรค ค. พระสังฆราชจาเนียร สันติสุขนิรันดร ง. พระสังฆราช ฟรังซิสเซเวียร์ เกรี ยงศักดิ์ โกวิทวาณิ ช
พระสังฆราชแห่งนครสวรรค์ พระสังฆราชแห่งนครสวรรค์ พระสังฆราชแห่งนครสวรรค์ พระสังฆราชแห่งนครสวรรค์
1967-1976 1976-1999 1999-2005 2007-ปัจจุบนั
k o k g1965-1969 ง. พระสังฆราชเปโตร คาเร็ ตโต พระสังฆราชแห่งราชบุรี n a B จ. พระสังฆราชรัตน์ บารุ งตระกูล พระสังฆราชแห่งราชบุf รี 1969-1975 o eงราชบุรี ฉ. พระสังฆราชเอก ทับปิ ง พระสังฆราชแห่ 1976-1985 s e cงฆราชแห่งราชบุรี o ช. พระสังฆราชมนัส จวบสมัย พระสั 1986-2003 i d h c ซ. พระสังฆราชปัญญา กฤษเจริ ญ พระสังฆราชแห่งราชบุรี 2005-ปัจจุบนั r A sเกิดสว่าง ประมุขมิสซัง ก. พระสังฆราชแจง 1945-1952 e v i hงฆราชสงวน สุวรรณศรี ประมุขมิสซัง ข. พระสั 1953-1965 c r lA ค. พระสังฆราชสงวน สุ วรรณศรี พระสังฆราชแห่งจันทบุรี 1965-1970
สั งฆมณฑลจันทบุรี
t s i H
ตาแหน่ ง
XXI สั งฆมณฑลสุ ราษฎร์ ธานี ก. พระสังฆราชเปโตร คาเร็ ตโต ข. พระสังฆราชประพนธ์ ชัยเจริ ญ ค. พระสังฆราช โยเซฟ ประธาน ศรี ดารุ ณศีล อัครสั งฆมณฑลท่าแร่ - ก. พระสังฆราชเกลาดีอุส บาเยต์ ข. พระสังฆราชมงคล ประคองจิต หนองแสง ค. พระสังฆราชเกี้ยน เสมอพิทกั ษ์ ง. พระอัครสังฆราชเกี้ยน เสมอพิทกั ษ์ จ. พระอัครสังฆราชคายน์ แสนพลอ่อน ฉ. พระสังฆราชจาเนียร สันติสุขนิรันดร สั งฆมณฑลอุบลราชธานี ก. พระสังฆราชเกลาดีอุส บาเยต์ ข. พระสังฆราชเกลาดีอุส บาเยต์ ค. พระสังฆราชแฌร์แม็ง แบรฺ ทอลด์ ง. พระสังฆราชบุญเลื่อน หมั้นทรัพย์ จ. พระสังฆราช ฟิ ลิป บรรจง ไชยรา ก. คุณพ่อคลาเรนส์ ดูฮารต์ สั งฆมณฑลอุดรธานี ข. พระสังฆราชคลาเรนส์ ดูฮารต์ ค. พระสังฆราชยอด พิมพิสาร สั งฆมณฑลนครราชสี มา ก. พระสังฆราชอาแล็ง วัง คาแวรฺ ข. พระสังฆราชอาแล็ง วัง คาแวรฺ ค. พระสังฆราชพเยาว์ มณี ทรัพย์ ง. พระสังฆราชยอแซฟ ชูศกั ดิ์ สิ ริสุทธิ์
s i H
c i r to
A l a
iv h rc
พระสังฆราชแห่งสุ ราษฎร์ธานี พระสังฆราชแห่งสุ ราษฎร์ธานี พระสังฆราชแห่งสุ ราษฎร์ธานี
1969-1988 1988-2003 2004-ปัจจุบนั
ประมุขมิสซัง ประมุขมิสซัง ประมุขมิสซัง อัครสังฆมณฑลท่าแร่ -หนองแสง อัครสังฆมณฑลท่าแร่ -หนองแสง อัครสังฆมณฑลท่าแร่ -หนองแสง ประมุขมิสซัง พระสังฆราชแห่งอุบลราชธานี พระสังฆราชแห่งอุบลราชธานี พระสังฆราชแห่งอุบลราชธานี พระสังฆราชแห่งอุบลราชธานี พระสังฆรักษ์มิสซัง พระสังฆราชแห่งอุดรธานี พระสังฆราชแห่งอุดรานี ประมุขมิสซัง พระสังฆราชแห่งนครราชสี มา พระสังฆราชแห่งนครราชสี มา พระสังฆราชแห่งนครราชสี มา
1950-1953 1953-1958 1959-1965 1965-1980 1980-2007 2005-ปัจจุบนั 1953-1965 1965-1969 1970-1976 1976-2006 2006 -ปัจจุบนั 1953-1965 1965-1975 1975-ปัจจุบนั 1965 1965-1977 1977-2007 2007-ปัจจุบนั
A s e
e c io d rch
o e s
k o gk n a B f
XXII
รายชื่อพระสั งฆราชและมิชชันนารีในมิสซังกรุงสยาม ตั้งแต่ ค.ศ. 1662 - 1811 นาม
หมายเหตุ
พระสังฆราชฟรังซัว ปัลลือ (Fra nƒois PALLU) พระสังฆราชปี แอรฺ ลังแบรต์ เดอ ลา ม็อต (Pierre LAMBERT de la Motte)
ผูต้ ้ งั คณะคนสาคัญ - สังฆราชเกียรตินาม แห่งเฮลิโอโปลีส (อยูก่ รุ งสยาม 3 ครั้ง) ปกครองมิสซังโดยไม่ได้รับแต่งตั้ง อย่างเป็ นทางการ (1662-1673) สังฆราชเกียรตินามแห่งเบริ ธ ประมุขมิสซังสยามองค์แรก(1673-1696) สังฆราชเกียรตินามแห่งเมแตลโลโปลีส
พระสังฆราชหลุยส์ ลาโน (Louis LANEAU) คุณพ่อฌัก เดอ บรู ฌฺ (Jacques de BOURGES) คุณพ่อฟรังซัว เดดีเอร์ (Fra nƒois DEYDIER) คุณพ่อแฮงกฺ (HAINQUES) คุณพ่อแบ็งโด (BRINDEAU) คุณพ่อหลุยส์ เชอเวรย (Louis CHEVREUIL) คุณพ่อนิโกลาส ลังแบรต์ เดอ ลา บัวเซี ยรฺ (Nicolas LAMBERT de la Boissière) คุณพ่อโกล๊ด กูยารต์ (Claude GUIART) คุณพ่อกาบรี แอล บูชารด์ (Gabriel BOUCHARD) คุณพ่อฟรังซัว ซาวารี (Franƒois SAVARY) คุณพ่อปี แอรฺ ลังกลัว (Pierre LANGLOIS) คุณพ่อเบนีญ วาเชต์ (Bénigne VACHET) คุณพ่อฌัง เดอ มาเกอลอน เดอ กูรฺโตแล็ง (Jean de Maguelonne de COURTAULIN) คุณพ่อชารลฺ เซอแว็ง (Charles SEVIN) คุณพ่อโกล๊ด ชังเดอบัว เดอ ฟาลังแด็ง (Claude CHANDEBOIS de Falandin) คุณพ่อเรอเน ฟอรฺ เฌต์ (René FORGET) คุณพ่อโกล๊ด เกม (Claude GAYME) คุณพ่อปี แอรฺ แฌฟฟรารด์ เดอ แลสปี เน (Pierre GEFFRARD de I 'ESPINAY) คุณพ่อกีโยม เลอ แกรลคฺ (Guillaume LE CLERGUES)
s i H
c i r to
A l a
iv h rc
A s e
e c io d rch
o e s
k o gk n a B f
XXIII คุณพ่อฟรังซัว เลอ รู (Franƒois LE ROUX) คุณพ่อเอเจียน โปมารด์ (Etienne PAUMARD) คุณพ่อโยเซฟ - ปี แอรฺ บูญอ็ ง (Joseph-Pierre BUGNON) คุณพ่อฟรังซัว เกรฺ กวั รฺ (Franƒois GREGOIRE) คุณพ่ออังตวน ปั สโกต์ (Antoine PASCOT) คุณพ่อปี แอรฺ - โยเซฟ ดือแชน (Pierre - Joseph DUCHESNE) คุณพ่อฟี ลีแบรด์ เลอ บลังก์ (Philibert LE BLANC) คุณพ่อแบรฺ นารดฺ มารฺ ตีโน (Bernard MARTINEAU) คุณพ่ออีญาส อารฺ ดีเออ (Ignace ARDIEUX) คุณพ่อเยโรม-ปี แอรฺ กรอส (Jérome - Pierre GROSSE) คุณพ่ออังตวน โมแนสจีเอร์ (Antoine MONESTIER) คุณพ่อปี แอรฺ แซแรน (Pierre ZHERREN) คุณพ่อฌัง เฌอนูด์ (Jean GENOUD) คุณพ่อปี แอรฺ แฟเรอ (Pierre FERREUX)
iv h rc
s i H
c i r to
A l a
e c io มรณภาพแล้ว จึงทราบว่าได้รับ d แต่งตั้งเป็ นประมุขมิสซังองค์ที่ 2 rch
A s e
คุณพ่ออารฺ ตุส เดอ ลีออน (Artus de LIONNE) คุณพ่อฌัก เดอ แลสปี นาส (Jacques de L'ESPINASSE) คุณพ่ออาเนต์ เลอ กูรต์ เดอ มองโดรี (Anet Le Court de MONDORY) คุณพ่อฌัง โฌเรต์ (Jean JORET) คุณพ่อฌัง กราเว (Jean GRAVE) คุณพ่อฌัก เลอ เชอวาลีเอร์ (Jacques LE CHEVALIER) คุณพ่ออีฟ เลอ อีรฺ ดือ บรังด์-การฺ ป็อง (Yves Le Hir du Brand-CARPON) คุณพ่อฌัง บัสเซต์ (Jean BASSET) คุณพ่อเอเจียน มานูแอล (Etienne MANUEL) คุณพ่อเอเจียน ปั ลลือ (Etienne PALLU)
o e s
k o gk n a B f
(1697-1698)สังฆราชเกียรตินามแห่งซาบืล
XXIV คุณพ่อชารลฺ บัวเซอเรต์ แดสเตรชี (Charles Boisseret D'ESTRECHY) คุณพ่อฌัง มอรฺ โลต์ (Jean MORELOT) คุณพ่ออาเล็กซังดรฺ ป๊ อกเกต์ (Alexandre POCQUET) คุณพ่อชารลฺ กูเฌอ (Charles GOUGE) คุณพ่อกาบรี แอล โบรด์ (Gabriel BRAUD) คุณพ่อฌัก ฌาโรสซี เอร์ (Jacques JAROSSIER) คุณพ่อฌือเลียง ปอสแตล (Julien POSTEL) พระสังฆราชหลุยส์ ชังปี อ็อง เดอ ซีเซ (Louis Champion de CICE) คุณพ่อฟรังซัว ก๊อดฟรัว (Franƒois GODEFROY) คุณพ่อปี แอรฺ เอิ๊ต (Pierre HEUTTE) คุณพ่อฟรังซัว เลอ เบรอต็อง (Franƒois LE BRETON) คุณพ่ออังเดร รุ สต์ (André ROOST) พระสังฆราชแตสซีเอร์ เดอ เกราเล (Tessier de QUERALAY) พระสังฆราชฌัง เดอ โลเลียรฺ ปุยก็องตาต์ (Jean de LOLIERE Puycontat) คุณพ่อปอล โอม็องต์ (Paul AUMONT) คุณพ่อฟรังซัว เลอแมรฺ (Franƒois LEMAIRE) คุณพ่อปี แอรฺ -อังตวน-เอเจียน ลาแซรฺ (Pierre-Antoine-Etienne LACERE) คุณพ่ออารฺ มงั ด์-ฟรังซัว เลอ แฟฟวรฺ (Armand-Franƒois LEFEBVRE) คุณพ่อกาบรี แอล-ปี แอรฺ เลอ บราส์ (Gabriel-Pierre LE BRAS) คุณพ่อปี แอรฺ -ดานีแอล เดอ กาบาน เดอ โกนา (Pierre-Daniel de Cabannes de CAUNA) พระสังฆราชปี แอรฺ บรี โกต์ (Pierre BRIGOT)
ประมุขมิสซังองค์ที่ 4 (1727-1736) สังฆราชเกียรตินามแห่งโรซาลี ประมุขมิสซังองค์ที่ 5 (1738-1755) สังฆราชเกียรตินามแห่งยูลีโอโปลีส
e c io d rch
A s e
o e s
k o gk n a B f
A l a
c i r to
s i H
iv h rc
ประมุขมิสซังองค์ที่ 3 (1700-1727) สังฆราชเกียรตินามแห่งซาบืล
พระสังฆราชโอลีวเี อร์ -ซีมอ็ ง เลอ บ็อง (Olivier-Simon Le BON) คุณพ่อปี แอรฺ -แฌรแม็ง ดือบัว (Pierre-Germain DUBOIS ) คุณพ่อเอเจียน เมแยรฺ (Etienne MEYERE)
ประมุขมิสซังองค์ที่ 6 (1755-?) สังฆราชเกียรตินามแห่งตาบรากา ประมุขมิสซังองค์ที่ 7 (1764-1780) สังฆราชเกียรตินามแห่งเมแตลโลโปลีส
XXV คุณพ่อฌัก อังดรี เออ (Jacques ANDRIEUX) คุณพ่อปี แอรฺ -ฌัง แกแอรฺ เว (Pierre-Jean KERHERVE) คุณพ่อโมเนต์ โบเนต์ (Monet BONET) คุณพ่อฌัก มารฺ แต็ง (Jacques MARTIN) คุณพ่อฟิ ลิป-โรแบรต์ ซีรู (Philippe-Robert CIROU) คุณพ่อฌัง-ป็ องสฺ หลุยส์ (Jean-Ponce LOUIS) คุณพ่ออูรฺแบ็ง เลอแฟฟวรฺ (Urbain LEFEBVRE) คุณพ่อเดอนีส์ บัวเรต์ (Denis BOIRET) คุณพ่อฌัก กอรฺ (Jacques CORRE) คุณพ่อฌัง-บัปติสต์ อารฺ โตด์ (Jean-Baptiste ARTAUD) คุณพ่อฌอรฺ ฌ อาลารี (Georges ALARY) พระสังฆราชโยเซฟ-หลุยส์ กูเด (Joseph-Louis COUDE) พระสังฆราชอารฺ โนด์-อังตวน การฺ โนลต์ (Arnaud-Antoine GARNAULT) คุณพ่อปี แอรฺ -โกล๊ด-อาเล็กซิส วิลเลอแม็ง Pierre-Claude-Alexis WILLEMIN) พระสังฆราชแอสปรี ต-์ มารี ย-์ โยเซฟ ฟลอรังส์ (Esprit-Marie-Joseph FLORENS) คุณพ่อฌัง-โกล๊ด กรี เยต์ (Jean-Claude GRILLET) คุณพ่อปี แอรฺ กาเว (Pierre CAVE) คุณพ่อมิแชล-ปี แอรฺ แร็ กตังวัลด์ (Michel-Pierre RECTANWALD) คุณพ่อฌัง-บัปติสต์-เรอเน ราโบ (Jean-Baptiste-René RABEAU)
s i H
c i r to
A l a
iv h rc
k o gk n a B f
ประมุขมิสซังองค์ที่ 8 (1782-1785) สังฆราชเกียรตินามแห่งเรซี ประมุขมิสซังองค์ที่ 9 (1786-1811) สังฆราชเกียรตินามแห่งเมแตลโลโปลีส
o e s
A s e
e c io d ประมุขมิสซังองค์ที่ 10 (1811-1834) rch สังฆราชเกียรตินามแห่งโซโซโปลีส
XXVI
ศัพท์ ศาสนา และศัพท์ เฉพาะบางคา ที่ใช้ ในคาแปลหนังสื อเล่ มนี้ Abbé, abbé Abjuration, abjuration Administrateur, administrator Apostasie, apostasy Apostat, apostate Apôtre, apostle Archevêque, archbishop
ในภาษาฝรั่งเศส ใช้เป็ นคานาหน้าเรี ยกพระสงฆ์ที่มิใช่นกั พรต การ หรื อ พิธีถอนตัวจากการถือลัทธิโปรเตส แตนต์ ผูป้ กครองฝ่ ายศาสนา, สมณะผูร้ ้ ัง (ตาแหน่ง) การละทิ้งศาสนา คนละทิ้งศาสนา, ธรรมจาคะ ผูแ้ พร่ ธรรม (ความหมายเดิม อัครสาวกอัครธรรมทูต) อัครสังฆราช (สังฆราชผูป้ กครองสังฆมณฑล ที่มีสังฆมณฑลอื่น ขึ้นอยู)่ Barcalon, barcalon เจ้าพระยาพระคลัง, อัครมหาเสนาบดี Bonze, bonze พระภิกษุ, พระในพระพุทธศาสนา Bref, brief พระสมณสาสน์(ของพระสันตะปาปาที่ประทับตราด้วยธามรงค์) Bulle, bull พระสมณโองการ (ของพระสันตะปาปาใน โอกาสสาคัญ) Canon de la messe, canon of the mass บทขอบพระคุณ (บทภาวนาสาคัญในพิธีมิสซา) Canon, canon law ประมวลกฎหมายของพระศาสนจักร Canoniste, canonist นักกฎหมายของพระศาสนจักร Cas de conscience ปัญหาเรื่ องต่างๆ Catéchisme, catechism คาสอน, คาสั่งสอนของพระศาสนา Catéchiste, catechist ผูส้ อนคาสอน, ผูแ้ ปลคาสอน Catéchumène, catechumen ผูเ้ รี ยนคาสอน, ผูเ้ ตรี ยมตัวรับศีลล้างบาป Cathédrale, cathedral อาสนวิหาร, โบสถ์ประจาของพระสังฆราช Chanoine, canon สังฆมนตรี (พระสงฆ์ผมู้ ีหน้าที่ทาวัตรประจาโบสถ์) Chapelain, chaplain อนุศาสนาจารย์ (ประจาโรงเรี ยน, เรื อ ฯลฯ) Chrétienté, christendom คริ สตบริ ษทั , กลุ่มคริ สตชน, กลุ่มคริ สตัง Collège général, College general วิทยาลัยกลาง (สถานที่ที่มิสซังต่างๆ ส่ งคนมาอบรมเป็ น พระสงฆ์) Confence spirituelle, de conscience การให้โอวาทอบรม, การเทศน์เตือนใจ Confrérie, confraternity คณะ หรื อ สมาคมของสัตบุรุษที่ทางานเพื่อ ส่ งเสริ มความ ศรัทธา Congrégation religieuse, Religious congregation คณะนักบวช Sacrée congrégation, Sacred congregation สมณกระทรวง, กระทรวงของพระสันตะปาปา
s i H
c i r to
A l a
iv h rc
A s e
e c io d rch
o e s
k o gk n a B f
XXVII Consécrateur, consecrator Consécration (episcopale) Constitution apostolique Constitution (d'une congrégation) Conversion, conversion Curé, parish priest or pastor Diacre, deacon Diocèse, diocese Eglise, church église, church Eau bénite, lustral water Eau lustrale Evêché Evêque titulaire, titular bishop Evêque coadjuteur, coadjutor bishop Excommunication Incarnation Indulgence, indulgence Infidèle, infidel Inquisition Interdit, interdict Juriduction, jurisdiction Mandarin, mandarin Mission, Mission Missionnaire, missionary Néophyte, neophyte Office, office Oratoire, oratory Ordinaire, ordinary Ordination, ordination Pagode, pagoda Paien, pagan
s i H
c i r to
A l a
iv h rc
องค์อุปัชฌาย์, ผูอ้ ภิเษกพระสังฆราช การ หรื อ พิธีอภิเษกพระสังฆราช สังฆธรรมนูญ ธรรมนูญของคณะนักบวช การกลับใจ, การเข้าถือคริ สตศาสนา, การเข้ารี ต เจ้าอาวาส, เจ้าวัด สังฆานุกร (บรรพชิตผูช้ ่วยพระสงฆ์ประกอบศาสนกิจ) สังฆมณฑล (เขตปกครองฝ่ ายพระศาสนาของพระสังฆราช) พระศาสนจักร โบสถ์ (ตัวอาคาร) น้ าเสก น้ ามนต์ สานักพระสังฆราช, บางทีแปลว่า สังฆมณฑล (เช่นในคาแปลนี้) สังฆราชเกียรตินาม (สังฆราชที่ได้รับแต่งตั้งให้ปกครองดินแดน หนึ่งๆ แต่เพียงในนาม) สังฆราชผูช้ ่วยและทายาท บัพพาชนียกรรม, การตัดขาดจากพระศาสนจักร มังสาวตาร, การอวตาร, การที่พระบุตรเสด็จมาเกิดเป็ นมนุษย์ พระการุ ญ คนต่างศาสนา โดยเฉพาะอย่างยิง่ ผูท้ ี่ไม่เชื่อถึงพระเจ้า ศาลคดีศาสนา โทษห้ามมิให้ประกอบศาสนกิจ อานาจปกครองทางศาสนา ขุนนาง, เสนาอามาตย์, ข้าราชการ มิสซัง, ดินแดนมิสซัง มิชชันนารี , ธรรมทูต, ธรรมจาริ ก, ศาสนทูต ผูก้ ลับใจใหม่, ผูเ้ ข้าศาสนาใหม่ พิธีศาสนา โรงสวด, วัดน้อย สมณประมุขท้องถิ่น (ปกครองสังฆมณฑล หรื อมิสซัง) การ หรื อ พิธีบวชพระสงฆ์ วัดพุทธ, เจดีย ์ คนต่างศาสนา (ที่ไม่เชื่อถึงพระเป็ นเจ้า)
A s e
e c io d rch
o e s
k o gk n a B f
XXVIII Pâques, Easter Paroisse, parish Préfet, prefect Prélat, prelate Procureur, procurator Religieux, religious Retraite, retreat Rome, Rome Saint - Office
Saint – Siège, Holy See Scandale, scandal Secrétaire d'Etat, Secretary of State Séminaire, seminary Sous - diacre, subdeacon Superstition, superstition Talapoin (de talapat) Théologie, theology Tonsure, tonsure Trinité, Trinity Vicaire apostolique, Vicar apostolic Vicaire général ou grand vicaire Vice, vice Voeux religieux, religious vows
s i H
c i r to
A l a
iv h rc
วันปัสกา, พระเยซูเจ้าทรงกลับคืนพระชนม์ วัด, เขตวัด, สังฆตาบล, กลุ่มคริ สตชน สมณมนตรี , ผูว้ า่ การสมณกระทรวง สมณะผูใ้ หญ่ (ได้แก่ พระสังฆราช เป็ นต้น) เหรัญญิก, ผูจ้ ดั หาข้าวของ ในคณะนักบวช นักบวช, นักพรต (ที่ทาการปฏิญาณ 3 ประการ) การเข้าเงียบ, การฟื้ นฟูจิตใจ กรุ งโรม (ต้องเข้าใจว่าหมายถึงสานักพระสันตะปาปาเสมอ ในคาแปลหนังสื อนี้) สานักงานศักดิ์สิทธิ์ เป็ นสมณกระทรวงที่ต้ งั ขึ้นแทนศาลคดี ศาสนา มีหน้าที่ป้องกันและรักษาคาสอนและข้อความเชื่อแห่ง พระศาสนา พระสันตะสานัก หรื อ สานักพระสันตะปาปา คาพูด หรื อ การกระทาที่เป็ นเหตุให้ผอู้ ื่น "สะดุด" คือ กระทา บาป เลขาธิการแห่งรัฐ (ตาแหน่งในประเทศฝรั่งเศสสมัยโบราณ ซึ่ง ต่อมาได้กลายเป็ นตาแหน่งเสนาบดี หรื อ รัฐมนตรี ) สามเณราลัย, บ้านเณร (สถานที่อบรมผูท้ ี่จะบวชเป็ นพระสงฆ์) อุปสังฆานุกร (ผูช้ ่วยสงฆ์ในศาสนกิจ รองจากสังฆานุกร) การถือนอกรี ต, ความเชื่อนอกรี ต, ความเชื่อ งมงาย พระภิกษุในพระพุทธศาสนา เทวศาสตร์ , เทววิทยา พิธีโกน คือ การโกนผมบนศีรษะของผูส้ มัครรับศีลบวช พระตรี เอกภาพ (แต่ก่อนใช้ พระตรี เอกานุภาพ) ประมุขมิสซัง คือ ผูแ้ ทนพระสันตะปาปาในเขตมิสซัง อุปสังฆราช นิสัยชัว่ (ที่ชกั นาให้ทาบาป) การ หรื อ คาปฏิญาณของนักบวช (สัญญาจะถือความยากจน ความบริ สุทธิ์ และความนอบน้อมเชื่อฟัง)
A s e
e c io d rch
o e s
k o gk n a B f
XXIX
ในคาแปลนี้ ใช้ อกั ษรไทยเขียนแทนอักษรฝรั่งเศสบางตัวดังนี้ ค แทน ฌ แทน
g
หน้า
a, o, u เช่น
gant, gond
เขียน คัง, ค็อง
g, j
e, i, y เช่น
หน้า
Jean - Jacques เขียน ฌัง, ฌัก อ่าน ญ แทน
gn
หน้าสระ
gna, gno
อ่าน คัง, ค็อง ยัง - ยัก (เสี ยง ย แรงๆ)
เช่น
เขียน ญา, ญอ อ่าน
เสี ยง ย จมูก
ใส่ บนพยัญชนะใด พยัญชนะนั้น ไม่ออกเสี ยงเลย เช่น
k o gk Soulier เขียน ซูลีเอร์ อ่าน ซูลีเอ n a B ใส่ ใต้พยัญชนะใด พยัญชนะนั้น ออกเสี ยง เช่น f o Louise เขียน หลุยสฺ อ่านseหลุย (เซอ) e c Mère เขียน แมรฺ dio อ่าน แม (เรอ) h c r A s e v i h c r A l ica Louis
.
H
r o t is
เขียน หลุยส์
อ่าน
หลุย