การเลี้ยงสุนัข พันธุสุนัข 1.สุนัขพันธุในกลุมกีฬา (Sporting Breeds) - สรางขึ้นสําหรับใชในกีฬาลานก (feather birds) 2. สุนัขในกลุม ฮาวด (Hound Breeds) - สรางขึ้นเพื่อใชในการลาสัตว หรือดมกลิ่นสะกดรอย (scent) 3. กลุมสุนัขใชงาน (Working Breeds) -สรางขึ้นสําหรับการใชงาน เชน การลากเลื่อน เกวียนบรรทุก(pull carts) หรือ เปนสุนัขอารักขา (guard property) เปนตน 4. สุนัขในกลุม ที่ใชคุมฝูงสัตว (Herding Breeds) - เปนสุนัขที่ถกู สรางขึ้นมาเพื่อใชใชในการควบคุมการเคลื่อนยายฝูงสัตว 5. สุนัขในกลุม เทอรเรีย (Terrier Breeds) - สรางขึ้นเพื่อการลาเหยื่อ หรือ สัตวที่มาทําลายพืชผลทางการเกษตร เชน นก หนู เปนตน 6. สุนัขในกลุม ทอย (Toy Breeds) - เปนสุนัขขนาดเล็ก 7. สุนัขในกลุม ทั่วไป (Non-Sporting Breeds) - จุดกําเนิดสายพันธุที่ไมชัดเจน หรือไมสามารถจัดใหเขากลุมอื่นๆ ได
ชนิดพันธุสุนัข กลุมสุนัขเพื่อใชในเกมกีฬา (Sporting Breeds): Pointer German Shorthaired Pointer , German Wirehaired Pointer Retriever Golden , Labrador Setters English , Irish Spaniels American Water , Clumber Cocker English Cocker ,English Springer
กลุมสุนัขฮาวด (Hound Breeds): Afghan , Basset , Beagle , Black & Tan Coonhound , Bloodhound ,Dachshund , Foxhound , Greyhound , Norwegian Elkhound กลุมสุนัขใชงาน (Working Breeds): Alaskan Malamute , Boxer , Doberman Pinscher , Great Dane, Great Pyrenees , Komondor, Rottweiler , Saint Bernard , Samoyed , Siberian Husky , Standard Schnauzer กลุมสุนัขเทอรเรีย (Terrier Breeds): Airedale , Border Terrier , Bull Terrier , Dandie Dinmont, Fox Terrier, Skye Terrier, Welsh Terrier , กลุมสุนัขทอย (Toy Breeds): Chihuahua ชิวาวา , Italian Greyhound , Manchester Terrier , Pomeranian , Poodle , Pug , Shih Tzu ,Yorkshire Terrier กลุมสุนัขที่ไมใชสุนัขที่ใชในเกมกีฬา (Non-Sporting Breeds): Boston Terrier ,Bulldog , Chow Chow , Dalmatian , Lhasa Apso , Poodle กลุมสุนัขใชคมุ ฝูงสัตว (Herding Breeds): Australian Shepherd , German Shepherd , Old English Sheepdog , Collie , Shetland Sheepdog สุนัขพันธุไ ทย (Thai Breeds) พันธุไทยหลังอาน (Thai Ridgeback) , พันธุบางแกว (Bangkaew) การตัดสินใจเลือกสุนัข ตองการแบบไหน 1. ตัวใหญ-เล็ก 2. Active / Quiet 3. ขนยาว / ขนสั้น 4. เลี้ยงเพื่ออะไร(ขาย-พันธุ- เพื่อน) 5. พันธุแท/ลูกผสม 6. ราคา
การตัดสินใจเลือกสุนัข ควรแนใจวาเหมาะสมกับชีวิตของผูเลี้ยงสุนัข แตละตัวตองการการดูแลที่แตกตางกัน สุนัขพันธุแท ควรรูถึงลักษณะอารมณของสุนัขแตละพันธุ ควรเลือกสุนขั ที่มีนิสัยและอารมณที่เขากับผูเลี้ยงได สุนัขพันธุทาง /ลูกผสม สุนัขพันธุทางมักฉลาดและชางประจบ เหมาะสําหรับการเปนสุนัขเลี้ยง สุนัขพันธุทางมักทนโรค ขนาดของสุนขั สุนัขขนาดใหญและชอบออกกําลังกาย สุนัขพันธุรอตตไวเลอรใชพนื้ ที่ออกกําลังมาก และดุ เจาของควรฝกใหเชื่อฟงคําสั่งตั้งแตยังเล็ก สุนัขขนาดเล็กเชนพันธุชิวาวา เปนเพื่อนเลนไดดี เฝายาม/เหาเกง แหลงหาซื้อสุนัขมาเลี้ยง สถานสงเคราะหสัตว สุนัขที่นี่สามารถเปนสุนัขเลี้ยงที่ดีมาก แตบางตัวอาจมีพฤติกรรมอื่นที่ตองแกไข เชน เจาของเดิมละเลยทอดทิง้ ฟารมคอกเลี้ยง ควรหาจากฟารมเลี้ยงสุนัขที่เชื่อถือได รานจําหนาย ไมควรซื้อจากรานที่ไมทราบประวัติมากอน เพื่อน/ญาติ ของฟรี vs ของดี
การเลือกลูกสุนัข เริ่มดูจากแมซึ่งสามารถบอกนิสัยของลูกได ลูกสุนัขที่เลือกมาควรมีลักษณะนิสัยที่ราเริง อยากรูอยากเห็น ไมตึงเครียด ไมกลัวคนแปลกหนา บงบอกถึงลักษณะความเชื่อมั่นในคัวเอง แตถาเชื่อมั่นในตัวเองมากเกินไป อาจ กลายเปนสุนัขดื้อในอนาคตก็ได 1. ตามีประกายแจมใส สีถูกตองตามลักษณะ ไมมีขี้ตา รวมทั้งอาการอักเสบระคายเคือง 2. ใบหูดานในมีสีชมพูไมมีกลิ่นเหม็น ไมมีสะเก็ดซึ่งอาจเปนเพราะมีไรหูหรือความผิดปกติอยางอื่น 3. ผิวหนังไมมนั เยิ้มหรือแหงเปนสะเก็ดสุนัข ไมมีแผลหรือกอนนูนที่ผวิ หนัง ขนแข็งแรงไมหลุด รวงงาย 4. เหงือกมีสีชมพูและไมมกี ลิ่น ฟนเรียงตัวสบกันพอดี 5. บริเวณทวารหนักควรสะอาดและแหง ไมมีลักษณะทองเสียหรือมีสิ่งผิดปกติออกมาจากอวัยวะ เพศ 6. เมื่อยกสุนขั ขึน้ ควรรูสึกหนักไมดิ้นรน บงบอกวาเปนสุนักที่เชื่อฟงคําสั่งที่ดี เครื่องใชที่จําเปน 1. 2. 3. 4. 5. 6. 7.
เบาะรองนอน สุนัขสวนใหญมักชอบ ปายชื่อ สุนัขควรมีปายชื่อทีต่ ิดปลอกคอพรอมกับหมายเลขโทรศัพท ที่อยูของเจาของ กระดูกเทียม การกัดแทะกระดูกไนลอนเปนการบริหารกรามและชวยทําความสะอาดฟนใหสนุ ัข ของเลนยาง ควรเปนวัสดุทสี่ ุนัขกัดแทะไดเมื่อโยนลงพืน้ จะกระดอนได กระตุนใหสุนัขวิ่งไลงับ ของเลนที่มีเสียง เมื่อสุนขั กัดแทะจะเกดเสียงดัง เปนการกระตุนสัญชาตญาณในการลาสัตว ขลุมครอบปากสุนัข ปองกันไมไหสุนัขไปกินสิ่งสกปรก หรือสุนัขดุ แปรงขนสัตวสําหรับขนสั้นละเอียด แปรงเหล็ก หวีเหล็กสําหรับขนยาว ควรใชแปรงที่เหมาะกับ สุนัขแตละพันธ 8. ชามอาหารและน้ํา สุนัขควรมีชามอาหารของตนเองตองดูแลอยูเสมอ อาจเปนชามทีท่ ําจากเซรา มิกหรือสเตนเลส รองกนชามดวยยางปองกันการลื่น 9. ปลอกคอและสายจูง สุนัขควรใสปลอกคอที่มีปายชื่ออยูดวยเสมอ
การนําเขาบานครั้งแรก ควรจํากัดบริเวณทีจ่ ะเปนทีอ่ ยูของสุนัขและปลอยใหสํารวจสิ่งแวดลอมใหมในบริเวณนั้นและควรอยูกับ ลูกสุนัขกอนในระยะแรก ไมควรทิ้งใหอยูต ามลําพัง ใน 2-3 วันแรกควรใหอาหารเดิม ที่สุนัขคุนเคยแลวจึงคอยๆเปลี่ยน
การใหลูกสุนขั อยูในกรงตั้งแตแรกจะชวยใหรูสึกปลอดภัยมากกวาในหองโลงๆและควรหัดใหถาย ปสสาวะบนกระดาษหนังสือพิมพ ความปลอดภัยภายในบาน ลูกสุนัขมีนิสัยอยากรูอยากเห็น จึงตองระวังสิ่งที่สามารถทําอันตรายตอลูกสุนัขได โดยการนําสิ่งของที่ แตกงายและเครื่องใชไฟฟาไปเก็บไวในที่ปลอดภัย สัตวเลี้ยงอื่นในบาน กับแมว สุนัขและแมวสามารถอยูรวมกันได ถาการพบกันครั้งแรกไมเปนลักษณะการขมขู ควรใหแมวได สํารวจลูกสุนขั ขณะที่กําลังหลับอยู กับสุนัขอื่นในบาน สุนัขตัวอื่นมักรูสึกไมพอใจเมื่อมีสุนัขตัวใหมเขามา ควรเปดโอกาสใหสุนัขที่อยูก อน ไดสํารวจลูกสุนัขขณะทีก่ ําลังหลับอยู
โภชนศาสตรสําหรับสุนขั ชนิดอาหาร อาหารสวนใหญพลังงานจะใกลเคียงกันตางแตระดับโปรตีน 1. อาหารอัดเม็ดแหง (Dry) สวนประกอบมีทั้งจากพืชและสัตว โปรตีน 23% ไขมัน 9% เยื่อใย 6% 2. อาหารกึ่งเปยก (Semi-moist) ขาวโพด เศษเนื้อสัตว โปรตีน 25% ไขมัน 9% เยื่อใย 4% 3. อาหารกระปอง(Canned) 3.1 ทําจากเศษเนื้อสัตวเปนหลักเชนเนื้อ-กระดูกไก/โค และ แปงถั่ว โปรตีน 44 % ไขมัน 32% เยือ่ ใย 4% 3.2 ทําจากพืชเปนหลัก ขาว ขาวโพด ถั่วและเศษเนื้อสัตว โปรตีน 30 % ไขมัน 16% เยือ่ ใย 8% โปรตีนเปนสารอาหารที่สําคัญ สุนัขจะกินเนือ้ เปนอาหาร มีเปอรเซนตของโปรตีนสูง ไขมันพอเหมาะ เยื่อใยเล็กนอย และคารโบไฮเดรต แตแมวจะเปนสัตวกินเนื้อ ไมยอมกินคารโบไฮเดรต กรดอะมิโน
ทําไมสุนัขและแมวจึงตองการโปรตีน ? เพราะโปรตีนเปนสิ่งจําเปนทีใ่ ชในการเจริญเติบโต กรดอะมิโนทีส่ ัตวตองการมี 22 ตัว สัตวสังเคราะหเองได 12 ตัว และกรดอะมิโนจําเปน คือ อารจินีน ฮีสทิดนี ไอโซลิวซีน ลิวซีน ไลซีน เมทไทโอนีน ฟนีลอะละนีน ทรี โอนีน ทริปโตเฟน วาลีน และในแมว(ทอลีน) สุนัขสามารถสังเคราะหทอลีนได ทําใหสุนัขสามารถกินอาหารแมวได แตแมวกินอาหารสุนัขไมได ความตองการโปรตีน ความตองการโปรตีนจะขึ้นกับสปชีส ระยะการเจริญเติบโตที่รวดเร็วและชวงอายุสัตว ซึ่งสภาพที่สัตว ตองการโปรตีนจะประยุกตเปนระดับดังนี้ ชนิดสัตว/ระยะการ เจริญเติบโต
เปอรเซนต โปรตีน
เปอรเซ็นต ไขมัน
ลูกสุนัข
28%
17%
สุนัขโต
18%
9-15%
สุนัขการแสดง
25%
20%
สุนัขลากรถเลื่อน
35%
50%
สุนัขที่ใหน้ํานม
28%
17%
ลูกแมว
30%
20%
แมวโต
25-30%
15-20%
สุนัขและแมวที่ตั้งทองและใหน้ํานม ตองใหน้ํานมกับลูก ซึ่งสวนประกอบที่สําคัญของน้ํานมคือโปรตีน ในสัตวปว ย สัตวไมแข็งแรงจะมีความตองการโปรตีนมากเปนพิเศษ สัตวที่เปนโรคไตจะตองจํากัดปริมาณโปรตีน ซึ่งถาสูงไปจะมีผลกระทบตอไตได เราสามารถใหสัตวกินอาหารโปรตีนมากเกินไปไดหรือไม สัตวที่ไดรับโปรตีนมากเกินไปก็จะไมมีผลเสียอะไร เพราะบางสวนจะขับถายเปนปสสาวะ แตพบวาอาจมีผลตอไตทํางานหนักขึ้น
อีกเหตุผลคือดานการเงิน
ฉลากอาหารสัตว การเลือกซื้ออาหารสุนัข ซื้ออาหารยี่หอดัง/ราคาแพง ซื้อใหเหมาะสมกับสุนัข ตองอานฉลากอาหารเปน อาหารสัตวที่มคี ุณภาพจะยอยไดระหวาง 70-80% ถาดอยคุณภาพลงมาอาจมี 60% หรือนอยกวา ถาสวนประกอบเปนไกหรือลูกแพะ เราสันนิษฐานไดวา อาหารนี้มีแหลงที่มาของโปรตีนไดดี
ฉลากอาหารสัตวเลี้ยงบอกอะไรแกเราบาง สิ่งที่ตองพิจารณาคือราคา การคํานวณราคาตอน้ําหนักอาหาร 1ปอนด หรือราคาอาหารตอ 1 วัน อาหารแหงจะมีราคาถูกกวาและมีขนาดถุงใหญกวา ซื้ออาหารที่ครบคุณคาความตองการของสุนัข การดัดแปลงมาตรฐานของวัตถุดิบแหง อาหารสัตวเลีย้ งทั้งหมดตางก็มีระดับของความชื้น เปอรเซนตความชื้น จะชวยเปรียบเทียบราคา ระดับโปรตีนหยาบและไขมันระหวางยี่หอ ยกตัวอยางเชน ถาอาหารแหงมีความชื้น 10% เราก็จะรูวา 90% เปนวัตถุดิบ
ดังนั้นระดับโปรตีนได 20% จากนั้นเราแยก 20%จาก 90% ของวัตถุดิบแหง เราก็จะได 22% ของโปรตีน โดยประมาณ ลองเปรียบเทียบอาหารกระปองที่มีความชืน้ 80% เราก็จะรูวา 20% เปนวัตถุดิบแหง ถาฉลากบอกวามี 5% ของโปรตีน เราก็ตองคิด 5% นั้นแยกจาก 20% ของวัตถุดบิ แหง เราจะได 25% โปรตีน ของวัตถุดิบแหง
สวนประกอบอาหาร มีหลายสวนผสมที่เราไมตองการเลย ตัวอยางเชน ผลิตภัณฑที่บอกวาประกอบดวยเนือ้ ไก ขาวโพด แปงเปยกขาวโพด ขาวสาลีบด รําขาว แปงสาลีและอื่นๆ o
o o o o o o o o o
เนื้อที่นํามาทําผลิตภัณฑ ตองเปนเนื้อที่สะอาด ฆาโดยตรง ไมรวมเนื้อวัว แตจะรวมปอด มาม ไต สมอง ตับ เลือด กระดูก กระเพาะ ลําไส ไมรวมผม เขา ฟนและกีบ พวกเปด ไก ทีน่ ํามาทําผลิตภัณฑ จะใชหัว ขา และพวกเครื่องใน แตไมรวมถึงขน เนื้อปลา จะใชปลาทั้งตัว โดยไมมีการใสนา้ํ มัน ไขวัว เปนไขมันจากวัว ขาวโพดบด เปนขาวโพดทัง้ หมดหรือแคเมล็ดที่นํามาบด แปงเปยกขาวโพด กากทีไ่ ดจากการนําขาวโพดไปทําน้ําเชื่อมหรือแปง ขาวกลอง เปนสวนเล็กๆของเมล็ดขาวที่แยกออกจากขาวบดที่มีขนาดใหญกวา เมล็ดถั่วเหลือง เปนสวนที่เหลือจากการทําน้ํามันถั่วเหลือง BHA มาจากคําวา Butylated Hydroxyanisole , preservative Ethoxyguin เปนวัตถุกันเสียทางเคมีชนิดหนึ่งที่ใสในอาหารสุนัข
วิธีใหอาหาร วิธีใหอาหารจะมีอยูบนถุงและกระปองของอาหารสัตว สัตวตองการเพิ่มอาหารจากระดับกิจกรรม เมตาบอริซึม และสภาวะแวดลอม อุณหภูมิตางกัน รวมถึง กรรมพันธุ อายุ และความเครียดจากสภาพแวดลอม คําแนะนําขางถุงจะชวยระยะแรก ถาสัตวผอมและหิวใหเพิ่มอาหารใหบอยขึ้น
การใหอาหารสุนัขตัง้ ทอง(Pregnant) และใหน้ํานม( Lactation) สุนัขตองการอาหารเพิ่มตามอายุตั้งทอง น้ําหนักจะเพิ่มชวง 4 สัปดาหเปนไป ระยะนี้กนิ เพิ่ม 35-50% ระยะเลี้ยงลูก(Whelping) ตองการอาหาร 3-4 เทาปกติ ภายใน3 สัปดาหหลังคลอด ลูกสุนัขจะหัดเลีย-กินอาหารกับแม ใหพิจารณาหยานมได หยานมเมื่อลูกสุนัขอายุได 6 สัปดาห การใหอาหารลูกสุนัข( Puppies) กินอาหารสด-แหงไดเมื่ออายุ 3 สัปดาห น้ํานม ไข ชีส คืออาหารที่ดี ยอยงาย โภชนะเขมขนสูง ใหกนิ น้ํานมมากอาจถายเหลว หรือทองเสียไดหากไมสะอาด ใหอาหารวันละ 3-4 ครั้งตอวัน ไมควรใหกินมากไป จะอวนมาก กดรูดผิวหนังขางซี่โครงหากสัมผัสซี่โครงไมไดแสดงวาอวนมาก อวนมากมีผลตอการพัฒนาโครงรางและกระดูก การใหอาหารสุนัขโต ( Older dogs ) สุนัขโตมีกิจกรรมต่ําลง จึงตองการอาหารนอยลง เนนอาหารโปรตีนมากกวาพลังงานหรือคารโบไฮเดรท ใหอาหารมื้อเดียว ลดปริมาณอาหารลง คําแนะนําดานอาหารอื่นๆ บางคนเชื่อวาใหไขดิบบํารุงขน ควรใหไขตม เพราะไขขาวดิบจะขัดขวางการดูดซึม Biotin กระดูกหมูตมทอนใหญใหได แตกระดูกไกควรงดใหแทะเลน อาหารเม็ดและกระดูกทอนใหญชวยลดคราบหินปูน
สัตวเลี้ยงของเราอวนหรือยัง สุนัขปกติ o o o
สามารถคลําพบกระดูกซี่โครงได (โดยไมตองกด) ชวงทองตองแคบกวาชวงอกเมื่อมองจากดานขาง เห็นชวงคอดของเอวหลังซี่โครงซี่สุดทายเมื่อมองจากดานบน
สุนัขอวน o o o o
ตองออกแรงมากกวาปกติในการคลําซี่โครง ชวงทองขนาดเทาหรืออวนกวาชวงอก มีไขมันสะสมที่สะโพก โคนหาง พื้นทอง ผิวหนังรอบคอและหัวไหลหนากวาปกติ
วิธีการลดความอวนสําหรับสุนัข o
o
เลือกชนิดของวัตถุดิบในการทําอาหารใหมไี ขมันนอย มีกากใยมาก และเพิ่มปริมาณน้ําในอาหาร ใหมากขึน้ ลดปริมาณอาหารในแตละมือ้ ใหนอยกวาปกติ แตมาเพิม่ ความถี่ในการใหเปนมื้อมากขึ้น
ควรใหสุนัขออกกําลังกายมากขึ้น
การผสมพันธุ สุนัขจะเปนสัดครั้งทั่วไปภายใน 6-12 เดือน สุนัขเล็กอาจเปนภายใน 6 เดือน แตสุนัขใหญอาจอายุถึง 2 ป วงรอบการเปนสัดหนึ่งๆมี 11-13 วัน ประกอบดวยระยะ Pro estrus, estrus, ovulation Pro estrus คือระยะกอนผสมพันธุ สุนัขจะแสดงอาการมีเลือดออก(Menopause ) ใหนับวันทีพ่ บเห็นเลือดออก หลังจากนัน้ อีก 9 วัน สุนัขจะเริ่มสนใจ ไมอยูกับที่ วิง่ หาสุนัขทุกเพศและเปนที่สนใจของสุนัขเพศผูทุกตัวที่เดิน ผาน อวัยวะเพศบวม มีน้ําเมือกออกมา สุนัขเพศผูอาจกระโดดขึ้นผสมแตเขาจะหันหนี ไมยอมใหผสม จะเปนแบบ นี้อยูนาน 2-3 วัน ( วันที่ 10-11)
ระยะ Estrus คือระยะที่ตอมาจากชวงแรก (วันที่ 12-13) เปนระยะที่จะมีการตกไขภายใน 48 ชั่วโมง ( Ovulation ) ซึ่งจะเปนชวงที่ตองผสมพันธุสุนัข สังเกตไดจาก สุนัขจะยืนนิ่งไมไปไหน หางยกบิดไปดานขางหากมีสุนัขอื่นโดด ขึ้นทับ หลักการผสมพันธุ จะขึ้นอยูกับสุนัขและประสบการณเจาของ ทั่วไป จะนําสุนัขไปผสมในชวงวันที่ 10-12 หลังจากเห็น เลือดออก บางคนอาจใช การผสมสองครั้งคือผสมในวันที่ 10 กับ 12 หรือผสมในวันที่ 11 กับ 13 ขณะที่สุนัขผสมพันธุกัน ตัวผูปนขึ้นผสมอวัยวะเพศ(Penis)ของเพศผูตรงโคนอวัยวะ( bulbus glandis ) จะ ขยายบวมขึ้นตามธรรมชาติ เพื่อทําหนาทีล่ ็อดอวัยวะเพศของทั้งสองตัวใหอยูติดกัน เปนเรื่องปกติ และสุนัขเพศผู จะหันลงมาอยูใ นสภาพเดินหันหลังติดกัน แตโดยพฤติกรรม สุนัขจะเดินหันหนามาหากัน เดินไปดวยกัน ตอง ปลอยใหเปนเชนนี้จนกวาจะเสร็จสิ้น ไมตองไปกระตุน หาม หรือ ชวยอะไรทั้งสิ้น สุนัขจะใชเวลาอยูติดกันนาน 15-30 นาทีหรือนานกวานี้ได กวาจะแยกจากกันไดเอง เมื่อเสร็จก็นําสุนขั กลับบาน เพราะปกติจะนิยมนําสุนัขเพศ เมียไปหาสุนัขเพศผู จะทําใหผสมไดงายกวา การตั้งทอง สุนัขใชเวลาตัง้ ทองนาน 63 วัน (56-70 วัน) มีอาการกินมาก น้ําหนักเพิม่ หัวนมเปนสีชมพูบวมขึ้น จะเห็นการ เปลี่ยนแปลงชัดเจนตั้งแตวันที่ 30 หลังผสมพันธุเปนตนไป กลองไมนอนคลอดควรจัดเขามาเพื่อฝกหัดใหรูจกั นอนคลอดในกลอง ในชวง 3 สัปดาหกอนคลอด กลองควรมี กระดาษหนังสือพิมพที่ตัดขาดเปนเสนๆรองนอน เพราะชวยรักษาความอบอุนใหลูกสุนัขไดดีกวาผา กอนคลอด 24 ชั่วโมง อุณหภูมิรางกายสุนัขจะลดลง จาก 100.4 F -> 96.8 F แมสุนัขจะไมกนิ อาหารใดๆภายใน 24 ชั่วโมงนี้ กอนคลอดเล็กนอย แมสุนัขอาจอาเจียน และขับเมือกเขียวๆออกมากอน เนื่องจากรกเริ่มแยกตัวจากกัน แมที่แข็งแรงจะคลอดไดเองไมตองชวยอะไร การคลอด แมจะคลอดถุงรกพรอมลูกออกมาและแมสุนัขจะกัดถุงรกเพื่อใหน้ําคร่ําแตกออกและกัดสายสะดือใหขาด จากถุงรก เพื่อใหลูกหลุดออกมาและหายใจไดเอง ลูกสุนขั หนึ่งตัวจะออกมาพรอมถุงรกตัวเอง และแมจะขับสายรก ที่คางอยูภายในใหออกมาภายหลังคลอดลูกออกมาแลวเปนตัวๆไป(เราตองสังเกตนับ จะไดรูวาคลอดลูกออกมา หมดแลวยัง) แมจะมีพฤติกรรมกินรกตัวเอง เลียลูกกระตุนหายใจ ทําความสะอาดตัวลูก พาลูกมาดูดน้ํานมและให ความอบอุน
หากเราเขาไปยุงอาจโดนกัดหรือขู ทําใหเกิดการแยงลูก อาจเปนอันตรายตอลูก ควรปลอยใหลูก อยูกับแม เพราะการที่ลูกดูดน้ํานมจะกระตุน ใหฮอรโมนออกซิโตซินหลั่งออกมามาก กระตุนใหใหเกิดการคลอด ตอมางายไดตอ เนื่อง การชวยเหลือ หากเจาของจะชวยคือการทําความสะอาดสายสะดือ และมัดสายสายสะดือลูกสุนัขดวยดาย( ระยะหาง 1-2 ซม.จากโคนสะดือ) ใชน้ํายาทิงเจอรไอโอดีนที่มีขายในทองตลาดทั่วไปไดเพื่อเช็ดแผลหรือทําความ สะอาด และควรเช็ดสะดือลูกสุนัขวันละสองครั้งแตใหระวังแมจะกัดเพราะหวงลูก ควรถือสําลีเขาไปทา มากกวา เอาลูกออกมาทายา การเลนและการออกกําลังกาย สุนัขทุกเพศทุกวัยทุกขนาดชอบเลนกับสุนัขดวยกัน หรือกับคนเลี้ยง แตถาสุนัขไมมีกิจกรรม จะทําลายหรือมีพฤติกรรมไมพึงประสงคแทน ชนิดการออกกําลังกาย 1. ออกกําลังกายโดยไมมีสายจูง สุนัขพันธุแข็งแรงและตื่นตัวอยูเสมอ เชน พันธุสเปเนียล ชอบออกกําลังกายทุกวัน ถาสุนัขเชื่องและเปนมิตรสามารถปลอยใหวิ่งเลนโดยไมมีสายจูงได 2. ออกกําลังกายโดยมีสายจูง นอกบริเวณบานควรใชสายจูงกับสุนัข โดยใชสายจูงปรับความยาวได 3. การเลนเกมตางๆ การเลนกับสุนขั เปนการเนนความเปนผูนําของเจาของ เพราะสุนัขจะรอใหโยนของเลนให สุนัขจะไดออกกําลังกายลดความเหงา เครียด 4. การกัดแทะของเลน สุนัขที่มีของเลนจะสุขภาพจิตดีกวาสุนัขที่ไมมีของเลน ของเลนที่กัดแทะไดจะชวยฆาเวลาของสุนัข ในขณะทีไ่ มไดเลนกับเจาของ
ของเลนของสุนัข สุนัขชอบเลนกับสิ่งของที่เคลื่อนที่ไดเชน ลูกบอล จานรอน โดยการวิ่งไลงับและนํากลับมาใหเจาของ ของเลนยางบางชนิดจะมีเสียงดังเมื่อถูกกัดสุนัขจะชอบเนื่องจากเลียนแบบสัญชาตญาณของการลาสัตว เชือกที่ผูกเปนปมหรือของเลนสําหรับงับและดึงจะเปนของเลนที่เหมาะกับสุนัข ยังชวยบริหารเหงือกและ ฟนของสุนัข
การฝกสุนัข สุนัขควรเรียนรูคําสั่งพื้นฐาน 6 คําสั่ง ชิด-นั่ง –คอย-ยืน-หมอบ-มา รางวัลที่ดีคือ รูจักคําวา ‘ดี’ และ’ไม’ ทําดี(ตบไหล ทําหนายิ้ม เสียงเบานิ่ม) และ ไม (ทําหนาดุๆ เสียงดังๆ) การฝกใหเริ่มทันทีที่มันเขามาอยูในบาน ลูกสุนัขตองเรียนรูการเรียกชือ่ มัน (ตั้งสั้นๆ จํางาย อยายาวมาก) ทุกครั้งที่มันทําถูกใหพดู “ดีๆๆ” แตหากผิด ตองพูด “ไมๆๆ” ทันที ไมตองพูดอยางอืน่ ๆ หามตี แตะ ในทุกกรณี การฝกนอกบาน เมื่ออายุได6 เดือนสามรถเริ่มการฝกหนักไดแลว ฝกในสายจูง ควรฝกวันละหนึ่งถึงสองครั้งทุกวัน ครั้งละ15- 30 นาที อุปกรณ: โซคอ สายเชือกฝก ครั้งแรกๆควรใสโซฝกใหคุนเคย1-2 วัน หลังจากนัน้ จึงเริ่มใสสายจูงฝก สายเชือกฝกหรือโซฝกจะตองตางจากสายจูงเดินเลน ไมใชปนกันและ หามใชสายจูงลงโทษสุนัข จะทําให กลัว
คําสั่งแรกคือ ชิด ดวยการเดินจูงสุนัขทางซายมือของผูฝก เรียกชื่อมัน และกลาวคําวา ชิด พรอมดึงสายจูง ใหสั้นๆเขาติดใกลเขา เปนการสอนใหสุนขั เดินตามใกลๆแตไมใหเดินล้ําหนาผูฝก หรือเดินลอมหนาหลัง ฝกเดิน ตามไปเรื่อยๆ หากหยุดก็ใหสนุขยืนนิ่งอยูข างๆเขาเรา หากทําไดใหกลาวคําวา ‘ดี’ หากเดินยังไมไดระเบียบหรือ เดินล้ําหนาใหกระตุกสายจูงและบอกวา ‘ไม’ คําสั่งสอง คือ นั่ง เมื่อเราพาเดินในสายจูง แลวหยุดเดิน สุนัขตองยิ่งนิง่ จากนั่งออกคําสั่ง เรียกชื่อมัน และ กลาวคําวา นั่ง พรอมดึงสายจูงไปขางหลัง ในครั้งแรกๆหลังดึงสายจูงแลวใหใชมือขวาถือสาย มือซายกดเบาๆที่ บั้นทายสุนัขกดใหนั่งลง เมื่อมันนั่ง หากทําไดใหกลาวคําวา ‘ดี’ หากยังทําไมไดใหบอกวา ‘ไม’ และเริ่มใหม ไป เรื่อยๆจนสุนัขทําได คําสั่งสาม คือ คอย เมื่อสุนัขทําคําสั่งที่หนึ่งและสองไดดแี ลว ในทานั่งใหออกคําสั่ง เรียกชื่อมัน และกลาว คําวา คอย พรอมกับใชมือซายแบออกไปสัมผัสเบาที่หนาจมูก(ตบเบาๆ) คอย-คอย ดึงสายจูงใหตงึ สูงตลอดเวลา และออกทางขวาไปยืนตรงหนาสุนัข ยังกลาวคําวา คอย-ดี สลับกันตลอดเวลา หากยังทําไมไดใหบอกวา ‘ไม’ และ เริ่มใหม ไปเรือ่ ยๆจนสุนัขทําได หากดีปลอยใหคอยนานถึง 3 นาทีถือวาสอบผาน คําสั่งสี่ คือ ยืน เมื่อสุนัขทําคําสั่งที่หนึ่งและสอง สามไดดีแลว ใหพาจูงเดิน และเมื่อเราหยุดเดินสุนขั จะนั่ง ทันทีเพราะคําสั่งสอง แตเราจะออกคําสั่ง เรียกชื่อมัน และกลาวคําวา ยืน หากสุนัขจะนั่งใหพาเดินทันที พรอม กลาวคําวา ชิด จากนั้นเริ่มหยุดเดินใหมพรอมกลาววา ยืน ไปเรื่อยๆ หากสุนัขยืนและทําได ใหกลาวคําวา ยืน-ดี สลับกันตลอดเวลา ถึงขณะนี้รอบการฝกใหทําซ้ําตามลําดับเปนเรื่องสําคัญ อยาทําสลับคําสั่งจะทําใหสุนัขงง หาก สุนัขเขาใจดีแลวเขาจะทําตามคําสั่งที่ดีไดเองอัตโนมัติ ไมตองไปทดสอบสลับคําสั่งใหงงไปเฉยๆๆจะใหฝก ยาก โดยไมจําเปน คําสั่งหา คือ หมอบ เมื่อสุนัขทําคําสั่งที่หนึ่งถึงสี่ไดดีแลว ใหพาจูงเดิน และเมื่อเราหยุดเดินสุนัขจะนั่งทันที หรือสั่งใหนงั่ จากนั้นเราจะออกคําสั่ง เรียกชื่อมัน และกลาวคําวา หมอบ เสร็จแลวผูฝกนั่งลงขางๆใชมือซายโอบ ไหลซายสุนัขขามไปจับขาซาย และมือขวาจับปลายขาขวาดึงไปขางหนาคอยๆชาๆและออกคําสั่ง หมอบ ตลอดเวลา สุนัขจะคอยหมอบนอนลง (อาจตองจัดทาทีจ่ ะใหนอนดวย เชนนอน หมอบยืดขาหนาไปขางหนา ขา หลังคู ไมเชนนั้นอาจนอนหงาย นอนแผ) หากสุนัขยังทําไมไดใหเริ่มคําสั่งหนึ่ง สองใหมหากทําได ใหกลาวคําวา หมอบ-ดี สลับกันตลอดเวลา ในขั้นนีเ้ มื่อสุนัขหมอบไดดแี ลว ใหออกคําสั่งตอเนื่องคือ คําสั่ง คอย (จะเปนการหมอบ-คอย) แลวเรายืน ขึ้นดูอยูขาง หากทําได ใหกลาวคําวา หมอบ-ดี สลับกันตลอดเวลา อีกขั้นหนึ่งใหทดสอบปลดสายจูงและออกสั่ง หมอบ-คอย หากทําไดดเี ราก็กลับมาจูงตอ
คําสั่งหก คือ มา เมื่อสุนัขทําคําสั่งที่หนึ่งถึงหาไดดีแลว ใหพาจูงเดิน และเมื่อเราหยุดเดินสุนัขจะนั่งทันที หรือสั่งใหนงั่ -คอย จากนั้นเราเดินออกไปขางหนามัน สองสามกาว มือยกสายจูงไว แลวออกคําสั่ง เรียกชื่อมัน และกลาวคําวา มา หากสุนัขงงใหดึงสายจูงมาหาตัวสุนัขก็จะเดินมาหาทันที ทําอยางนี้ไปเรื่อยๆ อยาลืมชมเขาทุก ครั้ง การฝกภายในบาน การฝกขับถายบนกระดาษ 1. ลูกสุนัขอาจถายทุกๆ 2-3 ชั่วโมง ในชวงแรกจะเปนปญหาเรื่องการถายเลอะเทอะ 2. เมือ่ ลูกสุนัขรูสึกอยากถาย มักจะดมกลิ่นกับพื้นและวิ่งวนไปรอบๆ ใหรีบจับสุนัขไปที่จัดไวทันที วางสุนัขลงบนกระดาษหนังสือพิมพ และการเปลี่ยนกระดาษควรเหลือแผนเกาไวบา งเพื่อใหสุนัข จํากลิ่นไดงายและกลับมาถายที่เดิมอีก 3. เมื่อสุนัขถายแลวเจาของควรชื่นชมสุนัข ควรรีบทําความสะอาดโดยน้ํายาฆาเชื้อและกําจัดกลิ่น อยาใชที่มีแอมโมเนียผสมเพราะจะทําใหสนุ ัขคิดวาเปนกลิ่น ปสสาวะของมันเอง การขับถายนอกบาน 1. 2. 3. 4.
ฝกใหสุนัขขับถายเปนชวงเวลาจนสุนัขพอใจและเปนนิสยั พยายามใหสุนขั ขับถายบริเวณที่หางจากตัวบาน ปสสาวะมีลักษณะเปนกรด อาจทําใหหญาตายได ควรเก็บอุจาระสุนัขทันที ไมพาไปถายหนาบานคนอื่นหรือที่สาธารณะ
การอุมสุนัข การอุมสุนัขขนาดใหญ 1. ใหใชแขนขางหนึ่งโอบรอบหนาอก ขณะที่แขนอีกขางโอบรอบขาหลัง แลวดึงตัวสุนัขมาติด หนาอก 2. จับใหมนั่ คงแลวยกขึ้น กรณีสุนัขมีอาการตื่นกลัวควรวางลงกอน การอุมสุนัขขนาดเล็ก 1. ใชมือขางหนึ่งสอดเขาหวางขาขณะที่อีกขางโอบรอบขาหลังและสะโพก เพื่อไมใหสุนัขบิดตัว หรือถีบ
2. ยกสุนัขขึ้นโดยที่มือขางหนึง่ อยูรอบหนาอก และอีกขางอยูที่บั้นทาย ปองกันไมใหสุนัขกระโดด ลงไปได สังคมสุนขั ควรฝกใหสุนขั อยูรวมกับสุนัขอื่นได หรือไมแสดงพฤติกรรมกาวราวกับสุนัขแปลกหนา การใหสนุ ัข คุนเคยกันกับสุนัขอื่นๆตั้งแตเล็กชวยใหสนุ ัขเรียนรูการเขาสังคมไดดีขึ้น หากสุนัข เหาขูกันใหดุทนั ที อยาเสริมสง การพาสุนัขไปพบสัตวแพทย สุนัขควรไดรบั การตรวจรางกายทุกป และควรถายพยาธิปละ 4 ครั้ง รวมทั้ง การฉีดวัคซีนปองกันโรคตางๆครบถวน การอาบน้ําสุนขั สุนัขไมจําเปนตองอาบน้ําทุกวัน อาบใหเมือ่ สุนัขสกปรกเทานั้น ควรใชน้ําอุนและแชมพูสําหรับสุนัข โดยใหสุนัขยืนในอางอาบน้ํา หรือที่พื้นไมลื่น กอนราดน้ําทําความสะอาด ใหจับหัวสุนัขเชิดสูงขึ้น เพื่อปองกันน้ําเขาตาและหูของสุนัข ใหราดน้ําหรืออาบหัวและหูเปนรายการสุดทายเพราะสุนขั จะสะบัดขนไลน้ําหากหนาตาเปยก ลางแชมพูออกใหหมด เช็ดตัวสุนัขใหแหง ใหระวังสุนขั หนาวสั่น สําหรับสุนัขพันธุขนยาวควรเปาขนใหแหงกอนแปรงขน
ขั้นตอนการอาบน้ําสุนขั
1.
2.
4.
5.
3.
6.
การตัดแตงขนสุนัข การตัดแตงขนมี 2 แบบ คือ แบบสิงโตอังกฤษและแบบสิงโตคอนติเนนทัล สําหรับสุนัขที่อายุนอยกวา 1 ป อาจตัดแตงขนแบบลูกสุนขั สุนัขพันธุพูเดิลทั่วไปที่ไมไดสงเขาประกวดนิยมตัดแตงขนในรูปแบบที่เรียบงายกวา คือ แบบทรงแกะ การดูแลขนสุนัข สุนัขพันธุขนยาวตองเพิ่มความระมัดระวังเปนพิเศษ สุนัข พันธุยอรกไชร เทอรเรียร หลังจากอาบน้ําแลว ควรจะรวบขนไวเปนจุดๆ จึงแกะขนที่รวบไวออกแลวหวี จะพบวาขนไมพันกัน และเรียงตัวเปนระเบียบ สุนัขพันธุข นเรียบ
ลาซา แอปโซ
มอลตีส
ปกกิ่ง
สุนัขที่มีขนเรียบนั้นดูแลงาย แปรงขนใหสปั ดาหละ 1-2 ครั้งก็พอแลว ขั้นแรกควรใชแปรงยางแปรงยอนขน เพือ่ ขจัดขนที่หมดอายุและสิ่งสกปรก
ชิสุ
แลวแปรงตามขนอีกครั้ง ถาอยากใหสนุ ขั มีขนเงางามก็ใหใชผาชามัวรขัดขนอีกครั้ง สุนัขพันธุข นสั้น
บีเกิล
บาสเซต ฮาวนด
บูล เทอรเรียร
สุนัขที่มีขนสั้นจะดูแลจะดูแลไมยากนัก ใหใชแปรงสลิกเกอรแปรงขนไมใหพันกันกอน แลวใชแปรงขนสัตวแปรงขจัดขนที่หมดอายุและสิ่งสกปรกบริเวณหางและขา ควรใชหวีซี่ละเอียดแปรงซ้ําอีกครั้ง และใชกรรไกรเล็มขนที่ไมเปนระเบียบออก
สุนัขพันธุข นแข็ง สุนัขที่มีขนแข็งและหนานี้ตอ งดูแลเปนพิเศษ ควรแปรงขนใหทุกวัน เพื่อไมใหขนพันกัน และไมควรใชครีมปรับสภาพขน เพราะจะทําใหขนนิ่ม เจาของตองหมั่นดูแลถอนขนใหสม่ําเสมออยางนอยทุก 3-4 เดือน
การตัดแตงขนสุนัขตามแฟชัน่ มีขอดีตรงที่ดูแลขนสุนัขไปดวย เพราะสุนขั จะไดรับการดูแลขนอยางสม่ําเสมอ ชวยไมใหขนพันกัน โดยเฉพาะสุนัขที่มีขนยาวจะชวยไมใหสุนัขรอน หากไมชอบตัดแตงขนสุนัขก็ควรเล็มขนใหทุก 6-8 สัปดาห อุปกรณที่ใชในการตัดแตงขน
หวีฟน ถี่และหางชนิดโลหะ แปรง
กรรไกรตัดเล็บ
การจัดการทั่วไป การปอนยา สุนัขที่ปวยหรือไดรับบาดเจ็บอาจจําเปนตองไดรับยาที่สตั วแพทยสั่งจายใหการปอนยาสุนัขตองทําอยาง นุมนวล ทั้งนี้การหยอนยาลงในชามอาหารของสุนัขไมไดรับประกันวาสุนัขจะกิน ยานั้นเขาไปดวย จงอยาเรียกสุนัขใหมาหาคุณเพื่อเพียงปอนยา ควรเขาไปหาสุนัขเอง การปอนยาเม็ด 1. สั่งใหสุนัขนั่ง ใชมือขางหนึ่งเปดปากสุนัขอยางนุมนวล โดยจับปากสุนัข จากดานบน 2.ใชมืออีกขางหนึ่งหยอนเม็ดยาลงไปในคอใหลึกที่สุดเทาที่จะเปนไปได โดยใหวางอยูเหนือโคนลิน้ สวน ที่โปงขึ้นมา
3.ใชมือจับปากสุนัขใหปด และจับหัวใหเงยขึ้นชา ๆ แลวลูบคอลงมาดวยมืออีกขาง หนึ่ง 4.เมื่อสุนัขกลืนยาและเลียริมฝปาก แสดงวาการปอนยาเสร็จเรียบรอย และจงชม สุนัขทุกครั้งที่กินยาสําเร็จ
การปอนยาน้ํา วิธีการปอนยาน้ําที่ถูกตองและไดผลดี คือ การใชหลอดฉีดยาเปนอุปกรณชวย ปอน ถาสุนัขไมยอมกลืนยาเม็ด คุณอาจนํายาเม็ดไปบดและผสมกับน้ําหวาน และฉีดยาน้ําเขาไปตรงขางปาก ทั้งนี้ยาน้าํ แกไอก็สามารถปอนดวยหลอดฉีด ยาไดเชนกัน
การหยอดหู
1.จับหัวสุนัขใหอยูนิ่ง ๆ และเปดหู 2.อยาใหสุนัขสะบัดศีรษะ 3.ใชมือนวดคลึงหูสุนัขอยางนุมนวล สุนัขขึ้น แลวสอดปลายขวดยาหยอด แลวนําขวดยาออกมาจากหู วิธีนี้จะชวยใหตัวยากระจายไปทั่วหู หูไปในทิศทางปลายจมูกสุนัข และพับหูกลับลงมาใน ตําแหนงปกติ
การหยอดตา
1.ทําความสะอาดบริเวณรอบ ๆ ดวงตา โดยใชสําลีชุบน้ําเช็ด คราบขี้ตาและสิ่งสกปรก ออกไปใหหมด
2.ควบคุมสุนัขใหอยูน ิ่ง ๆ อยางนุมนวล 3.บีบขวดยาใหไดจํานวนหยด ใหสุนัขลืมตากวาง แลวนําขวดยามา ยาลงสูด วงตาตามที่ตองการ หยอดตาจากดานบนและดานหลังเพื่อ และใหตาชุมไปดวยยา ไมใหสุนัขหวาดกลัว
การดูแลบาดแผลเบื้องตน การดูแลบาดแผลปด 1.ถาสุนัขมีบาดแผลปดใหประคบบาดแผลใหเร็วที่สุด โดยใหนําผาขนหนูผืนเล็กๆมาวางเหนือบาดแผล ดวย (เพื่อปองกันไมใหผาประคบแผลแข็งตัวติดผิวหนัง) จากนั้นนําน้ําแข็งมาวางทับไว 15 นาที 2.สุนัขอาจกระดูกหัก และตองไดรับการรักษาจากสัตวแพทยโดยดวน การนําผาเย็นประคบบาดแผลมาวางบนบริเวณทีไ่ ดรับบาดเจ็บ จะชวยลด อาการปวดและการบวม อยางไรก็ตามถาสุนัขปวดบาดแผลมาก ใหเลิก ประคบแผล
อาการของบาดแผลเปด บาดแผลเปดตองไดรับการทําความสะอาดใหทวั่ เพื่อปองกันการติดเชื้อ ตองตรวจสอบบาดแผลเปดใหดี เพราะถามีเลือดออกเล็กนอยหรือไมมีเลือดออกเลย บาดแผลอาจจะเห็นไมชัด อาการของบาดแผลเปดมีดังนี้: สุนัขเลียหรือใหความสนใจสวนใดสวนหนึ่งของรางกายมากผิดกติ
มีสะเก็ดแผลใหมๆที่ผิวหนัง ผิวหนังมีรูทะลุ มีรอยเลือดบนผิวหนัง เดินกะเผลก ถาพบอาการขางตน ควรหาบาดแผลเปด หากพบบาดแผลจง ทําความสะอาด และนําไปหาสัตวแพทย การดูแลบาดแผลเปด 1.ถาสุนัขมีบาดแผลเปดและไมใหญมาก ใหดึงสิ่งสกปรก ตางๆกรวดเสีย้ น และวัตถุแปลกปลอมใดๆโดยใชนวิ้ หรือ ปากคีบ 2.ลางบาดแผลดวยน้ําเกลือออนๆ น้ําสะอาดหรือ ไฮโดรเจนเปอรออกไซด 3 เปอรเซ็นต 3.ถาขนสุนัขเขาไปอยูในบาดแผล ตัดขนรอบๆปากแผลใหเกลี้ยง แตกอ นจะตัดขน ใหหลอเลี้ยงกรรไกรดวยสาร หลอลื่นที่ละลายน้ําได วิธีนี้จะชวยใหขนมาติดที่กรรไกร โดยไมไปติดบาดแผล
โรคที่สําคัญในสุนัข โรคลําไสอักเสบติดตอ หรือการติดเชื้อพาโวไวรัสในสุนขั มีรายงานพบวาสุนัขทุกอายุ ทุกเพศและทุกพันธุสามารถเปนไวรัสทีส่ ามารถติดตอที่ รุนแรงที่ทําลายระบบทางเดินอาหาร เม็ดเลือดขาว และในสุนัขบางตัวจะมีผลตอกลามเนื้อหัวใจ เกิดจากการติดเชื้อพาโวไวรัส (parvovirus: CPV)ปจจุบันเรียกโรคนี้วา โรคติดเชื้อพาโวไวรัสใน สุนัข หรือโรคลําไสอักเสบติดตอ (canine parvoviral infection) ซึ่งมีการระบาดทั่วโลก รวมทั้ง ประเทศไทยดวย การติดเชื้อพาโวไวรัสสามารถแพรกระจายจากสุนัขตัวหนึ่งไปอีกตัวหนึ่ง การติดตอมีโอกาสมากขึ้นเมื่อ สุนัขไปอยูรวมกันมาก เราจะทราบไดอยางไรวาสุนขั ติดเชื้อพาโวไวรัส
อาการเริ่มแรกของสุนัขที่ติดเชื้อพาโวไวรัสคือ ซึม เบื่ออาหาร อาเจียนและทองเสีย อยางรุนแรง อุณหภูมิ ของรางกายอาจจะสูงขึ้น อุณหภูมิของรางกายที่วดั จากทวารหนักของสุนัข มีคาประมาณ 101º - 102ºF
อาการปวยพบไดประมาณ 5-7 วัน ในระยะแรกของการติดเชื้อ(แสดงอาการแลว) อุจจาระของสุนขั จะมี ลักษณะเหลวมีสีออกเทา หรือเหลืองเทา (yellow-gray) ในบางครั้งอาการแรกเริ่มสุนัขอาจจะถายเหลวโดยมีเลือด ปนออกมาได เมื่อสุนัขมีการถายเหลว หรืออาเจียนอยางรุนแรง ทําใหสุนัขสูญเสียน้ําและเกลือแรออกจากรางกายอยาง รวดเร็ว สุนัขปวยบางตัวจะมีอาการอาเจียนอยางรุนแรงและถายอุจจาระเปนน้าํ สีน้ําตาลจนถึงสีแดง(มีเลือดปน)พุง จนตายได ในสุนัขบางตัวอุจจาระอาจจะมีลักษณะเหลวเทานั้นและสามารถฟนตัวจากการปวย ได อาการปวยมักพบวา ลูกสุนัขจะแสดงอาการปวยรุนแรงกวาสุนัขโต สุนัขมักจะตายภายใน 48-72 ชั่วโมงหลังจากที่เริ่มแสดงอาการ ลูกสุนัขมักจะตายดวย ภาวะชอค โดยมักจะเกิดขึ้นหลังการติดเชื้อประมาณ 1-2 วัน ในอดีตพบวาลูกสุนขั อายุนอยกวา 5 เดือนมีอัตราการปวยคอนขางสูง การฉีดวัคซีนกันชวยลด อัตราการปวยและอัตราการตายจากการติดเชื้อ ลูกสุนัขชวงระหวางหยานม (1 เดือน)ถึงอายุ 6 เดือนเปนชวงอายุที่มีความเสี่ยงตอการปวยเปนโรค สุนัขบางพันธุจะแสดงอาการปวยที่มีความรุนแรงในบางสายพันธุ เชน รอตไวเลอร และโดเบอรแมนพิ้น เชอร การปองกันโรคลําไสอักเสบติดตอในสุนขั การปองกันโรคลําไสอักเสบจากการติดเชื้อพาโวไวรัสสามารถทําไดดวยการฉีดวัคซีนปองกัน โดยปกติใน ลูกสุนัขมักจะเริ่มตนฉีดเมื่ออายุประมาณ 6-8 สัปดาห กรณีที่สุนัขที่เลี้ยงเกิดปวยติดเชื้อพาโวไวรัส ตองทําความสะอาดบริเวณกรง หรือคอก หรือที่อยูของสุนัข ปวย ฆาเชื้อดวยยาฆาเชื้อ พวกสารละลายโซเดียมไฮโดรคลอไรต ซึ่งเปนสวนประกอบของยาฆาเชื้อทีม่ ีใชอยู ในบาน อยูแลว(ยาทําความหองน้ํา ครัว) อยาลืมวาเชื้อพาโวไวรัสนี้สามารถมีชีวิตอยูไดในสิ่งแวดลอมได เวลานานเปนเดือนๆ
โดยเฉพาะอยางยิ่งสุนัขที่มีอายุไมเกิน 6 เดือนควรระมัดระวังอยางยิ่ง สิ่งปฏิกูล หรือสิ่งขับถายของสุนัข ควรกําจัดทิ้งใหเร็วที่สุดไมควรกัก หมักหมมไว ถาไมแนใจวาสุนัขของเรากําลังจะปวยดวยการติดเชื้อพาโวไวรัส หรือโรคลําไสอักเสบหรือไม ควร ปรึกษาสัตวแพทย การลดความเสี่ยงตอการติดเชื้อพาโวไวรัสที่ดีที่สุดคือปองกันสุนขั ไมใหไปสัมผัสกับ สุนัขอื่นๆ โดยเฉพาะในบริเวณที่มีการแพรระบาดของโรคนี้ เจาของสุนัขควรปรึกษา หรือนําสัตวไปพบสัตวแพทย เมื่อพบวา สุนัขมีอาการตางๆ เหลานี้ • • • • • •
พบมีสิ่งคัดหลั่งที่ผิดปกติออกจากจมูก ตา หรือชองเปดอืน่ ๆของรางกาย สัตวเลี้ยงไมกนิ อาหาร มีน้ําหนักลดลง หรือกินน้ํามากขึ้นกวาปกติ ขับถายลําบาก หรือผิดปกติ หรือไมสามารถควบคุมการขับถายได พบมีพฤติกรรมที่ผิดปกติ หรือพบมีความดุรายขึ้นอยางกระทันหัน หรือออนเพลีย พบมีกอนผิดปกติ เดินกระโผลกกระเผลก ลุกหรือนอนลําบาก มีการสั่นหัวมากผิดปกติ เกา หรือเลีย หรือกัดแทะตามลําตัวมากผิดปกติ
พยาธิหนอนหัวใจ ชีพจักรของพยาธิหนอนหัวใจของสุนัขเริม่ ตนเมื่อสุนัขที่ปวยดวยโรคพยาธิหนอนหัวใจ ซึ่งจะมีตวั ออน ของพยาธิหนอนหัวใจอยูในกระแสเลือด (microfilariae) ถูกยุงดูดกินเลือด ทําใหยุงไดรับเอาตัวออนของพยาธิ หนอนหัวใจไปดวยเมื่อดูดกินเลือดสุนัขปวยเปนอาหาร หลังจากนัน้ ตัวออนของพยาธิหนอนหัวใจจะใชระยะเวลาภายหลังจากถูกดูดกินจากตัวสุนัข ประมาณ 2-3 สัปดาหในการพัฒนาเปนตัวออนระยะติดตอในตัวยุง เมื่อยุงมีการดูดกินเลือดของสุนัขอีกครั้ง โดยเฉพาะสุนัขที่มีสุขภาพปกติ (ไมไดปวยเปนโรค) ยุงจะมีการ ถายเทตัวออนระยะติดตอที่ไดมีการพัฒนาอยางสมบูรณแลวในยุงไปยังสุนัขอีกตัวหนึ่ง จากนัน้ ตัวออน ระยะติดตอจะชอนไชไปตามเนื้อเยื่อตางๆ ของสุนัข และเจริญเติบโตตอไปอีก 2-3 เดือนและพัฒนาเปน ตัวแกในที่สุดในหัวใจของสุนัขตัวใหม
เมื่อตัวพยาธิอยูในหัวใจของสุนัข และมีการเจริญเติบโตในหัวใจของสุนัข มันจะมีขนาดยาวประมาณ 14 นิ้ว และทําความเสียหายใหกับเนือเ ยื่อหัวใจ เนื้อเยื่อปอดและอวัยวะที่สําคัญอื่นๆ ถาสุนัขปวยไมได รับการรักษา การพัฒนาของโรคจะมีความรุนแรงมากขึน้ และที่สุดสุนขั จะตายได
โรคพิษสุนัขบา โรคพิษสุนัขบา เปนโรคที่มีอันตรายรายแรง ทําใหคนหรือสัตวที่ปวยดวยโรคนี้ตองตายดวยความทุรนทุ ราย โรคนี้เกิดจากเชื้อไวรัสที่มีชอื่ วา เรบีสไวรัส สัตวเลือดอุนทุกชนิดโดยเฉพาะ สัตวเลีย้ งลูกดวยนม เชน วัว ควาย มา หมู ลิง ชะนี กระรอก กระแต เสือ คางคาว คน ฯลฯ สัตวที่พบวาเปน โรคพิษสุนัขบา มากที่สุด คือ สุนัข ( 96 % ของจํานวนทีพ่ บเชื้อจากการวินิจฉัย ในหอง -ปฏิบัติการ ) รองลงมา คือ แมว ( 3% ) การติดตอของโรคพิษสุนัขบามาสูคน โดยการไดรับเชื้อไวรัสที่อยูในน้ําลายสัตว เขาทางบาดแผลที่เกิดจากการถูกกัด ขวน หรือถูกเลียบริเวณ บาดแผลที่มีอยูเดิม หรือไดรบั เชื้อเขาทางเยือ่ ตา เยื่อปาก คนถูกสุนัขที่เปนโรคพิษสุนขั บากัด ใชเวลานานเทาไรจึงจะแสดงอาการ ระยะเวลาตั้งแตไดรับเชื้อ จนกระทั่งปรากฏอาการ หรือระยะฟกตัวจะกินเวลาตั้งแต 7 วัน ถึง 2 ป ขึ้นอยูกับ ลักษณะบาดแผลและบริเวณที่ถูกกัด ถาถูกกัดบริเวณใบหนาหรือใกลสมองและบาดแผลฉกรรจ ระยะฟกตัวจะเร็ว ถาถูกกัดบริเวณขา ระยะฟกตัวนานกวา เพราะเชื้อจะเดินทางมาถึงสมองโดยเฉลี่ยประมาณ 2 - 6 อาทิตย อาการของผูปว ยโรคพิษสุนขั บา มี 2 แบบ คือ แบบกาวราว ดุราย และแบบอัมพาต อาการของโรคแบงเปน 3 ระยะ คือ ระยะอาการเริม่ แรก อาจมีอาการไมสบาย ครั่นเนื้อครั่นตัว มีไขต่ํา ๆ ออนเพลีย เบื่ออาหาร เจ็บคอคลาย เปนหวัด อาจมีอาการคลื่นไส ปวดทอง และที่พบบอย คือ อาการคัน เสียว หรือชาบริเวณแผลที่ถูกกัด ระยะอาการทางระบบประสาท อาจคลุมคลั่ง ดุราย กลัวน้าํ กลัวลม ความรูสึกไวกวาปกติ ทุรนทุราย หรือมี อาการซึม เปนอัมพาต น้ําลายไหลตองบวนทิ้ง กลืนน้ําไมได ระยะสุดทาย ไมรูสึกตัว หายใจกระตุก ผูปวยสวนมากมักจะตายภายใน 7 วัน หลังจากเริ่มแสดงอาการ ถาเชื้อไวรัสเพิม่ จํานวนในสมองมาก ก็จะแสดงอาการแบบคลุมคลั่ง ดุราย แตถาเชื้อ ไวรัสเพิ่มจํานวนมาก ในไขสันหลัง จะแสดงอาการอัมพาต
อาการโรคพิษสุนัขบาในสุนขั แบงไดเปน 2 แบบ คือ แบบดุราย แสดงอาการชัดเจนและพบบอย และแบบซึมซึ่งแสดงอาการไมชัดเจน อาการของโรคมี 3 ระยะ คือ ระยะอาการเริ่มแรก สุนัขจะมีนิสัยแปลกไปจากเดิม ตัวที่เคยขลาดกลัวจะเขามา คลอเคลีย ตัวที่เคยเชื่องชอบเลน จะ หงุดหงิด หลบไปตามมุมมืด เงียบ กินอาหารและน้ํานอยลง ระยะนี้มีอาการ 2 - 3 วัน จะเขาสูระยะที่ 2 ระยะตื่นเตน จะมีอาการทางประสาท มีความรูสึกไวกวาปกติ กระวนกระวาย หงุดหงิด ไมอยูนิ่ง กัดแทะสิ่งของ ตัวแข็ง ขากรรไกรแข็ง ปากอา ลิ้นหอย น้ําลายไหล มานตาขยาย บางตัววิ่งพลานไปทั่ว เมื่อพบสัตวหรือคนขวางหนาจะกัด สงเสียงเหา หอน ในระยะที่แสดงอาการแบบซึมอาจไมแสดงอาการเชนนี้ แตเมื่อถูกรบกวนอาจกัด ตอมา กลามเนื้อจะเริ่มออนแรงลง ทรงตัว ไมได ลมแลวลุกไมได บางตัวชักกระตุก อาการระยะนี้พบได 1 - 7 วัน จึงจะเขาระยะสุดทาย ระยะอัมพาต เกิดอาการอัมพาตลามทั้งตัวเริ่มจากขาหลัง ตอมากลามเนื้อคอจะเปนอัมพาต กลืนอาหารไมได ระบบหายใจ ลมเหลวและตายในที่สุด รวมระยะเวลาเริ่มแสดงอาการจนตายประมาณ 10 วัน อาการโรคพิษสุนัขบาในแมว ในระยะที่มีอาการชัดเจน แบงไดเปน 3 ระยะ เชนกัน คือ ระยะอาการนํา มีอาการหงุดหงิด นิสัยเปลี่ยนไป ชอบหลบซุกในที่มืด ระยะนี้มักสั้น ไมเกิน 1 วัน ระยะตื่นเตน แสดงอาการดุราย กัด หรือขวนคนหรือสัตวที่เขามาใกล กลามเนื้อสั่น น้ําลายไหล กลืนลําบาก ระยะนี้กิน เวลาประมาณ 2 - 4 วัน ระยะอัมพาต เริ่มเปนอัมพาตจากขาหลัง แลวลามมายังลําตัว ขาหนาและหัว จนทั่วตัวอยางรวดเร็ว แลวถึงแกความตาย อาการในแมวมักไมชัดเจน อาจเปนแบบซึม มีระยะตื่นเตนสั้นมาก หรือไมแสดงอาการเลย อาจพบวากินอาหารและน้ําลําบาก แลว เปนอัมพาตลามไปทั่วตัว ตายในเวลา 3 - 4 วัน หลังจากเริ่มมีอาการ เมื่อถูกสัตวที่สงสัยวาเปนโรคพิษสุนัขบากัดควรทําอยางไร 1. รีบลางแผลดวยน้ํากับสบูหลาย ๆ ครั้ง เพื่อลางเชื้อออกจากบาดแผล ถามีเลือดออกควรปลอยใหเลือดไหลออก อยาบีบหรือเคน แผล เพราะจะทําใหเชื้อแพรกระจายไปสวนอื่น 2. เช็ดแผลดวยน้ํายาฆาเชื้อโรค ควรใชสารละลายโพวีโดนไอโอดีน เชน เบตาดีน ถาไมมี อาจใชแอลกอฮอล 70 % หรือทิงเจอร ไอโอดีน 3. ไมควรเย็บแผล ถาจําเปนควรรอไว 3 - 4 วัน ถาเลือดออกมากหรือแผลใหญอาจเย็บหลวม ๆ และใสทอระบายไว 4. กักสัตวไวดูอาการอยางนอย 10 วัน โดยใหน้ําและอาหารตามปกติ อยาฆาสัตวใหตายทันที เวนแตสัตวดุราย กัดคนและสัตวอื่น หรือไมสามารถกักสัตวได ถาสัตวหนีหายไป ใหถือวาสัตวนั้นเปนโรคพิษสุนัขบา 5. รีบไปพบแพทยทันที หลังจากถูกสัตวกัด เพื่อขอคําแนะนําเรื่องการฉีดวัคซีน อยารอจนกระทั่งสัตวที่กัดตาย อาจพิจารณาใหการ ปองกันบาดทะยัก และยาปฏิชีวนะเพื่อปองกันการติดเชื้ออื่น ๆ ดวย 6. พบสัตวแพทย กรมปศุสัตวหรือเจาหนาที่สาธารณสุขในชุมชน เพื่อแจงรายละเอียดเกี่ยวกับตัวสัตว เชน ชนิดสัตว สี เพศ พันธุ อายุ สถานที่ถูกกัด เพื่อวางมาตรการปองกันและควบคุมโรคตอไป 7. เมื่อสัตวตาย ตัดหัวสงตรวจโรคพิษสุนัขบา 8. ตองซักประวัติโดยละเอียดและสงไปพรอมซากสัตว เพื่อเปนแนวทางในการตัดสินใจเกี่ยวกับการดูแลผูสัมผัสโรค ความเชื่อเกี่ยวกับโรคพิษสุนัขบา ในปจจุบัน แมวาคนจะตายดวยโรคพิษสุนัขบานอยลง เนื่องจากคนมีความรูมากขึ้น วัคซีนมีคุณภาพดีขึ้น มีความปลอดภัย มากขึ้น ราคาถูกและหาไดงายขึ้น รวมทั้งวัคซีนสัตวดวย ประการสําคัญ รัฐไดใหความสนใจตอการปองกันและกําจัดโรคนี้อยาง
จริงจัง แตสิ่งหนึ่งที่ทําใหคนจํานวนไมนอยตองตายดวยโรคพิษสุนัขบา เพราะความเชื่อผิด ๆ เกี่ยวกับโรคพิษสุนัขบา โดยเฉพาะ เกี่ยวกับการรักษาโรคพิษสุนัขบา ความเชื่อ
ความจริง
โรคพิษสุนัขบาเปนในหนารอนเทานั้น โรคพิษสุนัขบาเกิดไดทั้งป เนื่องจากเกิดจากเชื้อไวรัส ติดตอโดย ไดรับเชื้อจากน้ําลายสัตวปวย ไมใชเกิดเพราะความเครียดเนื่องจาก ความรอน เมื่อถูกสุนัขกัดตองใชรองเทาตบแผล การใชรองเทาตบแผล จะทําใหแผลช้ํา เชื้อกระจายไปรอบบริเวณ หรือใชเกลือขี้ผึ้งบาลมหรือยาฉุนยัดลง แผลไดงายและอาจมีเชื้อโรคอื่น ทําใหเกิดการอักเสบของบาดแผล หรือเกิดบาดทะยักได เกลือหรือยาฉุน อาจมีสิ่งสกปรกปะปนอยู ไม ในแผล ควรใสลงในแผล ควรลางแผลดวยน้ําสะอาดกับสบูหลาย ๆ ครั้ง เพื่อ ชวยลางเชื้อออก แลวใสยาใสแผล เชน ทิงเจอรไอโอดีนหรือ แอลกอฮอล ซึ่งสามารถฆาเชื้อโรคพิษสุนัขบาได การรดน้ํามนตชวยรักษาโรคพิษสุนัขบา การรักษาผูสัมผัสโรคพิษสุนัขบา ที่ไดผลดีที่สุด คือ ไดรับการฉีด ได เมื่อถูกสุนัขกัด การฆาสุนัขนั้นให วัคซีนทันทีเมื่อสัมผัสโรค เพื่อใหรางกายสรางภูมิคุมกันโรค แตถา ตายแลวนําตับสุนัขมารับประทาน คน ไมไดรับการฉีดวัคซีน ปลอยใหเชื้อเขาสูสมองจนถึงขั้นแสดงอาการ จะไมเปนโรคพิษสุนัขบา ของโรคพิษสุนัขบาแลว ไมมียาใด ๆ รักษาได เนื่องจากเชื้อไปทําลาย สมอง ทําใหผูปวยแสดงอาการคลุมคลั่งและตายในที่สุด เนื่องจาก กลามเนื้อทุกสวนเปนอัมพาต ดังนั้น การรดน้ํามนตไมสามารถรักษา โรคพิษสุนัขบาได เมื่อถูกสุนัขบากัด การตัดหู ตัดหางสุนัข สุนัขหรือสัตวอื่นที่ถูกสัตวที่เปนโรคพิษสุนัขบากัด หากไมเคยฉีด นั้น จะชวยใหสุนัขไมเปนโรคพิษสุนัข วัคซีนมากอน ควรทําลายทิ้ง แตหากตองการรักษาชีวิตสัตวนั้นไว ควรฉีดวัคซีนทันที แลวกักสัตวไวดูอาการ อยางนอย 6 เดือน หรือขอ บา คําแนะนําจากสัตวแพทย คนทองไมควรฉีดวัคซีนปองกันโรคพิษ วัคซีนปองกันโรคพิษสุนัขบาปจจุบัน มีความปลอดภัยสูง ฉีดไดแม สุนัขบา ในคนทอง สุนัขที่เปนโรคพิษสุนัขบาจะมีอาการดุ อาการโรคพิษสุนัขบาในสุนัข มีทั้งแบบซึมและแบบดุราย แบบซึม ราย ตัวแข็ง หางตกเทานั้น สุนัขจะหลบซุกตัวในมุมมืด ถาถูกรบกวนอาจจะกัด ตอมาจะเปน อัมพาต แลวตาย บางตัวอาจแสดงอาการคลายกระดูกหรือกางติดคอ ทําใหเจาของเขาใจผิดพยายามลวงปากสุนัข เพื่อหาเศษกระดูก จึงไม ควรลวงคอสุนัข หากจําเปน ควรใสถุงมือทุกครั้ง โรคพิษสุนัขบาเปนในสุนัขเทานั้น
โรคพิษสุนัขบา เปนไดในสัตวเลือดอุน เลี้ยงลูกดวยนมทุกชนิด แต พบมากที่สุดในสุนัข
วัคซีนโรคพิษสุนัขบา ฉีดรอบสะดือ 14 วัคซีนปองกันโรคพิษสุนัขบาในปจจุบัน มีคุณภาพดี ฉีดเขากลามเนื้อ เข็ม หรือ 21 เข็ม ถาหยุดตองเริ่มตน แขนหรือใตผิวหนัง เพียง 5 เข็ม และไมตองฉีดทุกวัน ใหม
โปรแกรมวัคซีน วัคซีน โรคหวัดและหลอดลมอักเสบ ติดตอ (Kennel Cough Syndrome)
o o o
ชวงอายุ 4-6 สัปดาห กระตุนซ้ําที่ 10-14 สัปดาห
โรคลําไสอักเสบติดตอ (Canine Parvovirus)
4-6 สัปดาห กระตุนซ้ําที่ 10-14 สัปดาห
โรคไขหัด ตับอักเสบและเลพโต สไปโรซิส (Canine Distemper, Infectious Hepatitis and Leptospirosis)
14-6 สัปดาห กระตุนซ้ําทีอ่ ายุ 10-14 สัปดาห
โรคพิษสุนัขบา (Rabies)
12 สัปดาห กระตุนซ้ําทีอ่ ายุ 6 เดือน
ควรงดการอาบน้ํา 7 วันหลังการฉีดวัคซีน ควรถายพยาธิเมื่อลูกสุนัขอายุ 3-4 สัปดาห และทุก 6 เดือน
การเพาะขยายพันธุสุนัข
พันธุบอสตันเทอเรีย
พันธุปกกิ่ง
พันธุเชา เชา
สุนัขตัวเมียถึงวัยผสมพันธุและมีสัดครั้งแรกเมื่ออายุประมาณแปดหรือเกาเดือน แตสุนัขพันธุ "เชา เชา" จะมีสัดครั้งแรกเมือ่ มันมีอายุเพียงหาหรือหกเดือนเทานั้น และสุนัขบางพันธุก็อาจจะใชเวลาเปนปหรือมากกวานั้น ควรถายพยาธิใหแมสุนัขสักสองหรือสี่สัปดาหกอนแมสนุ ัขมีสัด
สุนัขตัวเมียสวนใหญเขาสูฤดูการเปนสัดสองครั้งตอป ถาคุณตองการใหสุนัขคุณมีลกู จะตองคัดเลือกพอพันธุใหเปนพอพันธุทดี่ ี ไมนิยมผสมพันธุในสุนัขที่เปนสัดครั้งแรกหรืออายุนอยจนเกินไป ระยะที่สนุ ัขตัวเมียพรอมจะผสมพันธุ น้ําที่ชองคลอดจะเริ่มใส ซึ่งจะอยูในชวงตรงกับวันทีส่ ิบเอ็ดหรือวันที่สิบสามของการเริ่มเปนสัด การมือกดทับบั้นทาย ถามันนิ่ง และเคลื่อนหางของมันจากขางหนึ่งไปอีกขางหนึ่ง แสดงวามันพรอมที่จะ ผสมพันธุแลว เราควรนําสุนขั ตัวเมียไปผสมกับพอพันธุตามคอกผสมพันธุ (ซึ่งตองเสียคาผสมพันธุ) เมื่อไดดูพอพันธุควรปลอยใหตัวผูและตัวเมียอยูดว ยกันตามลําพังมันจะผสมกันเอง เวนแตเจาของคตัวผูที่มีความชํานาญเขาจะมีวิธีจดั การชวยพอสุนัขผสมไดเร็วขึ้น หลังการผสมพันธุควรใหสนุ ัขตัวเมียพักกอนที่จะเดินทางกลับ
และใหมันอยูใ นที่เงียบสงบสักสองสามวันหลังการผสมพันธุ สุนัขตัวเมียจะหมดการเปนสัดประมาณสามสัปดาหหลังจากเริ่มเปนสัด สุนัขบางตัวอาจจะยังมีน้ําจากชองคลอดออกมาอีกแมวาจะผสมพันธุแลว ตามปกติจะใชเวลาประมาณสี่สัปดาหกวาที่ จะรูวาสุนัขตั้งทองหรือไม ชวงระยะแรกที่สุนัขตั้งทองใหอาหารปกติ ไมจําเปนตองใหอาหารเสริม อาหารตองประกอบดวยเนื้อ 225 กรัม เปนอยางนอย ในแตละวันควรออกกําลังกายมากพอควรหาม เรากําจัดเห็บหมัดไดโดยการโรยแปงกําจัดเห็บหมัดใน ไมควรเสี่ยงอาบน้ําในชวงหาถึงหกสัปดาหหลังผสมพันธุ
แมสุนัขสวนใหญจะคลอดลูกหลังผสมพันธุ 60-63 วัน สุนัขที่ตั้งทองตองการอาหารสองมื้อตอวัน อาหารเสริม ไดแก น้ํามันตับปลา ไขตม และอาหารเสริมสรางกระดูก น้ํานมจะชวยเสริมธาตุแคลเซียม ซึ่ง ชวยสรางกระดูก แมสุนัขที่อุมทองขนาดใหญ ไมเพียงแตจะตองการอาหารมากขึ้นในระยะหลังของการตั้งทอง แตมันยัง ตองการอาหารบอยครั้งมากขึ้น เพราะลูกสุนขั ในทองจะทําใหแมสุนัขกินไดคราวละไมมาก
เมื่อเขาชวงสัปดาหสุดทายกอนคลอดคุณตองตัดขนบริเวณรอบๆนมของแมสุนัขออก และทําความสะอาด รวมทัง้ ตองขริบขนบริเวณดานหลังของมันดวยกรรไกรขริบขน (ซึ่งจะชวยรักษา รูปทรงของมันใหดูดีอยู)
และลางใหสะอาด เมื่อเวลาลูกสุนัขตองการกินนมจะไดกนิ สะดวก แมสุนัขที่คลอดกอนวันที่ 58 เปนลูกสุนัขทีย่ ังไมเจริญเติบโตเต็มที่ และตองไดรับการดูแลเอาใจใสอยาง ระมัดระวังและใกลชิด ปกติการดูวาแมพรอมที่จะคลอดลูกหรือไมนั้น ใหดูจากอุณหภูมิของมัน ตามปกติของแมสุนัขกอนคลอด ลูก 12 ชั่วโมง อุณหภูมิจะต่ําลงประมาณสองหรือสามองศา จากสามสิบแปดองศาเซลเซียส เราตองเตรียมกลองที่สําหรับไวใหแมสุนขั คลอดลูก ควรมีไฟใหความอบอุนแกลูกสุนัขที่เพิ่งคลอดออกมา เหตุผลสวนใหญที่ทําใหลูกสุนัขจํานวนมากตายไป ก็เนื่องจากขาดความอบอุนอยางเพียงพอ เมื่อใกลระยะคลอดลูกหนึ่งหรือสองวัน ควรใหแมสุนัขนอนในกลองปูพื้นดวยกระดาษหนังสือพิมพ กระดาษตัดจะดีกวาใชผารองนอนเพราะลดอันตรายลูกสุนัข การคลอดลูกจริงๆจะเริ่มขึ้นเมื่อสุนัขเริ่มเบงซึ่งจะถี่ขึ้นเรือ่ ยๆจนถุงน้ําคร่ําโผลออกมา ตาม ปกติแมสุนัขจะฉีกถุงน้ําคร่ําโดยการเลียอยางแรง และเลียน้ําที่ไหลออกจากถุงน้ําคร่ําหลังจากนั้นไม นาน ลูกสุนัขตัวแรกก็จะคลอดออกมา
ถุงน้ําคร่ําที่คลุมลูกสุนัขออกมาแลว แมสุนัขฉีกถุงน้ําคร่ําเพื่อใหลูกสุนัขออกมา บางครั้งเมื่อแมสุนัขคลอดลูกสุนัขตัวแรก มันจะปฏิเสธที่จะชวยเหลือลูกของมัน เราตองรีบนําลูกสุนัขออกจากถุงน้ําคร่ํา โดยใหหัวหลุดออกจากถุงกอน เยื่อถุงน้ําคร่ําที่ปกคลุมลูกสุนัขจะ มีลักษณะโปรงใส แตถาไมรีบเอาลูกสุนัขออกจากถุงน้ําคร่ําโดย เร็วลูกสุนัขจะสําลักน้ําคร่ํา ถุงน้ําคร่ําที่หุมตัวอยูสามารถตัดออกดวยกรรไกรที่ปลายมน และหลังจากนัน้ เช็ดตัวของมันดวยผาชุบน้ําอุนเพื่อกระตุนใหลูกสุนัขหายใจ
แมสุนัขมักมีปฏิกิริยาเมื่อไดยินเสียงรองของลูกสุนัข และตองกระตุน ใหมนั เลียลูกของมันดวยความรักและความเอ็นดู กระตุนใหมันเลี้ยงลูกใหมีชวี ติ รอดจนกวาลูกสุนัขตัวที่สองคลอดออกมา แมสุนัขอาจจะยังไมใหความสนใจตอลูกตัวแรกจนกวาเมื่อลูกสุนัขตัวที่สองคลอดออกมา มันจึงจะเริ่มทํา หนาที่ของความเปนแม ถาชวงการคลอดระหวางลูกสุนัขแตละตัวหางมากผิดปกติ และแมสนุ ัขมีอาการปวดเบงมากโดยไมรสู าเหตุ ควรนําไปพบสัตวแพทย แตถามันนอนพักระหวางคลอดลูก และไมมีอาการเจ็บปวดคุณควรปลอยมันไวตามลําพัง และใหมนั ไดรับ การพักผอน ในกรณีแมสุนขั คลอดลูกหลายตัว เราอาจจะนําตัวที่เกิดแรกๆ ไปไวในกลองที่ใหความอบอุนดวยดวงไฟ ทําความสะอาด เช็ดใหแหงดวยผาสะอาดยายลูกสุนัขแตละตัวในขณะที่มันกําลังคลอดตัวตอไปและคืนให แมสุนัขเมื่อมันคนหาลูก
ลูกสุนัขแตละตัวที่คลอดออกมาจะมีรกติดตัวออกมาดวย ซึ่งเปนเรื่องปกติธรรมดาที่สุนัขจะกินเพือ่ ใหลูก สุนัขหลุดจากสายสะดือของมัน ลูกสุนัขแตละตัวจะมีรกหนึง่ อันซึ่งจะออกมาพรอมกับลูกสุนัขหรือออกมาภายหลัง สิ่งที่สําคัญที่สุดคือเราตองดูวารกนัน้ ออกมากับลูกสุนัขหรือไม เพราะรกที่คางอยูในทองอาจจะทําใหแมสนุ ัขติดเชื้ออยางรุนแรงจนโลหิตเปนพิษ ซึ่ง จะทําใหแมสนุ ัขเสียชีวิตได ปกติ มดลูกแมสุนัขจะบีบตัวขับทุกสิ่งออกมาภายใน 20-24 ชั่วโมงหลังคลอด
การคลอดลูกจะเสร็จสิ้นโดยสมบูรณโดยดูจากแมสุนัขทีผ่ อนคลายและสงบ ซึ่งจะนอนเหยียดตัวยาวและ ถอนหายใจเฮือกใหญ ในขั้นตอนนี้คณ ุ ตองเอากระดาษหนังสือพิมพที่สกปรกหรือเปยกชื้นออก
เมื่อคุณรูสึกวาแมสุนัขไดคลอดลูกตัวสุดทายออกมาแลว ใหนมสดปริมาณ 200 c.c. ใหแมสุนัขกิน แมสุนัขอาจไมกินอาหารในวันแรกหลังคลอดใหม ควรใหอาหารนมเหลวจะดี หลังจากวันทีส่ องของการคลอดลูกแลวเราควรใหอาหารแกแมสุนัขสองหรือสามมื้อตอวัน ขึ้นอยูก ับ จํานวนลูกสุนขั อาหารสําหรับสุนัขขนาดกลางควรมีเนื้อสดสัก 580 กรัม และนมสดครึง่ ลิตรในแตละวัน และเสริมดวยอาหารเสริมกระดูก มีวิตามินรวม และการใหแมสุนัขดื่มน้ํามากๆ จะเปนการชวยใหมันผลิตน้ํานม อยางเพียงพอ ถาสังเกตเห็นวาลูกสุนัขไมเปนปกติหรือดูดนมไมไดตามปกติ ใหชวยเหลือมันโดยใหมันกินนมจากขวดวันละสามเวลาเพื่อใหมนั แข็งแรงและมีชีวิตรอด ใชผงทารกหรือนมสูตรพิเศษสําหรับลูกสุนัขได นมควรรอนกวาอุณหภูมใิ นตัวเล็กนอย ในสุนัขบางพันธุนิยมตัดหรือขริบหางออก ควรทําเมื่อลูกสุนัขอายุไดสวี่ ัน ควรตัดนิว้ ติ่งของสุนัขเกือบทุกพันธุออก ตัดออกโดยใชกรรไกรที่คม และหามเลือดโดยการพันแผล เช็ดดวยดางทับทิม
สุนัขพันธุ Miniature Pinscher นิยมตัดหาง สุนัขพันธุ Dalmatian นิยมตัดนิ้วติ่ง
อาหารสําหรับลูกสุนัข เชน นมผสมกับเนือ้ สัตวพวกเนื้อไกหรือเนื้อ ก็เปนอาหารที่เหมาะกับลูกสุนขั เล็กๆ เมื่อลูกสุนัขมีอายุไดประมาณหกสัปดาหกส็ ามารถใหอาหารสี่มื้อตอหนึ่งวัน ควรใหขาวหรือธัญพืช นมในมื้อกลางวัน มื้อเย็นใหเนื้อสับอาจจะสุก และมื้อค่ําใหนมและอาหารเสริม ประเภทวิตามินและแคลเซียม คุณไมควรใหอาหารลูกสุนัขมากเกินไปจนมันอวน หามปลอยใหลูกสุนัขออกวิง่ อยางรวดเร็วหลังกินอาหารทันที ควรปลอยใหมันออกมาถาย แตใหมนั ไดรบั การพักสักครูหลังกินอาหาร เมื่อลูกสุนัขมีอายุไดส-ี่ หกสัปดาห นํามันไปฉีดยาวัคซีน และพออายุแปดสัปดาหก็สามารถนํามันไปแยกเลี้ยงที่อนื่ ได
ความรับผิดชอบของเจาของสุนัข มนุษยไดรับความรัก ความซื่อสัตย และความเปนมิตรจากสุนัข ความผูกพันดังกลาวจึงเปนความ รับผิดชอบในการจัดการหาสิ่งจําเปนพื้นฐานใหกับสุนัข สุนัขเปนสัตวสังคมและควรไดรับการปฏิบัติเสมือนเปน สมาชิกในครอบครัว การฝกสุนัขตั้งแตยงั เล็กเปนสิ่งจําเปน เพื่อใหสนุ ัขสามารถเขากับมนุษยและสุนัขอื่นได
ขอมูลที่ไดในเอกสารนี้เกิดจากการแปลตํารา และรวบรวมจากแหลงขอมูลตางๆ ขอขอบคุณแหลงขอมูลตางๆที่ได นํามาใชในครั้งนี้
ลูกสุนัขพันธุ Bull Terrier
ลูกสุนัขพันธุ Siberian Husky
ลูกสุนัขพันธุ Bearded Collie
ลูกสุนัขพันธุ Pomeranian
ลูกสุนัขพันธุ Poodle
ลูกสุนัขพันธุ Shizu
แมและลูกสุนขั พันธุ collie
ลูกสุนัขพันธุ Beagle