015 วารสาร PETROMAT Today ปี ท่ี 4 ฉบับที่ 15
U&I Collaboration
$
- U&I Collaboration Research - U&I Collaboration ในมุมมองของภำคอุตสำหกรรม - วิจัย มหำวิทยำลัย อุตสำหกรรม เปนไปได
INTRODUCTION
ห นึ่ ง ในเป า หมายของการพั ฒ นาประเทศ คือ การท�าให้ประเทศไทยหลุดพ้นจากกับดักรายได้ปานกลาง
PETROMAT’s Editor Corner
คณะที่ปรึกษา รศ. ดร.ปราโมช รังสรรค์วิจิตร รศ. ดร.ศิริพร จงผาติวุฒิ บรรณาธิการ แก้วใจ คําวิลัยศักดิ์ ผู ้ช่วยบรรณาธิการ ฤทธิเดช แววนุกูล
U&I Collaboration
แกวใจ ค�ำวิลัยศักดิ์
kaewjai.k@chula.ac.th
กองบรรณาธิการ กํากับศิลป์ ชญานิศค์ ศิริวงศ์นภา กมลชนก ชื่ นวิเศษ พรพิมล ชุ่ มแจ่ม ธีรยา เชาว์ขุนทด ภัสร์ชาพร สีเขียว กุลนาถ ศรีสุข อรนันท์ คงเครือพันธุ ์
รั ฐ บาลจึ ง ให้ ค วามส� า คั ญ ต่ อ การวิ จั ย การพั ฒ นาต่ อ ยอด และการใช้ น วั ต กรรมในการพั ฒ นาสิ น ค้ า และบริ ก าร ซึ่งการพัฒนานวัตกรรมทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี จ� า เป็ น ต้ อ งอาศั ย ความร่ ว มมื อ ทั้ ง จากภาครั ฐ และเอกชน รัฐบาลมีนโยบายและโครงการสนับสนุนต่าง ๆ เช่น โครงการ RDI Tax 300% โครงการส่งเสริมบุคลากรด้านวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี จ ากมหาวิ ท ยาลั ย และสถาบั น วิ จั ย จาก ภาครัฐไปปฏิบัติงานเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในภาคเอกชน (Talent Mobility) โครงการคู ป องนวั ต กรรม เป็ น ต้ น รายละเอียดท่านผู้อ่านสามารถติดตามอ่านได้ในคอลัมน์ “U&I Collaboration กุญแจสู่ความยั่งยืนของประเทศ” PETROMAT ได้ด�าเนินการเพื่อตอบสนองนโยบาย รั ฐ บาลโดยมี ก ารท� า งานแบบ One-Stop Service มี ค วามร่ ว มมื อ กั บ ภาคอุ ต สาหกรรม ได้ แ ก่ การท� า วิ จั ย ร่ ว มกั น การจั ด ประชุ ม สั ม มนา/เสวนา เป็ น ที่ ป รึ ก ษา และช่วยแก้ไขโจทย์ปญหาให้กับภาคอุตสาหกรรม เป็นต้น ซึง่ ท่านผูอ้ า่ นสามารถติดตามได้จากคอลัมน์“Get to Know” และ “PETROMAT Research” วารสารฉบับนี้ได้รับเกียรติจาก คุณอธิคม เติบศิริ ประธานเจ้ า หน้ า ที่ บ ริ ห ารและกรรมการผู้ จั ด การใหญ่ บริษัท ไทยออยล์ จ�ากัด (มหาชน) ซึ่งท่านได้ม าเล่ า ถึ ง ประสบการณ์และมุมมองเกี่ยวกับ U&I Collaboration นอกจากนี้ PETROMAT ยั ง ได้ รั บ เกี ย รติ จ าก ดร.สั น ติ กุลประทีปญญา Director, Southeast Asia Research & Development จาก UOP, A Honeywell Company ประเทศสหรัฐอเมริกา มาเล่าถึงประสบการณ์การท�างาน ในการพั ฒ นางานวิ จั ย โดยความร่ ว มมื อ ระหว่ า งภาครั ฐ และภาคอุตสาหกรรม ให้ท่านผู้อ่านทราบด้วยค่ะ
จัดทําโดย
ศูนย์ความเป�นเลิศด้านเทคโนโลยีปิโตรเคมีและวัสดุ อาคารวิจัยจุ ฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ชั�น 7 ซ.จุ ฬาฯ 12 ถ.พญาไท แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กรุ งเทพฯ 10330 โทร : 0-2218-4141-2 โทรสาร : 0-2611-7619 Email: info@petromat.org WWW.PETROMAT.ORG
INTRODUCTION เรื่องโดย... ฤทธิเดช แววนุกูล
U&I Collaboration ¡ØÞá¨ÊÙ‹¤ÇÒÁÂÑè§Â×¹¢Í§»ÃÐà·È
ไ ม่ว่าจะผ่านมากี่ปประเทศไทยยังคงเป็นประเทศก�าลังพัฒนา หลายท่านคงคิดเหมือนผมว่าเมื่อไหร่ประเทศของเรา จะพัฒนาสักที มีเวทีเสวนาหลายแห่ง สื่อหลายส�านักที่วิเคราะห์ถึงสาเหตุและแนวทางแก้ไข เชื่อว่าท่านผู้อ่านคงเคยได้ยินค�าว่า
“กับดักประเทศที่มีรายได้ปานกลาง (Middle Income Trap)” ซึ่งผู้เชี่ยวชาญต่างลงความเห็นว่าเป็นสาเหตุที่ท�าให้ประเทศไทย พัฒนาต่อไปไม่ได้ เจ้ากับดักที่ว่านี้คืออะไร และเราจะหลุดจากกับดักนี้ได้อย่างไร ใน PETROMAT Today ปที่ 3 ฉบับที่ 10 ได้ ล งบทสั ม ภาษณ์ ดร.วิ ไ ลพร เจตนจั น ทร์ ผู้ อ� า นวยการส� า นั ก งานเทคโนโลยี บริ ษั ท ปู น ซิ เ มนต์ ไ ทย จ� า กั ด (มหาชน) ซึ่งท่านได้ให้มุมมองที่น่าสนใจเกี่ยวกับภาคอุตสาหกรรมของประเทศไทยไว้ดังนี้ครับ “ประเทศไทยมี 3 Step โดย Step แรก เป็นการ Import ของเข้ามาขาย เป็นยุคทองของ Sales พอ Step ที่ 2 ซื้อ Know-how มาตั้งโรงงาน เป็นยุคของ Production แต่ Step ต่อไปท�าแบบนัน้ ไม่ได้แล้ว เพราะความสามารถในการแข่งขันมันไม่มี วันหนีง่ ก็มคี นทีผ่ ลิตของได้ถกู กว่าเรา ขายของได้ถูกกว่าเรา เพราะฉะนั้น เราต้องท�าการวิจัยและพัฒนา (Research and Development; R&D) ต้องสร้างบุคลากร ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โจทย์วจิ ยั มันตอบโจทย์ Needs ของประเทศ ซึง่ ก็คอื Needs ของภาคผลิตและภาคบริการนัน่ เอง คิดง่าย ๆ ทุกวันนี้เรา Import เข้ามาทุกอย่าง ถ้าเรายังท�าอะไรเองไม่ได้ อนาคตล�าบากแน่ เราต้องมุ่งเน้นท�า R&D ให้ได้”
R&D 2552
2554
2556
0.25% 0.37% 0.47%
57,000 130,000
70:30 2559
1%
ส�าหรับผมมองว่าการทีจ่ ะน�าพาให้ประเทศพ้นจากกับดักรายได้ปานกลาง ได้นั้น เป็นเรื่องของเราทุกคนต้องร่วมด้วยช่วยกัน ปจจุบันทั้งภาครัฐ และเอกชนต่างให้ความส�าคัญในการลงทุนด้าน R&D มาก ในงาน CEO Innovation Forum 2015 ดร.พิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รัฐมนตรีวา่ การกระทรวง วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการลงทุนด้าน R&D ของประเทศไทยไว้ดังรูปภาพ [1] ทางภาครัฐคาดหวังว่าการลงทุนด้าน R&D ในป พ.ศ. 2564 จะเพิ่ม ขึน้ เป็น 2% ของ GDP และในป พ.ศ. 2569 จะบรรลุเปาหมายทีป่ ระเทศไทย จะออกจากกลุ่มประเทศที่มีรายได้ปานกลาง [2] ทั้ ง นี้ ภาครั ฐ มี ม าตรการจู ง ใจเพื่ อ ให้ เ กิ ด การลงทุ น วิ จั ย มากขึ้ น เช่น การหักลดหย่อนภาษีเมื่อเอกชนลงมือวิจัย เรียกว่า RDI Tax 300% ซึง่ ครม. เห็นชอบไปเมือ่ วันที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2557 นอกจากนีก้ ารแข่งขัน ทางธุรกิจในปจจุบันได้เปลี่ยนจากการแข่งขันด้านราคาไปเป็นการแข่งขัน ด้วยนวัตกรรม โดยการจะได้มาซึ่งนวัตกรรมนั้น จ�าเป็นต้องมีความพร้อม ด้ า น R&D แต่ ภ าคเอกชนกลั บ มี ป ญ หาด้ า นการขาดแคลนนั ก วิ จั ย ซึ่งมหาวิทยาลัยหรือสถาบันวิจัยสามารถเติมเต็มได้ แต่นโยบายการบริหาร ของราชการไม่ได้เอื้อต่อการให้นักวิจัยไปช่วยงานวิจัยในภาคอุตสาหกรรม 4 U&I Collaboration
2556 2559
รัฐบาลโดย สวทน. กระทรวงวิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยี จึงได้มโี ครงการ “Talent Mobility” ขึน้ โดยจะเปิดโอกาสให้นักวิจัยภาครัฐสามารถท�างาน วิ จั ย ร่ ว มกั บ ภาคเอกชนโดยถื อ เป็ น การปฏิ บั ติ ราชการ ถือเป็นการชดใช้ทุน และสามารถน�า ผลงานมาขอต�าแหน่งวิชาการได้ โดย ความเห็นชอบ เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558 ที่ผ่านมา เรามักจะได้ยินค�าว่า “งานวิจัย ขึ้ น หิ้ ง ” PETROMAT ได้ เ ข้ า พบตั ว แทนภาค อุตสาหกรรมจ�านวนมาก เพื่อที่จะหาสูตร/วิธีการ/ รูปแบบการท�างานที่จะท�าให้เกิดการวิจัยร่วมกัน ระหว่ า งภาคการศึ ก ษาและภาคอุ ต สาหกรรม (University & Industry Collaboration) และสามารถน�างานวิจัย “จากหิ้งสู่ห้าง” ให้ได้ PETROMAT พบว่ า ภาคอุ ต สาหกรรมมี ค วาม ต้องการให้นักวิจัยเข้าไปร่วมมืออย่างมาก แต่ติดที่ ไม่ทราบว่าจะต้องติดต่อผูเ้ ชีย่ วชาญท่านไหน จะท�า R&D เองก็ต้องลงทุนเครื่องมือที่มีราคาสูง ต้องจ้าง นักวิจัยซึ่งก็ไม่แน่ใจว่าจะมีความเชี่ยวชาญตรงกับ ป ญ หาหรื อ ไม่ ส� า หรั บ นั ก วิ จั ย หรื อ อาจารย์ ในมหาวิทยาลัยมีปญหาเรื่องภาระงานสอนท�าให้ ไม่มเี วลานัดคุยกับทางภาคอุตสาหกรรม มีความกังวล เรือ่ งสัญญา ข้อกฎหมาย การเผยแพร่ผลงาน เป็นต้น
[2]
(2569)
1%
2%
ดังนัน้ PETROMAT ได้เพิม่ บทบาทในการประสานงานระหว่างภาคการศึกษาและภาคอุตสาหกรรมด้วยการท�างานแบบ One-Stop Service ท�าให้ปจ จุบนั มีโครงการวิจยั ร่วมระหว่างภาคการศึกษาและภาคอุตสาหกรรมมากขึน้ เรือ่ ย ๆ และถือเป็นพันธกิจหลักทีจ่ ะผลักดันให้เกิด U&I Collaboration และเกิดการสร้างนวัตกรรมอันจะเป็นกุญแจทีน่ า� ให้ประเทศไทยหลุดพ้นจากกับดักประเทศทีม่ รี ายได้ปานกลาง สู่การเป็นประเทศที่พัฒนาแล้วสักที อำงอิง 1. วารสาร PETROMAT Today ปที่ 3 ฉบับที่ 10 2. ความร่วมมือภาครัฐและเอกชนสูเ่ ปาหมายการลงทุนวิจยั และพัฒนาร้อยละ 1 ของ GDP, พิเชฐ ดุรงคเวโรจน์, CEO Innovation Forum 2015, 2 มีนาคม 2558, ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
PETROMAT ขอแสดงความยินดีกับคณาจารย์ผู้ได้รับรางวัล
PTIT Awards (Petroleum Institute of Thailand Awards)
Awards
ประจ�าป 2558-2559 ดังต่อไปนี้
1. ศำสตรำจำรย ดร.ธรำพงษ วิทิตศำนต (CU-CT) ไดรับรำงวัลประเภท PTIT Fellow 2. รองศำสตรำจำรย ดร.ศิริรัตน จิตกำรคำ (CU-PPC) ไดรับรำงวัลประเภท PTIT Scholar
PETROMAT ขอแสดงความยินดีกับ
ศำสตรำจำรย ดร.สุวบุญ จิรชำญชัย (CU-PPC) PETROMAT ขอแสดงความยินดีกับ ที่ไดรับรำงวัล PTT NSTDA Chair Professor ผูช่วยศำสตรำจำรย ดร.สิริพล อนันตวรสกุล (KU-ChE) ประจ�ำป 2558 ภำยใตโครงกำรวิจัยเรื่อง ที่ไดรับรำงวัล PST Rising Star 2015 “พอลิเมอรสีเขียวที่ยั่งยืน บนควำมทำทำย โดยสมำคมโพลิเมอรแห่งประเทศไทย ของประเทศไทยที่อุดมดวยทรัพยำกรหมุนเวียน” 5
NEWS
EVENTS
อินเตอร์พลาสไทยแลนด์ 2015
PETROMAT ร่วมเป็นประธานในพิธเี ปิด ร่วมกับ บริษทั Reed Tradex จ�ำกัด สมาคมพลาสติก TBIA สถาบันไทย-เยอรมัน บริษทั อิมโก้ ฟูด๊ แพ็ค จ�ำกัด สมาคมไทยคอมโพสิต MTEC เปิดงาน “อินเตอร์พลาสไทยแลนด์ 2015” ณ ไบเทค บางนา เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 9 กรกฏาคม 2558 และในวันศุกร์ ที่ 10 กรกฎาคม 2558 เวลา 13.30 - 16.30 น. PETROMAT ร่วมด้วยสถาบันพลาสติก สมาคมอุตสาหกรรมพลาสติกชีวภาพไทย และบริษัท รี้ด เทรดเด็กซ์ จ�ำกัด จัดงานสัมมนาในหัวข้อ “รุกตลาดเออีซี สร้างไทยเป็นฮับบรรจุภัณฑ์ภูมิภาค” ณ ห้อง GH 201 ชั้น 2 ศูนย์ประชุมไบเทค บางนา กรุงเทพฯ
PETROMAT เจราจาความร่วมมือด้านวิจัย
หน่วยงานคอมโพสิต บริษัท เอสซีจี เคมิคอลส์ จํากัด จ.ระยอง เมื่อวันพุธที่ 3 มิถุนายน 2558
การประชุมการศึกษาระบบและกลไกการศึกษา อาชีวศึกษาในกลุ่มอาชีพปิโตรเลียมและปิโตรเคมี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 2 และวันอังคารที่ 28 กรกฎาคม 2558
6 U&I Collaboration
EVONIK (SEA) Pte Ltd. Singapore เมื่อวันอังคารที่ 30 มิถุนายน 2558
PETROMAT ร่วมพิธีท�ำบุญเลี้ยงพระเนื่องในโอกาส ครบรอบ 56 ปี ภาควิชาเคมีเทคนิค คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ เมื่อวันอังคารที่ 14 กรกฎาคม 2558
PETROMAT เขำร่วมประชุมเชิงปฏิบัติกำร เรื่อง “แนวปฏิบัติในการบริหาร โปรแกรมวิจัยของศูนย์ความเป็นเลิศ” จัดโดย สบว. และศูนยควำมเปนเลิศทั้ง 11 ศูนยฯ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 27 กรกฎาคม 2558
ประชุมเชิงปฏิบัติกำร “การพัฒนาระบบและการศึกษา กลไกอาชีวศึกษาอย่างยั่งยืน ในกลุ่มอาชีพปิโตรเลียม และปิโตรเคมี” เมื่อวันพุธที่ 22 กรกฎาคม 2558
พีทีที โกลบอล เคมิคอล น�ำบริษัทพันธมิตรทำงธุรกิจลงพื้นที่ส�ำรวจศักยภำพกำรลงทุน ในเขตเศรษฐกิจพิเศษ จังหวัดตำก
คุณสมชัยฐ์ หทยะตันย์ติ ผูว้ า่ ราชการจังหวัดตาก ให้การต้อนรับ คุณสุพฒ ั นพงษ์ พันธ์มเี ชาว์ ประธานเจ้าหน้าที่ บริหารและกรรมการผูจ้ ดั การใหญ่ คุณอัฒฑวุฒิ หิรญ ั บูรณะ ประธานเจ้าหน้าทีป่ ฏิบตั กิ าร กลุม่ ธุรกิจปิโตรเคมีขนั้ ปลาย ผู้บริหาร บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จ�ากัด (มหาชน) และ บริษัท พีทีที โพลิเมอร์ มาร์เก็ตติ้ง จ�ากัด พร้อมบรรยาย แนะน�าเขตเศรษฐกิจพิเศษ จังหวัดตาก ในโอกาสที่ บริษทั ฯ น�าบริษทั พันธมิตรทางธุรกิจกว่า 40 บริษทั ลงพืน้ ทีส่ า� รวจ ศักยภาพเขตเศรษฐกิจพิเศษ จังหวัดตาก ตามโครงการสนับสนุนการลงทุนเเละจัดตั้งคลัสเตอร์ของกลุ่มอุตสาหกรรม พลาสติก รวมถึงอุตสาหกรรมอืน่ ๆ ทีเ่ กีย่ วข้อง เพือ่ มุง่ เพิม่ ขีดความสามารถด้านการเเข่งขันทางการค้า ให้กบั อุตสาหกรรม พลาสติกของประเทศไทย ในโอกาสนี้ คณะฯ ได้ เ ข้ า เยี่ ย มชมเขตเศรษฐกิ จ พิ เ ศษเมี ย วดี ในสาธารณรั ฐ แห่ ง สหภาพเมี ย นมา โดยได้การต้อนรับจาก นายหล่วย กั่วอู ผู้ว่าเมืองเมียวดี และนางตินตินเมี๊ยะ ประธานหอการค้าเมียวดี และฟง การบรรยายแนะน�าเกีย่ วกับเขตเมียวดี พร้อมกันนีไ้ ด้ลงพืน้ ที่ เยีย่ มชม สวนอุตสาหกรรมในเครือสหพัฒน์ฯ และโครงการ นิคมอุตสาหกรรม ในเครือมิตรผล
COVER STORY
U&I Collaboration
ในมุมมองของภาคอุตสาหกรรม
โรงกลั่นไทยออยล์ หรือ บริษัท ไทยออยล์ จ�ากัด
(มหาชน) นั บ เป็ น ผู ้ น� า ด้ า นธุ ร กิ จ โรงกลั่ น น�้ า มั น ของประเทศไทย ด้วยก�าลังการผลิต 275,000 บาร์เรลต่อวัน ซึ่งใหญ่ที่สุดในประเทศ มีผลิตภัณฑ์ครอบคลุมทั้งด้าน ปิโตรเลียม ปิโตรเคมี น�า้ มันหล่อลืน่ พืน้ ฐาน สารท�าละลาย และเคมีภัณฑ์ ไฟฟา รวมทั้งมีธุรกิจการขนส่งทางเรือ และการผลิตเอทานอล ที่ตอบสนองนโยบายของภาครัฐ ด้านพลังงานทดแทน แต่ที่ส�าคัญไปกว่านั้น ไทยออยล์ ยังให้ความส�าคัญกับงานวิจยั และพัฒนา โดยมีความร่วมมือ ในการท� า วิ จั ย กั บ มหาวิ ท ยาลั ย มาอย่ า งต่ อ เนื่ อ ง โดย Cover Story ฉบับนี้ PETROMAT ได้รับเกียรติจาก คุณอธิคม เติบศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการ ผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยออยล์ จ�ากัด (มหาชน) ในการ ให้สัมภาษณ์ ซึ่งท่านให้ประสบการณ์และมุมมองเกี่ยวกับ U&I Collaboration ดังนี้ครับ
คุณอธิคม เติบศิริ
ประธำนเจำหนำที่บริหำรและกรรมกำรผูจัดกำรใหญ่ บริษัท ไทยออยล จ�ำกัด (มหำชน)
PETROMAT: ก่อนอื่นอยากให้คุณอธิคมช่วยเล่าประสบการณ์การท�างานให้พวกเราฟงด้วยครับ คุณอธิคม: ผมไม่ได้อยู่ใน Field ด้าน Operation หรือ Engineer อาจจะมีมุมมองที่ต่างออกไป ผมอยู่ในฝงผู้ใช้เทคโนโลยี
มากกว่าผู้ผลิตเทคโนโลยี ผมท�างานที่บริษัท ปตท. อะโรเมติกส์และการกลั่น จ�ากัด (มหาชน) (PTTAR) ก่อนที่จะรวมเป็นบริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จ�ากัด (มหาชน) (PTTGC) อยู่ทางฝงปิโตรเคมีมากกว่าทางโรงกลั่น และได้มีโอกาสไปท�างานที่บริษัท ไออาร์พีซี จ�ากัด (มหาชน) (IRPC) ซึ่งจะเน้นหนักทางปิโตรเคมีเป็นส่วนใหญ่ มีปิโตรเคมีหลากหลาย ทั้งสายแอโรแมติกส์ และสายโอเลฟินส์ และได้สัมผัสกับผู้บริโภคค่อนข้างมาก พนักงานขายแต่ละคนก็อยู่กับผู้ขึ้นรูปพลาสติกหน้างานเลย เพราะฉะนั้น เลยมีมุมมองสะท้อนจากผู้ใช้ค่อนข้างมาก อุตสาหกรรมรายย่อยหรือ SMEs เขามีโจทย์ทางด้านธุรกิจค่อนข้างเยอะ ซึ่งเทคโนโลยี หรือการวิจยั และพัฒนาผลิตภัณฑ์เป็นสิง่ ทีส่ า� คัญ เราอยูต่ น้ ทางเราไม่คอ่ ยรูห้ รอกครับ เพราะเราท�าผลิตภัณฑ์ทเี่ ป็น Standardized Commodity ไม่ค่อย Differentiate เท่าไหร่ แต่พอปลายทางจะเริ่ม Differentiate มากขึ้นเรื่อย ๆ ถ้าเราอยู่ต้นทางแล้วไม่ได้ยิน เสียงสะท้อนจากปลายทาง เราจะไม่สามารถพัฒนาได้ตรงเปาหมายนัก ทีนี้ตอนอยู่ IRPC ก็มีการพัฒนาเรื่อง Green ABS
8 U&I Collaboration
เนือ่ งจาก ABS ใช้ยางสังเคราะห์ในการท�า เราก็มแี นวความคิดว่า สมัยก่อนที่ระยองมีการปลูกยางเยอะมาก ท�าอย่างไรจะน�า วัตถุดบิ ธรรมชาติมาใช้ได้ เพือ่ สิง่ แวดล้อม ลดคาร์บอนฟุตพรินท์ และยั ง ส่ ง เสริ ม ให้ กั บ เกษตรกรด้ ว ย ก็ เ ริ่ ม โครงการวิ จั ย และพัฒนาว่ายางธรรมชาติเอาไปท�าอะไรได้บ้าง ประกอบกับ ความต้องการผลิตภัณฑ์เพือ่ สิง่ แวดล้อมจากประเทศทีเ่ จริญแล้ว เช่น ยุโรป อเมริกา หรือญี่ปุนก็ตาม เพราะฉะนั้น จะตอบโจทย์ 2 อย่างเลย คือต้นทางเรือ่ งทีจ่ ะช่วยเกษตรกรรม และปลายทาง ที่ ต ้ อ งการวั ต ถุ ดิ บ ที่ เ ป็ น ธรรมชาติ ม ากขึ้ น ในที่ สุ ด ก็ ไ ด้ จ ด สิทธิบัตรเรื่องนี้ แต่ที่จริงเรื่องยางธรรมชาติไม่ใช่เฉพาะ ABS ยั ง มี อ ย่ า งอื่ น ด้ ว ย เรื่ อ ง Asphalt ตอนนี้ ภ าครั ฐ บาล ก็ พู ด มากขึ้ น นะครั บ ที่ จ ะเอายางธรรมชาติ ม าใช้ แ ทนยาง ที่มาจากไฮโดรคาร์บอน นี่ก็เป็นหนึ่งในงานวิจัยที่ IRPC ท�าอยู่ มั น ก็ คื อ Linked ของความต้ อ งการปลายทางกั บ ต้ น ทาง เพียงแต่เรามองไปข้างหน้าอีก 1 – 2 สเต็ป ช่วยลดโลกร้อน สนองตอบเมกะเทรนด์ พอโจทย์มันชัด โจทย์มันคม งานวิจัย ก็ตามมาได้ แต่ขอ้ เสียอันหนึง่ ก็คอื ราคายังสูงอยู่ พอดีเศรษฐกิจ ยุโรปไม่ดี ก�าลังซื้อก็จะแผ่ว เราก็เก็บเทคโนโลยีไว้รอเวลา ที่จะกลับมาอีกครั้งหนึ่ง นี่ก็เป็นประสบการณ์ตอนอยู่ IRPC สิ่งที่สําคัญคือ
เราต้องมีโจทย์ที่ถูกต้อง
ภาคเอกชนแบบพวกเราก็คงเป็นเสียงสะท้อน ว่าจริง ๆ แล้ว ผู้บริโภคต้องการอะไร การตั้งโจทย์ถูกมันก็สําเร็จไปครึ่งหนึ่งแล้ว
PETROMAT: ส�าหรับไทยออยล์มีนโยบายด้าน R&D
อย่างไรบ้างครับ คุณอธิคม: ผมว่าก็เหมือนเดิมนะ มันไม่ใช่เป็นนโยบาย เฉพาะไทยออยล์ แต่ เ ป็ น ของทั้ ง กลุ ่ ม ปตท. มากกว่ า เราหากินกับ Asset Base คือเป็น Resource Extraction ขึ้ น มาจากใต้ ดิ น จากนั้นก็แปรสภาพ ลงทุนสร้างโรงกลั่น โรงงานปิโตรเคมี เรามองว่าประเทศทีเ่ จริญแล้วเค้าพัฒนาเรือ่ ง Knowledge Based Economy มากกว่า ซึ่งแนวคิดนี้มาจาก ดร.ไพรินทร์ ชูโชติถาวร CEO ปตท. ท่านให้ความส�าคัญ เรื่ อ งเทคโนโลยี ม าก ตั้ ง แต่ ท ่ า นรั บ ต� า แหน่ ง ก็ ผ ลั ก ดั น เรื่อง TAGNOC (Technologically Advanced and Green National Oil Company) ซึ่งในกลุ่มก็เห็นด้วย เพราะว่า มันเป็นเทรนด์ของอนาคตจริง ๆ เราจะก้าวข้าม Threshold ของการพัฒนาประเทศไปได้ มันต้องไปทีเ่ ทคโนโลยี อันนีก้ เ็ ป็น จุดเริม่ แต่ละบริษทั ก็มคี วามพร้อมไม่เหมือนกัน อย่างทีผ่ มเรียน บริ ษั ท ไหนที่ ใ กล้ ผู ้ บ ริ โ ภคก็ จ ะเห็ น ความส� า คั ญ เรื่ อ งนี้ และเขาก็ทา� ล่วงหน้า บริษทั ไหนทีไ่ กลผูบ้ ริโภคก็อาจจะเริม่ เรือ่ ง นีช้ า้ หน่อย เช่น ไทยออยล์ เป็นต้น เพราะ ไทยออยล์เราอยูต่ น้ น�า้
ผลิตภัณฑ์ทเี่ ป็น Commodity คือกลัน่ น�า้ มัน พอกลัน่ น�า้ มันเสร็จ Differentiation ของผลิตภัณฑ์กม็ ไี ม่มาก ท�าตามสเปกทุกอย่างเลย เพราะฉะนัน้ การวิจยั และพัฒนาของไทยออยล์ไม่ได้เป็นการวิจยั และพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ การพัฒนาเทคโนโลยีที่ผ่านมา จะเป็นการพัฒนากระบวนการผลิตเสียส่วนใหญ่ ไม่วา่ จะเป็น การลดต้ น ทุ น การผลิ ต ก็ ดี หรื อ จะเป็ น การเพิ่ ม Yield ของผลผลิตก็ดี ก็ยังอยู่ภายใต้กรอบของผลิตภัณฑ์เหมือนเดิม บวกกับการที่ว่าผลิตภัณฑ์ของไทยออยล์ถึงแม้จะหลากหลาย แต่ยังไม่ออกไปนอกกรอบผลิตภัณฑ์ที่สัมผัสผู้บริโภคจริง ๆ หรือสะท้อนความต้องการของผู้บริโภคจริง ๆ พัฒนาการ R&D ของไทยออยล์ทดี่ ขี นึ้ เป็นล�าดับ จะมุง่ เน้นเรือ่ งกระบวนการผลิต มากกว่า ผมคิดว่าต่อไปไทยออยล์จะไปเพิม่ น�า้ หนักทีจ่ ะท�าเกีย่ วกับ ผลิตภัณฑ์มากขึ้น หรือต่อยอดไปผลิตภัณฑ์ที่มีความต้องการ ของตลาดที่ประเทศไทยยังไม่มีเทคโนโลยีหรือยังไม่มีผู้ผลิต ซึ่งปจจุบันเรามีโครงการท�า LAB (Linear Alkyl Benzene) เป็นสารลดแรงตึงผิว เมืองไทยไม่มีคนผลิต ต้องน�าเข้าอยู่ เทคโนโลยี นี้ เ ราก็ ก� า ลั ง ท� า แต่ ยั ง อยู ่ ใ นวงค่ อ นข้ า งจ� า กั ด เราต้องใช้วิธีร่วมทุน จากนั้นเราก็ต่อยอดศึกษาจากตรงนั้นไป จะค่อย ๆ เป็นไปตามล�าดับ ไม่ได้รวดเร็วเหมือนบริษัทอื่น ที่เขาอยู่ใกล้ผู้บริโภค
PETROMAT: ได้มองอะไรที่เป็น Disruptive Technology
ไว้บ้างไหมครับ คุณอธิคม: ตอนนี้จริง ๆ ตามที่ผมเรียน ต้องยอมรับว่า เทคโนโลยีโรงกลั่นมัน Mature มาก แทบจะ Buy on Shelf ได้เลย อยูท่ ชี่ ว่ งไหนเศรษฐกิจมันขับเคลือ่ นไปทางไหนมากกว่า อาจจะมีเทคโนโลยีใหม่ ๆ บ้าง ที่เกิดขึ้นมาเป็น Disruptive อย่างการ Convert น�้ามันหนักที่มีราคาต�่าให้เป็นน�้ามันใส เมือ่ ก่อนนีส้ ว่ นต่างของราคาน�า้ มันส�าเร็จรูปกับน�า้ มันหนักยังน้อย มันก็เลยไม่เกิดสักที แต่เทคโนโลยีถามว่ามีไหม ก็มี พอถึงเวลา ที่ ส ่ ว นต่ า งตรงนี้ ม ากขึ้ น ก็ ท� า ให้ คุ ้ ม ทางเชิ ง เศรษฐกิ จ แต่ส ่ว นใหญ่แ ทบจะ On Shelf ซึ่งแตกต่างกับปิ โ ตรเคมี ที่เทรนมันเปลี่ยนไปตามความต้องการผู้บริโภค ในภาพรวม ของโรงกลั่นผมว่า Disruptive มันไม่ค่อยมี
9
COVER STORY
PETROMAT: อย่างตอนนีร้ าคาน�า้ มันตกลงมาค่อนข้างเยอะ
ไม่ทราบว่ามีผลต่อนโยบายของบริษัทหรือเปล่าครับ คุณอธิคม: ในแง่ของงบประมาณก็ตอ้ งมีการปรับตามสภาวะ แต่ว่าทิศทางคงไม่เปลี่ยน เพียงแต่ว่าเราจะขยับทรัพยากร ไปทางไหนมากกว่ า กั น ที่ ผ ่ า นมาไทยออยล์ เ น้ น ไปเรื่ อ ง การพั ฒ นากระบวนการผลิ ต จากนี้ ต ่ อ ไปคงจะต้ อ งแบ่ ง เริ่มขยับมาที่ New Product Innovation มากขึ้น
PETROMAT: คล้าย ๆ Hedge Fund หรือเปล่าครับ คุณอธิคม: จะคล้าย Venture Capital ที่จริงก็คือ Private
Venture Capital นั่นแหละ ทางกลุ่ม ปตท. เอง หลายบริษัท ก็ไปลง Venture Capital ต่างประเทศ แต่จริง ๆ ในกลุ่มเอง มีเทคโนโลยีเยอะแยะเลย ที่บางบริษัทมีทรัพยากรหรือไอเดีย ก้าวไปแล้วบ้าง แต่วา่ งบสนับสนุนอาจจะน้อย ยังไปด�าเนินการ ต่อไม่ได้ แต่วา่ บริษทั อืน่ มีความสนใจเทคโนโลยีนี้ ก็เอาเงินมาลง ซึ่ ง ไอเดี ย ตรงนี้ ถ ้ า ท� า ได้ ก็ ข ยายไปนอกกลุ ่ ม ก็ ไ ด้ แต่ ต อนนี้ ยังตั้งไม่ได้เพราะไม่มีกฎหมายรองรับเรื่องมาตรการด้านภาษี ซึ่งภาครัฐอาจจะต้องมาช่วย
PETROMAT: ค�าถามสุดท้ายนะครับ ภาคเอกชนอยากจะ
PETROMAT: ผมเห็นว่ามีการท�าเรื่องความร่วมมือระหว่าง
ไทยออยล์กับมหาวิทยาลัยมาระดับหนึ่ง ตอนนี้ก็เป็นนโยบาย ภาครั ฐ ที่ อ ยากให้ ม หาวิ ท ยาลั ย กั บ อุ ต สาหกรรมท� า งาน ร่วมกันใกล้ชดิ มากขึน้ ทางคุณอธิคมมองว่าไทยออยล์จะขยับตรงนี้ ต่อยังไงครับ ทราบมาว่าไทยออยล์มีความร่วมมือหลายที่ เช่น วิทยาลัยปิโตรเลียมและปิโตรเคมี หรือ สวทช. คุณ อธิ คม: ผมคิดว่ากรอบเดิมที่ท�าอยู่ก็ค่อนข้างไปได้ดี แต่ทสี่ า� คัญคือเราต้องมีโจทย์ทถี่ กู ต้อง ภาคเอกชนแบบพวกเรา ก็คงเป็นเสียงสะท้อนว่าจริง ๆ แล้ว ผู้บริโภคต้องการอะไร การตั้ ง โจทย์ ถู ก มั น ก็ ส� า เร็ จ ไปครึ่ ง หนึ่ ง แล้ ว ที่ ผ ่ า นมาสิ่ ง ที่ เป็นปญหาปกติของการท�า R&D ไม่ใช่ตอบไม่ตรงค�าถาม แต่เป็นถามไม่ตรงกับค�าตอบ ความหมายก็คอื การตอบไม่ตรงค�าถาม เราอาจจะมีค�าถามหรือมีโจทย์ที่ถูกต้อง แต่สิ่งที่ค้นคว้ามา อาจจะยังตอบไม่ได้ แต่ว่าในทางกลับกัน ถามไม่ตรงค�าตอบ เหมือนเรามีงานวิจัยอยู่เยอะแยะเลย แต่ไม่ตรงค�าถามคือ ไม่ตรงกับสิ่งที่ตลาดต้องการ ซึ่งตรงนี้ภาคเอกชนช่วยได้เยอะ ในกลุม่ ปตท. เองก็กา� ลังเริม่ เรือ่ งเทคโนโลยีฟน ด์ทจี่ ะสนับสนุน การลงทุนเพื่อท�าเทคโนโลยี หรือว่า R&D ซึ่งในภาคเอกชน ยังไม่มีแบบนี้ ในภาครัฐมีอยู่แล้วโดยการบริหารจัดการเป็น ของ สวทช. โดยเริ่ ม ต้ น จะเป็ น ภายในกลุ ่ ม ปตท. ก่ อ น มีกลุ่มเทคโนโลยีเกี่ยวข้องกับ Renewable ส�ารวจและผลิต เป็นต้น แล้วแต่ละคนที่จะสนับสนุนก็จะมีเมนูให้เลือกว่าเงิน จะไปลงทีไ่ หน แต่วา่ จะเลือกลงเป็นเทคโนโลยีเลยไม่ได้นะครับ ต้ อ งเลื อ กเป็ น กลุ ่ ม เทคโนโลยี แ ต่ ว ่ า ทิ ศ ทางคงไม่ เ ปลี่ ย น เพี ย งแต่ ว ่ า เราจะขยั บ ทรั พ ยากรไปทางไหนมากกว่ า กั น ที่ผ่านมาไทยออยล์เน้นไปเรื่องการพัฒนากระบวนการผลิต จากนี้ ต ่ อ ไปคงจะต้ อ งแบ่ ง เริ่ ม ขยั บ มาที่ New Product Innovation มากขึ้น 10 U&I Collaboration
ให้ภาคการศึกษามีการปรับเปลี่ยนกระบวนทัศน์อย่างไรบ้าง เพื่อให้ความร่วมมือดีขึ้น คุณอธิคม: ผมว่าการที่ท�างานร่วมกับภาคเอกชนนี่ถูกต้อง แต่ที่เรียนไปแล้วว่าคนที่ลงทุนหรือคิดด้าน R&D ของเอกชน ส่วนใหญ่ตอ้ งเป็นบริษทั ทีใ่ หญ่และมีทรัพยากรมาก ส่วนบริษทั รายย่ อ ยพวก SMEs ซึ่ ง เขาใกล้ ชิ ด ผู ้ บ ริ โ ภคและมี โ จทย์ กลั บ ไม่ ส ามารถที่ จ ะเข้ า มาได้ ท� า อย่ า งไรภาคการศึ ก ษา ถึ ง จะเข้ า ถึ ง ผู ้ ป ระกอบการรายย่ อ ยได้ ตรงนี้ จ ะดี ม าก เพราะรายใหญ่ ที่ รู ้ โ จทย์ จ ากรายย่ อ ยก็ ดี แต่ ถ ้ า รายใหญ่ ที่ยังไม่รู้โจทย์จากรายย่อยก็จะวนอยู่ตรงนี้แหละ โดยเฉพาะ อย่างยิ่งเทคโนโลยีท่ีตอบสนองความต้องการของเมกะเทรนด์ ไม่ ว ่ า จะเรื่ อ งโลกร้ อ น Urbanization, Aging Society หรือเรื่องการลดขยะในสังคมเมือง ผมว่าเป็นอะไรที่ส�าคัญมาก
สุดท้ายนี้ PETROMAT ขอขอบคุณ คุณอธิคม เติบศิริ เป็นอย่างสูง ที่ได้สละเวลาอันมีค่ามาให้มุมมอง จากประสบการณ์ทางธุรกิจ การหาโจทย์วิจัยที่ตรงกับความต้องการ ของผู้บริโภค ซึ่งมีประโยชน์ต่อการทํา U&I Collaboration และพ้นจากปญหา “ถามไม่ตรงกับคําตอบ” สักที
INTERVIEW
วิจัย มหาวิทยาลัย
อุตสาหกรรม เป็นไปได้ ก ารวิจัยและพัฒนาเป็นสิ่งที่ช่วยขับเคลื่อน
เทคโนโลยีให้ก้าวหน้าทันสมัยมากขึ้น แต่จะส�าเร็จได้นั้น จ� า เป็ น ต้ อ งอาศั ย ความร่ ว มมื อ จากทุ ก ฝ า ยทั้ ง ภาครั ฐ และภาคเอกชน เพื่อร่วมกันศึกษาถึงปญหาและแนวทาง แก้ปญหาที่มีอยู่ให้หมดไป PETROMAT Today ฉบับนี้ ได้รับเกียรติ จาก ดร.สันติ กุลประทีปญญา Director, Southeast Asia Research & Development จาก UOP, A Honeywell Company, USA ซึ่ ง ท่ า นจะมา เล่ า ประสบการณ์ ที่ เ คยร่ ว มงานในการพั ฒ นางานวิ จั ย กั บ ทั้ ง บริ ษั ท เอกชนและสถาบั น การศึ ก ษามากมาย เพื่อเป็นแนวทางและให้ข้อคิดแก่ผู้ท�าวิจัยทุกคนในการ พัฒนางานวิจัยให้ก้าวสู่ความร่วมมือระดับอุตสาหกรรม
ดร.สันติ กุลประทีปญญำ
Director, Southeast Asia Research & Development UOP, A Honeywell Company, USA
PETROMAT: ในมุมมองของอาจารย์ งานด้านวิจยั และพัฒนา (R&D) ส�าหรับประเทศไทยเป็นอย่างไรบ้าง ดร.สันติ: การท�างานวิจยั ของเมืองไทยทัง้ ภาคการศึกษาและภาคอุตสาหกรรม ยังอยูใ่ นขัน้ ทีเ่ รียกว่า วิจยั (Research) ยังไม่ถงึ ขัน้
พัฒนา (Development) ผมอยากให้ทุกคนคิดถึงค�าถามว่า จุดประสงค์ของการวิจัยในมหาวิทยาลัยหรือในอุตสาหกรรม คืออะไร และเพื่ออะไร อาจารย์ในมหาวิทยาลัยบางกลุ่มจะอยู่แต่กับวิชาการตลอดเวลา ท�าหน้าที่สอนหนังสือนักเรียน แต่ควรค�านึงถึง อีกหน้าที่หนึ่งคือ ต้องสร้างชื่อเสียงให้กับตนเอง สิ่งที่เห็นได้คือ การตีพิมพ์ผลงานวิชาการ (Publication) ซึ่งเป็นหัวใจของการวิจัย ถ้าไม่ทา� วิจยั ความรูต้ า่ ง ๆ ก็จะลดน้อยลงไป ต้องรูจ้ กั อ่านผลงานวิจยั ใหม่ ๆ เพือ่ พัฒนาความรูแ้ ละรูท้ นั เทคโนโลยีทพี่ ฒ ั นาตลอดเวลา และสอนให้นกั เรียนรูจ้ กั การท�าวิจยั รูจ้ กั คิดวิเคราะห์ปญ หาและหาวิธแี ก้ปญ หาทีเ่ กิดขึน้ ส�าหรับการท�าวิจยั ในอุตสาหกรรมเพือ่ ทีจ่ ะ แก้ปญหาที่เกิดขึ้น สร้างชื่อเสียงให้กับบริษัท ปรับปรุงเทคโนโลยีที่มีอยู่และพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ให้ก้าวทันเทคโนโลยีที่เกิดขึ้น สร้างความรู้ให้กับนักวิทยาศาสตร์เพื่อแก้ปญหาให้ลูกค้า และเชื่อมโยงกับนักวิทยาศาสตร์ที่อื่น ๆ เพื่อท�าความรู้จักและแลกเปลี่ยน ความรู้ซึ่งกันและกัน อ่ำนต่อหนำถัดไป...
12 U&I Collaboration
INTERVIEW
PETROMAT: อยากให้อาจารย์ช่วยแนะน�าถึงแนวทาง
ในการสร้างความร่วมมือในการท�าวิจัยระหว่างมหาวิทยาลัย และภาคอุตสาหกรรม ดร.สั น ติ : เราต้ อ งรู ้ ถึ ง ความต้ อ งการของมหาวิ ท ยาลั ย และภาคอุ ต สาหกรรมก่ อ นจึ ง จะท� า ให้ เ กิ ด ความร่ ว มมื อ ระหว่างกันได้ สิ่งที่มหาวิทยาลัยต้องการจากภาคอุตสาหกรรม คือ (1) งบประมาณสนับสนุนการวิจัย (2) มีจุดประสงค์ในการ ท�าวิจยั ทีช่ ดั เจน (3) ได้รบั ความร่วมมือและสนับสนุนเทคโนโลยี (4) มี ข ้ อ มู ล เกี่ ย วกั บ เครื่ อ งมื อ /อุ ป กรณ์ ที่ ใ ช้ ส� า หรั บ การ ขยายขนาดงานวิจัยสู่ระดับอุตสาหกรรม เพื่อเป็นแนวทาง ในการพัฒนางานวิจัยให้สามารถน�าไปใช้ประโยชน์ในระดับ อุ ต สาหกรรมได้ และ (5) มี ก ารท� า สั ญ ญาตกลงร่ ว มกั น อย่างชัดเจนในการจดลิขสิทธิ์ของงานวิจัยและเพื่อตีพิมพ์/ เผยแพร่งานวิจัย ส�าหรับสิ่งที่ภาคอุตสาหกรรมใช้ในการเลือกอาจารย์ มาร่วมวิจัยจากประสบการณ์ของผม คือ (1) ความน่าเชื่อถือ ของอาจารย์ (2) มี ผ ลงานวิ จั ย และความเชี่ ย วชาญตรง กับงานวิจัยที่ต้องการศึกษา (3) นักวิจัยสามารถเชื่อมโยง ระหว่างความรู้ด้านวิทยาศาสตร์สู่ธุรกิจได้ (4) สามารถคิดค้น นวัตกรรมใหม่ทมี่ มี ลู ค่า และ (5) สามารถร่วมมือท�างานเป็นทีมได้
ดร.สันติ กุลประทีปญญา รวมบรรยายในงาน PETROMAT Seminar ประจําปี 2558
PETROMAT: สิ่งที่จะท�าให้นักวิจัยประสบความส�าเร็จ
ในการท� า วิ จั ย และผลิ ต ผลงานวิ จั ย เป็ น ที่ ต ้ อ งการ ของอุตสาหกรรม คืออะไร ดร.สันติ: สิง่ ทีจ่ ะท�าให้โครงการวิจยั ประสบความส�าเร็จได้นนั้ ต้องอาศัยปจจัยหลายประการ ซึ่งขอยกตัวอย่าง ดังนี้ (1) Project selection คือ การเลือกหัวข้องานวิจัย สิง่ นีเ้ ป็นหัวใจของการท�าวิจยั การลงมือท�างานวิจยั ไม่ใช่เป็นสิง่ ทีย่ าก แต่จะท�าอะไรนั้นเป็นสิ่งที่ยากกว่า เพราะการเลือกโครงการ ทีเ่ หมาะสมเป็นสิง่ ส�าคัญทีจ่ ะท�าให้ได้ผลประโยชน์และมีชอื่ เสียง ตามมา จึงต้องมีการศึกษาข้อมูลด้านความต้องการของลูกค้า และท้องตลาด เช่น อุตสาหกรรมหรือสังคมต้องการอะไร ใช้เทคโนโลยีอะไร มีคนใช้เทคโนโลยีนี้แล้วหรือยัง ถ้าพบว่า เทคโนโลยีนนั้ ไม่มใี นเมืองไทย เราจะท�าอย่างไร ท�าวิจยั ต่อไปไหม และเมื่อท�าส�าเร็จได้แล้วจะสามารถขยายขนาดไปสู่ระดับใหญ่ ขึ้ น ได้ ไ หม มี ข ้ อ มู ล เพี ย งพอหรื อ ไม่ สิ่ ง เหล่ า นี้ จ ะเป็ น สิ่ ง ที่ ต้องศึกษาก่อนที่เราจะเลือกพัฒนางานวิจัยขึ้นมาสักชิ้นหนึ่ง เพื่อน�าไปสู่การตั้งจุดประสงค์การวิจัยที่ชัดเจน (2) Think out of the box คือ การคิดนอกกรอบ ในกรณีนี้ ผมต้องการจะชีใ้ ห้เห็นว่า นักวิจยั หรือนักวิทยาศาสตร์ ต้องเก่งทุกคนอยู่แล้ว แต่การที่เราเก่งทางวิชาการไม่จ�าเป็นว่า ในทางปฏิบัติจะปฏิบัติได้ดีเหมือนกันทุกคน บางคนอาจคิด แก้ปญ หาได้แตกฉานภายในวันเดียว บางคนอาจใช้เวลาหลายวัน หรื อ คิ ด ไม่ อ อกเลยก็ ไ ด้ การคิ ด นอกกรอบนี้ จ ะเป็ น วิ ธี ก าร ทีจ่ ะท�าอย่างไรถึงจะท�าให้เรามีความคิดสร้างสรรค์ ยกตัวอย่างเช่น การน�าเทคโนโลยี 2 อย่างมาเชื่อมต่อกัน หรือน�ามาต่อยอด เพื่อให้เกิดเทคโนโลยีใหม่ ๆ และพัฒนาให้มีประสิทธิภาพ มากยิ่งขึ้น
ถ้าเราทําใจไม่ได้ ว่าเราจะหยุดที่ไหนสักแห่ง
ไม่พอใจสิ่งที่ตนมีอยู่ ชีวิตของเรา จะไม่มีความสุข
ดร.สันติ กุลประทีปญญา บรรยายพิเศษ แก่นักศึกษาวิทยาลัยปิโตรเลียมและปิโตรเคมี จุฬาฯ
14 U&I Collaboration
(3) Teamwork คื อ การท� า งานร่ ว มกั น เป็ น ที ม ในอุตสาหกรรมเราจะท�างานร่วมกันเป็นทีม บางโครงการเรา ต้องการความเชี่ยวชาญจากนักวิจัยหลาย ๆ ท่าน เราก็จะมี ประชุมทุกเดือนเพือ่ สร้างการท�างานร่วมกันเป็นทีม และเมือ่ ได้ ผลิตภัณฑ์ออกมาแล้ว เราต้องให้เครดิตกับทีมของเราทุกคน (4) Select the right partner คือ การเลือกคน ให้ เ หมาะสม เป็ น การเลื อ กอาจารย์ ห รื อ ผู ้ เ ชี่ ย วชาญ ที่จะมาท�างานวิจัยร่วมกันให้มีความสามารถเหมาะสมตรงกับ งานที่เราจะศึกษา และต้องสามารถร่วมกันท�างานเป็นทีมได้
เราควรสนุกและรักงานที่ทํา
เพื่อให้เกิดแรงจูงใจในการทํางาน
ซึ่งจะทําให้ได้ผลงานที่ดี
ถ้าได้ทําโครงการวิจัยร่วมกับผู้อื่น ให้คิดว่าเราทําโครงการวิจัยเพื่อตัวเราเอง
จะทําให้เรามีความสุข กับงานที่ทํา PETROMAT: อยากให้อาจารย์ฝากแง่คิดถึงนักวิจัยทุกคน
ดร.สันติ กุลประทีปญญา รวมงาน PTT Group/UOP R&D Technology Workshop in Bangkok
PETROMAT: ส�าหรับ PETROMAT อาจารย์มีข้อแนะน�า
หรือแนวทางในการด�าเนินการอย่างไรบ้าง ดร.สันติ: ในความเห็นของผม PETROMAT มีศักยภาพ ที่จะเป็นศูนย์ความเป็นเลิศได้ มีนักวิจัยที่มีความเชี่ยวชาญ หลายท่าน ผมจึงขอแนะน�าให้นักวิจัยช่วยกันศึกษาถึงทิศทาง ของเมืองไทยว่าจะเดินหน้าไปทางไหน สิง่ ไหนทีเ่ มืองไทยต้องการ จากนัน้ ร่วมกันคิดโครงการวิจยั ทีส่ อดคล้องขึน้ มาทีใ่ ช้ประโยชน์ จากความสามารถของเราได้และร่วมมือกันท�างานเป็นทีม รวมถึงพยายามหาความร่วมมือจากภาคอุตสาหกรรมเพือ่ ให้เกิด โครงการวิ จั ย ขึ้ น เป็ น รู ป ธรรม และสามารถท� า ประโยชน์ ให้กับประเทศได้
เพื่อเป็นแรงกระตุ้นให้สามารถพัฒนางานวิจัยต่อไปค่ะ ดร.สันติ: นักวิจยั ควรสนุกและรักงานทีท่ า� เพือ่ ให้เกิดแรงจูงใจ ในการท�างาน ซึ่งจะท�าให้ได้ผลงานที่ดี ถ้าได้ท�าโครงการวิจัย ร่วมกับผูอ้ นื่ ให้คดิ ว่าเราท�าโครงการวิจยั เพือ่ ตัวเราเองจะท�าให้ เรามี ค วามสุ ข กั บ งานที่ ท� า นอกจากนี้ ค วรพอใจในรายได้ ที่เป็นอยู่ ควรออกก�าลังกายเพื่อให้มีสุขภาพที่ดี และสิ่งส�าคัญ อีกอย่าง คือ ถ้าชีวิตครอบครัวมีความสุขจะมีส่วนช่วยให้ ประสิทธิภาพในการท�างานดีขึ้น PETROMAT ขอขอบคุณ
ดร.สันติ กุลประทีปญญา
ที่ได้สละเวลามาให้ความรู้ บอกเล่าประสบการณ์ และแง่คิดดี ๆ ให้กับพวกเรา ทําให้หลาย ๆ คนเกิดแรงจูงใจ ในการพัฒนางานวิจัย ให้ก้าวสู่ระดับอุตสาหกรรมมากยิ่งขึ้นค่ะ
ดร.สันติ กุลประทีปญญา ถายรูปรวมกับ นักวิจัยจาก Thai Oil, PTTGC และ PTTRTI ที่ UOP Seelig School, Riversides Plant, IL, USA
15
RESEARCH เรื่องโดย... ภัสร์ชาพร สีเขียว
University & Industry Collaboration ก ารวิจัยและพัฒนาในมหาวิทยาลัยเป็นการศึกษาเพื่อพัฒนาเทคโนโลยีให้ก้าวหน้ามากยิ่งขึ้น โดยศึกษาเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่มีความเป็นไปได้จากความรู้ทางทฤษฎี การท�าวิจัย และบทความทางวิชาการต่าง ๆ แต่หลายครั้งเมื่อน�าไปใช้งานในระดับ อุตสาหกรรม มักประสบปญหาในการน�าไปประยุกต์ใช้ในกระบวนการผลิตจริง เช่น ปญหาในเรือ่ งการลงทุนเครือ่ งจักรใหม่ทมี่ รี าคา สูง ต้นทุนการผลิตสูง กระบวนการผลิตทีแ่ ตกต่างไปจากเดิมมาก เป็นต้น ปญหาเหล่านีท้ า� ให้ในปจจุบนั เกิดความร่วมมือกันระหว่าง ภาคการศึกษากับภาคอุตสาหกรรมทีจ่ ะพัฒนางานวิจยั ให้นา� ไปใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์ได้ PETROMAT ให้ความส�าคัญและผลักดัน ให้เกิดงานวิจยั ร่วมระหว่างภาคการผลิตและมหาวิทยาลัยอย่างต่อเนือ่ ง โดยจะเห็นได้จากจ�านวนโครงการทีเ่ พิม่ ขึน้ อย่างก้าวกระโดด ใน 2 ปที่ผ่านมา ใน PETROMAT Today ฉบับนี้จะขอน�าเสนอตัวอย่างงานวิจัยที่ได้พัฒนาร่วมกับอุตสาหกรรม ดังนี้
Petro Gas Saudi
ป 2555
ป 2556
ป 2557
ป 2558 *
1 โครงกำร 3 โครงกำร 5 โครงกำร 14 โครงกำร
* ถึงเดือนสิงหำคม 2558
กำรพัฒนำวัสดุที่มีสภำพเปล่งรังสีสูงส�ำหรับใชงำนที่อุณหภูมิสูง โครงการวิจัยนี้ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากบริษัท เอสซีจี เคมิคอลส์ จ�ากัด ให้ศึกษาลักษณะสมบัติและพัฒนาสารเคลือบผิวที่มีสมบัติการเปล่งรังสีความร้อน (Emissivity) ทีอ่ ณ ุ หภูมสิ งู ตัง้ แต่ 1,000-1,500 องศาเซลเซียส โดยพิจารณาองค์ประกอบทางเคมีของสารเคลือบผิว และบทบาทของสารประกอบออกไซต์ทมี่ ผี ลต่อการเปล่งรังสีความร้อนของสารเคลือบผิว ผสมกับ ตัวกลางทีป่ ระกอบด้วยสารละลายกรดฟอสเฟอริก แล้วเคลือบลงบนผิววัสดุฉนวนความร้อนทนไฟ ด้วยการจุ่มเคลือบ แล้วตรวจวัดค่าสภาพการเปล่งรังสีความร้อนของสารเคลือบผิวด้วย เครือ่ งไพโรมิเตอร์ และติดตัง้ ชุดของเทอร์โมคัปเปิล เพือ่ ใช้ในการตรวจวัดอุณหภูมิ ณ ต�าแหน่งต่าง ๆ ภายในเตาและพื้นผิวของชิ้นงาน ผลจากการบันทึกการเปลี่ยนแปลงสภาพการเปล่งรังสี ความร้อนและการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิด้วยเครื่องบันทึกข้อมูลอัตโนมัติ พบว่าสารประกอบ ออกไซด์ข้างต้นมีการเปล่งรังสีความร้อนที่สูง และก�าลังจะพัฒนาเป็นสูตรเคลือบต่อไป
ผูช่วยศำสตรำจำรย ดร.ธนำกร วำสนำเพียรพงศ ภำควิชำวัสดุศำสตร คณะวิทยำศำสตร จุฬำลงกรณมหำวิทยำลัย (CU-MS)
แนวคิดและทฤษฎีการเคลือบผิวเพื่อเพิ่มการเปล่งรังสีความร้อน
16 U&I Collaboration
ชุดอุปกรณ์และเตาเผาส�าหรับการทดสอบ
กำรพัฒนำน�้ำมันชีวภำพจำกกระบวนกำรไมโครอิมัลชันจำกน�้ำมันปำลม ส�ำหรับกำรใชเปนเชื้อเพลิงในอุตสำหกรรม ปจจุบนั การพัฒนาน�า้ มันเชือ้ เพลิงชีวภาพในอุตสาหกรรมได้รบั ความสนใจอย่างต่อเนือ่ ง การผสมน�้ า มั น เชื้ อ เพลิ ง ด้ ว ยกระบวนการไมโครอิ มั ล ชั น (Microemulsion Fuel) เป็นหนึง่ ในเทคโนโลยีทไี่ ด้รบั ความสนใจอย่างกว้างขวาง เนือ่ งจากเป็นกระบวนการทีไ่ ม่ซบั ซ้อน และใช้พลังงานต�า่ และสามารถน�าน�า้ มันพืชหรือน�า้ มันพืชเสือ่ มสภาพมาเป็นวัตถุดบิ ได้โดยตรง การศึกษาวิจยั นีเ้ ป็นการพัฒนาส่วนผสมของน�า้ มันชีวภาพจากกระบวนการไมโครอิมลั ซิฟเิ คชัน จากน�้ามันปาล์ม ดีเซล และแอลกอฮอล์ โดยใช้สารลดแรงตึงผิวและสารลดแรงตึงผิวร่วม ในการท�าให้เชื้อเพลิงเหลวอยู่ในสภาพรีเวิรส์ไมเซลไมโครอิมัลชัน (Reverse Micelle Microemulsion) ในงานวิจัยนี้ได้ศึกษาร่วมกับอุตสาหกรรมถึงผลของชนิดสารลดแรงตึงผิว และสารลดแรงตึงผิวร่วม สัดส่วนต่าง ๆ ของเชื้อเพลิงผสม เพื่อให้ได้น�้ามันชีวภาพที่มีความใส และเป็นเนื้อเดียวกัน นอกจากนี้ยังสามารถน�าข้อมูลที่ได้มาเป็นแนวทางในการก�าหนด ความเป็นไปได้ทางเศรษฐศาสตร์ของการใช้น�้ามันเชื้อเพลิงอย่างเป็นรูปธรรม
อำจำรย ดร.อัมพิรำ เจริญแสง
วิทยำลัยปโตรเลียมและปโตรเคมี จุฬำลงกรณมหำวิทยำลัย (CU-PPC)
Reverse Micelle Microemulsion แผนภาพการละลายของผสมที่สภาวะไมโครอิมัลชัน ระหว่างน�้ามันปาล์ม น�้ามันดีเซล เมทานอล ร่วมกับสารลดแรงตึงผิวชนิดไม่มีประจุ
Petro Gas Saudi
กำรพัฒนำโปรแกรมจ�ำลองรูปแบบกำรเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิของของไหลภำยในท่อขนส่งน�้ำมันดิบ การขนส่งน�า้ มันดิบผ่านท่อเป็นกระบวนการทีพ่ บเห็นได้ทวั่ ไปในอุตสาหกรรมปิโตรเลียม น�้ามันดิบส่วนใหญ่มีความหนืดสูง อีกทั้งโดยปกติแล้วอุณหภูมิของสิ่งแวดล้อมภายนอกท่อ มั ก จะต�่ า กว่ า อุ ณ หภู มิ ข องน�้ า มั น ดิ บ ภายในท่ อ น�้ า มั น ดิ บ จึ ง เกิ ด การสู ญ เสี ย ความร้ อ น อุณหภูมิจะลดลงเรื่อย ๆ ตามระยะทางและเวลาที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งจะท�าให้ท่ออุดตันได้ ดังนัน้ การขนส่งน�า้ มันดิบผ่านท่อจะไม่สามารถด�าเนินการต่อได้ เพือ่ ปองกันหรือลดความรุนแรง จากการสูญเสียประสิทธิภาพที่เกิดขึ้น จึงท�าการเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์เพื่อศึกษา พฤติกรรมการไหลภายในท่อขนส่งน�า้ มันดิบทีม่ คี วามซับซ้อน และท�านายการเกิดไขในระบบท่อ โดยน�าความรู้ทางพลศาสตร์ของไหลเชิงค�านวณมาใช้ในการแก้ปญหาการไหล ผลที่ได้พบว่า โปรแกรมจ�าลองมีความน่าเชื่อถือ โดยท�าการเปรียบเทียบความถูกต้องกับการทดลองจริง และโปรแกรมส�าเร็จรูป โปรแกรมที่ได้สามารถใช้ท�านายพฤติกรรมการไหลของน�้ามันดิบ รวมถึงการเกิดไขภายในระบบท่อได้อย่างแม่นย�า
ผูช่วยศำสตรำจำรย ดร.เบญจพล เฉลิมสินสุวรรณ ภำควิชำเคมีเทคนิค คณะวิทยำศำสตร จุฬำลงกรณมหำวิทยำลัย (CU-CT)
โปรแกรมจ�าลองรูปแบบการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิของของไหลภายในท่อขนส่งน�้ามันดิบ
รูปแบบของการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิ ที่ได้จากโปรแกรมที่พัฒนาขึ้น
17
Look Around
“PETROMAT Link:
Gateway งานเสวนา The to Innovations”
วันอังคารที่ 21 เมษายน 2558 เวลา 10.30 – 12.00 น. ณ ห้องประชุมชั้น 7 อาคารเฉลิมราชกุมารี 60 พรรษา
เรื่องโดย... อรนันท์ คงเครือพันธุ์
P ETROMAT ร่วมกับวิทยาลัยปิโตรเลียมและปิโตรเคมี จัดงาน PETROMAT & PPC Symposium ขึน้ เป็นประจ�าทุกป
ซึ่งในปนี้เป็นปที่ 6 แล้ว PETROMAT ได้จัดงานเสวนาในหัวข้อ “PETROMAT Link: The Gateway to Innovations” เพื่ อ เป็ น การแลกเปลี่ ย นความคิ ด เห็ น และข้ อ เสนอแนะ ในการท� า งานวิ จั ย ร่ ว มกั น ระหว่ า ง PETROMAT กั บ ภาคอุตสาหกรรม โดย PETROMAT ได้รับเกียรติจากหลาย ๆ หน่วยงานมาเข้าร่วมเสวนาและเสนอความคิดเห็น อาทิ สกอ., iTAP, SCG Chemicals, PTTGC, บางจาก, มหาชัยพลาสติก เป็นต้น โดย PETROMAT Today ฉบับนี้ขอน�าเสนอประเด็นส�าคัญ บางส่วนในงานมาเสนอท่านผู้อ่านดังนี้ ผมได้ รู ้ จั ก กั บ PETROMAT มาไม่ เ กิ น 3 ป เริ่ ม จากมี โ อกาสเข้ า มาคุ ย กั น แล้ ว รู ้ สึ ก ว่ า ไม่ มี Academic Wall เกิดขึ้น อีกทั้งหน่วยงานมีผู้เชี่ยวชาญ หลายท่านร่วมงานวิจัยใน PETROMAT ด้วย ดังนั้น จึ ง ตั ด สิ น ใจเริ่ ม ท� า สั ญ ญากรอบใหญ่ ขึ้ น ระหว่ า ง SCG Chemicals กับ PETROMAT เมื่อทางบริษัท มีโจทย์งานวิจัยหรือปญหาเกิดขึ้นก็สามารถเข้ามาพบ PETROMAT ได้ ทั น ที หลั ง จากนั้ น PETROMAT ก็ด�าเนินงานต่อไปจนส�าเร็จ ซึ่งเรียกว่าเป็น One-Stop Service ได้ เ ลย นอกจากนี้ ผมยั ง มี ข ้ อ เสนอแนะ ให้ ท าง PETROMAT รั ก ษาระดั บ Technical Excellence ไว้ โดยต้ อ งพยายามหาจุ ด หลั ก และรวบรวมเทคโนโลยีงานวิจัยที่เชี่ยวชาญของนักวิจัย ใน PETROMAT เพื่อให้ทางภาคอุตสาหกรรมได้เห็น ศักยภาพมากขึ้น
สกอ. นอกจากสนับสนุนทุนให้แก่ PETROMAT เพื่ อ ให้ เ กิ ด ผลงานวิ จั ย แล้ ว ยั ง พั ฒ นาบุ ค ลากร โดยใช้ทักษะเชิงวิชาการและการตีพิมพ์ด้วย ปจจุบัน ได้ เ ริ่ ม ส่ ง เสริ ม งานวิ จั ย เชิ ง พาณิ ช ย์ เ พื่ อ ตอบสนอง ภาคอุตสาหกรรมโดยเฉพาะ SMEs มากขึ้น นอกจากนี้ ยังมีการสร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ ระดับชุมชนเพิ่มขึ้นด้วย
ดร.จำรุรินทร ภู่ระยำ
ผูอ�ำนวยกำรกลุ่มส่งเสริมสนับสนุน และเผยแพร่งำนวิจัยจำก สกอ.
ปจจุบัน PETROMAT มีโครงการวิจัยร่วมกับ เอกชนแล้วหลายโครงการ และมีอีกหลายโครงการ ที่อยู่ระหว่างด�าเนินการเจรจาและเข้ามาเพื่อปรึกษา และรับฟงข้อเสนอแนะจากนักวิจยั ทีเ่ ชีย่ วชาญแล้วน�าไป แก้ไข/ปรับปรุงพัฒนาระบบต่อไป ซึ่งทาง PETROMAT มีความพร้อมและยินดีทจี่ ะเป็นส่วนหนึง่ ในการแก้ปญ หา ของภาคอุตสาหกรรมเพือ่ การพัฒนาประเทศอย่างยัง่ ยืน
ดร.บุตรำ บุญเลี้ยง
Technology Intelligence Manager จำก SCG Chemicals 18 U&I Collaboration
รศ. ดร.ศิริพร จงผำติวุฒิ
รองผูอ�ำนวยกำร PETROMAT และนักวิจัย จำกวิทยำลัยปโตรเลียมและปโตรเคมี จุฬำฯ
Get to Know เรื่องโดย... ภัสร์ชาพร สีเขียว
PETROMAT in U&I ก ารพัฒนางานวิจยั ให้กา้ วหน้าได้นนั้ จะต้องอาศัยความร่วมมือกันระหว่างผูศ้ กึ ษาวิจยั กับผูท้ นี่ า� งานวิจยั ไปใช้ประโยชน์ได้จริง ส�าหรับศูนย์ความเป็นเลิศด้านเทคโนโลยีปิโตรเคมีและวัสดุ หรือ PETROMAT ของเรามีบทบาทในการช่วยประสานงานวิจัย และช่วยคัดสรรผู้เชี่ยวชาญให้ตรงกับงานวิจัยเพื่อให้เกิดความราบรื่นในการด�าเนินงานวิจัยร่วมกัน PETROMAT มีทีมวิจัยที่มี ความเชี่ยวชาญในศาสตร์ด้านปิโตรเคมีและวัสดุจาก 4 มหาวิทยาลัย และมีความร่วมมือจากหน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชน
วิทยาลัยปิโตรเลียม และปิโตรเคมี ภาควิชาเคมีเทคนิค ภาควิชาวัสดุศาสตร์ และภาควิชาเคมี
ภาควิชาวิศวกรรมเคมี และสาขาวิชาเคมี เชิงฟิสิกส์
สาขาวิชาวิศวกรรม พอลิเมอร์
งานวิจัยด้าน
เป็ น ความร่ ว มมื อ ด้ า นการท� า วิ จั ย กับนักวิจัยในสถาบันร่วมของศูนย์ฯ ในโครงการวิจัยต่าง ๆ เช่น
การใช้ประโยชน์จาก
การผลิต
ของเสียในโรงงานผลิต ไบโอดีเซล
การดักจับกาซ คาร์บอนไดออกไซด์
20 U&I Collaboration
หน่วยงานรัฐอื่น ๆ
ภำครัฐ
ภำคเอกชน พลังงานชีวมวล และการขนส่ง นํ้ามันดิบภายในท่อ
ภาควิชาวิทยาการ และวิศวกรรม
มีความร่วมมือในการ
ไฮโดรเจนจากนํ้าเสีย การสกัด
สารแอโรแมติกส์ วัสดุดูดซับทางเคมี และการพัฒนาวัสดุต่าง ๆ
จัดงานเสวนาในงาน InterPlas Thailand (ป พ.ศ. 2554 – 2558)
การปรับปรุงคุณภาพน�้าเสียจาก
การผลิตไบโอแกส
Everyday PETROMAT
Biosciences Institute (EBI) ที่มำ: - http://cenm.ag/collab - http://energybiosciencesinstitute.org
Energy Biosciences Institute (EBI) เป็นสถาบันวิจัย ที่ จั ด ตั้ ง ขึ้ น มาจากความร่ ว มมื อ ระหว่ า งภาคการศึ ก ษา ได้ แ ก่ University of California at Berkeley, Lawrence Berkeley National Laboratory, และ University of Illinois at Urbana -Champaign (UIUC) และ ภาคอุตสาหกรรม คือบริษทั น�า้ มัน BP เพือ่ ศึกษา งานวิจัยร่วมกันในด้าน Cellulosic Fuels เป็นการสกัด Cellulose ในหญ้า เศษไม้ ฟางข้าว ซังข้าวโพดและวัสดุเหลือทิ้งจากการเกษตร โดยผ่านกระบวนการจนได้นา�้ ตาลและน�าไปหมักให้ได้ เอทานอลเพือ่ น�าไป เป็นเชื้อเพลิงหรือน�าไปผสมเป็นน�้ามันแกสโซฮอล์ต่อไป EBI ยังมี งานวิจัยที่ร่วมกันในด้าน Petroleum Microbiology โดยศึกษาด้าน Microorganisms ของน�า้ มันปิโตรเลียมเพือ่ น�าไปปรับปรุงกระบวนการ กลั่นน�้ามันต่อไป นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยศึกษาด้าน Biolubricants และผลิตภัณฑ์พลอยได้อนื่ ๆ ทาง Bio-Based อีกด้วย โดยมีการลงทุน 500 ล้านเหรียญสหรัฐ เป็นระยะเวลา 10 ป ส�าหรับประเด็นส�าคัญ ในการตกลงความร่วมมือคือเรือ่ งทรัพย์สนิ ทางปญญา (IP) ควรมีขอ้ ตกลง ให้ชัดเจนเพื่อผลประโยชน์ของทั้งสองฝาย โดยโครงการดังกล่าว ได้ตั้งค่า IP ไว้ 100,000 เหรียญสหรัฐ ในการต่อใบอนุญาตต่อป
TOP-PPC
R&D Collaboration Unit ที่มำ: - http://research.chula.ac.th/web/cu_online/2552/vol_39_2.htm - http://ryt9.com/s/prg/1614076 - https://youtube.com/watch?v=f0HYC8m5DBM
วิทยาลัยปิโตรเลียมและปิโตรเคมี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ท�าข้อตกลงร่วมมือ ในการท�างานวิจัยกับ บริษัท ไทยออยล์ จ�ากัด (มหาชน) โดยมีการจัดตั้งห้องปฏิ บัติ ก าร TOP-PPC Collaboration Unit ขึ้นเพื่อเป็นหน่วยวิจัยและพัฒนาร่วมโดยมีเจ้าหน้าที่ของ บริษทั ฯ มาท�างานอยูใ่ นพืน้ ทีข่ องวิทยาลัยฯ ท�าให้สามารถผลักดันโครงการวิจยั ต่าง ๆ ภายใต้ความ ร่ ว มมื อ ให้ ส� า เร็ จ ลุ ล ่ ว งไปด้ ว ยดี ห ลายโครงการ รวมทั้ ง ได้ ข ยายผลไปสู ่ ก ารใช้ ง านจริ ง ในโรงกลัน่ อาทิ โครงการเกีย่ วกับการประหยัดพลังงานในหอกลัน่ โครงการทดสอบตัวเร่งปฏิกริ ยิ า ส�าหรับกระบวนการผลิตน�้ามันดีเซลที่สามารถขยายผลไปสู่ห้องทดสอบมาตรฐานในอนาคตด้วย 21
GAMES
GAMES
PETROMAT Today ฉบับนี้ยังมีของรางวัลพิเศษ เป็น เช็คของขวัญมูลค่ำ 500 บำท และ แกว 15 ป PETROMAT จ�านวน 5 รางวัล
เพียงส่งค�าตอบทางอีเมล ไปรษณีีย์หรือเฟสบุค ภายในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2558 ทางทีมงานจะท�าการจับรางวัลและประกาศรายชื่อผู้โชคดีทางวารสารฉบับต่อไป
สถำบันร่วมภำยใต “PETROMAT” ประกอบดวย มหำวิทยำลัยใดบำง 1. ............................ 2. ............................ 3. ............................ 4. ............................
ประกำศรำยชื่ิอผูโชคดี ไดรับรำงวัลเช็คของขวัญมูลค่ำ 500 บำท ผศ. ดร.วรดา หล่อยืนยง
4 U&I Collaboration
ไดรับรำงวัลแกว 15 ป PETROMAT 1. คุณอริสา อุตมะ 2. K.Ratakorn Buaboocha 3. K.Komsan Laokamon 4. K.A Supachai 5. คุณรัชนีกร โหรชัยยะ
“รีบ มีสิทธิ์ลุนรับส่งค�ำตอบ รำงวัลทุกท่ำ
น”
info@petromat.org
petromat
Food Corner by PETROMAT
“ย.ยักษ์” บ่ อ ยครั้ ง ที่ ถึ ง เวลามื้ อ อาหารแล้ ว หลาย ๆ ท่ า นคิ ด ไม่ อ อกว่ า จะรับประทานเมนูอะไร PETROMAT ขอแนะน�าทางเลือกหนึ่งที่อาจจะ
เรื่องโดย... ธีรยา เชาว์ขุนทด
ร้านอาหารตามสัง่ แนวใหม่ “ไซส์มนุษย์” หรือ “ไซส์ยักษ์” คุณเลือกสั่งได้ตามใจ
ตอบโจทย์ปญหาท่านได้ ร้าน “ย.ยักษ์” เป็นร้านอาหารตามสั่งแนวใหม่ “ไซส์มนุษย์” หรือ “ไซส์ยกั ษ์” ตามสโลแกนแนวโบราณว่า “สามัคคีเติมพลัง” คุณเลือกสัง่ ได้ตามใจ อีกทัง้ วิธกี ารสัง่ ของร้านนีไ้ ม่ธรรมดา สามารถเลือกอาหาร ในแบบตามใจเราและเลือกได้เยอะกว่าร้านอาหารตามสัง่ ทัว่ ไป คิดเมนูไม่ออก เปิด www.eatyoryuk.com/random แล้วเลือกไซส์ ใช้ได้ทั้งในมือถือ และในคอมพิวเตอร์ สามารถเลือกออกมาเป็นเมนูทไี่ ม่ซา�้ กันได้ 4 ล้านกว่าแบบ
ยักษอินเตอร สเต็กหมูจำนใหญ่ ยักษไทย กระเพรำหมูและหมูสบั ไซสยกั ษ (349 บำท) เพิม่ เครือ่ งเคียง ไซสยกั ษ (199 บำท) เพิม่ ไข่ดาวยักษ์ โคกยักษ (49 บำท) จ�้ำบะน�้ำแดง (79 บำท) สปาเก็ ต ตี้ ซ อสขี้ เ มา (+10 บาท) (+50 บาท) ไอศกรีมยักษ (99 บำท) ท็อปปิงด้วยไข่ดาว (+10 บาท)
มำม่ ำ ซอสสุ กี้ สปำเก็ตตี้ย�ำพริกเผำเบคอนไซส ไซสมนุษย (69 บำท) มนุ ษ ย (69 บำท) เพิ่ ม หอยลาย เ พิ่ ม ห มึ ก แ ล ะ กุ ้ ง (+10 บาท) (+20 บาท)
เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่ 10.30 - 22.00 น. ซอยจุฬา 50 (ในยูเซ็นเตอร์) ถ.พระราม 4 ปทุมวัน กรุงเทพมหานคร https://www.facebook.com/eatyoryuk 0850277760
พิเศษ !!!
ส�าหรับผู้อ่านคอลัมน์ Food Corner by PETROMAT 5 ท่ำนแรก ที่ไปรับประทานอาหารที่ร้าน “ย.ยักษ์” จะได้รับโปรโมชั่นพิเศษจากทางร้าน
โซดาไฟกับการทําความสะอาด โซดาไฟ หรือ Caustic soda ชื่อเคมีคือ Sodium hydroxide สูตรเคมีคือ NaOH เป็นของแข็งสีขาว มีทั้งแบบที่เป็น เกล็ด เป็นผงและเป็นเม็ดครึ่งวงกลม มีฤทธ์เป็นด่าง ดูดความชื้นได้ดี ละลายน�้าได้ดี
โซดาไฟ ที่ใช้โดยทั่วไปจะอยู่ในรูปของแข็ง หรือถูกเตรียมเป็นสารละลายที่ความเข้มข้น 50% โซดาไฟจะถูกใช้ ในอุ ต สาหกรรมสบู ่ อุ ต สาหกรรมกระดาษโดยใช้ เ ป็ น สารฟอกขาวเยื่ อ กระดาษ ผลิ ต ภั ณ ฑ์ ซั ก ฟอก เคมี ภั ณ ฑ์ ท�าความสะอาด อุตสาหกรรมเส้นใยและสิ่งทอในขั้นตอนการปรับสภาพเส้นใย การบ�าบัดน�้าเสียโดยปรับสภาพน�้า ที่มีฤทธิ์เป็นกรดให้เป็นกลางและใช้ตกตะกอนโลหะหนัก โซดาไฟกับการทําความสะอาด โซดาไฟถูกใช้อย่างแพร่หลายในการท�าความสะอาดท่อทีอ่ ดุ ตันด้วยไขมัน
โดยน�าโซดาไฟมาละลายน�า้ แล้วเทราดลงไปในท่อ ไขมันจะถูกไฮโดรไลซ์ดว้ ยด่าง (เช่น โซดาไฟ) เกิดเป็นเกลือของกรดไขมัน หรือสบู่ ซึ่งสบู่ที่เกิดขึ้นสามารถละลายน�้าได้ เรียกว่าปฏิกิริยา Saponification ซึ่งในอุตสาหกรรมการท�าความสะอาด จะใช้ โซดาไฟ ในการท�าความสะอาดอุปกรณ์ที่ปนเปอน oil, grease เช่นกัน บริษัท วาเลนซ์ จ�ากัด ด�าเนินธุรกิจให้บริการด้าน Industrial cleaning ทั้งในประเทศและภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ส�าหรับอุตสาหกรรมหนักทั่วไป เช่น อุตสาหกรรมโรงกลัน่ น�า้ มัน อุตสาหกรรมปิโตรเคมี อุตสาหกรรมผลิตไฟฟา อุตสาหกรรมเหล็ก ด้วยกระบวนการทีม่ ปี ระสิทธิภาพ เทคโนโลยีทมี่ คี ณ ุ ภาพ มีความปลอดภัยสูง และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
23
U&I Collaboration