Nantaram Lacquerware

Page 1

เครื่องเขินนันทาราม

สิริญา จิโนตัน



เครื่องเขินนันทาราม


2

เครื่องเขินนันทาราม


เครื่องเขินนันทาราม ภาชนะเครื่องรัก หรือเครื่องเขิน เป็นภาชนะเครื่องใช้ที่สานด้วยไม้ไผ่ แล้วเคลือบด้วยรัก เขียนลวดลายประดับตกแต่งด้วยชาด ทองค�าเปลวหรือ เงินเปลว เป็นภาชนะเครื่องใช้ที่นิยมใช้กันในกลุ่มชาวไทเขิน เมืองเชียงตุง และ กลุ่มชาวล้านนาทางภาคเหนือของไทย โดยเฉพาะที่จังหวัดเชียงใหม่ มีหมู่บ้าน ผลิตภาชนะเครื่องใช้ดังกล่าวอยู่ด้วย ซึ่งในภาษาพื้นเมืองเรียกสิ่งของเครื่องใช้ ประเภทนี้รวมๆ ไปว่า เครื่องฮักครัวหาง เครื่องฮักเครื่องหาง หรือเครื่องฮัก เครือ่ งค�า บ้างทัง้ นีจ้ ะเรียกไปตามลักษณะการประดับตกแต่งว่าจะตกแต่งด้วยชาด หรือปิดทองค�าเปลว และเรียกชือ่ ผลิตภัณฑ์แต่ละชิน้ ไปตามหน้าทีก่ ารใช้สอยของ ภาชนะนั้นๆ เช่น ขันดอก ขันหมาก ขันโอ หีบผ้า แอ่บหมาก อูบ ปุง เป็นต้น ในกรณีที่ต้องการเรียกให้เห็นถึงความแตกต่างของวัสดุที่ใช้ท�าภาขนะนั้น ก็จะเรียกภาชนะนั้นให้ชัดเจน เช่น ขันฮัก หรือบางทีจะเรียกไปตามวัสดุที่ใช้ ตกแต่งด้วยว่า ขันฮักขันหาง หรือ ขันฮักขันค�า เป็นต้น แต่โดยทั่วไปในปัจจุบัน นี้จะเรียกภาชนะเครื่องใช้เหล่านี้ว่า เครื่องเขิน

<< วิหารหลวงพ่อเพชร ในวัดนันทารามที่ชาวไทเขินอพยบเข้ามาอยู่ในบริเวณนี้ เป็นอาคาร ปูนศิลปะล้านนา ประดับด้วยลายปูนปั้นพรรณพฤกษา ภายในประดิษฐาน “หลวงพ่อเพชร” พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่วัด อายุมากกว่า ๕๐๐ ปี

เครื่องเขินนันทาราม

3


ภาชนะเครื่องรักหรือเครื่องเขินที่พบในเขตเมืองเชียงใหม่สามารถแบ่งได้เป็น 3 กลุ่ม คือ 1. เครื่องเขินแบบพื้นบ้านมีลักษณะเป็นงานเครื่องสานที่ทาด้วยยางรักเพียงไม่ก่ี ครั้ ง และประดั บ ตกแต่ ง อย่ า งง่ า ยส� ำ หรั บ เป็ น ของใช้ ใ นชี วิ ต ประจ� ำ วั น เครื่องเขินชนิดนี้คงเป็นสิ่งของเครื่องใช้ที่ชาวล้านนาแต่ดั้งเดิมสามารถผลิต ขึ้นใช้เองภายในครัวเรือนได้ 2. เครื่องเขินเชียงใหม่หรือเขินนันทารามเครื่องเขินนี้มีโคตรงสร้างเป็นโครงสาน ลายขัดด้วยเส้นตอกไม้ไผ่ที่มีการเหลาให้ได้ขนาดเล็กเรียบบางคล้ายทาง มะพร้าวสานขัดกับตอกเส้นบางแบนเป็นรูปแฉกรัศมีจากก้นของภาชนะจนได้ รูปทรงตามที่ต้องการ โดยไม่ต้องมีการดามโครงให้แข็งเป็นที่ที่เครื่องเขินชนิด นี้จะมีโครงที่แน่นแข็งแรงเรียบเสมอกันโดยตลอด เมื่อทารักสมุกแล้วขัดก็จะ ได้รูปภาชนะที่ค่อนข้างเรียบเกลี้ยงบางและมีความเบา การ

4

เครื่องเขินนันทาราม


การตกแต่งเครื่องเขินชนิดนี้มีลักษณะเด่นที่นิยมการขูดลาย หรือภาษาพื้นถิ่น เรียกกว่า ฮายดอก เมื่อฮายดอกเสร็จแล้วจึงน�ำยางรักที่ผสมกับสีชาดถมลงไป ในร่ อ งที่ ก รี ด ไว้ เ มื่ อ ขั ด แล้ ว จะมองเห็ น เส้ น ลวดลายสี แ ดงฝั ง อยู ่ ใ นพื้ น ด� ำ เครื่ อ งเขิ น ในกลุ ่ ม นี้ มั ก จะท� ำ เป็ น สิ่ ง ของเครื่ อ งใช้ ที่ มี ข นาดไม่ ใ หญ่ นั ก เช่น ขันหมากหรือเชี่ยนหมาก ขันดอก ขันน�้ำ ขันโอ ขันโตก แอ่บใส่ของ แอ่บในขันหมาก ถาด กระโถน ตลอดจนกล่องคัมภีร์ ฝาบาตร และ เชิงบาตร เป็นต้น 3. เครื่ อ งเขิ น แบบสั น ป่ า ตองหรื อ แบบพื้ น เมื อ งเครื่ อ งเขิ น แบบนี้ ส ่ ว นใหญ่ มี โครงสานเป็นลายขัดหรือขดให้เกิดรูปทรงแบบต่าง ๆ มีการดามและรัดขอบ เป็นชั้นๆ ให้เกิดความแข็งแรงและสวยงามด้วยตอกหรือหวาย การประดับ ตกแต่งเกิดลวดลายของการสานเส้นตอกไม้ไผ่ในบางส่วนและอีกหลายส่วน เป็ น การถมพื้ น ให้ เ รี ย บเขี ย นลวดลายด้ ว ยสี ช าดแดงบางก็ มี ก ารแตะ ทองค�ำเปลว เน้นส่วนส�ำคัญของลวดลายให้เด่นชัดขึ้น เครื่องเขินแบบนี้มักจะ เป็นสิ่งของเครื่องใช้ขนาดใหญ่ เครื่องเขินนันทาราม

5


6

เครื่องเขินนันทาราม


เช่น ขันหมากทรงกระบอก และของจุกจิกทั่วไป กระบุงเล็กหรือขันโอส�ำหรับ ใส่ของถวายพระและเครื่องประกอบพิธีกรรม หีบใส่ผ้าขนาดปานกลางส�ำหรับ พิธีแต่งงาน เป็นต้น ในภาคกลางก็มีการท�ำภาชนะเครื่องรักคล้ายคลึงกับการท�ำ ภาชนะเครื่องเขินของภาคเหนือยอยู่เหมือนกัน แต่เรียกว่า ภาชนะลายก�ำมะลอ ภาชนะทีเ่ ป็นลายก�ำมะลอส่วนมากจะลงพืน้ ด้วยชาด ตัดเส้นลายด้วยรักหรือบางที ก็พื้นเป็นสีรัก ตัวลายเป็นสีแดงชาดหรือสีอื่นๆ สีที่ใช้เขียนส่วนมากเป็นสีฝุ่นผสม รักเป็นสีพื้นๆ ลายก�ำมะลอนิยมเขียนลงบนภาชนะเครื่องใช้ที่มีขนาดใหญ่ เช่น หีบใส่เสื้อผ้าโบราณ แอ่บใส่ข้าวเหนียว พานไม้ และหีบใส่บุหรี่ เป็นต้น

เครื่องเขินเชียงใหม่ ตั้งแต่เดิมคนในเมืองเชียงใหม่และบริเวณใกล้เคียงมีการท�ำเครื่องเขิน แบบพื้นเมืองอยู่แล้วซึ่งส่วนใหญ่เป็นเครื่องเขินประเภทใช้โครงสานด้วยไม้ไผ่ ทาด้วยยางรักเพียงไม่กี่ครั้งและตกแต่งประดับประดาอย่างง่าย ๆ ส�ำหรับของใช้ ประจ�ำวันและภาชนะในพิธีกรรม ต่อมาเมื่อมีการน�ำเอาชาวไทเขินเข้ามาเป็น ช่างท�ำเครื่องเขิน ตามแบบอย่างที่เคยท�ำมาเมื่อครั้งอยู่ในลุ่มน�ำ้ขืนที่เชียงตุงรูป แบบเครื่องเขินใหม่ๆ จึงได้เกิดขึ้นในระยะหลังจากการผสมผสานรูปแบบดั้งเดิม ของเชียงใหม่กบั รูปแบบจากเชียงตุง เพือ่ การสนองตอบความต้องการและรสนิยม ใหม่ในล้านนา ดังนั้นจึงกล่าวได้ว่าเครื่องเขินเชียงใหม่ สามารถจ�ำแนกออกเป็น สองกลุ่มใหญ่ ๆ ได้คือ “แบบพื้นเมือง” ซึ่งพบมากในชนบทของเชียงใหม่ และ “แบบเครื่องเขินวัวลาย” ซึ่งเรียกชื่อตามละแวกหมู่บ้านที่มรการผลิตเครื่องเขิน ของเมืองเชียงใหม่ ในเขตวัวลาย บ้านนันทาราม

เครื่องเขินนันทาราม

7


8

เครื่องเขินนันทาราม


เครื่องเขินนันทาราม ต�ำบลหายยา เครือ่ งเขินถือเป็นงานหัตถกรรมพืน้ บ้านของไทยทางภาคเหนือทีม่ คี วามเป็น งานประณีตศิลป์อย่างหนึ่ง ด้วยการน�ำวัสดุในท้องถิ่นตามธรรมชาติมาประดิษฐ์ เป็นภาชนะเครือ่ งใช้สอยต่างๆ ด้วยลวดลายทัง้ ประดับด้วยสีชาด มุก ทองค�ำเปลว เปลือกไข่ได้อย่างงดงาม เครื่องเขินทางภาคเหนือได้มีการพัฒนาใดด้านการใช้โครงภาชนะอย่าง มากมาย มีทงั้ โครงวัสดุจำ� พวกโลหะ พลาสติก ดินเผา รวมถึงมีการตกแต่งลวดลาย แบบใหม่ๆ กรรมวิธกี ารลงรักก็ยงั คงใช้รปู แบบวิธอี ย่างเดิม ทีเ่ รียกว่าการลงยางรัก ซึ่งจะเรียกงานพวกนี้ว่าเครื่องเขิน ส่วนวิธีการลงยางรักแล้วปิดทองจ�ำพวกประตู หน้าต่าง หรือช่อฟ้า จะเรียกว่า งานลงรักปิดทอง

เครื่องเขินนันทาราม

9


10

เครื่องเขินนันทาราม


เครื่องเขินแบบฮายดอก หรือลายขุดบ้านนันทาราม 1. ใช้ไม้ไผ่เฮียะจักเป็นเส้นแบน โดยการผ่าเป็นซีกขนาด 1 ซ.ม. เอาผิวออกและ จักเป็นเส้นยาว ๆ เพื่อเตรียมสานขึ้นรูปเป็นภาชนะเครื่องใช้ต่างๆ 2. การขึ้นโครงโดยสานเส้นตอกปื้นเป็นโครงแล้วน�ำเส้นตอกกลมสานขึ้นรูป ภาชนะขันโอเล็ก 3. น� ำ แบบไม้ ข นาดเท่ า กั บ ขั น โอมาทาบกั บ เส้ น ตอกที่ ส านเตรี ย มไว้ เ ป็ น ก้ น ภาชนะ ใช้เชือกผูกเข้ากับแบบแล้วดันโครงพร้อมกับสานให้เข้ากับแบบจนถึง ส่วนปากโอ จะได้ภาชนะที่สานเสร็จพร้อมที่จะลงยางรักชั้นแรก 4. เมื่อได้เป็นรูปโครงร่างต่าง ๆ น�ำยางรักทาขอบปากโอเพื่อเก็บขอบเส้นตอก กันไม่ให้หลุด ทิ้งไว้ให้แห้ง 5. น�ำกากยางรักทาจนทั่วภาชนะ หรือโครงประเภทไม้ไผ่ และน�ำภาชนะไปผึ่ง อากาศบนตะแกรงไม้ในบริเวณที่มีความชื้นจะท�ำให้แห้งเร็ว 6. เมื่อยางรักแห้งแล้ว เอาเหล็กปลายแหลมขูดตกแต่งผิวที่ขรุขระให้เรียบ โดย ใช้เครื่องกลึงให้เรียบทั้งด้านนอกและด้านใน แล้วใช้กระดาษทรายขัดผิว ภาชนะให้ผิวเรียบเนียน 7. น�ำมาลงสมุก (เรียกสมุกว่า “มุก”) สมุกเหล่านี้ส่วนผสมของน�้ำรักกรองแล้ว 3 ส่วนผงขี้เถ้าแกลบเผาต�ำละเอียด 1 ส่วน (เมื่อทาสมุกที่ขอบปากด้านนอก แล้ว ผึ่งไว้ให้แห้งประมาณ 7 วัน) ปัจจุบันได้ใช้ดินสอพองแทนผงขี้เถ้าแกลบ เป็นส่วนผสมของสมุกรัก

เครื่องเขินนันทาราม

11


12

เครื่องเขินนันทาราม


8. ลงสมุกทั้งด้านนอกและด้านใน ผึ่งไว้ให้แห้งด้านละ 2 วัน สมุกตอนนี้ส่วนผสม คือ น�้ำรักที่กรองแล้ว 1 ส่วน ดินเหนียวละเอียดร่อนแล้ว 1 ส่วน น�้ำ 1 ส่วน เมื่ อ แห้ ง แล้ ว ใช้ ก ระดาษทรายขั ด ทั้ ง ด้ า นนอกและด้ า นในให้ เ รี ย บแล้ ว ทาสมุกเหลว (มุกเหลว) อีกครั้งหนึ่ง ผึ่งไว้ให้แห้งด้านละ 2 วัน (ถ้าหากเป็นฤดู ฝนจะแห้งประมาณ 4 วัน) 9. ทารักที่กรองแล้ว ทั้งด้านในและด้านนอก ผึ่งไว้ให้แห้ง (ด้านในและด้านนอก ใช้เวลาอย่างละ 2 วัน) แล้วขัดให้เรียบใช้กระดาษทรายน�้ำเบอร์ 220 ,800 ทั้ง ด้านนอกด้านใน ผึ่งไว้ให้แห้งใช้เวลา 2 วัน จากนั้น (ทารักและท�ำตามขั้นตอน เดิมอีก 2 ครั้ง รวมทั้งหมด 3 ครั้ง) 10. น�ำมาลงรักเงา (รักเงาอย่างดีที่ 1 กรองแล้ว) หรือถ้ารักไม่ดี ควรใช้ส่วนผสม ดังนี้ รักดิบ 2 กิโลกรัม รักเชื้อ 1 ถ้วย แมกนีเซียม 5 กรัม โปแตสเซียม 1 กรัม น�้ำ 100 กรัม น�้ำมันถั่ว 150 กรัม น�ำโปแตสเซียมไปตั้งไฟให้ละลาย และน�ำ น�้ำมันถั่วไปตั้งไฟให้อุ่น น�ำไปกวนกลางแดด ประมาณ 3-4 ชั่วโมง ก่อนจะน�ำ ไปทาต้องตักออกใส่ถ้วยแก้ว ใส่น�้ำมันสนกวนให้เหลวเข้ากันดีแล้วใช้ผ้าขาว บางและกระดาษสารองหลายๆ ชั้น กรองเสียก่อนจึงทาได้ การลงรักเงานั้น ลงด้านนอกแล้ว น�ำไปอบในห้องอบให้แห้งประมาณ 7 วัน เมื่อแห้งแล้วทารัก เงาด้านในแล้วน�ำเข้าห้องอบประมาณ 10 วัน เพื่อให้พื้นรักแข็งน�ำไป

เครื่องเขินนันทาราม

13


14

เครื่องเขินนันทาราม


ขุดลวดลายได้ดีการทารักเงาเป็นการทาครั้งสุดท้ายของขั้นตอนการลงรัก จึงต้องผึ่งในห้องเพื่อป้องกันฝุ่นละอองไปติด ถมด้วยทรายแล้วเอาน�้ำใส่พอให้ มีความชุ่มชื้น จะท�ำให้รักแห้งเร็วขึ้น 11. การฮายดอกหรือขุดด้วยเหล็กมีคมหรือแหลม เป็นลวดลายตามถนัด 12. การท�ำลายสีโดยการใช้สีฝุ่นผสมกับน�้ำปูนใส (ปูนขาว) ให้ส่วนผสมเท่า ๆ กัน ใช้กระดาษทรายละเอียดขัดให้เรียบ น�้ำสีจะติดอยู่ในร่องที่แกะหรือขุดไว้เป็น สีต่าง ๆ ตามที่ต้องการส่วนที่เหลือก็เป็นสีด�ำตามสีรัก ในสมัยก่อนเมื่อ 60-80 ปีมาแล้ว ใช้น�้ำปูนขุ่นผสมวัตถุอื่น ๆ เป็นน�้ำสี เช่นสีขาวก็ใช้น�้ำปูนขาวล้วน สีส้มใช้น�้ำปูนกับขมิ้นสีเหลืองใช้น�้ำปูนกับหรดาล (แร่ชนิดหนึ่งเป็นสีเหลือง เมื่อจะใช้น�ำมาผสมกับน�้ำจะได้สีเหลืองขุ่น ๆ ขณะนี้ยังนิยมใช้หรดาลอยู่กับ เครื่องเขินลายขุด) ถ้าเป็นสีแดงจะใช้น�้ำปูนแดงผสมสีเสียดและขมิ้น ปูนนี้ เวลาผสมจะเดือดปุด ใส่เกลือผสมลงไปเล็กน้อย น�้ำสีอย่างนี้ใช้ทาลงไปบน ภาชนะแล้วเอาผ้าเช็ด สีจะติดอยู่ในร่องที่แกะหรือขุดไว้ แต่ขณะนี้นิยมใช้ สีฝุ่นกันมาก

การตกแต่งลวดลายบนเครื่องเขิน การตกแต่งลวดลายลงบนเครื่องเขินที่เป็นแบบดั้งเดิมจะมีอยู่ 2 แบบ คือ การ เขียนลายขูด และการเขียนลาย ปิดทองรดน�้ำ ส่วยการตกแต่งแบบอื่นๆ นั้น เช่น การใช้เปลือกไข่ เกล็ดมุกมาตกแต่งประดับเป็นลวดลาย หรือมีการน�ำเอา เทคนิครักสีมาใช้ ท�ำให้เครื่องเขินมีสีสันแปลกตาแตกต่างออกไป มีการน�ำเอา สีอะครีลิคมาใช้เขียนสีบนผลิตภัณฑ์เครื่องเขิน เป็นต้น นอกจากนี้ก็มีการน�ำเอา เทคนิคการตกแต่งผลิตภัณฑ์เลียนแบบของเก่ามาใช้อกี ด้วย เหล่านีถ้ อื เป็นเทคนิค วิธีสมัยใหม่ที่พัฒนาขึ้นมาในภายหลัง

เครื่องเขินนันทาราม

15


16

เครื่องเขินนันทาราม


เทคนิคการขูดลาย เป็นวิธกี ารทีน่ ยิ มมากทีส่ ดุ ของพม่า คือ วิธขี ดู ผิวหรือจารให้เป็นลวดลายโดย มีรักด�ำเป็นพื้นลานที่ขูดออกเป็นร่องตื้นๆ จะถูกถมด้วยยางรักผสมสีต่างๆ เช่น สีชาดออกส้ม หรือแดง บางครั้งเป็นสีเขียว ซึ่งในการท�ำแต่ละขั้นตอนนั้นใช้เวลา นานดังนั้นการที่จะได้เครื่องเขินมาแต่ละชิ้นจึงใช้เวลานานเป็นอย่างมาก เครื่องเขินชนิดนี้มีโครงสร้าง เป็นโครงสานลายขัดด้วยเส้นตอกไม้ไผ่ ที่มีการเหลาให้ได้ขนาดเล็กเรียบบางคล้ายทางมะพร้าวสานขัดกับตอกเส้น บางแบนเป็นรูปแฉกรัศมีจากก้นของภาชนะจนได้รูปทรงตามความต้องการ โดยไม่ต้องมีการดามโครงให้แข็งเป็นที่ ที่เครื่องเขินชนิดนี้จะมีโครงที่แน่นแข็ง แรงเรียบเสมอกันโดยตลอด เมื่อทารักสมุกแล้วขัดก็จะได้รูปภาชนะที่ค่อนข้าง เรียบเกลี้ยงบาง และมีความเบาการตกแต่งของเครื่องเขิน ชนิดนี้มีลักษณะเด่น ที่นิยมการขูดลาย หรือภาษาพื้นถิ่นว่า ฮายดอก เทคนิคการตกแต่งผิดภาชนะ ด้วยวิธกี ารขูดลายนี้ ภาชนะทีจ่ ะท�ำลวดลายได้จะต้องมีผวิ บางรักทีแ่ ห่งสนิทและ เรียบร้อย การฮายดอกต้องใช้เหล็กปลายแหลมคล้ายเหล็กจารใบลาน กรีดลงไป บนผิวยางรักของภาชนะ การฮายดอกต้องอาศัยความช�ำนาญเป็นอย่างมาก โดยที่ ไม่ให้เกิดเส้นลึกมาก จนยางรักกะเทาะออก หรือแผ่วเบาเกินไปจนท�ำให้ลวดลาย มองเห็นได้ยาก เมือ่ ฮายดอกเสร็จแล้วจึงน�ำยางรักทีผ่ สมกับ ชาดสีแดงถมลงไปในร่องทีก่ รีด ไว้รอให้แห้งอีกหลายวันแล้ว จึงจะขัดส่วนนอกสุดออกจนมองเห็นเส้นลวดลาย สีแดงฝังอยู่ในพื้นที่สีด�ำของยางรัก จากนั้นจะเคลือบด้วยยางรักใสหรือรักเงา เพื่อเป็นการปิดเคลือบลวดลายทั้งหมดให้ติดแน่นกับภาชนะเครื่องเขินเหล่านั้น

เครื่องเขินนันทาราม

17


18

เครื่องเขินนันทาราม


เทคนิคการเขียนลาย (ปิดทองรดน�้ำ) การเขียนลายทองรดน�้ำ หลังจากเตรียมพื้นรักขัดผิวและแห้งสนิทแล้วก็ เตรียมการท�ำลวดลาย โดยการเขียนลายลงบนภาชนะเลย หรือจะใช้แบบปรุกไ็ ด้ แบบปรุท�ำจากกระดาษไขใช้เข็มปรุเป็นรูตามลาย จากนั้นใช้ดินสอพองเผาไฟบด ละเอียดห่อผ้าขาวบางท�ำเป็นลูกประคบแตะลงไปบนลายปรุสร้างเป็นลาย แล้ว เขียนลายด้วยน�้ำยาหรดาล ซึ่งได้มาจากหิน มีสีเหลือง น�ำมาละลายโดยฝนกับ หินลับมีด ผสมน�้ำแล้วเขียนลงบนพื้นรักบริเวณที่ไม่ต้องการให้ทองติด จากนั้น น�ำรักใสอย่างดี มาทาบางๆ แล้วน�ำทองค�ำเปลวมาปิดให้ทั่วจนเต็ม ถูทองค�ำเปลว ให้ตดิ แน่นดี น�ำไปล้างน�ำ้ หรือรดน�ำ้ ทองค�ำเปลวทีป่ ดิ ไว้บน ส่วนทีเ่ ป็นน�ำ้ ยาหรดาล จะพองตัวหลุดร่อนออกไป เหลือแต่สว่ นที่ เป็นลวดลายทองทีไ่ ม่ได้ลงน�ำ้ ยาหรดาล

เครื่องเขินนันทาราม

19


ประโยชน์ใช้สอยของผลิตภัณฑ์เครื่องเขินในปัจจุบัน เครือ่ งเขิน ในปัจจุบนั ถือว่าเป็นหัตถกรรมพืน้ บ้านชนิดหนึง่ เป็นสิง่ ทีม่ นุษย์ สร้างสรรค์ขึ้นเพื่อประโยชน์ใช้สอยมิได้อาศัยเครื่องจักรท�ำด้วยฝีมือตนเอง จะ เป็นการเลียนแบบจากสิ่งที่พบเห็นหรือตามความต้องการที่จะน�ำไปใช้งาน และ การตกแต่ง ประดับประดาให้สวยงามตามความเหมาะสม เช่น ตลับ ถาด แจกัน ขันน�ำ้ แอ่บยา กล่องใส่ยาเส้น เชีย่ นหมาก เป็นต้น รูปทรงของเครือ่ งเขินเป็นการ ก�ำหนดรูปแบบของวัตถุดว้ ยการออกแบบ หรือสิง่ ทีผ่ ลิตขึน้ ให้ได้ซงึ่ ความต้องการ ของผูใ้ ช้สอยความบันดาลใจของผูผ้ ลิตทีม่ รี ปู ลักษณะรูปร่างรูปทรงของเครือ่ งเขิน มาแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน สิง่ แวดล้อมมีสว่ นส�ำคัญในการก�ำหนดการออกแบบรูปทรง อันประกอบด้วย ความงาม ความรูส้ กึ และการขึน้ รูปด้วยมืออย่างมาก งานเครือ่ งเขินจึงได้รบั การ พัฒนาให้มคี ณ ุ ค่าทัง้ การผลิต การออกแบบและรูปทรงต่างๆ การสร้างรูปทรงของ เครื่องเขินแตกต่างกันตามประโยชน์ใช้สอยจองเครื่องเขินแต่ละชนิด

20

เครื่องเขินนันทาราม


เครื่องเขินนันทาราม

21


22

เครื่องเขินนันทาราม


ซึ่งถือได้ว่าเป็นลักษณะพิเศษไม่เหมือนเครื่องใช้อย่างอื่น สิ่งที่น่าสนใจอย่างมาก คือรูปแบบต่างๆ ตามหน้าที่ใช้สอยและการเน้นฝีมือการช่างความคิดสร้างสรรค์ ที่ใช้วัสดุพื้นบ้านมาใช้ให้เป็นประโยชน์เพี่อการด�ำรงชีวิตประจ�ำวันได้เป็นอย่างดี งานเครื่องเขินเป็นลักษณะงานหัตถกรรมและศิลปหัตถกรรมซึ่งมีความคล้ายคลึง กันและมีความแตกต่างกัน ช่างหัตถกรรมมีความสามารถเชิงศิลปะสูงสามารถ สร้างงานให้มีความงดงามเป็นที่ประทับใจแก่ผู้ใช้ผู้ชม อาจถือได้ว่างานหัตถกรรม นั้นเป็นงานศิลปหัตถกรรมมากกว่า จะท�ำเพื่อนใช้งานเท่านั้น ดังนั้นงานเครื่องเขินจึงประดิษฐ์ขึ้นเพื่อประโยชน์ใช้สอย ความงามและ ทั้งขบวนการผลิตการสร้างสรรค์ซึ่งได้รับการปรับปรุงเพื่อให้เกิดความประสาน สอดคล้องกับวิถชี วี ติ ของผูใ้ ช้ปจั จุบนั รูปทรงของผลิตภัณฑ์เครือ่ งเขินจึงมีบทบาท ควบคู่กับหน้าที่ใช้สอยจองผลิตภัณฑ์แต่ละประเภทอย่างมาก ดังนั้นคุณสมบัติ และหน้าที่ใช้สอยของรูปทรงผลิตภัณฑ์จึงจัดแบ่งออกได้ 4 ประเภทใหญ่ ๆ ดังนี้ 1. เครื่องเขินที่มีรูปทรงเพื่อบรรจุของเหลว เช่น กระบอก กระป๋อง ขวด ถ้วย จาน ชาม โถ ตลับ แจกัน เป็นต้น 2. เครื่องเขินที่มีรูปทรงเพื่อบรรจุของแข็ง เช่น กล่อง ตลับ หีบ กลัก ถ้วย จาน โถ ตู้ ถาด เป็นต้น 3. เครื่องเขินที่มีรูปทรงเพื่อการประดับตกแต่งกาย เช่น ก�ำไล ต่างหู สร้อยคอ หวี งอบ เป็นต้น 4. เครื่องเขินที่มีรูปทรงเพื่อการใช้สอยตกแต่งอาคารบ้านเรือน เช่น โต๊ะ เก้าอี้ เตียง ตั่ง ชิ้นงานแกะสลักต่าง ๆ เป็นต้น

เครื่องเขินนันทาราม

23


24

เครื่องเขินนันทาราม


งานเครื่องเขินพอที่จะแบ่งแยกที่มาของรูปทรงได้คือ รูปทรงธรรมชาติ รูปทรงเรขาคณิต รูปทรงประดิษฐ์และรูปทรงอิสระ รูปทรงธรรมชาติได้แก่ รูปทรงจากพืชพรรณไม้ และรูปทรงจากสัตว์รูปทรงเรขาคณิต ได้แก่รูปทรง กระบอก รูปทรงสี่เหลี่ยม รูปทรงรี รูปทรงแปดเหลี่ยม และรูปทรงสามเหลี่ยม รูปทรงประดิษฐ์ เป็นรูปทรงทีเ่ กิดจากจินตนาการของนักออกแบบโดยดัดแปลงมา จากสิ่งที่อยู่ใกล้ ตัวรูปทรงอิสระ เป็นลักษณะของรูปทรงที่ถูกสร้างสรรค์ขึ้นมา มีลกั ษณะเปลีย่ นแปลงไปตามความคิดฝันของผูอ้ อกแบบอาจจะมีความคล้ายคลึง กับธรรมชาติเดิมของวัตถุนั้นๆ เช่น คลื่นน�้ำ หยดน�้ำ เป็นต้น ความหลากหลาย ในรูปลักษณ์ของลายทีป่ รากฏบนงานเครือ่ งเขิน สามารถแบ่งแยกจัดหมวดหมูไ่ ด้ ตามลักษณะที่เรียกขานกันทั่วไปได้ดังนี้ 11. ประเภทลายประดิษฐ์ ได้รับความบันดาลใจจากลายไทยซึ่งเป็นศิลปะประจ�ำ ชาติน�ำมาออกแบบให้สอดคล้องกับผลิตภัณฑ์เครื่องเขินและประโยชน์ใช้สอย 22. ประเภทลายเลียนแบบธรรมชาติ ได้แก่ ลายดอกไม้ ลายภาพสัตว์และภาพ ทิวทัศน์ 33. ประเภทเรื่องราวเกี่ยวกับวรรณคดี ชาดก ศาสนา และความเชื่ออื่นๆ 44. ประเภทเบ็ดเตล็ด มีการเขียนลวดลายลงบนผลิตภัณฑ์ที่เป็นรูปทรงตัวสัตว์ ต่างๆ โดยลวดลายเหล่านี้ได้รับอิทธิพลจากลายไทย แต่ดัดแปลงให้ดูง่าย

เครื่องเขินนันทาราม

25


26

เครื่องเขินนันทาราม


เครื่องเขินในปัจจุบัน ปัจจุบันเครื่องเขินนันทารามมีการก้าวตามโลกที่ดีและทันสมัยมากเพื่อให้ คนรุ่นหลังได้เป็นที่รู้จักและได้รับความนิยมกัน เครื่องเขินในปัจจุบันมีการผลิต ออกมาหลายรูปแบบอย่างมากเพื่อตอบสนองความต้องการของโลกในปัจจุบัน เครือ่ งเขินถือเป็นภูมปิ ญ ั ญาท้องถิน่ ทีม่ กี ารวิวฒ ั นาการทีด่ ใี นเข้ากับสมัยนีแ้ ละทุก ยุคทุกสมัยเลย แต่กย็ งั คงเดิมทีเ่ ครือ่ งเขินมักจะเป็นสิง่ ของทีใ่ ช้เสมอความสวยงาม ความเป็นไทย ท�ำให้ในปัจจุบันนี้ได้รับความนิยมจากคนรุ่นหลัง เครื่องเขินในปัจจุบันนอกใจได้รับความนิยมภายในประเทศแล้วยังได้รับ ความนิยมจากต่างชาติอีกด้วยเนื่องจากสินค้าที่เกี่ยวกับเครื่องเขินพวกนี้ มีทั้ง ความสวยงามเดิมที่แสดงถึงภูมิปัญญาท้องถิ่นให้เป็นที่รู้จักทั่วโลก นอกจาก ความสวยงามแล้วยังเป็นความทนทานด้วย สามารถท�ำสินค้าเกี่ยวกับเครื่องน�ำ ไปใช้ได้จริงไม่ใช้เป็นเพียงของประดับตกแต่งและที่มาแรงในปัจจุบันก็เป็นพวก เครื่องประดับเขินที่ได้รับความนิยมจากผู้หญิงส่วนมากเพราะท�ำให้เห็นถึงศิลปะ ไทยที่ละเอียดอ่อนสวยงามไม่แพ้เครื่องประดับต่างชาติ และราคาก็ไม่ได้แพงมาก ทั้ ง หมดนี้ อ าจจะเป็ น การแปลงโฉมสิ น ค้ า หั ต ถกรรมไทยประเภท เครื่องเขินครั้งใหญ่ เนื่องจากมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบสินค้าของใช้ในบ้านไป สู่ของใช้ในชีวิตประจ�ำวัน และเข้าสินค้าที่คนรุ่นใหม่สามารถใช้ได้ทั้งสินค้าเคส โทรศัพท์มือถือ เคสไอแพด การสร้างสินค้าให้เข้าถึงลูกค้าได้ทุกกลุ่มไม่เว้นแม้แต่ กลุ่มคนรุ่นใหม่เป็นการปรับลุคของเครื่องเขินจากเดิมจะมีลูกค้าเฉพาะกลุ่มที่เป็น แฟนพันธุ์แท้เครื่องเขินที่นิยมน�ำไปใช้เป็นของตกแต่งบ้าน ของใช้ในวัด หรือส่ง ออกไปต่างประเทศ การขยายกลุ่มสินค้าเครื่องเขินไปยังสินค้ากลุ่มไอทีหลาก หลายมิติ ทั้งเคสโทรศัพท์มือถือเคสไอแพดหรือสินค้าไอทีต่างๆ รวมทั้งมีการน�ำ วัสดุโพลีเมอร์มาผสมใช้กับงานไม้ เพื่อให้สินค้ามีความคงทนและมีสีที่ติดทนนาน คงลวดลายไทยไว้ได้ยาวนาน จึงได้สินค้าแต่ละแบบที่มีเอกลักษณ์ และสินค้าบาง รายการมีชิ้นเดียวในโลก เครื่องเขินนันทาราม

27


28

เครื่องเขินนันทาราม


เครื่องเขินนันทาราม © 2015 (พ.ศ. 2558) โดย สิริญา จิโนตัน สงวนลิขสิทธิ์ พิมพ์ครั้งแรกเมื่อ ตุลาคม พ.ศ. 2558 จัดพิมพ์โดย ภาควิชาศิลปะไทย คณะวิจิตรศิลป์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เรียบเรียงและออกแบบโดย สิริญา จิโนตัน ออกแบบโดยใช้ฟอนท์ TH Sarabun New หนังสือเล่มนี้เป็นส่วนหนึ่งของการเรียนการสอน เพื่อส่งเสริม และต่อยอดศักยภาพการศึกษา ภายในภาควิชาศิลปะไทย คณะวิจิตรศิลป์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่



Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.