ชื่อผลงานสร้างสรรค์ (ภาษาไทย) โครงการออกแบบพิพิธภัณฑ์และอาคารปฏิบัติธรรม วัดมกุฏคีรีวัน จ.นครราชสีมา ชื่อผลงานสร้างสรรค์ (ภาษาอังกฤษ) Museum and Dhamma Retreat Building Design Project for Watmakutkiriwan Nakornratchasrima ชื่อผู้สร้างสรรค์ (ภาษาไทย) ปิติ คุปตะวาทิน ชื่อผู้สร้างสรรค์ (ภาษาอังกฤษ) Piti Khuptawathin ที่มาและความสําคัญของการสร้างสรรค์ผลงาน จากการได้พบกับพระญาณดิลก เจ้าอาวาสวัดมกุฏคีรีวัน ได้ความว่า จำนวนสิ่งของที่ได้รับบริจาคในวัดมกุฏคีรีวัน เริ่มมีจํานวนมากขึ้น สิ่งของบางอย่าง เป็นของที่มีคุณค่า ทางโบราณคดี เช่น เทวรูป พระพุทธรูปโบราณเหมาะกับการเก็บรักษาเพื่อใช้เป็นที่ศึกษาหาความรู้และเผยแผ่แก่บุคคลผู้สนใจทั่วไป และยังมีผลิตภัณฑ์ ข้าวของเครื่องใช้ต่างเช่น เครื่องเคลือบดินเผาและอุปกรณ์ที่ใช้ในชีวิตประจําวันต่างๆที่เจ้าของไม่ต้องการแล้ว ซึ่งวัตถุจัดแสดงค่อนข้างมีความหลากหลายมาก ในขณะเดียวกัน เริ่มมีจํานวนผู้สนใจมาใช้สถานที่ภายในวัด จัดกิจกรรมและสัมนาเป็นหมู่คณะ เช่น การเข้าค่ายจริยธรรม การบรรพชาหมู่ การสัมนา และธรรมปฏิบัติที่จัดขึ้นตลอดทั้งปี ทั้งจากภาคเอกชนและหน่วยงานของรัฐ ซึ่งเป็นกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมโดยส่วนรวม แต่ปัญหาสิ่งหนึ่งที่พบขณะนี้ คือสถานทีท่ ใี่ ช้ในการเก็บรักษาและจัดกิจกรรมข้างต้นนั้นยังไม่เพียงพอ ดังนั้นการเพิ่มพื้นที่ทมี่ ีประโยชน์ใช้สอยตอบสนองความต้องการข้างต้น จึงมีความจําเป็นและเหมาะสม
ภาพที่ 1 : ภาพถ่ายทางอากาศที่ตั้งอาคาร 14.483170N, 101.543330E ที่มา : Imagery©2014DigitalGlobe
วัตถุประสงค์ของการสร้างสรรค์ผลงาน 1.เพื่อสร้างพื้นที่ใช้งานให้เพียงพอ 2.เพื่อสร้างพื้นที่ใช้งานที่สามารถปรับใช้ในการจัดกิจกรรมอื่นๆได้หลากหลาย เอนกประสงค์ เช่น เดินจงกรม นั่งสมาธิ ที่เก็บวัตถุโบราณและเป็นพิพิธภัณฑ์เพื่อการศึกษาหรืออื่นๆ
แนวความคิด ที่มาของการออกแบบอาคารนั้น เพื่อสร้างบรรยากาศให้สอดคล้องกับการใช้เวลาในการพิจารณา วัตถุจัดแสดงภายนอกและสภาพใจภายในอย่างค่อยเป็นค่อยไป(linger)อันเป็นมูลเหตุชองการศึกษาเพื่อนําไปสู่ความเข้าใจ จนสามารถหยั่งเข้าถึงธรรมและเกิดโพธิปัญญา(awakening wisdom) หรือธรรมะที่ทําให้เกิดการตื่นรู้ จากการใช้การพิจารณาจนเข้าใจว่าอะไรเป็นอะไรเป็นแก่นสําคัญ ทั้งนี้ การกําหนดการเข้าถึงที่ว่างในแต่ละส่วน ตั้งแต่ส่วนล่างสุด ไปยังวัตถุจัดแสดงในส่วนของพิพิธภัณฑ์ซึ่งเป็นของมีค่า ที่ซึ่งสุดท้ายแล้วเจ้าของมิอาจนําติดตัวไปได้เลย และเพื่อให้สัมผัสรูต้ ่อสภาพจิตภายในของผู้ดูไปทีละชั้น จนถึงชั้นบนสุดที่เหลือแต่ตัวผู้ปฏิบัติเท่านั้นที่ถูกพิจารณาตัวของตัวเอง การออกแบบตัวอาคารวางแกนยาวขนานไปกลับแนวแกนของดวงอาทิตย์เพื่อลดการดูดซับความร้อนจากแสงอาทิต ย์โดยตรง ลักษณะการออกแบบเน้นการก่อสร้างที่รวดเร็วจึงนําโครงสร้างเหล็กมาใช้เป็นโครงสร้างหลักของอาคาร และแผ่นไม้ภายในวัดที่มีอยู่จํานวนมากถูกนํามาใช้ในการทําแผ่นบังตาภายนอก ซึ่งต้องออกแบบลักษณะ ของการยึดจับแผ่นไม้ให้สามารถปรับระยะช่องไฟระหว่างแผ่นและ สามารถถอดเปลี่ยนได้ในอนาคต หากสามารถใช้วัสดุทดแทนชนิดอื่น หากแผ่นไม้เหลือใช้ภายในวัดหมดไป ทั้งนี้เพื่อสะท้อนแนวคิดของวัฏจักร การใช้งานของวัตถุภายนอกที่ครั้งหนึ่งอาจไม่มีประโยชน์กับสิง่ หนึ่งแต่อาจมีประโยชน์กับอีกสิง่ หนึ่ง
ภาพที่ 2 : ภาพร่างแนวคิดเบือ้ งต้นด้านทิศใต้
2
ภาพที่ 3 : ภาพร่างแผงด้านนอก
ภาพที่ 4 : ภาพร่างทัศนียภาพด้านทิศตะวันออก
กระบวนการของการสร้างสรรค์ผลงาน 1. ศึกษาสถานที่ หาความเหมาะสม ข้อจํากัดของที่ตั้ง รูปแบบและความเป็นไปได้กับการออกแบบและสร้าง 2. ศึกษารูปแบบโครงสร้างเหล็กและงานคอนกรีตที่เหมาะสมโดยการค้นคว้า ข้อมูลด้านเอกสาร และสืบค้นออนไลน์ 3. ศึกษาวัสดุ งานระบบพื้นฐานและเทคนิคการก่อสร้างทางวิศวกรรมจากตําราและการบอกเล่าจากผู้รู้ 4. กําหนดแนวทางการออกแบบ กําหนดพื้นที่ใช้สอย ร่างแบบ พัฒนาแบบ เลือกแบบ 5. จัดทําหุ่นจําลองสามมิติ 6. จัดทําเขียนแบบเพื่อก่อสร้าง เสนองบประมาณและแผนการดําเนินงาน
3
เทคนิคในการสร้างสรรค์ผลงาน Solidworks, Multi-Jet Modeling1 (3DPrinting)
ภาพที่ 5 : ทางเข้าด้านหน้า
ภาพที่ 6 : ภาพ Isometric view ของไฟล์นามสกุล .STL(Stereolithography)2 สําหรับเข้าเครื่องพิมพ์
1
กระบวนการทีพ่ ลาสติกที่มีความอ่อนไหวหรือมีปฏิกริยาเร็วต่อแสงอัลตร้าไวโอเล็ต(UV)และวัสดุที่ช่วยพยุงชิ้นงาน(support Material)ซึ่งเป็นแว็กซ์(wax)ถูกฉีดผ่านหัวเครื่องพิมพ์สามมิตขิ นาดเล็กๆหลายหัว 2
นามสกุลของไฟล์มาตรฐานที่ส่งออกจากโปรแกรมการออกแบบเชิงตัวแปร (Parametric program)เช่น CATIA, ProEngineer และSolidworks เพื่อใช้สําหรับการพิมพ์สามมิติในปัจจุบัน
4
วัสดุ อุปกรณ์ในการสร้างสรรค์ผลงาน วัสดุในการทําหุ่นจําลอง : Wax, VisiJet®(translucent), เครื่องพิมพ์สามมิติ ProJet® 5000
ขนาดของผลงานสร้างสรรค์ ขนาดหุ่นจําลอง : 120x450x90 มิลลิเมตร (มาตราส่วน 1 : 96) ขนาดจริง : พื้นที่ใช้สอยประมาณ 3,600 ตารางเมตร ผลที่ได้รับจากการสร้างสรรค์ จากการศึกษาหรือค้นหารูปแบบที่เหมาะสมกับการก่อสร้างนั้น โครงสร้างเหล็กถูกเลือกมาใช้เป็นโครงสร้างหลักของตัวอาคารเพราะความสะดวกรวดเร็วในการก่อสร้าง ตัวอาคารแบ่งพื้นที่ ไปตามการใช้งาน ชั้นล่างใช้สําหรับเป็นพื้นที่เอนกประสงค์ใช้ทํากิจกรรมต่างๆ เป็นพื้นที่โล่ง ลักษณะเป็นพื้นที่เปิดทุกด้าน มีทางเดิมต่อเนื่องถึงกันโดยรอบ ทางเข้าหลักอาคารเป็นแบบเข้า-ออก ทางเดียว และวางตําแหน่งทางลาดเอียงสําหรับผู้สูงอายุและรถเข็นคนพิการ ด้านบนเจาะช่องเปิด ถึงชั้นสามเพื่อเปิดรับเป็นปล่องแสงจากด้านบน ให้แสงธรรมชาติ เพิ่มความสว่างให้แก่ตัวอาคาร ลักษณะการเดินต่อเนื่องไปถึงชั้นที่สอง ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์ เก็บโบราณวัตถุจัดแสดงต่างๆ ในห้องซึ่งถูกกั้นระหว่างผนังเบาและแผงบังตาภายนอก(Facade) ทําให้เกิดช่องว่างภายในเป็นสองชั้นและถูกกําหนดเป็นอุโมงค์ทางเดินโดยรอบพื้นที่จัดแสดง ในขณะทีช่ ั้นสามเป็นพื้นที่โล่งกว้างไว้ใช้สําหรับเดินจงกรมและกรรมฐานสมาธิ เปลือกของตัวอาคาร โดยรอบเป็นผูก้ ําหนดบุคลิกของอาคารโดยรวม ซึ่งให้ความรู้สึกโปร่ง จากมุมมองภายใน ยินยอมให้แสงภายนอกแทรกสะท้อนเข้าสู่ตัวอาคารได้ แผ่นไม้ใช้แล้วที่ถูกนํามาเป็นแผ่นผิว(skin) ให้ความรู้สึกแตกต่าง แก่ผใู้ ช้ขณะเข้าถึงตัวอาคาร
ภาพที่ 7 : ภาพร่างบริเวณโถงและช่องแสง
5
ภาพที่ 8 : ภาพร่างบริเวณโถงและช่องแสงด้านหน้า
ทางเข้า-ออกหลัก(horizontal entrance) ต่อเนื่องกับทางขึ้น-ลงหลัก (vertical circulation) และถูกกําหนด ให้อยู่ในตําแหน่งเดียวกัน พร้อมกับวางตําแหน่งที่เจาะช่องโล่ง ให้อยู่ในแกนเดียวกันกับแกนแนวตั้ง เพื่อต้องการให้ขณะเดินขึ้น-ลง สามารถมองเห็นวัตถุบริเวณโถงที”่ อาจ”มีขนาดใหญ่ ซึ่งอาจต้องการพื้นที่มากขึ้น และเป็นเหมือนโถงโล่ง หน้าบันไดทีเ่ น้นการหมุนเวียนของการเดินขึ้น-ลง นอกจากนี้ยังสามารถมองเห็นพื้นที่ ชั้นอื่นๆได้ขณะเดิน การเจาะ หลังคาบริเวณดังกล่าว เพื่อนําแสงธรรมชาติเข้ามา และเน้นที่ว่างภายในพื้นที่ของอาคารเพื่อสร้างความรู้สึกพิเศษ ให้แก่โถงด้วยเช่นกัน
6
บรรณานุกรม จันทร์เด่นดวง, ฉัตรชัย. เทคโนโลยีการสร้างต้นแบบรวดเร็ว ศูนย์เทคโนโลยีและวัสดุแห่งชาติ สํานักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี. กรุงเทพฯ : ซีเอ็ดเอ็ดดูเคชั่น, 2546. Moussavi, Farshid. and Kubo, Michael. The Function of Ornament : Studio at Harvard University Graduate School of Design, Actar, 2006. Kottas, Dimitris. and Boto, Carles. The Architect’s Handbook, Spain: Linksbooks, 2006. 3Dprinter. What is 3D printing?(online). Access on 29 July 2014. Available from http://www.3dprinter.net/reference/what-is-3d-printing Anvilprototype. 3D printers : Multijet Modeling (online). Access on 24 August 2014. Available from http://anvilprototype.com/3d-printers/multijet-modeling/
7