ฉบับแรก
พอใจ ชวนชื่น เรื่องราวสนุกๆของเด็กหญิงพอใจ ที่ทําให้ทุกคน...อมยิ้ม...ไปกับความน่ารักของเธอ แจกยิ้มกันฟรีๆ ห้ามจําหน่าย
เชิญชมพอใจ พอใจชวนชื่น ตอน หัวหนูก...หน้า ๔ พอใจชวนชื่น ตอน เรื่องตลก...หน้า ๖ พอใจชวนชื่น ตอน การทะเลาะกันของเด็กอนุบาล...หน้า ๗ ที่รดน้ําต้นไม้พอใจสั่งมา...หน้า ๘ พอใจชวนชื่น ตอน รดน้ําต้นไม้...หน้า ๑๔ พอใจชวนชื่น ตอน รดน้ําต้นไม้ (ภาค ๒)...หน้า ๑๕ พอใจชวนชื่น ตอน ทําไมไม่มาถ่ายรูป...หน้า ๑๖ พอใจชวนชื่น ตอน ดาวเด็กดี...หน้า ๑๗ พอใจชวนชื่น ตอน ตดชื่น...หน้า ๑๘ พอใจชวนชื่น ตอน กุหลาบ หรือ บัว ๔ เหล่า...หน้า ๑๙ พอใจชวนชื่น ตอน ไปเวียนเทียน...หน้า ๒๐ พอใจชวนชื่น ตอน แบ่ง ไม่ แบ่ง...หน้า ๒๑ พอใจชวนชื่น ตอน หนูอยากช่วย...หน้า ๒๒ “กําความทรงจําไว้ให้แน่น”...หน้า ๒๒
พอใจชวนชื่น เรื่องราวของเด็กหญิงพอใจ ผู้ที่สร้างรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ ให้กับผู้คนรอบข้างเสมอ ทุกๆคนจึงเรียกเธอว่า “พอใจชวนชื่น” เรื่องราวน่ารักๆ แสนซน จะทําให้คุณหลงรักเธอ มาอมยิ้มกับเรื่องน่ารักไปพร้อมกัน ถ้าเมื่อไรที่คุณอมยิ้ม...แสดงว่า... คุณตกหลุมรักสาวน้อยคนนี้ไปซะแล้ว
บันทึกเรื่องราว โดย น้าแป๋ม
พอใจชวนชื่น ตอน หัวหนูก หลังจากหมดค่ายในช่วงปิดเทอม ทุกวันเสาร์ พอใจก็เริ่มไปเรียนภาษาอังกฤษ กับ เปียโน ก็ POR-JAI เลยต้องหยุดเรียนศิลปะไปโดยปริยาย ซึ่งก็เป็น ที่ชอบใจของพอใจอยู่แล้ว ในทุกๆเสาร์พอใจจะ ทําตัวเงียบๆ เรียบร้อย และคอยหลบสายตาน้า แป๋มตลอดเพราะว่ากลัวน้าแป๋มจะเรียกให้ไป เรียนศิลปะ ไม่ได้มีอะไรหรอกแต่พอใจไม่อยาก เรียนพูดง่ายก็คือขี้เกียจนั่นแหละ ʻก็เรียนมาแล้ว ตั้งแต่วันจันทร์ถึงศุกร์ วันเสาร์พอใจก็อยากพัก อยากเล่นบ้างนี่นาʼ พอใจคงจะคิดแบบนี้ และก็ หาทางทุกวิถีทางเพื่อจะไม่ต้องเรียนศิลปะในวัน เสาร์ในที่สุดก็ยอมไปเรียนภาษาอังกฤษ กับ เปีย โน เวลาผ่านไปประมาณ ๒-๓ สัปดาห์ จนกระทั่งถึง วันเสาร์อีกครั้ง ประมาณบ่ายโมงกว่าครูแหลม ครูนิด ก็พาพี่เพียรกับพอใจ กลับมาจากการ เรียนพิเศษ พอใจเดินร่าเริงลงมาจากแต่พอถอด รองเท้าเดินเข้ามาในโรงเรียน ก็ต้องหยุดชะงัก ตกใจทันทีเพราะหันมาเจอน้าแป๋มพอดี (ทั้งโรงเรียนศิลปะแหลมคมคนที่พอใจกลัวมากที่สุดก็คือน้าแป๋ม ) “หนู...ไปเรียนภาษาอังกฤษมา” พอใจรีบบอกทันที “แล้วคุณครูเค้าสอนอะไรบ้างล่ะ” น้าแป๋มได้ทีแกล้งพอใจ “เอ่อ...หนูไม่รู้ค่ะ” พอใจตอบ แบตะกุกตะกัก “ไม่รู้ได้ยังไง...แสดงว่าเวลาครูสอนพอใจไม่ตั่งใจเรียนนะสิ อย่างนี้ไม่ก็ต้องเรียนไป เรียนหรอก เดี๋ยวน้าแป๋มสอนให้เองก็ได้” พอใจได้ยินคําว่า ʻเดี๋ยวน้าแป๋มสอนให้เองก็ได้ʼ พอใจก็คิดออกมาทันที “อ๋อ...หนูจําได้แล้ว คุณครูสอนหนูเขียนตัวนี้ค่ะ” ว่าแล้วพอใจก็รีบไปหยิบกระดาษกับ ดินสอมาเขียนตัว ซี C ให้ดู “แล้วมันคือตัวอะไรล่ะ” น้าแป๋มยังแกล้งพอใจไม่เลิก “หนูจําไม่ได้” พอใจทําหน้าเศร้าๆ แต่น้าแป๋มน่ะแอบยิ้มที่แกล้งพอใจได้สําเร็จ “ตั้งแต่อาทิตย์หน้าเป็นต้นไป ถ้าไปเรียนมาแล้วกลับมาเล่าให้ฟังไม่ได้ว่าคุณครูสอน อะไรมาบ้าง พอใจก็เลิกเรียนไปเลยนะ เพราะถือว่าคุณพ่อ คุณแม่ และน้าๆ ทํางานสอ นพี่ๆจนเหนื่อยหาเงินให้พอใจไปเรียนหนังสือแล้วพอใจก็ยังไม่ตั้งใจ...ตกลงมั๊ย” พอใจ ทําท่าจะร้องไห้แล้วตอบตกลงหันหลังเดินเข้าห้องทํางานไปเลย
น้าแป๋มรีบตามไปแอบดูว่าพอใจร้องไห้หรือเปล่าแต่ที่ไหนได้ “พี่เพียรเรามาเล่น........” ร่าเริงสดใสเหมือนเดิมเหมือนเมื่อตะกี้ไม่ได้เกิดอะไรขึ้นกับ พอใจเลย น้าแป๋มล่ะงง บ่าย ๓ โมงก็ได้เวลา ๒ คนพี่น้องไปเรียนดนตรี พอกลับมาพอใจก็รีบวิ่งมาหาน้าแป๋ม แล้วเล่าว่า “วันนี้หนูเรียนเพลงขนมปังกรอบค่ะ” “แล้วร้องยังไงล่ะ” น้าแป๋มถามเพราะอยากรู้ว่าพอใจตั้งใจเรียนหรือเปล่า “มี เร โด -มี เร โด -โด โด -เร เร -มี เร โด” พอใจนั่งท่องโน้ตเพลงขนมปังกรอบให้น้า แป๋มฟัง “แล้วนิ้วล่ะ กดยังไง ใช้นิ้วนิ้วชี้ก่อนใช่มั๊ย” น้าแป๋มแกล้งถามพอใจแบบผิดๆ “ไม่ใช่ค่ะต้องทําแบบนี้” แล้วพอใจก็สาธิตการใช้นิ้วอย่าถูกวิธีให้น้าแป๋มและทุกๆคนดู พอทําเสร็จทุกคนก็ปรบมือชมจนพอใจยิ้มหน้าบาน ขณะที่นั่งรถกลับบ้านพอใจก็บอกกับครูนิดว่า “คุณแม่คะจริงๆแล้วหนูตั้งใจนะคะ แต่เพื่อนเล่นกัน คุยกันเสียงดังจนหนูหัวหนูก ไม่มี สมาธิเลยค่ะ” ครูนิดฟังพอใจเล่าจบก็รีบโทรศัพท์มาเล่าให้น้าแป๋มฟัง แล้วให้ทายว่าคํา ว่า หัวหนูก ของพอใจหมายถึงอะไร ก็หมายถึง หูหนวกนั่นเองเปิดดิก เสริทกูเกิ้ลแทบ ไม่ทันกันเลยทีเดียว
พอใจชวนชื่น ตอน เรื่องตลก
“แป๋มเมื่อวานพอใจกลับมาเล่าให้พี่ฟังว่า คุณแม่ค่ะวันนี้หนูเล่าเรื่องตลกให้เพื่อฟัง เพื่อนๆก็ขํากันใหญ่เลยค่ะ” ครูนิดเล่าให้น้าแป๋มฟังเมื่อไปส่งพอใจกับพี่เพียรที่โรงเรียน แล้วกลับมาที่โรงเรียนศิลปะแหลมคม “แล้วเพื่อนก็เล่าเรื่องตลกให้หนูฟังแล้วหนูก็ขําค่ะ” ครูนิดเล่าให้ฟังต่อ “แล้วพอใจเล่าเรื่องอะไรล่ะคะ” น้าแป๋มถาม “พี่ก็ไม่รู้เหมือนกัน พอใจก็บอกนะแต่พี่ฟังไม่รู้เรื่อง” ครูนิดบอกแล้วก็ขํา ทุกคนก็ขํา “สงสัยเพื่อนก็คงฟังพอใจไม่รู้เรื่อง และพอใจก็ฟังเพื่อนๆไม่รู้เรื่อง ก็เลยขํากันแน่ๆเลย” น้าแป๋มสันนิฐาน “ใช่...ก็พูดไม่ชัดกันทั้งห้องเลย” ครูนิดเสริมให้ แล้วทุกคนก็หัวกับเรื่องตลกที่ไม่มีใครรู้ เรื่องของพอใจ ขนาดไม่ได้ฟังเองยังตลกขนาดนี้ ถ้าได้ฟังเองจะตลกขนาดไหนนะ ฮ่าๆ ๆๆ......
พอใจชวนชื่น ตอน การทะเลาะกันของเด็กอนุบาล
พอใจเริ่มไปโรงเรียนได้ ๕ วันแล้ว พวกน้าๆที่โรงเรียนก็ตื่นเต้นไม่แพ้ครูแหลมกับครู นิด คอยถามข่าวคราวของพอใจทุกครั้งที่ครูแหลมกับครูนิดเข้ามาที่โรงเรียน “ไม่อยากจะเชื่อเลยพอใจขึ้นอนุบาล ๒ แล้วเหรอนี่” ทุกคนชอบพูดอย่างนี้ ครูนิดเล่าให้ฟังว่า พอใจไม่ร้องไห้เลย แถมยังไปช่วยคุณครูปลอบเพื่อนๆที่ร้องไห้ด้วย และสิ่งที่ทําให้พอใจชอบทีจะไปโรงเรียนก็คือ ʻอาหารʼ ระหว่างเดินขึ้นตึกอนุบาลทุก ครั้งจะต้องผ่านโรงอาหาร พอใจจะต้องหยุดสูดกลิ่นอาหารอันหอมหวนเย้ายวนใจเข้า ให้อิ่มจนเต็มปอด เลียปากแผล็บๆ แล้วจึงเดินขึ้นตึก และวันนี้ วันศุกร์ที่ ๖ มิถุนายน ๒๕๕๑ ก็เกิดเรื่องขึ้นมาจนได้ ประมาณบ่าย ๓ โมงครึ่ง ครูนิดก็โทรศัพท์มาหาน้าแป๋ม “แป๋ม วันนี้พอใจทะเลาะกับเพื่อนเดี๋ยงฟังพอใจเล่านะ” ครูนิดพูดไปหัวเลาะไปแล้วส่ง โทรศัพท์ให้พอใจ “ก็เพื่อนน่ะค่ะเค้าพูดคําว่า ʻบ้าʼ หนูบอกไม่ให้พูด เพราะว่าพูดแล้วจะตกทะลก (หมาย ถึงตกนรก) เป็นเปรต ปากเท่ารูเข็ม แล้วเพื่อนก็โกรธแล้วเอาดินสอมาขีดที่แขนเสื้อหนู ค่ะ” พอใจเล่าให้น้าแป๋มฟังผ่านโทรศัพท์อย่างเสียงดังฟังชัดสําเนียงไม่ชัด “อ้าว...แล้วพอใจทํายังไงล่ะ” น้าแป๋มถามและพยายามกั้นหัวเราะ “หนูก็เอายางลบ ลบที่เสื้อค่ะ...แต่หนูลบเท่าไหร่ก็ไม่ออก” ถึงตอนนี้พอใจพูดด้วยน้ํา เสียงเคืองๆเล็กน้อยที่เสื้อมันลบไม่ออก “แล้วยังไงต่อพอใจ” น้าแป๋มถามอีกเพราะอยากรู้ว่าเรื่องมันจะจบยังไงกําลังสนุกเลย
ที่รดน้ําต้นไม้ (พอใจสั่งมา)
วันเสาร์หลังจากพอใจไปเรียนพิเศษและกลับมาที่โรงเรียนศิลปะแหลมคม พอก็รีบมา รายงานกับน้าแป๋มว่าวันนี้คุณครูสอนอะไรไปบ้าง เมื่อพอใจเล่าจบน้าแป๋มก็ใช้งาน พอใจทันที “พอใจเมื่อวานน้าแป๋มไปซื้อต้นไม้มา วางไว้อยู่ที่หน้าห้องยังไม่ได้เอาไปไว้ข้างนอก เลย พอใจช่วยจัดการหน่อยได้มั๊ยคะ” “อ้อ...ได้เลยเลยค่ะ” เป็นงานที่พอใจชอบอยู่แล้วพอใจก็เลยยินดีที่จะช่วยน้าแป๋ม ว่า แล้วพอใจก็วิ่งขึ้นไปบนชั้น ๒ วิ่งไปที่หน้าห้องแล้วก็ไปยกกระถางต้นไม้ลงมาข้างล่าง แล้วเดินออกไปข้างนอก พอดีป้าเขียวเห็น “อ้าวพอใจจะเอาต้นไม้ไปไว้ไหนล่ะ” พอใจทําท่า..งงๆ..ยืนอยู่ที่ประตู “ก็น้าแป๋มให้หนูช่วยเอาไปไว้ข้างนอก” พอใจตอบ “เอาไปไว้ข้างนอก หมายถึงข้างนอกที่ระเบียงชั้น ๒ นู่น” น้าแป๋มบอกพอใจอีกที พอใจยืนขําตัวเองพร้อมกับทุกๆคนก็ขํา แล้วก็รีบถือกระถางวิ่งไปข้างบนชั้น ๒ อีกรอบ ไปเจอน้าแจงตากผ้าอยู่บนชั้น ๒ พอดี ก็เลยบอกน้าแจงว่า “หนูคิดว่า...หนูชอบทําสวนมากๆเลยค่ะ” แล้วไปยกกระถางต้นไม้ที่เหลือมาวางไว้ด้วย กัน แล้วก็จัดให้สวยงามแบบพอใจ เสร็จแล้วก็ลงมาอยู่ขางล่างเพราะข้างบนร้อนมากๆ บ่ายๆพอใจก็นึกขึ้นได้ว่ายังไม่ได้รดน้ําต้นไม้ก็จะขึ้นไปรดน้ําต้นไม้ให้อีก กําลังจะวิ่งขึ้น ไปก็ถูกครูนิดสกัดดาวรุ่งซะก่อน “พอใจจะไปไหน” “หนูจะไปรดน้ําต้นไม้ให้น้าแป๋ม” พอใจตอบคุณแม่แถมยังเอาชื่อน้าแป๋มมาอ้างอีก “ตอนนี้แดดมันยังร้อนอยู่...แม่ว่าเย็นๆค่อยขึ้นไปรดก็แล้วกัน” ครูนิดบอก พอใจก็เลย
ไม่ได้ขึ้นไปรดน้ําต้นไม้เลย พอเย็นแดดร่มลมตก น้าแป๋มก็เลยชวนพอใจขึ้นไปรดน้ํา ต้นไม้ แต่ไม่มีฝักบัวรดน้ําพอใจก็เลยต้องเอาถังน้ํารองน้ําแล้วใช้ขันตักไปรดทีละต้นจน เสร็จ “น้าแป๋ม...หนูว่าน้าแป๋มควรจะหาที่รดน้ําต้นไม้สําหรับเด็กไว้ให้หนูซักอันนะคะ” พอใจ บอกเชิงต่อว่าที่ไม่มีฝักบัวรดน้ําต้นไม้ให้ ที่จริงมันก็เคยมีอยู่แต่มันแตกไปแล้ว พูดจบ พอใจก็เดินลงไปข้างล่างเลนกับพี่ๆต่อปล่อยให้น้าแป๋มยืนคิดอยู่คนเดียวว่าจะไปหาที่ รดน้ําต้นไม้สําหรับเด็กมาจากไหน
หลายวันต่อมา...น้าแป๋มเดินเข้าเดินออกหลังบ้านก็หันไปเห็นที่ตระกร้า ขยะของป้าเขียวว่ามีขวดน้ําใบใหญ่ๆอยู่ก็เลยคิดได้ว่าเราน่าจะเอามาทําที่รดน้ําต้นไม้ สําหรับเด็กให้คุณพอใจตัวแสบได้ ว่าแล้วก็ไม่รอช้ารีบลงมือทําทันที
อุปกรณ์
๑. ขวดหรือถังใส่น้ําขนาดที่ต้องการ (สําหรับทําตัวถัง) ๒. ขวดน้ําเปล่า ๑ ใบ (สําหรับทําฝักบัว) ๓. ท่อ PVC ที่ไม่ใช้แล้ว ๔. ปืนกาว ๕. ลวด ๖. อุปกรณ์ช่างต่างๆ เช่น เลื่อย สว่าน ตะปู
วิธีทํา
๑. นําขวดหรือถังใส่น้ํา มาตัดให้ได้ขนาดที่ต้องการ
๒. ตัดท่อ PVC (ความยาวกะเองตามใจชอบ) ตัดให้ข้างหนึ่งตรง อีกข้างหนึ่งเฉียง
๓. เจาะรูที่ถังใส่น้ําด้านล่างเพื่อเอาไว้ใส่ท่อ PVC ด้านเฉียง
๔. ตัดขวดน้ําเป็น ๓ ส่วน โดยที่เราจะใช้ส่วนหัวและส่วนท้ายนํามาประกบกันเป็นฝักบัว
๕. นําท่อ PVC ด้านตรงมาต่อเข้ากับฝักบัว ถ้าขนาดปากขวดกับปากท่อพอดีกันให้ใช้ วิธี เฉือนปากท่อให้บางนิดหน่อย แล้วใช้ไฟลนให้พลาสติกอ่อนและค่อยๆดันท่อเข้าไป ให้สุดขอบปากขวดด้านใน
๖. ประกอบส่วนที่เป็นฝักบัวให้เข้ากับตัวถัง ใส่สลักด้านในเพื่อไม่ให้ท่อหลุดออกจาก ตัวถังโดยวิธีเจาะรูด้านในแล้วเอาไม้เสียบลูกชิ้นเหลาให้ได้ขนาดพอดีกับรูแล้วเสียบลง ไปในรูที่เจาะไว้
๗. ใช้ปืนกาวยิงกาวอัดระหว่างรอยต่อของถังกับฝักบัวเพื่อให้แน่นขึ้น และกันน้ํารั่ว
๘. ขั้นตอนนี้ลืมไม่ได้ เจาะรูที่ฝักบัวด้วนนะคะ ใช้ตะปูลนไฟแล้วทิ่มเลยค่ะ หรือใช้สว่าน ช่วนเจาะก็ได้
๙. ทําที่จับโดยใช้ไม้ขนาดเท่ากับความกว้างของตัวถังแล้วยึดด้วยน็อตทั้งหัวทั้งท้าย
พอใจชวนชื่น ตอน รดน้ําต้นไม้
วันเสาร์ตอนเย็นๆ เด็กๆที่มาเรียนศิลปะกลับบ้านกันหมดแล้ว น้าแป๋มก็เลยชวนพอใจ ไปรดน้ําต้นไม้ด้วยที่รดน้ําต้นไม้อันใหม่ที่น้าแป๋มทําให้พอใจกับมือ “พอใจขึ้นไปรดน้ําต้นไม้กันมั๊ย” น้าแป๋มชวน “ไปค่ะ” พอใจตอบแบบไม่ต้องคิดเลย “น้าแป๋มทําที่รดน้ําต้นไม้ให้พอใจแล้วนะ” น้าแป๋มบอก “โอ้...น้าแป๋มเยี่ยมมากเลย” ชื่นชมฝีมือทําฝักบัวรดน้ําเสร็จพอใจก็จัดการเติมน้ําและ ลงมือรดน้ําต้นไม้ทันที รดน้ําไปก็พูดไป พูดแบบว่าไม่หยุดปากเลย “ถ้าวันนี้หนูไม่มารดน้ําต้นไม้ให้ ต้นไม้คงหิวน้ําแย่เลย” พอใจพูดยังกับว่าน้าแป๋มไม่ เคยรดน้ําต้นไม้ “อิ่มแปล้เลยใช่มั๊ยล่ะ” พอใจพูดกับต้นกล้วยไม้ แล้วก็ค่อยๆรดน้ําให้ต้นไม้ต้นอื่นๆที่ละ นิดๆ สรุปแล้ว ต้นไม้หนึ่งต้นพอใจรดไปสามรอบ ด้วยเหตุผลที่ว่ากลัวต้นไม้สําลักน้ํา “ต้องค่อยๆรด ให้มันกินให้อิ่มก่อน เดี๋ยวหนูมารดให้ใหม่” แล้วพอใจก็พูดว่า
“น้าแป๋มรู้มั๊ย...ต้นไม้มันก็เหมือนหนูนั่นแหละ ตอนหนู ๓ ขวบหนูก็ยังตัว เล็กๆอยู่ พอหนูกินข้าวเยอะๆแล้วหนู๔ ขวบ หนูก็เลยตัวโต พอหนูรดน้ํา ต้นไม้เสร็จมันกินน้ําอิ่มแล้วมันก็จะโตเหมือนหนู” “แล้วพอใจรู้จักชื่อต้นไม้หรือเปล่าว่ามันชื่อว่าอะไรบ้าง” น้าแป๋มถาม “อ๋อ...นี่ไงคะ ต้นกะดองเพชร แล้วนี่ก็ต้นชวนชื่นค่ะ”
พอใจชวนชื่น ตอน รดน้ําต้นไม้ (ภาค ๒ )
ในเย็นวันเสาร์พอใจขึ้นไปรดน้ําต้นไม้ให้น้าแป๋มอีกครั้ง ระหว่างที่รดน้ําต้นไม้ไปก็หันมาพูด กับน้าแป๋มว่า “ตอนที่หนูไม่อยู่ น้าแป๋มขึ้นมารดน้ําต้นไม้บ้างหรือเปล่าคะ” พูดด้วยท่าทางจริงจังมาก “ไม่ได้ขึ้นมารดเลยค่ะ” น้าแป๋มบอก “หนูได้ยินต้นไม้มันบอกหนูว่า...หิวน้ํา” พอใจพูดพร้อมทั้งมองหน้าน้าแป๋มอย่างเคืองๆที่ไม่ ยอมมารดน้ําตันไม้ในวันอาทิคย์ถึงศุกร์ที่พอใจไม่ได้มา “ความจริง เวลาที่หนูหนูไม่อยู่น้าแป๋มควรจะขึ้นมารดน้ําต้นไม้บ้างนะคะ” พอใจหันมาบอก น้าแป๋มอีกครั้ง “ค่ะ” น้าแป๋มตอบรับแบบขําในท่าทางทีจริงจังของพอใจ พอรดน้ําต้นไม้เสร็จพอใจก็บอก อีกว่า “หนูคิดว่าน้าแป๋มควรจะไปหาต้นไม้มาอีกนะคะ เพราะว่าที่บ้านหนูน่ะมีต้นมากเยอะมาก แล้วมันก็ร่มเย็นมากด้วยค่ะ” พอใจพูดจบก็เดินลงข้างล่างไม่รอน้าแป๋มเลย ว่าจะบอกพอใจ ซักหน่อยว่าเหตุผลที่ไม่ได้ขึ้นมารดน้ําต้นไม้ของน้าแป๋มคืออะไร
“ก็ฝนมันตกลงมาทุกวันน่ะสิ”
พอใจชวนชื่น ตอน ทําไมไม่มาถ่ายรูป วันนี้ก็เป็นอีกวันที่ที่ต้องไปรับพอใจ เพราะ ว่าครูนิดไม่สบายอยู่ที่บ้าน กว่าจะออก จากโรงเรียนศิลปะแหลมคมก็บ่าย ๒ โมง ๔๕ นาทีแล้ว เพราะว่ามัวแต่ประชุมกันอยู่ วันนี้ก็เลยไม่ได้ปั่นจักรยานไปรับ ขับรถจี๊ฟ ไปรับแทน ไปถึงโรงเรียนพอใจก็บ่าย ๓ โมงพอดี วันนี้ที่โรงเรียนมีพิธีไหว้ครูเด็กๆจึงเลิก เรียนช้ากว่าปกติ ตอนที่ยืนรอก็เห็นพอใจ เดินมาจากหอประชุมคุยกับเพื่อนมาแจ้วๆ ตลอดทาง ดูท่าทางมีความสุขมาก เมื่อ กลับขึ้นไปเอากระเป๋าแล้วลงมาข้างล่าง พอใจเห็นน้าแป๋มก็วิ่งมาทันที "น้าแป๋ม" พอใจเรียกเสียงดัง "ทําไมไม่เอากล้องมาถ่ายรูปหนู..." พอใจ ต่อว่าให้น้าแป๋มเล็กน้อย "อ้าว...ก็ไม่เห็นมีใครบอกนี่ เมื่อวานพอใจก็ไม่บอกว่าให้น้าแป๋มมาถ่ายรูปให้" น้าแป๋ม บอกอย่าง..งง.. "เค้าให้แต่ผู้ปกครองคนที่ได้ดาวเด็กดีมาไม่ใช่เหรอ" ครูแหลมช่วยอธิบายให้ "ไม่ใช่ค่ะ...ใครก็ได้" พอใจเริ่มมั่วเอาเอง ที่จริงวันนี้คนที่มีผู้ปกครองมาถ่ายรูปให้ก็มีแต่คนที่ได้ดาวเด็กดีเท่านั้น พอใจคงเห็นผู้ ปกครองคนอื่นมาเยอะแยะแต่ตัวเองไม่มีก็คิดว่ามันเป็นหน้าที่ของหน้าแป๋มต้องมาถ่าย รูปให้แล้วไม่ยอมมา น้าแป๋มก็เลยซวย ก็เรามันเป็นช่างภาพประจําตัวของพอใจนี่นา... ก็เลยขอโทษ ขอโพย พอใจเป็นการใหญ่ เอาไว้ปีหน้าให้พอใจได้ดาวเด็กดีก่อนก็แล้ว กัน จะถ่ายให้ไม่พลาดซักช็อทเลย แต่กลัวว่าจะไม่ได้น่ะสิ
ถ้ามีดาวให้เด็กกินเก่งล่ะก็...พอใจไม่พลาดแน่นอน
พอใจชวนชื่น ตอน ดาวเด็กดี
กริ๊งๆ...ๆ “สวัสดีค่ะ” เสียงใสตามสายรีบตอบกลับมาทันที “น้าแป๋มขา...หนูได้ดาวเด็กดีค่ะ” เสียงพอใจนั่นเองโทรมาบอกน้าแป๋มด้วยน้ําเสียงตื่น เต้นว่าได้ดาวเด็กดีมาไว้ครอบครอง “จริงเหรอ...คุณครูเค้าคิดยังไงล่ะ ถึงให้ดาวเด็กดีกับพอใจมา” น้าแป๋มถาม “ก็หนูเป็นเด็กดี พูดเพราะค่ะ” พอใจตอบ “แล้วพูดเพราะยังไงล่ะคะ” น้าแป๋มถามอีก “ก็หนูพูด ʻค่ะʼ ทุกคําเลยค่ะ” พอใจตอบอย่างภาคภูมิใจ “พอใจ...น้าแป๋มอยากได้บ้าง...มีดาวผู้ใหญ่ดีมั๊ยคะ” น้าแป๋มถาม “ไม่มีหรอกค่ะ...เดี๋ยวหนูไปทําการบ้านก่อนนะคะ” พอใจตอบ “เดี๋ยวสิพอใจ...น้าแป๋มอยากได้ดาวบ้าง พอใจไปบอกครูให้หน่อยนะ” น้าแป๋มเริ่มเซ้าซี้ พอใจอีกครั้ง “โธ่...น้าแป๋ม ก็หนูบอกว่าไม่มี ถ้าน้าแป๋มอยากได้น้าแป๋มต้องกลับไปในอดีตน่ะค่ะ เข้า ใจมั๊ยคะ หนูไปทําการบ้านก่อนนะคะ สวัสดีค่ะ” พอใจพูดเสียงดังแล้ววางโทรศัพท์ไป เลยคงโมโหที่น้าแป๋มพูดไม่รู้เรื่อง แต่น้าแป๋มกลับหัวเราะชอบใจที่แกล้งพอใจได้อีก ครั้ง อิ...อิ...อิ...
พอใจชวนชื่น ตอน ตดชื่น
“พอใจ...เล่าให้น้าแป๋มฟังสิว่าเวลาอาบน้ําสระผม แล้วพอใจรู้สึกยังไง” ครูนิดบอกให้ พอใจโชว์ตลกให้บรรดาน้าๆชมอีกแล้ว “ก็เวลาเวลาอาบน้ําสระผมแล้ว หนูจะรู้สึก ตรดชื่น มากเลยค่ะ” พอใจพูดเสียงดังฟังชัด แต่สําเนียงไม่ชัดเหมือนเดิม และมุขนี่ก็สําเร็จทุกคนฮา “น้าแป๋มเคยได้ยินแต่ ตดเหม็น ไม่เคยได้ยินคําว่า ตดชื่น มาก่อนเลย” น้าแป๋มบอก พอใจ “ใช่ ๆ” น้าแจงก็เห็นด้วย “โธ่...ก็น้าแป๋มพูดผิดแล้ว ไม่ใช่ ตดชื่น ต้องพูดว่า ตรดชื่น ค่ะ” พอใจพยายาม อธิบายให้น้าๆเข้าใจ “อ๋อ ตรดชื่น ใช่มั๊ย” น้าแป๋มพูดเลียนแบบพอใจบ้าง “ไม่ใช่ค่ะ ต้องพูดว่า ตรดชื่น” พอ ถูกแกล้งมากพอใจก็ชักจะเริ่มโมโห ในที่สุด “อ๋อ...มันต้องพูดว่า สดชื่นใช่มั๊ยพอใจ” น้าแป๋มเลิกแกล้งพอใจแล้ว “ใช่ค่ะต้องพูดว่า ตรดชื่น”
พอใจชวนชื่น ตอน กุหลาบ หรือ บัว ๔ เหล่า
“ที่โรงเรียนหนูนะมีพระมาสอนด้วย” พอใจเล่าให้น้าฟัง “แล้วพระสอนเรื่องอะไรล่ะ” น้าแป๋มถาม “ก็สอนเรื่องกุหลาบ ๔ เหล่าค่ะ” พอใจตอบแบบมั่นใจ แต่ว่าทุกคนฟังแล้วมันทะแม่งๆ ไม่เคยเรียนเรื่องกุหลาบ ๔ เหล่ามาก่อนเลย ก็เลยงง... “พอใจ...ไม่ใช่กุหลาบ...บัวต่างหาก พี่เรียนมาแล้ว” พี่เพียรช่วยแก้ไขในสิ่งที่ถูกให้น้อง แต่... “พี่เพียร...กุหลาบไม่ใช่ บัว” พอใจไม่เชื่อ “โอ.เค.ไม่เป็นๆ เล่าต่อเลยพอใจ” น้าแป๋มตัดบทกลัวพี่กับน้องเถียงกัน เดี๋ยวไม่ได้ฟัง เรื่องตลก และพอใจก็เรื่องเล่าและทุกคนก็ตั้งใจฟังและพยายามกลั้นหัวเราะ “ก็...กุหลาบที่พ้นน้ําแล้ว ก็หมายความว่า พูดครั้งเดียวก็หยุดค่ะ กุหลาบที่ปริ่มน้ํา เป็น เหล่าที่ ๒ พูด ๒ ครั้งก็หยุดแล้วค่ะ ถ้าเหล่าที่ ๓ ก็คือกุหลาบที่อยู่ใต้น้ํา ต้องพูด ๓ ครั้ง ถึงจะหยุดค่ะ แต่เหล่าที่ ๔ มันอยู่ในโคลนตม พูดกี่ทีๆก็ไม่หยุดค่ะ” พอใจเล่าให้ทุกคน ฟังอย่างตั้งใจ และมั่นใจมาก “พอใจน้าแป๋มสงสัยว่าทําไมดอกกุหลาบถึงไปอยู่ใต้น้ําได้ล่ะ ตกลงมันคือดอกกุหลาบ หรือดอกบัวกันแน่” พอใจยืนคิดอยู่นานแล้วก็ตอบว่า “เอ่อ...คือว่าหนูจําผิด ที่จริงมันเป็นดอกบัวน่ะคะ”
พอใจชวนชื่น ตอน ไปเวียนเทียน วันอาสาฬหบูชา พาพี่เพียร กับ พอใจไปเวียนเทียนที่วัดประดิษฐารามใกล้ๆโรงเรียนศิลปะ แหลมคม เด็กๆตื่นเต้นกันมาก ไปถึงวัดครูนิดพาเด็กๆเข้าไปฟังพระเทศน์ในโบสถ์ ทั้งพอใจ และพี่เพียรนั่งพนมมือฟังพระ อย่าตั้งใจ พอพระเทศน์จบให้สินให้พรเสร็จ ทุกคนก็ออกมาเดินเวียนเทียนกัน เดินได้รอบเดียวพอใจก็ ถามว่า "น้าแป๋มขา...ทําไมเราไม่เดินกลับบ้านกันซะทีล่ะคะ" เดินไปก็บ่นไป แต่ก็เดินจครบ ๓ รอบ
พอใจ
พี่เพียร
พอใจชวนชื่น ตอน แบ่ง ไม่ แบ่ง “พอใจในตู้เย็นมีเฉาก๊วยด้วยนะ” น้าแจงบอก พอใจ “แต่ต้องถามคุณแม่ดูก่อนว่าทานได้หรือเปล่า” พอใจได้ยินน้าแจงบอกว่ามีเฉาก๊วยของโปรดก็ ทําตาโตแล้วรีบขอคุณแม่ “คุณแม่หนูกินเฉาก๊วยได้มั๊ยคะ” น้ําเสียงออด อ้อน “อย่ากินเลยลูก มันหวานเจี๊ยบเลยเดียวพอใจก็ ไออีก” ครูนิดบอกพอใจ “แต่หนูอยากกิน...นะๆ” พอใจพยายามใช้ลูกอ้อน กับคุณแม่อีกครั้ง “ก็ได้แต่ต้องแบ่งคนอื่นๆด้วยนะ กินคนเดียวถ้วย เดียวไม่ได้” ครูนิดยอมใจอ่อน ส่วนพอใจก็ยิ้ม ดีใจจนแก้มปริแต่ก็ยังกินตอนนี้ไม่ได้อยู่ดีต้อง ทําการบ้านให้เสร็จก่อน พอทําการบ้านเสร็จน้า แป๋มก็ชวนพอใจเดินไปซื้อดินสอพองเพื่อจะมา ผสมดิน ขากลับก็แวะเซเว่นซื้อน้ําชาของโปรด พอใจอีก ๑ ขวด “พอใจน้ําชาก็ต้องแบ่งคนอื่นๆเหมือนกันนะ กินคนเดียวไม่ได้ เพราะเดี๋ยวมีเฉาก๊วยอีก ท้องพอใจต้องแตกแน่ๆถ้ากินคนเดียว” น้าแป๋มบอก พอใจทําท่าคิดหนัก “น้าแป๋ม...หนูแบ่งน้ําชาให้ทุกๆคนกินแต่หนูไม่แบ่งเฉาก๊วยได้มั๊ย” พอใจต่อรองกับน้า แป๋ม “ไม่ได้หรอกก็คุณแม่บอกว่าพอใจต้องแบ่งเฉาก๊วยด้วยนี่นา” น้าแป๋มบอก พอกลับมา ถึงที่โรงเรียนพอใจก็แบ่งน้ําชาให้ทุกคนกินตามสัญญา แต่พอน้าแจงเทเฉาก๊วยใส่ถ้วย มาให้พอใจชักลังเลว่าจะแบ่งหรือไม่แบ่งดี รีบตักคําใหญ่ๆใส่ปากเคี้ยวแก้มตุ่ย ในที่สุด น้าแป๋มเลยรอพอใจแบ่งไม่ไหวก็เลยเข้าไปแย่งกินด้วย พอใจก็เลบยอมแบ่งให้แบบ เสียไม่ได้ (แย่งพอใจกิน...อร่อยที่สุดเลย...ฮิๆๆ)
พอใจชวนชื่น ตอน หนูอยากช่วย ในเย็นวันเสาร์วันหนึ่งขณะที่ทุกๆคนกําลังวุ่นวายกับ การเตรียมของเพื่อจะไปบรรยาย และน้าแป๋มกับน้าแจง กําลังเตรียมส่วนผสมดินที่จะเอาไปให้เด็กๆทําผลงานที่ ชื่อว่า “กําความทรงจําไว้ให้แน่น” พอใจก็เดินมา (ดูวิธีการทําในตอนต่อไป) “ทําอะไรเหรอคะ” พอใจถาม “กําลังเตรียมของอยู่ จะผสมดิน” น้าแป๋มบอก “หนูอยากช่วย” น้าแป๋มกับน้าแจงมองหน้ากันเมื่อพอใจ พูดจบ คิดไว้ใจว่าพอใจจะมาช่วยยุ่งอีกแล้ว “อย่าเลยพอใจ มันเลอะเทอะ พอใจทําไม่ได้หรอก” น้า แป๋มปฏิเสธ อย่านุ่มนวล “กําความทรงจําไว้ให้แน่น” “โธ่...น้าแป๋ม หนูอยากช่วยจริงๆ นะๆ” พอใจไม่ยอมแพ้ “ก็ได้แต่ต้องทําตามที่น้าแป๋มกับน้าแจงบอกเท่านั้นนะ” พอใจยิ้มแก้มป่อง ได้ช่วยยุ่งช่วยป่วนสมใจอยาก หน้าที่ของพอใจก็คือช่วยตวงแป้ง และดินสอพอง เสร็จแล้วน้าแจงก็คลุกเคล้าให้ทั้ง ๒ อย่างมันเข้ากัน พอใจเห็นว่ามันน่าสนุกดี ก็เลยลืมตัวเอามาลงไปช่วยคลุกด้วยจนเลอะ ไปทั้งแขน “พอใจ...” น้าแจงทําเสียงดุ “ไปล้างมือแล้วเช็ดมือให้แห้งเลย” น้าแป๋มช่วยดุอีกแรง พอใจวิ่งจู๊ดไปล้างมือที่ห้องน้ําแล้วกับมานั่งที่เดิม คราวนี้ถึงเวลาเทกาว “หนูอยากเทกาวด้วย” พอใจบอก “ก็ได้แต่พอบอกให้พอ พอใจต้องรีบหยุดเลยนะ” น้าแจงบอก และเมื่อถึงเวลานั้น... “พอ... พอแล้ว...พอใจ” ตั้งหลายพอ...กว่าพอใจจะหยุด “นี่...พอใจเป็นบัวเหล่าที่ ๒ ใช่มั๊ย ต้องพูด ๒ ครั้งถึงจะหยุด” น้าแป๋มบอกเพราะก่อน หน้านี้พอใจเพิ่งเล่าเรื่องบัว ๔ เหล่าให้น้าๆฟัง พอใจได้แต่หัวเราะแฮะๆ พอนวดดินได้ เป็นก้อนก็ต้องแบ่งจากก้อนใหญ่ให้เป็นก้อนเล็กๆ น้ําหนักประมาณ ๔๐ กรัม ขั้นตอนนี้ พอใจอยากช่วยอีกแล้ว “อ้าว...ดูก่อนเวลาช่างน้ําหนัก พอใจต้องค่อยๆแบ่งดินออกมาที่ละนิด แล้วดูให้เข็มมัน อยู่ที่เลข ๔๐ เข้าใจมั๊ย” น้าแป๋มอธิบายวิธีการชั่งน้ําหนักให้พอใจฟังอย่างละเอียด “เข้าใจค่ะ” พอใจรับคํา
“พอใจ...เลข ๔๐ มีเลขอะไรบ้าง” น้าแป๋มถาม “อ๋อ...เลข ๔๐ มี หก กับ ศูนย์ ค่ะ” พอใจตอบแบบมั่นใจเอามากๆ น้าแป๋มกับน้าแจง มองหน้ากันแล้วขํา คิดในใจอีกครั้งว่าพอใจจะทําได้เหรอนี่ ก็เลยต้องชี้และขีดให้ดูว่า เลข ๔๐ อยู่ตรงไหน พอใจถึงเข้าใจ แล้วก็ทําผลงานออกมาได้ด้วยดี “เจ๋งเป้ง...ไปเลย” พอใจพูดออกมาดังๆเมื่อเข็มที่ตราชั่งกระดิกไปถึงเลข ๔๐ “พอใจรู้เหรอว่า เจ๋งเป้ง หมายถึงอะไร” น้าแป๋มถามแบบขําๆ “รู้สิ...ก็หมายถึงว่า ยอดเยี่ยม ไงคะ” พูดจบก็ทํางานต่อ เมื่อพอใจช่างเสร็จน้าแป๋มกับ น้าแจงก็เอาแต่ละก้อนที่พอใขชั่งมาผสมสีแล้วปั่นไว้เป็นก้อนกลมๆ หน้าที่ต่อมาของ พอใจก็คือ เอาเจ้าก้อนกลมๆที่ผสมสีแล้วใส่ในถุงพลาสติกและแยกสีด้วย “ง่ายมาก หนูทําได้อยู่แล้ว” พอใจบอกแล้วค่อยๆหยิบดินก้อนสีชมพูที่น้าแจงผสมไว้ใส่ ถุงอย่างค่อยๆ ต่อมาก็ดินก้อนสีเขียวที่น้าแป๋มผสมไว้ “หนูว่า...คราวหน้าน้าแป๋มต้องปั้นให้กลมๆกว่านี้หน่อยนะคะ ดูของน้าแจงสิมันกล มมากๆเลย” พอใจวิจารณ์งาน “ได้ค่ะ...ขอโทษนะคะที่ปั้นไม่กลม” น้าแป๋มขอโทษพอใจอย่างประชดๆ ในที่สุดงานก็ เสร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี ขอบคุณพอใจที่มาช่วยป่วน ขอบคุณจากใจจริงๆเลยนะเนี่ยะ
“กําความทรงจําไว้ให้แน่น” “หยุดความทรงจําของลูก และเรา... มือน้อยๆ ที่บอบบางและอ่อนนุ่ม ...เวลา...จะแปรเปลี่ยนเจ้าให้หนักแน่น และ มั่นคง ดุจดั่ง มือของพ่อและแม่ในเวลานี้ เมื่อเจ้าคิดและฝัน แม่และพ่อจะเสริมให้เจ้า สร้างสรรค์ จะส่งให้เจ้าเป็นจริง ...แม้เวลาจะแปรเปลี่ยน พ่อและแม่ยังจํามือที่ กําแน่นๆนี้ ตราบชั่วชีวันมลายลง” ครูแหลม
ขั้นตอนและวิธีการทําดิน
อุปกรณ์ ๑. แป้งอเนกประสงค์ ๒. ดินสอพอง ๓. กาวน้ํา ๔. น้ํามันมะกอก ๕. สีผสมอาหาร
วิธีผสมดิน
๑. นําแป้ง ๑ ส่วน ดินสอพอง ๒ ส่วน มาคลุกเคล้ากัน
๒. เทกาวผสมแล้วขยําๆให้เข้ากัน
๓. นวดๆๆ ให้แป้งเข้ากัน
๔. ใส่น้ํามันมะกอกแล้ว นวดๆๆ ให้เป็นเนื้อเดียวกัน ก็เป็นอันเสร็จขั้นตอน
ขั้นตอนการทําฐาน
อุปกรณ์ ๑. ปูนปลาสเตอร์ ๒. น้ํา ๓. ไม้ไอติม
วิธีผสมปูน
๑. นําปูนกับน้ํามาผสมกันไม่ให้ข้นหรือเหลวจนเกินไป ๒. เทใส่ภาชนะที่เตรียมไว้ และเสียบไม้ไอติมไว้ตรงกลาง แล้วทิ้งไว้ให้แห้ง
ระหว่างรอปูนพลาสเตอร์แห้งเราก็จะมาดูวิธีการ “กําความทรงจําไว้ให้แน่น” กันค่ะ
๑. แบ่งดินออกมาเป็นก้อนให้พอดีกับมือของเรา (หรือมือเจ้าตัวน้อย) แล้วใส่สีผสม อาหารลงไปคลุกเคล้าและนวดจนเป็นเนื้อเดียวกัน (ถ้าอยากให้หอมก็เติมกลิ่นไป ด้วยก็ได้นะคะ)
๒. ขั้นตอนนี้จะนําฐานที่เตรียมไว้แกะภาชนะออกให้เหลือแต่ปูนเปลือย และเสียบดิน ที่ผสมเสร็จเรียบร้อยแล้วไว้บนไม้ไอติม (เหลือพื้นที่ตรงโคนไว้สัก ๑ นิ้ว เพื่อเขียน ชื่อและวันที่ด้วยนะคะ)
๓. จากนั้นเราก็จะมา “กําความทรงจําไว้ให้แน่น” กันค่ะ ค่อยเอามือ (ข้างไหนก็ได้ ค่อยกําลงบนดินเบาแต่ให้แน่น แล้วค่อยแกะออก เท่านี้เราก็จะเห็นรอยนิ้วมือของ เราฝังลงไปบนเนื้อดิน นี่แหละค่ะ ความทรงจํา ที่เราต้อง กําไว้ให้แน่น เพราะเรา ย้อนเวลากลับมาไม่ได้อีกแล้ว
๔. ขั้นตอนสุดท้ายคือการอบให้แห้ง นําไปเข้าเตาไมโครเวฟใช้อุณหภูมิต่ําสุด ใช้ เวลาในการอบประมาณ ๒-๓ นาที เมื่อทิ้งไว้ให้เย็นดินก็จะแข็งตัวค่ะ ป.ล. ๑. ทุกสิ่งทุกอย่างสามารถดัดแปลงและเพิ่มเติมได้เสมอนะคะ ๒. ควรทดลองปั้นดินเป็นก้อนเล็กๆ และทดลองอบก่อนหลายๆครั้ง เพราะว่าเตา ไมโครเวฟแต่ละเครื่องมาตรฐานความร้อนต่างกัน เราจึงต้องหาอุณภูมิที่เหมาะสม กันผลงานของเราค่ะ
อมยิ้ม...ไปพร้อมๆกัน... แล้วคุณจะหลงรักเธอ...พอใจชวนชื่น