สวัสดีปใหมทานผูอานทุกทาน
3 5
วารสาร สสภ.14 ฉบับนี้เปนฉบับแรกของงบประมาณ 2552 ตามที่คณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 12 พ.ย. 2534 กําหนดใหวันที่ 4 ธ.ค. ของทุกป เปนวันสิ่งแวดลอมไทย ซึ่งในปนี้มีคําขวัญวา “4 ธันวาคม วันสิ่งแวดลอมไทย คนไทย หัวใจสีเขียว(Be Green)” ถาใครใสใจสักนิด จากหนาหนังสือพิมพตางๆ จะเห็นความพะวง ตอภาวะโลกรอน ถามวาเราควรกังวลในเรื่องนี้ไหม หรือไมตองใส ใจก็ได เอากิเลสตัณหานําชีวิต บริโภคเกินเหตุ ใชชีวิตสนุกสนาน ไปวันวัน แตในฐานะที่เราเปนมนุษย มีสติและปญญา ฉะนั้นเรา ควรมีความตระหนัก และความตระหนักอยางเดียวคงไมพอ เรา ควรจะเริ่มที่การกระทําและหันมาเปลี่ยนพฤติกรรมใหเปนประโยชน ตอสิ่งแวดลอม หรือ เปนพฤติกรรมของคนไทย หัวใจสีเขียว เชน เลือกซื้อสินคาที่สรางขยะนอย คือ มีหีบหอบรรจุนอย
7 9 11 11
ใชถุงผาในการจายตลาดเพื่อลดจํานวนถุงพลาสติกที่ตองทิ้ง ในแตละวัน หากระยะทางไม ไ กลมาก ใช ก ารเดิ น หรื อ ใช จั ก รยาน เพื่อลดการใชน้ํามันและเปนการออกกําลังกายไปในตัว เพียงเราเปลี่ยนพฤติกรรมเล็ก ๆ เหลานี้ ก็จะเปนจุดเริ่มตน ความเปนสีเขียว และเมื่อเรากระทําจนเปนนิสัย เราก็จะสามารถ เรียกตนเองวาเปน คนไทยหัวใจสีเขียวได
ยินดีตอนรับปใหม กับคนไทย หัวใจสีเขียว ทุกทาน
โดย...จินตมาศ ศิลปพรหมมาศ นักวิชาการสิ่งแวดลอม 7ว.
ระยะนี้จะเห็นไดวาศัพททกี่ ําลังฮิตในเรือ่ งของสิ่งแวดลอมคือ “ภาวะโลกรอน” และใครๆ ก็จะทําอะไรเพือ่ ลดโลกรอนกันทั้งนั้น ไมวาอะไรก็จะดูเปน Go Green กันไปหมด โครงการใบไมสีเขียว โครงการคืนปา รักษนา้ํ เพื่อโลก สีเขียว โครงการโอลิมปกสีเขียว โครงการหองสมุดสีเขียว โครงการโรงเรียนสีเขียว คูมือผูบริโภคสีเขียว เปนตน ทั้งนี้ก็คง ไมใชเปนการไปทาสีเขียวหรือแคไปปลูกตนไมก็จะบรรลุโครงการ หากแตวาโครงการเหลานี้คํานึงถึงสิ่งแวดลอมเปนหลัก โดยเนนไปในเรื่องของการกระตุนใหเกิดการอนุรักษสงิ่ แวดลอม หรือมีเกณฑกาํ หนดในเรื่องของตัวชี้วัดดานสิง่ แวดลอม
ในวงการเคมี ก็มีเรื่องของสีเขียวเชนกัน คือ Green Chemistry บางคนก็แปลวา เคมีสีเขียว ผูเ ขียนเองไมกลา แปลเลยขอทับศัพทไปกอน เพียงแตขอยกหลักเกณฑขององคการพิทักษส่ิงแวดลอมแหงประเทศสหรัฐอเมริกา (USEPA) ในเรื่องนี้ซึ่งมีอยู 12 ขอ มานําเสนอในที่นี้ 1. Prevent waste : ปองกันการเกิดของเสียมากกวาที่จะมาหาวิธีบําบัด โดยการออกแบบกระบวนการเคมีที่ปองกันการเกิดของเสีย ไมใหเกิดของเสีย ในการบําบัดหรือกําจัด 2. Design safer chemicals and products : ออกแบบสารเคมีหรือ ผลิตภัณฑทางเคมีปลอดภัย สารเคมีที่ใชนอกจากมีประสิทธิภาพแลวไมควร มีพิษหรือมีพษิ นอย 3. Design less harzadous chemical synthesis :กระบวนการสังเคราะห ทางเคมีควรออกแบบใหลดอันตรายใหมากที่สุด กระบวนการออกแบบเพื่อใช ในการผลิตสารเคมีที่ไมมีพษิ ตอมนุษยและสิ่งแวดลอม 4. Use renewable feedstock : ใชทรัพยากรที่นาํ กลับมาใชไดใหม 5. Use catalysts, not stoichiometric reagents : ใชตัวเรงปฏิกิริยา เมื่อสามารถเลือกได แทนการใชสารตามปริมาณสัมพันธ 6. Avoid chemical derivatives : หลีกเลี่ยงการกอใหเกิดอนุพนั ธที่ไม จําเปน เพราะกอใหเกิดของเสียมากขึน้
7. Maximize atom economy : ควรออกแบบ ขั้นตอนการสังเคราะห เพื่อที่จะใชวัตถุดิบทุกตัวใน กระบวนการจนถึงผลิตภัณฑ โดยพิจารณาตาม atom economy 8. Use safer solvents and reaction conditions : หลีกเลี่ยงการใชตัวทําละลาย ตัวแยก แตหากจําเปน ควรเลือกตัวทีม่ ีไมมีอันตราย 9. Increase energy efficiency : ควรใชพลังงานให นอยที่สุด วิธีการสังเคราะหควรทําที่อุณหภูมแิ ละความดันปกติ 10. Design chemicals and products to degrade after use : ออกแบบสารเคมีและผลิตภัณฑที่สลายตัวหรือ ยอยสลายไดหลังจากการใช เพื่อปองกันไมใหเกิดการสะสม ในสิ่งแวดลอม 11. Analyze in real time to prevent pollution : ตรวจวิเคราะห ณ จุดเก็บเพื่อปองกันการสรางมลพิษ 12. Minimize the potential for accidents : ลดโอกาสที่จะกอใหเกิดอุบัตเิ หตุ โดยการออกแบบสารเคมีและ สถานะ เชน ของแข็ง ของเหลว หรือกาซ เพื่อลดโอกาสที่จะ กอใหเกิดอุบัตเิ หตุ เชน ระเบิด ไฟไหม หรือรั่วไหลออกไป ในสิ่งแวดลอมแลวกอใหเกิดอันตราย สํ า หรั บ ผู เ ขี ย นเองเห็ น ว า การปฏิ บั ติ ง านใน หองปฏิบัติการดานสิ่ งแวดล อมควรคํานึง ถึงเรื่องเหลา นี้ แม ว า เราจะไม ไ ด เ ป น ผู คิ ด วิ ธี ก ารในการตรวจวิ เ คราะห ขึ้นมา แตก็สามารถนําหลักการบางขอมาปรับใช เชน
การลดปริมาณของเสียจากตนกําเนิด โดย ซื้อสารเคมีเทาที่จําเปนในการใชแตละครั้งโดยเลือกขนาด บรรจุขนาดเล็ก เมื่อหมดแลวคอยซื้อใหมครั้งตอไปดีกวา ซื้ อ ครั้ ง ละมากๆ หรื อ ขนาดใหญ เพราะหากสารเคมี หมดอายุ ก็จะเปนของเสียอันตราย การเลือกใชวิธีการตรวจวิเคราะหที่ปลอดภัย ตอผูทําการตรวจวิเคราะหและสิ่งแวดลอม โดยใชสารเคมี นอยที่สุด และการเตรียมตัวอยางที่มีขั้นตอนนอยและไม ใชสารเคมีอันตราย หรือพยายามผลักดันใหมีการกําหนด วิธีการตรวจวิเคราะหที่ไมเปนอันตราย การใชบริการจากหองปฏิบัติการอื่นใกลเคียง ที่ไดจัดเตรียมการตรวจวิเคราะหนั้นๆ ไวแลว การใช เครื่อ งมือ ภาคสนาม และเครื่อ งมื อ ตรวจวัดอัตโนมัติใหเกิดประโยชนสูงสุด และเปนการคัด กรองจํานวนตัวอยางที่จะเขามาในหองปฏิบัติการ พัฒนาตัวชี้วัดอื่นๆ ที่ไมใชสารเคมี ในการ วิเ คราะหคุณ ภาพสิ่ง แวดลอ ม เช น การใชสัตวห นา ดิ น การใชพืชบางชนิด เปนตน
โดย...รัชนี ทองพันธ หัวหนากลุมงานสงเสริมและเผยแพร
ในแตละวันประเทศไทยมีขยะพลาสติกถูกทิ้งสูงถึง 6 พันตันหรือปละ 2.4 ลานตัน นับวันขยะพลาสติกเหลานี้ จะยังคงทับถมสูงขึ้นเรื่อยๆ วิธีหนึ่งที่กําลังจะนํามากําจัดขยะพลาสติกใหไดผลและมีประสิทธิภาพสูงสุด คือ การแปรรูปขยะพลาสติกเหลานี้ ให เ ป น น้ํามั น ในหลายๆประเทศก็ เ ริ่ม มี การแปรรูป ขยะพลาสติ ก เปน น้ํามั น กั น อย า งจริ งจัง แลว อาทิ ออสเตรเลี ย สหรัฐอเมริกา เปนตน และพบวาคุณสมบัติของน้ํามันที่ผลิตไดจากขยะพลาสติกนั้น แทบไมแตกตางจากน้ํามันดิบเลย ทีเดียว ดร.วิชชากร จารุศิริ นักวิจัยประจําสถาบันวิจัยพลังงาน จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย อธิบายถึงกระบวนการแปรรูป พลาสติกเปนน้ํามันวา ใชความรอนไปหลอมพลาสติก เมื่อความรอนสูงระดับหนึ่งพลาสติกจึงกลายเปนไอพลาสติกที่ ออกมาเปนน้ํามันดิบ ซึ่งในกระบวนการหลอมการเลือกใชอุณหภูมิตางกันจะไดน้ํามันดิบตางชนิด ทั้งเบนซิน ดีเซล โดยจะตองผานโรงกลั่นอีกที จึงจะนําไปใชกับเครื่องยนตได แตชนิดน้ํามันที่ผานการหลอมพลาสติกไปใชไดเลย คือ “ น้ํามันเตา” ปจจุบันมีเทคโนโลยีหลอมพลาสติกเปนน้ํามันที่นําเขาจากตางประเทศ ขณะที่ในประเทศไทย สํานักงาน นวัตกรรมแหงชาติไดคิดคนออกมาแลวแตตนทุนยังสูงอยู เครื่องจักรที่สามารถหลอมพลาสติกออกมาเปนน้ํามันดิบไดแลว มีมูลคาตั้งแต 10-100 ลานบาท แตยังไมถึงขั้นกลั่นออกเปนน้ํามันใชได ตองสงไปยังโรงกลั่นน้ํามันของผูคาน้ํามันอีกที กระทรวงพลังงานสนับสนุน การนําขยะพลาสติกมาผลิตเปนน้ํามัน โดยกองทุนเพื่อสงเสริมการอนุรักษ พลังงาน ไดจัดสรรงบประมาณ จํานวน 105 ลานบาท ใหสํานักงานนโยบายและแผนพลังงาน(สนผ.) ดําเนิน โครงการ “ สงเสริมการแปรรูปจากขยะเปนน้ํามัน” เปดโอกาสใหองคกรปกครองสวนทองถิ่น (อปท.)หรือเทศบาลซึ่ง เปนองคกรหลักที่มีหนาที่แกไขปญหาขยะชุมชน ที่มีความพรอมในการแปรรูปขยะเปนน้ํามัน ยื่นขอเสนอเขามา ภายใตเงื่อนไของคกรปกครองสวนทองถิ่นนั้นจะตองลงทุนเองในการซื้อเครื่องจักรหรือจางบริษัทที่ปรึกษาทํา โครงการ แปรรูปพลาสติกเปนน้ํามันเอง โดย สนผ. จะใหเงินสนับสนุนโครงการนี้ 25% ของเงินลงทุน ซึ่งเทศบาลแหง นั้นจะตองมีจํานวนขยะไมนอยกวา 6 ตัน/วัน ขณะนี้เทศบาลไดรับการคัดเลือกเขารวมเปนเทศบาลนํารองในโครงการฯ แลว 3 แหง ไดแก เทศบาลนครพิษณุโลก จังหวัดพิษณุโลก เทศบาลเมืองวารินชําราบ จังหวัดอุบลราชธานี และเทศบาล นครขอนแกน จังหวัดขอนแกน
พีระพล พัฒนพีระเดช นายกเทศมนตรีนคร ขอนแก น จั ง หวั ด ขอนแก น กล า วว า สาเหตุ ที่ เ ข า ร ว ม โครงการฯ เนื่ อ งจากบ อ ขยะขนาด 98 ไร ที่ ใ ช อ ยู ใ น ปจจุบันเกิดปญหาวิกฤตขยะลนบอ เพราะตองรองรับขยะ จากเทศบาลหลายพื้นที่ ปจจุบันทางเทศบาลอยูระหวาง การคั ด เลื อ กผู เ ชี่ ย วชาญมาศึ ก ษาออกแบบระบบและ กอสรางโรงแปรรูปขยะอยู ซึ่งคาดวาจะแลวเสร็จภายใน 5 เดือน โดยคาดวาโครงการดังกลาวจะลดปริมาณขยะได 1 ใน 3 และแก ไ ขป ญ หาสิ่ ง แวดล อ มของเทศบาลนคร ขอนแกนได อยา งไรก็ต าม การคํ า นวณดา นความคุ ม ทุน มี ก ารศึก ษาเมื่อ ราคาน้ํ า มั น เบนซิ น ลิ ต รละ 40 บาท จะ สามารถคื น ทุ น ได 7 - 10 ป ภายใต เ งื่ อ นไข ต อ งมี ข ยะ พลาสติก 6 ตัน/วัน ซึ่งพลาสติกเมื่อแปรรูปออกมา จะได ปริ มาณน้ํ ามั น ถึ ง 90 % และมี ก ากที่ เหลื อออกมาเป น ถานกัมมัน ที่ใชกับเครื่องกรองน้ําได โดยโรงกลั่นรับ ซื้อลิตรละ 18 บาท
เรื่องการแปรรูปขยะพลาสติกเปนน้ํามันกําลัง เป น เรื่ องใหม ขณะเดี ยวกั นเทคโนโลยี ต องนํ าเข ามาจาก ตางประเทศโดยผานบริษัทเอกชน เวลานี้มีบริษัทซึ่งสวน ใหญ เ ป นบริ ษั ทรั บ กํ า จั ด ขยะนํ า เข า เทคโนโลยี แ ละ เครื่อ งจัก ร เข า มาเสนอขายใหกับ อปท. ทั่ ว ประเทศ นอกเหนือจากเทศบาลที่ไดรับการสนับสนุน ปญหาอยูที่วา เทศบาลยังขาดความรูทางวิชาการ ขาดที่ปรึกษาจากนักวิชาการดานพลังงาน ขณะเดียวกัน โรงกลั่น ยัง ไมรับ รองวา จะกลั่น น้ํา มัน ที่แ ปรรูป จาก พลาสติกได เพราะตองไปปรับเครื่องจักรอีกที ทั้ง นี้เ ปา หมายของการใหเ งิน สนับ สนุน กับ เทศบาลทั้ ง 3 แห ง จะเป น โครงการนํ า ร อ งให กั บ เทศบาล / อบต.อื่ น ที่ จ ะหาวิ ธี กํ าจัด พลาสติ ก ภายใต เงินทุนที่พรอมและมีขอมูลทางวิชาการอยางเพียงพอ เพื่อใหการใชเงินภาษีของชุมชนคุมคาที่สุด
มติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวของกับปะการัง
มติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2535 เห็นชอบกับแผนแมบทการจัดการปะการังของประเทศ ในการกําหนดเขตการใชประโยชนในแนวปะการัง ออกเปน 3 เขต คือ 1. เขตการใชประโยชนเพื่อการทองเที่ยวและนันทนาการ - เขตทองเทีย่ วหนาแนน - เขตทองเทีย่ วธรรมชาติ 2. เขตการดูแลของทองถิ่น 3. เขตอนุรักษ เพื่อความสมดุลของระบบนิเวศและการวิจยั แตละเขตมีการกําหนด ไดแก กิจกรรมที่หามหรือกิจกรรมที่อนุญาตแตตองควบคุมสําหรับในพืน้ ที่ 4 จังหวัด ภาคใตตอนบนไดกําหนดพืน้ ที่ภายใตเขตการใชประโยชน ดังนี้ ก.ทะเลอันดามัน 1. จังหวัดระนอง 1.1 เขตทองเที่ยวธรรมชาติ - เกาะชาง เกาะพยอม เกาะคางคาว กลุมเกาะกํา ข.อาวไทยฝงตะวันตก 1. จังหวัดชุมพร 1.1 เขตการดูแลของทองถิ่น - เกาะเสม็ด เกาะทองหลาง และลังกาจิว เกาะมาตรา เกาะกุลา เกาะละวะ เกาะรัฐ เกาะมะพราว เกาะรังหา เกาะมัดไหวใหญ และมัดไหวนอย เกาะคางเสือ 1.2 เขตทองเที่ยวธรรมชาติ - เกาะไข เกาะงามใหญ เกาะจระเข เกาะงามนอย เกาะทะลุ เกาะกะโหลก เกาะหินหลักงาม
2. จังหวัดสุราษฎรธานี 2.1 กลุมเกาะเตา เขตอนุรักษฯ - เกาะเตา เกาะนางญวน 2.2 หมูเกาะอางทอง เขตทองเที่ยวธรรมชาติ - เกาะนายพุต เกาะแมเกาะ เกาะหินดับ เกาะวัวตาหลับ เกาะนอแรต เกาะวัวแตะ เกาะสามเสา เกาะพะลวน เกาะทายเพลา 2.3 เกาะพะงัน เขตการดูแลของทองถิ่น - เกาะพะงันเหนือ (หาดแมหาด - หาดยาว) เกาะพะงันใต เขตอนุรักษฯ - หาดคม 2.4 เกาะสมุย เขตการทองเที่ยวและนันทนาการ/เขตการดูแลของทองถิ่น - เกาะสมุย เกาะมัดหลัง 2.5 ทางใตของสมุย เขตการดูแลของทองถิ่น - เกาะราม เกาะหินอาววัง เขตทองเที่ยวธรรมชาติ - เกาะแตน เกาะวังใน เกาะมัดสุม หมายเหตุ : พื้นที่ที่กําหนดภายใตเขตการใชประโยชนตามแนวปะการังเปนแนวทางทีใ่ หไวเพื่อการจัดการ ปะการังตามสภาพปจจุบัน นอกจากนี้ ยังไดกาํ หนดมาตรการสําหรับเขตการใชประโยชนในแนวปะการังแตละเขตไว ดังนี้ ก. เขตการใชประโยชนเพื่อการทองเที่ยวและนันทนาการ 1.) เขตการทองเที่ยวหนาแนน 2.) เขตทองเที่ยวธรรมชาติ ข. เขตการดูแลของทองถิ่น ค. เขตอนุรักษเพื่อความสมดุลของระบบนิเวศและการวิจัย
9
โดย...อมร เทพทวี หัวหนาฝายบริหารงานทัว่ ไป
1 สํานักงาน ก.พ. ไดประกาศยกเลิกการใชระบบซี ซึง่ มีผลตั้งแตวนั ที่ 11 ธันวาคม 2551 และไดจัด ตําแหนง ออกเปน 4 ประเภท คือ 1.ประเภทบริหาร
2.ประเภทอํานวยการ
3.ประเภทวิชาการ
4.ประเภททั่วไป
โดยใชบัญชีเงินเดือนแบบชวง 4 บัญชี คือ 1. ประเภทบริหาร ขั้นสูง ขั้นต่ํา ขั้นต่ําชั่วคราว ระดับ
64,340 48,700 23,230 ตน
66,480 53,690 28,550 สูง
2.ประเภทอํานวยการ ขั้นสูง ขั้นต่ํา ขั้นต่ําชั่วคราว ระดับ
50,550 25,390 18,910 ตน
59,770 31,280 23,230 สูง
3.ประเภทวิชาการ ขั้นสูง ขั้นต่ํา ขั้นต่ําชั่วคราว ระดับ
22,220 7,940 6,800 ปฏิบัติการ
36,020 14,330 12,530 ชํานาญการ
50,550 21,080 18,910 ชํานาญการพิเศษ
59,770 29,900 23,230 เชี่ยวชาญ
66,480 41,720 28,550 ทรงคุณวุฒิ
4.ประเภททั่วไป ขั้นสูง ขั้นต่ํา ระดับ
18,190 4,630 ปฏิบัติงาน
33,540 10,190 ชํานาญงาน
47,450 15,410 อาวุโส
59,770 48,220 ทักษะพิเศษ
10 2 กระทรวงการคลัง ไดกําหนดหลักเกณฑการเทียบตําแหนงขาราชการสวนทองถิ่น ผูดํารงตําแหนงทางการเมืองทองถิ่น พนักงานราชการ บุคคลภายนอก ซึ่งมิใชขาราชการหรือลูกจาง เทากับตําแหนงขาราชการพลเรือน เพื่อประโยชนในการเบิก คาใชจายเดินทางไปราชการตามนัยพระราชกฤษฎีกาคาใชจายเดินทางไปราชการ พ.ศ. 2526 และที่แกไขเพิ่มเติม ดังนี้ 2.1 ตําแหนงขาราชการสวนทองถิ่น 2.1.1 ระดับ 1-2 เทียบเทากับขาราชการพลเรือนตําแหนงประเภททั่วไป ระดับปฏิบัติงาน 2.1.2 ระดับ 3-5 เทียบเทากับขาราชการพลเรือนตําแหนงประเภททั่วไป ระดับชํานาญงาน 2.1.3 ระดับ 6-7 เทียบเทากับขาราชการพลเรือนตําแหนงประเภทวิชาการ ระดับชํานาญการ 2.1.4 ระดับ 8 เทียบเทากับขาราชการพลเรือนตําแหนงประเภทอํานวยการ ระดับตน 2.1.5 ระดับ 9 เทียบเทากับขาราชการพลเรือนตําแหนงประเภทอํานวยการ ระดับสูง 2.1.6 ระดับ10 เทียบเทากับขาราชการพลเรือนตําแหนงประเภทบริหาร ระดับสูง 2.2 ตําแหนงผูดํารงตําแหนงทางการเมืองทองถิ่น 2.2.1 ผูดํารงตําแหนงประธานสภาองคการบริหารสวนจังหวัด นายกองคการบริหารสวนจังหวัด ประธานสภาเทศบาล นายกเทศมนตรี ประธานสภาเมืองพัทยา และนายกเมืองพัทยา ใหเบิกคาใชจายในการเดินทางไปราชการเทากับขาราชการพลเรือนตําแหนงประเภทอํานวยการ ระดับสูง 2.2.2 ผูดํารงตําแหนงรองประธานสภาองคการบริหารสวนจังหวัด รองนายกองคการบริหารสวนจังหวัด รองประธานสภาเทศบาล รอง นายกเทศมนตรี เทศมนตรี รองประธานสภาเมืองพัทยา รองนายกเมืองพัทยา ประธานสภาองคการบริหารสวนตําบล และนายกองคการบริหารสวนตําบล ใหเบิกคาใชจายในการเดินทางไปราชการเทากับขาราชการพลเรือนตําแหนงประเภทอํานวยการ ระดับตน 2.2.3 ผูดํารงตําแหนงทางการเมืองนอกเหนือจากที่กําหนดไวในขอ 2.2.1และขอ 2.2.2 ใหเบิกคาใชจายในการเดินทางไปราชการเทากับ ขาราชการพลเรือนตําแหนงประเภทวิชาการ ระดับชํานาญการ 2.3 พนักงานราชการ 2.3.1 กลุมงานบริการและกลุมงานเทคนิค เทียบเทากับขาราชการพลเรือนประเภททั่วไป ระดับปฏิบัติงาน 2.3.2 กลุมงานบริหารทั่วไป เริ่มรับราชการ – 9 ป เทียบเทากับขาราชการพลเรือนประเภทวิชาการ ระดับปฏิบัติการ 10-17 ป เทียบเทากับขาราชการพลเรือนประเภทวิชาการ ระดับชํานาญการ 17 ปขึ้นไป เทียบเทากับขาราชการพลเรือนประเภทวิชาการ ระดับชํานาญการพิเศษ 2.3.3 กลุมงานวิชาชีพเฉพาะ เริ่มรับราชการ – 9 ป เทียบเทากับขาราชการพลเรือนประเภทวิชาการ ระดับปฏิบัติการ 10-17 ป เทียบเทากับขาราชการพลเรือนประเภทวิชาการ ระดับชํานาญการ 17 ปขึ้นไป เทียบเทากับขาราชการพลเรือนประเภทวิชาการ ระดับชํานาญการพิเศษ ผูที่ไดรับคาตอบแทนในอัตราสูงสุดของบัญชีอัตราคาตอบแทน เทียบเทากับขาราชการพลเรือนประเภทวิชาการ ระดับเชี่ยวชาญ 2.3.4 กลุมงานเชี่ยวชาญเฉพาะ เริ่มรับราชการ – 4 ป เทียบเทากับขาราชการพลเรือนประเภทวิชาการ ระดับปฏิบัติการ 5-10 ป เทียบเทากับขาราชการพลเรือนประเภทวิชาการ ระดับชํานาญการ 10 ปขึ้นไป เทียบเทากับขาราชการพลเรือนประเภทวิชาการ ระดับชํานาญการพิเศษ ผูที่ไดรับคาตอบแทนในอัตราสูงสุดของบัญชีอัตราคาตอบแทน เทียบเทากับขาราชการพลเรือนประเภทวิชาการ ระดับเชี่ยวชาญ 2.3.5 กลุมงานเชี่ยวชาญพิเศษ เทียบเทากับขาราชการพลเรือนประเภทวิชาการ ระดับเชี่ยวชาญ
11
ของใจ ?
โดย...พะยูนนอย
¾ ทําไมแมวไมชอบวายน้ํา หลายคนคิดวาแมวกลัวน้ํา ความจริงไมใช สังเกตดีๆ จะเห็นวา แมวกระโจนลงน้ําบางเปนครั้งคราว คนที่ชอบดูสารคดีสัตวโลกจะ เห็นบอยวาสัตวในตระกูลเดียวกับแมวซึ่งตัวใหญกวา เชน เสือ หรือ จากัวร ชอบวายน้ํามาก ถาอย างนั้น ทํ า ไมแมวที่เ ราเลี้ ยงไว ต ามบานจึ งไม ยอมจุ ม เท า ลงน้ําดวยซ้ํา เหตุผลงายนิดเดียว เพราะแมวของคุณชอบเลียตัวเอง จนสะอาดมากกวา อีกเหตุผล คือ แมวขี้เกียจ แมวไมอยากใหตัวเปยกเพราะคํานวณแลววาไมคุมคากับการที่ ตองรอใหตัวแหง นอกจากเสียเวลายังตองเหนื่อยกับการเลียตัวเอง ให ส ะอาด แต ถ า คุ ณ ปล อ ยให แ มวหิ ว จนตาลายและเลี้ ย งปลาไว ในสระรับรองวาไดเห็นแมวกระโจนลงน้ําแน***
¾ ขาวโพดทั่วไปนํามาทําเปนขาวโพดคั่วปอบคอรนไดหรือไม ตามจริง ขาวโพดมีอยูหาชนิด แตปอบคอรนเปนเพียงชนิดเดียวที่ นํามาทําขาวโพดคั่วได เกรก ฮอฟแมนจากอเมริกันปอบคอรน กลาววา ขาวโพดชนิดอื่นอาจแตกตัวบาง แตไมคงที่เหมือน ปอบคอรน เคล็ดลับที่ ทําใหปอบคอรนแตกตัวไดดี คือ น้ํา เนื้อในของขาวโพดปอบคอรนมีน้ําผสมอยูซึ่งผูผลิตปอบคอรนตอง พยายามรักษาน้ําสวนนี้ไวใหอยูในระดับประมาณรอยละ 13.5 น้ําเหลานี้ถูกกักไวในกะเปาะนุมๆ ภายในเมล็ด ดานนอกมีเปลือกแข็ง หุมอีกชั้น เมื่อนําขาวโพดไปคั่วหรือไดรับความรอน น้ําในนั้นจะรอนขึ้น และเริ่มขยายตัว เมื่อน้ําขยายตัวจนมีแรงดันมากพอ เปลือกแข็งจะปริ ปลอยใหน้ําดัน ตัวออกมา ทําใหเมล็ดขาวโพดแตกดังเปาะ พรอมกับปลิ้นเอาเนื้อในออกมา ดานนอก ขณะเดียวกันน้ําจะกลายเปนไอน้ําและขาวโพดธรรมดาก็จะ กลายเปนปอบคอรนแสนอรอย สวนขาวโพดอีกสี่ชนิดนั้นสามารถเก็บกักน้ําไดเชนกัน แตเปลือกดาน นอกไมแข็งพอจะตานแรงดันของน้ําไดนานๆ ทําใหเมล็ดขาวโพดไมแตก ตัวดังเปาะอยางที่ตองการ***
โดย...ซาบีไหน
สวั ส ดี ค รั บ ... ซาบี ไ หนขอรายงานความเคลื่ อ นไหวของ สํานักงานสิ่งแวดลอมภาคที่ 14 ในรอบ 3 เดือน ตุลาคม – ธันวาคม 2551 เพราะน้ํา คือ ชีวิต โครงการสมัชชาสุขภาพ จังหวัดสุราษฎร ธานี ได จั ด เวที สมั ช ชาสุ ข ภาพสุ ร าษฎร ธ านี ท า นผู อํ า นวยการ จุม พล ศิริส วั ส ดิ์ ไดรวมแลกเปลี่ย นขอ มูล คุณภาพแมน้ํ า ตาป อาจจะยังไมเสื่อมโทรมมากนัก แตก็ตองรวมดวยชวยกันทุกฝาย เพื่อคุณภาพน้ําที่ดีขึ้น โครงการปาทะเลเพื่อชีวิตก็เห็นดวย ดูแลน้ําหนุนเสริมชุมชน จิตอาสาเฝาระวังดูแลคุณภาพน้ํา สํานักงานสิ่งแวดลอมภาคที่ 14 พี่แ มว (วลั ย พร จิ๋ ว สุว รรณ) นํ าที ม นอ งๆ ห อ งวิ เ คราะห ให ความรู ก ารตรวจสอบปริ ม าณออกซิ เ จนละลายน้ํ า ดี ๆ แบบนี้ ตองขยายตอตลอดทั้งลุมน้ํา
ก็ ขอบคุณนองนักศึกษาฝกงาน
มหาวิ ท ยาลั ย ลั ก ษณ น อ งแอ ว (น.ส.นฤมล เซาะกระโทก) นองขวัญ (น.ส.ธินาพร สุทธิวิริยะ) เต็มที่กับการเรียนรู ชวยงาน พวกพี่ๆ เยอะเลย หวังวานองๆ คงเก็บเกี่ยวอะไรๆ ไปเยอะเชนกัน สํ านัก งานเทศบาลนครสุร าษฎรธ านี ได เปดตั วศูนย รับ ซื้ อ วัส ดุรีไ ซเคิลที่ชุมชนบึงขุนทะเล บริห ารโดยชุมชน เพื่อ ชุมชน ขอปรบมือดังๆ กับความตั้งใจ ส ง ท า ย ป เ ก า ด ว ย เ รื ่อ ง ค น ไ ท ย ห ัว ใ จ ส ีเ ข ีย ว คําขวัญวันสิ่งแวดลอมไทย 4 ธันวาคม 2551 พี่ติ๋ม (รัชนี ทองพันธ) นําทีมนอง ๆ เดินสายใหความรู การจัดการขยะ
และ วิธีชวยลด
โลกรอน พี่ศักดิ์ดา ศิริกุลพิทักษ ก็ชวยอีกแรง ชักชวนนองๆ จัด นิทรรศการสิ่งแวดลอม วันคนพิการสากล ณ สํานักงานเทศบาลนคร สุราษฎรธานี ท ายสุ ด เรื่ องหั วใจต องใช เวลา พอเพี ยงเราตั้ งใจใส ใจ โลกทั้ งใบ จะอยูกับเรา แลวพบกันใหม ปฉลู สวัสดีครับ
เจาของ/ผูจัดทํา
วัตถุประสงค 1. เพื่อเผยแพรความรูวิชาการ กิจกรรม ความกาวหนาเกีย่ วกับสิ่งแวดลอม 2. เพื่อเปนสื่อสัมพันธเสริมสรางความรวมมือ ความเขาใจ และประสานการดําเนินงาน ดานสิ่งแวดลอม 3. เพื่อเปนสื่อในการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และขอมูลขาวสารเกี่ยวกับสิ่งแวดลอม
บรรณาธิการ กองบรรณาธิการ
พิสูจนอักษร ฝายศิลป
: กลุมงานสงเสริมและเผยแพร สํานักงานสิ่งแวดลอมภาคที่ 14 : นายจุมพล ศิริสวัสดิ์ : นายสุชาติ ภูกิตติพันธุ นางรัชนี ทองพันธ นายศักดิ์ดา ศิริกุลพิทักษ นางอโณทัย ธีรสิงห น.ส.จินตมาศ ศิลปพรหมมาศ นายอมร เทพทวี : นางเกษสุดา จุนรัชฎ นางผกามาส วังสะวิบูลย : น.ส.บุญศิริ ศิริสวัสดิ์ น.ส.จิรัฎฐ เทพทวี น.ส.สุภิญญา เกิดแกว น.ส.จุฑาทิพย เพิ่ม น.ส.สุธาสินี ประพัฒน
สงขอมูลขาวสารความคิดเห็น หรือสอบถามปญหาเกี่ยวกับสิ่งแวดลอมไดที่...
สํานักงานสิ่งแวดลอมภาคที่ 14
130 ถนนวัดโพธิ์ ต.มะขามเตี้ย อ.เมือง จ.สุราษฎรธานี 84000 โทรศัพท 077-272789 โทรสาร 077-272584 E-mail Address : contact@reo14.go.th เว็บไซต www.reo14.go.th
สํานักงานสิ่งแวดลอมภาคที่ 14 130 ถนนวัดโพธิ์ ต.มะขามเตี้ย อ.เมือง จ.สุราษฎรธานี 84000
เรียน
ชําระคาฝากสงเปนรายเดือน ใบอนุญาตที่ 6/21 ปณช.สุราษฎรธานี 102