01
ท� ำ ค� ำ นามเอกพจน์ ใ ห้ เ ป็ น พหู พ จน์ โดยการเติ ม s
ในภาษาอังกฤษค�ำนามนับได้ชิ้นเดียว อันเดียว ตัวเดียว หรือคนเดียว จะเรียกว่า ค�ำนามเอกพจน์ (singular nouns) เช่น ปากกาแท่งเดียว, เด็ก ผู้หญิงคนเดียว, ลูกแมวตัวเดียว
singular noun
ทีนี้ถ้าเกิดมีหลายชิ้น หลายตัว หลายอัน หรือหลายคนขึ้นมา ค�ำนาม เหล่านั้นจะเรียกว่า ค�ำนามพหูพจน์ (plural nouns) ซึ่งต้องมีการเปลี่ยนรูปร่าง นิดหน่อย การเปลีย่ นจากค�ำนามเอกพจน์ไปเป็นพหูพจน์แบบพืน้ ฐานทีส่ ดุ ก็คอื การใส่ s ท้ายค�ำนาม
plural noun
8
ปากกา
pens (เพนซฺ)
cat (แคท)
แมว
cats (แคทซฺ)
boy (บอย)
เด็กผู้ชาย
boys (บอยซฺ)
snake (สเนค)
งู
snakes (สเนคซฺ)
window (วิน’โด)
หน้าต่าง
windows (วิน’โดซฺ)
pencil (เพน’ซิล)
ดินสอ
pencils (เพน’ซิลซฺ)
คำ�นาม (Nouns)
pen (เพน)
ค�ำนามเมื่อมีการเติม s เพื่อเปลี่ยนรูปเป็นพหูพจน์แล้ว เวลาออกเสียง อย่าลืมออกเสียง s ด้วยนะคะ ตรงนี้คนที่ไม่ใช่เจ้าของภาษาตกม้าตายกันเยอะ ไม่ยอมออกเสียง s แล้วออกเสียง s อย่างไร แบบง่ายๆ เราก็เพิ่มเสียง ซ (ซึ) ต่อท้ายลงไป ลากเสียงสักนิด ก็จะได้ค�ำนามพหูพจน์ที่ถูกต้องแล้วค่ะ 9
02
ท� ำ ค� ำ นามเอกพจน์ ใ ห้ เ ป็ น พหู พ จน์ โดยการเติ ม
การท�ำค�ำนามเอกพจน์ให้เป็นพหูพจน์นนั้ มีกฎกติกาเพิม่ เติมนิดหน่อย นะคะ ถ้าเป็นค�ำนามทั่วไปก็เติม s ต่อท้ายไปตามปกติ แต่ถ้าค�ำนามนั้นลงท้าย ด้วย s, ss, sh, ch, x และ z จากที่เติม s ต้องเปลี่ยนมาเติม es ค่ะ
s, ss, sh ch, x, z
+ es
และจากเดิมเวลาค�ำนามพหูพจน์เติม s แล้วเราจะออกเสียง ซึ ต่อท้าย ถ้าเติม es ต้องออกเสียงพยัญชนะตัวสุดท้าย รวมกับเสียง อิส ถือเป็น รูปพหูพจน์ที่มีการออกเสียงพิเศษกว่าค�ำนามรูปพหูพจน์อื่นๆ เลยค่ะ (ปกติจะ ออกเสียงแค่ s ซึ)
s es 10
ซึ อิส
รถประจ�ำทาง
buses (บัส’ซิส)
box (บอคซฺ)
กล่อง
boxes (บอค’ซิส)
kiss (คิส)
การจูบ
kisses (คิส’ซิส)
witch (วิทชฺ)
แม่มด
witches (วิท’ชิส)
bench (เบนชฺ)
ม้านั่ง
benches (เบนชฺ’ชิส)
brush (บรัช)
แปรงหรือพุ่มไม้
brushes (บรัช’ชิส)
branch (บรานชฺ)
สาขา
branches (บราน’ชิส)
watch (วอชฺ)
นาฬิกาข้อมือ
watches (วอชฺ’ชิส)
คำ�นาม (Nouns)
bus (บัส)
11
03
ค� ำ นามเอกพจน์ ที่ ล งท้ า ยด้ ว ย y เมื่ อ ท� ำ ให้ เ ป็ น พหู พ จน์
ส�ำหรับค�ำนามบางค�ำที่ลงท้ายด้วยตัว y เช่น baby, boy, toy, way, lorry ให้แยกเป็น 2 ประเด็น
a, e, i, o, u
+
s
ถ้าหน้า y เป็นสระคือ เป็น a, e, i, o, u เติม s ปกติ
12
boy (บอย)
เด็กผู้ชาย
boys (บอยซฺ)
way (เว)
ทาง, ทิศทาง
ways (เวซฺ)
day (เด)
วัน
days (เดซฺ)
toy (ทอย)
ของเล่น
toys (ทอยซฺ)
คำ�นาม (Nouns)
not a, e, i, o, u
I + es
ถ้าหน้า y เป็นพยัญชนะ (ไม่ใช่ a, e, i, o, u) ให้เปลี่ยน y เป็น i แล้วใส่ es ต่อท้ายเข้าไป baby (เบ’บี)
ทารก
babies (เบ’บีซฺ)
study (สตัด’ดี)
งานวิจัย
studies (สตัด’ดีซฺ)
lorry (ลอร์’รี)
รถบรรทุกขนาดใหญ่
lorries (ลอร์’รีซฺ)
story (สตอ’รี)
เรื่องราว, นิทาน, นิยาย
stories (สตอ’รีซฺ) 13
04
ค� ำ นามเอกพจน์ ที่ ล งท้ า ยด้ ว ย o เมื่ อ ท� ำ ให้ เ ป็ น พหู พ จน์
ค�ำนามเอกพจน์ที่ลงท้ายด้วย o นั้นแปลก ไม่มีหลักการตายตัวว่า จะเติม s หรือ es บางค�ำก็เติม s ในขณะที่บางค�ำก็เติม es ซ�้ำร้ายบางค�ำ ยังเติม s หรือ es ก็ได้ด้วย ต้องอาศัยการใช้บ่อยๆ และจดจ�ำเอานะคะ ตัวอย่าง ค�ำที่เจอบ่อยๆ ก็มีดังนี้ค่ะ
o
ค�ำนามที่ลงท้ายด้วย แต่เติม s
14
memo (เมม’โม)
บันทึก
memos (เมม’โมซฺ)
kilo (คิล’โล)
กิโลกรัม, กิโลเมตร
kilos (คิล’โลซฺ)
auto (ออ’โท)
รถ
autos (ออ’โทซฺ)
piano (พีแอน’โน)
เปียโน
pianos (พีแอน’โนซฺ)
photo (โฟ’โท)
ภาพหรือรูปถ่าย
photos (โฟ’โทซฺ)
studio (สติว’ดิโอ)
ห้องท�ำงาน
studios (สติว’ดิโอซฺ)
zoos (ซูซฺ) videos (วิ’ดีโอซฺ) tattoos (เททูซฺ’) pros (โพรซฺ) kangaroos (แคงกะรูซฺ’)
สวนสัตว์ ม้วนวิดีโอ รอยสัก, การสัก ข้อสนับสนุน จิงโจ้
o
ค�ำนามที่ลงท้ายด้วย แต่เติม echo (เอค’โค) hero (ฮี’โร) veto (วี’โท) potato (พะเท’โท) tomato (ทะเม’โท)
เสียงสะท้อน วีรบุรุษ สิทธิยับยั้ง มันฝรั่ง มะเขือเทศ
คำ�นาม (Nouns)
zoo (ซู) video (วิ’ดีโอ) tattoo (เททู’) pro (โพร) kangaroo (แคงกะรู’)
es echoes (เอค’โคซฺ) heroes (ฮี’โรซฺ) vetoes (วี’โทซฺ) potatoes (พะเท’โทซฺ) tomatoes (ทะเม’โทซฺ) 15
61
adverbs คื อ อะไร
adverbs แปลเป็นภาษาไทยว่า ค�ำวิเศษณ์ เป็นค�ำที่ท�ำหน้าที่ ขยายค�ำ 3 ชนิดคือ 1. ขยายค�ำกริยา 2. ขยาย adjectives 3. ขยาย adverbs ด้วยกันเอง He sings nicely. เขาร้องเพลงได้ดี (nicely เป็น adverb ขยายกริยา sings)
This idea is really ridiculous. ความคิดนี้มันน่าขันจริงๆ (really เป็น adverb ขยาย ridiculous ซึ่งเป็น adjective) They speak English very well. พวกเขาพูดภาษาอังกฤษได้ดีมาก (very เป็น adverb ขยาย well ซึ่งเป็น adverb ขยาย speak English) 192
62
adverbs มี กี่ ป ระเภท
เพื่อบอกว่า
คำ�วิเศษณ์
adverbs
เกิดอะไรขึ้น อย่างไร? เกิดอะไรขึ้น ด้วยวิธีไหน? เกิดอะไรขึ้น ที่ไหน? เกิดอะไรขึ้น เมื่อไร? เกิดอะไรขึ้น บ่อยแค่ไหน?
(Adverbs)
adverbs มีหน้าที่ขยายค�ำนาม, adjectives และ adverbs (บางคนอาจจะบอกว่า รูแ้ ล้ว ย�ำ้ จังเลย) แต่ทนี ขี้ ยายเพือ่ อะไร adverbs ขยายค�ำ ทั้ง 3 ชนิดเพื่อบอกว่า
สรุปว่า adverbs มี 5 ประเภทค่ะ 1. adverbs ที่บอกว่า เกิดอะไรขึ้นอย่างไร เป็น adverbs กลุ่มที่ เรียกว่า adverbs of manner Mary speaks Chinese fluently. แมรี่พูดภาษาจีนคล่องแคล่ว (fluently ขยาย speaks ให้รู้ว่า พูดอย่างไร)
193
2. adverbs ที่บอกว่า เกิดอะไรขึ้น ที่ไหน เป็น adverbs กลุ่มที่เรียกว่า adverbs of place
I live here. ฉันอาศัยอยู่ที่นี่ (here ขยาย live ให้รู้ว่า อยู่ที่ไหน) 3. adverbs ที่บอกว่า เกิดอะไรขึ้น เมื่อไร เป็น adverbs กลุ่มที่เรียกว่า adverbs of time
He came here yesterday. เขามาที่นี่เมื่อวานนี้ (yesterday ขยาย came ให้รู้ว่า มาเมื่อไร) 194
5. adverbs ที่บอกว่า เกิดอะไรขึ้นอย่างไร ระดับไหน เข้มข้นหรือมาก น้อยอย่างไร เป็น adverbs กลุ่มที่เรียกว่า adverbs of degree
คำ�วิเศษณ์
Tony always sleeps late. โทนี่นอนดึกเสมอ (always ขยาย sleeps late ให้รู้ว่า นอนดึกบ่อยแค่ไหน)
(Adverbs)
4. adverbs ที่บอกว่า เกิดอะไรขึ้นบ่อยแค่ไหน เป็น adverbs กลุ่มที่ เรียกว่า adverbs of frequency
They’re running very quickly. พวกเขาก�ำลังวิ่งอย่างเร็วมาก (very ขยาย quickly ให้รู้ว่า เร็วระดับไหน เร็วมาก) 195
63
ความแตกต่ า งระหว่ า ง adjectives กั บ adverbs
สั้นๆ ได้ใจความเลยค่ะ adjectives ท�ำหน้าที่ขยายค�ำนามและค�ำ สรรพนามเท่านั้น ส่วน adverbs ขยายได้ 3 อย่างทั้งกริยา, adjectives และ adverbs
nouns
ขยาย adjectives ขยาย
ขยาย adverbs
ขยาย
ขยาย
196
pronouns
verbs adjectives adverbs
คำ�วิเศษณ์
Sam is a very clever man. แซมเป็นผู้ชายที่เก่งมาก (very เป็น adverb ท�ำหน้าที่ ขยาย clever ซึ่งเป็น adjective)
(Adverbs)
Sam is a clever man. แซมเป็นผู้ชายที่เก่ง (clever เป็น adjective ท�ำหน้าที่ ขยายค�ำนาม man)
They are young. พวกเขายังเด็ก (young เป็น adjective ท�ำหน้าที่ ขยาย They ซึ่งเป็นค�ำสรรพนาม) They run quickly. พวกเขาวิ่งอย่างเร็ว (quickly เป็น adverb ท�ำหน้าที่ ขยาย run ซึ่งเป็นกริยา)
197
correlative conjunctions correlative แปลว่า สัมพันธ์กัน ดังนั้น correlative conjunctions จึง มาเป็นคู่ ส่วนมากจะใช้ทั้งคู่ แต่บางครั้งสามารถใช้ตัวใดตัวหนึ่งได้ ตัวอย่าง ของ conjunctions ในกลุ่มนี้ ได้แก่ either… or, neither… nor, not only… but also correlative conjunctions มาเป็นคู่ ค�ำ วลี ประโยคย่อย
296
ได้แก่ either… or, neither… nor, not only… but also
ค�ำ วลี ประโยคย่อย
subordinate แปลว่า เป็นรอง แสดงว่า subordinating conjunctions ใช้เชื่อมประโยคที่เป็นส่วนขยาย (ตัวรอง) เข้ากับประโยคที่เป็นใจความหลัก (main clause) โดย subordinating conjunctions จะวางไว้หน้าประโยคที่เป็น ส่วนขยาย (ตัวรอง) เสมอ ตัวอย่างของ conjunctions ในกลุม่ นี้ ได้แก่ when, until, while, because, in order that
ประโยคหลัก
(main clause)
subordinating conjunction
ประโยครอง (ส่วนขยาย)
subordinating conjunction
ประโยครอง (ส่วนขยาย)
,
ประโยคหลัก
คำ�สันธาน (Conjunctions)
subordinating conjunctions
(main clause)
297
88
conjunctions และ transition signals เชื่ อ มตามความหมาย
transition signals นอกจาก conjunctions ที่กล่าวมาแล้ว ยังมีตัวเชื่อมอีกประเภทหนึ่ง ซึ่งมักจะไม่ถูกเรียกว่า conjunctions แต่ท�ำหน้าที่เดียวกับ conjunctions นั่นก็คือ ค�ำอย่างเช่น however, nevertheless, on the other hand ค�ำพวก นี้มักจะถูกเรียกว่า transition signals โดยจะใช้ในการเชื่อมความหมายของ ประโยคเต็มๆ สองประโยค
however
transition signals
nevertheless on the other hand
298
คำ�สันธาน (Conjunctions)
นอกจากการแบ่งประเภทของ conjunctions ตามลักษณะแล้ว ยัง สามารถแบ่งประเภทของ conjunctions ตามความหมายในการเชือ่ มค�ำ กลุม่ ค�ำ หรือประโยคย่อยได้อีกด้วยดังนี้ 1. คล้อยตาม conjunctions ในกลุ่มนี้ใช้เชื่อมค�ำ กลุ่มค�ำ หรือประโยคย่อย โดยที่ทั้ง 2 ฝั่งมีใจความไปในทางเดียวกัน เสริมกัน ตัวอย่าง conjunctions ใน กลุ่มนี้ ได้แก่ and (และ), both... and… (ทั้ง… และ…) conjunctions
คล้อยตาม
and (และ) both... and... (ทั้ง... และ...)
2. ขัดแย้ง conjunctions ในกลุ่มนี้ใช้เชื่อมค�ำ กลุ่มค�ำ หรือประโยคย่อย โดยที่ทั้ง 2 ฝั่งมีใจความขัดแย้งกัน ตัวอย่าง conjunctions ในกลุ่มนี้ ได้แก่ but (แต่), however (อย่างไรก็ตาม), although (ถึงแม้ว่า) conjunctions
ขัดแย้ง
but (แต่) however (อย่างไรก็ตาม) although (ถึงแม้ว่า)
299
130
if กั บ กรณี ที่ เ ป็ น จริ ง เสมอ (type 0)
if clauses แบบแรกที่จะแนะน�ำให้รู้จักคือ กรณีที่ถ้าเงื่อนไขเกิดขึ้น ผล จะเกิดขึ้นเสมอ
if clauses (type 0)
เงื่อนไขเป็นจริง ผลเป็นจริงเสมอ
if clauses จ�ำพวกนี้ใช้กับข้อมูล ข้อเท็จจริงต่างๆ ข้อมูลทางสถิติ หรือ วิทยาศาสตร์ if clauses แบบนี้มีชื่อเรียกว่า if clauses type 0 (เลขศูนย์) โดยใช้โครงสร้างประโยคดังนี้ If
S Present Simple verb , S Present Simple verb
memo Present Simple verb คือ กริยาช่องที่ 1 ถ้าประธานเป็น he, she, it หรือค�ำนามเอกพจน์ ต้องเติม s หรือ es ท้ายกริยา แต่ ถ้าประธานเป็น I, you, we, they หรือค�ำนามพหูพจน์ ใช้กริยาได้เลย ไม่ต้องเติม s หรือ es 450
If it rains, you get wet. ถ้าฝนตก คุณก็เปียก
(If Clauses) ประโยคเงื่อนไข
If you heat ice, it melts. ถ้าคุณอุ่นน�้ำแข็ง มันก็ละลาย
Plants die if they don’t get enough water. ต้นไม้ตาย ถ้าพวกมันไม่ได้รับน�้ำเพียงพอ
451
131
if กั บ กรณี ที่ เ ป็ น ไปได้ ใ น
ปั จ จุ บั น และอนาคต (type 1)
if clauses แบบต่อมามีชื่อเรียกว่า type 1 ถ้าเงื่อนไขเป็นจริง ผลน่า จะเกิดขึ้นในปัจจุบันหรือในอนาคต (อาจจะไม่เกิดขึ้นก็ได้) แต่มีเปอร์เซ็นต์ที่ จะเกิดขึ้นสูง
if clauses (type 1)
เงื่อนไขเป็นจริง ผลน่าจะเกิดขึ้น (ในปัจจุบันหรืออนาคตข้างหน้า)
if clauses จ�ำพวกนี้ใช้กับการพูดในเรื่องทั่วๆ ไป ถ้าสิ่งนี้เกิดขึ้น สิ่ง นั้นก็น่าจะเกิดขึ้น if clauses แบบนี้มีชื่อเรียกว่า if clauses type 1 โดยมี โครงสร้างประโยคดังนี้ If
S Present Simple verb , S will V.1
(If Clauses) ประโยคเงื่อนไข
If I have enough time, I will watch the football match. ถ้าฉันมีเวลาพอ ฉันจะไปดูการแข่งขันฟุตบอล
If you don’t hurry, you will miss the train. ถ้าคุณไม่รีบ คุณจะตกรถไฟนะ
I will call the police if you don’t’ leave. ฉันจะเรียกต�ำรวจ ถ้าคุณไม่ออกไป 453
134
ใช้ wish เพื่ อ อวยพร
เวลาเราจะอวยพรอะไรให้ใคร เราสามารถใช้กริยา wish ที่แปลว่า ปรารถนา ได้ค่ะ โดยมีรูปแบบการใช้ดังนี้
I wish
Good Luck
คนที่เราจะอวยพร
กลุ่มค�ำนาม/วลี
I wish you good luck in your new job. ฉันขอให้คุณโชคดีกับงานใหม่ I wish Frank success with the exam. ฉันขอให้แฟรงค์สอบผ่าน I wish Kate a good score. ฉันขอให้เคทได้คะแนนดี Frank
462
Kate
I wish you a happy new year. ฉันขอให้คุณมีความสุขในปีใหม่
I wish Tony happiness in his marriage. ฉันขอให้โทนี่มีความสุขในชีวิตแต่งงาน
อวยพร หรือพูดถึงเรื่องสมมติ
New Year 2014
(Wishes)
I wish you speedy recovery. ฉันขอให้คุณหายเร็วๆ
I wish you happiness on your birthday. ฉันขอให้คุณมีความสุขในวันเกิด
I wish you a safe journey. ฉันขอให้คุณเดินทางปลอดภัย 463