4. PPT คุณกฤตยาพร

Page 1

ปปจจยทมความสมพนธตอการยอมรบนวตกรรมเพอ จจัยที่มคี วามสัมพันธตอ การยอมรับนวัตกรรมเพือ่ การบริหารทรัพยากรองคการ ฝายทรัพยากรบุคคล สํานักงานคณบดี คณะแพทยศาสตรศรราชพยาบาล ณะแพ ยศ ส รศิริร ชพย บ


ปั จจัยที่มีความสัมพันธ์ ต่อการยอมรั บนวัตกรรม เพื่อการบริหารทรั พยากรองค์ การ เพอการบรหารทรพยากรองคการ ฝ่ ายทรั พยากรบุคคล สํานักงานคณบดี คณะแพทยศาสตร์ ศริ ิราชพยาบาล คณะแพทยศาสตรศรราชพยาบาล Factors Relating to Innovation Acceptance for Organization Resource Management p Human Resource Department Office of the Dean , Faculty of Medicine Siriraj Hospital


วัตถประสงค์ วตถุ ประสงค • เพื่อศึกษาระดับการยอมรับของการนํานวัตกรรมทางด้านการบริ หาร ทรัพยากรองค์การมาใช้ในคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล • เพื่อเปรี ยบเทียบการยอมรับของการนํานวัตกรรมทางด้านการบริ หาร ทรัพยากรองค์การมาใช้ในคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาลจําแนกตาม ทรพยากรองคการมาใชในคณะแพทยศาสตรศรราชพยาบาลจาแนกตาม ปัจจัยส่ วนบุคคล • เพอศกษาปจจยทมความสมพนธตอการยอมรบการนานวตกรรมทางดาน เพื่อศึกษาปั จจัยที่มีความสัมพันธ์ต่อการยอมรับการนํานวัตกรรมทางด้าน การ บริ หารทรัพยากรองค์การมาใช้ในคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ใ • เพือื่ เสนอแนวทางการส่​่ งเสริ​ิ มการยอมรั​ับในการนํ าํ นวัตั กรรมทางด้า้ นการ บริ หารทรัพยากรองค์การมาใช้ในคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล


โจทย์ การวิจัย โจทยการวจย • ปัจจัยส่ วนบุคคล ได้แก่ เพศ อายุ ระดับการศึกษา อายุราชการ เงินเดือน และระยะเวลาที่ใช้งานระบบงาน ที่แตกต่างกันมีผลต่อการยอมรับ นวัตกรรมเพื่อการบริ หารทรัพยากรองค์การที่แตกต่างกัน ปัจจัยเชิงระบบภายในองค์การ ได้ ไดแก แก่ เป้เปาหมายและคานยมขององคการ าหมายและค่านิยมขององค์การ • ปจจยเชงระบบภายในองคการ โครงสร้างขององค์การ เทคโนโลยี จิตวิทยาสังคม และการจัดการ มี ความสัมพันธ์ต่อการยอมรับนวัตกรรม เพื ความสมพนธตอการยอมรบนวตกรรม เพอการบรหารทรพยากรองคการ ่อการบริ หารทรัพยากรองค์การ ที่ แตกต่างกัน


แนวคิดและทฤษฎีที่ใช้ ในการศึกษาวิจัย แนวคดและทฤษฎทใชในการศกษาวจย ตัวแปรอิสระ 1. ปั จจัยส่ วนบุคคล 2. ปั จจัยเชิงระบบ ภายในขององค์การ โดยใช้ ภายในขององคการ โดยใช ทฤษฎีระบบของ K t & Rosenzweig Kast R i

ตัวแปรตาม การยอมรับนวัตกรรม ขัขนความรู ้นความร้ ขั้นการจูงใจ ขั้นการตัดสิ นใจ ขนการตดสนใจ ขั้นการนําไปใช้ ขั้นการยืนยัน ขนการยนยน


ทบทวนวรรณกรรม  แนวคิ​ิดเกี​ี่ยวกับั การยอมรั​ับนวัตั กรรม  ทฤษฏีระบบ  ทฤษฎีเชิงระบบภายในองค์การตามแนวคิดทฤษฎีระบบของ Kast & Rosenzweigg  บริ บทขององค์การ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล  ผลงานวจยทเกยวของ ผลงานวิจยั ที่เกี่ยวข้อง


ระเบียบวิธีวจิ ยั


ประชากร

เจ้าหน้าที่ผใู ้ ช้งานระบบ SAP ของฝ่ ายทรัพยากรบุ​ุคคล ของคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล จํานวน 107 คน ที่ใช้งานระบบ SAP – HR ตงแต ทใชงานระบบ ตั้งแต่ 4 เดอนขนไป เดือนขึ้นไป มีผตู้ อบแบบสอบถามทั้งสิ้ นจํานวน 97 คน คดเปนอตราการตอบกลบร้ ั ้อยละ 90.65 ิ ป็ ั


สถิตทิ ใี่ ช้ ในการวิเคราะห์ ข้อมลล สถตทใชในการวเคราะหขอมู 1.1 การวเคราะหโดยใชสถตเชงพรรณนา ิ ์โ ใ ้ ิ ิ ิ (D i i statistic) (Descriptive i i ) เพออธบายถง ื่ ิ ึ ลักษณะปัจจัยส่ วนบุคคล 1.1 ค่าร้อยละ เพือ่ ใช้ในการแปลความหมายของข้อมูลประชากรศาสตร์​์ของ ผูต้ อบแบบสอบถาม 1.2 ค่าคะแนนเฉลี่ย เพื่อใช้แปลความหมายของข้อมูลในด้านต่างๆ ใน แบบสอบถาม ส่ วนที่ 1 และ 2 1.3 ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน เพื่อใช้ในแปลความหมายของข้อมูลในด้านต่างๆ ในแบบสอบถามส่ วนที่ 1 และ 2


สถิตทิ ใี่ ช้ ในการวิเคราะห์ ข้อมลล สถตทใชในการวเคราะหขอมู 22. การวเคราะหโดยสถตเชงอนุ ิ ์โ ิ ิ ิ มาน (Inferential (I f i l Statistic) S i i) สถิติการทดสอบเพื่อเปรี ยบเทียบข้อมูล T – Test Independent ใช้เปรี ยบเทียบ ่ ่ ่ ี่ ป ความแตกตางระหวางคาคะแนนเฉลยของประชากร 2 กลุ่ม และ One – Way Anova ใช้เปรี ยบเทียบความแตกต่างระหว่างค่าคะแนนเฉลี่ยของประชากร มากกวา่ 2 กลุ่ม และ Multiple l i l CComparisons i เมอเปรยบเทยบคาเฉลยของ ื่ ป ี ี ่ ี่ ประชากรมากกว่า 2 กลุ่มแล้วมีความแตกต่างกัน เพื่อให้ทดสอบสมมติฐานข้อ ที่ 1 สถิติสมั ประสิ ทธิ์สหสัมพันธ์แบบเพียร์สนั (Pearson’s Correlation) ใช้สาํ หรับ ่ ี ่ ั ป เพอทดสอบสมมตฐานขอท หาความสมพนธระหวางตวแปร สั ั ์ ื่ ส ส ิ ้ ี่ 2 วาม ความสัมพันธ์กนั หรื อไม่สมั พันธ์กนั


ผลการวิจยั ผลการวจย ประชากร ประชากรของฝ่ ายทรัพยากรบุ​ุคคล จะพบว่า ส่ วนใหญ่ ญเป็ นเพศหญิ ญง มีอายุ​ุ ระหว่าง26 - 30 ปี มีระดับการศึกษาปริ ญญาตรี มีระดับเงินเดือนตั้งแต่ 10,000 – 15,000 บาท มีอายุกุ ารทํางานระหว่าง 1- 5 ใช้เวลาปฏิฏบตั ิงานในระบบ โปรแกรม SAP-HR มากกว่า 4 ชัว่ โมง และModule (ระบบงานย่อย) ที่ใช้งาน มากคือ Module เงินเดือนและค่าตอบแทน


ระดับการยอมรับของการนํานวัตกรรมทางด้ านการบริหารทรัพยากร องค์ การมาใช้ ในคณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล ด้ านเป้ าหมายและค่ านิยมขององค์​์ การ การศึกษาระดับการยอมรับการนํานวัตกรรมทางด้านการบริ หารทรัพยากรองค์การมาใช้ในคณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล ในดานเปาหมายและคานยมขององคการมระดบปานกลางอยู ศรราชพยาบาล ในด้านเป้ าหมายและค่านิ ยมขององค์การมีระดับปานกลางอย่ในลํ นลาดบท าดับที่ 2 ตามกรอบแนวคด ตามกรอบแนวคิด ทฤษฏีระบบของ Kast & Rosenzweig นั้น แสดงให้เห็นว่า ฝ่ ายทรัพยากรบุคคล สํานักงานคณบดี คณะ แพทยศาสตร์ ศิริ ราชพยาบาล ให้ความสํา คัญ กับ เป้ าหมาย นโยบาย ตลอดจนวิสัยทัศ น์ พันธกิ จที่ จะเป็ น สถาบันทางการแพทย์ของแผ่นดิน ม่มุงสูส่ ความเป็ สถาบนทางการแพทยของแผนดน วามเปนเลศระดบสากล นเลิศระดับสากล และเห็ และเหนดวยวา นด้วยว่า นวตกรรมเพอการบรหาร นวัตกรรมเพื่อการบริ หาร ทรัพยากรองค์การ ระบบงาน SAP – HR เป็ นระบบงานที่รองรับการดําเนินการของคณะฯ เพื่อให้สัมฤทธิ์ ผล ตามนโยบาย และวิสยั ทัศน์พนั ธกิจข้างต้น อีกทั้งยังสอดคล้องกับค่านิยมหลักของคณะฯ ทั้ง 6 ข้อ


ระดับความคิดเห็นต่ อปัจจัยเชิงระบบภายในองค์ การ ประกอบด้ วย เป้ าหมายและ ค่ านิยมขององค์ การ โครงสร้ างขององค์ การ เทคโนโลยี จิตวิทยาสั งคม และการ จัดการ รายด้ าน รายข้ อ การบริ หารปัจจัยเชิงระบบภายในองค์การ ของฝ่ ายทรัพยากรบุคคล สํานักงานคณบดี คณะ แพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ทั้ง 5 ด้าน มีค่าเฉลี่ยในระดับปานกลาง ซึ่ งเมื่อเรี ยงลําดับค่าเฉลี่ย จากมากไปหาน้อย จะพบวาดานของโครงสรางองคการมคามากทสุ จากมากไปหานอย จะพบว่าด้านของโครงสร้างองค์การมีค่ามากที่สด รองลงมาคื รองลงมาคอดาน อด้าน เป้ าหมายและค่านิยมขององค์การ ด้านการจัดการ ด้านจิตวิทยาสังคม และด้านเทคโนโลยีเป็ น ด้านที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุ ด แสดงให้เห็นว่าเจ้าหน้าที่ฝ่ายทรัพยากรบุ​ุคคล สํานักงานคณบดี คณะ แพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล เห็นว่า ปั จจัยเชิงระบบด้านโครงสร้างขององค์การเป็ นด้านที่ได้ ค่าเฉลี่ยสูงสุ ด แต่หากพิจารณาถึงด้านที่ได้ค่าเฉลี่ยน้อยที่สุดของการปั จจัยเชิงระบบด้าน เทคโนโลยี


ระดับความคิดเห็นต่ อการยอมรับนวัตกรรม ประกอบด้ วย 5 ขั้นตอนได้ แก่ ขั้น ความรู้ ขั้นการจูงใจ ขั้นการตัดสิ นใจ ขั้นการนําไปใช้ ขั้นการยืนยัน การยอมรับนวัตกรรม ของฝ่ ายทรัพยากรบุคคล สํานักงานคณบดี คณะแพทยศาสตร์ศิริราช พยาบาล ทั้ง 5 ด้าน มีค่าเฉลี่ยในระดับปานกลาง ซึ่งเมื่อเรี ยงลําดับค่าเฉลี่ยจากมากไปหา น้อย จะพบว่าขั้นการตัดสิ นใจมีค่ามากที่สุด รองลงมาคือขั้นการยืนยัน ขั้นการจูงใจ ขั้นการ นําไปใช้ และขนความรู นาไปใช และขั้นความร้เปนดานทมคาเฉลยนอยทสุ ป็ นด้านที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สด แสดงใหเหนวาเจาหนาทฝายทรพยากร แสดงให้เห็นว่าเจ้าหน้าที่ฝ่ายทรัพยากร บุคคล สํานักงานคณบดี คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ตัดสิ นใจยอมรับนวัตกรรมเป็ น ด้านที่ได้ค่าเฉลี่ยสู​ูงสุ​ุ ด แต่หากพิจารณาถึงด้านที่ได้คา่ เฉลี่ยน้อยที่สุ ดของการยอมรับนวัตกรรม คือขั้นความรู ้


ผลการวิเคราะห์ ความสั มพันธ์ ของปัจจัยส่ วนบุคคลต่ อระดับของการ ยอมรับนวัตกรรมเพือ่ การบริหารทรัพยากรองค์ การ ของฝ่ ายทรัพยากร บุบคคล คคล สานกงานคณบด สํ านักงานคณบดี คณะแพทยศาสตรศรราชพยาบาล คณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล ปัจจัยส่ วนบุคคล ด้านเพศ มีผลต่อการยอมรับนวัตกรรมด้านการบริ หาร ทรัพยากรองค์การ แตกตางกน ทรพยากรองคการ แตกต่างกัน บุคลากรทั้งเพศหญิงและเพศชายของฝ่ ายทรัพยากรบุคคล สํานักงานคณบดี คณะ แพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มคาเฉลยของขนความรู แพทยศาสตรศรราชพยาบาล มีค่าเฉลี่ยของขั้นความร้ การจู การจงใจ งใจ การตดสนใจ การตัดสิ นใจ การนาไปใช การนําไปใช้ และการยืนยัน ซึ่งเป็ นขั้นของการยอมรับนวัตกรรมด้านการบริ หารทรัพยากรองค์การ ที่ไม่ แตกต่างกัน ที่ระดับนัยสําคัญที่ 0.05 แสดงว่าเพศที่ต่างกัน มีผลต่อการยอมรับนวัตกรรม ด้านการบริ หารทรัพยากรองค์การไม่ แตกต่ างกัน


บุคลากรที่มีอายุต่างกัน มีผลต่อการยอมรับนวัตกรรมด้านการบริ หาร ทรัพยากรองค์การ แตกต่างกัน อายุบุคลากรของฝ่ ายทรัพยากรบุคคล สํานักงานคณบดี คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มี ค่า่ เฉลี​ี่ยของขั้นั ความรู ้ การจูงใจ ใ การตัดั สิ​ิ นใจ ใ การนําํ ไปใช้ ไปใ ้ และการยืนื ยันั ซึ่ ึงเป็ป็ นขั้นั ของการการ ยอมรับนวัตกรรมด้านการบริ หารทรัพยากรองค์การ ไม่แตกต่างกัน ที่ระดับนัยสําคัญที่ 0.05 ่างกัน มผลตอการยอมรบนวตกรรมดานการบรหารทรพยากรองคการทไม แสดงว่าอายทีท่ตตางกน แสดงวาอายุ มีผลต่อการยอมรับนวัตกรรมด้านการบริ หารทรัพยากรองค์การที่ไม่ แตกต่ างกัน

บุ​ุคลากรที่มีระดับการศึกษาต่างกัน มีผลต่อการยอมรับนวัตกรรมด้านการบริ หาร ทรัพยากรองค์การ แตกต่างกัน การศึกษาของบุ​ุคลากร ฝ่ ายทรัพยากรบุ​ุคคล สํานักงานคณบดี คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มีค่าเฉลี่ยของขั้นความรู ้ ขั้นของการนําไปใช้ที่แตกต่างกัน ที่ระดับนัยสําคัญที่ 0.05 แสดงว่า การศึกษาของบุคลากรที่ต่างกันส่งผลต่อการยอมรับนวัตกรรมด้านการบริ หารทรัพยากรองค์การ ที่แตกต่ างกัน


บุคลากรที่มีเงินเดือนต่างกัน มีผลต่อการยอมรับนวัตกรรมด้านการ บริ หารทรัพยากรองค์การ แตกต่างกัน เงินเดือนของบุคลากร ฝ่ ายทรัพยากรบุคคล สํานักงานคณบดี คณะแพทยศาสตร์ศิริราช พยาบาล มีค่าเฉลี่ยของขั้นความรู ้ การตัดสิ นใจ ที่แตกต่างกัน แต่มีข้ นั ของการจูงใจ การ นําไปใช้ และการยืนยัน ที่ไม่แตกต่างกัน ที่ระดับนัยสําคัญที่ 0.05 แสดงว่า เงินเดือนที่ ต่​่างกันั ส่​่งผลให้ ใใ ับนวัตั กรรมด้า้ นการบริ​ิ หาร ใ ม้ ีข้นั ความรู ้ และการตัดั สิ​ิ นใจในการยอมรั ทรัพยากรองค์การที่แตกต่ างกัน

บุคลากรทมอายุ บคลากรที ่มีอายราชการต่ ราชการตางกน างกัน มีมผลตอการยอมรบนวตกรรมดานการบรหาร ผลต่อการยอมรับนวัตกรรมด้านการบริ หาร ทรัพยากรองค์การ แตกต่างกัน อายุราชการของบุคลากร ฝายทรพยากรบุ อายราชการของบคลากร ฝ่ ายทรัพยากรบคคล คคล สานกงานคณบด สํานักงานคณบดี คณะแพทยศาสตรศรราช คณะแพทยศาสตร์ศิริราช พยาบาล มีค่าเฉลี่ยของความรู ้ การจูงใจ การนําไปใช้ และการยืนยัน ไม่แตกต่างกัน แต่มีข้ นั ของการตัดสิ นใจที่แตกต่างกัน ที่ระดับนัยสําคัญที่ 0.05 อายุรุ าชการที่ต่างกันส่ งผลให้มี การตัดสิ นใจในการยอมรับนวัตกรรมด้านการบริ หารทรัพยากรองค์การที่แตกต่ างกัน


บุคลากรที่มีระยะเวลาการใช้งานระบบงาน SAP – HR ในแต่ละวันต่างกัน มีผลต่อการ ยอมรับนวัตกรรมด้านการบริ หารทรัพยากรองค์การแตกต่างกัน ระยะเวลาใช้ ใ ง้ านระบบงาน SAP – HR ในแต่ ใ ่ละวันั ของบุคลากร ฝ่ ายทรั​ัพยากรบุคคล สําํ นักั งาน คณบดี คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มีคา่ เฉลี่ยของการจูงใจ การนําไปใช้ การยืนยัน แตกต่างกัน แตขนความรู แตกตางกน แต่ข้นั ความร้และการตดสนใจไมแตกตางกน ละการตัดสิ นใจไม่แตกต่างกัน ทีทระดบนยสาคญท ่ระดับนัยสําคัญที่ 0.05 0 05 แสดงวา แสดงว่า ระยะเวลาใช้งานระบบงาน SAP – HR ในแต่ละวันที่ต่างกันส่ งผลให้มีการจูงใจ การนําไปใช้ และการยืนยันในการยอมรับนวัตกรรมด้านการบริ หารทรัพยากรองค์การที่แตกต่ างกัน


ผลการวิเคราะห์ ความสั มพันธ์ ของปัจจัยเชิงระบบภายในองค์ การต่ อระดับของ การยอมรับนวัตกรรมเพือ่ การบริหารทรัพยากรองค์ การ ของเจ้ าหน้ าทีฝ่ ่ าย ทรัพยากรบุคคล สํ านักงานคณบดี คณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล

ปัจจัยเชิงระบบในด้ านเป้ าหมายและค่ านิยมขององค์ การ ปจจยเชงระบบในดานเปาหมายและคานยมขององคการ เป้ าหมายและค่านิยมขององค์การ กับ ระดับของการยอมรับนวัตกรรมด้านการ บริ หารทรัพยากรองค์การ มคา บรหารทรพยากรองคการ มีค่า Sig.(2-tailed) Sig (2 tailed) เฉลยเทากบ เฉลี่ยเท่ากับ 0.00 0 00 ซงนอยกวา ซึ่งน้อยกว่า 0.05 0 05 นน นัน่ คือ เป้ าหมายและค่านิยมขององค์การมีความสัมพันธ์กบั ระดับของการยอมรับ นวัตกรรมด้านการบริ หารทรัพยากรองค์การ อย่ นวตกรรมดานการบรหารทรพยากรองคการ อยางมนยสาคญทระดบ างมีนยั สําคัญที่ระดับ 0.01 0 01 โดยมคา โดยมีค่า สัมประสิ ทธิ์สหสัมพันธ์ [Pearson Correlation (r)] เฉลี่ยเท่ากับ 0.577 มีค่า ความสัมพันธ์ในระดับปานกลาง และเป็ ความสมพนธในระดบปานกลาง และเปนไปในทศทางเดยวกน นไปในทิศทางเดียวกัน


ปัจจัยเชิงระบบในด้ านโครงสร้ างองค์ การ โครงสร้างขององค์การกับ ระดับของการยอมรับนวัตกรรมด้านการบริ หาร ทรัพยากรองค์การ มคาเฉลย ทรพยากรองคการ มีค่าเฉลี่ย Sig.(2-tailed) Sig (2-tailed) เทากบ เท่ากับ 0.00 0 00 ซงนอยกวา ซึ่งน้อยกว่า 0.05 0 05 นนคอ นัน่ คือ โครงสร้างขององค์การ มีความสัมพันธ์กบั ระดับของการยอมรับนวัตกรรมด้านการ บริ หารทรัยพยากรองค์การ อยางมนยสาคญทระดบ บรหารทรยพยากรองคการ อย่างมีนยั สําคัญที่ระดับ 0.01 0 01 โดยมคาสมประสทธ โดยมีค่าสัมประสิ ทธิ์ สหสัมพันธ์ [Pearson Correlation (r)] เฉลี่ยเท่ากับ 0.460 มีค่าความสัมพันธ์ใน ระดับปานกลาง ระดบปานกลาง


ปัจจัยเชิงระบบในด้ านเทคโนโลยี เทคโนโลยี กับระดับของการยอมรับนวัตกรรมด้านการบริ หารทรัพยากรองค์การ มีค่าเฉลี่ย Sig.g ((2-tailed)) เท่ากับ 0.000 ซึ่งน้อยกว่า 0.05นัน่ คือ เทคโนโลยี มี ความสัมพันธ์กบั ระดับของการยอมรับนวัตกรรมด้านการบริ หารทรัยพยากรองค์ การ อย่างมีนยั สําคัญที่ระดับ 0.01 โดยมีค่าสัมประสิ ทธิ์สหสัมพันธ์ [[Pearson Correlation (r)] เฉลี่ยเท่ากับ 0.630 มีค่าความสัมพันธ์ในระดับสู ง


ปัจจัยเชิงระบบในด้ านจิตวิทยาสั งคม จิตวิทยาสังคม กับระดับของการยอมรับนวัตกรรมด้านการบริ หารทรัพยากร g( ) เท่ากับ 0.000 ซึ่งน้อยกว่า 0.05 นัน่ คือ เทคโนโลยี มี องค์การ มีค่า Sig.(2-tailed) ความสัมพันธ์กบั ระดับของการยอมรับนวัตกรรมด้านการบริ หารทรัยพยากรองค์ การ อย่างมีนยั สําคัญที่ระดับ 0.01 โดยมีค่าสัมประสิ ทธิ์สหสัมพันธ์ [[Pearson Correlation (r)] เฉลี่ยเท่ากับ 0.594 มีค่าความสัมพันธ์ในระดับปานกลาง


ปัจจัยเชิงระบบในด้ านการจัดการ การจัดการ กับระดับของการยอมรับนวัตกรรมด้านการบริ หารทรัพยากรองค์การ มีค่า Sig.(2-tailed) เท่ากับ 0.000 ซึ่งน้อยกว่า 0.05 นัน่ คือ เทคโนโลยี มีความ สัมพันธ์กบั ระดับของการยอมรับนวัตกรรมด้านการบริ หารทรัยพยากรองค์การ อย่างมีนยั สําคัญที่ระดับ 0.01 โดยมีค่าสัมประสิ ทธิ์สหสัมพันธ์ [Pearson Correlation (r)] เฉลี่ยเท่ากับ 0.698 มีค่าความสัมพันธ์ในระดับสู ง


อภิปรายผล


จากวัตถุประสงค์ ข้อที่ 1 เพือ่ ศึกษาระดับการยอมรับของการนํานวัตกรรม ทางเพือ่ การบริหารทรัพยากรองค์ การมาใช้ ในคณะแพทยศาสตร์ ศิริราช พยาบาล มีระดับความคิดเห็นในระดับปานกลาง แสดงให้เห็นว่า เจ้าหน้าที่ฝ่าย ทรัพยากรบคคล ทรพยากรบุ คคล สานกงานคณบด สํานักงานคณบดี คณะแพทยศาสตรศรราชพยาบาล คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ยอมรับการนํานวัตกรรมด้านการบริ หารทรัพยากรองค์การ มาใช้ในคณะ แพทยศาสตร์​์ ศิริราชพยาบาลในระดั ใ บั ปานกลาง ป


จากวัตถุประสงค์ ข้อที่ 2 เพือ่ เปรียบเทียบการยอมรับของการนํานวัตกรรม เพือ่ การบริหารทรัพยากรองค์ การมาใช้ ในคณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล จําแนกตามปัจจัยส่ วนบคคล จาแนกตามปจจยสวนบุ คคล ปั จจัยส่ วนบุคคล ของฝ่ ายทรัพยากรบุคคล สํานักงานคณบดี คณะแพทยศาสตร์ศิริ ราชพยาบาล ในดานของเพศ ในด้านของเพศ อายุ อาย ทแตกตางกนไมสงผลตอการยอมรบนวตกรรม ที่แตกต่างกันไม่ส่งผลต่อการยอมรับนวัตกรรม เพื่อการบริ หารทรัพยากรองค์กร แต่ปัจจัยส่ วนบุคคลในด้านระดับการศึกษา เงินเดือน อายราชการ เงนเดอน อายุราชการ และระยะเวลาที และระยะเวลาทใชงานระบบงาน ่ใช้งานระบบงาน SAP – HR ในแตละวน ในแต่ละวัน ส่ งผลต่อการยอมรับการนํานวัตกรรมทางด้านการบริ หารทรัพยากรองค์การมาใช้ ในคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ในคณะแพทยศาสตรศรราชพยาบาล


จากวัตถุประสงค์ ข้อที่ 3 เพือ่ ศึกษาปัจจัยทีม่ คี วามสั มพันธ์ ต่อการยอมรับ การนํานวัตกรรมเพือ่ การบริหารทรัพยากรองค์ การมาใช้ ในคณะ แพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล แพทยศาสตรศรราชพยาบาล ปั จจัยเชิงระบบภายในองค์การได้แก่ เป้ าหมายและค่านิยมขององค์การ โครงสร้างขององค์การ เทคโนโลย โครงสรางขององคการ เทคโนโลยี จิจตวทยาสงคม ตวิทยาสังคม และการจดการ และการจัดการ มมี ความสัมพันธ์ต่อการยอมรับการนํานวัตกรรมด้านการบริ หารทรัพยากร องค์ก์ ารมาใช้ ใ ใ้ นคณะแพทยศาสตร์​์ศิริราชพยาบาล


จากวัตถุประสงค์ ข้อที่ 4 เพือ่ เสนอแนวทางการส่ งเสริมการยอมรับในการนํานวัตกรรม เพือ่ การ บริหารทรัพยากรองค์ การมาใช้ ในคณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล  ด้ านเป้าหมายและค่ านิยมขององค์ การ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาลได้กาํ หนดเป้ าหมาย วสยทศนทวา คณะแพทยศาสตรศรราชพยาบาลไดกาหนดเปาหมาย วิสยั ทัศน์ที่วา่ คณะแพทยศาสตร์ คณะแพทยศาสตร ศรราชพยาบาลจะเปนสถาบนทาง ศิริราชพยาบาลจะเป็ นสถาบันทาง การแพทย์ของแผ่นดิน มุ่งสู่ความเป็ นเลิศระดับสากล และกําหนดแผนยุทธศาสตร์ที่ 5 ที่วา่ ด้วยเรื่ องของการบริ หารจัดการมุ่งสู่ ความเป็ นเลิศ จึงได้กาํ หนดนโยบายที่จะนําระบบงาน SAP – HR ซึ่ งเป็ นระบบงานด้านการบริ หารจัดการทรัพยากรองค์การมาใช้ ในคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล เพอมุ ในคณะแพทยศาสตรศรราชพยาบาล เพื่อม่งเน้ เนนความเปนสากล นความเป็ นสากล มีมขอมู ขอ้ มลที ลทถู่ถกต้ กตอง อง ครบถวนและมความนาเชอถอ ครบถ้วนและมีความน่าเชื่อถือ ประกอบกั ประกอบกบการ บการ กําหนดค่านิยมหลักขององค์การเพื่อมารองรับการดําเนินการในเรื่ องของ ความคิดสร้างสรรค์ที่จะนํานวัตกรรมใหม่ๆ เข้ามาใช้ เพื่อความถูกต้องเชื่อถือได้ของข้อมูล ตรงต่อเวลาทันต่อสถานการณ์ และการพัฒนาอย่างต่อเนื่ องและยัง่ ยืน เพื่อให้การ ดําเนินการสัมฤทธิ์ผลควรมีการชี้แจงนโยบายเพื่อให้บคลากรมี ดาเนนการสมฤทธผลควรมการชแจงนโยบายเพอใหบุ คลากรมความรู ความร้ความเข้ วามเขาใจอนดในนโยบายดงกลาว าใจอันดีในนโยบายดังกล่าว และเหนวาการใชงาน และเห็นว่าการใช้งาน ระบบงาน SAP – HR นั้นๆ จะสร้างประโยชน์ต่อการทํางานของตน และยังเปิ ดโอกาสให้บุคลากรซักถามในข้อสงสัย เพือ่ ความ เข้าใจอันดี และพร้อมที่จะปฏิบตั ิตามภารกิจที่ได้รับมอบหมาย ด้วยความเต็มใจ ผูบ้ ริ หารควรติดตามความก้าวหน้าของการ ดําเนินการอย่างต่อเนื่องและใกล้ชิด เพื่อสร้างขวัญและกําลังใจให้บุคลากรยอมทุ​ุ่มเทแรงกายแรงใจเพื่อปฏิฏบตั ิงานให้สาํ เร็ จลุลุ ่วง และเป็ นการควบคุมดูแลการดําเนินการให้ตรงตามเป้ าหมายที่ได้กาํ หนดไว้ ทั้งนี้เป้ าหมายขององค์การนั้นจะต้องสอดคล้องกับ ค่านิยมหลักขององค์การด้วย


 ด้ านโครงสร้ างขององค์ การ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาลมีโครงสร้างองค์การแบบระบบราชการ มีลาํ ดับชั้นของการ บังคับบัญชาที่ชดั เจน คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาลได้มีการจัดตั้งคณะทํางาน (Working T ) ภายใตโครงการพฒนาระบบบญช Team) ภายใต้โครงการพัฒนาระบบบัญชี งบประมาณ การเงน การเงิน พั พสดุ สด และบคลากร และบุคลากร (Back (B k Office) Offi ) เพื่อพัฒนาระบบงานและจัดให้บุคลากรผูป้ ฏิบตั ิงานฝ่ ายทรัพยากรบุคคลเป็ นสมาชิกของ คณะทํางาน เพื่อทํางานร่ วมกับผ้บู ริ หารและบคลากรของคณะฯ ุ ผ้พู ฒั นาระบบงาน (Programmer) ในการเสนอความคิดเห็นและบอกถึงความต้องการที่แท้จริ ง เพื่อให้ระบบงานที่ พัฒนานั้นถูกต้องตรงตามความต้องการใช้งานให้มากที่สุด การจัดให้บุคลากรผูป้ ฏิบตั ิงานมีส่วน ร่ วมในการดําเนินการ และมีโอกาสได้แสดงความคิดเห็น และบอกถึงความต้องการต่อผูบ้ ริ หาร ระบบงานที่ได้จะเป็ นไปตามความต้องการใช้งาน บุคลากรจะเกิดการยอมรับและใช้งาน ระบบงานที่มาจากความต้องการของตนเอง ระบบงานทมาจากความตองการของตนเอง


 ด้ านเทคโนโลยี ระบบงาน SAP เป็ นระบบงานที่ได้รับการยอมรับและใช้งานกันอย่างแพรหลายทัว่ โลก ภายใต้ คุณสมบัติของระบบงาน SAP ที่ถูกต้องตรงตามลักษณะของระบบสารสนเทศที่ดี ทั้ง 4 มิติ ได้แก่ มตดานเวลา ไดแก มิติดา้ นเวลา เนอหา เนื้อหา รูรปแบบ ปแบบ และกระบวนการ จะสงผลตอการยอมรบนวตกรรมดานการ จะส่ งผลต่อการยอมรับนวัตกรรมด้านการ บริ หารทรัพยากรองค์การ ทั้งนี้ควรจัดสรรอุปกรณ์ทางด้าน Hardware ที่มีปริ มาณเพียงพอและมี ประสิ ทธิภาพสามารถรองรับการใช้งานระบบงาน ตรงตามความต้องการของผ้ใู ช้ตลอดเวลา ควร จัดให้มีผรู ้ ับปรึ กษาปั ญหา (Helpdesk) การใช้งานในระบบโปรแกรมอย่างต่อเนื่องให้สามารถ แก้ไขปั ญหาได้อย่างทันท่วงที อีกทั้งมีการพัฒนาโปรแกรมให้เหมาะสมกับการใช้งานที่ เปลี่ยนแปลงไปอยูต่ ลอดเวลา


 ด้ านจิตวิทยาสั งคม ควรมี​ีการเสริ​ิ มสร้​้างทัศั นคติ​ิที่ดีให้ก้ บั บุคลากร โดยการให้ โ ใ ร้ ับรู ้ถึงนโยบายของคณะฯ โ และ รั​ับรู ้ถึงความสามารถของ ระบบงานที่สามารถรองรับการทํางาน และระบบงานช่วยให้ การทํางานมีประสิ ทธิภาพขึ้น มีความถูกต้องขึ้น สามารถรองรับการดําเนินการขององค์การได้ ทําให้บุคลากรมีทศั นคติในเชิงบวก ควรมีการส่ งเสริ มให้บุคลากรได้ ใช้งานระบบงาน เมื่อผูป้ ฏิบตั ิงานเห็​็นผลสําเร็​็ จของการทํางานที่ได้จากการใช้ระบบงานที่มีประสิ ทธิภาพ ได้รับการ ยอมรับนับถือจากผูร้ ่ วมงานและผูบ้ งั คับบัญชา และได้รับความก้าวหน้าให้หน้าที่การงาน ที่มีผลมาจากการใช้งาน ระบบงาน SAP ควรให้มีการการจัดกระบวนการทํางานที่มีประสิ ทธิ ภาพในเรื่ องของการวางแผน การจัดองค์การ การจัดบุคลากร การสัง่ การ การควบคุม ผูบ้ ริ หารจําเป็ นจะต้องมีทกั ษะในการใช้งานระบบงานเป็ นอย่างดี และมี ภาวะผูน้ าํ สูง สามารถสัง่ การ ตัดสิ นใจ ตลอดจนชี้นาํ แนวทางการดําเนินการได้อย่างครบถ้วน ถูกต้อง การสื่ อสาร ภายในองค์การเป็ นปั จจัยสําคัญอีกประการที่ส่งผลให้การดําเนินการสําเร็ จ ลลุ่ วง ตรงตามวัตถประสงค์ ุ ที่กาํ หนดไว้ ทิศทางของการสื่ อสารมีหลายทิศทาง ได้แก่ การสื่ อสารจากบนลงล่าง การสื่ อสารล่างขึ้นบน การสื่ อสารตาม แนวนอนหรื อการสื่ อสารตามแนวขวาง ผูบ้ ริ หารสามารถสัง่ การนโยบาย และผูใ้ ต้บงั คับบัญชาสามารถออกความ คิดเห็น ในขณะเดยวกนกมการปรกษาหารอกนในระดบกลุ คดเหน ในขณะเดียวกันก็มีการปรึ กษาหารื อกันในระดับกล่ม เพอใหการสอสารครอบคลุ เพื่อให้การสื่ อสารครอบคลมม บุบคลากรมี คลากรมความเขาใจอน ความเข้าใจอัน ดีระหว่างกัน


 ด้ านการจัดการ ควรมี​ีการปรั ป ับกระบวนทําํ งานให้ ใ ม้ ีลกั ษณะตรงตามหลักั การของระบบสารสนเทศเพื​ือ่ การบริ​ิ หาร จัดการทรัพยากรมนุษย์ (HRIS) ที่เป็ นฐานข้อมูลที่องค์การใช้เพื่อเก็บและวิเคราะห์ขอ้ มูล พนักงาน การวางกระบวนการทางานเพอปองกนผลกระทบทเกดจากการเชอมโยงกบระบบงาน พนกงาน การวางกระบวนการทํางานเพื่อป้ องกันผลกระทบที่เกิดจากการเชื่อมโยงกับระบบงาน อื่นๆ รวมทั้งคํานึงถึงความสามารถในการรองรับการทํางานประจําของ HR สนับสนุนการ ตัดสิ นใจของผูบ้ ริ หาร การเป็ น HR Information Center เป็ นระบบงานที่มีความสามารถทาง เทคนิคและบริ การ สามารถวัดผลการใช้งานได้จากระดับของการใช้งาน ความพึงพอใจของ ผูใ้ ช้งาน และประสิ ทธิภาพ ประสิ ทธิผลที่เกิดขึ้น ผูบ้ ริ หารจะได้ขอ้ มูลสารสนเทศในระบบ SAP-HR ที​ี่มีความสมบูรณ์​์และทันั สมัยั ถูกต้อ้ งตลอดเวลา และสามารถนําํ ข้อ้ มูลสารสนเทศนี้ ีใช้​้ ประกอบ สนับสนุนการตัดสิ นใจในเรื่ องที่เกี่ยวข้องได้


ข้ อเสนอแนะเพื่อส่ งเสริมให้ เกิดการยอมรั บนวัตกรรมจากการวิจัย ข้ อเสนอแนะเชิงนโยบาย การส่ งเสริ มพัฒนาความรู ้ ความสามารถของบุคลากร เพื่อเตรี ยมพร้อมสําหรับการใช้งาน และมีการจัดการอบรม ่ ่ ื่ การใชงานอยางตอเนอง ใ ้  การกําหนดนโยบายและการประสานงานภายในหน่วยงานหรื อองค์การให้มีความชัดเจนและเป็ นระบบ และ ติดตามความก้าวหน้าของการดําเนินการเป็ นระยะ อย่างต่อเนื่อง  การกําหนดขั้นตอนการทํางานในระบบ SAP ไม่ให้เกิดผลกระทบ เพราะระบบ SAP เป็ นระบบที่มีความ เชื่อมโยงเกี่ยวข้องต่อเนื่องกัน รวมทั้งกําหนดรู ปแบบกระบวนการทํางาน ที่จะต้องมีการปรับเปลี่ยนให้ทาํ งาน ได้อย่างเหมาะสม และมีประสิ ทธิ ภาพ  การเตรี ยมความพร้อมสําหรับงบประมาณที่สูงมากเพือ่ สนับสนุนในการนําระบบโปรแกรม SAP-HR มาใช้ใน การปฏิบตั ิ  (Hardware)  (software)  (People ware)  ( (Servers / Client))  (Infrastructure) 


ข้ อเสนอแนะเชิงบริหาร  ส่ งเสริ มให้บุคลากรสามารถปฏิบตั ิงานในระบบ SAP-HR ทุกระบบย่อย เพื่อที่จะได้บริ หาร จัดการทรัพยากร ไดอยางมประสทธภาพ จดการทรพยากร ได้อย่างมีประสิ ทธิภาพ ครอบคลุ ครอบคลมม  ส่ งเสริ มให้บุคลากรได้รับการฝึ กอบรมพัฒนาความรู​ู ้ในการใช้โปรแกรม SAP-HR อย่างต่อ เนื่องตลอดเวลา เนื่องจากระบบโปรแกรม SAP-HR มีการพัฒนาแก้ไขปรับปรุ งให้มีความ ทันสมัยอยูเ่ สมอ


ข้อเสนอแนะเพื่อการวิจยั 

จากการศึกษาปั จจัยที่มีความสัมพันธ์ต่อการยอมรับนวัตกรรมด้านการบริ หารทรัพยากรองค์การ ฝ่ ายทรัพยากร บุคคล สํานักงานคณบดี คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล นั้น ในความเป็ นจริ ง ยังมีหน่วยงานอื่นในคณะ แพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาลที่ได้ใช้ระบบโปรแกรม SAP ไดแก แพทยศาสตรศรราชพยาบาลทไดใชระบบโปรแกรม ได้แก่ งานคลง งานคลัง งานนโยบายและแผน งานพั งานพสดุ สด แยก ตามระบบภายในของโปรแกรม SAP จึงควรมีการศึกษาปั จจัยที่มีความสัมพันธ์ต่อการยอมรับนวัตกรรม ของ หน่วยงานอื่นๆ เพื่อจะได้ผลที่ครบถ้วนครอบคลุมมากขึ้น อันสามารถนําไปใช้ประโยชน์ในการแก้ปัญหาและ พัฒนาปรับปรงให้ พฒนาปรบปรุ งใหเกดความสาเรจในการใชระบบโปรแกรม เกิดความสําเร็ จในการใช้ระบบโปรแกรม SAP และเพมประสทธภาพ และเพิ่มประสิ ทธิภาพ ในการทํ ในการทางาน างาน ของ บุคลากรในคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาลต่อไป

ศึ​ึกษาปจจยที ปั ั ี่มีความสมพนธตอการยอมรบนวตกรรมด้ ั ั ์่ ั ั า้ นการบรหารทรพยากรองคการของบรษทที ิ ั ์ ิ ั ี่ได้ร้ ับการ มอบเหมา (Outsourcing) กับเจ้าหน้าที่ฝ่ายสารสนเทศ ของ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ที่ได้ปฏิบตั ิงานใน การดูแลระบบ SAP-HR ร่ วมกัน เพื่อเปรี ยบเทียบปั จจัยที่มีความสัมพันธ์ต่อการยอมรับนวัตกรรมสําหรับ ผูใ้ ช้งาน (User) และผูพ้ ฒั นาระบบงาน (Programmer)


กฤตยพร ฤ ไวคุ​ุณา รัฐประศาสนศาสตร์ (ภาคพิเศษ) คณะสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิ ดล



Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.