ก่อนอื่นเลย ฉันขอบอกก่อนว่าเรื่องที่ฉันจะเล่านี้ไม่ใช่ความผิดพลาดในชีวิตของฉัน แต่มันคือการเริ่มต้นการเดินทางเส้นทางใหม่ที่ออกจะแปลกประหลาดไปนิดหน่อย และเรื่องราวมันเกิดขึ้นรวดเร็วมาก ฉันเป็นผู้หญิงวัย 30 ปลายๆ มีชีวิตที่ผ่านอะไรมามากมาย ตั้งแต่วัยรุ่น จนปัจจุบัน ฉันทำ�งานธุรกิจออนไลน์ และมีรายได้มากพอสมควรที่จะใช้ชีวิตอย่างสบายใจ และรับเงินโดยที่ไม่ต้องทำ�อะไรมากมาย พ่อแม่ของฉันเสียไปด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ หลังจากที่ฉันเรียนจบและทำ�งานไปประมาณ 5 ปี ไม่มีพี่สาวหรือน้องสาว
ไม่มีคนรัก
มีชีวิตที่อิสระ
ฉันมักจะใช้เวลาว่างเข้าห้องสมุดเพื่อหาหนังสือดีๆมาอ่าน หลังจากนั้นก็ปล่อยตัวเองเข้าสู้โหมดส่วนตัว พร้อมกับเปิดเพลลิสต์ของ Childish Gambino ฟังไปพลางๆ แต่ก็ไม่ถึงกับเป็นคนที่โลกส่วนตัวสูงมาก ขนาดนั้น แน่นอนว่าฉันมักจะออกไปเที่ยว ทำ�กิจกรรมกับเพื่อนๆด้วยเช่นกัน
แต่ไม่นานมานี้ก็พบกับสิ่งที่ไม่คาดฝันมาก่อน มันค่อนข้างพิลึกนิดหน่อย ในคืนวันศุกร์ เพื่อนๆเลิกงาน และโทรมาชวนฉันเพื่อไปปาร์ตี้
ไม่ว่าจะเรียนจบมากี่ปีพวกเราไม่เคยแก่ลงเลย เพื่อนของฉันทุกๆคนยังคึกคักกันตลอดเวลาที่มีใครคนใดคน หนึ่งในกลุ่มชวนเที่ยว พวกเราพากันเมาเละเทะเหมือนเด็กวัยรุ่นอายุสิบเก้า ยี่สิบ ฉันกลับบ้านด้วยสภาพเมา เละเทะเหม็นเหล้าคลุ้ง และหลับไปบนเตียงโดยไม่ได้อาบน้ำ� และไม่ได้ถอดรองเท้า
เมื่อรู้สึกตัว ตื่นขึ้นมาก็พบกับสิ่งเหมือนกับฝัน
ฉันตื่นขึ้นมาพบกับผู้ชายคนหนึ่ง เขานั่งอ่านหนังสือเล็กๆเล่มหนึ่งอยู่บนเตียงข้างๆฉัน
ชายคนนั้นสวมเสื้อฮู้ดสีดำ� รายละเอียดหน้าตาฉันจำ�ไม่ค่อยจะได้ แต่จำ�ได้ลางๆว่าตัวเขาเป็นสีแดง เหมือนเลือดสดๆ แต่อาจจะเป็นเพราะวอดก้าที่ฉันกระดกไปก็ได้ ใครจะรู้ ฉันตกใจมากวิ่งออกมาจากเตียง แต่กลับพบว่าเตียงที่ฉันนอนอยู่มันลอยอยู่กลางทะเลสาบอันเงียบสงบ ซึ่งฉันไม่ทันได้สังเกต ฉันตกลงไปในแม่น้ำ�และจมลงไปในทะเลสาบนั้น
เมื่อฟื้นขึ้นมาก็พบว่าฉันแค่ฝันไปเท่านั้นเอง ไม่มีชายฮู้ดดำ�ตัวแดงอะไรทั้งนั้น
เช้าวันนั้นรู้สึกปวดหัวมากๆ ฉันคงต้องพักการดื่มไปสักพัก ฉันไปร้านกาแฟที่ใกล้ที่สุด จิบชากุหลาบ ร้อนๆ และออกไปสูบบุหรี่หมดไปสี่มวน เพื่อให้ตัวเองหายเมา และกลับมาใช้ชีวิตปกติ แต่ เอ๊ะ เหมือนมีใคร คอยมองฉันอยู่ตลอดเลยหลังจากตื่นมาเมื่อเช้า ฉันรู้สึกเหมือนถูกเฝ้ามองตลอดเวลาเลย ดังนั้นจึงรีบบึ่งรถกลับบ้านทันที
เมื่อกลับถึงบ้านก็รู้สึกเพลียมาก จึงเข้านอนตั้งแต่หัวค่ำ� และหลับไป เมื่อตื่นขึ้นมาก็พบชายคนนั้นอีกครั้ง ฉันตกใจเช่นเคย ด้วยลุคของเขาดูหน้ากลัวนิดหน่อย ตั้งแต่เกิดมาฉันไม่เคยเห็นใครมีร่างกายสีแดงสดขนาดนั้น มาก่อนเลย สีผิวของเขาเหมือนตัวละครในหนังฮีโร่ของ marvel ไม่มีผิด แต่นั่นมันคือของจริง ไม่ใช่เอฟเฟคใดๆ ฉันพยายามตั้งสติ เพราะคิดว่านั่นคือความฝัน ฉันเอ่ยปากแบบกล้าๆกลัวๆ
ท่ามกลางทะเลสาบ ที่ไม่ค่อยมีคลื่น แต่ก็มีลมที่เย็นสบาย พวกเราอยู่บนเตียงนอน ลอยอยู่บนทะเลสาบ ฉันเพิ่งสังเกตเห็นว่าเตียงมันใหญ่มาก และบนเตียงก็มีหนังสือสองสามเล่มวางอยู่ ซึ่งล้วนแต่เป็นหนังสือที่ฉันเคยอ่านมาแล้วทั้งนั้น “คุณอ่านมันด้วยเหรอ ฉันเคยอ่านมันหมดแล้ว” “แน่นอน ผมอ่านตามคุณ” “คุณดูรู้เรื่องของฉันเยอะเสียจริง” “แน่นอน ช่วงหลังมานี้ผมตามคุณไปทุกที่” ฉันรู้สึกไม่ปลอดภัย และไม่ชอบใจที่เขาพยายามติดตามชีวิตของฉัน จึงพูดเสียงดังใส่เขาด้วยความโมโห “ฉันไม่รู้ว่าคุณเป็นใคร แต่ฉันรู้สึกไม่ชอบใจที่คุณพยายามยุ่มย่ามชีวิตส่วนตัวของฉัน และฉันอยากให้คุณเลิกทำ�มัน” “ผมขอโทษที่ติดตามคุณ ผมแค่ตามเฉพาะตอนที่คุณอยู่ข้างนอกเท่านั้น เมื่อคุณเข้าบ้านผมก็แยกออกมา แต่ในเมื่อคุณไม่ชอบ ผมก็จะเลิก แต่ผมอยากให้คุณมาพูดคุยและเล่าให้ผมฟังเกี่ยวกับเรื่องต่างๆของคุณที่นี่ในทุกๆวัน แน่นอนว่าถึงคุณจะปฏิเสธผมก็สามารถพาคุณมาที่นี่ได้ทุกคืนอยู่ดี”
ในเมื่อปฏิเสธไม่ได้ก็คงต้องเออออตามไป ฉันจึงตกลงแบบไม่ค่อยเต็มใจนัก หลังจากนั้นเราก็พูดคุยกันค่อนข้างนาน เขาตั้งใจฟังเรื่องที่ฉันเล่าอย่างใจจดใจจ่อ ด้วยท่านั่งขัดสมาธิเอามือเท้าคาง เมื่อเล่าจบฉันจึงเริ่มเป็นฝ่ายถามกลับบ้างว่า ทำ�ไมเขาถึงใส่แต่ฮู้ดสีดำ� แล้วทำ�ไมผิวของเขาถึงเป็นสีแดง เขาทำ�หน้าตกใจนิดหน่อย และฉันก็ได้คำ�ตอบกลับมาว่า
“ถ้าผมบอกเรื่องนี้กับคุณไป คุณอาจจะไม่อยากมาที่นี่อีก ”
“แต่เรื่องที่ผมใส่ฮู้ดดำ�ผมบอกคุณได้นะ ผมได้เสื้อตัวนี้มาจากคนคนหนึ่งขณะที่ผมหลับในสภาพกางเกงตัวเดียวไม่ได้สติอยู่ข้างทาง ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร พอผมตื่นขึ้นมาผมก็พบว่ามีเสื้อฮู้ดสีดำ�ห่มตัวผมอยู่ ผมจึงใส่มันไว้ตลอดเพื่อละลึกถึงเขา ” “แล้วคุณเข้ามาในฝันของฉันได้ยังไง ฉันขอถามคุณได้ไหม” “เมื่อถึงเวลาผมจะบอกคุณ”
เขาพูดมาแค่นั้น ในหัวของฉันมันมีคำ�ถามมากมายไปหมด เขาเป็นใคร เขาชื่ออะไร ฉันรู้สึกว่ามันไม่แฟร์เลยที่เขาพยายามที่จะรับรู้เรื่องของฉันหลายๆเรื่อง แต่ฉันกลับไม่รู้เรื่องของเขาเลย
“ฉันไม่รู้วิธีการตื่น”
“ฉันตกใจคุณเลยกระโดดลงน้ำ� แล้วดันจม สุดท้ายฉันก็ตื่น”
“นี่ฉันต้องมานั่งเล่าชีวิตของตัวเองให้ใครฟังก็ไม่รู้ แถมยังต้องมาจมน้ำ�ตายในฝันเพื่อที่จะได้ตื่นอีกเนี่ยนะ”
ฉันหลับตา
“ใกล้จะเช้าแล้ว ผมคิดว่าคุณน่าจะต้องตื่นได้แล้วล่ะ”
“แล้ววันแรกคุณตื่นมาได้ยังไงล่ะ”
“นั่นแหละ วิธีการตื่น”
“ผมล้อเล่น คุณยืนขึ้นแล้วหลับตาสิ”
“โอเค ทีนี้หายใจลึกๆ แล้วกลั้นหายใจไว้นะ”
ชายสวมฮู้ดผลักฉันลงทะเลสาบ ทำ�ให้ฉันจมลงไปอีกครั้งหนึ่ง ฉันตื่นขึ้นมาในตอนสายๆของวัน ความรู้สึกตอนจมน้ำ�ยังไม่หายไป จึงรีบแต่งตัวออกไปเพื่อซัดกาแฟสักแก้วหนึ่งเผื่อว่าจะรู้สึกดีขึ้น
ในวันนี้ฉันรีบเข้านอนเผื่อที่จะได้พูดคุยกับเขาอีกครั้ง ก่อนนอนแอบทาลิปสติกสีพีชที่ปากนิดหน่อย เพื่อเพิ่มความมั่นใจ ซึ่งฉันก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าจะทาลิปสติกเพื่ออะไร แต่ยังไงแล้ว เขาก็เป็นผู้ชาย และฉันก็เป็นผู้หญิง มันเป็นเรื่องปกติอยู่แล้วที่เราไม่สามารถเปิดหน้าตาโล้นๆ ให้คนแปลกหน้าได้เห็นนอกจากคนสนิทเท่านั้น
เลสาบบนเตียงเดิมที่เราเคยพบกัน
เมื่อฉันลืมตาขึ้นก็เจอเขานั่งตกปลาอยู่กลางทะ
ฉันหัวเราะ
รู้อยากเห็น
ฉันรีบถามกลับด้วยความอยาก
“ถ้าคุณเลือกที่จะรู้เรื่องของผม คุณจะต้องอยู่ที่นี่ ก่อนหน้านี้ผมเจอกับคนคล้ายคุณมามากมาย และพอผมพูดแบบนี้ ทุกคนก็เลือกที่จะไม่รู้เกี่ยวกับตัวของผม และหลังจากนั้นเราก็จะไม่ได้พบกันอีกเลย” “ฉันขอเวลาไปคิดก่อนได้ไหม” “ผมขอคำ�ตอบคืนพรุ่งนี้ เมื่อคุณมาที่นี่ ผมหวังว่าจะได้คำ�ตอบจากคุณ ไม่ว่าคุณจะเลือกอย่างไหน ผมก็จะยอมรับมัน”
ในใจฉันตอนนั้น คำ�พูดของเขาราวกับเป็นคำ�ขอแต่งงาน แม้ว่าจะไม่มีคำ�ว่าผมรักคุณ แต่ฉันสัมผัสได้ว่าเขาต้องการจะอยู่กับฉัน ประจวบเหมาะกับบรรยากาศคืนนั้นบนท้องฟ้ามีดาวมากมาย ทุกอย่างมันดูดีไปหมด “ไม่ต้องคิดมาก ผมไม่ได้ขอคุณแต่งงาน”
“นี่คุณอ่านใจฉันได้” “เปล่า ผมแค่เดาว่าคุณคิดแบบนั้น”
ฉันรู้สึกอายรีบกระโดดลงทะเลสาบและดำ�น้ำ�ลงไปลึกมากกว่าปกติ สุดท้ายก็ตื่นมาอยู่ในห้องนอนตัวเองจนได้
ฉันนั่งนอนคิดทั้งคืน พยายามชั่งน้ำ�หนักว่าฉันควรจะเลือกอะไรดี แน่นอนว่ามันไม่ใช่การเลือกซื้อของที่เราสามารถทิ้งของอีกอย่างได้อย่างง่ายดาย มันคือการเลือกชะตาชีวิตของตัวเอง ถ้าฉันเลือกที่จะใช้ชีวิตอยู่ต่อไปมันก็จะกลับไปเป็นเหมือนเดิม แต่เมื่อเลือกที่จะฟังเรื่องราวชีวิตของเขาคนนั้น ฉันจะต้องติดกับเขาตลอดไป ซึ่งไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรอีกข้างหน้า ความอยากรู้อยากเห็นของผู้หญิงมันมีสูงเหมือนตึกห้าสิบชั้น ฉันพยายามหาเหตุผลหลายๆอย่างมาช่วยในการตัดสินใจ และเมื่อตัดสินใจได้ ฉันก็ไปหาเพื่อนสนิททุกคนของฉันเพื่อพูดคุยกับพวกเขาให้ได้มากที่สุด แน่นอนว่ามันคือการจากลา ฉันเลือกที่จะฟังเรื่องราวของเขาคนนั้นมากกว่าการมีชีวิตอยู่ต่อ
คืนนี้มีพายุและฝนตกรุนแรงใจกลางเมืองที่ฉันอาศัยอยู่
ฉันนอนลงบนเตียงด้วยชุดที่สวยที่สุดที่มีอยู่ในตู้เสื้อผ้า สวมรองเท้าส้นสูงสีแดงกำ�มะหยี่ และแน่นอนว่า เมื่อฉันลืมตาขึ้นมาก็พบกับชายคนเดิม เขาสวมสูทสีดำ�ทั้งชุด แม้แต่เสื้อเชิ๊ตด้านในและเนคไท สวมหมวกทรงสูงสี ดำ� และทักทายฉันด้วยประโยคที่ฉันคาดไว้แล้ว
“ในที่สุดคุณก็เลือกที่จะฟังมัน” “ชีวิตฉันแทบจะไม่มีอะไรให้ทำ�แล้ว ก็ไม่ได้เสียหายอะไร ที่จะได้เลือกอะไรใหม่ๆให้ตัวเองบ้าง”
“ ฉันเริ่มถามเลยนะ คุณมีชื่อไหม?” ฉันรีบถามคำ�ถามที่ค้างคาใจ
“ผมชื่อวีดัล เมื่อก่อนผมก็เป็นคนธรรมดาเหมือนคุณ ใช้ชีวิตวัยรุ่นสุดคุ้ม ทำ�งานดี มีเงิน ครอบครัวเสียไป ไม่มีทายาท จู่ๆผมก็ตื่นมาเจอชายแก่ๆคนหนึ่งที่นี่ ผมนั่งคุยกับเขาจนเราสนิทกัน” “แล้วเป็นไงต่อ” “เขามีร่างกายสีแดงทั้งตัว เช่นผมตอนนี้ ผมก็สงสัยเหมือนกับคุณ ผมจึงตามเขามาอยู่ที่นี่” “แล้วชายแก่คนนั้นไปไหนแล้วล่ะ” เขาเงียบไปพักหนึ่ง “คำ�ถามนี้แหละที่ผมตอบคุณยากที่สุด ในที่สุดผมก็เข้าใจชายคนนั้นแล้วว่าเขารู้สึกยังไงตอนที่ต้องตอบคำ�ถามผม”
ฉันเริ่มรู้สึกแปลกๆ เริ่มมีบางอย่างที่แปลกไปจากปกติ วีดัลเอาบางอย่างออกมาจากกระเป๋าสูทของเขา และพุ่งเข้ากอดฉันอย่างรวดเร็ว ซึ่งฉันไม่แน่ใจว่าสิ่งที่เขาหยิบออกมามันคืออะไร
“ชายแก่คนนั้นเขาบอกกับผมว่า เมื่อผมพบกับคนแบบคุณ และทำ�เช่นเดียวกับที่ผมกำ�ลังจะทำ�กับคุณในตอนนี้ ผมจะรู้เองว่าเขาจะไปที่ไหน คุณก็เช่นกัน ผมจะไม่ขอโทษในสิ่งที่ผมกำ�ลังจะทำ�”
“หวังว่าเราจะได้เจอกันเมื่อคุณได้พบกับคนๆนั้น เช่นที่ผมพบกับคุณนะ”
เขากอดร่างกายฉันอย่างแนบแน่น แน่นเกินจนฉันหายใจแทบจะไม่ออก มีบางอย่างทิ่งแทงเข้ามาที่กลางหัวใจของฉันจากทางด้านหลัง เลือดที่ไหลเวียนอยู่ในตัวของฉันออกมาลอยกลางอากาศและหลอมร่างกายของฉันจนกลายเป็นสีแดง และเมื่อฉันตื่นขึ้นมาก็พบว่าตนเองอยู่ในใจกลางเมืองเล็กๆเมือง หนึ่งในร่างเปลือยกาย ลำ�ตัวของฉัน ผิวหนังของฉันได้กลายเป็นสีแดงทั้งตัว และไม่พบกับวีดัลแล้ว
สำ�หรับฉันแล้ว การพบกับเขา มันไม่ใช่ความผิดพลาด มันคือการตัดสินใจเริ่มต้นการเดินทางในรูปแบบใหม่ แม้ว่ามันจะเป็นการเดินทางที่ประหลาดไปหน่อยก็ตาม
RED GUY IN BLACK HOOD