Roiedder
นิตยสารร้อยเอ็ดเด้อ ปีที่ ๑ ฉบับที่ ๒ | สิงหาคม ๒๕๕๖
นอน...สาหล่า... หลับตา...แม่สิกล่อม...
แจกฟรี
สิงหาคม ๒๕๕๖ • ร้อยเอ็ดเด้อ
1
บริษัท สถาปนิกทูเก็ตเตอร์ จ�ำกัด ให้บริการด้านงานวิชาชีพด้านที่ปรึกษาและออกแบบ งานสถาปัตยกรรม วิศวกรรมทุกสาขา เพื่อให้การลงทุนของลูกค้าเกิดความคุ้มค่ามากที่สุด 2 Roiedder • August 2013
R
oieditor’s oieditor’s Nvote Note
Roiedder
แจ้ แจ้งงให้ ให้แแซบโดยทั ซบโดยทั่ว่วกักันน
นิตยสารร้อยเอ็ดเด้อ ปีที่ ๑ ฉบับที่ ๒ | สิงหาคม ๒๕๕๖
ช่
วงเข้าพรรษาที่ผ่านมา ชาวร้อยเอ็ดเราต้อง ช็อคกับเหตุการณ์รถเทรลเลอร์ชนรถโดยสาร กรุงเทพฯ-ร้อยเอ็ด จนท�ำให้มีผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตจ�ำนวนมาก ร้อยเอ็ดเด้อ ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัว และญาติมิตรของผู้จากไปด้วยนะครับ ขอวิญญาณ ผู้เสียชีวิตทุกท่านจงไปสู่สุคติ ........... เนื้ อ หาของร้ อ ยเอ็ ด เด้ อ ฉบั บ เดื อ นสิ ง หาคม เดือนแห่งวันแม่ เราก็มีเรื่องราวเกี่ยวกับ “แม่” มา น�ำเสนอพอหอมปากหอมคอ ไม่ว่าจะเป็น จดหมายจากครูดอยที่เขียนมาเล่า เรื่องของแม่ในอีกมุมมองหนึ่ง หรือคอลัมน์ “Muan & More” ที่ชวนดูหนังดีสะเทือนอารมณ์เกี่ยวกับ ความรักของแม่ ฯลฯ ตัวละครในบางคอลัมน์อาจไม่ใช่คนร้อยเอ็ด แต่ ผมก็เชื่อว่าไม่ว่าจะเป็นคนจังหวัดไหน ไทย จีน ฝรั่ง ความรักของแม่ก็ยังเป็นของจริงเสมอ แม่นบ่ครับ? .......... นอกจากนี้ยังมีคอลัมน์น้องใหม่ “การ์ตูนเด้อ” กับ “สกู๊ปข่าวร้อยเอ็ดยูไนเต็ด” มาเพิ่มสีสันให้กับ ร้อยเอ็ดเด้อด้วย ยังไงก็ขอฝากไว้ในอ้อมอกอ้อมใจ ของทุกท่านด้วยนะครับ “ฮักกันไว้เด้อพี่น้อง”
บก.
นอน...สาหล่า... หลับตา...แม่สิกล่อม...
แจกฟรี
ที่ปรึทีก่ปษารึกษา ศุภวัศุฒภน์วัฒดีน์สงคราม ดีสงคราม จีรพรรณ ดลรัดลรั กษ์ กษ์ จีรพรรณ บรรณาธิ การบริ หารหาร บรรณาธิ การบริ พุฒิพพุงศ์ สุดหล้ ฒิพงศ์ สุดาหล้า บรรณาธิ การการ บรรณาธิ แพตรีแพตรี มนปราณี ต ต มนปราณี กองบรรณาธิ การการ กองบรรณาธิ ณัฐวิณัทฐย์วิทขาวศรี ย์ ขาวศรี ยุทธพงศ์ ขั น ประกอบ ยุทธพงศ์ ขันประกอบ ปฏิวปฏิ ัติ วสุัตขิ ุมสุาลพิ ทักษ์ทักษ์ ขุมาลพิ ธนาภรณ์ ผิวลงาม พรรณาพั ชร ฐากุ สิริโชติ พรรณาพัชร ฐากุลสิถ่ริโาชติ ยภาพ ถ่ า ยภาพ โจอี้ คนล่าแสง โจอี้ คนล่พัาแสง นธมิตร พั น ธมิ ตรดซิตี้ เพจ ร้อยเอ็ดโฟโต้, ร้อยเอ็ เพจ ส�ร้ำอรวจโคก, ยเอ็ดโฟโต้เฮาฮั , ร้อกยเอ็ ดซิตสี้ าน ภาษาอิ ส�ำรวจโคก,และ เฮาฮัสมาคมคนฮั กภาษาอิสาน กผญา และ สมาคมคนฮั ก ผญา สร้างสรรค์โดย สร้ า บริษัท สถาปนิกทูเงสรรค์ ก็ตเตอร์โดยจ�ำกัด บริษัท สถาปนิกส�ทูำนัเก็กตงานร้ เตอร์อจ�ยเอ็ ำกัดดเด้อ ส�ำนักงานร้ อยเอ็ เด้อ ๑๗ ๒๕๙/๑ ถ.รณชั ยชาญยุ ทธดซอย ๒๕๙/๑ ๑๗ ต.ในเมืถ.รณชั อง อ.เมืยอชาญยุ ง จ.ร้ทอธยเอ็ซอย ด ๔๕๐๐๐ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ร้ อยเอ็ด ๕๕๖ ๔๕๐๐๐ โทร.๐๘๙ ๔๔๓๓ โทร.๐๘๙ ๕๕๖ ๔๔๓๓ e-mail : roiedder@gmail.com e-mail fanpage :: roiedder@gmail.com facebook.com/roiedder ฝ่ายโฆษณา โทร.๐๘๘ ๕๗๒๕๗๒ ๓๗๑๓ ฝ่ายโฆษณา โทร.๐๘๘ ๓๗๑๓
สิงหาคม ๒๕๕๖ • ร้อยเอ็ดเด้อ
3
Roiedder Magazine
ใบสมัครสมาชิกนิตยสาร
อัตราค่าจัดส่งหนังสือ : 360 บาท (1 ปี 12 ฉบับ) กรอกรายละเอียดเกี่ยวกับตัวผู้สมัครลงในใบสมัคร แล้วส่งมาที่ ส�ำนักงานนิตยสารร้อยเอ็ดเด้อ 259/1 ถ.รณชัยชาญยุทธ ซอย 17 ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ร้อยเอ็ด 45000 โอนเงินเข้าบัญชีออมทรัพย์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขาร้อยเอ็ด หมายเลขบัญชี 102-1-66057-2 ชื่อบัญชี นายแพตรี มนปราณีต ส่งหลักฐานการโอนเงินมาที่ roiedder@gmail.com สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 089 556 4433 ชื่อ............................นามสกุล................................. วัน/เดือน/ปีเกิด..........................เพศ ชาย หญิง ที่อยู่ เลขที่....................ตรอก................................... ซอย........................ถนน............................................ ต�ำบล..............................อ�ำเภอ................................. จังหวัด............................รหัสไปษณีย์........................ โทรศัพท์...........................โทรสาร............................. อีเมล์.......................................................................... ต้องการบอกรับการเป็นสมาชิก ตั้งแต่ฉบับที่...........จนถึงฉบับที่............... รวม..............ฉบับ ต้องการให้ออกใบเสร็จในนาม (ระบุชื่อบุคคลหรือนิติบุคคลและที่อยู่โดยละเอียด) ชื่อ.............................................................................. ที่อยู่............................................................................ ................................................................................... ................................................................................... ................................................................................. กรณีสมัครสมาชิกในนามนิติบุคคลกรุณาระบุชื่อบุคคลหรือ แผนกซึ่งเป็นตัวแทนรับนิตยสารท้ายชื่อนิติบุคคลนั้นด้วย
ติ4ดต่Roiedder อลงโฆษณา โทร. 088 • August 2013 572 3713
T
his issue
มีหยังแหน่?
บ้านเกิด เมืองเกิน..............................5 ผญา................................................6 จดหมายจากครูดอย.............................8 นอนสาหล่า...หลับตาแม่สิกล่อม............11 การค้นพบครั้งส�ำคัญ เกี่ยวกับล�ำห้วยเหนือ.................12 Aftershcok แผ่นดินไหว ในหัวใจแม่....16 การ์ตูนเด้อ......................................18 ร้อยเอ็ดยูไนเต็ด................................19 โจ๊กปลาแดก....................................20 ทีละก้าว...ก้าวที่สอง และก้าวต่อไป.........22 ส�ำรวจโคก.......................................24 ปรัชญาเถียงนาน้อย...........................25
R
Photo by โจอี้ คนล่าแสง facebook.com/roietphoto
oied’s Root บ้านเกิด-เมืองเกิน
ป
ระเพณี แ ห่ เ ที ย นพรรษาร้ อ ยเอ็ ด จั ด ขึ้นเป็นประจำ�ทุกปีในวันอาสาฬหบูชา (ก่อนเข้าพรรษา ๑ วัน) สำ�หรับปีนี้จัดไปแล้ว เมื่อวันที่ ๒๒ กรกฎาคมที่ผ่านมา ความสวยงามของต้นเทียนที่ผ่านการแกะ สลักจากช่างฝีมือดี เมื่อผนวกเข้ากับจิตใจที่ เปี่ยมด้วยศรัทธาต่อพระพุทธศาสนาของชาว ร้อยเอ็ดแล้ว ต้องบอกว่า “น่าอัศจรรย์ใจ” สิงหาคม ๒๕๕๖ • ร้อยเอ็ดเด้อ
5
ค�ำเอ้ย... อยู่จั่งได๋น้อลูกหล่า แม่หุงหาหม่าข้าวเผื่อ เฟือแจฝามาคึดพ้อ น้อลูกแม่นอยู่ไกล อุกหัวใจคึดเห็นหน้า ค�ำเว้าจามาเป็นห่วง ข้าวแค้นคอน�้ำตาร่วง ห่วงลูกเต้าเจ้าอยู่ไกล ค�ำเอ้ย... ~ไข่มุก~
ยามลมพัดใบข้าว เฝ่าฮ�ำฮอนแต่น�ำท่ง เหลียวลงไปไฮ่นากว้าง ฮวงข้าวเจ้าก่องงาม สะออนน�้ำสะออนฟ้า ตนจากนามาไกลถิ่น ซุมพี่น้องออกหากิน คนละถิ่นคนละบ้าน สะออนท่านผู้อยู่คอย สะออนท่านเพิ่นคึดน�ำ เด้น้อ... ~Anchalita Siri-Arpa~ 6 Roiedder • August 2013
L
ife & Rhyme ม่วนค�ำผญา
เอาค�ำจาผญาอ้อน มาวอนวานพอฮู้ข่าว สาวผู้จากบ้านอ้าย กายใจเจ้าอยู่จั่งได๋ สุขหือฮ้ายยามไกลบ้าน เวียกงานค่องหม่องรวยเงิน หือขาดเขินเงินตรา สุขอุราบ่น้อเจ้า พ้อเขาใหม่แล้วบ๊หล่า คนที่จามาเฮียงคู่ มาเป็นผู้เฮียงซ้อน กล่อมน้องเข้าบ่อนนอน กาด�ำคอนก�้ำบ้านอ้าย เปรียบคือชายที่น้องหล่าย มีแต่กายกับใจฮ้าง ที่นางถิ่มบ่คิดน�ำ
เอื้อเฟื้อต่อนผญาโดย “สมาคมคนฮักผญา”
ขอเอาค�ำของคนเศร้า ฝากบอกเขาให้แนว่า อย่าสิตีสิฆ่า อีนางหล่าของพี่ชาย บุญบ่หลายสายแนนข่อง บ่จ่องกันเป็นเนื้อคู่ ยอมเจ็บใจอยากเว้าสู่ ฝากอีนางชู้บักอ้าย แม่นสิพ่ายกะคิดน�ำ แม่นอ้ายแพ้...กะฮักนาง คนไคเอ้ย...
ฉบับหน้า “บักห�ำหล่า คนบ้านนอก” แห่ง “สมาคมคนฮักผญา” สิมาสอน พ่อแม่พี่น้องแต่งกลอนผญา อย่าลืม ติดตามกันเด้อครับ!
คองคอยอ้าย คองคอยไปกะแล่งแล่ง คองคอยมาจากหน้าแล้ง จนฝนแฮงข้าวเริ่มเขียว คองค�ำเดียวจากอ้าย บ่าวพี่ซายบอกถ่าแหน่ คองคอยหลายสิตายแท้ มันซิแย่ผู่ถ่าคอย เด้อ้าย...
Photo by Stephen Bures
~บักห�ำหล่า คนบ้านนอก~ หมายเหตุ :
~ศักดิ์ สิบแสน~
Photo by โจอี้ คนล่าแสง สิงหาคม ๒๕๕๖ • ร้อยเอ็ดเด้อ
7
F
rom someone to 101
เรื่องและภาพ : เจี๊ยบ พรรณาพัชร
จ ด ห ม า ย จ า ก ผู ้ ลั ง ค น
คุณแม่หนาหนักเพี้ยง คุณบิดรดุจอา- คุณพี่พ่างศิขรา คุณพระอาจารย์อ้าง
พสุธา กาศกว้าง เมรุมาศ อาจสู้สาคร
~โคลงโลกนิติ~
สวัสดีจ้ะ เพื่อนผู้ไกลห่าง ดหมายฉบับนี้ขอเริ่มต้นกล่าวทักทายเป็นโคลง เพราะเห็นว่าเป็นเดือนสิงหาคม เดือนที่ทุกคน จะให้ความส�ำคัญกับวันแม่ เราชอบโคลงบทนี้ ที่เปรียบ บุญคุณของแม่หนักดั่งแผ่นดิน และเราคิดว่าเพื่อนก็คงจะ มีความรู้สึกเช่นเดียวกัน นอกจากโคลงความหมายดีแล้ว เรายังนึกถึงนักเรียน นิสัยดีคนหนึ่ง ซึ่งเราสอนอยู่ในปัจจุบัน ชื่อว่า เด็กหญิง ขวัญฤทัย จะฟือ้ นักเรียนชัน้ ม.3/1 โรงเรียนห้วยน�ำ้ ขุน่ วิทยา อ.แม่สรวย จ.เชียงราย ขวัญฤทัยอาศัยอยู่หมู่บ้านลอจอเป็นชนเผ่าลาหู่ พ่อ แม่ของขวัญฤทัยไปท�ำงานก่อสร้างที่ต่างจังหวัดตั้งแต่ เธออายุได้ 7 ขวบ ตอนนั้นเธอต้องอาศัยอยู่หอพักในตัว เมืองเชียงรายเพียงล�ำพังถึง 6 ปี คือ ตั้งแต่ อนุบาลจนถึง ป.5 โดยผู้ใหญ่ที่คอยดูแลก็คือคนดูแลหอ เมื่อขวัญฤทัยเรียนอยู่ชั้น ป.6 ก็ได้ย้ายกลับมาเรียน ที่โรงเรียนใกล้บ้านแห่งนี้ แต่เธอก็ต้องอยู่บ้านคนเดียว ท�ำงานบ้าน ท�ำกับข้าว และต้องดูแลรับผิดชอบเรือ่ งต่าง ๆ เองทั้งหมด ขวัญฤทัยเล่าให้ฟังว่า ตอนเด็ก ๆ คิดถึงพ่อแม่มาก แต่ก็ท�ำได้แค่เพียงร้องไห้และเฝ้ารอให้พ่อแม่กลับมา พอ โตขึ้นอย่างเช่นในปัจจุบันนี้ ถ้าคิดถึงพ่อแม่ขึ้นมาก็จะโทร ไปหา แต่ความคิดถึงที่มีต่อพ่อแม่ก็เกิดขึ้นทุกวัน ไม่เคย มีวันไหนเลยที่จะไม่คิดถึง ซึ่งพ่อแม่จะกลับมาหาเพียง แค่เทอมละประมาณ 1-2 ครั้ง บางครั้งพ่อกับแม่ก็ไม่ได้ กลับมาพร้อมกัน เวลาแม่กลับมาหาขวัญฤทัยแต่ละครั้ง จะซื้อเสื้อผ้า สวย ๆ มาให้ เธอจะท�ำกับข้าวให้พ่อแม่ทาน นวดให้พ่อ-
จ
8 Roiedder • August 2013
แม่ และใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่กับพ่อแม่ แม่มักจะเตือน ขวัญฤทัยให้ดูแลบ้าน ดูแลสุขภาพตัวเองให้ดี ๆ เพราะ ถ้าลูกไม่สบาย พ่อแม่ก็จะท�ำงานไม่ได้ เนื่องจากเป็นห่วง ลูกนั่นเอง งานที่พ่อแม่ท�ำอยู่ที่ต่างจังหวัดถึงแม้รายได้จะไม่ได้ มากมาย คือพ่อได้ค่าจ้างวันละ 300 บาท ส่วนแม่ ได้ ค่าจ้างวันละ 250 บาท แต่ก็ได้ส่งเงินมาให้ขวัญฤทัย ประมาณ 500–1,000 บาทต่อเดือน บางครั้งก็ไม่พอใช้ จ่าย เธอต้องหารายได้พิเศษในช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ด้วยการไปรับจ้างเก็บชาและปลูกข้าว มีรายได้ประมาณ 120 – 200 บาทต่อวัน แต่ แ ม่ ยั ง คงเน้ น ย�้ ำ เรื่ อ งการใช้ เ งิ น ไม่ ค วรใช้ จ ่ า ย ฟุ่มเฟือย เพราะแม่ท�ำงานได้เงินมาด้วยความยากล�ำบาก ต้องตากแดดตากฝน แต่แม่ก็จะท�ำทุกวิถีทางให้ลูกเรียน จบได้ท�ำงานที่ดี แม่อยากให้ลูกเป็นครู วันนี้แม่อาจเลี้ยง ดูลูกได้ แต่ถ้าถึงวันหนึ่งที่แม่ไม่ได้อยู่ดูแลลูกแล้ว แม่ก็ เพียงหวังว่าถ้าลูกมีอาชีพที่ดี มั่นคง สามารถดูแลตัวเอง ได้ แม่ก็จะได้หมดห่วง ขวัญฤทัย ยังได้ฝากความรู้สึกถึงแม่ว่า... อยากให้แม่ มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง เพื่อที่จะได้อยู่กับลูกนาน ๆ และในอนาคตลูกก็จะปลูกบ้านให้แม่อยู่ อยากให้กลับ มาอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันบนดอยแห่งนี้ เพราะการใช้ ชีวิตอยู่บนดอย ได้อยู่กับธรรมชาติ อยู่แล้วสบายใจ ไม่ เครียด และขอขอบคุณทุก ๆ สิ่งที่แม่ให้มา ถึงแม้มันจะ ไม่ดีพอเหมือนลูกคนอื่น ๆ แต่สิ่งที่แม่ท�ำอยู่ในตอนนี้ ก็ ท�ำให้ได้รู้ว่าแม่รักลูกมากแค่ไหน ลูกขอสัญญาว่าจะท�ำ วันนี้ให้ดีที่สุดเพื่อแม่ เพื่อนคิดว่าเรื่องราวของขวัญฤทัยได้สะท้อนถึงชีวิต ครอบครัวของใครหลาย ๆ คนหรือเปล่า? ส�ำหรับเรา รู้สึกสัมผัสถึงความรัก ความคิดถึง และ ความเข้มแข็งของแม่และลูกคู่นี้ เพราะขวัญฤทัยถึงแม้ จะอยู่คนเดียวตั้งแต่เล็ก ๆ แต่ก็ไม่เคยเกเร มีแต่จะตั้งใจ เรียน ขยันท�ำงาน ประพฤติปฏิบัติตนตามค�ำสอนที่แม่ คอยพร�่ำสอนไว้ เพราะอยากให้วันข้างหน้าครอบครัวจะ ได้กลับมาอยู่พร้อมหน้ากันอีกครั้ง
เรายังเล่าไม่หมดนะจ๊ะเพื่อน พอดีอินกับความ รู้สึกมากไปหน่อย จึงขอเล่าเรื่องราวเพื่อนครูของเราอีก ท่านหนึ่งชื่อครูสมจิตร ดวงใจไพรวัลย์ เป็นคนเชียงใหม่ เขาได้จากบ้านเกิดเมืองนอน จากลูกและภรรยา มาสอน หนังสือให้กับเด็กบนดอยแห่งนี้ แต่เขาก็ยังเฝ้าคิดถึงและ เป็นห่วงเป็นใยแม่ของลูก (ภรรยา) ของเขาเสมอ ครูสมจิตรได้มาท�ำงานตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2555 ซึ่งในขณะนั้นลูกชายของเขาอายุเพียง 2-3 เดือน เขาคิดถึงภรรยาและลูกตลอดเวลา ครั้งหนึ่งครูสมจิตรเคยบอกว่า...ภรรยาของเขา เป็นคนที่วิเศษที่สุดส�ำหรับเขา ปัจจุบันนี้ภรรยาของเขา ได้ท�ำหน้าที่ที่ยิ่งใหญ่อยู่ทุกคืนวันโดยไม่หยุดพัก นั่นคือ การดูแลลูก การที่ต้องคอยดูแลคนคนหนึ่งตลอดเวลา ก็ เท่ากับต้องเสียสละอิสรภาพที่จะท�ำตามใจตัวเองออกไป เพื่อเลี้ยงลูกให้ดีที่สุด แต่ก็มีบางครั้งที่ภรรยาโทรมาบ่นเกี่ยวกับเรื่อง บ้านและเรื่องลูก ครูสมจิตรก็จะรู้สึกร�ำคาญบ้าง แต่ถ้า จิตใจสงบลงเมื่อไหร่ ก็จะโทรไปขอโทษ เพราะเข้าใจ ภรรยาในส่วนที่ว่าอยู่กับลูกเพียง 2 คน บางครั้งก็อาจ จากบ้านเกิดที่จังหวัดตาก มาอยู่กับเขาที่จังหวัดเชียงใหม่ เกิดความเครียดในการเลี้ยงดูลูก และภรรยาก็อยู่ห่าง ซึ่งนั่นก็อาจเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ก่อให้เกิดความเครียดได้
สิงหาคม ๒๕๕๖ • ร้อยเอ็ดเด้อ
9
ครู ส มจิ ต รยั ง ได้ ฝ ากค�ำ ถึ ง ภรรยาด้ ว ยว่ า ...ผู ้ ห ญิ ง เกือบทุกคนต้องได้พบเจอกับบทบาทของความเป็นแม่ ดังนัน้ คุณต้องเข้มแข็งไว้ ที่ส�ำคัญต้องเป็นตัวอย่างที่ดีแก่ ลูก และคอยทะนุถนอมลูก รู้จักควบคุม อบรมสั่งสอน เพื่อให้ลูกเป็นคนดี จดหมายฉบั บ นี้ เราตั้ ง ใจให้ เ พื่ อ นได้ อ ่ า นทั้ ง เรื่ อ ง ราวของแม่ที่ต้องห่างจากลูกเพื่อไปท� ำงานหารายได้ให้ ครอบครัว และแม่ที่ต้องอยู่เลี้ยงดูลูกเพียงล�ำพัง ผ่านมุม มองความรู้สึกของลูก และพ่อของลูก เราคิดว่ายังมีแม่ใน อีกหลากหลายแง่มุมที่ก�ำลังเผชิญกับปัญหาต่าง ๆ และ แม่เหล่านั้นยังคงต่อสู้เพื่อให้ครอบครัวดีขึ้น เราเองก็เป็นคุณแม่ลูกหนึ่งเหมือนกัน แต่ขอไม่เล่า เรื่องตัวเองดีกว่า ขี้เกียจจะดราม่า เดี๋ยวเพื่อนเช็ดน�้ำตา ไม่ทัน...อิอิ ขอจบจดหมายฉบับนี้ไว้แค่นี้ละกันเนอะ ปล. บนดอยอากาศดีมาก แม้แสงสีจะไม่ฉูดฉาด เหมือนในเมือง แต่คืนไหนที่ท้องฟ้าเปิดเราจะได้เห็นดาว เกลื่อนฟ้า ตื่นเช้ามาก็มีหมอกขาว ๆ คอยทักทาย ถ้า เพื่อนมีเวลาก็อยากให้แวะมาเยี่ยมกันบ้าง มานั่งจิบน�้ำชา ผิงดาวด้วยกัน ระลึกถึงเสมอ เจี๊ยบ ห้วยน�้ำขุ่น, แม่สรวย, เชียงราย
[ขวาบน] ด.ญ.ขวั ญ ฤทั ย จะฟื ้ อ [ขวาล่ า ง] ครู ส มจิ ต ร ดวงใจไพรวั ล ย์ [ซ้ า ยล่ า ง] ภรรยาและลู ก ชายของครู ส มจิ ต ร
10 Roiedder • August 2013
“...นอนสาหล่า...หลับตา...แม่สิกล่อม...” แพ ใบไผ่
ใครบางคนถามถึงหนึ่งเพลงสู้ เมื่อชีวิตถลำ�สู่ห้วงความเศร้า เมื่อโลกไม่เป็นไปดั่งใจเรา ฉันบอกเขา “ก็มี, เพลงนี้ไง...” “...นอนสาหล่าหลับตาแม่สิกล่อม นอนหลับแล้วอู่แก้วแม่สิไกว แม่ไปไฮ่หมกไข่ไก่มาหา แม่ไปนาหมกไข่ปลามาป้อน แม่เลี้ยงม่อนในป่าสวนหม่อน...” “...นอนสาหล่าหลับตาแม่สิกล่อม เจ้าบ่นอนบ่ให้กินกล้วย แม่ไปห้วยไปส่อนปลาซิว เก็บผักติ้วมาใส่แกงเห็ด ไปใส่เบ็ดได้ปลาค่อใหญ่ อย่าฮ้องไห้แมวโพงสิจกตา...” เพลงของแม่ยังกู่ร้องก้องในจิต แม้ชีวิตน่าหวั่นหวาดขนาดไหน “นอนสาหล่า...หลับตา...แม่สิไกว” จะปลอบขวัญ-กล่อมใจไปนิรันดร์
สิงหาคม ๒๕๕๖ • ร้อยเอ็ดเด้อ 11
ร้
อยเอ็ดได๋?
Roiedized by ไฉ่ ฉ�่ำ แฉะ
การค้นพบครั้งส�ำคัญเกี่ยวกับ
ล�ำห้วยเหนือ อาทิตย์
ที่แล้วผมเปิด google earth นั่งดูแผนผังเมือง ร้อยเอ็ดเล่น ๆ พบความพิเศษอย่างหนึ่งซึ่งไม่ ได้มีเกิดขึ้นง่าย ๆ ในเมืองไหน คือผมเห็นวงรอบใหญ่ ๆ อยู่ 3 วง วงแรก คือบึงพลาญชัย วงที่ 2 คือคลองรอบเมือง วงที่ 3 คือถนนเลี่ยงเมือง ที่ กลมรอบบรรจบสวยงาม และอีกไม่นานอาจจะมีอีกวงรอบในอีกรอบ หนึ่งในเร็ววัน ผมไม่ใช่นักผังเมืองที่มีความรู้เรื่องนี้มากนัก ไม่รู้ว่ามันเป็น เรื่องดีหรือไม่ในแง่ความเป็นเมือง แต่มองดูแล้วก็รู้สึกว่ามันสวยดีและเกิด ความภูมิใจนิด ๆ ที่มีผังเมืองเท่ ๆ อย่างนี้ มีอีกอย่างหนึ่งที่เป็นความรู้ใหม่ของผมซึ่งหลายคนอาจจะหัวเราะ เยาะ และหาว่าผมโง่ก็ได้ คือผมเพิ่งรู้ว่าคลองรอบเมืองที่เราเห็นกันอยู่ทุก วันนี้มันเชื่อมต่อกับ “ล�ำห้วยเหนือ” ผมเขกกะบาลตัวเอง 1 ที หรือถ้าใคร อยากจะเขกกะบาลผมอีกก็เชิญ แต่ผมยอมรับว่าผมเพิ่งรู้จริง ๆ
12 Roiedder • August 2013
[ซ้าย] ล�ำห้วยเหนือ ส่วนที่พาดผ่านบ้านหนองใหญ่ เป็น พรมแดนธรรมชาติ คั่นระหว่าง ต.หนองใหญ่ อ.ศรีสมเด็จ กับ ต.ขอนแก่น อ.เมืองร้อยเอ็ด ปัจจุบันสร้างฝายกั้นน�้ำเพื่อใช้ ประโยชน์ทางชลประทาน [ล่าง] ผังเมืองรวมร้อยเอ็ด เราจะเห็นล�ำห้วยเหนือเป็นเส้น ยึกยืออยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้
ตลอดมาผมเข้ า ใจว่ า คลองรอบเมื อ งเป็ น คลองที่ ขุดเอาไว้เป็นปราการป้องกันข้าศึกอันเป็นยุทธวิธีการ รบของแทบทุกเมืองในสมัยโบราณ แต่คลองรอบเมือง ร้อยเอ็ดน่าสนใจกว่าหลาย ๆ เมืองเพราะมีขนาดกว้าง และคงสภาพความเป็นคลองเกือบรอบเป็นสี่เหลี่ยมเลย แม้แต่คูเมืองเชียงใหม่ผมว่ายังดูไม่ยิ่งใหญ่เท่า แต่ ผ มไม่ เ คยคิ ด เลยว่ า มั น จะเชื่ อ มต่ อ กั บ ล� ำ ห้ ว ย เหนือ และก็ไม่รู้อีกว่าไอ้ล�ำห้วยเหนือที่ว่านี้มันไหลมา จากไหนมันเป็นล�ำห้วยธรรมชาติหรือล�ำห้วยที่ขุดขึ้น เหมือนกัน ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านี้ผมเป็นคนที่คิดว่าตัวเองค่อนข้าง จะแม่นในเรื่องภูมิศาสตร์มาก ถึงแม้จะไม่ได้เรียนมาทาง นี้แต่ก็สนใจมาตั้งแต่เด็ก ๆ อาจเป็นเพราะพ่อผมเรียนจบ เอกภูมิศาสตร์ก็เลยถ่ายทอดทางพันธุกรรมมาสู่ลูก จ�ำ ได้ ว ่ า ตั้ ง แต่ เ ด็ ก ๆ ผมสามารถจ� ำชื่อประเทศ ชื่อเมือง หลวงของแต่ละประเทศได้อย่างแม่นย�ำและแยกแยะได้ ด้วยว่าประเทศนี้อยู่ทวีปไหนโซนไหนได้อีกต่างหาก
ตอนเรี ย นมหา’ลั ย พบว่ า ผมเป็ น คนเดี ย วใน คณะที่รู้ว่าทิเบตไม่ได้อยู่ตอนเหนือของจีน แต่อยู่ใกล้ พม่านี่เอง ทุกวันนี้ผมก็ยังถือว่าเป็นคนที่แม่นแผนที่โลก คนหนึ่งเลยทีเดียว แต่ขอโทษนะครับ ผมเพิ่งรู้ว่าล�ำห้วยเหนือ ติดต่อ กับคลองรอบเมือง ค�ำถามต่อมาคือล�ำห้วยเหนือไหลมาจากไหน? สมัยเรียนมัธยมจ�ำได้ว่าครั้งหนึ่งเพื่อนคนหนึ่งบอก ว่ามันไหลมาจากต้นน�้ำเดียวกันกับแม่น�้ำชีซึ่งหมายความ ว่ า มั น ไหลมาจากแถบตอนเหนื อ ของชั ย ภู มิ ติ ด เขต อุทยานน�้ำหนาวนู้น ผมเองไม่ค่อยจะเชื่อเท่าไหร่นัก เลยท้ากับมันขับ มอเตอร์ไซค์ ย้อนไปตามล�ำห้วยดู--ออกแนวเดินทาง ค้นหาความหมายของชีวิตอะไรประมาณนั้นแหละครับ แต่ไปได้ไม่ถึง 10 กิโลก็ต้องตัดสินใจกลับเพราะเริ่ม หิวข้าว น�้ำมันรถก็ใกล้จะหมด และไม่มีเงินหลงเหลือใน กระเป๋ากางเกงขาด ๆ
สิงหาคม ๒๕๕๖ • ร้อยเอ็ดเด้อ 13
ปัจจุบันเมื่อเทคโนโลยีของโลกทุกวันนี้มันก้าวหน้า ผมเลยค่อยลากเมาท์ตามล�ำห้วยเหนือไป จากวัดสระ ทอง ย้อนไปเรื่อย ๆ จึงถึงบางอ้อว่ามันเข้าไปในเขตทหาร นี่เองท�ำให้ผมขาดการติดต่อกับมันในช่วงนี้ไปเพราะ ผมกลัวคนในเครื่องแบบผมจึงไม่ค่อยกล้าไปยุ่มย่ามแถว นั้น ท�ำให้ความรู้ถูกปิดกั้นเพราะความกลัวนี่เอง แต่ตอน นี้ผมอยู่ที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ ฮ่า ๆ ๆ ผมเข้าเขตทหาร ได้อย่างสบาย ว่าแล้วก็ลากเมาท์ไปต่อ ผ่านชุมชนบ้านท่านคร ลอด ถนนแจ้งสนิท ลอดถนนเลี่ยงเมือง เข้าไปทางบ้านดงลาน ยาวต่อมาเฉียดบ้านหนองใหญ่ ตรงนี้ เริ่ ม สงสั ย เพิ่ ม ขึ้ น มาอี ก อย่ า งหนึ่ ง แล้ ว ครั บ ล�ำห้วยเหนือ ท�ำไมไม่มาจากทางเหนือหละครับ? กลับ ไหลมาจากทิศตะวันตกเฉียงใต้เสียอย่างนั้น หรือมันไหล ไหลขึ้นเหนือจึงเรียกล�ำห้วยเหนือ? เอ๊ะ...มันยังไงกันแน่ครับ? ต่อมาพบว่ามันผ่าน “หนองผือ” ซึง่ ตรงนีน้ า่ จะมีฝาย
14 Roiedder • August 2013
หรือเขื่อนเล็ก ๆ และยังไปต่ออีก จนถึงสุดถนนแล้วหาย ไปเฉย ๆ ที่ริมถนนนั่นเอง อ้าว!...ยังไม่ถึงอ�ำเภอศรีสมเด็จด้วยซ�้ำ! เอาเป็นว่ารวมระยะทางทั้งหมดกะด้วยสายตาไม่ น่าเกิน 50-60 กิโลเมตรเท่านั้น ผมเกิดความสนใจใน ประวัติศาสตร์ของคลองรอบเมืองและล�ำห้วยเหนือขึ้นมา จริง ๆ แล้วละสิครับ มันน่าจะมีอะไรที่มีความเป็นมาเชิง ประวัติศาสตร์ของจังหวัดร้อยเอ็ดเลยทีเดียว เอาไว้ผม ลองไปหาข้อมูลพวกนี้ได้จะลองมาเขียนเล่าให้ฟัง หรือหากท่านผู้ใดรู้ผมก็อาจจะรบกวนขอความรู้จาก ท่านเป็นวิทยาทาน หลังจากเดินทางไปจนสุดต้นทางล�ำห้วยเหนือแล้ว ผมก็เลยเกิดความสงสัยต่อไปว่าแล้วมันไหลไปไหน อันนี้ พอรู้มาก่อนครับว่า พอเวลาน�้ำในคลองรอบเมืองเพิ่มสูง ขึ้นมันจะล้นออกทางฝายน�้ำล้นแล้วไหลไปตามล�ำห้วยไป ลงสู่แม่น�้ำชี ปรากฏว่าล�ำห้วยที่ว่านี้ ทางการเขาเรียกว่า “กุดขวาง”
Photo by โจอี้ คนล่าแสง
ไหลย้อนไปทางบ้านดงบ้านนาก่อนแล้วจึงขึ้นเหนือ เรื่อยจนไปลงหนองขนาดใหญ่ชื่อ “น�้ำเค็ม” ก่อนที่น�้ำเค็มจะไปเชื่อมต่อกับอีกหลายหนองหลายบุ่ง กว่าจะถึง น�้ำชี ระยะอีกทางกว่า 30 กิโลเมตร เข้ า ใจว่ า เนื่ อ งจากพื้ น ที่ แ ถบนั้ น เป็ น ที่ ชุ ่ ม น�้ ำ รอบ ล� ำ น�้ ำ ชี จึ ง น่ า จะเชื่ อ มต่ อ กั น หมด นั่ น หมายความว่ า ล�ำห้วยเหนือไม่ได้ไหลไปลงแม่น�้ำชีอย่างที่ผมเข้าใจอีก แล้ว มาถึงน�้ำชีปรากฏว่าแถบพื้นที่ที่รายรอบแม่น�้ำชีเป็น พื้นที่ลักษณะชุ่มน�้ำตลอดระยะทาง ผมสารภาพตามตรงว่าผมนึกภาพไม่ออกว่ามันเป็น ยังไง ผมไม่เคยไปและเคยเห็นเลยทั้ง ๆ ที่มีพื้นที่แบบนี้ ตั้งแต่เขต อ.จังหาร อ.เชียงขวัญ ไล่ยาวไปถึงทาง อ.ทุ่งเขาหลวง อ.อาจสามารถ อ.พนมไพร ต่อไปจนถึง จังหวัด ยโสธรเลยทีเดียว ผมเข้าใจมาตลอดว่าจังหวัดของผมมี แต่ความแห้งแล้ง มีแต่ทุ่งกุลาที่อ้างว้างกว้างใหญ่ ทั้ง ๆ ที่ยังมีอีกหลาย ที่หลายแง่มุมที่เรายังเข้าไปไม่ถึงยังไม่ได้เห็น มันท�ำให้ เริ่มเกิดความสนใจที่จะเดินทางไปค้นหาพื้นที่ต่าง ๆ ที่
น่าสนใจของจังหวัดร้อยเอ็ดในแง่มุมใหม่ ๆ ที่ยังคงความ งดงามของมันในแบบที่มันเป็นมาน�ำเสนอ บางทีมันอาจ จะงดงามกว่าหลาย ๆ สิ่งก่อสร้างที่เราพยายามจะสร้าง ขึ้นมาให้เป็นสัญลักษณ์-อัตตลักษณ์ของเมืองก็เป็นได้ เรื่องราวที่ผมเล่าในวันนี้อาจจะดูตลกในสายตาของ หลาย ๆ คน แต่ผมเชื่อว่ามีหลาย ๆ คนก็เพิ่งรู้เกี่ยวกับ เรื่องที่ผมเล่าในวันนี้ มันคงบอกและให้ฉุกคิดอะไรแก่ ท่านผู้อ่านได้บ้าง ในฐานะที่ผมเป็นคนร้อยเอ็ดคนหนึ่งก็อดเป็นห่วงไม่ ได้ว่า ทิศทางในการพัฒนาของจังหวัดเรา ที่ให้ค่าความ งามความยิ่งใหญ่แต่เฉพาะสิ่งที่จับต้องได้ ตัดสินความ สุขของชีวิตจากวัตถุ หรือความร�่ำรวย ให้ความส�ำคัญ กับหน้าตาบารมีเหนือผู้อื่นมากเกินไป จนท�ำให้ลืมนึกถึง ความงดงามบางอย่างที่เคยมี ที่เราสามารถรับรู้ได้และ ทุก ๆ คนรู้กัน บางอย่างที่ทุกคนรู้จักมันดีแต่ไม่มีใครเคยสามารถ อธิบายได้--แม้บางนาที...
สิงหาคม ๒๕๕๖ • ร้อยเอ็ดเด้อ 15
Aftershock
แผ่นดินไหว ในหัวใจแม่
ขณะ
เกิ ด เหตุ แ ผ่ น ดิ น ไหวครั้ ง ใหญ่ ใ นถั ง ซานเมื่อปี 1976 (พ.ศ.2519) ลูก ฝาแฝดชายหญิงของ “หลี่เหยียนหนี่” ติดอยู่ใต้ซาก คอนกรีต เจ้าหน้าที่กู้ภัยบอกเธอว่า เด็กทั้งสองถูกทับอยู่ ด้วยเสาคอนกรีตท่อนเดียวกัน ซึ่งถ้ายกเสาขึ้นเพื่อช่วย คนหนึ่ง อีกคนจะถูกเสาทับตาย เธอต้องเลือกว่าจะ รักษาชีวิตลูกคนไหนเอาไว้เพียงแค่คนเดียว หญิ ง สาวที่ เ พิ่ ง สู ญ เสี ย สามี ไ ปรู ้ สึ ก หวาดหวั่ น กั บ สถานการณ์ที่บีบคั้นจิตใจ แต่สุดท้ายเธอก็กลั้นใจเลือก “ต้าเฝิง” ผู้เป็นลูกชาย โดยที่ไม่รู้ว่า “ฝางเติ้ง” ลูกสาว ของเธอ ได้ยินการตัดสินใจนั้นทั้งหมด ร่างของเด็กหญิงถูกผู้เป็นแม่อุ้มไปวางรวมกับศพผู้ เสียชีวิต ก่อนที่จะกลับไปดูแลลูกชาย
16 Roiedder • August 2013
Muan & More
Text by ด.ช.บุญกี้
เด็กหญิงยังไม่ตาย! เธอฟื้นในอีกหลายชั่วโมงต่อมา และถูกน�ำไปเลี้ยงเป็นลูกบุญธรรมในครอบครัวทหาร การรอดตายของเธอโดยที่แม่ไม่รู้ในครั้งนั้นเป็นจุด เริ่มต้นของเรื่องราวสะเทือนใจอื่น ๆ ตลอดระยะเวลาที่ ชีวิตของแต่ละคนต่างด�ำเนินไป กับความทรงจ�ำแสนเศร้า ที่ไม่เคยจางหาย... หลายปีผ่านไป หลี่เหยียนหนี่ยังคงถูกการตัดสินใจ ของตนเองตามหลอกหลอน เธอไม่ยอมจากบ้านไปไหน เพราะเธอกลัวว่าดวงวิญญาณของสามีและลูกสาวจะ กลับบ้านไม่ถูกถ้าไม่มีเธอคอยบอกทาง ต้าเฝิงลูกชายของเธอในตอนนี้กลายเป็นนักธุรกิจที่ ประสบความส�ำเร็จ ขณะเดียวกันนั้นฝางเติ้งแม้จะเติบโต ขึ้นในครอบครัวที่อบอุ่น แต่เธอยังคงเก็บง�ำความโกรธ และความขมขื่นจากการตัดสินใจของแม่เอาไว้ตลอดมา
ปี 2008 ภัยพิบัติแผ่นดินไหวเกิดขึ้นอีกครั้งที่มณฑล เสฉวน ฝางเติ้ ง เดิ น ทางไปยังสถานที่เกิดเหตุในฐานะ อาสาสมัครกู้ภัย ที่นั่นเองเธอได้ยินเพื่อนอาสาสมัครอีก คนหนึ่งเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับคุณแม่ของเขา ที่จมอยู่กับ ความปวดร้าวเพราะการตัดสินใจเลือกรักษาชีวิตระหว่าง ตัวเขากับพี่สาวฝาแฝด ในเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่ถังซาน เมื่อปี 1976 อาสาสมัครคนนั้นก็คือฝางเติ้งน้องชายของ เธอนั่นเอง และเขาได้พาเธอกลับบ้าน...ไปหาแม่ แม่ลูกได้พบกันหลังจากพลัดพรากกันไปถึง 32 ปี ใน บรรยากาศที่หลายสิ่งเปลี่ยนไป แต่ความเป็นแม่ไม่เคยเปลี่ยนแปลง... ฝางเติ้งได้พบความจริงว่าตลอด 32 ปีที่ผ่านมา แม่ ยังคงท�ำทุกอย่างเพื่อเธอ เหมือนกับเธอไม่ได้จากไปไหน
คะแนนความซึ้ง 9/10
ภาพยนตร์เรื่องนี้ออกฉายเมื่อปี 2010 และนับจาก นั้นผมได้ดูมาแล้วสามรอบ รอบแรก ดูหลังจากได้ยินค�ำบอกเล่าของพี่สาวคน หนึ่ง เธอบอกว่าเป็น “หนังบีบน�้ำตาชั้นดี” โชคร้ายหนังฉายเฉพาะในเครือลิโด้ คนต่างจังหวัด ทุนน้อยอย่างผมก็เลยต้องรอแผ่น แผ่นออกปุ๊บ ผมหามาดูปั๊บ แปลกใจไม่น้อยที่หนังเปิดเรื่องมาได้เพียงสิบกว่า นาทีก็เจอฉากแผ่นดินไหวแล้ว โดยไม่ต้องปูพื้นให้ยืดยาว เหมือนภาพยนตร์แนวหายนะเรื่องอื่น คงเป็นเพราะสิ่งที่หนังต้องการสื่อไม่ใช่ความหายนะ จากแผ่นดินไหว แต่คือความสะเทือนใจหลังจากนั้น และนั่นคงเป็นที่มาของชื่อเรื่อง Aftershock ดูจนจบก็พบว่าจริงของคุณพี่...หนังบีบน�ำ้ ตาของผม ไปได้หลายซีซี รอบที่สอง เมื่อครั้งท�ำงานโรงเรียนเอกชน ผมรับผิด ชอบโครงการ “ฉายหนังหลังเลิกเรียน” ครั้งหนึ่งผมน�ำ Aftershock ไปฉายให้นักเรียนดู และผมก็ดูด้วย ทีแรกก็เกรงอยู่ว่าจะไม่มีใครทนดูจนจบเรื่อง เพราะ กลุ่มคนดูเป็นวัยรุ่น และเนื้อหาของหนังก็ดราม่าค่อนข้าง หนัก แต่แปลกแฮะ...นักเรียนร้อยกว่าคนในห้องฉาย ไม่มี ใครลุกไปไหนเลย และบางคนก็ถึงกับสะอึกสะอื้นออกมา ดีที่ก่อนฉายผมได้ประกาศเตือนนักเรียนที่จะเข้าไป ดูให้เตรียมอุปกรณ์เช็ดน�้ำตาเข้าไปด้วย ไม่งั้นคงมีการลื่น น�้ำตาล้มหัวแตกกันบ้างแหละ หลังจากหนังจบ นักเรียนหญิงคนหนึ่งเดินมาบอก กับผมว่า “ครูเอาหนังอะไรมาฉายน่ะ หนูคดิ ถึงแม่เลยเห็นมัย้ ” ว่าแล้วเธอก็เช็ดน�้ำตาที่ไหลเปื้อนแก้ม แต่ส�ำหรับผม ครั้งนั้นไม่มีน�้ำตา เพราะนักเรียนเยอะ อายเด็กมัน..!! และรอบที่สาม ผมกลับมาดูอีกครั้งเพื่อที่จะเขียนลง ในร้อยเอ็ดเด้อฉบับเดือนแห่งแม่ฉบับนี้ แม้จะรู้เนื้อหาของภาพยนตร์ล่วงหน้าทุกฉากทุก ตอนแล้ว ...ผมก็ยังน�้ำตาซึมตั้งหลายหน
สิงหาคม ๒๕๕๖ • ร้อยเอ็ดเด้อ 17
18 Roiedder • August 2013
Illustrated by Mini Patiwat
สิงหาคม ๒๕๕๖ • ร้อยเอ็ดเด้อ 19
โJoke Pladax
จ๊ก...ปลาแดก
นี่ล่ะ...ถืกต้องแล้ว
ผู้บ่าวสองคนไปกินข้าวน�ำกัน เหมิดร้านเหลือแค่ ไก่ทอดสองต่อน ต่อนน้อยกับต่อนใหญ่ พอพนักงานเอาไก่มาเสิร์ฟปั๊บ บ่าวหนึ่งฟ้าวตัก ไก่ต่อนใหญ่ใส่จานเจ้าของทันที “ฮ่วย...มึงคือตักต่อนใหญ่ก่อนหมู่วะ?” บ่าวสอง หงุดหงิดว่าหมู่เห็นแก่โต “แล่วถ้าเป็นมึงตักก่อน มึงสิตักต่อนได๋ซั่น?” บ่าว หนึ่งถามกลับ “กะต้องตักต่อนน้อยตั้วเนาะ” บ่าวสองเว่าอย่าง ภูมิใจในมารยาทเจ้าของ “เอ๋า...กะนี่เด๋ กูเหลือต่อนน้อยไว่ให่แล่ว มึงสิ มาโวยวายหยังอีก!!”
เอื้อยแหล่สอนน้อง
ผู้ซายด่า แปลว่า ผู้ซายฮัก ผู้ซายทัก แปลว่า ผู้ซายให่ท่า ผู้ซายแก้ผ้า แปลว่า ผู้ซายสิอาบน�้ำ ขอบคุณค่า..!!
ไผผิดเอ๋าหมู่เจ้าว่า?
ผู้ซายสามคน ได้เสียชีวิตลง วิญญาณของทั้งสาม ล่องลอยไปพ้อกับพญายม พญายมได้ถามถึงสาเหตุที่เฮ็ดให้ทั้งสามคนเสีย ชีวิต ก่อนสิวินิจฉัยบุญบาป ผู้ซายคนแรก : “มื่อนั่น ผมเมือบ้าน เห็นเมีย ผม นอนแก้ผ้าอยู่เทิงเตียง ผมตรวจเบิ่งรอบ ๆ บ้าน จนมาฮอดระเบียง ผมกะได้เห็นนิ้วมือมือคนเกาะอยู่ ผมเลยซาวได้ฆ้อน หวดลงไปเทือนึง มันตกลงไปเทิง พุ่มไม้ มันยังบ่ตาย ผมไปเอาตู้เสื้อผ้าออกมาจากห้อง แล้วยู้ลงไปทับหัวมัน ผมรู้สึกบ่ดีที่ได้ฆ่าคนตาย กะ เลยฆ่าโตตายตาม” ผูซ้ ายคนทีส่ อง : “ผมก�ำลังทาสีอยูเ่ ทิงตึกชัน้ ที่ 37 เกิดเหยียบหลุยตกลงมา ผมจับราวระเบียงได้ แล้วไผ กะบ่ฮู้เอาฆ้อนมาทุบมือผมจนตก แล้วยังทุ่มตู้เสื้อผ้า ลงมาทับหัวผมจนเละ” ผู้ซายคนที่สาม : “ผมแค่ลี้อยู่ในตู้เสื้อผ้า บ่ฮู้ เรื่องหยังเลยครับ”
ขอซุมื่อเอาโลด ความทะเล้นส่วนบุคคล ห้ามลอกเลียนแบบ!!
ภาพโดย ครูเมษ์
20 Roiedder • August 2013
เสี่ยว 1 : บ่ฮู้เป็นหยังซุมื่อนี่ เมียขอเงินเฮาซุมื่อ มื่อก่อนขอ 2,000 มื่อวานกะขอ 1,000 มื่อนี่กะขอ 3,500 เสี่ยว 2 : โอ้...แล่วเขาเอาไปเฮ็ดหยัง ขอเทือละ หลายขนาดนั่น? เสี่ยว 1 : จักแหล่ว เฮาบ่เคยให่จั๊กเทือ
เอื้อเฟื้อความฮาโดย “เฮาฮักภาษาอิสาน”
เครื่องได๋สิคักกว่ากัน?
สอย สอย พ่อใหญ่หำ� เลาซือ้ เครือ่ งเฮ็ดไส่กรอกรุน่ ใหม่ พี่น้องฟังสอย ล่าสุดมา กะเลยเอิน้ บักแดงลูกซายโทนมาฟังเลา โม้สรรพคุณ... สาวส�ำน้อยบ่ฮู้จัก “เครื่องรุ่นนี้ ไฮเทคคักเด้ลูกหล่า แค่เฮาเอา “ต่าย อรทัย” ควายโตเป็น ๆ ยัดเข้าไป มันกะสิได้ไส่กรอก บาดเพิ่นถืกของใหญ่ ออกมาให่เฮาเลย เป็นตางึดบ๊โตว่า?” “ถ้ามีอีกแบบนึงข่อยจั่งสิงึด...” บักแดงกะ “นี่แหละ เหตุผลที่ทนเจ็บ” อยากกวนตีนจักหน่อย “แบบที่เอาไส่กรอกยัด เข้าไปแล้วได้ควายออกมาโตเป็น ๆ มีบ่พ่อ?” “มี...” พ่อใหญ่ห�ำถืกลูกซายกวนตีนเลา (ผู้สาว) อ้ายเอ๊ย... คั้นอ้ายคึดฮอดน้อง ให่มืนตาใส่ถ่วยแจ่ว กะสูนคือกัน “กะแม่มึงนั่นเด้!” คั้นแม่นแสบแจ้ว ๆ ใจน้องกะดั่งกัน (ผู้บ่าว) น้องเอ๊ย...
คั้นน้องคึดฮอดอ้าย ให่มืนตาใส่ถ่วยแจ่ว คั้นแม่นแสบแจ้ว ๆ กะซางแหล่ว...ตามึง!
เวลาที่เหลืออยู่...
หมอบอกข่าวร้ายกับคนไข้... หมอ : “เจ้าเหลือเวลาอยู่ในโลกนี้อีก แค่ 10...” คนไข้หน้าซีดตกใจ... คนไข้ : “10 มื่อ เบาะครับหมอ?” หมอ : “บ่แมน...” คนไข้ : “10 เดือนเบาะครับ?” หมอ : “บ่แมน...” คนไข้เริ่มเฮ็ดหน้ายิ้มได้... คนไข้ : “แสดงว่า 10 ปีแม่นบ่ครับ?” หมอ : “10...9...8...7...6...”
ภาษาอีสานน่าฮู้
สนับสนุนโดย ชมรมศิลปวัฒนธรรมอีสาน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เสนอค�ำว่า“ก่องจ่อง”
ค�ำอ่าน : “KONG JONG” ความหมาย : (กิริยา) อาการที่ดูไม่เข้าท่า เพราะขาดความช�ำนาญ ตัวอย่าง : “เซาเฮ็ด...เด็กน้อยพอก่องจ่อง ให่ผู้ใหญ่ เขาเฮ็ด” = “พอแล้ว เป็นเด็กยังไม่ช�ำนาญ อย่าไปท�ำ ให้ผู้ใหญ่เขาท�ำ” สิงหาคม ๒๕๕๖ • ร้อยเอ็ดเด้อ 21
E
ndless Journey
เทียวทาง...บ่สุดเส้น
ทีละก้าว
Photo by เพจเกาะสีชัง
Mr.tambourine Man
ก้าวที่สอง
เรามาถึงเกาะลอยประมาณเที่ยง เลยแวะกินข้าว ก่อนไปรอเรือที่ท่า วันนี้คนไม่แน่นตานัก คงเพราะ ไม่ใช่วนั หยุดทีน่ กั ท่องเทีย่ วจะมา นอกจากเราก็มเี พียง ชาวเกาะที่กลับจากท�ำธุระในเมืองไม่กี่คนที่รออยู่ เรา ไม่ลืมติดเบียร์มาด้วย วันพักผ่อนแบบนี้เริ่มวงแต่หัว วันถือว่าเป็นข้อยกเว้นในโอกาสพิเศษ เรือจากเกาะเข้ามาเทียบท่าผู้คนไม่มาก ทยอย ลงจากเรือก็ได้เวลาที่เราจะได้จับจองที่นั่งของตัวเอง ชั้นล่างเป็นเก้าอี้นั่ง เราเลือกชั้นบนดาดเรือ ยืดแข้งยืด ขาได้สะดวก ทั้งไม่ต้องเกรงใจใครกับการดูดบุหรี่ จิบ เบียร์ แถมยังได้รับลมทะเลชัด ๆ ระหว่างการเดินทาง ไม่ถึงชั่วโมงเราก็มาถึงสีชัง ผมชอบให้แต่ละช่วงเวลามีบทเพลงของมัน กับ สถานที่ ผู้คน ที่เราได้ผ่านพบ เกิดความผูกพันขึ้น อย่างวันนี้ผมก็มีเพลงหนึ่งติดอยู่ในหู ผมและเธอเรา ต่างมีเพลงเป็นของตัวเอง ชีวิตบรรเลงในท่วงท�ำนอง 22 Roiedder • August 2013
ที่ต่างกัน แต่ก็มีบางครั้งที่ตัดผ่านมาพบกัน ได้ร่วม ประสบการณ์ก่อนจะต้องเดินทางของตัวเองต่อ การ ลาจากเป็นเพียงอีกจุดเริ่มต้นเท่านั้นเมื่อเรายังมีความ ทรงจ�ำต่อกัน เราตัดสินใจเช่ารถมอเตอร์ไซค์เพื่อความสะดวก ในการเดินทาง ก่อนมุ่งหน้าสู่หาดเป้าหมายเราเลย แวะเดินเล่นที่ตลาดแวะหาซื้อของติดไม้ตดิ มือ ผมพา เธอไปทีส่ วนสาธารณะไม่ไกลจากตัวตลาดนัก ที่นี่เหมาะกับการพาครอบครัวมาเดินเล่น โดย รอบหน้าผายังมีที่ปักเบ็ดให้คนรักการตกปลาได้ใช้ ด้วย พอแดดเริ่มหลบเราก็มุ่งหน้าสู่หาด ตามคาด นักท่องเที่ยวบางตา มีไม่กี่ครอบครัว เท่านั้นที่พาลูกหลานมาเล่นน�้ำยามเย็น เราหาที่กาง เต็นท์ไม่ไกลจากร้านขายอาหารนัก สอบถามเวลาปิด เผื่อจะได้สั่งอะไรไว้ก่อนได้ เธอขอตัวไปอาบน�้ำ ผม สั่งกับแกล้มแล้วเริ่มเหล้าแก้วแรกของวัน เด็ก ๆ เริ่ม ทยอยขึ้นจากทะเลกันแล้ว
บรรยากาศยามอาทิตย์ก� ำลังจะลับฟ้าสีเหมือน เหล้าผสมในแก้วของผม คืนนี้ยังอีกยาวนาน โมงยาม เดินช้าอ้อยอิ่ง หรือนี่ผมก�ำลังเมาได้ที่แล้ว? เธอกลับมาถามหาแก้วของตัวเอง เราขออาศัยแปลและโต๊ะของทางร้านต่อหลังจาก ปิดร้าน ทั้งหาดคืนนี้มีเพียงแค่เราสองคน ข้างบนโน้น เป็นบ้านพักมีคนไม่กี่คน บรรยากาศเงียบงันแต่วันนี้ ผมไม่เหงา นั่งมองทะเลยามค�่ำคืนโดยมีเธออยู่ข้าง ๆ “ช่วงนี้เขียนอะไรอยู่?” เธอชวนคุย “เรื่องไม่เป็นเรื่อง ช่วงนี้เขียนอะไรไม่ค่อยออก ได้ เดินทางแบบนี้ยังดีคิดอะไรออกบ้าง วันนี้สมุดบันทึก คงไม่ว่างเปล่า” ผมยิ้มให้เธอ “แล้วกิจการเป็นไงบ้าง” ผมถามถึงงานอดิเรก ของเธอ “ก็ดี...ดีกว่าอยู่เฉย ๆ งานที่ท�ำก็ไม่มีอะไร ถ้าไม่ ได้ขายของคงเหงาแย่” เธอปล่อยผมตากลมทะเล “คิดอะไรอยู่?” ผมถามหลังเห็นเธอเงียบไป “อยากรู้จริง ๆ เหรอ?” เธอยังคงไม่เปลี่ยนไปเลยส�ำหรับผม คืนนี้จันทร์ วาดเรียวเสี้ยวสง่าบนฟ้า ขับให้ค�่ำคืนงามเด่น
ก้าวต่อไป
“บ้านคือที่ที่เราอยู่แล้วสบายใจใช่ไหม?” เธอถาม ผมในวันนั้น “และถ้ามันไม่ใช่แล้วเราจะท�ำอย่างไร?” “ได้เวลาเดินออกมาหาบ้านหลังใหม่” ผมบอก .......... หลังจากที่เธอไปแล้ว แม้ผมจะมีค�ำถามมากมาย แต่ก็ไม่มีเธออยู่ตอบเสียแล้ว เธอเลือกที่จะเดินทาง ต่อในขณะที่ผมก�ำลังต้องเรียนรู้กับการอยู่บ้านโดย ไม่มีเธอ ความเปลี่ยนแปลงบางทีมันก็เจ็บปวด แต่สุดท้าย คนเราก็ต้องจากไปสู่ที่ของเขาไม่วันใดก็วันหนึ่ง เราไม่ อาจเปลี่ยนแปลงสิ่งใดได้ เมื่อเวลาได้เดินมาถึงจังหวะ ของมัน... “ชีวิต คือ การเดินทาง” ค�ำนี้ของเธอ ผมยังจ�ำ สิงหาคม ๒๕๕๖ • ร้อยเอ็ดเด้อ 23
Photo by โจอี้ คนล่าแสง
“บุ
ญเดือนหก” หรือ “บุญบั้งไฟ” เป็ น การส่ ง สัญญาณให้กับ “พญาแถน” เทพเจ้าผู้ดูแล ทุกข์สุขของชาวอีสาน ซึ่งมีศูนย์บัญชาการอยู่บนฟากฟ้า (นาซ่ายังค้นไม่พบ) เมื่อพญาแถนเห็นบั้งไฟก็จะรู้ว่าถึงฤดูเพาะปลูกแล้ว และท่านก็จะสั่งลูกน้องที่เป็นพญานาคให้ส่งฝนลงมา เพื่อ ชาวนาจะได้เริ่มหว่านด�ำ สมัยก่อน ถ้าบั้งไฟของใครไม่ขึ้น เจ้าของบั้งไฟนั้นจะ ต้องถูกท�ำโทษตามระเบียบ (โทษฐานที่ท�ำให้ผู้อื่นเสียเงิน) ด้วยการจับโยนลงบ่อโคลนที่เตรียมไว้โดยเฉพาะ สมั ย นี้ การเล่ น โคลนในบุ ญ บั้ ง ไฟนั้ น ถื อ เป็ น สี สั น อย่างหนึ่งที่ขาดไม่ได้เลยทีเดียว เรียกว่าบั้งไฟจะขึ้นหรือ ไม่ขึ้น--ไม่เกี่ยว--ฉันสนอย่างเดียวคือ “เล่นขี้ตม!” เป็นประเพณีที่เราจะได้เห็นคนใช้ชีวิตแบบ “ติดดิน” จริง ๆ โดยที่ไม่มีใครเห็นว่า “ขี้ตม” เป็นของสกปรก แม้จะเปรอะเปื้อนบ้าง แต่ชาวบ้านเชื่อว่า ถึงยังไง โคลนในบุญบั้งไฟ ก็ยังสะอาดกว่าโคลนในสภาฯ..!! 24 Roiedder • August 2013
บั้งไฟขึ้น หรือบ่ขึ้น (กะซาง) เอาคนลงตม คือเก่า..!!
R
oiedflection
ปรัชญาเถียงนาน้อย
เกิดมาแล้วซาตินี้ สิเฮ็ดดีให้มันสุด สมได้เป็นมนุษย์ ผู้เผ่าพงศ์สูงล�้ำ ลิขิตกรรมก�ำหนดได้ แค่คุมใจเฮาให้อยู่ ไผบ่เห็น เฮากะฮู้อยู่ตั้ว...แนวซั่ว-ดี ~ตรีจีรา~
Photo by โจอี้ คนล่าแสง สิงหาคม ๒๕๕๖ • ร้อยเอ็ดเด้อ 25
26 Roiedder • August 2013