สี่แผ่นดิน ตอนที่3

Page 1

สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๒

Page 1 of 8

สี่แผนดิน ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช แผนดินที่ ๑ บทที่ ๒ บายวันนั้น เสด็จขึ้นไปบนพระที่นั่ง ที่ตําหนักจึงเงียบกวาปกติ พอกลับจากเฝาลงมาถึงหองคุณสาย แม ก็บนวางวง เพราะเมื่อคืนนี้ไมไดนอนเลย แตพลอยกลับรูสึกตรงกันขาม ดวยความแปลกถิ่น ความรูสึกที่จะงวง หรือแมแตจะลงนอนไมมีเลย พอเขามาถึงในหองคุณสายแลว แมก็ไปหยิบหมอนมาจากหลังตูใบหนึ่ง เอาวางลง กับพื้นกระดาน แลวแมก็เสือกตัวลงนอน อีกสักครูก็หลับอยางสบาย สวนคุณสายก็กลับมานั่งที่เดิม หยิบผาหม ที่ซักแลวมากองหนึ่ง บอกวาเปนของเสด็จ เรียกพลอยเขาไปนั่งใกลๆ แลวบอกใหชวยกันจีบ โดยคุณสายทําให ดูกอน แลวใหพลอยลองทําดูบาง ซึ่งพลอยก็ทําไดทันที เพราะเคยชวยแมมาแลว ตั้งแตอยูบาน คุณสายกับพลอยนั่งอยูดวยกันไดสักครูหนึ่ง ก็ไดยินเสียงใครเขามาที่ประตู คนๆนั้นเปนเด็กอายุรุนราว คราวเดียวกับพลอย สังเกตดูหนาตาทาทางและเครื่องนุงหม ที่คอนขางจะมอมแมม พลอยก็รูวาเปนเด็กที่ซนอยู ไมนอย พอเด็กคนนั้นโผลหนาเขามาในหอง และพอมองสบตากับพลอย เด็กคนนั้นก็แลบลิ้นให ทําเอาพลอย ตองสะดุงและหลบตากลับทันที คุณสายพอเหลียวไปเห็นเด็กคนนั้น ก็เอามือเคาะกระดานใกลๆ แลวเรียกวา "ชอย ! มานี่เดี๋ยวนี้ มานั่งใกลๆ ประเดี๋ยวฉันจะเฆี่ยน หายไปไหนมาแตเชายะแมตัวดี" พอไดยินคุณสายเรียก เด็กที่ชื่อวาชอยก็หนามอย คลานเขามานั่งตรงที่ๆคุณสายเคาะกระดานเรียก "ดูซี !" คุณสายเรียก "เกงแสนจะเกงแลวยังมานั่งทําสีหนาอีก หายไปไหนมาบอกมาเสียดีๆ ตอนเสด็จ เสวย ก็ไมเห็นขึ้นไปเฝา บอกมาดีๆนะ" "ไปแถวเตง" ชอยตอบเหมือนกับเสียไมได "ไปหาใครที่แถวเตง" คุณสายซักตอไป "ไปหองคุณลมาย คะ" "ลมายไหน" "ลมายพนักงาน" ชอยตอบเรื่อยๆ "ไปทําไม" คุณสายไมยอมหยุดซัก "ไปเลนกับแมลมุนนองคุณลมาย" "เลนอะไรตั้งแตเชาจนบาย แลวทําอะไรอีก" คุณสายถามอยางจะเอาเรื่องใหได "แลวก็ไปที่หองปาเขียน" "ไปกินขนมละซี" "รับประทานไสกรอกปลาแนม" ชอยตอบเรื่อยไปอยางไมลดละเหมือนกัน "แลวไปไหนอีก บอกมาใหหมดนะ เดี๋ยวเถอะจะโดนตี" คุณสายขูตอไปอีก "แลวก็ ... แลวก็ไปที่หองคุณเฒาแกกลีบ" "ตาย ! " คุณสายรองอุทาน "ไปทําไมกันจนถึงที่นั่น" "ไปดูตุกตาชาววัง" ชอยตอบอยางไมติดขัดตามเคย คุณสายดูเหมือนจะหมดความอดทนตรงนี้เอง ยกมือฟาดเผียะ ลงไปที่ขาของชอยแลวพูดขึ้นวา "นี่แน ! ตุกตาชาววัง ! " คุณสายหันมามองพลอย แลวพูดตอไปวา "พลอยมาอยูในนี้แลวอยาไปเอาอยาง แมเจาประคุณชอยของฉันเขานะ เด็กอะไรก็ไมรู ดื้อก็เทานั้น ซนก็ เทานั้น เพื่อนฝูงอะไร มันชางมากมาย เขาโนนออกนี่ไปทุกหัวระแหง วันหนึ่งๆ ไมตองเห็นหนากัน เลี้ยงเสีย ขาวสุก นี่ถาไมใชเปนลูกเปนหลานแทๆ ฉันเลิกเลี้ยงเสียนานแลว" ฝายชอยเมื่อถูกตีเพียงหนึ่งที ก็กมหนาลงรองไหฟูมฟาย เหมือนกับวาใครมาทําใหบาดเจ็บแสนสาหัส น้ําตาเม็ดโตๆ รวงลงกับพื้นไมขาดสาย คุณสายเหลียวไปดูแลวก็รองขึ้นวา "ดูซี ! วาเขายังมาบีบน้ําตารองไห นิ่งเดี๋ยวนี้ทีเดียวนะ ไมยังงั้นเปนโดนใหญทีเดียว !" บางทีชอยจะรูใจคุณสายดีวา เปนคนเอาจริงเมื่อถึงเวลาอันควร หรือบางทีชอยจะรองไหเสียจนน้ําตา หมด ก็ไมมีใครรูได แตพอคุณสายพูดออกมาดังนั้น ชอยก็เลิกรองไหเปนปลิดทิ้ง เช็ดน้ําหูน้ําตาแหงเปนปกติ มือก็เอื้อม ไปเขี่ยเชี่ยนหมากของคุณสายเลน เหมือนกับไมมีอะไรเกิดขึ้นเลย "นี่รูจักกันไวเสียซี" คุณสายแนะนํา "นี่เขาชื่อพลอย ลูกแมแชม คนที่นอนหลับเปนทศกรรฐลมอยูนั่น แหละ เพิ่งมาถวายตัววันนี้ นี่ชอยหลานปาไงพลอย รุนเดียวกัน แลวก็ตองอยูดวยกันตอไป ชอยคอยดูพลอยให อาดวยนะ บอกใหรูจักที่ทาง แตไมตองพาไปซน จําไวนะ !" คุณสายขึ้นเสียงกําชับ ในตอนทาย

http://www.geocities.com/siamstory/ploy102.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๒

Page 2 of 8

จากคําพูดของคุณสาย พลอยก็พอจะจับเนื้อความไดวา ชอยเปนหลานอาของคุณสาย และตองเปนคน ที่ อยูในวังมานานแลว เพราะชอยมีเพื่อนฝูงมาก ตลอดจนรูที่เลนที่กินขนม และที่ดูตุกตาชาววัง ซึ่งพลอยนึกถึง คุณเชยพี่สาวทางบาน และพอนึกถึงคุณเชย พลอยก็ใจหาย ปานฉะนี้คุณเชยคงเหงาเต็มประดา เพราะพลอยไม อยู แลวจะไดใครมาเลนดวย ทันใดนั้น พลอยก็นึกถึงหอจันอับที่คุณเชยยัดเยียดใหมาแตเชามืด จําไดวานางพิศ บาว ถือติดมือเขามาดวย และคงวางอยูขางๆหีบเสื้อผา ซึ่งยังอยูตรงประตูหองคุณสายนั้นเอง ระหวางที่คุณสายกําลังแนะนําบอกชื่อใหรูจักกันอยูนั้น ชอยก็มองดูพลอยแลวยิ้มอยางหวานที่สุด แตพอ คุณสายเหลียวหนากลับไปทําธุระกับผา ที่กําลังจีบอยู ชอยก็เอานิ้วจี้ที่ขาพลอยแรงๆ พอพลอยเหลียวไปดู ชอย ก็แลบลิ้นแลวก็เอานิ้วแหกตาใหดูอีกดวย พลอยเห็นชอยทําอาการกิริยาวิตถารดังนั้น ก็หลบหนาไปเสียทางหนึ่ง ความรูสึกขณะนั้นจะวาอายก็ไม ใช จะวาโกรธก็ไมใชแนๆ พลอยรูสึกขบขันในการกระทําของชอย และใจนั้นใหนึกรักตั้งแตแรก เพราะถึงแมวา พลอย จะไมใชคนเกงและซน แตพลอยก็นึกรักและนับถือเด็รุนเดียวกันที่เกงและซนอยูเสมอ เพราะคนที่เกงและ ซน เชนคุณเชย มักจะมีนิสัยโอบออมอารี ไมคอยจะเอาเรื่องเอาราวกับคนเชนพลอย เมื่อพลอยรูวาชอยทั้งเกง ทั้งซน ก็ใหนึกนับถือและอยากสมาคมดวยตั้งแตแรก พลอยนั่งชวยคุณสายจีบผาอยูอีกนาน ฝายชอยก็นั่งอยูที่นั่น คนเชี่ยนหมากคุณสาย และหยิบอะไรตอ อะไร ออกมาเลน เปนตนวา ไมควักหู หรือเอากระจกอันเล็กๆ ออกมาสอง เอาขี้ผึ้งออกมาละเลงเลน จนคุณ สายตองหัน ไปตวาดดุเอาบอยๆ ขณะนั้นแมก็ตื่นแลว แตยังนอนลืมตามองดูคุณสายและพลอยอยูนิ่งๆ "คุณอาคะ" ชอยเรียกขึ้น "หือ" คุณสายขานรับ "วาไงชอย" "เมื่อเชาหลานพบคุณสายหยุดที่หองคุณละมาย เธอสั่งใหมาถามคุณอาวา เรื่องหีบนั้นคุณอาวาอยางไร ไมทราบ" "โฮย ! " คุณสายรองขึ้น พลางกระแทกผาที่จีบเสร็จแลวผืนหนึ่ง ลงกับพื้น เหมือนกับจะชวยระบาย อารมณ "ไปบอกคุณสายหยุดของหลอนทีเถิดแมคุณ วาฉันไมใชเศรษฐี จะไดกินหีบหมายราคา ๒๐ ชั่ง ๓๐ ชั่ง แลวก็คนหนาอยางฉันจะไปกินหีบทองไดยังไง" "คุณสายหยุดบอกวาเอา ๑๐ ชั่งเทานั้นแหละคะ" ชอยทวงขึ้น "เอ ! เด็กคนนี้นี่ !" คุณสายตวาด "รูเกินเด็กไปเสียแลวละ มันเรื่องราวอะไรของตัว" ชอยไดยินคุณสายตวาดก็เลิกพูด แตแมนอนฟงอยูกลับเกิดสนใจ ถามขึ้นมาวา "หีบอะไรคะคุณ ตั้ง ๒๐ - ๓๐ ชั่ง" "ก็หีบหมากคุณสายหยุด ญาติขางผัวของหลอนนะซี แมแชม" คุณสายตอบ "ไหน !" แมถามอยางสนใจ "สายหยุดเศรษฐีที่เคยอยูตําหนักเจาคุณฯ นะหรือ" "นั่นแหละ !" คุณสายตอบ "จะมีสายหยุดที่ไหนเสียอีกละ ถือวาเปนลูกผูดี พอเปนเจาพระยา ปูยาตาทวด เปนเจาคุณราชินิกุล มีเงินจนไมรูจะทําอะไรหมด แมแชมจําไดไหม เมื่อแมแชมยังเด็กๆ ใครเปนคนเอาขนมปง เขามาเลี้ยงเพื่อนในวังกอนคนอื่น ใครที่เจาคุณพอสั่งน้ําแข็งมาจากสิงคโปร แลวสงเขามาให ตัวเองไมกลากิน ใหบาวลองกินดูกอน มันรองสามบานเจ็ดบานวาลิ้นจะขาด" แมหัวเราะแลวลุกขึ้นนั่ง แสดงอาการสนใจขึ้นมาทันที "ออ ! สายหยุดนั่นนะหรือ" แมรองขึ้น "แลวยังไงคะคุณ" "ก็จะยังไงละ" คุณสายเลาตอ "ทีแรกพอโกนจุกไดไมกี่วัน เขาก็เที่ยวคุยวา คนอยางเขาไมมีเสียละ ที่จะ ตองหาหีบหมากใช อยางเขาตองกินหีบหลวง ตอนนั้นเขายังไปมาหาสูกับฉันอยู ฉันก็ไดแตเตือนวา 'อยาพูดไป แมสายหยุด ! น้ําพระทัยเจาฟาเจาแผนดินเรา อยาไปประมาท' แตเขาไมฟง เขาวาเจาคุณพอทานพูดวา หมอดู เขามาแตเกิดวาจะมีบุญ ทานสงเขามาอยูในวัง ก็เพราะทานอยากเปนขรัวตา จะไดมีหลานเปนพระองคเจา เล็กๆไวเลน" แมหัวเราะงอหาย "เขาพูดถึงอยางนั้นเทียวหรือคุณ" "โธ ! ฉันยังจําไดเหมือนพูดเมื่อวานซืนนี้เอง" คุณสายตอบ แมคลานมานั่งที่เชี่ยนหมาก หยิบหมากใสปากเคี้ยว แลวถามตอไปวา "แลวเรื่องเปนยังไงกันตอไป" "ก็เปลาทั้งเพ" คุณสายเลาตอ "เขาก็อยูที่ตําหนักทําใหญโต นั่งคอยบุญวาสนาจะเปนเจาจอม แตก็ไม เห็นไดเปน นานเขาเขาจะนึกอยางไรขึ้นมากระมัง เห็นออกไปบานชั่วคราว แลวกลับมาอีก คราวนี้กินหีบทอง หรูหรา ใบที่จะมาขายฉันนี่แหละ เขาวาเจาคุณพอทานสั่งมาจากนอก เปนหีบทอง ฝามีวงกลมเปนตาขายฝง เพชร บนตาขายมีงูทําดวยมรกตเม็ดเล็กๆ ปมะเส็งปเกิดของเขาไงละ พอเขากินหีบใบนี้ เขาก็เริ่มคุยตอไปวา หีบหลวงเขาไมเห็นอยางกิน เพราะซ้ํากับคนอื่นดาดดื่น เวลาขึ้นก็เฟองฟูไปประเดี๋ยวเดียว แลวก็ตองไปหมอบ ประจําหองเหลือง เบื่อจะตาย สูกินหีบเจาคุณพอไมได ฉันเห็นเขาเขามาเขื่องอยูพักหนึ่ง แลวสักสองสามปตอ

http://www.geocities.com/siamstory/ploy102.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๒

Page 3 of 8

มาก็หายไป ไดขาววาเขาไปแตงงาน ที่บานมีงานใหญโตมาก เจานายตางกรมเสด็จไปรดน้ํา หลายองค เจา คุณฯ ก็ออกไปแตง เขาเลากันวา ทานรับไหวดวยเครื่องทับทิมทั้งชุด แตนั้นมาฉันก็ไมไดขาวคราวไปนาน พอ อยูๆ เมื่อสิบกวาวันมานี้ก็กลับเขามาในวัง มาเที่ยวนอนอยูตามหองเพื่อนฝูง ผอมผิดรูปผิดรางจําไมได เขาวา กันวาเจาคุณพอก็ตาย ผัวที่แตงกันก็ปอก เสียหมดตัว เมื่อวานซืนนี้เอง มาหาฉันที่ตําหนัก เห็นถือหอผาอะไร พอแกออกที่ไหนได หีบปมะเส็งใบนั้นเอง แลวก็เอามายัดเยียดจะใหฉันซื้อ บอกราคาตั้ง ๒๐ ชั่ง ขันจะตาย คน อยางฉัน จะเอาอัฐฬลที่ไหนมาซื้อ และถึงจะมีซื้อเขาได ฉันก็ไมมีหนาจะไปกินหีบขนาดนั้น คนเขาจะไดหัวเราะ ตาย แลวฉันก็เปนคนปขาล ไมใชปมะเส็ง เลยวุนวายกันไปใหญ แตดูอาการทาจะรอนเงินเอาการ วันนี้สั่งฝาก แมชอยตัวดีนี่มาวา จะเอาเพียง ๑๐ ชั่งเทานั้น" พลอยฟงคุณสายเลาชีวิตคนในวังดวยความสนใจ และตั้งขอสังเกตไวหลายอยาง อยางที่หนึ่งคนในวัง ที่ มีบุญวาสนา จะตองไดเปนเจาจอม คนที่เปนเจาจอมนี้เปนอยางไร จะตองสืบถามดูใหรูเรื่อง ขณะนี้รูแตวา การ จะเปนเจาจอมกินหีบหมากของหลวงไดหรือไมนั้น อยูที่น้ําะพระทัยเจาฟาเจาแผนดิน อยางที่สอง คนในวังนี้มี ขึ้นมีตก จะขึ้นไปไหนหรือตกจากอะไร ก็ตองหาความรูตอไป ขณะนี้รูแตเพียงวา ถาตกแลว จะตองไปหมอบอยู ในหองเหลือง ซึ่งพลอยก็ยังไมรูวาเปนหองอะไรอยูที่ไหน แตไดยินเพียงเทานี้ ก็ชักจะกลัวเสียแลว เพราะคนที่ หมอบอยูในหองเหลืองนั้น คุณสายวาจะตองหมอบประจําอยูตลอดไป ไมมีที่สิ้นสุด "คิดๆ ดูก็นาสงสารนะคุณ" เสียงแมพูดขึ้น "คุณสายหยุด เธอรุนใหญกวาดิฉัน จําไดเห็นเธอในวัง เธอ เปนสาวแลว ดิฉันออกไปอยูบานเจาคุณก็ไมไดขาว เพราะเจาคุณนั้นกกฟากขะโนนบานบน คุณสายหยุดเธอ บานลาง ไมคอยจะไดติดตอกัน แตถึงกระนั้นก็เถอะ คนเรามีบุญวาสนาเปนใหญเปนโตสุขสบาย พอตกอับลงก็ ใหอดสงสารไมได" "ฉันก็นึกสงสารเหมือนกันแมแชม" คุณสายตอบ "แตมานึกดูตัวเราทุกวันนี้ ก็ชวยอะไรเขาไมได เตี้ย แลวจะไปอุมคอย แลวเวลาเขาร่ํารวย ใชเขาจะมามองดูเราเสียเมื่อไร จะไปไหนก็มีแตคนประจบประแจง จะพูด จาอะไรก็มีแตคนคอยประสม ไมมีใครตักเตือน พอจนลงเขาก็ทิ้ง เพื่อนฝูงเขาใหอาศัยอยูเวลานี้ ก็ใชวาเขาจะ เต็มใจเมื่อไร เขาขัดไมได พูดไมออกเขาก็ทนๆใหอยูไปอยางนั้น แตก็คงไมนานหรอก" คุณสายถอนใจใหญ แลวปรารภขึ้นวา "นี่แหละหนาคนเรา !" แมฟงคุณสายเลาเรื่องจบก็บนวารอน อยากไปอาบน้ํา หันมาพยักหนาชวนพลอยใหไปอาบดวยกัน เสียง คุณสายพูดกับแมวา "ดีเหมือนกัน ไปอาบน้ําอาบทาใหลูกเสียที อาบเสร็จแลวก็มาแตงตัวเสียในหองนี้ละ น้ําอบน้ํารม อยูที่ ไหนมีอะไรบาง แมแชมก็รูอยูแลว" แมพาพลอยออกไปนอกหอง ชอยก็ตามออกมาติดๆกัน เมื่อถึงประตูหองคุณสาย ก็แลเห็นหีบเสื้อผา ขาวของๆ แม ที่นางพิศกลับไปขนจากทาพระมาอีกเที่ยวหนึ่ง วางอยูริมประตู แมก็ทรุดนัวลงนั่งไขหีบ และ หยิบสิ่งของที่จําเปนตองใชออกมา ระหวางที่แมเปดหีบขึ้น ชอยก็เขามาชะโงกดูของในหีบอยางสนใจ ซึ่งแมก็ไม หาม ซ้ําอยางหยิบโนนนี่ใหดูอีกอยางใจดี ระหวางที่แมนั่งเลือกผาหมอยูนั่นเอง ธรรมชาติถูกระงับไป ตั้งแตเชาดวยความตื่นเตน ก็เริ่มเรียกรอง เอาแกพลอย ธรรมดาเมื่ออยูบานนั้น พลอยนั่งกระโถนเปนกิจวัตร เสร็จแลวนางพิศก็เอาไปเทที่ทา แตเมื่อมาถึง ตําหนัก ที่ทางจะนั่งกระโถนไดก็ดูจะไมมีเอาเสียเลย เหลียวดูนางพิศก็ไมทราบวาหายหนาไปหลบ อยูที่ไหน อยางไรก็ตาม เรื่องนี้เปนเรื่องใหญ ถาจะอยูในวังตอไป ก็ตองรูวิธีไววาชาววังขนาดพลอย เขาทําอยางไรกัน พลอยเหลียวซายแลขวาอยูอีกครูหนึ่ง เห็นวาทาไมไดการ จึงตองกระซิบเบาๆ ที่หูแม ทั้งที่อายชอย ซึ่ง นั่งอยูติดๆกัน แตแมกลับหัวเราะออกมาดังๆรองวา "เอาละซี ! พลอย เอายังงี้ดีกวาแมจะไปอาบน้ํากอน พลอยไปกับแมชอยนี่ก็แลวกัน" แมหันไปทางชอย แลวบอกวา "แมชอยพาพลอยไปอุโมงคสักทีเถิด จะไดรูจักที่ไว" กับพลอยแมสั่งวา "พอเสร็จธุระแลวรีบกลับนะพลอย อยาไถล แมจะคอยอาบน้ําใหทางนี้" พลอยหันมาดูหนาชอยอยางสงสัย เพราะกระซิบบอกแมเรื่องหนึ่ง แตแมกลับสั่งใหชอยพาไปอุโมงค ที่ เรียกวาอุโมงคนั้นจะเปนอะไรก็ไมรู ฟงชื่อดูก็ชักจะนากลัวเสียแลว แตชอยกลับยิ้มดวยแลวลุกขึ้นยืน พยักหนา ใหตามไป เมื่อเปนคําสั่งของแม ใหตามชอยไปอุโมงค พลอยก็ลุกตามไปทั้งที่ยังสงสัย ชอยเดินนําหนาออกไปนอกตําหนัก พลอยก็รีบสาวเทาเดินตามไปติดๆ เดินไปสักหนอย ชอยก็หันมา ถามวา "ปวดมากไหม" "ไมเทาไหรนักดอกแมชอย" "อยามาอวดดีเรียกฉันวาแมชอยนะ !" ชอยตะคอกให ฝายพลอยก็รูสึกวาตัวเองเล็กลงไปอีกมา เพราะ ชอยเปนหลานคุณสาย ซึ่งแมเรียกวาคุณทุกคํา บางทีพลอยจะเรียกผิดไปกระมัง ถาจะเรียกใหถูก ควรจะตอง เรียกวาคุณชอยตามคุณสายไปก็ได คิดไปคิดมาพลอยก็ตอบตะกุกตะกัก แบบคนมาอยูใหมวา

http://www.geocities.com/siamstory/ploy102.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๒

Page 4 of 8

"คะ ... คุณชอย" ชอยหัวเราะลั่นถนนที่เดินอยู แลวรองวา "เด็กบา ! ใครเขาไปใชใหเรียกวาคุณ เรียกฉันวาชอยเฉยๆ ก็แลวกัน แลวฉันจะเรียกเธอวาพลอย ใครๆ เขาก็เรียกฉันวาชอย เฉยๆ ทั้งนั้น มีแตผาดของคุณอาคนเดียวเรียกวา คุณชอย" พลอยไดยินดังนั้นก็ใจชื้นขึ้นถนัด ความนิยมที่มีอยูในตัวชอยตั้งแตแรกเห็น ก็เพิ่มมากขึ้นทันที และดวย เหตุนี้พลอยจึงกลาถามขึ้นวา "ชอย ไปอุโมงคนี่เขาไปทําไมกันจะ" "อาว แลวกัน !" ชอยตอบ "ก็เมื่อกี้พลอยบอกวาจะไปทุง ไมใชหรือ" "ถูกแลว" พลอยตอบ "แลวทําไมตองไปอุโมงค" "ก็ถาไมไปอุโมงค จะไปทุงที่ไหนกันละ" ชอยตอบอยางไมพยายามอธิบายอะไรทั้งสิ้น แลวพูดตัดบทวา "รีบๆเดินเขาเถอะ เดี๋ยวจะมาราดกลางทาง อายคนเขาตาย" ชอยรีบสาวเทาเดินเร็วขึ้น ทําใหพลอยตองรีบเดินตาม ทางที่ไปนั้นเปนถนนปูหินแผนใหญ ที่พลอยเดิน มาเมื่อเชานี้ ผานตําหนักใหญตําหนักเล็กสองขางถนน ไปจนถึงแถวเตงชั้นใน ชอยพาลอดประตู ออกไปแถว เตงชั้นนอก วกไปผานประตูศรีสุดาวงศ ซึ่งพลอยเกิดเรื่องเหยียบธรณีประตูเมื่อเชา ชอยเดินเรื่อยไป ถึงจะมี เพื่อนฝูง และผูใหญรองทักทายประปราย ชอยก็มิไดหยุดใหเสียเวลา จนในที่สุด ถึงสิ่งกอสรางอันหนึ่ง ลักษณะ นั้นเปนอุโมงคจริงๆ อยางที่เรียก ชอยพาพลอยเขาไปทางปากอุโมงค อันเปนทางเขา และพอพลอยโผลเขาไป ก็ใจหายวาบ เพราะตั้งแตเกิดมาเปนตัว ก็ยังไมเคยตองปลดเปลื้องทุกข ในลักษณะเชนนี้ ในอุโมงคนั้นมีทางเดินกลาง สองขางยกพื้นสูงพอกาวขึ้นได ตั้งถังขางลางตลอดเปนแถว บนยกพื้นกั้น เปนฝาเปนคอก สําหรับบังไดเฉพาะตัวคน ซึ่งเมื่อนั่งลงยองๆแลว ฝานั้นก็กั้นขึ้นมา เสมอพนหนาอกเล็กนอย ในคอกที่กั้นไวบนยกพื้นนั้น มีคนนั่งโผลหนาใหเห็นไดอยูแลว เปนอันมาก ทั้งสาวทั้งแกทั้งเด็ก ทุกคนปฏิบัติกิจ นั้นอยางเปนของธรรมดาที่สุด ไมมีอับอายหรือเห็นแปลกอะไรเลย บางคนที่นั่งอยูใกลกันหรือมองหนากันเห็น ก็ คุยกันอยูเซ็งแซ บางคนกําลังเดินเขาไปหรือออกมา เมื่อพบหนาคนรูจัก ก็ทักทายกันอยางรื่นเริง เปนปกติ พลอยเมื่อเห็นภาพอันจอแจ ปราศจากความระโหฐานเชนนั้น ก็ชะงักยืนอยูกับที่ แลวรองเบาๆขึ้นวา "ชอย ! ฉันทําไมไดหรอก คนมากมายออกอยางนี้" "เชอ ! " ชอยรองอยางเบื่อหนาย "รีบๆขึ้นไปนั่งเสียเถิดนะ มันแตดัดจริตอยู เดี๋ยวก็ไมตองทําอะไรกัน อีกหนอยก็เคยไปเอง ใครๆเขาก็มาที่นี่ทั้งนั้น" แตพลอยก็ยังอิดเอื้อนอยูนั่นเอง จนชอยอดรนทนไมไหว ตรงเขาจูงมือพลอยขึ้นไป แลวบอกวา "มามะ ! ฉันจะขึ้นไปนั่งเปนเพื่อน" ขณะที่พลอยนั่งอยูในคอกหนึ่ง ชอยก็เขาไปนั่งอยูในคอกขางๆ โผลหนาขึ้นมาอยางคนอื่นๆ และชวน พลอยพูดคุยอยูไมขาดปาก ทําใหพลอยหายเกอ และรูสึกเปนหนึ้บุญคุณชอยเสียตั้งแตแรกเริ่ม พลอยนั่งอยูในอุโมงคไดไมนาน เพราะยังไมคุนสถานที่ รีบชวนชอยกลับตําหนัก เมื่อออกมาขางนอก แลว ชอยก็เดินทอดนองอยางไมรีบรอน ชี้บอกที่ตางๆใหพลอยดู ตําหนักไหนเปนของเจานายพระองคใด เรือน ใดเปนของใคร ดูชอยจะรูจักไปเสียหมด สุดที่พลอยจะจดจําไดในคราวเดียว ระหวางนั้นใกลพลบเขามาแลว เดินผานทางประตูวัง เห็นโขลนกําลังปดประตู เสียงดังโกรงกราง พลอยก็ใจหายบอกไมถูก จริงอยูเมื่ออยูบาน พลอยก็ไมเคยไปไหน แตที่บานนั้นเย็นลงก็ไมถึงกับกวดขัน ปดประตูมิใหคนเขาออก แลวปดประตูไปจนถึงรุง สวาง จึงเปดอีกได มาถึงในวังพาค่ําลงก็รูวาเขาตองปดประตูแข็งแรง และตามคําบอกเลาของชอยก็วา เมื่อปด แลวก็จะตองปดเรื่อยไปจนพรุงนี้เชา ไมมีใครเปดได ไมวาจะมีเรื่องใดๆ พลอยก็ใจหายและวังเวงชอบกล ความ รูสึกเหมือนเวลาแมลงโทษขังหอง พอผานประตูวังมา ชอยก็เตือนใหรีบกลับตําหนัก บอกวาเดี๋ยวค่ําจะลําบาก เพราะไมไดเอาเทียนมาดวย พลอยก็สงสัยถามขึ้นวา "เทียนอะไรกันชอย" "อาว ! " ชอยตอบ "เดินในวังกลางคืนตองจุดไฟจําไวนะพลอย เดินมืดๆเปนเกิดเรื่อง" แตพลอยก็ยังไมเขาใจ ดูลักษณะทั่วๆไป ในวังก็ไมนามืดถึงกับตองเดินจุดไฟ หรือวาจะมีคนคอยทํา อันตราย หรืองูชุม หรือผีดุ พลอยนึกเอาอยางเด็กๆ แลวก็เริ่มกลัวขึ้นมาอีก อดรนทนไมไหว ก็ตองถามชอยอีก ตอไป "เกิดเรื่องอะไรจะชอย" "โขลนจับ ! " ชอยตอบอยางเด็กอีกเหมือนกัน เพราะชอยเอง ก็ไมรูวามีระเบียบวางไว ในพระราชฐาน ชั้นในวา ผูใดเดินตามถนนหนทางในวังในเวลาค่ําคืน จะตองถือไฟ ชอยรูแตเพียงวา ถาใครไมถือเทียนหรือโคม ไฟ เวลาไปไหนมาไหนกลางคืน เปนตองถูกโขลนจับ และคําตอบของชอย ก็เปนคําอธิบายที่เพียงพอสําหรับ พลอย เพราะเข็ดขยาดฝมือโขลน มาแตเมื่อกาวแรกที่ยางเขาวังเสียแลว พอไดยินชอยพูด พลอยก็เรงฝเทาเร็ว ขึ้น เพื่อใหถึงตําหนักเสียโดยเร็ว เพราะถาถูกโขลนจับตัว เวลาไมมีแมคอยแกไข พลอยก็นึกไมออกวาจะทํา

http://www.geocities.com/siamstory/ploy102.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๒

Page 5 of 8

อยางไรถูก พอมาถึงตําหนัก ชอยก็พาเดินผานหองคุณสายออกไปทางเบื้องหลัง ที่นั้นเปนลานกวาง ปูดวยหินแผน ใหญๆ อยางที่ปูถนนทั่วไปในวัง สามดานของลานนั้น ลอมรอบดวยเฉลียง ตําหนักชั้นลาง มีกระถางตนไมใบ โตๆ ใสตนไมดอกวางอยูเปนระยะ สลับดวยอางมังกรปลูกบัว อีกดานหนึ่งเปนกําแพงทึบ ไมสูงนัก มีประตู เล็กๆ เปดออกไปนอกบริเวณตําหนักไดบานหนึ่ง และริมกําแพงนั้น ปลูกตนแกวและตนเข็ม สลับกัน มุมสุด กําแพงดานโนนมีตนพิกุลใหญขึ้นอยู และมีตุมมังกรใสน้ําอาบวางอยูหลายใบ แมอาบน้ําที่นั้นเสร็จแลว แตยังมิ ไดกลับมาแตงตัว นั่งที่ขอบอิฐที่กอไว รอบโคนตนพิกุล คุยกับขาหลวงเสด็จอีกคนหนึ่ง ที่กําลังนั่งอาบน้ําอยูบน มานั่งเล็กๆ แมเห็นพลอยไปถึง ก็หันมาขอบอกขอบใจชอย ที่พากลับโดยมิไดพาไถล พรอมกับสัญญาวา อีก ประเดี๋ยวหนึ่งจะมีรางวัลให แลวแมก็อาบน้ําใหพลอย เหมือนกับเมื่ออยูบาน อาบน้ําเสร็จแมพาพลอย กลับมา หองคุณสาย นั่งที่มาเครื่องแปง ทาน้ําอบประแปงใหพลอย และผลัดเสื้อผาใหพลอยกอน แลวแมจึงเริ่มแตงตัว ของแมเอง พลอยสังเกตเห็นแมแตงตัวประณีตเปนพิเศษ ไมแตงลวกๆเหมือนกับอยูที่บาน แมทาน้ําอบไทยทั่วตัว แลวก็เอาพัดๆจนแหง แตแลวก็ทาน้ําอบทับอีกตลบหนึ่ง จึงไดลงแปง แมมองดูหนาตัวเองในกระจกอยูนาน คอยๆหวีผมอยางบรรจง เอาไมสอยคอยๆสอยตามหนาผม และลูกผมเล็กๆ ที่ขึ้นอยูบางก็ถอนออก พลอยดู อาการกิริยาของแมแลว ก็พอจะเดาออกวา แมกลับเขามาอยูในหมูคน ที่แตงกายอยางที่แมเคยทํามาแตกอน แมก็กลับตัวผิดไปจากเมื่ออยูบาน เมื่อประแปงทาน้ําอบเสร็จแลว แมก็ไปนั่งที่หีบเสื้อผา ซึ่งบัดนี้นางพิศยกมา ตั้งไวในหอง แมเรียกพลอยไปนั่งดวย แลวก็เปดหีบ หยิบผาลาย ผาหมออกมากอง เลือกสีใหถูกกัน ขณะนั้น คุณสายกลับเขามาในหอง เห็นแมหยิบของอยู ก็ถามขึ้นวา "นั่นรื้อสมบัติอะไรกัน แมแชม" "เปลาหรอกคะ " แมตอบ "หยิบผานุงผาหมออกมาดู ไปอยูนอกวังเสียนาน ไมไดเอาใจใส จะนุงจะหม หยิบอะไรไดก็นุงเขาไปอยางนั้น คนขางนอกเวลานี้เขาก็แปลก นึกจะนุงสีอะไร หมสีอะไร เขาก็เอาแตใจเขา บางทีก็แตงเปนชุดผานุงผาหมสีเดียวกัน ไมตัดสีเหมือนอยางพวกเราในนี้ อยางลูกสาวใหญของเจาคุณอิฉันที่ บาน เขาแตงตัวตามแตจะเห็นงาม ฉันเคยไปทักเขาเขาหนหนึ่งวา แตงตัวไมเหมือนชาววัง เขาโกรธฉันไปตั้ง หลายวัน พลอยนี่ก็เถิด ถาทิ้งไวบานก็จะแตงตัวเหมือนพวกพี่ๆ ไปเสียเทานั้น" แลวแมหันมาทางพลอยแลวสอนวา "พลอยดูใหดีนะ แมจะจัดผานุงผาหมสีประจําวันใหดู อยูในวังโตขึ้น จะไดแตงตัวถูก" "นี่สําหรับวันจันทร นุงเหลืองออนหมน้ําเงินออน หรือจะหมบานเย็นก็ได แตถาวันจันทรจะนุงสีนี้ น้ําเงิน นกพิราบตองหมจําปาแดง" แลวแมก็หยิบผาหมสีดอกจําปาแกๆ ออกวางทับบนผาลายสีน้ําเงินเหลือบ ที่วางไว "วันอังคาร" แมอธิบายตอ "วันอังคารนุงสีปูนหรือมวงเม็ดมะปรางแลวหมโศก หรือถานุงโศกหรือเขียว ออน ตองหมมวงออน วันพุธนุงสีถั่วก็ได สีเหล็กก็ไดแลวหมจําปา วันพฤหัสนุงเขียวใบไม หมแดงเลือดนก หรือ นุงแสดหมเขียออน วันศุกรนุงน้ําเงินแกหมเหลือง วันเสารนุงเม็ดมะปรางหมโศก หรือนุงผาลายพื้นมวง ก็หม โศกเหมือนกัน นี่ผืนนี้แหละผาลายพื้นมวงนี่เหมือนกัน แตหองหมสีนวล วันอาทิตยจะแตงเหมือนวันพฤหัสก็ได คือนุงเขียวหมแดง หรือไมยังงั้นก็นุงผาลายพื้นสีลิ้นจี่ หรือสีเลือดหมู แลวหมโศก จําไวนะพลอย อยาไปแตงตัว เรอราเปนคนบานนอก เดี๋ยวเขาจะหาวาแมเปนชาววังแลวไมสอน" "แมเชมก็" คุณสายพูด "บทจะสอนลูกก็สอนรวดเดียวจบ เด็กตัวเทานี้จะไปจําอะไร คอยอยูไปคอยดูไป ก็จะรูไปเอง" เมื่อแมแตงตัวเสร็จแลว ก็นั่งคุยกับุคณสายตอไปในหอง เพื่อนฝูงของแมที่เพิ่งไดขาววาแมกลับมาในวัง ก็มาหาในตอนกลางคืนบางประปราย พลอยเห็นแมนั่งคุยกับเพื่อนฝูงอยางสนุกสนาน ในเรื่องที่ตนไมสนใจ ก็ เริ่มมองหาอะไรทํา แตเหลือบไปเห็นชอยมาพยักพเยิดอยูนอกประตู พลอยก็คลานออกไปหา เมื่อผานหีบของ ก็ ไมลืมที่จะหยิบหอจันอับ ติดมือออกไปดวย ชอยชวนพลอยไปนั่งเลนบริเวณหลังตําหนัก ซึ่งบัดนี้มีแสงสวาง ที่ ไดรับจากจากโคมที่จุดอยูในหองตางๆ ทําใหสวางแตบริเวณรอบๆ สวนตรงกลางหรือใตตนไมนั้น ดูมืดครึ้มอยู พอออกมาถึงประตู ชอยก็ชวนนั่งลงตรงนั้น แลวพูดวา "นั่งเลนตรงนี้แหละ กลางคืนฉันไมกลาไปไหน กลัวคุณอาเฆี่ยน" ชอยหยุดนิ่งอยูครูหนึ่ง แลวถามขึ้นวา "นั่นหออะไร พลอย" "หอจันอับ" พลอยตอบ "ฉันไดมาจากบานเมื่อเชานี้ กินดวยกันซีชอย" วาแลวพลอยก็แกหอจันอับออก วางบนตัก ชอยหยิบจันอับไปเคี้ยวกิน โดยไมพูดไมจาอะไรอยูสักครูหนึ่ง แลวถามขึ้นหวนๆวา "คิดถึงบานไหม พลอย" พอไดยินชอยถาม พลอยก็รูสึกวาที่คอตื้นตันขึ้นมาทันที ความจริงพลอยรูสึกชอบกล มาตั้งแตตอน บายๆแลว อยูๆก็ใหนึกอยากรองไห จะมองอะไรตอนเย็นใหรูสึกวาเหว วังเวงอยางบอกไมถูก แตพอไดยินชอย

http://www.geocities.com/siamstory/ploy102.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๒

Page 6 of 8

ถาม พลอยก็รูสึกตัววา ความรูสึกที่บอกไมถูกนั้นเองคือความคิดถึงบาน คิดถึงสิ่งแวดลอมตางๆ ที่มิเคยจากมา เลยชั่วชีวิต ที่บานเปนอยางไร มีกลิ่นไออยางไร เมื่อตอนพลบค่ําเขาไตเขาไฟนี้ ยังอยูในความทรงจําของ พลอยอยางเดนชัด ปานนี้เจาคุณพอคงจะเพิ่งกลับขึ้นตึก และถายังอยูที่บาน พลอยก็คงจะกลับขึ้นเรือนแม ความอบอุนในใจที่เคยมีเมื่ออยูที่บานนั้น บัดนี้ดูจะหมดสิ้นไปจากหัวใจ จริงอยู ในวังมีสิ่งที่ทําใหพลอยตื่นตาตื่น ใจอยูเปนอันมาก แตเวลาพลบค่ํา ในสถานที่อันกวางเชนนี้ สําหรับเด็กตัวเล็กๆอยางพลอย ก็มีแตความเปลา เปลี่ยว จะเอาแมเปนที่พึ่งก็ไมได เพราะแมกําลังสนใจกับเพื่อนฝูง ที่ไมไดพบกันนาน เมืออยูบานพลอยก็รูสึกวา ตัวเปนคนสําคัญของแม แตมาวันนี้กลับรูสึกวา แมมีคนอื่นๆอีกมาก พลอยจะตอบชอยวาคิดถึงบาน ก็ตอบไมออก เพราะความรูสึกขึ้นมาตื้นตันคอหอย จึงไดแตพยักหนารับ ชอยก็ตอบวา "พลอยยังเกงกวาฉันเปนกอง ฉันเขามาใหมๆ รองไหไปตั้งสามวัน ขาวไมกิน กินแตกับ คุณอาจะสงฉัน กลับเสียแลว ที่ฉันคิดถึงมากที่สุดก็คือพี่เนื่อง เพราะเลนกันอยูทุกวัน คุณอาไปรับตัวฉันมาคนเดียว เพราะพี่ เนื่องแกเปนผูชาย เลยตองอยูที่บาน" จากคําบอกเลาตอไปของชอย พลอยก็รูวาชอยเปนหลานอาของคุณสาย บิดาผูเปนพี่ชายคุณสายนั้น เปนขาราชากรมีบานอยูแถวนางเลิ้ง ชอยมีพี่ชายอีกคนหนึ่งชื่อเนื่อง แกกวาชอยสองป มีอยูดวยกันสองคนเทา นั้น "คุณพอบอกวาฉันวิ่งเลนกับพี่เนื่องทุกวัน จนจะกลายเปนเด็กผูชายไป จึงสงตัวมาใหคุณอาดัดสันดาน ในนี้" ชอยอธิบายตอ แลวก็ปรารภถึงคุณสายผูเปนอาวา "คุณอาบทจะใจดีก็ดี บทจะดุก็แสนดุ เมื่อเชานี้วาฉันวาเลี้ยงฉันเสียขาวสุก พลอยไดยินไหม คอยดูไป เถอะ ฉันไมกินหรอกขาวสุกของคุณอา อยากมาวาฉันดี" พลอยฟงแลวก็แปลกใจแตก็ไดแตนิ่ง "พลอยกลัวผีไหม" ชอยถามขึ้นมาฌฉยๆ พลอยไดยินชอยถามมาดังนั้นก็ขนลุกซู เพราะบรรยากาศที่มืดครึ้มวังเวงนั้น ทําใหพลอยใจไมดีเสียแลว แตแรก "ที่ตนจันทรนอกตําหนักนี่แหละผีดุ" ชอยพูดตอไปโดยไมรอใหพลอยตอบ "เขาวาใครก็ไมรูมาผูกคอตายที่นั่น เวลาเดินผานกลางคืน ฉันกลั๊วกลัว ตองชวนคนเขาไปเปนเพื่อน เสมอ" พลอยเห็นชอยกําลังจะเลาเรื่องผี ก็อยากจะเปลี่ยนเรื่องพูด พลอยมองออกไปขางหนา ขามกําแพง ตําหนักออกไป เห็นยอดพระมหาปราสาทไดสลัวๆ เยื้องไปทางโนนเปนตึกใหญสูงตระหงาน มีดาดฟาใหญยื่น ออกมาเบื้องหลัง และมีสะพานยาวตอจากดาดฟานั้นไปยังที่อื่น ขณะนั้นบนตึกใหญเริ่มจุดไฟ แพรวพราว เหมือนกับมีงาน พลอยก็คอยอุนใจขึ้น "ที่นั่นอะไรนะชอย" พลอยถามขึ้นเพื่อเปลี่ยนเรื่องพูด "ที่นั่นแหละที่บน" ชอยตอบ "ที่ประทับพระเจาอยูหัวและสมเด็จ ดาดฟานั่นสวนสวรรค ฉันยังไมเคยขึ้น ไปสักที สะพานยาวนั้นเปนถึงตําหนัก มาดูทางนี้ซี" ชอยฉุดขอมือพลอยไปยืนกลางลาน หลังตําหนัก แลวชี้ใหดู ตึกใหญอีกหลังหนึ่ง จุดไฟสวางไสวเชนเดียวกัน "นั่นไงพระตําหนัก" ชอยเอามือชี้ "หลังใหญๆ นั่นแหละ ตึกหลังเล็กๆ ที่สะพานผานไปติดๆ นั้นตําหนัก มรกต" พลอยยืนดูแสงไฟสวางนั้นดวยความเพลิดเพลินขึ้นบาง ทุกหนาตางที่บนมีแสงไฟสองออกมา พลอยพอ จะมองผานหนาตางเขาไป เห็นความโอโถงของพระราชฐาน เห็นกําแพงสีตางๆ ซึ่งประดับลวดลายปดทองอัน อยูเบื้องใน "คุณชอยมาอยูนี่เอง" เสียงผาดพูดขึ้นใกลๆตัว "คุณอาใหมาตามไปรับขาว รีบๆเขาเถิด เดี๋ยวจะถูกดุอีก" ชอยกับพลอยเดินกลับเขาตําหนัก แตชอยบอกวา "พลอยเขาไปกอนเถิด เดี๋ยวฉันจะตามเขาไป" แลว ชอยก็แยกทางหายไปคนเดียว พลอยเขาไปในหองเห็นแมกับคุณสาย เริ่มจะลงมือกินขาวอยูแลว คุณสายพอเห็นพลอย ก็เรียกใหไปนั่ง ขางๆ แลวชวนกินขาวพลางถามถึงชอย ซึ่งพลอยก็ตอบวาประเดี๋ยวจะตามมา ตามที่ชอยบอกไว ทั้งสามคนนั่งกินขาวอยูสักครูหนึ่ง ชอยก็คลานกระโดกกระเดกเขามาในหอง มือหนึ่งถือกระทงใบใหญ "ชอย ! ไปเอาอะไรมา" คุณสายรองถาม "ขาวสุก" ชอยตอบหนาตาเฉย "ไปเอาขาวสุกมาทําไม" คุณสายรองถามอยางฉงน "ขาวที่นี่เปนกอง" "ฉันวานเขาไปซื้อมาแตตอนบาย" ชอยตอบอยางฉาดฉาน "เห็นคุณอาบอกวา เลี้ยงฉันเสียขาวสุก เลย ซื้อมาเอง จะขอรับประทานแตกับ" แมสําลักขาวพรวดใหญ แลวกมหนาหัวเราะในกระโถน จนน้ําหูน้ําตาไหล ฝายคุณสายก็ไดแตเอามือ ตบ

http://www.geocities.com/siamstory/ploy102.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๒

Page 7 of 8

กระดานรองวา "ดูซี เด็กคนนี้ !" แลวหัวเราะจนน้ําตาไหลเชนเดียวกัน ระหวางนั้นชอยก็เขามานั่งที่สํารับ เปบ ขาวจากกระทงกินกับกับขาวในสํารับ เหมือนกับไมมีอะไรเกิดขึ้น ระหวางที่กินขาวกันอยูนั้นเอง พลอยก็ไดยินแมคุยกับคุณสาย ดวยขอความบางอยาง ที่ทําใหพลอยรูสึก วิตกกังวลยิ่งขึ้น คุณสายถามแมขึ้นวา "แมแชมเขามาคราวนี้จะมาอยูนานสักเทาไร ใจฉันอยากใหอยูนานๆ เพราะจะไดเห็นหนาไดพูดคุยกัน" แมตอบวา "ยังไมแนนอนหรอกคุณ ฉันมันคนใจแตกเสียแลว มาอยูในนี้ก็สบายทุกอยาง แตมันอึดอัดใจอยางไร บอกไมถูก แลวอีกอยางหนึ่ง มาอยูในนี้ก็ตองอยูเฉยๆ วันหนึ่งๆก็กินก็ใชไป อัฐฬสที่พอมีอยูบาง ก็จะหมดไป เปลาๆ ใจฉันอยากจะออกไปทํามาหากิน ญาติฉันมีทางฉะเชิงเทรา เขาเคยชวนใหไปที่นั่น ฉันวาจะออกไปดู ลาดเลาเหมือนกัน เผื่อจะมีทางทํามาหากินกับเขาบาง" พลอยไดยินแมพูดก็เขาใจไดวา แมเขามาอยูในวังเปนการชั่วคราว ระหวางนี้เทานั้นเอง แตพลอยจะ ตองอยูตลอดไป ทั้งหมดนี้มีความหมายวา พลอยจะตองอยูในวังตอไปคนเดียวโดยไมมีแม คําพูดของแมตอไปก็ ยิ่งยืนยัน ความเขาใจของพลอยยิ่งขึ้น "ถาฉันไปเมื่อไร ก็ตองขอฝากพลอยไวกับคุณ ใหชวยดูแลดวย นานๆฉันจึงจะเขามาเยี่ยมบาง" แมพูด อยางไมมีความรูสึกอะไรเลย "ไมเปนไร" คุณสายรับคํา "ลูกแมแชมก็เทากับหลานของฉัน บางทีก็จะดูงายกวาหลานจริงๆคนนี้เสีย อีก" คุณสายเอามือชี้ไปทางชอย แลวก็หันมาพูดกับพลอยวา "พลอยอยูกับปาไปเถิดนะ ไมตองกลัวอะไรทั้งสิ้น ปาจะดูใหดีที่สุด ทําตัวใหเสด็จทานทรงพระเมตตา ตอ ไปเราจะทําอะไรก็สะดวก เพราะมีเจานายเปนที่พึ่ง เวลานี้พลอยยังเล็กอยู ไมตองทําอะไรมาก แตตองหมั่นขึ้น เฝาเสมออยาไดหลบ เห็นหนาทุกวันก็ขี้เกียจจะโปรดไปเสียอีก แลวอีกอยางหนึ่งเสด็จทานโปรด คนกลาพูดกลา ทูล แตเราก็ตองระวังตัวอยาประมาท และอยากลาจนเกินไปนัก เห็นทานโปรดแลวก็อยาเหลิง น้ําพระทัยเสด็จ นั้นใครไมอยูใกลมานานๆ ก็ไมรู เวลาโปรดถูกพระทัยขึ้นมาละก็ จะเอาอะไรก็ได ไมมีที่ไหนเหมือน แตถาทรง จับไดวา เราเหลิงเสียหนหนึ่งแลวละก็ ทีนี้ไมมีเสียอีกละ" "ฉันก็รูวาาอยางนั้นเหมือนกัน" แมพูดขึ้นมา "ทีแรกมาอยูก็กลัวถูกกริ้ว แตอยูไปพอรูพระทัยแลวก็ไม เปนไร กริ้วไดเทาไรกริ้วไปฉันไมหนี เพราะนึกเสียวาทานอยากใหเราดี ทานจึงกริ้ว ตอนฉันจะออกจากวังไปมี เรือน คุณจําไดไหม ถูกกริ้วเสียใหญไปเลย ความจริงทานก็กริ้วของทานถูก เพราะลูกเมียเขาก็มีอยู แตเรามัน ยังเด็กออนความคิด มองอะไรดีไปหมด เชื่อฝปากคนก็ตามเขาไป มารูสึกตัวก็สายไปเสียแลว แตถึงกระนั้นตอน ฉันไปทูลลาออกจากวัง เสด็จยังประทานเงินไปเปนทุนถึง ๑๐ ชั่ง ฉันเอาไปทําดอกเบี้ยดอกหอย ไดอาศัยกินมา จนบัดนี้ เดี๋ยวนี้ตัวเปลา ก็วาจะเอาเงินที่ประทานไวนั่นแหละ ไปทําทุนคาขาย" พลอยไดยินแมพูดเรื่องจะออกไปหลายหน ก็ยิ่งเปนทุกขหนักขึ้น จะพูดกับแมในตอนนั้นก็เกรงใจ เพราะ อยูตอหนาคุณสาย พลอยก็ไดแตนั่งกมหนาน้ําตากลบลูกตา ขาวที่เปบเขาปากนั้นหมดรส เคี้ยวเหมือนแปง กลืนฝดคอ ในที่สุดก็ตองอิ่ม เมื่อกินขาวเสร็จแลวสักครู คุณสายก็ชวนแมขึ้นไปเฝาเสด็จขางบนอีก แตสั่งชอยใหอยูเปนเพื่อนพลอย ในหอง ถางวงก็ใหนอนเสียกอน เมื่อคุณสายกับแมออกไปแลว ผาดก็เขามาจัดแจง ปูที่หลับที่นอน มีนางพิศเขา มาชวย กางมุงไวสองหลัง หลังหนึ่งสําหรับคุณสาย นอนกับชอยตามปกติ อีกหลังหนึ่งสําหรับพลอยนอนกับแม ระหวางนั้นชอยไปหอบเอาตุกตาชาววัง ออกมามากมาย แลวชวนพลอยใหเลนดวย ชอยสะสมตุกตาไวนาน จึง มีมาก ตลอดจนเครื่องใชตางๆสําหรับตุกตา ถาเปนในยามปกติ พลอยก็คงจะตื่นเตนไมนอย แตเพราะเหตุวามี เรื่องไมสบายใจอยู พลอยจึงซังกะตาย เลนไปอยางเสียไมได คนที่สนุกจริงคือนางพิศ ซึ่งเขามารวมวงเลนตุกตา ดวย และคุยกับชอยสนุกสนาน หัวรอเปนการเอิกเกริก พอดึกเขาสักหนอย ชอยก็บนวางวงและมุดเขามุงไป นอนกอน สวนพลอยก็เขานอนในมุง ที่แมเตรียมไวให มีนางพิศนั่งสัปหงกเปนเพื่อนอยูกลางหอง พลอยนอนพลิกตัวไปมาอยางกระสับกระสาย เพราะใจพะวงอยูที่เรื่องแมจะจากไป พยายามเบิกตา คอย ใหแมกลับเพื่อจะไดถามใหแนนอน แตคอยอยูเปนนาน แมก็ไมกลับมาสักที ในที่สุดก็มอยหลับไป พลอยมาตื่นขึ้นอีกครั้งหนึ่ง เมื่อดึกมากแลว รูสึกตัววาแมมานอนอยูขางๆ และยังไมหลับ พลอยจึงเบียด ตัว เขาไปชิดแลวกระซิบถามวา "แมจา แมจะไปจริงๆหรือ" แมถอนใจใหญแลวกอดพลอยไวแนน พลางกระซิบตอบวา "นอนเสียเถิดพลอย" แมนิ่งอยูนาน แตแลวก็กระซิบตอไปวา "ขอใหพลอยจําไวเสมอวา แมรักพลอย มากกวาอะไรทั้งหมด ตอไปถาแมจะทําอะไร ก็จงรูไวเถิด วาแมทําเพื่อความดีของพลอยเอง พลอยอยานึกไป อยางอื่น" คําพูดของแมไมไดอธิบาย ใหพลอยเกิดความเขาใจดีขึ้นกวาเกาเลย แตโดยเหตุที่แมมานอนอยูใกลชิด พลอยก็รูสึกอุนใจและหลับตอไปอีกจนสวาง

http://www.geocities.com/siamstory/ploy102.html

20/2/2004


สี่แผนดิน - แผนดินที่ ๑ บทที่ ๒

http://www.geocities.com/siamstory/ploy102.html

Page 8 of 8

20/2/2004


Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.