We have come far

Page 1

WE HAVE COME FAR 150 YEARS OF SPACE EXPLORATION 1957-2107

SPECIAL EDITION



Beyond The Space Special Edition

WE HAVE COME FAR 150 YEARS OF SPACE EXPLORATION


HOW FAR

HAVE WE CAME นับ

แต่มนุษย์ได้ออกไปยังอวกาศอันเวิ้งว้าง นับจากวันนั้นกว่า 150 ปี เราได้มาแสนไกล หากแต่ว่า พวกเราไปไกลถึงไหนกันแล้ว? และต่อไปพวกเราจะไปไกลได้เพียงใดกัน?

PROLOUGE

CONTENTS

Prolouge: How far have we come In the beginning A one giant leap On the red planet Next frontier New world new era For our survival Sky is no more a limit Epiloge: How far we will go

2 4 8 16 26 38 50 56 60


3


1957

IN THE

4

BEGINNING


เทียบ

ช่วงเวลาที่พวกเราหลุดพ้นจากแรงโน้มถ่วงของโลก กับประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติแล้วมันช่างเป็น 150 ปีที่แสนสั้น แต่ใน 150 ปีนี้เราได้ไปไกลกว่าที่พวกเราเคยเดินทางในเวลานับพัน นับหมื่นปีที่ผ่านมา ทุ ก สิ่ ง เริ่ ม ต้ น ที่ ลู ก บอลกลมๆสี เ งิ น ลู ก เดี ย ว ดาวเที ย ม โซเวียต Sputnik-1 วัตถุแรกที่โคจรรอบโลก นั่นคือก้าวแรกของ มนุษยชาติ สู่สิ่งอันยิ่งใหญ่กว่าโลกที่พวกเราได้ถือกำ�เนิดมา ทั้งการ ค้นพบ การพบพาน แม้กระทั่งโศกนาฏกรรม มันคือบทนำ� ของ ประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของมนุษยชาติอันยิ่งใหญ่กว่าที่ผ่านมา

5


THE FIRST SPACE RACE

1955-1991

6


WE HAVE COME FAR

นี่

คือจุดเริ่มต้นของการเดินทางของเรา เมื่อครั้งสงครามโลกครั้งที่ 2 นาซีเยอรมัน ได้ พัฒนาขีปนาวุธ V2 เพื่อใช้เป็นอาวุธ และภาย หลังความพ่ายแพ้ของพวกเขา เทคโนโนยีและ วิ ศ วกรได้ ถู ก กวาดต้ อ นไปโดยสหรั ฐ อเมริ ก า และสหภาพโซเวียตผู้ชนะสงคราม และนั่นคือจุด เริ่มต้นของทุกสิ่ง หากเที ย บกั บ การค้ น หาเส้ น ทางการค้ า ซึ่งทำ�ให้โคลัมบัสค้นพบโลกใหม่บนทวีปอเมริกา แล้ว การแข่งขันครั้งนี้ ก็ถือว่าเป็นการค้นพบ จักรวาลใหม่ ที่นอกเหนือจากโลกที่พวกเราอยู่ กันมาโดยตลอดหลายพันหลายหมื่นปี พวกเรา ได้เปิดมิติใหม่ของความรู้ในทุกๆด้าน และได้เปิด ประตูแห่งความเป็นไปได้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่เราเคย พบเจอ หากทว่ า จุ ด เริ่ ม ต้ น มั น นั้ น หาได้ ส วยงาม ไม่ แทบทุกอย่างในยุคเริ่มแรกนั้นแอบแฝงไป ด้วยประสงค์ร้ายที่จะใช้มันในสงคราม จรวดถูก พั ฒ นาขึ้ น เพื่ อ ยิ ง ขี ป ณาวุ ธ นิ ว เคลี ย ร์ ข้ า มทวี ป ดาวเทียมถูกพัฒนาเพื่อไว้สอดแนมศัตรู ทำ�ให้ การแข่งขันทางศักดิศรีของทั้งสองฝ่ายที่จะทำ� สิ่งต่างๆก่อนอีกฝ่ายดูเป็นเรื่องที่แสนบริสุทธิ์ไป ต้องผ่านไปพักหนึ่ง ก่อนที่เป้าหมายการพัฒนา เพื่ อ ค้ น หาความรู้ ใ หม่ ๆ จะกลายเป็ น ประเด็ น สำ�คัญขึ้นมา

การแข่งขันนั้นเป็นไปอย่างดุเดือด ดาว เทียมดวงแรก มนุษย์อวกาศคนแรก การเดิน อวกาศครั้งแรก การเหยียบดวงจันทร์ครั้งแรก เป้าหมายต่างๆค่อยๆสำ�เร็จไปเรื่อยๆ จนสุดท้าย ทุ ก อย่ า งก็ ห ยุ ด นิ่ ง ลงก่ อ นที่ พ วกเราจะถึ ง เป้ า หมายต่อไป ดาวอังคาร พวกเราต้ อ งทำ � ความเข้ า ใจก่ อ นว่ า การ ออกไปในอวกาศสมั ย นั้ น ต่ า งจากสมั ย นี้ อ ย่ า ง มาก ในตอนนั้นจรวดทุกลำ�สามารถใช้ได้เพียง ครั้งเดียวการส่งวัตถุใดๆออกไปนอกโลกจึงกิน เงินมหาศาล กระสวยอวกาศที่ตั้งใจว่าจะให้มา ลดต้นทุน ก็ผิดพลาดร้ายแรงจนกลายเป็นทำ�ให้ ต้นทุนแพงกว่าเดิม และน้ำ�หนักที่บรรทุกได้ก็ น้อยมาก จนจรวดระดับ Super Heavy Lift ในสมัยนั้นมีความสามารถเทียบเท่าระดับ Medium Lift ในปัจจุบัน และจรวดในปัจจุบันสามา รถใช้งานอย่างต่อเนื่องได้หลายสิบเที่ยวก่อนที่ จะนำ�ไปเปลี่ยนเครื่องยนต์ก่อนจะนำ�ไปใช้งานต่อ ได้ทันที เพราะการที่ มี ร าคาสู ง และเทคโนโลยี ไ ม่ พร้อมพอ ความสนใจจากสาธารณะชนก็ค่อย จางลงหลังการลงจอดดวงจันทร์เสร็จสิ้น กระ แสหลังจากนั้นก็ค่อยๆแผ่วลงเรื่อยๆ และดับไป พร้อมกับสงครามเย็น เพื่อรอที่จะถูกจุดขึ้นมา อีกครั้งในอีหลายสิบปีต่อมา

พูดถึงความรู้ เพราะนี่เป็นการเปิด พรมแดนใหม่ ความรู้ทุกอย่างเราก็ได้มาตั้งแต่ 0 เช่นกัน และความรู้บางอย่างนั้นก็มีราคา เช่น ชีวิตของสัตว์ทดลองจำ�นวนมาก เช่นไลกา สิ่ง มี​ีวิตแรกที่ได้ออกนอกโลก ได้เสียชีวิตอย่าง รวดเร็วจากความร้อน ทั้งสองฝ่ายสูญเสียเม็ด เงินไปจำ�นวนมาก จากจรวดและยานสำ�รวจที่ ล้มเหลว แต่เพราะมีความล้มเหลวเหล่านั้น เรา จึงได้ประสพการณ์มากพอที่จะก้าวต่อไปได้

7


A

8

MAN,

ONE GIANT

LEAP



LUNA Equatorial radius 1,738.1 km Mass 7.342×1022 kg Rotation period: 27 days Orbital period 27 days Class Natural Sattlelite Population (2106) 2,804,504

ดวงจันทร์

ดาวบริวารของโลก เราเฝ้ามองมันบน ท้องฟ้ามานับพันนับหมื่นปี บรรพบุรษของพวกเรามองเห็นรูปร่าง ต่างๆมากมายบนพื้นผิวของมัน แตกต่างไปตามจินตนาการ และ ตำ�นานของคนแต่ละท้องที่ บ้างเห็นหญิงสาว บ้างเห็นกระต่าย แม้ เมื่อเวลาผ่านเลยไปมันก็ได้เป็นแรงบัลดาลใจให้แก่คนมากมาย และนำ� ไปสู่แนวคิดที่วันหนึ่งคนเราจะไปเยือนมัน

10


WE HAVE COME FAR

แม้

ห่างจากโลกไปแค่ราวๆ 380.000  กม. น้ อ ยกว่ า ระยะทางที่ พ วกเราเดิ น ทางกั น ในสมั ย นี้ ม าก แต่ เ ราต้ อ งรอถึ ง ปี   1969 กว่ า ที่ เ ราจะได้ ไ ปถึ ง ที่ นั่ น จริ ง ๆ แต่ ก่ อ นหน้ า นั้ น ก็ มี นิยายวิทยาศาสตร์มากมายที่ได้จินตนาการถึง การไปเยื อ นดาวบริ ว ารของเรา ที่ โ ด่ ง ดั ง ที่ สุ ด คือ From the Earth to the Moon ซึ่ง ฌูล แวร์น นักเขียนชาวฝรั่งเศษไได้แต่งไว้เมื่อปี 1865 ซึ่งเป็นนิยายวิทยาศาสตร์เรื่ิองแรกที่พูด ถึงการเดินทางไปยังดวงจันทร์ และชื่อของเขาก็ ถูกทำ�ให้เป็นอมตะ โดยได้รับเกียรติไปตั้งเป็นชื่อ ของเมืองหลวงของอณานิคมปกครองตนเอง ดวงจันทร์ เวิร์นซิตี ในปี 2061 การเดินทางไปยังดวงจันทร์นั้น ต้อง ข อ บ คุ ณ ก า ร แ ข่ ง ขั น ท า ง อ ว ก า ศ ร ะ ห ว่ า ง สหรัฐอเมริกา และ สหภาพโซเวียตที่เกิดขึ้นภาย หลังสงครามโลกครั้งที่สอง ซึ่งปัจจุบันเรียกยุค นั้นว่ายุคบุกเบิกอวกาศ ในสมัยสงครามเย็นนั้น ทั้งสองฝ่ายต่างแข่งขันกันอย่างหนักเพื่อแสดง ความศักยภาพในทุกๆด้าน อวกาศก็เป็นหนึ่ง ในนั้น แม้ว่าระยะแรกทางโซเวียตจะนำ�ไปด้วย กรปล่อยดาวเทียมดวงแรก และมนุษย์คนแรก ในอวกาศ แต่กลับพ่ายแพ้ในการส่งคนไปยัง ดวงจันทร์ หลังความล้มเหลวครั้งแล้วครั้งเล่า ของการทดสอบจรวด N-1 ทั้งจากปัญหาด้าน เทคโนโลยีและเงินทุน น่ า เศร้ า ในตอนนั้ น พวกเราไปยั ง ดวง จันทร์กันแค่ 6 ครั้งเท่านั่น และเราก็ไม่ได้ไปอีก เลย ดวงจันทร์กลับมาร้างผู้คนอย่างที่มันเคย เป็นมาตลอดหลายพันล้านปี ต้องรอจนถึงช่วง ฟื้นฟูอวกาศซึ่งเริ่มต้นในปี 2028 กว่าเราจะ กลับไปที่นั่นอีกครั้ง จากความต้องการในการส ร้างอนานิคมดาวอังคาร และการหาทรัพยากร ณ์ในอวกาศ ที่นี่ได้กลายเป็นจุดแวะพักก่อนเดิน ทางออกนอกเขตโลก รวมถึงเป็นแหล่งถลุงแร่

ที่ ไ ด้ ม าจากดาวเคราะห์ น้ อ ยก่ อ นที่ จ ะย้ า ยไปทำ � กันที่ดาวอังคาร และจุดเปลี่ยนสำ�คัญคือเมื่อ เทคโนโลยีรูหนอนถูกใช้ในทางการค้าในช่วงต้น ทศวรรษที่ 60 อันนำ� ไปสู่ข้อตกลงที่ห้ามเปิดรู หนอนในเขตโลก ทำ�ให้การสัญจรของที่นี่คึกคัก ขึ้น จากการเป็นด่านหน้าของโลกจากหมู่เครื่ิ​ิอง เปิดรูหนอนที่ตำ�แหน่ง L2 ด้านหลังดวงจันทร์ รวมไปถึงการเป็นอู่ต่อยานอวกาศขนาดใหญ่ที่ ไม่สามารถปล่อยจากพื้นโลกได้ ทว่ า การตั้ ง อนานิ ค มดวงจั น ทร์ นั้ น ไม่ ไ ด้ ราบรื่นตลอดแต่อย่างใด ในช่วงแรกๆนั้นได้เกิด โศกนาฏกรรมหลายต่อหลายครั้ง ครั้งที่รุนแรง ที่ สุ ด คื อ เมื่ อ เชื้ อ โรคร้ า ยแรงรั่ ว ไหลจากห้ อ ง ทดลองบนเมืองดวงจันทร์อาซิมอฟ ที่ส่งผลให้ คนงานก่อสร้างและผู้อยู่อาศัยกว่า 70% ต้อง เสียชีวิตเป็นจำ�นวนกว่า 2,672 คน และหลัง จากนั้ น ในสงครามระบบสุ ริ ย ะที่ น่ี ก็ ก ลายเป็ น สนามรบสำ�คัญระหว่างนานาอารยะธรรม ซึ่งได้ ฝากความเสียหายไว้อย่างมโหฬาร แม้ จ ะผ่ า นเรื่ อ งราวอั น เลวร้ า ย แต่ พ วก เราก็ ไ ด้ ฟื้ น ฟู มั น จนยิ่ ง ใหญ่ ก ว่ า ที่ เ คยเป็ น จน สำ � เร็ จ  จนปั จ จุ บั น ดวงจั น ทร์ มี บ ทบาทสำ � คั ญ ในการเป็นหน้าด่านในการติดต่อกับนานา อารยธรรมจากนอกโลก รวมถึ ง เป็ น สถานที่ สำ � คั ญ ทางประวั ติ ศ าสตร์   ที่ ม นุ ษ ย์ ทุ ก คนต่ า ง จดจำ�

11


Gasser Al Marsi

สมาชิกสภาอนานิคมดวงจันทร์ ผู้อำ�นวยการสถานีฟอลคอนฟีล์ด

“ดวงจันทร์เป็นแค่ก้าวแรก แต่ถ้าไม่มีก้าวแรกก้าวต่อไปก็ไม่มี” อื่นอย่างดาวอังคารไม่ก็อดาเมฮ์ แต่ที่ผมว่าเปลี่ยน มากจริงๆคือตอนวันรำ�ลึกผู้บุกเบิกอวกาศนั่นแหละ  คุณน่ารู้นะงานมันจัดที่ฟอลคอนฟีล์ดของผม

คุณแกสเซอร์ครับ ช่วยเล่าให้ฟังหน่อยได้ไหมครับ ว่าทำ�ไมถึงมาทำ�งานบนดวงจันทร์ อื ม ...ถามแบบนี้ นี่ เ กี่ ย วกั บ เรื่ อ งที่ ผ มเป็ น มุ สลิ ม ที่ ป กติ ไ ม่ ค่ อ ยเห็ น ทำ � งานในอวกาศด้ ว ยหรื อ เปล่าครับ ไม่ได้ว่าอะไรที่ถามหรอกนะ แค่จะได้ตอบ ให้ตรงหน่อยน่ะ เปล่าครับไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น แต่ถ้าอธิบาย เรื่องนั้นด้วยก็ดีครับ เอาง่ า ยๆก็ มั น เป็ น ความฝั น วั ย เด็ ก ที่ ผ ม ดิ้ น รนเพื่ อ ตามมั น  ผมหลงใหลในอวกาศมาตั้ ง แต่ สมั ย ยั ง เป็ น เด็ ก อยู่ ที่ อ เล็ ก ซานเดรี ย แล้ ว  ผม ตั้ ง ใจเรี ย นหนั ก มากจนได้ ทุ น ของ UNEC แล้ ว ก็ ไ ด้ เ ริ่ ม ง า น ใ น ฐ า น ะ นั ก วิ จั ย ที่ อี เ กิ ล แ ล น ดิ ง  ก่ อ นค่ อ ยๆก้ า วหน้ า จะได้ ม าเป็ น ผอ.ของฟอล คอนฟีล์ดอย่างในตอนนี้  ระหว่างนั้นผมก็เจอคำ�ถาม งี่ เ ง่ า จากทั้ ง เพื่ อ นร่ ว มงานกั บ นั ก ท่ อ งเที่ ย วไม่ ข าด  อย่างพวกเวลาละมาดหันทางไหนอะไรอย่างนั้น แต่ ก็ชินๆไปแล้วละครับ ความสงสัยไม่ใช่ส่ิงผิด ความ สงสัยมันพาเรามาถึงที่นี่ได้ แล้ ว จากตอนที่ คุ ณ มาถึ ง ที่ นี่ ค รั้ ง แรกถึ ง ตอนนี้ มี อะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้างครับในสายตาคุณ ส่วนตัวนะนอกจากลิฟต์ 2 ตัวกับรถไฟรอบ ดวงจันทร์ก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนไปมาก ถึงนักท่องเที่ยว เพิ่ ม ขึ้ น  10 กว่ า เท่า แต่ส่วนใหญ่ก็แค่ท างผ่า นไปที่

12

ทุกวันที่ 30 กรกฏาคมสินะครับ ใช่ผมว่าเป็นเพราะการเดินทางไปในอวกาศ ง่ายกว่าเดิมด้วยนั่นแหละ มันมาพุ่งพรวดๆก็สักปี 2080 ได้มั้งนั่นก็ช่วงที่ผมโดนย้ายมาที่นี่พอดี จำ� ไม่ ผิ ด ช่ ว งนั้ น พวกสายการบิ น อวกาศทุ บ ราคากั น เละเทะ ปีแรกๆนี่จะมีมาก็พวกทหารกับนักข่าว กับ พวกครอบครัวของนักบุกเบิกอวกาศที่ได้โควตาตั๋ว มาหลังๆนี่มีพวกนักท่องเที่ยวมาเพิ่มอีก แล้วปกติที่ฟอลคอนฟีล์ดเป็นยังไงบ้างหรือครับ ค่อนข้างจะเงียบเลยละ ที่นี่ไม่ใช่แหล่งธุรกิจ  กับอุตสาหกรรมอย่างแวร์นซิตี หรือว่าเป็นสถานที่ ท่องเที่ยวสำ�คัญอย่างอีเกิลแลนดิงที่อยู่ใกล้เส้นทาง รถไฟหลัก ที่นี่โดยพื้นฐานมันเป็นสถานีวิจัยมากกว่า  นอกจากอนุสรณ์สถานนักบุกเบิกผู้ล่วงลับ กับอพอลโล 15 ก็ไม่มีอะไรอีก แถมยังอยู่นอกเส้นทาง หลักอีก ไปที่ไหนต่อก็ไม่ได้ คำ�ถามสุดท้ายนะครับ คุณคิดอย่างไรกับดวงจันทร์ อื ม ...สำ � หรั บ ผมที่ นี่ คื อ ก้ า วเล็ ก ๆ ก้ า วแรก ของมนุษยชาติ ถึงนีลอาร์มตรองเคยบอกว่ามันเป็น ก้าวกระโดดก็เหอะนะ แต่สำ�หรับผมก้าวกระโดดควร ใช้ กั บ พวกฟรอนเที ย ร์   5 ไม่ ก็ ด าวอั ง คารมากกว่ า  แต่ ก็ น ะ ดวงจั น ทร์ เ ป็ น แค่ ก้ า วแรก แต่ ถ้ า ไม่ มี ก้ า ว แรก ก้าวต่อไปก็ไม่มีละนะ


LUNAR COLONIaL COUNCIL



กว่าถึงจุดนี้เราสูญเสียไปเพียงใด? เกินสิบเพื่อปูทาง ยุคบุกเบิกอวกาศ 1967-2003 นักบินอวกาศ NASA 14 นาย นักบินอวกาศโซเวียต 4 นาย

หลายพันเพื่อรากฐาน ยุคฟื้นฟูอวกาศ 2028-2066 การบุกเบิกอนานิคมดวงจันทร์ 3317 คน การบุกเบิกอนานิคมดาวอังคาร 2051 คน การสำ�รวจอวกาศอื่นๆ 7 คน

นับแสนเพื่อปกป้องบ้านเกิดเรา สงครามระบบสุริยะ* 2072-2074 กองทัพร่วมไตรภาคีโลก 80,586 นาย ทหารอาสาอดาเมฮ์ 1,304 นาย อนานิคมดวงจันทร์ 321,054 คน อนานิคมดาวอังคาร 30,084 คน สถานีอวกาศ 30,110 คน สถานีดาวเคราะห์น้อย 1,087 คน พลเรือนอื่นๆ 12,040 คน

*เฉพาะความสูญเสียจากการรบนอกโลกเท่านั้น

15


ON THE

RED

ดาวอังคาร

PLANET

ดาวเคราะห์ดวงที่ 4 ในระบบสุริยะ ตัวเลือกอันดับ 1 ของบ้านหลัง ที่สองของมนุษยชาติ และดาวเคราะห์ดวงแรกที่ พวกเราได้ไปตั้งอนานิคม อันนำ�ไปสู่บทบาทของ มนุษย์ชาติในฐานะสปีชีส์หลากดาวเคราะห์

แม้ ว่ า การส่ ง คนไปยั ง ดาวอั ง คารนั้ น เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2032 แต่ก็เป็นภารกิจระยะ สั้นเพียง2 เดือนก่อนกลับโลก ต้องรออีก 8 ปี จนถึงปี 2040 ในโครงการความร่วมมือ นานาชาติในการตั้งอนานิคมบนดาวอังคารอย่าง ถาวรเป็นครั้งแรกที่ที่ราบธาซิส


WE,

THE MANKIND ARE NOW SUCCEED -JANES DAWNSON (2040)

17


ปั จ จุ บั น ดาวอังคารได้ประกอบ

ไปด้ ว ยเมื อ งบนดิ น และใต้ ดิ น หลายแห่ ง  โดย สหประชาชาติแห่งโลกและอนานิคม ได้ประกาศ ให้ ด าวอั ง คารเป็ น เขตปกครองตนเอง ไม่ ขึ้ น กับประเทศใดบนโลกในปี ค.ศ. 2068 และมีผล บังคับใช้ในปี ค.ศ. 2072 โดยมีนายฮูโก ธอมสัน เป็นประธานาธิบดีคนแรก ของสหพันธรัฐอาเรส  ปั จ จุ บั น ดาวอั ง คารมี ป ระชากรร่ ว ม 8 ล้ า น 5  แสนคน

ภาพ: สนามบินอวกาศธาซิส


ใ น ต อ น นี้ ด า ว อั ง ค า ร ไ ด้ เ ริ่ ม ทำ � ก า ร ป รั บ ส ภ า พ ด า ว เ ค ร า ะ ห์   ( Te r ra   F o r m i n g )   โ ด ย ก า ร ก่ อ ส ร้ า ง   B i o   T o w er ทั่ ว ดาวอั ง คารเพื่ อ สร้ า งออกซิ เ จน พร้ อมกั บ เริ่ ม การก่ อ สร้ า งเยื่ อ กั ก ชั้ น บรรยาก าศ ที่ จ ะคลุ ม รอบทั้ ง ดาวเคราะห์ เ พื่ อ ป้ อ งกั น การหลุ ด รอดของชั น บรรยากาศ และป้ อ งกั น

ลมสุ ริ ย ะ โดยคาดการณ์ แ ล้ ว เสร็ จ ประมาณ ปี   2180 จากการคาดการณ์ ด้ ว ยเทคโนโลยี ปัจจุบัน การปรับสภาพน่าเสร็จสิ้นในปี 2400  โดยจะนำ�อุกกาบาตน้ำ�แข็งจากแถบดาวเคราะห์ น้ อ ยมาเป็ น แหล่ ง น้ำ � ให้ กั บ ดาวอั ง คาร เพื่ อ เป็ น บ้านหลังที่สองของมนุษย์ในอนาคต นอกเหนือ จากโลกอันเป็นต้นกำ�เนิดของพวกเรา

19


MARS Equatorial radius: 3,396.2 km Mass: 6.417×1023 kg Rotation period: 24 h 37 m Orbital period: 686 days Class: Planet Population: (2106) 8,540,080

ดาวอังคาร

ดาวเคราะห์สีแดงอันดับสี่ของระบบซอล หรือระบบสุริยะ เพื่อนบ้านของเรา ที่แรกที่พวกเราไปตั้งอณานิคม และที่แรกที่พวกเราจะเปลี่ยนมันให้เป็นบ้านอีกหลังของพวกเรา

20


WE HAVE COME FAR

คน

ในอดีตได้ส่องกล่องโทรทัศน์จาก บนโลกมองดูที่แห่งนี้ มองเห็นเส้นคูคลองจนนำ� ไปสู่ความเชื่อที่ว่าที่นี่มีสิ่งมีชีวิต และคนจำ�นวน มากก็จินตนาการว่ามันมีหน้าตาอย่างไร บ้างก็ จินตนาการไปถึงการรุกรานไม่ว่าเรารุกเขา หรือ ว่าเขารุกเรา ทว่าความจริงไม่ได้เป็นเช่นนั้น ที่นี่คือที่ อันแห้งแล้วและหนาวเย็น ร่องรอยเดียวของ สิ่ ง มี ชี วิ ต ที่ ค้ น พบคื อ ซากจุ ลิ น ทรี ย์ ที่ ยั ง เป็ น ที่ ถกเถียงว่าเป็นของจริงหรือไม่ แต่สิ่งที่แน่นอน นั้นตอนนี้บนดาวอังคารมีสิ่งมีชีวิตอยู่ พวกเรา นั่นเอง ภายหลังจากการลงจอดดวงจันทร์ ผู้คน ต่างวาดฝันที่จะไปยังดาวอังคารต่อไป ทว่าเรา ต้องรอเกินกว่าครึ่งศตวรรษกว่าความฝันนั้น จะเป็นจริง ด้วยโครงการที่ไปดาวอังคารนั้นถูก ยกเลิกครั้งแล้วครั้งเล่า จนกระทั่งพวกเรามอง เห็นความสำ�คัญของมัน คราวนี้ไม่ใช่เพื่อความรู้ แต่เป็นเพื่อความอยู่รอดของเผ่าพันธุ์ แม้ ก ารส่ ง มนุ ษ ย์ ไ ปดาวอั ง คารนั้ น มี ม า ตั้งแต่ช่วงทศวรรษที่ 30 แต่การตั้งถิ่นฐาน ถาวรนั้นได้เริ่มต้นในปี 2040 เมื่อเทคโนโลยี จรวดดี พ อที่ จ ะขนอุ ป กรณ์ ที่ จำ � เป็ น ทั้ ง หมดไป ได้ ร วมถึ ง ต้ น ทุ น ที่ ไ ด้ ล ดลงจนคุ้ ม ค่ า ทางเศรษ ศาสตร์ โดยในระยะแรกนั้น เหล่าผู้ตั้งถิ่นฐาน อาศัยในบ้านเป่าลมที่ออกแบบมาให้สามารถพับ เก็บได้มีขนาดเล็กเพื่อประหยัดพื้นที่ในการขนส่ง ก่อนที่จะค่อยๆขยายขึ้นมาจนกลายเป็นเมืองกึ่ง ใต้ดินเช่นในปัจจุบัน โดยขุดลงไปยังปล่องลาวา ของดาวอังคาร และมีทางเข้าออกเป็นโดมขนาด ใหญ่ ซึ่งภายในได้จำ�ลองสภาพของโลกเอาไว้ เพื่อคุณภาพความเป็นอยู่ของชาวอนานิคม

การสร้ า งอนานิ ค มบนดาวอั ง คารนั้ น เป็ น ความท้ า ทายที่ ยิ่ ง ใหญ่ ที่ สุ ด ที่ ม นุ ษ ย์ เ คยทำ � มา ด้วยสภาพหลายๆอย่างที่ต่างจากโลก ส่งผล ให้ พ วกเราต้ อ งสร้ า งทุ ก อย่ า งขึ้ น มาเองแม้ แ ต่ อากาศที่ ห ายใจ น้ำ � ที่ ดื่ ม กิ น  แต่ ทุ ก สิ่ ง นั้ น ใช่ ว่ า พวกเราจะทำ�ได้ตั้งแต่แรก ทุกสิ่งผ่านการพัฒนา  ผ่ า นการแก้ ปั ญ หามานั บ สิ บ ปี จ นกระทั่ ง ที่ นี่ สามารถอยู่กันอบ่างพึ่งพาตัวเองได้โดยสมบูรณ์ เช่นในปัจจุบัน  เหล่าผู้ตั้งถิ่นฐานชุดแรกนั้นเกือบทุกคนไม่มี โอกาสได้เห็นท้องฟ้าสีครามของโลกอีกเป็นครั้ง ที่ 2 ด้วยโครงการแรกๆนั้นเป็นการเดินทาง เที่ยวเดียว และการเดินทางอันยาวนานก็ได้ส่ง ผลต่ อ สุ ข ภาพของพวกเขาทำ � ให้ มี อ ายุ ขั ย ที่ สั้ น กว่าที่ควรเป็น แต่ทุกอย่างก็ดีขึ้นเรื่อยๆในภาย หลัง ทำ�ให้ในปัจจุบันไม่ว่าใครก็สามารถเดินทาง ไปดาวอังคารด้วยเวลาเดินทางอย่างช้าสุดสอง เดือนด้วยยานอวกาศปกติ หรือแค่ 3 วันผ่านรู หนอน โดยที่ปราศจากผลกระทบทางสุขภาพใดๆ ทั้งสิ้น จากการที่อยู่ใกล้เขตดาวเคราะห์น้อยดาว อังคารถูกกำ�หนดให้เป็นเขตอุตสาหกรรม โดย จะเป็นแหล่งแปรรูปทรัพยากรแทนที่ดวงจันทร์ ที่ถูกกำ�หนดให้เป็นเขตเศรษกิจ ทำ�ให้ปัจจุบัน ได้มีการลงทุนจากบริษัทจำ�นวนมากที่นี่ ทำ�ให้ ประชากรพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นผลดีต่อ การพัฒนาที่นี่ โดยที่บริษัท Colonier Enterprise ได้รับหน้าที่จาก Aeroforming Institute (AFI) ให้ดูแลการสร้างโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อรองรับความต้องการที่มากขึ้นเรื่อยๆ

21


22


FROM

RED TO GREEN

แผง

สีเขียวนับล้านแผ่น แช่อยู่ใน แท็งค์น้ำ�ขนาดยักษ์ที่ส่งแสงระเรื่อง ฟอง อากาศเล็กใหญ่นับไม่ถ้วนผุดขึ้นมายังเบื้อง บน นี่ คื อ เนโอสโตรมา ความหวั ง ของ การเปลี่ ย นดาวเคราะห์ สี แ ดงลำ � ดั บ สี่ นี้ ให้ ก ลายเป็ น บ้ า นอี ก หลั ง ของมนุ ษ ยชาติ   ภายในแผงเหล่านี้เหล่าสาหร่ายเซลล์เดียว และแบคที เ รี ย  ที่ จ ะเปลี่ ย นชั้ น บรยากาศที่ เต็มไปด้วยคาร์บอนไดออกไซด์ ให้อุดมไป ด้ ว ยออกซิ เ จนดั ง เช่ น ที่ ส โตรมาโลไทด์ อั น เป็ น ที่ ม าของชื่ อ มั น  ได้ เ ปลี่ ย นโลกของเรา เมื่อหลายหมื่นล้านปีก่อน แม้มันยังอีกยาวไกลนับหลายร้อยปี กว่ากระบวนการทั้งหมดจะเสร็จสิ้น แต่สัก วั น หนึ่ ง ลู ก หลานของเราจะได้ เ ดิ น บนดาว อังคารสีเขียวโดยปลอดภัย


Eun-Jae

หัวหน้าแผนกวิศวกรรม

บริษัท Colonier Enterprise

Baq

“ที่นี่คือสนามทดลองชั้นเยี่ยม” การเอาไปใช้กันเป็นเรื่องราวนอกจากทางการทหาร เป้าหมายต่อไปคือทำ�ให้มันเข้าถึงทุกคนได้ค่ะ ห่างหายไปนานเลยนะครับ คุณ “วิศวกร​ อัฉริยะ” เมื่ อ ก่ อ นนี่ เ ป็ น คนนำ � เคานท์ ด าว์ เ วลาปล่ อ ยอะไร สำ�คัญๆประจำ�เลยนี่ครับ

ฟังดูยิ่งใหญ่จังเลยนะครับ เป็นอย่างไรบ้างหรือครับ

นั่นสินะคะ ก็ไปได้สวยเลยละ ที่นี่มันจัดการ ทุกอย่างง่ายหมด  ปัญหา​ด้านการขนส่งที่เป็นปัญหา​ หลักสมัยก่อนก็เดี๋ยวมีลิฟต์​บนดาวอังคาร​มาช่วย อีก แถมถึงว่าอย่างงั้นงานดิฉันมันดูภาพรวมไม่ใช่ ลงลึกอะไรมาก เพราะยังไงพื้นฐานดิฉันเป็นวิศวกร เครื่องยนต์​ไม่ใช่วิศวกรโยธา ก็เลยจะดูพวกด้าน อุตสาหกรรมมากกว่า ส่วนที่เหลือนั่นส่วนใหญ่ใช้ คนอื่นอีกทีค่ะ

แหมๆ ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกค่ะ ช่วงนี้งานยุ่ง แถมลูกก็กำ�ลังซนอีก เอ๋ นี่คุณปาร์คมีลูก​แล้วเหรอครับ ค่ะตอนนี้ก็ 2 ขวบครึ่งได้แล้วค่ะ แต่ส่วน ใหญ่สามีเป็นคนดูแลให้น่ะคะ พอดีดิฉันต้องไปๆ มาระหว่างโลกกับดาวอังคาร​บ่อยด้วย ขอเข้าเรื่องเลยนะครับ ตอนนี้นี่มีโครงการอะไรอยู่​ เหรอครับ

แล้ว​คุณ​ว่าดาวอังคาร​เป็นอย่างไรบ้างครับในฐานะ ที่คุณเป็นผู้ดูแลการก่อสร้างทั้งหมดนี่

ตามนโยบายนำ�อุตสาหกรรม​ออกนอกโลกสินะครับ จะว่าไประบบต้านแรงโน้มถ่วงนี่มันผลงานสร้างชื่อ ของคุณเลยนี่ครับ แต่คุณทำ�มันสำ�เร็จตั้งแต่ 12 ปีก่อนแล้วไม่ใช่หรือครับ?

คนส่ ว นใหญ่ ​ ม องว่ า ที่ นี่ จ ะเป็ น บ้ า นหลั ง ที่ สองใช่ไหมคะ? แต่ดิฉันว่าที่นี่คือสนามทดลองชั้น เยี่ยมสำ�หรับสิ่งที่จะมีต่อไปในอนาคตค่ะ ที่นี่สามารถ ทดลองอะไรหลายๆอย่างที่ไม่สามารถทำ�บนโลกได้ ถ้าเราเปลี่ยนที่นี่เป็นบ้านหลังที่สองได้จริง ความรู้ ที่ได้มาก็จะทำ�ให้พวกเรามีหลังที่สามที่สี่ต่อไปเรื่อยๆ ไม่มีที่สิ้นสุด อากัวกับธีเบรเคยทำ�ให้เราดูแล้วว่า มันทำ�ได้ แต่ว่าแต่ละเผ่าพันธุ์ก็มีความต้องการที่ไม่ เหมือนกัน เราจึงเอาของเขามาใช้ไม่ได้ สิ่งที่เราต้อง ทำ�คือทำ�มันในแบบฉบับของพวกเราให้ได้เท่านั้นเอง

ฟังดูน่าสนใจนะครับนั่น

ก็เยอะเลยนะคะ ทั้งระบบต้านแรงโน้มถ่วง ทั้งระบบขับดัน กับงานหลักตอนนี้ดูแลการสร้าง โรงงานกับโครงสร้างพื้นฐาน​ดาวอังคารอยู่ค่ะ

ดิ ฉั น แค่ ทำ � ที่ พ วกนั ก วิ ท ยาศาสตร์ ​ คิ ด ไว้ ใ ห้ เป็นจริงเท่านั้นแหละค่ะ ดิฉันทำ�ให้มันใช้งานจริงได้ แล้วก็จริง แต่นั่นมันยังไม่คุ้มค่าทางเศรษฐศาสตร์ ทั้งแพงทั้งกินพลังงานมหาศาล​ ตอนนี้เลยยังไม่มี

24

แต่งานหลักของคุณ

นั่นสินะคะ



NEXT

FRONTIER

2042


เมื่อยาน Frontier-V ถูกปล่อย ทุกคนบนโลกนั้นทรายแค่ว่ามัน เป็นยานสำ�รวจดวงจันทร์ดาวเสาร์เท่านั้น แต่ในวันที่ 18 มีนาคม ก็ได้มีการถ่ายทอดสดจากดาวเสาร์ ผ่านเครือข่ายสื่อสาร ควอนตัมเป็นครั้งแรก นั่นคือการเปิดประตู สู่ยุคใหม่ของเทคโนโลยีอวกาศ

27


2042

WE ARE NOT ALONE

28


จากรูหนอนของยาน

Frontier-V ที่ขยายใหญ่ขึ้นแทนที่จะปิดลง ยานอวกาศสีแดงสภาพบอบช้ำ�เต็มไปด้วยร่องรอบความเสียหาย ก็ปรากฏออกมา นั่นคือฑูตจากโลกที่ยิ่งใหญ่กว่าสิ่งที่มนุษย์เคยรู้จัก โลกของพิภพนับล้าน โลกของเผ่าพันธุ์อีกมากมายที่เราได้เคยแต่ฝันถึง มันคือเวทีของประวัติศาสร์ที่ยิ่งใหญ่กว่าดาวเคราะห์สีฟ้าดวงหนึ่งที่พวกเราอยู่มาโดยตลอด


นั บ

จากวั น ที่ เ รารั บ รู้ ถึ ง ความกว้ า ง ใหญ่ของจักรวาลเหนือหัวเรา คำ�ถามที่ตามมาก็ คือ “มีใครอยู่บนนั้นบ้างหรือไม่?” “พวกเราโดด เดียวหรือไม่?” การค้นหานั้นดำ�เนินไปอย่างมืด บอดด้วยวิธีการต่างๆนาๆ ทั้งวิธีที่ไร้สาระจนน่า ขันอย่างการพยายามสื่อสารด้วยพลังจิตหรือ การนั่งสมาธิ ไปจนถึงวิธีการที่ใช้วิทยาศาสตร์ ขั้นสูงอย่างการส่งสารออกไป หรือสำ�รวจดาวที่ น่าจะมีสิ่งมีชีวิต แต่ทั้งหมดนั้นเราไม่ได้อะไรกลับ มาเลย ได้มากสุดก็แค่ดาวเคราะห์นอกระบบที่น่า มีสิ่งมีชีวิตเท่านั้น แต่สุดท้าย มันไม่ใช่พวกเราที่ไปพบพวก เขา แต่เป็นพวกเขาที่มาพบพวกเรา จากการ ทดสอบการเปิดรูหนอนครั้งแรก ก็ทำ�ให้ชา วอากัวมาติดต่อกันพวกเรา และนั่นคือวันที่พวก เราได้รับรู้ว่า พวกเราไม่ได้อยู่แต่ลำ�พัง แล้วทำ�ไมพวกเขามาหาพวกเรา? และ ทำ�ไมพวกเขาดูคล้ายพวกเรา? นี่คือคำ�ถามที่ตาม มาทันทีที่พวกเราได้เห็นชาวอากัว คำ�ตอบของ คำ�ถามนั้น คือพวกเขาต้องการอพยพมายังโลก จากการที่พิภพของพวกเขาถูกทำ�ลายในสงคร มอวกาศ และที่พวกเขาเลือกโลก ก็เพราะพวก เขาเคยสำ�รวจในอดีตเมื่อนานมาแล้ว ว่าพวกเรา คล้ายพวกเขา การติดต่อสื่อสารและอยู่อาศัย ร่วมกันจะเป็นไปได้โดยง่ายกว่า และข้อแลก เปลี่ยนกับการขออพยพคือเทคโนโลยีและความ รู้ทั้งหมดที่พวกเขามี แต่ถึงอย่างนั้นพวกเราก็ไม่ได้ตอบรับโดย ง่าย ด้วยพวกเรายังสามรถไม่ไว้ใจสิ่งที่พวกเรา ยังไม่รูเ มาตรการความปลอดภัยจึงถูกร่างขึ้น และยังบังคับใช้จนถึงปัจจุบันในกรณีที่มีการนำ� ยานมาติดต่อครั้งแรก เพื่อความปลอดภัยของ พวกเราเอง ว่าอีกฝ่ายจะไม่ได้มาเพื่อการยึด ครองหรือทำ�ลายล้างพวกเรา

30

ประการแรกยานจะต้องเข้าเทียบกับสถานี อวกาศ แต่ไม่มีการเชื่อมต่อแต่อย่างใด ในตอน นั้นได้ใช้สถานีอวกาศนานาชาติแห่งที่สอง โดยใช้ แขนกลยึดตัวยานเอาไว้กับสถานี ประการสองฝ่ า ยผู้ ม าเยื อ นต้ อ งทำ � การ เดินอวกาศออกจากยานของตนมายังแอร์ล๊อก ของสถานีอวกาศ โดยจะมีนักบินอวกาศมารอ รับอยู่ภายนอก โดยในตอนนั้น ร้อยอากาศโท เจียง ต้า ผิง ชาวไต้หวันได้เป็นผู้ออกไปรับ ประการสามตัวแทนผู้มาเยือนต้องอยู่ใน เขตกักกันบนสถานีอวกาศ จนกว่าการสื่อสารจะ บรรลุ และทราบวัตถุประสงค์ ซึ่งในตอนนั้นมัน เป็นขั้นตอนที่เสียเวลานานที่สุด โดยกินเวลากว่า ครึ่งปีกว่าจะหาทางสื่อสารกันได้สำ�เร็จ เนื่อง จากปรากฏว่าชาวอากัวไม่มีความสามารถในการ สื่อสารด้วยเสียง ทั้งการฟังและการพูด ข้อมูล การสื่อสารของโลกที่พวกเขามีก็เป็นภาษาของ อารยธรรมโบราณที่ ไ ม่ เ ป็ น ที่ รู้ จั ก หรื อ รู้ จั ก ไม่ สมบูรณ์ พวกเราต้องอาศัยนักภาษาศาสตร์นับ ร้อยคนจากทั่วโลกและ AI ที่ทรงพลังที่สุดกว่า จะเข้าใจวัตถุประสงค์ และขั้นตอนสุดท้าย นักบินอวกาศจะขึ้น ไปยังยานของผู้มาเยือน เพื่อทำ�การตรวจสอบ เป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะนำ�ยานไปยังสถานที่จอด จริงตามข้อตกลง ซึ่งในตอนนั้นชาวอากัวได้ ตกลงยกยานให้พวกเราทำ�การศึกษา จึงได้จอด ไว้ กั บ สถานี อ วกาศก่ อ นที่ พ วกเขาลงไปยั ง โลก พร้อมกับนำ�ตัวอ่อนแช่แข็งลงไปด้วยเพื่อฟื้นฟู เผ่าพันธุ์ และต่อมาในปี 2044 ตัวยานได้ถูก ย้ายไปยังศูนย์วิจัยลับสุดยอดบนดวงจันทร์เพื่อ เก็บรักษาอย่างถาวร เทคโนโลยี ที่ พ วกเขานำ � มาด้ ว ยนั้ น ทำ � ให้ พวกเราก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว จากการประ


WE HAVE COME FAR

ยุคใช้ในหลายๆด้าน เช่นถ้าลองเทียบชุดอวกาศ ในปัจจุบันดู ก็จะพบความคล้ายคลึงกั​ับของ ชาว อากัวเป็นอย่างยิ่ง แต่ไม่มีชิ้นใดที่เทียบ ได้กับแผ่นกระจกเล็กๆไม่กี่แผ่น ที่ต่อมาได้ถูก เรียกว่า “รามเรคคอร์ด” ซึ่งตั้งชื่อตามนิยาย วิทยาศาสตร์ Rendezvous with Rama (ดุจ ดั่งอวตาร) ของอาร์เธอร์ ซี คลาร์ก ซึ่งกล่าวถึง การติดต่อครั้งแรก แผ่นกระจกเหล่านั้นได้บรรจุ ไปด้วยข้อมูลทั้งหมดที่พวกเขารู้ และมันก็ทำ�ให้ พวกเราได้รู้ในท้องฟ้าอันกว้างใกลนั้น มีใครอยู่ กันบ้างแม้จะไม่สมบูรณ์ และเป็นข้อมูลที่เก่าโบ ราณอย่างมากก็ตาม แต่มันก็ทำ�ให้เราได้ติดต่อ กั บ อารยธรรมอื่ น ๆอี ก มากมายจากสิ่ ง ที่ เ รารู้ จากในนั้น

ต่อโลก แต่เคราะห์ดีที่แม้แต่พวกเขาเองก็มีคน จำ�นวนมากที่ต่อต้านการกระทำ�นี้ และเข้าหยุด ยั้งมันจนสำ�เร็จ และพวกเขาก็ถอยทัพไป เพื่อไป จัดการเรื่องภายใน แล้วหายไปนับยี่สิบปี ก่อน จะกลับมาติดต่ออีกครั้ง แต่คราวนี้มาอย่างสันติ พร้อมคำ�ขอโทษจากจอมราชผู้ปกครองสหราช อาณาจักรธีเบรองค์ใหม่ ซึ่งได้โค่นล้มองค์เก่า และได้จบสงครามอวกาศที่กินเวลานับพันปี อัน สืบเนื่องจากการล่มสลายของจักรวรรดิอากั​ัว ลงอย่างสงบสุข และพร้อมรับพวกเราเข้าเป็น มิตรอีกหนึ่งคน จากทั้งหมดนี่ได้แสดงให้เห็นว่า แม้พวกเขาจะต่างจากเราเพียงใด อยู่ห่างเพียง ใด หรือเคยเป็นอย่างไร ก็ใช่ว่าพวกเราไม่สามา รถเป็นเพื่อนกันได้

แล้วพวกที่เราติดต่อหลังจากนั้นล่ะ พวก เขามาในรูปแบบที่แตกต่างกันมากมาย ทั้งเหมือน มนุษย์จนเรียกได้ว่าเป็นมนุษย์เหมือนกันกับพวก เราอย่างชาวอดาเมฮ์ทั้ง 3 เผ่าพันธุ์ ที่ยังถก เถียงไม่สิ้นสุดว่ามันเป็นไปได้อย่างไร จนถึงต่าง จากพวกเราสุดขั้ว เช่นชาวอินา ที่แตกต่างกัน จนพวกเขาไม่สามารถลงมาบนโลกได้เพราะแรง โน้มถ่วงโลกนั้นมากพอที่จะทำ�อันตรายต่อชีวิต พวกเขาได้ การติดต่อจึงจำ�กัดแค่ในอวกาศหรือ บนดวงจันทร์เท่านั้น

ถื อ เป็ น โชคดี ข องพวกเราที่ อ ารยธรรม ของเรานั้นเกิดในช่วงนี้พอดี ถ้าไวกว่านี้อาจ ถู ก ทำ � ลายไปเช่ น เดี ย วกั บ พิ ภ พและอารยธรรม มากมายที่ไปพัวพันกับสงครามนั้น ถ้าช้ากว่านี้ พวกเขาก็อาจไม่มาหาพวกเราให้ได้รับรู้ถึงการมี อยู่แต่อย่างใด

แต่ที่น่าเหลือเชื่อสุดคือชาวธีเบร ทางด้าน กายภาพแล้ ว ไม่ มี ป ระหลาดมากมายเมื่ อ เที ย บ กับมาตรฐานสิ่งมีชีวิตทั้งจักรวาล แต่เรื่องราว ระหว่างพวกเขากับเราต่างหากที่น่าสนใจ ธีเบร นี่คือชื่อที่สองที่พวกเราได้รับรู้ต่อจากอากัว ใน ฐานะเผ่าพันธุ์ผู้ทำ�ลายล้างอารยธรรมอากัวจน สิ้นซาก จนถูกวางให้เป็นภัยอันดับ 1 ตั้งแต่ ก่อนมีการพบกันจริงๆเสียอีก และการพบกันกับ พวกเขาครั้ ง แรกก็ เ ป็ น เหตุ ก ารณ์ ที่ เ ลวร้ า ยสุ ด ในประวัติศาสตร์ สงครามระบบสุริยะ ซึ่งพวก เขาแทบจะทำ�แบบเดียวกับที่พวกเขาทำ�กับอากัว

31


เราได้พบใครบ้าง?

7 อารยธรรมที่ได้รับ “แผ่นเสียงทองคำ�จำ�ลอง” และมีอีกมากที่รอเราอยู่ในจักรวาลอันกว้างไกล

0000-0000-0002a พิภพ อดาเมฮ์

0000-0000-0003 พิภพ ธีเบร

เย่ว์

ธีเบร

ปีที่ติดต่อ 2053 ปีที่มอบแผ่นเสียง 2058 ผู้รักษา ซาโซร์ ทริเว

ปีที่ติดต่อ 2072 ปีที่มอบแผ่นเสียง 2098 ผู้รักษา ธวาซางควิเอ*

ประธานหอการค้าทวิพิภพ ประธานองคมนตรี จักรวรรดิอาซาลิกที่สองแห่งอิชเตีย

เอกอัครข้าราชฑูต

0000-0000-0004 พิภพ อเวอไคว

0000-0000-0002b พิภพ อดาเมฮ์

ซาน

อาเม็ต

ปีที่ติดต่อ 2073 ปีที่มอบแผ่นเสียง 2103 ผู้รักษา ควิวี

ปีที่ติดต่อ 2053 ปีที่มอบแผ่นเสียง 2102 ผู้รักษา รุนาฮ์ คาอูเลอี วาลกุฮ์

ผู้บัญชาการกองยานอวกาศไกล สาธารณะรัฐซ่น

ราชินีแห่งเนียวะฮ์

0000-0000-0005 พิภพ อาอะลา

0000-0000-0006 พิภพ อินา

คะวา

อินา

ปีที่ติดต่อ 2101 ปีที่มอบแผ่นเสียง 2104 ผู้รักษา อะนาอะคา วาซา ราชาแห่งคะวา

ปีที่ติดต่อ 2072 ปีที่มอบแผ่นเสียง 2106 ผู้รักษา กวาเซธ* ประฐานสหพันธรัฐ


เกณฑ์การมอบแผ่นเสียงทองคำ� 1. สามารถพัฒนาแนวคิดหรือปรัชญาขั้นสูง 2. วิธีการสื่อสารกับมนุษย์ถูกพัฒนาสำ�เร็จไม่ว่าโดยฝ่ายใดก็ตาม และสามารถพิสูจน์ได้ว่าสามารถเจริญสัมพันธไมตรีกับโลกได้ 3. การส่งมอบและจัดทำ�ต้องถูกอนุมัติจากที่ประชุมร่วมสมัชชาโลกเท่านั้น 4. อารยะธรรมใดสามารถขยายออกไปยังนอกพิภพแม่หรือในอวกาศ จะได้เพียงแผ่นเดียวสำ�หรับพิภพแม่เท่านั้น 5. พิภพหนึ่งสามารถได้หลายแผ่น แต่จะมอบตามจำ�นวนอารยะธรรม โดยอ้างอิงกับทางชีวภาพ ไม่ใช่ตามการปกครอง 6. อารยะธรรมใดๆประกอบด้วยหลายประเทศ ประเทศผู้รับมอบต้องส่งมอบต่อให้แก่บุคคลที่ 3 เป็นผู้รักษาแทนตัวประมุข *ถอดมาเป็นเสียงที่มนุษย์สามารถออกเสียงได้ **ไม่มีภาษาพูด ถอดเสียงตามระบบของชาวอากัว

33


Aquisi

ประธานสมาคมอากัวอพยพ

“เราจะไม่มีวันลืมบุญคุณ” แรงเท่าไหร่ทำ�งานหนักๆไม่ได้ พวกผมวิวัฒนาการ มาบนดาวที่แรงโน้มถ่วงแค่ครึ่งเดียวของโลกนี่นา อีกอันที่เจอบ่อยๆก็...การสื่อสาร ก่อนอื่นขอให้แนะนำ�ตัวสักเล็กน้อยได้ไหมครับ

ยังไงหรือครับ

ผมอากุยซี เป็นชาวอากัวอพยพรุ่นที่ 3 และ ประธานสมาคมอากัวอพยพครับ

พอมายุคนี้คงสังเกตยากหน่อยนะ แถมเรื่อง นี้ไม่ค่อยถูกพูดถึงด้วย คือจริงๆพวกผมน่ะไม่มี ประสาทหูกับกล่องเสียง ที่คุยๆกันคุณนี่ใช้ประสาท หูเทียมกับเสียงสังเคราะห์หมดเลยนะ วิธีการสื่อสาร จริงๆของพวกเราคือแบบนี้ (ตาเปล่งแสงกระพริบ ด้วยความเร็วสูงทั้งม่านตาวงนอกและวงในเป็นรูป แบบที่ซับซ้อน)

แล้ว...เวลาพูดถึงคุณนี่ปกติคุณอยากให้ใช้คำ�ไหน เรียกหรือครับ จริงๆผมไม่ค่อยซี้รียสเรื่องนั้นเท่าไหร่นะ ยัง ไงพวกเรามี 2 เพศกันทุกคนอยู่แล้ว จะใช้อันไหนก็ ได้หมดนั่นและ แต่เห็นส่วนใหญ่ชอบมองว่าเป็นเพศ ชายมากกว่า ก็ใช้ไปตามนั้นไปก็ได้ครับ คุณเป็นรุ่นที่เกิดบนโลกสินะครับ แล้วเจอความ ยากลำ�บากอะไรบ้างหรือเปล่าครับ รุ่นผมไม่ค่อยเจออะไรแล้วนะ คนที่เกลียด ชาวช่วงอากัวหลังๆจะเป็นเหตุผลเรื่องที่เพราะเรา อพยพมา ชาวธีเบรเลยตามมาบุกโลกมากกว่า ซึ่งก็ เข้าใจได้อยู่ละนะ จริงๆผมหมายความถึงเรื่องการอยู่อาศัยนะครับ อ้อ โทษทีนะที่เข้าใจคำ� ถามผิด เรื่องนั้นก็ ลำ�บากอยู่นะ กายภาพของอากัวกับมนุษย์โลกมัน ต่างกันกว่าที่เห็นเยอะ อย่างเรื่องส่วนสูงนี่ก็พา ลำ�บากน่าดู ของหลายๆอย่างก็ออกแบบมาสำ�หรับ มือ 5 นิ้วไม่ใช่ 4 แต่อย่างน้อยรุ่นผมก็แก้ปัญหา การหายใจกับกล้ามเนื้อที่รุ่นแรกเจอได้แล้ว รุ่นผม เลยไม่ต้องสวมพาวเวอร์สูทไว้ตลอด แต่ก็ไม่ค่อยมี

34

น่าทึ่งไปเลยนะครับนั่น คือแบบนี้มนุษย์ไม่รู้เรื่องแน่นอน เอาจริงๆ เผ่าพันธุ์ไหนในจักรวาลก็ไม่น่ารู้เรื่องเหมือนกันหมด นั่นแหละถ้าไม่มีเครื่องช่วยแปล แล้วระบบความคิด พวกเรามันไม่เอื้อกับการสื่อสารโดยใช้เสียงเท่าไหร่ ถึงฝังประสาทหูกับเครื่องสังเคราะห์เสียงก็ต้องฝึก กันหนักอยู่ดีกว่าจะใช้ได้คล่อง มันยากกว่าการที่ พวกคุณเรียนภาษาต่างประเทศเยอะเลยนะ มีอะไรจะพูดเกี่ยวกับโลกไหมครับ เราจะไม่มีวันลืมบุญคุณ ที่ช่วยพวกเรา ไว้จากการสูญพันธุ์ เราของสัญญาว่าจะใช้ความ รู้ ค วามสามารถทั้ ง หมดที่ มี ช่ ว ยพวกคุ ณ พั ฒ นา อารยะธรรม จนอยู่ได้ในเวทีจักรวาลอันกว้างใหญ่ นี้ และไม่พลาดพลั้งแบบที่พวกเราเคยทำ�มา



Tien-Ping

อดีตสมาชิกทีมติดต่อนานาชาติ ผู้ตรวจสอบเทคโนโลยี

“จากวันนั้นเราได้อะไรมามาก” แล้วเทคที่ได้มาคุณคิดว่ามีประโยชน์มากไหมครับ คุณเทียนผิงครับ ครับ

ตอนนั้นคุณมีหน้าที่อะไรหรือ

จะอธิบายยังไงดีนะ ตอนนั้นตัวผมยังไม่ได้ เป็นตัวผมในตอนนี้ด้วยสิ ครับ? คือตัวผมตอนนั้นเป็นแค่ AI ธรรมดาที่ ช่ ว ยตรวจสอบยานกั บ ของที่ ช าวอากั ว ยกให้ แ ลก กับอพยพ ส่วน Ego ที่ทำ�ให้ตัวผมเป็นผมยังไม่ถูก สร้างขึ้น...คงเข้าใจยากสำ�หรับมนุษย์หน่อยนะ... งั้นไปเรื่องต่อไปเลยนะครับ ความประทับใจของ คุณตอนได้เห็นเทคโนโลยีต่างดาวครั้งแรกเป็นยัง ไงครับ จากวันนั้เราได้อะไรมากมาก แต่ถ้าให้ลงลึก ละก็ อืม...คงต้องตอบแบบคิดย้อนละนะ ตอนนั้นผม ยังไม่มีอารมณ์ความรู้สึกด้วยสิ อืม..ก็ทั้งทึ่งและผิด หวังละนะ... ผิดหวังหรือครับ? เอาจริงๆนะ เทคแทบทุกอย่างที่พวกเขามี มันเป็นของที่นักวิจัยบนโลกคิดได้แล้วทั้งนั้น อย่าง น้อยก็ในหน้ากระดาษหรือแค่ไอเดีย แต่มันน่าทึ่งตรง ที่ว่ามันกลายเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าของพวกนั้นน่ะมัน สร้างได้จริง และจะสร้างมันได้อย่างไร ทำ�ให้ลดขั้น ตอนการพัฒนาไปมาก เลยทีเดียว

36

ตอบยากแฮะข้อนี้ เทคของชาวอากัวเกิน กว่า 80% น่ะไร้ประโยชน์บนสภาวะแบบโลก ไม่งั้นก็ เป็นอันตรายต่อมนุษย์จนเอามาใช้งานไม่ได้ อันตรายยังไงหรือครับ คุ ณ น่ า เคยได้ ยิ น เรื่ อ งควาทนทานของชา วอากัวนะ มันเป็นยิ่งกว่าที่คุณรู้อีก ทุกวันนี้งาน เดิ น อวกาศมี แ ต่ พ วกนี้ ทำ � เพราะเหตุ ผ ลงี้ แ หละ พวกเขาโดนรั ง สี ร ะดั บ ที่ ม นุ ษ ย์ ต ายได้ เ ป็ น ร้ อ ย รอบ หรือทำ�วงจรของพวกผมพังได้โดยไม่เป็นไร เลย เครื่องยนต์ยานของพวกเขาเป็นเครื่องยนต์ นิวเคลียร์ฟิวชันที่ไม่มีการชีลด์รังสีอะไรเลย เทคการ จำ�ศีลของพวกเขาพอเอาไปทดลองปรากฏว่าสารที่ ใช้ดันเป็นพิษร้ายแรงต่อมนุษย์เสียนี่ แล้วอะไรบ้างที่มีประโยชน์ต่อโลกมากหรือครับ สำ�หรับผมนะไม่ใช่เทคอะไรทั้งนั้นละ ของ พวกนั้นเมื่อถึงเวลาพวกเราก็ทำ�ได้อยู่ดี แต่เป็น ข้อมูลการสำ�รวจทรัพยากรณ์และสิ่งมีชีวิตที่พวก เขาใช้เวลานับหมื่นปีรวบรวมมาต่างหากล่ะ มันย่น เวลาให้พวกเราได้มหาศาลเลยละ แถมยังกระตุ้นการ สำ�รวจอวกาศอีก เพราะทีนี้เรารู้เลยว่าต้องไปที่ ไหนบ้าง นั่นสินะครับ “รามเรคคอร์ด” วัตถุที่เปลี่ยนโฉมหน้า ประวัติศาสตรมนุษย์ นั่นสินะครับ ใช่ครับ


水橋土工事

MIZUBASHI HEAVY INDUSTRIES


NEW Olga Khovansky ,Sgt 2025-2068 นักบิน

WORLD

Jun Minakata , Asst. Prof. 2028-ปัจจุบัน นักมานุษยวิทยา

ERA

NEW

Mei Ling Wang , Prof Ph.D. 2003-2052 นักภาษาศาสตร์ KIA

Hai Jia Jang ,Col

2005-2052 ผู้บัญชาการ KIA

Surgey Deminov , Sc.D.

2022-2052 นักชีววิทยา KIA

Amamiya

2050-ปัจจุบัน เจ้าหน้าที่ประจำ�สถานี


WE HAVE COME FAR TERRESTIAL PLANETS

GAS PLANETS

IREQOUR

ข้อมูล

ค้นพบจากข้อมูลจากยานของชาวอากัว อพยพ และถูกยืนยันด้วยกล้องโทรทัศน์รูหนอน Zhang Heng ของสมาพันธรัฐเอเชียตะวั​ัน ออกในปี ค.ศ. 2048

ดาวฤกษ์แม่ ดาวบริวาร

อดาเมฮ์ เ ป็ น ดาวเคราะห์ น อกระบบดวง แรกที่ ถู ก ยื น ยั น ถึ ง การมี อ ยู่ ข องสิ่ ง มี ชี วิ ต นอก ระบบ และอารธรรมบนดาวเคราะห์นอกระบบ (ไม่นับชาวอากัว) อีกทั้งยังเป็นดาวเคราะห์นอก ระบบแห่งแรกที่มนุษย์เข้าไปติดต่อเชิงรุกอย่าง สันติ

การสำ�รวจ 2048 ถ่ายภาพผ่านกล้องโทรทัศน์รูหนอน 2050 ส่งดาวเทียมเข้าวงโคจร และทำ�การสำ�รวจชั้น บรรยากาศ และทำ�แผนที่​่ภูมิประเทศ 2051 ส่งยานลงจอดไร้คนบังคับไปยังเขตไร้ผู้คน ส่งเครื่องบินไร้คนขับขนาดเล็กเพื่อเก็บภาพ 2053 ส่งมนุษย์ไปครั้งแรก แต่เกิดความผิดพลาดใน การลงจอด ลูกเรือเสียชีวิตไป 3 จาก 4 คน 2058 ส่งมนุษย์ไปครั้งที่สอง และเริ่มการติดต่อกับโลก อย่างเป็นทางการ

มวล รั​ัศมีเส้นศูนย์สูตร คาบการหมุน คาบการโคจร แรงโน้มถ่วง จำ�นวนประชากร

E NW

การค้นพบ

UR OS YR

UM EN DW HM ER TS A AY RB WI AL GU DA AE AM AD L SO BA RM LE AT A EB SW

ADEJAH

ระบบดาวคู่ อิเรคัวฮ์-อเดจะฮ์ 2 ดวง 7.59x1024 กก. 8291.53 กม. 20 ชั่วโมง 32 นาที 260.16 วันโลก 1.13 G 2.3 พันล้านคน

ประชากร ที่มาของประชากรอดาเมฮ์นั้นเป็นปริศนา ที่ยังหาคำ�ตอบไม่ได้ เนื่องจากไม่พบร่องรอย การวิวัฒนาการบนอดาเมฮ์เลยแม้แต่น้อย อีก ทั้ ง ลั ก ษณะทางพั น ธุ ก รรมนั้ น เหมื อ นกั บ มนุ ษ ย์ โลกมาก จนมีรายงานถึงลูกผสมหลายกรณี จุด ที่แตกต่างกันนั้นคือชาวอดาเมฮ์ไม่มีไมโครตรอน เดรียในเซลล์ แต่มีออเกเนลชนิดอื่นอยู่แทน ซึ่ง ทำ� หน้าที่ใกล้เคียงกัน แต่ส่งผลต่อ DNA ให้ แสดงลักษณะที่ต่างจากมนุษย์ทั่วไป ทฤษฏีที่น่าเชื่อถือสุดคือพวกเขาเกิดจาก การทดลองดั ด แปลงพั น ธุ ก รรมมนุ ษ ย์ โ ลกใน สมั บ โบราณโดยสิ่ ง มี ชี วิ ต บางพวกก่ อ นนำ � มา ปล่อยที่อดาเมฮ์ สอดคล้องกับตำ�นานของที่นี่ ซึ่งกล่าวว่าพวกเขาอพยพมาจากดาวดวงอื่น 39



Special Column

JUN MINAKATA

อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงความสัมพันธ์ระหว่างพิภพ ราชบัณฑิตและที่ปรึกษาในองค์จักรพรรดิแห่งอิชเตีย ประธานสมาคมโบราณคดีอดาเมฮ์สากล ผู้รอดชีวิตเพียงคนเดียวของยาน Cosmos 5 และมนุษย์คนแรกที่เหยียบอดาเมฮ์

41


INTERVIEW สำ�หรับท่านอดาเมฮ์คืออะไรหรือครับ อดาเมฮ์ ก็ เ หมื อ นบ้ า นที่ ส องของผมเลย ละครั บ  ที่ นี่ มี อ ะไรให้ ค้ น หาเยอะมากๆ เอาจริ ง ๆ มันก็คือโลกอีกใบนั่นแหละครับ คิดดูสิครับคนเรา จิ น ตนาการถึ ง โลกที่ แ ตกต่ า งออกไปมาเป็ น ร้ อ ย เป็นพันปี แล้วไปๆมาๆก็ดันมีโลกแบบนั้นอยู่จริงซะ อีก ถึงบางอย่างไม่ตรงกับจินตนาการก็เถอะ แต่ โลกนี้มันก็มีเรื่องราวมากมายรอให้เราค้นพบเยอะ กว่าที่โลกที่แต่งขึ้นจะมีได้ซะอีก ที่บอกว่าโลกที่คนเคยจินตนาการนี่มันหมายความ ว่าอย่างไรหรือครับ อา...ถ้าให้เดาคุณคงไม่ค่อยอ่านพวกนิยาย แฟนตาซีไม่ก็เทพนิยายสินะ คือประมาณว่าดูหน้า ตาชาวเย่ ว์ สิ   ดู ยั ง ไงๆก็ เ อล์ ฟ ชั ด ๆ ถึ ง พวกเขาจะ ไม่ ไ ด้ อ มตะมี เ วทมนคาถาอะไรก็ เ หอะ ก็ แ ค่ ม นุ ษ ย์ หูยาวๆ อายุยืนกว่าคนธรรมดาหน่อย แค่นี้ก็ทำ�ให้ ผู้ ช ายหลายคนลงทุ น บิ น ข้ า มดาวมาจี บ สาวถึ ง อดาเมฮ์ แ ล้ ว ต่ อ ให้ นั่นจะเป็นยุคแรกๆที่ค่า ยานจะ แพงนรกก็ตาม ยังไม่รวมชาวอาเม็ตอีก ที่บางเผ่า หน้าตาต้องใจพวก “รสนิยมพิเศษ” จนเกิดปัญหา ให้ตำ�รวจทั้งสองพิภพต้องตามล้างตามเช็ดทุกวัน นี่ไง อ้อใช่แล้วก็เรื่องสถานที่ท่องเที่ยวอีก ที่นี่ มี อ ะไรน่ า เหลื อ เชื่ อ เยอะมากๆทั้ ง ธรรมชาติ แ ละที่ ถู ก สร้ า งขึ้ น  แถมยิ่งถูกใจสายวัฒ นธรรม เพราะ แค่ แ ถบเนี ย วะฮ์ ที่ ใ หญ่ พ อๆกั บ เกาะบริ เ ตน ก็ มี วัฒธรรมยิบย่อยเป็นร้อยแล้ว

42

พอนึกภาพออกแล้วละครับ ตอนที่ท่านอยู่บนนั้น รู้ สึ ก อย่ า งไรกั บ บ้ า นเมื อ งของอดาเมฮ์ บ้ า งหรื อ ครับ อื ม จะว่ า ไงดี น ะ บอกตามตรงนะ อดาเมฮ์ น่ ะ เจริ ญ กว่ า ที่ ผ มคิ ด มากๆ ดู เ ผิ น ๆเหมื อ น พวกเขาอย่ า งกั บ หลุ ด มาจากศตวรรษที่   1819 แต่ พ วกพื้ น ฐานทฤษฏี พ วกเขานี่ ดี ก ว่ า โลก ยุ ค นั้ น ซะอี ก  คุ ณ รู้ ไ หมพวกเขาสร้ า งต้ น แบบ ทรานซิสเตอร์ได้แล้วด้วยซ้ำ�! ยิ่งกว่านั้นพวกเขา รู้ จั ก แคลคู ลั ส  มาตั้ ง แต่   5,000 ปี ก่ อ นอี ก ! แต่ ถ้าพูดเรื่องกระจายความเจริญน่ะ ขอบอกว่าแย่ มากๆ จุดที่ผมหล่นลงน่ะตรงอับบาซินสภาพบ้าน เมื อ งสั ง คมยั ง กะยุ ค กลาง แต่ พ อไปที่ อิ ช เตี ย กั บ เนียวะฮ์น่ะ เจริญยังกะอยู่คนละโลก จะว่าไปนา่เหลือเชื่อสุดๆเลยนะครับว่าตอนนั้นท่าน รอดจากยานระเบิดมาได้ ใช่ !  ขนาดผมเองยั ง เชื่ อ ดวงตั ว เองไม่ ล ง เลย เอาจริ ง ๆนะครั บ  นี่ ผ มรอดได้ นี่ ก็ ป าฏิ ห าริ ย์ สุดๆ แล้วละนะ อย่างที่ทุกคนเคยได้ยิน โครงการ นี้ มั น เร่ ง สุ ด  ๆ จนข้ า มขั้ น ตอนการทดสอบไปยก กระบิ ระบบความปลอดภัยก็ห่วยแตก ที่จริงผม ได้ ยิ น มาว่ า ไอ้ ตั ว สถานี น่ ะ ตามแผนตอนแรกใหญ่ กว่านี้ตั้ง 2-3 เท่า แถมที่ลงไปติดต่อน่ะไปกันเป็น  10 คนเลยนะ ไปกันครบทุกสาขาวิชายันศิลปิน  ไม่ใช่ไปกันแค่ 4 คน แล้วไอ้ที่ตัว Frontier IX มี Air Lock เป็นติ่งน่าเกลียดๆนั่นก็เพราะมันเพิ่มไปทีหลังให้ติด ยานลงจอดลงไปได้ โมดูลพักอาศัยก็โดนติดเพิ่มไป อีกลูก เพราะแผนเดิมมันแค่โคจรรอบดาวมีนักบิน ประจำ�แค่ 3 คนก่อนส่งส่วนอื่นๆมาประกอบเป็น สถานีใหญ่ก่อนค่อยส่งคนลงในปี 2055


จะว่าไปทำ�ไมตอนนั้นถึงต้องเร่งโครงการด้วยหรือ ครับ

แล้ ว ตอนนี้ ท่ า นมี แ ผนจะทำ � อะไรบ้ า งหรื อ เปล่าครับ

อ่​่ า ...เรื่ อ งนี้ ค นสมั ย นี้ ไ ม่ ค่ อ ยรู้ น่ ะ สิ   ตอน นั้ น สมั ช ชาโลกกำ � ลั ง จะมี ม ติ ห้ า มติ ด ต่ อ เชิ ง รุ ก กั บ ดาวในลิ ส ต์ ที่ พ วกอากั ว เอามาให้   แล้ ว ที นี้ ทริ นิ ตี ไ ม่ เ อาด้ ว ยแต่ รู้ ว่ า ห้ า มไม่ ไ หว ก็ เ ลยเร่ ง ส่ ง คนไปติ ด ต่ อ ให้ ไ ด้ ก่ อ น มติ จ ะได้ ล่ ม ก่ อ นมั น ผ่ า นที่ ประชุ ม  แต่ สุ ด ท้ า ยพอยานผมระเบิ ด กลายเป็ น ว่ า ทรินิตีนั่นแหละแผนล่มแทน เราก็เลยไม่ได้ติดต่อ กับใครอีกเกือบ 10 ปี ไม่ไปหาใครและไม่มีใครมาหา

นั่ น สิ น ะ... ตอนนี่ ผ มเกษี ย รแล้ ว แถมเป็ น พาร์กินสันต้องฝังไอ้นี่ (ชี้ไปที่หมุดบนหัว) ก็คงจะ แปลวรรณคดี กั บ ประวั ติ ศ าสร์ อ ดาเมฮ์ ต่ อ ไป เรื่อยๆจนกว่าจะผมตายละนะ

แล้ ว อย่ า งนั้ น การติ ด ต่ อ มั น เริ่ ม ได้ ยั ง ไงหรื อ ครั บ ถ้าตอนนั้นโดนสั่งห้าม

ที่ตอนนี้กำ�ลังแปลอยู่ก็สิบสองราชา หรือ ที่ภาษาอาซานเรียกว่า เวนทูเนบเป็นตำ�นานถึงต้น กำ�เนิดของอดาเมฮ์ แต่ทำ�ไปทำ�มาผมรู้สึกยังกะ กลับไปทำ�วิทยานิพนธ์อีกครั้ง เพราะมันมีฉบับยิบ ย่อยเต็มไปหมดที่ยิ่งคนก็ยิ่งเจอ ไม่พออีกผมดัน ไปเจอสิ่งที่เป็น “เค้าความจริง” ข้างในนั้น วันๆเลย ต้องคุยกับพวกนักโบราณคดีกับนักมานุษยวิทยา คนอื่นๆตลอดเพื่อรวบรวมข้อมูล

อั น นี้ ที่ ผ มได้ ยิ น มาจากนายพลนิ จิ กิ   นะ  ตอนนั้ น ผมติ ด แหงกอยู่ บ นอดาเมฮ์ โ น่ น  พอ มติ ผ่ า นออลกาก็ โ ดนเรี ย กตั ว กลั บ โลก เหลื อ อามามิยะเฝ้าสถานีอยู่คนเดียว เลยจับสัญญาณ วิทยุขอความช่วยเหลือที่ผมขอให้อาซาลิกทำ�ให้ได้  เลยลงมาติดต่อได้โดยอ้างว่าเป็นภารกิจช่วยเหลือ เ พ ร า ะ ท่ า น แ ท้ ๆ เ ล ย น ะ ค รั บ โ ล ก ถึ ง ไ ด้ พันธมิตรสำ�คัญ

ผมเคยอ่าน “จ้าวสองนคร” ที่พูดถึงต้น วงศ์วาลกูของเนียวะฮ์ที่ท่านแปล ผมทึ่งมากๆกับ การค้นคว้าของท่านเลยนะครับ แล้วตอนนี้กำ�ลัง แปลอะไรอยู่หรือครับ

ผมจะรอผลงานต่อไปของท่านนะครับ ขอให้รอต่อไปอย่างอดทนนะครับ ผมเองก็ ไม่รู้เหมือนกันว่าจะเสร็จตอนไหน

จะพูดงั้นก็ได้อยู่นะ ตอนเจรจาสนธิสัญญา อิชเตียน่ะ ผมพยายามให้ทั้งสองฝ่ายได้ประโยชน์ ถึงที่สุด ซึ่งผลสุดท้ายก็ค่อนข้างแฮปปีกันดียกเว้น เรื่องการค้าที่มาแก้กันทีหลัง มันก็บอกยากเหมือน กันนะว่าฝ่ายไหนใด้ประโยน์กว่ากัน ทางอดาเมฮ์ก็ พัฒนาได้เร็จจนน่าเหลือเชื่อมากๆ แค่ไม่กี่สิบก็ไล่ ตามโลกทันแล้ว แถมมหาอำ�นาจอย่างอิชเตียกับ คลาดูก็ส่งคนมาเรียนบนโลกแล้วกลับไปสอนเยอะ มาก ซึ่งนี่ก็อยู่ในสนธิสัญญาด้วยละครับ

43



BELONGINGS จากการที่ยานลงจอดคานาอัน หรือ Cosmos-5 ระเบิด สัมภาระทั้งหมดบนยานก็ถูกทำ�ลายไปด้วย ของที่เหลือรอดมีเพียงแค่ของที่พกติดไว้กับ ชุดอวกาศของ ศ. มินะคะตะ เท่านั้น บางชิ้นนั้นขณะพำ�นักในอิชเตียได้ถูกมอบให้กับ ทางวิทยาลัยหลวงทำ�การศึกษาเทคโนโลยีของโลก ทว่าหลายชิ้นได้สูญหายหรือถูกทำ�ลายไป และนี่คือของเพียง 3 ชิ้นที่ยังอยู่รอดจนถึงวันนี้

PCMT คอมพิวเตอร์แท็ปเล็ต

“สมัยนั้นหน้าจอโฮโลแกรมยังไม่มีเลยต้องใช้วิธีการพับครึ่งเพื่อลดขนาดให้พกกับชุด ได้ ข้างในมีข้อมูลภาษาอาซานเก่าที่พวกอากัวบันทึกไว้เมื่อ 5,000 ปีที่แล้ว ตอนแรกผมว่าไร้ ประโยชน์นะนานขนาดนั้น แต่โชคดีทางศาสนายังใช้กันอยู่ เลยทำ�ให้การศึกษาภาษาง่ายขึ้นมาก ชิ้นนี้เป็นชิ้นที่พังก่อนเป็นชิ้นแรกทั้งๆ ในช่วงประมาณปีที่ 2 จากแบตเตอรีระเบิด คุณน่า สังเกตนะว่าจอมันหายไปครึ่งนึง ตัวซากผมเลยยกให้ไปแบบไม่เสียดายอะไรมาก แค่ถอดตัวการ์ด ออกแค่นั้น แต่ลำ�บากตอนต้องไปนั่งคัดข้อมูลทั้งหมดที่ยังจำ�ได้ลงกระดาษอีกที”

SCC3S3 ปืนพกแม่เหล็กไฟฟ้าตัวนำ�ยิ่งยวด

“ไอ้นี่เป็นชิ้นเดียวที่ผมไม่ยอมให้พวกเขาไป น่ารู้นะเพราะอะไร มันเลยเป็นชิ้นเดียวที่สภาพ เกือบสมบูรณ์ ถ้าไม่นับเรื่องสนิมกิน ผมขอพูดตามตรงมันไม่ใช่ปืนที่ดีเลยสักนิด สมดุลย์ตอนถือ แย่มากๆ แถมมันเป็นปืนพกแม่เหล็กไฟฟ้ารุ่นแรกๆที่ปัญหาด้านความน่าเชื่อถือถึงมันทนสุดๆก็ เถอะ ไม่ต้องพูดเรื่องผมเพิ่งหัดยิงปืนตอนได้รับเลือกเลย ผมแทบไม่ใช้มันเลยนอกจากยิงขู่เล็ก น้อยตอนที่ผมไปติเในเหตุการณ์​์การปฏิวัติที่เนียวะฮ์ กับยิงสาธิตแค่นั้นเอง”

Cosca S110 กล้องถ่ายภาพ

“ว่าไปแล้วเจ้านี่เป็นกล้องที่ทรงประหลาดน่าดู แต่มันถูกเลือกเพราะความยืดหยุ่นของ มัน และรูปทรงที่ใช้งานได้ในบุดอวกาศ มันต่างจากรุ่นที่มีขายทั่วไปแค่หน่อยเดียวเอง อย่างเพิ่ม ก้านเข้าไปที่วงแหวนให้คุมง่ายขึ้นในถึงมือซึ่งผมได้ถอดมันทิ้งไป กล้องตัวนี้เป็นชิ้นท้ายๆที่ผมยก ให้พวกเขา เพราะผมต้องใช้มันทำ� งานมัน พอมันพังผมค่อยยกให้เพราะทางนั้นอยากศึกษาการ ออกแบบเลนส์ของโลก แต่การที่มันพังไปนี่ทำ�ผมลำ�บากยิ่งกว่าตอนตัวแท็ปเล็ตอีก เพราะผมต้อง ไปหัดถ่ายภาพกล้องฟิล์มแมนนวลจาก 0 เพื่อบันทึกภาพเพื่อการศึกษาวัฒนธรรม”

45


พิธีมอบแผ่นเสียงทองคำ� อิชเตียเลเกม วังคิซตากา 15 พฤษจิกายน 2058

อาเวคารัค ผู้แทนชาวอากัว

บอริส เบลรอฟกี นักบิน

ลิซา ชเวสดา ผู้ช่วยนักบิน

อะมะมิยะ ผู้ประสานงาน

อเล็กซานเดอร์ จาง อุปฑูต

จุน มินะคะตะ ผู้ประสานงาน

ซะโระ โนอา นิจิกิ ฑูตทหาร ปฏิบัติหน้าที่แทนรัฐฑูต


ซาโซร์ ทริเว องคมนตรี

อลันเชสกวินา อิม อิสเตีย จักรพรรดิแห่งจักรวรรดิ อาซาลิกที่สองแห่งอิชเตีย

คท์วิสกา อิม อับบาติน จักรพรรดินีแห่งจักรวรรดิ อาซาลิกที่สองแห่งอิชเตีย

เลสเซดรา ธากัส เสนาบกลาโหม ทาวิซรีน อิม เออรา เสนาบดีคลัง

คลอร์ฮ์ อัดจ์วา รุปัธ อัครมหาเสนาบดี ราชอาณาจักรเนียวะฮ์ ซิสโรค ทริเว ราชบัญฑิต

รุฮ์นา วาลกุฮ์ มงกุฏราชกุมารีราชอาณาจักรเนียวะฮ์


Amamiya

สมาชิกสภาผู้ตรวจการ

สมาพันธรัฐเอเชียตะวันออก

“มันไม่ดีหรือที่พวกเราจะมีเพื่อนร่วมทาง?” ลำ�บากน่าดูนะครับนั่น ท่านอะมะมิยะไม่คิดเลยนะครับว่าจะได้สัมพาษณ์ผู้ ตรวจการอย่างท่าน ค่ะ จะว่ า ไปปกติ นี่ ค นไม่ ค่ อ ยนึ ก ถึ ง ท่ า นในฐานะของ ส่วนหนึ่งของโครงการเซแกนเลยนะครับถ้าเทียบ กับท่านมินะคะตะ ก็นะ หลังจากนั้นกิฉันเปลี่ยนไปทำ�งานหลาย ด้านมากๆก่อนจะได้เป็นผู้ตรวจการนี่ แถมทรินิตียุค นั้นไม่ค่อยให้เครดิต RHEA เท่าไหร่อีก อีกอย่างดู รูปฉันตอนนั้นกับตอนนี้คนดูออกว่ามันคนเดียวกัน มีสักกี่คนกันล่ะถ้าไม่เอะใจเรื่องชื่อค่ะ (ดูรูปเก่า) ก็เปลี่ยนไปมากเลยนะครับ เปลี่ยนหมดต่างหากค่ะ ตอนนั้นนั้นใช้เป็น รุ่น Talos-2 ตอนนี้นี่เป็น Karakuri-6 มนุษย์คง ไม่ค่อยเข้าใจนะ ถ้าอธิบายก็เหมือนเทียบเกวียนกับ ยานอวกาศละมั้งคะ แล้วนี่ท่านเฝ้าสถานีอวกาศคนเดียวตั้ง 5 ปีนี่ไม่ เบื่อบ้างเหรอครับตอนนั้น ก็นิดหน่อยนะคะ ถึงสถานีมีเน็ตควอนตัมให้ ใช้แต่มันถูกสกรีนหนักจนทำ�อะไรไม่ค่อยได้ หลังๆก็ เลยดักฟังวิทยุของอดาเมฮ์เล่นๆแทน ซึ่งก็เจออะไร ประหลาดๆเยอะเลยละ อย่างละครวิทยุที่บนโลกไม่มี แล้วอะไรงี้ แต่กว่าจะฟังรู้เรื่องนี่ฉันต้องไปเทียบ ศัพท์กับที่อากัวบันทึกไว้เมื่อห้าพันปีก่อนอีกที

48

ก็นะ 5,000 ปีน่ะมันเพียงพอที่จะเปลี่ยน ภาษานึงให้กลายเป็นอีกภาษาไปได้ แถมคุณภาพ สัญญาณวิทยุของอดาเมฮ์ก็เลวร้ายสุดๆอีก ตอนที่ ท่ า นมิ น ะคะตะติ ด ต่ อ มานี่ คุ ณ รู้ สึ ก อย่ า งไร บ้างหรือครับ ตอนนั้นฉันรู้สึกอย่างกับโดนผีหลอก ทุกคน คิดว่าจุนเขาตายไปตั้งแต่ตอนยานระเบิดนั่นแล้ว ฉัน พยายามตรวจเทียบเสียงกับข้อมูลเก่าจนแน่ใจว่า ตัวจริงแน่ก่อนติดต่อกลับค่ะ แล้วตอนได้ลงไปอดาเมฮ์นี่รู้สึกยังไงบ้างหรือครับ ชอบมากๆเลยละค่ะ ที่นั่นเป็นอีกโลกหนึ่ง แท้ๆ ทุกอย่างมีสเน่ห์ไปหมด ทั้งบ้านเมืองผู้คน ถึง ตอนนั้นชาวอดาเมฮ์จะมองฉันแปลกๆก็เถอะค่ะ แต่ ก็มีลิซาที่เป็น RHEA เหมือนกันกับอาเวที่เป็นชา วอากัว เป็นเพื่อนตัวประหลาดในคณะฑูตก็ทำ�ให้ รู้สึกมั่นใจขึ้นมามาก...อุ้ย ขอโทษนะคะฉันไม่สมควร พูดแบบนี้ ไม่เป็นไรครับสำ�หรับท่านแล้วอยากให้โลกกับอดา เมฮ์ไปในทิศทางไหนหรือครับ ก็อยากให้เป็นแบบนี้ต่อไป ทั้งสองพิภพตอน นี้ต่างพึ่งพากันและกัน มันไม่ดีหรือคะที่พวกเราจะมี เพื่อนร่วมทาง? ขอบคุณมากครับที่ให้สัมภาษณ์ ไม่เป็นไรค่ะ




FOR OUR SURVIVAL

51


เรามีสองความเป็นไปได้ ไม่ว่าเราโดดเดียวในจักรวาลหรือไม่ ทั้งสองอย่างนั้นน่ากลัวเท่ากัน อาร์เธอร์ ซี. คลาร์ก 1917-2008

แม้ว่าเราจะได้คำ�ตอบของคำ�ถามนั้นแล้ว แต่เราจะเตรียมการอย่างไร เพื่อรับมือความน่าสะพรึงกลัวที่รอเราอยู่

52


WE HAVE COME FAR

หลาย

ครั้งความกลัวเกิดจากสิ่งที่ เราไม่รู้ แต่บางครั้งสิ่งที่เรารู้ก็ก่อให้เกิดความ กลัวได้เช่นกัน ภายหลังการรติดต่อครั้งแรก สิ่งที่จุด ประกายนั้นไม่ใช่แค่ความหวัง แต่ความกลัวก็ ถูกจุดด้วยเช่นกัน เมื่อทราบถึงจุดจบอันเลว ร้ายของชาวอากัวที่พลิกจากจักรวรรดิที่ครอง พิภพนับพัน จนเหลือรอดมาถึงโลกแค่ 3 คน จากประชากรสูงสุดนับล้านๆเมื่อหลายพันปีก่อน ก็ ทำ � ให้ พ วกเราหวาดวิ ต กถึ ง อำ � นาจที่ ถึ ง ขั้ น สามารถทำ�ลายล้างดาวเคราห์ทั้งดวงได้ และ ความกังวลที่มีคนนำ�เราไปก่อนหน้าไกลนับพัน นับหมื่นปีอยู่ที่ภายนอกนั้น ก็ทำ�ให้พวกเราต้อง รีบหาทางป้องกัน เพื่อไม่ให้ชะตากรรมนั้นตกแก่ พวกเรา และความกลัวนั้นก็เป็นจริงเมื่อสงคราม ระบบสุริยะมาถึง แทบทุกอย่างที่พวกเราเตรียม การไว้นั้นแทบไร้ประโยชน์ พวกเราได้แต่เฝ้า มองและหลบลู ก หลงจากการรบกั น ระหว่ า ง เหล่าอารยธรรมอวกาศต่างๆ ในเขตระบบสุริยะ ของเรา แม้จะรบกันแค่ปีกว่าๆ แต่ความเสีย หายต่อโลกนั้นมหาศาล ยอดผู้เสียชีวิตนั้นสูง ถึง 5 พันล้านคน หรือครึ่งหนึ่งของประชากร มนุษย์ก่อนสงคราม ผลที่ตามมาไม่ได้จบแค่นั้น ความวุ่นวายเกิดขึ้นโดยทั่ว สหภาพทวีปอเมริกา (UCA) เกือบล่มสลายและเสียตำ�แหน่งผู้นำ� สหประชาชาติ ทรินิตีเกิดการรัฐประหาร สหภาพ เส้นศูนย์สูตรแม้ได้รับผลกระทบน้อย แต่ก็เกิด วิ ก ฤตเศรษกิ จ จากการที่ ต้ อ งฟื้ น ฟู โ ครงสร้ า ง ขนส่ ง อวกาศทั้ ง หมดที่ ถู ก ทำ � ลายระหว่ า ง สงคราม โชคยังดี ที่ทางอดาเมฮ์ได้ยื่นมือเข้า มาช่วยอย่างเต็มที่ ทำ�ให้การฟื้นฟูเป็นไปอย่าง รวดเร็ว โดยที่ทางนั้นก็ได้ทั้งความรู้และเงินทุน จนพัฒนาตามโลกทันในทุกด้าน และได้กลายเป็น พันธมิตรสำ�คัญกับพวกเราที่ต่างพึ่งพากันและ

กัน แต่ในแง่ดี สิ่งที่เกิดขึ้นก็ทำ�ให้พวกเรา สามารถรวมตัวกันได้ ก่อนสงครามระบบสุริยะ สหภาพมหาอำ�นาจทั้ง 3 อยู่ในสภาพตึงเครียด ถึงขั้นเสี่ยงเกิดสงครามโลกอีกครั้ง แต่ภายหลัง สงครามทุกฝ่ายต่างมีท่าทีเป็นมิตรขึ้น นำ�ไปสู่ การก่อตั้ง กองกำ�ลังร่วมป้องกันระบบสุริยะ หรือ SSDA (Solar System Defense Aliance) เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการเช่นนั้น อีก โดยได้ประยุคใช้ข้อมูลที่ได้มาจากสงคราม ระบบสุริยะมาใช้งาน แม้ภายหลังปฏิบัติการดับตะวัน ที่เป็น ครั้ ง เดี ย วที่ ร ะบบป้ อ งกั น ระบบสุ ริ ย ะถู ก ใช้ ง าน เต็มรูปแบบ แต่ก็จบลงด้วยสัญญาสันติภาพ กันนานาอารยธรรมที่ทำ�ให้พวกเราปลอดภัยขึ้น มาก แต่ก็ยังไม่ปลอดภัยโดยสมบูรณ์ อวกาศ นั้นกว้างไกลกว่าที่เราคิด ที่เราทำ�สัญญาด้วยนั้น ก็ไม่ใช่ทั้งหมด และแม้แต่สำ�หรับพวกเขา ก็ยังมี อารยธรรมอีกมากมายที่พวกเขาก็ไม่รู้จัก เมื่อ รวมเขตอวกาศที่รู้จักนั้นก็กินรัศมีแค่ราวๆพันปี แสง เมี่อเทียบกันขนาดทางช้างเผือกที่ใหญ่ราว สองแสนปีแสง และเขตที่ถูกสำ�รวจจนทั่วแล้วก็ น้อยกว่านั้นมาก พวกเราไม่มีทางบอกได้เลยว่า พวกเขาจะเป็นมิตรหรือไม่แต่อย่างใด สิ่งที่เรา ทำ � ได้ จึ ง มี แ ต่ เ ครี ย มการรั บ มื อ กั บ ทั้ ง สิ่ ง ที่ เ รารู้ และสิ่งที่เราไม่รู้เท่านั้น แต่ทางที่ดีที่สุด พวกเราควรหาทางที่จะ เป็ น มิ ต รกั บ ทุ ก ฝ่ า ยและก้ า วไปข้ า งหน้ า ด้ ว ยกั น และนั่นคือการป้องกันที่ดีที่สุด เมื่อเผชิญหน้า กับสิ่งที่เหนือกว่าความรับรู้ของเรา

53


Fang-Mei

ผู้บัญชาการกองอวกาศไกลที่ 1 กองกำ�ลังร่วมป้องกันระบบสุริยะ

Ling

“พวกเราสามารถร่วมมือกันได้” สร้างความลำ�บากในการสะสมกำ�ลังและพัฒนาเพื่อ ให้ทัดเทียมกับพวกเขาที่นำ�หน้าเราไปหลักพันปี จำ� สงครามระบบสุริยะ​ได้ไหมคะ?  ท่านนายพลครับตอนนี้นี่ความพร้อมในการ ป้องกันโลกเป็นอย่างไรบ้างครับ

จากชื่อฟังดูยิ่งใหญ่ แต่จริงๆมันแค่เศษเสี้ยวเดียว ของสงครามระดั บ ทางช้ า งเผื อ ก ที่ พ วกเราแทบ ทำ�อะไรไม่ได้เลย  กองทัพของโลกเกือบทั้งหมดถูก ทำ�ลายล้างในไม่กี่เดือนแรก ส่วนที่เหลือคือสงคราม ของอารยธรรม​อื่นตีกันเองโดยใช้โลกเป็นสนามรบ  แล้ ว พวกเราได้ แ ต่ ห ลบลู ก หลง มั น ไม่ เ หมื อ นหนั ง พวกเราไม่ มี โ อกาสสู้   รู้ ไ หมคะอะไรที่ เ ป็ น เรื่ อ ง ธรรมดาของสงครามอวกาศเต็มรูปแบบคืออะไร

ตอนนี้นะคะ แนวป้องกันที่เรามีขยายไปถึงวงโคจร ของดาวเสาร์   และความสามารถการตรวจจั บ ครอบคลุ ม ทั่ ว เมฆออร์ ท รอบระบบสุ ริ ย ะ ไม่ มี ย าน จากที่ไหนสามารถเปิดรูหนอนเข้ามาในระบบสุริยะได้ โดยที่เราไม่รู้​  โดยทั้งสามสหภาพหลักของโลกได้ร่วม มือและแบ่งหน้าที่กันดูแลป้องกับจุดยุทธศาสตร์​ทั่ว ระบบสุ ริ ย ะ ​ เ พื่ อ ความปลอดภั ย ของมนุ ษ ย​ ช าติ ทั้ ง มวล

ไม่ทราบครับ

เรื่องความร่วมมือระหว่างสหภาพ ในฐานะ ที่ท่านเป็นผู้ประสานงานพบปัญหา​อะไรบ้างหรือไม่ ครับ

การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ค่ะ จริงหรือครับ!

ก็ มี บ้ า งนะคะ แต่ จ ะเป็ น เรื่ อ งแนวคิ ด ในการรบกั บ การออกแบบยาน  ที่ทำ�ให้การวางยุทธศาสตร์​เป็นไป อย่างยากลำ�บาก แต่ในด้านบุคคลดิฉันเชื่อว่าจากทั้ง สงครามระบบสุริยะ​ทำ� ให้พวกเราสามารถร่วมมือกัน ได้  และสมัยปฏิบัติ​การ​ดับตะวันปี 2098 ก็ได้พิสูจน์​ เรื่องนั้นแล้ว จากการที่ตอนนี้พวกเราได้เจริญ​ไมตรีกับ นานาอารยธรรม​ส่งผลกระทบอะไรบ้างหรือเปล่า ครับ

อั น นี้ เ คยไปถามมาหลายอารยธรรมแล้ ว ให้ คำ � ตอบคล้ า ยๆกั น หมดค่ ะ  สมั ย จั ก รวรรดิ อ ากั ว มี อารยธรรมอวกาศเป็ น ร้ อ ย แต่ ต อนนี้ เ หลื อ แค่ หยิ บ มื อ  สำ � หรั บ พวกเขาการยึ ด ครองมั น ไม่ คุ้ ม ค่ า  ทรัพยากรพวกเขาไปหาที่อื่นเอาก็ได้ ถ้าอีกฝ่ายไม่ ยอมแพ้  พวกเขาจะเลือกที่จะทำ�ลายทุกสิ่งมากกว่า  กรณีอากัวก็เป็นตัวอย่างให้ดูแล้ว และนั่นคือสิ่งที่ เราต้องหลีกเลี่ยงถึงที่สุด

ก็ พ อตั ว เลยค่ ะ  อย่ า งแรกคื อ พวกเราหวาดระแวง​ น้อยลงเพราะท่าทีของพวกเขาที่ส่วนใหญ่ค่อนข้าง จะเป็น​มิตร  ไม่เหมือนที่สื่อชอบจินตนาการ​กัน  แต่ก็

54

จำ�ได้สิครับ

น่ากลัวนะครับนั่น  เป็นเกียรติ​อย่างยิ่งที่ได้ สัมภาษณ์​ท่านครับ




A LIMIT

SKY IS NO MORE

แต่เดิมนั้นมีเพียงคนที่ถูกคัดเลือกมาเป็นอย่างดีเท่านั้นที่จะได้ออกนอกโลก

จนถึงปัจจุบันที่ใครๆก็สามารถออกนอกโลกได้ง่ายๆด้วยลิฟต์อวกาศทั่วโลกที่ทำ�ให้ ค่าใช้จ่ายในการเดินทางต่ำ�ลงจนใกล้เคียงกับเครื่องบิน และแทบไม่มีข้อจำ�กัดอีกต่อไป และการติดต่อกับอดาเมฮ์และนานาอารยะธรรมก็เป็นแรงกระตุ้นให้เกิดการค้าระหว่างพิภพ ทำ�ให้ทุกอย่างพัฒนาไปอย่างรวดเร็วกว่าที่เคยเป็นมาตั้งแต่ครั้งพวกเราออกนอกโลกครั้งแรก เราใช้เวลาเกือบร้อยปีกว่าจะสร้างจรวดที่ใช้ได้ใหม่อย่างสมบูรณ์ แต่เราใชเวลาแค่ไม่กี่สิบปี ในการสร้างลิปต์เกือบสิบตัว ทั้งบนโลก ดวงจันทร์ ดาวอังคาร และอดาเมฮ์ เป็นโครงข่ายระบบขนส่งขนาดยักษ์ และเราพร้อมแล้วที่จะก้าวสู่ขั้นต่อไป ที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิม เพื่ออนาคตของมนุษยชาติ และจักรวาลที่รายล้อมพวกเรา

57



Construction SCHEDULE ต้นแบบเทคโนโลยี 2083-2105 [เสร็จสิ้น]

เตรียมวงโคจร

2098-2102 [เสร็จสิ้น]

ก่อสร้าง

2110-2350 [กำ�หนดการ]

INFO

จากความต้ อ งการเดิ น ทางและขนส่ ง ระหว่างพื้นโลกกับอวกาศที่มากขึ้นทุกวัน และจะมากขึ้นอีกในอนาคตเนื่องจากโลกของ 2160 [กำ�หนดการ] เราได้ เ ริ่ ม ติ ด ต่ อ กั บ นานาอารยธรรมในทางช้ า ง เผือก ทำ�ให้โครงสร้างพื้นฐานที่เรามีอยู่นั้นไม่เพียง พอ จึงนำ�ไปสู่โครงการไดสัน โครงการทางวิศวกรรมการ 2350 [กำ�หนดการ] ขนส่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ ด้วยระบบลิฟท์อวกาศ ขนาดยั ก ษ์ พ ร้ อ มวงแหวนรอบโลกที่ ร องรั บ ผู้ โ ดยสารได้ ห ลั ก แสนถึงล้านต่อวัน

เปิดให้บริการบางส่วน

เปิดให้บริการทั้งระบบ

โดยระยะทดลองโดยสร้ า งระบบวงแหวนรอบดวงจั น ทร์ นั้นได้เสร็จสิ้นไปเมื่อปี 2105 ที่ผ่านมา และขณะนี้กำ� ลังเตรียมการสำ� หรับ ระบบจริงที่จะใช้กับโลก โดยทุกฝ่ายต่างทำ�การพัฒนาเทคโนโลยีที่จำ�เป็นกันอย่าง สุดความสามารถ แม้ว่ากำ�หนดเสร็จสิ้นจะอีกเป็นร้อยปีก็ตามแต่โครงสร้างบางส่วน สามารถให้บริการได้ก่อนหน้านั้น โดยกำ� หนดว่าภายใน 20 ปีหลังเริ่มการก่อสร้างจริง ซึ่งคาดการณ์ไว้ว่าจะเป็นช่วงต้นทศวรรษ 2110 และจะเริ่มสร้างก่อน 2 หอคอยจาก 4 ที่ วางแผนเอาไว้ โดย 2 หอคอยแรกนั้นได้ชื่ออย่างเป็นทางการว่า Terra Magna ตั้งอยู่บริเวณ เกาะบอร์เนียว ประเทศอินโดนีเชีย (ภาพจำ�ลองหน้าถัดไป*) และ Solar Ultima ที่บริเวณที่ราบ อเมซอน ประเทศบราซิล โดยทั้ง 2 หอจะอยู่ด้านตรงข้ามของโลกกันพอดี *การออกแบบยังไม่ถึงที่สิ้นสุดอาจมีการเปลี่ยนแปลงเมื่อก่อสร้างจริง

59


EPILOUGE

60


HOW FAR WE WILL GO

จากคำ�ถามว่า “เรามาไกลเพียงใด” ก็มีอีกคำ�ถามที่มาคู่กัน “เราจะไปได้ไกลแค่ไหน” ตราบใดที่จักรวาลยังเหลือสิ่งให้เราค้นพบ การเดินทางของพวกเรายังไม่จบลง เมื่อเทียบกับหลายอารยธรรมนอกโลก เราเพิ่งหัดเดินเท่านั้น บทบาทของมนุษยชาติในเวทีแห่งดวงดาวนับอสงไขยนี้ยังมีรอเราอยู่​่อีก พวกเราต้องอยู่ให้ไดนานกว่านี้ ไม่ว่าโลกถึงจุดจบ ดวงอาทิตย์ดับสลาย ไม่ว่าอย่างไรอารยะธรรมของมนุษย์ต้องดำ�รงอยู่ให้ไดเหนือบททดสอบแห่งกาลเวลา


LUNAR COLONIaL COUNCIL

IN ASSOCIATION WITH

PATHFINDER CORP

水橋土工事

MIZUBASHI HEAVY INDUSTRIES



WE HAVE COME FAR


Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.