Editor, Letter
ยิ้ม รับ ปัญหา ตามธรรมชาติของฤดูกาลเมื่อหมดจากฤดูฝนก็จะก้าวเข้าสู่ฤดูหนาว ซึ่งอาจจะเป็น ฤดูแห่งความสุขของใครหลายคน เพราะนอกจากอากาศจะเย็นสบายแล้ว ช่วงนี้ยังเป็นช่วง เวลาแห่งการเตรียมงานเฉลิมฉลอง และการวางแผนพักผ่อนในช่วงสิ้นปี เพื่อให้สมกับที่ ได้ ทำงานหนักกันมาตลอดทั้งปี อย่างไรก็ตามการปฏิบัติหน้าที่ ในฐานะข้าราชการที่ดีก็อาจจะ ต้องพบเจอกับอุปสรรคและปัญหาบ้างในบางครั้ง แต่การที่เรายิ้มให้กันเมื่อเกิดปัญหาและแก้ ปัญหาด้วยสติปัญญาอย่างรอบคอบ ก็ยังคงเป็นวิธีหนึ่งที่จะช่วยให้อุปสรรคและปัญหา ทั้งหลายผ่านพ้นไปได้ด้วยดี กิจกรรมสำคัญๆ ในเดือนพฤศจิกายนนี้ อาทิ นายราฆพ ศรีศุภอรรถ อธิบดีกรม ศุลกากร เป็นประธานในพิธีอัญเชิญผ้าพระกฐินพระราชทาน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ประจำปี 2556 น้อมนำมาถวายแด่พระภิกษุสงฆ์จำพรรษาที่วัดจุฑาทิศธรรมสภารามวรวิหาร อำเภอเกาะสีชัง จังหวัดชลบุรี พิธีถวายผ้าพระกฐินพระราชทานกระทรวงการคลัง ประจำปี 2556 ณ วัดชัยพฤกษมาลาราชวรวิหาร เขตตลิ่งชัน กรุงเทพฯ พิธีลงนามบันทึกความเข้าใจ ระหว่างกระทรวงการคลัง กับกรมศุลกากร กรมสรรพสามิต และกรมสรรพากร เพื่อเพิ่ม ประสิทธิภาพการบริหารจัดเก็บภาษีอากร ณ ห้องประชุมวายุภักษ์ 4 กระทรวงการคลัง กรม ศุลกากร ร่วมพิธีสวดพระอภิธรรม งานบำเพ็ญกุศลพระศพสมเด็จพระญาณสังวรสมเด็จ พระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ณ วัดบวรนิเวศวิหาร กิจกรรมปกป้องสังคม เช่น กรม ศุลกากรจับกุมยาไอซ์ มูลค่าประมาณ 22 ล้านบาท การจับกุมชายชาวปากีสถาน 2 ราย ลักลอบนำเข้าเฮโรอีน มูลค่าประมาณ 3.03 ล้านบาท การจับกุมขบวนการค้าสัตว์ป่าข้ามชาติ สัตว์ป่าคุ้มครองประเภทตัวนิ่มมีชีวิต จำนวน 122 ตัว มูลค่ากว่าล้านบาทกิจกรรมเพื่อสังคม (CSR) และกิจกรรมเชื่อมสัมพันธ์ระหว่างองค์กร กรมศุลกากรมอบของกลางวิทยุสื่อสาร ยี่ห้อ ICOM รุ่น IC-V8 พร้อมแท่นชาร์ต ให้แก่กองทัพภาคที่ 1 กองอำนวยการรักษาความ มั่นคงภายในราชอาณาจักร จำนวน 174 ชุด จำนวน 50 ชุด และฝ่ายส่งกำลังบำรุง ศูนย์ ปฏิบัติการกองทัพบก รวมทั้งสิ้น 274 ชุด เพื่อใช้ ในการสนับสนุนการปฏิบัติงานของกองทัพ The 14th Regional Customs Football Tournament, Guangdong Sub-Administration of Customs General Administration of China Customs : GACC ระหว่างวันที่ 11-15 พฤศจิกายน 2556 ณ เมืองกว่างโจว สาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งทีมนักกีฬาของเราคว้า รางวัลชนะเลิศอันดับ 3 มาได้ เป็นต้น เดือนนี้อากาศเริ่มหนาวเย็นลงทั่วทั้งประเทศ โดยเฉพาะในภาคเหนือ ส่วนภาคอื่นก็มี ฝนตกเป็นระยะๆ รวมถึงมีข่าวการเกิดน้ำท่วมที่ภาคใต้ พวกเราชาวศุลกากรที่ต้องปฏิบัติ หน้าที่อยู่ ในทุกภูมิภาคของประเทศ ก็ควรที่จะต้องระวังรักษาสุขภาพและความปลอดภัยของ ตนเองให้ดีด้วยนะคะ นางไพรินทร์ ศุภกรโกศัย บรรณาธิการบริหาร
กองบรรณาธิการ
ฝ่ายประชาสัมพันธ์ ส่วนสื่อสารองค์กร นางปุ ณ ณภา ตอสุ ว พรรณ / นายภาสวร ใจซื่ อ / น.ส.อุ ษ ณี ย์ ม่ ว ยอารี ย์ / นายวศิ น ทร จั น ทร์ สุ ข / นายประดิ ษ ฐ์ เพชรดา / นางกานต์ ต า โพธิ์ เ ชี ย งราก / นายทวี แก้ ว จรั ส / นางชลวรรณ สุ ข เมื อ ง / นายศรัณย์ ศรน้อย / นายบูรภัทร์ แสวงพันธ์ / นายสุระ ยุระเทพ / น.ส.ผการัตน์ ประจงพันธุ์
2
จุ ลสารศุ ลกากร
E-mail : prcustoms@gmail.com โทรศัพท์ : 0 2667 7335 โทรสาร : 0 2667 7332 www.facebook.com/customsdepartment.thai Read online : www.customs.go.th/เกี่ยวกับเรา/จุลสาร Customs Call Center : 1164
สารบัญ
AEC Inside
จุดแข็งจุดอ่อนของประเทศในอาเซียน และโอกาสสำหรับประเทศไทย
Customs Shutter Customs Inside รายงานเรือ และบัญชีสินค้า สำหรับ (e-Manifest)
Customs Issue การนำเข้า และส่งออก สินค้าทางไปรษณีย์
Customs Frontier
ด่านศุลกากรเขมราฐ เมืองท่าการค้า เชื่อมโยงสายสัมพันธ์ ไทย-ลาว
Customs Social Protection Customs Variety
ทีวีดิจิตอล (Digital tv) คืออะไร
Customs Travel ไปมาแล้ว ภูทับเบิก
Customs Sport ราชสีห์คลองเตย
Customs Story ปั่นเบาๆ เรารักจักรยาน
customs bulletin
4 8 14 18 23 26 28 31 32 34 3
AEC INSIDE ศุลกากรเปิดประเทศ AEC หรือ Asean Economics Community คือการรวมตัวของชาติใน Asean 10 ประเทศ คือ ไทย พม่ า ลาว เวี ย ดนาม มาเลเซี ย สิ ง คโปร์ อิ น โดนี เ ซี ย ฟิลิปปินส์ กัมพูชา และบรูไน โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อเพิ่ม อำนาจในการต่อรอง – แข่งขันกับประเทศคู่ค้าเพื่อผล ประโยชน์ทางเศรษฐกิจต่างๆ ของประเทศสมาชิก ทั้งนี้ Asean จะรวมตัวเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน และมีผล ณ วั น ที่ 31 ธั น วาคม 2558 ซึ่ ง จะทำให้ มี ค วาม เปลี่ยนแปลงกับสภาพเศรษฐกิจ และสังคมของประเทศไทย เป็นอย่างมาก ดังนั้น เราจึงควรมารู้จักประเทศต่างๆ ใน กลุ่มสมาชิกที่เราชาวศุลกากรทุกคนต้องรู้ เพื่อช่วยสร้าง ความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจ และเพิ่มความสามารถใน การแข่งขันของอาเซียนในตลาดโลก
4
จุ ลสารศุ ลกากร
AEC Inside จุดแข็งจุดอ่อนของประเทศในอาเซียน และโอกาส สำหรับประเทศไทย
ประเทศในกลุ่มอาเซียนมีทั้งหมด 10 ประเทศ คือ อินโดนีเซีย สิงคโปร์ กัมพูชาเวียดนาม ลาว พม่า ฟิลิปปินส์ บรูไน มาเลเซีย ไทย ซึ่งแต่ละประเทศ ย่อมมีจุดแข็งจุดอ่อนของตัวเอง สำหรับประเทศไทยนั้นสามารถนำจุดแข็ง จุดอ่อนของประเทศต่างๆในอาเซียนมาเป็นประโยชน์ ในทางการค้าได้ ดังนั้นใน บทความนี้เราจะมาวิเคราะห์จุดแข็งจุดอ่อนของแต่ละประเทศเพื่อเป็นโอกาส ทางการค้าสำหรับประเทศไทย 1. ประเทศอินโดนีเซีย ประเทศอิ น โดนี เ ซี ย มี ข นาด ใหญ่ เ กื อ บ 4 เท่ า ของประเทศไทย ดั ง นั้ น การลงทุ น ส่ ว นใหญ่ ใ นประเทศนี้ จึ ง เน้ น ไปที่ ทรัพยากรในประเทศเป็นหลัก จุดแข็ง: เป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดเมื่อเทียบ กับประเทศอาเซียนด้วยกัน อินโดนีเซียเป็นประเทศที่มี จำนวนประชากรมากที่ สุ ด ในประเทศสมาชิ ก อาเซี ย น (จำนวนประชากร 250 ล้านคน มากเป็นอันดับ 4 ของ โลกและอันดับหนึ่งใน ASEAN) อินโดนีเซียจึงเป็นตลาด ขนาดใหญ่ที่มีจำนวนผู้บริโภค (และเป็นมุสลิม) มากที่สุด มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุด มีทรัพยากรธรรมชาติจำนวน มากโดยเฉพาะป่าไม้ ถ่านหิน น้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ โลหะ ต่างๆ มีท่าเรือขนาดใหญ่กระจายอยู่ทั่วไป และมีระบบ ธนาคารที่ค่อนข้างแข็งแกร่ง จุ ด อ่ อ น: อิ น โดนี เ ซี ย ให้ สิ ท ธิ ป ระโยชน์ ใ นการ ลงทุนค่อนข้างน้อย มีห้องเย็นเพื่อเก็บรักษาสินค้าจำนวน น้ อ ย และคุ ณ ภาพไม่ ดี ม ากนั ก ทำให้ สิ น ค้ า เกิ ด ความ เสียหาย อินโดนีเซียเป็นประเทศที่เป็นหมู่เกาะ มีเกาะเล็ก เกาะน้อยจำนวนมากยากที่จะปกครอง ยังต้องพั ฒนา ระบบโครงสร้ า งพื้ น ฐาน และสาธารณู ป โภคอี ก มาก โอกาส สำหรับประเทศไทย: อินโดนีเซียเรียกเก็บภาษีนำ เข้าจากไทยในอัตราค่อนข้างต่ำ ชาวอินโดนีเซียนิยมซื้อ อาหารรับประทานและนิยมซื้อสินค้าประเภทอาหารเป็น ของฝาก
2. ประเทศสิงคโปร์ สิงคโปร์เป็นประเทศที่มีพื้นที่ น้ อ ยที่ สุ ด ในกลุ่ ม ประเทศอาเซี ย น ไม่ค่อยมีทรัพยากรธรรมชาติ มีประชากร 5 ล้านกว่าคน แต่ มี อั ต รารายได้ เ ฉลี่ ย ต่ อ หั ว มากที่ สุ ด ในกลุ่ ม สมาชิ ก อาเซียนด้วยกัน ตอนนี้ทางสิงคโปร์กำลังเน้นการขยาย ระบบเศรษฐกิ จ มายั ง ภาคบรกิ า รมากขึ้ น และลดการ พึ่งพาการส่งออกสินค้า จุดแข็ง: นโยบายการค้าเสรี ไม่มีการเรียกเก็บ ภาษี น ำเข้ า ยกเว้ น สิ น ค้ า 4 รายการคื อ เครื่ อ งดื่ ม แอลกอฮอล์ บุหรี่ น้ำมันปิโตรเลียม รถยนต์ เป็นแหล่ง กระจายสิ น ค้ า ไทยไปสู่ ป ระเทศต่ า งๆ ทั่ ว โลก ประเทศ สิ ง คโปร์ ตั้ ง อยู่ ใ นจุ ด ยุ ท ธศาสตร์ ที่ ส ำคั ญ และเป็ น ศูนย์กลางการเดินเรือ (เอื้อต่อการขนส่ง) ชำนาญด้าน การจัดการทรัพยากรบุคคล และเป็นศูนย์กลางทางการ เงินระหว่างประเทศ รวมถึงการมีแรงงานที่มีทักษะ มีการ ศึกษาสูง ภาษาดี และการเมืองมีเสถียรภาพ จุดอ่อน: ตลาดผู้บริโภคมีเพียง 5.08 ล้านคน ทำให้ส่วนแบ่งตลาดสินค้าไทยต้องแข่งขันกับประเทศคู่ค้า อื่นๆ ที่สำคัญ อาทิ มาเลเซีย อินเดียและจีน เนื่องจากมี ประชากรน้อย และเป็นแรงงานที่มีทักษะ สิงคโปร์จะขาด แรงงานที่เป็นแรงงานระดับล่างและมีค่าใช้จ่ายในการ ดำเนินธุรกิจหรือค่าครองชีพค่อนข้างสูง โอกาสสำหรั บ ประเทศไทย: โอกาสสำหรั บ ผู้ ประกอบการรายย่อยในการทดสอบตลาดก่อนที่จะขยาย ตลาดส่งออกไปยังประเทศอื่นๆ อาทิ สหรัฐฯ และสหภาพ ยุโรป
Customs Shutter มอบนโยบายแก่นายด่านศุลกากร ร่วมเสวนากับผู้บริหารกระทรวง ที่ ได้รับการแต่งต้ั้ง การคลัง ร่วมเสวนากับผู้บริหารกระทรวงการคลัง นายราฆพ ศรีศุภอรรถ อธิบดีกรมศุลกากร มอบ นโยบายแก่ น ายด่ า นศุ ล กากรที่ ไ ด้ รั บ การแต่ ง ตั้ ง พร้อมประดับบ่าให้แก่ผู้ ได้รับตำแหน่งใหม่ ณ ห้อง อนุมานราชธน เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2557
86
จุ ลสารศุ ลกากร
นายนรินทร์ กัลยาณมิตร ที่ปรึกษาด้าน พัฒนาระบบสิทธิประโยชน์ทางศุลกากร เข้าร่วมเส วนากั บ ผู้ บ ริ ห ารกระทรวงการคลั ง ในโครงการ CCO-MOF สัญจร ครั้งที่ 2 (ภาคเหนือ) ระหว่าง วั น ที่ 18-19 กุ ม ภาพั น ธ์ 2557 ณ โรงแรม ฮอลิเดย์ อินน์ จังหวัดเชียงใหม่
Customs Shutter พิธเี ปิดด่านพรมแดนบ้านนากระเซ็ง พิธีอำลาตำแหน่ง แห่งใหม่ ด่านศุลกากรท่าลี่ ทปษ.อรอนงค์ วัชรเศรษฐกุล นายราฆพ ศรีศภุ อรรถ อธิบดีกรมศุลกากร เป็นประธานในพิธีเปิดด่านพรมแดนบ้านนากระเซ็ง แห่งใหม่ ด่านศุลกากรท่าลี่ จังหวัดเลย เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2557
นายยุทธนา หยิมการุณ รองอธิบดี พร้อม คณะผู้ บ ริ ห าร ข้ า ราชการ และเจ้ า หน้ า ที่ ก รม ศุ ล กากร ร่ ว มพิ ธี อ ำลาตำแหน่ ง ทปษ.อรอนงค์ วัชรเศรษฐกุล ที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบควบคุม ทางศุลกากร ณ บริเวณห้องโถง อาคาร 1 เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2557
customs bulletin
97
Customs Travel
ภูทบั เบิก เป็นยอดเขาทีส่ งู ทีส่ ดุ ในจังหวัดเพชรบูรณ์
เพิ่งเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าไปสำรวจท่องเที่ยวได้ ไม่นานนัก แต่ก็สามารถสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับผู้ที่ ไปเยือนได้เป็น อย่างมาก จนกลาย 1 ใน UNSEEN THAILAND ที่คุณไม่ ควรพลาดการไปเยือน ด้วยระดับความสูง 1,768 จากระดับ น้ำทะเลปานกลาง อุณหภูมิที่หนาวเย็นทั้งปีบนยอดภู และไร่ กะหล่ำปลีที่กว้างใหญ่สุดลูกตากินบริเวณยอดภูหลายลูก
ภู ทับเบิกเป็นชื่อของ หมู่บ้านม้งทับเบิก ซึ่งเป็นหมู่บ้านชาวเขาเผ่า ม้ง บนภูเขาสูงของจังหวัดเพชรบูรณ์ ในตำบลวังบาล อำเภอหล่มเก่า ซึ่ง ห่างจากตัวอำเภอประมาณ 40 กม. และห่างจากตัวจังหวัดเพชรบูรณ์ ประมาณ 100 กม. ชาวม้งที่นี่มีอาชีพทำการเกษตรเป็นหลัก พืชผักที่มี การปลูกมากที่สุด ก็คือกะหล่ำปลี ซึ่งมีการจัดสรรที่ดินทำกินสำหรับการ ปลูกกะหล่ำปลีหลายพันไร่บนยอดเขาสูง ทำให้ ในช่วงฤดูฝน มีกะหล่ำปลี ผุดขึ้นละลานตาเต็มภูเขา โดยเฉพาะในช่วงเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม และช่วงเดือน ตุลาคม-พฤศจิกายน ของทุกปี จุดเด่นที่สุดของภูทับเบิก คือ การชมวิวได้รอบทิศ 360 องศา เหนือบรรดาเมฆหมอกที่ลอยอยู่รอบๆ และมีอากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี เนื่องจากเป็นยอดเขาสูงที่สุดของเพชรบูรณ์ และปลูกแต่กะหล่ำปลีทั่วทั้ง หุบเขา ทำให้ ไม่มีต้นไม้ ใหญ่มาบดบังทัศนียภาพ และกระแสลมบน ขณะที่ ใน บางเช้าก็มีทะลหมอกขนาดใหญ่ กินบริเวณกว้างทางด้านทิศตะวันออกที่ติด กับ อำเภอหล่มเก่า ถือเป็นทะเลหมอกที่ ใกล้กับผู้ชมมากที่สุด เพราะหมอก ทั้งหมดมาออกันอยู่ด้านข้างจุดกางเต็นท์นั่นเองหมู่บ้านม้งทับเบิก ซึ่งอยู่ ด้านในเลยจากจุดชมวิว ยังเป็นแหล่งศึกษาวัฒนธรรมที่น่าสนใจ ซึ่งยังคง รักษาวิถีชีวิตตามแบบฉบับม้งดั้งเดิมไว้ นอกจากนี้ยังมีวัดป่าบ้านทับเบิก
10 8
จุ ลสารศุ ลกากร
Customs Travel เป็นจุดท่องเที่ยว และจุดชมวิวที่สำคัญภายในหมู่บ้าน เคยเป็น จุดที่ใช้รองน้ำค้างกลางหาว ที่นำไปทำน้ำพระพุทธมนต์ เพื่อ ประกอบพิธีแด่องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวใน พระราชพิธีสำคัญต่างๆ โดยวัดตั้งอยู่บริเวณริม หน้าผา ติดกับอำเภอหล่มเก่า ทำให้มองเห็นวิวใน มุมสูงได้กว้างไกลมาก บริเวณ ภูทับเบิก มีรีสอร์ทที่พักจำนวน น้ อ ย แต่ มี ที่ ส ำหรั บ กางเต็ น ท์ พั ก แรม แคมปิ้ ง จำนวนมาก เต็นท์ที่พักให้เช่า สำหรับผู้ที่ต้องการค้างคืน เพื่อสัมผัสความ หนาวเย็น หรือต้องการชมทะเลหมอกตอนเช้า มีร้านอาหาร และร้านจำหน่ายน้ำดื่มไว้รองรับนัก ท่องเที่ยว แต่หากเป็นช่วงเทศกาลสำคัญ ควรเตรียมอาหารและน้ำเอง จะสะดวกที่สุด เพราะนัก ท่องเที่ยวมีจำนวนมาก ขณะที่ร้านค้ามีไม่เพียงพอกับความต้องการ สำหรับที่กางเต็นท์บนจุดชมวิว และบริเวณไร่กะหล่ำปลี ของวิสาหกิจชุมชน หมู่บ้านทับเบิก มีค่าบริการดังนี้
เต็นท์นอน 4 คน พร้อมเครื่องนอน ราคา 650 ต่อคืน
เต็นท์นอน 2 คน พร้อมเครื่องนอน ราคา 350 ต่อคืน
นำเต็นท์มาเองคิดค่าบำรุงสถานที่ คนละ 40 บาท ต่อคนต่อคืน ส่วน ห้องน้ำสำหรับอาบน้ำ และห้องสุขา มีไว้รองรับจำนวนมาก แต่ด้วย ความที่มีอากาศหนาวเย็น และไม่มีเครื่องทำน้ำอุ่น อาจทำให้หลายคนไม่กล้าอาบน้ำ เก็บดองเค็มไว้อาบที่บ้าน เพราะในฤดูหนาว น้ำที่นี่เย็นกว่าน้ำแข็งซะอีก ลองค้างที่นี่สัก คืน จะเป็นประสบการณ์วิเศษที่จะลืมไม่ลงทีเดียว การเดินทาง บนภูทับเบิกเป็นภูเขาสูงชัน ยังไม่มีรถประจำทาง สามารถ เดินทางได้โดยทางรถยนต์ส่วนตัวเท่านั้น ซึ่งสามารถขึ้นเขาได้ทั้งรถเก๋ง และรถกระบะ รถที่จะขึ้นภูทับเิบิก ต้องตรวจเช็คความพร้อมของเครื่องยนต์ ระบบเบรค และครัชให้ดี ก่อน และมีควรมีกำลังมากกว่า 1500 ซีซี. และผู้ขับขี่ควรมีประสบการณ์ ในการขับรถขึ้น เขามาบ้างแล้วจากกรุงเทพฯ ถึง จังหวัดเพชรบูรณ์ ผ่านตัวเมืองมุ่งหน้าไปทางอ.หล่มสัก ก่อนถึงแยกพ่อขุนประมาณ 10 กม. ให้เลี้ยวซ้ายเข้าทางเลี่ยงเมืองสาย 21 (เลยปั๋ม คา ลเท็กซ์ ไป 200 ม.) ขับรถไปอีก 6-7 กม. ถึงสี่แยกกกโอ ให้เลี้ยซ้ายไปทางพิษณุโลก ตรง ไปประมาณ 1-2 กม. ถึงสี่แยกไฟแดง หากตรงไปจะขึ้นไปเขาค้อ และพิษณุโลก ให้เลี้ยว ขวา เข้าถนนสาย 2372 ตรงไป ประมาณ 13-15 กม. มีป้ายบอกทางภูทับเบิก-ภูหินร่อง กล้า ให้เลี้ยวซ้ายเข้าถนนทางหลวงหลายเลข 2331 ไปภูทับเบิก ขับไปตามเส้นทาง ซึ่ง เป็นทางขึ้นเขา ระยะทางประมาณ 17.7 กิโลเมตร รวมโค้งหักศอก ทะแยงขึ้น-ลง ได้ ประมาณ 111 โค้ง (ในช่วงอ.หล่มสัก-อ.หล่มเก่า มีป้ายบอกเส้นทางไปภูทับเบิกตลอดเส้นทาง) ระหว่างนี้ ท่านจะตื่นเต้นกับธรรมชาติด้านล่างที่สวยงามตลอดเส้นทาง ยิ่งสูงยิ่งสวย เมื่อถึง สามแยกที่มีป้ายอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า และด่านเก็บเงินค่า ธรรมเนียมอุทยานฯ ให้เลี้ยวขวา ไม่ ต้องเข้าไปในอุทยาน แล้วขับตรงไปประมาณ 1.5 กิโลเมตร จากนั้นให้เลี้ยวขวาขึ้นไปยังจุดชมวิว ขับไป ประมาณ 300 เมตร ก็จะถึงลานจอดรถ จากนั้นก็เดินเท้าประมาณ 100 เมตร ก็จะถึงจุดชมวิว...ภูทับเบิก
customs bulletin
9
Customs Variety โรคออฟฟิศซินโดรม (OfficeSyndrome) ความเร่ ง รี บ ของสั ง คมเมื อ ง และความเจริ ญ ก้าวหน้าของโลกทำให้ชีวิตมีการแข่งขันกันมากขึ้น ต้องทำงานหนัก เพื่อให้มีรายได้เพียงพอกับรายจ่าย เมื่อทำงานหนักมากขึ้นอาจส่งผล ให้เป็น “โรคติดงาน (Workaholic)” หรือ “โรคออฟฟิศซิน โดรม (OfficeSyndrome)” ซึ่งเรียกอีกอย่างว่า “โรคบ้า งาน” เดิมพบมากในชายชาวญี่ปุ่น แต่ปัจจุบันพบในสังคม ไทยแล้ว โรคบ้างานมักเกิดกับผู้ที่มีบุคลิกเป็นคนสมบูรณ์ แบบ เจ้ า ระเบี ย บ ชอบแข่ ง ขั น มี ค วามทะเยอทะยาน เอาจริงเอาจัง มีความสุขจากการทำงาน และมีจิตใจคิด วนเวียนอยู่กับการทำงาน
อาการออฟฟิศซินโดรม ที่ต้องพึงระวัง 1. อาการปวดตึงที่คอ บ่า และไหล่ หนุ่ ม สาวออฟฟิ ศ ที่ ต้ อ งนั่ ง ทำงานหน้ า จอ คอมพิวเตอร์นานๆ มักมีอาการปวด ตึง บริเวณคอ บ่า และไหล่ บางรายอาจมีอาการปวดเกร็งจนอาจหันคอ ก้ม หรือเงยไม่ ได้ก็มี…ที่อาการเบาหน่อยก็อาจจะแค่ปวดคอ บ่า ไหล่ และบริเวณสะบักหลัง หากคุณมีอาการใดอาการ หนึ่งเหล่านี้ ควรบำบัดด้วยการไปนวดคลายกล้ามเนื้อด่วน เลย อย่าปล่อยทิ้งไว้นานๆ เพราะหากอาการหนักขึ้นจะ บำบัดรักษายากขึ้นตามไปด้วย ใครที่ลองไปนวดแล้วไม่ หาย แนะนำให้ปรึกษาแพทย์เฉพาะทางจะดีที่สุด 2. อาการยกแขนไม่ขึ้น อาการนี้เกี่ยวเนื่องมาจากข้อแรก ซึ่งจะมีอาการ ปวดตึงกล้ามเนื้อตั้งแต่คอ บ่า จนถึงไหล่ และร้าวลงไปที่ แขน จนเป็นเหตุให้ยกแขนไม่ขึ้น เนื่องจากว่ามีพังผืดมา เกาะที่บริเวณสะบักและหัวไหล่นั่นเอง และบางรายอาจมี อาการชาไปที่มือหรือนิ้วมือด้วย…ใครที่มีอาการแบบนี้ควร บำบัดด้วยการไปให้แพทย์แผนไทยกดจุดเพื่อทำการสลาย พังผืด หรือประคบร้อนเพื่อให้เลือดไหลเวียนไปเลี้ยงส่วนที่ เป็ น พั ง ผื ด แข็ ง ตึ ง ให้ อ่ อ นตั ว ลงและคลายความปวดลง อาการก็จะดีขึ้น 10
จุ ลสารศุ ลกากร
3. อาการปวดหลัง เป็นอีกหนึ่งอาการยอดฮิตของออฟฟิศซินโดรม เลยล่ะ เกิดจากการที่เรานั่งทำงานติดต่อกันนานๆ หรือ งานที่ต้องยืนนานๆ โดยเฉพาะคุณสาวๆ ที่ต้องใส่รองเท้า ส้นสูงตลอดทั้งวันด้วยแล้ว ยิ่งเกิดอาการปวดหลังได้ง่าย การยกของหนักเป็นประจำหรือการออกกำลังกายหักโหม เกิ น ไปก็ เ ป็ น สาเหตุ ใ ห้ ป วดหลั ง ได้ เ ช่ น กั น โดยอาจเกิ ด อาการเคล็ด ขัด ยอก หรือปวด ตึง กล้ามเนื้อบริเวณ หลัง จนบางรายอาจไม่สามารถเอี้ยวหรือบิดตัวได้ แนะนำ ให้รีบปรึกษาแพทย์แผนไทยหรือแพทย์เฉพาะทางเพื่อบำบัด แก้ ไขอาการเหล่านี้ ให้หมดไป 4. อาการปวดและตึงที่ขา เกิดจากการนั่ง เดิน หรือยืนนานๆ จนทำให้ปวด ตึงกล้ามเนื้อและเส้นเอ็นทั่วทั้งขา บางรายปวดร้าวไปที่เข่า และข้อเท้าก็มี ซึ่งอาการเหล่านี้เกิดจากการใช้งานขาหนัก ทุกวันจนเกิดอาการล้าสะสม ซึ่งถ้าปล่อยไว้นานๆ โดยไม่ ได้ รั บ การบำบั ด แก้ ไข อาจทำให้ เ กิ ด อาการปวดร้ า วและ อาการชาลงไปที่บริเวณเท้าและปลายนิ้วเท้าได้ ทางที่ดีแม้ มีอาการเพียงเล็กน้อยก็ควรรีบทำการบำบัดโดยด่วน!
Customs Variety
5. อาการปวดศีรษะ ในแต่ ล ะวั น คนทำงานออฟฟิ ศ ส่ ว นใหญ่ จ ะเกิ ด ความเครี ย ดสะสมโดยไม่รู้ตัว จนทำให้เกิดอาการปวด ศีรษะได้ บางรายอาจเกิดจากการทำงานหนักเกินไป หรือ ต้องเดินทางขึ้นเหนือล่องใต้ตลอดเวลา เมื่อเกิดอาการ ปวดศีรษะขึ้นมา คนส่วนใหญ่จะแก้ ไขด้วยการกินยาแก้ ปวด บางรายอาจกินติดต่อกันเป็นเวลานาน ซึ่งอาการ ปวดศี ร ษะก็ จ ะหายไปชั่ ว คราว แต่ อ าจกลั บ มาทวี ค วาม รุนแรงขึ้นไปอีก ดังนั้น หากคุณมีอาการปวดศีรษะบ่อยๆ แนะนำให้ ไปพบแพทย์เพื่อตรวจเช็คและหาสาเหตุที่แท้จริง ว่าเกิดจากอะไร และรีบรักษาให้หายเสียแต่เนิ่นๆ แล้วคุณ จะมีความสุขกับชีวิตมากยิ่งขึ้น 9 วิธีสร้างภูมิคุ้มกันโรคออฟฟิศซินโดรม 1. ถ้าเป็นไปได้ ควรเลือกที่นั่งติดริมหน้าต่าง เพื่อให้ ได้แสงจากธรรมชาติบ้าง ดีกว่าต้องนั่งอยู่ ใต้แสง จากหลอดฟตลอดทั้งวัน 2. ควรเปิดหน้าต่างออฟฟิศให้อากาศได้ระบาย อย่างน้อยในตอนเช้าที่อากาศยังไม่ร้อนมาก และตอนพัก กลางวัน 3. ควรปิดเครื่องคอมพิวเตอร์หรือโน้ตบุ๊คทุก ครั้ ง ที่ ไ ม่ ไ ด้ ใช้ ง าน เพื่ อ ลดระยะเวลาในการรั บ คลื่ น แม่เหล็กไฟฟ้า ซึ่งเป็นสาเหตหนึ่งที่ทำให้เป็นโรคความดัน โลหิตสูงและความเครียด 4. หาต้นไม้ ในร่มมาปลูก เพื่อช่วยดูดซับสารพิษ และเป็นที่พักสายตาอันอ่อนหล้าจากการต้องจ้องหน้าจอ คอมพิวเตอร์นานๆ
5. ถ้าออฟฟิศคุณมีขนาดเล็ก ลองลดการใช้งาน เครื่ อ งปรั บ อากาศลงบ้ า ง บางวั น คุ ณ อาจจะเลื อ กใส่ เสื้อผ้าที่มีลักษณะบางเบา แล้วใช้พัดลมมาเปิดแทน ก็จะ รู้สึกเย็นสบายได้ และประหยัดไฟได้ด้วย 6. ควรห้ามสูบบุหรี่ในที่ทำงานโดยเด็ดขาด 7. ควรติดตั้งเครื่องฟอกอากาศ และจะดียิ่งขึ้น ถ้ามีตู้ปลาขนาดใหญ่ๆ สักตู้ เพื่อช่วยคืนสมดุลความชื้นที่ เสียไปกับเครื่องปรับอากาศ 8. หมั่นทำความสะอาดโต๊ะทำงานของคุณเอง ด้วยแอลกอฮอลเพื่อฆ่าเชื้อโรค 9. ถ้าคุณเป็นคนติดคอมพิวเตอร์หรือมีงานด่วน ที่จะต้องสะสางชนิดที่ ไม่สามารถหยุดพักได้ ก็พยายาม เตือนตัวเองให้เงยหน้าขึ้นมองออกไปไกลๆ ทุกๆ 20 นาที เพื่อบรรเทาความเหนื่อยล้าของสายตา หากมีอาการเบื้องต้นเหล่านี้ สามารถเริ่มรักษา ได้ด้วยตนเอง ปรับพฤติกรรมลดความเครียดจากการ ทำงานที่หนักเกินพอดี ด้วยการใช้เวลาทำงานกับเวลา พักผ่อนให้สมดุลกัน และควรมีการผ่อนคลายในระหว่าง การทำงาน เช่น หลับตา หายใจลึกๆ สักพัก และระหว่าง เวลาทำงานในทุก 1 ชั่วโมง ควรใช้สมอง 45 นาที แล้ว พัก 10-15 นาที หากไม่ รู้ สึ ก ดี ขึ้ น สามารถขอคำปรึ ก ษาได้ ที่ “สายด่วนสุขภาพจิต โทร. 1323 หรือปรึกษาคลินิกคลาย เครียด ที่มีอยู่ในหน่วยงานในสังกัดกรมสุขภาพจิต
customs bulletin
11