LOVE FOR ALL SEASONS
ร กทุ ั กฤดู
LOVE FOR ALL SEASONS รักทุกฤดู บรรณาธิการบริหาร
ศิวกร จินะณรงค์
กองบรรณาธิการ
ภาดล สุขสถิตย์ ศุภวรรณ นารถ สโรชา เอี่ยมสุรนันท์ สิริวรรณ อินทสร พัชรธารา สุขศิลป์วิทยา กนกพร แก่นแก้ว
ออกแบบ
ศิวกร จินะณรงค์
พิมพ์ครั้งที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ.2558 ลิขสิทธิ์ของคณะผู้จัดทำ� สงวนสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ 2537 ห้ามคัดลอก ดัดแปลง เนื้อหาส่วนใดส่วนหนึ่งของหนังสือเล่มนี้ก่อนได้รับอนุญาต
จัดพิมพ์โดย นิสิตปริญญาตรี คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ปฏิเสธไม่ได้ว่าสิ่งมีชีวิตบนโลกนี้ ล้วนมีความรัก จึงนับได้ว่า ความรักนั้นเป็น พื้นฐานที่ท�ำให้ชีวิตประกอบสร้างสมบูรณ์ แบบขึ้นมา แต่ความรักนั้นก็ย่อมประกอบ ไปด้ ว ยความรู ้ สึ ก ต่ า งๆที่ ผ ่ า นไปตามกาล เวลา ทั้งความหลงใหล ความใคร่ ความ ปรารถนา ความสุข ความสมหวัง หรือแม้ กระทั่ง ความทุกข์ ความโศกเศร้าเสียใจ ความสูญเสีย และการจากลา ทุกสิ่งเหล่านี้ จึงเป็นความรักทั้งสั้น ฤดูกาลเปลี่ยนแปลง ไปฉันใด จิตใจคนก็เปลี่ยนไปฉันนั้น หนังสือรวมเรื่องสั้นเล่มนี้ จึงได้ ประกอบด้วยฤดูกาลต่างๆที่ผู้เขียนแต่ละคน ได้ถ่ายทอดความคิดความรู้สึกต่างๆผ่านตัว อักษรมาให้ผู้อ่านทุกท่านได้ติดตามกัน ฝีไม้ ลายมือของผู้เขียนแต่ละคนสะท้อนตัวตน และเอกลักษณ์ที่มีเสน่ห์เฉพาะตัวของแต่ละ คนได้อย่างงดงามชวนติดตามเป็นอย่างยิ่ง ผมจึงอยากจะใคร่ขอฝากผลงานของผู้เขียน ทุกๆคนให้ทุกๆท่านได้ติดตามกัน ผมเชื่อ แน่ว่าทุกท่านจะได้เต็มอิ่มกับหลากหลาย อรรถรสในหนังสือเล่มนี้ รู้สึกประทับใจและ อยากหวนกลับมาอ่านอีกครั้งครับ
ศิวกร จินะณรงค์ บรรณาธิการบริหาร
สารบัญ หน้า ฤดูใบไม้ผลิ : รักไม่ร่วงโรย
7
สโรชา เอี่ยมสุรนันท์
ฤดูร้อน : ความรักของเธอในฤดูร้อน
13
สิริวรรณ อินทสร
ฤดูแล้ง : แล้งลา
25
ศิวกร จินะณรงค์
ฤดูฝน : รักสุดท้ายที่ปลายฝน
37
พัชรธารา สุขศิลป์วิทยา
ฤดูใบไม้ร่วง : Once
51
ภาดล สุขสถิตย์
ฤดูหนาว : ขอ...รักได้ไหม
69
กนกพร แก่นแก้ว
ฤดูร้อน : วันใหม่ในฤดูร้อน ศุภวรรณ นารถ
79
รักไม่ร่วงโรย สโรชา เอี่ยมสุรนันท์
ต้ น ไม้ น อกหน้ า ต่ า งก� ำ ลั ง พยายามสร้ า งใบประดั บ ตกแต่ ง ต้ น ของมัน อาจจะเพื่อปกคลุมจากสิ่งต่างๆที่จะมากระทบมันหรือเพื่อความ สวยงาม แต่ผมก็ชอบที่จะดูมัน ผมชอบที่ได้เห็นการเริ่มต้นของสิ่งใหม่ๆ มันดูสดใส มันดูเต็มไปด้วยความสุข แต่สิ่งที่ผมไม่ชอบมากที่สุดสิ่งหนึ่ง ในชีวิตคือการจากลา ผมว่ามันเป็นเรื่องที่เศร้ามากที่สิ่งที่เกิดเป็นประจ�ำ ในชีวิตประจ�ำวันของเราจะมาจากหายไป จากที่เคยเห็น กลับไม่เห็น จาก ที่เคยได้ยิน กลับไม่ได้ยิน จากที่เคยสัมผัส กลับไม่ได้สัมผัส จากที่เคยได้ กลิ่นกลับไม่เคยได้กลิ่น จากที่เคยมีแต่กลับไม่มี… แต่วันนี้สิ่งที่ผมไม่ชอบมากที่สุดกลับเกิดขึ้นจนได้ เมื่อผมต้อง บอกลากับคนส�ำคัญของผม เธอจะต้องไปท�ำงานที่กรุงเทพ ส่วนผมท�ำงาน อยู่ที่ต่างจังหวัด เธอดูท่าทางไม่สบายใจเมื่อได้รับรู้ข่าวว่าตนเองถูกย้าย งานไปท�ำที่กรุงเทพมหานคร ผมพยายามปลอบใจเธอเพื่อให้เธอสบายใจ ว่า“เทคโนโลยีเดี๋ยวนี้ทันสมัยมาก ระยะทางไม่สามารถท�ำอะไรกับความ 7
Love for all seasons รักทุกฤดู
รักของเราได้” ผมพูดไปแบบนั้น ทั้งที่ในใจผมเองหวาดหวั่นที่จะต้องห่าง กับเธอ เมื่อเราจากกัน ผมเป็นห่วงเธอมาก ไม่รู้ว่าเธอจะกินอยู่อย่างไร หนทางปลอดภัยดีไหม เธอจะพบเจอแต่สิ่งดีๆหรือไม่ ผมอยากไปดูแล เธอและผมก็คิดถึงเธอมากๆด้วย แต่เธอก็ท�ำให้ผมสบายใจขึ้นเพราะเธอ โทรหาผมทุกวัน เล่าถึงสารทุกข์สุขดิบให้ฟัง วันนี้เธอเจออะไรมาบ้าง งาน หนักแค่ไหน เพื่อนร่วมงานเป็นอย่างไร ผมรู้เรื่องของเธอหมดทุกเรื่อง เธอจะเล่าโดยไม่ปิดบังอะไรเลย น�้ำเสียงของเธอก็ยังคงสดใสเหมือนเคย แต่นั่นก็เป็นได้แค่ช่วงแรกที่เธอไปเท่านั้น หลังจากนั้นไม่นาน เธอก็เริ่มโทรหาผมน้อยลง บางวันไม่โทรเลย ด้วยซ�้ำ บางครั้งโทร เธอก็จะขอวางสายไปดื้อๆไม่คุยกันนานเหมือนเคย กลับเป็นผมเองที่พยายามโทรหาเธอ ผมพยายามคิดว่างานเธอคงยุ่งกว่า แต่ก่อน เธอถึงไม่ว่างโทรหาผม แต่พอเป็นแบบนี่บ่อยเข้าบ่อยเข้าผมก็อด สงสัยไม่ได้ว่าเธอมีอะไรปิดบังผมหรือเปล่าผมอยากจะถามเธอแทบขาดใจ แต่ก็ไม่กล้าถาม ไม่อยากจะท�ำให้เธออึดอัด รอให้เธอบอกเองจะดีกว่า เพราะด้วยนิสัยของเธอ เธอเป็นคนมีความมั่นใจในสิ่งที่ตนเองท�ำ ไม่ว่า เธอจะท�ำสิ่งใด เธอมักจะคิดให้รอบคอบอยู่เสมอหากเธอยังไม่พร้อมหรือ ยังไม่แน่ใจกับสิ่งไหน เธอก็จะไม่ท�ำมัน ดังนั้นหากเธออยากบอกอะไรผม เธอก็จะบอกเอง และหากยิ่งไปคาดคั้นจะท�ำให้ทุกอย่างมันแย่ลงเปล่าๆ เธอกลับบ้านมาในวันหยุดยาว พร้อมกับขนมและของฝากมากมาย ในนั้น มีขนมของโปรดผมด้วย ผมดีใจที่เธอยังไม่ลืมสิ่งที่ผมชอบและยังนึกถึง ผมอยู่บ้าง เธอยังท�ำตัวเหมือนเคย ยิ้มหัวเราะร่าเริงเหมือนที่เธอเคยเป็น 8
รักไม่ร่วงโรย
ความน่ารักสดใสของเธอไม่ได้ลดน้อยลงเลย การห่างกันไม่ได้ท�ำให้ความ รักที่ผมมีต่อเธอลดลง เรายังคงนั่งดูละครหลังข่าวด้วยกัน พูดคุยถึงเรื่อง ที่เราสนใจ เล่าถึงชีวิตที่ผ่านมาที่เราไม่ได้อยู่ด้วยกัน เธอพยายามท�ำตัวให้ ปกติ แต่การที่ผมรู้จักเธอดีท�ำให้รู้ว่าเธอมีบางสิ่งบางอย่างซ่อนอยู่ เพียง แค่รอให้เธอเป็นคนเอ่ยปากพูดมันออกมาเองเท่านั้น มื้อเย็นของเรายัง คงด�ำเนินต่อไปด้วยความปกติ เรามีตักอาหารให้กันบ้างอย่างที่เคยชอบ ท�ำ บรรยากาศบนโต๊ะอาหารราบรื่นไม่มีอะไรน่าเป็นกังวลจนมีโทรศัพท์ ของเธอเข้ามา เธอมองหน้าจอโทรศัพท์แล้วขอตัวไปคุยโทรศัพท์ข้างนอก ทั้งๆที่เธอไม่เคยท�ำ ปกติไม่ว่าใครโทรมา จะเพื่อนพี่หรือน้องเธอก็จะคุย โทรศัพท์ข้างในบ้านได้โดยไม่มีเรื่องที่ปิดบังผม แต่ท�ำไมวันนี้เธอถึงท�ำ แบบนั้น หรือเธอจะเปลี่ยนไปแล้วจริงๆ สายตาเธอเวลาคุยโทรศัพท์มัน มีแววตาแห่งความสุขอยู่ มันมีประกายที่ผมไม่ได้เห็นมานานแล้ว ท่าทาง เธอกลัวว่าผมสังเกตเธออยู่ คอยมองกลับผมเป็นระยะๆ ผมส่งยิ้มให้เธอ เหมือนไม่ได้ติดใจอะไรผมไม่อยากให้เธอรู้สึกว่าผมท�ำให้เธอกดดัน เธอ กลับมากินข้าวเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เธอคงๆไม่รู้ว่าผมสามารถจับผิด สังเกตของเธอได้ วันนั้นผมค่อนข้างมั่นใจว่าเธอมีอะไรปิดบังซ่อนเร้นผม อยู่ และผมก็รู้ด้วยว่าคือเรื่องอะไร แต่สุดท้ายผมก็ไม่ได้พูดอะไรออกไป ผมไม่อยากท�ำให้เธอคิดมาก อยากให้ช่วงเวลาอันน้อยนิดที่เราจะได้อยู่ ด้วยกันมีค่ามากที่สุด และ ในคืนสุดท้ายก่อนที่เธอจะกลับนั้นเธอเดินเข้ามาหาผมใน ห้องท�ำงาน ท่าทางเธอดูประหม่า ดูหวาดหวั่นกับอะไรในใจบางอย่าง เธอ เริ่มต้นบทสนทนาถามผมว่า“ท�ำไมยังไม่นอน งานเยอะเหรอ” ค�ำถามธร รมดาๆที่ถามกันทุกวันแต่น�้ำเสียงของเธอครั้งนี้แปลกไปกว่าเดิม เธอคง 9
Love for all seasons รักทุกฤดู
ก�ำลังพยายามท�ำใจที่จะบอกเรื่องที่ค้างคาใจเธอและผมมานาน ผมเตรียม ใจพร้อมฟังเธอเสมอ ไม่ว่าเธอจะพูดอะไรก็ตาม ผมก็ยังเป็นคนเดิมของ เธอ ในใจผมพูดแบบนั้น ผมจึงตอบเธอว่า“เดี๋ยวอีกสักพักก็นอนแล้ว มี อะไรหรือเปล่า”เธอค่อยๆเดินเข้ามาหาผม สูดหายใจเข้าเหมือนรับพลัง และก็ได้บอกบางอย่างแก่ผม เป็นสิ่งเดียวกับที่ผมคิดไม่มีผิด “พ่อคะ เดือนหน้าหนูพาเพื่อนมาที่บ้านได้ไหมคะ แนะน�ำให้พ่อรู้จัก”
หนูอยาก
“เป็นแค่เพื่อนหรอลูก” ผมตอบพลางหัวเราะไป
เธออมยิ้มแทนค�ำตอบ หน้าเธอแดงระเรื่อ เดินเข้ามากอดผม เรากอดกันในคืนวันสุดท้ายก่อนที่จะจากลา ฤดูใบไม้ผลิก�ำลังจะเริ่มขึ้น แล้วสินะ อย่างน้อยก็เริ่มขึ้นภายในจิตใจของลูกสาวผม ความรักของเธอ ก�ำลังเริ่มต้น ผลิบานในใจของเธอ และผมก็จะคอยช่วยดูแลให้มันเจริญ งอกงามอย่างดีที่สุด เพราะความรักของพ่อที่มีให้ต่อลูกจะเป็นสิ่งที่ผลิแล้ว ไม่มีวันร่วงโรย
10
รักไม่ร่วงโรย
11
ความรักของ เธอในฤดูร้อน สิริวรรณ อินทสร ไอแดดจากพื้นถนนและแสงแดดสาดกระทบเข้ามาที่ร่างของหญิง สาว ท้องฟ้าที่เมฆน้อยมากวันนี้ท�ำให้เป็นวันที่อากาศร้อนอบอ้าวสมกับ เป็นเดือนเมษายนของประเทศไทย มธุรินเป็นหญิงสาวสูงปานกลาง ผิว ขาวแพ้แดดง่าย รูปร่างค่อนข้างเล็ก เมื่อเจอสิ่งที่ถูกใจจะค่อย ๆ แย้มรอย ยิ้มออกมาทีละน้อย เธอเป็นคนอ่อนไหวง่ายและมีนิสัยที่ทนค�ำวิพากษ์ วิจารณ์ไม่ค่อยได้ มธุรินที่ก�ำลังถูกแดดเผาเดินออกจากบริษัทที่เธอท�ำงานอยู่ฝ่าย บัญชีอย่างเร่งรีบ เธอรู้สึกหน้ามืดคล้ายจะเป็นลมและในขณะที่เธอก�ำลัง ก้มหน้าก้มตาเดินไปที่ป้ายรถเมล์ เธอได้ชนกับบุคคลที่เธอไม่ชอบหน้าที่ สุดในบริษัท คุณเมษา เมธาสิทธิ์ ผู้ยิ่งใหญ่ เธอพูด ขอโทษค่ะอย่างแผ่ว เบา เขาปรายตามองเธอเล็กน้อย ก่อนจะเดินขึ้นรถตัวเองโดยไม่พูดอะไร เธอไม่ชอบผู้ชายคนนี้เท่าไรนัก เขาเป็น Digital Marketing Manager ส่วนเธอท�ำงาน Graphic Designer ที่จะต้องสนับสนุนแผนงานตามค�ำสั่ง 13
Love for all seasons รักทุกฤดู
ของเขา ผู้ชายคนนี้ท�ำให้เธอต้องหัวหมุนทุกวัน เนื่องจากนิสัยที่เหมือน พายุหมุนของเขา สิ่งที่ท�ำให้เธอประหลาดใจมากคือเมื่อช่วงเวลานี้ประมาณปีที่แล้ว เขาบอกกับเธอว่า “ผมสนใจเพื่อนสนิทของเธอที่ชื่ออะไรนะ แนะน�ำให้หน่อยสิ”
ที่อยู่แผนกบัญชีน่ะ
“คุณเมษาคงหมายถึง อารยา เธอชื่อเล่นว่า องุ่นน่ะค่ะ” มธุริน ไม่รู้เธอตอบเขาไปด้วยสีหน้าแบบไหน เธอจ�ำไม่ได้ว่าคุยอะไรกับเขาต่อ บ้าง แต่หลังจากนั้น ไม่ว่าเธอจะกินข้าวกับอารยาที่ท�ำงานกี่ครั้ง เขาจะ มานั่งด้วยทุกครั้ง มธุรินเจอเขาที่ท�ำงานทุกวัน คุยกับเขาทุกวันแม้ว่าส่วน ใหญ่จะทะเลาะหรือคุยเรื่องงานก็ตาม เธอไม่ชอบเขา และไม่ชอบใจของตัวเอง เมษาเป็นคนหล่อ ดูดี ขยัน เขาไม่เคยมาสาย ไม่เคยขาดงาน เป็นคนที่จัดอยู่ในประเภท บัณฑิต ย่อมฝึกตน หรือ คนขยันเอาการเอางาน กระท�ำเหมาะสม ย่อมหาทรัพย์ ได้ แน่นอนว่าเขาท�ำงานเก่ง และปากของเขาก็เก่งตามไปด้วยโดยเฉพาะ กับเธอ มธุรินไม่ชอบเขาเพราะเขามักจะวิพากษ์วิจารณ์งานเธออย่างเสีย หายอยู่เสมอ เขาไม่ไว้หน้าเธอเลย ไม่ว่าจะเป็น “การลงเฉดสีของเธอห่วยแตก เธอรู้อยู่แล้วว่า สีชมพูเข้มกับสี เหลืองสว่างที่ใช้กับโฆษณานี้มันแย่มาก เธอคิดว่าสีสดใสเหมาะกับกลุ่ม 14
ความรักของเธอในฤดูร้อน
เป้าหมายผู้ใหญ่อย่างนั้นหรือ มาสคาร่านะไม่ใช่ลูกอม และการแต่งหน้า วันนี้ของเธอก็แย่เหมือนงานของเธอนั่นแหล่ะ” เขาช่างไร้มารยาท ถึงแม้ เขาจะช่วยงานเธอทีหลัง แต่เธอแทบจะพยายามไม่แต่งหน้ามากเกินไป หลังจากนั้น ในขณะที่เขาเป็นจุดสนใจเธอพยายามท�ำตัวเองให้ไม่เด่น เขาและ เธอต่างกันราวกับน�้ำกับไฟ จุดร่วมที่มีเหมือนกัน คือ อารยาเท่านั้น อารย าที่เป็นผู้หญิงผอมเพรียวสูง สวยแบบร้อนแรงและกล้าแสดงออก เพื่อน สนิทของมธุรินช่างดูเหมาะกับเมษาเหลือเกิน หลังจากนั้นไม่นาน ความส�ำเร็จในการท�ำงานของชายหนุ่มท�ำให้ บริษัทแม่เรียกตัวไป เขาก�ำลังย้ายไปอยู่บริษัทใหญ่ ที่นี่เป็นเพียงบริษัท สาขา ผู้คนต่างยินดีกับเมษา แต่มธุรินกลับตกใจและรู้สึกกระวนกระวาย ใจ หัวใจของเธอรู้สึกเต้นช้าลง ช้าลง จนกระทั่งเธอไม่ได้ยินเสียงหัวใจ ตนเอง นั่นคงเป็นสิ่งที่เรียกว่า ใจหาย ทางแผนกเตรียมจัดฉลองให้เมษาที่ร้านอาหารญี่ปุ่นใกล้ ๆ บริษัท มธุรินรู้สึกอึดอัดมาก เธอรู้สึกแย่ที่เมษาก�ำลังจากไป แต่ที่ท�ำให้ เธอรู้สึกแย่กว่าเดิม คือการที่ ชายหนุ่มเดินเคียงข้างมากับหญิงสาวสวยที่ เธอคุ้นตา เขาเดินมากับเพื่อนสนิทของเธอ มธุรินรู้สึกเหมือนมีผีเสื้อก�ำลัง บินในท้อง แย่มาก นี่มันนัดฉลองของแผนกฝ่ายคอมพิวเตอร์ไม่ใช่หรือ ท�ำไมอารยาที่ท�ำงานอยู่ฝ่ายบัญชีถึงมาอยู่ที่นี่ มธุรินรู้ตัวแล้ว เธอคิดว่าตัว เองรู้ตัวมาตั้งนานแล้วด้วย เธอชอบเมษา และพยายามที่จะเก็บความรู้สึก ไว้ตั้งแต่ที่เขาเข้ามาคุยกับเธอเรื่องของอารยา ตอนนี้เธอรู้สึกเจ็บใจ เจ็บใจ 15
Love for all seasons รักทุกฤดู
แต่ท�ำอะไรไม่ได้ สงสัยว่าเธอคงกลายเป็นตัวอิจฉาไปเสียแล้ว ร้านอาหารมีสีสันบรรยากาศแบบญี่ปุ่น โต๊ะที่เธอนั่งอยู่เป็นโต๊ะ ยาวส�ำหรับนั่ง 8 คน เมษาและอารยานั่งตรงข้ามเธอ ยังดีที่มีพี่ก้องภพ ที่ท�ำงานเป็น Programmer นั่งอยู่ด้านข้างพยายามชวนเธอคุย ซึ่งนั่นเป็น สิ่งที่ดีมาก อย่างน้อยเธอจะได้ไม่หันไปมองภาพบาดตาบาดใจของเมษา กับอารยา “น้องมีนเป็นอะไรรึเปล่าครับ หรือรู้สึกไม่ค่อยสบาย” มีนซึ่งเป็น ชื่อเล่นของมธุริน ดังออกมาจากปากของก้องภพ เขาเป็นพี่ที่นั่งอยู่โต๊ะ ตรงข้ามกับโต๊ะท�ำงานของเธอซึ่งสังเกตมาสักพักว่าวันนี้มธุรินดูไม่ค่อย ร่าเริงเท่าไร “ไม่เป็นไรมากค่ะ ช่วงนี้อากาศร้อนมาก หนูเลยรู้สึกไม่ค่อย สบายเท่าไหร่น่ะค่ะ” หญิงสาวตอบก้องภพแล้วเหลือบไปมองเมษาเล็ก น้อย ชายหนุ่มก�ำลังมองมาที่เธอเช่นกัน มธุรินรู้สึกว่ามื้ออาหารมื้อนี้ของเธอค่อนข้างผ่านไปอย่างเชื่อง ช้า เธอแทบจะไม่คุยกับเมษาและอารยา จนกระทั่งถึงเวลากลับเมษา อาสาจะไปส่งเธอและอารยาเนื่องจากที่อยู่ของเธอและเพื่อนสนิทเป็นทาง ผ่านบ้านของเขา อีกทั้งบ้านของเขาอยู่ใกล้บ้านของเธอมาก แต่เมื่อคิดถึง สถานการณ์ขณะนี้ ที่ผ่านมามธุรินไม่เคยรู้สึกเป็นก้างขวางคอใครเท่า ตอนนี้มาก่อน แม้อารยาจะบอกอยู่เสมอว่าไม่ได้เป็นแฟนกับชายหนุ่ม ก็ตาม 16
ความรักของเธอในฤดูร้อน
“มีน ฉันลงก่อนนะ นี่ นี่ ยัยมีน!” มธุรินสะดุ้งเล็กน้อย เมื่อ ได้ยินเสียงเรียกของอารยา เธอหันไปเห็นอารยาที่ชะโงกหน้าเข้ามาจาก ประตูรถด้านหน้า ส่วนเธอนั่งอยู่เบาะหลัง “เธอเหม่ออะไรเนี่ย ฉันเข้าบ้านก่อนนะ คุณเมษาคะ ขอบคุณ มากนะคะ ฝากไปส่งมีนต่อด้วยนะคะ บาย ๆ นะมีน” มธุรินยังคงท�ำหน้า งง ส่งเสียงอืมในล�ำคอและโบกมือบาย ๆ อารยา หญิงสาวไม่ชินที่อยู่กับ คุณเมษาสองต่อสอง “ผมไม่ใช่สารถีเธอนะ มานั่งหน้า” เดี๋ยวนะ ไม่ว่าเมื่อไหร่เธอ ไม่ชินกับนิสัยของคุณเมษานี่เลยสักนิด เธอรู้ว่าเขาเป็นพวกอารมณ์ร้อน หงุดหงิดง่าย แต่เธอไม่เข้าใจว่าท�ำไมเขาถึงดูหงุดหงิดเธอตลอดเวลาด้วย แค่เพียงเพราะเธอไม่ใช่อารยาแสนสวยอย่างนั้นหรือ มธุรินค้อนใส่ชาย หนุ่มแล้วไปนั่งด้านหน้า หญิงสาวพยายามไม่ต่อปากต่อค�ำกับเขามากนัก แต่เธอเห็นนะ ว่าเขาแอบยกมุมปากขึ้นยิ้ม เธอพนันได้เลยว่าผู้ชายคนนี้ต้องแอบเป็น พวกซาดิสม์แน่ ๆ ก่อนที่เธอจะเข้าบ้าน ชายหนุ่มรั้งเธอไว้แล้วเดินไปหยิบถุง กระดาษในรถมายื่นให้เธอ สายลมอ่อน ๆ พัดมา ท�ำให้อากาศร้อนคลาย ตัวลง เธอสูดกลิ่นต้นหางนกยูงที่พัดเข้ามาและรู้สึกเหมือนกลั้นหายใจไป ชั่วขณะ 17
Love for all seasons รักทุกฤดู
“อ่ะ นี่ของเธอ ผมร้อนนะ รีบ ๆ รับแล้วเข้าไปได้แล้ว”
“นี่มันอะไรหรือคะ” หญิงสาวยื่นมือไปรับ แต่เขาไม่ตอบอะไร ก้มหน้าเล็กน้อยแล้วถอนหายใจ อะไรกันน่ะ นี่เขาถอนหายใจใส่เธออย่าง นั้นหรือ มธุรินเอ่ยขอบคุณเขา ส่วนเขาโบกมือเล็กน้อยแล้วขึ้นรถไป การเข้าถึงจิตใจของเมษาเป็นเรื่องยากส�ำหรับเธอมาก หญิงสาว เปิดถุงกระดาษหลังอาบน�้ำเสร็จ นี่มันอะไรกัน ข้างในถุงมีกล่องของขวัญ ขนาดไม่ใหญ่มากนัก การ์ดเล็ก ๆ สีขาวแนบอยู่บนกล่อง และจดหมาย สีเหลืองอ่อนหนึ่งฉบับ มธุรินรู้สึกใจเต้นแรงขึ้นเมื่อหยิบการ์ดมาอ่าน มัน เป็นการ์ดสุขสันต์วันเกิดเธอเมื่อเดือนที่ผ่านมาจากเมษา เธอจึงพยายาม แกะกล่องของขวัญของเขาอย่างช้า ๆ เธอกลัวท�ำกระดาษห่อของขวัญเขา ขาดเหลือเกิน มือเธอสั่นเล็กน้อย ข้างในกล่องเป็น กล่องใส่หนังสือเล่ม หนึ่ง หน้าปกมีค�ำว่า คู่มือสอนแต่งหน้าอยู่เด่นหรา
ให้ตายเถอะ!
มธุรินไม่เคยรู้สึกอยากจะปาของขวัญชิ้นไหนเท่าชิ้นนี้เลย ผู้ชาย คนนี้กวนประสาทเธอเสมอต้นเสมอปลายจริง ๆ เธอเปิดกล่องหนังสือ ออกมา ปรากฏว่าข้างในกลับไม่ใช่หนังสือ แต่เป็นห่อกระดาษที่มีชุดปลูก ดอกบานชื่นอยู่ข้างใน มธุรินเริ่มคลี่ยิ้มออกมาน้อย ๆ ก่อนที่จะฉีกยิ้ม กว้าง เธอจะท�ำอย่างไรดี เธอหลงรักผู้ชายคนนี้จริง ๆ ว่าแต่ท�ำไมเขาถึง รู้ว่าเธอมีงานอดิเรกชอบปลูกดอกไม้กันล่ะ ที่ส�ำคัญเป็นดอกบานชื่นที่เป็น ดอกไม้หน้าร้อนอีกด้วย 18
ความรักของเธอในฤดูร้อน
เขาสมกับเป็น Digital Marketing Manager จริง ๆ คนที่ท�ำงาน ด้านนี้ต้องมีความคิดสร้างสรรค์ควบคู่กับการบริหาร เธอชื่นชมการท�ำงาน ของเขามาโดยตลอด นอกจากการที่เขามีนิสัยราวกับพายุหมุนเวลาอยู่กับ เธอก็ตาม เธอหันไปหยิบจดหมายสีเหลืองอ่อนขึ้นมาอ่านบ้าง เขียนชื่อระบุถึงเธอ เธอเริ่มอ่าน...
หน้าซอง
ปัง! หญิงสาวเปิดประตูออกจากบ้านแล้ว วิ่งออกไป เธอก�ำลัง วิ่งไปที่บ้านหลังหนึ่งที่ห่างจากบ้านของเธอไปประมาณ 11 หลัง บ้านหลัง นั้นอยู่ติดมุมถนน เธอรู้สึกได้กลิ่นหญ้า กลิ่นดิน และกลิ่นต้นหางนก ยูงละแวกนั้นแรงขึ้น สายลมที่พัดเข้ามากระทบเธอแรงมาก ถ้าจ�ำไม่ ผิดพยากรณ์อากาศบอกว่าช่วงนี้อาจเกิดพายุฝนฟ้าคะนอง ใช่แล้ว พายุ ฤดูร้อนก�ำลังเข้า แต่เธอกลับอยากเจอเขาในตอนนี้มาก เธอกลัวจะเสีย โอกาสในตอนนี้ไป หน้าร้อนปีที่แล้วที่บอกว่าสนใจเพื่อนคุณน่ะ ผมโกหก เธออยากถามเขาว่ามันหมายความว่าอย่างไรกันแน่
…
เรื่องแต่งหน้าของคุณเมื่อครั้งนั้นผมไม่ได้ตั้งใจ ผมก�ำลังร�ำคาญ พวก Programmer ที่นั่งใกล้โต๊ะคุณต่างหาก 19
Love for all seasons รักทุกฤดู
ร�ำคาญพวกนั้นแล้วเกี่ยวอะไรกับเธอ หน้าแบบนั้นมาท�ำงานเลยนะ
เขาท�ำให้เธอไม่กล้าแต่ง
…
ที่ผมหาเรื่องคุณเพราะผมอยากเข้าใกล้คุณ และผมก็หึงคุณด้วย เรื่องนี้เพื่อนของคุณรู้ดี
ยัยองุ่นเน่า! ว่าแต่อะไรนะ อยากเข้าใกล้ หึงอย่างนั้นหรือ
...
ขอบคุณมากนะที่ร่วมท�ำโปรโจคมาด้วยกัน
ผมขอโทษด้วยที่ท�ำตัวกับคุณไม่ค่อยดีเท่าไหร่
…
ผมแอบรักคุณ แอบรักมานานแล้ว
ผมรักคุณ
…
20
ความรักของเธอในฤดูร้อน
หมอนี่ต้องเพี้ยนไปแล้วแน่เลย นี่เขาเป็นผู้ชายที่อายุก�ำลังเข้า 30 หรือ อายุ 10 ขวบกันแน่ มธุรินไม่ได้ยินเสียงฟ้าร้องด้วยซ�้ำ หยดน�้ำที่ ตกลงมาเธอก็เดาไม่ออกว่ามันคือน�้ำตาหรือน�้ำฝน เธอรู้สึกดีใจและสับสน หญิงสาวหยุดอยู่ที่ประตูหน้าบ้านของเขา เธอกดกริ่งหน้าประตู ตอนนี้ตัว เธอก�ำลังเปียก “มธุ...” ชายหนุ่มเปิดประตูออกมาด้วยสีหน้าตกใจ ผงะไปเล็ก น้อย แล้วรีบเข้าบ้านไปหยิบผ้าขนหนูมาคลุมเธอ มุรินตัวสั่นเพราะความ หนาว เมื่อกลางวันยังร้อนจนเธอแทบตายได้ มาตอนนี้เธอกลับรู้สึกหนาว จนจะตายแทน “เธอมาท�ำอะไรที่นี่” เมษาพาเธอเข้ามาในห้องรับแขก ส่วนหญิง สาวหยิบจดหมายออกมาจากถุงพลาสติกยื่นให้เขา ดีที่จดหมายไม่เปียก เพราะเธอรีบยัดจดหมายใส่ถุงที่อยู่ใกล้มือแล้วออกมา เธอไม่คิดเหมือน กันว่าฝนจะตกตอนนี้ เขารีบคว้าจดหมายนั้นไปทันทีแล้วพึมพ�ำชื่อเพื่อน สนิทของเพื่อนก่อนจะสบถเล็กน้อย คาดว่าเขาคงไม่รู้ว่ามันอยู่ในถุง กระดาษด้วย บางทีอาจเป็นฝีมืออารยา
“คุณ...ชอบฉัน”
“เปล่า” หญิงสาวค้อนเขาตากลับ พร้อมกับน�้ำตาที่จะไหลออกมา
“ผมขอโทษ ผมโกหก อย่าร้องนะ เดี๋ยวผมจะไปส่งคุณที่บ้าน สภาพตอนนี้ของคุณแย่มากคุณไม่ควรอยู่ที่นี่” 21
Love for all seasons รักทุกฤดู
“คุณว่าฉัน!” เมษาท�ำท่ากระอักกระอ่วนใจมันดูตลกแปลก ๆ ใน สายตาของเธอ “คิดตามนะ คุณเป็นผู้หญิง ผมเป็นผู้ชาย แถมตอนนี้ข้างนอกนั่น พายุเข้า บรรยากาศก�ำลังเป็นใจเข้าใจไหม”
“คุณเกิดอารมณ์กับฉัน!”
“ผมเปล่า!” หญิงสาวเงยหน้ามองเขา ล�ำคอและใบหูเขากลาย เป็นสีแดง คุณโกหก หญิงสาวพูดออกมาเบา ๆ แล้วสวมกอดเขา จากนั้น มธุรินได้บอกรักเขาสักที ผู้ชายที่เป็นดั่งพายุโซนร้อนของเธอ
22
ความรักของเธอในฤดูร้อน
23
แล้งลา
ศิวกร จินะณรงค์
ผมก�ำลังนั่งครุ่นคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยอยู่บนรถแท็กซี่ที่ติดอยู่ กลางสีแยกไฟแดงในเมืองหลวง เสียงเพลงดังมากจากคลื่นวิทยุที่ถูกเปิด อยู่ในรถ ท�ำให้ผมถูกนึกย้อนกลับไปยังเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อ 5 ปีก่อน “ย่างเข้าเดือนห้า น�้ำท่าก็แห้งขอดคลอง เมื่อยามได้มองพื้นนา เป็นร่องแยกแตกระแหง ต้นหญ้าสดเขียว ก็พลันแห้งเหี่ยวกรอบ แดง พื้นนาหน้าแล้ง เหมือนดวงใจแห้ง แยกแตกเป็นแผล...” เสียงเพลงแห่งกาลเวลาดังแว่วมาจากวิทยุในร้านบาร์เบอร์ที่ผม มาเล็มเส้นผมที่ยาวเสียจนจะแยงตา ช่างตัดผมเอาแปรงมาปัดเศษผมที่ ติดอยู่ข้างๆก่อนที่จะปลดไม้หนีบเอาผ้าคลุมสีขาวที่รองรับเศษผมที่ร่วง หล่นออกจากตัวของผม ผมปัดเอาเศษผมที่ติดอยู่ข้างแก้มสองสามครั้ง ก่อนที่จะหยิบเงิน 40 บาทมาจ่ายสตางค์ค่าตัดผม แล้วจะเปิดประตู กระจกออกจากบาร์เบอร์แห่งนี้ 25
Love for all seasons รักทุกฤดู
วั น นี้ ช ่ า งเป็ น วั น ที่ ร ้ อ นเสี ย จริ ง ดวงอาทิ ต ย์ ล อยเหนื อ อยู ่ ต รงกลาง กระหม่อม แสงแดดร้อนแรงแผดเผาเสียจนรู้สึกได้ว่าเส้นผมจากที่ชุ่มชื้น กลับแห้งผาดได้ในทันที ยอดไม้ของต้นไม้ใหญ่ริมถนนแห่งนี้ก็อยู่นิ่งไร้การ พริ้วไหวจากสายลมเหมือนไร้ซึ่งดวงวิญญาณใดใด ท้องฟ้าปลอดโปรงไร้ ทีท่าจะว่าจะมีหยาดฝนที่จะมาช่วยบรรเทาความร้อนของพื้นโลกแห่งนี้ได้ เลย “ท�ำไมวันนี้มันร้อนจังเลยวะ” ผมบ่นออกมาเบาๆขณะก�ำลังเดิน ไปตามริมฟุตบาท แล้วมาหยุดยืนอยู่หน้าร้านขายของช�ำตึกแถวเพื่อมอง หาน�้ำเย็นๆซักขวดเพื่อเติมความสดชื่น ผมเปิดประตูตู้แช่น�้ำบานใหญ่อยู่ นานเพื่อรับไอเย็นจากเครื่องท�ำความเย็นนี้ ท�ำทีท่าเลือกโลเลอยู่นานว่าจะ เลือกอะไรดีทั้งที่รู้อยู่แก่ใจอยู่แล้ว “เลือกนานจังเลยนะ” มีเสียงแหบแห้งที่คุ้นเคยทักมาจากด้าน หลังของผม “เปล่าซะหน่อย” ผมรีบหันกลับไปตอบเสียงนั้นพลันรีบคว้า ขวดน�้ำชาเขียวมาหนึ่งขวด เจ้าของเสียงที่ทักผมมานั้นคือ สน ลูกชายของเจ้าของร้านขาย ของช�ำแห่งนี้ สน เป็นเพื่อนสนิทของผมคนหนึ่งที่โรงเรียน ก็คิดไม่ออก เหมือนกันว่า ถ้าใครที่จะสนิทกว่านี้ก็คงไม่มีหากไม่ใช่ใครนอกจากมันคน นี้ สนเป็นผู้ชายผิวขาว ใบหน้าค่อนข้างกลม คิ้วเข้ม ตาชั้นเดียว มีร่อง แก้ม จมูกแคบ แก้มแดง ปากเล็กๆสีอมชมพู “ก็เลือกมากอย่างงี้ไง เลย ยังหาแฟนไม่ได้ซักที” สนแซวก่อนที่ผมจะตอบกลับด้วยน�้ำเสียงแบบที เล่นทีจริง “เดี๋ยวคอยดูเหอะ ถ้าเข้ามหาลัยแล้วนะ จะหาแฟนมาให้ดูเลย” 26
แล้งลา
“เออๆ” สนตอบกลับมาด้วยใบหน้านิ่งๆ “เอาหน่ามึง ก็สอบให้ ติดด้วยกัน ติดอยู่แล้วเชื่อกูสิ” ผมรีบตอบกลับไปเพื่อให้ก�ำลังใจ “อย่างเซฟอ่ะ หัวดี อยากเข้าที่ไหนก็ได้ เราสิไม่รู้อะไรเลย” สน ตอบกลับมาด้วยสีหน้าที่ดูไม่สบายใจ “อย่าท้อสิ เชื่อมั่นตัวเองหน่อย ได้ อยู่แล้วเว้ย” ผมพยายามให้ก�ำลังใจสนอีกครั้ง “แต่เห็นเขาว่าพรุ่งนี้ก็จะประกาศผลแล้วหนิ” ผมบอกสนไปด้วย ความตื่นเต้น “ก็นั่นแหละยิ่งน่ากลัว” สนตอบกลับมาพลางถอนหายใจ เบาๆ “จะกลัวอะไร อย่าคิดมากดิ” ผมเอามือเข้าไปกอดคอแล้วพยักหน้า ด้วยความเชื่อมั่นก่อนจะยิ้มกว้างๆให้หนึ่งครั้ง “อืมมม...” สนก้มหน้าลงเล็กน้อยไม่สบตากับผมเลย ผมเลยเอา ขวดน�้ำชาเขียวที่ถืออยู่ในมืออีกข้างไปแนบข้างแก้มของสน สนสะดุ้งด้วย ความเย็นของขวดน�้ำในมือแล้วหันมามองผมขมวดคิ้วใส่ ผมหัวเราะและ พูดออกไปด้วยความหวังดี “ยิ้มก่อน ไม่งั้นค่าน�้ำนี่กูไม่จ่ายนะเว้ย” สนจึง ยอมยิ้มที่มุมปากแบบไม่ตั้งใจแล้วท�ำตาตี่ แบบนี้อาจจะไม่เรียกว่ายิ้มก็ได้ มั้ง “อ่ะนี่” ผมล้วงมือไปหยิบเงินค่าน�้ำในกระเป๋าแล้วส่งให้สน “กูไป ก่อนนะ” ผมพูดแล้วพลางจะก้าวเดินออกจากร้าน “เออ...เซฟ” สนเรียกผมด้วยน�้ำเสียงที่เรียบนิ่ง ผมจึงหันหน้า กลับมาฟัง “เย็นนี้...ไปงานวัดกันป่ะ” ผมยิ้มและตอบกลับไป “เอาดิ ซัก 27
Love for all seasons รักทุกฤดู
ห้าโมงเจอกันหน้าร้านป้าพรหน้าวัดแล้วกันโอเคมั้ย” สนพยักหน้าตอบรับ กลับมาทีนึง ผมจึงยิ้มและตอบกลับไปอีกครั้ง “เจอกัน” ผมเดินออกร้านแล้วโบกรถกระบะสองแถวพลันกระโดดขึ้นท้าย รถ เมื่อออกรถ ลมโกรกเข้าจากสองฝั่งปะทะเข้าหน้าของผมอย่างจัง เป็น ความรู้สึกดีอย่างหนึ่ง รถสองแถววิ่งไปตามถนนลาดยาง สองฟากฝั่งเป็น ทุ่งนาที่เคยเขียวขจี แต่เวลานี้น�้ำบนผืนนาได้เหือดแห้ง ดินแตกเป็นร่อง เต็มพื้นที่ไปหมด ไม่นานนักผมก็กดกริ่งเพื่อที่จะลงรถเมื่อมาถึงยังหน้า บ้าน บ้านของผมเป็นตึกแถวสามชั้น ชั้นล่างก็เป็นร้านท�ำฟัน พ่อของ ผมเป็นหมอฟัน พ่อของผมค่อนข้างเจ้าระเบียบและคาดหวังในตัวผมมาก เลยอยากที่จะให้ผมเรียนคณะทันตแพทย์ จะได้สืบทอดธุรกิจที่พ่อได้ ลงทุนเอาไว้แล้ว แต่ด้วยเพราะผมเองก็เห็นมาตั้งแต่เด็ก ก็ไม่ได้รู้สึกไม่ ชอบแต่อย่างไร เลยมักจะคอยมาเป็นผู้ช่วยให้พ่ออยู่เสมอๆ “เดี๋ยวเซฟออกไปเที่ยวงานวัดกับสนตอนเย็นนะม๊า” ผมบอก หม่าม๊าก่อนที่จะขึ้นบันไดไปยังห้องของผมเอง ผมรีบเอารีโมตมากดเปิด แอร์ก่อนเป็นอย่างแรกเพราะทนกับอากาศร้อนอบอ้าวไม่ไหวแล้ว ผม เอนกายทิ้งตัวลงนอนบนเตียง ผมรู้สึกตัวอีกครั้งเพราะเสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้น ผมงัวเงียเล็กน้อย เมื่อเห็นชื่อของปลายสายที่โทรมาก็รีบกดรับทันที “เห้ย... ขอโทษ กูเผลอ หลับไป เดี๋ยวจะรีบออกไปเดี๋ยวนี้แหละ” ผมพูดพลางหันไปมองนาฬิกาที่ 28
แล้งลา
แขวนอยู่ที่ผนังห้องจึงได้รู้ว่าตอนนี้ห้าโมงครึ่งเสียแล้ว ผมรีบวางสายแล้ว ออกจากบ้านทันที เมื่อมาถึงที่หน้าร้านป้าพรหน้าวัดก็เห็นสนยืนใส่เสื้อยืดกางเกงขา สั้นสามส่วนรองเท้าแตะรอผมอยู่ ผมรีบวิ่งเข้าไปหาแล้วกล่าวค�ำขอโทษ “สน... เราขอโทษ” สนก้มหน้ามองนาฬิกาข้อมือแล้วมองมาที่หน้าของผม “เห้ย... ขอโทษจริงๆ อากาศมันร้อนมากเลยเพลียหลับไปเลย” ผมรีบ กล่าวค�ำขอโทษพร้อมทั้งยกมือ “เออๆ ช่างมัน” สนกล่าวเพื่อตัดประเด็น “โอ๋ๆ ไม่เอา ไม่งอนดิ ไปหาไรกินกัน” ผมเอามือมากอดคอสนและเขย่าเบาๆ “ก็ไม่ได้ว่าอะไร” สนบอกกลับมา ผมเลยชวนสนไปนั่งกินก๋วยจั๊บเจ้าอร่อย มีโต๊ะเหลือว่างให้ผม และสนว่างพอดี จึงจัดแจงสั่งอาหารสั่งน�้ำ แต่ผมสังเกตทีท่าได้ว่าสนดูไม่ สดใสร่าเริงซักเท่าไหร่เลย ดูเหม่อๆ ผมถามสนขึ้นด้วยความสงสัย “มึง เป็นอะไรเนี่ย ยังไม่หายงอนหรือไง” “หือ... ไม่มีอะไร” สนตอบกลับมา “สน ถ้ามีอะไรก็บอกกูได้นะ เว้ย เราเพื่อนกัน” “อืมๆ โอเคๆ” สนตอบอย่างสั้นๆ หลังจากที่กินอาหารเสร็จแล้ว ผมจึงชวนสนไปเดินเล่นงานวัดด้วยกัน “ป่ะ หาอะไรเล่นกัน” ผมและสน จึงเดินเล่นอยู่ในซุ้มต่างๆตามงานวัด บรรยากาศและสีสรรของแสงไฟ 29
Love for all seasons รักทุกฤดู
หลากสีของหลอดนีออนยามค�่ำ กับเสียงลิเกที่ดังมาจากเวทีกลาง พ่อค้า แม่ขายต่างร้องเรียกลูกค้าเซงแซ่ ผมชวนสนเล่นเกมตามซุ้มต่างๆ ทั้งยิง ปืนจุก ปาลูกโป่ง ปากระป๋อง ได้ของรางวัลน้อยใหญ่ติดไม้ติดมือมา ผม รู้สึกผ่อนคลายเหลือเกินหลังจากที่เตรียมตัวสอบมาอย่างยาวนาน แต่สน กลับดูไม่ค่อยสนุกสนานกับสิ่งต่างๆรอบตัว “เราขอโทษนะ เราชวนเซฟมาแท้ๆแต่กลับท�ำตัวไม่สนุกเลย” สน เป็นฝ่ายเริ่มพูดก่อนบ้าง “ไม่เป็นไร ฮ่าๆๆ มีอะไรไม่โอเคหรือเปล่า” ผมตอบกลับไปด้วย ใบหน้าที่ยิ้มและแสดงความสนใจ
“ก็ไม่รู้สิ...” สนพยามที่จะเปิดประเด็น “เราแค่กลัวๆ...”
“กลัวอะไรหรอ?” ผมตอบกลับไปด้วยความสงสัย
“ก็หลายๆอย่าง” สนตอบกลับมาด้วยน�้ำเสียงที่แผ่วเบาลง
“ก็ถ้า...เราไม่ได้เรียนต่อมหา’ลัยเดียวกัน... เซฟจะยังติดต่อเรา มาอยู่บ้างมั้ย” สนถามด้วยใบหน้าสลดน�้ำเสียงของสนสั่นคลอเล็กน้อย “ก็แน่อยู่แล้วสิ เราเป็นเพื่อนกัน จะทิ้งได้ยังไงหละ” ผมยิ้มและ ตอบไป พลางเอามือไปกอดคอสนไว้ 30
แล้งลา
สนหยุดเดินพูดออกมาด้วยความรู้สึกหดหู่ใจ “แค่เพื่อน...เองหรอ” เมื่อ ผมได้ยินดังนั้นผมจึงรีบตอบกลับไป “ก็...” “เราชอบเซฟนะ” สนพูดออกมาก่อนที่ผมจะได้พูดอะไรทั้งนั้น “ตลอดเวลาที่ผ่านมาที่เราได้รู้จักกับเซฟ เรารู้สึกดีมากๆ เราดีใจมาก เซฟ คอยสอน คอยเตือนเรา คอยช่วยเราตลอด” “สน ฟังเรานะ คือว่าเรา...” ผมลังเลใจที่จะพูดอยู่ซักพักก่อนที่จะ พูดต่อ สนพยามยามรอฟังค�ำตอบอย่างใจจดใจจ่อ “เราขอโทษนะ แต่เรา คิดกับสนแค่เพื่อนจริงๆ สนเป็นเพื่อนที่ดีของเรานะ สนเป็นคนที่เราสนิท แล้วก็ไว้ใจมากๆ” น�้ำตาของผมไหลออกมา แต่ก็ไม่ใช่ผมคนเดียวเท่านั้น สนก็น�้ำตาไหลเช่นกัน สนเดินน�ำหน้าไปแล้วบอกกับผมโดยที่ไม่ได้หันกลับมามองหน้า ผม “เราขอกลับละ ขอโทษนะ” จากนั้นสนก็เดินด้วยฝีเท้าที่รวดเร็วไป ไกลออกไป ปล่อยให้ผมยืนขาแข็งและก้าวไม่ออกอยู่เพียงล�ำพัง ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าควรท�ำอย่างไรดี ผมจึงตัดสินใจที่จะกลับ บ้าน อาบน�้ำช�ำระล้างเหงื่อที่เปียกซกไปทั้งตัวเพราะอากาศอบอ้าวเหลือ ทน ก่อนที่จะมาเอนกายลงนอน คืนนี้ผมนอนครุ่นคิดแต่เพียงเรื่องนี้เพียงเรื่องเดียว จะข่มตาลง นอนก็ไม่ยอมจะหลับ คงเป็นเพราะหลับมาเมื่อตอนบ่ายแก่แล้ว หรืออา จะเพราะสิ่งที่สนพูดกับผมเมื่อหัวค�่ำนี้กันแน่ ผมคิดซ�้ำไปซ�้ำมาอยู่นาน 31
Love for all seasons รักทุกฤดู
กว่านี้เปลือกตาของผมตาจะค่อยๆปิดลง แสงแดดเล็ดลอดมากจากหน้าต่างแยงตาท�ำให้ผมต้องตื่นขึ้นมา ผมลุกขึ้นมานั่งอยู่ที่ขอบเตียงซักพัก แล้วลุกขึ้นเดินไปไปเปิดเครื่อง คอมพิวเตอร์ที่อยู่ที่โต๊ะท�ำงานในห้อง เพื่อที่จะเข้าระบบหาประกาศผล การสมัครสอบ Admission ผมเริ่มรู้สึกตื่นเต้นเหลือเกิน หัวใจของผม ค่อยๆเต้นเร็วขึ้น นิ้วมือสั่นเล็กๆและค่อยๆกดรหัสประจ�ำตัวอย่างช้าๆเพื่อ ไม่ให้ผิดพลาด ผมเอากระดาษมาปิดที่หน้าจอเคิมพิวเตอร์ก่อนที่จะค่อยๆเผยให้ เห็นถึงผลการสมัครสอบเข้า ซึ่งผลการยื่นสมัครสอบท�ำให้ผมได้รู้ว่าตอน นี้ ผ มได้ มี สิ ท ธิ ส อบสัมภาษณ์ที่คณะทันตแพทย์ศาสตร์ จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย ผมรู้สึกดีใจเป็นอย่างมากแต่ก็รู้สึกดีใจได้ไม่นาน ก็รีบหยิบ โทรศัพท์ขึ้นมาแล้วโทรไปหาสนด้วยความเป็นห่วง
“เป็นไงบ้าง” สนถามผมก่อนที่ผมจะได้พูดอะไรซะอีก
“อะ..เออ เราได้ทันตะ จุฬา แล้วนะ” ผมรีบตอบกลับแต่ด้วยน�้ำ เสียงอ่อยๆ “ยินดีด้วยนะเซฟ” สนตอบกลับมาด้วยน�้ำเสียงที่รู้สึกตื่นเต้น เหมือนไม่ได้ผ่านเหตุการณ์เมื่อวานมาก่อน 32
“แล้วมึงอ่ะ เป็นไงบ้าง” ผมถามกลับด้วยความรู้สึกจริงใจ และ
แล้งลา
คิดว่าสนเองก็คงมีข่าวดีมาบอกเช่นกัน “เราได้วิทยาศาสตร์ มช อ่ะ” สนตอบกลับมาด้วยน�้ำเสียงที่นิ่งๆ ผมก็พอจะรู้สึกได้ถึงความผิดหวังในใจที่เกิดขึ้นของสน มันเป็นความรู้สึก อะไรอย่างหนึ่งที่พูดยาก ว่าควรจะแสดงความยินดีหรือควรจะปลอบใจ “เห้ย... โอเคนะเว้ย แล้วมึงโอเคหรือเปล่า” ผมพูดไปเพื่อไม่อยากให้สน คิดมาก “ไม่โอเค ก็ต้องโอเค” สนพูดสั้นๆก่อนที่จะปล่อยน�้ำตาไหลออก มาด้วยความที่กลั้นต่อไปไม่ไหวแล้ว
“เห้ย ไม่เป็นไรนะเว้ย” ผมรีบพูดปลอบกลับทันที
สนเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดออกมา “เซฟไม่รู้หรอว่าที่เรา พยายามอยากจะเข้ามหาลัยเดียวกับเซฟให้ได้ ก็เพราะเราอยากจะได้อยู่ กับเซฟต่ออีก เราเสียใจมากเลยนะรู้มั้ย” “ก็เข้าใจนะ แต่ก็อย่าให้เหตุผลการเข้าเรียนที่ไหนเพราะใครเลย และถึงยังไงต่อให้เราเรียนกันคนละที่ ก็ยังติดต่อกันได้อยู่ดีมั้ยหละ” ผม พยายามพูดเพื่ออยากให้สนเข้าใจ “เดี๋ยวเซฟเข้ามหาลัย ก็มีคนอื่นให้เลือกเยอะแยะ เซฟก็ลืมเรา ไม่สนใจเราหรอก” สนพูดเพื่อตัดพ้อใส่ผมพลางร้องไห้ 33
Love for all seasons รักทุกฤดู
“อย่าคิดแบบนั้นสิสน...” ผมก�ำลังพูดอยู่แต่ดูเหมือนว่าสนจะไม่ ฟังผมแล้ว “ไม่ต้องมายุ่งกับเราแล้ว อย่ามายุ่งกับเราอีก เราขออยู่คน เดียว” สนพูดก่อนจะปล่อยน�้ำตาร้องไห้โฮชุดใหญ่ “ก็ได้... อย่าเครียดมากแล้วกันนะ กู...เป็นห่วงนะ” ผมพูดด้วย น�้ำเสียงที่รู้สึกไม่ค่อยสบายใจเท่าไหร่นักก่อนที่จะวางสายจากสน นี่ก็ผ่านมานานหลายปีแล้วโดยที่ผมไม่กล้าที่จะติดต่อไปหาสน เลย ผมหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเมื่อเปิดแชทดูเลื่อนมองดูรายชื่อผู้ ติดต่อในโทรศัพท์ แล้วก็หยุดอยู่ที่สน ในรูปภาพส่วนตัวของสนที่แสดงให้ เห็นอยู่นั้นท�ำให้ผมก็พอจะรู้ได้ว่าตอนนี้สนมีใครซักคนที่คอยดูแลสนอยู่ แล้ว ผมรู้สึกได้ว่า เพราะความงุ่นง่านของผมเลยท�ำให้ผมปล่อยให้ใคร ซักคนหนึ่งที่เขาจริงใจกับผมมากจริงๆ ได้หลุดหายไปจากชีวิตผม หาก เวลาสามารถหวนคืนกลับไปได้ ผมก็อยากจะบอกความรู้สึกในใจกับสน อีกครั้งเช่นกัน
34
แล้งลา
35
รักสุดท้าย ที่ปลายฝน พัชรธารา สุขศิลป์วิทยา
“ฤดูฝนเป็นเรื่องธรรมดา ฤดูน�้ำตาก็เช่นกัน” เสี ย งจากรายการชื่ อ ดั ง เรื่ อ งความรั ก กล่ า วสรุ ป ปิ ด รายการ ณิชาได้แต่นั่งหัวเราะเยาะตัวเองแล้วเพ่งมองดูน�้ำอมฤต สีแดงในมือด้วย สายตาที่ฝ้าฟางด้วยหยาดน�้ำตา เธอยกแก้วไวน์กระดกกรึ้บแล้วรีบซ่อน มันไว้ในตู้ทึบข้างฝา ไม่รอให้ฝีเท้าที่ก�ำลังลงบันไดทันมาเห็นเธอที่ห้อง ครัว ทั้งที่รู้อยู่เต็มอกว่าสามีของเธอไม่แม้แต่จะชายตามอง ก็เช่นเดียวกับ เธอนั่นแหละ ถึงไม่หันไปดูก็รู้ว่าเขาก�ำลังก้าวโครมๆลงบันได ขณะที่สอง มือก�ำลังจัดเสื้อผ้าให้เข้าที่ ปากก็บ่นเรื่องบันไดสกปรก และเมื่อถึงบันได ขั้นสุดท้ายนั่นแปลว่ากระเป๋าเอกสารต้องจัดวางไว้ที่โต๊ะอาหารเรียบร้อย แล้วพร้อมให้หยิบฉวย เขาจะตรงไปที่โต๊ะอาหาร หยิบหนังสือพิมพ์ขึ้นมา อ่าน รอเวลาที่กาแฟ ขนมปัง ไข่กระทะ ถูกทยอยมาเสิร์ฟ โดยที่เขาจะไม่ 37
Love for all seasons รักทุกฤดู
ยอมเสียเวลาเหลือบตาพ้นจากหนังสือพิมพ์ดูภรรยาที่ก�ำลังปรนนิบัติด้วย ความซื่อสัตย์แม้แต่น้อย มันเป็นเช่นนี้มานานกี่ปีแล้วเธอก็ลืมเลือนแล้ว จ�ำได้แต่ว่าหลัง จากที่รู้แน่ชัดว่าเธอไม่มีทางให้ก�ำเนิดทายาทมาสืบวงศ์ตระกูลแล้ว เขา และเธอก็เหมือนกลายเป็นตุ๊กตาไขลานที่ต้องอยู่คู่กันเพราะโรงงานผลิต มาเป็นคู่เหมือนช้อนกับส้อม มีแบบแผนชีวิตตายตัว เช้าจะพูดอะไร กี่ ประโยค เย็นจะกินข้าวกับอะไร ดูทีวีช่องไหน หรือโทรศัพท์มาบอกสั้นๆ ว่าวันนี้ไม่กลับมากินข้าวเย็น เธอเองก็ไม่ถามถึงเหตุผล เพราะหากถามไป ก็ได้ค�ำตอบเดิมๆ เช่นเดียวกับที่พูดเมื่อวาน เมื่อวันก่อน เมื่อเดือนก่อน และเมื่อปีก่อน ดังนั้น วิถีชีวิตในครอบครัวที่แห้งแล้งในบ้านโทรมๆสองชั้นจึง เป็นไปตามวงจรซ�้ำซาก ทั้งเย็นชืด ไร้ความหวาน ไม่มีจุดหมายปลายทาง ไม่มีอะไรเลย และไม่คิดด้วยว่าวิถีชีวิตตรงนี้จะมีใครมาเปลี่ยนมันได้
เว้นแต่ความตาย
เธอเดินไปเสิร์ฟกาแฟ ต้องเป็นกาแฟด�ำเท่านั้น ห้ามใส่น�้ำตาล เด็ดขาด แล้วแสดงบทบาทราวกับว่าสิ่งที่สามีบอกเธอเมื่อคืนไม่ได้มีผล ต่อชีวิตสมรสของเราแม้แต่น้อย แต่เธอก็ไม่สามารถกลั้นน�้ำตาไว้ได้ พอ เสิร์ฟกาแฟเสร็จเธอรีบหันหลังใช้ผ้ากันเปื้อนซับน�้ำตา เธอไม่ได้คาดหวัง หรือเรียกร้องความเห็นใจ แม้ลึกๆในใจอยากให้เขาแสดงความห่วงใยกับ เธอสักนิดหนึ่ง เผื่อว่าเขาจะได้ทราบความเจ็บปวดของเธอขณะนี้ 38
รักสุดท้ายที่ปลายฝน
ขณะที่เธอเดินกลับเข้าครัว เขาก็ลดหนังสือพิมพ์ลง
“ขอบคุณ”
เธอรู้สึกสะท้านในอก ค�ำว่าขอบคุณหายไปจากบ้านนี้กว่าเจ็ด ปี บัดนี้มันกลับคืนมา แล้วเธอก็รู้ว่าท�ำไม ทุกอย่างมันเปลี่ยนไปแล้วและ ไม่ใช่ในทางที่ดี “บ่ายสามวันนี้คุณจะไปจ่ายตลาดใช่ไหม” จริงๆเขาไม่จ�ำเป็นต้อง ถามก็ได้ เพราะมันคือกิจวัตรของเธอทุกวันศุกร์หลังลาออกจากงานมา เป็นแม่บ้านให้เขา
“ค่ะ” เธอรับค�ำ
“ดีแล้ว ผมจะมาเก็บของใช้ส่วนตัวตอนนั้น”
“ค่ะ”
“คุณกินเหล้าอีกแล้วใช่มั๊ย” เขาขึ้นเสียงสูงแสดงความหงุดหงิด ไม่ใช่ความห่วงใย เธอรีบเดินกลับเข้าครัว น�้ำตาอาบแก้ม ไม่เข้าใจตัวเองเหมือน กันว่าท�ำไมต้องเตรียมอาหารเช้า จัดกระเป๋าให้ผู้ชายคนนี้อีก คนที่กดขี่ ข่มเหงเธอตลอดสิบปีของชีวิตแต่งงาน ผู้ชายที่ทิ้งเธอไปในขณะที่เธอไม่ 39
Love for all seasons รักทุกฤดู
เหลือใครอีกแล้ว ณิชาเดินเหมือนหุ่นยนต์ไปยังเคาน์เตอร์ นั่งสะอื้นเงียบๆ จน กระทั่งได้ยินเสียงฝีเท้า และเสียงรถยนต์แล่นออกจากบ้านไป ถึงตอน นั้นเธอจึงเปล่งเสียงร้องไห้อย่างหนัก ยอมรับความจริงว่าเธอหมดสิ้นทุก อย่างแล้วในชีวิต
เขาฆ่าเธอให้ตายทั้งเป็น
หญิงวัยสามสิบเก้าเริ่มเมาด้วยไวน์แก้วใหญ่ เธอนั่งร�ำพึงร�ำพัน ความหลังอยู่คนเดียว ครั้งแรกที่พบกันเขายังเป็นนิสิตคณะบัญชี รูปร่าง ใหญ่เหมือนพระเอก กวีมาเฝ้าเธอเช้าเย็น ฝากจดหมายรักผ่านเพื่อน ชักชวนเธอไปเที่ยวตามสถานที่ต่างๆและด้วยความที่พ่อแม่ของเธอเสีย ชีวิต ท�ำให้เขาเข้ามาเป็นที่พึ่งพิงในชีวิตของเธออย่างง่ายดาย ชายหนุ่ม กลายเป็นเงาติดตามตัว แสดงความรักอย่างหวานชื่น สัญญารักมั่นตลอด ไป ณิชาเคลิ้มจนแทบไม่เป้นอันเรียนหนังสือ กวีหมั้นหมายเธอด้วยความ ฝันอันยิ่งใหญ่ เมื่อส�ำเร็จการศึกษา กวีขอเธอแต่งงาน แน่นอน เธอตอบตกลง ด้วยความสุขใจ เขาท�ำตัวเป็นผู้น�ำที่ดี เธอก็พร้อมเป็นผู้ตามที่สงบเสงี่ยม เจียมตัว ชายหนุ่มขอให้เธอเป็นแม่ศรีเรือน โดยเขาจะสร้างความยิ่งใหญ่ ในโลกธุรกิจเพียงล�ำพัง 40
ห้าปีผ่านไป
ความฝันเริ่มสั่นคลอน
กวีผู้เริ่มต้นท�ำงานใน
รักสุดท้ายที่ปลายฝน
ต�ำแหน่งผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายบัญชียังไม่สามารถขยับต�ำแหน่งไปไกลกว่านี้ ได้ ตรงข้าม นิสัยไม่คบค้าสมาคมกับใคร ท�ำให้เขาโดดเดี่ยวและท้ายที่สุด แล้วทางออกคือ หางานใหม่
เช่นเดียวกับณิชา เธอล้มเหลวในการผลิตทายาทสืบสกุลให้สามี
เป็นการยากที่จะบอกว่าปัญหาอยู่ที่ใคร เพราะทุกคนย่อมปกป้อง ตนเองแล้วโยนความผิดให้ผู้อื่น ทั้งสองโทษกันและกัน และกลัวการไป พบแพทย์ ด้วยเกรงจะรับรู้ว่าแท้จริงแล้วตนเองคือผู้ที่เป็นหมัน ณิชากลัว ว่าหากเธอเป็นหมัน กวีจะทิ้งเธอไป ส่วนกวีก็เกรงว่าหากภรรยาทราบ ว่าตนเป็นหมัน จะหาว่าไม่มีน�้ำยา จนแล้วจนรอดก็ไม่มีใครไปพบแพทย์ และใช้วิธีลมๆแล้งๆประเภทบนบานศาลกล่าวในการขอลูก
ไวน์แก้วใหญ่ดึงความทรงจ�ำออกมาได้ดี
เจ็ดปีต่อมาเมื่อไม่มีทายาท ชีวิตคู่เริ่มเหี่ยวเฉา กวีกลับบ้านดึก เงินทองขาดมือบ่อยครั้งจากการพนัน เขากลายเป็นพ่อบ้านที่ใช้ชีวิตส่วน ใหญ่ในวงพนัน ณิชารับรู้ความเครียดในใจของสามีและไม่เคยซ�้ำเติมเธอ ด้วยค�ำบ่น แต่นานวันทุกอย่างเริ่มเลวร้ายลงทุกที สามีกลายเป็นคนเฉื่อย ชา อาชีพการงานตกต�่ำ ไม่คิดจะหารายได้เพิ่มเติม เพราะขาดแรงจูงใจใน การสร้างชีวิต จนทุกวันนี้สินสมรสมีเพียงบ้านราคาถูกย่านชานเมืองกับ รถยนต์เก่าๆหนึ่งคัน
ณิชาพยายามสร้างแรงฮึดให้สามีกลับคืนมาใหม่แต่ก็ไร้ผล เธอ 41
Love for all seasons รักทุกฤดู
ท�ำให้กวีโกรธหน้าแดงเมื่อขออนุญาตท�ำงานนอกบ้านเพื่อหารายได้เสริม และลดความเบื่อหน่ายที่ต้องขอเงินสามีใช้ในทุกๆเดือน ค�ำพูดของสามีคือเสียงของสวรรค์ เธอเชื่อค�ำเขาจนลืมค�ำว่า คัดค้าน เป็นอย่างไร
ณิชารินไวน์อีกแก้ว นั่งละเลียดอย่างช้าๆ
ไม่ว่ากวีจะเปลี่ยนไปเช่นไร ณิชาก็ยังปฏิบัติกับเขาด้วยความ ซื่อสัตย์และเสมอต้นเสมอปลายเหมือนเดิม และเมื่อเป็นเช่นนั้น ณิชาจึงไม่รู้วิธีท�ำมาหากิน ไม่มีญาติพี่น้อง ให้พึ่งพิง ชีวิตของเธอเป็นเหมือนไม้เลื้อยที่ต้องคอยหาที่พึ่งพิงตลอดเวลา เฝ้ารอสามีกลับบ้าน ดูแลรับใช้จนหลับ ที่ท�ำไปทั้งหมดเพื่อชดใช้ที่มีลูก ให้สามีไม่ได้ ความหวานชื่นหายไปพร้อมกับความห่วงใย แต่สิ่งหนึ่งที่ยัง เหลือ คือความมั่นคง ณิชาไม่เคยถูกรบกวนใจจากหญิงอื่น ความมั่นคง นี้คือพลังที่เธอยอมทุ่มเทชีวิตทั้งหมดเพื่อผู้ชายที่ลืมไปว่าภรรยาก็เป็นเช่น เดียวกับตน เมื่อกวีเข้าบ่อนการพนันเพื่อคลายเหงา ณิชาก็พบวิธีคลายเหงา ของเธอเช่นกัน เธอได้พบว่าไวน์ชั้นดีที่สามีเหลือติดขวดกลับมาสามารถ เปลี่ยนบ้านที่แสนน่าเบื่อ ให้กลายเป็นสวรรค์บนดินชั่วคราว ในยามที่เธอ ต้องอยู่บ้านเพียงล�ำพัง 42
ณิชาแม่บ้านขี้เมาฟุบหลับอยู่บนเคาน์เตอร์ห้องครัว
รักสุดท้ายที่ปลายฝน
ความฝันทุรนทุรายปลุกเธอขึ้นพบกับความจริง ในฝันณิชาหล่นมาจาก หน้าผาสูงที่มืดและไม่มีที่สิ้นสุด เธอพยายามตะเกียกตะกายแต่ก็ไร้ผล เธอร้องเสียงดังจนคอแหบและสะดุ้งตื่น เธอโผเข้าห้องน�้ำ และผงะด้วย ความตะลึงเมื่อเห็นภาพตัวเองในกระจกเงา มันสะท้อนใบหน้าหญิงสาว แก้มตอบ ตาโหล มีรอยตีนกา ไม่เหลือร่องรอยความสดใสของนิสิตสาว เมื่อสิบห้าปีที่แล้ว ณิชาลูบหน้าตัวเองช้าๆ ยอมรับว่าไม่เคยสนใจมันมานานแล้ว วัน นี้ฉันจะไปตลาด ไปซื้อครีมบ�ำรุงผิว น�้ำตาไหลรินมาอีก เธอจะโกหกตัว เองท�ำไม มันสายเกินไปแล้ว มันไม่ใช่แค่ใบหน้าที่ไม่สดใสของเธอหรอก เธอรู้ดี ท�ำไมคุณปล่อยให้บ้านรกอย่างนี้ กว่านี้ไม่ได้หรือ
อยู่บ้านรับเงินไปวันๆท�ำให้ดี
เลิกดื่มสักทีได้มั๊ย เหล้าเนี่ย
โว้ย...จะบ้าตาย...อยู่ไปได้ยังไง...พื้นเหนียวเหมือนกาวตาช้าง ไม่ คิดจะท�ำความสะอาดเลยหรือไง
กินแล้วก็นอน...สบายจริงนะแม่คุณ
คุณเปลี่ยนไปมากนะ ผมเตือนคุณเป็นครั้งสุดท้าย 43
Love for all seasons รักทุกฤดู
เธอได้พยายามแล้ว แต่เป็นความพยายามที่ล้มเหลว กวีไม่เคยให้ ก�ำลังใจ ซ�้ำเติมจนท้อ แต่...เอาเถอะ เธอจะลองดูใหม่อีกครั้ง แม้จะไม่มีความหวังแล้วก็ตาม หญิงสาวรีบอาบน�้ำแต่งตัวไปร้านเสริมสวย ให้ช่างแต่งหน้า ท�ำ ผม ทาเล็บ จนกลายเป้นคนละคน มันน่าจะได้ผล หญิงขี้เมาพึมพ�ำระหว่างทาง วันนี้เป็นวันส�ำคัญ ที่สุด ฉันจะต้องดึงเขาคืนมาจากนังแพศยานั่นให้ได้ ฝนตั้งเค้าก�ำลังจะตก หญิงสาวกลับบ้านด้วยความหวัง เมื่อถึง บ้านเธอรีบเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดล�ำลอง และลงมือท�ำความสะอาดบ้าน บันไดสูงเหนียวเหนอะด้วยคราบสกปรก จริงอย่างที่สามีบ่นทุกครั้งที่ขึ้น ลงบันได เธอละเลยงานบ้านมาตั้งหลายปีตั้งแต่เป็นหญิงขี้เมา เหลือเพียง อย่างเดียวคือแบมือขอเงิน ซึ่งก็ท�ำได้ดี
ถึงเวลาต้องปฏิวัติเสียที
หลังจากเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ ณิชาก็ลงมาท�ำความสะอาดห้อง รับแขกเป็นห้องแรก มันต้องดูดีเมื่อเขากลับมา ผ้าปูโต๊ะด�ำคล�้ำด้วยฝุ่น หนา หยากไย่เต็มมุมห้อง พื้นมีรอยกาแฟหกตั้งแต่เดือนที่แล้ว ผมอายเวลาเพื่อนมาบ้าน มากแค่ไหน 44
ไม่รู้ตัวบ้างหรือไงว่าคุณมันน่าเบื่อ
รักสุดท้ายที่ปลายฝน
เธอรีบท�ำงานแข่งกับเวลา ดอกไม้ที่ซื้อติดมือจากหน้าปากซอย ท�ำให้บ้านดูสวยขึ้นเยอะ เสร็จจากห้องรับแขกเธอก็ไปห้องครัว รื้นค้น ท�ำความสะอาดใหม่เป็นหมวดหมู่ และเรียงล�ำดับการใช้งานอย่างชัดเจน ณิชากลั้นใจโยนไวน์ครึ่งขวดลงถังขยะ
ลาที...ยายขี้เมา
แวกซ์ขัดพื้นคงจะแยกชั้นน�้ำกับน�้ำมันแล้ว แต่เอาเถอะมันน่าจะ ยังใช้ได้ สามีเธอมันบ่นประจ�ำเรื่องท�ำความสะอาดบันได เธอหาผ้าชุบ น�้ำท�ำความสะอาดบันไดและราวบันไดเปลี่ยนน�้ำกว่าห้ารอบถึงจะสะอาด จากนั้นจึงลงแวกซ์ที่บันไดขั้นบนสุด ตอนนั้นเองเสียงโทรศัพท์ดังนึ้น นั่นเป็นเสียงแปลกใหม่ เพราะ สามีไม่เคยโทรศัพท์เข้ามาในเวลาบ่าย เธอวิ่งไปรับอย่างแปลกใจ
“ฮัลโหล” ณิชากรอกเสียงเบาๆ
“คุณหรือ” เสียงห้าวดังมาจากปลายสาย
“ค่ะ”
“เดี๋ยวผมจะเข้าไปเก็บของใช้ส่วนตัวนะ” ณิชาใจหายวาบ ไม่นะ คุณต้องเข้ามาดูก่อน ฉันไม่ใช่ผู้หญิงขี้เมาคนเดิมแล้ว 45
Love for all seasons รักทุกฤดู
“แต่...คุณคะ...คือ...” “เราพูดกันเข้าใจแล้วไม่ใช่หรือ อีกหนึ่งชั่วโมงผมจะถึงบ้าน คุณ ควรออกไปจ่ายตลาดระหว่างที่ผมไปเก็บของ อ้อ! น้องพราว จะเข้าไป ช่วยผมเก็บของด้วย แค่นี้นะ” เขาวางสายไปแล้ว ชื่อ “น้องพราว” ผู้หญิงแพศยา ชอบแย่งผัวชาวบ้าน ยังกล้ามา เหยียบบ้านนี้อีกหรือ ณิชาเริ่มเหม่อลอย พยายามลืมกับสิ่งที่ได้ยินแต่ท�ำ ไม่ได้ เธอโกรธจนน�้ำตาไหลอาบแก้ม ด้านนอกบ้านฝนตกลงมาอย่างหนัก ราวรับรู้ถึงความโศกเศร้า ของเธอ ท�ำไมนะ ท�ำไมใจร้ายกับเธอแบบนี้ ถ้าเขาจะมีผู้หญิงคนใหม่ ท�ำไมไม่มีตั้งแต่เธอยังสาวๆ เธอยังพอตั้งตัวได้ แต่นี่สิถึงเธอจะไม่ได้แก่จน ท�ำอะไรไม่ได้ แต่เธอก็หมดแรงใจจะก้าวต่อไป สามีเธอบอกจะขายบ้าน หลังนี้ แบ่งเงินกันคนละครึ่ง เขาจะไปอยู่กับเมียใหม่ที่ก�ำลังตั้งท้อง แล้ว เธอล่ะ จะไปอยู่กับใคร ที่ไหน ส่วนแบ่งจากสินสมรสก็ไม่พอซื้อจะซื้อบ้าน ซุกหัวนอน เธอต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่ในวัยเกือบสี่สิบปี ณิชาน�้ำตาไหลแข่งกับฝนด้านนอก มือขัดบันไดซ�้ำๆซากๆที่เดิม มานานนับชั่วโมง ในสมองมีแต่ค�ำถาม ท�ำไมถึงท�ำร้ายกันขนาดนี้? เขา น่าจะยกบ้านหลังนี้ให้เธอ อย่างน้อยก็ตอบแทนความภักดีตลอดชีวิต และ เป็นที่ซุกหัวนอนยามแก่ชรา เธออยากเอ่ยปากร้องขอแต่ก็รู้ว่าไม่มีทาง ที่ จริงถ้าเขาตายก็ดีเหมือนกัน บ้านหลังนี้จะได้เป็นขอเธอตามกฎหมาย 46
รักสุดท้ายที่ปลายฝน
เสียงรถจอดหน้าบ้านปลุกเธอขึ้นจากภวังค์ หันไปมองนาฬิกา เธอขัดบันไดขั้นเดียวมาเป็นชั่วโมง กวีกลับมาแล้ว มาเพื่อเก็บของไปอยู่ กับเมียใหม่ เธอรีบเก็บแวกซ์ขัดพื้น ความหวังที่จะท�ำให้เขาเปลี่ยนใจดู เลือนรางราวกับท้องฟ้าในยามนี้ที่ถูกปกคลุมด้วยเมฆด�ำสนิท ณิชาลงมาที่ห้องครัว คว้าตะกร้าและหยิบร่มท�ำทีว่าจะออกไป จ่ายตลาด เธอมองออกไปเห็นผู้หญิงนางหนึ่งนั่งคอแข็งอยู่ในรถ นี่เอง หรือ นังพราว เชิดหน้าหยิ่งยโสจริงนะ กวีผลักประตูเข้ามา สองมือหอบกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ เขาไม่ ได้เหลือบดูความเปลี่ยนแปลงในบ้านแม้แต่นิดเดียว เธอลงแรงสูญเปล่า จริงๆ สมองณิชามีแต่ความโกรธ ความผิดหวังที่ไม่อาจระบายได้ เธอรีบ ก้าวออกจากบ้าน
นี่เป็นครั้งสุดท้ายแล้วสินะที่จะได้เห็นหน้ากัน
ไม่มีแม้แค่ค�ำทักทายหรือค�ำอ�ำลา
ชีวิตสมรสกว่าสิบปีมีค่าแค่นี้เอง
ขณะที่ณิชาหันกลับมาปิดประตูบ้าน เธอเห็นผู้ชายที่จะกลายเป็น สามีในอดีต ก�ำลังยกกระเป๋าใบใหญ่ขึ้นเหนือหัวด้วยสองมือขึ้นบันไดอย่าง ทุกลักทุเล 47
Love for all seasons รักทุกฤดู
ณิชานึกบางอย่างขึ้นมาได้ เธออ้าปากจะเรียกชื่อสามี แต่แล้วก ลับเปลี่ยนใจ ดึงประตูปิดไม่อยากเห็นภาพน่ากลัว แต่เธอก็ไม่ได้เดินจาก ไป เธอรอฟังเสียงหนึ่งด้วยใจจดจ่อ แล้วเธอก็ได้ยินมันในเจ็ดวินาทีถัดมา เสียงของชายร่างใหญ่ตีลังกาตกจากบันไดขั้นบนสุดเพราะความลื่น เสียงนั้นดังพอที่จะท�ำให้เธอเชื่อว่า บ้านนี้กลายเป็นของเธอแล้ว โดยมิได้ตั้งใจ ฝนหยุดตกแล้ว เธอมองหน้าขึ้นฟ้า แล้วคิดในใจ ถึงเวลาฟ้าหลัง ฝนของฉันแล้วสินะ...
48
รักสุดท้ายที่ปลายฝน
49
Once
ภาดล สุขสถิตย์
เมื่อฤดูใบไม้ร่วงมาถึง สิ่งที่คุณจะคิดถึงคืออะไร ? อาจจะเป็น อากาศที่เย็นสบาย กลิ่นพายฟักทองของคุณย่า หรือ อาจจะเป็นใบไม้สีส้ม ที่ก�ำลังร่วงลงสู่พื้นดิน แต่ส�ำหรับผม มีบางสิ่งที่ท�ำให้ผมมองฤดูใบไม้ร่วงนี้ เปลี่ยนไป อากาศที่หลายๆคนบอกว่าเย็นสบายในฤดูใบไม้ร่วงที่ผมเกลียด นักเกลียดหนา ในตอนนี้ผมกลับชอบมันอย่างบอกไม่ถูก พายฟักทองของ คุณย่าที่เคยหวานจนแสบคอ ตอนนี้กลับหวานกลมกล่อมก�ำลังดี คุณคง คิดว่าผมเพี้ยนหน่อยๆหละสิ งั้นผมจะพาคุณไปดูเหตุการณ์ที่ท�ำให้ผม มองฤดูใบไม้ร่วงนี้เปลี่ยนไปเลยละกัน (เผื่อคุณจะได้เลิกหาว่าผมเพี้ยน สักที) เรื่องมันเกิดขึ้นในช่วงฤดูใบไม้ร่วงนี่แหละ เมื่อปีก่อน ที่หมู่บ้าน ทางตอนเหนือ ความจริงแล้วผมไม่ได้อยู่ที่นี่หรอก เพียงแต่ผมถูกส่งมา อยู่ที่นี่กับคุณย่าที่เอาแต่อบพายฟักทองได้ทั้งวันของผม เพื่อช่วยคุณย่าจัด งานขอบคุณเทพฤดูกาลของคนในหมู่บ้าน 51
Love for all seasons รักทุกฤดู
มันท�ำเอาผมแทบไม่อยากลุกจากเตียงในทุกๆวัน เพื่อที่จะต้องตื่นมาคอย ชิมพายฟักทองของคุณย่า เพื่อที่จะได้มั่นใจได้ว่า พายฟักทองของคุณย่า ในปีนี้จะต้องดีที่สุดในหมู่บ้าน “ออกัส! ออกัส หลานรักของย่า หลานจะมัวแต่มุดอยู่ในผ้าห่ม แบบนี้ไม่ได้นะ” นั่นไง เสียงปลุกของคุณย่าของผม ผมคงต้องรีบตื่นแล้วหละ ถ้า ไม่อยากถูกเทศนาเรื่อง ความส�ำคัญของฤดูใบไม้ร่วงกับการตื่นเช้า “คร้าบบบ ผมก�ำลังลงไปเดี๋ยวนี้แหละ” ผมรีบลุกจากเตียงที่ ก�ำลังอุ่นสบาย หยิบเสื้อโค๊ทเก่าๆขึ้นมาสวม และรีบลงบันไดไป คุณย่าจะ ได้ไม่โกรธและพาลให้ผมต้องกินพายฟักทองเพิ่มเป็นสองเท่าในเช้านี้ “หลานรัก วันนี้หลานช่วยไปซื้อผงอบเชย กับเนยสดที่ตลาดให้ ย่าหน่อยนะ ย่าก�ำลังคิดค้นพายสูตรใหม่ มันจะต้องเป็นพายที่ยอดเยี่ยม ที่สุดในปีนี้เลย หลานว่ามั้ยจ๊ะ” “คร้าบ ผมก็คิดว่าเป็นอย่างงั้นแหละครับ” ผมตอบเพื่อให้คุณย่า สบายใจ พลางตักพายฟักทองเละๆอุ่นๆ เข้าปากอย่างไม่ใส่ใจนัก “งั้นผมไปเลยนะครับคุณย่า” ผมรีบลุกจากโต๊ะ และก้าวยาวๆไป ที่ประตู เพือ่ ที่จะได้พ้นๆจากบ้านที่เหมือนโรงงานท�ำพายฟักทองนี่เสียที 52
Once
“ออกัสหลานรัก รีบไปแล้วรีบกลับมาให้ทันมื้อเที่ยงนะจ๊ะ วันนี้มี แซนวิชฟักทองกับชีสนมแกะนะจ๊ะ” ผมรีบเดินให้เร็วที่สุดเท่าที่จะท�ำได้เพื่อให้พ้นจากบ้านของคุณย่า ผมเดินออกมาจากบ้านและเลี้ยวเข้าไปในป่าต้นโอ๊ค ที่ใบไม้ก�ำลังเปลี่ยน สี และร่วงลงมา ลมหนาวปะทะร่าง ผมเกลียดอากาศแบบนี้ที่สุด ไหนจะ ใบไม้ที่คอยร่วงลงมาใส่หัวของผม และอากาศที่ท�ำให้ไม่สามารถออกจาก บ้านโดยไม่มีเสื้อโค๊ทสวมทับ ผมเดินให้เร็วกว่าเดิมเพื่อที่จะหลบใบไม้โง่ๆ พวกนี้เสียที “โอ้ย !” ผมสะดุดเข้ากับกิ่งต้นโอ๊คขนาดใหญ่ “บ้าจริง” ผมสบถ ขึ้นอย่างหัวเสีย
“นาย... เป็นอะไรรึเปล่า”
ผมมองไปที่ต้นเสียง เด็กหนุ่ม อายุน่าจะรุ่นราวคราวเดียวกับผม ร่างสูงโปร่ง ผมสีเข้ม มองมาที่ผมอย่างสงสัย “ไม่เป็นไรก็บ้าแล้ว” ผมลุกขึ้น และเดินต่อไป ผมได้ยินเสียง ฝีเท้า นายนั่นเดินตามหลังมา
“นาย มีอะไรรึเปล่า” ผมหันกลับไปถาม นายนั่น
“ฉันแค่ไม่รู้จะไปไหน เลยเดินตามนายไป หวังว่าจะไม่รบกวน 53
Love for all seasons รักทุกฤดู
นะ?” และแล้วนายนั่นก็เดินตามผมอย่างที่พูดจริงๆ ระหว่างทาง เราได้คุยกันนิดหน่อย ก็นิดหน่อยจริงๆนะ ผมรู้แค่ ว่านายนั่น อาศัยอยู่ซักที่ในป่าต้นโอ๊คนั่นแหละ แต่ผมก็ไม่ได้ถามอะไร มากมายจากมาร์โก ท�ำไมหนะหรือ เพราะผมไม่ใช่คนช่างถามหนะสิ “ผมขอแยกไปตรงนี้เลยละกันนะ” นายนั่น บอกกับผมที่ต้นโอ๊ค ต้นที่ผมเจอกับเขา หลังจากเราเดินกลับจากไปซื้อของในเมืองด้วยกัน
“อ่าห๊ะ ไว้เจอกัน”
เลย”
“ออกัส พรุ่งนี้มาหาผมด้วยนะ ผมมีเรื่องอยากคุยด้วยอีกเยอะ
“ถ้าว่างนะ” ผมตอบกลับพร้อมเดินกลับไปหาคุณย่า เวลานั้นก็ เกือบเย็นแล้ว แน่นอนว่าคุณย่าหัวเสียเอามากๆ ผลสุดท้ายคือ ผมเลย ต้องกินพายฟักทองสูตรใหม่เป็นมื้อเย็นเพื่อบรรเทาความโกรธของคุณย่า จนได้ เช้าวันรุ่งขึ้น เป็นวันที่ผมตื่นขึ้นเองได้โดยไม่ต้องให้คุณย่าเรียก ผมรีบจัดแจง หยิบเสื้อโค๊ทและเดินลงไปยังห้องครัวเหมือนที่ท�ำทุกวัน 54
“อรุณสวัสดิ์ฮะ คุณย่า”
Once
“อุณสวัสดิ์จ่ะ หลานรัก วันนี้เทพฤดูกาลเข้าฝันหรือจ๊ะ ถึงได้ตื่นเช้าแบบนี้ มาๆ มาช่วยย่ายกหม้อเร็ว” “ก็ไม่รู้สิครับ อาจจะเป็นเพราะพายฟักทองเมื่อเย็นก็ได้มั้ง ครับ” ผมยกหม้อลงจากเตามาไว้ที่โต๊ะในห้องครัว มันเป็นหม้อที่เต็มไป ด้วยฟักทองที่ต้มจนนิ่ม สีเหลืองทองอยู่ในหม้อ ยังไงวันนี้ก็คงไม่พ้นซุป ฟักทอง ไม่ก็น�้ำฟักทองแน่ๆ “วันนี้คุณย่า มีอะไรให้ผมช่วยไหมครับ” ผมถาม ราวกับว่ามี อะไรจะต้องท�ำ “อ้อ ไม่มีจ่ะ หลานรัก วันนี้ย่าว่าจะนั่งเลือกฟักทองส�ำหรับแกะ สลักตกแต่งในวันงานหนะจ่ะ”
“ครับ งั้นวันนี้ผมขอออกไปเดินเล่นในป่าต้นโอ๊คนะครับ”
“ได้จ๊ะ หลานรัก แต่กลับมาให้ทันมื้อเย็นนะจ๊ะ หลานคงไม่อยาก ให้ย่าต้องเพิ่มปริมาณพายเป็นสองเท่าหรอกนะจ๊ะ” “ครับ” ผมขานรับ พร้อมหยิบขนมปังจากตะกร้าออกมาสองก้อน และก้าวออกจากบ้านตรงไปที่ป่าต้นโอ๊ค วันนี้ในป่าอากาศเย็นขึ้นกว่าเมื่อวานเล็กน้อย แต่ใบไม้ก็ยังคงร่วง ลงมาเช่นเคย ผมเดินไปตามทางที่จะไปตลาด เหมือนเมื่อวาน ผิดแต่ว่า 55
Love for all seasons รักทุกฤดู
วันนี้ผมไม่ได้มองหาทางที่จะไปตลาดหรอก แต่ผมมองหาใครคนนึงอยู่ “ออกัส นายมองหาใครอยู่รึเปล่า” ผมจ�ำเสียงนั้นได้ เสียงที่ทุ้มต�่ำ อย่างเป็นเอกลักษณ์ของนายนั่น “ก็ใครหละ บอกให้ฉันมาหา” ร่างสูงโปร่งนั่นเดินมาที่ผมพร้อม รอยยิ้มที่น่าจะกระโดดถีบให้หน้าทิ่มกองใบไม้นั่น “คร้าบๆ ขอบใจนะที่มาหาผม” นายนั่นยิ้มให้ โดยไม่ทันรู้ตัว นายนั่นฉวยเอาขนมปังที่ผมก�ำลังกินอยู่ และยัดเข้าใส่ปากตัวเองอย่าง สบายใจ “ให้มันน้อยๆหน่อยนะ แล้วที่บอกให้ฉันมา นี่ต้องการอะไร” ผม หยิบขนมปังอีกก้อนขึ้นมากิน ไม่ใช่เพราะหิว แต่เพราะไม่รู้จะท�ำอะไร เวลาอยู่ต่อหน้านายนั่น
“ก็ผมไม่มีเพื่อนนี่นา เลยอยากให้นายอยู่คุยเป็นเพื่อนหน่อย”
“หืม ? นายไม่ใช่คนที่นี่หรอ” ผมสงสัย
“จะว่าใช่ก็ใช่ จะว่าไม่ใช่ก็ไม่ใช่ แต่เอาเป็นว่าผมไม่ค่อยมีเพื่อน คุยเท่าไหร่หรอก นายช่วยอยู่คุยกับผมหน่อยนะ” 56
ยั ง ไงก็ ดี ก ว่ า ต้ อ งหมกตั ว อยู ่ ใ นโรงงานท� ำพายฟั ก ทองหละน่ า
Once
“ก็ได้ แต่บอกไม่ได้ว่าฉันจะมาหานายได้บ่อยแค่ไหนนะ” “แค่นั้นก็ดีแล้ว” นายนั่นยิ้มแก้มแทบปริ จะว่าไปเวลานายนั่นยิ้ม ท�ำไมผมถึงต้องยิ้มตามด้วยนะ ไม่เข้าใจจริงๆ วันเวลาผ่านไป จากหนึ่งวัน เป็นหนึ่งสัปดาห์ จากหนึ่งสัปดาห์ เป็นหนึ่งเดือน จนผมไม่รู้ว่าผ่านไปแล้วกี่วัน ที่ผมกับนายนั่น ได้คุยกันถึง แม้จะไม่ใช่ทุกวัน เพราะยังไงซะผมก็ต้องเป็นลูกมือในการท�ำพายฟักทอง สูตรใหม่ของคุณย่า (ที่คุณย่าเรียกว่า เป็นพายที่โก้เก๋ที่สุดเท่าที่เคยมีมา ในหมู่บ้าน) แต่เมื่อไหร่ที่ผมว่าง ผมก็อดไม่ได้ที่จะต้องไปหานายนั่นใน ป่าต้นโอ๊ค บางทีผมก็สงสัยเหมือนกันว่า นายนั่นวันๆไม่ท�ำอะไรบ้างเลยรึ ไง แต่ผมก็ได้รับค�ำตอบภายหลังว่า นายนั่นคอยท�ำหน้าที่ดูแลต้นไม้ในป่า ช่วงเย็น ท�ำให้ผมไม่เคยเจอนายนั่นเลยนอกจากช่วงเช้า วันนี้ก็เป็นอีกวันหนึ่งที่ผมออกไปหานายนั่นได้แต่เช้า เพราะ คุณย่าต้องไปเลือกจานส�ำหรับใส่พายในวันงานที่ใกล้เข้ามาทุกที อากาศ ตอนนี้ก็หนาวมากขึ้นเรื่อยๆ ใบไม้ของต้นโอ๊ค ก็เริ่มร่วงโรยจนใกล้หมด ต้นเต็มที ผมเดินตรงไปที่ป่าต้นโอ๊คอย่างคุ้นเคย พร้อมกับกระชับเสื้อโค๊ท ให้แนบกายมากขึ้นเผื่ออากาศจะอุ่นขึ้นบ้าง
“อรุณสวัสดิ์ ออกัส” นายนั่นทักทายผมก่อนอย่างเคย
“ไง” ผมเดินไปนั่งที่ใต้ต้นโอ๊คต้นใหญ่ ที่ผมมักนั่งคุยกับนายนั่น ทุกวัน 57
Love for all seasons รักทุกฤดู
“ใกล้จะถึงวันนั้นแล้วสินะ”
“หืม ? วันอะไร”
“วันที่นายต้องกลับไปไง” นายนั่นเดินมานั่งใกล้ๆผมแล้วมองไป ข้างหน้าอย่างว่างเปล่า “อ๋อ ก็ใช่ ใกล้จะหมดฤดูใบไม้ร่วงแล้วหนิ หลังจากเสร็จงาน ขอบคุณเทพเจ้าฤดูกาล ฉันก็ต้องกลับแล้วหละ” แม้จะเป็นเรื่องที่ผมรู้อยู่ ก่อนแล้ว แต่ท�ำไมนาทีนี้กลับใจหายอย่างบอกไม่ถูก “ผมคงเหงาแย่เลย ถ้าไม่มีนายอยู่” นายนั่นมองมาที่ผม ผมสี เข้มปลิวตามสายลมเบาๆ “เห้ย ไม่เอาน่า ยังไงปีหน้า ฉันก็ต้องกลับมาอยู่แล้ว นายคงไม่ ความจ�ำสั้นขนาดจะลืมฉันได้หรอกนะ” ผมหัวเราะแห้งๆ เพราะอยาก ท�ำให้บรรยากาศดีขึ้น ทั้งๆที่ผมเองก็ไม่ได้รู้สึกดีเท่าไหร่หรอก “ออกัส ผมมีเรื่องจะสารภาพ” นายนั่นหันกลับไปมองข้างหน้า อีกครั้ง ด้วยสีหน้าที่อ่านได้ยาก 58
“เรื่องอะไร ?” ผมถามออกไปทันที
Once
“ออกัสรู้ไหม สาเหตุที่ผมไม่ค่อยออกจากป่าต้นโอ๊คนี่ สาเหตุที่ผมไม่มีเพื่อนเลย คืออะไร”
และ
ผมชะงัก ท�ำไมผมถึงไม่ตั้งค�ำถามเหล่านี้เลยตลอดเวลาที่ผ่านมา
“ออกัส... ไม่เคยสงสัยเลยหรอว่าผมเป็นอะไรกันแน่”
“ถึงฉันจะไม่แน่ใจ แต่ฉันก็ไม่คิดว่านายจะมีอะไรแปลกไปนะ”
“ออกัส... ที่จริงผมหนะ ป่วยด้วยโรคประหลาด เป็นโรคที่ท�ำให้ ความทรงจ�ำของผมจะเริ่มใหม่ทุกครั้งเมื่อฤดูใบไม้ร่วงสิ้นสุดลง” น�้ำลาย ของผมเหนียวไปหมด สมองของผมเริ่มปรับตัวไม่ทันกับความจริงที่นาย นั่นก�ำลังบอกผม
“นี่นายหมายความว่า ที่ผ่านมา..” ไม่ทันที่ผมจะได้พูดจบ
“เพราะผมจะต้องลืมทุกอย่าง เมื่อฤดูใบไม้ร่วงสิ้นสุด ผมจึงได้ หนีออกมาอาศัยอยู่ในป่า เพื่อที่จะได้ไม่ต้องพบใครมากนัก เมื่อฤดูใบไม้ ร่วงสิ้นสุดลง ทุกอย่างรอบตัวผมจะยังคงไม่เปลี่ยนแปลง จะไม่มีใครต้อง ถูกลืม” ได้
“รวมถึงฉันด้วยหรอ” ผมเริ่มจับใจความที่นายนั่นต้องการจะสื่อ
59
Love for all seasons รักทุกฤดู
“อืม.. ผมขอโทษ” นายนั่นมองมาที่ผม น�้ำตารื้นขึ้นมา สายตา นายนั่นเศร้า จนท�ำผมเจ็บปวดใจอย่างไม่มีสาเหตุ “ผมไม่คิดว่าผมจะต้องการรู้จักใครอีก แต่เมื่อผมเห็นออกัส ผม ไม่รู้เหมือนกันว่าท�ำไมผมถึงอยากรู้จักคนๆนี้ ผมสละความกลัวทิ้งไป ผม ได้เข้าไปรู้จักคนๆนี้ ผมอยากรู้จักคนๆนี้ให้มากขึ้น มากขึ้นเรื่อยๆ จนเกิด เป็นความกลัว ผมกลัวที่จะสูญเสียคนๆนี้ไป แม้ว่าผมจะจดจ�ำทุกอย่างไว้ แต่ผมก็กลัว ผมกลัวว่าผมอาจจะไม่รู้สึกแบบนี้อีก” “บ้าหนะ นายล้อฉันเล่นใช่มั้ย ถึงนายจะรู้สึกโกรธที่ฉันต้องกลับไป แต่ยก เรื่องแบบนี้มาอ้าง มันไม่ตลกเลยนะ” ผมท้วง ไม่ใช่เพราะผมไม่เชื่อหรอก สีหน้า แววตาแบบนั้น นายนั่นไม่ โกหกหรอก เพียงแต่ผมยังหวังให้เรื่องที่นายนั่นพูดมา เป็นแค่เรื่องล้อเล่น “ผมไม่ได้ล้อเล่นหรอกนะ แต่ไม่ว่าจะยังไง ผมก็ไม่อยากลืม หรอก เวลาที่ผ่านมา มันมีค่าส�ำหรับผมมากจริงๆ ผมรู้สึกขอบคุณมาก ส�ำหรับเวลาที่ผ่านมา ผมมีความสุข ผมไม่อยากให้ฤดูใบไม้ร่วงนี้สิ้นสุดลง เลย ผมไม่อยากลืมออกัสเลยจริงๆ” ผมลุกขึ้น ในตอนนี้น�้ำตาอุ่นๆ ได้เริ่มไหลอาบแก้มทั้งสองข้างของ ผมแล้ว 60
ท�ำไมกัน เราพึ่งรู้จักนายนั่นแท้ๆ ท�ำไมเราถึงรู้สึกอัดอัดแบบนี้
Once
นะ ท�ำไมเราถึงต้องโกรธด้วย ไม่มีเหตุผลเลย
“ออกัส...”
“ถ้าต้องรู้จักกัน ทั้งๆที่นายก็จะลืมฉันอยู่ดี แบบนี้สู้ไม่รู้จักกันไป เลยจะไม่ดีกว่าหรอ” ผมตอบไปแทบจะไม่ได้คิด
“แต่ว่า....ออกัส”
ผมไม่รอฟังค�ำพูดของนายนั่นอีกต่อไปแล้ว ผมวิ่งตรงไปยังบ้าน ของคุณย่า คุณย่ายังไม่กลับมา ผมวิ่งขึ้นไปยังห้องของผม นอนลงและ ร้องไห้จนผลอยหลับไป
“ออกัส หลานรัก หลานหลับอยู่หรอ”
ผมได้ยินเสียงคุณย่า ตาผมร้อนผ่าว นี่ผมหลับไปนานเท่าไหร่แล้วนี่
“ตื่นแล้วครับ คุณย่า”
คุณย่าเปิดประตูเข้ามา แล้วนั่งที่ข้างๆเตียงของผม พลางยกมือที่ เต็มไปด้วยกระแต่ยังเต่งตึงวางที่หน้าผากของผม “ตัวอุ่นๆนะ ออกัส หลานรัก เดี๋ยวย่าจะท�ำซุปฟักทองอุ่นๆมาให้ นะ และก็วันนี้หลานไม่ต้องลงไปทานข้าวเย็นข้างล่างหรอกจ่ะ” คุณย่าลุก 61
Love for all seasons รักทุกฤดู
ขึ้น และเดินไปที่ประตู
“คุณย่าครับ...”
“ว่าไงจ๊ะ หลานรัก อยากได้พายฟักทองเพิ่มด้วยหรอจ๊ะ”
“เปล่าครับ ผมมีเรื่องอยากจะถามหน่อยครับ”
คุณย่าเดินมานั่งที่ข้างเตียงเช่นเดิม แล้วลูบผมของผม เบาๆ อย่างอ่อนโยน ราวกับว่าคุณย่ารู้ว่าผมรู้สึกอย่างไรในตอนนี้
“ว่ามาเลยจ๊ะ หลานรัก”
“สมมุตินะครับ ถ้าคุณย่ามีเพื่อนที่รักมากคนหนึ่ง ที่ก�ำลังจะย้าย ไปอยู่ต่างเมืองและอาจจะไม่ได้กลับมาอีก หมายถึง ต่อให้กลับมา เขาก็ อาจจะจ�ำคุณย่าไม่ได้ แต่คุณย่ายังคงต้องการเขาอยู่ คุณย่าจะยังคุยกับ เพื่อนคนนั้นอยู่รึเปล่าครับ” ผมถามออกไปโดยที่ผมไม่รู้ตัวด้วยซ�้ำว่าพูดอะไรออกไป การ ที่พูดถึงเรื่องนี้ในขณะที่เรื่องพึ่งเกิด มันช่างเจ็บปวดเหลือเกิน ผมต้อง พยายามกลั้นน�้ำตาไม่ให้ไหลออกมา ในขณะที่รอค�ำตอบจากคุณย่า “ถ้าเพื่อนคนนั้นของย่าก�ำลังจะจากไปต่างเมืองและอาจจะไม่ได้ กลับมา หรืออาจจะลืมย่า แต่ถ้าตอนนี้เขายังอยู่กับย่า และย่าก็ต้องการ 62
Once
เขา ย่าก็จะยังคุยกับเขาอยู่จ่ะ และมันจะเป็นการคุยกันที่มีความหมาย มากกว่าครั้งไหนๆด้วย” คุณย่ายิ้มอย่างอ่อนโยน มาที่ผม “ท�ำไมหละครับ ถ้าเรายิ่งสนิทกันทั้งๆที่รู้ว่าอีกคนก�ำลังจะจากไป มันจะไม่ยิ่งเจ็บปวดเวลาแยกจากกันหรอครับ” “และหลานคิดว่า ความรู้สึกที่มีกับเพื่อนคนนั้นมีค่าพอแค่เพื่อรอ เวลาที่มันจะจากไปงั้นหรือจ๊ะ”
“ผมไม่เข้าใจ”
“ก็ถ้าความรู้สึกที่มี มันมีค่ามากพอ ท�ำไมเราต้องกลัวว่าจะเสีย มันไปด้วยหละจ๊ะ ในเมื่อตอนที่ความรู้สึกนั้นยังอยู่ เรามีความสุขกับมัน และมันก็มีความหมายมาก การที่เราจะทิ้งความรู้สึก นั้นไปเพราะกลัวความทุกข์ที่จะมาเมื่อต้องจากกัน มันไม่น่าเสียดายไป หน่อยหรือจ๊ะ” “ต่อให้เขาอาจจะลืมย่า แต่ถ้ามันเป็นความรู้สึกที่มีค่า มีควา หมายส�ำหรับย่า ถึงแม้ว่าจะส�ำหรับย่าฝ่ายเดียว ย่าก็จะไม่มีวันลืมความ รู้สึกนั้นได้ และย่าเชื่อว่า ถ้าเพื่อนคนนั้นของย่ายังคงเป็นคนเดิม และย่า เองก็ยังเป็นคนเดิม เมื่อเราได้พบกันอีกครั้ง เราก็จะยังคงสร้างความรู้สึก ที่ดีขึ้นมาได้อีกครั้งแน่นอนจ๊ะ”
“แล้วคุณย่าจะไม่เหงา ไม่คิดถึง ตอนที่เพื่อนคนนั้นจากไปแล้ว 63
Love for all seasons รักทุกฤดู
หรอครับ” “แน่นอนสิจ๊ะ ย่าก็ต้องเหงา และคิดถึงเพื่อนคนนั้นอยู่แล้ว แต่ ถ้าความทรงจ�ำนั้นเป็นความทรงจ�ำที่ดี อย่างน้อยย่าก็คงยิ้มอย่างมีความ สุขได้เวลานึกถึง แม้ว่ามันอาจจะไม่เกิดขึ้นอีก แต่ความทรงจ�ำนั้นเป็นของ เรา มันก็เหมือนหนังสือเล่มหนึ่ง ที่เราจะหยิบขึ้นมาอ่านเมื่อไหร่ก็ได้ แม้ เราจะไม่ได้พบกันอีก แม้ว่าต่อให้พบกันอีกมันจะไม่เหมือนเดิม แต่เราก็ จะจดจ�ำช่วงเวลาที่เรามีร่วมกันได้ยังไงหละจ๊ะ”
“ครับ ขอบคุณมากนะครับคุณย่า”
“จ๊ะ หลานรัก เชื่อย่าเถอะจ่ะ ท�ำทุกเวลาที่มีอยู่ไม่ว่ากับใครก็ตาม ให้มีความหมายมากที่สุด ไม่ใช่เพื่อเขา แต่เพื่อตัวเราเองจะได้นึกถึง และ ยิ้มให้กับช่วงเวลานั้นได้อย่างเต็มที่ยังไงหละจ๊ะ” คุณย่าเดินลงไปยังห้องครัวแล้ว เหลือแต่เพียงผมอยู่บนเตียง ผม นอนคิดถึงประโยคที่คุณย่าพูด และผมก็คิดถึงนายนั่นด้วย
นี่เราเสียเวลาที่จะอยู่กับนายนั่นไปเท่าไหร่แล้วเนี่ย
ผมคิดถึงนายนั่นขึ้นมาจับใจ เสียดายเวลาที่ผมเอาแต่หลบอยู่ใน ห้องสี่เหลี่ยมโง่ๆนี่ ยิ่งคิดว่าเวลาที่มีเหลือน้อยเต็มที ผมก็แทบรอให้ถึง พรุ่งนี้เช้าไม่ไหวแล้ว คืนนั้นผมรีบข่มตาให้หลับ แม้จะไม่ค่อยได้ผล แต่ก็ นั่นแหละ เวลาเช้าก็มาถึง 64
Once
“วันนี้ผมขอตัวไปท�ำธุระข้างนอกนะครับ” ผมพูดพลางวิ่งออกจากบ้านไป อย่างรวดเร็ว “หลานรัก แต่เราเหลือเวลาอีกแค่สัปดาห์เดียวก่อนงานขอบคุณ เทพฤดูกาลแล้วนะ ยังไงก็กลับมาก่อนมื้อเย็นนะจ๊ะ” คุณย่าตะโกนไล่หลัง มา แต่ในมือยังคงสานพายฟักทองต่อไปอย่างไม่ใส่ใจ ผมวิ่งเข้าป่าต้นโอ๊คที่บัดนี้ แทบจะไม่เหลือใบไม้บนต้นแล้ว ทิวทัศน์ที่เคยเป็นสีส้ม ตอนนี้กลับซีดไร้ชีวิตชีวา ผมวิ่งไปที่ๆผมกับนาย นั่นพบกันบ่อยๆ
“ออกัส... ผมคิดว่าออกัสจะ..”
ยังไม่ทันที่นายนั่นจะได้พูดอะไรออกไป ผมได้วิ่งเข้าไปสวมกอด นายนั่นเข้างอย่างจัง จนนายนั่นเซไปกระแทกกับต้นโอ๊คด้านหลัง
“ออกัส.....”
“ฉันขอโทษ.. จากนี้ไปเรามาใช้เวลาที่เหลืออยู่ด้วยกันเถอะนะ” ผมพูดพร้อมมองหน้านายนั่น ที่มีสีหน้างุนงงเล็กน้อย “ฉันรู้ ถึงแม้ว่านายอาจจะลืมฉัน แต่ฉันจะไม่มีวันลืมนาย นาย เคยบอกว่านายอยากรู้จักฉัน ถ้าฤดูใบไม้ร่วงปีหน้า ฉันกลับมาที่ป่าแห่งนี้ อีก ถ้าฉันสะดุดล้มอีก นายก็จะอยากรู้จักฉันอีกรอบ ใช่ไหม” 65
Love for all seasons รักทุกฤดู
“ฮ่าๆๆ อืม... แน่นอน”
นายนั่นหัวเราะ และร้องไห้ไปพร้อมๆกัน ผมไม่แน่ใจหรอกนะว่า นายนั่น ร้องไห้เพราะดีใจที่ผมกลับมา หรือเพราะเจ็บที่ผมกระโดดกอด นายนั่นกันแน่ แต่ที่ผมรู้ เรามีช่วงเวลาในฤดูใบไม้ร่วงที่เหลืออยู่ที่ดีที่สุด เท่าที่เคยมีมา เรากินข้าวด้วยกัน พูดคุยกันถึงพายของคุณย่าที่นับวันจะ หวานขึ้นเรื่อยๆ พูดคุยถึงอากาศที่หนาวขึ้น แต่เราสองคนก็ไม่หนาวเท่า ไหร่หรอก เพราะตราบใดที่เรายังอยู่ด้วยกัน ต่อให้อากาศจะหนาวกว่านี้ หรือพายของคุณย่าจะหวานกว่านี้ ก็ไม่เป็นไร ผมเคยคิดนะว่าเมื่อผมกลับไปแล้ว ผมจะหนาวมากขึ้น และไม่ สามารถทนกินพายของคุณย่าที่ส่งมาให้ได้อีกต่อไป แต่มันก็ไม่เป็นแบบ นั้นหรอก เพราะเมื่อผมคิดถึงเวลาที่นายนั่นกอดผมเวลาผมบ่นว่าหนาว หรือเวลานายนั่นชมว่าพายของคุณย่าอร่อยแค่ไหน ในขณะที่ผมบ่นอุบ เกี่ยวกับความหวานของมัน ผมก็รู้สึกว่านายนั่นยังอยู่ข้างผมตลอดเวลา ผมไม่รู้ว่าการที่เรามีช่วงเวลาที่ดีและมีความหมายร่วมกัน จะท�ำให้นาย นั่นไม่ลืมผมรึเปล่า แต่ที่ผมรู้คือผมไม่มีวันไหนจะลืมนายนั่นได้เลย นี่ก็ มาถึงปลายฤดูร้อนแล้วนะ ผมเองก็เริ่มจะคิดถึงฤดูใบไม้ร่วงแล้วสิ คุณ หละตอนนี้ก�ำลังคิดถึงใคร หรือฤดูอะไรอยู่รึเปล่า ?
66
Once
67
ขอ...รักได้ไหม กนกพร แก่นแก้ว
รอบตัวของชายหนุ่มห้อมล้อมไปด้วยความเขียวขจีของพื้นหญ้า และต้นไม้ภายในสวนสาธารณะที่อยู่ใกล้กับหมู่บ้านของเขา ที่เขาเองนั้น มักจะมาวิ่งออกก�ำลังกายเพื่อรับความสดชื่นในทุก ๆ เช้า ยิ่งในช่วงเข้า สู่ต้นฤดูหนาวเช่นนี้ ความเย็นของอากาศก�ำลังดีอีกทั้งมีหมอกจาง ๆ ตัด กับแสงสีส้มนวลของรุ่งอรุณในยามเช้า มันช่างเป็นอะไรที่วิเศษส�ำหรับเขา มาก ชายหนุ่มหลงใหลการเฝ้ามองการขึ้นของดวงตะวันที่ค่อย ๆ ลอยพ้น ขอบฟ้า เป็นดั่งสัญญาณบอกการเริ่มต้นสู่วันใหม่ ภากร ชายหนุ่มวัย 25 รูปร่างสูงโปร่ง หน้าตาคมเข้ม ผู้ซึ่ง หลงใหลการดูพระอาทิตย์ขึ้น แม้แต่ชื่อเขาก็ยังมีความหมายไม่พ้นสิ่ง ที่เขาชอบ หรือตอนตั้งชื่อแม่เขาจะรู้นะว่าเขาชอบแสงรุ่งอรุณในยามเช้า และเช้านี้ก็เป็นดังเช่นทุกเช้าที่ชายหนุ่มมักจะมายืนทอดสายตามองไปยัง ทิศทางที่แสงสีส้มก�ำลังสว่างขึ้น พร้อมสูดรับอากาศที่สดชื่นของต้นฤดู หนาว ถ้าหากจะมีใครสักคนมายืนเคียงข้างกายเขา ณ ตอนนี้ก็ 69
Love for all seasons รักทุกฤดู
คงจะดีไม่น้อย เขาได้แต่เพียงคิดในใจ และก็เป็นเหมือนเช่นทุกเช้า ภากรมักจะเดินลัดเลาะตามทางมุ่ง หน้ากลับสู่บ้านของตน มันคงจะเป็นเช่นวันก่อน ๆ ถ้าเขาไม่ได้ยินเสียง บางอย่างหลังพุ่มไม้ตรงช่วงทางเดินก่อนจะพ้นสวนสาธารณะแห่งนี้ เขา ชะงักฝีเท้าและหยุดเดิน และหันไปเพ่งมองตรงพุ่มไม้ เมื่อเขารับรู้แน่ชัด แล้วว่าเสียงนั้นคือเสียงอะไร เขาจึงผละเดินออกไปพ้นจากบริเวณพุ่มไม้ นั้น เพราะเสียงที่เขาได้ยินนั้นเป็นเสียงร้องของบางอย่างที่เขาไม่ชอบและ ไม่มีความจ�ำเป็นที่จะต้องสนใจมัน แม้เขาจะเดินออกมาจากบริเวณนั้นแล้ว แต่ท�ำไมยังมีเสียงนั้น ดังรบกวนเขาอยู่ตลอดทางที่เขาเดินล่ะ เขาหยุดเดินอีกครั้ง เสียงนั้นก็ยิ่ง ชัดขึ้นทุกที และจู่ ๆ ก็มีบางอย่างยุกยิก ๆ อยู่ตรงขา พอเขาก้มลงมองก็ เห็นก้อนกลม ๆ สีขาวแถบน�้ำตาล ก�ำลังเอาหัวถูไถกับขาของเขาอยู่ เขา สะบัดเท้าเบา ๆ เพื่อให้ก้อนกลม ๆ นั่นออกไป แต่พอมันกระเด็นไป สักพักก็กลับเข้ามาคลอเคลียกับขาเขาอีกครั้ง มันคงจะหนาวไม่น้อย ถึง ได้เอาแต่คลอเคลียหาไออุ่นจากขาของเขา ในชีวิตภากรนั้น มีไม่กี่สิ่งที่ เขาไม่ชอบและสิ่งนั้นก็เป็นสิ่งที่เขาก�ำลังพบเจออยู่ ณ ตอนนี้ สิ่งมีชีวิตที่ เรียกว่า “แมว” ท�ำไมเขาถึงไม่ชอบแมว งั้นหรอ ก็เพราะขนของมันจะ ร่วงทุกที่ที่เดินผ่าน สิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าแมว วัน ๆ มันท�ำได้แค่ร้อง เหมียว ๆ แล้วเข้ามาอ้อนเจ้านายมันเท่านั้นแหละ อันที่จริงแล้ว ภากรก็ไม่ได้ถึงกับไม่ชอบแมว เพียงแต่ชายหนุ่มไม่ คิดว่าตัวเองจะเหมาะกับการนั่งยอง ๆ บนส้นเท้าตัวเอง แล้วก้มหน้าคุย 70
ขอ...รักได้ไหม
กับเจ้าแมวตัวนี้สักเท่าไหร่ “ถ้าฉันเตะแก จะดูใจร้ายไปไหมนะ” ภากรได้แต่ก้มหน้าพูด พึมพ�ำกับแมวตัวอ้วน “เหมียว เหมียว …” เจ้าแมวยังส่งเสียงร้อง และยังไม่เลิก คลอเคลียขาของเขา “ชิ่ว ๆ ไปซะ ไม่ต้องมามองตาแป๋ว” เขาไล่มันโดยเตะเจ้าแมว ตัวนี้เบา ๆ เพียงแค่ให้มันหลุดออกจากขาของเขา พอมันตั้งหลักได้ มันก็มองเขาด้วยสายตาเศร้า แล้วมันก็หันเดินออกไปทางทิศที่เป็นถนน ภายนอกสวนสาธารณะ “อะไรกัน นึกจะไปก็ไปง่าย ๆ” ภากรพึมพ�ำกับตัวเองอีกครั้ง แต่ เขาก็ยังคงไม่ละสายตาจากเจ้าแมวตัวนั้น เมื่อเห็นมันเดินออกไปจนถึงริม ฟุตบาท เขาได้แต่คิดในใจว่าตัวเล็ก ๆ แบบนี้มีหวังอาจโดนรถชนก็เป็น ได้ ที่จริงชายหนุ่มจะไม่สนใจก็ได้ว่ามันจะเป็นอย่างไร แค่เพียงเขาหันหลัง และเดินต่อไป แต่แล้วชายหนุ่มก็ตัดสินใจวิ่งไปอุ้มเจ้าแมวขึ้นมา และก็ พามันเดินกลับไปตามเส้นทางสู่บ้านของเขา “อย่ามองแบบนั้น หยุดเลย” เขาบอกเจ้าแมวที่ตอนนี้มันเกาะที่ อกของเขา เจ้าแมวมันเอาเท้าเล็กของมันเกาะเสื้อเขา แน่นไม่ยอมปล่อย แล้วท�ำตาแป๋ว ๆ อีกแล้ว เหมือนอยากให้เขาเอามันไปเลี้ยง และเขาคงแพ้ สายตาของเจ้าแมวตัวนี้จนได้ จึงได้อุ้มมันกลับมาถึงบ้าน 71
Love for all seasons รักทุกฤดู
เมื่อมาถึงบ้าน จันทร์เจ้า น้องสาวของก�ำลังเปิดประตูออกมา พอดี เธอรีบเดินปลี่เข้ามาหาภากรหมายจะอุ้มเจ้าแมวอย่างลืมตัวว่าตัว เองนั้นแพ้ขนของมัน “แมวใครหรอพี่ภากร น่ารักมาก ๆ เลยอ่ะ” เธอพูดด้วยน�้ำเสียง กระตือรือร้น ภากรเพี ย งตอบน้ อ งสาวของเขาเพี ย งแค่ ว ่ า เก็ บ ได้ ที่ ส วนสา ธารณะน่ะ น่าจะหลงกับเจ้าของเพราะมีปลอกคอเล็ก ๆ อยู่ที่คอของมัน และตัวภากรเองก็คงไม่รู้จะเลี้ยงมันอย่างไรดี ดีที่วันนี้เป็นวันเสาร์ ถ้า เป็นวันจันทร์มันต้องเป็นเช้าที่วุ่นวาย ก่อนไปท�ำงานแน่ ๆ จะปล่อยมันไว้ ที่บ้านก็คงจะไม่ดี อีกทั้งจันทร์เจ้าก็ไม่สามารถน�ำมันไปเลี้ยงได้ แล้วใคร จะเลี้ยงมันล่ะ เมื่อคิดไม่ตกก็คงค่อยหาวิธีจัดการทีหลังละกัน ตอนนี้ ก็คงเลี้ยงเจ้าแมวอ้วนนี่ไปก่อน “แล้วนี่มาหาพี่ที่บ้านมีอะไรรึป่าวจันทร์เจ้า ไหนบอกพี่ไว้ว่าจะอยู่ หอท�ำโปรเจคกับเพื่อนไง” หลังจากที่เขาใช้ความคิดอยู่กับตัวเอง เขาก็หัน กลับไปพูดกับน้องสาวอีกครั้ง “แวะมาเอาของเฉย ๆ ค่า คุณพี่ชาย ก�ำลังจะกลับหอพอดีเลย แล้วนี่พี่จะท�ำไงต่ออ่ะ ตามหาเจ้าของมันไหม” “ตามหายังไงล่ะ แต่เจ้าของน่าจะเป็นคนละแวกนี้แหละ” เขา ตอบน้องสาว พลางคิดถึงความเป็นไปได้ เพราะเจ้าของ มันคงพามันมา 72
ขอ...รักได้ไหม
เดินเล่นที่สวนสาธารณะ “ลองท�ำใบประกาศไหม แล้วเอาไปแปะบริเวณสวนสาธารณะนั้น แต่อย่างไงพี่ก็เลี้ยงมันไปก่อนนะ เลี้ยงให้ดี ๆ ด้วย นะคะ น่าสงสารจัง มันต้องคิดถึงเจ้าของมันแน่ ๆ เลย ถ้าเจ้าไม่แพ้ขนมันเจ้าพาเจ้าแมวอ้วน ตัวนี้ไปอยู่ด้วยแล้ว” จันทร์เจ้ามักจะเรียกแทนชื่อของเธอ สั้น ๆ ว่า “เจ้า” “อืม ๆ” เขาตอบรับน้องสาวไปเพียงแค่นั้น เพราะตัวเขาเองก็ไม่รู้ จะเลี้ยงได้ดีหรือไม่ เขาเป็นผู้ชายนะ และอีกอย่างเขาก็ไม่เคยเลี้ยงเจ้า สัตว์มีขนแบบนี้เลย เขาพามันเข้ามาในบ้านหาตะกร้าใส่ผ้าและวาง มันอยู่ในนั้น อย่างน้อยคงช่วยบรรเทาความหนาวของมันได้บ้าง
“ฉันจะเรียกแกว่าอะไรดี เจ้าแมวอ้วนหลงทาง”
“เจ้ากลมละกัน เหมาะกับแกดี เพราะแกมันอ้วน วิ่งก็เหมือน กลิ้ง 555 ” ภากรนั่งพูดกับเจ้าแมวอ้วน ซึ่งเขาเองก็ไม่คิดว่าตัวเองจะนั่ง คุยกับแมวได้เป็นตุเป็นตะขนาดนี้ ทั้งทีมันก็ท�ำแค่จ้องมองเขากับด้วยแวว ตาแป๋ว ๆ อีกแล้ว ก็คงจะเรียกว่าน่ารักอยู่ล่ะมั้ง เมื่อได้ความคิดจากน้องสาวตัวดี เขาจึงถ่ายรูปเจ้ากลม เพื่อ ไปท�ำใบประกาศตามหาเจ้าของ พร้อมทิ้งเบอร์โทรของตัวเองไว้ส�ำหรับ ติดต่อ และก็ไม่คิดว่า จะเป็นไปได้กับชีวิตชายโสดที่ปกติตื่นเช้าไปออก ก�ำลังกาย ดูพระอาทิตย์ขึ้น แล้วไปท�ำงาน เย็นก็กลับบ้าน ชีวิตปกติของ ภากร เป็นเช่นนี้มาตลอดตั้งแต่เริ่มท�ำงาน พอมีเจ้ากลมมาอยู่ด้วย แม้ 73
Love for all seasons รักทุกฤดู
เพียง 3 วัน ชายหนุ่มก็รู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงของตัวเอง เขาน่ะ หรอที่สามารถเลี้ยงเจ้าแมวอ้วนนี้ได้ จริง ๆ มันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่ จะเลี้ยงแมว แต่ชายหนุ่มกับรู้สึกว่าแค่เพียงไม่กี่วัน เขาก็ดันผูกพันกับมัน ไปซะแล้ว เหมือนชีวิตมีอีกหนึ่งสิ่งมีชีวิตที่ต้องดูแล คอยให้อาหาร เล่นกับ มัน แม้เจ้ากลมนี้จะซนบ้าง ชอบข่วนโซฟาอยู่บ่อย แต่ชายหนุ่มกลับรู้สึก ถึงความมีชีวิตชีวาของตัวเอง “เจ้ากลม นี่ก็ 4 วันแล้วนะ คิดถึงเจ้านายแกไหม เขาก็คงตาม หาแกอยู่เหมือนกัน ไม่รู้จะเห็นใบประกาศที่ฉันไปติด ไว้ไหม” ภากรพูด พลางเกาท้องเจ้ากลมไปเรื่อย ๆ ทันใดนั้นก็มีเสียงโทรศัพท์เข้ามา พร้อม เบอร์แปลก เขารีบรับทันนี้แม้จะไม่แน่ใจว่าใช่เจ้าของเจ้ากลมไหม แต่ก็ อยากให้มันได้เจอเจ้าของเร็ว ๆ เพราะมันก็คงจะคิดถึงเจ้าของมันไม่น้อย “สวัสดีค่ะ ใช่คุณภากรหรือเปล่าคะ” น�้ำเสียงใสจากปลายสาย เอ่ยถามด้วยเสียงสั่น ๆ
“ใช่ครับ ผมภากร” เขาเพียงตอบรับไปอย่างสั้น ๆ
“ดิฉันชื่อ น�้ำฟ้า นะคะ ฉันเห็นว่าคุณเก็บแมวได้ ดิฉันคิดว่าน่า จะเป็นแมวของดิฉัน”
“ยังไงคุณช่วยบอกต�ำหนิหรืออะไรก็ได้ เดี๋ยวผมช่วยดูให้ครับ”
“แมวของดิฉันมันจะมีรอยแผลเป็นที่ขาหน้าข้างขวาค่ะ คุณต้อง
74
ขอ...รักได้ไหม
แหวกขนมันถึงจะเห็น” หลังจากที่หญิงสาวเอ่ยจบ ภากรก็เดินไปอุ้มเจ้า กลมมาไว้บนตักตัวเอง ก่อนจะแหวกขนที่ขาขวามันออก เพื่อมองหารอย แผลเป็นที่ว่า เขาพบรอยแผลเป็นดังกล่าวจริง ๆ ด้วย “มันมีรอยแผลเป็นที่คุณบอกครับ เป็นแมวของคุณจริง ๆ ไม่ ทราบว่าสะดวกมารับมันวันไหนครับ” เมื่อภากรพูดประโยคดังกล่าว ชาย หนุ่มได้ยินเสียงถอนหายใจของหญิงสาวอย่างโล่งอก
“วันนี้คุณสะดวกไหมคะ”
“สะดวกครับ ถ้าอย่างนั้นบ่าย 3 โมง เจอกันที่ร้าน Chill Café ที่ ตั้งอยู่ข้าง ๆ สวนสาธารณะนะครับ ผลสามารถติดต่อคุณเบอร์นี้ได้เลยใช่ ไหมครับ” “ใช่ค่ะ ขอบคุณนะคะที่ดูแลมัน” หลังจากวางสายแล้ว ภากรจับ เจ้ากลมมาโยนขึ้นโยนลง มันคงดีใจแน่ ๆ เลย แกจะได้เจอเจ้าของแล้ว นะ เจ้ากลมเข้ามาคลอเคลียภากรใหญ่เลยเหมือนรู้ว่าเขาจะไม่ได้เลี้ยงมัน แล้ว จู่ ๆ เขาก็รู้สึกใจหาย ไม่น่าตั้งชื่อมันเลยท�ำให้ผูกพันกับมัน เขาอุ้ม มันวางไว้บนโซฟา เตรียมตัวหาสิ่งปกคลุมเพื่อปกป้องความหนาวให้กับ มัน เพราะอากาศเริ่มหนาวเย็นขึ้น ภากรมาถึงที่นัดหมายก่อนเวลานัดเล็กน้อย เขาเข้าไปนั่งรอ ในร้านที่โต๊ะตัวหนึ่ง พร้อมสั่งน�้ำ ดื่มไปพลาง ๆ เมื่อถึงเวลานัดหมาย หมายเลขโทรศัพท์เดิมได้ท�ำให้เครื่องมือสื่อสารของเขาดังขึ้นอีกครั้ง ชาย 75
Love for all seasons รักทุกฤดู
หนุ่มกดรับในทันที และบอกหญิงสาวถึงโต๊ะที่ตัวเองนั่งอยู่ และขณะนั้น เองก็มีผู้หญิงร่างเล็ก ผิวสาว ตาโต หน้าตาน่ารักเดินเข้ามาในร้าน เธอ กวาดสายตาไปรอบ ๆ ร้าน และในตอนนั้นเองภากรก็ได้สบตากับหญิง สาว ชายหนุ่มรู้สึกเก้อเขินขึ้นมา ซึ่งอาการนี้ก็เกิดขึ้นเช่นเดียวกับหญิง สาว “ใช่คุณภากร รึเปล่าคะ” เธอเอยถามชายหนุ่มเพื่อความแน่ใจอีก ครั้ง แต่เธอก็ยิ่งแน่ใจว่าน่าจะใช่เมื่อเธอเหลือบไปเห็นเจ้าแมวตัวอ้วนของ เธอที่นอนนิ่งหลับตาพริ้มในขณะที่ชายหนุ่มก�ำลังเกาที่ท้องมันเบา ๆ เมื่อ เห็นดังนั้น ชายหนุ่มจึงอุ้มเจ้าแมวยื่นให้กับเจ้าของ เธอดูดีใจมาก “ใช่ครับ ผมภากร แต่น�้ำฟ้าเรียกว่าพี่กรก็ได้ครับ ผมน่าจะอายุ มากกว่า” หญิงสาวยิ้มตอบ ก่อนยื่นมือรับเจ้ากลมไปไว้ในอ้อมกอด “ลมหนาว ท�ำไมแกหนีไปฮะ ฉันตามหาแกตั้งนาน รู้ไหมว่าฉัน เป็นห่วง” เจ้ากลมชื่อ “ลมหนาว” สินะ ชายหนุ่มเผลอมองหญิงสาวหยอก ล้อเล่นกับเจ้าลมหนาว จนหญิงสาวเงยหน้าขึ้นมา ทั้งคู่สบตากันอีกครั้ง ชายหนุ่มเกิดใจเต้นแรงและท�ำได้เพียงยิ้มเก้อ ๆ พร้อมยกมือเกาศีรษะ อย่างท�ำอะไรไม่ถูก ชายหนุ่มรับรู้ถึงบางสิ่งที่เกิดขึ้นภายในใจของตัวเอง “อะไรกัน เจอเพียงครั้งแรก ท�ำไมตกหลุมรักเธอซะแล้ว” เขา พึมพ�ำกับตัวเองเบา ๆ และยิ้มให้กับอาการตัวเอง 76
ทั้งคู่ได้พูดคุยกันต่ออีกเพียงเล็กน้อย
ก่อนที่หญิงสาวจะขอตัว
ขอ...รักได้ไหม
กลับ ภากรจึงตัดสินใจถามในสิ่งที่อยากรู้ว่า “ขอโทษนะครับ ถ้าพี่อยากถามน�้ำฟ้าว่า น�้ำฟ้ามีคนดูแลหัวใจรึยัง ครับ” เอ่ยถามออกไป และก็รู้สึกกลัวในค�ำตอบของหญิงสาว
หญิงสาวยิ้มอย่างเขินอายพร้อมตอบกลับว่า “ยังค่ะ”
“ถ้าอย่างนี้ พี่ขอโอกาสดูแลทั้งน�้ำฟ้าและลมหนาวได้ไหมครับ” หญิงสาวท�ำหน้าตกใจเล็กน้อย ก่อนจะค่อย ๆ ยิ้มออกมาอย่างน่ารัก นั่น คงเป็นสัญญาณที่ดีให้แก่ชายหนุ่มว่าเธอนั้น ตอบรับค�ำขอของเขา ฤดูหนาวปีนี้ ชายหนุ่มคงมีคนยืนข้างกายดูพระอาทิตย์ขึ้นแล้ว สินะ ชายหนุ่มพลางเอ่ยขอบคุณเจ้าแมวตัวกลม เจ้าลมหนาวในใจ ลมหนาวสมชื่อจริง ๆ แกคงเป็นลมหนาวที่ต่างจาก ลมหนาวทั่วไปสินะ แม้จะหนาวเย็นแต่เมื่อพัดผ่านเข้ามาก็ท�ำให้หัวใจที่ อ้างว้างของฉันให้อบอุ่นขึ้น ชายหนุ่มทอดสายตาส่งยิ้มขอบคุณอีกครั้งให้ กับเจ้าแมวอ้วนที่อ้อนเจ้าของมันอยู่ และถึงแม้มันอาจจะดูเร็วไปรึเปล่า เพียงเจอกันแค่ครั้งแรก แต่ในเมื่อ ภายในใจมันร้องก้องแล้วว่าใช่ ท�ำไมจะต้องมารีรอล่ะ โอกาสครั้งนี้ชาย หนุ่มไม่มีทางปล่อยมันไปเด็ดขาด ท่ามกลางสายลมหนาว เพียงแค่เธอก็สามารถท�ำให้ใจฉันอบอุ่น ได้ ฤดูหนาวปีนี้ชายหนุ่มก็ได้มีคนยืนข้างกายดูพระอาทิตย์ขึ้นด้วยสมใจ แล้ว แล้วคงจะเป็นเช่นนี้ไปทุก ๆ ปี 77
วันใหม่ในฤดูร้อน ศุภวรรณ นารถ
บนเครื่องบินล�ำใหญ่ที่ก�ำลังมุ่งหน้าไปสู่ญี่ปุ่น หญิงสาวผิวขาวผม ยาวคนหนึ่งเอนกายลงบนเบาะอย่างเหนื่อยอ่อน แม้จะมีผู้คนมากมายที่นี่ แต่เธอกลับรู้สึกราวกับว่า เธออยู่ล�ำพังเพียงคนเดียว เธอทอดสายตาอันเหม่อลอยไปยังหยดน�้ำหยดน้อยที่ค่อย ๆ ไหล รินลงมาอย่างช้า ๆ บนหน้าต่างที่เย็นชืดราวกับคนตาย จังหวะที่หยดน�้ำ ร่วงหล่นอย่างรวดเร็ว เธอเผลอกลืนน�้ำลายลงคอดังเอื๊อก คอของเธอในตอนนี้แห้งผากเหลือเกิน อาจเป็นเพราะเธอก�ำลัง กระหายน�้ำ หรือเพราะเธอก�ำลังรู้สึกว่ามีก้อนอะไรสักอย่างจุกอยู่ที่คอของ เธอกันแน่ เธอยังคงไม่ละสายตาไปจากหน้าต่าง บรรยากาศข้างนอกนั่น ไม่สมกับเป็นฤดูร้อนอันอบอุ่นเอาเสียเลย เมฆด�ำทะมึนค่อย ๆ เคลื่อน 79
Love for all seasons รักทุกฤดู
คล้อยลอยไปมา สายฝนโปรยปรายลงมาอย่างแผ่วเบา แต่กระทบความ รู้สึกของหญิงสาวเข้าอย่างจัง เธอตกอยู่ในภวังค์เสียแล้ว แววตานั้นบอกได้ทันทีว่า เธอก�ำลัง ครุ่นคิดเรื่องบางอย่าง บางอย่างที่ท�ำให้เธอลืมโลกแห่งความเป็นจริงที่ ก�ำลังเคลื่อนผ่านเธอไปอย่างช้า ๆ บางอย่างที่ท�ำให้เธอตัดสินใจก้าวขึ้น มาบนเครื่องบินล�ำนี้
“วี?!”
หญิงสาวสะดุ้งตื่นจากภวังค์ เห็นเพื่อนสาวผมสั้นที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ก�ำลังชะโงกหน้าดูเธออย่างสงสัย
“เราเรียกวีตั้ง 3 ครั้งแล้ว วีไม่ได้ยินหรอ?”
“ขอโทษทีนะ พอดีเราเพลีย ๆ น่ะ ว่าแต่เรียกเรามีอะไรหรอ?”
“วีจะเอาน�้ำอะไร? แอร์โฮสเตสมาถามอยู่เนี่ย”
วีหันหน้าไปมองแอร์โฮสเตสที่ยืนยิ้มรอค�ำตอบของเธออยู่ ปกติ แล้ววีชอบดื่มน�้ำส้มมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฤดูร้อนแบบนี้ น�้ำส้มถือ เป็นตัวเลือกที่เธอน่าจะบอกแอร์โฮสเตสไป เธอหันไปตอบแอร์โฮสเตส ด้วยสีหน้าเพลีย ๆ ไร้รอยยิ้มที่มุมปาก 80
วันใหม่ในฤดูร้อน
“ขอชาละกันค่ะ”
ใช่แล้ว เธอสั่งชา ชาที่เธอเคยบอกกับคนอื่น ๆ ว่าเธอเกลียดมัน มาก แม้ว่าตอนนี้เธอจะยังเกลียดมันอยู่ แต่เธอก็เลือกที่จะสั่งออกไป แบบนั้น แอร์โฮสเตสรินชาใส่ถ้วยอย่างพิถีพิถัน พร้อมส่งถ้วยชาให้กับ กานต์ วีใช้อุ้งมือทั้งสองโอบถ้วยชาอุ่น ๆ นั่นไว้ เธอมองลงไปในถ้วยชาที่ ใสแจ๋ว ภาพที่เห็นสะท้อนใบหน้าของเธอที่ก�ำลังน�้ำตาเอ่อเสียจนมองเห็น อะไรไม่ชัดเจน เธอนึกถึงเรื่องนั้นอีกแล้ว เธอกลัวว่ากานต์จะเห็นเธอใน สภาพนี้ ไม่อยากตอบค�ำถามให้ยืดยาว เธอจึงเบือนหน้ามองออกไปนอก หน้าต่าง พร้อมยกถ้วยชาขึ้นดื่ม เธอกลืนชาอุ่น ๆ ลงคอเอื้อกใหญ่ หวัง ว่ามันจะช่วยให้ก้อนที่จุกอยู่ที่คอของเธอสลายหายไปได้ เมื่อเครื่องบินแตะถึงพื้นแผ่นดินญี่ปุ่น โชคดีที่ฝนหยุดตกแล้ว ท้องฟ้าเริ่มเปิดขึ้นมาบ้าง วีและกานต์รีบขนของลงจากเครื่อง แล้วเดินจ�้ำ ไปยังรถแท็กซี่ที่จอดเรียงรายอยู่หน้าสนามบิน หญิงสาวทั้งสองกระโดด ขึ้นแท็กซี่คันสีเหลืองอ๋อย กานต์บอกจุดหมายให้คนขับทราบ จากนั้นรถ ก็ค่อย ๆ เคลื่อนตัวออกจากสนามบินแห่งนั้น เพื่อมุ่งหน้าไปสู่บ้านพักใน เมืองคะเมะโอะกะ จังหวัดเกียวโต ส�ำหรับวีแล้ว นี่เป็นการเที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรกของเธอ ต่างจากกานต์ที่มา เที่ยวที่นี่เป็นประจ�ำ ราวกับว่าเป็นบ้านหลังที่ 2 ที่จริงแล้ว จะบอกว่าเป็น บ้านหลังที่ 2 ก็ดูจะไม่เกินจริงไปนัก เพราะบ้านพักที่หญิงสาวทั้งสองก�ำลัง มุ่งหน้าไปนี้ เป็นบ้านคุณยายของกานต์ที่แต่งงานเข้ามาในตระกูลของคน ญี่ปุ่นเมื่อหลายสิบปีมาแล้ว ด้วยความที่คุณยายของกานต์เป็นหญิงชรา 81
Love for all seasons รักทุกฤดู
ใจดี ท�ำให้กานต์สนิทกับคุณยายมาก และมักจะกลับมาเยี่ยมเยือนท่าน ทุก ๆ ปี เพราะอยู่ใกล้ชิดคุณยายแล้วรู้สึกอบอุ่นเหมือนอยู่บ้านหลังที่ 2 ขณะที่รถแท็กซี่ก�ำลังพาวีและกานต์ไปยังจุดหมาย วีหันไปมอง วิวนอกหน้าต่างอีกตามเคย แต่ท่าทางเธอดูไม่หม่นหมองเท่าตอนอยู่บน เครื่องบิน ริมฝีปากสีชมพูของเธอเผยอออกเล็กน้อย พร้อมรอยยิ้มที่มุม ปาก ตาเป็นประกายด้วยความตื่นเต้น ราวกับเด็กที่เพิ่งได้เห็นโลกใบนี้ เป็นครั้งแรก “แหม ยิ้มใหญ่เลยนะ หลงรักญี่ปุ่นเข้าแล้วล่ะซิ” กานต์แซววี เมื่อเห็นท่าทีที่ตื่นเต้นของเธอ “บ้า ก็ไม่ขนาดนั้นสักหน่อย” วีตอบโดยอมยิ้มที่มุมปาก เธอรู้ดี ว่าเก็บอาการตื่นเต้นไว้ไม่อยู่ ในที่สุด รถแท็กซี่ได้มาจอดอยู่หน้าบ้านไม้สีน�้ำตาลหลังหนึ่ง ที่ แวดล้อมไปด้วยต้นไม้มากมาย ท่าทางดูร่มรื่น เมื่อจ่ายค่าโดยสารแล้ว หญิงสาวทั้งสองก้าวลงมาจากรถ แล้วช่วยกันขนของลงอย่างขมีขมัน กานต์กดกริ่งหน้าบ้าน ชะโงกหน้ามองไปมาตรงประตู ทันใด นั้น ประตูไม้สีน�้ำตาลอ่อนบานใหญ่ได้เลื่อนเปิดออก ปรากฏเป็นหญิงชรา ท่าทางใจดียืนยิ้มอยู่หน้าประตู พร้อมกวักมือเรียกให้หญิงสาวทั้งสองเข้า มาในบ้าน กานต์จูงมือวีเดินไปบนแผ่นหินที่ปูเรียงรายตามทางจนถึงหน้า ประตูบ้าน ในขณะที่วียังมองซ้ายมองขวาชื่นชมความสวยงามของสวน 82
วันใหม่ในฤดูร้อน
หน้าบ้านอยู่ แสงยามสายส่องเข้ามาทางกระจกหน้าต่าง สะท้อนเข้ากับพื้นไม้ สีน�้ำตาลอ่อน ทันทีที่วีก้าวเข้ามาในบ้าน เธอสัมผัสได้ถึงกลิ่นไอของความ เป็นญี่ปุ่น มันช่างมีเสน่ห์ เรียบง่าย และน่าจรรโลงใจอย่างบอกไม่ถูก ขณะนี้ได้เวลาทานอาหารกลางวันพอดิบพอดี คุณยายจึงท�ำซารุ โซบะ (โซบะเย็น) ให้หญิงสาวทั้งสองทาน พลางบอกว่า ในหน้าร้อนเช่น นี้ การทานซารุโซบะจะท�ำให้รู้สึกสดชื่นและคลายร้อน ถ้าจะให้ดี ต้อง ตบท้ายด้วยแตงโมแช่เย็น จะท�ำให้เย็นใจคลายร้อนได้อย่างสุด ๆ วีและ กานต์หัวเราะในความน่ารักของหญิงชราใจดี พลางใช้ตะเกียบคีบเส้น โซบะจุ่มลงในถ้วยน�้ำจิ้ม ยกขึ้นลงสองสามที แล้วสูดเส้นโซบะเข้าปาก เสียงกระทบริมฝีปากดังซ้วบอย่างเอร็ดอร่อย ในยามเย็น บรรยากาศถูกละเลงด้วยสีส้มสดใส นกมากมาย โบยบินอยู่บนท้องฟ้า กานต์ขึ้นไปชั้น 2 อยู่พักหนึ่ง ในขณะที่วีก�ำลัง นั่งอยู่ริมระเบียงไม้หน้าบ้าน ชมความน่ารักของปลาคราฟที่แหวกว่ายไป มาในบ่อน�้ำ เส้นผมของเธอพลิ้วไปตามสายลมที่แผ่วอ่อน พร้อมกับเสียง ใบไม้เสียดสีกันอย่างอ่อนโยน ราวกับธรรมชาติก�ำลังขับขานบทเพลงอัน ไพเราะให้กับเธอ “วี!” กานต์เข้ามาข้างหลังตอนไหนไม่รู้ จับที่ไหล่ของเธอ เธอ สะดุ้งเหมือนตื่นจากความฝัน 83
Love for all seasons รักทุกฤดู
“โหย ตกใจหมดเลย” วีงอแงใส่เพื่อนสาว พลางหันหน้ามาจะ ต่อว่ากานต์ที่ท�ำให้ตกใจ ภาพที่วีเห็นตรงหน้า คือ กานต์ที่สวมชุดญี่ปุ่นสีน�้ำเงินท่าทางดู น่ารัก ก�ำลังถือชุดญี่ปุ่นแบบเดียวกันกับที่เธอใส่ ด้วยสีหน้าที่ทะเล้นใส่เธอ “เอ้านี่ ไปแต่งตัวซะ เดี๋ยวก็ไปสายหรอก” กานต์กล่าวพร้อมยื่น ชุดที่ถืออยู่ในมือให้วี เคย
“เห้ย นี่อะไรเนี่ย?! สวยอ่ะ!” วีเก็บความตื่นเต้นไว้ไม่อยู่อีกตาม
“ชุดยูกาตะไง” กานต์หมุนตัวอวดให้เพื่อนสาวดู 1 รอบ
กานต์กล่าวเสริมให้วีฟังว่า ชุดยูกาตะเป็นชุดที่หญิงสาวชาวญี่ปุ่น มักนิยมสวมใส่ออกงานเทศกาลต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฤดูร้อนเช่นนี้ เนื่องจากท�ำด้วยผ้าฝ้าย จึงท�ำให้ระบายความร้อนได้ดี โดยชุดที่อยู่ในมือ วีขณะนี้ เป็นชุดยูกาตะที่คุณยายเคยสวมใส่สมัยยังสาว ๆ ซึ่งสมัยนั้นท่าน รูปร่างคล้ายวีตอนนี้มาก จึงน่าจะใส่ด้วยกันได้ วีฟังกานต์แล้ว รู้สึกอดใจไม่ไหวที่จะสวมใส่ชุดนี้ กานต์จึงพาวีไป หาคุณยายที่ห้อง เพื่อให้ท่านช่วยเนรมิตแปลงกายสาวไทยคนนี้ให้กลาย เป็นสาวญี่ปุ่น 84
วันใหม่ในฤดูร้อน
วีเข้าไปในห้องของคุณยายนานครึ่งชั่วโมง ระหว่างรอเพื่อนสาวแปลงกาย
ในขณะที่กานต์ก�ำลังนั่งดูทีวี
“กานต์!”
กานต์ละสายตาจากจอทีวี เหลียวหลังหันมามองต้นเสียงที่เรียก เธอ ภาพที่เธอเห็น คือ วีที่สวมใส่ชุดยูกาตะสีชมพูอ่อน เกล้าผมทรงดัง โงะ ปล่อยผมหน้าม้าลงมาประแก้มระเรื่อสีชมพู “แหม สวยอย่างกับสาวญี่ปุ่นเชียวนะ” กานต์แซววีที่ก�ำลังท�ำ หน้าเปิ่น ๆ “ป้ะ ถ้าเสร็จแล้ว เรารีบไปกันดีกว่า เดี๋ยวสาย” กานต์พูดพลาง เอามือยันพื้นเพื่อลุกขึ้นยืน เธอ
“ไปไหนหรอ?” วีเอียงคอสงสัย ในขณะที่กานต์ยืนอยู่ตรงหน้า
“เทศกาลดอกไม้ไฟ”
กานต์ตอบพลางยิ้มไปด้วย เพราะรู้ว่าเพื่อนสาวของเธอต้องชอบ แน่ ๆ ซึ่งคาดไว้ไม่ผิด วียืนอึ้งตาเป็นประกาย เผลอเย้ออกมาซะคุณยาย สะดุ้ง 85
Love for all seasons รักทุกฤดู
หญิงสาวทั้งสองเดินออกจากบ้านเพื่อมุ่งหน้าไปยังสถานที่จัดงานแสดง ดอกไม้ไฟ ซึ่งอยู่ไม่ไกลนักจากบ้านของคุณยาย ระหว่างทางวีเห็นคนญี่ปุ่นจ�ำนวนมากพากันหลั่งไหลไปยังทิศทางเดียวกัน กับที่เธอและกานต์ก�ำลังจะไป สีหน้าแต่ละคนดูตื่นเต้นกันมาก บ้างก็มา คนเดียว บ้างก็มากับเพื่อน บ้างก็มากับครอบครัว ในที่สุด วีและกานต์ก็ได้มาถึงสถานที่จัดงานแสดงดอกไม้ไฟใน เวลา 18.45 น. ที่นั่นคนเยอะมาก การพลัดหลงเป็นอะไรที่เกิดขึ้นได้ง่าย ในเทศกาลแบบนี้ ส�ำหรับกานต์แล้วไม่น่ามีปัญหาอะไร เพราะนี่ไม่ใช่ครั้ง แรกที่เธอมาที่นี่ ตรงกันข้ามกับวี ที่แม้แต่เดินห้างในกรุงเทพฯ เธอยังหลง เลย กานต์จึงจับมือวีไว้แน่นเพื่อไม่ให้เกิดเรื่องร้าย ๆ แบบนั้นขึ้น หญิ ง สาวทั้ ง สองพากั น เดิ น ชมแผงลอยที่ เ รี ย งรายกั น อย่ า ง สนุกสนาน ใบหน้าของวีเปื้อนยิ้มตลอดเวลา เธอรู้สึกเหมือนเธอเข้าไป อยู่ในโลกใบใหม่ที่มีความสุขกว่าที่เคย ชอบบรรยากาศหลากหลายที่มีทั้ง อาหารคาว ขนมหวาน ของใช้น่ารัก ๆ และซุ้มเกมรายล้อมรอบตัวเธอ วีและกานต์เดินชมซุ้มมา 1 ชั่วโมงเต็ม ขาของหญิงสาวทั้งสอง เริ่มล้า จึงพากันมานั่งพักบนม้านั่งยาว เพื่อรอคอยการแสดงดอกไม้ไฟที่ จะเริ่มขึ้นในอีก 15 นาที
“กานต์ เราขอแวะไปซื้อสายไหมก่อนได้ไหม?”
“อ้าว แต่อีก 15 นาที ดอกไม้ไฟก็จะเริ่มจุดแล้วนะ” กานต์ตอบ
86
วันใหม่ในฤดูร้อน
พลางยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดู “น่า แปบเดียว เราจะรีบกลับมาให้ทันก่อนพลุจะเริ่มจุดนะ ไม่ ต้องเป็นห่วง” แม้กานต์จะยังเป็นห่วงวีอยู่บ้าง แต่เธอก็ตอบตกลง อย่างน้อย เธอจะได้จองที่นั่งเผื่อวีไว้ตอนกลับมา วีรีบเดินจ�้ำไปยังร้านสายไหมอย่างรีบร้อน เธอเริ่มหอบออกมา เล็กน้อย เพราะดันเดินหลงทางซะได้ แต่โชคดีที่กลิ่นหอมหวานนั้นลอย มาแตะที่จมูกของเธอ วีให้กลิ่นนั้นน�ำทาง จนเธอไปหยุดอยู่หน้าร้าน สายไหมในที่สุด ในขณะที่วีก�ำลังเอื้อมมือไปหยิบไม้สายไหมสีชมพูฟูฟ่องที่อยู่ตรง หน้า มือของเธอได้ไปชนเข้ากับมือของคน ๆ หนึ่งเข้า เธอหันหน้าไปหา เขาคนนั้นเพื่อที่จะขอโทษ ทันทีที่วีหันหน้ามา ภาพที่วีเห็นตรงหน้า คือ ผู้ชายรูปร่างสูง ผม สั้น ผิวสีแทน มีรอยเย็บที่หัวคิ้วขวา แต่งกายด้วยชุดจิมเบ วีหยุดนิ่ง แล้ว มองตาผู้ชายคนนั้นราวกับโลกทั้งโลกหยุดหมุนไปชั่วขณะ
“เอก”
วีเผลอเรียกชื่อของผู้ชายคนนั้นออกมาเบา ๆ ในขณะที่ยังไม่ 87
Love for all seasons รักทุกฤดู
ละสายตาไปจากดวงตาคู่นั้น เดียวกัน
ซึ่งเขาเองก็มองเธอกลับด้วยสายตาแบบ
“วี”
เขาเผลอเรียกชื่อของเธอเช่นกัน
ในหัวของเธอและเขาตอนนี้ เหมือนหนังเก่าที่ฉายซ�้ำใหม่อีกครั้ง อย่างรวดเร็ว ตั้งแต่เริ่มต้น จนถึงจุดจบ ผ่านดวงตาทั้งคู่ที่ก�ำลังประสาน กันอย่างแนบแน่น
“ปัง!!!”
เสียงดอกไม้ไฟท�ำให้ทั้งสองตื่นจากภวังค์ กลับมาอยู่ในโลกแห่ง ความเป็นจริง วีกับเอกพูดคุยไถ่ถามกันถึงความเป็นไปของอีกฝ่าย ในขณะที่ พูดคุยกันอยู่นั้น เอกสังเกตใบหน้าของวีก็รู้ได้ทันทีว่า มีบางอย่างก�ำลัง ท�ำให้เธออึดอัดใจ เมื่อมองแววตาของเธออีกที เอกสัมผัสได้ว่ามันแฝงไป ด้วยความโศกเศร้าและความเจ็บปวด “วี … มีอะไรไม่สบายใจรึเปล่า?” เอกถามวีด้วยสีหน้าที่จริงจัง ด้วยความเป็นห่วง 88
วันใหม่ในฤดูร้อน
ค�ำถามของเอกท�ำให้วีรู้สึกเหมือนมีอะไรมาจุกอยู่ที่คอ น�้ำตาของวีค่อย ๆ คลอเบ้า ในขณะที่เอกยังไม่ละสายตาไปจากเธอแม้แต่เพียงเสี้ยววินาที เดียว วีก้มหน้าลงเล็กน้อย ก่อนสูดหายใจเข้าลึก ๆ ราวกับว่าก�ำลัง รวบรวมพลังเพื่อที่จะเปล่งเสียงสักอย่างออกไปจากล�ำคอ “เรา … เพิ่งเลิกกับแฟนมาน่ะ” น�้ำตาของเธอไหลลงมาอาบ แก้มระเรื่อสีชมพู ค�ำตอบของวี ไม่ต่างไปจากที่เอกคาดเดาไว้เลย นั่นก็เพราะว่า สีหน้าของเธอในขณะนี้ เป็นสีหน้าเดียวกันกับตอนที่เอกขอแยกทางกับวี
“แล้วท�ำไมถึงเลิกกันล่ะ?”
“เขาบอกกับเรา … ว่า … เราเข้ากันไม่ได้” วีตอบค�ำถามของ เอกด้วยน�้ำเสียงที่สั่นเครือ “เราไม่เข้าใจอ่ะเอก! ท�ำไม! ในเมื่อถ้าปรับเข้าหากัน มันก็น่าจะ ไปต่อกันได้ไม่ใช่หรอ?!” วีปล่อยโฮออกมา ร้องไห้สะอึกสะอื้น เหมือนคนไร้สติ ในขณะ นี้วีรู้สึกราวกับว่า ความรู้สึกที่เธอกดมันไว้ตลอดเวลาที่อยู่บนเครื่องบิน ได้ ถูกปล่อยออกมาจนหมดสิ้น ทุกสิ่ง ทุกอย่าง
เอกค่อย ๆ สวมกอดวีอย่างอ่อนโยน แม้ว่าวียังคงไม่หยุดร้องไห้ 89
Love for all seasons รักทุกฤดู
ง่าย ๆ แต่เขาจะอยู่กับวีตรงนี้ จนกว่าเธอจะรู้สึกดีขึ้น เธอ
ในขณะที่วีเริ่มร้องไห้แผ่วลง เอกค่อย ๆ กระซิบที่ข้าง ๆ หูของ
“วี … จริงอย่างที่วีว่านะ ถ้าทั้งสองฝ่ายต่างปรับเข้าหากัน มันก็ น่าจะไปกันต่อได้ แต่ถึงยังไง ความรักน่ะ … มันก็เป็นเรื่องของคนสองคน มันจะไปด้วยกันได้ ก็ต่อเมื่อคนสองคนต่างเต็มใจที่จะปรับเข้าหากัน ไม่ใช่ ดิ้นรนที่จะปรับอยู่ฝ่ายเดียว … มันไม่ใช่ความผิดของวี ที่สุดท้ายแล้ว เขา เลือกที่จะจากวีไป … เราไม่สามารถบังคับให้เขาปรับตัวเพื่อเราได้หรอก มันอยู่ที่การตัดสินใจของเขาด้วย” เอกสูดหายเข้าสั้น ๆ ก่อนพูดต่อ “ถ้าเขาเลือกที่จะไม่ไปต่อ รู้สึกว่าเราเข้ากันไม่ได้ … วี … ปล่อย เขาไปเถอะ … การที่วีปล่อยคนที่ไม่ใช่ออกไปจากชีวิต มันไม่ใช่เรื่องที่น่า เสียใจเลยนะ” วีหยุดร้องไห้เมื่อเอกพูดมาถึงประโยคสุดท้าย เอกปล่อยกอดจาก วี แล้วมองตาเธอพร้อมรอยยิ้ม
“เราเชื่อว่า วันหนึ่งวีจะเจอกับคนที่ใช่ วีไม่ต้องใจร้อนไปหรอกนะ และเราเชื่อว่า วีจะเข้มแข็งขึ้น และผ่านมันไปได้ … ดูอย่างเราสองคนซิ ยังผ่านมาได้เลย”
วีและเอกหัวเราะออกมาพร้อมกันด้วยรอยยิ้ม เธอเม้มปากเล็ก
90
วันใหม่ในฤดูร้อน
น้อยก่อนประสานตากับเอกอีกครั้ง
“ขอบคุณมากนะ …”
“ไม่เป็นไร …”
“ปัง!!!”
เสียงดอกไม้ไฟดังขึ้นรัวหลายชุดติดต่อกัน น่าแปลกที่ก่อนหน้า นี้เขาทั้งสองเหมือนไม่ได้ยินอะไรเลย ไม่ได้ยินอะไร นอกจากเสียงของวี และเอกเท่านั้น “จะว่าไป … ฉันว่าจะมาซื้อสายไหม” วีหันไปมองช้า ๆ ที่ สายไหม ท�ำหน้าเปิ่น ๆ เอกยื่นเงินให้คนขาย พร้อมหยิบไม้สายไหมสีชมพูขึ้นมา เอกจ�ำได้ดีว่า สีชมพูคือสีที่วีชอบ “อ่ะ เราซื้อให้ ถือว่าเป็นของขวัญที่ไม่ได้เจอกันนาน” เอกยื่นไม้สายไหมสีชมพูฟูฟ่องให้วี เธออมยิ้มพร้อมรับไม้สายไหมมาถือ ไว้ในมือ
“งั้น … เราไปก่อนนะ” เอกโบกมือลาวี ด้วยรอยยิ้ม
“อื้ม … ดีใจที่ได้เจอกันนะ” วีพูดไป พลางโบกมือไป 91
Love for all seasons รักทุกฤดู
“เหมือนกัน” เอกตอบสั้น ๆ ก่อนเดินหายไปในกลุ่มคน
ในหัวใจของวีตอนนี้ รู้สึกเป็นอิสระอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เอกช่วยท�ำให้ความรู้สึกอันหนักอึ้งข้างในหัวใจของเธอหายออกไปจนหมด สิ้น สัมผัสได้ถึงการเริ่มต้นใหม่ที่รอคอยเธออยู่ข้างหน้า วีรีบกลับมายังม้านั่งยาวตัวเดิม กานต์ยังคงนั่งอยู่ที่ตรงนั้น วี สะกิดที่ไหล่ของกานต์เบา ๆ จากข้างหลัง
“วี!!” กานต์หันหน้ามาด้วยสีหน้าที่ไม่สบายใจอย่างมาก
“ท�ำไมหายไปนานขนาดนี้ล่ะ?! นี่มันผ่านไปตั้ง 40 นาทีแล้วนะ” กานต์พูดพลางคิ้วขมวด “พอดีว่า … เราหลงทางน่ะ … แต่ครั้งต่อไปเราว่า … เราไม่ หลงทางแล้วแหล่ะ” วีตอบเพื่อนสาวด้วยรอยยิ้ม “ให้มันจริงเถอะย่ะ … กลับมาก็ดีแล้ว เป็นห่วงแทบแย่” กานต์ บ่นพลางหยิบสายไหมเข้าปาก หญิงสาวทั้งสองหัวเราะกันอย่างสนุกสนาน ก่อนแหงนหน้าดูด อกไม้ไฟที่สว่างไสวอยู่บนฟากฟ้าด้วยกันอย่างมีความสุข 92
วันใหม่ในฤดูร้อน
บนเครื่องบินล�ำใหญ่ที่ก�ำลังมุ่งหน้ากลับสู่ประเทศไทย หญิงสาว ผิวขาวผมยาวคนหนึ่งเอนกายลงบนเบาะอย่างผ่อนคลาย เธอทอดสายตาออกไปนอกหน้าต่าง ภาพที่เห็นตรงหน้า คือ ดวง อาทิตย์ที่ก�ำลังฉายแสงอันอบอุ่น สะท้อนเข้ามาในกระจกเครื่องบิน สัมผัส ที่ใบหน้าของหญิงสาวผู้นั้น เธอตกอยู่ในภวังค์เสียแล้ว แววตานั้นบอกได้ทันทีว่า เธอก�ำลัง ครุ่นคิดเรื่องบางอย่าง บางอย่างที่ท�ำให้เธอลืมโลกแห่งความเป็นจริงที่ ก�ำลังเคลื่อนผ่านเธอไปอย่างช้า ๆ บางอย่างที่ท�ำให้เธอตัดสินใจก้าวขึ้น มาบนเครื่องบินล�ำนี้
“วี?!”
หญิงสาวสะดุ้งตื่นจากภวังค์ เห็นเพื่อนสาวผมสั้นที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ก�ำลังชะโงกหน้าดูเธออย่างสงสัย
“แน่ะ เหม่ออีกแล้วหรอคนนี้
“ขอโทษทีนะกานต์ เราก�ำลังคิดอะไรไปเรื่อยน่ะ ว่าแต่เรียกเรามี อะไรหรอ?”
“วีจะเอาน�้ำอะไร? แอร์โฮสเตสมาถามอยู่เนี่ย” 93
Love for all seasons รักทุกฤดู
วีหันหน้าไปมองแอร์โฮสเตสที่ยืนยิ้มรอค�ำตอบของเธออยู่ เธอ หันไปตอบแอร์โฮสเตสด้วยสีหน้าที่สดใส พร้อมรอยยิ้มที่มุมปาก
94
“ขอน�้ำส้มค่ะ”
ควา มร ก ั ควา มหลงไ หล ควา มทุ กข ควา มสุ ข ต า งไ หลผ า น ตา มกา ลเ วลา
ร วมเ ร องสั ่ ื นร ้ วมสมั ย
ร า คา250บา ท