ยอดยุทธ์พิภพเทวะ

Page 1


1


คำนำสำนักพิมพ์ “ยอดยุทธ์พิภพเทวะ” เป็นผลงานของโม่เหริน นักเขียนชั้นแนว หน้าของไต้หวันที่มีผลงานเป็นที่ยอมรับมากมาย โดยนวนิยายเรื่องนี้ เป็นผลงานที่ได้รับความนิยมที่สุดของเขา สามารถสร้างยอดขายกว่า หนึ่งล้านเล่ม “ยอดยุทธ์พิภพเทวะ” เป็นเรื่องของเติ้งซัน ชายหนุ่มวัย 28 ปี ธรรมดาๆ ที่ ไ ม่ มี อ ะไรโดดเด่ น หากแต่ วั น หนึ่ ง เขาดั น กลั บ ได้ ง านที่ แปลกประหลาด และนั่นทำให้เขาได้พบกับโลกต่างมิติท่ีเต็มไปด้วยเรื่องเหลือเชื่อ ทั้งการหลอมรวมร่างกับสิ่งมีชีวิตนามจินหลิง การฝึกปรือกำลังภายใน และเรื่องราวการต่อสู้ในโลกต่างมิติ “ยอดยุทธ์พภิ พเทวะ” เป็นผลงานนวนิยายกำลังภายในทีผ่ สมผสาน กับนวนิยายแนวเหนือจริง จนกลายเป็นผลงานที่ให้ความรู้สึกแปลกใหม่ ไม่เหมือนใคร เป็นอีกหนึ่งผลงานที่ทางสำนักพิมพ์ภาคภูมิใจในการนำ เสนออย่างยิ่ง


คำนำผู้แปล ไม่ว่าแปลหนังสือเล่มใด ผู้แปลมักคิดเสมอว่าลูกรักของเราจะถือ กำเนิดในบรรณพิภพอีกเล่มหนึ่งแล้ว รู้สึกทะนุถนอม ฟูมฟัก อยากเห็นหนังสือที่แปลออกมาเป็นรูป เล่มเร็วๆ ให้สมกับที่รอคอย ทั้งภูมิ ใจทั้งตื่นเต้น ภูมิ ใจที่ ได้ ใช้วิชาที่ ได้ร่ำเรียนมาได้ถูกสาย งาน ตื่นเต้นว่าผู้อ่านท่านอื่นๆ จะชื่นชอบผลงานหรือสนุกสนานไปกับ งานที่เราแปลหรือไม่ ชีวิตมีสีสันเพราะการแปล ได้รู้จักมิตรภาพในวงการที่ล้ำค่าเหนือ สิ่งอื่นใด นวนิยายเรื่องนี้ มีตัวละครตัวหนึ่งที่ ใสซื่อน่ารัก ตรงไปตรงมา แถมเก่งกาจขี้เล่นสุดๆ ซึ่งครองใจผู้แปลไปเรียบร้อยแล้ว ร่วมสนุกกับฉากแปลกใหม่ไม่ซ้ำใครไปพร้อมๆ กันเลยดีกว่า หวังว่าคงมอบความบันเทิงให้ท่านผู้อ่านได้ไม่มากก็น้อย ด้วยความเคารพ หลินหยาง



บทที่ 1

งานอดิเรกช่วงนี้คือสัมภาษณ์งาน

เมืองไถจง เขตซีถุน อพาร์ตเมนต์สองห้องนอนขนาดยี่สิบกว่าผิง* ห้องหนึ่ง ชุดเก้าอี้ โซฟาหนังสังเคราะห์แบบสี่ชิ้นราคาประหยัดตั้งอยู่กลางห้องนั่งเล่นเล็กๆ หน้าจอโทรทัศน์ขนาดยี่สิบเก้านิ้วซึ่งตั้งอยู่โดดๆ บนชั้นวางโทรทัศน์ตรง ข้ามโซฟากะพริบฉายภาพแสงสีไม่ขาดสาย ชายหนุ่มอายุประมาณยี่สิบกว่าปี รูปร่างค่อนข้างผอม นั่งบน โซฟากางหนังสือพิมพ์ดูหน้าคอลัมน์รับสมัครงาน คล้ายกำลังหางาน บนเก้าอี้ โซฟาเดี่ยวด้านข้าง ชายแก่อายุประมาณหกสิบปีนั่งอยู่ มือ ซ้ายคีบบุหรี่ มือขวากำรีโมทโทรทัศน์ สวมแว่นสายตายาว สายตาจับ จ้องบนจอโทรทัศน์ ชายหนุ่มซึ่งกำลังดูหนังสือพิมพ์อยู่จู่ๆ ก็ขมวดคิ้วบ่นว่า “เลขที่ เก้าสิบแปด ชั้นสิบ ห้อง E ถนนเหวินจงช่วงที่สี่ บริษัทนี้เหมือนผมเคย ไป...” “พวกต้มตุ๋นหลอกลวงเหรอ” ชายแก่บนเก้าอี้โซฟากล่าวขึ้น “ถ้า * หนึ่งผิงเท่ากับประมาณ 3.3 ตารางเมตร

ยอดยุทธ์พิภพเทวะ เล่ม 1 9


เป็นพวกแบบนั้นก็อย่าไปเลย” “ผมก็จำไม่ค่อยได้” ชายหนุ่มพูดเสริม “แต่ว่ารับสมัครตำแหน่ง งานระดับปฏิบัติการสำรองสิบตำแหน่ง บัญชีสามตำแหน่ง ผู้ช่วยฝ่าย ขายห้าตำแหน่ง ฝ่ายบริการลูกค้าสี่ตำแหน่ง...นำประวัติไปสมัครที่ บริษัท...รับสมัครคนเยอะแบบนี้ ถูกจับได้ง่าย ไม่รู้จักเปลี่ยนลูกเล่น บ้าง” “ลูกเล่นอะไร” ชายแก่ถาม ทว่าสายตายังอยู่ที่จอโทรทัศน์ “ไม่มีอะไร” ชายหนุ่มยิ้มเล็กน้อย ไม่ได้พูดอะไรอีก ชายหนุ่มชื่อเติ้งซัน อายุยี่สิบแปดปี ชายแก่ข้างๆ คือพ่อของเขา เติ้งเทียนป๋อ บ้านเก่าของตระกูลเติ้งอยู่ในเขตภูเขาของหนานโถว เป็นไร่ชา ไม่เล็กไม่ใหญ่ผืนหนึ่ง ปัจจุบันดูแลโดยบุตรชายคนโตของตระกูลเติ้งชื่อ เติ้งไห่ พี่ใหญ่ของเติ้งซัน เติ้งซันไม่มีความสนใจในกิจการของบรรพชน หลังจากที่จบจาก สาขาวิศวกรรมไฟฟ้ามหาวิทยาลัยเซียนเต๋อในไถจง เขาก็อยู่ทำงานที่ ไถจงต่อ อพาร์ตเมนต์เล็กๆ ห้องนี้ เขาก็กู้เงินซื้อเอาไว้เมื่อสองปีก่อน หลังจากที่มารดาของเติ้งซันป่วยเสียชีวิตไปเมื่อสองปีก่อน เติ้ง เที ย นป๋ อ ก็ เ วี ย นพั ก อาศั ย สลั บ กั น ระหว่ า งไถจงกั บ หนานโถวตามคำ แนะนำของเติ้งซัน ทางหนึ่งเพื่อท่องเที่ยวผ่อนคลายอารมณ์ตามสถาน ที่ต่างๆ อีกทางหนึ่ง เติ้งซันเองก็รู้สึกไม่ดีที่ต้องให้พี่ ใหญ่และพี่สะใภ้ คอยดูแลพ่ออยู่ตลอด จะให้พูดว่าเป็นการกตัญญู ไม่สู้บอกว่าเขาคิดว่า นี่เป็นหน้าที่จะดีกว่า การอยู่คนเดียวลำพัง ย่อมสบายกว่าการมีญาติ ผู้ใหญ่อยู่ข้างๆ คอย “ห่วงใยเอาใจใส่” แต่ในเมื่อตนเองเป็นลูกคนหนึ่ง ก็ต้องยอมรับชะตากรรมนี้ เติ้งเทียนป๋อซึ่งง่วนอยู่กับงานเกษตรมาทั้งชีวิตแม้จะอายุหกสิบปี ยอดยุทธ์พิภพเทวะ เล่ม 1 10


ต้นๆ แต่ยังดูคึกคักกระฉับกระเฉง เพียงแต่มีสายตายาวเล็กน้อยและมี ต้อกระจก การมองเห็นค่อยๆ เสื่อมถอยลง ชายสูงวัยเช่นเขานอกจาก สูบบุหรี่แล้ว ก็ไม่มีความเคยชินที่ไม่ดีอะไร จริงๆ แล้วเติ้งซันก็ไม่ค่อย ต้องดูแลเขาเท่าไหร่ อีกอย่างเติ้งเทียนป๋อเป็นคนเรียบง่ายค่อนไปทาง ร่าเริง นอกจากนานๆ ทีจะบ่นเติ้งซันคำสองคำแล้ว ก็ไม่ถือว่าเป็นคน จู้จี้ขี้บ่น เติ้ ง ซั น เมื่ อ จบชั้ นมั ธ ยมปลายก็ ไ ปเกณฑ์ ท หารล่ ว งหน้ า หลั ง เกณฑ์ทหารเสร็จจึงสอบเข้ามหาวิทยาลัย ปัจจุบันจบมหาวิทยาลัยมา แล้วสี่ปี เนื่องจากตอนเรียนมหาวิทยาลัยเขาก็เรียนไปอย่างนั้นเอง เพราะคิดว่าเรียนไฟฟ้าน่าเบื่อมาก ไม่คิดจะเรียนเพื่อเอาไปใช้ ดังนั้น หลั ง จบออกมาจึ ง ไปสมั ค รงานที่ บ ริ ษั ท ผลิ ต วั ส ดุ แ ห่ ง หนึ่ ง ในเขต อุตสาหกรรมไถจง เริ่มงานในตำแหน่งเล็กๆ ในฝ่ายขาย เมื่อเวลาผ่านไป จากตัวแทนฝ่ายขายก็ขยับเป็นหัวหน้าฝ่ายขาย จนถึงผู้จัดการฝ่ายขาย เติ้งซันที่มีรายได้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เกิดรู้สึกว่า การ คอยหาคนมาซื้อของอยู่ตลอดเวลาช่างแสนจะน่าเบื่อ ดูแล้วเงินกู้ก็คืน ไปพอประมาณแล้ว หนึ่งปีก่อนจึงตัดสินใจลาออก ไปสอนหนังสือใน โรงเรียนกวดวิชาขนาดกลางแห่งหนึ่งซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลบ้านนัก เมื่อสอนในโรงเรียนกวดวิชา ช่วงกลางวันจึงมีเวลาว่าง เติ้งซัน ไม่มีอะไรทำอยู่ช่วงหนึ่ง จึงมักจะดูคอลัมน์สมัครงาน แล้วเข้ารับการ สัมภาษณ์งานไปทั่ว แต่ว่าบริษัทต้มตุ๋นในไถจงมีมาก ส่วนใหญ่มักอ้าง การฝึกอบรมแบบจอมปลอม ล้างสมองผู้มาสมัครสามถึงห้าวัน จากนั้น ค่อยร้องขอให้อีกฝ่ายซื้อสินค้าที่แพงระยับของบริษัท พนักงานทุกคน ของบริษัทใช้วิธีขายตรงแบบนี้มาเป็นเงินเดือนของตนเอง บริษัทต้มตุ๋นหลอกลวงนี้ส่วนมากจะมีลักษณะเฉพาะ ถ้าโดน หลอกสักครั้งก็จะเข้าใจกระจ่าง อย่างไรเสียเติ้งซันก็ว่างสุดๆ จู่ๆ เขาก็ ยอดยุทธ์พิภพเทวะ เล่ม 1 11


ไม่ มี ความกดดั น ใดๆ ในการดำรงชี วิ ต ไปทั ศ นาเสี ย หน่ อ ยว่ า คนจะ หลอกคนอย่างไร จนตอนนี้กลับกลายเป็นงานอดิเรกรูปแบบใหม่ของ เขาไปเสียแล้ว เพียงแต่ว่างานอดิเรกของเขาแบบนี้ เติ้งเทียนป๋อพ่อ ของเขาไม่ค่อยจะเห็นด้วย อยู่ดีไม่ว่าดี ก็จะบ่นเขาสักคำสองคำ “พนักงานทดสอบผลิตภัณฑ์ แข็งแรง สามารถทำงานนอกสถาน ที่ระยะสั้นได้ จำกัดเฉพาะคนจบเฉพาะทางด้วย?” เติ้งซันซึ่งกำลังพลิก หน้าหนังสือพิมพ์พูดอย่างแปลกใจ “นี่ไม่เหมือนการหลอกลวง แต่ว่า พนักงานทดสอบผลิตภัณฑ์ต้องทำอะไรบ้าง” “คล้ายๆ พวกคิวซี* ไหม” เติ้งเทียนป๋อผู้พ่อพูด “คิวซีก็คือ... คอยสุ่มตรวจสอบคุณภาพของสินค้า แต่ว่า ถ้าเป็นพวกงานคิวซี ก็ลง ประกาศว่ารับพนักงานคิวซีไปตรงๆ เลยสิ จะเรียกว่าพนักงานทดสอบ ผลิตภัณฑ์ทำไม” “ผมวิ่งจ๊อกกิ้งทุกเช้า น่าจะถือว่าค่อนข้างแข็งแรงได้ ลองไปดูดี กว่า” เติ้งซันมองไปที่นาฬิกา หยิบกรรไกรตัดประกาศหนังสือพิมพ์ฉับๆ แล้วพูดว่า “จากนั้นผมค่อยตรงไปโรงเรียนกวดวิชา” “แกอยากจะหางานใหม่จริงๆ หรือ” เติ้งเทียนป๋อเบนสายตามา แล้วพูดว่า “อยากให้พ่อช่วยถามเพื่อนที่เปิดบริษัทอยู่ในไถจงให้แกเอา ไหม” “ไม่เป็นไรหรอกพ่อ...” เติ้งซันยิ้มตอบ “ตอนเช้าไม่มีอะไรทำ หา งานไปทั่วก็สนุกดี” “เสียเวลา” เติ้งเทียนป๋อจ้องลูกชายก่อนพูดว่า “ไม่เข้าท่าเลย” เติ้งซันเกาหัวแกรกๆ หัวเราะแห้งๆ กลับห้องไปเปลี่ยนเสื้อผ้า ออกจากบ้านไปพร้อมกับนำโฆษณารับสมัครงานที่ตัดออกมาเมื่อครู่ติด ไปด้วย * พนักงานควบคุมคุณภาพ

ยอดยุทธ์พิภพเทวะ เล่ม 1 12


บ้านของเติ้งซันเป็นอาคารใหญ่สูงสิบเอ็ดชั้นที่พบเห็นได้ โดย ทั่วไป เขาอาศัยอยู่ที่ชั้นเก้า เขาขี่รถมอเตอร์ไซค์ออกจากที่จอดรถชั้น ใต้ดิน มุ่งไปตามทางด้านทิศตะวันออก พักเดียวก็ถึงจุดหมาย อาคาร สำนักงานขนาดใหญ่แห่งหนึ่งในเขตเหนือของเมือง อาคารสำนักงานขนาดใหญ่แบบนี้มีมากมายในไถจง ด้านนอก กรุกระจกแผ่นใหญ่เต็มแผ่น เรียกว่าเป็นอาคารที่ใช้กระจกกรุหุ้มโดย รอบ ด้านใต้ของอาคารเป็นที่จอดรถมอเตอร์ไซค์ มีรถจอดเต็มแน่นไป หมดตามคาด เติ้งซันต้องขยับรถไปมาถึงได้มีช่องว่างพอจอด จากนั้น ค่อยเดินเข้าไปในอาคารใหญ่นั้น ชื่อบริษัทนั้นคือ “มูลนิธิวิจัยต่างมิติ” ในประกาศหนังสือพิมพ์ระบุ ว่าอยู่ชั้นเก้า แต่พอเติ้งซันก้าวเข้าไปในอาคารก็ต้องประหลาดใจ บน ป้ายรายชื่อบริษัทหรือองค์กรในแต่ละชั้นซึ่งอยู่ด้านหลังพนักงานดูแล นั้น ระบุว่าชั้นเก้าถึงชั้นสิบสองทั้งหมดสี่ชั้นเป็นของ “มูลนิธิวิจัยต่าง มิติ” ทั้งหมด สำหรับชั้นสิบสามกลับว่างเปล่า ไม่รู้ว่าเพราะอะไร หรือ เพราะเป็นเลขอัปมงคลก็เลยไม่มีคนเช่า สามารถเช่าทีเดียวสี่ชั้น มีเงินขนาดนี้ ไม่น่าจะเป็นบริษัทต้มตุ๋น หลอกลวง เติ้งซันผิดคาดเล็กน้อย โดยสารลิฟต์ ไปจนถึงชั้นเก้า พอ ประตู ลิ ฟ ต์ เ ปิ ด ออกก็ ต้ อ งตกใจ เห็ น คนกลุ่ ม หนึ่ ง เข้ า แถวอยู่ น อก เคาน์เตอร์หน้าประตู ห้องประชุมด้านในจัดวางเก้าอี้ ไว้เกือบร้อยตัว กลับนั่งกันจนเต็มประมาณเจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์ ชายบ้างหญิงบ้าง นั่งรวม กลุ่มกันบ้าง บางคนนั่งเหม่อ บางคนกำลังคุยจ้อ ดูเหมือนจะเป็นพวก ที่มาสัมภาษณ์งานทั้งหมด เติ้งซันเข้าแถวอยู่นาน ในที่สุดก็ ได้ยื่นเอกสารประวัติส่วนตัว และได้รับป้ายหมายเลขแล้วเดินเข้าไปรอในห้องโถงใหญ่ ตัวเขาเองมีเวลาแค่ชั่วโมงกว่า เติ้งซันกังวลใจเล็กน้อย เดี๋ยวจะ ยอดยุทธ์พิภพเทวะ เล่ม 1 13


ต้องไปสอนที่โรงเรียนกวดวิชาอีก ไปสายก็ไม่ได้ ถ้ารอจนดึกเกินไป วัน นี้เห็นทีคงต้องสละสิทธิ์แล้ว รออีกสักพัก เติ้งซันเห็นคนเข้าออกไม่ขาดสายที่ประตูสี่บานตรง กันข้ามกับห้องโถงใหญ่ ดูท่ามีระดับผู้บริหารสี่คนคอยสัมภาษณ์ผู้สมัคร พร้อมๆ กัน อีกทั้งเวลาในการสัมภาษณ์แต่ละคนก็ไม่ยาวมาก ดูแล้วไม่ น่าจะใช้เวลามากนัก เติ้งซันถึงได้ใจชื้นขึ้นมาบ้าง ในที่ สุ ด ก็ ถึ ง คิ ว ของเติ้ ง ซั น ผู้ ที่ สั ม ภาษณ์ เ ป็ น ชายหนุ่ ม อายุ สามสิบกว่าปีสวมชุดสูท แนะนำตนเองว่าแซ่หลี่ แต่กลับไม่บอกว่า ตำแหน่งอะไร เติ้งซันได้แต่เรียกเขาว่าคุณหลี่ คุ ณ หลี่ ใ ห้ เ ติ้ ง ซั น นั่ ง ลง จากนั้ น ก็ อ่ า นประวั ติ ข องเติ้ ง ซั น โดย ละเอียด ผ่านไปครู่หนึ่ง เขาจึงเงยหน้าพูดว่า “ตอนนี้สอนพิเศษอยู่ หรือ” “ครับ” เติ้งซันพยักหน้า “ทุกคืนวันจันทร์ พุธ ศุกร์ แล้วก็เช้าวัน อาทิตย์” “อื ม ...” คุ ณ หลี่ พู ด “บริ ษั ท เราไม่ มี ข้ อ กำหนดไม่ ใ ห้ พ นั ก งาน ทำงานสองแห่ง แต่พอทำงานจริงๆ บางทีต้องทำงานนอกสถานที่สอง สามวั น บางครั้ ง นานถึ ง หนึ่ ง สั ป ดาห์ คุ ณ มี ง านอื่ น อยู่ ก่ อ น อาจจะ กระทบต่อกันได้ แบบนี้จะได้หรือ” “ถ้างานเป็นไปอย่างราบรื่น งานที่สถาบันสอนพิเศษนั่นผมคงขอ ลาออก” เติ้งซันมีประสบการณ์สัมภาษณ์งานมาอย่างโชกโชน ตอบ อย่างเป็นเหตุเป็นผลว่า “แน่นอน ก่อนที่โรงเรียนกวดวิชาจะหาครูคน ใหม่ได้ อาจจะต้องทำงานควบสองที่ไปสักพัก ส่วนเรื่องที่ต้องทำงาน นอกสถานที่เป็นครั้งคราว ขอเพียงรู้ล่วงหน้า ก็ขอเปลี่ยนตารางสอน กับครูคนอื่นได้ ไม่น่าจะเป็นปัญหา” “ดีมาก” คุณหลี่พูดต่อว่า “บริษัทเราไม่มีข้อเรียกร้องอะไรเป็น ยอดยุทธ์พิภพเทวะ เล่ม 1 14


พิเศษ เวลาทำงานปกติคือวันจันทร์ถึงศุกร์ เก้าโมงเช้าถึงห้าโมงเย็น แต่เรื่องเงินเดือนไม่เหมือนบริษัททั่วไปในไต้หวัน เราใช้วิธีจ่ายเงินเป็น รายสัปดาห์ ระหว่างการทดลองงาน สัปดาห์แรกและสัปดาห์ที่สองเงิน เดื อ นสี่ พั น พอเข้ า สั ป ดาห์ ที่ ส ามเริ่ ม ให้ เ ป็ น ทวี คู ณ จากนั้ น ทุ ก สอง สัปดาห์จะทวีคูณให้หนึ่งครั้ง จวบจนช่วงทดลองงานสัปดาห์ที่เจ็ดและ แปดสิ้นสุดลง สองสัปดาห์นี้จะได้รับเงินค่าตอบแทนสัปดาห์ละสามหมื่น สองพัน หลังจากจบการทดลองงานก็จะให้เงินเดือนตามความสามารถ แน่นอน...ค่าตอบแทนรายสัปดาห์สำหรับพนักงานอย่างเป็นทางการ จะ เป็นจำนวนสามหมื่นสองขึ้นไป” ได้ฟังถึงตรงนี้ เติ้งซันตกใจมากจริงๆ โดยทั่วไปแล้ว ตำแหน่งที่ ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญ ไม่ใช่ระดับหัวหน้า ไม่ใช่ฝ่ายขายที่ได้เปอร์เซ็นต์จาก ยอดขาย เดือนหนึ่งได้เงินเดือนสามสี่หมื่นก็ ไม่ง่ายแล้ว ที่นี่เงินราย สัปดาห์เริ่มต้นที่สามหมื่นสอง? ถ้าคำนวณแบบนี้ เดือนหนึ่งก็เกินแสน ดอลลาร์ไต้หวัน* เชียวนะ นี่ผมฟังผิดไปเองหรือเปล่า เมื่อเห็นสีหน้าของเติ้งซัน คุณหลี่เองก็ ไม่รู้สึกผิดคาด เขายิ้ม น้อยๆ กล่าวว่า “เงินเดือนบริษัทเราสูงกว่ามาตรฐานโดยทั่วไปมาก แต่ ว่าเราก็คัดคนอย่างเข้มงวด ทุกปีเราจะลงประกาศรับสมัครหนึ่งครั้ง ปกติจะมีคนมาคัดเลือกเกินกว่าร้อยคน แต่พอผ่านไปสองเดือนแล้ว มักเหลือคนไม่ถึงหลักสิบ” หรือว่าเอาคนมาใช้ต่างวัวต่างม้าสักเดือนครึ่งเดือนแล้วค่อยไล่ ออกให้เกลี้ยง? เติ้งซันอดสงสัยไม่ได้ แต่คงไม่เป็นการดีที่จะถามตรงๆ เติ้งซันเลยพูดว่า “ผมขอทราบรายละเอียดการทำงานหน่อยได้ ไหม ครับ” “ได้ สิ ” คุ ณ หลี่ ต อบ “สองเดื อ นแรก หลั ก ๆ คื อ การฝึ ก ฝน * อัตราแลกเปลี่ยนเงินไต้หวัน อยู่ที่ประมาณ 0.91 ดอลลาร์ไต้หวัน ต่อ 1 บาทไทย

ยอดยุทธ์พิภพเทวะ เล่ม 1 15


สมรรถนะทางร่างกาย ในระหว่างนี้ก็ตรวจสอบอุปนิสัยใจคอของแต่ละ คนเพื่ อ ตั ด สิ น คนที่ เ ราต้ อ งการให้ อ ยู่ ต่ อ หลั ง จากผ่ า นไปสองเดื อ น หลักๆ ของเราก็ยังคงเป็นการฝึกฝนสมรรถนะทางร่างกาย แต่ว่าจะเริ่ม ทดสอบผลิตภัณฑ์อย่างไม่มีกำหนดเวลาแน่นอน นั่นก็คืองานหลักของ พวกคุณ” “ผลิตภัณฑ์ของบริษัทคือผลิตภัณฑ์ประเภทไหน จะทดสอบยัง ไง” เติ้งซันถาม “อุปกรณ์กีฬาหรือครับ” ไม่อย่างนั้นจะฝึกฝนสมรรถนะ ทางร่างกายไปทำไม “ส่วนนี้ถือเป็นความลับของบริษัทแล้ว” คุณหลี่ยิ้มน้อยๆ พูดว่า “เมื่อได้รับคัดเลือกอย่างเป็นทางการแล้ว จะอธิบายให้ฟังอย่างละเอียด กว่านี้ สรุปแล้วงานนี้ต้องมีสมรรถนะทางกายที่สูงกว่ามาตรฐาน เงื่อน ไขอื่นๆ ค่อนข้างน้อย” ฟังแบบนี้ก็ยิ่งไม่คล้ายพวกต้มตุ๋นหลอกลวง แต่ว่ามีบริษัทแปลก พิสดารแบบนี้อยู่จริงๆ หรือ “คุณมีคำถามอื่นๆ อีกไหม” เมื่อเห็นเติ้งซันส่ายหน้า คุณหลี่จึง กล่าวว่า “อย่างนั้นวันจันทร์หน้าเริ่มมาทำงาน กรุณาใส่ชุดกีฬาและนำ บัตรประจำตัวประชาชนมาด้วย” คุณหลี่พูดพลางลุกขึ้น เติ้งซันจึงได้แต่ลุกขึ้นยืนตามไปด้วย ทั้งคู่ จับมือกัน คุณหลี่ส่งเติ้งซันออกมาพร้อมหันหน้าทักทายผู้หญิงอีกคนที่ หน้าประตู ซึ่งน่าจะเป็นผู้สมัครรายต่อไป หลังออกจากบริษัทประหลาดแห่งนี้แล้ว เติ้งซันหยุดรถระหว่าง ทางไปโรงเรี ย นกวดวิ ช า กิ น อาหารเย็ น อย่ า งลวกๆ ในร้ า นอาหาร บุฟเฟต์สักมื้อก่อน ค่อยไปนั่งรอเตรียมสอนที่ห้องพักสำหรับอาจารย์ใน โรงเรียนกวดวิชา ยอดยุทธ์พิภพเทวะ เล่ม 1 16


เรื่องที่ไปสัมภาษณ์งานแปลกประหลาดในวันนี้ แน่นอนว่าห้าม เล่าให้เพื่อนร่วมงานฟัง ก่อนที่จะมั่นใจว่าจะลาออกหรือไม่ อย่าให้ข่าว รั่วดีที่สุด เพื่อหลีกเลี่ยงความยุ่งยากโดยไม่จำเป็น สอนพิเศษจนถึงสามทุ่มครึ่ง เติ้งซันก็จบคลาส มีนักเรียนสอง สามคนอยู่รอเพื่อถามคำถาม เมื่อแก้ปัญหาให้พวกเขาและส่งนักเรียน กลับไปจนหมดแล้ว เติ้งซันบิดขี้เกียจ เดินลงมาชั้นล่างเพื่อพักผ่อนที่ ห้องพักอาจารย์ สนทนากับอาจารย์คนอื่นคำสองคำ เดาว่านักเรียนคงกลับไปจน หมดแล้ ว บรรดาอาจารย์ ก็ เ อ่ ย คำร่ ำ ลา เตรี ย มตั ว กลั บ บ้ า น เติ้ ง ซั น สะพายกระเป๋าเดินเลี้ยวที่หัวมุมก็ถึงที่จอดรถมอเตอร์ไซค์ หลิ่วอวี่หรง ซึ่งสอนภาษาอังกฤษให้นักเรียนชั้นมัธยมหนึ่งก็เดินเข้ามาพร้อมใบหน้า แฝงรอยยิ้มซุกซน เติ้งซันก็ยิ้มบางๆ ตอบ ยื่นหมวกกันน็อกที่เตรียมไว้ อีกใบให้เธอ หลิ่วอวี่หรงเป็นน้องสาวของหลิ่วอวี่หลันซึ่งเป็นเพื่อนร่วมชั้นของ เติ้งซันตอนเรียนมหาวิทยาลัยเซียนเต๋อ หลิ่วอวี่หลันกับเติ้งซันในตอนนั้นนอกจากจะเป็นเพื่อนสนิทกัน แล้ว ต่างมีความรู้สึกดี ให้แก่กัน แต่ ไม่รู้ว่าปัญหาเกิดจากที่ ใด ความ สัมพันธ์ของทั้งสองคลุมเครืออยู่เป็นนาน ท้ายที่สุดมีบุญแต่ไร้วาสนาต่อ กัน แต่อาจเป็นเพราะเหตุนี้ มิตรภาพของทั้งคู่ถึงได้ยืนยาวนานหลายปี จวบจนปัจจุบัน ถึงแม้จะขึ้นไปทำงานทางตอนเหนือแล้ว หลิ่ว อวี่หลันยังคงกลับมาไถจง พบปะพูดคุยกับเติ้งซันเป็นระยะ เติ้งซันรู้จัก หลิ่วอวี่หรงน้องสาวของเธอมานานแล้ว ดังนั้นเมื่อหลิ่วอวี่หรงสอบเข้า สาขาภาษาอังกฤษของมหาวิทยาลัยเซียนเต๋อได้ หน้าที่ดูแลเธอจึงตก เป็นของเติ้งซันไปโดยปริยาย และงานสอนพิเศษที่ โรงเรียนกวดวิชา แห่งนี้ แน่นอนว่าเติ้งซันเป็นคนแนะนำ ยอดยุทธ์พิภพเทวะ เล่ม 1 17


หลิ่วอวี่หรงมีสอนแค่วันพุธและวันศุกร์ ในสองวันนี้ เติ้งซันที่เลิก คลาสสอนพร้อมกันมักจะส่งเธอกลับห้องชุดที่แบ่งให้เช่า วันนี้เป็นวัน ศุกร์พอดี องคาพยพใบหน้าของเธอคล้ายคลึงกับหลิ่วอวี่หลัน ดวงตากลม โต สันจมูกโด่ง และปากบางกระจุ๋มกระจิ๋ม ทว่าหลิ่วอวี่หลันผู้พี่สาว รูปร่างสูงแบบบาง รูปหน้ายาวเรียบง่ายแต่งหน้าน้อยมาก มัดผมยาว เป็นหางม้าง่ายๆ อย่างเคยชิน ตอนเรียนสวมแต่กางเกงยีนส์ ตะลอน ไปทั่วกับเติ้งซัน ส่วนน้องสาวหลิ่วอวี่หรงทรวดทรงอรชรพอดิบพอดี แช่ ม ช้ อ ยไม่ อ วบอั ด ใบหน้ า ค่ อ นข้ า งกลม แต่ ง แต้ ม เครื่ อ งสำอาง บางเบา ทำให้วงหน้าดูหวานเตะตาผู้คนยิ่งขึ้น ผมดัดม้วนซึ่งต้องจัด ทรงทุกวัน ทำให้ผู้คนเห็นความงามของเธอมาแต่ไกล ด้านการแต่งตัว หลิ่วอวี่หรงสวมกระโปรงยาวหรือสั้นเสียส่วน มาก นอกจากจะสวมกางเกงขาสั้นบางสบายดึงดูดสายตาผู้คนเป็นบาง ครั้ ง แล้ ว ในความทรงจำของเติ้ ง ซั น แทบจะไม่ เ คยเห็ น เธอสวมชุ ด กางเกงขาสั้นหรือขายาวอื่นใดเลย ความแตกต่างเรื่องการแต่งเนื้อแต่งตัวของสองพี่น้องนี้ จากที่ หลิ่ ว อวี่ ห รงผู้ น้ อ งสาวเล่ า เป็ น เพราะสาขาวิ ช าที่ เ รี ย นแตกต่ า งกั น หลิ่วอวี่หลันผู้พี่ตอนนั้นเรียนสาขาไฟฟ้าซึ่งมีผู้หญิงเพียงไม่กี่คน ลุย ตะลอนไปทั่วกับผู้ชายในสาขา ส่วนสาขาภาษาอังกฤษของน้องสาว แทบจะเป็นผู้หญิงทั้งหมด ถ้าแต่งตัวเรื่อยเปื่อยเกินไป ก็จะถูกแดกดัน สักสองสามคำ จนอาจจะรู้สึกไม่สบายใจทั้งวัน ส่วนจะเป็นจริงตามนี้ หรือไม่ เติ้งซันก็ไม่รู้แน่ชัด “พี่ซัน” ขณะที่เติ้งซันประคองรถ หลิ่วอวี่หรงพยายามหาวิธียัด ม้วนผมเป็นกระเซิงเข้าไปในหมวกกันน็อก พลางพูดว่า “ไปกินมื้อดึก กันไหม” ยอดยุทธ์พิภพเทวะ เล่ม 1 18


“กิ นมากไปไม่ ก ลั ว อ้ ว นหรื อ” เติ้ ง ซั น พู ด อย่ า งไม่ ต อบรั บ หรื อ ปฏิเสธ “อีตาบ้า” หลิ่วอวี่หรงทำปากยื่นกระเง้ากระงอด “อย่ามาพูดถึงคำ ว่าอ้วนกับฉันนะ” “เธอก็ไม่อ้วน จะอ่อนไหวไปทำไม” เติ้งซันกลอกตา พูดอย่างไม่ สบอารมณ์ “ฉันอ้วนกว่าพี่สาวเยอะเลย” หลิ่วอวี่หรงทอดถอนใจ “ต้องผอมๆ เหมือนพี่สาว แล้วต้องหน้าเรียวเล็กถึงจะเป็นสาวงาม” “ไม่ต้องหรอก เธอสวยพอแล้ว” เติ้งซันสตาร์ทรถขึ้นคร่อมนั่ง พลางพูดว่า “วันนี้อยากกินอะไร” “วันนี้ตาฉันเลี้ยง” หลิ่วอวี่หรงขึ้นนั่งซ้อนท้าย กอดเอวเติ้งซัน แล้วพูดว่า “กินพะโล้ดีไหม ฉันอยากกินปีกไก่” “ได้” เติ้งซันตอบ “แต่ห้ามเธอสั่งเยอะ แล้วกินอย่างละนิดเดียว สุดท้ายฉันต้องเหมาหมด” “ไม่หรอกน่า” หลิ่วอวี่หรงแอบยิ้ม ตอบอย่างขอไปที เติ้งซันพาหลิ่วอวี่หรงไปซื้ออาหารมื้อดึก แล้วกลับมายังห้องชุด ของหลิ่วอวี่หรง ทั้งคู่คุยกันพลางกินพะโล้ไปพลาง เติ้งซันโดยปรกติพูด น้อยอยู่แล้ว เมื่ออยู่ด้วยกันสองคน มักเป็นฝ่ายฟังหลิ่วอวี่หรงเล่าเรื่อง สัพเพเหระของมหาวิทยาลัย ไม่นาน อาหารเครื่องดื่มก็พร่องหมด เติ้ง ซันเห็นว่าดึกแล้ว กำลังจะบอกลาหลิ่วอวี่หรง แต่หลิ่วอวี่หรงเร็วกว่า ก้าวหนึ่ง “พี่ซัน เช้าวันอาทิตย์พี่ต้องไปสอนใช่ไหม” เติ้งซันอืมคำหนึ่ง “งั้นช่วงบ่ายว่างไหม” สายตาของหลิ่วอวี่หรงทอประกายเจ้าเล่ห์ “ทำไม” เติ้งซันถามอย่างระแวดระวัง “ว่างหรือเปล่าล่ะ” หลิ่วอวี่หรงถามอย่างออดอ้อน ยอดยุทธ์พิภพเทวะ เล่ม 1 19


“ฉันจะนอน ถือว่าว่างไหม” เติ้งซันบอก หลิ่วอวี่หรงทำปากยื่น ถอนใจเบาๆ ก่อนพูดว่า “ช่วงบ่ายวัน อาทิตย์ พี่สาวฉันจะมา พี่มีเวลาว่างไหม” “อวี่หลันจะมาหรือ” เติ้งซันพูดอย่างแปลกใจ “จริงหรือ” “หลอกน่ะ” หลิ่วอวี่หรงปั้นหน้าเคร่งเครียด “พี่สาวฉันมาพี่ถึงว่าง ฉันอยากเจอพี่ พี่ไม่ว่าง” เติ้งซันที่กระดากหน่อยๆ จำใจพูดว่า “ฉันไม่ได้บอกเสียหน่อยว่า ไม่ว่าง” “งั้นก็ว่างแล้วสิ” สีหน้าหลิ่วอวี่หรงเปลี่ยนทันที พูดอย่างยิ้มแย้ม ว่า “ประมาณบ่ายโมงครึ่ง มารับฉันที่ ‘ไป๋เส้อโต้วเตี่ยน’ บนถนนเสวีย ไหลได้ไหม” ไป๋เส้อโต้วเตี่ยนเป็นร้านอาหารฝรั่งขายกาแฟควบด้วย ค่อนข้าง มีชื่อในย่านกลางเมือง พอเติ้งซันได้ยินก็รู้แน่แก่ใจ สีหน้าเคร่งขรึม “มีคนนัดเลี้ยงข้าว เธออีกแล้ว หรือว่างานสังสรรค์อะไร จะเอาฉันไปเป็นโล่อีกเหรอ ไม่ ไป!” “โธ่” หลิ่วอวี่หรงเริ่มอ้อน ดึงเติ้งซันไว้ “คนนั้นน่ารำคาญจะตาย ไป บอกไปว่ามีแฟนแล้ว ยังตื๊อไม่เลิก บอกว่ายังไงก็ต้องเลี้ยงข้าวฉัน สักมื้อ...” “เธอมีแฟนแล้วหรือ” เติ้งซันถามอย่างประหลาดใจ หลิ่ ว อวี่ ห รงหน้ า แดงพู ดว่ า “ไม่ มี ห รอก ฉั น ก็ แ ค่ ห ลอกเขาไป อย่างนั้น” “ก็บอกเขาไปสิว่าเธอไม่สนใจเขา” เติ้งซันขมวดคิ้ว “ยิ่งไม่ควรให้ เขาเลี้ยงข้าว ติดค้างน้ำใจกันเปล่าๆ” หลิ่วอวี่หรงพูดอีกสองสามประโยค เห็นว่าเติ้งซันยืนกรานไม่ไป ยอดยุทธ์พิภพเทวะ เล่ม 1 20


ดูเหมือนจะโกรธเข้าจริงๆ ทำปากยื่นหันหลังให้เติ้งซัน เติ้งซันไม่รู้จะทำอย่างไร ลุกขึ้นยืน “ฉันกลับบ้านก่อน” “ฮึ!” หลิ่วอวี่หรงไม่หันกลับมามอง ทำเสียงฮึดฮัด “พี่ชายนิสัยไม่ ดี! ลาก่อน!” เติ้งซันแอบขำ เพราะฟังออกว่าล้อเล่นมากกว่าโกรธ เขาส่าย หน้าพลางพูดว่า “เอาละ อวี่หรง เธออย่าไปกินข้าวกับคนนั้น เที่ยงวัน อาทิตย์หลังเลิกคลาสสอนแล้ว จะมารับเธอออกไปกินข้าว” หลิ่วอวี่หรงกระโดดผลุงหันมา พูดพร้อมทำตาโต “จริงหรือ ห้าม เบี้ยวนะ” “ไม่เบี้ยวหรอก” เติ้งซันถอนหายใจ เดินไปหน้าประตูแล้วพูดว่า “มาล็อกประตู ฉันจะไปแล้ว” “ค่ะ” หลิ่วอวี่หรงเดินยิ้มแย้ม ยืนพิงประตูพูดว่า “พี่ซันใจดีที่สุด แล้ว” “ไม่ต้องมาอ้อน” เติ้งซันทั้งขำทั้งโมโห ด่ายิ้มหัวไปคำหนึ่งแล้ว ส่ายหน้า กลับหลังหันจากไป พอถึงบ้าน พ่อหลับไปแล้ว เติ้งซันย่องอย่างแผ่วเบาเข้าห้องแต่ กลับเห็นแผ่นกระดาษแปะที่หน้าประตู บนนั้นเขียนว่า “ลูกไห่โทรมา วันอาทิตย์จะมารับพ่อกลับหนานโถว พ่อ” พี่ใหญ่จะมารับพ่อกลับไปอยู่ด้วยหรือ ก็ดี อยู่คนเดียวตามลำพัง สักระยะหนึ่ง ให้ความรู้สึกในใจตกตะกอนเสียหน่อย อีกอย่างวันจันทร์ เริ่มไปทำงานที่บริษัทประหลาดนั่น ทำให้ช่วงเช้าเขาไม่มีเวลาอยู่เป็น เพื่อนพ่อ แต่ถ้าเป็นแบบนี้ ช่วงเที่ยงวันอาทิตย์น่าจะไปกินข้าวพร้อมกับ พี่ใหญ่ พี่สะใภ้ และลูกของพวกเขา เรียกอวี่หรงมากินด้วยกันเสียเลย ยอดยุทธ์พิภพเทวะ เล่ม 1 21


ในเมื่อทุกคนก็รู้จักกันอยู่แล้ว เติ้ ง ซั น รี บ เปิ ด คอมพิ ว เตอร์ ต่ อ อิ น เทอร์ เ น็ ต ล็ อ กอิ น เข้ า สู่ โปรแกรมสำหรับติดต่อสื่อสาร เห็นหลิ่วอวี่หรงออนไลน์อยู่ตามคาด ส่ง ข้อความไปให้ หลิ่วอวี่หรงดูเหมือนจะยินดีไปกินข้าวด้วยกัน ตอบรับ อย่างไม่ลังเล วันอาทิตย์ เติ้งซันสอนคลาสเช้าเสร็จ จึงรับหลิ่วอวี่หรงกลับบ้าน พี่ใหญ่ พี่สะใภ้ และหลานชายซึ่งเพิ่งจะเดินได้และซุกซนไปทั่วมาถึง พร้อมกันแล้ว เติ้งเทียนป๋อในวัยชราเห็นหลานชายตัวน้อยกระโดดโลด เต้นมีชีวิตชีวาก็ยิ้มจนหุบไม่ลงไปโดยอัตโนมัติ หลิ่วอวี่หรงก็เล่นกับเด็ก ชายตัวน้อยได้อย่างรวดเร็ว ทั้งคู่เที่ยวเปิดลิ้นชักเปิดตู้วุ่นวายไปทั่ว หลังจากชื่นมื่นกันพักหนึ่ง ทุกคนเตรียมออกไปกินข้าว โทรศัพท์ มือถือของหลิ่วอวี่หรงดังขึ้น หลิ่วอวี่หรงก้มดูเลขหมาย มองเติ้งซันแวบหนึ่งก่อน จึงกดรับ สาย “ค่ะ พี่หรือ” เป็นอวี่หลัน? เติ้งซันชะงักไปเล็กน้อย หันไปมองหลิ่วอวี่หรง “จริ ง สิ ค ะ ฉั น อยู่ ท างนี้ กั บ พี่ ซั น จะออกไปกิ น ข้ า วกั บ พวก เขา...อืม...เปล่าหรอก...ใช่...ก็ ได้ๆ พี่ถามพี่ซันสิ...อืม...รอเดี๋ยวนะ” หลิ่วอวี่หรงยัดโทรศัพท์มาให้เติ้งซัน พลางพูดว่า “พี่สาวจะมาไถจง พี่ คุยกับเธอหน่อย” คุยอะไรล่ะ เติ้งซันรับโทรศัพท์มา ได้ยินเสียงหัวเราะร่าเริงของ หลิ่วอวี่หลันดังมาจากปลายสาย “อาซัน นายกับน้องสาวฉันจะออกไป กินข้าวกันหรือ” “ใช่” เติ้งซันตอบ “เธอจะมาไถจงหรือ มาเมื่อไหร่” “ตอนนี้ ไ ง ฉั น จะถึ ง แล้ ว จะเลี้ ย งข้ า วกลางวั น ฉั น ไหมล่ ะ ” ยอดยุทธ์พิภพเทวะ เล่ม 1 22


หลิ่วอวี่หลันพูดกลั้วหัวเราะ “หรือว่านายออกเดทกับน้องสาวฉันอยู่ ถ้า เป็นแบบนั้น ฉันยอมนายไปก่อน ให้นายเลี้ยงมื้อเย็นแทน” “อย่าล้อเล่นน่ะ” เติ้งซันตอบอย่างไม่สบอารมณ์ “พี่ ใหญ่กับพี่ สะใภ้มา พวกเราไปกินข้าวพร้อมกัน” “มารับคุณลุงไปอยู่หรือ” หลิ่วอวี่หลันพูด “งั้นเดี๋ยวฉันตรงไปเลย ร้านอยู่ที่ไหน” “ให้พวกเราไปรับเธอไหม” เติ้งซันถาม “ไม่ต้องหรอก ฉันจะลงจากรถแล้ว” หลิ่วอวี่หลันตอบ “รับไป รับมาเสียเวลา” เติ้งซันไม่ต่อคำมาก บอกที่อยู่ร้านอาหารแก่เธอ จากนั้นทั้งห้า คนก็ขึ้นรถคันเดียวกัน ยังอุ้มเด็กตัวน้อยออกจากบ้านไปร้านอาหาร พร้อมกัน อาหารจานที่สองเพิ่งเสิร์ฟ หลิ่วอวี่หลันก็มาถึงโดยพนักงานร้าน นำทางเข้ามา เธอยังคงผูกผมหางม้าง่ายๆ หน้าตาไม่แต่งแต้ม อยู่ใน ชุดสูทตัดเย็บเข้ารูปแบบเรียบง่าย ได้กลิน่ อายของสาวทำงานหลายส่วน “คุณลุงเติ้ง สบายดีไหมคะ” หลิ่วอวี่หลันทักทายเติ้งเทียนป๋อ ก่อน “อวี่หลัน! เด็กดี นั่งสิๆ” เติ้งเทียนป๋อเอ็นดูหลิ่วอวี่หลันมาก วันนี้ เดิมอารมณ์ของเขาไม่เลวอยู่แล้ว ยิ่งได้เห็นหลิ่วอวี่หลันยิ่งเบิกบานใจ “พี่ใหญ่ พี่สะใภ้” ต่อมาหลิ่วอวี่หลันก็ทักทายเติ้งไห่และภรรยา แล้วมองเด็กชายตัวน้อย ตาเป็นประกาย ชี้ไปทางเด็กน้อย ร้องอย่าง ตื่นเต้นว่า “พวกพี่มีลูกแล้ว! น่ารักจังเลย! อายุเท่าไหร่คะ อุ้มหน่อย อุ้มหน่อย” “ขวบกว่าแล้ว เพิ่งจะวิ่งได้ ไม่ยอมให้ใครอุ้มเลย นั่งก็นั่งไม่ติด” พี่สะใภ้ใหญ่แอบบ่น เพิ่งพูดจบ เด็กน้อยหน้ายิ้มกริ่ม ดิ้นรนลงยืนที่พื้น ยอดยุทธ์พิภพเทวะ เล่ม 1 23


ไม่รู้วิ่งซุกซนไปทางไหน พี่ใหญ่เติ้งไห่รีบตามออกไป “จุ๊ๆ ไม่รู้จักกลัวอะไรเลย ที่คนเยอะแบบนี้ยังวิ่งซนอีก” หลิ่วอวี่ หลันพูดจบ เบือนหน้าไปทางเติ้งซัน มือของเธอตีที่ต้นแขนข้างขวาซึ่ง มีเนื้อมากที่สุดของเติ้งซัน ตบเพียะลงไปทีหนึ่ง แล้วจึงอ้อมไปนั่งลงที่ ว่างด้านซ้ายของหลิ่วอวี่หรง นั่งหัวเราะก่อนพูด “อาซัน ไม่เจอกันนาน เลย” เติ้งซันคลำต้นแขนที่ถูกตีจนเจ็บป้อยๆ “ผอมจนไม่มีเนื้อหนัง ขนาดนี้ ยังตีคนได้เจ็บชะมัด” หลิ่วอวี่หลันงอแขนขวาขึ้น เกร็งกล้ามน้อยๆ “สตรีอย่างฉันก็ ออกกำลังกายเหมือนกันนะ” “ครับๆๆ” เติ้งซันพูดอย่างไม่สบอารมณ์ “อาซัน นายรังแกน้องสาวฉันหรือ” หลิ่วอวี่หลันกัดไม่ปล่อย “กล้าที่ไหนเล่า” เติ้งซันถลึงตาโตตอบ “ที่ฉันได้ยินมาไม่ใช่แบบนี้นี่” สองมือหลิ่วอวี่หลันกอดอก ส่งเสียงฮึดฮัด “ทำให้ฉันไม่วางใจ ต้องจากซินจู๋* ตามมาเอาเรื่องถึงไถจง” เอาเรื่องอะไรกัน เติ้งซันค้อน ไม่ส่งเสียง “พี่อย่าพูดเหลวไหลสิ” หลิ่วอวี่หรงผลักหลิ่วอวี่หลัน “อวี่หลันตอนนี้ทำอะไรอยู่ ปริญญาโทเรียนจบหรือยัง” เติ้งเทียน ป๋อถามยิ้มๆ เมื่อผู้อาวุโสเอ่ยปากถาม ท่าทียั่วเย้าของอวี่หลันหายไป ยิ้มตอบ ว่ า “คุ ณ ลุ ง เติ้ ง ลื ม อี ก แล้ ว ฉั น จบปริ ญ ญาโทมาสองปี แ ล้ ว ค่ ะ ตอนนี้ ทำงานในเขตอุตสาหกรรมเทคโนโลยี” “ดี! มีอนาคต” เติ้งเทียนป๋อพยักหน้าไม่หยุด “ลูกซันไม่เอาไหน * เมืองทางตะวันตกเฉียงเหนือของไต้หวัน

ยอดยุทธ์พิภพเทวะ เล่ม 1 24


ถึงตอนนี้ยังไม่รู้เลยว่าควรทำอะไร” ได้ยินคำพูดแบบนี้ เติ้งซันไม่พูดอะไร ได้แต่คีบตะเกียบตั้งหน้า ตั้งตากิน “ไม่แย่หรอกค่ะ” หลิ่วอวี่หลันพูด “อาซันแค่ ไม่อยากเรียนต่อ เท่านั้นเอง รอจนเขาค้นพบสิ่งที่อยากทำ ก็จะขยันเอง” “หวั ง ว่ า เขาจะค้ น พบเร็ ว หน่ อ ย” เติ้ ง เที ย นป๋ อ ส่ า ยหน้ า “งาน อดิเรกใหม่ของเขาตอนนี้คือสัมภาษณ์งานไปทั่ว” หลิ่วอวี่หลันชะงักไปครู่ หันมามองเติ้งซัน “สัมภาษณ์งานไปทั่ว ยังไงหรือ” “โธ่ ก็แค่ทำไปสนุกๆ เท่านั้นเอง” เติ้งซันยิ้มกระอักกระอ่วน รีบ เปลี่ยนหัวข้อ “พ่อเอาแต่ถามจนอวี่หลันไม่ได้กินข้าวเลย” เติ้งเทียนป๋อได้ฟัง รีบพูด “จริงสิ รีบกินๆ” “ไม่เป็นไรค่ะ” หลิ่วอวี่หลันกินพอเป็นพิธีไม่กี่คำ พลันกระซิบที่ ข้างหูหลิ่วอวี่หรง ไม่รู้ว่าพูดอะไร หลิ่วอวี่หรงจุ๊ปากสองคำ และตอบ เสียงเบากลับไปสองสามคำ สองคนซุบซิบหัวเราะคิกคัก ไม่รู้ว่าดีอก ดีใจอะไรกันนักหนา ถึงตอนนี้พี่สะใภ้เห็นว่าสามีถูกลูกชายจอมซนดึงวิ่งซนไปทั่ว พูด กับทุกคนว่า “ฉันไปดูลูกหน่อย ให้อาไห่กลับมากิน” “พาลูกกลับมากินพร้อมกัน” เติ้งเทียนป๋อพูดแล้วถอนใจ “มีลูกก็ ต้องเหนื่อยแบบนี้ อวี่หลัน เธอจะแต่งงานเมื่อไหร่ ยิ่งมีลูกเร็ว ต่อไปก็ ยิ่งสบาย ก่อนหน้านั้นลูกซันบอกว่าเธอใกล้จะแต่งงานแล้ว ต้องแจก บัตรเชิญให้ลุงนะ ลุงให้ซองแดงหนักๆ แน่นอน” “ไม่ทราบสิคะ” หลิ่วอวี่หลันแลบลิ้นตอบว่า “ซองแดงของคุณลุง เติ้งฉันต้องรับไว้แน่ แต่ว่าอาจจะต้องรอไปก่อนค่ะ” “ทำไมล่ะ” เติ้งเทียนป๋อถามอย่างแปลกใจ ยอดยุทธ์พิภพเทวะ เล่ม 1 25


“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ เราเลิกกันแล้ว” หลิ่วอวี่หลันคีบเนื้อชิ้นหนึ่ง วางในจานของเติ้งเทียนป๋อ “เนื้อนี้ปรุงได้นุ่มมาก คุณลุงเติ้งทานเถอะ ค่ะ” “ดีดี เด็กดี ลุงขอบใจเธอนะ” เติ้งเทียนป๋อไม่ได้แก่จนเลอะเลือน รู้ว่าหลิ่วอวี่หลันไม่อยากพูด ก็ไม่เอ่ยถึงอีก แต่เขาเปลี่ยนความคิด หัน มาถาม “แล้วอวี่หรงล่ะ คบแฟนบ้างหรือยัง” “ไม่มีหรอกค่ะคุณลุง ฉันเพิ่งเรียนปีสองเอง” หลิ่วอวี่หรงยิ้มตอบ “อืม ตั้งใจเรียนเป็นเรื่องดีมาก แต่ว่าเรียนปริญญาโทปริญญา เอกต่อไปเรื่อยๆ เรียนจนอายุเกือบสามสิบก็ยังเรียนไม่จบ รอจนเรียน จบแล้วค่อยหาคู่ก็ออกจะช้าไปหน่อย ระหว่างเรียนก็ลองคบหาดูบ้าง ก็ได้” เติ้งเทียนป๋อพูดจริงจัง หลิ่วอวี่หรงเบนสายตามาชำเลืองเติ้งซัน ปากเล็กเผยอยิ้ม “ฉัน รอพี่ซันตามจีบอยู่” คำพูดนี้พอพูดออกไป ทุกคนตะลึงงันไปวูบ ยังเป็นหลิ่วอวี่หลันที่ ตอบสนองก่อนใคร เธอพูดพรวดออกมา “น้องสาวฉันพูดขนาดนี้แล้ว อาซัน นายพูดอะไรบ้างสิ” “พูด...พูดอะไรล่ะ” เติ้งซันตะลึง “อย่างนี้อาซันก็ทำไม่ถูกแล้ว” เติ้งไห่ซึ่งเพิ่งกลับมานั่งพร้อม ภรรยา หัวเราะฮาฮากล่าวว่า “น้องชายฉันบางครั้งก็เหมือนท่อนไม้ น้องอวี่หรงต้องกระตุ้นเขาเรื่อยๆ นะ” “แต่ ลุ ง มี ความเห็ น ต่ า งออกไป” เติ้ ง เที ย นป๋ อ กลั บ โบกมื อ พู ด “อวี่หรง เธอต้องคิดให้ดีนะ ลูกลุงคนนี้ไม่เอาไหนนะ” “อวี่หรงพูดล้อเล่นน่ะ” เติ้งซันอดไม่ไหวรีบค้าน หลิ่วอวี่หรงปล่อยขำพรวด “จริงค่ะ คุณลุงเติ้งอย่าถือเป็นจริง เป็นจัง” ยอดยุทธ์พิภพเทวะ เล่ม 1 26


“อย่างนี้เอง” เติ้งเทียนป๋อจ้องเติ้งซันแวบหนึ่ง “อย่างนั้นก็ถูก แล้ว ต้องเป็นเพราะอาซันไม่เอาไหน อวี่หรงเลยไม่เห็นเขาอยู่ในสายตา ถูกไหม” ขณะที่ทุกคนกำลังหัวเราะ เติ้งซันเห็นหลานชายตัวน้อยกำลัง ดิ้นรนอยากกระโดดลงพื้น ฉวยโอกาสยืนขึ้นยิ้มแหยๆ “ไม่ว่ายังไงผมก็ ผิดเอง ผมพาหลานไปเดินเล่นดีกว่า” แล้วรีบอุ้มหลานตัวน้อยออกไป ด้านนอก เดินไปได้ไม่กี่ก้าว เด็กน้อยก็ดิ้นรนจะลงไปวิ่งซนเอง เติ้งซันได้ แต่วิ่งตามหลาน ขวางเขาไว้ก่อนที่จะวิ่งชนข้าวของต่างๆ ล้มกระจัด กระจาย ผ่านไปเช่นนี้ครู่หนึ่ง เด็กน้อยก็ถูกจับเอาไว้ เป็นพี่สะใภ้มา แล้วนั่นเอง “พี่สะใภ้” เติ้งซันส่ายหน้า “หนุ่มน้อยของพี่วิ่งเก่งจริง” “ใช่” พี่สะใภ้ยิ้มแหยพูด “อายุขนาดนี้ก็เป็นแบบนี้ ช่วยไม่ได้ เธอ กลับเข้าไปกินข้าวเถอะ ฉันดูเองก็ได้” “ไม่เป็นไรหรอก พี่สะใภ้ดูอยู่ทุกวันเหนื่อยแย่” เติ้งซันบอก “อยู่บ้านค่อยยังชั่ว ปล่อยให้วิ่งตามใจ ที่นี่ไม่ค่อยวางใจ” พี่สะใภ้ ชะงักไป ก่อนจะถามอย่างสนอกสนใจ “ผู้หญิงสองคนนั่นไม่ใช่แฟนเธอ ทั้งคู่หรือ” “ไม่ใช่ครับ” เติ้งซันรู้สึกกระดาก “แต่ก่อนฉันคิดว่าคนพี่สาวเป็นแฟนเธอ ต่อมาถึงรู้ว่าไม่ใช่” พี่ สะใภ้พูด “แล้วก็คิดว่าน้องสาวใช่ เมื่อครู่ถึงรู้ว่าไม่ใช่” “ครับ ไม่ใช่ทั้งคู่” เติ้งซันบอก “เป็นแค่เพื่อนสนิทเท่านั้น” “อืม...” พี่สะใภ้พูด “ถ้าพี่ใหญ่เธอมีเพื่อนสนิทเยอะแบบนี้ ฉันก็ คงไม่วางใจ” “โธ่...” เติ้งซันยิ้มแหย “พี่สะใภ้ก็ล้อผมด้วย สงสารผมเถอะครับ” ยอดยุทธ์พิภพเทวะ เล่ม 1 27


“กลับไปกินข้าวเถอะ” พี่สะใภ้หัวเราะเบาๆ หมุนตัวเดินกลับไป กว่าจะส่งพี่ชาย พี่สะใภ้ และพ่อผู้ชราไปได้ เติ้งซันโทรเรียกรถ แท็กซี่เพื่อพาพี่น้องแซ่หลิ่วทั้งสองคนส่งไปถึงที่พักของหลิ่วผู้น้อง สามคนสนทนากัน เติ้งซันรอจนหลิ่วอวี่หรงปลีกตัวไปล้างมือ ถึง ได้มีโอกาสถามหลิ่วอวี่หลันเสียงต่ำ “เกิดอะไรขึ้น ฉันเองยังคิดว่าเธอ มาแจกการ์ดเชิญเสียอีก” หลิ่วอวี่หลันถอนใจเบาๆ เก็บรอยยิ้ม “เดิมเราก็กะกันไว้...สองปี นี้ฉันหางานทำก่อน พอเขาพ้นเกณฑ์ทหารแล้วค่อยแต่งงานไปเมือง นอกเรียนปริญญาเอกด้วยกัน ใช่ไหม” “อืม อืม” เติ้งซันถาม “แล้วตอนนี้ล่ะ” “พอเขาพ้นจากเกณฑ์ทหาร ก็บอกว่าไม่อยากไปเมืองนอกแล้ว” หลิ่วอวี่หลันแบมือพูด “ห้ามฉันไม่ให้ไปด้วย” “เอ่อ...แล้วเธอว่ายังไง” เติ้งซันถาม “ฉันบอกว่า งั้นฉันไปเมืองนอกเอง ถ้ากลับมา เราทั้งคู่ยังไม่ เปลี่ยนใจค่อยแต่งงานกัน” หลิ่วอวี่หลันพูดต่อ “เขาบอกว่า แบบนี้ไม่รู้ จะนานอีกกี่ปี เลิกกันเลยดีกว่า” “เขาอยากให้แต่งงานกันก่อนค่อยไปเมืองนอกหรือ” เติ้งซันถาม “ไม่ เขาไม่อยากให้ฉันไปเมืองนอก” หลิ่วอวี่หลันบอก “เขาบอก ว่างานฉันตอนนี้เงินเดือนสูงมากแล้ว จะเรียนต่ออีกไปทำไม” เจ้าหมอนั่นพูดแบบนี้ก็พูดผิดไปแล้ว...เติ้งซันนิ่งเงียบไปอย่าง ช่วยไม่ได้ เขารู้ดีว่าหลิ่วอวี่หลันจริงจังเรื่องการเรียนมาก และคาดหวัง ต่อตนเองสูงมาก การไปเมืองนอกเพื่อพัฒนาไปอีกขั้นเป็นเรื่องที่เธอ คาดหวังมาโดยตลอด ไม่เกี่ยวกับเรื่องเงินเดือนสูงต่ำสักนิด เดิมเธอ ยอมรอแฟนถึงสองปี เพราะคิดว่าต่อไปจะพึ่งพาซึ่งกันและกันและสู้ชีวิต ยอดยุทธ์พิภพเทวะ เล่ม 1 28


ไปด้วยกันได้ คิดไม่ถึงว่าสุดท้ายกลับรอจนได้ยินคำพูดแบบนี้ “อย่าเพิ่งพูดเรื่องฉันเลย” หลิ่วอวี่หลันลดเสียงเบา เขยิบเข้ามา พูดข้างหูเติ้งซัน “นายกับน้องสาวฉันเป็นยังไง” “อะไร” เติ้งซันตกใจ “น้ อ งสาวฉั น ชอบนาย สองสามวั น ก่ อ นเธอเพิ่ ง บอกฉั น เอง” หลิ่วอวี่หลันเล่า “เธอคง...ล้อเล่นอีกแล้ว” เติ้งซันไม่รู้ว่าทำไมจึงรู้สึกร้อนรน “น้องสาวฉันไม่เอาเรื่องแบบนี้มาล้อเล่นกับฉันหรอก” หลิ่วอวี่ หลันหุบยิ้ม พูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง “นายไม่ชอบเธอหรือ” “ไม่ ใช่อย่างนั้น...อวี่หรงน่ารักมาก...” เติ้งซันมองหลิ่วอวี่หลัน ออกจะอับจนคำพูด “ยังไงนายก็อย่าทำให้เธอเสียใจ” หลิ่วอวี่หลันจ้องเติ้งซัน นั่งตัว ตรง กลับไปนั่งอยู่ในท่าเดิม “คุยอะไรกันอยู่” หลิ่วอวี่หรงกลับมาแล้ว เติ้งซันชั่วขณะไม่รู้จะตอบอย่างไร หลิ่วอวี่หลันกลับตอบสบายๆ “กำลังเล่าเรื่องฉันเลิกกับพี่เฉิน” “อ้อ” หลิ่วอวี่หรงพยักหน้าพูดว่า “พี่ ไม่อย่างนั้นก็แต่งงานก่อน ค่อยเรียนต่อปริญญาเอกในประเทศก็ได้ แบบนี้พี่เฉินน่าจะไม่คัดค้าน เลิกกันทำไม” หลิ่วอวี่หลันส่ายหน้า เหมือนไม่อยากพูดเรื่องนี้ต่อ เติ้งซันมอง หลิ่วอวี่หรงที่มีท่าทีไม่รู้เรื่องรู้ราว คิดถึงสิ่งที่อวี่หลันพูดเมื่อครู่ รู้สึก ว้าวุ่นใจ ไร้ปฏิกิริยาตอบสนองไปครู่หนึ่ง หลิ่วอวี่หรงกลับไม่ปล่อยเขา เขยิบเข้ามาพูดว่า “พี่ซัน พี่ก็คิดว่า ฉันพูดผิดหรือ” “ปัญหามันไม่ได้อยู่ตรงนั้น” เติ้งซันตอบแบบขอไปที ยอดยุทธ์พิภพเทวะ เล่ม 1 29


หลิ่วอวี่หรงทำปากยื่น “แล้วปัญหามันคืออะไร” เติ้งซันค่อยรู้สึกตัว เห็นหลิ่วอวี่หลันอมยิ้มชำเลืองตนเอง พูด อย่างท้าทาย “งั้นนายลองบอกหน่อยว่าปัญหามันอยู่ตรงไหน” “เธออยากเรียนปริญญาโทหรือเอก ไม่ใช่เพราะอยากได้เงินเดือน สูง” เติ้งซันมองหลิ่วอวี่หลันแวบหนึ่ง ถอนหายใจพูดว่า “แล้วเธอก็คง ไม่ยอมแต่งกับ...คนที่เรียนเพราะอยากได้เงินเดือนสูงๆ” “ถู ก เผงเลย!” หลิ่ ว อวี่ ห ลั น ตบผั ว ะเข้ า ที่ บ่ า ของเติ้ ง ซั น อี ก ครั้ ง อย่างแรง หลังเสียงดังผัวะ เธอยิ้มพูดอย่างปลอดโปร่ง “อย่างน้อยมี นายเข้าใจฉัน” เติ้งซันมองหลิ่วอวี่หลัน คำพูดง่ายๆ เจ็ดคำดังก้องในใจ รู้สึก ซาบซึ้ ง อย่ า งยิ่ ง พู ด อะไรไม่ อ อกไปชั่ ว ครู่ หลิ่ ว อวี่ ห ลั น เห็ น ท่ า ที ใ น สายตาของเติ้งซัน มีความรู้สึกในใจท่วมท้น หุบยิ้มลง หลิ่วอวี่หรงมองเห็นสายตาที่ทั้งคู่มองกัน เกิดรสชาติประหลาด ในใจ โพล่งออกมาว่า “ถ้าเป็นแบบนี้ ทำไมพี่ไม่คบกับพี่ซันเสียเลย” คำพูดนี้กระชากสติทั้งคู่กลับมา สีหน้าของเติ้งซันและหลิ่วอวี่ หลันกระอักกระอ่วน สีหน้าของหลิ่วอวี่หรงยิ่งประหลาด เหมือนงอน และเสียใจหน่อยๆ สุดท้ายยังเป็นหลิ่วอวี่หลันที่เผยอยิ้ม ทันใดนั้นเธอโอบหลิ่วอวี่ หรงแน่น “ฉันจะกล้าแย่งพี่ซันของเธอได้ยังไง” วงหน้าของหลิ่วอวี่หรงแดงเรื่อ โกรธปนเขิน “พี่นี่ก็!” “เอาละ!” หลิ่วอวี่หลันยกมือสองข้างขึ้น พูดเสียงดัง “ไม่เป็น อะไรหรอก ข่าวว่าฉันกลับมาเป็นโสดแพร่กระจายออกไปแล้ว ไม่นานก็ หาแฟนใหม่ได้เอง” “เธอไปเมืองนอกแล้วค่อยหาเถอะ” เติ้งซันพูดแหยๆ “ไม่อย่าง นั้นก็ต้องถามอีกฝ่ายว่าจะรอเธอหรือเปล่า” ยอดยุทธ์พิภพเทวะ เล่ม 1 30


กว่า”

“จริงสิ” หลิ่วอวี่หลันกุมหัว หัวเราะก๊าก “อย่างนั้นอย่าเพิ่งรีบดี

บรรยากาศตึงเครียดผ่อนคลายลง เติ้งซันรู้สึกแต่ว่าวันนี้ผ่านไป อย่างยากลำบาก คิดถึงพรุ่งนี้ต้องไปทำงานที่บริษัทประหลาดนั่น ส่วน กลางคืนต้องไปสอนพิเศษอีก วันนี้คงจะนอนดึกไม่ ได้ เติ้งซันไม่คุย อะไรอีก บอกลาสองสาวพี่น้องแซ่หลิ่ว กลับบ้านอาบน้ำนอนสำคัญกว่า

ยอดยุทธ์พิภพเทวะ เล่ม 1 31


ประวัติผู้เขียน โม่ เ หริ น จบสาขาฟิ สิ ก ส์ จ ากมหาวิ ท ยาลั ย ตงไห่ เป็ น ผู้ บุ ก เบิ ก นวนิยายออนไลน์แนวกำลังภายในวิทยาศาสตร์กึ่งแฟนตาซี (ค.ศ.1998) นวนิยาย “ยอดยุทธ์พิภพเทวะ” โม่เหรินผสมผสานความรู้ทาง ด้ า นฟิ สิ ก ส์ แ ละจิ น ตนาการอั น ล้ ำ เลิ ศ ก่ อ กำเนิ ด เรื่ อ งราวที่ ตั ว เอก สามารถพัฒนาพลังความสามารถให้แข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ ไม่เพียงแต่มี องค์ประกอบให้จอมยุทธ์ฝึกกำลังภายในได้อย่างมีเหตุผล ทั้งฉากในโลก แห่ ง อนาคต เคล็ ดวิ ธี การฝึ ก กำลั ง ภายใน การประลองยุ ท ธ์ ร ะหว่ า ง มนุษย์กับสิ่งมีชีวิตอื่นในดินแดนแห่งเทวะและอาณาจักรที่อยู่เหนือความ เป็นจริง ก็เขียนได้อย่างสมจริง รังสรรค์เป็นความแปลกใหม่ให้นวนิยาย กำลังภายในกึ่งแฟนตาซี จากผลตอบรับของผู้อ่านทางอินเทอร์เน็ต ทำให้ผลงานของเขา กลายเป็นนวนิยายที่มีผู้อ่านถล่มทลายทั้งในไต้หวัน ฮ่องกง และจีน แผ่นดินใหญ่ ด้วยยอดขายกว่าล้านเล่ม จนกระทั่งมีการต่อยอดนำมา สร้างเป็นเกมออนไลน์ ถือเป็นหนึ่งในตำนานผู้เขียนนวนิยายแนวกำลัง ภายในวิทยาศาสตร์กึ่งแฟนตาซีที่ต้องบันทึกไว้


ประวัติผู้แปล หลินหยางเป็นเด็กกรุงเทพฯ ย่านวงเวียน 22 กรกฎา ครอบครัว จีนแท้ พ่อแม่พูดไทยไม่ชัด เติบโตและเรียนหนังสือแถวบ้าน อยู่กับบรรยากาศจีนๆ มาโดย ตลอด ชื่ น ชอบและใฝ่ ฝั น อยากจะเป็ น นั ก แปลมาตั้ ง แต่ เ รี ย นจบ มหาวิทยาลัยแถวสามย่าน ได้มีโอกาสทำงานแปลหนังสือจีน-ไทย แปลซับละครจีน แปล บทพากย์ละครจีน ชอบดูละครโทรทัศน์จีน และชื่นชอบวัฒนธรรมจีน โดยเฉพาะ ดาราจีนหน้าตาหล่อเหลา



Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.