มูลนิธิเพือ่ สิทธิมนุษยชนและการพัฒนา (มสพ.) Human Rights and Development Foundation เลขที่ 109 ซอยสิทธิชน ถนนสุทธิสารวินจ ิ ฉั ย แขวงสามเสนนอก เขตห ้วยขวาง กรุงเทพฯ 10310 109 Soi Sitthichon, Suthisarnwinichai Road, Samsennok, Huaykwang. Bangkok Tel: (+662)277 6882 Fax: (+662)275 4261 ext 102 E-mail: info@hrdfoundation.org
9 กันยายน 2558 ใบแจ้ งข่ าว ศาลปกครองสูงสุด พิพากษาเพิกถอนหนังสือสานักงานประกันสังคม กรณีกาหนดแนวปฏิบัตทิ ่ ไี ม่ ชอบด้ วย กฎหมายและเลือกปฏิบัตติ ่ อแรงงานข้ ามชาติในการเข้ าถึงกองทุนเงินทดแทน วันนี ้ (9 กันยายน 2558) ศาลปกครองสูงสุดได้ มีคาพิพากษาคดีระหว่างนายโจ (ไม่มีนามสกุล) ผู้ฟ้องคดีที่ 1 กับพวก รวม 3 คน กับสานักงานประกันสังคม (สปส.) ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 และพวกรวม 3 คน กรณีการออกหนังสือที่ รส.0711/ว 751 ลงวันที่ 25 ตุลาคม 2544 เรื่ อง การให้ ความคุ้มครองแรงงานข้ ามชาติที่ประสบอันตรายหรื อเจ็บป่ วยจากการ ทางาน โดยมีคาพิพากษากลับคาพิพากษาของศาลปกครองชันต้ ้ น เป็ นให้ เพิกถอนหนังสือของสปส. โดยมี สาระสาคัญของคาพิพากษาของศาลปกครองสูงสุด ดังนี ้ 1. ศาลปกครองสูงสุด ยืนยันในหลักกฎหมายที่วา่ กฎหมายว่ าด้ วยเงินทดแทน มีวตั ถุประสงค์ในการคุ้มครอง ลูกจ้ างทุกคนที่ประสบอันตราย ทุพพลภาพ สูญหาย หรื อตาย อันเนื่องมาจากการทางาน หรื อป้องกันรักษา ผลประโยชน์ ให้ แก่นายจ้ าง หรื อเจ็บป่ วยโรคซึ่งเกิ ดขึน้ ตามลักษณะหรื อสภาพของงานหรื อโรคซึ่งเกิ ดขึน้ เนื่ องจากการทางาน โดยนายจ้ างเป็ นผู้รั บผิ ดชอบในการจ่ายเงิ นทดแทนให้ แก่ลูกจ้ าง จึงได้ มีการจัดตัง้ “กองทุนเงินทดแทน” เพื่อเป็ นทุนและหลักประกันในการจ่ายเงินทดแทนให้ แก่ลกู จ้ างแทนนายจ้ างที่มีหน้ าที่ ต้ องจ่ายเงินสมทบเข้ ากองทุนเงินทดแทน เพื่อให้ ความคุ้มครองลูกจ้ างทุกคน ซึ่งเสมอภาคเท่ าเทียมกัน โดยหาได้ แบ่ งแยกหรื อจัดจาพวกลูกจ้ างแต่ ประการใดไม่ 2. ศาลปกครอง เห็นว่า แม้ จะปรากฏว่ามี คนต่างด้ าวเข้ ามาทางานในประเทศไทยหลายลักษณะ โดยจาแนกได้ เป็ น 3 กลุม่ ใหญ่ คือ (1) แรงงานต่างด้ าวที่เข้ าเมืองโดยถูกกฎหมาย แบ่งเป็ น (1.1) แรงงานต่างด้ าวที่ผ่านการพิสจู น์สญ ั ชาติ โดยเป็ นแรงงานที่เข้ าเมืองโดยผิดกฎหมายที่ผ่านกระบวนการพิสูจน์ สญ ั ชาติจากรั ฐบาลพม่า ลาว และกัมพูชา โดยจะได้ รับหนังสือเดินทางชัว่ คราวหรื อเอกสารรับรองบุคคล และมีใบอนุญาตทางาน (1.2) แรงงานต่างด้ าวที่ผ่านบันทึกข้ อตกลงความร่ วมมือระหว่างประเทศ และ (1.3) แรงงานต่าง ด้ าวตามความในม. 9, ม. 12 และม. 14 พ.ร.บ.คนเข้ าเมือง พ.ศ.2551 (2) แรงงานต่างด้ าวที่เข้ าเมืองมาไม่ถูกต้ องตามกฎหมาย แต่ได้ รั บการผ่อนผันให้ อยู่ในประเทศตาม พ.ร.บ.คนเข้ าเมือง พ.ศ.2522 และได้ รับอนุญาตให้ ทางานตาม พ.ร.บ.การทางานคนต่างด้ าว พ.ศ. 2551 แบ่งเป็ น (2.1) แรงงานต่างด้ าวตาม ม.13 วรรคหนึ่ง (2) พ.ร.บ.การทางานคนต่างด้ าว 2551 ได้ แก่ แรงงานต่างด้ าวที่หลบหนีเข้ าเมืองสัญชาติพม่า ลาว และกัมพูชา ซึง่ ได้ รับการผ่อนผันให้ อยู่ ในประเทศและอนุญาตทางานตามมติคณะรั ฐมนตรี และ (2.2) แรงงานต่างด้ าวตาม ม.13 วรรค หนึง่ (1) (3) (4) และ (5) พ.ร.บ.การทางานคนต่างด้ าวฯ
10310
(3) แรงงานต่างด้ าวที่เข้ าเมืองมาโดยไม่ถูกต้ องตามกฎหมายและหลบซ่อนโดยไม่แสดงตัว เพื่อขอรับ การผ่อนผันให้ อาศัยอยู่ และไม่ขอรับอนุญาตทางานชัว่ คราว 3. แรงงานต่ างด้ าวที่รัฐได้ จัดทาฐานข้ อมู ลส่ วนบุ คคล รวมทัง้ ข้ อมู ลรายละเอียดที่ต้องการอื่นๆ เพื่อ ความมั่นคงของประเทศไว้ แล้ ว ย่ อมเป็ นข้ อมูลที่ผ้ ูถูกฟ้องคดีจะสามารถนามาใช้ เพื่อการปฏิบัติตาม กฎหมายว่ าด้ วยเงินทดแทนได้ ดังนัน้ ผู้ฟ้องคดีทัง้ สามซึง่ เป็ นแรงงานต่างด้ าวที่เข้ าเมืองมาโดยไม่ถูกต้ อง ตามกฎหมาย แต่ได้ รับการผ่อนผันให้ อาศัยอยู่ในประเทศ และได้ รับอนุญาตให้ ทางาน จึงมีสิทธิ ได้ รับความ คุ้มครองตามพ.ร.บ.เงินทดแทน พ.ศ.25371 4. ศาลเห็นว่า การจ่ายเงินสมทบเข้ ากองทุนเงินทดแทนเป็ นหน้ าที่โดยตรงของนายจ้ าง ตาม ม.44 แห่งพ.ร.บ. กองทุนเงินทดแทนฯ หากนายจ้ างไม่ดาเนินการ ต้ องรับโทษตาม ม.46ฯ และผู้ ถูกฟ้องคดีทงสาม ั้ มีหน้ าที่ ตาม ม.47ฯ ที่จะต้ องดาเนินการต่อนายจ้ างที่ไม่ปฏิบตั ิตามกฎหมาย ดังนัน้ หากนาพฤติการณ์ ของนายจ้ างที่ไม่ ปฏิบั ติตามกฎหมายมาปฏิเสธสิ ทธิ ของลู กจ้ าง จึงย่ อมเป็ นการไม่ สมเหตุ ส มผล กรณี จึงเป็ นการ กระทานอกเหนืออานาจหน้ าที่ ซึ่งเป็ นการกระทาที่ไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย 5. ศาลเห็นว่า การที่ผ้ ูถูกฟ้องคดีที่ 1 กาหนดให้ การยื่นแบบเสียภาษี เงินได้ บุคคลธรรมดาเป็ นเงื่อนไขของการ กาหนดสิทธิ ที่จะได้ รับเงิ นทดแทนจากกองทุนเงิ นทดแทน เป็ นการกระทานอกเหนื ออานาจหน้ าที่ตาม กฎหมายว่ าด้ วยเงินทดแทน 6. ศาลเห็นว่า การที่ผ้ ูฟ้องคดีที่ 1 กาหนดว่า แรงงานต่างด้ าวจะมีสิทธิได้ รับเงินทดแทนจากกองทุนเงินทดแทน จะต้ องมีหลักฐานว่านายจ้ างจ่ายเงินสมทบเข้ ากองทุนเงินทดแทนในอัตราไม่ต่ากว่าค่าจ้ างขันต ้ ่า และแรงงาน ต่างด้ าวที่จดทะเบียนจะต้ องยื่นแบบเสียภาษี เงินได้ บุคคลธรรมดาให้ กบั ประเทศไทย จึงเป็ นการกระทาการ โดยไม่ ชอบด้ วยกฎหมาย 7. ศาลปกครองจึงพิพากษากลับคาพิพากษาของศาลปกครองชัน้ ต้ น โดยให้ เพิกถอนหนังสือ รส.0711/ว 751ฯ “เฉพาะในส่วนที่ ก าหนดว่า แรงงานต่างด้ าวจะมีสิ ท ธิ ไ ด้ รั บ เงิ น ทดแทนจากกองทุน เงิ น ทดแทน จะต้ องมี หลักฐานว่านายจ้ างจ่ายเงินสมทบเข้ ากองทุนเงินทดแทน ในอัตราไม่ต่ากว่าค่าจ้ างขันต ้ ่า และแรงงานต่างด้ าว ที่ จดทะเบี ยนต้ องยื่ นแบบเสียภาษี เงิ น ได้ บุคคลธรรมดาให้ กับ ประเทศไทย โดยให้ มีผลบังคับใช้ ใ นวันมีค า พิพากษานี ้....” ต่อกรณี ดงั กล่าว นายสมชาย หอมลออ ประธานมูลนิธิเพื่อสิทธิ มนุษยชนและการพัฒนา มีความเห็นว่า เป็ นเรื่ องที่ น่ายินดีที่กระบวนการยุติธรรมของประเทศไทย โดยศาลปกครองสูงสุดได้ ยืนยันถึงสิทธิในการเข้ าถึงกองทุนเงินทดแทน โดยพิจารณาในสาระสาคัญว่า แรงงานข้ ามชาติก็คือ “ลูกจ้ าง” ภายใต้ กฎหมายภายในของไทย และยังได้ ช่วยตีความ การปฏิ บัติ หน้ าที่ ข องสปส.ได้ ชัดเจนมากขึน้ ดังจะเห็น ได้ จากกรณี ที่ ศาลปกครองก็ชีว้ ่า สปส.มีการกระท าการที่ นอกเหนืออานาจหน้ าที่ตามกฎหมายในหลายประเด็น ซึง่ หมายถึงบรรทัดฐานของการทางานของหน่วยงานต่างๆ ที่ เกี่ยวข้ องต่อไป ไม่ใช่เฉพาะเพียงผู้ถกู ฟ้องคดีในคดีนี ้เท่านัน้
1
อย่างไรก็ดี ศาลปกครองสูงสุด ไม่ได้ กล่าวถึงกรณี แรงงานต่างด้ าวที่เข้ าเมืองมาโดยไม่ถกู ต้ องและหลบซ่อนตัวโดยไม่แสดงตัวเพื่อขอรับการผ่อน ผันให้ อยูใ่ นประเทศ และไม่ขอรับอนุญาตทางานชัว่ คราว โดยให้ เหตุผลว่า “เมื่อผู้ฟ้องคดีทงสามมิ ั้ ใช่บุคคลตามประเภทดังกล่าว ศาลจึงไม่จาต้ อง พิจารณาพิพากษาว่าบุคคลตามประเภทดังกล่าว จะมีสิทธิเป็ นประการใดหรือไม่ เช่นใด” (น.30)
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------รายละเอียดเพิ่มเติม ติดต่อ นางสาวดารุ ณี ไพศาลพาณิชยกุล ผู้แทนผู้ฟ้องคดี 083 134 3276 นายสุมิตรชัย หัตถสาร ผู้แทนผู้ฟ้องคดี 081 950 7575 หมายเหตุ 28 มกราคม 2553 นายโจ (ไม่มีนามสกุล) ผู้ฟ้องคดีที่ 1, นายอาวซออู (ไม่มีนามสกุล) ที่ 2 และนายเอา (ไม่มี นามสกุล) ที่ 3 โดยผู้รับมอบอานาจ ยื่นฟ้องสานักงานประกันสังคม ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 ต่อ ศาลปกครองกลาง 12 พฤษภาคม 2553 ศาลปกครองมีคาสัง่ รับฟั ง เป็ นคดีหมายเลขดาที่ 167/2553 1 กันยายน 2553 ผู้ถูกฟ้องคดี ขอให้ ศาลปกครองมีคาสัง่ รอการพิจารณาไว้ ชวั่ คราว ตาม พ.ร.บ.ว่าด้ วยการ วินิจฉัยชีข้ าดอานาจหน้ าที่ระหว่างศาล พ.ศ.2543 เพื่อให้ มีการดาเนินการตาม พรบ.ว่า ด้ วยการวินิจฉัยชี ้ขาด (ขอให้ ศาลปกครองจาหน่ายคดี เนื่องจากเป็ นคดีที่อยู่ในเขตอานาจ ศาลแรงงาน) 19 ตุลาคม 2553 ศาลปกครองกลางเรี ยกให้ ผ้ ฟู ้ องคดีทาความเห็นเกี่ยวกับอานาจหน้ าที่ระหว่างศาล 27 กรกฎาคม 2554 ศาลปกครองกลาง มีคาสัง่ เรี ยกให้ ทาคาคัดค้ านคาให้ การ พร้ อมกับแจ้ งว่า “คดีนี ้ ศาลแรงงานกลาง ได้ มีความเห็นที่ 5/2554 ลงวันที่ 8 กรกฎาคม 2554 เห็นพ้ องกับ ศาลปกครองกลางว่า คดีนี ้อยู่ในอานาจการพิจารณาพิพากษาของศาลปกครองกลาง และ โดยที่ผ้ ถู กู ฟ้องคดีได้ ทาคาให้ การแก้ คาฟ้อง และคาฟ้องเพิ่มเติมแล้ ว จึงมีคาสัง่ ให้ รับ คาให้ การไว้ รวมในสานวนคดี มีข้อความตามสาเนาคาให้ การ และสาเนาพยานหลักฐาน ซึง่ ได้ สง่ มาให้ ทราบพร้ อมกับคาสัง่ นี ้แล้ ว” 17 มกราคม 2556 ศาลปกครองกลางได้ มีคาพิ พากษา คดีหมายเลขดาที่ 167/2553 คดีหมายเลขแดงที่ 46/2556 16 กุมภาพันธ์ 2556 ผู้รับมอบอานาจยื่นอุทธรณ์ 17 กรกฎาคม 2557 ศาลกาหนดวันนัง่ พิจารณาคดีครัง้ แรก 9 กันยายน 2558 ศาลปกครองสูงสุด มีคาพิพากษา ทีมทนายความและนักกฎหมาย: สุมิตรชัย หัตถสาร และดรุ ณี ไพศาลพาณิชย์กลุ (ผู้รับมอบอานาจในการฟ้องคดี) , กรกนก วัฒนภูมิ, ญาดา หัตถธรรมนูญ, ปรี ยาภรณ์ ขันกาเนิด (ทีมนักกฎหมายที่ สนับสนุนงานวิชาการในการฟ้องคดี) ตุลาการเจ้ าของสานวน (ศาลปกครองกลาง) นายเสถียร ทิวทอง ตุลาการหัวหน้ าคณะศาลปกครอง ตุลาการผู้แถลงคดี (ศาลปกครองสูงสุด) พันเอก วรศักดิ์ อารี เปี่ ยม ตุลาการเจ้ าของสานวน (ศาลปกครองสูงสุด) นายมนูญ ปุญญกริ ยากร
องค์ คณะตุลาการศาลปกครองสูงสุด นายวรพจน์ วิศรุ ตพิชญ์ ตุลาการหัวหน้ าคณะศาลปกครองสูงสุด นายวราวุธ ศิริยทุ ธ์วฒ ั นา ตุลาการศาลปกครองสูงสุด นายสมชาย งามวงศ์ชน ตุลาการศาลปกครองสูงสุด นายบรรจงศักดิ์ วงศ์ปราชญ์ ตุลาการศาลปกครองสูงสุด -----------------------------------------------------------------------------------------------------------------พระราชบัญญัติวา่ กองทุนเงินทดแทน พ.ศ.2537 http://www.sso.go.th/sites/default/files/userfiles/file/comfundlaw2537.pdf พระราชบัญญัติการทางานของคนต่างด้ าว พ.ศ.2551 http://www.immigration.go.th/acts/act_alienwork2551.pdf พระราชบัญญัติคนเข้ าเมือง พ.ศ.2522 http://www.immigration.go.th/nov2004/doc/act_imm_2522.html