PSYBOOK “A GUIDE TO EXPLORE YOUR MIND” for JUBJIT CAMP 2nd Editor-in-Chief TANUPAT LOHAPONGSATHORN Assistant Editor PHISUT DETKHUNTHOD Editorial ANON WONGSA KANPITCHA THAMUTHOK KANYARAT KWAONUENG MUTITA KEOWAN NAPPASID BUNLARDKERDMNEE PAMIKA ARTHITJAWONG PATCHARAPORN SAMSEEMUONG SASIPHORN THAWORN TEERAWOOT KHUNNA THIPKAMON WONGTHONGCHAROEN YAOWARAT BOONPREM VEERADA SRITHARADOL Proof Reader MATHURIN VAROKORN THITIPAT RUAMSAP Writers THANAPORN SAICHOMPOO PITCHAKORN POOMPAYOONG Special Thanks BURACHAI ASAVATAWEEBOON, A PHATTHANAKIT CHOBTHAMKIT, A Sponsor Coordinators NONTAWAT TUANGTAWEESUB WANWADEE WONGWUTTIWAT
กว่าจะมาเป็นหนังสือค่ายจับจิตครั้งที่ 2 “PSYBOOK (n.) A GUIDE TO EXPLORE YOUR MIND” ย้อนกลับไปค่ายจับจิต ครั้งที่ 1 “เพราะพื้นฐานของชีวิต คือ จิตใจ” ‘โฟนลิ้ งค์ ’ ประธานค่ ายได้ จัดท าหนัง สือเล่มเล็ ก ขึ้น เพื่อ ต้องการให้เป็ น หนังสือที่ระลึกประจาค่ายจับจิต โดยภายในหนังสือประกอบด้วยสารถึงน้อง ในค่าย เพลงพระราชนิ พนธ์ยูงทอง ประวัติข องมหาวิทยาลัย ธรรมศาสตร์ คณะศิ ล ปศาสตร์ ภาควิ ชาจิ ตวิทยา และข้อมู ล ทั่ว ไปที่เ กี่ ย วข้ องกั บ สาขา จิตวิทยา รวมแล้วมีเพีย ง 20 หน้าเท่านั้น และเนื่องจากได้ inspiration ใน การทาหนังสือให้มีลัก ษณะคล้าย facebook จึงได้ตั้งชื่อหนังสือเล่มนั้นว่ า ‘PSYBOOK’ ...............................................นี่คือจุดเริ่มต้นของหนังสือที่ระลึกประจาค่ายจับจิต หลังจากที่ค่ายจับจิต ครั้งที่ 1 ผ่านไป การประชุมวางแผนค่ายจับจิต ครั้งที่ 2 “เพราะเรายังอยู่ด้ วยกั น ” ก็ เริ่ม ขึ้น และแน่นอนหนังสื อที่ระลึ ก ประจาค่ายจับจิตต้องจัดทาขึ้นอีกครั้ง แต่สาหรับครั้งที่ 2 นี้ ‘PSYBOOK’ มา พร้อ มกั บ การเปลี่ย นแปลงหลายอย่า ง มี ก ารเพิ่ มเติ มเป็ น 32 หน้า และ ภายในประกอบด้วย 3 ส่วน คือ ส่วนแรก เป็น สารจากประธานค่ายครั้งที่ 2 ข้อมูลสาคัญที่ควรรู้ของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ คณะศิล ปศาสตร์ ภาควิชา จิตวิทยา และข้อมูลเชิงวิชาการ ส่วนที่ส อง เป็น บทความ เรื่องสั้นสร้างแรง บันดาลใจ และข้อมูลการศึกษาต่อ ส่วนสุดท้าย ส่วนที่สาม คือ คาขอบคุณ สิ่งที่สาคัญ ของ ‘PSYBOOK’ ส าหรับค่ายครั้งที่ 2 นี้ คือ มาพร้อมกั บ definition ที่ว่า ‘A GUIDE TO EXPLORE YOUR MIND’ ซึ่งแน่นอนต้อง เป็นการค้นหาที่พร้อมทั้งความรู้ และความสนุก สุดท้ายอย่าลืม OPEN YOUR MIND & OPEN YOUR EYES และ ท่องไปใน PSYBOOK กับการค้นหา YOUR MIND… :) ขอบคุณที่ “ยังอยู่ด้วยกัน” 26 ตุลาคม 2555 ปิดต้นฉบับ
สารจากประธานค่ายจับจิตครั้งที่ 2 นายพิศุทธ์ เดชขุนทด (โฟนลิ้งค์) มีคาถามหนึ่งที่หลายคนสงสัยว่า “จิตวิทยาคืออะไร” แล้วก็ยากมากด้ว ยที่จะค้นหาความหมายด้วย ตัวเอง หลายคนให้ ความสนใจอยากเรีย นจิต วิทยา แต่หลายคนต้องล้ม เลิก ไปเพราะหาคาอธิ บายหรื อ ความหมายของ “จิตวิทยา” ไม่ได้ ไม่รู้ว่าคืออะไร ไม่รู้ว่าเอาไปใช้ทาอะไร เรียนแล้วได้อะไร ทั้งๆ ที่ จิตวิทยา นั้นอยู่ใกล้กับคนทุกๆ คน จากการเริ่มต้นในปีที่ผ่านมา ตอนนี้ค่ายครั้งที่ 2 กาลังจะเริ่มขึ้น สิ่งที่เราคานึงถึงมากที่สุดคือเราต้อง ทาให้น้องทุกคนที่เข้ามาในค่ายจับจิตครั้งนี้ มีความรู้ มากกว่าที่น้องเคยรู้มาว่ า “จิต วิท ยาคืออะไร” ซึ่ งนี่คือ จุดประสงค์หลัก ของค่ายเราเลยว่าสิ่งที่น้องได้รู้เพิ่มจากค่ายนี้ต้องบอกน้องให้ไ ด้มากขึ้นกว่าที่น้องเข้าใจ เพื่อให้น้องได้รู้ว่า “จิตวิทยา” นั้นเป็นตัวตนของน้องหรือไม่ เราเรีย นอะไรบ้าง และนาไปใช้อย่างไร เพื่อให้ น้องเข้าใจและได้นาไปเป็นตัวเลือกในการศึกษาต่อได้อย่างถูกต้อง แถมท้ายด้ วยความสนุก และความทรงจา ดีๆ ให้น้องได้เก็บไว้เป็นที่ระลึกด้วย โดยกิจกรรมในโครงการทั้งหมดที่จัดขึ้น เราต้องการให้น้องได้ฝึก ทัก ษะการเข้าสังคม การสร้างความ สามัคคี รวมถึงการแก้ไขปัญหา ร่วมไปกับการได้เรียนรู้เกี่ย วกั บจิตวิทยาที่แฝงไปอยู่ใ นกิ จกรรมต่างๆ การได้ รูจ้ ักเพื่อนใหม่ๆ รวมถึงการพูดคุยเรื่องราวเกี่ ย วกั บรุ่นพี่ สิ่งต่างๆ เหล่านี้ คือสิ่งที่พวกพี่พยายามทาให้น้องๆ ขอให้น้องๆ มีความสุขในการทากิจกรรมต่างๆ ในค่ายนี้ เพราะเมื่อน้องมีความสุข มากเท่าไรพวกพี่ก็ จะดีใ จ มากเท่านั้น สุดท้ายค่ายครั้งนี้ก็มีส่วนประกอบหลายๆ อย่างที่ส าคัญ สิ่งหนึ่งก็ คือ น้องๆ ที่มาร่วมเป็นส่วนหนึ่ง ของค่ายเรา ทั้งพี่ๆ และน้องๆ ที่ได้เจอกัน หากปีนี้โลกจะแตกก็ ช่างมัน แค่รู้ว่าในช่วงเวลานี้ที่เราได้มาอยู่ใ น ค่ายจับจิตครั้งที่ 2 ด้วยกัน มันก็มีความสุขมากเพียงพอที่จะยิ้มได้… “ขอบคุณ ทุกคนที่ยังอยู่ด้วยกัน” รัก…จับจิต
พิศุทธ์ เดชขุนทด (โฟนลิ้งค์) นักศึกษาชั้นปีที่ 3 สาขาวิชาจิตวิทยา คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ประธานโครงการค่ายแนะแนวจิตวิทยา ค่ายจับจิต ครั้งที่ 2
เพลงพระราชนิพนธ์ “ยูงทอง” ทานอง : พระราชทาน เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2506 คาร้อง : จานง ราชกิจ แหล่งศึกษาร่มเย็นเด่นริมสายชล เราทุกคนรักดุจหัวใจ ปลูกยูงทองไว้เคียงโดมมุ่งประโลมโน้มใจรัก ธรรมจักรนบบูชาเทิดไว้ เหลืองแดงแสงธรรมศาสตร์วิไล ปกแผ่ไปในทุกทาง สัญลักษณ์ดีเด่นเห็นกระจ่าง อย่าจืดจางรักร่วมทางกันไป ทรงธรรมปานดังตราชูเด่น ทรงเป็นดวงธรรมนาทางให้ พิทักษ์รักษาเชิดชูไว้ อบอุ่นใจไปทุกกาล พระธรรมสถิตร่วมจิตสมาน ปฏิญาณรักสามัคคี รักยูงทองงามเด่นเหนือนที ส่งศักดิ์ศรีไว้ให้ยิ่งยืนนาน
เพลงประจามหาวิทยาลัย “ทานองมอญดูดาว” ทานอง : ขุนวิจิตรมาตรา คาร้อง : มอญดูดาว สานักไหนหมายชู เอ๋ย ประเทศชาติ (ซ้า) ด้วยอานาจปกครองให้ผ่องเฟื่องเอย เอ๋ยเราเป็นไทย เรารักไทยบูชาไทย ไม่ยอมให้ ใครผู้ใด มาล้างเสรีไทย สานักนั้นธรรมศาสตร์ เอ๋ย และการเมือง (ซ้า) ก่อรุ่งเรืองสมบูรณ์เขตประเทศไทยเอย เอ๋ย ธรรมศาสตร์ ธรรมศาสตร์การเมือง ไทยจะเฟื่อง ไทยจะรุ่งเรืองก็เพราะการเมืองดี เหลืองของเราคือธรรม เอ๋ย ประจาจิต (ซ้า) แดงของเราคือโลหิตอุทิศให้เอย เอ๋ยเหลืองกับแดง เหลืองกับแดง เหลืองกับแดง ทุกทุกแห่ง ทุกทุกแห่ง แต่ล้วนเหลืองกับแดง ชื่อว่าธรรมแล้วเราเทิด เอ๋ย ให้สมไทย (ซ้า) ทุกอย่างไปงานหรือเล่นต้องเป็นธรรมเอย เอ๋ยใครรักชาติ ใครรักธรรมเหมือนกับเรา จงมาเข้าและโปรดเอาใจช่วยเหลืองกับแดง
รู้จักมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ “มหาวิทยาลัยที่สอนให้รักประชาชน” ประวัติความเป็นมา มหาวิ ทยาลัย ธรรมศาสตร์ ก่ อตั้ งเมื่ อวั นที่ 27 มิ ถุ น า ย น 2477 เ มื่ อ เ ริ่ ม ก่ อ ตั้ ง ใ ช้ ชื่ อ ว่ า “มหาวิท ยาลั ย วิ ช าธรรมศาสตร์ แ ละการเมือ ง” (มธก.) และมีชื่อภาษาอังกฤษว่า “University of Moral and Political Sciences” จากเจตนารมณ์ ของ ศาสตราจารย์ ดร.ปรีดี พนมยงค์ ผู้ป ระศาสน์ การ ที่ มีค วามประสงค์ จะก่ อตั้ ง มหาวิทยาลั ย ที่ เปิ ด กว้ า งให้ โ อกาสแก่ ส ามั ญ ชนในการศึ ก ษา “วิ ช า ธรรมศาสตร์แ ละการเมื อง” เพื่ อผลิตบุค ลากรที่ มี ความรู้ ทางกฎหมาย การเมื อง การปกครอง และ สังคม มารับ ใช้ ประเทศชาติ ที่เ พิ่งเปลี่ ย นแปลงการ ปกครองจากระบอบสมบู ร ณาญาสิ ท ธิ ร าชย์ เ ป็ น ระบอบประชาธิปไตย ผู้ประศาสน์ก ารเลือกวันที่ 27 มิถุน ายน เป็น วัน สถาปนามหาวิ ทยาลั ย โดยเหตุว่ า วันที่ 27 มิถุนายน 2475 เป็นวันประกาศใช้รัฐธรรมนูญฉบับแรกของไทย มหาวิทยาลัย วิชาธรรมศาสตร์และ การเมือง จึงถือกาเนิดขึ้นมาโดยเกี่ยวข้องกับการเมืองและประชาธิปไตยมาตั้งแต่ต้น ปรัช ญาการศึก ษาของมหาวิ ทยาลัย คื อ สิ ทธิ เสรีภาพและการให้ โ อกาส ดัง คากล่า วรายงานของ ศาสตราจารย์ ดร.ปรีดี พนมยงค์ ในวันสถาปนามหาวิทยาลัย ความว่า “...มหาวิทยาลัยย่อมอุปมา ประดุจบ่อน้้า บ้าบัดความกระหายของราษฎร ผู้สมัครแสวงหาความรู้ อันเป็นสิทธิและโอกาส ที่เ ขาควรมีควรได้ ตามหลักเสรีภาพของการศึกษา...” มหาวิท ยาลั ย แห่ ง นี้จึ ง เป็ น มหาวิท ยาลั ย เปิ ด แห่ ง แรกของประเทศไทย และถือ ก าเนิ ดขึ้ น มาเป็ น มหาวิทยาลัยของประชาชน
จากความผันผวนทางการเมือง ในปี พ.ศ. 2495 มหาวิทยาลัย วิชาธรรมศาสตร์และการเมือง ถูก ตัดคา ว่า “การเมือง” ออกไปเหลือเพีย ง “มหาวิท ยาลัย ธรรมศาสตร์ ” และมีชื่อภาษาอังกฤษที่ถูก เปลี่ย นเป็น “Thammasat University” มาตั้งแต่นั้น แต่ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ได้พิสูจน์แล้วว่าไม่มีใ ครเอาคาว่า “การเมือง” และ “Moral” ออกไปจากมหาวิทยาลัยแห่งนี้ได้ “เหลืองของเราคือธรรมประจ้าจิต แดงของ เราคือโลหิตอุทิศให้” ยังเป็นจิตวิญญาณของธรรมศาสตร์ ที่ทาให้มหาวิทยาลัย แห่งนี้ยื นอยู่ข้างความถูก ต้อง เสมอมา ในปี พ.ศ. 2529 จากที่แต่เดิมเป็นมหาวิทยาลัยด้านสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัย ธรรมศาสตร์ไ ด้มาถึงการ เปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ เมื่อได้มีการเปิดวิทยาเขตศูนย์รังสิตเพื่อขยายการเรีย นการสอนทางด้านวิทยาศาสตร์ โดยเปิดคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเป็นคณะแรก และให้นักศึกษาชั้นปีที่ 1 ไปเรีย นรวมกั นที่ศูนย์รังสิต เป็นปีแรกในปีนั้น ปลายปี พ.ศ. 2547 จากภัย พิ บัติ คลื่ นยัก ษ์สึ นามิ มหาวิทยาลั ย ธรรมศาสตร์ไ ด้ ตั้ง ศูน ย์ช่ว ยเหลื อ ผู้ประสบภัยสึนามิที่ศูนย์รังสิต มีอาสาสมัครนิสิตนักศึกษาจากทั่วทุก มหาวิทยาลัย และอาสาสมัครประชาชน จากทุ ก หนแห่ง วั นหนึ่ง ๆ เป็น จานวนนั บร้ อยนับ พัน มหาวิ ทยาลั ย ธรรมศาสตร์ ศูน ย์รั งสิ ต จึ งได้ เริ่ ม มี ประวัติศาสตร์ของตนเองขึ้นมาในฐานะที่มีบทบาทต่อสังคมเคียงคู่กันกับท่าพระจันทร์นับตั้งแต่บัดนั้น ในปี พ.ศ. 2549 ศูนย์รังสิตได้ริเริ่มสิ่งใหม่ในวงการอุดมศึกษาของประเทศไทย โดยมีก ารทานาในพื้นที่ 6 ไร่ ในมหาวิทยาลัย ทั้งๆ ที่ไม่มีคณะเกษตรศาสตร์ โดยมุ่งหมายที่จะให้นัก ศึก ษาธรรมศาสตร์ติดดิน เรีย นรู้ ความเป็นจริงของสังคม และเริ่มต้นการเรีย นรู้เรื่องเศรษฐกิ จพอเพีย งโดยการลงมือปฏิบัติ และในปี พ .ศ. 2550 มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ได้รับบทบาทสาคัญอีกครั้ง เมื่อได้รับคัดเลือกให้เป็นสถานที่หลัก ในการจัดแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยโลก ฤดูร้อน ครั้งที่ 24 ซึ่งมีขึ้นในเดือนสิงหาคม 2550 ปัจจุบันนอกจากท่าพระจันทร์และศูนย์รังสิต มหาวิทยาลัย ธรรมศาสตร์ยังมีอีก 2 วิทยาเขต คือศูนย์ ลาปางและศูนย์พัทยา ซึ่งก่อตั้งขึ้นมาเพื่อขยายโอกาสทางการศึก ษา โดยยังคงมุ่งมั่นที่จะรัก ษาไว้ซึ่งปณิธาน และปรัชญาแต่เดิมของมหาวิทยาลัยที่มุ่งสร้างบัณฑิตที่ไม่เห็นแก่ตัว มีจริยธรรม รัก ษาความถูก ต้องออกมารับ ใช้สังคม ชาวธรรมศาสตร์ทุกคนไม่ว่าจะเรียนคณะไหน วิทยาเขตใด จึงล้วนแต่ภาคภูมิใจที่ได้กล่าวว่า
“ฉันรักธรรมศาสตร์ เพราะธรรมศาสตร์สอนให้ฉันรักประชาชน”
ปรัชญาของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เป็นมหาวิทยาลัยของประชาชนทุก ระดับชั้น เป็นแหล่งความรู้ที่จัดการเรีย น การสอนครบทุก ศาสตร์ ส่ง เสริมจริย ธรรม คุณ ธรรม ทะนุบารุงศิล ปวัฒนธรรมแห่งชาติ ให้ผู้เรีย นรู้ลึก ใน ศาสตร์ที่มุ่งศึกษาและรู้รอบในทุกศาสตร์ตามความสนใจของผู้เรียน บัณฑิตของธรรมศาสตร์จึงเป็นผู้ที่รู้ลึก ใน ศาสตร์นั้นๆ และรู้รอบในหลายๆ ศาสตร์ มีความพร้อมที่จะนาความเป็นธรรมสู่สังคม และพัฒนาตนเอง พร้อมทั้งพัฒนาสังคมตามปณิธานที่ว่า “มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เป็นสถาบันวิชาการชั้นน้าของประเทศในระดับนานาชาติ มีความเป็นเลิศในการผลิตบัณฑิต การสร้างองค์ความรู้ และการแก้ปัญหาของประเทศ” มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์จะเป็นมหาวิทยาลัยที่สมบูรณ์แบบ มีความลุ่มลึก และโดดเด่นในองค์ความรู้ ที่ครบถ้วน ในทุกศาสตร์ เพื่อการพัฒนา และการแก้ ปัญ หาให้แก่ สังคมไทยและภูมิภาค โดยมีระบบบริหาร จัดการที่มีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับหลักธรรมาภิบาล
ความเป็นธรรมศาสตร์ - เคารพสิทธิของผู้อื่นและสามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข - กล้าคิด กล้าทา กล้าแสดงออกในสิ่งที่ถูกต้องดีงามและเรียกร้องเพื่อความเป็นธรรมของสังคม - ใช้สิทธิและเสรีภาพอย่างรับผิดชอบ - มีจิตอาสาและรับผิดชอบต่อสังคม - การมีหน้าที่เป็นพลเมืองที่ดีในระบอบประชาธิปไตย - ธารงไว้ซึ่งวัฒนธรรมอันดีงามของชาติ
รู้จักคณะศิลปศาสตร์ FACULTY OF LIBERAL ARTS สีประจ้าคณะ : สีแสด สัญลักษณ์ : คบเพลิง ประติมากรรม : "นักศึกษา" หรือ "จิ๊งหน่อง" คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้จัดตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2504 ตาม พระราชกิ จ จานุ เ บกษา เล่ ม ที่ 78 ตอนที่ 106 วั น ที่ 19 ธันวาคม 2504 โดยให้เ หตุ ผ ลในการประกาศในราชกิ จจานุเ บกษาว่ า "เพื่อให้นั ก ศึก ษาชั้นปริญ ญาตรีมีความรู้ภาษาต่า งประเทศและความรู้ ทั่วไปในด้านวิทยาศาสตร์ สังคมศาสตร์และมนุษ ยศาสตร์ ให้สูงเพีย งพอ ก่อนที่จะเข้าศึกษาแขนงวิชาเฉพาะด้าน ซึ่งจัดสอนอยู่ใ นคณะต่างๆ ใน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์" การจัดตั้งคณะศิลปศาสตร์ในครั้งนั้นมีจุดมุ่งหมาย 2 ประการคือ ประการที่ 1 เพื่อจัดสอนวิชาความรู้พื้นฐานทั่วไปทางสังคมศาสตร์ มนุษ ยศาสตร์และวิทยาศาสตร์แก่ นักศึกษาชั้นปริญญาตรีทุก คนของมหาวิทยาลัย ธรรมศาสตร์ เพื่อให้ผู้ส าเร็จการศึก ษามีความรู้ความเข้าใจ อย่างกว้างขวางในสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติและสังคม ตลอดจนมีความเข้าใจในเรื่องจิตใจมนุษ ย์ เห็น ความต่อเนื่องของวิทยาการแขนงต่างๆ ซึ่งก่อให้เกิดวิจารณญาณอันดี สามารถนาความรู้เฉพาะด้านในแขนง ที่ตนศึกษาไปใช้ให้เกิดประโยชน์แก่สังคมให้ดียิ่งขึ้น ประการที่ 2 เพื่อเปิดสอนจนถึงระดับปริญ ญาสาขาต่างๆ ทางด้านมนุษ ยศาสตร์ สังคมศาสตร์และ วิทยาศาสตร์ ที่ ยังมิไ ด้ มีก ารจั ดสอนในมหาวิ ทยาลัย ธรรมศาสตร์ หรือที่มี ก ารจัด สอนแล้ วแต่ยัง ไม่ถึงขั้ น ประสาทปริญญา จึงอาจกล่าวได้ว่าคณะศิลปศาสตร์มีปรัชญาการกาเนิดจากหลักสูตรวิชาพื้นฐานทั่วไป และเพื่อให้บรรลุ วัตถุประสงค์ดังกล่าว คณะศิลปศาสตร์ได้เริ่มจัดการเรียนการสอนในปี พ.ศ. 2505 โดยก าหนดให้นัก ศึก ษาที่ เข้าศึกษาในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ทุก คนต้องศึก ษาในคณะศิล ปศาสตร์ ก่ อนใน 2 ปีแรก โดยศึก ษาวิชา พื้นฐานทั่วไป ซึ่งประกอบด้วยหมวดวิชาวิทยาศาสตร์ และคณิตศาสตร์ มนุษ ยศาสตร์ สังคมศาสตร์ และ ภาษาต่างประเทศ ก่อนเข้าศึกษาในแขนงวิชาเฉพาะด้านในชั้นปีที่ 3 ซึ่งจัดสอนอยู่ใ นคณะต่างๆ ในขณะนั้น คือ แขนงวิชานิติศาสตร์ พาณิชยศาสตร์และบัญชี รัฐศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ สังคมสงเคราะห์ศาสตร์
นอกจากการเปิดสอนหลักสูตรวิชาพื้นฐานทั่วไปในปี พ.ศ. 2505 แล้วคณะศิล ปศาสตร์ยังได้ เปิดสอน ระดับ ปริญ ญาตรีโ ดยได้ ผ ลิต บัณ ฑิ ตรุ่น แรกของคณะศิล ปศาสตร์ใ นปี พ.ศ. 2508 จานวน 71 คน จาก สาขาวิช าต่า งๆ ได้แ ก่ สาขาคณิต ศาสตร์ สาขาบรรณารัก ษศาสตร์ สาขาวิชาประวัติศ าสตร์ สาขาวิช า ภาษาศาสตร์ และสาขาวิชาสถิติ ปัจจุบันคณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เปิดทาการเรียนการสอนในหลัก สูตรระดับปริญ ญา ตรี ดังต่อไปนี้ ปริญญาตรี หลักสูตรศิลปศาสตรบัณฑิต (ศศ.บ.) 14 สาขา 01. สาขาวิชาจิตวิทยา 02. สาขาวิชาบรรณารักษศาสตร์และสารนิเทศศาสตร์ 03. สาขาวิชาประวัติศาสตร์ 04. สาขาวิชาภาษาศาสตร์ 05. สาขาวิชาภาษาอังกฤษ 06. สาขาวิชาภาษาและวรรณคดีอังกฤษ 07. สาขาวิชาภาษาฝรั่งเศส 08. สาขาวิชาภาษาไทย 09. สาขาวิชาปรัชญา 10. สาขาวิชาภูมิศาสตร์ 11. สาขาวิชาภาษาญี่ปุ่น 12. สาขาวิชาภาษาจีน 13. สาขาวิชาภาษาเยอรมัน 14. สาขาวิชาภาษารัสเซีย ปริญญาตรี (โครงการพิเ ศษ) หลักสูตรศิลปศาสตรบัณฑิต (ศศ.บ.) 4 สาขา 1. สาขาวิชาอังกฤษ-อเมริกันศึกษา (หลักสูตรนานาชาติ) 2. สาขาวิชาเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา 3. สาขาวิชารัสเซียศึกษา 4. การสื่อสารภาษาอังกฤษเชิงธุรกิจ (หลักสูตรนานาชาติ)
รู้จักภาควิชาจิตวิทยา DEPARTMENT OF PSYCHOLOGY ประวัติความเป็นมา “ภาควิชาจิตวิทยา” เป็นส่วนราชการไทยระดับภาควิชา สั ง กั ด ค ณ ะ ศิ ล ป ศ า ส ต ร์ มหา วิ ทย า ลั ย ธ ร ร มศ า ส ต ร์ กระทรวงศึกษาธิการ โดยเป็นสาขาวิชาที่จัดตั้งขึ้นเป็นล าดับที่ 6 ของคณะศิลปศาสตร์ และเป็นสถาบันการเรีย นการสอนเกี่ ย วกั บ จิตวิทยาที่ได้รับการจัดตั้งขึ้นเป็นอันดับ 1 ของประเทศ โดยได้รับ การก่ อตั้งให้เป็นภาควิชา เมื่อ ปี พ.ศ.2507 (นับเป็นที่แรกของ ประเทศไทยที่ผ ลิตบัณ ฑิต จิตวิทยาเพื่อ รับใช้สังคม) โดยความ เป็นมาในสมัย ก่ อน ยังไม่มีก ารก่ อตั้ง เป็นเอกจิตวิทยาอย่างเป็น ทางการ และยังไม่ได้รับสังกัดในคณะใดๆ แต่จะเป็นลัก ษณะของ การบรรยายควบคู่หรือเสริมในเนื้อหาวิชาที่จาเป็นต้องใช้ใ นคณะต่างๆ เช่น นิติศาสตร์ พาณิชยศาสตร์และ การบัญชี จนกระทั่งคณาจารย์ที่เชี่ยวชาญทางด้านบริหารได้ร่วมกั นวางแผนหลัก สูตร 4 ปีขึ้น เพื่อตอบสนอง ความต้องการบุคลากรทางด้านจิตวิทยาโดยเฉพาะ แรกเริ่มก่อตั้งภาควิชาจิตวิทยา คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์นั้น ได้รับการสนับสนุนจาก มูลนิธิฟลุ ไบรท์ ในการวางรากฐานแผนการเรีย นการสอนจิตวิทยา เป็นไปในลัก ษณะของจิตวิท ยาตะวันตก (จิตวิทยาบริสุทธิ์) คือ เป็นวิทยาศาสตร์แท้ อีก ทั้งยังเป็นสถาบันแรกของประเทศไทยที่เปิดสอน Cognitive Psychology หรือจิตวิทยาการรู้ คิด และปัญญา ภาควิชาจิตวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มีห้องปฏิบัติการทางจิตวิทยา ด้วยเครื่องมือและอุปกรณ์ ที่ ทันสมัย ถูกต้องตามมาตรฐานสากล และดีสุดของประเทศไทย โดยตั้งอยู่ที่ชั้น 3 อาคารคณะศิล ปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (ศูนย์ รังสิต) รวมถึงมีศูนย์ ใ ห้คาปรึก ษา TCAPS (Thammasat Counseling And Psychological Services) บริก ารด้านการปรึก ษาในเรื่องต่างๆ ที่ ก่ อให้เกิ ดความไม่ส บายใจ รวมถึงการ ทดสอบทางจิ ต วิ ท ยาด้ ว ยแบบทดสอบมาตรฐานเพื่อ ให้ ผู้ รั บ บริ ก ารเกิ ด การตระหนั ก รู้ ใ นตนเองได้ ดี ยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ภาควิชาจิตวิทยามีโ ครงการประชุ มร่วมมือทางการศึ ก ษาระหว่างประเทศในส่ วนของ นักศึกษา และโครงการแลกเปลี่ย นคณาจารย์ผู้ส อน รวมถึงการนาเสนอผลงานทางวิชาการของคณาจารย์ ระหว่างประเทศอย่างต่อเนื่องอีกด้วย จากพัฒนาการของภาควิชาจิตวิทยา มหาวิทยาลั ย ธรรมศาสตร์ ทาให้ภาควิชาจิ ตวิทยา ผลิตบัณ ฑิต จิตวิทยาที่มีคุณภาพเพื่อรับใช้ประชาชน
ปัจจุบันภาควิชาจิตวิทยา คณะศิล ปศาสตร์ มหาวิทยาลัย ธรรมศาสตร์ เปิดทาการเรีย นการสอนใน หลักสูตรทั้งระดับปริญญาตรี และปริญญาโท ดังต่อไปนี้ ปริญญาตรี หลักสูตรศิลปศาสตรบัณฑิต (สาขาวิชาจิตวิทยา) 3 กลุ่มวิชา (เรียนที่ศูนย์รังสิต) ได้แก่ 1. กลุ่มวิชาจิตวิทยาคลินิก 2. กลุ่มวิชาจิตวิทยาอุตสาหกรรมและองค์ก าร 3. กลุ่มวิชาจิตวิทยาการปรึกษา นอกจากนี้ยังมีกลุ่มวิชาจิตวิทยาที่เปิดให้เลือกศึก ษาตามความสนใจ เช่น จิตสังคม จิตพัฒนาการ และจิตทั่วไปอื่นๆ เช่น จิตวิทยาสภาวะแวดล้อม จิตวิทยาการรู้ คิด และปัญญา จิตวิทยาการสื่อสาร จิตวิทยา ข้ามวัฒนธรรม เป็นต้น ปริญญาโท หลักสูตรศิลปศาสตรมหาบัณฑิต (สาขาวิชาจิตวิทยา) 2 สาขา (เรียนที่ท่าพระจันทร์) ได้แก่ 1. สาขาวิชาจิตวิทยาอุตสาหกรรมและองค์ก าร 2. สาขาวิชาจิตวิทยาการปรึกษา
จุดมุ่งหมายหลักสูตรสาขาวิชาจิตวิทยา 1. มุ่งให้นักศึกษามีความรู้ในด้านทฤษฎี หลักเกณฑ์ และวิธีการทางจิตวิทยา เพื่อจะได้นาความรู้ไปใช้ ในการประกอบอาชีพตามหน่วยราชการและบริษัทเอกชน 2. มุ่งให้นักศึกษามีความรู้ด้านจิตวิทยาสาขาต่างๆ เพื่อเป็นพื้นฐานในการศึกษาเพิ่มเติม หรือ ประยุกต์ใช้ในชีวิตประจาวัน 3. มุ่งให้นักศึกษาเข้าใจ และสามารถวิเคราะห์พฤติกรรมของมนุษย์ได้ ตลอดจนสามารถแก้ปัญ หา ต่างๆ ได้อย่างถูกต้องด้วยตนเอง
จิตวิทยาคลินิก
(Clinical Psychology) ศาสตร์ที่ว่าด้วยการกระทาต่อมนุษย์เกี่ยวกับการตรวจการวินิจฉัย การบาบัด ความผิดปกติทางจิต อันเนื่องจากภาวะทางจิตใจ บุคลิกภาพ เชาวน์ปัญญา อารมณ์ พฤติกรรมการปรับตัว ความเครียดหรือพยาธิสภาพทางสมอง รวมทั้งการวิจัย การส่งเสริมและประเมินภาวะสุขภาพทางจิตด้วยวิธีการเฉพาะทาง จิตวิทยาคลินิก หรือการใช้เครื่องมือหรืออุปกรณ์ทดสอบทางจิตวิทยา คลินิกที่รัฐมนตรีประกาศให้เป็นเครื่องมือหรืออุปกรณ์ทางจิตวิทยาคลินิก (ความหมายตามพระราชบัญญัติการประกอบโรคศิลปะ สาขาจิตวิทยาคลินิก พ.ศ. 2542 มาตรา 3)
บทบาทหน้าที่ของนักจิตวิทยาคลินิก
อธิบายตามมาตรฐานด้านการปฏิบัติการ ดังนี้
มาตรฐานที่ 1 การตรวจวินิจฉัยทางจิตวิทยาคลินิก มาตรฐานที่ 2 การบาบัดทางจิตวิทยาและการฟื้นฟูสภาพจิตใจ มาตรฐานที่ 3 การประยุกต์จิตวิทยาคลินิกเข้าสู่งานด้านสุขภาพจิตชุมชนและ มาตรฐานที่ 3 ศาสตร์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง มาตรฐานที่ 4 การสอน ฝึกอบรมและเป็นที่ปรึกษาทางวิชาการจิตวิทยาคลินิก มาตรฐานที่ 5 การพัฒนาบุคลากรวิชาชีพจิตวิทยาคลินิก เทคโนโลยีและ มาตรฐานที่ 5 การวิจัยทางจิตวิทยาคลินิก
ความแตกต่างระหว่างนักจิตวิทยาคลินิกกับจิตแพทย์ นักจิตวิทยาสาขาที่ทางานร่วมกับจิตแพทย์มากที่สุด ก็คือ นักจิตวิทยาคลินิก ซึ่งคนส่วนใหญ่จะสงสัย ใน ความแตกต่างระหว่าง นักจิตวิทยา (คลินิก) และจิตแพทย์ ประเด็นที่ 1 นักจิตวิทยาคลินิก ศึกษาจิตวิทยาลงลึกด้านจิตเวชศาสตร์ การทาแบบทดสอบ การบาบัด ในขณะที่จิตแพทย์ คือคนที่เรียนแพทยศาสตร์ 6 ปี แล้วศึกษาต่อเฉพาะทางด้านจิตเวชศาสตร์ ประเด็นที่ 2 ที่เห็นชัดในประเทศไทยคือ การใช้ยา จิตแพทย์เท่านั้นที่สามารถจ่ายยาได้ ประเด็นที่ 3 การวินิจฉัยโรค จิตแพทย์มีหน้าที่ใ นการวินิจฉัย เวลาที่มีคนเข้ารับการรัก ษา ในขณะที่ นัก จิ ตวิท ยา จะนาผลจากแบบทดสอบมาประกอบ และรายงานแนวโน้ม ของความเป็น โรค หรือเสนอ ความเห็นต่อการรักษา
จิตวิทยาอุตสาหกรรมและองค์การ
(Industrial and Organizational Psychology)
ศาสตร์ที่ว่าด้วยพฤติ ก รรมของมนุษ ย์ใ นงานอุตสาหกรรม ซึ่ งเป็นการนาความรู้ เรื่องพฤติก รรมของ มนุษย์ไปใช้ในกิจกรรมทางอุตสาหกรรม การจัดการและการวางแผนงาน อุตสาหกรรมการผลิต การโฆษณา สื่อสาร การจาหน่าย การบริโภค และการบริการ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดทั้งในการดาเนินงานอุตสาหกรรม ทั้งผู้ผลิตและผู้บริโภค ด้วยการนาทฤษฎีและหลักการทางจิตวิทยาไปช่วยพัฒนาและแก้ ปัญ หาด้านพฤติก รรม ของมนุษย์ที่ดาเนินงานอุตสาหกรรม ทั้งด้านการสร้างสัมพันธ์ระหว่างผู้ปฏิบัติงานและการวางตนตามบทบาท หน้าที่ในหน่วยงาน จะเห็นได้ว่าการศึกษาจิตวิทยาอุตสาหกรรมและองค์การนั้น จะต้องศึกษาตั้งแต่ความรู้เบื้องต้นเกี่ ย วกั บ พฤติกรรม ความรู้เบื้องต้นเกี่ ย วกั บงานอุตสาหกรรม แล้ว จึงนาความรู้เบื้องต้นเกี่ ย วกั บพฤติก รรมนั้นไปใช้ ประโยชน์ในงานอุตสาหกรรมทุก ด้าน ทุก ขั้นตอน ทั้งนี้โ ดยผู้ใ ห้บริก ารก็ ทางานได้ด้วยความสุข ความพอใจ เจ้าของกิ จการก็ ประสบความส าเร็จและเกิ ดความสุข ความพอใจในงาน จึงเห็นได้ว่า การที่จะได้ชื่อว่าใช้ จิตวิทยาเป็นนั้นต้องก่อให้เกิดความพึงพอใจหรือโดยสมัครใจกับทุกฝ่าย
บทบาทหน้าที่ของนักจิตวิทยาอุตสาหกรรมและองค์การ 1. การคัดเลือกและจัดวางบุคลากร การพัฒนาเครื่องมือประเมินผลบุคคลเพื่อใช้ใ นการคัดเลือก การ จัดวางบุคลากรให้เหมาะสมกับตาแหน่งงาน และการเลื่อนตาแหน่งของบุคลากร รวมถึงการพัฒนาศัก ยภาพ ของบุคคลให้มีประสิทธิภาพในการทางานและการใช้ชีวิตมากขึ้น 2. การฝึกอบรมและการพัฒนา การระบุความจาเป็นในการฝึกอบรม และการใช้เทคนิคการฝึกอบรม การกาหนด และโปรแกรมการพัฒนา การจัดการ รวมถึงการวางแผนงานอาชีพให้แก่บุคคล 3. การพัฒนาองค์การ การวิเคราะห์โครงสร้างองค์การ เพิ่มความพึงพอใจ ประสิทธิภาพของบุคคล และกลุ่มให้ถึงจุดสูงสุด รวมถึงการสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงองค์การให้พัฒนาไปในแนวทางที่ดีขึ้น 4. การวัดและการประเมินผล การพัฒนาเกณฑ์การปฏิบัติ และเครื่องมือที่ใช้วัด การนาผลการประเมินมาใช้ให้เป็นประโยชน์ในการจัดการ 5. การพัฒนาคุณภาพชีวิตการท้างาน การเพิ่มพูนผลผลิตของพนักงานแต่ละบุคคล โดยการกาหนดปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับความพึงพอใจในงานเพื่อเพิ่มแรงจูงใจให้แก่บุคคล ที่เป็นกาลังขับเคลื่อนขององค์การ
จิตวิทยาการปรึกษา
(Counseling Psychology)
จิตวิทยาการปรึกษาเป็นสาขาวิชาจิตวิทยา ที่มคี วามเชี่ยวชาญในการช่วยเหลือ บุคคลทั้งในเรื่องส่วนตัวและ เรื่องที่เกี่ยวข้องกับบุคคล รอบข้างในทุกช่วงชีวิตของมนุษย์ โดยเน้นเรื่องที่ เกี่ยวข้องกับอารมณ์ สังคม อาชีพ การศึกษา สุขภาพ พัฒนาการ การทางานในองค์กร ความเชี่ยวชาญนี้ได้รวบรวมความรู้หลายแขนง ทั้งจากทฤษฎี การวิจัย การปฏิบัติงานการปรึกษา รวมถึงประเด็นที่มี ความอ่อนไหวทางวัฒนธรรม เพื่อใช้ช่วยเหลือบุคคลให้สามารถพัฒนาความเป็นอยู่ของชีวิต ช่วยบรรเทาความทุกข์ใจและการปรับตัวที่ผิดปกติ แก้ไขสภาวะวิกฤติที่เกิดขึ้นในชีวิต และเพิ่มความสามารถ ในการมีชีวิตอยู่ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ลักษณะเฉพาะตัวของจิตวิทยาการปรึกษาคือ การเน้นที่การพัฒนาบุคคลในด้านต่างๆ และปัญ หาต่างๆ ทางด้านร่างกาย อารมณ์ และปัญหาสุขภาพจิต
บทบาทและหน้าที่ของนักจิตวิทยาการปรึกษา นักจิตวิทยาการปรึกษาสามารถทางานได้กับคนทุกเพศทุกวัย และ ทุกวัฒนธรรม สามารถทางานให้กับองค์กรต่างๆ ทั้งภาครัฐ และเอกชน ทั้งนีข้ ึ้นอยู่กับลักษณะการให้บริการและ กลุ่มเป้าหมายที่มารับบริการ นอกจากนี้นักจิตวิทยา การปรึกษาสามารถเป็นอาจารย์ นักวิจัย ผู้ให้บริการ การปรึกษาในวิทยาลัย หรืออาจจะประกอบอาชีพ อิสระในการให้คาปรึกษา การทาจิตบาบัด การประเมินทางจิตวิทยา และการบริการเป็น ทีป่ รึกษาแก่บุคคล ครอบครัว กลุ่ม องค์การ หรือทางานในศูนย์สุขภาพจิต องค์การสงเคราะห์ ทหารผ่านศึก งานบริการครอบครัว และทางานแวดวงอุตสาหกรรม เป็นต้น
COVER STORY
“PSYCHE” THE NAME OF MIND ถ้าพูดถึง PSYCHOLOGY (จิตวิทยา) ใช่! ต้องนึงถึง MIND จิตวิญญาณหรือจิตใจเป็นอันดับแรกๆ แต่ คาถามคือ ภาพของเธอและเขาทั้งสองคนที่ปรากฏบนปกหน้า รวมถึง คาว่า ‘PSYCHE’ เกี่ ย วข้องอะไรกั บ จิตวิทยา เราสามารถหาคาตอบได้โดยย้อนกลับไปในสมัยกรีกโบราณ… เรื่องมีอยู่ว่า เจ้าหญิงแห่งราชวงศ์กรีก นามว่า ไซคี (PSYCHE) ผู้มีสิริโฉมอันงดงาม เหล่าทวยเทพบน เทือกเขาโอลิมปัสต่างพากันยินดี มีเพียงผู้เดียวที่ข้องขุ่นใจ คือ วีนัส เทพีแห่งความงาม เพราะชายหนุ่มที่ควร จะนาดอกไม้มาประดับที่แท่นบูชาของเธอต่างพากันไปโปรยกลีบกุหลาบให้ไ ซคี วีนัส โกรธมาก จึงให้บุตรชาย ของตน นามว่า อีรอส (EROS) หรือกามเทพคิวปิด ไปทาร้ายไซคีด้วยการยิงศรความรัก ใส่ไ ซคีใ ห้หลงรัก ชาย ชั่ว หรืออสุรกายน่าเกลียด คิวปิดรู้สึก สงสาร แต่ต้องทาตามคาสั่ง จึงบินไปยังตาหนัก ของไซคี เพีย งแวบแรกที่ไ ด้มองไซคี ซึ่ง กาลังหลับอยู่ ก็ตกอยู่ในภวังค์ชมโฉมอย่างหลงใหล กระทั่งไซคีพลิก ตัว คิวปิดสะดุ้งตกใจจนศรความรัก แทง เข้าถูกตนเอง กลายเป็นว่าเขาหลงรักไซคีจนหมดใจ คิวปิดเก็บความรู้สึกที่มี ถ้าหากมารดาของตนรู้ ไซคีจะไม่ ปลอดภัย คิวปิดจึงขอร้องเหล่าเทพให้ช่วยเหลือตน เหล่าเทพโอลิมปัสจึงได้ช่วยเหลืออย่างลับๆ ไม่ให้วีนัสรู้ ต่อมาบรรดาพี่สาวของไซคีทั้งสองต่างเข้าสู่พิธีวิวาห์กันหมด เหลือเพีย งไซคี ผู้คนคิดว่า เธองดงามจน ไม่คู่ควรกับมนุษย์ พระบิดาพระมารดาจึ งไปขอคาทานายจากวิหารเดลฟี ของเทพอพอลโล ซึ่งเป็นหนึ่งใน เหล่าเทพที่ช่วยเหลือคิวปิดอยู่ จึงบอกคาทานายว่า “คู่ครองของไซคีมิใ ช่มนุษ ย์ เป็นอสุรกายอยู่ บนยอดเขา ไม่มีเทพองค์ใดต้านทานฤทธิ์เดชได้ และห้ามเธอมองรูปโฉมของสามีเป็นอันขาดในตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกัน” ไซคีเดินทางสู่ยอดเขา มีผู้มารับเธอ คือ เซฟิโรส เทพแห่งลมตะวันออก ซึ่งได้รับคาสั่งจากคิวปิด พัด พาเธอข้ามผ่านหุบเหวลึกไปถึงเรือนหอที่เพียบพร้อมและงดงาม เธอได้ครองรัก กั บคิวปิด เขามาหาเธอยามค่า และจากไปยามรุ่งอรุณเป็นเช่นนี้เสมอ ไซคีไ ด้ซัก ถามเพื่อขอดูรูปโฉมของเขา แต่แน่นอนคิวปิดปฏิเสธ และ ขอให้เธอสัญญาว่าจะไม่พยายามดูรูปโฉมของเขาเป็นอันขาด เพราะความเหงาที่ต้องอยู่คนเดียวตลอดกลางวัน ไซคีจึงขอคิวปิดให้ตนได้พบพี่ส าว พี่ข องเธอเห็น น้องสาวดูไม่ทุกข์ร้อนอะไรที่มีสามีเป็นอสุรกาย จึงได้ยุแยงให้เธอหาเทีย นเพื่อจุดดูรูปโฉมของสามี และมอบ ดาบให้เธอเพราะหากว่าอสุรกายรู้ว่าเธอผิดสัญญาอาจจะทาร้ายเธอได้ ไซคีจึงหลงเชื่อพี่สาวของตน
เมื่อถึงเวลาเที่ยงคืน ไซคีแน่ใจว่าสามีของตนหลับสนิท เธอจึงจุดเทีย นดูรูปโฉมสามีข องตน ปรากฏ เป็นชายหนุ่มรูปร่างงดงามยิ่งกว่าชายใดที่เธอเคยเห็นมา จนกระทั่งน้าตาเที ย นหยดต้องกายคิวปิดจนสะดุ้งตื่น เขาโกรธและเสียใจมากที่ไซคีผิดสัญญา คิวปิดจึงบินออกจาก พร้อมบอกไซคีว่า “หากมีความรัก แต่ปราศจาก ความเชื่อใจ ก็ไม่อาจรักษาความรักนั้นเอาไว้ได้” และประกาศว่าจะลงโทษเธอด้วยการจากไปตลอดกาล ไซคีร้องไห้อยู่นาน เธอเดินทางเพื่อตามหาคิวปิด จนในที่สุดเธอก็ เห็นวิหารแห่งหนึ่งบนยอดเขา ไซคี เข้าไปในวิหารของดีมีเทอร์ เทพีแห่งพืชผล ดีมีเทอร์สงสารไซคี จึงได้ปรากฏตัวและบอกให้เธอไปขออภัย โทษ จากวีนัสผู้เป็นมารดาของคิวปิด เพราะเมื่อใดที่คิวปิดหลบซ่อน วีนัสเท่านั้นที่จะหาเขาเจอ เมื่อได้พบกับวีนัส ไซคียอมทาตามทุกอย่าง ขอเพีย งแต่ใ ห้เธอได้อยู่ร่วมกั บคิวปิดอีก ครั้ง วีนัส จึงคิด แผนการทาลายไซคี โดยมีข้อแลกเปลี่ยนว่า หากไซคีทางานทั้งสามอย่างสาเร็จ เธอจะไม่ขัดขวางความรัก ของ ไซคีและคิวปิด งานแรกให้แยกเมล็ดธัญพืชที่ปะปนกันในยุ้งฉางก่อนมืด คิวปิดให้ฝูงมดไปช่วยจนสาเร็จ งานที่สองให้ข้ามแม่น้าเชี่ยว ไปเก็บขนแกะทองคา โชคดีที่เทพประจาแม่น้าสงสาร จึงให้ต้นกกริมน้า กระซิบบอกว่า “ต้นกกจะไปเสียดสีเอาขนแกะมาให้ เก็บขนทองที่ติดอยู่กับต้นกกแทน” งานที่สองจึงสาเร็จ งานสุดท้ายให้ไปขอเครื่องประทินโฉมจากเทพีเพอร์ซิโฟเน เทพีย มโลก คิวปิดจึงกระซิบเสีย งอันเป็น มิตรแนะนาวิธีไปยมโลก และเตือนว่าเมื่อได้เครื่องประทินโฉมนั้นมา ห้ามเปิดเด็ดขาด ไซคีทาตามจนได้เครื่อง ประทินโฉมมา แต่เธอเผลอเปิดดูด้วยความสงสัย ควันประหลาดพุ่งใส่ไซคีล้มลงไปราวกั บคนตาย คิวปิดซึ่งรอ คอยไซคีที่หน้าทางออกจึงรีบบินมาเก็บควันมนตราแห่งการหลับใหล ลงในผอบและปลุก ให้ไ ซคีฟื้นขึ้น ทั้งสอง ดีใจที่ได้พบกันอีกครั้ง คิวปิดบินขึ้นเขาโอลิมปัสเพื่อไปวิงวอนทวยเทพให้เห็นแก่ความรัก ของเขา เทพซุส จึงขอ เทพีวีนัสให้เลิกเกลียดชังไซคีและยอมรับเธอ เหล่าเทพจึงได้มอบน้าอมฤตแก่ ไ ซคี ทาให้ เธอกลายเป็นเทพีอยู่ ร่วมกับคิวปิดไปตลอดกาล เรื่องราวของไซคีทาให้เราเห็นว่า ความรัก ที่แท้จริงย่อมต้องมีก ารฟันฝ่าอุปสรรค ความรัก (EROS) ต้องอยู่คู่กับจิตวิญญาณ (PSYCHE) หากขาดความรักแล้ว จิตวิญญาณก็จะไม่ส ามารถมีอยู่ไ ด้ แต่หากขาดจิต วิญญาณก็จะไม่มีความรักเช่นกัน ด้วยเหตุนี้เองคาว่า ‘PSYCHE’ จึงเป็นตัวแทนของจิตวิญ ญาณมนุษ ย์ทั้งมวล และเป็นชื่อของอัก ษร กรีกโบราณ มีลักษณะคล้ายส้อมสามซี่ ( Ψ ) ซึ่งอักษรตัวนี้ต่อมาได้นามาใช้เป็นสัญลัก ษณ์ส ากลของจิตวิทยา โดยมีสีน้าเงินขาบหรือสีน้าเงินแก่อมม่วงเป็นสีสากลของจิตวิทยาด้วย ศัพท์วิชาการในภาษาอังกฤษบางคานามาจากรากศัพท์ของภาษากรีก โดยส่วนใหญ่ มีที่มาจากชื่อของ เทพในความเชื่อของชาวกรีกและโรมัน ชื่อของ PSYCHE จึงถูก นามาใช้ เป็นรากศัพท์ข องคาในทางจิตวิทยา เช่น psychiatry (จิตเวชศาสตร์) รวมถึงศัพท์ที่ขึ้นต้นด้วย psycho อย่างคาว่า PSYCHOLOGY นั่นเอง ที่นี้ก็ทราบแล้วใช่ไหมครับว่า เธอ (PSYCHE) และเขา (EROS) เกี่ยวข้องอย่างไรกับจิตวิทยา
เรื่องสั้น: TORI
“CHOOSE” THE WAY YOU ARE จ้ากันได้ไหมว่า ตอนที่เรายังเป็นเด็ก ตัวเล็ก อยู่ใ นวัย ที่ก้ อนเมฆแปลงร่างเป็นสัตว์น้อยใหญ่ไ ด้อย่าง ง่ายดายกว่านี้มาก เราเจอกับคาถามทานองที่ว่า “โตขึ้นอยากเป็น อะไร?”มากี่ ครั้งกี่ หนกั น และจาได้ไ หมว่า เราตอบคาถามเหล่านั้น ว่ า อ ย่ า ง ไ ร บ้ า ง? เชื่อว่าอาชีพหมอ วิศวกร ครู ทหาร ตารวจ นัก ธุรกิ จ นัก บิน แอร์โ ฮสเตส คงเป็นคาตอบของใคร หลายคน เราเติบโตขึ้นมาด้วยความคิดฝังหัวว่าอาชีพเหล่านี้คืออาชีพที่เด็ก ๆ ควรใฝ่ฝัน ไม่ว่าจะด้วยเหตุผ ล ต่างๆ นานาว่ามันช่างเป็นอาชีพที่มีเกี ย รติบ้างล่ะ มีคนเคารพนับถือบ้างล่ะ หรือแม้แต่มันเป็นอาชีพที่ส ร้ าง ความร่ารวยบ้างล่ะ ลองเด็กคนไหนตอบว่า อยากเป็นคนขับรถเมล์ดูซิ กลับบ้านไปอาจโดนแม่ตีก็เป็นได้ ต้องยอมรับอย่างเต็มใจรึเปล่าไม่รู้ว่า พ่อแม่ส่วนใหญ่ในสังคมบ้านเรายังคงเรียกได้ว่าเป็น “พ่อแม่ที่ขี้ กลัว ขี้กังวล” เป็นธรรมดาของพ่อแม่ทุก คนที่จะต้องเป็นห่วงอนาคตของลูก จึงพยายามแนะนาหนทางที่ มั่นคง... ที่มั่นอกมั่นใจว่าดีให้แก่ลูก แต่บางครั้งก็ อดสงสัย ไม่ไ ด้ว่าความห่วงเหล่านั้นมันมากเกิ นไปหรือเปล่า มันมากเสียจนเด็กจานวนไม่น้อยกลายเป็นเด็กที่ไม่กล้าแม้แต่จะก้าวเท้าออกไปตามหาสิ่งที่ตัวเองต้องการ ได้ แต่เดินตามทางที่พ่อแม่วางไว้ให้ ซึ่งมันน่าเสียดาย... หลายคนลืมคิดไปว่า ต่อให้อาชีพที่ทุกคนยกย่องว่ามันคืออาชีพที่ควรค่าแก่ ก าร ใฝ่ฝัน วิเศษเลิศหรูมากมายแค่ไ หนก็ ตาม แต่หากเมื่อเราได้เป็นเจ้าของมันแล้ว มันไม่ อาจนาพาความสุขและจิตวิญญาณของเราใส่เข้าไปด้วยได้ ทุกอย่างก็ เป็นศูนย์ เราต่างรู้ ดีว่าการใช้ชีวิตอยู่กับสิ่งที่เราไม่ได้มีความสุขกับมันหรือเรียกง่ายๆ ว่ามัน ไม่ใช่ตัวตนของเรา สิ่งนั้นคือความทรมาน ซึ่งแน่นอนว่าไม่มีใครต้องการ...
จะดีกว่าไหม ถ้าเราละทิ้งคาถามทานองว่า โตขึ้นอยากเป็นอะไร?” แล้วลองมาเริ่มต้นถามกันใหม่ ว่า...
“ โ ต ขึ้ น เ ร า อ ย า ก มี ชี วิ ต แ บ บ ไ ห น ? ” เพราะเป้าหมายหลักของการมีชีวิต คือ การได้ใช้ชีวิต จะมีประโยชน์อะไรถ้าเรามีชีวิตอยู่ โดยไม่ได้ใช้ชีวิตอย่างที่เราต้องการ ค้นหากันก่อนดีไหมว่า ฝันอยากมีชีวิตแบบไหน ชีวิตแบบไหนที่คุณอยากใช้มัน หากเจอแล้ว คุณ ค่อย เลื อ กอาชี พ ที่ ใ กล้ เ คี ย งกั บ ชี วิ ต ที่ คุ ณ ใฝ่ ฝั น แบบนี้ ไ ม่ เ จ๋ ง กว่ า หรอ ? ลองจิ น ตนาการดู ซิ ว่ า ถ้ า หากคุ ณ ฝั น อยากจะมี ชี วิ ต ที่ มี เ วลาได้ อ่ า นหนั ง สื อ ที่ คุ ณ ชอบ รั ก การใช้ ชี วิ ต แบบเฮฮาๆ มี เ วลาไปสั ง สรรค์ กับเพื่อน แต่คุณไปเลือกเป็นนักเคมี ชีวิตส่วนใหญ่ของคุณ คื อการอยู่ใ นห้องทดลองสี่เหลี่ย มๆ วันๆ ไม่ไ ด้พูด กับใครเลย ถามใจตัวเองดูให้ดีซิว่า... คุณจะมีความสุขกับอาชีพนักเคมีสุดเท่นั้นของคุณได้จริงน่ะหรือ? หากยังคงกังวลกับคนรอบข้างที่เต็มไปด้วยความห่วงว่าเราจะไปไม่รอด ก็ อ าจจะลองเริ่มต้นด้วยการ หาต้นแบบดีๆ สัก คน ที่เราอยากจะเป็นเหมือนเขา เดินเข้าไปถามเขาดูซิว่า “เขาท้าอย่ างไรจึงประสบ ความส้าเร็จ?” เอาวิธีการของเขา ไปบอกกับคนที่เป็นห่วงเรา ว่า “เราจะท้าแบบที่เ ขาท้านี่ล่ะ เขาท้าส้าเร็จ มาแล้ว เราก็จะต้องท้าส้าเร็จได้บ้าง ไม่ต้องเป็นห่วง” แต่อย่างไรก็ตาม อย่าลืมนะว่า... เราไม่ควรฟังเสียงหัวใจคนอื่น...มากไปกว่า...การฟังเสียงหัวใจตัวเอง ฟังเสีย หน่อยว่าใจเราต้องการสิ่งไหน? ขอเพียงแค่ ชัดเจนกับใจตัวเอง เชื่อมั่นในทางที่เลือก แค่นั้นก็ลุยได้เลย เต็มที่ไ ปกับมัน ใช้ชีวิตให้คุ้ม คิดเสียว่าชีวิตคือการเรียนรู้ อย่าใช้ชีวิตแบบปล่อยผ่านเลยไปวันๆ อย่างไร้จุดหมาย เพราะ...ถ้าเราไม่ทาอะไรกับชีวิต ชีวิตก็จะผ่านไปแบบไม่มีอะไรเลย... แล้วจะไม่เ สียดายบ้างหรือ?
พูดคุยกับเด็กค่ายจับจิต ครั้งที่ 1 นางสาวคชาภา ตตินนาสิทธิเวท (น้าหวาน) รู้สึกอย่างไรกับค่ายจับจิต มาค่ายนี้ได้ทุกอารมณ์เลย ตั้งแต่ดีใจจนทุบคีย์บอร์ดแทบพังตอนเห็นชื่อตัวเองติดค่าย พอมาค่ายก็ โดนพี่แกล้งต่างๆ นานา ให้ปั่นจิ้งหรีดตั้ง 3 รอบ ไหนจะเสีย น้าตาเพราะโดนพี่แฝงหลอกอีก ก T [] T แต่มันก็ ทาให้รู้สึกประทับใจมากที่ได้มาค่ายนี้ พี่ที่ค่ายรักน้องกันมากๆ เลย ดูแลตลอด ตั้งแต่ติดค่ายจนกระทั่งถึงทุก วันนี้ ส่วนเพื่อนค่ายก็น่ารัก สนิทกันก่อนจะมาเข้าค่ายเสีย อีก สนุก สนาน เฮฮากั นมาก ยิ่งตอนสันทนาการ แบบว่ามันมาก เต้นกันจนหัวแทบหลุดเลยทีเดียว 555 จาได้ว่าตอนเข้าค่ายนี่เพื่อนค่ายไม่เรีย กกั นตามอาวุโ ส เลย ไม่ว่าจะอยู่ ม.4-5-6 ทุก คนคือรุ่นเดีย วกั นหมด เพราะเราคือ “เด็ก ค่ายจับจิตรุ่น 1” และที่ก ล่าวมา ทั้งหมดคือสิ่งที่ทาให้รู้สึกว่า ค่ายจับจิตเป็นค่ายที่ดีที่สุดในชีวิตเลย!!! (ในชีวิตติดค่ายนี้อยู่ค่ายเดียวอ่ะ 555) แล้วท้าไมเลือกต่อที่ จิตวิทยา มธ. เพราะจิตวิทยา ธรรมศาสตร์ เป็นจิตวิทยาที่ดีที่สุดในประเทศไทย!!!!! ตอนนีเ้ ป็นพีป่ ี 1 รู้สึกอย่างไรบ้าง ตอนเข้าค่ายก็ไม่ได้คิดว่าตัวเองจะได้เรียนต่อที่นี่ แต่พอได้มาเรียนแล้วก็รู้สึกว่าเราได้รับโอกาสที่วิเศษ ที่สุดเลยนะ แล้วเราก็ต้องใช้มันให้คุ้มค่าที่สุดด้วย ฉะนั้ นเวลามีกิ จกรรมอะไรมาก็ ทาหมด ไม่ว่าจะของโต๊ะ ของเอก หรือของคณะ แต่ก็ต้องไม่ทิ้งการเรียนด้วยเหมือนกัน (แม้บางทีจะแอบโดดไป ทากิจกรรมบ้างก็เถอะ) สุดท้ายก็รู้สึกภูมิใจมากที่ได้เป็น “นักศึกษาเอกจิตวิทยา คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์” (ว๊าวว!!!) อยากฝากอะไรถึงน้องๆ สมาขิกค่ายจับจิต ครั้งที่ 2 ก่อนอื่นขอชื่นชมน้องๆ ว่าเก่งกันมากๆ เลย ที่ฝ่าฟันคนนับพันแล้ว ติดค่ายนี้เข้ามาได้ สนุกกันรึเปล่าเอ่ย? ตั้งแต่ก่อนเข้าค่ายพี่ก็เห็นว่าน้องๆ พยายามทาความรู้จักกัน พี่เองก็ดีใจที่น้องๆ รักกันนะ มันไม่ง่ายเลยที่ จะได้มาใช้ชีวิตร่วมกับคนแปลกหน้าที่เป็นใครก็ไม่รู้นับร้อยคน ได้มา แลกเปลี่ยนรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ คราบน้าตา มิตรภาพ ซึ่งกันและกัน พี่ก็อยากให้น้องเก็บประสบการณ์และความทรงจาที่ดีๆ ในครั้งนี้ไว้ จนกว่าโลกจะแตกแล้วตายกันไปข้างนึงเลยนะ ^^ รัก... “จับจิต”
พูดคุยกับเด็กค่ายจับจิต ครั้งที่ 1 นายสุพัฒน์ โตตาบ (พี) รู้สึกอย่างไรกับค่ายจับจิต ความรู้สึกแรก คือ พี่ๆ เอาใจใส่ดีมากถึงมากที่สุด เรีย กได้ว่ารู้ สึก เหมือนตัวเองเป็นคุณ หนูยังไงไม่รู้ (ฮ่าๆๆ) ทุกๆ กิจกรรม ที่พี่จัด ทั้งสันทนาการ ทั้งกิจกรรมวิชาการ แนะแนว ล้วนสนุก มาก ไม่เบื่อเลย และอีก ประเด็นที่ถูกใจไอ้อ้วนอย่างผมคือ ตลอดเวลาอยู่ค่ายไม่ไ ด้รู้สึก หิวเลย มีข องกิ นจัดมาให้ตลอดเวลา ทั้งขนม และน้า รวมทั้งเพื่อนๆ และพี่ๆ ที่ค่าย ล้วนเป็นมิตรมาก รู้สึกว่า มันเป็นครอบครัว มากว่า รุ่นพี่รุ่นน้อง พอวัน จบค่าย ก็แอบเซ็งเบาๆ ว่าทาไมมันเร็วขนาดนี้ แป๊บเดียวเอง 3 วัน 2 คืน ช่างสั้นนัก แล้วท้าไมเลือกต่อที่ จิตวิทยา มธ. ผมสนใจธรรมศาสตร์เป็นทุนเดิม เพราะพี่และญาติหลายคนเรียนธรรมศาสตร์ และตั้งแต่ขึ้น ม.ปลาย ก็ค้นพบตัวเองว่า ชอบจิตวิทยา สาขาคลินิก มหาวิทยาลัยทีม่ ีจิตวิทยาคลินิก ก็ มีหลายที่ แต่ด้วยบุคลิก ของผม เป็นคนที่รักอิสระพอตัว จึงคิดว่า ธรรมศาสตร์ คงจะตอบโจทย์ได้มากที่สุด ผมจึงเลือก จิตวิทยา ธรรมศาสตร์ เป็นอันดับทีห่ นึ่ง ที่นี้ล่ะ ที่ๆ เราจะได้อ ะไรจากมัน และเราก็ ใ ห้ไ ปโดยไม่มีข้อกั งขา พอวันประกาศผลแอด มิชชั่น ผมติดอันดับหนึ่ง!!! เอกจิตวิทยา คณะศิล ปศาสตร์ มหาวิทยาลัย ธรรมศาสตร์ ผมก็ ดีใ จมาก แต่ที่น่า ตื่นเต้นคือ พี่ๆ ค่าย ก็ไม่ได้ลืมเด็กค่ายอย่างผม ต่างเข้ามายินดีแสดงความดีใจให้ผมทาง facebook ด้วย ตอนนีเ้ ป็นพีป่ ี 1 รู้สึกอย่างไรบ้าง ความรู้สึก ที่ มีตอนนี้กั บความรู้สึก ที่มีกั บ ค่ายยังเหมือนเดิม พี่ๆ ยังคงสนุกสนาน ใส่ใจอย่างดี รวมทั้ง การเรีย น อาจารย์ยังเป็น กันเองกับ นักศึกษามาก สอนสนุ ก ส่วนเรื่องกิ จกรรม ไม่ต้องห่วงมี เยอะมาก และสนุกมาก ได้พบเพื่อนใหม่ๆ ตั้งแต่ เข้าปีหนึ่งมาจนถึง วันนี้ ความรู้สึกผิดหวังที่ได้เลือกที่นี่นั้นไม่มีเลย มีแต่ความภูมิใ จที่ว่า เราเลือกถูกแล้วที่เลือกที่นี้ อยากฝากอะไรถึงน้องๆ สมาชิกค่ายจับจิต ครั้งที่ 2 พี่ขอส่งข้อความนี้ ไปสู่น้องๆโดยตรงว่า ... อยู่ใ นค่าย เป็น ตัวเองให้ มากที่สุด บ้าให้มากที่สุ ด มัน ไปกั บกิ จกรรม เปิดใจให้กั บ โลกแห่งจิตวิทยา... แล้วน้องจะรักค่ายนี้ และรักเอกนี้ อย่างที่พี่ รัก... “จับจิต”
ข้อมูลศึกษาต่อจิต ธรรมศาสตร์ ระบบกลาง (Admissions) ปีการศึกษา 2556 “คณะศิลปศาสตร์ สาขาวิชาจิตวิทยา พื้นฐานวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์” ไม่มีรับตรง ต้องเตรีย มตัวสอบยื่นคะแนนระบบกลาง (Admissions) เท่านั้นครับ รับเพีย ง 60 คนต่อปี บางคนบอกว่า น่าจะรับเยอะๆ แต่พี่คิดว่าเล็กๆ แบบนี้ อบอุ่นอย่าบอกใครเชียวล่ะ :-) ถามว่าสายวิทย์ สายศิลป์ สายไหนเข้าได้ ? คาตอบคือ เข้าได้ทุกสายครับ เพีย งแต่น้องจะต้องมี องค์ประกอบและค่าร้อยละตามเกณฑ์ที่ ส มาคม อธิการบดีแห่งประเทศไทย (สอท.) กาหนดไว้ดังต่อไปนี้ คือ GPAX (ผลการเรียนสะสม) 20% O-NET (ผลการทดสอบระดับชาติขั้นพื้นฐาน) 30% GAT (ความถนัดทั่วไป) 30% PAT1 (ความถนัดทางคณิตศาสตร์) 20% แล้วจะต้องทาคะแนนให้ได้เท่าไหร่ ถึงจะสอบติดล่ะ ? เรามาดูสถิตคิ ะแนน Admissions ของจิตวิทยา ธรรมศาสตร์กันก่อน รับ/สมัคร คะแนนสูงสุด คะแนนต่้าสุด คะแนนเฉลี่ย
ปี 2552 60/232 (1:4) 20,016.7500 18,300.0000 18,928.9200
ปี 2553 60/461 (1:8) 21,076.1000 19,206.0000 19,696.8600
ปี 2554 60/324 (1:6) 21,463.9000 19,807.5000 20,312.8100
ปี 2555 60/309 (1:6) 23,519.5500 19,713.6000 20,242.9250
จากข้อมูลเราจะเห็นได้ชัดเจนว่า คะแนนสูงขึ้นทุกปีด้วย กระแสความนิย มจิตวิทยาที่มาแรงในปัจจุบัน เพราะฉะนั้นแนวโน้มของปี 2556 พี่คิดว่าอาจจะสูงขึ้นอีก จึงอยากให้น้องพยายามทาคะแนนให้ไ ด้สู งกว่า คะแนนเฉลี่ย ซึ่งพี่ได้คาดว่า ปี 56 ควรจะต้องได้สัก 21xxx ขึ้นไป ยังไงก็ ติดแน่นอนรับประกั น ส่วนใครที่ทา ได้ 19xxx ก็ขยันๆ อีกนิด แล้วยื่นคะแนนมาดู สู้ๆ นะ ไม่มีใ ครรู้หรอกว่านัก ศึก ษาจิตวิทยารุ่นต่อ ๆ ไป อาจ เป็นคนที่กาลังถือหนังสือเล่มนี้อยู่ก็ได้! ที่จริงพี่อยากเล่าอะไรมากกว่านี้ให้ฟังเยอะเลย แต่ว่าหน้ากระดาษเพียงเท่านี้คงไม่พอ เอาเป็นว่าใครมีอะไรสงสัยก็มาพูดคุยทักทายได้ที่ทวิตเตอร์ @folkswaken ถ้าวันใดที่น้องได้เรียนที่นี่แล้วก็อย่าลืมมาทักทายพี่นะ หวังอย่างยิ่งว่าเราจะเจอกัน ในคณะครับ ขอให้โชคดี
คาขอบคุณ
SPECIAL THANKS from JUBJIT 2nd TERM ประธานค่าย
โฟนลิ้งค์ 3
โดยส่วนตั วแล้วไม่เคยคิ ดว่า การจะทาสิ่ งที่ยิ่งใหญ่ให้สาเร็จได้นั้นเราสามารถทาได้ด้วยตัวคนเดี ยว เพราะสิ่ งที่ ยิ่งใหญ่มันต้ องอาศั ยคนหลายคนช่วยกันทา ขอบคุณที่ ทุกคนช่ วยกันสร้างค่ายนี้ขึ้นมา ไม่รู้ว่าเพราะอะไรทุกคนถึ งมาช่วยกัน แต่ผลโดยรวมแล้วก็ขอขอบคุณทุกคนมากจริงๆ ขอบคุณอาจารย์ ทุกท่านสาหรั บการช่วยเหลือทุก อย่างรวมถึงคาปรึกษาดีๆสาหรับการจัดค่า ย ขอบคุณฝ่ายพี่เลี้ยง สาหรั บการช่วยดูแลน้องๆในแต่ละไลน์ ขอบคุณเฮดพี่เลี้ยง สาหรับการควบคุม พี่เลี้ยงอีกที ขอบคุณฝ่ายกิจกรรม สาหรั บกิจกรรมดีๆ ที่ คิดขึ้นมา อย่างเมามัน ขอบคุณฝ่ายสถานที่ ที่ร่ วมไฟต์หาสถานที่ จัดค่ายอย่างยากลาบาก ขอบคุณฝ่ายซีเ คียว ที่ ยอมอดนอนเฝ้า ของให้ ขอบคุณฝ่ายสวัสดิการ สาหรับอาหารที่มี อาหารให้กินจนอ้วน ขอบคุณฝ่ายอุปกรณ์ สาหรับสิ่ งของทุกอย่างในค่า ย และความสามารถในการทาตั วเป็นโดราเอม่ อน ขอบคุณฝ่ายสปอนเซอร์(หาทุน) สาหรับขนม สมุ ด และเงินสนับสนุนค่า ย ขอบคุณฝ่ายเหรัญญิก ที่ขยันเก็บเงินตลอด 24 ชั่วโมง และการทาบัญ ชีขั้นเทพ ขอบคุณฝ่าย PRและเทคนิค ที่ ปีนี้น้องสมัครเยอะจริงๆ กั บคลิปเปิด -ปิดค่ายงามๆ ขอบคุณฝ่ายทะเบี ยน ที่ คอยไปแบกใบสมั ครน้องมาให้ ขอบคุณฝ่ายพิ ธีการ สาหรับบทพู ดเปิดและปิ ด กับใบประกาศนียบั ตรสวยๆ ขอบคุณฝ่ายวิ ชาการ สาหรั บฐานที่ อัดแน่นไปด้วยความรู้ ขอบคุณฝ่ายพยาบาล สาหรั บกระเป๋ายาเคลื่อนที่ ขอบคุณเกสท์ ทุกคนที่มาช่วยงานค่า ยจั บจิตในครั้งนี้ ขอบคุณพี่ บัณฑิ ตที่แวะเวียนกลับมาเยี่ยมกัน และขอขอบคุณน้องๆทุก คน (ทั้ งที่เ ข้า ค่ายและส่งใบสมั ครมา) ที่เป็นแรงบัน ดาลใจในการทาค่ายครั้งนี้และครั้งต่อๆไป ขอบคุณจากใจ ที่ ทุก คนยังคอยช่วยเหลือกัน มีความสุขด้ วยกัน ขอบคุ ณที่ ทุกคน….ยังอยู่ ด้วยกัน
เหรัญญิก
ปุม้ 3 สมาชิก : บี 3 / ดา เบล 2 ค่ายจั บจิ ต ดาเนินมาถึงปี ที่ 2 แล้ว (ว้าววว รู้ สึกว่าแก่ไปอีก 1 ปี) นับว่า ประสบความสาเร็จมากๆ เพราะมีน้องๆให้ ความสนใจสมั ครเข้ามาอย่างมากมาย ฝ่ายเหรัญญิกก็เป็นฝ่ายเล็กๆ ฝ่ายหนึ่งที่สาคัญและทางานหนักแต่ไม่ค่อยเห็นหน้าเห็นตาสักเท่าไหร่ (เพราะมัวแต่นั่งนับเงิน เก็ บเงินอยู่นั่นเอง) พวกเราต้องมี ความละเอี ยดรอบคอบในเรื่องของเงินมากๆ หายไป 1 บาทเนี่ย เรื่ องใหญ่!! :) อย่างแรกต้ องขอขอบคุ ณคณะอาจารย์ ทุกท่านที่ให้โ อกาส และคาแนะนาต่างๆ ให้พวกเราได้ ทา ‘ค่ายจับจิ ต’ ออกมาอย่างมี ประสิ ทธิ ภาพ ขอบคุณประธานค่า ย ‘โฟนลิ้งค์ ’ เป็นผู้นา ผู้ ประสานงานที่ ดีมาก ถ้าไม่มีคนนี้ต้องบอกได้เลยว่า คงไม่มีค่า ยจั บจิต ขอบคุณเฮดทุกฝ่า ย ทาหน้าที่ของตัวเองได้ ดีจริงๆ ทุก คนตั้ งใจทางาน ไม่มีบ่น ขอบคุณบี ทาหน้าที่เหรัญญิกมาด้วยกัน ช่วยเหลือทุกอย่าง ให้กาลังใจยามท้อ ขอบคุณน้องดา น้องเบล ว่า ที่เหรัญญิกปี ถัดไป พี่ดีใจจังที่มี คนสานงานนี้ต่อไป ขอบคุณทุกคน ทุกฝ่า ย ใครก็ตามที่มีส่วนทาให้เกิดค่ายจั บจิ ตครั้งที่ 2 สุดท้าย ขอบคุ ณน้องๆ ค่ายทุกคนค่ะ
ทะเบียน
เร 3 สมาชิก : โบว์ เนย 3 ปีที่ 2 แล้วกับค่ายจั บจิ ต และการเป็นฝ่ายทะเบี ยน อาจดูเ ป็นคนอยู่เบื้ องหลังเพราะไม่ ค่อยได้ ออกสื่ อ แต่ก็ขอบคุ ณที่ ทาให้เราได้เป็นจิ๊กเซอร์ ตัวหนึ่งที่ ช่วยต่ อเติมภาพของค่ายนี้ให้สมบูร ณ์ ขอบคุณเพื่ อนๆ ในฝ่าย โบว์กะเนย ที่ อดทนแบกซองจดหมายนั บพันมาด้วยกัน ขอบคุณรถเบนซ์คันงามที่มารั บเราถึงหน้าไปรษณีย์ และช่วยขนซองจดหมาย ถึงแม้จะไปส่ งผิ ดหอก็ ตาม 555+ (ขอบคุ ณเบนซ์จ้า) ขอบคุณพี่ๆ ไปรษณีย์ที่คอยเช็ คจดหมายให้เราและเกือบให้ยืมรถเข็นขนซองกลับหอ ที่สาคัญให้เราค้นจดหมายที่ปนมาไปคืนจากกองจดหมายนับร้ อย สุดท้ายขอบคุ ณ โฟนลิ๊งค์ ประธานค่ายผู้ใจดี เพื่ อนตี้ และทุกๆคนที่ ทาให้มีค่ายนี้ รักเพื่ อนๆ & ค่ายจั บจิ ตจ้า ^^
พิธกี าร
เนม 3 สมาชิก : ปาล์ม 3 / ปัน้ เบลล์ มิน้ ท์ 2 ขอขอบพระคุณอาจารย์บุรชัย อัศวทวีบุญ ที่เป็นธุระในการจัดหาสายสิญจน์มาให้นะคะ กราบขอบพระคุณค่าา _/\_ ขอขอบคุณเพื่อนๆ และน้องๆทุกคน ที่ช่วยกันทางานจนสาเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี ถึ งแม้ ว่า ฝ่ า ยเราจะมี คนอยู่ เ พี ยงหยิ บมื อก็ ตาม :D แต่ ทุก คนก็ ช่วยกั น อย่างเต็มที่ คอยมาถามเราตลอดว่ามีงานอะไรให้ช่วยบ้าง เราก็ตอบว่ายังไม่มีอะไรตลอดดด ขอโทษด้วยที่เราเป็นเฮดที่ไม่ค่อยจะรู้เรื่องรู้ราวอะไรเท่าไหร่ #ฮา ที่ขาดไม่ได้เลยคือโฟนลิ้งค์ ขอบคุณมากๆ สาหรับความไว้ใจให้เรามารับหน้าที่นี้นะจ๊ะ เราก็ไม่รู้ว่าอะไรเข้าฝันโฟนลิ้งค์อ่ะนะ ไม่แน่ใจด้ วยว่ า เรามาช่ วยหรื อ มาทาให้เหนื่อยขึ้นกันแน่ 555 ขอบคุณที่คอยช่วยเหลือเราตลอด ถ้าไม่ได้โฟนลิ้งค์เราอาจจะทางานไม่สาเร็จเลย เพราะเราไม่รู้เรื่องอะไรจริงๆ แหละ = =” ขอบคุณพี่วุฒิสาหรับข้อมูลทั้งหมดของปีที่แล้ว ทาให้เราก๊อปวางได้อย่างง่ายดาย โดยไม่ต้องประยุกต์อะไรให้ปวดหัว 55555 ขอบคุณพันครั้งเลยจ้าาา ขอบคุณเพื่อนๆทุกคนในเอกนะคะ ที่ยอมทนเหนื่อย ทนลาบาก และอีกสารพัด เพื่อให้ค่ายจับจิ ตครั้ งนี้ ประสบความสาเร็ จ ไปได้ ด้วยดี น้ า เย้ ๆ ๆ ทุ ก คน เก่งมากๆ เยี่ยมยอดสุดๆไปเลย ปรบมือๆ ปีหน้าพบกันใหม่น้าทุกคน รักจับจิ ต <3
วิชาการ
วุฒ ิ 3 สมาชิก : แบลค รส 4 ค่ายจับจิต ครั้งนี้ก็เป็นครั้งที่ 2 แล้ว ครั้งแรกได้เป็นหัวหน้าฝ่ายพิธีการ ปีนี้ ครั้งที่ 2 เปลี่ยนจากการเป็ น หั วหน้ า ฝ่ า ยพิ ธีก าร มาเป็ น ฝ่ า ยวิ ชาการ นั บว่ า เป็นงานที่ยากมาก เพราะไม่เคยจับมาก่อน มันเป็นเรื่องยากที่จะทากิจกรรมที่เป็นแนววิชาการและทาให้น้องๆ รู้สึกสนุกกั บกิ จ กรรม ทาให้ กิ จ กรรมมั น ไม่ น่ า เบื่อ และที่สาคัญคือทาให้น้องๆได้รับประโยชน์กลับไปมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ที่สาคัญที่สุดเลยคือ ต้องขอขอบคุณ อาจารย์บุรชัย อัศวทวีบุญ ผู้เป็นทั้งอาจารย์และพี่ ที่ได้เป็นที่ปรึกษา ให้คาแนะน าในการจั ดกิ จ กรรมวิ ชาการค่ า ยจั บ จิต ครั้งที่ 2 ในครั้งนี้ ซึ่งแต่ละกิจกรรมนั้นเต็มไปด้วยความรู้ทางด้านจิตวิทยา และจะเป็นประโยชน์ให้กับน้องๆ ที่มาร่วมกิจ กรรมเป็ น อย่ า งมาก นอกจากนี้ ยัง แฝงไปด้วยความสนุกสนานอีกด้วย สุดท้ายนี้ก็อยากจะขอบคุณโชคชะตาที่ทาให้ได้มาเป็นส่วนหนึ่ งของจิ ตวิ ทยา ธรรมศาสตร์ ได้ ม ารู้ จั ก เพื่ อนๆ พี่ ๆ น้ องๆ ทุ ก คน อาจารย์ แ ล ะสุ ดท้ า ย ขอบคุณที่ทาให้เราได้มาเจอกันในค่ายจับจิตแห่งนี้ <3<3<3
สวัสดิการ
บอล 3 สมาชิก : แจน พิซซ่า เก่ง เพง แนน เติล้ เมย์ จิ๊กกี๋ 3 / ชมพู่ ปิน่ เมย์ 2 ฮัลโหลๆ ค่ายจับจิ ตครั้งที่ สอง ก่อนอื่นต้ องขอสวัสดีน้องที่น่ารักทุกคนที่เ ป็นผู้โชคดี ที่ได้มาเข้า ค่ายครั้งนี้นะครั บ สาหรับฝ่า ยสวัสดิการของเราก็เป็น อะไรที่ ง่ายๆ สบายๆ ชิลๆ มีหน้าที่ดูแลเรื่องอาหารการกินของสมาชิกค่ายทุก คน อิ อิ ขอย้ อนกลับไปเมื่ อปี ที่แล้วนิดนึงนะครับ สาหรับปี ที่แล้วต้องขอบคุ ณเพื่ อนลิงแจน และเพื่อนพิซซ่าเป็นอย่างสู งที่ ทางานกันเป็นทีม ที่อย่างสมบูร ณ์แบบ (จริงหรอ ฮาฮา) แล้วก็ขอบคุ ณน้องๆ ในฝ่ายสวั สดิการที่น่ารักทุกคนที่ ทาหน้าของตั วเองได้อย่างเต็มที่แล้วก็ ขอบคุณเอี้ยค่าย (แก๊งผู้หญิงอันตราย) ที่ช่วยทาให้ช่วงเวลาว่างมี สีสันมากขึ้น และที่จะไม่ขอบคุณไม่ได้ เลยคื อสมาชิกค่า ยกินอาหารกัน อย่างเอร็ ดอร่อยมีเบิ้ล ด้วยขอบคุ ณมากครั บ สุดท้ายขอมอบเพลงนี้ให้น้องค่า ยทุกๆ คน... 3 2 1 “ขอบคุณ ขอบคุณ ขอบคุ ณ ขอบคุณที่ ตั้งใจมาค่ายมาค่าย พี่ๆไม่มี อะไร พี่ๆไม่มี อะไรมีแต่น้าใจขอบคุณ ” ^_-
กิจกรรม
โจโจ้ 3 สมาชิก : เบนซ์ นิดหนึ่ง เจย์ เบน โดม เจ 3 / ก็อด แพรวา เมเปิล้ เก้า(ช) โบว์ เก้า(ญ) แพน แจน อิฟ๊ บีม พลอย 2 / สมาชิก : เอ๊บ ภูมิ ขวัญ แพร ปอเปีย๊ ะ ไนล์ 1 ไม่มีครั้งที่ 1 ย่อมไม่มี ครั้งที่ 2 กิจกรรมต่างๆ ที่รังสรรค์มานั้น ได้ผ่านการกลั่นกรองจากมันสมองของทุกๆ คนอย่างเต็ม ที่ มี ทั้งโหด มัน ฮา ปะปนกันไป ไม่มีอะไรได้มาง่ายๆ และไม่มีอะไรที่ สมบูร ณ์แบบไปเสียทุก อย่าง เพียงหวังว่าการที่ฝ่ายกิจกรรมได้สรรหาแล้วผสมผสาน สร้างสิ่งต่างๆ ขึ้ นมาเพื่อให้ ค่ายของ เราประสบความสาเร็จ ไม่ ว่าจะด้านนันทนาการ วิชาการ อยากให้น้องๆ เพื่ อนๆ พี่ๆ ทุกคนมี ความสุขและได้ประโยชน์จากการจั ด ค่ายในครั้งนี้ไม่มากก็น้อย ขอขอบคุณผู้มี อุปการคุณทุกท่านที่กรุณาให้คาแนะนา ติ ชม และช่วยพัฒนากิจกรรมให้เหมาะสม ขอบคุณน้องๆ ในฝ่ายที่ อดทน แข็ งขันทางานจนไม่ลืมหูลืมตา ยิ่งกว่า สิ่งใด ขอบคุณน้าใจและไมตรีที่ดีจากผู้ ประสงค์ ดีทุกๆ ท่าน ขอบคุณน้องๆ ที่มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของค่าย ขอบคุณเพื่ อนๆ และอาจารย์ ทุกคน ขอบคุณที่มีกาลังใจและอยู่ต่อไป ขอบคุณที่ไ ด้ ทางานฝ่ายกิจกรรม รักจากใจ ใส่ใจพัฒนา โจโจ้ และคณะ
พัสดุ อุปกรณ์
วาว 3 สมาชิก : โซ่ โจ๋เ จ๋ ปูเป้ ชา เปรียว ไอซ์ ยุ้ย มอส 3 / ทราย เดียร์ เกด 2 / ตู่ ปาล์มมี่ เนย เนย์ 1 ว๊าวววค่ายจับจิตครั้ งที่ 2 แล้ว (แสดงว่าเราก็แก่ขึ้นอีกปีหน่ะสิ ><) ฝ่ายอุ ปกรณ์ก็ยังคงเหนียวแน่นซึ่งเต็มไปด้วยสมาชิกหน้าเดิมๆ ที่ ยังช่วยเหลือกัน อย่างแข็ งขัน ต้องขอบคุ ณสมาชิกฝ่ายอุ ปกรณ์และสวัสดิการ ที่ต่า งฝ่ายต่า งช่วยเหลือกัน ไม่ว่าการตระเวนซื้ อของ ต่อราคาแม่ค้า แบกของเตรียมการ และอีก มากมาย ขอขอบคุณทุกๆ ฝ่าย ทุกๆ คน ที่ทุ่มเทแรงกายแรงใจ ยอมเหน็ดเหนื่อยไปพร้อมๆ กัน ไม่ว่าจะ ความสนุกสนาน ความรู้ มิตรภาพ อุ ปสรรค การไม่เข้าใจกัน แต่สุดท้ายก็ลงเอยที่ อยากทาสิ่ งที่ ดีที่สุดเพื่ อค่าย เพื่อน้ องๆ ขอขอบคุณอาจารย์ บุ ที่ คอยหางบประมาณเพื่ อแบ่งเบาค่าใช้จ่า ยสาหรับอุ ปกรณ์ ขอขอบคุณค่ายจับจิ ตที่ ทาให้เกิดกรรมแนะแนวดีๆ แบบนี้ขึ้นมา และขอขอบคุณน้องๆ ทุกคนที่สมั ครเข้ามา ขอบคุ ณความกล้าที่ ทาให้น้องเลือกที่ จะมาค่ายจับจิ ต
พยาบาล
ตูน 3 สมาชิก : เจิง้ 5 / เอิรธ์ มัชชี่ 4 / แอน 3 / อรัน พลอย 2 ค่ายจั บจิ ตครั้งที่ 2 กับการทาหน้าที่ฝ่ายพยาบาลครั้ งที่ 2 เช่นกัน ค่ายครั้งที่ 2 นี้ รู้สึกกดดันกว่าการทาหน้าที่ในฝ่ายพยาบาลครั้ งแรก เพราะมาจาก ความคิ ดที่ ว่าต้ องทาให้ ดีกว่าเดิม ข้ อผิ ดพลาดจากครั้ งที่แล้วนามาเป็นบทเรียน เพื่ อเรียนรู้และแก้ไขให้ดีขึ้น เพื่อให้น้องๆ ที่มาค่า ยได้รั บประโยชน์มากที่สุด ขอบคุณ สมาชิกในฝ่ายทุก คนที่ร่วมมื อ ช่วยกันทางานอย่า งเต็ม ที่ ขอบคุณ เพื่ อนที่ ดีอย่าง ‘แอน’ ที่ช่วยคิ ด ช่วยแก้ปัญหา ช่วยเตรียมของ และให้คาปรึกษา ขอบคุณ ‘น้องอรัน ’ และ ‘น้องพลอย’ ที่ ตั้งใจทางาน ทางานตามที่ไ ด้รั บมอบหมายได้เ ป็นอย่างดี ขอบคุ ณ ‘บอนน์’ (ปี 3) ที่ให้ คาแนะนาและช่วยหา รายชื่อยาที่จาเป็น ต้องมีมาให้ ขอบคุณ ‘โฟนลิ้งค์’ ประธานค่าย ที่ ช่วยแนะนาเรื่องงานต่างๆ สุดท้ายก็ ต้องขอบคุ ณอาจารย์ เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ในเอกจิ ตวิ ทยาและน้องๆ ที่มาค่าย ที่ร่วมกันสร้างค่ายจั บจิ ตนี้ขึ้นมา ให้ทุก คนได้มาเจอกัน มี ประสบการณ์ ที่ดี และมีช่วงเวลาดีๆ ร่ วมกัน
หาทุน
ตี้ 3 สมาชิก : ออม จ๋า นัท 3 / ผิงผิง เบส เติล้ 2 เป็นค่ายจับจิ ตครั้งที่ 2 แล้ว งานครั้งที่แล้วก็ทางานสปอนเซอร์เหมือนกัน งานนี้เป็นงานที่ทาก่อนที่ จะวันค่าย และหลังจากวันค่าย เท่ากับว่าในวัน ค่ายจริงๆฝ่ายนี้ไม่มีงานทานั่นเอง ส่ วนใหญ่ก็จะไป ตระเวนช่ วยฝ่า ยอื่นๆ มากกว่า ก่อนอื่นเลยก็ต้องขอขอบคุ ณค่ายจั บจิ ต ที่ ทาให้เกิดกิจกรรมดีๆ ต่างๆ เหล่านี้ขึ้นมา ขอบคุณคนในฝ่ายทุกๆ คนที่ช่วยกันทางาน ไม่ว่าจะทาอะไรทุกๆคนสาคัญที่ สุด ขอขอบคุณบริษ ัททุกๆ บริษ ัทที่ให้การสนับสนุน ไม่ว่าจะให้มาก ให้น้อย เรายินดีเ สมอ ขอขอบคุณเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ทุก คน อาจารย์ทุกๆ ท่าน ที่ช่วยกันจัดกิจกรรมค่ายจั บจิ ตนี้ขึ้นมา สุดท้าย ขอขอบคุ ณน้องค่า ยทุก คนที่ร่ วมกันเขียนหน้าประวัติศาสตร์ อีกหน้าหนึ่ง ของค่ายจั บจิ ต แห่งภาควิ ชาจิ ตวิ ทยา คณะศิล ปศาสตร์ มหาวิ ทยาลัยธรรมศาสตร์ของเราครั บ ^^
สถานที่
จ๋า & เตย 3 สมาชิก : มิน้ ท์ น้้า บู้ เฟิรส์ ทิพ ย์ ยี่ อ้อม พัช พาย 3 / ปู นัด ทน อ๋อง ตั้ม กอล์ฟ มาร์ช 2 / สมาชิก : ข้าวปุน้ นัท นก ฟ้า เบส คูณ บอส แนต นิว แจม แตงโม โดนัท ปลา ปุย้ 1 ‘น้องจะพักที่ไหนดี หาที่ ทากิจกรรมด้วยนะ อย่าลืมที่แสดงละครล่ะ เครื่ องเสียงไม่มีหาให้หน่อย แล้วก็ ...’ นี่เป็นเสียงที่ ตามหลอกหลอนฝ่ายเราอยู่ บ่อยๆ จากประธานค่ายตัวอ้วนกลมที่เรียกตัวเองว่า ‘โฟนลิ้ง’ หากคนนี้ไม่คอยกระตุ้นฝ่ายเราคงลาบาก รวมถึงคาปรึกษาและความช่วยเหลือจาก อาจารย์เกียรติ ศัก ดิ์ อาจารย์ บุรชั ย อาจารย์ ชมพู่ พี่ ปานแก้ว เพื่อนตี้ และเจ้าหน้าที่ทุกคนที่ ช่วยให้งานดาเนิน ไปได้ด้วยดี แต่กาลังสาคัญ ที่ขาดไม่ไ ด้ก็เพราะความร่วมมื อจากเพื่ อนๆ น้องๆ ในฝ่า ยทุก คน ขอบคุ ณมากค่ะ ฝ่ายเราได้ร่วมกิจกรรมกับน้องๆ ค่อนข้า งน้อย ในระหว่างวันช่วงที่ ทากิจกรรมพวกพี่ๆ ก็ คอยดูแลความสะดวกเรื่ องสถานที่ ส่วนกลางคืนเมื่อทุกคนหลับ พวกเราก็คอยเฝ้า ดู ความปลอดภั ยให้อยู่ห่างๆ แต่ ทุกคนก็ทาด้วยความเต็ม ใจ หวั งให้ทุกคนที่มาค่า ยสนุก ประทั บใจและปลอดภั ย ท้ายที่สุดขอขอบคุณเพื่อนๆ และน้องๆ ทุกคนที่ ไว้ใจให้ ดูแลหน้าที่นี้ถึงสองครั้งด้ วยกัน หากมีอะไรที่ไม่ ดีหรือพลาดไปก็อภัยให้กันด้ วยนะคะ
พีเ่ ลีย้ ง
มะเหมี่ยว & น้้า 3 สมาชิก : ฟิวส์ อิงค์ ดา โบว์ ยุ่ง 2 / ออม เมฆ จอย มะแพรว หนูด ี กี้ พี น้้าหวาน แตง ปอนด์ นุน่ ตาว จา นิว วิป จ๋า สมาชิก : ปันปัน บูม ลูกศร สร หมู เจ แอร์ เนส พริม 1 2 ปี ที่แล้ว ณ ร้านข้าวมันไก่แห่งหนึ่ง… โฟนลิ้งค์ : เออ เอกเรา ในวงการจิ ตวิ ทยาก็ออกจะมีชื่อ มี คุณภาพนะ แต่เ ปิ ดมาจะห้าสิ บปีแล้วทาไมไม่มีคนนอกรู้จักเท่าไหร่เลย สมัย ม.ปลายนี่ไม่เ คยได้ยินเลย น่าจะทาค่ายเนอะ เผื่ อน้องๆที่เ ขาสนใจจะได้รู้ว่าเอกเรามีอะไรมั่ ง เอามะๆ เพื่อนๆ : เออ อ อ คิ ดเหมือนกัน เลย เอาดิๆ เราก็อยากทา เอาเลยๆ จุดเริ่ม ต้นง่ายๆ แต่มาจากใจของพวกเราทุกคน ขอบคุณเพื่อนๆ เอกจิ ตทุก คนที่ยังอยู่ ด้วยกัน ดูแลกันและกัน ไม่ไปไหนและขอบคุณสาหรับความตั้งใจ และช่วยกันพยายามให้พวกเรา… “จิตวิ ทยา ศิลปศาสตร์ ธรรมศาสตร์ ” เป็นที่รู้จักมากขึ้น ขอบคุณพี่เลี้ยงปี สองฟิวส์ อิงค์ ดา โบว์ ยุ่ง ที่เหนื่อยด้วยกันมาตลอด ถึ งเฮดปีสามจะพู ดไม่ ค่อยรู้เรื่ องแต่ก็ ขอบคุณที่เ ข้าใจและคอยช่วยเหลือกันมานะ >3< ขอบคุณพี่เลี้ยงปีหนึ่ง สาหรับความตั้งใจที่ จะดูแลน้องๆม.ปลายให้เ ป็นอย่างดี เชื่ อเถอะว่า ถ้าเราทามัน ด้วยใจ ทุกคนที่มีหัวใจก็ต้องสัมผั สมันได้แน่นอน <3 ขอบคุณประธานค่า ย ขอบคุณมากนะโฟนลิ้งค์สาหรับความตั้ งใจในทุกๆอย่างเพื่ อให้ ค่ายของเราประสบความสาเร็จมากที่ สุด เป็นประธานที่ สุดยอดมาก ความพยายามของแกต้ องได้ ผลอย่างแน่นอน ><d ขอบคุณฝ่ายอื่นๆ ที่ คอยสนับสนุนและช่วยกันทาให้ค่ายนี้ดียิ่งๆขึ้นไป (เหนื่อยไหม นวดให้ นวดๆ 0^ ^0) ขอบคุณอาจารย์ในภาควิชาจิ ตวิ ทยาที่ คอยดูแลให้คาปรึกษาแก่ Staff ในค่ายด้ วยนะคะ ^/\^ ขอบคุณผู้ปกครองของน้ องม.ปลายทุก คนสาหรับความไว้ใจและคาอนุญาตให้น้องๆได้มาร่ วมกิจกรรมในครั้งนี้ ไม่ ต้องห่วงค่ะ พวกเราจะดูแลน้องๆให้ดี ที่สุดเลย :) และที่สาคัญขอบคุ ณน้องม.ปลายทุกคน น้องคือส่วนสาคัญ ที่สุดของที่นี่ ขอบคุณที่ให้ ความสนใจและตัดสินใจมาเป็นส่ วนหนึ่งของค่ายเล็กๆค่า ยนี้ หวังว่า พวกเราคงได้ อะไรหลายๆ อย่างกลับไป ไม่ ว่าจะความรู้ ทางวิ ชาการ ความรู้ในการใช้ชีวิต ความสนุกสนาน ฯ แต่สิ่ งหนึ่งที่พี่อยากจะให้มากๆ ก็คือ อยากให้รู้ไว้ ว่าทุกสิ่ งที่พี่ ให้ พี่อยากทาให้น้องจั บจิ ต น้ องค่ายที่พี่ คิดว่าพี่รักจั บใจ ขอบคุณนะคะทุก คน ;D
ประชาสัมพันธ์ และ โสตทัศนศึกษา
โฟล์ค 3 สมาชิก : นนท์ 4 / แม็กซ์ เจแปน 3 / เม่เ ม้ ฟ้า 2 / ปุย๋ 1 “ไม่มีอะไรยากเกินกว่าจะทาได้” คือประโยคที่ผมบอกกับทีมเสมอ เวลาที่เราท้อ ไปต่อไม่ไหว หรือตอนที่ เ ราถอดใจ เพี ยงเพราะความคิ ดว่ า เราทาไม่ ไ ด้ แน่นอนว่า คิด-ง่ายกว่าพูด และ พูด-ง่ายกว่าทา! พอได้เริ่มต้นลงมือทาผลงานอะไรสักชิ้น ต้องเจอกับอุปสรรคต่างๆ เป็นเรื่องธรรมดา ไม่ ว่า จะเป็ น ตอนที่ เ ราไป หาข้อมูลประวัติภาควิชา ออกแบบโปสเตอร์ อัพเดทแฟนเพจ ประชาสัมพันธ์ตามเว็ บบอร์ ด จั ดทาเว็ บไซต์ ถ่ า ยที เ ซอร์ ตั ดต่ อ VTR ดี ไ ซน์ ป้า ยชื่ อ วาดลายเสื้ อ คุมระบบเสียง เปิดฉายสไลด์ รวมถึงหนังสือเล่มเล็กๆ ที่คุณกาลังอ่านอยู่ในมือตอนนี้ เรียกได้ว่าสารพัดงานที่เราได้ทาจริ งๆ จนกล้ า ที่ จ ะพู ดเลยว่ า ไม่ มี งานใดที่ เราทาไปแล้วไม่พบปัญหา และก็ไม่มีงานใดที่เราทาไม่สาเร็จ! ^ ^ สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นผลงานที่ผมและสมาชิ ก ร่ วมที ม ทุ ก คนใช้ ความตั้ งใจและความพยายาม ถามว่าพวกเราเหนื่อยกันแค่ไหน ขอตอบเลยครับ ว่าแทบจะไม่มีเวลาส่ วนตัว และถ้าคุณถามต่อไปอี ก ว่ า ทั้ งหมดที่ ทาไปนี้ เ พื่ ออะไรกั น ? ผมยิ น ดี ตอบออกมา จากใจจริงๆ เลยครับว่า เพื่อน้องค่ายทุกๆ คน . . . กว่าจะเป็นผลงานที่เห็นอยู่นี้ ไม่ได้มีแค่ผมคนเดียวที่ทาให้ผลงานต่างๆ เป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาได้ มีบุคคลมากมายที่ คอยให้ ความช่ วยเหลื อผมอยู่ ข้า งหลั ง อันดับแรกที่ต้องขอบคุณ คือ สมาชิกในฝ่าย ได้แก่ พี่นนท์ แม็กซ์ น้องเม่เม้ น้องฟ้า และน้องปุ๋ ย รู้ สึก ดี ใ จมากจริ งๆ ที่ ไ ด้ ร่ วมงานนี้ กั บทุ ก คน ขอบคุ ณที่ ยังอยู่ ด้วยกันเสมอ ให้กาลังใจและฝ่าฟันอุปสรรคไปด้ วยกั น ตลอด, ขอบคุ ณ โฟนลิ้ งค์ ประธานค่ า ยผู้ ที่ม อบโอกาสให้ ผมได้ เ ป็ น หั วหน้ า ฝ่ า ย PR&AV เป็ น ปี ที่ 2 ขอบคุณที่มองเห็นศักยภาพในตัวผม และให้ความไว้วางใจในการดาเนินงาน, ขอบคุณน้า ที่สละเวลามาช่วยออกแบบโปสเตอร์ ใ ห้ , ขอบคุ ณพิ ซซ่ า หั วเรื อหลั ก ในการผลิตหนังสือเล่มเล็กๆ แต่ยิ่งใหญ่เล่มนี้ ที่ชื่อว่า PSYBOOK และดีไซน์ป้ายชื่อค่ายครั้งนี้ ขอบคุณที่สุดสาหรับครอบครัวจิตวิทยา ม.ธรรมศาสตร์ อันอบอุ่น ที่ยังเป็นแรงผลักดันที่ดีให้ผมตลอดมา และทุกคนก็ยังเป็นกาลังใจให้จนถึงวันนี้ ขอบคุณอาจารย์ ตลอดจนเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ที่น่ารักทุกคน ที่คอยช่วยเหลือ (และขอความช่วยเหลือ) ทาให้รู้ว่ามิตรภาพดีๆคืออะไร ขอบคุณน้องค่ายที่ก้าวเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในไทม์ไลน์ของค่ายจับจิต น้องคือความทรงจาดีดี ที่ พี่ ดูกี่ ทีก็ มี ความสุ ข แปลกไหมล่ ะ คนเรารั ก กั น ทั้ งที่ ยังไม่ เคยเห็นหน้ากันมาก่อน สารภาพเลยว่ารักเขาเมื่อแรกเห็นแค่เพียง “ชื่อ” ที่ประกาศหราอยู่บนหน้าเว็บไซต์จับจิตแคมป์ ตั้งแต่ 11 กันยายน (เขินจัง ฮ่าๆๆ) ทุกสิ่งทุกอย่างเกี่ยวกับค่ายจิบจิตครั้งนี้ที่ได้ผ่านเข้ามาล้วนเป็ น ประสบการณ์ ที่มี คุณค่ า สาหรั บอนาคต เป็ น ทั้ งข้ อคิ ด และสิ่ งคอยย้ า เตื อนใจ ไม่ ใ ห้ ทา ผิดพลาดอีก ขอบคุณตัวผมเองที่สามารถเอาชนะใจตัวเองได้ และทาหน้าที่จนจบลงด้วยดี ขอบคุณที่ผมได้ทาสิ่งที่ดีๆ ได้ใช้โอกาสทาในสิ่งที่ชอบครับ สุดท้ายคุณเคยคิดกันไหมว่าอะไรที่ทาให้คนเราได้มาเจอกัน ท่ามกลางคนเป็นล้าน มันอาจเป็นเรื่องมหัศจรรย์ ขอบคุณ “เรื่องมหัศจรรย์เหล่านี้” ที่จะยังคงอยู่ในใจของผมและทุกคนตลอดไป ขอบคุณครับ
PSYBOOK
พิซซ่า 3
ขอบพระคุณ ‘อ.บุร ชัย อั ศวทวีบุญ ’ และ ‘อ.พั ฒนกิจ ชอบทากิจ ’ สาหรับคาปรึกษาตลอดการจัดทา ขอบคุ ณครั บ ขอบคุณ ‘โฟนลิ้งค์ 46’ สาหรับโอกาสอันมี ค่านี้ ที่ วางใจ ให้รั บผิ ดชอบในการทา PSYBOOK ขอบคุณ ‘Head Team 46’ ปุ้ม เร เนม วุฒิ บอล โจโจ้ วาว ตูน ตี้ จ๋า เตย มะเหมี่ยว น้า โฟล์ค สาหรับทุก ความร่วมมื อ และความช่วยเหลือที่มีให้เสมอ ขอบคุณ ‘เก่ง เก่ง 46’ สาหรับงานเขียนที่ใ ช้เพียงตั วอักษรสร้างแรงบัน ดาลใจให้กับใครหลายๆ คน ขอบคุณ ‘ผ้าเตี่ยว 46’ สาหรั บการสนับสนุนจัดพิมพ์ PSYBOOK ขอบคุณ ‘โดม 46’ และ ‘ปุ้ย 48’ ฝ่ายพิ สูจน์อักษรที่ทางานถึ งโค้ งสุ ดท้าย ขอบคุณ เพื่ อนๆ ‘รุ่น 46’ พี่ๆ ‘รุ่น 49’ และน้องๆ ‘รุ่น 47’ ‘รุ่น 48’ ทุกคน ขอบคุณโอกาสที่ทาให้เราได้มาพบกัน และได้รู้จักกัน ขอบคุ ณทุก ความทรงจา และสุดท้ายขอบคุณน้ องๆ ค่าย 2 ทุกคนที่เป็นแรงผลักดันสาคัญ ที่ ทาให้สร้างสรรค์ PSYBOOK ออกมาสาเร็จได้
ขอขอบพระคุณ
Supported by:
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ THAMMASAT UNIVERSITY
ขอขอบพระคุณผู้ใหญ่ใจดี Sponsored by:
ขอขอบพระคุณผู้ใหญ่ใจดี Sponsored by:
บริ ษทั เอ.พี. กราฟิ คดีไซน์และการพิมพ์ จากัด A.P. GRAPHIC DESIGN & PRINTING CO., LTD. 1/8 ม.4 ต.บางขนุ น อ.บางกรวย จ.นนทบุรี 11130 โทร. 0 2497 6840-3 แฟกซ์. 0 2497 6844
ห้างทองธนาธิป
ครอบครัวกิตติเกษมสวัสดิ์
กว่าจะมาเป็นค่ายจับจิตครั้งที่ 2 “เพราะเรายังอยู่ด้วยกัน” หลังจากที่ค่ายจับจิต ครั้งที่ 1 “เพราะพื้นฐานของชีวิต คือจิตใจ” ได้จัดไป ผ่านไปเพีย งแค่เดือนเศษๆ การประชุมวางแผนค่ายจับจิตครั้งที่ 2 ก็เริ่มขึ้น งานทุกอย่างผ่านไปอย่างราบรื่นดี แต่มันก็ ไ ม่ใ ช่เรื่องง่ายเลย ถึงแม้ทุกอย่างจะผ่านไปอย่างราบรื่นก็ตาม นั้นก็คือการรัก ษาคุณ ภาพของค่าย ให้ค่ายครั้งที่ 2 ต้องมีความรู้ ความสนุก และสิ่งดีๆ ที่น้องจะได้รับไปหลังจากการเข้าค่ายไม่น้อยกว่าค่ายครั้งแรก ด้วยเหตุนี้ทุก ฝ่ายจึงต้อง รับภาระหนักขึ้นจากเดิมอยู่มากพอสมควร แต่แล้วเมื่อทุกอย่างดูเหมือนจะผ่านไปอย่างราบรื่น ก็ เกิ ดเรื่องที่ไ ม่คาดคิดขึ้นเมื่อสถานที่ที่ทางค่ายจับ จิตครั้งที่ 2 ได้จองไว้ ถูกทางมหาวิทยาลัยขอคืนเนื่องจากต้องใช้งานอย่างเร่งด่วน ส่งผลให้ทางค่ายของเราไม่ มีสถานที่ในการจัดค่าย ในช่วงเวลานั้นเหมือนเข้าขั้นวิก ฤตกั นเลยทีเดีย ว สถานที่ใ นมหาวิทยาลัย ถูก ใช้งาน ยาวถึงเดือนธันวาคม แทบไม่มีสถานที่ใดว่างเลย แต่สุดท้ายเหมือนโชคเข้าข้าง มีผู้จัดงานรายหนึ่งขอยกเลิก การใช้ งานสถานที่ ทาให้ ค่า ยจั บจิ ตครั้ งที่ 2 สามารถจัด ได้ แม้ จะต้ องเลื่ อนวัน ไปอีก หนึ่ง สัป ดาห์ก็ ตาม ดูเหมือนว่าค่ายนี้จะต้องพบกับอุปสรรคอยู่ตลอดเวลา แต่ทุก ๆ อุปสรรคเกิ ดขึ้นเพื่อให้เราแก้ ไ ขและก้ าวข้าม ไปได้ในท้ายที่สุด ในปี 2012 นี้ ไม่ว่าเหตุการณ์ใ นอนาคตจะเป็นอย่างไร ค่ายของเราก็ พร้อมที่จะให้น้องๆ ได้มาค้นหา ตัวเอง โดยไม่ต้องกลั วว่าโลกจะแตกหรือไม่ ตราบใดที่ใ นวันนี้เ รายังมีเรื่องราวหลายเรื่องราวให้น่าจดจ า ความสุขของเราเกิดขึ้นได้เสมอ และจะไม่มีวันหายไปตราบใดที่เรา “ยังอยู่ด้วยกัน” รัก… (ค่าย) จับจิต ภาควิชาจิตวิทยา คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ สิงหาคม 2555 L1 FREUD (RED) L2 ADLER (ORANGE) L3 MASLOW (GREEN) L4 SKINNER (PURPLE) L5 WUNDT (BLUE) L6 JUNG (GRAY) L7 PAVLOV (BROWN) L8 BANDURA (YELLOW)
เนย นุก๊ นุย้ ปลาย น้า้ หวาน เฟิรน์ หงส์ อาย ลูกแก้ว ใบเฟิรน์ เปเป้ ไอซ์ ฟลุค๊ เดียร์ มาย บี มุก ปลาย น้า้ ฝน แตน แพร นีน อิม๋ สนุกเกอร์ ข้าวโอ๊ด บาส ป้อง แบงค์ เพชร รุง้ มิน้ ท์ เบลล์ โบว์ ซิน ป็อป หยงหยง นีม อาย แพร แบงค์ ไอซ์ Blank นุกนิก น็อต มาย มันส์ ฝ้าย ปิงปิง ฟลิน้ ท์ มี่ เร นุน่ พิม โน้ต ตี้ โทนี่ วิปครีม น้า้ นุน่ นุม่ นิม่ แตง นิว ไอซ์ นุก๊ เติล้ ฟ้า ตาล หลิว โอปอ อิง ฟลุก๊ ปิน่ กฤษ นีนี่ พิม มีนา จา กล้วยไข่ ต้อม จู้ น้า้ เต้ย แซน ปุย๋ หิน นิว ยูโร ปาน กี้ กุก๊ กิก๊ ออย เฟริสท์ บี น้องนัญ ครีม เอิง มุก กึง เบ็นซ์ ณัฎฐ์ ต้น จอห์น อู๋ เอก กร เปียว บีม จ๊ะจ๋า ออย ปุม้ เมย์ ณัฐ พิมแก้ว ก๊อก เต้ มาร์ช โชค หญิง WR ARE JUBJIT #2 ขอบคุณที่ “ยังอยูด่ ว้ ยกัน”