2 10 12 16 22 28 47 72 85 92 93 94 95 183 206 207 222
238
ข้อมูลทางการเงินที่สำคัญ สารจากประธานกรรมการ สารจากประธานเจ้าหน้าที่บริหาร วิสัยทัศน์ของพันธมิตรของเรา...สโกเทียแบงก์ ภาวะเศรษฐกิจไทยปี 2551 และแนวโน้มปี 2552 คำอธิบายและการวิเคราะห์ฐานะการเงินและผลการดำเนินงาน ลักษณะการประกอบธุรกิจ การบริหารความเสี่ยงและปัจจัยความเสี่ยง กิจกรรมเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อม รายงานความรับผิดชอบของคณะกรรมการต่อรายงานทางการเงิน รายงานคณะกรรมการตรวจสอบ รายงานของผู้สอบบัญชีรับอนุญาต งบการเงินและหมายเหตุประกอบงบการเงิน การกำกับดูแลกิจการ โครงสร้างการกำกับดูแลและบริหารจัดการ คณะกรรมการและผู้บริหารระดับสูง ข้อมูลทั่วไป การลงทุนของธนาคารในบริษัทอื่น ข้อมูลอ้างอิงของธนาคาร โครงสร้างผู้ถือหุ้นรายใหญ่ นโยบายการจ่ายเงินปันผล บริษัทในกลุ่มธนชาต สำนักงานสาขาของธนาคาร รายการระหว่างกัน
วิสัยทัศน์กลุ่มธนชาต
การเป็นกลุ่มธุรกิจที่ให้บริการทางการเงินครบวงจร มุ่งเน้นการสร้างสรรค์ความเป็นเลิศทางด้านการบริการและการพัฒนา ผลิตภัณฑ์ เพื่อที่จะสามารถตอบสนองทุกความต้องการทางการเงินของกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ภายใต้ความร่วมมือและ ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของทุกหน่วยงาน
ความมุ่งมั่นทางกลยุทธ์ 9 ประการ ในการดำเนินธุรกิจปี 2552
1. Meet strategic financial targets การกำหนดเป้าหมายทางการเงินจะต้องเหมาะสมกับภาวะเศรษฐกิจ และการแข่งขันให้การดำเนินธุรกิจสามารถบรรลุ เป้าหมายได้ โดยได้รับความพึงพอใจจากผู้ถือหุ้นและพนักงาน 2. Maintain market leader in Hire Purchase in every location that TBANK has presence ธำรงความเป็นผู้นำด้านการให้เช่าซื้อในทุกพื้นที่และทุกกลุ่มประเภทรถยนต์ที่ธนาคารธนชาตดำเนินธุรกิจ ควบคู่ไปกับ การควบคุมดูแลจำนวนเงินให้สินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ให้อยู่ในจำนวนไม่เกินระดับที่กำหนดไว้ 3. Increase in customer accessibility ขยายการเปิดสาขาให้ธนาคารธนชาตมีสาขาจำนวน 255 สาขา ณ สิ้นปี 2552 ควบคู่กับการบริหารกิจการสาขาให้ม ี ผลการดำเนินงานที่ดียิ่งขึ้น 4. Diversify business loan portfolio ปรับโครงสร้างเงินให้สินเชื่อ (Loan Portfolio) ด้วยการขยายสินเชื่อประเภทอื่นนอกจากสินเชื่อเช่าซื้อ 5. Drastic improvement in cross-selling เพิ่มการขายผลิตภัณฑ์ทางการเงินทั้งหมดภายในกลุ่มธนชาตในรูปแบบ Cross-selling ให้มากขึ้น โดยเน้นการอบรม ความรู้ด้านผลิตภัณฑ์ทางการเงินให้แก่พนักงานการตลาด 6. Increase in non-interest income เพิ่มรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยเป็นสัดส่วนใกล้เคียงกับอุตสาหกรรม 7. Controlling costs and process improvement บริหารจัดการค่าใช้จ่ายให้เกิดประโยชน์สูงสุด พร้อมปรับกระบวนการปฏิบัติงานเพื่อเพิ่มศักยภาพในการทำงานของ พนักงาน ให้สามารถบริการลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น 8. Achieving “Best-in-class” customer servicing ยกระดับการบริการสาขาสู่มาตรฐานการให้บริการที่ธนาคารธนชาตกำหนด 9. Brand strengthening สร้างความแข็งแรงของแบรนด์และภาพลักษณ์ที่ดีของกลุ่มธนชาตภายใต้การบริหารจัดการค่าใช้จ่ายให้มีประสิทธิภาพ สูงสุด
ข้อมูลทางการเงินที่สำคัญ ณ วันที่ หรือสำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม
งบการเงินรวม 2551 2550
งบการเงินเฉพาะธนาคาร 2550 2549 2548
2551
2547
ผลการดำเนินงาน (ล้านบาท) รายได้ดอกเบี้ยและเงินปันผล 20,688 17,488 19,897 17,123 15,520 5,309 2,328 ค่าใช้จ่ายดอกเบี้ย 9,398 9,396 9,429 9,386 9,510 2,837 1,213 รายได้ดอกเบี้ยและเงินปันผลสุทธิ 11,290 8,092 10,468 7,737 6,010 2,472 1,115 รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย 10,700 6,111 2,286 2,005 1,318 791 252 รายได้รวม(1) 21,990 14,203 12,754 9,742 7,328 3,263 1,367 ค่าใช้จ่ายที่มิใช่ดอกเบี้ย 15,535 9,905 7,788 6,105 5,744 2,295 759 หนี้สูญและหนี้สงสัยจะสูญ(2) 3,968 2,692 3,548 2,606 1,254 606 57 กำไรสุทธิ 1,870 1,327 1,304 991 225 362 551 วัดผลการดำเนินงาน กำไรต่อหุ้นพื้นฐาน (บาท) 1.08 0.84 0.75 0.63 0.15 0.42 0.68 อัตราผลตอบแทนต่อสินทรัพย์เฉลี่ย (ROA) (ร้อยละ) 0.56 0.47 0.41 0.36 0.10 0.27 0.84 อัตราผลตอบแทนต่อส่วนของ ผู้ถือหุ้นเฉลี่ย (ROE) (ร้อยละ) 8.79 7.47 6.22 5.52 1.48 2.99 6.24 (3) ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย (Interest spread) (ร้อยละ) 3.17 2.65 3.14 2.73 2.30 1.93 1.70 อัตราส่วนต้นทุนจากการดำเนินงานต่อรายได้รวม(4) 70.65 69.74 61.06 62.67 78.38 70.33 55.52 (Cost to income ratio) (ร้อยละ) ข้อมูลเกี่ยวกับงบดุล (ล้านบาท) เงินให้สินเชื่อ 276,142 228,776 272,925 224,940 200,652 158,697 31,023 สินทรัพย์รวม 378,347 300,787 368,272 291,098 257,436 195,525 72,944 เงินฝากและเงินกู้ยืมระยะสั้น 317,243 248,193 318,760 248,084 214,506 149,301 45,281 หนี้สินรวม 357,006 279,807 347,002 270,402 242,237 180,225 64,044 (5) ส่วนของผู้ถือหุ้น 21,278 20,923 21,270 20,695 15,199 15,300 8,900
150,000
50,000 2551
2550
2551
งบการเงินรวม เงินให้สินเชื่อ
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
2550
2549
2548
งบการเงินเฉพาะธนาคาร เงินฝากและเงินกู้ยืมระยะสั้น
1.70
1.93
2.30
2.73
3.14
2.00 1.50 31,023 45,281
100,000
0
2.65
2.50 158,697 149,301
200,000
3.00
3.17
318,760
(ร้อยละ)
200,652 214,506
250,000
ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย 3.50
224,940 248,084
300,000
272,925
350,000
228,776 248,193
(ล้านบาท)
276,142 317,243
เงินให้สินเชื่อ และเงินฝากและเงินกู้ยืมระยะสั้น
2547 (ปี)
1.00 0.50 0.00
2551 2550 2551 2550 2549 2548 2547 (ปี) งบการเงินรวม
งบการเงินเฉพาะธนาคาร
งบการเงินรวม 2551 2550
2551
งบการเงินเฉพาะธนาคาร 2550 2549 2548
2547
วัดคุณภาพงบดุล เงินให้สินเชื่อต่อเงินฝากและเงินกู้ยืมระยะสั้น (ร้อยละ) 87.04 92.18 85.62 90.67 93.54 106.29 68.51 สินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL-Gross) 2.70 2.41 2.30 2.31 1.87 2.26 5.75 ต่อเงินให้สินเชื่อ (ร้อยละ) สินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้สุทธิ (NPL-Net) ต่อเงินให้สินเชื่อ (ร้อยละ) 0.66 0.78 0.60 0.81 0.83 1.95 7.23 ค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญทั้งหมดต่อสินเชื่อ ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (ร้อยละ) 94.99 92.07 88.81 86.80 81.59 51.95 48.40 113.15 121.72 101.55 108.38 104.65 101.42 211.85 ค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญทั้งหมดต่อ ค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญตามเกณฑ์ธนาคารแห่งประเทศไทย (ร้อยละ) สินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (ล้านบาท) 7,466 5,520 7,167 5,213 3,753 3,582 2,622 ความเพียงพอของเงินกองทุน อัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 (ร้อยละ) 8.02 10.15 8.81 15.37 22.76 11.18 12.00 11.13 17.26 26.35 อัตราส่วนเงินกองทุนทั้งสิ้น (ร้อยละ) สินทรัพย์เสี่ยง (ล้านบาท) 252,634 197,128 175,806 100,787 38,055 ข้อมูลเกี่ยวกับหุ้นสามัญ (เฉพาะธนาคาร) จำนวนหุ้นสามัญคงเหลือ (ล้านหุ้น) - จำนวนเฉลี่ย 1,735 1,584 1,735 1,584 1,458 851 810 1,735 1,735 1,735 1,735 1,458 1,458 810 - ณ สิ้นปี มูลค่าตามบัญชีต่อหุ้น (บาท) 12.26 12.06 12.26 11.93 10.42 10.49 10.99 เงินปันผลต่อหุ้น (บาท) 0.43 0.15 0.25 0.25 0.25 ข้อมูลอื่น พนักงาน 9,630 6,210 7,534 4,603 3,978 2,645 602 213 166 133 66 13 สาขา สำนักงานแลกเปลี่ยนเงิน 76 64 42 8 1
กำไรสุทธิ
(1) รายได้รวม = รายได้ดอกเบี้ยและเงินปันผลสุทธิ + รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย (2) รวมขาดทุนจากการปรับโครงสร้างหนี้ (3) ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย = อัตราผลตอบแทน - ต้นทุนทางการเงิน
2,000
1,870
(ล้านบาท)
1,400
1,304
1,600
1,327
1,800
991
1,200 1,000
551
800 362
600 225
400 200 0
อัตราผลตอบแทน = รายได้ดอกเบี้ยและเงินปันผล/สินทรัพย์ที่ก่อให้เกิดรายได้เฉลี่ย (สินทรัพย์ที่ก่อให้เกิดรายได้ ได้แก่ รายการระหว่างธนาคาร และตลาดเงินเฉพาะที่มีดอกเบี้ย หลักทรัพย์ซื้อโดยมีสัญญาขายคืน เงินลงทุนสุทธิ และเงินให้สินเชื่อ) ต้นทุนทางการเงิน = ค่าใช้จ่ายดอกเบี้ย/หนี้สินที่ก่อให้เกิดค่าใช้จ่ายเฉลี่ย (หนี้สินที่ก่อให้เกิดค่าใช้จ่าย ได้แก่ เงินฝาก รายการระหว่างธนาคาร และตลาดเงินเฉพาะที่มีดอกเบี้ย และเงินกู้ยืมรวม) (4) อัตราส่วนต้นทุนจากการดำเนินงานต่อรายได้รวม = ค่าใช้จ่ายที่มิใช่ดอกเบี้ย/ รายได้รวม (5) ส่วนของผู้ถือหุ้นไม่รวมส่วนของผู้ถือหุ้นส่วนน้อย
2551 2550 2551 2550 2549 2548 2547 (ปี) งบการเงินรวม
งบการเงินเฉพาะธนาคาร
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
สารจากประธานกรรมการ
นายบั นเทิง ตั นติวทิ
ประธานกรรมการ ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) ปี 2551 เป็นช่วงเวลาที่เศรษฐกิจโลกเริ่มประสบปัญหาอย่างรุนแรง สถาบันการเงินขนาดใหญ่หลายแห่งในหลายประเทศ ต้องถูกปิดลงหรือต้องได้รับการช่วยเหลือจากรัฐบาลเพื่อให้สามารถอยู่รอดได้ อย่างไรก็ตาม ในปีที่ผ่านมาเศรษฐกิจไทยเพิ่งเริ่มได้รับ
ผลกระทบและไม่อยู่ในระดับที่รุนแรงมาก สถาบันการเงินในประเทศยังมีผลประกอบการที่อยู่ในระดับดี และไม่มีปัญหาเรื่องความมั่นคง แต่อย่างใด เป็นที่น่ายินดีที่ภายใต้ภาวะเศรษฐกิจโลกตกต่ำและมีความไม่แน่นอนสูงเช่นนี้ ธนาคารแห่งโนวาสโกเทีย “สโกเทียแบงก์”
ยังคงมีความเชื่อมั่นในศักยภาพของเศรษฐกิจไทยและธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) “ธนาคารธนชาต” โดยได้ตัดสินใจเข้ามาทำ
การซือ้ หุน้ ธนาคารธนชาตเพิม่ จากเดิมเมือ่ ต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2552 เป็นผลให้ขณะนี้ สโกเทียแบงก์ถอื หุน้ ธนาคารธนชาตอยูถ่ งึ ร้อยละ 49 สำหรับคณะกรรมการของธนาคารธนชาตนั้น ในปี 2551 คุณสุวิทย์ อรุณานนท์ชัย และคุณวิชิต ญาณอมร ได้ลาออก
จากการเป็นกรรมการธนาคารธนชาต ขอขอบคุณท่านทั้งสองที่ได้ร่วมปฏิบัติหน้าที่กรรมการอย่างดีเลิศตลอดมา เพื่อทดแทนตำแหน่ง กรรมการทีไ่ ด้วา่ งลง คณะกรรมการได้แต่งตัง้ บุคคลทีส่ โกเทียแบงก์เสนอชือ่ เข้าร่วมเป็นกรรมการอีกสองท่าน คือ ดร.สมชาย ภคภาสวิวฒ ั น์ เป็ น กรรมการอิ ส ระ และคุ ณ กอบศั ก ดิ์ ดวงดี เป็ น กรรมการที่ เ ป็ น ผู้ บ ริ ห าร ทั้ ง สองท่ า นเป็ น ผู้ มี ค วามรู้ ประสบการณ์ คุ ณ ธรรม
และจรรยาบรรณสูงที่จะสามารถปฏิบัติหน้าที่กรรมการธนาคารได้เป็นอย่างดียิ่ง
10
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
การที่สโกเทียแบงก์ ซึ่งเป็นธนาคารที่ได้รับการยอมรับกันทั่วไปว่าเป็นธนาคารที่มั่นคงอันดับต้น ๆ ของโลก เข้ามาร่วม
ถือหุ้นถึงร้อยละ 49 ของธนาคารธนชาต และได้ส่งผู้บริหารระดับสูงเข้าร่วมเป็นกรรมการ อีกทั้งส่งผู้บริหารที่มีประสบการณ์อีก
จำนวนหนึ่งเข้าร่วมเป็นผู้บริหารในสายงานต่าง ๆ ของธนาคารธนชาต ได้เพิ่มความน่าเชื่อถือในด้านความมั่นคงและศักยภาพใน
การพัฒนาการให้บริการด้านต่าง ๆ ให้แก่ธนาคารธนชาตอย่างมาก ถึงแม้จะคาดได้ว่าเศรษฐกิจโลกน่าจะตกต่ำรุนแรงขึ้น อีกทั้งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยจะเพิ่มขึ้นมาก คณะกรรมการ ธนาคาร ได้ติดตามภาวะเศรษฐกิจทั้งภายในและภายนอกอย่างใกล้ชิด และได้ร่วมกับกรรมการของธนาคารธนชาตเพิ่มความระมัดระวัง และดูแลการประกอบธุรกิจของธนาคารธนชาต โดยปรับเป้าหมาย กลยุทธ์ และแผนงาน เพื่อให้ธนาคารธนชาตและกลุ่มผู้มีส่วนได้เสีย
ทุกกลุ่มได้รับผลกระทบในทางลบน้อยที่สุด ในฐานะประธานกรรมการ ขอขอบคุ ณ กรรมการ ผู้ บ ริ ห าร พนั ก งาน ผู้ ถื อ หุ้ น และลู ก ค้ า ทุ ก ท่ า นที่ ใ ห้ ค วามไว้ ว างใจ
และให้การสนับสนุนจนทำให้ธนาคารธนชาตเติบโตอย่างแข็งแรงมาถึงวันนี้
บันเทิง ตันติวิท ประธานกรรมการ ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
11
นายศุภเดช พูนพิพัฒน์
รองประธานกรรมการ ประธานกรรมการบริหาร และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) “ธนาคารธนชาต” และบริษัทในกลุ่มธนชาต มุ่งเน้นความสามารถที่จะสนองต่อ
ความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก (Customer Centric) โดยเร่งสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ พัฒนาและติดตั้งระบบโครงสร้าง
พื้นฐาน ตลอดจนขยายช่องทางการให้บริการ เพื่อขยายฐานธุรกิจและเพิ่มคุณภาพการให้บริการ อันเป็นการวางรากฐานต่อเนื่อง
ในการดำเนินธุรกิจให้บรรลุเป้าหมายในการเป็นธนาคารขนาดกลางชั้นนำของประเทศภายใต้การเติบโตอย่างแข็งแกร่งและ มีคุณภาพ กล่าวคือ การมีขนาดสินทรัพย์ที่เหมาะสมต่อการแข่งขันทางธุรกิจ และมีผลการดำเนินงานทางการเงินในระดับ เทียบเท่ากับค่าเฉลี่ยของธุรกิจอุตสาหกรรมธนาคารพาณิชย์ นอกจากนี้ ในปี 2551 ธนาคารธนชาตและบริษัทในกลุ่มธนชาต
ได้บรรลุความมุ่งมั่นทางกลยุทธ์ 5 ประการ ดังนี้ 1. ธำรงความเป็นผู้นำทางด้านธุรกิจเช่าซื้อ 2. สามารถกระจายความเสี่ยงทางด้านสินเชื่อธุรกิจ โดยธนาคารธนชาตมีสัดส่วนสินเชื่อธุรกิจเพิ่มขึ้น ทำให้กลุ่มธนชาต สามารถกระจายความเสี่ยงทางด้านเครดิตและด้านอัตราดอกเบี้ยได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น 3. เพิ่มฐานรายได้จากธุรกิจ ทั้งรายได้ทางด้านดอกเบี้ยที่เกิดจากการขยายสินเชื่อ และรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย 4. เพิ่มคุณภาพการให้บริการที่ดีเลิศแก่ลูกค้า โดยนำหลักการ Branch Service Best Practices มาใช้ในทุกสาขา 5. ควบคุมอัตราค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานต่อรายได้ให้ลดลงเข้าสู่ค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรม แม้ว่ามีการเติบโตของต้นทุน
การดำเนินงานจากการวางโครงสร้างพื้นฐาน
12
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
เพื่อให้สามารถควบคุมดูแลกลยุทธ์องค์กรอย่างเป็นระบบและสามารถวัดผลได้อย่างมีประสิทธิภาพ กลุ่มธนชาตจึงได้กำหนด
แผนปฏิบัติการกลยุทธ์หลัก 6 ประการ (CEO’s Six-point Agenda) เพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการควบคุมแผนปฏิบัติการที่สำคัญทั้งหมด สำหรับทุกหน่วยธุรกิจของกลุ่มธนชาต ซึ่งในปี 2551 กลุ่มธนชาตได้บรรลุแผนปฏิบัติการทั้ง 6 ประการ วิกฤตการณ์ทางการเงินในสหรัฐฯ ได้ส่งผลให้เศรษฐกิจของประเทศผู้บริโภครายใหญ่ในโลกส่วนใหญ่หดตัวอย่างรุนแรง เศรษฐกิ จ ไทยก็ ไ ด้ รั บ ผลกระทบเช่ น กั น ทั้ ง ในด้ า นการส่ ง ออกและการท่ อ งเที่ ย วที่ เ ป็ น ตั ว ขั บ เคลื่ อ นหลั ก ของเศรษฐกิ จ ไทย
โดยในไตรมาสที่ 4 เศรษฐกิจไทยได้ติดลบถึงร้อยละ 4.3 ทำให้การขยายตัวเฉลี่ยทั้งปีเพียงร้อยละ 2.6 ในปี 2551 แต่ธนาคารธนชาต และบริษัทในกลุ่มธนชาต ยังคงมีผลการดำเนินงานเป็นที่น่าพอใจ โดย • ในด้านฐานะการเงิน ธนาคารธนชาตและบริษัทในกลุ่มมีขนาดสินทรัพย์เพิ่มขึ้นจาก 300,787 ล้านบาท ในปี 2550 เป็น 378,347 ล้านบาท ในปี 2551 หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 25.8 อัตราผลตอบแทนของส่วนผู้ถือหุ้น (Return on Equity) เท่ากับ
ร้อยละ 8.79 และอัตราผลตอบแทนของสินทรัพย์ (Return on Asset) เท่ากับร้อยละ 0.56 มีกำไรสุทธิปี 2551 จำนวน 1,870 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 543 ล้านบาท หรือร้อยละ 40.89 เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา เป็นผลจากการขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่องของกลุ่มธนชาต และการ ปรับตัวสูงขึ้นของส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยจากเงินให้สินเชื่อ (Loan Spread) จากร้อยละ 3.30 เป็นร้อยละ 4.03 รวมทั้งการเพิ่มขึ้น
ของรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 75.10 เป็นผลจากธุรกิจธนาคารพาณิชย์ ธุรกิจหลักทรัพย์ ธุรกิจจัดการกองทุน ธุรกิจ ประกันชีวิต และธุรกิจประกันภัยยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ค่าใช้จ่ายที่มิใช่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นร้อยละ 56.85 จากการขยาย ธุรกิจและการลงทุนในระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและโครงสร้างพื้นฐาน ส่งผลให้ต้นทุนจากการดำเนินงานต่อรายได้รวมหลัง
หักค่าใช้จ่ายจากการรับประกันภัยและประกันชีวิตอยู่ที่ร้อยละ 59.72 ลดลงจากปีที่ผ่านมา และมีอัตราเติบโตของฐานลูกค้า เพิ่มขึ้นร้อยละ 30.37 • การขยายสาขา ในปี 2551 ธนาคารธนชาตได้เปิดสาขาเพิ่มจำนวน 47 สาขา ทำให้ ณ สิ้นปีมีสาขาทั้งสิ้น 213 สาขา นับเป็นอันดับ 8 ของธนาคารพาณิชย์ พร้อมกับขยายช่องทางการให้บริการลูกค้าในรูปแบบของเครื่องถอนเงินสดอัตโนมัติ (ATM)
ภายใต้ความร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจ “ATM CONNECT” คือ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) และธนาคารนครหลวงไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งทำให้กลุ่มธนชาตสามารถที่จะเพิ่มเครือข่ายการให้บริการในรูปแบบของเครื่องถอนเงินสดอัตโนมัติทั่วประเทศ
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
13
• ระบบงานใหม่ ในปีที่ผ่านมากลุ่มธนชาตได้ดำเนินการต่อเนื่องในการติดตั้งระบบงานใหม่ตามแผนงาน เพื่อเป็น
การเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการ และลดต้นทุนการดำเนินงานต่อธุรกรรม เช่น ระบบเงินฝาก ระบบบริหารเงิน ระบบ
การค้าต่างประเทศ ระบบบัตรเครดิต ระบบบริหารงานบุคคล และระบบบัญชี เป็นต้น ซึ่งเมื่อระบบแล้วเสร็จสมบูรณ์จะสนับสนุน
การทำงานให้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลมากขึ้น เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2552 ธนาคารแห่งโนวาสโกเทีย “สโกเทียแบงก์” ได้ซื้อหุ้นสามัญเดิมของธนาคารธนชาตจาก บริษัท ทุนธนชาต จำกัด (มหาชน) “ทุนธนชาต” เพื่อเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นในธนาคารธนชาตจนถึงร้อยละ 49 ตามสัญญา
การร่วมธุรกิจ แสดงให้เห็นถึงวิสยั ทัศน์ของธนาคารชัน้ นำจากแคนาดาทีม่ คี วามมัน่ ใจในธนาคารธนชาต ซึง่ นับตัง้ แต่ปี 2550 ที่สโกเทียแบงก์ได้ร่วมเป็นพันธมิตรทางธุรกิจ ธนาคารธนชาตได้ประสบความสำเร็จในการผสมผสานวัฒนธรรมในการทำงาน ระหว่างสโกเทียแบงก์ และกลุ่มธนชาต อีกทั้งประสบความสำเร็จในการสร้างองค์ความรู้ใหม่ในทางธุรกิจระดับสากล โดย
สโกเทียแบงก์ได้ส่งผู้แทนร่วมเป็นกรรมการจำนวน 3 ท่าน และให้การสนับสนุนในการส่งผู้บริหารระดับสูงเข้าดำรงตำแหน่ง ในหน่วยงานสำคัญของกลุ่มธนชาตจำนวน 7 ท่าน ผู้บริหารระดับสูงดังกล่าว นับว่ามีส่วนเป็นกลไกสำคัญต่อการเปลี่ยนแปลง
ไม่ว่าจะเป็นการสนับสนุนกระบวนการทำงาน นวัตกรรม ประสบการณ์ ตลอดจนความรู้ขององค์กร การเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นและ ความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจร่วมกันกับสโกเทียแบงก์ จะช่วยเสริมสร้างความมั่นคงทางการเงินและศักยภาพในการดำเนินธุรกิจของ ธนาคารธนชาตในระยะยาวอย่างยั่งยืน กลยุทธ์การดำเนินธุรกิจในปี 2552 ธนาคารธนชาตและบริษัทในกลุ่มธนชาตยังคงต่อเนื่องมุ่งสู่การเป็น Customer Centric เพื่อให้บรรลุเป้าหมายในการเป็นธนาคารขนาดกลางชั้นนำของประเทศ จึงได้มีการกำหนดความมุ่งมั่นทางกลยุทธ์ 9 ประการ ดังนี้ 1. Meet strategic financial targets การกำหนดเป้าหมายทางการเงินจะต้องเหมาะสมกับภาวะเศรษฐกิจและการแข่งขันให้การดำเนินธุรกิจสามารถบรรลุ
เป้าหมายได้ โดยได้รับความพึงพอใจจากผู้ถือหุ้นและพนักงาน 2. Maintain market leader in Hire Purchase in every location that TBANK has presence ธำรงความเป็นผู้นำด้านการให้เช่าซื้อในทุกพื้นที่และทุกกลุ่มประเภทรถยนต์ที่ธนาคารธนชาตดำเนินธุรกิจ ควบคู่ไปกับ
การควบคุมดูแลจำนวนเงินให้สินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ให้อยู่ในจำนวนไม่เกินระดับที่กำหนดไว้ 3. Increase in customer accessibility ขยายการเปิดสาขาให้ธนาคารธนชาตมีสาขาจำนวน 255 สาขา ณ สิ้นปี 2552 ควบคู่กับการบริหารกิจการสาขาให้มี
ผลการดำเนินงานที่ดียิ่งขึ้น 4. Diversify business loan portfolio ปรับโครงสร้างเงินให้สินเชื่อ (Loan Portfolio) ด้วยการขยายสินเชื่อประเภทอื่นนอกจากสินเชื่อเช่าซื้อ 5. Drastic improvement in cross-selling เพิ่มการขายผลิตภัณฑ์ทางการเงินทั้งหมดภายในกลุ่มธนชาตในรูปแบบ Cross-selling ให้มากขึ้น โดยเน้นการอบรม ความรู้ด้านผลิตภัณฑ์ทางการเงินให้แก่พนักงานการตลาด
14
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
6. Increase in non-interest income เพิ่มรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยเป็นสัดส่วนใกล้เคียงกับอุตสาหกรรม 7. Controlling costs and process improvement บริหารจัดการค่าใช้จ่ายให้เกิดประโยชน์สูงสุด พร้อมปรับกระบวนการปฏิบัติงานเพื่อเพิ่มศักยภาพในการทำงานของ พนักงาน ให้สามารถบริการลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น 8. Achieving “Best-in-class” customer servicing ยกระดับการบริการสาขาทุกสาขาสู่มาตรฐานการให้บริการที่ธนาคารธนชาตกำหนด 9. Brand strengthening สร้างความแข็งแรงของแบรนด์และภาพลักษณ์ที่ดีของกลุ่มธนชาตภายใต้การบริหารจัดการค่าใช้จ่ายให้มีประสิทธิภาพ สูงสุด การดำเนินธุรกิจตลอดระยะเวลาทีผ่ า่ นมา ธนาคารธนชาตและบริษทั ในกลุม่ ธนชาตให้ความสำคัญกับการกำกับดูแลกิจการทีด่ ี มีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ซึ่งสอดรับกับหลักการดำเนินธุรกิจของสโกเทียแบงก์ โดยจัดโครงการช่วยเหลือสังคมและ ดูแลสิ่งแวดล้อมมาอย่างต่อเนื่อง และในปี 2551 ยังได้รับความร่วมมืออย่างดียิ่งจากทีมคณาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิในด้านการกำกับดูแล กิ จ การที่ ดี จากศู น ย์ ก ารศึ ก ษาต่ อ เนื่ อ งแห่ ง จุ ฬ าลงกรณ์ ม หาวิ ท ยาลั ย จั ด ทำหลั ก สู ต รและทำการสั ม มนาผู้ บ ริ ห ารและพนั ก งาน
กลุ่มธนชาต ให้มีความรู้ความเข้าใจในเรื่องการกำกับดูแลกิจการที่ดี ความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างถูกต้อง ให้สามารถ
ผสมผสานสำนึกต่อการกำกับดูแลกิจการที่ดีกับองค์ความรู้ในเรื่องนี้ สู่การปฏิบัติงานให้มีการกำกับดูแลกิจการที่ดีและดำเนินการ
ช่วยเหลือสังคมและสิ่งแวดล้อม ที่เกิดประโยชน์แก่ผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่ายอย่างแท้จริง การพัฒนาการทางด้านต่างๆ ที่ผสานความรู้และประสบการณ์ทางธุรกิจของผู้บริหารและพนักงานกลุ่มธนชาต กับสโกเทียแบงก์ บนพื้นฐานของการยึดมั่นในธรรมาภิบาล ความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม จะนำกลุ่มธุรกิจ ทางการเงิ น ธนชาตสู่ ค วามสำเร็ จ ระยะยาว ในการเป็ น ธนาคารขนาดกลางชั้ น นำของประเทศ ภายใต้ ก ารเติ บ โต
อย่ า งแข็ ง แกร่งและมีคุณภาพ คือ การมีขนาดสินทรัพย์ที่เหมาะสมต่อการแข่งขันทางธุรกิจ และมีผลการดำเนินงาน
ทางการเงิ น ในระดั บ เที ย บเท่ า กั บ ค่ า เฉลี่ ย ของธุ ร กิ จ อุ ต สาหกรรมธนาคารพาณิ ช ย์ พร้ อ มทั้ ง เป็ น องค์ ก รชั้ น นำในด้ า น
ธรรมาภิบาลและความรับผิดชอบต่อสังคม ศุภเดช พูนพิพัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
15
วิสัยทัศน์ของพันธมิตรของเรา...สโกเทียแบงก์
ธนาคารแห่งโนวาสโกเทีย “สโกเทียแบงก์” มีความยินดีต่อการเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) “ธนาคารธนชาต” เมือ่ ต้นปี 2552 ทีผ่ า่ นมา ทำให้เพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นจากร้อยละ 25 ในปี 2550 เป็นร้อยละ 49 เป็นไปตามข้อกำหนด ของทางการ ซึ่งการซื้อหุ้นในครั้งนี้ ไม่เพียงแต่เป็นการแสดงให้เห็นถึงความมั่นใจที่มีต่อประเทศไทย จากการที่สโกเทียแบงก์ได้เข้าทำ ธุรกิจในตลาดประเทศไทยตั้งแต่ปี 2524 แต่ยังเป็นการแสดงให้เห็นถึงการเพิ่มความแข็งแกร่งด้านความสัมพันธ์ระหว่างสโกเทียแบงก์ กับธนาคารธนชาตอีกด้วย จากการที่สโกเทียแบงก์และธนาคารธนชาต ได้ทำงานร่วมกันตลอดปีที่ผ่านมา ได้มีความรุดหน้าในโครงการสำคัญต่าง ๆ เป็นอย่างดี ซึ่งรวมถึงการเติบโตในธุรกิจสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่และสินเชื่อที่อยู่อาศัย การลดต้นทุนทางการเงิน การเพิ่มส่วนต่างของ อัตราดอกเบี้ยสุทธิ การขยายศักยภาพโครงสร้างระบบงานพื้นฐาน จากความสำเร็จในการติดตั้งระบบงานหลักใหม่ของธนาคาร
(A New Core Banking System) การเพิม่ ขึน้ ของการจำหน่ายข้ามผลิตภัณฑ์ของธนาคารธนชาตและบริษทั ในกลุม่ ธนชาต (Cross-sell) และประสิทธิภาพในการบริหารความเสี่ยง ทั้งสโกเทียแบงก์และธนาคารธนชาต ต่างได้รับผลกระทบจากวิกฤตทางการเงินที่ผ่านมา เช่นเดียวกับสถาบันการเงินอื่น ๆ ทั่วโลก และยังคงต้องประสบกับความท้าทายอื่น ๆ อีกในปี 2552 อย่างไรก็ตาม ธนาคารธนชาตยังสามารถดำรงเงินทุนอย่างเพียงพอ และมีสภาพคล่องที่แข็งแกร่ง ประกอบกับการบริหารจัดการโดยผู้บริหารมืออาชีพ ภายใต้การดำเนินธุรกิจทางการเงินแบบครบวงจร (Universal Banking Model) พร้อมกับความแข็งแกร่งทางด้านการประกัน ด้านธุรกิจหลักทรัพย์ และธุรกิจคหบดีธนกิจ (Wealth Management) การเป็นผู้นำธุรกิจเช่าซื้อ และโอกาสที่การเติบโตอย่างแข็งแกร่งจากการจำหน่ายข้ามผลิตภัณฑ์ จากการขยายจำนวน ผลิตภัณฑ์ให้มีมากขึ้น ซึ่งรวมถึงธุรกิจบัตรเครดิตที่จะให้บริการในปีนี้
16
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
สโกเทียแบงก์นับว่าเป็นพันธมิตรทางธุรกิจที่แข็งแกร่งของธนาคารธนชาต ด้วยความยาวนานในการเป็นสถาบันการเงิน
มามากกว่า 177 ปี กับการกระจายรูปแบบทางธุรกิจให้มคี วามหลากหลาย ไม่วา่ จะเป็นด้านการประกอบการ ด้านภูมภิ าคต่าง ๆ ของโลก และด้านผลิตภัณฑ์ เป็นผลทำให้สามารถกระจายทัง้ รายได้และความเสีย่ ง สโกเทียแบงก์มปี ระวัตศิ าสตร์อนั ยาวนานในการบริหารความเสีย่ ง และบริหารค่าใช้จ่ายเป็นอย่างดี การดูแลการบริหารความเสี่ยงและการควบคุมต้นทุนที่ดี เป็นสิ่งที่ช่วยให้สโกเทียแบงก์ผ่านพ้นจาก ปัญหาที่รุนแรงต่าง ๆ ที่สถาบันการเงินขนาดใหญ่หลายแห่งทั่วโลกกำลังประสบปัญหาอยู่ สโกเทียแบงก์ได้รับการจัดลำดับให้เป็น 1
ใน 10 ของสถาบันการเงินที่มีขนาดสินทรัพย์ตลาดที่ใหญ่ที่สุดในทวีปอเมริกาเหนือ และกลุ่มที่ปรึกษาโอลิเวอร์ วาย์แมน ได้จัดอันดับ ให้สโกเทียแบงก์เป็น 1 ใน 10 ของธนาคารที่มีผลการดำเนินงานดีที่สุด ในช่วงเวลาที่มีความผันผวนอย่างรุนแรงระหว่างเดือนสิงหาคม 2550 ถึงเดือนธันวาคม 2551 ที่ผ่านมา ด้วยการเป็นธนาคารนานาชาติที่มีขอบข่ายกว้างขวางที่สุดของแคนาดา สโกเทียแบงก์
ได้พัฒนาเครือข่ายที่สำคัญไปทั่วโลกและมีความเชี่ยวชาญอย่างดีเลิศเป็นเวลายาวนาน ทำให้สโกเทียแบงก์สามารถผลักดันและ
นำสิ่งเหล่านี้ก่อให้เกิดประโยชน์อย่างยั่งยืน สร้างการเติบโตของกำไรในแต่ละประเทศที่ดำเนินธุรกิจได้ ท้ายที่สุด สโกเทียแบงก์มีทีมงานที่เป็นผู้เชี่ยวชาญอยู่ทั่วโลก มีศักยภาพ และอุทิศทั้งเวลาและความพยายามอย่างเต็มที่ รวมถึงพันธมิตรอย่างธนาคารธนชาต ที่มีเป้าหมายในการให้บริการแก่ลูกค้ากระจายทั่วทุกภาคในประเทศไทย ด้วยความแข็งแกร่ง
ทัง้ หลายเหล่านี้ จึงทำให้เราพร้อมทีจ่ ะเผชิญกับความท้าทายภายใต้สถานการณ์ทางการเงินทีย่ ากลำบากต่าง ๆ และก้าวไปถึงเป้าหมาย
ที่วางไว้ เรามั่นใจในอนาคตของสโกเทียแบงก์ อนาคตของประเทศไทย และของธนาคารธนชาต และการที่พันธมิตรทั้งสองจะก้าว
ร่วมกันต่อไปในอนาคต
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
17
ผู้บริหาร บริษัทในกลุ่มธนชาต
นายศุภเดช พูนพิพัฒน์ รองประธานกรรมการ ประธานกรรมการบริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทุนธนชาต จำกัด (มหาชน) รองประธานกรรมการ ประธานกรรมการบริหาร และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
นางสุชาดา ภวนานันท์ กรรมการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท หลักทรัพย์จัดการกองทุน ธนชาต จำกัด
นายบุญชัย เกียรติธนาวิทย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท หลักทรัพย์จัดการกองทุน ธนชาต จำกัด
นายตระกูลจิตร จิตตไสยะพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการลงทุน บริษัท หลักทรัพย์จัดการกองทุน ธนชาต จำกัด
18
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
นางอัศวินี ไตลังคะ กรรมการผู้จัดการ สายธุรกิจนายหน้าค้าหลักทรัพย์ บริษัท หลักทรัพย์ ธนชาต จำกัด (มหาชน)
นางสาวสุวภา เจริญยิ่ง กรรมการผู้จัดการ สายธุรกิจวาณิชธนกิจ และที่ปรึกษาการลงทุน บริษัท หลักทรัพย์ ธนชาต จำกัด (มหาชน)
นายนพดล เรืองจินดา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ธนชาตประกันภัย จำกัด
ดร. ชาติชัย พาราสุข กรรมการผู้จัดการ บริษัท ธนชาตประกันชีวิต จำกัด
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
19
ผู้บริหาร บริษัท ทุนธนชาต จำกัด (มหาชน)
นายศุภเดช พูนพิพัฒน์ รองประธานกรรมการ ประธานกรรมการบริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่
นายทวีศักดิ์ ศักดิศ์ ิริลาภ กรรมการบริหาร และรองกรรมการผู้จัดการ
นายอนุวัติร์ เหลืองทวีกลุ กรรมการบริหาร และรองกรรมการผู้จัดการ
20
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
ผู้บริหาร ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
นายศุภเดช พูนพิพัฒน์ รองประธานกรรมการ ประธานกรรมการบริหาร และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร
นางสาวสุวรรณภา สุวรรณประทีป รองประธานกรรมการบริหาร
นายปิยะพงศ์ อาจมังกร รองกรรมการผู้จัดการ
นางนุสรา รุนสำราญ รองกรรมการผู้จัดการ
ผศ. รอ. นพ. ดร. สุมาส วงศ์สุนพรัตน์ รองกรรมการผู้จัดการ (ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ)
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
21
ภาวะเศรษฐกิจไทยปี 2551 และแนวโน้มปี 2552 เขียนและเรียบเรียงโดย ดร. ปรเมธี วิมลศิริ ที่ปรึกษาด้านนโยบายและแผนงาน สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (NESDB)
ภาวะเศรษฐกิจไทยปี 2551
จากที่ได้ประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 2551 ในรายงานประจำปี 2550 ซึ่งคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทยจะขยายตัวได้ดีขึ้น
โดยมีอัตราการขยายตัวอยู่ในช่วงร้อยละ 4.0 - 6.0 และได้ระบุถึงปัจจัยเสี่ยงที่ต้องระวังสองด้าน คือ ผลของปัญหาหนี้ Subprime
ในสหรัฐอเมริกา และราคาน้ำมันซึ่งมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วจนเงินเฟ้ออาจจะเพิ่มสูงขึ้นประมาณร้อยละ 3.5 การประมาณการ เศรษฐกิจดังกล่าวมีความแม่นยำอยู่ประมาณ 9 เดือน จนกระทั่งเกิดวิกฤตการณ์ทางการเงินอย่างรุนแรงในสหรัฐ ซึ่งส่งผลกระทบต่อ เศรษฐกิจของประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก การขยายตัวของเศรษฐกิจไทยเฉลี่ยในช่วง 3 ไตรมาสแรกของปี 2551 เท่ากับร้อยละ 5.1 อย่างไรก็ตาม ผลจากวิกฤตการณ์ ทางการเงิน ส่งผลให้เศรษฐกิจของประเทศผู้บริโภครายใหญ่ในโลกหดตัวหรือชะลอตัวลง เศรษฐกิจไทยในไตรมาสที่ 4 จึงหดตัวร้อยละ 4.3 และดึงให้การขยายตัวเฉลี่ยทั้งปีขยายตัวเพียงร้อยละ 2.6 ในปี 2551 ปัญหาวิกฤตในสหรัฐอเมริกาเกิดจากการใช้จ่ายเกินตัวของภาคครัวเรือน ขณะที่ธนาคารกลางของสหรัฐได้ดำเนินนโยบาย อัตราดอกเบี้ยระดับต่ำเป็นเวลานาน ประกอบกับการเกินดุลบัญชีเดินสะพัดจำนวนมากของประเทศในภูมิภาคเอเชีย ซึ่งได้กลายเป็น แหล่งเงินทุนดอกเบี้ยต่ำสำหรับชดเชยการขาดดุลบัญชีเดินสะพัดของสหรัฐ ทำให้เศรษฐกิจสหรัฐสามารถขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง
ถึง 10 ปี โดยเป็นการขยายตัวของการบริโภคบนพื้นฐานของการก่อหนี้ภาคครัวเรือน ซึ่งนำไปสู่ปัญหาฟองสบู่ในภาคอสังหาริมทรัพย์ ในที่สุด เมื่อธนาคารกลางของสหรัฐขึ้นอัตราดอกเบี้ยและราคาอสังหาริมทรัพย์ปรับตัวลดลง จึงเกิดปัญหาสินเชื่อด้อยคุณภาพ นำไป สู่การลดค่าของตราสารทางการเงินที่เกี่ยวข้องกับสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ นอกจากนั้น ความหละหลวมในการกำกับดูแลภาคการเงินใน สถานการณ์ทนี่ วัตกรรมทางการเงินมีความซับซ้อนมากขึน้ ได้ซำ้ เติมให้ปญ ั หาการเงินมีความรุนแรงและขยายวงถึงตลาดการเงินของโลก ในเดือนกันยายน 2551 สถาบันการเงินขนาดใหญ่ในสหรัฐ เช่น Merrill Lynch, Lehman Brothers, Fannie Mae, Freddie Mac ประสบปัญหาฐานะการเงินอย่างหนักถึงขั้นล้มละลายหรือต้องขอความช่วยเหลือจากภาครัฐ ส่งผลให้เกิดวิกฤตการณ์ทางการเงินโลก และเกิดภาวะสินเชื่อตึงตัวอย่างรุนแรงในสหรัฐและยุโรป ผลกระทบของการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกต่อประเทศไทยที่ปรากฏในไตรมาสสุดท้ายของปี 2551 แสดงถึงแนวโน้ม เศรษฐกิจที่จะเกิดขึ้นในปี 2552 ซึ่งมี 3 ด้านที่สำคัญ ได้แก่ • การลดลงของรายได้จากการส่งออก โดยในไตรมาสสุดท้ายของปี 2551 มูลค่าการส่งออกของประเทศไทยในรูปเงิน ดอลลาร์สหรัฐ ลดลงร้อยละ 9.4 หรือคิดเป็นมูลค่าที่ลดลงประมาณ 100,000 ล้านบาท • การลดลงของรายได้จากการท่องเที่ยว ปริมาณนักท่องเที่ยวต่างชาติในช่วงไตรมาสที่ 4 มีจำนวนลดลงร้อยละ 19.4 หรือ คิดเป็นจำนวนนักท่องเทีย่ วทีล่ ดลง จำนวนประมาณ 700,000 คน และคิดเป็นรายได้จากการท่องเทีย่ วทีห่ ายไปประมาณ 25,000 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปี 2550 • การลดลงของราคา เนื่องจากกำลังซื้อในตลาดโลกที่น้อยลงมาก ส่งผลให้ราคาพลังงาน สินค้าและบริการปรับตัวลดลง และหลายประเทศเผชิญกับปัญหาเงินฝืด (Deflation) โดยในไตรมาสที่ 4 ของปี 2551 ราคาสินค้าเกษตรสำคัญของไทย เช่น ข้าวโพด มันสำปะหลัง ยางพารา และปาล์มน้ำมัน ปรับตัวลดลงร้อยละ 10.2 26.0 36.0 และ 45.1 ตามลำดับ 22
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
รายได้ที่น้อยลงส่งผลให้การบริโภคและการผลิตในประเทศชะลอตัว การใช้กำลังการผลิตในภาคอุตสาหกรรมอยู่ในระดับต่ำ ความต้ อ งการลงทุ น ใหม่ ล ดลง รวมถึ ง มี ก ารชะลอการจ้ า งงาน ลดเวลาการทำงาน ลดค่ า จ้ า ง จนถึ ง การปลดแรงงานออก ทั้ ง นี้
ในไตรมาสสุดท้ายของปี 2551 การผลิตสาขาอุตสาหกรรม ก่อสร้าง การขนส่งและสื่อสาร และกลุ่มโรงแรมและภัตตาคาร หดตัวร้อยละ 6.8 12.8 10.6 และ 8.3 ตามลำดับ และการว่างงานเพิ่มสูงขึ้นจากไตรมาสที่ 3 ประมาณ 5.5 หมื่นคน โดยเฉพาะในสาขาอุตสาหกรรม ที่เชื่อมโยงกับการส่งออก เช่น อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ สิ่งทอ และเครื่องนุ่งห่ม และยานยนต์ เป็นต้น ผลกระทบของวิกฤตเศรษฐกิจโลกนี้เกิดขึ้นกับประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก โดยในไตรมาสที่ 4 เศรษฐกิจหลักในโลกต่างหดตัว เช่น เศรษฐกิจสหรัฐอเมริกา (-0.2%) อังกฤษ (-1.0%) ญี่ปุ่น (-4.6%) กลุ่มยูโรโซน (-1.6%) สิงคโปร์ (-3.7%) เกาหลีใต้ (-3.4%) และ ไต้หวัน (-8.4%) เป็นต้น โดยประเทศญี่ปุ่นและไต้หวันหดตัวมากกว่าเศรษฐกิจไทย (-4.3%) ขณะที่ในสหรัฐอเมริกามีอัตราการว่างงาน สูงถึงร้อยละ 6.9 และคาดว่าอาจจะเพิ่มสูงถึงร้อยละ 10.0 ในปี 2552 เศรษฐกิจทีเ่ คยขยายตัวสูง เช่น จีน อินเดีย และเวียดนาม เป็นต้น ขยายตัวในอัตราทีช่ ะลอตัวลงมากโดยมีการขยายตัวร้อยละ 6.8 4.9 และ 5.6 ตามลำดับ หากเศรษฐกิจจีนขยายตัวต่ำกว่าร้อยละ 6.0 ถือเป็นภาวะเศรษฐกิจถดถอยของประเทศจีนและจะเริ่ม
เกิดปัญหาการว่างงาน การค้าระหว่างประเทศที่ลดลงกระทบกับประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาคอย่างรุนแรง ล่าสุดในเดือนมกราคม มูลค่า การส่งออกของหลายประเทศลดลง เช่น จีน (-17.5%) เกาหลีใต้ (-32.1%) ไต้หวัน (-42.9%) สิงคโปร์ (-34.8%) และเวียดนาม
(-24.2%) เป็นต้น
เศรษฐกิจชะลอตัวหรือหดตัวในไตรมาสที่ 4 ปี 2551
GDP (% YOY)
2550
2551
โลก สหรัฐอเมริกา กลุ่มยูโรโซน อังกฤษ ญี่ปุ่น ไต้หวัน เกาหลีใต้ สิงคโปร์ จีน อินเดีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม
5.0 2.0 3.0 3.1 2.1 5.7 5.0 7.7 13.0 9.3 6.3 7.2 8.2
2.8 1.3 0.7 0.7 -0.7 0.1 2.5 1.2 9.1 7.3 5.0 4.6 6.3
H1 4.3 2.3 1.8 2.0 1.1 5.4 5.3 4.5 10.4 8.4 6.7 4.7 6.6
2551 Q3 2.3 0.8 0.6 0.0 -0.1 -1.0 3.8 -0.7 9.0 7.6 4.7 4.6 6.5
Q4 -0.2 -0.2 -1.2 -1.0 -4.6 -8.4 -3.4 -3.7 6.8 4.9 1.9 4.5 5.6
ที่มา CEIC
แนวโน้มเศรษฐกิจไทยปี 2552
ในการเผชิญกับภาวะวิกฤตเศรษฐกิจโลกในครั้งนี้ ประเทศไทยอยู่ในสถานะที่ดีกว่าการเผชิญวิกฤตเศรษฐกิจ “ต้มยำกุ้ง”
เมื่อปี 2540 เนื่องจากสถาบันการเงินอยู่ในสภาพที่เข้มแข็ง มีหนี้เสียอยู่ไม่มาก มีทุนสำรองต่อสินทรัพย์เสี่ยงอยู่ในระดับมั่นคงเกิน มาตรฐาน BIS และภาครัฐเองก็ได้ลดสัดส่วนหนี้สาธารณะต่อ GDP ลงเหลือร้อยละ 36.0 ซึ่งถือได้ว่าไม่มากเทียบกับประเทศซึ่งมีระดับ รายได้ปานกลางอื่น ๆ นอกจากนั้น การบริโภคของประชาชนก็ไม่ได้ขยายตัวมากในช่วงที่ผ่านมา หนี้ภาคครัวเรือนจึงไม่ได้เพิ่มขึ้นมาก ดังนั้น นับว่าประเทศไทยมีความพร้อมมากกว่าอีกหลาย ๆ ประเทศ ในการที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยนโยบายการคลังและการเงิน
เพื่อรองรับกับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกในครั้งนี้
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
23
นอกจากนัน้ เสถียรภาพเศรษฐกิจไทยในปี 2551 ยังมัน่ คง โดยอัตราเงินเฟ้อทัว่ ไปปรับตัวเพิม่ ขึน้ ตามราคาน้ำมันสูงสุดร้อยละ 9.2 ในเดือนกรกฎาคม จากนัน้ ปรับลดลงจนทำให้อตั ราเงินเฟ้อทัว่ ไปเฉลีย่ ทัง้ ปีอยูท่ รี่ อ้ ยละ 5.5 โดยมีการติดลบเล็กน้อยในเดือนธันวาคม 2551 ในส่วนของอัตราการว่างงานมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นแต่ยังคงเท่ากับร้อยละ 1.4 ขณะที่ทุนสำรองระหว่างประเทศมีมากกว่า 1 แสนล้าน ดอลลาร์สหรัฐ ดุลบัญชีเดินสะพัดขาดดุลเล็กน้อยและมีแนวโน้มจะเกินดุลในปี 2552 ถึงแม้ช่องทางที่เศรษฐกิจไทยจะได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจโลกในปี 2552 จะค่อนข้างชัดเจน แต่ระดับความรุนแรง ยังมีความไม่แน่นอนสูง การประมาณอัตราการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจโลกโดย IMF หรือสำนักพยากรณ์ตา่ ง ๆ ได้ปรับลดลงอย่างมาก จากการขยายตัวร้อยละ 0.5 ในการประมาณการเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2551 เป็นการหดตัวร้อยละ 0.5 ในการประมาณการในเดือน กุมภาพันธ์ 2552 นักวิเคราะห์บางกลุ่มคาดว่าวิกฤตเศรษฐกิจครั้งนี้จะยาวนานหลายปี โดยเศรษฐกิจสหรัฐจะเริ่มฟื้นตัวในไตรมาสที่ 4 ของปี 2552 หรือต้นปี 2553 จากเดิมที่คาดการณ์ไว้ในไตรมาสที่ 3 ของปี 2552 นอกจากนั้นถึงแม้จะเริ่มฟื้นตัวแล้วก็จะไม่ได้กลับไปขยายตัว ในระดับสูงเหมือน 4 - 5 ปีที่ผ่านมา ประเทศหลักที่มีแนวโน้มเศรษฐกิจหดตัวในปี 2552
% YOY
2551
ประมาณการปี 2552
โลก สหรัฐอเมริกา กลุ่มยูโรโซน อังกฤษ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ไต้หวัน ฮ่องกง สิงคโปร์
2.8 1.3 0.7 0.7 -0.7 2.5 0.1 2.6 1.2
(-0.5) – (0.5) (-1.6) – (-2.3) (-2.0) – (-2.5) (-3.2) – (-2.8) (-2.6) – (-3.0) -3.5 -3.0 -3.8 -3.8
ที่มา CEIC และรวบรวมจากหลายแหล่ง
การประมาณการเศรษฐกิจไทยในปี 2552 จึงมีความไม่แน่นอนสูงและขึ้นกับสถานการณ์ของเศรษฐกิจโลกอยู่มาก โดยใน ช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2552 สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติได้ประมาณการอัตราการขยายตัว
ของเศรษฐกิจไทยในปี 2552 ที่ร้อยละ (-1) – 0 ส่วนสถาบันวิเคราะห์แห่งอื่น ๆ ส่วนใหญ่เห็นว่าเศรษฐกิจไทยมีโอกาสขยายตัวระหว่าง ร้อยละ (-2) – 0 และมีบางแห่ง เช่น Moody’s Investor Service และ UBS ซึ่งคาดว่าเศรษฐกิจไทยจะหดตัวร้อยละ 2.4 และ 5.0
ตามลำดับ นอกจากนั้น นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่เห็นไปในทิศทางเดียวกันว่าเศรษฐกิจของหลายประเทศในภูมิภาค เช่น ไต้หวัน ญี่ปุ่น สิงคโปร์ ฮ่องกง และเกาหลีใต้ เป็นต้น มีแนวโน้มเศรษฐกิจที่จะหดตัวมากกว่าเศรษฐกิจไทย
24
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
แนวโน้มการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในปี 2552
Source Moody DBS Kim eng UBS Economist Citi UTCC BNP BBL JP Morgan BOT TDRI KBank KTB Securities FPO ADB Phatra World Bank
2009
Forecast date
(-2.38) (-1.7) (-1.0) - (0.0) (-0.5) (-1.8) (-0.3) (-1.0) (-0.9) (-1.5) - (-1.0) (-0.75) 0.0 - 2.0 0.0 0.0 - 1.2 1.5 0.0 - 2.0 2.0 1.5 2.0
24 Feb 09 23 Feb 09 23 Feb 09 23 Feb 09 17 Feb 09 12 Feb 09 5 Feb 09 Feb 09 Feb 09 30 Jan 09 19 Feb 09 6 Feb 09 2 Feb 09 2 Feb 09 Feb 09 Jan 09 12 Dec 08 10 Dec 08
ที่มา รวบรวมจากหลายแห่ง โดยสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ในปี 2552 มูลค่าการส่งออกในรูปดอลลาร์สหรัฐ คาดว่าจะหดตัวร้อยละ 13.1 การลงทุนของภาคเอกชนหดตัวร้อยละ 3.0 และการบริโภคภาคเอกชนขยายตัวร้อยละ 2.2 ดุลบัญชีเดินสะพัดคาดว่าจะเกินดุล ประมาณร้อยละ 0.9 ของ GDP และอัตราเงินเฟ้อ อยูร่ ะหว่างร้อยละ (-0.5) - (0.5) การว่างงานจะเพิม่ ขึน้ จาก 5.1 แสนคน ณ ไตรมาสสุดท้ายของปี 2551 เป็นประมาณ 9 แสน - 1.3 ล้านคน หรือเป็นอัตราการว่างงานร้อยละ 2.5 - 3.5 ของกำลังแรงงาน ทั้งนี้ การประมาณการเศรษฐกิจไทยในปี 2552 ยังมี Downside Risk อยู่มาก คือหากสถานการณ์เศรษฐกิจโลกแย่ลงกว่า
ที่คาดการณ์ หรือมาตรการรองรับวิกฤตเศรษฐกิจของรัฐบาลไม่สามารถดำเนินการได้ตามเป้าหมาย การหดตัวของเศรษฐกิจและการ ว่างงานจะมากกว่าที่คาดไว้
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
25
ประมาณการภาวะเศรษฐกิจไทยในปี 2552
GDP (ณ ราคาประจำปี พันล้านบาท) อัตราเพิ่มของ GDP (ณ ราคาคงที่ %) การลงทุนรวม (ณ ราคาคงที่ %) - ภาคเอกชน - ภาครัฐ การบริโภครวม (ณ ราคาคงที่ %) - ภาคเอกชน - ภาครัฐ มูลค่าการส่งออกสินค้า (การขยายตัว %) มูลค่าการนำเข้าสินค้า (การขยายตัว %) ดุลการค้า (Bill. USD) ดุลบัญชีเดินสะพัด (Bill. USD) ดุลบัญชีเดินสะพัดต่อ GDP (%) เงินเฟ้อ (%)
2549 7,841.3 5.2 3.9 4.1 3.3 2.9 3.0 2.4 17.0 7.9 1.0 2.3 1.0 4.7
ข้อมูลจริง 2550 8,493.3 4.9 1.3 0.6 3.4 2.7 1.6 9.2 17.3 9.1 11.6 14.0 6.1 2.3
2551 9,102.8 2.6 1.1 3.2 -4.8 2.2 2.5 0.4 16.8 26.4 0.2 -0.2 -0.1 5.5
ประมาณการ 2552 9,012.8 (-1.0) – (0.0) -0.4 -3.0 8.0 3.1 2.2 8.3 -13.1 -14.0 1.8 2.3 0.9 (-0.5) – (0.5)
ที่มา สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ณ วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2552
สำหรับภาคการเงินในปี 2552 ถึงแม้สภาพคล่องในระบบการเงินและสภาพคล่องส่วนเกินในสถาบันการเงินจะมีอยูใ่ นระดับสูง ขณะที่อัตราดอกเบี้ยมีแนวโน้มอยู่ในระดับต่ำ แต่สถาบันการเงินทุกแห่งจะระมัดระวังอย่างเต็มที่ในการปล่อยสินเชื่อ เพื่อไม่ให้เกิด
สินเชื่อด้อยคุณภาพในอนาคต แม้ว่ารัฐบาลพยายามเร่งรัดให้สถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐขยายสินเชื่อ รวมถึงการขยายบทบาท ของสถาบันประกันสินเชื่อ ก็คงจะช่วยพยุงเศรษฐกิจได้ในระดับหนึ่ง เนื่องจากความต้องการสินเชื่อเพื่อขยายกิจการหรือลงทุนใหม่ของ ภาคธุรกิจเองมีไม่มาก ขณะที่สถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐต้องระมัดระวังปัญหาหนี้เสียเช่นเดียวกัน ด้านอัตราแลกเปลี่ยน ค่าเงินบาทเทียบกับดอลลาร์สหรัฐมีแนวโน้มอ่อนค่าลงเล็กน้อยนับตั้งแต่เกิดวิกฤตการณ์การเงินใน สหรัฐ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ จะแข็งค่าเมื่อเทียบกับค่าเงินสกุลอื่น ๆ ในโลกไปจนกระทั่งวิกฤตเศรษฐกิจ ในโลกจะคลี่คลายลง ดังนั้น ในปี 2552 ค่าเงินบาทเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ จึงมีแนวโน้มที่จะอ่อนตัวลงอีกเล็กน้อย
มาตรการแก้ไขวิกฤตและฟื้นฟูเศรษฐกิจ
ขณะนี้เกือบทุกประเทศต่างพยายามใช้ทั้งนโยบายการเงินและการคลังในการพยุงเศรษฐกิจไม่ให้ทรุดตัวลงไปมาก นโยบาย ที่แต่ละประเทศดำเนินการอยู่ก็จะคล้าย ๆ กัน คือ การผ่อนคลายนโยบายการเงินโดยการลดดอกเบี้ย การจัดสรรสินเชื่อให้ภาคธุรกิจ
ที่ประสบปัญหา และใช้นโยบายการคลังเพื่อช่วยให้ประชาชนมีรายได้เพื่อจับจ่ายใช้สอยอย่างเร็วที่สุด นโยบายที่ใช้นั้นมีทั้งการลดภาษี การแจกคูปองทีใ่ ช้แทนเงินสด การช่วยเหลือค่าครองชีพ การสมทบค่าใช้จา่ ยบางประเภท และการขยายการช่วยเหลือคุม้ ครองผูต้ กงาน และส่วนสำคัญอีกส่วนหนึ่งของนโยบายการคลังคือการทุ่มการลงทุนภาครัฐเพื่อสร้างงานและเปิดโอกาสการลงทุนของภาคเอกชน
26
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
สำหรับประเทศไทยนัน้ ทางด้านนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทยได้ทยอยลดอัตราดอกเบีย้ นโยบายลงจนเหลือร้อยละ 1.50 ในเดือนกุมภาพันธ์ และมีโอกาสที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงอีก แต่ภายใต้สถานการณ์ปัจจุบัน นโยบายการคลังจะเป็น นโยบายหลัก ซึ่งเข้ามามีบทบาทอย่างมากในการพยุงเศรษฐกิจ โดยรัฐบาลได้เริ่มใช้นโยบายการคลังไปแล้วในการจัดทำแผนเร่งด่วน เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ มีการจัดงบประมาณปี 2552 เพิ่มเติม 1.16 แสนล้านบาท ชุดของมาตรการเร่งด่วนนั้น มีวัตถุประสงค์ที่จะเร่งพยุง การใช้จ่ายของประชาชนในเวลาที่รายได้จากการส่งออกและการท่องเที่ยวของประเทศลดลงมาก โดยมีมาตรการที่จะดูแลรายได้ ประชาชนในกลุม่ ต่าง ๆ เช่น เกษตรกร แรงงานนอกภาคเกษตรโดยเฉพาะผูว้ า่ งงาน เด็กและผูป้ กครอง ประชาชนผูม้ รี ายได้นอ้ ย ผูส้ งู อายุ ผูป้ ระกอบการธุรกิจเอกชนโดยเฉพาะวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ผูป้ ระกอบการในสาขาทีไ่ ด้รบั ผลกระทบรุนแรง เช่น ภาคการส่งออก และการท่องเที่ยว รัฐบาลกำลังจัดเตรียมแผนการลงทุนภาครัฐเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างงาน ที่ยั่งยืน แผนการลงทุนคาดว่าจะเริ่มดำเนินการในช่วงครึ่งปีหลังและครอบคลุมการลงทุนภาครัฐในช่วง 2 - 3 ปีต่อไป สาขาหลักของ การลงทุนเพื่อเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศก็คาดว่าจะไม่ต่างไปจากที่ได้เตรียมการไว้หลายครั้งในหลายรัฐบาล ที่ผ่านมา เช่น การลงทุนในระบบโลจิสติกส์และโครงสร้างพื้นฐาน การลงทุนในระบบน้ำเพื่อการเกษตรและอุตสาหกรรม การลงทุนเพื่อ ปรับปรุงและสร้างแหล่งท่องเที่ยว การลงทุนด้านการศึกษาและสาธารณสุข เป็นต้น อย่างไรก็ตาม จากการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลหลายครั้งในช่วงปีที่ผ่านมา (ประเทศไทยมีการเปลี่ยนนายกรัฐมนตรีถึง 4 ครั้ง
ไม่นับรวมรักษาการนายกรัฐมนตรี ในปี 2551) ส่งผลให้การลงทุนภาครัฐไม่สามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้อย่างเต็มที่ ดังนั้น ในครั้งนี้ การลงทุนภาครัฐจะมีบทบาทสำคัญในการแก้ไขวิกฤตเศรษฐกิจด้วย จึงต้องมีการคัดเลือกโครงการที่มีความพร้อมและวางแผน
ให้การลงทุนเดินหน้าไปได้อย่างต่อเนื่องทันกับเวลาที่จะช่วยเป็นแรงส่งเสริมเศรษฐกิจตั้งแต่ช่วงหลังของปี 2552 เป็นต้นไป สำหรับภาคธุรกิจ กลยุทธ์การดำเนินธุรกิจในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจนั้น ต้องมีการตรวจสอบและวางแผนเงินหมุนเวียนล่วงหน้า อย่างระมัดระวัง และหาทางลดต้นทุน รวมถึงเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต นอกจากนั้น การที่ตลาดเล็กลงและกำลังซื้อของลูกค้าน้อยลง ทำให้ต้องพัฒนาสินค้าและบริการที่ให้ความคุ้มค่ากับลูกค้า และแสวงหาตลาดเฉพาะสำหรับกลุ่มลูกค้าที่ยังสามารถขยายตลาดได้
ส่วนภาคธุรกิจที่ยังมีฐานะการเงินดี ควรใช้วิกฤตเป็นโอกาสเพื่อสร้างความเข้มแข็งเตรียมรับช่วงเศรษฐกิจฟื้นตัว ในช่วงเศรษฐกิจ ตกต่ำอาจเป็นโอกาสที่ดีสำหรับการขยายการลงทุนในต่างประเทศ การลงทุนสร้างแบรนด์ การวิจัยพัฒนาสินค้า และหาบุคลากร
ในทักษะฝีมือที่องค์กรยังขาดแคลน ในช่วงที่ต้นทุนของสิ่งเหล่านี้ถูกลง ประเทศไทยเคยประสบกับวิกฤตเศรษฐกิจที่รุนแรงกว่านี้มาแล้วเมื่อปี 2540 ซึ่งเศรษฐกิจหดตัวมากกว่าร้อยละ 10 และ
สินเชื่อในธนาคารเกือบครึ่งหนึ่งเป็นหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ วิกฤตเศรษฐกิจครั้งนี้เราอยู่ในภาวะที่เข้มแข็งกว่าครั้งที่แล้วมาก แต่ก็ไม่ สามารถหวังพึง่ เศรษฐกิจโลกทีอ่ ยูใ่ นภาวะอ่อนแอได้ การดำเนินมาตรการและโครงการต่าง ๆ ในประเทศจึงต้องดำเนินการอย่างรวดเร็ว ต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพให้ทันกับปัญหา และในยามวิกฤตนี้สิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง คือ ภาครัฐ เอกชน และประชาชนจะต้องร่วมมือ ร่วมใจเป็นหนึ่งเดียวกันเพื่อแก้ไขปัญหาและฟื้นฟูเศรษฐกิจไทย
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
27
คำอธิบายและการวิเคราะห์ฐานะการเงิน และผลการดำเนินงาน
คำอธิบายและการวิเคราะห์ฐานะการเงินและผลการดำเนินงาน (งบการเงินรวม)
ในเดือนกรกฎาคม ปี 2550 กลุ่มธนชาตได้มีการปรับโครงสร้างการถือหุ้นบริษัทในกลุ่ม โดยได้มีการเข้าถือหุ้นในกิจการ
ทีเ่ กีย่ วข้องต่าง ๆ ดังรายละเอียดแสดงข้างต้นในหัวข้อ 2 ลักษณะการประกอบธุรกิจ เรือ่ งการเปลีย่ นแปลง และพัฒนาการทีส่ ำคัญ ดังนัน้ ปัจจุบันธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) “ธนาคารธนชาต” จึงเป็นผู้ถือหุ้นใน • บริษัทที่ประกอบธุรกิจทางการเงิน คือ 1) บริษัท หลักทรัพย์ ธนชาต จำกัด (มหาชน) 2) บริษัท หลักทรัพย์จัดการ กองทุน ธนชาต จำกัด 3) บริษัท ธนชาตประกันภัย จำกัด 4) บริษัท ธนชาตประกันชีวิต จำกัด 5) บริษัท ธนชาตกรุ๊ป ลีสซิ่ง จำกัด
6) บริษัท เนชั่นแนล ลีซซิ่ง จำกัด 7) บริษัท ที ลีสซิ่ง จำกัด และ 8) บริษัท ธนชาตโบรกเกอร์ จำกัด • บริษัทที่ประกอบธุรกิจงานสนับสนุน คือ 1) บริษัท ธนชาตกฎหมายและประเมินราคา จำกัด และ 2) บริษัท ธนชาต แมเนจเม้นท์ แอนด์ เซอร์วิส จำกัด การเข้าไปถือหุ้นดังกล่าวทำให้ธนาคารธนชาต สามารถรับรู้ผลการดำเนินงานของบริษัทย่อยสำหรับปี 2550 ได้ตั้งแต่วันที่ เริ่มลงทุน (คือวันที่ 1 กรกฎาคม 2550 เนื่องจากภายใต้สัญญาซื้อขายหุ้นระหว่างธนาคารธนชาตกับบริษัทใหญ่ (บริษัท ทุนธนชาต จำกัด (มหาชน) “ทุนธนชาต”) ที่ทำไว้เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2550 บริษัทใหญ่ได้โอนสิทธิประโยชน์ในบริษัทย่อยทั้งหมดให้แก่ ธนาคารธนชาตตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2550)
ภาพรวมของผลการดำเนินงาน งบกำไรขาดทุน ปี 2551 ปี 2550 รายได้ดอกเบี้ยและเงินปันผล 20,688 17,488 9,398 9,396 ค่าใช้จ่ายดอกเบี้ย หนี้สูญและหนี้สงสัยจะสูญ และขาดทุน 3,968 2,692 จากการปรับโครงสร้างหนี้ 10,700 6,111 รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย 15,535 9,905 ค่าใช้จ่ายที่มิใช่ดอกเบี้ย 586 259 ภาษีเงินได้นิติบุคคล (รวมภาษีเงินได้นิติบุคคลที่ได้รับคืน) 31 20 กำไรส่วนของผู้ถือหุ้นส่วนน้อย กำไรสุทธิสำหรับปี 1,870 1,327 1.08 0.84 กำไรต่อหุ้น (บาท) 1,734,619,292 1,583,999,082 จำนวนหุ้นสามัญถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนัก (หุ้น)
28
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
(หน่วย : ล้านบาท)
เปลี่ยนแปลงจากปี 2550 เพิ่ม/(ลด) ร้อยละ 3,200 2
18.29 0.02
1,276 4,589 5,630 327 11 543
47.38 75.10 56.85 125.97 56.70 40.89
ธนาคารธนชาตและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิปี 2551 จำนวน 1,870 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 543 ล้านบาท หรือร้อยละ 40.89
เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา เป็นผลจากการขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่องของกลุ่มธนชาต และการปรับตัวสูงขึ้นของส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยจาก เงินให้สินเชื่อ (Loan Spread) จากร้อยละ 3.30 เป็นร้อยละ 4.03 รวมทั้งการเพิ่มขึ้นของรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 75.10 เป็นผลจากธุรกิจธนาคารพาณิชย์ ธุรกิจหลักทรัพย์ ธุรกิจจัดการกองทุน ธุรกิจประกันชีวิต และธุรกิจประกันภัยยังคงขยายตัว
อย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ค่าใช้จ่ายที่มิใช่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นร้อยละ 56.85 จากการขยายธุรกิจ และการลงทุนในระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ และโครงสร้างพื้นฐาน ส่งผลให้ต้นทุนจากการดำเนินงานต่อรายได้รวม (Cost to Income Ratio) อยู่ที่ร้อยละ 70.65 ใกล้เคียงกับ
ปีที่ผ่านมา โดยมีรายละเอียดการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญๆ ดังนี้ รายได้ดอกเบี้ยและเงินปันผล ในปี 2551 ธนาคารธนชาตและบริษัทย่อยมีรายได้ดอกเบี้ยและเงินปันผลจำนวน 20,688 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3,200 ล้านบาท หรือร้อยละ 18.29 เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ส่วนใหญ่เป็นการเพิ่มขึ้นจากรายได้ดอกเบี้ยจากการให้เช่าซื้อตามการขยายตัวของสินเชื่อ ค่าใช้จ่ายดอกเบี้ย ค่าใช้จา่ ยดอกเบีย้ จำนวน 9,398 ล้านบาท ใกล้เคียงกับปีทผี่ า่ นมา เนือ่ งจากต้นทุนเงินฝากปรับตัวลดลงตามการปรับตัวลดลง ของอัตราดอกเบี้ยในช่วงครึ่งหลังของปี 2551 ในขณะที่ปริมาณเงินฝากและเงินกู้ยืมระยะสั้นเพิ่มขึ้น 69,050 ล้านบาท หรือร้อยละ 27.82 เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยเป็นผลจากการระดมเงินฝากผ่านการขยายสาขาเพื่อเป็นการเพิ่มช่องทางในการรับฝากเงิน รวมทั้ง การออกผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้า และการออกตั๋วเงินระยะสั้นเพื่อเพิ่มทางเลือกในการออมเงิน
แก่ลูกค้า หนี้สูญและหนี้สงสัยจะสูญ สำหรับปี 2551 ธนาคารธนชาตและบริษัทย่อยมีค่าใช้จ่ายหนี้สูญและหนี้สงสัยจะสูญจำนวน 3,968 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,276 ล้านบาท หรือร้อยละ 47.38 เป็นผลจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวซึ่งส่งผลต่อความสามารถในการชำระหนี้ของลูกหนี้ อย่างไรก็ตาม ธนาคารธนชาตและบริษทั ย่อยได้เพิม่ มาตรการเข้มงวดในการให้สนิ เชือ่ รวมทัง้ เพิม่ ประสิทธิภาพในการติดตามหนีเ้ พือ่ ลดความเสียหาย ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย ธนาคารธนชาตและบริษัทย่อยมีรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยจำนวน 10,700 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4,589 ล้านบาท หรือร้อยละ
75.10 ส่วนใหญ่เป็นการเพิม่ ขึน้ จากธุรกิจธนาคารพาณิชย์ ธุรกิจประกันชีวติ ธุรกิจประกันภัย ธุรกิจหลักทรัพย์ และธุรกิจจัดการกองทุน ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าธุรกิจบางส่วนจะได้รับผลกระทบจากภาวะตลาดทุนที่ซบเซาตามภาวะตลาดทุนทั่วโลก ค่าใช้จ่ายที่มิใช่ดอกเบี้ย ธนาคารธนชาตและบริษัทย่อยมีค่าใช้จ่ายที่มิใช่ดอกเบี้ยจำนวน 15,535 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5,630 ล้านบาท หรือร้อยละ 56.85 ส่วนใหญ่เป็นการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับพนักงาน และค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับอาคาร สถานที่และอุปกรณ์ อันเนื่องมาจาก
การลงทุนในระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อรองรับการขยายตัวทางธุรกิจในอนาคต
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
29
ฐานะการเงินของธนาคารธนชาตและบริษัทย่อย (หน่วย : ล้านบาท)
งบดุล ปี 2551 ปี 2550
เปลี่ยนแปลงจากปี 2550 เพิ่ม/(ลด) ร้อยละ
สินทรัพย์ เงินสด รายการระหว่างธนาคารและตลาดเงิน (ที่มีดอกเบี้ย) หลักทรัพย์ซื้อโดยมีสัญญาขายคืน เงินลงทุน - สุทธิ เงินให้สินเชื่อและดอกเบี้ยค้างรับ - สุทธิ ทรัพย์สินรอการขาย - สุทธิ ที่ดิน อาคาร และอุปกรณ์ - สุทธิ สินทรัพย์อื่น รวมสินทรัพย์
743 24,550 (2,500) 7,540 45,405 176 224 1,422 77,560
3,275 36,782 2,500 23,172 223,938 1,424 2,087 7,609 300,787
4,018 61,332 - 30,712 269,343 1,600 2,311 9,031 378,347
22.70 66.74 (100.00) 32.54 20.28 12.41 10.72 18.69 25.79
ธนาคารธนชาตและบริษัทย่อยมีสินทรัพย์ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551 จำนวน 378,347 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2550 จำนวน 77,560 ล้านบาท หรือร้อยละ 25.79 ส่วนใหญ่เป็นการเพิ่มขึ้นจากเงินให้สินเชื่อและดอกเบี้ยค้างรับสุทธิจำนวน 45,405
ล้านบาท หรือร้อยละ 20.28 ส่วนใหญ่เกิดจากการขยายตัวของสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ สินเชื่อธุรกิจ และสินเชื่อเพื่อผู้ประกอบการ วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) รวมทั้งรายการระหว่างธนาคารและตลาดเงิน (ที่มีดอกเบี้ย) เพิ่มขึ้นจำนวน 24,550
ล้านบาท หรือร้อยละ 66.74 (หน่วย : ล้านบาท)
งบดุล ปี 2551 ปี 2550
เปลี่ยนแปลงจากปี 2550 เพิ่ม/(ลด) ร้อยละ
หนี้สินและส่วนของผู้ถือหุ้น เงินฝาก รายการระหว่างธนาคารและตลาดเงิน (ที่มีดอกเบี้ย) เจ้าหนี้ธุรกิจหลักทรัพย์ หนี้สินจ่ายคืนเมื่อทวงถาม เงินกู้ยืม ดอกเบี้ยค้างจ่าย เงินสำรองประกันชีวิต หนี้สินอื่น รวมหนี้สิน ส่วนของผู้ถือหุ้นของธนาคาร ส่วนของผู้ถือหุ้นส่วนน้อย รวมหนี้สินและส่วนของผู้ถือหุ้น
81,503 3,564 (389) (12) (11,053) 292 2,229 1,065 77,199 355 6 77,560
270,163 6,677 855 1,317 61,150 1,721 7,822 7,301 357,006 21,278 63 378,347
188,660 3,113 1,244 1,329 72,203 1,429 5,593 6,236 279,807 20,923 57 300,787
43.20 114.49 (31.30) (0.93) (15.31) 20.41 39.84 17.12 27.59 1.70 10.25 25.79
ธนาคารธนชาตและบริษัทย่อยมีหนี้สินรวม ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551 เท่ากับ 357,006 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2550 จำนวน 77,199 ล้านบาท หรือร้อยละ 27.59 และมีส่วนของผู้ถือหุ้นของธนาคารจำนวน 21,278 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2550 จำนวน 355 ล้านบาท หรือร้อยละ 1.70 เนื่องจากผลกำไรในปี 2551 ขณะที่ส่วนต่ำกว่าทุนจากการเปลี่ยนแปลงมูลค่าเงินลงทุนเพิ่มขึ้น 990 ล้านบาท
30
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
คำอธิบายและการวิเคราะห์ฐานะการเงินและผลการดำเนินงาน (งบการเงินเฉพาะธนาคาร) ภาพรวมของผลการดำเนินงาน
ในปี 2551 ธนาคารธนชาตมีกำไรสุทธิจำนวน 1,304 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา 314 ล้านบาท หรือร้อยละ 31.67
เป็นผลจากส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยจากเงินให้สินเชื่อปรับตัวสูงขึ้นจากร้อยละ 3.30 เป็นร้อยละ 3.72 เนื่องจากการขยายสินเชื่อ
อย่างต่อเนื่อง ควบคู่ไปกับการบริหารต้นทุนที่เหมาะสมด้วยการระดมเงินฝากผ่านสาขาของธนาคารธนชาต จำนวน 213 สาขา และ การออกผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย อีกทั้งการเพิ่มขึ้นของรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยร้อยละ 14.02 ขณะที่ค่าใช้จ่ายที่มิใช่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น
ร้อยละ 27.58 ส่วนใหญ่เป็นการเพิม่ ขึน้ ของค่าใช้จา่ ยเกีย่ วกับพนักงาน และค่าใช้จา่ ยเกีย่ วกับอาคาร สถานทีแ่ ละอุปกรณ์ อันเนือ่ งมาจาก การลงทุนในระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและโครงสร้างพื้นฐาน และการสร้างภาพลักษณ์ของธนาคารธนชาตในการเป็นธนาคารพาณิชย์ ขนาดกลาง เพื่อรองรับการขยายตัวทางธุรกิจในอนาคต แต่อย่างไรก็ตาม ธนาคารธนชาตสามารถบริหารต้นทุนจากการดำเนินงาน
ต่อรายได้รวม (Cost to Income Ratio) อยู่ที่ร้อยละ 61.06 ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา โดยมีรายละเอียดการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ ดังนี้ 1. การขยายเงินให้สินเชื่อ ธนาคารธนชาตมีการขยายสินเชื่ออย่างต่อเนื่องทั้งสินเชื่อเช่าซื้อ และสินเชื่อธุรกิจ โดยเฉพาะ อย่างยิ่งลูกหนี้เช่าซื้อซึ่งเป็นธุรกิจหลักของธนาคารธนชาตเพิ่มขึ้นจาก 162,205 ล้านบาท เป็น 198,344 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น
ร้อยละ 22.28 จากสิ้นปี 2550 2. การขยายฐานเงินฝากในภาวะอัตราดอกเบี้ยในตลาดปรับตัวลดลง รวมทั้งการบริหารสัดส่วนเงินฝากอย่างเหมาะสม
และการออกผลิตภัณฑ์เพื่อเป็นการเพิ่มทางเลือกให้แก่ลูกค้า เพื่อขยายฐานลูกค้า และเพิ่มส่วนแบ่งการตลาด ทำให้ต้นทุนเงินฝากของ ธนาคารธนชาต (Cost of Fund) ลดลงเป็นร้อยละ 3.21 จากร้อยละ 3.76 ในปี 2550 3. การเร่งสร้างรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย และการบริหารต้นทุนการดำเนินงาน ในปี 2551 ธนาคารธนชาตได้เร่งสร้างรายได้
โดยการออกผลิตภัณฑ์ รวมทั้งการปรับโครงสร้างพื้นฐาน และระบบงานต่าง ๆ เพื่อรองรับการขยายธุรกิจ ทำให้ธนาคารธนชาต สามารถรักษาสัดส่วนรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยต่อรายได้รวม (Non-interest Income Ratio) ไว้ที่ร้อยละ 17.92 จากปัจจัยที่ได้กล่าวข้างต้น ทำให้ผลการดำเนินงานของธนาคารธนชาตในปี 2551 ดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยกำไรก่อน
หักหนี้สูญและภาษีเงินได้มีจำนวน 4,966 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,328 ล้านบาท หรือร้อยละ 36.52 เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา และกำไรสุทธิ จำนวน 1,304 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 314 ล้านบาท หรือร้อยละ 31.67 ถึงแม้ว่าภาวะเศรษฐกิจในปี 2551 จะชะลอตัว และส่งผลต่อการ ดำเนินธุรกิจ และความสามารถในการชำระหนี้ของลูกหนี้ธุรกิจเช่าซื้อ โดยสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้เพิ่มขึ้นเป็น 7,167 ล้านบาท
จาก 5,213 ล้านบาท ในปี 2550 ซึ่งส่งผลให้ค่าใช้จ่ายหนี้สูญและหนี้สงสัยจะสูญเพิ่มขึ้น 942 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม ธนาคารธนชาต และบริษัทย่อยได้เพิ่มมาตรการเข้มงวดในการให้สินเชื่อ รวมทั้งเพิ่มประสิทธิภาพในการติดตามหนี้เพื่อลดความเสียหายที่จะเกิดขึ้น
ในอนาคต รายได้ดอกเบี้ยและเงินปันผล สำหรับปี 2551 ธนาคารธนชาตมีรายได้ดอกเบีย้ และเงินปันผลจำนวน 19,897 ล้านบาท เพิม่ ขึน้ 2,774 ล้านบาท หรือร้อยละ 16.19 เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยส่วนใหญ่เป็นการเพิ่มขึ้นจากรายได้ดอกเบี้ยจากการให้เช่าซื้อตามการขยายตัวของการให้สินเชื่อ (หน่วย : ล้านบาท)
รายได้ดอกเบี้ยและเงินปันผล ปี 2551 ปี 2550
เปลี่ยนแปลงจากปี 2550 เพิ่ม/(ลด) ร้อยละ
1. เงินให้สินเชื่อ 2. รายการระหว่างธนาคารและตลาดเงิน 3. การให้เช่าซื้อ 4. เงินลงทุน
4,228 1,512 13,063 1,094
4,528 1,183 10,370 1,042
(300) 329 2,693 52
(6.62) 27.81 25.96 4.93
รวมรายได้ดอกเบี้ยและเงินปันผล
19,897
17,123
2,774
16.19
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
31
ค่าใช้จ่ายดอกเบี้ย ค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยจำนวน 9,429 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 43 ล้านบาท หรือร้อยละ 0.45 เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยปริมาณ
เงินฝากและเงินกู้ยืมระยะสั้นเพิ่มขึ้น 70,676 ล้านบาท หรือร้อยละ 28.49 เมื่อเทียบกับปี 2550 ขณะที่ต้นทุนเงินฝากลดลงตามการ ปรับตัวลดลงของอัตราดอกเบี้ยในช่วงครึ่งหลังของปี 2551 หนี้สูญและหนี้สงสัยจะสูญ ธนาคารธนชาตมีค่าใช้จ่ายหนี้สูญและหนี้สงสัยจะสูญสำหรับปี 2551 จำนวน 3,548 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 942 ล้านบาท
หรือร้อยละ 36.14 เมือ่ เทียบกับปีทผี่ า่ นมา เป็นผลจากภาวะเศรษฐกิจทีช่ ะลอตัว ส่งผลกระทบต่อความสามารถในการชำระหนีข้ องลูกหนี้ ลดลง โดยในกรณีที่สินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้เพิ่มขึ้นจะต้องตั้งสำรองทั้งจำนวน ตามหลักเกณฑ์การตั้งค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ และ การนำมูลค่าหลักประกันมาหักออกจากมูลหนี้ของลูกหนี้ในการกันเงินสำรองสำหรับลูกหนี้ด้อยคุณภาพของธนาคารแห่งประเทศไทย “ธปท.” ที่นำออกมาบังคับใช้เมื่อเดือนธันวาคม 2549 รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย สำหรับปี 2551 ธนาคารธนชาตมีรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย จำนวน 2,286 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 281 ล้านบาท หรือร้อยละ 14.02 เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ส่วนใหญ่จากการเพิ่มขึ้นจากรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการจำนวน 301 ล้านบาท และกำไรจากการปริวรรต เงินตราจำนวน 173 ล้านบาท ในขณะที่กำไรจากเงินลงทุนลดลงตามภาวะตลาดทุนที่ซบเซา
รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย ปี 2551 ปี 2550 1. กำไรจากเงินลงทุน 2. ค่าธรรมเนียมและบริการ • การรับรอง อาวัล และค้ำประกัน • ส่วนลดค่าเบี้ยประกันภัยรับ • อื่น ๆ 3. กำไร (ขาดทุน) จากการปริวรรตเงินตรา 4. รายได้ค่าบริการงานสนับสนุน 5. รายได้อื่น รวมรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย
(หน่วย : ล้านบาท)
เปลี่ยนแปลงจากปี 2550 เพิ่ม/(ลด) ร้อยละ
(206)
71
(277)
(389.72)
35 709 920 223 291 314 2,286
22 760 581 50 321 200 2,005
13 (51) 339 173 (30) 114 281
58.40 (6.70) 58.36 342.73 (9.06) 56.76 14.02
ค่าใช้จ่ายที่มิใช่ดอกเบี้ย สำหรั บ ปี 2551 ธนาคารธนชาตมี ค่ า ใช้ จ่ า ยที่ มิ ใ ช่ ด อกเบี้ ย จำนวน 7,788 ล้ า นบาท เพิ่ ม ขึ้ น 1,684 ล้ า นบาท หรื อ
ร้อยละ 27.58 เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ส่วนใหญ่เป็นการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับพนักงานจำนวน 820 ล้านบาท และค่าใช้จ่าย เกี่ยวกับอาคาร สถานที่และอุปกรณ์ จำนวน 249 ล้านบาท เป็นผลจากการขยายสาขา การลงทุนในระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ
และโครงสร้างพื้นฐาน และการสร้างภาพลักษณ์ของธนาคารธนชาตในการเป็นธนาคารพาณิชย์ขนาดกลาง เพื่อรองรับการขยายตัว
ทางธุรกิจในอนาคต
32
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
ตารางสรุปงบกำไรขาดทุน (หน่วย : ล้านบาท)
รายการงบกำไรขาดทุน ปี 2551 ปี 2550 รายได้ดอกเบี้ยและเงินปันผล ค่าใช้จ่ายดอกเบี้ย รายได้ดอกเบี้ยและเงินปันผลสุทธิ หนี้สูญและหนี้สงสัยจะสูญ และขาดทุน (กำไร) จากการปรับโครงสร้างหนี้ รายได้ดอกเบี้ยและเงินปันผลสุทธิหลังหักหนี้สูญฯ รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย ค่าใช้จ่ายที่มิใช่ดอกเบี้ย กำไรก่อนภาษีเงินได้นิติบุคคล ภาษีเงินได้นิติบุคคล (รวมภาษีเงินได้นิติบุคคลที่ได้รับคืน) กำไรสุทธิสำหรับปี กำไร (ขาดทุน) ต่อหุ้น (บาท) จำนวนหุ้นสามัญถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนัก (หุ้น)
เปลี่ยนแปลงจากปี 2550 เพิ่ม/(ลด) ร้อยละ
17,123 9,386 7,737
2,774 43 2,731
16.19 0.45 35.29
3,548 2,606 6,921 5,131 2,286 2,005 7,788 6,105 1,418 1,032 114 41 1,304 991 0.75 0.63 1,734,619,292 1,583,999,082
942 1,789 281 1,684 387 73 314
36.14 34.87 14.02 27.58 37.49 178.18 31.67
19,897 9,429 10,468
ฐานะการเงิน
สินทรัพย์ ธนาคารธนชาตมีสินทรัพย์รวม ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551 จำนวน 368,272 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2550 จำนวน 77,175 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 26.51 โดยเป็นการเพิ่มขึ้นจากเงินให้สินเชื่อและดอกเบี้ยค้างรับสุทธิจำนวน 46,226 ล้านบาท และ สภาพคล่องระยะสั้นจำนวน 27,934 ล้านบาท เงินให้สนิ เชือ่ และดอกเบีย้ ค้างรับสุทธิของธนาคารธนชาต จำนวน 266,843 ล้านบาท เพิม่ ขึน้ จากสิน้ ปี 2550 จำนวน 46,226 ล้านบาท หรือร้อยละ 20.95 ส่วนใหญ่เกิดจากการขยายตัวของสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์จำนวน 36,199 ล้านบาท สินเชื่อธุรกิจจำนวน 13,344 ล้านบาท และสินเชื่อเพื่อผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) จำนวน 6,603 ล้านบาท ในขณะที่การให้ สินเชื่อแก่บริษัทในกลุ่มธนชาตลดลงจำนวน 8,426 ล้านบาท จากการชำระคืนตามปกติ สภาพคล่องระยะสั้นของธนาคารธนชาต จำนวน 86,005 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27,934 ล้านบาท หรือร้อยละ 48.10 ตาม
การเพิ่มขึ้นของเงินฝาก และเงินกู้ยืมระยะสั้นของธนาคารธนชาต อย่างไรก็ตาม ธนาคารธนชาตได้บริหารสภาพคล่องส่วนเกินได้อย่าง มีประสิทธิภาพ เพื่อรักษาระดับอัตราผลตอบแทนโดยรวมเมื่อเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมา สินทรัพย์รวม (หน่วย : ล้านบาท)
รายการสินทรัพย์
ปี 2551
รายการระหว่างธนาคารและตลาดเงิน (ที่มีดอกเบี้ย) หลักทรัพย์ซื้อโดยมีสัญญาขายคืน เงินลงทุนสุทธิ เงินให้สินเชื่อและดอกเบี้ยค้างรับ-สุทธิ รวมสินทรัพย์ที่ก่อให้เกิดรายได้-สุทธิ สินทรัพย์อื่น รวมสินทรัพย์
59,418 - 26,586 266,843 352,847 15,425 368,272
ปี 2550
เปลี่ยนแปลงจากปี 2550 เพิ่ม/(ลด) ร้อยละ
35,603 2,500 19,968 220,617 278,688 12,410 291,098
23,815 (2,500) 6,618 46,226 74,159 3,015 77,175
66.89 (100.00) 33.14 20.95 26.61 24.29 26.51
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
33
คุณภาพสินทรัพย์ 1. เงินให้กู้ยืม ลูกหนี้ และดอกเบี้ยค้างรับสุทธิ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551 ธนาคารธนชาตมีเงินให้สินเชื่อและดอกเบี้ยค้างรับจัดชั้นตามเกณฑ์ที่ ธปท. กำหนด 311,981 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากสิ้นปีก่อนจำนวน 86,697 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 38.48 โดยในระหว่างปี 2551 ธนาคารธนชาต
ได้ทำสัญญาปรับปรุงโครงสร้างหนีก้ บั ลูกหนีใ้ นรูปแบบต่าง ๆ โดยการเปลีย่ นแปลงเงื่อนไขการชำระหนี้ การโอนสินทรัพย์และ/หรือหุ้นทุน และ/หรือเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขการชำระหนี้ รวมกันเป็นจำนวนทั้งสิ้น 214 ราย ซึ่งมียอดคงค้างตามบัญชีก่อนการปรับโครงสร้างหนี้
เป็นจำนวนประมาณ 621 ล้านบาท ทั้งนี้ ณ สิ้นปี 2551 ธนาคารธนชาตมีลูกหนี้ที่ได้มีการทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้แล้วจำนวน
381 ราย จากลูกหนี้ของธนาคารธนชาตทั้งหมดจำนวน 707,434 ราย บัญชีลูกหนี้ที่ปรับโครงสร้างดังกล่าว มียอดเงินต้นและดอกเบี้ย คงค้างเป็นจำนวน 2,645 ล้านบาท ลดลงจากปี 2550 ที่มีจำนวน 2,698 ล้านบาท เงินให้สินเชื่อและดอกเบี้ยค้างรับตามประเภทของลูกหนี้
รายการเงินให้สินเชื่อและดอกเบี้ยค้างรับ
31 ธันวาคม 2551 จำนวน จำนวนเงิน (ราย) (ล้านบาท)
ลูกหนี้ทั้งหมดของธนาคาร 707,434 ลูกหนี้ที่ทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ในระหว่างปี • ยอดหนี้ก่อนปรับโครงสร้างหนี้ 214 • ยอดหนี้หลังปรับโครงสร้างหนี้ 214 ลูกหนี้ที่ได้ทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ทั้งหมด ณ สิ้นปี 381 ร้อยละของลูกหนี้ที่ได้ทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ ณ สิ้นปี ต่อลูกหนี้ทั้งหมด 0.05
31 ธันวาคม 2550 จำนวน จำนวนเงิน (ราย) (ล้านบาท)
311,981
537,955
225,284
621 621 2,645
63 63 292
308 308 2,698
0.85
0.05
1.20
การกระจุกตัวของสินเชื่อ ณ สิ้ น ปี 2551 การให้ สิ น เชื่ อ ของธนาคารธนชาตที่ มี ก ารกระจุ ก ตั ว อยู่ ม ากที่ สุ ด คื อ เงิ น ให้ กู้ ยื ม เพื่ อ การเช่ า ซื้ อ
ซึ่งธนาคารธนชาตได้เริ่มให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2548 โดยมีสัดส่วนคิดเป็นร้อยละ 76.17 รองลงมาคือ อสังหาริมทรัพย์และการก่อสร้าง และอื่น ๆ คิดเป็นร้อยละ 5.62 และ 5.46 ของเงินให้สินเชื่อและดอกเบี้ยค้างรับในปี 2551 ตามลำดับ เปรียบเทียบกับสิ้นปี 2550 การให้สินเชื่อของธนาคารธนชาตมีการกระจุกตัวอยู่ในสินเชื่อเพื่อการเช่าซื้อมากที่สุดคือ ร้อยละ 79.72 รองลงมาคือ เงินให้สินเชื่อแก่บริษัทใหญ่และบริษัทที่เกี่ยวข้อง และอื่น ๆ ร้อยละ 9.62 และ 5.78 ของเงินให้สินเชื่อและดอกเบี้ยค้างรับ ในปี 2550 โดยในปี 2551 เงินให้สนิ เชือ่ แก่บริษทั ใหญ่และบริษทั ทีเ่ กีย่ วข้อง มีปริมาณและสัดส่วนลดลงจากปีกอ่ น เนือ่ งจากบริษทั ใหญ่
ได้มกี ารทยอยชำระคืนเงินกู้ตามแผนปรับโครงสร้างการประกอบธุรกิจของกลุ่มธนชาตที่ได้รับอนุมัติจาก ธปท. เมื่ อ พิ จ ารณาการขยายตั ว และการกระจายการกระจุ ก ตั ว ของสิ น เชื่ อ โดยไม่ ร วมเงิ น ให้ สิ น เชื่ อ แก่ บ ริ ษั ท ใหญ่ แ ละ
บริษัทที่เกีย่ วข้องพบว่า ในปีนธี้ นาคารธนชาตมีการกระจายตัวการให้สนิ เชือ่ ไปยังการให้สนิ เชือ่ ประเภทอสังหาริมทรัพย์และการก่อสร้าง
การผลิตและการพาณิชย์ และการสาธารณูปโภคและบริการ โดยการให้สินเชื่อดังกล่าวมีการกระจายตัวเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 15.54
จากร้อยละ 10.09 ในปี 2550
34
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
เงินให้สินเชื่อจำแนกตามประเภทธุรกิจ ปี 2550 การผลิตและการพาณิชย์ 3.46%
เงินให้สินเชื่อจำแนกตามประเภทธุรกิจ ปี 2551
อสังหาริมทรัพย์และการก่อสร้าง 3.01% การสาธารณูปโภคและบริการ 3.63%
อืน่ ๆ 6.39%
ทีอ่ ยูอ่ าศัย 3.80%
การผลิตและการพาณิชย์ 4.92%
อสังหาริมทรัพย์และการก่อสร้าง 5.62% การสาธารณูปโภคและบริการ 5.00%
อืน่ ๆ 5.46%
ทีอ่ ยูอ่ าศัย 2.84% เช่าซือ้ 76.17%
เช่าซือ้ 79.72%
อายุลูกหนี้ เมื่อจำแนกเงินให้สินเชื่อและดอกเบี้ยค้างรับในปี 2551 ตามระยะเวลาที่เหลือของสัญญาการให้สินเชื่อแล้วพบว่า
เงินให้สินเชื่อส่วนใหญ่เป็นเงินให้สินเชื่อที่มีระยะเวลาเหลือตามสัญญาเกินกว่า 1 ปี คิดเป็นร้อยละ 85.57 ของเงินให้สินเชื่อและ
ดอกเบี้ยค้างรับทั้งหมด ส่วนเงินให้สินเชื่อที่มีระยะเวลาตามสัญญาไม่เกิน 1 ปี และเมื่อทวงถาม (รวมสัญญาที่ครบกำหนดแล้ว)
มีสัดส่วนร้อยละ 8.09 และ 6.33 ของเงินให้สินเชื่อและดอกเบี้ยค้างรับในปี 2551 ตามลำดับ โดยลูกหนี้ทั้งจำนวนเป็นเงินให้กู้ยืมที่เป็น เงินบาทแก่ลูกหนี้ในประเทศ ทั้งนี้ หากเทียบกับปี 2550 จะพบว่าปี 2551 มีสัดส่วนของเงินให้สินเชื่อที่มีระยะเวลาเกิน 1 ปีเพิ่มขึ้น
ในขณะที่สินเชื่อเมื่อทวงถามมีสัดส่วนลดลง เงินให้สินเชื่อจำแนกตามระยะเวลาที่เหลือของสัญญาให้สินเชื่อ 84.25
10.63 5.12
(ปี)
2550 เมื่อทวงถาม
ไม่เกิน 1 ปี
เกิน 1 ปี
85.57
8.10
6.33
2551
0 10 20 30 40 50 60 70 80 90 100
(ร้อยละ)
2. เงินให้สินเชื่อจัดชั้นตามประกาศของ ธปท. ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551 ธนาคารธนชาตมีเงินให้สินเชื่อและดอกเบี้ยค้างรับจัดชั้นตามเกณฑ์ที่ ธปท. กำหนด
จำนวน 311,981 ล้านบาท เพิ่ มขึ้นจากสิ้น ปีก่อน จำนวน 86,697 ล้านบาท หรือเพิ่ มขึ้นร้อยละ 38.48 โดยได้ทำการสำรอง
ค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญที่บันทึกตามบัญชี ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551 จำนวน 6,268 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังคงมีค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ เพิ่มเติมอีกจำนวน 97 ล้านบาท ทำให้มีค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญรวมทั้งสิ้น 6,365 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากสิ้นปีก่อนจำนวน 1,840 ล้านบาท และมีค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญทั้งหมดต่อเงินให้สินเชื่อและดอกเบี้ยค้างรับคิดเป็นร้อยละ 2.04
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
35
สรุปลูกหนี้จัดชั้นตามเกณฑ์ ธปท. (หน่วย : ล้านบาท)
เงินให้สินเชื่อและดอกเบี้ยค้างรับ
มูลหนี้/มูลค่าตามบัญชี ค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ 31 ธันวาคม 2551 31 ธันวาคม 2550 31 ธันวาคม 2551 31 ธันวาคม 2550
(1)
จัดชั้นปกติ 280,590 201,017 24,186 19,019 จัดชั้นกล่าวถึงเป็นพิเศษ 1,547 1,299 จัดชั้นต่ำกว่ามาตรฐาน 1,629 1,614 จัดชั้นสงสัย จัดชั้นสงสัยจะสูญ 4,029 2,335 รวม 311,981 225,284 ค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญส่วนที่ตั้งเพิ่มเติม รวมค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญทั้งหมด สัดส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญทั้งหมดต่อเงินให้สินเชื่อและดอกเบี้ยค้างรับ (ร้อยละ) หมายเหตุ
(1)
629 123 964 901
1,558 4,175 350 4,525 2.01
752 178 1,163 1,156 3,019 6,268 97 6,365 2.04
มูลหนี้/มูลค่าตามบัญชีของลูกหนี้จัดชั้นปกติ และลูกหนี้ที่กล่าวถึงเป็นพิเศษ ไม่รวมดอกเบี้ยค้างรับ
3. สินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (Non-performing Loans) ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551 ธนาคารธนชาตมีสินเชื่อด้อยคุณภาพจำนวน 7,167 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,954 ล้านบาท
จากสิ้นปีที่ผ่านมาตามภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวซึ่งส่งผลต่อความสามารถในการชำระหนี้ของลูกหนี้ธุรกิจเช่าซื้อซึ่งเป็นธุรกิจหลักของ ธนาคารธนชาตลดลง แต่อย่างไรก็ตาม ธนาคารธนชาตได้เพิ่มมาตรการเข้มงวดในการให้สินเชื่อ รวมทั้งเพิ่มประสิทธิภาพในการ ติดตามหนี้เพื่อลดความเสียหายที่จะเกิดขึ้นในอนาคต อัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพต่อสินเชื่อรวม (NPL Ratio) อยู่ที่ร้อยละ 2.30
ใกล้เคียงกับสิ้นปีที่ผ่านมา และเมื่อพิจารณาสินเชื่อด้อยคุณภาพหลังหักสำรอง (NPL-net) มีจำนวน 1,830 ล้านบาท และอัตราส่วน NPL-net ต่อสินเชือ่ รวม เท่ากับร้อยละ 0.60 โดยค่าเผือ่ หนีส้ งสัยจะสูญจำนวน 6,365 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 88.80 ของสินเชือ่ ด้อยคุณภาพ สินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (Non-performing Loans) (หน่วย : ล้านบาท)
สินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ทั้งหมด (NPLs) NPLs ต่อสินเชื่อรวม (ร้อยละ) ค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญรวม ค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญรวมต่อ NPLs (ร้อยละ) NPL-net ตามเกณฑ์ใหม่ของ ธปท. NPL-net (ร้อยละ) NPLs จำแนกตามประเภทธุรกิจ การบริการ 3.93%
อืน่ ๆ 14.98%
36
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
31 ธันวาคม 2550
7,167 2.30 6,365 88.80 1,830 0.60
5,213 2.31 4,525 86.80 1,790 0.81
NPLs จำแนกตามประเภทการจัดชั้น เงินให้กยู้ มื เช่าซือ้ 43.85%
การผลิตและการ พาณิชย์ 13.81%
อสังหาริมทรัพย์และ การก่อสร้าง 16.44%
31 ธันวาคม 2551
สงสัยจะสูญ 55.92%
ต่ำกว่ามาตรฐาน 21.47%
สงสัย 22.61% เงินให้กยู้ มื เพือ่ ทีอ่ ยูอ่ าศัย 6.99%
4. เงินลงทุนในหลักทรัพย์ ในปี 2551 ธนาคารธนชาตมี เ งิ น ลงทุ น ในหลั ก ทรั พ ย์ ร วมทั้ ง สิ้ น 22,346 ล้ า นบาท โดยเงิ น ลงทุ น ส่ ว นใหญ่ เ ป็ น
เงิ น ลงทุ น ในหลั ก ทรั พ ย์ รั ฐ บาล และรั ฐ วิ ส าหกิ จ ประมาณร้ อ ยละ 56.39 รองลงมาคื อ ตราสารหนี้ ต่ า งประเทศถื อ จนครบกำหนด
ซึ่งธนาคารธนชาตได้ทำสัญญาแลกเปลี่ยนล่วงหน้าเพื่อป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนไว้แล้ว ทั้งเงินลงทุนในต่างประเทศ
และดอกเบี้ยที่เกี่ยวข้องคิดเป็นร้อยละ 21.69 ของเงินลงทุนในหลักทรัพย์ของธนาคารธนชาต หลังจากบวก (หัก) ค่าเผื่อการปรับมูลค่า และค่าเผื่อการด้อยค่าแล้ว จะมีเงินลงทุนสุทธิ สิ้นปี 2551 จำนวน 22,104 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2550 ที่มีเงินลงทุนสุทธิ 15,673
ล้านบาท หรือร้อยละ 41.03 โดยมีรายละเอียดเงินลงทุนในหลักทรัพย์ ปี 2551 ดังนี้ ตารางแสดงการจำแนกเงินลงทุนในหลักทรัพย์ จำแนกตามประเภทของตราสาร
ประเภทของเงินลงทุน
(หน่วย : ล้านบาท)
31 ธันวาคม 2551
ร้อยละ 31 ธันวาคม 2550
ตราสารหนี้ หลักทรัพย์รัฐบาลและรัฐวิสาหกิจ 2,570 11.50 583 • เผื่อขาย 10,032 44.89 10,204 • ถือจนครบกำหนด ตราสารหนี้ภาคเอกชน 3,134 14.03 1,304 • เผื่อขาย - - - • ถือจนครบกำหนด ตราสารหนี้ต่างประเทศ 4,847 21.69 1,350 • ถือจนครบกำหนด ตราสารทุน หลักทรัพย์จดทะเบียน 575 2.57 413 • เผื่อขาย หน่วยลงทุน 416 1.86 836 • เผื่อขาย 655 2.93 945 เงินลงทุนทั่วไป ตราสารอื่น 117 0.53 119 รวมเงินลงทุนในหลักทรัพย์ 22,346 100.00 15,754 (33) 30 บวก (หัก) ค่าเผื่อการปรับมูลค่า (209) (111) ค่าเผื่อการด้อยค่า 15,673 รวมเงินลงทุน - สุทธิ 22,104
ร้อยละ
3.70 64.77 8.28 8.57 2.62 5.31 6.00 0.75 100.00
สภาพคล่อง
ณ สิ้นปี 2551 ธนาคารธนชาตมีเงินสดสุทธิซึ่งใช้ไปในกิจกรรมจัดหาเงินจำนวน 12,704 ล้านบาท และสำหรับการลงทุน จำนวน 6,490 ล้านบาท ในขณะที่เงินสดส่วนใหญ่ได้มาจากกิจกรรมดำเนินงานจำนวน 19,937 ล้านบาท ทำให้ธนาคารธนชาต
มีกระแสเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดเพิ่มขึ้นสุทธิจำนวน 743 ล้านบาท โดย ณ สิ้นปี 2551 ธนาคารธนชาตมีเงินสดและรายการ เทียบเท่าเงินสด เพิ่มขึ้นเป็นจำนวน 4,017 ล้านบาท โดยมีรายการหลัก ๆ ที่สำคัญ ดังนี้ • กระแสเงินสดจากกิจกรรมจัดหาเงินที่ใช้ไปทั้งหมดเป็นเงินสดจ่ายคืนเงินกู้ยืมจำนวน 14,676 ล้านบาท จ่ายดอกเบี้ย
เงินกู้ยืมจำนวน 2,282 ล้านบาท และจ่ายเงินปันผลไปจำนวน 746 ล้านบาท ขณะที่ในระหว่างปี 2551 ธนาคารธนชาตได้รับเงินสด
จากการออกหุ้นกู้ด้อยสิทธิไม่มีหลักประกันจำนวน 5,000 ล้านบาท
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
37
• สำหรับกระแสเงินสดจากกิจกรรมดำเนินงานนั้น เกิดจากการเพิ่มขึ้นของเงินฝากจำนวน 81,746 ล้านบาท และรายการ ระหว่างธนาคารธนชาตและตลาดเงินด้านหนี้สินจำนวน 3,863 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่เป็นการใช้ไปในเงินให้สินเชื่อจำนวน 55,468 ล้านบาท และรายการระหว่างธนาคารธนชาตและตลาดเงินด้านสินทรัพย์จำนวน 24,908 ล้านบาท • ในด้านของการใช้ไปของกระแสเงินสดเป็นการใช้ไปในกิจกรรมลงทุนในเงินลงทุนในหลักทรัพย์เพิ่มขึ้นจำนวน 6,920
ล้านบาท เงินสดจ่ายซื้ออุปกรณ์จำนวน 490 ล้านบาท และเงินสดจ่ายซื้อเงินลงทุนในบริษัทย่อยจำนวน 431 ล้านบาท ในขณะที่ได้ กระแสเงินสดจากกิจกรรมเงินลงทุนจากดอกเบี้ยเงินลงทุนจำนวน 763 ล้านบาท และเงินสดรับปันผลจำนวน 342 ล้านบาท รายจ่ายลงทุน ในระหว่างปี 2551 ธนาคารธนชาตได้มีการเปิดสาขาเพิ่มจากสิ้นปี 2550 อีกจำนวน 47 สาขา เป็น 213 สาขา ทำให้
มีรายจ่ายเกีย่ วกับการเช่า การตกแต่งอาคารสถานที่ ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ตลอดจนอุปกรณ์ตา่ ง ๆ สำหรับใช้ในการดำเนินงาน
โดยในระหว่างปี 2551 ธนาคารมีรายการเงินสดจ่ายซื้ออุปกรณ์เพิ่มจำนวน 490 ล้านบาท แหล่งที่มาของเงินทุน ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551 ธนาคารธนชาตมีหนี้สินรวมจำนวน 347,002 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2550 จำนวน
76,600 ล้านบาท หรือร้อยละ 28.33 ส่วนใหญ่เป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของเงินฝากผ่านช่องทางสาขา รวมทั้งการออกผลิตภัณฑ์
ทางการเงินที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้า โดยมีรายการหลัก ๆ ที่สำคัญในหนี้สินและส่วนของผู้ถือหุ้น ดังนี้ • เงินฝากรวมจำนวน 270,832 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากสิ้นปีก่อนจำนวน 81,746 ล้านบาท หรือร้อยละ 43.23 โดยเงินฝาก ส่วนใหญ่เป็นเงินฝากที่มีระยะเวลาที่เหลือของสัญญาไม่เกินกว่า 1 ปี ซึ่งมีสัดส่วนเมื่อเทียบกับเงินฝากทั้งหมดเป็นร้อยละ 99.48
และเพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีสัดส่วนร้อยละ 99.28 ของเงินฝากทั้งหมด เงินฝากจำแนกตามระยะเวลาที่เหลือของสัญญารับฝากเงิน 0.72
99.28
(ปี)
2550 ไม่เกิน 1 ปี
เกิน 1 ปี
0
10
20
30
40
50
0.52
99.48
2551
60
70
80
90
100
(ร้อยละ)
• เงินกู้ยืมรวมจำนวน 62,288 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินกู้ยืมระยะสั้นจำนวน 47,928 ล้านบาท และเงินกู้ยืมระยะยาว
จำนวน 14,360 ล้านบาท โดยมีเงินกู้ยืมระยะสั้นลดลงจากสิ้นปีก่อนจำนวน 11,070 ล้านบาท หรือร้อยละ 18.76 ส่วนเงินกู้ยืมระยะยาว เพิ่ ม ขึ้ น จากสิ้ น ปี ก่ อ นจำนวน 1,400 ล้ า นบาท หรื อ ร้ อ ยละ 10.80 เนื่ อ งจากระหว่ า งไตรมาสที่ 2 ปี 2551 ธนาคารธนชาตได้
ออกหุ้นกู้ด้อยสิทธิไม่มีหลักประกันจำนวน 5,000 ล้านบาท อายุ 7 ปี อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยร้อยละ 5.61 เพื่อรองรับการขยายตัวของ
เงินให้สินเชื่อที่เติบโตอย่างต่อเนื่องในอนาคต และทดแทนเงินกู้ยืมบางส่วนที่ได้ครบกำหนดในระหว่างไตรมาสเดียวกัน 38
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
ส่วนของผู้ถือหุ้น ส่ ว นของผู้ ถื อ หุ้ น ณ วั น ที่ 31 ธั น วาคม 2551 มี จ ำนวน 21,270 ล้ า นบาท เพิ่ ม ขึ้ น จำนวน 575 ล้ า นบาท หรื อ
ร้อยละ 2.87 เมื่อเทียบกับสิ้นปี 2550 ส่วนใหญ่เป็นผลจากกำไรในระหว่างปี 2551 ในขณะที่ในระหว่างไตรมาสที่ 2 ปี 2551 ธนาคาร ธนชาตได้จ่ายเงินปันผลจากกำไรของปี 2550 ให้แก่ผู้ถือหุ้นสามัญในอัตราหุ้นละ 0.43 บาท รวมเป็นเงินปันผลทั้งสิ้น 746 ล้านบาท
นอกจากนี้ ส่วนต่ำกว่าทุนจากการเปลี่ยนแปลงมูลค่าเงินลงทุนเพิ่มขึ้น 155 ล้านบาท อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น ธนาคารธนชาตมีอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นเพิ่มขึ้นจาก 13.07 เท่า ในปี 2550 เป็น 16.31 เท่า ในปี 2551 เนื่องจากธนาคารธนชาตมีการขยายตัวของเงินฝากและเงินกู้ยืมระยะสั้นอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งการออกผลิตภัณฑ์เงินฝากในรูปแบบ ต่าง ๆ เพื่อเป็นการเพิ่มทางเลือกและช่องทางในการฝากเงินให้แก่ลูกค้า ทำให้เงินฝากและเงินกู้ยืมระยะสั้นเพิ่มขึ้นจำนวน 70,676
ล้านบาท หรือร้อยละ 28.49 รวมทั้งเงินกู้ยืมระยะยาวเพิ่มขึ้นจากสิ้นปีก่อน จำนวน 1,400 ล้านบาท หรือร้อยละ 10.80 หนี้สินและส่วนของผู้ถือหุ้น (หน่วย : ล้านบาท)
ปี 2551 ปี 2550
เปลี่ยนแปลงจากปี 2550 เพิ่ม/(ลด) ร้อยละ
เงินฝาก รายการระหว่างธนาคารและตลาดเงิน (ที่มีดอกเบี้ย) เงินกู้ยืมระยะสั้น เงินกู้ยืมระยะยาว รวมหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยจ่าย หนี้สินอื่น รวมหนี้สิน ส่วนของผู้ถือหุ้น
270,832 7,030 47,928 14,360 340,150 6,852 347,002 21,270
189,086 3,145 58,998 12,960 264,189 6,213 270,402 20,695
81,746 3,885 (11,070) 1,400 75,961 638 76,600 575
43.23 123.56 (18.76) 10.80 28.75 10.27 28.33 2.78
รวมหนี้สินและส่วนของผู้ถือหุ้น
368,272
291,098
77,175
26.51
ภาระผูกพัน ธนาคารธนชาตมีภาระผูกพันรวมเพิ่มขึ้นจาก 75,066 ล้านบาท ในปี 2550 เป็น 87,095 ล้านบาท ในปี 2551 โดยมี
ภาระผูกพันทุกรายการเพิ่มขึ้นจากปี 2550 นอกจากนี้ ธนาคารธนชาตยังคงมีภาระผูกพันจากการประมาณการส่วนแบ่งผลขาดทุนที่อาจเกิดขึ้นจากการโอนขาย
เงินให้สินเชื่อแก่บรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทยเป็นจำนวนเงินประมาณ 89 ล้านบาท ซึ่งจำนวนประมาณการผลขาดทุนนี้ได้แสดงไว้เป็น ส่วนหนึ่งของค่าเผื่อการด้อยค่าของเงินลงทุนระยะยาวในตราสารหนี้ รวมทั้งมีภาระที่จะต้องจ่ายค่าชดใช้ความเสียหายที่เกิดขึ้นจาก จำนวนสินเชื่อ อันเกิดจากการไม่ได้รับชำระหนี้สูงสุดไม่เกินร้อยละ 20 ของมูลค่าสินเชื่อที่ขายจากการโอนขายสินเชื่อที่อยู่อาศัยแก่ บรรษัทตลาดรองสินเชื่อที่อยู่อาศัย ซึ่ง ณ สิ้นปี 2551 มีจำนวนสูงสุดไม่เกิน 3 ล้านบาท ความสัมพันธ์ของแหล่งที่มาและใช้ไปของเงินทุน ในปี 2551 ธนาคารธนชาตมีแหล่งที่มาของเงินทุนจากเงินฝาก และเงินกู้ยืม จำนวน 270,832 และ 62,288 ล้านบาท
ตามลำดับ ในขณะที่แหล่งใช้ไปของเงินทุนจะใช้ไปในเงินให้สินเชื่อ จำนวน 272,925 ล้านบาท และเงินลงทุน จำนวน 26,828 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบระหว่างแหล่งที่มาและใช้ไปของเงินทุนตามวันที่ที่ครบกำหนดของเครื่องมือทางการเงิน นับจากวันที่
ในงบดุล ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551 แล้ว จะเห็นว่าจำนวนเงินจากแหล่งที่มาของเงินทุนส่วนใหญ่จะได้มาจากเงินฝากที่มีระยะเวลา
คงเหลือน้อยกว่า 1 ปี ประมาณร้อยละ 58.66 รวมทัง้ จากเงินฝากเมือ่ ทวงถามร้อยละ 22.22 และเงินกูย้ มื ทีม่ รี ะยะเวลาคงเหลือน้อยกว่า
1 ปี ร้อยละ 14.39 ของแหล่งที่มาของเงินทุนทั้งหมด ในขณะที่แหล่งใช้ไปของเงินทุนส่วนใหญ่จะเป็นเงินให้สินเชื่อที่มีระยะเวลา
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
39
มากกว่า 1 ปี คิดเป็นร้อยละ 58.61 และเงินให้สินเชื่อที่มีระยะเวลาคงเหลือน้อยกว่า 1 ปี ร้อยละ 24.91 ของแหล่งใช้ไปของเงินทุน ทั้งหมดตามลำดับ อย่างไรก็ดี ความไม่สัมพันธ์ระหว่างแหล่งที่มาและใช้ไปของเงินทุนดังกล่าวเป็นลักษณะที่เกิดขึ้น และพบเห็นได้
โดยปกติในธุรกิจธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงินทั่วไป เนื่องจากพฤติกรรมของลูกค้าเงินฝากส่วนใหญ่มักจะมีการต่ออายุเงินฝาก
เมื่อครบกำหนด อีกทัง้ ธนาคารธนชาตได้ดำเนินนโยบายในการทีจ่ ะจัดหาแหล่งเงินทุนให้สมั พันธ์กบั การใช้ไปของเงินทุนให้ได้มากทีส่ ดุ
ผ่านเครือ่ งมือทางการเงินในการบริหารความเสี่ยงที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งจะสามารถส่งสัญญาณเตือนให้ทราบถึงผลกระทบต่อแหล่งที่มา และใช้ไปของเงินทุนที่อาจจะเกิดขึ้นได้ล่วงหน้า โดยมีรายการของแหล่งที่มาและใช้ไปของเงินทุนหลัก ๆ ตามวันที่ครบกำหนดของ แต่ละรายการนับจากวันที่ในงบดุล ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551 ได้ดังนี้ คือ ประเภท
เมื่อทวงถาม น้อยกว่า 1 ปี มากกว่า 1 ปี ไม่มีกำหนด รวม ล้านบาท ร้อยละ ล้านบาท ร้อยละ ล้านบาท ร้อยละ ล้านบาท ร้อยละ ล้านบาท ร้อยละ
แหล่งที่มา เงินฝาก 74,010 22.22 195,408 58.66 1,414 0.42 - - 270,832 81.30 เงินกู้ยืม 2 - 47,926 14.39 14,360 4.31 - - 62,288 18.70 รวมแหล่งที่มา 74,012 22.22 243,334 73.05 15,774 4.73 - - 333,120 100.00 แหล่งใช้ไป เงินให้สินเชื่อ(1) 22,573 7.53 74,668 24.91 175,684 58.61 - - 272,925 91.05 เงินลงทุน - - 4,248 1.42 17,008 5.67 5,572 1.86 26,828 8.95 รวมแหล่งใช้ไป 22,573 7.53 78,916 26.33 192,692 64.28 5,572 1.86 299,753 100.00 หมายเหตุ (1) ยอดคงเหลือของเงินให้กู้ยืมและลูกหนี้เมื่อทวงถามรวมเงินให้กู้ยืมและลูกหนี้ที่หยุดรับรู้รายได้
การดำรงอัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551 ธนาคารธนชาตมีเงินกองทุนรวมทั้งสิ้น 28,247 ล้านบาท แบ่งออกได้เป็นเงินกองทุนชั้นที่ 1 จำนวน 20,261 ล้ า นบาท และเงิ น กองทุ น ชั้ น ที่ 2 จำนวน 8,250 ล้ า นบาท โดยมี อั ต ราส่ ว นเงิ น กองทุ น ต่ อ สิ น ทรั พ ย์ เ สี่ ย ง
คำนวณตามเกณฑ์ของ Basel II เท่ากับร้อยละ 11.18 ในขณะที่สิ้นปี 2550 อัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงคำนวณตามเกณฑ์ ของ Basel I อยูท่ รี่ อ้ ยละ 12.00 ยังคงสูงกว่าเกณฑ์ที่ ธปท. กำหนดให้ธนาคารดำรงอัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสีย่ ง คือไม่ต่ำกว่า ร้อยละ 8.50 โดยมีรายละเอียดอัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง ดังนี้ อัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง
31 ธันวาคม 2551* ล้านบาท ร้อยละ
31 ธันวาคม 2550 ล้านบาท ร้อยละ
เงินกองทุนชั้นที่ 1 เงินกองทุนทั้งหมด
20,261 28,247
20,017 23,661
8.02 11.18
10.15 12.00
หมายเหตุ * ตัง้ แต่เดือนธันวาคม 2551 ธปท. กำหนดให้ธนาคารพาณิชย์รายงานอัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสีย่ งตามเกณฑ์ Basel II ซึง่ ธนาคารธนชาต
ได้เลือกคำนวณโดยใช้วิธี Standardized Approach
ปัจจัยและอิทธิพลหลักที่อาจมีผลต่อการดำเนินงานหรือฐานะการเงินในอนาคต
ปัจจัยเสริม หรือปัจจัยสนับสนุนธุรกิจ 1. แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยมีทิศทางลดลง ธนาคารธนชาตจะมีต้นทุนดอกเบี้ยที่ปรับลดลงภายใต้ภาวะอัตราดอกเบี้ยมีทิศทางลดลง ประกอบกับฐานเงินฝากของ ธนาคารธนชาตที่มีมากกว่าเงินให้สินเชื่อ ทำให้การปรับลดอัตราดอกเบี้ยทั้ง 2 ขา อันจะนำไปสู่ผลประกอบการที่ดีขึ้นได้ 40
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
2. หลักเกณฑ์การกำกับดูแลเงินกองทุนตาม Basel II โดยภาพรวมแล้วการใช้ Basel II เป็นผลดีตอ่ ธุรกิจธนาคารพาณิชย์ไทย อันเป็นการเสริมสร้างความแข็งแกร่งทางการเงิน ของสถาบันการเงินต่าง ๆ เพื่อรองรับการเปิดเสรีทางการเงินที่จะเกิดขึ้นในอนาคตแม้ว่าอาจจะทำให้บางธนาคารต้องเพิ่มเงินทุน
เพื่อรองรับเกณฑ์ดังกล่าว ในส่วนของธนาคารธนชาตจากการทีส่ นิ เชือ่ ส่วนใหญ่ของธนาคารธนชาตเป็นสินเชือ่ รายย่อยทำให้เงินทุนทีธ่ นาคารธนชาต ต้องใช้เพื่อรองรับการทำธุรกรรมสินเชื่อรายย่อยลดลง 3. ธนาคารพาณิชย์ครบวงจร (Universal Banking) จากการที่กลุ่มธนชาตมีบริการทางการเงินที่ครบวงจร ทั้งธนาคาร หลักทรัพย์ หลักทรัพย์จัดการกองทุน ประกันภัย
และประกันชีวิต จึงมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ให้ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ 4. องค์กรแห่งการเรียนรู้ (Knowledge-based Organization) ผูบ้ ริหารมีกลยุทธ์ในการเพิม่ เติมความรูใ้ ห้แก่พนักงาน ผลักดันให้เป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ ทำให้พนักงานมีประสิทธิภาพ ในการทำงานที่เพิ่มสูงขึ้น พร้อมกันนี้มีการพัฒนาทางด้านงานบริการให้เป็นที่ประทับใจแก่ลูกค้า ซึ่งจะเป็นกลยุทธ์ในการแข่งขัน
ที่สำคัญมากกว่ากลยุทธ์ทางด้านราคาในอนาคต 5. ความเป็นผู้นำในตลาดสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ ธนาคารธนชาตยั ง คงเป็ น ผู้ น ำในตลาดสิ น เชื่ อ เช่ า ซื้ อ สำหรั บ รถยนต์ ใ หม่ แ ละรถยนต์ มื อ สอง โดยครองส่ ว นแบ่ ง
ทางการตลาดสินเชื่อรถยนต์ใหม่สูงสุด และมีความชำนาญอย่างมากในการปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อ ประกอบกับการมีปฏิสัมพันธ์อันดีกับ
ผู้ แ ทนจำหน่าย (Dealer) มาเป็นเวลานาน ทำให้มีศักยภาพและมีความพร้อมในการรุกตลาดเช่าซื้อรถยนต์มือสอง ซึ่งจะนำไปสู ่ ผลประกอบการที่ดียิ่งขึ้นต่อไป ทั้งนี้ ลูกค้าในกลุ่มเช่าซื้อนับได้ว่าเป็นฐานลูกค้าชั้นดี ธนาคารธนชาตจึงพยายามต่อยอดการจำหน่ายผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ของธนาคารธนชาตให้สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้า 6. การขยายสาขาเพิ่มขึ้นร่วมกับการเร่งพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ และโครงสร้างระบบพื้นฐานให้มีประสิทธิภาพ ส่งผลให้ธนาคารธนชาตสามารถเข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้น และสามารถออกผลิตภัณฑ์ทางการเงินได้หลากหลาย ตรงตาม ความต้องการของลูกค้า ทำให้มีศักยภาพในการแข่งขันเพิ่มสูงขึ้น อย่างไรก็ดี จากการเร่งขยายสาขา และการลงทุนในระบบเทคโนโลยี สารสนเทศ ส่งผลให้ต้นทุนการดำเนินงานของธนาคารธนชาตอยู่ในระดับสูงเช่นกัน ปัจจัยลบ หรือข้อจำกัดในการดำเนินธุรกิจ 1. ภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง ปี 2551 เป็นปีที่ประเทศไทยเผชิญกับปัจจัยเสี่ยงต่อเนื่องมาจากปี 2550 แต่มีความรุนแรง และขยายวงกว้างมากขึ้น
ไม่ว่าจะเป็น (1) ปัญหาวิกฤตการณ์ทางการเงินโลก (2) ปัญหาการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก (3) ปัญหาความผันผวนราคาน้ำมัน
(4) ปัญหาสถานการณ์ทางการเมือง ซึ่งส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภค นักลงทุน รวมไปถึงนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก 2. ธนาคารพาณิชย์อื่นๆ เข้ามาแข่งขันในตลาดเช่าซื้อมากขึ้น ตามแผนพัฒนาระบบสถาบันการเงิน (Master Plan) ของ ธปท. ที่อนุญาตให้ธนาคารพาณิชย์สามารถประกอบธุรกิจ
เช่าซื้อได้ ประกอบกับค่ายรถใหญ่ ๆ ได้เพิ่มบริการด้านเช่าซื้อให้แก่ลูกค้า ทำให้มีผู้เข้ามาชิงส่วนแบ่งทางการตลาดเช่าซื้อมากขึ้น 3. สถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐและสถาบันการเงินที่มิใช่ธนาคารพาณิชย์ มีบทบาทเพิ่มสูงขึ้นทั้งด้านการระดมเงินฝาก และการปล่อยสินเชื่อ 4. การแข่งขันทางด้านราคายังอยู่ในระดับสูง แม้ว่าอัตราดอกเบี้ยจะมีแนวโน้มปรับตัวลดลง ภายใต้การแข่งขันทางด้านราคาหรืออัตราดอกเบี้ยนั้น ธนาคารขนาดกลางและขนาดเล็กที่มีข้อจำกัดทางด้านสาขา
ต้องแบกรับภาระรายจ่ายดอกเบี้ยที่สูง เนื่องจากต้องเสนออัตราดอกเบี้ยเงินฝากให้สูงขึ้นเพื่อชิงส่วนแบ่งทางการตลาด ส่งผลให้
ส่วนต่างระหว่างอัตราดอกเบี้ยเงินให้กู้ยืมและอัตราดอกเบี้ยเงินฝากปรับลดลง
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
41
5. กฎเกณฑ์ และข้อบังคับของทางการ • การดำรงเงินกองทุนตามเกณฑ์ Basel II ซึ่งธนาคารธนชาตได้เตรียมความพร้อมทั้งในเรื่องระบบ และการวางแผน ในการขยายธุรกิจเพื่อดำรงเงินกองทุนให้เหมาะสม • พ.ร.บ. สถาบันคุม้ ครองเงินฝาก ธนาคารธนชาตได้ออกผลิตภัณฑ์เพือ่ เพิ่มทางเลือกในการฝากเงิน รวมถึงการสร้าง ความเชื่อมั่นให้แก่ลูกค้า โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อรักษาปริมาณเงินและฐานลูกค้าของธนาคารธนชาต
บริษัท หลักทรัพย์ ธนชาต จำกัด (มหาชน)
วิ เ คราะห์ ฐ านะการเงิ น และผลการดำเนิ น งานสำหรั บ ปี สิ้ น สุ ด วั น ที่ 31 ธั น วาคม 2551 เปรี ย บเที ย บกั บ ปี สิ้ น สุ ด วั น ที่
31 ธันวาคม 2550
ฐานะการเงิน
สินทรัพย์ ณ สิ้นปี 2551 บริษัทฯ มีสินทรัพย์รวม 3,105.99 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 15.94 เมื่อเปรียบเทียบกับ ณ สิ้นปี 2550
โดยสินทรัพย์ส่วนใหญ่ ประกอบด้วยลูกหนี้ธุรกิจหลักทรัพย์สุทธิ และลูกหนี้สำนักหักบัญชี เงินลงทุนสุทธิ และเงินสด รายการเทียบเท่า เงินสด และเงินฝากระยะยาวในสถาบันการเงิน การลดลงของสินทรัพย์เป็นผลมาจากการลดลงของเงินสด รายการเทียบเท่าเงินสด
เงินฝากระยะยาวในสถาบันการเงิน และเงินลงทุนสุทธิเป็นอัตราร้อยละ 28.82 และ 23.51 ตามลำดับ ในขณะที่สินทรัพย์อื่นเพิ่มขึ้น
ร้อยละ 34.09 หนี้สิน โครงสร้างหนี้สินของบริษัทฯ ได้แก่ เจ้าหนี้ธุรกิจหลักทรัพย์สุทธิ เจ้าหนี้สำนักหักบัญชีและหนี้สินอื่น ณ สิ้นปี 2551 บริษัทฯ มีหนี้สินรวม 1,297.26 ล้านบาท แบ่งเป็นเจ้าหนี้ธุรกิจหลักทรัพย์สุทธิและเจ้าหนี้สำนักหักบัญชี 1,150.71 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน ร้อยละ 88.70 ของหนี้สินรวม ลดลงจากสิ้นปี 2550 ในอัตราร้อยละ 9.30 รวมทั้งบริษัทฯ มีการกู้ยืมเงินระยะสั้นจำนวน 50 ล้านบาท ด้วย ส่วนของผู้ถือหุ้น ณ สิ้นปี 2551 บริษัทฯ มีส่วนของผู้ถือหุ้นเท่ากับ 1,808.73 ล้านบาท ลดลง 455.88 ล้านบาท หรือร้อยละ 20.13 จากปีก่อน โดยบริษัทฯ มีกำไรสุทธิสำหรับปีเท่ากับ 96.92 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อน 160.30 ล้านบาท ในขณะที่ส่วนเกินทุนที่เกิดจากการ เปลี่ยนแปลงมูลค่าเงินลงทุนลดลง 312.80 ล้านบาท จากการด้อยค่าเงินลงทุนจำนวนหนึ่ง และราคาตลาดของเงินลงทุนมีการ เปลี่ยนแปลง รวมทั้งบริษัทฯ มีการจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นจำนวนเงินรวม 240 ล้านบาทด้วย สภาพคล่อง ในการประกอบธุรกิจของบริษัทฯ กิจกรรมที่มีผลกระทบต่อสภาพคล่องส่วนใหญ่ คือ กิจกรรมดำเนินงาน โดยกระแสเงินสด ได้มาและใช้ไปในกิจกรรมดำเนินงาน จะเกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงของเงินทุนหมุนเวียนในส่วนของลูกหนี้ธุรกิจหลักทรัพย์ เจ้าหนี้ ธุรกิจหลักทรัพย์ และลูกหนี้หรือเจ้าหนี้สำนักหักบัญชี สำหรับปี 2551 กระแสเงินสดสุทธิของบริษัทฯ ลดลง 439.34 ล้านบาท เป็นกระแสเงินสดที่ใช้ไปในกิจกรรมดำเนินงาน 81.38 ล้านบาท จ่ายซื้อเงินลงทุนระยะยาว 146.38 ล้านบาท และบริษัทฯ จ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้น 240 ล้านบาท รวมทั้งมีการ
กู้ยืมเงินระยะสั้นจากธนาคาร 50 ล้านบาท
ผลการดำเนินงาน
สำหรับปี 2551 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิเท่ากับ 96.92 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อน 160.30 ล้านบาท หรือร้อยละ 62.32 ผลการ ดำเนินงานโดยสรุปมีดังนี ้
42
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
รายได้ บริษัทฯ มีรายได้รวมทั้งสิ้น 954.54 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อน 102.72 ล้านบาท หรือร้อยละ 9.72 โดยรายได้หลักมาจาก ค่าธรรมเนียมการเป็นนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้า 787.40 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 7.34 ดอกเบี้ยและ เงินปันผล 93.71 ล้านบาท ค่าธรรมเนียมและบริการ 62.31 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 9.05 และ 172.07 ตามลำดับ ในขณะที่กำไร
จากการซื้อขายหลักทรัพย์ลดลง 226.94 ล้านบาท เนื่องจากการด้อยค่าเงินลงทุนในหลักทรัพย์ 40.96 ล้านบาท และในปีก่อน
บริษัทฯ มีกำไรจากการขายเงินลงทุนในหลักทรัพย์จำนวนหนึ่ง ต้นทุนและค่าใช้จ่าย สำหรับปี 2551 บริษทั ฯ มีตน้ ทุนและค่าใช้จา่ ยในการดำเนินงานทัง้ สิน้ 800.04 ล้านบาท เพิม่ ขึน้ 97.90 ล้านบาท จากปีกอ่ น หรือร้อยละ 13.94 จากการตัง้ สำรองหนีส้ งสัยจะสูญจากลูกหนีห้ ลักทรัพย์เพิม่ ขึน้ 20.95 ล้านบาท รวมทัง้ มีการตัง้ สำรองหนีส้ งสัยจะสูญ จากตั๋วสัญญาใช้เงินที่ฝากในกิจการที่มีปัญหาทางการเงิน 25.49 ล้านบาท ด้านค่าใช้จ่ายดำเนินงาน ค่าใช้จ่ายการพนักงานเพิ่มขึ้น 36.13 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 9.74 ซึ่งผันแปรตามรายได้ค่านายหน้าที่เพิ่มขึ้น และภาษีเงินได้นิติบุคคลลดลง 40.32 ล้านบาท ผันแปรตามกำไรสุทธิของบริษัทฯ ที่ลดลงเช่นกัน
บริษัท หลักทรัพย์จัดการกองทุน ธนชาต จำกัด
วิ เ คราะห์ ฐ านะการเงิ น และผลการดำเนิ น งานสำหรั บ ปี สิ้ น สุ ด วั น ที่ 31 ธั น วาคม 2551 เปรี ย บเที ย บกั บ ปี สิ้ น สุ ด วั น ที่
31 ธันวาคม 2550
ฐานะการเงิน
สินทรัพย์ สินทรัพย์ส่วนใหญ่ของบริษัทฯ อยู่ในรูปเงินสดและเงินฝากสถาบันการเงิน (ร้อยละ 75.36 ของสินทรัพย์รวม) ในปี 2551 บริษัทฯ มีสินทรัพย์รวมทั้งสิ้น 313.14 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.36 ล้านบาท จากปี 2550 หรือเพิ่มขึ้นคิดเป็นร้อยละ 2.07 จากผลการ ดำเนินงาน โดยในระหว่างปี 2551 บริษัทฯ จ่ายเงินปันผลให้ผู้ถือหุ้นจากผลกำไรสำหรับปี 2550 เป็นจำนวน 100.00 ล้านบาท หนี้สิน หนี้สินรวมอยู่ในอัตราส่วนที่ต่ำเมื่อเทียบกับสินทรัพย์รวม (ร้อยละ 19.72 ของสินทรัพย์รวม) ซึ่งประกอบด้วยเจ้าหนี้การค้า เจ้าหนี้ตามสัญญาเช่าทางการเงิน และค่าใช้จ่ายค้างจ่าย ในปี 2551 บริษัทฯ มีหนี้สินรวมทั้งสิ้น 61.75 ล้านบาท ลดลง 17.02 ล้านบาท จากปี 2550 หรือลดลงคิดเป็นร้อยละ 21.61 สาเหตุจากค่าภาษีค้างจ่าย ส่วนของผู้ถือหุ้น ณ สิ้นปี 2551 ส่วนของผู้ถือหุ้นมีจำนวน 251.39 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23.38 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นคิดเป็นร้อยละ 10.26
จากกำไรสุทธิที่เพิ่มขึ้น หลังจากที่ได้จ่ายเงินปันผลแล้วจำนวน 100.00 ล้านบาท ดังกล่าวข้างต้น
ผลการดำเนินงาน
ในปี 2551 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 123.32 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21.33 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 20.92 เมื่อเปรียบเทียบกับ กำไรสุทธิปี 2550 ซึ่งคิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้น 12.33 บาท ซึ่งสามารถวิเคราะห์ผลการดำเนินงานได้ดังนี้ รายได้ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551 บริษัทฯ มีรายได้รวมทั้งสิ้นเท่ากับ 444.36 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 69.37 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น
คิดเป็นร้อยละ 18.50 เมือ่ เปรียบเทียบกับรายได้รวม ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2550 โดยรายได้หลักซึง่ รวมค่าธรรมเนียมการจัดการกองทุน ค่าธรรมเนียมนายทะเบียน และค่าธรรมเนียมขายและรับซือ้ คืนหน่วยลงทุนเท่ากับ 434.40 ล้านบาท เพิม่ ขึน้ 70.36 ล้านบาท หรือเพิม่ ขึน้ คิดเป็นร้อยละ 19.33 เนื่องจากการเปิดกองใหม่ และมูลค่าทรัพย์สินสุทธิที่เพิ่มขึ้น
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
43
ต้นทุนและค่าใช้จ่าย ค่าธรรมเนียมและบริการจ่าย ซึ่งเป็นค่าธรรมเนียมที่บริษัทฯ จ่ายให้แก่ผู้สนับสนุนการขายหน่วยลงทุน และค่าธรรมเนียม
ใบอนุญาตประกอบธุรกิจเท่ากับ 49.74 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.34 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 23.13 ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานเท่ากับ 233.88 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 45.63 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นคิดเป็นร้อยละ 24.24 อันเป็น
ผลจากค่าใช้จา่ ยเกีย่ วกับเงินเดือน เงินช่วยเหลือพิเศษ ค่าอบรมสัมมนา ค่าเช่าอาคารและอุปกรณ์ ค่าซ่อมแซมบำรุงรักษา ค่าเสือ่ มราคา ค่าไปรษณีย์ ค่าโฆษณา และค่าส่งเสริมการขายที่เพิ่มขึ้น อัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานต่อรายได้ก่อนภาษี (Operating Profit Margin) ในปี 2551 เท่ากับร้อยละ 36.17 ลดลง
จากปี 2550 ทีอ่ ยูใ่ นระดับร้อยละ 39.03 อัตราส่วนกำไรสุทธิตอ่ รายได้รวม (Net Profit Margin) ในปี 2551 เท่ากับร้อยละ 27.75 เพิม่ ขึน้ เมื่อเทียบกับร้อยละ 27.20 ในปี 2550
บริษัท ธนชาตประกันภัย จำกัด
วิ เ คราะห์ ฐ านะการเงิ น และผลการดำเนิ น งานสำหรั บ ปี สิ้ น สุ ด วั น ที่ 31 ธั น วาคม 2551 เปรี ย บเที ย บกั บ ปี สิ้ น สุ ด วั น ที่
31 ธันวาคม 2550
ฐานะการเงิน
สินทรัพย์ สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2551 บริษัทฯ มีสินทรัพย์รวมทั้งสิ้น 3,470.29 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2550 จำนวน 627.79 ล้านบาท หรือร้อยละ 22.09 ส่วนใหญ่เป็นการเพิ่มขึ้นของสินทรัพย์ลงทุน ซึ่ง ณ 31 ธันวาคม 2551 มีสินทรัพย์ลงทุน
รวมทั้งสิ้น 2,510.64 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2550 จำนวน 529.34 ล้านบาท หรือร้อยละ 26.72 โดยสินทรัพย์ลงทุน ประกอบด้วย
เงินลงทุนในหลักทรัพย์ 2,207.25 ล้านบาท เงินสดและเงินฝากธนาคาร 303.40 ล้านบาท หนี้สิน สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2551 บริษัทฯ มีหนี้สินรวมทั้งสิ้น 2,621.99 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2550 จำนวน 492.82 ล้านบาท หรือร้อยละ 23.15 ส่วนหนึ่งของหนี้สินที่เพิ่มขึ้นมาจากมีเงินสำรองเบี้ยประกันภัยที่ยังไม่ถือเป็นรายได้เพิ่มขึ้น 258.24 ล้านบาท เนื่องจากการขยายตัวของเบี้ยประกันภัยรับ ส่วนของผู้ถือหุ้น สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2551 บริษัทฯ มีส่วนของผู้ถือหุ้นรวมทั้งสิ้น 848.30 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2550 จำนวน 134.97 ล้านบาท หรือร้อยละ 18.92 ทั้งนี้ ในเดือนตุลาคม 2551 ได้เพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 500.00 ล้านบาท เป็น 740.00
ล้านบาท เพื่อใช้ในการรองรับการขยายธุรกิจ สภาพคล่อง สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2551 บริษัทฯ มีกระแสเงินสดจากการดำเนินงานจำนวน 495.57 ล้านบาท กระแสเงินสด จากกิจกรรมด้านการลงทุนจำนวน 41.15 ล้านบาท ซึ่งแบ่งเป็นดอกเบี้ยรับและเงินปันผลจำนวน 62.59 ล้านบาท ขาดทุนจากการขาย หลักทรัพย์จำนวน 21.45 ล้านบาท และมีเงินสดรับจากการเพิ่มทุนจำนวน 240.00 ล้านบาท สภาพคล่องทางการเงินในปี 2551 บริษทั ฯ ยังคงนโยบายด้านการลงทุนทีจ่ ะลดความเสีย่ งจากความผันผวนของอัตราดอกเบีย้ จึงทำการทยอยขายเงินลงทุนระยะยาวออกไป และลงทุนในตราสารระยะสั้นเพื่อลดความเสี่ยงดังกล่าว ประกอบกับการลงทุนยังคงเน้น
ที่จะลงทุนในตราสารที่มีสภาพคล่องสูง จึงทำให้บริษัทฯ มีสภาพคล่องที่ดีมากในการดำเนินกิจกรรมทางธุรกิจ
ผลการดำเนินงาน
สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2551 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 63.37 ล้านบาท คิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้น 1.17 บาท ลดลง
เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีผลกำไรสุทธิ 65.89 ล้านบาท คิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้น 1.32 บาท ซึ่งสามารถวิเคราะห์
ผลการดำเนินงานได้ดังนี้ 44
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
รายได้ บริษัทฯ มีรายได้รวมทั้งสิ้น 2,898.49 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 527.39 ล้านบาท หรือร้อยละ 22.24 เมื่อเปรียบเทียบกับ
ช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยเป็นรายได้จากการรับประกันภัยจำนวน 2,851.81 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 569.97 ล้านบาท หรือร้อยละ 24.98 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นผลมาจากการที่บริษัทฯ ได้ร่วมมือกับธนาคารธนชาต ในการขยายการประกันภัยกับ
กลุ่มลูกค้ารายย่อยของธนาคารธนชาต ประกอบกับในปี 2551 บริษัทฯ ได้ขยายตลาดผ่านช่องทางแบงก์แอสชัวรันส์ และปรับกลยุทธ์ โดยการขยายตลาดรถยนต์ ในขณะเดียวกันบริษัทฯ ยังให้ความสำคัญในการรักษาฐานลูกค้าเก่าไว้อย่างต่อเนื่อง โดยใช้กลยุทธ์
การปรับปรุงการบริการทัง้ ก่อนและหลังการขายเพือ่ สร้างความพึงพอใจให้ลกู ค้า ทำให้ในปี 2551 บริษทั ฯ มีกำไรจากการรับประกันภัย รวมทั้งสิ้น 449.84 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 124.34 ล้านบาท หรือร้อยละ 38.20 เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ต้นทุนและค่าใช้จ่าย บริ ษั ท ฯ มี ค่ า สิ น ไหมทดแทนรวมทั้ ง สิ้ น จำนวน 1,428.75 ล้ า นบาท เพิ่ ม ขึ้ น 248.25 ล้ า นบาท หรื อ ร้ อ ยละ 21.03
เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน อันเป็นผลจากการเติบโตโดยรวมของบริษัทฯ ที่มีการรับประกันภัยมากขึ้น สำหรับ อัตราส่วนค่าสินไหมทดแทน (Loss Ratio) ในปี 2551 อยู่ที่ระดับร้อยละ 57.55 ลดลงจากช่วงเดียวกันของปี 2550 ซึ่งอยู่ที่ระดับ
ร้อยละ 60.51 ค่าใช้จา่ ยในการดำเนินงานมีจำนวนรวมทัง้ สิน้ 412.04 ล้านบาท เพิม่ ขึน้ 89.00 ล้านบาท หรือร้อยละ 27.55 เมือ่ เปรียบเทียบ กับช่วงเดียวกันของปีก่อน อันเป็นผลมาจากการจัดสรรทรัพยากรภายในองค์กร เพื่อรองรับการเติบโตทางการตลาด และเพื่อให้บริการ ที่มีคุณภาพสามารถครอบคลุมไปยังลูกค้า และคู่ค้าทุกกลุ่ม
บริษัท ธนชาตประกันชีวิต จำกัด
วิ เ คราะห์ ฐ านะการเงิ น และผลการดำเนิ น งานสำหรั บ ปี สิ้ น สุ ด วั น ที่ 31 ธั น วาคม 2551 เปรี ย บเที ย บกั บ ปี สิ้ น สุ ด วั น ที่
31 ธันวาคม 2550
ฐานะการเงิน
สินทรัพย์ ณ สิ้นปี 2551 บริษัทฯ มีสินทรัพย์รวม 9,050.80 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 28.68 โดยส่วนใหญ่เป็นเงินลงทุนในหลักทรัพย์ จำนวน 8,017.37 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 27.84 เมื่อเทียบกับปี 2550 คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 88.58 ของสินทรัพย์รวมและเป็นไปตาม หลักเกณฑ์การลงทุนที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการปกครองธุรกิจประกันภัย (คปภ.) กำหนด หนี้สิน ณ สิ้นปี 2551 บริษัทฯ มีหนี้สินรวม 8,159.56 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 38.11 โดยเหตุผลหลักของการเพิ่มขึ้นของ
หนีส้ นิ รวม ได้แก่ การตัง้ เงินสำรองประกันชีวติ ทีเ่ พิม่ ขึน้ ทุกปี คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 95.86 ของหนีส้ นิ รวม โดย ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551 มี เ งิ น สำรองประกันชีวิตจำนวน 7,821.62 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 39.84 เมื่อเทียบกับปีก่อน ตามข้อกำหนดของสำนักงาน
คณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการปกครองธุรกิจประกันภัย (คปภ.) บริษทั ประกันชีวติ ต้องตัง้ วงเงินสำรองประกันชีวติ สำหรับกรมธรรม์ ที่ยังมีผลบังคับอยู่ เพื่อรองรับการปฏิบัติตามสัญญาผูกพันทางการเงินที่มีต่อผู้ถือกรมธรรม์ ส่วนของผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551 มีส่วนของผู้ถือหุ้นจำนวน 891.23 ล้านบาท ลดลง 234.13 ล้านบาท หรือลดลงร้อยละ 20.80 โดยบริษัทฯ มีอัตราส่วนผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (Return on Equity) ในปี 2551 อยู่ที่ร้อยละ 31.59 เพิ่มขึ้นจากปี 2550
ที่มีอัตราผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้นร้อยละ 18.25
ผลการดำเนินงาน
ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ สิ้นสุดปี 2551 มีกำไรสุทธิ 350.30 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 174.62 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น
ร้อยละ 99.40 เมื่อเทียบกับปี 2550 และในปี 2551 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิต่อหุ้น 7.01 บาท ซึ่งสามารถวิเคราะห์ผลการดำเนินงานได้ ดังนี้
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
45
รายได้ ในปี 2551 บริษัทฯ มีรายได้เบี้ยประกันภัยรับสุทธิรวม 4,791.53 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,566.00 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น
ร้อยละ 48.55 ทั้งนี้ เป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของเบี้ยประกันภัยรับตรงประเภทกลุ่ม ซึ่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 20.21 และจากการรับประกัน ประเภทสามัญ เพิ่มขึ้นร้อยละ 215.48 ต้นทุนและค่าใช้จ่าย ในปี 2551 ค่าใช้จ่ายในการรับประกันภัยมีจำนวน 4,038.23 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,219.53 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 43.27 โดยมีรายการหลัก ๆ ดังนี้ เงินสำรองประกันชีวิต คำนวณตามวิธีของคณิตศาสตร์ประกันภัยตามประกาศของกระทรวงพาณิชย์ เรื่องหลักเกณฑ์
และวิธีการจัดสรรเบี้ยประกันภัยไว้เป็นเงินสำรองประกันภัย ซึ่งได้ตั้งสำรองไว้ 2,228.20 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 13.00 เนื่องจาก
เบี้ยประกันภัยรับตรงประเภทกลุ่ม เพิ่มขึ้นร้อยละ 20.21 และเบี้ยประกันภัยรับตรงประเภทสามัญ เพิ่มขึ้นร้อยละ 215.48 เงินที่ต้องจ่ายตามกรมธรรม์ประกันภัย มีจำนวน 1,352.08 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 157.42 โดยค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่
ร้อยละ 45.07 เป็นเงินสินไหมทดแทนเนื่องจากมรณกรรม ซึ่งในปี 2551 มีการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนจากมรณกรรมเพิ่มขึ้น
ร้อยละ 55.08 หรือเพิ่มขึ้นจำนวน 216.45 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปี 2550 และมีเงินครบกำหนดตามเงื่อนไขกรมธรรม์เพิ่มขึ้น
ร้อยละ 3,859.03 หรือเพิ่มขึ้นจำนวน 526.05 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปี 2550 ค่ า จ้ า งและค่ า บำเหน็ จ มี จ ำนวน 390.25 ล้ า นบาท เพิ่ ม ขึ้ น 85.86 ล้ า นบาท หรื อ เพิ่ ม ขึ้ น ร้ อ ยละ 28.21 ซึ่ ง ค่ า จ้ า ง
และค่าบำเหน็จจะผันแปรไปตามรายได้จากการรับประกันภัยที่เพิ่มขึ้น และอัตราค่าจ้างและค่าบำเหน็จของแต่ละกรมธรรม์ที่ไม่เท่ากัน ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน มีจำนวน 479.98 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 76.01 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 18.82 โดยค่าใช้จ่าย เกี่ยวกับพนักงานเพิ่มขึ้น 25.93 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 37.27 และค่าใช้จ่ายดำเนินงานอื่นเพิ่มขึ้น 41.45 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น ร้อยละ 14.14 เช่น ค่าธรรมเนียมธนาคาร ค่าบริการงานสนับสนุน ค่าบำรุงสมาคมและสถาบัน ค่ารับรอง ค่าเครื่องเขียน และแบบพิมพ์ เป็นต้น
46
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
ลักษณะการประกอบธุรกิจ
ภาพรวมในการประกอบธุรกิจ
ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) “ธนาคารธนชาต” เป็นบริษัทในกลุ่มธุรกิจทางการเงินธนชาต ที่มีบริษัท ทุนธนชาต จำกัด (มหาชน) “ทุนธนชาต” เป็นบริษัทแม่ของกลุ่มธุรกิจทางการเงินธนชาต ซึ่งบริษัทในกลุ่มธนชาตจัดแบ่งประเภทการประกอบธุรกิจ
ออกเป็นสองกลุม่ 1) กลุม่ ธุรกิจทางการเงิน ซึง่ ประกอบด้วย ธุรกิจสถาบันการเงิน ธุรกิจบริหารสินทรัพย์ ธุรกิจหลักทรัพย์ ธุรกิจประกัน ธุรกิจลีสซิ่ง และ 2) ธุรกิจสนับสนุน ที่ประกอบด้วย ธุรกิจโบรกเกอร์ ธุรกิจบริการ ธุรกิจกฎหมายและประเมินราคา ธุรกิจการพัฒนา
ฝึกอบรม ที่ถือได้ว่าเป็นกลุ่มที่ประกอบธุรกิจทางการเงินครบวงจร โดยแยกธุรกิจและการดำเนินงานอย่างชัดเจน ในส่วนของ
ช่องทางการบริการทางการเงินของกลุ่มจะผ่านเครือข่ายและช่องทางการบริการของธนาคารธนชาต เป็นหลักตามแนวทางส่งเสริม
ของทางการที่กำกับดูแล โดยสามารถกล่าวถึงการประกอบธุรกิจแต่ละบริษัทได้ ดังนี้ ก) บริษัทที่ประกอบธุรกิจทางการเงิน ได้แก่ 1. บริษัท ทุนธนชาต จำกัด (มหาชน) ประกอบธุรกิจการลงทุน (Holding Company) โดยเป็นบริษัทแม่ของกลุ่มธุรกิจ ทางการเงินธนชาต 2. ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) ประกอบธุรกิจธนาคารพาณิชย์ และธุรกิจอื่นที่ธนาคารแห่งประเทศไทย “ธปท.” อนุญาต ได้แก่ การเป็นนายหน้าประกันภัย การเป็นนายหน้าประกันชีวิต ธุรกิจตัวแทนสนับสนุนการจำหน่ายหน่วยลงทุน 3. บริษัท หลักทรัพย์ ธนชาต จำกัด (มหาชน) ได้รับอนุญาตจากกระทรวงการคลังให้ประกอบธุรกิจหลักทรัพย์
4 ประเภท ได้แก่ การเป็นนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ การค้าหลักทรัพย์ การจัดจำหน่ายหลักทรัพย์ และการเป็นที่ปรึกษาการลงทุน นอกจากนี้ บริษทั ยังดำเนินธุรกิจอืน่ ๆ ทีเ่ กีย่ วข้องและสนับสนุนธุรกิจหลักทรัพย์ ได้แก่ ธุรกิจทีป่ รึกษาทางการเงิน ธุรกิจซือ้ ขายสัญญา
ซื้อขายล่วงหน้า ธุรกิจตัวแทนสนับสนุนการขายและรับซื้อคืนหน่วยลงทุน และธุรกิจนายทะเบียนหลักทรัพย์ 4. บริษทั หลักทรัพย์จดั การกองทุน ธนชาต จำกัด เป็นบริษทั ร่วมทุนระหว่างธนาคารธนชาต (ถือหุน้ ในอัตราร้อยละ 75) กับธนาคารออมสิน (ถือหุน้ ในอัตราร้อยละ 25) ประกอบธุรกิจจัดการกองทุนรวม ธุรกิจจัดการกองทุนส่วนบุคคลและกองทุนสำรองเลีย้ งชีพ และประกอบธุรกิจที่ปรึกษาการลงทุน ซึ่งถือว่าเป็นบริษัทที่ให้บริการคำแนะนำได้อย่างครบวงจร 5. บริษัท ธนชาตประกันภัย จำกัด ประกอบธุรกิจให้บริการด้านประกันวินาศภัย ได้แก่ การประกันอัคคีภัย การประกัน ภัยรถยนต์ การประกันภัยทางทะเลและขนส่ง และการประกันภัยเบ็ดเตล็ด 6. บริ ษั ท ธนชาตประกั น ชี วิ ต จำกั ด ประกอบธุ ร กิ จ ให้ บ ริ ก ารด้ า นความคุ้ ม ครองชี วิ ต และสุ ข ภาพ โดยแบ่ ง เป็ น
2 ประเภทใหญ่ ๆ ตามลักษณะของลูกค้า ได้แก่ การประกันสามัญรายบุคคล และการประกันกลุ่ม 7. บริษัท ธนชาตกรุ๊ป ลีสซิ่ง จำกัด ประกอบธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์ทุกประเภท 8. บริษัท บริหารสินทรัพย์ เอ็น เอฟ เอส จำกัด ได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจบริหารสินทรัพย์ โดยรับซื้อหรือรับโอน สินทรัพย์ด้อยคุณภาพของสถาบันการเงินในกลุ่มธนชาตมาบริหาร 9. บริษัท บริหารสินทรัพย์ แม๊กซ์ จำกัด ได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจบริหารสินทรัพย์ โดยรับซื้อหรือรับโอน สินทรัพย์ด้อยคุณภาพของสถาบันการเงินมาบริหาร 10. บริษัท ที ลีสซิ่ง จำกัด ได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจให้เช่าซื้อรถจักรยานยนต์ ข) บริษัทที่ประกอบธุรกิจสนับสนุน ได้แก่ 1. บริษัท ธนชาตกฎหมายและประเมินราคา จำกัด ให้บริการงานที่ปรึกษากฎหมาย งานนิติกรรมสัญญา งานฟ้องคดี และบังคับคดี และงานประเมินราคาทรัพย์สินหลักประกัน
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
47
2. บริษัท ธนชาตแมเนจเม้นท์ แอนด์ เซอร์วิส จำกัด ให้บริการพนักงานในส่วนพนักงานบริการ 3. บริษัท ธนชาต เทรนนิ่ง แอนด์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด ให้บริการงานฝึกอบรมแก่บุคลากรของบริษัทในกลุ่มธนชาต 4. บริษัท ธนชาต โบรกเกอร์ จำกัด ให้บริการติดตามลูกค้าเช่าซื้อของกลุ่มธนชาต ให้มีการจัดทำประกันภัยรถยนต์กับ บริษัทประกันภัยต่าง ๆ รวมถึงการเป็นนายหน้าสำหรับประกันภัยรถยนต์ให้กับบริษัท ธนชาตประกันภัย จำกัด
โครงสร้างการถือหุ้นในกลุ่มธนชาต ณ วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2552 บริษัท ทุนธนชาต จำกัด (มหาชน) กลุ่มธุรกิจทางการเงิน
ธนาคารแห่งโนวาสโกเทีย
ธุรกิจธนาคารพาณิชย์
ธุรกิจนอกกลุ่มธุรกิจทางการเงิน
ธุรกิจบริหารสินทรัพย์ 100% บริษัท บริหารสินทรัพย์ เอ็น เอฟ เอส จำกัด
48.99%
50.92% ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
ธุรกิจประกัน
บริษัท ธนชาตเอสพีวี 01 จำกัด
83.44% บริษัท บริหารสินทรัพย์ แม๊กซ์ จำกัด
ธุรกิจทางการเงิน ธุรกิจหลักทรัพย์
100%
ธุรกิจสนับสนุน 100% บริษัท หลักทรัพย์ ธนชาต จำกัด (มหาชน)
100%
75% บริษัท หลักทรัพย์จัดการกองทุน ธนชาต จำกัด
100% บริษทั ธนชาตแมเนจเม้นท์ แอนด์ เซอร์วสิ จำกัด
100% บริษัท ธนชาตประกันภัย จำกัด
100% บริษทั ธนชาตกฎหมายและประเมินราคา จำกัด
บริษัท ธนชาตประกันชีวิต จำกัด
100% บริษทั ธนชาต เทรนนิง่ แอนด์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด
100%
บริษัท ธนชาต โบรกเกอร์ จำกัด
100% บริษัท ที ลีสซิ่ง จำกัด ธุรกิจลีสซิ่ง
100%
100% บริษัท ธนชาตกรุ๊ป ลีสซิ่ง จำกัด
หมายเหตุ ร้อยละการถือหุ้นที่แสดงนับรวมการถือหุ้นโดยผู้ที่เกี่ยวข้อง
48
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
บริษัท เนชั่นแนล ลีซซิ่ง จำกัด
นโยบายการแบ่งการดำเนินงานของบริษัทในกลุ่มธนชาต
ทุนธนชาตเป็นบริษัทแม่ของกลุ่มธุรกิจทางการเงินธนชาต ที่ถือหุ้นบริษัทในกลุ่มธุรกิจทางการเงินในระดับที่มีอำนาจควบคุม กิจการ (มากกว่าร้อยละ 50 ของทุนจดทะเบียนชำระแล้ว) โดยมีแนวทางบริหารจัดการบริษัทในกลุ่ม ดังนี้
นโยบายการประกอบธุรกิจ
ทุนธนชาตและธนาคารธนชาตจะเป็นผู้กำหนดนโยบายหลักในการดำเนินธุรกิจของกลุ่มธนชาตเป็นประจำทุกปี และจัดให้ บริษัทลูกทุกบริษัทจัดทำแผนงานธุรกิจและงบประมาณระยะ 3 - 5 ปี เสนอให้บริษัทแม่พิจารณาว่า มีแนวทางดำเนินธุรกิจสอดรับกับ นโยบายหลักในการดำเนินธุรกิจหรือไม่ และจะมีการประเมินผล ทบทวน และปรับแผนธุรกิจและงบประมาณเป็นประจำเพื่อให้ สอดคล้องกับสภาวะการแข่งขันของธุรกิจ
การดูแลการประกอบธุรกิจบริษัทลูก
ทุนธนชาตและธนาคารธนชาตจะส่งกรรมการหรือผู้บริหารระดับสูงร่วมเป็นกรรมการในบริษัทลูก เพื่อร่วมกำหนดนโยบาย และทิศทางการดำเนินธุรกิจ รวมทั้งสามารถกำกับดูแลการประกอบธุรกิจของบริษัทลูกได้อย่างใกล้ชิดและจัดให้กรรมการผู้จัดการ บริษัทลูกรายงานผลการดำเนินงานเป็นประจำทุกเดือนต่อคณะกรรมการบริหารและคณะกรรมการธนาคารธนชาตและทุนธนชาต
การรวมศูนย์งานสนับสนุน
เป็นการรวมงานสนับสนุนที่แต่ละบริษัทในกลุ่มต้องใช้บริการไว้ ณ บริษัทใดบริษัทหนึ่งแล้วให้บริการแก่บริษัทในกลุ่ม ทั้งหมด เพื่อเป็นการจัดการให้มีการใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุด ทั้งในด้านความเชี่ยวชาญของพนักงานผู้ปฏิบัติงาน ระบบ เทคโนโลยีสารสนเทศต่าง ๆ และความประหยัดในเรื่องอัตราพนักงาน ซึ่งในปัจจุบันได้มีการรวมศูนย์งานสนับสนุนในกลุ่มธนชาต เช่น งานเทคโนโลยีสารสนเทศ งานบุคลากร งานพัฒนาระบบงานและระเบียบคำสั่ง งานตรวจสอบภายใน งานกำกับดูแลการปฏิบัติงาน งานปฏิบัติการ งานควบคุมธุรกิจ งานบริการอิเล็กทรอนิกส์ งานธุรการและจัดซื้อทรัพย์สิน งานกฎหมายและประเมินราคา งานติดตาม หนี้รายย่อย และงานตัวแทนเรียกเก็บหนี้
การควบคุมภายใน การตรวจสอบ การกำกับดูแลกิจการบริษัทแม่และบริษัทในกลุ่มธนชาต
กลุม่ ธนชาตให้ความสำคัญด้านการควบคุมภายในเป็นอย่างยิง่ โดยยึดหลักการมีการควบคุมภายในทีเ่ พียงพออย่างเหมาะสม โดยกำหนดขั้นตอนการดำเนินธุรกิจ การบริการ และการปฏิบัติงาน รวมถึงแบ่งแยกหน้าที่ความรับผิดชอบของแต่ละหน่วยงานเพื่อให้ มีการตรวจสอบซึ่งกันและกัน รวมทั้งมีการสอบทานรายการอย่างเหมาะสม (Check & Balance) และจัดให้มีประกาศ คำสั่ง ระเบียบ การปฏิบัติเป็นลายลักษณ์อักษร ครอบคลุมธุรกิจที่ดำเนินการและการปฏิบัติที่สำคัญ เปิดเผยให้พนักงานทุกคนสามารถศึกษา ทำความเข้าใจได้ตลอดเวลา โดยมีหน่วยงานกลางที่ธนาคารธนชาตเป็นหน่วยงานในการพิจารณาจัดทำและเสนอประกาศ คำสั่ง ระเบียบการปฏิบัติของทุกบริษัทในกลุ่ม ด้านการตรวจสอบภายใน สายงานตรวจสอบภายใน จะเป็นทีมงานที่ทำการตรวจสอบการปฏิบัติงานของบริษัทในกลุ่ม
ธนชาตทุกบริษัท ให้มีการปฏิบัติงานถูกต้องตามระเบียบ ระบบงานที่กำหนด การตรวจสอบความผิดพลาดบกพร่องในการปฏิบัติงาน พร้อมเสนอข้อแก้ไขปรับปรุงเพื่อให้มีการควบคุมที่ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังจัดให้มีหน่วยงานกำกับดูแลการปฏิบัติงาน (Compliance) เป็นหน่วยงานติดตามศึกษากฎหมาย ประกาศ คำสั่งที่เกี่ยวกับการประกอบธุรกิจและการปฏิบัติงานของธุรกิจที่กลุ่มดำเนินการอยู่ เผยแพร่ให้พนักงานทำความเข้าใจ ตลอดจนกำกับดูแลให้บริษัทในกลุ่มมีการประกอบธุรกิจและการปฏิบัติงานโดยถูกต้อง การกำกับดูแลการควบคุมภายในและการตรวจสอบของบริษัทแต่ละบริษัทในกลุ่ม มีคณะกรรมการตรวจสอบของแต่ละ บริษัท ทำหน้าที่กำกับดูแล ควบคุมและตรวจสอบ เพื่อให้ฝ่ายตรวจสอบสามารถปฏิบัติหน้าที่และแสดงความเห็นได้อย่างมีอิสระจาก ฝ่ายจัดการของแต่ละบริษัท เพื่อให้แต่ละบริษัทมีระบบการควบคุมภายในและการตรวจสอบอย่างมีประสิทธิผล รวมถึงสอบทานให้มี รายงานทางการเงินที่ถูกต้อง
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
49
ในส่วนของการกำกับดูแลกิจการ คณะกรรมการบริษัทแม่และบริษัทในกลุ่มให้ความสำคัญกับการกำกับดูแลกิจการ ทั้งใน ระดับคณะกรรมการ และคณะกรรมการชุดย่อย โดยจัดโครงสร้างให้มีการถ่วงดุลระหว่างกรรมการอิสระกับกรรมการที่เป็นผู้บริหาร ตลอดจนกำหนดขอบเขตหน้าที่ให้เป็นไปตามหลักธรรมาภิบาลที่ทางการประกาศกำหนด นอกจากนี้ ยังได้กำหนดนโยบายการกำกับ ดูแลกิจการและจรรยาบรรณ ประกาศให้กรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานในกลุ่มธนชาตถือปฏิบัติ โดยยึดหลักความซื่อสัตย์ สุจริต โปร่งใส และไม่ทำการที่เป็นการขัดแย้งทางผลประโยชน์
การบริหารจัดการความเสี่ยง
ทุนธนชาตจะดูแลให้บริษัทในกลุ่ม มีการวิเคราะห์และประเมินความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจ รวมถึงการจัดให้มีการจัดการ ความเสี่ยงตามความเหมาะสมและสอดคล้องกับแนวทางการกำกับดูแลของหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้ ทุนธนชาตจะมี การวิเคราะห์และประเมินความเสีย่ งทีส่ ำคัญ ๆ ของบริษทั ในกลุม่ ทีอ่ าจต้องการการสนับสนุนทางการเงินหรือการจัดการจากทุนธนชาต โดยตรง ทั้งนี้ นโยบายการบริหารความเสี่ยงของกลุ่มธุรกิจทางการเงินได้จัดทำตามแนวทางที่ ธปท. กำหนด
โครงสร้างรายได้ของธนาคารธนชาตและบริษัทย่อย
โครงสร้างรายได้ของธนาคารธนชาตและบริษัทย่อยจากงบการเงินรวม ณ สิ้นวันที่ 31 ธันวาคม 2551 และ 2550 ดังนี้ ร้อยละการถือหุ้นของ ธนาคารธนชาต (รวมผู้ที่เกี่ยวข้อง)
งบการเงินรวม ปี 2551 ล้านบาท ร้อยละ
ปี 2550 ล้านบาท ร้อยละ
รายได้ดอกเบี้ยและเงินปันผล ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) บริษัท หลักทรัพย์ ธนชาต จำกัด (มหาชน) 100.00 บริษัท หลักทรัพย์จัดการกองทุน ธนชาต จำกัด 75.00 บริษัท ธนชาตประกันภัย จำกัด 100.00 บริษัท ธนชาตประกันชีวิต จำกัด 100.00 บริษัท ธนชาตกรุ๊ป ลีสซิ่ง จำกัด 100.00 บริษัท ธนชาต โบรกเกอร์ จำกัด 100.00 บริษัท ธนชาตแมเนจเม้นท์ แอนด์ เซอร์วิส จำกัด 100.00 บริษัท ธนชาตกฎหมายและประเมินราคา จำกัด 100.00 บริษัท ธนชาต เทรนนิ่ง แอนด์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด 100.00 บริษัท ที ลีสซิ่ง จำกัด 100.00 บริษัท เนชั่นแนล ลีซซิ่ง จำกัด 100.00
19,488 110 7 73 287 466 1 - - - 253 3
88.62 0.50 0.03 0.33 1.31 2.12 0.01 - - - 1.15 0.01
17,051 42 3 29 84 238 1 - - - 20 20
120.05 0.30 0.02 0.20 0.59 1.68 0.01 0.14 0.14
รวมรายได้ดอกเบี้ยและเงินปันผล
20,688
94.08
17,488
123.13
50
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
ร้อยละการถือหุ้นของ ธนาคารธนชาต (รวมผู้ที่เกี่ยวข้อง)
งบการเงินรวม ปี 2551 ล้านบาท ร้อยละ
ปี 2550 ล้านบาท ร้อยละ
ค่าใช้จ่ายดอกเบี้ย 9,376 42.64 9,364 65.93 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) 3 0.01 1 0.01 บริษัท หลักทรัพย์ ธนชาต จำกัด (มหาชน) 100.00 - - - บริษัท หลักทรัพย์จัดการกองทุน ธนชาต จำกัด 75.00 - - - บริษัท ธนชาตประกันภัย จำกัด 100.00 - - - บริษัท ธนชาตประกันชีวิต จำกัด 100.00 9 0.04 23 0.16 บริษัท ธนชาตกรุ๊ป ลีสซิ่ง จำกัด 100.00 - - - บริษัท ธนชาต โบรกเกอร์ จำกัด 100.00 - - - บริษัท ธนชาตแมเนจเม้นท์ แอนด์ เซอร์วิส จำกัด 100.00 1 0.01 - บริษัท ธนชาตกฎหมายและประเมินราคา จำกัด 100.00 - - - บริษัท ธนชาต เทรนนิ่ง แอนด์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด 100.00 - - - บริษัท ที ลีสซิ่ง จำกัด 100.00 9 0.04 8 0.06 บริษัท เนชั่นแนล ลีซซิ่ง จำกัด 100.00 รวมค่าใช้จ่ายดอกเบี้ย
9,398
42.74
9,396
66.16
รวมได้ดอกเบี้ยและเงินปันผลสุทธิ 11,290 51.34 8,092 56.97 รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย 2,013 9.15 1,914 13.48 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) 793 3.61 479 3.37 บริษัท หลักทรัพย์ ธนชาต จำกัด (มหาชน) 100.00 435 1.98 215 1.51 บริษัท หลักทรัพย์จัดการกองทุน ธนชาต จำกัด 75.00 2,502 11.38 1,088 7.66 บริษัท ธนชาตประกันภัย จำกัด 100.00 4,681 21.28 2,282 16.07 บริษัท ธนชาตประกันชีวิต จำกัด 100.00 70 0.32 46 0.32 บริษัท ธนชาตกรุ๊ป ลีสซิ่ง จำกัด 100.00 94 0.43 45 0.32 บริษัท ธนชาต โบรกเกอร์ จำกัด 100.00 1 0.01 1 0.01 บริษัท ธนชาตแมเนจเม้นท์ แอนด์ เซอร์วิส จำกัด 100.00 52 0.24 29 0.20 บริษัท ธนชาตกฎหมายและประเมินราคา จำกัด 100.00 - - - - บริษัท ธนชาต เทรนนิ่ง แอนด์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด 100.00 49 0.22 5 0.04 บริษัท ที ลีสซิ่ง จำกัด 100.00 10 0.04 7 0.05 บริษัท เนชั่นแนล ลีซซิ่ง จำกัด 100.00 รวมรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย
10,700
48.66
6,111
43.03
รวมรายได้ดอกเบี้ยและเงินปันผลสุทธิ และรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย
21,990
100.00
14,203
100.00
หมายเหตุ ธนาคารธนชาตแสดงข้อมูลเกี่ยวกับนโยบายเงินลงทุนในหัวข้อทรัพย์สินที่ใช้ในการประกอบธุรกิจ
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
51
โครงสร้างรายได้ของธนาคารธนชาตจากงบการเงินเฉพาะกิจการสำหรับปีสิ้นสุด วันที่ 31 ธันวาคม 2551, 2550 และ 2549 ดังนี้
รายได้ดอกเบี้ยและเงินปันผล ค่าใช้จ่ายดอกเบี้ย รวมรายได้ดอกเบี้ยและเงินปันผลสุทธิ รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย รวมรายได้ดอกเบี้ยและเงินปันผลสุทธิ และรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย
ปี 2551 ล้านบาท ร้อยละ
ปี 2550 ล้านบาท ร้อยละ
ปี 2549 ล้านบาท ร้อยละ
19,897 9,429 10,468 2,286 12,754
17,123 9,386 7,737 2,005 9,742
15,520 9,510 6,010 1,318 7,328
156.01 73.93 82.08 17.92 100.00
175.77 96.35 79.42 20.58 100.00
211.79 129.78 82.01 17.99 100.00
ลักษณะการประกอบธุรกิจของแต่ละกลุ่มธุรกิจ
นโยบายและกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจของกลุ่มธนชาต
ในปี 2551 กลุ่มธนชาตได้กำหนดทิศทางทางกลยุทธ์ (Strategic Direction) ในการที่จะเป็นกลุ่มธุรกิจทางการเงินครบวงจร (Fully Integrated Financial Services Group) ที่สามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่มีคุณภาพ และสามารถตอบสนอง
ความต้องการทางการเงินให้แก่ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเพื่อให้กลุ่มธนชาตสามารถบรรลุทิศทางกลยุทธ์ที่ได้
ตั้งไว้ กลุ่มธนชาตจึงได้กำหนดวิสัยทัศน์ที่ตั้งอยู่บนรากฐานของการเป็นกลุ่มธุรกิจทางการเงินครบวงจร ดังนี้
วิสัยทัศน์
“การเป็นกลุ่มธุรกิจที่ให้บริการทางการเงินครบวงจร มุ่งเน้นการสร้างสรรค์ความเป็นเลิศทางด้านการบริการและการพัฒนา ผลิตภัณฑ์ เพื่อที่จะสามารถตอบสนองทุกความต้องการทางการเงินของกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ภายใต้ความร่วมมือและความเป็นอันหนึ่ง อันเดียวกันของทุกหน่วยงาน” โดยวิสัยทัศน์ดังกล่าว ได้ถูกสร้างขึ้นจาก 3 พื้นฐานหลัก คือ การเป็นกลุ่มธุรกิจที่ให้บริการทางการเงินครบวงจรโดยมี ธนาคารธนชาตเป็นผู้นำเสนอผลิตภัณฑ์ เพื่อที่จะสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก (Customer Centric) และ
ความร่วมมือ ความเป็นหนึ่งเดียวกันของทุกหน่วยงาน (Synergy) นอกจากนี้ ความพยายามและความสำเร็จภายใต้ 3 พื้นฐานหลักนี้ไม่เพียงแต่ทำให้กลุ่มธนชาตประสบความสำเร็จในการ เป็นสถาบันการเงินครบวงจรที่ประสบความสำเร็จในการแข่งขัน แต่ยังเป็นพลังสำคัญในการที่จะทำให้กลุ่มธนชาตเป็นธนาคาร
ขนาดกลางชั้นนำของประเทศได้ในอีก 5 ปีข้างหน้า จากเป้าหมายของการเป็นกลุ่มธุรกิจทางการเงินครบวงจร กลุ่มธนชาตมีเป้าหมายที่จะเป็นธนาคารขนาดกลางชั้นนำของ อุตสาหกรรมธนาคารพาณิชย์ของประเทศ ภายใต้การเติบโตอย่างมั่นคง (Organic Growth) คือการมีขนาดสินทรัพย์ที่เหมาะสมต่อการ แข่งขันทางธุรกิจ และมีผลการดำเนินงานทางการเงินในระดับเทียบเท่ากับค่าเฉลี่ยของธุรกิจอุตสาหกรรมธนาคารพาณิชย์ ดังนั้น กลุ่ม ธนชาตจึงให้ความสำคัญในการสร้างธุรกิจรายย่อย ซึ่งปัจจุบันกลุ่มธนชาตมีความพร้อมและการได้เปรียบทางการแข่งขัน ประกอบกับ การกระจายความเสี่ยงทางด้านสินทรัพย์ โดยขยายสินเชื่อธุรกิจและสินเชื่อขนาดกลางและขนาดเล็ก เพื่อเป็นการสร้างทางเลือกแก่ ลูกค้าและขยายฐานธุรกิจของกลุ่มธนชาต นอกจากนี้ กลุ่มธนชาตยังให้ความสำคัญภายใต้ความร่วมมือกับธนาคารแห่งโนวาสโกเทีย “สโกเทียแบงก์” ในการสร้างธุรกิจทางด้านค่าธรรมเนียม (Fee Base Income) โดยการสนับสนุนการ Cross-selling เพื่อเป็นการเพิ่ม ฐานรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยของกลุ่มธนชาต ซึ่งเป้าหมายของความสำเร็จดังกล่าวนี้ได้ถูกทำการสื่อสารต่อพนักงานทั้งองค์กรในการ กำหนดความมุ่งมั่นทางกลยุทธ์ (Strategic Intents) 5 ประการ ดังนี้ 1. การรักษาการเป็นผู้นำทางด้านธุรกิจเช่าซื้อ 2. การกระจายความเสี่ยงทางด้านสินเชื่อธุรกิจ โดยเพิ่มการมุ่งเน้นในสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่ ขนาดกลางและขนาดเล็ก ทั้งนี้รวมถึง สินเชื่อรายย่อย สินเชื่อที่อยู่อาศัย และธุรกิจบัตรเครดิต 52
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
3. การเพิ่มฐานกำไรจากรายได้ทางด้านดอกเบี้ย (Interest Income) ที่เกิดจากการขยายสินเชื่อ และรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย ซึ่งเกิดจากการขยายรายได้ค่าธรรมเนียมที่ได้จากธุรกิจใหม่ คือ ธุรกิจการค้าต่างประเทศ (Trade Finance) ธุรกิจบริหารเงิน (Treasury) และธุรกิจบัตรเครดิต (Credit Card) 4. การเพิ่มคุณภาพการให้บริการ 5. ควบคุ ม ต้ น ทุ น ทางการเงิ น โดยการขยายฐานลู ก ค้ า เงิ น ฝากออมทรั พ ย์ การควบคุ ม ต้ น ทุ น ปฏิ บั ติ ก ารต่ อ รายได้
และการควบคุมสินเชื่อด้อยคุณภาพ ความมุ่งมั่นทางกลยุทธ์ (Strategic Intents) ได้ถูกสื่อสารสู่พนักงานทุกระดับ เพื่อให้พนักงานทุกคน ทุกหน่วยธุรกิจให้มี ความมุ่งมั่นเดียวกัน และสอดคล้องกับวิสัยทัศน์และเป้าหมายทางกลยุทธ์ของกลุ่มธนชาตที่ได้วางไว้ ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดความสอดคล้อง ทางกลยุทธ์ที่สามารถควบคุมดูแลกลยุทธ์องค์กรอย่างเป็นระบบและสามารถวัดผลได้อย่างมีประสิทธิภาพ กลุ่มธนชาตจึงได้กำหนด แผนปฏิบัติการ CEO’s Six-point Agenda เพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการควบคุมซึ่งประกอบด้วย Agenda 1 : การบรรลุเป้าหมายทางการเงินในระยะยาว (Striving to meet or exceed Financial Targets) • ธนาคารธนชาตและบริษัทในกลุ่ม มีขนาดสินทรัพย์เพิ่มขึ้นจาก 300,787 ล้านบาท ในปี 2550 เป็น
378,347 ล้านบาท ในปี 2551 หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 25.79 อัตราผลตอบแทนของส่วนผู้ถือหุ้น (Return on Equity) เท่ากับร้อยละ 10.40 และอัตราผลตอบแทนของสินทรัพย์ (Return on Asset) เท่ากับร้อยละ 0.79 Agenda 2 : เร่งสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ และขยายฐานธุรกิจรวมทั้งคุณภาพการให้บริการที่ดีเลิศ (Growth Initiatives)
คือการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตรงตามความต้องการของกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย และการขยายช่องทางการขายไปยังพื้นที่ที่มีความสามารถ ตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้ทั้งหมด • ในปี 2551 กลุ่มธนชาตได้ดำเนินการพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่องเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า (Customer Segmentation) ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มผลิตภัณฑ์หลากหลายประเภท การนำผลิตภัณฑ์ของบริษัทย่อยมาผนวกเพื่อเสนอ
ต่อลูกค้า (Product Bundling) เพื่อเพิ่มทางเลือกให้แก่ลูกค้า ในขณะเดียวกันผลิตภัณฑ์ใหม่ได้มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องภายใต้
ความร่วมมือจากสโกเทียแบงก์ ได้แก่ ธุรกิจการค้าต่างประเทศ (Trade Finance) ธุรกิจการบริหารเงิน (Treasury) ธุรกิจบัตรเครดิต (Credit Card) และธุรกิจการให้บริการทางอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Business) ซึง่ ทำให้กลุม่ ธนชาตมีผลิตภัณฑ์เทียบเท่าธนาคารชั้นนำ ในอนาคต • ภายใต้กลยุทธ์การกระจายช่องทาง หรือ Distribution–led Strategy มีวัตถุประสงค์เพื่อกระจายช่องทาง
ไปสู่กลุ่มลูกค้าเป้าหมายในทุกพื้นที่ เพื่อเพิ่มช่องทางการให้บริการแก่ลูกค้า ซึ่งกลุ่มธนชาตได้ให้ความสำคัญในการขยายช่องทางหลัก คือ การขยายสาขาโดยได้วางกลยุทธ์ในการขยายสาขาไปทั่วประเทศ เพิ่มขึ้นจาก 166 สาขา ในปี 2550 เป็น 213 สาขาในปี 2551
คิดเป็นอันดับ 8 หรือร้อยละ 3.26 ของอุตสาหกรรมธนาคารพาณิชย์ • นอกจากนี้ กลุ่มธนชาตยังให้ความสำคัญต่อการขยายช่องทางการให้บริการลูกค้าในรูปแบบของเครื่อง
ถอนเงินสดอัตโนมัติ (ATM) ภายใต้ความร่วมมือจากพันธมิตรทางธุรกิจ “ATM CONNECT” คือธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) และ ธนาคารนครหลวงไทย จำกัด (มหาชน) ซึง่ ทำให้กลุม่ ธนชาตสามารถทีจ่ ะเพิม่ เครือข่ายในการให้บริการในรูปแบบของเครื่องถอนเงินสด อัตโนมัติทั่วประเทศ • ภายใต้การวางแผนกลยุทธ์ทางผลิตภัณฑ์และกลยุทธ์การกระจายช่องทางและความเข้าใจในความต้องการ ของลูกค้าที่เพิ่มขึ้น ตลอดจนความร่วมมือของผู้บริหารและพนักงานทุกคน ในปี 2551 กลุ่มธนชาตมีอัตราเติบโตของฐานลูกค้าเพิ่มขึ้น ร้อยละ 30.37 Agenda 3 : ติดตั้งระบบโครงสร้างพื้นฐาน และระบบสนับสนุนที่สำคัญเพื่ออำนวยความสะดวกให้การดำเนินธุรกิจมี ประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น (Operational Improvements) ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของระบบงานของกลุ่มธนชาต
และการพัฒนาระบบปฏิบัติการของกลุ่มธนชาตให้เป็นมาตรฐานสากล (Best Practice) ทั้งหมด • การติดตั้งโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructures) ของกลุ่มธนชาตเป็นภารกิจสำคัญอย่างยิ่งในการที่จะรองรับ การขยายตัวของกลุ่มธนชาตภายใต้วิสัยทัศน์ที่ได้วางไว้ โดยในปี 2551 กลุ่มธนชาตได้ประสบความสำเร็จในการติดตั้งระบบงานใหม่ เพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการ และลดต้นทุนการดำเนินงานต่อธุรกรรม เช่น ระบบเงินฝากใหม่ (New Deposit System) ระบบบริหารเงิน (Trade Finance System) ระบบการค้าต่างประเทศ (Trade Finance System) ระบบบัตรเครดิต (Credit Card System) ระบบการจัดเก็บหนี้ (Collection System) ระบบบัญชีใหม่ (General Ledge System) ระบบบริหารงานบุคคลใหม่ (Human Resource Information System) และระบบการจัดการทางการเงิน (Oracle Financial Service Application (OFSA))
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
53
ซึ่งระบบเหล่านี้จะเป็นระบบสำคัญที่สนับสนุนการทำงานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผลมากขึ้น ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการขยาย ตัวทางธุรกิจของธนาคารธนชาตในอนาคต • การพัฒนางานปฏิบัติการภายใต้ New Operating Business Model ได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะ เป็นการปรับโครงสร้างองค์กร (Organizational Restructuring) เพื่อสอดรับกับ Customer Centric และการขยายจำนวนสาขา
การปรับปรุงกระบวนการทำงาน (Process Reengineering) เพื่อเพิ่มความสามารถในการให้บริการที่รวดเร็วและถูกต้องต่อลูกค้า
ให้เป็นระบบ End-to-End Delivery Process การพัฒนาระบบการบริหารข้อมูล (Data Management) เพื่อศึกษาและวิเคราะห์ข้อมูล และเข้าใจในความต้องการของลูกค้า เพื่อให้สามารถเพิ่มคุณภาพการให้บริการที่สาขา ตลอดจนเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารต้นทุน
การดำเนินงาน โดยโครงการสำคัญในปี 2551 ประกอบด้วย การปรับโครงสร้างสินเชื่ออุตสาหกรรมรายใหญ่ การปรับกระบวนการให้ บริการลูกค้าสาขา การจัดตั้งศูนย์การพิมพ์และการจัดตั้งธุรกิจ Custodian and Trustee เป็นต้น • การพัฒนาการให้บริการ กลุ่มธนชาตได้กำหนดหลักการให้บริการ Branch Service Best Practice
แก่สาขาทุกสาขาทัว่ ประเทศ เพือ่ ให้สามารถนำเสนอการให้บริการทีเ่ ป็นมาตรฐานเดียวกัน โดยในปี 2551 ผลจากการสำรวจความพึงพอใจ ของลูกค้าพบว่า คะแนนการให้บริการของสาขาเพิ่มขึ้นจาก 3.21 เป็น 3.45 จากคะแนนทั้งหมด 5 Agenda 4 : สร้ า งวั ฒ นธรรมการทำงานเชิ ง รุ ก และพั ฒ นาความรู้ ค วามสามารถให้ กั บ พนั ก งานขององค์ ก ร (People Development) คือ การมุ่งเน้นการสร้างวัฒนธรรมในการทำงานใหม่ การสร้าง New DNA ให้แก่พนักงานทุกระดับชั้น • เสริมสร้างวัฒนธรรมการทำงานแบบ Proactive และสนับสนุนให้เกิดวัฒนธรรมของการทำงานแบบ
ความร่วมมือกัน (Culture of Collaboration) เพื่อเป็นการสร้างความสามัคคีกันของพนักงานในองค์กร และเพื่อเป็นการประสาน วัฒนธรรมการทำงานของกลุม่ ธนชาต และพันธมิตรให้กลมกลืนเป็นอันหนึง่ อันเดียวกัน • ประสบความสำเร็จในการผสมผสานวัฒนธรรมในการทำงานระหว่างพันธมิตรและกลุ่มธนชาต และประสบ ความสำเร็จในการสร้าง Know-how ใหม่จากสโกเทียแบงก์ โดยในปี 2551 สโกเทียแบงก์ได้ส่งผู้บริหารระดับสูงเข้าดำรงตำแหน่ง
ในหน่วยงานสำคัญของกลุ่มธนชาต จำนวน 7 ท่าน ผู้บริหารระดับสูงดังกล่าวนับว่ามีสว่ นสำคัญต่อการเปลีย่ นแปลง ไม่วา่ จะเป็นการ สนับสนุนกระบวนการทำงาน นวัตกรรม ประสบการณ์ ตลอดจนความรู้ขององค์กร • สร้างกลุ่มธนชาตเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ (Learning Organization) เพื่อให้พนักงานทุกคนมีส่วนร่วม
ในการแลกเปลีย่ นความรู้ (Knowledge Sharing) การสือ่ สารระหว่างหัวหน้าและลูกน้อง หรือระหว่างหน่วยงาน (Knowledge Transferred) การให้การสนับสนุนโดยการเชิญวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิมาบรรยายในความรู้ใหม่ (Know-how) • พัฒนาศักยภาพของบุคลากร (People Capabilities) โดยการจัดการอบรมพนักงานในความรู้ใหม่ ๆ
อย่างต่อเนื่อง ภายใต้โครงการต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นโครงการอบรมผู้บริหารระดับกลางและระดับสูง การอบรมเชิงกลยุทธ์ การอบรมภาวะ ผู้นำ เป็นต้น ซึ่งในปี 2551 การอบรมเพื่อเพิ่มศักยภาพของพนักงานได้ถูกจัดขึ้นทั้งหมด 156 โปรแกรมการอบรม หรือ 395 ชั้นเรียน ซึ่งครอบคลุมเนื้อหาที่สอดคล้องกับการพัฒนาพนักงานให้มีความสามารถสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ที่กลุ่มธนชาตได้วางไว้ Agenda 5 : ดูแลการปฏิบัติงานให้ถูกต้องตามเกณฑ์ของทางการและดำเนินธุรกิจภายใต้การกำกับดูแลกิจการที่ดี (Good Corporate Governance) ภายใต้การบริหารความเสี่ยง การกำกับดูแลทั่วไป การตรวจสอบภายในและกฎระเบียบข้อบังคับ ทั้งนี้
ยังรวมถึงการกำหนดจริยธรรมในการทำงานของพนักงานที่เป็นมาตรฐานทั่วทั้งองค์กร • พัฒนาบุคลากรทั้งสำนักงานใหญ่และเครือข่ายทั่วประเทศ ให้มีความรู้ความเข้าใจ ในการกำกับดูแลกิจการ ที่ดี ความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม อย่างเป็นแบบแผนเพื่อนำมาใช้ในการปฏิบัติงาน เสริมสร้างให้บริษัทในกลุ่มธนชาต
มีการกำกับดูแลกิจการที่ดีที่เป็นมาตรฐานสากลมากยิ่งขึ้น อีกทั้งดำเนินโครงการความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมที่เป็น ประโยชน์ต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมได้อย่างแท้จริง Agenda 6 : เผยแพร่ ภ าพลั ก ษณ์ แ ละชื่ อ เสี ย งที่ ดี ข ององค์ ก รไปสู่ ก ลุ่ ม ลู ก ค้ า และนั ก ลงทุ น (Public Relations and Communication) • การประชาสัมพันธ์และการสร้างภาพลักษณ์ได้ดำเนินการตลอดทั้งปี 2551 โดยผ่านสื่อต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น สื่อโทรทัศน์ วิทยุ นิตยสารและสิ่งพิมพ์ ทั้งนี้ รวมถึงการส่งเสริมการตลาดของแต่ละผลิตภัณฑ์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้าง
ภาพลักษณ์และสื่อสารผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ต่อลูกค้า
54
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
• กลุ่มธนชาตเน้นการสื่อสารภายในด้วยสื่อต่าง ๆ เพื่อสื่อสารเกี่ยวกับความสำเร็จและกิจกรรมสำคัญของ
กลุ่มธนชาต ให้พนักงานเกิดความรู้สึกภาคภูมิใจในองค์กรและเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับกลุ่มธนชาต นอกจากนี้ การสื่อสารภายในยัง รวมถึงประสิทธิภาพในการสื่อสารระหว่างหัวหน้างานและทีมงาน การสื่อสารระหว่างหน่วยงาน และการสื่อสารระหว่างหน่วยธุรกิจ โดยในปี 2551 กลุ่มธนชาตได้ประสบความสำเร็จภายใต้ความมุ่งมั่นทางกลยุทธ์ ดังนี้ 1. ประสบความสำเร็จในการรักษาการเป็นผู้นำทางด้านธุรกิจเช่าซื้อ (Maintain Market Leader in Hire Purchase
Business) โดยในปี 2551 กลุ่มธนชาตมีส่วนแบ่งตลาดสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ใหม่และสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์มือสอง ประมาณร้อยละ 25 ของอุตสาหกรรม 2. ประสบความสำเร็จในการกระจายความเสี่ยงทางด้านสินเชื่อธุรกิจ (Diversify Business Loan Portfolio) โดยในปี 2551
กลุ่มธนชาตมีสัดส่วนสินเชื่อธุรกิจเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 11.7 เป็นร้อยละ 18.0 สินเชื่อธุรกิจเช่าซื้อ ลดลงจากร้อยละ 81.2 เป็น
ร้อยละ 77.1 ทำให้กลุ่มธนชาตสามารถกระจายความเสี่ยงทางด้านเครดิตและอัตราดอกเบี้ยได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น 3. ประสบความสำเร็จในการเพิ่มรายได้ (Increase Profitable Revenue) จากรายได้ทางด้านดอกเบี้ย (Interest Income)
ที่เกิดจากการขยายสินเชื่อ โดยรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ เพิ่มขึ้นร้อยละ 31 และรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย (Non-interest Income) เพิ่มขึ้น
ร้อยละ 11.8 ซึ่งเกิดจากการเริ่มต้นขยายรายได้ค่าธรรมเนียมที่ได้จากธุรกิจใหม่ คือ ธุรกิจการค้าต่างประเทศ (Trade Finance)
ธุรกิจบริหารเงิน (Treasury) และรายได้จากการ Cross-selling ระหว่างหน่วยของกลุ่มธนชาต 4. ประสบความสำเร็จในการเพิ่มคุณภาพการให้บริการ (Achieve “Best-in Class” Customer Servicing) ซึ่งมาจาก
ความสำเร็จในการนำ Branch Service Best Practices ไปใช้ทุกสาขา โดยจากการสำรวจความพึงพอใจของลูกค้าพบว่าในปี 2551 คะแนนความพึงพอใจของลูกค้าเพิ่มขึ้นจาก 3.21 เป็น 3.45 คะแนนจาก 5 คะแนน 5. อย่ า งไรก็ ต ามในปี 2551 กลุ่ ม ธนชาต ประสบกั บ สภาวะของการเติ บ โตของต้ น ทุ น การดำเนิ น งานที่ เ กิ ด จากการ
วางโครงสร้างพื้นฐานสูงกว่าการเติบโตของรายได้ค่าธรรมเนียม ซึ่งทำให้ต้นทุนจากการดำเนินงานต่อรายได้รวมหลังหักค่าใช้จ่าย
จากการรับประกันภัยและประกันชีวิตอยู่ที่ร้อยละ 59.72 ลดลงจากปีที่ผ่านมา และมีอัตราเติบโตของฐานลูกค้าเพิ่มขึ้นร้อยละ 30.37 หมายเหตุ ส่วนแบ่งตลาดคำนวณจากการเก็บข้อมูลจากอุตสาหกรรมเช่าซื้อ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551
จากการประสบความสำเร็จภายใต้ความมุ่งมั่นทางธุรกิจ ในปี 2551 กลุ่มธนชาต จึงได้มีแนวทางในการพัฒนาประสิทธิภาพ และประสิทธิผลในการดำเนินธุรกิจ โดยในปี 2552 กลุ่มธนชาตยังคงเดินหน้าอย่างต่อเนื่องในการที่จะสานต่อความมุ่งมั่นที่ได้ตั้งใจไว้
การประกอบธุรกิจของแต่ละกลุ่มธุรกิจ ธุรกิจธนาคารพาณิชย์ ลักษณะบริการ
ธนาคารธนชาตประกอบกิจการธนาคารพาณิชย์ตาม พ.ร.บ. ธุรกิจสถาบันการเงินและประกาศ ธปท. ที่เกี่ยวข้องและ ประกอบกิจการเป็นผู้แนะนำซื้อขายหน่วยลงทุน แนะนำเปิดบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ นายหน้าประกันภัย ประกันชีวิต ที่ปรึกษา ทางการเงิน และบริการเป็นตัวแทนผู้ถือหุ้นกู้ และดูแลรักษาหลักทรัพย์ เป็นต้น ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551 ธนาคารธนชาตมีสาขารวม 213 สาขา (ไม่รวมสำนักงานใหญ่) เครื่องถอนเงินสดอัตโนมัติ (ATM) (ทั้งในและนอกสาขา) จำนวน 377 เครื่อง เครื่องฝากเงินสด อัตโนมัติ (CDM) จำนวน 3 เครื่อง และมีจุดบริการแลกเปลี่ยนเงินต่างประเทศทั้งสิ้น 76 จุด โดยให้บริการ ณ ที่ทำการสาขาจำนวน
57 สาขา และสำนักงานแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศจำนวน 19 สำนักงาน
กลุ่มผลิตภัณฑ์และบริการ
ธนาคารธนชาตได้มีการดำเนินการปรับปรุง และพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้สามารถตอบสนองต่อความต้องการที่หลากหลายของ ลูกค้าดียิ่งขึ้น โดยมีผลิตภัณฑ์หลัก ดังนี้ ผลิตภัณฑ์ด้านเงินฝาก ผลิตภัณฑ์สินเชื่อ ผลิตภัณฑ์และการบริการทางอิเล็กทรอนิกส์และ
อื่น ๆ ผลิตภัณฑ์ทางด้านธุรกิจหลักทรัพย์ ผลิตภัณฑ์ทางด้านธุรกิจประกัน และผลิตภัณฑ์ทางด้านธุรกิจลีสซิ่ง
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
55
กลุ่มที่ 1 ผลิตภัณฑ์เงินฝาก
ธนาคารธนชาตให้บริการด้านเงินฝากกับกลุ่มลูกค้า ทั้งประเภทบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล โดยผ่านช่องทางการให้บริการ ของธนาคารธนชาต ซึ่งสามารถแบ่งบริการด้านเงินฝากออกเป็น 4 ประเภท คือ เงินฝากออมทรัพย์ (Saving Deposit) เงินฝากประจำ (Fixed Deposit) เงินฝากกระแสรายวัน (Current Deposit) และเงินฝากเงินตราต่างประเทศ (Foreign Currency Deposit) กลยุทธ์การแข่งขัน ณ สิ้นปี 2551 ยอดเงินฝากของธนาคารธนชาต มีจำนวน 270,163 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2550 จำนวน 81,503 ล้านบาท
โดยเป็นการเพิ่มของเงินฝากออมทรัพย์และเงินฝากประจำตั้งแต่ 3 เดือนถึง 9 เดือน อันเป็นผลจากกลยุทธ์ในการออกผลิตภัณฑ์
ของธนาคารธนชาต ที่มีความหลากหลายมากขึ้น โดยการเพิ่มทางเลือกใหม่รวมถึงการทำการตลาดเชิงรุกควบคู่ไปกับการพัฒนาระบบ เทคโนโลยีให้ทนั สมัย นอกจากนี้ ยังได้นำเสนอผลิตภัณฑ์เป็นแบบกลุม่ ผลิตภัณฑ์ (Product Package) สำหรับกลุม่ ลูกค้าเป้าหมายใหม่ และนำเสนอผลิตภัณฑ์แบบ Cross-selling และ Up-selling กับลูกค้า ธนาคารธนชาตได้ดำเนินการจัดกิจกรรมการตลาดและโปรแกรม
ส่งเสริมการขายสำหรับลูกค้าเงินฝากประจำและเงินฝากออมทรัพย์ เพื่อเป็นการขยายฐานลูกค้าเงินฝากไปสู่กลุ่มลูกค้าเป้าหมาย
ใหม่ ๆ โดยวิเคราะห์ถงึ ความต้องการของลูกค้าตามกลุม่ ลูกค้า เช่น Cash to gold เงินฝากโดนใจสำหรับลูกค้าใหม่ทฝี่ ากประจำ 3 เดือน เป็นต้น รวมถึงได้จัดเตรียมเจ้าหน้าที่การตลาดไว้คอยบริการ ให้คำแนะนำ คำปรึกษา ตลอดจนวางแผนทางการเงินให้แก่ลูกค้า เพื่อให้ มีความเข้าใจความต้องการของลูกค้าอย่างถ่องแท้ โดยมีการนำเสนอการให้บริการผ่านช่องทางต่างๆ เช่น Money Expo รวมถึงเครือข่าย สาขาของธนาคารธนชาต ช่องทางการให้บริการทางอิเล็กทรอนิกส์ ทีมงานทางการตลาด ทีมงานขาย รวมไปถึงเครือข่ายพันธมิตร
ทางธุรกิจ โดยช่องทางการให้บริการผ่านเครือข่ายสาขา ทีมการตลาดเงินฝาก เครื่องถอนเงินอัตโนมัติ (ATM) และเครื่องฝากเงิน
อัตโนมัติ (CDM)
กลุ่มที่ 2 ผลิตภัณฑ์สินเชื่อ
การให้บริการด้านเงินให้สินเชื่อของธนาคารธนชาต แบ่งออกได้เป็น 5 ประเภท คือ สินเชื่อบุคคล สินเชื่อเพื่อผู้ประกอบการ วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) สินเชื่อธุรกิจ สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ และสินเชื่อเพื่อการค้าต่างประเทศ 1. ผลิตภัณฑ์สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ ธนาคารธนชาตให้บริการสินเชือ่ ประเภทเช่าซือ้ แก่บคุ คลธรรมดาและนิตบิ คุ คล โดยมุง่ เน้นสินเชือ่ เช่าซือ้ รถยนต์ใหม่ สินเชือ่ เช่าซือ้ รถยนต์มอื สอง ซึง่ ปัจจุบนั ธนาคารธนชาตเป็นผูน้ ำตลาดด้านสินเชือ่ เช่าซือ้ รถยนต์ และหลังจากที่ ธปท. ได้อนุญาตให้ทำธุรกรรม Sale and Lease Back ได้แล้ว ธนาคารธนชาตได้เปิดให้บริการสินเชื่อ Sale and Lease Back ในชื่อผลิตภัณฑ์ “สินเชื่อรถแลกเงิน” ซึ่งเป็นสินเชื่อสนองตอบความต้องการของผู้บริโภคที่ต้องการเงินสด ที่ต้องการวงเงินตามสภาพรถยนต์ และอัตราดอกเบี้ยต่ำกว่า
สินเชื่อบุคคลอื่น ๆ นอกจากนี้ ธนาคารธนชาตมีโครงการเกี่ยวกับรถยนต์อื่น ๆ เช่น โครงการสินเชื่อ NGV ซึ่งเป็นโครงการที่ธนาคาร ธนชาตร่วมมือกับการปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย (ปตท.) ในการให้สินเชื่อในอัตราดอกเบี้ยต่ำเพื่อติดตั้งอุปกรณ์รองรับการใช้
ก๊าซธรรมชาติ (NGV) เพื่อส่งเสริมการลดก๊าซน้ำมัน เป็นต้น ช่องทางการตลาดที่สำคัญของสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ คือ ทีมขายทั้งใน กรุงเทพฯ และภูมิภาค กลยุทธ์การแข่งขัน ถึงแม้ว่าภาวะเศรษฐกิจไทยจะเผชิญกับปัจจัยลบอย่างต่อเนื่อง ในปี 2551 ธนาคารธนชาตจึงได้กำหนดกลยุทธ์สำหรับ ผลิตภัณฑ์สินเชื่อเช่าซื้อ ด้านราคา ธนาคารธนชาตมีนโยบายการกำหนดราคาให้สามารถแข่งขันได้ในตลาด รวมทั้งมีความยืดหยุ่น สามารถปรับเปลี่ยนเงือ่ นไขการให้เช่าซือ้ ได้ในขอบเขตทีก่ ำหนด ด้านบริการ ธนาคารธนชาตมีกระบวนการพิจารณาอนุมตั สิ นิ เชือ่ เป็นไป ด้วยความรวดเร็ว นับตัง้ แต่การพบลูกค้า การตรวจสอบเครดิต การแจ้งผลการพิจารณาให้ลูกค้าทราบอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ ยังให้
ความสำคัญกับการให้บริการหลังการขายที่ดีเพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า ด้านการส่งเสริมการขาย ธนาคารธนชาตได้จัดให้มี กิจกรรมส่งเสริมการขายร่วมกับตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ เพื่อเป็นการรักษาส่วนแบ่งทางการตลาดเดิมไว้ และหาช่องทางในการขยาย ส่วนแบ่งทางการตลาด โดยการจัดแคมเปญร่วมกับตัวแทนจำหน่ายทั้งรถยนต์ใหม่และรถยนต์มือสอง รวมถึงการสร้างความสัมพันธ์กับ 56
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
กลุ่มบริษัทให้เช่าซื้อที่อยู่ในกลุ่มของบริษัทผู้จำหน่ายรถยนต์ ด้านการบริหารความสัมพันธ์กับลูกค้า ธนาคารธนชาตจัดให้มีโครงการ ต่าง ๆ เพื่อเพิ่มการให้บริการกับลูกค้าเดิม เช่น ด้านศูนย์ Call Center ได้ปรับปรุงหน่วยงานเพื่อรองรับปริมาณฐานลูกค้าที่ใช้บริการ เพิ่มขึ้น ทั้งนี้ เพื่อให้บริการข้อมูลด้านผลิตภัณฑ์ที่ครบถ้วน รวมทั้งรับฟังข้อติชม เพื่อหาทางแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ให้กับลูกค้า และจัดทำ แผนสำรวจความพึงพอใจของลูกค้า และตัวแทนจำหน่ายรถยนต์อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง ด้านการตลาด ธนาคารธนชาตใช้กลยุทธ์การ
เจาะตลาด (Market Penetration Strategy) เพื่อเป็นการเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดด้านเช่าซื้อรถยนต์ โดยการเชิญชวนลูกค้าเดิม
ที่ใช้บริการกับธนาคารธนชาตให้มาใช้บริการซ้ำในการเช่าซื้อรถยนต์คันต่อไป เช่น โครงการเช่าซื้อรถคันที่ 2 โดยมอบสิทธิพิเศษ สำหรับลูกค้าปัจจุบันที่มีประวัติการผ่อนชำระดี นอกจากนี้ ธนาคารธนชาตขยายกลุ่มเป้าหมายไปยังลูกค้าที่ใช้บริการเช่าซื้อกับ
บริษัทอื่นหรือลูกค้าที่ไม่เคยใช้บริการเช่าซื้อ (ลูกค้าที่ซื้อเงินสดหรือนิติบุคคล) ให้มาเช่าซื้อกับธนาคารธนชาต 2. ผลิตภัณฑ์สินเชื่อธุรกิจ เพื่ อ ให้ ธ นาคารธนชาตมี ป ระสิ ท ธิ ภ าพในการตอบสนองความต้ อ งการของลู ก ค้ า และผลิ ต ภั ณ ฑ์ ที่ เ หมาะสมกั บ
ความต้องการทางการเงินที่แท้จริงของลูกค้า ธนาคารธนชาตจึงกำหนดเงื่อนไขวงเงิน อัตราดอกเบี้ย ระยะเวลาการผ่อนชำระ
ให้สอดคล้องกับกระแสเงินสดและความต้องการใช้วงเงินของลูกค้า โดยผลิตภัณฑ์สินเชื่อธุรกิจของธนาคารธนชาต ได้แก่ 1. สินเชื่อระยะยาว (Term Loan Facility) สำหรับลูกค้าที่มีความต้องการใช้วงเงินระยะเกินกว่า 1 ปีขึ้นไป และมี วัตถุประสงค์การใช้เงินอย่างชัดเจน เช่น นำไปลงทุนเพื่อการก่อสร้างโรงงาน ขยายกิจการ หรือซื้อเครื่องจักร อุปกรณ์ต่าง ๆ เป็นต้น 2. สินเชื่อระยะสั้น (Working Capital Facility) สำหรับลูกค้าที่มีความต้องการใช้เงินระยะสั้น ๆ ไม่เกิน 1 ปี เพื่อใช้เป็น เงินทุนหมุนเวียนในกิจการหรือเพื่อเสริมสภาพคล่อง ได้แก่ การให้สินเชื่อเพื่อสั่งซื้อวัตถุดิบ การบริหารสินค้าคงคลัง เป็นต้น บริการ ทางการเงินดังกล่าวมีหลายประเภท เช่น วงเงินกู้เบิกเกินบัญชี หรือตั๋วสัญญาใช้เงิน ทั้งนี้ ลูกค้าสามารถเบิกกู้ได้ตามความต้องการ แต่ ธนาคารธนชาตจะมีการทบทวนวงเงินและเครดิตของลูกค้าทุกปี 3. สินเชื่ออาวัล ค้ำประกัน (Aval/Guarantee Facility) สำหรับลูกค้าที่ต้องนำไปใช้สำหรับการค้ำประกันกับคู่ค้า เช่น การยื่นประมูลงานต่าง ๆ การค้ำประกันผลงานก่อสร้าง การค้ำประกันค่าสาธารณูปโภคต่าง ๆ 4. สินเชื่อเพื่อการค้าระหว่างประเทศ (Trade Finance) สำหรับลูกค้าที่ประกอบธุรกิจนำเข้าและส่งออกสินค้า ธนาคาร ธนชาตมีผลิตภัณฑ์ Trade Finance รองรับความต้องการของลูกค้าได้อย่างครบถ้วน ได้แก่ เล็ตเตอร์ออฟเครดิต (LC) การค้ำประกัน การออกสินค้า (SG) สินเชื่อเพื่อการส่งออก (PC) และการโอนเงินระหว่างประเทศ เป็นต้น นอกจากผลิตภัณฑ์สินเชื่อหลัก ๆ ข้างต้นแล้ว ธนาคารธนชาตยังได้จัดตั้งสายงานวาณิชธนกิจ เพื่อดูแลและดำเนินธุรกิจ
ในการเป็นที่ปรึกษาทางการเงินให้แก่ลูกค้า ควบคู่กับการให้บริการด้านสินเชื่อธุรกิจ เสมือนเป็นผู้ช่วยในการบริหารการเงินแก่ลูกค้า (Total Solutions Provider) โดยจะช่วยลูกค้าในการระดมทุนจากตลาดทุน รวมถึงเรื่องการจัดหาเงินทุน การบริหารสภาพคล่องและ
ในเรื่องอื่น ๆ ซึ่งธนาคารธนชาตสามารถที่จะใช้ประโยชน์จากการที่มีเครือข่าย พันธมิตรทางธุรกิจ และบริษัทในกลุ่มมาช่วยในการ
ให้บริการแก่ลูกค้าได้ ธนาคารธนชาตจึงได้แบ่งกลุ่มลูกค้าสินเชื่อธุรกิจ (Corporate Finance) ออกเป็น 3 กลุ่ม คือ 1) ธุรกิจขนาดใหญ่ หมายถึง กลุ่มลูกค้าที่มียอดขายมากกว่า 1,000 ล้านบาทต่อปี ซึ่งลูกค้ากลุ่มนี้มีความต้องการ ทางการเงินที่ซับซ้อนและต้องการบริการทางการเงินที่หลากหลาย ธนาคารธนชาตจึงจัดทีมงานที่สามารถสื่อสารและตอบสนอง
ความต้องการของลูกค้าได้ตรงจุด พร้อมทั้งสามารถออกแบบผลิตภัณฑ์ทางการเงินให้เหมาะสมให้แก่ลูกค้าได้ 2) ธุรกิจขนาดกลาง หมายถึง กลุ่มลูกค้าที่มียอดขายมากกว่า 300 ล้านบาทต่อปี หรือมีความประสงค์จะกู้ยืมเงินจาก ธนาคารธนชาตมากกว่า 50 ล้านบาท สำหรับลูกค้าที่มีสถานประกอบการในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล และกลุ่มลูกค้าที่มียอดขาย มากกว่า 200 ล้านบาทต่อปี และมีความประสงค์จะกู้ยืมเงินมากกว่า 25 ล้านบาท สำหรับลูกค้าที่มีสถานประกอบการนอกเขต กรุงเทพฯ และปริมณฑล 3) ธุรกิจขนาดเล็ก หมายถึง กลุ่มลูกค้าที่มียอดขายน้อยกว่า 300 ล้านบาทต่อปี หรือมีความประสงค์จะกู้ยืมเงินจาก ธนาคารธนชาตน้อยกว่า 50 ล้านบาท สำหรับลูกค้าที่มีสถานประกอบการในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล และกลุ่มลูกค้าที่มียอดขาย น้อยกว่า 200 ล้านบาทต่อปี และมีความประสงค์จะกู้ยืมเงินไม่เกิน 25 ล้านบาท สำหรับลูกค้าที่มีสถานประกอบการนอกเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
57
กลยุทธ์การแข่งขัน กลยุทธ์การแข่งขันเป็นลักษณะของการให้บริการแบบครบวงจร เพื่อตอบสนองความต้องการลูกค้าในทุกลักษณะ นอกจากนี้ ธนาคารธนชาตได้จัดตั้งฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์สำหรับลูกค้าธุรกิจ เพื่อดูแลออกแบบผลิตภัณฑ์และบริการให้ตรงใจลูกค้า อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด และยังได้ลงทุนในระบบสินเชื่อ และพัฒนากระบวนการทำงานภายในให้มีความกระชับและคล่องตัวมากขึ้น
เพื่อให้บริการแก่ลูกค้าได้อย่างรวดเร็วขึ้นซึ่งสร้างความประทับใจให้แก่ลูกค้าเป็นอย่างมาก โดยเน้นการให้บริการแก่ลูกค้าธุรกิจ อุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดใหญ่ ที่มีผลการดำเนินงานดี โดยเฉพาะลูกค้าที่อยู่ในอุตสาหกรรมเป้าหมาย (Target Sector)
ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด รวมทั้งเน้นการขยายฐานลูกค้าไปสู่ Supply Chain ของกลุ่มลูกค้าเป้าหมายอีกด้วย 3. ผลิตภัณฑ์สินเชื่อเพื่อผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมเกี่ยวกับรถยนต์ ผลิตภัณฑ์สินเชื่อเพื่อผู้ประกอบการเกี่ยวกับรถยนต์ ที่มีความต้องการวงเงินกู้ ประเภทวงเงินกู้ระยะสั้น เพื่อใช้เป็น
เงินทุนหมุนเวียนและเสริมสภาพคล่องในกิจการ และวงเงินกูร้ ะยะยาวเพือ่ ใช้ในการขยายธุรกิจ รวมถึงเสนอบริการทางการเงินด้านอืน่ ๆ เช่น อาวัล ค้ำประกัน และวงเงินสินเชื่อเพื่อธุรกิจการค้าต่างประเทศ เป็นต้น โดยกลุ่มเป้าหมายหลัก คือ ผู้ประกอบการตัวแทน จำหน่ายรถยนต์ใหม่ ผู้ประกอบการตัวแทนจำหน่ายรถยนต์มือสอง ผู้ประกอบการขนส่งและให้เช่ารถ และประกอบการธุรกิจที่ต่อเนื่อง
กับรถยนต์ โดยมีช่องทางการให้บริการจากการแนะนำผ่านสาขาทั่วประเทศ กลยุทธ์การแข่งขัน ถึงแม้ว่าในปี 2551 ภาวะตลาดอุตสาหกรรมรถยนต์ ได้รับผลกระทบจากปัญหาเศรษฐกิจ ความไม่แน่นอนทางการเมือง ธนาคารธนชาตยังคงให้ความสำคัญในการรักษาความสัมพันธ์กับลูกค้า โดยการให้บริการที่เติมเต็มความต้องการของลูกค้า เช่น บริการคำปรึกษาวางแผนธุรกิจและการเงินให้กบั ลูกค้า นอกจากนี้ ธนาคารธนชาตยังคงพัฒนาผลิตภัณฑ์สนิ เชือ่ ทีร่ วมบริการทางการเงิน อื่น ๆ ให้ลูกค้าได้รับวงเงินและผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ตรงกับความต้องการ และโครงสร้างทางการเงินที่เหมาะสมกับการดำเนินธุรกิจ นอกจากนี้ ธนาคารธนชาตยังให้ความสำคัญของการปรับปรุงระบบการบริหารภายใน เช่น การกระจายอำนาจในการอนุมัติ โดยใช้แบบ พิจารณาเครดิต (Credit Scoring) เป็นเครื่องมือในการกลั่นกรองและพิจารณาอนุมัติสำหรับสินเชื่อที่เป็นผลิตภัณฑ์สินเชื่อมาตรฐาน เพื่อให้การอนุมัติสะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น และการพัฒนาระบบและขั้นตอนการปฏิบัติการด้านสินเชื่อ โดยใช้เทคโนโลยีสารสนเทศมาช่วย ในการทำงาน และรวบรวมข้อมูล เพื่อให้ระบบมีความสะดวกรวดเร็วมากขึ้น รวมถึงสามารถจัดเก็บฐานข้อมูลให้เป็นระบบมากขึ้น 4. ผลิตภัณฑ์สินเชื่อบุคคล เพื่ อ ให้ ส ามารถตอบสนองความต้ อ งการของลู ก ค้ า กลุ่ ม เป้ า หมายที่ แ ตกต่ า งกั น ได้ อ ย่ า งมี ป ระสิ ท ธิ ภ าพสู ง สุ ด
ธนาคารธนชาตจึงได้ดำเนินการพัฒนาสินเชื่อบุคคลให้มีความหลากหลาย เพื่อเป็นทางเลือกให้แก่ลูกค้า เช่น สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย ภายใต้ชื่อผลิตภัณฑ์ Smart Home ทั้งที่เป็นโครงการหมู่บ้าน อาคารชุดพักอาศัย รวมไปถึงการไถ่ถอนหนี้จากสถาบันการเงินเดิม
สินเชื่ออเนกประสงค์ เพื่อการใช้จ่ายส่วนตัวของลูกค้า โดยมีทั้งแบบที่ใช้หลักทรัพย์เป็นประกันและแบบไม่มีหลักทรัพย์ประกัน สำหรับ ลูกค้าที่ใช้บริการบัญชีเงินเดือนผ่านธนาคารธนชาตภายใต้ชื่อผลิตภัณฑ์ “My Cash” สินเชื่อสารพัดนึก เป็นวงเงินกู้เพิ่มแก่ลูกค้า
เช่าซื้อรถยนต์ที่มีประวัติการผ่อนชำระดี และสินเชื่อเพื่อการศึกษา สำหรับลูกค้าที่มีวัตถุประสงค์เพื่อใช้ในการศึกษาระดับปริญญาตรี และปริญญาโท ภายใต้ชื่อผลิตภัณฑ์ “Scholar Loan” กลยุทธ์การแข่งขัน ในปีที่ผ่านมาการแข่งขันของธนาคารพาณิชย์ และที่ไม่ใช่ธนาคารพาณิชย์ (Non-bank) ยังคงใช้ราคาเป็นเครื่องมือใน การแข่งขัน ธนาคารธนชาตตระหนักถึงความเสี่ยงและผลตอบแทนที่อยู่ในเกณฑ์ที่ธนาคารธนชาตยอมรับได้ ดังนั้น ธนาคารธนชาต
จึงมุ่งเน้นการพิจารณาสินเชื่อในกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่มีศักยภาพ และมุ่งเน้นความสะดวกรวดเร็วในการให้บริการ และนำเสนอบริการ
ทีค่ รบวงจร ครอบคลุมทุกความต้องการของลูกค้า ทัง้ นี้ กลยุทธ์การขายจะควบคูไ่ ปกับการนำเสนอผลิตภัณฑ์ตา่ ง ๆ ของธนาคารธนชาต เช่น ประกันภัย ประกันชีวติ กองทุน เป็นต้น โดยช่องทางการให้บริการหลักจะเป็นเจ้าหน้าทีท่ มี ขายตรงลูกค้าผูบ้ ริโภค และเครือข่ายสาขา 5. ผลิตภัณฑ์สินเชื่อเพื่อการค้าต่างประเทศ ธนาคารธนชาตให้บริการทางการเงินครบวงจรในผลิตภัณฑ์สินเชื่อการค้าต่างประเทศ เช่น การเปิดเลตเตอร์ออฟเครดิต 58
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
เพื่อการสั่งสินค้าเข้า (Import L/C) การทำทีอาร์ (Trust Receipt) การทำแพคกิ้งเครดิต (Packing Credit) การรับซื้อและซื้อลดตั๋ว
ค่าสินค้าออก (Export Bill Negotiation) และสแตนด์บายเลตเตอร์ออฟเครดิต (Standby L/C) หนังสือค้ำประกันต่างประเทศ (Letter of Guarantee) กลยุทธ์การแข่งขัน ในปี 2551 ที่ผ่านมา ภาพรวมด้านการค้าระหว่างประเทศโดยเฉพาะการส่งออก ได้รับผลกระทบจากสภาวะเศรษฐกิจ โลกอย่างต่อเนื่อง ภายใต้การแข่งขันภายในประเทศของธนาคารพาณิชย์ ทำให้ลูกค้าโดยส่วนใหญ่หันไปใช้บริการสินเชื่อเพื่อการค้า
ต่างประเทศจากธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ แต่อย่างไรก็ตาม ผลการดำเนินงานของธนาคารธนชาตในปี 2551 ที่ผ่านมาอยู่ในเกณฑ์
ที่น่าพอใจ โดยการเติบโตของรายได้ค่าธรรมเนียมได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น เพื่อให้สามารถที่จะแข่งขันกับคู่แข่งขันได้อย่าง
มีประสิทธิภาพ จึงมุ่งเน้นการพัฒนาการบริการที่ถูกต้องแม่นยำ สะดวกรวดเร็ว อัตราดอกเบี้ย และค่าธรรมเนียม ถือเป็นตัวแปรหลัก ในการส่งเสริมให้ลูกค้ามาใช้บริการด้านธุรกรรมการค้าต่างประเทศ โดยธนาคารธนชาตคำนึงถึงรายได้จากการทำธุรกรรมของลูกค้า
ในภาพรวม และการสร้างฐานลูกค้าเป็นประเด็นหลัก กลุ่มลูกค้าเป้าหมาย คือ ธุรกิจขนาดใหญ่ ธุรกิจขนาดกลาง และรายย่อย
โดยธนาคารธนชาตมีเป้าหมายในการสร้างฐานลูกค้าในอนาคต และสร้างเครือข่ายไปยังต่างประเทศทั่วโลกสำหรับกลุ่มลูกค้าธุรกิจ ขนาดใหญ่ และจะเป็นฐานในการสร้างได้สำหรับกลุ่มลูกค้าธุรกิจขนาดกลาง และรายย่อย
กลุ่มที่ 3 ผลิตภัณฑ์และบริการทางด้านอิเล็กทรอนิกส์
ธนาคารธนชาตให้บริการผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์เพื่อรองรับการทำธุรกรรมทางการเงินของลูกค้าให้มีความรวดเร็วและมี ประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยการบริการนี้ ประกอบด้วย บริการโอนเงิน (Fund Transfer) บริการโอนเงินรายย่อยอัตโนมัติ (ATS) บริการโอนเงินรายใหญ่ระหว่างธนาคาร (BAHTNET) บริการโอนเงินรายย่อยระหว่างธนาคาร (SMART) บริการรับชำระเงินค่าสินค้า หรือบริการ (Bill Payment) ผ่านช่องทางของธนาคารธนชาต เช่น Counter, ATM, IVR, Internet และ Mobile โดยมีนโยบายในการ กำหนดกฎระเบียบในการดำเนินการให้เป็นไปตามประกาศของ ธปท. 1. บริการโอนเงินอัตโนมัติ (ATS) เป็นบริการโอนเงินอัตโนมัติให้กับผู้รับเงินในจำนวนมากราย ซึ่งมีบัญชีออมทรัพย์หรือ กระแสรายวัน กับธนาคารทั่วประเทศ ด้วยการส่งคำสั่งเพียงครั้งเดียว (ในรูปแบบ One to Many) โดยมีบริการ Payroll เพื่อการ
จ่ายเงินเดือน โบนัส เงินปันผล ATS Credit เพื่อการจ่ายค่าสินค้าให้กับผู้รับเป็นจำนวนมากราย ATS Debit เพื่อการตัดบัญชีชำระค่า สินค้าอัตโนมัติเป็นจำนวนมากราย ทั้งนี้ ลูกค้าสามารถใช้บริการ ATS ผ่านช่องทาง Diskette, Modem และ Internet ได้เช่นกัน 2. บริการโอนเงินอัตโนมัติระหว่างธนาคาร (SMART (Credit)) เป็นบริการโอนเงินอัตโนมัติให้กับผู้รับเงินรายย่อย จำนวนมากราย ที่มีบัญชีออมทรัพย์หรือกระแสรายวัน สามารถโอนไปได้ทุกธนาคาร ซึ่งตอบสนองความต้องการลูกค้าในการทำ รายการโอนเงินที่มีจำนวนรายการมาก ๆ ด้วยการส่งคำสั่งเพียงครั้งเดียว (ในรูปแบบ One to Many) เช่น เพื่อชำระสินค้าและบริการ รวมถึงการจ่ายเงินเดือน โบนัส เงินปันผล ฯลฯ โดยลูกค้าสามารถใช้บริการ SMART ผ่านช่องทาง Counter และ Internet 3. บริการโอนเงินประเภทต่าง ๆ (Fund Transfer) เป็นบริการโอนเงินประเภทต่าง ๆ ระหว่างธนาคารธนชาต กับ ธนาคารพาณิชย์ทั่วไป ได้แก่ การโอนเงินปกติ (Transfer) การโอนเงินบุคคลที่ 3 (3rd Party) บริการโอนเงินระหว่างบัญชีเงินฝาก
ออมทรัพย์กับบัญชีเงินฝากกระแสรายวันแบบอัตโนมัติ (Sweep) การโอนเงินรายย่อยระหว่างธนาคาร (ORFT) และการโอนเงิน
รายใหญ่ระหว่างธนาคาร (BAHTNET) 4. บริการโอนเงินระหว่างบัญชีเงินฝากออมทรัพย์กับบัญชีเงินฝากกระแสรายวันแบบอัตโนมัติ (Sweep Account Service (Cash Link Account)) เป็นบริการที่ทางธนาคารธนชาตได้เพิ่มช่องทางสำหรับลูกค้า เพื่อเพิ่มความสะดวกในการโอนเงิน ระหว่างบัญชีเงินฝากออมทรัพย์กับบัญชีเงินฝากกระแสรายวัน
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
59
5. บริการโอนเงินรายย่อยระหว่างธนาคาร (Interbank Transfer (ORFT)) เป็นบริการโอนเงินสดจากเคาน์เตอร์
ธนาคารธนชาตไปยังบัญชีเงินฝากออมทรัพย์หรือบัญชีกระแสรายวันของบุคคลอื่นต่างธนาคารได้ทั่วประเทศ 6. บริการโอนเงินรายใหญ่ระหว่างธนาคาร (BAHTNET) เป็นบริการสำหรับลูกค้าที่มีความต้องการโอนเงินของตนเอง จากธนาคารธนชาตไปยังธนาคารหรือสถาบันการเงินอื่น หรือรับโอนเงินของลูกค้าจากธนาคารหรือสถาบันการเงินอื่น เพื่อเข้าบัญชีที่ ธนาคารธนชาต เหมาะสำหรับลูกค้าที่ต้องการโอนเงินจำนวนครั้งละมาก ๆ และต้องการความรวดเร็ว โดยจะมีผลการโอนเงินภายใน วันที่ทำรายการ 7. บริการรับชำระเงินค่าสินค้าและบริการ (Bill Payment) เป็นบริการรับชำระเงินค่าสินค้าหรือบริการแก่บริษัทที่มีการ จำหน่ายสินค้าเงินผ่อนหรือบริการต่าง ๆ ที่มีการรับชำระเงินเป็นรายงวด (ในรูปแบบ Many to One) เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ ลูกค้าของบริษัทในการชำระเงินค่าสินค้าและบริการ โดยผู้ชำระเงินสามารถใช้บริการได้ที่เคาน์เตอร์ของธนาคารธนชาตทุกสาขาทั่ว ประเทศ หรือผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ของธนาคารธนชาต ซึ่งจะมีรายงานแสดงรายละเอียดการรับชำระเงินแจ้งให้บริษัทผู้จำหน่าย สินค้าและบริการทราบในวันทำการถัดไป 8. บริการโอนเงินโดยผู้โอนและผู้รับไม่ต้องมีบัญชี (Easy Cash Transfer) เป็นบริการโอนเงินสดผ่านเคาน์เตอร์ ธนาคารธนชาต โดยที่ผู้โอนและผู้รับไม่ต้องมีบัญชีกับธนาคารธนชาต โดยสามารถทำรายการโอนเงิน และรับเงินได้ที่เคาน์เตอร์ของ ธนาคารธนชาตทุกสาขาทั่วประเทศ ทั้งนี้ เพื่อเป็นการเพิ่มช่องทางในการโอนเงินให้หลากหลายมากขึ้น และสามารถรองรับลูกค้าที่ไม่มี บัญชีเงินฝากกับธนาคารธนชาตได้ 9. เครื่องถอนเงินสดอัตโนมัติ (ATM) และเครื่องฝากเงินสดอัตโนมัติ (CDM) ธนาคารธนชาตได้เร่งขยายการติดตั้ง เครื่องถอนเงินสดอัตโนมัติอย่างต่อเนื่อง ทั้งในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551 มีจำนวนทั้งสิ้น 377 เครื่อง โดยลูกค้าเงินฝากของธนาคารธนชาตสามารถใช้บริการเบิกถอนเงินสด สอบถามยอดเงินในบัญชี โอนเงิน ชำระค่าสินค้าและบริการ ผ่านเครื่องถอนเงินสดอัตโนมัติของธนาคารธนชาตหรือทุกธนาคารที่เป็นสมาชิกของ บริษัท เนชั่นแนล ไอทีเอ็มเอ๊กซ์ จำกัด (ITMX) ได้ตลอด 24 ชัว่ โมง ในส่วนของเครือ่ งฝากเงินสดอัตโนมัติ ณ สิน้ ปี 2551 มีจำนวน 3 เครือ่ ง นอกจากนี้ ยังมีการให้บริการเบิกถอนเงินสด โดยบัตรเครดิต Visa International ทำให้เครื่องถอนเงินสดอัตโนมัติของธนาคารธนชาตสามารถรองรับกลุ่มลูกค้าผู้ถือบัตรเครดิต Visa/Plus และบัตรเดบิต Visa Electron และอีกหนึ่งบริการที่เปิดให้บริการในปี 2550 คือ “ATM Connect” ที่เพิ่มความสะดวกสบาย แก่ลูกค้าผู้ถือบัตร ATM ธนาคารธนชาต ทำรายการผ่านตู้ ATM ธนาคารกรุงไทย ที่มีมากกว่า 4,000 ตู้ และธนาคารนครหลวงไทยที่มี กว่า 1,600 ตู้ ทั่วประเทศ
กลยุทธ์การแข่งขัน ธนาคารธนชาตได้พัฒนาระบบการให้บริการทางอิเล็กทรอนิกส์ในทุกช่องทาง เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าได้อย่าง รวดเร็ว ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังพัฒนาระบบการให้บริการอิเล็กทรอนิกส์ผ่านโทรศัพท์มือถือและ
อินเทอร์เน็ต โดยลูกค้าสามารถเข้ามาทำธุรกรรมทางการเงินได้ด้วยตนเอง และไม่จำเป็นต้องเดินทางมาธนาคารธนชาต ซึ่งทำให้ ประหยัดค่าใช้จ่ายและเวลาได้เป็นอย่างดี 1. เน้นกลยุทธ์ในการแข่งขันทางด้านราคาค่าธรรมเนียม และการขายแบบ Cross-selling and Up-selling ในด้านการตลาด นิติบุคคล ใช้กลยุทธ์การนำเสนอแบบ Loss Leader ที่อยู่ในความสนใจของธุรกิจ/บริษัทนั้น ๆ โดยวิธีการนี้สามารถนำเสนอได้ทั้ง บริษัทขนาดเล็กและขนาดใหญ่ 2. เพิ่มรายการส่งเสริมการขายให้ดึงดูดใจลูกค้ามากยิ่งขึ้น พัฒนาผลิตภัณฑ์ และช่องทางการใช้บริการให้ครอบคลุม
ความต้องการของลูกค้าในแต่ละกลุ่ม 3. เน้นการเข้าถึงได้ง่าย และบริการที่สะดวกรวดเร็ว มีขั้นตอนไม่ซับซ้อน 4. ให้วงเงินในการโอนมากกว่าธนาคารอื่น และสามารถรับเงินได้ภายในวันที่ทำรายการ 5. เพิ่มช่องทางการให้บริการโดยธนาคารธนชาตมีสาขาตั้งอยู่ในศูนย์การค้า เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ใช้บริการ 60
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
กลุ่มที่ 4 บริการด้านอื่นๆ
1. บริการธุรกิจปริวรรตเงินต่างประเทศ เป็นธุรกิจที่เกี่ยวกับเงินตราต่างประเทศ บริการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ (Exchange) ในรูป Bank Note, Traveler Cheque, Money Changer รวมถึงการรับโอนเงินตราต่างประเทศขาเข้าเพื่อชำระค่าสินค้าหรือโอนเข้าบัญชีบุคคลธรรมดา บริการโอนออกเงินตราต่างประเทศเพื่อชำระค่าสินค้า บริการ และเพื่อบุคคลธรรมดา รวมทั้งการเปิดบัญชีเงินฝากที่เป็นเงินตรา
ต่างประเทศ (FCD) เป็นต้น กลยุทธ์การแข่งขัน นอกจากการให้บริการที่เป็นกันเอง รวดเร็ว และถูกต้องแล้ว ธนาคารธนชาตยังเสนออัตราแลกเปลี่ยนที่ดีกว่าเพื่อ เป็นการขยายฐานลูกค้าใหม่และรักษาฐานลูกค้าปัจจุบัน โดยเลือกพื้นที่ยุทธศาสตร์และดำเนินการเพื่อให้ได้ส่วนแบ่งการตลาดมากที่สุด
กลุ่มเป้าหมาย คือ นักท่องเที่ยว นักธุรกิจชาวต่างชาติที่ทำงานในประเทศ และองค์กรธุรกิจ เช่น โรงแรม และการท่องเที่ยวที่มีธุรกิจ เกี่ยวข้องกับเงินต่างประเทศ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551 มีจุดให้บริการทั้งในสาขาธนาคารธนชาตและสำนักงานแลกเปลี่ยนเงิน
ต่างประเทศ รวม 76 จุด โดยอยู่ในพื้นที่เขตกรุงเทพฯ 40 จุด และต่างจังหวัด 36 จุด 2. ผลิตภัณฑ์ตั๋วแลกเงิน ธนาคารธนชาตมีการออกตั๋วแลกเงิน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มช่องทางการระดมเงิน และเพิ่มทางเลือกในการออมเงิน ให้กับประชาชน ทั้งนี้ ธนาคารธนชาตได้ขยายการให้บริการผลิตภัณฑ์ตั๋วแลกเงินไปยังทุกสาขาทั่วประเทศ เพื่อให้ลูกค้าได้รับการ บริการที่สะดวกยิ่งขึ้น กลยุทธ์การแข่งขัน ธนาคารธนชาตได้กำหนดอัตราผลตอบแทนของตั๋วแลกเงินที่สูงกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำในช่วงระยะเวลา เดียวกัน กลุ่มลูกค้าเป้าหมายเป็นกลุ่มลูกค้าเงินฝากทั้งบุคคลธรรมดาและนิติบุคคลที่มีความรู้ ความเข้าใจ มีประสบการณ์ในการลงทุน ในตราสารหนี้ และยอมรับความเสี่ยงด้านเครดิตของธนาคารธนชาตได้ ในขณะเดียวกันก็พัฒนาผลิตภัณฑ์และการให้บริการพร้อมทั้ง ระบบเทคโนโลยีที่ทันสมัย 3. บริการงานผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ งานผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ มีหน้าที่หลักในการดูแลและปกป้องสิทธิของผู้ถือหุ้นกู้ทั้งปวง ตามที่กำหนดไว้ในข้อกำหนดสิทธิ และหน้าที่ของการออกหุ้นกู้ชุดนั้น ๆ และตามประกาศของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ “สำนักงาน คณะกรรมการ ก.ล.ต.” โดยธนาคารธนชาตพร้อมที่จะให้บริการเป็นตัวกลางในการติดตาม ตรวจสอบการดำเนินการตามสัญญาของ
ผู้ออกหุ้นกู้ พร้อมทั้งดูแลทรัพย์สินที่ผู้ออกหุ้นกู้นำมาเป็นหลักประกันให้กับผู้ถือหุ้นกู้ ธนาคารธนชาตได้เริ่มประกอบธุรกิจการให้ บริการงานผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ (Bondholders’ Representative) ประมาณปลายปี 2548 โดยรับโอนธุรกิจดังกล่าวมาจาก บริษัท เงินทุน ธนชาติ จำกัด (มหาชน) ซึ่งในปัจจุบันได้เปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท ทุนธนชาต จำกัด (มหาชน) “ทุนธนชาต” โดยเสนอบริการทั้งผ่าน
ผู้ออกตราสารโดยตรง และร่วมกับที่ปรึกษาทางการเงินในการเสนอบริการร่วมกัน ซึ่งได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าพอสมควร กลยุทธ์การแข่งขัน เพื่อให้สอดคล้องกับภาวะตลาดการแข่งขันในปัจจุบัน ธนาคารธนชาตจึงมุ่งเน้นการให้บริการที่สะดวก รวดเร็ว และอัตรา
ค่าธรรมเนียมที่แข่งขันได้
ผลิตภัณฑ์ธุรกิจหลักทรัพย์
ธนาคารธนชาตให้บริการทางด้านผลิตภัณฑ์ธุรกิจหลักทรัพย์ ซึ่งประกอบด้วย 2 ประเภทธุรกิจ คือ ธุรกิจหลักทรัพย์
ซึ่งดำเนินการโดยบริษทั หลักทรัพย์ ธนชาต จำกัด (มหาชน) และธุรกิจจัดการลงทุน ซึง่ ดำเนินการโดย บริษทั หลักทรัพย์จดั การกองทุน ธนชาต จำกัด
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
61
ธุรกิจหลักทรัพย์
ประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ 4 ประเภท ได้แก่ การเป็นนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ การค้าหลักทรัพย์ การจัดจำหน่าย
หลักทรัพย์ และการเป็นที่ปรึกษาการลงทุน นอกจากนี้ ยังดำเนินธุรกิจอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องและสนับสนุนธุรกิจหลักทรัพย์ ได้แก่ ธุรกิจ
ที่ปรึกษาทางการเงิน ธุรกิจซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ธุรกิจตัวแทนสนับสนุนการขายและรับซื้อคืนหน่วยลงทุน และธุรกิจ
นายทะเบียนหลักทรัพย์ โดย ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551 มีสำนักงานสาขาทั้งสิ้น 30 สาขา โดยประกอบด้วย สายงานหลัก 2 สายงาน คือ สายงานธุรกิจนายหน้าค้าหลักทรัพย์ ซึ่งดำเนินธุรกิจนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ ธุรกิจค้าหลักทรัพย์ ธุรกิจซื้อขายสัญญา
ซื้อขายล่วงหน้า ธุรกิจตัวแทนสนับสนุนการขายและรับซื้อคืนหน่วยลงทุน และธุรกิจนายทะเบียนหลักทรัพย์ ส่วนสายงานธุรกิจวาณิช ธนกิจและที่ปรึกษาการลงทุน ดำเนินธุรกิจที่ปรึกษาทางการเงินและการจัดจำหน่ายหลักทรัพย์และธุรกิจที่ปรึกษาการลงทุน
กลยุทธ์การแข่งขัน
ธุรกิจนายหน้าค้าหลักทรัพย์ กลยุทธ์การแข่งขันหลักของธุรกิจนายหน้าค้าหลักทรัพย์ มุ่งเน้นการดำเนินธุรกิจเพื่อให้เกิด การเติบโต (Growth Strategy) โดยเน้นการขยายฐานลูกค้าเพื่อให้มีส่วนแบ่งการตลาดที่เพิ่มขึ้น ในทุกประเภทกลุ่มลูกค้า ทั้งสถาบัน และรายย่อย พร้อมไปกับการบริหารจัดการต้นทุนค่าดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพ และการพัฒนาบุคลากรให้มีทักษะ ความรู้
ความสามารถ มุ่งไปสู่การเป็นที่ปรึกษาทางการเงิน เพื่อเตรียมความพร้อมในการรองรับการเปิดเสรีในอุตสาหกรรมอย่างเต็มรูปแบบ
ในปี 2555 นอกจากนี้ เพื่อเป็นการรักษาฐานลูกค้าจึงได้วางกลยุทธ์พร้อมกันกับแผนการขยายฐานลูกค้าใหม่ เช่น การออกบูท หรือ ร่วมกิจกรรมที่ส่งเสริมการลงทุนต่าง ๆ ทางการเงิน ซึ่งถือเป็นช่องทางสำคัญในการเข้าถึงกลุ่มลูกค้า และจากศักยภาพของกลุ่มธนชาต บริษัทฯ ได้กำหนดกลยุทธ์การขยายฐานลูกค้ารายใหม่ไปยังกลุ่มลูกค้าของบริษัทในกลุ่มธนชาต (Cross-selling) โดยเฉพาะอย่างยิ่ง จากการขายผลิตภัณฑ์ผ่านช่องทางของธนาคารธนชาต ซึ่งมีจำนวนฐานลูกค้าเงินฝากรายใหญ่และลูกค้าสถาบันในประเทศที่มี ศักยภาพ ทั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อจัดหาผลิตภัณฑ์และบริการการลงทุนที่ครบถ้วน ตรงต่อความต้องการที่เฉพาะเจาะจงของลูกค้า แต่ละกลุ่ม นอกจากนี้ จากความร่วมมือในการเป็นพันธมิตรกับ BNP Paribas Securities (Singapore) Pte Ltd. ยังส่งเสริมให้
การขยายฐานลูกค้าสถาบันต่างประเทศประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี ทั้งนี้ในปี 2551 บริษัทฯ มีมูลค่าการซื้อขายหลักทรัพย์ 316,662.22 ล้านบาท คิดเป็นส่วนแบ่งการตลาดร้อยละ 3.98 หรืออันดับที่ 7 จากจำนวนบริษัทหลักทรัพย์ทั้งหมด 38 บริษัท
ซึ่งเป็นการปรับตัวสูงขึ้นกว่าปี 2550 ที่มีส่วนแบ่งการตลาดร้อยละ 3.49 หรืออันดับ 11 ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 297,939.89 ล้านบาท ธุรกิจซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ในปี 2551 กลยุทธ์สำคัญในการมุ่งเน้นพัฒนาการให้บริการในธุรกิจซื้อขายสัญญา
ซื้อขายล่วงหน้าเพื่อให้มีประสิทธิภาพและก้าวทันบริษัทคู่แข่งได้ รวมทั้งยังตระหนักถึงเป้าหมายหลักของกลุ่มธนชาตที่มุ่งเน้น
ตอบสนองความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก เพื่อให้เกิดการสร้าง Product Bundling และ Cross-selling โดยมุ่งเน้นการเสริมสร้างและ พัฒนาทักษะความรู้ด้านตราสารอนุพันธ์ให้แก่เจ้าหน้าที่การตลาดตราสารอนุพันธ์ รวมทั้งเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน ขยายการให้บริการ
ไปยังสำนักงานสาขาต่าง ๆ เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจการซื้อขายตราสารอนุพันธ์ มีการจัดตั้งทีมงาน Derivatives Desk เพื่อให้ สามารถรองรับธุรกรรมการซื้อขายล่วงหน้าของบริษัทฯ ที่มีปริมาณมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ มีการจัดอบรมเพื่อให้ความรู้ด้าน ตราสารอนุพันธ์แก่ผู้ลงทุน พัฒนาระบบการส่งคำสั่งซื้อขายทั้งการส่งคำสั่งซื้อขายผ่านเจ้าหน้าที่การตลาดและอินเทอร์เน็ต พร้อมทั้ง ระบบด้านปฏิบัติการ รวมถึงการขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มลูกค้าสถาบันทั้งในและนอกประเทศ ควบคู่ไปกับการให้บริการคำแนะนำ
ในการลงทุนและการประชาสัมพันธ์ธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้าของบริษัทฯ ไปยังทุกช่องทางการให้บริการลูกค้าของกลุ่มธนชาต ธุรกิจที่ปรึกษาทางการเงินและการจัดจำหน่ายหลักทรัพย์ กลยุทธ์การแข่งขันหลักในการนำเสนอบริการการเป็น
ที่ปรึกษาและการจัดจำหน่ายหลักทรัพย์ในปี 2551 คือ การมุ่งเน้นการให้บริการเป็นที่ปรึกษาทางการเงินด้านการควบรวมกิจการ
การปรับโครงสร้างทางการเงิน การระดมทุนทั้งในด้านตราสารทุน และตราสารหนี้ และการประเมินความเป็นไปได้ของโครงการ
เนื่องด้วยภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวในปัจจุบัน บริษัทฯ เล็งเห็นโอกาสในการเติบโตของการเป็นที่ปรึกษาทางการเงินในลักษณะดังกล่าว การรักษาและสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าที่บริษัทฯ เคยให้บริการเพื่อสร้างโอกาสในการเสนอบริการในธุรกรรมทางการเงินอื่น ๆ อีกทั้งเพื่อสร้างโอกาสในการขยายการให้บริการไปในบริษัทอื่น ๆ ในกลุ่มของลูกค้าเอง การติดต่อลูกค้าที่มีศักยภาพจากรายชื่อลูกค้า ปัจจุบันที่มีการใช้บริการทางการเงินด้านอื่น ๆ ของบริษัทในกลุ่มธนชาต และการแนะนำและเสนอบริการในกลุ่มธนชาตให้กับลูกค้า ปัจจุบันและลูกค้าที่มีศักยภาพ โดยเน้นการทำ Cross-selling ให้มากขึ้น 62
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
ธุรกิจที่ปรึกษาการลงทุน มีแผนกลยุทธ์ในการแข่งขันหลัก มุ่งเน้นการให้คำปรึกษาในด้านการลงทุนในตราสารทางการเงิน ทุกประเภท รวมถึงการจัดสรรการลงทุน (Asset Allocations) ทีเ่ หมาะสมให้กบั ลูกค้า การศึกษาและสร้างสรรค์ตราสารทางการเงินใหม่ ๆ (Structured Products) เพื่อให้มีตราสารทางการเงินที่หลากหลาย เพียงพอต่อการตอบสนองความต้องการในการลงทุนของลูกค้า
การมุ่งเน้นให้การลงทุนมีความหลากหลาย เพื่อสนับสนุนการ Cross-selling ภายในกลุ่มธนชาต และเพื่อให้ลูกค้าที่ต้องการบริหารเงิน ลงทุนในต่างประเทศมีความมั่นใจกับมืออาชีพมากยิ่งขึ้น ในปี 2551 บริษัทฯ จึงได้สร้างพันธมิตรทางธุรกิจในต่างประเทศ BNP Private Bank เพื่อรองรับ และให้คำแนะนำเพิ่มเติม ธุรกิจจัดการลงทุน ให้บริการทางด้านธุรกิจการจัดการกองทุน ธุรกิจจัดการกองทุนส่วนบุคคล กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ และธุรกิจที่ปรึกษา
การลงทุน เพื่อให้สามารถให้บริการคำแนะนำได้อย่างครบวงจร ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2551 ทรัพย์สินภายใต้การจัดการอยู่ในลำดับที่ 5 มีส่วนแบ่งทางการตลาดร้อยละ 5.84 เพิ่มขึ้นจากปี 2550 ร้อยละ 0.36
กลยุทธ์การแข่งขัน
ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2551 มีบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน “บลจ.” ทั้งสิ้น 21 บริษัท มูลค่าทรัพย์สินสุทธิกองทุนรวมที่ เสนอขายประชาชนทั่วไป (Retail Funds) (ไม่รวมกองทุนรวมวายุภักษ์ กองทุนรวมที่เสนอขายต่อผู้ลงทุนต่างประเทศ (Country Fund) กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์เพื่อแก้ไขปัญหาในระบบสถาบันการเงินกองทุนรวมเพื่อแก้ไขปัญหาในระบบสถาบันการเงิน และ กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และสิทธิเรียกร้อง) มีมูลค่า 1,217,501 ล้านบาท ลดลงจาก ปี 2550 ร้อยละ 4.83 คิดเป็นร้อยละ 14.37 ของปริมาณเงินรับฝากของกลุ่มธนาคาร ซึ่งประเภทกองทุนที่มีการปรับตัวลดลงมากที่สุด ได้แก่ กองทุนรวมตราสารทุนและกองทุน
รวมผสม ซึ่งลดลงจาก ปี 2550 ร้อยละ 31.68 กองทุนที่จัดตั้งใหม่ในปี 2551 มีจำนวน 558 กองทุน มีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 594,545.95 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2550 จำนวน 13,789.80 ล้านบาท หรือร้อยละ 2.37 โดยมูลค่าที่เพิ่มขึ้นส่วนใหญ่มาจากการจัดตั้งกองทุน
ที่ลงทุนในต่างประเทศ ในปี 2551 จำนวน 268 กองทุน มูลค่า 355,059.60 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2007 จำนวน 148 กองทุน และ
มีมูลค่าเพิ่มขึ้น 90,009.12 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่เป็นกองทุนที่ลงทุนในต่างประเทศ ประเภทตราสารหนี้ระยะสั้นอายุไม่เกิน 1 ปี จำนวน 188 กองทุน มีมูลค่ารวม 297,507.16 ล้านบาท มีสัดส่วนอยู่ถึงร้อยละ 50.04 ของกองทุนจัดตั้งใหม่ทั้งหมดในปี 2551
ส่วนใหญ่มาจากการออกกองทุนที่ลงทุนในพันธบัตรประเทศเกาหลีในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2551 การลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้น
ดังกล่าวยังแสดงให้เห็นว่า นักลงทุนส่วนใหญ่ต้องการลงทุนในระยะสั้น ๆ และได้รับผลตอบแทนที่ค่อนข้างแน่นอน จากสภาวะการแข่งขันและสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจ กลยุทธ์ทางการตลาด และกลยุทธ์การจัดการลงทุน จึงมุ่งเน้น กลยุทธ์ในเชิงรุก ตลอดจนการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์หรือบริการใหม่ ๆ ที่สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้ได้รวดเร็วและ
มีคุณภาพ ผ่านทีมการตลาดของบริษัทผู้ถือหุ้นที่เป็นสถาบันการเงินชั้นนำของประเทศทั้งภาครัฐและภาคเอกชนที่มีการให้บริการ ทางการเงินที่ครบวงจร และพันธมิตรทางธุรกิจที่ทำหน้าที่เป็นผู้สนับสนุนการขายหรือรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอีกหลายแห่ง บริษัทฯ
ได้แต่งตั้งสถาบันการเงิน ทั้งธนาคารธนชาต และธนาคารพาณิชย์อื่น ๆ และบริษัทฯ เป็นผู้สนับสนุนการขายหรือรับซื้อคืนหน่วยลงทุน ของกองทุนภายใต้การจัดการ โดยผู้สนับสนุนการขายและรับซื้อคืน ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551 มีจำนวนทั้งสิ้น 20 ราย นอกจากนี้ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ยังมุ่งเน้นการทำตลาดในส่วนของกองทุนรวมที่เสนอขายแก่ประชาชนทั่วไป (Public Mutual Fund) ให้มี
ความหลากหลาย เพื่อให้ครอบคลุมทุกระดับความต้องการและทุกกลุ่มผู้ลงทุน ด้วยการเสนอขายหน่วยลงทุนผ่านช่องทางการ
จัดจำหน่ายหลายช่องทางดังกล่าวข้างต้น และการพัฒนาการให้บริการซื้อขายหน่วยลงทุนผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ ผลิตภัณฑ์กองทุนรวม ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551 กองทุนรวมภายใต้การจัดการทั้งสิ้น 73 กองทุน มีมูลค่าทรัพย์สิน
สุทธิรวมเท่ากับ 72,658.18 ล้านบาท แบ่งเป็นกองทุนรวมที่เสนอขายประชาชนทั่วไป (Public Mutual Fund) จำนวน 71 กองทุน
มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิรวม 71,111.33 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2550 เป็นมูลค่า 258.08 ล้านบาท หรือร้อยละ 0.36 อยู่ในลำดับที่ 5
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
63
ในจำนวนผู้ ป ระกอบการทั้งหมด 21 บลจ. และมีส่วนแบ่งทางการตลาดร้อยละ 5.84 มูลค่าทรัพย์สินสุทธิที่เพิ่มขึ้นในปี 2551
เนื่องจากการเพิ่มขึ้นจากการเสนอขายกองทุนต่างประเทศ 5,982.47 ล้านบาท หรือร้อยละ 107.04 รองลงมาคือ กองทุนตราสารหนี้ ภายในประเทศ เพิ่มขึ้น 1,031.38 ล้านบาท หรือร้อยละ 4.09 ผลิตภัณฑ์กองทุนส่วนบุคคล ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551 จำนวนกองทุนภายใต้การบริหารทั้งสิ้น 23 กองทุนมีมูลค่า ทรัพย์สินสุทธิ 1,514.82 ล้านบาท ลดลงจากปี 2550 เป็นมูลค่า 1,397.92 ล้านบาท หรือร้อยละ 48 สาเหตุเนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจ
ที่ถดถอยในปี 2551 ส่งผลให้หุ้นที่กองทุนถือไว้มีราคาปรับตัวลดลงอย่างมาก ขณะที่นักลงทุนส่วนหนึ่งขาดความเชื่อมั่นในการลงทุน และทยอยลดทุนหรือยกเลิกกองทุน ผลิตภัณฑ์กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551 จำนวนกองทุนภายใต้การบริหาร 21 กองทุน มีมูลค่า
ทรัพย์สินสุทธิรวม 4,007.10 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2550 เป็นมูลค่า 392.08 ล้านบาท หรือร้อยละ 10.85 โดยแบ่งประเภทของ
กองทุนเป็นกองทุนเดี่ยว 9 กองทุน กองทุนร่วมเฉพาะกลุ่ม 9 กองทุน และกองทุนร่วม 3 กองทุน และมีจำนวนสมาชิกเพิ่มขึ้นจาก 35,067 ราย ณ สิ้นปี 2550 เป็น 35,450 ราย ผลิตภัณฑ์ธุรกิจประกัน การดำเนินผลิตภัณฑ์ธุรกิจประกันของกลุ่มธนชาต แบ่งออกเป็น 2 ประเภทธุรกิจ ได้แก่ ธุรกิจประกันภัย ดำเนินการโดย บริษทั ธนชาตประกันภัย จำกัด โดยให้บริการประกันวินาศภัยทุกประเภท และธุรกิจประกันชีวติ ดำเนินการโดย บริษทั ธนชาตประกันชีวติ จำกัด ประกอบธุรกิจหลักประเภทธุรกิจประกันชีวิต สำหรับสถาบัน องค์กร และบุคคลทั่วไป ธุรกิจประกันภัย ให้บริการประกันภัยโดยครอบคลุมถึงการบริการรับประกันวินาศภัย ได้แก่ การประกันอัคคีภัย การประกันภัยรถยนต์
การประกันภัยทางทะเลและขนส่ง การประกันภัยเบ็ดเตล็ด และธุรกิจการลงทุน กลยุทธ์การแข่งขัน มุ่งเน้นมาตรฐานการให้บริการที่ดี รวดเร็ว มีประสิทธิภาพ และซื่อสัตย์ ตลอดจนได้พัฒนาสายผลิตภัณฑ์ หรือนำเสนอ กรมธรรม์ประเภทใหม่ ๆ ทีเ่ หมาะสมสอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจ สังคม และความต้องการของกลุม่ ลูกค้า คำนึงถึงอัตราเบีย้ ประกันภัย
ที่ยุติธรรมต่อลูกค้า รวมทั้งการปรับแผนเชิงรุกทางการแข่งขันให้ทันกับภาวการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป เพิ่มช่องทางการจัดจำหน่าย
ขยายฐานสู่กลุ่มลูกค้าใหม่ และรักษากลุ่มลูกค้าเดิม กลุ่มลูกค้าหลักส่วนใหญ่ประมาณร้อยละ 95 ของจำนวนลูกค้าทั้งหมด ได้แก่
กลุ่มลูกค้ารายย่อยที่มีทุนประกันของทรัพย์สินเอาประกันอยู่ในช่วงไม่เกิน 5 ล้านบาท โดยประเภทผลิตภัณฑ์ประกันวินาศภัยที่ลูกค้า เลือก ได้แก่ การประกันภัยรถยนต์ และการประกันอัคคีภัยบ้านอยู่อาศัย กลุ่มลูกค้าดังกล่าวมาจากลูกค้าสินเชื่อของธนาคารธนชาต และการทำการตลาดของบริษัทเอง ตลอดจนนายหน้าประกันภัย และตัวแทนของบริษัท สำหรับกลุ่มลูกค้าที่มีทุนประกันของทรัพย์สิน เอาประกันตั้งแต่ 5 ล้านบาทขึ้นไปนั้น ได้แก่ ลูกค้ากลุ่มสถาบันองค์กรเอกชนที่ดำเนินกิจการธุรกิจในหลากหลายสาขา ทั้งการพาณิชย์ และอุตสาหกรรม โดยผลิตภัณฑ์หลัก ๆ ที่ให้บริการแก่ลูกค้ากลุ่มนี้ คือ การประกันภัยเบ็ดเตล็ด และการประกันอัคคีภัย จากลักษณะ ของฐานลูกค้าที่ได้กล่าวมาข้างต้นสามารถสรุปได้ว่า ตั้งแต่บริษัทฯ ได้เริ่มประกอบธุรกิจประกันวินาศภัยมา มิได้มีการพึ่งพิงลูกค้า
รายหนึ่งรายใดเกินร้อยละ 30 ของรายได้รวมของบริษัทฯ นอกจากนี้ ทางบริษัทฯ ได้เปิดดำเนินการให้บริการรับประกันภัยเฉพาะ
แก่ลูกค้าภายในประเทศเท่านั้น ภาวะอุตสาหกรรมและการแข่งขัน ภาวะอุตสาหกรรมประกันวินาศภัยไทยปี 2551 ยังคงเติบโตต่อเนื่องจากปี 2550 โดยในช่วงเดือนมกราคมถึงกันยายน
2551 ธุรกิจอุตสาหกรรมประกันภัยในประเทศไทยมีเบี้ยประกันภัยรับรวมทั้งสิ้น 78,277.06 ล้านบาท มีอัตราการเจริญเติบโต
64
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
ร้ อ ยละ 5.39 เมื่ อ เที ย บกั บ ช่ ว งเดี ย วกั น ของปี ก่ อ น โดยประเภทการประกั น ภั ย สุ ข ภาพ และการประกั น ภั ย อุ บั ติ เ หตุ ส่ ว นบุ ค คล
เป็นประเภทการประกันภัยที่มีอัตราการเจริญเติบโตสูงที่สุด คือ ร้อยละ 34.97 และ 15.74 ตามลำดับ สำหรับเบี้ยประกันภัยรับของ ธุรกิจประกันภัยโดยตรงปี 2551 รวมทั้งสิ้น 3,147.37 ล้านบาท มีอัตราการเจริญเติบโตร้อยละ 23.07 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกัน
ของปีก่อน เป็นผลจากการขยายตลาดลูกค้ารายย่อยผ่านช่องทางแบงค์แอสชัวรันส์ ทำให้สามารถขยายการประกันภัยกับกลุ่มลูกค้า รายย่อยของธนาคารธนชาต การขายลูกค้าตรง (Direct) การขายผ่านทางโทรศัพท์ (Telemarketing) การขายผ่านสหกรณ์ การขายผ่าน Broker และการขายผ่าน Agent โดยในปี 2551 มีการขยายงานในประเภท Used Car เพิ่มขึ้น ในขณะเดียวกันได้ให้ความสำคัญในการ รักษาฐานลูกค้าเก่าไว้อย่างต่อเนื่อง โดยใช้กลยุทธ์การปรับปรุงการบริการทั้งก่อนและหลังการขายเพื่อสร้างความพึงพอใจให้ลูกค้า (หน่วย : พันบาท) ลำดับ
1 2 3 4 5
บริษัท วิริยะประกันภัย กรุงเทพประกันภัย ทิพยประกันภัย สินมั่นคง LMG
รวม
6
ธนชาตประกันภัย
ส่วนแบ่งตลาดร้อยละ รวมทั้งสิ้น
การประกัน อัคคีภัย
ภัยทางทะเลและขนส่ง
การประกันภัยรถยนต์ การประกันภัยเบ็ดเตล็ด โดยข้อบังคับ โดย อุบัติเหตุ สุขภาพ อื่น ๆ แห่งกฎหมาย ความสมัครใจ ส่วนบุคคล
รวมทั้งสิ้น
244,598 1,361,022 1,790,464 115,263 106,087
11,842,887 5,042,877 4,556,739 3,726,221 2,781,029
448,836
3,617,434
27,946,753
ตัวเรือ
สินค้า
150,880 687,364 551,677 88,491 24,766
1,840 70,049 35,523 - -
57,933 167,732 99,509 4,657 12,781
1,767,061 105,033 350,110 559,234 200,235
1,503,178
107,412
342,612
2,981,673 17,682,395 1,266,213
45,698
405
1,166
115,602
1,891,478
60,764
-
182,196
2,297,309
0.79
0.14
0.04
1.43
4.77
0.95
0.00
1.39
2.93
5,767,863
281,608
2,862,633
8,061,736 39,619,165 6,380,747 2,190,188
13,113,123
78,277,063
9,421,600 2,059,674 1,110,302 2,689,834 2,400,985
184,725 14,251 316,864 275,137 466,936 152,219 261,513 7,229 36,175 -
ที่มา สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (ข้อมูลตั้งแต่เดือนมกราคม ถึง กันยายน 2551)
ธุรกิจประกันชีวิต
ให้บริการด้านความคุ้มครองชีวิตและสุขภาพ โดยแบ่งเป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ ตามลักษณะของลูกค้า ได้แก่ การประกัน
รายบุคคล และการประกันกลุ่ม (สำหรับสถาบันและองค์กร) ภาวะอุตสาหกรรมและการแข่งขัน กลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจแบบ Multi-distribution Channel เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าผู้มุ่งหวังที่หลากหลาย และแตกต่างกันไป ด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่สอดคล้องและเหมาะสมกับกลุ่มลูกค้าผู้มุ่งหวังแต่ละกลุ่ม ปัจจุบันบริษัทฯ
มีช่องทางการขาย ประกอบด้วย การขายผ่านบริษัทฯ การขายผ่านสหกรณ์ต่าง ๆ การขายผ่านช่องทางนายหน้า การขายผ่านสถาบัน การเงิน การขายผ่านธนาคารธนชาต (Bancassurance) และการขายผ่านตัวแทนประกันชีวิต ภาพรวมอุตสาหกรรมประกันชีวิตในช่วง 10 เดือน (มกราคม - ตุลาคม) ของปี 2551 ธุรกิจประกันชีวิตมีเบี้ยประกันภัยรับรวม จำนวน 177,773 ล้านบาท หรือมีอัตราการเติบโต ร้อยละ 10.02 ซึ่งเป็นอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นในอัตราที่ลดลงเมื่อเทียบกับช่วงระยะเวลาเดียวกันของปี 2550 ที่มีอัตราการเติบโตถึง ร้อยละ 17.96 สืบเนื่องจากภาวะเศรษฐกิจในประเทศเกิดการชะลอตัว ค่าครองชีพที่สูงขึ้น ส่งผลให้อำนาจในการซื้อของลูกค้าลดลง
ซึ่งในธุรกิจประกันรายบุคคลก็มีการกระตุ้นการขายในหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการสรรหาตัวแทนประกันชีวิตเพิ่มมากขึ้น มีการ พัฒนาช่องทางการขายใหม่เพิ่มเติมจากช่องทางการขายที่มีอยู่ และพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เหมาะกับภาวะตลาดและกลุ่มลูกค้า
เป้าหมายในแต่ละช่องทางการขายควบคู่กันไป จัดกิจกรรมกระตุ้นการขายให้กับตัวแทนขายประกันชีวิตอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนสร้าง ความสัมพันธ์กับลูกค้าปัจจุบันในรูปของการจัดกิจกรรมต่าง ๆ มากมาย เพื่อรักษาอัตราความคงอยู่ ให้เข้ามาเสริมกับเบี้ยประกันภัย
รับรายใหม่ที่มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นในอัตราที่ลดลง ปัจจุบันมีบริษัทฯ ที่เปิดดำเนินธุรกิจประกันชีวิตรวม 24 บริษัท บริษัท ธนชาตประกันชีวิต จำกัด มีส่วนแบ่งการตลาดของ เบี้ยประกันภัยรับรวมทุกประเภทร้อยละ 2.22 อยู่ในลำดับที่ 10 จากทั้งหมด 24 บริษัท และด้วย บริษัทฯ ดำเนินธุรกิจประกันชีวิตกลุ่ม
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
65
เป็นหลัก ทำให้บริษัทฯ มีเบี้ยประกันภัยรับปีแรกของการประกันกลุ่มอยู่ในลำดับที่ 2 ของธุรกิจ ส่วนเบี้ยประกันภัยรับรวมของการ ประกันกลุ่มอยู่ในลำดับที่ 3 ของธุรกิจประกันชีวิต แนวโน้มอุตสาหกรรมประกันชีวิตปี 2552 คาดว่าจะมีอัตราการเติบโตที่ชะลอตัวจาก ปี 2551 สืบเนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่ยังคงชะลอตัวต่อเนื่องมาจากปีก่อน ส่งผลให้ผู้บริโภคระมัดระวังการใช้เงินมากขึ้น ในขณะที่ยังมี ปัจจัยที่สนับสนุนธุรกิจให้มีอัตราการเติบโต อันประกอบด้วย อัตราดอกเบี้ยในตลาดเงินที่ลดลง ส่งผลให้ธุรกิจประกันชีวิตเป็นหนึ่ง
ทางเลือกในการออม เนื่องจากอัตราผลตอบแทนดี และสามารถนำเบี้ยประกันภัยมาใช้สิทธิหักลดหย่อนภาษีเงินได้ถึง 100,000 บาท
ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อโอกาสหรือข้อจำกัดในการประกอบธุรกิจการเงินของกลุ่มธนชาต
ในปี 2551 เงินให้สนิ เชือ่ ภาคเอกชนของสถาบันการเงินขยายตัวร้อยละ 9.3 เพิม่ ขึน้ จากร้อยละ 4.0 ในปีทแี่ ล้ว สินเชือ่ ขยายตัว
ในช่ ว งครึ่ ง ปี แ รก แต่ ก ลั บ ชะลอตั ว ในครึ่ ง ปี ห ลั ง อั น เนื่ อ งมาจากการชะลอตั ว ของอุ ป สงค์ ทั้ ง จากภายในและนอกประเทศ ทำให้
ความต้องการสินเชื่อมีแนวโน้มลดลง อีกทั้งธนาคารพาณิชย์มีความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น เพื่อป้องกันการเพิ่มขึ้นของ
หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ ด้านสินเชื่อเช่าซื้อในปี 2551 ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว และราคาน้ำมันที่ปรับเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้
ความต้องการซื้อรถยนต์และรถจักรยานยนต์ลดลง ส่งผลให้ยอดจำหน่ายรถยนต์และสินเชื่อเช่าซื้อในปี 2551 ชะลอตัวเล็กน้อยจาก
ปี 2550 นอกจากปัจจัยด้านเศรษฐกิจและการเมืองแล้วการเปลี่ยนแปลงกฎเกณฑ์ของทางการบางประเด็นถือเป็นอุปสรรคในการ ประกอบธุรกิจธนาคารพาณิชย์ในระยะสั้น แต่จะส่งผลให้เกิดความแข็งแกร่งทางการเงินและความเป็นมาตรฐานสากลของระบบ ธนาคารพาณิชย์ไทยในระยะยาว ไม่ว่าจะเป็น พ.ร.บ. ธุรกิจสถาบันการเงิน ซึ่งจะมีการกำหนดในเรื่องเกณฑ์การกำกับแบบรวมกลุ่ม BASEL II รวมถึง มาตรฐานการบัญชีสากล ฉบับที่ 39 (IAS 39) และ พ.ร.บ. สถาบันคุ้มครองเงินฝาก ซึ่งมีผลต่อการดำเนินธุรกิจ
รวมถึงการตั้งสำรองของธนาคารพาณิชย์ เป็นต้น อย่างไรก็ตาม กฎเกณฑ์ที่ทางการนำมาประกาศใช้บังคับกับธนาคารพาณิชย์ แต่มิได้มีผลบังคับใช้กับสถาบันการเงิน ประเภทอื่น ๆ ถือเป็นอุปสรรคที่สำคัญในการประกอบธุรกิจธนาคารพาณิชย์ เนื่องจากทำให้ความสามารถในการแข่งขันของธนาคาร พาณิชย์ลดลง ปัจจุบนั มีธรุ กิจหลายประเภททีใ่ ห้บริการทางการเงินใกล้เคียงกับธนาคารพาณิชย์ เช่น Non-bank ซึง่ บริษทั ต่าง ๆ เหล่านี้ จะสามารถทำธุรกรรมการเงินบางอย่างได้ ขณะที่ธนาคารพาณิชย์ไม่สามารถทำได้เนื่องจากติดเงื่อนไขของทางการ เช่น การที่ธนาคาร ธนชาตถูกควบคุมระดับของเงินกองทุน ทำให้ธนาคารธนชาตมีความยืดหยุ่นในการปล่อยสินเชื่อได้น้อยกว่าบริษัทแฟคตอริ่งซึ่งไม่ถูก ควบคุมในเรื่องระดับของเงินกองทุน หรือหลักเกณฑ์การดำรงเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (BIS) เป็นต้น อย่างไรก็ดี พ.ร.บ. ธุรกิจสถาบันการเงิน มีข้อกำหนดให้การประกอบธุรกิจทางการเงิน ที่มีผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจของ ประเทศโดยรวม และมิได้มีกฎหมายที่ควบคุมการประกอบธุรกิจดังกล่าวเป็นการเฉพาะ ธปท. อาจเสนอให้มีการตรากฎหมาย
เพื่อกำหนดให้การประกอบธุรกิจประเภทนั้นอยู่ภายใต้บังคับของ พ.ร.บ. ธุรกิจสถาบันการเงินทั้งหมดหรือบางส่วนได้ ซึ่งจะทำให้
Non-bank ที่เข้าเงื่อนไขดังกล่าว อาจอยู่ภายใต้การควบคุมของ ธปท. ได้ ในส่วนของปัจจัยที่เกื้อหนุนการดำเนินธุรกิจของธนาคารพาณิชย์ในปี 2551 ที่สำคัญมีดังนี้ • การเร่งเบิกจ่ายงบประมาณภาครัฐ และระดับราคาสินค้าเกษตรที่ปรับเพิ่มสูงขึ้น ช่วยพยุงให้เศรษฐกิจไทยยังคงขยายตัว แม้ว่าอาจจะชะลอตัวจากปีก่อนก็ตาม • การอนุญาตให้ธนาคารพาณิชย์สามารถทำธุรกรรมทางการเงินได้หลากหลายมากขึ้น เช่น - การผ่อนคลายระเบียบการฝากเงินและการโอนเงินตราต่างประเทศ ทำให้ธนาคารพาณิชย์สามารถรับฝากเงินในรูป ของเงินตราต่างประเทศได้ - การอนุญาตให้ธนาคารพาณิชย์สามารถออกตั๋วแลกเงิน ซึ่งช่วยลดต้นทุนทางการเงินให้กับธนาคารพาณิชย์ และ เป็นการเพิ่มช่องทางในการลงทุนให้กับผู้ออม เป็นต้น 66
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
- การเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นของนักลงทุนต่างชาติ ซึ่งเป็นการช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งทางการเงิน และเพิ่มศักยภาพ ในการแข่งขันให้กับสถาบันการเงินไทย จากการถ่ายทอดเทคโนโลยี ผลิตภัณฑ์ และบริการทางการเงิน เพื่อรองรับการเปิดเสรีทาง
การเงินในอนาคต
สภาพการแข่งขันในอุตสาหกรรม
ในปี 2551 มีจำนวนธนาคารพาณิชย์ทั้งระบบมีทั้งสิ้น 34 แห่ง โดยแบ่งแยกเป็นธนาคารพาณิชย์จดทะเบียนในประเทศไทย ทั้งสิ้น 18 แห่ง และจำนวนสาขาธนาคารต่างประเทศอีกจำนวน 16 แห่ง โดยมีจำนวนคงที่เท่ากับปี 2550 หากพิจารณายอดเงินรับฝากของธนาคารพาณิชย์รวมทั้งระบบเท่ากับ 7,156,292 ล้านบาท แยกเป็นสัดส่วนของธนาคาร พาณิชย์จดทะเบียนในประเทศไทยจำนวน 6,649,283 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 92.9 และเป็นยอดเงินรับฝากของสาขาธนาคาร
ต่างประเทศอีกจำนวน 507,009 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 7.1 ในส่วนของเงินให้สินเชื่อสุทธิของธนาคารพาณิชย์รวมทั้งระบบเท่ากับ 7,549,404 ล้านบาท เป็นยอดเงินให้สินเชื่อสุทธิของ ธนาคารพาณิชย์จดทะเบียนในประเทศไทยจำนวน 6,849,530 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 90.7 และเป็นยอดเงินให้สินเชื่อสุทธิของ สาขาธนาคารต่างประเทศอีกจำนวน 699,784 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 9.3 จากยอดเงินให้สินเชื่อสุทธิ โดยมีสัดส่วนใกล้เคียง
กับปีที่ผ่านมา นอกเหนือจากภาวะการแข่งขันในกลุ่มธนาคารพาณิชย์แล้ว ยังมีการแข่งขันในระบบการเงิน เช่น สถาบันการเงินที่มิใช่ ธนาคารพาณิชย์ ตลาดเงินและตลาดทุน ธนาคารเฉพาะกิจของภาครัฐ ซึ่งมีบทบาทต่อระบบเศรษฐกิจมากขึ้น อันเป็นผลมาจากการ เปลี่ยนแปลงกฎเกณฑ์ทางการ ให้มีความยืดหยุ่นและรองรับการเปิดเสรีทางการเงินที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งจากภาวะการแข่งขันที่ เพิ่มขึ้นดังกล่าวทำให้ธนาคารพาณิชย์พยายามสร้างความแตกต่างโดยใช้กลยุทธ์การแข่งขันที่ไม่ใช่ราคา เช่น การพัฒนาผลิตภัณฑ์ ทางการเงินให้มีความหลากหลาย การพัฒนาช่องทางการให้บริการ การพัฒนาคุณภาพการบริการ รวมถึงการสร้างพันธมิตรในกลุ่ม ธุรกิจการเงิน ทั้งนี้ เพื่ออำนวยความสะดวกและตอบสนองต่อทุกความต้องการทางการเงินของลูกค้า อีกทั้งได้มีการมุ่งเน้นการสร้าง ภาพลั ก ษณ์ อ งค์กรมากขึ้น ผ่านการโฆษณาประชาสัมพันธ์และการเพิ่มโครงการด้านความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม (Corporate Social Responsibility: CSR) นอกเหนือไปจากการแข่งขันด้านอัตราดอกเบี้ยซึ่งเป็นกลยุทธ์หลักของธนาคารพาณิชย์ ในปี 2551 เงินรับฝากของสถาบันการเงินไทยขยายตัวร้อยละ 8.3 จากระยะเดียวกันปีก่อน โดยเงินฝากชะลอตัวในครึ่งปีแรก เนื่องจากผู้ลงทุนย้ายการลงทุนไปยังตราสารประเภทอื่น และมีแนวโน้มปรับสูงขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปีจากการโยกย้ายเงินกลับ ทั้งนี้ หากพิจารณาตั๋วแลกเงินรวมกับเงินฝากของสถาบันการเงินไทย จะพบว่าขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 8.9 การแข่งขันด้านการปล่อยสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์พบว่า ธนาคารพาณิชย์ยังคงใช้กลยุทธ์การแข่งขันทั้งด้านอัตรา
ดอกเบี้ยและด้านบริการเป็นสำคัญ โดยในปี 2551 เงินให้สินเชื่อภาคเอกชนของสถาบันรับฝากเงินขยายตัวร้อยละ 9.3 ในช่วงเดียวกัน ของปีก่อน โดยสินเชื่อของสถาบันรับฝากเงินเพิ่มขึ้นในช่วง 3 ไตรมาสแรก แต่กลับชะลอลงในช่วงไตรมาสสุดท้าย ตามสภาวะ เศรษฐกิจที่อ่อนตัวลง โดยเป็นการชะลอตัวของสินเชื่อที่ให้แก่ภาคธุรกิจเป็นสำคัญ ชะลอตัวจากปีก่อน สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจที่ ชะลอตัวลงและความกังวลต่อความสามารถในการชำระหนี้ ในส่วนของอัตราดอกเบี้ยในปี 2551 นั้น ธนาคารพาณิชย์ได้มีทิศทางการเปลี่ยนแปลงของอัตราดอกเบี้ยเงินฝากและเงินให้ สินเชื่อสอดคล้องกับทิศทางอัตราดอกเบี้ยนโยบายของ ธปท. โดยในช่วงครึ่งปีแรก ธปท. ได้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 3.25 และ ปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงไตรมาสที่ 3 เนื่องจากความเสี่ยงทางด้านเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น แต่ทั้งนี้ ธปท. ก็ได้มีการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย
ในช่วงสิ้นปีมาอยู่ที่ร้อยละ 2.75 ทำให้ ณ สิ้นปี 2551 อัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 1 ปี ปรับลดลงจากร้อยละ 2.25 - 2.375 มาอยู่ที่
ร้อยละ 1.75 – 2.0
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
67
ขณะที่อัตราดอกเบี้ยเงินให้สินเชื่อมีการปรับลดลงเพียงร้อยละ 0.125 จากสิ้นปี 2550 มาอยู่ที่ร้อยละ 6.75 ณ สิ้นปี 2551 ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากความเสี่ยงด้านเศรษฐกิจและธุรกิจที่ยังคงอยู่ในระดับสูง ส่งผลให้ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยเงินฝากและเงินให้
สินเชื่อปรับเพิ่มจากร้อยละ 4.5 - 4.625 มาอยู่ที่ร้อยละ 4.75 - 5.0
ขนาดของบริษัทเมื่อเทียบกับคู่แข่ง
ในปี 2551 ธนาคารธนชาตมีสินทรัพย์ทั้งสิ้น 368,272 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 77,174 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 26.5 โดยธนาคารธนชาตมีขนาดสินทรัพย์เป็นอันดับที่ 8 จากจำนวนธนาคารพาณิชย์จดทะเบียนในประเทศไทยทั้งสิ้น 18 แห่ง
โดยธนาคารธนชาตมีส่วนแบ่งทางการตลาดด้านเงินฝากรวมกับเงินกู้ระยะสั้นคิดเป็นร้อยละ 4.81 ของยอดเงินฝากในระบบธนาคาร พาณิชย์ โดยมียอดเงินฝากทั้งสิ้น 318,760 ล้านบาท เป็นอันดับที่ 8 จากจำนวนธนาคารพาณิชย์จดทะเบียนในประเทศไทย ในส่วน ด้านเงินให้สินเชื่อ ธนาคารธนชาตมียอดเงินให้สินเชื่อจำนวน 272,925 ล้านบาท โดยส่วนแบ่งทางการตลาดด้านเงินให้สินเชื่อคิดเป็น ร้อยละ 4.67 ของยอดเงินให้สินเชื่อในระบบธนาคารพาณิชย์ ซึ่งเป็นอันดับที่ 8 จากจำนวนธนาคารพาณิชย์จดทะเบียนในประเทศไทย
แนวโน้มการแข่งขันในอนาคต
จากการถดถอยของภาวะเศรษฐกิจโลก สถานการณ์ภายใน และราคาน้ำมันของตลาดโลกที่ลดลงในช่วงปลายปี 2551 ทำให้ มีการคาดการณ์เกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยในปี 2552 ว่ามีแนวโน้มที่จะขยายตัวในอัตราที่ต่ำ และเงินเฟ้อมีแนวโน้มอยู่ในระดับต่ำ
แต่อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยบวกจากมาตรการทางการคลังในการกระตุ้นเศรษฐกิจ ไม่ว่าจะเป็นการใช้จ่ายภาครัฐ การให้เงินสนับสนุน การสินเชื่อ การลดหรือให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีเพื่อช่วยผู้บริโภคและผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ปัจจัยต่างๆ เหล่านี้ ส่งผลให้สถาบันการเงินมีแนวโน้มที่จะมีสภาพคล่องเพิ่มมากขึ้น อันเนื่องมาจากปัจจัยทางด้านเงินฝาก คาดว่าจะขยายตัวเพิ่มขึ้น และด้านสินเชื่อคาดว่าน่าจะชะลอตัวลง ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับนโยบายการกระตุ้นสินเชื่อของภาครัฐ โดยแนวโน้มเงินฝากในปี 2552 คาดว่าจะปรับเพิ่มสูงขึ้น อันเนื่องมาจากการเคลื่อนย้ายการลงทุนจากแหล่งอื่นซึ่งมี
ความเสี่ยงสูงว่าจะกลับเข้ามาฝากในสถาบันการเงิน ทั้งนี้ รูปแบบในการฝากเงินหรือรูปแบบการลงทุนของผู้ออมเงินจะเปลี่ยนแปลงไป
โดยผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่คล้ายเงินฝาก เช่น ตั๋วแลกเงิน กองทุนรวม และประกันชีวิตผ่านช่องทางของธนาคาร (Bancassuance) ซึ่งมีความเสี่ยงไม่สูงมากนักจะได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น ขณะที่แนวโน้มการปล่อยสินเชื่อในปี 2552 คาดว่าจะชะลอตัวลง ทั้งสินเชื่อภาคธุรกิจและครัวเรือน ซึ่งรวมไปถึงสินเชื่อ อสังหาริมทรัพย์ และสินเชื่อเช่าซื้อ อันเนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่ถดถอยส่งผลให้ความต้องการใช้สินเชื่อมีแนวโน้มลดลง ประกอบกับ ธนาคารพาณิชย์มีความระมัดระวังในการปล่อยสินเชื่อเพิ่มมากขึ้น โดยธนาคารพาณิชย์รัฐและธนาคารเฉพาะกิจจะเพิ่มบทบาท
ในการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น ตามนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ อย่างไรก็ตาม ผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจโลก ยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและนักลงทุน
ในการดำเนินธุรกิจ โดยเฉพาะอุตสาหกรรมที่ผลิตเพื่อการส่งออก สะท้อนได้จากสัญญาณการอ่อนตัวของตลาดแรงงาน ที่มีอัตรา
การว่างงานในช่วงปลายปีเพิ่มมากขึ้น ส่งให้ธนาคารพาณิชย์รักษาส่วนต่างระหว่างอัตราดอกเบี้ยเงินฝากและเงินให้สินเชื่อไว้เพื่อรักษา ระดับของรายได้จากดอกเบี้ย นอกจากนี้ ธนาคารพาณิชย์ต่างๆ ยังคงมุ่งเน้นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า ผ่านการโฆษณาประชาสัมพันธ์ ตลอดจน การสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ถือหุ้น และสังคม ด้วยการมุ่งเน้นด้านธรรมาภิบาล และโครงการด้านความรับผิดชอบต่อสังคมและ
สิ่งแวดล้อมให้มากยิ่งขึ้น
68
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
การจัดหาผลิตภัณฑ์หรือบริการ
แหล่งที่มาของเงินทุน แหล่งที่มาของเงินทุนของธนาคารธนชาต นอกจากจะได้จากเงินกองทุน ซึ่งได้แก่ ทุนที่ออกและเรียกชำระแล้ว ซึ่งในปี 2551 มีจำนวน 17,346 ล้านบาท รวมถึงสำรองตามกฎหมายและกำไรสะสมแล้ว แหล่งเงินทุนที่สำคัญของธนาคารธนชาตยังได้จาก
แหล่งที่มาที่สำคัญอีก 2 แห่ง คือ 1. เงินฝาก ณ สิ้น ปี 2551 มีจำนวน 270,832 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 189,086 ล้านบาท ณ สิ้นปี 2550 2. เงินกู้ยืม จำนวน 62,288 ล้านบาท แบ่งเป็นแหล่งเงินทุนที่ได้จากเงินกู้ยืมระยะสั้นจำนวน 47,928 ล้านบาท ส่วนใหญ่ เป็นการเพิ่มขึ้นจากตั๋วแลกเงินระยะสั้น เนื่องจากธนาคารธนชาตเพิ่มช่องทางในการออมเงินให้ลูกค้าด้วยการออกตั๋วแลกเงินระยะสั้น และเงินกู้ยืมระยะยาวจำนวน 14,360 ล้านบาท โดยในระหว่างไตรมาสที่ 2 ปี 2551 ธนาคารได้ออกหุ้นกู้ด้อยสิทธิไม่มีหลักประกัน จำนวน 5,000 ล้านบาท อายุ 7 ปี อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยร้อยละ 5.61 เพื่อรองรับการขยายตัวของเงินให้สินเชื่อที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง
ในอนาคต ตารางแสดงแหล่งที่มาของเงินทุนที่สำคัญ
แหล่งที่มาของเงินทุน เงินกองทุน เงินฝาก เงินกู้ยืม - เงินกู้ยืมระยะสั้น - เงินกู้ยืมระยะยาว รวมเงินกู้ยืม รวมแหล่งที่มาของเงินทุน
(หน่วย : ล้านบาท)
ปี 2551
ปี 2550
เปลี่ยนแปลงจากปี 2550 ล้านบาท ร้อยละ
28,247 270,832
23,661 189,086
4,586 81,746
19.38 43.23
47,928 14,360
58,998 12,960
(11,070) 1,400
(18.76) 10.80
62,288
71,958
(9,670)
(13.44)
361,367
284,705
76,662
26.93
นโยบายอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก ธนาคารธนชาตมีนโยบายในการกำหนดอัตราดอกเบี้ยเงินรับฝาก โดยพิจารณาปัจจัยด้านสภาพคล่อง ความต้องการในการ ใช้เงินสินเชื่อ นโยบายในการบริหารความเสี่ยงด้านอัตราดอกเบี้ย และความเสี่ยงด้านสภาพคล่อง นอกจากนี้ ยังพิจารณาปัจจัย ภายนอกต่างๆ ประกอบ เช่น อัตราเงินเฟ้อ ภาวะเศรษฐกิจของประเทศ อัตราผลตอบแทนและอัตราดอกเบี้ยรวมของตลาดโดยรวม เป็นต้น การจัดหาเงินทุน หรือให้กู้ยืมผ่านบุคคลที่เกี่ยวข้องกับผู้บริหารหรือผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ณ สิ้น ปี 2551 ธนาคารธนชาตได้ให้กู้ยืมแก่บริษัทใหญ่ บริษัทย่อย และบริษัทที่เกี่ยวข้องกันเฉพาะในกลุ่มธนชาต ดังนี้ 1. ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ (บริษัท ทุนธนชาต จำกัด (มหาชน) “ทุนธนชาต”) จากการที่ทุนธนชาตและธนาคารธนชาต ร่วมกันประกาศแผนปรับโครงสร้างการประกอบธุรกิจฯ ทุนธนชาต จึงมี
ข้อจำกัดในการจัดหาแหล่งเงินทุน เนื่องจากได้มีการโอนเงินรับฝากทั้งหมดมายังธนาคารธนชาตตั้งแต่ปี 2549 ถึงแม้ว่าจะยังมียอดเงิน ให้สินเชื่อเช่าซื้อเดิมที่คงค้างส่วนที่เหลือและยังคงได้รับชำระคืนเป็นงวดๆ ตามสัญญาอยู่ ดังนั้น ธนาคารธนชาตจึงต้องให้ทุนธนชาต
กู้ยืมเงิน เพื่อชดเชยข้อจำกัดในการหาแหล่งเงินทุนดังกล่าว โดยในปีที่ผ่านมาได้มีการทยอยชำระคืนเงินกู้ให้แก่ธนาคารธนชาตทำให้ ณ สิ้น ปี 2551 มียอดเงินกู้คงค้างจำนวน 4,500 ล้านบาท ลดลงจาก 12,500 ล้านบาท ณ สิ้นปี 2550 2. บริษัท ธนชาตกรุ๊ป ลีสซิ่ง จำกัด (บริษัทย่อยของธนาคารธนชาต) ธนาคารธนชาตให้ กู้ ยื ม แก่ บ ริ ษั ท ฯ เพื่ อ ใช้ ใ นการให้ เ ช่ า ซื้ อ รถยนต์ ทุ ก ประเภทตามนโยบายธุ ร กิ จ ของกลุ่ ม ธนชาต
โดย ณ สิ้น ปี 2551 มียอดเงินกู้คงค้างจำนวน 3,645 ล้านบาท ลดลงจาก 4,000 ล้านบาท ณ สิ้นปี 2550
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
69
3. บริษัท ที ลีสซิ่ง จำกัด (บริษัทย่อยของธนาคารธนชาต) ธนาคารธนชาตให้กู้ยืมแก่บริษัทฯ เพื่อใช้ในการให้เช่าซื้อรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ทุกประเภท และรถยนต์นั่งส่วนบุคคล ไม่เกิน 7 คน รวมทั้งรถจักรยานยนต์ ตามการอนุญาตจาก ธปท. เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2550 โดยอนุญาตให้บริษัทฯ ประกอบธุรกิจ
ให้เช่าซื้อรถจักรยานยนต์แทนบริษัท ธนชาตกรุ๊ป ลีสซิ่ง จำกัด และสิ้นปี 2551 มียอดเงินกู้คงค้างจำนวน 824 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 294 ล้านบาท ณ สิ้นปี 2550 4. บริษัท บริหารสินทรัพย์ เอ็น เอฟ เอส จำกัด (บริษัทย่อยของทุนธนชาต) ธนาคารธนชาตให้กู้ยืมแก่บริษัทฯ เป็นการให้กู้ยืมเพื่อใช้ในการรับซื้อสินทรัพย์ด้อยคุณภาพของกลุ่มธนชาตมาบริหาร โดย ณ สิ้น ปี 2551 มียอดเงินกู้คงค้างจำนวน 3,650 ล้านบาท ลดลงจาก 4,250 ล้านบาท ณ สิ้นปี 2550 โดยยอดเงินกู้ยืมคงค้างแก่กลุ่มธนชาตดังกล่าว เป็นจำนวนทั้งสิ้น 12,619 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 4.8 ของยอดเงินให้กู้ยืม ทั้งหมด ณ สิ้น ปี 2551 โดยทั้งหมดเป็นการให้กู้ยืมเงินภายใต้การอนุญาตจาก ธปท. นโยบายการให้สินเชื่อและหลักประกันในการให้สินเชื่อ ธนาคารธนชาตเน้นการให้สินเชื่อในส่วนของผู้ถือหุ้นรายใหญ่ควบคู่กับการเป็นที่ปรึกษาทางการเงินแก่ผู้ประกอบการ
ขนาดกลางและขนาดใหญ่ที่มีศักยภาพในอุตสาหกรรมเป้าหมาย (Target Sectors) และมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง เช่น โรงแรม
โรงพยาบาล เป็นต้น โดยพิจารณาจากความสามารถในการดำเนินงานที่ผ่านมา ความเชี่ยวชาญในธุรกิจ และความสามารถในการชำระ หนี้เป็นหลัก นอกจากนี้ ธนาคารธนชาตยังให้ความสำคัญในการพิจารณาหลักประกัน โดยการพิจารณาจากคุณภาพและสภาพคล่อง ของหลักประกัน การบริหารความเสี่ยงจากการให้สินเชื่อ ในการพิจารณาสินเชื่อรายใหญ่แต่ละราย ฝ่ายสินเชื่อและวิเคราะห์สินเชื่อของธนาคารธนชาตจะร่วมกันประเมินคุณภาพ
ด้านเครดิตของลูกค้า ทัง้ ความสามารถในการดำเนินงานและความสามารถในการชำระหนีผ้ า่ นการจัดทำ Loan Rating ในขณะเดียวกัน ธนาคารธนชาตใช้ RAROC Model เป็นเกณฑ์ในการพิจารณาผลตอบแทนจากการให้สินเชื่อ ซึ่งผลตอบแทนที่ได้รับจะสอดคล้องกับ ความเสี่ยงในการให้บริการสินเชื่อของลูกค้าแต่ละราย ในการพิจารณาสินเชื่อรายย่อย ธนาคารธนชาตประเมินคุณภาพด้านเครดิตของ ลูกค้า ทั้งความสามารถในการชำระหนี้ผ่านการจัดทำ Credit Scoring โดยการกำหนด Credit Scoring เกิดจากการวิเคราะห์ ประวัติการชำระเงินของลูกค้ารายย่อยทั้งหมด ซึ่ง Credit Scoring จะมีการปรับปรุงอย่างต่อเนื่องโดยฝ่ายงานวิเคราะห์ความเสี่ยงทาง เครดิต นโยบายการควบคุมดูแล การอนุมัติการให้กู้ยืม และการติดตามลูกหนี้ ธนาคารธนชาตมีนโยบายการควบคุมดูแลการปฏิบัติงาน โดยจัดทำนโยบายและแนวทางทางด้านเครดิต และกำหนดวงเงิน อนุมัติของลูกค้าแต่ละรายที่เข้มงวดกว่าเกณฑ์ ธปท. กำหนดในการอนุมัติสินเชื่อ กำหนดให้ฝ่ายสินเชื่อและฝ่ายวิเคราะห์สินเชื่อ
ดำเนินการพิจารณาคำขอสินเชื่อของลูกค้าอย่างเป็นอิสระด้วยความรู้และความเชี่ยวชาญของเจ้าหน้าที่แต่ละฝ่าย จะต้องผ่านการ
นำเสนอต่อคณะกรรมการพิจารณาสินเชื่อเพื่อพิจารณาอนุมัติสินเชื่อ ซึ่งมีเครื่องมือในการช่วยตัดสินใจ ได้แก่ RAROC Model, Credit Scoring และ Loan Rating หลังจากการพิจารณาสินเชื่อ ธนาคารธนชาตมีหน่วยตรวจสอบสินเชื่อ ทำหน้าที่ตรวจสอบข้อมูลลูกค้า และรายงานการ ติดต่อกับลูกค้าอย่างสม่ำเสมอ นอกจากนี้ ยังมีการประชุม Watch List Committee ทุกเดือน และมีการทบทวนคุณภาพลูกค้าปีละ
1 ครัง้ เพือ่ ติดตามการใช้วงเงินสินเชือ่ การปฏิบตั ติ ามข้อตกลง ภาวะธุรกิจ รวมถึงเหตุการณ์ตา่ ง ๆ ทีจ่ ะมีผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจ ของลูกค้าเพื่อป้องกันการเกิดหนี้ด้อยคุณภาพ ความสามารถในการดำรงเงินกองทุน ธนาคารธนชาตมีนโยบายที่จะดำรงอัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงให้เพียงพอที่จะรองรับความเสี่ยงในการดำเนิน ธุรกิจ และความผันผวนทีอ่ าจจะเกิดขึน้ จากปัจจัยต่าง ๆ รวมทัง้ ยังมีนโยบายทีจ่ ะดำรงอัตราเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสีย่ งให้สงู กว่าเกณฑ์
70
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
ที่ ธปท. กำหนด โดย ธปท. ได้กำหนดให้ธนาคารพาณิชย์ตอ้ งดำรงอัตราส่วนเงินกองทุนทัง้ หมดต่อสินทรัพย์เสีย่ งไม่ตำ่ กว่าร้อยละ 8.50 โดยมีอัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 ต่อสินทรัพย์เสี่ยงหลังจัดสรรกำไรของธนาคารไม่ต่ำกว่าร้อยละ 4.25 ทั้งนี้ ณ สิ้น ปี 2551 ธนาคารธนชาตมีอัตราส่วนเงินกองทุนทั้งหมด และเงินกองทุนชั้นที่ 1 ต่อสินทรัพย์เสี่ยงตามเกณฑ์ Basel II คิดเป็นร้อยละ 11.18 และ 8.02 สภาพคล่อง ธนาคารธนชาตมีนโยบายการบริหารสภาพคล่องให้เป็นไปอย่างเหมาะสม โดยมีวัตถุประสงค์หลักในการดำรงสินทรัพย์ สภาพคล่องให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ของ ธปท. และเพื่อให้มีการบริหารสภาพคล่องและหนี้สินอย่างสมดุล การบริหารสภาพคล่องของ ธนาคารธนชาตอยู่ภายใต้การดูแลของคณะกรรมการบริหารสภาพคล่องและอัตราดอกเบี้ย ซึ่งประกอบด้วย เจ้าหน้าที่บริหารระดับสูง ของธนาคารธนชาต เพื่อทำหน้าที่ในการวางแนวทางการบริหารสินทรัพย์และหนี้สิน กำหนดแนวทางและทบทวนนโยบายการลงทุน ของธนาคารธนชาต ภายใต้ น โยบายความเสี่ ย งที่ ไ ด้ รั บ อนุ มั ติ จ ากคณะกรรมการบริ ห าร และคณะกรรมการธนาคารธนชาต
ซึ่งคณะกรรมการบริหารสภาพคล่องและอัตราดอกเบี้ยนี้จะทำการประชุมกันทุกสัปดาห์ เพื่อพิจารณาความเสี่ยงด้านสภาพคล่อง
รายได้ด้านดอกเบี้ยรับและดอกเบี้ยจ่าย โครงสร้างของสินทรัพย์และหนี้สินทั้งระยะสั้นและระยะยาว ผลกระทบต่อสภาพคล่อง
ของธนาคารธนชาตอันเกิดจากสภาวะเศรษฐกิจการเงินของตลาดเงินและตลาดทุนทั้งภายในและนอกประเทศ และกฎระเบียบต่าง ๆ ที่ ท างการกำหนด รวมทั้ ง กำหนดนโยบายโครงสร้ า งอั ต ราดอกเบี้ ย (ทั้ ง คงที่ แ ละลอยตั ว ) ให้ สั ม พั น ธ์ กั บ โครงสร้ า งเงิ น ทุ น ของ
ธนาคารธนชาต นอกจากนี้ ยังมีฝ่ายบริหารความเสี่ยงร่วมดูแลรับผิดชอบในการจัดทำ Interest Rate Gap Analysis และ Liquidity Gap Analysis เพื่อวัดผลกระทบของอัตราดอกเบี้ยและสภาพคล่อง และมีการกำหนดเพดานสำหรับการปล่อยสินเชื่อให้กับภาคธุรกิจ ต่าง ๆ เพื่อป้องกันผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นจากการดำเนินธุรกิจ
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
71
การบริหารความเสี่ยงและปัจจัยความเสี่ยง
ภาพรวมการบริหารความเสี่ยง
ภาวะเศรษฐกิจไทยในปี 2551 เผชิญกับปัจจัยเสี่ยงหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นปัญหาวิกฤตการณ์ทางการเงินและการชะลอตัว ของเศรษฐกิจโลก ประกอบกับความผันผวนของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ และราคาน้ำมัน รวมทั้งปัญหาเสถียรภาพทางการเมืองที่รุนแรง ซึ่งส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภค นักลงทุน และนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ทำให้ภาคธุรกิจการเงินไทยดำเนินธุรกิจ อย่างระมัดระวัง ดังจะเห็นได้จากการรักษาระดับสภาพคล่องส่วนเกินให้อยู่ในเกณฑ์ที่สูงกว่าภาวะปกติ เพื่อรองรับความผันผวน ของวิกฤตการณ์ทางการเงินที่เกิดขึ้น โดย ณ สิ้นปี 2551 สภาพคล่องส่วนเกินในระบบการเงินไทยปรับเพิ่มสูงขึ้นจากปีก่อน ส่งผลให้ อัตราดอกเบี้ยเงินฝากปรับตัวลดลงเป็นไปในทิศทางเดียวกับอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทย “ธปท.” อย่างไรก็ดี ในปี 2552 เศรษฐกิจไทยยังมีแนวโน้มชะลอตัว อัตราว่างงานเพิ่มสูงขึ้น ทำให้สถาบันการเงินต้องระมัดระวัง
ในการปล่อยสินเชื่อเพื่อไม่ให้เกิดสินเชื่อด้อยคุณภาพในอนาคต ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) “ธนาคารธนชาต” ได้ตระหนักถึง ความเสี่ยงดังกล่าว จึงมีการปรับมาตรการในการปล่อยสินเชื่อ และปรับปรุงพัฒนาเครื่องมือในการวัดความเสี่ยงด้านเครดิต เช่น Behavior Scoring ซึ่งจะช่วยให้ธนาคารธนชาตสามารถจัดการความเสี่ยงได้อย่างเหมาะสม และสอดคล้องกับลักษณะของความเสี่ยง (Risk Profile) นอกจากนี้ เพื่อให้ธนาคารธนชาตมีความเข้มแข็ง มั่นคง จึงได้มีการพัฒนากระบวนการประเมินความเพียงพอของ เงินกองทุน (ICAAP) ตามเกณฑ์ Basel II: Pillar 2 ซึง่ จะทำให้ธนาคารธนชาตสามารถบริหารจัดการเงินกองทุนอย่างมีประสิทธิภาพมากยิง่ ขึน้
โครงสร้างในการบริหารจัดการความเสี่ยงของธนาคารธนชาต
ธนาคารธนชาตให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการความเสี่ยง เนื่องจากการดำเนินธุรกิจต้องเผชิญกับปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ อยูต่ ลอดเวลา ทัง้ ปัจจัยภายในและภายนอก ซึง่ อาจส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจของธนาคารธนชาต ดังนัน้ เพือ่ ให้สามารถควบคุม และบริหารความเสีย่ งได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงจัดโครงสร้างการบริหารความเสีย่ งให้อยูภ่ ายใต้การกำกับดูแลของคณะกรรมการต่าง ๆ ดังนี ้
คณะกรรมการในระดับนโยบาย ได้แก่
คณะกรรมการธนาคารธนชาต และคณะกรรมการบริ ห าร มี บ ทบาทในการกำหนดนโยบาย และแนวทางดู แ ล การบริหารความเสี่ยงในลักษณะภาพรวม (Enterprise Wide Risk) ให้มีประสิทธิภาพ และสอดคล้องกับการดำเนินงานของธนาคาร ธนชาตโดยจะพิจารณาถึงผลกระทบต่อเป้าหมายการดำเนินงาน และฐานะการเงินของธนาคารธนชาต คณะกรรมการบริหารความเสี่ยง (Risk Management Committee) มีบทบาทในการกำหนดกลยุทธ์ และพัฒนา กระบวนการบริหารความเสี่ยง รวมทั้งกลั่นกรองนโยบายและแนวทางการบริหารความเสี่ยงให้เหมาะสมเพื่อเสนอต่อคณะกรรมการ บริหาร และคณะกรรมการธนาคารธนชาตพิจารณาอนุมัติ คณะกรรมการตรวจสอบ (Audit Committee) มีบทบาทในการกำหนดแนวทางการกำกับดูแลการปฏิบัติงานให้ถูกต้อง ตามข้อบังคับของทางการที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งตรวจสอบประสิทธิผลและความเพียงพอของกระบวนการบริหารความเสี่ยง และระบบ การควบคุมภายใน 72
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
คณะกรรมการบริหารความปลอดภัยระบบสารสนเทศและเทคโนโลยี (IT Security Management Committee) มีบทบาทในการกำหนดนโยบายความปลอดภัยระบบสารสนเทศ นำเสนอมาตรการป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดจากระบบสารสนเทศ และเทคโนโลยี รวมทั้งติดตาม ดูแล และควบคุมการปฏิบัติงานด้านการรักษาความปลอดภัยระบบสารสนเทศและเทคโนโลยีให้เป็นไป ตามแผนที่วางไว้
คณะกรรมการในระดับปฏิบัติการ ได้แก่
คณะกรรมการบริหารสภาพคล่องและอัตราดอกเบี้ย (Asset and Liability Management Committee) มีบทบาทใน การกำกับดูแลโครงสร้างสินทรัพย์และหนี้สินให้เหมาะสมกับลักษณะธุรกิจ และสอดคล้องกับนโยบายการบริหารความเสี่ยงของธนาคาร ธนชาต คณะกรรมการพิจารณาการลงทุน (Investment Committee) มีบทบาทในการกำกับดูแลการลงทุนในตราสารทางการเงิน ต่าง ๆ ของธนาคารธนชาต ให้สอดคล้องกับนโยบายการบริหารความเสี่ยงด้านตลาดของธนาคารธนชาต คณะกรรมการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อ (Credit Committee) มีบทบาทในการกำกับดูแลการให้สินเชื่อ ธุรกรรมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการให้เครดิตให้สอดคล้องกับนโยบายการบริหารความเสี่ยงด้านเครดิตของธนาคารธนชาต
ภาพแสดงโครงสร้างการบริหารความเสี่ยงของธนาคารธนชาต ข้อมูล ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551 คณะกรรมการธนาคาร สายงานบริหาร ความเสี่ยง
คณะกรรมการ บริหารความเสี่ยง
Head of Risk
คณะกรรมการ ตรวจสอบ
สายงาน ตรวจสอบ ฝ่ายกำกับ กฎระเบียบและ ข้อบังคับ
คณะกรรมการบริหาร
ฝ่ายบริหารความเสี่ยง ฝ่ายวิเคราะห์เครดิต ฝ่ายควบคุมความเสี่ยง กลุ่มแผนรองรับการ ดำเนินธุรกิจต่อเนื่อง
คณะกรรมการ พิจารณาอนุมัติสินเชื่อ
คณะกรรมการ พิจารณาการลงทุน
คณะกรรมการบริหาร สภาพคล่องและ อัตราดอกเบี้ย
คณะกรรมการบริหาร ความปลอดภัยระบบ สารสนเทศและเทคโนโลยี
ประธานเจ้าหน้าที่ บริหาร ประธานเจ้าหน้าที่ ปฏิบัติการ Head of Operation
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
73
• การดำเนินงานต่าง ๆ อยู่ภายใต้โครงสร้างองค์กรที่มีการสอบยันและถ่วงดุลอำนาจ (Check and Balance) มีหน่วยงาน ที่ทำหน้าที่ควบคุมติดตามความเสี่ยง (Middle Office) ได้แก่ ฝ่ายควบคุมความเสี่ยง (Risk Control Department) และหน่วยงาน ที่บันทึกรายการ (Back Office) แยกออกจากหน่วยงานที่ทำธุรกรรม (Front Office) • ธนาคารธนชาตกำหนดนโยบาย และแนวทางการบริหารความเสี่ยงอย่างชัดเจนเป็นลายลักษณ์อักษร ซึ่งได้กำหนด หน้าที่ความรับผิดชอบของหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อให้พนักงานได้ถือปฏิบัติตาม และยังได้กำหนดกระบวนการบริหาร ความเสีย่ งทีถ่ อื เป็นแนวทางปฏิบตั ิ 4 ขัน้ ตอน ได้แก่ 1) การระบุถงึ ลักษณะของความเสีย่ ง และปัจจัยความเสีย่ ง 2) การพัฒนาเครือ่ งมือ และแบบจำลอง (Model) ที่เหมาะสมสำหรับวัดค่าความเสี่ยง 3) การควบคุมความเสี่ยงให้อยู่ในระดับที่ยอมรับได้ และ 4) การติดตาม สถานะความเสี่ยงเพื่อจัดการความเสี่ยงให้ทันต่อสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้น • การกำหนดขนาด และสั ด ส่ ว นค่ า ความเสี่ ย งที่ แ ตกต่ า งกั น ทำให้ ธ นาคารธนชาตสามารถรั บ รู้ ถึ ง ระดั บ ความรุ น แรง ของความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น และเพื่อใช้เป็นเพดานในการควบคุมค่าความเสี่ยงที่สามารถยอมรับได้ และใช้เป็นระดับสัญญาณเตือนภัย ก่อนที่จะเกิดความเสียหายรุนแรง ระบบการบริหารความเสี่ยงข้างต้นมีการพัฒนาขึ้นบนพื้นฐานของหลักความระมัดระวัง มีการปรับปรุงให้เหมาะสมทันต่อ เหตุการณ์ มีความโปร่งใส ชัดเจน สามารถตรวจสอบได้ และมีการคำนึงถึงผลประโยชน์ของผู้ถือหุ้น ลูกค้า และพนักงานเป็นสำคัญ
ประเภทความเสี่ยงที่สำคัญของธนาคารธนชาต มีดังนี ้
1. ความเสี่ยงด้านเครดิต (Credit Risk)
ความเสี่ยงด้านเครดิต คือ ความเสี่ยงที่เกิดจากการที่ลูกหนี้หรือคู่สัญญาไม่สามารถชำระหนี้ หรือปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ได้ ตกลงไว้ โดยอาจเกิดจากการประสบปัญหาทางการเงินของลูกหนี้ จากความผันผวนทางเศรษฐกิจซึง่ ส่งผลกระทบต่อธุรกิจ ความผิดพลาด ในการบริหารจัดการของลูกหนี้ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อรายได้และเงินกองทุนของธนาคารธนชาต ความเสี่ยงดังกล่าวอาจเกิดขึ้นได้ ทั้งจากการทำธุรกรรมทางการเงินโดยปกติ เช่น การให้กู้ยืมหรือให้สินเชื่อ การก่อภาระผูกพันหรือการค้ำประกัน ธุรกรรมอื่น
ที่ เ กี่ ย วข้ อ งกั บ การให้ เ ครดิ ต และการลงทุ น ในหลั ก ทรั พ ย์ ป ระเภทตราสารหนี้ (Market Instrument) ที่ อ อกโดยองค์ ก รของรั ฐ หรือรัฐวิสาหกิจที่รัฐบาล หรือ ธปท.ไม่ค้ำประกัน และองค์กรเอกชน เช่น หุ้นกู้ เป็นต้น ภายใต้นโยบายและแนวทางการบริหารความเสี่ยงด้านเครดิต ธนาคารธนชาตได้สร้างวัฒนธรรมทางด้านเครดิต เริ่มจากการ จัดให้มกี ารประเมินความเสีย่ งด้านเครดิตของผูก้ หู้ รือคูส่ ญ ั ญา หรือผูอ้ อกตราสารประเภทหนี้ โดยใช้แบบวิเคราะห์ความเสีย่ งทีพ่ ฒ ั นาขึน้ ตามความเหมาะสมของประเภทคู่สัญญา และมอบหมายให้หน่วยงานวิเคราะห์สินเชื่อ ซึ่งเป็นหน่วยงานอิสระเป็นผู้ประเมินความเสี่ยง ด้วยแบบวิเคราะห์ดังกล่าว ทั้งนี้ คณะกรรมการที่มีอำนาจในการพิจารณาสินเชื่อจะเป็นผู้พิจารณาตัดสินใจเกี่ยวกับระดับความเสี่ยง ด้านเครดิตของผู้กู้หรือคู่สัญญา วงเงินสินเชื่อหรือลงทุนที่เหมาะสม และเงื่อนไขต่าง ๆ ในการให้สินเชื่อหรือก่อภาระผูกพัน รวมทั้ง ควบคุมสถานะความเสีย่ งทัง้ ในระดับภาพรวม ด้วยการกระจายความเสีย่ งทางด้านสินเชือ่ ไปยังแต่ละส่วนธุรกิจ และกลุม่ ลูกค้าต่าง ๆ กัน อย่างเหมาะสม ภายใต้ระดับเพดานความเสีย่ งทีก่ ำหนดไว้ ตลอดจนติดตามดูแลคุณภาพสินเชือ่ ให้มกี ารจัดการอย่างเหมาะสม ดำเนินการ ด้วยความระมัดระวัง รอบคอบ เน้นการพิจารณาศักยภาพของธุรกิจ และความสามารถในการชำระหนีค้ นื เป็นปัจจัยสำคัญ โดยมีหน่วยงาน ควบคุมความเสี่ยงซึ่งเป็นหน่วยงานอิสระทำหน้าที่ตรวจสอบการทำธุรกรรมด้านเครดิตให้เป็นไปตามนโยบายและแนวทางบริหาร ความเสี่ยงด้านเครดิต และมีหน่วยงานตรวจสอบติดตามให้มีการสอบทานสินเชื่อตามแนวทางของ ธปท. เพือ่ ให้ผลตอบแทนสอดรับกับความเสีย่ งทีไ่ ด้รบั ธนาคารธนชาตมีการนำเครือ่ งมือในการวัดผลตอบแทนหลังหักค่าความเสีย่ ง ต่อเงินกองทุนหรือ RAROC (Risk Adjusted Return on Capital) มาใช้ นอกจากนี้ ธนาคารธนชาตจัดให้มีการทดสอบภาวะวิกฤต หรือ Stress test เพื่อคาดการณ์ความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นในภาวะวิกฤตที่จะส่งผลให้ลูกหนี้มีความสามารถในการชำระหนี้ลดลง หรือไม่สามารถชำระหนี้ตามเงื่อนไขที่กำหนดในสัญญาตามสมมติฐาน และปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ ที่กำหนดขึ้นให้มีผลกระทบต่อการ ทำธุรกิจในภาคอุตสาหกรรมที่ลูกหนี้ดำเนินธุรกิจอยู่
74
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
ปัจจัยความเสี่ยงด้านเครดิตที่สำคัญ มีดังนี้ 1.1 ความเสี่ยงจากการกระจุกตัวของสินเชื่อ ธนาคารธนชาตมีเป้าหมายในการกระจายสินเชือ่ ให้แก่กลุม่ ลูกค้าต่าง ๆ อย่างเหมาะสม เน้นในกลุม่ ลูกค้าทีม่ ศี กั ยภาพดี และควบคุมไม่ให้เกิดการกระจุกตัวในกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งมากจนเกินไป มีการบริหารความเสี่ยง Portfolio ของสินเชื่อโดยรวม มีการ ติ ด ตามวิ เ คราะห์ และรายงานผลต่ อ คณะกรรมการที่ เ กี่ ย วข้ อ งอย่ า งสม่ ำ เสมอ ทั้ ง นี้ เพื่ อ ลดความเสี่ ย งอั น เกิ ด ขึ้ น จากปั จ จั ย อื่ น
ที่ไม่สามารถควบคุมได้มากระทบกับธุรกิจกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ที่ได้รับการสนับสนุนสินเชื่อจากธนาคารธนชาตในสัดส่วนที่มากเกินไป สถานะเงินให้สินเชื่อ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551 และ 31 ธันวาคม 2550 จำแนกตามประเภทธุรกิจ ดังนี ้
ประเภทธุรกิจ บริษัทใหญ่และบริษัทที่เกี่ยวข้องกัน การเกษตรและเหมืองแร่ อุตสาหกรรมการผลิตและการพาณิชย์ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และการก่อสร้าง การสาธารณูปโภคและบริการ เงินให้กู้ยืมเพื่อที่อยู่อาศัย เงินให้กู้ยืมเพื่อเช่าซื้อ อื่น ๆ รวมเงินให้สินเชื่อและดอกเบี้ยค้างรับ
2551 มูลหนี้ (ล้านบาท) ร้อยละ 12,815 1,152 12,819 14,625 13,015 7,393 198,344 13,065 273,228
4.69 0.42 4.69 5.35 4.76 2.71 72.59 4.78 100.00
2550 มูลหนี้ (ล้านบาท) ร้อยละ 21,668 1,274 7,033 6,115 7,377 7,742 162,205 11,735 225,149
9.62 0.57 3.12 2.72 3.28 3.44 72.04 5.21 100.00
จากข้อมูลสินเชื่อโดยรวมพบว่า ธนาคารธนชาตมีการขยายสินเชื่อเช่าซื้ออย่างต่อเนื่อง ทำให้สัดส่วนเงินให้กู้ยืมเพื่อเช่าซื้อ เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 72.04 ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2550 เป็นร้อยละ 72.59 ของยอดรวมเงินให้สินเชื่อและดอกเบี้ยค้างรับ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551 อย่างไรก็ตาม สินเชื่อเช่าซื้อส่วนใหญ่เป็นสินเชื่อเช่าซื้อสำหรับบุคคลธรรมดา ซึ่งจะมีวงเงินไม่สูงมากนักและ มีการกระจายตัวของลูกหนี้ 1.2 ความเสี่ยงจากการด้อยคุณภาพของสินเชื่อ สินเชื่อด้อยคุณภาพ ได้แก่ สินเชื่อจัดชั้นต่ำกว่ามาตรฐาน สงสัย และสงสัยจะสูญ เป็นปัญหาหลักของแต่ละสถาบัน การเงิน เพราะส่งผลกระทบต่อรายได้และเงินกองทุนของธนาคารธนชาต ซึ่งธนาคารธนชาตได้ให้ความสำคัญ และพยายามควบคุม คุณภาพของสินเชื่อด้วยการกำหนดนโยบาย และขั้นตอนในการติดตามคุณภาพของสินเชื่ออย่างสม่ำเสมอ สัดส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551 เทียบกับงวดเดียวกันของปี 2550 เป็นดังนี ้
สินเชื่อจัดชั้น ต่ำกว่ามาตรฐาน สงสัย สงสัยจะสูญ รวม
2551 มูลหนี้ (ล้านบาท) ร้อยละ 1,547 1,629 4,029 7,205
2550 มูลหนี้ (ล้านบาท) ร้อยละ 1,299 1,614 2,335 5,248
21.47 22.61 55.92 100.00
24.75 30.75 44.50 100.00
ธนาคารธนชาตมีปริมาณสินเชื่อด้อยคุณภาพเพิ่มขึ้นจาก 5,248 ล้านบาท ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2550 เป็น 7,205 ล้านบาท ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551 เป็นผลจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว เมื่อพิจารณาจากภาพรวมของสินเชื่อ สินเชื่อด้อยคุณภาพมีสัดส่วน เท่ากับร้อยละ 2.64 ของยอดรวมเงินให้สินเชื่อ และดอกเบี้ยค้างรับ เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 2.33 ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2550 และสามารถ จำแนกตามประเภทธุรกิจได้ดังนี้
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
75
สินเชื่อด้อยคุณภาพจำแนกตามประเภทธุรกิจ
ประเภทธุรกิจ การเกษตรและเหมืองแร่ อุตสาหกรรมการผลิตและการพาณิชย์ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และการก่อสร้าง การสาธารณูปโภคและบริการ เงินให้กู้ยืมเพื่อที่อยู่อาศัย เงินให้กู้ยืมเพื่อเช่าซื้อ อื่น ๆ รวมเงินให้สินเชื่อและดอกเบี้ยค้างรับ
2551 มูลหนี้ (ล้านบาท) ร้อยละ 9 909 856 141 418 3,735 1,137 7,205
0.12 12.62 11.88 1.96 5.80 51.84 15.78 100.00
2550 มูลหนี้ (ล้านบาท) ร้อยละ - 725 863 206 367 2,301 786 5,248
0.00 13.81 16.44 3.93 6.99 43.85 14.98 100.00
ณ วั น ที่ 31 ธันวาคม 2551 ธนาคารธนชาตไม่มีความเสี่ยงด้านเครดิตที่อาจเกิดจากหนี้สินเชื่อด้อยคุณภาพในส่วน ที่หลักประกันไม่คุ้มวงเงินภายหลังจากหักสำรองหนี้สูญ เนื่องจากธนาคารธนชาตมีการตั้งสำรองทั้งจำนวนในสินเชื่อด้อยคุณภาพ ส่วนที่หลักประกันไม่คุ้ม ตามมาตรฐานการบัญชีสากล ฉบับที่ 39 (IAS39) (หน่วย : ล้านบาท)
2551 สินเชื่อด้อยคุณภาพ หนี้ส่วนที่หลักประกันไม่คุ้ม สำรองหนี้สูญ หนี้ส่วนที่หลักประกันไม่คุ้มหลังหักสำรองหนี้สูญ
2550
เปลี่ยนแปลง
7,205 5,248 1,957 5,338 3,423 1,915 5,338 3,423 1,915 - - -
การปรับโครงสร้างหนี้ที่มีปัญหา (หน่วย : ล้านบาท)
จำนวนลูกหนี้ (ราย) ยอดเงินต้นและดอกเบี้ยคงค้าง หนี้ส่วนที่หลักประกันไม่คุ้ม ค่าเผื่อการปรับมูลค่าจากการปรับโครงสร้างหนี้ เงินให้สินเชื่อและดอกเบี้ยค้างรับ ยอดหนี้ปรับโครงสร้างต่อสินเชื่อรวม (ร้อยละ)
2551
2550
381 2,645 883 20 273,228 0.97
292 2,698 777 10 225,149 1.20
ความเสี่ยงจากการปรับโครงสร้างหนี้เป็นความเสี่ยงจากลูกหนี้ด้อยคุณภาพย้อนกลับ นั่นคือ หลังจากปรับโครงสร้างหนี้ ลูกหนี้มีการผิดสัญญาและกลับมาเป็นลูกหนี้ด้อยคุณภาพอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งจะส่งผลกระทบกับธนาคารธนชาต ในส่วนของการปรับ โครงสร้างหนี้ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551 ลูกหนี้ที่ได้ทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้มียอดเงินต้นและดอกเบี้ยคงค้างเป็นจำนวนเงินรวม 2,645 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 0.97 ของยอดรวมเงินให้สินเชื่อและดอกเบี้ยค้างรับ ลดลงจาก 2,698 ล้านบาท ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2550 โดยยอดรวมของหนี้ปรับโครงสร้างดังกล่าวหากคำนวณสุทธิจากหลักประกันจะมีมูลค่ารวมประมาณ 883 ล้านบาท 1.3 ความเสี่ยงจากหลักประกัน สำหรับการให้สินเชื่อที่มีหลักทรัพย์เป็นหลักประกัน ธนาคารธนชาตกำหนดให้มีการวิเคราะห์ และจัดระดับคุณภาพ ของหลักประกันแต่ละประเภท โดยพิจารณาถึงสภาพคล่องและความเสี่ยงของหลักประกันนั้น และนำผลการวิเคราะห์ดังกล่าวไปใช้เป็น 76
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
ปัจจัยหนึ่งในการจัดระดับความเสี่ยงของสินเชื่อ ทั้งนี้ หลักประกันดังกล่าวไม่ว่าจะเป็นอสังหาริมทรัพย์ หรือสังหาริมทรัพย์ที่ประเมิน ราคาได้ต้องมีการประเมินราคาหรือตีราคาหลักประกันตามหลักเกณฑ์ที่ ธปท. กำหนดไว้ ในช่วงที่ผ่านมาธุรกรรมสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ของธนาคารธนชาตมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ซึ่งตามประกาศ ธปท. เรื่อง สินทรัพย์ไม่มีราคาหรือเรียกคืนไม่ได้ เมื่อเดือนธันวาคม 2549 ได้กำหนดเกณฑ์การกันสำรองให้สอดรับ IAS 39 สามารถนับรถยนต์ เป็นหลักประกันได้ ซึง่ รถยนต์ถอื เป็นกรรมสิทธิข์ องธนาคารธนชาต หากลูกหนีไ้ ม่สามารถชำระหนีไ้ ด้ ธนาคารธนชาตสามารถดำเนินการ ครอบครองสินทรัพย์ได้ในทันทีเพื่อขายต่อในตลาดรถยนต์ใช้แล้ว ดังนั้น ธนาคารธนชาตอาจมีความเสี่ยงจากการไม่สามารถยึดรถยนต์ ที่เป็นหลักประกันได้ รวมทั้งความเสี่ยงจากการจำหน่ายรถยนต์แต่ไม่สามารถชดเชยความเสียหายที่เกิดขึ้น ทั้งนี้ ขึ้นกับปัจจัยเสี่ยง เช่น สภาวะตลาดรถยนต์ใช้แล้ว สภาพของรถยนต์ที่ได้ยึดมา เป็นต้น 1.4 ความเสี่ยงจากการด้อยค่าของทรัพย์สินรอการขาย ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551 ธนาคารธนชาตมีทรัพย์สินรอการขายมูลค่าราคาต้นทุนทางบัญชีสุทธิหลังหักค่าเผื่อ การด้อยค่าจำนวน 1,541 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 0.42 ของสินทรัพย์รวม มีค่าเผื่อการด้อยค่าร้อยละ 9.14 ของมูลค่าราคาต้นทุน
ทางบัญชี 1.5 ความเสี่ยงจากการค้ำประกันและการอาวัล ธนาคารธนชาตได้ให้บริการกับลูกค้าทีก่ อ่ ให้เกิดภาระผูกพันจากการรับอาวัลตัว๋ เงิน เล็ตเตอร์ออฟเครดิต การค้ำประกัน การกู้ยืมเงิน ซึ่งธนาคารธนชาตมีความเสี่ยงจากการที่ธนาคารต้องเข้าไปรับผิดชอบแทนลูกค้าในกรณีที่ลูกค้าไม่สามารถปฏิบัติตาม สัญญา สำหรับความเสีย่ งทีเ่ กิดจากการค้ำประกันและการอาวัล ธนาคารธนชาตได้ดแู ลและควบคุมความเสีย่ งดังกล่าวด้วยการตรวจสอบ ข้อมูล โดยใช้หลักเกณฑ์การพิจารณาอนุมัติที่เข้มงวด ตลอดจนควบคุมและติดตามโดยใช้แนวทางเดียวกับการให้สินเชื่อตามปกติของ ธนาคารธนชาต ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551 ธนาคารธนชาตมีภาระผูกพันจากการรับอาวัลตั๋วเงิน และการค้ำประกันการกู้ยืมเงิน จำนวน 4,296 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 1.17 ของสินทรัพย์ทั้งหมด 2. ความเสี่ยงด้านตลาด (Market Risk) ความเสี่ ย งด้ า นตลาด คื อ ความเสี่ ย งที่ เ กิ ด จากการเคลื่ อ นไหวของอั ต ราดอกเบี้ ย อั ต ราแลกเปลี่ ย นเงิ น ต่ า งประเทศ เงินกองทุน และราคาตราสารในตลาดเงินตลาดทุนที่มีผลกระทบในทางลบต่อรายได้ของธนาคารธนชาต โดยแบ่งออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่ ความเสี่ยงด้านราคา ความเสี่ยงด้านอัตราดอกเบี้ย และความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน โดยธนาคารธนชาตมีนโยบายในการ ควบคุมและจัดการความเสี่ยงให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม และเป็นไปตามนโยบายการบริหารความเสี่ยงของธนาคารธนชาต 2.1 ความเสี่ยงด้านราคา (Price Risk) เป็นความเสี่ยงที่รายได้หรือเงินกองทุนได้รับผลกระทบในทางลบ เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของราคาตราสารหนี้ และตราสารทุนทำให้มูลค่าของเงินลงทุนเพื่อค้าและเผื่อขายของธนาคารธนชาตลดลง ธนาคารธนชาตได้พัฒนาเครื่องมือในการวัดความเสี่ยงโดยใช้แบบจำลองของ Value-at-Risk (VaR Model) เพื่อวัดผล ขาดทุนสูงสุด ณ ระดับความเชื่อมั่นหนึ่ง ๆ หากถือครองหลักทรัพย์ในช่วงระยะเวลาที่กำหนด โดยธนาคารธนชาตได้ใช้ค่าความเสี่ยง ที่คำนวณได้เป็นแนวทางในการกำหนดระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ และมอบหมายให้คณะกรรมการพิจารณาการลงทุนเป็นผู้ควบคุม และติดตามความเสี่ยงด้านนี้ ทั้งนี้ เพื่อให้มั่นใจว่าเครื่องมือดังกล่าวมีประสิทธิภาพและมีความแม่นยำ ธนาคารธนชาตกำหนดให้มีการ ทดสอบเครื่องมือด้วยการทำ Backtesting โดยใช้เกณฑ์มาตรฐานที่ Bank for International Settlement (BIS) กำหนด นอกจากนี้ ธนาคารธนชาตมีการจำลองเหตุการณ์รุนแรงอื่น ๆ ที่อาจส่งผลกระทบต่อการลดลงของราคาหลักทรัพย์ในตลาดอย่างรุนแรงเฉียบพลัน หรือทำการทดสอบภาวะวิกฤต (Stress Test) เพื่อให้คาดการณ์ได้ว่าความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นมีผลต่อรายได้และเงินกองทุนอย่างไร
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
77
ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551 เงินลงทุนที่มีไว้เพื่อค้าและเผื่อขายของธนาคารธนชาตจำแนกตามประเภทเงินลงทุน เป็นดังนี้ (หน่วย : ล้านบาท)
มูลค่ายุติธรรม 2551 2550 เงินลงทุนชั่วคราว เงินลงทุนเพื่อค้า เงินลงทุนเผื่อขาย หลักทรัพย์รัฐบาลและรัฐวิสาหกิจ ตราสารหนี้ภาคเอกชน รวมเงินลงทุนเพื่อค้าและเผื่อขายชั่วคราว เงินลงทุนระยะยาว เงินลงทุนเผื่อขาย หลักทรัพย์รัฐบาลและรัฐวิสาหกิจ ตราสารหนี้ภาคเอกชน ตราสารทุนในความต้องการของตลาดในประเทศ หลักทรัพย์จดทะเบียน หน่วยลงทุน รวมเงินลงทุนเพื่อค้าและเผื่อขายระยะยาว รวมเงินลงทุนเพื่อค้าและเผื่อขาย
- 1,977 427 2,404 693 2,838 253 376 4,160 6,564
- 101 32 133 474 1,275 407 877 3,033 3,166
จากการที่ อั ต ราดอกเบี้ ย ในตลาดมี แ นวโน้ ม ปรั บ ตั ว ลดลง ธนาคารธนชาตจึ ง ได้ เ พิ่ ม การลงทุ น ในพั น ธบั ต รรั ฐ บาลและ รัฐวิสาหกิจ และตราสารหนี้ภาคเอกชนระยะยาวมากขึ้น ประกอบกับความผันผวนของราคาหลักทรัพย์เพิ่มสูงขึ้นจากวิกฤตการเงิน
ที่ลุกลามไปทั่วโลก ธนาคารธนชาตจึงได้ลดการลงทุนในตราสารทุน โดยรวมจึงทำให้ค่าความเสี่ยงด้านราคาปรับลดลงเล็กน้อย เมื่อเทียบกับปีก่อน 2.2 ความเสี่ยงด้านอัตราดอกเบี้ย (Interest Rate Risk) เป็นความเสี่ยงที่รายได้หรือเงินกองทุนได้รับผลกระทบในทางลบจากการเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยของรายการ สินทรัพย์ หนี้สิน และรายการนอกงบดุลทั้งหมดที่มีความอ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ย (Rate Sensitive Items) ในระยะเวลาต่าง ๆ กัน ในระดับที่ไม่เหมาะสม ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ (Net Interest Income) ของธนาคารธนชาต ธนาคารธนชาตมีเป้าหมายที่จะดำเนินงานภายใต้ระบบบริหารความเสี่ยงด้านอัตราดอกเบี้ยที่มีประสิทธิภาพระยะยาว คือ สามารถรักษาระดับความสัมพันธ์ของสัดส่วนโครงสร้างของสินทรัพย์และหนี้สินที่อ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ยในช่วงระยะเวลาต่าง ๆ ให้อยูใ่ นระดับทีเ่ หมาะสำหรับการดำเนินงาน และให้เกิดประโยชน์สงู สุดต่อธนาคารธนชาตและผูถ้ อื หุน้ ธนาคารธนชาตจึงพัฒนาเครือ่ งมือ
ที่ใช้วัดความเสี่ยงด้านอัตราดอกเบี้ย เพื่อให้สามารถวิเคราะห์ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากความเหลื่อมล้ำระหว่างระยะเวลาของการ ปรับอัตราดอกเบีย้ (Reprice) ในสินทรัพย์ หนีส้ นิ และภาระผูกพันในแต่ละช่วงเวลา (Interest Rate Gap Analysis) เพือ่ ให้การดำเนินงาน ของธนาคารธนชาตมีความเสี่ยงอยู่ในขอบเขตที่สามารถยอมรับได้ จึงได้จัดให้มีการกำหนดระดับเพดานความเสี่ยง และระดับสัญญาณ เตือนภัยที่ยอมรับได้ โดยพิจารณาจากโครงสร้างของสินทรัพย์ หนี้สิน และภาระผูกพัน รวมทั้งการปรับเปลี่ยนอัตราดอกเบี้ย (Reprice) ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในแต่ละช่วงเวลาตามแผนธุรกิจของธนาคารธนชาต และมอบหมายให้คณะกรรมการบริหารสภาพคล่องและ อัตราดอกเบี้ย ควบคุมและติดตามความเสี่ยงอย่างใกล้ชิด โดยมีการติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจ ภาวะตลาดเงินและตลาดทุน และ ทิศทางอัตราดอกเบี้ยที่อาจเป็นสาเหตุของปัจจัยความเสี่ยงด้านอัตราดอกเบี้ย เพื่อกำหนดมาตรการต่าง ๆ ในการรองรับความเสี่ยง
78
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
สินทรัพย์และหนี้สินทางการเงิน ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551 วิเคราะห์ตามระยะเวลาที่จะมีการเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ย ตามสัญญาของสินทรัพย์และหนี้สินทางการเงินของธนาคารธนชาต ดังนี้ (หน่วย : ล้านบาท)
รายการ สินทรัพย์ทางการเงิน เงินสด รายการระหว่างธนาคารและตลาดเงิน หลักทรัพย์ซื้อโดยมีสัญญาขายคืน เงินลงทุน เงินให้สินเชื่อ รวมสินทรัพย์ทางการเงิน หนี้สินทางการเงิน เงินฝาก รายการระหว่างธนาคารและตลาดเงิน หนี้สินจ่ายคืนเมื่อทวงถาม เงินกู้ยืม รวมหนี้สินทางการเงิน
ระยะเวลาการกำหนดอัตราดอกเบี้ยใหม่หรือวันครบกำหนด เมื่อทวงถาม 0 - 3 เดือน 3 - 12 เดือน 1 - 5 ปี เกิน 5 ปี ไม่มีดอกเบี้ย - - 147 59,107 - - - 1,877 50,803 6,276 50,950 67,260 76,547 108,104 5,432 1,211 - - 2 38,750 81,981 148,065
- - - - - - 7,448 11,316 11,880 162,548 19,328 173,864 85,482 42 388 - - - 9,176 9,360 95,046 9,402
- - - 575 40,508 41,083 - - - 5,000 5,000
4,017 4,272 - 5,612 910 14,811 657 638 1,317 - 2,612
รวม 4,017 63,526 - 26,828 272,925 367,296 270,832 7,669 1,317 62,288 342,106
จากโครงสร้างสินทรัพย์และหนี้สินทางการเงินข้างต้น หากอัตราดอกเบี้ยในตลาดปรับเพิ่มขึ้นจากระดับปัจจุบันจะทำให้
มีรายได้ดอกเบี้ยสุทธิสำหรับช่วงเวลา 1 ปีข้างหน้าปรับลดลง อันเนื่องมาจากการขยายธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อของธนาคารธนชาต ซึ่งอ้างอิงอัตราดอกเบี้ยคงที่ 2.3 ความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน (Exchange Rate Risk) เป็ น ความเสี่ ย งที่ ร ายได้ ห รื อ เงิ น กองทุ น ของธนาคารธนชาตได้ รั บ ผลกระทบในทางลบ เนื่ อ งจากความผั น ผวน ของอัตราแลกเปลี่ยนจากการทำธุรกรรมในสกุลเงินต่างประเทศ หรือจากการมีสินทรัพย์หรือหนี้สินในสกุลเงินต่างประเทศ แบ่งเป็น ความเสี่ยงที่เกิดจากการทำธุรกรรมสกุลเงินต่างประเทศ (Transaction Risk) และความเสี่ยงที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงมูลค่า จากสกุลเงินต่างประเทศเป็นสกุลเงินท้องถิ่น (Translation Risk) ธนาคารธนชาตมอบหมายให้คณะกรรมการบริหารสภาพคล่องและอัตราดอกเบี้ย (ALCO) เป็นผู้ควบคุมและติดตาม ความเสี่ยงประเภทนี้ โดยการพิจารณาถึงความสอดคล้องระหว่างโครงสร้าง และอายุครบกำหนดของสินทรัพย์และหนี้สินที่เป็น เงินตราต่างประเทศ ประกอบกับธนาคารธนชาตมีนโยบายในการกำหนดระดับเพดานความเสี่ยงเพื่อควบคุมผลกระทบของการ เปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยนต่อรายได้และเงินกองทุนซึ่งใช้แบบจำลองของ VaR เป็นเครื่องมือในการวัดค่าความเสี่ยงดังกล่าว อย่างไรก็ดี เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น ธนาคารธนชาตมีนโยบายที่จะปิดความเสี่ยงโดยใช้เครื่องมือทางการเงิน เช่น สัญญา แลกเปลี่ยนล่วงหน้า เป็นต้น ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551 ธนาคารธนชาตมีความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนในระดับต่ำ เนื่องจากสินทรัพย์ที่เป็นเงินตรา ต่างประเทศส่วนใหญ่ ธนาคารธนชาตได้ทำสัญญาแลกเปลี่ยนล่วงหน้าเพื่อป้องกันความเสี่ยงดังกล่าว 3. ความเสี่ยงด้านสภาพคล่อง (Liquidity Risk) ความเสี่ยงด้านสภาพคล่อง คือ ความเสี่ยงที่เกิดจากการที่ธนาคารธนชาตไม่สามารถชำระหนี้สินและภาระผูกพันเมื่อถึง กำหนด เนื่องจากไม่สามารถเปลี่ยนทรัพย์สินเป็นเงินสดได้ หรือไม่สามารถจัดหาเงินทุนได้เพียงพอ หรือสามารถจัดหาเงินทุนได้
แต่ด้วยต้นทุนที่สูงเกินกว่าระดับที่ยอมรับได้ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อรายได้ และเงินกองทุนของธนาคารธนชาตในปัจจุบันและในอนาคต
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
79
โดยกลไกการบริ ห ารความเสี่ ย งจะเริ่ ม จากการประเมิ น กระแสเงิ น สดและฐานะสภาพคล่ อ งในแต่ ล ะช่ ว งเวลาที่ ธ นาคารธนชาต อาจมีความต้องการเงินทุนแตกต่างกัน เพื่อรองรับการถอนเงินฝาก การลดหนี้สินประเภทอื่นลง หรือการเพิ่มขึ้นของสินทรัพย์ โดยใช้ เครื่องมือทั้งที่เป็นแบบจำลองวิเคราะห์สภาพคล่อง (Liquidity Gap Analysis) อัตราส่วนด้านสภาพคล่องต่าง ๆ ตลอดจนการใช้ สถานการณ์จำลองโดยการตั้งสมมติฐาน (“What if” Scenarios) เพื่อวิเคราะห์ถึงผลกระทบว่าธนาคารธนชาตจะยังคงมีสภาพคล่อง ที่ เ พี ย งพอหรื อ ไม่ ภายใต้กระแสเงินสดที่ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมของลูกค้าในการต่ออายุสัญญาเมื่อครบกำหนด นอกจากนี้ ยังได้
ประมาณการความต้องการสภาพคล่องภายใต้สมมติฐานที่แตกต่างกันตามภาวะเศรษฐกิจและเหตุการณ์ไม่ปกติต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นกับ ธนาคารธนชาตเอง และเกิดกับระบบสถาบันการเงิน ขณะเดียวกัน ธนาคารธนชาตมีการจัดทำแผนรองรับเหตุฉุกเฉินไว้รองรับกรณีเกิดปัญหาสภาพคล่องและจะมีการทบทวน เมื่อมีเหตุการณ์สำคัญที่จะมีผลต่อการดำเนินงานตามแผน ทั้งนี้ การควบคุมและติดตามความเสี่ยงด้านสภาพคล่อง ธนาคารธนชาต ได้มอบหมายให้คณะกรรมการบริหารสภาพคล่องและอัตราดอกเบี้ย (ALCO) เป็นผู้รับผิดชอบ ซึ่งจะจัดให้มีการประชุมเพื่อติดตาม สถานะ และบริหารจัดการความเสี่ยงเป็นประจำทุกสัปดาห์ โครงสร้างแหล่งเงินทุนของธนาคารธนชาตซึ่งจำแนกตามประเภทของแหล่งที่มาของเงินทุนและระยะเวลาของแหล่งเงินทุน เป็นดังนี้ เงินทุนจำแนกตามประเภทของแหล่งเงินทุน (หน่วย : ล้านบาท)
เงินฝาก รายการระหว่างธนาคารและตลาดเงินในประเทศ รายการระหว่างธนาคารและตลาดเงินต่างประเทศ เงินกู้ยืม รวม
2551
ร้อยละ
2550
ร้อยละ
270,832 7,662 7 62,288 340,789
79.47 2.25 0.00 18.28 100.00
189,086 3,798 7 71,958 264,849
71.39 1.43 0.00 27.17 100.00
เงินทุนจำแนกตามระยะเวลาของแหล่งเงินทุน (หน่วย : ล้านบาท)
ไม่เกิน 1 ปี เกิน 1 ปี รวม
2551
ร้อยละ
2550
ร้อยละ
325,015 15,774 340,789
95.37 4.63 100.00
250,522 14,327 264,849
94.59 5.41 100.00
ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551 ธนาคารธนชาตมีเงินฝากและเงินกู้ยืมรวม 340,789 ล้านบาท โดยแหล่งเงินทุนส่วนใหญ่ ยังคงเป็นเงินฝากจากประชาชน ซึ่งมีระยะเวลาครบกำหนดตามสัญญาไม่เกิน 1 ปี อันเป็นลักษณะโครงสร้างการทำธุรกิจเป็นปกติ ทางการค้าของธนาคารพาณิชย์ อย่างไรก็ดี ธนาคารธนชาตได้มีการออกผลิตภัณฑ์ตั๋วแลกเงินและหุ้นกู้ระยะสั้นเพื่อเป็นการเพิ่ม ทางเลือกในการออมเงินให้กับลูกค้า
80
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
สินทรัพย์และหนี้สินทางการเงิน ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551 วิเคราะห์ตามระยะเวลาครบกำหนดตามสัญญา เป็นดังนี้ (หน่วย : ล้านบาท)
รายการ สินทรัพย์ทางการเงิน เงินสด รายการระหว่างธนาคารและตลาดเงิน หลักทรัพย์ซื้อโดยมีสัญญาขายคืน เงินลงทุน เงินให้สินเชื่อ รวมสินทรัพย์ทางการเงิน หนี้สินทางการเงิน เงินฝาก รายการระหว่างธนาคารและตลาดเงิน หลักทรัพย์ขายโดยมีสัญญาซื้อคืน หนี้สินจ่ายคืนเมื่อทวงถาม เงินกู้ยืม รวมหนี้สินทางการเงิน รายการนอกงบดุล การรับอาวัลตั๋วเงิน ภาระตามตั๋วแลกเงินค่าสินค้าเข้าที่ยังไม่ครบกำหนด เล็ตเตอร์ออฟเครดิต การค้ำประกันอื่น ๆ ภาระจากเงินเบิกเกินบัญชีที่ลูกค้ายังไม่ได้ใช้ รวมรายการนอกงบดุล
วันที่ครบกำหนดของเครื่องมือทางการเงิน เมื่อทวงถาม น้อยกว่า 1 ปี มากกว่า 1 ปี ไม่มีกำหนด 4,017 4,419 - - 22,573 31,009 74,010 6,070 - 1,317 2 81,399 - - 48 3,071 4,164 7,283
- 59,107 - 4,248 74,668 138,023 195,408 1,599 - - 47,926 244,933 106 360 616 - - 1,082
- - - 17,008 175,684 192,692 1,414 - - - 14,360 15,774 12 83 - - - 95
- - - 5,572 - 5,572 - - - - - - - - - - - -
รวม 4,017 63,526 - 26,828 272,925 367,296 270,832 7,669 - 1,317 62,288 342,106 118 443 664 3,071 4,164 8,460
ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551 ฐานะสภาพคล่องของธนาคารธนชาต ซึ่งประกอบด้วยเงินสดและเงินฝากธนาคาร เงินให้กู้ยืม ในตลาดเงิน และเงินลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลและรัฐวิสาหกิจ ปรับเพิ่มสูงขึ้นเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 28.88 ของเงินฝากสูงกว่าเกณฑ์การดำรงสภาพคล่องที่ ธปท. กำหนดให้ต้องดำรงไว้ขั้นต่ำที่ร้อยละ 6.00 ของเงินฝาก โดยเป็นผลจากการ เพิ่มจำนวนสาขาทำให้ฐานลูกค้าเงินฝากขยายตัวมากขึ้น 4. ความเสี่ยงด้านปฏิบัติการ (Operational Risk) ความเสีย่ งด้านปฏิบตั กิ าร คือ ความเสีย่ งทีเ่ กิดขึน้ จากการทีธ่ นาคารธนชาตขาดการกำกับดูแลกิจการทีด่ หี รือขาดธรรมาภิบาล ในองค์กร หรือมีระบบการตรวจสอบและระบบควบคุมภายในทีย่ งั ไม่มปี ระสิทธิภาพเพียงพอ โดยอาจเกีย่ วข้องกับกระบวนการปฏิบตั งิ าน ภายใน บุคลากร ระบบเทคโนโลยีและสารสนเทศ หรือเหตุการณ์ภายนอก และส่งผลกระทบต่อรายได้และเงินกองทุนของธนาคาร ธนชาต รวมทั้งชื่อเสียงและความน่าเชื่อถือของธนาคารธนชาต จากการแข่งขันที่เพิ่มขึ้นอย่างมากระหว่างธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงินอื่น ๆ ที่มีบริการทางการเงินในลักษณะ เดียวกับธนาคารธนชาตในปีที่ผ่านมา ประกอบกับการขยายเครือข่ายสาขาของธนาคารธนชาตอย่างรวดเร็ว ตลอดจนการปรับปรุง ประสิทธิภาพในการให้บริการทางการเงินแก่ลูกค้าอย่างครบวงจรและเป็นสากลมากยิ่งขึ้น ทำให้ธนาคารธนชาตตระหนักถึงโอกาสที่จะ เกิดความเสี่ยงด้านปฏิบัติการ จึงให้ความสำคัญกับความเสี่ยงด้านนี้ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าความเสี่ยงด้านอื่น ดังนั้น จึงได้กำหนดมาตรการ ต่าง ๆ เพือ่ ให้มนั่ ใจว่าระบบการควบคุมภายในทีม่ อี ยูย่ งั คงเพียงพอ และเหมาะสมกับการทำธุรกรรมทีเ่ ปลีย่ นแปลงไป พนักงานสามารถ ปฏิบัติงานได้คล่องตัวยิ่งขึ้นโดยจัดให้มีการปรับปรุงขั้นตอนการทำงานภายในให้สอดรับกับรูปแบบของการให้บริการทางการเงิน แต่ละผลิตภัณฑ์ และเพือ่ ให้สามารถควบคุมความเสีย่ งให้อยูใ่ นระดับทีธ่ นาคารธนชาตยอมรับได้ มาตรการดังกล่าวถูกกำหนดกรอบขึน้ ดังนี ้
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
81
• การจั ด โครงสร้ า งองค์ ก ร ธนาคารธนชาตมี ก ารกำหนดบทบาท หน้ า ที่ ความรั บ ผิ ด ชอบของแต่ ล ะตำแหน่ ง งาน ให้มีการสอบยัน และถ่วงดุลอำนาจซึ่งกันและกัน (Check and Balance) โดยแยกหน่วยงานที่ทำธุรกรรม (Front Office) ออกจาก หน่วยงานที่ทำหน้าที่ควบคุมและติดตามความเสี่ยง (Middle Office) ซึ่งได้แก่ ฝ่ายควบคุมความเสี่ยง (Risk Control Department) กับหน่วยงานที่บันทึกรายการ (Back Office) • การจัดให้มีหน่วยงานสนับสนุนการทำธุรกรรม เช่น หน่วยงานคอมพิวเตอร์และระบบสารสนเทศ หน่วยงานกฎหมาย หน่วยงานประเมินราคาที่มีความชำนาญเฉพาะด้านและเป็นอิสระ เพื่อลดความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้น • การจัดให้มีระเบียบปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้องกับการทำธุรกรรมทุกประเภทและคู่มือการปฏิบัติงานของพนักงาน ตลอดจน ระเบียบอำนาจอนุมัติเป็นลายลักษณ์อักษร เพื่อเป็นแนวทางในการทำงานภายในองค์กรให้เป็นมาตรฐานเดียวกันทั้งหมด • การจัดให้มีคณะกรรมการตรวจสอบและคณะกรรมการบริหารความเสี่ยง เพื่อควบคุม ติดตาม และประเมินความเสี่ยง ของธนาคารธนชาต ตรวจสอบข้อผิดพลาด ปรับปรุงแก้ไขจุดบกพร่องให้รัดกุมและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น • การจัดการระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและระบบรักษาความปลอดภัยของข้อมูล เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับ การขยายตัวของธุรกิจ และสร้างความน่าเชื่อถือให้แก่ลูกค้าทั้งด้านเทคโนโลยีและด้านข้อมูล โดยเฉพาะการป้องกันความเสียหาย จากการลักลอบเข้าถึงข้อมูลจากบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้อง • การจัดทำขั้นตอนการคัดสรรการใช้บริการจากผู้ให้บริการรายอื่น (Outsourcing) ทั้งงานด้านบริการและด้านระบบ เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อลดความเสี่ยง อีกทั้งยังเพิ่มประสิทธิภาพและความน่าเชื่อถือในการดำเนินงาน โดยยังอยู่ภายใต้กฎระเบียบ และข้อบังคับต่าง ๆ ของธนาคารธนชาต และหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง • การจัดทำแผนรองรับการดำเนินธุรกิจต่อเนื่อง (Business Continuity Plan) ประกอบด้วยแผนฉุกเฉิน แผนระบบสำรอง และแผนการฟื้นฟูการดำเนินงาน เพื่อควบคุมไม่ให้การดำเนินธุรกิจหยุดชะงัก รวมทั้งจัดให้มีการซักซ้อมเพื่อทดสอบความพร้อม ของแผน และเพื่อการปรับปรุงแผนให้สามารถปฏิบัติงานได้จริงและมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ ในการวัดค่าความเสี่ยง ธนาคารธนชาตมีการคำนวณเงินกองทุนเพื่อรองรับความเสี่ยงประเภทนี้ด้วยวิธีการของ Basic Indicator Approach ตามแนวทาง Basel II ที่ ธปท. ได้ประกาศกำหนดไว้ อย่างไรก็ดี เพือ่ เตรียมความพร้อมให้สอดคล้องกับแผนธุรกิจ และการบังคับใช้ Basel II อย่างจริงจังจากหน่วยงานกำกับดูแลของรัฐในอนาคต ธนาคารธนชาตมีการพัฒนาการจัดเก็บข้อมูล ความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการปฏิบัติงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อใช้เป็นฐานข้อมูลในการพัฒนาเครื่องมือในการวัดความเสี่ยงด้วยวิธี Standardized Approach และวิธี Advanced Measurement Approach ที่แม่นยำกว่า และสะท้อนถึงความเสี่ยงในแต่ละธุรกรรม ได้อย่างแท้จริง
5. ความเสี่ยงจากการลงทุนในบริษัทย่อยและบริษัทร่วม
ความเสี่ยงจากการลงทุนในบริษัทย่อยและบริษัทร่วม เป็นความเสี่ยงที่รายได้หรือเงินกองทุนของธนาคารธนชาต ได้รับ
ผลกระทบในทางลบ มีสาเหตุอันเนื่องมาจากบริษัทย่อยและบริษัทร่วมที่ธนาคารธนชาตเข้าไปถือหุ้นหรือร่วมลงทุนนั้น มีผลประกอบการ ขาดทุนหรือล้มละลาย ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551 ธนาคารธนชาตมีเงินลงทุนในบริษัทย่อยและบริษัทร่วมจำนวน 4,482 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 16.86 ของเงินลงทุนสุทธิ ธนาคารธนชาตมีการลงทุนในบริษัท หลักทรัพย์ ธนชาต จำกัด (มหาชน) มากที่สุด มีมูลค่าการลงทุน 1,858 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 41.45 ของเงินลงทุนในบริษัทย่อยและบริษัทร่วม รองลงมา ได้แก่ บริษัท ธนชาตประกันชีวิต จำกัด มีมูลค่าการลงทุน 936 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 20.88 ดังแสดงในตารางมูลค่าเงินลงทุนในบริษัทย่อยและบริษัทร่วมตามวิธีราคาทุน สิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551
82
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
มูลค่าเงินลงทุนในบริษัทย่อยและบริษัทร่วมตามวิธีราคาทุน (หน่วย : ล้านบาท)
มูลค่าเงินลงทุน 2551
ชื่อบริษัท บริษัท หลักทรัพย์ ธนชาต จำกัด (มหาชน) บริษัท ธนชาตประกันภัย จำกัด บริษัท ธนชาตประกันชีวิต จำกัด บริษัท หลักทรัพย์จัดการกองทุน ธนชาต จำกัด บริษัท ธนชาตกรุ๊ป ลีสซิ่ง จำกัด อื่น ๆ รวม
1,858 867 936 97 400 324 4,482
6. ความเสี่ยงด้านกลยุทธ์ (Strategic Risk)
ความเสี่ยงด้านกลยุทธ์ คือ ความเสี่ยงที่เกิดจากการกำหนดแผนกลยุทธ์ แผนดำเนินงาน และการนำไปปฏิบัติไม่เหมาะสม หรือไม่สอดคล้องกับปัจจัยภายใน และสภาพแวดล้อมภายนอกอันส่งผลกระทบต่อรายได้ เงินกองทุนหรือการดำรงอยูข่ องธนาคารธนชาต ในการบริหารความเสี่ยงด้านกลยุทธ์ ธนาคารธนชาตจัดให้มีการทำแผนกลยุทธ์สำหรับช่วงเวลา 3 ปีข้างหน้า และจัดให้มีการทบทวน แผนงานอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง หรือเมื่อมีเหตุการณ์ภายนอกที่อาจส่งผลกระทบถึงการบรรลุเป้าหมายของธุรกิจ โดยคณะกรรมการ บริหารเป็นผู้ติดตามผลการดำเนินงานของหน่วยงานต่าง ๆ เปรียบเทียบกับแผนงานประจำปีที่กำหนดเป้าหมายไว้อย่างสม่ำเสมอ
7. ความเสี่ยงจากมาตรการหรือกฎระเบียบของทางการ
ความเสี่ยงจากมาตรการหรือกฎระเบียบของทางการ เป็นความเสี่ยงที่เกิดจากการปรับปรุง เปลี่ยนแปลงข้อบังคับ กฎหมาย และกฎเกณฑ์ตา่ ง ๆ ของหน่วยงานราชการโดยเฉพาะอย่างยิง่ ธปท. ซึง่ การเปลีย่ นแปลงนโยบายแต่ละครัง้ อาจส่งผลกระทบต่อกลยุทธ์ และการดำเนินธุรกิจของธนาคารธนชาต ธนาคารธนชาตได้จำแนกผลกระทบจากมาตรการหรือกฎระเบียบของทางการ ดังนี้ 7.1 ผลกระทบจาก พ.ร.บ. สถาบันคุ้มครองเงินฝาก จากการที่ พ.ร.บ. สถาบันคุ้มครองเงินฝาก เริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 11 สิงหาคม 2551 ส่งผลให้การฝากเงิน ทั้งสกุลเงินบาทและเงินต่างประเทศในระบบสถาบันการเงิน ซึ่งปัจจุบันได้รับความคุ้มครองแบบเต็มรูปแบบ เต็มจำนวนทั้งเงินต้นและ ดอกเบี้ย (Full Blanket Guarantee) จากกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน เป็นการให้ความคุ้มครองโดยมีขอบข่าย ชัดเจน มีการระบุวงเงินคุ้มครอง ขอบข่ายการประกัน ประเภทของเงินฝากที่กฎหมายให้ความคุ้มครอง ผลจากการบังคับใช้ พ.ร.บ. จะเป็นผลดีต่อผู้ฝากเงินให้คำนึงถึงความเสี่ยง และสนใจที่จะตรวจสอบข้อมูลและการดำเนินงานของสถาบันการเงินมากขึ้น จากเดิม
ที่อาจจะพิจารณาเพียงอัตราผลตอบแทนด้านเดียว ขณะที่แต่ละสถาบันการเงินก็จำเป็นต้องพัฒนาการดำเนินงานให้มีประสิทธิภาพ มีฐานะการเงินเข้มแข็งเป็นที่ยอมรับของลูกค้า ซึ่งในช่วงแรกของการออก พ.ร.บ. ดังกล่าว เป็นผลให้ธนาคารธนชาตเผชิญกับการ เคลือ่ นย้ายเงินของลูกค้าเงินฝากบางส่วน ซึง่ ไม่สง่ ผลกระทบต่อฐานะสภาพคล่องของธนาคารธนชาตแต่อย่างใด ถึงกระนัน้ ก็ตาม ภายหลัง จากที่ทางการมีการประชาสัมพันธ์ให้ความรู้ความเข้าใจแก่ประชาชนมากขึ้น ประกอบกับภาวะเศรษฐกิจผันผวนที่เกิดขึ้นในช่วงปลาย ปีทผี่ า่ นมา ทำให้ทางการได้ขยายระยะเวลาคุม้ ครองเงินฝากทัง้ จำนวน ออกไปอีกเป็นเวลา 3 ปี ผูฝ้ ากเงินจึงมีการทยอยนำเงินกลับมาฝาก ที่ธนาคารที่ตนเห็นว่ามีความเข้มแข็ง อย่างไรก็ดี ธนาคารธนชาตมีการบริหารความเสี่ยงเพื่อรองรับผลของ พ.ร.บ. ในอนาคต ด้วยการขยายสาขาเพื่อขยายฐานลูกค้าเงินฝากรายย่อยให้มากขึ้น พร้อมกับพัฒนาผลิตภัณฑ์บริการทางด้านเงินฝากและการลงทุน
ให้ตอบสนองความต้องการของลูกค้ารายใหญ่ และเสริมสร้างการกำกับดูแลกิจการทีด่ ี เพือ่ สร้างความมัน่ คงระยะยาวให้แก่ธนาคารธนชาต ในอันที่จะลดผลกระทบจากการเคลื่อนย้ายเงินฝากของลูกค้ารายใหญ่ เมื่อกฎหมายดังกล่าวมีผลให้เงินฝากได้รับความคุ้มครอง เหลือเพียงบัญชีละไม่เกิน 1 ล้านบาท
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
83
7.2 ผลกระทบจาก พ.ร.บ. ธุรกิจสถาบันการเงิน ตามที่ พ.ร.บ. ธุรกิจสถาบันการเงิน มีผลใช้บังคับในวันที่ 3 สิงหาคม 2551 และ ธปท. ได้ออกประกาศที่เกี่ยวข้อง เพื่อกำกับดูแลการดำเนินกิจการของสถาบันการเงินให้มีฐานะการดำเนินงานที่เข้มแข็ง และมีระบบการบริหารความเสี่ยงที่มีมาตรฐาน เป็นสากล สามารถสร้างความเชือ่ มัน่ ให้แก่ประชาชนและผู้ฝากเงินที่มีต่อระบบสถาบันการเงินได้โดยรวม ส่งผลให้ธนาคารธนชาตมีการ ทบทวนและปรับปรุงแนวทางการบริหารความเสี่ยงโดยภาพรวมให้สอดคล้องกับ พ.ร.บ. ดังกล่าวให้ชัดเจนยิ่งขึ้นในส่วนที่เกี่ยวข้อง กับการดำรงเงินกองทุนและสินทรัพย์ การลงทุนและการประกอบธุรกิจของธนาคารธนชาต ข้อห้ามในการทำธุรกรรมบางประเภทที่อาจ เข้าข่ายเป็นการเอื้อผลประโยชน์แก่บุคคลที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการกำกับดูแลการดำเนินงานของกลุ่มธุรกิจทางการเงินเดียวกัน ทั้งนี้ การบริหารความเสี่ยงดังกล่าวยังอยู่ภายใต้โครงสร้างการบริหารความเสี่ยงที่มีการแยกหน่วยงาน Front Office และ Back Office ออกจากกัน เพือ่ สอบทานความถูกต้องของรายการและถ่วงดุลอำนาจซึง่ กันและกัน โดยมีหน่วยงานควบคุมความเสีย่ ง และหน่วยงานกลาง อื่น ๆ เช่น หน่วยงานกำกับกฎระเบียบและข้อบังคับ ที่ทำหน้าที่ควบคุมความเสี่ยงให้เป็นไปตามแนวทางที่กำหนดไว้ก่อนทำธุรกรรม
8. ความเสี่ยงจากความเพียงพอของเงินกองทุน
ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551 ธนาคารธนชาตมีเงินกองทุนทั้งสิ้นจำนวน 28,247 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 1 จำนวน 20,261 ล้านบาท และเงินกองทุนชั้นที่ 2 สุทธิจำนวน 7,986 ล้านบาท มีอัตราส่วนการดำรงเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง คิดเป็น ร้อยละ 11.18 เกินกว่าเกณฑ์ขั้นต่ำที่ ธปท. กำหนดไว้ที่ร้อยละ 8.50 ซึ่งนับว่ามีสัดส่วนมากเพียงพอที่จะรองรับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น และการขยายธุรกิจในอนาคต
84
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
กิจกรรมเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อม
นอกจากการดำเนินธุรกิจของกลุ่มธนชาต ที่มุ่งมั่นในการสร้างผลตอบแทนสูงสุดแก่ผู้ถือหุ้นแล้ว เรื่องธรรมาภิบาลและ ความรับผิดชอบต่อสังคมยังเป็นอีกเป้าหมายที่กลุ่มธนชาตได้ให้ความสำคัญ โดยยึดถือเป็นหนึ่งในกลยุทธ์หลัก 6 ประการของกลุ่ม ธนชาต (CEO’s Six-point Agenda) ที่ทุกหน่วยงานต้องให้ความสำคัญ ในการดำเนินงานของกลุ่มธนชาตตลอด 28 ปีที่ผ่านมา ได้ยึดมั่นในความรับผิดชอบที่มีต่อสังคม โดยเชื่อว่าการดำเนินธุรกิจ
ที่มีความรับผิดชอบต่อสังคมจะช่วยให้ธุรกิจมีความยั่งยืนในระยะยาว ซึ่งแม้ว่าจะไม่ได้มีข้อบังคับใด ๆ กำหนดไว้ก็ตาม แต่เป็น
สิ่งที่กลุ่มธนชาตได้ทำด้วยความสมัครใจ โดยมีผู้บริหารระดับสูงขององค์กรเป็นผู้นำในการผลักดันอย่างจริงจัง ซึ่งหลักการของ ความรับผิดชอบต่อสังคมของกลุ่มธนชาตนี้ ดำเนินอยู่ภายใต้หลักการในเรื่องความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม (Corporate Social Responsibility) “CSR” ที่ว่า “เติบโตอย่างยั่งยืนและมีคุณธรรม พร้อมมีส่วนร่วมในการสนับสนุน หรือช่วยเหลือชุมชนท้องถิ่น และสังคมอย่างเข้าใจ ตั้งใจจริง และต่อเนื่อง จากความร่วมมือกับพนักงาน พันธมิตร ชุมชนในท้องถิ่น และสังคม” ทั้งนี้ กลุ่มธนชาต ได้แยกแนวทางในการดำเนินงานในเรื่องความรับผิดชอบต่อสังคม โดยแบ่งเป็นภาพใหญ่ ๆ 2 ด้าน ดังนี้ 1. ในการดำเนินธุรกิจปกติขององค์กร (Socially Responsible Business) ซึ่งเป็นไปตามหลักการในเรื่อง CSR ที่ว่าต้องเติบโตอย่างยั่งยืนและมีคุณธรรม โดยตลอด 28 ปีที่ได้ดำเนินธุรกิจการเงินมานั้น กลุ่มธนชาตได้ยึดมั่นที่จะไม่สนับสนุนธุรกิจ ใดที่ขัดต่อศีลธรรมอันดี หรือเป็นภัยต่อสังคม ซึ่งในการดำเนินธุรกิจโดยปกติที่สะท้อนความรับผิดชอบต่อสังคมที่ได้ยึดถือปฏิบัติมา มีดังนี้ 1.1 การดำเนินงานของทุกบริษัทในกลุ่มธนชาต จะไม่สนับสนุนหรือทำธุรกิจร่วมกับองค์กรใด ๆ ที่ผิดกฎหมาย หรือ
ขัดต่อศีลธรรมอันดี 1.2 เคร่งครัดในจริยธรรมและศีลธรรมอันดี ในทุกระดับขององค์กร 1.3 การขายผลิตภัณฑ์หรือบริการใด ๆ จะต้องเปิดเผยทุกข้อจำกัดหรือเงื่อนไขให้แก่ลูกค้าทราบตั้งแต่แรกอย่างชัดเจน 1.4 ปกป้องข้อมูลที่เป็นเรื่องส่วนตัวของลูกค้า และปฏิบัติตามกฎหมายในเรื่องเกี่ยวกับข้อมูลลูกค้าอย่างเคร่งครัด 1.5 อาคารสถานที่ต้องมีความปลอดภัยในการทำงาน 1.6 ประหยัดพลังงาน อนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และลดการสิ้นเปลืองในการใช้กระดาษ 1.7 ลดการใช้วัสดุที่ก่อให้เกิดมลพิษเป็นอันตรายต่อสุขภาพ 1.8 สนับสนุนความเป็นอยู่ที่ดีของบุคลากร 2. การดำเนินกิจกรรมเพื่อสังคม (CSR Activities) โดยกิจกรรมเหล่านี้อาจเป็นการดำเนินการเอง หรือการชักชวน ผู้ที่มีความเชี่ยวชาญมาร่วมในกิจกรรมช่วยเหลือสังคม ในบางกิจกรรมอาจจะต้องสร้างพันธมิตรในการดำเนินงาน เพื่อให้กิจกรรมนั้น บรรลุจุดหมายอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการชักชวนกลุ่มผู้มีส่วนได้เสีย (Stakeholders) ต่าง ๆ มาร่วมเพื่อให้กิจกรรมเพื่อสังคม ประสบความสำเร็จในวงกว้าง นอกจากนั้นแล้ว ต้องเป็นการให้ที่ตรงจุด โดยเน้นผู้รับเป็นศูนย์กลางของการออกแบบกิจกรรม ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวนี้ แบ่งเป็น 3 ประเภทหลัก ได้แก่ 2.1. กิจกรรมเพื่อสังคมในส่วนกลาง (Central CSR) เป็นโครงการที่ริเริ่มจากส่วนกลาง สำหรับการดำเนินการ อาจจะเป็นการดำเนินการโดยส่วนกลาง หรือมีส่วนร่วมจากแต่ละสำนักงานภาค และฝ่ายเครือข่ายสาขากรุงเทพฯ (Hub) โดยขอบเขต ของกิจกรรมเพื่อความรับผิดชอบต่อสังคมของกลุ่มธนชาต ได้พิจารณาจากความเกี่ยวเนื่อง หรือความผูกพันกับธุรกิจ ทำให้สามารถ แบ่งกิจกรรมออกได้เป็น 4 ประเภทหลัก เพื่อเป็นแนวทางในการดำเนินกิจกรรม ดังนี้ 1. เพื่อการศึกษาหรือการพัฒนาเยาวชน 2. เพื่อสร้างโอกาสให้แก่ผู้ด้อยโอกาสในสังคม 3. เพื่อความปลอดภัยบนท้องถนน และ 4. เพื่อดูแลสิ่งแวดล้อม
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
85
1
1. นายวิ ช า กุ ล กอบเกี ย รติ ผู้ อ ำนวยการอาวุ โ ส
สายงานสื่ อ สารและบริ ห ารแบรนด์ ธนาคารธนชาต
มอบเงิ น 300,000 บาท เพื่ อ สนั บ สนุ น การจั ด ซื้ อ หมวกเหล็ ก กั น กระสุ น ให้ กั บ อาสาสมั ค รทหารพราน
ที่รักษาชายแดนด้านไทย - กัมพูชา
2.2 กิจกรรมเพือ่ สังคมของสำนักงานภาคและสำนักงานเครือข่าย (Hub CSR) มีวตั ถุประสงค์เพือ่ ให้ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) “ธนาคารธนชาต” เป็นส่วนหนึ่งของสังคม และเป็นที่ยอมรับในสังคมที่เราดำเนินธุรกิจอยู่ ดังนั้นกิจกรรมของแต่ละ Hub นั้นจะมีความแตกต่างกันไป ตามความต้องการ หรือวัฒนธรรมท้องถิน่ ในสังคมนัน้ ๆ Hub CSR จึงเป็นกิจกรรมทีศ่ กึ ษา และริเริม่ โดยแต่ละ Hub และจะได้รบั การพิจารณาและอนุมัติจากส่วนกลาง สำหรับการดำเนินกิจกรรมนั้น ดำเนินการโดยสำนักงานภาคแต่ละแห่ง และ ได้รับการสนับสนุนจากส่วนกลาง 2.3 กิจกรรมเพื่อสังคมของบริษัทในกลุ่มธนชาต มีวัตถุประสงค์เพื่อให้บริษัทในกลุ่มธนชาตมีส่วนร่วมในการ ช่วยเหลือสังคม ในปี 2551 กลุม่ ธนชาตได้มคี า่ ใช้จา่ ยในกิจกรรมเพือ่ สังคมและสิง่ แวดล้อมรวมจำนวน 16 ล้านบาท จำแนกเป็น 3 ประเภทหลัก ดังนี ้
กิจกรรมเพือ่ สังคมของ Hub จำนวน 3.90 ล้านบาท
ของบริษทั ในกลุม่ ธนชาต จำนวน 0.50 ล้านบาท กิจกรรมเพือ่ สังคมในส่วนกลาง จำนวน 11.60 ล้านบาท
โดยสามารถแบ่งกลุ่มประเภทกิจกรรมที่กลุ่มธนชาตได้ให้การสนับสนุน ดังนี้ เพือ่ สิง่ แวดล้อม จำนวน 0.55 ล้านบาท ร้อยละ 3 เพือ่ ความปลอดภัยบนท้องถนน จำนวน 0.80 ล้านบาท ร้อยละ 5
เพือ่ ศาสนา จำนวน 0.52 ล้านบาท ร้อยละ 3 อืน่ ๆ จำนวน 0.63 ล้านบาท ร้อยละ 4 เพือ่ การศึกษาและพัฒนาเยาวชน จำนวน 6.10 ล้านบาท ร้อยละ 38
เพือ่ สุขภาพ จำนวน 0.90 ล้านบาท ร้อยละ 6
เพือ่ สังคม จำนวน 6.50 ล้านบาท ร้อยละ 41 86
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
2
3
2. นายศุภเดช พูนพิพัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารธนชาต มอบเงินจำนวน 285,000 บาท เพื่อ สนั บ สนุ น ซื้ อ เครื่ อ งมื อ แพทย์ ใ ห้ กั บ มู ล นิ ธิ ส ถาบั น
มะเร็ ง แห่ ง ชาติ โดยมี น ายแพทย์ ธี ร วุ ฒิ คู ห ะเปรมะ
ผู้อำนวยการสถาบันมะเร็งแห่งชาติ เป็นผู้รับมอบ 3. พนักงานธนาคารธนชาต พูดคุยกับคนชรา ในโอกาส ที่ธนาคารธนชาตนำพนักงานร่วมทำกิจกรรมเยี่ยมเยียน บ้านบางแค 2 ซึง่ เป็นหนึง่ ในโครงการ “ริเริม่ ..เติมเต็ม”
กิจกรรมเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ในปี 2551 มีกิจกรรมที่ดำเนินการสำคัญ ดังนี้ กิจกรรมเพื่อสังคมในส่วนกลาง (Central CSR)
กิจกรรมเพือ่ สังคมในส่วนกลาง (Central CSR) ของธนาคารธนชาต ในปี 2551 แบ่งออกได้เป็น 2 ลักษณะ คือ โครงการหลัก ได้แก่ โครงการ “ริเริ่ม..เติมเต็ม” และกิจกรรมย่อย ๆ ในด้านต่าง ๆ อีกหลากหลายกิจกรรม โดยกิจกรรมเพื่อสังคมในส่วนกลางมักเป็น โครงการที่มีขนาดใหญ่ และเป็นโครงการที่สำนักงานในส่วนกลาง สาขา และสำนักงานเครือข่าย (Hub) ทั่วประเทศได้ร่วมแรงร่วมใจ กันทำกิจกรรม ซึ่งหัวใจสำคัญในการทำกิจกรรมเพื่อสังคมของธนาคารธนชาต ก็คือ การให้ทุกฝ่าย ทั้งพนักงาน ผู้บริหาร ลูกค้า และผู้ที่เกี่ยวข้อง ได้มีส่วนในการเข้าร่วมกิจกรรม และการช่วยเหลือตามกำลัง ตามศรัทธา และความสามารถ
โครงการ “ริเริ่ม..เติมเต็ม” กิจกรรมเพื่อสร้างโอกาสให้แก่ผู้ด้อยโอกาสในสังคม
โครงการเพื่อสังคมที่เป็นโครงการหลักของธนาคารธนชาตในปี 2551 คือ โครงการ “ริเริ่ม..เติมเต็ม” โดยได้มุ่งเน้นไปที่ การริเริม่ ค้นหาความต้องการทีแ่ ท้จริงของสังคมทีย่ งั ขาดอยู่ และรอคอยความช่วยเหลือเพือ่ ให้ “การให้” นัน้ เป็นการให้ทเี่ ติมเต็มได้ตรงกับ ความต้องการ โดยธนาคารธนชาตเป็นผูช้ ว่ ยเหลือเองในส่วนหนึง่ และเป็นตัวกลางในการบอกกล่าวผ่านสารคดีสนั้ ชือ่ “ริเริม่ ..เติมเต็ม โดย ธนาคารธนชาต” ปี 1 เพื่อให้ประชาชนทั่วไป หน่วยงาน หรือองค์กรที่พร้อมจะช่วยเหลือ ได้มีโอกาสช่วยเหลือผู้ที่ด้อยโอกาส ในรูปแบบต่าง ๆ ไม่วา่ จะเป็นสิง่ ของ อุปกรณ์ตา่ ง ๆ เงินบริจาค หรือในรูปแบบอืน่ ๆ เช่น การแบ่งปันเวลา ความรู้ ความรัก ความอบอุน่ ความเอาใจใส่ ความเอื้ออาทร ความเป็นเพื่อน หรือในรูปแบบต่าง ๆ ที่ผู้ให้พร้อมจะให้ โดยออกอากาศในรายการ “จุดเปลี่ยน” ระหว่าง เดือนตุลาคม - ธันวาคม 2551 ทุกวันเสาร์ เวลา 13.00 น. ทางสถานีโทรทัศน์ ช่อง 9 และในรายการ “คนค้นฅน” ระหว่างเดือน มกราคม - กุมภาพันธ์ 2552 ทุกวันอังคาร เวลา 22.15 น. ทางสถานีโทรทัศน์ ช่อง 9 นับเป็นโครงการที่ประสบความสำเร็จ โดยมี องค์กรและมูลนิธิต่าง ๆ ที่ได้รับความช่วยเหลือจากธนาคารธนชาต และผู้มีจิตศรัทธาแล้วหลายแห่ง เช่น • สถาบันมะเร็งแห่งชาติ ธนาคารธนชาต มอบเงินสนับสนุนการจัดซื้อเครือ่ งวัดความดันทีม่ คี วามทันสมัยเป็นจำนวนเงิน 285,000 บาท เพื่อใช้ประโยชน์ในการตรวจรักษาผู้ป่วยโรคมะเร็ง • สถานสงเคราะห์คนชราบ้านบางแค 2 โดยการทำกิจกรรมกายภาพช่วยเหลือผูส้ งู อายุ และเลีย้ งอาหารกลางวันผูส้ งู อายุ ทีข่ าดการดูแลเอาใจใส่จากลูกหลาน ในกิจกรรมนี้ พนักงานธนาคารธนชาต Hub เพชรเกษมจำนวนมาก ได้มาร่วมกิจกรรมให้ความอบอุน่ แก่ผสู้ งู อายุ สร้างความสนุกสนาน และความปลาบปลืม้ แก่ผสู้ งู อายุเป็นอย่างมาก • มูลนิธเิ พือ่ เด็กพิการ (ซอยลาดพร้าว 47) โดยตัดเย็บผ้าเพือ่ ช่วยในการเคลือ่ นไหวให้แก่นอ้ ง ๆ ทีป่ ว่ ยเป็นโรคออทิสติก และพิการ ซึ่งไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ในกิจกรรมนี้พนักงานธนาคารธนชาต Hub รัชดาภิเษก ได้มาร่วมกันตัดเย็บผ้าเพื่อช่วย ในการเคลื่อนไหวดังกล่าวให้แก่น้อง ๆ
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
87
4
5
4. นายวิ ช า กุ ล กอบเกี ย รติ ผู้ อ ำนวยการอาวุ โ ส
สายงานสื่ อ สารและบริ ห ารแบรนด์ ธนาคารธนชาต พร้ อ มด้ ว ยพรี เ ซนเตอร์ ข องธนาคารธนชาตมอบ คอมพิวเตอร์พร้อมอินเทอร์เน็ตให้แก่เด็กๆ ในมูลนิธิ บ้านนกขมิ้น เพื่อใช้เป็นแหล่งค้นคว้าหาข้อมูลความรู้ ในโอกาสเปิดตัวโครงการ “ริเริ่ม..เติมเต็ม” 5. นายศุภเดช พูนพิพัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารธนชาต มอบเงิ น จำนวน 500,000 บาท
ที่ ไ ด้ รั บ บริ จ าคจากลู ก ค้ า พนั ก งาน และร่ ว มสมทบ
โดยธนาคารธนชาตแก่ รศ. ดร.จุ รี วิ จิ ต รวาทการ ประธานคณะกรรมการมูลนิธิเด็กอ่อนในสลัมฯ
• การปลูกป่าชายเลน (ณ ศูนย์การเรียนรู้และปฏิบัติการชายฝั่งมหาชัยตะวันออก ตำบลโคกขาม อำเภอเมือง จังหวัด สมุทรสาคร) เพื่อเป็นการสร้างสำนึกในการห่วงใยธรรมชาติ และเป็นการเรียนรู้การปลูกป่าชายเลนที่ถูกวิธี เพื่อให้ต้นกล้าที่ปลูก สามารถมีชีวิตเติบโตได้ โดยไม่ถูกน้ำทะเลพัดทิ้งไป ซึ่งนับว่าเป็นประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อมเป็นอย่างยิ่ง • มูลนิธิเด็ก (อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม) ธนาคารธนชาตได้มอบเครื่องซักผ้า และเครื่องอบผ้าให้แก่น้อง ๆ สถานดูแลเด็กเล็กที่กำพร้ากว่าร้อยชีวิต ซึ่งในช่วงฤดูฝนต้องประสบความยากลำบากในการดูแลเรื่องการซักผ้าอ้อมและเสื้อผ้า ตลอดทั้งปัญหาการดูแลเรื่องความอับชื้นของเสื้อผ้า • มูลนิธขิ องคนตาบอดไทย (ซอยบุญอยู่ ถนนดินแดง) ซึง่ ได้จดั ให้มหี อ้ งสมุดเสียงประจำมูลนิธฯิ เพือ่ เป็นการให้ความรู้ ผ่านแผ่นซีดีไปยังผู้พิการทางสายตา ในกิจกรรมนี้ ธนาคารธนชาตได้มอบแผ่นซีดีให้แก่มูลนิธิฯ เพื่อใช้ในการบันทึกเสียง และยังได้ นำพนักงานมาร่วมในการบันทึกเสียง เพื่อส่งมอบความรู้ผ่านแผ่นซีดีไปยังผู้ด้อยโอกาสที่พิการทางสายตาอีกด้วย นอกจากนั้นแล้ว ได้มอบเงินสนับสนุนใช้ในการบริหารโครงการไม้เท้าขาวให้แก่มูลนิธิฯ เพื่อจัดซื้อไม้เท้าขาวไปแจกจ่ายให้แก่ผู้พิการทางสายตา ที่จังหวัดเพชรบุรี • การถวายฟันปลอมแก่พระภิกษุ (ณ โรงพยาบาลสงฆ์ ) เพื่ อ สะท้ อ นให้ สั ง คมเห็ น ถึ ง การทำบุ ญ อี ก ประการหนึ่ ง ที่โรงพยาบาลสงฆ์ ที่นอกเหนือจากการถวายภัตตาหารแด่พระภิกษุ ซึ่งสิ่งที่พระภิกษุสูงอายุต้องการมากอีกอย่าง ได้แก่ ฟันปลอม ซึ่งจะช่วยให้ท่านสามารถฉัน และเทศน์ได้ตามปกติ • โครงการสร้างอาชีพให้แก่ทหารผ่านศึก (ณ โรงพยาบาลทหารผ่านศึก) เพือ่ ให้ประชาชนทัว่ ไปได้ทราบว่า โรงพยาบาล ทหารผ่านศึก นอกจากเรื่องการดูแลรักษาแล้ว ยังได้ดูแลเรื่องการฝึกอาชีพให้แก่ทหารผ่านศึกที่พิการด้วย ซึ่งทางโรงพยาบาลก็ต้องมี
ค่าใช้จ่ายในการฝึกอาชีพนี้ด้วย แต่ก็ไม่ได้มีงบประมาณที่เพียงพอสำหรับค่าใช้จ่ายในการฝึกอาชีพ ในการนี้ธนาคารธนชาตได้ร่วม มอบเงินทุนสนับสนุนจำนวน 20,000 บาท • มูลนิธิบ้านนกขมิ้น เป็นมูลนิธิที่ดำเนินการดูแลเลี้ยงดูเด็กเร่ร่อนที่ไม่มีครอบครัว ซึ่งมีตั้งแต่เด็กเล็กจนกระทั่งเด็กโต ตลอดจนสนับสนุนให้การศึกษา เพื่อสร้างให้เด็กเหล่านั้นไม่เป็นภาระของสังคม ซึ่งทางธนาคารธนชาตได้มอบคอมพิวเตอร์จำนวน 2 เครือ่ ง พร้อมติดตัง้ ระบบอินเทอร์เน็ต เพือ่ ให้เด็ก ๆ ในบ้านนกขมิน้ ได้ใช้ในการค้นหาความรู้ และเพือ่ การศึกษาโดยมีครูคอยควบคุมดูแล
กิจกรรมเพื่อสังคมอื่นๆ
• มอบเงินให้แก่มูลนิธิเด็กอ่อนในสลัมในพระบรมราชูปถัมภ์ของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ โดยธนาคารธนชาตได้มอบเงินจำนวน 500,000 บาท ให้แก่มูลนิธิเด็กอ่อนในสลัมฯ ซึ่งจำนวนเงิน ดั ง กล่ า วเป็ น เงิ น ที่ ม าจากการร่ ว มบริ จ าคของธนาคารธนชาต ลู ก ค้ า ผู้ บ ริ ห าร พนั ก งาน โดยทุ ก สาขาของธนาคารธนชาตได้ มี 88
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
6
7
6. - 7. นายศุภเดช พู น พิ พั ฒ น์ ประธานเจ้ าหน้ าที่ บริหาร ธนาคารธนชาต มอบทุนการศึกษา จำนวน
20 ทุน ให้แก่นักเรียนที่เรียนดีแต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ พร้อมมอบเงินสนับสนุนการเรียนและกีฬาแก่โรงเรียน จำนวน 5 โรงเรียน ในจังหวัดนครศรีธรรมราช ในโอกาส ถวายผ้ า พระกฐิ น พระราชทาน ณ วั ด พระมหาธาตุ
วรมหาวิหาร จังหวัดนครศรีธรรมราช
กล่องรับบริจาค เพื่อเป็นช่องทางให้ผู้สนใจบริจาคเพื่อสมทบทุนให้แก่มูลนิธิเด็กอ่อนในสลัมฯ กิจกรรมเพื่อสนับสนุนมูลนิธิเด็กอ่อน ในสลัมฯ นี้ กลุม่ ธนชาตได้ดำเนินการต่อเนือ่ งมาเป็นเวลานานแล้ว ตัง้ แต่การมอบรถบัสเล็กเพือ่ จัดทำเป็นห้องสมุดเคลือ่ นที่ การบริจาคเงิน และเครือ่ งใช้จำเป็นสำหรับเด็ก ๆ เครื่องซักผ้า การนำพนักงานไปร่วมในการเลี้ยงดูเด็ก ๆ โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลพิเศษ ฯลฯ • เป็นผู้สนับสนุนหลักในโครงการ “123 Unity Thailand 2008” โดยธนาคารธนชาต เป็นผู้สนับสนุนหลักร่วมกับ สถานีโทรทัศน์ Thai PBS เพื่อช่วยในการเผยแพร่และส่งเสริมให้เยาวชนไทยทั่วประเทศ ได้พัฒนาการเรียนรู้และเล่นบทเพลงคลาสสิก กับวาทยากรที่มีชื่อเสียงหลายคน รวมทั้งคุณบัณฑิต อึ้งรังษี วาทยากรระดับโลก อันจะเป็นการสร้างโอกาสในการพัฒนา และสนับสนุน ความสามารถทางดนตรีของเยาวชนไทยให้ไปสู่ระดับมาตรฐานสากล ในโครงการนี้ได้จัดให้มี Music Camp ที่เยาวชนผู้ได้รับคัดเลือก เข้ามาอยู่ร่วมกัน เพื่อการเรียนรู้และพัฒนาทักษะทางดนตรีคลาสสิก ตลอดจนการฝึกซ้อมเพื่อการแสดงคอนเสิร์ตซิมโฟนีออร์เคสตร้า และการแสดงคอนเสิร์ตดังกล่าวจัดขึ้นที่หอประชุมใหญ่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก • ถวายผ้าพระกฐินพระราชทาน และมอบเงินสนับสนุนการศึกษาแก่โรงเรียนและเด็กนักเรียน ธนาคารธนชาต และบริษทั ในกลุม่ ธนชาต ได้เป็นเจ้าภาพในการถวายผ้าพระกฐินพระราชทาน ประจำปี 2551 ณ วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช และในการนี้ได้ทำการมอบเงินสนับสนุนการศึกษาให้แก่โรงเรียน 5 แห่ง และมอบทุนการศึกษาให้แก่นักเรียน จำนวน 20 ทุน โดยได้รับความร่วมมือจากพนักงานในกลุ่มธนชาต ผู้บริหาร ลูกค้า และประชาชนทั่วไป รวมมียอดเงินรับบริจาคทั้งสิ้น 4,819,181.80 บาท • สนับสนุนโครงการ “1 พันบาท 1 วันเกิด” ของสมาคมนิสิตเก่าจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยพระราชประสงค์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี โดยธนาคารธนชาตได้ร่วมบริจาคสมทบทุนในโครงการเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวามหาราช และให้ทุกสาขาของธนาคารธนชาตเป็นช่องทางในการให้บริการแก่ผู้สนใจ บริจาคเพื่อสมทบทุนโครงการดังกล่าว
กิจกรรมเพื่อสังคมของสำนักงานภาค และสำนักงานเครือข่าย (Hub CSR)
ธนาคารธนชาต มีสำนักงานภาคในแต่ละภูมิภาค และสำนักงานเครือข่ายในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล (Hub) ทั้งหมด 22 แห่ ง ทั่ ว ประเทศ ซึ่ ง กิ จ กรรมเพื่ อ สั ง คมของสำนั ก งานภาค และสำนั ก งานเครื อ ข่ า ยแต่ ล ะแห่ ง ก็ จ ะมี ค วามแตกต่ า งกั น ไป ตามความต้องการหรือวัฒนธรรมในท้องถิ่นนั้น ๆ โดยเป็นกิจกรรมที่แต่ละแห่งได้มีการศึกษา สำรวจความต้องการในพื้นที่ และริเริ่ม โครงการเอง โดยการดูแลและอนุมตั จิ ากทางส่วนกลาง ซึง่ มีคณะกรรมการพิจารณากิจกรรมเพือ่ สังคม (CSR Committee) เป็นผูร้ บั ผิดชอบ โดยกิจกรรมที่ได้ดำเนินการในปี 2551 มีดังนี้
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
89
8
8. นายอุดม ชัยเทพ ผูอ้ ำนวยการ สำนักงานภาคเหนือ 1 (เชียงใหม่) ธนาคารธนชาต มอบจักรยานจำนวน 200 คัน ให้ แ ก่ เ ด็ ก นั ก เรี ย นในท้ อ งถิ่ น ธุ ร กั น ดาร จั ง หวั ด เชียงใหม่ เพื่อให้ใช้ในการเดิ น ทางระหว่ า งบ้ า นและ โรงเรียน
• โครงการ “จักรยานนี้เพื่อน้อง” (Hub เชียงใหม่) โดยมอบจักรยานจำนวน 200 คัน ให้แก่โรงเรียนในชนบทที่ อำเภอจอมทอง และอำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ เพือ่ ให้นกั เรียนทีบ่ า้ นอยูห่ า่ งไกลจากโรงเรียนมาก ได้ยมื เพือ่ ใช้ในการเดินทางไป - กลับ ระหว่ า งบ้ า นและโรงเรี ย น ทำให้ ก ารเดิ น ทางรวดเร็ ว ขึ้ น รวมทั้ ง ยั ง ได้ ส นั บ สนุ น ให้ โ รงเรี ย นสามารถดู แ ลรั ก ษาจั ก รยานเหล่ า นั้ น ให้อยู่ในสภาพที่สามารถใช้งานได้ดีตลอด นอกจากนี้ ยังได้มอบเสื้อกันหนาว ผ้าห่ม และอุปกรณ์การเรียนให้กับโรงเรียน โดยมีลูกค้า ผู้บริหาร และพนักงานในกลุ่มธนชาตร่วมบริจาคด้วย • โครงการ “อาคารธนชาตรักษ์สิ่งแวดล้อม” (Hub ภูเก็ต) เป็นการจัดสร้างอาคารอเนกประสงค์ สำหรับโรงเรียน บ้านป่ายาง อำเภอเมือง จังหวัดพังงา ซึ่งอยู่ในถิ่นทุรกันดาร เพื่อใช้ในการทำกิจกรรมทางการศึกษา และสันทนาการให้แก่นักเรียน รวมถึงเพื่อประโยชน์ของชุมชนในบริเวณนั้นด้วย โดยโครงการนี้พนักงาน Hub ภูเก็ต ได้ร่วมในการก่อสร้างกับชุมชนในบริเวณนั้นด้วย • โครงการ “บริ จ าคโลหิ ต ร้ อ ยใจถวายแม่ ครั้ ง ที่ 1/2551” และโครงการ “บริ จ าคโลหิ ต ถวายแด่ พ่ อ หลวง
ครั้งที่ 2/2551” (Hub ขอนแก่น) เนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา โดยได้รับความร่วมมือจากสภากาชาด โรงพยาบาลศูนย์ ขอนแก่น คลังเลือดกลาง คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ซึ่งกิจกรรมในครั้งนี้ ได้จัดต่อเนื่องมาแล้วเป็นครั้งที่ 6 โดยได้โลหิต ทั้งหมด 248,300 ซีซี นอกจากนั้นแล้ว ธนาคารธนชาตยังได้ให้บริการตรวจสุขภาพกาย ตรวจโลหิต และตรวจสุขภาพทางการเงิน ให้แก่ผู้มาร่วมในการบริจาคโลหิตฟรี พร้อมทั้งแจกกล้าไม้เพื่อให้ผู้มาร่วมบริจาคโลหิตได้นำไปปลูกเพื่อดูแลสิ่งแวดล้อมโลกด้วย • กิจกรรมการมอบถุงยังชีพเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย โดยบริจาคในจังหวัดนครสวรรค์ (Hub นครสวรรค์) ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา (Hub อยุธยา) ในจังหวัดพิษณุโลก เขตพื้นที่อำเภอวังทอง อำเภอเนินมะปราง และอำเภอชาติตระการ (Hub พิษณุโลก) และในจังหวัดลพบุรี เขตพื้นที่อำเภอเมือง อำเภอโคกสำโรง และอำเภอบ้านหมี่ รวมจำนวน 4,000 ถุง • โครงการ “ธนชาตห่ ว งใย สวมหมวกนิ ร ภั ย ให้ น้ อ ง ปี 2” (Hub หาดใหญ่ ) เป็ น โครงการที่ ร่ ว มรณรงค์ การสวมหมวกนิรภัย และลดอุบัติเหตุบนท้องถนนที่จะเกิดขึ้นกับเด็กนักเรียนระดับประถมต้น ที่ซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ผู้ปกครอง มายั ง โรงเรี ย น โดยจั ด มอบหมวกนิ ร ภั ย จำนวน 1,200 ใบ เพื่ อ มอบให้ กั บ เด็ ก นั ก เรี ย นโรงเรี ย นในเขตพื้ น ที่ จั ง หวั ด สงขลา ซึ่งทางโรงเรียนได้ให้ความร่วมมือในการจัดเตรียมสถานที่ เพื่อให้เด็กนักเรียนแขวนเก็บหมวกนิรภัยที่โรงเรียนด้วย นอกจากนั้นแล้ว โครงการนี้ยังได้รับความร่วมมือจากตำรวจจราจร เพื่อจัดอบรมการขับขี่รถจักรยานยนต์อย่างปลอดภัยให้แก่ผู้ปกครองด้วย • โครงการ “ธนชาตคัพ ครั้งที่ 1” (Hub สุราษฎร์ธานี) เป็นโครงการส่งเสริมให้เยาวชนสนใจในการเล่นกีฬาฟุตบอล และยังปลูกฝังเยาวชนให้รู้จักใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ ห่างไกลยาเสพติด โดยเป็นการแข่งขันกีฬาที่เป็นที่นิยมอย่างมากในท้องถิ่น และเป็นโอกาสที่อาจจะสร้างนักกีฬาดาวรุ่งของจังหวัด ซึ่งอาจก้าวสู่ระดับชาติได้ในอนาคต ในการจัดการแข่งขันนี้ได้รับความสนใจ โดยมีทีมสมัครเข้าร่วมในการแข่งขันทั้งสิ้น จำนวน 24 ทีม และใช้เวลาในการแข่งขันทั้งสิ้น 5 สัปดาห์
90
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
9
10
9. นายนพดล เรืองจินดา กรรมการผู้จัดการ บริษัท
ธนชาตประกั น ภั ย จำกั ด ”ธนชาตประกั น ภั ย ” เป็ น
ผู้แทนธนชาตประกันภัย และธนาคารธนชาต มอบเงิน บริจาคจำนวน 150,000 บาท แก่มูลนิธิเพื่อสนับสนุน การผ่ า ตั ด หั ว ใจเด็ ก สถาบั น โรคหั ว ใจ โรงพยาบาล ราชวิถี โดยมี นางสาวจินตนา ตรีเงิน ผู้ช่วยกรรมการ และเลขานุการมูลนิธิฯ เป็นตัวแทนรับมอบ 10. ธนาคารธนชาต โดยสำนักงานภาคใต้ 4 (หาดใหญ่) จัดกิจกรรม ”ธนชาตห่วงใย สวมหมวกนิรภัยให้น้อง”
โดยได้มอบหมวกนิรภัยให้กับนักเรียนในจังหวัดสงขลา จำนวน 1,200 ใบ เพื่อรณรงค์การสวมหมวกนิรภัย
และลดอุ บั ติ เ หตุ ที่ จ ะเกิ ด ขึ้ น กั บ นั ก เรี ย นที่ ซ้ อ นท้ า ย
รถจักรยานยนต์ของผูป้ กครองทีม่ ารับส่งยังโรงเรียน
• โครงการ “ปัน่ ลดมลพิษ...พิชติ โลกร้อน” (Hub งามวงศ์วาน) โดยการมอบทีจ่ อดรถจักรยานตามจุดต่าง ๆ หลายแห่งใน ท้องถิ่นเทศบาลนครนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนที่ใช้จักรยานในการเดินทาง และร่วมรณรงค์
ให้ประชาชนใช้จักรยานในการเดินทางเพื่อช่วยลดภาวะโลกร้อน โดยโครงการนี้เป็นโครงการต่อเนื่องที่ Hub งามวงศ์วานได้ร่วมกับ เทศบาลนครนนทบุรี สำหรับกิจกรรมช่วยลดปัญหาภาวะโลกร้อนในรูปแบบต่าง ๆ มาหลายปีตดิ ต่อกันแล้ว จากโครงการ “คลองสวย...น้ำใส” โครงการ “โลกไม่ร้อน ที่นครนนท์” ฯลฯ
กิจกรรมเพื่อสังคมของบริษัทในกลุ่มธนชาต
บริษัท ธนชาตประกันภัย จำกัด ได้บริจาคเงินจำนวน 100,000 บาท ให้กับมูลนิธิการผ่าตัดหัวใจเด็ก โรงพยาบาล ราชวิถี เพื่อนำเงินไปช่วยชีวิตเด็กทีเ่ ป็นโรคหัวใจ โดยเฉพาะเด็กยากจนที่ปว่ ยเป็นโรคหัวใจพิการมาแต่กำเนิด ให้ได้รบั การผ่าตัดหัวใจ ได้อย่างทันท่วงที บริษัท ธนชาตประกันชีวิต จำกัด ได้มอบทุนการศึกษาตามโครงการ “ริเริ่ม เติมรัก” ให้แก่นักเรียนที่เรียนดี แต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ ในระดับชัน้ มัธยมศึกษาปีที่ 1 - 6 ของโรงเรียนในสังกัดกรมสามัญศึกษาในเขตกรุงเทพมหานคร จำนวน 60 ทุน โดยดำเนินการต่อเนือ่ งมาแล้วเป็นปีที่ 6 โดยเป็นทุนการศึกษาทีใ่ ห้กบั นักเรียนคนเดิมตัง้ แต่ชนั้ มัธยมศึกษาปีที่ 1 จนจบชัน้ มัธยมศึกษา ปีที่ 6 บริษัท หลักทรัพย์ ธนชาต จำกัด (มหาชน) ได้จัดโครงการเพื่อสังคม “ช่วยน้องปี 4” ด้วยการรับบริจาคเงินจำนวน 290,593 บาท พร้อมทั้งอุปกรณ์การศึกษา และหนังสือให้แก่โรงเรียนบ้านสันหีบ จังหวัดสุโขทัย เพื่อนำเงินไปปรับปรุงที่พักอาศัย สำหรับนักเรียนที่อยู่ห่างไกลจากโรงเรียน หรือที่ต้องพักอาศัยอยู่ที่โรงเรียนเป็นประจำ พร้อมทั้งปรับปรุงห้องสมุด และสร้างห้องน้ำ เพิ่มเติมให้กับทางโรงเรียน
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
91
รายงานความรับผิดชอบของคณะกรรมการต่อรายงานทางการเงิน คณะกรรมการธนาคารธนชาตเป็นผู้รับผิดชอบต่องบการเงินเฉพาะกิจการ และงบการเงินรวมของธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) “ธนาคารธนชาต” และบริษทั ย่อย รวมถึงข้อมูลสารสนเทศทางการเงินทีป่ รากฏในรายงานประจำปี งบการเงินดังกล่าวจัดทำขึน้ ตามมาตรฐานการบัญชีที่รับรองทั่วไป โดยเลือกใช้นโยบายที่เหมาะสมและถือปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอ และใช้ดุลยพินิจอย่างระมัดระวัง และประมาณการดีที่สุดในการจัดทำ รวมทั้งให้มีการเปิดเผยข้อมูลที่สำคัญอย่างเพียงพอในหมายเหตุประกอบงบการเงิน เพื่อให้เป็น ประโยชน์ต่อผู้ถือหุ้นและผู้ลงทุนทั่วไปอย่างโปร่งใส คณะกรรมการธนาคารธนชาตได้จัดให้มีและดำรงไว้ซึ่งระบบบริหารความเสี่ยง และระบบควบคุมภายในที่เหมาะสมและ มีประสิทธิผล เพื่อให้มั่นใจได้อย่างมีเหตุผลว่า ข้อมูลทางบัญชีมีความถูกต้อง ครบถ้วน และเพียงพอที่จะดำรงรักษาไว้ซึ่งทรัพย์สินของ ธนาคารธนชาต ตลอดจนเพื่อไม่ให้เกิดการทุจริตหรือการดำเนินการที่ผิดปกติอย่างมีสาระสำคัญ ในการนี้ คณะกรรมการธนาคารธนชาตได้แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ ซึ่งประกอบด้วย กรรมการที่เป็นอิสระ เพื่อทำ หน้าที่สอบทานนโยบายการบัญชีและดูแลรับผิดชอบเกี่ยวกับคุณภาพของรายงานทางการเงิน และสอบทานระบบการควบคุมภายใน การตรวจสอบภายใน ระบบการบริหารความเสี่ยง ตลอดจนพิจารณาการเปิดเผยข้อมูลรายการระหว่างกัน โดยความเห็นของ คณะกรรมการตรวจสอบเกี่ยวกับเรื่องนี้ปรากฏอยู่ในรายงานจากคณะกรรมการตรวจสอบ ซึ่งแสดงไว้ในรายงานประจำปีแล้ว งบการเงิ น เฉพาะกิ จ การ และงบการเงิ น รวมของธนาคารธนชาตและบริ ษั ท ย่ อ ยได้ รั บ การตรวจสอบโดยผู้ ส อบบั ญ ชี รับอนุญาตจากบริษัท สำนักงาน เอินส์ท แอนด์ ยัง จำกัด ซึง่ เป็นผูส้ อบบัญชีของธนาคารธนชาต ในการตรวจสอบนัน้ ทางคณะกรรมการ ธนาคารธนชาตได้ให้การสนับสนุนข้อมูลและเอกสารต่างๆ เพื่อให้ผู้สอบบัญชีสามารถตรวจสอบและแสดงความเห็นได้ตามมาตรฐาน การสอบบัญชี โดยความเห็นของผู้สอบบัญชีได้ปรากฏในรายงานของผู้สอบบัญชี ซึ่งแสดงไว้ในรายงานประจำปี คณะกรรมการธนาคารธนชาตมีความเห็นว่า ระบบการควบคุมภายในของธนาคารธนชาต โดยรวมอยู่ในระดับที่น่าพอใจ และสามารถสร้างความเชื่อมั่นอย่างมีเหตุผลได้ว่า งบการเงินเฉพาะกิจการ และงบการเงินรวมของธนาคารธนชาตและบริษัทย่อย สำหรับปีสิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551 มีความเชื่อถือได้ โดยถือปฏิบัติตามมาตรฐานการบัญชีที่รับรองทั่วไป และปฏิบัติถูกต้อง ตามกฎหมายและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง นายบันเทิง ตันติวิท นายศุภเดช พูนพิพัฒน์ ประธานกรรมการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร
92
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
รายงานคณะกรรมการตรวจสอบ คณะกรรมการตรวจสอบของธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) ประกอบด้วย กรรมการอิสระ จำนวน 3 ท่าน เป็นผูท้ รงคุณวุฒิ และมีประสบการณ์ดา้ นสถาบันการเงินมาอย่างสูง มีผอู้ ำนวยการอาวุโสสายงานตรวจสอบ ทำหน้าทีเ่ ลขานุการคณะกรรมการตรวจสอบ ดังมีรายนามต่อไปนี้ 1. นายเกียรติศักดิ์ มี้เจริญ ประธานกรรมการตรวจสอบ 2. นายสุวิทย์ อรุณานนท์ชัย กรรมการตรวจสอบ 3. นายสถาพร ชินะจิตร กรรมการตรวจสอบ 4. นายชัชวาลย์ จันทรรวงทอง เลขานุการ คณะกรรมการตรวจสอบ มี ห น้ า ที่ แ ละความรั บ ผิ ด ชอบตามที่ ไ ด้ รั บ มอบหมายจากคณะกรรมการธนาคารธนชาต และตามหลักเกณฑ์ของหน่วยงานกำกับของทางการ ซึง่ ได้ระบุไว้ในกฎบัตรตามทีค่ ณะกรรมการธนาคารธนชาตกำหนด ได้แก่ สอบทาน งบการเงิน การกำกับดูแลกิจการที่ดี ระบบการควบคุมภายใน ระบบการบริหารความเสี่ยง การปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ทางการ เป็นต้น คณะกรรมการตรวจสอบ มีเครือ่ งมือในการปฏิบตั งิ าน ประกอบด้วยสายงานตรวจสอบ และฝ่ายกำกับกฎระเบียบและข้อบังคับ โดยขึ้นตรงต่อคณะกรรมการตรวจสอบ ทำให้ปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างอิสระบนพื้นฐานของกฎหมาย ความโปร่งใส และหลักธรรมาภิบาล เพื่อรักษาผลประโยชน์ให้กับองค์กรอย่างถูกต้องและไม่มีข้อจำกัดในการได้รับข้อมูล โดยตลอดปี 2551 คณะกรรมการตรวจสอบ ได้ รั บ ความร่ ว มมื อ เป็ น อย่ า งดี จ ากผู้ บ ริ ห ารและพนั ก งานที่ เ กี่ ย วข้ อ ง และได้ ป ระชุ ม ร่ ว มกั บ ผู้ ส อบบั ญ ชี ผู้ ต รวจสอบภายใน และฝ่ายบริหารของธนาคารธนชาต รวม 10 ครั้ง คณะกรรมการตรวจสอบได้ปฏิบัติภารกิจการสอบทานงบการเงินรายไตรมาสและงบการเงินประจำปี โดยการหารือร่วมกับ ผู้สอบบัญชีและฝ่ายบริหารของธนาคารธนชาต เพื่อให้มีการเปิดเผยข้อมูลทางการเงินอย่างถูกต้องและครบถ้วน และได้ให้ความสำคัญ เป็นพิเศษเกี่ยวกับรายการธุรกรรมของธนาคารธนชาตกับบริษัทที่มีความเกี่ยวข้องกัน คณะกรรมการตรวจสอบได้ดำเนินการสอบทานให้ธนาคารธนชาตมีระบบการควบคุมภายใน และการตรวจสอบภายในที่มี ประสิทธิภาพ โดยได้หารือกับผู้ตรวจสอบภายใน ในการวางแผนและอนุมัติแผนการตรวจสอบประจำปี ซึ่งครอบคลุมทั้งการปฏิบัติงาน ตรวจสอบด้านทั่วไป การสอบทานสินเชื่อ การปฏิบัติงานตรวจสอบระบบสารสนเทศ และการตรวจสอบด้านคุณภาพและบริการ โดยมี การติดตามและประเมินผลทุกไตรมาส ในส่วนที่เกี่ยวกับการปฏิบัติตามกฎหมาย คณะกรรมการตรวจสอบได้ติดตามงานด้านกำกับกฎระเบียบและข้อบังคับ อย่ า งใกล้ ชิ ด เพื่ อ ให้ มี ก ารสอบทานการปฏิ บั ติ ง านของธนาคารธนชาตให้ เ ป็ น ไปตามกฎเกณฑ์ ข องทางการ อาทิ ธนาคาร แห่งประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ รวมทั้งข้อกำหนดต่างๆ ของตลาดหลักทรัพย์ แห่งประเทศไทย ในด้านการบริหารความเสี่ยง คณะกรรมการตรวจสอบให้ความสำคัญเป็นพิเศษกับการบริหารความเสี่ยงทางด้านสินเชื่อ ความเสีย่ งด้านการตลาด ความเสีย่ งทางด้านสภาพคล่อง และความเสีย่ งด้านปฏิบตั กิ าร ทัง้ นี้ เพราะคณะกรรมการตรวจสอบตระหนักดีวา่ การเปลี่ยนแปลงต่างๆ ทางด้านเศรษฐกิจ การเมือง และสังคม จะส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อแนวทางการบริหารความเสี่ยงของ ธนาคารธนชาต โดยได้มีการสอบทานเพื่อให้มีความมั่นใจได้ว่า ธนาคารธนชาตมีมาตรการรองรับความเสี่ยงทางด้านต่างๆ เหล่านั้น อย่างเป็นรูปธรรมและเพียงพอ คณะกรรมการตรวจสอบได้เข้าร่วมประชุมในคณะกรรมการธนาคารธนชาต เพือ่ รับทราบผลการดำเนินงานของหน่วยงานต่างๆ รวมทั้งบริษัทในเครือ และพิจารณาติดตามผลการดำเนินการแก้ไข โดยสรุป คณะกรรมการตรวจสอบได้ประเมินผลการสอบทานทุกด้านแล้ว มีความเห็นว่า ธนาคารธนชาตได้เปิดเผยข้อมูล ทางการเงินในงบการเงินอย่างถูกต้อง ครบถ้วน มีระบบการตรวจสอบ การควบคุมภายใน การกำกับดูแลกิจการ และระบบการ บริหารความเสี่ยง ตลอดจนมาตรการรองรับความเสี่ยงที่ดีและมีประสิทธิภาพเพียงพอ ธนาคารธนชาตได้ปฏิบัติตามกฎหมายและ ข้อกำหนดของทางการอย่างเคร่งครัด อนึ่ง คณะกรรมการตรวจสอบเห็นควรเสนอบริษัท สำนักงาน เอินส์ท แอนด์ ยัง จำกัด เป็นผู้สอบบัญชีของธนาคารธนชาต ต่ออีกปีหนึ่ง โดยเห็นว่าเป็นสำนักงานที่ได้รับความเชื่อถือในระดับชั้นนำของประเทศ มีความเข้าใจในธุรกิจเป็นอย่างดี บุคลากร มีความรู้และประสบการณ์ จึงเห็นควรให้ธนาคารธนชาตเสนอต่อผู้ถือหุ้นเป็นผู้สอบบัญชีของธนาคารธนชาตในปี 2552 ต่อไป นายเกียรติศักดิ์ มี้เจริญ ประธานกรรมการตรวจสอบ
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
93
รายงานของผู้สอบบัญชีรับอนุญาต เสนอต่อผู้ถือหุ้นของธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) ข้าพเจ้าได้ตรวจสอบงบดุลรวม ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551 และ 2550 งบกำไรขาดทุนรวม งบแสดงการเปลี่ยนแปลง ในส่วนของผูถ้ อื หุน้ รวมและงบกระแสเงินสดรวมสำหรับปีสนิ้ สุดวันเดียวกันของแต่ละปีของธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) และบริษทั ย่อย และได้ตรวจสอบงบการเงินเฉพาะกิจการของธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) ด้วยเช่นกัน ซึ่งผู้บริหารของกิจการเป็นผู้รับผิดชอบต่อ ความถูกต้องและครบถ้วนของข้อมูลในงบการเงินเหล่านี้ ส่วนข้าพเจ้าเป็นผู้รับผิดชอบในการแสดงความเห็นต่องบการเงินดังกล่าว จากผลการตรวจสอบของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าได้ปฏิบัติงานตรวจสอบตามมาตรฐานการสอบบัญชีที่รับรองทั่วไป ซึ่งกำหนดให้ข้าพเจ้าต้องวางแผน และปฏิบัติงาน เพื่อให้ได้ความเชื่อมั่นอย่างมีเหตุผลว่า งบการเงินแสดงข้อมูลที่ขัดต่อข้อเท็จจริงอันเป็นสาระสำคัญหรือไม่ การตรวจสอบรวมถึงการใช้ วิธีการทดสอบหลักฐานประกอบรายการทั้งที่เป็นจำนวนเงินและการเปิดเผยข้อมูลในงบการเงิน การประเมินความเหมาะสมของ หลักการบั ญ ชี ที่ กิจการใช้ และประมาณการเกี่ยวกับรายการทางการเงินที่เป็นสาระสำคัญซึ่งผู้บริหารเป็นผู้จัดทำขึ้น ตลอดจน การประเมินถึงความเหมาะสมของการแสดงรายการที่นำเสนอในงบการเงินโดยรวม ข้าพเจ้าเชื่อว่าการตรวจสอบดังกล่าวให้ข้อสรุป
ที่เป็นเกณฑ์อย่างเหมาะสมในการแสดงความเห็นของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าเห็นว่า งบการเงินข้างต้นนี้แสดงฐานะการเงิน ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551 และ 2550 ผลการดำเนินงานและ กระแสเงินสดสำหรับปีสิ้นสุดวันเดียวกันของแต่ละปีของธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย และของธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) โดยถูกต้องตามที่ควรในสาระสำคัญตามหลักการบัญชีที่รับรองทั่วไป รัตนา จาละ ผู้สอบบัญชีรับอนุญาต เลขทะเบียน 3734 บริษัท สำนักงาน เอินส์ท แอนด์ ยัง จำกัด กรุงเทพฯ : 23 กุมภาพันธ์ 2552
94
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
งบดุ ล
ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551 และ 2550
น นนี้ หมายเหตุ ประกอบงบการเงิ เป็นส่ว นหนึ ่งของงบการเงิ รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
95
งบดุ ล (ต่อ)
ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551 และ 2550
หมายเหตุประกอบงบการเงินเป็นส่วนหนึ่งของงบการเงินนี้ 96
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
งบดุ ล (ต่อ)
ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551 และ 2550
หมายเหตุประกอบงบการเงินเป็นส่วนหนึ่งของงบการเงินนี้ รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
97
งบกำไรขาดทุ น
ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2551 และ 2550
หมายเหตุประกอบงบการเงินเป็นส่วนหนึ่งของงบการเงินนี้ 98
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
งบกำไรขาดทุ น (ต่อ)
ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2551 และ 2550
หมายเหตุประกอบงบการเงินเป็นส่วนหนึ่งของงบการเงินนี้ รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
99
100
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
หมายเหตุประกอบงบการเงิ นเป็นส่วนหนึ นนี้ ่งของงบการเงิ
ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2551 และ 2550
งบแสดงการเปลี ่ยนแปลงในส่ วนของผู้ถือหุ้น
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
101
หมายเหตุประกอบงบการเงินเป็นส่วนหนึ่งของงบการเงินนี้
งบแสดงการเปลี นแปลงในส่ ่ย วนของผู้ถือหุ้น (ต่อ)
ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2551 และ 2550
งบกระแสเงิ นสด
ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2551 และ 2550
หมายเหตุประกอบงบการเงินเป็นส่วนหนึ่งของงบการเงินนี้ 102
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
งบกระแสเงิ นสด (ต่อ)
ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2551 และ 2550
หมายเหตุ ประกอบงบการเงิ นหนึ่ง ของงบการเงิ นเป็ นส่ว นนี้ รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
103
ประกอบงบการเงิ นรวม หมายเหตุ
ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2551 และ 2550
1. ไป ข้อมูลทั่ว
104
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
2. เกณฑ์ ในการจัดทำงบการเงิ น
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
105
106
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
107
3. การประกาศใช้ม าตรฐานการบั ชีใหม่ ญ
108
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
4. นโยบายการบัญ ชีที่สำคั ญ
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
109
110
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
111
112
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
113
114
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
115
116
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
117
118
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
119
120
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
121
5. การใช้ด ุลยพิ ิจและประมาณการทางบั น ญ ชีที่ส ำคัญ
122
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
123
124
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
6. รายการระหว่ งธนาคารและตลาดเงิ า น(สิ นทรั พย์)
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
125
7. หลั โดยมี ัญญาขายคื กทรั พย์ซื้อ ส น
126
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
8. เงิน ลงทุน
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
127
128
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
129
130
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
131
132
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
9. ลงทุน ในบริษัทย่อย เงิ น
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
133
10. เงิ ลงทุน ในบริ น ษัทร่วม
134
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
11. และดอกเบี เงิ นให้สินเชื่อ ้ยค้างรั บ
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
135
136
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
137
138
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
139
140
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
141
142
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
143
144
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
145
12. งสัย จะสูญ ค่าเผื ่อหนี ้ส
13. าจากการปรั บโครงสร้ ค่าเผื ่อการปรั บมูลค่ างหนี ้
146
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
14. ทรัพย์ คุณ ภาพสิ น
15. นทรั รอการขาย สิ พย์
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
147
16. ที่ดิน อาคารและอุ ปกรณ์
148
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
17. ทรัพย์ไม่มีต ัวตน - ซอฟท์ สิน แวร์
18. ทรัพย์อื่น สิน
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
149
19. เงิ ฝาก นรับ
150
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
20. รายการระหว่ างธนาคารและตลาดเงิ น(หนี ้สิน)
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
151
21. เงิ นกู้ยืม
152
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
22. หนี ้สินอื่น
23. ำกว่าทุ น) จากการเปลี ่ยนแปลงมู ค่าเงิน ลงทุน ส่วนเกิ นทุน(ต่ ล
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
153
24. สำรองตามกฎหมาย
25. ตามกฎหมาย เงินกองทุ นที่ต้องดำรงไว้
154
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
เงินปันผล 26.
หนี ้สูญ และหนี ้ส 27. งสัย จะสูญ
28. (ขาดทุน ) จากเงิ นลงทุ กำไร น
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
155
ค่าตอบแทนกรรมการ 29. ขาดทุ นจากทรั พย์สิน พย์สิน อื่น 30. รอการขายและทรั
ภาษี เงินได้ นิต ิบุค 31. คล
156
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
32. กำไรต่ อหุ้น กองทุ นสำรองเลี ้ยงชี พ 33. รายการธุ รกิจกับกิ ่เ องกั น 34. จการที กี่ยวข้
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
157
158
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
159
160
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
161
162
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
163
35. ลทางการเงิ จำแนกตามส่ วนงาน การเสนอข้ อมู น
164
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
165
36. และหนี้สินที ่อาจจะเกิ ้นในภายหน้ ภาระผู กพัน ดขึ า
166
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
167
37. งร้อง คดี ฟ ้อ
38. งมือ ทางการเงิ เครื ่อ น
168
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
169
170
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
171
172
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
173
174
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
175
176
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
177
178
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
179
180
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
39. ประเภทรายการในงบการเงิ การจั ด น
การอนุ มัติง น 40. บการเงิ
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
181
ค่าตอบแทนของผู้สอบบัญชี
คณะกรรมการตรวจสอบพิจารณาคุณสมบัตแิ ละการปฏิบตั งิ านของผูส้ อบบัญชี และเสนอแนะต่อคณะกรรมการธนาคารธนชาต ในการแต่งตั้งผู้สอบบัญชีของธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) “ธนาคารธนชาต” ในแต่ละปี รวมถึงค่าธรรมเนียมการสอบบัญชี เพือ่ เสนอขออนุมตั จิ ากทีป่ ระชุมผูถ้ อื หุน้ ทัง้ นี้ รายชือ่ ผูส้ อบบัญชีทเี่ สนอเพือ่ พิจารณาแต่งตัง้ เป็นผูส้ อบบัญชีของธนาคารธนชาต จะต้อง เป็นผู้สอบบัญชีที่ได้รับความเห็นชอบจากธนาคารแห่งประเทศไทย “ธปท.” ซึ่ง ธปท. ได้มีหนังสือที่ ฝกต.(02) 258/2550 เรื่อง การให้ ความเห็นชอบผู้สอบบัญชีสำหรับรอบปีการบัญชี 2550 ลงวันที่ 22 มีนาคม 2550 ให้ความเห็นชอบผู้สอบบัญชีทั้ง 3 ท่าน ดังมีรายชื่อ ผู้สอบบัญชี และสำนักงานสอบบัญชี ดังนี้ 1. นางสาวรัตนา จาละ ผู้สอบบัญชีรับอนุญาตเลขที่ 3734 และ/หรือ 2. นางสาวรุ้งนภา เลิศสุวรรณกุล ผู้สอบบัญชีรับอนุญาตเลขที่ 3516 และ/หรือ 3. นายณรงค์ พันตาวงษ์ ผู้สอบบัญชีรับอนุญาตเลขที่ 3315 แห่งบริษัท สำนักงาน เอินส์ท แอนด์ ยัง จำกัด ซึ่งเป็นผู้สอบบัญชีชุดปัจจุบันของธนาคารธนชาต • ความสัมพันธ์กับธนาคารธนชาต ผู้สอบบัญชีที่ได้รับแต่งตั้ง ไม่มีความสัมพันธ์ในลักษณะอื่นกับธนาคารธนชาต • การเป็นผู้สอบบัญชีของบริษัทย่อยและบริษัทร่วมในกลุ่มธนชาต เนื่องจากธนาคารธนชาตเป็นบริษัทในกลุ่มของบริษัท ทุนธนชาต จำกัด (มหาชน) “ทุนธนชาต” จึงได้พิจารณาเสนอ ผู้สอบบัญชีจากบริษัท สำนักงาน เอินส์ท แอนด์ ยัง จำกัด ซึ่งเป็นผู้สอบบัญชีของบริษัทในกลุ่มธนชาต ในรอบปี 2551 ธนาคารธนชาตจ่ายค่าตอบแทนการสอบบัญชีให้แก่ บริษัท สำนักงาน เอินส์ท แอนด์ ยัง จำกัด สำหรับ ค่าตอบแทนของผู้สอบบัญชี ประกอบด้วย 1. ค่าตอบแทนการสอบบัญชี (Audit Fee) 1.1 ค่าธรรมเนียมการสอบบัญชีที่ลงนามโดยผู้สอบบัญชี คือ นางสาวรัตนา จาละ ในรอบปีที่ผ่านมา มีจำนวนเงินรวม 6,550,000 บาท 1.2 ค่าใช้จ่ายอื่นที่เกี่ยวเนื่องกับการสอบบัญชีในรอบปีที่ผ่านมาแก่สำนักงานสอบบัญชีที่ผู้สอบบัญชีสังกัด มีจำนวนเงิน รวม 253,978 บาท 2. ค่าบริการอื่น (Non-Audit Fee) ธนาคารธนชาตจ่ายค่าตอบแทนของงานบริการอื่น ซึ่งได้แก่ การตรวจสอบพิเศษตามเกณฑ์ที่ ธปท. กำหนดให้ผู้สอบ บัญชีตรวจสอบธนาคารธนชาต เป็นจำนวนเงินรวม 350,000 บาท และไม่มีค่าใช้จ่ายในอนาคตอันเกิดจากการตกลงที่ยังให้บริการ ไม่แล้วเสร็จในรอบปีบัญชีที่ผ่านมา นอกจากค่าตอบแทนตาม 1 และ 2 ธนาคารธนชาตไม่มีการจ่ายค่าตอบแทนอื่นใดให้แก่ผู้สอบบัญชีของธนาคารธนชาต สำนักงานสอบบัญชีที่ผู้สอบบัญชีสังกัด บุคคล หรือกิจการที่เกี่ยวข้องกับผู้สอบบัญชีและสำนักงานสอบบัญชีที่ผู้สอบบัญชีสังกัด
ในรอบปีบัญชีที่ผ่านมา
182
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
การกำกับดูแลกิจการ
ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) “ธนาคารธนชาต” และบริษัทในกลุ่มธนชาต มีมาตรการในการกำกับดูแลกิจการที่เป็น มาตรฐานเดียวกัน โดยบริษัท ทุนธนชาต จำกัด (มหาชน) “ทุนธนชาต” ในฐานะที่เป็นบริษัทแม่ของธนาคารธนชาต และเป็นบริษัท
จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย “ตลท.” จากผลการสำรวจการกำกั บ ดู แ ลกิ จ การบริ ษั ท จดทะเบี ย นในปี 2551 (Corporate Governance Report of Thai Listed Companies 2008: CGR 2008) ทุนธนชาตได้รบั การจัดอันดับอยูใ่ น “ระดับดีมาก” ได้รบั คะแนน 80 - 89 คะแนน และจากการประเมินคุณภาพการจัดประชุมผู้ถือหุ้นประจำปี (Annual General Meeting) สำหรับบริษัท จดทะเบียน ทุนธนชาตได้รับการประเมินอยู่ใน “ระดับดีมาก” ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่ากลุ่มธนชาต ตระหนักดีว่าการจัดให้มีกระบวนการ กำกับดูแลกิจการที่ดีในองค์กรเป็นสิ่งสำคัญ และเป็นปัจจัยพื้นฐานที่จะช่วยส่งเสริมการดำเนินงานให้มีประสิทธิภาพ มีการเจริญเติบโต ที่ยั่งยืนเป็นที่ยอมรับโดยทั่วไปทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ อันจะนำไปสู่เป้าหมายสำคัญในการก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ผู้ที่ เกีย่ วข้องทุกฝ่าย ได้แก่ ผูถ้ อื หุน้ ผูล้ งทุน ผูม้ สี ว่ นได้เสียอื่น ๆ (Stakeholders) และสังคมโดยรวมอย่างทั่วถึง ตั้งแต่ปี 2549 เป็นต้นมา ตลท. ได้เผยแพร่หลักการกำกับดูแลกิจการที่ดีสำหรับบริษัทจดทะเบียน โดยนำหลักการกำกับดูแล กิจการที่ดี 15 ข้อ มาปรับปรุงแก้ไขเพิ่มเติม แบ่งเป็น 5 หมวด ได้แก่ สิทธิของผู้ถือหุ้น การปฏิบัติต่อผู้ถือหุ้นอย่างเท่าเทียมกัน บทบาทของผูม้ สี ว่ นได้เสีย การเปิดเผยข้อมูลและความโปร่งใส และความรับผิดชอบของคณะกรรมการ โดยธนาคารธนชาตได้นำหลักการ แนวทางปฏิ บั ติ เ กี่ ย วกั บ การกำกั บ ดู แ ลกิ จ การที่ ดี 5 หมวดมาใช้ ป ฏิ บั ติ ถึ ง แม้ ว่ า จะไม่ ใ ช่ บ ริ ษั ท จดทะเบี ย นใน ตลท.แล้ ว ก็ ต าม สามารถสรุปการดำเนินการได้ ดังนี้
1. สิทธิของผู้ถือหุ้นและการปฏิบัติต่อผู้ถือหุ้นอย่างเท่าเทียม
กลุ่มธนชาตคำนึงถึงสิทธิของผู้ถือหุ้น โดยได้กำหนดสิทธิและการปฏิบัติต่อผู้ถือหุ้นอย่างเท่าเทียมไว้ในนโยบายการกำกับ ดูแลกิจการที่ดีตามหลักการและแนวปฏิบัติ ซึ่งประกอบด้วยสิทธิในการเข้าร่วมประชุมผู้ถือหุ้น สิทธิในการมอบฉันทะให้บุคคลอื่น เข้าประชุมและออกเสียงลงคะแนนแทน สิทธิในการเสนอรายชื่อบุคคลเป็นกรรมการ สิทธิในการออกเสียงลงคะแนนในกิจการต่าง ๆ สิทธิในการรับเงินปันผล สิทธิในการแสดงความคิดเห็นและซักถามในการประชุมผู้ถือหุ้น และสิทธิที่จะได้รับสารสนเทศอย่างเพียงพอ และทันเวลา ในการประชุมสามัญผูถ้ อื หุน้ ประจำปี ธนาคารธนชาตได้จดั ส่งข้อมูลพร้อมทัง้ เผยแพร่ขอ้ มูลผ่านทางเว็บไซต์ของธนาคารธนชาต เกี่ยวกับ วัน เวลา สถานที่ประชุม ข้อมูลประกอบวาระการประชุมอย่างชัดเจนว่าเป็นเรื่องเสนอเพื่อทราบ หรือเพื่อพิจารณา รวมทั้ง ความเห็นของคณะกรรมการให้ผู้ถือหุ้นทราบล่วงหน้าก่อนวันประชุม โดยมีรายละเอียดวาระการประชุม พร้อมทั้งเอกสารประกอบ การประชุมอย่างเพียงพอที่จะใช้ประกอบการตัดสินใจลงคะแนนในวาระต่าง ๆ เพื่อรักษาสิทธิในการเข้าร่วมประชุม ในหนังสือเชิญ ประชุมจะมีการแจ้งรายละเอียดให้ผู้ถือหุ้นนำเอกสารหลักฐานที่จำเป็นในการเข้าร่วมประชุมผู้ถือหุ้น รวมทั้งได้แนบหนังสือมอบฉันทะ เพื่อให้ผู้ถือหุ้นที่ประสงค์จะมอบฉันทะให้ผู้อื่นเข้าประชุมแทน และจัดให้ประธานคณะกรรมการตรวจสอบเป็นบุคคลหนึ่งที่ผู้ถือหุ้น สามารถมอบฉันทะให้เข้าประชุมแทน หรือผู้ถือหุ้นจะจัดหาบุคคลผู้รับมอบฉันทะนอกเหนือจากรายชื่อที่ธนาคารธนชาตนำเสนอ ก็สามารถกระทำได้ นอกจากนี้ ผูถ้ อื หุน้ สามารถใช้สทิ ธิในการเสนอชือ่ บุคคลเพือ่ เข้ารับแต่งตัง้ เป็นกรรมการ หรือเสนอเพิม่ วาระการประชุมผูถ้ อื หุน้ รวมถึงการเสนอเรื่องอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินกิจการไว้ในเว็บไซต์ของธนาคารธนชาต ก่อนการประชุมสามัญผู้ถือหุ้น โดย กำหนดระยะเวลาตั้งแต่ 29 ธันวาคม 2551 - 27 มกราคม 2552 เพื่อเป็นอีกช่องทางหนึ่งในการติดต่อสื่อสารกับผู้ถือหุ้น ตลอดจน
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
183
นักลงทุนทั่วไป โดยข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะดังกล่าวจะถูกส่งต่อไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และยังคงให้ความสำคัญในการเปิดเผย ข้อมูลอย่างถูกต้อง ครบถ้วน ทันเวลา โปร่งใสแก่ผู้ถือหุ้น ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ เพื่อรองรับการใช้สิทธิของผู้ถือหุ้นทั้งชาวไทย และต่างชาติให้ได้รับทราบข้อมูลข่าวสารอย่างทั่วถึง การประชุมผู้ถือหุ้น คณะกรรมการธนาคารธนชาตให้ความสำคัญต่อการประชุมผูถ้ อื หุน้ อย่างสม่ำเสมอ กล่าวคือ นอกจากจะจัดให้ผถู้ อื หุน้ ได้รบั ทราบ ข้อมูลข่าวสารการจัดประชุมล่วงหน้าอย่างทั่วถึงในเวลาที่เหมาะสมแล้ว ยังได้จัดให้มีการอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ทั้งสถานที่ประชุม เจ้าหน้าทีต่ อ้ นรับ เจ้าหน้าทีร่ บั ลงทะเบียน เครือ่ งมืออุปกรณ์ทใี่ ช้ในการประชุม พร้อมทัง้ จัดพิมพ์บตั รลงคะแนนในแต่ละวาระให้แก่ผถู้ อื หุน้ มีการเปิดรับลงทะเบียนล่วงหน้าก่อนการประชุมทีใ่ ห้เวลามากกว่า 2 ชัว่ โมง การเปิดโอกาสและให้เวลาในการซักถาม แสดงความคิดเห็น อย่างเต็มที่ และได้บันทึกประเด็นซักถามและข้อคิดเห็นที่สำคัญไว้ในรายงานการประชุมด้วยแล้ว นอกจากเอกสารประกอบการประชุมแล้ว ยังมีการนำเสนอข้อมูลในรูปแบบวีดีทัศน์เพื่อให้ผู้ถือหุ้นได้รับความสะดวกมากขึ้น ก่อนเริ่มประชุมได้มีการชี้แจงวิธีการลงคะแนนและวิธีการนับคะแนนอย่างชัดเจน ในระหว่างการประชุมได้เปิดโอกาสให้ผู้ถือหุ้นทุกราย แสดงความคิดเห็นและซักถามอย่างเท่าเทียมกันในเวลาที่เหมาะสม ส่วนการลงคะแนนและนับคะแนนเสียงเป็นไปอย่างเปิดเผยและ รวดเร็ว โดยวิธีนับคะแนนเสียงจะนับ 1 หุ้น เป็น 1 เสียง และถือเสียงข้างมากเป็นมติ ยกเว้นกรณีการลงมติที่กำหนดให้ถือคะแนนเสียง ไม่น้อยกว่า 2 ใน 3 ของจำนวนเสียงทั้งหมดของผู้ถือหุ้นที่มาประชุมและมีสิทธิออกเสียงลงคะแนน หรือการลงมติที่กำหนดให้ ถือคะแนนเสียงไม่นอ้ ยกว่า 3 ใน 4 ของจำนวนเสียงทัง้ หมดของผูถ้ อื หุน้ ทีม่ าประชุมและมีสทิ ธิออกเสียงลงคะแนน และในการลงคะแนน เสียงให้ใช้บัตรลงคะแนนเฉพาะกรณีที่ผู้ถือหุ้นไม่เห็นด้วยหรืองดออกเสียง และเก็บบัตรลงคะแนนเหล่านี้ไว้เพื่อให้สามารถตรวจสอบได้ ภายหลัง ซึ่งประธานที่ประชุมและฝ่ายจัดการได้ให้ข้อมูลต่าง ๆ ตามที่ผู้ถือหุ้นร้องขอ โดยธนาคารธนชาตได้จดบันทึกรายงาน การประชุม บันทึกการออกเสียงในแต่ละวาระ ประเด็นซักถามและข้อคิดเห็นอย่างละเอียด และเผยแพร่ในเว็บไซต์ของธนาคารธนชาต เพื่อให้ผู้ถือหุ้นได้รับทราบ เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2551 ธนาคารธนชาตได้จัดให้มีการจัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 15 ประจำปี 2551 ณ โรงแรม ปทุมวัน ปริ๊นเซส เวลา 15.00 น. และเปิดให้ผู้ถือหุ้นสามารถลงทะเบียนเข้าร่วมประชุมได้ตั้งแต่เวลา 13.00 น. เป็นต้นไป เมื่อเปิด ประชุม มีผู้ถือหุ้นและผู้รับมอบฉันทะเข้าร่วมประชุม เป็นจำนวน 64 ราย รวมจำนวนหุ้น 1,733,341,978 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 99.93 ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้ว 1,734,619,292 หุ้น ซึ่งมากกว่า 1 ใน 3 ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด ครบเป็นองค์ประชุม ตามกฎหมายและข้อบังคับของธนาคารธนชาต โดยรายชื่อกรรมการที่เข้าร่วมประชุม มีดังนี้ 1. นายบันเทิง ตันติวิท ประธานกรรมการ (กรรมการที่ไม่เป็นผู้บริหาร) 2. นายศุภเดช พูนพิพฒ ั น์ รองประธานกรรมการ ประธานกรรมการบริหาร (กรรมการทีเ่ ป็นผูบ้ ริหาร) และประธานเจ้าหน้าทีบ่ ริหาร 3. นายเกียรติศักดิ์ มี้เจริญ ประธานกรรมการตรวจสอบ (กรรมการอิสระ) 4. นายณรงค์ จิวังกูร ประธานกรรมการสรรหาผูบ้ ริหาร และประธานกรรมการพิจารณาผลตอบแทน ผู้บริหาร (กรรมการอิสระ) 5. นายสุวิทย์ อรุณานนท์ชัย กรรมการตรวจสอบ และกรรมการสรรหาผู้บริหาร (กรรมการอิสระ) 6. นายสถาพร ชินะจิตร กรรมการตรวจสอบ (กรรมการอิสระ) 7. นางสาวสุวรรณภา สุวรรณประทีป รองประธานกรรมการบริหาร (กรรมการที่เป็นผู้บริหาร) 8. นายวิชิต ญาณอมร กรรมการสรรหาผู้บริหาร กรรมการพิจารณาผลตอบแทนผู้บริหาร (กรรมการทีไ่ ม่เป็นผูบ้ ริหาร) และทีป่ รึกษาด้านระบบสารสนเทศและเทคโนโลยี 9. นางมิเชล คว็อก กรรมการ (กรรมการที่ไม่เป็นผู้บริหาร) 10. นายเบรนดอน คิง กรรมการพิจารณาผลตอบแทนผู้บริหาร และกรรมการบริหาร (กรรมการที่ไม่เป็นผู้บริหาร) เมื่อวันที่ 8 มกราคม 2552 ธนาคารธนชาตได้จัดให้มีการจัดประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1 ประจำปี 2552 ณ โรงแรม ปทุมวัน ปริ๊นเซส เวลา 14.00 น. และเปิดให้ผู้ถือหุ้นสามารถลงทะเบียนเข้าร่วมประชุมได้ตั้งแต่เวลา 12.00 น. เป็นต้นไป เมื่อเปิด ประชุม มีผู้ถือหุ้นและผู้รับมอบฉันทะเข้าร่วมประชุม เป็นจำนวน 76 ราย รวมจำนวนหุ้น 1,733,525,505 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 99.94 ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้ว 1,734,619,292 หุ้น ซึ่งมากกว่า 1 ใน 3 ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด ครบเป็นองค์ประชุม ตามกฎหมายและข้อบังคับของธนาคารธนชาตโดยรายชื่อกรรมการที่เข้าร่วมประชุม มีดังนี้ 184
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
1. นายบันเทิง ตันติวิท ประธานกรรมการ (กรรมการที่ไม่เป็นผู้บริหาร) 2. นายศุภเดช พูนพิพฒ ั น์ รองประธานกรรมการ ประธานกรรมการบริหาร (กรรมการทีเ่ ป็นผูบ้ ริหาร) และประธานเจ้าหน้าทีบ่ ริหาร 3. นายเกียรติศักดิ์ มี้เจริญ ประธานกรรมการตรวจสอบ (กรรมการอิสระ) 4. นายณรงค์ จิวังกูร ประธานกรรมการสรรหาผูบ้ ริหาร และประธานกรรมการพิจารณาผลตอบแทน ผู้บริหาร (กรรมการอิสระ) 5. นายสุวิทย์ อรุณานนท์ชัย กรรมการตรวจสอบ และกรรมการสรรหาผู้บริหาร (กรรมการอิสระ) 6. นายสถาพร ชินะจิตร กรรมการตรวจสอบ (กรรมการอิสระ) 7. นางสาวสุวรรณภา สุวรรณประทีป รองประธานกรรมการบริหาร (กรรมการที่เป็นผู้บริหาร) 8. นายวิชิต ญาณอมร กรรมการสรรหาผู้บริหาร กรรมการพิจารณาผลตอบแทนผู้บริหาร (กรรมการทีไ่ ม่เป็นผูบ้ ริหาร) และทีป่ รึกษาด้านระบบสารสนเทศและเทคโนโลยี กรรมการ 2 ท่าน คือ นางมิเชล คว็อก กรรมการ (กรรมการที่ไม่เป็นผู้บริหาร) และนายเบรนดอน คิง กรรมการพิจารณา ผลตอบแทนผู้บริหาร และกรรมการบริหาร (กรรมการที่ไม่เป็นผู้บริหาร) ไม่สามารถเข้าร่วมประชุมได้ เนื่องจากติดภารกิจสำคัญ ความขัดแย้งทางผลประโยชน์ เพื่อป้องกันความขัดแย้งทางผลประโยชน์ คณะกรรมการธนาคารธนชาตได้ดูแลอย่างรอบคอบเมื่อเกิดรายการที่อาจ มีความขัดแย้งทางผลประโยชน์ โดยกำหนดนโยบายและขั้นตอนการอนุมัติรายการที่เกี่ยวโยงกันไว้เป็นลายลักษณ์อักษร ตลอดจนมี การเปิดเผยข้อมูลอย่างครบถ้วน รวมทัง้ กำหนดนโยบายและวิธกี ารดูแลไม่ให้ผบู้ ริหารและผูเ้ กีย่ วข้องนำข้อมูลภายในของธนาคารธนชาต ไปใช้เพื่อประโยชน์ส่วนตน ดังนี้ • กรณีรายการที่อาจมีความขัดแย้งทางผลประโยชน์ รายการที่เกี่ยวโยงกันหรือรายการระหว่างกัน จะส่งเรื่องให้ฝ่ายกำกับ กฎระเบียบและข้อบังคับให้ความเห็นในประเด็นข้อกฎหมายและเกณฑ์ปฏิบตั กิ อ่ นนำเสนอผูม้ อี ำนาจเพือ่ ใช้ประกอบการพิจารณาอนุมตั ิ • มีการกำหนดในประกาศคณะกรรมการชุดต่าง ๆ ว่ารายการใดทีก ่ รรมการ ผูบ้ ริหาร หรือบุคคลทีเ่ กีย่ วโยงกันมีผลประโยชน์ ในการทำรายการกับธนาคารธนชาต ต้องแถลงการมีส่วนได้เสียเกี่ยวกับเรื่องที่จะพิจารณา และห้ามกรรมการ ผู้บริหารที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุมในช่วงการพิจารณานั้น ๆ • กรณีการขออนุมัติการให้สินเชื่อแก่หรือลงทุนในกิจการที่ธนาคารธนชาต หรือกรรมการ หรือผู้บริหารระดับสูงของ ธนาคารธนชาตมีผลประโยชน์เกี่ยวข้อง หรือให้สินเชื่อแก่ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ หรือผู้บริหารระดับสูงของธนาคารธนชาตต่อคณะกรรมการ ธนาคารธนชาต และให้ดำเนินการดังกล่าวได้ เมื่อได้รับการอนุมัติจากที่ประชุมคณะกรรมการธนาคารธนชาตด้วยมติเอกฉันท์ โดยไม่มี กรรมการหรือผู้บริหารระดับสูงของธนาคารธนชาตที่มีผลประโยชน์เกี่ยวข้องเข้าร่วมพิจารณาอนุมัติสินเชื่อหรือการลงทุนนั้น • คณะกรรมการธนาคารธนชาตได้ ท ราบถึ ง รายการที่ มี ค วามขั ด แย้ ง ทางผลประโยชน์ แ ละรายการที่ เ กี่ ย วโยงกั น และ ได้พจิ ารณาความเหมาะสมอย่างรอบคอบทุกครัง้ รวมทัง้ มีการปฏิบตั ติ ามหลักเกณฑ์ของ ตลท. สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์ “สำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต.” และธนาคารแห่งประเทศไทย “ธปท.” • การเปิดเผยข้อมูลการทำรายการทีอ ่ าจมีความขัดแย้งทางผลประโยชน์ หรือรายการทีเ่ กีย่ วโยงกัน หรือรายการระหว่างกัน เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่ทางการกำหนด • การสอบทานการทำรายการทีเ่ กีย ่ วโยงกัน ตามแผนงานตรวจสอบประจำปี และมีการรายงานต่อคณะกรรมการตรวจสอบ • กำหนดให้มีการเปิดเผยข้อมูลความเกี่ยวพันทางธุรกิจ หรือกิจการที่มีผลประโยชน์เกี่ยวข้องกับกรรมการและผู้บริหาร ระดับสูงทุกรอบ 3 เดือน เพื่อเป็นข้อมูลในการควบคุมดูแลรายการที่อาจมีความขัดแย้งทางผลประโยชน์ และเป็นฐานรายชื่อในการ เปิดเผยรายการธุรกิจกับกิจการที่เกี่ยวข้องกันในหมายเหตุประกอบงบการเงิน การดูแลเรื่องการใช้ข้อมูลภายใน • กำหนดให้ทุกหน่วยงานภายในธนาคารธนชาตจัดระบบงานการเก็บรักษาข้อมูลภายในให้มีการกำกับดูแลอย่างเหมาะสม • กำหนดให้ ผู้ บ ริ ห ารตั้ ง แต่ ต ำแหน่ ง รองกรรมการผู้ จั ด การขึ้ น ไป รวมถึ ง กรรมการของธนาคารธนชาต รายงานการ เปลีย่ นแปลงการถือหลักทรัพย์ตอ่ สำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. ตามมาตรา 59 แห่ง พ.ร.บ. หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 • ห้ามกรรมการ ผูบ ้ ริหาร หรือพนักงาน ลูกจ้าง และทีป่ รึกษา ทีล่ ว่ งรูส้ ารสนเทศสำคัญทีย่ งั ไม่เปิดเผยต่อสาธารณะ นำมาใช้ เพื่อแสวงหาประโยชน์ให้ตนเองหรือผู้อื่น โดยกำหนดไว้ในประกาศ และในจรรยาบรรณของธนาคารธนชาต • มี ป ระกาศเรื่ อ งการกำกั บ ดู แ ลการซื้ อ ขายหลั ก ทรั พ ย์ แ ละป้ อ งกั น การใช้ ข้ อ มู ล ภายใน โดยกำหนดช่ ว งระยะเวลา ห้ามทำการซื้อขายหลักทรัพย์ของทุนธนชาต 15 วันก่อนสิ้นแต่ละไตรมาส จนถึงวันเปิดเผยงบการเงินอีก 2 วัน
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
185
• กรณีพบว่ามีการนำข้อมูลภายในไปใช้เพื่อประโยชน์ส่วนตน ถือเป็นการปฏิบัติที่ผิดวินัยต้องได้รับการพิจารณาโทษ จากคณะกรรมการพิจารณาโทษทางวินัย
2. บทบาทของผู้มีส่วนได้เสีย
ธนาคารธนชาตเคารพในสิทธิและให้ความเป็นธรรมแก่ผมู้ สี ว่ นได้เสียทุกกลุม่ ไม่วา่ จะเป็นผูม้ สี ว่ นได้เสียภายใน ได้แก่ ผูถ้ อื หุน้ พนักงาน ผู้บริหารและกรรมการของธนาคารธนชาต และบริษัทในกลุ่มธนชาต หรือผู้มีส่วนได้เสียภายนอก ได้แก่ ลูกค้า คู่ค้า/เจ้าหนี้ คู่แข่ง ภาครัฐ รวมถึงสังคมและสิ่งแวดล้อม โดยยึดหลักการดำเนินธุรกิจอย่างมีคุณธรรมและจริยธรรม โปร่งใสภายใต้กรอบการแข่งขัน และเงื่อนไขทางการค้าที่เป็นสากล เพื่อให้มั่นใจว่าผู้มีส่วนได้เสียจะได้รับสิทธิอันพึงได้รับ โดยได้กำหนดแนวทางปฏิบัติไว้เป็น ลายลักษณ์อักษรในจริยธรรมการดำเนินธุรกิจและจรรยาบรรณ กรรมการ ผู้บริหาร พนักงาน มีการเปิดเผยข้อมูลโดยสื่อภายในเพื่อให้ กรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานทุกระดับถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัด และเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวทางเว็บไซต์ธนาคารธนชาต เพื่อให้ผ ู้
มีส่วนได้เสียมั่นใจว่า สิทธิดังกล่าวได้รับการเอาใจใส่ดูแลอยู่ตลอดเวลา โดยกำหนดการปฏิบัติต่อผู้มีส่วนได้เสีย ดังนี้ ผู้ถือหุ้น กลุม่ ธนชาต มุง่ มัน่ ในการดำเนินธุรกิจให้มผี ลประกอบการทีด่ ี มีการเจริญเติบโตอย่างยัง่ ยืน สามารถแข่งขันได้ เพือ่ ให้ผถู้ อื หุน้ ได้รบั ผลตอบแทนทีเ่ หมาะสมอย่างสม่ำเสมอ โดยคำนึงถึงความเสีย่ งและมีระบบการควบคุมภายในทีด่ ี มีการเปิดเผยข้อมูลอย่างถูกต้อง ครบถ้วน ทันเวลา และโปร่งใส ตลอดจนดูแลและอำนวยความสะดวกให้ผู้ถือหุ้นได้ใช้สิทธิอย่างเต็มที่ พนักงาน ปฏิบัติต่อพนักงานอย่างเท่าเทียม เป็นธรรม และให้ผลตอบแทนที่เหมาะสมโดยมีการสำรวจข้อมูล ตลอดจนพิจารณาถึง อัตราเงินเฟ้อและดัชนีผู้บริโภคเพื่อใช้เป็นแนวโน้มในการปรับเงินเดือน รวมถึงใช้ระบบตัวชี้วัดผลการปฏิบัติงาน (Key Performance Indicator: KPI) โดยในปี 2551 ได้นำแบบประเมินคุณลักษณะที่จำเป็น 5 ด้าน สำหรับพนักงานกลุ่มธนชาต ดังนี้ 1. Customer Centric Competency 2. Cognitive Competency 3. Operational Excellence Competency 4. Managerial Competency 5. Leadership Competency สอดรับกับยุทธศาสตร์หลักในการดำเนินธุรกิจ (CEO’s Six-point Agenda) ของกลุ่มธนชาต เป็นตัววัด ประสิทธิภาพการทำงาน การจ่ายผลตอบแทนและปรับปรุงการทำงานของพนักงานให้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น รวมถึงการพิจารณาเลื่อน ตำแหน่งอย่างเป็นธรรม นอกจากนี้ ยังมีการจัดสวัสดิการต่าง ๆ ให้แก่พนักงาน ได้แก่ ค่ารักษาพยาบาล วันลาหยุดพักผ่อนประจำปี กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ สหกรณ์ออมทรัพย์พนักงานในกลุ่มธนชาต การซ้อมหนีไฟ ตลอดจนดูแลสภาพแวดล้อมของสถานที่ทำงาน ให้เหมาะสมมีความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สิน รวมถึงเสริมสร้างสัมพันธภาพในการทำงานที่ดี ด้วยการจัดทำสื่อสิ่งพิมพ์เผยแพร่ ในองค์กร “ธ สายใย” ซึ่งเป็นวารสารรายเดือนที่มุ่งสานสายใย ให้ความรู้ความเข้าใจในกลุ่มธนชาต นอกจากนี้ ยังจัดให้มีการสื่อสาร ผ่านระบบ Intranet ที่ใช้สำหรับเผยแพร่ข่าวสาร ผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ของกลุ่มธนชาต ประกาศ/ระเบียบภายใน รวมถึงกฎเกณฑ์ภายนอก ที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนกิจกรรมของกลุ่มธนชาต ด้านการพัฒนาบุคลากรกลุ่มธนชาต ในปี 2551 ได้จัดโครงการ Go Together ขึ้นเป็นปีที่ 2 โดยประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และผู้บริหารระดับสูงของธนาคารธนชาตลงพื้นที่สำนักงานเครือข่ายทั่วประเทศเพื่อพบปะผู้บริหาร และพนักงานสำนักงานเครือข่าย อย่างใกล้ชิด รวมถึงมอบหมายนโยบายที่สอดรับกับยุทธศาสตร์หลักในการดำเนินธุรกิจ (CEO’s Six-point Agenda) ของกลุ่มธนชาต ทั้งยังเล็งเห็นว่าพนักงานกลุ่มธนชาต เป็นผู้ที่มีความสำคัญในการขับเคลื่อนให้กลุ่มธนชาตเป็นองค์กรแห่งการกำกับดูแลกิจการที่ดี และมีความรับผิดชอบต่อสังคม จึงได้มอบหมายให้ศนู ย์การศึกษาต่อเนือ่ งแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จัดทำหลักสูตร “การแปลงกลยุทธ์ ด้านธรรมาภิบาล และความรับผิดชอบต่อสังคม (Corporate Governance: CG and Corporate Social Responsibility: CSR)” โดยดำเนินการถ่ายทอดความรู้แก่พนักงานครอบคลุมทุกระดับ ทั้งในกรุงเทพฯ และภูมิภาค มีการวัดองค์ความรู้ด้าน CG & CSR ทั้งก่อนและหลังการอบรม ในปี 2551 ได้ดำเนินการแล้วจำนวน 10 รุ่น และจะเป็นโครงการต่อเนื่องต่อไป ลูกค้า ธนาคารธนชาต มุง่ มัน่ พัฒนาผลิตภัณฑ์ของกลุม่ และบริการทางการเงินทีต่ อบสนองทุกความต้องการของลูกค้า มีการเรียกเก็บ ค่าบริการทีเ่ ป็นธรรม พร้อมนำเสนอข้อมูลผลิตภัณฑ์ บริการอย่างครบถ้วนและเพียงพอให้ลกู ค้าทราบก่อนตัดสินใจ การรับข้อเสนอแนะ 186
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
หรือข้อร้องเรียนเกี่ยวกับบริการ โดยผ่านช่องทางต่าง ๆ เช่น เว็บไซต์ธนาคารธนชาต (www.thanachartbank.co.th) เจ้าหน้าที่ การตลาด ศูนย์ลกู ค้าสัมพันธ์กลุม่ ธนชาต (Thanachart Contact Center 1770) เป็นต้น โดยหน่วยงานทีร่ บั ผิดชอบจะติดตามข้อร้องเรียน พร้อมแจ้งกลับไปยังลูกค้าผู้ร้องเรียนทุกราย ทั้งนี้ ทุกเดือนจะมีการรายงานให้คณะกรรมการธนาคารธนชาตรับทราบ เพื่อนำมา ปรับปรุงบริการของกลุ่มธนชาต ให้ตอบสนองความต้องการและทำให้ลูกค้าเกิดความพึงพอใจในการใช้บริการต่อไป คู่ค้า/เจ้าหนี้ รักษาไว้ซึ่งชื่อเสียงของกลุ่มธนชาตในการดำเนินธุรกิจต่อคู่ค้าและเจ้าหนี้ ตั้งแต่การคัดเลือกจนถึงการยึดมั่นในสัญญา และถือปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ตกลงร่วมกัน รวมถึงสร้างความสัมพันธ์ที่ดี เพื่อสร้างความเชื่อมั่นที่จะร่วมมือกันในระยะยาว คู่แข่ง ดำเนินธุรกิจภายใต้กรอบกติกา และแข่งขันอย่างยุติธรรม ไม่กล่าวหาให้ร้ายหรือซ้ำเติมคู่แข่งขัน รวมถึงไม่แสวงหาข้อมูล ที่เป็นความลับของคู่แข่งด้วยวิธีที่ไม่สุจริตและไม่เหมาะสม สังคมและสิ่งแวดล้อม ให้ความสำคัญต่อขนบธรรมเนียมและจารีตประเพณีอันดีงาม ตลอดจนกฎหมาย กฎเกณฑ์ เพื่อการรักษาและฟื้นฟูสังคม และสิ่งแวดล้อม ดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบ รวมทั้งมีส่วนร่วมในการช่วยเหลือโดยดำเนินกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม และสิ่งแวดล้อม ภาครัฐ ดำเนินธุรกิจอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และระเบียบข้อบังคับของทางการ ไม่มีส่วนร่วมหรือดำเนิน ธุรกิจกับองค์กร หรือบุคคลที่กระทำผิดต่อกฎหมาย
3. การเปิดเผยข้อมูลและความโปร่งใส
นโยบายเกี่ยวกับการกำกับดูแลกิจการ จริยธรรมการดำเนินธุรกิจ และจรรยาบรรณกรรมการ ผู้บริหาร และพนักงาน คณะกรรมการธนาคารธนชาตได้พิจารณากำหนดแนวนโยบายในการกำกับดูแลกิจการ ซึ่งมีเนื้อหาครอบคลุมหลักการสำคัญ เกี่ยวกับโครงสร้าง บทบาทหน้าที่ ความรับผิดชอบของคณะกรรมการ ความมุ่งมั่นในการบริหารงานอย่างโปร่งใส เปิดเผย สามารถ ตรวจสอบได้ โดยให้เผยแพร่ไว้ในเว็บไซต์ของธนาคารธนชาต (www.thanachartbank.co.th) และในระบบ Intranet ของกลุ่มธนชาต เพื่อเป็นการสื่อสารให้บุคลากรทุกระดับของกลุ่มธนชาตสามารถเข้าไปศึกษารายละเอียดได้อย่างทั่วถึง โดยมีจุดมุ่งหมายอันสำคัญ ในการสื่อความไปยังพนักงานกลุ่มธนชาต ผู้ถือหุ้น ตลอดจนผู้มีส่วนได้เสียอื่น ถึงความยึดมั่นของคณะกรรมการในการปฏิบัติตาม คุณลักษณะหลักของกระบวนการกำกับดูแลกิจการที่ดี อันประกอบด้วย 1.1 ความซื่อสัตย์ 1.2 ความโปร่งใส 1.3 ความเป็นอิสระ 1.4 ความเป็นธรรม 1.5 ความรับผิดชอบต่อภาระหน้าที่ 1.6 ความรับผิดชอบต่อสังคม คุณลักษณะหลักของกระบวนการกำกับดูแลกิจการทีด่ ขี า้ งต้นนี้ อยูใ่ นนโยบายการกำกับดูแลกิจการทีก่ ลุม่ ธนชาตสือ่ สารไปยัง บุคลากรทุกระดับ โดยได้ผสมผสานกำหนดเป็นภารกิจ คุณค่าที่มุ่งหวัง วิสัยทัศน์ และจริยธรรมการดำเนินธุรกิจ จรรยาบรรณ กรรมการ ผู้บริหาร พนักงานซึ่งเป็นนโยบายที่สะท้อนถึงคุณค่า แนวปฏิบัติ และทิศทางซึ่งทำให้มั่นใจได้ว่ากลุ่มธนชาตได้ดำเนินการ
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
187
ตามหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดีสำหรับบริษัทจดทะเบียน กรรมการธนาคารธนชาตทุกท่าน ตระหนักถึงหน้าที่ความรับผิดชอบในการ ดำเนินงานเพือ่ ประโยชน์สงู สุด คณะกรรมการธนาคารธนชาตให้ความสำคัญในการเปิดเผยข้อมูลสำคัญทีเ่ กีย่ วข้องทัง้ ข้อมูลทางการเงิน และข้อมูลที่มิใช่ข้อมูลทางการเงินอย่างถูกต้อง ครบถ้วน ทันเวลา และโปร่งใส ผ่านช่องทางที่เข้าถึงได้ง่าย มีความเท่าเทียมกันและ น่าเชือ่ ถือต่อผูม้ สี ว่ นได้เสียทุกกลุม่ นอกจากนัน้ ยังยึดมัน่ ในการดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิง่ แวดล้อม กลุม่ ธนชาต และพนักงานยึดมั่นประพฤติปฏิบัติตนเป็นพลเมืองที่ดี ใช้ทรัพยากร ทั้งในรูปเงินทุน บุคลากร และพลังงานอย่างชาญฉลาด มีส่วนร่วม ในการดำเนินโครงการเพื่อรักษาสิ่งแวดล้อม พัฒนาชุมชน และสังคมอย่างต่อเนื่อง รับผิดชอบและตระหนักถึงการพัฒนาคุณภาพชีวิต ของชุมชน สนับสนุนภูมปิ ญ ั ญาท้องถิน่ และส่งเสริมให้พนักงานมีสว่ นร่วมในกิจกรรมต่าง ๆ ด้านสังคม การศึกษา ศิลปะ วัฒนธรรมและ สิ่งแวดล้อมตามควร โดยหลักการกำกับดูแลกิจการของธนาคารธนชาตมีเนื้อหาครอบคลุมถึงโครงสร้างคณะกรรมการธนาคารธนชาต องค์ประกอบคณะกรรมการธนาคารธนชาต บทบาทหน้าที่และความรับผิดชอบของคณะกรรมการธนาคารธนชาตและคณะกรรมการชุด ย่อย การบริหารความเสี่ยงและการควบคุมภายใน จรรยาบรรณของพนักงาน นโยบายในการดูแลการใช้ข้อมูลภายใน แนวปฏิบัติใน กรณีที่มีหรืออาจมีความขัดแย้งทางผลประโยชน์ และสัมพันธภาพของผู้ถือหุ้น ซึ่งได้เผยแพร่ไว้ในระบบ Intranet เพื่อเป็นการสื่อสาร ให้บุคลากรทุกระดับของกลุ่มธนชาต สามารถเข้าไปศึกษารายละเอียดได้อย่างทั่วถึง นอกจากการประกาศใช้ และเผยแพร่นโยบายเกี่ยวกับการกำกับดูแลกิจการ ให้บุคลากรทุกระดับในกลุ่มได้รับทราบตั้งแต่ ปี 2546 กลุ่มธนชาตยังคงเดินหน้าพัฒนา และปรับปรุงการดำเนินธุรกิจภายใต้กรอบการมีบรรษัทภิบาลที่ดี โดยมีแผนการปรับปรุง นโยบายการกำกับดูแลกิจการทีด่ ี และกำหนดให้มกี ารทบทวนเป็นประจำทุกปี พร้อมทัง้ ปรับปรุงจรรยาบรรณในการดำเนินธุรกิจ รวมถึง จรรยาบรรณกรรมการ ผู้บริหาร พนักงาน เพื่อเป็นกรอบในการปฏิบัติสำหรับบุคลากร นอกจากนี้ ยังมีแผนงานจัดโครงการรณรงค์
ให้บุคลากรของกลุ่มธนชาต ตระหนักถึงความสำคัญของการดำเนินธุรกิจ โดยยึดหลักคุณธรรม จริยธรรม และการกำกับดูแลกิจการที่ดี ตลอดจนโครงการเพื่อตอบแทนชุมชนหรือสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ที่เครือข่ายสาขาตั้งอยู่ รายงานของคณะกรรมการ คณะกรรมการธนาคารธนชาต เป็นผู้รับผิดชอบต่องบการเงิน และได้มอบหมายให้คณะกรรมการตรวจสอบทำหน้าที่ดูแล รายงานทางการเงิน และระบบการควบคุมภายในของธนาคารธนชาตให้มีการรายงานที่ถูกต้องตรงต่อความเป็นจริง และเชื่อถือได้ตาม มาตรฐานการบัญชีที่รับรองทั่วไปในประเทศไทย โดยได้เลือกใช้นโยบายบัญชีที่เหมาะสม และถือปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอ รวมทั้งมีการ เปิดเผยข้อมูลสำคัญอย่างเพียงพอในหมายเหตุประกอบงบการเงินของธนาคารธนชาต และได้เปิดเผยคำอธิบายและวิเคราะห์ของ ฝ่ายจัดการ (Management Discussion & Analysis: MD&A) ประกอบการจัดส่งงบการเงินรายไตรมาสและรายงวดประจำปี โดยเริ่ม ตั้งแต่การเปิดเผยงบการเงินประจำงวดครึ่งปี สิ้นสุด ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2546 เป็นต้นมา ทั้งนี้ ธนาคารธนชาตได้จัดให้มีรายงาน ของคณะกรรมการตรวจสอบ แสดงไว้ในรายงานประจำปีฉบับนี้แล้ว บทบาทหน้าที่ของคณะกรรมการ คณะกรรมการธนาคารธนชาต มีหน้าที่ดูแลจัดการงานทั้งปวงของธนาคารธนชาตให้เป็นไปตามกฎหมาย วัตถุประสงค์และ ข้อบังคับของธนาคารธนชาต รวมทั้งมติของที่ประชุมผู้ถือหุ้น นอกจากนี้ คณะกรรมการยังได้จัดตั้งคณะกรรมการชุดย่อยเพื่อทำหน้าที่ ดูแล บริหารจัดการเพื่อรักษาผลประโยชน์ของผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม โดยรายละเอียดบทบาทหน้าที่ของคณะกรรมการธนาคารธนชาต และคณะกรรมการแต่ละชุด จำนวนครั้งการประชุมและจำนวนครั้งที่กรรมการแต่ละท่านเข้าร่วมประชุมในปี 2551 ได้แสดงไว้ใน รายงานประจำปีฉบับนี้แล้ว ระบบการควบคุมและตรวจสอบภายใน ธนาคารธนชาตได้ให้ความสำคัญต่อระบบควบคุมภายในทัง้ ในระดับบริหาร และระดับปฏิบตั งิ านทีม่ ปี ระสิทธิภาพ จึงได้กำหนด ภาระหน้าที่ อำนาจการดำเนินการของผู้ปฏิบัติงาน ผู้บริหาร ไว้เป็นลายลักษณ์อักษรอย่างชัดเจน มีการควบคุมดูแลการใช้ทรัพย์สินให้ เกิดประโยชน์ และมีการแบ่งแยกหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน ผู้ติดตามควบคุมและประเมินผลออกจากกัน เพื่อให้เกิดการถ่วงดุลและตรวจสอบ ระหว่างกันอย่างเหมาะสม นอกจากนี้ ยังมีการควบคุมภายในที่เกี่ยวกับระบบการเงิน โดยได้จัดให้มีระบบรายงานทางการเงิน เสนอผู้บริหารสายงานรับผิดชอบ รวมทั้งยังจัดให้มีหน่วยงานกำกับดูแลการปฏิบัติงานทำหน้าที่ในการติดตามและกำกับการปฏิบัติงาน ให้เป็นไปโดยถูกต้องตามกฎหมาย 188
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
สายงานตรวจสอบทำหน้าที่ตรวจสอบเพื่อให้มั่นใจว่าการปฏิบัติงานหลัก และกิจกรรมทางการเงินสำคัญ ได้ดำเนินการ ตามแนวทางที่กำหนดและมีประสิทธิภาพ รวมถึงตรวจสอบการปฏิบัติตามกฎหมายและข้อกำหนดที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้หน่วยงาน ตรวจสอบภายในมีความเป็นอิสระ สามารถทำหน้าที่ตรวจสอบและถ่วงดุลได้อย่างเต็มที่ จึงกำหนดให้ฝ่ายตรวจสอบขึ้นตรงต่อ
คณะกรรมการตรวจสอบ มีหน้าทีร่ ายงานผลการตรวจสอบโดยตรงต่อคณะกรรมการตรวจสอบเป็นรายไตรมาส และได้รบั การประเมินผล การปฏิบัติงานจากคณะกรรมการตรวจสอบ การบริหารความเสี่ยง ธนาคารธนชาตให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่งในเรื่องของการบริหารความเสี่ยง โดยครอบคลุมความเสี่ยงที่มีนัยสำคัญทั้งของ ธนาคารธนชาต และบริษัทในกลุ่มธนชาต ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อการบรรลุเป้าหมาย ได้แก่ ความเสี่ยงด้านกลยุทธ์ ความเสี่ยง ด้านเครดิต ความเสีย่ งด้านตลาด ความเสีย่ งด้านอัตราดอกเบีย้ และอัตราแลกเปลีย่ น ความเสีย่ งด้านสภาพคล่อง ความเสีย่ งด้านปฏิบตั กิ าร จึงได้จัดให้มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการพิจารณาความเสี่ยง แนวทางการบริหารความเสี่ยง การควบคุมและการติดตาม ตลอดจน มีการรายงานอย่างสม่ำเสมอ โดยรายละเอียดปรากฏในเรื่องปัจจัยความเสี่ยง ความสัมพันธ์กับผู้ลงทุน คณะกรรมการธนาคารธนชาตตระหนักดีว่า ข้อมูลของธนาคารธนชาตทั้งทางการเงินและที่ไม่ใช่การเงินล้วนมีผลต่อการ ตัดสินใจของผู้ลงทุนและผู้ที่มีส่วนได้เสียของธนาคารธนชาต จึงได้กำชับให้ฝ่ายบริหารดำเนินการในเรื่องที่เกี่ยวกับการเปิดเผยข้อมูล อย่างถูกต้อง ครบถ้วน ทันเวลา โปร่งใส ตรงต่อความเป็นจริง เชื่อถือได้ ซึ่งฝ่ายบริหารของธนาคารธนชาตได้ให้ความสำคัญและยึดถือ ปฏิบัติมาโดยตลอด ในส่วนของงานด้านผู้ลงทุนสัมพันธ์นั้น ธนาคารธนชาตยังไม่จัดตั้งหน่วยงานขึ้นเฉพาะ เนื่องจากกิจกรรมในเรื่อง ดั ง กล่ า วยั ง ไม่ ม ากนั ก แต่ ไ ด้ ม อบหมายให้ ส ำนั ก กรรมการผู้ จั ด การ ทำหน้ า ที่ ติ ด ต่ อ สื่ อ สารกั บ ผู้ ล งทุ น สถาบั น ผู้ ถื อ หุ้ น รวมทั้ ง
นักวิเคราะห์และภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ผู้ลงทุนสามารถดูข้อมูลธนาคารธนชาตได้ที่ www.thanachartbank.co.th หรือติดต่อขอทราบข้อมูล ธนาคารธนชาตได้ที่สำนักกรรมการผู้จัดการ โทร. 0-2613-6107 4. ความรับผิดชอบของคณะกรรมการ ธนาคารธนชาตมีความมุ่งมั่นในการสร้างมูลค่าให้ธุรกิจสามารถแข่งขันได้ พร้อมพัฒนาธุรกิจของธนาคารธนชาตให้มี ผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่หลากหลาย เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างครบวงจร โดยคณะกรรมการธนาคารธนชาต ประกอบด้วย ผู้ทรงคุณวุฒิที่มีความรอบรู้และประสบการณ์ในด้านต่าง ๆ ที่เอื้อต่อการดำเนินธุรกิจ จึงได้ร่วมกันในการกำหนดวิสัยทัศน์ พันธกิจ กลยุทธ์ เป้าหมายแผนธุรกิจ และงบประมาณอย่างรอบคอบ ระมัดระวัง โดยจัดให้มีการประชุมพิจารณาติดตามแผนงานและ งบประมาณที่กำหนดไว้ตามความเหมาะสมเป็นประจำ ตลอดจนกำกับดูแลให้ฝ่ายจัดการดำเนินการให้เป็นไปตามแผนธุรกิจและ งบประมาณที่กำหนดไว้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของธนาคารธนชาต และผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่าย คณะกรรมการธนาคารธนชาตได้จัดให้มีระบบการควบคุมการตรวจสอบภายในที่เพียงพอ ถูกต้องตามกฎข้อบังคับต่างๆ ของทางการ และมีมาตรการบริหารความเสี่ยงที่เหมาะสมสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ พันธกิจ จรรยาบรรณในการดำเนินธุรกิจ และเป็นไป ตามหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี รวมทั้งมีการติดตามการดำเนินการในเรื่องดังกล่าวอย่างสม่ำเสมอในการประชุมคณะกรรมการ ธนาคารธนชาต ซึ่งจัดขึ้นไม่น้อยกว่า 12 ครั้งต่อปี คณะกรรมการธนาคารธนชาตเป็นผู้พิจารณาการกำหนดและแยกบทบาทหน้าที่ ความรับผิดชอบระหว่างคณะกรรมการ คณะอนุกรรมการ และฝ่ายจัดการไว้เป็นลายลักษณ์อักษรอย่างชัดเจน ในการกำหนดระดับอำนาจเกี่ยวกับการอนุมัติและตัดสินใจก็ได้ ถูกจัดทำไว้เป็นลายลักษณ์อักษรเช่นกัน ทั้งนี้ หนังสือมอบอำนาจที่ได้จัดทำขึ้นจะมีการเวียนให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งภายในและภายนอก องค์กรได้รบั ทราบอย่างทัว่ ถึง และมีการทบทวนขอบเขตอำนาจหน้าทีท่ มี่ อบหมายเป็นระยะ ๆ เพือ่ ความเหมาะสม และเพือ่ ให้การมอบหมาย นัน้ เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการใช้ปฏิบัติงาน โดยในกรณีของผู้ที่เกี่ยวข้องภายในสามารถดูข้อมูลจากระบบ Intranet ได้ตลอดเวลา ประธานกรรมการไม่เป็นบุคคลเดียวกันกับประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เพื่อเป็นการแบ่งแยกหน้าที่ในการกำหนดนโยบาย การกำกับดูแลและการบริหารงานประจำ
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
189
องค์ประกอบของคณะกรรมการธนาคารธนชาต คณะกรรมการธนาคารธนชาต ประกอบด้วย กรรมการอิสระ กรรมการที่เป็นผู้บริหาร และกรรมการที่ไม่เป็นผู้บริหาร ซึ่งเป็น ผู้ทรงคุณวุฒิที่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญ ทักษะ ประสบการณ์ทั้งด้านการเงิน การบัญชี การบริหารจัดการ และอื่น ๆ อันทำให้สามารถ บริหารจัดการการประกอบธุรกิจได้เป็นอย่างดี ซึ่งก่อให้เกิดประโยชน์แก่ธนาคารธนชาต การเลือกตั้งกรรมการเป็นไปตามมติที่ประชุม ผู้ถือหุ้นตามหลักเกณฑ์และวิธีการตามกฎหมายและข้อบังคับของธนาคารธนชาต ซึ่งมีองค์ประกอบสอดคล้องกับประกาศ ธปท. เรื่อง ธรรมาภิบาลของสถาบันการเงิน โดย ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551 ประกอบด้วยกรรมการ จำนวน 10 ท่าน แยกเป็น • กรรมการที่เป็นผู้บริหาร 2 ท่าน • กรรมการที่ไม่เป็นผู้บริหาร 4 ท่าน • กรรมการที่เป็นอิสระ 4 ท่าน โดยมีกรรมการที่มาจากผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ดังนี้ 1. ทุนธนชาต ณ วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2552 ถือหุ้นธนาคารธนชาตร้อยละ 50.92 ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด โดยมีกรรมการจำนวน 3 ท่าน ดังนี้ 1.1 นายบันเทิง ตันติวทิ ดำรงตำแหน่งประธานกรรมการธนาคาร (กรรมการทีไ่ ม่เป็นผูบ้ ริหาร) และไม่เป็นบุคคลเดียวกัน กับประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เพื่อเป็นการแบ่งแยกหน้าที่ในการกำหนดนโยบายการกำกับดูแลและการบริหารงานประจำ 1.2 นายศุภเดช พูนพิพฒ ั น์ ดำรงตำแหน่งรองประธานกรรมการ ประธานกรรมการบริหาร (กรรมการทีเ่ ป็นผูบ้ ริหาร) และ ประธานเจ้าหน้าทีบ่ ริหาร 1.3 นางสาวสุวรรณภา สุวรรณประทีป ดำรงตำแหน่งกรรมการและรองประธานกรรมการบริหาร (กรรมการทีเ่ ป็นผูบ้ ริหาร) 2. ธนาคารแห่งโนวาสโกเทีย “สโกเทียแบงก์” ณ วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2552 ที่ถือหุ้นธนาคารธนชาตร้อยละ 48.99 ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด โดยมีกรรมการจำนวน 2 ท่าน ดังนี้ 2.1 นางมิเชล คว็อก ดำรงตำแหน่งกรรมการ (กรรมการที่ไม่เป็นผู้บริหาร) 2.2 นายเบรนดอน คิง ดำรงตำแหน่งกรรมการพิจารณาผลตอบแทนผูบ้ ริหาร และกรรมการบริหาร (กรรมการทีไ่ ม่เป็นผูบ้ ริหาร) และมีกรรมการผู้มีอำนาจลงนามกระทำการแทนธนาคารธนชาต ประกอบด้วยนายบันเทิง ตันติวิท นายศุภเดช พูนพิพัฒน์ นางสาวสุวรรณภา สุวรรณประทีป กรรมการ 2 ใน 3 คน ลงลายมือชื่อและประทับตราสำคัญของธนาคารธนชาต การกำหนดวาระการดำรงตำแหน่ง คณะกรรมการธนาคารธนชาต ได้กำหนดวาระการดำรงตำแหน่งของกรรมการไว้อย่างชัดเจนในข้อบังคับของธนาคารธนชาต โดยข้อบังคับของธนาคารธนชาต มิได้กำหนดจำนวนสูงสุดของกรรมการ แต่ต้องไม่น้อยกว่า 5 คน และในการประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปีของธนาคารธนชาตทุก ๆ คราว ให้กรรมการออกจากตำแหน่งทั้งชุดพร้อมกันในคราวเดียว แต่ให้คณะกรรมการชุดเดิม
รักษาการในตำแหน่งเพื่อดำเนินกิจการของธนาคารธนชาตไปก่อนเท่าที่จำเป็นจนกว่าคณะกรรมการชุดใหม่จะเข้ารับหน้าที่ ในกรณี
ที่ตำแหน่งกรรมการว่างลงเพราะเหตุอื่น นอกจากถึงคราวออกตามวาระ ให้คณะกรรมการเลือกผู้ซึ่งมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้าม ตามกฎหมายเข้าเป็นกรรมการแทนในการประชุมกรรมการคราวถัดไปด้วยคะแนนเสียง ไม่น้อยกว่า 3 ใน 4 ของจำนวนกรรมการ ที่ยังเหลืออยู่ เว้นแต่วาระของกรรมการที่ว่างลงจะเหลือน้อยกว่าระยะเวลาตามที่กฎหมายกำหนด ซึ่งที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2551 ได้มีมติแต่งตั้งกรรมการชุดเดิม กลับเข้าเป็นกรรมการธนาคารธนชาตต่อไปอีกวาระหนึ่ง การเลือกตั้งกรรมการ กระทำโดยทีป่ ระชุมผูถ้ อื หุน้ ซึง่ เป็น “สิทธิของผูล้ งทุนรายย่อย” หรือแต่งตัง้ โดยคณะกรรมการธนาคารธนชาต ตามหลักเกณฑ์ และวิธีการดังต่อไปนี้ 1. ผู้ถือหุ้นคนหนึ่งมีคะแนนเสียงเท่ากับจำนวนหุ้นที่ตนถือ คูณด้วยจำนวนกรรมการที่เลือกตั้ง (Cumulative Voting) 2. ผู้ ถื อ หุ้ น แต่ ล ะคนจะใช้ ค ะแนนเสี ย งที่ มี อ ยู่ ทั้ ง หมดตามข้ อ 1 เลื อ กตั้ ง บุ ค คลเดี ย ว หรื อ หลายคนเป็ น กรรมการก็ ไ ด้ ในกรณีที่เลือกตั้งบุคคลหลายคนเป็นกรรมการ จะแบ่งคะแนนให้แก่ผู้ใดมากน้อยเพียงใดก็ได้ 190
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
3. บุคคลซึ่งได้รับคะแนนเสียงสูงสุดตามลำดับลงมาเป็นผู้ได้รับการเลือกตั้งเป็นกรรมการเท่ากับจำนวนกรรมการที่จะพึงมี ในกรณีที่บุคคลซึ่งได้รับการเลือกตั้งในลำดับถัดลงมามีคะแนนเสียงเท่ากันเกินจำนวนกรรมการที่จะพึงมี ให้เลือกโดยวิธีจับสลากเพื่อให้ ได้จำนวนกรรมการที่จะพึงมี 4. นอกจากการพ้นจากตำแหน่งตามวาระ กรรมการย่อมพ้นจากตำแหน่งเมื่อ 4.1 ตาย 4.2 ลาออก โดยทำเป็นหนังสือยื่นต่อธนาคารธนชาต หรือคณะกรรมการธนาคารธนชาต 4.3 ขาดคุณสมบัติ หรือมีลักษณะต้องห้ามตามกฎหมาย 4.4 ที่ประชุมผู้ถือหุ้นลงมติให้ออกด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่า 3 ใน 4 ของจำนวนผู้ถือหุ้นที่เข้าประชุม และมีสิทธิ
ออกเสียง และมีหุ้นนับรวมกันได้ไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนหุ้นที่ถือโดยผู้ถือหุ้นที่เข้าประชุม และมีสิทธิออกเสียง 4.5 ศาลมีคำสั่งให้ออก 5. ถ้าตำแหน่งกรรมการว่างลง เพราะเหตุอื่นนอกจากถึงคราวออกตามวาระ ให้คณะกรรมการเลือกผู้ซึ่งมีคุณสมบัต ิ
และไม่มีลักษณะต้องห้ามตามกฎหมาย เข้าเป็นกรรมการแทนในการประชุมกรรมการคราวถัดไปด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่า 3 ใน 4 ของจำนวนกรรมการที่ยังเหลืออยู่ เว้นแต่วาระของกรรมการที่ว่างลงจะเหลือน้อยกว่าระยะเวลาตามที่กฎหมายกำหนด 6. ในกรณีที่ตำแหน่งกรรมการว่างลงจนเหลือน้อยกว่าจำนวนที่จะเป็นองค์ประชุมได้ กรรมการที่เหลืออยู่จะทำการในนาม ของคณะกรรมการธนาคารธนชาต ได้เฉพาะการจัดให้มีการประชุมผู้ถือหุ้น เพื่อเลือกตั้งกรรมการแทนตำแหน่งที่ว่างทั้งหมดเท่านั้น 7. กรรมการซึ่งได้รับเลือกตั้งให้ดำรงตำแหน่งแทนตามข้อ 5 และข้อ 6 ให้อยู่ในตำแหน่งได้เพียงเท่าวาระที่ยังเหลืออยู่ของ กรรมการที่ตนแทนเท่านั้น สำหรับวาระการดำรงตำแหน่งของกรรมการชุดย่อย ได้แก่ คณะกรรมการตรวจสอบ คณะกรรมการสรรหาผู้บริหาร คณะกรรมการพิจารณาผลตอบแทนผู้บริหาร มีวาระการดำรงตำแหน่งตามวาระการดำรงตำแหน่งของกรรมการธนาคารธนชาต คณะกรรมการธนาคารธนชาต คณะกรรมการธนาคารธนชาต มีจำนวน 10 ท่าน ประกอบด้วยผู้ทรงคุณวุฒิที่มีความรู้ความสามารถ และประสบการณ์ที่เป็น ประโยชน์ต่อธนาคารธนชาต ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551 มีรายนาม ดังต่อไปนี้ 1. นายบันเทิง ตันติวิท ประธานกรรมการ (กรรมการที่ไม่เป็นผู้บริหาร) 2. นายศุภเดช พูนพิพัฒน์ รองประธานกรรมการ (กรรมการที่เป็นผู้บริหาร) 3. นายเกียรติศักดิ์ มี้เจริญ กรรมการ (กรรมการอิสระ) 4. นายณรงค์ จิวังกูร กรรมการ (กรรมการอิสระ) 5. นายสุวิทย์ อรุณานนท์ชัย กรรมการ (กรรมการอิสระ) 6. นายสถาพร ชินะจิตร กรรมการ (กรรมการอิสระ) 7. นางสาวสุวรรณภา สุวรรณประทีป กรรมการ (กรรมการที่เป็นผู้บริหาร) 8. นายวิชิต ญาณอมร กรรมการ (กรรมการที่ไม่เป็นผู้บริหาร) 9. นางมิเชล คว็อก กรรมการ (กรรมการที่ไม่เป็นผู้บริหาร) 10. นายเบรนดอน คิง กรรมการ (กรรมการที่ไม่เป็นผู้บริหาร) นายภาณุพันธุ์ ตวงทอง รักษาการ เลขานุการคณะกรรมการ กรรมการธนาคารธนชาตทุกท่าน ได้ผ่านหลักสูตรการอบรมของสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (Thai Institute of Directors: IOD) ท่านละ 1 หลักสูตร เป็นอย่างน้อย โดยในปี 2551 กรรมการจำนวน 1 ท่าน ได้เข้ารับการอบรมเพิ่มเติมในหลักสูตร ที่ IOD จัดขึ้น ดังนี้ นายณรงค์ จิวังกูร ประธานกรรมการสรรหาผูบ้ ริหาร และประธานกรรมการพิจารณาผลตอบแทน ผู้บริหาร (กรรมการอิสระ) ประกาศนียบัตร Successful Formulation & Execution the Strategy (SFE) รุ่น 2/2551
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
191
การอนุมตั จิ ากทีป่ ระชุมคณะกรรมการธนาคารธนชาตหรือทีป่ ระชุมผูถ้ อื หุน้ ในการดำรงตำแหน่งกรรมการของธนาคารธนชาต
รายชื่อ
1. นายบันเทิง ตันติวิท 2. นายศุภเดช พูนพิพัฒน์ 3. นายเกียรติศักดิ์ มี้เจริญ 4. นายณรงค์ จิวังกูร 5. นายสุวิทย์ อรุณานนท์ชัย 6. นายสถาพร ชินะจิตร 7. นางสาวสุวรรณภา สุวรรณประทีป 8. นายวิชิต ญาณอมร 9. นางมิเชล คว็อก 10. นายเบรนดอน คิง
วันที่ได้รับอนุมัติจากที่ประชุม คณะกรรมการธนาคารธนชาต
วันที่ได้รับอนุมัติจากที่ประชุม ผู้ถือหุ้น
- - - - - - - - - -
23 เมษายน 2551 23 เมษายน 2551 23 เมษายน 2551 23 เมษายน 2551 23 เมษายน 2551 23 เมษายน 2551 23 เมษายน 2551 23 เมษายน 2551 23 เมษายน 2551 23 เมษายน 2551
หน้าที่และความรับผิดชอบของคณะกรรมการธนาคารธนชาต 1. ดูแลจัดการงานทัง้ ปวงของธนาคารธนชาตให้เป็นไปตามกฎหมาย วัตถุประสงค์ และข้อบังคับของธนาคารธนชาต รวมทัง้ มติที่ประชุมผู้ถือหุ้น 2. แต่งตั้งคณะกรรมการบริหาร หรือคณะอนุกรรมการ เพื่อบริหารจัดการตามที่คณะกรรมการธนาคารธนชาตมอบหมาย 3. มอบหมายหน้าที่ หรืออำนาจให้กรรมการคนใดคนหนึง่ หรือหลายคน หรือบุคคลอืน่ กระทำการอย่างใดแทนคณะกรรมการ ธนาคารธนชาตได้ 4. ให้ความเห็นชอบวิสัยทัศน์ พันธกิจ คุณค่าที่ธนาคารธนชาตมุ่งหวัง และจรรยาบรรณในการดำเนินธุรกิจ 5. พิจารณาและหารือเกี่ยวกับกลยุทธ์ที่เสนอโดยฝ่ายจัดการ และอนุมัติในประเด็นสำคัญที่เกี่ยวกับทิศทาง และนโยบาย ของธนาคารธนชาต รวมทั้งพิจารณาและอนุมัติแผนธุรกิจ งบประมาณ และเป้าหมายการปฏิบัติงานที่เสนอโดยฝ่ายจัดการ 6. ติดตามผลการดำเนินงานของธนาคารธนชาต และความคืบหน้าในการบรรลุวัตถุประสงค์ และการปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบและนโยบายที่เกี่ยวข้อง 7. พิจารณามอบอำนาจให้ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการ มีอำนาจดำเนินการในธุรกิจธนาคารธนชาต ภายใต้งบประมาณค่าใช้จ่ายประเภททุน และงบประมาณค่าใช้จ่ายที่คณะกรรมการธนาคารธนชาตได้อนุมัติให้ดำเนินการในโครงการ ต่าง ๆ นอกจากนี้ คณะกรรมการธนาคารธนชาตจะพิจารณาอนุมัติสินเชื่อที่เกินกว่าอำนาจดำเนินการที่ได้กำหนดไว้ 8. ดูแลกำกับให้มีระบบการควบคุมภายในที่มีประสิทธิผล และการบริหารความเสี่ยงที่เหมาะสม 9. ดูแลให้มีการกำกับตรวจสอบ ทั้งจากผู้ตรวจสอบภายใน และผู้สอบบัญชีภายนอก ให้ทำหน้าที่อย่างมีประสิทธิผล 10. อนุมัติงบการเงินประจำไตรมาส รายงวด และประจำปี พร้อมทั้งดูแลให้มีการจัดทำงบการเงินเป็นไปตามหลักการบัญชี ที่รับรองทั่วไป 11. ดูแลให้มีการสื่อสารในเรื่องต่างๆ กับผู้มีส่วนได้เสียของธนาคารธนชาตและสาธารณชน ในปี 2551 ได้มีการประชุมรวมทั้งสิ้น จำนวน 13 ครั้ง
192
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
การประชุมคณะกรรมการ คณะกรรมการธนาคารธนชาตมี ก ารประชุ ม เป็ น ประจำในสั ป ดาห์ สุ ด ท้ า ยของเดื อ น และยั ง มี ก ารประชุ ม เพิ่ ม เติ ม ตาม ความจำเป็น โดยมีการกำหนดวาระชัดเจนล่วงหน้า และมีวาระพิจารณาติดตามผลการดำเนินงาน การอนุมัติธุรกรรมการปฏิบัติงาน การบริหารความเสี่ยงเป็นประจำ โดยเลขานุการคณะกรรมการธนาคารธนชาตได้จัดหนังสือเชิญประชุมพร้อมระเบียบวาระการประชุม และเอกสารก่อนการประชุมล่วงหน้า เพื่อให้คณะกรรมการธนาคารธนชาตได้มีเวลาศึกษาข้อมูลอย่างเพียงพอก่อนเข้าร่วมประชุม ซึ่งในปี 2551 ที่ผ่านมาคณะกรรมการธนาคารธนชาตมีการประชุมตามวาระปกติ จำนวน 12 ครั้ง และวาระพิเศษจำนวน 1 ครั้ง ทั้งนี้ ในการประชุมกรรมการทุกท่านมีอิสระในการแสดงความเห็นและลงมติ โดยประธานที่ประชุมจะเปิดโอกาสให้กรรมการ ทุกท่านได้แสดงความเห็นอย่างเต็มที่ก่อนจะขอลงมติ และได้มีการจดบันทึกการประชุมแสดงข้อสังเกตและความเห็นของกรรมการ ไว้เป็นลายลักษณ์อักษร จัดเก็บรายงานการประชุมที่ผ่านการรับรองจากคณะกรรมการธนาคารธนชาต พร้อมให้คณะกรรมการธนาคาร ธนชาตและผู้ที่เกี่ยวข้องตรวจสอบได้ คณะกรรมการตรวจสอบ คณะกรรมการธนาคารธนชาตได้อนุมัติจัดตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2542 เพื่อให้การบริหารงานของ ธนาคารธนชาตมีประสิทธิภาพ มีระบบการกำกับดูแลกิจการที่ดี เป็นที่น่าเชื่อถือต่อบุคคลภายนอก และสอดคล้องกับนโยบายของ ทางการ ประกอบด้วยกรรมการจำนวน 3 ท่าน ทุกท่านเป็นกรรมการทีเ่ ป็นอิสระ และกรรมการอย่างน้อย 1 ท่าน มีความรู้ ความเข้าใจ หรือมีประสบการณ์ด้านบัญชีหรือการเงิน ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551 มีรายนาม ดังต่อไปนี้ 1. นายเกียรติศักดิ์ มี้เจริญ ประธานกรรมการตรวจสอบ (กรรมการอิสระ) 2. นายสุวิทย์ อรุณานนท์ชัย กรรมการตรวจสอบ (กรรมการอิสระ) 3. นายสถาพร ชินะจิตร กรรมการตรวจสอบ (กรรมการอิสระ) นายชัชวาลย์ จันทรรวงทอง เลขานุการคณะกรรมการตรวจสอบ นายชูศักดิ์ พัชรพงษ์ศักดิ์ ผู้ช่วยเลขานุการคณะกรรมการตรวจสอบ หน้าที่และความรับผิดชอบของคณะกรรมการตรวจสอบ 1. สอบทานกระบวนการจัดทำ และการเปิดเผยข้อมูลในรายงานทางการเงินของธนาคารธนชาตให้มีความถูกต้อง ครบถ้วน เป็นที่เชื่อถือได้ โดยประสานงานกับผู้สอบบัญชีภายนอก และผู้บริหารที่รับผิดชอบในการจัดทำรายงานทางการเงิน ทั้งรายไตรมาส และประจำปี 2. สอบทานให้ธนาคารธนชาตมีระบบการควบคุมภายใน การตรวจสอบภายใน และการกำกับดูแลที่เหมาะสม และ มีประสิทธิภาพ โดยสอบทานร่วมกับผู้สอบบัญชีภายนอก ผู้ตรวจสอบภายใน และหน่วยงานกำกับดูแลของทางการ 3. สอบทานการบริหารความเสี่ยงของธนาคารธนชาตว่ามีอย่างเพียงพอสอดคล้องกับแนวทางของ ธปท. และนโยบายของ ธนาคารธนชาต 4. สอบทานหลั ก ฐานการไต่ ส วนภายในเมื่ อ มี ข้ อ สั ง เกต หรื อ สั น นิ ษ ฐานว่ า อาจมี ก ารทุ จ ริ ต หรื อ มี สิ่ ง ผิ ด ปกติ หรื อ มี ความบกพร่องสำคัญในระบบการควบคุมภายใน และนำเสนอคณะกรรมการธนาคารธนชาตพิจารณาต่อไป 5. สอบทานรายการที่เกี่ยวโยงกันหรือรายการที่อาจมีความขัดแย้งทางผลประโยชน์ให้มีความถูกต้องและครบถ้วน 6. สอบทานการปฏิบัติงานของธนาคารธนชาตให้เป็นไปตามกฎระเบียบ และข้อบังคับของทางการ 7. พิจารณาผลการตรวจสอบ และข้อเสนอแนะของผูส้ อบบัญชีภายนอก ผูต้ รวจสอบภายใน รวมทัง้ ติดตามผลการดำเนินการ ตามข้อเสนอแนะดังกล่าว 8. พิจารณาคัดเลือก และเสนอแต่งตั้งผู้สอบบัญชีของธนาคารธนชาต รวมถึงพิจารณาเสนอค่าตอบแทนของผู้สอบบัญชี โดยคำนึงถึงความน่าเชื่อถือ ความเพียงพอของทรัพยากร และปริมาณงานตรวจสอบของสำนักงานตรวจสอบบัญชีนั้น รวมถึง ประสบการณ์ของบุคลากรที่ได้รับมอบหมายให้ทำการตรวจสอบบัญชีของธนาคารธนชาต 9. ให้ความเห็นชอบในการแต่งตั้ง ประเมินผล ถอดถอน โยกย้าย เลิกจ้างผู้อำนวยการสายงานตรวจสอบ 10. กำกับดูแลการปฏิบัติงานของบริษัทย่อยให้เป็นไปตามนโยบายของกลุ่มธนชาต และมอบหมายให้สายงานตรวจสอบ ธนาคารธนชาตดำเนินการ ดังนี้
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
193
10.1 สรุปผลภาพรวมการปฏิบัติงานของสายงานตรวจสอบที่ตรวจสอบบริษัทย่อย ให้คณะกรรมการตรวจสอบ ธนาคารธนชาตรับทราบ 10.2 สรุปผลภาพรวมการปฏิบตั งิ านของสายงานตรวจสอบทีต่ รวจสอบ ธนาคารธนชาตและบริษทั ย่อยให้คณะกรรมการ ตรวจสอบทุนธนชาตรับทราบ 10.3 สำหรับการรายงานตามข้อ 10.1 และข้อ 10.2 นั้น กรณีที่มีประเด็นที่มีนัยสำคัญ ได้แก่ เรื่องที่ปฏิบัติไม่ถูกต้อง ตามกฎหมาย การทุจริตและเรือ่ งทีม่ ผี ลกระทบต่องบการเงิน หรือสถานะ หรือภาพลักษณ์ของธนาคารธนชาตและบริษทั ย่อยอย่างร้ายแรง ให้รายงานให้ทราบอย่างละเอียด 11. ให้มีการประชุมร่วมระหว่างคณะกรรมการตรวจสอบของแต่ละบริษัทในกลุ่มธนชาตเป็นครั้งคราวตามจำเป็น 12. ปฏิบัติอื่นใดตามที่คณะกรรมการธนาคารธนชาตมอบหมาย และตามที่ ตลท. หรือกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกำหนด ในปี 2551 ได้มีการประชุมรวมทั้งสิ้น จำนวน 10 ครั้ง กรรมการตรวจสอบทุกท่านเข้าประชุมครบ และมีการรายงาน ต่อคณะกรรมการธนาคารธนชาต คณะกรรมการสรรหาผู้บริหาร คณะกรรมการธนาคารธนชาตได้อนุมัติจัดตั้งคณะกรรมการสรรหาผู้บริหาร เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2545 โดย ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551 ประกอบด้วยกรรมการอิสระ 2 ท่าน และกรรมการที่ไม่เป็นผู้บริหาร 1 ท่าน มีรายนาม ดังต่อไปนี้ 1. นายณรงค์ จิวังกูร ประธานกรรมการสรรหาผู้บริหาร (กรรมการอิสระ) 2. นายวิชิต ญาณอมร กรรมการสรรหาผู้บริหาร (กรรมการที่ไม่เป็นผู้บริหาร) 3. นายสุวิทย์ อรุณานนท์ชัย กรรมการสรรหาผู้บริหาร (กรรมการอิสระ) นายภาณุพันธุ์ ตวงทอง รักษาการ เลขานุการคณะกรรมการสรรหาผู้บริหาร หน้าที่และความรับผิดชอบของคณะกรรมการสรรหาผู้บริหาร 1. กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการในการสรรหากรรมการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กรณีที่มีตำแหน่งว่างลง 2. พิจารณาคัดเลือกและกลั่นกรองบุคคลที่มีคุณสมบัติที่จะได้รับการแต่งตั้งกรรมการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เพื่อขอ อนุมัติต่อคณะกรรมการธนาคารธนชาต 3. ดูแลให้คณะกรรมการธนาคารธนชาตมีขนาดและองค์ประกอบที่เหมาะสมกับองค์กร รวมถึงการปรับเปลี่ยนให้สอดคล้อง กับสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไป โดยคณะกรรมการธนาคารธนชาตจะต้องประกอบด้วยบุคคลที่มีความรู้ความสามารถมีประสบการณ์
ในด้านต่าง ๆ ในปี 2551 ได้มีการประชุมรวมทั้งสิ้น จำนวน 3 ครั้ง และมีการรายงานต่อคณะกรรมการธนาคารธนชาต คณะกรรมการพิจารณาผลตอบแทนผู้บริหาร คณะกรรมการธนาคารธนชาตได้อนุมัติจัดตั้งคณะกรรมการพิจารณาผลตอบแทนผู้บริหาร เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2545 โดย ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551 ประกอบด้วยกรรมการอิสระ 1 ท่าน และกรรมการที่ไม่เป็นผู้บริหาร 2 ท่าน มีรายนาม ดังต่อไปนี้ 1. นายณรงค์ จิวังกูร ประธานกรรมการพิจารณาผลตอบแทนผู้บริหาร (กรรมการอิสระ) 2. นายวิชิต ญาณอมร กรรมการพิจารณาผลตอบแทนผู้บริหาร (กรรมการที่ไม่เป็นผู้บริหาร) 3. นายเบรนดอน คิง กรรมการพิจารณาผลตอบแทนผู้บริหาร (กรรมการที่ไม่เป็นผู้บริหาร) นางยุวภา เงินสวัสดิ์ เลขานุการคณะกรรมการพิจารณาผลตอบแทนผู้บริหาร หน้าที่และความรับผิดชอบของคณะกรรมการพิจารณาผลตอบแทนผู้บริหาร 1. กำหนดโครงสร้างผลตอบแทน และผลประโยชน์อื่นๆ สำหรับตำแหน่งกรรมการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เพื่อเสนอต่อ คณะกรรมการธนาคารธนชาตพิจารณาอนุมัติ 194
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
2. พิ จ ารณาค่ า ตอบแทนของกรรมการ ประธานเจ้ า หน้ า ที่ บ ริ ห าร ให้ ไ ด้ รั บ ผลตอบแทนที่ เ หมาะสมกั บ หน้ า ที่ และ ความรับผิดชอบที่ตนมีต่อธนาคารธนชาต เสนอให้คณะกรรมการธนาคารธนชาตหรือที่ประชุมผู้ถือหุ้นอนุมัติแล้วแต่กรณี ในปี 2551 ได้มีการประชุมรวมทั้งสิ้น จำนวน 3 ครั้ง และมีการรายงานต่อคณะกรรมการธนาคารธนชาต คณะกรรมการบรรษัทภิบาล คณะกรรมการธนาคารธนชาตถือได้ว่าเป็นคณะกรรมการบรรษัทภิบาลอีกคณะหนึ่งซึ่งมีหน้าที่และความรับผิดชอบ ดังนี้ 1. กำหนดหลักการ และข้อพึงปฏิบตั ทิ สี่ ำคัญของกระบวนการกำกับดูแลกิจการทีม่ ปี ระสิทธิผลเหมาะสมสำหรับธนาคารธนชาต 2. ส่งเสริมให้มีการจัดทำจรรยาบรรณในการดำเนินธุรกิจ และจรรยาบรรณของผู้บริหารและพนักงานธนาคารธนชาต เพื่อให้ผู้เกี่ยวข้องใช้เป็นแนวทางปฏิบัติ 3. ดูแลให้หลักการกำกับดูแลกิจการที่ดีของธนาคารธนชาตมีผลในทางปฏิบัติ 4. เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับการกำกับดูแลกิจการที่ดีของธนาคารธนชาตต่อหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง และในรายงาน ประจำปีของธนาคารธนชาต คณะกรรมการบริหาร คณะกรรมการธนาคารธนชาตได้อนุมัติจัดตั้งคณะกรรมการบริหาร เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2545 ประกอบด้วยกรรมการ 3 ท่าน ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551 มีรายนาม ดังต่อไปนี้ 1. นายศุภเดช พูนพิพัฒน์ ประธานกรรมการบริหาร 2. นางสาวสุวรรณภา สุวรรณประทีป รองประธานกรรมการบริหาร 3. นายเบรนดอน คิง กรรมการบริหาร ผู้ที่ได้รับมอบหมายจากประธานคณะกรรมการ เลขานุการคณะกรรมการบริหาร หน้าที่และความรับผิดชอบของคณะกรรมการบริหาร 1. อำนาจในการอนุ มั ติ ว งเงิ น ให้ กู้ ยื ม เพื่ อ ประโยชน์ ข องธนาคารธนชาต ตลอดจนการปรั บ ปรุ ง โครงสร้ า งหนี้ ภายใต้ พ.ร.บ. ธุรกิจสถาบันการเงิน และกฎเกณฑ์ของ ธปท. 2. อำนาจในการอนุ มั ติ ก ารลงทุ น เพื่ อ แสวงหาประโยชน์ ใ ห้ แ ก่ ธ นาคารธนชาต ภายใต้ พ.ร.บ. ธุ ร กิ จ สถาบั น การเงิ น และกฎเกณฑ์ของ ธปท. 3. จัดการดูแลการดำเนินการตามเป้าหมายธุรกิจของธนาคารธนชาต ตลอดจนสภาพคล่อง การบริหารความเสี่ยงและ โครงสร้างอัตราดอกเบี้ย 4. อำนาจในการจัดซื้อ รับโอน และจำหน่ายทรัพย์สินของธนาคารธนชาตร้อยละ 5 ของเงินกองทุนของธนาคารธนชาต 5. พิจารณากลั่นกรองเรื่องที่เกินอำนาจอนุมัติของคณะกรรมการบริหาร เพื่อนำเสนอให้ผู้มีอำนาจระดับสูงขึ้นไปพิจารณา 6. อำนาจในการจัดองค์กร การบริหาร การกำหนดข้อบังคับในการทำงาน การแต่งตั้ง ถอดถอนพนักงาน และการแต่งตั้ง ที่ปรึกษา ตลอดจนกำกับดูแลการปฏิบัติงานของธนาคารธนชาต 7. อำนาจในการอนุมัติเงินเดือนหรือผลตอบแทนอื่น ๆ แก่พนักงาน ลูกจ้าง เพื่อดำเนินงานตามปกติของธนาคารธนชาต รวมถึงที่ปรึกษา 8. พิจารณาและอนุมัติผู้ประเมินราคาอิสระ 9. กำหนดงบประมาณค่าใช้จ่ายในการประเมินมูลค่าหลักประกัน และควบคุมค่าใช้จ่ายดังกล่าว 10. อำนาจในการมอบอำนาจช่วงให้แก่พนักงานอื่นของธนาคารธนชาต เพื่อความสะดวกในการทำงาน ทั้ ง นี้ คณะกรรมการบริ ห ารมี อ ำนาจอนุ มั ติ ว งเงิ น สิ น เชื่ อ การลงทุ น และก่ อ ภาระผู ก พั น ตามเกณฑ์ ที่ ธปท. กำหนด ซึ่งปัจจุบันธนาคารธนชาตกำหนดไว้ไม่เกินร้อยละ 25 ของเงินกองทุน ในปี 2551 ได้มีการประชุมรวมทั้งสิ้น จำนวน 12 ครั้ง และมีการรายงานต่อคณะกรรมการธนาคารธนชาต คณะกรรมการพิจารณาความเสี่ยง ธนาคารธนชาตได้จัดตั้งคณะกรรมการบริหารความเสี่ยงตั้งแต่ปี 2545 ขึ้นตรงต่อคณะกรรมการบริหาร และในการประชุม คณะกรรมการธนาคารธนชาต ครั้งที่ 3/2551 เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2551 ได้มีมติให้คณะกรรมการพิจารณาความเสี่ยงขึ้นตรง
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
195
ต่อคณะกรรมการธนาคารธนชาต เพื่อให้เป็นไปตามโครงสร้างธรรมาภิบาลที่ ธปท. ประกาศกำหนด ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551 มีรายนาม ดังต่อไปนี้ 1. นายศุภเดช พูนพิพัฒน์ ประธานกรรมการ 2. นายโรเบิร์ต อีริคสัน รองประธานกรรมการ 3. นายบัณฑิต ชีวะธนรักษ์ กรรมการ 4. นางนุสรา รุนสำราญ กรรมการ 5. นายปิยะพงศ์ อาจมังกร กรรมการ 6. ดร.สุมาส วงศ์สุนพรัตน์ กรรมการ 7. นางสสิมา ทวีสกุลชัย กรรมการ 8. นายประพันธ์ อนุพงษ์องอาจ กรรมการ 9. นางขจิตพันธ์ ชุนหฤทธิ์ กรรมการ 10. นายกำธร ตันติศิริวัฒน์ กรรมการ และเลขานุการ หน้าที่และความรับผิดชอบของคณะกรรมการพิจารณาความเสี่ยง 1. เสนอนโยบายการบริหารความเสี่ยงของธนาคารธนชาตทั้งหมดต่อคณะกรรมการธนาคารธนชาต เพื่อพิจารณาอนุมัติ โดยต้องสร้างมาตรฐานในการติดตาม ตรวจสอบให้แน่ใจว่านโยบายความเสี่ยงนั้นได้มีการปฏิบัติตามโดยเคร่งครัด 2. วางกลยุทธ์ในการบริหารความเสี่ยงให้สอดคล้องกับนโยบายการบริหารความเสี่ยง โดยสามารถประเมิน ติดตาม และ ดูแลปริมาณความเสี่ยงของธนาคารธนชาตให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม 3. ทบทวนความเพียงพอของนโยบายการบริหารความเสี่ยง โดยรวมถึงความมีประสิทธิผลของระบบและการปฏิบัติตาม นโยบายที่กำหนด 4. กำหนดมาตรการดำเนินการในการบริหารความเสี่ยงในด้านของการป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้นและแก้ปัญหา ที่อาจเกิดขึ้น 5. ประเมินปัจจัยทั้งภายในและภายนอก อันอาจส่งผลกระทบต่อฐานะทางการเงินอย่างเป็นสาระสำคัญ เพื่อนำมาใช้ในการ เปลี่ยนนโยบายความเสี่ยงโดยรวมของธนาคารธนชาต 6. กำหนดและสั่งการหน่วยงานภายใต้คณะกรรมการบริหารความเสี่ยง ในการพัฒนากลไกบริหาร ควบคุม และติดตาม ความเสี่ยงให้ดียิ่งขึ้น 7. ติดตามและควบคุมการปฏิบัติงานการบริหารความเสี่ยงด้านต่าง ๆ โดยคณะกรรมการและ/หรือหน่วยงานต่าง ๆ ให้เป็น ไปตามนโยบายที่วางไว้ 8. รายงานต่อคณะกรรมการตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอในสิ่งที่ต้องดำเนินการปรับปรุงแก้ไข เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบาย และกลยุทธ์ในการบริหารความเสี่ยงที่กำหนด ในปี 2551 ได้มีการประชุมรวมทั้งสิ้นจำนวน 8 ครั้ง และมีการรายงานต่อคณะกรรมการธนาคารธนชาต คณะกรรมการบริหารสภาพคล่องและอัตราดอกเบี้ย ตามมติการประชุมคณะกรรมการบริหาร เมือ่ วันที่ 18 ธันวาคม 2550 ได้มมี ติปรับปรุงรายชือ่ คณะกรรมการบริหารสภาพคล่อง และอัตราดอกเบี้ย เพื่อให้การจัดการสินทรัพย์และหนี้สินของธนาคารธนชาตเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับโครงสร้าง องค์กร ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551 มีรายนาม ดังต่อไปนี้ 1. นายศุภเดช พูนพิพัฒน์ ประธานกรรมการ 2. นางสาวสุวรรณภา สุวรรณประทีป รองประธานกรรมการ 3. นายบัณฑิต ชีวะธนรักษ์ กรรมการ 4. นางนุสรา รุนสำราญ กรรมการ 5. นายปิยะพงศ์ อาจมังกร กรรมการ 6. นายลลิต ธรรมเสรี กรรมการ 7. นายกอบศักดิ์ ดวงดี กรรมการ ตัวแทนฝ่ายควบคุมธุรกิจ เลขานุการ 196
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
หน้าที่และความรับผิดชอบของคณะกรรมการบริหารสภาพคล่องและอัตราดอกเบี้ย 1. กำหนดแผนงานการบริหารความเสี่ยงด้านสภาพคล่อง อัตราดอกเบี้ย และอัตราแลกเปลี่ยนของธนาคารธนชาตภายใต้ นโยบายของคณะกรรมการบริหาร 2. บริหารความเสีย่ งสภาพคล่อง และอัตราแลกเปลีย่ นของธนาคารธนชาตให้สอดคล้องกับแนวโน้มของสภาวการณ์ตลาดเงิน และตลาดทุน 3. บริหารโครงสร้างและกำหนดอัตราดอกเบี้ย ทั้งอัตราดอกเบี้ยลอยตัวและอัตราดอกเบี้ยคงที่ เพื่อป้องกันผลกระทบจาก ความผันผวนของอัตราดอกเบี้ย 4. พิจารณาอนุมัติการลงทุนพันธบัตรภายในวงเงินที่ธนาคารธนชาตกำหนด 5. รายงานผลการบริหารสภาพคล่อง อัตราดอกเบี้ย และอัตราแลกเปลี่ยนให้คณะกรรมการบริหารรับทราบ ในปี 2551 ได้มีการประชุมรวมทั้งสิ้น จำนวน 51 ครั้ง รายละเอียดการเข้าร่วมประชุมของกรรมการแต่ละท่าน ในปี 2551
รายนามคณะกรรมการ ธนาคารธนชาต
คณะกรรมการ พิจารณา คณะกรรมการ คณะกรรมการ คณะกรรมการ ผลตอบแทน คณะกรรมการ คณะกรรมการ ธนาคารธนชาต ตรวจสอบ สรรหาผู้บริหาร ผู้บริหาร บริหารความเสี่ยง บริหาร (ประชุมทั้งหมด (ประชุมทั้งหมด (ประชุมทั้งหมด (ประชุมทั้งหมด (ประชุมทั้งหมด (ประชุมทั้งหมด 3 ครั้ง) 13 ครั้ง) 10 ครั้ง) 3 ครั้ง) 8 ครั้ง) 12 ครั้ง)
กรรมการอิสระ 1. นายเกียรติศักดิ์ มี้เจริญ 2. นายณรงค์ จิวังกูร 3. นายสุวิทย์ อรุณานนท์ชัย 4. นายสถาพร ชินะจิตร กรรมการที่ไม่เป็นผู้บริหาร 1. นายบันเทิง ตันติวิท 2. นายวิชิต ญาณอมร 3. นางมิเชล คว็อก 4. นายเบรนดอน คิง กรรมการที่เป็นผู้บริหาร 1. นายศุภเดช พูนพิพัฒน์ 2. นางสาวสุวรรณภา สุวรรณประทีป
13/13 13/13 13/13 12/13 13/13 12/13 8/13 11/13 13/13 12/13
10/10 10/10 10/10
3/3 2/3 2/3
3/3
2/3
9/12
8/8
12/12 10/12
คณะกรรมการพิจารณาการลงทุน ตามมติการประชุมคณะกรรมการบริหาร เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2550 ได้มีมติปรับปรุงรายชื่อคณะกรรมการพิจารณา การลงทุน เพือ่ ให้การลงทุนของธนาคารธนชาตเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และสอดคล้องกับโครงสร้างองค์กร ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551 มีรายนาม ดังต่อไปนี้ 1. นายศุภเดช พูนพิพัฒน์ ประธานกรรมการ 2. นางสาวสุวรรณภา สุวรรณประทีป รองประธานกรรมการ 3. นายปิยะพงศ์ อาจมังกร กรรมการ 4. นายนพดล เรืองจินดา กรรมการ 5. ดร.ชาติชัย พาราสุข กรรมการ 6. นายลลิต ธรรมเสรี กรรมการ ตัวแทนฝ่ายควบคุมธุรกิจ เลขานุการ
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
197
หน้าที่และความรับผิดชอบของคณะกรรมการพิจารณาการลงทุน 1. กำหนดนโยบายการลงทุน รวมถึงพิจารณาและอนุมัติแผนการลงทุน 2. พิจารณาอนุมัติลงทุนตามขอบเขตของอำนาจอนุมัติที่ธนาคารธนชาตกำหนดไว้ โดยให้สอดคล้องกับ Position Limit และ VaR Limit ที่กำหนดไว้ และให้กลั่นกรองรายการลงทุนที่เกินอำนาจอนุมัติก่อนนำเสนอให้คณะกรรมการบริหารซึ่งมีอำนาจระดับ สูงขึ้นไปพิจารณาอนุมัติ 3. พิจารณา ทบทวนผลการลงทุน และกำหนดแนวทางในการปรับปรุงการลงทุน 4. บริหารความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงของราคา (Market Risk) 5. กำหนดและทบทวนอัตราส่วนในการตั้งสำรอง หรือกำหนดค่าเผื่อการด้อยค่าของหลักทรัพย์ที่ลงทุน ในปี 2551 ได้มีการประชุมรวมทั้งสิ้น จำนวน 17 ครั้ง คณะกรรมการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อ ตามมติการประชุมคณะกรรมการบริหาร เมื่อวันที่ 3 กันยายน 2550 ได้มีมติปรับปรุงรายชื่อคณะกรรมการพิจารณาอนุมัติ สิ น เชื่ อ เพื่ อ ให้ ก ารอนุ มั ติ สิ น เชื่ อ ของธนาคารธนชาตเป็ น ไปอย่ า งมี ป ระสิ ท ธิ ภ าพ และสอดคล้ อ งกั บ โครงสร้ า งองค์ ก ร ณ วั น ที่ 31 ธันวาคม 2551 มีรายนาม ดังต่อไปนี้ 1. นายศุภเดช พูนพิพัฒน์ ประธานกรรมการ 2. นางสาวสุวรรณภา สุวรรณประทีป รองประธานกรรมการ 3. นายบัณฑิต ชีวะธนรักษ์ กรรมการ 4. นางนุสรา รุนสำราญ กรรมการ 5. นายโรเบิร์ต อีริคสัน กรรมการ 6. นายโนเอล ซิงห์ กรรมการ ตัวแทนฝ่ายควบคุมธุรกิจ เลขานุการ หน้าที่และความรับผิดชอบของคณะกรรมการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อ 1. กำหนดแผนงานและกำกับแนวทางการอนุมัติสินเชื่อ ภายใต้นโยบายของคณะกรรมการบริหาร หรือคณะกรรมการ ธนาคารธนชาต 2. กำหนดหลักเกณฑ์และเงือ่ นไขวงเงินสินเชือ่ พิจารณาอนุมตั วิ งเงินสินเชือ่ และการอนุมตั เิ ปลีย่ นแปลงเงือ่ นไขวงเงินสินเชือ่ ตามอำนาจอนุมัติที่กำหนดไว้ โดยประเมินความเสี่ยงด้านเครดิตภายใต้ขอบเขตที่คณะกรรมการบริหาร หรือคณะกรรมการธนาคาร ธนชาตกำหนด 3. กำหนดอำนาจอนุมัติสินเชื่อให้บุคคลหรือคณะบุคคลตามเงื่อนไขผลิตภัณฑ์ ภายใต้กรอบอำนาจของคณะกรรมการ พิจารณาอนุมัติสินเชื่อ 4. พิจารณาอนุมัติรายการในรายที่เกินอำนาจของคณะกรรมการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ หรือคณะกรรมการที่แต่งตั้งขึ้น ภายหลัง โดยมีขอบเขตหน้าที่ในลักษณะเดียวกันกับคณะกรรมการที่กล่าวถึง 5. พิจารณากลั่นกรองสินเชื่อสำหรับรายที่เกินอำนาจอนุมัติของคณะกรรมการเพื่อนำเสนอต่อคณะกรรมการบริหาร หรือคณะกรรมการธนาคารธนชาต ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องเร่งด่วนให้นำเสนอขออนุมัติต่อคณะกรรมการดังกล่าวได้ โดยไม่ต้อง ผ่านการกลั่นกรอง 6. รายงานผลการอนุมัติสินเชื่อให้แก่คณะกรรมการบริหาร หรือคณะกรรมการธนาคารธนชาต ในปี 2551 ได้มีการประชุมรวมทั้งสิ้นจำนวน 58 ครั้ง ทัง้ นี้ คณะกรรมการบริหารยังได้แต่งตัง้ คณะกรรมการชุดย่อยต่าง ๆ ขึน้ เพือ่ ช่วยในการพิจารณาและจัดการงานในเรือ่ งต่าง ๆ ภายในธนาคารธนชาตให้เป็นไปโดยถูกต้อง เหมาะสม มีประสิทธิภาพ และประสิทธิผลสูงสุดต่อธนาคารธนชาต ประกอบด้วย 1. คณะกรรมการจัดการ 2. คณะกรรมการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อธุรกิจ 3. คณะกรรมการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อ SMEs 4. คณะกรรมการบริหารธุรกิจเช่าซื้อ และรายย่อย 5. คณะกรรมการจัดการธุรกิจเช่าซื้อ 6. คณะกรรมการบริหารระบบสารสนเทศและเทคโนโลยี 7. คณะกรรมการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ 8. คณะกรรมการแก้ไขหนี้เช่าซื้อและหนี้สินเชื่อรายย่อย 9. คณะกรรมการพัฒนาช่องทางสาขา 10. คณะกรรมการพัฒนาช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ 198
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
11. คณะกรรมการพัฒนาผลิตภัณฑ์ของธนาคาร 12. คณะกรรมการวาณิชธนกิจ 13. คณะกรรมการพิจารณาการเป็นผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ 14. คณะกรรมการพิจารณาธุรกรรมผู้รับฝากทรัพย์สินและผู้ดูแล ผลประโยชน์ของกองทุน 15. คณะกรรมการบริหารรถยึด 16. คณะกรรมการพิจารณางานประกันภัยการต่อทะเบียนรถยนต์ และการยึดรถ 17. คณะกรรมการพิจารณาและกำหนดราคากลาง 18. คณะกรรมการบริหารทรัพย์สินรอการขาย รถยนต์ใช้แล้ว 19. คณะกรรมการประเมินราคาหลักประกัน 20. คณะกรรมการบริหารทรัพย์สินสำหรับการดำเนินธุรกิจ ประเภทสังหาริมทรัพย์และอสังหาริมทรัพย์ 21. คณะกรรมการบริหารเงินสด 22. คณะกรรมการบริหารเกี่ยวกับระบบบัญชี 23. คณะกรรมการบริหารการปฏิบัติตาม 24. คณะกรรมการโครงการปฏิบัติตามมาตรฐานสากล มาตรฐานสากลสำหรับบริษัทกลุ่มธนชาต ด้านการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินและการต่อต้าน การสนับสนุนทางการเงินแก่ผู้ก่อการร้าย 25. คณะกรรมการเพื่อส่งเสริมความรู้เกี่ยวกับกฎ 26. คณะกรรมการโครงการ BASEL II ระเบียบและข้อบังคับของธนาคาร และของหน่วยงานราชการ 27. คณะกรรมการงานสนับสนุนธุรกิจองค์กร 28. คณะกรรมการสื่อสารองค์กร 29. คณะกรรมการแผนรองรับการดำเนินธุรกิจ 30. คณะกรรมการพิจารณาโครงการความรับผิดชอบต่อสังคม ต่อเนื่องของธนาคาร และสิ่งแวดล้อมของกลุ่มธนชาต 31. คณะกรรมการพิจารณาโทษทางวินัย 32. คณะกรรมการบริหารทรัพยากรบุคคล 33. คณะกรรมการพิจารณาผลตอบแทนพนักงาน ผู้บริหาร ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551 ธนาคารธนชาตมีผู้บริหารในตำแหน่งผู้จัดการและผู้บริหารสี่รายแรกต่อจากผู้จัดการลงมา ตามเกณฑ์ของสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. ดังนี้ 1. นายศุภเดช พูนพิพัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร 2. นางสาวสุวรรณภา สุวรรณประทีป รองประธานกรรมการบริหาร 3. นายบัณฑิต ชีวะธนรักษ์ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส 4. นายปิยะพงศ์ อาจมังกร รองกรรมการผู้จัดการ 5. นางนุสรา รุนสำราญ รองกรรมการผู้จัดการ 6. ดร.สุมาส วงศ์สุนพรัตน์ รองกรรมการผู้จัดการ (ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ) 7. นางสาววิไล ตันติคุณ ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานบัญชี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ตามที่ ธปท. ได้มีหนังสือ ที่ ธปท.ฝกต. (21) 434/2549 ลงวันที่ 28 มีนาคม 2549 อนุญาตแต่งตั้งให้ นายศุภเดช พูนพิพัฒน์ ดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร โดยคณะกรรมการธนาคารธนชาตได้กำหนดอำนาจหน้าที่ของประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ดังนี้ 1. กำหนดแนวทางและแผนงาน ในการดำเนินงานของธนาคารธนชาตให้บรรลุเป้าหมายสอดรับตามวิสัยทัศน์ และพันธกิจ ของธนาคารธนชาต 2. บริหารดูแลการจัดแผนธุรกิจและงบประมาณ เสนอคณะกรรมการบริหาร และคณะกรรมการธนาคารธนชาต 3. บริ ห ารจั ด การและอนุ มั ติ ร ายการทางธุ ร กรรม ตลอดจนควบคุ ม ดู แ ลการดำเนิ น งานของผู้ บ ริ ห าร และพนั ก งาน ของธนาคารธนชาตให้เป็นไปตามแผนธุรกิจ และงบประมาณที่คณะกรรมการบริหาร หรือคณะกรรมการธนาคารธนชาตอนุมัติ 4. บริหารจัดการและอนุมัติเกี่ยวกับโครงสร้างองค์กรธนาคารธนชาตและทรัพยากรบุคคล 5. รายงานผลการดำเนินกิจกรรมของธนาคารธนชาตต่อคณะกรรมการบริหาร หรือคณะกรรมการธนาคารธนชาต ทั้งนี้ ในส่วนของอำนาจอนุมัติรายการของประธานเจ้าหน้าที่บริหาร มีอำนาจอนุมัติวงเงินสินเชื่อ การลงทุน ภาระผูกพัน วงเงินไม่เกิน 300 ล้านบาท กรณีหลักประกันประเภทพันธบัตร เงินฝาก และตราสารหนี้
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
199
นอกเหนือจากการมอบอำนาจให้ผปู้ ฏิบตั งิ านกระทำการแทน หรือในนามธนาคารธนชาตดังกล่าวข้างต้นแล้ว ธนาคารธนชาต ได้จัดทำหลักเกณฑ์และตารางการใช้อำนาจดำเนินการภายในธนาคารธนชาต เพื่อกระจายอำนาจให้ผู้ปฏิบัติงานที่ดำรงตำแหน่ง
และหน้าที่ต่าง ๆ สามารถปฏิบัติงาน และตัดสินใจในงานภายในธนาคารธนชาตได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีความคล่องตัว ภายใต้ระบบ การควบคุมที่เหมาะสม เลขานุการบริษัท ธนาคารธนชาตได้มอบหมายให้สำนักกรรมการผูจ้ ดั การเป็นหน่วยงานทีด่ แู ลงานเลขานุการบริษทั เพือ่ ให้เป็นไปตามหลักการ กำกับดูแลกิจการที่ดีของธนาคารธนชาต และเพื่อให้การบริหารงานของธนาคารธนชาตเป็นไปอย่างมีประสิทธิผลยิ่งขึ้น หน้าที่และความรับผิดชอบของเลขานุการบริษัท 1. ให้คำแนะนำเบื้องต้นแก่กรรมการเกี่ยวกับข้อกฎหมาย ระเบียบ และข้อบังคับต่าง ๆ ของธนาคารธนชาต และติดตามให้ มีการปฏิบัติตามอย่างถูกต้องและสม่ำเสมอ รวมถึงรายงานการเปลี่ยนแปลงที่มีนัยสำคัญแก่กรรมการ 2. จัดการประชุมผูถ้ อื หุน้ และประชุมคณะกรรมการให้เป็นไปตามกฎหมาย ข้อบังคับของธนาคารธนชาต และข้อพึงปฏิบตั ติ า่ ง ๆ 3. บันทึกรายงานการประชุมผู้ถือหุ้น และการประชุมคณะกรรมการธนาคารธนชาต รวมทั้งติดตามให้มีการปฏิบัติตามมติ ที่ประชุมผู้ถือหุ้น และที่ประชุมคณะกรรมการธนาคารธนชาต 4. จัดทำและเก็บรักษาเอกสารทะเบียนกรรมการ หนังสือนัดประชุมคณะกรรมการ รายงานการประชุมคณะกรรมการ รายงานประจำปีของธนาคารธนชาต หนังสือนัดประชุมผู้ถือหุ้น และรายงานการประชุมผู้ถือหุ้น 5. ดูแลให้มีการเปิดเผยข้อมูลและรายงานสารสนเทศ ในส่วนที่รับผิดชอบต่อหน่วยงานที่กำกับธนาคารธนชาตตามระเบียบ และข้อกำหนดของหน่วยงานทางการ ตลอดจนเก็บรักษารายงานการมีส่วนได้เสียที่รายงานโดยกรรมการหรือผู้บริหาร 6. ติดต่อและสื่อสารกับผู้ถือหุ้นทั่วไปให้ได้รับทราบสิทธิต่าง ๆ ของผู้ถือหุ้น และข่าวสารของธนาคารธนชาต 7. ดูแลกิจกรรมของคณะกรรมการธนาคารธนชาต 8. ดำเนินการอื่น ๆ ตามที่คณะกรรมการกำกับตลาดทุนประกาศกำหนด การสรรหาและแต่งตั้งกรรมการคณะต่างๆ ที่ผ่านมา การสรรหาจะต้องดำเนินการตามหลักเกณฑ์ วิธีการที่คณะกรรมการสรรหาผู้บริหารได้พิจารณากำหนด โดยบุคคล ที่ถูกเสนอจะได้รับการเสนอหรือกลั่นกรองโดยคณะกรรมการสรรหาผู้บริหาร และเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการธนาคารธนชาต หรือที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อแต่งตั้งแล้วแต่กรณี 1. วิธีการแต่งตั้งคณะกรรมการธนาคารธนชาต ธนาคารธนชาตมิได้กำหนดจำนวนสูงสุดของกรรมการไว้ เพียงแต่กำหนดไว้ในข้อบังคับว่าต้องไม่น้อยกว่า 5 คน วิธีการ แต่งตั้งคณะกรรมการมีขึ้นได้ 2 กรณี คือ กรณีแต่งตั้งกรรมการใหม่แทนกรรมการที่ต้องออกตามวาระ และกรณีแต่งตั้งกรรมการ ระหว่างวาระเนื่องจากตำแหน่งว่างลง ทั้งนี้ คณะกรรมการธนาคารธนชาตได้แต่งตั้งคณะกรรมการสรรหาผู้บริหาร เพื่อทำหน้าที ่
ในการคัดเลือกและเสนอชื่อบุคคลที่มีคุณสมบัติเหมาะสมในการดำรงตำแหน่งกรรมการ โดยกรณีแรกจะต้องขอมติจากที่ประชุม ผู้ถือหุ้นโดยใช้วิธีแบบการลงคะแนนสะสม (Cumulative Voting) ที่ผู้ถือหุ้นมีคะแนนเสียงเท่ากับจำนวนหุ้นคูณด้วยจำนวนกรรมการ ที่จะรับเลือกตั้ง และสามารถลงคะแนนเสียงทั้งหมดให้กับกรรมการท่านใดท่านหนึ่ง หรือแบ่งคะแนนให้แก่กรรมการท่านใดมากน้อย เพียงใดก็ได้ ซึ่งเป็นวิธีที่ช่วยเสริมสร้างความสามารถในการเลือกตั้งกรรมการของผู้ถือหุ้นส่วนน้อย ซึ่งเป็นการคุ้มครองสิทธิผู้ถือหุ้น รายย่อย ส่วนกรณีหลังคณะกรรมการสามารถพิจารณาลงมติได้ภายใต้คุณสมบัติที่เหมาะสมเพื่อเข้าดำรงตำแหน่งแทน ในส่วนของ การแต่งตั้งกรรมการอิสระมีการปฏิบัติเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่ ธปท. กำหนด 2. วิธีการแต่งตั้งคณะกรรมการบริหาร คณะกรรมการธนาคารธนชาตจะแต่ ง ตั้ ง กรรมการจำนวนหนึ่ ง ตามที่ เ ห็ น สมควรให้ เ ป็ น คณะกรรมการบริ ห าร และในจำนวนนี้ให้กรรมการคนหนึ่งเป็นประธานกรรมการบริหาร โดยให้คณะกรรมการบริหารมีอำนาจหน้าที่ควบคุมดูแลกิจการของ ธนาคารธนชาต ตามที่คณะกรรมการธนาคารธนชาตมอบหมาย และให้ประธานเจ้าหน้าที่บริหารเป็นประธานกรรมการบริหาร โดยตำแหน่ง 200
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
3. วิธีการแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ คณะกรรมการธนาคารธนชาตจะแต่งตั้งกรรมการอิสระที่มีคุณสมบัติตามกำหนดนิยาม และคุณสมบัติของกรรมการอิสระ ตามที่ ธปท. และประกาศของ ตลท. เป็นแนวทางในการปฏิบัติ ดังนี้ 1) ไม่ถือหุ้นเกินร้อยละ 0.5 ของจำนวนหุ้นที่มีสิทธิออกเสียงทั้งหมดของธนาคารธนชาต บริษัทในกลุ่ม บริษัทร่วม บริษัทย่อย หรือบริษัทที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้นับรวมถึงหุ้นที่ถืออยู่โดยผู้ที่เกี่ยวข้องด้วย 2) ไม่มีส่วนร่วมในการบริหารงาน ไม่เป็นลูกจ้าง หรือพนักงาน ที่ปรึกษาที่ได้รับเงินเดือนประจำจากธนาคารธนชาต บริษัทในกลุ่ม บริษัทร่วม บริษัทย่อย บริษัทที่เกี่ยวข้อง หรือเป็นผู้มีอำนาจควบคุมนิติบุคคลที่อาจมีความขัดแย้ง (ทั้งในปัจจุบัน และช่วง 2 ปีที่ผ่านมา) 3) ไม่มคี วามสัมพันธ์ทางธุรกิจกับธนาคารธนชาต บริษทั ในกลุม่ บริษทั ร่วม บริษทั ย่อย หรือนิตบิ คุ คลทีอ่ าจมีความขัดแย้ง
ในลักษณะที่อาจเป็นการขัดขวางการใช้วิจารณญาณอย่างอิสระของตน 4) ไม่มีความสัมพันธ์ทางสายโลหิต หรือโดยการจดทะเบียนในลักษณะบิดามารดา คู่สมรส พี่น้อง บุตรและคู่สมรสของ บุตร กับผู้บริหาร ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ผู้มีอำนาจควบคุม หรือบุคคลที่จะได้รับการเสนอชื่อเป็นผู้บริหาร ผู้มีอำนาจ ควบคุมของธนาคารธนชาต บริษัทในกลุ่ม บริษัทร่วม บริษัทย่อย หรือบริษัทที่เกี่ยวข้อง 5) ไม่มีความสัมพันธ์ในลักษณะของการให้บริการทางวิชาชีพ เช่น ผู้สอบบัญชี ที่ปรึกษาทางการเงิน หรือความสัมพันธ์
ทางธุรกิจ ซึง่ มีจำนวนเงิน หรือมีมลู ค่าทีม่ นี ยั สำคัญตามเกณฑ์ทกี่ ำหนด (ทัง้ ในปัจจุบนั และช่วง 2 ปี ก่อนได้รบั แต่งตัง้ ) 6) ไม่เป็นตัวแทนของกรรมการธนาคารธนชาต ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ หรือเป็นผู้ถือหุ้นซึ่งเกี่ยวข้องกับผู้ถือหุ้นรายใหญ่ 7) ไม่เป็นกรรมการตรวจสอบบริษัทจดทะเบียนในกลุ่ม บริษัทร่วม บริษัทย่อย ในเวลาเดียวกัน 8) ไม่มีลักษณะอื่นใดที่เป็นการจำกัดความเป็นอิสระในการปฏิบัติหน้าที่กรรมการ การประเมินการปฏิบัติงาน คณะกรรมการธนาคารธนชาตได้กำหนดให้มีการประเมินผลการปฏิบัติงานของคณะกรรมการ ในปี 2551 โดยใช้แบบ ประเมินของ ตลท. เป็นแนวทางในการจัดทำแบบประเมิน ซึ่งเป็นการประเมินผลการปฏิบัติงานในภาพรวมของคณะกรรมการทั้งหมด แบ่งออกเป็น 9 ด้าน ดังนี้ ความพร้อมของคณะกรรมการ การกำหนดกลยุทธ์และวางแผนธุรกิจ (Strategy Setting and Policy Making) การจัดการความเสี่ยงและการควบคุมภายใน (Risk Management and Internal Control) การดูแลไม่ให้เกิดความขัดแย้ง ทางผลประโยชน์ (Conflict of Interest) การติดตามรายงานทางการเงินและการดำเนินงาน (Financial Reporting) การประชุม คณะกรรมการ คณะกรรมการกับนโยบายของธนาคารธนชาต คณะกรรมการกับการอบรมและพัฒนา และอื่น ๆ นอกจากนี้ ธนาคารธนชาตได้กำหนดให้มีการประเมินผลการปฏิบัติงานของประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ตามแบบประเมินการ ปฏิบตั งิ านเปรียบเทียบกับเป้าหมายและแผนงานประจำปี ซึง่ มีตวั ชีว้ ดั ผลการปฏิบตั งิ าน (Key Performance Indicator : KPI) ทีส่ อดรับ ยุทธศาสตร์หลักในการดำเนินธุรกิจ (CEO’s Six-point Agenda) โดยคณะกรรมการพิจารณาผลตอบแทนผู้บริหารจะนำผลการประเมิน เสนอที่ประชุมคณะกรรมการธนาคารธนชาตพิจารณา นโยบายค่าตอบแทนกรรมการและผู้บริหาร ค่ า ตอบแทนกรรมการธนาคารธนชาตได้ พิ จ ารณาค่ า ตอบแทนดั ง กล่ า ว โดยการเปรี ย บเที ย บค่ า ตอบแทนกรรมการ ในอุตสาหกรรมเดียวกัน กำหนดเป็นเกณฑ์มาตรฐาน และพิจารณาควบคู่ไปกับภาระหน้าที่ ขอบเขต บทบาทและความรับผิดชอบของ กรรมการแต่ละท่าน โดยค่าตอบแทนของคณะกรรมการธนาคารธนชาตจะต้องเสนอผ่านการพิจารณากลั่นกรองจากคณะกรรมการ พิจารณาผลตอบแทนผู้บริหาร และเสนอคณะกรรมการธนาคารธนชาตเพื่อพิจารณา ก่อนนำเสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณา อนุมัติ ซึ่งการจ่ายผลตอบแทนจะจ่ายในลักษณะของค่าเบี้ยประชุม ค่าตอบแทนรายเดือนและเงินบำเหน็จ สำหรับค่าตอบแทนของ กรรมการที่ทำหน้าที่ในคณะกรรมการชุดย่อยจะได้รับค่าตอบแทนตามที่คณะกรรมการธนาคารธนชาตกำหนด โดยการเสนอแนะของ คณะกรรมการพิจารณาผลตอบแทนผู้บริหาร ซึ่งจะพิจารณากำหนดจากภาระหน้าที่ ความรับผิดชอบ โดยเทียบเคียงจากกลุ่ม อุตสาหกรรมเดียวกัน ทัง้ นี้ ค่าตอบแทนทีจ่ า่ ยแก่กรรมการในคณะกรรมการชุดย่อยจะอยูใ่ นรูปค่าเบีย้ ประชุม และ/หรือเงินประจำตำแหน่ง ค่าตอบแทนผู้บริหาร เป็นไปตามนโยบายและหลักเกณฑ์ซึ่งเชื่อมโยงกับผลการดำเนินงานของธนาคารธนชาต และผลการ ปฏิบัติงานรายบุคคล โดยกำหนดตัวชี้วัดผลการปฏิบัติงาน (Key Performance Indicator: KPI) ไว้ในแต่ละปี และจ่ายค่าตอบแทน ในรูปของเงินเดือน เงินช่วยเหลือ โดยเฉลี่ยอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานเมื่อเทียบกับอุตสาหกรรมเดียวกัน
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
201
ค่าตอบแทนกรรมการ ก) ค่าตอบแทนที่เป็นตัวเงิน ธนาคารธนชาตได้กำหนดนโยบายค่าตอบแทนกรรมการไว้อย่างชัดเจนและโปร่งใส มีคณะกรรมการพิจารณาผลตอบแทน ผูบ้ ริหาร ทำหน้าทีท่ บทวนโดยพิจารณาถึงความเหมาะสม และสอดคล้องกับภาระและความรับผิดชอบของกรรมการ สถานะทางการเงิน ของธนาคารธนชาตและอยู่ในระดับเดียวกับค่าตอบแทนของธนาคารพาณิชย์อื่นในระบบ โดยกรรมการที่ได้รับมอบหมายให้เป็น กรรมการในคณะกรรมการชุดอื่น ๆ ได้รับค่าตอบแทนเพิ่มตามปริมาณงานที่เพิ่มขึ้น ซึ่งได้กำหนดแนวทางไว้ ดังนี้ 1. กรรมการธนาคารธนชาตได้รับค่าตอบแทนตามที่ผู้ถือหุ้นอนุมัติ 2. กรรมการในคณะอนุกรรมการชุดอืน่ ๆ ได้รบั ค่าตอบแทนตามทีค่ ณะกรรมการธนาคารธนชาตอนุมตั ิ โดยความเห็นชอบ ของผู้ถือหุ้น 3. ผู้ บ ริ ห ารในตำแหน่ ง ประธานเจ้ า หน้ า ที่ บ ริ ห ารขึ้ น ไป มี สิ ท ธิ ไ ด้ รั บ ค่ า ตอบแทนในฐานะผู้ บ ริ ห าร ตามจำนวนที่ คณะกรรมการธนาคารธนชาตกำหนด ธนาคารธนชาตได้จ่ายค่าตอบแทนต่าง ๆ ให้แก่กรรมการและผู้บริหารสำหรับการปฏิบัติหน้าที่ในปี 2551 มีรายละเอียด ดังนี้ 1) ค่าตอบแทนกรรมการธนาคารธนชาต มีรายละเอียด ดังนี้
รายชื่อคณะกรรมการ กรรมการอิสระ 1. นายเกียรติศักดิ์ มี้เจริญ 2. นายณรงค์ จิวังกูร 3. นายสุวิทย์ อรุณานนท์ชัย 4. นายสถาพร ชินะจิตร กรรมการที่ไม่เป็นผู้บริหาร 1. นายบันเทิง ตันติวิท 2. นายวิชิต ญาณอมร 3. นางมิเชล คว็อก 4. นายเบรนดอน คิง กรรมการที่เป็นผู้บริหาร 1. นายศุภเดช พูนพิพัฒน์ 2. นางสาวสุวรรณภา สุวรรณประทีป กรรมการที่ลาออกระหว่างปี 2550 1. นายชัยภัทร ศรีวิสารวาจา 2. นายบัณฑิต ชีวะธนรักษ์ รวม หมายเหตุ
202
1. 2.
ค่าตอบแทนรายเดือน 310,400.00 310,400.00 310,400.00 310,400.00 620,000.00 310,400.00 436,700.00 461,700.00 310,400.00 310,400.00 0.00 0.00 3,691,200.00
ประเภทค่าตอบแทน (บาทต่อปี) ค่าเบี้ยประชุม บำเหน็จกรรมการ 241,200.00 241,200.00 241,200.00 222,300.00 496,200.00 223,200.00 184,500.00 294,300.00 241,200.00 222,300.00 0.00 0.00 2,607,600.00
รวม
721,825.45 721,825.45 721,825.45 360,912.72
1,273,425.45 1,273,425.45 1,273,425.45 893,612.72
1,443,650.89 721,825.45 360,912.72 360,912.72
2,559,850.89 1,255,425.45 982,112.72 1,116,912.72
721,825.45 721,825.45
1,273,425.45 1,254,525.45
180,456.36 421,064.84 7,458,862.95
180,456.36 421,064.84 13,757,662.95
ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2551 อนุมัติให้จ่ายเงินบำเหน็จแก่กรรมการธนาคารธนชาตที่ดำรงตำแหน่งกรรมการในปี 2550 โดยหาก กรรมการท่านใดลาออกก่อนวันจ่ายเงินบำเหน็จ ก็ให้ถือว่ามีสิทธิได้รับเงินบำเหน็จด้วย ได้แก่ - นายชัยภัทร ศรีวิสารวาจา ลาออกจากการเป็นกรรมการธนาคารธนชาต ตั้งแต่วันที่ 23 เมษายน 2550 - นายบัณฑิต ชีวะธนรักษ์ ลาออกจากการเป็นกรรมการธนาคารธนชาต ตั้งแต่วันที่ 19 กรกฎาคม 2550 นายสถาพร ชินะจิตร นางมิเชล คว็อก และนายเบรนดอน คิง ดำรงตำแหน่งเป็นกรรมการธนาคารธนชาต ตั้งแต่วันที่ 19 กรกฎาคม 2550
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
2) ค่าตอบแทนกรรมการตรวจสอบ จำนวน 3 ท่าน ได้รับค่าตอบแทนเป็นเบี้ยประชุมกรรมการ รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 700,000.00 บาท
รายชื่อ 1. นายเกียรติศักดิ์ 2. นายสุวิทย์ 3. นายสถาพร รวม
จำนวนเงิน (บาทต่อปี) มี้เจริญ อรุณานนท์ชัย ชินะจิตร
350,000.00 175,000.00 175,000.00 700,000.00
3) ค่าตอบแทนคณะกรรมการสรรหาผู้บริหาร จำนวน 3 ท่าน ได้รับค่าตอบแทนเป็นเบี้ยประชุมกรรมการ รวมเป็นเงิน ทั้งสิ้น 120,000.00 บาท
รายชื่อ 1. นายณรงค์ 2. นายวิชิต 3. นายสุวิทย์ รวม
จำนวนเงิน (บาทต่อปี) จิวังกูร ญาณอมร อรุณานนท์ชัย
60,000.00 30,000.00 30,000.00 120,000.00
4) ค่ า ตอบแทนคณะกรรมการพิ จ ารณาผลตอบแทนผู้ บ ริ ห าร จำนวน 2 ท่ า น ได้ รั บ ค่ า ตอบแทนเป็ น เบี้ ย ประชุ ม กรรมการ รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 65,000.00 บาท
รายชื่อ 1. นายณรงค์ 2. นายวิชิต รวม
จำนวนเงิน (บาทต่อปี) จิวังกูร ญาณอมร
45,000.00 20,000.00 65,000.00
5) คณะกรรมการบริหาร คณะกรรมการธนาคารธนชาตยังไม่ได้กำหนดค่าตอบแทนและไม่มีการจ่ายค่าตอบแทน 6) ค่าตอบแทนผู้บริหารของธนาคารธนชาต ผู้บริหารในตำแหน่งผู้จัดการและผู้บริหารสี่รายแรกต่อจากผู้จัดการลงมา ตามเกณฑ์ของสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. รวมจำนวน 7 ท่าน ได้รับค่าตอบแทนในรูปของเงินเดือน เงินช่วยเหลือ ค่าครองชีพ และเงินสมทบกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 44,474,514.00 บาท 7) ค่าตอบแทนกรรมการอิสระที่ได้รับจากบริษัทย่อย ธนาคารธนชาตมีกรรมการอิสระจำนวน 1 ท่าน ดำรงตำแหน่ง กรรมการอิสระในบริษัท ธนชาตประกันชีวิต จำกัด ได้รับค่าตอบแทนในปี 2551 เป็นเงินทั้งสิ้น 135,000.00 บาท ข) ค่าตอบแทนอื่น ๆ ที่ไม่ใช่ตัวเงิน - ไม่มี
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
203
รายงานคณะกรรมการสรรหาผู้บริหาร
คณะกรรมการธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) แต่งตั้งคณะกรรมการสรรหาผู้บริหาร ซึ่งประกอบด้วยกรรมการ รวม 3 ท่าน โดย ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551 มีรายนาม ดังนี้ นายณรงค์ จิวังกูร ประธานกรรมการ (กรรมการอิสระ) นายวิชิต ญาณอมร กรรมการ (กรรมการที่ไม่เป็นผู้บริหาร)* นายสุวิทย์ อรุณานนท์ชัย กรรมการ (กรรมการอิสระ)* คณะกรรมการสรรหาผู้ บ ริ ห าร มี ห น้ า ที่ แ ละความรั บ ผิ ด ชอบกำหนดนโยบาย และหลั ก เกณฑ์ ใ นการสรรหากรรมการ กรรมการในคณะกรรมการชุดย่อยต่าง ๆ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร จัดเตรียมแผนการสืบทอดตำแหน่งผู้บริหาร และคัดเลือกบุคคล ที่มีคุณสมบัติเหมาะสมตามเกณฑ์ที่กำหนด เป็นไปตามข้อบังคับธนาคาร หลักเกณฑ์ทางการ และหลักธรรมาภิบาล ในการสรรหากรรมการ กรรมการในคณะกรรมการชุดย่อยต่าง ๆ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร คณะกรรมการสรรหา ได้พิจารณาโดยคำนึงถึงโครงสร้างกรรมการ องค์ประกอบ สัดส่วนกรรมการอิสระ จำนวน คุณสมบัติ ความรู้ ความสามารถ ทักษะ และประสบการณ์ที่เป็นประโยชน์ต่อการดำเนินธุรกิจธนาคาร ตลอดจนถึงส่งเสริมการกำกับดูแลกิจการที่ดี นายณรงค์ จิวังกูร ประธานกรรมการสรรหาผู้บริหาร หมายเหตุ *ปัจจุบันนายวิชิต ญาณอมร และนายสุวิทย์ อรุณานนท์ชัย ลาออกจากการเป็นกรรมการ เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2552
204
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
รายงานคณะกรรมการพิจารณาผลตอบแทนผู้บริหาร
คณะกรรมการธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) แต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณาผลตอบแทนผู้บริหาร ซึ่งประกอบด้วย กรรมการ รวม 3 ท่าน โดย ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551 มีรายนาม ดังนี้ นายณรงค์ จิวังกูร ประธานกรรมการ (กรรมการอิสระ) นายวิชิต ญาณอมร กรรมการ (กรรมการที่ไม่เป็นผู้บริหาร)* นายเบรนดอน คิง กรรมการ (กรรมการที่ไม่เป็นผู้บริหาร) คณะกรรมการพิจารณาผลตอบแทนผู้บริหาร มีหน้าที่และความรับผิดชอบในการพิจารณาหลักเกณฑ์ รูปแบบการจ่าย ค่าตอบแทนกรรมการ กรรมการในคณะกรรมการชุดย่อยต่าง ๆ และประธานเจ้าหน้าทีบ่ ริหาร โดยคำนึงถึงความเหมาะสมกับภาระหน้าที ่ ความรับผิดชอบที่ได้รับมอบหมาย ผลการปฏิบัติงาน สอดคล้องกับนโยบายธนาคาร รวมถึงผลประกอบการ สภาพแวดล้อมทางธุรกิจ และภาวะเศรษฐกิจโดยรวม ทั้งนี้ ค่าตอบแทนกรรมการ และผู้บริหารที่เปิดเผยในรายงานประจำปี 2551 คณะกรรมการพิจารณาผลตอบแทนผู้บริหาร เห็นว่ามีความเหมาะสม และได้ผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการธนาคารแล้ว นายณรงค์ จิวังกูร ประธานกรรมการพิจารณาผลตอบแทนผู้บริหาร หมายเหตุ *ปัจจุบันนายวิชิต ญาณอมร ลาออกจากการเป็นกรรมการธนาคารเมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2552
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
205
โครงสร้างการกำกับดูแลและบริหารจัดการ ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
บริหารความเสี่ยง
คณะกรรมการธนาคาร
วิเคราะห์เครดิต ควบคุมความเสี่ยง
คณะกรรมการ บริหารความเสี่ยง
คณะกรรมการ พิจารณาผลตอบแทน ผู้บริหาร
คณะกรรมการ สรรหาผู้บริหาร
คณะกรรมการ ตรวจสอบ
กำกับกฎระเบียบ และข้อบังคับ
คณะกรรมการบริหาร
แผนงานรองรับการ ดำเนินธุรกิจต่อเนื่อง คณะกรรมการ บริหารสภาพคล่อง และอัตราดอกเบี้ย
คณะกรรมการ พิจารณาการลงทุน
คณะกรรมการ พิจารณาอนุมัติสินเชื่อ
คณะกรรมการบริหาร ความปลอดภัยระบบสารสนเทศ และเทคโนโลยี
คณะกรรมการจัดการ
ที่ปรึกษา สำนักกรรมการ ผู้จัดการ
บริหารค่าจ้าง และผลตอบแทน
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มงานธุรกิจ
กลุ่มงานสนับสนุน
ลูกค้าเครือข่ายสาขา
ปฏิบัติการ
ลูกค้ารายย่อย
ทรัพยากรบุคคลกลาง
ลูกค้าธุรกิจขนาดกลาง และขนาดย่อม
สื่อสารและบริหารแบรนด์
ลูกค้าธุรกิจ
สนับสนุนธุรกิจ
ลูกค้าสถาบัน
พัฒนาระบบงานและระเบียบคำสั่ง
บริหารเงินและต่างประเทศ
บริหารงานกลาง
พัฒนาผลิตภัณฑ์
บริหารข้อมูล
พัฒนาช่องทางธุรกิจ
ระบบสารสนเทศและเทคโนโลยี บัญชี
ข้อมูล ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551 206
ตรวจสอบ
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
ความปลอดภัย ระบบสารสนเทศ
คณะกรรมการและผู้บริหารระดับสูง (ข้อมูล ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551)
คณะกรรมการ นายบันเทิง ตันติวิท
อายุ การศึกษา ประสบการณ์ทำงานในระยะ 5 ปี ย้อนหลัง 2549 - ปัจจุบัน 2548 - ปัจจุบัน 2546 - ปัจจุบัน 2544 - ปัจจุบัน 2537 - ปัจจุบัน 2532 - ปัจจุบัน 2530 - ปัจจุบัน ความสัมพันธ์ทางครอบครัวระหว่างผู้บริหาร การถือหุ้นในธนาคาร
ประธานกรรมการ (กรรมการที่ไม่เป็นผู้บริหาร)
64 ปี - Master of Science (Finance), Massachusetts Institute of Technology, USA. - Bachelor of Science in Electrical Engineering, Massachusetts Institute of Technology, USA. - ประกาศนียบัตร Director Accreditation Program (DAP) รุ่น 25/2547 สมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย - รองประธานกรรมการ บริษัท ธนชาตประกันภัย จำกัด - กรรมการ สภาสถาบันอาศรมศิลป์ - กรรมการ บริษัท สยามพิวรรธน์ โฮลดิ้ง จำกัด - ประธานกรรมการ บริษัท ธนชาตประกันชีวิต จำกัด - ประธานกรรมการ บริษัท เอ็ม บี เค รีสอร์ท จำกัด (มหาชน) - กรรมการ บริษัท บี.วี.โฮลดิ้ง จำกัด - กรรมการ บริษัท แปลน เอสเตท จำกัด - กรรมการ บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด - ที่ปรึกษา บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) - ที่ปรึกษา บริษัท ปทุมไรซมิล แอนด์ แกรนารี จำกัด (มหาชน) - ประธานกรรมการ บริษัท ทุนธนชาต จำกัด (มหาชน) (เดิมชื่อ บริษัท เงินทุนธนชาติ จำกัด (มหาชน) ได้จดทะเบียนเปลี่ยนแปลงชื่อ เมื่อปี 2549) - ประธานกรรมการ และประธานกรรมการบริหาร บริษทั เอ็ม บี เค จำกัด (มหาชน) (ปี 2549 ดำรงตำแหน่งประธานกรรมการ) - กรรมการ บริษัท ดีบุก จำกัด - กรรมการ บริษัท ไทยฟาร์มมิ่ง จำกัด ไม่มี ไม่ได้ถือหุ้น
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
207
นายศุภเดช พูนพิพัฒน์
อายุ การศึกษา ประสบการณ์ทำงานในระยะ 5 ปี ย้อนหลัง 2550 - ปัจจุบัน 2549 - ปัจจุบัน 2548 - ปัจจุบัน 2546 - ปัจจุบัน 2543 - ปัจจุบัน 2535 - ปัจจุบัน 2533 - ปัจจุบัน ความสัมพันธ์ทางครอบครัวระหว่างผู้บริหาร การถือหุ้นในธนาคาร
208
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
รองประธานกรรมการ ประธานกรรมการบริหาร และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (กรรมการที่เป็นผู้บริหาร)
58 ปี - Master of Science, University of Wisconsin, USA. - พาณิชยศาสตรบัณฑิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย - ประกาศนียบัตร Director Accreditation Program (DAP) รุ่น 8/2547 สมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย - กรรมการ บริษัท โรงแรมรอยัลออคิด (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) - กรรมการ บริษัท ไทย รอยัล ออคิด เรียล เอซเทท จำกัด - กรรมการ บริษัท สยามพิวรรธน์ โฮลดิ้ง จำกัด - กรรมการ และประธานกรรมการบริหาร บริษัท ธนชาตประกันภัย จำกัด - กรรมการ บริษัท เอ็ม บี เค รีสอร์ท จำกัด (มหาชน) - กรรมการ และประธานกรรมการบริหาร บริษัท ธนชาตประกันชีวิต จำกัด - กรรมการ บริษัท แปลน เอสเตท จำกัด - กรรมการ บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด - รองประธานกรรมการ และรองประธานกรรมการบริหาร บริษทั เอ็ม บี เค จำกัด (มหาชน) (ปี 2549 ดำรงตำแหน่งรองประธานกรรมการ) - ที่ปรึกษา บริษัท ปทุมไรซมิล แอนด์ แกรนารี จำกัด (มหาชน) - กรรมการ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) - รองประธานกรรมการ ประธานกรรมการบริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษทั ทุนธนชาต จำกัด (มหาชน) (ปี 2533 ดำรงตำแหน่งกรรมการผูจ้ ดั การใหญ่ ปี 2550 ดำรงตำแหน่งรองประธานกรรมการ และประธานกรรมการบริหาร) (เดิมชื่อ บริษัท เงินทุนธนชาติ จำกัด (มหาชน) ได้จดทะเบียนเปลี่ยนแปลงชื่อ เมื่อปี 2549) ไม่มี ไม่ได้ถือหุ้น
นายเกียรติศักดิ์ มี้เจริญ
อายุ การศึกษา ประสบการณ์ทำงาน 2548 - ปัจจุบัน 2543 - ปัจจุบัน 2543 - 2547 2540 - 2542 ความสัมพันธ์ทางครอบครัวระหว่างผู้บริหาร การถือหุ้นในธนาคาร
นายณรงค์ จิวังกูร
อายุ การศึกษา ประสบการณ์ทำงานในระยะ 5 ปี ย้อนหลัง 2548 - ปัจจุบัน 2547 - ปัจจุบัน 2546 - ปัจจุบัน 2545 - ปัจจุบัน 2543 - ปัจจุบัน ความสัมพันธ์ทางครอบครัวระหว่างผู้บริหาร การถือหุ้นในธนาคาร
ประธานกรรมการตรวจสอบ (กรรมการอิสระ)
62 ปี - Master of Theoretical Economics, Keio University, Japan - Bachelor of Science in Finance, Hitotsubashi University, Japan - ประกาศนียบัตร Director Accreditation Program (DAP) รุ่น 40/2548 สมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย - ประกาศนียบัตร Audit Committee Program (ACP) รุ่น 10/2548 สมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย - ประกาศนียบัตร Banking and Monetary Policy in Developing Countries Harvard University - กรรมการอิสระ บริษัท ธารารมณ์ เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) - กรรมการอิสระ บริษัท ธนชาตประกันชีวิต จำกัด - กรรมการอิสระ และประธานกรรมการตรวจสอบ บริษทั ประกันคุม้ ภัย จำกัด (มหาชน) (ปี 2547 ดำรงตำแหน่งประธานกรรมการตรวจสอบ) - กรรมการตรวจสอบ บริษัท ประกันคุ้มภัย จำกัด (มหาชน) - ผู้ช่วยผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ไม่มี ไม่ได้ถือหุ้น
ประธานกรรมการสรรหาผู้บริหาร และประธานกรรมการพิจารณาผลตอบแทนผู้บริหาร (กรรมการอิสระ)
64 ปี - Management Development Program, Asian Institute of Management, Philippines - Financial Management Program, Rochester Institute of Technology, USA. - ประกาศนียบัตร Successful Formulation & Execution the Strategy (SFE) รุ่น 2/2551 สมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย - ประกาศนียบัตร Role of the Compensation Committee (RCC) รุ่น 4/2550 สมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย - ประกาศนียบัตร Corporate Social Responsibility (CSR) รุ่น 1/2550 สมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย - ประกาศนียบัตร Director Certification Program (DCP) รุ่น 34/2546 สมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย - กรรมการ บริษัท หม่อมไฉไล ดีเวลลอพเม้นท์ จำกัด - กรรมการ บริษัท โมเมนตั้ม เซลส์ แอนด์ ดิสทริบิวชั่น จำกัด - กรรมการ บริษัท โมเมนตั้ม ไอเอ็ม จำกัด - กรรมการ บริษัท โมเมนตั้ม คอนซัลท์ติ้ง จำกัด - กรรมการ บริษัท โมเมนตั้ม บี บี เอส จำกัด ไม่มี ไม่ได้ถือหุ้น
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
209
นายสุวิทย์ อรุณานนท์ชัย
กรรมการตรวจสอบ และกรรมการสรรหาผู้บริหาร (กรรมการอิสระ)
อายุ การศึกษา ประสบการณ์ทำงานในระยะ 5 ปี ย้อนหลัง 2545 - ปัจจุบัน 2544 - ปัจจุบัน 2538 - ปัจจุบัน 2528 - ปัจจุบัน 2527 - ปัจจุบัน 2521 - ปัจจุบัน ความสัมพันธ์ทางครอบครัวระหว่างผู้บริหาร การถือหุ้นในธนาคาร
59 ปี - Bachelor of Arts, Louisiana Tech University, USA. - Program for Management Development, Harvard University Graduate School of Business Administration, USA. - ประกาศนียบัตร Improving the Quality of Financial Reporting (QFR) รุน่ 2/2549 สมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย - ประกาศนียบัตร Audit Committee Program (ACP) รุ่น 4/2548 สมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย - ประกาศนียบัตร Director Certification Program (DCP) รุ่น 14/2545 สมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย - กรรมการ บริษัท ไฟว์สตาร์ ฮอสพิทอลลิตี้ จำกัด - กรรมการ บริษัท โอริกซ์ ออโต้ ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด - นายกสมาคม สมาคมลีสซิ่งไทย - กรรมการ บริษัท น้ำตาลราชบุรี จำกัด - กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยคอมพิวเตอร์ลีสซิ่ง จำกัด - กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยโอริกซ์ลีสซิ่ง จำกัด ไม่มี ไม่ได้ถือหุ้น
อายุ การศึกษา ประสบการณ์ทำงาน 2549 - ปัจจุบนั 2542 - ปัจจุบัน 2545 - 2549 2525 - 2527 ความสัมพันธ์ทางครอบครัวระหว่างผู้บริหาร การถือหุ้นในธนาคาร
60 ปี - Master of Science (Econometrics), The London School of Economics and Political Science (University of London), England - Bachelor of Science (Economics), University College London (University of London), England - นิติศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช - ประกาศนียบัตร Corporate Social Responsibility (CSR) รุ่น 1/2550 สมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย - ประกาศนียบัตร DCP Refresher Course รุ่น 2/2549 สมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย - ประกาศนียบัตร Director Certification Program (DCP) รุ่น 0/2543 สมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย
นายสถาพร ชินะจิตร
210
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
กรรมการตรวจสอบ (กรรมการอิสระ)
- กรรมการวินจิ ฉัยข้อพิพาท สำนักงานคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ - กรรมการ บริษัท ไอ มัชฌิมา จำกัด - กรรมการ สมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD) - กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย - รองผูอ้ ำนวยการฝ่ายกำกับและตรวจสอบสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย ไม่มี ไม่ได้ถือหุ้น
นางสาวสุวรรณภา สุวรรณประทีป อายุ การศึกษา ประสบการณ์ทำงานในระยะ 5 ปี ย้อนหลัง 2548 - ปัจจุบัน 2534 - ปัจจุบัน ความสัมพันธ์ทางครอบครัวระหว่างผู้บริหาร การถือหุ้นในธนาคาร
นายวิชิต ญาณอมร
อายุ การศึกษา ประสบการณ์ทำงานในระยะ 5 ปี ย้อนหลัง 2551 - ปัจจุบัน 2546 - ปัจจุบัน 2545 - ปัจจุบัน 2544 - ปัจจุบัน 2544 - 2550 ความสัมพันธ์ทางครอบครัวระหว่างผู้บริหาร การถือหุ้นในธนาคาร
รองประธานกรรมการบริหาร (กรรมการที่เป็นผู้บริหาร)
63 ปี - Bachelor of Economics, Monash University, Australia - Commercial Lending Training Program, Bankers Trust, New York, USA. - ประกาศนียบัตร Director Accreditation Program (DAP) รุ่น 20/2547 สมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย - กรรมการ รองประธานกรรมการบริหาร กรรมการสรรหา และกรรมการกำหนด ค่าตอบแทน บริษัท ทุนธนชาต จำกัด (มหาชน) (ปี 2551 ดำรงตำแหน่ง กรรมการสรรหา ปี 2552 ดำรงตำแหน่งกรรมการกำหนดค่าตอบแทน) - กรรมการ บริษัท ธนชาตประกันชีวิต จำกัด - กรรมการ บริษัท ซีคอน ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ไม่มี ไม่ได้ถือหุ้น
กรรมการสรรหาผู้บริหาร กรรมการพิจารณาผลตอบแทน ผู้บริหาร (กรรมการที่ไม่เป็นผู้บริหาร) และที่ปรึกษาด้านระบบสารสนเทศและเทคโนโลยี 62 ปี - Master of Science (Computer Science), University of Iowa, USA. - ประกาศนียบัตร Audit Committee Program (ACP) รุ่น 18/2550 สมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย - ประกาศนียบัตร Director Accreditation Program (DAP) รุ่น 34/2548 สมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย
- กรรมการ บริษัท เดอะแกรนด์ ยูบี จำกัด - กรรมการ บริษัท เอเซิร์ทส์ จำกัด - กรรมการอิสระ และกรรมการตรวจสอบ บริษัท ไอที ซิตี้ จำกัด (มหาชน) - กรรมการ บริษัท นวทวีป จำกัด - กรรมการอิสระ บริษัท อุตสาหกรรมอาหารสัตว์ไทย จำกัด (มหาชน) - ทีป่ รึกษาด้านระบบสารสนเทศและเทคโนโลยี บริษทั ทุนธนชาต จำกัด (มหาชน) ไม่มี ไม่ได้ถือหุ้น
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
211
นางมิเชล คว็อก
กรรมการ (กรรมการที่ไม่เป็นผู้บริหาร)
นายเบรนดอน คิง
กรรมการพิจารณาผลตอบแทนผู้บริหาร และกรรมการบริหาร (กรรมการที่ไม่เป็นผู้บริหาร)
อายุ การศึกษา ประสบการณ์ทำงานในระยะ 5 ปี ย้อนหลัง 2551 - ปัจจุบัน 2549 - ปัจจุบัน 2547 - 2549 2543 - 2547 ความสัมพันธ์ทางครอบครัวระหว่างผู้บริหาร การถือหุ้นในธนาคาร
อายุ การศึกษา ประสบการณ์ทำงานในระยะ 5 ปี ย้อนหลัง 2548 - ปัจจุบัน 2547 - ปัจจุบัน 2545 - 2547 ความสัมพันธ์ทางครอบครัวระหว่างผู้บริหาร การถือหุ้นในธนาคาร
212
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
49 ปี - Master of Business Administration (Finance & Marketing), University of British Columbia, Canada - Bachelor of Science in Mathematics, University of British Columbia, Canada - Director, Canada China Business Council, Canada - Governor, The Canadian Chamber of Commerce, Hong Kong - Senior Vice President, Asia/Pacific & Middle East, The Bank of Nova Scotia, Hong Kong - Director, Scotiabank (Hong Kong) Limited, Hong Kong - Director, Boracay Limited, Hong Kong - Director, The Bank of Nova Scotia Asia Limited, Singapore - Director, The Bank of Nova Scotia Berhad, Malaysia - Director, Scotiatrust (Asia) Limited, Hong Kong - Vice President, Human Resources, Scotiabank, Canada - Vice President, Commercial Banking, Scotiabank, Canada ไม่มี ไม่ได้ถือหุ้น
45 ปี - Master of Business Administration (Finance & International Business), York University, Canada - Bachelor of Arts (Business & Economics), York University, Canada - Director, Xi’an City Commercial Bank, China - Director, Scotiabank (Hong Kong) Limited, Hong Kong - Director, Scotia Nominees (Hong Kong) Limited, Hong Kong - Director/Treasurer, The Canadian Chamber of Commerce, Hong Kong - Vice President, Greater China, The Bank of Nova Scotia, Hong Kong - General Manager, International Corporate Finance, Scotiabank (Bahamas) Limited, USA. ไม่มี ไม่ได้ถือหุ้น
นายบัณฑิต ชีวะธนรักษ์
อายุ การศึกษา ประสบการณ์ทำงานในระยะ 5 ปี ย้อนหลัง 2550 - ปัจจุบัน 2544 - ปัจจุบัน 2542 - ปัจจุบัน 2540 - ปัจจุบัน 2539 - ปัจจุบัน 2548 - 2550 2547 - 2548 ความสัมพันธ์ทางครอบครัวระหว่างผู้บริหาร การถือหุ้นในธนาคาร
รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส
55 ปี - พัฒนบริหารศาสตรมหาบัณฑิตทางบริหารธุรกิจ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ - วิทยาศาสตรบัณฑิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย - นิติศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช - ประกาศนียบัตร Director Certification Program (DCP) รุ่น 44/2547 สมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย - ประกาศนียบัตร Director Accreditation Program (DAP) รุ่น 6/2546 สมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย - ประธานกรรมการ บริษัท ที ลีสซิ่ง จำกัด - ประธานกรรมการ บริษัท ธนชาตกฎหมายและประเมินราคา จำกัด - กรรมการ บริษัท ขนส่งน้ำมันทางท่อ จำกัด - กรรมการ บริษัท ธนชาตประกันภัย จำกัด - ประธานกรรมการ บริษัท ธนชาตกรุ๊ป ลีสซิ่ง จำกัด - กรรมการ และรองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) - กรรมการ บริษัท หลักทรัพย์จัดการกองทุน ธนชาติ จำกัด ไม่มี ไม่ได้ถือหุ้น
หมายเหตุ นายบัณฑิต ชีวะธนรักษ์ ได้ลาออกจากธนาคารธนชาต มีผลตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2552
นายปิยะพงศ์ อาจมังกร
อายุ การศึกษา ประสบการณ์ทำงานในระยะ 5 ปี ย้อนหลัง 2548 - ปัจจุบนั 2541 - ปัจจุบัน 2546 - 2548 2544 - 2551 2543 - 2551 2541 - 2548 ความสัมพันธ์ทางครอบครัวระหว่างผู้บริหาร การถือหุ้นในธนาคาร
รองกรรมการผู้จัดการ
51 ปี - Master of Public Administration (Taxation), University of Southern California, USA. - เศรษฐศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ - ประกาศนียบัตร Director Accreditation Program (DAP) รุ่น 21/2547 สมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย
- ประธานกรรมการ และประธานกรรมการบริหาร บริษทั หลักทรัพย์ ธนชาต จำกัด (มหาชน) - กรรมการ และกรรมการบริหาร บริษัท เอ็ม บี เค จำกัด (มหาชน) - กรรมการ และรองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) - กรรมการ บริษัท ไทย รอยัล ออคิด เรียล เอซเทท จำกัด (ลาออกจากการเป็นกรรมการเมื่อกรกฎาคม 2551) - กรรมการ บริษัท โรงแรมรอยัลออคิด (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (ลาออกจากการเป็นกรรมการ เมื่อกรกฎาคม 2551) - ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เงินทุนธนชาติ จำกัด (มหาชน) ไม่มี ไม่ได้ถือหุ้น
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
213
นางนุสรา รุนสำราญ
รองกรรมการผู้จัดการ
อายุ การศึกษา ประสบการณ์ทำงานในระยะ 5 ปี ย้อนหลัง 2540 - ปัจจุบัน 2548 - 2551 2540 - 2548 ความสัมพันธ์ทางครอบครัวระหว่างผู้บริหาร การถือหุ้นในธนาคาร
50 ปี - พัฒนบริหารศาสตรมหาบัณฑิตทางบริหารธุรกิจ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ - รัฐศาสตรบัณฑิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย - ประกาศนียบัตร DCP Refresher Course รุ่น 4/2550 สมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย - ประกาศนียบัตร Director Certification Program (DCP) รุ่น 19/2545 สมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย
อายุ การศึกษา ประสบการณ์ทำงานในระยะ 5 ปี ย้อนหลัง 2550 - ปัจจุบัน 2549 - 2550 2547 - 2549 ความสัมพันธ์ทางครอบครัวระหว่างผู้บริหาร การถือหุ้นในธนาคาร
46 ปี - ปริญญาเอกทางด้านกลยุทธ์และการตลาด Johnson Graduate School of Management, Cornell University, USA. - Master of Science, Cornell University, USA. - Master of Finance & Marketing, Graduate School of Industrial Administration, Carnegie Mellon University, USA. - ปริญญาตรีการจัดการ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช - แพทยศาสตรบัณฑิต คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล
- กรรมการ และกรรมการตรวจสอบ บริษัท ธนชาตประกันภัย จำกัด (ปี 2549 ดำรงตำแหน่งกรรมการตรวจสอบ) - กรรมการ และกรรมการตรวจสอบ บริษทั หลักทรัพย์จดั การกองทุน ธนชาต จำกัด - กรรมการ และรองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) ไม่มี ไม่ได้ถือหุ้น
ผศ. รอ. นพ. ดร. สุมาส วงศ์สุนพรัตน์ รองกรรมการผู้จัดการ (ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ)
นางสาววิไล ตันติคุณ
อายุ การศึกษา ประสบการณ์ทำงานในระยะ 5 ปี ย้อนหลัง 2543 - 2547 ความสัมพันธ์ทางครอบครัวระหว่างผู้บริหาร การถือหุ้นในธนาคาร
214
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
- กรรมการ บริษัท ธนชาต เทรนนิ่ง แอนด์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด - กรรมการ บริษัท ธนชาตแมเนจเม้นท์ แอนด์ เซอร์วิส จำกัด - รองประธานกรรมการอาวุโส ด้านกลยุทธ์การตลาดและพัฒนาธุรกิจ บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) - รองประธานกรรมการบริหาร ด้านกลยุทธ์การตลาด HR และพัฒนาธุรกิจ โรงพยาบาลธนบุรี และโรงพยาบาลปิยะเวท - ประธานเจ้าหน้าทีป่ ฏิบตั กิ าร และรองกรรมการผูจ้ ดั การ บริษทั รังสิตพลาซ่า จำกัด ไม่มี ไม่ได้ถือหุ้น
ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานควบคุมบัญชี
56 ปี - บัญชีมหาบัณฑิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย - บัญชีบัณฑิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
- ผู้อำนวยการอาวุโส บริษัท เงินทุนธนชาติ จำกัด (มหาชน) ไม่มี ไม่ได้ถือหุ้น
รายงานการเปลี่ยนแปลงการถือหุ้นของกรรมการและผู้บริหารในปี 2551 และ 2550 (ข้อมูล ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551)
ลำดับ
รายชื่อ
ตำแหน่ง
1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14
นายบันเทิง ตันติวิท นายศุภเดช พูนพิพัฒน์ นายเกียรติศักดิ์ มี้เจริญ นายณรงค์ จิวังกูร นายสุวิทย์ อรุณานนท์ชัย นายสถาพร ชินะจิตร นางสาวสุวรรณภา สุวรรณประทีป นายวิชิต ญาณอมร นางมิเชล คว็อก นายเบรนดอน คิง นายบัณฑิต ชีวะธนรักษ์ นายปิยะพงศ์ อาจมังกร นางนุสรา รุนสำราญ ผศ. รอ. นพ. ดร. สุมาส วงศ์สุนพรัตน์
ประธานกรรมการ รองประธานกรรมการ กรรมการอิสระ กรรมการอิสระ กรรมการอิสระ กรรมการอิสระ กรรมการ กรรมการที่ไม่เป็นผู้บริหาร กรรมการที่ไม่เป็นผู้บริหาร กรรมการที่ไม่เป็นผู้บริหาร รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส รองกรรมการผู้จัดการ รองกรรมการผู้จัดการ รองกรรมการผู้จัดการ (ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ)
จำนวนหุ้นที่ถือ จำนวนหุ้นที่ถือ จำนวนหุ้นที่ ณ วันที่ ณ วันที่ เปลี่ยนแปลง 31 ธันวาคม 2551 31 ธันวาคม 2550 เพิ่มขึ้น (ลดลง)
สัดส่วน การถือหุ้น ในบริษัท (%)
- - - - - - - - - - - - -
- - - - - - - - - - - - -
- - - - - - - - - - - - -
- - - - - - - - - - - - -
-
-
-
-
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
215
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
X /
C
ชีวะธนรักษ์
อาจมังกร
รุนสำราญ
นายเบรนดอน คิง
นายบัณฑิต
นายปิยะพงศ์
นางนุสรา
* ธนาคารธนชาต ไม่มีบริษัทร่วม
8
X
X
X /
X X XX // X
X
X X X G
X X X X X G
X X X X X
X
X
B X X X B
X X X X X
X X
X X X X
X X XXX /// XXX X X X X
9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 26 27 28 29 30 31 32 33 34 35 36 37 38 39 40 41 42 43 44 45 46 47 48 49 50
X XXX XXX XXX
7
บริษัทที่เกี่ยวข้อง
XX รองประธานกรรมการ X กรรมการ /// ประธานกรรมการบริหาร // รองประธานกรรมการบริหาร / กรรมการบริหาร B กรรมการผู้จัดการ C รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส D รองกรรมการผู้จัดการ E ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัตกิ าร F ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร
X
X
X
X
X /// X ///
XXX XX
6
บริษัทย่อย 3 4 5
XXX ///
XXX ประธานกรรมการ A กรรมการผู้จัดการใหญ่ G ผู้มีอำนาจจัดการ
ผศ. รอ. นพ. ดร. สุมาส วงศ์สุนพรัตน์ D E
หมายเหตุ
D
D
X
นางมิเชล คว็อก
นายวิชิต
X
X //
นางสาวสุวรรณภา สุวรรณประทีป X //
ชินะจิตร
นายสถาพร
อรุณานนท์ชัย X
นายสุวิทย์
X
X
จิวังกูร
นายณรงค์
ญาณอมร
2
XX /// F XX /// A
X
พูนพิพัฒน์
นายศุภเดช
1
บริษัทแม่
XXX XXX
นายเกียรติศักดิ์ มี้เจริญ
ตันติวิท
นายบันเทิง
รายชื่อ
(ข้อมูล ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551)
ข้อมูลการดำรงตำแหน่งของผู้บริหารและผู้มีอำนาจควบคุมในบริษัทย่อย บริษัทร่วม* หรือบริษัทที่เกี่ยวข้องหลายบริษัท
ธนาคารธนชาต
216
รายชื่อบริษัทย่อย และบริษัทที่เกี่ยวข้อง (ข้อมูล ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551)
บริษัทแม่ 1. บริษัท ทุนธนชาต จำกัด (มหาชน) บริษัทย่อย 2. บริษัท หลักทรัพย์ ธนชาต จำกัด (มหาชน) 7. บริษัท ที ลีสซิ่ง จำกัด 8. บริษัท ธนชาตกฎหมายและประเมินราคา จำกัด 3. บริษัท หลักทรัพย์จัดการกองทุน ธนชาต จำกัด 9. บริษัท ธนชาตกรุ๊ป ลีสซิ่ง จำกัด 4. บริษัท ธนชาต เทรนนิ่ง แอนด์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด 10. บริษัท ธนชาตแมเนจเม้นท์ แอนด์ เซอร์วิส จำกัด 5. บริษัท ธนชาตประกันชีวิต จำกัด 6. บริษัท ธนชาตประกันภัย จำกัด บริษัทที่เกี่ยวข้อง 11. บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด 12. บริษัท สยามพิวรรธน์ โฮลดิ้ง จำกัด 13. บริษัท เอ็ม บี เค จำกัด (มหาชน) 14. บริษัท เอ็ม บี เค รีสอร์ท จำกัด (มหาชน) 15. บริษัท บี.วี.โฮลดิ้ง จำกัด 16. บริษัท แปลน เอสเตท จำกัด 17. บริษัท ดีบุก จำกัด 18. บริษัท ไทยฟาร์มมิ่ง จำกัด 19. บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) 20. บริษทั โรงแรมรอยัลออคิด (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) 21. บริษัท ไทย รอยัล ออคิด เรียล เอซเทท จำกัด 22. บริษัท ธารารมณ์ เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) 23. บริษัท ประกันคุ้มภัย จำกัด (มหาชน) 24. บริษัท โมเมนตั้ม เซลส์ แอนด์ ดิสทริบิวชั่น จำกัด 25. บริษัท หม่อมไฉไล ดีเวลลอพเม้นท์ จำกัด 26. บริษัท โมเมนตั้ม คอนซัลท์ติ้ง จำกัด 27. บริษัท โมเมนตั้ม บี บี เอส จำกัด 28. บริษัท โมเมนตั้ม ไอเอ็ม จำกัด 29. บริษัท ไทยโอริกซ์ลีสซิ่ง จำกัด 30. บริษัท โอริกซ์ ออโต้ ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด 31. บริษัท ไฟว์สตาร์ ฮอสพิทอลลิตี้ จำกัด
32. บริษัท น้ำตาลราชบุรี จำกัด 33. บริษัท ไทยคอมพิวเตอร์ลีสซิ่ง จำกัด 34. บริษัท ไอ มัชฌิมา จำกัด 35. บริษัท ไอที ซิตี้ จำกัด (มหาชน) 36. บริษัท เอเซิร์ทส์ จำกัด 37. บริษัท นวทวีป จำกัด 38. บริษัท อุตสาหกรรมอาหารสัตว์ไทย จำกัด (มหาชน) 39. บริษัท เดอะแกรนด์ ยูบี จำกัด 40. Scotiabank (Hong Kong) Limited, Hong Kong 41. Boracay Limited, Hong Kong 42. The Bank of Nova Scotia Asia Limited, Singapore 43. The Bank of Nova Scotia Berhad, Malaysia 44. Scotiatrust (Asia) Limited, Hong Kong 45. Asia/Pacific & Middle East, The Bank of Nova Scotia, Hong Kong 46. Scotia Nominees (Hong Kong) Limited, Hong Kong 47. Xi’an City Commercial Bank, China 48. The Bank of Nova Scotia, Hong Kong 49. บริษัท ซีคอน ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) 50. บริษัท ขนส่งน้ำมันทางท่อ จำกัด
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
217
ผู้บริหารระดับสูง
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร นายศุภเดช พูนพิพัฒน์ รองประธานกรรมการบริหาร นางสาวสุวรรณภา สุวรรณประทีป รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส นายบัณฑิต ชีวะธนรักษ์ รองกรรมการผู้จัดการ นางนุสรา รุนสำราญ นายปิยะพงศ์ อาจมังกร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ นางรัมภา ภู่ชอุ่ม นายอมร กิตินารถอินทราณี นายกอบศักดิ์ ดวงดี ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ ผศ. รอ. นพ. ดร. สุมาส วงศ์สุนพรัตน์
สายงานบริหารความเสี่ยง
Head of Risk นายโรเบิร์ต อีริคสัน ฝ่ายบริหารความเสี่ยง ผู้อำนวยการฝ่ายอาวุโส นายกำธร ตันติศิริวัฒน์ ฝ่ายวิเคราะห์เครดิต ผู้อำนวยการอาวุโส นางสสิมา ทวีสกุลชัย ฝ่ายควบคุมความเสี่ยง ผู้อำนวยการฝ่าย นางสาวสมัย มากบุญประสิทธิ์ ฝ่ายบริหารค่าจ้างและผลตอบแทน ผู้อำนวยการฝ่าย นายธเนศ ขันติการุณ
218
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
สายงานตรวจสอบ
ผู้อำนวยการอาวุโส นายชัชวาลย์ จันทรรวงทอง สำนักตรวจสอบทั่วไปและสอบทานสินเชื่อ 1 ผู้อำนวยการสำนัก นายพัฒนา บุญสุข สำนักตรวจสอบทั่วไปและสอบทานสินเชื่อ 2 ผู้อำนวยการสำนัก นายชูศักดิ์ พัชรพงษ์ศักดิ์ ฝ่ายกำกับกฎระเบียบและข้อบังคับ ผู้อำนวยการฝ่าย นายศักดา จันทราสุริยารัตน์ สำนักนโยบายและแผนงาน ผู้อำนวยการ นายประภัสร์ สุทธิโรจน์
สายการตลาดและธุรกิจเงินฝาก
ฝ่ายการตลาดธุรกิจเงินฝาก 1 ผู้อำนวยการฝ่าย นางสาวจันทรา กุลกอบเกียรติ ฝ่ายการตลาดธุรกิจเงินฝาก 2 ผู้อำนวยการฝ่ายอาวุโส นางยุพิน ตรังคธรรมกุล
สายงานเครือข่ายสาขากรุงเทพฯ
ฝ่ายเครือข่ายสาขากรุงเทพฯ 1 ผู้อำนวยการฝ่ายอาวุโส นางวิไลวรรณ วิรยศิริ ฝ่ายเครือข่ายสาขากรุงเทพฯ 2 ผู้อำนวยการฝ่ายอาวุโส นายวรเชษฐ ชีวอัครพันธุ์ ฝ่ายเครือข่ายสาขากรุงเทพฯ 3 ผู้อำนวยการฝ่าย นายสมควร ใช้เจริญ
ฝ่ายเครือข่ายสาขากรุงเทพฯ 4 ผู้อำนวยการฝ่าย นายเอกสิทธิ์ ศักดิ์ธนาคร ฝ่ายเครือข่ายสาขากรุงเทพฯ 5 ผู้อำนวยการฝ่าย นายป้อมเพชร รสานนท์ ฝ่ายเครือข่ายสาขากรุงเทพฯ 6 ผู้อำนวยการฝ่าย นายพิเชษฐ์ เจริญจิตต์
สายงานเครือข่ายสาขาภูมิภาค
ผู้อำนวยการฝ่ายอาวุโส นายทรงวุฒิ เชาวลิต สำนักงานภาคกลาง 1 (พระนครศรีอยุธยา) ผู้อำนวยการสำนัก นายชัชวาลย์ เหลืองอ่อน สำนักงานภาคกลาง 2 (สระบุรี) ผู้อำนวยการสำนัก นายเมธิศ รักกุลชรามย์ สำนักงานภาคกลาง 3 (นครปฐม) ผู้อำนวยการสำนัก นายพีรชัย คชะสุต สำนักงานภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 1 (อุดรธานี) ผู้อำนวยการสำนัก นายมงคล ขุนอ่อน สำนักงานภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 2 (ขอนแก่น) ผู้อำนวยการสำนัก นายวันชัย กาญจนศิริ สำนักงานภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 3 (นครราชสีมา) ผู้อำนวยการสำนัก นายพรสินธุ์ ชูวงษ์ สำนักงานภาคเหนือ 1 (เชียงใหม่) ผู้อำนวยการสำนัก นายอุดม ชัยเทพ
สำนักงานภาคเหนือ 2 (พิษณุโลก) ผู้อำนวยการสำนัก นายวิเชียร พิพัฒนานันท์ สำนักงานภาคเหนือ 3 (นครสวรรค์) ผู้อำนวยการสำนัก นายวิกรานต์ พืชพันธ์ไพศาล สำนักงานภาคตะวันออก 1 (ศรีราชา) ผู้อำนวยการสำนัก นายวิชัย เหลืองศรีสุข สำนักงานภาคตะวันออก 2 (ระยอง) ผู้อำนวยการสำนัก นายสุนันท์ อัมหิรัญ สำนักงานภาคใต้ 1 (ภูเก็ต) ผู้อำนวยการสำนัก นายพูนสิน สินธนภัทร สำนักงานภาคใต้ 2 (สุราษฎร์ธานี) ผู้อำนวยการสำนัก นายนพพร จันทบูรณ์ สำนักงานภาคใต้ 3 (นครศรีธรรมราช) ผู้อำนวยการสำนัก นายสุเทพ ณ บางไทร สำนักงานภาคใต้ 4 (หาดใหญ่) ผู้อำนวยการสำนัก นายสัญญา เตะหมัดหมะ
สายงานเร่งรัดหนี้รายย่อยและบริหารรถยึด
เจ้าหน้าที่บริหารชั้นสูง นายสนอง คุ้มนุช สำนักเร่งรัดหนี้กรุงเทพฯ ผู้อำนวยการสำนัก นายสมชาย อังพรหมสถาน
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
219
Retail Loan & SMEs Loan
ผู้อำนวยการอาวุโส นายเซท เซเชทโต ฝ่ายขายลูกค้าผู้บริโภค ผู้อำนวยการฝ่าย นายวิจักษณ์ ประดิษฐวณิช ฝ่าย Housing Loan Approvals Head of Housing Loan Approvals นายธเนศ รัตนากร ฝ่าย Housing Loan Product Management Head of Housing Loan Product Management นางฐาริตา จิตรวิมล
สาย Corporate Banking
ผู้อำนวยการอาวุโส นายโนเอล ซิงห์ Head of Strategic Planning Head of Strategic Planning นางวิวรรณ ขุนภาษี Head of Business Support Head of Business Support นางสาวกมลทิพย์ ศรีธรากุล Head of Sale 1 Head of Sale 1 นายวิสูจน์ ตั้งอดุลย์รัตน์ Head of Sale 2 Head of Sale 2 นางวนิดา ศุภนันตฤกษ์ Head of Commercial Underwriting Head of Commercial Underwriting นายวทัญญู นิธยายน Head of Credit Review Head of Credit Review นายพัชระ ดลสุขเลิศ
220
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
สายงาน Corporate Investment Banking ฝ่ายวาณิชธนกิจ 1 ผู้อำนวยการฝ่าย นายอนวัช ลีละวัฒน์วัฒนา
สายงานบริหารเงินและต่างประเทศ
Head of Treasury นายลลิต ธรรมเสรี ฝ่ายการลงทุนตราสารทุนและตราสารอนุพันธ์ ผู้อำนวยการฝ่าย นายเติมพงษ์ บุนะจินดา ฝ่ายค้าเงินตราต่างประเทศ ผู้อำนวยการฝ่าย นายฐานิศร์ ศาสตราวาหะ ฝ่ายการลงทุนและค้าตราสารหนี้ ผู้อำนวยการฝ่าย นายอภิชาติ เสถียรเสพย์ Head of Operation ผู้อำนวยการอาวุโส นายริคกี้ ยากาโบวิช
สายงานปฏิบัติการและสนับสนุน
ผู้อำนวยการอาวุโส นายฉัตรชัย ไกวัลกุล ฝ่ายบริการธุรกิจหลักทรัพย์และผู้ดูแลผลประโยชน์ ผู้อำนวยการ นางอรอุมา ฉายยะ ฝ่ายปฏิบัติการบัตรเครดิต ผู้อำนวยการฝ่าย นายพิชิต สนามทอง Head of Operations Support Service Head of Operations Support Service นายนริศ ไทรฟัก
ฝ่ายบริหารงานสาขา ผู้อำนวยการฝ่ายอาวุโส นายสมชาย บุญมา ผู้อำนวยการ นายปุณณวิช สุปัญโญ ฝ่ายการค้าต่างประเทศ ผู้อำนวยการฝ่ายอาวุโส นางนินนา กอประพันธ์ ฝ่ายตรวจสอบคุณภาพระบบสารสนเทศ ผู้อำนวยการฝ่ายอาวุโส นายประดิษฐ์ รุ่งเจริญพร ฝ่ายปฏิบัติการบริหารเงิน Head of Treasury Operation นางสาวสุธาทิพย์ อัมพาภรณ์
สายทรัพยากรบุคคลกลาง
ฝ่ายแผนงานกลยุทธ์ทรัพยากรบุคคล ผู้อำนวยการฝ่าย นายแสงสูรย์ แสงประสิทธิ์ ฝ่ายสรรหาและบริหารทรัพยากรบุคคล ผู้อำนวยการฝ่าย นางอุบลรัตน์ บุษยะกนิษฐ์ กลุ่มสรรหาทรัพยากรบุคคล 1 ผู้อำนวยการ นางสาวอารีลักษณ์ เรืองพลรณชัย ฝ่ายพัฒนาผู้บริหาร ผู้อำนวยการฝ่าย นางกัญญา ทรัพย์บุญรอด ฝ่ายพัฒนาระบบงานและระเบียบคำสั่ง ผู้อำนวยการฝ่ายอาวุโส นายเกรียงไกร ภูริวิทย์วัฒนา ผู้อำนวยการ นางญาดา ไทยปิ่นณรงค์ ผู้อำนวยการฝ่าย นายพรพิชัย วรธำรง
สายงานสื่อสารและบริหารแบรนด์
ผู้อำนวยการอาวุโส นายวิชา กุลกอบเกียรติ ฝ่ายบริหารข้อมูล ผู้อำนวยการฝ่าย นายเกษมัณฑน์ แก้วอิ่ม
สายงานพัฒนาผลิตภัณฑ์ธนาคาร
Head of Product นายประพันธ์ อนุพงษ์องอาจ กลุ่ม Credit Card & Personal Loan Product Head of Credit Card & Personal Loan Product นายฌอง มาร์ค ดาแลร์ ฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์เช่าซื้อ ผู้อำนวยการฝ่ายอาวุโส นายอนุชาติ ดีประเสริฐ
สายงานควบคุมบัญชี
ผู้อำนวยการอาวุโส นางสาววิไล ตันติคุณ ฝ่ายสนับสนุนและควบคุมบัญชีบริษัทในเครือ ผู้อำนวยการฝ่าย นายพิชิต ภักดิ์แจ่มใส ฝ่ายบริหารโครงการการพัฒนาระบบคอมพิวเตอร์ ผู้อำนวยการฝ่ายอาวุโส นายปฏิภาณ มัณยานนท์ สำนักพัฒนาช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ ผู้อำนวยการสำนัก นายพรชัย ปานกิจเจริญ สำนักพัฒนาช่องทางธุรกิจ ผู้อำนวยการสำนัก นายทวีศักดิ์ ศิริฐานนท์ ฝ่ายระบบสารสนเทศและเทคโนโลยี ผู้อำนวยการฝ่ายอาวุโส นางขจิตพันธ์ ชุนหฤทธิ์ ผู้อำนวยการ นายคมสัน คชานันท์
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
221
ข้อมูลทั่วไป
การลงทุนของธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) ในบริษัทอื่น
ในปี 2551 หุ้นที่ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) “ธนาคารธนชาต” ถือไว้เกินกว่าร้อยละ 10 ของทุนที่เรียกชำระแล้ว มีสัดส่วนการถือหุ้นและจำนวนเงินดังต่อไปนี้ ชื่อบริษัท/ที่ตั้ง
ประเภท ทุนจดทะเบียน ประเภทธุรกิจ หุ้น (บาท)
บริษัทย่อย บริษัท หลักทรัพย์ ธนชาต จำกัด (มหาชน) หลักทรัพย์ 444 อาคารเอ็มบีเค ทาวเวอร์ ชั้น 14, 18 และ 19 ถนนพญาไท แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330 โทร. 0-2217-8888, 0-2611-9222, 0-2217-9595 โทรสาร 0-2217-9642 บริษัท ธนชาตประกันภัย จำกัด ประกันภัย 1 อาคารกลาสเฮ้าส์ ชั้น 10 ถนนสุขุมวิท 25 แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ 10110 โทร. 0-2661-7999 โทรสาร 0-2665-7304 บริษัท ธนชาตประกันชีวิต จำกัด ประกันชีวิต 231 อาคารธนชาตประกันชีวิต ถนนราชดำริห์ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330 โทร. 0-2207-4200 โทรสาร 0-2253-8484 บริษัท หลักทรัพย์จัดการกองทุน ธนชาต หลักทรัพย์ จำกัด จัดการกองทุน 898 อาคารเพลินจิตทาวเวอร์ ชั้น 15 และ 18 ถนนเพลินจิต แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330 โทร. 0-2126-8300 โทรสาร 0-2263-0875 บริษัท ธนชาต โบรกเกอร์ จำกัด นายหน้า 1 อาคารกลาสเฮ้าส์ ชั้น 4 ประกัน ซอยสุขุมวิท 25 แขวงคลองเตยเหนือ วินาศภัย เขตวัฒนา กรุงเทพฯ 10110 โทร. 0-2685-0300 โทรสาร 0-2685-0333 222
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
สามัญ
ทุนชำระแล้ว (บาท)
จำนวนหุ้นที่ การถือหุ้น ออกจำหน่าย จำนวนหุ้นที่ถือ ของธนาคาร (หุ้น) (หุ้น) (ร้อยละ)1
1,700,000,000 1,500,000,000 1,500,000,000 1,499,999,930 100.00
สามัญ
740,000,000
740,000,000
74,000,000
73,999,434 100.00
สามัญ
500,000,000
500,000,000
50,000,000
49,999,400 100.00
สามัญ
100,000,000
100,000,000
10,000,000
7,499,993
75.00
สามัญ
100,000,000
100,000,000
10,000,000
9,999,000
99.99
ชื่อบริษัท/ที่ตั้ง
ประเภท ทุนจดทะเบียน ประเภทธุรกิจ หุ้น (บาท)
ทุนชำระแล้ว (บาท)
บริษัท ธนชาตกรุ๊ป ลีสซิ่ง จำกัด ลีสซิ่ง สามัญ 360,000,000 360,000,000 444 อาคารเอ็มบีเค ทาวเวอร์ ชั้น 11 ถนนพญาไท แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330 โทร. 0-2217-8000 โทรสาร 0-2611-9488 บริษัท ธนชาตแมเนจเม้นท์ บริการ สามัญ 6,000,000 6,000,000 แอนด์ เซอร์วิส จำกัด 128/23 ชั้น 3 อาคารพญาไทพลาซ่า ถนนพญาไท แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพฯ 10400 โทร. 0-2612-1500 โทรสาร 0-2612-1400 บริษัท ธนชาตกฎหมายและ ที่ปรึกษา สามัญ 10,000,000 10,000,000 ประเมินราคา จำกัด กฎหมายและ 128/20-21 ชั้น 3 อาคารพญาไทพลาซ่า ประเมินราคา ถนนพญาไท แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพฯ 10400 โทร. 0-2216-6677 โทรสาร 0-2216-9022 บริษัท ธนชาต เทรนนิ่ง แอนด์ ฝึกอบรม สามัญ 5,000,000 5,000,000 ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด 207/6 อาคารธนชาต ชั้น 5 ถนนรัชดาภิเษก แขวงดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพฯ 10400 โทร. 0-2290-3410 โทรสาร 0-2290-3419 บริษัท ที ลีสซิ่ง จำกัด เช่าซื้อ สามัญ 180,000,000 180,000,000 333 อาคารธนชาต วงศ์สว่าง ชั้น 3 ถนนรัชดาภิเษก แขวงบางซื่อ เขตบางซื่อ กรุงเทพฯ 10800 โทร. 0-2832-2555 โทรสาร 0-2832-2556 บริษัท เนชั่นแนล ลีซซิ่ง จำกัด2 เช่าซื้อ สามัญ 60,000,000 60,000,000 444 ชั้น 12 อาคารเอ็มบีเค ทาวเวอร์ ถนนพญาไท แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330 บริษัทร่วม บริษัท สยาม มีเดีย แอนด์ สื่อสารและ สามัญ 700,000,000 700,000,000 คอมมิวนิเคชั่น จำกัด3 คมนาคม 18 อาคาร 2 เวสต์ ชั้น 17-22 ไทยพาณิชย์ปาร์คพลาซ่า ถนนรัชดาภิเษก แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900 หมายเหตุ
1. 2. 3.
จำนวนหุ้นที่ การถือหุ้น ออกจำหน่าย จำนวนหุ้นที่ถือ ของธนาคาร (หุ้น) (หุ้น) (ร้อยละ)1 36,000,000
35,999,994 100.00
600,000
599,993 100.00
1,000,000
999,993 100.00
500,000
499,993 100.00
18,000,000
600,000
7,000,000
17,998,200
99.99
599,994 100.00
1,633,800
23.34
ร้อยละการถือหุ้นแสดงนับรวมการถือหุ้นโดยผู้ที่เกี่ยวข้อง ธ นาคารธนชาตถือหุ้นทางอ้อม ผ่านทางบริษัท ธนชาตกรุ๊ป ลีสซิ่ง จำกัด ร้อยละ 100.00 ซึ่งเป็นไปตามคำนิยามบริษัทย่อยของตลาดหลักทรัพย์ แห่งประเทศไทย “ตลท.” ถูกพิทักษ์ทรัพย์
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
223
ข้อมูลอ้างอิงของธนาคาร
ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) ชื่อภาษาอังกฤษ “Thanachart Bank Public Company Limited” ชื่อย่อ “TBANK” ประเภทธุรกิจ : ธนาคารพาณิชย์ตามที่กำหนดในพระราชบัญญัติธุรกิจสถาบันการเงินและประกาศ ที่เกี่ยวข้องซึ่งออกโดยธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ตั้งสำนักงานใหญ่ : 900 อาคารต้นสนทาวเวอร์ ถนนเพลินจิต แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330 เลขทะเบียนบริษัท : 0107536001401 (เดิมเลขที่ บมจ. 214) Website : www.thanachartbank.co.th โทรศัพท์ : 0-2655-9000 โทรสาร : 0-2655-9001 Thanachart Smartphone : 1589 (ติดต่อธุรกรรมทางการเงินของธนาคารธนชาตทางโทรศัพท์) ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์กลุ่มธนชาต : 1770 SWIFT BIC : THBKTHBK TELEX : 20323 NBANK TH ทุนจดทะเบียน : 19,346,192,920 บาท (หนึ่งหมื่นเก้าพันสามร้อยสี่สิบหกล้านหนึ่งแสนเก้าหมื่นสองพัน เก้าร้อยยี่สิบบาทถ้วน) ทุนชำระแล้ว : 17,346,192,920 บาท (หนึ่งหมื่นเจ็ดพันสามร้อยสี่สิบหกล้านหนึ่งแสนเก้าหมื่นสองพัน เก้าร้อยยี่สิบบาทถ้วน) บุคคลอ้างอิง นายทะเบียนหลักทรัพย์ : บริษัท ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด 62 อาคารตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ถนนรัชดาภิเษก แขวงคลองเตย เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร 10110 โทรศัพท์ 0-2229-2800 โทรสาร 0-2359-1259 นายทะเบียนหุ้นกู ้
:
ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) 900 อาคารต้นสนทาวเวอร์ ถนนเพลินจิต แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330 โทรศัพท์ 0-2655-9000 โทรสาร 0-2655-9001
ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) 3000 ถนนพหลโยธิน แขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร 10900 โทรศัพท์ 0-2299-1111 โทรสาร 0-2273-7121-4, 0-2273-7857
หมายเหตุ เป็นนายทะเบียนหุ้นกู้ด้อยสิทธิไม่มีหลักประกัน ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) ครั้งที่ 1/2549 ครบกำหนดไถ่ถอนปี 2556 จำนวนเงิน 3,000 ล้านบาท
หมายเหตุ เป็นนายทะเบียนหุ้นกู้ด้อยสิทธิไม่มีหลักประกัน ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) ครั้งที่ 1/2551 ครบกำหนดไถ่ถอนปี 2558 จำนวนเงิน 5,000 ล้านบาท
ผู้สอบบัญชี
:
นางสาวรัตนา จาละ ผู้สอบบัญชีรับอนุญาต เลขทะเบียน 3734 บริษัท สำนักงาน เอินส์ท แอนด์ ยัง จำกัด อาคารเลครัชดา ชั้น 33 เลขที่ 193/136-137 ถนนรัชดาภิเษก แขวงคลองเตย เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร 10110 โทรศัพท์ 0-2264-0777 โทรสาร 0-2264-0789-90
ที่ปรึกษากฎหมาย
:
บริษัท ธนชาตกฎหมายและประเมินราคา จำกัด อาคารพญาไทพลาซ่า ชั้น 3 เลขที่ 128/20-21 ถนนพญาไท แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร 10400 โทรศัพท์ 0-2216-6677 โทรสาร 0-2216-6558
224
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
โครงสร้างผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ลำดับ
รายนามผู้ถือหุ้น
หุ้นสามัญ (หุ้น)
สัดส่วน (ร้อยละ)
883,279,930 849,920,153 104,200 96,665 90,000 84,809 70,000 40,000 36,000 32,625 864,910
50.92 48.99 0.01 0.01 0.01 0.00 0.00 0.00 0.00 0.00 0.05
1. 2. 3. 4. 5. 6. 7. 8. 9. 10. 11.
บริษัท ทุนธนชาต จำกัด (มหาชน) ธนาคารแห่งโนวาสโกเทีย นางสาวกิตติมา โตเลี้ยง นางสาวเพียงใจ หาญพาณิชย์ บริษัท เงินทุนหลักทรัพย์ การทุนไทย จำกัด (มหาชน)* นายวันชัย จิราธิวัฒน์ นายฐณะวัฒน์ เจริญธรรศนนท์ MR. WAYNE HUANG นายชวน โตมีชัย บริษัท ทิพย์พิทักษ์ จำกัด ผู้ถือหุ้นรายอื่น
ยอดรวมทุนชำระแล้ว
1,734,619,292
100.00
ผู้ถือหุ้นสัญชาติไทย
884,655,839
51.00
ผู้ถือหุ้นสัญชาติต่างด้าว
849,963,453
49.00
หมายเหตุ * บงล. การทุนไทย ถูกพิทักษ์ทรัพย์จากเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ กรมบังคับคดี ที่มา รายงานรายชื่อผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ณ วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2552 ซึ่งจัดทำโดย บริษัท ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
225
นโยบายการจ่ายเงินปันผล
นโยบายการจ่ายเงินปันผลของธนาคารธนชาต
ธนาคารธนชาตมีนโยบายในการจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้น เมื่อผลประกอบการของธนาคารธนชาตมีกำไร ทั้งนี้ พิจารณา จากความพอเพียงของเงินกองทุนในการรองรับธุรกิจของธนาคารธนชาตและเงินสำรองตามกฎหมาย เงินกำไรส่วนที่เหลือจากการจ่าย เงินปันผลจะจัดสรรเป็นเงินสำรองต่าง ๆ ตามแต่คณะกรรมการธนาคารธนชาตจะเห็นสมควร ทั้งนี้ คณะกรรมการธนาคารธนชาต อาจจ่ า ยเงิ น ปั น ผลระหว่ า งกาลให้ แ ก่ ผู้ ถื อ หุ้ น ได้ เ ป็ น ครั้ ง คราว เมื่ อ เห็ น ว่ า ธนาคารธนชาตมี ก ำไรพอสมควรที่ จ ะทำเช่ น นั้ น และ เมื่อจ่ายเงินปันผลแล้วจะรายงานให้ที่ประชุมผู้ถือหุ้นทราบในการประชุมคราวต่อไป นอกจากนี้ การจ่ายเงินปันผลต้องเป็นไปตามประกาศธนาคารแหงประเทศไทย “ธปท.” ที่ สนส. 31/2551 เรือ่ ง หลักเกณฑ การจัดชั้นและการกันเงินสํารองของสถาบันการเงิน ลงวันที่ 3 สิงหาคม 2551 ซึ่งกำหนดว่าในระหวางเวลาที่สถาบันการเงินยังไมได ตัดสินทรัพย ที่เสียหายออกจากบัญชีหรือยังกันเงินสํารองสําหรับสินทรัพย และภาระผูกพันที่อาจเสียหายและไม เสียหายไม ครบ ทัง้ จํานวน สถาบันการเงินจะจายเงินปนผลหรือเงินตอบแทนอืน่ ใดแกผถู อื หุน มิได้ และประกาศ ธปท. ที่ สนส. 67/2551 เรือ่ ง ขอกําหนด เกีย่ วกับการบันทึกบัญชีของสถาบันการเงิน ลงวันที่ 3 สิงหาคม 2551 กําหนดใหสถาบันการเงินถือปฏิบตั เิ กีย่ วกับการจายเงินปนผลว่า สถาบันการเงินไม ควรนํากําไรที่ยังไม เกิดขึ้นจริง หรือไมมีกระแสเงินสดรับจริงมาใช ในการจายเงินปนผล เช น กําไรที่เกิดจาก การตี ร าคาหลั ก ทรั พ ย เ พื่ อ ค า (Mark to Market) และกํ า ไรที่ เ กิ ด จากการโอนเปลี่ ย นประเภทสิ น ทรั พ ย ท างการเงิ น เป น ต น รวมถึงสถาบันการเงินไมควรนํากําไรที่เกิดจากการขายทรัพยสินที่มิไดมีการซื้อขายจริง ซึ่งมีผลทําใหสถาบันการเงินมีกําไรสูงกวา หรื อ ขาดทุ น ต่ ำ กว า กรณี ป กติ ม าใช ใ นการจ า ยเงิ น ป น ผล เช น กํ า ไรที่ เ กิ ด จากการขายทรั พ ย สิ น รอการขายของสถาบั น การเงิ น ที่มีเงื่อนไขให้สถาบันการเงินสามารถซื้อคืนหรือมีสิทธิซื้อคืนทรัพยสินนั้นไดในอนาคต เปนตน จากการจัดสรรกำไรประจำปี 2549 และปี 2550 ที่ผ่านมา ธนาคารธนชาตจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราหุ้นละ 0.15 บาท ในปี 2550 และอัตราหุ้นละ 0.43 บาท ในปี 2551 ตามลำดับ การจ่ายเงินปันผลของบริษัทย่อย การจ่ายเงินปันผลของบริษัทย่อย จะต้องได้รับอนุมัติจากมติที่ประชุมผู้ถือหุ้นหรือมติที่ประชุมคณะกรรมการของบริษัทนั้น (แล้วแต่กรณี) โดยที่การจ่ายเงินปันผลทุกครั้ง หากเป็นบริษัทจำกัด ต้องจัดสรรเงินไว้เป็นทุนสำรองอย่างน้อยหนึ่งในยี่สิบของเงิน กำไรสุทธิจนกว่าทุนสำรองนั้นจะมีจำนวนถึงหนึ่งในสิบของจำนวนทุนของบริษัทหรือมากกว่านั้น ในกรณีที่มีการกำหนดในข้อบังคับ ของบริษัท แต่หากเป็นบริษัทมหาชนจำกัด ต้องจัดสรรกำไรสุทธิประจำปีส่วนหนึ่งไว้เป็นทุนสำรองไม่น้อยกว่าร้อยละห้าของกำไรสุทธิ ประจำปีหักด้วยยอดเงินขาดทุนสะสมยกมา (ถ้ามี) จนกว่าทุนสำรองจะมีจำนวนไม่นอ้ ยกว่าร้อยละสิบของทุนจดทะเบียน เว้นแต่บริษทั จะมีขอ้ บังคับหรือกฎหมายอื่นกำหนดให้ต้องมีทุนสำรองมากกว่านั้น กลุ่มผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่โดยพฤติการณ์มีอิทธิพลต่อการกำหนดนโยบายการจัดการอย่างมีนัยสำคัญ ธนาคารธนชาตมีผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่มีอิทธิพลต่อการกำหนดนโยบายการจัดการหรือการดำเนินการ 2 บริษัท คือ บริษัท ทุนธนชาต จำกัด (มหาชน) “ทุนธนชาต” ซึง่ ถือหุน้ ร้อยละ 50.92 ของจำนวนหุน้ ทีจ่ ำหน่ายได้แล้วทัง้ หมด และธนาคารแห่งโนวาสโกเทีย “สโกเทียแบงก์” ซึ่งถือหุ้นร้อยละ 48.99 ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด ทั้งนี้ ทุนธนชาต ไม่มีกลุ่มผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่โดยพฤติการณ์มีอิทธิพลต่อการกำหนดนโยบายการจัดการ หรือการดำเนินงาน ของทุนธนชาตอย่างมีนัยสำคัญ
226
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
บริษัทในกลุ่มธนชาต บริษัท ทุนธนชาต จำกัด (มหาชน)
444 อาคารเอ็มบีเค ทาวเวอร์ ชั้น 10-11 และ 15-20 ถนนพญาไท แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330 โทรศัพท์ 0-2217-8444, 0-2217-8000, 0-2611-9111 โทรสาร 0-2613-6099 ทะเบียนเลขที่ 0107536000510 www.thanachart.co.th
ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
900 อาคารต้นสนทาวเวอร์ ถนนเพลินจิต แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330 โทรศัพท์ 0-2655-9000 โทรสาร 0-2655-9001 ทะเบียนเลขที่ 0107536001401 www.thanachartbank.co.th
บริษัท หลักทรัพย์ ธนชาต จำกัด (มหาชน)
444 อาคารเอ็มบีเค ทาวเวอร์ ชั้น 14 18 และ 19 ถนนพญาไท แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330 โทรศัพท์ 0-2217-8888, 0-2611-9222, 0-2217-9595 โทรสาร 0-2217-9642 ทะเบียนเลขที่ 0107547000591 www.tnsitrade.com
บริษัท หลักทรัพย์จัดการกองทุน ธนชาต จำกัด
898 อาคารเพลินจิตทาวเวอร์ ชั้น 15 และ 18 ถนนเพลินจิต แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330 โทรศัพท์ 0-2126-8300 โทรสาร 0-2263-0875 ทะเบียนเลขที่ 0105535049696 www.thanachartfund.com บริษัท ธนชาตประกันภัย จำกัด 1 อาคารกลาสเฮ้าส์ ชั้น 10 ถนนสุขุมวิท 25 แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ 10110 โทรศัพท์ 0-2661-7999 โทรสาร 0-2665-7304 ทะเบียนเลขที่ 0105540060091 www.thanachartinsurance.co.th บริษัท ธนชาตประกันชีวิต จำกัด 231 อาคารธนชาตประกันชีวิต ถนนราชดำริห์ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330 โทรศัพท์ 0-2207-4200 โทรสาร 0-2253-8484 ทะเบียนเลขที่ 0105540057090 www.thanachartlife.co.th
Thanachart Contact Center 1770
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
227
สำนักงานสาขา ข้อมูล ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551
สำนักงานใหญ่
สำนักต้นสน โทรศัพท์ โทรสาร
กรุงเทพฯ สาขาสีลม
สาขาโรงพยาบาลลาดพร้าว
โทรศัพท์ 0-2932-2473-5 โทรสาร 0-2932-2530
0-2266-7414 0-2266-7416
สาขาโรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท 49
โทรศัพท์ 0-2712-7013-5 โทรสาร 0-2712-7016 สาขามาบุญครอง โทรศัพท์ 0-2611-5710-5 โทรสาร 0-2611-5717 สาขาพระราม 4 โทรศัพท์ 0-2661-5534-7 โทรสาร 0-2661-5539
สาขาเซ็นทรัล พระราม 2
โทรศัพท์ 0-2872-4770 ต่อ 111-114 โทรสาร 0-2872-4769 สาขาซีคอนสแควร์ ศรีนครินทร์ โทรศัพท์ 0-2721-9955 โทรสาร 0-2721-8321 สาขาเซ็นทรัล พระราม 3 โทรศัพท์ 0-2211-8260 โทรสาร 0-2211-8190 สาขาเดอะมอลล์ บางแค โทรศัพท์ 0-2803-8310 โทรสาร 0-2803-8305 สาขาเดอะมอลล์ บางกะปิ โทรศัพท์ 0-2375-1575 โทรสาร 0-2375-1686 228
0-2655-9000 0-2655-9585
กรุงเทพฯ และปริมณฑล
โทรศัพท์ โทรสาร
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
สาขารัชดาภิเษก (อาคารกลาสเฮ้าส์)
โทรศัพท์ 0-2693-9811 โทรสาร 0-2693-9820 สาขาถนนนางลิ้นจี่ โทรศัพท์ 0-2285-1971, 0-2286-1898 โทรสาร 0-2286-1939
สาขาบางนา
โทรศัพท์ 0-2397-3757 โทรสาร 0-2398-0185 สาขาเซ็นทรัล ปิ่นเกล้า โทรศัพท์ 0-2884-9680-3 โทรสาร 0-2884-9684 สาขาทองหล่อ โทรศัพท์ 0-2381-8422, 0-2381-8421-2, 0-2381-8364-5 โทรสาร 0-2381-8423 สาขาเยาวราช โทรศัพท์ 0-2221-1868, 0-2221-1845-7 โทรสาร 0-2221-1869 สาขาถนนพัฒนาการ โทรศัพท์ 0-2369-2814-7 โทรสาร 0-2369-2818 สาขาเพชรเกษม โทรศัพท์ 0-2456-0337-42 โทรสาร 0-2454-4116 สาขาประตูน้ำ โทรศัพท์ 0-2208-0072-5 โทรสาร 0-2208-0076 สาขารามคำแหง ซอย 24 โทรศัพท์ 0-2300-4956-8 โทรสาร 0-2719-1258
สาขาอุดมสุข
สาขาย่อยพหลโยธิน ซอย 6
สาขายูเนี่ยน มอลล์ ลาดพร้าว
สาขาย่อยเอ็มบีเค ทาวเวอร์
โทรศัพท์ 0-2398-4024-7 โทรสาร 0-2398-4028
โทรศัพท์ 0-2511-0236, 0-2511-0246, 0-2511-0256 โทรสาร 0-2511-0268 สาขาเมเจอร์ รัชโยธิน โทรศัพท์ 0-2512-1082, 0-2512-1102, 0-2512-1248 โทรสาร 0-2939-5372
สาขาโบ๊เบ๊
โทรศัพท์ 0-2356-0755-8 โทรสาร 0-2356-0759 สาขาพหลโยธิน ซอย 9 โทรศัพท์ 0-2270-1371-3, 0-2619-6399 โทรสาร 0-2619-6339 สาขาเอสพละนาด รัชดา โทรศัพท์ 0-2354-2052-4, 0-2660-9252 โทรสาร 0-2660-9250 สาขารามคำแหง ซอย 122 โทรศัพท์ 0-2372-2377-9, 0-2728-2947 โทรสาร 0-2728-2950 สาขาดิ อเวนิว แจ้งวัฒนะ โทรศัพท์ 0-2573-0673-5 โทรสาร 0-2573-0677 สาขาบางขุนนนท์ โทรศัพท์ 0-2434-6067-8, 0-2434-6078, 0-2882-4595 โทรสาร 0-2882-4581 สาขาวงศ์สว่าง โทรศัพท์ 0-2834-9999 โทรสาร 0-2834-9905 สาขาโรงพยาบาลนวมินทร์ 9 โทรศัพท์ 0-2518-1100, 0-2518-2360-1 โทรสาร 0-2518-2363 สาขาเทสโก้ โลตัส บางกะปิ โทรศัพท์ 0-2377-8029, 0-2377-8092, 0-2377-8147 โทรสาร 0-2377-8508
โทรศัพท์ 0-2279-9874-6 โทรสาร 0-2279-9895 โทรศัพท์ 0-2611-9480 โทรสาร 0-2611-9557 สาขาย่อยถนนจันทน์ โทรศัพท์ 0-2285-5360 โทรสาร 0-2285-5361 สาขาย่อยราชวงศ์ โทรศัพท์ 0-2622-9050 โทรสาร 0-2622-9029
สาขาย่อยเดอะมอลล์ 2 รามคำแหง
โทรศัพท์ 0-2369-2486, 0-2369-2482, 0-2369-2480 โทรสาร 0-2369-2484
สาขาย่อยสีลมคอมเพล็กซ์
โทรศัพท์ 0-2235-8832 โทรสาร 0-2235-8833 สาขาย่อยคลองถม โทรศัพท์ 0-2221-1671, 0-2221-1677 โทรสาร 0-2221-1679 สาขาย่อยบิ๊กซี เพชรเกษม โทรศัพท์ 0-2444-2927, 0-2444-2904, 0-2444-2906 โทรสาร 0-2444-2909 สาขาย่อยเอ็มบีเค เซ็นเตอร์ โทรศัพท์ 0-2611-4752-4 โทรสาร 0-2611-4751 สาขาย่อยเทสโก้ โลตัส วังหิน โทรศัพท์ 0-2578-6194-6 โทรสาร 0-2578-6197 สาขาย่อยแฟชั่น ไอส์แลนด์ โทรศัพท์ 0-2519-5742, 0-2519-5753, 0-2519-5784 โทรสาร 0-2519-5718
สาขาย่อยคาร์ฟูร์ บางบอน
โทรศัพท์ 0-2416-9969-71 โทรสาร 0-2416-9974
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
229
สาขาย่อยศรีวรา
โทรศัพท์ 0-2538-8466, 0-2538-8670, 0-2538-8986, 0-2538-7039 โทรสาร 0-2538-9378 สาขาย่อยบิ๊กซี เอกมัย โทรศัพท์ 0-2714-8274-7 โทรสาร 0-2714-8268 สาขาย่อยเซ็นจูรี่ เดอะมูฟวี่ พลาซ่า โทรศัพท์ 0-2245-8500-2 โทรสาร 0-2245-8504 สาขาย่อยสยามพารากอน โทรศัพท์ 0-2129-4374-7 โทรสาร 0-2129-4372
สาขาย่อยถนนมังกร
สาขาย่อยสยามดิสคัฟเวอรี่
โทรศัพท์ 0-2658-0491-3 โทรสาร 0-2658-0494 สาขาย่อยมันนี่ปาร์ค โทรศัพท์ 0-2686-3960-62 โทรสาร 0-2686-3959
สาขาย่อยโรงพยาบาลวิชัยยุทธ
โทรศัพท์ 0-2278-2194-6 โทรสาร 0-2278-2606
230
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
สาขาย่อยถนนสิรินธร
โทรศัพท์ 0-2434-5028-9, 0-2434-5947-8 โทรสาร 0-2434-5661 โทรศัพท์ 0-2325-9072-4 โทรสาร 0-2325-9075
สาขาย่อยสุขุมวิท ซอย 25
โทรศัพท์ 0-2477-7321-3 โทรสาร 0-2477-7324 สาขาย่อยสยามสแควร์ โทรศัพท์ 0-2252-7363-6 โทรสาร 0-2252-7367
โทรศัพท์ 0-2551-0638-9, 0-2551-0641 โทรสาร 0-2551-0642 สาขาย่อยถนนเพชรบุรีตัดใหม่ โทรศัพท์ 0-2254-0252-4 โทรสาร 0-2254-0255
สาขาย่อยเสรีเซ็นเตอร์
สาขาย่อยเดอะมอลล์ ท่าพระ
สาขาย่อยบิ๊กซี ดอนเมือง
โทรศัพท์ 0-2225-3331, 0-2225-3863, 0-2225-4757, 0-2225-6061 โทรสาร 0-2225-8364 สาขาย่อยเซ็นทรัลเวิลด์ โทรศัพท์ 0-2646-1346-9 โทรสาร 0-2646-1350
โทรศัพท์ 0-2259-4727-9 โทรสาร 0-2259-4730 สาขาย่อยบางลำพู โทรศัพท์ 0-2356-0782-6 โทรสาร 0-2356-0787 สาขาย่อยเตาปูน โทรศัพท์ 0-2520-7292, 0-2587-7284-5 โทรสาร 0-2520-7379 สาขาย่อยบิ๊กซี บางนา โทรศัพท์ 0-2396-0482, 0-2396-0484-5 โทรสาร 0-2396-0500 สาขาย่อยราชดำเนินกลาง โทรศัพท์ 0-2226-3083-5, 0-2621-2185 โทรสาร 0-2621-2186
สาขาย่อยตลาดยิ่งเจริญ
โทรศัพท์ 0-2552-8043, 0-2552-8045, 0-2552-8047, 0-2972-3159 โทรสาร 0-2972-3161
สาขาย่อยลาดกระบัง
โทรศัพท์ 0-2327-2754-6 โทรสาร 0-2327-2706 สาขาย่อยวัชรพล โทรศัพท์ 0-2508-2185-7 โทรสาร 0-2508-2207 สาขาย่อยสีลม ซอย 15 โทรศัพท์ 0-2237-4192-4, 0-2635-0272 โทรสาร 0-2635-0270
สาขาย่อยอินเดีย เอ็มโพเรี่ยม
โทรศัพท์ 0-2224-0133, 0-2224-0135-6 โทรสาร 0-2623-9434 สาขาย่อยศิริราช โทรศัพท์ 0-2412-4515, 0-2412-4583-4 โทรสาร 0-2866-3218
สาขาย่อยสุขุมวิท ซอย 101/1 (ปิยรมย์ เพลส) โทรศัพท์ 0-2332-7060-2, 0-2741-8016 โทรสาร 0-2741-8017
สาขาย่อยบางรัก
สาขาย่อยศรีวรจักร
โทรศัพท์ 0-2234-4227-9, 0-2630-9026 โทรสาร 0-2630-9027 สาขาย่อยวงเวียนใหญ่ โทรศัพท์ 0-2438-2486, 0-2438-2562, 0-2438-2567 โทรสาร 0-2438-2568 สาขาย่อยเดอะ ปาร์ค เพลส โทรศัพท์ 0-2252-2677-8, 0-2651-9037 โทรสาร 0-2252-2679 โทรศัพท์ 0-2222-1912, 0-2222-1917, 0-2222-1965 โทรสาร 0-2622-9338 สาขาย่อยกรีนเพลส (ซอยวัดไผ่เงิน) โทรศัพท์ 0-2211-3515, 0-2211-3519-20 โทรสาร 0-2674-9704 สาขาย่อยนวมินทร์ ทาวน์เซ็นเตอร์ โทรศัพท์ 0-2519-1142, 0-2519-1154, 0-2519-1194 โทรสาร 0-2946-7432 สาขาย่อยปากคลองตลาด โทรศัพท์ 0-2225-1555, 0-2225-1628-9 โทรสาร 0-2623-6527 สาขาย่อยศูนย์การแพทย์วิชัยยุทธ โทรศัพท์ 0-2357-1916-8 โทรสาร 0-2619-7043
สาขาย่อยโรงพยาบาลเปาโล เมโมเรียล โชคชัย 4
โทรศัพท์ 0-2514-3277, 0-2514-3293-4 โทรสาร 0-2933-2292 สาขาย่อยคาร์ฟูร์ พระราม 2 โทรศัพท์ 0-2451-4402, 0-2451-4409, 0-2451-4460 โทรสาร 0-2451-4882 สาขาย่อยเดอะพาซิโอ (ลาดกระบัง) โทรศัพท์ 0-2346-4103-4, 0-2346-4109 โทรสาร 0-2346-4111 สาขาย่อยถนนเสือป่า โทรศัพท์ 0-2221-4327-9 โทรสาร 0-2623-0579 สาขาย่อยถนนประชาอุทิศ (ทุ่งครุ) โทรศัพท์ 0-2426-7017-9 โทรสาร 0-2873-4030 สาขาย่อยบิ๊กซี สุขาภิบาล 3 (รามคำแหง) โทรศัพท์ 0-2916-3584-5, 0-2916-3603 โทรสาร 0-2916-3607 สาขาย่อยเซ็นทรัล รามอินทรา โทรศัพท์ 0-2552-7462, 0-2552-7467-8 โทรสาร 0-2970-5518 สาขาย่อยสวนพลู โทรศัพท์ 0-2287-3084-5, 0-2287-3074 โทรสาร 0-2679-3028 สาขาย่อยจามจุรี สแควร์ โทรศัพท์ 0-2160-5254-6, 0-2160-5257 โทรสาร 0-2160-5258
สาขาย่อยโรงพยาบาลเปาโล เมโมเรียล พหลโยธิน โทรศัพท์ 0-2357-1774-6, 0-2616-6027 โทรสาร 0-2616-6028
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
231
สาขาย่อยอโศก
โทรศัพท์ 0-2221-4409, 0-2221-4419-20 โทรสาร 0-2623-8098 สาขาย่อยลาดพร้าว ซอย 101 โทรศัพท์ 0-2376-0535-7 โทรสาร 0-2376-0539
ปริมณฑล สาขาแจ้งวัฒนะ (ซอฟต์แวร์ปาร์ค)
สาขานนทบุรี
โทรศัพท์ 0-2526-3453-6 โทรสาร 0-2526-3457
สาขาเดอะมอลล์ งามวงศ์วาน โทรศัพท์ 0-2550-1231-4 โทรสาร 0-2550-1235
โทรศัพท์ 0-2380-2943-5, 0-2756-9023 โทรสาร 0-2756-9024 232
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
สาขาเซ็นทรัล แจ้งวัฒนะ
โทรศัพท์ 0-2193-8114-6 โทรสาร 0-2101-0710
สาขาอ้อมใหญ่
โทรศัพท์ 0-2962-0066, 0-2962-0415-6 โทรสาร 0-2962-0376 สาขานครปฐม โทรศัพท์ 0-3421-9131 โทรสาร 0-3421-9160 สาขารังสิต โทรศัพท์ 0-2567-1117, 0-2567-5586 โทรสาร 0-2567-6694 สาขาบางใหญ่ โทรศัพท์ 0-2594-1154, 0-2594-1152, 0-2594-1143 โทรสาร 0-2594-1161 สาขาบิ๊กซี สมุทรปราการ โทรศัพท์ 0-2702-1792-3, 0-2702-1859 โทรสาร 0-2702-1982 สาขาบิ๊กซี สุขสวัสดิ์ โทรศัพท์ 0-2463-7700, 0-2463-1894-5 โทรสาร 0-2463-7144
สาขาอิมพิเรียล เวิลด์ สำโรง
โทรศัพท์ 0-2525-4736-8 โทรสาร 0-2969-7537
โทรศัพท์ 0-2204-1695-7 โทรสาร 0-2204-1699
สาขาย่อยพาหุรัด
สาขาเซ็นทรัล รัตนาธิเบศร์
โทรศัพท์ 0-2420-4920, 0-2420-4930, 0-2420-4955 โทรสาร 0-2811-6538 สาขาย่อยเทสโก้ โลตัส รัตนาธิเบศร์ โทรศัพท์ 0-2950-1160, 0-2950-1297 โทรสาร 0-2950-1157
สาขาย่อยโรงพยาบาลเปาโล เมโมเรียล สมุทรปราการ
โทรศัพท์ 0-2182-7239-41 โทรสาร 0-2182-7243 สาขาย่อยบิ๊กซี บางพลี โทรศัพท์ 0-2312-2284, 0-2312-2300 โทรสาร 0-2312-2321 สาขาย่อยตลาดไท โทรศัพท์ 0-2529-6171-3 โทรสาร 0-2529-6175 สาขาย่อยฟิวเจอร์ พาร์ค รังสิต โทรศัพท์ 0-2958-5116-9 โทรสาร 0-2958-5121
สาขาย่อยท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
โทรศัพท์ 0-2134-4085-8 โทรสาร 0-2134-4089 สาขาย่อยถนนสามัคคี โทรศัพท์ 0-2582-8146-8 โทรสาร 0-2997-6042 สาขาย่อยบางบัวทอง โทรศัพท์ 0-2571-7124, 0-2571-7142-3 โทรสาร 0-2920-9603 สาขาย่อยพระปฐมเจดีย์ โทรศัพท์ 0-3425-4203-5, 0-3421-3541 โทรสาร 0-3425-9131
สาขาย่อยปากน้ำ
สาขาตราด
โทรศัพท์ 0-2173-7882-4 โทรสาร 0-2702-8037
ภาคกลาง
สาขากาญจนบุรี
โทรศัพท์ 0-3451-8763, 0-3462-1566 โทรสาร 0-3451-8874 สาขากำแพงเพชร โทรศัพท์ 0-5572-0575, 0-5571-3325-6 โทรสาร 0-5571-3368 สาขาจันทบุรี โทรศัพท์ 0-3934-4323-6 โทรสาร 0-3934-4327 สาขาฉะเชิงเทรา โทรศัพท์ 0-3853-5336, 0-3881-2856-7 โทรสาร 0-3881-2874 สาขาดิ อเวนิว พัทยา โทรศัพท์ 0-3872-3933-5 โทรสาร 0-3805-2002 สาขาถนนสุขุมวิท (ชลบุรี) โทรศัพท์ 0-3879-6066, 0-3879-5639 โทรสาร 0-3827-7841 สาขาหนองมน (ชลบุรี) โทรศัพท์ 0-3874-5233, 0-3874-5739 โทรสาร 0-3874-6349 สาขานาเกลือ (พัทยา) โทรศัพท์ 0-3822-6058-61 โทรสาร 0-3822-6117 สาขาถนนเจตน์จำนงค์ (ชลบุรี) โทรศัพท์ 0-3879-2203-5 โทรสาร 0-3879-2178 สาขาศรีราชา โทรศัพท์ 0-3877-1686 โทรสาร 0-3877-1690
โทรศัพท์ 0-3953-1641-3 โทรสาร 0-3952-2662 สาขาหัวหิน โทรศัพท์ 0-3251-6663-6 โทรสาร 0-3253-2919 สาขาเพชรบุรี โทรศัพท์ 0-3241-0505, 0-3241-0506, 0-3241-0514 โทรสาร 0-3240-0618 สาขาบิ๊กซี ระยอง โทรศัพท์ 0-3887-3094, 0-3887-3301, 0-3887-3302 โทรสาร 0-3862-2659 สาขาระยอง โทรศัพท์ 0-3886-4114 โทรสาร 0-3886-4115
สาขาราชบุรี
โทรศัพท์ 0-3231-1203-5 โทรสาร 0-3231-1207
สาขาลพบุรี
โทรศัพท์ 0-3661-8023, 0-3661-8083, 0-3661-8084 โทรสาร 0-3642-4846 สาขาสมุทรสงคราม โทรศัพท์ 0-3472-0744, 0-3472-0148-9 โทรสาร 0-3471-6267 สาขาสมุทรสาคร โทรศัพท์ 0-3482-0359-60, 0-3482-0365-6 โทรสาร 0-3482-0445 สาขาสระบุรี โทรศัพท์ 0-3631-7722 โทรสาร 0-3631-8069
สาขาสิงห์บุรี
โทรศัพท์ 0-3653-0410, 0-3653-0413, 0-3653-0432 โทรสาร 0-3651-2021 สาขาสุพรรณบุรี โทรศัพท์ 0-3552-5742, 0-3550-1237, 0-3550-1361 โทรสาร 0-3552-5743
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
233
สาขาพระนครศรีอยุธยา
โทรศัพท์ 0-3523-5611 โทรสาร 0-3523-5630 สาขาย่อยแหลมฉบัง โทรศัพท์ 0-3849-0230, 0-3849-1921-2 โทรสาร 0-3849-1924 สาขาย่อยโฮมเวิร์ค พัทยาใต้ โทรศัพท์ 0-3837-4270, 0-3837-6276, 0-3837-4273 โทรสาร 0-3837-4463 สาขาย่อยถนนพระยาสัจจา (ชลบุรี) โทรศัพท์ 0-3879-2214-5, 0-3879-3317 โทรสาร 0-3879-2216 สาขาย่อยเทสโก้ โลตัส พัทยาเหนือ โทรศัพท์ 0-3841-1410, 0-3841-1316 โทรสาร 0-3841-1423 สาขาย่อยแกลง โทรศัพท์ 0-3888-4503-5 โทรสาร 0-3888-4506 สาขาย่อยถนนสุดบรรทัด (สระบุรี) โทรศัพท์ 0-3631-4256-7, 0-3631-4512 โทรสาร 0-3631-5404 สาขาย่อยสวนอุตสาหกรรมโรจนะ อยุธยา โทรศัพท์ 0-3571-9710-2 โทรสาร 0-3533-1651
สาขาย่อยอยุธยาพาร์ค
โทรศัพท์ 0-3522-9560-2 โทรสาร 0-3522-9554
ภาคเหนือ
โทรศัพท์ 0-5374-5244-6 โทรสาร 0-5374-5247
สาขาถนนช้างคลาน (เชียงใหม่)
234
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
โทรศัพท์ 0-5323-5755 โทรสาร 0-5323-5757 สาขานครสวรรค์ โทรศัพท์ 0-5631-3848, 0-5622-5444 โทรสาร 0-5631-3850 สาขาพิษณุโลก โทรศัพท์ 0-5530-4313, 0-5521-8650 โทรสาร 0-5530-4279, 0-5521-8648 สาขาพิจิตร โทรศัพท์ 0-5665-1214, 0-5665-1215, 0-5665-1216 โทรสาร 0-5661-5858 สาขาเพชรบูรณ์ โทรศัพท์ 0-5674-4076-8 โทรสาร 0-5672-2217 สาขาแพร่ โทรศัพท์ 0-5462-6811, 0-5462-6931, 0-5462-6962 โทรสาร 0-5453-2837
สาขาเทสโก้ โลตัส พิษณุโลก
โทรศัพท์ 0-5537-7254, 0-5537-7256, 0-5537-7287 โทรสาร 0-5537-7356 สาขาลำปาง โทรศัพท์ 0-5431-8927-30 โทรสาร 0-5431-8960 สาขาสุโขทัย โทรศัพท์ 0-5561-6022, 0-5562-2464-6 โทรสาร 0-5562-2469 สาขาอุตรดิตถ์ โทรศัพท์ 0-5544-1777, 0-5544-2240, 0-5544-2294 โทรสาร 0-5541-4096
สาขาย่อยถนนพหลโยธิน (เชียงราย)
สาขาเชียงราย
โทรศัพท์ 0-5382-0538-41 โทรสาร 0-5382-0543
สาขาท่าแพ
โทรศัพท์ 0-5371-6433, 0-5371-6979, 0-5371-8394 โทรสาร 0-5375-2811 สาขาย่อยโรงพยาบาลแมคคอร์มิค (เชียงใหม่) โทรศัพท์ 0-5326-1218-9, 0-5330-0421 โทรสาร 0-5326-1123
สาขาย่อยถนนนิมมานเหมินท์
โทรศัพท์ 0-5322-5463, 0-5340-0672-4 โทรสาร 0-5340-0675 สาขาย่อยถนนช้างเผือก (เชียงใหม่) โทรศัพท์ 0-5323-1060, 0-5431-2116-7, 0-5341-2033 โทรสาร 0-5323-1061 สาขาย่อยตลาดวโรรส โทรศัพท์ 0-5387-4002 โทรสาร 0-5387-4006 สาขาย่อยเซ็นทรัล แอร์พอร์ต เชียงใหม่ โทรศัพท์ 0-5320-1234 โทรสาร 0-5320-1900 สาขาย่อยถนนโกสีย์ (นครสวรรค์) โทรศัพท์ 0-5631-3929-31 โทรสาร 0-5631-3932 สาขาย่อยถนนบรมไตรโลกนารถ 2 (พิษณุโลก) โทรศัพท์ 0-5521-7864-7 โทรสาร 0-5521-8648
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
สาขากาฬสินธุ์
โทรศัพท์ 0-4382-1080-1, 0-4382-1420 โทรสาร 0-4381-6584 สาขาขอนแก่น โทรศัพท์ 0-4332-4321, 0-4322-6888 โทรสาร 0-4332-5919 สาขาเทสโก้ โลตัส ชัยภูมิ โทรศัพท์ 0-4483-8324-6 โทรสาร 0-4481-3352
สาขานครพนม
โทรศัพท์ 0-4251-4500 โทรสาร 0-4251-4501
สาขานครราชสีมา
โทรศัพท์ 0-4426-9797 โทรสาร 0-4426-9790
สาขาบุรีรัมย์
โทรศัพท์ 0-4460-2573, 0-4462-5471, 0-4462-5476 โทรสาร 0-4460-2575
สาขามหาสารคาม
โทรศัพท์ 0-4374-0681-3 โทรสาร 0-4372-2958 สาขาบิ๊กซี ยโสธร โทรศัพท์ 0-4572-4361, 0-4572-4376, 0-4572-4423 โทรสาร 0-4572-5067 สาขาร้อยเอ็ด โทรศัพท์ 0-4352-3335-8 โทรสาร 0-4352-3339 สาขาศรีสะเกษ โทรศัพท์ 0-4562-0500-2 โทรสาร 0-4564-4197 สาขาสกลนคร โทรศัพท์ 0-4271-5767, 0-4273-6146-8 โทรสาร 0-4271-5686
สาขาสุรินทร์
โทรศัพท์ 0-4453-8517-20 โทรสาร 0-4453-8521 สาขาหนองคาย โทรศัพท์ 0-4246-0119-22 โทรสาร 0-4246-0199 สาขาอุดรธานี โทรศัพท์ 0-4234-2550 โทรสาร 0-4234-2398
สาขาอุบลราชธานี
โทรศัพท์ 0-4528-4272 โทรสาร 0-4528-4273
สาขาย่อยถนนกลางเมือง (ขอนแก่น)
โทรศัพท์ 0-4332-2630-1, 0-4322-8266 โทรสาร 0-4332-2386 สาขาย่อยอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี โทรศัพท์ 0-4424-1774, 0-4424-1775 โทรสาร 0-4424-1776
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
235
สาขาย่อยปากช่อง
สาขาสี่แยกท่าเรือ (ภูเก็ต)
โทรศัพท์ 0-4431-6866-9 โทรสาร 0-4431-6859
โทรศัพท์ 0-7661-7097-8, 0-7627-2274 โทรสาร 0-7661-7095 สาขาถนนรัษฎา ภูเก็ต โทรศัพท์ 0-7621-9664, 0-7625-6873-5 โทรสาร 0-7621-9731 สาขาภูเก็ต โทรศัพท์ 0-7626-1570-5 โทรสาร 0-7626-1576 สาขาหาดใหญ่ โทรศัพท์ 0-7435-4690 โทรสาร 0-7435-4696
สาขาย่อยเทสโก้ โลตัส โคราช
โทรศัพท์ 0-4426-3564-7 โทรสาร 0-4426-3565
สาขาย่อยสุรินทร์ พลาซ่า โทรศัพท์ 0-4453-8517-20 โทรสาร 0-4453-8521
สาขาย่อยถนนโพศรี (อุดรธานี)
โทรศัพท์ 0-4234-3817-8 โทรสาร 0-4234-3727 สาขาย่อยวารินชำราบ โทรศัพท์ 0-4532-5075, 0-4528-6171-3 โทรสาร 0-4532-5076
ภาคใต้
สาขากระบี่
236
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
โทรศัพท์ 0-7721-3551-7 โทรสาร 0-7721-3560
โทรศัพท์ 0-7565-0833, 0-7565-0836-7 โทรสาร 0-7565-0834 สาขาย่อยท่าวัง (นครศรีธรรมราช) โทรศัพท์ 0-7531-3144-6 โทรสาร 0-7535-7067 สาขาย่อยทุ่งสง โทรศัพท์ 0-7541-3003-6 โทรสาร 0-7541-3007 สาขาย่อยโคกกลอย (พังงา) โทรศัพท์ 0-7643-4821-4 โทรสาร 0-7643-4827 สาขาย่อยห้าแยกฉลอง (ภูเก็ต) โทรศัพท์ 0-7638-3222, 0-7638-3431, 0-7628-2512 โทรสาร 0-7638-3348
โทรศัพท์ 0-7333-8004, 0-7331-3982-3 โทรสาร 0-7333-8005 สาขาพัทลุง โทรศัพท์ 0-7462-6952-4 โทรสาร 0-7461-5451
สาขาย่อยเทสโก้ โลตัส กระบี่
โทรศัพท์ 0-7563-2838-40 โทรสาร 0-7563-2835 สาขาชุมพร โทรศัพท์ 0-7750-5051-3 โทรสาร 0-7751-5054 สาขาตรัง โทรศัพท์ 0-7522-3240-3 โทรสาร 0-7522-3244 สาขานครศรีธรรมราช โทรศัพท์ 0-7532-2689 โทรสาร 0-7532-2144
สาขาบิ๊กซี ปัตตานี
สาขาสุราษฎร์ธานี
สาขาย่อยป่าตอง
โทรศัพท์ 0-7629-0585-7 โทรสาร 0-7629-0588
สาขาย่อยถนนมนตรี (ภูเก็ต) โทรศัพท์ 0-7623-0203-5 โทรสาร 0-7623-0209
สาขาย่อยเซ็นทรัล เฟสติวัล ภูเก็ต
สาขาย่อยถนนจุติอุทิศ (หาดใหญ่)
สาขาย่อยถนนรัถการ (หาดใหญ่)
สาขาย่อยถนนศรีวิชัย (สุราษฎร์ธานี)
โทรศัพท์ 0-7620-9290 โทรสาร 0-7620-9291
โทรศัพท์ 0-7434-9070-2, 0-7421-6751 โทรสาร 0-7426-1752 สาขาย่อยไดอาน่า ศรีภูวนารถ โทรศัพท์ 0-7446-5316-8 โทรสาร 0-7446-5319 สาขาย่อยสงขลา โทรศัพท์ 0-7444-1198-9 โทรสาร 0-7444-1233
โทรศัพท์ 0-7434-6396-8 โทรสาร 0-7434-6393
โทรศัพท์ 0-7720-6488, 0-7726-4170-1 โทรสาร 0-7720-6671 สาขาย่อยหาดเฉวง (เกาะสมุย) โทรศัพท์ 0-7723-3267-9 โทรสาร 0-7723-3276 สาขาย่อยหน้าทอน (เกาะสมุย) โทรศัพท์ 0-7723-6611-3 โทรสาร 0-7723-6611
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
237
รายการระหว่างกัน
รายการระหว่างกันที่ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) “ธนาคารธนชาต” มีกับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเป็นธุรกรรมปกติ ของธนาคารธนชาต รวมทัง้ การดำเนินการตามแผนธุรกิจ โดยมีราคาและเงือ่ นไขเหมือนทีไ่ ด้ให้บริการแก่ลกู ค้าทัว่ ไป ซึง่ ผ่านกระบวนการ พิจารณาอนุมัติชัดเจน โปร่งใส ถูกต้องตามเกณฑ์ที่ทางการกำหนด ทั้งนี้ บุคคลหรือกิจการที่เกี่ยวข้องกันกับธนาคารธนชาต หมายถึง บุคคลหรือกิจการที่มีอำนาจควบคุมธนาคารธนชาต หรือถูกควบคุมโดยธนาคารธนชาตไม่ว่าจะเป็นทางตรงหรือทางอ้อม หรืออยู่ภายใต้การควบคุมเดียวกันกับธนาคารธนชาต นอกจากนี้ บุคคลหรือกิจการที่เกี่ยวข้องกันยังหมายรวมถึงบุคคลซึ่งมีอิทธิพลอย่างเป็นสาระสำคัญกับธนาคารธนชาต ผู้บริหารสำคัญ กรรมการ หรือพนักงานของธนาคารธนชาตที่มีอำนาจในการวางแผนและควบคุมการดำเนินงานของธนาคารธนชาต ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551 ธนาคารธนชาตมีรายการระหว่างกันที่สำคัญแก่บริษัทใหญ่ บริษัทย่อย และบริษัทที่เกี่ยวข้องกัน ซึ่งแสดงความสมเหตุสมผลของรายการที่มีสาระสำคัญในกลุ่มธนชาต ดังนี้
รายการสินเชื่อและภาระผูกพัน
ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551 และ 2550 ธนาคารธนชาตและบริษัทย่อยมีรายการที่เกี่ยวข้องกันกับพนักงานระดับชั้นบริหาร ตั้งแต่ผู้จัดการฝ่ายขึ้นไปที่มียอดคงค้างดังต่อไปนี้ (หน่วย : ล้านบาท)
งบการเงินรวม งบการเงินเฉพาะกิจการ 31 ธันวาคม 2551 31 ธันวาคม 2550 31 ธันวาคม 2551 31 ธันวาคม 2550 เงินให้สินเชื่อ เงินรับฝาก
238
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
67 496
48 399
67 496
48 399
รายการบัญชีที่มีสาระสำคัญ
รายการบัญชีที่มีสาระสำคัญระหว่างบริษัทกับบุคคลหรือกิจการที่เกี่ยวข้อง ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551 ดังนี้ (หน่วย : ล้านบาท)
สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม งบการเงินรวม งบการเงินเฉพาะกิจการ 2551 2550 2551 2550 รายการที่เกิดขึ้นในระหว่างปี บริษัทใหญ่ มูลค่าขายเงินลงทุนในตราสารหนี้ 28,443 5,231 - - มูลค่าขายเงินลงทุนในบริษัทร่วม (กำไร 7 ล้านบาท) - 346 - - รายได้ดอกเบี้ยรับ 294 1,278 287 1,275 รายได้ค่าบริการงานสนับสนุน 134 170 134 170 รายได้อื่น 46 19 - - ดอกเบี้ยจ่าย 275 230 256 199 ค่าเช่าจ่าย 151 128 128 117 ค่าใช้จ่ายอื่น 20 50 20 50 เงินปันผลจ่าย 559 217 559 217 ซื้อสินทรัพย์ถาวร - 223 - 223 บริษัทย่อย มูลค่าซื้อเงินลงทุนในตราสารหนี้ 44,703 มูลค่าขายเงินลงทุนในตราสารหนี้ 44,781 (2551 : กำไร 12 ล้านบาทในงบ การเงินรวม และกำไร 5 ล้านบาท ในงบการเงินเฉพาะกิจการ) (2550 : กำไร 62 ล้านบาทในงบ การเงินรวม และกำไร 61 ล้านบาท ในงบการเงินเฉพาะกิจการ) มูลค่าซื้อเงินลงทุนในบริษัทย่อย - ขายสินทรัพย์ถาวร - รายได้ดอกเบี้ยและเงินปันผลรับ - รายได้ค่าบริการงานสนับสนุน - รายได้อื่น - ดอกเบี้ยจ่าย - ค่าเช่าจ่าย - ค่าใช้จ่ายอื่น - ซื้อสินทรัพย์ถาวร -
12,062 17,805
2,878 512
1,797 9,040
- 1 38 66 58 28 1 96 -
431 - 408 146 285 53 2 221 4
- 3 111 137 158 51 6 241 -
นโยบายกำหนดราคา (สำหรับปี 2551) ราคาตลาด ดอกเบี้ยร้อยละ 3.42 - 5.25 ต่อปี อัตราที่ตกลงในสัญญาบริการซึ่งอ้างอิง จากต้นทุน ดอกเบีย้ ร้อยละ 1.75 - 4.125 และ 6.18 ต่อปี อัตราที่ตกลงในสัญญาเช่า เงินปันผลจ่ายตามที่ประกาศจ่าย ราคาตลาด ราคาตลาด
มูลค่าสุทธิตามบัญชีของบริษัทย่อย/ ราคาที่ตราไว้ของหุ้นสามัญ ดอกเบี้ยร้อยละ 3.61 - 4.75 ต่อปี และเงินปันผลตามที่ประกาศจ่าย อัตราที่ตกลงในสัญญาบริการซึ่งอ้างอิง จากต้นทุน ดอกเบี้ยร้อยละ 1.0 - 4.875 ต่อปี อัตราที่ตกลงในสัญญาเช่า มูลค่าที่ตกลงกันตามสัญญาโดยอ้างอิง จากราคาประเมินและราคาตามบัญชี
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
239
(หน่วย : ล้านบาท)
สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม งบการเงินรวม งบการเงินเฉพาะกิจการ 2551 2550 2551 2550 บริษัทร่วม รายได้ดอกเบี้ย รายได้อื่น ดอกเบี้ยจ่าย ค่าเช่าจ่าย ค่าใช้จ่ายอื่น
5 4 4 16 -
3 - 2 21 -
5 - 4 16 -
ดอกเบี้ยร้อยละ 3.4 - 4.3 ต่อปี ดอกเบี้ยร้อยละ 1.75 - 2.75 ต่อปี อัตราที่ตกลงในสัญญาเช่า
บริษัทที่เกี่ยวข้องกัน มูลค่าซื้อเงินลงทุนในตราสารหนี้ 21,047 - มูลค่าขายเงินลงทุนในตราสารหนี้ 21,580 6,116 (2551 : กำไร 13 ล้านบาทในงบ การเงินรวม และกำไร 12 ล้านบาท ในงบการเงินเฉพาะกิจการ) (2550 : ขาดทุน 1 ล้านบาท ในงบการเงินรวมและงบการเงิน เฉพาะกิจการ) มูลค่าขายเงินให้สินเชื่อ 8 - (2551 : กำไร 2 ล้านบาท ในงบการเงินรวมและงบการเงิน เฉพาะกิจการ) มูลค่าเงินให้สินเชื่อที่รับโอน - 824 มูลค่าเงินฝากที่รับโอน - 53 ซื้อสินทรัพย์ถาวร - 197 รายได้ดอกเบี้ยและเงินปันผลรับ 361 519 รายได้ค่าบริการงานสนับสนุน 9 13 ขาดทุนจากสัญญาอนุพันธ์ทางการเงิน 36 - รายได้อื่น 37 49 ดอกเบี้ยจ่าย 71 88 ค่าเช่าจ่าย 38 27 ค่าใช้จ่ายอื่น 47 32 เงินปันผลจ่าย 186 -
1,226 607
- 52
ราคาตลาด ราคาตลาด
8
-
มูลค่าที่ตกลงกันตามสัญญา
- - - 333 9 36 - 69 15 30 186
824 53 197 504 13 - - 88 12 28 -
240
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
3 3 2 21 1
นโยบายกำหนดราคา (สำหรับปี 2551)
ดอกเบีย้ ร้อยละ 0.50 0.75 และ 1.60 - 8.50 ต่อปี และเงินปันผลตามที่ประกาศจ่าย อัตราที่ตกลงในสัญญาบริการซึ่งอ้างอิง จากต้นทุน ราคาตลาด ดอกเบี้ยร้อยละ 1.0 - 4.85 และ 9.0 ต่อปี อัตราที่ตกลงในสัญญาเช่า เงินปันผลจ่ายตามที่ประกาศจ่าย
ยอดคงค้างของรายการระหว่างกัน ยอดคงค้างของรายการระหว่างกันที่มีสาระสำคัญที่เกิดขึ้นในระหว่างปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2551 และ 2550 สามารถ แสดงด้วยยอดถัวเฉลี่ยจากยอดคงค้าง ณ วันสิ้นเดือน ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้ (หน่วย : ล้านบาท)
งบการเงินรวม 2551 2550
งบการเงินเฉพาะกิจการ 2551 2550
7,589 700 4,651
25,126 623 4,204
7,385 700 4,277
25,061 623 3,062
- - - -
1,369 529 277 650
4,525 565 344 714
2,494 498 275 619
206 87 56
155 596 34
206 48 56
155 - 34
บริษัทที่เกี่ยวข้องกัน รายการระหว่างธนาคารธนชาตและตลาดเงิน (สินทรัพย์) 4,383 เงินลงทุนในตราสารหนี้ 842 เงินให้สินเชื่อ 4,962 เงินฝาก 1,403 447 รายการระหว่างธนาคารธนชาตและตลาดเงิน (หนี้สิน) เงินกู้ยืม 410
4,874 866 9,361 1,410 31 870
4,271 578 4,695 1,403 402 400
4,560 607 9,203 1,410 31 870
บริษัทใหญ่ เงินให้สินเชื่อ เงินฝาก เงินกู้ยืม บริษัทย่อย เงินให้สินเชื่อ เงินฝาก รายการระหว่างธนาคารธนชาตและตลาดเงิน (หนี้สิน) เงินกู้ยืม บริษัทร่วม เงินลงทุนในตราสารหนี้ เงินให้สินเชื่อ เงินฝาก
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
241
ยอดคงค้างของรายการระหว่างกันที่มีสาระสำคัญ มีรายละเอียดดังนี้
(หน่วย : ล้านบาท)
งบการเงินรวม 31 ธันวาคม 2551 สินทรัพย์ รายการ ระหว่าง เงินลงทุน ธนาคาร ตราสาร หนี้ ธนชาต
เงินให้ สินเชื่อ
ภาระผูกพัน
หนี้สิน ดอกเบี้ย สินทรัพย์ ค้างรับ อื่น เงินฝาก
รายการ ระหว่าง ธนาคาร ธนชาต
เงินกู้ยืม
ดอกเบี้ย ค้างจ่าย หนี้สินอื่น
บริษัทใหญ่ บมจ. ทุนธนชาต
-
257
4,512
2
29
166
-
6,372
13
14
-
บริษัทร่วม บมจ. เอ็มบีเค
-
-
-
-
7
65
-
-
-
-
64
บริษัทที่เกี่ยวข้องกัน บบส. เอ็น เอฟ เอส - บมจ. แอดวานซ์อินโฟร์ เซอร์วิส - ธนาคารแห่งโนวาสโกเทีย 7,751 บริษัทที่เกี่ยวข้องกัน หลายแห่ง - 7,751
- 714 -
3,859 43 -
- 12 -
2 10 3
23 32 -
- - 8
- - -
- - -
- 6 4
- - 1,194
- 971
146 8,560
1 15
19 70
814 1,100
94 102
212 6,584
11 24
1 25
58 1,316
(หน่วย : ล้านบาท)
งบการเงินรวม 31 ธันวาคม 2550 สินทรัพย์ รายการ ระหว่าง เงินลงทุน ธนาคาร ตราสาร หนี้ ธนชาต
บริษัทใหญ่ บมจ. ทุนธนชาต
-
บริษัทร่วม บมจ. เอ็มบีเค
-
เงินให้ สินเชื่อ
ดอกเบี้ย สินทรัพย์ ค้างรับ อื่น เงินฝาก
รายการ ระหว่าง ธนาคาร ธนชาต
เงินกู้ยืม
ดอกเบี้ย ค้างจ่าย หนี้สินอื่น
1
20
136
-
4,915
16
11
-
-
5
6
13
-
-
-
-
56
บริษัทที่เกี่ยวข้องกัน บบส. เอ็น เอฟ เอส - - 4,425 บมจ. แอดวานซ์อินโฟร์ เซอร์วิส - 700 31 ธนาคารแห่งโนวาสโกเทีย 8,903 - - ธนาคารไทยพาณิชย์ 317 169 - ธนาคารนครหลวงไทย 52 - - บริษัทที่เกี่ยวข้องกัน หลายแห่ง - 35 613 9,272 1,270 17,611
- 11 - 1 -
- 24 - - -
65 987 - - -
- - 7 - -
- - - - 750
- - - - 3
- 4 - - -
- - - 7,452 -
3 21
14 64
951 2,152
14 21
148 5,813
6 25
27 42
102 7,610
242
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
95 12,542
ภาระผูกพัน
หนี้สิน
271
(หน่วย : ล้านบาท)
งบการเงินเฉพาะกิจการ 31 ธันวาคม 2551 สินทรัพย์ รายการ ระหว่าง เงินลงทุน ธนาคาร ตราสาร หนี้ ธนชาต
เงินให้ สินเชื่อ
ภาระผูกพัน
หนี้สิน ดอกเบี้ย สินทรัพย์ ค้างรับ อื่น เงินฝาก
รายการ ระหว่าง ธนาคาร ธนชาต
เงินกู้ยืม
ดอกเบี้ย ค้างจ่าย หนี้สินอื่น
บริษัทใหญ่ บมจ. ทุนธนชาต
-
-
4,500
-
22
166
-
6,250
13
11
-
บริษัทย่อย บจ. ธนชาตกรุ๊ป ลีสซิ่ง บจ. ที ลีสซิ่ง บมจ. หลักทรัพย์ธนชาต บจ. ธนชาตประกันภัย บจ. ธนชาตประกันชีวิต บจ. เนชั่นแนล ลีซซิ่ง บจ. ธนชาต โบรกเกอร์ บจ. ธนชาตกฎหมายและ ประเมินราคา บจ. ธนชาต เทรนนิ่ง แอนด์ ดีเวลลอปเม้นท์ บจ. ธนชาตแมเนจเม้นท์ แอนด์ เซอร์วิส บลจ. ธนชาต
- - - - - - -
- - - - - - -
3,645 824 - - - - -
12 3 - - - - -
1 1 2 12 11 - -
19 24 - 285 - 5 327
- - 418 - 403 - -
- - - 170 1,090 - -
- - - 3 11 - -
- - - 2 31 61 -
- - - - - - -
-
-
-
-
-
10
-
-
-
-
-
-
-
-
-
-
41
-
-
-
1
-
- -
- -
- -
- -
- 2
10 -
- 8
- -
- -
- -
- -
-
-
-
-
7
65
-
-
-
-
64
บริษัทที่เกี่ยวข้องกัน บบส. เอ็น เอฟ เอส - บมจ. แอดวานซ์อินโฟร์ เซอร์วิส - ธนาคารแห่งโนวาสโกเทีย 7,751 บริษัทที่เกี่ยวข้องกัน หลายแห่ง - 7,751
- 451 -
3,650 40 -
- 8 -
- - 3
23 32 -
- - 8
- - -
- - -
- 4 4
- - 1,194
- 140 451 12,799
1 24
11 72
814 1,821
93 930
212 7,722
11 38
- 114
58 1,316
บริษัทร่วม บมจ. เอ็มบีเค
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
243
(หน่วย : ล้านบาท)
งบการเงินเฉพาะกิจการ 31 ธันวาคม 2550 สินทรัพย์ รายการ ระหว่าง เงินลงทุน ธนาคาร ตราสาร หนี้ ธนชาต
เงินให้ สินเชื่อ
ภาระผูกพัน
หนี้สิน ดอกเบี้ย สินทรัพย์ ค้างรับ อื่น เงินฝาก
รายการ ระหว่าง ธนาคาร ธนชาต
เงินกู้ยืม
ดอกเบี้ย ค้างจ่าย หนี้สินอื่น
บริษัทใหญ่ บมจ. ทุนธนชาต
-
- 12,500
-
15
136
-
3,800
13
10
-
บริษัทย่อย บจ. ธนชาตกรุ๊ป ลีสซิ่ง บจ. ที ลีสซิ่ง บมจ. หลักทรัพย์ธนชาต บจ. ธนชาตประกันภัย บจ. ธนชาตประกันชีวิต บจ. เนชั่นแนล ลีซซิ่ง บจ. ธนชาต โบรกเกอร์ บจ. ธนชาตกฎหมายและ ประเมินราคา บจ. ธนชาต เทรนนิ่ง แอนด์ ดีเวลลอปเม้นท์ บจ. ธนชาตแมเนจเม้นท์ แอนด์ เซอร์วิส บลจ. ธนชาต
- - - - - - -
- - - - - - -
4,000 294 - - - - -
- 1 - - - - -
- - 1 7 18 - -
52 45 - 174 - 6 154
- - 62 - 37 - -
- - - - 870 - -
- - - - 13 - -
- - - - - 54 -
- - - - - - -
-
-
-
-
-
13
-
-
-
-
-
-
-
-
-
-
18
-
-
-
6
-
- -
- -
- -
- -
1 2
10 -
- 5
- -
- -
8 -
- -
บริษัทร่วม บมจ. เอ็มบีเค
-
271
-
5
6
13
-
-
-
-
56
บริษัทที่เกี่ยวข้องกัน บบส. เอ็น เอฟ เอส - บมจ. แอดวานซ์อินโฟร์ เซอร์วิส - ธนาคารแห่งโนวาสโกเทีย 8,903 ธนาคารไทยพาณิชย์ 8 ธนาคารนครหลวงไทย 46 บริษัทที่เกี่ยวข้องกัน หลายแห่ง - 8,957
- 450 - 169 -
4,250 24 - - -
- 8 - 1 -
- - - - -
65 987 - - -
- - 7 - -
- - - - 750
- - - - 3
- 4 - - -
- - - 7,452 -
22 597 912 21,665
2 17
2 52
951 2,624
14 125
148 5,568
6 35
- 82
102 7,610
244
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551 ธนาคารธนชาต มีเงินให้สินเชื่อแก่บริษัทใหญ่ บริษัทย่อย และบริษัทที่เกี่ยวข้องกันเฉพาะ ในกลุ่มธนชาต ดังนี้ (หน่วย : ล้านบาท) ลักษณะรายการ/ ระยะเวลาของ สัญญา
บริษัทที่เกี่ยวข้อง/ความสัมพันธ์กับบริษัท
บริษัทใหญ่ บริษทั ทุนธนชาต จำกัด (มหาชน) การถือหุน้ - บริษทั ทุนธนชาต จำกัด (มหาชน) ถือหุน้ ธนาคาร ธนชาต ร้อยละ 74.92 กรรมการทีม่ คี วามสัมพันธ์ นายบันเทิง ตันติวทิ นายศุภเดช พูนพิพฒ ั น์ นางสาวสุวรรณภา สุวรรณประทีป ความเกีย่ วข้อง - เป็นกรรมการและผูบ้ ริหารของธนาคารธนชาต - มีอำนาจใน บริษทั ทุนธนชาต จำกัด (มหาชน) - ไม่ได้ถอื หุน้ ใน บริษทั ทุนธนชาต จำกัด (มหาชน) บริษทั ย่อย บริษทั ธนชาตกรุป๊ ลีสซิง่ จำกัด การถือหุน้ - ธนาคารธนชาตถือหุน้ ร้อยละ 100 กรรมการทีม่ คี วามสัมพันธ์ นายบัณฑิต ชีวะธนรักษ์ นายอนุชาติ ดีประเสริฐ นายยงยุทธ อัศวสุวรรณสุธ ี นายพิเชษฐ์ เจริญจิตต์ นายป้อมเพชร รสานนท์ นายทรงวุฒิ เชาวลิต นายสมควร ใช้เจริญ นายมงคล เพียรพิทกั ษ์กจิ นายศรุต ธราธรชนะกุล นายเอกวิทย์ ภูส่ วุ รรณ์ ความเกีย่ วข้อง - เป็นผูบ้ ริหารของธนาคารธนชาต - มีอำนาจใน บริษทั ธนชาตกรุป๊ ลีสซิง่ จำกัด - ไม่ได้ถอื หุน้ ใน บริษทั ธนชาตกรุป๊ ลีสซิง่ จำกัด
ตัว๋ สัญญาใช้เงิน เมือ่ ทวงถาม แต่ไม่เกิน ธันวาคม 2552
อัตราดอกเบี้ย
ต้นทุนทางการเงิน ของธนาคาร ธนชาตบวก ร้อยละคงทีต่ อ่ ปี
มูลค่ารายการ ระหว่างกัน (จำนวนเงินคงค้าง)
ความสมเหตุสมผลของการทำรายการ และนโยบายการกำหนดราคา
4,500
ตัว๋ สัญญาใช้เงิน เมือ่ ทวงถาม
ตามตลาดเงิน แต่ไม่ตำ่ กว่า เงินฝากประจำ ประเภทหนึง่ ปี บวกร้อยละ คงทีต่ อ่ ปี
เป็นรายการจากการปรับโครงสร้าง การประกอบธุ ร กิ จ สถาบั น การเงิ น ของกลุ่ ม ธนชาต ตามแนวนโยบาย สถาบั น การเงิ น 1 รู ป แบบ (One Presence) ที่ จ ะให้ ธ นาคารธนชาต เป็ น บริ ษั ท ที่ ป ระกอบธุ ร กิ จ สถาบั น การเงินเพียงแห่งเดียวของกลุม่ ธนชาต
3,645
การให้สินเชื่อบริษัทในกลุ่มธนชาต เพื่ อ ใช้ ใ นการดำเนิ น ธุ ร กิ จ ปกติ ข อง แต่ละบริษัท ทัง้ นี้ คณะกรรมการธนาคารธนชาต เป็นผู้พิจารณาอนุมัติรายการดังกล่าว โดยการเห็นชอบจากคณะกรรมการ พิ จ ารณาอนุ มั ติ ต ามลำดั บ โดยผู้ ที่ เกี่ ย วข้ อ งกั บ กิ จ การดั ง กล่ า วไม่ มี ส่วนร่วมในการพิจารณาและอนุมัติ ทั้ ง นี้ อั ต ราดอกเบี้ ย และเงื่ อ นไข ของรายการที่ เ กิ ด ขึ้ น จะถื อ ปฏิ บั ติ เหมือนลูกค้าทั่วไป โดยมีราคาอ้างอิง
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
245
(หน่วย : ล้านบาท) บริษัทที่เกี่ยวข้อง/ความสัมพันธ์กับบริษัท
ลักษณะรายการ/ ระยะเวลาของ สัญญา
อัตราดอกเบี้ย
บริษทั ที ลีสซิง่ จำกัด (เดิมชือ่ บริษทั ธนชาตลีสซิง่ ตัว๋ สัญญาใช้เงิน 2000 จำกัด) เมือ่ ทวงถาม การถือหุน้ - ธนาคารธนชาตถือหุน้ ทางอ้อมโดยผ่านการถือหุน้ ของ บริษทั ธนชาตกรุป๊ ลีสซิง่ จำกัด ร้อยละ 100 กรรมการทีม่ คี วามสัมพันธ์ นายบัณฑิต ชีวะธนรักษ์ นายอนุชาติ ดีประเสริฐ นายธเนศ รัตนากร นายวิจกั ษณ์ ประดิษฐวณิช นายฉัตรชัย ไกวัลกุล นายสนอง คุม้ นุช นายมงคล เพียรพิทกั ษ์กจิ นายเซท เซเชทโต ความเกีย่ วข้อง - เป็นผู้บริหารของธนาคารธนชาต - มีอำนาจใน บริษัท ที ลีสซิ่ง จำกัด - ไม่ได้ถือหุ้นใน บริษัท ที ลิสซิ่ง จำกัด
ตามตลาดเงิน แต่ไม่ตำ่ กว่า เงินฝากประจำ ประเภทหนึง่ ปี บวกร้อยละ คงทีต่ อ่ ปี
บริษทั ทีเ่ กีย่ วข้องกัน บริษทั บริหารสินทรัพย์ เอ็น เอฟ เอส จำกัด การถือหุน้ - บริษทั ทุนชาต จำกัด (มหาชน) ถือหุน้ ร้อยละ 100 กรรมการทีม่ คี วามสัมพันธ์ ไม่ม ี ความเกีย่ วข้อง มีบริษทั ใหญ่เป็นบริษทั เดียวกัน
ต้นทุนทางการเงิน ของธนาคาร ธนชาตบวก ร้อยละคงทีต่ อ่ ปี
ตัว๋ สัญญาใช้เงิน เมือ่ ทวงถาม แต่ไม่เกิน ธันวาคม 2552
มูลค่ารายการ ระหว่างกัน (จำนวนเงินคงค้าง)
824
ความสมเหตุสมผลของการทำรายการ และนโยบายการกำหนดราคา
เทียบได้กับลูกค้าทั่วไปที่มีความเสี่ยง เดียวกัน ซึง่ วงเงินทีอ่ นุมตั จิ ะอยูภ่ ายใต้ วงเงิ น ที่ ไ ด้ รั บ อนุ ญ าตจากธนาคาร แห่งประเทศไทย
3,650
ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551 ธนาคารธนชาตและบริษัทย่อยมีเงินลงทุนในหุ้นสามัญในกิจการที่เกี่ยวข้องกัน โดยการ มีผู้บริหารของธนาคารธนชาตและบริษัทย่อยเป็นผู้ถือหุ้นและ/หรือมีกรรมการร่วมกันรวมจำนวนประมาณ 220 ล้านบาท (งบการเงิน เฉพาะกิจการ : 62 ล้านบาท) (2550 : 233 ล้านบาท ในงบการเงินรวมและ 62 ล้านบาท ในงบการเงินเฉพาะกิจการ)
รายการให้บริการงานสนับสนุนระหว่างบริษัทในกลุ่มธนชาต
กลุ่มธนชาตมีนโยบายรวมงานสนับสนุนแต่ละงานไว้ที่บริษัทเดียว เพื่อให้บริการบริษัทในกลุ่มทั้งหมด อันเป็นการประหยัด จากขนาดและขอบเขต (Economies of Scale and Economies of Scope) และใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยมีนโยบาย ในการคำนวณค่าบริการจากต้นทุนในการดำเนินงานเป็นหลัก (Cost Plus) ซึ่งมีการให้บริการ ดังนี้ ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) ให้บริการงานปฏิบตั กิ าร งานควบคุมธุรกิจ งานบริการตัวแทนเรียกเก็บและชำระหนี้ งานบัญชี งานธุรกิจพาณิชย์อเิ ล็กทรอนิกส์ งานพัฒนาระบบงานและระเบียบคำสั่ง งานตรวจสอบภายใน งานกำกับกฎระเบียบและข้อบังคับ งานทรัพยากรบุคคล งานระบบ เทคโนโลยีและสารสนเทศ งานตรวจสอบเครดิตเช่าซื้อ งานอาคารสถานที่ งานธุรการจัดซื้อ และงานธุรการทรัพย์สิน
246
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
บริษัท ธนชาตแมเนจเม้นท์ แอนด์ เซอร์วิส จำกัด
เป็นรายการตามธุรกิจปกติ
ให้บริการพนักงานในส่วนพนักงานบริการ
บริษัท ธนชาตกฎหมายและประเมินราคา จำกัด ให้บริการงานที่ปรึกษากฎหมาย งานนิติกรรมสัญญา งานฟ้องคดีและบังคับคดี งานประเมินราคาหลักประกัน บริษัท ธนชาต เทรนนิ่ง แอนด์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด ให้บริการงานฝึกอบรมแก่บุคลากรของบริษัทในกลุ่มธนชาต
รายการเงินให้สินเชื่อและการก่อภาระผูกพันแก่พนักงานบริหารตั้งแต่ระดับผู้อำนวยการฝ่ายขึ้นไปของ ธนาคารธนชาต และบริษัทในกลุ่มธนชาต และรายการอื่นที่แสดงข้างต้น มาตรการหรือขั้นตอนการอนุมัติการทำรายการระหว่างกัน
ธนาคารธนชาตมีนโยบายและระเบียบปฏิบัติการป้องกันความขัดแย้งทางผลประโยชน์และการทำรายการระหว่างกัน
และรายการที่เกี่ยวโยงกันตามข้อกำหนดของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยประกาศเป็นระเบียบให้ผู้บริหาร และพนักงาน ยึดถือปฏิบัติครอบคลุมรายการระหว่างธนาคารธนชาตกับบุคคลที่อาจมีความขัดแย้งทางผลประโยชน์ตามหลักเกณฑ์ของสำนักงาน คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ โดยการพิจารณาการทำรายการกับบุคลที่เกี่ยวข้อง ธนาคารธนชาตจะใช้เกณฑ์เช่นเดียวกับลูกค้าหรือคู่ค้าทั่วไป และเป็นไป ตามกระบวนการที่กำหนดอย่างเหมาะสม ตามความจำเป็นเพื่อสนับสนุนการดำเนินกิจการของธนาคารธนชาตและในการกำหนดราคา ในการทำรายการระหว่างกัน เพือ่ ป้องกันความขัดแย้งทางผลประโยชน์ ธนาคารธนชาตกำหนดให้ใช้ราคายุตธิ รรม เหมาะสมและเป็นไป ตามข้อกำหนดทางการ โดยได้คำนึงถึงประโยชน์สูงสุดที่ธนาคารธนชาตและผู้ถือหุ้นจะได้รับเป็นสำคัญ ในการอนุมัติการทำรายการระหว่างกัน กรรมการหรือพนักงานที่เกี่ยวข้องต้องไม่มีส่วนร่วมในการอนุมัติการทำรายการ ให้สินเชื่อแก่หรือลงทุนในกิจการที่ธนาคารธนชาต หรือกรรมการ หรือผู้บริหารระดับสูงของธนาคารธนชาตมีผลประโยชน์เกี่ยวข้อง หรือให้สินเชื่อแก่ผู้ถือหุ้นหรือผู้บริหารระดับสูงของธนาคารธนชาต รวมถึงต้องได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการธนาคารธนชาตด้วยมติ เป็นเอกฉันท์ และห้ามกรรมการหรือผู้บริหารระดับสูงของธนาคารธนชาตที่มีผลประโยชน์เกี่ยวข้องเข้าร่วมพิจารณาอนุมัติสินเชื่อนั้น และการอนุมัติรายการต้องอยู่ภายในอำนาจดำเนินและวงเงินที่ธนาคารธนชาตกำหนดและเป็นไปตามข้อกำหนดทางการ ในการปฏิบัติงานการให้สินเชื่อหรือลงทุน การจ่ายเงิน การให้สังหาริมทรัพย์/อสังหาริมทรัพย์ และการซื้อขายหลักทรัพย์ รายการระหว่างกัน รายการได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ ต้องระมัดระวังมิให้เกิดความขัดแย้งทางผลประโยชน์ และให้ปฏิบัติตาม หลั ก เกณฑ์ ที่ ท างการกำหนดโดยเคร่ ง ครั ด รวมทั้ ง การเปิ ด เผยข้ อ มู ล การทำรายการดั ง กล่ า วให้ เ ป็ น ไปตามหลั ก เกณฑ์ ท างการ มาตรฐานการบัญชี และระเบียบที่ธนาคารธนชาตกำหนด
นโยบายหรือแนวโน้มการทำรายการระหว่างกันในอนาคต
การทำรายการระหว่างกันของธนาคารธนชาตกับบริษัทในกลุ่มธนชาตหรือบุคคลที่เกี่ยวข้อง จะเป็นรายการที่เกิดจาก การประกอบธุรกิจตามปกติ รวมถึงปฏิบัติตามแผนปรับโครงสร้างการประกอบธุรกิจสถาบันการเงินกลุ่มธนชาต ตามแนวนโยบาย สถาบันการเงิน 1 รูปแบบ (One Presence) และเกณฑ์การกำกับแบบรวมกลุ่ม (Consolidated Supervision) ตลอดจนการให้บริการ งานสนับสนุนระหว่างบริษัทในกลุ่มตามนโยบายของกลุ่มธนชาต โดยธนาคารธนชาตไม่มีนโยบายสนับสนุนให้ผู้มีส่วนได้เสียทำรายการ ระหว่างกัน
รายงานประจำปี 2551 ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
247