TFPA Trade & Technical Weekly Brief: 24-28 January 2011

TRADE & TECHNICAL WEEKLY BRIEF THAI FOOD PROCESSORS’ ASSOCIATION www.thaifood.org TUNA

SEAFOOD

FOR: 24-28 JANUARY 2011 FRUIT & VEGETABLE

SWEET CORN

VOL.2 PINEAPPLE

ISSUE. 4

DATE: 1 FEBRUARY 2011

FOOD INGREDTENTS & READY TO EAT

TRADER

ั “ยอดผลผลิตสบปะรดวู บ” กรอ.ช ี้ ภ ัยแล้งถล่มประจวบฯทําขาดแหล่ง นํา้ /กระทบจํานวนผลิตป้อนแปรรูป

การดาวน์โหลดแบบฟอร์ม

ั นํา้ รูปแบบ ใบร ับรองการจ ับสตว์ ใหม่ ี่ งวิกฤตอาหาร เปิ ดโผ 25 ประเทศ เสย

ระบบการตรวจสอบความ ิ ค้าอาหารของ ปลอดภ ัย สน “สหร ัฐฯ”

TFPA TRADE & TECHNICAL WEEKLY BRIEF 24-28 JAN 2011 VOL. 2 ISSUE. 4

Page 1

CONTENTS ข้อมูลด้านเทคนิค

ิ ค้าอาหารของ “สหร ัฐฯ” 4 ระบบการตรวจสอบความปลอดภ ัย สน เอกสารแนบ 1 5 “แคนาดา” ออกแผนปฏิบ ัติการ เพือ ่ การแปรรูปอาหาร

สรุปการประชุมคณะร ัฐมนตรี

6 สรุปการประชุมครม. ว ันจ ันทร์ท ี่ 24 มกราคม 2554 เอกสารแนบ 2

สถานการณ์ดา้ นประมง

ั นํา้ รูปแบบใหม่ 7 การดาวน์โหลดแบบฟอร์มใบร ับรองการจ ับสตว์ 7 ปิ ดพ.ร.บ.ฯทางทะเล 25 มาตรา ้ งเพิม 7 กุง้ ขาวหน้าฟาร์มพุง ่ 200 บาท เกษตรกรแห่เลีย ่ เท่าต ัว

สถานการณ์ดา้ นการเกษตร

8 ชลประทานเตือนปริมาณนํา้ น้อยกว่าปี ′53 สวนทาง"นาปร ัง"ผุด เยอะ 8 ชูวาระแห่งชาติ "THAIGAP" แก้ผ ักไทย ้ 70%ขูข 8 อ่วม!ปุ๋ยจ่อขึน ่ าดแคลนหน ักนําเข้าปาล์มเพิม ่ -คนผวา ิ สนค้าแพงลิว่ ้ ” แห่ปิดครึง่ เมือง สน ิ ค้าขาดราคาพุง 9 “วิกฤตธุรกิจสวนสม ่ -ทุน ใหญ่ธนาธรรุกขยายเข้าพม่า ั ี้ ัยแล้งถล่มประจวบฯทําขาด 9 “ยอดผลผลิตสบปะรดวู บ” กรอ.ชภ แหล่งนํา้ /กระทบจํานวนผลิตป้อนแปรรูป

TFPA TRADE & TECHNICAL WEEKLY BRIEF 24-28 JAN 2011 VOL. 2 ISSUE. 4

Page 2

CONTENTS สถานการณ์ดา้ นการค้า ่ ออกอาหารผวา “ก.ม.ใหม่มะก ัน” 10 สง 10 “ขาดแคลนแรงงาน” ทะล ักถึง 5 แสน 7 อุตสาหกรรม หล ักวิกฤติหน ัก 11 ธปท.ชเี้ ศรษฐกิจปี 54 โตสุด5% ้ ดอก 11 หอการค้าฝันศก.โต8%-ธปท.ลุยขึน ่ ออกสน ิ ค้าทางเรือฯคาดสง ่ ออกโต17% 11 สภาผูส ้ ง 12 “สหร ัฐฯ” ประกาศบุกเปิ ดตลาดใหม่ 12 ว่างงานย ังวิกฤติ สูงเป็นประว ัติการณ์ทว่ ั โลก ี่ งวิกฤตอาหาร 12 เปิ ดโผ 25 ประเทศ เสย 13 อินโดฯระง ับเก็บภาษีอาหาร หวน ่ ั กระตุน ้ เงินเฟ้อ 13 TPP มิตใิ หม่การค้าโลก 13 สภาธุรกิจหนุน FTAไทย-อียเู ต็มสูบ

การเงินและอ ัตราแลกเปลีย ่ น

14 อ ัตราแลกเปลีย ่ น ระหว่างว ันที่ 1-31 มกราคม 2554 ี้ า่ บาทย ังเป็นปัจจ ัยเสย ี่ งเศรษฐกิจไทยปี นี้ 15 อดีต รมช.คล ังชค ้ ระด ับตํา 15 เฟดคงดอกเบีย ่ สุดขีด

สาระน่ารู ้

16 โฉมหน้าใหม่ของเวปไซด์ US FDA เอกสารแนบ 3

TFPA TRADE & TECHNICAL WEEKLY BRIEF 24-28 JAN 2011 VOL. 2 ISSUE. 4

Page 3

ระบบการตรวจสอบความปลอดภ ัย ิ ค้าอาหารของ “สหร ัฐฯ” สน ทีม ่ า: สํานักงานส่งเสริมการค ้าระหว่างประเทศ ณ นคร ลอสแอนเจลิส วันที่ 13 มกราคม 2554

วิธพ ี จ ิ ารณาออกคําสง่ ั การห้ามนําเข้า (Import ิ ค้าอาหารของ USFDA refusal) สน ิ ค ้าอาหารเข ้าไปยัง ปั ญหาสําคัญประการหนึง่ ของการสง่ สน ิ ประเทศสหรัฐฯคือการตรวจสนค ้าของ USFDA ทีด ่ า่ นนํ าเข ้าและการถูก USFDA ออกคําสงั่ ห ้ามนํ าเข ้า สหรัฐฯ

ิ ค้าทีถ 2. สน ่ ก ู คําสง่ ั ห้ามนําเข้าสหร ัฐฯไม่ได้ ิ ค้าทีม หมายความว่าเป็นสน ่ ก ี ารกระทําทีเ่ ป็นการฝ่า ฝื นเสมอไป กฎหมายสหรัฐฯระบุให ้อํานาจ USFDA ทีจ ่ ะ ิ ค ้า สงั่ ห ้ามการนํ าเข ้าในกรณีทไี่ ด ้พิจารณาแล ้วเห็นว่าสน ดังกล่าว “ดูเหมือนว่า” จะมีการกระทําทีเ่ ป็ นการฝ่ าฝื น กฎระเบียบของ USFDA 3. สว่ นใหญ่ของการปฏิเสธการนํ าเข ้าโดย USFDA ื เนื่องมาจากประกาศ USFDA Import Alert เป็ นผลสบ เจ้าหน้าที่ USFDA จะใช ้ import alert เป็นแนวทาง ิ ค้าและออกคําสง่ ั ห้ามการนําเข้า ในการตรวจสอบสน Import alert ิ ค้านําเข้าทีม 4. ประเภทของสน ่ ก ี ารฝ่าฝื น กฎหมายของ USFDA มากทีส ่ ด ุ และถูกปฎิเสธการนํ าเข ้า มากทีส ่ ด ุ ด ้วย เรียงตามลําดับคือ (ก) ผักและผลิตภัณฑ์จากผัก คือเรือ ่ งสาร ตกค ้างทีไ่ ม่ปลอดภัยทีเ่ ป็ นยาฆ่าแมลง และ เป็ นสารเคมีทไี่ ม่ได ้มีการจดทะเบียนในสหรัฐฯ หรือระดับ สารเคมีตกค ้างเกินกําหนดที่ EPA ระบุไว ้

ในปี 2008 หน่วยงาน Economic Research Service ึ ษาวิธ ี (ERS) ของกระทรวงเกษตรสหรัฐฯได ้ทําการศก ิ ค ้าและการ ปฏิบต ั ข ิ อง USFDA ในเรือ ่ งของการตรวจสน ออกคําสงั่ ห ้ามนํ าเข ้า (import refusal) โดยใชข้ ้อมูลการ สงั่ ห ้ามนํ าเข ้าของ USFDA ในระหว่างปี 1998 –2004 เป็ น ึ ษาและได ้จัดทํารายงานเรือ พืน ้ ฐานในการศก ่ ง Food Safety and Imports – An Analysis of FDA FoodRelated Import Refusal Reports ออกเผยแพร่ จาก รายงานดังกล่าวทําให ้สามารถมองเห็นภาพการทํางานของ ั เจนยิง่ ขึน USFDA ได ้ชด ้ ดังนี้ ิ ค้านําเข้าของ USFDA ไม่ได้ 1. การตรวจสน ่ เป็นการ “สุมตรวจ-random”ตามทีค ่ นสว่ นใหญ่เข ้าใจ แต่เป็ นการเลือกตรวจโดยอยูบ ่ นพืน ้ ฐานของปั ญหาความ ปลอดภัยของอาหารทีเ่ กิดขึน ้ เป็ นประจําในระบบการค ้า ี่ ง ของสหรัฐฯและพิจารณาเงือ ่ นไขต่างๆทีเ่ ป็ นความเสย ิ ว่าจะตรวจการจัดสง่ สน ิ ค ้านํ าเข ้ารายการใด การตัดสน ึ ษาข ้อมูลสน ิ ค ้า ข ้อมูลโรงงานผลิตทีม กระทําจากศก ่ ป ี ระวัต ิ ว่าเคยฝ่ าฝื นกฎระเบียบการนํ าเข ้าของสหรัฐฯ

(ข) ผลิตภัณฑ์ปลาและอาหารทะเล คือ “filthy” (ค) ผลไม ้และผลิตภัณฑ์ผลไม ้ คือ “filthy” ้ (ง) เหตุผลทีถ ่ ก ู นํ ามาใชมากที ส ่ ด ุ สําหรับกลุม ่ ิ ่ สนค ้าอืน ่ ๆ เชน ขนม “Unsafe Color”

เครือ ่ งเทศ รสอาหาร และ เกลือ “Salmonella”

ของว่าง “Unsafe Color”

เครือ ่ งดืม ่ “Unsafe Color”

ธัญญพืช/แป้ งจากธัญญพืช “Filthy” process”

เครือ ่ งปรุงรสอาหาร “Did not file scheduled ชาและกาแฟ “Label not in English”

นํ้ ามันพืช “Inadequate nutrition label”

เครือ ่ งดืม ่ แอลกอฮอล์ “Inadequate labeling” อาหารสําเร็จรูปพร ้อมรับประทาน “Manufacturer not properly registered”

TFPA TRADE & TECHNICAL WEEKLY BRIEF 24-28 JAN 2011 VOL. 2 ISSUE. 4

Page 4

(ต่อ)

“แคนาดา” ออกแผนปฏิบ ัติการ เพือ ่ การแปรรูปอาหาร ทีม ่ า: มกอช วันที่ 28 มกราคม 2554

้ า ค่าใชจ ่ ยในการปฏิบ ัติงานของเจ้าหน้าทีส ่ หร ัฐฯ ิ ค ้าเกิดปั ญหาทีด ในกรณีทส ี่ น ่ า่ นนํ าเข ้าและจําเป็ นต ้อง ิ ค ้าจะต ้องจ่าย แก ้ไข จะเกิดค่าใชจ่้ ายทีเ่ จ ้าของสน ชาํ ระให ้แก่เจ ้าหน ้าที USFDA การเรียกเก็บค่าใชจ่้ ายจะ ิ เป็ นทีส ิ้ สุดแล ้วว่า ไม่วา่ กระทําหลังจากทีม ่ ก ี ารตัดสน ่ น ิ ค ้าได ้รับอนุญาตให ้ผ่านเข ้าสหรัฐฯหรือไม่ก็ตามก็ สน ี ค่าใชจ่้ าย จะต ้องเสย ้ า่ ย USFDA จะคํานวนจาก การคํานวนค่าใชจ ิ ค ้า 1. เวลาของเจ ้าหน ้าทีผ ่ ู ้ตรวจสน ้ ิ ค ้า 2. เวลาทีใ่ ชในการวิ เคราะห์สน 3. เบีย ้ เลีย ้ งของเจ ้าหน ้าที่ 4. ค่าใชจ่้ ายในการเดินทางทีไ่ ม่ใชโ่ ดยรถยนต์ 5. ค่าใชจ่้ ายในการเดินทางด ้วยรถยนต์ (จํานวนไมล์ ค่า ทางด่วน ฯลฯ) 6. ค่าใชจ่้ ายอืน ่ ๆในสํานักงานทีเ่ กีย ่ วข ้องกับกรณีนี้ ้ 7. ค่าใชจ่ายในการเข ้าไปควบคุมดูแลการทําลายหรือการ ิ ค ้า ถ ้ามี USFDA จะสง่ จํานวนเงินค่าใชจ่้ าย สง่ ออกสน ให ้ศุลกากรสหรัฐฯทําหน ้าทีเ่ รียกเก็บเงินUSFDA จะไม่ เก็บเงินด ้วยตนเอง

แคนาดาได้ออกตีพม ิ พ์แผนปฏิบ ัติการเพือ ่ ขยายภาค การแปรูปอาหารของประเทศ โดยมีจด ุ ประสงค์เพือ ่ หาวิธส ี ร้างความสามารถในการแข่งข ันให้แข็งแกร่ง ้ ยิง่ ขึน โดยครอบคลุมเป้ าหมายทีส ่ ําคัญ 4 ประการคือ เศรษฐกิจ การเข ้าถึงตลาด วิทยาการ และระเบียบด ้านสงิ่ แวดล ้อม ทัง้ นี้ ในแผนฯ ดังกล่าวระบุแนวคิดเกีย ่ วกับการสง่ เสริม โครงการนํ าร่องสําหรับการค ้าปลีกโดยเน ้นทีอ ่ าหาร แคนาดา โดยในร ้านจําหน่ายอาหารจะระบุวา่ เป็ นอาหาร ั ลักษณ์ ป้ ายทีต แคนาดาผ่านแบนเนอร์ สญ ่ ด ิ ณ แผง จําหน่ายอาหาร และใบปลิวในร ้านค ้าและทางออนไลน์

รายละเอียดดังเอกสารแนบ 1

TFPA TRADE & TECHNICAL WEEKLY BRIEF 24-28 JAN 2011 VOL. 2 ISSUE. 4

Page 5

สรุปการประชุมครม. ว ันจ ันทร์ท ี่ 24 มกราคม 2554 ที่ 9.

สาระสําค ัญ

เรือ ่ ง ิ ค้าและบริการควบคุมตาม การกําหนดสน ิ ค้าและ พระราชบ ัญญ ัติวา่ ด้วยราคาสน บริการ พ.ศ. 2542

หน้า

คณะรัฐมนตรีเห็นชอบการกําหนดสินค ้าจํานวน 39 รายการ และบริการ

10

จํานวน 2 รายการ รวม 41 รายการ ในปี 2554 ดังนี้ 1. หมวดอาหาร ํ เร็ จรูป และเครือ ่ งดืม ่ จํานวน 10 รายการ ได ้แก่ (1) กาแฟผงสา (2) ข ้าวเปลือก ข ้าวสาร (3) ครีมเทียมข ้นหวาน นมข ้น นมคืนรูป นม แปลงไขมัน (4) นมเปรีย ้ วพร ้อมดืม ่ โยเกิรต ์ (5) นมผง นมสด (6) นํา้ ตาลทราย (7) นํ้ ามันและไขมันทีไ่ ด ้จากพืชหรือสัตว์ ทัง้ ทีบ ่ ริโภค ํ เร็ จรูปบรรจุภาชนะ ได ้หรือไม่ได ้ (8) แป้ งสาลี (9) อาหารกึง่ สา ผนึก และ (10) อาหารในภาชนะบรรจุทป ี่ ิ ดสนิท 2. หมวดว ัสดุ ก่อสร้าง จํานวน 3 รายการ ได ้แก่ (1) ปูนซีเมนต์ (2) สายไฟฟ้ า และ (3) เหล็กโครงสร ้างรูปพรรณ เหล็กแผ่น เหล็กเส ้น… อ่านต่อเอกสาร

19.

ความคืบหน้ากรอบยุทธศาสตร์การจ ัดการ ด้านอาหารของประเทศไทย

ํ ค ัญของเรือ สาระสา ่ ง จากการจัดประชุมคณะกรรมการจัดทําแผน

20

ยุทธศาสตร์การจัดการด ้านอาหารของประเทศไทยเพือ ่ หารือเกีย ่ วกับ แนวทางการดําเนินการตามกรอบยุทธศาสตร์ฯ เมือ ่ วันศุกร์ท ี่ 7 มกราคม 2554 ซึง่ ทีป ่ ระชุมได ้ให ้ข ้อคิดเห็นและข ้อเสนอแนะ ดังนี้ 1. ควรเร่งรัดการดําเนินการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์กรอบยุทธศาสตร์ ฯ 2. ควรคัดเลือกดําเนินการประเด็นทีม ่ ค ี วามสําคัญก่อน 3. ควรตัง้ คณะกรรมการหรืออนุกรรมการภายใต ้บริบทของ 4. พระราชบัญญัต ิ คณะกรรมการอาหารและยาแห่งชาติ 5. เนือ ่ งจากกรอบยุทธศาสตร์ ้ ํ า จึงควรกําหนดตัวชีว้ ด ดังกล่าวเป็ นแผนชีน ั (KPI)6.ควรพัฒนาระบบ ่ มโยง ฐานข ้อมูลสําหรับการติดตามและประเมินผลการดําเนินงานทีเ่ ชือ กับกรอบยุทธศาสตร์ฯ ดังกล่าว

27.

ํ รวจภาวะการทํางานของ สรุปผลการสา ประชากร เดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2553

27.

ํ หร ับในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2553 ในภาพรวม สา สถานการณ์แรงงาน จํานวนผูว้ า ่ งงานลดลง 3 พ ันคน (จาก 3.92 แสนคน เป็ น 3.89 แสนคน) เมือ ่ เปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันกับปี 2552 หากเปรียบเทียบกับช่วงเดือนทีผ ่ า่ นมา (ตุลาคม พ.ศ. 2553) จํานวน ผู ้ว่างงานเพิม ่ ขึน ้ 3.4 หมืน ่ คน (จาก 3.55 แสนคน เป็ น 3.89 แสนคน)

28.

สรุปสถานการณ์ภ ัยพิบ ัติดา้ นการเกษตรปี 2554 ครงที ั้ ่ 3

28

อุทกภ ัย ไม่มส ี ถานการณ์ ภ ัยแล้ง จังหวัดประกาศพืน ้ ทีภ ่ ย ั พิบต ั แ ิ ล ้ว 5 จังหวัด ได ้แก่ จังหวัด กําแพงเพชร พะเยา อุดรธานี สุรน ิ ทร์ ประจวบคีรข ี น ั ธ์ ไม่มรี ายงาน ผลกระทบด ้านการเกษตร

ทีม ่ า: ทีม ่ า: www.thaigov.go.th วันที่ 24 มกราคม 2554 รายละเอียดด ังเอกสารแนบ 2

TFPA TRADE & TECHNICAL WEEKLY BRIEF 24-28 JAN 2011 VOL. 2 ISSUE. 4

Page 6

ั นํา้ การดาวน์โหลดแบบฟอร์มใบร ับรองการจ ับสตว์ รูปแบบใหม่

้ ง กุง้ ขาวหน้าฟาร์มพุง ่ 200 บาท เกษตรกรแห่เลีย เพิม ่ เท่าต ัว

ทีม ่ า: กรมประมง, ระบบ IUU

ทีม ่ า: ประชาชาติธรุ กิจ วันที่ 27 มกราคม 2554

ั นํา้ และ กองตรวจสอบร ับรองมาตรฐานคุณภาพสตว์ ั ผลิตภ ัณฑ์สตว์นํา้ (กตส.) กรมประมง ได้ปร ับปรุง ั นํา้ ของไทย (Catch แบบฟอร์มใบร ับรองการจ ับสตว์ ่ งระบุ Certificate of Thailand) ครงที ั้ ่ 2 โดยเพิม ่ ชอ ่ ข ้อมูลสวนที่ 2 เลขทีอ ่ าชญาบัตรและวันทีห ่ มดอายุ และ สว่ นที่ 4 การอ ้างอิงตามมาตรการบริหารจัดการและการ ้ อนุรักษ์ การพิมพ์ Appendix Iให ้ใชกระดาษ F4 โดยบังคับ ้ ใชแบบฟอร์มตัง้ แต่วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2554 เป็ นต ้นไป ซงึ่ ผู ้ประกอบการสามารถดูตัวอย่างการกรอกข ้อมูลในใบรับรอง ั ว์นํ้าของไทยได ้จากเวปไซต์กรมประมง ประกาศ การจับสต เมือ ่ วันที่ 28 มกราคม 2554 นอกจากนี้ กตส. ยังให ้ ื้ ขาย ผู ้ประกอบการสามารถดาวน์โหลดเอกสารกํากับการซอ ิ ค ้าสต ั ว์นํ้า (MCPD) ฉบับเพิม ้ ื้ -ขาย สน ่ เติม ใชกรณที ม ่ ผ ี ู ้ซอ มากกว่า 3 ราย ประกาศเมือ ่ วันที่ 21 มกราคม 2554

นายปกครอง เกิดสุข ประธานชมรมผู ้เลีย ้ งกุ ้งจังหวัดกระบี่ ้ งกุง้ 6 จ ังหว ัด เปิ ดเผยว่า ปี ทีผ ่ า่ นมามีพน ื้ ทีก ่ ารเลีย

โดยเอกสารทัง้ 2 ฉบับสามารถดาวน์โหลดได ้จากเวปไซต์ กรมประมงที่ http://www.fisheries.go.th/dof/index.php?option=co m_content&view=article&id=10&Itemid=4

เปิ ดพ.ร.บ.ฯทางทะเล 25 มาตรา ทีม ่ า: ประชาชาติธรุ กิจ วันที่ 27 มกราคม 2554

่ เสริมการบริหารจ ัดการ สําหร ับร่างพระราชบ ัญญ ัติสง ทร ัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง 25 มาตรา ประกอบด้วย 5 หมวดหล ัก ได้แก่ 1) การตัง้ คณะกรรมการนโยบายและแผนบริหารจัดการ ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ งแห่งชาติ 2) ด ้านชุมชนชายฝั่ ง สง่ เสริมการมีสว่ นร่วมและสนับสนุน ชุมชนในเขตพืน ้ ทีช ่ ายฝั่ งทะเลหรือเกาะในการบริหาร ้ จัดการ การบํารุงรักษา การฟื้ นฟู และการใชประโยชน์ จาก ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ ง 3) การคุ ้มครองทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ ง หากพบว่า ี หายต่อทรัพยากรชายฝั่ งทะเล มีการกระทําความเสย 4) ด ้านเจ ้าพนักงาน ให ้มีอํานาจหน ้าทีต ่ รวจสอบสถานที่ ิ ได ้เมือ ั ว่ามีการกระทําความผิด ยึดหรืออายัดทรัพย์สน ่ สงสย ตามพระราชบัญญัตน ิ ี้ 5) การกําหนดบทลงโทษ การดําเนินคดีกบ ั ผู ้กระทํา ี หายต่อทรัพยากรทางทะเล ความผิด บุกรุก ทําความเสย และชายฝั่ ง ระวางโทษจําคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือ ทัง้ จําทัง้ ปรับ…อ่านต่อคลิก http://www.prachachat.net/view_news.php?newsid =02inv16270154&sectionid=0203&day=2011-01-27

ภาคใต้ในฝั่งอ ันดาม ันจํานวน 4 หมืน ่ ไร่ โดยเป็นการ ้ งกุง้ ขาว 99% และกุง้ กุลาดํา 1% มีผลผลิตกุง้ เลีย ิ้ 100,000 ต ัน ซงึ่ มีปริมาณน้อยกว่าปี รวมทงส ั้ น 2552 ทีม ่ ผ ี ลผลิตกุง้ อยูท ่ ี่ 110,7000 ต ัน หรือลดลง 15% สาเหตุเกิดปรากฏการณ์เอลนิโญ ทําให้อากาศ ้ แล้งจ ัด ฝนตกน้อย ทําให้ความเค็มในบ่อกุง้ เพิม ่ ขึน ประกอบก ับการป้องก ันโรคไม่ดพ ี อ ทําให้เกิดโรคขี้ ้ ในทุกจ ังหว ัดฝั่งอ ันดาม ัน ขาวขึน สาํ หรับในพืน ้ ทีจ ่ ังหวัดกระบี่ ในปี 2553 มีพน ื้ ทีเ่ ลีย ้ งกุ ้ง ประมาณ 1 หมืน ่ ไร่ ผลผลิตกุ ้งประมาณ 28,000 ตัน ผลผลิตลดลงจากปี 2552 ประมาณ 12% โดยผลิตได ้ ประมาณ 30,000 ตัน แต่ในปี 2554 นีค ้ าดว่าผลผลิตกุ ้ง น่าจะกลับมามีปริมาณเท่ากับปี 2552 เพราะเกษตรกรผู ้ เลีย ้ งกุ ้งเตรียมพร ้อมในการป้ องกัน คือสร ้างบ่อพักนํ้ ามาก ื้ ในนํ้ าโดยใชสารเคมี ้ ขึน ้ ทําบ่อให ้สะอาด มีการฆ่าเชอ ทไี่ ม่ กระทบต่อผู ้บริโภค และลดปริมาณความหนาแน่นของกุ ้ง ให ้มีความเหมาะสม ปั จจุบน ั กุ ้งไทยยังครองตลาดโลก แต่มบ ี างชว่ งทีเ่ จอ ปั ญหาความแปรปรวนของธรรมชาติและโรคระบาด แต่ก็ สามารถฟื้ นตัวกลับมาได ้ ปั จจุบน ั ตลาดสง่ ออกกุ ้งขาว ั สว่ น อันดับ 1 ยังคงเป็ นตลาดสหรัฐอเมริกา โดยมีสด ประมาณ 50% รองลงมาได ้แก่ ประเทศญีป ่ น ุ่ เกาหลี และ กลุม ่ ยุโรป …อ่านต่อคลิก http://www.prachachat.net/view_news.php?newsid=02in v02270154&sectionid=0203&day=2011-01-27

TFPA TRADE & TECHNICAL WEEKLY BRIEF 24-28 JAN 2011 VOL. 2 ISSUE. 4

Page 7

ชลประทานเตือนปริมาณนํา้ น้อยกว่าปี ′53 สวน ทาง"นาปร ัง"ผุดเยอะ

้ 70 % ขูข อ่วม!ปุ๋ยจ่อขึน ่ าดแคลนหน ักนําเข้า ิ ปาล์มเพิม ่ -คนผวาสนค้าแพงลิว่ ทีม ่ า: กรุงเทพธุรกิจ วันที่ 26 มกราคม 2554

ทีม ่ า: มติชน วันที่ 24 มกราคม 2554

ศูนย์ประมวลวิเคราะห์สถานการณ์นํ้า กรมชลประทาน รายงานสถานการณ์นํ้าในอ่างเก็บนํ้ าขนาดใหญ่ทงั ้ ประเทศ ล่าสุด (21 ม.ค. 2554) มีปริมาณนํ้ ารวมกัน จํานวน 47,904 ล ้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็ นร ้อยละ 69 ของความจุอา่ งฯ ขนาดใหญ่รวมกันทัง้ หมด ปริมาณนํา้ น้อยกว่าปี 2553 จํานวน 1,920 ล้านลูกบาศก์เมตร และเป็ นปริมาณนํ้ าที่ ้ ิ้ 24,381 ล ้านลูกบาศก์ สามารถนํ ามาใชการได ้จํานวนทัง้ สน เมตร โดยเขือ ่ นภูมพ ิ ล จ.ตาก มีปริมาณนํ้ า 7,760 ล ้าน ลูกบาศก์เมตร หรือคิดป็ นร ้อยละ 58 ของความจุอา่ งฯ เขือ ่ นสริ ก ิ ต ิ ิ์ จ.อุตรดิตถ์ มีปริมาณนํ้ า 6,910 ล ้านลูกบาศกื เมตร หรือคิดเป็ นร ้อยละ 73 ของความจุอา่ งฯ จ.พิษณุโลก มี ปริมาณนํ้ า 615 ล ้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็ นร ้อยละ 80 ั ชลสท ิ ธิ์ จ.ลพบุร ี มีปริมาณ ของความจุอา่ งฯ และเขือ ่ นป่ าสก นํ้ า 666 ล ้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็ นร ้อยละ 69 ของความ จุอา่ งฯ…อ่านต่อคลิก http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1295 858242&grpid=&catid=05&subcatid=0503

รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ แจ ้งว่า กรมการค้า ภายในได้เรียกประชุมคณะอนุกรรมการพิจารณาราคา แนะนําปุ๋ยในเร็วๆ นี้ เพือ ่ พิจารณาสถานการณ์ราคาปุ๋ย ้ มาก จนทําให้ผป ทีม ่ ต ี น ้ ทุนนําเข้าสูงขึน ู ้ ระกอบการ ปุ๋ยเคมีในประเทศต้องยืน ่ ปร ับราคาสูงถึง 70% และมี แนวโน ้มทีค ่ ณะอนุกรรมการฯ จะอนุมัตใิ ห ้ปรับราคา เพราะ ขณะนี้สถานการณ์ป๋ ยในประเทศเริ ุ ม ่ ขาดแคลน และมีราคา แพง โดยเฉพาะการจําหน่ายปุ๋ยเคมีในจังหวัดต่างๆ ที่ ร ้านค ้าปลีกหลายรายจําหน่ายสูงกว่าในราคาควบคุม หรือ ราคาแนะนํ าประมาณตันละ 2,000-3,000 บาท ทัง้ นี้ คาดว่าหากไม่ปรับขึน ้ ราคาปุ๋ยเคมี อาจสง่ ผลให ้ ิ ค ้านํ้ ามัน สถานการณ์ป๋ ยในประเทศขาดแคลนเหมื ุ อนกับสน ปาล์มบรรจุขวดได ้ แต่การอนุมัตป ิ รับขึน ้ อาจไม่ให ้ปรับขึน ้ ื มา เพราะจะกระทบกับต ้นทุน ทัง้ หมดตามทีผ ่ ู ้ผลิตสง่ หนังสอ ของเกษตรกรอย่างมาก…อ่านต่อคลิก http://www.thaipost.net/news/260111/33405

ชูวาระแห่งชาติ "THAIGAP" แก้ผ ักไทย ทีม ่ า: food resources วันที่ 24 มกราคม 2554

นายประพล มิลน ิ ทจินดา เลขานุการรัฐมนตรีวา่ การกระทรวง พาณิชย์ ในฐานะประธานร่วมกับตัวแทน 3 หน่วยงาน คือ กรมศุลากร กระทรวงการคลัง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และสภาหอการค ้าไทย ประชุมร่วมกันพร ้อมสรุปว่าจะเสนอ คณะรัฐมนตรี (ครม.) ภายใน 24 มกราคมนี้ พิจารณาการ

กําหนดวาระแห่งชาติวา่ ด้วยความปลอดภ ัยด้านอาหาร (Food safety) ควบคูก ่ ับการปฏิบ ัติตามนโยบายของ ั ร ัฐมนตรีวา่ การกระทรวงพาณิชย์ นางพรทิวา นาคาศย ้ ับผ ักไทยทีจ ให้นํามาตรฐาน THAIGAP เข้ามาใชก ่ ะ ่ ไปตลาดสหภาพยุโรปอย่างจริงจ ังตงแต่ สง ั้ ว ันนีเ้ ป็น ต้นไป…อ่านต่อคลิกhttp://www.foodresources.org/news/24/01/11/9976

TFPA TRADE & TECHNICAL WEEKLY BRIEF 24-28 JAN 2011 VOL. 2 ISSUE. 4

Page 8

้ ” แห่ปิดครึง่ เมือง สน ิ ค้า “วิกฤตธุรกิจสวนสม

ั ี้ ัยแล้งถล่ม “ยอดผลผลิตสบปะรดวู บ” กรอ.ชภ

ขาดราคาพุง ่ -ทุนใหญ่ธนาธรรุกขยายเข้าพม่า

ทีม ่ า: food resources วันที่ 24 มกราคม 2554

ประจวบฯทําขาดแหล่งนํา้ /กระทบจํานวนผลิต ป้อนแปรรูป

'ธีระ'ย ันต้องปร ับโครงสร้างภาคการเกษตร ม ่ า: วันที่ 27 มกราคม ที 2554

แนวหน ้า วันที่ 27 มกราคม 2554

โดย : กรุ งเทพธุรกิจออนไลน์

"ธีระ"ยันต้ องปรับโครงสร้ างภาคการเกษตรในภาพรวม เพือ่ ความมัน่ คงด้ านอาหาร นายธีระ วงศ์สมุทร รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวใน การบรรยายพิเศษเรือ ่ งความพร ้อมของไทยในการรับมือวิกฤติความมั่นคง ทางด ้านอาหาร ว่า ปั จจุบน ั ไทยเป็ นประเทศผู ้ผลิตอาหารและมีปริมาณ มากพอทีจ ่ ะบริโภคภายในประเทศ และส่งออก ทําให ้มั่นใจว่ามีความ ่ งในด ้านการ มั่นคงทางด ้านอาหาร แต่ความมั่นคงดังกล่าวยังมีความเสีย เปลีย ่ นแปลงของสภาพอากาศ การเปิ ดเสรีทางการค ้าจนกระทบกับการ ผลิตภายใน การเปลีย ่ นแปลงการใช ้ทีด ่ น ิ ราคานํ้ ามันทีเ่ พิม ่ สูงขึน ้ ทําให ้ใช ้ สินค ้าเกษตรเป็ นพลังงานทดแทน ขาดการพัฒนาเทคโนโลยี และ ผลตอบแทนของเกษตรกรยังตํา่ อยู่ "ทัง้ หมดนีต ้ ้องได ้รับการแก ้ไขโดยการปรับโครงสร ้างภาคการเกษตรใน

้ "ปี 2552 พืน ้ ทีเ่ พาะปลูกสมในอํ าเภอฝาง แม่อาย ไชย ปราการ มีประมาณ 90,000-100,000 ไร่เศษ ให ้ผลผลิตปี ละ 300 ล ้านกิโลกรัม หรือประมาณ 3 แสนตัน แต่ลา่ สุด ้ ทีเ่ พาะปลูกโดยรวมลดลงกว่าครึง่ หนึง่ น่าจะเหลือ พืน ้ จะลดลง ้ ทีป เพียง 40,000 ไร่ แนวโน้มพืน ่ ลูกสวนสม ้ รายย่อยและรายกลาง ้ ะมีเจ้าของสวนสม เรือ ่ ย ๆ ปี นีจ ทยอยเลิกกิจการเพิม ่ พบได้จากการประกาศขาย ่ กิจการ และบางรายเปลีย ่ นไปปลูกพืชพล ังงาน เชน ข้าวโพด และยางพารา เป็นต้น" ้ ด ้านแหล่งข่าวในวงการธุรกิจสวนสมราย ใหญ่กล่าวว่า ้ 2554 ในพืน ผลผลิตสมปี ้ ทีอ ่ ําเภอฝาง แม่อาย และไชย ี งใหม่ลดลงกว่า ปราการ ซงึ่ เป็ นพืน ้ ทีเ่ พาะปลูกหลักของเชย ้ 50% เกษตรกรรายย่อยทยอยเลิกกิจการสมอย่ างต่อเนื่อง จากผลกระทบต ้นทุนการผลิตทีส ่ งู ขึน ้ กว่า 50% อันดับต ้น ๆ ้ นพืชทีต คือ ราคาปุ๋ยและยาฆ่าแมลง และสมเป็ ่ ้องดูแลรักษา เป็ นพิเศษเพราะปั ญหาโรคแมลง รวมทัง้ เป็ นพืชอ่อนไหว ี หายง่าย เมือ ่ เจอสภาพอากาศแปรปรวนจะเสย สว่ น ผู ้ประกอบการรายใหญ่ปัจจุบน ั ยังดําเนินธุรกิจอยูไ่ ด ้ ้ ้ เหลือเพียง 4 ราย คือ กลุม ่ สวนสมธนาธร กลุม ่ สวนสมทราย ้ หมืน ทอง กลุม ่ สวนสมปู่ ่ และสวนสม้ ช.เจริญ ทุกสว่ นต่าง ่ กลุม เร่งปรับตัว เชน ่ ธนาธรรุกขยายการลงทุนไปประเทศ ่ พม่า โดยไปทําเกษตรแบบพันธสญ ั ญา เพือ ่ นบ ้าน เชน (contract farming) และปี นีข ้ ยายไป สปป, ลาว เร่งพัฒนา สายพันธุใ์ หม่ไปด ้วย เพือ ่ ขยายตลาดสง่ ออกไปจีน ี ฮอ ่ งกง เจาะตลาดอาเซย ี นด ้วยวิธส อินโดนีเซย ี ง่ ออก ่ ลาดเหล่านีโ้ ดยตรง ผลผลิตจากพม่าเข ้าสูต ้ ขณะนีเ้ กษตรกรเจ ้าของสวนสมรายย่ อยสว่ นใหญ่ได ่ ลิน เปลีย ่ นไปปลูกพืชเกษตรทีใ่ ช ้ ต ้นทุนตํา่ กว่า เชน ้ จี่ ่ ข ้าวโพด กระเทียม หอมหัวใหญ่ ยางพารา พืชพลังงาน เชน และมันสําปะหลัง…อ่านต่อคลิก http://www.food-

นายอภิชาต จงสกุล เลขาธิการสาํ นักงานเศรษฐกิจ การเกษตร เปิ ดเผยว่า ในการประชุมคณะอนุกรรมการ ร่วมภาคร ัฐและเอกชนด้านการเกษตร ต ัวแทนของสภา ั หอการค้าแห่งประเทศไทย สมาคมผูผ ้ ลิตอาหารสตว์ ํ และสมาคมผูผ ้ ลิตอาหารสาเร็จรูป ได้ขอให้กระทรวง เกษตรฯเร่งดําเนินการแก้ไขปัญหาการขาดแคลน ว ัตถุดบ ิ ผ ักผลไม้ เพือ ่ แปรรูป พร้อมสร้างเสถียรภาพ ่ ออก โดยเฉพาะข้าวโพดหวานฝักอ่อน และ ในการสง ั ้ ลผลิตมีจํานวนลดลงอย่าง สบปะรดโรงงานที ข ่ ณะนีผ มาก จากสาเหตุท ี่ จ.ประจวบคีรข ี ันธ์ ซงึ่ เป็ นพืน ้ ทีป ่ ลูก ั ปะรดแหล่งใหญ่ของประเทศไทยจํานวน 2 แสนไร่ จาก สบ พืน ้ ทีป ่ ลูกทั่วประเทศทัง้ หมด 4 แสนไร่ กําล ังประสบ ปัญหาภ ัยแล้ง ไม่มแ ี หล่งนํา้ เพียงพอสําหร ับการ ื้ นํ้ าจากนอกพืน เพาะปลูก สง่ ผลให ้เกษตรกรต ้องซอ ้ ทีม ่ าใช ้ เพือ ่ การเกษตรแทนแหล่งนํ้ าธรรมชาติ ขณะทีค ่ วามต ้องการ ั ปะรดมีสงู จนทําให ้ผู ้ประกอบการโรงงานแปรรูปสบ ั ปะรด สบ ื้ สน ิ ค ้า เนือ เพือ ่ สง่ ออกไม่กล ้าทีจ ่ ะรับคําสงั่ ซอ ่ งจากเกรงว่า จะไม่มผ ี ลผลิตรองรับมากเพียงพอกับความต ้องการตาม ื้ จนสร ้างความเสย ี หายตามมา คําสงั่ ซอ จากปั ญหาดังกล่าว ทีป ่ ระชุมจึงพิจารณาให ้คณะกรรมการ ิ ค ้าเกษตรประสานกับจังหวัดเร่งแก ้ไขปั ญหา ขับเคลือ ่ นสน ื้ นํ้ าในพืน โดยเฉพาะการจัดหาแหล่งซอ ้ ที่ รวมทัง้ การทําฝน ื้ ของอากาศ หลวง ซงึ่ ขณะนีพ ้ บว่ายังมีอป ุ สรรคเนือ ่ งความชน ยังไม่เพียงพอสําหรับทําฝนหลวงได…อ่ ้ านต่อคลิก http://www.naewna.com/news.asp?ID=246410

resources.org/news/24/01/11/9978

TFPA TRADE & TECHNICAL WEEKLY BRIEF 24-28 JAN 2011 VOL. 2 ISSUE. 4

Page 9

่ ออกอาหารผวา “ก.ม.ใหม่มะก ัน” สง ทีม ่ า: ฐานศรษฐกิจ วันที่ 22 มกราคม 2554

ิ ค ้าอาหารยังมีความกังวลใจในกรณีท ี่ ผู ้ประกอบการสน วุฒส ิ ภาสหรัฐอเมริกาได ้มีมติเห็นชอบผ่านกฎหมายความ ิ ค ้าอาหารฉบับปรับปรุงใหม่(FDA Food Safety ปลอดภัยสน Modernization Act หรือ S.510) ครอบคลุมอาหารทุกชนิด ยกเว ้น เนือ ้ วัว หมู ไก่ และไข่ทม ี่ ก ี ระทรวงเกษตรสหรัฐฯเป็ นผู ้ กํากับดูแล ซงึ่ กฎหมายดังกล่าวจะเพิม ่ ความเข ้มงวดในการ ิ ค ้ามากขึน นํ าเข ้าสน ้ …อ่านต่อคลิก http://www.thanonline.com/index.php?option=com_content &view=article&id=53871:2011-01-21-10-2328&catid=87:2009-02-08-11-23-26&Itemid=423

“ขาดแคลนแรงงาน” ทะล ักถึง 5 แสน 7 อุตสาหกรรมหล ักวิกฤติหน ัก ทีม ่ า: ไทยรัฐ วันที่ 25 มกราคม 2554

นายณั ฐ อ่อนศรี นายกสมาคมผู ้ผลิตอาหารสาํ เร็จรูป ้ งต้นทางสมาคมได้ เปิ ดเผยกับ ว่า ในปี 2554 นีเ้ บือ ่ ออกสน ิ ค้าอาหารสําเร็จรูป ตงเป ั้ ้ าหมายมูลค่าการสง ้ จากปี ทีผ จะขยายต ัวเพิม ่ ขึน ่ า่ นมาอ ัตรา 7-8% คิด เป็นมูลค่าประมาณ 155,150-156,600 ล้านบาท ่ ออกได้ประมาณ 145,000 จากปี 2553 คาดจะสง ล้านบาท ซงึ่ ไม่เป็นไปตามเป้าหมายทีค ่ าดการณ์ไว้ท ี่ 150,000 ล้านบาท ทัง้ นีม ้ ป ี ั จจัยสําคัญจากเงินบาททีแ ่ ข็งค่ามากในชว่ งปลายปี ้ ิ ค ้าสง่ ออกชว่ งปลายปี ทีผ ่ า่ นมา วัตถุดบ ิ ทีใ่ ชในการผลิ ตสน ั ปะรด ข ้าวโพดหวานได ้รับผลกระทบจาก ทัง้ ผัก ผลไม ้ สบ สภาพอากาศทีแ ่ ปรปรวน และจากนํ้ าท่วม รวมถึงอาหาร ทะเลทีส ่ ําคัญคือปลาทูน่าจากทีท ่ ั่วโลกจับปลาได ้น ้อย ่ สงผลให ้วัตถุดบ ิ มีน ้อยและมีราคาสูงกระทบต่อต ้นทุนการ ผลิต ่ ออกอาหารสําเร็จรูปที่ สําหร ับเป้าหมายมูลค่าการสง จะขยายต ัว 7-8% ในปี นี้ ปัจจ ัยบวกสําหร ับการ ่ ออกสน ิ ค้าอาหารสําเร็ จรูปในปี นีม ้ ค สง ี อ ่ นข้างน้อย ี่ งย ังมีมาก ทีส หรือแทบไม่มเี ลย ขณะทีป ่ จ ั จ ัยเสย ่ ําค ัญ ้ การขาดแคลน คือค่าเงินบาททีม ่ แ ี นวโน้มแข็งค่าขึน ว ัตถุดบ ิ และมีราคาสูงย ังเป็นปัญหาของทุกกลุม ่ การ ขาดแคลนแรงงานในการผลิต ราคานํา้ ม ันปาล์มที่ ้ สง่ ผลให ้ประชาชนได ้หันไปบริโภคนํ้ ามัน ปร ับต ัวสูงขึน ่ นํ้ ามันถั่วเหลือง นํ้ ามันทานตะวัน พืชชนิดอืน ่ มากขึน ้ เชน ่ ึ ่ ํ ซงเป็ นสวนประกอบสาคัญของทูน่ากระป๋ อง จะปรับตัว สูงขึน ้ ตามทําให ้ผู ้ผลิตทูน่ากระป๋ องมีต ้นทุนทีส ่ งู ขึน ้ ราคา ั ิ ค้าสบปะรดและ ้ จะทําให้ตน อ้อยทีป ่ ร ับต ัวสูงขึน ้ ทุนสน ้ ํา้ ตาล ผลไม้ชนิดอืน ่ ๆ ทีบ ่ รรจุกระป๋องและต้องใชน ื่ มเป็นสว่ นประกอบมีตน ้ ด้วย หรือนํา้ เชอ ้ ทุนทีส ่ ง ู ขึน

ั ดิ์ ชาติสท นายพยุงศก ุ ธิผล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่ง ประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิ ดเผยภายหลังลงนามร่วมกับ พันธมิตร 5 แห่ง ในการพัฒนาทักษะฝี มือแรงงานนํ าร่องใน 6 จังหวัด ประกอบด ้วย ราชบุรี กาญจนบุรี นครปฐม สมุทรสงคราม สมุทรสาคร และประจวบคีรข ี น ั ธ์ ว่า ขณะนี้

ปัญหาขาดแคลนแรงงานของประเทศไทยย ังอยูใ่ นภาวะ ้ ตาม วิกฤติ และมีแนวโน้มทีจ ่ ะทวีความรุนแรงมากขึน ภาวะเศรษฐกิจทีฟ ่ ื้ นต ัวอย่างรวดเร็ว ประกอบก ับมีการ ย้ายฐานของอุตสาหกรรมเอสเอ็มอีจากญีป ่ ่ นเข้ ุ ามาเปิ ด กิจการในประเทศไทย ทําให้คาดว่าภาคอุตสาหกรรมทงั้ ระบบขาดแคลนแรงงานไม่นอ ้ ยกว่า 500,000 คน "ส.อ.ท.เตรียมทีจ ่ ะสํารวจตัวเลขความต ้องการแรงงานใหม่อก ี ครัง้ เพือ ่ ให ้ทันกับสถานการณ์ทางด ้านเศรษฐกิจที่ เปลีย ่ นแปลงคาดว่าน่าจะปรับเพิม ่ ขึน ้ จากทีส ่ ํารวจไว ้เมือ ่ เดือน ํ ต.ค. พร ้อมกันนีก ้ ารสารวจความต ้องการแรงงานจะเพิม ่ กลุม ่ ้ อุตสาหกรรมทีใ่ ชแรงงานมากๆ อาทิ สงิ่ ทอ รองเท ้า เซรามิก อาหาร ก่อสร ้าง เข ้าไปด ้วย คาดว่าการสํารวจครัง้ ใหม่นจ ี้ ะมี กลุม ่ อุตสาหกรรมเป้ าหมายประมาณ 20 กลุม ่ คาดว่าน่าจะได ้ ข ้อสรุปในเรือ ่ งของความต ้องการแรงงานของ ภาคอุตสาหกรรมภายในปี น"ี้ … อ่านต่อคลิก http://www.logisticsdigest.com/news/economy/item/5 856-

TFPA TRADE & TECHNICAL WEEKLY BRIEF 24-28 JAN 2011 VOL. 2 ISSUE. 4

Page 10

คาดการเศรษฐกิจไทย ปี 2554!!!

้ ดอก หอการค้าฝันศก.โต8%-ธปท.ลุยขึน ทีม ่ า: ข่าวสด วันที่ 27 มกราคม 2554

ธปท.ชเี้ ศรษฐกิจปี 54 โตสุด5% ทีม ่ า: ฐานศรษฐกิจ วันที่ 24 มกราคม 2554

ิ ปั ้นเปี่ ยมรัษฎ์ ประธานกรรมการบริหาร ธนาคาร นายโฆสต กรุงเทพ คาดว่าไทยจะขยายต ัวประมาณ 4-5% สว่ น

นายไพบูลย์ กิตติศรีกงั วาน ผู ้ชว่ ยผู ้ว่าการสายนโยบาย การเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิ ดเผยว่า ธปท. ประเมินอัตราขยายตัวทางเศรษฐกิจหรือจีดพ ี ี ปี 2553 จะ ขยายตัวตามทีธ ่ ปท.คาดการณ์ไว ้ทีร่ ะดับ 7- 8% สว่ นในปี 2554 คาดว่าเศรษฐกิจไทยจะเติบโตทีร่ ะด ับ 3-5% ้ ฐานทีเ่ ร่งต ัวขึน ้ มาในระด ับ 2.-3% ภายใต้เงินเฟ้อพืน เงินเฟ้อทว่ ั ไป 2.5-4.5% ซงึ่ ลดลงจากการประเมินครัง้ ก่อนอยูท ่ ี่ 2-4 % สว่ นปี 2555 ธปท.คาดว่าจีดพ ี จ ี ะเติบโต 3-5% เงินเฟ้ อพืน ้ ฐาน1.5-2.5 % และเงินเฟ้ อทั่วไปเพิม ่ ขึน ้ 2-4% โดยธปท.มองปั จจัยทีม ่ ผ ี ลกระทบต่อการเติบโตคือ ภาวะการเมืองไทยไม่แน่นอน เพราะจะมีการเลือกตัง้ ซงึ่ ไม่ สามารถคาดการณ์ได ้ว่าจะเป็ นบวกหรือลบต่อเศรษฐกิจ และเศรษฐกิจโลกยังผันผวนอยู่ ขณะทีเ่ งินเฟ้ อพุง่ สูงขึน ้ ่ ิ สวนหนึง่ มาจากค่าแรงและราคาสนค ้าทีเ่ พิม ่ ขึน ้

ี่ งทีต ปั จจัยเสย ่ ้องระวัง ได ้แก่ ราคานํ้ ามันดิบทีค ่ าดว่าน่าจะ ใกล ้เคียงกับ 100 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ซงึ่ เป็ นตัวสําคัญ ทีส ่ ด ุ ทีจ ่ ะทําให ้อัตราเงินเฟ้ อพุง่ ขึน ้ สูง นอกจากนี้ ยังมีเรือ ่ ง อัตราดอกเบีย ้ ทีค ่ าดว่าจะมีการปรับขึน ้ ให ้เข ้าสูร่ ะดับปกติท ี่ 2.5-3% และอัตราแลกเปลีย ่ นทีย ่ ังคงผันผวนจากเงินทุน เคลือ ่ นย ้าย

ิ นนทะนาคร ประธานสภาหอการค ้าแห่งประเทศ นายดุสต ไทย ภาคเอกชนคาดว่าเศรษฐกิจไทยในปี "54 จะ ขยายต ัวได้ 4-5% แต่หากการสง่ ออก การบริโภค ภาคเอกชน และการลงทุนทีป ่ รับตัวเกินคาด อาจสง่ ผลให ้ เศรษฐกิจขยายตัวเพิม ่ อีก 2% และหากควบคุมไม่ให ้มีการ ั่ เกิดขึน คอร์รัปชน ้ เศรษฐกิจอาจขยายตัวเพิม ่ อีก 1% สว่ น ี่ งทีม ปั ญหาการเมืองยอม รับว่าเป็ นปั จจัยเสย ่ ผ ี ลกระทบ เศรษฐกิจ…อ่านต่อคลิก http://www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TUR ObFkyOHdOVEkzTURFMU5BPT0=&sectionid=TURNd05RP T0=&day=TWpBeE1TMHdNUzB5Tnc9PQ==

่ ออกสน ิ ค้าทางเรือฯคาดสง ่ ออกโต17% สภาผูส ้ ง ทีม ่ า: กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ วันที่ 27 มกราคม 2554

ม.ร.ว.ปรีดย ิ าธร เทวกุล อดีตผู ้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศ ้ ด ไทย อดีตรองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง มองว่าปี นีจ ี พ ี ี ไทยน่าจะขยายต ัวไม่ตา ํ่ กว่า 4% จากแรงข ับเคลือ ่ น ภายในประเทศ โดยเฉพาะเกษตรกรมีรายได ้เพิม ่ ขึน ้ จาก ราคาพืชผลทางการเกษตรทีป ่ รับสูงขึน ้ ซงึ่ เป็ นปั จจัยกระตุ ้น ให ้เกิดการบริโภคมากขึน ้ แต่หว่ งเสถียรภาพเศรษฐกิจ กรณี ้ ทีค ่ ณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.)ใชทฤษฎี ดอกเบีย ้ ดูแลเงินเฟ้ อทีป ่ ั จจุบน ั กําหนดเป้ าหมายไว ้ที่ 0.5-3%...อ่าน ต่อคลิก http://www.thanonline.com/index.php?option=com_conte nt&view=article&id=54011:545-&catid=104:-financial&Itemid=443

ิ ค ้าทาง นายไพบูลย์ พลสุวรรณา ประธานสภาผู ้สง่ ออกสน ่ ิ เรือแห่งประเทศไทย คาดว่าการสงออกในเชงปริมาณ

่ ออก จะมีการขยายต ัวไม่ตา ํ่ กว่า 10% แต่มล ู ค่าการสง จะเติบโตไม่นอ ้ ยกว่า 17% เนือ ่ งจากความต ้องการ ิ ค ้าในตลาดต่างประเทศทั่วโลกยังมีสงู และราคาสน ิ ค ้า สน ปรับได ้สูงขึน ้ สว่ นปั ญหาค่าระวางเรือนัน ้ จะไม่ผันผวน เหมือนปี 2553…อานต่อคลิก http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/business/b usiness

TFPA TRADE & TECHNICAL WEEKLY BRIEF 24-28 JAN 2011 VOL. 2 ISSUE. 4

Page 11

“สหร ัฐฯ” ประกาศบุกเปิ ดตลาดใหม่ ทีม ่ า: ฐานศรษฐกิจ วันที่ 26 มกราคม 2554

ี่ งวิกฤตอาหาร เปิ ดโผ 25 ประเทศ เสย ทีม ่ า: ประชาชาติธรุ กิจ วันที่ 27 มกราคม 2554

่ ออกเป็นสองเท่า ผูน ้ ําสหร ัฐฯ ย ังตงเป ั้ ้ าเพิม ่ การสง ี โี อจีอ ี ดํารง ภายในระยะ 5 ปี ข้างหน้า พร้อมแต่งตงซ ั้ อ ตําแหน่งห ัวหน้าคณะทีป ่ รึกษาพิเศษทางเศรษฐกิจ หนุน ิ ค้าบุกเจาะตลาดต่างประเทศ นโยบายนําท ัพสน ิ ค ้าอเมริกน "การเปิ ดตลาดใหม่ให ้กับสน ั นั่นคือหนทางทีเ่ รา จะสร ้างงานในวันนี"้ นายบารัก โอบามา ประธานาธิบดี ื่ วิทยุและอินเตอร์เน็ ตก่อนจะมีการ สหรัฐอเมริกา กล่าวผ่านสอ กล่าวสุนทรพจน์แถลงนโยบายประจําปี (State of the Union) ต่อรัฐสภาอเมริกน ั ในวันที่ 25 มกราคม 2554 ระบุวา่ ั ญาขายสน ิ ค ้าให ้กับจีนมูลค่า 45,000 ล ้าน การทําสญ ั ญาขายสน ิ ค ้าให ้กับอินเดีย ดอลลาร์เมือ ่ เร็วๆนี้ รวมทัง้ สญ 10,000 ล ้านดอลลาร์ในปี ทผ ี่ า่ นมา ตลอดจนการเจรจาทํา ข ้อตกลงการค ้าเสรีกบ ั เกาหลีใต ้ทีย ่ ังดําเนินการอยู่ ทัง้ หมดนี้ สามารถสร ้างงานให ้กับชาวอเมริกน ั ได ้ถึง 355,000 คน ้ อ "ถ ้าหากเราเอาจริงเอาจังกับการต่อสูเพื ่ ธุรกิจของคน ่ ิ ํ อเมริกน ั และเพือ ่ การสร ้างงาน สงสาคัญทีส ่ ด ุ อย่างหนึง่ ทีเ่ รา สามารถทําได ้ก็คอ ื การเปิ ดตลาดต่างประเทศให ้ทั่วโลก ิ ค ้าอเมริกน สําหรับสน ั " ผู ้นํ าสหรัฐฯกล่าวยํ้า

ิ ค ้าคอม วอลล์สตรีต เจอร์นัล ระบุวา่ เมือ ่ ปี กลาย ราคาสน ่ ข ้าวโพด ฝ้ าย ข ้าวสาลี กาแฟ โมดิตห ี้ ลายชนิด เชน นํ้ าตาล โกโก ้ และถั่วเหลือง พุง่ ขึน ้ ถ ้วนหน ้า เนือ ่ งจาก ปั ญหาภัยธรรมชาติ และความต ้องการบริโภคทีส ่ งู ขึน ้ ของ ประเทศอย่างจีนและอินเดีย และเทรนด์ดังกล่าวจะดําเนิน ต่อไปในปี นี้ ปั จจุบน ั ภาวะเงินเฟ้ อของราคาอาหารกลายเป็ นปั ญหา ิ อยู่ และโนมุระได้ หลักทีห ่ ลายประเทศกําลังเผชญ ื่ 25 ประเทศทีร่ ัฐบาลต้องร ับมือก ับวิกฤต เปิ ดเผยชอ ้ ในประเทศ โดยพิจารณาจากจีด ี อาหารทีอ ่ าจเกิดขึน ั ว่ นของอาหารต่อ พีตอ ่ ห ัว ในสกุลเงินดอลลาร์ สดส ั ว่ นยอด การบริโภครวมของภาคคร ัวเรือน และสดส ่ ออกอาหารสุทธิ เมือ การสง ่ เทียบก ับจีดพ ี ี ด ังนี้

http://www.thanonline.com/index.php?option=com_conten t&view=article&id=54264:2011-01-26-03-4646&catid=90:2009-02-08-11-24-34&Itemid=425

ว่างงานย ังวิกฤติ สูงเป็นประว ัติการณ์ทว่ ั โลก ทีม ่ า: แนวหน ้า วันที่ 26 มกราคม 2554

้ งขึน ้ ไอแอลโอชวี้ า ่ แม้การเติบโตทางเศรษฐกิจกระเตือ อย่างมากในหลายประเทศ แต่อ ัตราการว่างงานในโลก ย ังคงไม่เปลีย ่ นแปลงไปจากปี 2552 มิหนําซํา้ ย ัง ่ งก่อนเกิดวิกฤติเศรษฐกิจโลกในปี 2550 ถึง มากกว่าชว 27.6 ล้านคน ไอแอลโอคาดการณ์วา่ อัตราการว่างงานของประชากรโลก ในปี นจ ี้ ะอยูท ่ รี่ ้อยละ 6.1 หรือมีจํานวน 203.3 ล ้านคน โดย กว่าครึง่ หนึง่ ตัง้ แต่ปี 2550 เป็ นต ้นมาเกิดขึน ้ ในประเทศ อุตสาหกรรมและสหภาพยุโรปซงึ่ คนหนุ่มสาวจํานวนมากที่ เข ้าสูว่ ัยทํางานไม่สามารถหางานทําได ้ สว่ นในประเทศกําลัง ่ บราซล ิ คาซค ั สถาน และไทย พบว่าการว่างงาน พัฒนา เชน อยูใ่ นระดับทีต ่ ํา่ กว่าก่อนเกิดวิกฤติเศรษฐกิจ … อ่านต่อคลิก http://www.naewna.com/news.asp?ID=246326

สว่ นประเทศอืน ่ ๆ ทีต ่ ด ิ อันดับครัง้ นี้ คืออันดับ 10 อาเซอร์ไบจาน 11.แองโกลา 12.โรมาเนีย 14.เคนยา 15. ี ปากีสถาน 16.ลิเบีย 17.สาธารณรัฐโดมินก ิ น ั 18.ตูนเิ ซย 19.บัลแกเรีย 20.ยูเครน 23.ลัตเวีย และ 25.เวเนซุเอลา… อ่านต่อคลิก http://www.prachachat.net/view_news.php?newsid=02f or03270154&sectionid=0205&day=2011-01-27

TFPA TRADE & TECHNICAL WEEKLY BRIEF 24-28 JAN 2011 VOL. 2 ISSUE. 4

Page 12

อินโดฯระง ับเก็บภาษีอาหาร หวน ่ ั กระตุน ้ เงินเฟ้อ

สภาธุรกิจหนุน FTAไทย-อียเู ต็มสูบ

ทีม ่ า: ประชาชาติธรุ กิจ วันที่ 28 มกราคม 2554

ทีม ่ า: ฐานเศรษฐกิจ วันที่ 19 มกราคม 2554

ี ระง ับการเก็บภาษีนําเข้าข้าวสาลี ถว่ ั เหลือง ปุ๋ย อินโดนีเซย ิ้ ปี ิ ค้าอืน และสน ่ ๆ ทีเ่ กีย ่ วเนือ ่ งก ับอาหารออกไปจนถึงสน เพือ ่ ควบคุมภาวะเงินเฟ้อ เอเอฟพีรายงานว่า รัฐบาลแดนอิเหนางัดมาตรการทีเ่ ข ้มข ้นมาก ขึน ้ มาจัดการกับปั ญหาราคาอาหารแพงซงึ่ สร ้างแรงกดดันให ้ ธนาคารกลางขึน ้ อัตราดอกเบีย ้ ิ ใจระงับการจัดเก็บภาษี นําเข ้าออกไปจนถึง รัฐมนตรีคลังตัดสน ั พลายอาหารอาจขาดแคลน 31 ธันวาคมนี้ เนือ ่ งจากคาดว่าซพ ่ ารถีบตัวสูงขึน ซงึ่ จะนํ าไปสูก ้ ของราคา ก่อนหน ้านีท ้ างการได ้ ยกเลิกการเก็บภาษี ข ้าวมาแล ้วเมือ ่ ปี กลายโดยจะมีผลไปจนถึง มีนาคมปี นี้

ั หาญเจนล ักษณ์ ประธานร่วม สภาธุรกิจ ดร.ชงิ ชย ิ ของสภา ไทย-สหภาพยุโรป (อีย)ู เปิ ดเผยว่า สมาชก ่ ออก-นําเข้า ในภาพรวมอยากให้ ฯและน ักธุรกิจผูส ้ ง ร ัฐบาลเร่งขบวนการในการเปิ ดเจรจาเขตการค้าเสรี ไทย-สหภาพยุโรป (อีย)ู

TPP มิตใิ หม่การค้าโลก ทีม ่ า: ฐานเศรษฐกิจ วันที่ 26 มกราคม 2554

ความตกลง Trans-Pacific Strategic Economic ั้ ว่า TPP ที่ Partnership Agreement หรือทีเ่ รียกสนๆ หลายฝ่ ายเกรงจะสง่ ผลกระทบต่อภาคการการค ้า การลงทุน ของไทยในวงกว ้าง อธิบดีกรมเจรจาการค ้าระหว่างประเทศ (นางศรีรัตน์ รัษฐปานะ) กล่าวถึง ความตกลง TPP ว่า เดิม ิ ของ เป็นความตกลงการค้าเสรีระหว่างประเทศสมาชก ี -แปซฟ ิ ิ ก(เอเปก) จาก 4 ประเทศ กลุม ่ ความร่วมมือเอเชย ิ ี ประกอบด้วย ชล ี นิวซแลนด์ สงิ คโปร์ และบรูไน ซงึ่ ความ ิ ค้าของสมาชก ิ ได้ ตกลงในสว่ นของการเปิ ดเสรีการค้าสน ้ ล้วเมือ มีผลบ ังค ับใชแ ่ ปี 2549 แต่ลา่ สุดมีอก ี 5 ประเทศ ิ ของเอเปกประกอบด้วย สหร ัฐอเมริกา สมาชก ี ได้ประกาศเข้า ออสเตรเลีย เปรู เวียดนาม และมาเลเซย ร่วมเจรจา TPP ครอบคลุมในทุกประเด็นความตกลงทงั้ ิ ค้า การค้าบริการ ตลอดจนความ การเปิ ดเสรีการค้าสน ร่วมมือทางเศรษฐกิจในทุกสาขาในระด ับการเปิ ดเสรีท ี่ กว้างขวาง และลึกกว่าหลายๆ เอฟทีเอในโลก โดย TPP ตัง้ เป้ าหมายจะเจรจาให ้แล ้วเสร็จภายในปลายปี นี้ ซงึ่ หากทัง้ 9 ประเทศสามารถบรรลุข ้อตกลงคาดจะสง่ ผลกระทบต่อการ ิ ธิประโยชน์ สง่ ออก-นํ าเข ้าของไทยพอสมควร เพราะการให ้สท ิ ในระดับทีม ด ้านต่างๆ ระหว่างกันของประเทศสมาชก ่ ากกว่า ิ ค ้าไทยทีเ่ ข ้าไปแข่งขันในตลาดเหล่านี้ นอกกลุม ่ ย่อมทําให ้สน ี เปรียบ โดยเฉพาะอย่างยิง่ ในตลาดสหรัฐฯ ซงึ่ เป็ นหนึง่ ใน เสย ตลาดหลักของไทย และเป็ นตลาดสําคัญของโลก จาก ิ อาเซย ี นด ้วยกันเองทีเ่ ป็ นสมาชก ิ ของ TPP คือ ประเทศสมาชก ี และเวียดนาม ซงึ่ จะทําให ้ไทยเสย ี สว่ นแบ่ง สงิ คโปร์ มาเลเซย ตลาดลงเรือ ่ ยๆ…อ่านต่อคลิก http://www.thanonline.com/index.php?option=com_content& view=article&id=54267:tpp--&catid=87:2009-02-08-11-23-

เนือ ่ งจากมองว่าการเจรจาและการจัดทําความตกลงทัง้ การ ิ ค ้า การค ้าบริการ การลงทุน รวมถึงความ เปิ ดเสรีการค ้าสน ร่วมมือด ้านเศรษฐกิจระหว่างกันทีจ ่ ะเกิดขึน ้ จากความตกลง จะสามารถชว่ ยแก ้ไขปั ญหาต่างๆได ้ ทีส ่ ําคัญคือ การแก ้ปั ญหาการถูกกีดกันทางการค ้า การได ้ ิ ค ้าในอัตราทีต ิ ค ้า ลดภาษี นําเข ้าสน ่ ํา่ ลง ซงึ่ ขณะนีใ้ นสน เกษตรและอุตสาหกรรมเกษตรแปรรูปหลายรายการของ ี ภาษี นําเข ้าในอัตราสูงทําให ้เสย ี เปรียบ ไทยยังต ้องเสย ่ ี คูแ ่ ข่งขัน เชน ทูน่ากระป๋ องทีต ่ ้องเสยภาษี นําเข ้าสูงถึง 24% ไก่แปรรูปทีไ่ ด ้รับโควตานํ าเข ้าปี ละ 160,033 ตัน/ปี ี 8% นอกโควตาเสย ี สูงถึง โดยภาษี นําเข ้าในโควตาเสย ิ ค ้าข ้าวโพดหวานถูกใช ้ 1,024 ยูโร/ตัน(ประมาณ 53%) สน ิ ค ้าไทยต ้อง มาตรการตอบโต ้การทุม ่ ตลาด(เอดี)ทําให ้สน ี ภาษี เอดีเฉลีย เสย ่ ในอัตรา 3.1-12.9% บวกกับภาษี นําเข ้า ปกติอก ี 15% เป็ นต ้น ขณะทีช ่ ว่ งทีผ ่ า่ นมาอียไู ด ้ตรวจพบ สารตกค ้างในพืชผักของไทยมาเป็ นระยะ จนล่าสุดทางกรม วิชาการเกษตรได ้ประกาศระงับการออกใบรับรอง สุขอนามัยพืชผัก 5 กลุม ่ รวม 16 รายการไปยังตลาดอียเู ป็ น การชวั่ คราวตัง้ แต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์นี้ เป็ นต ้น รวมถึงเราไม่ ิ ธิพเิ ศษทางภาษี ศล จําเป็ นต ้องพึง่ ระบบจีเอสพี (สท ุ กากร) ของอียู เพราะภาษี ในเอฟทีเอจะตํา่ ลง" และขณะนีอ ้ ย ี อ ู ยูร่ ะหว่างเจรจาทําเอฟทีเอกับหลายประเทศ ี น ได ้แก่ สงิ คโปร์ มาเลเซย ี และเวียดนาม… ในกลุม ่ อาเซย อ่านต่อคลิก http://www.thanonline.com/index.php?option=com_cont ent&view=article&id=53578:fta-&catid=87:2009-02-0811-23-26&Itemid=423

TFPA TRADE & TECHNICAL WEEKLY BRIEF 24-28 JAN 2011 VOL. 2 ISSUE. 4

Page 13

ทีม ่ า: ธนาคารแห่งประเทศไทย ข ้อมูลวันที่ 1,2,3,4,8,9,15,16,22,23,29,30 ธันวาคม 2554 ไม่มต ี วั เลขอัตราแลกเปลีย ่ น จากธนาคารแห่งประเทศไทย

TFPA TRADE & TECHNICAL WEEKLY BRIEF 24-28 JAN 2011 VOL. 2 ISSUE. 4

Page 14

ี้ า ี่ ง อดีต รมช.คล ังชค ่ บาทย ังเป็นปัจจ ัยเสย เศรษฐกิจไทยปี นี้

้ ระด ับตํา่ สุดขีด เฟดคงดอกเบีย

ทีม ่ า: mcot.net วันที่ 26 มกราคม 2554

ทีม ่ า: ข่าวสด วันที่ 27 มกราคม 2554

0

้ ย ังตํา เฟด คงมาตรการกระตุน ้ ต่อ ตรึงดอกเบีย ่ สุดขีดที่ 0.25 เพือ ่ ประคองการฟื้ นต ัวของเศรษฐกิจมะก ัน

นายพิสฐิ ลีอ ้ าธรรม อดีตรัฐมนตรีชว่ ยว่าการคลัง กล่าว ปาฐกถาพิเศษเรือ ่ ง”ภาวะเงินบาทกับเศรษฐกิจไทย เนื่องใน โอกาสครบรอบ 100 ปี ตก ึ ยาว โรงเรียนสวนกุหลาบ วิทยาลัย โดยระบุวา่ ปัจจ ัยค่าเงินบาท ถือเป็นปัจจ ัยที่

สําค ัญของเศรษฐกิจไทยมาตลอด แต่ได้เปลีย ่ น ่ งวิกฤตเศรษฐกิจ ได้ แนวโน้มจากการอ่อนค่าในชว กล ับมาแข็งค่าอย่างต่อเนือ ่ ง โดยปี 2553 ค่าเงินบาท แข็งค่าถึงร้อยละ 10 ตามภาวะเศรษฐกิจของไทย และ ี หลายประเทศได้ขยายต ัวรวดเร็ว ภูมภ ิ าคเอเชย โดยเฉพาะเศรษฐกิจของจีน สว่ นสหรัฐ ยุโรปและญีป ่ นได ุ่ ้ อ่อนแอลง จึงทําให ้เกิดภาวะเงินทุนไหลเข ้ามาลงทุนใน ภูมภ ิ าคนีอ ้ ย่างต่อเนือ ่ ง และยอมรับว่า ปั จจัย

การแข็งค่าของเงินบาทจะยังดําเนินต่อไปในปี 2554 และถือ ี่ งสําคัญต่อภาคการสง่ ออกของไทย ซงึ่ อาจ เป็ นปั จจัยเสย ี ความสามารถในการแข่งขันได ้ โดยคูแ สูญเสย ่ ข่งสําคัญของ ่ ี ไทยหลายประเทศ เชน เวียดนาม อินโดนีเซย และอินเดีย ้ ต่างใชนโยบายการอ่ อนตัวของค่าเงิน เพือ ่ สนับสนุนการ สง่ ออกของตนเอง ซงึ่ ผู ้ประกอบการสง่ ออกต ้องปรับตัว ่ การซอ ื้ ขายอัตราแลกเปลีย หลายด ้าน เชน ่ นไว ้ล่วงหน ้าเพือ ่ ี่ งและความผันผวนของค่าเงินบาท การลด รองรับความเสย ต ้นทุนต่าง ๆ ทีไ่ ม่จําเป็ น เพือ ่ ให ้ธุรกิจสามารถมีรายได ้ ี่ งทีจ รองรับความเสย ่ ะเกิดขึน ้ …อ่านต่อคลิก http://www.logisticsdigest.com/news/economy/item/5862-

คณะกรรมการกําหนดนโบายของธนาคารกลางสหร ัฐ (เฟด) ซงึ่ ร่วมประชุมเพือ ่ กําหนดทิศทางการเงินของ สหร ัฐ ได้มม ี ติ คงมาตรการกระตุน ้ เศรษฐกิจมูลค่า 6 ้ ังจะคงอ ัตรา แสนล้านเหรียญสหร ัฐต่อไป นอกจากนีย ้ ในระด ับตํา ดอกเบีย ่ สุดขีดที่ 0.25 ไว้ในระด ับเดิม เพือ ่ ประค ับประคองการฟื้ นต ัวของเศรษฐกิจสหร ัฐ แม้วา่ ั ้ นต ัวบ้างแล้วก็ตาม ้ ะเริม ขณะนีจ ่ มีสญญาณของการฟื

"การฟื้ นตัวของเศรษฐกิจยังคงเป็ นไปอย่างต่อเนือ ่ ง อย่างไร ก็ตาม เป็ นการฟื้ นตัวในอัตราทีย ่ ังไม่เพียงพอทีจ ่ ะสรางความ เปลีย ่ นแปลงขึน ้ ในตลาดแรงงาน" ทัง้ นี้ เฟด ยังปั ดกระแส ้ ความกังวลเกีย ่ วกับการใชมาตรการกระตุ ้นเศรษฐกิจ ซงึ่ อาจ ยังผลให ้ภาวะเงินเฟ้ อทวีความรุนแรงขึน ้ โดยกล่าวว่า แม ้ ั เจนขึน ระดับเงินเฟ้ อจะเริม ่ ชด ้ แต่แนวโน ้มระยะยาวของ ้ ปั ญหานี้ ยังคงอยูใ่ นระดับคงที่ และการใชมาตการจั ดการกับ ปั ญหาเงินเฟ้ อยังไม่มค ี วามจําเป็ น

้ ทัง้ นี้ เฟด ยังปั ดกระแสความกังวลเกีย ่ วกับการใชมาตรการ กระตุ ้นเศรษฐกิจ ซง่ อาจยังผลให ้ภาวะเงินเฟ้ อทวีความ ั เจนขึน รุนแรงขึน ้ โดยกล่าวว่า แม ้ระดับเงินเฟ้ อจะเริม ่ ชด ้ แต่ แนวโน ้มระยะยาวของปั ญหานี้ ยังคงอยูใ่ นระดับคงที่ และ ้ การใชมาตการจั ดการกับปั ญหาเงินเฟ้ อยังไม่มค ี วามจําเป็ น

TFPA TRADE & TECHNICAL WEEKLY BRIEF 24-28 JAN 2011 VOL. 2 ISSUE. 4

Page 15

โฉมหน้าใหม่ของเว็ ปไซด์ US FDA สําน ักงานอาหารและยาสหร ัฐฯ หรือ อ.ย. สหร ัฐฯ (U.S. Food and Drug ั้ ว่า FDA Administration) หรือเรียกสนๆ ั ัดกระทรวงสาธารณสุขและบริการ สงก ประชาชนสหร ัฐฯ (Department of Health & Human Services) ได้แนะนําหน้าเวปไซด์ใหม่ www.fda.gov/FDABasicsforIndustry ซงึ่ แทรก เข ้าไปในหน ้าเวปไซด์ปัจจุบน ั และ ้ อ เปิ ดใชเมื ่ วันที่ 5 มกราคม 2554 ทีผ ่ า่ นมา

ี้ จง ในหน ้าเวปไซด์ใหม่ มีข ้อมูลด ้านระเบียบ การชแ ั เจน กฏระเบียบที่ FDA กําหนด ทีม ่ ค ี วามชด สอดคล ้อง และมีคําถาม-คําตอบ ฯลฯ พืน ้ ฐาน เกีย ่ วกับ ขัน ้ ตอน กฏระเบียบ ที่ FDA ั เจน เกีย กําหนด เน ้นความชด ่ วกับกฏระเบียบที่ บริษัท/อุตสาหกรรม ต ้องปฏิบต ั ต ิ ามอย่างเคร่งครัด อีก ทัง้ FDA จัดบุคลากร/เจ ้าหน ้าทีข ่ อง FDA ั ถามทางอีเมล์ ซงึ่ ผู ้ใชบริ ้ การจะ ให ้บริการตอบข ้อซก ได ้รับ คําตอบภายใน 5 วันทําการ หรือได ้รับแจ ้ง ระยะเวลาทีจ ่ ะได ้รับคําตอบภายในกีว่ ัน เป็ นต ้น

เว็ปไซด์ด ังกล่าว มีขอ ้ มูล แยกเป็นห ัวข้อ ด ังนี้ • แนะนํ าหน่วยงาน (About FDA) • คําแนะนํ า (Guidance) • การลงทะเบียนและรายการ (Registration and Listings) ซงึ่ เป็ นขัน ้ ตอนสําคัญทีผ ่ ู ้ผลิต/สง่ ออกรายใหม่ทต ี่ ้องการสง่ ผลิตภัณฑ์อาหาร ยา ิ ค ้า เครือ ่ งสําอาง เข ้าไปจําหน่ายในตลาดสหรัฐฯ จะต ้องยืน ่ ขอจดทะเบียนบริษัท/สน • ขัน ้ ตอน กฏระเบียบ (Regulatory Process) ิ ค ้าและตรวจสอบขัน • การยืน ่ ใบสมัครสน ้ ตอนคําร ้อง (Product Application and Petition Review Process) • การขอรับข่าวสาร (Stay Informed) FDA ให ้ยืน ่ ขอรับข่าวสารทันสมัยทางอีเมล์ • การค ้นหาข ้อมูล (Search Databases) ิ ค ้าที่ • เรือ ่ งทีไ่ ด ้รับความนิยม (Popular Content) อาทิ กฏระเบียบ ข ้อกฏหมาย สน ถูกเรียกเก็บคืน (Recall) ิ ค ้า • คําถาม-คําตอบ (Frequently Asked Questions) เลือกตามสน • แหล่งข ้อมูล (Educational Resources)

้ การไม่ประสงค์จะติดต่อ หากผู ้ใชบริ FDA ทางอีเมล์ ยังสามารถติดต่อ FDA ได ้โดยการสง่ จดหมายไปยังสํานักงานใหญ่ใน รัฐแมรีแ ่ ลนด์ FDA U.S.Food and Drug Administration 10903 New Hampshire Ave. Silver Spring, MD 20993-0002 ั หรือ โทรศพท์ 1-888-INFO-FDA (1-888-4636332) หรือหมายเลขฉุกเฉิน

การติดต่อ US FDA ้ การสามารถสง่ อีเมล์ไปถาม หากการค ้นหาข ้อมูล ไม่ได ้คําตอบตามทีต ่ ้องการ ผู ้ใชบริ ํ ิ เจ ้าหน ้าที่ US FDA สาหรับสนค ้าอาหารทั่วไป Industry.Foods@fda.gov

301-796-8240 และ 1-866-3004374

ทีม ่ า: สํานักส่งเสริมการค ้าระหว่างประเทศ ณ นครชิคาโก วันที่ 11 มกราคม 2554 รายละเอียดด ังเอกสารแนบ 3

TFPA TRADE & TECHNICAL WEEKLY BRIEF 24-28 JAN 2011 VOL. 2 ISSUE. 4

Page 16

THAI FOOD PROCESSORS’ ASSOCIATION Tel : (662) 261-2684-6 Fax : (662) 261-2996-7 www.thaifood.org E-mail: thaifood@thaifood.org

Executive Director วิกรานต์ โกมลบุตร E-mail: vikrant@thaifood.org Administrative Manager ลินดา เปลีย ่ นประเสริฐ E-mail: linda@thaifood.org Trade and Technical Manager สุพ ัตรา ริว้ ไพโรจน์ E-mail: supatra@thaifood.org Head of Trade & Technical Division -Fruit and Vegetable Products

วิภาพร สกุลครู E-mail: vipaporn@thaifood.org Trade and Technical Officer Division - Fruit and Vegetable Products อ ัญชลี พรมมา E-mail:anchalee@thaifood.org ธณัฐยา จ ันทรศรี E-mail: tanatya@thaifood.org

Head of Trade & Technical Division- Fisheries Products ชนิกานต์ ธนูพท ิ ักษ์ E-mail: chanikan@thaifood.org สมาคมผูผ ้ ลิตอาหารสําเร็จรูป ขอขอบคุณเว็ ปไซต์ ด ังต่อไปนี้ Trade and Technical OfficerDivision -Fisheries Product

1. http://www.thannews.th.com

6. http://www.dailynews.co.th

นลินพรรณ อิม ่ สาระพางค์ E-mail: nalinpan@thaifood.org

2. http://www.thairath.co.th

7. http://www.acfs.go.th

วรวรรณ เมธีธาดา E-mail: worawan@thaifood.org

3. http://www.bangkokbiznews.com

8. http://www.posttoday.com

4. http://www.tnsc.com

9.http://www.matichon.co.th

Data Management Office

5. http://www.prachachat.net

ธนพร จุด ้ ศรี E-mail: thanaporn@thaifood.org Commercial Relation Executive ก ัญญาภ ัค ชินขุนทด E-mail:kanyaphak@thaifood.org

เสนอข้อคิดเห็น/ ข้อเสนอแนะ

Administrator วสุ กริง่ รูธ ้ รรม E-mail:vasu@thaifood.org ศิรณ ิ ีย ์ ถิน ่ ประชา E-mail:sirinee@thaifood.org Accountant วิมล ดีแท้ E-mail: wimon@thaifood.org

………………………… ………………………… ………………………… …………………………

TFPA TRADE & TECHNICAL WEEKLY BRIEF 24-28 JAN 2011 VOL. 2 ISSUE. 4

Page 17

ระบบการตรวจสอบความปลอดภัยสินค้าอาหารของสหรัฐฯ หน่วยงานสหรัฐฯที่ทําหน้าที่ดูแลเรื่องความปลอดภัยของอาหาร สหรัฐฯมีหน่วยงานในระดับรัฐบาลกลางที่ทาํ หน้าที่ดูแลเรือ่ งความปอลดภัยของอาหารและส่วนผสม อาหารอยู่ 3 หน่วยงานหลักด้วยกันคือ 1. Food Safety and Inspection Service (FSIS) ขึ้นตรงกับกระทรวงเกษตรสหรัฐฯ (U.S. Department of Agricultural-USDA) ดูแลเรื่องความปลอดภัยของอาหารที่ทําจาก เนื้อสัตว์ เนื้อสัตว์ปีก และผลิตภัณฑ์อาหารที่ทําจากไข่ ทีผ่ ลิตในประเทศสหรัฐฯและทีน่ ําเข้า จากต่างประเทศ ทั้งนี้ยกเว้นเนื้อสัตว์ป่า (game) และเนื้อสัตว์หายาก (exotic meats – เช่น เนื้อจิงโจ้ เนื้อนกกระทา และเป็ด) 2. Food and Drug Administration (FDA) ขึ้นตรงกับหน่วยงาน Department of Health and Human Services (DHHS) ดูแลสินค้าอาหารที่ผลิตในประเทศและที่นําเข้า จากต่างประเทศที่วางจําหน่ายในตลาดสหรัฐฯรวมถึงสินค้าเนื้อสัตว์ป่าและเนื้อสัตว์หายาก ส่วนผสมอาหาร อาหารสัตว์ ยาสําหรับสัตว์ และผลิตภัณฑ์อาหารเนื้อสัตว์และเนื้อสัตว์ปีก เฉพาะที่มีส่วนผสมเนื้อสัตว์ดังกล่าวที่ทําให้สุกแล้วในปริมาตรไม่เกินร้อยละ 2 หรือที่เป็น เนื้อสัตว์ดิบในปริมาตรที่ไม่เกินร้อยละ 3 ของปริมาตรรวมทั้งสิ้นของสินค้า และเฉพาะที่มา จากแหล่งผลิตที่ USFDA ให้การรับรองแล้วเท่านั้น 3. Environmental Protection Agency (EPA) ออกใบอนุญาตให้แก่ผลิตภัณฑ์สินค้ายา ฆ่าแมลงและกําหนดปริมาณสูงสุดของยาฆ่าแมลงที่ยอมให้มีตกค้างในอาหารและอาหารสัตว์ (เป็นหน้าที่ของ FDA และ FSIS ที่จะบังคับควบคุมดูแลสินค้าที่ตนรับผิดชอบให้มีการปฏิบัติ ตามกฎระเบียบของ EPA ในเรื่องปริมาณสูงสุดของยาฆ่าแมลงที่ยอมให้ตกค้างในอาหารและ อาหารสัตว์ได้นี้) นอกจากนี้ EPA ยังทําหน้าที่บริหารโปรแกรมต่างๆที่เป็นเรื่องกฎระเบียบ และการวิจัยสารเคมีที่เป็นพิษที่เกิดขึ้นในน้าํ และอาหาร การดําเนินงานของทั้งสามหน่วยงานรัฐบาลกลางข้างต้นได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานและองค์กร ต่างๆในระดับมลรัฐและท้องถิ่น แม้ว่าจะมีการแบ่งแยกประเภทสินค้าภายใต้การดูแลของแต่ละหน่วยงาน แต่ในทางปฏิบัติแล้วหน่วยงาน ทั้งสามหน่วยงานจะรับผิดชอบร่วมกันในการควบคุมดูแลสินค้าอาหารบางกลุ่ม ยกตัวอย่างเช่น สินค้าผักและ ผลไม้ หน่วยงาน USDA และ EPA จะรับผิดชอบเรื่องกฎระเบียบข้อบังคับที่เกี่ยวกับยาฆ่าแมลงในขณะที่ USFDA จะรับผิดชอบในเรื่องการตรวจสอบการนําเข้า

สํานักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ นครลอสแอนเจลิส, มกราคม 2554 หน้า 1

วิธีพิจารณาออกคําสั่งการห้ามนําเข้า (import refusal) สินค้าอาหารของ USFDA ปัญหาสําคัญประการหนึ่งของการส่งสินค้าอาหารเข้าไปยังประเทศสหรัฐฯคือการตรวจสินค้าของ USFDA ที่ด่านนําเข้าและการถูก USFDA ออกคําสั่งห้ามนําเข้าสหรัฐฯ ในปี 2008 หน่วยงาน Economic Research Service (ERS) ของกระทรวงเกษตรสหรัฐฯได้ทําการศึกษาวิธีปฏิบัติของ USFDA ในเรือ่ งของการตรวจสินค้าและ การออกคําสั่งห้ามนําเข้า (import refusal) โดยใช้ข้อมูลการสั่งห้ามนําเข้าของ USFDA ในระหว่างปี 1998 – 2004 เป็นพื้นฐานในการศึกษาและได้จัดทํารายงานเรื่อง Food Safety and Imports – An Analysis of FDA Food-Related Import Refusal Reports ออกเผยแพร่ จากรายงานดังกล่าวทําให้สามารถมองเห็นภาพการ ทํางานของ USFDA ได้ชัดเจนยิ่งขึ้นดังนี้ 1. การตรวจสินค้านําเข้าของ USFDA ไม่ได้เป็นการ “สุ่มตรวจ-random”ตามที่คนส่วนใหญ่เข้าใจ แต่เป็นการเลือกตรวจโดยอยู่บนพื้นฐานของปัญหาความปลอดภัยของอาหารที่เกิดขึ้นเป็นประจํา ในระบบการค้าของสหรัฐฯและพิจารณาเงื่อนไขต่างๆที่เป็นความเสี่ยง การตัดสินว่าจะตรวจการ จัดส่งสินค้านําเข้ารายการใดกระทําจากศึกษาข้อมูลสินค้า ข้อมูลโรงงานผลิตที่มีประวัติว่าเคยฝ่า ฝืนกฎระเบียบการนําเข้าของสหรัฐฯ 2. สินค้าที่ถูกคําสัง่ ห้ามนําเข้าสหรัฐฯไม่ได้หมายความว่าเป็นสินค้าที่มีการกระทําที่เป็นการฝ่าฝืน เสมอไป กฎหมายสหรัฐฯระบุให้อํานาจ USFDA ที่จะสั่งห้ามการนําเข้าในกรณีที่ได้พิจารณาแล้ว เห็นว่าสินค้าดังกล่าว “ดูเหมือนว่า (“have an appearance”)” จะมีการกระทําที่เป็นการฝ่า ฝืนกฎระเบียบของ USFDA กฎหมายสหรัฐฯกําหนดไว้ชัดเจนว่า “รัฐบาลไม่จําเป็นต้องพิสูจน์ว่า ได้มีการฝ่าฝืนกฎระเบียบเกิดขึ้นจริง USFDA มีอํานาจสั่งห้ามนําเข้าได้ ถ้า USFDA สามารถ แสดงให้เห็นได้ว่ามีเหตุผลพอที่จะทําให้เชื่อได้ว่าสินค้านั้นๆ “ดูเหมือนว่า” จะมีการกระทําที่ฝ่า ฝืนกฎหมายสหรัฐฯ สิ่งที่จะพิสูจน์ว่า “ดูเหมือนว่า” จะมีการฝ่าฝืนกฎหมายสหรัฐฯอาจจะเป็น โดยการตรวจตัวอย่างสินค้า การตรวจที่เป็นภาคสนาม การทบทวนเอกสารนําเข้า หรือพิจารณา จากประวัติของการฝ่าฝืนที่เกิดขึ้นก่อนหน้านั้นจากผู้จัดส่งสินค้าคนเดียวกัน” 3. ส่วนใหญ่ของการปฏิเสธการนําเข้าโดย USFDA เป็นผลสืบเนื่องมาจากประกาศ USFDA Import Alert เจ้าหน้าที่ USFDA จะใช้ import alert เป็นแนวทางในการตรวจสอบสินค้าและออกคําสั่ง ห้ามการนําเข้า import alert อาจจะมาในลักษณะต่างๆดังนี้ (ก) อย่างไม่เป็นทางการ เช่น การระบุและการแจ้งข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับแนวโน้มและ ปัญหาต่างๆของการฝ่าฝืนที่เกิดขึ้นในขณะนั้นให้แก่เจ้าหน้าที่ USFDA ที่ปฏิบัติงาน ในพื้นที่ได้ทราบ (ข) การเฝ้าสอดส่องสังเกตการณ์เฉพาะตัวสินค้าจากเฉพาะประเทศ (ค) การออกประกาศ “Detention without physical examination” สํานักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ นครลอสแอนเจลิส, มกราคม 2554 หน้า 2

แม้ว่าจากการศึกษของกระทรวงเกษตรสหรัฐฯจะค้นพบว่ากลุ่มอุตสาหกรรมสินค้าที่ถูก import alert มากที่สดุ ในปี 2007 เป็นกลุ่มเดียวกับสินค้าที่ถูกสั่งห้ามนําเข้ามากที่สุดในระหว่างปี 1998 -2004 แต่ผทู้ ําการศึกษาก็ไม่สามารถยืนยันได้ว่าสินค้าค้าที่ถูก import alert เป็นผลสืบ เนื่องมาจากข้อมูลการปฏิเสธการนําเข้าในอดีตของ USFDA 4. ประเภทของสินค้านําเข้าที่มีการฝ่าฝืนกฎหมายของ USFDA มากที่สดุ และถูกปฎิเสธการนําเข้า มากที่สุดด้วย เรียงตามลําดับคือ (ก) ผักและผลิตภัณฑ์จากผัก เหตุผลทีถ่ ูกนํามาใช้อ้างในการห้ามนําเข้ามากที่สุดคือเรือ่ งสาร ตกค้างที่ไม่ปลอดภัยที่เป็นยาฆ่าแมลง เหตุผลอื่นๆทีถ่ ูกนํามาใช้เช่นการตกค้างของสารเคมีที่ เป็นสารเคมีที่ไม่ได้มีการจดทะเบียนในสหรัฐฯ หรือระดับสารเคมีตกค้างเกินกําหนดที่ EPA ระบุไว้ (ข) ผลิตภัณฑ์ปลาและอาหารทะเล เหตุผลที่ถูกนํามาใช้ในการห้ามนําเข้ามากที่สุดคือ “filthy” (ค) ผลไม้และผลิตภัณฑ์ผลไม้ เหตุผลที่ถูกนํามาใช้ในการห้ามนําเข้ามากที่สุดคือ “filthy” ช่นกัน (ง) เหตุผลที่ถูกนํามาใช้มากที่สุดสําหรับกลุ่มสินค้าอื่นๆ เช่น กลุ่มสินค้า เหตุผลที่ถูกนํามาใช้มากที่สดุ ในการปฏิเสธการนําเข้า ขนม (candy) Unsafe Color เครื่องเทศ รสอาหาร และ เกลือ Salmonella ของว่าง (snack) Unsafe Color เครื่องดื่ม Unsafe Color ธัญญพืช/แป้งจากธัญญพืช Filthy เครื่องปรุงรสอาหาร (condiments) Did not file scheduled process ชาและกาแฟ Label not in English น้ํามันพืช Inadequate nutrition label เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ Inadequate labeling อาหารสําเร็จรูปพร้อมรับประทาน Manufacturer not properly registered 5. เหตุผลสําคัญที่เกิดขึ้นซ้ําๆบ่อยครั้งมากที่สุดและที่นําไปสู่การถูกปฏิเสธการนําเข้าสหรัฐฯ คือ (ก) ผลิตภัณฑ์อาหารทะเลและผลิตภัณฑ์ผลไม้ – เหตุผลเรื่องสุขลักษณะในการผลิต (ข) ผักและผลิตภัณฑ์จากผัก – เหตุผลเรื่องยาฆ่าแมลง (ค) ผลิตภัณฑ์อาหารกระป๋อง – เหตุผลเรื่องการไม่จดทะเบียนขบวนการผลิต 6. การฝ่าฝืนที่เกิดมากทีส่ ุดแยกออกได้เป็นสองลักษณะใหญ่ๆ คือ (ก) การเจือปนสกปรก (adulteration) ตั้งแต่ไม่รุนแรงไปจนถึงขั้นรุนแรงต่อสุขภาพ ผู้บริโภค การเจือปนสกปรกรวมถึงปัญหาเรื่องความปลอดภัย สุขลักษณะ และ ความสมบูรณ์ของ บรรจุภัณฑ์ เช่น บรรจุภัณฑ์รั่ว หรือ กระป๋องบวมซึ่งเป็นเครื่อง สํานักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ นครลอสแอนเจลิส, มกราคม 2554 หน้า 3

บ่งชี้ว่ามีการเติบโตของเชื้อโรคหรือจุลลินทรีย์ในสินค้านั้นๆ จากการศึกษาของ กระทรวงเกษตรสหรัฐฯพบว่า การเจือปนสกปรกที่พบบ่อยครั้งมากที่สุดเกิดขึ้นใน3 ลักษณะคือ (1) สิ่งสกปรก (filthy) ในสินค้าอาหาร – ดูข้อ 7 (2) การไม่แจ้งข้อมูลหรือจดทะเบียนขบวนการผลิต- No Process- ของ โรงงานผลิตสินค้าอาหารกระป๋องที่เป็น low-acid หรือ acidified food (3) ไม่มี FCE No. เพราะโรงงาน ผลิตไม่ได้ทําการจดทะเบียนโรงงานผลิต อาหารกระป๋องที่เป็น low-acid หรือ acidified (Food Canning Establishment) การฝ่าฝืนในข้อนี้ USFDA ถือว่าเป็นเหตุผลเพียงพอที่จะ ทําให้เชื่อได้ว่าเกิดการเจือปนสกปรกในขบวนการผลิต (ข) การปิดฉลากสินค้าไม่ถูกต้อง (misbranding)รวมถึงการปิดสินค้าที่ไม่ตรงกับความ เป็นจริงหรือการระบุข้อความที่ทําให้ผู้บริโภคเข้าใจผิด ไม่มีฉลากหรือปิดฉลากไม่ เหมาะสม การฝ่าฝืนในข้อนี้ USFDA ถือว่าเป็นเหตุผลเพียงพอที่จะทําให้เชื่อได้ว่ามี ขบวนการผลิตที่ไม่ถูกสุขลักษณะ เกินกว่าครึ่งหนึ่งของการปิดฉลากสินค้าไม่ถูกต้อง เป็นการฝ่าฝืนใน 3 ลักษณะคือ (1) การไม่ระบุข้อมูลคุณค่าทางอาหาร-nutritional information (2) ไม่ระบุชื่อสามัญของส่วนผสมแต่ละตัว – list ingredients (3) ไม่เขียนเป็นภาษาอังกฤษ-No English ผลไม้และผลิตภัณฑ์สินค้าผลไม้เป็นกลุ่มสินค้าที่ฝ่าฝืนกฎระเบียบเรื่องการปิด ฉลากสินค้าไม่ถูกต้องมากที่สุด เช่น สินค้ามะขามเปียกที่ไม่ปิดฉลากคุณค่าทาง อาหาร หรือสินค้าที่มีส่วนผสมของ saccharin แต่ไม่มีขอ้ ความเตือนผู้บริโภคบน ฉลากสินค้า 7. สิ่งเจือปนสกปรกที่พบมากที่สุดคือ (ก) สิ่งเจือปนสกปรกที่เป็นเชื้อโรค/จุลินทรีย์ พบมากทีส่ ุดในผลิตภัณฑ์ปลาและอาหารทะเลซึ่ง เป็นกลุ่มสินค้าที่มีการฝ่าฝืนมากที่สุดในเรื่องนี้ เชื้อโรคที่พบมากที่สุดคือเชื้ออหิวาห์ (salmonella) รองลงมา คือเชื้อ Listeria (ข) สิ่งเจือปนสกปรกที่เป็นสารเคมี พบมากที่สุดในผัก และผลิตภัณฑ์ผัก สารเคมีทฝี่ ่าฝืนที่พบ มากทีส่ ุดคือสีผสมอาหาร (ค) สิ่งเจือปนสกปรกที่เป็นสิง่ สกปรก (filthy) ต่างๆเช่น เปลือก ขี้แมลง ซากสัตว์ตาย ฯลฯ 8. USFDA จะทํารายงานสําหรับแต่ละตัวสินค้าที่ถูกห้ามนําเข้า สินค้าที่ถูกห้ามนําเข้ารายการหนึ่ง อาจจะมีรายงานของ USFDA กํากับมากกว่าหนึ่งรายงานทั้งนี้ขึ้นอยู่กับจํานวนการฝ่าฝืนที่ถูก ค้นพบ แต่ในรายงานจะไม่ระบุว่าการฝ่าฝืนรายการใดเป็นการฝ่าฝืนทีร่ ุนแรงที่สุดและเป็นจุดที่ทําให้ สํานักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ นครลอสแอนเจลิส, มกราคม 2554 หน้า 4

สินค้าถูกสั่งห้ามนําเข้า ในรายงานการห้ามนําเข้า USFDA จะระบุหมายเลขการนําเข้า (entry no.) ประเทศแหล่งกําเนิดของผู้จัดส่งสินค้าและโรงงานผลิต ระหัสอุตสาหกรรม คําบรรบายระหัส สินค้า คําบรรยายสินค้าทีเ่ ป็นของผู้นําเข้าจัดทํา การระบุผลิตภัณฑ์สินค้าที่เป็นไปอย่างถูกต้องตาม ความเป็นจริง ระหัสการฝ่าฝืน และคําอธิบายการฝ่าฝืน ขั้นตอนการปฏิบัติหลังจากที่ USFDA ค้นพบว่าการนําเข้ามีการฝ่าฝืนกฎหมายสหรัฐฯ ในกรณีทสี่ ินค้าถูก USFDA ต้องสงสัยว่ามีการกระทําที่ฝา่ ฝืนกฎหมายสหรัฐฯ การดําเนินการในขั้นต่อไป จะเป็นดังนี้คือ 1.

USFDA ส่ง Notice of Detention and Hearing ที่ระบุข้อกล่าวหาลักษณะของการฝ่าฝืนและ แจ้งสถานที่ที่เจ้าของสินค้าหรือตัวแทนที่ได้รับมอบอํานาจจะไปรับฟังและแก้ข้อกล่าวหาภายใน 10 วันทําการ (สามารถต่อรองขอยืดเวลาได้ถ้าจําเป็น) สําเนา notice จะถูกส่งให้แก่ศุลกากร สหรัฐฯทราบ 2. การตอบสนองต่อเอกสาร Notice of Detention and Hearing เจ้าของสินค้าหรือตัวแทนที่ ได้รับมอบอํานาจจะไปรับฟังและแก้ข้อกล่าวหา การไปพบกับเจ้าหน้าที่ของ USFDA ในขั้นตอนนี้ จะเป็นในลักษณะที่ไม่เป็นทางการ เจ้าหน้าที่จะเปิดโอกาสให้เจ้าของสินค้าหรือตัวแทนอธิบาย หรือยื่นเอกสารสนับสนุนว่าสินค้าดังกล่าวสามารถนําเข้าสหรัฐฯได้ หรือร้องขอที่จะปฏิเสธการ นําเข้า หรือเสนอการแก้ไขสินค้าที่เป็นวิธีการที่มีประสิทธิผล หรือเสนอวิธีการที่จะเคลื่อนย้าย สินค้าออกไปจาก USFDA 3.

ในกรณีที่เจ้าของสินค้าต้องการแก้ไขสินค้า 3.1 ยื่นแบบฟอร์ม “Application for Authorization to Relabel or to Perform Other Action)” ต่อ USFDA 3.2 USFDA จะพิจารณาคําร้องและจะแจ้งให้ทราบว่าอนุมัติหรือไม่อนุมัติ 3.3 ในกรณีที่ USFDA ยินยอมให้แก้ไขสินค้า จะแจ้งแนวทางการแก้ไขสินค้าและกําหนดเวลา ในการแก้ไขให้เจ้าของสินค้าได้ทราบ (ก) เมื่อแก้ไขสินค้าเสร็จแล้ว เจ้าของสินค้าจะต้องยื่นแบบฟอร์ม “Importer’s Certificate” หรือแจ้งให้ USFDA ทราบว่าได้ทําการแก้ไขสินค้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว การแก้ไขควรกระทําเพียงครั้งเดียว หากการแก้ไขในครั้งแรกยังคงไม่ช่วยให้สินค้า ผ่านเข้าสหรัฐฯ โอกาสข้อแก้ไขในครั้งที่สองเกิดขึ้นได้ยากมากนอกเสียจากว่าการ แก้ไขครั้งที่สองจะต้องกระทําด้วยวิธีที่แตกต่างจากครั้งแรกและจะต้องแสดงให้ USFDA มั่นใจว่าวิธีการแก้ไขในครั้งที่สองนี้จะประสบผลสําเร็จ (ข) USFDA หรือศุลกากรสหรัฐฯจะทําการตรวจสินค้าอีกครั้งหนึ่งทั้งนี้ขึ้นอยู่กับข้อตก ลงระหว่าง USFDA และศุลกากรสหรัฐฯ แล้วทํา “Report of Inspector” ส่งต่อ ให้เจ้าหน้าที่ USFDA ที่เกี่ยวข้อง ในบางกรณีเจ้าหน้าที่จะยอมรับข้อมูลการแก้ไข สินค้าที่เจ้าของสินค้าแจ้งไปและไม่ตรวจสินค้าเลยก็ได้ สํานักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ นครลอสแอนเจลิส, มกราคม 2554 หน้า 5

(ค) ถ้าการแก้ไขสินค้าได้รับการยอมรับ เจ้าหน้าที่จะออก Notice of Release ให้ซงึ่ เป็นเอกสารที่เรียกว่า “Originally Detained and Now Released” (ง) ในกรณีทกี่ ารแก้ไขสินค้าไม่ได้รับการยอมรับ เจ้าหน้าที่จะออกเอกสาร Notice of Refusal of Admission สินค้าดังกล่าวจะถูกสั่งทําลายหรือสั่งให้ส่งกลับออกไป ภายใต้การควบคุมดูแลของเจ้าหน้าที่ USFDA หรือศุลกากรสหรัฐฯ ขึ้นอยู่กับ ข้อตกลงระหว่าง USFDA และศุลกากรสหรัฐฯ การส่งสินค้ากลับออกไปอยู่ภายใต้ การควบคุมดูแลของศุลกากรสหรัฐฯแต่เพียงหน่วยงานเดียว ในบางกรณีสินค้าจะถูก คําสั่งให้ทาํ ลายแต่เพียงสถานเดียว การดําเนินการในขั้นนี้จะต้องกระทําภายใน 90 วันหลังจากได้รับคําสั่ง (จ) ผลการดําเนินงานตามคําสั่งในข้อ (ง) จะต้องแจ้งให้ USFDA ทราบ หาก USFDA ไม่ได้รับรายงานในเรื่องนี้จะทําการสอบสวนข้อเท็จจริง ค่าใช้จ่ายในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าทีส่ หรัฐฯ ในกรณีทสี่ ินค้าเกิดปัญหาที่ด่านนําเข้าและจําเป็นต้องแก้ไข จะเกิดค่าใช้จ่ายที่เจ้าของสินค้าจะต้องจ่าย ชําระให้แก่เจ้าหน้าที USFDA การเรียกเก็บค่าใช้จ่ายจะกระทําหลังจากที่มีการตัดสินเป็นที่สิ้นสุดแล้วว่า ไม่ว่า สินค้าได้รับอนุญาตให้ผ่านเข้าสหรัฐฯหรือไม่ก็ตามก็จะต้องเสียค่าใช้จ่าย การคํานวนค่าใช้จ่าย USFDA จะคํานวนจาก 1. เวลาของเจ้าหน้าที่ผู้ตรวจสินค้า 2. เวลาที่ใช้ในการวิเคราะห์สินค้า 3. เบี้ยเลี้ยงของเจ้าหน้าที่ (per diem) 4. ค่าใช้จ่ายในการเดินทางที่ไม่ใช่โดยรถยนต์ ตามจ่ายจริง 5. ค่าใช้จ่ายในการเดินทางด้วยรถยนต์ (จํานวนไมล์ ค่าทางด่วน ฯลฯ) 6. ค่าใช้จ่ายอื่นๆในสํานักงานที่เกี่ยวข้องกับกรณีนี้ 7. ค่าใช้จ่ายในการเข้าไปควบคุมดูแลการทําลายหรือการส่งออกสินค้า ถ้ามี USFDA จะส่งจํานวนเงินค่าใช้จ่ายให้ศุลกากรสหรัฐฯทําหน้าที่เรียกเก็บเงินUSFDA จะไม่เก็บเงินด้วยตนเอง สํานักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ นครลอสแอนเจลิส 13 มกราคม 2554

สํานักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ นครลอสแอนเจลิส, มกราคม 2554 หน้า 6

สรุปการประชุมคณะรัฐมนตรี วันที่ 24 มกราคม 2554

http://www.thaigov.go.th

ข่าวที่ 01/01 วันที่ 24 มกราคม 2554

ั ้ 2 สํานักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี นายอภิสท ิ ธิ์ เวชชาชวี ะ วันนี้ เมือ ่ เวลา 09.00 น. ณ ห ้องประชุมชน นายกรัฐมนตรี เป็ นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี ั ใจสมุทร รองโฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี นายวัชระ กรรณิการ์ รองโฆษกประจํา จากนัน ้ นายศุภชย สํานักนายกรัฐมนตรี และนายมารุต มัสยวาณิช รองโฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี ได ้แถลงข่าวผลการประชุม คณะรัฐมนตรี สรุปสาระสําคัญได ้ดังนี้ กฎหมาย 1. เรือ ่ ง ร่างระเบียบสํานักนายกรัฐมนตรีวา่ ด ้วยการให ้เงินอุดหนุนบริการสาธารณะของรัฐวิสาหกิจ พ.ศ. ....

2. เรือ ่ ง ร่างพระราชบัญญัตส ิ ภาทีป ่ รึกษาเศรษฐกิจและสงั คมแห่งชาติ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ึ ษา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....

3. เรือ ่ ง ร่างพระราชบัญญัตส ิ ถาบันการพลศก ้ นวัตถุดบ ั ว์เข ้ามาในราช 4. เรือ ่ ง ร่างประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรือ ่ ง การนํ าข ้าวโพดทีใ่ ชเป็ ิ อาหารสต ี น พ.ศ. .... อาณาจักรตามความตกลงเขตการค ้าเสรีอาเซย ี หายแก่ผู ้เสย ี หาย ซงึ่ มิใชเ่ ป็ น 5. เรือ ่ ง ร่างกฎกระทรวงกําหนดหลักเกณฑ์และวิธก ี ารชดเชยความเสย ผู ้ได ้รับประโยชน์จากการบําบัดภยันอันตรายจากสาธารณภัย พ.ศ. .... เศรษฐกิจ ื้ จัดจ ้างและราคากลาง 6. เรือ ่ ง การดําเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี ในสว่ นของการจัดซอ 7. เรือ ่ ง โครงการเคเบิลใต ้นํ้ าใยแก ้วอ่าวไทย 8. เรือ ่ ง การดําเนินโครงการพิเศษสายศรีรัช – วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร ด ้วยวิธก ี ารเพิม ่ บทบาทภาคเอกชน (Public Private Partnerships: PPPs) ตามพระราชบัญญัตวิ า่ ด ้วยการให ้เอกชน เข ้าร่วมงานหรือดําเนินการในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2535 ของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย ิ ค ้าและบริการควบคุมตามพระราชบัญญัตวิ า่ ด ้วยราคาสน ิ ค ้าและบริการ 9. เรือ ่ ง การกําหนดสน พ.ศ. 2542 10. เรือ ่ ง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ขอสนั บสนุนงบกลางเพือ ่ ชว่ ยเหลือเกษตรกรผู ้ประสบ อุทกภัยปี 2553 เพิม ่ เติม 11. เรือ ่ ง ผลการติดตามการดําเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี เรือ ่ ง โครงการก่อสร ้างระบบจําหน่าย ด ้วยสายเคเบิลใต ้นํ้ าไปยังเกาะต่าง ๆ (เกาะมะพร ้าว เกาะนาคาใหญ่ จังหวัดภูเก็ต เกาะพระทอง จังหวัดพังงา) 12. เรือ ่ ง การรายงานผลการดําเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี เรือ ่ ง แผนพัฒนาสุกรทัง้ ระบบและแผน ปฏิบต ั งิ าน พ.ศ. 2553-2557 13. เรือ ่ ง รายงานความคืบหน ้าการดําเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี วันที่ 28 กันยายน 2553 [เรือ ่ ง ้ ื การยกเว ้นการปฏิบต ั ต ิ ามมิคณะรัฐมนตรีเกีย ่ วกับการจัดซออาหารเสริม (นม) โรงเรียนจาก ่ องค์การสงเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย] 11

8

2 ั สงคม 14.

15.

16.

17.

เรือ ่ ง เรือ ่ ง เรือ ่ ง เรือ ่ ง

18. เรือ ่ ง 19. เรือ ่ ง ต่างประเทศ 20. เรือ ่ ง 21.

22.

23.

เรือ ่ ง เรือ ่ ง เรือ ่ ง

ระบบการประเมินผลภาคราชการแบบบูรณาการ การดําเนินงานโครงการสง่ เสริมอาสาสมัครสาธารณสุขประจําหมูบ ่ ้าน (อสม.) เชงิ รุกปี 2553 ความคืบหน ้าการดําเนินโครงการจัดสวัสดิการเบีย ้ ความพิการ รายงานผลการดําเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี เรือ ่ ง โครงการพัฒนากําลังคนด ้าน ั มนุษยศาสตร์และสงคมศาสตร์ (ทุนเรียนดีมนุษยศาสตร์และสงั คมศาสตร์แห่งประเทศไทย) ครัง้ ที่ 7 ความคืบหน ้าในการดําเนินการตามมาตรการบริหารกําลังคนภาครัฐ (พ.ศ. 2552 – 2556) ความคืบหน ้ากรอบยุทธศาสตร์การจัดการด ้านอาหารของประเทศไทย ความตกลงว่าด ้วยความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาล แห่งสาธารณรัฐสโลวีเนีย ผลการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมเพือ ่ ความร่วมมือทวิภาคีไทย – อุซเบกิสถาน ครัง้ ที่ 1 ี รายงานผลการประชุมรัฐมนตรีอาเซยนด ้านการเกษตรและป่ าไม ้ ครัง้ ที่ 32 และการประชุมทีเ่ กีย ่ วเนือ ่ ง ื การรายงานผลการดําเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี เรือ ่ ง การจัดทําหนังสอแลกเปลีย ่ นระหว่าง FAO กับรัฐบาลไทย ในการเป็ นเจ ้าภาพจัดการประชุม FAO COFI Sub-Committee on Aquaculture สมัย ที่ 5 รายงานผลการประชุมคณะประศาสน์การขององค์การแรงงานระหว่างประเทศสมัยที่ 309

24. เรือ ่ ง ึ การศกษา 25. เรือ ่ ง การขอคืนอัตราว่างข ้าราชการครูจากผลการเกษี ยณอายุราชการ เรือ ่ งทีค ่ ณะร ัฐมนตรีร ับทราบเพือ ่ เป็นข้อมูล 26. เรือ ่ ง การจัดงานฉลอง 100 ปี พลตรี ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช 27. เรือ ่ ง สรุปผลการสํารวจภาวะการทํางานของประชากร เดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2553 28. เรือ ่ ง สรุปสถานการณ์ภัยพิบต ั ด ิ ้านการเกษตรปี 2554 ครัง้ ที่ 3 แต่งตงั้ 29. เรือ ่ ง แต่งตัง้ ื่ ผู ้ประสานงานคณะรัฐมนตรีและรัฐสภา (ปคร.) ของสํานักงานคณะกรรมการ 1. ขอเสนอชอ ป้ องกันและปราบปรามยาเสพติด 2. แต่งตัง้ กรรมการในคณะกรรมการธนาคารเพือ ่ การเกษตรและสหกรณ์การเกษตร 3. ข ้าราชการการเมืองลาออกจากตําแหน่งและแต่งตัง้ ข ้าราชการการเมือง 4. โครงการจัดการทรัพยากรนํ้ าชุมชนตามแนวพระราชดําริเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จ พระเจ ้าอยูห ่ ัว เนือ ่ งในโอกาสพระราชพิธม ี หามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 5 ธันวาคม 2554 ******************************** กรุณาตรวจสอบมติคณะรัฐมนตรีอย่างเป็ นทางการกับสํานักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีอก ี ครัง้ หนึง่ ํ ิ สานักโฆษกขอเชญติดตามการถ่ายทอดสดการแถลงข่าวผลการประชุมคณะรัฐมนตรี ี งแห่งประเทศไทย ทาง F.M. 92.5 ทุกวันอังคาร หรือวันทีม ่ ก ี ารประชุม ทางสถานีวท ิ ยุกระจายเสย ี งแห่งประเทศไทยประจําจังหวัด ในเขตกรุงเทพมหานคร สว่ นต่างจังหวัด รับฟั งได ้ทางสถานีวท ิ ยุกระจายเสย และติดตามมติคณะรัฐมนตรีทส ี่ ําคัญได ้ทางรายการ “เจาะลึก ครม.” ทางสถานีวท ิ ยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ทุกวันอังคารในเวลา 21.00-22.00 น. “หากท่านใดประสงค์จะขอรับข่าวการประชุมคณะรัฐมนตรีสมัครได ้ทาง www.thaigov.go.th “

3 กฎหมาย 1. เรือ ่ ง ร่างระเบียบสําน ักนายกร ัฐมนตรีวา่ ด้วยการให้เงินอุดหนุนบริการสาธารณะของร ัฐวิสาหกิจ พ.ศ. .... คณะรัฐมนตรีเห็นชอบในหลักการร่างระเบียบสํานักนายกรัฐมนตรีวา่ ด ้วยการให ้เงินอุดหนุนบริการสาธารณะ ของรัฐวิสาหกิจ พ.ศ. .... ตามทีก ่ ระทรวงการคลังเสนอ และสง่ ให ้คณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบญ ั ญัต ิ ทีเ่ สนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา โดยให ้รับข ้อสงั เกตของสว่ นราชการทีเ่ กีย ่ วข ้องไปประกอบการพิจารณาด ้วย แล ้วดําเนินการต่อไปได ้ สาระสําค ัญของร่างระเบียบ 1. แก ้ไขคํานิยามของ “รัฐวิสาหกิจ” และ “การอุดหนุนทางการเงิน” (ร่างข ้อ 5) 2. ปรับปรุงตําแหน่งของกรรมการเงินอุดหนุนบริการสาธารณะและผู ้ชว่ ยเลขานุการ (ร่างข ้อ 6) 3. กําหนดอํานาจหน ้าทีข ่ องคณะกรรมการ (ร่างข ้อ 7) ดังนี้ 3.1 กําหนดรายละเอียด และพิจารณาข ้อเสนอการขอรับการอุดหนุนทางการเงินของรัฐวิสาหกิจ 3.2 กําหนดหลักเกณฑ์การแยกรายได ้และค่าใชจ่้ ายการให ้บริการเชงิ พาณิชย์ และบริการสาธารณะ และหลักการคํานวณต ้นทุนการให ้บริการสาธารณะ 3.3 กําหนดวงเงิน และรายละเอียดการอุดหนุนทางการเงินแก่รัฐวิสาหกิจ รวมทัง้ พิจารณา ปรับปรุงวงเงิน และรายละเอียดการอุดหนุนทางการเงินระหว่างปี เพือ ่ เสนอรัฐมนตรีวา่ การกระทรวงการคลังพิจารณาก่อน นํ าเสนอคณะรัฐมนตรีพจ ิ ารณาให ้ความเห็นชอบ 3.4 จัดทําบันทึกข ้อตกลงการให ้บริการสาธารณะกับรัฐวิสาหกิจก่อนการอุดหนุนทางการเงิน รวมทัง้ พิจารณาปรับปรุงบันทึกข ้อตกลงการให ้บริการสาธารณะระหว่างปี ตลอดจนกํากับการดําเนินการให ้บริการสาธารณะให ้เป็ นไป ตามทีก ่ ําหนดในบันทึกข ้อตกลงการให ้บริการสาธารณะ 3.5 กําหนดรายละเอียด และพิจารณารายงานผลการให ้บริการสาธารณะของรัฐวิสาหกิจ ตามที่ กําหนดในบันทึกข ้อตกลงการให ้บริการสาธารณะเพือ ่ เสนอต่อรัฐมนตรีวา่ การกระทรวงการคลัง และคณะรัฐมนตรี 3.6 แต่งตัง้ คณะอนุกรรมการเพือ ่ ปฏิบต ั ห ิ น ้าทีต ่ ามทีไ่ ด ้รับมอบหมายตามความจําเป็ นและเหมาะสม 3.7 เรียกบุคคลและเอกสารต่างๆ จากผู ้ทีเ่ กีย ่ วข ้องเพือ ่ การกํากับดูแลและติดตามการให ้บริการ สาธารณะของรัฐวิสาหกิจ 3.8 เสนอความเห็นหรือข ้อเสนอแนะต่อคณะรัฐมนตรีตามความจําเป็ นและเหมาะสม 3.9 ดําเนินการอืน ่ ตามทีค ่ ณะรัฐมนตรีมอบหมาย 4. ปรังปรุงการกําหนดค่าตอบแทนของคณะกรรมการและคณะอนุกรรมการโดยให ้ทําความตกลงกับกระทรวง การคลัง (ร่างข ้อ 8) 5. กําหนดขัน ้ ตอนการขอรับและพิจารณาเงินอุดหนุนของรัฐวิสาหกิจ (ร่างข ้อ 9 – ข ้อ 14) ดังนี้ 5.1 รัฐวิสาหกิจทีป ่ ระสงค์จะขอรับเงินอุดหนุนบริการสาธารณะต ้องจัดทําข ้อเสนอการขอรับ ี งึ่ แสดงถึงการแยกรายได ้และค่าใชจ่้ ายของการให ้บริการเชงิ พาณิชย์และบริการ การอุดหนุนทางการเงิน พร ้อมด ้วยระบบบัญชซ สาธารณะตามทีค ่ ณะกรรมการกําหนด เพือ ่ นํ าเสนอรัฐมนตรีวา่ การกระทรวงเจ ้าสงั กัดพิจารณาให ้ความเห็นชอบก่อนนํ าเสนอ ิ เดือน ก่อนเริม คณะกรรมการพิจารณาล่วงหน ้าไม่น ้อยกว่าสบ ่ ปี งบประมาณ 5.2 คณะกรรมการดําเนินการพิจารณาข ้อเสนอของรัฐวิสาหกิจแล ้วเสนอความเห็นต่อรัฐมนตรีวา่ การกระทรวงการคลังเพือ ่ พิจารณานํ าเสนอคณะรัฐมนตรีให ้ทันต่อการจัดทําคําของบประมาณประจําปี ตามปี ปฏิทน ิ งบประมาณ ทัง้ นี้ ในกรณีทค ี่ ณะรัฐมนตรีให ้ความเห็นชอบข ้อเสนอทีจ ่ ะให ้การอุดหนุนทางการเงินแก่รัฐวิสาหกิจ แล ้ว ให ้รัฐวิสาหกิจนัน ้ จัดทํารายละเอียดวงเงินทีค ่ ณะรัฐมนตรีเห็นชอบและคําของบประมาณรายจ่ายประจําปี ตามวิธก ี ารและ ขัน ้ ตอนการเสนอขอตัง้ งบประมาณรายจ่ายประจําปี 5.3 ให ้คณะกรรมการจัดทําบันทึกข ้อตกลงการให ้บริการสาธารณะกับรัฐวิสาหกิจก่อนทีร่ ัฐวิสาหกิจจะ ได ้รับการอุดหนุนทางการเงิน โดยให ้ประธานคณะกรรมการและผู ้บริหารสูงสุดของรัฐวิสาหกิจ เป็ นผู ้ลงนามในบันทึกข ้อตกลง การให ้บริการสาธารณะ

4 5.4 กรณีทรี่ ัฐวิสาหกิจมีความประสงค์จะปรับปรุงการให ้บริการสาธารณะตามทีก ่ ําหนดในบันทึก ้ ี ข ้อตกลงการให ้บริการสาธารณะ ให ้รัฐวิสาหกิจชแจงข ้อเท็จจริง พร ้อมข ้อเสนอการปรับปรุงการให ้บริการสาธารณะต่อ ิ้ ปี งบประมาณ รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงเจ ้าสงั กัดเพือ ่ พิจารณาเสนอคณะกรรมการพิจารณาล่วงหน ้าไม่น ้อยกว่าห ้าเดือนก่อนสน หากคณะกรรมการพิจารณาแล ้วมีความจําเป็ นต ้องมีการปรับปรุงวงเงินให ้คณะกรรมการนํ าเสนอ รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงการคลัง เพือ ่ พิจารณานํ าเสนอคณะรัฐมนตรีตอ ่ ไป ิ้ ปี บัญชต ี ํา่ กว่าวงเงิน 5.5 กรณีผลประกอบการจากการให ้บริการสาธารณะของรัฐวิสาหกิจเมือ ่ สน อุดหนุนบริการสาธารณะตามทีก ่ ําหนดในบันทึกข ้อตกลงการให ้บริการสาธารณะให ้รัฐวิสาหกิจนัน ้ นํ าเงินอุดหนุนบริการ ่ ่ สาธารณะสวนเกิน สงคืนคลัง ิ้ ปี บัญชส ี งู กว่า ทัง้ นี้ กรณีผลประกอบการจากการให ้บริการสาธารณะของรัฐวิสาหกิจเมือ ่ สน วงเงินอุดหนุนบริการสาธารณะตามทีก ่ ําหนดในบันทึกข ้อตกลงการให ้บริการสาธารณะให ้รัฐวิสาหกิจนํ าเสนอคณะรัฐมนตรี ่ เพือ ่ พิจารณาอนุมัตเิ งินอุดหนุนสวนทีข ่ าดต่อไป 6. กําหนดให ้รัฐวิสาหกิจจัดทํารายงานผลการให ้บริการสาธารณะตามทีก ่ ําหนดในบันทึกข ้อตกลงการ ให ้บริการสาธารณะ (ร่างข ้อ 15) ั 2. เรือ ่ ง ร่างพระราชบ ัญญ ัติสภาทีป ่ รึกษาเศรษฐกิจและสงคมแห่ งชาติ (ฉบ ับที่ ..) พ.ศ. .... คณะรัฐมนตรีเห็นชอบร่างพระราชบัญญัตส ิ ภาทีป ่ รึกษาเศรษฐกิจและสงั คมแห่งชาติ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ที่ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล ้ว และให ้สง่ คณะกรรมการประสานงานสภาผู ้แทนราษฎรพิจารณา แล ้วเสนอ สภาผู ้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป สาระสําค ัญของร่างพระราชบ ัญญ ัติ 1. เพิม ่ บทนิยามคําว่า “ประธานสภา” “ข ้าราชการสํานักงาน” “เลขาธิการ” และ “สํานักงาน” และยกเลิก บทนิยามคําว่า “คณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสงั คมแห่งชาติ” (ร่างมาตรา 3) 2. กําหนดให ้ประธานสภาทีป ่ รึกษาเศรษฐกิจและสงั คมแห่งชาติเป็ นผู ้รักษาการ (ร่างมาตรา 3) ี ้ายพระราชบัญญัต ิ ให ้ทําได ้โดยตราเป็ นพระราชกฤษฎีกา (ร่างมาตรา 3. กําหนดให ้การแก ้ไขเพิม ่ เติมบัญชท 3) ิ สภาทีป 4. ปรับปรุงองค์ประกอบคณะกรรมการสรรหาสมาชก ่ รึกษาเศรษฐกิจและสงั คมแห่งชาติและกระบวน ิ สภาทีป การสรรหาสมาชก ่ รึกษาเศรษฐกิจและสงั คมแห่งชาติ (ร่างมาตรา 3 และร่างมาตรา 4) ิ สภาทีป 5. แก ้ไขเพิม ่ เติมคุณสมบัต ิ วาระการดํารงตําแหน่ง และการพ ้นจากตําแหน่ง ของสมาชก ่ รึกษา ั เศรษฐกิจและสงคมแห่งชาติ (ร่างมาตรา 5 และร่างมาตรา 6) 6. แก ้ไขเพิม ่ เติมอํานาจหน ้าทีแ ่ ละการประชุมของสภาทีป ่ รึกษาเศรษฐกิจและสงั คมแห่งชาติ (ร่างมาตรา 6 และ ร่างมาตรา 8) 7. กําหนดให ้ประธานและรองประธานสภาทีป ่ รึกษาเศรษฐกิจและสงั คมแห่งชาติได ้รับการทรงพระกรุณา โปรดเกล ้าฯ แต่งตัง้ (ร่างมาตรา 7) 8. ปรับปรุงสถานะและอํานาจหน ้าทีข ่ องสํานักงานสภาทีป ่ รึกษาเศรษฐกิจและสงั คมแห่งชาติ (ร่างมาตรา 9 ร่างมาตรา 10 และร่างมาตรา 11) ึ ษา (ฉบ ับที่ ..) พ.ศ. ....

3. เรือ ่ ง ร่างพระราชบ ัญญ ัติสถาบ ันการพลศก ึ ษา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ตามทีก คณะรัฐมนตรีอนุมัตห ิ ลักการร่างพระราชบัญญัตส ิ ถาบันการพลศก ่ ระทรวงการ ่ ํ ่ ท่องเทีย ่ วและกีฬาเสนอ และให ้สงสานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล ้วสงให ้คณะกรรมการประสานงาน สภาผู ้แทนราษฎรพิจารณา ก่อนเสนอสภาผู ้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป ข้อเท็จจริง กระทรวงการท่องเทีย ่ วและกีฬา (กก.) เสนอว่า ึ ษา พ.ศ. 2548 ซงึ่ ใชบั้ งคับอยูใ่ นปั จจุบน 1. เนือ ่ งด ้วยพระราชบัญญัตส ิ ถาบันการพลศก ั นัน ้ คงใชบั้ งคับได ้ ึ ษาในระดับปริญญาตรีเท่านั น ึ ษา เฉพาะการศก ้ และมีกฎหมายบางมาตราไม่สอดคล ้องกับการบริหารงานในสถาบันอุดมศก

5 ึ ษามีความพร ้อมทัง้ ทางด ้านบุคลากร สถานที่ เพือ โดยทั่วไป ประกอบกับสถาบันการพลศก ่ สนองต่อความต ้องการของ ึ ึ ษาในระดับปริญญาโท และ นักเรียน นักศกษา ประชาชน และสอดคล ้องกับเจตนารมณ์ของสถาบัน จําเป็ นต ้องมีการจัดการศก ึ ษาให ้กว ้างขึน ึ ษามีอํานาจและหน ้าทีใ่ น ปริญญาเอก เพือ ่ เป็ นการเปิ ดโอกาสด ้านการศก ้ โดยปรับปรุงให ้สภาสถาบันการพลศก ึ ษา การบริหารงานบุคคล การบริหารงบประมาณ เพือ ั เจน ความคล่องตัว สะดวก รวดเร็ว การบริหารจัดการศก ่ ให ้เกิดความชด ิ ธิภาพสูงสุด ทันต่อสถานการณ์มค ี วามเป็ นเอกภาพ ประสท ึ ษา ครัง้ ที่ 45 (7/2553) เมือ 2. ในคราวประชุมสภาสถาบันการพลศก ่ วันที่ 27 ตุลาคม 2553 มีมติเห็นสมควรที่ ึ ึ ษาให ้ จะมีการแก ้ไขปรับปรุงพระราชบัญญัตส ิ ถาบันการพลศกษา พ.ศ. 2548 เพือ ่ ตอบสนองต่อการพัฒนาสถาบันการพลศก ิ ธิภาพ และยกระดับสถาบันการพลศก ึ ษาเป็ นสถาบันอุดมศก ึ ษาอย่างแท ้จริง เป็ นไปตามเป้ าหมายได ้อย่างมีประสท สาระสําค ัญของร่างพระราชบ ัญญ ัติ 1. กําหนดบทนิยามคําว่า “กระทรวง” “สภาวิชาการ” “วิทยาเขต” “คณะ” “บัณฑิตวิทยาลัย” “สํานัก” เพิม ่ ขึน ้ ั เพือ ่ ให ้เกิดความชดเจน (ร่างมาตรา 3) ึ ษามีอํานาจหน ้าทีใ่ นการบริหารงานบุคคลของสถาบันตามกฎหมายว่าด ้วย 2. กําหนดให ้สภาสถาบันการพลศก ึ ษา (ร่างมาตรา 4) ระเบียบข ้าราชการครูและบุคลากรทางการศก ึ ษาเป็ นนิตบ 3. กําหนดให ้สถาบันการพลศก ิ ค ุ คลมีฐานะเป็ นกรมในสงั กัดกระทรวงการท่องเทีย ่ วและกีฬาและ ่ เป็ นสวนราชการตามกฎหมายว่าด ้วยวิธก ี ารงบประมาณ (ร่างมาตรา 5) ึ ษาเพือ ึ ษา 4. กําหนดเพิม ่ บัณฑิตวิทยาลัย เป็ นสว่ นราชการในสถาบันการพลศก ่ ยกฐานะให ้สถาบันการพลศก ึ ษาได ้อย่างหลากหลายสาขา และสามารถจัดการศก ึ ษาในระดับทีส สามารถจัดการศก ่ งู ขึน ้ ได ้ (ร่างมาตรา 6) ึ ึ ษาเป็ นกรรมการสภา 5. แก ้ไของค์ประกอบของสภาสถาบันการพลศกษา โดยกําหนดให ้อธิบดีกรมพลศก ่ รรมการสภาสถาบัน เป็ นกรรมการและ สถาบันโดยตําแหน่ง และให ้สภาสถาบันแต่งตัง้ รองอธิการบดีคนหนึง่ ซงึ่ มิใชก เลขานุการสภาสถาบันโดยคําแนะนํ าของอธิการบดี (ร่างมาตรา 9) ึ ษา โดยกําหนดให ้มีอํานาจหน ้าทีพ 6. แก ้ไขเพิม ่ เติมอํานาจหน ้าทีข ่ องสภาสถาบันการพลศก ่ จ ิ ารณาอนุมัต ิ ึ หลักสูตรการศกษาของสถาบัน การแต่งตัง้ และถอดถอนรองอธิการบดี รองอธิการบดีประจําวิทยาเขต ผู ้อํานวยการสํานักงาน ื่ อย่างอืน อธิการบดี คณบดี หัวหน ้าสว่ นราชการ ทีเ่ รียกชอ ่ ทีม ่ ฐ ี านะเทียบเท่าคณะ ฯลฯ รวมทัง้ วางระเบียบและออกข ้อบังคับ ิ ของสถาบัน และอนุมัตงิ บประมาณรายจ่าย เกีย ่ วกับการบริหารงาน การเงิน การจัดหารายได ้และผลประโยชน์จากทรัพย์สน จากเงินรายได ้ของสถาบัน (ร่างมาตรา 11) 7. แก ้ไขวิธก ี ารได ้รับแต่งตัง้ ให ้ดํารงตําแหน่งผู ้บริหารสถาบัน และการพ ้นจากตําแหน่ง (ร่างมาตรา 17) รวมทัง้ แก ้ไขคุณสมบัตข ิ องอธิการบดี รองอธิการบดี และรองอธิการบดีประจําวิทยาเขต (ร่างมาตรา 18) ั เข้ามาในราชอาณาจ ักร 4. เรือ ่ ง ร่างประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรือ ่ ง การนําข้าวโพดทีใ่ ชเ้ ป็นว ัตถุดบ ิ อาหารสตว์ ี น พ.ศ. .... ตามความตกลงเขตการค้าเสรีอาเซย ้ นวัตถุดบ ั ว์เข ้า คณะรัฐมนตรีอนุมัตห ิ ลักการร่างประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรือ ่ ง การนํ าข ้าวโพดทีใ่ ชเป็ ิ อาหารสต ี น พ.ศ. .... ตามทีก มาในราชอาณาจักรตามความตกลงเขตการค ้าเสรีอาเซย ่ ระทรวงพาณิชย์เสนอ และให ้สง่ คณะกรรมการ ตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบญ ั ญัตท ิ เี่ สนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณาแล ้วดําเนินการต่อไปได ้ ํ สาระสาค ัญของร่างประกาศ ประเด็น สาระสําค ัญ 1. วันใชบั้ งคับ

ใชบั้ งคับตัง้ แต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็ นต ้นไป

ื รับรอง 2. หนังสอ

้ นวัตถุดบ ั ว์ตามพิกด ให ้ข ้าวโพดทีใ่ ชเป็ ิ อาหารสต ั อัตราศุลกากรขาเข ้า ประเภทย่อย 1005.90.90 ซงึ่ มีถน ิ่ กําเนิดและสง่ ตรงมาจากประเทศ ิ สมาคมประชาชาติแห่งเอเชย ี ตะวันออกเฉียงใต ้ตามความตก สมาชก ี น เป็ นสน ิ ค ้าทีต ื รับรอง ลงเขตการค ้าเสรีอาเซย ่ ้องมีหนังสอ ดังต่อไปนีแ ้ สดงต่อกรมศุลกากรในการนํ าเข ้ามาในราชอาณาจักร ิ ธิพเิ ศษทางด ้านภาษี ศล เพือ ่ ประกอบการใชส้ ท ุ กากร

6 ื รับรองถิน ิ ค ้าแบบฟอร์ม ดี (Form D) ทีอ 2.1 หนังสอ ่ กําเนิดสน ่ อก ื รับรอง โดยหน่วยงานของรัฐหรือหน่วยงานทีม ่ อ ี ํานาจออกหนังสอ ดังกล่าวของประเทศทีส ่ ง่ ออก ื รับรองแสดงการได ้รับสท ิ ธิในการยกเว ้นภาษี ทงั ้ หมด 2.2 หนังสอ หรือบางสว่ นทีอ ่ อกโดยกรมการค ้าต่างประเทศ หรือหน่วยงานอืน ่ ของรัฐทีร่ ัฐมนตรีวา่ การกระทรวงพาณิชย์มอบหมาย ื รับรอง ใบรับรอง หรือเอกสารหลักฐานอืน 2.3 หนังสอ ่ ใดซงึ่ แสดง ิ ค ้าทีน ิ ค ้าทีม ว่าสน ่ ํ าเข ้ามาในราชอาณาจักรเป็ นสน ่ ค ี วามปลอดภัยต่อ ั ว์ หรือพืช ทีอ ชวี ต ิ หรือสุขภาพของมนุษย์ สต ่ อกโดยหน่วยงานของ ื รับรองดังกล่าวของประเทศ รัฐหรือหน่วยงานทีม ่ อ ี ํานาจออกหนังสอ ทีส ่ ง่ ออก 3. ระยะเวลาการนํ าเข ้า

3.1 ต ้องนํ าเข ้าระหว่างวันที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2554 ถึงวันที่ 30 ื รับรองตามข ้อ 2.1 – 2.3 มิถน ุ ายน พ.ศ. 2554 โดยแสดงหนังสอ ั ว์ 3.2 ต ้องนํ าเข ้าทางด่านศุลกากรทีม ่ ด ี า่ นตรวจพืชและด่านกักสต หรือมีเจ ้าหน ้าทีท ่ ม ี่ อ ี ํานาจของด่านดังกล่าวปฏิบต ั ห ิ น ้าที่

4. อัตราค่าธรรมเนียมพิเศษ

นํ้ าหนักสุทธิเมตริกตันละศูนย์บาท

ี หายแก่ผเู ้ สย ี หาย ซงึ่ มิใชเ่ ป็นผูไ้ ด้ร ับ 5. เรือ ่ ง ร่างกฎกระทรวงกําหนดหล ักเกณฑ์และวิธก ี ารชดเชยความเสย ประโยชน์จากการบําบ ัดภย ันอ ันตรายจากสาธารณภ ัย พ.ศ. .... ี หายแก่ผู ้เสย ี หาย คณะรัฐมนตรีอนุมัตห ิ ลักการร่างกฎกระทรวงกําหนดหลักเกณฑ์และวิธก ี ารชดเชยความเสย ซงึ่ มิใชเ่ ป็ นผู ้ได ้รับประโยชน์จากการบําบัดภยันอันตรายจากสาธารณภัย พ.ศ. .... ตามทีก ่ ระทรวงมหาดไทยเสนอ และให ้สง่ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให ้รับความเห็นของสํานักงบประมาณไปประกอบการพิจารณาด ้วย แล ้วดําเนินการต่อไปได ้ สาระสําค ัญของร่างกฎกระทรวง ิ นัน 1. ให ้ผู ้อํานวยการท ้องถิน ่ หรือผู ้ชว่ ยผู ้อํานวยการกรุงเทพมหานครแห่งพืน ้ ทีท ่ ท ี่ รัพย์สน ้ ตัง้ อยู่ ี ิ ี รายงานต่อผู ้อํานวยการจังหวัดหรือผู ้อํานวยการกรุงเทพมหานคร เมือ ่ เกิดความเสยหายแก่ทรัพย์สนของผู ้เสยหายจากการ ปฏิบต ั ก ิ าร ตามอํานาจหน ้าทีใ่ นการป้ องกันและบรรเทาสาธารณภัย โดยให ้ผู ้อํานวยการจังหวัดหรือผู ้อํานวยการ กรุงเทพมหานครแต่งตัง้ คณะกรรมการเพือ ่ ทําหน ้าทีต ่ ามทีก ่ ําหนด (ร่างข ้อ 4-5) ี ี ื่ ผู ้เสย ี หายและทรัพย์สน ิ ทีเ่ สย ี หาย ผู ้เสย ี หายนัน 2. กรณีทผ ี่ ู ้เสยหายมิได ้อยูใ่ นบัญชรายชอ ้ อาจร ้องขอชดเชย ี ่ ิ ี ความเสยหายต่อผู ้อํานวยการท ้องถิน ่ หรือผู ้ชวยผู ้อํานวยการกรุงเทพมหานครแห่งพืน ้ ทีท ่ ท ี่ รัพย์สนของผู ้เสยหายตัง้ อยู่ โดยให ้ ่ ผู ้อํานวยการท ้องถิน ่ หรือผู ้ชวยผู ้อํานวยการกรุงเทพมหานครออกใบรับคําขอแก่บค ุ คลดังกล่าวไว ้เป็ นหลักฐาน แล ้วสง่ เรือ ่ งไป ี ิ ี ั ้ ยังคณะกรรมการพิจารณากําหนดค่าชดเชยความเสยหายแก่ทรัพย์สนของผู ้เสยหายดําเนินการโดยไม่ชกชา (ร่างข ้อ 7) ิ วันนั บแต่วันทีไ่ ด ้รับการแต่งตัง้ 3. ให ้คณะกรรมการดําเนินการตามอํานาจหน ้าทีใ่ ห ้แล ้วเสร็จภายในสามสบ หากไม่อาจดําเนินการได ้ทันภายในกําหนดจะต ้องรายงานปั ญหาและอุปสรรคให ้ผู ้มีอํานาจแต่งตัง้ ทราบ เพือ ่ พิจารณาอนุมัต ิ ิ ขยายระยะเวลาออกไปอีกไม่เกินสามสบวัน (ร่างข ้อ 8) ี หายโดยคํานึงถึงสภาพของทรัพย์สน ิ ราคาทีซ ื้ 4. ให ้คณะกรรมการพิจารณากําหนดค่าชดเชยความเสย ่ อ ขายกันตามปกติในท ้องตลาด หรือเทียบราคาทีอ ่ ้างอิงจากราคากลางทีท ่ างราชการกําหนดตามทีเ่ ป็ นอยูใ่ นวันทีเ่ กิดความ ี ่ ื ้ ี หายไปแล ้ว และปั จจัยอืน เสยหายการเสอมราคาจากการใช การทีท ่ างราชการได ้บรรเทาหรือแก ้ไขความเสย ่ ทีจ ่ ะทําให ้เกิด ่ ื ิ ้ ความเป็ นธรรม โดยให ้นํ าหลักเกณฑ์การคํานวณค่าเสอมราคาทรัพย์สนทีต ่ ้องเรียกชดใชตามความรับผิดทางละเมิดตามที่ ้ กระทรวงการคลังกําหนดมาใชโดยอนุโลม (ร่างข ้อ 9) ี หายจ่ายค่าชดเชยให ้แก่ผู ้เสย ี หาย โดยให ้ 5. ให ้จังหวัดหรือกรุงเทพมหานคร ซงึ่ เป็ นพืน ้ ทีท ่ ไี่ ด ้รับความเสย ้ นจากงบกลาง รายการเงินสํารองจ่ายเพือ ใชเงิ ่ กรณีฉุกเฉินหรือจําเป็ น (ร่างข ้อ 11)

7 เศรษฐกิจ ื้ จ ัดจ้างและราคากลาง 6. เรือ ่ ง การดําเนินการตามมติคณะร ัฐมนตรี ในสว่ นของการจ ัดซอ คณะรัฐมนตรีรับทราบและอนุมัต ิ ตามทีก ่ ระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้ 1. รับทราบผลการดําเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมือ ่ วันที่ 12 ตุลาคม 2553 2. อนุมัตแ ิ ต่งตัง้ คณะกรรมการกํากับหลักเกณฑ์และตรวจสอบราคากลางงานก่อสร ้าง ทําหน ้าทีใ่ นระดับปฏิบัต ิ แทนคณะอนุกรรมการกํากับหลักเกณฑ์การคํานวณราคากลางงานก่อสร ้าง กับคณะอนุกรรมการกํากับนโยบายการตรวจสอบ ราคากลางงานก่อสร ้างต่อไป โดยคณะกรรมการกํากับหลักเกณฑ์และตรวจสอบราคากลางงานก่อสร ้างประกอบด ้วย ปลัด ื้ จัดจ ้างภาครัฐ กรมบัญชก ี ลาง เป็ นกรรมการ กระทรวงการคลัง เป็ นประธานกรรมการ และผู ้อํานวยการสํานักมาตรฐานการจัดซอ และเลขานุการ ทัง้ นี้ ให ้กระทรวงการคลังและสํานักงบประมาณไปพิจารณาปรับปรุงหลักเกณฑ์การคํานวณราคากลางงาน ก่อสร ้างให ้เป็ นปั จจุบน ั รวมทัง้ หลักเกณฑ์การจ ้างทีป ่ รึกษาออกแบบและควบคุมงานก่อสร ้างให ้สอดคล ้องกับการขอรับ ี โดยให ้ในสว่ นของการขึน ใบอนุญาตประกอบวิชาชพ ้ ทะเบียนของทีป ่ รึกษา ฯ 3 แห่งคือ ศูนย์ข ้อมูลทีป ่ รึกษา โดยสํานักงาน ี ของสภาสถาปนิกและสภาวิศวกรให ้เป็ นไปในแนวทางเดียวกัน และ บริหารหนีส ้ าธารณะ การขอรับใบอนุญาตประกอบวิชาชพ ให ้เสนอคณะรัฐมนตรีพจ ิ ารณาอีกครัง้ หนึง่ สาระสําค ัญของเรือ ่ ง กระทรวงการคลังรายงานว่า ี ลาง) ได ้ดําเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี (12 ต.ค. 2553) โดยประชุมร่วมกับสํานักงบประมาณ กค. (กรมบัญชก สํานักงาน ก.พ. และหน่วยงานทีเ่ กีย ่ วข ้อง รวม 2 ครัง้ เมือ ่ วันที่ 22 ตุลาคม 2553 และเมือ ่ วันที่ 27 ตุลาคม 2553 โดยที่ ประชุมฯ ได ้พิจารณาและมีมติรวม 4 ประเด็น ดังนี้ ี ลาง) 1. การกําหนดราคากลางงานก่อสร ้างของทางราชการเป็ นภารกิจในความรับผิดชอบของ กค. (กรมบัญชก ซงึ่ ได ้ดําเนินการและมีแผนการดําเนินการ ดังนี้ ั้ 1.1 แผนการดําเนินการในระยะสน 1) ให ้นํ าเสนอคณะรัฐมนตรีพจ ิ ารณาให ้มีการทบทวนราคากลางงานก่อสร ้างให ้เป็ นปั จจุบัน โดยให ้ ปรับเปลีย ่ นระยะเวลาในการทบทวนราคากลางงานก่อสร ้าง จากเดิมทีก ่ ําหนด 45 วัน นับแต่วันทีห ่ ัวหน ้าหน่วยงานได ้ให ้ความ ้ เห็นชอบ และมิได ้นํ าราคากลางนัน ้ ไปใชในกระบวนการจั ดจ ้างก่อสร ้าง (ตามมติคณะรัฐมนตรีเมือ ่ วันที่ 17 มิถน ุ ายน 2551) เป็ นทุก 30 วัน นับแต่วันทีห ่ ัวหน ้าหน่วยงานได ้ให ้ความเห็นชอบ 2) ปรับปรุงข ้อกําหนดเกีย ่ วกับราคาและแหล่งวัสดุ โดยได ้จัดทําร่างข ้อกําหนดเกีย ่ วกับราคาและ แหล่งวัสดุกอ ่ สร ้างทีป ่ รับปรุงใหม่แล ้วเสร็จ 3) จัดทําร่างตาราง Factor F งานก่อสร ้างชลประทาน โดยได ้ดําเนินการยกร่างตาราง Factor F งานก่อสร ้างชลประทาน และนํ าเสนอคณะทํางานปรับปรุงหลักเกณฑ์การคํานวณราคากลางงานก่อสร ้างพิจารณาแล ้ว ขณะนี้ อยูใ่ นระหว่างการปรับปรุงรายการและการคํานวณค่าใชจ่้ ายในรายละเอียดตามมติทป ี่ ระชุมคณะทํางานปรับปรุงฯ 4) ให ้นํ าเสนอคณะรัฐมนตรีพจ ิ ารณาให ้คณะกรรมการกํากับนโยบายราคากลางงานก่อสร ้างทีม ่ อ ี ยู่ เดิมเป็ นคณะกรรมการในระดับนโยบาย และให ้รวมคณะอนุกรรมการกํากับหลักเกณฑ์การคํานวณราคากลางงานก่อสร ้างกับ คณะอนุกรรมการกํากับนโยบายการตรวจสอบราคากลางงานก่อสร ้างทีม ่ อ ี ยูเ่ ดิม (แต่งตัง้ โดยคณะกรรมการกํากับนโยบายราคา กลางงานก่อสร ้าง) เป็ นคณะกรรมการกํากับหลักเกณฑ์และตรวจสอบราคากลางงานก่อสร ้างเป็ นคณะกรรมการในระดับปฏิบต ั ิ ี ลาง (หรือรองอธิบดีกรมบัญชก ี ลางทีอ โดยมอบหมายให ้ปลัดกระทรวงการคลังเป็ นประธานกรรมการ อธิบดีกรมบัญชก ่ ธิบดี ี ลางมอบหมาย) เป็ นรองประธานกรรมการ ผู ้อํานวยการสํานักมาตรฐานการจัดซอ ื้ จัดจ ้างภาครัฐ กรมบัญชก ี ลาง เป็ น กรมบัญชก ึ ษา พิจารณา กรรมการและเลขานุการ และกรรมการผู ้แทนสว่ นราชการอีกจํานวน 20 คน โดยมีอํานาจหน ้าทีห ่ ลักในการศก และกําหนดแนวทางและวิธก ี ารในการกําหนดหลักเกณฑ์ รวมทัง้ รายละเอียดประกอบหลักเกณฑ์การคํานวณราคากลางงาน ้ ก่อสร ้างทีเ่ ป็ นมาตรฐานตามหลักวิชาการ สอดคล ้องกับราคาค่าก่อสร ้างทีเ่ ป็ นจริง และสามารถนํ าไปใชในกระบวนการจั ดจ ้าง ิ ธิภาพ ก่อสร ้างตามระเบียบสํานักนายกรัฐมนตรี ว่าด ้วยการพัสดุฯ ได ้อย่างมีประสท

8 1.2 แผนการดําเนินการในระยะยาว กําหนดจะดําเนินการทบทวนและปรับปรุงหลักเกณฑ์การคํานวณราคา กลางงานก่อสร ้างทัง้ ระบบ โดยได ้เริม ่ ดําเนินการแล ้วตัง้ แต่เดือนตุลาคม 2553 เป็ นต ้นไป 2. การกําหนดราคามาตรฐานครุภัณฑ์และมาตรฐานสงิ่ ก่อสร ้างเป็ นภารกิจในความรับผิดชอบของสํานัก งบประมาณ ซงึ่ สํานักงบประมาณได ้ดําเนินการทบทวนรายการตามบัญชรี าคามาตรฐาน และปรับปรุงราคามาตรฐานสงิ่ ก่อสร ้าง ื่ มโยงกับราคาวัสดุของกระทรวงพาณิชย์ เพือ ให ้เชอ ่ ให ้มีการปรับราคาได ้โดยอัตโนมัตแ ิ บบ Real Time หรือปรับเดือนละครัง้ คาดว่าจะแล ้วเสร็จในเบือ ้ งต ้นประมาณเดือนกุมภาพันธ์ 2554 อันจะเป็ นประโยชน์ในการกําหนดราคากลางในกรณีทม ี่ รี ป ู แบบ ี ้ ี ่ ิ รายการตรงกัน โดยหากดําเนินการแล ้วเสร็จ กค. (กรมบัญชกลาง) จะได ้พิจารณากําหนดให ้ใชบัญชราคามาตรฐานสงก่อสร ้าง และราคามาตรฐาน ครุภัณฑ์ ดังกล่าวเป็ นทางเลือกหนึง่ สําหรับการคํานวณราคากลางงานก่อสร ้างตามหลักเกณฑ์การ คํานวณราคากลางงานก่อสร ้างต่อไป 3. การปรับปรุงหลักเกณฑ์และเงือ ่ นไขในการจัดหาพัสดุตามระเบียบสํานักนายกรัฐมนตรีวา่ ด ้วยการพัสดุด ้วย วิธก ี ารทางอิเล็กทรอนิกส ์ พ.ศ. 2549 กค. โดยคณะกรรมการว่าด ้วยการพัสดุด ้วยวิธก ี ารทางอิเล็กทรอนิกสไ์ ด ้แจ ้งเวียน ิ ค ้าและบริการหรืองานโครงการทีไ่ ม่ต ้องดําเนินการ หน่วยงานภาครัฐ เรือ ่ ง การกําหนดหลักเกณฑ์ในการพิจารณาประเภทสน ื้ จัดจ ้างด ้วยวิธก จัดซอ ี ารตามระเบียบสํานั กนายกรัฐมนตรีวา่ ด ้วยการพัสดุด ้วยวิธก ี ารทางอิเล็กทรอนิกส ์ พ.ศ. 2549 สรุปได ้ว่า ิ ค ้าและบริการเป็ นสําคัญ คือ หากพัสดุทจ การจัดหาพัสดุจะดําเนินการด ้วยวิธใี ดให ้พิจารณาจากประเภทสน ี่ ัดหาเป็ นประเภท ิ สนค ้าและบริการทั่วไป และมีวงเงินเริม ่ ต ้นในการจัดหาตัง้ แต่ 2 ล ้านบาทขึน ้ ไป ให ้ดําเนินการตามระเบียบสํานักนายกรัฐมนตรี ิ ค ้าและบริการทีม ั ซอน ้ มี ว่าด ้วยการพัสดุด ้วยวิธก ี ารทางอิเล็กทรอนิกส ์ พ.ศ. 2549 หากพัสดุทจ ี่ ัดหาเป็ นประเภทสน ่ ค ี วามซบ ้ ั ้ สูงมีผู ้ขายน ้อยราย หรือมีความผันผวนทางด ้านราคาสูงให ้หน่วยงานสามารถ เทคนิคเฉพาะ จําเป็ นต ้องใชเทคโนโลยี ชน เลือกใชวิ้ ธก ี ารจัดหาตามระเบียบสํานั กนายกรัฐมนตรีวา่ ด ้วยการพัสดุ พ.ศ. 2535 และทีแ ่ ก ้ไขเพิม ่ เติม หรือตามระเบียบ ข ้อบังคับของหน่วยงานนัน ้ ๆ ได ้ 4. การจ ้างทีป ่ รึกษา กค. ได ้จัดประชุมหน่วยงานทีเ่ กีย ่ วข ้อง ได ้แก่ สํานักงบประมาณ สํานักงาน ก.พ. สํานักงานบริหารหนีส ้ าธารณะ สภาวิศวกร สภาสถาปนิก สมาคมวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยฯ และสมาคมสถาปนิกสยามฯ เมือ ่ วันที่ 27 ตุลาคม 2553 ทีป ่ ระชุมได ้พิจารณาแล ้วเห็นควรกําหนดหลักเกณฑ์การจ ้างทีป ่ รึกษาออกแบบและควบคุมงาน ี ก่อสร ้างให ้สอดคล ้องกับการขอรับใบอนุญาตประกอบวิชาชพต่าง ๆ ไม่วา่ จะเป็ นบุคคลธรรมดาหรือนิตบ ิ ค ุ คลทีไ่ ด ้ขอรับ ี ใบอนุญาตประกอบวิชาชพไว ้กับสภาสถาปนิกหรือสภาวิศวกรแล ้วแต่กรณี และการขึน ้ ทะเบียนทีป ่ รึกษาเพือ ่ ออกแบบและ ํ ควบคุมงานก่อสร ้างของหน่วยงานทัง้ 3 แห่ง คือ การจดทะเบียนทีป ่ รึกษาของศูนย์ข ้อมูลทีป ่ รึกษาไทย สานักงานบริหารหนี้ ี สาธารณะ การขอรับใบอนุญาตประกอบวิชาชพของสภาสถาปนิกและสภาวิศวกรควรเป็ นไปแนวทางเดียวกัน รวมทัง้ ควรมี ี นัน หน่วยงานทีม ่ ห ี น ้าทีต ่ รวจสอบการทํางานของทีป ่ รึกษาให ้ประพฤติปฏิบต ั ใิ ห ้อยูใ่ นกรอบจรรยาบรรณวิชาชพ ้ ๆ ด ้วย ทัง้ นี้ ี กรมบัญชกลางจะนํ าแนวทางและข ้อเสนอแนะของทีป ่ ระชุมดังกล่าวไปพิจารณาดําเนินการต่อไป 7. เรือ ่ ง โครงการเคเบิลใต้นํา้ ใยแก้วอ่าวไทย คณะรัฐมนตรีเห็นชอบในหลักการโครงการเคเบิลใต ้นํ้ าใยแก ้วอ่าวไทย โดยให ้รับความเห็นของสํานักงาน คณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสงั คมแห่งชาติกบ ั หน่วยงานทีเ่ กีย ่ วข ้องไปพิจารณา ตามทีก ่ ระทรวงเทคโนโลยี ่ ื สารสนเทศและการสอสารเสนอ ข้อเท็จจริง ื่ สาร (ทก.) รายงานว่า บมจ. กสท โทรคมนาคม ได ้เสนอโครงการ กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสอ เคเบิลใต ้นํ้ าใยแก ้วอ่าวไทย สรุปสาระสําคัญ ดังนี้ 1. หล ักการและเหตุผล 1.1 โครงการเคเบิลใต ้นํ้ าใยแก ้วอ่าวไทยมีวัตถุประสงค์เพือ ่ จัดสร ้างโครงข่ายเคเบิลใต ้นํ้ าใย ้ ่ ื ่ ื ื่ มโยงสถานีเคเบิลใต ้นํ้ าใย แก ้วทีเ่ ป็ นเสนทางหลัก เพือ ่ ขยายระบบสอสารในประเทศและเชอมต่อระหว่างประเทศ โดยเชอ แก ้ว 2 สถานี ระหว่าง ชลี 2 จังหวัดสงขลา และ ชลี 3 จังหวัดชลบุร ี ซงึ่ เป็ นสถานีจด ุ ขึน ้ บก (Landing Point) ของโครงข่าย ่ ื ่ ื ่ ระเทศไทย เคเบิลใต ้นํ้ าใยแก ้วระหว่างประเทศและจุดเชอมโยงการสอสารโทรคมนาคมระหว่างภูมภ ิ าคทีส ่ ําคัญเข ้าสูป ื่ สารภายในประเทศ โดยใชเทคโนโลยี ้ 1.2 โครงการดังกล่าวเป็ นการขยายโครงข่ายสอ ั ญาณใต ้นํ้ า Repeater ทีท Dense Wavelength Division Multiplex (DWDM) ทีท ่ ันสมัย และติดตัง้ อุปกรณ์ทวนสญ ่ ําหน ้าที่

9 ั ญาณไปได ้ระยะทางทีไ่ กลมากขึน ื่ สารรองรับความจุไม่น ้อย ขยายความเข ้มของแสงให ้สามารถสง่ สญ ้ สามารถให ้บริการสอ ้ กว่า 160 Gbps สามารถรองรับการให ้บริการโทรคมนาคมทุกรูปแบบ เพิม ่ ความมัน ่ คงและหลากหลายในการใชโครงข่ าย ้ ่ ื ้ ํ นอกจากนัน ้ ยังเป็ นเสนทางเชอมโยงระหว่างเคเบิลใต ้นํ้ าใยแก ้วเสนทางหลักกับแท่นสารวจ และผลิตปิ โตรเลียมของ ้ ผู ้ใชบริการในกลุม ่ อุตสาหกรรมพลังงานในอ่าวไทย และสามารถรองรับบริการวงจรเชา่ สว่ นบุคคลความเร็วสูงสําหรับกลุม ่ ่ ึ ้ ื อุตสาหกรรมพลังงานในอ่าวไทยทีต ่ ้องการการรักษาความปลอดภัยสูง ซงพลังงานจากฐานการผลิตเหล่านีเ้ ป็ นเชอเพลิงหลัก ่ บริษัท ผลิตไฟฟ้ าราชบุร ี โฮลดิง้ ของโรงไฟฟ้ าของการไฟฟ้ าฝ่ ายผลิต แห่งประเทศไทยและผู ้ผลิตไฟฟ้ าภาคเอกชน เชน จํากัด (มหาชน) บริษัท ผลิตไฟฟ้ า จํากัด (มหาชน) เป็ นต ้น ซงึ่ มีความสําคัญต่อความมั่นคงด ้านพลังงานของประเทศ 2. เป้าหมาย ้ 2.1 จัดสร ้างโครงข่ายเคเบิลใต ้นํ้ าใยแก ้วทีเ่ ป็ นเสนทางหลั กในอ่าวไทย โดยมีสถานีจด ุ ขึน ้ ้ ่ ื บกทีส ่ ถานีเคเบิลใต ้นํ้ า ชลี 2 จังหวัดสงขลา และสถานีเคเบิลใต ้นํ้ า ชลี 3 จังหวัดชลบุร ี และมีเสนทางเชอมโยงระหว่าง ้ การในกลุม เคเบิลใต ้นํ้ าใยแก ้วทางหลักกับแท่นสํารวจและผลิตปิ โตรเลียมของผู ้ใชบริ ่ อุตสาหกรรมพลังงานในอ่าวไทย ้ 2.2 ติดตัง้ อุปกรณ์โทรคมนาคมเพือ ่ รองรับความจุไม่น ้อยกว่า 160 Gbps โดยใชเทคโนโลยี ้ DWDM (การสง่ ข ้อมูลบนเสนไฟเบอร์ ออฟติก) 3. ระยะเวลาดําเนินงาน 2 ปี (คาดว่าจะเริม ่ ดําเนินงานได ้ประมาณไตรมาสที่ 4 ของปี พ.ศ. 2553 หลังจากที่ คณะรัฐมนตรีอนุมัตแ ิ ละพร ้อมให ้บริการได ้ประมาณไตรมาสที่ 3 ปี พ.ศ. 2555) 8. เรือ ่ ง การดําเนินโครงการพิเศษสายศรีร ัช – วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร ด้วยวิธก ี ารเพิม ่ บทบาท ภาคเอกชน (Public Private Partnerships: PPPs) ตามพระราชบ ัญญ ัติวา่ ด้วยการให้เอกชนเข้าร่วมงานหรือ ดําเนินการในกิจการของร ัฐ พ.ศ. 2535 ของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย คณะรัฐมนตรีเห็นชอบตามทีส ่ ํานักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสงั คมแห่งชาติ (สศช.) เสนอ และให ้กระทรวงคมนาคม การทางพิเศษแห่งประเทศไทยและหน่วยงานทีเ่ กีย ่ วข ้องรับความเห็นและข ้อสงั เกตของ กระทรวงการคลังและสํานั กงบประมาณไปพิจารณาดําเนินการในสว่ นทีเ่ กีย ่ วข ้อง ดังนี้ 1. เห็นชอบในหลักการโครงการทางพิเศษสายศรีรัช – วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร โดยการให ้เอกชน เข ้าร่วมลงทุนในรูปแบบ Build – Transfer – Operate กรอบวงเงินลงทุนประมาณ 27,022 ล ้านบาท ประกอบด ้วย (1) ประมาณการวงเงินลงทุนของภาคเอกชน จํานวน 17,458 ล ้านบาท และ (2) ประมาณการวงเงินลงทุนของภาครัฐ โดยเป็ นค่า ิ ธิ์ ทีด จัดกรรมสท ่ น ิ ของโครงการ จํานวน 9,564 ล ้านบาท ตามทีก ่ ารทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) เสนอ โดยให ้ ดําเนินการตามขัน ้ ตอนพระราชบัญญัตวิ า่ ด ้วยการให ้เอกชนเข ้าร่วมงานหรือดําเนินการในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2535 เนือ ่ งจาก โครงการดังกล่าวเป็ นการขยายโครงข่ายทางพิเศษให ้มีความครอบคลุมพืน ้ ทีก ่ รุงเทพมหานครและปริมณฑลเพิม ่ ขึน ้ และ ่ ื สามารถรองรับและเพิม ่ ทางเลือกในการเดินทางเชอมต่อระหว่างฝั่ งธนบุรแ ี ละกรุงเทพมหานครของประชาชนทีอ ่ าศัยอยูใ่ นฝั่ ง พืน ้ ทีธ ่ นบุร ี รวมทัง้ จะชว่ ยบรรเทาปั ญหาการจราจรบนสะพานข ้ามแม่นํ้าเจ ้าพระยา และโครงข่ายถนนพืน ้ ราบในพืน ้ ทีโ่ ดยรอบ โครงการดังกล่าวได ้ในระดับหนึง่ 2. มอบหมายให ้กระทรวงคมนาคม (คค.) และ กทพ. รับความเห็นของคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและ ั สงคมแห่งชาติ ไปดําเนินการอย่างเคร่งครัดต่อไป 3. เห็นควรให ้หน่วยงานเจ ้าของโครงการทีม ่ ค ี วามประสงค์ทจ ี่ ะให ้เอกชนเข ้าร่วมงานหรือดําเนินการลงทุนใน โครงการตามขัน ้ ตอนพระราชบัญญัตวิ า่ ด ้วยการให ้เอกชนเข ้าร่วมงานหรือดําเนินการในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2535 ในระยะต่อไป ดําเนินการทดสอบความสนใจของนักลงทุน (Market Sounding) เพือ ่ เป็ นข ้อมูลประกอบการวิเคราะห์ความเหมาะสมของ โครงการ และกําหนดรูปแบบการให ้เอกชนเข ้าร่วมลงทุนทีม ่ ค ี วามเหมาะสมตามขัน ้ ตอนต่อไป ํ ี 4. มอบหมายให ้สานักงบประมาณ (สงป.) และกรมบัญชกลางร่วมกันพิจารณาแนวทางการตรวจสอบ ้ อ การดําเนินโครงการลงทุนขนาดใหญ่เพือ ่ เสนอคณะรัฐมนตรีพจ ิ ารณาตามขัน ้ ตอนต่อไป โดยอาจพิจารณาปรับใชเครื ่ งมือวัด ่ ความโปร่งใสและตรวจสอบได ้ของสวนราชการ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมือ ่ วันที่ 12 ตุลาคม 2553 และเห็นควรกําหนดให ้มีการ ตรวจสอบการดําเนินโครงการตัง้ แต่ขน ั ้ ตอนการเตรียมความพร ้อมของโครงการ เพือ ่ ไม่ให ้เป็ นอุปสรรคต่อเป้ าหมายของ โครงการต่อไป

10 สาระสําค ัญของเรือ ่ ง สศช. รายงานว่า คค. ได ้เสนอเรือ ่ ง การดําเนินโครงการทางพิเศษสายศรีรัช-วงแหวนรอบนอก กรุงเทพมหานคร ด ้วยวิธก ี ารเพิม ่ บทบาทภาคเอกชน (Public Private Partnerships : PPPs) ของ กทพ. ให ้ สศช. พิจารณา ตามขัน ้ ตอนพระราชบัญญัตวิ า่ ด ้วยการให ้เอกชนเข ้าร่วมงานหรือดําเนินการในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2535 ซงึ่ ในคราวประชุมคณะ กรรมการฯ เมือ ่ วันจันทร์ท ี่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2553 มีมติเห็นชอบในหลักการของโครงการดังกล่าวและมอบหมายให ้ สศช. นํ าเสนอคณะรัฐมนตรีพจ ิ ารณาตามกฎหมาย โดยมีรายละเอียด ดังนี้ 1. คค. นํ าเสนอการดําเนินโครงการทางพิเศษสายศรีรัช-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร วงเงินลงทุน 27,022 ล ้านบาท ซงึ่ ประกอบด ้วย ค่าก่อสร ้าง จํานวน 17,137 ล ้านบาท ค่าทบทวนแบบและควบคุมงาน จํานวน 321 ล ้าน ิ ธิท บาท และขอรับการสนับสนุนงบประมาณจากรัฐบาลสําหรับค่าจัดกรรมสท ์ ด ี่ น ิ จํานวน 9,564 ล ้านบาท ภายใต ้รูปแบบการ ํ ลงทุน Build – Transfer – Operate โดยมีสาระสาคัญของโครงการ ดังนี้ 1.1 ล ักษณะทางกายภาพของโครงการ (1) ว ัตถุประสงค์ เพือ ่ ขยายโครงข่ายของทางพิเศษในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ิ้ สุดที่ ในทางทิศตะวันตก โดยขยายขอบข่ายการให ้บริการจากทางพิเศษศรีรัช ไปทางทิศตะวันตกของกรุงเทพมหานครสน ถนนวงแหวนรอบนอกฝั่ งตะวันตก เพือ ่ แบ่งเบาปริมาณจราจรบนถนนระดับดินและระบายการจราจรทางด ้านทิศตะวันตก ิ ธิภาพมากขึน ระหว่างกรุงเทพฯ และจังหวัดใกล ้เคียงให ้มีประสท ้ ้ (2) แนวเสนทาง โครงการทางพิเศษศรีรัช-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร เป็ นการ ่ ี ดงชว่ งบางซอ ื่ – ตลิง่ ชน ั ซงึ่ เป็ นการพัฒนา ก่อสร ้างทางยกระดับขนาด 6 ชองจราจร ร่วมกับระบบขนสง่ มวลชนสายสแ ิ้ 16.7 กิโลเมตร โดยมีแนวเสนทางเริ ้ โครงข่ายบนเขตทางรถไฟทีม ่ อ ี ยูเ่ ดิมเป็ นสว่ นใหญ่ มีระยะทางทัง้ สน ม ่ ต ้นจากถนน กาญจนาภิเษก บริเวณโรงกรองนํ้ ามหาสวัสดิไ์ ปทางทิศตะวันออกตามแนวเขตทางรถไฟสายใต ้เดิมข ้ามแม่นํ้าเจ ้าพระยาที่ ิ้ สุดทีท ิ 2) สะพานพระรามหก และไปสน ่ างพิเศษศรีรัชสว่ น A บริเวณด ้านเหนือของสถานีขนสง่ สายเหนือ (หมอชต (3) อ ัตราค่าผ่านทาง จัดเก็บค่าผ่านทางแบบระบบเปิ ด โดยปี แรกทีเ่ ปิ ดให ้บริการ (ปี 2559) คิดอัตราค่าผ่านทาง รถ 4 ล ้อ เท่ากับ 50 บาท/คัน และปรับเพิม ่ ทุก 5 ปี ตามค่าเฉลีย ่ ดัชนีผู ้บริโภค (4) วงเงินลงทุน 27,022 ล้านบาท ประกอบด ้วย ค่าก่อสร ้าง 17,137 ล ้านบาท ค่าทบทวน ิ ธิท แบบและควบคุมงาน 321 ล ้านบาท และค่าจัดกรรมสท ์ ด ี่ น ิ 9,564 ล ้านบาท 1.2 ความเหมาะสมทางเศรษฐกิจของโครงการ โครงการมีผลตอบแทนทางเศรษฐกิจคิดเป็ น มูลค่าปั จจุบน ั สุทธิเท่ากับ 20,011 ล ้านบาท (อัตราคิดลดร ้อยละ 12) และมีอต ั ราผลตอบแทนทางเศรษฐกิจ (EIRR) ร ้อยละ 22.23 ิ ธิท 1.3 ความเหมาะสมทางการเงินของโครงการ กรณีรัฐอุดหนุนค่าจัดกรรมสท ์ ด ี่ น ิ จะทําให ้ โครงการมี ผลตอบแทนทางการเงินคิดเป็ นมูลค่าปั จจุบน ั สุทธิเท่ากับ 5,768 ล ้านบาท (อัตราคิดลดร ้อยละ 6.18) และมีอต ั รา ผลตอบแทนทางการเงิน (FIRR) ร ้อยละ 8.94 1.4 ความเหมาะสมของการให้เอกชนเข้าร่วมลงทุน กรณีให ้เอกชนร่วมลงทุนในรูปแบบ BTO จะ ทําให ้เอกชนมีผลตอบแทนทางการเงินคิดเป็ นมูลค่าปั จจุบน ั สุทธิเท่ากับ 802 ล ้านบาท และมี FIRR ร ้อยละ 6.89 1.5 แผนดําเนินงาน คาดว่าจะเปิ ดให ้บริการในเดือนเมษายน 2559 ิ ค้าและบริการควบคุมตามพระราชบ ัญญ ัติวา ิ ค้าและบริการ พ.ศ. 2542 9. เรือ ่ ง การกําหนดสน ่ ด้วยราคาสน ิ ค ้าจํานวน 39 รายการ และบริการ จํานวน 2 รายการ รวม 41 รายการ คณะรัฐมนตรีเห็นชอบการกําหนดสน ิ ค ้าและบริการ เป็ นสน ิ ค ้าและบริการควบคุม ในปี 2554 ตามทีก ตามมติคณะกรรมการกลางว่าด ้วยราคาสน ่ ระทรวงพาณิชย์ เสนอ ดังนี้ ิ ค้าควบคุม จํานวน 39 รายการ คือ 1. สน หมวดอาหารสด จํานวน 3 รายการ ได ้แก่ (1) สุกร เนือ ้ สุกร (2) กระเทียม และ (3) ไข่ไก่ หมวดอาหารและเครือ ่ งดืม ่ จํานวน 10 รายการ ได ้แก่ (1) กาแฟผงสําเร็จรูป (2) ข ้าวเปลือก ข ้าวสาร (3) ครีมเทียมข ้นหวาน นมข ้น นมคืนรูป นมแปลงไขมัน (4) นมเปรีย ้ วพร ้อมดืม ่ โยเกิรต ์ (5) นมผง นมสด (6) นํ้ าตาล

11 ั ว์ ทัง้ ทีบ ทราย (7) นํ้ ามันและไขมันทีไ่ ด ้จากพืชหรือสต ่ ริโภคได ้หรือไม่ได ้ (8) แป้ งสาลี (9) อาหารกึง่ สําเร็จรูปบรรจุภาชนะ ผนึก และ (10) อาหารในภาชนะบรรจุทป ี่ ิ ดสนิท ้ ั ฟอก (3) ผงซก ั ฟอก (4) หมวดของใชประจําว ัน จํานวน 6 รายการ ได ้แก่ (1) แชมพู (2) นํ้ ายาซก ผลิตภัณฑ์ล ้างจาน (5) ผ ้าอนามัย และ (6) สบู่ หมวดกระดาษและผลิตภ ัณฑ์ จํานวน 4 รายการ ได ้แก่ (1) กระดาษทําลูกฟูก (2) กระดาษพิมพ์และ เขียน(3) กระดาษเหนียว (KRAFT PAPER) และ (4) เยือ ่ กระดาษ ่ หมวดบริภ ัณฑ์ขนสง จํานวน 3 รายการ ได ้แก่ (1) แบเตอรีร่ ถยนต์ (2) ยางรถจักรยานยนต์ ยางรถยนต์ และ (3) รถจักรยานยนต์ รถยนต์นั่ง รถยนต์บรรทุก หมวดว ัสดุกอ ่ สร้าง จํานวน 3 รายการ ได ้แก่ (1) ปูนซเี มนต์ (2) สายไฟฟ้ า และ (3) เหล็กโครงสร ้าง รูปพรรณ เหล็กแผ่น เหล็กเสน้ ื้ เพลิง และ หมวดผลิตภ ัณฑ์ปิโตรเลียม จํานวน 3 รายการ ได ้แก่ (1) ก๊าซปิ โตรเลียมเหลว (2) นํ้ ามันเชอ (3) เม็ดพลาสติก หมวดยาร ักษาโรคและเวชภ ัณฑ์ จํานวน 1 รายการ ได ้แก่ ยารักษาโรค หมวดปัจจ ัยทางการเกษตร จํานวน 5 รายการ ได ้แก่ (1) ปุ๋ย (2) ข ้าวโพด (3) มันสําปะหลังและ ั ว์ อาหารสต ั ว์ ผลิตภัณฑ์ (4) ยาป้ องกันหรือกําจัดศัตรูพช ื หรือโรคพืช และ (5) หัวอาหารสต หมวดทว่ ั ไป จํานวน 1 รายการ ได ้แก่ เครือ ่ งแบบนักเรียน ิ ธิในการเผยแพร่งานลิขสท ิ ธิเ์ พลงเพือ 2. บริการควบคุม จํานวน 2 รายการ ได ้แก่ (1) การให ้สท ่ การค ้า ิ ่ ิ และ (2) บริการรับฝากสนค ้าหรือบริการให ้เชาสถานทีเ่ ก็บสนค ้า ิ ค ้า / บริการควบคุมดังกล่าว และนํ าลงประกาศใน ทัง้ นี้ เมือ ่ คณะรัฐมนตรีได ้ให ้ความเห็นชอบรายการสน ้ ้ว รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงพาณิชย์ ประธานคณะกรรมการกลางว่าด ้วยราคาสน ิ ค ้า ราชกิจจานุเบกษา เพือ ่ ให ้มีผลบังคับใชแล และบริการ จะได ้ออกประกาศกําหนดมาตรการทางกฎหมายต่อไป ่ ยเหลือเกษตรกรผูป 10. เรือ ่ ง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ขอสน ับสนุนงบกลางเพือ ่ ชว ้ ระสบอุทกภ ัยปี 2553 เพิม ่ เติม คณะรัฐมนตรีเห็นชอบสนั บสนุนงบกลางเพือ ่ ชว่ ยเหลือเกษตรกรผู ้ประสบอุทกภัย ปี 2553 เพิม ่ เติมภายใน วงเงิน 5,429.82 ล ้านบาท ตามทีก ่ ระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และเห็นชอบให ้ขยายระยะเวลาให ้ครอบคลุมถึงเดือน กุมภาพันธ์ 2554 ดังนี้ 1. ชว่ ยเหลือเกษตรกรตามมติคณะรัฐมนตรีเมือ ่ วันที่ 2 พฤศจิกายน 2553 เพิม ่ เติม จํานวน 1,812.77 ล ้าน บาท แบ่งเป็ น ด ้านพืช จํานวน 1,577.35 ล ้านบาท และด ้านประมง จํานวน 235.42 ล ้านบาท เนือ ่ งจากคณะรัฐมนตรีได ้มี ่ ่ มติเมือ ่ วันที่ 30 พฤศจิกายน 2553 เห็นชอบให ้ชวยเหลือเกษตรกรทีย ่ ังไม่ได ้ขึน ้ ทะเบียนด ้วย จึงสงผลให ้กรอบวงเงินที่ ประมาณการไว ้ จํานวน 14,883.41 ล ้านบาท ไม่เพียงพอ ี หายและผ่านการ 2. ชว่ ยเหลือเกษตรกรในพืน ้ ทีภ ่ าคใต ้ จํานวน 3,403.49 ล ้านบาท ซงึ่ ได ้สํารวจความเสย พิจารณาของคณะกรรมการชว่ ยเหลือผู ้ประสบภัยพิบต ั จ ิ ังหวัดแล ้วบางสว่ น ยกเว ้นพืน ้ ทีท ่ ย ี่ ังมีสถานการณ์ อุทกภัยอยู่ แต่ได ้ ี ่ ประมาณ การความเสยหายบางสวนให ้ครอบคลุมพืน ้ ทีแ ่ ล ้ว แบ่งเป็ น ด ้านพืช 5,573.59 ล ้านบาท ด ้านประมง 562.92 ล ้าน ั บาทท และด ้านปศุสตว์ 266.98 ล ้านบาท ี สภาพสวน จํานวน 136.86 ล ้านบาท ซงึ่ เป็ นการ 3. ชว่ ยเหลือเกษตรกรชาวสวนยางพารากรณีไม่เสย ชว่ ยเหลือเกษตรกรทีไ่ ม่อยูใ่ นหลักเกณฑ์การชว่ ยเหลือตามมติคณะรัฐมนตรีเมือ ่ วันที่ 16 พฤศจิกายน 2553 เป็ นรายต ้น ๆ ละ 90 บาท จํานวน 1,520,583 ต ้น 4. ชว่ ยเหลือเรือประมงและเครือ ่ งมือทําการประมง จํานวน 76.70 ล ้านบาท ประกอบด ้วย เรือประมงที่ ประสบภัย จํานวน 977 ลํา วงเงิน 34.78 ล ้านบาท และเครือ ่ งมือทําการประมง จํานวน 186,233 อัน วงเงิน 41.29 ล ้าน บาท

12 11. เรือ ่ ง ผลการติดตามการดําเนินการตามมติคณะร ัฐมนตรี เรือ ่ ง โครงการก่อสร้างระบบจําหน่ายด้วยสายเคเบิล ใต้นํา้ ไปย ังเกาะต่าง ๆ (เกาะมะพร้าว เกาะนาคาใหญ่ จ ังหว ัดภูเก็ต เกาะพระทอง จ ังหว ัดพ ังงา) คณะรัฐมนตรีรับทราบรายงานผลการติดตามการดําเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี เรือ ่ ง โครงการก่อสร ้างระบบ จําหน่ายด ้วยสายเคเบิลใต ้นํ้ าไปยังเกาะต่าง ๆ (เกาะมะพร ้าว เกาะนาคาใหญ่ จังหวัดภูเก็ต เกาะพระทอง จังหวัดพังงา) ตามที่ คณะกรรมการประสานงานและขับเคลือ ่ นการดําเนินงานตามมติคณะรัฐมนตรี (ปคค.) เสนอ ํ สาระสาค ัญของเรือ ่ ง ฝ่ ายเลขานุการ ปคค. ได ้ประสานกระทรวงมหาดไทยแจ ้งแผนการดําเนินงานในเรือ ่ งดังกล่าว ซงึ่ กระทรวงมหาดไทยได ้ให ้การไฟฟ้ าสว่ นภูมภ ิ าคจัดสง่ แผนการดําเนินงานดังกล่าวให ้ฝ่ ายเลขานุการ ปคค. โดยตรง บัดนี้ การ ไฟฟ้ าสว่ นภูมภ ิ าคได ้จัดสง่ แผนการดําเนินงานดังกล่าวให ้ฝ่ ายเลขานุการ ปคค. มีสาระสําคัญสรุปได ้ดังนี้ ขนตอน ั้

โครงการก่อสร้างระบบจําหน่ายฯ (เกาะมะพร้าว เกาะนาคาใหญ่ จ ังหว ัดภูเก็ต เกาะพระทอง จ ังหว ัด พ ังงา) มกราคม-สงิ หาคม 2552

พฤษภาคม-พฤศจิกายน 2553

2) ขออนุมัตด ิ ําเนินการ

กันยายน 2552 – ตุลาคม 2553

ธันวาคม 2553 – กรกฎาคม 2554

3) ประกวดราคา

พฤศจิกายน 2553 – มิถน ุ ายน 2554

สงิ หาคม 2554 – มีนาคม 2555

4) ก่อสร ้างเคเบิลใต ้นํ้ า (จ ้าง เหมา)

กรกฎาคม 2554 – ธันวาคม 2555

เมษายน 2555 – กันยายน 2556

5) ก่อสร ้างระบบจําหน่าย

สงิ หาคม 2554 – พฤษภาคม 2555

กรกฎาคม 2555 – เมษายน 2556

ึ ษาความ 1) จัดทํารายงานศก เหมาะสม

โครงการขยายเขตติดตงระบบ ั้ ไฟฟ้าให้เกาะต่าง ๆ (เกาะปันหยี จ ังหว ัดพ ังงา)

ทัง้ นี้ โครงการก่อสร ้างระบบจําหน่ายด ้วยสายเคเบิลใต ้นํ้ าไปยังเกาะต่าง ๆ (เกาะมะพร ้าว เกาะนาคาใหญ่ จังหวัดภูเก็ต เกาะพระทอง จังหวัดพังงา) ขณะนีอ ้ ยูใ่ นขัน ้ ตอนการประกวดราคา สว่ นโครงการขยายเขตติดตัง้ ระบบไฟฟ้ าให ้ ั ว์ป่า และพันธุพ เกาะต่าง ๆ (เกาะปั นหยี จังหวัดพังงา) ขณะนีอ ้ ยูใ่ นขัน ้ ตอนขออนุญาตกรมอุทยานแห่งชาติ สต ์ ช ื จากนัน ้ จึง ่ น จะเข ้าสูข ั ้ ตอนการประกวดราคาต่อไป 12. เรือ ่ ง การรายงานผลการดําเนินการตามมติคณะร ัฐมนตรี เรือ ่ ง แผนพ ัฒนาสุกรทงระบบและแผนปฏิ ั้ บ ัติงาน พ.ศ. 2553-2557 คณะรัฐมนตรีรับทราบรายงานผลการดําเนินการตามเรือ ่ ง แผนพัฒนาสุกรทัง้ ระบบและแผนปฏิบัตงิ าน พ.ศ. 2553-2557 ตามทีก ่ ระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ดังนี้ สาระสําค ัญของเรือ ่ ง ั ว์ ได ้รายงานผลการดําเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี เรือ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมปศุสต ่ ง แผนพัฒนาสุกรทัง้ ระบบและแผนปฏิบต ั งิ าน พ.ศ. 2553-2557 ดังนี้ 1. พัฒนาฟาร์มสุกรให ้ผ่านเกณฑ์มาตรฐานฟาร์ม 3,958 ฟาร์ม ในปี 2553 ี ในฟาร์มสุกรในพืน 2. สง่ เสริมความรู ้การจัดการของเสย ้ ทีล ่ ม ุ่ นํ้ าวิกฤต จํานวน 1,893 ฟาร์ม ั ว์และสุขอนามัยที่ 2 ได ้รับการรับรองปลอดโรคปากและเท ้าเปื่ อย 3. ฟาร์มสุกรในพืน ้ ทีส ่ ํานักสุขศาสตร์สต จํานวน 139 ฟาร์ม จากฟาร์มสุกรทีเ่ ข ้าร่วมโครงการ 688 ฟาร์ม 4. พัฒนาสถานทีจ ่ ําหน่ายเนือ ้ สุกรตันแบบทีส ่ ะอาดในตลาดสด จํานวน 191 แห่ง

13 5. ผู ้ประกอบการโรงฆ่าสุกรในประเทศมีใบอนุญาต (ฆจส.) ในปี 2553 จํานวน 537 แห่ง ั ว์รับรองโรงงานอาหารสต ั ว์สําหรับสุกรผ่าน GMP จํานวน 32 แห่ง และผ่าน HACCP จํานวน 6. กรมปศุสต 29 แห่ง ั ว์ เพือ ั ว์ พ.ศ. .... แทนฉบับ 7. คณะรัฐมนตรีเห็นชอบร่างพระราชบัญญัตค ิ วบคุมการฆ่าสต ่ การจําหน่ายเนือ ้ สต ้ เดิมทีป ่ ระกาศใชในปี พ.ศ. 2535 ั ว์ได ้ใชงบประมาณรายจ่ ้ 8. ในการดําเนินการตามข ้อ 1-7 กรมปศุสต ายประจําปี งบประมาณ พ.ศ. 2553 และ ่ ้ ปี งบประมาณ พ.ศ. 2554 บางสวน เพือ ่ เป็ นค่าใชจ่ายในการดําเนินงานทําให ้ไม่สามารถดําเนินการได ้ตามเป้ าหมายทีก ่ ําหนด โดยมีปัญหาและอุปสรรคพร ้อมทัง้ แนวทางในการแก ้ไขปั ญหา ดังนี้ ปัญหาและอุปสรรค ขัน ้ ตอนการขอตัง้ งบประมาณรายจ่ายประจําปี ิ้ แล ้ว และในชว่ งเดือน งบประมาณ พ.ศ. 2553 ได ้เสร็จสน มิถน ุ ายน 2553 อยูใ่ นขัน ้ ตอนการพิจารณาร่าง พระราชบัญญัตงิ บประมาณรายจ่ายประจําปี งบประมาณ พ.ศ. 2554 ของสภาผู ้แทนราษฎร ฉะนั น ้ การตัง้ งบประมาณตามแผนพัฒนาสุกรทัง้ ระบบฯ จะสามารถ บรรจุได ้ในงบประมาณ พ.ศ. 2555

แนวทางแก้ไข กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จะขอตัง้ งบประมาณ รายจ่ายประจําปี งบประมาณ พ.ศ. 2555 ในการดําเนินงาน ตามแผนพัฒนาสุกรทัง้ ระบบและแผนปฏิบต ั งิ าน

13. เรือ ่ ง รายงานความคืบหน้าการดําเนินการตามมติคณะร ัฐมนตรี ว ันที่ 28 ก ันยายน 2553 [เรือ ่ ง การยกเว้น ื้ อาหารเสริม (นม) โรงเรียนจากองค์การสง ่ เสริมกิจการโคนมแห่ง การปฏิบ ัติตามมิคณะร ัฐมนตรีเกีย ่ วก ับการจ ัดซอ ประเทศไทย] คณะรัฐมนตรีรับทราบรายงานความคืบหน ้าการดําเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมือ ่ วันที่ 28 กันยายน 2553 ื้ อาหารเสริม(นม) โรงเรียน ตามทีก เรือ ่ ง การยกเว ้นการปฏิบต ั ต ิ ามมติคณะรัฐมนตรีเกีย ่ วกับการจัดซอ ่ ระทรวงเกษตรและ สหกรณ์เสนอ สาระสําค ัญของเรือ ่ ง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได ้รายงานความคืบหน ้าการดําเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมือ ่ วันที่ 28 กันยายน 2553 ดังนี้ ื้ นมโรงเรียนขององค์กรปกครองสว่ นท ้องถิน 1. การดําเนินการจัดซอ ่ หรือหน่วยงานทีไ่ ด ้รับเงินอุดหนุนจาก รัฐบาลได ้ดําเนินการไปก่อนแล ้วตัง้ แต่ชว่ งเปิ ดภาคเรียนที่ 2/2552 ระหว่างเดือนตุลาคม – พฤศจิกายน 2552 ดังนัน ้ คณะอนุกรรมการบริหารจัดการโครงการอาหารเสริม (นม) โรงเรียน ในคณะกรรมการโคนมและผลิตภัณฑ์นม จึงได ้กําหนด ื้ อาหารเสริม หลักเกณฑ์และแนวทางปฏิบต ั โิ ครงการอาหารเสริม(นม) โรงเรียน เพือ ่ ให ้หน่วยงานทีไ่ ด ้รับงบประมาณจัดซอ (นม) ถือปฏิบัตส ิ ําหรับภาคเรียนที่ 1/2553 ตัง้ แต่เดือนพฤษภาคม 2553 เป็ นต ้นไป 2. อ.ส.ค. ในฐานะฝ่ ายเลขานุการคณะอนุกรรมการบริหารจัดการโครงการอาหารเสริม (นม) โรงเรียนได ้มี ื ถึงอธิบดีกรมบัญชก ี ลาง ในฐานะประธานกรรมการพิจารณาสท ิ ธิพเิ ศษของหน่วยงานและรัฐวิสาหกิจ เพือ หนังสอ ่ พิจารณา เห็นชอบยกเว ้นการปฏิบต ั ต ิ ามมติคณะรัฐมนตรี เมือ ่ วันที่ 15 ธันวาคม 2552 และวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2553 ให ้กับ ื้ อาหารเสริม(นม) โรงเรียนสําหรับภาคเรียนที่ 2/2552 และ กรุงเทพมหานครและองค์กรปกครองสว่ นท ้องถิน ่ กรณีการจัดซอ ื้ ไปก่อนแล ้ว และต่อมา ก่อนปิ ดภาคเรียนที่ 2/2552 ซงึ่ ปฏิบต ั ไิ ปตามแนวทางการปฏิบต ั เิ ดิมเนือ ่ งจากได ้ดําเนินการจัดซอ ี ลางได ้ชแ ี้ จงว่า กรุงเทพมหานครและองค์กรปกครองสว่ นท ้องถิน ื้ กรมบัญชก ่ จะต ้องถือปฏิบต ั ต ิ ามมติคณะรัฐมนตรีโดยจัดซอ ื้ ก่อนวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2553 เป็ น อาหารเสริม (นม) โรงเรียนจาก อ.ส.ค. ตัง้ แต่วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2553 สว่ นการจัดซอ ื้ ทีจ ื้ ดุลยพินจ ิ ของหน่วยจัดซอ ่ ะปฏิบต ั ต ิ ามแนวทางเดิมได ้ ดังนัน ้ หาก อ.ส.ค. ยังมีความประสงค์ทจ ี่ ะขอผ่อนผันการจัดซอ ้ อาหารเสริม (นม) โรงเรียนสาํ หรับกรุงเทพมหานครและองค์กร ปกครองสว่ นท ้องถิน ่ ในชว่ งรอยต่อของการบังคับใชมติ ื้ ตัง้ แต่วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2553 ทีไ่ ม่ได ้ปฏิบต คณะรัฐมนตรีดังกล่าวก็ให ้ อ.ส.ค. ดําเนินการขอผ่อนผันเฉพาะกรณีการจัดซอ ั ิ

14 ั เจนว่าประสงค์จะ ตามมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าวเท่านัน ้ โดยให ้ อ.ค.ส. แจ ้งความจํานงพร ้อมข ้อมูลประกอบการพิจารณาให ้ชด ื้ จํานวนกีค ขอผ่อนผันสําหรับการจัดซอ ่ รัง้ แต่ละครัง้ มีวงเงินเท่าใด 3. คณะอนุกรรมการบริหารจัดการโครงการอาหารเสริม(นม) โรงเรียนได ้พิจารณาเรือ ่ งดังกล่าวตามข ้อ 2 ่ และมีมติให ้กรุงเทพมหานครและองค์กรปกครองสวนท ้องถิน ่ ทีม ่ ค ี วามประสงค์จะขอผ่อนผันการปฏิบต ั ต ิ ามมติคณะรัฐมนตรี ่ ี ่ ึ จัดสงข ้อมูลเพือ ่ ประกอบการพิจารณาของกรมบัญชกลางให ้ อ.ส.ค. ดําเนินการต่อไป ซงต่อมากรุงเทพมหานครได ้จัดสง่ ื้ อาหารเสริม (นม) กรณีการจัดซอ ื้ ตัง้ แต่วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2553 (การจัดซอ ื้ ก่อนปิ ดภาคเรียนที่ 2/2552) ข ้อมูลการจัดซอ ี ลางเพือ มาให ้ อ.ค.ส. และ อ.ส.ค.ได ้จัดสง่ ข ้อมูลดังกล่าวไปยังกรมบัญชก ่ พิจารณาแล ้ว อนึง่ กษ. ได ้รายงานผลการดําเนินงานการบริหารจัดการนมโรงเรียน ภาคเรียนที่ 1/2553 เสนอคณะรัฐมนตรี ทราบแล ้วในการประชุมคณะรัฐมนตรีเมือ ่ วันที่ 7 กันยายน 2553 และจะได ้มีการรายงานความคืบหน ้าผลการดําเนินงานการ บริหารจัดการนมโรงเรียน ภาคเรียนที่ 2/2553 ภายในเดือนมีนาคม 2554 ต่อไป ั สงคม 14. เรือ ่ ง ระบบการประเมินผลภาคราชการแบบบูรณาการ คณะรัฐมนตรีเห็นชอบตามทีส ่ ํานักงาน ก.พ.ร. เสนอ ดังนี้ 1. เห็นชอบตามความเห็นของคณะกรรมการตรวจสอบและประเมินผลภาคราชการ (ค.ต.ป.) ในการประชุม ค.ต.ป. ครัง้ ที่ 4/2553 เมือ ่ วันที่ 1 ธันวาคม 2553 และข ้อเสนอของสํานักงบประมาณ (สงป.) และสํานักงาน ก.พ.ร. ทีเ่ สนอ ต่อทีป ่ ระชุมปลัดกระทรวงเกีย ่ วกับระบบการประเมินผลภาคราชการแบบบูรณาการ (Government Evaluation System (GES)) 2. เมือ ่ ดําเนินงานตามระบบประเมินผลดังกล่าวในสว่ นราชการแล ้ว ให ้สํานักงาน ก.พ.ร. และหน่วยงานที่ ้ เกีย ่ วข ้องไปพิจารณาปรับใชในการประเมิ นผลของจังหวัดและองค์การมหาชนต่อไป สาระสําค ัญของเรือ ่ ง เลขาธิการ ก.พ.ร. ในฐานะกรรมการและเลขานุการ ค.ต.ป. รายงานว่า 1. ในการประชุม ค.ต.ป. ครัง้ ที่ 4/2553 เมือ ่ วันที่ 1 ธันวาคม 2553 ทีป ่ ระชุมได ้พิจารณาเรือ ่ ง การประเมินความ คุ ้มค่าการปฏิบต ั ภ ิ ารกิจของภาครัฐตามมติคณะรัฐมนตรี (21 กันยายน 2553) รวมทัง้ แนวทางการบูรณาการระบบการตรวจสอบ และประเมินผลภาคราชการตามทีผ ่ ู ้อํานวยการสํานักงบประมาณและเลขาธิการ ก.พ.ร. ได ้หารือร่วมกันแล ้วมีมติ ดังนี้ 1.1 เห็นควรให ้มีการบูรณาการระบบการติดตามและประเมินผลภาครัฐให ้มีความเป็ นเอกภาพ ลดความ ้ ซํ้าซอนและภาระงานเอกสาร เพือ ่ ให ้สว่ นราชการมุง่ เน ้นเฉพาะตัวชวี้ ัดหลักทีม ่ ค ี วามจําเป็ นโดยมีกรอบการประเมินผลใน 2 มิต ิ ดังนี้ 1.1.1 มิตภ ิ ายนอก ประกอบด ้วย 1) การประเมินผลกระทบ (โดยให ้สํานักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสงั คมแห่งชาติ พิจารณาเลือกเฉพาะบางประเด็นทีม ่ ค ี วามสําคัญในเชงิ นโยบายและสมควรต ้องมีการประเมินผล) ั ฤทธิ์ (ผลผลิต/ผลลัพธ์) 2) การประเมินผลสม ิ ธิผลต่อค่า 3) การประเมินผลประโยชน์ตอ ่ ค่าใชจ่้ าย (Benefit-Coat Ratio) หรือการประเมินประสท ใชจ่้ าย (Cost-Effectiveness) โดยให ้ สงป. พิจารณาเลือกเฉพาะบางโครงการทีส ่ มควรต ้องมีการประเมินผลในเรือ ่ งดังกล่าว

้ การและทีม 4) ด ้านคุณภาพความพึงพอใจของประชาชนทีม ่ ต ี อ ่ ผลประโยชน์ทไี่ ด ้รับจากการใชบริ ่ ี ต่อกระบวนงานให ้บริการ ิ ธิภาพ 2) ด ้านการพัฒนาองค์กร 1.1.2 มิตภ ิ ายใน ประกอบด ้วยตัวชวี้ ัด 1) ด ้านประสท 1.2 เห็นควรให ้ยกเลิกตัวชวี้ ัดตามคํารับรองการปฏิบต ั ริ าชการของสว่ นราชการ จํานวน 5 ตัวชวี้ ัด ได ้แก่ 1) ตัวชวี้ ัดระดับความสําเร็จของการพัฒนาศูนย์บริการร่วมหรือเคาน์เตอร์บริการประชาชน 2) ตัวชวี้ ัดระดับความสําเร็จของร ้อยละเฉลีย ่ ถ่วงนํ้ าหนักในการรักษามาตรฐานระยะเวลาการให ้บริการ 3) ตัวชวี้ ัดระดับความสําเร็จของการควบคุมภายใน

15 4) ตัวชวี้ ัดระดับความสําเร็จของการดําเนินการตามแผนพัฒนากฎหมายของสว่ นราชการ 5) ตัวชวี้ ัดระดับความสําเร็จของร ้อยละเฉลีย ่ ถ่วงนํ้ าหนักในการบรรลุเป้ าหมายตามเอกสารงบประมาณ ่ รายจ่ายประจําปี ของสวนราชการระดับกรมหรือเทียบเท่า ื่ มโยงฐานข ้อมูลกลางของ 1.3 เห็นชอบให ้มีการวางระบบสารสนเทศฐานข ้อมูลกลางขึน ้ อันเป็ นการเชอ ้ ประเทศ และฐานข ้อมูลของสว่ นราชการเข ้าไว ้ในฐานข ้อมูลร่วมกัน เพือ ่ เป็ นการนํ าเทคโนโลยีสารสนเทศมาใชในการบริ หาร ิ ่ ึ ่ ้ ํ ้ ่ จัดการข ้อมูลอย่างเป็ นระบบและมีประสทธิภาพมากขึน ้ ซงจะชวยลดปั ญหาความซาซอนในการจัดทํารายงานของสวนราชการ ่ ทีเ่ สนอต่อหน่วยงานกลางและทําให ้แต่ละสวนราชการมีความพร ้อมในการรายงานข ้อมูลสารสนเทศต่อสาธารณะ และการ ตรวจสอบของประชาชนและภาคสว่ นต่าง ๆ 2. สรุปผลการประชุมจากทีป ่ ระชุมปลัดกระทรวงในการประชุมปลัดกระทรวงประจําเดือนธันวาคม 2553 เมือ ่ วันที่ 13 ธันวาคม 2553 โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็ นประธาน ได ้พิจารณาระบบการประเมินผลภาคราชการแบบบูรณาการ GES ตามที่ ผู ้อํานวยการสํานักงบประมาณและเลขาธิการ ก.พ. นํ าเสนอโดยมีสาระสําคัญ ดังนี้ 2.1 การออกแบบระบบการประเมินผลภาคราชการแบบบูรณาการ 2.1.1 วัตถุประสงค์ เพือ ่ เป็ นการยกระดับธรรมาภิบาลของแต่ละสว่ นราชการให ้อยูใ่ นระดับมาตรฐานสากล 2.1.2 หลักการและแนวทาง 1) ภาระรับผิดชอบต่อสาธารณะ (Public Accountability) โดยแต่ละสว่ นราชการจะต ้องมีความ พร ้อมต่อการตรวจสอบ ด ้วยการจัดให ้มีฐานข ้อมูลสารสนเทศทีจ ่ ําเป็ นและเผยแพร่ตอ ่ สาธารณะ เพือ ่ แสดงความโปร่งใสในการ ั ั ปฏิบต ั ริ าชการ โดยเฉพาะผลสมฤทธิแ ์ ละผลกระทบทีเ่ กิดขึน ้ ต่อภายนอก รวมถึงขีดสมรรถนะและศกยภาพภายในหน่วยงาน 2) การสร ้างความมั่นใจและไว ้วางใจในการบริหารราชการแผ่นดิน (Public Trust and ้ Confidence) โดยมีการสอบทานความถูกต ้องและประเมินผลการปฏิบต ั ริ าชการอย่างเป็ นระบบ เพือ ่ ใชประโยชน์ ประกอบการ ิ ิ ตัดสนใจเชงนโยบายและการจัดสรรทรัพยากร 2.1.3 กรอบการประเมินผลภาคราชการแบบบูรณาการในคํารับรองการปฏิบต ั ริ าชการจะแบ่งออกเป็ น 2 มิต ิ ดังต่อไปนีค ้ อ ื 1) มิตภ ิ ายนอก (External Impacts) (ค่านํ้ าหนักเท่ากับร ้อยละ 70) ประกอบด ้วยการประเมินใน ิ ธิผล (ผลลัพธ์และผลผลิต) การประเมินผลประโยชน์ตอ 4 ด ้าน ได ้แก่ การประเมินผลกระทบ การประเมินประสท ่ ค่าใชจ่้ ายหรือ ิ ธิผลต่อค่าใชจ่้ าย และการประเมินคุณภาพ การประเมินประสท 2) มิตภ ิ ายใน (Internal Management) (ค่านํ้ าหนักเท่ากับร ้อยละ 30) ประกอบด ้วยการประเมิน ิ ธิภาพและการพัฒนาองค์กร ใน 2 ด ้าน ได ้แก่ การประเมินประสท 2.2 การจัดระบบสารสนเทศฐานข ้อมูลกลางของหน่วยงานภาครัฐ 2.2.1 หลักการ ้ 1) เพือ ่ เป็ นการนํ าเทคโนโลยีสารสนเทศมาใชในการบริ หารจัดการข ้อมูลอย่างเป็ นระบบและ ิ มีประสทธิภาพ ้ 2) เพือ ่ ลดปั ญหาความซํ้าซอนในการจั ดทํารายงานของสว่ นราชการทีน ่ ํ าเสนอต่อหน่วยงานกลาง 3) เพือ ่ ให ้ภาครัฐสามารถรายงานผลการดําเนินงานต่อสาธารณะได ้อย่างเปิ ดเผย โปร่งใส และ พร ้อมต่อการตรวจสอบของประชาชนและทุกภาคสว่ น ื่ มโยงฐานข ้อมูลกลางของประเทศ และ 2.2.2 การออกแบบระบบสารสนเทศฐานข ้อมูลกลางเป็ นการเชอ ้ ฐานข ้อมูลของสว่ นราชการเข ้าไว ้ในฐานข ้อมูลร่วมกัน และเป็ นการออกแบบระบบโปรแกรมการจัดการฐานข ้อมูลเพือ ่ ใชใน การจัดการฐานข ้อมูล 2.3 ประโยชน์ของระบบดังกล่าว คือ ทําให ้มีการทํางานแบบ Work Collaboration ระบบการประเมินผล ้ นหลัก สามารถลดความซํ้าซอนของการจั ้ ภาคราชการแบบบูรณาการจะคํานึงถึงการทํางานจริงของผู ้ใชเป็ ดทํารายงาน เนือ ่ งจากระบบการประเมินผลภาคราชการแบบบูรณาการนีม ้ ฐ ี านข ้อมูลเดียว และสามารถทําการตรวจสอบและประเมินผลผ่าน ระบบออนไลน์

16 ้ 2.4 แนวทางการใชประโยชน์ จากระบบการประเมินผลภาคราชการแบบบูรณาการ ระบบการประเมินผลภาค ้ ราชการแบบบูรณาการสามารถนํ าผลการประเมินภาคราชการไปใชประกอบการพิ จารณาจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจําปี การเลือ ่ นเงินเดือนและการจัดสรรเงินรางวัล 2.5 แนวทางการดําเนินงานต่อไป มีดังนี้ 2.5.1 ให ้นํ าระบบการประเมินผลภาคราชการแบบบูรณาการบางสว่ น โดยเฉพาะผลการประเมินของ ปี งบประมาณ พ.ศ. 2552 และ พ.ศ. 2553 มาประกอบการพิจารณาคําของบประมาณเพือ ่ จัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจํา ปี งบประมาณ พ.ศ. 2555 ้ 2.5.2 หน่วยงานทีเ่ กีย ่ วข ้องจัดทําความตกลงร่วมกันในการพัฒนาและใชระบบการประเมิ นผลภาค ้ ี ่ ราชการแบบบูรณาการ รวมทัง้ ชแจงให ้สวนราชการต่าง ๆ ได ้รับทราบ 2.5.3 ดําเนินการทดสอบและนํ าร่องการดําเนินงานตามระบบการประเมินผลภาคราชการแบบบูรณาการ 2.5.4 เริม ่ ดําเนินงานได ้เต็มรูปแบบ ตัง้ แต่ปีงบประมาณ พ.ศ. 2555 เป็ นต ้นไป ่ เสริมอาสาสม ัครสาธารณสุขประจําหมูบ 15. เรือ ่ ง การดําเนินงานโครงการสง ่ า้ น (อสม.) เชงิ รุก ปี 2553 คณะรัฐมนตรีให ้กระทรวงมหาดไทยดําเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมือ ่ วันที่ 1 ธันวาคม 2552 เรือ ่ ง เงิน ้ ค่าใชจ่ายสนับสนุนการดําเนินงานของอาสาสมัครสาธารณสุขประจําหมูบ ่ ้าน (อสม.) ้ ความพิการ 16. เรือ ่ ง ความคืบหน้าการดําเนินโครงการจ ัดสว ัสดิการเบีย คณะรัฐมนตรีรับทราบความคืบหน ้าการดําเนินโครงการจัดสวัสดิการเบีย ้ ความพิการตามทีก ่ ระทรวงมหาดไทย เสนอ สาระสําค ัญของเรือ ่ ง กระทรวงมหาดไทยรายงานว่า กรมสง่ เสริมการปกครองท ้องถิน ่ ได ้โอนจัดสรรงบประมาณโดยเบิกจ่ายจากงบ ํ ั เงินอุดหนุนสาหรับสนับสนุนการเสริมสร ้างสวัสดิการทางสงคมให ้แก่คนพิการหรือทุพพลภาพ ประจําปี งบประมาณ พ.ศ. 2553 ิ ธิ เป็ นเงิน 166,301,500 บาท และเบิกจ่ายจากเงินกันเหลือ ่ มปี ประจําปี งบประมาณ พ.ศ. 2552 รายการเงินอุดหนุนสําหรับสท ประโยชน์ข ้าราชการและลูกจ ้างถ่ายโอน (ตามมติคณะรัฐมนตรีเมือ ่ วันที่ 24 สงิ หาคม 2553) เป็ นเงิน 74,752,500 บาท เพือ ่ ํ ั จ่ายเป็ นเงินอุดหนุนสาหรับสนับสนุนการเสริมสร ้างสวัสดิการทางสงคมให ้แก่คนพิการหรือทุพพลภาพในงวดที่ 2 (งวดสุดท ้าย) ิ้ 241,054,000 บาท แล ้ว จํานวน 1 เดือน (เดือนกันยายน 2553) จํานวน 482,108 คน รวมเป็ นเงินทัง้ สน 17. เรือ ่ ง รายงานผลการดําเนินการตามมติคณะร ัฐมนตรี เรือ ่ ง โครงการพ ัฒนากําล ังคนด้านมนุษยศาสตร์และ ั ั สงคมศาสตร์ (ทุนเรียนดีมนุษยศาสตร์และสงคมศาสตร์แห่งประเทศไทย) ครงที ั้ ่ 7 คณะรัฐมนตรีรับทราบรายงานผลการดําเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี เรือ ่ ง โครงการพัฒนากําลังคนด ้าน ั ั มนุษยศาสตร์และสงคมศาสตร์ (ทุนเรียนดีมนุษยศาสตร์และสงคมศาสตร์แห่งประเทศไทย) ครัง้ ที่ 7 (พฤษภาคม – ึ ษาธิการรายงานผลการดําเนินการโครงการนีต ิ้ ปี งบประมาณ พฤศจิกายน 2553) และให ้กระทรวงศก ้ อ ่ คณะรัฐมนตรีทก ุ สน ิ้ สุดระยะเวลาของโครงการ จนกว่าจะสน สาระสําค ัญของเรือ ่ ง ศธ. โดย สกอ. ได ้รายงานผลการดําเนินโครงการพัฒนากําลังคนด ้านมนุษยศาสตร์และสงั คมศาสตร์ (ทุน เรียนดีมนุษยศาสตร์และสงั คมศาสตร์แห่งประเทศไทย) ครัง้ ที่ 7 (พฤษภาคม – พฤศจิกายน 2553) สรุปได ้ดังนี้ 1. ผลการดําเนินการ ึ ษา (สกอ.) ดําเนินการโอนเงินค่าใชจ่้ ายของนั กเรียนทุน แยก 1.1 สํานักงานคณะกรรมการการอุดมศก เป็ น ึ ษาทีเ่ ป็ นสถาบันฝ่ ายผลิตให ้จัดสง่ รายละเอียดพร ้อมหลักฐานของนั กเรียนทุนทุกระดับ ทุนในประเทศ ได ้ประสานสถาบันอุดมศก ในสว่ นของทุนในต่างประเทศ ได ้ประสานสํานักงาน ก.พ. และโอนเงินค่าใชจ่้ ายของนักเรียนทุนเพือ ่ ให ้ดําเนินการเกีย ่ วกับ

17 ึ ษาได ้ตัง้ แต่เดือนมิถน นักเรียนทุนโครงการฯ ทีพ ่ ร ้อมจะเดินทางไปศก ุ ายน-กันยายน 2553 จํานวน 37 คน (ระดับปริญญาตรี 4 คน และระดับปริญญาโท-เอก 33 คน) จากนักเรียนทุน 61 คน 1.2 พิจารณาจัดสรรทุนทีเ่ หลือจากปี งบประมาณ 2553 และทุนตามงบประมาณทีไ่ ด ้รับการจัดสรรในปี 2554 ดังนี้ 1.2.1 รวบรวมทุนทีจ ่ ัดสรรแล ้วแต่ไม่มผ ี ู ้สอบผ่านเป็ นผู ้รับทุน พร ้อมพิจารณาผลการจัดสอบ ปั ญหา/อุปสรรคทีผ ่ า่ นมา เพือ ่ ปรับแก ้ไขปั ญหาในการประกาศสอบครัง้ ต่อไป รวมทัง้ พิจารณาแนวทางการจัดสรรทุนเป็ น 3 ้ เ่ ดิม) แนวทางที่ 2 การพัฒนาศักยภาพ แนวทาง คือ แนวทางที่ 1 การเปิ ดสอบแข่งขันสําหรับบุคคลทั่วไป (รูปแบบทีใ่ ชอยู ึ ษา และแนวทางที่ 3 การแสวงหานักเรียนทุนจากผู ้ทีก ึ ษาอยูใ่ นมหาวิทยาลัยทีอ บุคลากรในสถาบันอุดมศก ่ ําลังศก ่ ยูใ่ นการ ่ จัดลําดับทีด ่ ี และไม่มภ ี าระทุนผูกพัน โดยการหาทางจูงใจให ้เข ้ามาสูระบบ ึ ษาทีไ่ ด ้รับการจัดสรรทุนเพือ ิ ธิก 1.2.2 แจ ้งสถาบันอุดมศก ่ ยืนยัน/สละสท ์ ารรับจัดสรรทุนทีไ่ ม่ ่ ึ ั มีผู ้สอบผ่าน เพือ ่ นํ ามาประกาศรับสมัครใหม่ ซงในกรณีทส ี่ ถาบันต ้นสงกัดขอยกเลิกการขอรับการจัดสรรทุน จะนํ าทุนมาจัดสรร ึ ษาทุกแห่งทีเ่ ปิ ดสอนด ้านมนุษยศาสตร์และสงั คมศาสตร์ และ รวมกับทุนในปี งบประมาณ 2554 รวมทัง้ แจ ้งให ้สถาบันอุดมศก ้ จารณาประกอบการจัดสรรทุน ประสงค์เข ้าร่วมโครงการให ้จัดทําแผนพัฒนางานวิชาการ เพือ ่ ใชพิ 12.3 นํ าทุนทีเ่ หลือจากการสอบแข่งขันฯ และงบประมาณของปี 2553 มารวมกับงบประมาณ ึ ษา 2553-2554 ทีไ่ ด ้รับการจัดสรรในปี 2554 เพือ ่ พิจารณาจัดสรรทุนและประกาศสอบแข่งขันเพือ ่ รับทุนโครงการฯ ปี การศก ในระดับปริญญาตรี และปริญญาโท-เอก ทัง้ ในประเทศและต่างประเทศ และทุนระดับปริญญาตรี-โท ในต่างประเทศ เพือ ่ ให ้ ั สอดคล ้องกับระยะเวลาทีต ่ ้องเร่งดําเนินการให ้แล ้วเสร็จ เมือ ่ ดําเนินการแล ้วเสร็จจึงจะดําเนินการพิจารณาทุนพัฒนาศกยภาพใน ิ ึ การทํางานวิจัยของนิสต นั กศกษา ระดับปริญญาโท-เอก จํานวน 50 ทุน ึ ษา 2553-2554 เพือ 1.2.4 การพิจารณาจัดสรรทุนในปี การศก ่ ให ้ได ้สาขาวิชาทีม ่ ค ี วาม ั ึ จําเป็ น หรือขาดแคลน หรือเป็ นสาขาวิชาทีต ่ อบสนองการพัฒนาศกยภาพของสถาบันอุดมศกษา รวม 196 ทุน โดยเป็ นทุนที่ ึ ษา 2553 จํานวน 176 ทุน และจํานวนทุนทีจ เหลือจากการสอบผ่านเป็ นนักเรียนทุนทีป ่ ระกาศรับสมัครในปี การศก ่ ัดสรรตาม งบประมาณทีไ่ ด ้รับในปี งบประมาณ 2554 จํานวน 20 ทุน ึ ษา 2553 – 2554 โดยความ 1.2.5 จัดสอบแข่งขันเข ้ารับทุนโครงการฯ ประจําปี การศก ร่วมมือของสํานักงานบริหารโครงการฯ เป็ นหน่วยดําเนินการจัดสอบแข่งขันรับทุนโครงการฯ ในชว่ ง 23 สงิ หาคม – 7 ธันวาคม 2553 2. ร้อยละของการดําเนินการตามเป้าหมาย ผลการดําเนินการสอบแข่งขันเพือ ่ รับทุนโครงการ ปี งบประมาณ 2553 – 2554 เป็ นทุนระดับปริญญาตรี และปริญญาโท - เอก ทัง้ ในประเทศและต่างประเทศ ระดับปริญญาตรี - โท ในต่างประเทศ ระดับปริญญาโท – เอก และ ึ ษา จํานวน 196 ทุน มีผู ้สนใจสมัครสอบจํานวน 705 คน แต่ม ี แนวทางที่ 2 ทุนพัฒนาศักยภาพบุคลากรของสถาบันอุดมศก ิ ธิเ์ ข ้าสอบภาควิชาการ จํานวน 680 คน และมีผู ้สอบผ่านเพือ สท ่ รับทุนโครงการฯ จํานวน 85 คน คิดเป็ นร ้อยละ 43.37 ้ 3. จํานวนเงินงบประมาณทีใ่ ชจา่ ย ในปี งบประมาณ 2553 ได ้รับการจัดสรรงบประมาณ จํานวน 161,648,500 บาท รวมกับงบประมาณที่ โอนมาพร ้อมจํานวนทุนทีย ่ ังไม่ได ้จัดสรรของปี 2552 จํานวนเงิน 7,696,612.50 บาท รวมเป็ นเงิน 169,345,112.50 บาท 4. ปัญหา / อุปสรรค และแนวทางแก้ไข ปัญหา / อุปสรรค - สาขาวิชาของโครงการฯ มีความหลากหลายมาก ทําให ้ ้ การพิจารณาจัดสรรทุนต ้องใชระยะเวลาและการจั ดหา ้ ข ้อมูลเพือ ่ ใชประกอบการพิ จารณา

แนวทางแก้ไข ั พันธ์โครงการฯ ในรูปแบบต่าง ๆ เพิม - มีการประชาสม ่ มาก ขึน ้ ี้ จงและสร ้างความเข ้าใจในโครงการ - จัดประชุมเพือ ่ ชแ พัฒนากําลังคนด ้านมนุษยศาสตร์และสงั คมศาสตร์ ให ้แก่ สถาบันอุดม ึ ษา ทัง้ เรือ ศก ่ งการจัดการเรียนการสอน และเรือ ่ งของ

18 ึ ษาแล ้ว การเตรียมอัตรากําลังรองรับเมือ ่ สําเร็จการศก - การกําหนดคุณสมบัตข ิ องผู ้ทีจ ่ ะสมัครสอบแข่งขันเพือ ่ รับ ทุนโครงการฯ มีความแตกต่างกันตามสาขาวิชาที่ หลากหลาย

- การกําหนดคุณสมบัตข ิ องผู ้ทีจ ่ ะสมัครสอบแข่งขันเพือ ่ รับ ทุนโครงการฯ ให ้มีความยืดหยุน ่ ให ้เหมาะสมตาม สาขาวิชาทีม ่ ี ความหลากหลายมาก

- การกําหนดให ้ผู ้รับทุนในระดับปริญญาตรีต ้องผูกพัน ้ นในสถาบันอุดมศก ึ ษาทําได ้ยาก เนือ ชดใชทุ ่ งจาก ึ ษาจัดการศก ึ ษาตัง้ แต่ระดับปริญญาตรี สถาบันอุดมศก อัตรากําลังรองรับทีจ ่ ะบรรจุเข ้าทํางานจึงต ้องเป็ นระดับ ปริญญาเอก และอาจมีบางสาขาทีจ ่ ําเป็ นต ้องรับในระดับ ปริญญาโท

- ควรผ่อนผันให ้ผู ้รับทุนในระดับปริญญาตรีไม่ต ้องผูกพัน ้ นในสถาบันอุดมศก ึ ษา แต่เป็ นการให ้ทุนเพือ ชดใชทุ ่ สร ้าง ฐานกําลังคนในสาขาทีข ่ าดแคลน หรือมีความจําเป็ นต ้องมี การจัดการเรียนการสอน และหาวิธก ี ารให ้ผู ้รับทุนเหล่านี้ ึ ษาต่อในระดับปริญญาโท-เอก และ ได ้มีศักยภาพและเข ้าศก ั ญาผูกพันชดใชทุ ้ นในสถาบันอุดมศก ึ ษาตัง้ แต่ระดับ ทําสญ ปริญญาโท ึ ษาในบางสาขาวิชาทีห - ควรขยายเวลาการศก ่ ลักสูตร

ึ ษาของผู ้รับทุนในบางสาขาวิชาไม่ -ระยะเวลาการศก ึ ษาตามทีก สามารถสําเร็จการศก ่ ําหนดไว ้ในโครงการฯ (ปริญญาตรี 4 ปี ปริญญาโท 2 ปี ปริญญาเอก 3 ปี และ ปริญญาโท-เอก 5 ปี ) ได ้ เพราะบางหลักสูตรกําหนด ่ สาขาโบราณคดี ระยะเวลาเกินจากทีก ่ ําหนด เชน ้ หลักสูตรระดับปริญญาโทในประเทศ ใชเวลาประมาณ 3-4

กําหนดระยะเวลาเกินกว่าทีก ่ ําหนดไว ้ในโครงการฯ

ปี ึ ษาในต่างประเทศ - งบประมาณทีจ ่ ัดสรรสําหรับทุนการศก จากการประสานกับสํานักงาน ก.พ. พบว่า มีคา่ ใชจ่้ ายใน สว่ นทีเ่ พิม ่ ขึน ้ จากทีก ่ ําหนดไว ้ในโครงการฯ ซงึ่ จําเป็ นต ้อง ึ ษา เชน ่ จัดให ้เนือ ่ งจากเป็ นการเตรียมก่อนเข ้าศก ค่าใชจ่้ ายด ้านภาษา และค่าใชจ่้ ายเพือ ่ เตรียมตัวก่อนการ ึ ษาในต่างประเทศ เดินทางไปศก

- กรณีคา่ ใชจ่้ ายทีเ่ พิม ่ ขึน ้ จากทีก ่ ําหนดไว ้ในโครงการฯ ของ ึ ษาในต่างประเทศ ทัง้ ในระดับปริญญาตรี นักเรียนทุนศก ปริญญาโท และปริญญาเอก จะพิจารณาปรับค่าใชจ่้ ายใน รายการ ต่าง ๆทีต ่ งั ้ งบประมาณไว ้เพือ ่ ให ้สามารถดําเนิน โครงการฯ ได ้ตาม วัตถุประสงค์ โดยไม่เกินวงเงินงบประมาณทีโ่ ครงการฯ ได ้รับอนุมัตแ ิ ละเป็ นไปอย่างประหยัด

18. เรือ ่ ง ความคืบหน้าในการดําเนินการตามมาตรการบริหารกําล ังคนภาคร ัฐ (พ.ศ. 2552 – 2556) คณะรัฐมนตรีรับทราบตามทีค ่ ณะกรรมการประสานงานและขับเคลือ ่ นการดําเนินงานตามมติคณะรัฐมนตรี (ปคค.) รายงานผลการติดตามการดําเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี เรือ ่ งความคืบหน ้าในการดําเนินการตามมาตรการบริหาร กําลังคนภาครัฐ (พ.ศ. 2552 – 2556) ดังนี้ สาระสําค ัญของเรือ ่ ง ฝ่ ายเลขานุการ ปคค. ได ้ประสานติดตามความคืบหน ้าในการดําเนินการตามมาตรการดังกล่าว ซงึ่ ฝ่ าย ื รายงานความคืบหน ้ามาให ้ทราบ เลขานุการคณะกรรมการกําหนดเป้ าหมายและนโยบายกําลังคนภาครัฐ (คปร.) ได ้มีหนังสอ เมือ ่ วันที่ 17 มกราคม 2554 ดังนี้ 1. มาตรการบริหารอ ัตรากําล ังปกติ 1.1 การจ ัดสรรอ ัตราข้าราชการจากผลการเกษียณอายุ ิ้ ปี งบประมาณ พ.ศ. คปร. ได ้ดําเนินการจัดสรรอัตราข ้าราชการพลเรือนจากการเกษี ยณอายุเมือ ่ สน 2552 โดยยึดแนวทางทีก ่ ําหนดในมาตรการบริหารกําลังคนภาครัฐ (พ.ศ. 2552 – 2556) ตามมติคณะรัฐมนตรีเมือ ่ วันที่ 28 กันยายน 2553 ซงึ่ ไม่ให ้เพิม ่ อัตราข ้าราชการตัง้ ใหม่ในภาพรวมสําหรับข ้าราชการทุกประเภท ยกเว ้นกรณีจําเป็ นอันมิอาจ หลีกเลีย ่ งได ้ ไม่ยบ ุ เลิกอัตราข ้าราชการในภาพรวม และให ้พิจารณาเกลีย ่ อัตราข ้าราชการจากผลการเกษี ยณอายุ เพือ ่ จัดสรร ให ้สว่ นราชการทีม ่ ค ี วามจําเป็ น ทัง้ นี้ คปร. ได ้กําหนดหลักเกณฑ์และเงือ ่ นไขในการจัดสรรอัตราข ้าราชการพลเรือน

19 ึ ษา และข ้าราชการตํารวจ และได ้มีมติจัดสรรอัตราว่างจากผลการเกษี ยณของข ้าราชการ ข ้าราชการครูและบุคลากรทางการศก ปี งบประมาณ พ.ศ. 2552 โดยคํานึงถึงความจําเป็ นของสว่ นราชการแต่ละประเภท ประเภทของภารกิจ และประเภทตําแหน่ง ดังนี้ 1) จัดสรรอัตราข ้าราชการพลเรือนคืนให ้สว่ นราชการทัง้ หมด รวม 2,368 อัตรา โดยพิจารณา เกลีย ่ กําลังคนตามความจําเป็ นของสว่ นราชการ 2) จัดสรรอัตราข ้าราชการตํารวจคืนให ้สาํ นักงานตํารวจแห่งชาติ ทัง้ หมด รวม 2,033 อัตรา เพือ ่ เกลีย ่ เป็ นอัตรากําลังตามเงือ ่ นไขที่ คปร. กําหนด ึ ษาคืนให ้กระทรวงศก ึ ษาธิการทัง้ หมด 3) จัดสรรอัตราข ้าราชการครูและบุคลากรทางการศก รวม 4,639 อัตรา 1.2 การยุบเลิกอ ัตราลูกจ้างประจํา คปร. ได ้ดําเนินการยุบเลิกอัตราลูกจ ้างประจําทีว่ า่ งจากการเกษี ยณอายุและว่างระหว่างปี ปี งบประมาณ พ.ศ. 2552 รวม 9,000 อัตรา จําแนกเป็ นยุบเลิกจากอัตราว่างจากการเกษี ยณอายุ จํานวน 6,877 อัตรา และ อัตราว่างระหว่างปี จํานวน 2,123 อัตรา 2. มาตรการบริหารจ ัดการเชงิ ยุทธศาสตร์ 2.1 ยุทธศาสตร์การบริหารกําล ังคนให้สอดคล้องก ับความจําเป็นตามภารกิจ ึ ษาทบทวนการใชกํ้ าลังคนเพือ ในปี งบประมาณ พ.ศ. 2554 สํานักงาน ก.พ. ได ้ดําเนินโครงการศก ่ ้ ่ ํ ้ ปรับรูปแบบการจ ้างงานและวางแผนปรับเปลีย ่ นการใชกําลังคนในสวนราชการ โดยมีวัตถุประสงค์เพือ ่ สารวจข ้อมูลการใช ่ กําลังคนภาครัฐประเภทต่าง ๆ (ข ้าราชการ ลูกจ ้าง พนั กงานราชการ) ในสวนราชการ เพือ ่ เสนอแนะรูปแบบการใชกํ้ าลังคนให ้ เหมาะสมกับภารกิจ ้ ําล ังคน 2.2 ยุทธศาสตร์การพ ัฒนาระบบการวางแผนและติดตามประเมินผลการใชก ในปี งบประมาณ พ.ศ. 2554 สํานักงาน ก.พ. ได ้ดําเนินโครงการเพือ ่ พัฒนาแนวทาง วิธก ี าร และ ํ ่ เครือ ่ งมือสาหรับการวางแผนกําลังคนในสวนราชการ ดังนี้ 1) โครงการบูรณาการแนวทางการบริหารและวางแผนกําลังคนสําหรับสว่ นราชการ ซงึ่ คาดว่า จะสามารถพัฒนาคูม ่ อ ื การวางแผนกําลังคน ซงึ่ จะได ้นํ าไปสง่ เสริมและสนั บสนุนสว่ นราชการให ้สามารถวางแผนกําลังคนได ้ ิ ธิภาพ อย่างมีประสท ้ ว่ นราชการนํ าร่อง การวางแผน 2) โครงการนํ าชุดดัชนีชวี้ ัดสุขภาพทรัพยากรบุคคลไปใชในส กําลังคน โดยได ้ทดลองนํ าร่องในสํานักงาน ก.พ. กรมสุขภาพจิต กรมพัฒนาฝี มือแรงงาน และสํานักงานปลัดกระทรวง ื่ สาร คาดว่า จะได ้ต ้นแบบการนํ าชุดดัชนีดังกล่าวไปใชในการวางแผนกํ ้ เทคโนโลยีสารสนเทศและการสอ าลังคน และพัฒนา ่ เพือ ่ ขยายผลในสวนราชการอืน ่ ๆ ต่อไป 3) โครงการวางระบบการตรวจสอบและประเมินผลการบริหารทรัพยากรบุคคล ซงึ่ จะทดลอง ดําเนินการในสว่ นราชการในปี งบประมาณ พ.ศ. 2554 2.3 ยุทธศาสตร์การพ ัฒนาผลิตภาพและความคุม ้ ค่าของกําล ังคนภาคร ัฐ ํ ในปี งบประมาณ พ.ศ. 2554 สานักงาน ก.พ. ได ้ดําเนินโครงการเพือ ่ พัฒนาองค์ความรู ้สําหรับนํ าไป ประกอบการกําหนดแนวทาง วิธก ี าร และเครือ ่ งมือสําหรับการประเมินและพัฒนาผลิตภาพกําลังคน เพือ ่ ให ้สว่ นราชการใช ้ กําลังคนอย่างคุ ้มค่า ดังนี้ 1) โครงการวางแผนการใชกํ้ าลังคนภาครัฐ การพัฒนาผลิตภาพกําลังคน โดยได ้ทดลอง ประเมินผลิตภาพของกําลังคนในสํานักงานการปฏิรป ู ทีด ่ น ิ เพือ ่ เกษตรกรรม 2) โครงการวางแผนบริหารกําลังคนเพือ ่ รองรับการเปลีย ่ นแปลงโครงสร ้างอายุข ้าราชการ ่ พลเรือน โดยจะสนับสนุนสวนราชการ 9 แห่ง ทีม ่ แ ี นวโน ้มการเปลีย ่ นแปลงโครงสร ้างอายุในระดับวิกฤติให ้สามารถจัดทํา แผนปฏิบต ั ก ิ ารเพือ ่ เตรียมความพร ้อมรองรับการเปลีย ่ นแปลงโครงสร ้างอายุของข ้าราชการ ทัง้ นี้ ในการดําเนินการจะใช ้ ต ้นแบบทีไ่ ด ้จากการทดลองนํ าร่องในกรมการค ้าภายใน กรมพัฒนาสงั คมและสวัสดิการ และสํานักงานการปฏิรป ู ทีด ่ น ิ เพือ ่ เกษตรกรรมทีไ่ ด ้ดําเนินการเมือ ่ ปี งบประมาณ พ.ศ. 2553

20 ึ ษาแนวทางการจัดสงิ่ จูงใจสําหรับสว่ นราชการ เพือ 3) โครงการศก ่ ให ้ใชกํ้ าลังคนให ้เกิด ึ ษาหามาตรการจูงใจเพือ ประโยชน์สงู สุด ซงึ่ เป็ นการดําเนินการตามมติ คปร. ทีใ่ ห ้ศก ่ สว่ นราชการใชกํ้ าลังคนให ้คุ ้มค่าและเกิด ึ ษาเกีย ประโยชน์สงู สุดภายใต ้ข ้อจํากัดด ้านงบประมาณ คาดว่าจะได ้ผลการศก ่ วกับรูปแบบและวิธก ี ารสร ้างแรงจูงใจให ้กับสว่ น ราชการ ึ ษาเพือ 4) โครงการศก ่ พัฒนาแนวทางการนํ าระบบเพดานหรือกรอบงบประมาณด ้านบุคลากร ้ มาใชในการบริหารกําลังคนให ้เหมาะสมกับภารกิจของสว่ นราชการ 2.4 ยุทธศาสตร์การพ ัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศด้านการบริหารกําล ังคน ในปี งบประมาณ พ.ศ. 2554 สํานักงาน ก.พ. มีแผนทีจ ่ ะปรับปรุงระบบสารสนเทศทรัพยากรบุคคล ระดับกรม / จังหวัด โดยมุง่ เน ้นความสมบูรณ์ ความครบถ ้วน ความถูกต ้อง และทันเวลาของข ้อมูลข ้าราชการพลเรือนสามัญ ้ รวมทัง้ พัฒนาและปรับปรุงฐานข ้อมูลของพนักงานราชการและลูกจ ้างประจําเพือ ่ ให ้สามารถนํ ามาใชประโยชน์ ในการวางแผน ิ ่ ้ กําลังคนได ้อย่างมีประสทธิภาพ นอกจากนี้ จะสงเสริมให ้นํ าระบบเทคโนโลยีสารสนเทศมาใชเป็ นเครือ ่ งมือในการบริหารและ ประเมินผลการปฏิบต ั ริ าชการ 19. เรือ ่ ง ความคืบหน้ากรอบยุทธศาสตร์การจ ัดการด้านอาหารของประเทศไทย คณะรัฐมนตรีรับทราบตามทีค ่ ณะกรรมการประสานงานและขับเคลือ ่ นการดําเนินงานตามมติคณะรัฐมนตรี เสนอความคืบหน ้ากรอบยุทธศาสตร์การจัดการด ้านอาหารของประเทศไทย ดังนี้ สาระสําค ัญของเรือ ่ ง คณะกรรมการประสานงานและขับเคลือ ่ นการดําเนินงานตามมติคณะรัฐมนตรีได ้รับแจ ้งจากสํานักเลขาธิการ ื ขอให ้สํานั กงานคณะกรรมการอาหารและยาแจ ้งแผนการดําเนินงานตามกรอบ คณะรัฐมนตรี (สลค.) ว่า สลค. ได ้มีหนังสอ ยุทธศาสตร์ฯ ตามมติคณะรัฐมนตรี วันที่ 25 พฤศจิกายน 2553 มาให ้ทราบ โดยสํานักงานคณะกรรมการอาหารและยา ใน ิ ค ้าเกษตรและอาหารแห่งชาติได ้มีหนังสอ ื ฐานะ ฝ่ ายเลขานุการ คณะกรรมการอาหารแห่งชาติและสํานักงานมาตรฐานสน รายงานความคืบหน ้าสรุปได ้ว่า ได ้มีการประสานงานกับสํานักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสงั คมแห่งชาติ เพือ ่ ั ขอทราบขัน ้ ตอนการดําเนินงานและแนวทางในการผนวกกรอบยุทธศาสตร์ ฯ เข ้ากับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสงคมแห่งชาติ ฉบับที่ 11 ตามทีค ่ ณะรัฐมนตรีมอบหมาย แล ้วและในสว่ นของการขับเคลือ ่ นการดําเนินงานตามกรอบยุทธศาสตร์ ฯ ได ้จัด ประชุมคณะกรรมการจัดทําแผนยุทธศาสตร์การจัดการด ้านอาหารของประเทศไทยเพือ ่ หารือเกีย ่ วกับแนวทางการดําเนินการ ่ ึ ตามกรอบยุทธศาสตร์ฯ เมือ ่ วันศุกร์ท ี่ 7 มกราคม 2554 ซงทีป ่ ระชุมได ้ให ้ข ้อคิดเห็นและข ้อเสนอแนะ ดังนี้ ั พันธ์กรอบยุทธศาสตร์ ฯ เพือ 1. ควรเร่งรัดการดําเนินการเผยแพร่ประชาสม ่ สร ้างความเข ้าใจ ความร่วมมือ ่ จากทุกภาคสวนและระดมความเห็นต่อการดําเนินการอย่างเป็ นรูปธรรม 2. ควรคัดเลือกดําเนินการประเด็นทีม ่ ค ี วามสําคัญก่อน 3. ควรตัง้ คณะกรรมการหรืออนุกรรมการภายใต ้บริบทของพระราชบัญญัตค ิ ณะกรรมการอาหารและ ยาแห่งชาติ เพือ ่ บริหารจัดการการขับเคลือ ่ นประเด็นยุทธศาสตร์ทเี่ ลือกดําเนินการ ี้ ํ า จึงควรกําหนดตัวชวี้ ัด (KPI) เพือ 4. เนือ ่ งจากกรอบยุทธศาสตร์ดังกล่าวเป็ นแผนชน ่ ให ้หน่วยงานที่ เกีย ่ วข ้อง ื่ มโยงกับกิจกรรมทีด ั เจน และสามารถติดตามผลการดําเนินงานได ้ นํ าไปปฏิบต ั ห ิ รือพิจารณาเชอ ่ ําเนินการอยูแ ่ ล ้วได ้อย่างชด ซงึ่ ฝ่ ายเลขานุการจะหารือกับหน่วยงานหลักทีร่ ับผิดชอบในแต่ละยุทธศาสตร์ ต่อไป ื่ มโยงกับกรอบ 5. ควรพัฒนาระบบฐานข ้อมูลสําหรับการติดตามและประเมินผลการดําเนินงานทีเ่ ชอ ยุทธศาสตร์ฯ ดังกล่าว อนึง่ แม ้กรอบยุทธศาสตร์ดังกล่าวจะยังมิได ้ผนวกเข ้ากับแผนพัฒนาเศรษฐกิจฯ แต่มก ี ารดําเนินการของ ่ ่ ึ ่ ยุทธศาสตร์ความ หน่วยงานทีเ่ กีย ่ วข ้องบางสวน ซงสามารถรายงานความคืบหน ้าต่อคณะกรรมการอาหารแห่งชาติได ้ เชน มั่นคงด ้านอาหารทีร่ ับผิดชอบโดยสํานักงานเศรษฐกิจการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และการบูรณาการงานวิจัยที่ รับผิดชอบโดยสํานักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติรว่ มกับสํานักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย สํานักงานกองทุนสนั บสนุน การสร ้างเสริมสุขภาพ สํานักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ และสํานักงานวิจัยเทคโนโลยีและนวัตกรรม ทัง้ นี้ จะมีการ

21 ประชุมคณะกรรมการอาหารแห่งชาติเพือ ่ พิจารณาแนวทางในการขับเคลือ ่ นเกีย ่ วกับเรือ ่ งนี้ ซงึ่ คณะกรรมการฯ จะได ้รายงาน ให ้ทราบต่อไป ต่างประเทศ 20. เรือ ่ ง ความตกลงว่าด้วยความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างร ัฐบาลแห่งราชอาณาจ ักรไทยก ับร ัฐบาลแห่ง สาธารณร ัฐสโลวีเนีย คณะรัฐมนตรีเห็นชอบและอนุมัตต ิ ามทีก ่ ระทรวงการต่างประเทศเสนอ ดังนี้ 1. เห็นชอบต่อร่างความตกลงว่าด ้วยความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับ รัฐบาลแห่งสาธารณรัฐสโลวีเนีย โดยให ้กระทรวงการต่างประเทศสามารถเปลีย ่ นแปลงถ ้อยคําในสว่ นทีไ่ ม่กระทบต่อ สาระสําคัญของความตกลงฯ ได ้โดยไม่ต ้องเสนอคณะรัฐมนตรีพจ ิ ารณาอีก 2. อนุมัตใิ ห ้รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงการต่างประเทศ หรือผู ้ทีร่ ัฐมนตรีวา่ การกระทรวงการต่างประเทศ มอบหมาย เป็ นผู ้ลงนามในความตกลงดังกล่าว สาระสําค ัญของเรือ ่ ง 1. ร่าความตกลงฯ เป็ นกรอบความร่วมมือทวิภาคีระหว่างไทยกับสาธารณรัฐสโลวีเนียแบบกว ้าง ๆ โดยมี สาระสําคัญเพือ ่ เพิม ่ ความร่วมมือทวิภาคีระหว่างกันในด ้านเศรษฐกิจ อุตสาหกรรม การค ้าและการลงทุน และความร่วมมือใน สาขาอืน ่ ๆ ทีท ่ งั ้ สองฝ่ ายมีความสนใจและมีผลประโยชน์รว่ มกัน 2. ทัง้ สองฝ่ ายจะพยายามสร ้างปั จจัยแวดล ้อมทีเ่ อือ ้ ต่อการขยายการค ้าการลงทุนระหว่างกัน เกือ ้ หนุนให ้เกิด ั พันธ์ทางเศรษฐกิจโดยรวม ความร่วมมือในสาขาทีม ่ ค ี วามสนใจร่วมกัน เพือ ่ เสริมสร ้างความสม 3. ทัง้ สองฝ่ ายจะจัดตัง้ สภาเศรษฐกิจไทย – สโลวีเนีย ซงึ่ ประกอบไปด ้วยผู ้แทนซงึ่ ได ้รับการแต่งตัง้ โดย รัฐบาลของแต่ละฝ่ าย 21. เรือ ่ ง ผลการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมเพือ ่ ความร่วมมือทวิภาคีไทย – อุซเบกิสถาน ครงที ั้ ่ 1 คณะรัฐมนตรีรับทราบผลการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมเพือ ่ ความร่วมมือทวิภาคีไทย – อุซเบกิสถาน ครัง้ ที่ 1 ตามทีก ่ ระทรวงการต่างประเทศ (กต.) เสนอและมอบหมายให ้สว่ นราชการทีเ่ กีย ่ วข ้อง (กระทรวงการคลัง กระทรวง การท่องเทีย ่ วและกีฬา กระทรวงการเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงยุตธิ รรม กระทรวงวัฒนธรรม กระทรวง ึ ษาธิการ กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงอุตสาหกรรม) ดําเนินการตามผลการ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กระทรวงศก ประชุมดังกล่าว เพือ ่ ให ้เกิดผลทีเ่ ป็ นรูปธรรม โดย กต.จะติดตามความคืบหน ้าในด ้านการปฏิบต ั ต ิ ามผลการประชุมฯ ในสว่ นที่ เกีย ่ วข ้องทุกเรือ ่ ง สาระสําค ัญของเรือ ่ ง กต.รายงานว่าการประชุมฯ ครัง้ นี้ ถือได ้ว่าประสบความสําเร็จเป็ นอย่างดีเนือ ่ งจากได ้มีการเจรจาหารือและ แลกเปลีย ่ นความคิดเห็นเกีย ่ วกับประเด็นต่างๆ ทีส ่ นใจร่วมกันทัง้ ในกรอบทวิภาคีและพหุภาคีอย่างกว ้างขวางและตรงไปตรงมา ั พันธ์ระหว่างกันให ้แน่นแฟ้ นยิง่ ขึน แต่ละฝ่ ายรับจะร่วมกันสง่ เสริมความสม ้ รวมถึงความสําเร็จในการหารือกับผู ้แทนระดับสูงของ รัฐบาลอุซเบกิสถานให ้สนั บสนุนบริษัท ปตท สํารวจและผลิตปิ โตรเลียม จํากัด (มหาชน) ซงึ่ สนใจทีจ ่ ะเข ้าไปลงทุนทําการ สํารวจพัฒนาและผลิตนํ้ ามันและก๊าซธรรมชาติในอุซเบกิสถาน สําหรับความร่วมมือด ้านอืน ่ ๆ ทัง้ สองฝ่ ายมีความกระตือรือ ้ ร ้นทีจ ่ ะผลักดันความร่วมมือทีม ่ อ ี ยูแ ่ ล ้วให ้พัฒนาเพิม ่ มากขึน ้ และพยายามหาแนวทางความร่วมมือสาขาใหม่ๆ ทีเ่ ป็ นประโยชน์ตอ ่ ทัง้ สองฝ่ าย ทัง้ นี้ การจัดประชุมฯ เป็ นการเปิ ด โอกาสให ้ผู ้แทนหน่วยงานรัฐบาลของทัง้ สองฝ่ ายได ้พบปะกันโดยตรง ทําให ้สามารถประสานงานกันได ้สะดวกยิง่ ขึน ้ อย่างไรก็ ่ ความร่วมมือทางด ้านพาณิชย์เภสช ั กรรม และ ตามความร่วมมือในแต่ละด ้านนัน ้ มีระดับของศักยภาพทีแ ่ ตกต่างกัน เชน ึ ษาอาจต ้องใชเวลาใน ้ การเกษตร มีศักยภาพสูงและสามารถดําเนินการให ้เป็ นรูปธรรมได ้ ในขณะทีค ่ วามร่วมมือด ้านการศก ึ ษาความเป็ นไปได ้ระหว่างกันเพิม การศก ่ ขึน ้

22 มีหน่วยงานภาคเอกชนเข ้าร่วมด ้วย คือ บริษัท ปตท สํารวจและผลิตปิ โตรเลียม จํากัด (มหาชน) และองค์การ ั กรรม ซงึ่ เมือ ั พันธ์ระหว่างไทยกับอุซเบกิสถานในรอบปี ทผ เภสช ่ พิจารณาความสม ี่ า่ นมา เห็นได ้ว่าภาคเอกชนมีศักยภาพในการ สง่ เสริมความร่วมมือในด ้านการค ้า การลงทุน และการท่องเทีย ่ วเป็ นอย่างมาก เป็ นทีป ่ ระจักษ์ จากความพยายามของ ่ ภาคเอกชนในการมีสวนร่วมจัดการประชุม Thailand – Uzbekistan Business Forum ครัง้ ที่ 1 ทีก ่ รุงเทพฯ เมือ ่ เดือน พฤศจิกายน 2553 และการจัดตัง้ สมาคมธุรกิจไทย – สาธารณรัฐอุซเบกิสถานในโอกาสเดียวกัน ดังนัน ้ ภาครัฐควรสง่ เสริม ั พันธ์กบ บทบาทของภาคเอกชนในการพัฒนาความสม ั อุซเบกิสถาน โดยสํานักงานผู ้แทนการค ้าไทยอาจพิจารณานํ าคณะนั ก ธุรกิจไทยไปเยือนอุซเบกิสถานด ้วย ั พันธ์ทผ กต.พิจารณาเห็นว่า การประชุมฯ ในครัง้ นีไ ้ ด ้ชว่ ยให ้ไทยและอุซเบกิสถานร่วมกันทบทวนความสม ี่ า่ น ่ มา และกําหนดแนวทางความร่วมมือทีเ่ ป็ นประโยชน์รว่ มกันในอนาคตในด ้านต่างๆ เชน การค ้า การลงทุน การท่องเทีย ่ ว ึ ั การศกษา เภสชกรรม วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เป็ นต ้น และโดยทีผ ่ ลการประชุมฯ ครัง้ นี้ เกีย ่ วข ้องกับหลายหน่วยงาน จึง ่ เสนอคณะรัฐมนตรีพจ ิ ารณามอบหมายให ้สวนราชการทีเ่ กีย ่ วข ้องดําเนินการตามผลการประชุมดังกล่าวต่อไป ี นด้านการเกษตรและป่าไม้ ครงที 22. เรือ ่ ง รายงานผลการประชุมร ัฐมนตรีอาเซย ั้ ่ 32 และการประชุมทีเ่ กีย ่ วเนือ ่ ง ี คณะรัฐมนตรีรับทราบรายงานผลการประชุมรัฐมนตรีอาเซยนด ้านการเกษตรและป่ าไม ้ ครัง้ ที่ 32 และการ ประชุมทีเ่ กีย ่ วเนือ ่ งตามทีก ่ ระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ํ สาระสาค ัญของเรือ ่ ง กษ. รายงานว่า ตามทีน ่ ายกรัฐมนตรีได ้อนุมัตใิ ห ้รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็ นหัวหน ้าคณะ ี เพือ ่ เข ้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีอาเซยนด ้านการเกษตรและป่ าไม ้ (ASEAN Ministers on Agriculture and Forestry-AMAF) ี นด ้านการเกษตรและป่ าไม ้กับรัฐมนตรีของจีน ญีป ครัง้ ที่ 32 การประชุมรัฐมนตรีอาเซย ่ น ุ่ และสาธารณรัฐเกาหลี ครัง้ ที่ 10 และการประชุม ASEAN-China Ministerial Meeting on SPS Cooperation ครัง้ ที่ 2 ระหว่างวันที่ 22-27 ตุลาคม 2553 ซงึ่ ก่อนหน ้านัน ้ เป็ นการประชุมระดับเจ ้าหน ้าทีอ ่ าวุโส (PrepSOM 32nd AMAF และ SOM-10th AMAF+3) ระหว่างวันที่ 20-22 ตุลาคม 2553 นัน ้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ขอสรุปผลการประชุมดังกล่าว ดังนี้ ี นด้านการเกษตรและป่าไม้ (AMAF) ครงที 1. การประชุมร ัฐมนตรีอาเซย ั้ ่ 32 1.1 ทีป ่ ระชุมรับทราบความก ้าวหน ้าของความร่วมมือทางวิชาการ ด ้านอาหาร การเกษตร และป่ าไม ้ ี น และเอกสารต่าง ๆ ได ้แก่ 1.2 ทีป ่ ระชุมให ้ความเห็นชอบมาตรฐานของอาเซย ี นในการนํ าเข ้าดอกกล ้วยไม ้เด็นโดรเบียมชนิด 1.2.1 แนวทางด ้านสุขอนามัยพืชของอาเซย ตัดดอก (ASEAN Phytosanitary Guidelines for the Importation of Dendrobium Cut Flowers) ี น (ค่า MRLs) สําหรับสารกําจัดศัตรูพช 1.2.2 ค่าสารพิษตกค ้างสูงสุดของอาเซย ื เพิม ่ เติม อีก 9 ชนิด (Pesticides) รวม 13 ค่า (MRLs) ได ้แก่ ี น มาตรฐานขนุน แตงกวา เมล่อน และสละ ของอาเซย - มาตรฐานเกีย ่ วกับการตรวจสอบย ้อนกลับของไม ้ทีถ ่ ก ู กฎหมายและการทําไม ้อย่าง ยั่งยืน (ASEAN Chain of Custody Guidelines for Legal Timber and Sustainable Timber) ่ ารเป็ นประชาคมอาเซย ี นทีป - Roadmap ไปสูก ่ ลอดโรคไข ้หวัดนกในปี 2563 (Roadmap Towards an HPAI-Free ASEAN Community by 2020) ทีป ่ ระชุมรับทราบความก ้าวหน ้าในการดําเนินการตามแผนนโยบายบูรณาการความมั่นคง ี ด ้านอาหารของอาเซยน (ASEAN Integrated Food Security (AIFS) Framework) และแผนกลยุทธ์ความมั่นคงด ้านอาหารของ ี น (Strategic Plan of Action on Food Security: SPA-FS) อาเซย ทีป ่ ระชุมรับทราบความก ้าวหน ้าในการดําเนินการตาม ASEAN Multi-Sectoral Framework on Climate Change : Agriculture and Forestry towards Food Security (AFCC) รวมทัง้ ข ้อเสนอโครงการใหม่เกีย ่ วกับ ASEANGerman Programme on Response to Climate Change : Agriculture, Forestry and related Sectors (GAP-CC) เพือ ่ สนับสนุนการดําเนินการตาม AFCC

23 ทีป ่ ระชุมได ้แถลง ASEAN Ministerial Statement on ASEAN Cooperation on Animal Health and Zoonoses เพือ ่ แสดงเจตนารมณ์ทจ ี่ ะร่วมมือกันป้ องกัน ควบคุม และกําจัดปั ญหา ั ่ โรคระบาดสตว์ข ้ามแดน เชน โรคไข ้หวัดนก ปากและเท ้าเปื่ อย และอหิวาต์สก ุ ร ทีป ่ ระชุมสนั บสนุนให ้มีการดําเนินความร่วมมือกับคูเ่ จรจาและองค์กรระหว่างประเทศ ให ้มากขึน ้ ี จะสมัครเข ้ารับ ทีป ่ ระชุมรับทราบว่า Prof. Dr. Indroyono Soesilo จากอินโดนีเซย การคัดเลือกเป็ นผู ้อํานวยการใหญ่ขององค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) ซงึ่ แต่ละประเทศจะได ้แจ ้งให ้ หน่วยงานทีเ่ กีย ่ วข ้องพิจารณาต่อไป ทีป ่ ระชุมสนับสนุนการจัด ASEAN-SEAFDEC Conference on Sustainable Fisheries for Food Security Towards 2020 “Fish for the People : Adaptation to a Changing Environment” ณ ประเทศไทย ระหว่างวันที่ 13-17 มิถน ุ ายน 2554 ี นด้านการเกษตรและป่าไม้ก ับร ัฐมนตรีของจีน ญีป 2. การประชุมร ัฐมนตรีอาเซย ่ ่น ุ และสาธารณร ัฐ เกาหลี (AMAF+3) ครงที ั้ ่ 10 ี น+3 (จีน ญีป 2.1 ทีป ่ ระชุมรับทราบความร่วมมือระหว่างอาเซย ่ น ุ่ และสาธารณรัฐเกาหลี) ในด ้านต่าง ๆ ํ 2.2 ทีป ่ ระชุมให ้ความสาคัญต่อประเด็นความมั่นคงทางอาหาร และการพัฒนาพลังงานชวี ภาพ ตามที่ ี น ครัง้ ที่ 12 ณ ประเทศไทย ทัง้ นี้ เพือ ได ้รับมอบหมายจากทีป ่ ระชุมสุดยอดผู ้นํ าอาเซย ่ การพัฒนาทางเศรษฐกิจและสงั คมอย่าง ยั่งยืน ี น+3 (ASEAN Plus Three 2.3 ทีป ่ ระชุมเห็นชอบให ้มีการจัดตัง้ องค์กรสํารองข ้าวฉุกเฉินของอาเซย Emergency Rice Reserve: APTERR) ให ้เป็ นองค์กรถาวร โดยกําหนดทีจ ่ ะมีการลงนามความตกลง APTERR (APTERR ่ ึ Agreement) ในการประชุมครัง้ นี้ ซงประเทศไทยมีความพร ้อมในการลงนาม โดยคณะรัฐมนตรีได ้ให ้ความเห็นชอบความตกลง นีแ ้ ล ้ว อย่างไรก็ตาม เนือ ่ งจากบางประเทศยังไม่พร ้อมทีจ ่ ะลงนามความตกลงนี้ และเสนอให ้มีการปรับปรุงข ้อความในความตก ี ลง ทีป ่ ระชุมจึงขอให ้ประเทศอาเซยน+3 ร่วมกันปรับปรุงข ้อความดังกล่าวและเร่งรัดให ้มีการลงนามความตกลง APTERR โดยเร็ว 2.4 ทีป ่ ระชุมรับทราบความก ้าวหน ้าโครงการระบบสารสนเทศเพือ ่ ความมั่นคงทางอาหารแห่งภาคพืน ้ ี อาเซยน (ASEAN Food Security Information System Project: AFSIS) ระยะที่ 2 2.5 ทีป ่ ระชุมให ้ความเห็นชอบข ้อเสนอโครงการใหม่ 3 โครงการทีเ่ สนอโดยประเทศ+3 ั เพือ ่ เสริมสร ้างศกยภาพด ้านความมั่นคงทางอาหาร เทคโนโลยีและการจัดการก๊าซชวี ภาพในชนบท และความร่วมมือด ้านการอนุรักษ์ ป่ าชายเลนระดับภูมภ ิ าค 2.6 ทีป ่ ระชุมรับทราบ Niigata Declaration on Asia-Pacific Economic Cooperation (APEC) Food Security ทีแ ่ ถลงต่อทีป ่ ระชุม APEC Ministerial Meeting on Food Security ครัง้ ที่ 1 ระหว่างวันที่ 16-17 ตุลาคม 2553 ณ เมือง Niigata ประเทศญีป ่ น ุ่ ซงึ่ เน ้นการสร ้างความมั่นคงด ้านอาหารอย่างยั่งยืนในภูมภ ิ าค รวมทัง้ การอํานวยความสะดวกด ้าน ิ การลงทุน การค ้า และการตลาดสนค ้าอาหาร 3. การประชุม ASEAN-China Ministerial Meeting on SPS Cooperation ครงที ั้ ่ 2 3.1 ทีป ่ ระชุมสนับสนุนความร่วมมือภายใต ้ Memorandum of Understanding (MOU) between ASEAN and People’s Republic of China on Strengthening SPS Cooperation (SPS MOU) ซงึ่ จะสนั บสนุนการดําเนินการ ภายใต ้ ASEAN China Free Trade Area (ACFTA) 3.2 ทีป ่ ระชุมรับทราบความก ้าวหน ้าในการดําเนินการตาม SPS Plan of Action 2008-2010 และยินดี สนับสนุนการดําเนินงานตาม SPS Plan of Action 2011-2012 3.3 ทีป ่ ระชุมเห็นชอบให ้จัดตัง้ Technical Working Group จํานวน 3 คณะ คือ ด ้านความปลอดภัย ั ว์ และด ้านการตรวจสอบและการกักกันพืช และเห็นชอบขอบเขตการ ทางอาหาร ด ้านการตรวจสอบและการกักกันสต ดําเนินงานของ Contact Point ในการประสานงานกับคณะทํางานทีไ่ ด ้จัดขึน ้ รวมทัง้ รายงานความก ้าวหน ้าให ้ทีป ่ ระชุมระดับ รัฐมนตรีทราบและพิจารณาให ้แนวทางต่อไป

24 3.4 ทีป ่ ระชุมให ้ความเห็นชอบและยืนยันทีจ ่ ะดําเนินการตาม Phnom Penh Joint Statement on “Strengthening Animal and Plant Inspection and Quarantine Cooperation, Preventing the Cross-Border Spread of Exotic Species” 4. กําหนดการประชุมครงต่ ั้ อไป ี นด ้านการเกษตรและป่ าไม ้ (ASEAN Ministers on Agriculture and 4.1 การประชุมรัฐมนตรีอาเซย ี นด ้านการเกษตรและป่ าไม ้กับรัฐมนตรีของจีน ญีป Forestry – AMAF) ครัง้ ที่ 33 และการประชุมรัฐมนตรีอาเซย ่ น ุ่ และ ี สาธารณรัฐเกาหลี (AMAF+3) ครัง้ ที่ 11 จะจัดขึน ้ ณ ประเทศอินโดนีเซย ในปี 2554 ี นด ้านการเกษตรและป่ าไม ้ 4.2 การประชุมระดับเจ ้าหน ้าทีอ ่ าวุโสของการประชุมรัฐมนตรีอาเซย nd ี นด ้านการเกษตรและป่ าไม ้กับ ่ าวุโสอาเซย ครัง้ ที่ 32 สมัยพิเศษ (Special SOM-32 AMAF) และการประชุมเจ ้าหน ้าทีอ เจ ้าหน ้าทีอ ่ าวุโสของจีน ญีป ่ น ุ่ และสาธารณรัฐเกาหลี ครัง้ ที่ 10 สมัยพิเศษ (Special SOM 10th – AMAF+3) จะจัดขึน ้ ณ เมือง ี เสยมราฐ ประเทศกัมพูชา 4.3 การประชุม ASEAN-China Ministerial Meeting on SPS Cooperation ครัง้ ที่ 3 จะจัดขึน ้ ณ สาธารณรัฐประชาชนจีน ในปี 2555 ื แลกเปลีย 23. เรือ ่ ง การรายงานผลการดําเนินการตามมติคณะร ัฐมนตรี เรือ ่ ง การจ ัดทําหน ังสอ ่ นระหว่าง FAO ก ับร ัฐบาลไทย ในการเป็นเจ้าภาพจ ัดการประชุม FAO COFI Sub-Committee on Aquaculture สม ัยที่ 5 ื แลกเปลีย คณะรัฐมนตรีรับทราบรายงานผลการดําเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี เรือ ่ ง การจัดทําหนังสอ ่ น ระหว่างองค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) กับรัฐบาลไทย ในการเป็ นเจ ้าภาพจัดการประชุม ั ว์นํ้า (FAO COFI Sub-Committee on Aquaculture) สมัยที่ 5 ตามทีก คณะอนุกรรมการด ้าน การเพาะเลีย ้ งสต ่ ระทรวง เกษตรและสหกรณ์ เสนอ สาระสําค ัญของเรือ ่ ง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กษ.) โดยกรมประมงรายงานผลการดําเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมือ ่ วันที่ 21 กันยายน 2553 ดังนี้ 1) รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได ้รับมอบอํานาจเต็ม (Full Power) จากรัฐมนตรีวา่ การ ื แลกเปลีย กระทรวงการต่างประเทศ ให ้รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ลงนามในหนังสอ ่ นระหว่างรัฐบาลไทยกับ FAO ในการเป็ นเจ ้าภาพจัดประชุม FAO COFI Sub-Committee on Aquaculture สมัยที่ 5 ื แลกเปลีย 2) รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ลงนามในหนังสอ ่ นระหว่างรัฐบาลไทยกับ FAO ยอมรับการเป็ นเจ ้าภาพจัดประชุม FAO COFI Sub-Committee on Aquaculture สมัยที่ 5 และดําเนินการตามบันทึกความ รับผิดชอบของรัฐบาลไทยและ FAO สําหรับการประชุมดังกล่าว 3) กษ. ได ้จัดการประชุมคณะอนุ กรรมการด ้านการเพาะเลีย ้ งสัตว์นํ้า (FAO COFI Sub-Committee on Aquaculture) สมัยที่ 5 ระหว่างวันที่ 27 กันยายน - 1 ตุลาคม 2553 ณ โรงแรม Hilton Arcadia Phuket Resort and Spa ิ FAO 59 ประเทศ และผู ้แทนองค์กรระหว่างประเทศ ผู ้เข ้าร่วม จังหวัดภูเก็ต มีผู ้เข ้าร่วมประชุมเป็ นผู ้แทนจากประเทศสมาชก ิ้ 218 คน ประกอบด ้วย เจ ้าหน ้าทีผ ี่ วชาญด ้านการเพาะเลีย ั ว์นํ้า ผู ้แทนระดับบริหาร ประชุมรวมทัง้ สน ่ ู ้เชย ้ งสต ื แลกเปลีย ผู ้แทนองค์กรระหว่างประเทศ องค์กรเอกชนและองค์กรทีไ่ ม่แสวงผลกําไร และได ้ดําเนินการตามหนังสอ ่ นและบันทึก ความรับผิดชอบฯ เป็ นทีเ่ รียบร ้อย โดยมีสรุปผลการประชุมฯ ดังนี้ 3.1) ได ้มีการรายงานผลการปฏิบต ั งิ านของ FAO ตามข ้อเสนอแนะของการประชุมคณะอนุกรรมการ ั ด ้านการเพาะเลีย ้ งสตว์นํ้าครัง้ ที่ 4 3.2) FAO ได ้มีการพัฒนารูปแบบของแบบสอบถามเพือ ่ การประเมินผลการปฏิบต ั ต ิ ามหลัก ั จรรยาบรรณการเพาะเลีย ้ งสตว์นํ้าอย่างมีความรับผิดชอบ ั ว์นํ้าให ้การรับรองแนวทางปฏิบต 3.3) คณะอนุกรรมการเพาะเลีย ้ งสต ั ก ิ ารตรวจสอบรับรองการ ั ่ ึ เพาะเลีย ้ งสตว์นํ้า (Guidelines on Aquaculture Certification) ซงเป็ นความคิดริเริม ่ จากประเทศไทยโดยการร ้องขอต่อการ ่ ี่ วชาญเพือ ประชุมคณะอนุกรรมการฯ ครัง้ ที่ 3 ในปี 2549 และได ้รับการขานรับจนนํ ามาสูการจัดประชุมผู ้เชย ่ ยกร่างแนวทาง

25 ี่ วชาญ ปฏิบต ั ฯิ ครัง้ แรกทีป ่ ระเทศไทยเมือ ่ เดือนมีนาคม 2550 หลังจากนัน ้ ได ้มีการนํ าร่างดังกล่าวไปพิจารณาในการประชุมผู ้เชย การประชุมวิชาการและอนุกรรมการฯ รวม 7 ครัง้ สุดท ้ายได ้รับการรับรองแนวทางปฏิบต ั ฯิ ในการประชุมคณะอนุกรรมการฯ สมัย ที่ 5 นี้ ทีป ่ ระเทศไทย ั ว์นํ้า (Aquaculture 3.4) ทีป ่ ระชุมได ้มีอภิปรายเรือ ่ งความปลอดภัยทางชวี ภาพในการเพาะเลีย ้ งสต Biosecurity) และรายงานความก ้าวหน ้าของการดําเนินการเกีย ่ วกับเรือ ่ งดังกล่าว ั 3.5) ประเทศไทยขอให ้ FAO จัดสมมนาระดับภูมภ ิ าคเพือ ่ แลกเปลีย ่ นประสบการณ์การแก ้ไข ผลกระทบทีเ่ กิดจากการเปลีย ่ นแปลงสภาพภูมอ ิ ากาศ ิ ั ว์นํ้ามีปริมาณมากขึน 3.6) ประเทศสมาชกมีข ้อสงั เกตว่า หากความต ้องการบริโภคสต ้ การขยายการ ่ ั เลีย ้ งปลาไปนอกชายฝั่ ง (offshore) ก็จะเป็ นแนวทางหนึง่ ทีช ่ วยเพิม ่ ปริมาณสตว์นํ้าได ้ ิ ิ ธิภาพการจัดเก็บข ้อมูลสถิต ิ 3.7) ประเทศสมาชกเสนอให ้ FAO ให ้ความชว่ ยเหลือเพือ ่ เพิม ่ ประสท ้ ิ ใจเชงิ นโยบายได ้อย่างมี เพือ ่ ให ้ได ้ข ้อมูลทีค ่ รบถ ้วน แม่นยํา ทันต่อเหตุการณ์ เพือ ่ ให ้สามารถนํ ามาใชประกอบการตั ดสน ิ ธิภาพยิง่ ขึน ประสท ้ ้ ิ้ 9,734,000 บาท โดยเป็ นงบประมาณจากงบกลาง การดําเนินการดังกล่าวข ้างต ้นได ้ใชงบประมาณทั ง้ สน จํานวน 9,012,000 บาท และงบประมาณจากกรมประมง จํานวน 722,000 บาท 24. เรือ ่ ง รายงานผลการประชุมคณะประศาสน์การขององค์การแรงงานระหว่างประเทศสม ัยที่ 309 คณะรัฐมนตรีรับทราบผลการประชุมคณะประศาสน์การขององค์การแรงงานระหว่างประเทศสมัยที่ 309 ตามที่ กระทรวงแรงงานเสนอ ดังนี้ สาระสําค ัญของเรือ ่ ง กระทรวงแรงงานรายงานว่าได ้อนุมัตใิ ห ้คณะผู ้แทนไทย รวม 7 คน เข ้าร่วมการประชุมคณะประศาสน์การของ องค์การแรงงานระหว่างประเทศสมัยที่ 309 ณ นครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ในระหว่างวันที่ 8-19 พฤศจิกายน 2553 สรุปผลการประชุมทีส ่ ําคัญ คือ 1. แผนงาน การเงิน และการบริหารขององค์การแรงงานระหว่างประเทศ (International Labour Organization: ILP) คณะประศาสน์การมีมติรับรองแผนการดําเนินงานของ ILO ตามแนวทางบูรณาการเพือ ่ ขยายความ ั คุ ้มครองเรือ ่ งการประกันสงคม รวมทัง้ เห็นชอบให ้จัดสรรงบประมาณเพือ ่ สนับสนุนประเทศแทนซาเนียและคีรก ์ ซ ี สถานในการ ดําเนินการตามแผนงานระดับชาติ 2. การตอบสนองของ ILO ต่อวิกฤตเศรษฐกิจ คณะประศาสน์การมีมติรับทราบการดําเนินการของ ILP ิ นํ าข ้อตกลงร่วมกันในการ ตัง้ แต่เดือนพฤศจิกายน 2551 เพือ ่ รับมือกับวิกฤตเศรษฐกิจโดยได ้มีการผลักดันให ้ประเทศสมาชก ้ ดําเนินนโยบายและมาตรการเพือ ่ บรรเทาปั ญหาและผลกระทบต่อผู ้ใชแรงงานอั นเนือ ่ งมาจากวิกฤตเศรษฐกิจ (Global Jobs ้ Pact)ไปปรับใชตามความเหมาะสมของแต่ละประเทศ โดยประเด็นทีเ่ กีย ่ วข ้องกับกระทรวงแรงงาน คือ การนํ า Global Jobs ้ Pact มาปรับใชเพือ ่ ประโยชน์ในการบริหารแรงงานและการสร ้างงาน พร ้อมกับการสง่ เสริมการทํางานทีม ่ ค ี ณ ุ ค่า ั 3. ความคืบหน ้าเกีย ่ วกับการแก ้ไขปั ญหาการละเมิดอนุสญญาฉบับที่ 29 ว่าด ้วยแรงงานบังคับ ค.ศ. 1930 ของรัฐบาลพม่า คณะประศาสน์การรับทราบรายงานของ ILO เกีย ่ วกับความคืบหน ้าในการบังคับใชบั้ นทึกความเข ้าใจเพิม ่ เติม (Supplementary Understanding: SU) พบว่ามีความก ้าวหน ้าทีเ่ ป็ นรูปธรรมจากการร่วมมือกันของเจ ้าหน ้าทีข ่ อง ILO และ ้ ี ิ รัฐบาลพม่าเพือ ่ ขจัดปั ญหาการใชแรงงานบังคับในพม่า ทัง้ นี้ ผู ้แทนประเทศในอาเซยน อาทิ สงคโปร์ เวียดนาม กัมพูชา และ ไทย ต่างมีถ ้อยแถลงในเชงิ สนับสนุนให ้รัฐบาลพม่าพยายามแก ้ไขปั ญหาดังกล่าวโดยร่วมมือกับ ILO อย่างแข็งขันต่อไป 4. การประเมินผลการดําเนินงาน “งานทีม ่ ค ี ณ ุ ค่า” คณะประศาสน์การรับทราบการดําเนินงานเรือ ่ งการ ิ ่ ึ ประเมินผลการดําเนินงานเพือ ่ สนับสนุนให ้ประเทศสมาชกจัดทําแผนงานระดับชาติวา่ ด ้วย “งานทีม ่ ค ี ณ ุ ค่า” ซง ณ เดือน ิ สงหาคม 2553 มีประเทศทีด ่ ําเนินการแผนงานระดับชาติแล ้ว 50 ประเทศ และอีก 70 ประเทศอยูร่ ะหว่างการจัดทําแผน โดย ประเทศไทยอยูร่ ะหว่างการเตรียมจัดทําแผนงานระดับชาติดังกล่าว ี และแปซฟ ิ ิ ก ครัง้ ที่ 15 คณะประศาสน์การมีมติเห็นชอบให ้จัดการประชุม 5. การจัดประชุมระดับภูมภ ิ าคเอเชย ี และแปซฟ ิ ิ ก ครัง้ ที่ 15 ในระหว่างวันที่ 10-13 เมษายน 2554 ณ เมืองเกียวโต ประเทศญีป ระดับภูมภ ิ าคเอเซย ่ น ุ่ โดยการ ประชุมจะเน ้นเรือ ่ งการประเมินผลการดําเนินงานของ ILO ในภูมภ ิ าค โดยเฉพาะอย่างยิง่ การดําเนินการตามทศวรรษว่าด ้วย

26 ี (พ.ศ. 2549-2558) มีผู ้เข ้าร่วมประชุม 450 คน โดยกระทรวงแรงงานต ้องแต่งตัง้ คณะผู ้แทน งานทีม ่ ค ี ณ ุ ค่าในภูมภ ิ าคเอเชย ไตรภาคีเดินทางไปเข ้าร่วมการประชุมด ้วย ึ ษา การศก 25. เรือ ่ ง การขอคืนอ ัตราว่างข้าราชการครูจากผลการเกษียณอายุราชการ คณะรัฐมนตรีพจ ิ ารณาการขอคืนอัตราข ้าราชการครูจากผลการเกษี ยณอายุราชการ ตามที่ ึ ษาธิการเสนอ และมีมติดังนี้ กระทรวงศก ึ ษาเรือ 1. ให ้ ศธ. ปฏิบต ั ต ิ ามมติคณะรัฐมนตรีเมือ ่ วันที่ 19 สงิ หาคม 2551 (เรือ ่ ง รายงานผลการศก ่ ง สภาวะ ึ ษา และข ้อเสนอแนวทางแก ้ไข) โดยให ้กระทรวงศก ึ ษาธิการจัดทํา การขาดแคลนครู คณาจารย์ และบุคลากรทางการศก รายละเอียดการขอคืนอัตรากําลังให ้คณะกรรมการกําหนดเป้ าหมายและนโยบายกําลังคนภาครัฐรับไปประกอบการพิจารณา ึ ษาธิการรับความเห็นของสํานักงาน ก.พ.ร. สํานักงานคณะกรรมการพัฒนาการ ตามเหตุผลความจําเป็ น ทัง้ นี้ ให ้กระทรวงศก เศรษฐกิจและสงั คมแห่งชาติ และคณะกรรมการกําหนดเป้ าหมายและนโยบายกําลังคนภาครัฐไปดําเนินการด ้วย 2. ให ้คณะกรรมการกําหนดเป้ าหมายและนโยบายกําลังคนภาครัฐเร่งรัดดําเนินการจัดสรรอัตราข ้าราชการครู ึ ษาจากผลการเกษี ยณอายุราชการเมือ ิ้ ปี งบประมาณ พ.ศ. 2553 ให ้แล ้วเสร็จภายในเดือน และบุคลากรทางการศก ่ สน กุมภาพันธ์ 2554 ึ ษาธิการร่วมกับคณะกรรมการกําหนดเป้ าหมายและนโยบายกําลังคนภาครัฐจัดทําแผนการ 3. ให ้กระทรวงศก ึ ษาจากผลการเกษี ยณอายุราชการในแต่ละปี ของปี 2554 – 2556 เพือ ่ ให ้ คืนอัตรากําลังข ้าราชการครูและบุคลากรทางการศก ึ ษาขัน ึ ษา การบริหารจัดการกําลังคนให ้สมดุลสอดคล ้องกับภารกิจด ้านการศก ้ พืน ้ ฐาน และมีการบริหารทรัพยากรด ้านการศก ิ ธิภาพและประสท ิ ธิผล อย่างมีประสท เรือ ่ งทีค ่ ณะร ัฐมนตรีร ับทราบเพือ ่ เป็นข้อมูล 26. เรือ ่ ง การจ ัดงานฉลอง 100 ปี พลตรี ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช คณะรัฐมนตรีรับทราบข ้อมูลการจัดงานฉลอง 100 ปี พลตรี ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช ของกระทรวงวัฒนธรรม ดังนี้ ื่ พลตรี ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช ในวาระครบรอบ 100 ปี เกิด ต่อองค์การ ตามทีก ่ ระทรวงวัฒนธรรมได ้เสนอชอ ึ ษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติหรือยูเนสโก ภายใต ้โครงการเฉลิมฉลองบุคคลสําคัญและเหตุการณ์สําคัญ ศก ทางประวัตศ ิ าสตร์ของยูเนสโก ประจําปี 2554-2555 โดยทีป ่ ระชุมสม ัยสาม ัญของยูเนสโก ครงที ั้ ่ 35 เมือ ่ เดือนตุลาคม 2552 ณ กรุงปารีส สาธารณร ัฐฝรง่ ั เศส ได้มม ี ติร ับรองการร่วมเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 100 ปี พลตรี ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช ั ั ึ ษา ว ัฒนธรรม สงคมศาสตร์ ื่ สารมวลชน นัน ในปี พุทธศกราช 2554 ในฐานะบุคคลสําค ัญด้านการศก และสอ ้ กระทรวงวัฒนธรรม ร่วมกับมูลนิธค ิ ก ึ ฤทธิ์ 80 ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราช ึ ษา ตลอดจนหน่วยงานทีเ่ กีย กุมารี บริษัท บ ้าน ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ จํากัด ทายาท สถาบันการศก ่ วข ้อง จะร่วมกันจัดงานฉลอง 100 ปี พลตรี ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช ระหว่างเดือนเมษายน 2554- เมษายน 2555 รวมระยะเวลา 1 ปี ซงึ่ ในเบือ ้ งต ้นได ้กําหนด ิ ปะแขนงต่างๆ ของ ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ กิจกรรมสําคัญสําหรับการจัดงานฉลองฯ ประกอบด ้วย พิธเี ปิ ด “สถาบันคึกฤทธิ”์ การแสดงศล ั มนาทางวิชาการนานาชาติ การสม ั มนาทางวิชาการในระดับภูมภ ฯ การสม ิ าค การจัดนิทรรศการประวัตแ ิ ละผลงาน การจัดทําตรา ไปรษณียากรทีร่ ะลึก การจัดทําห ้องสมุดรวบรวมผลงานของม.ร.ว. คึกฤทธิฯ์ เป็ นต ้น โดยที่ พลตรี ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช เป็ นผู ้มีความรู ้ความสามารถหลายด ้านเป็ นทีป ่ ระจักษ์ อน ั นํ ามาซงึ่ คุณูปการแก่ บ ้านเมืองหลายประการ และเพือ ่ ให ้การจัดงานฉลอง 100 ปี พลตรี ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช เป็ นไปอย่างสมเกียรติในระดับชาติ กระทรวง ิ ชวนทุกกระทรวงร่วมเป็ นเจ ้าภาพในการจัดงาน วัฒนธรรมจึงเห็นควรนํ าเรือ ่ งดังกล่าวเสนอทีป ่ ระชุมคณะรัฐมนตรี เพือ ่ ขอเชญ สําหรับวาระสําคัญนี้ และขอความร่วมมือทุกกระทรวงแจ ้งข ้อมูลการจัดกิจกรรม/ โครงการต่างๆ เพือ ่ ร่วมฉลอง 100 ปี พลตรี ่ าธารณชนอย่าง ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช (ถ ้ามี) มายังกระทรวงวัฒนธรรมเพือ ่ รวบรวมข ้อมูลในภาพรวม และจักได ้เผยแพร่ไปสูส กว ้างขวาง

27 27. เรือ ่ ง สรุปผลการสํารวจภาวะการทํางานของประชากร เดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2553 คณะรัฐมนตรีรับทราบข ้อมูลสรุปผลการสํารวจภาวะการทํางานของประชากร เดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2553 ื่ สาร สรุปได ้ดังนี้ ของกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสอ สาระสําค ัญของเรือ ่ ง ํ สานักงานสถิตแ ิ ห่งชาติ ได ้ทําการสํารวจภาวะการทํางานของประชากรเป็ นประจําทุกเดือน โดยสอบถาม ่ ตัวอย่าง ทุกจังหวัดทั่วประเทศ มีครัวเรือนตกเป็ นตัวอย่าง 26,520 ครัวเรือนต่อ ประชากรทีม ่ อ ี ายุ 15 ปี ขึน ้ ไป ด ้วยวิธก ี ารสุม เดือน สําหรับในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2553 ในภาพรวมสถานการณ์แรงงาน จํานวนผู ้ว่างงานลดลง 3 พันคน (จาก 3.92 แสนคน เป็ น 3.89 แสนคน) เมือ ่ เปรียบเทียบกับชว่ งเวลาเดียวกันกับปี 2552 หากเปรียบเทียบกับชว่ งเดือนทีผ ่ า่ นมา (ตุลาคม ํ ํ พ.ศ. 2553) จํานวน ผู ้ว่างงานเพิม ่ ขึน ้ 3.4 หมืน ่ คน (จาก 3.55 แสนคน เป็ น 3.89 แสนคน) สาหรับสาระสาคัญการสํารวจ สรุปได ้ ดังนี้ 1. ผู ้อยูใ่ นกําลังแรงงาน ิ้ 38.71 ล ้านคน ประกอบด ้วย ผู ้มีงานทํา 38.18 ล ้านคน ผู ้ว่างงาน ผู ้ทีอ ่ ยูใ่ นกําลังแรงงาน มีจํานวนทัง้ สน 3.89 แสนคน และผู ้ทีร่ อฤดูกาล 1.40 แสนคน ทัง้ นี้ ผู ้ทีอ ่ ยูใ่ นกําลังแรงงาน มีจํานวนลดลงจากชว่ งเวลาเดียวกันกับปี 2552 จํานวน 9 หมืน ่ คน (จาก 38.80 ล ้านคน เป็ น 38.71 ล ้านคน) 2. ผู ้มีงานทํา ผู ้มีงานทํา 38.18 ล ้านคน ลดลงจากชว่ งเวลาเดียวกันกับปี 2552 จํานวน 1.5 แสนคน (จาก 38.33 ล ้านคน เป็ น 38.18 ล ้านคน) หรือลดลงร ้อยละ 3.9 ซงึ่ มีผู ้ทํางานเพิม ่ ขึน ้ และลดลงในสาขาต่างๆ ดังนี้ 2.1 ผู ้ทํางานเพิม ่ ขึน ้ ได ้แก่ ผู ้ทํางานในสาขาการบริหารราชการแผ่นดินฯ เพิม ่ ขึน ้ 2.7 แสนคน ่ (จาก 1.29 ล ้านคน เป็ น 1.56 ล ้านคน) สาขาการขายสงและขายปลีกฯ 2.0 แสนคน (จาก 5.90 ล ้านคน เป็ น 6.10 ล ้านคน) ึ ษา 8 หมืน สาขาการศก ่ คน (จาก 1.10 ล ้านคน เป็ น 1.18 ล ้านคน) ตามลําดับ 2.2 ผู ้ทํางานลดลง ได ้แก่ สาขาการโรงแรมและภัตตาคาร 4.3 แสนคน (จาก 2.90 ล ้านคน เป็ น 2.47 ล ้านคน) สาขาการบริการชุมชนฯ 1 แสนคน (จาก 0.87 ล ้านคน เป็ น 0.77 ล ้านคน) สาขาการก่อสร ้าง 1 แสนคน (จาก 2.16 ล ้านคน เป็ น 2.06 ล ้านคน) สาขาการผลิต 9 หมืน ่ คน (จาก 5.47 ล ้านคน เป็ น 5.38 ล ้านคน) ทีเ่ หลือกระจายอยูใ่ น สาขาอืน ่ ๆ ทัง้ นี้ หากเปรียบเทียบกับชว่ งเดือนตุลาคม พ.ศ. 2553 ทีผ ่ า่ นมา จํานวนผู ้มีงานทําเพิม ่ ขึน ้ 2.16 ่ แสนคน โดยเป็ นการเพิม ่ ขึน ้ ในภาคเกษตรกรรม 8.21 แสนคน สวนนอกภาคเกษตรกรรมลดลง 6.05 แสนคน 3. ผู ้ว่างงาน 3.1 ผู ้ว่างงานทั่วประเทศมีจํานวน 3.89 แสนคน คิดเป็ นอัตราการว่างงานร ้อยละ 1.0 ของกําลัง แรงงานรวม (ลดลง 3 พันคน แต่อต ั ราการว่างงานไม่เปลีย ่ นแปลง เมือ ่ เปรียบเทียบกับชว่ งเวลาเดียวกันกับปี 2552) ประกอบด ้วย ผู ้ว่างงานทีไ่ ม่เคยทํางานมาก่อนจํานวน 9.0 หมืน ่ คน และเป็ นผู ้ว่างงานทีเ่ คยทํางานมาก่อนจํานวน 2.99 แสนคน โดยเป็ นผู ้ว่างงานจากภาคการบริการและการค ้า 1.0 แสนคน ภาคการผลิต 9.0 หมืน ่ คน และภาคเกษตรกรรม 1.09 แสนคน ึ ึ 3.2 ผู ้ว่างงานเป็ นผู ้ทีจ ่ บการศกษาในระดับอุดมศกษามากทีส ่ ด ุ จํานวน 1.14 แสนคน รองลงมา ึ ึ ึ ระดับมัธยมศกษาตอนต ้น 9.2 หมืน ่ คน ระดับประถมศกษา 7.4 หมืน ่ คน ระดับมัธยมศกษาตอนปลาย 5.6 หมืน ่ คน และไม่ม ี ึ ึ การศกษาและตํา่ กว่าประถมศกษา 5.3 หมืน ่ คน ตามลําดับ 3.3 ผู ้ว่างงานอยูใ่ นภาคใต ้มากทีส ่ ด ุ 1.26 แสนคน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 1.10 แสนคน ภาคกลาง 8.5 หมืน ่ คน ภาคเหนือ 5.3 หมืน ่ คน และกรุงเทพมหานคร 1.5 หมืน ่ คน หากคิดเป็ นอัตราการว่างงาน ภาคใต ้เป็ น ่ ภาคทีม ่ อ ี ต ั ราการว่างงานสูงสุด คือ ร ้อยละ 2.4 สวนภาคทีม ่ อ ี ต ั ราการว่างงานตํา่ สุดเป็ น กรุงเทพมหานครร ้อยละ 0.4

28 28. เรือ ่ ง สรุปสถานการณ์ภ ัยพิบ ัติดา้ นการเกษตรปี 2554 ครงที ั้ ่ 3 คณะรัฐมนตรีรับทราบข ้อมูลสรุปสถานการณ์ภัยพิบต ั ด ิ ้านการเกษตรปี 2554 ครัง้ ที่ 3 ณ วันที่ 21 มกราคม 2554 ประกอบด ้วย สถานการณ์ภัยพิบต ั ด ิ ้านการเกษตร สถานการณ์นํ้า การจัดสรรนํ้ าและการปลูกพืชฤดูแล ้งปี 2553/2554 การ ่ ชวยเหลือด ้านการเกษตร ความก ้าวหน ้าการชว่ ยเหลือเกษตรกรผู ้ประสบอุทกภัยปี 2553 กรณีพเิ ศษ และการชว่ ยเหลือ ี หายจากอุทกภัย วาตภัย และดินถล่ม ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สรุปได ้ เกษตรกรชาวสวนยางพาราทีไ่ ด ้รับความเสย ดังนี้ สาระสําค ัญของเรือ ่ ง สถานการณ์ภ ัยพิบ ัติดา้ นการเกษตร อุทกภ ัย ไม่มส ี ถานการณ์ ภ ัยแล้ง จังหวัดประกาศพืน ้ ทีภ ่ ัยพิบต ั แ ิ ล ้ว 5 จังหวัด ได ้แก่ จังหวัดกําแพงเพชร พะเยา อุดรธานี สุรน ิ ทร์ ประจวบคีรข ี น ั ธ์ ไม่มรี ายงานผลกระทบด ้านการเกษตร ั โรคระบาดสตว์ โรคระบาดในสุกรชนิด พีอาร์อาร์เอส (PRRS: Porcine Reproductive and Respiratory) ที่ ั อําเภอโกสุมพิสย จังหวัดมหาสารคาม สภาพอากาศ ประเทศไทยตอนบนยังมีอากาศหนาวเย็นต่อไปอีก โดยมีหมอกในตอนเชา้ และมีหมอกหนาในบางพืน ้ ที่ สําหรับ ภาคใต ้ฝั่ งตะวันออกจะมีฝนเพิม ่ ขึน ้ สว่ นคลืน ่ ลมในอ่าวไทยตอนล่างจะมีกําลังแรงขึน ้ ชาวเรือบริเวณดังกล่าวระมัดระวังอันตราย ่ ในการเดินเรือในชวงวันที่ 22-28 ม.ค.54 ด ้วย สถานการณ์นํา้ 1. สภาพนํา้ ในอ่างเก็บนํา้ สภาพนํ้ าในอ่างเก็บนํ้ าขนาดใหญ่และขนาดกลางทัง้ ประเทศ 400 แห่ง มีปริมาณนํ้ าทัง้ หมด ร ้อยละ 69 ของ ้ ความจุอา่ ง เป็ นปริมาณนํ้ าใชการได ้ ร ้อยละ 37 ของความจุอา่ ง น ้อยกว่าปี 2553 ร ้อยละ 72 สภาพนํ้ าในอ่างเก็บนํ้ าขนาดใหญ่ม ี ้ ปริมาณนํ้ า ทัง้ หมด 33 แห่ง มีปริมาณนํ้ าทัง้ หมดร ้อยละ 69 ของความจุอา่ ง เป็ นปริมาณนํ้ าใชการได ้ ร ้อยละ 35 ของความจุอา่ ง น ้อยกว่าปี 2553 ร ้อยละ 72 จํานวน ั ชลสท ิ ธิ์ มีปริมาณนํ้ าทัง้ หมด ร ้อยละ 65 ของ สภาพนํ้ าในอ่างเก็บนํ้ าเขือ ่ นภูมพ ิ ล สริ ก ิ ต ิ ิ์ แควน ้อยฯ และป่ าสก ้ ความจุอา่ ง เป็ นปริมาณนํ้ าใชการได ้ ร ้อยละ 37 ของความจุอา่ ง อ่างเก็บนํ้ าทีอ ่ ยูใ่ นเกณฑ์นํ้า น้อยกว่า ร้อยละ 30 ของความจุอา่ งฯ จํานวน 1 อ่าง คือ อ่างเก็บนํ้ าปราณ บุร ี และอ่างเก็บนํ้ าทีอ ่ ยูใ่ นเกณฑ์นํ้า มากกว่าร้อยละ 80 ของความจุอา่ งฯ จํานวน 11 อ่าง ได ้แก่ อ่างเก็บนํ้ าแม่งัดฯ กิว่ คอ ี ว หนองปลาไหล ประแสร์ บางลาง หมา จุฬาภรณ์ ลําตะคอง ลําพระเพลิง มูลบน ลําแซะ กระเสย 2. สภาพนํา้ ท่า ปริมาณนํ้ าในแม่นํ้าปิ ง เจ ้าพระยา ช ี และมูล มีปริมาณนํ้ าอยูใ่ นเกณฑ์ปกติ แม่นํ้า วัง ยม น่าน ปริมาณนํ้ า อยูใ่ นเกณฑ์นํ้าน ้อย ่ ยเหลือเกษตรกรผูป ความก้าวหน้าการชว ้ ระสบอุทกภ ัยปี 2553 กรณีพเิ ศษ เป็นเงิน ี ความเสยหาย ี หายสน ิ้ เชงิ จํานวน 7.68 ล ้านไร่ แบ่งเป็ น ข ้าว 6.21 ล ้านไร่ พืชไร่ 0.96 ล ้านไร่ พืชสวน ด้านพืช พืน ้ ทีเ่ สย และอืน ่ ๆ 0.51 ล ้านไร่ เกษตรกร 732,711 ราย ั ว์นํ้าเสย ี หาย จํานวน 150,083 ไร่ แบ่งเป็ น บ่อปลา 129,740 ไร่ บ่อกุ ้ง ปู หอย ด้านประมง พืน ้ ทีเ่ พาะเลีย ้ งสต 20,343 ไร่ กระชงั /บ่อซเี มนต์ 450,241 ตารางเมตร เกษตรกร 120,465 ราย ั สต ั ว์ตาย/ สูญหาย รวมทัง้ สน ิ้ 2,415,336 ตัว แปลงหญ ้า 9,576.75 ไร่ เกษตรกร 25,603 ราย ด้านปศุสตว์ ่ ยเหลือ การชว 1. เงินทดรองราชการ เกษตรกร 82,416 ราย วงเงิน 207.19 ล ้านบาท

29 ิ้ จํานวน 65 จ ังหว ัด วงเงิน 2. ขอเงินงบกลาง สง่ เอกสารให ้ ธกส. เพือ ่ ขออนุมัตเิ งินงวดแล ้วทัง้ สน 15,686.83 ล้านบาท และ ธกส. โอนเงินให ้ ธกส. สาขา เพือ ่ โอนเข ้าบัญชเี กษตรกรแล ้ว จํานวน 58 จ ังหว ัด วงเงิน 12,499.30 ล้านบาท โอนเข้าบ ัญชเี กษตรกรแล้ว 160,808 ราย วงเงิน 4,606.37 ล้านบาท ่ ยเหลือเกษตรกรชาวสวนยางพาราทีไ่ ด้ร ับความเสย ี หายจากอุทกภ ัย วาตภ ัย ความก้าวหน้าการชว และดินถล่ม ี สภาพสวนทัง้ สน ิ้ 34,608 ไร่ เกษตรกร 20,524 ราย คิดเป็ นเงินชว่ ยเหลือ สํารวจแล ้ว พบว่า มีสวนยางพาราทีเ่ สย ิ้ จํานวน 287.92 ล ้านบาท ซงึ่ ได ้สง่ เอกสารให ้ ธกส. เพือ ทัง้ สน ่ ขออนุมัตเิ งินงวดจากสํานักงบประมาณต่อไป ทัง้ นี้ กําหนดให ้ จังหวัดสํารวจให ้แล ้วเสร็จภายในวันที่ 25 ม.ค.54 การจ ัดสรรนํา้ และการปลูกพืชฤดูแล้ง ปี 2552/2553 จัดสรรนํ้ าไปแล ้ว 7,767 ล ้าน ลบ.ม. คิดเป็ นร ้อยละ 39 ของแผน (20,144 ล ้าน ลบ.ม.) พืน ้ ทีป ่ ลูกแล ้ว 5.03 ล ้านไร่ คิดเป็ นร ้อยละ 33 ของแผน(15.29 ล ้านไร่) แบ่งเป็ น ข ้าว 4.66 ล ้านไร่ พืชไร่-พืชผัก 0.37 ล ้านไร่ ่ ยเหลือด้านการเกษตร สนับสนุนเครือ การชว ่ งสูบนํ้ าเคลือ ่ นที่ ในพืน ้ ที่ 23 จังหวัด จํานวน 188 เครือ ่ ง แต่งตงั้ 29. เรือ ่ ง แต่งตงั้ ื่ ผูป 1. ขอเสนอชอ ้ ระสานงานคณะร ัฐมนตรีและร ัฐสภา (ปคร.) ของสําน ักงานคณะกรรมการป้องก ัน และปราบปรามยาเสพติด ื่ คณะรัฐมนตรีรับทราบตามทีส ่ ํานักงานคณะกรรมการป้ องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) เสนอชอ นางสุรย ี ป ์ ระภา ตรัยเวช เลขาธิการคณะกรรมการป้ องกันและปราบปรามยาเสพติด เป็ นผู ้ประสานงานคณะรัฐมนตรีและ รัฐสภา (ปคร.) ของสํานักงานคณะกรรมการป้ องกันและปราบปรามยาเสพติด 2. แต่งตงกรรมการในคณะกรรมการธนาคารเพื ั้ อ ่ การเกษตรและสหกรณ์การเกษตร คณะรัฐมนตรีอนุมัตต ิ ามทีก ่ ระทรวงการคลังเสนอแต่งตัง้ นายสมชาย ชาญณรงค์กล ุ อธิบดีกรมสง่ เสริม สหกรณ์ ผู ้แทนกรมสง่ เสริมสหกรณ์ เป็ นกรรมการในคณะกรรมการธนาคารเพือ ่ การเกษตรและสหกรณ์การเกษตร แทนนายวินัย กสริ ักษ์ กรรมการทีล ่ าออก ทัง้ นี้ ตัง้ แต่วันที่ 24 มกราคม 2554 เป็ นต ้นไป โดยให ้ผู ้ซงึ่ ได ้รับแต่งตัง้ แทนนีอ ้ ยูใ่ นตําแหน่งตาม วาระของผู ้ซงึ่ ตนแทน ตามนัยพระราชบัญญัตธิ นาคารเพือ ่ การเกษตรและสหกรณ์การเกษตร พ.ศ. 2509 และทีแ ่ ก ้ไขเพิม ่ เติม มาตรา 16 วรรคสอง 3. ข้าราชการการเมืองลาออกจากตําแหน่งและแต่งตงข้ ั้ าราชการการเมือง คณะรัฐมนตรีรับทราบประกาศสํานักนายกรัฐมนตรีให ้ นายพิลาศ พันธโกศล ลาออกจากตําแหน่ง ข ้าราชการ การเมือง ตําแหน่งทีป ่ รึกษารองนายกรัฐมนตรี (รองนายกรัฐมนตรี พลตรี สนั่น ขจรประศาสน์) และเห็นชอบการแต่งตัง้ นาย ธัญธวัช แพงไธสง ให ้ดํารงตําแหน่งข ้าราชการการเมือง ตําแหน่งทีป ่ รึกษารองนายกรัฐมนตรี แทนนายพิลาศ พันธโกศล 4. โครงการจ ัดการทร ัพยากรนํา้ ชุมชนตามแนวพระราชดําริเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระ เจ้าอยูห ่ ัว เนือ ่ งในโอกาสพระราชพิธม ี หามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 5 ธ ันวาคม 2554 คณะรัฐมนตรีรับทราบคําสงั่ สํานักนายกรัฐมนตรี ที่ 13/2554 เรือ ่ ง แต่งตัง้ คณะกรรมการบริหารโครงการ จัดการทรัพยากรนํ้ าชุมชนตามแนวพระราชดําริเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ ้าอยูห ่ ัว เนือ ่ งในโอกาสพระราชพิธม ี หา มงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 5 ธันวาคม 2554 ด ้วยรัฐบาลเห็นสมควรจัดทําโครงการจัดการทรัพยากรนํ้ าชุมชนตามแนวพระราชดําริ เพือ ่ เฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ ้าอยูห ่ วั เนือ ่ งในโอกาสพระราชพิธม ี หามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 5 ธันวาคม 2554 ดังนัน ้ เพือ ่ ให ้การดําเนินงานเป็ นไปด ้วยความเรียบร ้อย อาศัยอํานาจตามความในมาตรา 11(6) แห่ง พระราชบัญญัตริ ะเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 จึงแต่งตัง้ คณะกรรมการบริหารโครงการจัดการทรัพยากรนํ้ าชุมชน

30 ตาม แนวพระราชดําริ เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ ้าอยูห ่ ัว เนือ ่ งในโอกาสพระราชพิธม ี หามงคลเฉลิมพระ ชนมพรรษา 7 รอบ 5 ธันวาคม 2554 โดยมีองค์ประกอบและอํานาจหน ้าทีด ่ ังนี้ 1. องค์ประกอบ คณะทีป ่ รึกษา รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงกลาโหม รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงเกษตรและ สหกรณ์ รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสงิ่ แวดล ้อม รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงมหาดไทย รัฐมนตรีวา่ การ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี นายอํานวย ปะติเส นายนิพนธ์ วงษ์ ตระหง่าน นายสมชาย สุรกุล คณะกรรมการ รอง นายกรัฐมนตรี (นายไตรรงค์ สุวรรณคีร)ี เป็ น ประธานกรรมการ กรรมการประกอบด ้วย ผู ้บัญชาการทหารบก นายสามารถ โชค ์ ม คณาพิทักษ์ นายทรงศักดิ์ วงศภ ู วิ ัฒน์ นายนิพนธ์ พัวพงศกร อธิบดีกรมชลประทาน อธิบดีกรมทรัพยากรนํ้ า อธิบดีกรม ่ สงเสริมการปกครองท ้องถิน ่ อธิบดีกรมพัฒนาทีด ่ น ิ โดยมี รองปลัดสํานักนายกรัฐมนตรี (นายเอนก เพิม ่ วงศเ์ สนีย)์ เป็ น กรรมการและเลขานุการ ผู ้อํานวยการสถาบันสารสนเทศทรัพยากรนํ้ าและการเกษตร (องค์การมหาชน) เป็ นกรรมการและ ผู ้ชว่ ยเลขานุการ 2. อํานาจหน้าที่ 2.1 กําหนดกรอบแนวทางการดําเนินงานและประเมินผลตลอดจนเสนอแนะแนวทางการขยายผลให ้ ํ เป็ นระบบทีส ่ าคัญในการแก ้ไขปั ญหานํ้ า รวมทัง้ พิจารณาอนุมัตโิ ครงการ 840 แห่ง 2.2 พิจารณาให ้หน่วยราชการทีเ่ กีย ่ วข ้องดําเนินการจัดสรรงบประมาณทีม ่ อ ี ยูแ ่ ล ้วเพือ ่ สนับสนุนการ ํ ดําเนินงานให ้สาเร็จตามวัตถุประสงค์ของโครงการ 2.3 ติดตามประเมินผลและจัดรายงานผลการดําเนินงานเสนอนายกรัฐมนตรีอย่างต่อเนือ ่ ง 2.4 แต่งตัง้ คณะอนุกรรมการหรือคณะทํางานเพือ ่ ปฏิบต ั งิ านได ้ตามความเหมาะสม 2.5 ดําเนินการอืน ่ ๆ ตามทีไ่ ด ้รับมอบหมาย ทัง้ นี้ ตัง้ แต่วันที่ 17 มกราคม 2554 เป็ นต ้นไป ******************

โฉมหนาใหมของเวปไซด US FDA สํานักงานอาหารและยาสหรัฐฯ หรือ อ.ย. สหรัฐฯ (U.S. Food and Drug Administration) หรือเรียกสัน้ ๆ วา FDA สังกัดกระทรวงสาธารณสุขและบริการประชาชนสหรัฐฯ (Department of Health & Human Services) ไดแนะนําหนาเวปไซดใหม www.fda.gov/FDABasicsforIndustry ซึ่งแทรกเขาไปในหนาเวปไซดปจจุบัน และ เปดใชเมื่อวันที่ 5 มกราคม 2554 ที่ผานมา ในระยะเวลาทีผ่ านมา การคนหา การใหขอ มูล และการติดตอสื่อสารกับ US FDA ผูใชบริการมักประสบปญหาความลาชา จากการใหบริการของ FDA ดังนั้น FDA จึงไดปรับปรุง การใหบริการใหมีประสิทธิภาพมากขึน้ และเพิ่มความสะดวกแกบริษทั /อุตสาหกรรม และ ผูใชบริการ ซึ่งจะประหยัดเวลาในการติดตอกับหนวยงาน FDA และงายตอการคนหาขอมูล รวมทั้งการติดตอ กับ FDA

1

ในหนาเวปไซดใหม มีขอมูลดานระเบียบ การชี้แจงกฏระเบียบที่ FDA กําหนด ที่มี ความชัดเจน สอดคลอง และมีคําถาม-คําตอบ ฯลฯ พืน้ ฐานเกี่ยวกับ ขั้นตอน กฏระเบียบ ที่ FDA กําหนด เนนความชัดเจน เกีย่ วกับกฏระเบียบที่บริษัท/อุตสาหกรรม ตองปฏิบัติตามอยางเครงครัด อีก ทั้ง FDA จัดบุคลากร/เจาหนาที่ของ FDA ใหบริการตอบขอซักถามทางอีเมล ซึ่งผูใชบริการจะไดรับ คําตอบภายใน 5 วันทําการ หรือไดรับแจงระยะเวลาที่จะไดรับคําตอบภายในกีว่ ัน เปนตน เวปไซดดงั กลาว มีขอมูล แยกเปนหัวขอ ดังนี้ • แนะนําหนวยงาน (About FDA) • คําแนะนํา (Guidance) • การลงทะเบียนและรายการ (Registration and Listings) ซึ่งเปนขั้นตอนสําคัญที่ผูผลิต/สงออกรายใหมที่ตองการสงผลิตภัณฑอาหาร ยา เครื่องสําอาง เขาไปจําหนายในตลาดสหรัฐฯ จะตองยื่นขอจดทะเบียนบริษัท/สินคา • ขั้นตอน กฏระเบียบ (Regulatory Process) • การยื่นใบสมัครสินคาและตรวจสอบขั้นตอนคํารอง (Product Application and Petition Review Process) • การขอรับขาวสาร (Stay Informed) FDA ใหยนื่ ขอรับขาวสารทันสมัยทางอีเมล • การคนหาขอมูล (Search Databases) • เรื่องที่ไดรับความนิยม (Popular Content) อาทิ กฏระเบียบ ขอกฏหมาย สินคาที่ถูก เรียกเก็บคืน (Recall) • คําถาม-คําตอบ (Frequently Asked Questions) เลือกตามสินคา • แหลงขอมูล (Educational Resources)

2

การติดตอ US FDA หากการคนหาขอมูล ไมไดคาํ ตอบตามที่ตองการ ผูใชบริการสามารถสงอีเมลไปถาม เจาหนาที่ US FDA แยกตามกลุมสินคา ไดดังนี้ สินคาอาหารทั่วไป Industry.Foods@fda.gov สินคาาเครื่องสําอาง Industry.Cosmetics@fda.gov สินคาอุปกรณการแพทย Industry.Devices@fda.gov สินคาอาหารเสริม Industry.DietarySupplements@fda.gov สินคาเครื่องฉายรังสี Industry.Radiological@fda.gov สินคาวัคซีนสัตว Industry.AnimalVeterinary@fda.gov สินคาเภสัชภัณฑ Industry.Drugs@fda.gov สินคายาสูบ Industry.Tobacco@fda.gov หรือ smallbiz.tobacco@fda.hhs.gov (สําหรับผูประกอบการที่มี พนักงานนอยกวา 350 คน) สินคา Biological Industry.Biologics@fda.gov หากผูใชบริการไมประสงคจะติดตอ FDA ทางอีเมล ยังสามารถติดตอ FDA ไดโดยการสง จดหมายไปยังสํานักงานใหญในรัฐแมรี่แลนด

FDA U.S.Food and Drug Administration 10903 New Hampshire Ave. Silver Spring, MD 20993-0002 หรือ โทรศัพท ไปสอบถาม ที่หมายเลข 1-888-INFO-FDA (1-888-463-6332) หรือหมายเลขฉุกเฉิน 301-796-8240 และ 1-866-300-4374 สํานักสงเสริมการคาระหวางประเทศ ณ นครชิคาโก 11 มกราคม 2554

3