สถานการณ์ปัจจุบนั : สถานการณ์วิกฤตระดับ 3 เริ่มตั้งแต่ วันจันทร์ที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2554 เวลาทําการ : ตลอด 24 ชั่วโมง 2 ศูนย์ประมวลวิเคราะห์สถานการณ์น้ํากรมชลประทาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โทรศัพท์ 0 2669 2560 / โทรสาร 0 2243 6956, 0 2241 3350, 0 2243 1098 สายด่วน 1460 http://www.rid.go.th/2009, http://hydrology.rid.go.th/wmsc/, E-mail : wmsc.1460@gmail.com สถานการณ์น้ําในช่วงฤดูฝน ปี 2554 วันจันทร์ที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2554 1. สภาพภูมิอากาศ แผนที่อากาศ วันที่ 17 ตุลาคม 2554 (01.00 น.)
แผนที่ลมชั้นบน ระดับ 925 hPa
ภาพถ่ายดาวเทียม GOES-9 IR1
ร่องมรสุมพาดผ่านภาคกลางตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนื อตอนล่าง ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทําให้บริเวณดังกล่าวมีฝนเกือบทั่วไปและมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณจังหวัดบุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี สระแก้ว ระยอง จันทบุรี และตราด ระวังอันตรายจากสภาวะฝนที่ตกหนักอาจทําให้เกิดน้ําท่วม ฉับพลันน้ําป่าไหลหลากได้ในระยะนี้ อนึ่ง ความกดอากาศสูงกําลังปานกลางจากประเทศจีนปกคลุมภาคตะวันออก เฉียง เหนือแล้วและจะเข้าปกคลุมภาคเหนือต่อไป ลักษณะเช่นนี้จะทําให้บริเวณภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง มีฝนฟ้าคะนองในระยะแรก หลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส 2. สภาพฝน ปริมาณฝนสูงสุดรายภาค ตั้งแต่ เวลา 07.00 น. วันที่ 16 ตุลาคม 2554 จนถึง เวลา 07.00 น. วันที่ 17 ตุลาคม 2554 ดังนี้ ภาคเหนือ ที่ อําเภอเมือง จังหวัดสุโขทัย 34.7 มม. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่ อําเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ 91.4 มม. ภาคกลาง ที่ สนามบินสุวรรณภูมิ จังหวัดสมุทรปราการ 42.7 มม. ภาคตะวันออก ที่ อําเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว 27.2 มม. ภาคใต้ (ฝัง่ ตะวันออก) ที่ อําเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขนั ธ์ 31.6 มม. ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) ที่ อําเภอเมือง จังหวัดสตูล 2.3 มม. 1
ศูนย์ประมวลวิเคราะห์สถานการณ์น้ าํ กรมชลประทาน
ปริมาณฝน วันที่ 16 ตุลาคม ปี 2554
ปี 2553
ปริมาณฝนสะสม ตัง้ แต่
ปริมาณฝนสะสม ตั้งแต่
ปริมาณฝนสะสมเทียบกับค่าปกติ
1 – 16 ตุลาคม 2554
1 มกราคม – 16 ตุลาคม 2554
1 มกราคม – 16 ตุลาคม 2554
(ข้อมูลจากกรมอุตุนิยมวิทยา : ฝนวัดไม่ได้ ปริมาณฝนน้อยกว่า 0.1 มม. ฝนเล็กน้อย 0.1-10.0 มม. ฝนปานกลาง 10.1 - 35.0 มม. ฝนหนัก 35.1- 90.0 มม. ฝนหนักมาก 90.1 มม. ขึ้นไป)
18 ต.ค.- 19 ต.ค. 54 7.00 น-19.00 น
19.00 น - 7.00 น.
การคาดการณ์ฝนล่วงหน้า 3 วัน 19 ต.ค.- 20 ต.ค. 54 20 ต.ค. – 21 ต.ค. 54 7.00 น-19.00 น
19.00 น - 19.00 น.
19.00 น - 19.00 น.
(ข้อมูลจาก The National Centers for Environmental Prediction เริ่มพยากรณ์วนั ที่ 16 ต.ค. 54) ในช่วงวันที่ 18 ต.ค. – 21 ต.ค. 54 คาดว่า ทุกภาคจะมีฝนตกกระจายทั่วไป ประมาณ 10-30 มม. 3. สภาพน้ําในอ่างเก็บน้ํา สภาพน้ําในอ่างเก็บน้ําขนาดใหญ่และขนาดกลาง ปริมาตรน้ําในอ่างฯ 69,444 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 94 (ปริมาตรน้ําใช้การได้ 45,530 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 61) ปริมาตรน้ําในอ่างฯ เทียบกับปี 2553 (51,824 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น ร้อยละ 70) มากกว่าปี 2553 จํานวน 17,620 ล้าน ลบ.ม. ปริมาณน้ําไหลลงอ่างฯ จํานวน 519.72 ล้าน ลบ.ม. ปริมาณน้ําระบาย จํานวน 341.38 ล้าน ลบ.ม. สามารถรับน้ําได้อีก 4,673 ล้าน ลบ.ม. สภาพน้ําในอ่างเก็บน้ําขนาดใหญ่ ปริมาตรน้ําในอ่างฯ 65,742 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 94 (ปริมาตรน้ําใช้การได้ 42,146 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 60) ปริมาตรน้ําในอ่างฯ เทียบกับปี 2553 (48,542 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 69) มากกว่าปี 2553 จํานวน 17,200 ล้าน ลบ.ม. ปริมาณน้ําไหลลงอ่างฯ จํานวน 446.01 ล้าน ลบ.ม. ปริมาณน้ําระบายจํานวน 270.56 ล้าน ลบ.ม. สามารถรับน้ําได้อีก 4,415 ล้าน ลบ.ม.
2
ศูนย์ประมวลวิเคราะห์สถานการณ์น้ าํ กรมชลประทาน
สภาพน้ําในอ่างเก็บน้ําขนาดใหญ่และขนาดกลาง วันจันทร์ที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2554 ขนาดใหญ่ ภาค
ปริมาตรน้ํา
ความจุ
จํานวน (แห่ง)
ขนาดกลาง
ที่
%
ในอ่างฯ
รนก.
รนก.
ใช้การ
% รนก.
จํานวน (แห่ง)
ปริมาตรน้ํา
ความจุ ที่ รนก.
รวม
ในอ่างฯ
%
ใช้การ
รนก.
% รนก.
จํานวน (แห่ง)
ปริมาตรน้ํา
ความจุ ที่ รนก.
ในอ่างฯ
% รนก.
ใช้การ
รับได้อกี % 3 รนก. (ล้าน ม. )
เหนือ
7
24,721
24,524
99
17,785
72
51
823
813
99
747
91
58
25,544 25,337
99
18,532
73
207
ตอน.
12
8,323
8,848
106
7,205
87
222
1,771
1,870
106 1,728
98
234
10,094
10,718
106
8,933
88
-624
กลาง
3
1,185
1,468
124
1,417
120
9
80
79
99
73
91
12
1,265
1,547
122
1,490
118
-282
ตะวันตก
2
26,605
23,641
89
10,364
39
7
132
110
83
99
75
9
26,737 23,751
89
10,463
39
2,986
ตะวันออก ใต้
5 4
1,173 8,150
1,213 6,048
103 74
1,132 4,351
97 53
47 31
646 508
622 208
96 41
570 167
88 33
52 35
1,819 8,658
1,835 6,256
101 72
1,702 4,518
94 52
-16 2,402
รวม
33
70,157 65,742
94
42,146
60
367
3,960
3,702
93
3,384
85
400
74,117 69,444
94
45,530
61
4,673
(หน่วย : ล้าน ลบ.ม.)
สภาพน้ําในอ่างเก็บน้ําเขื่อนภูมิพล สิริกิติ์ แควน้อยฯและป่าสักฯ วันจันทร์ที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2554 ปริมาตรน้ําในอ่างฯ
อ่างเก็บน้ํา
ปริมาตรน้ํา
ปริมาณน้ําไหลลงอ่างฯ
ปริมาตรน้ําใช้การได้
% ความจุอา่ งฯ
ปริมาตรน้ํา
% ความจุอา่ งฯ
ปริมาณน้ําระบาย
วันนี้
เมื่อวาน
วันนี้
เมื่อวาน
ปริมาณน้ํา รับได้อกี
ภูมพ ิ ล
13,381
99
9,581
71
67.38
58.01
50.00
50.00
81
สิริกิติ์
9,417
99
6,567
69
28.58
31.16
20.00
20.01
93
22,798
99
16,148
70
95.96
89.17
70.00
70.01
174
แควน้อยฯ
ภูมิพล+สิริกต ิ ์ิ
939
100
896
95
10.15
10.08
8.64
10.08
-
ป่าสักชลสิทธิ์
1,075
137
1,072
137
45.47
47.53
25.99
30.42
-
24,812
100
18,116
73
151.58
146.78
104.63
110.51
174
รวม ภูมิพล สิริกต ิ ิ์ แควน้อยฯ ป่าสักฯ
(หน่วย : ล้าน ลบ.ม.)
อ่างเก็บน้ําขนาดใหญ่ที่อยู่ในเกณฑ์น้ํา มากกว่าร้อยละ 80 ของความจุอ่างฯ จํานวน 28 อ่างฯ ดังนี้ ปริมาตรน้ําในอ่างฯวันนี้
ปริมาตรน้ําใช้การได้
17 ตุลาคม 2554
17 ตุลาคม 2554
ปริมาณน้ําไหลลงอ่าง
ปริมาณน้ําระบาย
ปริมาณน้ํา
ลําดับที่
อ่างเก็บน้ํา
วันนี้
เมื่อวาน
วันนี้
เมื่อวาน
1
ภูมิพล
13,381
99
9,581
71
67.38
58.01
50.00
50.00
81
2
สิริกิติ์
9,417
99
6,567
69
28.58
31.16
20.00
20.01
93
3
แม่งัดสมบูรณ์ชล
259
98
237
89
1.10
0.21
1.37
2.15
6
4
แม่กวงอุดมธารา
260
99
246
94
1.90
1.50
1.72
1.79
3
5
กิ่วลม
91
81
87
78
4.06
3.49
3.49
3.49
21
ปริมาตรน้ํา
% ความจุอ่างฯ
ปริมาตรน้ํา
% ความจุอ่างฯ
รับได้อีก
6
กิ่วคอหมา
177
104
164
96
1.05
1.54
0.14
1.86
-
7
แควน้อยบํารุงแดน
939
100
896
95
10.15
10.08
8.64
10.08
-
8
น้ําอูน
567
109
524
101
4.29
6.63
4.88
4.63
-
9
น้ําพุง
168
102
159
96
0.97
1.40
1.30
1.33
-
10
จุฬาภรณ์
174
106
120
73
1.81
1.45
2.00
1.98
-
11
อุบลรัตน์
2,915
120
2,334
96
48.99
54.37
50.78
52.48
-
12
ลําปาว
1,990
101
1,890
95
18.83
27.31
15.63
15.31
-
13
ลําตะคอง
345
110
287
91
3.95
3.56
1.15
1.13
-
14
ลําพระเพลิง
116
105
109
99
1.31
1.30
1.21
1.19
-
15
มูลบน
162
115
134
95
5.95
2.24
1.71
1.61
-
16
ลําแซะ
289
105
268
97
4.51
3.18
0.92
0.92
-
17
สิรินธร
1,926
98
1,095
56
28.78
39.80
10.82
13.51
40
18
ป่าสักชลสิทธิ์
1,075
137
1,072
137
45.47
47.53
25.99
30.42
-
19
ทับเสลา
162
101
152
95
7.45
3.75
0.28
0.00
-
20
กระเสียว
231
96
191
80
3.64
3.83
0.06
0.06
9
21
ศรีนครินทร์
15,994
90
5,729
32
82.93
57.65
19.19
21.45
1,751
22
วชิราลงกรณ์
7,647
86
4,635
52
21.72
28.81
10.03
9.99
1,213
23
ขุนด่านปราการชล
210
94
205
92
2.36
3.09
2.03
2.03
14
24
คลองสียัด
443
105
413
98
5.23
4.50
6.12
6.00
-
25
บางพระ
113
97
101
86
0.50
0.67
0.96
1.00
4
26
หนองปลาไหล
173
105
159
97
5.59
3.51
3.68
3.99
-
27
ประแสร์
274
110
254
102
10.37
5.29
4.30
3.30
-
28
รัชชประภา
4,677
83
3,325
59
11.31
15.34
17.41
19.81
962
(หน่วย : ล้าน ลบ.ม.)
3
ศูนย์ประมวลวิเคราะห์สถานการณ์น้ าํ กรมชลประทาน
4. สภาพน้ําท่า แม่น้ํา
สถานี
ตลิ่ง ความจุ ระดับน้ํา
ที่ตั้งสถานี
ม. 1. ปิง ปิง ปิง 2. วัง 3. ยม ยม ยม ยม 4. น่าน น่าน น่าน 5. ชี
P.1 P.7A P.17 W.4A Y.1C Y.4 Y.16 Y.17 N.1 N.5A N.67 E.23 E.20A 6 มูล M.6A M.9 M.7 7 พระสทึง Kgt.10 8 ท่าตะเภา X.158 9 ตาปี X.37A 10 โก-ลก X.119A 11 ค.ตันหยงมัส X.73
ม.3 / วิ.
ม.
ปริมาณน้ํา วันนี้ เมื่อวาน 3 ม. / วิ. ม.3 / วิ.
ต่ํา(-) สูง(+)
อยู่ใน เกณฑ์ แนวโน้ม
กว่าตลิ่ง
สะพานนวรัฐ
อําเภอเมือง
จังหวัดเชียงใหม่
3.70
440
2.11
142
140
-1.59
สะพานบ้านห้วยยาง บ้านท่างิ้ว บ้านวังหมัน สะพานบ้านน้ําโค้ง สะพานตลาดธานี บ้านบางระกํา บ้านสามง่าม หน้าสํานักงานป่าไม้ สะพานเอกาทศรถ สะพานบ้านเกยไชย บ้านค่าย แนวสะพาน บ้านสะตึก บ้านหนองหญ้าปล้อง สะพานเสรีประชาธิปไตย
อําเภอเมือง อําเภอบรรพตพิสัย อําเภอสามเงา อําเภอเมือง อําเภอเมือง อําเภอบางระกํา อําเภอสามง่าม อําเภอเมือง อําเภอเมือง อําเภอชุมแสง อําเภอเมือง อําเภอมหาชนะชัย อําเภอสตึก อําเภอเมือง อําเภอเมือง
จังหวัดกําแพงเพชร จังหวัดนครสวรรค์ จังหวัดตาก จังหวัดแพร่ จังหวัดสุโขทัย จังหวัดพิษณุโลก จังหวัดพิจิตร จังหวัดน่าน จังหวัดพิษณุโลก จังหวัดนครสวรรค์ จังหวัดชัยภูมิ จังหวัดยโสธร จังหวัดบุรีรัมย์ จังหวัดศีรสะเกษ จังหวัดอุบลราชธานี
5.87 38.08 7.10 8.20 7.43 7.15 7.04 7.00 10.54 28.30 9.00 10.00 5.40 9.00 7.00
4,035 1,815 753 1,000 702 357 1,300 1,548 1,520 340 1,215 303 187 2,600
3.00 37.43 4.28 2.38 4.88 11.14 6.85 1.62 7.77 28.42 8.41 10.85 7.52 11.05 9.03
1,328 1,391 219 165 379 1,234 1,296 188 813 1,556 191 1,547 1,106 323 4,021
1,298 1,454 181 148 375 1,242 1,352 180 1,102 1,565 202 1,547 1,106 307 3,979
-2.87 -0.65 -2.82 -5.82 -2.55 3.99 -0.19 -5.38 -2.77 0.12 -0.59 0.85 2.12 2.05 2.03
บ้านสระขวัญ ที่สะพานบ้านวังครก บ้านย่านดินแดง บ้านปาเสมัส บ้านตันหยงมัส
อําเภอเมือง อําเภอท่าแซะ อําเภอพระแสง อําเภอสุไหงโก-ลก อําเภอระแงะ
จังหวัดสระแก้ว จังหวัดชุมพร จังหวัดสุราษฎร์ธานี จังหวัดนราธิวาส จังหวัดนราธิวาส
11.50 12.20 11.70 8.20 15.58
314 748 734 244 137
9.20 3.99 9.50 5.76 11.17
187 44 282 80 13
115 47 305 58 14
-2.30 -8.21 -2.20 -2.44 -4.41
ปกติ ปกติ มาก ปกติ ปกติ ปกติ ท่วม มาก น้อย ปกติ ท่วม ปกติ ท่วม ท่วม ท่วม
เพิ่มขึน้ เพิ่มขึ้น ลดลง เพิ่มขึ้น เพิ่มขึ้น เพิ่มขึ้น ลดลง ลดลง เพิ่มขึ้น ลดลง ลดลง ลดลง ทรงตัว ทรงตัว เพิ่มขึ้น
ท่วม ปกติ น้อย ปกติ ปกติ น้อย
เพิ่มขึน้ เพิ่มขึ้น ลดลง ลดลง เพิ่มขึ้น ลดลง
หมายเหตุ: เครื่องหมาย – หมายถึง ไม่ได้รับรายงาน
แม่น้ําเจ้าพระยา สถานี C.2 ที่ อ.เมือง จ.นครสวรรค์ มีปริมาณน้ําไหลผ่าน 4,560 ลบ.ม./วินาที (เมื่อวาน 4,632 ลบ.ม./วินาที) ระดับน้ํา +26.80 เมตร สูงกว่าตลิ่ง 0.60 เมตร เขื่อนเจ้าพระยา สถานี C.13 ที่ อ.สรรพยา จ.ชัยนาท มีปริมาณน้ําไหลผ่าน 3,610 ลบ.ม./วินาที (เมื่อวาน 3,610 ลบ.ม./ วินาที) ระดับน้ําเหนือเขื่อน +17.72 ม.รทก. (เมื่อวาน +17.73 ม.รทก.) ระดับน้ําท้ายเขื่อน +17.55 ม.รทก. (เมื่อวาน +17.55 ม.รทก.) รับน้ําเข้าระบบส่งน้ําทุ่งฝั่งตะวันออก ปริมาณน้ําไหลผ่าน 38 ลบ.ม./วินาที (เมื่อวาน 37 ลบ.ม./วินาที) คลองชัยนาท-ป่าสัก (ปตร.มโนรมย์) 38 ลบ.ม./วินาที คลองชัยนาท-อยุธยา (ปตร.มหาราช ) ปิดการระบาย คลอง เล็กอื่นๆ ปิดการระบาย โดยรับน้ําเข้าคลองระพีพัฒน์ (ปตร.พระนารายณ์) 24 ลบ.ม./วินาที รับน้ําเข้าระบบส่งน้ําทุ่งฝั่งตะวันตก ปริมาณน้ําไหลผ่าน 717 ลบ.ม./วินาที (เมื่อวาน 716 ลบ.ม./วินาที) คลอง มะขามเฒ่าอู่ทอง (ปตร.มะขามเฒ่า-อู่ทอง) 41 ลบ.ม./วินาที แม่น้ําสุพรรณ 448 ลบ.ม./วินาที (ปตร.พลเทพ 360 ลบ.ม./วินาที คลองเล็กอื่นๆ 88 ลบ.ม./วินาที) แม่น้ําน้อย ปตร.บรมธาตุ 228 ลบ.ม./วินาที เขื่อนพระรามหก อัตราการไหลเฉลี่ย 628 ลบ.ม./วินาที (เมื่อวาน 664 ลบ.ม./วินาที) อ.บางไทร สถานี C.29 อัตราการไหลเฉลี่ย 3,783 ลบ.ม./วินาที (เมื่อวาน 3,833 ลบ.ม./วินาที)
4
ศูนย์ประมวลวิเคราะห์สถานการณ์น้ าํ กรมชลประทาน
ปตร.คลองลัดโพธิ์ ปริมาณน้ําไหลผ่าน 53.96 ล้าน ลบ.ม. (เมื่อวาน 54.37 ล้าน ลบ.ม.) อัตราการไหลเฉลี่ย 624.52 ลบ.ม./วินาที (เมื่อวาน 629.34 ลบ.ม./วินาที) ระยะเวลาเปิดการระบายน้ํา 24.00 ชั่วโมง ทุ่งเจ้าพระยาฝั่งตะวันออกตอนล่าง รวมสูบและระบายทั้งหมดวันละ 40.32 ล้าน ลบ.ม. โดยได้เร่งระบายน้ําลง แม่น้ําเจ้าพระยาวันละ 2.63 ล้าน ลบ.ม. ระบายน้ําลงแม่น้ํานครนายกวันละ 3.27 ล้าน ลบ.ม.ระบายน้ําลงแม่น้ําบางปะกง วันละ 6.77 ล้าน ลบ.ม. ระบายน้ําลงอ่าวไทยวันละ 27.65 ล้าน ลบ.ม. (สูบจากคลองชายทะเลลงอ่าวไทยวันละ 21.26 ล้าน ลบ.ม. และสูบจากสถานีสูบน้ําสุวรรณภูมิลงอ่าวไทยวันละ 6.39 ล้าน ลบ.ม.) ทุ่งเจ้าพระยาฝั่งตะวันตกตอนล่าง รวมสูบและระบายทั้งหมดวันละ 14.57 ล้าน ลบ.ม. โดยได้เร่งระบายน้ํา ลงแม่น้ําเจ้าพระยาวันละ 0.22 ล้าน ลบ.ม. ระบายน้ําลงแม่น้ําท่าจีนวันละ 14.35 ล้าน ลบ.ม. 5. สถานการณ์น้ําท่วม ภาคเหนือและภาคกลาง 1. จังหวัดลําปาง ยังคงมีน้ําท่วมขัง ทั้งหมด 9 อําเภอ คือ อําเภอเมือง อําเภอเกาะคา อําเภอเสริมงาม อําเภอแม่ทะ อําเภอสบปราบ อําเภอห้างฉัตร อําเภอเมืองปาน อําเภอแม่เมาะ อําเภอแม่พริก สถานการณ์มีแนวโน้มลดลง 2. จังหวัดอุตรดิตถ์ ยังคงมีน้ําท่วมขังใน 2 อําเภอ คือ อําเภอพิชัย ประมาณ 1,300 ไร่ และอําเภอน้ําปาด 3. จังหวัดสุโขทัย มีน้ําล้นอ่างฯแม่มอก อ่างฯห้วยท่าแพ อ่างฯแม่กองค่าย อ่างฯห้วยแม่สูง อ่างฯห้วยทรวง ทุ่งทะเล หลวง(แก้มลิง) ซึ่งปริมาณน้ําที่ไหลลงสู่ด้านท้ายอ่างนั้น ทําให้มีพื้นที่น้ําท่วมในเขตอําเภอทุ่งเสลี่ยม อําเภอสวรรคโลก อําเภอศรี สําโรง และอําเภอเมือง โครงการชลประทานสุโขทันได้ส่งเครื่องสูบน้ําเข้าช่วยเหลือพื้นที่จํานวน 10 เครื่อง 4. จังหวัดตาก มีน้ําล้นตลิ่งจากแม่น้ําวังเข้าท่วมพื้นที่ในอําเภอสามเงา อําเภอบ้านตาก อําเภอเมือง อําเภอวังเจ้า สถานการณ์มีแนวโน้มทรงตัวและลดลงอย่างต่อเนื่อง คาดว่าจะเข้าสู่สภาวะปกติภายใน 1-2 วัน โครงการชลประทานตากได้จัดส่ง เครื่องสูบน้ําเข้าช่วยเหลือพื้นที่ จํานวน 8 เครื่อง 5. จังหวัดพิษณุโลก ยังคงมีพื้นที่น้ําท่วมขัง ทั้งหมด 6 อําเภอ คือ อําเภอบางระกํา อําเภอพรหมพิราม อําเภอเมือง อําเภอบางกระทุ่ม อําเภอวังทอง อําเภอวัดโบสถ์ รวม 339,962 ไร่ สถานการณ์มีแนวโน้มลดลง โครงการชลประทานพิษณุโลก ได้ส่งเครื่องสูบน้ําเข้าช่วยเหลือ รวม 28 เครื่อง 6. จังหวัดพิจิตร ปัจจุบันมีพื้นที่น้ําท่วมในพื้นที่ลุ่มทั้งหมด 11 อําเภอ 83 ตําบล ได้แก่ อําเภอสามง่าม อําเภอ บึงนาราง อําเภอโพทะเล อําเภอวชิรบารมี อําเภอเมือง อําเภอตะพานหิน อําเภอบางมูลนาก อําเภอสากเหล็ก อําเภอ ทั บคล้ อ อํ าเภอวั งทรายพู น และอํ าเภอดงเจริ ญ รวมพื้ นที่ ประมาณ 510,453 ไร่ โครงการชลประทานพิ จิ ตรส่ ง เครื่องสูบน้ําเคลื่อนที่เข้าช่วยเหลือพื้นที่ จํานวน 37 เครื่อง 7. จังหวัดกําแพงเพชร น้ําล้นตลิ่งแม่น้ําแม่ปิงเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มต่ําในเขตพื้นที่อําเภอโกสัมพีนคร อําเภอเมือง อําเภอ คลองขลุง อําเภอขาณุวรลักษบุรี อําเภอพรานกระต่าย สถานการณ์มีแนวโน้มลดลง โครงการชลประทานกําแพงเพชรจัดส่งเครื่อง สูบน้ําเข้าช่วยเหลือพื้นที่จํานวน 4 เครื่อง 8. จังหวัดเพชรบูรณ์ ยังคงมีน้ําท่วมจากแม่น้ําป่าสักล้นตลิ่งจํานวน 5 อําเภอ คือ อําเภอเมือง อําเภอหนองไผ่ อําเภอบึงสามพัน อําเภอวิเชียรบุรี และอําเภอศรีเทพ ปัจจุบันสถานการณ์มีแนวโน้มทรงตัว โครงการชลประทานเพชรบูรณ์ จัดส่งเครื่องสูบน้ําเข้าช่วยเหลือพื้นที่ จํานวน 3 เครื่อง 9. จังหวัดนครสวรรค์ มีพื้นที่น้ําท่วมจากน้ําล้นตลิ่งเดิม จํานวน 10 อําเภอ เป็นพื้นที่การเกษตรรวม 636,411 ไร่ ดังนี้ อําเภอชุมแสง อําเภอเก้าเลี้ยว อําเภอเมืองนครสวรรค์ อําเภอโกรกพระ อําเภอตาคลี อําเภอพยุหะคีรี อําเภอท่าตะโก อําเภอ 5
ศูนย์ประมวลวิเคราะห์สถานการณ์น้ าํ กรมชลประทาน
หนองบัว อําเภอลาดยาว (คงเหลือน้ําท่วมพื้นที่การเกษตรในที่ลุ่มต่ํา) อําเภอบรรพตพิสัย (คงเหลือน้ําท่วมพื้นที่การเกษตรในที่ ลุ่มต่ํา) โครงการชลประทานนครสวรรค์ส่งเครื่องสูบน้ําเข้าช่วยเหลือพื้นที่ จํานวน 49 เครื่อง 10. จังหวัดอุทัยธานี น้ําท่วมจากน้ําล้นตลิ่งแม่น้ําเจ้าพระยาเข้าท่วมพื้นที่ราบลุ่มต่ําริมฝั่งแม่น้ําเจ้าพระยาที่ตําบล หาดทะนง ตําบลสะแกกรัง ตําบลน้ําซึม ตําบลท่าซุง ตําบลเนินแจ้ง ตําบลหนองไผ่แบน ตําบลดอนขวาง และตําบลเกาะเทโพ อําเภอเมือง รวม 32,296 ไร่ ซึ่งเป็นพื้นที่นอกเขตชลประทาน และสถานการณ์มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น 11. จังหวัดชัยนาท มีพื้นที่น้ําท่วมขังในพื้นที่ลุ่มจากปริมาณฝนตกสะสม จํานวน 8 อําเภอ 47 ตําบล คือ อําเภอ สรรพยา อําเภอหันคา อําเภอเมือง อําเภอวัดสิงห์ อําเภอมโนรมย์ อําเภอหนองมะโมง อําเภอสรรคบุรี และอําเภอเนินขาม เป็นพื้นที่การเกษตร รวม 127,821 ไร่ ได้ส่งเครื่องสูบน้ําเข้าช่วยเหลือพื้นที่ท้งั หมด จํานวน 21 เครื่อง 12. จังหวัดสิงห์บุรี พื้นที่น้ําขังจากน้ําล้นตลิ่งจากคลองชัยนาท-ป่าสัก(ทุ่งเชียงราก) จํานวน 4 อําเภอ คือ อําเภอเมือง อําเภอพรหมบุรี อําเภอท่าช้าง และอําเภอบางระจัน พื้นที่เกษตรเสียหายประมาณ 26,263 ไร่ 13. จังหวัดอ่างทอง ยังคงมีพื้นที่น้ําท่วมจากน้ําล้นตลิ่ง รวม 5 อําเภอ ได้แก่ อําเภอป่าโมก อําเภอเมือง อําเภอ วิเศษชัยชาญ อําเภอไชโย อําเภอโพธิ์ทอง รวมพื้นที่ 136,191 ไร่ 14. จังหวัดสุพรรณบุรี เกิดน้ําล้นตลิ่งไหลเข้าท่วมพื้นที่ 4 อําเภอ คือ อําเภอเมือง อําเภอสามชุก อําเภอดอนเจดีย์ อําเภออู่ทอง พื้นที่ประสบภัยน้ําท่วม ประมาณ 53,116 ไร่ มีพื้นที่เสี่ยงภัยโดยเฉพาะพื้นที่ลุ้มต่ําที่ติดแม่น้ําท่าจีน มี 4 อําเภอ คือ อําเภอเดิมบางนางบวช อําเภอ ศรีประจันต์ อําเภอสองพี่น้อง อําเภอบางปลาม้า 15. จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ยังมีพื้นที่น้ําท่วมขังจากน้ําล้นตลิ่ง จํานวน 16 อําเภอ คือ อําเภอบางบาล อําเภอ บางปะอิน อําเภอบางไทร อําเภอผักไห่ อําเภอเสนา อําเภอพระนครศรีอยุธยา อําเภอมหาราช อําเภอบางปะหัน อําเภอ นครหลวง อําเภอบางซ้าย อําเภอบ้านแพรก อําเภอวังน้อย อําเภอท่าเรือ อําเภอภาชี อําเภอบัวหลวง และอําเภออุทัย เป็นพื้นที่การเกษตร รวม 53,104 ไร่ พื้นที่ส่วนใหญ่อยู่นอกคั้นกั้นน้ํา โครงการชลประทานพระนครศรีอยุธยา ได้ส่งเครื่องสูบน้ํา เข้าช่วยเหลือพื้นที่ จํานวน 42 เครื่อง และเครื่องสูบน้ําด้วยไฟฟ้าส่งเข้าช่วยเหลือในพื้นที่พระราชวังบางปะอิน จํานวน 2 เครื่อง ที่ อําเภอบางบาล 1 เครื่อง 16. จังหวัดนครปฐม ยังคงมีน้ําท่วมขังจากแม่น้ําท่าจีนล้นตลิ่ง จํานวน 6 อําเภอ คือ อําเภอบางเลน อําเภอนครชัยศรี อําเภอสามพราน อําเภอดอนตูม อําเภอกําแพงแสน และอําเภอพุทธมณฑล รวมพื้นที่ประมาณ 28,157 ไร่ โครงการ นครปฐมได้ส่งเครื่องสูบน้ําเข้าช่วยเหลือพื้นที่ จํานวน 8 เครื่อง และติดเครื่องผลักดันน้ําที่สะพานสําโรง-ลานตากฟ้า อําเภอนคร ชัยศรี จํานวน 20 เครื่อง 17. จังหวัดลพบุรี ยังคงมีพื้นที่ประสบภัย จํานวน 10 อําเภอ คือ อําเภอเมือง อําเภอบ้านหมี่ อําเภอท่าวุ้ง อําเภอชัย บาดาล อําเภอพัฒนานิคม อําเภอท่าหลวง อําเภอหนองม่วง อําเภอลําสนธิ อําเภอสระโบสถ์ และอําเภอโคกเจริญ โครงการ ชลประทานลพบุรีได้ส่งเครื่องสูบน้ําเข้าช่วยเหลือพื้นที่ จํานวน 52 เครื่อง 18. จังหวัดสระบุรี ยังคงมีพื้นที่น้ําท่วมจากน้ําล้นตลิ่งในแม่น้ําป่าสักจํานวน 11 อําเภอ ได้แก่ อําเภอหนองแค อําเภอเสาไห้ อําเภอวิหารแดง อําเภอบ้านหมอ อําเภอพระพุทธบาท อําเภอหนองโดน อําเภอดอนพุด อําเภอหนองแซง อําเภอเมือง อําเภอมวกเหล็ก อําเภอแก่งคอย คาดว่าจะเข้าสู่สภาวะปกติภายในสัปดาห์นี้ 19. จังหวัดปทุมธานี น้ําเอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่ 7 อําเภอ อําเภอเมือง อําเภอสามโคก อําเภอคลองหลวง อําเภอ ธัญบุรี อําเภอหนองเสือ อําเภอลาดหลุมแก้ว อําเภอลําลูกกา โครงการชลประทานปทุมธานีได้จัดส่งเครื่องสูบน้ําเข้าช่วยเหลือ พื้นที่ จํานวน 66 เครื่อง 6
ศูนย์ประมวลวิเคราะห์สถานการณ์น้ าํ กรมชลประทาน
20. จังหวัดนนทบุรี น้ําเอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มต่ําริมแม่น้ําเจ้าพระยาและริมคลองขนาดใหญ่ 6 อําเภอ คือ อําเภอบางบัวทอง อําเภอบางใหญ่ อําเภอเมือง อําเภอปากเกร็ด อําเภอบางกรวย และอําเภอไทรน้อย ความเสียหายอยู่ ระหว่างการสํารวจ โครงการชลประทานนนทบุรีได้ส่งเครื่องสูบน้ําเข้าช่วยเหลือพื้นที่ จํานวน 51 เครื่อง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 21. จังหวัดเลย เนื่องจากฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องทําให้เกิดน้ําป่าไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ 4 อําเภอ คือ อําเภอภูหลวง อําเภอวังสะพุง อําเภอภูกระดึง อําเภอเมือง พื้นที่การเกษตรเสียหาย ประมาณ 1,500 ไร่ 22. จังหวัดนครราชสีมา น้ําได้ล้นตลิ่งแม่น้ํามูลเข้าท่วมพื้นที่การเกษตรและชุมชนในพื้นที่ 3 อําเภอ คือ อําเภอชุมพวง อําเภอเมืองยาง อําเภอลําทะเมนชัย รวม 447,92 ไร่ โครงการชลประทานนครราชสีมาได้ติดตั้งเครื่อง ผลักดันน้ําในลําน้ําลําตะคอง จํานวน 12 เครื่อง 23. จังหวัดนครพนม ระดับน้ําในลุ่มน้ําโขงและลุ่มน้ําย่อยในลุ่มน้ําสงครามมีแนวโน้มทรงตัว และยังคงมีน้ําท่วมขังใน พื้นที่การเกษตร รวม 12 อําเภอ คือ อําเภอศรีสงคราม อําเภอนาทม อําเภอบ้านแพง อําเภอนาหว้า อําเภอโพนสวรรค์ อําเภอ ท่าอุเทน อําเภอเมือง อําเภอเรณูนคร อําเภอธาตุพนม อําเภอปลาปาก อําเภอนาแก และอําเภอวังยาง พื้นที่การเกษตรรวม 392,275 ไร่ โครงการชลประทานนครพนม เตรียมเครื่องสูบน้ําเพื่อช่วยเหลือ จํานวน 6 เครื่อง และเข้าช่วยเหลือที่เทศบาลเมือง นครพนมแล้ว จํานวน 1 เครื่อง 24. จังหวัดสกลนคร ยังคงมีน้ําท่วมบริเวณรอบหนองหารและลุ่มน้ําก่ํา ในเขตอําเภอเมือง อําเภอโคกศรีสุพรรณ และอําเภอโพนนาแก้ว มีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง ได้ส่งเครื่องสูบน้ําเข้าช่วยเหลือพื้นที่น้ําท่วมขัง จํานวน 3 เครื่อง 25. จังหวัดกาฬสินธุ์ ยังคงมีน้ําท่วมประมาณ 47,816 ไร่ ใน 6 อําเภอ คือ อําเภอเมือง อําเภอกุฉินารายณ์ อําเภอ ห้วยผึ้ง อําเภอกมลาไสย อําเภอยางตลาด และอําเภอฆ้องชัย โครงการชลประทานกาฬสินธุ์ได้ส่งเครื่องสูบน้ําเข้าช่วยเหลือพื้นที่ อําเภอกมลาไสย อําเภอเมือง รวม 30 เครื่อง 26. จังหวัดขอนแก่น เกิดฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง ทําให้น้ําล้นตลิ่งเข้าท่วมในพื้นที่ 7 อําเภอ คือ อําเภอชนบท(2 ตําบล) อําเภอเมือง(7 ตําบล) อําเภอมัญจาคีรี(3 ตําบล) อําเภอน้ําพอง(อยู่ระหว่างการสํารวจ) อําเภอบ้านไผ่(1 ตําบล) อําเภอบ้าน แฮด(1 ตําบล) อําเภอพระยืน(3 ตําบล) พื้นที่การเกษตรเสียหายประมาณ 265,424 ไร่ 27. จังหวัดมหาสารคาม ระดับน้ําในลําน้ําชี ช่วงผ่านจังหวัดมหาสารคามสูงขึ้นเล็กน้อย จากการระบายน้ําของเขื่อน อุบลรัตน์ ทําให้เกิดน้ําท่วมขังแผ่กระจายในเขตที่ลุ่มต่ําติดลําน้ําชี ครอบคลุมพื้นที่ 6 อําเภอ คือ อําเภอโกสุมพิสัย อําเภอ เชียงยืน อําเภอกันทรวิชัย อําเภอเมืองมหาสารคาม อําเภอวาปีปทุม และอําเภอพยัคฆภูมิพิสัย พื้นที่ประสบภัย 223,611 ไร่ คาดว่าจะเสียหาย 181,037 ไร่ (ข้อมูลเกษตรจังหวัดมหาสารคาม) โครงการชลประทานมหาสารคาม ได้จัดส่งเครื่องสูบน้ําเข้า ช่วยเหลือพื้นที่ประสบภัยจํานวน 37 เครื่อง ช่วยเหลือสูบระบายน้ําออกจากพื้นที่ท่วมขัง 28. จังหวัดร้อยเอ็ด สถานการณ์น้ําในลุ่มน้ําชีและลุ่มน้ํายังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ปัจจุบันมีพื้นที่ประสบภัยรวม 15 อําเภอ คือ อําเภอโพธิ์ชัย อําเภอเสลภูมิ อําเภออาจสามารถ อําเภอพนมไพร อําเภอเชียงขวัญ อําเภอทุ่งเขาหลวง อําเภอธวัชบุรี อําเภอจัง หาร อําเภอเกษตรวิสัย อําเภอปทุมรัตน์ อําเภอเมือง อําเภอโพนทราย อําเภอเมืองสรวง อําเภอหนองฮี อําเภอสุวรรณภูมิ รวม 277,111 ไร่ โครงการชลประทานร้อยเอ็ดได้ส่งเครื่องสูบน้ําเคลื่อนที่เข้าช่วยเหลือ รวม 25 เครื่อง 29. จังหวัดอํานาจเจริญ ลําน้ําเซบาย ที่ อําเภอหัวตะพาน อําเภอเสนางคนิคม อําเภอเมือง ยังคงมีพื้นที่น้ําท่วม ประมาณ 500 ไร่ (พื้นที่น้ํา ท่วมทั้งหมด 28,900ไร่) คาดว่าหากไม่มีฝนตกทางด้านเหนือลําน้ํา ระดับน้ําในพื้นที่จะมีแนวโน้มลดลง 7
ศูนย์ประมวลวิเคราะห์สถานการณ์น้ าํ กรมชลประทาน
ลําน้ําเซบก ที่ อําเภอลืออํ านาจ อําเภอพนา และบริเวณแก้ มลิงหนองเป็ด ยังคงมีพื้นที่น้ํ าท่ วมจากน้ํ าล้นตลิ่ง ประมาณ 490 ไร่ (พื้นที่น้ําท่วมทั้งหมด 30,040 ไร่) สรุปพื้นที่น้ําท่วมรวม ประมาณ 990 ไร่ โครงการชลประทานอํานาจเจริญ ได้ส่งเครื่องสูบน้ําช่วยระบายน้ําออกจาก พื้นที่การเกษตรบริเวณแก้มลิงหนองยาง จํานวน 2 เครื่อง 30. จังหวัดยโสธร ยังคงมีพื้นที่น้ําท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ํา รวม 9 อําเภอ คือ อําเภอเมือง อําเภอคําเขื่อนแก้ว อําเภอ มหาชนะชัย อําเภอเลิงนกทา อําเภอกุดชุม อําเภอป่าติ้ว อําเภอทรายมูล อําเภอไทยเจริญ และอําเภอค้อวัง รวม 254,455 ไร่ โครงการชลประทานยโสธร ได้ส่งเครื่องสูบน้ําเข้าช่วยเหลือพื้นที่ จํานวน 5 เครื่อง 31. จังหวัดอุบลราชธานี ยังคงเหลือพื้นที่น้ําท่วมจากอิทธิพลแม่น้ําโขงล้นตลิ่งและน้ําขังจากฝนตกหนัก รวม 5 อําเภอ คือ อําเภอเมือง อําเภอวารินชําราบ อําเภอเขื่องใน อําเภอสว่างวีระวงศ์ อําเภอพิบูลมังสาหาร พื้นที่เกษตรได้รับ ความเสียหายทั้งสิ้น 106,394 ไร่ 32. จังหวัดชัยภูมิ ยังคงเหลือพื้นที่น้ําท่วมจํานวน 15 อําเภอ คือ อําเภอเกษตรสมบูรณ์ อําเภอคอนสาร อําเภอ จัตุรัส อําเภอบ้านเขว้า อําเภอเมือง อําเภอหนองบัวแดง อําเภอเนินสง่า อําเภอภักดีชุมพล อําเภอแก้งคร้อ อําเภอบ้านแท่น อําเภอคอนสวรรค์ อําเภอภูเขียว อําเภอซับใหญ่ อําเภอเทพสถิต และอําเภอหนองบัวระเหว รวม 419,731 ไร่ โครงการ ชลประทานชัยภูมิได้จัดส่งเครื่องสูบน้ําเข้าช่วยเหลือพื้นที่ในเขตเทศบาลเมืองชัยภูมิ จํานวน 13 เครื่อง และเครื่องผลักดันน้ํา จํานวน 6 เครื่อง 33. จังหวัดศรีสะเกษ เกิดน้ําท่วมในพื้นที่ 13 อําเภอ คือ อําเภอกันทรารมย์ อําเภอกันทรลักษ์ อําเภอโนนคูณ อําเภอเมืองจันทร์ อําเภอน้ําเกลี้ยง อําเภอไพรบึง อําเภอราศีไศล อําเภอห้วยทับทัน อําเภอเมือง อําเภอศิลาลาด อําเภอ ภูสิงห์ อําเภอยางชุมน้อย อําเภออุทุมพรพิสัย พื้นที่การเกษตรเสียหายประมาณ 76,638 ไร่ โครงการชลประทานศรีสะเกษ จัดส่งเครื่องสูบน้ําเข้าช่วยเหลือพื้นที่ จํานวน 1 เครื่อง 34. จังหวัดสุรินทร์ น้ําในแม่น้ํามูลเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ 8 อําเภอ 62 ตําบล คือ อําเภอเมือง อําเภอสําโรงทาบ อําเภอท่าตูม อําเภอชุมพลบุรี อําเภอศรีณรงค์ อําเภอรัตนบุรี อําเภอจอมพระ และอําเภอสังขะ พื้นที่การเกษตรรวม 64,478 ไร่ ราษฎรที่ได้รับความเดือนร้อน ประมาณ 11,669 ครัวเรือน โครงการชลประทานสุรินทร์จัดส่งเครื่องสูบน้ําเข้าช่วยเหลือพื้นที่ จํานวน 4 เครื่อง ภาคตะวันออก 35. จังหวัดนครนายก ยังคงมีน้ําในพื้นที่ลุ่มต่ําริมตลิ่งแม่น้ํานครนายก จํานวน 4 อําเภอ คืออําเภอเมือง(13 ตําบล) อําเภอปากพลี(7 ตําบล) อําเภอองครักษ์(11 ตําบล) และอําเภอบ้านนา(10 ตําบล) โครงการชลประทานนครนายกได้จัดส่งเครื่องสูบ น้ําเคลื่อนที่เข้าช่วยเหลือพื้นที่ จํานวน 16 เครื่อง 36. จังหวัดปราจีนบุรี ยังคงมีน้ําท่วมพื้นที่การเกษตรที่ อําเภอกบินทร์ อําเภอศรีมหาโพธิ์ อําเภอประจันตคาม อําเภอเมือง อําเภอศรีมโหสถ และ อําเภอบ้านสร้าง ประมาณ 30-50 ซ.ม. และมีน้ําท่วมพื้นที่ชุมชนในเขตเทศบาล ตําบลศรีมหาโพธิ์ สูงประมาณ 30 ซ.ม. และเทศบาลเมืองปราจีนบุรี สูงประมาณ 30 ซ.ม. โครงการชลประทานปราจีนบุรี ได้ ส่งเครื่องสูบน้ําเข้าช่วยเหลือพื้นที่แล้ว จํานวน 36 เครื่อง 37. จังหวัดฉะเชิงเทรา ยังคงเหลือน้ําท่วมขังใน 5 อําเภอ คือ อําเภอเมือง อําเภอบางน้ําเปรี้ยว อําเภอบางคล้า อําเภอคลองเขื่อน อําเภอพนมสารคาม พื้นที่เกษตรเสียหายรวม 36,966 ไร่ 8
ศูนย์ประมวลวิเคราะห์สถานการณ์น้ าํ กรมชลประทาน
6. สถานการณ์น้ําในแม่น้ําโขง (ข้อมูล ณ วันอาทิตย์ที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2554) สรุปสถานการณ์น้ําในแม่น้ําโขง วันอาทิตย์ที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2554 สถานี
ระดับตลิ่ง
ระดับน้ํา
ระดับน้ํา
+ สูงกว่าตลิ่ง
+ เพิ่มขึ้นจากเมื่อวาน
(เมื่อวาน) 3.65
- ต่ํากว่าตลิ่ง -8.15
- ลดลงจากเมื่อวาน 0.00
แนวโน้ม
อ.เชียงแสน จ.เชียงราย
11.80
(วันนี้) 3.65
อ.เชียงคาน จ.เลย
17.40
8.47
8.41
-8.93
0.06
เพิ่มขึ้น
อ.เมือง จ.หนองคาย
12.20
6.36
6.46
-5.84
-0.10
ลดลง
อ.เมือง จ.นครพนม
12.70
7.27
7.41
-5.43
-0.14
ลดลง
อ.เมือง จ.มุกดาหาร
12.60
7.24
7.40
-5.36
-0.16
ลดลง
อ.โขงเจียม จ.อุบลราชธานี
16.20
10.40
10.24
-5.80
0.16
เพิ่มขึ้น
ทรงตัว
หมายเหตุ : ระดับ : รสม. ข้อมูลจาก www.mrcmekong.org
7.การเตรียมความพร้อมและการให้ความช่วยเหลืออุทกภัย กรมชลประทานได้เตรียมความพร้อมเครื่องสูบน้ํา จํานวน 1,165 เครื่อง เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรตามจังหวัดต่างๆ ปัจจุบัน ได้มีการสนับสนุนเครื่องสูบน้ําเคลื่อนที่ รวมทั้งหมด 925 เครื่อง ในพื้นที่ 47 จังหวัด สนับสนุนเครือ่ งสูบน้ําเคลือ่ นที่รวมทั้งหมด 925 เครื่อง ในพื้นที่ 47 จังหวัด ภาค
จังหวัด
เครื่องสูบน้าํ
รายชื่อจังหวัด
(เครื่อง)
(จํานวนเครื่องสูบน้ํา)
เหนือ
10
170
เชียงใหม่ (7) ลําพูน (3) น่าน (19) พิษณุโลก (25) พิจิตร (36) นครสวรรค์ (62) อุตรดิตถ์ (1) ตาก (8) สุโขทัย (8) กําแพงเพชร (1)
ตะวันออกเฉียงเหนือ
15
189
อุดรธานี (6) หนองคาย (5) สกลนคร (3) ขอนแก่น (24) มหาสารคาม (36) ร้อยเอ็ด (25) กาฬสินธุ์ (30) ชัยภูมิ (12) อุบลราชธานี (11) ยโสธร (5) นครพนม (7) อํานาจเจริญ (5) นครราชสีมา (5) สุรินทร์ (4) ศรีสะเกษ (11)
กลาง,ตะวันออก, ตะวันตก
20
545
นครนายก (18) ปราจีนบุรี (29) ฉะเชิงเทรา (13) สระแก้ว (2) ชลบุรี (2) ระยอง (4) ชัยนาท (32) ลพบุรี (49) สิงห์บุรี (50) สระบุรี (19) พระนครศรีอยุธยา (52) อ่างทอง (41) อุทัยธานี (10) สุพรรณบุรี (82) นนทบุรี (51) ปทุมธานี (61) กรุงเทพฯ (6) สมุทรสาคร (1) สมุทรปราการ (4) นครปฐม (19)
ใต้
2
21
นครศรีธรรมราช (2) สงขลา (19)
รวม
47
925
สนับสนุ นรถยนต์บรรทุกน้ํา (แผน 295 คัน) แยกเป็น ภาคเหนือ 55 คัน, ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 90 คัน, ภาคกลาง ตะวันออก และตะวันตก 114 คัน, ภาคใต้ 36 คัน ออกช่วยเหลือ จํานวน 4 คัน ดังนี้ จังหวัด ขอนแก่น 1 คัน, นครราชสีมา 1 คัน และ จังหวัดนนทบุรี 2 คัน ****************************** นายพัชรินทร์ พิมพ์สิงห์ วิศวกรชลประทานชํานาญการ รายงาน นายพรชัย พ้นชั่ว ผอ.ศปส.ชป. ตรวจ
9
ศูนย์ประมวลวิเคราะห์สถานการณ์น้ าํ กรมชลประทาน
10
ศูนย์ประมวลวิเคราะห์สถานการณ์น้ าํ กรมชลประทาน
11
ศูนย์ประมวลวิเคราะห์สถานการณ์น้ าํ กรมชลประทาน