สถานการณ์ปัจจุบนั : สถานการณ์วิกฤตระดับ 3 เริ่มตั้งแต่ วันจันทร์ที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2554 เวลาทําการ : ตลอด 24 ชั่วโมง 2 ศูนย์ประมวลวิเคราะห์สถานการณ์น้ํากรมชลประทาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โทรศัพท์ 0 2669 2560 / โทรสาร 0 2243 6956, 0 2241 3350, 0 2243 1098 สายด่วน 1460 http://www.rid.go.th/2009, http://hydrology.rid.go.th/wmsc/, E-mail : wmsc.1460@gmail.com สถานการณ์น้ําในช่วงฤดูฝน ปี 2554 วันอังคารที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2554 1. สภาพภูมิอากาศ แผนที่อากาศ วันที่ 18 ตุลาคม 2554 (01.00 น.)
แผนที่ลมชั้นบน ระดับ 925 hPa
ภาพถ่ายดาวเทียม GOES-9 IR1
บริเวณความกดอากาศสูงกําลังปานกลางจากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมด้านตะวันออกของภาคเหนือ และภาค ตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยแล้ว ลักษณะเช่นนี้ทําให้บริเวณประเทศไทยตอนบนเริ่มมีฝนลดลง และอุณหภูมิจะ ลดลงได้ 1-3 องศาเซลเซียส สําหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือพัดปกคลุมอ่าวไทย และภาคใต้ ทําให้บริเวณภาคใต้ฝั่ง ตะวันออกจะมีฝนเพิ่มมากขึ้น ส่วนอ่าวไทยมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ในระยะนี้ 2. สภาพฝน ปริมาณฝนสูงสุดรายภาค ตั้งแต่ เวลา 07.00 น. วันที่ 17 ตุลาคม 2554 จนถึง เวลา 07.00 น. วันที่ 18 ตุลาคม 2554 ดังนี้ ภาคเหนือ ที่ อําเภอเมือง จังหวัดกําแพงเพชร 17.2 มม. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่ อําเภอท่าตูม จังหวัดสุรินทร์ 40.0 มม. ภาคกลาง ที่ อําเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ 18.2 มม. ภาคตะวันออก ที่ อําเภอขลุง จังหวัดจันทบุรี 23.7 มม. ภาคใต้ (ฝัง่ ตะวันออก) ที่ อําเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา 11.0 มม. ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) ที่ อําเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต 30.6 มม.
1
ศูนย์ประมวลวิเคราะห์สถานการณ์น้ าํ กรมชลประทาน
ปริมาณฝน วันที่ 17 ตุลาคม ปี 2554
ปี 2553
ปริมาณฝนสะสม ตัง้ แต่
ปริมาณฝนสะสม ตั้งแต่
ปริมาณฝนสะสมเทียบกับค่าปกติ
1 – 17 ตุลาคม 2554
1 มกราคม – 17 ตุลาคม 2554
1 มกราคม – 17 ตุลาคม 2554
(ข้อมูลจากกรมอุตุนิยมวิทยา : ฝนวัดไม่ได้ ปริมาณฝนน้อยกว่า 0.1 มม. ฝนเล็กน้อย 0.1-10.0 มม. ฝนปานกลาง 10.1 - 35.0 มม. ฝนหนัก 35.1- 90.0 มม. ฝนหนักมาก 90.1 มม. ขึ้นไป)
19 ต.ค.- 20 ต.ค. 54 7.00 น-19.00 น
19.00 น - 7.00 น.
การคาดการณ์ฝนล่วงหน้า 3 วัน 20 ต.ค.- 21 ต.ค. 54 21 ต.ค. – 22 ต.ค. 54 7.00 น-19.00 น
19.00 น - 19.00 น.
19.00 น - 19.00 น.
(ข้อมูลจาก The National Centers for Environmental Prediction เริ่มพยากรณ์วนั ที่ 17 ต.ค. 54) ในช่วงวันที่ 19 ต.ค. – 22 ต.ค. 54 คาดว่า ทุกภาคจะมีฝนตกกระจายทั่วไป ประมาณ 10-30 มม. 3. สภาพน้ําในอ่างเก็บน้ํา สภาพน้ําในอ่างเก็บน้ําขนาดใหญ่และขนาดกลาง ปริมาตรน้ําในอ่างฯ 69,465 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 94 (ปริมาตรน้ําใช้การได้ 45,515 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 61) ปริมาตรน้ําในอ่างฯ เทียบกับปี 2553 (51,991 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อย ละ 70) มากกว่าปี 2553 จํานวน 17,474 ล้าน ลบ.ม. ปริมาณน้ําไหลลงอ่างฯ จํานวน 498.91 ล้าน ลบ.ม. ปริมาณน้ําระบาย จํานวน 356.72 ล้าน ลบ.ม. สามารถรับน้าํ ได้อีก 4,652 ล้าน ลบ.ม. สภาพน้ําในอ่างเก็บน้ําขนาดใหญ่ ปริมาตรน้ําในอ่างฯ 65,880 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 94 (ปริมาตรน้ําใช้การได้ 42,248 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 60) ปริมาตรน้ําในอ่างฯ เทียบกับปี 2553 (48,782 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 70) มากกว่าปี 2553 จํานวน 17,098 ล้าน ลบ.ม. ปริมาณน้ําไหลลงอ่างฯ จํานวน 443.56 ล้าน ลบ.ม. ปริมาณน้ําระบายจํานวน 286.04 ล้าน ลบ.ม. สามารถรับน้ําได้อีก 4,277 ล้าน ลบ.ม.
2
ศูนย์ประมวลวิเคราะห์สถานการณ์น้ าํ กรมชลประทาน
สภาพน้ําในอ่างเก็บน้ําขนาดใหญ่และขนาดกลาง วันอังคารที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2554 ขนาดใหญ่ ภาค
ปริมาตรน้ํา
ความจุ
จํานวน (แห่ง)
ขนาดกลาง
ที่
%
ในอ่างฯ
รนก.
รนก.
ใช้การ
% รนก.
จํานวน (แห่ง)
ปริมาตรน้ํา
ความจุ ที่ รนก.
รวม
ในอ่างฯ
%
ใช้การ
รนก.
% รนก.
จํานวน (แห่ง)
ปริมาตรน้ํา
ความจุ ที่ รนก.
ในอ่างฯ
% รนก.
ใช้การ
รับได้อกี % 3 รนก. (ล้าน ม. )
เหนือ
7
24,721 24,556
99
17,817
72
51
823
786
96
720
87
58
25,544 25,342
99
18,537
73
202
ตอน.
12
8,323
8,886
107
7,243
87
222
1,771
1,776
100 1,634
92
234
10,094 10,662
106
8,877
88
-568
1,185
1,486
125
1,435
121
9
80
79
99
73
91
12
1,265
1,565
124
1,508
119
-300
26,605 23,688
89
10,411
39
7
132
127
96
116
88
9
26,737 23,815
89
10,527
39
2,922
1,218 6,046
104 74
1,137 4,349
97 53
47 31
646 508
586 231
91 45
534 190
83 37
52 35
1,819 8,658
1,804 6,277
99 72
1,671 4,539
92 52
15 2,381
70,157 65,880
94
42,248
60
367
3,960
3,585
91
3,267
83
400
74,117 69,465
94
45,515
61
4,652
กลาง
3
ตะวันตก
2
ตะวันออก ใต้
5 4
รวม
33
1,173 8,150
(หน่วย : ล้าน ลบ.ม.)
สภาพน้ําในอ่างเก็บน้ําเขื่อนภูมิพล สิริกิติ์ แควน้อยฯและป่าสักฯ วันอังคารที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2554 ปริมาตรน้ําในอ่างฯ
อ่างเก็บน้ํา
เมื่อวาน
รับได้อกี
74.28
67.38
50.00
50.00
59
26.04
28.58
20.03
20.00
88
100.32
95.96
70.03
70.00
147
10.17
10.15
8.64
8.64
-
138
44.52
45.47
25.94
25.99
-
74
155.01
151.58
104.61
104.63
147
ปริมาตรน้ํา
ภูมพ ิ ล
13,403
100
9,603
71
สิริกิติ์
9,422
99
6,572
69
ภูมิพล+สิริกต ิ ์ิ
22,825
99
16,175
70
941
100
898
96
1,083
138
1,080
24,849
101
18,153
ป่าสักชลสิทธิ์ รวม ภูมิพล สิริกต ิ ิ์ แควน้อยฯ ป่าสักฯ
ปริมาณน้ํา
วันนี้
% ความจุอา่ งฯ
% ความจุอา่ งฯ
วันนี้
ปริมาณน้ําระบาย
เมื่อวาน
ปริมาตรน้ํา
แควน้อยฯ
ปริมาณน้ําไหลลงอ่างฯ
ปริมาตรน้ําใช้การได้
(หน่วย : ล้าน ลบ.ม.)
อ่างเก็บน้ําขนาดใหญ่ที่อยู่ในเกณฑ์น้ํา มากกว่าร้อยละ 80 ของความจุอ่างฯ จํานวน 28 อ่างฯ ดังนี้ ปริมาตรน้ําในอ่างฯวันนี้
ปริมาตรน้ําใช้การได้
18 ตุลาคม 2554
18 ตุลาคม 2554
ปริมาณน้ําไหลลงอ่าง
ปริมาณน้ําระบาย
ปริมาณน้ํา
ลําดับที่
อ่างเก็บน้ํา
วันนี้
เมื่อวาน
วันนี้
เมื่อวาน
รับได้อีก
1
ภูมิพล
13,403
100
9,603
71
74.28
67.38
50.00
50.00
59
2
สิริกิติ์
9,422
99
6,572
69
26.04
28.58
20.03
20.00
88
3
แม่งัดสมบูรณ์ชล
260
98
238
90
1.81
1.10
0.58
1.37
5
4
แม่กวงอุดมธารา
260
99
246
94
1.68
1.90
1.91
1.72
3
5
กิ่วลม
91
81
87
78
3.81
4.06
3.50
3.49
21
6
กิ่วคอหมา
179
105
164
96
1.82
1.05
0.13
0.14
-
7
แควน้อยบํารุงแดน
941
100
898
96
10.17
10.15
8.64
8.64
-
8
น้ําอูน
565
109
522
100
3.30
4.29
4.72
4.88
-
9
น้ําพุง
167
101
158
96
0.83
0.97
1.17
1.30
-
10
จุฬาภรณ์
173
105
120
73
1.66
1.81
1.97
2.00
-
11
อุบลรัตน์
2,911
120
2,330
96
48.87
48.99
50.66
50.78
-
ปริมาตรน้ํา
% ความจุอ่างฯ
ปริมาตรน้ํา
% ความจุอ่างฯ
12
ลําปาว
1,990
101
1,890
95
17.23
18.83
17.23
15.63
13
ลําตะคอง
347
111
287
91
3.77
3.95
1.37
1.15
-
14
ลําพระเพลิง
118
107
109
99
3.56
1.31
1.61
1.21
-
15
มูลบน
172
122
134
95
13.30
5.95
2.40
1.71
16
ลําแซะ
304
111
268
97
15.98
4.51
0.93
0.92
-
17
สิรินธร
1,940
99
1,109
56
26.70
28.78
11.50
10.82
26
18
ป่าสักชลสิทธิ์
1,083
138
1,080
138
44.52
45.47
25.94
25.99
-
19
ทับเสลา
168
105
152
95
9.73
7.45
4.45
0.28
-
20
กระเสียว
235
98
195
81
5.01
3.64
0.83
0.06
5
21
ศรีนครินทร์
16,041
90
5,776
33
65.32
82.93
17.16
19.19
1,704
22
วชิราลงกรณ์
7,647
86
4,635
52
19.00
21.72
18.03
10.03
1,213
23
ขุนด่านปราการชล
211
94
206
92
1.29
2.36
0.33
2.03
13
24
คลองสียัด
442
105
412
98
3.10
5.23
4.44
6.12
-
25
บางพระ
114
97
102
87
0.65
0.50
0.95
0.96
3
26
หนองปลาไหล
172
105
158
96
4.17
5.59
5.13
3.68
-
27
ประแสร์
279
113
259
104
11.10
10.37
5.77
4.30
-
28
รัชชประภา
4,666
83
3,314
59
9.09
11.31
20.04
17.41
973
(หน่วย : ล้าน ลบ.ม.)
3
ศูนย์ประมวลวิเคราะห์สถานการณ์น้ าํ กรมชลประทาน
4. สภาพน้ําท่า แม่น้ํา 1. ปิง ปิง ปิง 2. วัง 3. ยม ยม ยม ยม 4. น่าน น่าน น่าน 5. ชี
สถานี
P.1 P.7A P.17 W.4A Y.1C Y.4 Y.16 Y.17 N.1 N.5A N.67 E.23 E.20A 6 มูล M.6A M.9 M.7 7 พระสทึง Kgt.10 8 ท่าตะเภา X.158 9 ตาปี X.37A 10 โก-ลก X.119A 11 ค.ตันหยงมัส X.73
ตลิ่ง ความจุ ระดับน้ํา
ที่ตั้งสถานี
3
ม.
ม. / วิ.
ม.
ปริมาณน้ํา วันนี้ เมื่อวาน 3 3 ม. / วิ. ม. / วิ.
ต่ํา(-) สูง(+)
อยู่ใน เกณฑ์ แนวโน้ม
กว่าตลิ่ง
สะพานนวรัฐ
อําเภอเมือง
จังหวัดเชียงใหม่
3.70
440
2.13
145
142
-1.57
สะพานบ้านห้วยยาง บ้านท่างิ้ว บ้านวังหมัน สะพานบ้านน้ําโค้ง สะพานตลาดธานี บ้านบางระกํา บ้านสามง่าม หน้าสํานักงานป่าไม้ สะพานเอกาทศรถ สะพานบ้านเกยไชย บ้านค่าย แนวสะพาน บ้านสะตึก บ้านหนองหญ้าปล้อง สะพานเสรีประชาธิปไตย
อําเภอเมือง อําเภอบรรพตพิสัย อําเภอสามเงา อําเภอเมือง อําเภอเมือง อําเภอบางระกํา อําเภอสามง่าม อําเภอเมือง อําเภอเมือง อําเภอชุมแสง อําเภอเมือง อําเภอมหาชนะชัย อําเภอสตึก อําเภอเมือง อําเภอเมือง
จังหวัดกําแพงเพชร จังหวัดนครสวรรค์ จังหวัดตาก จังหวัดแพร่ จังหวัดสุโขทัย จังหวัดพิษณุโลก จังหวัดพิจิตร จังหวัดน่าน จังหวัดพิษณุโลก จังหวัดนครสวรรค์ จังหวัดชัยภูมิ จังหวัดยโสธร จังหวัดบุรีรัมย์ จังหวัดศีรสะเกษ จังหวัดอุบลราชธานี
5.87 38.08 7.10 8.20 7.43 7.15 7.04 7.00 10.54 28.30 9.00 10.00 5.40 9.00 7.00
4,035 1,815 753 1,000 702 357 1,300 1,548 1,520 340 1,215 303 187 2,600
3.03 37.54 4.48 2.73 4.73 11.10 6.83 1.45 7.56 28.39 8.38 10.87 7.54 11.27 9.21
1,351 1,459 238 200 361 1,218 1,268 168 782 1,547 188 1,555 1,119 343 4,147
1,328 1,391 219 165 379 1,234 1,296 188 813 1,556 191 1,547 1,106 323 4,021
-2.84 -0.54 -2.62 -5.47 -2.70 3.95 -0.21 -5.55 -2.98 0.09 -0.62 0.87 2.14 2.27 2.21
บ้านสระขวัญ ที่สะพานบ้านวังครก บ้านย่านดินแดง บ้านปาเสมัส บ้านตันหยงมัส
อําเภอเมือง อําเภอท่าแซะ อําเภอพระแสง อําเภอสุไหงโก-ลก อําเภอระแงะ
จังหวัดสระแก้ว จังหวัดชุมพร จังหวัดสุราษฎร์ธานี จังหวัดนราธิวาส จังหวัดนราธิวาส
11.50 12.20 11.70 8.20 15.58
314 748 734 244 137
9.09 3.96 9.32 5.27 11.11
182 42 263 61 12
187 44 282 80 13
-2.41 -8.24 -2.38 -2.93 -4.47
ปกติ ปกติ มาก ปกติ ปกติ ปกติ ท่วม มาก น้อย ปกติ ท่วม ปกติ ท่วม ท่วม ท่วม
เพิ่มขึน้ เพิ่มขึ้น เพิ่มขึ้น เพิ่มขึ้น เพิ่มขึ้น ลดลง ลดลง ลดลง ลดลง ลดลง ลดลง ลดลง เพิ่มขึ้น เพิ่มขึ้น เพิ่มขึ้น
ท่วม ปกติ น้อย ปกติ ปกติ น้อย
เพิ่มขึน้ ลดลง ลดลง ลดลง ลดลง ลดลง
หมายเหตุ: เครื่องหมาย – หมายถึง ไม่ได้รับรายงาน
แม่น้ําเจ้าพระยา สถานี C.2 ที่ อ.เมือง จ.นครสวรรค์ มีปริมาณน้ําไหลผ่าน 4,524 ลบ.ม./วินาที (เมื่อวาน 4,560 ลบ.ม./วินาที) ระดับน้ํา +26.78 เมตร สูงกว่าตลิ่ง 0.58 เมตร เขื่อนเจ้าพระยา สถานี C.13 ที่ อ.สรรพยา จ.ชัยนาท มีปริมาณน้ําไหลผ่าน 3,610 ลบ.ม./วินาที (เมื่อวาน 3,610 ลบ.ม./ วินาที) ระดับน้ําเหนือเขื่อน +17.71 ม.รทก. (เมื่อวาน +17.72 ม.รทก.) ระดับน้ําท้ายเขื่อน +17.55 ม.รทก. (เมื่อวาน +17.55 ม.รทก.) รับน้ําเข้าระบบส่งน้ําทุ่งฝั่งตะวันออก ปริมาณน้ําไหลผ่าน 28 ลบ.ม./วินาที (เมื่อวาน 38 ลบ.ม./วินาที) คลองชัยนาท-ป่าสัก (ปตร.มโนรมย์) 28 ลบ.ม./วินาที คลองชัยนาท-อยุธยา (ปตร.มหาราช ) ปิดการระบาย คลอง เล็กอื่นๆ ปิดการระบาย โดยรับน้ําเข้าคลองระพีพัฒน์ (ปตร.พระนารายณ์) ปิดการระบาย รับน้ําเข้าระบบส่งน้ําทุ่งฝั่งตะวันตก ปริมาณน้ําไหลผ่าน 710 ลบ.ม./วินาที (เมื่อวาน 717 ลบ.ม./วินาที) คลอง มะขามเฒ่าอู่ทอง (ปตร.มะขามเฒ่า-อู่ทอง) 40 ลบ.ม./วินาที แม่น้ําสุพรรณ 442 ลบ.ม./วินาที (ปตร.พลเทพ 361 ลบ.ม./วินาที คลองเล็กอื่นๆ 81 ลบ.ม./วินาที) แม่น้ําน้อย ปตร.บรมธาตุ 228 ลบ.ม./วินาที เขื่อนพระรามหก อัตราการไหลเฉลี่ย 576 ลบ.ม./วินาที (เมื่อวาน 628 ลบ.ม./วินาที) อ.บางไทร สถานี C.29 อัตราการไหลเฉลี่ย 3,776 ลบ.ม./วินาที (เมื่อวาน 3,783 ลบ.ม./วินาที)
4
ศูนย์ประมวลวิเคราะห์สถานการณ์น้ าํ กรมชลประทาน
ปตร.คลองลัดโพธิ์ ปริมาณน้ําไหลผ่าน 55.01 ล้าน ลบ.ม. (เมื่อวาน 53.96 ล้าน ลบ.ม.) อัตราการไหลเฉลี่ย 636.72 ลบ.ม./วินาที (เมื่อวาน 624.52 ลบ.ม./วินาที) ระยะเวลาเปิดการระบายน้ํา 24.00 ชั่วโมง ทุ่งเจ้าพระยาฝั่งตะวันออกตอนล่าง รวมสูบและระบายทั้งหมดวันละ 33.75 ล้าน ลบ.ม. โดยได้เร่งระบายน้ําลง แม่น้ําเจ้าพระยาวันละ 2.85 ล้าน ลบ.ม. ระบายน้ําลงแม่น้ํานครนายกวันละ 3.33 ล้าน ลบ.ม.ระบายน้ําลงแม่น้ําบางปะกง วันละ 6.46 ล้าน ลบ.ม. ระบายน้ําลงอ่าวไทยวันละ 21.12 ล้าน ลบ.ม. (สูบจากคลองชายทะเลลงอ่าวไทยวันละ 14.64 ล้าน ลบ.ม. และสูบจากสถานีสูบน้ําสุวรรณภูมิลงอ่าวไทยวันละ 6.48 ล้าน ลบ.ม.) ทุ่งเจ้าพระยาฝั่งตะวันตกตอนล่าง รวมสูบและระบายทั้งหมดวันละ 16.95 ล้าน ลบ.ม. โดยได้เร่งระบายน้ํา ลงแม่น้ําเจ้าพระยาวันละ 1.86 ล้าน ลบ.ม. ระบายน้ําลงแม่น้ําท่าจีนวันละ 15.09 ล้าน ลบ.ม. 5. สถานการณ์น้ําท่วม ภาคเหนือและภาคกลาง 1. จังหวัดลําปาง กลับเข้าสู่ภาวะปกติ 2. จังหวัดอุตรดิตถ์ มีพื้นทีน่ ้ําท่วม 2 อําเภอ คือ อําเภอพิชัย มีพื้นทีน่ ้ําท่วม 900 ไร่ (ระดับน้ําทรงตัว) และ อําเภอน้ําปาด (อยู่ระหว่างการสํารวจ) 3. จังหวัดสุโขทัย กลับเข้าสู่ภาวะปกติ 4. จังหวัดตาก มีพื้นที่ประสบภัยน้ําท่วม 4 อําเภอ คือ อําเภอสามเงา อําเภอบ้านตาก อําเภอเมือง อําเภอ วังเจ้า สถานการณ์มีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง คาดว่าจะเข้าสู่ภาวะปกติภายใน 1-2 วัน โครงการชลประทานตากได้ จัดส่งเครื่องสูบน้ําเข้าช่วยเหลือพื้นที่ จํานวน 8 เครื่อง 5. จังหวัดพิษณุโลก มีพื้นที่ประสบอุทกภัย ทั้งหมด 6 อําเภอ คือ อําเภอบางระกํา อําเภอพรหมพิราม อําเภอ เมือง อําเภอบางกระทุ่ม อําเภอวังทอง อําเภอวัดโบสถ์ พื้นที่ประสบภัย 527,447 ไร่ สถานการณ์น้ํามีแนวโน้มลดลง โครงการ ชลประทานพิษณุโลกได้ส่งเครื่องสูบน้ําเข้าช่วยเหลือ รวม 28 เครื่อง 6. จังหวัดพิจิตร ปัจจุบันมีพื้นที่น้ําท่วมในพื้นที่ลุ่มทั้งหมด 11 อําเภอ 85 ตําบล ได้แก่ อําเภอสามง่าม อําเภอ บึงนาราง อําเภอโพทะเล อําเภอวชิรบารมี อําเภอเมือง อําเภอตะพานหิน อําเภอบางมูลนาก อําเภอสากเหล็ก อําเภอทับ คล้อ อําเภอวังทรายพูน และอําเภอดงเจริญ รวมพื้นที่ประมาณ 865,315 ไร่ โครงการชลประทานพิจิตรส่งเครื่องสูบน้ํา เคลื่อนที่เข้าช่วยเหลือพื้นที่ จํานวน 37 เครื่อง 7. จังหวัดกําแพงเพชร แม่น้ําปิงเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มต่ํา ในพื้นที่ อําเภอโกสัมพีนคร อําเภอเมือง อําเภอขาณุวรลักษบุรี โครงการชลประทานกําแพงเพชรส่งเครื่องสูบน้ําเข้าช่วยเหลือ จํานวน 4 เครื่อง และจะเข้าสู่ภาวะปกติในระยะเวลา 2-3 วัน 8. จังหวัดเพชรบูรณ์ ยังคงมีน้ําท่วมจากแม่น้ําป่าสักล้นตลิ่ง จํานวน 4 อําเภอ คือ อําเภอหนองไผ่ อําเภอบึงสามพัน อําเภอวิเชียรบุรี และอําเภอศรีเทพ ปัจจุบันสถานการณ์มีแนวโน้มทรงตัว โครงการชลประทานเพชรบูรณ์จัดส่งเครื่องสูบน้ําเข้า ช่วยเหลือพื้นที่ จํานวน 1 เครื่อง 9. จังหวัดนครสวรรค์ มีพื้นที่น้ําท่วมจากน้ําล้นตลิ่ง จํานวน 10 อําเภอ คือ อําเภอชุมแสง อําเภอเก้าเลี้ยว อําเภอ เมืองนครสวรรค์ อําเภอโกรกพระ อําเภอตาคลี อําเภอพยุหะคีรี อําเภอท่าตะโก อําเภอหนองบัว อําเภอลาดยาว (คงเหลือ น้ําท่วมพื้นที่การเกษตรในที่ลุ่มต่ํา) อําเภอบรรพตพิสัย (คงเหลือน้ําท่วมพื้นที่การเกษตรในที่ลุ่มต่ํา) โครงการชลประทาน นครสวรรค์ส่งเครื่องสูบน้ําเข้าช่วยเหลือพื้นที่ จํานวน 49 เครื่อง สถานการณ์น้ําท่วมมีแนวโน้มลดลงอย่างช้าๆ 5
ศูนย์ประมวลวิเคราะห์สถานการณ์น้ าํ กรมชลประทาน
10. จังหวัดอุทัยธานี น้ําท่วมจากน้ําล้นตลิ่งแม่น้ําเจ้าพระยาเข้าท่วมพื้นที่ราบลุ่มต่ําริมฝั่งแม่น้ําเจ้าพระยาที่ตําบล หาดทะนง ตําบลสะแกกรัง ตําบลน้ําซึม ตําบลท่าซุง ตําบลเนินแจ้ง ตําบลหนองไผ่แบน ตําบลดอนขวาง และตําบลเกาะเทโพ อําเภอเมือง รวม 32,296 ไร่ ซึ่งเป็นพื้นที่นอกเขตชลประทาน และสถานการณ์มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น 11. จังหวัดชัยนาท มีพื้นที่น้ําท่วมขังในพื้นที่ลุ่มจากปริมาณฝนตกสะสม จํานวน 8 อําเภอ 47 ตําบล คือ อําเภอ สรรพยา อําเภอหันคา อําเภอเมือง อําเภอวัดสิงห์ อําเภอมโนรมย์ อําเภอหนองมะโมง อําเภอสรรคบุรี และอําเภอเนินขาม เป็นพื้นที่การเกษตร รวม 127,821 ไร่ ได้ส่งเครื่องสูบน้ําเข้าช่วยเหลือพื้นที่ท้ังหมด จํานวน 21 เครื่อง 12. จังหวัดสิงห์บุรี พื้นที่น้ําขังจากน้ําล้นตลิ่งจากคลองชัยนาท-ป่าสัก (ทุ่งเชียงราก) จํานวน 4 อําเภอ คือ อําเภอเมือง อําเภอพรหมบุรี อําเภอท่าช้าง และอําเภอบางระจัน พื้นที่เกษตรเสียหายประมาณ 26,263 ไร่ 13. จังหวัดอ่างทอง ยังคงมีพื้นที่น้ําท่วมจากน้ําล้นตลิ่ง รวม 7 อําเภอ 71 ตําบล 447 หมู่บ้าน/ชุมชน ได้แก่ อําเภอป่าโมก อําเภอเมือง อําเภอวิเศษชัยชาญ อําเภอไชโย อําเภอโพธิ์ทอง อําเภอสามโก้ อําเภอแสวงหา ได้รับ ผลกระทบ 28,272 ครัวเรือน พื้นที่ทางการเกษตรเสียหาย 97,577 ไร่ โครงการชลประทานอ่างทองได้ส่งเครื่องสูบน้ําเข้า ช่วยเหลือพื้นที่ จํานวน 50 เครื่อง 14. จังหวัดสุพรรณบุรี เกิดน้ําล้นตลิ่งไหลเข้าท่วมพื้นที่ 5 อําเภอ คือ อําเภอเมือง อําเภอสามชุก อําเภอดอนเจดีย์ อําเภออู่ทอง อําเภอสองพี่น้อง พื้นที่ประสบภัยน้ําท่วม ประมาณ 53,116 ไร่ มีพื้นที่เสี่ยงภัยโดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ําที่ติดแม่ น้ําท่าจีน มี 3 อําเภอ คือ อําเภอเดิมบางนางบวช อําเภอศรีประจันต์ อําเภอบางปลาม้า 15. จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ยังมีพื้นที่น้ําท่วมขังจากน้ําล้นตลิ่ง จํานวน 16 อําเภอ คือ อําเภอบางบาล อําเภอ บางปะอิน อําเภอบางไทร อําเภอผักไห่ อําเภอเสนา อําเภอพระนครศรีอยุธยา อําเภอมหาราช อําเภอบางปะหัน อําเภอ นครหลวง อําเภอบางซ้าย อําเภอบ้านแพรก อําเภอวังน้อย อําเภอท่าเรือ อําเภอภาชี อําเภอบัวหลวง และอําเภออุทัย พื้นที่ส่วนใหญ่อยู่นอกคั้นกั้นน้ํา โครงการชลประทานพระนครศรีอยุธยา ได้ส่งเครื่องสูบน้ําเข้าช่วยเหลือพื้นที่ จํานวน 42 เครื่อง และเครื่องสูบน้ําด้วยไฟฟ้าส่งเข้าช่วยเหลือในพื้นที่พระราชวังบางปะอิน จํานวน 2 เครื่อง ที่ อําเภอบางบาล 1 เครื่อง 16. จังหวัดนครปฐม มีน้ําท่วมขังจากแม่น้ําท่าจีนล้นตลิ่ง จํานวน 7 อําเภอ คือ อําเภอบางเลน อําเภอนครชัยศรี อําเภอสามพราน อําเภอดอนตูม อําเภอกําแพงแสน อําเภอพุทธมณฑล อําเภอเมือง พื้นที่การเกษตรเสียหาย 61,321 ไร่ โครงการนครปฐมได้ส่งเครื่องสูบน้ําเข้าช่วยเหลือพื้นที่ จํานวน 9 เครื่อง และติดเครื่องผลักดันน้ําที่สะพานสําโรง-ลานตาก ฟ้า อําเภอนครชัยศรี จํานวน 14 เครื่อง สถานการณ์น้ําในแม่น้ําท่าจีนมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น 17. จังหวัดลพบุรี ยังคงมีพื้นที่ประสบภัย จํานวน 10 อําเภอ คือ อําเภอเมือง อําเภอบ้านหมี่ อําเภอท่าวุ้ง อําเภอชัยบาดาล อําเภอพัฒนานิคม อําเภอท่าหลวง อําเภอหนองม่วง อําเภอลําสนธิ อําเภอสระโบสถ์ และอําเภอ โคกเจริญ โครงการชลประทานลพบุรีได้ส่งเครื่องสูบน้ําเข้าช่วยเหลือพื้นที่ จํานวน 52 เครื่อง 18. จังหวัดสระบุรี แม่น้ําป่าสักมีแนวโน้นลดลง หากไม่มีการระบายน้ําเพิ่ม และไม่มีฝนตกหนักเพิ่มในเขตพื้นที่ คาดว่าจะเข้าสู่ภาวะปกติภายในสัปดาห์นี้ 19. จังหวัดปทุมธานี น้ําเอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่ 7 อําเภอ อําเภอเมือง อําเภอสามโคก อําเภอคลองหลวง อําเภอ ธัญบุรี อําเภอหนองเสือ อําเภอลาดหลุมแก้ว อําเภอลําลูกกา โครงการชลประทานปทุมธานีได้จัดส่งเครื่องสูบน้ําเข้าช่วยเหลือ พื้นที่ จํานวน 66 เครื่อง
6
ศูนย์ประมวลวิเคราะห์สถานการณ์น้ าํ กรมชลประทาน
20. จังหวัดนนทบุรี น้ําเอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มต่ําริมแม่น้ําเจ้าพระยาและริมคลองขนาดใหญ่ 6 อําเภอ คือ อําเภอบางบั วทอง อําเภอบางใหญ่ อําเภอเมื อง อํ าเภอปากเกร็ ด อํ าเภอบางกรวย และอํ าเภอไทรน้ อย โครงการ ชลประทานนนทบุรี ได้ส่งเครื่องสูบน้ําเข้าช่วยเหลือพื้นที่ จํานวน 54 เครื่อง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 21. จังหวัดเลย กลับเข้าสู่ภาวะปกติ 22. จังหวัดนครราชสีมา น้ําได้ล้นตลิ่งแม่น้ํามูลเข้าท่วมพื้นที่การเกษตรและชุมชนในพื้นที่ 4 อําเภอ คือ อําเภอชุมพวง อําเภอเมืองยาง อําเภอโนนสูง (ระดับน้ํายังทรงตัว) อําเภอพิมาย (ระดับน้ํามีแนวโน้มสูงขึ้น) โครงการ ชลประทานนครราชสีมาได้ติดตั้งเครื่องผลักดันน้ําในลําน้ําลําตะคอง จํานวน 12 เครื่อง 23. จังหวัดนครพนม กลับเข้าสู่ภาวะปกติ 24. จังหวัดสกลนคร ยังคงมีน้ําท่วมบริเวณรอบหนองหารและลุ่มน้ําก่ํา ในเขต อําเภอเมือง อําเภอโคกศรีสุพรรณ และอําเภอโพนนาแก้ว มีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง ได้ส่งเครื่องสูบน้ําเข้าช่วยเหลือพื้นที่น้ําท่วมขัง จํานวน 1 เครื่อง หากไม่ มีฝนตกหนัก สถานการณ์น้ําจะเข้าสู่ภาวะปกติ ภายใน 9-10 วัน 25. จังหวัดกาฬสินธุ์ มีน้ําท่วมพื้นที่การเกษตรเสียหาย ประมาณ 47,816 ไร่ ใน 6 อําเภอ คือ อําเภอเมือง อําเภอกุฉินารายณ์ อําเภอห้วยผึ้ง อําเภอกมลาไสย อําเภอยางตลาด และอําเภอฆ้องชัย โครงการชลประทานกาฬสินธุ์ ได้ส่งเครื่องสูบน้ําเข้าช่วยเหลือพื้นที่อําเภอกมลาไสย อําเภอเมือง รวม 30 เครื่อง คาดว่าจะเข้าสู่ภาวะปกติภายใน 3-4 วัน 26. จังหวัดขอนแก่น มีพื้นที่ประสบภัยน้ําท่วม 9 อําเภอ คือ อําเภอชนบท อําเภอเมือง อําเภอมัญจาคีรี อําเภอน้ําพอง อําเภอบ้านไผ่ อําเภอบ้านแฮด อําเภอพระยืน อําเภอหนองเรือ อําเภออุบลรัตน์ พื้นที่การเกษตร เสียหายประมาณ 339,462 ไร่ 27. จังหวัดมหาสารคาม ระดับน้ําในลําน้ําชี ช่วงผ่านจังหวัดมหาสารคามสูงขึ้นเล็กน้อย จากการระบายน้ําของเขื่อน อุบลรัตน์ ทําให้เกิดน้ําท่วมขังแผ่กระจายในเขตที่ลุ่มต่ําติดลําน้ําชี ครอบคลุมพื้นที่ 6 อําเภอ คือ อําเภอโกสุมพิสัย อําเภอ เชียงยืน อําเภอกันทรวิชัย อําเภอเมืองมหาสารคาม อําเภอวาปีปทุม และอําเภอพยัคฆภูมิพิสัย พื้นที่ประสบภัย 223,611 ไร่ คาดว่าจะเสียหาย 181,037 ไร่ (ข้อมูลเกษตรจังหวัดมหาสารคาม) โครงการชลประทานมหาสารคาม ได้จัดส่งเครื่องสูบน้ําเข้า ช่วยเหลือพื้นที่ประสบภัยจํานวน 36 เครื่อง ช่วยเหลือสูบระบายน้ําออกจากพื้นที่ท่วมขัง 28. จังหวัดร้อยเอ็ด สถานการณ์น้ําในลุ่มน้ําชีและลุ่มน้ํายังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ปัจจุบันมีพื้นที่ประสบภัยรวม 15 อําเภอ คือ อําเภอโพธิ์ชัย อําเภอเสลภูมิ อําเภออาจสามารถ อําเภอพนมไพร อําเภอเชียงขวัญ อําเภอทุ่งเขาหลวง อําเภอธวัชบุรี อําเภอจังหาร อําเภอเกษตรวิสัย อําเภอปทุมรัตน์ อําเภอเมือง อําเภอโพนทราย อําเภอเมืองสรวง อําเภอ หนองฮี อําเภอสุวรรณภูมิ รวม 277,111 ไร่ โครงการชลประทานร้อยเอ็ดได้ส่งเครื่องสูบน้ําเคลื่อนที่เข้าช่วยเหลือ รวม 25 เครื่อง สถานการณ์น้ําในลุ่มน้ําชี และลุ่มน้ํายังมีแนวโน้มทรงตัว แต่สถานการณ์น้ําในลุ่มน้ําเสียวใหญ่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น 29. จังหวัดอํานาจเจริญ มีพื้นที่ประสบอุทกภัย 1 อําเภอ คือ อําเภอหัวตะพาน มีพื้นที่เสียหาย 150 ไร่ โครงการชลประทานอํานาจเจริญได้ส่งเครื่องสูบน้ําช่วยเหลือในพื้นที่ จํานวน 2 เครื่อง 30. จังหวัดยโสธร ยังคงมีพื้นที่น้ําท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ํา รวม 9 อําเภอ คือ อําเภอเมือง อําเภอคําเขื่อนแก้ว อําเภอ มหาชนะชัย อําเภอเลิงนกทา อําเภอกุดชุม อําเภอป่าติ้ว อําเภอทรายมูล อําเภอไทยเจริญ และอําเภอค้อวัง รวม 254,455 ไร่ โครงการชลประทานยโสธรได้ส่งเครื่องสูบน้ําเข้าช่วยเหลือพื้นที่ จํานวน 5 เครื่อง 7
ศูนย์ประมวลวิเคราะห์สถานการณ์น้ าํ กรมชลประทาน
31. จังหวัดอุบลราชธานี มีพื้นที่ประสบภัยน้ําท่วม 5 อําเภอ คือ อําเภอเมือง อําเภอวารินชําราบ อําเภอเขื่องใน อําเภอสว่างวีระวงศ์ อําเภอพิบูลมังสาหาร พื้นที่เกษตรได้รับความเสียหาย 106,394 ไร่ สถานการณ์น้ําท่วมมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น 32. จังหวัดชัยภูมิ มีพื้นที่น้ําท่วม 15 อําเภอ คือ อําเภอเกษตรสมบูรณ์ อําเภอคอนสาร อําเภอจัตุรัส อําเภอ บ้านเขว้า อําเภอเมือง อําเภอหนองบัวแดง อําเภอเนินสง่า อําเภอภักดีชุมพล อําเภอแก้งคร้อ อําเภอบ้านแท่น อําเภอ คอนสวรรค์ อําเภอภูเขียว อําเภอซับใหญ่ อําเภอเทพสถิต และอําเภอหนองบัวระเหว รวม 616,148 ไร่ บ้านเรือนที่ได้รับ ผลกระทบ 10,321 ครัวเรือน โครงการชลประทานชัยภูมิได้จัดส่งเครื่องสูบน้ําเข้าช่วยเหลือพื้นที่ในเขตเทศบาลเมืองชัยภูมิ จํานวน 13 เครือ่ ง และเครื่องผลักดันน้ํา จํานวน 6 เครื่อง สถานการณ์น้ําในลุ่มน้ําชีมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น 33. จังหวัดศรีสะเกษ มีพื้นที่ประสบภัย 15 อําเภอ คือ อําเภอกันทรารมย์ อําเภอกันทรลักษ์ อําเภอโนนคูณ อําเภอเมืองจันทร์ อําเภอน้ําเกลี้ยง อําเภอไพรบึง อําเภอราศีไศล อําเภอห้วยทับทัน อําเภอเมือง อําเภอศิลาลาด อําเภอภูสิงห์ อําเภอยางชุมน้อย อําเภออุทุมพรพิสัย อําเภอขุขันธ์ อําเภอขุนหาร พื้นที่การเกษตรเสียหายประมาณ 76,638 ไร่ โครงการชลประทานศรีสะเกษจัดส่งเครื่องสูบน้ําเข้าช่วยเหลือพื้นที่ จํานวน 1 เครื่อง 34. จังหวัดสุรินทร์ น้ําในแม่น้ํามูลเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ 8 อําเภอ 62 ตําบล คือ อําเภอเมือง อําเภอสําโรงทาบ อําเภอท่าตูม อําเภอชุมพลบุรี อําเภอศรีณรงค์ อําเภอรัตนบุรี อําเภอจอมพระ และอําเภอสังขะ พื้นที่การเกษตรรวม 64,478 ไร่ ราษฎรที่ได้รับความเดือนร้อน ประมาณ 13,969 ครัวเรือน โครงการชลประทานสุรินทร์จัดส่งเครื่องสูบน้ําเข้าช่วยเหลือพื้นที่ จํานวน 4 เครื่อง ภาคตะวันออก 35. จังหวัดนครนายก ยังคงมีน้ําในพื้นที่ลุ่มต่ําริมตลิ่งแม่น้ํานครนายก จํานวน 4 อําเภอ คืออําเภอเมือง อําเภอ ปากพลี อําเภอองครักษ์ และอําเภอบ้านนา โครงการชลประทานนครนายกได้จัดส่งเครื่องสูบน้ําเคลื่อนที่เข้าช่วยเหลือ จํานวน 16 เครื่อง และจะเข้าสู่สภาวะปกติภายในสัปดาห์นี้ 36. จังหวัดปราจีนบุรี ยังคงมีน้ําท่วมพื้นที่การเกษตรที่ อําเภอกบินทร์ อําเภอศรีมหาโพธิ์ อําเภอประจันตคาม อําเภอเมือง อําเภอศรีมโหสถ และ อําเภอบ้านสร้าง ประมาณ 30-50 ซ.ม. และมีน้ําท่วมพื้นที่ชุมชนในเขตเทศบาล ตําบลศรีมหาโพธิ์ สูงประมาณ 30 ซ.ม. และเทศบาลเมืองปราจีนบุรี สูงประมาณ 30 ซ.ม. โครงการชลประทานปราจีนบุรี ได้ ส่งเครื่องสูบน้ําเข้าช่วยเหลือพื้นที่แล้ว จํานวน 36 เครื่อง สถานการณ์น้ําท่วมยังทรงตัว 37. จังหวัดฉะเชิงเทรา มีพื้นที่น้ําท่วม 9 อําเภอ คือ อําเภอเมือง อําเภอบางน้ําเปรี้ยว อําเภอบางคล้า อําเภอ คลองเขื่อน อําเภอพนมสารคาม อําเภอแปลงยาว อําเภอราชสาส์น อําเภอสนามชัยเขต อําเภอบ้านโพธิ์ พื้นที่เสียหาย รวม 447,254 ไร่ โครงการชลประทานฉะเชิงเทราได้จัดส่งเครื่องสูบน้ําเคลื่อนที่ เข้าช่วยเหลือพื้นที่ จํานวน 8 เครื่อง
8
ศูนย์ประมวลวิเคราะห์สถานการณ์น้ าํ กรมชลประทาน
6. สถานการณ์น้ําในแม่น้ําโขง สรุปสถานการณ์น้ําในแม่น้ําโขง วันอังคารที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2554 สถานี
ระดับตลิ่ง
ระดับน้ํา
ระดับน้ํา
+ สูงกว่าตลิ่ง
+ เพิ่มขึ้นจากเมื่อวาน
(เมื่อวาน) 3.76
- ต่ํากว่าตลิ่ง -8.28
- ลดลงจากเมื่อวาน -0.24
แนวโน้ม
อ.เชียงแสน จ.เชียงราย
11.80
(วันนี้) 3.52
อ.เชียงคาน จ.เลย
17.40
8.21
8.33
-9.19
-0.12
ลดลง
อ.เมือง จ.หนองคาย
12.20
6.22
6.35
-5.98
-0.13
ลดลง
อ.เมือง จ.นครพนม
12.70
7.33
7.29
-5.37
0.04
เพิ่มขึ้น
อ.เมือง จ.มุกดาหาร
12.60
7.33
7.29
-5.27
0.04
เพิ่มขึ้น
อ.โขงเจียม จ.อุบลราชธานี
16.20
10.53
10.35
-5.67
0.18
เพิ่มขึ้น
ลดลง
หมายเหตุ : ระดับ : รสม. ข้อมูลจาก www.mrcmekong.org
7.การเตรียมความพร้อมและการให้ความช่วยเหลืออุทกภัย กรมชลประทานได้เตรียมความพร้อมเครื่องสูบน้ํา จํานวน 1,165 เครื่อง เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรตามจังหวัดต่างๆ ปัจจุบัน ได้มีการสนับสนุนเครื่องสูบน้ําเคลื่อนที่ รวมทั้งหมด 925 เครื่อง ในพื้นที่ 47 จังหวัด สนับสนุนเครือ่ งสูบน้ําเคลือ่ นที่รวมทั้งหมด 925 เครื่อง ในพื้นที่ 47 จังหวัด ภาค
จังหวัด
เครื่องสูบน้าํ
รายชื่อจังหวัด
(เครื่อง)
(จํานวนเครื่องสูบน้ํา)
เหนือ
10
170
เชียงใหม่ (7) ลําพูน (3) น่าน (19) พิษณุโลก (25) พิจิตร (36) นครสวรรค์ (62) อุตรดิตถ์ (1) ตาก (8) สุโขทัย (8) กําแพงเพชร (1)
ตะวันออกเฉียงเหนือ
15
189
อุดรธานี (6) หนองคาย (5) สกลนคร (3) ขอนแก่น (24) มหาสารคาม (36) ร้อยเอ็ด (25) กาฬสินธุ์ (30) ชัยภูมิ (12) อุบลราชธานี (11) ยโสธร (5) นครพนม (7) อํานาจเจริญ (5) นครราชสีมา (5) สุรินทร์ (4) ศรีสะเกษ (11)
กลาง,ตะวันออก, ตะวันตก
20
545
นครนายก (18) ปราจีนบุรี (29) ฉะเชิงเทรา (13) สระแก้ว (2) ชลบุรี (2) ระยอง (4) ชัยนาท (32) ลพบุรี (49) สิงห์บุรี (50) สระบุรี (19) พระนครศรีอยุธยา (52) อ่างทอง (41) อุทัยธานี (10) สุพรรณบุรี (82) นนทบุรี (51) ปทุมธานี (61) กรุงเทพฯ (6) สมุทรสาคร (1) สมุทรปราการ (4) นครปฐม (19)
ใต้
2
21
นครศรีธรรมราช (2) สงขลา (19)
รวม
47
925
สนับสนุ นรถยนต์บรรทุกน้ํา (แผน 295 คัน) แยกเป็น ภาคเหนือ 55 คัน, ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 90 คัน, ภาคกลาง ตะวันออก และตะวันตก 114 คัน, ภาคใต้ 36 คัน ออกช่วยเหลือ จํานวน 4 คัน ดังนี้ จังหวัด ขอนแก่น 1 คัน, นครราชสีมา 1 คัน และ จังหวัดนนทบุรี 2 คัน ****************************** นายพัชรินทร์ พิมพ์สิงห์ วิศวกรชลประทานชํานาญการ รายงาน นายพรชัย พ้นชั่ว ผอ.ศปส.ชป. ตรวจ
9
ศูนย์ประมวลวิเคราะห์สถานการณ์น้ าํ กรมชลประทาน
10
ศูนย์ประมวลวิเคราะห์สถานการณ์น้ าํ กรมชลประทาน
11
ศูนย์ประมวลวิเคราะห์สถานการณ์น้ าํ กรมชลประทาน