ประเทศสองมาตรฐาน: วัฒนธรรมที่ยั่งยืนในสั งคมไทย เมื่อใดคนไทยจะหลุดพ้นจากวังวน โดย จุฑาพร โฉมงาม
22 มิถุนายน 2555 ดิฉนั ได้อ่านข่าวจากหนังสื อพิมพ์แนวหน้า ฉบับออนไลน์ วันที่ 18 มิ.ย. 2555 (http://www.naewna.com/politic/10731) ที่ลงข่าวเกี่ยวกับ นายศรี ราชา เจริ ญพานิช ผูต้ รวจราชการแผ่นดิน ได้ออกมาให้ความเห็นกรณี ที่สหรัฐอเมริ กาขอใช้พ้ืนที่สนามบินอู่ตะเภา จัดตั้ง ความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมและบรรเทาภัยพิบตั ิระดับภูมิภาค โดยในความเห็นของนายศรี ราชานั้นได้ระบุวา่ กรณี ดงั กล่าวน่าจะเป็ นเกมส์ การเมืองระหว่างประเทศของสหรัฐ ฯ ที่จะแสวงหาผลประโยชน์ของภูมิภาคนี้ ดังนั้นการที่รัฐบาลจะไปเซ็นสัญญายินยอมกับสหรัฐ ฯ นั้น (โดย จะผ่านสภาหรื อไม่ก็ตาม) อาจจะทําให้เป็ นการเสี ยหายต่ อผลประโยชน์ ของชาติ เป็ นการขายชาติ และกลุ่มบุคคลทีไ่ ปเซ็นสั ญญาดังกล่ าวนั้น จะต้ องรับผิดชอบ ดิฉนั ขอยกคําพูดของนายศรี ราชา เจริ ญพานิช ที่ได้ระบุไว้ในหนังสื อพิมพ์ดงั กล่าวมาให้อ่านกันอย่างชัด ๆ นะคะ “เรื่ องนี้รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบนั มีความกังวลอย่างมากเกี่ยวกับเรื่ องที่รัฐบาลทําอะไรไม่คาํ นึงถึงผลประโยชน์ของประเทศ จึงไม่อยากให้คน 30 กว่าคน ตัดสิ นในเรื่ องนี้ เพื่อผลประโยชน์ของใครบางคนที่จะได้รับ จึงต้องเข้าสภา เพื่อพิจารณา แต่ถา้ หากว่าสภามีเสี ยงข้างมากอีก คน เหล่านี้ตอ้ งรับผิดชอบในสิ่ งที่เกิดขึ้นในอนาคต แม้วา่ เสี ยงโหวตในสภาจะชนะผ่านไป ขอให้สงั วรไว้วา่ ประวัติศาสตร์ได้จารึ กไว้วา่ ท่านกําลัง ขายชาติหรื อไม่ ที่จะให้สหรัฐฯ มามีอิทธิพลต่อไทยอีกครั้งในรอบ 40 ปี ที่แล้วมา ยังไม่เป็ นบทเรี ยนอีกหรื อ รัฐบาลสหรัฐฯ ไม่เคยทําประโยชน์ ให้ใคร มีแต่แสวงหาทรัพยากร ดังนั้นประเทศเล็กๆอย่ างเราจึงต้ องระมัดระวัง หากไม่ มีอะไรอยู่เบือ้ งลึกเบือ้ งหลัง ผมคิดว่ารัฐบาล รัฐสภา ควร คิดให้ ดแี ละรอบคอบ ก่ อนที่จะเอาประโยชน์ ของประเทศไปอยู่บนความเสี่ ยง ผมในฐานะประชาชนคนหนึ่ง ต้ องรักษาผลประโยชน์ ของประเทศ ไม่ ให้ เกิดความเสี ยหาย” ชัดเจนนะคะ ดิฉนั เห็นด้วยค่ะกับนายศรี ราชา เห็นด้วยในหลาย ๆ ส่ วนเกี่ยวกับการที่ประเทศไทยหรื อตัวแทนของประเทศจะไปลงนามเซ็นสัญญากับใครอะไร ที่ไหรก็ตามแต่ ซึ่ งหากว่าการลงนามเซ็นสัญญานี้มีความเกี่ยวข้องสัมพันธ์โยงใยกับส่ วนรวม ต่อสังคม ต่อชาติ ใครก็ตามที่จะไปลงนาม จะต้อง พิจารณาไตร่ ตรองให้ดีถึงผลได้ผลเสี ยและผลกระทบต่อส่วนรวมที่จะตามมา ไม่ใช่แต่เฉพาะรัฐบาลนี้ รัฐบาลไหน หรื อกลุ่มบุคคลใดกลุ่มบุคคล หนึ่ง ประเทศทั้งหลายในสากลที่คาํ นึงถึงประชาชนในชาติและผลประโยชน์โดยรวมเป็ นหลักก็ยอ่ มต้องนึกถึงผลประโยชน์ของชาติตนเป็ นธรรมดา ดังนั้นการที่เราก็ตอ้ ง “รู ้เขารู ้เรา” ก็ไม่ใช่เรื่ องแปลกอะไร และการที่ นายศรี ราชา เจริ ญพานิช ออกมาให้ความเห็นดังกล่าวก็เป็ นสิ่ งที่กระทําได้ ในประเทศประชาธิปไตย แต่ที่ดิฉนั ติดใจใคร่ รู้และไม่เห็นมีใครออกมาร้องแรกแหกกระเชอกันเลย รวมถึง นายศรี ราชา เจริ ญพานิช ผูต้ รวจราชการแผ่นดินด้วย คือกรณี ข่าวเหล่านี้ค่ะ (ดิฉนั อยากทราบเหมือนกันว่ารายละเอียดของข่าวเหล่านี้ปรากฎอยูใ่ นหน้าหนังสื อพิมพ์หลัก ๆ หรื อสื่ อหลักในประเทศไทย หรื อไม่คะ) http://www.cancer.gov/ncicancerbulletin/072611/page10 http://nihrecord.od.nih.gov/newsletters/2010/07_23_2010/story4.htm http://home.ccr.cancer.gov/connections/2010/Vol4_No2/news_3.asp ในเนื้อข่าว จะเห็นได้วา่ มีการส่ งเสริ มความร่ วมมือและการลงนามเซ็นสัญญาความร่ วมมือกันระหว่างหน่วยงานรัฐของไทยและหน่วยงานรัฐของ สหรัฐ ฯ ซึ่ งการลงนามเซ็นสัญญากันในครั้งนี้เกี่ยวข้องกับการค้นคว้าศึกษาวิจยั ทางวิทยาศาสตร์และสาธารณสุ ขศาสตร์ในประเทศไทย ซึ่งมี ความเป็ นไปได้ ว่าสั ญญาฉบับนีอ้ าจจะส่ ง ผลกระทบ ผลได้ ผลเสี ย ต่ อประเทศชาติและประชาชนส่ วนรวม ดังนั้นหากจะยึดตามหลักการและ ความเห็นของ นายศรีราชา เจริ ญพานิช ประเทศไทยจึงควรพิจารณากันให้ รอบคอบ เพราะประเด็นนีจ้ ะเกีย่ วโยงไปถึงแหล่ งทรัพยากรของชาติ
แหล่ งสารผลิตภัณฑ์ธรรมชาติ (โดยเฉพาะสารผลิตภัณฑ์ ธรรมชาติทางทะเล) ของไทยที่มีคุณค่ าและทรงประโยชน์ มหาศาล สิ ทธิบัตรและ ทรัพย์สินทางปัญญา วิทยาศาสตร์ การแพทย์ ระบบสาธารณสุ ข อุตสาหกรรมการผลิตยา และอีกหลาย ๆ เรื่องทีอ่ าจจะตามมา แต่เท่าที่ดิฉนั ทราบ การลงนามเซ็นสัญญากันในครั้งนี้ เป็ นการลงนามเซ็นสัญญากันอย่างเงียบ ๆ ไม่กระโตกกระตาก ไม่มีคนเป่ านกหวีด หรื อ อย่างที่เรี ยกกันในภาษาอังกฤษว่า whistle blower ไม่ทราบว่าประชาชนได้รับทราบข่าวสารอย่างครบถ้วนหรื อไม่ ได้พิจารณาไตร่ ตรอง กันหรื อยังว่าสัญญาฉบับนี้หรื อความร่ วมมือกันในครั้งนี้ อาจจะส่ งผลกระทบต่อประเทศชาติอย่างไรบ้าง หรื อว่ากรณี การลงนามเซ็นสัญญาครั้งนี้ “มีหลักฐานที่จะ” สามารถเชื่อได้วา่ จะไม่เป็ น “กรณี ขายชาติ” จึงไม่ตอ้ งมีการตรวจสอบ ไม่ตอ้ งมีการ พิจารณาหรื ออภิปรายเชิงสาธารณะอะไรกันทั้งสิ้ น ถ้าเป็ นเช่นนั้นจริ ง ดิฉนั อยากทราบว่าใช้เหตุผลอะไรในการประกอบการตัดสิ นใจคะ ใครจะ อาสาไหมคะ ฝากไปถึง นายศรี ราชา เจริ ญพานิช ในฐานะผูต้ รวจราชการแผ่นดินจะได้ไหมคะ หรื อ นายศรี ราชา เจริ ญพานิ ช ในฐานะประชาชน คนหนึ่งก็ได้