เบื้องหลังวิธีคิดและข้อสังเกตุ “จังหวัดจัดการตนเอง”

Page 1

ั ้ งหล ังวิธค เบือ ี ด ิ และข้อสงเกตุ “จ ังหว ัดจ ัดการตนเอง” สํานักเรียนรู ้การกระจายอํานาจและปกครองตนเอง(กอปอ)

1.

การเคลือ ่ นไหวและผล ักด ัน “จ ังหว ัดจ ัดการตนเอง” : ิ ทําการเคลือ นํ าโดย ขบวนการนักพัฒนาองค์เอกชนและเครือข่ายแกนนํ าชุมชนทีใ่ กล ้ชด ่ นไหว รณรงค์ใน 40 กว่าจังหวัด โดยได ้รับการสนับสนุนทางวิชาการและงบประมาณจํานวนมากจากสถาบัน พัฒนาองค์กรชุมชน(พอช.), คณะกรรมการสมัชชาปฏิรป ู , สภาพัฒนาการเมือง, และสํานักงาน กองทุนสร ้างเสริมสุขภาพ(สสส.)เป็ นต ้น ขบวนการกลุม ่ นีเ้ สนอทํานองว่า การต่อสู ้ทางการเมืองระดับประเทศระหว่างเหลืองกับแดงใน ้ ั ้ ปั จจุบน ั นี้ เป็ นการต่อสูกันระหว่างชนชนนํ า-นักธุรกิจการเมือง, ประชาชนไม่ได ้อะไร แถมยังตกเป็ น เหยือ ่ ให ้เขาหลอกใช ้ และควรหันกลับมาทําการเมือง/ประชาธิปไตยท ้องถิน ่ เราดีกว่า

สําหรับในเชิงรูปธรรมของการเคลือ ่ นไหวบางกลุม ่ ของขบวนการนีเ้ สนอให ้มีการยกระดับการ ปกครองท ้องถิน ่ เป็ นระดับจังหวัด ยุบเลิกหน่วยราชการส่วนภูมภ ิ าคทีอ ่ ยูใ่ นจังหวัดแล ้วให ้โอน ่ งทีค ่ วร หน่วยงานเหล่านัน ้ ลงมาอยูใ่ นท ้องถิน ่ จังหวัด,ให ้มีการเลือกตัง้ ผู ้ว่าฯจังหวัดโดยตรง เป็ นเรือ สนับสนุน และคําถาม?ประเด็นสําคัญเสนอให ้มีการถ่วงดุลกํากับควบคุมการทํางานของฝ่ ายสภานิตบ ิ ัญญัต ิ และฝ่ ายบริหารจังหวัดโดย “สภาประชาชน สภาพลเมือง”(ตัวแทนจากเครือข่ายองค์กรชุมชน/สภา ้ ประเด็นปั ญหาความทับซอน องค์กรชุมชน)ทีม ่ าจากกระบวนการ “สรรหากันเอง”ในเครือข่าย ? ระหว่างอํานาจหน ้าทีข ่ องฝ่ ายสภาประชาชนกับสภานิตบ ิ ญ ั ญัต ิ รวมถึงปั ญหาทีม ่ าของ “สมาชิก สภาประชาชน” ทีไ่ ม่ได ้มาจากการเลือกตัง้ ของประชาชน ? ตลอดทัง้ การปฏิเสธยกเว ้น ไม่แตะต ้อง ศาล และทหาร อันเป็ นอุปสรรคสําคัญยิง่ ในการพัฒนา ประชาธิปไตยทัง้ ระดับประเทศและระดับท ้องถิน ่ ? ในขณะเดียวกันก็มก ี ารตัง้ ข ้อสังเกตเชิงเคลือบแคลงอย่างน่าสนใจต่อเป้ าประสงค์ในการ เคลือ ่ นไหวของ “ขบวนการจังหวัดจัดการตนเอง”นีใ้ นหลายประการ ้ บประเทศทีผ ประการแรก : การอ ้างว่าการต่อสูระดั ่ า่ นมาเป็ นเรือ ่ งของความขัดแย ้งระหว่างชน ั ้ นํา ประชาชน/ชาวบ ้านเป็ นเพียงแค่ “เหยือ ี ละดู ชน ่ /เบีย ้ ”ของการต่อสู”้ ถือเป็ นการบิดเบือนป้ ายสแ ถูกประชาชนผู ้รักประชาธิปไตยอย่างร ้ายแรง ทัง้ ๆทีค ่ วามขัดแย ้งทีผ ่ า่ นมาเกิดจากการรัฐประหาร ้ ้ 2549 เป็ นการต่อสูระหว่ างฝ่ ายประชาธิปไตยกับฝ่ ายทีไ่ ม่ต ้องการประชาธิปไตย เป็ นการต่อสูในเรื อ ่ ง ี ธรรมทีม กติกาทีว่ า่ จะมอบหมายให ้ใครมาใชอํ้ านาจทางการเมืองการปกครองระหว่าง “คนดีมศ ี ล ่ าจา การสรรหาแต่งตัง้ โดยเทวดา” หรือจะเอา “ตัวแทนทีป ่ ระชาชนเลือกตัง้ ”(ตามหลัก“ความเสมอภาค/ ้ ” ) เป็ นความขัดแย ้งระหว่าง หนึง่ สิทธิห ์ นึง่ เสียง” มิใช่โดย “ชาติกําเนิด/ฐานะทางชนชัน “อุดมการณ์อนุรักษ์นย ิ ม/อํามาตย์/คลั่งชาติ” กับ “อุดมการณ์เสรีนย ิ ม/ประชาธิปไตย/รักชาติ” สวิง ตันอุด สถาบันการจัดการทางสงั คม(สจส.)และหัวขบวนจังหวัดจัดการตนเองกล่าวว่า “ศูนย์กลางอํานาจหรือโครงสร ้างอํานาจกับโครงสร ้างอํานาจขัดแย ้งกันเอง เป็ นมหาโครงสร ้าง ี ดง ่ วามขัดแย ้ง ต่อ มหาโครงสร ้างปะทะกัน ตอนนีเ้ ลยกลายเป็ นปรากฏสเี หลืองสแ ไม่ใชค ้เพื ระหว่างประชาชนกับรัฐ แต่วา่ มันคือการต่อสู อ ่ ล ้มล ้างอํานาจรัฐระหว่างผู ้นํ าของแต่ละฝ่ ายโดย ดึงมวลชนเข ้ามาร่วม


Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.