ั ้ งหล ังวิธค เบือ ี ด ิ และข้อสงเกตุ “จ ังหว ัดจ ัดการตนเอง” สํานักเรียนรู ้การกระจายอํานาจและปกครองตนเอง(กอปอ)
1.
การเคลือ ่ นไหวและผล ักด ัน “จ ังหว ัดจ ัดการตนเอง” : ิ ทําการเคลือ นํ าโดย ขบวนการนักพัฒนาองค์เอกชนและเครือข่ายแกนนํ าชุมชนทีใ่ กล ้ชด ่ นไหว รณรงค์ใน 40 กว่าจังหวัด โดยได ้รับการสนับสนุนทางวิชาการและงบประมาณจํานวนมากจากสถาบัน พัฒนาองค์กรชุมชน(พอช.), คณะกรรมการสมัชชาปฏิรป ู , สภาพัฒนาการเมือง, และสํานักงาน กองทุนสร ้างเสริมสุขภาพ(สสส.)เป็ นต ้น ขบวนการกลุม ่ นีเ้ สนอทํานองว่า การต่อสู ้ทางการเมืองระดับประเทศระหว่างเหลืองกับแดงใน ้ ั ้ ปั จจุบน ั นี้ เป็ นการต่อสูกันระหว่างชนชนนํ า-นักธุรกิจการเมือง, ประชาชนไม่ได ้อะไร แถมยังตกเป็ น เหยือ ่ ให ้เขาหลอกใช ้ และควรหันกลับมาทําการเมือง/ประชาธิปไตยท ้องถิน ่ เราดีกว่า
สําหรับในเชิงรูปธรรมของการเคลือ ่ นไหวบางกลุม ่ ของขบวนการนีเ้ สนอให ้มีการยกระดับการ ปกครองท ้องถิน ่ เป็ นระดับจังหวัด ยุบเลิกหน่วยราชการส่วนภูมภ ิ าคทีอ ่ ยูใ่ นจังหวัดแล ้วให ้โอน ่ งทีค ่ วร หน่วยงานเหล่านัน ้ ลงมาอยูใ่ นท ้องถิน ่ จังหวัด,ให ้มีการเลือกตัง้ ผู ้ว่าฯจังหวัดโดยตรง เป็ นเรือ สนับสนุน และคําถาม?ประเด็นสําคัญเสนอให ้มีการถ่วงดุลกํากับควบคุมการทํางานของฝ่ ายสภานิตบ ิ ัญญัต ิ และฝ่ ายบริหารจังหวัดโดย “สภาประชาชน สภาพลเมือง”(ตัวแทนจากเครือข่ายองค์กรชุมชน/สภา ้ ประเด็นปั ญหาความทับซอน องค์กรชุมชน)ทีม ่ าจากกระบวนการ “สรรหากันเอง”ในเครือข่าย ? ระหว่างอํานาจหน ้าทีข ่ องฝ่ ายสภาประชาชนกับสภานิตบ ิ ญ ั ญัต ิ รวมถึงปั ญหาทีม ่ าของ “สมาชิก สภาประชาชน” ทีไ่ ม่ได ้มาจากการเลือกตัง้ ของประชาชน ? ตลอดทัง้ การปฏิเสธยกเว ้น ไม่แตะต ้อง ศาล และทหาร อันเป็ นอุปสรรคสําคัญยิง่ ในการพัฒนา ประชาธิปไตยทัง้ ระดับประเทศและระดับท ้องถิน ่ ? ในขณะเดียวกันก็มก ี ารตัง้ ข ้อสังเกตเชิงเคลือบแคลงอย่างน่าสนใจต่อเป้ าประสงค์ในการ เคลือ ่ นไหวของ “ขบวนการจังหวัดจัดการตนเอง”นีใ้ นหลายประการ ้ บประเทศทีผ ประการแรก : การอ ้างว่าการต่อสูระดั ่ า่ นมาเป็ นเรือ ่ งของความขัดแย ้งระหว่างชน ั ้ นํา ประชาชน/ชาวบ ้านเป็ นเพียงแค่ “เหยือ ี ละดู ชน ่ /เบีย ้ ”ของการต่อสู”้ ถือเป็ นการบิดเบือนป้ ายสแ ถูกประชาชนผู ้รักประชาธิปไตยอย่างร ้ายแรง ทัง้ ๆทีค ่ วามขัดแย ้งทีผ ่ า่ นมาเกิดจากการรัฐประหาร ้ ้ 2549 เป็ นการต่อสูระหว่ างฝ่ ายประชาธิปไตยกับฝ่ ายทีไ่ ม่ต ้องการประชาธิปไตย เป็ นการต่อสูในเรื อ ่ ง ี ธรรมทีม กติกาทีว่ า่ จะมอบหมายให ้ใครมาใชอํ้ านาจทางการเมืองการปกครองระหว่าง “คนดีมศ ี ล ่ าจา การสรรหาแต่งตัง้ โดยเทวดา” หรือจะเอา “ตัวแทนทีป ่ ระชาชนเลือกตัง้ ”(ตามหลัก“ความเสมอภาค/ ้ ” ) เป็ นความขัดแย ้งระหว่าง หนึง่ สิทธิห ์ นึง่ เสียง” มิใช่โดย “ชาติกําเนิด/ฐานะทางชนชัน “อุดมการณ์อนุรักษ์นย ิ ม/อํามาตย์/คลั่งชาติ” กับ “อุดมการณ์เสรีนย ิ ม/ประชาธิปไตย/รักชาติ” สวิง ตันอุด สถาบันการจัดการทางสงั คม(สจส.)และหัวขบวนจังหวัดจัดการตนเองกล่าวว่า “ศูนย์กลางอํานาจหรือโครงสร ้างอํานาจกับโครงสร ้างอํานาจขัดแย ้งกันเอง เป็ นมหาโครงสร ้าง ี ดง ่ วามขัดแย ้ง ต่อ มหาโครงสร ้างปะทะกัน ตอนนีเ้ ลยกลายเป็ นปรากฏสเี หลืองสแ ไม่ใชค ้เพื ระหว่างประชาชนกับรัฐ แต่วา่ มันคือการต่อสู อ ่ ล ้มล ้างอํานาจรัฐระหว่างผู ้นํ าของแต่ละฝ่ ายโดย ดึงมวลชนเข ้ามาร่วม
เราต ้องก ้าวข ้ามเรือ ่ งความขัดแย ้งนีไ้ ป ถ ้าสมมติวา่ ไม่สามารถทีจ่ ะก ้าวข ้ามความขัดแย ้งไปได ้ แนวโน ้มอาจก่อความขัดแย ้งรุนแรงมากยิง่ ขึน ้ จนถึงขัน ้ แบ่งแยกดินแดนก็เป็ นได ้ เหตุทเี่ ราต ้องคิดเรือ ่ ง “ท ้องถิน ่ จัดการตนเอง หรือ จังหวัดจัดการตัวเอง” เพราะถ ้าปล่อยให ้ สถานการณ์แบบนีส ้ ร ้างความรุนแรงต่อไป เกิดการต่อสู ้กันนอกกติกา เกิดการปะทะกันระหว่าง ่ ารสู ้กัน ประชาชนกับประชาชน พอกระทบกระทัง่ กันแรงขึน ้ ๆ กฎหมายจะคุมไม่อยู่ และนํ าไปสูก ่ ารสะสมอาวุธ เกิดการแบ่งพวกแบ่งข ้าง นอกกฎหมายมากขึน ้ แบบนีม ้ ันลุกเป็ นไฟ พัฒนาไปสูก มากขึน ้ โฆษณาเอาคนมาเป็ นพวกของตัวเองมากขึน ้ ก็จะเกิดความรุนแรง ถ ้าเป็ นแบบนีจ ้ ะแก ้ ่ ารแบ่งประเทศ” ยากทีส ่ ด ุ และถึงทีส ่ ด ุ มันจะนํ าไปสูก
พรหมศักดิ์ แสงโพธิ์ นักคิดนักเขียนประจําขบวนจังหวัดจัดการตนเองกล่าวว่า “ประเทศไทยภายใต ้รัฐเผด็จการ จากระบอบกษั ตริยม ์ าเป็ นกลุม ่ คนฝั นเรือ ่ งประชาธิปไตยแต่ไป ไม่ถงึ ฝั่ งฝั น จึงเป็ นได ้แค่เปลีย ่ นคณะบุคคลทีใ่ ชอํ้ านาจไม่ได ้เปลีย ่ นโครงสร ้างการบริหาร ประเทศไทยกลายเป็ นรัฐเผด็จการ การแย่งชงิ อํานาจระหว่างเผด็จการกลุม ่ เก่ากับเผด็จการกลุม ่ ิ้ สุด ประเทศจึงได ้ผู ้ปกครองทีเ่ ห็นแก่ ใหม่ 79ปี ผา่ นไปการแย่งชงิ อํานาจของคนสองกลุม ่ ยังไม่สน ตัวและคณะมากกว่าการสร ้างประเทศชาติให ้มีความเจริญรุง่ เรือง ประเทศทรุดโทรมไม่เจริญ เทียบได ้กับกิจการรถไฟแห่งประเทศไทย”
ประการทีส ่ อง การอ ้างว่า ความขัดแย ้งทางการเมืองในยุคปั จจุบน ั หรือความเป็ นเหลืองแดง มา ซึง่ จะสามารถ จากรากเหง ้ามาจากการรวมศูนย์อํานาจ จึงต ้องมี “จังหวัดจัดการตนเอง” แก ้ปั ญหาและเป็ นทางออกต่อปั ญหาความขัดแย ้งทางการเมืองทัง้ ปวงได ้นัน ้ ถือเป็ นแนวคิดและ ข ้อเสนอทีม ่ ข ี ้อบกพร่องและไม่รอบด ้านอย่างยิง่ เนื่องเพราะ ปั ญหาระบอบประชาธิปไตยของ ไทยทีผ ่ า่ นมา นอกจากจะมีลักษณะรวมศูนย์แต่แตกกระจายแล ้ว ยังมีปัญหาการรัฐประหารล ้ม ่ เผด็จการมาโดยตลอดอีกด ้วย นีย ่ ังมิพักต ้องเอ่ยถึงปั ญหา ล ้างระบอบประชาธิปไตยจากกลุม อํานาจมืดเหนือรัฐทีห ่ ลอกใช ้อธิปไตยของประชาชน รวมไปถึงกฎหมาย กติกา กลไกต่างๆทีเ่ ป็ น สิง่ ประดิษฐ์มรดก ตกทอดของกลุม ่ เผด็จการทีท ่ ําหน ้าทีค ่ อยคํ้ายันอํานาจอิทธิพลของระบอบ ทีไ่ ม่ใช่ประชาธิปไตยอีกต่างหาก เช่น รัฐธรรมนูญฉบับหน ้าแหลมฟั นดําปี 2550 , ม.112, พร บ.กลาโหม, สว.ลากตัง้ เป็ นต ้น ดังนัน ้ การอ ้างว่า “จังหวัดจัดการตนเอง” จะแก ้ปั ญหาความ ขัดแย ้งทางการเมืองทัง้ ปวงได ้ จึงเป็ นเรือ ่ งทีเ่ หลวไหลและส่อเจตนาปิ ดบังอําพรางความจริง ของปั ญหาอย่างน่าละอายยิง่ สวิง ตันอุด หัวขบวนจังหวัดจัดการตนเองกล่าวไว ้ว่า “ถ ้าจังหวัดสามารถจัดการตนเองได ้ ปั ญหาในทางการเมืองทีเ่ กิดขึน ้ มันจะย่อส่วนลงมาจากเวที ระดับชาติ จะกลับมาสูใ่ นเวทีระดับจังหวัด ทุกวันนีเ้ หลืองแดงไม่ได ้คิดเรือ ่ งท ้องถิน ่ แต่เป็ น แนวความคิดระดับชาติ ถ ้าเราเสนอแนวความคิดแบบแนวตัดขวาง ซึง่ ก็คอ ื เรือ ่ งของท ้องถิน ่ ความเป็ นเหลืองแดงจะหมดความหมายในตัวของมันเอง เพราะเหลืองแดงมันสมมติตัวเอง เพือ ่ ทีจ่ ะไปยึดศูนย์กลางอํานาจ แต่ถ ้าพุง่ เป้ าว่าตัวเองจะเข ้ามาเพือ ่ ทีจ่ ะมามีบทบาทในเรือ ่ งของ ท ้องถิน ่ จังหวัดนัน ้ ๆได ้ขนาดไหน ดังนัน ้ มันจะละลายความเป็ นเหลืองแดง เพราะความเป็ นเหลือง ้ ้องถิน แดงอยูท ่ ไี่ หน มันก็อยูใ่ นชุมชนท ้องถิน ่ นั่น ถ ้าคนในท ้องถิน ่ หันความสนใจมารับใชท ่ ว่าจะ จัดการตัวเองอย่างไร ไม่ไปรับใชศู้ นย์กลางอํานาจรัฐ ตรงนีจ ้ ะสลายตัวไปเอง”
่ เพือ อนึง่ พึงตราไว ้ด ้วยว่า การพยายามผลักดันให ้มีการระดมหนึง่ หมืน ่ รายชือ ่ เสนอรัฐสภา พิจารณาออก พ.ร.บ.มหานครเชียงใหม่ ภายใต ้กติการัฐธรรมนูญ2550 ทีย ่ งั คงอํานาจการ พิจารณากฎหมายของ สว.ลากตัง้ นับว่าพวกเขายังไม่สรุปบทเรียนความผิดพลาดใหญ่หลวง ่ ับเคลือ ่ นมาร่วม 20 กว่าปี และได ้ออกพรบ.ป่ าชุมชนอย่างรวดเร็วใน จากกรณี พรบ.ป่ าชุมชน ทีข สมัยสภานิตบ ิ ัญญัตแ ิ ห่งชาติ(สนช.)ทีม ่ ี เตือนใจ ดีเทศน์ หัวขบวนของกลุม ่ ได ้รับการแต่งตัง้ เป็ น ่ แทนทีจ ิ ํ ่ ะให ้อํานาจ สมาชก สนช.โดยเผด็จการ คมช. และสนช.เองได ้บิดเบือนสาระสาคัญ เชน ่ เดิม ชุมชนท ้องถิน ่ กลับให ้อํานาจรวมศูนย์ทก ี่ รมป่ าไม ้เชน หรือแม ้แต่กรณีการสรรหา ิ ทีม คณะกรรมการ กสทช.ล่าสุดผู ้ได ้รับการสรรหาก็มท ี หารจํานวนถึง 5 คน วุฒส ิ มาชก ่ าจากการ แต่งตัง้ จํานวนมากก็ไม่ตา่ งจาก สนช.ทีม ่ าจากคมช. ซึง่ พวกเขาก็น่ารู ้ดีวา่ กลุม ่ คนเหล่านีม ้ วี ธิ ค ี ด ิ แบบรวมศูนย์อํานาจ ชอบสัง่ การสูง ไม่ชอบการตรวจสอบ และทีส ่ ําคัญไม่นย ิ มประชาธิปไตย
ิ ชูและผลักดัน “สภาประชาชน”(สภาองค์กรชุมชนทีไ่ ด ้รับการ ประการทีส ่ าม การพยายามเชด จัดตัง้ และสนับสนุนอย่างใกล ้ชิดจาก พอช.และสภาพัฒนาการเมือง) ซึง่ ไม่ได ้มาจากการ เลือกตัง้ ของประชาชนในท ้องถิน ่ ตามหลัก 1สิทธ์1เสียง แต่กลับเสนอให ้มีอํานาจเหนือสภานิต ิ ฝ่ ายบริหารท ้องถิน ่ เป็ นเรือ ่ งทีข ่ ัดแย ้งกับหลักการระบอบประชาธิปไตยและ บัญญัตแ ิ ละ หลักการกระจายอํานาจอย่างชัดเจน ดังที่ ชัชวาลย์ ทองดีเลิศ หัวขบวนจังหวัดจัดการตนเองอีก ผู ้หนึง่ กล่าวไว ้ว่า “ประชาธิปไตยแบบพุทธ” หรือ “ประชาธิปไตยแบบท ้องถิน ่ ” จะเป็ นทางออกให ้กับ “การเมือง แบบตัวแทนทีล ่ ้มเหลว” กระบวนการของชุมชนแต่เดิมคือการพูดคุยกัน โดยสมาชกิ ชุมชนจะมา พูดคุยกัน ดูวา่ ใครเป็ นคนดีมค ี ณ ุ ธรรม แล ้วหมูค ่ ณะก็จะเข ้าไปคุยว่า “เราคิดว่าท่านเป็ นคนดีมี คุณธรรม น่าจะเป็ นผู ้นํ าทีด ่ ข ี องเราได ้” แล ้วก็ใช ้วิธเี หมือนกับการลงประชามติ นีเ่ ป็ นการสรรหา โดยชุมชนซึง่ มีมานานแล ้ว แต่กฎหมายข ้างนอกไปบอกว่า “คุณต ้องสมัคร คุณต ้องหาเสียง คุณ ต ้องเลือกตัง้ ” เพราะฉะนัน ้ ก็เสร็จนายทุนหมด ใช่ไหม? ในขณะทีก ่ ระบวนการดัง้ เดิมของเขาก็คอ ื การหาคนดี คนมีคณ ุ ธรรม โดยชุมชน จริงๆ
่ ฤทัย หรืออย่างเช่นที่ ดร.ชืน กาญจนจิตรา(ประธานคณะอนุกรรมการฝ่ ายวิชาการใน คณะกรรมการสมัชชาปฎิรป ู )ผู ้สนับสนุนสําคัญของจังหวัดจัดการตนเอง ได ้กล่าวว่า “สําหรับโครงสร ้างองค์กรของจังหวัดจัดการตัวเองนัน ้ ประกอบด ้วยสภาจังหวัด ผู ้ว่าการจังหวัด ปลัดจังหวัด สว่ นราชการประจําจังหวัด ข ้าราชการจังหวัด โดยสภาจังหวัดประกอบด ้วย สมาชกิ จํานวนไม่เกิน 50 คน มาจากทัง้ อปท. 2 ใน 3 นอกนัน ้ มาจากภาคประชาสงั คม โดย อนาคตควรให ้ผู ้ว่าราชการจังหวัดมาจากการเลือกตัง้ โดยตรง แต่ระหว่างการเปลีย ่ นผ่านควรให ้ นายกฯ อบจ.เป็ นผู ้ว่าฯ ”
่ อุดมการณ์ทางการเมืองแบบคลุมเครือของกลุม สิง่ เหล่านีส ้ ะท ้อนถึงพืน ้ ฐานความเชือ ่ แกนนํ า ขบวน ทีม ่ ต ี อ ่ ระบอบประชาธิปไตยแบบสากล ประการทีส ่ ี่ เมือ ่ พิจารณาจากช่วงจังหวะเวลาของการออกมาเคลือ ่ นเรือ ่ งจังหวัดจัดการตนเอง หลังเหตุการณ์ล ้อมฆ่าประชาชนฝ่ ายประชาธิปไตย 19 พฤษภาคม 2553 เป็ นทีน ่ ่าเคลือบแคลง ว่า จากทีก ่ ลุม ่ นีไ ้ ม่เคยให ้ความสําคัญในเรือ ่ งกระจายอํานาจใดๆมาก่อน แล ้วเหตุไฉนอยูๆ่ ก็ช ู ประเด็นนีข ้ น ึ้ มาและเลือกออกมาเสนอในจังหวะเวลาทีม ่ วลชนฝ่ ายประชาธิปไตยกําลังต่อสูขั้ บ เคีย ่ วอย่างเอาเป็ นเอาตายกับอํานาจเผด็จการอํามาตย์ในชว่ งนีด ้ ้วยเล่า ทัง้ ๆทีป ่ ั ญหาการกระจาย อํานาจมีการนํ าเสนอผลักดันมาตัง้ แต่ชว่ งหลังพฤษภาทมิฬ2535 เป็ นไปได ้หรือไม่?ว่า พวกเขา อาจมีเจตนา แอบแฝงด ้วยการลดทอนการต่อสู ้ของฝ่ ายประชาธิปไตยให ้เป็ นแค่เรือ ่ งความ ั ้ นํ า และต ้องการเบีย ่ การ ขัดแย ้งระหว่างชนชน ่ งเบนประเด็นทางสงั คมการเมืองทีส ่ ําคัญๆ เชน ลงโทษคนสงั่ ฆ่าประชาชน การแก ้ไขรัฐธรรมนูญ2550 การ ม. 112 การปฏิรป ู กองทัพและการ ปฏิรป ู ระบบศาลยุตธิ รรม เป็ นต ้น พร ้อมๆกับการพยายามดึงพลังมวลชนในชนบทให ้กลับมาสนใจ เฉพาะเรือ ่ งท ้องถิน ่
ประการทีห ่ า้ เมือ ่ พิจารณาจากประวัตก ิ ารเคลือ ่ นไหวและบทบาทางการเมืองของกลุม ่ หัวขบวน จังหวัดจัดการตนเองแล ้ว พบว่า พวกเขาหลายคนเคยมีแต่มบ ี ทบาทในการคัดค ้านข ้อเสนอ เลือกตัง้ ผู ้ว่าฯเมือ ่ ครัง้ หลังเหตุการณ์พฤษภา 2535 ,หลายคนเคยปฏิเสธและเยาะเย ้ยถากถาง ่ งค์กรปกครองท ้องถิน แนวคิดการกระจายอํานาจสูอ ่ มาตลอด พร ้อมๆกับมุง่ โฆษณาความเลวร ้าย ของระบบประชาธิปไตยตัวแทน/การเลือกตัง้ , กลุม ่ ขบวนนีเ้ ป็ นกลุม ่ ขบวนทีเ่ คลือ ่ นไหวมวลชน ิ ชู “ชุมชน/วัฒนธรรมดัง้ เดิม” แบบโรแมนติคอย่างเอาการเอางาน ให ้โหยหาเชด ั วาลย์ ทองดีเลิศ ผู ้อํานวยการวิทยาลัยการจัดการทางสังคม (วจส.) ซงึ่ ทํางานคลุก ชช คลีกบ ั ชาวบ ้านในชนบทด ้วย “แนวคิดวัฒนธรรมชุมชน” วิเคราะห์วา่
“เหตุทท ี่ ําให ้ประชาธิปไตยไทยไปไม่ถงึ ไหน เพราะประชาชนไม่มส ี ว่ นร่วมทางการเมืองอย่าง ิ ธิ ไม่มอ แท ้จริง พวกเขาไม่มส ี ท ี ํานาจในกําหนดวิถท ี างพัฒนาชุมชนตนเอง หนํ าซํ้ารูปแบบประชาธิปไตย โดยการเลือกตัง้ ยังทําลายรูปแบบในการจัดการความสัมพันธ์อน ั มีมายาวนานในท ้องถิน ่ ไทย” “การเมืองภาคประชาชนในช่วงทีผ ่ า่ นมานี้ มีอยู่ 2 ช่วงใหญ่ๆ ช่วงแรกคือตัง้ แต่รา่ งรัฐธรรมนูญ ฉบับประชาชนเป็ นต ้นมา ก่อนยุคทักษิณ การเมืองภาคประชาชนมีการเคลือ ่ นไหวค่อนข ้างสูง กลุม ่ ภาค ้ ประชาชนต่างๆ รวมตัวกันค่อนข ้างเยอะ มีการขับเคลือ ่ น มีการเคลือ ่ นไหวตลอดเวลา โดยใชแนวทาง รัฐธรรมนูญฉบับปี 2540 เป็ นหลักในการเคลือ ่ นไหว พอมาถึงชว่ งทีส ่ อง คือในสมัยรัฐบาลทักษิณ ่ ถูกควบคุมด ้วยสอ ื่ ถูกแทรกแซง ถูก การเมืองภาคประชาชนแผ่วลงไป เพราะถูกรัฐบาลทักษิณสกัด เชน ปิ ดกัน ้ อะไรต่อมิอะไรทัง้ หลายทีป ่ ระชาชนเข ้าถึงถูกบล็อกเกือบหมดเลย การเคลือ ่ นไหวของภาค ประชาชนถูกจํากัดโดยรัฐบาลทักษิณทีม ่ ล ี ักษณะเป็ นเผด็จการรัฐสภาบวกกับการแทรกแซงองค์กรอิสระ ต่างๆ”
แต่ทส ี่ ําคัญ คือ หัวขบวนกลุม ่ นี้ เคยร่วมสนับสนุนการรัฐประหารโค่นล ้มรัฐบาลพลเรือนทีม ่ าจาก ่ การเลือกตัง้ และปล ้นชงิ อํานาจของประชาชนเมือ ่ ครัง้ เหตุการณ์ 19 กันยายน 2549 ตัวอย่างเชน นพ.ประเวศ วะสี เป็ นประธานคณะกรรมการสมัชชาปฏิรปู ประเทศ ได ้รับการแต่งตัง้ จาก ิ ธิ์ เวชชาชีวะ เพือ นายอภิสท ่ ศึกษารวมแนวทางปฏิรป ู ประเทศ หลังจากการชุมนุมของ ้ แดงใน พ.ศ. 2553 กลุม ่ คนเสือ นาย สวิง ตันอุด เป็ นสมาชิกหมายเลข082 สภาร่างรัฐธรรมนูญฉบับหน ้าแหลมฟั นดํา แต่งตัง้ เมือ ่ วันที่ 1 มกราคม 2550
o
่ มั่นในระบอบประชาธิปไตย จะกลับกลายมา เป็ นทีน ่ ่าสงสัยว่า กลุม ่ คนทีเ่ คยแสดงให ้เห็นว่าตนเองไม่เชือ เป็ นหัวขบวนนํ ามวลชนเพือ ่ ขับเคลือ ่ นผลักดันการกระจายอํานาจได ้อย่างไร? คงต ้องคอยติดตามกัน ต่อไป รวมทัง้ ช่างสอดคล ้องกับสยามประชาภิวฒ ั น์และพันธมิตรประชาชนเพือ ่ ประชาธิปไตยอย่าง บังเอิญหรือไม่? โปรดดู http://www.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9550000049420 o
Daily News - Manager Online - “ประชาชนต้องปกครองตนเอง” คุยรอบแรก “พ ันธมิตรฯ” ก ับ “สยามประชาภิว ัฒน์”