ตัวอย่าง "รุ่งอรุณเชียงราย"

Page 1

ตัวอย่างสาหรับพิจารณา (ไม่ใช่ตน้ ฉบับจริ ง) - จัดหน้ามาสาหรับพิมพ์สีขนาด A4 เท่านั้น - มีหลายจุดที่ Shift+Enter ภายในย่อหน้าเพิ่อตัดบรรทัด - hyperlink บางส่วนขัดข้องในขั้นตอนการแปลงไฟล์ ให้คดั ลอก link จากข้อความไปวางในช่อง URL แทน - มีคาที่จงใจเขียนผิด หน้า 28 : อิมแผ็ค, วิธีคึดสะกึดใจ หน้า 72 : จึ่ง หน้า 79 : ฆ่ะ หน้า 85 : สปิ ริ ตช่วล หน้า 82 : เปนบ้า หน้า 94 : พิฆราส หน้า 96 : บร๊ ะก้อด หน้า 102 : สะบึ้งช์ หน้า 103 : วัต(สัน) หน้า 111 : เบื่อย หน้า 124 : ชาบูชา

รุ่งอรุณเชียงราย : โรงเรี ยนในจดหมายกับหลักสูตรปั จจัยสี่

1


คำนำ "โรงเรี ย นรุ่ ง อรุ ณ เชี ย งราย" คื อ โรงเรี ย นที่ เ กิ ด ขึน้ ในความเพ้ อ ฝั น ของข้ า 'เจ้ า ผู้ที่ มี ค วามตัง้ ใจจะ "เปลี่ยนแปลงการศึกษาไทย" ด้ วยโครงการส่วนตัวที่ปัจจุบนั ยังอยู่ในขันตอนของการค้ ้ นคว้ าเอกสาร จากการ ค้ นคว้ าเพื่อทาโครงการเกี่ยวกับการศึกษาทาให้ ข้า'เจ้ าได้ ตกผลึกความคิดออกมาเป็ นไอเดีย "สร้ างโรงเรี ยนแนว ใหม่" แล้ วถ่ายทอดความฝั นนันออกมาเป็ ้ นงานเขียนในรูปแบบของจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ถึงคณะกัลยาณมิตรที่ คอยรับทราบและให้ กาลังใจทางความคิดเสมอมา ตลอดช่วงเวลาการพัฒนาและนาเสนอ "โรงเรี ยนรุ่ งอรุ ณเชียงราย" ให้ ออกมาเป็ นบั นทึกความคิดที่คน อ่านเข้ าใจได้ โดยทัว่ กันนัน้ ข้ า'เจ้ าต้ องขอบพระคุณ mr.Saturday ที่ปรึ กษาพิเศษของข้ า'เจ้ าเป็ นอย่างสูงในการ สละเวลามาให้ คาปรึ กษาและปรับระบบการคิดการเขียนของข้ า 'เจ้ าให้ สามารถสื่อสารเรื่ องที่เป็ นความเพ้ อฝั น ออกมาได้ ชดั เจนครบถ้ วนสมบูรณ์อย่างที่ไม่เคยทามาก่อน การมี mr.Saturday เป็ นผู้รับจดหมายทาให้ ข้า 'เจ้ ามี แรงบันดาลใจที่จะเขียนรายงานทุกอย่างที่คิดในสมองออกมาเสนออย่างสนุกสนาน เป็ นการทางานที่ให้ ความสุข แม้ วา่ จะยังไม่ได้ คา่ ตอบแทนเป็ นทุนทรัพยากรใดๆ เป็ นเวลา 3 เดือนที่ "โรงเรี ยนรุ่ งอรุ ณเชียงราย" ได้ มีชี วิตโลดแล่นอยู่ในจดหมายอิเล็กทรอนิกส์จานวน สิบกว่าฉบับ ซึ่งข้ า'เจ้ าได้ รังสรรค์สว่ นประกอบต่างๆของโรงเรี ยนขึ ้นมาไม่ว่าจะเป็ นอาคารสถานที่ตงั ้ ผู้บริ หาร ครู ผ้ สู อน รู ปแบบการเรี ยนการสอน และหลักสูตร ถักทออนาคตบนหน้ าจอและคีย์บอร์ ดด้ วยความฝั นอันเปี่ ยม ล้ น แต่เมื่อกลับบ้ านเกิดไปเชียงรายเพื่อสร้ างโรงเรี ยนจริ งๆ ข้ า'เจ้ าก็ได้ พบว่าตัวเองขาดแคลนต้ นทุนในทุกๆด้ าน ไม่ว่าจะเป็ นที่ดิน บุคลากร งบประมาณ ความเชื่อมัน่ วุฒิการศึกษา และความรับผิดชอบที่จะต้ องดูแลบริ หาร จัดการระบบต่างๆในโรงเรี ยนแห่งนี ้ ดังนัน้ เมื่อเขียนจดหมายมาจนถึงฉบับจบ ข้ า'เจ้ าจึงประกาศ "ปิ ดโรงเรี ยน" รุ่ งอรุ ณเชียงรายแล้ วหันมา พัฒนาต่อยอดในส่วนของ "หลักสูตร" แทน ตามวัตถุประสงค์ของโครงการส่วนตัวที่ข้า'เจ้ าได้ ร่างไว้ แต่เดิมคือเพื่อ เปลีย่ นแปลงการศึกษาไทย หลักสูตร “จตุรวิทย์พิชญศึกษา” ที่ข้า’เจ้ าได้ พฒ ั นาขึ ้นมานี ้ใช้ หลัก "ปั จจัย4-ภาวนา4" มาประยุกต์เป็ นโครงสร้ างจัดหมวดหมู่วิชาต่างๆให้ เป็ นระบบที่ชดั เจน ข้ า 'เจ้ าแอบฝั นว่าเมื่อหนังสือเล่มนี ้ได้ รับ การเผยแพร่ แล้ ว ร่ างหลักสูตรจตุรวิทย์พิชญศึกษาจะได้ รับการพัฒนาต่อยอดไปปรับใช้ ในระบบการศึกษาของ ชาติจริ งๆสักวันหนึง่ เช่นกันกับ "โรงเรี ยนรุ่ งอรุ ณเชียงราย" ที่ข้า 'เจ้ าได้ สร้ างขึน้ ในใจของท่านผู้ที่อ่านหนังสือเล่มนี ้จนจบ ข้ า'เจ้ าก็แอบหวังว่าจะมีผ้ อู า่ นบางคนสนใจแบ่งปั นทุนทรัพย์ที่มีอยูม่ ารวมกันเป็ นทีมสร้ างโรงเรี ยนในฝั นขึ ้นจริ งๆ ไม่ว่าจะเสนอที่ดิน สร้ างอาคารเรี ยน บริ จาคหนังสือ ลงรายละเอียดหลักสูตร ทาแปลงเกษตรหรื อกิจการสาธิ ต ตลอดจนอาสามาเป็ นครู หรื อผู้บริ หาร ผู้อ่านทุกท่านสามารถติดต่อข้ า 'เจ้ าทางอีเมล vaniya.rainy@gmail.com ข้ า'เจ้ ายินดีรับทุกข้ อความค่ะ ข้ า'เจ้ า (ข้ าพระพุทธเจ้ า) วนิยา สุวรรณเวโช 31 มีนาคม 2557

2

รุ่งอรุณเชียงราย : โรงเรี ยนในจดหมายกับหลักสูตรปั จจัยสี่


RE: ขออนุญาตตีพมิ พ์‫‏‬ จาก : ถึง : เมื่อ :

mr.Saturday วนิยา สุวรรณเวโช วันจันทร์ ที่ 24 มีนาคม 2557 / 12:29 น.

วนิยา ครับ ขอชื่นชมสาหรับความตังใจที ้ ่จะตัดต่อประสบการณ์และบทเรี ยนชีวิต (ช่วงวัยหนึ่ง) แบ่งปั นให้ กบั ผู้อ่านที่กาลัง เตรี ยมตัวหรื ออยู่ระหว่างการตัดสินใจเส้ นทางการศึกษาต่อ(ระดั บสูง)ของตนเอง ผมมองเห็นประโยชน์ข้อหนึ่ง ของหนังสือความเรี ยงฉบับพกพา คือ การเป็ น "คู่มือเตรี ยมสอบ O-NET" ต่างกันตรงที่หนังสือเล่มนี ้ ไม่ได้ มีแนว และเฉลยคาตอบข้ อสอบเข้ า แต่หนังสือเล่มนี ้กาลังทาหน้ าที่เป็ นคู่มือดูแลและซ่อมแซม (Toolkit) ความคิด ที่จะ ช่วยเพิ่มความมัน่ ใจหรื อบรรเทาความไม่มนั่ ใจของความคิดเรื่ องการเรี ยนวิชา "การเป็ นครู (Teacherness)" ได้ เล่มหนึง่ สาหรับเรื่ องที่วนิยาอีเมลขออนุญาตถึงการใช้ ชื่อในหนังสือเล่มนี ้ ผมขอให้ คงการใช้ "นามสมมติ" ที่ว นิยาสะดวก เรี ยกและตังให้ ้ ด้ วยเหตุผล (เดิม) คือ ต้ องการทาหน้ า ที่เป็ นผู้สนับสนุนที่อยู่เบื ้องหลังความก้ าวหน้ าของวนิยา มากกว่าจะใช้ เป็ นโอกาสแนะนาตัวเองในวงวิชาการหรื อวิชาชีพที่ตดั สินจากความสามารถในการทางาน ขอแสดงความยินดี (ล่วงหน้ า) ครับ mr.Saturday

Re: ขออนุญาตตีพมิ พ์‫‏‬ จาก: ถึง : เมื่อ :

ครูนิด โจ๊ ะมาโลลือหล่า วนิยา สุวรรณเวโช วันอังคารที่ 18 มีนาคม 2557 / 19:45 น.

ยินดีคะ่ ทังการน ้ าข้ อมูลไปเปิ ดเผยและการร่วมมือในการพัฒนาหลักสูตร

รุ่งอรุณเชียงราย : โรงเรี ยนในจดหมายกับหลักสูตรปั จจัยสี่

3


สำรบัญ หน้ า คานา ........................................................................................................................... 2 เพลง "เจ็บกว่าไม้ เรี ยว" (17 สิงหาคม 2555) .............................................................. 5 ปั ญหาของการศึกษาในระบบปั จจุบนั (8 มีนาคม 2559) .................................................. 6 จตุรวิทย์พชิ ญศึกษา : หลักสูตรจากการร่างครัง้ ที่ 4 (28 กุมภาพันธ์ 2559) ......................... 7 บทที่ 1 : รุ่งอรุณเชียงราย .............................................................. 8 บทที่ 2 : ร่างหลักสูตรและทบทวนโครงการ .............................................................. 15 บทที่ 3 : นักเรี ยนมืออาชีพ .............................................................. 24 บทที่ 4 : ครูนิด โจ๊ ะมาโลลือหล่า .............................................................. 35 บทที่ 5 : เป็ นอันจะลาสิกขา.. .............................................................. 39 บทที่ 6 : อรุณฟิ คชัน่ (ฉบับเช้ ามืด)‫‏‬ .............................................................. 55 โครงสร้ างหลักสูตรโรงเรียนรุ่งอรุณเชียงราย 1 กุมภาพันธ์ 2557 …………………………… 72 บทที่ 7 : โลกนี ้ชักอยูย่ าก..‫‏‬ .............................................................. 73 บทที่ 8 : มาแล้ วฆ่ะ(บูชา)รับวาเลนไทน์‫‏‬ .............................................................. 79 บทที่ 9 : อรุณวุ้นเส้ น‫‏‬ .............................................................. 83 บทที่ 10 : อเรนเว้ นสุ้น (อรุณพิฆราส)‫‏‬ .............................................................. 94 บทที่ 11 : เอ.เอ.อาร์ . .............................................................. 112 ภาคผนวก : อีเมลถึง mr.Saturday ในปี 2555 .............................................................. 118 ภาคผนวก : วนิยาเต็มพิกดั กัดกัด .............................................................. 136 ภาคผนวก : เมื่อวนิยาคิดถึงพ่อ .............................................................. 146

4

รุ่งอรุณเชียงราย : โรงเรี ยนในจดหมายกับหลักสูตรปั จจัยสี่


เพลง "เจ็บกว่ ำไม้ เรี ยว" คาร้ อง-ทานอง : วนิยา สุวรรณเวโช 17 สิงหาคม 2555 โครงการ Tutorials กวดวิชาการศึกษาไทย

คุณเป็ นใครทาไมใจร้ ายจัง ให้ เรี ยนหนังสือนัง่ ฟั งคุณครูสอนมาดีดี เรี ยนมัธยมจบแล้ วก็สอบทันที ครูสอนสามปี แต่ตวิ เทอมเดียวสอบติดเลย คุณเป็ นใครทาไมใจร้ ายจัง ต้ องฝึ กสมองใช้ พลังท่อง ก ข ค จาเฉลย แต่ทงชี ั ้ วิตไม่สอนตัวเลือกอย่างเคย จะวัดคะแนนเฉยๆ ต้ องเจอไม้ เรี ยวก่อนนอน ไม่ได้ รุนแรงทาร้ ายร่างกายหรอกนะ มันเป็ นธรรมเนียมน่ะค่ะ ไม่ร้ ูวา่ ใครเสี ้ยมสอน เสี ้ยมไม้ เรียวคาถาแม่พมิ พ์ประทานพร ฟาดเทคนิคการสอน ให้ เจ็บแล้ วจาจนตาย คุณเป็ นใครทาไมใจร้ ายจัง ลองมองดูซิความหลัง ครูตีไม้ เรี ยวก้ นลาย ยุคนี ้ไม่ต้องตีแล้ วนักเรี ยน ม.ปลาย เขาตีกนั เองนัน่ ไง สอบกันวอดวายแย่งทีเ่ รี ยน

ช่วยแม่ทานาแม่บอกไม่มาไม่เป็ นไร ไปเรี ยนจะได้ เป็ นใหญ่ เป็ นเจ้ าเป็ นนายมีเงิน แม่คงดูละครหลังข่าวมามากเกิน เดี๋ยวพอลูกมีเงิน ก็คงซื ้อข้ าวแม่กิน คุณเป็ นใครทาไมใจร้ ายจัง ให้ ร่ าเรียนหาสตางค์จนลืมไถนาพรวนดิน ทังทั ้ งที ้ ่เงินส่งเรียนก็ปลูกข้ าวกิน พอเรี ยนหนังสือจนชิน ต้ องซื ้อเขามากินแทน คุณเป็ นใครทาไมใจร้ ายจัง เด็กเกรดดีเหมือนคนดัง ได้ ชมชื่นเหมือนซูเปอร์ แมน ใครโง่ตกชันโดนหยามดู ้ ถกู หมิ่นแคลน ไร้ กาลังจะคิดแค้ น เป็ นคนชายขอบเจ็บใจ มีความรุนแรงแฝงอยูท่ ี่ความเหลือ่ มล ้า โครงสร้ างระบบเป็ นนามธรรมที่สงั คมเราสร้ างไว้ คงไม่มคี นมารับผิดชอบว่าเพราะใคร ต้ องคิดต้ องช่วยกันไป อย่าให้ เจ็บกว่าไม้ เรี ยว

คุณเป็ นใครทาไมใจร้ ายจัง หลักสูตรเนื ้อหารกรุงรัง อวดตาราเกินการอ่านเขียน จบแล้ วทางานไม่เห็นเลยที่เคยเรี ยน เคมีฟิสกิ ส์แทบเพี ้ยน เรี ยนแล้ วค้ าขายดีก็เชิญ

รุ่งอรุณเชียงราย : โรงเรี ยนในจดหมายกับหลักสูตรปั จจัยสี่

5


ปั ญหาของการศึกษาในระบบปั จจุบนั : 1. ถูกบัญญัติโดยคนในเมืองเพื่อสร้ างคนให้ มาทางานอยูใ่ นเมือง ทาให้ คนรุ่นใหม่ที่ได้ รับการศึกษาตามระบบต้ องทิ ้ง บ้ านเกิดอพยพเข้ ามาใช้ ชีวิตอยูใ่ นเมือง เป็ นแรงงานทางานเพื่อความเจริ ญของเมืองไม่ใช่เพื่อบ้ านเกิด 2. ความรู้และทักษะที่จาเป็ นต้ องใช้ ในชนบทถูกมองข้ าม ทาให้ อาชีพและภูมิปัญญาการจัดการชีวิตในชนบทถูก ลดทอนคุณค่า ขาดกาลังคนทีจ่ ะมาพัฒนาสานต่อ และถูกนายทุนเอารัดเอาเปรี ยบเพราะเข้ าไม่ถงึ ความรู้ที่จาเป็ น 3. ไม่สอนให้ ร้ ูจกั การผลิตปั จจัยสีด่ ้ วยตัวเองอย่างเพียงพอ ทาให้ ต้องยังชีพด้ วยการหาเงินมาซื ้อปั จจัยสีแ่ ทน โดยขาด ความรู้ในการตรวจสอบและไม่เห็นคุณค่าในขันตอนการผลิ ้ ต 4. ขาดภูมิต้านทานต่อการส่งเสริ มการตลาดในแบบทุนนิยม ทาให้ เกิดการบริ โภคเกินจาเป็ นจากการแข่งขันกันผลิตที่ สวาปามทรัพยากรธรรมชาติ สร้ างมลภาวะ ทาลายสิง่ แวดล้ อม

จตุรวิทย์ พชิ ญำลัย : ศูนย์เรี ยนรู้การผลิตปั จจัยสี่พงึ่ ตนเองเพื่อการพัฒนาท้ องถิ่นอย่างยัง่ ยืน จตุรวิทย์ หมายถึง ความรู้ทงสี ั ้ ่ คือ ความรู้ในการผลิตปั จจัยดารงชีวติ ทังสี ้ ่ ได้ แก่ อาหาร เครื่ องนุง่ ห่ม ที่อยูอ่ าศัย ยารักษาโรค พิชญาลัย หมายถึง พื ้นที่ของปราชญ์ คือ ผู้มีความรู้แตกฉาน จัดการความรู้เป็ น และนาความรู้ไปใช้ ประโยชน์ได้

หลักสูตรจตุรวิทย์ พชิ ญศึกษำ  แบ่งวิชาออกเป็ น 4 กลุม่ ตามหลัก ภาวนา 4 ของพระพุทธศาสนา ที่ตรงกับหลักการของตะวันตก 4 ด้ าน คือ - กายภาวนา (physical development) ความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กบั สิง่ แวดล้ อม - ศีลภาวนา (social development) ความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กบั สังคม - จิตตภาวนา (emotional development) การเรี ยนรู้ที่จะควบคุมอารมณ์และภาวะทางจิต - ปั ญญาภาวนา (mental development) การพัฒนาขีดความสามารถด้ านสติปัญญา  ในกลุม่ กายภาวนา แบ่งวิชาออกเป็ น 4 หมวดหมู่ ตามหลักปั จจัย 4 คือ อาหาร เครื่ องนุง่ ห่ม ที่อยูอ่ าศัย ยารักษาโรค  บรรจุบางวิชาที่เว้ นเนื ้อหาว่างไว้ แต่ให้ วิธีการไปศึกษาค้ นคว้ าจากท้ องถิ่นของผู้เรี ยนด้ วยตนเอง ก่อนจะนามาสรุป บันทึก นาเสนอ ประยุกต์ใช้ และถ่ายทอดตามโอกาส  ไม่เน้ นการให้ ความรู้ที่แยกวิทยาศาสตร์ ออกจากกันเป็ น ฟิ สกิ ส์ เคมี ชีวะ แต่ให้ ศกึ ษาเกี่ยวกับสิง่ รอบตัวที่มี ผลกระทบต่อชีวิตของผู้เรี ยนและชุมชนเป็ นสาคัญ เช่น ระบบนิเวศ สารเคมี สาธารณูปโภค การจัดการที่ดิน เครื่ องใช้ ไฟฟ้ า กระบวนการผลิตสิง่ ทอ เป็ นต้ น  ให้ ศกึ ษาด้ านการผลิตทังแบบพึ ้ ง่ ตนเองและแบบอุตสาหกรรม เพือ่ ให้ ตระหนักถึงคุณค่า รู้เท่าทันกลไกการผลิต หรื อที่มาของสิง่ ต่างๆที่มีอยูร่ อบตัว เปรี ยบเทียบให้ เห็นทางเลือก เคารพในการตัดสินใจ และเสนอแนวทางในการ ประกอบอาชีพ  วิชาสังคมเน้ นการอภิปรายถึงปั ญหาและให้ เครื่ องมือทางสังคมมาฝึ กฝนเพื่อแก้ ปัญหา มุง่ สร้ างคนขึ ้นมาพัฒนา ท้ องถิ่นที่ตนเองอาศัยอยู่  มีการฝึ กเจริ ญสติภาวนา ใช้ คณิตศาสตร์ พฒ ั นาสมอง ฝึ กระเบียบวินยั และฝึ กพิจารณาด้ วยตนเองในการเลือก บริ โภคให้ ค้ มุ ค่าและไม่ทาลายสิง่ แวดล้ อม

รุ่งอรุณเชียงราย : โรงเรี ยนในจดหมายกับหลักสูตรปั จจัยสี่

6


จตุรวิทย์ พชิ ญศึกษำ : หลักสูตรจากการร่างครัง้ ที่ 4 (28 กุมภาพันธ์ 2559) Social Education สังคมศำสตร์ (กำรอยู่ร่วมกัน) ภาษา - ภาษาไทยเพื่อการวิเคราะห์ - ภาษาไทยเพื่อการนาเสนอ - ภาษาสากลเพื่อการค้ นคว้ าและนาเสนอ - ภาษาท้ องถิ่นเพื่อความร่วมมือในการพัฒนา

Four Factors , Four Dimensions

Physical Education วิทยำศำสตร์ (ปั จจัย4) อาหาร - เกษตรยัง่ ยืนเพื่อการพึง่ ตนเอง - การประกอบอาหารท้ องถิ่น - การประกอบอาหารสากล - อุตสาหกรรมอาหาร เครื่องนุ่งห่ม - กระบวนการผลิตฝ้าย - การผลิตสิ่งทอในโรงงานทอผ้ า - การออกแบบและตัดเย็บเสื ้อผ้ า - (ผ้ าอนามัยและชุดชันในสตรี ้ ) - การผลิตเสื ้อผ้ าในท้ องถิ่น ที่อยูอ่ าศัย - โลก ดาว อวกาศ ธาตุ อะตอม - ภูมิศาสตร์ เพื่อความยัง่ ยืนในการดารงชีวิต - วนศาสตร์ ท้องถิ่น (ระบบนิเวศและการใช้ สอย) - การก่อสร้ างอาคารและประดิษฐ์ เครื่องเรือน - เครื่องยนต์กลไกและเครื่องใช้ ไฟฟ้า - สาธารณูปโภค (รัฐวิสาหกิจ) - การจัดการขยะและบาบัดน ้าเสีย - การจัดการที่ดิน ยารักษาโรค - สารเคมีในชีวิตประจาวัน - ดุลยภาพศาสตร์ และกายวิภาคเบื ้องต้ น - การแพทย์ท้องถิ่นเพื่อการพึง่ ตนเอง - กีฬาเพื่อพัฒนาสมรรถภาพทางกาย

7

การสื่อสาร - นิเทศศาสตร์ เพื่อการรู้เท่าทันสื่อ - นิเทศศาสตร์ เพื่อประสิทธิภาพในการสื่อสาร - เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการพัฒนาท้ องถิ่น - ศิลปะและวัฒนธรรมเพื่อการสร้ างสรรค์ ระบบสังคม - ศาสนาเพื่อการอยูร่ ่วมกัน - การตลาดเพื่อการจัดการทรัพยากร - รัฐศาสตร์ เพื่อการทาหน้ าที่พลเมือง - ปั ญหาสังคมในระดับท้ องถิ่น ประวัติศาสตร์ - กระบวนการทางประวัติศาสตร์ - ประวัติศาสตร์ ท้องถิ่น - ประวัติศาสตร์ ชาติและประเทศเพื่อนบ้ าน - ประวัติศาสตร์สากล

Mental Education ระบบควำมคิดและสติปัญญำ - การวิจยั และกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ - คณิตศาสตร์ เพื่อการคานวณ - ฟิ สิกส์และคณิตศาสตร์ เพื่อพัฒนาจินตนาการ - สมาธิและการเจริญสติภาวนา

Emotional Education กำรจัดกำรอำรมณ์ - การส่งเสริมระเบียบวินยั และภาวะผู้นา - การเปิ ดรับข่าวสารและการบริโภค - กิจกรรมนันทนาการและการแสดงออก - กีฬาเพื่อการเรียนรู้กติกาสังคม (กีฬาสี)

รุ่งอรุณเชียงราย : โรงเรี ยนในจดหมายกับหลักสูตรปั จจัยสี่


รุ่งอรุ ณเชียงรำย 12 ธันวาคม 2556 mr.Saturday คะ หลังจากวนิยาอ่านหนังสือหนังหาได้ ความครบแล้ ว ก็บงั เกิดออกมาเป็ นเนื ้อความของโครงการดังนี ้ค่ะ https://www.facebook.com/notes/TutorialsQuad/tutorials-กวดวิชาการศึกษาไทย/603193169744145 แต่เขียนทิ ้งไว้ 2 เดือนแล้ ว ส่งให้ คนในเฟซบุ๊กอ่านก็ไม่ได้ คอมเม้ นต์กลับมา (ไม่มีใครรู้จกั วนิยาหรอกค่ะ แหะๆ) คือวนิยาไม่ได้ สง่ ให้ mr.Saturday เพราะความยังไม่สมบูรณ์ตรงที่เนื ้อหามันออกแนวๆ สันติอโศก อนุรักษ์ นิยม เกินไป ยังไงพิกล ตังใจว่ ้ าจะแก้ อีกครัง้ ให้ ตรงกับความตังใจดั ้ งเดิ ้ มก่อน แต่การได้ อ่านหนังสือแนวอุดมการณ์ อนุรักษ์ ที่โดนมากๆ ("กลับบ้ าน" โดย โจน จันใด) ก็ทาให้ วนิยาติดกับอนุรักษ์ นิยมจนพูดอะไรออกมาเป็ นพวก ไฮด์ ปาร์ กไปหมด หลักการของโครงการที่เขียนออกมาเหมือนอยู่ในเขาวงกต หาทางออกสู่จุดประสงค์ และ รู ปแบบของวนิยาเองยังไม่ได้ แต่อ่านยังไงก็ดเู หมือนถูกต้ องไม่มีที่ติ วนิยาทิ ้งเรื่ องนี ้แล้ วเพิ่งกลับมาอ่านอีกครัง้ เพื่อที่จะจับออกมาเขียนในรูปแบบใหม่ให้ ได้ อย่างที่ต้องการ แต่ก็ไม่ง่ายนัก พอรู้สกึ ว่าหนักหนาก็เลยยอมแพ้ แล้ ว ส่งมาให้ mr.Saturday อ่านเวอร์ ชนั่ แรกดูก่อน แต่อาจจะทาให้ mr.Saturday ตีความโครงการผิดไปก็ได้ วนิยาก็ เลยหาร่ างเก่าๆในสมุดมาดู ปรากฏว่า ร่ างคอนเซ็ปต์ที่วนิยาคุย กับแม่เมื่อเกือบ 2 ปี ที่แล้ ว (วนิยาแนบภาพมา) ยังคงเป็ นตัวบอกแนวทางของโครงการได้ ดีที่สดุ เพียงแต่วนิยาต้ องเอาแนวคิดมาเชื่อมกับเอกสารอ้ างอิงแล้ ว เรี ยบเรี ยงเป็ นหลักการให้ ชดั เจนให้ ได้ คิดดูแล้ ววนิยาขอพักก่อนค่ะ ที่ต้อง "พัก" เพราะคอนเซ็ปต์ของโครงการ ถูกพัฒนาไปไกลจนเกินกว่า "พล็อต" ของเนื ้อหาสาร ที่จะเป็ นนิยาย และบทภาพยนตร์ นาเสนอสูก่ ารรับรู้ของกลุม่ เป้าหมายคือเด็กมัธยม จะทาได้ ขณะที่จดุ ประสงค์ของโครงการมุ่ง ไปถึงการ "ลดบทบาทของระบบทุนนิยม" นางเอกนางรองก็ยงั หาทางนาเสนอวิธีการ "เรี ยนอย่างไรให้ ถกู วิธี" ได้ อย่างกระท่อนกระแท่น ปั ญหาคือวนิยาไม่แน่ใจว่าภาพยนตร์ 1 เรื่ องที่ตงใจว่ ั ้ าจะใช้ เป็ นอาวุธโฆษณาขนาดยาว จะสามารถนาเสนอประเด็นหนักเบาสลับกันออกมาได้ มากน้ อยขนาดไหน แต่ความตังใจดั ้ งเดิ ้ มก็ไม่ได้ พ้นวิถีทาง ของการ "โฆษณา" แต่อย่างใดเลย เมื่อโครงการนี ้ยังคงเป็ น "แคมเปญโฆษณา" วนิยาก็มีบทเรี ยนจาก "ปฏิบตั ิการเชียงใหม่เอี่ยม" มาย ้าเตือนว่า เรื่ องที่ตงใจจะผลั ั้ กดันให้ ไปถึงระดับประเด็นสาธารณะแบบยัง่ ยืน(ไม่ใช่บมู แล้ วจบ) จะมาทาเป็ นแคมเปญสือ่ สาร โดยไม่มีการ "วิจัย" และ "นโยบาย" รองรับไม่ได้ วนิยานึกถึง "กิจกรรมต่อเนื่อง" ที่จะเกิ ดขึ ้นหลังจากเผยแพร่ ภาพยนตร์ ซึง่ เมื่อมันเป็ นเรื่ องของการศึกษา ก็หนีไม่พ้นการปรับ "หลักสูตร" และ "โรงเรี ยน" วนิยามุง่ ความสนใจไปที่ "โรงเรี ยนทางเลือก" โดยมี 2 ทางที่วนิยาจะศึกษา คือ "โรงเรี ยนรุ่ งอรุ ณ" (แม่ของเพื่อน เคยชวนไปเป็ นครู ) และ "โรงเรี ยนสันติอโศก" (เครื อข่ ายเกษตรอินทรี ย์ที่คณ ุ โจนจันใดเคยแนะนา) เวลาที่จะใช้ ต่อไปนี ้วนิยาจะใช้ ทาใจเข้ าหาสันติอโศกเพราะแม่เตือนว่าการเมืองเขาแรง (วนิยารับได้ ทกุ ฝ่ ายตราบใดที่ไม่ใช้

รุ่งอรุณเชียงราย : โรงเรี ยนในจดหมายกับหลักสูตรปั จจัยสี่

8


คาหยาบ) ทาเกษตรอินทรี ย์ให้ ได้ (วนิยาสนใจเครื อข่ายคุณโจนจันใดที่ อาจารย์ยกั ษ์ บอกว่าถ้ าทาถูกวิธีจะได้ ผล ผลิตเยอะกว่า) รอรถไฟฟ้ ามาถึงแยกแคราย แล้ วไปเป็ น "ครู " โรงเรี ยนรุ่ งอรุ ณ (สนใจที่นกั เรี ยนโรงเรี ยนรุ่ งอรุ ณ บอกว่าชุดนักเรี ยนใส่กางเกงเพราะกิจกรรมเยอะ มีวิชาทานา เน้ นการปฏิบตั ิ เรี ยนรู้ จากของจริ งเช่นการทดลอง และวิจยั ชุมชนต่างจังหวัด) สัง่ สมประสบการณ์แล้ วหาที่ทางเปิ ด "โรงเรี ยนรุ่ งอรุ ณเชียงราย" เพื่อรองรับแนวคิด ทังหมด ้ "โรงเรี ยนรุ่ งอรุ ณเชียงราย" เป็ นไอเดียของวนิยาที่เพิ่งคิดขึ ้นมาได้ วนั นี ้ เนื่องจากจังหวัดเชียงรายเป็ นจังหวัดที่ กาลังพัฒนา อยู่ในวัยหัวเลี ้ยวหัวต่อ สามารถใส่อะไรเข้ าไปก็ได้ และจะขับเคลื่อนไปทางไหนก็ได้ มีภมู ิทศั น์เป็ น ภูเขาสลับที่ราบอุดมสมบูรณ์ เหมาะแก่การศึกษาและสาธิ ตด้ านการเกษตร มีประชากรหลากหลายทังสั ้ งคม ชนบทที่มีภมู ิปัญญาท้ องถิ่นซึง่ กาลังเจริ ญเข้ าสูร่ ะบบทุนนิยม และสังคมเมืองผู้อพยพที่ฝักใฝ่ วิถีชีวิตพอเพียงซึ่ง ต้ องการการศึกษาในแนวทางที่เหมาะสม "โรงเรี ย นรุ่ งอรุ ณเชียงราย" จะเป็ นโรงเรี ยนที่พฒ ั นาหลักสูตรจากภูมิ ปั ญญาผสมกับความรู้ สากลและพัฒนาเป็ นองค์ความรู้ ที่ลงตัวกับสังคมและสิ่งแวดล้ อม พร้ อมเป็ นแหล่งสาธิต การดาเนินชีวิตสัมมาอาชีวะ เน้ นการเรี ยนรู้จากการวิจยั และปฏิบตั ิ (เพราะวนิยาไม่ถนัดสอนตารา55) เขียนมาเท่านี ้ก่อน(ตี2เข้ าไปแล้ ว) ส่งสาเนาไปพอสมควร คิดเห็นอย่างไรเชิญแลกเปลีย่ นกันค่ะ

9

รุ่งอรุณเชียงราย : โรงเรี ยนในจดหมายกับหลักสูตรปั จจัยสี่


[ไฟล์แนบ] 120112เล่นกับแม่.jpg :

รุ่งอรุณเชียงราย : โรงเรี ยนในจดหมายกับหลักสูตรปั จจัยสี่

10


https://www.facebook.com/notes/TutorialsQuad/tutorials-กวดวิชาการศึกษาไทย/603193169744145

Tutorials กวดวิชำกำรศึกษำไทย October 6, 2013 at 12:45am ความหมาย : Tutorial = โปรแกรมการสอนในคอมพิวเตอร์ (คูม่ ือการใช้ โปรแกรม) การเรี ยนพิเศษ (การเรี ยนกวดวิชา) Tutorial of การศึกษาไทย = คูม่ ือการใช้ ระบบการศึกษาไทย เข้ าใจง่าย ทาให้ เห็นภาพรวมและทางเลือกที่มีอยู่ Tutorial for การศึกษาไทย = คูม่ ือสาหรับผู้ที่เกี่ยวข้ องเพื่อพัฒนาการศึกษาไทยไปในทิศทางที่กาหนด Tutorials กวดวิชาการศึกษาไทย = บทเรี ยนกวดวิชาให้ ความรู้ เกี่ยวกับระบบการศึกษาและคาแนะนาในการ พัฒนาการศึกษาไทยให้ ดีขึ ้นกว่าที่เป็ นอยู่ จุดมุง่ หมาย : พัฒนาการศึกษาให้ พ้นจากความเป็ นเครื่ องมือของระบบทุนนิยมบริ โภคนิยม กลับมาเป็ นเครื่ องมือของการ พัฒนาชุมชนและประเทศให้ ยงั่ ยืนอย่างแท้ จริ ง โดยการ "ให้ ความรู้" เพื่อรู้เท่าทันระบบการศึกษาเดิม แล้ ว "เสนอ ทางเลือกใหม่" พร้ อม "สร้ างค่านิยมใหม่" ที่จะผลักดันให้ การศึกษาเปลีย่ นแปลงไปในทางที่ดีขึ ้น หลักการและเหตุผล : "การศึกษา" ในอุดมคตินอกจากจะเป็ นเครื่ องมือถ่ายทอดวิชาความรู้เพื่อให้ มนุษย์เข้ าใจโลก [1] และมี ทัก ษะสามารถดูแ ลชี วิ ต ดูแลชุมชน ดูแลสิ่ง แวดล้ อมได้ อย่า งมีคุณธรรมจริ ย ธรรมสืบต่อ ไปในอนาคตแล้ ว "การศึกษา" ที่ดี ควรทาให้ คน "ตระหนักถึงปั ญหา" ที่เกิดขึ ้นและมีผลกระทบต่อท้ องถิ่นที่ตนอาศัยอยู่ ไม่วา่ จะเป็ น ในชุมชน ในภูมิภาค หรื อในโลก และ "ตระหนักถึงศักยภาพ" ของตนในฐานะมนุษย์คนหนึ่งที่เป็ นประชากรของ โลก ว่าจะสามารถทาสิง่ ใดเพื่อเป็ นการ "แก้ ปัญหา" ที่สงั คมของตนเผชิญอยู่ได้ บ้าง [2] แล้ วจึง "ศึกษาเพื่อเสริ ม ศักยภาพ" ให้ สามารถแก้ "ปั ญหา" ซึง่ เป็ น "เป้าหมายของการศึกษา" นันได้ ้ อย่างมีประสิทธิผล ปั จจุบนั เรา "ตระหนักถึงปั ญหา" ของ "การศึกษาในระบบ" ที่ถกู ดัดแปลงขึ ้นมาให้ สนองต่อ "ระบบทุน นิยม" โดยมีคนกล่าวว่า "โรงเรี ยน" เกิดขึ ้นในยุคปฏิวตั ิอตุ สาหกรรม จึงมีหลักคิดเป็ นระบบโรงงาน [3] โรงเรี ยน วิทยาลัย มหาวิทยาลัย เป็ นโรงงานฝึ กทาส เพื่อสร้ างทาสที่มีคณ ุ ภาพออกไปรับใช้ ระบบธุรกิจแบบทุนนิยม [ 4] โดยมีนกั เรี ยนเป็ นวัตถุดิบ ปั๊ มผลผลิตให้ ออกมาเหมือนๆกัน ใครด้ อยกว่ามาตรฐานก็ถกู คัดออก ใครแตกต่างเกิน มาตรฐานก็ถกู ปรับให้ กลับเข้ ามาอยู่ในกรอบด้ วยหลักสูตรและข้ อสอบมาตรฐาน [5] เมื่อเรี ยนจบออกไปด้ วย คุณสมบัติที่เหมือนๆกัน มีเป้าหมายคือสมัครงานในระบบทุนนิยมเหมือนๆกัน ทาให้ ต้องแก่งแย่ง ต้ องแข่งขันกัน อยูภ่ ายในลูว่ ิ่งกรอบเดียวกัน ปลูกฝั งให้ มนุษย์ไม่สามารถร่วมมือกัน มีแต่การแข่งขันกันไม่ว่าในระดับบุคคลหรื อ ในระดับประเทศ [6]

11

รุ่งอรุณเชียงราย : โรงเรี ยนในจดหมายกับหลักสูตรปั จจัยสี่


ความรู้ ที่เรี ยนมาจากการศึกษาในระบบมีแต่ทาให้ มนุษย์ต้องพึ่งพิงระบบทุนนิยมเหมือนๆกัน เป็ น ความรู้ ที่ไม่สามารถทาให้ คนสร้ าง ปั จจัย 4 ขึ ้นมาใช้ เองได้ [7] มีเพียงปั จจัยที่5 คือ เงิน ซึ่งเป็ นสิ่งสมมติเอาไว้ แลกเปลีย่ น ปั จจัย4 ในสังคมเท่านันที ้ ่เป็ นหลักประกันความมัน่ คงในชีวิต การศึกษาที่สงู ขึ ้นเป็ นตัวแปรของการ ได้ มาซึง่ เงินที่มากกว่า จนเกิดค่านิยมที่ว่า "ถ้ าอยากประสบความสาเร็ จต้ องส่งลูกหลานไปเรี ยนในสถาบันที่ดีๆ เรี ยนจบมัธยมแล้ วจะได้ สอบติดมหาวิทยาลัยดีๆ เรี ยนมหาวิทยาลัยสูงๆ จบแล้ วจะได้ หางานดีๆทา เมื่อได้ งานทา แล้ วก็ต้องทาให้ ได้ เงินเยอะๆ จะได้ ซื ้อรถ ซื ้อบ้ าน ซื ้อสินค้ าราคาแพงๆ ไว้ อวดในสังคม ถ้ าไม่มีเงิน ชีวิตจะไม่ มัน่ คง ไม่มีความสุข และอดตาย" ครอบครัวยากจนที่ต้องพึ่งพิงระบบทุนนิยมและมีค่านิยมเช่นนี ้ต่างลงทุนส่ง ลูก หลานไปเรี ย นสูง ๆ ตลอดจนเรี ย น "กวดวิช า" เพื่อ ให้ สามารถ "สอบแข่งขัน " เข้ า เรี ย นในสถาบัน ที่ ดีๆ ได้ พยายามอย่างยากลาบากที่จะเบียดเสียดตัวเองเข้ าไปอยู่ในแถวของระบบ เพื่อที่จะได้ มีงาน มีเงิน และมีชีวิตที่ สุขสบายมัน่ คงหลุดพ้ นจากความยากจนไปอีกหนึง่ ชัว่ อายุคน [8] การศึกษาในระบบที่ไม่สอนให้ มนุษย์สามารถพึ่งพิงตนเองด้ วยการผลิต ปั จจัย 4 ขึ ้นมาใช้ เองอย่าง จริ งจังได้ กาลังกลายเป็ นส่วนหนึง่ ของการทาลายทรัพยากรโลก เพราะเป็ นการปล่อยให้ ปั จจัย4 ที่มีอยูใ่ นโลกถูก นาเข้ าไปในระบบอุตสาหกรรมในฐานะ "สินค้ า" โดยดัดแปลงปรุ งแต่งให้ "กระตุ้น" กิเลสตัณหาจนเกินจาเป็ น เพื่อที่จะ "ขาย" ให้ ได้ มาซึง่ เงินมากๆ การดัดแปลงปรุ งแต่งหรื อ "ผลิต" สินค้ าที่เกินจาเป็ นเหล่านี ้แทบทุกขัน้ ตอน เป็ นการ "ทาลาย" ทรัพยากรธรรมชาติให้ หมดไปหรื อกลายเป็ นขยะ สร้ างมลภาวะ เป็ นพิษต่อทรัพยากรธรรมชาติ ต้ นกาเนิด ปั จจัย4 เอง [9] มนุษย์ที่ผลิต ปั จจัย4 ขึ ้นมาเองไม่ได้ ต้ องใช้ ความรู้ที่เรี ยนมาจากระบบไปทางานผลิต อย่างอื่นซึ่งไม่จาเป็ นต่อชีวิตตัวเอง รับใช้ ระบบ ปรุ งแต่ งสินค้ าให้ มีราคามากเกินความจาเป็ นขึ ้นไปอีก เพื่อให้ ได้ ม าซึ่ง เงิ น แล้ ว จึง ใช้ เ งิ นแลกเปลี่ยนเป็ น ปั จจัย 4 ในตลาดที่ สนองความต้ องการหรื อ สิน ค้ า เกิ น จ าเป็ นที่ ตอบสนองต่อกิ เลสตัณหาเป็ นการ "บริ โภค" ยิ่งมนุษย์บริ โภคมากขึ ้นเท่าไรก็ ยิ่งทาลายทรั พยากรโลกมากขึน้ เท่านัน้ การบริ โภคที่สะดวกสบายเกินจาเป็ นทาให้ มนุษย์มกั ง่ายมากขึ ้น พึ่งตั วเองไม่ได้ มากขึ ้น ดารงชีวิตอยู่ได้ ด้ วยการหาเงินไม่วา่ จะด้ วยวิธีใดก็ตาม เมื่อสินค้ ามีราคาแพงจนหาเงินจากในประเทศใช้ ไม่พอ ต้ องถีบตัวเองไป พึง่ พิงการส่งออก ขอเงินจากต่างประเทศแม้ แต่ประเทศที่ยากจนกว่า จนเกิดวิกฤติเศรษฐกิจไปทัว่ โลก [10] แม้ ว่าการศึกษาในระบบปั จจุบนั จะกลายเป็ นส่วนหนึ่งของปั ญหาสังคม ปั ญหาเศรษฐกิจ หรื อปั ญหา ทรัพยากรโลก แต่ปัญหาเหล่านี ้ก็ยงั มีทางแก้ ไขฟื น้ ฟูได้ เมื่อเรา "ตระหนักถึงศักยภาพ" ของ "การศึกษา" ที่มนุษย์ ยังนาออกมาใช้ ได้ ไม่เต็มที่ การศึกษาสามารถ "ให้ ความรู้" แก่ทกุ ๆคนไม่วา่ จะเป็ นการรู้เท่าทัน ระบบทุนนิยม เท่า ทันกิเลสตัณหาของตนไม่ให้ ตกไปอยู่ในอานาจของเงิน รู้ จักผลเสียของการบริ โภคและการป้องกัน รู้ จักวิธีการ สร้ าง ปั จจัย4 ขึ ้นมาใช้ เอง รู้จกั วิธีการรักษาและฟื น้ ฟูทรัพยากรธรรมชาติ และรู้จกั วิธีการจัดการชุมชนให้ สามารถ พึ่งพากันเอง การศึกษาสามารถ "ปลูกฝั งค่านิยม" จิตสานึกพอเพียง รักถิ่นฐานบ้ านเกิด อยู่ร่วมกับธรรมชาติ พึ่งพาอาศัยกัน ไม่แข่งขันเอาชนะ ไม่บชู าทรัพย์สินเงินทอง และการศึกษาสามารถ "วิจัยและพัฒนา" ต่อยอด ความรู้จากการเอาชนะธรรมชาติ ทาลายทรัพยากรธรรมชาติที่มีอยู่ ไปสูก่ ารรักษาฟื น้ ฟู และอยู่ร่วมกับธรรมชาติ อย่างสมดุลและยัง่ ยืน [6]

รุ่งอรุณเชียงราย : โรงเรี ยนในจดหมายกับหลักสูตรปั จจัยสี่

12


ทังหมดนี ้ ้สามารถทาได้ อย่างรวดเร็ วและกว้ างขวางด้ วย "สื่อการศึกษา" ที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งนอกจาก สือ่ "คุณครู " และ "หนังสือ" แล้ วยังมี "สื่อประชาสัมพันธ์ เชิงรุ ก" เช่นสื่อ "ภาพยนตร์ " สื่อ "ดนตรี " สื่อ "โฆษณา" ที่ จะสามารถเข้ าถึงกลุม่ ผู้รับการศึกษาเป้าหมายได้ ดีกว่าการให้ การศึกษาในโรงเรี ยนตามปกติ เรี ยกได้ ว่าเป็ นการ "กวดวิชา" ซึง่ หากมีการวางแผนการนาเสนอเนื ้อหาอย่างมีประสิทธิภาพแล้ ว ก็จะสามารถให้ การศึกษาแซงหน้ า การศึกษาในระบบปั จจุบันไปอย่างสิ ้นเชิง ทาให้ ไม่จาเป็ นต้ องมีวาระเร่ งด่วนปฏิรู ปการศึกษา สามารถปรั บ การศึกษาในระบบให้ สอดคล้ องกันอย่างค่อยเป็ นค่อยไปตามไปทีหลังก็ได้ เพราะในประเทศไทยปั จจุบนั เรามี "ทางเลือก" ที่จะสามารถออกไป "ศึกษานอกระบบ" แล้ วสามารถดารงชีวิตอยูโ่ ดยไม่ต้องพึง่ พาระบบหรื ออยู่อย่าง พึ่งตนเองตลอดจนใช้ ชีวิตอย่างเป็ นมิตรต่อทรัพ ยากรธรรมชาติได้ ไม่ว่าจะเป็ นการสร้ างบ้ านดินหรื อทาเกษตร อินทรี ย์ ตลอดจนการเกษตรทฤษฎีใหม่และแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงในพระราชดาริ ของพระบาทสมเด็จพระ เจ้ าอยูห่ วั ภูมิพลอดุลยเดชมหาราช ประมุขของชาติที่ทรงให้ ความสาคัญกับดินและการพัฒนาการเกษตรอย่าง ยัง่ ยืนตลอดมา ดังนันถึ ้ งเวลาแล้ วที่ "การศึกษา" จะเป็ นอิสระ และสนับสนุนให้ มนุษย์ปรับตัวออกจากระบบทุนนิยม บริ โภคนิยม เพื่อรั กษาฟื น้ ฟูสงั คมและทรัพยากรโลก ให้ คงอยู่อย่างสมดุลและยัง่ ยืนเป็ นการสร้ างภูมิปัญญา ถ่ายทอดจากความยัง่ ยืนในรุ่นนี ้สูค่ วามยัง่ ยืนของมนุษย์รุ่นต่อไป [1] ส.ศิวรักษ์ , 2522 "อนาคตและอุดมคติสาหรับไทย" หน้ า148 [2] ดัดแปลงจาก พรจรรย์ ไกรวัตนุสสรณ์ , 2552 โครงการ Youth Venture ประเทศไทย โดยมูลนิธิ Ashoka [3] ไพฑูรย์ สินลารัตน์, 2555 "ปรัชญาการศึกษาเบื ้องต้ น" หน้ า134 [4] โจน จันใด, 2556 "กลับบ้ าน" หน้ า19 [5] โกมาตร จึงเสถียรทรัพย์, 2552 "สังคมปรนัย" หน้ า16 บทความ "โรงเรี ยน ปลากระป๋ อง กับอนุสาวรี ย์" [6] สุวิทย์ เมษิ นทรี ย์, 2556 "โลกเปลีย่ น ไทยปรับ" หน้ า140 [7] ชนประคัลภ์ จันทร์ เรื อง, 22 สิงหาคม 2551 งานเสวนา "พระเอก นางร้ าย ผู้ร้าย ตัวอิจฉา" มหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย [8] ประเสริ ฐ ผลิตผลการพิมพ์, 2554 "สยามชิมิ" หน้ า23 บทความ "การศึกษาเพื่อความร่ารวย" [9] โจน จันใด, 2556 "กลับบ้ าน" หน้ า130 [10] Raghuram G. Rajan, 2555 "Fault Lines รอยเลือ่ นเขย่าเศรษฐกิจโลก" บทที่2 "ส่งออกเพื่อเติบโต"

13

รุ่งอรุณเชียงราย : โรงเรี ยนในจดหมายกับหลักสูตรปั จจัยสี่


แม่ and กบ like this. กบ ขอถามก่อนว่านี่คือโครงการที่จะทาจริ งๆหรื อจะเขียนหนังสือหรื อจะยังไง เพราะอ่าน MAIL แระนะ ที่เขียนให้ อ.น่ะ รู้ สึกหัวข้ อมันมีเยอะน่ะรึ แค่พดู ให้ ฟังเฉยๆ? (ออนมือถือมันต้ องเพ่งอ่านน่ะยังไม่หายหวัดด้ วย อืน่ ๆอยู)่ December 12, 2013 at 9:04am วนิยำ ขอบอกก่อนว่าเวอร์ ชนั่ นี ้ยังไม่ตรงพอ จะเขียนอีกรอบนะ เป็ นโครงการที่เขียนเอาไว้ รองรับกิจกรรมที่จะเกิดขึ ้น ทังหนั ้ งสือ บทภาพยนตร์ แบบสอบถามวิจยั คือ เวลาจะติดต่อร่วมมือกับใครก็จะได้ มีคาอธิบายให้ เข้ าใจได้ ตรงกันน่ะ แล้ วมีคอนเซ็ปต์ก่อนทาให้ ถนนทุกสายมุ่ง เป้าหมายไปที่เดียวกัน เท่ดี แต่ตอนนี ้ (ตังแต่ ้ เมื่อวานนี ้) เราจะมุง่ เป้าไปที่ "โรงเรี ยนรุ่งอรุณเชียงราย" แล้ ว ยังไงอ่านตรงนันก่ ้ อน ส่ง สาเนาอีเมลไปเพราะจะหาแนวร่ วม เอา กบ ไปช่วยทาสื่อและเป็ นครู ศิลปะโรงเรี ยนทางเลือกไง แนวดี (ชวนอุ้ย มาช่วยทาสวนแล้ ว) December 12, 2013 at 12:01pm · แม่ like this กบ 555 มันแนวดีแต่เรามีงานอยูอ่ ะดิยงั ต้ องส่งน้ องเรี ยนอยูด่ ้ วยจะเอาเงินจากไหนถ้ าไม่ทางาน TT December 12, 2013 at 12:35pm วนิยำ 555 นัน่ สินะ โครงการก็ต้องออกแบบให้ มีรายได้ เป็ นทุนทากิจกรรมด้ วย December 12, 2013 at 12:45pm · กบ Like this แม่ คิดว่าเริ่ มตกผลึกทางความคิดได้ แล้ ว ขันต่ ้ อไปคือการวางแผน การจัดการอย่างไร ทังในเชิ ้ งการ ปฏิบตั ิให้ เกิดตามแนวคิด และการสือ่ สารแนวคิดในรูปแบบต่างๆ หากทาให้ เกิดรู ปธรรม แบบค่อยเป็ นค่อยไป ก็ อาจทาให้ ได้ เห็นแนวทางในการพัฒนาตามความคิด ทาไปเรี ยนรู้ ไปอย่า งมีหลักการ อาจทาในลักษณะการวิจยั และพัฒนา (reaesrch & development) และพัฒนาต่อยอดสูก่ ารสือ่ สารที่ต้องการ เหล่านี ้สามารถหาแหล่งทุน เพื่อการวิจยั และพัฒนาได้ December 14, 2013 at 11:47am แม่ โรงเรี ยนรุ่งอรุณเชียงราย สถานที่ตงั ้ ที่ สวนมะลิวลั ย์ และ มูลนิธิหมอธารา เหมาะสมมากๆจ้ า December 14, 2013 at 11:50am

รุ่งอรุณเชียงราย : โรงเรี ยนในจดหมายกับหลักสูตรปั จจัยสี่

14


รุ่ งอรุ ณเชียงรำย : หลักสูตร 16 ธ.ค.2556 17 ธันวาคม 2556 ไฟล์ที่แนบมาด้ วย : 131216ร่างหลักสูตรโรงเรี ยน.pdf , 121108โครงการtutorialsกวด.pdf , 130400โจทย์สอื่ tutorialsกวด.pdf สวัสดีคะ่ จากอีเมลฉบับที่แล้ ว "รุ่งอรุณเชียงราย" เพื่อนๆให้ ความเห็นมาเยอะพอสมควร ส่วนใหญ่ถามวนิยาว่าจะทาอะไร ต่อ วนิยาตอบว่าจะเขียน concept โครงการ ให้ ชดั เจน ให้ ได้ ก่อนที่จะตัดสินใจทาอะไรต่อไป เพราะทิศทางยังไม่ แน่นอนค่ะ อีเมลฉบับนี ้ว่าด้ วยความเพ้ อฝั นของวนิยา หลังจากบังเกิ ดไอเดีย "รุ่ งอรุ ณเชี ยงราย" เมื่อวันพุธที่ 11ธันวา ที่ผ่านมา วนิยาก็ ตื่นเต้ นมาก นั่งคิด นอนคิด concept และหลักสูตรต่างๆที่จะจัดในโรงเรี ยนแบบตามใจฉันเต็มที่ ผลที่ได้ ก็ออกมาตามใจฉันเสร็ จสาเร็ จจนไม่ รู้ ว่าตังใจจะไปเรี ้ ยนรู้ ที่โรงเรี ยนรุ่ งอรุ ณจริ งๆเพื่ออะไร ยังไม่ทนั ได้ ร้ ู ว่าที่โรงเรี ยนรุ่ งอรุ ณของแท้ เขาจัดการศึกษา ทางเลื อ กแบบไหน แต่ ร่ า งหลั ก สู ต รก็ ออกมาแล้ ว ส่ ง ให้ อ่ า นกั น เป็ น note ตาม URL นี ค้ ่ ะ https://www.facebook.com/notes/ TutorialsQuad/ร่ า งหลัก สูต รโรงเรี ย นรุ่ ง อรุ ณ เชี ย งราย-16-ธค2556/ 643355869061208 เป็ นหลักสูตรเพ้ อฝั นที่ไม่ร้ ูวา่ จะเป็ นไปได้ หรื อไม่ เพราะตามใจตัวเองมาก ต้ องหาครูที่สอนได้ และเงินเดือนให้ ครู จากจุดเริ่ มต้ นนี ้ไปอีกประมาณ 5 ปี โรงเรี ยนรุ่งอรุณเชียงรายจะเปิ ดรับสมัครครูที่มีแนวทางพิเศษเข้ ามาสอน ครู คนแรกที่วนิยาต้ องการตัวมากที่สดุ คือ mr.Saturday อาจารย์ที่สอนวิชาสาขาโฆษณากว่าครึ่ งของหลักสูตร ทังหมดให้ ้ วนิยา เป็ นต้ นแบบวิธีคิดและแรงบันดาลใจให้ วนิยามีความคิดเป็ นวนิยา เป็ นอาจารย์ที่สอนการสือ่ สาร ได้ ทกุ อย่าง มีแนวทางการสอนที่ทนั สมัย มีตาแหน่งหน้ าที่การงานเป็ นนักวิจยั โฆษณาสุดเท่ไฮโซ มีรูปแบบการ ทางานนอกกรอบไม่ยดึ ติดตารา และเอานักศึกษาอยูห่ มัด ..แต่ mr.Saturday คงไม่อยากทิ ้งหน้ าที่การงานไฮโซย้ ายสามะโนมาเป็ นครูพฒ ั นาชนบทถึงเชียงรายแน่ๆ (แห้ ว) ครูคนที่สองที่วนิยาอยากให้ มาสอนด้ วยกันที่โรงเรี ยนอันเน้ นการเรี ยนรู้จากการวิจยั และปฏิบตั ิ คือ อ.จ๋า อาจารย์ ที่สอนวนิยาเขียนรายงานการฝึ กงานให้ ออกมาใกล้ เคียงกับวิทยานิพนธ์ปริ ญญาโท อ.จ๋าสอนการประชาสัมพันธ์ และการเขียนในสไตล์อดุ มศึกษาได้ เป็ นอย่างดีอยู่แล้ ว วนิยาชอบคุยและได้ รับคาแนะนาที่ดีมากๆจากอาจารย์ คนนี ้จนไม่ร้ ูวา่ จะหาอาจารย์แบบนี ้ได้ จากมหาลัยไหนอีก ..แต่อ.จ๋าก็คงไม่มีทางย้ ายครอบครัวสุดที่รักจากเมืองกรุงที่มีพร้ อมมาหาบ้ านใหม่อยูท่ ี่เชียงรายเป็ นแน่ (แห้ ว)

15

รุ่งอรุณเชียงราย : โรงเรี ยนในจดหมายกับหลักสูตรปั จจัยสี่


ครู คนที่สาม ที่วนิยายังไม่ได้ ร้ ู จักเป็ นการอะไรเลย แต่ก็ส่งอีเมลมาให้ เผื่อว่าจะได้ ความคิดเห็นตอบกลับ คือ "ครู นิด โจ๊ ะมาโลลือหล่า" (โรงเรี ยนวิถีชีวิตปกาเกอะญอ ที่ อ.สะเมิง จ.เชียงใหม่) วนิยาเจอครู นิดที่งานเปิ ดตัว หนังสือ "กลับบ้ าน" ของคุณโจนจันใด ครู นิดเคยสอนอยู่ที่โรงเรี ยนรุ่ งอรุ ณทังประถมและมั ้ ธยม แต่ ตอนนี ้สอน วิถีชีวิตให้ เด็กชนเผ่าปกาเกอะญออยู่บนกระท่อมมุงหลังคาใบไม้ กลางภูเขาสูง วนิยาอยากได้ คาแนะนาจากครู นิดมากๆ ในเรื่ องของป่ าและวัฒนธรรม อยากให้ ครูนิดมาเป็ นครูพิเศษรับเชิญมาแชร์ ประสบการณ์ พาเดินป่ า ..แต่ตอนนี ้วนิยายังติดต่อครูนิดไม่ได้ เลย (แห้ ว) ครูคนต่อไป คือหนึ่งในผู้รับจดหมายที่วนิยาสาเนาถึง ได้ แก่ แนน พี่ว่าน และแจ๋นิด แนนจบป.โทกายวิภาคเป็ น อาจารย์สอนอยูม่ .แม่ฟ้าหลวง พี่วา่ นเป็ นนักศึกษาแพทย์ชนบท แจ๋นิดเป็ นหมอที่เคยสนใจการฝั งเข็ม วนิยาอยาก ให้ คนใดคนหนึง่ หรื อหมอแนวๆที่ไหนก็ได้ ไปเรี ยนฝั งเข็ม แล้ วไปศึกษาเป็ นหมอดุลยภาพบาบัดช่วย อ.ลดาวัลย์ ที่ บ้ านสวนสหคลินิกประมาณสองสามปี แล้ วมาเป็ นหมอประจาโรงเรี ยนสอนวิชาดุลยภาพบาบัดให้ เด็กๆ ..แต่หมอที่ไหนจะยอมทุม่ เวลาไปเรี ยนแล้ วยังต้ องผันตัวมาเป็ นครูมาสอนเด็กมัธยมให้ ได้ อีก (แห้ ว) ครูอีกคนหนึง่ ที่มีความเป็ นบุคคลเอนกประสงค์มาก เรี ยนรู้เร็ ว ทาได้ ทกุ อย่าง คือ กบ อดีตนักศึกษาทุนเพื่อนร่วม คณะของวนิยาเอง กบเป็ นนักวาดการ์ ตนู มือฉกาจที่จบั ได้ ตงแต่ ั ้ กระดาษสียนั ทรี ดีอนิเมชัน่ เป็ นเพื่อนที่แชทกัน บ่อยๆและคอยเตือนวนิยาในเรื่ องต่างๆได้ อย่างเมฆเหนือเมฆ ปั จจุบนั กบกาลังบากบัน่ ทางานส่งน้ องเรี ยนญี่ปนุ่ และสนใจในการวาดภาพเหมือนด้ วยเม้ าส์หนู (ตอนนี ้เก็บเงินซื ้อเมาส์ปากกาได้ แล้ ว) ..แต่วนิยาจะจัดเงินเดือนครูศิลปะและเจ้ าหน้ าที่สอื่ ยังไงให้ กบสามารถเลี ้ยงครอบครัวได้ ละ่ (แห้ ว) จากย่อหน้ าล่าสุดจะเห็นว่า การที่โรงเรี ยนแนวๆจะสามารถมีครูพนั ธุ์พิเศษมาสอนและดึงดูดผู้ปกครองให้ จ่ายค่า เทอมส่งลูกมาเรี ยนได้ นนั ้ ทุกอย่างขึ ้นอยูก่ บั เงิน..เอิน..เอิน..เอิน..เอิน!!!! หนทางที่จะทาให้ เรื่ องเพ้ อฝั นของวนิยาเป็ นจริ งได้ นนั ้ วนิยาต้ องทาในเรื่ องที่ไม่ถนัดเลย นันคื ้ อ การหาเงิน! ..แล้ ววนิยาก็หนั กลับมาสนใจโครงการ "Tutorials กวดวิชาการศึกษาไทย" อีกครัง้ หนึง่ เนื่องจากกิจกรรมในโครงการ "Tutorials กวดวิชาการศึกษาไทย" นันประกอบไปด้ ้ วยการ - เขียนนิยายขาย ..ได้ เงิน! - เขียนบทภาพยนตร์ ฉาย ..ได้ เงิน! - ขยายโครงการภาพยนตร์ ออกเป็ น 4 เรื่ อง ..ก็ได้ เงิน เงิน เงิน เงิน!

รุ่งอรุณเชียงราย : โรงเรี ยนในจดหมายกับหลักสูตรปั จจัยสี่

16


ดังนัน้ "Tutorials กวดวิชาการศึกษาไทย" ก็ยงั คงจะมีต่อไป ทังที ้ ่วนิยา(ตื่นเต้ นมา3วัน)ดูเหมือนจะพร้ อมแล้ ว สาหรับการเบิกทางอันยาวไกลสูก่ ารสร้ างโรงเรี ยนทางเลือกแนวใหม่จนแทบไม่คิดจะหันไปทาอะไรอย่างอื่นอีก แต่ตอนนี ้วนิยาตังสติ ้ ได้ แล้ ว วนิยาก็เลยหันกลับไปทบทวนโครงการเดิ มที่เขียนไว้ ปรากฏว่ายังใช้ ได้ อยู่ และดู เหมือนจะสื่อถึงแนวคิดของโครงการได้ ตรงกว่าเวอร์ ชนั่ 6 ตุลา 56 ที่วนิยา note ไว้ ใน page ของโครงการ และ เอามาให้ อา่ นกันในอีเมลฉบับที่แล้ วเสียอีก โครงการเดิ ม ที่ ว นิ ย าเขี ย นไว้ แ ล้ ว เมื่ อ 8 พ.ย.2555 เป็ นเวอร์ ชั่น ที่ ว นิ ย าเคยอี เ มลถึ ง mr.Saturday แล้ ว ขอ คาปรึกษา โดยไม่ได้ สง่ โครงการให้ เพราะคิดว่ายังไม่ดีพอ ในเมลฉบับนี ้วนิยาแนบเป็ นเอกสารมาให้ แล้ วค่ะ ส่วนใครอ่านแล้ วอยากแสดงความคิดเห็น สามารถไป comment ที่ note ของ page โครงการ Tutorials ใน facebook ก็ได้ ที่ https://www.facebook.com/notes/TutorialsQuad/โครงการ-tutorials-กวดวิชาการศึกษา ไทย-ฉบับ-8-พย2555/643713145692147 ค่ะ ใครที่มีคาถาม ว่าโครงการจะผลิตอะไรออกมา วนิยามีเอกสารสรุปเบื ้องต้ น แนบมาให้ แล้ วค่ะ สาหรับความเห็น วนิยาก็เปิ ด note ไว้ ให้ เหมือนกัน ที่ https://www.facebook.com/notes/TutorialsQuad/โจทย์ภาพยนตร์ ชุด tutorials-พฤศจิกายน2555/643710009025794 ค่ะ สุดท้ าย ขอขอบพระคุณทุกท่านที่อ่านจนจบ อ่านถึงตรงนี ้วนิยาก็ซาบซึ ้งมากแล้ ว วนิยาเขียนยาวมาก รบกวนเวลากัน มากมาย ขอบคุณจริ งๆค่ะ >_< เลิฟเลิฟ จิบิๆ

17

รุ่งอรุณเชียงราย : โรงเรี ยนในจดหมายกับหลักสูตรปั จจัยสี่


https://www.facebook.com/notes/TutorialsQuad/โครงการ-tutorials-กวดวิชาการศึกษาไทย-ฉบับ-8-พย 2555/643713145692147 โครงกำร Tutorials กวดวิชำกำรศึกษำไทย | ฉบับ 8 พ.ย.2555 (ก่อนค้ นคว้ าเอกสาร) หลักกำรและเหตุผล ชื่อโครงการ "กวดวิชาการศึกษาไทย" มี 2 ความหมาย ดังนี ้ 1. เด็กนักเรี ยนไทยมีโอกาสได้ รับการกวดวิชาในทุกสาขาที่ มีการสอบ แต่ไม่เคยรู้ จักระบบการศึกษาในด้ านของอิทธิ พลและ ผลกระทบต่อสังคมอย่างแท้ จริ ง ท าให้ มองไม่เห็ น เป้ าหมายและทางเลือกในการศึกษาเพื่อตนเองและเพื่อสังคมเท่า ใดนัก ปั จจุบนั นีร้ ะบบการศึกษาของไทยกาลังผลิตบุคลากรป้อนเข้ าสู่การสมัครงานรับเงินเดือนตามบริ ษัทในระบบทุนนิยมเป็ นส่วน ใหญ่ ยิ่งไปกว่านัน้ สังคมยังยึดถือค่านิยมแบบเดิมๆเกี่ยวกับทางเลือกในการศึกษาและอาชีพ สภาพนักเรี ยน นักศึกษา ที่เลือก เส้ นทางในการศึกษาตามๆกันอย่างไร้ จดุ หมาย บ่งบอกความจาเป็ นว่า "เราควรจะจัดการกวดวิชา(หรื อแนะแนว)ในเรื่ องของ ระบบการศึกษาไทยให้ กว้ างขึน้ เพื่อที่จะให้ เด็กและเยาวชน นักเรี ยนนักศึกษา ได้ ร้ ู จกั และสามารถเลือกเส้ นทางการศึกษาที่ เหมาะสมต่อตัวผู้เรี ยน ตลอดจนความต้ องการของสังคมที่ผ้ ูเรี ยนสังกัดอยู่ เพื่อการพัฒนาผู้เรี ยนและสังคม ให้ เป็ นไปอย่างมี ทิศทาง และมีประสิทธิภาพ" 2. ขณะที่เด็กนักเรียนไทยกาลังแข่งขันกันกวดวิชาเพื่อพัฒนาขีดความสามารถในการสอบเรี ยนต่อ ระบบการศึกษาไทยกลับย่าอยู่ กับที่ไม่ได้ พฒ ั นาไปจากจุดเดิมไม่วา่ จะปฏิรูปกันขนาดไหน แม้ แต่จดุ เริ่มต้ นอย่าง "เป้าหมาย" ของการจัดการศึกษาในระบบของ รัฐ ก็ไม่ได้ มีการนาเสนอออกมาให้ คนทั่วไปและนักเรี ยนนักศึกษาเข้ าใจได้ อย่างชัดเจน ทังๆที ้ ่ "การศึกษา" นัน้ เป็ นเครื่ องมือ สาคัญในการสร้ างคนมาพัฒนาประเทศชาติ จึงสมควรที่ "การศึกษา" ของไทย จะต้ องถูกนามา "กวดวิชา" (หรื อแปลว่า นามา "พัฒนาอย่างเร่งรัด") ตังแต่ ้ การระดมสมองเพื่อกาหนดเป้าหมายและวิธีการในการจัดการศึกษา ให้ สอดคล้ องกับความต้ องการ พัฒนาหรือปั ญหาของสังคมและประเทศชาติ ทังนี ้ ้ ผู้จดั โครงการเห็นควรให้ การศึกษาของไทย ตังเป ้ ้ าหมายสนับสนุน (และสร้ างค่านิยมให้ สงั คมสนับสนุน) อาชีพทางการเกษตร (และให้ ความรู้เรื่องการจัดสรรที่ดิน) ปรับวิถีชีวิตจากทุนนิยม-บริโภคนิยม มาใช้ แนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงและกิจการเพื่อสังคม ให้ โอกาสเยาวชนค้ นหาศักยภาพตัวเองจนพบแล้ วตังเป ้ ้ าหมายเลือ กเรี ยนพัฒนาตนเองในทางที่ถนัด เพื่อแก้ ไขปั ญหาที่สังคมหรื อ ท้ องถิ่นของตนกาลังประสบ และร่วมเสริมกาลังสร้ างชุมชนท้ องถิ่นให้ เข้ มแข็ง ลดการพึง่ พาจากรัฐและต่างประเทศ วัตถุประสงค์ 1. พัฒนาความรู้ ความเข้ าใจ เกี่ยวกับระบบการศึกษา ที่มีผลกระทบต่อสังคม และระบบทางสังคมที่มีอิทธิพลต่อระบบการศึกษา 2. ปรับทัศนคติ ค่านิยม กระตุ้นให้ เยาวชนตระหนักถึงศักยภาพและบทบาทของตัวเองที่สามารถจะพัฒนาให้ เหมาะสมต่อความ ต้ องการของสังคมได้ ด้วยการศึกษา 3. สนับสนุนให้ มีการตังเป ้ ้ าหมายที่สร้ างสรรค์เพื่อสังคมและนาเสนอทางเลือกทางการศึกษาที่เหมาะสมให้ กบั เยาวชนไทย กลุ่มเป้ำหมำย 1. กวดวิชา นักเรียน นักศึกษา และคนทัว่ ไป เกี่ยวกับระบบทุนนิยม เศรษฐกิจพอเพียง ระบบการศึกษา และทางเลือกในการศึกษา เพื่อสังคม 2. กวดวิชา ผู้รับผิดชอบงานด้ านการศึกษา ให้ ปรับปรุงเป้าหมายและนโยบายการจัดการศึกษา ให้ เหมาะสมและเป็ นประโยชน์แก่ สังคม

รุ่งอรุณเชียงราย : โรงเรี ยนในจดหมายกับหลักสูตรปั จจัยสี่

18


https://www.facebook.com/notes/TutorialsQuad/โครงการ-tutorials-กวดวิชาการศึกษาไทย-ฉบับ-8-พย 2555/643713145692147 โครงกำร Tutorials กวดวิชำกำรศึกษำไทย | ฉบับ 8 พ.ย.2555 (ก่อนค้ นคว้ าเอกสาร) ผลที่คำดว่ ำจะได้ รับ 1. เยาวชนและคนไทยมีความรู้ความเข้ าใจในระบบทุนนิยมที่มีอิทธิพลต่อการศึกษา และการศึกษาแบบทุนนิยม ที่มีผลต่อการ พัฒนาประเทศ 2. เยาวชนไทยสามารถค้ นหาหรื อตระหนักรู้ในศักยภาพของตนเอง แล้ วหาทางเลือกในการศึกษาที่เหมาะสมกับตัวเองมาต่อยอด เพื่อที่จะนาไปแก้ ปัญหาหรือพัฒนาสังคมที่ตนเองสังกัดอยู่ 3. หน่วยงานทังภาครั ้ ฐ เอกชน และท้ องถิ่น สามารถจัดการศึกษาโดยมีทางเลือกที่หลากหลาย มีเป้าหมายที่ชดั เจน เพื่อพัฒนา คุณภาพบุคลากรให้ สอดคล้ องกับปั ญหาหรือความต้ องการของชุมชนและสังคม วิธีกำรดำเนินงำน 1. วิจัย ก) ศึกษาค้ นคว้ ารวบรวมเอกสารที่เกี่ยวข้ องกับการศึกษาและการนาเสนอเนื ้อหาที่เข้ าถึงการรับรู้ของกลุม่ เป้าหมาย ข) สัมภาษณ์นกั วิชาการ ผู้นาทางความคิดของเยาวชน ผู้รับผิดชอบงานด้ านการศึกษา ในเรื่องเป้าหมาย แนวคิด ความต้ องการ แก้ ปัญหา ค) สารวจนักเรียน นักศึกษา ในด้ านคุณสมบัติ ความคิดเห็น ค่านิยม ทัศนคติ ความตระหนักถึงผลกระทบของระบบการศึกษา ต่อสังคม 2. นำเสนอ ก) รายงานวิจยั ที่อา่ นง่าย ได้ ประโยชน์ เข้ าถึงคนทัว่ ไป นาเสนอปั ญหาและความต้ องการในระบบการศึกษาไทย ข) หนังสือ ภาพยนตร์ เพลง โฆษณา ที่เข้ าถึงเยาวชนนักเรียนนักศึกษา โดยประยุกต์ข้อมูลจากการวิจยั มานาเสนอ 3. อภิปรำย ก) ระดับประเทศ หาสปอนเซอร์ จดั รายการโทรทัศน์ ระดมสมอง เพื่อสรุปเป้าหมายและนโยบายการศึกษาร่วมกัน โดยเปิ ดโอกาส ให้ ประชาชนมีสว่ นร่วม ข) ระดับท้ องถิ่น ร่ วมมือกับสถานศึกษาในท้ องถิ่น จัดกระบวนการระดมสมอง เพื่อสรุปเป้าหมายและนโยบายเฉพาะสาหรับ การศึกษาในแต่ละชุมชน 4. ประเมิน ก) วัดระดับความนิยมของรายการโทรทัศน์ ยอดขายหนังสือ รายได้ ภาพยนตร์ การพูดถึงโฆษณา และคาวิจารณ์รายงานวิจยั ข) สารวจความรู้ความเข้ าใจ ความคิดเห็น ทัศนคติ ค่านิยม ของนักเรี ยนนักศึกษา ที่มีต่อการศึกษาไทย ว่ามีการเปลี่ยนแปลง หลังจากได้ รับสื่อหรือไม่ อย่างไรบ้ าง

19

รุ่งอรุณเชียงราย : โรงเรี ยนในจดหมายกับหลักสูตรปั จจัยสี่


https://www.facebook.com/notes/TutorialsQuad/โจทย์ภาพยนตร์ ชดุ -tutorials-พฤศจิกายน2555/ 643710009025794 โจทย์ สือ่ โครงการ Tutorials กวดวิชาการศึกษาไทย (เมษายน 2556) 1. เข้ าใจง่าย ไม่ต้องพยายามมาก เช่น อ่านนิยายสันๆ ้ ดูหนัง ฟั งเพลง ดูโฆษณา อ่านป้ายโฆษณา ดูละครเร่ 2. กระชับ เน้ นเนื ้อหา สอดแทรกส่วนที่ช่วยผ่อนคลายเท่าที่จาเป็ น 3. จับประเด็นสาคัญที่สดุ ยิงไปก่อน เท่าที่ทาได้ (สาหรับคนสมาธิสนั ้ อ่าน/ดู/ฟั ง/ครึ่งๆกลางๆ) 4. ตามรอยพระราชดาริ เศรษฐกิจพอเพียงของในหลวง 5. หลุดจากภาพลักษณ์ทซี่ าบซึ ้ง ไม่กดวิถีคนชนบทจนกลายเป็ นสินค้ า ต้ องมองในมุมเด็กนักเรียนต่างจังหวัด

โจทย์ ภาพยนตร์ ชดุ Tutorials (พฤศจิกายน2555) Tutorials กวดวิชำสู่สำมัญ

Tutorials กวดวิชำล่ ำฝั น

- ความรู้/ทักษะอะไรที่จาเป็ นต้ องใช้ ในการอยูอ่ ย่างสามัญ - พาทัวร์ สถานการณ์ทนุ นิยม แล้ วชวนกลับมาอยูอ่ ย่างสามัญ - สอนจัดการทรัพยากรในท้ องถิ่น - ภูมิปัญญาท้ องถิ่นที่ควรอนุรักษ์ / ความเชื่อผิดๆที่ควรแก้ ไข - ให้ ภาพยูโทเปี ย ชุมชนชนบท ทีพ่ งึ่ ตนเองได้ - สาหรับนักเรี ยนทีย่ งั ไม่ร้ ูหนทางของตัวเอง ว่าจะไปทางไหนดี - วิธีพฒ ั นาตัวเอง ให้ สามารถเรียนตามหลักสูตรการศึกษาได้ ดีขึ ้น - ติวเนื ้อหาที่ควรรู้แบบสรุป เช่น พันธุกรรมพืช สังคม ป้องกันตัว - อยูแ่ บบสามัญอย่างไรให้ ทนั โลก

- เทคโนโลยีที่มนุษย์ต้องใช้ ในการดารงชีวิตปั จจุบนั - เทคโนโลยีจะอยูร่ ่วมกับภูมิปัญญา และทรัพยากรท้ องถิ่นได้ อย่างไรบ้ าง - สอนรับมือกับบริ ษัทข้ ามชาติ - เทคโนโลยีที่ควรนามาใช้ / เทคโนโลยีที่เกินจาเป็ นหรื ออันตราย - ให้ ภาพยูโทเปี ย ชุมชนเมือง ที่เข้ าใจสังคมและสิง่ แวดล้ อม - สาหรับนักเรี ยนทีม่ ีฝัน มีเป้าหมายแน่ชดั แล้ วคิดสร้ างสรรค์ - วิธีคดิ แบบ Youth Venture ค้ นหาความถนัดมาใช้ แก้ ปัญหา - ติวเนื ้อหาที่ควรรู้แบบสรุป เช่น CSR SE อาชีพเพื่อสังคม - Think Global Act Local

รุ่งอรุณเชียงราย : โรงเรี ยนในจดหมายกับหลักสูตรปั จจัยสี่

20


https://www.facebook.com/notes/ TutorialsQuad/ร่างหลักสูตรโรงเรี ยนรุ่งอรุณเชียงราย-16-ธค2556/ 643355869061208 โรงเรียนรุ่ งอรุ ณเชียงรำย : ลงรายละเอียดจากการร่างครัง้ แรก 12-15 ธันวาคม 2556 สถำนที่ : หาที่ดินใกล้ ถนนใหญ่มีทงุ่ นา อยูร่ ะหว่าง อ.เมือง กับ ม.แม่ฟ้าหลวง 1.อาคารเรี ยน 2.ที่จอดรถ 3.สนามกิจกรรม 4.ทุง่ นา 5.แปลงผัก 6.โรงอาหาร 7.ห้ องสมุด 8.Studio สาธารณะ เก็บค่าบริ การ (หาทุนสร้ างทีหลัง) * สวนมะลิวลั ย์ ที่เสนอ เดินทางไม่สะดวก เป็ นสวนมีบ้านพัก บนที่ดินลาดเชิงเขา สร้ างโรงเรี ยนไม่ได้ แต่เหมาะจะใช้ เป็ นที่สาธิต Health Farm เต็มรูปแบบ แนวคิด : ที่มาของหลักสูตร 1. ความรู้ ที่สอนกันอยู่ในระบบสามัญศึกษาส่วนใหญ่ เมื่อนาไปใช้ สอบแข่งขันเข้ ามหาวิทยาลัยเสร็ จแล้ วก็ไม่มี โอกาสได้ ใช้ หรื อไม่ได้ มาเป็ นพื ้นฐานในการเรี ยนระดับอุดมศึกษาและการดาเนินชีวิต และปั จจุบนั เมื่อต้ องการ ใช้ ความรู้ก็สามารถค้ นคว้ าได้ ทนั ที จึงไม่จาเป็ นต้ องมีการนามาสอนให้ เสียเวลาพัฒนาทักษะที่จาเป็ นมากกว่า ในชีวิตจริ ง 2. รูปแบบการสอนและเนื ้อหาในระดับอุดมศึกษาปั จจุบนั สามารถนามาใช้ ได้ กบั นักเรี ยนระดับมัธยมศึกษา และ สามารถพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ได้ ดีกว่ารูปแบบการสอนระดับสามัญศึกษาในระบบที่เป็ นอยู่ 3. ถ้ านักเรี ยนมัธยมสามารถเรี ยนเนื ้อหาระดับอุดมศึกษาได้ ก็สามารถจัดการเรี ยนการสอนจนสาเร็ จการศึกษา ได้ เลย ไม่ต้องเสียเวลาเรี ยนเนื ้อหาระดับสามัญศึกษาที่ไม่จาเป็ นในการดารงชีวิตเพื่อนาไปสอบแข่งขันเข้ า เรี ยนมหาวิทยาลัยอีกต่อไป 4. การจัดการสอนหลักสูตรใหม่ที่เน้ นการวิจยั และพัฒนาท้ องถิ่น จะทาให้ เกิดผู้สาเร็ จการศึกษาที่มีคณ ุ สมบัติ แตกต่างจากบัณฑิตส่วนใหญ่ในระบบอุดมศึกษาปั จจุบนั จะไม่เป็ นที่ต้องการในตลาดทุนนิยมชุมชนเมือง แต่ เป็ นที่ต้องการในตลาดการพัฒนาท้ องถิ่น เมื่อเรี ยนจบแล้ วนักเรี ยนจะกลายเป็ นกาลังในการสร้ างระบบชุมชน ใหม่ และสร้ างเครื อข่ายพัฒนาท้ องถิ่ นที่เชื่ อมั่นในหลักสูตรมารองรั บอาชี พโดยเฉพาะ ไม่ต้องเข้ าเมืองไป แข่งขันสมัครงานเป็ นผู้รับใช้ ระบบทุนนิยมหาเงินไปวันๆอย่างไร้ คณ ุ ค่าไร้ จดุ หมาย หลักกำร : แนวทางในการจัดการเรี ยนการสอน - ชื่อวิชาต้ องมีจดุ ประสงค์ตอ่ ท้ าย (คาว่า "เพื่อ") จะได้ ร้ ูวา่ "เรี ยนไปเพื่ออะไร" - ชื่อวิชาไหนไม่มี "เพื่อ..." ต่อท้ าย แปลว่า "ให้ ร้ ูไว้ เฉยๆ ;)" - สมุดจดทุกเล่ม รายงานทุกฉบับ ครู ตรวจความถูกต้ อง แก้ ไขให้ สมบูรณ์ เสริ มไอเดียให้ ต่อยอด แล้ วส่ งกลับให้ นักเรี ยนเก็บไว้ เป็ นตาราของตัวเอง มีการอภิปรายหรื อคัดเลือกให้ นกั เรี ยนช่วยกันทาฉบับสมบูรณ์ ประจารุ่ น สาเนาเป็ นตาราเก็บไว้ ในห้ องสมุดให้ รุ่นต่อไปนามาอ้ างอิง เพื่อฝึ กการค้ นคว้ าจัดการความรู้อย่างเป็ นระบบ - เปลีย่ นการวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรี ยน จากการใช้ ข้อสอบปลายภาค มาเป็ นกิจกรรมสร้ างสรรค์

21

รุ่งอรุณเชียงราย : โรงเรี ยนในจดหมายกับหลักสูตรปั จจัยสี่


- การสอบกลางภาค สาคัญ มีไว้ เพื่อประเมิน ก่อน ซ่อมเสริ ม/ส่งเสริ ม ไม่ใช่สอบเสร็ จแล้ วจบๆไป - ข้ อสอบ ใช้ คาถามอัตนัย เพื่อวัดความเข้ าใจและทักษะการคิดวิเคราะห์ ข้ อมูลมีให้ ไม่ต้องท่องจา - ผลการเรี ยน เกรด1ไม่ผา่ น(ให้ โอกาสเรี ยนซ ้า) เกรด2ใช้ ได้ เกรด3ทาได้ ดี เกรด4ทาได้ ดีมาก - ไม่บงั คับให้ ทกุ คนต้ องทาเกรดให้ ได้ มากๆ ถามเป้าหมายเด็กก่อนว่าไม่สนใจวิชาไหนเพราะอะไร - สร้ างบรรยากาศประชาธิปไตยโดยการจัดกิจกรรมดูแลทรัพย์สนิ สาธารณะ (ของหน้ าหมู)่ เช่น -- ให้ นกั เรี ยนรวมเงินกันซื ้ออุปกรณ์การเรี ยนประจาชัน้ เช่น กล้ อง compact เอนกประสงค์ หรื อ notebook ราคา ถูก เอาไว้ ทากิจกรรมต่างๆ ตลอด3ปี การศึกษา โดยจัดระบบการเก็บภาษี กนั เองหรื อจัดกิจกรรมหาทุนร่ วมกัน เพื่อให้ เห็นค่าของเงินก็ได้ มีการอภิปรายสรรหาข้ อมูลมาตกลงกันเลือกซื ้ออุปกรณ์ ให้ ค้ มุ ค่าและได้ ประโยช น์ สูงสุด เมื่อซื ้อมาแล้ วจัดการเลือกตังที ้ มหรื อผู้ดแู ลอุปกรณ์ สร้ างสรรค์ระบบการตรวจสอบร่ วมกันภายในชัน้ เมื่อ เรี ยนจบจัดการประมูลอุปกรณ์ คืนเงินภาษี ให้ ผ้ รู ่ วมชัน้ หรื อทาการเจรจาซื ้อขายระหว่างชัน้ หรื อยกให้ โรงเรี ยน เก็บเป็ นอุปกรณ์สารองใช้ ในรุ่นต่อไป เป็ นต้ น โรงเรียนรุ่ งอรุ ณเชียงรำย : ลงรายละเอียดจากการร่างครัง้ แรก 12-15 ธันวาคม 2556 หลักสูตร : ชื่อวิชาและคาอธิบายบางส่วน - การวิจยั และกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ เพื่อการเรียนรู้ - ภาษาไทยเพื่อการวิเคราะห์ (ม.ต้ น) | - การอ่าน - การฟั ง - นิเทศศาสตร์ เพื่อการรู้เท่าทันสือ่ (ม.ปลาย) | - เคยเห็นมาหมดแล้ ว - เข้ าใจวิธีคิดของสื่อ - เบื ้องหลัง - เทคนิคพิเศษ - กลยุทธ์

- ภาษาไทยเพื่อการนาเสนอ (ม.ต้ น) | - การพูด - การเขียน - บทความ - โครงการ - รายงาน - อ้ างอิง

- นิเทศศาสตร์ เพื่อประสิทธิภาพในการสือ่ สาร (ม.ปลาย) | - สื่อสารองค์กร - กระบวนการ(ค่าย)ชุมชน - แข่งขันกับสื่อทุนนิยม - พัฒนาความคิดสร้ างสรรค์ - จรรยาบรรณ

- ภาษาอังกฤษเพื่อการค้ นคว้ า - ภาษาอาเซียนและภาษาท้ องถิ่นเพื่อความร่วมมือในการพัฒนา - เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการพัฒนาท้ องถิ่น - ประวัติศาสตร์ เพื่อการพัฒนาความสัมพันธ์ | - ระดับประเทศ - ระดับท้ องถิ่น - ระดับชุมชน - ระดับบุคคล - กระบวนการทางประวัตศิ าสตร์

- ศิลปะและวัฒนธรรมเพื่อการสร้ างสรรค์ | - ศิลปะสากล - ศิลปะท้ องถิ่น (ลงพื ้นที่เก็บข้ อมูล) - อนุรักษ์ - ต่อยอด

- สังคมศาสตร์ เพือ่ การทาหน้ าทีพ่ ลเมือง - คณิตศาสตร์ เพื่อการคานวณ - คณิตศาสตร์ เพื่อพัฒนาการสมอง - การเจริ ญสติภาวนาเพื่อความพร้ อมในการเรี ยนรู้

รุ่งอรุณเชียงราย : โรงเรี ยนในจดหมายกับหลักสูตรปั จจัยสี่

22


- กีฬาเพื่อการสังสรรค์ | - สอนกติกาให้ เล่นเป็ นหลายๆอย่าง - เน้ นกระบวนการรวมทีม - ไม่นบั คะแนนทักษะเดี่ยว

- วนศาสตร์ เพื่อการดารงชีวิต (ชีววิทยา) | - เข้ าใจความสัมพันธ์ของธรรมชาติและสิ่งแวดล้ อม ชีวติ กับป่ า - เรี ยนรู้ วฒ ั นธรรมการดารงชีวติ กับป่ า - การใช้ ประโยชน์จากป่ า - รักษาสมดุลเพื่อความยัง่ ยืน - เข้ าใจชุมชนที่พงึ่ พาป่ า - อนุรักษ์ป่าเพื่อรักษาชีวติ

- เกษตรยัง่ ยืนเพื่อการพึง่ ตนเอง - การผลิตเสื ้อผ้ า | - กระบวนการผลิตฝ้าย - โรงงานทอผ้ า - ทาสกรี นเสื ้อ - เสื ้อยืดสมานฉันท์ - ชุดชันใน ้ Try Arm - ผ้ าพื ้นเมือง

- อุตสาหกรรมอาหาร - รัฐวิสาหกิจ | - การไฟฟ้า - การประปา - การขนส่ง - ไปรษณีย์ - โทรคมนาคม - พลังงาน - การจัดการที่ดิน | - ของรัฐ - ของชุมชน - ทรัพยากร - การรุ กราน - ต้ นน ้า ปลายน ้า - เขื่อน - สารเคมี

- การตลาดเพื่อการจัดการทรัพยากร | - พฤติกรรมผู้บริ โภค - การซื ้อขาย - การเพิ่มทุน - การสร้ างสรรค์สินค้ า - ทุนนิยม - CSR - Social Enterprise

- การประดิษฐ์ และการก่อสร้ าง (ฟิ สกิ ส์) | - การออกแบบ - โครงสร้ าง - วัสดุ - เครื่ องยนต์กลไกเบื ้องต้ น - ไฟฟ้าเบื ้องต้ น - บ้ านดิน - ข้ อดีข้อเสีย - ทางเลือก - สารเคมีในชีวิตประจาวัน (เคมี) | - ปุ๋ย - ยาฆ่าแมลง - ผลกระทบ - ผลิตภัณฑ์ทาความสะอาด - ผลิตภัณฑ์เสริ มอาหาร - ส่วนประกอบ - การผลิต - ทางเลือก - การบาบัดน ้าเสีย

- เวชศาสตร์ / เภสัชศาสตร์ เบื ้องต้ น - แพทย์แผนไทยเพื่อการพึง่ ตนเองด้ านสุขภาพ - ดุลยภาพบาบัดเพื่อการพึง่ ตนเองด้ านสุขภาพ * บางวิชาเนื ้อหาเยอะ บางวิชาเนื ้อหาน้ อย มีเวลา 3 ปี ในการสอนทังหมด ้ * เมื่อเรี ยนจบ ม.ต้ นแล้ ว ม.ปลายมาเรี ยนทังหมดอี ้ กรอบแบบเข้ มข้ นกว่า

23

รุ่งอรุณเชียงราย : โรงเรี ยนในจดหมายกับหลักสูตรปั จจัยสี่


นักเรียนมืออำชีพ‫‏‬ 28 ธันวาคม 2556 (เพลง) ฝั นแล้ วก็อยากจะฝั นอีก อยากชวนเธอไปเดินอยู่ในความฝั นแล้ วพากันไป คิดแล้ วก็หยิบเอาเสื ้อใหม่ ใส่ เจ้ าตัวสวยไป แล้ วก็ออกไปเดินเฉย ฝอยกันให้ ฟ้ งงง ุ (เพลงการ์ ตนู มารุโกะ) สวัสดีคะ่ เมื่อวันเสาร์ ที่ผ่านมา วนิยาใส่ชุดเก่ง(มีชุดเดียว)เดินทางไปหา mr.Saturday ที่มหาวิทยาลัย ใช้ เวลานัง่ คุยกับ mr.Saturday ไป 2 ชัว่ โมง เหนื่อย หิวข้ าว เมารถตู้ กินราเม็ง กลับบ้ านมืด อาบน ้า นอน มีความสุข เนื่องจากวนิยาไปหา mr.Saturday ตอนกาลังสอนอยู่ ก็เลยนัง่ เรี ยนไปด้ วย วิเคราะห์การสอนของ mr.Saturday ไปด้ วย รู้ สึกว่าเป็ นกิจกรรมที่ไม่น่าเบื่อเลย เป็ นธรรมชาติของวนิยาที่ชอบดูอาจารย์มหาวิทยาลัยสอน (สมัย เรี ยนวนิยาก็ไม่ค่อยเล็คเชอร์ ว่าอาจารย์สอนอะไร แต่คอยสังเกตและจดยิกๆว่าอาจารย์สอนอย่างไร เพื่อนๆที่ เรี ยนมีปฏิกิริยาแบบไหน ซึง่ ก็ช่วยให้ วนิยาไม่ง่วงเวลาเรี ยน) เมื่อการกลับมาเรี ยนทาให้ มีความสุข ระหว่างนัง่ รอ mr.Saturday สอนเสร็ จนันวนิ ้ ยาก็เลยเกิดไอเดียโดยราลึกได้ ถึงหลักการของ Youth Venture (โครงการส่งเสริ ม เยาวชนให้ เปลีย่ นแปลงสังคมจาก Ashoka) ที่วา่ : "เมื่อเยาวชนค้ นหาความถนัดที่เป็ นธรรมชาติของแต่ละบุคคล เข้ ามาจับเป็ นกิจกรรมหลัก ในการผลักดันประเด็ น การแก้ ปัญหาที่ตนสนใจ ก็จะทาให้ เกิดนักเปลีย่ นแปลงสังคม ที่ทางานได้ ด้วยใจรัก มีความสามารถเฉพาะทางที่ เป็ นธรรมชาติ และแก้ ปัญหาได้ โดยไม่ต้องจัดการจ้ างผู้ใหญ่มาทาหน้ าที่แบบฝื นใจตัวเอง" สมัยยังเป็ นเยาวชน (ปี นี ้ก็เกือบจะเป็ นอยู)่ วนิยาไปโดนโครงการ Youth Venture "ดัก" ให้ เข้ าร่ วมเมื่อต้ นปี 2552 โดยที่ยงั ไม่ร้ ูวา่ ตัวเองมีความถนัดอะไรเป็ นธรรมชาติ แต่มีเรื่ องอยากจะทาเต็มไปหมด เป็ นช่วงเวลาสันๆที ้ ่วนิย า คิดทานูน่ ทานี่และมีที่ปรึกษาทางอีเมลที่เก่งและดุร้าย(ร้ องไห้ ค่ะ 55) วนิยาได้ แก้ ไขจุดอ่อนของตัวเองและเก็บวิธี คิดที่ได้ มา มาเป็ นหลักสาคัญที่ยงั ใช้ ได้ กบั งานต่างๆอยูใ่ นทุกๆวันนี ้ ตอนนันวนิ ้ ยาเชื่อว่า ตัวเองมีความสามารถเฉพาะตัวแบบกว้ างๆ คือความสามารถทางนิเทศศาสตร์ เพราะเรี ยน นิเทศศาสตร์ มา แล้ วให้ ทาอะไรก็ทาได้ พอปี ต่อมาเรี ยนจบก็จบั เอากิจกรรมนิเทศๆนี่แหละมาเลือกแก้ ปัญหาที่ ตัวเองสนใจอยู่ ซึง่ ก็คือเรื่ อง "การศึกษา" วนิยาก็เลยร่างบทภาพยนตร์ ขึ ้นมา ด้ วยความรู้สกึ แรกคือ "อยากเห็น" แล้ วนากลยุทธ์ การโฆษณามาประกอบว่า "ภาพยนตร์ " จะเป็ น "สื่อโฆษณา" ที่มีประสิทธิ ภาพมากที่สดุ ในการนาเสนอเนื ้อหาที่จะเปลี่ยนแปลง "ค่านิยม เกี่ยวกับการศึกษา" (ปั จจัยสาคัญที่เป็ นสาเหตุของปั ญหาเรื อ้ รังและมีอิทธิพลต่อระบบ) ไปยังกลุม่ เป้าหมายซึ่งก็ คือ "นักเรี ยนมัธยม"

รุ่งอรุณเชียงราย : โรงเรี ยนในจดหมายกับหลักสูตรปั จจัยสี่

24


โดยไม่ร้ ูตวั ว่า ได้ ใช้ ความสามารถที่ถนัดไปเรี ยบร้ อยแล้ วคือ "คิดกลยุทธ์ การสื่อสาร" สิ่งที่เหลืออยู่คือ "การลงมือ สร้ างสรรค์สื่อ" ให้ ได้ ตามกลยุทธ์ ตอนนันวนิ ้ ยาคิดง่ายๆว่าเมื่อตัวเองเป็ นคนคิดกลยุทธ์ ก็น่าจะสามารถ "เขียน บทภาพยนตร์ " ให้ ออกมาได้ ตรงตาม "โจทย์" ที่ตวั เองตังไว้ ้ ได้ โดยไม่ต้องไปขอความร่ วมมือจากใคร พล็อตเรื่ องปี 2553 ออกจากงานมาพัฒนาเรื่ องปี 2554 ศึกษาทฤษฎีประกอบปี 2555 เลี ้ยวกลับมาปรับคอน เซ็ปต์ให้ แน่นปี 2556 ทดลองเขียนนิยายสารคดี1เรื่ อง แล้ ววนิยาก็ได้ ร้ ูความจริ ง.. วนิยาแต่งเรื่ องไม่เก่ง! เขียนบทภาพยนตร์ ไม่เป็ น! แปลโจทย์ออกมาเป็ นเรื่ องเล่าไม่ได้ ! บอกตัวเองว่าต้ องพยายาม ทาในส่วนที่เหลือให้ ได้ เพราะไม่มีใครถนัดไปเสียทุกอย่าง ไม่งนก็ ั ้ คงไม่มีทางประสบ ความสาเร็ จ แต่เอาเข้ าจริ งๆ มาพิจารณาโครงการดูแล้ ว คอนเซ็ปต์ขนาดนี ้ จะไปจ้ างใครมาช่วยเขียนยังหาไม่ได้ .. เพราะ "โจทย์" ย้ ากกกกกส์!!!! OTL . กลับมาที่วนั เสาร์ ก่อนหน้ านี ้วนิยาส่งอีเมลไปหา mr.Saturday ว่าจะเปิ ดโรงเรี ยนทางเลือก (ดูที่มาในอีเมลฉบับวันที่12ธันวา) และ ชวน mr.Saturday กับอีกหลายคนไปเป็ นครูสอนที่เชียงราย วนิยาใช้ เวลาคิด3วัน ร่างหลักสูตรโรงเรี ยนทางเลือก ขึ ้นมาเอง (ดูไฟล์แนบในอีเมลฉบับ17ธันวา) เป็ นการตัดสินใจที่เร็ วและตื่นเต้ น เหมือนทุกอย่างกลัน่ ออกมาเอง ตามธรรมชาติโดยที่วนิยาไม่ต้องพยายามคิดให้ ปวดหัวเลย กลายเป็ นว่า สาหรับวนิยาแล้ ว การเขียนหลักสูตร โรงเรี ยนทางเลือกขึ ้นมาใหม่ ยังง่ายกว่าเขียนนิยายบทภาพยนตร์ เปลี่ยนแปลงการศึกษาเสียอีก การนอนเพ้ อ ออกแบบวิชาตามใจชอบ 3 วันและได้ ลองร่ างหลักสูตรโรงเรี ยนในฝั นขึ ้นมาใน 6 ชัว่ โมง ทาให้ วนิยาค้ นพบว่า นี่ แหละคือ "ความถนัดที่เป็ นธรรมชาติ" ของวนิยา เกิดมาจากความสนใจส่วนตัว การสัง่ สมประสบการณ์ แล้ วมา บวกกับการค้ นคว้ าเพื่อเขียนบทภาพยนตร์ ในภายหลัง ได้ ผลลัพ ธ์ ออกมาเป็ นหลักสูตรการศึกษาแนวๆ ที่วนิยา มัน่ ใจว่าจะสามารถนามาใช้ ได้ จริ งในอนาคตสักวัน เมื่อได้ ค้นพบว่า "ความถนัดที่เป็ นธรรมชาติ" นันมี ้ ลกั ษณะเป็ นเรื่ องที่ง่ายและธรรมชาติ(คือไม่ต้องฝื นทา)มาก เพียงไร ระหว่างนัง่ รอ mr.Saturday สอนเสร็ จในวันเสาร์ วนิยาก็เลยค้ นหาตัวเองดูว่า มีกิจกรรมอะไรที่วนิยายัง สามารถทาได้ โดยง่ายและเป็ นธรรมชาติเหมือนการร่างหลักสูตรการศึกษาในแบบของตัวเองขึ ้นมาอีก

25

รุ่งอรุณเชียงราย : โรงเรี ยนในจดหมายกับหลักสูตรปั จจัยสี่


วนิยาชอบนัง่ ดูการเรี ยนการสอน ชอบสังเกตความเป็ นไปในห้ องเรี ยน ชอบออกแบบการนาเสนองานหน้ าชัน้ เรี ยน ชอบนัง่ คุยแลกเปลี่ยนเรี ยนรู้ กบั อาจารย์เวลาว่าง ชอบทาเอกสารแจก และชอบเอาวารสารบนโต๊ ะรับแขก ของห้ องคณะมาจัดให้ เรี ยบร้ อย (ไม่ร้ ูทาไมโดนรื อ้ ทุกวัน) สมัยที่ได้ ทนุ เรี ยนฟรี ใหม่ๆ วนิยาบอกตัวเองว่ากาลังเป็ น "นักเรี ยนมืออาชีพ" มีมหาวิทยาลัยจ้ างวนิยามานัง่ เรี ยน เพื่อเพิ่มระดับผลการเรี ยนเฉลี่ยและคุณภาพนักศึกษาโดยรวม เมื่ออยู่ไปเรื่ อยๆวนิยาก็เริ่ มรู้ หน้ าที่ว่าต้ องเสริ ม อะไรที่มหาวิทยาลัยขาดบ้ าง วนิยาอาสารับหน้ าที่ทากิจกรรมที่ไม่มีใครทา (จากเหรัญญิ กกลายเป็ นประธาน คณะ) ช่วยเป็ นกาลังในการเริ่ มต้ นสิง่ ใหม่ (เป็ นสมาชิกตังวงคอรั ้ สทังๆที ้ ่เสียงป่ วย) คอยประคองเพื่อนร่ วมชันให้ ้ เรี ยนไปด้ วยกันจนรอด (สุดท้ ายวนิยาเป็ นแหล่งชุมนุมทางานกลุม่ ของรุ่นพี่ที่เรี ยนไม่จบ) ประสบการณ์ที่วนิยาได้ จากการเรี ยนมหาวิทยาลัยจึงมากกว่าการเรี ยนให้ จบเพียงอย่างเดียว ถึ ง วัน นี ้ วนิ ย ากลับ มาคิ ด ว่า ถ้ า วนิ ย าจะกลับ มาเป็ น "นัก เรี ย นมื อ อาชี พ " อี ก ที วนิ ย าจะใช้ ค วามถนัด และ ประสบการณ์ ที่มีมาออกแบบอาชีพ "นักเรี ยน" แบบวนิยาๆให้ มีคุณค่าและหน้ าที่เป็ นที่ต้องการของสังคมได้ อย่างไรบ้ าง วนิยาจะเลวให้ สดุ จะเป็ นศูนย์กลางกาหนดความเป็ นไปของการเรี ยนการสอนในชัน้ จะเป็ นคนเลือกว่าเพื่อนร่วม ชัน้ จะได้ รับอะไร จะคอยประเมินว่าครู สอนเพื่อนร่ วมชัน้ ได้ ประสิทธิ ผลดีหรื อเปล่า จะประสานความสัมพันธ์ ระหว่างครู กบั เพื่อนภายในชันเรี ้ ยนให้ ราบรื่ น และเรี ยนเป็ นตัวอย่างพร้ อมทากิจกรรมสร้ างเสริ มความเข้ าใจใน บทเรี ยนเพิ่มเติมจากที่ครูสอนให้ เพื่อนร่วมชันได้ ้ รับความรู้และประสบการณ์ที่มีประโยชน์ตอ่ ตัวเพื่อนมากๆ ว่ากันว่า ครูที่ดีในสมัยนี ้ ต้ อง "สอนให้ น้อยลง เรี ยนรู้ให้ มากขึ ้น" และ "หน้ าที่ของครู คือ ทาให้ ดเู ป็ นตัวอย่าง" ถ้ าวนิยาจะเปิ ดโรงเรี ยนทางเลือกหลักสูตรใหม่จริ งๆ วนิยาจะไม่เน้ นให้ ครูเป็ นผู้สอน แต่จะให้ ครูเป็ นคนพาผู้เรี ยน ไปเรี ยนรู้ด้วยกันให้ มากๆ นาเสนอวิธีการเรี ยนรู้ที่ถกู ต้ องด้ วยการเรี ยนให้ ดเู ป็ นผู้เรี ยนตัวอย่าง เนื่องจากหลักสูตร ที่วนิยาร่ างขึ ้นมาจะไม่ให้ ความสาคัญกับการสอนด้ วยตารา แต่จะทดลองให้ นกั เรี ยนฝึ กหาความรู้ ด้ วยการลง สนาม ใช้ ทกั ษะการวิจยั ค้ นคว้ า เก็บข้ อมูล อภิปราย มีกระบวนการกลุม่ สรุ ปความรู้ ที่ได้ จดั ทาเป็ นตาราประจา รุ่นเก็บไว้ ในห้ องสมุดให้ รุ่นต่อไปนามาอ้ างอิงเพื่อฝึ กการจัดการความรู้อย่างเป็ นระบบ แล้ ว "นักเรี ยนมืออาชีพ" ก็จะเข้ ามามีบทบบาทในการจัดการให้ การเรี ยนการสอนรู ปแบบใหม่นี ้ดาเนินไปอย่าง เรี ยบร้ อยและส่งเสริ มเพิ่มเติมเพื่อให้ ได้ ความรู้ที่สมบูรณ์และเกิดประโยชน์สงู สุดต่อตัวผู้เรี ยนที่เหลือ อาจจะเรี ยกอีกอย่างได้ วา่ เป็ นผู้ช่วยสอน หรื อบางครัง้ ก็อาจจะกลายเป็ นผู้สอนตัวจริ ง แล้ วทาไม "นักเรี ยนมืออาชีพ" ถึงไม่เป็ นครู

รุ่งอรุณเชียงราย : โรงเรี ยนในจดหมายกับหลักสูตรปั จจัยสี่

26


เอาจริ งๆ วนิยามีไอเดียโรงเรี ยนทางเลือก มีหลักสูตร มีแนวทางการสอน ถ้ าพยายามจริ ง ๆวนิยาสอนได้ ทกุ วิชาที่ ออกแบบเพราะในช่วงแรกที่เปิ ดสอนทุกวิชาจะมีการเข้ าหาผู้ร้ ูให้ โอกาสวนิยาเรี ยนรู้ไปพร้ อมกันกับนักเรี ยนก่อนที่ จะสัง่ สมจนเป็ นผู้เชี่ ยวชาญในด้ านต่า งๆเพื่อ กลายเป็ นครู ที่สอนในวิ ชานัน้ ๆอย่างสมบูรณ์ ที หลังก็ ได้ (แอบ โฆษณาหาครูอยูห่ น่อยๆ) แต่วนิยาก็ยงั ไม่อยากเป็ นครู วนิยารู้ สึกว่า ครู ที่เตรี ยมเนื ้อหามาบรรยายหน้ าชัน้ เรี ยนแล้ วคอยสัง่ การบ้ านออกข้ อสอบ ตามสูตรสาเร็ จของ ครุศาสตร์ ทวั่ ไป จะเป็ นครูที่ทางานแบบโดดเดี่ยว มีครู หลายคนที่สกั แต่เข้ ามาสอนอย่างเดียวโดยไม่สนใจความ เป็ นไปของบรรยากาศการเรี ยนรู้ ถ้ าไม่มีนกั เรี ยนอารมณ์ดีมาคอยเสริ มสร้ างความสัมพันธ์ ระหว่างกันและกันใน ชันเรี ้ ยน ชีวิตการสอนของครูประเภทนี ้ก็จะเหี่ยวแห้ งเป็ นอย่างมาก ถ้ าไม่ใช่คนที่มีความพากเพียรอดทนสูง ก็คง จะเป็ นคนน่าเบื่อที่ไม่มีอะไรอย่างอื่นให้ ทาเลยก็เป็ นได้ วนิยายังคุมบรรยากาศการเรี ยนรู้ จากตาแหน่งของครู หรื อผู้บรรยายไม่เป็ น นัน่ ทาให้ วนิยากลัวที่จะเป็ นครู แล้ ว กลายเป็ นหนึง่ ในครูประเภทที่วนิยารู้สกึ ข้ างต้ นไปในที่สดุ ดังนันวนิ ้ ยาจึงเดินเข้ าไปนัง่ ฟั ง mr.Saturday บรรยายร่วมกับนักศึกษาในชันเรี ้ ยน วนิยาชอบความสามารถในการสอนของ mr.Saturday เพราะ mr.Saturday เป็ นนักวิจยั ที่(เคย)ดูอายุใ กล้ เคียง กับนักศึกษามาก เวลา mr.Saturday ถามคาถามอะไรนักศึกษาจะตอบได้ เสมอ mr.Saturday เคยทาให้ วนิยา ประหลาดใจบ่ อ ยๆ ที่ เ พื่ อ นร่ ว มชัน้ ปึ กๆหลายคน กลายเป็ นคนยกมื อ ตอบค าถามฉลาดๆในชัน้ เรี ย นของ mr.Saturday ได้ สไลด์และเอกสารของ mr.Saturday ดูสดใส เข้ าใจง่ายและ mr.Saturday ตังใจท ้ ามาก ในทุก คาบที่ mr.Saturday สอน mr.Saturday จะแบ่งเวลาหลังจากบรรยายมาทา workshop ให้ นกั ศึกษาเอาความรู้ จากคาบนันๆมาผสมกั ้ บความคิดสร้ างสรรค์ ใช้ แก้ ปัญหาในโจทย์ที่ท้าทายและไม่ยากจนเกินไป รายงานกลุม่ ทุก วิชา mr.Saturday ไม่สงั่ เป็ นรูปเล่มแต่ให้ สง่ เป็ นการนาเสนอหน้ าชันโดยตั ้ ว mr.Saturday นัง่ ฟั งอยู่หลังห้ องและ จดไอเดียจากนักศึกษาอย่างตังใจ ้ โจทย์ที่ mr.Saturday ให้ เป็ นงานใหญ่ที่ต่อเนื่องและสมบูรณ์แบบ มีการให้ เวลากับแต่ละขันตอนอย่ ้ างชัดเจนโดยบอกโจทย์นับถอยหลังทุกคาบและเปิ ดโอกาสให้ คาปรึ กษาทุกครัง้ ที่มี ปั ญหา(แต่สว่ นใหญ่นกั ศึกษาจะมาปรึ กษาเรื่ องปั ญหาในวิชาของอาจารย์ท่านอื่น) ในแต่ละวิชา mr.Saturday คิดโจทย์ได้ สร้ างสรรค์ ท้ าทาย และน่าสนุก เมื่อนักศึกษารู้สกึ สนุก การนาเสนอของแต่ละกลุม่ ก็ออกมาสนุกและ ได้ ความรู้ ที่น่ารู้ หลังจากการนาเสนอของแต่ละกลุม่ จบ mr.Saturday จะมีข้อคิดเห็น เกร็ ดความรู้ เป็ นไอเดีย เสริ มให้ ด้วยเสมอ ข้ อสอบของ mr.Saturday ไม่ต้องท่องจาแต่ทาให้ นกั ศึกษาได้ แสดงความสามารถโดยการนา ความรู้ออกมาประยุกต์ใช้ และ mr.Saturday มีนโยบายที่ได้ ใจนักศึกษาทังหมดนั ้ น่ คือ "ทุกคนสอบผ่าน" พอนัง่ ราลึกฝั นหวานแล้ ววนิยาก็อยากจะเป็ น "นักเรี ยนมืออาชีพ" ไปตระเวนหาครู เก่งๆแบบนี ้มาสอนในโรงเรี ยน ของตัวเองให้ เยอะๆเลย..

27

รุ่งอรุณเชียงราย : โรงเรี ยนในจดหมายกับหลักสูตรปั จจัยสี่


แต่วนิยาจะไปหาข้ อมูล เส้ นสาย ความน่าเชื่อถือ สิทธิ และ "เงินเดือน" ที่ไหนมาพาตัวเองไปนัง่ สอดแนมตามชัน้ เรี ยนสถาบันต่างๆเพื่อดึงตัวครูเก่งๆที่มีชีวิตที่ดีอยูก่ บั นักเรี ยนของตัวเองอยู่แล้ ว ให้ ย้ายสามะโนมาสอนหลักสูตร ทดลองถึงเชียงรายได้ ละ่ ..อันนี ้ก็ถือว่าเป็ นฝั นที่ดจู ะคิดง่าย แต่ทาจริ งได้ ยากมาก 55 วนิยาก็เลยคิดว่าจะสร้ างโรงเรี ยนด้ วยการ "สร้ างครู" ไปพร้ อมๆกัน และนัน่ ก็คงจะเป็ นหน้ าที่ของ "นักเรี ยนมืออาชีพ" อีกเช่นกัน เมื่อวนิยานั่งเพ้ อเรื่ องโรงเรี ยนทางเลือกหลักสูตรเลวๆของตัวเองเสร็ จ mr.Saturday ก็ บรรยายสไลด์และให้ การบ้ านนักศึกษาเสร็ จพอดี mr.Saturday บอกว่าขอเวลาอ่านอีเมลวนิยาก่อน แต่พอนัง่ คุยกัน 2 ชั่วโมง mr.Saturday ก็รีดข้ อมูลจากปากวนิยาไปได้ หมด สมกับเป็ นอดีตนักวิจยั โฆษณาสปายลึกลับสุดเท่ไฮโซ ก่อนที่ mr.Saturday จะเอาข้ อมูลไปประกอบการพิจารณาให้ คาแนะนาในการรังสรรค์โครงการฟอร์ มยักษ์ ของวนิยา มา ดูกนั ว่า mr.Saturday กับวนิยาคุยอะไรกันบ้ าง 1. วนิยาเขียนโครงการฉบับ 6 ตุลา 56 (ดูอเี มล12ธันวา) ออกมาได้ ยงั ไง !?! ตอบ : วนิยาเมาหนังสืออนุรักษ์ นิยมค่ะ เป็ นหนังสือเล่ม เล็กเล่มเดียวที่มีพลานุภาพอิมแผ็คกระแทกผักกระอัก อินทรี ย์พระแม่ธรณีสะดุ้งลุงกราบกาซาบระบบวิธีคดึ สะกึดใจมากๆ แต่อ่านแล้ วก็ทาได้ แค่ติดตามไปฟั งเสวนาที่ หอศิลป์ สัมผัสสังคมเกษตรบ้ านดินแบบผิวๆ ยังไม่ทนั ไปชุบตัวลงมือทาเกษตรอินทรี ย์ที่ไหนเลย วนิยาเองก็เป็ น แค่ยยั เด็กคอนโดโง่ๆที่ยงั แยกกะเพรากับโหระพาไม่ออก ทากับข้ าวไม่เป็ น และพึ่งพาเซเว่นอีเลฟเว่นบ่อยยิ่งกว่า คนในบ้ านกรุ งเทพรวมกันเสียอีก ถึงแม่จะมีเครื อข่ายเป็ นพี่ปริ๊ นซ์ ที่พี่ปริ๊ นซ์มีเ บื ้องหลังเป็ นพี่จิ๊ก (อ่าน http:// tharavaree.wordpress.com/2010/04/26/pjick_veggieprince) แล้ วพี่จิ๊กยกต้ นอ่อนผักสลัดมาให้ วนิยาเลี ้ยงที่ ระเบียงคอนโดเล่น วนิยายังทาผักสลัดตาย ต้ นไม้ ที่แม่ซื ้อมาประดับไว้ ก็ล้มหายไปเป็ นเศษฟางให้ นกจิกไปสร้ าง รังทีละต้ นสองต้ น และวนิยารักการแอบถ่ายนกคอนโดมากจนล่าสุดแม่พิราบพี่ใหญ่ยา่ มใจเอาไม้ ถพู ื ้นนุ่มๆไปทา รัง(ฝั งใจมาก) จะเห็นว่าชีวิตการเกษตรของวนิยาไม่ได้ โรยด้ วยกลีบอินทรี ย์อย่างที่คนอ่านโครงการฉบับ 6 ตุลา 56 จะคิด แต่เ นื่ องจากวนิ ย าเป็ นคนทันสมัย เมื่ อเมื อ งไทยมี ป ระเด็ นเกษตรอิ น ทรี ย์ เป็ นกระแส ซัก วัน หนึ่ง วนิยาก็จะพยายามตามกระแสด้ วยการฝึ กทาเกษตรอินทรี ย์ให้ ได้ แม้ นิสยั จะไม่ให้ เลยก็ตาม มิ ฉะนันวนิ ้ ยาและ โครงการก็คงจะตกเทรนด์ไม่เป็ นประโยชน์ไปในที่สดุ 2. ทาไมวนิยาคิดการใหญ่.. ตอบ : วนิยาเคยเป็ นเด็กประถมที่ขาดเรี ยนบ่อยมาก เพราะพ่อแม่เดินทางไปประชุมต่างจังหวัดอยู่เสมอ และจะ เป็ นเด็กพิเศษที่นงั่ วาดรู ปเล่นอยู่ในห้ องประชุมระดับประเทศได้ อย่างสบายอารมณ์ วนิยาหัดอ่านหนังสือจาก แผนภาพนโยบายพัฒนาระบบราชการบนผนังสานักงานที่พ่ อกับแม่ไปศึกษา เมื่อพ่อเริ่ มนาคอมพิวเตอร์ เข้ ามา ในโรงพยาบาล พ่อสอนวนิยาให้ ช่วยวาดรูปใน powerpoint เพื่อนาเสนอเรื่ อง "อนุมลู อิสระ" ไปตามชุมชนก่อนที่ คาว่า "ชีวจิต" จะแพร่ หลายในเมืองใหญ่ เมื่อเรี ยนมัธยมต้ น แม่ของวนิยาเป็ นตัวแปรหลักในการจัดตังกรมใหม่ ้

รุ่งอรุณเชียงราย : โรงเรี ยนในจดหมายกับหลักสูตรปั จจัยสี่

28


ขึ ้นในกระทรวงสาธารณสุข และถูกเรี ยกตัวจากเชียงรายไปเป็ นผู้บริ หารเพราะไม่มีใครในกรุ งเทพรู้ จริ งในหลัก ของกรมเลยซักคน ในปี แรกๆ คนในกรมมีทศั นคติลบต่อหมอพื ้นบ้ านมาก ไม่เคยลงพื ้นที่ แต่พดู กับแม่ว่าหมอ พื ้นบ้ านมีจริ งที่ไหนพามาให้ ดูสกั ตัวสิ แม่ใช้ ความสามารถและความอดทนเป็ นอย่างมากในการจัดประชุมพา หมอพื ้นบ้ านทัว่ ประเทศเข้ ามาให้ คนกรุงเทพดู และต่อสู้ให้ หมอพื ้นบ้ านได้ มีที่ยืนไม่กลายเป็ นหมอเถื่อน วนิยาได้ ฝึ กใช้ photoshop ประกอบกับ powerpoint ทาสไลด์ให้ แม่นาเสนอเรื่ องโต๊ ะบีแด(หมอตาแยภาคใต้ )เพราะแม่ ชาวมุสลิมไม่ยอมไปคลอดที่โรงพยาบาลทาให้ อตั ราการตายสูงมาก ปั จจุบนั โรงพยาบาลกับโต๊ ะบีแดต้ องทางาน ร่วมกัน ผสมผสานวิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมในการรักษาชีวิตคนอย่างลงตัว เมื่อเรี ยนมหาวิทยาลัยวนิยาได้ พบ กับโครงการ Youth Venture ที่นาเสนอตัวอย่างเยาวชนและคนตัวเล็กๆที่ทาในสิ่งเล็กๆแต่เป็ นแรงกระทบ จุดสาคัญไปผลักดันเรื่ องใหญ่ ๆจนสร้ างการเปลี่ยนแปลงได้ และคอยสนับสนุนให้ วนิยาริ เริ่ มทาสิ่งเล็กๆเพื่อ เปลีย่ นแปลงอะไรบางอย่างตามที่วนิยาต้ องการ พอเรี ยนจบปริ ญญาตรี วนิยาก็ได้ พบกับ พญ.ลดาวัลย์ สุวรรณ กิตติ แห่งบ้ านสวนสหคลินิก มูลนิธิดลุ ยภาพบาบัดเพื่ออายุและสุขภาพ หมอลดาวัลย์ทาให้ วนิยาได้ ร้ ู ว่าคนไทย กาลังขาดความรู้ทางการแพทย์ที่ถกู ต้ องในการรักษาสุขภาพอย่างประหยัดและถูกวิธี ทาให้ แต่ละปี ประเทศต้ อง เสียงบประมาณค่ายาแผนปั จจุบนั ไปมหาศาลโดยเปล่าประโยชน์ การหาวิธีกระจายความรู้ เรื่ องดุลยภาพบาบัด ให้ แพร่ หลายจะสามารถช่วยประเทศไทยได้ อย่างไม่ต้ องสงสัย หมอลดาวัลย์ประทับใจในตัวพ่อวนิยาและเรี ยก ตัววนิยามาเรี ยนรู้ ที่คลินิ ก ต่อจากนัน้ ก็ เรี ยกแม่ม าช่วยประสานงานเป็ นเบือ้ งหลัง ความสัมพันธ์ ของวงการ สาธารณสุขไทย โดยบอกว่าแม่ของวนิยาเป็ นคนเดียวที่ทาได้ ลูกค้ าของบ้ านสวนสหคลินิกปั จจุบนั เต็มไปด้ วย เส้ นสายยิ่งกว่าเครื อข่ายโทรศัพท์ สามารถส่งวนิยาเข้ าไปร่วมประชุม ATPAC ตัวเปล่าได้ สามีของหมอลดาวัลย์ (เพิ่งเสียชีวิต)เป็ นผู้เริ่ มวางระบบขนส่งมวลชน สอนหมอลดาวัลย์ให้ เขียนหนังสือ และทาอะไรอีกหลายอย่างที่ นักการเมืองไม่ได้ ทา วันหนึ่งในปี 2553 แม่บอกวนิยาว่า หมอลดาวัลย์กาลังฝากความหวังของประเทศไว้ กับ ครอบครัวเรา (แลดูโชคร้ าย) ประสบการณ์ตา่ งๆที่วนิยาได้ รับมาตลอดชีวิต 25 ปี ทาให้ วนิยาคิดไม่ยากที่จะริ เริ่ ม หาทางทาอะไรเพื่อแก้ ไขปั ญหาเชิงระบบมหภาค และตอนวนิยาเขียนโครงการก็เขียนด้ วยความรู้ สึกขาๆเฉยๆ สะดวกใจมากๆ ไม่ร้ ูสกึ หวัน่ เกรงอานาจมืดหรื อหลังเสือเพราะวนิยาไม่เคยเห็นว่ามันมี (อีนี่..น่ากลัว๊ วว!!) 3. ทาไมวนิยาไม่เรี ยนต่อปริ ญญาโท? ตอบ : วนิยาอยากคิดและสือ่ สารเรื่ องต่างๆด้ วยหลักการง่ายๆเข้ าใจได้ ทวั่ ไปในฐานข้ อมูลความรู้ที่ทกุ คนสามารถ เข้ าถึง ไม่อยากมองอะไรจากหอคอยงาช้ างที่เป็ นวิชาการแล้ วสื่ อสารออกมาให้ คนธรรมดาเข้ าใจไม่ได้ และ ความคิดของวนิยายังอ่อนไหวต่อการหลงเข้ าไปในพรมแดนนามธรรมของเอกสารอ้ างอิงที่มีความเป็ นวิชาการสูง วนิยาคิดว่าไอเดียที่เป็ นสากลต้ องสามารถอธิบายให้ เพื่อนในวงโต๊ ะอาหารฟั งเข้ าใจได้ แต่ที่ผา่ นมาวนิยาทาไม่ได้ แค่นี ้สิง่ ที่วนิยาคิดออกมาก็เข้ าใจยากพออยูแ่ ล้ ว อาจารย์ตงข้ ั ้ อสังเกตว่า วนิยายังไม่มีจดุ ยืนของตัวเองที่มนั่ คงพอ ทาให้ กลัวที่จะไปเรี ยนต่อแล้ วอาจจะกลายเป็ น คนที่ต่างออกไปจากเดิม วนิยาเห็นด้ วยและยอมรับว่า ขนาดวนิยาอ่านหนังสือเล่มเดียว (ที่กล่าวถึงในคาถาม แรก) ยังทาให้ จดุ ประสงค์หลักของโครงการที่เขียนออกมาบิดเบือนไปจากที่ตงใจไว้ ั้ พอสมควร แล้ วเมื่อกลับไปดู ความตังใจเดิ ้ มเมื่อ 2 ปี ก่อน (จากไฟล์ภาพแนบในอีเมลฉบับวันที่12ธันวา) วนิยาก็ยงั ตัดสินใจทิ ้งโครงการตัว ใหม่แล้ วใช้ ร่างเก่ามาอธิบายแทน เรื่ องนี ้ทาให้ วนิยามัน่ ใจ กลับไปทบทวน และพยายามรักษาจุดยืนปั จจุบนั ของ ตัวเองไว้ ให้ ดียิ่งขึ ้นกว่าเดิม

29

รุ่งอรุณเชียงราย : โรงเรี ยนในจดหมายกับหลักสูตรปั จจัยสี่


4. หลักสูตรโรงเรี ยนของวนิยา (ดูอีเมล17ธันวา) ดูเหมือนเป็ นการสร้ างโลกอีกใบ.. ตอบ : จากเอกสารในอีเมลจะมีข้อความที่บอกว่า เมื่อนักเรี ยนเรี ยนจบจากโรงเรี ยนแล้ ว จะไปเป็ นกาลังในการ "สร้ างระบบชุมชนใหม่ และสร้ างเครื อข่ายพัฒนาท้ องถิ่นที่เชื่อมัน่ " วนิยายอมรับว่าหลักสูตรที่วนิยาคิดนันท้ ้ าทาย การศึกษาในระบบ และเชิญชวนให้ คนหันหลังออกไปจากโลกใบเดิม วนิยาไม่ได้ ปฏิเสธสังคมทุนนิยมภายนอก เพียงแต่วนิยามี "สังคมอีกแบบ" หรื อจะเรี ยกว่า "โลกที่วนิยาจากมา" ก็ได้ เป็ นโลกของนักพัฒนาสังคม (วนิยาไม่ ค่อยชอบเรี ยกสังคมนี ้ว่า NGO เพราะภาพของคาว่า NGO ในสายตาของคนทัว่ ไปจะเป็ นอีกแบบ) ที่ไม่ค่อยมี ประชากรอาศัยอยู่มากนัก วนิยาเพียงแค่เพิ่มประชากรของโลกนี ้ให้ มากขึ ้น โดยที่การเพิ่มประชากรนักพัฒนา สังคมให้ มากขึ ้นแม้ เพียงคนเดียวก็อาจเป็ นประโยชน์ ต่อส่วนรวมมากกว่าการปล่อยให้ ประชากรในโลกทุนนิยม ใบเดิมอยูก่ นั แบบเดิมๆต่อไปเรื่ อยๆโดยไม่เกิดการเปลีย่ นแปลงอะไรเลยก็ได้ ในเรื่ องนี ้วนิยาอยากจะศึกษาสังคมของ "สันติอโศก" เพราะดูเหมือนเป็ น "โลกอีกใบหนึ่ง" ที่ถูกสร้ างขึ ้นมาได้ สาเร็ จแล้ ว ที่นา่ สนใจคือมีลกั ษณะเป็ นสังคมปิ ด มีระบบการจัดการของตัวเอง มีโรงเรี ยนที่สร้ างประชากรขึ ้นมา อาศัยอยู่ โดยที่วนิยาก็สงสัยว่าเมื่อสมาชิกในโลกนี ้เรี ยนโรงเรี ยนสันติอโศกจบ จะมีความรู้ ในด้ านไหน ไปทางาน เป็ นอะไร มีบทบาทอยู่ในสังคมสร้ างเสริ มระบบของสันติอโศกเองให้ สามารถดารงอยู่ได้ ท่ามกลางโลกของทุน นิยมใบใหญ่ได้ อย่างไรบ้ าง วนิยาอาจจะลองไปเรี ยนรู้ แต่คงไม่เลียนแบบสันติอโศกไปทังหมดเพราะดู ้ เหมือน สันติอโศกจะเปิ ดรับโลกภายนอกน้ อยมาก mr.Saturday ถามวนิยาว่าคิดยังไงกับ NGO ข้ ามชาติ วนิยาไม่ค่อยเปิ ดรับองค์กรพวกนี ้เพราะวนิยาเชื่อว่าการ จะพัฒนาหรื อแก้ ปัญหาสังคมและสิง่ แวดล้ อมในพื ้นที่หรื อประเทศต่างๆที่จะยัง่ ยืนได้ ต้องอาศัยกาลังคนภายใน ท้ องที่เป็ นผู้ปฏิบตั ิเอง หากคนในท้ องถิ่นสักแต่รับความช่วยเหลือจากภายนอกเพียงอย่างเดียวก็จะเป็ นท้ องถิ่นที่ อ่อนแอ การช่วยเหลือที่แท้ จริ งควรจะเป็ นการให้ องค์ความรู้เพื่อสร้ างความเข้ ม แข็งในชุมชนกันเองมากกว่า 5. แล้ ววนิยามาขอคาปรึกษาจาก mr.Saturday ทาไม? ตอบ : เนื่องจากวนิยามีสงั คมหรื อ "โลกที่วนิยาจากมา" เป็ นสังคมของผู้ใหญ่นกั พัฒนา เครื อข่าย NGO นัก อนุรักษ์ อะไรต่างๆเหล่านี ้เต็มไปหมด เมื่อวนิยาเรี ยนจบกลับบ้ านไป ถ้ าไม่ได้ ทางานในสายอาชี พโฆษณาที่เรี ยน ก็จะไม่มีสงั คมเป็ นคนในสายทุนนิยมมาให้ อพั เดตความเป็ นไปของ "โลกแห่งความเป็ นจริ ง" ที่คนส่วนใหญ่อาศัย กันอยู่ แล้ วการรับรู้ของวนิยาก็จะค่อยๆคลาดเคลือ่ นจนไม่สามารถคาดการณ์บริ บทต่างๆตามความเป็ นจริ งเพื่อ คิดกลยุทธ์เปลีย่ นแปลงสังคมได้ เพื่อนของวนิยาที่เรี ยนสายโฆษณามาด้ วยกันทังหมดไม่ ้ ได้ เข้ าทางานในเอเจนซี่ และไม่มีเวลามาวิเคราะห์ความเป็ นไปของสังคมทุนนิยมให้ วนิยาฟั ง มีแต่ mr.Saturday ที่วนิยารู้ จกั และพอจะ ติดต่อได้ วนิยาก็เลยเข้ ามาปรึกษา mr.Saturday เมื่อคุยกันไปเรื่ อยๆ คอนเซ็ปต์งานที่วนิยาทาก็เริ่ มใหญ่ขึ น้ จนถึงจุดที่ทาให้ mr.Saturday ขอถอยออกมาเป็ น ผู้ติดตาม วนิยาก็ตีความว่าโครงการที่วนิยาเขียน ( 6 ตุลา 56 ) มันอาจจะดู "น่ากลัว" วนิยาก็ ยินยอมให้ mr.Saturday ย้ ายสถานะแต่โดยดี เพราะไม่ร้ ูจะรบกวนให้ mr.Saturday ทาอะไรต่อ แต่เมื่อกลับบ้ านมาคิดอีกที ก็เกิดไอเดียว่า เนื่องจาก mr.Saturday ทางานเป็ นฟรี แลนซ์ด้านกลยุทธ์ การสื่อสาร แล้ วปั ญหาของโครงการที่ วนิยาเขียนออกมามีลกั ษณะคือ "น่ากลัว" ทาให้ ไม่มีใครกล้ าเข้ าใกล้ ดังนันหน้ ้ าที่ของ mr.Saturday ในการ แก้ ปัญหากลยุทธ์ การสื่อสารคือ (วนิยาเริ่ มออกคาสัง่ 55) "ทาให้ มนั น่ารัก" และโจทย์ของ mr.Saturday ที่วนิยา

รุ่งอรุณเชียงราย : โรงเรี ยนในจดหมายกับหลักสูตรปั จจัยสี่

30


ต้ องการท้ าทายคือ (สัง่ อีกแล้ ว) วนิยาอยากจะลองลบคาว่า "ทุนนิยม" ออกไปจากเนื ้อหาที่นาเสนอ แล้ วหา วิธีการอธิ บายถึงความเป็ นทุนนิยมด้ วยชุดข้ อความใหม่ เพราะคาว่า "ทุนนิยม" ที่ปรากฎในข้ อเขียนของนัก อนุรักษ์ มกั ทาให้ เกิดความรู้สกึ เหยียดหยาม ให้ ร้าย และแบ่งแยกแนวทางของสังคมออกไปเป็ น 2 โลก ซึ่งวนิยา ไม่ต้องการที่จะทาให้ เกิดการตัดขาดออกจากกันขนาดนัน้ โดยความตังใจเดิ ้ มของโครงการที่วนิยาทา คือหาทาง ที่โลกทัง้ 2 คือทุนนิยมและอนุรักษ์ นิยม จะสามารถประสานพึ่งพิงกันได้ อย่างสมดุลเป็ นประโยชน์ และไม่ ก่อให้ เกิดผลเสียต่อส่วนรวม และ mr.Saturday บอกวนิยาไว้ ว่า mr.Saturday กาลังสนใจเรื่ อง sustainable ที่ ทาให้ ทนุ นิยมอยูใ่ นโลกอย่างยัง่ ยืนได้ หากลองอ่าน "โจทย์" ภาพยนตร์ ภาคที่ 2 ในโครงการของวนิยาดูดีๆแล้ วจะ พบว่า เป็ นเรื่ องของ sustainable technology ล้ วนๆ เพียงแต่วนิยาเริ่ มค้ นคว้ าเอกสารประกอบเพื่อทาเนื ้อหา ภาพยนตร์ ภาคแรกซึ่งเป็ นเรื่ องของอนุรักษ์ นิยมก่อน ทาให้ แนวทางของโครงการที่เขียนขึ ้นมีนา้ หนักไปทาง อนุรักษ์ นิยมมากจนคนอ่านเข้ าใจผิด(กันไปหมดเลย) และวนิยาก็ยงั ไม่มีฐานข้ อมูลทางโลกทุนนิยมมากพอที่จะ เขียนมุง่ เป้าไปยัง sustainability โดยตรงได้ คิดว่าเป็ นเรื่ องที่คอ่ นข้ างใหม่ (ภาษาไทยก็ยงั ไม่มี) ซึ่งน่าจะค้ นคว้ า ยากยิ่งกว่าสายอนุรักษ์ นิยมที่เป็ นกระแสในบ้ านเรามาก่อนอยูแ่ ล้ ว วนิยาขอผลักคอนเซ็ปต์ครึ่ งหนึ่งของโครงการ ที่วนิยาทาค้ างไว้ มามอบหมายให้ mr.Saturday (สัง่ ขนาดนี ้จ้ างกันเลยดีกว่า) เป็ นผู้ค้นคว้ าและแนะนาวนิยาใน เรื่ อง sustianable technology ที่ mr.Saturday สนใจอยู่ ให้ สนุกเต็มที่ตามแต่ที่ mr.Saturday จะพอใจค่ะ sustainable technology ในทัศนะของวนิยา คือนวัตกรรมที่นาความรู้ สมัยใหม่มาใช้ จดั การปั ญหาของโลกยุค ปั จจุบนั ที่ถกู พัฒนาหรื อหยิบฉวยมาใช้ จนไม่สามารถหันกลับไปปฏิบตั ิตามแนวทางของโลกยุคโบราณได้ และถ้ า จะให้ ดีขึ ้นอีก sustainable technology คือนวัตกรรมเทคโนโลยีที่สามารถตอบสนองความต้ องการแก้ ปัญหา ทดแทนภูมิปัญญาที่มีอยู่เก่าก่อนได้ อย่างมีประสิทธิภาพและยัง่ ยืนโดยไม่ก่อให้ เกิดผลเสียตามมา ซึ่งการที่จะ คิดค้ นนวัตกรรมระดับนี ้ออกมาได้ จาเป็ นที่จะต้ องใช้ ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ ซงึ่ เกิดจากกระบวนการลองผิดลอง ถูก คิดค้ นออกมาโดยผ่านยุคของการค้ นคว้ าและเคยทาลายหรื อล้ มเหลวในขันตอนที ้ ่ยงั รู้เท่าไม่ถึงการณ์มาก่อน ในจุดนี ้วนิยาจึงไม่ปฏิเสธโลกของทุนนิยมเพราะเป็ นกระบวนการที่จะทาไห้ เกิดภูมิปัญญาทางเลือกที่ดีกว่าและดี ที่สดุ ขึ ้นมาให้ สงั คมได้ ใช้ ประโยน์อย่างกว้ างขวาง 6. ทาไมวนิยาถึงสนใจประเด็นเรื่ องการศึกษา? ตอบ : วนิยามี "ปมด้ อย" ส่วนตัว (ตกลงกับ mr.Saturday แล้ วว่าจะเรี ยกอย่างนี ้) ตังแต่ ้ เด็ก คือ เป็ นเด็กรุ่ นแรก โรงเรี ยนโนเนมแต่สอบติดทุนช้ างเผือกจุฬาภรณ์ได้ ที่1แล้ วตบหน้ าสถาบันด้ วยการไม่เข้ า จากนันก็ ้ มีคาถามเรื่ อง นี ้เข้ ามาตลอด ทาให้ วนิยาใช้ ชีวิตการเรี ยนอย่างสุดความคาดหมายเพื่อหาคาตอบ สามารถอ่านวีรกรรมของ วนิ ย าได้ ที่ note แนะน าตัว ด้ า นประวัติ ก ารศึก ษา ทัง้ 5 ตอน ใน page ของโครงการ TTQ ในลิง ก์ https://www.facebook.com/TutorialsQuad/notes สาหรับ mr.Saturday และมิตรรักแฟนเพลงสามารถเข้ าไป ราลึก "มหากาพย์ข้อความสีเทา" (ลงสีให้ อา่ นง่าย) ได้ โดยการ search อีเมลเก่าเมื่อย่าง 2 ปี ที่แล้ ว ชื่อ Answers & the Raw Project‫(‏‬ส่งเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 8 มีนาคม 2555) สาหรับผู้ซื ้อหนังสือฉบับอีเมลรวมเล่มสามารถเปิ ด ไปอ่านแบบสีเทาได้ ในภาคผนวกท้ ายเล่มค่ะ

31

รุ่งอรุณเชียงราย : โรงเรี ยนในจดหมายกับหลักสูตรปั จจัยสี่


7. ทาไมวนิยาถึงเลือกเรี ยนโฆษณา? ตอบ : ปี 2004 (2547) วนิยาอาศัยบริ บทจังหวัดเล็กสอบติด AFS ไปใช้ ชีวิตที่เยอรมัน 1 ปี เป็ นนักเรี ยน แลกเปลีย่ นที่แทบจะโดนรุ่ นแบนเพราะไม่เคยไปมาหาสูเ่ อาแต่เขียนอีเมลส่งทางเดียว(เหมือนตอนนี ้)จนเพื่อนๆ เรี ยกชื่อตามอีเมล(เก่า)ว่า "วนิยาน่า" ตอนอยู่ที่เยอรมัน วนิยาน่าไม่นิยมไปเยี่ยมชมสถานที่ท่องเที่ยวต่ างๆ แต่จะเดินรอบเมืองและถ่ายรู ปอย่าง ละเอียดเหมือนนักเขียนการ์ ตนู เพื่อซึมซับวัฒนธรรมและจดจาไอเดียเจิดๆเอาไว้ ใช้ สิ่งที่วนิยาสังเกตได้ จากการ เดินรอบเมืองทุกๆวันก็คือ Corporate Identity หรื อการสร้ างแบรนด์ของ "รัฐวิสาหกิจ" ในเยอรมัน จะใช้ กลยุทธ์ การสือ่ สารที่ชดั เจนมาก ธนาคารสีแดง(สด) ไปรษณีย์สีเหลือง(สด) ตารวจสีเขียว(สด) ขนส่งสีน ้าเงิน(สด) และ เครื อข่ายโทรศัพท์ สีชมพูบานเย็น(ซ้ ดสด) โดยธนาคารดูเหมือนจะมีเจ้ าเดียวมีชื่อตรงตัว อยู่ในดิกชันนารี ว่า "ธนาคารออมสิน" (แต่ปีที่วนิยาไปอยู่ ทางไปรษณีย์ก็มีการเปิ ด "ธนาคารไปรษณีย์" ขึ ้นมาแข่งเพื่ออะไรก็ไม่ร้ ู ) ทุก อย่างที่ธนาคารใช้ เป็ นสีแดง(สด)หมด วนิยาประทับใจไปรษณีย์เยอรมันมาก เวลาเดินเข้ าไปออฟฟิ ศไปรษณีย์จะ มีทกุ อย่างเป็ นสีเหลือง(สด) ตู้ไปรษณีย์ก็สเี หลือง(สด) ชุดบุรุษไปรษณีย์ก็สเี หลือง(สด)สีสดทังตั ้ วยิ่งกว่าพนักงาน ดับเพลิง เมื่อเห็นบุรุษไปรษณีย์หอบกระเป๋ าเหลืองๆ(สด)ขึ ้นรถเมล์แล้ วเราก็จะเข้ าใจทันทีว่าท่านกาลังพลีชีพ ปฏิบตั ิหน้ าที่เพื่อประชาชนอยู่ โลโก้ ของไปรษณีย์เป็ นรู ปทรงโมเดิร์นสีดาชัดเจนที่ตีความออกมาจากสัญลักษณ์ รูปแตรสือ่ สาร ถ้ าอยากเห็นโลโก้ เดิมแบบคลาสสิกๆก็ไปเดินหาดูต้ จู ดหมายตามบ้ านทัว่ ไปได้ รูปที่แนบมาคือ รูปแอบถ่ายบรรยากาศในห้ องเรี ยน(วิชาภาษาสเปน) โรงเรี ยนนี ้แปลกที่แต่ละห้ องที่มีกระดานไม่ เหมือนกัน และกระดานห้ องนี ้ออกแบบมาได้ สร้ างสรรค์มากๆ เลื่อนขึ ้นลงได้ เอามาต่อกันก็ได้ แหวกกลางฉาย สไลด์ขึ ้นจอก็ได้ บรรยากาศในห้ องก็นา่ เรี ย้ น..น่าเรี ยน (โรงเรี ยนรุ่งอรุณเชียงรายก็จะเอาอย่างนี ้ๆ)

เมื่อวนิยากลับมาเรี ยน ม.5 ในปี 2548 บริ ษัท Matching ก็จัดโครงการประกวดโฆษณา "Happy ไม่ใช่เล่น Award" โดยส่งคลิปนาเสนอข้ อมูลการสร้ างแบรนด์ของ Happy อย่างละเอียดและเปิ ดเผยที่สดุ เท่าที่วนิยาได้ เคยเห็นมา ทาให้ วนิยาเรี ยนรู้ วิธีการสร้ างแบรนด์อย่างรวดเร็ วและเกิดแรงบันดาลใจอยากสร้ างแบรนด์เป็ นของ ตัวเองตังแต่ ้ สมัยเป็ นนักเรี ยน อีกทังวนิ ้ ยามีรูมเมทคูห่ ทู ี่ขยันมาก สามารถสรรหากิจกรรมนอกโรงเรี ยนมาให้ วนิยา เข้ าร่ วมได้ ไม่เว้ นเทอม วนิยาจึงมีประสบการณ์ ด้านความคิดสร้ างสรรค์มากกว่าคนอื่นๆ เช่น สมัครไปร่ วม

รุ่งอรุณเชียงราย : โรงเรี ยนในจดหมายกับหลักสูตรปั จจัยสี่

32


Workshop แนะแนวอาชีพ Creative แล้ วเอาเพลงแปลงที่เขียนได้ ไปเสนอพี่ครี เอทีฟคนหนึ่งแบบไร้ เดียงสาโดย ไม่ร้ ู ว่า ระบบการสร้ างสรรค์โฆษณาของเอเจนซี่คือต้ องรอให้ บริ ษัทเอาสินค้ ามาว่าจ้ างก่อนแล้ วถึงจะคิดเป็ น โฆษณาออกมา จากความหน้ าด้ านไปทัว่ เช่นนี ้ก็ทาให้ ได้ ความรู้เพิ่มและเข้ าใจในอาชีพครี เอทีฟโฆษณาครบถ้ วน ก่อนใครและเฝ้ ารอความฝั นที่จะได้ ทางานในเอเจนซี่ดงั ๆสร้ างแบรนด์เจ๋งๆขึ ้นมาสักวันหนึง่ 8. วนิยาส่งอีเมลให้ ใครบ้ าง ส่งในฐานะอะไร และมีใครให้ คาแนะนาอยูอ่ ีกหรื อเปล่า ? ตอบ : mr.Saturday เป็ นคนเดียวที่ให้ คาแนะนาวนิยา ถึงแม่วนิยาอ่านโครงการแล้ วจะเปิ ดโอกาสให้ วนิยาหา เวลาไปขอคาปรึ กษาจากผู้ทรงคุณวุฒิ วนิยาก็คิดว่าได้ คยุ กับ mr.Saturday คนเดียวก็เพียงพอแล้ ว เพราะ mr.Saturday ให้ คาแนะนาที่เข้ าใจง่าย และการไปหาคนระดับนันมั ้ นหลังเสือมากๆ โครงการของวนิย ายังไม่มี จุดยืนที่แข็งแรงพอจะไปคุยกับใครจริ งจังได้ อีกอย่างวนิยาเลือกที่จะไม่ทางานกับผู้ใหญ่ วนิยาอ่านหนังสือของ ผู้ใหญ่มา(น้ อย)พอแล้ ว วนิยาเชื่อว่าคนรุ่ นใหม่ที่มีการศึกษาจะมีมุมมองที่กว้ างไกลและมีทางเลือกมากกว่า ผู้ใหญ่กลุม่ นี ้ และวนิยาเชื่อมัน่ ใน mr.Saturday เพราะ mr.Saturday ตอบวนิยาทุกคาถามโดยไม่ขอเวลานอก แล้ วคาถามของ mr.Saturday ก็จดุ ประกายให้ วนิยาสามารถตอบออกมาเป็ นอะไรที่@#&*%$!มาก วนิยาไม่เคย เห็นใครทาได้ แบบนี ้ และคนที่คยุ กับวนิยาได้ เกินครึ่งชัว่ โมงไม่ใช่คนธรรมดาแน่นอน !-) สาหรับสาเนาอีเมลที่เหลือ ส่วนใหญ่วนิยาส่งเป็ นการ "แจ้ งเพื่อทราบ" สาหรับคนรู้ จกั และที่เกี่ยวข้ องกับโครงการ เพื่อให้ ทราบความเคลื่อนไหว เวลามีวาระอะไรต้ องขอความร่ วมมือหรื อจะแสดงความคิดเห็นก็ จะได้ อพั เดต ข้ อมูลโดยทัว่ กัน จบข่าว. ... จะวันเสาร์ อีกรอบแล้ ว!!! วนิยาใช้ เวลาเขียนอีเมลฉบับนีม้ า5วัน! ขอบคุณทุกท่านมากๆที่อ่านมาจนถึงตรงนี ้ วนิยาพยายามถ่ายทอด ออกมาอย่างสุดความสามารถได้ แค่นี ้ หวังว่าคงจะอ่านไม่ยากจนเกินไป เข้ าใจว่าเหนื่อยแค่ไหนกว่าจะอ่านจบ รบกวนเวลาเล่นเฟซบุ๊ก (และรบกวนเวลาทางานของ mr.Saturday ที่ไม่มีเฟซบุ๊ก) ไปมากมาย อีกไม่กี่วนั ก็จะปี ใหม่แล้ ว ขอให้ สนุกกับวันหยุดและพักผ่อนกันให้ เต็มที่ รักษาสุขภาพให้ ดีอย่าให้ เหมือนวนิยาที่เขียนอีเมลโต้ ลม หนาวทุกคืนจนรอคิวป่ วยรับเคาท์ดาวน์ลว่ งหน้ าไปแล้ ว ตอนนี ้วนิยาพักอยู่กบั ป้าที่กรุ งเทพ แต่หลังส่งอีเมลคืนนี ้ ตอนตี 3 วนิยาจะออกเดินทางไปเชียงราย แล้ วจะกลับมาเปิ ด inbox อีกครัง้ หลังวันที่ 2 มกราคม 2557

33

รุ่งอรุณเชียงราย : โรงเรี ยนในจดหมายกับหลักสูตรปั จจัยสี่


ข่าวด่วนชวนหงุดหงิด : แม่โทรมาเมื่อเช้ า บอกว่า เพิ่งใส่ชื่อวนิยาเป็ นนักวิจยั ของมูลนิธิให้ ไปทางานเก็บข้ อมูลกับน้ ายอม (พยอม ดีน้อย) ในโครงการวิจยั ระยะเวลา ปี ครึ่ ง เริ่ มทางานปี หน้ า วนิยาไม่ได้ เกลียดการวิจยั นะ แต่วนิยาไม่ชอบถูกลากไปมี ส่วนร่ วมกับโครงการที่ตวั เองไม่ร้ ู ไม่เห็น ถึงจะได้ เงินเดือนมาใช้ สบายๆ แต่นนั่ ไม่ใช่ปัญหา ปั ญหาคือ ตอนนี ้ทัง้ มูลนิธิมีคนทางานอยู่ 3 คน (แม่ น้ ายอม วนิยา) แล้ วหาคนที่เก่งพอมีเวลาสมัครใจมาช่วยไม่ค่อยได้ วนิยาถึงได้ คิดจะตังโรงเรี ้ ยนสร้ างคนมาทางานทางนี ้โดยเฉพาะนี่แหละ.. ก็เลยต้ องมาแจ้ งให้ ทราบกันว่า : จากวันนีไ้ ปอีก "ปี ครึ่ ง" โครงการกับงานเขียนทัง้ หลายที่วนิยาทามาทัง้ หมด ( Tutorials กวดวิชาสารพัด , ประธานโทษกบฏโซตัส , สมดุล:เมื่อทุกคนและคุณมีสิทธิ์เป็ นหมอ , มโนอาห์:ธิดากระบวนเทพ ) อาจจะต้ อง หยุดชะงักไป เพราะที่เขียนๆออกมาได้ ไม่ใช่เก่ง แต่ต้องอาศัย "อารมณ์ เวลา สมาธิ" ในสภาวะที่มีคณ ุ ภาพ(เอา แต่ใจ)มากกว่าที่คนปกติทวั่ ไปจะเข้ าใจได้ ตลอดปี ที่ผ่านมาวนิยาหาที่ทางของตัวเองพัฒนาโครงการและงานเขียนออกมาได้ จากการเก็บตัวอยู่คนเดียว แผนการหารายได้ เสริ มเลี ้ยงตัวเองก็ขอเป็ นงานที่ไม่ต้องใช้ พลังความคิดมาก (ตังซุ ้ ้ มขายน ้ามะนาว) เพื่อที่จะได้ คิดโครงการไประหว่างทางานได้ เงินเก็บระยะยาวก็ลงทุนกับแม่สร้ างอาคารเอนกประสงค์ (ออฟฟิ ศมูลนิธิกับ อพาร์ ตเม้ นต์มีดาดฟ้ า) เตรี ยมเป็ นผู้จดั การเก็บค่าเช่าอยูใ่ นย่านหอพัก ม.ราชภัฏเชียงรายแล้ ว แต่ถ้าจะต้ องทางานลงสนามวิจยั (ก่อนเวลาที่วางแผนเอาไว้ ว่าจะตังโรงเรี ้ ยนซึ่งก็เน้ นการวิจัย) คงจะทาให้ ทุก อย่างชะลอออกไปหมด บังเอิญว่าโครงการวิจัย ตัวนีก้ ็ ดูไม่ใช่กระบวนการหรื อค่ายที่จะทาให้ ได้ พบปะผู้คน แลกเปลีย่ นความคิดเห็นเอาประสบการณ์กนั ซะด้ วย ยังไงก็ทาได้ แค่ปลง แล้ วก็บอกตัวเองว่า "เสียเวลาไปทาเพื่อ เงินซะบ้ าง" คงไม่ตายหรอกเนอะ T-T สวัสดีคะ่ ^ ^

รุ่งอรุณเชียงราย : โรงเรี ยนในจดหมายกับหลักสูตรปั จจัยสี่

34


ครู นิด โจ๊ ะมำโลลือหล่ ำ Re: รุ่ งอรุ ณเชียงรำย : หลักสูตร 16 ธ.ค.2556‫‏‬ 30 ธันวาคม 2556 ถึง คุณวนิยา ก่อนอื่นต้ องขอขอบคุณที่ส่งข่าวสารความคืบหน้ าต่างๆมาให้ ครู นิดได้ ร่วมแลกเปลี่ยนเรี ยนรู้ และขอ โทษด้ วยที่ไม่มีโอกาสได้ สง่ ข่าวคราวกลับไปเลย เพิ่งได้ อ่านร่ างหลักสูตรโรงเรี ยนรุ่ งอรุ ณเชียงราย ก็ร้ ู สกึ ตื่นเต้ น ยินดี ที่จะมีภาคีเครื อข่ายผู้คดิ การดี และมีเจตจานงที่จะทางานเพื่อพัฒนาการศึกษาเพิ่มขึ ้น เพราะคนทีคิดการดี เพื่อการศึกษานันมี ้ น้อย แต่คนที่มีเจตจานงมุง่ มัน่ ที่จะลงมือทานัน้ มีน้อยยิ่งกว่า อย่างไรเสียก็ ขอปวารณาตัวไว้ ล่วงหน้ าในฐานะภาคีเครื อข่ายการเรี ยนรู้ มีอะไรที่ครู นิดจะพอร่ วม แลกเปลี่ยนเรี ยนรู้ ได้ ก็ยินดีอย่างยิ่งนะคะ ไม่ว่าจะด้ านการให้ ข้อมูล ประสบการณ์ การการทางานที่ผ่านมา แลกเปลี่ยนเรี ยนรู้ เรื่ องงานวิจยั การพัฒนาหลักสูตรการเรี ยนการสอน ไปช่วยสอนในโอกาสที่เอื ้ออานวย ส่งครู อาสามาฝึ กสอน หรื อจะมาเยี่ยมเยียนโจ๊ ะมาโลลือหล่า(โรงเรี ยนวิถีชีวิตชุมชนปกาเก่อญอบ้ านสบลาน) ฯลฯ ช่วงภาคเรี ยนนี ้ โจ๊ ะมาโลลือหล่า จะมีประเด็นการเรี ยนรู้ที่สาคัญ คือเรื่ องป่ าต้ นน ้า ซึง่ จะเป็ นการเรี ยนรู้ แบบบูรณาการเป็ นองค์รวมจากปั ญหาจริ งที่เกิดขึ ้น มีการศึกษาเรื่ องผลกระทบและทางออกที่เหมาะสมของ โครงการจัดการน ้าของภาครัฐที่จะสร้ างเขื่อนแม่แจ่มและเขื่อนแม่ขาน ซึ่งจะก่อให้ เกิดการสูญเสี ยระบบนิเวศน์ ป่ าและลาน ้า สูญเสียป่ าต้ นน ้าชัน้ 1 A และทาลายวิถีชีวิตของชุมชนปกาเก่อญอผู้ทาหน้ าที่ในการรักษาป่ าต้ นน ้า ให้ กบั สังคมไทย ฯลฯ โดยจะมีกระบวนการเรี ยนรู้ ผ่านกิจกรรมที่หลากหลาย ทังการท ้ าละครและสื่อสร้ างสรรค์ เพื่อสะท้ อนปั ญหาชุมชนและสิ่งแวดล้ อม การเดินสารวจลาน ้าแม่ขาน การเข้ าร่ วมเวทีแลกเปลี่ ยนเรี ยนรู้ การ จัดกิจกรรมรณรงค์คดั ค้ านการสร้ างเขื่อน ฯลฯ ถ้ าคุณวนิยาสนใจเข้ ามาร่ วมเรี ยนรู้ ในกิจกรรมต่างๆก็ยินดีนะคะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกิจกรรมที่อยาก เชิญชวนให้ คุณวนิยามาร่ วมคือ การเดินสารวจลาน ้าแม่ขาน ซึ่งเราเพิ่งเดิน สารวจรอบแรกผ่านไปแล้ วในวันที่ 23-24 ที่ผา่ นมา แต่จะมีการจัดเดินอีกรอบที่จะเป็ นเปิ ดให้ มีเครื อข่าย หน่วยงาน องค์กรต่างๆ รวมทังนั ้ กวิชาการ นักข่าว ฯลฯ มาร่ วมเดินด้ วย โดยจะเดินเลาะตามลานา้ แม่ขานจากป่ าต้ นน ้าบ้ านสบลานลงมา ผ่านอุทยาน แห่งชาติออบขาน ไปจนถึงหมู่บ้ านแม่ขนินใต้ (ซึ่งจะจมอยู่ใต้ น ้าหากมีการสร้ างเขื่อนแม่ขาน) ซึ่งจะใช้ เวลา ประมาณ 2-3 วันในการเดินและพักแรมในป่ า กาหนดการจะอยูใ่ นช่วงกลางกุมภาถึงกลางมีนา เนื่องจากอากาศ จะไม่หนาว ไม่ร้อนหรื อมีแมลงชุกเกินไป และน ้าในลาน ้าก็จะไม่สงู เกินไป สามารถเดินข้ ามได้ อย่างปลอดภัย ถ้ า กาหนดวันชัดเจนแล้ ว จะแจ้ งไปอีกทีนะคะ คุณวนิยาสามารถติดตามความเคลือ่ นไหวของโจ๊ ะมาโลลือหล่าได้ จาก Facebook ชื่อ ศูนย์การศึกษา โจ๊ ะมาโลลือหล่า นะคะ แม้ ว่าจะอัพข้ อมูลได้ ไม่ทนั ใจนัก เพราะอยู่บนดอยทาไม่ได้ สัญญาณไม่เอือ้ อานวย

35

รุ่งอรุณเชียงราย : โรงเรี ยนในจดหมายกับหลักสูตรปั จจัยสี่


(แม้ แต่โทรศัพท์ยงั ติดต่อยากมากเลย) แต่เราก็ใช้ Facebook เพราะเป็ นช่องทางสาหรับการสื่อสารแลกเปลี่ยน กับกลุม่ ภาคีเครื อข่ายการเรี ยนรู้ ต่างๆอยู่ค่ะ ซึ่งเราก็มีโอกาสต้ องลงมาทาธุระและพาเด็กๆมาเรี ยนรู้ ที่เชียงใหม่ บ่อ ยๆ เพราะนอกจากงานประชุมร่ วมกับภาคี การเรี ยนรู้ ต่า งๆ ทัง้ เครื อ ข่า ยการศึก ษาทางเลือ ก เครื อข่า ย การศึกษาชนเผ่า เครื อข่ายเกษตรกรภาคเหนือ ฯลฯ เราก็มีพื ้นที่ ที่ Empty Space Chiangmai อ.สันป่ าตอง ซึ่ง เป็ นเหมือนศูนย์ศิลปวัฒนธรรมของน้ องสาวฝาแฝดที่หน้ าตาเหมือนครูนิดนี่แหละ เป็ นอีกพื ้นที่หนึ่งที่เราพาเด็กๆ ที่โจ๊ ะมาโลลือหล่ามาอาศัยอยู่เพื่ อเรี ยนรู้ บ่อยๆ ทังเรื ้ ่ องการเข้ าร่ วมกิจกรรมทาละครนานาชาติ การทาเครื่ อง เคลือบดินเผา รวมถึงเรื่ องอื่นๆที่ต้องมาเรี ยนรู้ในเชียงใหม่ และยังมีพื ้นที่ของ อ.ประภาภัทร จากโรงเรี ยนรุ่ งอรุ ณ อยูใ่ กล้ ๆกัน ซึ่งท่านยกให้ เราใช้ ประโยชน์หลังจากลุงที่ใช้ พื ้นที่ทานาเสียชีวิต ไปกระทันหันและไม่มีคนดูแลพื ้นที่ ต่อในปี นี ้ เราก็ เลยใช้ เป็ นพื ้นที่ทาเกษตรกรรมทดลอง ที่เป็ นทังแหล่ ้ งเรี ยนรู้ จากการปฏิบัติจริ งและเป็ นแหล่ง อาหารของเด็กๆโจ๊ ะมาโลลือหล่าด้ วย (เพิ่งเกี่ยวข้ าว ตีข้าวกันเสร็ จไปเมื่อต้ นเดือนนี ้เอง) ดังนัน้ ถ้ าคุณวนิยา มี โอกาสมาเชียงใหม่ อาจส่งข่าวคราว เผื่อได้ พบปะแลกเปลีย่ นกันบ้ างก็ได้ คะ่ ยินดียิ่งที่ได้ ร่วมแลกเปลีย่ นเรี ยนรู้ ครูนิด โจ๊ ะมาโลลือหล่า

รุ่งอรุณเชียงราย : โรงเรี ยนในจดหมายกับหลักสูตรปั จจัยสี่

36


ครู นิด โจ๊ ะมำโลลือหล่ ำ Re: นักเรียนมืออำชีพ‫‏‬ 30 ธันวาคม 2556 ถึง คุณวนิยา จากที่ได้ อา่ นความเป็ นมาเป็ นไปในการคิดก่อการดีเพื่อพัฒาการศึกษาของคุณวนิยา ก็มีความคิดเห็น ที่จะแลกเปลี่ยนว่า คุณวนิยามีทุนและความพร้ อมที่จะก่อการตามเจตนารมณ์ ที่ตงไว้ ั ้ ทัง้ 3 ด้ าน ทังทุ ้ นทาง ปั ญญา ทุนทางสังคมและทุนทรัพย์ ทุนทางปั ญญา คือ ความรู้ ความเข้ าใจ ความคิด ความเห็น ที่ถกู ที่ควรอันมีเป้าหมายเพื่อความเจริ ญ งอกงามของสังคม และการเปิ ดใจเรี ยนรู้เพื่อปรับปรุง พัฒนาตนเอง ทุนทางสังคม คือ มีฐานครอบครัว ญาติมิตร แวดวงในสังคมที่ดีมากมาย ที่เป็ นทังรากฐานชี ้ วิตที่ดีและ เป็ นทังกั ้ ลยาณมิตรผู้พร้ อมที่จะเกื ้อหนุน ทุนทรั พย์ คือ มี ฐานะทางการเงิ นที่พ อจะทาการได้ แม้ ว่า ส่วนนีจ้ ะดูอ่อนในมุมมองของคุณวนิย า เหมือนไม่มีทนุ จะทา แต่อนั ที่จริ ง เพียงแค่ คุณวนิยาไม่ได้ เป็ นผู้มีหนี ้สินหรื อต้ องมีภาระหาเลี ้ยงครอบครัว อีกทัง้ การมีแวดวงที่พร้ อมจะสนับสนุนเรื่ องสถานที่ก่อการหรื อสนับสนุนด้ านอื่นๆ ก็ถือได้ ว่ามีทุนทรัพย์อยู่ในระดับที่ พอจะวางแผนก่อการได้ แล้ ว ที่สาคัญที่สดุ คือ ทุนภายในของคุณวนิยา ซึ่งจะเป็ นสิ่งที่ขบั เคลื่อนการก่อการทังหลาย ้ และจะเป็ นตัว เปิ ดรั บ ให้ ทุน ด้ า นต่า งๆ เข้ า มาสนับ สนุน ได้ ซึ่ง คุณ วนิ ย าอาจรู้ จัก ทุน ภายในบางส่ว นของตนอง ที่ เ รี ย กว่ า ธรรมชาติของตนเอง แต่ยงั มีทนุ ภายในอีกมากที่ดารงอยู่ในตัวเรา โดยที่เราไม่เคยรู้ และจะไม่มีวนั รู้ หากไม่เปิ ด โอกาสเผชิญหน้ าเรี ยนรู้ ครู นิดเอง ก็เริ่ มต้ นจากทุนภายในของตัวเอง ที่มีอยู่น้อยนิด จากเด็กเหลือขอที่มีปมด้ อยจากการไม่ สามารถอยูใ่ นโรงเรี ยนตามระบบได้ ต้ องลาออกมาเรี ยนรู้ด้วยตนเองตังแต่ ้ เพิ่งเริ่ มขึ ้น ม.5 แต่ความสนใจในศิลปะ จริ งจัง ก็เลยสอบเทียบ ม.6 และสอบเข้ าม.ศิลปากรได้ ดงั ใจหวัง ก็ได้ แต่ทางานศิลปะเพื่อบาบัดความป่ วยไข้ ของ ตนเอง และก็หนั มาหาหนังสือปรัชญาเกี่ยวกับการศึกษาทางเลือกเพื่อทาความเข้ าใจกับตัวเองให้ ได้ ว่า ทาไมเรา จึงเรี ยนแบบคนอื่นๆไม่ได้ จึงเป็ นฐานให้ เข้ าใจการศึกษาทางเลือก จบมาก็ใช้ ชีวิตเป็ นศิลปิ น ทางานศิลปะ จนมีลกู และมีเด็กๆแถวบ้ านเช่า (ชุมชนคล้ ายๆสลัม) มาเล่นที่ บ้ านเยอะแยะ ก็พาเด็กทางานศิลปะ และพบว่าเราอยู่กับเด็กแล้ วทาให้ เรานิสยั ดีขึ ้น ก็เลยไปเป็ นครู ศิลปะ ที่ โรงเรี ยนรุ่งอรุณ

37

รุ่งอรุณเชียงราย : โรงเรี ยนในจดหมายกับหลักสูตรปั จจัยสี่


การเป็ นครูศิลปะที่รุ่งอรุณก็เปิ ดทางชีวิตใหม่ที่ทาให้ ได้ ร้ ูจกั พระพุทธศาสนา พบเป้าหมายของชีวิต และ ได้ พบแนวทางที่ใช้ ศิลปะเป็ นสือ่ ในการพัฒนาคนและเป็ นรากฐานของการศึกษา จึงรับเป็ นครูประจาชันห้ ้ องเรี ยน ชันคละมั ้ ธยมต้ นซึง่ เป็ นห้ องเรี ยนของเด็กพิเศษที่ไม่สามารถเรี ยนร่ วมในชันเรี ้ ยนปกติได้ โดยใช้ ชีวิตเป็ นตัวตังใน ้ การเรี ยนรู้และใช้ ศิลปะเป็ นสือ่ ในการบูรณาการทุกสาระวิชา จนกระทัง่ โรงเรี ยนรุ่ งอรุ ณพาครู ไปวิเวกภาวนาที่ชุมชนปกาเก่อญอบ้ านสบลาน ได้ อยู่วิเวกในป่ าคน เดียวเพื่อสัมผัสธรรมชาติภายในของตนที่สมั พันธ์ กับธรรมชาติภายนอก จึง สัมผัสรับรู้ ได้ ว่า เราเป็ นเพียงส่วน เล็กๆของธรรมชาติอย่างแท้ จริ ง บ้ านที่แท้ จริ งของมนุษย์ก็คือธรรมชาติ และสัมผัสได้ ถึงความสัมพันธ์ ของคน ต้ นน ้าปลายน ้า คนอยูป่ ่ ากับคนอยูเ่ มือง เห็นความทุกข์ที่เป็ นความทุกข์เดียวกันของคนทังโลก ้ ได้ รับรู้ ความทุกข์ ของชาวบ้ านที่ไม่มีโรงเรี ยนในหมูบ่ ้ าน เด็กต้ องออกไปเรี ยนนอกหมูบ่ ้ าน ส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิต วัฒนธรรม และ ความอยู่รอดที่ยั่งยืนของชุม ชน ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้ อมและสังคมต่อ ไปอีก ก็ เลยเกิ ดสานึกที่จ ะ ปวารณาตัวไปช่วยทาโรงเรี ยน ทังที ้ ่ไม่ได้ คิดว่าจะต้ องเป็ นคนก่อตังหรื ้ ออะไร โจ๊ ะมาโลลือหล่าเกิดขึ ้นจากการก้ าวฝ่ าไปทีละก้ าว ด้ วยหัวใจที่เห็นคุณค่าในสิง่ ที่ทาอยู่ ไม่ใช่ด้วยความ เก่งกล้ าสามารถ การเห็นคุณค่าแท้ จริ งในสิ่งที่ทา ช่วยขัดเกลาครู นิดให้ สามารถก้ าวข้ ามข้ อจากัดต่างๆของ ตัวเอง ลุกขึ ้นมาเผชิญหน้ าเรี ยนรู้ กับสิ่งที่เคยคิดว่าขัด กับธรรมชาติของตัวเอง และไม่มีวนั จะทาได้ เป็ นคุณค่า ยิ่งใหญ่ที่ครูนิดได้ รับจากการทาสิง่ ที่มีคณ ุ ค่าเพื่อผู้อื่น ครูนิดจึงอยากให้ กาลังใจคุณวนิยาในการลุกขึ ้นมาก่อการดีเพื่อพัฒนาการศึกษาตามเจตนารมณ์ที่ตงั ้ ไว้ และหวังเป็ นอย่างยิ่งที่จะเป็ นภาคีเครื อข่ายในการเรี ยนรู้ร่วมกันต่อไปในภายหน้ า ขอเป็ นกาลังใจและกาลังหนุนตามที่จะทาได้ ครูนิด โจ๊ ะมาโลลือหล่า

รุ่งอรุณเชียงราย : โรงเรี ยนในจดหมายกับหลักสูตรปั จจัยสี่

38


เป็ นอันจะลำสิกขำ.. 13 มกราคม 2557 สวัสดีคะ่ จากอีเมลฉบับส่งท้ ายปี ที่แล้ ว วนิยาบอกไว้ ว่าจะต้ องพักงานเขียนทังหมดเพื ้ ่อกลับไปช่วยที่บ้านทางานวิจยั ของ มูลนิธิทเี่ ชียงรายตลอดปี นี ้ จากนันวนิ ้ ยาก็เดินทางไปฉลองปี ใหม่กบั ญาติคนกรุ งเทพที่บ้านเชียงรายก่อนจะกลับ จากเชียงรายพร้ อมกับญาติมาอยูบ่ ้ านญาติที่กรุงเทพอีกครัง้ (งงมัย) ้ เพื่อทาใจแล้ วเก็บข้ าวของกลับไปเชียงราย อีกที ปั ญหาคือนอกจากเรื่ องที่ต้องช่วยที่บ้านลงสนามวิจัยเพื่ อหารายได้ แล้ ว ในวันต้ อนรับปี ใหม่ คุณตาหัวหน้ า ครอบครั วใหญ่ ก็ มาบอกหลานๆว่า ตาได้ เงิ นมาก้ อนหนึ่งเพื่อที่จะแจกหลานๆ โดยมีข้อแม้ คือ หลานทุกคน จะต้ องเอาเงินก้ อนนันไปเป็ ้ นทุนเรี ยนให้ จบปริ ญญาโท! หลานแต่ละคนก็ตกลงกับตาต่างกันไป หาที่หาทางวางแผนเรี ยนไปตามเรื่ อง แต่วนิยากับแม่กาลังต้ องใช้ เงิน สร้ างอพาร์ ทเม้ นต์ให้ เสร็ จตามที่ลงทุนไว้ วนิยาก็เลยขอให้ ตายกเงินก้ อนนันให้ ้ แม่แทน ตาตกลง แต่วนิยาต้ อง เรี ยนโทต่อทีหลัง ถึงวันกลับกรุ งเทพแล้ ววนิยายังคิดไม่ออกว่าจะเรี ยนอะไรดี เคยคิดจะเรี ยนพัฒนศึกษา จุฬาฯ ก็ดยู ากไป เรี ยน เกษตรยัง่ ยืน ม.ชีวิต คงจะได้ .. แค่เรี ยนประชดๆเอาประสบการณ์ขาๆไปเท่านันแหละ ้ คือท้ าทายดี ปั ญหาคือระหว่างทางจากเชียงรายมากรุงเทพ วนิยาเกิดปิ๊ งไอเดียอะไรไม่ร้ ูเยอะมากขึ ้นมาบนรถ แล้ วไม่มีโอกาส จดระบายความคิดออกมา ก็เลยใช้ เทคนิคการตกผลึกแบบ "ฟอสซิล" (คิดเอง) เพื่อที่จะบี บย่อแล้ วจดจาไอเดีย นันลงไปในสมองให้ ้ ได้ โดยไม่ร้ ูสกึ อึดอัดทรมาน ก่อนที่จะหาโอกาส "ขุดฟอสซิล" ออกมาโชว์เป็ นชิ ้นงานที่สมบูรณ์ ให้ ได้ ในภายหลัง วันที่อยูบ่ นรถวนิยาก็คอ่ นข้ างมัน่ ใจว่าน่าจะทาได้ เหมือนตอนที่ใช้ เวลาเขียนอีเมลฉบับส่งท้ าย ปี ที่แล้ วไป 5 วัน อาจจะช้ าหน่อยแต่ผลลัพธ์ก็ออกมาชัวร์ แต่ครัง้ นี ้มันไม่ได้ เป็ นแบบนันค่ ้ ะ "Orz หลังจากเสร็ จธุระใน 2 วันให้ หลัง วนิยาใช้ เวลานัง่ เหม่อลอยหาเจ้ า "ฟอสซิล" ชิ ้นนันให้ ้ เจออยู่เกือบสัปดาห์ ก่อน จะจดเป็ น concept ออกมาแล้ วจัดการเขียนส่วนต่างๆตามโครงเรื่ องที่วางไว้ แต่รายละเอี ยดที่เป็ นถ้ อยคาฟุ้งฝั น จากตอนที่คิดออกมาได้ ในรถนันหายไปหมด ้ อารมณ์ที่ถ่ายทอดออกมาก็เปลี่ยนไปด้ วย ถึงจะมีตวั ช่วยเป็ นการ เปิ ดเพลงเดียวกันกับตอนที่คิดแต่ละเรื่ องออกมาฟั ง ก็ช่วยได้ ไม่มากนัก เพราะรายละเอียดของเรื่ องที่คิดขึ ้นมาได้ นันมี ้ มากเกินกว่าที่วางแผนไว้ วา่ จะเขียน แล้ วสิง่ ที่วนิยากลัวมันก็เกิด.. วนิยารู้ชดั แน่นอนแล้ วว่า "ความคิดสร้ างสรรค์ต้องการโอกาสและเวลา"

39

รุ่งอรุณเชียงราย : โรงเรี ยนในจดหมายกับหลักสูตรปั จจัยสี่


ถึงกับกลัวว่าถ้ าต้ องย้ ายที่ไปอยูเ่ ชียงรายกลางคันแล้ ว บรรยากาศรอบตัวที่เปลี่ยนไปจะทาให้ ตวั เองเขียนเรื่ องที่ ตังใจไว้ ้ ไม่ได้ อีกเลย.. ..งานนี ้วนิยาก็เลยต้ องลุยปฏิบตั ิการเขียนลูกเดียวให้ เสร็ จทันก่อนที่จะถึงวันกลับไปเชียงรายค่ะ ตอนนี ้วนิยาอดนอนมาร่วมสัปดาห์แล้ ว การเขียนแบบ "ฟอสซิล" เปรี ยบเหมือนการต้ องใช้ ความละเอียดแกะสลัก เอาซากโครงกระดูกให้ แยกออกมาจากก้ อนหินที่ฝังอยู่ แต่ละวันวนิยาถอดความคิดที่ตกผลึกออกมานาเสนอได้ ไม่ถึงวันละย่อหน้ า ยิ่งเวลากระชัน้ เข้ ามาทุกทีวนิยาก็ยิ่งเครี ยด แม้ จะคิดว่าการนัง่ จ้ องหน้ าจอเปล่าๆเป็ นการ เปล่าประโยชน์แต่วนิยาก็ไม่อยากจะหยุดพักเพราะกลัวว่าจะเสียเวลา แล้ วท่านแม่ก็โทรมาหา . แม่แนะนาวนิยาให้ ค้นหาข้ อมูลเกี่ยวกับ "โรงเรี ยนพระดาบส" เพราะเป็ นโรงเรี ยนทางเลือกหนึ่งและเป็ นโครงการ ในพระราชดาริ ของในหลวง ซึ่งก็ต้องขอบคุณแม่ที่ทาให้ วนิยาหยุดพักจากการจมอยู่กับความคิดที่กลายเป็ น ฟอสซิลไปแล้ ว มาหาอะไรที่สดใหม่กว่าเติมเข้ ามาในสมองบ้ าง โรงเรี ยนพระดาบส ไม่มีไอเดียอะไรมาก แต่สิ่งที่ เป็ นจุดเปลีย่ นสาคัญก็คือ วนิยาเพ้ อฝั นที่จะสร้ างสาขาของโรงเรี ยนรุ่งอรุณแต่ยงั ไม่ได้ หาข้ อมูลโรงเรี ยนรุ่งอรุณบนอินเทอร์ เน็ตเลยซักกะนิด เดียว (มัวแต่รออีเมลตอบกลับจากเพื่อนอยูน่ นั่ แหละ) ว่าแล้ วก็ search "โรงเรี ยนรุ่งอรุณ" กันเลย!! . เจอไอเดียใหม่ๆเยอะมากค่ะ ได้ ร้ ูวา่ โรงเรี ยนรุ่งอรุณเคยทาโครงการจัดการสิง่ แวดล้ อมที่ประสบความสาเร็ จ https://sites.google.com/site/razerowaste/KM-ZeroWaste.pdf ข้ างบนนี ้เป็ นผลงาน(เก่า)ของโรงเรี ยน

รุ่งอรุณเชียงราย : โรงเรี ยนในจดหมายกับหลักสูตรปั จจัยสี่

40


ส่วนข้ างล่างนี่เป็ นผลงานนักเรี ยน.. "สตรอเบอร์ รี่อินทรี ย์ได้ ง่ายจัง" http://issuu.com/roongaroon/docs/organic_strwaberry Big Book ผลงานนักเรี ยนชัน้ ม.๓ โรงเรี ยนรุ่งอรุณ ปี การศึกษา ๓/๒๕๕๕ แนะนา วิธีการปลูกสตรอเบอร์ รี่อินทรี ย์ โดยศึกษาข้ อมูลจากการไปดูงานและสัมภาษณ์ อาจารย์ยกั ษ์ -วิวฒ ั น์ ศัลยกาธร ที่ศนู ย์กสิกรรมธรรมชาติมาบเอื ้อง จังหวัดชลบุรี แล้ วจัดทาเป็ น Big Book อ่านง่าย มอบให้ กบั เกษตรกรที่สนใจปลูกสตรอเบอร์ รี่ อินทรี ย์ ที่บ้านอมลอง อ.สะเมิง จ.เชียงใหม่ อู้ววววว... แค่นนยั ั ้ งไม่พอ ใครว่างๆเพลินๆก็ตามไปดูงานชิ ้นอื่นต่อนะ แบบว่า http://issuu.com/roongaroon/docs/01_info_dream_final โอวว.. http://issuu.com/roongaroon/docs/udom_gulf_for_print_company โอ้ วววว... http://issuu.com/roongaroon/docs/the_beginning_roong_a_roon โอร๊ วววววววว!!!!

เขาสอนได้ ยงั ไง! ทังฝี้ มือการทากราฟิ ก ทังการวิ ้ เคราะห์และนาเสนอข้ อมูล สุดย้ อดดด!!! ก็อยากจะไปเรี ยนรู้บ้างสิคะ แล้ วก็มาโชคดีที่ได้ เจอหน้ าประกาศ : http://www.roong-aroon.ac.th/index.php?option=com_content&view=article&id=149&Itemid=117 (โรงเรี ยนรุ่ งอรุ ณ โรงเรี ยนเพื่อทิศทางใหม่ของการศึกษา ผสานความหลากหลายเพื่อพัฒนาการที่สมบูรณ์ รับ สมัคร ครูภาษาไทย-สังคม สอนระดับประถม 1 ตาแหน่ง และมัธยม 1 ตาแหน่ง)

41

รุ่งอรุณเชียงราย : โรงเรี ยนในจดหมายกับหลักสูตรปั จจัยสี่


ได้ ข้อมูลสมัครงานแล้ วก็ search หาแผนที่ไปโรงเรี ยนรุ่งอรุณดูคะ่ อยูท่ าง กทม.ใต้ ไกลพอสมควร ไม่ร้ ู จะต้ องทิ ้ง คอนโดไปเช่าห้ องอยูร่ ึเปล่า ..พอซูมเข้ าไปใกล้ ๆ ก็พบว่า มี "สถาบันอาศรมศิลป์" อยู่บริ เวณเดียวกัน แถมโลโก้ ก็ ยังคล้ ายๆกัน.. นี่มนั โลโก้ เดียวกันชัดๆ! โรงเรี ยนรุ่งอรุณไปกิ๊กอะไรกับสถาบันอาศรมศิลป์กันล่ะนี่!? ..คลิก! สถาบันอาศรมศิลป์ http://www.youtube.com/watch?v=MotiHmKhOSU มหาวิทยาลัยเพื่อการรับใช้ สงั คม คือชุมชนแห่งการเรียนรู้ ที่บ่มเพาะความเป็ นมนุษย์ ที่ ส มบู ร ณ์ โดยลงมื อ ปฎิ บัติ ง านจริ ง และสร้ างการเรี ย นรู้ ด้ ว ยตนเอง ผ่ า นการ แลกเปลี่ยนเรียนรู้กบั กัลยาณมิตร เพื่อเป็ นบัณฑิต… 00:01:47 Added on 12/3/2013 115 views

โอะแม่เจ้ า! สถาบันอาศรมศิลป์ เป็ นแรงงานสร้ างอาคารเรี ยนโจ๊ ะมาโลลือหล่า! แล้ วครู นิด ก็ไปสอนที่โจ๊ ะมาโล ลือหล่า จากการมอบหมายของโรงเรี ยนรุ่งอรุณ แล้ วโรงเรี ยนรุ่งอรุณก็เป็ นร่มเงาของสถาบันอาศรมศิลป์ วนิยางง แล้ วค่ะยอม.. ..คลิก! โครงการวิจยั และพัฒนาการจัดการศึกษาอย่างมีสว่ นร่วม กับชุมชนปกากะญอ http://arsomsilp.ac.th/th/portfolio/โครงการวิจยั และพัฒนากา/ การสร้ างนวัตกรรมการจัดการเรี ยนรู้ "หลักสูตรอิงถิ่นฐาน" ในโรงเรี ยนวิถีชีวิต "โจ๊ ะมาโลลือหล่า" ในเขตพื ้นที่ การศึกษาเชียงใหม่ เขต 2 (มีคลิปวิดีโอซะด้ วย แลดูเครื อข่ายกว้ างขวางแข็งแรงมาก) และครู นิด (เพิ่งรับ add friend วนิยาในเฟซบุ๊กเมื่อ2ทุม่ ) ก็กาลังเรี ยน ป.โท ศึกษาศาสตร์ ที่สถาบันอาศรมศิลป์อยูน่ นั่ เอง แลดูเป็ นบุคคล สาคัญมาก.. โจ๊ ะมาโลลือหล่าเป็ นกรณีศกึ ษาของหลักสูตรศึกษาศาสตร์ สถาบันอาศรมศิลป์! นี่สถาบันอาศรมศิลป์ คือ "มหาวิทยาลัย" หรอกเหรอเนี่ยยยย "OTL... (โง่มานานเกินละ) เอ้ าคลิก! ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สถาบันอาศรมศิลป์ http://arsomsilp.ac.th/th/curriculum/ศึกษาศาสตร์ /ปรัชญาและที่มา/

รุ่งอรุณเชียงราย : โรงเรี ยนในจดหมายกับหลักสูตรปั จจัยสี่

42


น่า สนใจค่ะ นอกจากจะไม่ต้ อ งไปสมัค รเป็ นครู ที่ โรงเรี ย นรุ่ งอรุ ณ เพื่ อ เรี ยนรู้ แล้ ว มูลนิธิ โรงเรี ย นรุ่ งอรุ ณ ยัง สังเคราะห์หลักสูตรจากประสบการณ์ของตัวเองมาประสาทให้ ถึงปริ ญญาโทเลย แถมยังมีการวิจยั โจ๊ ะมาโลลือ หล่า มาประกอบด้ วยแบบไม่ต้องบุกเดี่ยวอีกต่อไป เรี ยกว่าได้ วิชาความรู้ เพิ่มคุ้มยิ่งกว่าไปเรี ยนรู้ ด้วยการปฏิบตั ิ ทางเดียว(แต่มีเงินเดือนนะ)เสียอีก วนิยาอาจจะลงเรี ยนหลักสูตรนี ้ก็ได้ แทนการตัดสินใจเรี ยน "พัฒนศึกษา" ครุศาสตร์ จุฬาฯ ยังไงก็ลองโหลดรายละเอียดหลักสูตรมาอ่านก่อนค่ะ ปิ๊ งวิ ้ง! https://docs.google.com/file/d/0By8F2BH2UD6SN3RWVHptYkpsNkU/edit?pli=1 คาอธิ บายหลักสูตรแต่ละวิช าดูน่าสนใจ ไม่คร่ า เคร่ งเกิ นไป และเข้ ากันได้ สาหรั บ วนิยา มีวิชาเลือกที่วนิย า อยากจะเลือก มีวิชาบังคับที่วนิยารับได้ และอยากที่จะเสริ มให้ ตวั เองมีศกั ยภาพในทางนัน้ อ่านแล้ วแทบจะโยน ตัวเลือก "พัฒนศึกษา" ที่เคยรวบรวมมาเมื่อปี 2554 ทิ ้งไปเลย รู้ สกึ เหมือนเอกสารคาอธิบายหลักสูตรชิ ้นนี ้กาลัง ปลอบประโลมใจ แล้ วอ้ าแขนต้ อนรับวนิยาเข้ าไปสังสรรค์ ถ้ าจะเรี ยนก็ ไม่ต้องสอบคัดเลือกมาก ขันตอนก็ ้ ไม่ ยุง่ ยาก ยังไงลองดูความเป็ นสถาบันก่อนว่าจะเข้ ากันได้ รึเปล่า.. เกี่ยวกับสถาบัน http://arsomsilp.ac.th/th/เกี่ยวกับสถาบัน/ สถาบันอาศรมศิลป์ (อ.ศ.) Arsom Silp Institute of the Arts (A.S.I.A.) สถาบันอาศรมศิลป์ เกิดจากประสบการณ์และแนวคิดในการจัดการศึกษาทางเลือกใหม่ให้ กบั สังคมไทย ในนาม ของโรงเรี ยนรุ่งอรุณ ซึง่ เป็ นโรงเรี ยนวิถีพทุ ธที่มีประสบการณ์ในการเรี ยนการสอนมาร่วม 10 ปี สถาบันอาศรมศิลป์ เป็ นสถาบันอุดมศึกษาเอกชนที่ไม่แสวงหาผลกาไร (Not-for-Profit Organization) ได้ รับการ สนับสนุนด้ านบุคลากร เงิ นทุน ที่ดิน จากมูลนิธิโรงเรี ยนรุ่ งอรุ ณ มูลนิธิสานแสงอรุ ณ และมูลนิธิญมาลุดดีน สถาบันได้ รับอนุญาตจัดตังเป็ ้ นสถาบันอุดมศึกษาเอกชนระดับบัณฑิตศึกษาจากสานักงานคณะกรรมการการ อุดมศึกษาตังแต่ ้ เดือนตุลาคม พ.ศ.2549 (โลโก้ ของสถาบันเป็ นลายมือที่ค้ นุ เคย และมีความหมายหนึง่ ว่า "แสงโค้ ง" ด้ วย ใครอ่านหนังสือ ทพ.สมสุจีรา ก็จะอินเป็ นอันมาก เค้ าคิดได้ ยงั ไงเนี่ย โอ้ วก้ อดด..) วนิยารู้ จัก "สถาบันอาศรมศิลป์" ตอนฝึ กงานในโครงการ "ปฏิบตั ิการเชียงใหม่เอี่ยม" เมื่ อปี 2552 ค่ะ รู้ สึกว่า ผลงานของที่นี่มนั ช่างเท่มากๆเลย ไปแอบดูเขา workshop เรื่ องผังเมืองเชียงใหม่กนั (ส่วนวนิยาทาเรื่ องโฆษณา) แล้ วปี 2553 ก็ได้ เจอ "สถาบันอาศรมศิลป์" อีกครัง้ ในงาน iCARE Award ได้ เห็นตัวอย่างการจัดการชุมชนใน แบบสถาปนิกๆ สุดยอดดดดดดด.... แล้ วก็จาไว้ เฉยๆเพราะว่าเราไม่ใช่สถาปนิก มาคิดถึงสถาปนิกอีกครัง้ ก็ตอน ที่อดนอนละเมอเพ้ อพกออกแบบโรงเรี ยนรุ่ งอรุ ณเชียงรายอย่างจริ งจังเพื่อที่จะเขียนลงในเรื่ องสันนี ้ ่แหละค่ะ ถึง

43

รุ่งอรุณเชียงราย : โรงเรี ยนในจดหมายกับหลักสูตรปั จจัยสี่


ได้ นกึ ออกว่า สไตล์สิ่งก่อสร้ างที่เราต้ องการมันอยู่ที่ "สถาบันอาศรมศิลป์" แน่ๆ ไม่เชื่อก็ ลองคลิกไปดูรูปสถาบัน แล้ วจะฟิ น!

มีตวั อย่างผลงานทางสถาปั ตยกรรมที่วนิยาชอบมาให้ ดคู ะ่ http://arsomsilp.ac.th/th/portfolio/โครงการโรงงานผลิตสบู/่ เรื่ องการออกแบบสถานที่ "โรงเรี ยนรุ่งอรุณเชียงราย" วนิยาก็อยากให้ คนกลุม่ นี ้เข้ ามาเป็ นที่ปรึ กษาด้ วยค่ะ จริ งๆ อยากจะเรี ยนหลักสูตรสถาปั ตยกรรมศาสตร์ ด้วยซา้ แต่วนิยาไม่ได้ จบสถาปั ตย์มา วนิยาปล่อยจินตนาการ โรงเรี ยนกลางทุง่ นาไปอยูใ่ นเรื่ องสัน้ วนิยาคิดว่าการออกแบบทุกอย่างที่เป็ นอัตลักษณ์ของสถาบัน คือสิ่งจาเป็ น ต่อการเรี ยนรู้และระบบชุมชน(หลังโรงเรี ยน)ภายในองค์กรค่ะ เชื่ อ มัย้ คะว่ า วนิ ย าเชื่ อ ในธรรมชาติ ข องตัว เองขนาดตัด สิ น ใจเลื อ กสถาบัน เรี ย นจาก "บรรยากาศ" และ "เครื่ องแบบ" ของสถาบันตามความรู้ สกึ ว่าเรา "อยากจะอยู่ อยากจะเป็ น" อย่างนัน้ "เป็ นส่วนหนึ่งของ" สถาบัน นัน้ ๆ ตอนเลื อ กเรี ย น ม.ต้ น ที่ สว.พย. วนิ ย าก็ ตัด สิ น ใจแบบนัน้ คื อ โรงเรี ย นน่ า อยู่อ าศัย แทนบ้ า นมากๆ เครื่ องแบบก็เข้ ากันได้ ใส่แล้ วไม่เป็ นทุกข์ มีความสุขและภูมิใจในรสนิยมของผู้บริ หาร พอเลือกเรี ยนมหาวิทยาลัย วนิยาก็ตดั สินใจเพราะ "โลโก้ " มีเซ้ นส์บางอย่าง แล้ ว ตอนนันไม่ ้ อยากทาผลงานให้ มหาลัยใหญ่ๆดังๆ อาจจะ เพราะไม่เคยเข้ าสถาบันแบบนัน้ และเชื่อว่าเรี ยนสถาบันที่คนน้ อยๆจะได้ โอกาสมากกว่า วนิยาชอบสีน ้าเงินขาว ของ EAU ชอบเพลงประจาคณะที่ดเู หมือนให้ RS แต่งขาๆ ชอบชุดครุ ยสีดาตัดกับสีประจาที่ออกแบบมาเรี ยบ ง่ายลงตัว หมวกนุม่ ๆทรงฟั กทองหกเหลีย่ มน่ารักไม่เหมือนที่ไหน มีความสุขเวลาคิดว่าถ้ าเรี ยนจบแล้ วจะได้ ใส่ชดุ นี ้ ด้ วยความที่เป็ นรุ่ นแรกๆ วนิยาก็เชื่อมัน่ ว่า ไม่ว่า EAU จะติดขัดอะไร ทางผู้บริ หารที่ออกแบบของพวกนี ้ก็ จะต้ องหาทางจัดการให้ นกั ศึกษาได้ "เป็ น" อย่างที่วนิยา "เห็น" ให้ ได้ และครัง้ นี ้ วนิยาก็เชื่อว่ามันจะต้ องเป็ นอย่างนัน้ ดังนัน้ ไม่วา่ "หลักสูตร" จะออกมาเวิร์กขนาดไหน วนิยาก็จะยังไม่ตดั สินใจจนกว่าจะได้

รุ่งอรุณเชียงราย : โรงเรี ยนในจดหมายกับหลักสูตรปั จจัยสี่

44


..คลิก! 13 บูรพาจารย์ อันเป็ นผู้นาการศึกษาของสังคมไทย https://www.facebook.com/media/set/?set=a.595504717178366.1073741854.131270580268451&type=1

กรี๊ ดดดดดด!!!! ใครไม่ร้ ู ไม่ร้ ูจกั แต่ชดุ ครุยท่านๆ "เฟี ย้ ว" มากกกกส์ส์ส์!!! ..คลิก! งานประสาทปริ ญญาบัตรสถาบันอาศรมศิลป์'56 https://www.facebook.com/media/set/?set=a.597212843674220.1073741855.131270580268451&type=1

45

รุ่งอรุณเชียงราย : โรงเรี ยนในจดหมายกับหลักสูตรปั จจัยสี่


กรี๊ ดดดดดดดดดด!!!! ช่างกล้ า!! กล้ าได้ มากๆ ทังแหวก ้ ทังแหก ้ ทังสวยเท่ ้ เฉียบขาด น่ารักมากๆ ต้ องกล้ าให้ ได้ อย่างนี ้สิ! สุดยอด! สุดยอดมาก! ฟิ นที่สดุ ! กล้ าที่จะแปลก! กล้ าที่จะแตกต่าง! และยังธารงไว้ ซงึ่ เอกลักษณ์และรากฐานความเป็ นไทยได้ อย่างลงตัว! คนแบบนี ้ไม่ใช่เหรอที่สงั คมต้ องการ! วนิยาจะเรี ยนตึกนี ้ จะมีเพื่อนแบบนี ้ มีครูมีอาจารย์แบบนี ้ และที่สาคัญ.. จะ ใส่ ชุด ครุย ตัว นี ้ !!! ใครก็ห้ามวนิยาไม่ได้ ทงนั ั ้ น้ ..คลิก! ปรัชญาและที่มาของหลักสูตรศิลปศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาผู้ประกอบการสังคม http://arsomsilp.ac.th/th/social-enterprise/ กรี๊ ดดดดดด!!! สถาบันอาศรมศิลป์ช่างนาเทรนด์ตวั แม่อะไรอย่างนัน! ้ เสียดายที่เป็ นหลักสูตร ป.ตรี ไม่ใช่ ป.โท แล้ วเราจะเอาเวลา 4 ปี ไปเรี ยนใหม่ก็ใช่ที่ แถมที่มาฯที่เขียนไว้ ก็นา่ ขโมยเอาไปเป็ นที่มาของโครงการ Tutorialsกวดฯ มาก แต่หลักสูตรน่าแนะนามากๆ จบมาทา Social Enterprise เลย สุดยอด! แล้ วแค่นี ้ยังสุดยอดไม่พอนะ จ๊ ะแว้ งงง!! http://arsomsilp.ac.th/th/งานระพีเสวนาครัง้ ที่-๗-หัวข้ อ/ งานระพีเสวนาครัง้ ที่ 7 หัวข้ อ ธุรกิจทิศทางใหม่ของสังคมและการเรี ยนรู้ Social Enterprise !! So Surprise !!!! อะไรจะมาแรงขนาดนัน! ้ งานจัด ณ สานักงานใหญ่ธนาคารไทยพาณิชย์ รัชโยธิน วันที่ 8-9 เมษายนนี ้ จึงถือโอกาสส่งอีเมลฉบับนี ้มาชวนผู้ที่สนใจไปฟั งเสวนาด้ วยกัน!

รุ่งอรุณเชียงราย : โรงเรี ยนในจดหมายกับหลักสูตรปั จจัยสี่

46


ก็ไม่ร้ ูเหมือนกันนะว่า เดือนเมษานี ้ วนิยาจะทาอะไรอยู่ อาจจะเตรี ยมสอบ TOEFL อยู่ หรื อลงสนามวิจยั กับมูลนิธิของแม่ก็ได้ หรื ออาจจะไอเดียบรรเจิดจนปลีกวิเวกไปอยูห่ อแคบๆหน้ ารามเพื่อเขียนอะไร เหมือนตอนที่เพิ่งจบ ป.ตรี ใหม่ๆ (ชักคิดถึงกลิน่ ผงซักฟอกแฮะ) ก็ได้ แต่ยงั ไงเดือนนี ้วนิยาต้ องปั่ นอีเมลเรื่ องสันกั ้ บอีกสองบทความออกมาให้ ได้ ไม่งนจะไม่ ั้ ยอมรับตัวเองในฐานะนักอยากจะเขียนอีกต่อไป ดูเรื่ องมากเนอะ.. สวัสดี. . ปล. ที่อดนอนส่วนหนึง่ เพราะไปเที่ยว(ในเน็ต)เพลินมาก ของฝากเต็มเลย อันนี ้ก็เลยเอามาฝาก สุดยอดดดด!!!! อัลบัมรู ้ ป "ครูนิด โจ๊ ะมาโลลือหล่า" คว้ ารางวัล "Robinson Bright and Charm Awards 2011 รางวัลด้ านการศึกษา" https://www.facebook.com/photo.php?fbid=265863283472786&set=a.265863246806123.64231.100001473483134

โอ้ วก้ อดดดดด ..แล้ วเราก็ได้ ร้ ูวา่ ครูนิด never walk alone จริ งๆ

นอกจากรางวัลโรบินสันแล้ ว ครูนิดยังได้ ตาแหน่งบุคคลเกียรติยศด้ านการศึกษา ประจาปี 2555 มูลนิธิโกมลคีมทองด้ วยค่ะ :D อีกอัน "แผนที่โจ๊ ะมาโลลือหล่า" ใครจะไปด้ วยกันบ้ าง55

47

รุ่งอรุณเชียงราย : โรงเรี ยนในจดหมายกับหลักสูตรปั จจัยสี่


https://www.facebook.com/photo.php?fbid=245014238891024&set=a.245014235557691.60680.100001473483134

ครูนิดขยันอัพเฟซบุ๊กจนแทบไม่ต้องถามอะไรแล้ วนะคะ ^/|\^

บางบรรยากาศที่โจ๊ ะมาโลลือหล่า http://soblarn.org/home/blog/20101014/วันเปิ ดโรงเรี ยนวิถีชีวิต-โจ๊ ะมาโลลือหล่า

รุ่งอรุณเชียงราย : โรงเรี ยนในจดหมายกับหลักสูตรปั จจัยสี่

48


อนึง่ วนิยายังไม่ได้ ไปเที่ยวเฟซโจ๊ ะ แต่ได้ link มาจากเฟซสบลาน ขยันกันจังนะ สุดท้ าย ฝาก "โรงเรี ยนลาปลายมาศพัฒนา" http://www.lpmp.org/ ที่ได้ ติดตามเพราะแม่ซื ้อหนังสือ "โรงเรี ยนนอกกะลา" มาให้ แต่ขอดูลาดเลาก่อน ยังไม่คิดจะติดต่อ ขอบพระคุณท่านแม่มา ณ ที่นี ้ค่ะ . . ค่ะ วนิยาค่ะ

49

รุ่งอรุณเชียงราย : โรงเรี ยนในจดหมายกับหลักสูตรปั จจัยสี่


ครู นิด โจ๊ ะมำโลลือหล่ ำ Re: เป็ นอันจะลำสิกขำ..‫‏‬ 15 มกราคม 2557 สวัสดีคะ่ อ่านความคิดที่วนิยาเขียนแล้ ว ก็คิดว่าน่าจะเขียนถึงการเรี ยน ป.โท ที่ อาศรมศิลป์สักเล็กน้ อย ถ้ าคุณ วนิยาต้ องการข้ อมูลเพิ่มเติมก็สอบถามมาได้ เลยค่ะ เมื่อก่อนมูลนิธิโรงเรี ยนรุ่งอรุณ มีหน่วยงานย่อยๆประกอบด้ วย โรงเรี ยนเล็ก (อนุบาล) โรงเรี ยนประถม และโรงเรี ย นมัธยม จนเมื่อ 7-8 ปี ก่อน ผู้หลัก ผู้ใหญ่ ในสังคมก็ เห็ นว่า ควรจะเปิ ดสถาบันระดับอุด มศึกษา ทางเลือก เพื่อการเปลีย่ นแปลงสังคมได้ แล้ ว จึงได้ เริ่ มตังสถาบั ้ นอาศรมศิลป์ขึ ้น โดยรวบรวมผู้คนที่สนใจจะร่ วม ปณิธานมาก่อการร่วมกัน มีกิจกรรมหลายอย่างที่เป็ นการหลอมรวมผู้คนในครัง้ นัน้ รวมถึงกิจกรรมวิเวกภาวนา ในป่ าเพื่อสัมผัสธรรมชาติภายในและธรรมชาติภายนอกในป่ าที่ชุมชนปกาเก่อญอบ้ านสบลาน ซึ่งครู นิดได้ เข้ า ร่วมจนเป็ นที่มาของการเกิดขึ ้นของโจ๊ ะมาโลลือหล่าด้ วย ครู นิด เป็ นครู ที่รุ่งอรุ ณอยู่ 9 ปี จึงมาทาเปิ ดศูนย์โจ๊ ะมาโลลือหล่า ซึ่งได้ รับการสนับสนุนจากมูลนิธิ โรงเรี ยนรุ่งอรุณ และเป็ นงานวิจยั ของสถาบันอาศรมศิลป์ โดยที่ตอนแรกครู นิดก็ไม่ได้ คิดเรี ยน ป.โท เพราะมีปม ด้ อยที่ไม่สามารถเรี ยนในระบบโรงเรี ยน ต้ องลาออกมาเรี ยนรู้ ด้วยตนเองตังแต่ ้ วยั เด็ก แต่เพราะอาจารย์ประภา ภัทร ท่านชี ้ให้ เห็นความสาคัญว่า ถ้ าจะทาโรงเรี ยนบนดอยให้ เกิดขึ ้นและเป็ นประโยชน์จริ ง ก็มีความจาเป็ นต้ อง ทาเป็ นงานวิจยั ที่จะเป็ นต้ นแบบให้ เกิดการต่อยอดด้ วย ครู นิดยอมจานนต่อคุณค่าที่จะเกิดขึ ้น จึงเรี ยน ป. โท ที่ สถาบันอาศรมศิลป์ โดยมีหวั ข้ อทาวิจยั คือ การจัดการศึกษาที่สอดคล้ องกับวิถีชีวิตชุมชนปกาเก่อญอ ตังแต่ ้ ก่อน สมัครเรี ยนเสียอีก แต่จนถึงตอนนี ้ยังส่งเล่มปริ ญญานิพนธ์ ไม่แล้ ว เพราะต่อมางานวิจยั นี ้เป็ นที่สนใจของสานัก นวัตกรรม กระทรวงศึกษาธิการ ที่เข้ ามาสนับสนุนให้ เป็ นงานวิจยั ร่วม และเกิดการต่อยอดไปเป็ นงานวิจยั ร่วมกับ เขตพื ้นที่การศึกษาอีก จึงต้ องประสานกับหลายภาคส่วน และที่สาคัญที่สดุ คือ ครูนิดไม่ได้ เร่งทาให้ จบ เพราะนัน่ ไม่ใช่เป้าหมาย แต่คงจะแล้ วภายในปี การศึกษานี ้ เพราะเป็ นปี สุดท้ ายแล้ วและตอนนี ้ก็อยู่ในขันปรั ้ บให้ สมบูรณ์ ขึ ้นเท่านัน้ ครูนิดก็อยากเชิญชวนวนิยา ถ้ าสนใจที่จะทางานการศึกษาจริ งจังและมีสญ ั ญาใจว่าจะเรี ยน ป.โท แล้ ว การเรี ยนที่สถาบันอาศรมศิลป์ นับเป็ นทางเลือกที่สมบู รณ์แบบ เพราะเรื่ องที่วนิยาสนใจจะดาเนินไปอย่างเป็ น อันหนึง่ อันเดียวกับชีวิต การงาน การเรี ยน การดาเนินชีวิตจะอยู่ในที่เดียวกัน เพราะที่สถาบันอาศรมศิลป์นี ้ จะ เรี ยนไปบนการงานจริ งของแต่ละคน แล้ วนามาแลกเปลี่ยนเรี ยนรู้ ร่วมกัน โดยวนิยาสามารถเอาโรงเรี ยนที่วนิยา จะเปิ ด เป็ น หัวข้ อในการทาวิทยานิพนธ์ ได้ เลย และสามารถเริ่ มดาเนินงานนันได้ ้ ตงแต่ ั ้ เริ่ มเรี ยน โดยปรึ กษากับ คณาจารย์ได้ เลยค่ะ ด้ วยความปรารถนาดี ครูนิด โจ๊ ะมาโลลือหล่า

รุ่งอรุณเชียงราย : โรงเรี ยนในจดหมายกับหลักสูตรปั จจัยสี่

50


FW: จำกชำวรุ่ งอรุ ณ!‫‏‬ 19 มกราคม 2557 วนิยาเพิ่งได้ รับอีเมลแชร์ ประสบการณ์และตอบข้ อสงสัย จากเพื่อนคนหนึ่งที่เคยเรี ยนและเป็ นลูกของผู้บริ หาร โรงเรี ยนรุ่งอรุณค่ะ เพื่อนบอกว่า สถาบันอาศรมศิลป์เป็ นวิทยาลัย เปิ ดสอนป.โท ทางด้ านการศึกษาและสถาปั ตยกรรม โดยออกตัว ไว้ วา่ ในช่วงสิบปี ที่ผา่ นมา วิธีการสอนและบุคลากร อะไรต่างๆ ก็เปลี่ยนไปอย่างมาก เพื่อนจึงไม่อาจจะอธิบาย เรื่ องสถาบันอาศรมศิลป์ได้ ทงหมด ั้ เพื่อนอีเมลมาเล่า เกี่ยวกับโรงเรี ยนรุ่งอรุณและสถาบันอาศรมศิลป์ ให้ วนิยาทราบดังนี ้ค่ะ : พื ้นที่บริ เวณโรงเรี ยนรุ่ งอรุ ณ ปั จจุบนั เป็ นที่ตงของ ั้ 3 หน่วยงานที่แยกจากกันแต่ไม่สนิท คือ 1.โรงเรี ยนรุ่ งอรุ ณ (โรงเรี ยนทางเลือก เปิ ดสอนอนุบาลถึงมัธยมปลาย) 2.สถาบันอาศรมศิลป์ (วิทยาลัย ปั จจุบนั เปิ ดสอน ป.โท) และ 3.สานักพิมพ์สานอักษร (สานักพิมพ์ของโรงเรี ยน จัดการเรื่ องสือ่ และหนังสือสาหรับเด็ก ซึง่ รับทังงานในและ ้ งานนอก) ทัง้ 3 หน่วยงานอยูใ่ นเขตเดียวกัน เดินไปมาหาสูก่ นั ได้ กิจกรรมของบุคลากรมีความคาบเกี่ยวกัน เช่น บุคลากรจากอาศรมหลายคนเคยสอนในรุ่งอรุณมาก่อน สานักงานของสานอักษรอยูใ่ นอาคารของรุ่ งอรุ ณ ณ จุด หนึง่ ครูรุ่งอรุณต้ องไปเรี ยนต่อในสถาบันอาศรมศิลป์ บุคลากรจากอาศรมศิลป์มาทานข้ าว/ทากิจกรรมในเขตรุ่ ง อรุณ เป็ นต้ น ฉะนันบุ ้ คลากรจะรู้ จกั กันไม่มากก็น้อย แค่ไม่ได้ ทางานในอาคารเดียวกัน เพื่อนอยากให้ วนิยาลองมองว่า พื ้นที่บริ เวณนันไม่ ้ ใช่สถานศึกษา แต่เป็ น “ชุมชน” แห่งหนึง่ เป็ นธรรมดาที่คนในชุมชนจะรู้จกั กันไม่มากก็น้อย เนื่องจากต้ องใช้ ชีวิตอยู่ที่นนั่ และมีกิจกรรมที่ต้องทาร่ วมกันใน บริ เวณที่กาหนด เช่น กินข้ าว เล่นกีฬาสี ซื ้อของตลาดนัดวันพุธ เข้ าอบรม ร่วมชมรมครูทกุ เย็นวันศุกร์ ทาวัตรเย็น ทุกวันพระ ปฏิบตั ิธรรม กิจกรรมอาสาสมัคร ร่วมงานบุญประจาปี ฯลฯ ส่วนในเวลาทางาน แต่ละคนต้ องเลือกและเข้ าไปรับผิดชอบในด้ านที่ต่างกันไป ใครชอบเด็กก็ไปอยู่อนุบาลหรื อ ประถมสังกัดรุ่ งอรุ ณ ใครถนัดรับมือเด็กโตก็ไปมัธยมสังกัดรุ่ งอรุ ณ ใครอยากทางานกับผู้ใหญ่ก็อยู่อาศรมศิลป์ ใครอยากผลิตสือ่ การสอนก็ไปสานอักษร (เน้ นว่าสือ่ การสอนเพราะว่าถ้ าเป็ นสื่ออย่างอื่น อย่าง จุลสาร E-book นันจะมี ้ ฝ่ายที่จดั การสือ่ อยูท่ งในรุ ั ้ ่งอรุณและอาศรมศิลป์) นอกจากผู้สอน ก็ มีกลุ่มคนที่ท าหน้ าที่ ดูแลความเรี ย บร้ อยของชุม ชน เช่ น ดูแลรายชื่ อ คนในชุมชน การเงิ น สวัสดิการ ดูแลความปลอดภัย ดูแลพืชผัก ฯลฯ กลุม่ คนเหล่านี ้ล้ วนมีบทบาทในการช่วยสอนและเข้ ามาสัมพันธ์ กับครูและนักเรี ยนทางด้ านวิชาการ ณ จุดใดจุดหนึง่ ยกตัวอย่างเช่น เวลาจะเรี ยนเรื่ องปลูกผักปลูกข้ าว ก็ต้องมา ขอคาแนะนาครูเกษตร ซึง่ ไม่ใช่ใครอื่นนอกจาก คุณลุงคุณป้าคนสวนหรื อแม้ กระทัง่ ผู้ปกครองของนักเรี ยน

51

รุ่งอรุณเชียงราย : โรงเรี ยนในจดหมายกับหลักสูตรปั จจัยสี่


สาเหตุที่ลองให้ มองว่า พื ้นที่นี ้เป็ น “ชุมชน” เพราะจะทาให้ เข้ าใจมากขึ ้น ไม่ว่าจะเป็ นการจัดเรี ยนการสอนที่ให้ ความสาคัญเรื่ องการใช้ ชีวิต รู ปแบบความสัมพันธ์ ของผู้คนที่อยู่ ในนัน้ การจัดการอย่างครบวงจร และงอกของ โครงการสารพันเพื่อจัดการปั ญหาในชุมชนที่ทกุ คนต้ องมีสว่ นร่วม การจัดการสิง่ แวดล้ อมที่วนิยา link ในอีเมลฉบับก่อนนันเริ ้ ่ มขึ ้นมาช่วงที่เพื่อนอยูป่ ระมาณ ม.5 เป็ นช่วงที่โรงเรี ยน รุ่งอรุณเปิ ดมาได้ เกือบ 10 ปี แล้ ว จานวนคนในชุมชนมีมากขึ ้นกว่าแต่กอ่ นทาให้ มีขยะล้ นส่งกลิน่ เหม็นเป็ นหนึง่ ใน ปั ญหาใหญ่ ทางรุ่งอรุณเริ่ มโครงการจัดการขยะของเสียเหลือศูนย์ขึ ้นมาโดยมีกลุม่ ตัวตังตั ้ วตีอยู่ 4-5 คน ศึกษาประเภทและ การจัดการขยะ มีหน่วยแยก คือใส่ถงุ มือลงไปลุยแยกขยะ จนผู้ริเริ่ มป่ วยไปหลายคน ต้ องมีผ้ ผู ลัดกันไปแยกทัง้ นักเรี ยน ครูและอาสาสมัคร จากนันก็ ้ ตงสถานี ั้ จดั การขยะ จัดถังขยะแยกประเภทตามจุดต่างๆ ออกนโยบายลด การใช้ ถงุ พลาสติก (มาใช้ กระทงใบตอง เป็ นต้ น) รณรงค์ให้ เอาปิ่ นโตมาโรงเรี ยน และฝึ กให้ นกั เรี ยนฝึ กแยก (ขยะ สดใส่ถงั /ล้ างถุงพลาสติก/จัดเวรไปทิ ้ง) โดยมีทงการกวดขั ั้ น ทาป้ายรณรงค์ ประกวดห้ องเรี ยนที่ลดขยะได้ มาก และประชาสัมพันธ์ผลของการร่วมแรงร่วมใจทุกอาทิตย์ สาหรับขยะที่แยกแล้ วก็มีที่ไปหลายแบบ บางอย่างที่ยงั ใช้ ตอ่ ได้ ก็กลายเป็ นอุปกรณ์สาหรับทางานศิลป์ บางอย่างเอาไปรี ไซเคิล อย่างทาเป็ นกรี นบอร์ ด (คล้ ายแผ่นไม้ ขดั เอามาทาเฟอร์ นิเจอร์ ได้ ) บางอย่างมีโรงงานมารับไป บางอย่างไม่มีทางไปต่อก็คงส่งไปที่โรงงานกาจัดขยะเลย เพื่อนบอกว่าช่วงนันเด็ ้ กๆจะเบื่อกันมากเพราะต้ องคอยนัง่ ล้ างถุงพลาสติกที่เปื ้อน เอาไปแขวนตาก แยกขวด PET จากถ้ วยโยเกิร์ต ฯลฯ แม้ แต่แม็กเย็บกระดาษก็ต้องแกะมารวบรวมกันไปใส่ในขวดโหล มีสถานีแยก ที่ทาให้ เพื่อนมึนหัวมาก แต่ผา่ นมาสิบปี ตอนนี ้ที่โรงเรี ยนก็คงแทบไม่มีใครทิ ้งผิดอีกแล้ ว และทางโรงเรี ยนก็เพิ่มมาตรการ หนักขึ ้นด้ วยการให้ เอาช้ อนส้ อม ขวดน ้ามาโรงเรี ยนเอง (ไม่ เอามาจะแทบกินข้ าวไม่ได้ เลย) เป็ นวิถีที่คนที่เข้ าไป ใหม่ๆ คงทาตัวไม่ถกู การเรี ยนการสอนและผลงานนักเรี ยน ผลงานนักเรี ยนรุ่นนี ้เพื่อนวนิยาเองได้ กลับมาดูก็คอ่ นข้ างทึง่ เพราะดู professional ขึ ้นเรื่ อยๆ แสดงว่ารุ่นน้ องเก่ง และขยันกันกว่ารุ่นก่อนๆ แต่เพื่อนก็บอกด้ วยว่า เหตุที่มีผลงานน่าทึ่งขึ ้นมาได้ นนไม่ ั ้ ใช่เพราะความสามารถเด็ก ล้ วนๆ เพราะกระบวนการสอนและบทบาทของครูมีสว่ นช่วยในจุดนี ้เป็ นอย่างมาก ทีโ่ รงเรี ยนรุ่งอรุณ หนึง่ เทอมคือหนึง่ โปรเจ็กต์ ครู ต้องประชุมวางแผนกันหน้ าดาคร่ าเครี ยดก่อนเปิ ดเทอมว่าเทอมนี ้หรื อทังปี ้ นี จ้ ะสอนอะไรอย่างไรด้ วยเป้า หมายอะไรและเขียนแผนกันออกมาเป็ นรายสัปดาห์ ในหนึ่งเทอม (โรงเรี ยนมีสามเทอม) จะมีช่วงแรกที่เรี ยนใน โรงเรี ยนซึง่ เน้ นการลงมือทากิจกรรม ช่วงออกภาคสนามระยะเวลาตังแต่ ้ 1-7 วัน (คือออกไปเก็บข้ อมูลข้ างนอก ภาพถ่ายที่ได้ กบั บทสัมภาษณ์จะมาจากช่วงนี ้) และช่วงสัปดาห์สดุ ท้ ายที่เรี ยกว่า “สัปดาห์หยดน ้า” ซึง่ เป็ นช่วงตก

รุ่งอรุณเชียงราย : โรงเรี ยนในจดหมายกับหลักสูตรปั จจัยสี่

52


ผลึกและพรี เซนต์ว่าทังเทอมที ้ ่ผ่านมาเรี ยนอะไรไป/มีเมสเสจอะไรอยากบอกกับผู้อื่น (ทังผู ้ ้ ปกครอง เพื่อนและ บุคลากรในโรงเรี ยน) ก่อนช่วงหยดน ้าจะมีเวลาให้ คิดและเตรี ยม ส่วนมากนักเรี ยนก็จะคิดกันเองว่าจะเสนอยังไง ส่วนข้ อมูล ผลงานนักเรี ยนนันก็ ้ เป็ นผลผลิตจากครู ที่คอยให้ คาชี ้แนะตลอดเทอมนัน้ ถ้ าเพื่อนจาไม่ผิด ช่วงเตรี ยมงานหยดน ้าจะใช้ เวลาประมาณ 1-2 สัปดาห์ ช่วงนันคื ้ อทุกวิชาจบการเรี ยนการสอน นักเรี ยนมาโรงเรี ยนก็มาเพื่อทาโปรเจ็คท์กนั อย่างจริ งจัง ใครขี ้เกียจมาทังเทอมก็ ้ ต้องมากระตือรื อร้ นช่วงนี ้ ต้ องมี ปิ ดประกาศทาบัตรเชิญชวนผู้ชมกันด้ วย ถ้ าเทอมนันคิ ้ ดกันว่าจะทาหนังสือก็ต้องไปปรึ กษาผู้ร้ ู เช่น ครู ไอที ฝ่ าย ตาราและใช้ ความสามารถที่มีสร้ าง Layout หนังสือกันออกมา ถ้ าจะแสดงละครก็ต้องนัง่ เขียนบทและหาทาง ซ้ อมกันอย่างด่วน แสงสีเซ็ตอัพก็ต้องไปปรึ กษาครู ฝ่ายอาคารกัน ถ้ าจะแสดงดนตรี ก็ต้องไปหาครู ดนตรี ไทย/ สากล งานไม่เสร็ จก็ต้องอยู่ดึกหรื อหอบกลับไปทาที่บ้านทังครู ้ ทงนั ั ้ กเรี ยน ถ้ าต้ องมีพิมพ์หนังสือ ทาเสื ้อ หรื อหา ทุนบางทีก็ไปติดต่อผู้ปกครองที่ตนรู้วา่ ทากิจการที่เกี่ยวข้ อง (อย่างที่ได้ บอกว่าอยูก่ นั อย่างเป็ นชุมชน) ช่วงหยดน ้าเป็ นช่วงที่เหนื่อยมากและทุกคนดิ ้นรนสุดขีดให้ มีอะไรออกมาสักอย่าง (ส่วนหนึง่ ก็เพื่อความภูมิใจกับ หน้ าตา) มีทงคนที ั ้ ่ทามากน้ อยต่างกัน แต่สดุ ท้ ายก็จะได้ หนังสันหรื ้ อละครหนึง่ เรื่ อง เสื ้อประจาเทอม งานวัด บาง ทีก็จดั ห้ องนาเสนอผลงานพร้ อมโมเดลประกอบตามเรื่ องตามราว สาหรับหนังสือที่เห็นเป็ นตัวอย่างใน link จากอีเมลของวนิยา มีผลงานของ ม.5 สายศิลป์ จากวิชาบูรณาการ สังคม ม.5 เป็ นช่วงที่เข้ มข้ นที่สดุ เพราะพอขึ ้น ม.6 จะต้ องเตรี ยมสอบเข้ ามหาวิทยาลัย ม.5 ครู จึงให้ ทางานเต็มที่ โดยมีโจทย์ ยากๆ เสมอ เช่น เขียนบทสารคดี ทางานวัด จัดทัวร์ ทาหนังสือชุด เวลาลงพื ้นที่ต้องไปสารวจผัง หมู่บ้าน สัมภาษณ์ ชาวบ้ าน เสก็ ตช์ ภาพ เก็ บชื่ อพันธุ์พืชผักลงในสมุดภาคสนามที่ครู จะให้ คาถามนามาให้ นักเรี ยนหาคาตอบ เพื่ อ นวนิ ย ามั่น ใจว่า น้ อ งๆ คงท าหนัง สือ กัน หน้ า ด าคร่ า เครี ย ดในช่ ว งหยดน า้ โดยประมวลข้ อ มูล จากช่ ว ง ภาคสนาม ถ้ าพลิกไปดูหน้ าคณะผู้จดั ทาก็จะเห็นว่าเกิดจากการร่ วมมือของหลายฝ่ าย อันมีนกั เรี ยนเป็ นผู้เก็บ ข้ อมูล ภาพถ่าย ภาพประกอบ เขียนเนื ้อหาและเรี ยบเรี ยง มีครู ประจาวิชาเป็ นบรรณาธิการเล่ม มีครู อาจารย์ หลายท่านเป็ นที่ปรึกษาและอาจช่วยเหลือตกแต่งทางด้ านศิลปกรรม และมีผ้ สู นับสนุนทางด้ านการจัดพิมพ์ ไม่เพี ยงแต่วิช าหลัก วิ ชาดนตรี ห รื อศิ ลปะก็ มีห ยดน า้ ด้ วย เป็ นช่ว งจัด แสดงผลงานครู และนัก เรี ย นทัง้ เทอม นักเรี ยนต้ องมาช่วยตอกตะปูแขวนภาพหรื อเตรี ยมซ้ อมใหญ่ แต่คนที่หนักสุดก็ คือครู ที่ต้องจัดคิวและซ้ อมการ แสดงนัน่ เอง จะเห็นบทบาทผู้ผลักดันอย่างเป็ นทางการคือคุณครู ว่าต้ องวางแผนอย่างเป็ นกระบวนการล่วงหน้ าให้ ชดั เจน สวมบทบาทหลายอย่างทังเป็ ้ นผู้สอน บรรณาธิการ ฯลฯ หรื อแม้ กระทัง่ เป็ นผู้เรี ยนไปพร้ อมกับนักเรี ยน อีกทังต้ ้ อง อาศัยการขอความร่วมมือจากหลายฝ่ าย ทังภายในโรงเรี ้ ยนและภายนอกโรงเรี ยนด้ วย ถึงจะมีผลงานออกมาได้ อย่างที่เห็น

53

รุ่งอรุณเชียงราย : โรงเรี ยนในจดหมายกับหลักสูตรปั จจัยสี่


รุ่งอรุณกับอาศรมศิลป์จึงเน้ นเรื่ องการฝึ กครู (แนวการฝึ กก็เป็ นหลักศาสนาพุทธ อย่างทุกเทอมครู ต้องผลัดกันไป ปฏิบตั ิธรรมด้ วยการฝึ กเจริ ญสติ) นอกจากฝึ กครูก็ต้องมีการสือ่ สารและร่วมมือกับผู้ปกครอง เลยไปถึงการอบรม ผู้ปกครองด้ วยปี ละครัง้ สองครัง้ สุดท้ ายคือเรื่ องอาศรมศิลป์ เพื่อนวนิยาไม่คอ่ ยรู้เรื่ องอาศรมศิลป์เพียงแต่เห็นครูหลายคนในโรงเรี ยนรุ่งอรุณจะต้ องไปเรี ยนต่อ ป.โท ที่อาศรม ศิลป์ทางด้ านศึกษาศาสตร์ กนั การเรี ยนก็คงเป็ นโปรเจ็คท์และส่งวิทยานิพนธ์ เรี ยนสัปดาห์ละไม่กี่วนั โดยทางาน สอนไปด้ วย ครู นิดหรื อนักศึกษาคนหนึ่งซึ่งทางานอยู่ที่สรุ าษฎร์ จึงสามารถเรี ยน ป.โท ที่นี่ได้ นักศึกษาส่วนหนึ่ง ของอาศรมศิลป์ นอกจากครู โรงเรี ยนรุ่ งอรุ ณ แล้ ว ก็ ค งเป็ นคนที่สนใจเรื่ อ งการบูรณาการความรู้ การศึกษา ทางเลือกและทางานผลักดันการพัฒนาการศึกษาอยู่ หากวนิยาไปเรี ยนที่นนั่ นอกจากได้ เรี ยนวิชา ทาโปรเจ็คท์ ก็อาจจะได้ เจอคนที่คิดเห็นเหมือนกัน มีเครื อข่ายเพิ่มขึ ้นและตอบโจทย์หลายๆ อย่างที่วนิยาสนใจได้ เพื่อนแนะนาว่าถ้ าสนใจจะทาโรงเรี ยนรุ่งอรุณเชียงราย ก็ลองไปสารวจในพื ้นที่ดู เพราะว่าแบบเรี ยนที่โรงเรี ยนรุ่ ง อรุณใช้ ประกอบการสอนชันประถมก็ ้ เน้ นเรื่ องการรู้จกั ชุมชนที่ใกล้ เคียงกับการเรี ยนที่สอดคล้ องกับธรรมชาติที่ตน อยู่อาศัยและการสร้ างชุมชนเข้ มแข็ง แต่เด็กที่อยู่เชียงรายคงมีแบ็คกราวด์ที่ต่างกับเด็กที่ โรงเรี ยนเรี ยนรุ่ งอรุ ณ ผู้ปกครองก็คงเป็ นคนละแบบ ถึงจะเรี ยนอาศรมศิลป์หรื อมาทางานรุ่งอรุณก่อนก็คงต้ องไปประยุกต์อีกมาก วนิยาขอขอบคุณเพื่อนชาวรุ่งอรุณที่อตุ ส่าห์เล่าเรื่ องโรงเรี ยนมาทาให้ วนิยาเห็นภาพชัดขึ ้นและพร้ อมที่จะเตรี ยม ตัวเข้ าไปเป็ นส่วนหนึง่ ของที่นี่เพื่อเรี ยนรู้และเก็บเกี่ยวองค์ความรู้มาใช้ สร้ างโรงเรี ยนของตัวเองในอนาคตค่ะ ^ ^

รุ่งอรุณเชียงราย : โรงเรี ยนในจดหมายกับหลักสูตรปั จจัยสี่

54


อรุณฟิ คชั่น (ฉบับเช้ ำมืด)‫‏‬ 16 มกราคม 2557 เวลา 2 ชัว่ โมงมีคา่ พอที่มนุษย์จะทาอะไรได้ มากมาย ท่ามกลางอากาศหนาวในสวนพฤกษชาติที่เรื อนดารากรณ์เชียงราย Kah Chun Wong วาทยากรชาวสิงคโปร์ กาลังแสดงโชว์พิเศษบนเวทีเล็กๆที่ประดับไปด้ วยโคมกระดาษแก้ วรู ปดาว เขาทุ่มพลังการแสดงเต็มที่สง่ ไปยัง เหล่านักดนตรี เลือดใหม่ที่กาเนิดและเติบโตมาในจังหวัดอันแสนสงบสุข เสียงเครื่ องสายถี่รัวประสานกันเป็ นบท เพลงคลาสสิกตามแบบฉบับดังเดิ ้ มในสไตล์มาร์ ช ลีลาจริ งจังและจัดจ้ านสะบัดเม็ดเหงื่อและรอยยิ ้มแห่งความ มันส์จากวาทยากรหนุม่ ประทับลงในใจชาวเชียงรายที่เดินทางมาเยือน แม้ สตู รสาเร็ จของความบันเทิงอาจบังคับ ให้ นกั แสดงต้ องหันไปประจันหน้ ากับผู้ชมเพื่อถ่ายทอดความรู้สกึ แต่ Kah Chun Wong ไม่จาเป็ นต้ องทาเช่นนัน้ เพียงใช้ จงั หวะของหัวใจขยับร่างกายออกมาเป็ นท่าทางอานวยเพลงไปตามที่ ตวั เองต้ องการ บนเวทีที่วาทยากร คือบุคคลผู้เดียวซึง่ หันหลังให้ ผ้ ชู ม เขาเป็ นนักแสดงที่โดดเด่นที่สดุ ในห้ องสีเ่ หลีย่ มขนาดยักษ์ ที่ปิดทึบ ฝูงชนยืนเบียดเสียดชะเง้ อมองไปเบื ้องหน้ า แสงจากสปอตไลท์สอ่ งลงตรงเวที งาน Fat ณ ดินแดนอิมแพ็คเมืองทอง นักดนตรี หลายวงสลับกันขึ น้ แสดงรับการรอคอยของแฟนเพลงวัยรุ่ น มี เสียงระเบิดหลังเวทีและสต๊ าฟแจ้ งว่าระบบเสียงส่วนหนึง่ เสียหายทาให้ วงดนตรี ที่เหลือไม่สามารถใช้ กีตาร์ ไฟฟ้ า กระหน่าเพลงได้ แต่เมื่อถึงคิวแล้ ว ต้ าร์ และสมาชิกวง Paradox เดินขึ ้นมานัง่ เซ็ตไมโครโฟนพร้ อมประกาศว่า ทางวงจะเล่นเพลงสดแบบอะคูสติกแทน การแสดงดาเนินไปตามปกติ ทุกเพลงที่ต้าร์ ร้องประสานการเล่นกีตาร์ สดบนเวทีสะกดคนดูให้ คล้ อยตามอารมณ์ ของเพลงที่ส่งมา เมื่อมองไปกลางสปอตไลท์ ดวงตาของต้ าร์ เป็ น ประกายราวกับมีความสุขทุกครัง้ ที่ได้ ร้องเพลงให้ ผ้ ชู มฟั ง จากงาน Fat สูเ่ วทีใหญ่อย่าง Big Mountain ไม่ว่าจะ แสดงสดมากี่ครัง้ ผู้ชายตัวเล็กๆคนนี ้ก็สามารถส่งประกายแห่งความสุขจากดวงตาของเขาไปถึงผู้ชมได้ ในทุกๆที่ ไม่วา่ ระยะทางจะอยูไ่ กลเท่าไหร่ก็ตาม บางครัง้ เวลา 2 ชัว่ โมงก็มีความหมายมากเกินจะจินตนาการ <<Lenka - Everything At Once>> วนิยาตื่นขึ ้นมาบนเบาะหลังของรถยนต์นงั่ ส่วนบุคคลที่กาลังวิ่งด้ วยความเร็ วสูง เธอออกเดินทางจากเชียงรายมา ตังแต่ ้ ก่อนเช้ ามืดตี3 เมธี น้ องชายนัง่ ประจาที่คนขับ ครูอจั ป้าของวนิยานัง่ อยูด่ ้ านหน้ าคอยชวนคุยเป็ นเพื่อนลูก ชาย ถึงยามสายทังหมดแวะพั ้ กที่พิษณุโลกเพื่อส่ง น ้ามนต์ น้ องสาวของเมธีไปเข้ าเรี ยนมหาวิทยาลัยให้ ทนั เวลา แล้ วจึงออกเดินทางอีกครัง้ ตอนบ่าย3โมงเมื่อคนขับหายเหนื่อยล้ า น ้ามนต์ฝากตุ๊กตาหมีตวั ใหญ่ที่ได้ จากแฟน มานัง่ แทนให้ วนิยานอนหนุนตักนุม่ ๆตามสบาย

55

รุ่งอรุณเชียงราย : โรงเรี ยนในจดหมายกับหลักสูตรปั จจัยสี่


ทุกคนเข้ าใจว่าพี่สาวเจ้ าปั ญหาคนนี ้เพิ่งอดนอนมาทังคื ้ นเพราะทุ่มทุนออกไปซื ้อและอ่านหนังสือที่อาจารย์สดุ ปลื ้มแนะนามารวดเดียวจบ ความจริ งวนิยาเพิ่งฝึ กอ่านหนังสือได้ ชวั่ โมงละ 100 หน้ าและกะเวลาไว้ ว่าจะอ่าน หนังสือเล่มนี ้ให้ จบก่อน 4 ทุม่ แต่ ป้าแมว แม่ของวนิยาเพิ่งมาบอกข่าวว่า ครู นิด บุคคลสาคัญที่เธอเฝ้ าส่งอีเมล ติดต่อมานาน 3 เดือนเพิ่งส่งอีเมลขนาดยาวตอบกลับมา 2 ฉบับด้ วยความยินดีและเป็ นเกียรติอย่างยิ่ง วนิยาจึง ใช้ เวลาในคืนนันอ่ ้ านอีเมลอย่างตื่นเต้ นแล้ วเผลอไปเล่นเฟซบุ๊กต่อจนหมดเวลาเที่ยงคืน เมื่อรู้ ตัวอีกทีเธอก็ใช้ โมงยามที่เหลือดาดิ่งลงไปในกองผ้ าห่มกับตัวหนังสือที่อดั แน่นอยูใ่ นปกสีส้มจนทะลุอ อกมาจบก่อนเวลาน้ องชาย ออกรถเพียงไม่กี่นาที เธอรี บอ่านหนังสือเล่มนี ้ให้ จบเพราะอยากทิ ้งไว้ ให้ แม่ได้ อ่านต่อแทนความห่วงใยและแทน บทสนทนาปรับความเข้ าใจของ 2 แม่ลกู "นี่คือทานองแห่งความหลังระหว่างเรา ได้ ยินเมื่อไรยังนึกถึงวันเก่า.." วนิยาพลิกตัวไปมาบนตักตุ๊กตาหมี เธอรู้วา่ น้ องชายเพิ่งซื ้อแผ่นเพลงจากแม่สายมา แต่ไม่น่าจะเริ่ มต้ นด้ วยเพลง เก่า 3 ปี ที่แล้ วแบบนี ้ อย่างไรก็ตามเธอมีความสุขที่ได้ ยินเพลงนี ้อีกครัง้ ได้ ยินเมื่อไรก็ยงั .. "ตื่นแล้ วเหรอ" เมธีถามพี่สาว วนิยาพยักหน้ า "เมขอยืมแผ่นพี่ฝนมาเปิ ดฟั งนะ แอบเอาออกมาจากรถน้ าแมวน่ะ" "เออ ถึงว่า เพลงมันคุ้นๆ.." วนิยาบิดขี ้เกียจ จาได้ วา่ เป็ นแผ่นรวมเพลงประกอบภาพยนตร์ "ยังไงก็ดีแล้ วที่เอาออกมาฟั งน่ะ อยูใ่ นรถน้ าแมวเฉยๆเสียดายแย่" "คิดถึงเพลงนี ้จัง.." "เมดูหนังเรื่ องนี ้รึยงั ?" "ที่แจ้ งเกิดพระเอกใช่มยั ้ เออ สนุกดีอะ" "สนุกดีเนอะ.." วนิยาเหม่อมองไปนอกรถ "แล้ ววันนี ้เขียนอะไรอยูร่ ึเปล่าพี่?" เมธีเห็นวนิยาใช้ ความคิด "ก็วา่ จะเขียนอีเมลถึง ครูนิด น่ะ พี่ฝนเจอเค้ าแค่ครัง้ เดียวแต่อยากถามอะไรเค้ าเยอะเลย นี่เค้ าเพิ่งอีเมลตอบมา แบบ..ดีใจมากอ่ะ ก็สง่ อีเมลไปหาเค้ าเรื่ อยๆ 3 เดือนเค้ าไม่ตอบมาเลย นึกว่าเค้ าจะไม่คยุ กับเราซะแล้ ว ที่ไหนได้ บนดอยไม่มีคลืน่ "

รุ่งอรุณเชียงราย : โรงเรี ยนในจดหมายกับหลักสูตรปั จจัยสี่

56


"อ๋องันเหรอ ้ งันฟั ้ งเพลงต่อไปนะ" เมธีหนั ไปสนใจเร่งรถแซงคันหน้ า ปรับระดับเสียงเพลงในรถ "ไม่ร้ ูวา่ เธอเป็ นใคร ไม่ร้ ูวา่ ฉันเป็ นใคร ไม่ร้ ูวา่ โลกความจริ งของเรานันเป็ ้ นอย่างไร.." ในหัวของวนิยากาลังเตรี ยมคาถามมากมาย "ยินดีที่ไม่ร้ ูจกั .. ไม่ร้ ูจกั .. แค่ร้ ูวา่ รักก็พอใจ.." เวลาครึ่งเดือนที่ผา่ นมาเธอใช้ ไปกับการคิดสร้ างสรรค์และเขียนออกมาเป็ น "อีเมล" ซึง่ เดิมทีเกิดจากเมื่อ 2 ปี ก่อน เธอได้ กลับไปหา mr.Saturday ที่มหาวิทยาลัยเพื่อเสนอและขอคาแนะนาเป็ นแนวร่วมในการทาโครงการส่วนตัว เพื่อสังคมชิ น้ หนึ่งเกี่ ยวกับการเปลี่ยนแปลงค่า นิยมทางการศึกษา(ปั จ จัยหลักของปั ญหาด้ านการศึกษาใน ระดับประเทศ) แล้ วได้ รับการติดต่อกลับจาก mr.Saturday ทางอีเมล ทาให้ วนิยามีกาลังใจที่จะเขียนอีเมลตอบ กลับในเรื่ องของโครงการ เนื่องจาก mr.Saturday เคยสอนวนิยามาหลายวิชา ตังแต่ ้ หลักการโฆษณาไปจนถึง การบริ หาร ทาให้ วนิยามีวิธีคิดคล้ าย mr.Saturday ไปโดยไม่ร้ ูตวั ตลอดการสนทนาทางอีเมล 2 ปี เมื่อโครงการมี ปั ญหาติดขัดในส่วนไหน mr.Saturday ก็จะส่ง "คาถาม" ที่ตรงกับระบบการคิดของเธอมาให้ ทาให้ เ ธอจัดการ ปั ญหาทางความคิดได้ อย่างสร้ างสรรค์ทกุ ครัง้ ไป ด้ วยความโชคดี ขณะที่ร่างโครงการกาลังดาเนินมาใกล้ ทางตัน วนิยากลับมองเห็นช่องทางใหม่ที่สดใสและน่า ตื่นเต้ น นัน่ คือ "การสร้ างโรงเรี ยนทางเลือก" เธอเริ่ มเขียนอีเมลทันทีเพื่อส่งถึงบุคคลที่ต้องการดึงมาเป็ นแนวร่ วม ด้ วยความสุขและเป็ นธรรมชาติ ออกแบบหลักสูตรการเรี ยนการสอนแนวใหม่อย่างคร่ าวๆ จากความต้ องการ ภายในผสมกับประสบการณ์การค้ นคว้ าเรื่ องการศึกษาในโครงการที่ตวั เองทาอยู่ ในเวลาครึ่ งเดือนเธอส่งอีเมล ขนาดยาว 3 ฉบับถ่ายทอดความคิดทังหมดที ้ ่มีลงไปอย่างไม่มีกกั๊ และได้ รับ ความกรุ ณาจาก mr.Saturday ใน การสละเวลานัง่ สนทนาหลังจบการสอนที่มหาวิทยาลัย 2 ชั่วโมง ตังค ้ าถามถอดและเรี ยบเรี ยงความคิดของ วนิยาเองออกมาให้ กลายเป็ นชุดข้ อมูลที่ชดั เจนยิ่งขึ ้น วนิยาบอก mr.Saturday ว่า ร่างโครงการที่เธอเขียนออกมาเมื่อ 2 เดือนที่แล้ วมีปัญหาคือมันดู "น่ากลัว" เกินไป เพราะจับประเด็นที่ใหญ่และมีความเป็ นอนุรักษ์ นิยมที่คนทัว่ ไปยังไม่กล้ าเข้ าใกล้ วนิยาไม่ได้ ตงใจให้ ั้ โครงการ ออกมาเป็ นแบบนันแต่ ้ เพราะว่าเธอใช้ เวลาตลอดปี ที่ผ่านมาขลุกอยู่กับหนังสือแนวอนุรักษ์ นิยมมากเกิ นไป สานวนการเขียนในร่างโครงการจึงออกมาเอนเอียงไปในทางที่คร่ าเคร่งและดุดนั คนในแวดวงแนวร่วมโครงการที่ เธอได้ ติดต่อเอาไว้ และคุยกันได้ ก็มีแต่ mr.Saturday เท่านันที ้ ่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญและ(เคย)ทางานอยู่ใน องค์กรแบบทุนนิยมสุดขัว(บริ ้ ษัทวิจยั โฆษณา) ที่จะสามารถดึงเธอออกมาจากโลกของคนกลุม่ น้ อยซึ่งใช้ ชีวิ ตอยู่ กับอุดมการณ์และปรัชญานามธรรมทังหลายได้ ้

57

รุ่งอรุณเชียงราย : โรงเรี ยนในจดหมายกับหลักสูตรปั จจัยสี่


ในสมัยเรี ยนวนิยาเป็ นคนที่ชอบออกไปอัพเดทกิจกรรมด้ านการตลาดอยูเ่ สมอ เธอเห็นประโยชน์และความสาคัญ ของการใช้ องค์ความรู้และแนวทางการสือ่ สารของวงการทุนนิยมและไม่ต้องการทิ ้งมุมมองในด้ านนี ้ออกไปไม่ว่า เธอจะจบไปทางานอยูก่ บั มูลนิธิไม่แสวงหากาไรที่แม่ได้ ก่อตังขึ ้ ้นเพื่อสานต่องานพัฒนาชนบทซึ่งพ่อผู้เสียชีวิตมา สิบกว่าปี ได้ บกุ เบิกถางทางเอาไว้ ก็ตาม ดังนันวนิ ้ ยาจึงต้ องการคนอย่าง mr.Saturday เข้ ามาเป็ นส่วนหนึง่ ในการ รักษาสมดุลของชีวิตและเส้ นทางเล็กๆที่จะเปลี่ยนแปลงสังคมในแบบของเธอ ในฐานะลูกศิษย์คนหนึ่งที่ร้ ู จกั กัน มา 7 ปี เธอรัก mr.Saturday.. "อย่างน้ อยฉันเคยได้ รักเธอ รักโดยการไม่หวังอะไร.. ก็ร้ ูฉนั เองยังไม่ใช่ ไม่ต้องการอะไรทังนั ้ น.. ้ อย่างน้ อยฉันได้ เรี ยนรู้ ได้ เข้ าใจ ทุกนาทีที่ฉนั มีเธอ.. รักคือความสุขที่ยิ่งใหญ่ และมีความหมายมากมายจริ งๆ" วนิยานอนซบตักหมี คิดถึงเวลาหลังเลิกเรี ยน 2 ชั่วโมงที่ได้ ใช้ คุยกับ mr.Saturday ในวันแรกที่เธอได้ เจอกับ mr.Saturday เมื่อเป็ นนักศึกษา ป.ตรี ชันปี ้ ที่ 2 สภาพของ mr.Saturday ไม่ต่างอะไรกับรุ่ นพี่ปี 4 ที่ใส่ชุดสูททับ เสื ้อยืดเท่ๆ เข้ ามารับงานสอนพิเศษ mr.Saturday ทาสไลด์นาเสนอได้ สดใสและช่างสอนเก่งเหลือเกิน ไม่แปลก เลยที่สาวๆทังชั ้ นต่ ้ างก็หลงใหล mr.Saturday แต่ตอนนันวนิ ้ ยายังมีแฟนเป็ นผู้หญิง(ประเภทสอง)ที่สวยมาก จึง หลุดรอดพ้ นกับดักแห่งเสน่ห์อนั ร้ ายกาจของ mr.Saturday จนเรี ยนจบมาได้ เวลาผ่านไปหลายปี แล้ ว เธอกับ แฟนต่างก็โตขึ ้นมาเป็ นเพื่อนสาวของกันและกัน ในเวลา 2 ชัว่ โมงครัง้ นี ้ต่างหากที่เธอกับ mr.Saturday ได้ ร้ ู สกึ สนุกจริ งๆร่วมกัน แม้ วา่ mr.Saturday จะดูเป็ นผู้ใหญ่มากขึ ้นแล้ ว แต่รอยยิ ้มที่จริ งใจเพียงครัง้ เดียวนันก็ ้ ยงั ทาให้ เธอกลับบ้ านไปนอนเพ้ อได้ ตลอดสัปดาห์ ความตังใจที ้ ่จะเขียนอีเมลถึงครู นิดเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศ กลับไปเป็ นการนึกร่ างอีเมลถึง mr.Saturday อีกครัง้ แปลกเหลือเกิ นที่เธอสามารถเขียนข้ อความยาวๆเป็ นบทเป็ นตอนได้ เพียงแค่มีความต้ องการที่จะสื่อสารกับ mr.Saturday ออกมาจากส่วนลึกของใจจริ งๆไม่กี่วินาทีเท่านัน้ และเธอสามารถรักษาแรงผลักดันที่มีอยู่นนมา ั้ บันดาลใจสร้ างสรรค์เป็ นงานเขียนให้ mr.Saturday และคนอื่นๆได้ อ่านกันอย่างสมบูรณ์ แบบทุกครัง้ ไม่เคย บกพร่อง เพียงแค่อยากให้ mr.Saturday มีความสุขทุกครัง้ ที่ได้ อา่ นอีเมลจากเธอ เนื่องจาก mr.Saturday ได้ บอกวนิยาไว้ ว่ากาลังสนใจเรื่ อง sustainable technology ที่จะช่วยพยุงให้ ระบบทุน นิยมอยู่รอดในสภาวะวิกฤติทางเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้ อมของโลก และวนิยาได้ ขอร้ อง mr.Saturday ให้ ช่วย ค้ นคว้ าและแนะน าเกี่ ยวกับเรื่ องนี ้ เพราะเป็ นเรื่ อ งที่ต รงกับแนวคิด หลัก อีกครึ่ งหนึ่งของโครงการ ในส่วนที่ นอกเหนือจากการสนับสนุนให้ ใช้ หลักเศรษฐกิจพอเพียงและความรู้ ด้านการเกษตรอินทรี ย์มาประยุกต์ในระบบ การศึกษา ในอีเมลฉบับนี ้ เธออยากจะทาให้ mr.Saturday ดีใจด้ วยการนาเสนอว่าเธอได้ ประยุกต์เอาส่วนหนึ่ง ของ sustainability มานาเสนอในโครงร่างเนื ้อหาของโครงการแล้ ว แต่จะประยุกต์อย่างไรดีละ่ ..

รุ่งอรุณเชียงราย : โรงเรี ยนในจดหมายกับหลักสูตรปั จจัยสี่

58


<<ศรัทธาฤาเหตุผล - สุภทั รา โกราษฎร์ >> เสียงใบไม้ แผ่วไหวกระทบลมลมปลิวพัดกระดิ่งลมดังกรุ บกริ บที่ชานเรื อนสองชันท ้ าจากไฟเบอร์ โตเร็ ว[1]สีทอง โปร่ งสบายตา ปฏิพัทธ์ อมรกนก (นามสมมุติ) เปิ ดประตูเรื อนออกมารับแสงจ้ าของเช้ าวันใหม่ ยานพาหนะ ขับเคลือ่ นพลังน ้า[2]จอดเทียบท่ารอผู้โดยสารอยูบ่ นวอเตอร์ เวย์[3]ที่สะท้ อนแสงอาทิตย์ระยิบระยับ เมื่อเท้ าของ ปฏิพทั ธ์สมั ผัสพื ้นของยาน มันบุม๋ ลงเล็กน้ อยตามน ้าหนักที่กดลงไป ก่อนจะลอยขึ ้นทาบผิวของวอเตอร์ เวย์รอให้ ผู้โดยสารนัง่ ประจาที่แล้ วแล่นฉิวอย่างเงียบๆไปโดยไม่ปล่อยสารเคมีหรื อไอเสียที่เป็ นมลพิษ ใบหน้ าอันสดใสของ ปฏิพทั ธ์สมั ผัสลมเย็นๆและกลิน่ พรรณไม้ หอมนานาชนิดที่ปลูกไว้ เป็ นทิวทัศน์ให้ ชมสองข้ างทางตามธรรมชาติ เขาควบคุมยานพลังน ้ามาเทียบชานชาลาด้ านหลังของอาคารไฟเบอร์ สลักที่ทาสีขาวดูศกั ดิ์สิทธ์ เหมือนไม้ เท้ า ของจอมเวทย์ ขึ ้นจากยานแล้ วเดินไปยังไต้ ถนุ อาคารโล่ง เป็ นเวลาเช้ ากว่าปกติ ลานกิจกรรมจึงยังคงว่างเปล่า มี เพียงร่ องรอยการเล่นซนของเด็กประปรายอยู่บนพืน้ และเสาอาคารเท่านัน้ ปฏิพทั ธ์ ขึ ้นบันไดและเดินไปตาม ระเบียงเพื่อสารวจตามห้ องต่างๆซึ่งส่วนใหญ่ เป็ นห้ องสาหรั บการสัมมนากลุ่มโดยมีโต๊ ะญี่ ปนหลายๆโต๊ ุ่ ะให้ นั่งเล่นกับพืน้ มีกระดานไวท์ บอร์ ดและเครื่ องฉายภาพจากคอมพิวเตอร์ ติดตัง้ อยู่ด้านหน้ า มองออกไปทาง ระเบียงจะเห็นสนามหญ้ าและป้ายบอกชื่อของสถานที่แห่งนี ้ว่า "โรงเรี ยนรุ่งอรุณเชียงราย" วนิยานึกขาตัวเอง เมื่อครึ่งเดือนก่อนเธอนอกจากเธอจะเขียนแนะนาไอเดียโรงเรี ยนรุ่งอรุณเชียงรายส่งไปถึงแนว ร่วมโครงการและกัลยาณมิตรทางอีเมลแล้ ว เธอยังเขียนชวนบุคคลต่างๆในรายชื่อผู้รับจดหมายมารับงานเป็ นครู สอนที่โรงเรี ยนในจินตนาการของเธอด้ วย เธอใส่ชื่อ mr.Saturday ลงไปในเรื่ องพร้ อมกับนาเสนอ sustainable technology ที่ mr.Saturday ชอบมาประกอบฉาก เผื่อว่า mr.Saturday จะใจอ่อนอยากมาเป็ นครูสอนที่โรงเรี ยน ของเธอจริ งจัง ในการสนทนากันครัง้ ล่าสุด mr.Saturday ยิ ้มเขินๆเมื่อได้ รับคาเชิญไปเชียงราย mr.Saturday ตอบง่ายๆว่า "ผม ก็มีแผนของผมเองครับ" mr.Saturday บอกให้ วนิยาทราบว่าได้ ลาออกจากบริ ษัทที่ทางานประจามาเป็ นฟรี แลนซ์ แล้ วยึดอาชีพเป็ นอาจารย์พิเศษมหาวิทยาลัยเต็มตัวแล้ ว วนิยาเห็นดังนันจึ ้ งหวังว่า mr.Saturday จะสนใจทา อาชีพครูตอ่ ไปในภายภาคหน้ า ในปี แรกของการทาโครงการสร้ างสรรค์สอื่ เพื่อเปลีย่ นค่านิยมทางการศึกษานัน้ วนิยาได้ เสนอขอชื่ อ ดร.ป๊ อบ มา เป็ นตัวละครในนิยายของเธอ และเมื่อเขียนนิยายเสร็ จเธอจะเอาไปสร้ างหนัง และในหนังเธอจะให้ ดร.ป๊ อบ แสดงเป็ นตัวละครที่ชื่อ "ป๊ อป" ตัวนัน้ ดร.ป๊ อบ ตอบในทวิตเตอร์ ว่ายินดีมาก และเป็ นกาลังใจสนับสนุนให้ วนิยา เขียนนิยายของโครงการมาเรื่ อยๆ วนิยาจึงมี ดร.ป๊ อบ เป็ นแรงบันดาลใจหลักในการทาโครงการมาก่อน แต่เมื่อ เวลาผ่านไป 3 ปี แล้ ว ดร.ป๊ อบ ก็อายุใกล้ 30 เข้ าไปเรื่ อยๆ นิยายก็ไม่มีทีทา่ ว่าจะคืบหน้ าเสียที วนิยาจึงเปลี่ยนให้ ดร.ป๊ อบ แสดงเป็ นครู คนหนึ่งในเรื่ องแทน เช่นกันกับเพื่อนร่ วมชัน้ ของนาย "ป๊ อป" ที่มีแรงบันดาลใจเป็ น คน รอบตัว ดร.ป๊ อบ จากแวดวงทวิตเตอร์ เช่น วรรณสิงห์ จอห์น วิญญู พล่ากุ้ง โหน่ง วงศ์ทนง นิ ้วกลม มาสเตอร์

59

รุ่งอรุณเชียงราย : โรงเรี ยนในจดหมายกับหลักสูตรปั จจัยสี่


แชมป์ ต๊ อบ เถ้ าแก่น้อย และเปาวลี ก็ต้องเปลี่ยนตัวนักแสดงเป็ นชุดใหม่หมด เพียงแต่การออกแบบตัวละครใน นิยายโดยมีบคุ คลจริ งๆเป็ นแรงบันดาลใจจะช่วยให้ เกิดความสมจริ งมีชีวิตและมีมิติในจินตนาการของผู้อ่านมาก ขึ ้นเท่านัน้ แต่ในการเขียนเรื่ องใหม่ครัง้ นี ้ วนิยาเพิ่งประจักษ์ วา่ บุคลิกของ mr.Saturday ช่างเข้ ากับโรงเรี ยนรุ่งอรุณเชียงราย มากกว่ า ที่ บุ ค ลิ ก ของ ดร.ป๊ อบ จะเข้ ากั บ นิ ย ายบทภาพยนตร์ เรื่ อ ง " Tutorials:กวดวิ ช าสู่ส ามั ญ " และ "Tutorials:กวดวิชาล่าฝั น" อันเก่าของเธอเสียอีก นอกจาก mr.Saturday ที่วนิยายังต้ องลุ้นว่าจะมาเป็ นครู ที่โรงเรี ยนของเธอจริ งๆหรื อไม่แล้ ว ก็ยงั มี "ครู นิด" (อรพินท์ กุศลรุ่งรัตน์ อดีตครูศิลปะโรงเรี ยนรุ่ งอรุณ) แห่งโรงเรี ยนวิถีชีวิตปกาเกอะญอ "โจ๊ ะมาโลลือหล่า" (รางวัล ด้ านการศึกษา Robinson Bright and Charm Awards 2011) ที่เพิ่งตอบอีเมลของเธอมาว่า ยินดีที่จะช่วยเหลือ ในด้ านวิชาการทุกอย่าง ไหนๆ ครูนิด ก็จะมากับเธอแน่ๆแล้ ว เธอจะลองเขียนเรื่ องโรงเรี ยนของเธอต่อ.. ที่สนามหน้ าโรงเรี ยนในวันนี ้ มีเต๊ นท์ สาหรั บนักเดินป่ าหลั งหนึ่งตัง้ อยู่ริมรั ว้ นกพันธุ์เล็กสีสวยส่งเสียงจิ๊ บจ้ า กระโดดเกาะบนหลังคาผ้ าร่ ม อรพินท์ กุศลรุ่ งรัตน์ รู ดซิปประตูเต๊ นท์เปิ ดออกรับไอหมอกในสายลม เธอคือครู ผ้ ู อุตสาหะที่เดินทางจากโรงเรี ยนปกาเกอะญอแห่งบ้ านสบลาน อ.สะเมิง จ.เชียงใหม่ เพื่อมาสอนพิเศษในวิชา "วนศาสตร์ เพื่อการดารงชีวิต" ให้ กบั นักเรี ยนและครูโรงเรี ยนรุ่งอรุณเชียงรายที่เป็ นรุ่นแรก เหมือนโฆษณาโรงเรี ยนพร้ อมครูพิเศษและหลักสูตรใหม่เลยเนอะ.. วนิยาคิด "ครูนิด อรุณสวัสดิ์ครับ" ปฏิพทั ธ์ กล่าวทักทาย เขาเดินลัดสนามไปยังเต๊ นท์ของอรพินท์ กองไฟขนาดย่อมที่มอด ดับถูกจุดขึ ้นมาอีกครัง้ เพื่อปรุ งอาหารเช้ า หลังจากที่ผ่านการมุงและร่ วมกันลองผิดลองถูกโดยครู และนักเรี ยน หลายสิบคนมาแล้ วเมื่อวาน เจ้ าฟื นถ่านกองน้ อยค่อนข้ างอิดออดที่จะตื่นขึ ้นมาทางาน "เดี๋ยวไปทานมื ้อเช้ า ด้ วยกันที่อรุณวิลล่าก็ได้ ครับ" ปฏิพทั ธ์เสนอ ในเมื่อมันเป็ นโฆษณา.. วนิยาคิดว่าน่าจะเพิ่ม "พรี เซ็นเตอร์ " ที่ตรงกับภาพลักษณ์ของลูกค้ า เข้ าไปอีก 1 คน <<วัดใจ - Season Change >> เสียงกรอบแกรบของยานจักรกลพลังคาร์ โบไฮเดรตน ้าหนักเบา[4]ที่สมั ผัสพื ้นสนามหญ้ าใกล้ เข้ ามา ชิงความ สนใจให้ ปฏิพทั ธ์และอรพินท์หนั ไปมอง เด็กสาวคนหนึ่งไว้ ผมหน้ าม้ าจอดยานแล้ วเดินเข้ ามายกมือไหว้ ทาความ เคารพครูอย่างนอบน้ อม "สวัสดีคะ่ ครูอาร์ ต สวัสดีคะ่ ครูนิด" เด็กสาวคนนันกล่ ้ าวด้ วยน ้าเสียงสดใส

รุ่งอรุณเชียงราย : โรงเรี ยนในจดหมายกับหลักสูตรปั จจัยสี่

60


"สวัสดีครับกะทิ" ปฏิพทั ธ์ทกั ทายนักเรี ยนตอบพร้ อมรอยยิ ้มใจดี และรู้สกึ เขินๆที่ถกู เรี ยกว่าครูอาร์ ต "สวัสดีจ้ะสาวน้ อย มาแต่เช้ าเชียวนะ" อรพินท์สมทบ "ไปหัดก่อกองไฟที่บ้านมารึยงั ล่ะ" "เดี๋ยวกะทิจะช่วยครูนิดก่อกองไฟตรงนี ้ก็ได้ คะ่ " เด็กสาวกระตือรื อร้ น "ไม่เป็ นไรจ้ ะ มื ้อนี ้ครูอาร์ ตชวนไปกินที่อรุณวิลล่าแล้ วล่ะ ประหยัดฟื นหน่อย" อรพินท์ตอบ "ถ้ างันกะทิ ้ จะไปช่วยแม่ครัวเตรี ยมอาหารนะคะ รับรองว่าอร่อยแน่" แล้ วเด็กสาวก็ขึ ้นขับยานวิ่งฉิวล่วงหน้ าไปยัง ห้ องครัว ครูทงสองมองตามด้ ั้ วยความเอ็นดู และหวังว่าอาหารเช้ ามื ้อนี ้จะมีรสชาติพอทานได้ "เอ่อครูนิดครับ" ปฏิพทั ธ์ลงั เล "คะ?" อรพินท์กาลังดับไฟ "ครูนิดพอจะเห็นเสื ้อสูทสีดาที่ผมใส่เมื่อวานมัยครั ้ บ.." ปฏิพทั ธ์ถามอย่างไม่แน่ใจ ห้ องครัวของโรงเรี ยนอยู่ไม่ไกลจากอาคารเรี ยนและอรุ ณวิลล่าที่พกั ครู สกั เท่าไหร่ กะทิบงั คับยานเลี ้ยวไปตาม ถนนอย่างเพลิดเพลิน สายหมอกยามเช้ ากาลังจางลง อากาศเย็นสบายของจังหวัดเชียงรายทาให้ ร่างกายสดชื่น "กะทิ" คือตัวละครเอกที่วนิยายืมมาจากหนังสือ "ความสุขของกะทิ" ซึ่งในเรื่ องที่คุณงามพรรณเขียนจนได้ รับ รางวัลและความนิยมนัน้ กะทิเพิ่งเป็ นเด็กโตเรี ยนอยู่ในโรงเรี ยนชัน้ ประถมปลายท่ามกลางสิ่งแวดล้ อมแบบ ชนบทที่อยุธยา ถ้ ากะทิโตพอที่จะเข้ าเรี ยนชันมั ้ ธยมปลายได้ แล้ ว วนิยาจะให้ ทนุ เชิญกะทิมาเรี ยนต่อที่โรงเรี ยน รุ่งอรุณเชียงราย ในฐานะ "นักเรี ยนมืออาชีพ" อย่างที่วนิยาได้ สถาปนาตัวเองเป็ น.. "พี่น ้าฝน!" กะทิสง่ เสียงเรี ยกผู้หญิงวัยยี่สบิ ต้ นๆคนหนึง่ ที่พบระหว่างทาง วนิ ยา สุวรรณเวโช หรื อพี่ นา้ ฝนของเด็ กๆ หัน มาหากะทิต ามเสีย งเรี ย ก เธอกาลัง ตรวจความก้ าวหน้ าของ ฟาร์ มเพาะเลี ้ยงเนื ้อสัตว์ไม่มีกระดูกในเปลือกแคลเซียม[5] ก่อนที่จะเดินต่อไปยังไร่ ผลิตพลังงานคาร์ โบไฮเดรต [6] กะทิแวะจอดยานให้ วนิยาขึ ้นนัง่ ซ้ อนท้ าย "กะทิทาตามแผนที่พี่น ้าฝนบอกแล้ วนะคะ" เธอขยิบตาให้ วนิยา "นักเรี ยนมืออาชีพ" คือนักเรี ยนตัวอย่าง ที่มีหน้ าที่จดั การความสัมพันธ์ ระหว่างครู และนักเรี ยนด้ วยกันภายในชัน้ เรี ยน คอยประเมินการสอนของครูและประคับประคองการเรี ยนของเพื่อนร่วมชันให้ ้ ประสบผลสาเร็ จร่วมกันไปได้

61

รุ่งอรุณเชียงราย : โรงเรี ยนในจดหมายกับหลักสูตรปั จจัยสี่


อย่างตลอดรอดฝั่ ง เดิมทีวนิยาผู้ก่อตังโรงเรี ้ ยนเป็ นคนรับหน้ าที่นี ้โดยเข้ าเรี ยนร่ วมกับนักเรี ยนรุ่ นแรกทุกวิชา แต่ เมื่อวัยล่วงเลยมามากก็ได้ รับสมัคร "น้ องกะทิ" มารับหน้ าที่แทน.. "เอ้ าสาวๆในนี ้ใครชอบแต่งหน้ าบ้ าง?" วนิยาถามนักเรี ยนชัน้ ม.4 รุ่ นแรกในคาบโฮมรู ม ทุกคนนัง่ รวมกันอยู่ใน ห้ องเรี ยนอุ่นๆระหว่างโต๊ ะญี่ปนที ุ่ ่ตงกระจายเป็ ั้ นกลุม่ ๆอยู่บนพื ้น นักเรี ยนหญิ งสนใจคาถาม พากันหันไปมอง เพื่อนว่ามีใครชอบแต่งหน้ า "ในห้ องนี ้ไม่มีใครแต่งหน้ ามาเรี ยนเลยค่ะ" กะทิเสนอเมื่อให้ เวลาเพื่อนๆคิดไปแล้ วพักหนึง่ "ถ้ างัน้ ทาไมเราถึงไม่แต่งหน้ ามาเรี ยนกันล่ะ?" วนิยาตังข้ ้ อสังเกต "วัยรุ่นต้ องสวยแบบใสๆครับ ถ้ าแต่งหน้ าแล้ วเดี๋ยวจะดูแก่" นักเรี ยนชายคนหนึง่ ยกมือ "เครื่ องสาอางมันล้ างออกยากค่ะ ขี ้เกียจตื่นเช้ ามาทาแล้ วต้ องล้ างออกทุกวัน" นักเรี ยนหญิงตอบบ้ าง "แล้ วคิดว่าอะไรล้ างออกยากที่สดุ ?" วนิยาถามต่อ นักเรี ยนในชันท ้ าเสียงพึมพาใช้ ความคิด "ลิปสติกค่ะ" นักเรี ยนหญิงกลุม่ หนึง่ ตอบพร้ อมกัน "โอ้ ..ใช่ แล้ วทาไมผู้หญิงถึงต้ องทาลิปสติกกันล่ะ?" วนิยาชวนสงสัย "เพราะสังคมบอกว่าถ้ าปากแดงแล้ วจะสวยครับ" นักเรี ยนชายคนเดิมตอบ "เพราะปากแดง แก้ มแดง ทาให้ ดเู หมือนสุขภาพดีคะ่ " นักเรี ยนหญิงอีกคนยกมือ "อ้ อ.. แล้ วเรามีทางเลือกอื่นมัยที ้ ่จะทาให้ หน้ าตาเราดูมีสขุ ภาพดี?" วนิยาเสนอ "อุทยั ทิพย์คะ่ พี่ฝน" นักเรี ยนชายที่สวยที่สดุ ในห้ องตอบ เธอชูขวด U-Tip ให้ ทกุ คนดูเรี ยกเสียงฮือฮา "เอ้ าจริ งด้ วย! น ้ายาอุทยั .. ไหนใครรู้จกั น ้ายาอุทยั บ้ าง?" หลายคนยกมือรู้จกั "น ้ายาอุทยั ใช้ ผสมน ้าดื่มให้ มีกลิน่ หอมค่ะ ไม่ได้ ใช้ ทาปาก" นักเรี ยนหญิงคนหนึง่ พูดขึ ้น "ว่ายังงันเหรอ.. ้ มีใครเห็นด้ วยบ้ าง?" นักเรี ยนครึ่งห้ องยกมือ

รุ่งอรุณเชียงราย : โรงเรี ยนในจดหมายกับหลักสูตรปั จจัยสี่

62


"ในเรื่ องนี ้เรามีความเห็นต่างกันครึ่งห้ อง ถ้ างันเราจะโต้ ้ วาทีกนั เรื่ องนี ้ในวิชาภาษาไทยนะ?" "เลือกตัวแทนมาพูดฝ่ ายละคนแล้ วแบ่งกลุม่ กันช่วยหาข้ อมูลค่ะ" กะทิเสนอข้ อตกลง "ถ้ าเป็ นแบบนันจะมี ้ คนหาข้ อมูลเยอะนะ ขอเป็ นข้ อมูลแบบสถิติสารวจจากคนข้ างบ้ านได้ มยล่ ั ้ ะ ?" "ได้ ครับ/ค่ะ" นักเรี ยนตอบอย่างพร้ อมเพรี ยงกัน "งันขอเอาไปบู ้ รณาการวิชาคณิตศาสตร์ ด้วยนะคะ" กะทิเสริ ม "ได้ .. แล้ วจะบอกคุณครูให้ นะ" วนิยาตอบด้ วยความยินดี "พี่ฝน.. ผมอยากทาโฆษณาครับ!" นักเรี ยนคนหนึง่ ยกมือพูดเสียงดัง "อ๋อโฆษณา.. ที่กาลังเรี ยนความคิดสร้ างสรรค์ในวิชาการสือ่ สารใช่มยั ้ จะทาแบบไหนล่ะ ?" "ชวนให้ ผ้ หู ญิงหันมาใช้ น ้ายาอุทยั แทนลิปสติกครับ" นักเรี ยนคนเดิมตอบ "มีเหตุผลรึยงั ล่ะว่าทาไมถึงต้ องเลือกน ้ายาอุทยั แทนลิปสติก บอกให้ เพื่อนๆช่วยกันคิดต่อสิ" "ก็ลปิ สติก ทังหนา ้ ทังเลอะ ้ เข้ าปากกินก็ไม่ได้ น ้ายาอุทยั เบาสบายและปลอดภัยกว่าครับ" นักเรี ยนยิ ้ม "งันเราจะท ้ าเรื่ องนี ้ในวิชาการสือ่ สารนะ ทุกคนเตรี ยมตัวคิดโฆษณาได้ เลย" วนิยาสัง่ "ได้ เ วลาเรี ย นวิช าดุลยภาพบ าบัด แล้ ว ค่ะ " กะทิ ประกาศ นัก เรี ย นส่งเสียงเฮหยิ บ กระเป๋ าลุก ขึน้ เตรี ยมย้ า ย ห้ องเรี ยน เป็ นเวลาเดียวกันกับที่ปฏิพทั ธ์ อรพินท์ และแม่ครัวเดินเข้ ามา "วนิยาครับ" ปฏิพทั ธ์เริ่ มก่อนด้ วยสีหน้ ากังวล นักเรี ยนเงียบเสียงลงตังใจฟั ้ งครูพิเศษคนใหม่ "เห็นเสื ้อสูทสีดาตัวที่ผมใส่เมื่อวานนี ้บ้ างมัยครั ้ บ" ปฏิพทั ธ์ถามวนิยาและนักเรี ยนทุกคนในห้ อง ปรี๊ น!!!!

63

รุ่งอรุณเชียงราย : โรงเรี ยนในจดหมายกับหลักสูตรปั จจัยสี่


เสียงแตรรถดังขึ ้น วนิยาลื่นตกลงมาจากตักตุ๊กตาหมี เมธีเหยียบเบรกและออกเสียงอุทานในลาคอ ทุกคนเห็น ภาพรถเก๋งปาดหน้ าฉวัดเฉวียนแล้ วเร่ งความเร็ วจากไปบนถนน วนิยาตื่นจากความเพ้ อฝั นที่ล่องลอยไปใน จินตนาการของตัวเอง เมื่อไหร่จะได้ เห็นบรรยากาศในชันเรี ้ ยนกับโรงเรี ยนทางเลือกแนวใหม่ที่เธอจะสร้ างขึ ้นเอง สักทีนะ ในเมื่อยังหาทุนสร้ างโรงเรี ยนเองไม่ได้ ก็ ต้องทาโครงการ Tutorialsกวดฯ ของเธอต่อตังแต่ ้ เขียนเป็ น นิยาย ขายนิยาย เอานิยายไปทาหนัง แล้ วรวบรวมรายได้ จากหนัง (ยังไงก็คงไม่ต่ากว่าหลักล้ านจริ งไหม) มา สร้ างโรงเรี ยนรุ่งอรุณเชียงราย ดูแล้ วก็เป็ นเส้ นทางที่อ้อมๆหน่อย แต่.. ทาไมเราไม่ทาให้ ทางมันตรงกว่านันล่ ้ ะ? ..วนิยาเริ่ มคิด ถ้ าเธอเขียนเรื่ องโรงเรี ยนรุ่งอรุณเชียงรายเป็ นนิยายและภาพยนตร์ ได้ เธอก็ จะได้ โฆษณาโรงเรี ยน(ที่ยงั ไม่ได้ สร้ าง แต่จะเอาทุนจากการทาภาพยนตร์ ไปสร้ าง)ไปในตัว เป็ นโฆษณาขนาดยาวที่เธอสามารถจะใส่อะไรก็ได้ ลงไปใน เวลา 2 ชั่ว โมง แถมยัง สามารถทาให้ คนยอมจ่า ยค่าบัตรเข้ าชมภาพยนตร์ เ พื่อ เข้ าไปดูโฆษณาของเธออี ก ยิ่งกว่านันเธอยั ้ งมีสทิ ธิ์ที่จะขยายแนวร่ วม ชวนบุคคลดังๆจากแวดวงต่างๆที่เธอสนใจมาเป็ น "ครู สอนพิเศษ" ใน โรงเรี ยนของเธอแล้ วโฆษณาลงไปในหนังด้ วยก็ได้ วนิยาลองฝั นดูส.ิ . <<Smile - F14>> ครูโหน่ง a day สอนวิชาภาษาไทยเพื่อการวิเคราะห์ ครูเอ๋ นิ ้วกลม สอนวิชานิเทศศาสตร์ เพื่อประสิทธิภาพในการ สือ่ สาร ครูจอห์น วิญญู สอนวิชาสังคมศาสตร์ เพื่อการทาหน้ าที่พลเมือง ครูพล่ากุ้ง สอนวิชาศิลปะและวัฒนธรรม เพื่อการสร้ างสรรค์ ครู ต๊อบ เถ้ าแก่น้อย สอนวิชาการตลาดเพื่อการจัดการทรัพยากร ครู แชมป์ ทีปกร สอนวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการพัฒนาท้ องถิ่น ครูสงิ ห์ วรรณสิงห์ สอนวิชาทัศนศึกษา พร้ อมถ่ายทารายการ "พื ้นที่ ชีวิต" ออกอากาศช่อง ThaiPBS ทุกสัปดาห์ สลับกับทีมงานรายการ "กบนอกกะลา" พานักเรี ยนออกไปค้ นคว้ าหา ความรู้ถึงสถานที่จริ งพร้ อมฝึ กทักษะการเก็บข้ อมูลอย่างเป็ นระบบ.. ไม่ต้องห่วงเรื่ องสถานที่ โรงเรี ยนนี ้จะเป็ นโรงเรี ยนที่เกิดขึ ้นในห้ องสตูดิโอ ใช้ ทนุ จากค่ายภาพยนตร์ ในการสร้ าง ฉากเนรมิตภาพอาคารเรี ยนขึ ้นมาอย่างที่ใจของวนิยาต้ องการ แต่ยิ่งไปกว่านัน.. ้ ทาไมเราไม่เอาทุนสร้ างฉากภาพยนตร์ มาสร้ างฉากเป็ นสถานที่ของโรงเรี ยนจริ งๆ ซะเลยล่ะ? ทีมงานสร้ างสรรค์ภาพยนตร์ ชดุ เรื่ อง "ตานานสมเด็จพระเนรศวรมหาราช" ยังลงทุนสร้ างเมืองอโยธยาขึ ้นมาเป็ น ฉากให้ ภาพยนตร์ มีความสมจริ งและสมพระเกียรติ หรื อนิยายแฟนตาซีมหากาพย์เรื่ อง Lord of the Rings ก็ยงั สามารถให้ กาเนิดฉากภาพยนตร์ ที่กลายเป็ นสถานที่ท่องเที่ยวอย่าง หมู่บ้านฮอบบิท ไกลถึงประเทศนิวซีแลนด์ วงการภาพยนตร์ สามารถทุ่มงบประมาณก่อสร้ างสถานที่เพื่อตอบสนองความบันเทิงของมนุษย์ได้ ถึงเพียงนี ้ แล้ วทาไมเราจะเอางบประมาณก้ อนนี ้มาสร้ างโรงเรี ยนเล็กๆแห่งหนึง่ บ้ างไม่ได้ ?

รุ่งอรุณเชียงราย : โรงเรี ยนในจดหมายกับหลักสูตรปั จจัยสี่

64


ตอนนี ้วนิยามีทางเลือกในการเขียนนิยายบทภาพยนตร์ แล้ ว ระหว่างการทาภาพยนตร์ ชุด "Tutorialsกวดฯ" 2-4 ภาค เพื่อ "ติว" เนื ้อหาสูส่ งั คมแบบเร่งรัด เพื่อหาเงินแล้ วนามาสร้ างโรงเรี ยนทีหลัง กับการสร้ าง "โรงเรี ยนรุ่ งอรุ ณ เชียงราย" ขึ ้นด้ วยกระบวนการทาภาพยนตร์ เลย ซึง่ ก็เป็ นวิธีที่ยงั ไม่มีใครทามาก่อน และนัน่ คงจะเท่ไม่หยอก จน อาจจะกลายเป็ นตานานอย่างที่ พี่โหน่ง วงศ์ทนง ชัยณรงค์สิงห์ ผู้ก่อตังนิ ้ ตยสาร a day ได้ ระดมทุนสร้ าง นิตยสารหัวใหม่ จากการเขียนจดหมายขอร่วมหุ้นจากผู้อา่ นที่สนใจ จนกลายมาเป็ นนิตยสารที่มีพลังสร้ างสรรค์ ขวัญใจเด็กแนวมาจนถึงทุกวันนี ้ก็ได้ เพียงแค่วนิยาคิดและเขียน(สือ่ สาร)เรื่ องนี ้ต่อไป โดยไม่ล้มเลิกกลางคัน.. <<ผู้ชนะ - เสก โลโซ>> "ว่าไงครับ ใครเห็นสูทที่ผมถอดไว้ เมื่อวานนี ้บ้ าง?" สีหน้ าปฏิพทั ธ์ดรู ้ อนรน "แล้ วเมื่อวานอาจารย์ถอดเสื ้อสูทไว้ ที่ไหน ตังแต่ ้ เมื่อไหร่ละ่ คะ.." วนิยาถาม "ครูอาร์ ตฝากไว้ กบั ผม ตอนที่พวกเรากาลังเรี ยนจุดไฟจากฟื นกับครูนิดครับ" นักเรี ยนคนหนึง่ ตอบ "แล้ วพวกเราก็เลย.." กะทิบิดตัวไปมา ทาหน้ ายิ ้มเขินๆ เหมือนมีความผิด "แล้ วพวกคุณก็เลย..?" ปฏิพทั ธ์หงุดหงิด "อยากให้ อาจารย์มาเป็ นครูสอนประจาที่นี่นะ่ ค่ะ" วนิยาพูดต่อ "พวกเราก็เลยช่วยกันเอาสูทของคุณครู ไปวัดและตัดเป็ นเสื ้อม่อฮ่อมเครื่ องแบบของโรงเรี ยน ในทรงพิเศษสาหรับ ครูอาร์ ตคนเดียว ตลอดคืนที่ผา่ นมานี ้ไงล่ะคะ" กะทิหยิบเสื ้อตัวหนึง่ ออกมาจากถุงกระดาษ เป็ นเสื ้อสูท ที่ทาจาก ผ้ าม่อฮ่อมสีน ้าเงินเข้ ม ซึง่ คุณครูที่สอนวิชาการผลิตเสื ้อผ้ า ได้ คดั สรรและพัฒนาเนื ้อผ้ า ให้ เป็ นม่อฮ่อมที่นมุ่ สบาย สีไม่ตก ที่อกเสื ้อสกรี นตราสัญลักษณ์โรงเรี ยนรุ่งอรุณเชียงราย นามามอบให้ ปฏิพทั ธ์ที่ยืนงงอยูห่ น้ าห้ องเรี ยน "จริ งๆเราอยากจะสกรี นตราโรงเรี ยนใหญ่ๆติดกลางหลังสูทนะครับ" นักเรี ยนคนหนึง่ พูด "แต่พี่น ้าฝนบอกว่าเดี๋ยวครูอาร์ ตจะเอาไปใส่เดินข้ างนอกไม่ได้ " นักเรี ยนอีกคนตอบหงอยๆ "พวกเราแบ่งงานกันวัดและตัดผ้ าคนละชิ ้น แล้ วช่วยกันเย็บด้ วยจักรเมื่อคืนนี ้ค่ะ" "ยังไงครูอาร์ ตลองใส่ดสู คิ ะ ไซส์และทรงเดียวกันกับสูทที่ครูใส่มาสอนเมื่อวานนี ้เป๊ ะๆเลย"

65

รุ่งอรุณเชียงราย : โรงเรี ยนในจดหมายกับหลักสูตรปั จจัยสี่


"ใส่เลยครับ / ใส่เลยค่ะ" นักเรี ยนทังชั ้ นช่ ้ วยกันขอร้ อง ปฏิพทั ธ์ถอนหายใจ ยิ ้มและส่ายหน้ า "ใส่ก็ได้ ครับ" ปฏิพทั ธ์หยิบเสื ้อสูทม่อฮ่อมสกรี นตราโรงเรี ยนที่อกขึ ้นมาสวมอย่างว่าง่าย เรี ยกเสียงเฮจากนักเรี ยน ที่ได้ พยายามร่วมกันมาทังชั ้ นทั ้ งคื ้ น "ส่วนสูทตัวเดิมของอาจารย์ มีรอยเปื อ้ นจากการวัดของนักเรี ยนหลายคนนิดหน่อย วนิยาก็เลยเอาไปซักให้ อยู่ใน ถุงใบนี ้ค่ะ" วนิยาทาหน้ าจ๋อยยื่นถุงอีกใบให้ อาจารย์ปฏิพทั ธ์ เธอรู้วา่ กาลังเสีย่ งแต่คงต้ องขอลอง.. "อาจารย์จะมาเป็ นครูสอนประจาที่โรงเรี ยนรุ่งอรุณเชียงรายของวนิยาแห่งนี ้มัยคะ?" ้ <<ตังเก - สิงโต สิงหรัตน์ Feat.ต่าย ชุติมา & เต้ ย จริ นทร์ พร>> [1] ไฟเบอร์ โตเร็ ว = ไม้ ไผ่ ไม้ โตเร็ วที่ได้ ปลูกไว้ สาหรับใช้ ในการก่อสร้ างโดยเฉพาะ ไม่ทาลายทรัพยากรป่ า [2] ยานพาหนะขับเคลือ่ นพลังน ้า = เรื อพาย หรื อเรื อยนต์ไฟฟ้ าติดอุปกรณ์ผลิตไฟฟ้ าพลังน ้าขณะขับเคลือ่ น [3] วอเตอร์ เวย์ = คลองขนาดเล็กสาหรับเรื อขนส่งในชุมชน [4] ยานจักรกลพลังคาร์ โบไฮเดรตน ้าหนักเบา = จักรยาน [5] ฟาร์ มเพาะเลี ้ยงเนื ้อสัตว์ไม่มีกระดูกในเปลือกแคลเซียม = วังหอย [6] ไร่ผลิตพลังงานคาร์ โบไฮเดรต = นาข้ าว <<Nena - Anyplace Anywhere Anytime>> "อยากกินมันแกวๆๆๆ.." เสียงน ้ามนต์ดงั เจื ้อยแจ้ วบนโต๊ ะหมูกะทะฉลองปี ใหม่ "เอาแต่พดู อยูอ่ ย่างนี ้แล้ วจะได้ กินมัยล่ ้ ะ" เมธีถามน้ องสาว "ชันก็ ้ จะพูดอย่างนี ้แหละ จนกว่ามันจะมา.." น ้ามนต์ยิ ้มกริ่ ม <<One Direction - One Way or Another (Teenage Kicks)>> . ป.ล. ตัวอย่างงานเขียนที่ใช้ วิธีคิดง่ายๆ คือ "อยากเห็นอะไรก็เขียนไปอย่างนัน"้ เข้ าร้ านหนังสือไปสัง่ ซื ้อนิยาย "โรงเรี ยน สอนควาย" ของครูวีระ สุดสังข์ เป็ นครูสอนอยูท่ ี่โรงเรี ยนในศรี ษะเกษ และมีคอลัมน์ในสยามรัฐสัปดาห์วิจารณ์ วนิ ย าแนบข่ า วมาค่ ะ ("บททดสอบการท าหนัง สื อ ไม่ ง้ อ สนพ.-สายส่ง แบบเรี ย นจาก 'ครู วี ร ะ สุด สัง ข์ '" เนชัน่ สุดสัปดาห์ 21 ตุลาคม 2554 หน้ า 38-39 รายงานพิเศษ โดย มาลี ร้ อยสีพนั ใบ)

รุ่งอรุณเชียงราย : โรงเรี ยนในจดหมายกับหลักสูตรปั จจัยสี่

66


"Anyplace Anywhere Anytime" - Nena แปลท่อนฮุก : "give me your hand. I'll build you a castle of sand, somehow, somewhere. sometime" "ผู้ชนะ" - เสก โลโซ "ขอเพียงแค่ฝันให้ ไกล แล้ วไปให้ ถึงที่จดุ หมาย.. โปรดจงมัน่ ใจ ที่ทาลงไปนันถู ้ กแล้ ว.. อย่าฟั งคาคน อย่าสนใจใคร อย่าเปลีย่ นแนว.. คนแน่แน่วเท่านันผู ้ ้ ชนะ" "เพลงที่ฉนั ไม่ได้ แต่ง" - No More Tear "..จากรอยยิ ้มของเธอที่ให้ มา มันบังคับปากกาให้ สื่อความหมาย เป็ นคาร้ องที่คล้ องจองกับความในใจ เธอรู้ หรื อไม่ ที่ฉนั ทาได้ ก็เป็ นเพราะว่าเธอทังนั ้ น.." ้ - ตอนดูหนังก็ไม่ค่อยเชื่อ แต่มาเจอประสบการณ์จริ งกับตัวเอง.. ยอมแล้ ว ดร.ป๊ อบ สอนไว้ (20 มี.ค. 2556) "การแสดงความรักต่อผู้อื่นไม่ใช่เรื่ องน่าอาย การไม่สามารถทาให้ เขารู้สกึ ว่าเรารักได้ นันน่ ้ าอายยิ่งกว่า" http://www.twitter.com/DrPopPop/status/314415471619342336 -------------------ภาคผนวก เวลา 2 ชัว่ โมงในการนัง่ รถที่น้องชายขับ จากพิษณุโลกมาถึงสิงห์บรุ ี เสียงจาก MP3 ในอัลบัม้ "50 เพลงดังหนัง ร้ อยล้ าน" ของ GTH ได้ ทาหน้ าที่มอบแรงบันดาลใจให้ กบั วนิยาอย่างเต็มเปี่ ยม เมื่อเพลงสุดท้ ายของอัลบัมจบลง ้ เธอได้ ขอให้ น้องชายเปิ ดเพลงอัลบัมนี ้ ้ซ ้าอีกครัง้ เพื่อทบทวนความคิดที่ฟ้ ุงซ่านไปตามเพลงให้ กลับมาชัดเจน สรุ ปภาพรวมและเสริ มรายละเอียดในส่วนต่างๆ ทุกอย่างกาลังลอยและค่อยๆบรรจุลงไปในหัวสมอง วนิยา เปลีย่ นอิริยาบถจากการนอนตะแคงมาเป็ นนัง่ ชันเข่าอยูท่ ี่เบาะหลังรถ หยิบไดอารี่ และบัญชีรายรับรายจ่ายมาจด บันทึกประจาวันเพื่อแบ่งเบาภาระในการจา เป็ นเวลา 6 โมงเย็นแล้ ว ท้ องฟ้ ามืดลงจนจดอะไรไม่ได้ อีก เธอนัง่ กอดเข่ามองเห็นดวงดาวระยิบระยับอยู่นอกหน้ า ต่าง เบื ้องล่างเป็ นทิวทัศน์ท่งุ นาสลับกับหมู่บ้านริ มถนนใหญ่ เพลงจังหวะหนักในตอนต้ นของอัลบัมเลื ้ อนหายไปเหลือแต่เพลงเบาสบายขับกล่อมให้ ความคิดที่ลอยฟุ้งใน อากาศกลัน่ ตัวลงเป็ นน ้าแล้ วค่อยๆตกตะกอนบันทึกลงไปในสมอง ในส่วนที่จะปลอดภัยและไม่มีใครหยัง่ ลงไปถึง .. "พี่ฝน.. ขอเปลีย่ นแผ่นละนะ เมจะหลับ!" <<ซักซี ้ดนึง - Paradox>>

67

รุ่งอรุณเชียงราย : โรงเรี ยนในจดหมายกับหลักสูตรปั จจัยสี่


สวัสดีคะ่ ในอีเมลฉบับ(ส่งท้ ายปี )ที่แล้ ว วนิยาได้ บอกไว้ ว่าตัวเองไม่สามารถที่จะเป็ นนักเขียนนิยายที่ดีได้ แต่เมื่อวนิยา เขียน "อีเมล" ขนาดยาวได้ วนิยาก็เลยคิดว่าจะใช้ การเขียนอีเมลนี่แหละเป็ นที่ฝึ กทักษะในการเขียนนิยาย เพื่อ เอาชนะข้ อจากัดของตัวเองค่ะ จากประสบการณ์ การเขียนอีเมล 4 ฉบับ ในเวลา 1 เดือนที่ผ่านมา (รวมฉบับนี ้เป็ นฉบับที่ 5) วนิยาวิเคราะห์ ความพยายามในการเขียนถ่ายทอดความคิดของตัวเองออกมาเป็ นตัวหนังสือจนประสบความสาเร็ จ ได้ เป็ น เทคนิคการเขียน 3 รู ปแบบ คื อ "อากาศ นา้ และฟอสซิล" หรื อที่ วนิย าตัง้ ชื่ อใหม่เ ล่นๆ(ตามชื่ อ หนัง เก่า )ว่า "อารมณ์ อาถรรพ์ อาฆาต" - แบบ "อากาศ" คือการเขียนด้ วย "อารมณ์" ปล่อยความคิดและถ้ อยคาให้ ฟ้ งซ่ ุ าน แล้ วจับลงมาเขียน เป็ นบัน ทึ ก แบบฉากต่ อ ฉาก การเขี ย นในรู ป แบบนี ส้ ามารถถ่ า ยทอดรายละเอี ย ดทางด้ า นความรู้ สึก และ ประสบการณ์ได้ เป็ นอย่างดีที่สดุ - แบบ "น ้า" คือการเขียนด้ วย "อาถรรพ์" เกิดจากความคิดหรื อความรู้ สกึ ที่มีอยู่ในใจแต่ยงั ไม่ได้ รับการ อธิ บายเป็ นถ้ อยคา นาออกมาเขียนโดยใช้ พลังการคิดวิเคราะห์จบั ประเด็นออกมาเขียนเป็ นข้ อความเดี๋ยวนัน้ การเขียนในรู ปแบบนี ้ใช้ ทกั ษะเดียวกันกับการทาข้ อสอบอัตนัย (ในกรณีของคนที่เรี ยนด้ วยความเข้ าใจที่ไม่ได้ ท่องจาอะไรเลยก่อนเข้ าสอบ) - แบบ "ฟอสซิล" คือการเขียนด้ วย "อาฆาต" เป็ นเทคนิคการเขียนเมื่อเกิดความคิดชัว่ ขณะหนึ่งที่มี ความหมายมหาศาล แต่ไม่มีโอกาสหรื อไม่สามารถจดบันทึกอธิบายออกมาในทันทีได้ จึงต้ องอาศัยเวลาและการ ปรับอารมณ์ตกตะกอนหรื อตกผลึกความคิดนันเพื ้ ่อบันทึกในแบบบีบอัดย่อเพื่อไม่ให้ ร้ ูสกึ อึดอัดทรมานเพราะเต็ม ไปด้ ว ยข้ อ มูลหากน ามาเก็ บ ในรู ป ของถ้ อ ยค า การฝั ง ความคิ ด ลงไปเป็ น "ฟอสซิ ล" มี ข้ อ ดี คื อ สามารถเก็ บ รายละเอียดเพิ่มเติมทีละเล็กละน้ อยพอกพูนลงไปบนความคิดเดิมก้ อนนันได้ ้ หลังจากนันเมื ้ ่อถึงเวลาที่สมควรจึง ค่อยๆกะเทาะเอาหินที่พอกไว้ ออกมาค้ นหา "แก่น" ที่อยู่ภายในแล้ วนาเสนอในลักษณะบรรยายสิ่งที่เห็นอยู่นนั ้ การเขียนแบบนี ้ใช้ เวลาและมีความเสีย่ งตรงที่วา่ "ฟอสซิล" อันบอบบางที่เป็ นแก่นความคิดอาจจะถูกบดบังไปใน การทับถมหรื อเสียหายไปในระหว่างการกะเทาะเอาส่วนเกินออกด้ วยก็ได้ จึงต้ องระมัดระวังเป็ นพิเศษ ตัวอย่างการเขียนด้ วยเทคนิค "อากาศ-น ้า-ฟอสซิล" จากประสบการณ์ แรกคือการเขียนอีเมลฉบับ "นักเรี ยนมืออาชี พ" วนิยาใช้ เวลา 3 วัน วันละ 3 ชั่วโมง หน้ า โทรทัศน์ ในช่วงละครหลังข่าว ค่อยๆกะเทาะ "ฟอสซิล" ประเด็น นักเรี ยนมืออาชีพ ที่คิดขึ ้นมาได้ ก่อนจะไปคุย ยาวกับ mr.Saturday ออกมาเป็ นขันเป็ ้ นตอนอย่างสวยงาม (ถือว่าผ่านในการประเมินตัวเอง) ส่วนเนื ้อหาครึ่ ง หลัง ที่เป็ นการบันทึกและเพิ่มเติมในประเด็นต่างๆที่ว นิยาได้ คยุ กับ mr.Saturday ถูกเขียนขึ ้นในเวลา 2 วัน ใน แบบของ "บันทึกอากาศ" และแบบ "น ้า" โดยวนิยาเขียนส่วนที่เป็ น "อากาศ" คือบันทึกการสนทนาและไอเดียที่ ได้ มาเพิ่มเติมและต้ องการจะบอกในขณะนันให้ ้ เสร็ จก่อน ส่วนที่ตื่นเต้ นที่สดุ คือส่วนของ ข้ อ 5.ฯ เพราะเป็ นส่วนที่ อธิบายยากที่สดุ และอันตรายที่สดุ เมื่อวนิยาเก็บส่วนนี ้ไว้ เขียนทีหลัง วนิยาไม่สามารถตัดส่วนนี ้ออกแล้ วส่งอีเมล

รุ่งอรุณเชียงราย : โรงเรี ยนในจดหมายกับหลักสูตรปั จจัยสี่

68


ไปให้ ทนั เวลาออกเดินทางได้ เพราะเป็ นส่วนที่สาคัญที่สดุ ที่จะเขียนในอีเมลเพื่อบอกกับ mr.Saturday (ก็เลยขีด เส้ นใต้ เอาไว้ ) จึงต้ องยกโน้ ตบุ๊กไปและเขียนวิบากอย่างเข้ มข้ นเหมือนร้ อยเมตรสุดท้ ายของการแข่งวิ่งมาราธอน วันที่ 2 มกราคม เกิดไอเดียในการเขียนอีเมลฉบับนี ้ขึ ้น แต่ไม่มีโอกาสได้ จด จึงเปิ ดเพลงฟั งเป็ นเครื่ องบันทึกความรู้ สึกและเก็บ รายละเอียดที่อธิบายไม่ได้ ไว้ ในนันก่ ้ อนที่จะไปทาธุระในวันที่ 4 ให้ เสร็ จแล้ วกลับมาฟั งเพลงในวันที่ 5 ใช้ เวลาขุด "ฟอสซิล" ถึง 4 วัน วันที่ 9 มกราคม ย่อหน้ าของ Kah Chun Wong กับ ต้ าร์ Paradox ข้ างต้ นบนสุดรวมกันเขียนแบบ "ไอน ้า" คือเปลี่ยนจากน ้าที่ นอนนิ่งในใจให้ ฟ้ งเป็ ุ นอากาศก่อนลงมือ ใช้ เวลาเขียน1ชัว่ โมง แล้ วจึงเขียนเรื่ องของวนิยาต่อในแบบ "ฟอสซิล" แต่เมื่อเขียนไปได้ 3 บรรทัด ก็เกิดอาการ "หาร่ องรอยไม่พบ" จนไม่สามารถเขียนเรื่ องวนิยาต่อให้ เป็ นรู ปเป็ นร่ าง ได้ วันที่ 10 มกราคม เขียนเรื่ องวนิยาได้ ถึงย่อหน้ าที่ 2 แต่แม่โทรมาให้ หาข้ อมูลโรงเรี ยนที่สนใจ จึงหันไป search อินเทอร์ เน็ตจนไม่ เป็ นอันทาอะไรนานถึง 4 วัน ความสนใจพุ่งไปที่เรื่ องใหม่ทาให้ เขียนอีเมลต่อไม่ได้ จากกาหนดส่งอีเมลวันที่ 12 มกราคม (วันเกิด ดร.ป๊ อบ) ก็ต้องเลื่อนออกไปแล้ วจัดการเรื่ องใหม่ที่เข้ ามาให้ เสร็ จ (จนกลายเป็ นอีเมลฉบับ "อากาศ" อันดุเดือดในวันที่ 13 มกราคม) วันที่ 15 มกราคม เรื่ องของวนิยา 10 ย่อหน้ าเปลีย่ นเป็ นเขียนจากความรู้สกึ แบบ "น ้า" แทรกเข้ าไปตามโครงเรื่ องแบบค่อยๆอธิบาย จนชัดเจน ใช้ เวลาตังแต่ ้ 5 โมง จนถึง 2 ทุ่ม พักกินข้ าวแล้ วจึงเขียนต่อในย่อหน้ าส่งท้ ายที่ "ดร.ป๊ อบ สอนไว้ .." และแก้ ไขรายละเอียดอื่นๆ ก่อนที่จะฟั งเพลงปรับอารมณ์ แล้ วเข้ าเรื่ องโรงเรี ยน เขียนแบบประดิษฐ์ ๆ 2 ย่อหน้ า แรกเสร็ จในเวลา 4 ทุม่ ถึง เที่ยงคืน วันที่ 16 มกราคม เริ่ มเขียนที่ "วนิยานึกขาตัวเอง.." 4 ย่อหน้ าแบบ "น ้า" ใช้ เวลา 1 ชัว่ โมง ในเวลาบ่าย 3 โมงครึ่ง ย่อหน้ าประดิษฐ์ ที่ ยาวๆหลายย่อหน้ าตามมา เป็ นแบบ "ฟอสซิล" ที่ใช้ ทกั ษะคลี่คลายออกมาได้ คล่องแคล่วว่องไวขึ ้น ใช้ เวลา 3 ชัว่ โมง พัก 40 นาที เขียนเรื่ องทังหมดเสร็ ้ จในเวลา 3 ทุม่ แล้ วจึงเขียนภาคผนวก.. "เสร็ จ" ในเวลา 4 ทุม่ 55 นาที วนิยาใช้ เวลาครึ่งเดือนถ่ายทอดความตังใจออกมาอย่ ้ างสุดความสามารถแล้ ว หวังว่าผู้รับจดหมายทุกท่านจะอ่านด้ วยความยินดี

69

รุ่งอรุณเชียงราย : โรงเรี ยนในจดหมายกับหลักสูตรปั จจัยสี่


เพลงที่แนบมา มาจากแผ่นลิขสิทธิ์ของ Grammy ชุด “50เพลงดังหนังร้ อยล้ าน” เปิ ดฟั งตามลาดับที่ปรากฏใน เนื ้อหาที่เขียนข้ างบนก็ได้ โหลดมาเปิ ดฟั งตามลาดับตัวอักษรก็ได้ อรรถรสไปอีกแบบ จะสงสัยว่าบางเพลงไม่ได้ เอาไปแทรกในเนื ้อหาแล้ วแนบมาทาไม หรื อบางเพลงไม่ได้ แนบมาแล้ วเขียนเนื ้อเพลงลงไปในเนื ้อหาให้ ฟังเพื่อ อะไร คาตอบคือ เพื่ออารมณ์และความหมายแฝง อาจไม่ร้ ูเรื่ อง แต่ รู้สกึ ! 03 โปรดส่งใครมารักฉันที - Instinct.mp3 04 อย่างน้ อย - Big Ass.mp3 05 อยากรัก ต้ องไม่กลัวคาว่าเสียใจ - Da Endorphine.mp3 07 ซักซี ้ดนึง - Paradox.mp3 08 เพลงที่ฉนั ไม่ได้ แต่ง - No More Tear.mp3 21 แสงสุดท้ าย (Cover Version) - พิจิกา.mp3 26 Smile - F14.mp3 27 ผู้ชนะ - เสก โลโซ.mp3 31 วัดใจ - Season Change.mp3 33 ตังเก - สิงโต สิงหรัตน์ Feat.ต่าย ชุติมา & เต้ ย จริ นทร์ พร.mp3 38 ทางเดินแห่งรัก - แอม & ดา.mp3 50 ศรัทธาฤาเหตุผล - สุภทั รา โกราษฎร์ .mp3 Lenka - Everything At Once.mp3 Nena - Anyplace Anywhere Anytime.mp3 One Direction - One Way or Another (Teenage Kicks).mp3 "โปรดฟั งเหมือนดูหนังเรื่ องหนึง่ " <<ทางเดินแห่งรัก - แอม & ดา>>

รุ่งอรุณเชียงราย : โรงเรี ยนในจดหมายกับหลักสูตรปั จจัยสี่

70


https://www.facebook.com/notes/TutorialsQuad/postmdern-paradigm-on-community/658705410859587 Postmdern Paradigm on Community January 12, 2014 at 9:23pm ความสรุปเรื่อง postmodern (หลังสมัยใหม่) นี ้คัดลอกมาจาก หน้ า 28 ของหนังสือ "การศึกษาในวิถีชมุ ชน : การสังเคราะห์ ประสบการณ์ในชุดโครงการวิจยั ด้ านการศึกษากับชุมชน" (สกว., 2551) โดย ดร.อมรวิชช์ นาครทรรพ และคณะ เป็ นหนึ่งในหนังสือ ที่ผ้ จู ดั ทาโครงการชอบที่สดุ เพราะใช้ ภาษาที่คอ่ นข้ างจับต้ องได้ และนาเสนอแนวคิดที่ยงั คงนาสมัยปรับใช้ ได้ เสมอ ผู้จดั ทาโครงการได้ อา่ นหนังสือเล่มนี ้เมื่อต้ นปี 2555 ก่อนที่จะศึกษาเอกสารชิ ้นอื่นๆจนพัฒนามาเป็ นร่างเอกสารแนะนาโครงการ ฉบับที่ 6 ต.ค.2556 ซึง่ มีเนื ้อหาเอนเอียงไปในแนวทางอนุรักษ์ นิยมมากเกินกว่าที่ผ้ จู ดั ทาโครงการได้ เคยกาหนดกรอบเอาไว้ ทาให้ ต้ องกลับมาทบทวนเอกสารเดิมและค้ นคว้ าเอกสารเพิ่มเติมในเชิงทุนนิยมสร้ างสรรค์ โครงการจะไม่พดู ในมุมของนักอนุรักษ์ ที่ ต้ องการฉุดรัง้ ทุกอย่างให้ คงอยู่ แต่จะพาไปทัวร์ ความทันสมัยเพื่อเรียนรู้ก่อนที่จะตัดสินใจเลือกหนทางที่ดีที่สดุ ด้ วยตัวเอง สาหรับ ผู้อา่ นที่ได้ รับอีเมลฉบับ 28 ธ.ค.ส่งท้ ายปี 2556 จะรู้สกึ ได้ วา่ สิ่งที่เขียนในอีเมลนันมี ้ จดุ ที่ตรงกับข้ อสรุปเรื่อง postmosern ต่อไปนี ้อยู่ หลายประการ หากจะให้ นิยามสิ่งที่โครงการตังใจจะสื ้ ่อออกมา คาว่า postmodern ก็คงจะเป็ นตัวเลือกหนึ่งที่สามารถอธิบาย โครงการนี ้ได้ อย่างลงตัว :) "การศึกษาในวิถีชมุ ชน" หน้ า 28 "สรุปกระบวนทัศน์การมองชุมชนในยุคหลังทันสมัยนิยม" - ให้ ความสาคัญกับอานาจชุมชนท้ องถิ่น และความรู้ในชุมชนท้ องถิ่น - มองความหลากหลาย เข้ าใจในความแตกต่าง และอัตลักษณ์ของชุมชน - ยอมรับความจริงเรื่องพหุลกั ษณ์ พหุทรรศน์ พหุวิธีในการพัฒนาชุมชนการส่งเสริมแนวคิดแบบสหวิทยาการเพื่อการพัฒนาชุมชน ใช้ วิธีการหลากหลายในการหาคาตอบ ไม่ยดึ ในวิถีทางใดๆจน - มองชุมชนเป็ นองค์รวมรอบด้ าน มากกว่ามองเป็ นเศษเสี ้ยว หรือมุมเดียว - เน้ นความรู้/การจัดการ/พัฒนาจาก "คนใน" ชุมชน ไม่เน้ นสูตรสาเร็จจากภายนอกชุมชนที่ "คนนอก" เป็ นคนกาหนด - ไม่ยดึ นักวิชาการเป็ นสรณะ แต่เน้ นความรู้จากผู้ร้ ูพื ้นบ้ าน ปราชญ์ชาวบ้ าน และคนฐานรากควบคูก่ นั - จิ๋วแต่แจ๋ว (small is beautiful) ทาเรื่องเล็กแต่มีพลังสูง เชื่อในพลัง "คนตัวเล็ก" อันหมายถึงชาวบ้ าน ไม่ใช่นายทุนหรือเจ้ านาย คน ตัวเล็กยังมีนยั ไปถึง "เด็ก" ที่เชื่อว่า "เด็กไม่เล็กอย่างที่คิด" - ให้ ความสาคัญกับการเปิ ดพื ้นที่ใหม่ๆ แก่ชมุ ชนเพื่อการริเริ่มเรียนรู้ ทดลอง และสร้ างสรรค์แนวทางการพัฒนาชุมชนใหม่ ๆ ซึง่ ถือ ทังเป็ ้ นโอกาสในการสร้ างทางเลือกของพัฒนาและยังเป็ นการสร้ างความเข้ มแข็งให้ ตนเองและชุมชนอีกด้ วย - มองเห็นความขัดแย้ งที่เกิดขึ ้นได้ ในชุมชน การเน้ นให้ ชมุ ชนมีความสามารถในการจัดการความขัดแย้ งได้ อย่างสันติวิธีและชาญ ฉลาด เน้ นการมุง่ หาวิธีตอ่ รอง การประนีประนอม เพื่อความสมานฉันท์และปรองดองในชุมชน - สิ่งที่เป็ นจุดเน้ นและเป็ นหัวใจของกระบวนทัศน์ชมุ ชนเข้ มแข็งก็คือเรื่องกระบวนการเรียนรู้ชมุ ชนเพื่อการรู้รับ ปรับตัว และการ พึง่ พาตนเองในยุคโลกาภิวฒ ั น์

71

รุ่งอรุณเชียงราย : โรงเรี ยนในจดหมายกับหลักสูตรปั จจัยสี่


โครงสร้ ำงหลักสูตรโรงเรี ยนรุ่ งอรุ ณเชียงรำย 1 ก.พ.57 ‫‏‬ 2 กุมภาพันธ์ 2557 สวัสดีคะ่ มาแจ้ งเพื่อทราบ.. ขณะนี ้ทางโรงเรี ยนรุ่งอรุณเชียงรายได้ update โครงสร้ างหลักสูตรและร่างตราสัญลักษณ์แล้ ว โดยออกแบบจากพื ้นฐานแนวคิดของ "ปั จจัย4" ทางโรงเรียนขี ้เกียจพิมพ์ จึ่งแนบไฟล์ภาพมาให้ ตามนี ้

สามารถแสดงความเห็นได้ ที่ https://www.facebook.com/photo.php?fbid=669652939764834 อยูใ่ นอารมณ์ที่จะรบกวนเวลาท่านผู้อา่ นให้ น้อยที่สดุ ด้ วยความเคารพ (กราบ) วนิยา .

รุ่งอรุณเชียงราย : โรงเรี ยนในจดหมายกับหลักสูตรปั จจัยสี่

72


โลกนีช้ ักอยู่ยำก..‫‏‬ 12 กุมภาพันธ์ 2557 สวัสดีคะ่ ขณะนี ้ ท่านแม่หิ ้วตัววนิยาลัดฟ้ ามาอยูเ่ ชียงรายแล้ ววววววววววว.. คิดถึง mr.Saturday !!!! เนื่องว่า ตังแต่ ้ ปีใหม่ วนิยาแอบไปหา mr.Saturday ที่มหาวิทยาลัยมา 3 ครัง้ (นับจากการคุยกันครัง้ แรกเมื่อ 14 มกราคม 2555 ก็รวมได้ เป็ น 5 ครัง้ คือ 21 ธันวาคม 2556, 4 มกราคม, 18 มกราคม, 8 กุมภาพันธ์ 2557) เพราะ mr.Saturday บอกไว้ ว่าไม่ค่อยมีเวลาอ่านอีเมลแต่มีเวลานัง่ ฟั งวนิยาเล่าเรื่ องทังหมดในท้ ้ ายคาบสอน วนิยาก็ ยินดีมากที่จะอุบเรื่ องทังหมดไปบอก ้ mr.Saturday คนเดียวโดยไม่ได้ เขียนอีเมลรายงานคนอื่นมานาน เพื่อเป็ น แรงผลักดันในการพัฒนาทักษะการ "เล่า" ด้ วยปากเปล่าแม้ วา่ วนิยาจะยังคุยแนวคิดเรื่ องงานกับคนอื่นไม่เก่งเท่า คุยกับ mr.Saturday ก็ตาม เมื่อเวลาผ่านไปเพียงไม่นาน ความคิดและเรื่ องราวต่างๆก็สะสมขึ ้นมาจนวนิยาอยากไปนัง่ เล่าให้ mr.Saturday ฟั งอีกครัง้ แต่หลังจากนี ้วนิยาจะไม่ได้ เจอ mr.Saturday ที่มหาวิทยาลัยอีกต่อไปแล้ ว แล้ วก็จะไม่ได้ อยูท่ ี่เชียงราย นานพอที่ mr.Saturday จะว่างขึ ้นมาเที่ยวแล้ วด้ วย (เหตุผลคือเรื่ องที่วนิยากาลังจะเล่าค่ะ) วนิยากลัวว่าจะอก แตกตายก็เลยเปิ ดคอมพิวเตอร์ ร่ างอีเมลฉบับนี ้ ต้ องขออภัย mr.Saturday เป็ นอย่างมากที่รบกวนเวลาอ่าน อีเมลอีกแล้ ว แต่ mr.Saturday ต้ องอ่านนะคะๆๆๆๆ (บีบคอเขย่าๆๆ) สาหรับผู้รับอีเมลทุกท่าน จริ งๆวนิยาก็ไม่ได้ ตงใจอุ ั ้ บอะไรหรอกค่ะ วนิยาเตรี ยมร่างอีเมล(ที่ก็นา่ จะยาวพอดู)ฉบับ หนึง่ ไว้ ชื่อ "อรุณวุ้นเส้ น" แต่วนิยากาลังรอ "วุ้นเส้ น" ตอบรับและประสานนโยบายอรุ ณๆของวนิยาอยู่ เรื่ องนี ้ก็เลย มีแต่ mr.Saturday กับแม่และป้าที่ร้ ู รวมถึงแผนการใหม่ล่าสุดที่ mr.Saturday ก็ยังไม่ร้ ู เอาไว้ (วุ้น)เส้ นมา เมื่อไหร่วนิยาเขียนอีเมลรายงานแน่นอนค่ะ อย่างไรก็ตาม ภาพร่างทุกอย่างในโรงเรี ยนที่วนิยาแนบมา ก็บอกภาพรวมของแผนการคร่าวๆไว้ ที่สว่ นล่างแล้ วค่ะ เรื่ องในฉบับนี ้ : 1. เมื่อวาน (11 กุมภาพันธ์ 2557) ป้าพาแม่และวนิยาไปสารวจ "สถาบันอาศรมศิลป์" มาค่ะ สถาบันอาศรมศิลป์ ตังอยู ้ ใ่ นซอยวัดยายร่ม(พระราม2ซอย33) เขตบางขุนเทียน อยูส่ ดุ ปลายที่ดินของโรงเรี ยนรุ่ งอรุ ณค่ะ บรรยากาศ

73

รุ่งอรุณเชียงราย : โรงเรี ยนในจดหมายกับหลักสูตรปั จจัยสี่


ทังโรงเรี ้ ยนและสถาบันร่มรื่ นมาก วนิยาชื่นชมการออกแบบอาคารสถานที่ร่วมสมัยของที่นี่จริ งๆค่ะ หากจะเข้ าไป เดินสัมผัสบรรยากาศเก็บรายละเอียดสวยเท่เก๋ไทย ก็แนะนาให้ GPS จาก Google Map ค่ะ 2. เมื่อเข้ าไปชมสถาบันอาศรมศิลป์ ก็ได้ คยุ กับอาจารย์ประจาหลักสูตรศึกษาศาสตร์ นักศึกษา ป.โท หลักสูตรศึกษาศาสตร์ ที่นี่ ต้ องเป็ นครูสอนไปเรี ยนไป ถ้ ายังไม่ได้ เป็ นครู ที่ไหน ก็ต้องสมัครเข้ ามา เป็ นครู ที่โรงเรี ยนรุ่ งอรุ ณค่ะ เพื่อที่จะได้ เรี ยนรู้ จากการปฏิบตั ิจริ ง ไม่มีทางที่จะจบหลักสูตรนี ้โดยไม่ผ่านการ ฝึ กสอน จากคาบอกเล่าของเพื่อนที่เรี ยนจบจากรุ่ งอรุ ณมา แนวทางการสอนของที่นี่แหวกมาก จนวนิยาหวัน่ ว่า จะสามารถปรับตัวสอนตามที่โรงเรี ยนรุ่งอรุณกาหนดได้ หรื อไม่ แต่ก็ร้ ู สกึ ว่า "ยังดีกว่าต้ องไปเป็ นครู ที่สอนท่องจา ตามสูตรครุครึๆในโรงเรี ยนทัว่ ไป" 3. วนิยาอ่านเรื่ องการศึกษาแนวพุทธระบบของรุ่งอรุณแต่ยงั ไม่เข้ าใจชัดแจ้ ง ลองดูตามนี ้ค่ะ "การศึกษาแนวพุทธในโรงเรี ยนรุ่งอรุณ" http://www.roong-aroon.ac.th/?page_id=1954 "แนวคิดสาระวิชา" http://www.roong-aroon.ac.th/?page_id=1956 อ่านดูแล้ วจะเห็นว่าแนวทางจัดการสอนที่แบ่งเป็ นวิชาต่างๆ ของที่นี่ จะต่างจากแนวทางปั จจัยสีข่ องวนิยา จนไม่ อาจจะบอกได้ อีกต่อไปว่าโรงเรี ยนรุ่งอรุณเชียงรายของวนิยาได้ รับแรงบันดาลใจมาจากโรงเรี ยนรุ่ งอรุ ณ original ที่นี่ (คือตอนร่างหลักสูตร วนิยาไม่ได้ ศึกษาแนวทางของที่นี่มาก่อนเลย เรี ยกว่าร่ างเอาจากธรรมชาติของตัวเอง อย่างเดียว) ซึง่ ก็วนิยาก็กงั วลว่าอาจจะกลายเป็ นปั ญหาในภายหลังเวลาที่จะเสนอหลักสูตรของตัวเองมาชนกับ ที่นี่เพื่อทาวิทยานิพนธ์ 4. การสมัครเป็ นครูโรงเรี ยนรุ่งอรุณ มี 2 อย่างคือ เป็ นครูก่อนเรี ยน หรื อสมัครเรี ยนก่อนเป็ นครู ถ้ าวนิยาสมัครเข้ าเรี ยนในเดือนกันยายนแล้ วค่อยเป็ นครู วนิยาจะพลาดโอกาสเรี ยนรู้ การวางแผนการสอนใน เทอมแรกไป การอบรมครูใหม่และวางแผนการสอนร่วมกันจะเกิดขึ ้นในเดือนเมษายน ซึง่ ถ้ าวนิยาจะเปิ ดโรงเรี ยน จริ งๆก็ต้องมาเรี ยนรู้ในเรื่ องนี ้ให้ ได้ วนิยาก็ยินดีปรับตัวเพื่อเรี ยนรู้ พร้ อมสมัครเป็ นครู ที่นี่และเริ่ มงานตังแต่ ้ เดือน เมษายนเลย นัน่ หมายความว่า วนิยาจะไม่ต้องไปช่วยน้ า(พยอม)เก็บข้ อมูลวิจยั ภาคสนามกับมูลนิธิของแม่ และ มีเวลาเพียงเดือนกว่าๆที่จะจัดการเรื่ องย้ ายของเข้ าบ้ านกึ่ง อาคารสานักงานและอพาร์ ตเม้ นต์เอนกประสงค์ที่ กาลังสร้ างใกล้ จะเสร็ จ จากนันก็ ้ ต้องย้ ายของจากบ้ านป้าที่กรุงเทพและคอนโดที่นนทบุรีมาเช่าบ้ านอยู่ในซอยวัด ยายร่มร่วมกับครูโรงเรี ยนรุ่งอรุณคนอื่นๆ ซึง่ การเดินทางเข้ าไปในซอยไม่คอ่ ยสะดวกนัก มีโอกาสที่จะออกไปไหน มาไหนได้ น้อย แต่แน่นอนว่าได้ บรรยากาศการเรี ยนรู้เต็มที่จริ งๆ 5. นักศึกษา ป.โท ไม่ต้องใช้ คะแนน TOEFL สมัคร แต่ก่อนจบต้ องได้ 450 ขึ ้นไป.. นัน่ ทาให้ วนิยาแอบผิดหวังที่ได้ พลาดเป้าหมายเล็กๆในชีวิตไปแล้ ว 2 ประการด้ วยกันคือ - เป็ นผู้บริ หารโรงเรี ยนที่จดั การบริ หารบุคลากรครู ด้วยการรักษามุมมองแบบนักเรี ยน - ประสบความสาเร็ จในชีวิตโดยไม่ต้องสอบ TOEFL (ไม่ได้ ขี ้เกียจแต่มนั จะเท่คะ่ )

รุ่งอรุณเชียงราย : โรงเรี ยนในจดหมายกับหลักสูตรปั จจัยสี่

74


--------------ภาคผนวก ข้ อคิดความเห็นของพระพรหมคุณาภรณ์ (ป. อ. ปยุตฺโต) ในโอกาสที่รัฐมนตรี ช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิ การ ดร.สิริกร มณีรินทร์ นาคณะเจ้ าหน้ าที่ผ้ รู ับผิดชอบในการจัดการศึกษารู ปแบบใหม่ ไปนมัสการปรึ กษา ที่วัด ญาณเวศกวัน เมื่อ 14 กุมภาพันธ์ 2546 http://www.roong-aroon.ac.th/?page_id=1942 ศึกษาไปพร้ อมด้ วยกันทัง้ 3 ด้ าน แล้ ววัดผลโดยดูพฒ ั นาการที่แยกเป็ น 4 ที่ว่าแนวพุทธก็นี่แหละ คือพัฒนาคนให้ ร้ ู จักเป็ นอยู่ได้ อย่างดี โดยสอดคล้ องกับความจริ งของชีวิตที่ เป็ นไปตามธรรมดา นี่เอง เราเอาความจริ งของธรรมดานี่แหละมาใช้ ประโยชน์ในการพัฒนามนุษย์ ก็เรี ยกว่า การศึกษา การศึกษานันเป็ ้ นระบบการพัฒนาด้ านความสัมพันธ์ กบั สิ่งแวดล้ อม แล้ วก็ด้านจิตใจเจตจานง และ ด้ านปั ญญาความรู้ เข้ าใจดาเนินประสานไปด้ วยกันและส่งผลต่อกัน โดยเจตจานงของจิตใจ แสดงตัวออกมาสู่ พฤติกรรมและการสัมพันธ์กบั สิง่ แวดล้ อม ปั ญญาที่ร้ ูเข้ าใจก็มาพัฒนาพฤติกรรมให้ ทาได้ ผลดียิ่งขึน้ และทาให้ จิตใจมีขอบเขตขยายออกไปแล้ วมี สภาพที่ดีขึ ้น เช่น เมื่อรู้เข้ าใจเหตุผล รู้วา่ คนอื่นเขาก็รักชีวิตของเขาเหมือนกัน เพราะฉะนันจึ ้ งไม่ควรไปทาร้ ายเขา แต่ควรจะมีเมตตากรุณา การพัฒนาเมตตากรุณา จึงต้ องอาศัยปั ญญาความรู้เข้ าใจ ถ้ าไม่อย่างนัน้ ก็ได้ แค่ความ เคยชิน เป็ นการพัฒนาแค่ระดับศีล เมื่อทังสามส่ ้ วนนี ้ประสานกันไป ความสัมพันธ์ กบั สิ่งแวดล้ อมก็จะเป็ นด้ านที่ สนองและป้อนเลี ้ยงด้ านจิตและ ด้ านปั ญญา ส่งผลหนุนกันไป 1. การพัฒนาในด้ านความสัมพันธ์กบั สิง่ แวดล้ อม เรี ยกว่า ศีล 2.การพัฒนาด้ านเจตจานง ลงไปถึงคุณสมบัติในจิตใจ ก็เป็ นสมาธิ ซึง่ รวมถึงเรื่ องของคุณธรรมความดี เรื่ องของสมรรถภาพและประสิทธิภาพของจิตใจ เช่น ความเข้ มแข็ง หนักแน่น เพียรพยายามสติ สมาธิ แล้ วก็ เรื่ องความสุข ความร่าเริ งเบิกบานผ่องใส ฯลฯ ที่เป็ นคุณสมบัติสาคัญของจิตใจ 3.การพัฒนาด้ านปั ญญา ความรู้ความเข้ าใจ การรู้จกั มองสิง่ ทังหลายตามที ้ ่มนั เป็ น และความสามารถ แยกแยะวิเคราะห์สบื สาวหาเหตุปัจจัยอะไรต่างๆ สามแดนนี ้จะต้ องพัฒนาไปด้ วยกัน เป็ นระบบ ที่เราเรี ยกว่าบูรณาการก็มาในระบบที่เรี ยกว่า ไตรสิกขา นี ้แหละ และเมื่อไตรสิกขาพัฒนาคนไปอย่างนี ้แล้ ว ก็วดั ผลด้ วยภาวนา 4 ดังที่โรงเรี ยนทอสีกบั โรงเรี ยนอนุบาล หนูน้อย ทดลองค้ นหากันไป และมาก็บอกว่าตกลงใช้ หลักนี ้แหละในตอนที่พฒ ั นาคน เพราะว่ามันเป็ นองค์รวม ทังสามอย่ ้ างนี ้ต้ องไปด้ วยกันในแต่ละเรื่ อง คือต้ องใช้ ทงั ้ 3 เพราะฉะนัน้ ท่านจึงถือหลัก 3 ไม่ว่าในเรื่ องใด ทุก เรื่ องเรามีทงสาม ั้ คือ ศีล สมาธิ ปั ญญาต้ องสืบเนื่องกันมา คือในขณะที่เรามีความสัมพันธ์กบั สิ่งแวดล้ อม เราก็มี เจตจานงต่อสิง่ นัน้ มีทา่ ทีความตังใจต่ ้ อมันอย่างใดอย่างหนึง่ พร้ อมกันนันเราก็ ้ ทาได้ ในขอบเขต ของความรู้ และ

75

รุ่งอรุณเชียงราย : โรงเรี ยนในจดหมายกับหลักสูตรปั จจัยสี่


เราต้ องเรี ยนรู้มนั ไปตลอดเวลา แล้ วในการที่เราเรี ยนรู้ เพิ่มขึ ้น เราก็ จะพัฒนาได้ สภาพจิตของเราก็เปลีย่ นไป การ มีพฤติกรรมสัมพันธ์ กบั สิ่งแวดล้ อมก็จะเปลี่ยนจะพัฒนาไปด้ วย ก็ไปด้ วยกันทังหมด ้ ฉะนันจึ ้ งมี 3 อย่าง แต่พอ วัดผล ท่านแยกเป็ น 4 คือ แยกเป็ น ภาวนา 4 เพราะตอนแยกนี่ ไม่ใช่ตอนทางานแล้ ว แต่ต้องการความชัดเจน ว่า ด้ านไหนไปได้ แค่ไหน จึงแยกเป็ น 1. กายภาวนา การพัฒนาด้ านความสัมพันธ์กบั สิง่ แวดล้ อมที่เป็ นกายภาพ หรื อทางวัตถุ 2. ศีลภาวนา การพัฒนาความสัมพันธ์กบั สิง่ แวดล้ อมทางสังคมด้ านเพื่อนมนุษย์ รวมทังสั ้ ตว์ทงหลายอื ั้ ่นด้ วย อัน นี ้แยกได้ ชดั กายภาวนาสัมพันธ์กบั สิง่ แวดล้ อมทางกายภาพ เช่น พวกธรรมชาติ พวกวัตถุ พวกสิง่ เสพ บริ โภค สิง่ ที่ตาดู หูฟัง อะไรต่างๆ ส่วนศีลภาวนา เป็ นการสัมพันธ์กบั เพื่อนมนุษย์คือทางสังคม 3. จิตตภาวนา การพัฒนาด้ านจิตใจ ที่อาศัยสมาธิเป็ นตัวแกนในการฝึ กและมีบทบาทออกมาทางเจตจานง 4. ปั ญญาภาวนา การพัฒนาด้ านปั ญญา ความรู้ความเข้ าใจคิดได้ หยั่ง เห็ น เรื่ อ งนี แ้ ปลกมากที่เ รามาเจอภายหลัง ว่า ของฝรั่ ง มี physical development, mental development, emotional development, social development อ้ าว ของพระพุทธศาสนาก็มี 4 และว่ามาตัง้ สองพันกว่าปี แล้ ว พอมาเจอก็ตรงกันเลยแต่ขอบเขตไม่เท่ากัน ของฝรั่ง physical development เน้ นเรื่ องการให้ สขุ ภาพร่ างกายแข็งแรง ส่วน ของพระพุทธศาสนา กายภาวนา หมายถึง การพัฒนาความสัมพันธ์ กบั สิ่งแวดล้ อมด้ านกายภาพทังหมดว่ ้ าสัมพันธ์ เป็ นไหม ได้ ผลดี ไหม เสพบริ โภคเป็ นไหม กินอาหารเป็ นไหม เป็ นต้ น เช่น เมื่อกินเป็ น สุขภาพดีก็มาด้ วย ศีลภาวนา ก็คือด้ าน social development แล้ วจิตตภาวนาก็ emotional devlopment แต่เราไปแปล mental development เป็ นพัฒนาจิตใจ ขออภัย พลาดมาก mental development นี่ของฝรั่งเขาใช้ เป็ น alternative term กับ intellectual development ลองไปดูเถอะ ฝรั่ งจะใช้ mental development บ้ าง intellectual development บ้ าง สองตัวนี ้ใช้ แทนกันหมายถึงด้ านปั ญญา ส่วน emotional development คือ ด้ านจิตใจ รวมแล้ วก็มีพฒ ั นาด้ านกาย พัฒนาด้ านสังคม ซึ่งของเราเรี ยงไม่ตรงกับฝรั่ง คือของเราเรี ยง social development ก่อน ถือว่ามองจากข้ างนอกเข้ า มา แล้ วก็พฒ ั นาด้ าน emotional development คือด้ านจิตใจ แล้ วจบด้ วย intellectual development หรื อ mental development แต่อนั นี ้เราไม่นิยมใช้ เราจะใช้ ว่า wisdom development การพัฒนาปั ญญาตอนนี ้ใช้ ในการวัดผล จึงเป็ นภาวนา 4 แต่ในเวลาศึกษา คือ ขณะปฏิบตั ิใน ชีวิตจริ งเป็ นไตรสิกขา การที่มาแยกเป็ นภาวนา 4 ก็เพื่อใช้ ในการที่จะดูให้ ชดั แยกดูได้ 4 ด้ าน แต่ในเวลาปฏิบตั ิ จริ งกายภาวนาและศีลภาวนา เป็ นข้ อเดียวกัน คือในเรื่ องหนึง่ หรื อในขณะหนึ่งนี่เราสัม พันธ์ กบั สิ่งแวดล้ อมอย่าง ใดอย่างหนึง่ คือทางกายภาพหรื อทางสังคม ต้ องเอาอย่างเดียว ฉะนัน้ 2 ข้ อแรกในภาวนา 4 นี ้ เวลาเป็ นไตรสิกขา จึงรวมกันเป็ นข้ อเดียว เพราะเอาตามที่เป็ นจริ งใน ชีวิต ซึง่ เป็ นองค์รวม อันนี ้คือเรื่ องของระบบง่ายๆ ที่วา่ มานี ้เป็ นการพูดในแง่ให้ เห็นว่า อันนี ้คือความเป็ นจริ งตาม ธรรมดาของธรรมชาติ การศึกษาก็มาจากธรรมดานี่แหละ เพราะมนุษย์มีชีวิตที่แบ่งได้ เป็ นสามแดน ที่ไปด้ วยกัน อย่างนี ้ ฉะนันการจั ้ ดการศึกษาจึงเป็ นศีล สมาธิ ปั ญญา ขึ ้นมาตามธรรมดา ก็เท่านันเอง ้ ...

รุ่งอรุณเชียงราย : โรงเรี ยนในจดหมายกับหลักสูตรปั จจัยสี่

76


[ไฟล์แนบ] 140211หลักสูตร+กิจการRCR.jpg

77

รุ่งอรุณเชียงราย : โรงเรี ยนในจดหมายกับหลักสูตรปั จจัยสี่


http://www.roong-aroon.ac.th/index.php?option=com_content&view=article&id=149&Itemid=117 แก้ ไขล่าสุด ใน วันจันทร์ ที่ 10 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา 19:14 น. โรงเรี ยนรุ่งอรุณ โรงเรี ยนเพื่อทิศทางใหม่ของการศึกษา ผสานความหลากหลายเพื่อพัฒนาการที่สมบูรณ์ ต้ องการรับสมัคร 1. ครูภาษาไทย-สังคม ระดับชันประถมศึ ้ กษา, มัธยมศึกษาตอนต้ น, มัธยมศึกษาตอนปลาย 2. ครูคณิตศาสตร์ ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย 3. ครูภาษาอังกฤษ ระดับมัธยมศึกษาตอนต้ น 4. ครูวิทยาศาสตร์ -คณิตศาสตร์ ระดับประถมศึกษา 5. ครูดนตรี สากล (เครื่ องสาย) คุณสมบัติของผู้สมัครเป็ นครู - วุฒิปริ ญญาตรี หรื อปริ ญญาโท ในสาขาทีเ่ กี่ยวข้ อง - มีจิตวิญญาณของความเป็ นครูผ้ นู าทางวัฒนธรรม - รู้เท่าทันกระแสสังคมและมีความปรารถนาที่จะช่วยกันเปลีย่ นแปลงสังคม และสิง่ แวดล้ อมให้ ดีขึ ้น - มีความเฉลียวฉลาดในการคิดวิเคราะห์เชื่อมโยงอย่างเป็ นระบบ สามารถมองเห็นความเป็ นองค์รวม - มีความสามารถในการค้ นคว้ าหาความรู้จากแหล่งต่างๆ - วุฒิปริ ญญาตรี เงินเดือนเริ่มต้ นที่ 15,000 บาท หากคุณเป็ นผู้มีปัญญา ไม่ใช่เพียงฉลาดในการเรี ยนรู้ มุง่ มัน่ ทีจ่ ะเป็ นครูผ้ ตู ้ องจัดกระบวนการเรี ยนรู้ ทาให้ ผ้ เู รี ยนบังเกิดความเข้ าใจอย่างแจ่มแจ้ ง สามารถปฏิบตั ิได้ และเรี ยนรู้อย่างมีความสุข จนพัฒนาตนเองไปสูค่ วามเป็ นมนุษย์ที่พร้ อมทังสติ ้ ปั ญญา และจิตใจ ขอเชิญสมัคร หรื อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ ที่ โรงเรี ยนรุ่งอรุณ เลขที่ 391 ซอยอนามัยงามเจริ ญ 25 ถนนพระราม 2 แขวงท่าข้ าม เขตบางขุนเทียน กรุงเทพฯ 10150 โทร. 0–2870–7512–3 , 0–2840–2501 ต่อ 105, 164 โทรสาร 0–2870–7514 www.roong-aroon.ac.th e-mail : info@roong-aroon.ac.th

รุ่งอรุณเชียงราย : โรงเรี ยนในจดหมายกับหลักสูตรปั จจัยสี่

78


มำแล้ วฆ่ ะ(บูชำ)รั บวำเลนไทน์ ‫‏‬ 14 กุมภาพันธ์ 2557 สวัสดีคะ่ มารายงานอย่างรวดเร็ ว คือวนิยาเพิ่งไปงานขันโตกเชียงรายราลึก ที่เซ็นทรัลเชียงรายมา แล้ วท่าน ว.วชิรเมธี มา เทศน์คาเมืองให้ ฟังอย่างน่ารักมาก วนิยาเพิ่งรู้ ว่า ที่เชียงรายตอนนี ้ หากไปสวรรค์ที่วดั ร่ องขุ่น ไปนรกที่บ้านดา แล้ ว ต้ องไปนิพพานที่ "ไร่ เชิ ญตะวัน" ของท่าน ว.วชิ รเมธี เสียด้ วย แถมท่าน ว. ยังทา "โรงเรี ยนชาวนาพุทธ เศรษฐศาสตร์ " อีกด้ วย ฟั งดู "รุ่ งอรุ ณเชียงร้ ายเชียงราย" มากๆ วนิยาตกข่าวนี ้ไปได้ ยงั ไง! ว่าแล้ วก็เอาภาพ และเพจมาฝากทุกท่านเลย (เผื่อใครอยากมาเป็ นครูอยูเ่ ชียงรายบ้ าง) เรื่ องที่ดินจะโทรพรุ่งนี ้เลยค่ะ https://www.google.co.th/search?q=ไร่เชิญตะวัน+โรงเรี ยนชาวนา https://www.facebook.com/pages/โรงเรี ยนชาวนาพุทธเศษฐศาสตร์ /557408717662503 http://www.rachateedin.com/webboard-th-96858-1882225-ที่ดินติดไร่ เชิ ญตะวัน+ท่าน+ว.วชิ รเมธี +อ่า ง เก็บน ้า+ห้ วยสัก+อ.เมืองเชียงราย+จ.เชียงราย.html

79

รุ่งอรุณเชียงราย : โรงเรี ยนในจดหมายกับหลักสูตรปั จจัยสี่


รุ่งอรุณเชียงราย : โรงเรี ยนในจดหมายกับหลักสูตรปั จจัยสี่

80


(ตัวอย่างอาคารเรียนและบ้ านพักครู)

ข้ อมูลที่ดิน :

เนื ้อที่ประมาณ 30 ไร่ ติดอ่างเก็บน ้าห้ วยสัก อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย เดินทางจากถนนสายหลัก 7 กิโลเมตรใช้ เวลา 15 นาที - ติดไร่เชิญตะวัน (ท่าน ว.วชิรเมธี) - ถนนกาลังจะลาดยาง - ติดอ่างเก็บน ้าห้ วยสัก - มีน ้าให้ ใช้ ได้ ตลอดทังปี ้ - มีไฟฟ้าใช้ - มีบ้านพักไม้ -ปูน 1 หลัง ห้ องน ้า ห้ องส้ วม - มีรัว้ ลวดหนาม เสาปูน - มีแท้ งค์น ้าใหญ่ 1 แท้ งค์ - มีบอ่ ปลา 2 บ่อ - มีต้นยางพารากว่า 2000 ต้ น (อายุประมาณ 5-6 ปี ) ปลูกเรียงอย่างสวยงาม - มีต้นมะม่วง เงาะ ฯลฯ ราคา 900,000 ต่อไร่ ต่อรองราคาได้ ที่ คุณครูสงั เวียน 086XXXX181,086XXXX184 ข้ อมูลจาก : http://www.rachateedin.com/webboard-th-96858-1882225-ที่ดินติดไร่เชิญตะวัน+ท่าน+ว.วชิรเมธี+อ่างเก็บน ้า+ห้ วยสัก+อ. เมืองเชียงราย+จ.เชียงราย.html http://www.teedindd.com/ถงเวลาขาย-ที่ดินติดไร่เชิญตะวัน-อ่างเก็บน ้า-ห้ วยสัก-อ-เมืองเชียงราย-จ-เชียงราย-ad28569.html 81

รุ่งอรุณเชียงราย : โรงเรี ยนในจดหมายกับหลักสูตรปั จจัยสี่


update หลักสูตร 14 ก.พ.57‫‏‬ 17 กุมภาพันธ์ 2557 ไฟล์ที่แนบมาด้ วย : 140213โลโก้ หลักสูตรRCR.png , 140216RCR หลักสูตรจากการร่างครัง้ ที่ 2 (1-14 กุมภาพันธ์ 2557).pdf update หลักสูตร โรงเรี ยนรุ่งอรุณเชียงราย แบบ Four Factors - Four Dimensions (ปั จจัย4-ภาวนา4) Physical Education อาหาร เครื่องนุง่ ห่ม ที่อยูอ่ าศัย ยารักษาโรค Social Education ภาษา การสือ่ สาร ระบบสังคม ประวัตศิ าสตร์ Mental Education ระบบความคิดและสติปัญญา Emotional Education การจัดการอารมณ์ นัง่ ทาโลโก้ หลักสูตร (ไม่ใช่โลโก้ โรงเรี ยน) อยู่ 3 วันค่ะ ทาเสร็ จแล้ วเห่อเปิ ดจอคอมนัง่ พิศ pdf อยูท่ งคื ั ้ น เปนบ้ า สวัสดีคะ่ :)

รุ่งอรุณเชียงราย : โรงเรี ยนในจดหมายกับหลักสูตรปั จจัยสี่

82


อรุณวุ้นเส้ น 1 มีนาคม 2557 สวัสดีคะ่ อีเมลฉบับนี ้วนิยาตังใจว่ ้ าจะเขียนตังแต่ ้ ปลายเดือนมกราคม เป็ นเรื่ องเกี่ยวกับที่มาของการจะทา "วุ้นเส้ น" ใน โรงเรี ยน ซึ่งวนิยาจะกล่าวในเนื ้อหาต่อไป แต่เนื่องจากความเลือดร้ อนใจเร็ วในตัววนิยาบันดาลให้ วนิยาเขียน อีเมลแบบทางการติดต่อถึง "คนทาวุ้นเส้ น" แล้ วอุบเรื่ องวุ้นเส้ นที่จะเขียนส่งทุกท่านเอาไว้ รอให้ "เส้ น" ติดต่อ กลับมาก่อนเพื่อสิง่ ที่เผยแพร่จะได้ ใกล้ ความจริ งมากขึ ้น แต่จนแล้ วจนรอด (ผ่านไปเกือบเดือน) ก็ยงั ไม่ได้ รับการ ติดต่อกลับแต่อย่างใด จนวนิยากลับไปอยู่เชียงรายแล้ วฝั นสะดุด (อ่านได้ ใน "อเรนเว้ นสุ้น" อีเมลฉบับหน้ า) ก็ ไม่ได้ ลงมือเขียนอีเมลฉบับนี ้ให้ เสร็ จเสียที ถึงตอนนี ้วนิยาเขียนอีเมลย้ อนหลังเพื่อ "บันทึกเรื่ องราวและถ่ายทอด ความคิด" ให้ ครบถ้ วนสมบูรณ์ แล้ วจะส่งพร้ อมกับอีเมลฉบับหน้ าเลยเพื่อที่จะบอกว่าทาไมฝั นของวนิยาถึงยัง เกิดขึ ้นจริ งไม่ได้ สืบเนื่องจากอีเมลฉบับก่อน "อรุ ณฟิ คชัน่ " ที่วนิยาเขียนเป็ นเรื่ องสันน ้ าเสนอแนวคิดหาเงินมาสร้ างโรงเรี ยนจาก การทาภาพยนตร์ เพื่อโฆษณาโรงเรี ยน และจัดงบจากค่ายหนังมาสร้ างฉากภาพยนตร์ ขึ ้นใหม่เพื่อถ่ายทาเรื่ อง โรงเรี ยนเป็ นสถานที่หรื ออาคารเรี ยนในภาพยนตร์ เลย (ได้ อาคารฟรี ) หากโรงเรี ยนมีสถานะอยู่ในภาพยนตร์ หรื อ โฆษณา วนิยาก็สามารถหาคนเก่งดีมีชื่อเสียงมาสอนหน้ ากล้ องในแต่ละวิชาที่ต้องการโฆษณาหลักสูตรและ วิธีการสอน ให้ เล่นเป็ น "ครู พิเศษ" ได้ อย่างไม่จากัด นอกจากนัน้ วนิยายังใช้ เวลาครึ่ งเดือนหลังปี ใหม่สร้ าง โรงเรี ยนในจินตนาการขึ ้นเพื่อพรรณนาเป็ นฉากให้ mr.Saturday หรื อ "ครูอาร์ ต" เล่นเป็ นตัวละครนาในเรื่ องสัน้ มี "เด็กหญิงกะทิ" จากนิยายรางวัลเรื่ อง ความสุขของกะทิ มาเป็ น "พรี เซนเตอร์ " ในบทบาทของนักเรี ยนตัวอย่างที่ ใส่ใจภาพรวมบรรยากาศการเรี ยนเป็ นกลุ่มของเพื่อนร่ วมชัน้ และคอยประสานความสัมพันธ์ ระหว่างครู กับ นักเรี ยนให้ เป็ นไปอย่างราบรื่ น (มีต้นแบบจากนิสยั การเรี ยนในชันสมั ้ ยเรี ยนของวนิยาเอง) ก็ได้ ไอเดียใหม่ๆที่จะ เข้ ามาอยู่ในโรงเรี ยน โดยเฉพาะ "กิจการหารายได้ ของโรงเรี ยน" พร้ อมการเล่นคาที่นาเสนอสินค้ าและสิ่งของ ธรรมดาๆในโรงเรี ยนให้ ดลู ้าสมัยและน่าสนใจยิ่งขึ ้น เช่น ไฟเบอร์ โตเร็ ว=ไม่ไผ่ ยานพาหนะขับเคลือ่ นพลังน ้า=เรื อ วอเตอร์ เ วย์ = คลอง ฟาร์ ม เพาะเลี ย้ งเนื อ้ สัต ว์ ไ ม่ มี ก ระดูก ในเปลื อ กแคลเซี ย ม=วัง หอย ยานจัก รก ลพลัง คาร์ โบไฮเดรตน ้าหนักเบา=จักรยาน ไร่ ผลิตพลังงานคาร์ โบไฮเดรต=นาข้ าว สรุ ปได้ ว่าที่โรงเรี ยนของวนิยาจะมี คลองล่องเรื อและทางจักรยานเพื่อประหยัดพลังงานเชื ้อเพลิงในการขนส่ง มีบ้านพักครู ที่สร้ างด้ วยไม้ ไผ่ปลูกเอง ไม่ระเบิดหินมาทาปูนและไม่ตดั ไม้ ทาลายป่ า มีนาสาธิ ตปลู กข้ าว มีการเกษตรและประมงผลิตอาหารเลี ้ยงครู นักเรี ยนและเสริ มสร้ างรายได้ ขณะที่กาลังรวบรวมไอเดียเขียนเรื่ องสันฉบั ้ บนี ้ วนิยาก็จินตนาการถึงระบบที่จะเกิดขึ ้นจริ งใน "โรงเรี ยนรุ่ งอรุ ณ เชี ยงราย" (ชื่ อที่ยืมมาจากโรงเรี ยนรุ่ งอรุ ณโดยไม่มีส่วนเกี่ ยวข้ องใดๆกับบุพนิมิ ตแห่งมรรคหรื อรุ่ งอรุ ณของ การศึกษา เพียงแค่บ่งบอกได้ ดีว่าเป็ นโรงเรี ยนทางเลือกอีกแห่งหนึ่งที่มีชื่อสวย) ในอนาคตโดยคิดถึงความ ต้ องการส่วนตัวเป็ นหลัก เช่น

83

รุ่งอรุณเชียงราย : โรงเรี ยนในจดหมายกับหลักสูตรปั จจัยสี่


- วนิยาชอบใส่ชุดชันในทรงสปอร์ ้ ตแบบไม่มีโครงรองรั บ แต่ในตลาดหลักชุดชันในแบบนี ้ ้กาลังจะหมดไป วนิยา จะอนุรักษ์ ชดุ ชันในทรงนี ้ ้ด้ วยการร่วมมือกับกลุม่ Try Arm (สาวๆพนักงานผลิตชุดชันในตรา ้ Triumph ที่หนั หลัง ให้ การกดขี่ของนายทุนต่างชาติ ลาออกมาทากิจการเอง) หา "ครู สอนตัดเย็บเสื ้อผ้ า" มาประจาที่โรงเรี ยน โดย นอกจากจะสอนให้ นกั เรี ยนสามารถผลิตเสื ้อผ้ าใส่เองได้ ตามต้ องการมากขึ ้นแล้ ว ยังเปิ ดโอกาสให้ นกั เรี ยนที่ สนใจการตัดเย็บเสื ้อผ้ า เรี ยนจบมามีงานทาเป็ นพนักงานตัดเย็บเสื ้อผ้ าในกิจการ(สาธิต)ของโรงเรี ยนและเป็ นครู สอนตัดเย็บเสื ้อผ้ ารุ่นต่อไปของโรงเรี ยนได้ เลย - วนิยาสนใจใช้ เสื ้อม่อฮ่อม(ผ้ าฝ้ ายหนาย้ อมสีน ้าเงินฮ่อมแบบพื ้นเมืองไทย)เป็ นเครื่ องแบบครูและนักเรี ยน เพราะ เสื ้อม่อฮ่อมเป็ นภูมิปัญญาชาวบ้ านที่ใส่ปฏิบตั ิงาน(การเกษตร)แล้ วทนทาน มีสีเข้ มไม่ต้องระวังเปรอะเปื อ้ น ซึ่ง นักเรี ยนสามารถที่จะภูมิใจและเรี ยนรู้ภมู ิปัญญานี ้ได้ จากการลงพื ้นที่วิจยั สารวจสอบถามเรี ยนรู้ และช่วยอนุรักษ์ วิธีการทาเสื ้อม่อฮ่อมในแบบของท้ องถิ่นได้ จากชาวบ้ าน ตังแต่ ้ การปลูกฝ้ าย เก็บเกี่ยวฝ้ าย ปั่ นฝ้ าย (วนิยาเขียน เป็ นชื่ อวิ ชาไว้ ในหลักสูตรของโรงเรี ย นว่า กระบวนการผลิต ฝ้ าย - เพื่ อให้ นักเรี ย นมี กระบวนทัศ น์ เ ชื่ อ มโยง ทรัพยากรว่าเสื ้อผ้ าเกิดมาจากต้ นไม้ ไม่ใช่โรงงานแบรนด์เนม) ทอผ้ าฝ้ าย เตรี ยมใบฮ่อม ย้ อมสีฮ่อม ตัดเย็บเสื ้อ ตลอดจนพัฒนาการทาเสื ้อให้ เป็ นม่อฮ่อมในรู ปแบบที่หลากหลาย(ในเรื่ องสันมี ้ ตวั อย่างคือตัดเป็ นสูทประจา โรงเรี ยนให้ ครู ใส่) ใช้ ง่ายสีไม่ตก ตอบสนองความต้ องการของตลาดแฟชั่นนักอนุรักษ์ ตลาดนักท่องเที่ยวและ ตลาดทัว่ ไป หากจังหวัดแพร่มีทรัพยากรพอไม่ต้องพึง่ โรงงานก็สามารถสร้ างชื่อเสียงเป็ นแหล่งผลิตเสื ้อผ้ าม่อฮ่อม ของประเทศไทยได้ โรงเรี ยนของวนิยาก็น่าจะสร้ างแบรนด์เป็ นศูนย์ผลิตเสื ้อม่อฮ่อมที่พฒ ั นาแล้ วของจังหวัด เชียงรายได้ เช่นกัน - วนิยาไม่คอ่ ยรี ดผ้ า ตังแต่ ้ เรี ยนมหาวิทยาลัยจบมาทางานอิสระวนิยาไม่ได้ รีดผ้ าเลย จะใส่เสื ้อยืดและเสื ้อโปโลที่ เป็ นผ้ ายืดและดูเรี ยบได้ เองตลอด เวลาซื ้อเสื ้อผ้ าที่เป็ นทางการวนิยาก็จะเลือกจากเนื ้อผ้ าที่สามารถใส่แล้ วดู สุภาพเรี ยบร้ อยได้ โดยไม่ต้องรี ด เสื ้อผ้ าแบบไหนที่สวยถูกใจแต่ถ้ามีภาระให้ ต้องรี ดแล้ ววนิยาจะไม่แตะไม่ซื อ้ จริ งๆ แต่เมื่อเลือกมากขนาดนี ้ก็ทาให้ วนิยาขาดโอกาสที่จะได้ ใส่ชุดสวยๆในแบบที่อยากใส่แต่เนื ้อผ้ าไม่อานวย ด้ วยเช่นกัน วนิยาก็ เลยอยากจะตัง้ โรงงานทอผ้ าใส่เอง เลือกได้ ว่าจะเน้ นเนือ้ ผ้ าแบบไหนมาตัดเย็บใส่และ กระจายความประหยัดในการแต่งกายนี ้ออกไปด้ วยการทอผ้ าขาย ซึ่งถ้ าโฆษณาว่ามีจดุ ขายคือเสื ้อผ้ าที่ใส่สบาย แล้ วยังดูดีเป็ นทางการได้ โดยไม่ต้องรี ดเลยก็นา่ จะมีคนอยากประหยัดเหมือนกันมาสนับสนุนมากอยู่ - วนิยาเป็ นเด็กที่ไม่ชอบกินเนื ้อสัตว์ เกลียดอาหารทะเล โตมาก็ชอบกินแค่เนื ้อปลากับเนื ้อไก่ (แถมยังไม่ค่อยกิน ผักอีก) แต่พอมาคิดว่าถ้ าต้ องอยูแ่ บบพึง่ ตนเองจริ งๆแล้ ววนิยาจะเชือดไก่ฆ่าปลาได้ ยงั ไง ก็เลยสองจิตสองใจว่า จะฝึ กเลี ้ยงสัตว์หรื ออยูแ่ บบมังสวิรัติดี มาวันหนึง่ ในช่วงปี ใหม่ ร้ านอาหารต่างๆในหมูบ่ ้ านหยุดพักกิจการขาย ทา ให้ ไม่มีร้านให้ เลือกกินมากนัก เมนูหลักของวนิยานอกจากข้ าวไข่เจียวแล้ วก็คือ "ข้ าวไก่ทอดกระเทียมไข่ดาว" แต่ ร้ านที่เปิ ดอยู่ไม่มีเนื ้อไก่เหลือแล้ ว เนื ้อหมูก็ไม่เอา แม่ค้าเสนอว่ามี "หอยตัวใหญ่ ไม่เหม็น" วนิยาก็เลยสัง่ "หอย ทอดกระเทียม" มาลองกิน เพราะครัง้ หนึง่ เคยกินหอยลายผัดใบกะเพราแล้ วหอมกะเพรากลบกลิ่นทะเลจึงกินได้ ครัง้ นี ้แม่ค้าบอกหอยไม่เหม็น วนิยาก็น่าจะกินได้ ปรากฏว่าหอยตัวใหญ่มากไม่มีกลิ่นด้ วย กินได้ จริ งๆ วนิยาก็

รุ่งอรุณเชียงราย : โรงเรี ยนในจดหมายกับหลักสูตรปั จจัยสี่

84


เลยสนใจว่าแม่ค้าไปซื ้อหอยมาจากไหน เลี ้ยงหอยยังไง ถ้ าวนิยาเลี ้ยงหอยพันธุ์นี ้ก็จะมีเนื ้อสัตว์ที่จดั การง่าย ไม่ ดิ ้น ไม่หนี ไม่ร้อง ไม่ต้องฝึ กจิตใจเป็ นนักฆ่าสัตว์ก็สามารถกวาดเอาเนื ้อสดจากท้ องน ้าแกะเปลือก แล้ วประกอบ อาหารได้ เลย ไม่ง้อให้ ใครเชือด ไม่ต้องมีความรู้ ในการแล่เนื ้ออกจากกระดูก ไม่ต้องกลัวก้ างติดคอ ถ้ าวนิยามี พื ้นที่สร้ างโรงเรี ยนแล้ ววนิยาจะทาโครงการวิจยั และพัฒนาการเลี ้ยงหอยให้ ตวั ใหญ่ไม่มกี ลิน่ เหม็นอย่างที่มีคนทา มาขายได้ และอยากจะทาให้ ได้ เนือ้ ที่ดีขึ ้นอีกต่อไปเรื่ อยๆ เป็ นนวัตกรรมในการผลิตเนือ้ สัตว์ ที่ไม่ต้องเปลือง มนุษยธรรมและยังไม่มีคแู่ ข่งในตลาดอีกด้ วย - ตอนวนิยาหาข้ อมูลโรงเรี ยนรุ่ งอรุ ณ ที่ได้ ของแถมเป็ นสถาบันอาศรมศิลป์ วนิยาประทับใจมากกับ page หอ ศิลป์ไม้ ไผ่ บน facebook เป็ นโครงการที่ศกึ ษาหาข้ อมูลทางสถาปั ตยกรรมของไม้ ไผ่มานาเสนอให้ ครบ แล้ วก็ทา การออกแบบก่อสร้ างหอศิลป์จากไม้ ไผ่ที่มีรูปทรง "ล้ อสมัย" (postmodern) ดูหวือหวาแปลกใหม่ในบรรยากาศ ของความเป็ นไทยเดิม แถมยังดูขลัง ศักดิ์สิทธิ์สปิ ริ ตช่วล ใช้ เป็ นสถานที่จดั งานรับปริ ญญา (ซึ่งประกอบด้ วยชุด ครุยที่ล้อสมัยไทยล ้าพอๆกัน) ของสถาบันอาศรมศิลป์เองได้ อีกต่างหาก จาก page นี ้ วนิยาได้ เรี ยนรู้วา่ ปั จจุบนั มี คนพยายามวิจยั และพัฒนาไม้ ไผ่ ให้ กลายเป็ นวัสดุก่อสร้ างที่ทนทานแข็งแรงไม่แพ้ ไม้ ทวั่ ไป มีทงที ั ้ ่ใช้ เทคโนโลยี อัดให้ เรี ยบด้ วยความร้ อน รัก ษาเนื ้อไม้ ด้วยสารเคมี ทดสอบความแข็งของลาไผ่ทรงกระบอก อะไรต่างๆ ช่วย เตือนให้ เราระลึกได้ ว่า ต้ นไผ่เป็ นไม้ ที่โตเร็ วมาก ไม่ต้องรอสิบปี ก็ได้ ไม้ มาสร้ างบ้ านแล้ ว ขณะที่ตดั ไม้ สกั ใหญ่ก็ เหมือนตัดไม้ ทาลายป่ า สถาบันอาศรมศิลป์(สอนสถาปั ตย์)สร้ างหอศิลป์ไม้ ไผ่ขึ ้นมาเป็ นตัว อย่างของนักศึกษา สถาปั ตย์ทกุ คน แถมยังรับประกันความล ้าด้ วยนิตยสารสารคดี ฉบับเดือนมกราคมที่ผา่ นมานี ้ ขึ ้นปก "นวัตกรรม ไผ่" ทาให้ ร้ ูเลยว่าไผ่กาลังมาจริ งๆ ในเมื่อไผ่เป็ นไม้ โตเร็ ว ใช้ ง่าย ถ้ าโรงเรี ยนไม่มีอะไรจะขายก็ปลูกไผ่ขายก็ได้ ไม่ ต้ องรดน ้าพรวนดินอะไรไม่นานก็โตรอให้ ลกู ค้ ามาตัดไปใช้ ได้ แล้ ว - มาถึงเรื่ องอาหารการกินกันบ้ าง ใครๆก็บอกว่าข้ าวเป็ นอาหารแหล่งคาร์ โบไฮเดรตหลักของมนุษย์ แต่วนิยา เปลีย่ นความเชื่อนี ้ไปเมื่อได้ เป็ นนักเรี ยนแลกเปลีย่ นที่เยอรมันเมื่อปี 2547 (2004) นอกจากชาวเยอรมันจะกินแค่ ข้ าวสาลีผา่ นแป้งขนมปั งแล้ ว เขายังกิน "มันฝรั่ง" เป็ นแหล่งพลังงานคาร์ โบไฮเดรตแทนข้ าวอีกด้ วย วิธีการกินมัน ฝรั่ งก็ คล้ ายการกินข้ าว คือปอกเปลือกแล้ วเอาไปต้ มใส่เกลือให้ มนั นิ่มและไม่จืด บ้ างก็ บี ้ให้ เละๆ ก่อนจะตัก กับข้ าวเช่นเนื ้อและผักมากินด้ วยกัน ไม่ได้ ทามันฝรั่งทอดกรอบหรื อกรอบนอกนุ่ม ในเป็ นเฟร้ นช์ฟราย "ชิปส์" กัน แต่อย่างใด ทาให้ วนิยารู้ สึกว่า "มันฝรั่งก็คือข้ าวก้ อนใหญ่" ดีๆนี่เอง (และข้ าวที่มีขายในเยอรมัน นอกจากจะ นาเข้ าเป็ นส่วนใหญ่แล้ ว ถ้ าไม่ใช่ข้าวไทยก็จะไม่หอม ต้ องมีผงปรุ งรสข้ าวใส่ประกอบในหม้ อด้ วยเวลาหุง เห็น แล้ วอดคิดไม่ได้ จริ งๆว่าคนไทยโชคดีขนาดไหน) แม้ คนไทยจะมองว่า "หัวมัน" คืออาหารของคนทีไม่มีข้าวกิน เช่น สมัยสงครามต้ องขุดหามันหาเผือกกิน แต่เมื่อวนิยาได้ ไปเยี่ยมคุณตาคุณยายอุปถัมภ์ที่ฝั่งเยอรมันตะวันออก แล้ วแม่อุปถัมภ์ชวนวนิยาทาอาหารด้ วยกันแบบแม่ศรี เรื อนห้ าวๆ แกพาวนิยาไปที่สวนหน้ าบ้ าน แล้ วเอาคราด ลากไปมาบนแปลงปลูกมันฝรั่ง ไม่นานก็ได้ มนั ฝรั่งหัวน้ อยใหญ่มาให้ ปอกเปลือกต้ มกินแล้ ว วนิยารู้ สึกทึ่งมาก กว่าคนไทยจะได้ กินข้ าว ต้ องไถนา ดานา เกี่ยวข้ าว นวดข้ าว ตาข้ าว สีข้าว แล้ วข้ าวก็ยงั มีลกั ษณะเป็ นเม็ดเล็กๆที่ ยุง่ ยากน่าราคาญ (แรงไปรึเปล่า) แต่คนเยอรมันเอาคราดเกาแปลงแป๊ บเดียวก็ได้ มนั กินแล้ ว ยิ่งเมื่อมองไปรอบๆ สวนของตายายอุปถัมภ์ ก็ยิ่งทึง่ ว่า นี่มนั สวนเกษตรพอเพียงตามทฤษฎีของในหลวงดีๆนี่เอง นอกจากจะอยู่ใกล้ ร้ านขนมปั งเนยและชีส(อาหารพื ้นบ้ าน)แล้ ว ในสวนก็มีทงแอปเปิ ั้ ล้ เชอรี่ (ผลไม้ ท้องถิ่น) มะเขือเทศที่ กินทุกวัน

85

รุ่งอรุณเชียงราย : โรงเรี ยนในจดหมายกับหลักสูตรปั จจัยสี่


ผักสลัด (ก็ผกั พื ้นบ้ านของเขาอีก) และดอกไม้ นานาชนิด ถึงจะไม่ได้ เลี ้ยงสัตว์ด้วยแต่วา่ นี่แหละคือสวนที่มีอาหาร แทบทุกอย่างจริ งๆ เป็ นบ้ านพร้ อมสวนหลังเล็กๆที่ตากับยายสามารถจะอยู่ได้ ต้วยตนเองในวัยเกษี ยณ เมื่อกลับ จากเยอรมัน วนิยาก็เลยมีความฝั นที่จะทาสวนอาหารพอเพียงแบบนี ้บ้ าง และก็ยงั หาโอกาสที่จะปลูกมันฝรั่งกิน เองอยูเ่ รื่ อยๆ (แต่มนั เทศกับหัวเผือกวนิยาไม่ชอบกินเลย) เวลาเข้ าครัวทาซุปมันฝรั่งที่ใส่หวั หอมมะเขือเทศและ แครอท วนิยาก็จะใส่มนั ฝรั่งเยอะๆแล้ วตักกินกับผักอย่างอื่นในซุปเสมือนเป็ นข้ าว แม้ จะมีคนเตือนว่า "ปลูกมัน ฝรั่งจะทาให้ ดินเสีย" (อาจจะเป็ นบทเรี ยนจากไร่ มนั ฝรั่งของเลย์ที่เชียงใหม่) วนิยาก็ยงั คงประทับใจในความร่ วน ซุยของดินที่แม่อปุ ถัมภ์สามารถเขี่ยเอามันฝรั่งขึ ้นมาได้ อย่างง่ายดายอยู่ดี ถ้ าต้ นมันฝรั่งมันอยู่กบั ดินแบบนันได้ ้ ทาไมเราจะปล่อยให้ ดินเป็ นแบบนัน(อาจจะไม่ ้ เรี ยกว่าเสีย)เพื่อให้ ง่ายต่อการเก็บเกี่ยวมันฝรั่งอย่างที่แม่และตา ยายอุปถัมภ์คนฝรั่งทาที่เยอรมันตะวันออกล่ะ - วนิยายังจาได้ สมัยเรี ยนมัธยม ที่โรงเรี ยนลงทุนตังเสาปู ้ นเรี ยงกันเป็ นไร่ อยู่บนที่ว่างหลังโรงอาหารที่เคยเป็ น แปลงผัก เป็ นเสาที่เอาไว้ ค ้าให้ ต้น "แก้ วมังกร" เลื ้อยขึ ้นไป ตอนนันคนไทยยั ้ งไม่ค่อยรู้ จกั แก้ วมังกรแพร่ หลายนัก ใช้ เวลานานพอสมควรกว่าต้ นแก้ วมังกรเถาเล็กๆจะโตขึ ้นไปสุดเสา กว่าจะได้ เห็นลูกแก้ วมังกรเป็ นน ้าเป็ นเนื ้อ ก็ เกือบจะเรี ยนจบพอดี แต่แปลกที่โรงอาหารไม่เคยได้ เก็บแก้ วมังกรมาให้ นกั เรี ยนกิน อาจเป็ นเพราะต้ นแก้ วมังกร ให้ ผลผลิตไม่ทนั แต่อีกสาเหตุที่น่าสงสัยไม่แพ้ กนั ก็คือ นักเรี ยนบางกลุ่มแอบมาขโมยลูกแก้ วมังกรกิน วนิยาก็ สงสัยว่ามันจะขโมยกินสะดวกได้ อย่างไร ขโมยไปแล้ วต้ องหามีดมาหัน่ กินกับเพื่อนอย่างนันหรื ้ อ (โรงเรี ยนประจา วนิยาตรวจของที่นาเข้ าหอทุกอาทิตย์) ก็เก็บความสงสัยนันเป็ ้ นเรื่ องลึกลับยากแท้ หยัง่ ถึงจนลืมไปแล้ วสิ ้น ต่อมา ปี 2553 วนิยาได้ ไปเรี ยนฝั งเข็ม (ไม่ตงใจเรี ั ้ ยนแต่แม่ฝากให้ ไปเรี ยน) กับพี่นทั คนชลบุรี ที่มาสอนถึงพะเยา ใน สวนฮอมผญาของพี่ทราย (https://www.google.co.th/search?q=พิชิต+กัณฑรัตน์ ) นอนกระท่อมกลางสวน สมุนไพรต้ นแบบ health farm ที่ดีที่สดุ เท่าที่เคยเห็นมา เย็นวันหนึ่งพี่ทรายฝาก พี่แตน สปก. ให้ พาน้ องๆ นักศึกษาการแพทย์พื ้นบ้ าน ม.ราชภัฏเชียงราย และวนิยา เดินอ้ อมทุ่งนาหลังสวนไปเยี่ยม "สวนลมหายใจ" ของ เพื่อนพี่ทราย เป็ นสวนที่ศิวิไลช์มากๆ มีทงเจ้ ั ้ าของสวนที่กาลังขึ ้นโครงบ้ านดิน 2ชันอยู ้ ่กบั เพื่อนสองสามคน มีบ่อ ซีเมนต์เลี ้ยงกบ สระตกปลา และทางเดินที่มีรัว้ สองข้ างประดับด้ วยเถาแก้ วมังกรจานวนมหาศาลพาดอยู่อย่าง ง่ายๆ น้ องราชภัฏที่เคยมาเที่ยวที่นี่ก่อ นแล้ วไม่เกรงใจเจ้ าของสวน เด็ดลูกแก้ วมังกรจากรัว้ เถา เอามา "ปอก เปลือกกินเหมือนปอกกล้ วยเข้ าปาก" วนิยาจึงได้ ร้ ูเดี๋ยวนันเองว่ ้ า "แก้ วมังกรสามารถปอกเปลือกด้ วยมือเปล่าได้ " ไม่ต้องใช้ มีดตัดเป็ นชิ ้นๆเหมือนที่เห็นขายหรื อทากินกันในครัวเรื อนทัว่ ไป แค่กดั เนื ้อใสๆกลมๆให้ จมเขี ้ยวสะใจก็ เท่านัน้ เย็นวันนันเรายื ้ นกินแก้ วมังกร(แล้ วก็โยนเปลือกทิ ้งไว้ เป็ นปุ๋ยอย่างสบายอารมณ์)กันจนอิ่มหนาสาราญ ไม่ ต้ องกินข้ าวมื ้อเย็นกันเลยก็วา่ ได้ เจ้ าของสวนก็ไม่วา่ อะไรเพราะผลผลิตแก้ วมังกรในสวนนี ้เหลือเฟื อมากๆ แล้ วก็ คงปลูกไว้ กินเองไม่ได้ ขาย ตังแต่ ้ นนมาวนิ ั้ ยาก็คิดว่าถ้ ามีสวนเป็ นของตัวเองเมื่อไหร่จะปลูกแก้ วมังกรให้ ได้ มีแก้ ว มังกรเยอะๆเอาไว้ ไม่มีวนั อดตายจริ งๆ - เล่าเรื่ องแก้ วมังกรแล้ วก็ต้องนึกถึงกล้ วย ต้ นตารับสานวน "ปอกกล้ วยเข้ าปาก" ของจริ ง มีสวนมีไร่ ไม่ปลูกกล้ วย เป็ นเชยตายแน่ๆ ปลูกไว้ กินลูกแทนข้ าวก็ได้ กินหัวปลีก็ได้ ตัดลาต้ นไปใช้ ทาอะไรเดี๋ยวก็มีต้นอื่นขึ ้นมาใหม่ และมี ใบตองไว้ ใช้ เป็ นภาชนะแทนพลาสติกหรื อโฟม อันนี ้ในระดับครัวเรื อน ถ้ าเป็ นในระดับโรงเรี ยนก็จะลองทาดูคะ่

รุ่งอรุณเชียงราย : โรงเรี ยนในจดหมายกับหลักสูตรปั จจัยสี่

86


- สมัยวนิยาเรี ยน ป.ตรี ปี 2 เจอ mr.Saturday ครัง้ แรก (ปี 2550) mr.Saturday ทานายให้ ฟังว่า หลังจากนี ้ น ้าผลไม้ สีม่วงกับน ้าผลไม้ สีแดงจะมา สมัยนันคนรั ้ กสุขภาพยังกินน ้าแครอทสีส้มเป็ นอย่างมาก แต่เนื่องจาก แฟนเก่าเริ่ มมีคาพูดติดปากว่า "กินวีต้าพรุ นแล้ วไปตายซะ" พอเวลาผ่านไปปี สองปี ก็มีน ้ามังคุด น ้าลูกพรุ น และ วีต้าเบอร์ รี่ หลังจากนันจึ ้ งมีน ้าทับทิม น ้าสตรอเบอรี่ แอบฮิตสุขภาพกับโกจิเบอรี่ แล้ วก็มาถึงยุคของน ้า สารพัด เบอร์ รี่ ทังแบบรวม ้ แบบผสม ไม่ว่าจะเป็ นบลูเบอรี่ แบล็กเบอรี่ ราสป์เบอรี่ แครนเบอรี่ (แปลกที่มลั เบอรี่ หรื อลูก หม่อนไม่ยักกะติดเทรนด์ ตามไปด้ วย) สรุ ปแล้ วทุกวันนี ้เราชอบกิ น "มิกซ์เบอรี่ " สี ม่วงๆแดงๆ วนิยาเองจากที่ เมื่อก่อนชอบกินน ้าแอปเปิ ล้ เขียว เปลีย่ นเป็ นน ้าแอปเปิ ล้ แดง น ้าทับทิม แล้ วก็หนั มากินน ้ามิกซ์เบอรี่ สมี ว่ งสีแดงนี่ แหละ ตรงตามคาทานายของ mr.Saturday (นักวิจยั โฆษณา)จริ งๆ ไม่ได้ กินเพราะอยากสวยอย่างที่โฆษณาทา ให้ ร้ ูสกึ หรอกนะ แต่กินเพราะว่ามันอร่อยจริ งๆ อร่อยทุกเบอร์ รี่ แล้ วก็อิจฉาชาวตะวันตกที่ผลไม้ พื ้นบ้ านเขาอร่ อย และขายได้ เป็ นล่าเป็ นสันอย่างนี ้ คือในความรู้ สึกของฝรั่ง ลูกเบอร์ รี่ ในสายตาของเขาก็คงจะมีสถานะเท่า ลูก ตะขบ หรื อลูกมะยมบ้ านเรา คือเป็ นผลไม้ ริมรั ว้ ธรรมดานี่แหละ (เคยไปเดินป่ าที่เยอรมั นมาแล้ ว เพื่อนเด็ด แบล็กเบอรี่ ข้างทางกินอย่างมีความสุข) แต่ฝรั่งเขาเอามาเพิ่มมูลค่า เอามาวิจยั ว่ากินแล้ วจะสวยสุขภาพดี แล้ วก็ ขาย (ตะขบหรื อมะยมก็คงทาไม่ได้ ใช่มย) ั ้ ไม่ร้ ูวา่ หลอกกันรึเปล่า แต่อร่อยน่ะของจริ ง วนิยาซื ้อน ้าเบอร์ รี่บอ่ ยๆเข้ า ก็เกิดความคิดว่า "อยากจะปลูกเบอร์ รี่กินเองบ้ าง" ไม่ร้ ู อากาศเชียงรายจะอานวยมัย้ แต่ที่แม่สายก็ปลูกสตรอ เบอรี่ (แถมยังเริ่ มที่โครงการหลวง) ปลูกได้ กลายเป็ นสินค้ าขึ ้นชื่อมีขายข้ างทางเป็ นล่าเป็ นสัน ทาไมเบอร์ รี่จะทา บ้ างไม่ได้ แค่วิจยั และพัฒนา ลองผิดลองถูก หาเมล็ดมันมาปลูก หาข้ อมูลดู ว่าเหล่าโรงงานผลิตน ้าเบอร์ รี่สกัด ทังหลายไปเอาวั ้ ตถุดิบมาจากไหน สรุ ปว่าถ้ าโรงเรี ยนวนิยามีที่ดิน จะลองทาไร่ เบอร์ รี่ดูซะให้ เข็ด เริ่ มจากสวน เล็กๆ ถ้ าขายได้ ก็ขาย ขายไม่ได้ ก็กินเองอยูแ่ ล้ ว สรุปสินค้ าและกิจการที่วนิยาคิดจะทดลองทา ในโรงเรี ยนรุ่งอรุณเชียงราย แบบสุดซอย (ฝั นให้ สดุ ๆเอาไว้ ก่อนทา ได้ จริ งแค่ไหนไว้ คิดดูทีหลัง) มี ชุดชัน้ ในสตรี เสื ้อม่อฮ่อม ไร่ ฝ้าย โรงทอผ้ า เนื ้อหอย ไม้ ไผ่ มันฝรั่ง แก้ วมังกร กล้ วย เบอร์ รี่ สาหรับสัตว์เลี ้ยง ที่ใครๆบอกว่ามีไว้ กาจัดศัตรูพืช ผลิตปุ๋ย บ้ างเลี ้ยงวัว บ้ างเลี ้ยงแพะ บ้ างเลี ้ยงเป็ ด เลี ้ยงไก่ แต่เรา(วนิยา)เลี ้ยงไม่ไหว เราจะเลี ้ยงกระต่ายยยยย XD ปล่อยวิ่งตามธรรมชาติให้ เต็มทุ่ง ออกลูกออก หลานกันเอง ตายก็ไม่เป็ นไร สร้ างความน่ารักให้ โรงเรี ยนได้ ก็พอ 55+ (วนิยาอานะคะ) ..อ่านมาถึงตรงนี ้อาจจะมีคาถามว่า แล้ วอะไรคือ "วุ้นเส้ น" ขออภัยที่เขียนบันทึกยาวมาก วนิยากาลังจะเล่าเรื่ อง "วุ้นเส้ น" ต่อไปแล้ วค่ะ ตลอดช่วงที่วนิยาอยูก่ รุงเทพ ในครึ่ งหลังปี 2556 ที่ผ่านมา วนิยาพบเมนูประหยัดแทนอาหารตามสัง่ จานละ 35 บาท นัน่ คือ "ขนมปั งโฮลวีตจุ่มไมโล" ซึ่งขนมปั งถุงละ 20 บาท กินเป็ นมื ้อเช้ าได้ 3 มื ้อ ไมโล 3in1 แบ่งเฉลี่ยซอง ละไม่ถึง 8 บาท รวมกันเป็ นมื ้อละประมาณ 14 บาท ได้ สารอาหารเยอะกว่าบะหมี่กึ่งสาเร็ จรู ป แต่กินไปกินมา แม่เตือนว่าสิวจะขึ ้นแก้ มเพราะสารในขนมปั ง (อ้ างอิงจากการบรรยายของหมอบุณย์และหมอจุ๋ม แพทย์แผนไทย ไฮเทค) เมื่อต้ องหาเมนูใหม่มาแทนมื ้อเช้ าเดิมนี ้ อดีตเด็กหออย่างวนิยาก็ไม่ทาอะไรนอกจาก "เดินเข้ าเซเว่น" แล้ ว ก็เจอ "คัพโจ๊ กชนิดซอง" (โจ๊ กกึ่งสาเร็ จรู ปที่ไม่ต้องแช่น ้าร้ อนรอ 3 นาที แต่เติมน ้าร้ อนแล้ วคนให้ เข้ ากัน ก็กินได้

87

รุ่งอรุณเชียงราย : โรงเรี ยนในจดหมายกับหลักสูตรปั จจัยสี่


ทันทีเลย) ราคาซองละไม่มากไม่น้อยไปกว่าเมนูเก่าเท่าไหร่ แต่มีตวั เลือกเยอะ ถ้ าเป็ น "โจ๊ กโอ้ โ ห" ก็อร่ อย ถ้ าเป็ น "คนอร์ คพั โจ๊ ก" ก็เค็มหน่อยแต่มีให้ เลือกหลากหลาย แถมยังมี "คนอร์ บิ๊กคัพโจ๊ ก" มาขายในปริ มาณที่พอดีอิ่มท้ อง ผู้ใหญ่อีก แต่ที่วนิยาชอบที่สดุ คือ "โจ๊ กเกษตร" เพราะไม่มีผงชูรส กินได้ ตลอด และไม่เค็มด้ วย ชอบโจ๊ กเกษตร ชนิดที่ว่าเหมือนเพื่อนที่เริ่ มคบหาแต่มาสนิทกันเร็ วเข้ ากันได้ ดีไซน์ถ้วยคัพโจ๊ กก็เป็ นแนวทางอ้ างอิงคล้ ายๆการ ออกแบบโลโก้ โรงเรี ยนรุ่งอรุณเชียงรายของวนิยาด้ วย อยู่มาวันหนึ่งมีเรื่ องให้ คิดหนักคือ "เพื่อนหาย" ที่เซเว่นสาขาจรัญวิลล่า 1 โจ๊ กเกษตรเกิดหายไปจากชัน้ วางโจ๊ ก วนิยาต้ องจาใจกินโจ๊ กคนอร์ แทนมาหลายสัปดาห์ พลางคิดกังวลไปต่างๆนานาว่า ตราเกษตรจะเลิกทาโจ๊ กกึ่ง สาเร็ จรูปแล้ วหรื อ ไม่มีใครกินโจ๊ กเกษตรจนถึงขันทางบริ ้ ษัทตราเกษตรเลิกผลิตโจ๊ กขายไปเลยหรื อ แล้ ววนิยาใน ฐานะลูกค้ าคนหนึง่ ล่ะ ถ้ าอยากกินโจ๊ กกึง่ สาเร็ จรูปที่ไม่ใส่ผงชูรสอย่างโจ๊ กเกษตร วนิยาจะทายังไง วนิยาอยากจะ บอกตราเกษตรว่า "ถึงเกษตรจะไม่มีใคร ขอให้ มีกาลังใจเถอะว่า ยังมีวนิยาคนหนึง่ นะที่อยากกินโจ๊ กกึ่งสาเร็ จรู ป ไม่ใส่ผงชูรสของเกษตรอยู"่ และ "ถ้ าเกษตรไม่ส้ ู วนิยาก็จะสู้ให้ เกษตร โฆษณาโจ๊ กกึ่งสาเร็ จรู ปที่ชูจุดขายไม่ใส่ผง ชูรสให้ เกษตร" หรื อ "ถ้ าไม่มี ใครทาโจ๊ กให้ เกษตร วนิยาก็จะศึกษาวิธีทาโจ๊ กกึ่งสาเร็ จรู ปแบบไม่ใส่ผงชูรสจาก เกษตร มาตังโรงเรี ้ ยนปลูกข้ าวทาโรงผลิตโจ๊ กกึ่งสาเร็ จรูปขายในแบรนด์เกษตรให้ เอง" ทังนี ้ ้ทังนั ้ นวนิ ้ ยาคิดออกมา เพื่อที่วา่ "วนิยาจะได้ กินเอง" เป็ นสาคัญ จากนันวนิ ้ ยาก็ปฏิบตั ิการหาบริ ษัทผลิต โจ๊ กเกษตรเพื่อจะติดต่อ.. เพราะวนิยาขี ้เกียจนัง่ รถเมล์ไปซูเปอร์ มาร์ เก็ต และไม่ได้ รีบร้ อน วนิยาก็เลยทาแค่ด้อมๆมองๆในเซเว่นที่ชนวาง ั้ โจ๊ ก ว่าเมื่อไหร่ โจ๊ กเกษตรจะกลับมา เพราะป้ายราคาตาแหน่งที่เคยมีโจ๊ กเกษตรวางขายก็ยงั มีอยู่ สารวจไป หลายสัปดาห์เข้ าปรากฏว่า โจ๊ กมาม่า เข้ ามาวางในชันแทน ้ ด้ วยความจะเชื่อมโยงวนิยาก็เลยหันไปดูชนบะหมี ั้ ่ กึ่งสาเร็ จรูปที่มาม่าครองแชมป์อยู่บ้าง พอสังเกตดีๆแล้ ว ใต้ ชนวางถ้ ั้ วยบะหมี่คพั ก็มีถ้วย "วุ้นเส้ นคัพ" สองสาม รสชาติวางอยูด่ ้ วย และ "วุ้นเส้ น" จะเป็ นของแบรนด์อะไรไปไม่ได้ นอกจาก "ตราเกษตร" แล้ วข้ างๆวุ้นเส้ นคัพตรา เกษตรวนิยาก็ค้นพบ "โจ๊ กเกษตร" ในที่สดุ ! (โจ๊ กเกษตรยังไม่ตาย!)..ดีใจแทบน ้าตาไหล วนิยาซื ้อโจ๊ กเกษตรและซื ้อ "วุ้นเส้ นคัพ" กลับมาลองกินที่บ้าน "วุ้นเส้ น" เป็ นอาหารกึ่งสาเร็ จรู ปที่เป็ นภูมิปัญญา ดังเดิ ้ มอยูแ่ ล้ ว(รึเปล่านะ) ไม่ต้องทาอะไรแค่ลวกน ้าร้ อนเส้ นก็นิ่มพร้ อมกินได้ แถมยังเป็ นอาหารสุขภาพ สาหรับ คนลดความอ้ วนและกินแทนข้ าวป้องกันเบาหวานขณะเดียวกันก็ให้ พลังงานอีกด้ วย เป็ นผลิตภัณฑ์ประเภท อาหารจากการเกษตรที่มีประโยชน์ แล้ ว "วุ้นเส้ นตราเกษตร" ยังเป็ น Top of Mind ในใจของวนิยา คือถ้ าจะซื ้อวุ้น เส้ น ก็ต้องนึกถึงตราเกษตรเท่านัน้ ปราศจากคู่แข่งทางด้ านแบรนด์ทงๆที ั ้ ่ไม่ได้ โฆษณาเลย นอกจากวุ้นเส้ นแล้ ว ตอนเด็กๆวนิยายังชอบกินถัว่ เขียวต้ มน ้าตาลที่แม่ทาให้ ถัว่ เขียวสาหรับต้ มน ้าตาลโดยเฉพาะจะเป็ นตราอะไรไป ไม่ได้ นอกจากตราเกษตร แล้ ววนิยาก็เกิดความคิดว่า ถ้ าวนิยามีทศั นคติต่อแบรนด์เกษตรดีขนาดนี ้ วนิยาก็น่าจะขอตราเกษตรมาเป็ น สปอนเซอร์ ซื ้อที่ดินสร้ างโรงเรี ยนของวนิยาได้ อย่างบริ สทุ ธิ์ใจ แถมยังสามารถขอให้ ตราเกษตรนาองค์ความรู้ การ

รุ่งอรุณเชียงราย : โรงเรี ยนในจดหมายกับหลักสูตรปั จจัยสี่

88


ทาวุ้นเส้ นและผลิตภัณฑ์แปรรูปจากการเกษตรอื่นๆมาสอนให้ นกั เรี ยนได้ เรี ยนรู้ ตลอดจนอาจจะมาทาไร่และเปิ ด โรงงานสาธิตภาคอุตสาหกรรมการเกษตรในโรงเรี ยนของวนิยาด้ วย ซึ่งก็จะเกิดการสร้ างรายได้ จ้างงานบุคลากร ในท้ องถิ่นมาเป็ น "ครู" สาธิตการทางานภาคอุตสาหกรรมให้ ความรู้แก่นกั เรี ยนไปในตัว เมื่อนักเรี ยนเรี ยนจบแล้ ว มีความสนใจจะทาอุตสาหกรรมการเกษตรกับทางโรงเรี ยนต่อ ก็จะได้ งานทาเลยพร้ อมเป็ นครู สอนนักเรี ยนรุ่ น น้ องต่อไป ทางโรงเรี ยนสามารถทากิจการสาธิตผลิตสินค้ าทางการเกษตรขาย ในแบรนด์ใหม่เช่น "รุ่ งอรุ ณ" หรื อ จะทาในนาม "ตราเกษตร" ก็ ได้ ผลกาไรแบ่งไว้ พัฒนาโรงเรี ยนส่วนหนึ่งและแบ่งเป็ นค่าจ้ างครู หรื อพนักงาน โรงงานสาธิตส่วนหนึง่ แบ่งคืนให้ บริ ษัทที่ลงทุนร่วมกันส่วนหนึง่ ไม่มีอะไรเสียหายและไม่ทาลายสิง่ แวดล้ อมด้ วย เมื่ อ มี แ รงบั น ดาลใจแล้ ววนิ ย าก็ ห าข้ อมู ล จาก link ที่ ต ราเกษตรให้ มาในฉลากบรรจุ ภั ณ ฑ์ คื อ www.kasetbrand.com พบว่าเจ้ าของแบรนด์ตราเกษตรคือ บริ ษัท ไทยฮา จากัด (มหาชน) ซึ่งนอกจากจะทา ข้ าวหอมมะลิ โจ๊ กกึ่งสาเร็ จรู ป ถัว่ เขียวและถัว่ ต่างๆ ในตราเกษตรแล้ ว ยังมีน ้ามันพืชตราองุ่นด้ วย วนิยารู้ สกึ ว่า สิน ค้ า ที่ บ ริ ษัท ไทยฮาผลิต นัน้ เป็ นสิน ค้ า ที่ จาเป็ นอยู่ในหมวดปั จจัย 4 และต้ อ งมี ค วามรู้ พร้ อมเทคโนโลยี ที่ เหมาะสมเท่านันถึ ้ งจะผลิตเพื่อขายได้ ต้ องลองคิดดูว่าถ้ าไม่มีโรงงานสกัดน ้ามันพืช แล้ วคนไทยสมัยก่อนเอา น ้ามันพืชมาจากไหน บริ ษั ท ไทยฮาไม่ มี ค วามลับ อะไรในการผลิ ต วุ้น เส้ น มี ก ารน าเสนอในเว็ บ ( http://www.kasetbrand.com/ production_vermicelli.html) อย่างโปร่ งใส และในรายชื่อกรรมการตรวจสอบ (http://www.kasetbrand.com/ ir_board.html) มีคณ ุ "ดนัย จันทร์ เจ้ าฉาย" อยู่ด้วย ทาให้ วนิยาวางใจมากๆว่า บริ ษัทนี จ้ ะเป็ น "ธุรกิจสีขาว" ที่ดี สมกับที่มีคณ ุ ดนัย มาเป็ นกรรมการอิสระและกรรมการตรวจสอบค่ะ (ดูเพิ่มเติมท้ ายอีเมลฉบับนี ้) 29 มกราคม 2557 วนิยาเกิดไอเดียร่างอีเมล "อรุณวุ้นเส้ น" ฉบับนี ้ขึ ้น แต่ยงั ไม่ได้ เขียนเพราะด้ วยข้ อมูลที่เพิ่งได้ มา กับแรงผลักดันใน ตัวที่มากกว่า วนิยาจึงเข้ าเน็ตไปทวีตถึง คุณดนัย จันทร์ เจ้ าฉาย ว่า "สนใจบริ ษัทไทยฮาร่วมซื ้อที่ดินสร้ างโรงเรี ยน และสาธิ ตอุตสาหกรรมเกษตรที่เชียงรายในอีก 2-3ปี ข้ างหน้ า ขออีเมลค่ะ" แล้ วตอนเย็นคุณดนัยก็ส่ง direct message อีเมลเลขาคุณสมฤกษ์ มาให้ พร้ อมทวีตติดรู ปถ่าย "คุณสมฤกษ์ ประธานบริ ษัทไทยฮา มอบข้ าวหอม มะลิใหม่ 100% ตราเกษตร เนื่องในวันตรุ ษจีน .. ขอให้ ข้าวหอมมะลิ โจ๊ ก วุ้นเส้ นตราเกษตรอยู่ในหัวใจคนไทย ตลอดไป" แถมคุณดนัยยัง comment ในเฟซบุ๊กของตัวเองว่า "ชื่นชมความกตัญญูของครอบครัวนี ้ครับ เจ้ าของ ธุรกิจตราเกษตร ทาธุรกิจด้ วยความซื่ อสัตย์ ตรงไปตรงมา เป็ นแบรนด์ไทยที่น่าสนับสนุน" ได้ เห็นคนมาเยี่ยม เยียน page บอกว่าชอบโจ๊ กเกษตรเพราะไม่ใส่ผงชูรสและไม่เค็มอย่างยี่ห้ออื่น ตามที่วนิยาชอบด้ วย วนิยาแอบ ประทับใจในน ้าใจของคุณดนัยมาจนถึงตอนนี ้ เย็นวันนัน้ วนิยาไม่รีรอที่จะร่างจดหมายและส่งอีเมลถึงเลขาคุณสมฤกษ์ แห่งบริ ษัทไทยฮาทันที ทังหมดที ้ ่กล่าวมาคือที่มาของอีเมล "อรุณวุ้นเส้ น" ฉบับนี ้ค่ะ

89

รุ่งอรุณเชียงราย : โรงเรี ยนในจดหมายกับหลักสูตรปั จจัยสี่


-------------------ภาคผนวก http://www.roong-aroon.ac.th/index.php?option=com_content&view=article&id=141&Itemid=195&showall=1

โรงเรี ยนรุ่งอรุณ : เงินทุน การสนับสนุนจากกลุม่ บุคคลต่างๆ เบญจภาคี คือ มิติใหม่แห่งความร่ วมมือกันระหว่างมูลนิธิเพื่อสังคมกับภาคธุรกิจและการเงิ น ในการที่จะลงทุน เพื่อความดีเป็ นสัญลักษณ์แห่งรุ่งอรุณของความร่วมมือของภาคต่างๆในสังคม เพื่อความเจริ ญ ทางปั ญญา โดย เป็ นการลงทุนที่ไม่หวังผลกาไรเข้ าสูอ่ งค์กร แต่หวังผลกาไรเข้ าสูส่ งั คม ซึง่ เบญจภาคี นี ้ประกอบด้ วย 1. มูลนิธิสดศรี - สฤษดิ์วงศ์ โดย ศ.นพ.ประเวศ วะสี 2. สานักงานกองทุนสนับสนุนการวิจยั (สกว.) โดย ศ.นพ.วิจารณ์ พานิช 3. บริ ษัทเงินทุนหลักทรัพย์ธนชาติจากัด (มหาชน) โดยคุณบันเทิง ตันติวิท 4. บริ ษัทบางจากการปิ โตรเลียมจากัด (มหาชน) โดยคุณ โสภณ สุภาพงษ์ 5. กลุม่ บริ ษัทแปลน โดยคุณธีรพล นิยม คณะผู้ก่อตัง้ โรงเรี ยนรุ่ งอรุ ณ หรื อเบญจภาคี ได้ เรี ยนเชิ ญ ศ.นพ.ประเวศ วะสี เป็ น ประธานคณะกรรมการ โรงเรี ยน โดยมี คณะกรรมการโรงเรี ยนชุดแรก ดังนี ้ 1. ศ.นพ.วิจารณ์ พานิช 2. คุณบันเทิง ตันติวิท 3. คุณโสภณ สุภาพงษ์ 4. คุณธีรพล นิยม 5. รศ.ประภาภัทร นิยม ซึง่ คณะกรรมการโรงเรี ยนได้ ลงความเห็นร่วมกันว่า เพื่อให้ โรงเรี ยนแห่งนี ้เป็ นสมบัติของสังคมไทย มิใช่ของกลุม่ ใดกลุม่ หนึง่ หรื อ ของกลุม่ ผู้ก่อตัง้ เพื่อให้ โรงเรี ยนนี ้เป็ นโครงการนาร่องในการจัดการศึกษาที่ดีที่สดุ และขยายผล สูโ่ รงเรี ยนอื่นๆทังรั้ ฐและเอกชน อันถือเป็ นยุทธศาสตร์ ทางปั ญญาแห่งชาติ ที่จะแก้ ไขวิกฤตการณ์ทางการศึกษา ของชาติ โรงเรี ยนรุ่ งอรุ ณควรมีลกั ษณะเป็ นองค์กรที่ไม่แสวงกาไร หรื อ NOT FOR PROFIT ORGANIZATION ซึง่ หมายถึง องค์กรที่กระทากิจการที่สามารถมีรายได้ และเกิดผลกาไรได้ แต่ผลกาไรนันไม่ ้ ได้ ปันผลไปเป็ นโภค ทรัพย์ส่วนบุคคล หรื อ นิติ บคุ คลที่เป็ นผู้ถือหุ้น หากนาไปใช้ เพื่อพัฒนาภารกิจของกิจการอันหมายรวมถึงผู้คน ทรัพยากรต่างๆ ระบบงานและอื่นๆ ที่จะทาให้ ภารกิจและกิจการนันเจริ ้ ญก้ าวหน้ ายัง่ ยืนต่อไปได้

รุ่งอรุณเชียงราย : โรงเรี ยนในจดหมายกับหลักสูตรปั จจัยสี่

90


http://www.thaipost.net/sunday/100313/70678 "ทาเกษตร" แบบพุทธเศรษฐศาสตร์ ไทยโพสต์ : สิง่ แวดล้ อม Sunday, 10 March, 2013 "ปูนอินทรี ย์" ช่วยท่าน ว. ในฐานะที่เป็ นศูนย์วิปัสสนาสากล มีการเปิ ดสอนวิปัสสนากรรมฐานเดือนละ 2 ครัง้ นอกจากนี ้ยังเป็ น สานักงานการเผยแผ่พระพุทธศาสนาเชิงลึก เชิงรุ ก ทัง้ แก่ชาวไทยและชาวต่างชาติที่สนใจใฝ่ รู้ พระพุทธศาสนา ทังภาคทฤษฎี ้ และภาคปฏิบตั ิ ทังที ้ ่มาเป็ นกลุม่ และเป็ นรายบุคคล ในปี หนึ่งๆ มักมีญาติโยมมาเยี่ยม "ไร่ เชิญตะวัน" นับแสนๆ คน โดยเฉพาะช่วงปี ใหม่ที่มีกิจกรรมสวด มนต์ข้ามปี มีคนมาร่ วมกิจกรรมถึง 5,000 คน ปั ญหาอย่างหนึ่งที่ประสบก็คือ ห้ องน ้าไม่เพียงพอกับปริ มาณคน จานวนมากๆ ด้ วยเหตุนี ้ ทาง บริ ษัท ปูนซิเมนต์ นครหลวง จากัด (มหาชน) ภายใต้ แบรนด์ "ปูนอินทรี ย์" จึง สนับสนุนด้ วยการมอบปูนซิเมนต์ ในการทาห้ องน ้าใหม่ให้ กบั สานักวิปัสสนาแห่งนี ้ นอกจากนี ้ ยังจัดการปูทางเดินรอบอาคารที่แสดงธรรมและต้ อนรับญาติโยมของท่าน ว.วชิรเมธี ที่เดิมปู ด้ วยไม้ คอนวู้ด ซึง่ เป็ นผลิตภัณฑ์หนึง่ ของบริ ษัท ปูนซิเมนต์นครหลวง แต่เกิดปั ญหาขึ ้น ช่างพื ้นเมืองไม่เข้ าใจการ ปูไม้ ชนิดนี ้ ว่าต้ องตีคานไม้ คอ่ นข้ างถี่ เว้ นระยะห่างไม่เกิน 30 เซนติเมตร เพราะหากตีคานห่าง ไม้ ค อนวู้ดที่เป็ น ส่วนผสมของไม้ กบั ปูนซิเมนต์มีความยืดหยุน่ น้ อยกว่าไม้ จริ ง จะเกิดการแตกหัก ดังนัน้ ทางปูนอินทรี ย์จึงจัดการรื อ้ และจัดการปูทางเดินขึ ้นใหม่อย่างถูกต้ องตามคุณลักษณะการใช้ งาน ของไม้ ชนิดนี ้ ในพื ้นที่ 250 ตารางเมตร โดยใช้ งบประมาณทังสิ ้ ้น 500,000 บาทในการดาเนินงาน เพื่อมอบให้ กบั ทางศูนย์วิปัสสนาสากล โดยมีทา่ น ว.วชิรเมธี เป็ นผู้รับมอบ รวมทังทางปู ้ นอินทรี ย์ยงั มีโครงการที่จะจัดสร้ างห้ องน ้าใหม่ให้ กบั ทางไร่ เชิญตะวันเพิ่มเติมอีก เพื่อให้ ญาติโยมที่มานัง่ วิปัสสนามีความสะดวกสบายระหว่างปฏิบตั ิธรรม.

โฆษณาและกิจกรรมทางการตลาดของ "ตราเกษตร" http://www.youtube.com/user/kasetbrand/videos บริ ษัทที่ปรึกษาการประชาสัมพันธ์ การบริ หารองค์กรวิถีพทุ ธ http://www.dcconsultants.co.th/site/people/danai.html http://www.dcconsultants.co.th/site/company/index.html จากวนิยาถึงคุณดนัย วนิยารู้ จกั คุณดนัยครัง้ แรกจากหนังสือ White Ocean Strategy โดยวนิยาเคย download มาเก็บไว้ ตงแต่ ั ้ สมัย เรี ยนปี 2552 เรี ยนจบแล้ วไปซื ้อมาเมื่อปี 2553 ตังปณิ ้ ธานว่าจะอ่านในปี 2554 ที่วนิยาประทับใจมากเพราะ เขียนไว้ ในทวิตเตอร์ วา่ จะอ่านอะไรบ้ างเพื่อทาโครงการ Tutorialsกวดฯ แล้ วคุณดนัย @dc_danai มาแสดงความ

91

รุ่งอรุณเชียงราย : โรงเรี ยนในจดหมายกับหลักสูตรปั จจัยสี่


เป็ นห่วงว่าจะอ่านหนังสือน้ อยไปหรื อไม่และให้ กาลังใจในการอ่านต่อไป แต่จนแล้ วจนรอด(ย้ ายบ้ านไปๆมาๆ)ก็ เพิ่งได้ อา่ นจากในเว็บจบเมื่อวานนี ้ค่ะ http://issuu.com/dmgbooks/docs/white_ocean_strategy_thai ในหนังสือจะบอกถึงองค์ประกอบคือการทาธุรกิจโดยคานึงถึง People Planet Profit Passion และมีคาแปลกๆ เช่น มิจฉามาร์ เก็ตติ ้ง-สัมมามาร์ เก็ตติ ้ง หลุดมาบ้ าง แต่เป็ นที่เข้ าใจได้ บอกตามตรงว่าวนิยาเคยเข้ าใจคุณดนัย ผิดเพราะชื่อสานักพิมพ์ DMG ไปคล้ ายกับชื่อช่องโทรทัศน์ DMC ก็เลยทาตัวห่างๆคุณดนัยด้ วยนึกว่าคุณดนัยจะ มากับธรรมกาย ในตอนนี ้วนิยาหาข้ อมูลชัดเจนแล้ ว ต้ องขออภัยด้ วยที่วนิยาเข้ าใจผิดไปไกลโข ตามความเห็น ของวนิยาแล้ วแนวคิดของคุณดนัยแม้ จะเป็ นวิถีพทุ ธแต่ก็มีความเป็ นสากล แม้ จะมีความเป็ นนามธรรมแต่ก็เป็ น นามธรรมที่น้อมนามาปฏิบตั ิได้ ง่าย อีกประการที่วนิยาต้ องขออภัยคุณดนัยก็คือเรื่ อง D Ambassador ซึ่งได้ ทราบข่าวจาก ดร.ป๊ อบ แต่วนิยาไม่ได้ ติดตามรายการทางโทรทัศน์เพราะต้ องทางานพิเศษทุกวันเสาร์ พอดี เมื่อได้ ไปร่ วมงาน สคบ. เมื่อปี 2554 เจอคุณดนัยมาประกาศเชิญชวนให้ เข้ าร่ วม Season2 ก็เลยเข้ าไปหาข้ อมูลใน เว็บไซต์แต่ไม่เข้ าใจวัตถุประสงค์ของโครงการว่าทาแล้ วจะได้ อะไรจึงทวีตถามคุณดนัยไปตรงๆแรงๆ ตอนนัน้ เข้ าใจว่าคุณดนัยก็ตกใจอยู่เหมือนกัน แต่ก็ยงั ใจดีเอาเพลง "เจ็บกว่าไม้ เรี ยว" ของวนิยาไปเผยแพร่ ต่อในทวิต เตอร์ ให้ ด้วย อย่างไรก็ตาม ในครัง้ นี ้วนิยาอ่านข้ อมูลเรื่ องวัตถุประสงค์ของโครงการ D Ambassador ในเว็บของ Season2 เข้ าใจมากขึน้ แล้ วและเห็นดีเห็นชอบด้ วยกับการสนับสนุนพื ้นที่ให้ เยาวชนแสดงออกในทางที่ดีค่ะ http://www.do-d-club.com/web/display/content/page/objective และอีกครัง้ ที่ทาให้ วนิยาเชื่อมัน่ ในคุณภาพของ D Ambassador มากขึ ้น แม้ จะยังไม่ได้ เข้ าไปชมรายการโทรทัศน์ ย้ อนหลังก็คือ ข้ อมูลงานระพีเสวนาครัง้ ที่ 6 "สือ่ เพื่อโอกาสสูก่ ารเปลี่ยนแปลง" (Media for Chance to Change) ที่ได้ บริ ษัท DC Consultantsฯ ของคุณดนัยมาดาเนินการเวที 1 "พลังเยาวชนสื่อสีขาว" โดยมีผ้ ูเข้ าร่ วมเช่น สถาบันการ์ ตนู ไทย บริ ษัทกันตนา มูลนิธิบ้านอารี มูลนิธิสอื่ ชาวบ้ านคณะละครมะขามป้อม "โครงการเยาวชนทูต ความดี" และกลุม่ ปิ๊ ง:เยาวชนคนทาสือ่ จากโรงเรี ยนรุ่งอรุณ http://www.arsomsilp.ac.th/index.php?option=com_content&view=article&id=394 ข้ อมู ล จากงานนี ท้ า ให้ วนิยาได้ ร้ ู ว่า ทางสถาบันอาศรมศิลป์ และโรงเรี ยนรุ่ งอรุ ณ ก็ให้ ความเชื่อมั่ นในผลลัพธ์ ของ D Ambassador (โครงการเยาวชนทูตความดี) ในบริ ษัท DC และในตัวคุณดนัยด้ วยพอสมควร ทาให้ วนิยาสามารถสลัดอคติ ทลายความสงสัย ความคลางแคลงออกไปจากใจได้ ทงหมด ั้ และพร้ อมที่จะเรี ยนรู้ แนวคิด แนวทางการทาธุรกิจ ในแบบวิถีพทุ ธของคุณดนัย ให้ เข้ าใจกระจ่างแจ้ งมากขึ ้นกว่าเดิมค่ะ ข้ อมูลคุณดนัย http://dc-danai.com/?page_id=2 ดนัย จันทร์ เจ้ าฉาย ผู้ก่อตัง้ บริ ษัท ไดเร็ ค มีเดีย กรุ๊ ป (ประเทศไทย) จากัด หรื อ สานักพิมพ์ดีเอ็มจี ตังแต่ ้ ปี พ.ศ. 2536 และเป็ นผู้ผลักดันให้ หนังสือธรรมะเป็ นที่นิยมในหมูน่ กั อ่านอย่างกว้ างขวาง ดนัยยังเป็ นทังนั ้ กคิด นักเขียน หนังสือ นักจัดรายการวิทยุ นักบรรยาย นักบริ หารการตลาดและประชาสัมพันธ์ที่ปลูกฝั งแนวคิดธุรกิจสีขาว และ การสื่อสารบนพื ้นฐานของความเป็ นจริ ง ต้ นแบบการประชาสัมพันธ์ ที่ม่งุ เน้ นเรื่ องคุณธรรมจริ ยธรรมอย่างเป็ น รูปธรรม ขยายผลอย่างกว้ างขวางในสังคมทุกภาคส่วน ดนัยดารงตาแหน่งประธานเจ้ าหน้ าที่บริ หาร บริ ษัท ดีซี คอนซัลแทนส์ แอนด์ มาร์ เก็ตติ ้ง คอมมูนิเคชัน่ ส์ จากัด บริ ษัทที่ปรึกษาการประชาสัมพันธ์ ชนน ั ้ าของประเทศไทย

รุ่งอรุณเชียงราย : โรงเรี ยนในจดหมายกับหลักสูตรปั จจัยสี่

92


ที่เ น้ น เรื่ อ งธุ รกิ จ สีข าว (White Ocean Strategy) และการสื่อสารบนพื น้ ฐานของความจริ ง (Dharma Communications) เป็ นต้ นแบบของการประชาสัมพันธ์ ที่มุ่งเน้ นเรื่ องคุณธรรมจริ ยธรรมอย่างเป็ นรู ปธรรม สร้ างสรรค์ผลงานมากมายที่เปลีย่ นแปลงสังคม อาทิ โครงการเมาไม่ขบั สังคมสีขาว การศึกษาและปฏิบตั ิธรรม การนาวิถีพทุ ธมาใช้ ในการบริ หารองค์กร การขับเคลื่อนงานด้ าน (iSR) Individual Social Responsibility และ ล่าสุด รายการเรี ยลลิตี ้ความดีครัง้ แรก D Ambassador ทางสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสชี ่อง3 http://www.komchadluek.net/detail/20110119/85970/เรี ย ลิ ตี ท้ ู ต ความดี ข ยายเมล็ ด พัน ธุ์ ดี ! ทั่ว ประเทศ. html#.UwykvoXIlzs http://www.chiangmainews.co.th/page/?p=73489 โครงการ “ทูตความดีแห่งประเทศไทย D Ambassador” เป็ นกิจกรรมสาคัญในโครงการ “คนไทยหัวใจสีขาว” ซึ่ง เป็ นความร่วมมือขององค์กรภาครัฐและเอกชน นาโดยสานักงานกองทุนสนับสนุนการสร้ างเสริ มสุขภาพ (สสส.) กระทรวงวัฒนธรรม สถาบันวิมตุ ตยาลัย (ว.วชิรเมธี) สานักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา สถาบันธุรกิจเพื่อ สังคม (CSRI) ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สภาเด็กและเยาวชนแห่งประเทศไทย สหพันธ์ เยาวชนคนหนุ่ม สาวเพื่อสันติภาพโลก (ประเทศไทย) ยุวพุทธิ กสมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ บริ ษัทวิริยะ ประกันภัย สานักพิมพ์ดีเอ็มจี บริ ษั ท ดีซี คอนซัลแทนส์ฯ และองค์การภาคีสีขาวกว่า 300 องค์กร เพื่อส่งเสริ ม สนับสนุนการทาความดีของทุกรูปแบบของเด็กและเยาวชนทุกคนทัว่ ประเทศ โดยยึดหลักแนวคิดที่วา่ ความดี ยิ่ง พูด ยิ่งทา ยิ่งมีพลัง และส่งเสริ มให้ เป็ นสังคมแห่งความดีอย่างยัง่ ยืน http://m.thaihealth.or.th/healthcontent/special_report/27446 ปั จจุบนั มีขา่ ว "ทูตความดี" ชวน "แก๊ งซามูไร" ทาความดีด้วย สุดยอดค่ะ http://news.bugaboo.tv/watch/107142/คอลัมน์หมายเลข_7_พลิกชีวิตเครื อข่ายแก๊ งซามูไร1.html http://news.bugaboo.tv/watch/107368/คอลัมน์หมายเลข_7_พลิกชีวิตเครื อข่ายแก๊ งซามูไร2.html http://news.bugaboo.tv/watch/107567/คอลัมน์หมายเลข_7_พลิกชีวิตเครื อข่ายแก๊ งซามูไร3.html

93

รุ่งอรุณเชียงราย : โรงเรี ยนในจดหมายกับหลักสูตรปั จจัยสี่


อเรนเว้ นสุ้น (อรุณพิฆรำส)‫‏‬ 5 มีนาคม 2557 สวัสดีคะ่ อีเมลฉบับนี ้นอกจากวนิยาจะตังชื ้ ่อผวนจากอีเมลฉบับก่อน "อรุณวุ้นเส้ น" เพื่อบ่งบอกว่าเป็ นการคิดย้ อนทางเดิม กลับบ้ านแล้ ว ยังเกือบจะต่อวงเล็บเป็ น "อเรนเว้ นสุ้น (อรุ ณเอวัง)" เพื่อบ่งบอกว่ารุ่ งอรุ ณแห่งกา รเขียนอีเมล เพื่อการศึกษาของวนิยาได้ ดาเนินมาถึงตอนที่ต้องจากลากันแล้ ว ยังค่ะ..วนิยายังไม่ไปไหน เพียงแต่ต่อจากนี ้ไป วนิยาคงไม่มีสทิ ธิ์ใช้ คาว่า "อรุณ" มานาหน้ าชื่ออีเมลฉบับใดๆเกี่ยวกับหลักสูตรการศึกษาหรื อโรงเรี ยนทางเลือก ของวนิยาอีกแล้ ว ไม่ใช่เพราะว่าโรงเรี ยนรุ่ งอรุ ณ original เขามาทวงลิขสิทธิ์หวงห้ ามตังชื ้ ่อซ ้าหรอกค่ะ แต่เป็ น เพราะวนิยาไม่อาจกล่าวได้ อีกต่อไปว่าโรงเรี ยนหรื อหลักสูตรการศึกษาที่วนิยาเขียนจะสอดคล้ องเหมาะสมกับ การใช้ ชื่อเป็ น "เงา" ของโรงเรี ยนย่านบางขุนเทียนอันประเสริ ฐแห่งนี ้ เรื่ องราวของ "โรงเรี ยนรุ่ งอรุ ณเชียงราย" ได้ ด าเนิ น มาจนถึ ง ยามสาย และยัง จะด าเนิ น ต่ อ ไป แต่ ก ารต้ องสลัด คราบ "เงา" ที่ บ ดบั ง อยู่ อ อก ท าให้ วนิยาตังชื ้ ่ออีเมลฉบับนี ้ว่า "อรุ ณพิฆราส" ด้ วยเนือ้ หาอย่างความฝั นที่ "เป็ นหมันกลางอากาศ" เปรี ยบได้ กับ "สุริยคราส" ตังแต่ ้ เช้ าตรู่ ซึ่งย่อมจะสาแดงเดช "พิฆาต" ให้ ใครๆสะดุดใจเล่นน่าเอ็นดู ก่อนที่จะหมุนตัวคืบย่างสู่ ท้ องนภาเพื่อส่องแสงทีละนิด อีกครัง้ .. อีเมลฉบับนี ้จะบันทึกความคิดแบบนับถอยหลัง จากเวลา 7 วัน เมื่อดวงอาทิตย์ขยิบตา! . 19 กุมภาพันธ์ 2557 : ตอนแพ็กกระเป๋ าจากกรุงเทพมาเชียงราย วนิยาหยิบหนัง สือจานวนหนึ่งติดมาด้ วย เพราะอยากจะเคลียร์ บญ ั ชี หนังสือที่ยงั อ่านไม่จบให้ หมดก่อนย้ ายเข้ าบ้ านใหม่ จากสปี ดการอ่านสถิติใหม่ที่ได้ มาตอนฝึ กอ่านกับนิยาย The White Road ภาค1 เวอร์ ชนั่ ดังเดิ ้ ม ก็ทาให้ วนิยาจัดการหนังสือหมดไปได้ หลายเล่ม ไม่วา่ จะเป็ นหนังสือเล่ม หนาขนาดไหนก็ไม่เหนื่อยไม่ท้อ ในวันนี ้วนิยาหยิบหนังสือ "การวิจยั เพื่อปฏิบตั ิการทางสังคม" โดยภาควิชาศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ที่ แม่ยกให้ วนิยาเมื่อกลางปี 2554 มาจัดการ เป็ นหนังสือเล่มเล็กๆที่ดเู หมือนง่าย แต่เนื ้อหาข้ างในเป็ นวิชาการ ล้ วนๆ ซึ่งเมื่อปี 2554 วนิยาเคยเปิ ดอ่านมาแล้ ว แต่การอ่านในครัง้ นันท ้ าได้ ยากมาก พยายามโดยใช้ ดินสอขีด เส้ นเน้ นคาช่วยก็ยงั เข้ าใจไม่หมด อ่านไปได้ เพียง12 หน้ า หนังสือเล่มนี ้ก็ถกู ทิ ้งไว้ ใต้ กองหนังสือตลอดมาทังที ้ ่เป็ น หนังสือเล่มเล็กนิดเดียว

รุ่งอรุณเชียงราย : โรงเรี ยนในจดหมายกับหลักสูตรปั จจัยสี่

94


เมื่ อ ท าใจว่ า จะสู้ย าขมได้ แ ล้ ว วนิ ย าจึ ง เปิ ดหนัง สือ เล่ ม นี อ้ ่า นอี ก ครั ง้ แล้ ว ก็ ต้ อ งประหลาดใจเมื่ อ ยาขมที่ จินตนาการไว้ ว่าจะยากเหลือหลายนัน้ กลายเป็ นขนมหวานกรุ บกรอบ วนิยาพบว่าข้ อความที่ตวั เองเคยขีดเส้ น เน้ นเอาไว้ นนเป็ ั ้ นแค่สว่ นเกริ่ นนาที่ไม่ใช่ใจความสาคัญของเนื ้อหาบทความ พบว่าย่อหน้ าที่เคยพยายามทาความ เข้ าใจแต่ไม่เข้ าใจสักทีตอนนี ้กลับวิเคราะห์ได้ ทะลุปรุ โปร่ ง รู้ ว่าส่วนไหนคือส่วนสาคัญที่ผ้ เู ขียนต้ องการสื่อ และ ส่วนไหนคือส่วนเสริ มหรื อเขียนไว้ เพื่อให้ ครบองค์ประกอบในหลักการนาเสนอทางวิชาการเท่านัน้ เมื่อหยุดพักหลังอ่านจบไปหลายบทความ วนิยาตังข้ ้ อสงสัยในตัวเองว่า ทังที ้ ่ไ ม่ได้ ไปเรี ยนต่อหรื อทางาน ทาไม ทักษะการอ่านของวนิยาถึงพัฒนาจากหน้ ามือเป็ นหัวไหล่ได้ ขนาดนี ้ เวลา 3 ปี จากครัง้ นันถึ ้ งวันนี ้ วนิยาใช้ ทาอะไร? . 20 กุมภาพันธ์ 2557 : ตังแต่ ้ หาข้ อมูลโรงเรี ยนรุ่งอรุณแล้ วเปิ ดเว็บไซต์ของโรงเรี ยนรุ่งอรุณทิ ้งไว้ จากกลางเดือนมกราคม วนิยาไม่เคยปิ ด คอมพิวเตอร์ โน้ ตบุ๊กเลย จะพับไว้ ตลอด เพราะข้ อมูลที่โรงเรี ยนรุ่งอรุณใส่ไว้ ในเว็บไซต์นนเยอะและยาวมากกกกก ั้ จากที่เสียบปลัก๊ ค้ างไว้ ในห้ องนอนบ้ านป้าที่กรุ งเทพ พับขึ ้นเครื่ องบินมาเสียบปลัก๊ ต่อที่เชียงราย ก็ยงั อ่านไม่จบ ถึงวันนี ้เมื่อทยอยอ่าน "แนวคิดการศึกษาวิถีพทุ ธ" ที่มีถึง 3 แนวทางจากบูรพาจารย์ 3 ท่าน ขนาดยาว 3 page จนจบสิ ้นกันไปแล้ ว ในที่สดุ วนิยาก็ copy เนื ้อหาใน page ที่เหลือออกมา print จัดหน้ าจัดตัวหนังสือให้ กะทัดรัด อ่านออกแล้ วก็ได้ เนื ้อหามา 32 หน้ า A4 นัง่ อ่าน.. http://www.roong-aroon.ac.th/?page_id=1863 ความเป็ นมาแห่งรุ่งอรุณ (27 มกราคม 2553) "รุ่ งอรุ ณของการศึกษา (บุพนิมิตแห่งมรรค) เป็ นชุดองค์ธรรม 7 ประการ เป็ นแสงเงินแสงทองของชีวิตที่ดีงาม เหมือนดัง่ ลาแสงที่กระจายรัศมีเป็ นสีทงั ้ 7 อันมีองค์ประกอบ คือ 1.กัลยาณมิตตตา 2.สีลสัมปทา 3.ฉันทสัมปทา 4.อัตตสัมปทา 5.ทิฏฐิ สมั ปทา 6.อัปปมาทสัมปทา 7.โยนิโสนมสิการสัมปทา.." ใช้ ชื่อโรงเรี ยน "รุ่งอรุณเชียงราย" มาก็นาน เพิ่งเข้ าใจความหมายของชื่อ "รุ่งอรุณ" ก็วนั นี ้ http://www.roong-aroon.ac.th/?page_id=1954 การศึกษาแนวพุทธในโรงเรี ยนรุ่งอรุณ (28 มกราคม 2553) "การปรับปรุงหลักสูตรการศึกษาขันพื ้ ้นฐาน 12 ปี ของโรงเรี ยนรุ่งอรุณ.."

95

รุ่งอรุณเชียงราย : โรงเรี ยนในจดหมายกับหลักสูตรปั จจัยสี่


โอ้ วบร๊ ะก้ อด.. การเรี ยนการสอนในโรงเรี ยนรุ่ งอรุ ณจะบูรณาการหลายๆวิชาเข้ าด้ วยกันแล้ วเรี ยนไปทีเดียว เรี ยนเทอมละวิชา ใหญ่ๆต่อเนื่องกันไปจนหมดเทอม เรี ยนรู้จากการลงมือทา แล้ วกลัน่ เอาทุกอย่างที่ได้ จากในเทอมนันมาน ้ าเสนอ ในงาน "หยดน ้าแห่งความรู้ " มีแบบฟอร์ มแผนการสอนการประเมินให้ ดดู ้ วย เพื่อนที่จบจากรุ่ งอรุ ณเล่าว่า ครู จะ ประชุมกันคร่ าเคร่ งก่อนเปิ ดเทอมเพื่อที่จะจัดการเรี ยนการสอนในแต่ละเทอมให้ บรู ณาการร่ วมกันแบบ เนียน สนิท ให้ ได้ วนิยายังไม่เห็นความสาคัญของบุพนิมิตแห่งมรรค ไม่อินกับคาว่า"หยดน ้า"แห่งความรู้ แล้ ววนิยาจะเป็ นครูที่นี่ไหวไหม.. ในเมื่อวนิยามีหลักสูตรบนฐาน ปั จจัย 4-ภาวนา4 ที่ออกแบบขึ ้นมาอยู่ในมือแล้ ว มีแนวทางการจัดการเรี ยนการ สอนในแบบของตัวเองแล้ ว วนิยาอยากจะนาหลักสูตรของตัวเองมาปรับใช้ มากกว่า แต่ถ้าจะให้ ไปเรี ยนรู้ในความ เป็ นโรงเรี ยนรุ่งอรุณอย่างเต็มที่ก่อนโดยเก็บเอาหลักสูตรการสอนที่พฒ ั นาไว้ ไปใช้ ทีหลังก็ยอ่ มได้ วนิยาเปลีย่ นชื่อโรงเรี ยนของตัวเองเป็ น "โรงเรี ยนจตุรวิทย์เชียงราย" "โรงเรี ยนจตุรวิทย์เชียงราย" มาจากชื่อหลักสูตรบนฐาน ปั จจัย4 "จตุรวิทย์" สามารถนาไปปรับใช้ ที่โรงเรี ยนไหนก็ ได้ แต่จะเริ่ ม(ทดลอง)ทาที่โรงเรี ยนของวนิยา ซึ่งตังอยู ้ ่ในพื ้นที่การเรี ยนรู้ จงั หวัด "เชี ยงราย" และหากขยายสาขา ไปเปิ ดสอนหลักสูตรนี ้ในจังหวัดอื่นๆ วนิยาก็จะใช้ "ระบบเฟรนไชส์" เก็บเงินเพื่อสนับสนุนการพัฒนาอัตลักษณ์ และหลักสูตร เป็ นรายได้ ของตัวเอง . 21 กุมภาพันธ์ 2557 : ตอนเช้ า วนิย าอ่านหนัง สือ "การวิจัยเพื่อ ปฏิบัติก ารทางสัง คม" ต่อจนจบเล่ม ชอบเนือ้ หาที่ กะทัด รั ด แต่ยิ่ งใหญ่ ของ บทความแต่ละบทในหนังสือเล่มนี ้มาก ส่วนไหนที่นา่ สนใจวนิยาจะพับมุมหน้ ากระดาษแทนการเน้ นคาเอาไว้ ซึ่ง เมื่อดูจากสันหนังสือแล้ วจะเห็นว่าถูกพับไปประมาณ 15% ของกระดาษทังหมด ้ เนื ้อหาที่วนิยาพับมุมส่วนใหญ่ เป็ นหลักการหรื อคาอธิบายของวิธีการวิจยั เชิงปฏิบตั ิการแบบมีสว่ นร่ วม (Participatory Action Research) แต่ ในบทส่งท้ ายวนิยาสนใจข้ อความหนึง่ มากจนต้ องใช้ ปากกาเน้ นคามาป้ายสีไว้ นนั่ คือ :

รุ่งอรุณเชียงราย : โรงเรี ยนในจดหมายกับหลักสูตรปั จจัยสี่

96


"..เมื่อวัตถุประสงค์ เป้าหมายและบทบาทของการวิจยั เปลีย่ นไปจากเดิม การออกแบบการวิจยั และวิธีวิทยาการ วิจยั ก็ต่างไปจากเดิมเช่นกัน ปั จจุบนั ให้ ความสาคัญกับกระบวนทัศน์เชิงวิพากษ์ (Critical Paradigm) และการ เรี ยนรู้ โดยการสร้ างความรู้ (Constructivist Paradigm) ด้ วยเชื่อว่าความรู้ นนมี ั ้ บริ บทเฉพาะ ไม่สามารถนาเอา ความรู้จากที่หนึง่ ไปใช้ กบั อีกที่หนึ่งได้ รวมทังความรู ้ ้ ที่ใช้ ได้ จริ งต้ องเกิดจากการที่มีผ้ มู ีสว่ นเกี่ยวข้ องมาถกเถียง วิพากษ์ วิจารณ์และหาทางออกร่วมกัน เป็ นความรู้ที่สร้ างขึ ้นเองและใช้ แก้ ปัญหาที่ชมุ ชนนันเผชิ ้ ญอยูร่ ่วมกัน.." การเรี ยนการสอนในโรงเรี ยนของวนิยา จะใช้ แนวคิดที่อิงอยูบ่ นฐานกระบวนทัศน์ที่วา่ นี ้ นัน่ คือนักเรี ย นต้ องเรี ยนรู้ จากการลงพื ้นที่วิจัย แล้ วฝึ กทักษะการสร้ างความรู้ ใหม่ร่วมกัน (แม้ ว่าความรู้ นนจะเป็ ั้ นเรื่ องเก่าที่อาจมีอยู่ใน ตาราแล้ วก็ตาม) จากการอ่านหนังสือเรื่ องการวิจยั เพื่อปฏิบตั ิการทางสังคม ทาให้ วนิยาตระหนักว่า พื ้นที่การเรี ยนรู้ ต่างๆ ไม่ว่าจะ เป็ นในชนบทหรื อในเมือง ยังมีช่องว่างของความรู้ ให้ นกั วิจัยทางสังคมลงพืน้ ที่ไปปฏิบตั ิการศึกษาข้ อมูลเพื่อ พัฒนาหรื อสร้ างการเปลีย่ นแปลงไปในทางที่ดีขึ ้นเสมอ ช่องว่างเหล่านี ้มีอยูม่ ากมายนับไม่ถ้วนที่จะรอให้ นกั วิจยั เข้ ามาเติมเต็ม ส่วนใหญ่จะเป็ นช่องว่างทางความรู้ที่ไม่จาเป็ นและถูกชุมชนมองข้ าม แต่หากมีการจัดการความรู้ ให้ ดีและเข้ ากับความต้ องการของชุมชนทังจากสายตาของชุ ้ มชนเองและจากสายตาของนักวิชาการคนนอกที่เข้ า มาศึกษาเพื่อช่วยพัฒนาชุมชนด้ วยความปรารถนาดีแล้ ว จะทาให้ เกิดความชัดเจนในการนาความรู้ เล็กๆน้ อยๆ (ไม่ถึงกับต้ องเป็ นภูมิปัญญา)เหล่านี ้มาประยุกต์ใช้ มากขึ ้น เกิดการปลูกฝั งนิสยั การจัดการความรู้ เพื่อชุมชนให้ เป็ นระบบระเบียบขึ ้น เป็ นประโยชน์สาหรับการพัฒนาชุมชนกับทังคนในและคนนอกต่ ้ อไป ภารกิ จ ในการลงพื น้ ที่ วิ จัย ทางสังคมสาหรั บ พื น้ ที่ การเรี ยนรู้ ต่า งๆนี ้ ท าได้ ไม่ย าก นอกจากนัก ศึกษาสาขา สังคมศาสตร์ ทวั่ ไปแล้ ว ถ้ าสอนกันให้ ดี นักเรี ยนมัธยมที่ถนัดการวิเคราะห์หรื อสถิติก็สามารถทาวิจยั ทางสังคมใน โครงการเล็กๆได้ เช่นกัน เพียงแค่ตดั เนื ้อหาในหลักสูตรเดิมที่ไม่จาเป็ นออก แล้ วเสริ มการวิเคราะห์พรรณนาสิ่งที่ พบเห็นในวิชาภาษาไทย กับสถิติเพื่อการวิจยั ในวิชาคณิตศาสตร์ แทนการท่องจาสูตรเคมีหรื อบทกวีที่จะไม่ได้ เห็นอีกเลยในชั่วชีวิตการทางานจริ ง หันมาสนับสนุนการเรี ยนรู้ จากการลงมือปฏิบตั ิจริ งด้ วยการมอบหมาย ภารกิจเล็กๆเช่นลงพื ้นที่วิจยั เก็บข้ อมูลให้ เป็ นประโยชน์ตอ่ ชุมชนที่โรงเรี ยนสังกัดอยูจ่ ะดีกว่า แล้ ววนิยาก็เกิดไอเดียในการสร้ าง ระบบกิลด์ (guild แปลว่า สมาคมวิชาชีพ) ที่รับทาเควสท์ (quest แปลว่า ภารกิจล่ารางวัล) เพื่อให้ สมาชิกทังหลายได้ ้ เลื่อนขัน้ (level) เพิ่มอานาจต่อรองและสวัสดิการในอาชีพของตน ขึ ้นมา โดยอ้ างอิงจากการ์ ตนู และเกมส์ออนไลน์แบบ RPG ทัว่ ไป ซึ่งมักจะเลียนแบบสังคมและวัฒนธรรมในยุค กลาง (medieval) ของโลกตะวันตก ในการรับเควสท์หรื อภารกิจ ที่มกั จะเป็ นการร้ องเรี ยนขอความช่วยเหลือจาก ชาวบ้ านที่ประสบปั ญหา โดยติดต่อมายังกิลด์หรื อสมาคม ทางกิลด์หรื อสมาคมจะกาหนดระดับความยากง่าย ของเควสท์หรื อภารกิจเอาไว้ ยิ่งภารกิจมีระดับสูงเท่าไร ก็จะได้ รับค่าตอบแทนในการทาภารกิจให้ สาเร็ จมากขึ ้น เท่านัน้ และยังสามารถนาผลงานไปขอเลือ่ นขันในวิ ้ ชาชีพของผู้ทาภารกิจสาเร็ จได้ อีกด้ วย

97

รุ่งอรุณเชียงราย : โรงเรี ยนในจดหมายกับหลักสูตรปั จจัยสี่


ถ้ าโรงเรี ยนรับบทบาทเป็ นกิลด์ สร้ างภารกิจหรื อเควสท์ให้ นกั เรี ยนทาเป็ นการบาเพ็ญประโยชน์ให้ กบั ชุมชนใน พื ้นที่การเรี ยนรู้แทนการสอบเพื่อเลือ่ นขันแสดงระดั ้ บความรู้ความสามารถของตน นักเรี ยนจะสามารถเรี ยนรู้ จาก ประสบการณ์ จริ งได้ ระหว่างการทาภารกิจ สามารถฝึ กฝนฝี มือค้ นคว้ าหาความรู้ ให้ กับตัวเองเพื่อนามาใช้ ให้ สามารถปฏิบัติภารกิ จสาเร็ จลุล่วงไปได้ เป็ นการเรี ยนรู้ ที่ยื ดหยุ่น อิสระ ไม่ถูกจากัดอยู่ในกรอบของการฟั ง บรรยายและแบบฝึ กหัดในห้ องเรี ยน รับทาภารกิจที่ไม่มีความเสี่ยงและสามารถทาได้ ซ ้าๆในกรณีที่คุณภาพ งานไม่ผ่านและมอบหมายให้ นกั เรี ยนรุ่ นต่อไปเข้ ามาตรวจสอบและแก้ ไขแทน โรงเรี ยนก็น่าจะศึกษา นาระบบ ของเกมส์ออนไลน์มาประยุกต์ใช้ วนิยาตังชื ้ ่อเกมส์เพื่อการศึกษารุ่นใหม่นี ้ว่า "โรงเรี ยนจตุรวิทย์ออนไลน์" ... ตอนบ่าย จากที่ได้ โทรจองที่ดินติด "ไร่เชิญตะวัน"(ของท่าน ว.วชิรเมธี) ขนาด 30ไร่ ไร่ละ 9แสนบาท (ของคนชื่อครูสงั เวียน) ไปเขียนจดหมายขอสปอนเซอร์ ซื ้อที่สร้ างโรงเรี ยนเป็ นฉบับที่ 2 อันชัดเจนและเห็นภาพมากขึ ้นแล้ ว วันนี ้วนิยาเข้ า อินเตอร์ เน็ต search หาประกาศขายที่ดินในเชียงรายเพิ่มเติม เผื่อว่าจะมีที่ดินผืนที่ใกล้ เมืองเดินทางสะดวกและ ราคาถูกกว่าผืนนี ้บ้ าง (ครัง้ ที่แล้ วใจเร็ วไปหน่อย เห็นว่าติดไร่เชิญตะวันที่กาลังเป็ นที่นิยมท่องเที่ยวของชาวกรุง มี อ่างเก็บน ้า มีรูปถ่ายสวยหน่อยก็ติดต่อขอสปอนเซอร์ เลย) ผลการค้ นหาก็มีที่ดินน่าสนใจหลายแปลง แต่เชียงราย กาลังเติบโต ที่ดินทาเลดีหน่อยก็ราคาเกินไร่ละ1ล้ านแล้ ว ไม่แน่ใจว่าสปอนเซอร์ จะเอาด้ วยหรื อเปล่า วนิยาจึงหา เฉพาะเจ้ าที่ราคาต่ากว่า แล้ วกดมือถือไล่โทรศัพท์ติดต่อผู้ขายที่ดินเป็ นรายๆไป เนื่องจากโรงเรี ยนที่วนิยาจะสร้ างนันจะมี ้ โรงสาธิตอุตสาหกรรมและแปลงสาธิตการเกษตร ที่ดินจึงต้ องมีขนาด ใหญ่พอที่จะรองรับการขยายพื ้นที่เรี ยนรู้ ตามไปด้ วย ทาเลก็ต้องอยู่ใกล้ แหล่งน ้าเพื่อที่จะสามารถทาการเกษตร ตามธรรมชาติได้ ตลอดปี ยิ่งถ้ ามีภเู ขาอยูใ่ กล้ ๆด้ วยนักเรี ยนก็จะได้ เรี ยนรู้ วิชาวนศาสตร์ และหัดอนุรักษ์ ป่าได้ โดย ไม่ต้องเหมารถโรงเรี ยนไปทัศนศึกษาบ่อยๆ วนิยากดมือถือโทรติดต่อไปเรื่ อยๆ มีที่ดินที่ขายไปแล้ วบ้ าง ที่น่าสนใจจะขอติดต่อไปทีหลังบ้ าง โทรไม่ติดบ้ าง แล้ วก็มีเจ้ าของที่ดินรายหนึง่ โทรกลับมา ท่าทางกระตือรื อร้ นที่จะขายมาก เป็ นนักทาธุรกิจท่องเที่ยว ส่งข้ อมูลมา ให้ ทางอีเมลแบบเต็มพิกดั ทังรู้ ปถ่ายทางเข้ าไปที่ดินทุกแยกทุกซอย แผนที่ google map ที่เห็นได้ ชดั ว่าอยูไ่ ม่ไกล จากไร่เชิญตะวันของท่าน ว.วชิรเมธี (แต่ไม่ติดเท่าที่เจ้ าแรก) ภาพถ่ายทางอากาศที่ยืนยันว่าอยูใ่ กล้ อา่ งเก็บน ้า 5 อ่าง ใกล้ ภเู ขาที่เป็ นสวนป่ าดอยปุยและวนอุทยานน ้าตกตาดสวรรค์ ข้ อมูลระบุว่าที่ดินอยู่บนเนินเห็นวิวได้ รอบ มีขนาด 5 ไร่ ให้ ราคา 3.85 ล้ าน แต่วา่ รี บขาย วนิยาจึงสัญญาว่าจะไปดูที่ดินภายในวันหยุดสัปดาห์นี ้

รุ่งอรุณเชียงราย : โรงเรี ยนในจดหมายกับหลักสูตรปั จจัยสี่

98


เจ้ าของที่ตอบว่า "ยินดีครับ ผมโทรศัพท์นาทางมาหลายเจ้ าแล้ ว ไม่หลงทางแน่นอน" ... ตอนเย็น สะบักสะบอมได้ ที่ในการเขียนอีเมล "อรุ ณวุ้นเส้ น" ฉบับก่อน เนื่องจากความรู้ สกึ ความประทับใจต่างๆที่เกิดขึ ้น เมื่อเกือบเดือนผ่านมาแล้ ว บ้ างก็พากันตกตะกอน บ้ างก็นอนนิ่งเป็ นเถ้ าถ่านไม่เหลือสีสนั ใดๆ มีแต่สมองสัง่ การ ให้ ถ่ายทอดตรรกะความทรงจาออกไปให้ ห มดๆเป็ นหน้ าที่ ซึ่งก็ โทษใครไม่ได้ นอกจากวนิยา ที่เ อาชี วิตการ สร้ างสรรค์ไปผูกอยู่กบั "แรงบันดาลใจ" คนสาคัญ คือ mr.Saturday ยอดมนุษย์อาจารย์ ที่ต้องทาใจว่าจะไม่ได้ เจอตัวเป็ นๆกันอีกเป็ นครัง้ สุดท้ ายของสุดท้ าย และวนิยาคงไม่มีอะไรจะเขียนให้ mr.Saturday อ่านอีกต่อไปแล้ ว เพราะคาพูดประโยคเดียวที่วา่ "ที่โรงเรี ยนรุ่งอรุณเน้ นการสอนศิลปะคงเป็ นเพราะเขาเห็นว่าศิลปะมีความสาคัญ สามารถนามาใช้ สื่อสารผลงานออกสูส่ งั คมในปั จจุบนั ได้ ดีกว่าการเขียน" ซึ่งวนิยาก็เห็นด้ วยเอามากๆ (เพราะ เหนื่อยกับการเขียนด้ วยใจรักอย่างถึงที่สดุ แล้ วไม่มีใครอ่าน) หลังจากนัน้ (18มกรา) วนิยาก็แทบจะคิดทุกอย่าง เป็ น Infographic แทนข้ อความ เพราะต้ องการตอบสนองไลฟ์ สไตล์ของนักท่องโซเชียลเน็ตเวิร์กทัว่ ไปที่สนใจ เฉพาะรูปภาพกับข้ อความสันๆ ้ และพยายามจะสือ่ สารกับ mr.Saturday ที่ติดงานฟรี แลนซ์และสอนพิเศษจนไม่ มีเวลาอ่านอีเมลยาวๆ (แต่ก็เล่าให้ ฟังได้ หมดจดหากมีโอกาส) และเมื่อยังมีโอกาส วนิยาจึงตัดสินใจผิดด้ วยการ "ไม่เขียนมันแล้ ว" นัง่ รถเมล์ไปคุยกับ mr.Saturday เลย ซึง่ ก็ได้ รับความร่วมมือจาก mr.Saturday เป็ นอย่างดี นัง่ เล่าทุกอย่างหมดเปลือกจน mr.Saturday นัง่ เขี่ยไอแพดรอก็ยงั ไม่มีใครปลีกตัวไปไหน mr.Saturday เองก็ให้ คาแนะนาทุกอย่างสมกับเป็ นโอกาสที่จะคุยกันเป็ นครัง้ สุดท้ ายจริ งๆ เมื่อขอบคุณอวยพรร่ าลากันแล้ ววนิยาก็นงั่ รถตู้กลับด้ วยความโล่งใจ แต่เป็ นความโล่งที่หารู้ ไม่ว่าเมื่อขาดผู้รับสารที่ดีอย่าง mr.Saturday ไปแล้ ววนิยาจะ ขาดพลังในการเขียนอีเมลให้ ได้ เหมือนอย่างที่ผ่านมา เพราะไม่มีคนพิเศษที่จะต้ องตังใจอย่ ้ างสุดฝี มือในการ ออกแบบการสื่อสารให้ ผ้ ูรับสารได้ อ่านอย่างมีความสุขแล้ ว มีเพียงความจาเป็ นที่จะต้ องบันทึกระบายและ รายงานสถานการณ์ทางความคิดให้ ผ้ ทู ี่เกี่ยวข้ องกับชีวิตวนิยาทราบทัว่ กันเพื่อไม่ให้ วนิยาอกแตกตายก็เท่านัน้ แต่ไม่วา่ จะเกิดปั ญหาอะไร the show ก็คง must go on ให้ ได้ .. เมื่อไม่มีเรื่ องที่จะเขียนปรึกษา mr.Saturday แล้ ว วนิยาก็ต้อง "หาแรงบันดาลใจใหม่" . 22 กุมภาพันธ์ 2557 : เป็ นวันเสาร์ ธรรมดาๆวันหนึง่ ยายเห็นใบปลิวงานบุญที่วดั เชตวันก็เลยให้ แม่พาไปหลังจากคุยงานรอบเช้ าจบใน ตอนสาย มีน้าพยอม(เจ้ าหน้ าที่คนเดียวของมูลนิธิหมอธารา)ขับรถให้ เพราะแม่ทางานมาทังคื ้ นขับไม่ไหว มีพี่นพ

99

รุ่งอรุณเชียงราย : โรงเรี ยนในจดหมายกับหลักสูตรปั จจัยสี่


พี่แม็กซ์จากสือ่ ชุมชนลุม่ น ้าโขงแห่งคอมมูนเชียงของติดรถมาให้ น้า(พ)ยอมพาไปส่งที่ขนส่งเชียงราย และมีวนิยา ที่ขอแม่ให้ พาไปดูที่ดินตามสัญญากับเจ้ าของที่ในตาบลห้ วยสัก ย่านไร่เชิญตะวันสถานที่Xท่องเที่ยวไฮโซXปฏิบตั ิ ธรรมใหม่ของท่าน ว.วชิรเมธี ระหว่างที่นงั่ อัดกันอยูใ่ นรถ แม่ก็ให้ วนิยาเล่าเรื่ องที่มาของการจะตังโรงเรี ้ ยนXรุ่ งอรุ ณXจตุรวิทย์เชียงรายให้ พี่นพ กับพี่แม็กซ์ฟัง พี่ทงสองนั ั้ ง่ ฟั งสบายๆออกความเห็นไม่มาก บอกว่าผู้บริ หารโรงเรี ยนรุ่ งอรุ ณก็โทรมาหาทางเชียง ของบ่อยๆ ประมาณว่าจะพานักเรี ยนมาเรี ยนรู้ด้วย เป็ นโรงเรี ยนที่คา่ เทอมแพงมาก ส่วนในมุมผู้ปกครองก็มีบาง รายที่สง่ ลูกเข้ าไปเรี ยนโรงเรี ยนรุ่ งอรุ ณแล้ วพาลูกออกเพราะไม่เข้ าใจว่าทาไมถึงต้ องให้ เด็กมาเรี ยนทานากันอยู่ จึงต้ องมีการสัมภาษณ์ทศั นคติผ้ ปู กครองอย่างละเอียดในการรับสมัคร และถ้ าจะหาทุนสร้ างอะไรให้ ลองไปที่เว็บ CrowdFunding (เน้ นว่าของต่างชาติ) ดู ส่วนแม่ก็แนะนาว่า ให้ ลองคิดเผื่อเป็ นระบบเรี ยนพิเศษหรื อเรี ยนเสริ ม จากหลักสูตรปกติในระบบดูบ้าง เพราะมีตวั อย่างเป็ นพี่สา(วนิยาไม่ร้ ู จัก)ที่เชียงใหม่ ที่ใช้ ระบบสอนพิเศษเป็ น ทางเลือกแทนการเปิ ดโรงเรี ยนทางเลือกรับผิดชอบชีวิตนักเรี ยนทังหมด ้ ซึ่งก็ให้ ความอิสระและยืดหยุ่นกับทัง้ ผู้เรี ยนและผู้สอนเอง วนิยาได้ ฟังคาว่า "อิสระ" แล้ วก็ร้ ู สกึ สะกิดใจ และมีคาเตือนจากการนัง่ อัดกันในรถครัง้ นัน้ มาว่า ถ้ าวนิยาจะเปิ ดโรงเรี ยนเป็ นสถานที่จริ งๆวนิยาต้ องรับผิดชอบบริ หารจัดการทุนต่างๆมากมาย จนอาจไม่มี เวลามาเปลีย่ นแปลงการศึกษาไทยอย่างที่วนิยาตังใจเขี ้ ยนโครงการเอาไว้ ก็ได้ เมื่อไปส่งพี่นพพี่แม็ก ซ์ ไปทาบุญกับยาย ไปกินก๋วยเตี๋ยวปลาต้ มยาตามคาแนะนาของน้ ายอมเป็ นมือ้ เที่ยง เรี ยบร้ อยแล้ ว วนิยาก็ควักโพยที่ปริ๊ นท์เอาไว้ ออกมาบอกทางไปยังตาบลห้ วยสัก ซึ่งอยู่ห่างจากตัวเมืองเชียงราย ไปประมาณ12กิโลเมตร ทางหลวง 1020 เชียงราย-เทิง-เชียงของ เป็ นทางไปสะพานมิตรภาพไทย-ลาว ถนนใหญ่ ขับรถสบาย ไม่นานก็มาถึงป้ายบอกทางเข้ าหมู่บ้าน ทางไปที่ทาการสวนป่ าดอยปุย และวนอุทยานน ้าตกตาด สวรรค์ เราเลี ้ยวรถเข้ าไปในซอยนัน.. ้ สิ่งที่ Google Map ไม่สามารถบอกให้ เรารู้ ลว่ งหน้ าได้ ก็คือ "สภาพถนน" และ "เนิน" ถนนเข้ าหมู่บ้านซอยนี ้เป็ น ถนนเลนเดียว สองข้ างทางเป็ นบ้ านของชาวบ้ านในพื ้นที่จริ งๆ ยิ่งเข้ าไปก็ยิ่งคดเคี ้ยว เลี ้ยวแล้ วเลี ้ยวอีก กว่าจะถึง อ่างเก็ บนา้ ที่เป็ นจุดสังเกตได้ ก็ร้ ู สึกเหมือนเข้ าซอยลึกไปหลายกิ โล ที่ดินรกร้ างว่างเปล่าบนเนินสวยตามคา โฆษณาตังอยู ้ ท่ ้ ายหมูบ่ ้ าน จากภาพถ่ายทางอากาศดูเหมือนทุกอย่างที่โฆษณาไว้ อยูใ่ กล้ กนั จริ ง แต่พอขับรถเข้ า มาจริ งๆแล้ วเข้ าถึงยากมาก ถ้ ามาตังโรงเรี ้ ยนกว่านักเรี ยนจะเดินทางมาเข้ าแถวเคารพธงชาติได้ ก็หมดเวลาเรี ยน คาบบ่ายกันพอดี ไหนจะเรื่ องความไว้ วางใจของผู้ปกครองที่ต้องพานักเรี ยนมาส่งที่โรงเรี ยน และในกรณีที่อยูไ่ กล บ้ านถึงแม้ จะปรับเป็ นโรงเรี ยนประจาแล้ วก็ยงั ตอบสนองความจาเป็ นที่โรงเรี ยนจะต้ องอยูใ่ กล้ แหล่งอานวยความ สะดวกอื่นๆไม่ได้ วนิยาเพิ่งมานึกเข้ าใจประโยค "ผมโทรศัพท์นาทางมาหลายเจ้ าแล้ ว" ได้ ก็ตอนนี ้ คือเจ้ าของ โฆษณาขายที่ไว้ ดีแต่เมื่อเข้ ามาดูที่จริ งๆก็ไม่มีใครตกลงแน่ๆ ..ลาก่อนที่ ดิน 3 ล้ านใกล้ อ่างเก็บน ้าและสวนป่ า ดอยปุย เมื่อออกมาถึงถนนใหญ่อีกครัง้ วนิยาเสนอให้ แวะเข้ าไปสารวจดูที่ดินติดไร่ เชิญตะวันที่โทรจองไว้ ด้วย พร้ อมกัน นันทุ ้ กคนก็ถือโอกาสเข้ าไปเที่ยวไร่ เชิญตะวันของท่าน ว.วชิรเมธี ด้ วยเลย น้ ายอมขับรถต่อไปและตามหาป้าย

รุ่งอรุณเชียงราย : โรงเรี ยนในจดหมายกับหลักสูตรปั จจัยสี่

100


บอกทางไปยังไร่ เชิญตะวันได้ ไม่ยากนัก จากถนนใหญ่ เข้ าซอยไปก็เป็ นหมู่บ้าน ป้ายรู ปการ์ ตูนท่าน ว. เริ่ มชี ้ ทางผ่านหมูบ่ ้ านลึกเข้ าไปเรื่ อยๆ คล้ ายๆทางเข้ าที่ดิน 3 ล้ านเมื่อกี ้ แต่ตอนนี ้เริ่ มลึกกว่าแล้ ว หลุดจากหมูบ่ ้ านไปก็ เป็ นหมู่สวน เป็ นทุ่งนา ไร่ ข้าวโพด สวนยาง เรี ยงรายล้ อมรัว้ ติดกันไป และสิ่งที่ Google Map กับภาพถ่ายทาง อากาศของ Google Earth ไม่สามารถบอกให้ เรารู้ ลว่ งหน้ าได้ อีกแล้ วก็คือ "เนินเขา" และ "สภาพถนน" ที่ตอนนี ้ เป็ นถนนดินลูกรัง รถแล่นขึ ้นๆลงๆ กระเด็นกระดอนไปตามภูมิประเทศลูกฟูก ป้ายบอกทางไปไร่ เชิญตะวันถูก เคลือบไปด้ วยฝุ่ นสีน ้าตาลแดง แต่พทุ ธศาสนิกชนของท่าน ว. ย่อมไม่ยอ่ ท้ อกับเส้ นทางยากลาบาก มีรถเก๋งสีขาว ไฮโซแล่นผ่านไป มีรถส่งไอติมวอลล์แล่นสวนมา อย่างน้ อยก็ทาให้ พวกเราอุน่ ใจว่ายังมาถูกทางไม่ได้ หลง ในที่สดุ รถของเราก็เดินทางเข้ ามาถึงประตูรัว้ ฝั่ งแปลงผักขนาดใหญ่ของไร่เชิญตะวัน คนงานเกษตรกรกาลังดูแล แปลงเกษตรอย่างขะมักเขม้ น น้ ายอมขับรถพาวนดูรอบ พวกเราเหนื่อยกับการชมวิวสองข้ างทางถนนลูกรังมา มากเกินกว่าที่จะจอดรถลงไปนมัสการเจ้ าของไร่ น้ ายอมเลี ้ยวรถกลับพลางออกความเห็นให้ ทกุ คนฟั งว่า "ที่สนั ติ อโศกบริ หารจัดการแปลงผักได้ ดีกว่านี ้เยอะ" (ตอนวนิยาอ่านข่าวเกี่ยวกับไร่ เชิญตะวันก็มีคนมาแสดงความเห็น ท้ ายข่าวว่าท่าน ว. ทาไร่แนวคล้ ายๆ สันติอโศก เหมือนกัน) ถ้ าอย่างนัน้ (วนิยาคิด) "วนิยาก็น่าจะไปศึกษาระบบ การบริ หารจัดการชุมชนเกษตรอินทรี ย์ของทางสันติอโศกดู" เมื่อออกจากไร่ เชิญตะวันแล้ ว วนิยาก็มองหาที่ ดินผืนที่อยู่ติดกันด้ วย ซึ่งในประกาศบอกว่ามีต้นยาง 2,000 ต้ น และอยู่ตรงข้ ามอีกฝั่ งถนนจึงหาไม่ยาก เมื่อเจอแล้ วก็ต้องตกใจเมื่อพบว่า พื ้นที่ส่วนที่เป็ นสวนยางแล้ วไม่ได้ ถ่ายรู ปลงเว็บไปเสียทังหมดนั ้ น้ เป็ นเนินเขาลาดชันขนาดใหญ่ที่มีต้นยางขึ ้นทึบแทบจะเป็ นป่ า ดูแ ล้ วแม้ ว่าจะ สร้ างโรงเรี ยนในส่วนที่เป็ นพื ้นราบติดอ่างเก็บน ้าตามที่เห็นในรู ปได้ แต่ภาระที่จะต้ องมาดูแลความปลอดภัยใน สวนยางและเดินทางขึ ้นๆลงๆผ่านบริ เวณนี ้ เป็ นไปไม่ได้ เลยที่ใครจะเข้ ามาสร้ างสถานที่สาหรับจัดการศึกษา (ยกเว้ นท่าน ว.) ไร่ เชิญตะวันของท่าน ว.วชิรเมธี ทาให้ ดินลูกรังย่านนี ้ฟุ้งขึ ้นติดเต็มต้ นไม้ ใบหญ้ าสองข้ างถนน คนอยู่อาศัยทาไร่ สวนยางพากัน ใช้ ข้ ออ้ าง "ติ ดไร่ เชิ ญ ตะวัน" ปั่ นราคาเพื่อขายหนีข้อ หาบุกรุ ก ป่ า เป็ นเรื่ อ ง เหลือเชื่อจริ งๆที่บารมีของท่าน ว. ทาให้ คนในเมืองเดินทางดันด้ ้ นเข้ าไปนมัสการท่านได้ ปีละกว่าแสนคน ข้ อดีของการมีที่ดินอยูไ่ กลและลึกจากถนนใหญ่ขนาดนี ้คือการได้ ใกล้ ชิดธรรมชาติ ระหว่างทางขับรถกลับวนิยา สังเกตเห็นนกกระยางฝูงหนึ่งกาลังหากิ นร่ วมกับฝูงวัว เป็ นภาพที่ไม่เคยเห็นมาก่อน แต่เมื่อจอดรถจะลงไป ถ่ายรูป นกกระยางสีขาวไม่ติดฝุ่ นฝูงนันก็ ้ ตกใจพากันบินหนีเสียงประตูรถไปหมด ยายที่นงั่ ผจญภัยมาด้ วยกันใน รถบอกวนิยาว่าถ้ าถึงฤดูฝนถนนแบบนี ้จะเป็ นอุปสรรคในการเดินทางมาก (ยายเคยเป็ นครู พฒ ั นาพื ้นที่ชาวเขา กับตามาก่อน) น้ ายอมก็บอกว่าเราเป็ นคนนอกพื ้นที่แล้ วยังเป็ นผู้หญิงวัยหนุ่มสาว ที่ดินโซนนี ้ตังอยู ้ ่ไกลเกินไป หากมี ปั ญ หาต้ อ งการความช่ ว ยเหลือ แม่ก็ เ สริ ม ว่า "สวนมะลิวัลย์ " หรื อ บ้ า นหลัง เกษี ย ณของตา ที่ ค นใน ครอบครัววนิยากาลังใช้ เป็ นที่พกั ญาติและจัดกิจกรรมในบางโอกาสในปั จจุบนั นี ้ ยังสามารถเข้ าถึงจากถนนใหญ่ ได้ ง่ายกว่า และวนิยาก็เห็นด้ วยหลังจากที่เคยปฏิเสธข้ อเสนอของแม่มาตลอด ขนาดสวนมะลิวลั ย์ ที่วนิยาคิดว่า เข้ าถึงยากแล้ ว เจอไร่เชิญตะวันก็ต้องชิดซ้ ายไปเลย

101

รุ่งอรุณเชียงราย : โรงเรี ยนในจดหมายกับหลักสูตรปั จจัยสี่


หลังจากพากันเที่ยวจนรถเปรอะฝุ่ นลูกรังไปทังคั ้ นแล้ ว ขากลับน้ ายอมผู้เชี่ยวชาญถนนหนทางเนื่องจากทางาน พัฒนาชนบทในจังหวัดเชียงรายก็พาทุกคนเลี ้ยวเข้ าไปใช้ ถนนเลี่ยงเมืองตัดใหม่ ถนนสายนี ้กว้ างหลายเลนและ กาลังถมคลองเหมืองที่คนั่ ทุ่งนาเพื่อทาถนนเพิ่มอีกข้ างละเลนด้ วย น้ ายอมบอกว่าต่อไปแถวนี ้ก็จะถูกน ้าท่วม เพราะนายทุนเข้ ามาถมที่นาทาบ้ านจัดสรร ลาเหมืองเดิมทังกว้ ้ างและลึกขนาดนันก็ ้ โดนถมเหลือไว้ ให้ น ้าผ่าน แค่นิดเดียว ใครจะมาห้ ามนายทุนก็ คงไม่ทนั แล้ ว เพราะที่ดิน บริ เวณนีป้ ั จจุบนั ถูกปั่ นราคาขึ ้นไปสูงลิบจนคน เชียงรายแตะไม่ได้ วนิยาฟั งแล้ วก็หนั กลับมาทบทวนตัวเองว่าหากมีเงินซื ้อที่ดินบริ เวณนี ้ได้ ก็ไม่ร้ ู ว่าจะสามารถ สร้ างโรงเรี ยนโดยคงสภาพแวดล้ อมเช่นที่นาเอาไว้ ให้ มากที่สดุ ได้ หรื อเปล่า หรื อวนิยาเพียงแค่เอาแต่ใจวางแผน สร้ างไร่ ท านั่น สร้ างโรงท านี่ อ ย่า งที่ ตัว เองต้ อ งการโดยไม่ค านึง ถึ ง อะไร สิ่ง ที่ ว นิ ย าท าอาจจะเป็ นการสร้ าง อาณาจักรใหม่หรื อสร้ างโลกอีกใบอย่างที่ mr.Saturday เคยบอก แล้ ววนิยาจะควบคุมดูแลให้ มนั เป็ นประโยชน์ ต่อพื ้นที่และสังคมแวดล้ อมอย่างที่ตงใจไว้ ั ้ ได้ ไหม แล้ วน้ ายอมก็เหยียบคันเร่งส่งรถของแม่ทะยานไปบนถนนที่ไร้ ไฟแดง สะบึ ้งช์ ! วาร์ ปทีเดียวถึงสนามบิน . 23 กุมภาพันธ์ 2557 วนิยาขอแม่ไปเดินเซ็นทรัลเชียงราย เดิมวนิยาไม่ใช่เด็กที่โตมากับห้ างสรรพสินค้ า เพราะใช้ ชีวิตวัยประถมในบ้ านพักโรงพยาบาลประจาอาเภอที่อยู่ ไกลตัวจังหวัดเชียงรายกว่า 40 กิโลเมตร พอเรี ยนมัธยมก็ย้ายไปอยู่โรงเรี ยนประจากลางทุ่งนาที่มีภเู ขาลูกใหญ่ คัน่ ใจกลางเมืองเล็กๆไร้ ห้ างติดแอร์ อย่างพะเยา นานทีปีหนถึงจะได้ เก็บเงิ นเข้ าไปซือ้ หนังสือที่ร้านดวงกมล เชียงใหม่ หอบหนังสือกองละพันกว่าบาทกลับบ้ านแม่จนั อย่างสบายใจ ดูเหมือ นทังชี ้ วิตวัยเด็กไม่ต้องการอะไร นอกจากหนังสือ อาจจะดูเชยๆแต่จริ งๆแล้ วที่วนิยาซื ้อเสื ้อผ้ าหรื อตุ๊กตาน้ อยชิ ้นเป็ นเพราะรสนิยมวนิยาสูงมาก ถ้ าจะให้ ได้ ดงั่ ใจทุกอย่างคงต้ องจ่ายเงินมหาศาล วนิยาก็เลยเป็ นเด็กเชยๆที่ใช้ จ่ายประหยัดอยู่เป็ นนิจ ต่อมาพอ แม่ย้ายไปทางานที่กระทรวงสาธารณสุขแล้ ววนิยามีโอกาสตามไปอยู่ที่กรุ งเทพ กิจกรรมใหม่ที่วนิยาทาคือ พา รู มเมทเข้ ากรุ งเทพผจญภัยไปกับ "แผนที่รถเมล์" โดยมีจุดหมายเป็ นศูนย์รวมอาหารสมองครี เอทีฟเช่น Siam, Loft, TK Park, TCDC ฯลฯ เงินส่วนใหญ่ก็จะหมดไปกับค่ารถเมล์รถไฟฟ้ า ส่วนสินค้ าในนันราคาสู ้ งและ ฟุ่ มเฟื อยเกินกว่าที่วนิยาจะซื ้อ

รุ่งอรุณเชียงราย : โรงเรี ยนในจดหมายกับหลักสูตรปั จจัยสี่

102


วนิยาเริ่ มกลายเป็ นนักช็อปก็เมื่อได้ คบกับแฟนเก่าสมัยเรี ยน ป.ตรี ปี 1เทอม2 (ปลายปี 2549) แฟนเก่าก็เป็ นคน รสนิยมสูง จะเดทกันนอกมหาลัยก็ต้องนัดเจอกันที่วตั (ร้ านเครื่ องสาอาง Watson) แล้ วให้ วนิยานาทางขึ ้นรถเมล์ ไปพารากอน เอ็มโพเรี่ ยม เซ็นทรัล เดอะมอลล์ หรื อที่ใกล้ ๆก็ฟิวเจอร์ รังสิต สมัยนันตลาดโทรศั ้ พท์มือถือเฟื่ องฟู มาก แฟนจะพาไปเช็คดูโทรศัพท์มือถือที่ออกรุ่ นใหม่ไม่เคยขาด (ทาให้ วนิยาสามารถเลือกซื ้อโทรศัพท์มือถือรุ่ น กลางๆที่ฟังก์ชนั่ ครบที่สดุ ในโลกสาหรับตัวเองมาไว้ ในครอบครองได้ วนิยาภูมิใจมาก ปั จจุบนั ไม่มีรุ่นนี ้ขายแล้ ว วนิยาไม่อยากเปลี่ยนไปใช้ สมาร์ ทโฟนเลย ได้ แต่ภาวนาให้ โทรศัพท์มือถือรุ่ นเดิมของตัวเองไม่มีวนั เสื่อมและ ขอให้ มีอะไหล่ซอ่ มได้ ไปตลอดชาติ) เมื่อเรี ยน ปี 2 ไปไม่นานแฟนก็ย้ายมหาลัย แต่นิสยั ชอบเดินห้ างสารวจสินค้ า รุ่ นใหม่ๆก็ยงั ติดตัววนิยามาอยู่เสมอ (อาจจะเป็ นเพราะเรี ยนโฆษณาแล้ ว mr.Saturday สอนให้ สารวจตลาด สินค้ าในวิชาเรี ยนด้ วย) นิสยั อีกอย่างที่วนิยาติดมาจากแฟนเก่าคนนี ้ก็คือ "ใช้ เงินมือเติบ" ยิ่งตอนเรี ยนปี ท้ ายๆ การคบกันทางโทรศัพท์รังสิต-เชียงใหม่เป็ นไปอย่างกระท่อนกระแท่น วิธีที่วนิยานามาใช้ ดแู ลหัวใจทดแทนการมี แฟนเก่าอยูข่ ้ างๆก็คือการไปเดินห้ างช็อปปิ ง้ ยิ่งได้ ช็อปปิ ง้ ก็ยิ่งรู้สกึ ผ่อนคลาย และใช้ เงินสุรุ่ยสุร่ายจนไม่สามารถ ทาบัญชีรายรับรายจ่ายได้ ทนั ในช่วงที่ออกจากตาแหน่งเหรัญญิกแล้ วกาลังจะเรี ยนจบ ป.ตรี เมื่อเรี ยนจบมาเลือกทางานเป็ นนักเขียน วนิยาเคยสงสัยว่าทาไม ดร.ป๊ อบ ถึงเป็ นนักเขียนที่ชอบไปเดินห้ างพารา กอนหรื อสยามบ่อยนัก พอวนิยาทางานเขียนนานๆไปก็ได้ ร้ ูวา่ ถ้ านักเขียนเอาแต่หมกอยูใ่ นบ้ านไม่ออกไปเที่ยวที่ ไหนเลยก็จะขาดแรงบันดาลใจ รู้สกึ แห้ งเหี่ยวไร้ พลังในการสร้ างสรรค์จินตนาการหดหูล่ งเรื่ อ ยๆ แล้ วนักเขียนที่อยู่ ในเมืองก็มีทางเลือกในการเดินทางไม่มากนักนัน่ คือ "ไปเดินห้ าง" เพราะคนเมืองมีห้างสรรพสินค้ าอยูใ่ กล้ บ้านแค่ จ่ายค่ารถเมล์เดินเข้ าไปไม่ต้องซื ้ออะไรก็ได้ แรงบันดาลใจกลับมาต่อชีวิตการเขียนแล้ ว และวนิยาลองไปเดินห้ าง เดียวบ่อยๆในช่วงที่เขียนเรื่ องยาวก็ไม่ร้ ู สกึ ว่าเบื่อ หากมีหนังดี (ดูจากคาแนะนาหนังในทวิตเตอร์ ดร.ป๊ อบ) ก็ขึ ้น ไปดู หากไม่มีอะไรก็เข้ าไปสิงสูใ่ นร้ านหนังสือ สมุด เครื่ องเขียน และ BeTrend หรื อแหล่งรวมไอเดียของขวัญ ที่ ให้ ความสุขและแรงบันดาลใจแก่วนิยาได้ เสมอ แต่สงิ่ ที่ต้องระวังก็คือการใช้ จ่ ายเกินพอดี เพราะทุกครัง้ ที่เข้ าห้ าง ไปถ้ าไม่มีเป้าหมายอะไรก็มกั จะเปลืองค่าอาหารและที่สาคัญคือการซื ้อหนังสือ ตังแต่ ้ กลับมาเชี ยงรายวนิยายังไม่อยากเดินเข้ าห้ างเพราะยังขลุกอยู่กับบ้ าน(สภาพแวดล้ อมใหม่)ไม่เต็มที่ หลีกเลีย่ งการช็อปปิ ง้ เพราะได้ ใช้ จ่ายระบายอารมณ์ไ ปตังแต่ ้ ต้นเดือน เงินเก็บก็ไม่มี แต่เย็นวันนี ้เป็ นโอกาสหนึ่ง ที่วนิยาจะปฏิบตั ิการตามล่าหนังสือ แล้ ววนิยาก็หอบหนังสือกลับบ้ าน "โรงเรี ยนรุ่งอรุณเชียงรายจะเปลีย่ นชื่อแล้ วนะ" วนิยาบอกแม่ "เปลีย่ นเป็ นอะไรล่ะ" แม่ถามขณะรอพนักงานฟาสต์ฟ้ ดท ู าเบอร์ เกอร์ ปลาไปฝากยาย (ยายกินเนื ้อสัตว์บกไม่ได้ ) เรานัง่ กันอยูใ่ นร้ าน KFC ที่เซ็นทรัลเชียงราย ก่อนจะขับรถกลับบ้ านที่ไกลจากตัวเมืองนิดหน่อย "เป็ นโรงเรี ยนจตุรวิทย์ออนไลน์ จะลองทาโรงเรี ยนออนไลน์ด"ู

103

รุ่งอรุณเชียงราย : โรงเรี ยนในจดหมายกับหลักสูตรปั จจัยสี่


"ก็ดี น่าสนใจดีลกู " แม่ตอบ "แต่ถ้าทาโรงเรี ยนออนไลน์ ก็ไม่จาเป็ นต้ องไปเรี ยนรู้ที่โรงเรี ยนรุ่งอรุณก็ได้ " "แต่เรี ยน ป.โท ศึกษาศาสตร์ ไว้ ก็ดีนะ เพราะหลักการทางวิชาการของครู ก็จาเป็ นสาหรับการจัดการเรี ยนการสอน เหมือนกัน อาจารย์ มหาวิทยาลัยที่ไม่ได้ จบศึกษาศาสตร์ หรื อครุ ศาสตร์ มาก็ ต้องเรี ยนรู้ ตรงนี ้ มันทาให้ เรามี แนวทางชัดเจนและอธิบายได้ ว่ าจะสอนนักเรี ยนนักศึกษายังไงให้ มีประสิทธิภาพหรื อประสิทธิ ผล ถ้ าไม่อยาก เรี ยน ป.โท กับสถาบันอาศรมศิลป์แล้ ว ก็ ลองดูหลักสูตร ป.โท ของ มสธ. (มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิ ราช มหาวิทยาลัยเปิ ดที่นกั ศึกษาสามารถเรี ยนทางไกลจากที่บ้านได้ ) ดูสิ ที่นี่ก็เป็ นสถาบันสอนครู โดยเฉพาะอยู่นะ" แม่แนะ "ก็ยงั ไม่ร้ ู สิ บางทีก็อยากจะเรี ยน ป.โท เกษตรยัง่ ยืน มหาวิทยาลัยชีวิต (http://www.LIFE.ac.th) เพราะต้ องทา การเกษตรพึ่งตนเองเป็ นแปลงสาธิต เป็ นตัวอย่างให้ นกั เรี ยนเชื่อมัน่ และสามารถเข้ ามาเรี ยนรู้ จริ งๆได้ ถ้ า ศรป. (ศูนย์การเรี ยนรู้ เพื่อปวงชน) ของ ม.ชีวิต อยู่ไกลไป (อยู่พะเยา แต่ปฏิบตั ิการเกษตรจริ งที่บ้านเชียงราย ต้ อง ประเมินการเรี ยนรู้ แบบ ไป-กลับ) หรื อไม่มนั่ ใจว่าจะมีอาจารย์ผ้ เู ชี่ยวชาญที่เข้ ากันได้ มาสอน ก็จะลองไปเรี ยนรู้ การบริ หารจัดการการทาเกษตรอินทรี ย์อยู่กบั ชาวสันติอโศกอย่างที่น้ายอมบอกดู" "จะลองดูก็ได้ มีคนรู้จกั ในกระทรวงบางคนอยูใ่ นหมูบ่ ้ านสันติอโศกเหมือนกัน" "อีก เรื่ องที่ อยากจะเรี ย นเพราะคิ ดว่าตัว เองยังอ่อ นแต่ต้ อ งสอนนัก เรี ย นให้ ได้ ก็คื อ วนศาสตร์ ปกาเกอะญอ อยากจะเรี ยนเรื่ องป่ าให้ มากกว่านี ้ อยากจะเรี ยนรู้ วิถีชีวิตที่คอยเกือ้ กูลป่ าของชาวปกาเกอะญอด้ วย เรื่ องนี ้ อาจจะหาเรี ยนรู้ได้ ที่โจ๊ ะมาโลลือหล่า (โรงเรี ยนวิถีชีวิต ของชาวปกาเกอะญอ ที่มลู นิธิโรงเรี ยนรุ่ งอรุ ณอานวยการ สร้ าง อยูท่ ี่บ้านสบลาน อ.สะเมิง จ.เชียงใหม่ มี ครูนิด อดีตครูโรงเรี ยนรุ่ งอรุ ณ ที่กาลังทา ป.โท บริ หารการศึกษา เรื่ อง "หลักสูตรอิงถิ่นฐาน" กับสถาบันอาศรมศิลป์ เป็ นครู ใหญ่) ถ้ าไปอยู่โจ๊ ะมาโลลือหล่าก็ได้ ฝึกสอนไปในตัว แถมมีครูนิดเป็ นรุ่นพี่ ป.โท ศึกษาศาสตร์ สถาบันอาศรมศิลป์ พร้ อมองค์ความรู้ที่ครูนิดทาอยูแ่ ล้ วด้ วย" "ยังงันเหรอ" ้ แม่รับฟั ง แล้ วลุกไปจ่ายสตางค์ให้ กบั พนักงาน KFC แลกกับถุงพลาสติกใบใหญ่ "นี่เบอร์ เกอร์ ปลาของยาย นี่นอ่ งไก่ นี่เฟร้ นช์ฟรายกับทาร์ ตไข่ช็อกโกบานานา" วนิยาหยิบกล่องเฟร้ นช์ฟรายกับทาร์ ตไข่ช็อกโกบานานาออกมายึดเป็ นสมบัติสว่ นตัว …

รุ่งอรุณเชียงราย : โรงเรี ยนในจดหมายกับหลักสูตรปั จจัยสี่

104


ขณะเดินออกจากห้ างไปยังที่จอดรถ วนิยาพิจารณาตัวเองอยู่หลายตลบ ว่าทาไมเราถึงยังตัดขาดจากการเดินห้ างสรรพสินค้ า(สาหรับวนิยาคือร้ านหนังสือ)ไม่ได้ ทาไมเราไม่ให้ โอกาสธุรกิจฟาสต์ฟ้ ูดอย่าง KFC ปรับตัวออกมาจากขัวระบบทุ ้ นนิยม ทาไมเราถึงต้ องรังเกียจเงิน ทังๆที ้ ่คนรุ่นเราเติบโตเรี ยนรู้และอยูร่ อดมาด้ วยเงินกันหมด เกิดเป็ นพล็อตภาพยนตร์ "ทรยศ กบฎ เนรคุณ" อันจะเล่าให้ ฟังหากมีโอกาสต่อไป … ระหว่างนัง่ รถขากลับ วนิยาค้ นเทปคาสเซ็ตม้ วนเก่าที่แอบใช้ ซาวน์อะเบ้ าท์ 2เครื่ องต่อสายหูฟังอัดเองบนระเบียง หอพักสมัย ม.2 ออกมาเปิ ดฟั งเพื่อตรวจสอบว่าเทปยังใช้ ได้ อยู่หรื อเปล่า วนิยาไม่ได้ ฟั งเทปพวกนี ้มานานมาก เพราะเครื่ องเล่นเทปที่ยงั คงสภาพดีไม่มีเหลืออยู่ในบ้ านแล้ ว มีแต่รถของแม่เท่านันที ้ ่ยงั ติดเครื่ องเสียงเล่นเทป คาสเซ็ตอยู่ คุณภาพเครื่ องเสียงในรถยนต์คมชัดรอบทิศทาง เป็ นแหล่งความบันเทิงคุณภาพขนาดย่อมที่สามารถ ใช้ ตรวจสอบคุณภาพเสียงของเทปทุกชนิดได้ แม่เพิ่งเคยฟั ง เพราะสมัย ม.2 วนิยายังไม่กล้ าเปิ ดเทปพวกนี ้ให้ ใครฟั ง จะเลือกเพลงที่ชอบมาอัดเก็บไว้ ให้ ตวั เอง ฟั งมากกว่า สาเหตุที่ไม่กล้ าเปิ ดให้ ใครฟั งก็เพราะไม่ร้ ู ว่าคนอื่นในสมัยนันจะฟั ้ งเทปตัดต่อของวนิยารู้ เรื่ องไหม วนิยาตัดเอาเฉพาะท่อนต่างๆของเพลงที่สนใจมาอัดต่อกัน เหมือนคนใจร้ อนที่อยากฟั งแต่สิ่งที่ตวั เองต้ องการฟั ง อย่างเดียว ลีลาการเลือกท่อนเพลงและตัดต่อโดยไม่เลียนแบบใครเมื่อได้ เอากลับมาเปิ ดฟั งใหม่ก็ต้องบอกตัวเอง ว่า "มรึงนี่ช่างเก่งเท่และกวนตีนเหลือเกิน" เป็ นเด็กหญิงไอ้ วนิยาที่ชอบใช้ สนี ้าเงิน -เหลือง และคิดว่าการจัดบอร์ ด ด้ วยกระดาษสีสดเปรี ย้ งปราศจากดอกไม้ นนเปรี ั ้ ยบได้ กบั งานกราฟฟิ ตี ้ที่กระแทกความสนใจคนสัญจรไปมาข้ าง ถนน.. เป็ นตัวตนที่อยูก่ บั วนิยา ที่แม้ จะโตขึ ้นแล้ วก็ไม่เคยต้ องการให้ ตวั ตนนี ้หายไปไหน เป็ นตัวตนที่รอการพิสจู น์ ว่าสักวันหนึง่ วนิยาจะเก็บสิง่ นี ้เอาไว้ เพื่อถ่ายทอดออกไปให้ ทกุ คนเห็น เป็ นตัวตนที่วนิยาจะเลือกกลับไปเป็ น แทนการไปเรี ยนรู้เพื่อเปลีย่ นตัวเองเป็ นอย่างอื่นไปใน 2ปี ที่โรงเรี ยนรุ่งอรุณ.. ... วนิยามีแรงบันดาลใจและเป้าหมายใหม่ในการเขียนอีเมลแล้ ว วนิยาจะเขียนจดหมายบันทึกตัวตนของตัวเอง ส่งต่อไปให้ ถึงตัวเองในอนาคต

105

รุ่งอรุณเชียงราย : โรงเรี ยนในจดหมายกับหลักสูตรปั จจัยสี่


. 24 กุมภาพันธ์ 2557 หนังสือ "เริ่ มธุรกิจอย่างฉลาด" Start at Smart โดยคุณดารงค์ พิณคุณ บอกไว้ วา่ "ในการเริ่ มทาธุรกิจใหม่ อย่าตัดสินใจด้ วยอารมณ์ ควรตัดสินใจโดยใช้ เหตุผล" แต่บางที อารมณ์ของวนิยาก็เป็ นเหตุผล.. และครัง้ นี ้ วนิยาก็แยกไม่ออกว่า ทางเลือกไหนมาจากเหตุผล ทางเลือกไหนมาจากอารมณ์ อารมณ์ที่อยากจะรับปริ ญญาในหอศิลป์ไม้ ไผ่กบั ชุดครุยไทยประยุกต์สดุ เท่เก๋ไก๋ของสถาบันอาศรมศิลป์ อารมณ์ที่ไม่อยากจะปรับตัวเข้ ากับแนวทางการเรี ยนการสอนแบบบูรณาการล ้าลึกของโรงเรี ยนรุ่งอรุณ เหตุผลที่จะฝึ กฝนตัวเองให้ เป็ นคนที่งดงามและทาความเข้ าใจการศึกษาวิถีพทุ ธให้ ถึงแก่น เหตุผลที่จะคงความมัน่ ใจในตัวตนเดิมของตัวเองไว้ ไม่ให้ วิถีการสร้ างสรรค์ผลงานเฉไฉและสับสน ด้ วยสัญญาใจที่ยงั มีตอ่ ครูนิด หงษ์ และผู้อา่ นอีเมลในรายชื่อทังหลายนี ้ ้ วนิยาบอกตัวเองว่า วนิยายังสามารถที่จะไปเป็ นครู โรงเรี ยนรุ่ งอรุ ณ ประกอบการเรี ยนต่อ ป.โท กับสถาบัน อาศรมศิลป์ ได้ โดยเก็บเจ้ าหลักสูตรจตุรวิทย์ที่ตวั เองออกแบบร่ างเอาไว้ ก่อน แล้ วหันไปศึกษาวิธีการสอนที่เน้ น การวิจยั ซึง่ วนิยาก็จะได้ โอกาสทดลองวิธีการสอนอย่างที่ตงใจไว้ ั ้ นี ้ กับสถานการณ์จริ งในโรงเรี ยนที่เปิ ดกว้ างทาง วิธีการและมีคณ ุ ภาพได้ มาตรฐานอย่างโรงเรี ยนรุ่งอรุณด้ วย หากวนิยาต้ องการศึกษาแนวทางการบริ หารจัดการการทาเกษตรอินทรี ย์และแนวคิดต่างๆของชุมชนสันติอโศก วนิยาก็จดั โครงการการเรี ยนการสอนใน 2ปี นี ้ให้ นกั เรี ยนปฏิบตั ิการวิจยั ชุมชนสันติอโศกไปเลยสิ วนิยาสามารถ เก็บข้ อมูลออกมาเป็ นผลงาน แถมยังได้ พฒ ั นาความสามารถในการสอนที่ฝึกนักเรี ยนให้ เรี ยนรู้ ด้วยตัวเองโดยใช้ ระบบการวิจัยเป็ นฐาน แค่อดทนและยอมเปลี่ยนแปลง เอาชนะความกลัว ออกจากสภาพความเคยชิน วนิยา อาจจะได้ รับประสบการณ์ใหม่ที่ประเมินค่ามิได้ เลยก็ได้ แต่ตวั ตนที่วนิยาได้ กลับคืนมาจากเสียงเพลงในเทปคาสเซ็ตตะโกนว่า วนิยาไม่ใช่คนแบบนัน! ้ วนิยาเข้ ากับที่นนั่ ไม่ได้ ! วนิยาชอบคิดขบถ ชอบอิสระ มากกว่าครูทวั่ ไป แต่วนิยาอยากสอน..

รุ่งอรุณเชียงราย : โรงเรี ยนในจดหมายกับหลักสูตรปั จจัยสี่

106


การเขียนบทภาพยนตร์ หรื อเปิ ดโรงเรี ยนออนไลน์ ก็เป็ นทางเลือกที่ดี แต่วนิยาอยากเรี ยนรู้หลักระบบวิธีคิดของครูตามปกติในประเทศไทยด้ วย กับทัศนคติที่เปลีย่ นไปว่า ไม่จาเป็ นต้ องหาสถาบันพิเศษแปลกใหม่ เรี ยนจบสถาบันบ้ านๆทัว่ ไป ถ้ าผลงานเฉิดฉาย จบจากไหนก็ไม่มีใครสนอยูแ่ ล้ ว วนิยาจึง search หลักสูตร ป.โท ศึกษาศาสตร์ ตามที่แม่แนะนา มสธ... เจอค่ะ http://www.stou.ac.th/thai/courses/Master_56/educa_56.asp#non-edu_mas หลักสูตรศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต แขนงวิชาการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย Master of Education Program in Nonformal and Informal Education (วิขาเอกการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย) เพิ่งรู้ ว่ามีการสอนการจัดการศึกษานอกระบบโดยตรงด้ วย ไหนๆวนิยาจะเปิ ดโรงเรี ยนนอกระบบอยู่แล้ ว เรี ยน ระบบการศึกษานอกระบบให้ มนั รู้เรื่ องไปเลยไม่ต้องลองผิดลองถูก อ่านรายละเอียดวิชาต่างๆดูก็สนใจ แต่เปิ ดรับ สมัครภายใน 28 กุมภาพันธ์นี ้ หลักฐานการสมัครเรี ยนต่อก็ทิ ้งเอาไว้ ที่กรุงเทพ ถ้ าตัดสินใจจะเรี ยนจริ งๆก็ต้องเสีย ค่าเดินทางไปกลับ วนิยารี บโทรศัพท์ไปปรึกษาแม่ระหว่างทางาน แม่บอกให้ ลองดูที่อื่นเผื่อว่าจะมีเปิ ดรับไม่ต้องรี บเดินทางไปสมัครเดือนนี ้ นอกจากหลักสูตรที่สอนด้ านการศึกษานอกระบบแล้ ว หลักสูตรที่วนิยาสนใจมากจนไม่อาจมองข้ ามได้ เลยก็คือที่ ม.รังสิต ค่ะ http://www.rsu.ac.th/education/Master-of-Education-Program-in-Curriculum-and-Instruction-thai.aspx หลักสูตร ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชา หลักสูตรและการสอน หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ. 2553 เปิ ดอ่านรายละเอียดมาเจอวิชาแรกก็นา่ สมัครเข้ าเรี ยนแล้ วค่ะ "การศึกษาเพื่อการพัฒนาที่ยงั่ ยืน" (Education for Sustainable Development) การออกแบบและพัฒนาหลักสูตร (Curriculum Design and Development) การจัดการและการประเมินหลักสูตร (Curriculum Management and Evaluation) ...

107

รุ่งอรุณเชียงราย : โรงเรี ยนในจดหมายกับหลักสูตรปั จจัยสี่


เป็ นหลักสูตรที่เน้ นการพัฒนาหลักสูตรมากกว่าการสอน "ตรงทาง" สาหรับวนิยามากกว่าสาขาวิชา หลักสูตรและการสอน ในสถาบันอื่นๆ ลองเทียบกับสถาบันอาศรมศิลป์ดูได้ เลยค่ะ หลักสูตรศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการศึกษาแบบองค์รวม แขนงวิชาหลักสูตรและการเรี ยนการสอน https://docs.google.com/file/d/0By8F2BH2UD6SN3RWVHptYkpsNkU/edit?pli=1 จะดีแค่ไหนถ้ าเราไม่ต้อง "ปรับตัวให้ เข้ ากับสิง่ ที่เราอยากเป็ น" แต่ "ได้ เป็ นในสิง่ ที่เราเป็ นอยูแ่ ล้ ว" แถม ม.รังสิต ยังมีสาขาภาพยนตร์ ในกรณีที่วนิยาต้ องการศึกษาหรื อหาความร่วมมือด้ วย เมื่อแม่กลับจากที่ทางาน(มฟล.) วนิยาแจ้ งให้ แม่ทราบว่าวนิยาเปลีย่ นใจมาเรี ยน ม.รังสิต แล้ ว ยังสองจิตสองใจว่าจะเรี ยน มสธ. ควบคูก่ นั ไปด้ วยเลยดีหรื อไม่ แต่ลองคิดดูแล้ วกลัวว่าจะทาวิทยานิพนธ์พร้ อมกันไม่ไหว และวนิยาเปลีย่ นความตังใจจากการ ้ "สร้ างโรงเรี ยนจตุรวิทย์" มาโฟกัสในสโคปที่แคบขึ ้น นัน่ คือ "พัฒนาหลักสูตรจตุรวิทย์ให้ สมบูรณ์ที่สดุ " ก่อนจะแจกจ่ายให้ โรงเรี ยนที่ไหนก็ได้ วนิยาจะทาวิทยานิพนธ์เรื่ องหลักสูตรของตัวเอง แล้ วขายหลักสูตร กระจายผลงานออกไป ทาแบบนี ้ "เปลีย่ นการศึกษาไทย" ตามความตังใจเดิ ้ ม ได้ มากกว่าสร้ างโรงเรี ยนแห่งเดียว ต่อไปนี ้จะมุง่ พัฒนาหลักสูตรให้ ดีที่สดุ ก่อน หลังจากนันจะเปิ ้ ดโรงเรี ยนหรื อไปสอนหรื อทาเกมส์ออนไลน์ก็คอ่ ยดู(อารมณ์)กันต่อค่ะ . 25 กุมภาพันธ์ 2557 ตอนเช้ า วนิยาอ่านมติชนสุดสัปดาห์ ฉบับ 21-27 กุมภาพันธ์ 2557 หน้ า34 คอลัมน์ไทยมองไทย เรื่ องโครงการเพาะพันธุ์ ปั ญญา โรงเรี ยนบุญวาทย์วิทยาลัย ลาปาง มีการนาวิธีการเรี ยนรู้ บนฐานการวิจยั Reserch Based Learning มาใช้ แล้ ว โดยนักเรี ยน ม.ต้ น โรงเรี ยนบุญวาทย์ลาปางได้ ศึกษา "มะเกี๋ยง" พืชท้ องถิ่น ที่สามารถนามาแปรรู ป เป็ นผลิตภัณฑ์ personal care ดูแลผมและผิวได้ การศึกษาวิจยั การประยุกต์ใช้ มะเกี๋ยง นอกจากจะฝึ กทักษะ การเรี ยนรู้ ด้ วยวิจยั แล้ ว ยังเป็ น "การศึกษาที่นาไปสู่การพึ่งตนเอง" สร้ างผลิตภัณฑ์ดแู ลตนเองจากภูมิปัญญา ดังเดิ ้ มและทรัพยากรในท้ องถิ่น..

รุ่งอรุณเชียงราย : โรงเรี ยนในจดหมายกับหลักสูตรปั จจัยสี่

108


ตรงกับความต้ องการพัฒนาหลักสูตรของวนิยา ซึง่ ในข้ อนี ้ การปรับปรุงหลักสูตรของโรงเรี ยนรุ่งอรุณยังตอบโจทย์ไม่ได้ แน่ชดั ข่าวนี ้ทาให้ วนิยาคิดได้ วา่ ไม่ต้องเข้ าถึงโรงเรี ยนทางเลือกที่ไหน การศึกษาทัว่ ไปก็กาลังปรับตัวมาหาเราแล้ ว อีกอย่าง ถ้ าวนิยาเริ่ มต้ นชีวิตครูด้วยการเรี ยนรู้วิธีการสอนตามแนวทางของโรงเรี ยนทางเลือก วนิยากลัวว่าจะคุยกับครูในโรงเรี ยนส่วนใหญ่(เพื่อเปลีย่ นการศึกษาไทย)ไม่ร้ ูเรื่ อง... ... ตอนบ่าย วนิยาดูทีวีกบั ยาย รายการ "เกมเด็ดเจ็ดกระดาน" เป็ นเกมโชว์วิชาภาษาไทยเด็กประถม เมื่อปี ที่แล้ วตอนยายอยู่ กรุ งเทพยายก็เปิ ดดู วันนี ้อยู่กับยายก็ได้ ดูหลังจากไม่ได้ ดูมานาน เกมเด็ดเจ็ดกระดาน "ปรับปรุ งใหม่" อะไรที่ บกพร่ องก็เปลี่ยน อะไรที่ยงั ดีก็รักษาไว้ เปลี่ยนตังแต่ ้ ระบบการสมัครเข้ าเล่นเกม การเลือกคาถามในเกม การ ตัดสินคะแนน เพลงที่ใช้ มาก่อนดูล้าสมัยไปแล้ วก็เปลีย่ น ส่วนพิธีกรตัวเล็กยังคงลีลาปฏิภาณเช่นเดิ ม รู้ สกึ ทึ่งในความสามารถของพิธีกรเด็กที่ตวั เล็กกว่าผู้แข่งขันแล้ ว ที่ น่าสนใจคือคาถาม นอกจากจะยากขึ ้นจนผู้ใหญ่ที่ดกู ็เดาไม่ได้ แต่ไม่ยากเกินไปที่เด็กจะตอบแล้ ว ยังบูรณาการ เชื่อมโยงเป็ นเรื่ องเดียวกันทุกคาถาม และบอกประเภทคาถามล่วงหน้ าด้ วย อาจไม่สนว่าเกมเด็ดเจ็ ดกระดาน เปลี่ยนไปขนาดนันได้ ้ ยงั ไง แต่เห็นโฆษณาแล้ วจะสงสัย โฆษณาเกือบทังหมดกลายเป็ ้ นโฆษณาของบริ ษัท ทีวี บูรพา สงสัยแล้ วว่ารายการนี ้จะโดนทีวีบรู พาเทกโอเวอร์ นนั่ เอง ทีวีบรู พาออนแอร์ โฆษณารับสมัคร "ครี เอทีฟ" รายการเกมเด็ดเจ็ดกระดานดูครี เอทีฟมากขึ ้นได้ ขนาดนี ้แล้ ว ยังจะหาครี เอทีฟเพิ่มอีก วนิยาเริ่ มคิดย้ อนกลับไปเป็ นเด็กจบใหม่ เราจบมาทางโฆษณา สายครี เอทีฟ ถ้ าไม่เอาวิชาความรู้ที่เรี ยนมาไปทางานครี เอทีฟแล้ วชีวิตที่ผา่ นมาจะมีคณ ุ ค่าอะไร ถ้ าได้ ทางานกับบริ ษัท ทีวีบูรพา นอกจากจะได้ พฒ ั นาความคิดสร้ างสรรค์แล้ ว ยังได้ เครื อ ข่าย กัลยาณมิตร ที่ ถนัดทางการสร้ างสรรค์สารคดี ส่งเสริ มสังคม ในการทาภาพยนตร์ เปลีย่ นค่านิยมทางการศึกษาด้ วย จะเอายังไง

109

รุ่งอรุณเชียงราย : โรงเรี ยนในจดหมายกับหลักสูตรปั จจัยสี่


... ตอนเย็น หลังอ่านมติชนตอนเช้ า และเห็นประกาศรับครี เอทีฟตอนบ่าย วนิยาเริ่ มคิดไปได้ วา่ "ทาไมเราไม่เปลีย่ นแปลงการศึกษาในเส้ นทางที่มนั ตรงกว่านันล่ ้ ะ" เพราะ "องค์การที่ขาดแคลนครี เอทีฟไม่ใช่ทีวีบรู พา แต่เป็ นกระทรวงศึกษาธิการต่างหาก" ถ้ าวนิยาไปทางานในกระทรวงศึกษาธิการเลย - วนิยาจะได้ ศกึ ษาระบบการทางานของกระทรวงว่าติดขัดตรงไหนจะได้ แก้ ได้ ตรงจุด - วนิยาจะได้ ข้อมูลทุกอย่างที่อยากได้ ไม่มีข้อมูลตรงไหนก็เบิกงบทาวิจยั เองได้ ด้วย - วนิยาจะสามารถสัง่ การผลิตสือ่ เปลีย่ นค่านิยมทางการศึกษาในนามกระทรวงศึกษา - ไม่ต้องผลิตสือ่ โจมตีกระทรวงศึกษาในนามคนอื่นให้ เสียหน้ ากันเปล่าๆ - วนิยาจะได้ ผลักดันหลักสูตรจตุรวิทย์ที่มีอยู่ ไปสูโ่ รงเรี ยนทัว่ ประเทศ และ วนิยาจะได้ เพิ่มความสร้ างสรรค์ให้ กบั โครงการต่างๆ เป็ นครี เอทีฟของกระทรวง ... ตอนดึก วนิยาทบทวนและเปลีย่ นชื่อหลักสูตรที่ตวั เองร่างให้ สวยขึ ้น เป็ น "จตุรวิทย์พิชญศึกษา" ถ้ าเป็ นโรงเรี ยนก็จะได้ ชื่อ "โรงเรี ยนจตุรวิทย์พิชญาลัย" ถ้ าเปิ ดออนไลน์ก็จะเรี ยกว่า "โรงเรี ยนจตุรวิทย์พิชญาลัยออนไลน์" ย่อแล้ วเป็ น "จตุรวิทย์พิชญาไลน์" วนิยาปรึกษาแม่ แล้ วหาที่ปรึกษาเป็ นป้าอีก 2 คน (ตระกูลครูสวุ รรณเวโช-นามสกุลยาย) ทบทวนประสบการณ์ด้านนโยบายและประสบการณ์ด้านความคิดสร้ างสรรค์ทงหมด ั้ รวบรวมผลงาน ลองเขียนจดหมายสมัครงานถึงกระทรวงศึกษาธิการดูเล่นๆ ไม่หวังให้ ใครตอบรับ แค่สง่ ไว้ เป็ นหมุดหมายว่าวันนี ้วนิยามาถึงจุดนี ้แล้ วนะ แว้ นซ์คะ่

รุ่งอรุณเชียงราย : โรงเรี ยนในจดหมายกับหลักสูตรปั จจัยสี่

110


. 26 กุมภาพันธ์ 2557 เป็ นเวลาเช้ าตรู่ เพราะไอเดียโลดแล่นต้ องเปิ ดโคมไฟจดลงสมุดทังคื ้ นไม่ได้ นอน วนิยาค่อยๆเติมเต็มแต่ละส่วนของจดหมาย "อรุณพิฆราส" ฉบับนี ้ มาเรื่ อยๆ ความคิดใน 7 วันที่เป็ นหางเสือเปลีย่ นทางชีวิต (แต่ยงั คงจุดมุง่ หมายเดิม) จากกลุม่ ก้ อนที่ประดังเข้ ามาอย่างไว ค่อยๆคลีค่ ลายกลายเป็ นตัวหนังสือเรี ยงแถว บางที บางที่ บางอย่าง บางคน ไม่ต้องใช้ เวลามาก เราส่งพลังให้ กนั มามากพอแล้ ว ใกล้ จะถึงยามสาย ถึงเวลาต้ องเดินต่อไปแล้ ว ลาก่อนรุ่งอรุณ . สวัสดีคะ่ วนิยา . ปล. ตอนนี ้ยังรอ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย จัดทาหลักสูตร ป.โท ใหม่ อยูเ่ หมือนกันค่ะ เพราะมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงรายอยูใ่ กล้ บ้านใหม่ ขนาดปั่ นจักรยานไปเรี ยนได้ ถ้ าหลักสูตรน่าสนใจ และวนิยาเกิดเปลีย่ นใจ จะแจ้ งให้ ทราบชัดเจนอีกทีนะคะ

111

รุ่งอรุณเชียงราย : โรงเรี ยนในจดหมายกับหลักสูตรปั จจัยสี่


เอ.เอ.อำร์ . 21 พฤษภาคม 2557 สวัสดีคะ่ ห่างหายไปนาน (บางคนอาจจะดีใจว่ายัยวนิยาคงจะเลิกส่งอะไรยาวๆมาให้ อา่ นเสียทีแล้ ว) คิดว่าอีเมล ฉบับนี ้จะเป็ นฉบับสุดท้ ายในอีเมลชุด "รุ่งอรุณเชียงราย" ที่วนิยาตังใจว่ ้ าจะรวมเล่มตีพิมพ์คะ่ สาหรับชื่ออีเมลฉบับนี ้ AAR ย่อมาจาก After Action Review เป็ นเครื่ องมือในการจัดกระบวนการของ กลุม่ นักพัฒนาสังคม เป็ นการจับเข่าคุยกันที่ต้องทาเป็ นประจาสม่าเสมอหลังจากจัดกระบวนการหรื อทากิจกรรม ในแต่ละครัง้ จบ วนิยารู้ จกั AAR เป็ นครัง้ แรกเมื่อเดือนสิงหาคม ปี 2553 สมัยที่นกั พัฒนาสังคมจากทีม 750 ปี เชียงราย ถูกเกณฑ์มาร่ วมงานกันฟรี แลนซ์แบบรวมหมู่อิมโพรไวส์อบรมการใช้ กระบวนการทางประวัติศาสตร์ เพื่อสร้ างความสัมพันธ์ ให้ กับข้ าราชการสุโขทัย ในโครงการสุโขทัยเมืองสุขภาพดีบนวิถีไทย เมื่อกระบวนกา ร (ค่าย/อบรม)ในแต่ละวันจบลง เหล่าวิทยากรและผู้จดั การก็จะมานัง่ รวมกัน (อาจเจือด้ วยแอลกอฮอล์) ทา AAR เพื่อแลกเปลีย่ นความคิด สิง่ ที่ได้ จากการกระทาในวันนันๆ ้ ปรับจูนความรู้ ทัศนคติ ความขัดแย้ ง ระบุปัญหาและ หาวิธีแก้ ไขร่วมกัน วนิยาชอบการ AAR มาก แต่เนื่องจากไม่ค่อยมีงานที่ทาเป็ นหมู่คณะแบบสนิทสนมเข้ ามามากนัก ก็ เลยไม่คอ่ ยได้ เห็นการ AAR บ่อยเท่าที่อยากจะเห็น อย่างไรก็ตาม ท่านแม่ผ้ ใู จดีซึ่งหางานมาให้ วนิยาทาตลอดก็ ได้ บรรจุตวั อย่างการ AAR ลงไปในครัง้ ที่ท่านแม่เป็ นหัวหน้ าทีมวิจยั ของมูลนิธิ แล้ ว วนิยาเป็ นหนึ่งในลูกทีม (ทัง้ ทีม(ทังมู ้ ลนิธิ)มีคน 3 คน คือ ท่านแม่ วนิยา และน้ าพยอม) ในการตระเวนสัมภาษณ์แพทย์แผนไทยใน รพ.สต. (สถานีอนามัย) สุม่ ตัวอย่างในจังหวัดเชียงราย เมื่อการสัมภาษณ์จบ ท่านแม่จะนาลูกทีมเข้ าสูก่ ระบวนการ AAR ในระหว่างการนัง่ รถไปสัมภาษณ์เป้าหมายถัดไป แม่มกั จะถามว่า "จากการทางานในครัง้ นี ้ เราเห็นอะไรบ้ าง?" และเปิ ดรับคาตอบแบบกว้ างๆซึง่ อาจจะไม่เกี่ยวกับคาถามการวิจยั ก็ได้ อาจจะเป็ นความรู้สกึ ความประทับใจทัง้ ในแง่บวกและลบ การวิเคราะห์คนและสถานการณ์ หรื อความไม่ร้ ู ความงง คาถามต่างๆ แล้ วทุกคนในทีมก็จะ ช่วยกันซ่อมเสริ มแลกเปลี่ ยนมุมมองความคิดเห็นให้ กันและกัน ทาให้ ทีมสามารถพยุงคนที่เพิ่งเริ่ มงานใหม่ (อย่างวนิยา)ให้ สามารถตามสถานการณ์และพัฒนาตัวเองจนคิดทันคนในทีมได้ มุมมองและความคิดเห็นที่ถกู แลกเปลี่ยนจากที่เก็บไว้ สว่ นตัวเมื่อเข้ ามาสูก่ ระบวนการ AAR แล้ วก็จะกลายเป็ นมุมมองและความคิด เห็นของ ส่วนรวมไปด้ วย วนิยาประทับใจในประสิทธิภาพของเครื่ องมือที่ชื่อว่า AAR นี ้มาก ดังนันเมื ้ ่อวนิยาเขียนอีเมลเล่า เรื่ องต่างๆในชุด "รุ่ งอรุ ณเชียงราย" ขึ ้นมา วนิยาก็ตงใจว่ ั ้ า จะ AAR กระบวนการเขียนอีเมล "รุ่ งอรุ ณเชียงราย" ให้ ทกุ คนได้ อา่ นกันด้ วย (อย่าเพิ่งเบื่อยนะคะ555) "รุ่งอรุณเชียงราย" After Trials Review แบ่งเป็ นประเด็นต่างๆ ดังนี ้ 1. ระบบการคิดการทางานที่เปลีย่ นไปหลังจากวนิยาได้ คยุ กับ mr.Saturday 2. ปั ญหาด้ านการสือ่ สารด้ วยภาษาถิ่นกับผู้ทรงภูมิปัญญา 3. การทดลองรูปแบบการสอนใหม่ๆในชันเรี ้ ยนมหาวิทยาลัยโดยท่านแม่ อ่านแต่ละหัวข้ อไม่ต้องกังวลไปค่ะ ..เรื่ องมันยาววววว ชัวร์ ๆ

รุ่งอรุณเชียงราย : โรงเรี ยนในจดหมายกับหลักสูตรปั จจัยสี่

112


1. ระบบการคิดที่วนิยาได้ จากการปรับปรุงโดย mr.Saturday สมัยเรี ยนมหาวิทยาลัย วนิยาเป็ นคนชอบจด ชอบจด และชอบจด ด้ วยตัวหนังสือที่บีบอัดข้ อมูลมาก แม้ แต่ตอนเป็ นเลขาที่ประชุมกิจกรรมนักศึกษาของคณะ วนิยามันยังจดใส่มือซ้ ายตรึ มระยิบตังแต่ ้ สนั ฝ่ ามือยัน นิ ้วก้ อย ลอกออกมาใส่กระดาษได้ เป็ นหน้ า A4 จนถึงตอนนีว้ นิยาก็ ไม่ร้ ู ว่าการจดทุกอย่างไปขนาดนัน้ มันมี ประโยชน์อะไร เอาเป็ นว่าอาจจะช่วยในการจาเพราะเมื่อจดเสร็ จแล้ วก็จาได้ หมดโดยไม่ได้ กลับไปอ่านทวนซ ้า และอาจจะช่วยให้ สบายใจไม่กลัวที่จะลืมในทุกๆเรื่ องแม้ วา่ มันจะไม่สาคัญขนาดไหนก็ตาม หนังสือและเอกสารต่างๆที่ผ่านเข้ ามาในชีวิตวนิยาก็เก็บไว้ หมดโดยที่ห้องแถวธรรมดาห้ องหนึ่งน่าจะ รองรับเอาไว้ ได้ ครบ และแม้ วนิยาจะไม่ได้ จด วนิยาก็หาโอกาสให้ ตวั เอง "เขียนจดหมายถึงตัวเองในอนาคต" อย่างที่กาลังเขียนอยูใ่ นอีเมลฉบับนี ้ เพื่อที่จะราลึกถึงจุดยืนและประวัติศาสตร์ อดุ มการณ์ของตัวเองอย่างที่มีผล ต่อการตัดสินใจเปลีย่ นเส้ นทางเดินจากผู้ก่อตังโรงเรี ้ ยนมาเป็ นนักพัฒนาหลักสูตรเฉยๆในอีเมลชื่อ "อรุณพิฆราส" ที่สง่ ไปเมื่อต้ นเดือนมีนาคมที่ผา่ นมา วนิยาเคยพัฒนา "ทักษะการจดบันทึก" ให้ สามารถรัวระยิกตามฝี ปากได้ แทบทุกคาพูด ตังแต่ ้ สมัยเรี ยน มหาวิทยาลัย (อาจจะดูเป็ นที่พงึ่ ของเพื่อนร่ วมชันได้ ้ แต่จริ งๆแล้ วทุกคนมิบงั อาจขออ่านเพราะตัวหนังสือมันเล็ก จนอ่านไม่ออก) จนมาถึงสมัยที่เขียนหนังสือด้ วยปากกาก่อนพิมพ์เข้ าคอมพิวเตอร์ เป็ น text เมื่อปี 2556 วนิยาใช้ สมุดและลายมือตัวหนังสือบีบอัดประหยัดพื ้นที่ในการทางานมาตลอด แต่พอได้ ไอเดีย "โรงเรี ยนรุ่ งอรุ ณเชียงราย" ขึ ้นมา วนิยา (ซึ่งนึกว่าเรื่ องจะไม่ยาว) ก็ได้ นงั่ พิมพ์อีเมล ฉบับแรกของหนังสือเล่มนี ้ขึ ้นมาบนหน้ าจอสดๆ วิธีการเขียนสดบนอีเมลแบบมาราธอนนี ้ได้ แรงมาจากการพิมพ์ อีเมลถึง mr.Saturday สมัยปี 2555 การใช้ คอมพิวเตอร์ เป็ นเครื่ องมือประกอบการเขียนทาให้ วนิยาสามารถ จัดลาดับและจับประเด็นต่างๆได้ ดีขึ ้น มีการอ่านมีการตรวจทานและแก้ ไขข้ อความต่างๆได้ แม่นยาขึ ้น เมื่อวนิยาสามารถจัดการกับความคิดของตัวเองได้ ถึงระดับหนึ่งแล้ ว mr.Saturday ก็ยงั ฝึ กวนิยาให้ มี "ทักษะการพูดนาเสนอความคิด" ผ่านมาตรการขันเด็ ้ ดขาดที่วา่ "ผมไม่อา่ นอีเมลครับ แต่ผมจะให้ วนิยามานัง่ เล่า สิง่ ที่วนิยาต้ องการบอก ให้ ผมฟั งในชัว่ โมงนี ้แทน" วนิยาก็เลยเอ๋อแดก ต้ องกระเสือกกระสนจากภาวะออทิสติกแต่ ปางก่อน มาเป็ นนักพูดขายฝั น โดยมี mr.Saturday เป็ นผู้ฟังที่คอยประคองการพูดให้ ตลอดรอดฝั่ งด้ วยการป้อน คาถามอย่างนุม่ นวล ซึ่งบางครัง้ วนิยาก็แอบชื่นชมที่ mr.Saturday สามารถใช้ ทกั ษะจากการทางานเป็ นนักวิจยั ที่ต้องป้อน คาถามเป็ นระบบให้ กลุม่ เป้าหมายตอบ มาช่วยดึงข้ อมูลจากสมองของวนิยาแล้ วจัดเก็บให้ อย่างมีระบบ เมื่อ วนิยาได้ ทางานเป็ นนักวิจัยในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา วนิยาจึงคิดถึง mr.Saturday มากๆ และมี mr.Saturday เป็ นแรงบันดาลใจในการทางานวิจยั เชิงคุณภาพ เพราะต้ องเลือกคาถามสัมภาษณ์กลุม่ เป้าหมายให้ ได้ เนื ้อความ ที่ต้องการอย่างชัดเจนและต้ องไม่เป็ นตัวถ่วงในการทางานด้ วย ในการทาวิจัยในรู ปแบบการสัมภาษณ์ ท่านแม่สอนวนิยาว่า จะต้ องมี คนถาม คนจด และคนเก็ บ บริ บท ทางานร่ วมกัน คนถามจะทาหน้ าที่ยิงคาถาม คนจดจะคอยตรวจสอบว่าถามครบประเด็นที่ต้องการหรื อ มีข้อสังเกตให้ เสริ มเพิ่มเติ มหรื อไม่ คนเก็บบริ บทจะสังเกตการณ์ อยู่รอบๆและอาจจะทาหน้ าที่เก็บภาพถ่ายที่ เกี่ยวข้ องกับการวิจยั ไปด้ วย

113

รุ่งอรุณเชียงราย : โรงเรี ยนในจดหมายกับหลักสูตรปั จจัยสี่


หากเลือกหน้ าที่จากความถนัดที่วนิยามีมาแต่ปางก่อน วนิยาจะเลือกเป็ น "คนจด" แต่เมื่อวนิยาผ่าน การเขียนอีเมลมาราธอน 3 เดือนมาแล้ ว ทักษะการจดระยิกจิกเวลาของวนิ ยาก็ถดถอยลง อาจจะเป็ นเพราะ วนิยา "เพิ่งเริ่ มจับประเด็นเป็ น" เพิ่งรู้ ว่าข้ อมูลส่วนไหนสาคัญหรื อข้ อมูลส่วนไหนไม่ต้องจดก็ได้ เมื่อก่อนวนิยา สนุกกับการเก็บข้ อมูลมาก แต่ตอนนี ้วนิยาเริ่ มเบื่อกับความละโมบโลภข้ อมูลของตัวเองแล้ ว เริ่ มปล่อยวาง ไม่ อยากรู้ อยากเห็น ทาให้ ไม่มีแรงจูงใจในการจดบันทึกเท่าไรนัก ประกอบกับแรงเสริ มจากการสอนของท่านแม่ ที่เปิ ดโอกาสให้ วนิยาได้ ยิงคาถามตังแต่ ้ การสัมภาษณ์เป้าหมายคนแรก ทาให้ วนิยา (คิดถึง mr.Saturday) เริ่ ม อยากเป็ น "คนถาม" คอยยิงคาถามอยูท่ ี่แนวหน้ า ปล่อยให้ น้าพยอมจดยิกๆอยูเ่ บื ้องหลัง ในช่วง AAR ของการวิจยั นี ้ น้ าพยอมก็ได้ แบ่งปั นเทคนิคการจดในแบบของนักพัฒนาสังคมให้ วนิยาได้ เรี ยนรู้ คือคนที่เรี ยนสายพัฒนาสังคมมา จะจดเป็ นแผนภาพแทนข้ อความยาวๆ (ประหยัดเวลาแต่บางครัง้ ก็เป็ น ปั ญหาเวลาถอดความทารายงาน) วนิยายังไม่มีความสามารถจับประเด็นจดแบบมองเห็นความสัมพันธ์ ของ นามธรรมที่อยูต่ รงหน้ าจนออกมาเป็ นแผนภาพได้ เท่าที่มีปัญญา วนิยาจึงยกหน้ าที่การจดให้ กบั น้ าพยอมไปเลย (เลวแล้ วนะ) สิง่ ที่นา่ สนใจคือ ยิ่ง AAR กันมากเท่าไร วนิยายิ่งมีทกั ษะในการพูด การทาความเข้ าใจกับผู้ร่วมทีมวิจยั (เฉพาะคนสนิท)มากขึ ้นเท่านัน้ ในทัก ษะด้ านนี ้วนิยาต้ องขอขอบพระคุณ mr.Saturday มากๆ ที่จดั ระบบและ ฝึ กวนิ ย าให้ สามารถถ่ า ยทอดความในใจของตัว เองออกมาได้ ทัง้ หมด วนิ ย ากลายเป็ นคนที่ ช อบพูด ชอบ แลกเปลี่ยนความรู้ ความคิด ประสบการณ์ และเปิ ดกว้ างในการรับฟั งสิ่งต่างๆ วิธีการจดบันทึกความคิดของ วนิยาเปลี่ยนเป็ นการพูดให้ คนสนิทฟั งแล้ วอัดเสียงพูดของตัวเองเก็บไว้ ซึ่งสะดวกกว่าการเก็บทุกอย่างไว้ ในใจ แล้ วเอามาพิมพ์บนั ทึกในภายหลังอยู่มาก อย่างไรก็ตาม การเขียนสรุ ปทุกอย่างออกมาเป็ นประเด็นที่ชัดเจน อย่างที่วนิยากาลังเขียนอีเมลฉบับนี ้อยูก่ ็เป็ นการบันทึกที่สะดวกต่อการทบทวนย้ อนหลังมากกว่า สรุปว่าจากความสามารถพิเศษของ mr.Saturday ทาให้ ทกั ษะการคิดการทางานของวนิยาเปลี่ยนไป ในทางที่ดีขึ ้น จากนักเก็บบันทึกข้ อมูลอย่างเดียว กลายมาเป็ นนักเล่าเรื่ องที่จดั การความคิดของตัวเองได้ อยูห่ มัด ไม่สบั สนหลงทาง กลายเป็ นนักถามนักวิจัยด้ วยแรงบันดาลใจที่อยากจะเป็ นในแบบที่ mr.Saturday ได้ เป็ น แม้ วา่ จะไม่ได้ เป็ นนักวิจยั ที่เก่งฉกาจแต่วนิยาก็ยงั ภูมิใจในความช่างสังเกตอันเป็ นประโยชน์ต่อทีมและความเอา ใจใส่ในงานที่ได้ รับมอบหมายของตัวเอง ที่สาคัญ วนิยาได้ เรี ยนรู้ เรื่ องการวิจัยเพื่อพัฒนาสังคมจากการสอน โดยตรงของท่านแม่ ซึง่ แน่นอนว่าจะกลายเป็ นพื ้นฐานสาคัญของการจัดการเรี ยนการสอนในหลักสูตร "จตุรวิทย์ พิชญศึกษา" ที่วนิยาคิดขึ ้นในช่วงที่เขียนอีเมลเมื่อเดือนมีนาคมด้ วย 2. ปั ญหาด้ านการสือ่ สารด้ วยภาษาถิ่นกับผู้ทรงภูมิปัญญา งานที่วนิยาทากับมูลนิธิของแม่ไม่ได้ มีเฉพาะการวิจัยแบบสัมภาษณ์ความคิดเห็นส่วนบุคคลของคนตัว เล็กตัวน้ อยในระบบราชการเพียงอย่างเดียว การสังคายนาองค์ความรู้ พื ้นบ้ านที่มีอยู่ในคลังสมองของคนตาม พื ้นที่ตา่ งๆ ก็เป็ นงานอย่างหนึง่ ที่ทางมูลนิธิได้ ทาร่วมกันกับมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงที่ทา่ นแม่วางโครงการไว้ เอง ด้ วย การวิจัยถอดองค์ความรู้ หมอพื ้นบ้ านแบบ focus group ถูกจัดขึ ้นอย่างง่ายๆ ในห้ องประชุมเล็กๆ ที่มี กระดานติดกระดาษชาร์ ต น้ าพยอมโชว์เดี่ยวดาเนินรายการกาหนดประเด็นคาถามรวบรวมความรู้ จากหมอ พื ้นบ้ านผู้เชี่ยวชาญจากภาคเหนือจดลงบนกระดาษชาร์ ตตัวใหญ่ ๆให้ ทุกคนร่ วมกันตรวจสอบทีละหั วข้ อ มี ทีมงานคอยพิมพ์บนั ทึกด้ วยคอมพิวเตอร์ ฉายขึ ้นจอโปรเจกเตอร์ แบบ real-time มีท่านแม่คอยควบคุมตรวจสอบ

รุ่งอรุณเชียงราย : โรงเรี ยนในจดหมายกับหลักสูตรปั จจัยสี่

114


อยูห่ า่ งๆ และวนิยาคอยเก็บภาพบรรยากาศหรื อคลิปวิดีโอที่แม่ขอไว้ เพื่อนาไปอธิบายกระบวนการวิจยั แบบนี ้ให้ พวกผู้ใหญ่ในมหาวิทยาลัยที่ยงั ไม่เคยเห็นได้ เรี ยนรู้ บรรยากาศการวิจยั focus group ดาเนินไปอย่างรื่ นเริ งด้ วยอัธยาศัยส่วนบุคคลของน้ าพยอมที่มีความ สดใสเหมือนวันท้ องฟ้ ากระจ่างเสมอ น้ าพยอมใช้ กระดาษชาร์ ตและปากกาไวท์บอร์ ดเป็ นอุปกรณ์ บนั ทึกคู่ใจ วนิยาติดตามกระบวนการวิจยั ด้ วยความรู้สกึ สนุกสนานและตื่นเต้ น โดยมีสว่ นประกอบสาคัญของการพูดคุยใน ครัง้ นี ้เป็ นตัวกาหนดบรรยากาศอันเริ งรื่ นนัน่ คือ "ภาษาเมือง" หรื อภาษาถิ่นสาเนียงภาคเหนือ การพูดสาเนียง ภาคเหนือโดยกาเนิดอย่างเชี่ยวชาญโดยไม่มีเคอะเขินเป็ นสิง่ สาคัญที่ทาให้ น้าพยอมสามารถเจาะลึ กองค์ความรู้ จากคนในท้ องถิ่นของน้ าพยอมเองตลอดจนผู้เชี่ยวชาญรุ่นโบราณที่พดู ภาษาเดียวกันได้ ทงหมด ั้ การใช้ ภาษาถิ่นเป็ นสือ่ กลางในการดาเนินงานพัฒนาสังคมมีความสาคัญมาก เพราะผู้ทรงภูมิปัญญา หลายท่านที่ฝังตัวอยูใ่ นท้ องถิ่นมักจะเชี่ยวชาญภาษาถิ่นและพูดภาษาถิ่นกับคนอื่นๆได้ ราวกับเป็ นพระราชา แต่ เมื่อมีคนจากภาคกลางเช่นหน่วยงานข้ าราชการจากส่วนกลางเข้ ามาพูดภาษากลางเพื่อเก็บข้ อมูลไปทาอะไร ครึ่งๆกลางๆแล้ ว ผู้ทรงภูมิปัญญาเหล่านี ้จะแสดงอาการเป็ น 2 อย่าง อย่างแรกคือ พูดภาษากลางแบบ "จ๋องๆ" เพราะมีความรู้ สึกว่ากาลังคุยกับคนที่ส่งมาจากภาคกลางซึ่งอาจจะมีความรู้ มากกว่าและไม่เคารพหรื อให้ เกียรติภมู ิปัญญาชาวบ้ านเท่าที่ควร อย่างที่ 2 ผู้ทรงภูมิปัญญาอาจจะ "ต่อต้ าน" คนพูดภาษากลางเพราะไม่ใช่ พวกเดียวกันและพยายามปกปิ ดข้ อมูลไม่ให้ คนต่างถิ่นเอาความรู้ไปใช้ ในทางที่ผิด ดังนันการฝึ ้ กสือ่ สารด้ วยภาษาถิ่นเป็ นสิง่ ที่จาเป็ นมากๆสาหรับงานพัฒนาสังคม ปั ญ หาคือ ข้ าราชการ หรื อคนจากองค์กรไม่แสวงหากาไรจากภาคกลางไม่สามารถที่จะฝึ กพูดภาษาถิ่นให้ สนิทใจได้ เท่าบุคลากรที่เป็ น คนพื ้นถิ่นและเติบโตมาท่ามกลางบริ บทภาษาและประสบการณ์ร่วมเดียวกันกับผู้สืบทอดภูมิปัญญาของท้ องถิ่น นันๆ ้ ดังนัน้ พ่อของวนิยา (นายแพทย์ธารา อ่อนชมจันทร์ ผู้ลว่ งลับ) และท่านแม่ (ป้าแมว ดารณี อ่อนชมจันทร์ ) จึงเลือกที่จะฝึ กคนในท้ องถิ่นเช่น น้ าพยอม ให้ เติบโตมาเป็ นนักพัฒนาสังคมที่สามารถเป็ นผู้นาผู้ประสานและ เชื่อมโยงความสัมพันธ์กบั ท้ องถิ่นเองอย่างเต็มศักยภาพ เป็ นบุคคลตัวอย่างของชุมชนมาจนถึงปั จจุบนั นี ้ เมื่อมองในมุมของวนิยาที่เป็ นผู้ออกแบบหลักสูตร "จตุรวิทย์พิชญศึกษา" ซึง่ มีรูปแบบการเรี ยนการสอน ส่วนหนึ่งเป็ นการลงพื ้นที่วิจัยเก็บข้ อมูลจากแต่ละท้ องถิ่นในรู ปแบบต่างๆแล้ ว "ความไม่เชี่ยวชาญ(อ่อนหัด)ใน ภาษาถิ่น" คือปั ญหาใหญ่มากๆ ส่วนหนึ่งคือวนิยาเป็ นลูกครึ่ งเพชรบุรี -อุตรดิตถ์ที่ระหกระเหินมาเกิดในจังหวัด เชียงราย เติบโตในครอบครัวที่พูดภาษากลาง และเป็ น "เสมือนคุณหนู" ที่ใครๆในโรงเรี ยนประถมก็ไม่กล้ าพูด สาเนียงท้ องถิ่นด้ วย ทาให้ วนิยาฟั งภาษาถิ่นออกแต่พดู ไม่ถนัดและอ่อนคาศัพท์ยากๆที่มีความลืน่ ไหลพลิกแพลง และส่งเสริ มความคิดสร้ างสรรค์ มาก วนิยาตระหนักว่าแม้ จะมีพื ้นฐานด้ านการวิจัยทางสังคมจากการเรี ยน มหาวิทยาลัยคณะนิเทศศาสตร์ แต่ความอ่อนหัดด้ านภาษาถิ่นก็ทาให้ วนิยาไม่สามารถที่จะเป็ นผู้นาการวิจยั เพื่อ พานักเรี ยนไปเจาะลึกองค์ความรู้ตามพื ้นที่ตา่ งๆได้ ทงหมด ั้ จากประสบการณ์การร่ วมงานวิจยั ถอดองค์ความรู้ ภูมิปัญญาพื ้นบ้ านกับท่านแม่และน้ าพยอมครัง้ นี ้ วนิยาได้ ตระหนักว่าการจะจัดตังโรงเรี ้ ยนที่ใช้ หลักสูตร "จตุรวิทย์พิชญศึกษา" โดยยึดกระบวนการวิจยั มาเป็ น รูปแบบการเรี ยนการสอนในวิชาต่างๆ จาเป็ นที่จะต้ องมีครูที่เชี่ยวชาญทังกระบวนการวิ ้ จยั และภาษาถิ่นของพืน้ ที่ ที่โรงเรี ยนตังอยู ้ ่มากๆ ดังนัน้ "การสร้ างบุคลากรครู จากในท้ องถิ่น" จึงสาคัญกว่าการไปเฟ้ นหาและจ้ างครู เก่งๆ จากในกรุงเทพมาสอนในที่หา่ งไกล

115

รุ่งอรุณเชียงราย : โรงเรี ยนในจดหมายกับหลักสูตรปั จจัยสี่


3. การทดลองรูปแบบการสอนใหม่ๆในชันเรี ้ ยนมหาวิทยาลัยโดยท่านแม่ ในช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมานี ้ วนิยาได้ มีโอกาสเข้ าไปนั่งสังเกตการณ์ ในชัน้ เรี ยนซัมเมอร์ ของ สาขาวิชาการแพทย์แผนไทยประยุกต์ สานักวิชาวิทยาศาสตร์ สขุ ภาพ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ที่มีท่านแม่ (อ.ดารณี) เป็ นผู้ดาเนินการสอน ท่านแม่ช่วยวนิยาในการค้ นคว้ าเรื่ องรู ปแบบการเรี ยนการสอนโดยการทดลอง ต่างๆนานากับนักศึกษาในชันเรี ้ ย นของตัวเอง ไม่ว่าจะแกล้ งนักศึกษาสุ่มเลือกคนที่ทาการบ้ านมานัง่ สมมติว่า เป็ นผู้ทรงคุณวุฒิที่มีหน้ าที่เสวนาให้ ความรู้ แก่เพื่อนๆโดยไม่ทนั ตังตั ้ ว จัดกระบวนการระดมสมองแบบ world cafe ให้ วนิยาดู พานักศึกษาลงพื ้นที่สารวจชุมชนแบบ แผนที่เดินดิน ตลอดจนนัดกับพี่นพจากสื่ อชุมชนลุม่ น ้า โขงทาโครงการยุววิจยั ประวัติศาสตร์ สขุ ภาพระดับตาบล พานักศึกษามาสังเกตการณ์ทีม กศน.แม่จนั สัมภาษณ์ คนเฒ่าคนแก่ที่มีภูมิปัญญาในการดูแลสุขภาพตนเองแบบไม่ป่วยไม่ไข้ โดยไม่ต้องพึ่งยาหรื อสารอาหารไฮเทค จากโรงพยาบาล วนิยารู้สกึ ได้ วา่ ท่านแม่กาลังทดลองใช้ "ระบบกิลด์" กับทีม กศน. คือให้ ความรู้จากการลงปฏิบตั ิ ภารกิจจริ งแล้ วมีผลงานที่เป็ นประโยชน์ต่อกลุม่ (กิลด์) กล่าวได้ ว่าท่านแม่ได้ อ่านอีเมลของวนิยาทังหมดแล้ ้ วลง มือทดลองการจัดการเรี ยนการสอนตามแนวคิดที่วนิยาเคยเสนอเพ้ อฝั น ให้ ออกมาเป็ นรูปธรรมมากขึ ้น วนิยาต้ อง ขอบพระคุณท่านแม่ไปเต็มๆ ในการลงทุนทดลองครัง้ นี ้ ปั ญ หาที่ ว นิ ย าพบจากการจั ด การทดลองการเรี ย นการสอนรู ป แบบใหม่ ๆ คื อ นัก ศึ ก ษาระดับ มหาวิทยาลัยชันปี ้ สูงหน่อยจะขาดความกระตือรื อร้ นในการทางานเพราะมีความรู้ มากพอที่จะเลิกอยากรู้ อยาก เห็น ซึ่งวนิยาก็ไม่ร้ ู ว่าเด็กนักเรี ยนมัธยมจะให้ ความสนใจกับการเรี ยนการสอนรู ปแบบใหม่ๆมากกว่าหรื อเปล่า ที่วนิยากังวลคือรู ปแบบการเรี ยนการสอนบางอย่างอาจจะยากเกินไปสาหรับนักเรี ยนมัธยม เนื ้อหาบางส่วนใน หลักสูตร "จตุรวิทย์พิชญศึกษา" มีความยากเกินไปในลักษณะที่เจาะลึกองค์ความรู้ ภูมิปัญญาพื ้นบ้ านในทาง ปฏิบตั ิ เช่นการทอผ้ า การได้ ไปศึกษาช่างทอผ้ าทอมือที่เชี่ยวชาญจริ งๆทาให้ วนิยาเกิดอาการท้ อที่จะเรี ยนทอผ้ า เพราะมันดูยากมากแต่วนิยาก็ชื่นชมในภูมิปัญญาอันมหัศจรรย์นี ้ หากได้ เผยแพร่ กระบวนการทอผ้ าแบบทอมือ ออกไปให้ ทกุ คนได้ รับรู้ ภูมิปัญญาการทอผ้ าอาจจะได้ รับการยกย่องมากขึ ้น วนิยาไม่ตงเป ั ้ ้ าหมายว่านักเรี ยนทุก คนจะต้ องทอผ้ าใส่เองได้ แต่ขอให้ ทกุ คนเห็นคุณค่าของการมีเสื ้อผ้ าใส่ในชีวิตประจาวัน นัน่ คือเป้าหมายใหม่ของ หลักสูตร "จตุรวิทย์พิชญศึกษา" ปั ญหาที่ 2 ของการจัดการเรี ยนการสอนแบบลงพื ้นที่วิจยั คือ ภาษาถิ่น (อีกแล้ ว) นักเรี ยนนักศึก ษาใน หลักสูตรของวนิยา ควรจะเรี ยนหลักสูตรนีใ้ นถิ่ นฐานบ้ านเกิ ดของตัวเอง ในความร่ วมมือระหว่างท่านแม่กับ โครงการยุววิจัย นักเรี ยน กศน.วัยมัธยม ที่อยู่ในท้ องถิ่นอยู่แล้ ว เมื่อผ่านกระบวนการอบรมโดยพี่นพและน้ า พยอม ก็ดมู ีศกั ยภาพในการถอดองค์ความรู้ จากคนในหมู่บ้านของตั วเอง มากกว่านักศึกษามหาวิทยาลัยที่มา จากต่างถิ่นรวมๆกันเสียอีก ท่านแม่ต้องกระจายนักศึกษาที่ร้ ูภาษาเหนือไปอยูต่ ามกลุม่ ต่างๆเพื่อแปลภาษา และ ถ้ าเจอคนเฒ่าคนแก่ที่พูดคาโบราณมากๆ วนิยาเองก็ ฟังไม่ไหวเช่นกัน แต่ก็ใช่ว่าคนต่างถิ่ นจะเข้ าถึงภาษา ท้ องถิ่นไม่ได้ เพราะพี่นพแห่งสื่อชุมชนลุม่ น ้าโขง ก็ไม่ใช่คนเหนือ และพูดภาษาถิ่นได้ ทงั ้ 4 ภาค จากการฝึ กฝน ผ่านการลงพื ้นที่ในชุมชนนี ้เอง จากการได้ สงั เกตการณ์การจัดการเรี ยนการสอนรูปแบบต่างๆของแม่ วนิยาได้ ตระหนักถึงความยากใน การเป็ นครู การออกแบบการเรี ยนการสอน การผลักดันไอเดียในเรื่ อ งของรู ปแบบการเรี ยนการสอนให้ ผ่านดุลย พินิจของผู้บังคับบัญชาของครู การควบคุมนักเรี ยนนักศึกษาให้ อยู่ในบรรยากาศของการเรี ยนรู้ และความ ท้ อถอยในใจของวนิยาเอง เพราะการจะจัดการเรี ยนการสอนให้ ได้ ตามหลักสูตร "จตุรวิทย์พิชญศึกษา" ที่วนิยา

รุ่งอรุณเชียงราย : โรงเรี ยนในจดหมายกับหลักสูตรปั จจัยสี่

116


คิดขึ ้นมานัน้ ต้ องอาศัยการรวบรวมองค์ความรู้ ต่างๆในหลายๆทางเข้ ามารวมกัน มีทงความรู ั้ ้ ที่สอนกันอยู่ใน โรงเรี ยนแต่เอามาจัดหมวดหมู่ใหม่ และความรู้ ที่แทบจะสูญหายหรื อไม่ได้ รับการเผยแพร่ แต่มีความสาคัญใน ด้ านของความสามารถพึง่ ตนเอง ตลอดจนความละเอียดยิบย่อยของศิลปวัฒนธรรมที่ควรจะสืบสานให้ มากกว่า ที่วนิยาได้ กาหนดไว้ เป็ นวิชาหนึง่ ในหมวดวิชาการสือ่ สาร เมื่อวนิยาได้ สมั ผัสการทดลองการจัดการเรี ยนการสอน ไปส่วนหนึง่ แล้ ว วนิยาก็เห็นว่าหลักสูตร "จตุรวิทย์พิชญศึกษา" ควรจะได้ รับการปรับปรุ งในเชิงโครงสร้ างบ้ าง แต่ ตอนนี ้วนิยาก็ยงั ไม่ร้ ูวา่ จะปรับปรุงแบบไหน อาจจะต้ องใช้ เวลาในการพิจารณาอีกมากค่ะ สรุป AAR ในการเขียนอีเมลฉบับนี ้ วนิยาใช้ คอมพิวเตอร์ เขียนแบบเดินหน้ าเต็มตัว เขียนได้ เป็ นพรื ดจบ ในเวลาไม่กี่ชั่วโมง ไม่มีการวีนเหวี่ยงว่าเขียนไม่ออก อาจจะเป็ นเพราะสัง่ สมข้ อมูลมาตลอดทังเดื ้ อนและเป็ น ข้ อมูลที่มีแก่นสาร ในการรับงานตามแม่ไปทาวิจยั หลายๆรูปแบบ ทาให้ วนิยาต่อต้ านท่านแม่น้อยลง (อันที่จริ งที่ เคยไม่ยอมลงสนามวิจยั ในช่วงเขียนหนังสือเพราะวนิยากลัวตัวเองจะติดลมเลิกเขียนหนังสือแล้ วไปทาวิจยั แทน) วนิยามีวนั นี ้ได้ ก็เพราะแม่ จึงต้ องขอบพระคุณท่านแม่ที่ให้ โอกาสและการฝึ กฝนเพื่อประสบการณ์ค่ ะ ส่วนเรื่ อง เรี ยนต่อปริ ญญาโท วนิยาเพิ่งประสบปั ญหาทางการเงิน ต้ องหาเงินและเก็บเงินจานวนมากไว้ สร้ างบ้ านให้ เสร็ จ สาหรับโครงการในอนาคต วนิยาอยากจะค้ นคว้ าเรื่ องการผลิตและจัดการ "ปั จจัย 4" เพื่อนามาเขียนสังเคราะห์ เป็ นแบบเรี ยนชุด "ข้ าวหอม-ดอกฝ้ าย-ต้ นไผ่-ขมิ ้น" คูก่ บั หลักสูตร "จตุรวิชญ์พิชญศึกษา" ค่ะ สาหรับผู้รับอีเมลและผู้อ่านทุกท่าน วนิยาขอขอบพระคุณ ที่ได้ เป็ นแรงบันดาลใจ ไม่ว่าจะคิดถึงวนิยา หรื อไม่ เคยเปิ ดอีเมลอ่านไหม แต่วนิยาก็มีกาลังใจจากความตังใจที ้ ่จะเขียนเรื่ องของตัวเองให้ ได้ อ่านกันทุกผู้ทกุ นาม "โรงเรี ยนรุ่งอรุณเชียงราย" และหลักสูตร "จตุรวิทย์พิชญศึกษา" จะเกิดขึ ้นหรื อไม่ โดยใครก็ไม่สาคัญ วนิยา เขียนหนังสือเล่มนี ้ขึ ้นมาเพื่อแบ่งปั นความคิด อุดมการณ์ และตามหาความพยายาม ที่จะเปลี่ยนการศึกษาไทย ให้ ดีขึ ้น ซึง่ หากใช้ หลัก ปั จจัย4-ภาวนา4 มาเป็ นแกนในการจัดการเรี ยนการสอนแล้ ว เราอาจจะสามารถเปลี่ยน โครงสร้ างวิชาในระบบการศึกษาของทังโลกไปเลยก็ ้ เป็ นได้ ทังนี ้ ้ขึ ้นอยู่กบั ความคิดสร้ างสรรค์สานต่อของผู้อ่าน ทุกท่านเอง ขอให้ ประสบผลสาเร็ จในการพัฒนาหลักสูตรค่ะ วนิยา

117

รุ่งอรุณเชียงราย : โรงเรี ยนในจดหมายกับหลักสูตรปั จจัยสี่


ภำคผนวก : อีเมลถึง mr.Saturday ในปี 2555

รุ่งอรุณเชียงราย : โรงเรี ยนในจดหมายกับหลักสูตรปั จจัยสี่

118


Wednesday, January 18, 2012 12:03:15 AM วนิยา ครับ ดีใจที่ได้ พบกันอีกครัง้ นะครับ ผมส่งคลิปหนังโฆษณาที่เป็ นส่วนหนึง่ ในการสร้ างแรงบันดาลใจเพื่อค้ นพบ "ตัวตน" เป็ นกาลังใจให้ ทกุ ๆก้ าว ของการทางาน และขอให้ ประสบความสาเร็ จนะครับ mr.Saturday

119

รุ่งอรุณเชียงราย : โรงเรี ยนในจดหมายกับหลักสูตรปั จจัยสี่


From: วนิยา สุวรรณเวโช To: mr.Saturday Sent: Thursday, January 19, 2012 8:28:43 AM / Friday, February 24, 2012 1:11:16 AM * @ mr.Saturday ขอบคุณมากค่ะ >_< วนิยาคิดว่า mr.Saturday เหมือนมีพรสวรรค์ในการสอนค่ะ ทาให้ นกั ศึกษาที่ไม่คิดว่าจะยกมือตอบ สามารถ ตอบ mr.Saturday ได้ ในโครงการ Tutorialsฯ mr.Saturday ก็เลยเป็ นคนหนึ่งซึ่งวนิยาจะสัมภาษณ์ในหมวด 'แรงบันดาลใจตัวละคร' ด้ วย หลังจากนันถ้ ้ า mr.Saturday อยากมีสว่ นร่วมกับโครงการอย่างไรแจ้ งได้ คะ่ :D ปล. วนิยาเขียนพาดพิง mr.Saturday ในไดอารี่ ออนไลน์ หวังว่าจะไม่เป็ นไรนะคะ >_< วนิยาค่ะ (>///<) *มีการส่งอีเมลโต้ ตอบระหว่างวนิยากับ mr.Saturday หลายฉบับ แต่ในหนังสือเล่มนี ้ย่อลงเพื่อสะดวกในการอ่าน

From: mr.Saturday To: วนิยา สุวรรณเวโช Sent: Wednesday, February 29, 2012 8:20:50 PM @ วนิยา ด้ วยความยินดีและเต็มใจครับ ทีไ่ ด้ เข้ าไปมีบทบาทในบันทึกออนไลน์ ผมเพิ่งกลับมาจากการลงภาคสนาม และตระเวนประชุม ทังในประเทศและใกล้ ้ ประเทศ จึงเพิง่ ได้ มเี วลาว่างทาหน้ าที่ผ้ รู ับสารตอบกลับผู้สง่ สาร ต่อประเด็นเรื่ อง tutorialsฯ ผมยินดีให้ สมั ภาษณ์ครับ อย่างไรก็ตาม เพื่อให้ การสัมภาษณ์เป็ นไปอย่างราบรื่ น ผมอาจต้ องรบกวนให้ ชว่ ยรวบรวมประเด็นต่างๆ เกี่ยวกับผลลัพธ์ที่คาดหวังจากโครงการนี ้ บทบาทของผมต่อ โครงการนี ้ รวมทังช่ ้ วงระยะเวลาของโครงการฯ อาจจะผ่านทางอีเมล์หรื อสนทนากันก็ได้ นะครับ ผมจะเข้ าไปสอนอีกครัง้ (หลังสอบกลางภาค) วันเสาร์ ที่ 10 มีนาคม นี ้ครับ ขอบคุณครับ mr.Saturday

รุ่งอรุณเชียงราย : โรงเรี ยนในจดหมายกับหลักสูตรปั จจัยสี่

120


Answers & the Raw Project‫‏‬ From: To: Cc: Sent:

วนิยา สุวรรณเวโช mr.Saturday ส้ ม, กบ, ปอนด์, แนน, หงษ์ , พี่วา่ น, ยุ้ย, โบ, แม่, ตุ้ย Thursday, March 08, 2012 6:28:49 PM

อาจารย์สวัสดีคะ่ :D เรื่ องที่วนิยาคุยในนี ้ จะคุยกับอาจารย์เป็ นหลัก แล้ วส่งให้ เพื่อนๆอ่านเป็ นรอง แอดเดรสเพื่อนสาวในนี ้คือกลุม่ ทีว่ นิยามักจะโทรคุยหรื อเล่าเรื่ องยาวๆให้ ฟัง เวลามีเรื่ องทีเ่ ล่ายากๆวนิยาก็จะใช้ วธิ ีอพั เดตทางนี ้ ให้ เพื่อนๆเปิ ดดูกนั เองค่ะ วนิยาเริ่ มเข้ าใจแพทเทิร์นบางอย่างของนิสยั ตัวเองคือให้ ความสาคัญกับการเคลียร์ เรื่ องไม่ดกี ่อน เมื่อรู้สกึ ว่าโอเคแล้ วถึงเริ่ มทาสิง่ ที่ต้องการ ตอนจบมหาลัยวนิยากระโดดออกนอกกรอบทันที ก็คงจะสมควรแล้ วที่วนิยาต้ องไปอยูใ่ นดงข้ อความมีคมอันหวังดีจากเหล่าคนไม่เห็นหน้ า ตอนนี ้เหมือนวนิยาเป็ นคนไม่เอากรอบอะไรเลย ดื ้อรัน้ จะสร้ างแต่สงิ่ ที่พอดีกบั ตัวเอง ผลลัพธ์ที่ได้ คือขนมมาร์ ชเมลโลว์เหลวๆไร้ รูปร่าง ยืดหยุน่ และพร้ อมที่จะขึ ้นรูปชัว่ คราวหากมีภาชนะเข้ ามาตัก เช่น เมื่อมีคาถาม หลังตอบคาถามจบเจ้ ามาร์ ชเมลโลว์ดิบก็ไม่ได้ คงรูปร่างเหมือนที่เคยอยูใ่ นภาชนะ มีแต่สี กลิน่ รสชาติ สรรพคุณ ที่อยูใ่ นนัน้ เป็ นตัวเนื ้อหา รอที่จะปรุงแต่งต่อไปตามอัธยาศัย วนิยาอยากให้ โครงการ Tutorials กวดฯ สาเร็ จออกมาเป็ นขนมมาร์ ชเมลโลว์นมุ่ ๆเด้ งๆยืดหยุน่ ได้ แม้ วนิยาจะชื่นชมงานแคมเปญ งานพัฒนา งานเขียน ที่มีโครงสร้ างสีเ่ หลีย่ ม3มิติแข็งแรง แต่วนิยาก็ยงั อยากให้ โครงการของวนิยามีความน่ารักและสามารถปรับตัวเล่นล้ อกับผู้รับสารได้ เสมอค่ะ (โครงการนะยะ ไม่ใช่ simsimi) สาหรับ'กวดฯ (ย่อเข้ าไปอีก) อาจารย์ให้ วนิยารวบรวมประเด็นเกี่ยวกับ : 1. ผลลัพธ์ที่วนิยาคาดหวัง 2. บทบาทของ mr.Saturday ต่อโครงการนี ้ 3. ระยะเวลาของโครงการ

121

รุ่งอรุณเชียงราย : โรงเรี ยนในจดหมายกับหลักสูตรปั จจัยสี่


ตอบข้ อ1 : ผลลัพธ์ของการดาเนินโครงการนี ้ในแบบที่วนิยาคาดหวัง วนิยาขอแจงเป็ น 3 ด้ าน คือ ด้ านขอบเขต ด้ านเนื ้อหา และด้ านสินค้ า นะคะ ด้ านขอบเขต มี 3 ระดับ ดังนี ้ค่ะ 1) ระดับบุคคล - วนิยาตังเป ้ ้ าหมายว่าจะสือ่ สารถึงเพื่อนบางคนให้ เขาเปลีย่ นแปลงทัศนคติ ค่านิยม เกี่ยวกับ การศึกษาไทย 2) ระดับสังคม - ถ้ าการสือ่ สารของวนิยาสามารถเปลีย่ นแปลงเพือ่ นคนนันได้ ้ ก็นา่ จะสามารถเปลีย่ นแปลงผู้อา่ น ที่มีคณ ุ สมบัติคล้ ายๆจนถึงเปลีย่ นแปลงคนทัว่ ไปได้ 3) ระดับประเทศ - ถ้ าวนิยาสามารถเปลี่ยนแปลงค่านิยมเกี่ยวกับการศึกษาไทยของประชาชนกลุ่มที่วนิยาต้ องการจะ สื่อสารไปได้ การศึกษาไทยก็น่าจะถูกเปลี่ยนแปลงเพื่อตอบสนองตามค่านิยมของประชาชนกลุ่มนี ้ได้ เองค่ะ

4) ระดับอาเซียน - ฝั นไปเถอะค่ะ :p ถึงแม้ ด้านบนนี ้วนิยาจะเขียนว่า เกี่ยวกับการศึกษาไทย แต่วนิยาก็จะให้ ความสาคัญกับประเด็นอื่ นๆ เช่น ทุนนิยม บริ โภคนิยม วัฒนธรรม อานาจ ฯลฯ ด้ วย เนื่องจากจริ งๆแล้ ว การศึกษา ก็คือ การปลูกฝั งประเด็นเหล่านี ้เข้ าไปให้ นกั เรี ยน นักศึกษามีความคิดอ่าน หรื อมี ทศั นคติ มีค่านิยมอย่างที่.. ประเทศชาติต้องการ(? หรื อบางทีก็ไม่ต้องการแล้ ว หรื อ ต้ องการอย่างอื่นเพิ่ม แต่ไม่มีใครไปสารวจแก้ ไขมัน?) อาจจะมาในลักษณะของแบบเรี ยน วิชาต่างๆ ร่ วมกับการผลิตซ ้าใน กิจกรรม ในความสัมพันธ์ หลายรู ปแบบ เพราะฉะนัน้ สิ่งที่วนิยาจะเขียนออกไปเป็ นสื่อ จะมีประเด็นอื่นๆสอดแทรกอยู่ ตามเนื ้อหาเท่าที่จะใส่ลงไปได้ อย่างเป็ นธรรมชาติคะ่

ด้ านเนื ้อหา อันนี ้ค่อนข้ างพูดยากสักหน่อย.. เอาเป็ นว่าวนิยาจะลองเขียนแนะนาโครงการหลายๆเวอร์ ชนั่ นะคะ ข้ างล่างนี ้เป็ นแบบ นาเสนอที่มำและที่จะไปแบบดิบๆ เน้ นข้ อความสาคัญบ้ าง แต่ยงั ไม่ผา่ นการสกัดแปรรูปค่ะ ..วิธีเขียนหนังสือที่ดีที่สดุ สาหรับวนิยาคงจะเป็ นการคุยกับใครสักคน หรื อกาหนดให้ ใครบางคนเป็ นผู้รับจดหมาย ขนาดยาว แต่ไม่ว่าจะเขียนหนังสือออกมาดีแค่ไหน สิ่งที่วนิยาคิดว่าสาคัญกว่าคือ ความตังใจที ้ ่จะเปลี่ยน ความคิด/ความรู้ สึก/พฤติกรรม ของผู้รับจดหมายคนนัน้ และหากผู้เขียนสามารถเปลี่ยนความคิด/ความรู้ สึก/ พฤติกรรม ของคนคนนันได้ ้ จริ ง วนิยาก็เชื่อว่า หนังสือเล่มนันจะสามารถเปลี ้ ่ยนแปลงผู้อ่าน ที่มีคุณสมบัติ ใกล้ เคียงกับผู้รับจดหมาย ให้ เป็ นไปในทางที่ผ้ เู ขียนต้ องการ ได้ เช่นกัน [[เพื่อความสะดวกเลือกได้ มหากาพย์ข้อความสีเทานี ้อ่านข้ ามไปได้ เลยค่ะ]] - สมัยเรี ยน วนิยาเป็ นที่ร้ ูจกั ในฐานะเด็ก หญิงที่สอบติดอันดับ1โรงเรี ยนเด็กเก่งแล้ วไม่เข้ า ทาให้ มีคาถามเข้ ามาไม่หยุดหย่อนว่า "ทาไม?" และเมื่อเข้ าเรี ยนกับเพื่อนก็มีคาถามใหม่คือ "ทายังไงถึงได้ เรี ยนเก่ง?" วนิยาเป็ นเด็กที่ชอบช่วยเพื่อนก็เลยคิดหาคาตอบ ให้ กบั เพื่อนๆที่ถามเช่นนันอยู ้ เ่ สมอ และแม้ ตอนนันวนิ ้ ยาจะหาคาตอบไม่ได้ วนิยาก็สญ ั ญากับตัวเองว่า "สักวันวนิยาจะตอบคาถาม เหล่านี ้ให้ เพื่อนๆเข้ าใจให้ จงได้ " - ชื่อเสียงตอนเข้ า ม.1 ยังทาให้ วนิยาได้ เจอกับเพื่อนคนหนึ่ง ที่มาท้ าแข่งกันเรียนโดยเอาคะแนนสอบมาเทียบกันทุกครัง้ เพื่อนสนิท เล่าเรื่ องนายคนนีใ้ ห้ ฟังว่า เขามักจะมองคนอื่นด้ วยหางตาเสมอ(วนิยาคงไม่มีโอกาสได้ เห็น) วนิยาเรี ยกคนที่ให้ ความสาคัญกับ คะแนนเพียงอย่างเดียวว่า "พวกกินคะแนนเป็ นอาหาร" และอยากจะให้ เพื่อนกลุม่ นี ้เข้ าใจ(ตังแต่ ้ เด็กเลย)ว่า "คะแนนสอบไม่ใช่สิ่งที่

รุ่งอรุณเชียงราย : โรงเรี ยนในจดหมายกับหลักสูตรปั จจัยสี่

122


ควรจะเอามาใช้ แข่งขันกัน คะแนนสอบคือเครื่ องวัดความรู้ค วามเข้ าใจและทักษะความสามารถ เพื่อที่จะได้ เห็นข้ อบกพร่อง และ ปรับปรุงสร้ างเสริ มให้ สอดคล้ องตามเกณฑ์มาตรฐาน(ของข้ อสอบ)มากขึน้ " หรื อที่อาจารย์คนหนึ่งสอนรุ่นวนิยาด้ วยการให้ อ่าน หนังสือ "เทวดาที่โหล่" คือ "เด็กนักเรี ยนมีทงประเภทที ั้ ่สอบได้ คะแนนดีโดยพยายามและไม่ต้อ งพยายาม สิ่งที่ควรให้ ความสาคัญ อาจไม่ใช่คะแนนแต่เป็ นความพยายาม" เช่นเด็กเรียนดีจะสอบให้ ได้ ที่โหล่ก็ต้องพยายาม ความพยายามนันก็ ้ มีคา่ เช่นกัน - เมื่อแข่งกันเรียนไม่ได้ เพื่อนคนนีก้ ็หนั ไปสนใจกิจกรรม ซ้ อมออเคสตรา ซ้ อมโยธวาทิตย์ และซ้ อมเต้ น จนวนิยาเริ่ มอิจฉาอยู่ บ้าง เมื่อถึงตอนเข้ า ม.ปลาย เพื่อนคนนีแ้ ละกลุ่มของเขา พยายามสอบเข้ าเรี ยนไปอยู่โรงเรี ยนที่ไม่ได้ มีชื่อเป็ นภาษาไทยที่เชียงใหม่ (เมืองกรุงสาหรับเด็กภาคเหนือ)และต่างเปลี่ยนชื่อตัวเองเป็ นอะไรที่ไม่ใช่ภาษาไทยเช่นกัน ตังแต่ ้ เรี ยน ม.ต้ น จบ วนิยาได้ เจอกับ เพื่อนคนนีแ้ บบตัวเป็ นๆเพียงครัง้ เดียว โดยได้ รับความแปลกใจกลับมาว่า "ทาไมวนิยาเรี ยนสายศิลป์" ต่อมาวนิยาก็ได้ ฟังแค่ข่าว คราวจากเพื่อนในเชียงใหม่วา่ เขาพยายามสอบแต่ไม่ติดคณะแพทย์ เมื่อเรียนเภสัชก็ไม่เป็ นอันเรี ยนจนรี ไทร์ ใหม่ ดูเหมือนว่าเขาจะ สนใจเรื่องเต้ น(ได้ รางวัลสงครามเท้ าไฟ) และจนป่ านนี ้ถ้ าใครเรียกเขาหรือเพื่อนของเขาที่เรียนแพทย์ ด้ วยชื่อภาษาไทยเดิม ก็จะเลิก คุยทันที วนิยาคิดว่าทางที่เขาเลือกเดินนันเป็ ้ นไปตามแบบแผนของคนที่พยายามตามกระแส Modernization มากๆ แล้ วคนที่เรี ยน แพทย์ก็ฝันจะไปเป็ นแพทย์ที่มหาลัยแพทย์ระดับโลก อย่า งที่ไม่ได้ มีผลกับคนป่ วยของประเทศชาติเลย อันนีค้ ือ ค่านิยมสุดโต่งที่ วนิยาได้ เจอมา จนกลายเป็ นแรงผลักดันว่าอยากจะสือ่ สารถึงเขา ว่านัน่ ไม่ใช่หนทางที่จะได้ อยู่อย่างสงบสุข ไม่ใช่ทางดับทุกข์ ตอน นันคิ ้ ดไม่เป็ นแต่ก็ร้ ูสกึ อย่างนี ้ค่ะ :)

- เมื่อวนิยาเข้ าเรี ยนมหาวิทยาลัย ประธานรุ่นมัธยมก็ติดต่อมาชวนไปเป็ นครูสอนกวดวิชาบ่อยๆ วนิยาช่วยได้ แค่ ทาโลโก้ โรงเรี ยนแล้ วตอบว่า "วนิยาสอนกวดวิชาไม่ได้ เพราะวนิยาติวให้ ใครไม่เป็ น" แต่วนิยายอมรับความตังใจ ้ ของประธานรุ่นคนนี ้ ที่วา่ ตัวเขารู้สกึ เป็ นทุกข์ที่เลือกเรี ยนผิดคณะ จึงอยากจะจัดการแนะแนวอะไรสักอย่างไม่ให้ รุ่นหลังเลือกทางเดินผิดเหมือนกับตน ซึ่งวนิยาก็เห็นด้ วยและอยากจะช่วยแนะแนวเช่นกัน (แต่ตอนนันยั ้ งยุ่งกับ กิจกรรมมหาลัยอยู)่ อีกเรื่ องหนึง่ คือประธานรุ่นเคยได้ เล่าข่าวคราวเกี่ยวกับ เพื่อนที่มีความสามารถทางธุรกิจจน เปิ ดโรงเรี ยนกวดวิชาเป็ นของตัวเองตังแต่ ้ ยงั เรี ยนไม่จบ ให้ ภาพว่าจะติดต่อยังต้ องขอผ่านเลขา วนิยาจาได้ เพียง แค่ว่าสมัยมัธยมเพื่อนไม่สนิทคนนีเ้ คยทาหนังสือพิมพ์ เป็ นของตัวเอง เคยเป็ นเซลล์ขายของ เคยเป็ นคนทา หนังสือรุ่น และมีความเป็ นผู้นาสูง แต่ก็เป็ นบุคลิกตรงข้ ามที่ทาให้ วนิยาอยากจะ "จูนความคิด" หรื อบอกอะไรสัก อย่างให้ เขารู้ เพราะวนิยาอยูค่ นละฝั่ งกับการกวดวิชา เพื่อนคนนี ้จึงเป็ นแรงบันดาลใจแรก ทีท่ าให้วนิ ยาพยายาม สร้างโครงเรื ่องภาพยนตร์ "Tutorials กวดวิ ชาล่าฝั น" ขึ ้นมา เมื่อตอนใกล้ เรี ยนจบค่ะ - จากสมัยมัธยมที่เคยมีแต่คนมารุมล้ อมให้ ช่วยทาการบ้ าน ตลอดจนถึงให้ อ่านเตรี ยมสอบให้ ฟัง ถึงยุคมหาลัย ในที่สดุ วนิยาก็มีความคิดเป็ นของตัวเองที่จะบอกว่า "วนิยาติวให้ ใครไม่เป็ น" แต่อยู่มาวันหนึ่งเพื่อนๆก็มาขอให้ วนิยาติวให้ กบั เพื่อนคนหนึ่งก่อนสอบ เป็ นคนพิเศษที่วนิยาต้ องตอบตกลง :) แต่วนิยาก็ย ้าว่าวนิยาไม่เคยติวให้ ใคร ระหว่างทางไปหาเพื่อนยังคิดหาวิธีอยู่ เมื่อไปถึงห้ องเพื่อนก็ปรากฎว่ามีผ้ สู งั เกตการณ์อยู่กนั สลอน วนิยา พยายามคิดถึงวิธีการเตรี ยมสอบของตัวเอง(ออกไปเที่ยวแล้ วอ่าน3ชัว่ โมง ก่อนสอบ) ก็ไม่เป็ นผล จึง อิมโพรไวส์ ณ ที่นนว่ ั ้ า "อ่านเนื ้อหาที่เรี ยนไป แล้ วให้ ลองคิดแบบอาจารย์วา่ เขาน่าจะถามคาถามอะไร ที่จะทาให้ เขารู้ ว่าเรา เข้ าใจสิง่ ที่เขาสอนไปทังหมด ้ เขียนคาถามนันลงบนกระดาษ ้ แล้ วตอบมัน" ขณะนันเพื ้ ่อนคนพิเศษแสดงอาการ ว่าไม่พร้ อม แฟนเพื่อนคนพิเศษก็เลยมานัง่ ทาแทน บอกว่าจะสอนให้ อีกต่อหนึ่งเอง แล้ ววนิยาก็กลับห้ องตัวเอง แล้ วผู้สงั เกตการณ์ทงหลายก็ ั้ คยุ กัน ปรากฎว่า เพื่อนคนพิเศษสามารถพลิกเกรดจาก D กลายเป็ น A ได้ ทาให้ วนิยาก็แปลกใจและดีใจมาก และต่อจากนัน้ ในคลาสอาจารย์ผ้ อู าวุโสคนหนึ่ง ซึ่งตังใจว่ ้ าจะเล่นมุก "การให้ เพื่อนลอกการบ้ าน" ก็ปรากฎว่า ทังคลาสเงี ้ ยบกริ บ ไม่มีเพื่อนคนไหนคิดว่าการลอกการบ้ านเพื่อนหรื อให้ เพื่อน ลอกการบ้ านเป็ นสิง่ ที่พงึ กระทาอีกต่อไป :) 123

รุ่งอรุณเชียงราย : โรงเรี ยนในจดหมายกับหลักสูตรปั จจัยสี่


- ที่มหาลัยมีเทอมหนึง่ ที่พวกเราทังรุ้ ่นต้ องเรี ยนภาษาอังกฤษในระดับสูงทังๆที ้ ่เพื่อนบางคนยังสอบภาษาอังกฤษ พื ้นฐานไม่ผ่านเลย ยิ่งกว่านันแทนที ้ ่จะจัดอาจารย์สาวใหญ่ใจดีมาให้ แบบคลาสรุ่ นพี่ ก็ได้ มาเจออาจารย์ฟอร์ ม เป๊ ะจบออสเตรเลีย ที่จนู ยังไงก็เข้ าไม่ถึงเหล่านักศึกษากู้ยมื ทุนสุดภูธรอย่างที่บางคนยังต้ องสอน present simple tense อาจารย์เค้ าก็เสนอเนื ้อหายากๆไปตามหน้ าที่ ถามใครก็ไม่มีใครตอบ ถ้ าวนิยาไม่ตอบ ก็ถามกบ วนิยาคิด ว่าอาจารย์เค้ าคงรู้ สึก แย่แน่ๆ แต่ถ้าอาจารย์เค้ าไม่เลิกถามวนิยา ก็เปรี ยบเหมือนเค้ าไม่ได้ สอนเพื่อนคนอื่นใน คลาส วนิยาจึงปฏิบตั ิการโดดเรี ยนดื ้อๆ อยู่หลายคาบ ถ้ ามีงานมีการบ้ านก็อาศัยเพื่อน(ขอบคุณมาก)คอยโทร บอกให้ แล้ ววนิยาก็ไปสอบกลางภาคชิลๆ และบังเอิญเข้ ามานัง่ เรี ยนฟั งคะแนนชิลๆ ก็ได้ คะแนนสูงสุด แต่พอรู้ ผลว่าสอบตกแทบทังคลาส ้ อีกทังเพื ้ ่อน(ผู้ที่ทาให้ วนิยามีคะแนนเก็บส่วนใหญ่)ยังเป็ นคนที่ได้ คะแนนต่าสุด โอเค วนิยาได้ คะแนนสูงสุด แต่ไม่ได้ เข้ าเรี ยนกับอาจารย์เค้ า จึงไม่ใช่ผลงานของอาจารย์ และวนิยารู้ สึกว่ามันไม่ ยุติธรรมสาหรับเพื่อน วนิยาก็เลยพูดออกไปซื่อๆ ดังๆ ว่า "ทาไมอาจารย์ไม่สอนให้ เพื่อนหนูสอบผ่านล่ะคะ..?" คน ทังคลาสมองขวั ้ บ อาจารย์ยกมือขึ ้นบังแก้ มบอก "หน้ าชา.." อย่างไรก็ตามวนิยาก็ทา สคส. ปี ใหม่ไปให้ อาจารย์คนนัน้ และช่วยสอน ภาษาอังกฤษให้ เพื่อน เพราะรู้วา่ อาจารย์เค้ าไม่สามารถสอนคลาสนี ้ตังแต่ ้ พื ้นฐานจริ งๆได้ ทงหมด ั้ สุดท้ ายวนิยาก็ได้ A ขณะที่เถียง อาจารย์เค้ าก็เปรยตอบมาว่า "เก่งเกินไปก็เป็ นแบบนี ้แหละ :)"

- ในเรื่ องนิสยั ที่บางทีวนิยาชอบนัง่ เรี ยนเวียนกลุม่ หรื อคบกับพวกคนสุดๆหลังห้ อง เกิดจากตังแต่ ้ วนิยาเรี ยน ป.1 คุณครูมีนโยบายแปลกๆ ให้ จบั คูเ่ ด็กคะแนนสูงสุดกับคะแนนต่าสุดมานัง่ ด้ วยกัน ค่ะ สมัยประถมยังเป็ นลูกหมอใหญ่ วนิยาเป็ นเด็กขีแ้ ยมาก แล้ วก็ได้ นั่งกับนายคนกรุงเทพปากร้ าย (ปั จจุบนั เสียชีวิตแล้ ว) ต้ องโดนด่าแล้ วก็ร้องไห้ ประจา แถมยังต้ อง สอนการบ้ านให้ มนั อีก ดังนีแ้ ล้ ว คุณครูก็บอกวนิยาว่า ไม่มีใครสามารถจะรับนายคนนีไ้ ด้ เท่ากับวนิยาแล้ วหละ แต่วนิยาก็ไม่เคย หยุดขี ้แยเลยจนถึงตอนที่พ่อเสียชีวิตนี่แหละค่ะ อาจจะเป็ นเพราะว่าตอนประถมปลายวนิยาไม่ได้ ไปโรงเรี ยนแล้ วก็ได้ มงั ้ คะ :) - ทาตัวเป็ นเด็กหญิงกะทิ แต่เขียนไว้ เพื่อขอบคุณนายปากร้ ายเพื่อนข้ างโต๊ ะคนแรก ที่ทาให้ วนิยาเป็ นวนิยาอย่างทุกวันนี ้ค่ะ :) - ตอนปี 1 มีอาจารย์คนหนึ่ง ชื่อ อ.สุรชัย ชวนวนิยาไปดูโรงละครกลางทุง่ นา ให้ วนิยายืมจักรยาน แล้ วพากันปั่ นไปตามถนนเลยจาก หอพักไปไกลมากกกก แต่ในที่สดุ ก็ได้ เจอ "โรงละครมรดกใหม่" ได้ คยุ กับครูช่าง ชนประคัลภ์ จันทร์ เรื อง ซึ่งเคยประสบความสาเร็ จ ในวงการบันเทิง แต่ย้ายคณะละครจากตึกช้ างมาอยูก่ ลางนา วนิยาฝากบทละครไซไฟไทยๆที่เคยเขียนเอาไว้ แล้ วครูช่างก็จาวนิยา ได้ ทกุ ครัง้ ที่ไปเทศกาลละครกรุงเทพ - แม้ อ.สุรชัย จะไม่เคยสอนวนิยาในชันเรี ้ ยนเพราะอยูค่ นละสาขา แต่วนิยาก็ได้ เรียนกับอ.สุรชัยครัง้ หนึ่ง เมื่ออ.สุรชัยตังกลุ ้ ่มฝึ กการ แสดงละครขึ ้นมา ด้ วยความอดทนของเด็กปี 1กลุม่ นี ้ก็อยูไ่ ด้ ไม่นานนัก แต่วนิยาก็ได้ เรียนรู้พื ้นฐานการละครบางส่วน และได้ ร้ ูจักการ เปลี่ยนนามธรรมให้ กลายมาเป็ นตัวละคร(หรื อเอาตัวละครมาเป็ นภาชนะใส่เรื่ องนามธรรมให้ เป็ นสัญลักษณ์ วนิยาก็ไม่แน่ใจ) ใน เรื่อง "ตากับยายปลูกถั่วปลูกงาให้ หลาน(ไม่)เฝ้า" ที่เปลี่ยนตัวละครเด็กและสัตว์ให้ กลายมาเป็ นคนคุยกัน และยัง สะท้ อนเรื่ องราว ต่างๆในสังคมอีกมากมาย เช่น พรานเป็ นตารวจ หนูนาเป็ นโสเภณี เบอร์ นาร์ ด(สุนัข)เป็ นนักธุรกิจ ค้ อนเป็ นศาล ฯลฯ ภายหลัง อ. สุรชัยส่งบทละครนีใ้ ห้ คณะละครมะขามป้อม และต่อมาวนิยาก็ได้ เรี ยนรู้การสร้ างตัวละครเชิงสัญลักษณ์ แบบนีใ้ นเทศกาลละคร กรุ งเทพแต่ละปี (เช่น ละครเวทีจากบทละครญี่ ปนเรื ุ่ ่ อง "สาวชาวนา" ให้ น้อง "มะลิ" เป็ นตัวสะท้ อนทัง้ เด็กหญิ งบ้ านนอกไม่ไป โรงเรียนและ "ภาคการเกษตรที่ได้ รับผลกระทบจากการเมือง" เป็ นต้ น)ค่ะ - วนิยาจาละครเร่ของครูชา่ งได้ สมัยเรียนมัธยม เข้ ามาที่โรงเรี ยน เก็บคนละสิบบาท เรื่ องความน่าสงสารของผีเสื ้อสมุทร วนิยาจัด บอร์ ดอยู่ ก็ยงั ได้ ยินเสียงนางเงือกร้ องเพลง ทึง่ กับพลังเสียงชาวละครมากๆ ตอนวนิยาเป็ นเด็กกิจกรรม ปลายปี 2 ครูช่างพาคณะมา แสดงละครเกี่ยวกับหน้ าที่ของสื่อมวลชน ในงานเสวนาทาความรู้จกั กับ ThaiPBS เป็ นละครพูดเรื่ อง นนทุกกับพระนารายณ์ ซึ่งเมื่อ แสดงจบก็ทาให้ วนิยานัง่ น ้าตาไหลพูดอะไรไม่ออก นัง่ ขวางทางเดินของพี่ๆคณะละคร แต่ไม่สามารถลุกได้ มองเห็นพี่ๆเดินเชิดหน้ า ผ่านไปทีละคนๆ ทาให้ ได้ ร้ ูซงึ ้ ถึงพลังแห่ งกำรละครมาจนทุกวันนี ้

รุ่งอรุณเชียงราย : โรงเรี ยนในจดหมายกับหลักสูตรปั จจัยสี่

124


- วนิยาได้ เจอครู ช่างที่มหาลัยอีกครัง้ ตอนเรี ยนปี 3 ในงานเสวนาของ อ.สุรชัยเอง (พระเอก นางร้ าย ผู้ร้าย ตัว อิจฉา) ครูช่างพูดว่าจริ งๆละครมีความศักดิ์สิทธิ์ ต้ องสามารถเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม สามารถจูนคนดูให้ เข้ าถึง สิ่งที่ดีงามได้ และ "คนไทยสร้ างชาติด้วยรามเกียรติ์" อ.สุรชัยเสนอว่า สังคมสมัยนี ้ มีนายทุนตกเบ็ด องค์กรสื่อ เป็ นคันเบ็ด สายเบ็ด ตะขอ มีดาราเป็ นเหยื่อล่อ ให้ ฝงู ปลาในกระแสน ้างับเหยื่อ และคาพูดของครูช่าง ที่เป็ นแรง บันดำลใจให้ วนิยำสร้ ำงโครงเรื่ องภำพยนตร์ "Tutorials กวดวิชำล่ ำฝั น" เพื่อเผยแพร่ ควำมคิดนี ้ ก็คือ "ไม่ ต้องเรี ยนจบ ไม่ ต้องทำงำน ก็ไม่ อดตำย อย่ ำงน้ อยยังมีท่ ีดินให้ พอจับจอง คนอีสำนทำนำปี ละหน ยังมีข้ำวเหลือแจกจ่ ำยทัง้ บ้ ำน คนภำคกลำงทำงำนทัง้ ปี มรดกใหม่เคยมีวนั พึ่งตัวเอง 1 วัน ไม่ซื ้อของจาก ตลาด อยูด่ ้ วยกัน 50 คน ออกไปครัง้ นันกิ ้ นได้ 2 วัน จะมาว่าเรี ยนจบทางาน ไม่มีเงินอดตาย แบบนี ้โง่ เราไม่อด ตาย!!" ภายหลังวนิยาถึงรู้ ว่า คณะละครมรดกใหม่นนเป็ ั ้ นโรงเรี ยนทางเลือกแห่งหนึ่ง ที่สอนนักเรี ยนประถมทัง้ ตามหลักสูตรการศึกษา การละคร และวิถีชีวิตเศรษฐกิจพอเพียง และทาให้ วนิยาอยากรู้ จักโรงเรี ยนทางเลือก อื่นๆให้ มากขึ ้นค่ะ :) - ครัง้ หนึ่งรุ่นวนิยามีเพื่อนคนหนึ่งที่(น่ารักแต่)ประสบความล้ มเหลวในมหาวิทยาลัย ถูกรี ไทร์ และไม่มีเงินเรี ยน ต้ องซื ้อของมาขาย กลับบ้ านไม่ได้ เพราะที่บ้านส่งมาเรียน ยังดีที่มีรุ่นน้ องติดตาม เมื่อถึงจุดวิกฤติสดุ ก็กลายเป็ นว่าผี ย่าเข้ าทรง รุ่นน้ องต้ องโทรเรี ยกคน ที่เกี่ยวข้ องให้ เข้ าไปพบทีละคนๆ ด้ วยสภาพสังคมอยูก่ นั ในหมูบ่ ้ านหอพักที่เป็ นห้ องๆ ใครได้ รับโทรศัพท์ก็พากันไม่เชื่อ จนวนิยากับ เพื่อนรวมกลุ่มกันเข้ าไปเปิ ดใจคุย บรรยากาศความเป็ นย่าของเพื่อน ที่พูดภาษาใต้ โบราณ (เพื่อนหรื อ) ย่าของเพื่อนได้ แสดง

วิธีการแก้ ปัญหาทางสังคมตามภูมิปัญญาสมัยก่อนของคนใต้ (หรื ออาจจะเป็ นเช่นนี ้ทุกภาค) คือ เมื่อมีปัญหาก็เรี ยกให้ มา รวมกันเจรจากันในสถานที่เดียว เมื่อจบเรื่ องแล้ วต้ องสัญญาว่าจะไม่นาเรื่ องนี ้ไปพูดที่ไหนอีก (วนิยาถือเองว่าถ้ าไม่ได้ ทา ให้ เพื่อนเสื่อมเสียก็ไม่ผิด)

- มาถึงปี นี ้ วนิยาได้ ดรู ายการ พื ้นที่ชีวิต ครัง้ หนึ่ง พี่สิงห์ วรรณสิงห์ ประเสริ ฐกุล พาไปรู้ จกั กับกลุม่ ฮักเมืองน่าน ก็มีการเสนอว่า วิธีการในกระบวนการพัฒนาบางอย่างที่เป็ นของตะวันตกก็ไม่ได้ เหมาะสมกับสภาพสังคมไทย เช่น การ debate เป็ นต้ น และพี่สงิ ห์ตงข้ ั ้ อสังเกต ว่าตัวเองยังมีจดุ บกพร่ อง คือ มีความเป็ นปั จเจก ยังไม่สามารถ ทาอะไรที่ประสานรวมหมูเ่ ข้ ากับชุมชนได้ วนิยาดูรายการก็ตงข้ ั ้ อสังเกตว่า แล้ วความเป็ นปั จเจกในตัวพี่สิงห์นนั ้ มาจากการปลูกฝั งโดยไม่ได้ ตงใจของระบบการศึ ั้ กษาหรื อระบบสังคมรึ เปล่า ถ้ าให้ เปรี ยบเทียบ วนิยามักจะได้ รับการ รับรองจากเพื่อนๆที่เคยเรี ยนอยู่ที่นี่แล้ วได้ ย้ายไปเรี ยนมหาลัยอื่น ว่า เพื่อนๆรุ่นพี่รุ่นน้ องที่มหาลัยนีม้ ีความกลมเกลียวกันที่สดุ ซึ่ง วนิยาก็ไม่ทราบว่าเป็ นเพราะอะไร ในวันที่ดรู ายการพื ้นที่ชีวิต วนิยาก็นึกถึง รูปแบบการใช้ ชีวิตของเพื่อนๆ (วนิยาเองจะปั จเจกไป หน่อย) แล้ วก็สรุปว่า สังคมที่มหาลัยนี ้ มีความเป็ นชุมชน เนื่องจากนักศึกษาส่วนใหญ่มาจากสังคมชนบทนอกเมืองหลวง มีอะไรก็ แบ่งปั นช่วยเหลือกัน และการรับน้ องหรือระบบ SOTUS ที่หลายคนก็ยงั จาคาเต็มไม่ได้ นีก้ ็ไม่ได้ ช่วยให้ รุ่นพี่รุ่นน้ องรักกันตลอดรอด ฝั่ ง เพราะกลุม่ เพื่อนกลุม่ พี่ที่ชนปี ั ้ สูงแล้ วนัน้ ก็ไม่ได้ ไปไหนมาไหนด้ วยกันตามสายรหัสหรือตามกลุม่ ที่ไปทากิจกรรมรับน้ องกันแม้ แต่ น้ อย - ปี 2 วนิยาทากิจกรรมเป็ นฝ่ ายประสานงานและการเงิน (เป็ นตาแหน่งที่แสนจะเบ๊ แต่จริงๆกุมอานาจไว้ เกือบหมด) มีเรื่องราวต่างๆ มากมาย(เอาไว้ เขียนใน "กบฎบายเนียร์ ") ทาให้ วนิยาสนใจเรื่ องการเมืองมากขึน้ และด้ วยสถานการณ์ทางการเมือง วนิยาได้ ลอง เข้ าไปดูม็อบพันธมิตรที่ทาเนียบและนปช.ที่สนามหลวง (จะไปซื ้อมือตบกับตีนตบ มาใช้ ประกอบการเชียร์ ) เกิดความคิดและคาถาม ต่างๆนานา จึงเข้ าไปค้ นคว้ าตามเว็บบอร์ ด พันทิป เสรี ไทย ประชาไท มหาวิทยาลัยเที่ยงคืน จบที่ฟ้าเดียวกัน ไม่ร้ ูตงั ้ แต่เมื่อไหร่

วนิยาคิดว่า ประชาชนที่อยู่กันในชุมชน หากมีความรู้ ความสามารถพอที่จะอยู่กันแบบเศรษฐกิ จพอเพียง ประชาชนก็ไม่จาเป็ นต้ องพึ่งพาหน่วยงานใดๆจากรัฐ (ผมสร้ างแนวคิดนี ้ขึ ้นมาสอนDIYเพื่อที่จะให้ ประชาชน พึ่งพาตัวเองได้ ไม่ต้องชาบูชารอพึ่งพาผม) เมื่อคิดได้ ดงั นัน้ แล้ ว วนิยาก็เลิกสนใจการทะเลาะกันไปมาของพวกสิ ้นเปลือง ความรุนแรงที่ไม่ยอมคุยกันดีๆเสียที เมื่อเราเลิกอินกับการทะเลาะกันเราอยู่เป็ นสุขขึน้ แล้ วก็หนั มาสร้ างสิ่งดีๆเผยแพร่ความคิดดีๆ

125

รุ่งอรุณเชียงราย : โรงเรี ยนในจดหมายกับหลักสูตรปั จจัยสี่


ให้ ประชาชนเข้ าถึงความพอเพียงมากขึ ้นกันดีกว่า :) สอดคล้ องกับคาพูดของครูชา่ งที่วนิยาเคยฟั ง และคาพูดของ อ.ธเนศ วงศ์ยาน นาวา ในงานเสวนาหนึ่ง ว่า "ถ้ ำจะให้ เลือกระหว่ ำง นำยก กับ ตู้เย็น คนจะเลือกอะไร" - ปี 3วนิยาเป็ นประธานนศ.คณะนิเทศ วนิยาอ่านหนังสือ "คู่มือเด็กดื อ้ ฉบับปั จจุบนั " ของพี่โหน่ง วงศ์ทนง ชัยณรงค์สิงห์ ผู้ก่อตัง้ นิตยสาร a day แล้ วอ.สุรชัยได้ รับมอบหมายให้ จดั หาผู้ให้ สมั ภาษณ์ในงาน book fair วนิยาจึงเสนอชื่อพี่โหน่ง แล้ วพี่โหน่งก็มา วนิยาก็ถามเรื่องในหนังสือ มีจดุ ที่วนิยาอยากให้ รุ่นน้ องได้ นาไปคิดคือ เมื่อพี่ โหน่งเรี ยนได้ ไม่ดี ก็หนั ไปตังเป ้ ้ าหมายอื่น เช่นไปออก ค่าย ไปทาละคร ไปทานิตยสารทามือ หรือทาเกรดของตัวเองให้ มนั รวมกันแล้ วมีครบทุกตัวอักษร.. แล้ ววนิยาก็ย ้าว่า คนเรี ยนไม่ดี

ไม่ใช่ไม่เก่งไม่มีคณ ุ ค่า วนิยาเองเรี ยนเก่งแต่ก็คิดว่าตัวเองเป็ นแค่คนธรรมดาคนหนึ่งที่ถนัด ในการเรี ยน คนอื่นที่ ถนัดในด้ านอื่นๆก็มีอยูต่ งเยอะและควรที ั้ ่จะภูมิใจในตัวเอง เวลาพี่โหน่งตัดสินใจเลือกงาน พี่โหน่งเขียนออกมาว่าตัวเอง ชอบอะไรไม่ชอบอะไร และในที่สดุ พี่โหน่งก็ได้ ทางานที่เข้ ากับการใช้ ชีวิตของตัวเอง ดังนันเราก็ ้ ควรที่จะหาความถนัดความชอบของ ตัวเองให้ พบและมุง่ ไปทางนันเพื ้ ่อชีวิตที่มีความสุข ..พี่โหน่งเซ็นหนังสือให้ วนิยาว่า Less is More วนิยายอมรับว่าเป็ นประโยชน์ต่อ คนที่ทางานประเภทโฆษณา งานสื่อสาร แต่ปัจจุบนั วนิยาเลิกพยายามอย่างยากลาบากที่จะ less เพราะงานเขียนของ ดร.ป๊ อบ ทา ให้ วนิยาค้ นพบตัวตนในแบบนักเขียนว่า เยอะๆ มันก็ขายได้ นะ :)

- ครัง้ หนึ่งวนิยาสังเกตเห็นป้ายโปรโมทหนังการ์ ตูน3มิติ ที่ท้องฟ้ าจาลองรังสิต ก็หาทางเข้ าไปดู ซึ่งวนิยาก็ ประทับใจมาก การ์ ตนู 3มิติเป็ นเรื่ องอธิบายปรากฏการณ์น ้าขึ ้นน ้าลง โดยใช้ ฉากสีสนั ใต้ ทะเลและตัวละครเป็ นฝูง ปลาดึงดูดใจเยาวชนได้ พอสมควร นอกจากไปดูหนังแล้ ว วนิยาหามีข้อมูลการฉายหนังเรื่ องนี ้ที่ประเทศอื่นๆ ได้ เห็นจอโดมประเภทต่างๆ ที่สามารถถ่ายทอดภาพ 3มิติ โดยไม่ต้องใส่แว่นตาดู แต่หนัง3มิติที่ต้องใช้ เทคนิค เฉพาะในการสร้ างเพื่อฉายบนจอโดมแบบนี ้ยังคงมีต้นทุนสูงมาก อย่างไรก็ตาม ในประเทศต่างๆยังคงมีหนังชนิด นี ้เข้ าฉาย ส่วนใหญ่เป็ นหนังเพื่อการศึกษา และมักจะมีเอกสารประกอบที่ช่วยเสริ มเนื ้อหาวิชาการให้ ผ้ ชู มหรื อ นักเรี ยนได้ ความรู้ แน่นๆกลับไปด้ วย วนิยาก็นึกถึงสมัยที่เป็ นนักเรี ยนแลกเปลี่ยนที่เยอรมัน เรี ยนมัธยมชัน้ ปี 10 หรื อม.4 แล้ วก็มีภาพยนตร์ เรื่ อง Der Untergang (Downfall ปิ ดตานานบุรุษล้ างโลก) เข้ ามาฉาย วนิยาไม่ แน่ใจว่าเป็ นนโยบายของฝ่ ายโรงเรี ยนหรื อค่ายภาพยนตร์ แต่ คุณครู ก็ทยอยพำเด็กๆไปดูภำพยนตร์ กันยก คลำส และแจกเอกสำรประกอบกำรชมภำพยนตร์ ท่ ีมีหน้ ำตำเหมือนแบบฝึ กหัดวิชำประวัติศำสตร์ ให้ เรำทำเป็ นกำรบ้ ำน วนิยาก็ชอบมากและใฝ่ ฝั นว่ ำจะได้ ทำ "ภำพยนตร์ เพื่อกำรศึกษำ" แบบนี ้ในประเทศไทย ค่ะ :D - วนิยาเคยเห่อท้ องฟ้าจาลองรังสิตมากๆ พยายามชวนคนโน้ นคนนีเ้ ข้ าไปดู (ท้ องฟ้าจาลองจะได้ มีรายได้ แล้ วก็ซื ้อหนังเรื่ องต่อไป มาฉายให้ วนิยาดู55) แต่ทงๆที ั ้ ่ตงอยู ั ้ ่ทางฝั่ งตรงข้ ามถนนกั บมหาลัย ในละแวกนัน้ ถามใครก็ไม่ค่อยมีใครรู้ จกั วนิยาก็เลยเขียน โครงการที่จะประชาสัมพันธ์ท้องฟ้าจาลองรังสิตขึน้ มา พอได้ เรี ยนวิชาการวางแผนการประชาสัมพันธ์ วนิยาก็ลากคอเพื่อนตังกลุ ้ ่ม เอาโครงการเสียบ (นิสยั แย่อีกแล้ ว) แผนก็คือ ตังป ้ ้ ายบอกทาง(พวกที่จองคิวมายังหลงทางบ่อยๆ) ทากิจกรรมร่วมกับดรี มเวิร์ลด์ (โทรไปสอบถามแล้ วอีกเดือนก็มีป้ายหนัง4มิติ.. รู้สกึ เจ็บจิ๊ดๆ) ทาค่ายวิทยาศาสตร์ ที่สวนสนุก(ลอกจากที่น้องสาวเคยเล่าให้ ฟัง) แต่ ไม่วา่ จะแผนไหน เมื่อวนิยาเดินเข้ าไปเสนอให้ กบั พี่สาวPRของท้ องฟ้าจาลองรังสิต ก็ได้ คาตอบว่า ต้ องผ่านผู้ใหญ่สดุ ของที่นี่ก่อน ซึง่ แผนอะไรต่างๆก็ไม่คอ่ ยจะผ่านเป็ นปกติ ทาให้ พี่สาวPRที่อยู่ที่นี่หมดไฟที่จะคิดสร้ างสรรค์นอกกรอบ ท้ องฟ้าจาลองก็มีคนมาเยี่ยม ชมตามอัตภาพอยูแ่ ล้ ว ส่วนวนิยาก็ลดความคิดที่จะเสนอโครงการอะไรๆต่อหน่วยงานต่างๆน้ อยลง - ก่อนที่วนิยาจะหมดหวังกับโครงการPRท้ องฟ้าจาลองรังสิต วนิยาได้ เห็นประกาศเชิญชวนเยาวชนเข้ าร่วม โครงการ Raising

Smiles ซึ่งจัดโดย Youth Venture ตอนนัน้ วนิยายังไม่ร้ ู จัก วนิยาก็นัดเพื่อนต่างคณะและต่างมหาลัยเข้ ามาเป็ นทีม โครงการ แล้ ว walk in (โดนดุ)เข้ าไปเจอ พี่บอย พี่เกด และพี่น้ ยุ พรจรรย์ ไกรวัตนุสสรณ์ และเมื่อรอเพื่อนๆไป สุดท้ ายพี่น้ ยุ ก็นั่ง คุยกับวนิยาคนเดียว พี่น้ ยุ บอกว่าที่ทาประกาศ Raising Smiles ก็เพื่อค้ นหาเยาวชนที่อยากทาประโยชน์ต่อส่วนรวม

รุ่งอรุณเชียงราย : โรงเรี ยนในจดหมายกับหลักสูตรปั จจัยสี่

126


และแนะนาหน่วยงาน Youth Venture ว่า เป็ นส่วนหนึง่ ของ Ashoka องค์กรระดับโลกของ "ผู้ประกอบการสังคม" (Social Entrepreneur) วนิยาพบว่าผู้ใหญ่บางคนที่วนิยาเคยเห็นร่วมงานกับแม่ ก็เป็ น Fellowers ของ Ashoka เช่น ป้าแดง เตือนใจ ดีเทศน์ สว.เชียงราย ก็เคลื่อนไหวเรื่ องการอนุรักษ์ ธรรมชาติ เป็ นต้ น ต่อมา Ashoka ก็พบว่า ผู้ใหญ่ที่เป็ น Fellowers เหล่านี ้มักจะมีความสามารถแบบ born to be ที่จะมาแก้ ปัญหาที่เขาเผชิญอยู่ และน่าจะต้ องถูกปลูกฝั งพัฒนา มาตังแต่ ้ ยงั เป็ นเด็ก Youth Venture จึงเกิดขึ ้นมาเพื่อค้ นหาและสร้ างเด็กเหล่านัน้ โดยให้ เด็ก ค้ นหำตัวเองว่ ำมี ควำมสำมำรถทำงไหนชอบทำอะไร แล้ วสำรวจว่ ำต้ องกำรแก้ ปัญหำเรื่ องอะไร และเอำมำคิดชนกับ ควำมสำมำรถที่ตัวเองมี ยิ่งถ้ าเป็ นสิง่ ที่ชอบทา แล้ วทาสิง่ นันเพื ้ ่อที่จะแก้ ปัญหาที่อยากแก้ สังคมก็จะได้ ผ้ กู ล้ าที่ ชอบแก้ ปัญหานันมาแต่ ้ เกิด อย่างที่ไม่ต้องแต่งตัง้ บังคับใครเข้ ามาเลย พี่น้ ยุ ยกตัวอย่างเยาวชนที่ใช้ ความสามารถเฉพาะของ ตัวเองแก้ ปัญหาได้ อย่างน่าทึง่ เช่น / คนชอบเลี ้ยงหนู ไม่ชอบสงคราม สามารถฝึ กหนูให้ ก้ รู ะเบิดได้ จริ ง / นักเรี ยนชอบละคร แต่ไม่ ชอบคนต่างเชื ้อชาติกนั ก็จดั ให้ เล่นละครด้ วยกัน / เด็กจะปลูกต้ นไม้ ในเมือง แต่รัฐไม่อนุญาต ก็เลยเป็ นโจรปลูกต้ นไม้ ตอนกลางคืน / ฯลฯ วนิยาชอบแนวคิดนีม้ าก แต่ ตอนนัน้ วนิยายังไม่ร้ ู ว่าตัวเองจะทาอะไร เพราะมีความสามารถหลายอย่างให้ เลือก มีปัญหา หลายอย่างให้ แก้ แต่ที่แน่ๆคือ วนิยำอยำกเผยแพร่ แนวคิดนีไ้ ปเรื่ อยๆ ซึ่งอาจจะเป็ นงานของพี่น้ ยุ เมื่อวนิยาเห็นพี่น้ ยุ ให้ คาแนะนาตลอดจนสอนเด็กแรงๆ เป็ นที่ปรึกษาโครงการซึ่งมีจานวนมากขึน้ เรื่ อยๆ ไม่ร้ ูจักเหน็ดเหนื่อย วนิยาก็เลยยกพี่น้ ยุ เป็ น ไอดอล แต่บางทีพี่น้ ยุ ก็ดเู หนื่อยมากวนิยาก็เลยไม่กล้ าปรึกษาอะไรกับพี่น้ ยุ มากค่ะ - วันที่วนิยาคุยกับ Youth Venture ก็เล่าเรื่องที่วนิยานึกสงสัยทุกครัง้ ว่า ที่ดินร้ างๆกว้ างๆ ตังแต่ ้ คฤหาสน์เก่าตรงข้ ามปากซอยไปจนถึงแถวทางด่วน เป็ นของใคร ทาไมจึงปล่อยไว้ ให้ รกร้ าง แล้ วทาไมคนในสลัมถึงยังเป็ นชุมชนแออัดกันอยู่ ทาไมไม่ย้ายมาอยูห่ รือใช้ ประโยชน์ จากที่ร้างในกรุงเทพพวกนี ้ จะติดต่อขอทาแปลงผักอะไรก็ได้ พี่น้ ยุ ก็สนับสนุนว่าทาเลย แล้ ววนิยาก็เดินไปขึ ้นรถไฟฟ้ากลับบ้ าน ก็เดินชนปก นิตยสาร way ฉบับที2่ 3 http://antizeptic.wordpress.com/2009/03/10/way-issue-23-landlords-only/ ซึง่ ฉบับนี ้ มีเนื ้อหาเกี่ยวกับการปฏิรูปที่ดินและภาษีมรดก และอีกคอลัมน์หนึ่งมีเรื่องการปลูกป่ าให้ ถกู วิธี เลือกต้ นไม้ และสถานที่ให้ ดีด้วย สองเรื่องนี ้ก็กลายเป็ นเรื่องประทับใจที่วนิยาอยากจะ สื่อสารให้ คนตระหนักและเข้ าใจกันมากๆค่ะ - หลังจากนัน้ วนิยาก็ไปร่วมเข้ าคอร์ สเย็บสมุดที่พี่น้ ยุ สอนเองอยู่หลายครัง้ แต่ละครัง้ ก็ต่างกันไป วนิยาก็ได้ คยุ ไอเดียหลากหลาย (แต่ไม่คอ่ ยทา) มีอนั หนึ่งที่วนิยาอยากจะทาแต่พี่ๆบอกว่าทาแล้ วคงเจ็บตัว คือ "Power Question Mark" เป็ นการทาสติ๊กเกอร์ ซึ่งที แรกจะเป็ นข้ อความต่างๆ แต่ตดั ทอนลงเหลือเพียง "เครื่ องหมายคาถาม" เอาไว้ ติดบนป้ายโฆษณา เช่น เวลาเห็นป้ายเขียนว่า "กุ้ง สด" ทังที ้ ่มนั เป็ น "กุ้งแช่แข็ง" เราก็จะเอาสติ๊กเกอร์ เครื่องหมายคาถามไปติดตรงท้ ายคาเหมือนเลขยกกาลัง เป็ น "กุ้งสด?" คือ กุ้งสด ยกกาลังเครื่ องหมายคาถาม เป็ นโปรเจกต์ที่ อยากให้ คนทัว่ ไปได้ ตงค ั ้ าถาม ต่อสิ่งแปลกปลอมที่เสนอหน้ าเข้ ามาในชีวิตเรา ว่าเรา ควรจะเชื่อข้ อความเหล่านี ้ขนาดไหน เรื่องนี ้คงทาจริงไม่ได้ วนิยาจึงเก็บมารอเขียนในนิยายนี่แหละค่ะ :D

- สาหรับเรื่ องนี ้วนิยาต้ องขอบคุณส้ มมากๆ ที่พาวนิยาไปงาน Fat T-Shirt Festival #5 (วันที่วนิยา ส้ ม แจ๊ ค ทา ตัวรี บร้ อนออกจากคลาสของ mr.Saturday ไปนัน่ แหละค่ะ) วนิยาได้ ซื ้อเสื ้อยืดลายคุณโรนัลด์(แมคโดนัลด์)ที่มี หน้ าตาเป็ นฮิตเลอร์ แล้ วก็เอามาเขียนบล็อก http://vareety.exteen.com/20090723/entry แล้ วก็มีคนมาติดต่อ ขอให้ ไปพูดในงานเทศกาลเสื ้อยืดเปลี่ยนโลก เป็ นการพูดเรื่ องเสื ้อที่ทาให้ วนิยาต้ องทาตัวต่อต้ านฟาสต์ฟ้ ดไป ู หลายเดือน แล้ วก็หาข้ อมูล ได้ เข้ าใจเรื่ อง slow food ได้ ทราบอันตรายจริ งๆของฟาสต์ฟ้ ดู แม้ อาหารแปรรู ปปกติ ก็ไม่น่าไว้ ใจ จนถึงอาหารสด ก็ยงั ต้ องระวังการดัดแปลงพันธุกรรมอีก เมื่อวนิยาได้ ตามแม่ไปดูงานเครื อข่าย สุขภาพวิถีไท พี่ๆนาเสนอพันธุ์พืชที่ได้ มาจากสวนคุณโจน จันได ที่ รักษาพันธุ์ผกั พื ้นเมืองเอาไว้ ซึ่งเป็ นพันธุ์ที่ อดทน ไม่ตดั แต่งพันธุกรรม วนิยาคิดว่าเมื่อถึงวิกฤติอาหารก็จะถึงคราวโชคดีของคนกลุม่ นี ้แหละค่ะ :) ส่วนกลุม่

127

รุ่งอรุณเชียงราย : โรงเรี ยนในจดหมายกับหลักสูตรปั จจัยสี่


คนที่จดั งานเทศกาลเสื ้อยืดเปลี่ยนโลกคือ กลุม่ WeChange555 (เราเปลี่ยน โลกเปลี่ยน) มากับสถาบันต้ นกล้ า กับสวนเงินมีมา เป็ นกลุม่ ที่มีแนวคิดสนุกสนานดี และเป็ นแรงผลักดันให้วนิ ยากล้าทาอะไรเล็กๆที ่อาจจะเปลี ่ยน สังคมค่ะ - เมื่ออยู่ปี4 ช่วงที่วนิยาฝึ กงานมีเหตุต้องไปเยี่ยมน้ องสาว(ลูกพี่ลกู น้ อง) ที่ป่วยเข้ าโรงพยาบาลโดยไม่ทราบสาเหตุ น้ องชาย (ลูกพี่ลกู น้ อง)ก็เล่าให้ ฟังว่าน้ องสาวได้ ออกข่าวหนังสือพิมพ์ ว่าไปงานเสวนานักเรียนม.ปลายของทางรัฐ แล้ วน้ องก็บอกกับผู้ที่ดแู ล รับผิดชอบระบบการสอบเข้ ามหาวิทยาลัยในตอนนันว่ ้ า "เราไม่เคยรู้จกั กัน แล้ วคุณมาทาร้ ายดิฉันทาไม" ด้ วยความที่วนิยาเป็ นคน เอาหนังสือ Genderism ของคุณโตมร ศุขปรีชา ไปให้ น้องยืมอ่าน น้ องคนนี ้เกาะชายเสื ้อตามวนิยามาตังแต่ ้ เด็ก แต่ชอบเรี ยนพิเศษ ไปทัว่ เป็ นเด็กในโครงการที่ได้ เรียนหลายโรงเรียนแถมมีทาวิจยั จบ จึงไม่แปลกใจว่ามันจะแรงกว่าพี่.. การลุกขึ ้นกล่าวจนออกข่าวใน ครัง้ นันแสดงให้ ้ เห็นถึงระบบการศึกษาที่ขึ ้นอยูก่ บั การตัดสินใจของผู้ใหญ่ แล้ วส่งผลกระทบจากบนลงล่างไปถึงชีวิตของเด็กนักเรียน ได้ อย่างที่วา่ ไม่ร้ ูจกั กันแต่ทาร้ ายกันได้ จริงๆ (ไม่ร้ ูวา่ ถ้ าวนิยาทาสื่อออกไปแล้ วจะป่ วยโดยไม่ทราบสาเหตุได้ จริ งๆ เหมือนที่น้องสาว วนิยาเจอมารึเปล่า55) - ตอนจะฝึ กงาน วนิยามีตวั เลือก2เอเจนซี่ คือ Monday กับเจ๊ Jeh United | ที่วนิยาเลือก เจ้ ยไู นเต็ด เพราะผลงานโฆษณาของ สสส. จนเครี ยดกินเหล้ า พอเพียงไลฟ์ และตัวพี่จดู ี ้ครัง้ หนึ่งในงาน Workshop ของ B.A.D. เคยพูดถึงโฆษณา Smooth E ที่ตวั เอง เคยทาว่ามันส่งผลเสียต่อสังคมและอยากจะไปแก้ ไขใหม่ และเมื่อยังไม่แน่ใจ วนิยาก็ได้ ข่าวมาจากเฟซบุ๊กของ a day ว่าจะมี

โครงการสอนคนเชียงใหม่ทาสือ่ รวมกันหลายๆด้ าน หลายๆบริ ษัท มีชื่อ เจ้ ยไู นเต็ด ขึ ้นมาด้ วย ซึ่งก็ตรงใจวนิยาที่ จะได้ มีสว่ นร่ วมในการสร้ ำงควำมเข้ มแข็งให้ กับจัง หวัดใหญ่ ๆ ให้ มีองค์ ควำมรู้ ซ่ ึงเปรี ยบเสมือนสิทธิใน กำรทำสื่อเป็ นของตัวเองไม่ต้องพึ่งพากรุ งเทพ และไม่นานก็ได้ ร้ ู ว่าเป็ นโครงการชื่อ "ปฏิบัติกำรเชียงใหม่ เอี่ยม" วนิยาสมัครเข้ าฝึ กงานที่เจ้ ยไู นเต็ด ได้ ฟังตัวแทน สสส. และผู้รับผิดชอบโครงการ ชื่อ "เชียงใหม่เอี่ยม" ทางเจ้ ยูไนเต็ ด เป็ นฝ่ ายตัง้ ให้ แล้ ว วนิ ย าก็ เ ป็ นห่ ว งว่ ำ บริ ษั ท ตั ว แทนโฆษณำจำกกรุ ง เทพ จะเข้ ำ ไป เปลี่ยนแปลงเมืองเชียงใหม่ ซ่ งึ มีรำกเหง้ ำวัฒนธรรมแตกต่ ำงได้ อย่ ำงไร วนิยายอมรับว่าประชากรที่เข้ าไป อยู่ในตัวเมืองเชียงใหม่ไม่ได้ มีแค่คนเชียงใหม่อย่างเดียว แต่การจะรณรงค์ปรั บนิสยั การทิ ้งขยะหรื อติดถังดัก ไขมันเพื่อสิ่งแวดล้ อมของเชียงใหม่เอง (วนิยาคิดเรื่ องนี ้มานานพอที่จะบอกว่า มันโฆษณาให้ ผ่านหูผ่านตากัน แบบผิวเผินไม่ได้ โฆษณาอาจจะดูเท่แทงใจในความคิดสร้ างสรรค์ แต่มนั อาจจะทื่อเมื่อดึงสองมือให้ เริ่ มต้ นทาก็ ได้ ) ถ้ าจะเอาให้ เข้ ำถึง "นิสัย" จริ งๆ ก็ต้องเข้ ำถึงวัฒนธรรม คนเหนือคนเชียงใหม่เขาเคยมีผีมีเจ้ าที่อยู่แล้ ว วนิยาเชื่อว่าแม้ คนรุ่ นใหม่ จะลืม แต่ เรื่ องรำวก็ไม่ ได้ เลือน ยังแฝงอยู่ตำมสิ่งต่ ำงๆ ที่คนต่ ำงถิ่นจะไม่ เข้ ำใจ และหากเรากระตุ้นจุดนันได้ ้ คนเชี ยงใหม่ในพื ้นที่เมืองเชียงใหม่ ก็จะลุกขึ น้ มาทาสิ่งต่างๆในแบบที่ สอดคล้ องกับวิถีชีวิตของเขำเอง ตอนวนิยาฝึ กงานวนิยาค้ านแล้ วเสนอใหม่ทงหมดไม่ ั้ ได้ มีหน้ าที่หาข้ อมูลก็ทาได้ แค่ รวบรวมข้ อมูลทางวัฒนธรรมไปฝากพี่ที่ดแู ลเอาไว้ วนิยาอ่านบทความวิเคราะห์เมืองเชียงใหม่ของคุณ คา ผกา แล้ วเขียนสคริ ปต์ TVC แบบที่มีกลิ่นไอล้ านนา แต่ไม่เข้ ากับสไตล์ของแคมเปญที่พี่ๆคิด และด้ วยการเมือง สีเอิร์ธโทนใช้ ไม่ได้ โครงการก็เลยใช้ สีเขียว อมฟ้า สว่าง สะอาด ดูเป็ นคนรุ่นใหม่ เมื่ออยูใ่ นเชียงใหม่ มันดูโดดเด่ น แตกต่ ำง และมันดูกรุงเทพมาก สุดท้ ายมันก็เลยดูแปลก แยก ไม่ เข้ ำกับวิถีชีวิตอะไรเลย ดังนัน้ ถึงจะรู้ ถึงจะคิด ก็ไม่ ทำ ..ปั ญหาที่วนิยาเล่ามาความจริงแล้ วไม่น่าจะเกิดขึน้ ถ้ า สสส. ไม่ จัดให้ เจ้ ยไู นเต็ด กลับมาเป็ นผู้ออกแบบสื่อประชาสัมพันธ์อีกครัง้ เพราะ จริ งๆแล้ ว เจ้ ยไู นเต็ด ควรจะได้ รับมอบหมายเพียง

แค่ประชาสัมพันธ์ เชิญชวนคนเชียงใหม่เข้ า workshop แล้ วจัด workshop แล้ วปล่อยให้ คนเชียงใหม่ที่ผ่านการ workshop ได้ ทาสือ่ รณรงค์โฆษณาประชาสัมพันธ์กนั เอง วนิยาเข้ าใจ ที่เจ้ ยไู นเต็ดก็อยากรักษาคุณภาพ และคน เชียงใหม่ที่ผา่ นการ workshop ก็ใช่วา่ จะผ่านมาตรฐาน ที่ไม่ผา่ นเพราะส่วนใหญ่เป็ นเด็กนักเรี ยนนักศึกษา ที่ถกู เกณฑ์มาจากสถาบันบ้ างอะไรบ้ าง ว่ากันว่าคนเชียงใหม่คอ่ นข้ างเฉื่อย เรื่ องเกณฑ์มาคงจะเยอะ มีผ้ ใู หญ่แค่สอง สามคนที่สนใจ เป็ นผู้ใหญ่ที่หน้ าตาแบบน่าจะใส่ชุดข้ าราชการได้ สบาย วนิยาคิดว่าเชียงใหม่เอี่ยมต้ องการคน รุ่งอรุณเชียงราย : โรงเรี ยนในจดหมายกับหลักสูตรปั จจัยสี่

128


แบบนันแหละค่ ้ ะ แต่การประชาสัมพันธ์เชิญชวนอาจทาให้ หลายๆหน่วยงานเข้ าใจผิด ส่งนักเรี ยนนักศึกษาเข้ ามา ส่วนเวลาที่ สสส. ให้ มาจัดการ workshop ก็ไม่ได้ เพียงพอที่จะสร้ างเอเจนซี่โฆษณาเพื่อสังคมสักทีมสองทีมไว้ ที่ เมืองเชียงใหม่ สุดท้ าย "ปฏิบตั ิการเชียงใหม่เอี่ยม" ก็ไม่ได้ เป็ นไปอย่างที่วนิยาคาดหวัง แต่ประสบการณ์ที่ได้ นนเกิ ั ้ นคาดแบบที่ว่า สามารถเอามานัง่ บ่นยาวๆให้ อาจารย์ฟัง หรือเอามาระบายความอัดอันอย่ ้ างที่กาลังพิมพ์อยูใ่ นนี ้นี่แหละค่ะ :)

- เมื่อวนิยาเรี ยนจบ ต้ นเดือนสิงหาคม 2553 วนิยาได้ ไปร่วมโครงการ สุโขทัยเมืองสุขภาพดีบนวิถีไทย ได้ เจอพี่ๆ ทีมงานใหม่ เพื่อนเก่งๆคนใหม่ ได้ เข้ าใจว่า สสส. น่าจะหว่านโครงการรูปแบบต่างๆให้ กบั จังหวัดต่างๆ ได้ ทดลอง ทา ก่อนที่จะเลือกว่าจะใช้ โมเดลไหนมาพัฒนาจังหวัดอื่นๆต่อไปทัว่ ประเทศ เพราะหลังจากปฎิบตั ิการเชียงใหม่ เอี่ยมไม่นาน วนิยาก็เคยได้ เห็นโฆษณาเรื่ อง ธนาคารขยะ ที่โรงเรี ยนเป็ นฝ่ ายจัดการ เป็ นโครงการของจังหวัดหนึง่ ในภาคอีสาน หรื อเมื่ออยูเ่ ชียงราย ก็จะเห็นป้ายรณรงค์ในด้ านต่างๆ ซึง่ เครดิตว่าเป็ นโครงการขององค์การบริ หาร ส่วนท้ องถิ่น และโปรโมทวาระ 750ปี เชียงราย แบบล่วงหน้ าหลายปี มาก การเดินทางไปร่ วมโครงการที่สโุ ขทัย ครัง้ นี ้ วนิยาได้ เจอกับทีมบูรณาการจังหวัดเชียงราย เป็ นการบูรณาการคนจากต่างสาขาอาชีพมารวมกัน มีทงั ้ อบจ. สื่อชุมชนลุม่ น ้าโขง นักประวัติศาสตร์ เจ้ าหน้ าที่สาธารณสุข กองทุนหมอธารา และ ฯลฯ ครัง้ นี ้ทีมบูรณา การเชียงรายได้ รับมอบหมายให้ มาจัดกระบวนการ สอนคนที่เข้ ามาร่วมโครงการสุโขทัยเมืองสุขภาพดีบนวิถีไทย ให้ สามารถดาเนินการเชื่อมร้ อยประวัติศาสตร์ ของผู้คนและเรื่ องราวต่างๆใน จังหวัดสุโขทัย ซึ่งจะนาไปสู่การ ทางานพัฒนาในขันต่ ้ อๆไป กลุม่ บูรณาการจังหวัดเชียงรายก็มารวมตัวกันแบบหลวมๆ อิมโพรไวส์การสอน ให้ เจ้ าหน้ าที่สาธารณสุขของสุโขทัย สามารถรวบรวมข้ อมูลประวัติศาสตร์ จ ากภายในกลุม่ ไปสูป่ ระวัติศาสตร์ ด้าน สาธารณสุขในจังหวัดได้ สิง่ ที่เกิดขึ ้นในการอบรมครัง้ นันคื ้ อ กลุม่ เจ้ าหน้ าที่สาธารณสุขที่มารับการอบรม ได้ สาน ความสัมพันธ์ กนั ในกลุม่ ในระหว่างที่ทา workshop เกิดเป็ นความเหนียวแน่นแข็งแกร่ งขึ ้นมา ในเช้ าวันอาลา กลุม่ ผู้รับการอบรมก็มารวมตัวกัน ถามวนิยาว่าจะให้ จดั โต๊ ะไหม วนิยาตอบว่าขอถามทีมงานวิทยากรก่อน ผู้รับ การอบรมคนหนึ่งก็บอก "พวกเรำอยู่ตรงนีแ้ ล้ ว จะต้ องไปถำมวิทยำกรทำไม" จริ งด้ วยสิ ตอนนันวนิ ้ ยาก็ไม่ ค่อยเข้ าใจ แต่ขอไปแจ้ งวิทยากรว่าผู้รับการอบรมจะจัดโต๊ ะเองแล้ วค่ะ :) - ช่วงที่วนิยาอยูก่ บั คุณหมอลดาวัลย์ สุวรรณกิตติ เป็ นคนไข้ กระดูกสันหลังและเป็ นคนช่วยสอนกายบริ หารเวลา คนไข้ เข้ ามาเยอะๆ อ.ลดาวัลย์มกั จะบอกว่าวิธีการรักษาแบบดุลยภาพบาบัดจะช่วยประหยัดงบประมาณของ ชาติ ไม่ต้องสิ ้นเปลืองยา ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องผ่าตัดแล้ วผ่าตัดอีกเรื่ อยๆในกรณีที่หมอไม่ฉลาด เมื่อวนิยามีพล็อต "Tutorials กวดวิชาล่าฝั น" อยู่ในหัว ก็คิดว่ าอาชีพหมอในสมัยนี ้คือผลจากค่านิยมในการเลือกเรี ยนคณะแบบ ง่ายๆว่าคนเก่งคะแนนสูงสุดๆจะเลือกเรี ยนคณะแพทย์ หมอลดาวัลย์มองอีกทางหนึ่งเลยก็คือ วนิยาควรจะ สื่อสารให้ คนทัว่ ไปเข้ าใจว่า สิทธิกำรเป็ นหมอไม่ ควรจะถูกจำกัดอยู่แค่ นักเรี ยนที่เรี ยนเก่ งแล้ วสอบได้ คะแนนสูงๆไปเรียนหมอจนจบมหำวิทยำลัยเท่ ำนัน้ ควรให้ โอกาสคนทัว่ ไปได้ เรี ยนรู้ การรักษาเบื ้องต้ นเพื่อ ไม่ให้ คนไข้ ต้องไปแย่ งหมอกันที่โรงพยำบำล หรื อหมอพืน้ บ้ ำนที่มีวิธีกำรรักษำต่ ำงจากหลักสูตรแพทย์แผน ปั จจุบนั ในโรงพยาบาล แต่รักษาหาย หายดีกว่า หรื อชาวบ้ านยอมรับ ก็ควรจะมีสิทธิท่ ีจะรั กษำคนไข้ และ คนไข้ ก็มีสิทธิท่ ีจะเลือกเช่ นกัน ที่วนิยาเขียนออกมาไม่ใช่คาพูดของหมอแต่ประมวลจากการเรี ยนรู้ ติดตาม การทางานของแม่คะ่ :) - ครัง้ หนึ่งหมอลดาวัลย์ได้ พดู ถึงการประชุมของคนไข้ ท่านหนึ่งที่เพิ่งมาจากอเมริ กา วนิยาสนใจเข้ าไปฟั งหมอ ลดาวัลย์ก็ติดต่อให้ เป็ นงานของกลุ่มคนไทยที่ไปทางานอยู่ต่างประเทศทัว่ โลก ถ้ าเป็ นอเมริ กาก็มีชื่อย่อว่า

129

รุ่งอรุณเชียงราย : โรงเรี ยนในจดหมายกับหลักสูตรปั จจัยสี่


ATPAC ยุโรปคือ ATPER และญี่ปนคื ุ่ อ ATPIJ แต่ละวันมีการนาเสนอผลงานวิทยาศาสตร์ บ้าง ประชุมแก้ ปัญหา สิง่ แวดล้ อมบ้ าง แนะนาโอกาสต่างๆบ้ าง ส่วนวนิยาสนใจมาฟั งในวันที่เป็ นเรื่ องการศึกษา เป็ น conference ชื่อ "ก้ าวต่อไปของความร่ วมมือระหว่างการอุดมศึกษาไทยและนักวิชาชีพไทยในต่างประเทศ" มีนกั วิชาชีพไทยใน ต่างประเทศขึ ้นมาเสนอเรื่ องต่างๆเกี่ยวกับการศึกษาไทยมากมาย แต่เรื่ องที่ วนิยาเห็นว่าสาคัญ (อันอื่นปล่อย อัดเสียงแล้ วหลับ55) จะสรุปตามความเข้ าใจของวนิยาเอง คือเรื่ องระดับของมหาวิทยาลัยต่างๆ เช่นวิทยาลัยครู ก็ยกระดับเป็ นสถาบันราชภัฏ ต่อมาก็เป็ นมหาวิทยาลัยราชภัฏ ผู้บรรยายเค้ าบอกว่า "เป็ นควำมบ้ ำคลั่งระดับ ปริญญำของคนไทย" ยกระดับเพื่อที่จะได้ สอนปริ ญญา แต่ผิดวัตถุประสงค์ของการก่อตังวิ ้ ทยาลัยชนิดนี ้ขึ ้นมา อย่าง วิทยาลัยชุมชน รัฐก็นาแบบอย่าง community college จากอเมริ กามาใช้ ถ้ ามองในแง่ของการตังสถาบั ้ นที่ จะเป็ นแหล่งการศึกษาเรี ยนรู้ของ"ชุมชน"จริ งๆ วนิยาก็ชอบ แต่วิทยาลัยชุมชนของไทยกลับหันหน้ าขึ ้นฟ้ าทะยาน อยากจะเป็ นมหาวิทยาลัย หน้ าที่แท้ จริ งคือให้ การศึกษาคนในชุมชนก็ไม่ได้ สนใจ สุดท้ ำยชุมชนก็ไม่ มีแหล่ งที่ จะศึกษำ ยกระดับหนีกันไปหมด ผู้บรรยายก็บอกว่า เราไม่อยากจะเห็นราชภัฏมุ่งไปเป็ นแบบจุฬา ไม่ใช่ว่า เป็ นไม่ได้ แต่เราไม่ได้ ขาดแคลนมหาวิทยาลัยระดับนั น้ เรำต้ องกำรให้ สถำบันกำรศึกษำแต่ ละระดับทำ หน้ ำที่อย่ ำงที่ได้ ตงั ้ ขึน้ มำเพื่อสนองตอบควำมขำดแคลนทำงกำรศึกษำ ผู้บรรยายบอก ต้ องปรับที่หวั หอก สกอ. "ถ้ ำ สกอ. ยังยึดมำตรฐำนฉบับเดียว มันก็จะนำทุกมหำวิทยำลัยไปสู่ท่ เี ดียว" (วนิยาชอบประโยคนี ้ มากค่ะ :) - สมัยแลกเปลีย่ นทีเ่ ยอรมัน วนิยาได้ เข้ าเรี ยนในโรงเรี ยนประเภทที่นกั เรี ยนเรี ยนจบแล้ วสามารถรวบรวมคะแนน ขณะที่เป็ นนักเรี ยนส่งไปสมัครเข้ ามหาวิทยาลัยได้ ดูเป็ นเรื่ องปกติที่เหมือนจะดีขึ ้นมาหน่อยเมื่อเทียบกับโรงเรี ยน มัธยมและการสอบเข้ ามหาลัยของไทย แต่พอวนิยามีเพื่อนต่างโรงเรี ย น แล้ วนักเรี ยนโรงเรี ยนเค้ าไม่สามารถจบ มาต่อมหาลัยได้ วนิยาก็เข้ าใจว่าคงเป็ นโรงเรี ยนอาชีวศึกษา แต่ทาไมดูเหมือน จานวนโรงเรี ยนอาชีวศึกษาของ เขามีมากพอๆกับโรงเรี ยนที่เรี ยนสอบเข้ ามหาลัยเลยล่ะ? วนิยาถามแล้ วก็ได้ ร้ ู ว่ายังมีโรงเรี ยนประเภทอื่นๆอีก ไม่ เห็นมันจะ link กับมหาลัย กันเท่าไหร่เลย แล้ วที่นี่ใครบอกจะเรี ยนมหาลัยคนฟั งเป็ นต้ องทึง่ แค่ "จะ" เรี ยนเลยนะ นักศึกษามหาลัยคงจะดูมีเกียรติมาก ประเทศเจริ ญจังแบบนี ้ มีประชากรแค่ไม่กี่สว่ นที่เรี ยนมหาวิทยาลัย ส่วนที่ เหลือก็ไม่เห็นมีใครเดือดร้ อนราวกับเป็ นผู้ด้อยโอกาสเลย ทุกคนก็ทางานมีความสุขกันไปตามปกติ ดีซะอีก จบ ม.6 แล้ วทางานเลย จะได้ ก้าวหน้ าเร็ วขึ ้น ก็เข้ าใจค่ะว่า สาหรับเมืองไทยไม่จบปริ ญญาก็เหมือนกับว่าจะตกงาน ยิ่งกว่าตกงาน อันนี ้คงต้ องแก้ กนั ยาวค่ะ :) - ปี ที่แล้ ว วนิยาได้ เลือกสมุดเล่มหนาตังใจว่ ้ าจะเขียน Tutorials กวดฯ ภาคแรก ออกมาให้ จบ พอวนิยากลับเชียงรายแล้ วสมุดก็เต็ม ไปด้ วยตัวหนังสือมากมายหลายหน้ า.. ยังไม่ใช่นิยายค่ะ วนิยาจดบทความในคอลัมน์ "วางบิล" ของคุณเรื องชัย ทรัพย์นิรันดร์ นิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ ช่วงปลายปี นันคุ ้ ณเรืองชัยกาลังอินอยูก่ บั อาชีวศึกษา วนิยาก็อินจดเรื่องอาชีวศึกษาไปกะเขาด้ วย เพราะ วนิยามีตวั ละครหนึ่ง (ต้ นแบบมาจากคุณ ภูภฯู่ ที่เป็ น Rookie คนแรกของสานักพิมพ์ a book) ที่ไม่ได้ เรี ยนในโรงเรี ยนสามัญศึกษา คุณเรืองชัยอยากให้ เด็กไทยหันมา เรี ยนอาชีวศึกษามากขึน้ เพื่อตอบสนองความต้ องการตลาดแรงงาน และต้ องปรับคุณภาพให้ ดี ขึ ้นเพื่อรับกับการแข่งขันในประชาคมอาเซียน เข้ าปี นีค้ ณ ุ เรื องชัยหันไปเขียนประเด็นอื่นแล้ ว ส่วนที่วนิยาจดก็เชื่อว่าจะไม่เสียดาย หน้ ากระดาษและหมึกปากกาแน่นอนค่ะ :) - สมุดที่ทิ ้งหน้ าเขียนนิยายให้ วา่ งเปล่าอยูน่ นยั ั ้ งคงเต็มใจที่จะรอ คอยให้ วนิยาชัดเจนกับโครงการ ชัดเจนกั บจุดประสงค์ โครงเรื่ อง เนื ้อหา และ IMPACTต่อเยาวชนไปจนถึงกระทรวงศึกษา ที่วนิยาจะต้ องเชื่อในตัวเองแล้ วเขียนมันออกมาให้ ดีที่สดุ วนิยาจะต้ องเชื่อ ให้ ได้ วา่ นิยายของวนิยาจะนามาซึง่ การเปลี่ยนแปลง.. ต้ องดีที่สดุ ..

รุ่งอรุณเชียงราย : โรงเรี ยนในจดหมายกับหลักสูตรปั จจัยสี่

130


เสร็ จไปแล้ วค่ะ ด้ านเนื ้อหา รู้สกึ เหมือนได้ หายใจเอาชีวิตออกมาทางคีย์บอร์ ด พอดีวา่ ปั่ นพวก ว่าที่นิยาย ด้ านบน จนถึงกาหนดส่งงานกองทุนแล้ ว เรื่ องไหนยาวเกินไป จะเรี ยบเรียงใหม่ ครัง้ นี ้คงต้ องละไว้ ก่อนค่ะ (ว่าแล้ วก็เปิ ดคลิปเก่าๆดูล้างสมอง-อุ๊ปส์-เป็ นแรงบันดาลใจก่อนเปลีย่ นโหมดทางาน) ด้ านสินค้ า โครงการนี ้เป็ นโครงการเพื่อสังคมโครงการแรกที่วนิยาคิดและเขียนโดยมี "สินค้ า" เข้ ามาด้ วย สินค้ าหลักของโครงการนี ้ก็คือสิง่ ที่วนิยาเรี ยกว่า "สือ่ " ในส่วนต่างๆของอีเมลที่วนิยาได้ เขียนไป

สื่อหลักที่วนิยาจะใช้ เผยแพร่ "เนื ้อหา" ไปถึง "กลุม่ เป้าหมาย" คือ "นิยาย" และ "ภาพยนตร์ " ซึง่ ระหว่างนันก็ ้ จะเกิด "กิจกรรม" และ "การโปรโมท" ต่างๆนานา ที่จะใช้ สอื่ สาร และขายได้ โครงการชื่อ "Tutorials กวดวิชาการศึกษาไทย" (เมื่อวานชื่อ "Tutorials กวดวิชาสร้ างสรรค์" ส่วนดังเดิ ้ มชื่อ "Tutorials กวดวิชาล่าฝั น" แต่ตอ่ มาตัวนิยาย(บทภาพยนตร์ )ได้ แบ่งภาคแล้ วมีชื่อใหม่ ก็ยงั ไม่สรุปชื่อโครงการค่ะ :) ผลิตภัณฑ์ "หลักๆ" ของโครงการจะแบ่งเป็ นกลุม่ ตาม "ภาค" ของเนื ้อหา ดังนี ้ค่ะ 1) Tutorials กวดวิชาสู่สามัญ : นิยาย, แบบฝึ กอ่าน, ภาพยนตร์ , บทวิเคราะห์, เพลงประกอบ, boxset 2) Tutorials กวดวิชาล่าฝั น : นิยาย, แบบฝึ กอ่าน, ภาพยนตร์ , บทวิเคราะห์, เพลงประกอบ, boxset 3) Tutorials กวดวิชาเพื่ออนาคต : ยังไม่กาหนดรู ปแบบ รอรวบรวมข้ อมูล อาจเป็ นรายการทีวีคะ่ , boxset 4) กว่าจะเป็ น Tutorials : กวดวิชาสร้ างสรรค์, รวมสัมภาษณ์, รายงานวิจยั , รวมดราม่า, เบื ้องหลังภาพยนตร์ 5) BoxSet ... : (เถอะน่ะ!!)

ผลลัพธ์ ที่วนิยาคาดหวังทางด้ านเนื ้อหา หรื อด้ านสินค้ า จะมีการเพิ่มเติมหลังจากที่วนิยาดาเนินการตระเวน สารวจและตระเวนสัมภาษณ์ (ซึ่งแฝงไปด้ วยการประชาสัมพันธ์ โครงการ ขอคาแนะนา ขอการรับรอง และหา สปอนเซอร์ จากผู้ใหญ่ ผู้นาทางความคิด ไอดอล และองค์กรภาครัฐและภาคเอกชนต่างๆที่เกี่ยวข้ อง) โดยจะ พยายามรวบรวมให้ ครอบคลุมครบถ้ วนก่อนที่จะเข้ าสูช่ ่วงดาเนินการผลิตสือ่ แต่ละภาค เพื่อไม่ให้ เกิดภาวะ "งาน งอก" หรื อ "ขอติดขบวน" เพราะอาจจะทาให้ ต้องนาประเด็นต่างๆมาประมวลจัดสรรใหม่ทงระบบอี ั้ กครัง้ ทังนี ้ ้การ แบ่งภาคเนื ้อเรื่ องของสือ่ จะช่วยเปิ ดช่วงเวลา เปิ ดโอกาสให้ โครงการได้ รับประเด็นใหม่ๆเข้ ามาประมวลก่อนที่จะ ผลิตสือ่ ให้ ตอบสนองและสอดคล้ องกับสถานการณ์ในช่วงเวลานันได้ ้ มากขึ ้นค่ะ :) ตอบข้ อ2 : บทบาทของ mr.Saturday ต่อโครงการนี ้ 1) กับเครื่ องมือวิจยั สารวจ บทบาทของ mr.Saturday ต่อโครงการนี ้เริ่ มจากที่วนิยาเห็นว่า mr.Saturday เป็ นนักวิจยั โฆษณาและการสอน ของ mr.Saturday ไม่ได้ ยดึ ติดกับรูปแบบในตารามากนัก ด้ วยความที่วนิยาจบมาแล้ วผันไปเรี ยนรู้ งานของ ngo จึงไม่ได้ ร้ ู จกั ติดต่อกับใครที่ทางานวิจยั โฆษณาแบบ mr.Saturday เลย เมื่อถึงคราวที่โครงการ Tutorials กวดฯ

131

รุ่งอรุณเชียงราย : โรงเรี ยนในจดหมายกับหลักสูตรปั จจัยสี่


ดาเนินมาสู่ขนตอนของการวิ ั้ จัยแล้ ว วนิยาจึงเข้ าไปพบ mr.Saturday เพราะตัง้ ใจว่า ในส่วนของสื่อที่เป็ น เครื่ องมือการวิจยั วนิยาอยากจะออกแบบให้ หลุดจากความเป็ นวิชาการ ให้ เด็กนักเรี ยนมัธยมชอบ อยากตอบ โดยไม่ต้องฝื น เช่น วนิยาอาจจะถอดแบบหน้ าแฟนเพจเฟซบุ๊กที่มีคาคมโดนๆให้ เด็กมากด "ถูกใจ" และมีระดับที่ เด็กต้ องการ เช่น "กระทืบไลค์" หรื อ "สักล้ านครัง้ " ตามอัธยาศัย ใส่คอมเม้ นต์ก็ได้ แบบให้ มีสาระ แต่ เมื่อรู้ ว่าถ้ า วนิยาขอทุน(หรื อไม่ได้ ขอทุน)ก็จะต้ องผ่านคณะกรรมการหรื อผู้ทรงคุณวุฒิตรวจสอบความเที่ยงตรงอะไรพวกนัน้ แล้ ว วนิยาก็กลัวว่าเครื่ องมือที่วนิยาจะออกแบบจะไม่ผ่าน ดังนันถ้ ้ ามีนกั วิจยั ผู้ทรงคุณวุฒิที่ "ยังไม่แก่" เช่น mr.Saturday มาเป็ นผู้ตรวจสอบว่า เครื่ องมือวิจยั ที่วนิยาออกแบบมาจะสามารถนาไปใช้ เก็บข้ อมูลวิจยั ได้ จริ ง หรื อไม่ ถ้ าเป็ น mr.Saturday ตรวจแล้ วบอกว่าต้ องแก้ ไขวนิยาก็จะไม่ข้องใจและคิดว่าเป็ นการตรวจสอบที่ ยุติธรรมต่อคนรุ่นใหม่ที่สดุ แล้ วค่ะ 2) กับการให้ สมั ภาษณ์ จากอีเมลฉบับที่แล้ วซึ่งเป็ นเหตุให้ mr.Saturday ถามคาถามนี ้ วนิยาบอกว่าจะขอสัมภาษณ์ mr.Saturday ใน หมวด "แรงบันดาลใจตัวละคร" ขออภัยที่วนิยารี บบอก mr.Saturday โดยที่ไม่มีรายละเอียดนะคะ ตัวละครที่ วนิยาสนใจจะเก็บบางส่วนของความเป็ น mr.Saturday มาเขียนในนิยายก็คือ นายป๊ อป ปราชยันต์ ลูกนักการ ตลาดค่ะ ตอนนี ้ "แรงบันดาลใจตัวละคร" ของ ป๊ อป ปราชยันต์ มี 5 คน คือ เพื่อนเก่าที่ท้าแข่งกันเรี ยน, ดร.ป๊ อบ, คุณต๊ อบ เถ้ าแก่น้อย, พิชชี่ ออกัส และ mr.Saturday ค่ะ จริ งๆ mr.Saturday ก็เป็ นตัวแทนของคนที่ทางานกับความเป็ นทุนนิยมมากๆ(คือเป็ นนามธรรมที่มีราคาสูง) และ อีกอย่าง วนิยาก็สนใจสัมภาษณ์ mr.Saturday เรื่ องวิธีการสอนค่ะ mr.Saturday สามารถถามโดยทาให้ นักศึกษาซึง่ ไม่เคยตอบอะไรในคลาสอื่นแต่กลับยกมือตอบคาถามในคลาสของ mr.Saturday ได้ ดังนัน้ คาถาม สัมภาษณ์ที่วนิยาจะถาม mr.Saturday จะอยูใ่ นหมวดของ คนที่ทางานเกี่ยวกับการศึกษา และตัวแทนความเป็ น ทุนนิยม ค่ะ :) หมวดหมูผ่ ้ ทู ี่วนิยาจะติดต่อขอไปสัมภาษณ์ มีดงั นี ้ค่ะ : ) a. แรงบันดาลใจตัวละคร เช่น ดร.ป๊ อบ, วรรณสิงห์, จอห์น วิญญู, ฯลฯ b. ผู้นาทางความคิดในสังคมไทย เช่น ส.ศิวรักษ์ , โจน จันได, นิ ้วกลม, ฯลฯ c. คนรู้จกั ที่ทางานเกี่ยวกับการศึกษา เช่น mr.Saturday, ญาติๆวนิยา(ครูทงนั ั ้ น) ้ ฯลฯ d. ตัวแทนจากโรงเรี ยนทางเลือก เช่น โรงเรี ยนรุ่งอรุณ โรงเรี ยนสอนควาย ฯลฯ e. ตัวแทนจากโรงเรี ยนกวดวิชา เช่น เพื่อนวนิยา, ครูพี่แนน, ครูเจี๋ย, ครูลลิ ลี่ ฯลฯ f. ตัวแทนจากหน่วยงานด้ านการศึกษาของรัฐ เช่น กรมสามัญศึกษา สกอ. ฯลฯ g. สโนว์บอล/ไอดอล บุคคลที่ถกู แนะนาจากการสารวจและการสัมภาษณ์ ฯลฯ h. ตัวแทนทุนนิยม/ธุรกิจ/สปอนเซอร์ เช่น เถ้ าแก่น้อย เอเจนซี่ เปปทีน ฯลฯ คาถามสัมภาษณ์ก็จะประมาณ : ที่มาที่ไปของความเป็ นคุณผู้ให้ สมั ภาษณ์ ความคิดเห็นที่มีต่อการศึกษาไทย สิง่ ที่อยากจะเห็นในเมืองไทย ปั ญหาที่อยากให้ มีคนแก้ ข้ อเสนอแนะต่อการศึกษาไทยค่ะ ถ้ าเป็ นกลุ่มตัวละคร และตัวแทนทุนนิยม คาถามก็จะพิเศษหน่อย เช่น มีปัจจัยอะไรทาให้ เป็ นแบบนี ้ ถ้ าต้ อง เผชิญสิง่ นี ้จะทาแบบไหน มีวิธีคิดแก้ ปัญหาสังคมหรื อไม่อย่างไร จะทาอะไรในอนาคต ฯลฯ

รุ่งอรุณเชียงราย : โรงเรี ยนในจดหมายกับหลักสูตรปั จจัยสี่

132


วนิยาเรี ยกช่วงสัมภาษณ์ นี ้ว่าเป็ น ช่วง "teach me please" (เลียนแบบโปรแกรม SimSimi) คือถามผู้ให้ สัมภาษณ์ ว่าต้ องการให้ โครงการสื่อสารอะไรเพิ่มเติมหรื อไม่ และจะนาสิ่งต่างๆที่ได้ จากการสัมภาษณ์ มา พิจารณาปรับใช้ เป็ นกระบอกเสียงพูดแทนผู้ให้ สมั ภาษณ์ที่มีประเด็นน่าสนใจ เท่าที่เห็นควรค่ะ 3) และอีกอนึง่ ตอน นี ้วนิยาว่า mr.Saturday มีบทบาทเพิ่มขึ ้นอีกอย่างแล้ ว คือเป็ น "ที่ปรึ กษาโดยไม่ได้ ตงใจ" ั ้ ค่ะ ^^; เพราะ จริ งๆเจ้ าตัวโครงการนี ้วนิยากาลังอยูใ่ นสภาวะ "เขียนไม่ได้ ถ้ าไม่มีใครมาถาม" และ "ถามยังไงก็ไม่เกิดถ้ าถามไม่ ตรงกับโครงสร้ างของโครงการ" คาถามของ mr.Saturday ส่งผลให้ วนิยาต้ องเขียนแต่ละประเด็นออกมาจนเห็น ภาพรวมของ โครงการเกือบหมด ดีใจมากค่ะ สิ่งที่วนิยาเพิ่งเขียนไปข้ างบนทังหมดนี ้ ้ก็เป็ นผลจากคาถามของ mr.Saturday เลยค่ะ :) ((บางคนอาจจะสงสัยว่าทาไมวนิยาไม่ค่อยเปิ ดรับความช่วยเหลือจากใคร หรื อทาไมต้ องดิ ้นรนหาคนที่เหมาะสมมาจุด ประกาย วนิยาขอตอบว่า มันเป็ นธรรมชาติของตัวเองที่วนิยาวิเคราะห์ออกมาได้ ถ้ าวนิยาไม่ทาอย่างนัน้ ทุกอย่างจะไม่ เป็ นธรรมชาติ จะไม่ลงตัว และวนิยาจะไม่พอใจ อาจจะทิ ้งไว้ ก็หรื ออย่างดีก็จะแก้ ไขใหม่ไปเรื่ อยๆแต่ไม่โอเค ที่สาคัญกว่า คือ วนิยาต้ องรักษาความเป็ นศิลปิ นและชีวติ ของตัวละครแต่ละตัวไว้ วนิยาปกป้องสิ่ งนี ้เพราะวนิยาเคยสูญเสียมันไปครัง้ หนึ่งจึงเข้ าใจ และตอนนี ้วนิยาก็ฟืน้ ฟูตวั เองจนสามารถกลับมาทางานสร้ างสรรค์ได้ บ้างแล้ ว วนิยาถือว่าเป็ นการจัดการ ทักษะความถนัดเฉพาะบุคคล ซึง่ ไม่อาจจะเกิดขึ ้นได้ จากแบบเรี ยนแบบแผนหรื อคอร์ สฝึ กทักษะใดๆค่ะ))

ตอบข้ อ3 : ระยะเวลาของโครงการ ในช่วงนีก้ ็เป็ นช่วงของการเขียนโครงการ พัฒนาโครงการ พัฒนาเครื่ อ งมือ วิจัย การเตรี ยมตัวทังหลายเพื ้ ่ อยื่นเสนอ โครงการวิจยั กับ a day foundation ค่ะ ก่อนที่จะยื่นโครงการกับทางกลุ่ม a day วนิยาก็จะนาโครงเรื่ อง "กบฎบายเนียร์ " ไปเสนอทาหนังสือในโครงการ a book Rookie เพื่อที่จะได้ สิทธิ์ฝึกงานด้ านศิลปกรรมหนังสือ(กับสานักพิมพ์ a book ที่ ครองใจกลุ่มเป้าหมายของโครงการ Tutorials กวดฯ ได้ ดีพอสมควร) ประมาณ 2-3 เดือน เมื่อวนิยามีผลงานหนังสือเป็ น portfolio เพื่อการแนะนาตัวแล้ ว ก็จะถึงเวลาออกตระเวนสารวจและสัมภาษณ์ โดยจะพยายามไม่ให้ เกินช่วงกลางปี เพื่อ เลี่ยงเหตุการณ์ .. กลุ่มเป้าหมายหนีน ้าท่วม / น ้าท่วมกลุ่มเป้าหมาย ค่ะ หลังจากนีเ้ รื่ องผลการวิจัยตลอดจนสื่อหนังสือ นิยายบทภาพยนตร์ คือ "ไม่มีกาหนด" ค่ะ แต่อย่างไรก็ตามวนิยาก็พยายามตังก ้ าหนดการไว้ ก่อนเพื่อที่จะจัดสรรเวลาใน การทาโครงการแต่ละขันให้ ้ บรรลุไปได้ ทีละเปลาะค่ะ :)

เขียนเป็ นกาหนดการง่ายๆได้ ดงั นี ้ค่ะ 2555 มกราคม - มีนาคม : พัฒนาโครงการ พัฒนาเครื่ องมือวิจยั เตรี ยมเขียนหนังสือ เตรี ยมตัวฝึ กงาน 2555 มีนา/เมษา - เมษา/พฤษภา : ฝึ กงานในโครงการ a book Rookie (หรื อกับ Way of Books กรณีที่ไม่ตดิ ) 2555 พฤษภาคม - กันยายน : ยื่นเสนอและดาเนินการโครงการวิจยั สารวจและสัมภาษณ์ เพื่อเป็ นข้ อมูลผลิตสื่อ 2555 ตุลาคม เป็ นต้ นไป : ดาเนินการผลิตสื่อ หนังสือนิยาย ไปจนถึงภาพยนตร์ ตามโครงการที่ได้ พฒ ั นาขึ ้น

จบ .. (เป็ นการเขียนอีเมลที่ใช้ เวลา 1สัปดาห์เต็ม)

133

รุ่งอรุณเชียงราย : โรงเรี ยนในจดหมายกับหลักสูตรปั จจัยสี่


ต้ องขอบคุณอาจารย์มากๆค่ะ ตังแต่ ้ คลิปเด็กวาดปลาวาฬ มาจนถึงคาถามสามอย่าง (น้ องปลาวาฬ : http://www.youtube.com/watch?v=CeXuZexUIc4) Imagination, Whale (with English Sub) - Ad Council Japan What gets us into trouble is not what we don't know. It's what we know for sure that just ain't so. - Mark Twain オキシトシン点 鼻剤による対人コミュニケーション障害の改 善を実証 (December 19, 2013/UT) http://j.mp/1aGW7Gy Maternal… 00:01:32 | Added on 8/21/2008 | 125,144 views ตอนนี ้โครงการของวนิยาพัฒนาจากสีเทียนดาๆบนกระดาษ เริ่ มมาต่อกันเป็ นรูปร่างปลาวาฬได้ แล้ ว วนิยาเขียนเมลฉบับนี ้ตังแต่ ้ วนั ที่ 1มีนาคม เป็ นการเขียนที่เป็ นธรรมชาติมาก ไม่วา่ จะเขียนไปมากเท่าไหร่ก็ไม่เบื่อ แทบรอไม่ไหวที่จะกลับมานัง่ เขียนต่อให้ จบอย่างที่ตงใจ ั้ และจัดการตัวเองได้ อย่างไม่มวี ีน ไม่มีสะดุด ตอนนี ้ชีวติ ของวนิยาเต็มไปด้ วยคาว่า Tutorials คาว่า กวดฯ คาว่า การศึกษา อยูก่ บั สิง่ ที่วนิยาสามารถอยูร่ ่วมกับมันทังปี ้ ทังเดื ้ อน ทังวั ้ น มาได้ ตลอดรอดฝั่ ง ตระหนักว่านี่คือความโชคดีที่นา่ ภาคภูมิใจในการทางาน ในการใช้ ชีวติ ที่สอดประสานเข้ ากับงาน ช่างพิเศษ จนอยากจะตะโกนออกมาจริงๆ ว่า IT'S MY LIFE !!

ประเด็นต่างๆทีว่ นิยาได้ รวบรวมมาตามที่อาจารย์ถาม วนิยาจะเอาไปเรี ยบเรี ยงเป็ นตัวโครงการจริ ง เมื่อทาเสร็ จไปวัดไปวาได้ แล้ ว ก็จะทาเป็ นเอกสารแนะนาโครงการเวลาตระเวนสัมภาษณ์คะ่ :D ขอบคุณค่ะ ปล. หยิบเอา "The Resident Tourist" 3เล่ม มาอ่านอีกรอบ อ่านเมื่อ 2ปี ก่อน วนิยาเห็นอนาคตตัวเอง ผ่านมา 2ปี นี ้ วนิยาเห็นปั จจุบนั ตัวเองค่ะ หน้ าตาบุคลิกคุณทรอย ชิน ก็บอกได้ วา่ "นี่คือสิง่ ทีว่ นิยาเป็ นและอยากเป็ นเมื่อสมัยมัธยมชัดๆ" ไปทักในเฟซแล้ วทัน่ ลูกพี่ทรอยก็ตอบ "อยากวาดการ์ ตนู ก็ลงมือทาซะ เพราะมันเป็ นอะไรที่ช้ามากๆ" ..ขอวาดโปรเจ็กต์ก่อนนะเจ้ าค่ะ (ช้ าพอๆกัน) :)

รุ่งอรุณเชียงราย : โรงเรี ยนในจดหมายกับหลักสูตรปั จจัยสี่

134


สไลด์ประกอบการแนะแนว Tutorials กวดวิชาสูส่ ามัญ 27 พฤษภาคม 2555

135

รุ่งอรุณเชียงราย : โรงเรี ยนในจดหมายกับหลักสูตรปั จจัยสี่


วนิยำเต็มพิกัด กัดกัด‫‏‬ 10 ตุลาคม 2558 สวัสดีคะ่ ผ่านไปปี กว่าๆกับหนังสือ "รุ่ งอรุ ณเชียงราย : โรงเรี ยนในจดหมายกับหลักสูตรปั จจัยสี่" ที่ได้ รับคาชมแต่ยงั ไม่ได้ รับการพิจารณาตีพิมพ์ ด้ วยเหตุผลว่า "แนวทางของหนังสือไม่ตรงกับกลุม่ เป้าหมายของสานักพิมพ์" ตอนนี ้วนิยา ก็กาลังรอหลายๆสานักพิมพ์ หากทุกท่านเห็นสานักพิมพ์ใดที่น่าจะมีกลุม่ เป้าหมายและแนวทางตรงกับหนังสือ ของวนิยาเล่มนี ้รบกวนแนะนามาให้ วนิยาพิจารณาด้ วยนะคะ เนื่องจากวนิยารอคาตัดสินจากบรรณาธิการอยู่เฉยๆไม่ไหว ช่วงที่ว่างๆก็เลยคิดหาวิธีการเผยแพร่ หลักสูตร "จตุ รวิทย์ พิชญศึกษา" ที่เป็ นหัวใจสาคัญของหนังสือ ในรู ปแบบอื่นๆ เริ่ มจากได้ พล็อตนิยายเรื่ องหนึ่ง เกี่ ยวกับ ซานตาคลอสและความสัมพันธ์ในครอบครัว (New Folder เปิ ดหัวใจ ไฟล์อธิษฐาน) ก็ได้ สร้ างตัวละครที่เป็ นชาว อเมริ กนั ดาเนินเรื่ องในอเมริ กาเป็ นหลัก แต่มีตวั หนึ่งที่สนใจในหลักปั จจัยสี่ของศาสนาพุทธ และอีกตัวหนึ่งนา เรื่ องปั จจัยสี่นีม้ าปรั บเข้ ากับระบบการศึกษาอเมริ กัน เรี ยกได้ ว่าถ้ าหนังสือได้ รับการแปลไปอเมริ กาก็ จะได้ เผยแพร่หลักสูตรจตุรวิทย์พิชญศึกษาในอเมริ กาก่อนเลย ซึ่งถ้ าการศึกษาอเมริ กาเปลี่ยน การศึกษาทัว่ โลกก็จะ เปลี่ยนตามไปด้ วยแน่นอน แต่วนิยาก็มั่นใจมากว่าการเผยแพร่ แนวทางปฏิรูปการศึกษาโดยสอดแทรกอยู่ใน วรรณกรรมเยาวชนนันไม่ ้ มีทางทาให้ เกิดการเปลีย่ นแปลงเป็ นรูปเป็ นร่างได้ แน่ๆ และอย่างที่เคย วนิยาพล็อตเป็ น แต่พอจะเริ่ มเขียนตัวนิยายกลับทาอะไรไม่เป็ นเลยค่ะ 555+ ต่อจากพล็อตวรรณกรรมเยาวชนที่ผดุ ขึ ้นมาโดยบังเอิญและรับภาระในการเผยแพร่หลักสูตรไปอย่างไม่มีปี่มีขลุย่ แล้ ว ก็เป็ นแนวการออกแบบ แบบเรี ยนภาษาไทยชุด "ข้ าวหอม ดอกฝ้ าย ต้ นไผ่ ขมิ ้น" ที่ชื่อเรื่ องเป็ นชื่อของเด็ก 4 คนอันเป็ นตัวแทนนาเสนอ "การผลิตปั จจัยสี่" ในโรงเรี ยนตามหลักสูตรจตุรวิทย์พิชญศึกษา ซึ่งแบบเรี ยนที่ ให้ นักเรี ยนฝึ กการอ่านภาษาไทยชุดนี ้จะช่วยเตรี ยมความพร้ อมให้ กบั นักเรี ยนระดับประถมศึกษา ให้ ทราบก่อนว่า จะต้ องเจอกับอะไรในระดับมัธยมศึกษา โดยหลักการดาเนินเรื่ องจะใช้ ไอเดียแบบ "อัศวินดารา เซเลอร์ มนู / ครู พิเศษจอมป่ วน รี บอร์ น" ที่ตวั เอกเป็ นคนอ่อนแอไม่เอาถ่านแต่ถกู สถานการณ์บงั คับให้ ต้องแสดงความกล้ าหาญ โดยมีผองเพื่อนที่สามัคคีกนั คอยช่วยสนับสนุนในทุกๆด้ าน จนตัวเอกสามารถฟั นฝ่ าอุปสรรคอันยิ่งใหญ่ได้ ใน ที่สดุ ในที่นี ้นักเรี ยนหรื อผู้อ่านจะได้ เรี ยนรู้ ไปพร้ อมกับตัวละคร เช่น ข้ าวหอมเป็ นเด็กที่ชอบกินแต่ทาอาหารไม่ เป็ น ข้ าวหอมจะแก้ ปัญหาอย่างไร เพื่อนๆของข้ าวหอมมีบทบาทช่วยข้ าวหอมแก้ ปัญหาอย่างไรบ้ าง เป็ นต้ น พอถึงปลายปี วนิยาก็รวบรวมความกล้ าส่งอีเมลปรึ กษาพี่ทรอย ชิ น (ศิลปิ นป่ วนกรุ ง) คนสิงคโปร์ ที่ท้าทาย ค่านิยมสังคมสิงคโปร์ โดยการลาออกจากงานในค่ายเพลงที่นิวยอร์ กมาเขียนการ์ ตนู อิสระเกี่ยวกับชิวิตตัวเอง ใน การ์ ตนู ของพี่ทรอยมีการสะท้ อนปั ญหาที่เกิดจากระบบการศึกษาสิงคโปร์ บางส่วน แต่ยงั ไม่มีคาตอบที่จะแก้ ไข ปั ญหานัน้ วนิยาจึงเสนอให้ พี่ทรอยหาคนแปลและอ่านหนังสือของวนิยา แต่เมื่อถามตอบไปๆมาๆวนิยาก็พบว่าพี่ ทรอยซึง่ เป็ นตัวแทนของชาวสิงคโปร์ และชาวนิวยอร์ กในประเภทที่นา่ จะเข้ าใจความคิดของวนิยาที่สดุ แล้ วก็ยงั ไม่

รุ่งอรุณเชียงราย : โรงเรี ยนในจดหมายกับหลักสูตรปั จจัยสี่

136


น่าจะสามารถเข้ าใจสิง่ ที่วนิยาอยากจะสือ่ ในหนังสือที่วนิยาเขียนไปแล้ วได้ วนิยาจึงตัดสินใจพล็อตหนังสือเรื่ อง ใหม่ในภาษาอังกฤษให้ สอดคล้ องกับกรอบความคิดของพี่ทรอยเพื่อให้ คนอ่านนอกเหนือจากพี่ทรอยเข้ าใจง่ าย ขึน้ โดยน าค าสาคัญ ที่ พี่ท รอยใช้ ใ นการตอบค าถามวนิย ามาเป็ นไอเดีย หลัก ได้ แ ก่ rich, land, trade, responsibility ตังชื ้ ่อหนังสือในตอนแรกว่า "Escapade" เมื่อร่างแนวคิดในกระดาษเสร็ จได้ เปลีย่ นชื่อหนังสือเป็ น "Trade VS Educate" และจัดทาเค้ าโครงเรี ยบร้ อยดังภาพที่แนบมานี ้ค่ะ https://www.facebook.com/TutorialsQuad/photos/a.635551836508278.1073741825.43485476657797 /884341864962606 จากปลายปี ที่แล้ วมาถึงต้ นปี นี ้ การก่อสร้ างอาคารโฮมออฟฟิ ซมูลนิธิหลัง ม.ราชภัฏเชียงราย ก็แล้ วเสร็ จ ท่านแม่ และวนิยาได้ ทาพิธีขึ ้นบ้ านใหม่และย้ ายเข้ ามาอยู่เรี ยบร้ อยโดยมีหนี ก้ ้ อนโตเป็ นผลข้ างเคียง ท่านแม่ทางานหนัก ขึ ้นและวนิยาก็ไม่ร้ ู ว่าแม่สามารถหางานจากไหนมาได้ เยอะแยะ ส่วนวนิยาสนใจหาเลี ้ยงชีพด้ วยการทานายไพ่ ยิปซีตามความถนัดและความชอบที่มีมาตังแต่ ้ เด็กๆ ท่านแม่ก็แนะนาให้ ไปเรี ยนเป็ นศิษย์มีครูให้ เรี ยบร้ อย เมื่อได้ เรี ยนการทานายไพ่ยิปซีมืออาชีพจากกรุงเทพกลับมาแล้ ววนิยาก็ทาการแจกนามบัตรให้ คนในละแวกบ้ านซึง่ เป็ น นักศึกษาหอพัก แต่ไม่ได้ รับความนิยม วนิยาจึงถอดใจและหาทางไปปฏิบตั ิธรรมเพื่อเพิ่มบารมีทางจิตวิญญาณ ให้ กับตัวเอง ปรากฏว่าวนิยาได้ ไปทานายไพ่ในงานเลี ้ยงรุ่ นของแม่และได้ พบกับเพื่อนของแม่คนหนึ่งที่แนะนา ให้ วนิยารู้ จกั กับวัดท่ามะโอ hypnotherapy และ energy medicine วนิยาได้ ตามเพื่อนของแม่คนนัน้ มาสมัคร เรี ยนที่กรุงเทพและพักอยูท่ ี่กรุงเทพตังแต่ ้ กลางปี เป็ นต้ นมา การได้ พกั อยู่ที่กรุ งเทพ (อยู่กบั ญาติ) เป็ นโอกาสที่จะได้ ทากิจกรรมต่างๆ วนิยาได้ ข่าวการประชุม One Young World ที่จะจัดการชุมนุมเยาวชนระดับโลกที่กรุ งเทพในปลายปี นี ้ โดยวนิยากรอกใบสมัครเข้ าค่าย พัฒนา ศักยภาพตัวแทนเยาวชนไทยโดยอธิ บายถึงการเปลี่ยนแปลงการศึกษาด้ วยหลักสูตรจตุรวิทย์พิชญศึกษาใน หน้ ากระดาษจากัด ซึ่งก็เป็ นโชคดีที่วนิยาไม่ได้ รับเลือกเป็ น 1 ใน 100 จาก 77 จังหวัดนัน้ มิฉะนันวนิ ้ ยาจะต้ อง ขาดเรี ยนคลาส energy medicine ครัง้ ที่สนุกและมีค่าที่สดุ ในคอร์ ส และจะสูญเวลา 3 วันของการทาฟรี แลนซ์ วิจัยเร่ งด่วนไปกับการเข้ าค่ายที่ต้องทาความรู้ จักจุบจิบและใช้ ภาษาอังกฤษซึ่งวนิยาตอนนี ้กาลังอ่อนแอสุดๆ นับตังแต่ ้ เรี ยนมัธยมมา ซึง่ เมื่อวนิยาได้ เห็นผลการจัดค่ายเยาวชนครัง้ นี ้ในเว็บแล้ วก็ไม่เสียดายอะไรเพราะคงไม่ สามารถผลักดันหลักสูตรจตุรวิทย์พิชญศึกษาในเวลาอันสันได้ ้ https://www.oneyoungworld.com/blog/empowering-young-leaders-thailand จากการเพ้ อฝั นว่าอาจจะได้ ไปเข้ าค่ายทาให้ วนิยาคิดเตรี ยมวิธีการนาเสนอแนวคิดเป็ นภาษาอังกฤษให้ เข้ าใจง่าย ในแบบของสไลด์ตวั หนังสือคาใหญ่ๆ เป็ นเรื่ องราวการถามตอบระหว่างครูกบั นักเรี ยนว่าทาไมคนถึงเอาแต่อพยพ เข้ ามาแออัดในเมืองใหญ่ เพราะเมืองใหญ่มีงานให้ ทา มีเงินให้ ใช้ ทาไมคนต้ องหาเงินใช้ เพราะต้ องใช้ จ่ายอาหาร เครื่ องนุง่ ห่ม ที่อยูอ่ าศัย และยารักษาโรค แล้ วอาหารที่ดีตอ่ สุขภาพมากที่สดุ คืออะไร ไม่ใช่อาหารเสริ ม แต่เป็ นผัก สดผลไม้ สด แล้ วผักผลไม้ สดมาจากไหน ไม่ได้ มาจากซูเปอร์ มาร์ เก็ต แต่มาจากสวน นักเรี ยนทาสวนเพื่อผลิต อาหารที่ดีต่อสุขภาพมากที่สดุ คือผักผลไม้ สดเป็ นไหม โรงเรี ยนเคยสอนนักเรี ยนปลูกผักไหม ถ้ าไม่ โรงเรี ยนมัว สอนอะไรกันอยู่ หรื อเสื ้อผ้ าที่เราใส่ทกุ วันนี ้มาจากไหน ไม่ได้ มาจากโรงงาน แต่มาจากต้ นฝ้ าย นักเรี ยนเคยเห็น

137

รุ่งอรุณเชียงราย : โรงเรี ยนในจดหมายกับหลักสูตรปั จจัยสี่


ต้ นฝ้ายไหม นักเรี ยนมีเสื ้อผ้ าใส่ได้ อย่างไร นักเรี ยนใช้ เงินซื ้อเสื ้อผ้ าแทนการทอผ้ าใส่เอง โรงเรี ยนสอนให้ นกั เรี ยน ยังชีพด้ วยการหาเงินจากการทาอาชีพ โรงเรี ยนไม่เคยสอนให้ นกั เรี ยนยังชีพโดยการผลิตสิ่งยังชีพด้ วยตัวเอง โรงเรี ยนไม่สอนให้ นกั เรี ยนผลิตสิ่งยังชีพอยู่ในท้ องถิ่นของตัวเอง โรงเรี ยนสอนให้ นกั เรี ยนเข้ าไปหางานในเมือง ใหญ่ เมื่อเป็ นเช่นนี ้คนจึงพากันอพยพเข้ าเมืองทาให้ เกิดปั ญหาสังคมต่างๆตามมามากมาย วนิยาตังชื ้ ่อเรื่ องนี ้ว่า "School for Sale" ค่ะ อนึ่ง วนิยาได้ ติดตามเว็บ One Young World เพื่อเอาใจกรรมการอยู่สกั พักก็ได้ เห็นการนาเสนอโครงการด้ าน การศึกษาของประเทศบราซิลในยูทปู วนิยาก็เลยแชร์ ความเห็นลงไปใต้ คลิปวิดีโอ แต่ยอด view คลิปนี ้น้ อยกว่า ที่วนิยาคาด และยังไม่มีใครมาแสดงความเห็นต่อจากวนิยาเลย อย่างไรก็ตามวนิยาคัดลอกข้ อความมาให้ อ่าน กันดังนี ้ค่ะ https://www.youtube.com/watch?v=biAYkh5nye8 Y Generation Education - Pr. Muhammad Yunus - english 00:02:04 Added on 9/11/2015 689 views Vote Y GENERATION EDUCATION : http://bit.ly/1Mm5lfu ygeneration-education.com Y Generation Education empowers underprivileged young people aged between 16 and 30 to help them join the workforce and enjoy a rewarding career path. We created a 100-hour curriculum focussing on 1. Core Skills - like problem-solving, literacy and text understanding, logical reasoning, basic math - but also in 2. Socio-Emotional Skills - like attention to details, persistence, resilience, self-confidence. Our innovative approach is based on 3 pillars: - Individualized e-learning using artificial intelligence - learning by doing within our partner companies - and personal and social development with neuro-sciences based coaching Y Generation Education’s Chairman is Nobel Peace Prize Laureate, Professor Yunus 1 COMMENT : vareety 4:00 am 19/9/2015 How about giving education to be able to produce life neccessities without finding money to buy them? Buddha said human needs only 4 factors to survive : food, apparel, house, medicine. Just teach these 4 and people won't need to find jobs in the cities. This would reduce cities's population and support local natural resources development. The curriculum was written in Thai and i'm not able to translate all of them completely. https://www.4shared.com/office/-SbaAMmlce/160308jaturavitpitchaya.html

รุ่งอรุณเชียงราย : โรงเรี ยนในจดหมายกับหลักสูตรปั จจัยสี่

138


มาถึงเดือนนี ้ คลาส energy medicine กาลังเข้ มข้ น วนิยาได้ เรี ยนการเพ่งกสิณไฟประยุกต์ เสกน ้าเปล่าให้ มี รสหวาน เสกส้ มให้ หายเปรี ย้ ว เชื่อมต่อสัญญาณรี โมทประตูรถยนต์ให้ ทางานได้ ในรัศมีไกลขึ ้น สัมผัสและรักษา ออร่ า ที่ ป กป้ องร่ า งกาย มี พี่ เ ลขาที่ ก ารั น ตี สุข ภาพได้ จ ากความสวยอ่ อ นวัย และรั ก การกิ น ได้ โดยไม่ มี อ้ ว น นอกจากนี ้ วนิยายังได้ ข่าวโครงการ Geek So Good ประกวดเยาวชนพัฒนาแอพพลิเคชัน่ เพื่อสังคม ซึ่งวนิยา สนใจนาระบบการบันทึกรายรับรายจ่ายด้ วยสมุดของตัวเอง ที่ตงชื ั ้ ่อว่า Sodium เวอร์ ชนั่ Expense มาพัฒนา เป็ นโปรแกรมให้ คานวณอัตโนมัติได้ จริ งจังเสียที อาจจะพัฒนาฟั งก์ชนั่ ช่วยประหยัดแล้ วอัพเป็ น Sodium เวอร์ ชนั่ Save แต่เนื่องจากเพื่อนวนิยาที่พฒ ั นาแอพเป็ นนันอายุ ้ เกินไม่สามารถสมัครได้ วนิยาจึงจะอุทิศเดือนนี ้ให้ กบั การ เรี ยนภาษา Java ด้ วยตัวเองค่ะ สาหรับเรื่ องเงิน เดือนนี ้วนิยากาลังจะได้ ก้อนใหญ่จากการทางานฟรี แลนซ์โปรเจคหนึ่งมานาน 2 เดือน เป็ นการ รวบรวมข้ อมูลวิจยั ที่สมั ภาษณ์หมอพื ้นบ้ าน 200 กว่าคนทัว่ ภาคเหนือโดยทีมงานของท่านแม่ แล้ วให้ วนิยาเป็ น บรรณาธิการ โดยวนิยาก็แถมการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริ มาณไปให้ เขาด้ วย เพราะการทากราฟ excel เบื ้องต้ น เป็ นงานที่วนิยาถนัด (แต่ก็ใช้ ฟังก์ชนั่ ใดๆไม่เป็ นนอกจากรวมและเรี ยงลาดับ) เป็ นงานที่ท้าทายความสามารถใน ตอนแรก สนุกในตอนกลาง และทลายขีดจากัดในตอนจบ วนิยาส่งไฟล์ต่างๆมาให้ mr.Saturday เป็ นการ แลกเปลีย่ นประสบการณ์สนุกๆค่ะ [150925 ยิ่งอ่านยิ่งฮา ภาษาไทยวิบตั ิ.docx] <ไฟล์นี ้เป็ นตัวอย่างข้ อมูลที่ทีมงานของแม่สง่ มาให้ วารี คะ่ [150927หมอพื ้นบ้ านเชิงปริ มาณ.xls] [151005กราฟหมอเมือง.doc] ^^ 2ไฟล์นี ้เป็ นกระบวนการและผลการวิเคราะห์ข้อมูลที่วนิยาทาด้ วย excel ค่ะ และวนิยาตังใจจะถาม ้ mr.Saturday ว่า ถ้ าใช้ excel ทางานวิจยั ได้ ประมาณนี ้ วนิยาควรจะลองหาโปรแกรม SPSS มาศึกษา หรื อใช้ excel ต่อไปได้ ซึง่ วนิยาเองไม่ทราบว่า SPSS มีฟังก์ชนั่ อะไรที่สะดวกต่อการทางานวิจยั ทางสังคมบ้ าง และวนิยาไม่มีความรู้เรื่ องสถิติเพื่อการวิจยั เลย และจากการที่วนิยาได้ ทางานวิจยั ชิ ้นนี ้เสร็ จโดยไม่ มีความรู้ด้านสถิติ ทาให้ เกิดคาถามว่า แล้ วเราควรนาความรู้ด้านสถิติมาใช้ ในระดับไหน ความรู้ ด้านสถิติจาเป็ น หรื อไม่ ฯลฯ ค่ะ สุดท้ าย ที่อีเมลมาถึง mr.Saturday เพราะวันนี ้วนิยาได้ ไอเดียทาโครงการใหม่ค่ะ ชื่อโครงการ "ลืมไปหรื อยัง ?" : โครงการส่งเสริ มการเรี ยนสถิติเพื่อพัฒนาการวิจยั ทางสังคม ไอเดียเกิดจากวันนี ้วนิยานัง่ รถเมล์ผ่านสถาบันการ บินพลเรื อน แล้ วคิดถึงเพื่อนที่สอบติดมาเรี ยนที่นี่ คิดถึงว่าเขาต้ องเรี ยนมัธยมเก่งขนาดไหนถึงจะเข้ ามาได้ แต่พอ เรี ยนไปๆ ได้ ฝึกความชานาญเฉพาะอาชีพนักบินจนเชี่ยวชาญแล้ ว ความรู้ที่เรี ยนมาเพื่อสอบเข้ าสถาบันเมื่อตอน เรี ยนจบมัธยมจะยังได้ ใช้ อยูห่ รื อเปล่า จะลืมไปหรื อยัง เนื่องจากเพิ่งเสร็ จงานฟรี แลนซ์ประเภทแบบสอบถามมาก็ เลยเกิดไอเดียทาโครงการวิจยั เชิงสารวจขึ ้น โดยให้ นกั เรี ยนมัธยมที่กาลังเรี ยนอยูใ่ นโรงเรี ยน และครู มธั ยมที่สอน นักเรี ยนอยู่ในโรงเรี ยน ร่ วมกัน ทาการสารวจมืออาชี พ ที่ตัวเองคิดว่าเจ๋งสุด หรื อเป็ นแบบอย่างการประสบ ความสาเร็ จ ในท้ องถิ่นหรื อชุมชนของตน แล้ วนาข้ อมูลที่แต่ละคนสารวจได้ มารวมกันประมวลเป็ นข้ อมูลเชิง ปริ มาณ โดยครูจะเป็ นคนคอยสอนให้ นกั เรี ยนนาข้ อมูลจริ งมาวิเคราะห์กนั เอง นอกจากนันก็ ้ สง่ ข้ อมูลเหล่านี ท้ งั ้ แบบดิบและสุก มาให้ ทางโครงการได้ ประมวลในระดับประเทศ โครงการนี ้จะช่วยให้ นกั เรี ยนเห็นความสาคัญของ

139

รุ่งอรุณเชียงราย : โรงเรี ยนในจดหมายกับหลักสูตรปั จจัยสี่


วิชาสถิ ติ การวิจัยทางสังคม การวิจัยเชิ งปริ ม าณและเชิ งคุณภาพ ทาให้ นักเรี ย นมีแรงบันดาลใจในการท า โครงการวิจยั ของตนเองต่อไปในอนาคต และส่งเสริ มให้ เกิดการวิจยั ที่มี คณ ุ ภาพมากขึ ้นในภาพรวม นอกจากนี ้ ข้ อมูลที่ได้ จากการวิจัย ยังเป็ นประโยชน์ในการตัดสินใจ จัดทาหลักสูตรการเรี ยนการสอนในโรงเรี ยนเพื่อให้ สอดคล้ องกับอาชีพและสามารถนาไปใช้ ได้ จริ งโดยไม่สญ ู เปล่า ในการประมวลผลข้ อมูลเบื ้องต้ นที่จดั ทาโดยครูร่วมกับนักเรี ยน วนิยาจะแนะนาให้ ใช้ excel แบบง่ายๆอย่างที่วนิ ยาได้ ทาค่ะ เพราะเป็ นโปรแกรมมาตรฐานที่หาได้ ทวั่ ไป วนิยาอาจจะศึกษาเทคนิคการใช้ excel มากขึ ้นเพื่อ นามาเป็ นแบบแผนการประมวลข้ อมูล แต่หาก mr.Saturday เห็นว่า ใช้ SPSS จะดีกว่าในระยะยาว ก็รบกวน mr.Saturday แนะนาด้ วยค่ะ สาหรับวันนี ้ วนิยานัง่ พิมพ์ยาว 5 ชั่วโมง ย ้าว่าเพิ่งคิดโครงการได้ วนั นี ้ เมื่อตอน 6 โมงเย็น แล้ วก็นงั่ รถเมล์กลับ บ้ านมานัง่ พิมพ์เลย แต่เกริ่ นนาให้ เต็มที่ เพราะที่ผา่ นมามีเรื่ องเยอะมากที่วนิยาไม่ได้ เล่า อยากจะอัพเดทให้ ทวั่ ถึง กันทีเดียว หากยาวมากก็ขออภัยค่ะ วนิยาถ่ายทอดออกมาได้ เท่านี ้ เช้ าแล้ ว ขอให้ สนุกกับการอ่านนะคะ วนิยา

รุ่งอรุณเชียงราย : โรงเรี ยนในจดหมายกับหลักสูตรปั จจัยสี่

140


https://www.facebook.com/TutorialsQuad/photos/a.635551836508278.1073741825.43485476657798 7/884341864962606

141

รุ่งอรุณเชียงราย : โรงเรี ยนในจดหมายกับหลักสูตรปั จจัยสี่


https://www.facebook.com/notes/tutorials-กวดวิชาการศึกษาไทย/วิชาไหนเรี ยนไปเพื่อลืม -โครงการส่งเสริ ม การเรี ยนสถิติเพื่อพัฒนาการวิจยั ทางสังคม/1025005167562941 วิชาไหนเรี ยนไปเพื่อลืม ; โครงการส่งเสริ มการเรี ยนสถิติเพื่อพัฒนาการวิจยั ทางสังคม October 16, 2015 at 10:55pm หมายเหตุ : ที่ใช้ เครื่ องหมาย ; (semicolon) ในชื่อโครงการเพราะเป็ น "โครงการซ้ อนโครงการ" ประกอบด้ วย โครงการส่งเสริ มและโครงการสารวจ โดยนาโครงการสารวจมาใช้ เป็ นเครื่ องมือในการส่งเสริ ม ที่มาและความสาคัญ : - วิชาไหนเรี ยนไปเพื่อลืม (โครงการสารวจการจดจาความรู้ในหลักสูตรการศึกษาขันพื ้ ้นฐาน ของคนวัยทางาน) ไอน์สไตน์ได้ กล่าวไว้ ว่า "การศึกษา หมายถึง สิ่งที่ยงั หลงเหลืออยู่หลังจากลืมทุกอย่างที่เคยเรี ยนมาตอนอยู่ โรงเรี ยน" (สม สุจีรา, 2554 "พระพุทธเจ้ าพลิกใจ ไอน์สไตน์พลิกโลก" หน้ า 172-173) ทพ.สม สุจีรา ได้ ตงั ้ คาถามว่า เมื่อเรี ยนจบออกมาได้ ใช้ ความรู้ ที่ เรี ยนมาประกอบอาชีพมากน้ อยเท่าไรและลืมเลือนไปเท่าไร คาตอบคือ ความรู้ ที่ใช้ ประกอบอาชีพส่วนใหญ่จะขึ ้นอยู่กับการเรี ยนรู้ ต่อเนื่องในภายหลังมากกว่า และได้ สรุ ปว่า สิ่งที่ยงั หลงเหลืออยู่จากการศึกษาก็คือ "วิธีคิดและวิธีเรี ยนรู้ " คากล่าวนี ้แสดงให้ เห็นว่า สถานศึกษา สามารถสอนอะไรให้ กับนักเรี ยนก็ ได้ ขอเพียงแค่ให้ นักเรี ยนได้ วิธีคิดและวิธีเรี ยนรู้ ติดตัวไปเพื่อใช้ ในการ ประกอบอาชีพในอนาคตก็พอ คาถามคือ แล้ วสถานศึกษาควรนาความรู้อะไรมาสอนเพื่อให้ นกั เรี ยนได้ ฝึกการ คิดและการเรี ยนรู้และสามารถนาความรู้ไปใช้ ได้ ในชีวิตจริ งโดยไม่ลมื เลือ นไปอย่างเปล่าประโยชน์ โครงการสารวจการจดจาความรู้ ในหลักสูตรการศึกษาขันพื ้ ้นฐานของคนวัยทางาน : วิชาไหนเรี ยนไปเพื่อลืม เป็ นโครงการวิจยั เชิงปริ มาณเพื่อวัดระดับความสาคัญของความรู้ในแต่ละวิชาว่ามีเนื ้อหาใดบ้ างที่ได้ หลงเหลือ อยู่ในความทรงจาและถูกนามาใช้ ประโยชน์ใ นชีวิตจริ ง หรื อมีเนื ้อหาใดบ้ างที่นกั เรี ยนต้ องฝื นจดจาเพื่อทา ข้ อสอบแต่ในชีวิตการทางานได้ ถกู ลืมไปโดยไม่มีผลใดๆต่อชีวิตผู้เรี ยนเลย และมีความรู้ ใดบ้ างที่สถานศึกษา ไม่ได้ สอนแต่มีความจาเป็ นต้ องเรี ยนรู้ อันจะกลายเป็ นข้ อมูลประกอบการพิจารณาเพื่อปรับปรุ งหลักสูตร การศึกษาขันพื ้ ้นฐานให้ สอดคล้ องกับความต้ องการของอาชีพในปั จจุบนั ว่าเนื ้อหาใดควรสอนหรื อตัดทอน ออกไป เพื่อลดภาระในการจดจาสิ่งที่ไม่มีประโยชน์ต่อชีวิต (เพียงแค่ต้องจาเพราะจาเป็ นต้ องใช้ ในการสอบ เท่านัน) ้ แล้ วนาเวลาไปเสริ มความพร้ อมในการประกอบอาชีพหรื อทักษะชีวิตอื่นๆแทน นาไปสูก่ ารเรี ยนการ สอนที่มีประสิทธิภาพและให้ ประโยชน์ตอ่ ผู้เรี ยนในระยะยาว - โครงการส่งเสริ มการเรี ยนสถิติเพื่อพัฒนาการวิจยั ทางสังคม ในโลกยุคปั จจุบนั ความรู้ ต่างๆมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ ว ข้ อมูลต่างๆจะล้ าสมัยได้ ง่าย จาเป็ นต้ องมี การรวบรวมขึ ้นใหม่อยูเ่ สมอ และการจะได้ มาซึง่ ข้ อมูลที่ทนั สมัยนันไม่ ้ ใช่การรอคอยให้ มีผ้ รู ้ ู นามาเผยแพร่ แล้ ว คัดลอกเพียงอย่างเดียว แต่ต้องค้ นคว้ าข้ อมูลและสร้ างความรู้ ด้วยตัวเอง โดยเฉพาะข้ อมูลเกี่ยวกับสังคม ซึ่ง แต่ละสังคมมีความแตกต่างกัน โดยสังคมหนึง่ ไม่สามารถนาข้ อมูลของอีกสังคมหนึง่ มาใช้ ตดั สินได้ จาเป็ นต้ อง รุ่งอรุณเชียงราย : โรงเรี ยนในจดหมายกับหลักสูตรปั จจัยสี่

142


มีการศึกษาหรื อวิจยั แต่ละสังคมเพื่อให้ ได้ ข้อมูลที่เหมาะสมมาประกอบการตัดสินใจกระทาการใดๆเกี่ยวกับ สังคมนันๆ ้ การทางานพัฒนาอย่างยัง่ ยืนจึงจาเป็ นต้ องมีการวิจัยทางสังคมควบคู่ไปด้ วยเสมอ แต่ปัจจุบัน วิชาชีพต่างๆยังให้ ความสาคัญกับการวิจยั ทางสังคมน้ อยมาก และอาจมีการหลีกเลี่ยงการทาวิจยั ทางสังคม เพราะความยุง่ ยากในการคานวณ "สถิติ" ความจริ งแล้ วสถาบันการศึกษามีการจัดการสอนวิชาสถิติอยูใ่ นหลักสูตรการศึกษาขันพื ้ ้นฐาน แต่ไม่มีการเน้ น และทังครู ้ และนักเรี ยนก็ไม่เห็นความสาคัญเนื่องจากในสถานศึกษานันยั ้ งไม่มีก ารทาวิจยั ทางสังคมที่เชื่อมโยง กับชีวิตครู และนักเรี ยน ทังๆที ้ ่ครู และนักเรี ยนก็มีคาถามมากมายที่สามารถหาคาตอบได้ จากการวิจยั ดังนัน้ โครงการส่งเสริ มการเรี ยนสถิติเพื่อพัฒนาการวิจัยทางสังคม จึงริ เริ่ มให้ นกั เรี ยนและครู ในสถานศึกษาได้ ทา วิจัยทางสังคมร่ วมกันเพื่อฝึ กทักษะและสร้ างแรงบันดาลใจในการเรี ยนการสอนสถิติ โดยกาหนดหัวข้ อที่มี ประโยชน์และอยูใ่ นความสนใจของนักเรี ยนและครูร่วมกัน นอกจากนี ้ ครูและนักเรี ยนจะได้ ฝึกการจัดการเรี ยน การสอนแบบ Research-Based Learning ที่เสริ มสร้ างทักษะการคิดและการเรี ยนรู้ ด้วยตนเองตลอดชีวิต สนับสนุนให้ ครู และนักเรี ยนริ เริ่ มโครงการวิจยั ใหม่ๆในอนาคต และทาให้ การวิจยั ทางสังคมได้ รับความนิยม และมีคณ ุ ภาพเพิ่มขึ ้นเพื่อการพัฒนาสังคมอย่างยัง่ ยืน วัตถุประสงค์ : 1. เพื่อสร้ างความตระหนักรู้ถึงความสาคัญของการวิจยั ทางสังคมและการเรี ยนสถิติ 2. เพื่อตรวจสอบข้ อบกพร่องของหลักสูตรการศึกษาขันพื ้ ้นฐานเป็ นข้ อมูลในการปรับปรุง 3. เพื่อส่งเสริ มการจัดการเรี ยนการสอนแบบ Research-Based Learning 4. เพื่อให้ ความรู้และแรงบันดาลใจในการเรี ยนและตัดสินใจเลือกเรี ยนจากประสบการณ์จริ ง กลุม่ เป้าหมาย : 1. ทีมครู ประกอบด้ วย ครูคณิตศาสตร์ ครูคอมพิวเตอร์ และครูแนะแนว ของแต่ละโรงเรี ยน 2. นักเรี ยนระดับชันมั ้ ธยมศึกษาแต่ละโรงเรี ยนในดุลยพินิจของทีมครู ผลที่คาดว่าจะได้ รับ : 1. นักเรี ยนและครู ได้ พฒ ั นาทักษะการวิจัยและการใช้ สถิติร่วมกัน และเห็นความสาคัญของการวิจยั ทางสังคม และการเรี ยนสถิติเพื่อนาไปใช้ และมีแนวโน้ มที่จะริ เริ่ มโครงการวิจยั ด้ วยตัวเองต่อไปในอนาคต 2. นักเรี ยนได้ รับความรู้ และแรงบันดาลใจจากการลงมือวิจยั ด้ วยตัวเองและนาไปเป็ นแนวทางในการตัดสินใจ เลือกเรี ยนให้ เหมาะสมกับความต้ องการของตน 3. ครูที่เข้ าร่วมโครงการได้ ฝึกปฏิบตั ิการจัดการเรี ยนการสอนแบบ Research-Based Learning และมีแนวโน้ มที่ จะประยุกต์ใช้ และพัฒนาการจัดการเรี ยนการสอนของตัวเองต่อไปในอนาคต 4. กระทรวงศึกษาธิการได้ รับข้ อมูลที่เชื่อถือได้ และเกิดความตระหนักในข้ อบกพร่ องและศักยภาพของหลักสูตร การศึกษาขันพื ้ ้นฐานและนาข้ อมูลไปเป็ นแนวทางการปรับปรุงหลักสูตรต่อไปในอนาคต

143

รุ่งอรุณเชียงราย : โรงเรี ยนในจดหมายกับหลักสูตรปั จจัยสี่


วิธีการดาเนินการ : 1. รวบรวมข้ อมูลรายละเอียดหัวข้ อเนื ้อหาของแต่ละวิชาในหลักสูตรการศึกษาขันพื ้ ้นฐาน และข้ อมูลการติดต่อ โรงเรี ยนมัธยมในแต่ละจังหวัด จากกระทรวงศึกษาธิการ 2. ออกแบบเครื่ องมือการวิจยั และระบบการประมวลผลร่ วมกันสาหรับให้ ครู และนักเรี ยนนาไปใช้ เก็บข้ อมูลและ ประมวลผลข้ อมูลบุคคลที่ถกู เลือก 3. พัฒนาเว็บไซต์และโปรแกรมจัดเก็บข้ อมูลตามระบบพร้ อมคู่มืออธิบายวิธีใช้ และระบบสาหรับให้ ครู ที่เข้ าร่ วม โครงการเข้ ามาป้อนข้ อมูลผลการสารวจ 4. ติดต่อโรงเรี ยน ทาการเตรี ยมความพร้ อมของครูในการแนะนาวิธีการสารวจและประมวลผลข้ อมูลตามระบบที่ ออกแบบให้ กบั นักเรี ยนในสังกัดของตน 5. ให้ นกั เรี ยนแต่ละคนเลือกบุคคลวัยทางานที่คิดว่าประสบความสาเร็ จหรื อเป็ นตัวอย่างที่น่าชื่นชม แล้ วนาแบบ สารวจไปเก็บข้ อมูลบุคคลนัน้ 6. ให้ ครู แต่ละทีมรวบรวมข้ อมูลทังหมดจากนั ้ กเรี ยนในสังกั ดมาให้ นกั เรี ยนในสังกัดฝึ กใช้ ความรู้ ทางสถิติมา ประมวลผลจากข้ อมูลจริ งร่วมกัน 7. ให้ ครูแต่ละทีมนาข้ อมูลและผลการประมวลมาป้อนเข้ าระบบผ่านเว็บไซต์ของโครงการ และจัดทารายงานผล การสารวจร่วมกันในระดับโรงเรี ยนและระดับจังหวัด 8. นาข้ อมูลที่ได้ จากเว็บไซต์มาประมวลผลรวมระดับประเทศและคัดเลือกผลการเก็บข้ อมูลที่น่าสนใจมาเป็ น ตัวอย่างจัดทาเป็ นรายงาน 9. นาเสนอรายงานผลการวิจยั ให้ กบั กระทรวงศึกษาธิการและจัดพิมพ์เผยแพร่ 10. ทาการประเมินโครงการด้ วยแบบสอบถามถึงนักเรี ยน ครูที่เข้ าร่วมโครงการ เจ้ าหน้ าที่กระทรวงศึกษาธิการที่ เกี่ยวข้ อง และผู้อา่ นทัว่ ไปที่อา่ นรายงานที่จดั พิมพ์

รุ่งอรุณเชียงราย : โรงเรี ยนในจดหมายกับหลักสูตรปั จจัยสี่

144


https://www.facebook.com/TutorialsQuad/posts/1191810900882366 ใช้ เวลาว่างทาคลิปจาก powerpoint เทคนิคเรี ยบง่ายเน้ นข้ อความ ตกรอบประกวดเพราะไม่ใช่การเสนอสินค้ าใดๆ https://www.youtube.com/watch?v=f_9lTSAGi2o โฆษณำหลักสูตรจตุรวิทย์ ฯ (ออมสิน2559) vareety Published on Jul 5, 2016 ประกวดแนวคิดพลิกธุรกิจไทย ปั ญหาของลูกค้ า : ระบบการศึกษาในปั จจุบนั ไม่ สอนให้ ประชาชนผลิตปั จจัยสีเ่ พือ่ ยังชีพด้ วยตัวเอง…

https://www.facebook.com/TutorialsQuad/posts/1028712870525504 ชอบมากๆ ดีใจเวลามีคนคิดเหมือนเราและลงมือทาไปก่อนแล้ วด้ วย "โรงเรี ยนมีชยั พัฒนา" https://www.youtube.com/watch?v=Wt9TwbQoFAI โรงเรียนไม้ ไผ่ GMM TV Published on Jul 29, 2012 เรื่ องทึง่ เรื่ องที่ 1 โรงเรี ยนไม้ ไผ่ จ.บุรีรัมย์ "เมดอินไทยแลนด์ ยกระดับกระชับสยาม" ออกอากาศ จันทร์ - ศุกร์ 12.45 - 13.35 น. ททบ.5

https://www.facebook.com/TutorialsQuad/posts/1028747893855335 สไลด์แนะนาโรงเรี ยนมีชัยพัฒนา เป็ นโรงเรี ยนมัธยม ต่อจากโรงเรี ยนประถมลาปลายมาศพัฒนา และมีการ ร่วมมือกับสถาบันอาศรมศิลป์ที่เป็ นมหาวิทยาลัยเอกชนทางเลือก http://web.sut.ac.th/2012/file/2014/05/Fostering%20Rural%20School%20Entrepreneurs-140514.pdf

145

รุ่งอรุณเชียงราย : โรงเรี ยนในจดหมายกับหลักสูตรปั จจัยสี่


เมื่อวนิยำคิดถึงพ่ อ 10 พฤศจิกายน 2558 สวัสดีคะ่ ในที่สดุ วนิยาก็กลับเชียงราย วนิยาตังใจว่ ้ าเมื่อเรี ยน energy medicine ที่จดั เดือนละครัง้ จนจบคอร์ สแล้ วก็จะกลับเชียงราย แต่เนื่องจากท่าน แม่เห็นวนิยาตังใจศึ ้ กษาวิชาสถิติในโครงการที่วนิยาคิดไว้ เมื่อเดือนก่อน ท่านแม่ก็เลยให้ วนิยารับงานวิเคราะห์ แบบสอบถามอีกงานหนึ่ง โดยต้ องเดินทางไปลงสนามกับทีมท่านแม่ใน 4 จังหวัด (ทังภาคเหนื ้ อ ภาคอีสาน ภาคใต้ ) เพื่อให้ เข้ าใจการเก็บข้ อมูลเชิงคุณภาพก่อนที่จะวิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริ มาณ วนิยาจึงได้ กาหนดการกลับ เชียงรายก่อนนัดเรี ยนคอร์ สพลังจิตเพื่อการรักษาครัง้ สุดท้ ายปลายเดือนนี ้ แต่ต่อมาวนิยาอ่านหนั งสือวิชาสถิติ แล้ วพบว่าตัวเองลืมวิธีแก้ สมการกาลังสองง่ายๆไปแล้ ว ท่านแม่ก็เป็ นห่วงว่างานจะช้ าและฝากให้ ป้าที่เป็ นครู มัธยมสอนวิชาคอมพิวเตอร์ รับงานไปแทน แต่ยงั ไม่ยกเลิกการทัวร์ 4 จังหวัดเพราะวนิยาจะได้ เบี ้ยเลี ้ยงจากการ ร่วมงาน วันอาทิตย์ที่ 8 พฤศจิกายน วนิยาหอบหนังสือกองโตมาลงจอดที่สนามบินแม่ฟ้าหลวงเชียงราย ท่านแม่ขบั รถมา รับแล้ วพาไปกินมื ้อเย็นที่งานเลี ้ยงรุ่ นมัธยมซึ่งมาพบกันก่อนเข้ าร่ วมงานแต่งงานของเพื่อนคนหนึ่งของท่านแม่ แล้ วก็ รับป้าแนนเพื่อนท่านแม่มาพักค้ างคืน ที่บ้า น ป้าแนนคอยดูแลวนิยามาตลอดการเรี ยนคอร์ ส energy medicine ครึ่งปี นี ้ เมื่อถึงห้ องพัก ป้าแนนคุยกับแม่วา่ อยากจะกลับมาพัฒนาจังหวัดเชียงรายด้ วยความรู้ที่มี และ ปลอบใจวนิยาว่า ไม่ต้องเปรี ยบเทียบตัวเองกับคนอื่น หากวนิยาอยากจะเรี ยนด้ านนี ้ต่อก็ไม่จาเป็ นต้ องหยุดเรี ยน เพื่อหางานทา ใช้ เวลาเรี ยนตังแต่ ้ อายุยงั น้ อยและมีทา่ นแม่ดแู ลดีกว่ารอจนอายุมากแล้ วสายไป วนิยาสนใจที่จะ เรี ยนวิปัสสนาและพัฒนาขีดจากัดของตัวเองให้ สามารถเป็ นครู สอนวิปัสสนาที่ร้ ู สภาวะจิตใจของลูกศิษย์แล้ ว ชี ้แนะหนทางที่ถกู ต้ อง เพราะวนิยารู้วา่ การที่จะได้ มาซึง่ ความรู้ที่แท้ จริ งยังมีวิธีที่ต่างไปจากการค้ นคว้ าวิ จยั นัน่ ก็ คือการเจริ ญสติภาวนา วนิยาอยากจะรู้วา่ เด็กนักเรี ยนสามารถเข้ าถึงการรู้ แจ้ งด้ วยวิธีการภาวนาได้ หรื อไม่ และ อยากจะนามาประยุกต์ใช้ ในโรงเรี ยน ส่วนท่านแม่ก็สนใจศาสตร์ ของป้าแนน ป้าแนนจึงนัดท่านแม่กบั วนิยาให้ ไป ร่วมแคมป์ของป้าแนนที่เขาใหญ่ในวันหยุดต้ นเดือนธันวาคมนี ้ ระหว่างเดินทางไปงานแต่งงานเพื่อนของแม่ที่ไร่แม่ฟ้าหลวงในตอนบ่าย ท่านแม่เล่าให้ วนิยาฟั งว่า เมื่อคืนป้าแนนนอนหลับแล้ วฝั นตอนใกล้ รุ่ง ว่ามีผ้ ชู ายมายืนหันข้ างให้ แล้ วบอกว่าไม่ต้องห่วงเรื่ องที่ จะทาเขาจะ ช่วยให้ สาเร็ จเอง ป้าแนนคิดว่าผู้ชายคนนี ้ต้ องเป็ นคนที่เป็ นคนที่เก่งมากๆ เป็ นนักประสาน นักบริ หารจัดการ พอ เช้ ามาป้าแนนก็เล่าให้ แม่ฟัง แล้ วได้ เห็นรูปถ่ายท่านพ่อ (ถ่ายในห้ องคอมตอนไปเรี ยนปริ ญญาโทที่องั กฤษเมื่อปี 2541) เห็นแล้ ว ก็ ขนลุกบอกว่าคนนีเ้ ลย ผู้ชายคนนีท้ ี่เ จอในฝั น ท่านแม่ก็เลยปลุกวนิยาเพื่อ หากุญแจเปิ ด สานักงานมูลนิธินายแพทย์ธาราให้ ป้าแนนเข้ าไปดู แล้ วป้าแนนก็ได้ อ่านข้ อความของท่านพ่อที่พิมพ์ใส่กรอบไว้ คือ "เมื่อไรหนอ" "เมื่อไรหนอ คนไทยจึงจะเป็ นไท ไม่ต้องไปพึง่ ยาต่างชาติ คนไทยเท่านันที ้ ่จะให้ คาตอบได้ คนไทยเท่านันที ้ ่จะช่วยให้ ความฝั นเป็ นความจริ ง เมื่อไรหนอ..เมื่อไรหนอ..เมื่อไรหนอ... รุ่งอรุณเชียงราย : โรงเรี ยนในจดหมายกับหลักสูตรปั จจัยสี่

146


“เพราะมี “ภูมิปัญญา” ในการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและปรับตัวเข้ ากับสิ่งแวดล้ อมได้ อย่างเหมาะสม การ ดูแลสุขภาพนับเป็ นสิง่ หนึง่ ที่ได้ จากการสังเกต ค้ นคิด ลองผิดลองถูก สัง่ สมกันมาหลายชัว่ อายุคน จนได้ ข้อสรุ ป เป็ นระบบการดูแลสุขภาพแบบพื ้นบ้ านซึง่ สอดคล้ องกับวิถีชีวิตในแต่ละถิ่นฐาน “ดังนันการกลั ้ บไปหาภูมิปัญญาในท้ องถิ่นซึง่ ยังคงมีคณ ุ ค่าในการแก้ ไขปั ญหาสุขภาพอนามัยในบางแง่มมุ ด้ วย อันตรายที่น้อยกว่า ประหยัดกว่า และที่สาคัญ “พึง่ ตนเองได้ ” จึงเป็ นทางเลือกหนึง่ ซึง่ สามารถนามาปรับใช้ ให้ เข้ า กับสภาพเศรษฐกิจและสังคมไทยในปั จจุบนั " หมอธารา (2544)

แล้ วป้าแนนก็ร้องไห้ ออกมา เพราะเรื่ องนี ้เป็ นเรื่ องที่ป้าแนนคิดมาตลอดแต่น้อยคนจะรับรู้ และเข้ าใจ ป้าแนนไป อยู่อเมริ กามาหลายปี ทาธุรกิจจาหน่ายอาหารเสริ มจากสมุนไพรและรักษาผู้ป่วยด้ วยการแพทย์ทางเลือก โดย ต่อต้ านการจ่ายยาเกินจาเป็ นในเชิงพาณิชย์ของแพทย์แผนปั จจุบนั ในโรงพยาบาลสายหลักมานานแล้ ว วนิยาก็ คิดว่า ต่อไปเราคงจะได้ เห็นการพัฒนาด้ านการดูแลสุขภาพแบบทางเลือกและการพึ่งตนเองด้ านสุขภาพใน จังหวัดเชียงรายซึ่งจะส่งผลไปยังกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกตลอดจนประเทศไทย มากขึ ้น ป้าแนนเป็ นผู้หญิงเก่ง การที่ป้าแนนได้ เข้ ามาในวงการของท่านแม่จะทาให้ เรามีกาลังสาคัญเพิ่มขึ ้นมาใน การพิสจู น์การรักษาแบบพิธีกรรมพื ้นบ้ านและเชื่อมกับหลักวิทยาศาสตร์ ด้วยความรู้ด้านพลังงานควอนตัม ส่วนวนิยาก็จะเรี ยนวิปัสสนาให้ บรรลุ และค้ นหาว่ าวนิยามีหน้ าที่อะไรในโลกใบนี ้ สะสมพลังและส่วนบุญบ่ม เพาะตัวเองให้ เติบโตอย่างแข็งแรงตามที่ป้าแนนสอนก่อนที่จะเชื่อมโยงไปหาคนอื่นๆ วนิยาไม่ร้ ู ว่าจะได้ เข้ ามามี บทบาทในวงการการศึกษาไทยต่อไปหรื อไม่ จะได้ ทางานด้ านไหนต่อไปในวงการสาธารณสุขของท่านแม่ และยิ่ง เมื่อวนิยาได้ ร้ ูวา่ ท่านพ่อยังไม่ได้ จากพวกเราไป วนิยาก็อยากจะสร้ างปาฏิหาริ ย์ให้ ท่านพ่อกลับมามีชีวิตอีกครัง้ วนิยายังเก็บเทปที่พ่อบันทึกเสียงดีดกีตาร์ ร้องเพลงแจกเพื่อนๆสมัยเรี ยนจบแพทย์ มาฟั งอยู่เสมอ เหมือนใน การ์ ตนู เรื่ อง 20th Century Boys ที่น้าเคนจิก่อนเสียชีวิตได้ บันทึกเสียงร้ องเพลงเก็บไว้ ให้ คนั นะซึ่งฟั งมาตังแต่ ้ เล็กจนโตเป็ นแกนนาร่วมกับเพื่อนๆของน้ าเคนจิทาการปฏิวตั ิตอ่ สู้กบั ตัวร้ าย และในตอนจบก็ปรากฏว่าน้ าเคนจิ ยังมีชีวิตอยูแ่ ละกลับมาแก้ ไขปั ญหาจนสาเร็ จ วนิยาชอบการ์ ตนู เรื่ องนี ้มาก เพราะวนิยากับท่านพ่อคล้ ายคันนะ กับน้ าเคนจิมาก

147

รุ่งอรุณเชียงราย : โรงเรี ยนในจดหมายกับหลักสูตรปั จจัยสี่


สาหรับการเป็ นเด็กเก่งคนหนึ่ง สังคมมักคาดหวังว่าจะต้ องประสบความสาเร็ จ มีรายได้ สงู หรื อได้ ทางานที่มี เกียรติอย่างที่สงั คมกาหนด สาหรับวนิยา แม้ จะยังไม่ประสบผลใดๆ ไม่มีรายได้ ประจา ขับรถไม่เป็ น แต่ชีวิตก็มี ความสุข ได้ อ่านหนังสือ ได้ อยู่กับครอบครัว ได้ ไปร่ วมงานเลี ้ยงรุ่ นของแม่ทงที ั ้ ่ไม่มีลกู ใครคนไหนคิดจะไป การ ริ เริ่ มทาโครงการต่างๆ วนิยาพบว่าแม้ จะตังใจหรื ้ อพยายามแค่ไหนหากยังไม่ใช่สงิ่ ที่ตรงกับธรรมชาติของตัวเองก็ ยังไม่สามารถทาให้ คืบหน้ าไปได้ ตรงกันข้ ามกับงานอดิเรกบางอย่าง (เช่นการเขียนอีเมลชุดนี ้) ที่สามารถทาให้ สาเร็ จได้ อย่างง่ายดาย วนิยาจึงเชื่อว่าตัวเองเกิดมาเพื่อหน้ าที่บางอย่างที่ตวั เองก็ยงั ไม่ร้ ู ดังนันวนิ ้ ยาจะฝึ กฝน เพื่อค้ นหาให้ ร้ ูและจะมีชีวิตอยูไ่ ปเพื่อสิง่ นันซึ ้ ง่ วนิยามัน่ ใจว่าเป็ นสิง่ ที่ดี สาหรับใครที่อยากฟั งเพลงหมอธารา (เพลงที่ทา่ นพ่อร้ องบันทึกเทป) ฟั งได้ ที่ playlist : https://www.youtube.com/playlist?list=PL442B3DB69A882F7E เพลงที่วนิยาชอบเป็ นพิเศษ คือเพลง "เทียน" "เพื่อใคร" "นกกระจิบ" และ "ฟ้ างาม" วนิยาหวังว่าถ้ าวนิยานัง่ สมาธิเก่งๆได้ อย่างป้าแนนแล้ ววนิยาจะได้ เจอกับท่านพ่อบ้ าง สวัสดีคะ่

รุ่งอรุณเชียงราย : โรงเรี ยนในจดหมายกับหลักสูตรปั จจัยสี่

148


149

รุ่งอรุณเชียงราย : โรงเรี ยนในจดหมายกับหลักสูตรปั จจัยสี่


Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.