โปรดแกคําผิด ใน การกลับมาแหงศีลธรรม ( การนับบรรทัด ใหนับลงมาตั้งแตบรรทัดบนสด คือบรรทัดของเลขหนา, ถามี (จล) ใหนับขึ้นมาจากลาง, เพื่อประหยัดเวลา.)
หนา ๑๗ ๓๑ ๖๙ ๙๔ ๙๖ ๑๑๓ ๒๒๓ ๒๓๗ ๒๕๗ ๒๖๐ ๒๖๓
บรรทัด ๘(จล) ๔ ๒(จล) ๓(จล) ๘ ๔(จล) ๒ ๑ ๘ ๓(จล) ๖ ๘ ๘(จล) ๖ ๔ ๗(จล) ๙ ๕ ๙(จล) ๘(จล) ๔(จล)
คําที่ผิด แกเปน ไมใช ไมใช สารพัด สารพัด ทจะเปน ที่จะเปน ผูกพัน ผูกพัน จะไดฝง ผูกพัน โลกนี้ โลกนี้ กระเพาะ กระเพาะ อันดับแหง อันดับสาม ? ? แตเมีพียง แตมีเพียง สามัญ ของ สามัญวา ของ ยถาภูตสมฺมปปญญา ยถาภูตสมฺมปฺปฺญา จริง ๆ วา จริงวา จุดตั้งตนได จุดตั้งตนได ฟง.) ฟง). เห็นดวยจิต คือเห็นดวยจิต แลวแตวา แลว; แตวา อณหภมิ อุณหภูมิ คนบา คนบา ลงอบาย ลงอบาย. ของ เพื่อน ของเพื่อน
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ๒๗๐ ๒๗๑ ๒๗๖ ๒๗๗ ๒๗๘ ๒๙๗ ๓๐๒ ๓๑๒ ๓๑๔
www.buddhadassa.in.th
หนา ๓๒๒ ๓๓๖ ๓๔๓ ๓๖๓ ๓๖๔ ๓๖๖ ๓๗๐ ๓๘๕ ๓๘๗ ๓๙๐ ๓๙๘ ๔๒๐ ๔๒๖ ๔๓๑ ๔๔๐ ๔๕๑ ๔๕๓ ๕๑๙ ๕๒๕ ๕๓๑ ๕๓๒ ๕๓๕ ๕๓๗ ๕๕๔
บรรทัด คําที่ผิด แกเปน ๙ แผนกการ แผนการ ๕(จล) พิธีรีตอง, พิธีรีตอง ๔ อโมหะ อโมหะ; ๑๐(จล) เปนวิมุตติ เปนวิมุตติ. ๑๑(จล) ถูกตองตอ ถูกตองตอ ๑๒ศีล ขันธ ศีลขันธ ๘ กับความปรกติ กับ ความปรกติ ๒ -พยาบาท-ฟุง พยาบาท ฟุง ๔(จล) จะทํา แลาเราจะทํา ๕ แลวนี่ มันตางแลวนี่มันตาง ๗ คุณทอง คุณชวน ๑(จล) กันได; กันได. ๑(จล) ในครั้งนี้ดวย ตนเลมดวย ๑(จล) มีความรู มีความรู ๕(จล) แลวเรา แลวเรา ๘ หรือ นี้ หรือนี้, ๒ ธรรมก็ได. ธรรม ก็ได. ๗(จล) เกยยะที่ มา เกยยะ ที่มา ๖(จล) อาตมา อาตมา. ๕(จล) หัวเราะนา หัวเราะนา ๕(จล) ใหถูกตอง ใหถูกตองเปน ๑๑ , สําหรับ...๓ นี้ : สําหรับ...๓ นี้ ๔ ไปทําตาม , ทําไปตาม ๑(จล) นี้เปนตน อยางอยางนี้เปนตน. ๓ สันติภาพ. ตางหาก สันติภาพ ตางหาก. คําวา สีลธรรม แกเปน ศีลธรรม ทุก ๆ แหง
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org
www.buddhadassa.in.th
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org
www.buddhadassa.in.th
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org
www.buddhadassa.in.th
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org
www.buddhadassa.in.th
การกลับมาแหงศีลธรรม
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org
www.buddhadassa.in.th
การกลับมาแหงศีลธรรม คําบรรยายประจําวันเสาร ที่ลานหินโคง ณ สวนโมกขพลาราม ไชยา ภาคมาฆบูชา ๒๕๑๙
ของ พุทธทาสภิกขุ
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ธรรมทานมูลนิธิ จัดพิมพดวยทุนของผูบริจาคตั้งไวทาง “สวนอุศมมูลนิธิ” เปนอันดับที่สี่แหงทุนนี้ เปนการพิมพครั้งแรก ของหนังสือ ธรรมโฆษณ อันดับ ๑๘ ก. บนพื้นแถมสีแดง จํานวน ๑.๕๐๐ ฉบับ พ.ศ. ๒๕๒๑ (ลิขสิทธิ์ไมสงวนสําหรับการพิมพแจกเปนธรรมทาน สงวนเฉพาะการพิมพจําหนาย)
www.buddhadassa.in.th
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org
www.buddhadassa.in.th
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org
www.buddhadassa.in.th
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org
www.buddhadassa.in.th
คําปรารภ ในการสรางหนังสือชุดธรรมโฆษณขึ้นไวในพระพุทธศาสนา “การกลับมาแห งศีลธรรม” นี้ เป นหนั งสือชุดธรรมโฆษณ ของพุ ทธทาส อั น ดั บ ที่ ๑๘ ก บนพื้ น แถบสี แ ดง เป น คํ าบรรยายเกี่ ย วกั บ การส งเสริม ศี ล ธรรม ลําดับสาม ตอจากลําดับที่ตีพิมพไปแลว คือ ศีลธรรมกับมนุษยโลก และอริยศีลธรรม. หมวดศีลธรรมนี้กําลังอยูในระหวางจัดพิมพลําดับตอไปอีก ๓ เลม ไดแก ธรรมะกับ การเมือง, เยาวชนกับศีลธรรม, และ เมื่อธรรมครองโลก. ผู เ ปน ทานบดีบ ริจ าคเงิน คา ใชจ า ยในการพิม พ “การกลับ มาแหง ศีล ธรรม” คือ นางนวล เจริญ กุล และลูก หลาน ญาติม ิต ร มุ ง หมายอุท ิศ สวนกุศลถึง นายนิธรรม เจริญกุล ผูวายชนมไปแลว. ส วนการดํ าเนิ น งานจั ด พิ ม พ แจกจ าย จํ าหน าย คงจั ด ตามหลั ก ของธรรมทานมู ล นิ ธิ ซึ่ ง สวนอุ ศ มมู ล นิ ธิ ไ ด ร ว มมื อ ดํ า เนิ น การมาโดยลํ า ดั บ . หากมี ก ารบริ จ าค เพิ่ ม เติ ม หรื อมี รายได จากการจํ าหน ายหนั งสื อ นี้ “ในราคาที่ เอากุ ศ ลเป น กํ าไร” ก็ จั ก ได รวบรวมสมทบทุ น ไว สํ า หรั บ จั ด พิ ม พ ห นั ง สื อ ชุ ด ธรรมโฆษณ ข องพุ ท ธทาส เล ม อื่ น ๆ ต อไปอี ก. (การจั ดจ ายและคุ มครองเงิ นยอดสร างหนั งสื อชุ ดธรรมโฆษณ จะดู รายละเอี ยด ไดจากหนังสือ “สวนอุศม” แตละเลม ในภาคแถลงการณ)
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org คุ ณ ค าของคํ าบรรยายชุ ด “การกลั บมาแห งศี ลธรรม” นี้ จะชี้ แนวทางให แต ละชี วิ ต , สั งคมแต ละสั งคม, สามารถพบสั นติ ภ าวะได แน นอน ซึ่ งมี หนทางอยู ทางเดี ยว
www.buddhadassa.in.th
คือตองชวยกัน ชวนกันทุกคน ใหเห็นคุณคาแหงสัจจธรรม กระทั่งเห็น และใช ธรรมสัจจะอันสอดคลองตองกันวา “ทุกชีวิต เปนเพื่อรวมทุกข เกิด แก เจ็บ ตาย ดวยกันทั้งหมดทั้งสิ้น “: แลวตั้งความเพียร “ถอยหลังเขาคลอง” เขาสูแนวปฏิบัติ อันถูกตองของศีลธรรม โดยลําดับ ทุกเพศ ทุกวัย ทุกหนาที่ ของแตละชีวิต, เริ่ม ดวย การบังคับกระแสแหงความรูสึก เปนตน ตามคลองแหงธรรม: แลวสันติสุข จะเปนที่หวังได. เพื่ อเรี ยกร องให “ศี ลธรรมกลั บมา” จึ งสมควรที่ จะได ชวนกั นศึ กษาพิ จารณา คํ าบรรยายเรื่ อ ง “การกลั บ มาแห งศี ล ธรรม” นี้ เพื่ อ เป น เครื่ อ งแนะนํ าตน หรื อ แนะนํ า ผูอื่น ใหหันมา “ถอยหลังเขาคลองธรรม” เพื่ อความอยูสันติของ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย คูประเทศไทย.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org สวนอุศมมูลนิธิ ๗๗ หมู ๖ ต.หนองบอน ถนนสุขุมวิท ซอย ๑๐๓ อ.พระโขนง ก.ท. ๑๑
www.buddhadassa.in.th
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org
www.buddhadassa.in.th
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org
www.buddhadassa.in.th
สารบาญ การกลับมาแหงศีลธรรม ๑. ศีลธรรมคืออะไร [เมื่อกลาวโดยทางภาษาและรูปแบบ]
หนา. ๑
๒. ศีลธรรมคืออะไร (ตอ) [เมื่อกลาวโดยคานิยม]
๓๕
๓. ศีลธรรมคืออะไร (ตอ) [เมื่อกลาวโดยขอควรสังเกต โดยอุปมา ฯลฯ]
๗๑
๔. รากฐานของศีลธรรมอันดับหนึ่ง [ความรูสึกเปนเพื่อนทุกข เกิด แก เจ็บ ตาย : แผนดิน]
๑๒๑
๕. รากฐานของศีลธรรมอันดับสอง [ความไมเปนทาสของอายตนะ : น้ํา]
๑๕๙
๖. รากฐานของศีลธรรมอันดับสาม [การบังคับกระแสแหงความรูสึก : อาหาร]
๒๐๓
๗. รากฐานของศีลธรรมอันดับสี่
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org [ยถาภูตสัมมัปปญญา : แสงสวาง]
๒๔๗
๘. รากฐานของศีลธรรมอันดับหา [สัทธาปสันนา : อุณหภูมิ]
๒๙๗
๙. ตนลําแหงศีลธรรม [สุปฏิปตติ]
๓๔๕
๑๐. ใบ ดอก ผล ของศีลธรรม [มรรค ผล นิพพาน]
๔๐๕
๑๑. การทําความเจริญงอกงามของศีลธรรม [ปลูก ฝง รักษา ออกผล แพรพันธุ]
๔๕๕
๑๒. การถอยหลังเขาคลอง [ปญหาศีลธรรมยุคปจจุบัน]
๕๐๙
ระดมธรรม
๕๖๕
ภาคผนวก โปรดดูสารบาญละเอียดในหนาตอไป
www.buddhadassa.in.th
สารบาญละเอียด การกลับมาแหงศีลธรรม ๑. ศีลธรรมคืออะไร [เมื่อกลาวโดยทางภาษาและรูปแบบ]
ภาคมาฆบูชา ๒๕๑๙ นี้จะบรรยายพรอมทั้งมีการทดสอบความรู ที่ไดฟงกันมาแลว จะพูดถึงเรื่องศีลธรรม วาเปนสิ่งที่ควรกลับมา หมวดที่ ๑ พิจารณาขอ ๑ ศีลธรรม ในแงของภาษาชาวบาน ในแงของภาษาศาสนา ในแงของภาษาบาลี ๓ นัยะ ขอ ๒ ศีลธรรมที่แสดงผลในสิ่งที่ไมมีชีวิต ขอ ๓ ศีลธรรมที่แสดงผลในสิ่งที่มีชีวิต ขอ ๔ ศีลธรรมที่แสดงผล ที่สภาพของจิต หมวดที่ ๒ ศีลธรรมในแงของรูปแบบ ขอที่ ๑ ศีลธรรมในรูปแบบของปรัชญา ขอที่ ๒ ศีลธรรมในรูปแบบของศาสนา ขอที่ ๓ ศีลธรรมในรูปแบบของสังคมศาสตร ขอที่ ๔ ศีลธรรมในรูปแบบของกฎธรรมชาติ ๒. ศีลธรรมคืออะไร (ตอ) [เมื่อกลาวโดยคานิยม] คําปรารภและทบทวน หมวดที่ ๓ วาดวยคานิยมของศีลธรรม
หนา ๑ ๒ ๓-๖ ๖-๗ ๘-๑๑ ๑๒ ๑๒-๑๓ ๑๔ ๑๕ ๑๖-๑๙ ๑๙-๒๕ ๒๕-๒๘ ๒๙-๓๔
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ๓๕-๔๒ ๔๒
[๒]
www.buddhadassa.in.th
[๓] สวนที่ ๑ ศีลธรรมเมื่อมองดูที่ปจเจกชน หัวขอที่ ๑ คุณคาของศีลธรรมที่มีอยูในรูปกรรมพันธุ ความมีเนื้อแหงศีลธรรมในสายเลือด การเลือกและบํารุงพันธุ การแวดลอมดวยการอบรม หัวขอที่ ๒ คุณคาที่แสดงออกมาใหเห็นชัด สิ่งแวดลอมสามารถเปลี่ยนแปลงกรรมพันธุ การตอนรับและพัฒนากรรมพันธุ หัวขอที่ ๓ คุณคาทางศีลธรรม ที่มนุษยจะตองมี การพัฒนาทารกใหมีศีลธรรมทุกอิริยาบถ สวนที่ ๒ คานิยมของศีลธรรมที่จะมองดูจากสังคม
๔๓ ๔๓ ๔๔-๔๕ ๔๖-๔๙ ๔๙–๕๐ ๕๑–๕๒ ๕๒-๕๕ ๕๕-๕๖ ๕๖ ๕๗-๕๙ ๕๙-๖๙
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ๓. ศีลธรรมคืออะไร (ตอ)
[เมื่อกลาวโดยขอควรสังเกต โดยอุปมา ฯลฯ]
คําปรารภและทบทวน หมวดที่ ๔ วาดวยขอควรสังเกตเกี่ยวกับศีลธรรม หัวขอที่ ๑ : โดยอุปมาศีลธรรมกับรูปโครงของตนไม ก. อุปมาของรากโคน : อุดมคติที่ถูกตอง ข. อุปมาตน-กิ่ง : ความประพฤติการกระทําถูกตอง ค. อุปมาของใบ-ดอก-ผล : ผลที่ออกมาถูกตอง หัวขอที่ ๒ : ความถูกตองและความผิดพลาด ขอที่ ๑ มีการศึกษาถูกตอง ขอที่ ๒ มีมนุษยดํารงชีพอยางถูกตองตามความหมายแหงมนุษยหรือไม ขอที่ ๓ การชวยเหลือรวมมือกันและกันในโลกนี้ ถูกตองหรือไมถูกตอง
๗๑-๗๖
๗๗-๘๒ ๘๒-๙๒ ๙๓-๙๔ ๙๕-๙๙ ๙๙-๑๐๑ ๑๐๒-๑๐๕ ๑๐๕-๑๐๙ ๑๑๐-๑๑๔
www.buddhadassa.in.th
[๔] หัวขอที่ ๓ : โลกกําลังเสื่อมศีลธรรม การแสดงออกทางวัตถุ การแสดงออกทางรางกาย การแสดงออกทางจิตใจ
๑๑๔-๑๑๕ ๑๑๖ ๑๑๖-๑๑๘ ๑๑๙-๑๒๐
๔. รากฐานของศีลธรรมอันดับหนึ่ง [ความรูสึกเปนเพื่อนทุกข เกิด แก เจ็บ ตาย : แผนดิน]
ทบทวนคําปรารภการกลับมาแหงศีลธรรม พูดถึงรากฐานแหงศีลธรรม จะดูความจําเปนที่ตองมีศีลธรรมกอน เปรียบเทียบรากฐานของศีลธรรมกับตนไม ปจจัยสําคัญอยางนอย ๕ ประการ ความสําคัญของรากฐานอันดับหนึ่ง (แผนดิน) ขอใหทําบุญที่ยิ่งกวาสรางโบสถ ๑๐ หลัง
๑๒๑-๑๒๙ ๑๒๙-๑๓๐ ๑๓๐-๑๓๗ ๑๓๗-๑๔๕ ๑๔๕-๑๕๖ ๑๕๖-๑๕๘
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ๕. รากฐานของศีลธรรมอันดับสอง
[ความไมเปนทาสของอายตนะ : น้ํา ]
ทบทวนคําปรารภการกลับมาแหงศีลธรรม พิจารณาเปรียบเทียบรากฐานของศีลธรรมกับน้ํา ความไมเปนทาสของอายตนะเปรียบไดกับน้ํา ความเปนทาสของอายตนะระดับโลก คนครึ่งโลกเปนทาสของความโกรธ และอบายมุข เพราะผลประโยชนขัดกัน ยอมกันไมได จึงฆากัน ถาไมเปนทาสของอายตนะแลว โมหะจะไมเกิดขึ้น
๑๕๙-๑๗๔ ๑๗๔-๑๗๗ ๑๗๗-๑๘๖ ๑๘๖-๑๘๘
๑๘๙-๑๙๓ ๑๙๓-๑๙๔
www.buddhadassa.in.th
[๕] เปนทาสของอายตนะนั้น พูดงาย ๆ วา เปนทาสของความอรอย ตองรูจักน้ําก็คือ การบังคับอายตนะได จะรดศีลธรรมใหสดชื่น
๑๙๔-๒๐๐ ๒๐๑
๖. รากฐานของศีลธรรมอันดับสาม [การบังคับกระแสแหงความรูสึก : อาหาร]
ทบทวนคําปรารภการกลับมาแหงศีลธรรม รากฐานของศีลธรรมประเภทนี้เปรียบเทากับอาหารของตนไม โลกกําลังขาดคุณธรรมขอ "การบังคับความรูสึก" ตองศึกษาใหเขาใจเรื่องของเวทนากอใหรูสึกตอ ๆ ไป พิจารณาดูโทษของการไมบังคับความรูสึก สังคมปจจุบันไมเห็นความสําคัญของการบังคับความรูสึก จะบังคับความรูสึก ตองอบรมใหรูจักกลัวบาป และตองไมเปนทาสของอายตนะ เดี๋ยวนี้คนนิยม "การไมบังคับความรูสึก การบังคับความรูสึกตองระวังไมใหเกิด, ถาเกิดก็ไมใหลุกลาม ตองใชธรรมะขอ สติสัมปชัญญะ ทุกกรณี คนไมบังคับความรูสึกเพราะขาดสติ ทุกศาสนามุงหมายสอน การบังคับความรูสึกหรือไม พิจารณากันดูวา เรากําลังขาดการบังคับความรูสึกหรือไม ศาสนาก็จะวินาศเพราะการไมบังคับความรูสึกของภิกษุสามเณร
๒๐๔-๒๐๗ ๒๐๗-๒๑๐ ๒๑๐-๒๑๖ ๒๑๖-๒๒๐ ๒๒๐-๒๒๔ ๒๒๕ ๒๒๖-๒๒๗ ๒๒๘-๒๓๐ ๒๓๐ ๒๓๐-๒๓๑ ๒๓๒ ๒๓๓ ๒๓๔-๒๔๐ ๒๔๐-๒๔๓ ๒๔๓-๒๔๕
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ๗. รากฐานของศีลธรรมอันดับสี่ [ยถาภูตสัมมัปปญญา : แสงสวาง]
คําปรารภและทบทวน แสงสวางเปนสิ่งจําเปนแกการตั้งตนของชีวิต
๒๔๘-๒๕๒ ๒๕๓-๒๕๖
www.buddhadassa.in.th
[๖] แสงสวางสําหรับสองแสงใหพฤกษาศีลธรรม ไดแกปญญา ตนไมธรรมดาตองการแสงแดด, ตนไมศีลธรรมใชปญญา ปญญาอันถูกตอง เรียกวา ยถาภูตสัมมัปปญญา ยถาภูตสัมมัปปญญานี้ไมมีโทษ ดังหลักกาลามสูตร สัมมาทิฏฐิ-ความเห็นถูกตอง ก็อยางเดียวกับ ยถาภูตสัมมัปปญญา ถามีความเห็นถูกตองในเรื่องตัวตนมี หรือไมมี ก็จะปฏิบัติไมผิด รูถูกตองในเรื่องกรรม จะปองกันโมหะได พึงเขาใจวา ดี-ชั่ว,บุญ-บาป,สุข-ทุกข เปนเพียงสักวา อิทัปปจจยตา และรูวา ทุกสิ่งวางจากตัวตน เปนสุญญตา มีสัมมาทิฏฐิสูงขึ้น จะสงเสริมศีลธรรมถึงขั้นนิพพาน แสงสวางที่ตนไมศีลธรรมตองการคือ ยถาภูตสัมมปปญญา การสอนตองใหสมแกวัย และใหรูเรื่อง สุญญตา อนัตตา อิทัปปจจยตา ไวบาง
๒๕๖-๒๖๐ ๒๖๑ ๒๖๒-๒๖๓ ๒๖๔-๒๗๖ ๒๗๗-๒๗๘ ๒๗๙-๒๘๒ ๒๘๓-๒๘๕ ๒๘๖-๒๘๘ ๒๘๘-๒๘๙ ๒๙๐-๒๙๑ ๒๙๒-๒๙๓
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ๒๙๔-๒๙๕
๘. รากฐานของศีลธรรมอันดับหา
[สัทธาปสันนา : อุณหภูมิ]
ทบทวนการบรรยายครั้งที่แลวมา รากฐานที่ ๕ ของตนไมคือ อุณหภูมิ, ทางธรรมคือ สัทธาปสันนา คนมีการศึกษานอย มักมีศรัทธาที่งมงาย พุทธบริษัทถือพระรัตนตรัยดวยศรัทธาก็ยังดี แตถาเขาใจผิด จะกลายเปนศักดิ์สิทธิ์อยางงมงาย ถาศรัทธาประกอบดวยปญญา โลภะ โทสะ โมหะ ครอบไมได ตนไมศีลธรรมมีปจจัยสําคัญที่รากโคน ตองอาศัย น้ํา อาหาร แสงสวาง อุณหภูมิ ที่พอดี
๒๙๗-๓๓๐ ๓๓๑-๓๓๔ ๓๓๔-๓๓๗ ๓๓๗ ๓๓๘-๓๔๐ ๓๔๐-๓๔๓
๓๔๓-๓๔๔
www.buddhadassa.in.th
[๗]
๙. ตนลําแหงศีลธรรม [สุปฏิปตติ]
ทบทวนขอความครั้งที่แลวมา ตนไมศีลธรรม รากคืออุดมคติที่ถูกตอง ตนลําคือการปฏิบัติที่ถูกตอง,
๓๔๖-๓๕๘
ดอกผลคือสันติสุข ความถูกตองชั้นแรกคือ ศีลขันธ ความถูกตองชั้น ๒-๓ คือสมาธิขันธ ปญญาขันธ ตนพฤกษาศีลธรรมนี้ลําตนก็คือ ศีล สมาธิ ปญญา เปรียบเทียบความปรกติกับความถูกตอง วาแยกกันไมได มีรากฐานของศีลธรรมแลว จะไมทําผิดในสวนศีลธรรม ถาไมเปนทาสของอายตนะ ก็จะไมลวงศีล เด็กๆ หรือคนสมัยใหมไมชอบศาสนา หรือศีล; ตองชวยกันแกไข แมทางสมาธิก็ตองแกไขเพราะยังมีคนไมชอบ ไมเห็นประโยชน ตองชี้ใหเห็นประโยชนชั้นตนวา สมาธิชวยใหจิตไมฟุงซาน จิตแจมใส ไมมีนิวรณทั้ง ๕ ประการ แลวมีประโยชนมาก ปญญาเปนลําตนของศีลธรรมขั้นสุดทาย ปญญามีทั้งธรรมดา เฉโก และยถาภูตสัมมัปปญญา การศึกษาของมนุษยในโลกปจจุบัน ก็เปนปญญาชนิดสงเสริมกิเลส ภาระตกหนักในการศึกษาเชนนี้ เรียกวา กรรมแหงวัฎฎะ ปญญาของพวกนักการเมืองเปนชนิดเฉโก ปญญาอยางบริสุทธิ์ใจ ก็เปนเพียงโลกิยปญญา ปญญาที่เกิดทีละนอยตามควรแกอัตภาพเรียกยถาภูตสัมมัปปญญา ควรจะชี้ใหคนสมัยนี้รูจักปญญาที่แกความทุกขได
๓๕๘-๓๖๕ ๓๖๖ ๓๖๗ ๓๖๘ ๓๖๙-๓๗๑ ๓๗๒-๓๗๕ ๓๗๖ ๓๗๗-๓๗๙ ๓๘๐-๓๘๔ ๓๘๔ ๓๘๕-๓๘๗ ๓๘๗ ๓๘๘-๓๘๙ ๓๙๐ ๓๙๑ ๓๙๒ ๓๙๓ ๓๙๓-๓๙๔ ๓๙๕
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org
www.buddhadassa.in.th
[๘] ศีล สมาธิ ปญญา จะตองมีอยูพรอมกัน ศีล สมาธิ ปญญา เปนตนลําของศีลธรรม ที่แยกกันไมได ใหรูจักคําจํากัดความของคําวา "ความรูถูกตอง"
๓๙๕-๓๙๙ ๔๐๐ ๔๐๐-๔๐๓
๑๐. ใบ ดอก ผล ของศีลธรรม [มรรค ผล นิพพาน]
ทบทวนคําบรรยายครั้งที่แลวมา ประโยชนชั้นสําคัญจากตองไมศีลธรรมควรเปน มรรค ผล นิพพาน ปญหาหนักอยูที่วามนุษยแตละคนไมหวังมรรถ ผล นิพพาน เพราะไมตองการผลแหงตนไมศีลธรรมจึงไปปลูกตนไมพิษ ตนไมพิษเปนภาพปริศนาธรรมของโบราณ แสดงถึงความคิดนึก ที่เปนบาปธรรม (ดูภาพประกอบ) ตนไมธรรมดามีสวนสัมพันธกันตั้งแตราก โคน ถึงยอด ตนไมศีลธรรมก็มีความสัมพันธกันตั้งแตรากถึงยอด สรุปความสัมพันธของศีลธรรมไดแก ความรู-การกระทํา-ผล อุดมคติเปนความรูเริ่มตน ศีล สมาธิ ปญญา เปนการกระทํา ตอจากการกระทําจึงเปนมรรค ผล นิพพาน คําอธิบายแทรกเกี่ยวกับญาณ ซึ่งเกิดจากศีล สมาธิ ปญญา มรรค ผล นิพพาน นี้ ในเรื่องทั่วไปก็ใชได ฝายโลกุตตรธรรมก็มีมรรค ผล นิพพาน ชั้นสูงขึ้นไป คําวา "มรรค" หมายถึงหนทาง เมื่อใชในภาษาธรรม มรรคหมายถึง การประพฤติปฏิบัติ
๔๐๖-๔๑๔ ๔๑๕-๔๑๗ ๔๑๘-๔๑๙ ๔๒๐ ๔๒๐-๔๒๒
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ๔๒๓-๔๒๔ ๔๒๕-๔๒๖ ๔๒๗ ๔๒๘ ๔๒๙ ๔๒๙-๔๓๑ ๔๓๒-๔๓๕ ๔๓๖ ๔๓๗ ๔๓๘
www.buddhadassa.in.th
[๙] ทางอันประเสริฐ เรียกมัชฌิมาปฏิปทาคือ อัฏฐังคิกมรรค มรรคในตนไมศีลธรรมหมายถึงมรรค ๔ ผล ๔ นิพพาน ๑ การปฏิบัติถึงกระแสพระนิพพานมี ๙ ทาง แต "มรรค" ของผูครองเรือนก็เดินทางใหถูกตองไปโดยลําดับ ปฏิบัติไดเพียงไร ผลก็เกิดขึ้นเพียงนั้น คํา "นิพพาน" แปลวาเย็นในทุกกรณี ทุกศาสนามุงหมายความเย็นสงบ, ความหมดปญหา จุดยอดของตนไมแหงศีลธรรมคือ "ความหมดปญญาทั้งปวง"
๔๓๙-๔๔๑ ๔๔๑-๔๔๒ ๔๔๓-๔๔๗ ๔๔๗ ๔๔๘ ๔๔๘-๔๕๑ ๔๕๒-๔๕๓ ๔๕๔
๑๑. การทําความเจริญงอกงามของศีลธรรม [ ปลูกฝง รักษา ออกผลแพรพันธุ ]
ทบทวนขอความครั้งที่แลวมา การบรรยายครั้งนี้จะพูดถึงการกระทําความเจริญงอกงามของศีลธรรม ทบทวนถึงรากฐานที่ ๑ ที่เปรียบดวยแผนดิน ตองยอมรับธรรมสัจจะที่วา สัตวทั้งหลายเปนเพื่อนทุกข เกิดแกเจ็บตาย ประโยชนของผูอื่นสําคัญกวาประโยชนของเรา จึงตองเริ่มตน อบรมศีลธรรม อบรมศีลธรรมโดยลําดับตั้งแตพอแมกระทั่งลูกเกิด ถึงวัยประกอบอาชีพจนเปนผูเฒา ตองใหมีศีลธรรม รากฐานที่ ๒ เปรียบดวยน้ําสําหรับตนไม ตองอบรมไมเปนทาสอายตนะ เริ่มดวยเวนอบายมุข ๖ โดยรูโทษของมัน คนโดยมากเปนทาสของอายตนะ ทั้งฝายต่ําฝายสูงจึงรอน รากฐานที่ ๓ เปรียบดวยปุย คือตองมีการบังคับจิต การบวชตามประเพณี เปนการฝกบังคับจิตที่ดี รากฐานที่ ๔ เปรียบดวยแสงสวางคือยถาภูตสัมมัปปญญา
๔๕๕-๔๖๒ ๔๖๒-๔๖๔ ๔๖๔ ๔๖๕
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ๔๖๖-๔๗๐ ๔๗๑-๔๗๓
๔๗๓-๔๘๔ ๔๘๖ ๔๘๖ ๔๘๗-๔๘๙ ๔๘๙-๔๙๒
www.buddhadassa.in.th
[๑๐] เพราะไมมีปญญาอันถูกตองยอมเกิดความเสียหายรายแรง มีตัวอยางมาก ถามีปญญาถูกตองจะขจัดความงมงายเสียได รากฐานที่ ๕ เปรียบกับอุณหภูมิ คือศรัทธาที่ประกอบดวยปญญา ศรัทธาที่งมงายเปนอันตรายถึงกับทําลายศาสนา พุทธบริษัทควรปฏิบัติใหตรงคําวา "พุทธ" ผูตื่น ตองมีศรัทธาในองคมรรคใหถูกตอง ตองใชสัมมาทิฏฐิ, ยถาภูตสัมมัปปญญา ชวยแกปญหา
๔๙๒-๔๙๕ ๔๙๕-๔๙๗ ๔๙๗-๔๙๘ ๔๙๙-๕๐๑ ๕๐๑-๕๐๔ ๕๐๔-๕๐๖ ๕๐๗-๕๐๘
๑๒. การถอยหลังเขาคลอง [ปญหาศีลธรรมยุคปจจุบัน]
วิธีการและความหมายแหงการถอยหลังเขาคลอง ประการที่ ๑ ตองมีคานิยมที่ถูกตอง ประการที่ ๒ มีหลักตายตัวสําหรับปฏิบัติ ประการที่ ๓ มีรสนิยมอันถูกตอง การกลับมาแหงศีลธรรมก็คือการถอยหลังเขาคลองแหงความถูกตอง การกลับมาแหงศีลธรรมตองตอสูอ ยางสงบ ชี้ชวนกันใหเห็นชัดวา "สัตวทั้งหลายเปนเพื่อนทุกข เกิด แก เจ็บ ตาย" สวนลําตนของศีลธรรมคือ ศีล สมาธิ ปญญา ตองกลับมา มรรคผล นิพพาน เทากับ ดอก ผล ของศีลธรรม
๕๑๐-๕๒๒ ๕๒๓-๕๒๖ ๕๒๗-๕๒๙ ๕๒๙-๕๓๑ ๕๓๒-๕๓๓ ๕๓๔-๕๓๕ ๕๓๖-๕๓๘ ๕๓๙-๕๕๔ ๕๕๔-๕๖๒
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ภาคผนวก ระดมธรรม ตองระดมธรรมในลักษณะถูกตองตามธรรม ในลักษณะตอตานเพื่อโลกนี้อยูรอด ในลักษณะประเทศไทยนี้อยูรอด ในลักษณะแตละคนอยูรอดดวยความสุขสวัสดี
๕๖๕-๕๙๘
www.buddhadassa.in.th
การกลับมาแหงศีลธรรม - ๑ ๓ มกราคม ๒๕๑๙
ศีลธรรมคืออะไร [ เมื่อกลาวโดยทางภาษาและรูปแบบ ]
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ทานสาธุชน ผูมีความสนใจในธรรม ทั้งหลาย,
การบรรยายประจํ า วั น เสาร แ ห ง ภาคมาฆบู ช า พ.ศ. ๒๕๑๙ นี้ ได ม าถึ ง เข า แล ว เป น วั น แ รก ใน วั น นี ้ ; แ ต ว า จั ก ไม ม ี ก ารบ รรย าย โด ย ส ว น เดี ย วเห มื อ น กั บ ที ่ แ ล ว ๆ ม า ทั ้ ง นี ้ ก็ เ พื ่ อ เป น การท ด ส อ บ ค วาม รู ความเข า ใจบางอย า ง ที ่ ไ ด ย ิ น ได ฟ ง กั น มาแล ว . ท า นทั ้ ง หลายก็ ค งจะ ประหลาดใจบ า งในตอนแรก ๆ แล ว ก็ เ ลิ ก ความประหลาดใจเสี ย ก็ แ ล ว กั น เพราะว า ถ า มั ว ประหลาดใจอยู ก็ ฟ ง ไม รู เ รื่ อ ง.
๑
www.buddhadassa.in.th
การกลับมาแหงศีลธรรม
๒
สํ า หรั บ เรื่ อ งที่ จ ะนํ า มาทดสอบเหมื อ นกั บ สอบไล แ ก ผู ฟ ง นั้ น ได พิจารณาเห็นวา ในวันแรกนี้จะพูดถึงเรื่อง “ศีลธรรม” อีก วา ศีลธรรมเปนสิ่ง ที่ค วรกลับ มา; เพราะฉะนั้นจึงใหหัวขอ วา “การกลับ มาแหงศีลธรรม” ซึ่งจะ ไดพูดกันในฐานะเปนปุจฉาและวิสัชนา เพื่อความละเอียดลออทุกแงทุกมุม. ถา ไมพูดไปในรูป ถาม-ตอบ ก็พูดขางเดียว ก็ไมคอยจะละเอียด ฉะนั้น จึงทําไปใน ลักษณะของการถามตอบ เพื่อจะใหละเอียด ... ... ... ... สํ า หรั บ เรื่ อ งศี ล ธรรมนี ้ ขอให เ ข า ใจว า “เป น เรื่ อ งเป น เรื ่ อ ง ตาย “; แลว สํา หรับ คนสมัย นี้ คือ วา โลกทั้ง โลก หรือ วา โลกแตบ างสว น หรือ บางคนก็ต าม กําลัง อยูในภาวะที่เรีย กวา “ตกหนัก ”, ตกในที่ลํา บากอยา งยิ่ง ถึง ขนาดเปน - ตายเอาทีเ ดีย ว. ถา แกปญ หาเรื่อ งศีล ธรรมไมไ ด ในไมน าน นี้เราก็จะถึงความวินาศ คือจะมีในการเบียดเบียนกันมากขึ้นจนทนไมไหว จนอยาก ตายเสียดีกวาอยู และเปนอยางนี้ดวยกันทั้งโลก; ประจักษพยานหลักฐานมันก็มี อยูแลว วากําลังมีอาชญากรรม คือการเบียดเบียนกันนั้น มากขึ้น ๆ อยางไมนา เชื ่อ . แลว ยัง มีค วามลํ า บากเหลือ ประมาณ ดว ยการเปน อยู การครองชีพ , และลําบากในเรื่องโรคภัยไขเจ็บ ที่มันมีมากขึ้นในโลกนี้อยางไมนาเชื่อ.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ตัวอยางเชนวา โรคภัยไขเจ็บเกี่ยวกับอากาศเนาอากาศเสีย อยางนี้ เมื่อกอนไมเคยมี เพราะคนสมัยโนนไมไดทําใหอากาศเสียไดเหมือนอยางคนสมัยนี้ อยางนี้เปนตน เปนตัวอยาง.
www.buddhadassa.in.th
ศีลธรรมคืออะไร
๓
ทั้งหมดนั้ นมั น มาจากความไม มี ศีลธรรม ไม โดยตรงก็โดยออ ม จึง เกิดวิกฤติการณ เหลานี้ขึ้น; ฉะนั้นเรามาชวยกันพิจารณา แลวแกปญ หาเหลานี้ เพราะวาถาไมชวยกันแกไข มันก็คือวินาศ. และเราบางพวกบางคนก็มีโอกาส มีเ วลา มีส ติป ญ ญา พอที ่จ ะชว ยกัน แกไ ข; ฉะนั ้น จึง ชวนกัน มาศึก ษาปรับ ความเข า ใจ เพื ่ อ การแก ไ ขทั ้ ง โดยส ว นตั ว เอง เพื ่ อ ประโยชน แ ก ต ั ว เอง และสวนรวม. นี ่ข อปรับ ความเขา ใจในเบื ้อ งตน วา ปญ หาทางศีล ธรรม เปน ปญ หาที่ควรหยิบขึ้นมาชําระสะสาง แกไขเปนอยางยิ่งแลว; การที่เราจะพูดกัน ดวยเรื่องศีลธรรมนี้ จึงเปนเรื่องที่เหมาะสม คือมีเหตุผล. ทีนี้ก็อยางที่กลาวมาแลววา เราก็ไดพูดกันมาหลายครั้ง ไมนอยกวา ๓๐ ครั้ง ; เท า ที่ อ าตมาผู พู ด เองจํ า ได เราพู ด กั น มาแล ว ไม น อ ยกว า ๓๐ ครั้ ง และดูมันหาย ๆ ไปไหนหมดชอบกล ฉะนั้นจึงตองมาทบทวนกันดวยการสอบถาม เหมือนกับสอบไล.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org เรื่อ งที่ จ ะพู ด นี้ มั น ยาวต อ งแบ งเป น ตอน ๆ เป น หมวด ๆ สํ าหรับ ใน วันนี้ จะพูดในตอนแรก หรือ : หมวดที ่ ๑ ว า ด ว ย สิ ่ ง ที ่ เ รี ย กว า ศี ล ธรรม ในแง ข อง ภาษาเปนตน. ปญหาที่จะสอบถามทานทั้งหลายในที่นี้ในวันนี้ก็คือ คําถามที่วาศีล ธรรมคื อ อะไร ? แต ไม ใช คํ า ตอบคํ าตอบเดี ย วพอ มั น ต อ งแจงออกไปในทุ ก แง
www.buddhadassa.in.th
การกลับมาแหงศีลธรรม
๔
ทุก มุม วา มัน คือ อะไร? คือ อะไร? คือ อะไร? จนกวา จะเขาใจในสิ่งที่เรีย กวา “ศีลธรรม” นั้นอยางถูกตองและครบถวน ขอที่ ๑ ศีลธรรมในแงของภาษา คือคําวา “ศีลธรรม” นี้ก็เปนภาษาที่เราใชเรียกสิ่ง ๆ หนึ่ง. ถาจะดูกันในแงของภาษา ซึ่งอยางนอยก็จะมีสัก ๓ ภาษา : อยาง ที่ ๑. ศีลธรรมในแง ของภาษาชาวบาน ทั่ว ๆ ไป จะเปนภาษาไทย หรือภาษา ตางประเทศก็ต าม วาภาษาชาวบ านมั น หมายถึงอะไร? อยางที่ ๒. ในภาษา ของทางศาสนา ว า คํ า ว า “ศี ล ธรรม” นั้ น จะหมายถึ ง อะไร? อย า งที่ ๓. ใน ภาษาบาลี โดยเฉพาะคําวา “ศีลธรรม” นี้หมายถึงอะไร? [๑. ภาษาชาวบาน]
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ถาม : ฉะนั้นจะตองตั้งคําถามขอแรกวา ในภาษาชาวบานตามธรรมดาพูดกัน อยูทั่ว ๆ ไปนั้น คํา วา “ศีล ธรรม” หมายถึง อะไร? ขอใหคํา ตอบ มาเดี๋ยวนี้.
ตอบ :ศีลธรรมตามภาษาชาวบาน เขาหมายถึง กฎ ระเบียบ ประเพณี ที่เคยปฏิบัติกันมาแตเดิม เพื่อใหสังคมนั้นอยูเย็นเปนสุข มีความปรกติ ในสังคม; ความหมายเดิมของชาวบานที่เขาใจกันเปนอยางนี้. ถาม :เอา, ใครอีก ใครมีความเห็นอยางไรอีก? คุณสุพล, คําวา ศีลธรรม ในภาษาชาวบานทั่วไป หมายถึงอะไร?
www.buddhadassa.in.th
ศีลธรรมคืออะไร
๕
ตอบ : หมายถึงคนมีคุณธรรม อยูรวมกันในสังคมดวยความสุขสันติ. ถาม : หมายถึงการที่คนมีความประพฤติและอยูรวมกันดวยความสุข. เอา, ใครวาอยางไรอีก? ถาไมมีใครวาจะไดสรุปความวา ในภาษาชาวบาน รูกัน อยา งที ่รูก ัน อยู ทั ่ว ไป ไมม ีค วามหมายอะไรลึก ซึ้ง . เชน เรา ด า ใครสั ก คนหนึ่ ง ว า “ไม มี ศี ล ธรรม”; ก็ คื อ เท า นั้ น . ที่ เป น ภาษา กฎหมาย ใชอยูในตัวบทกฎหมาย วา ศีลธรรมอันดีของประชาชน มีความหมายไมสูจะกวางขวางอะไรนัก, และก็ยังไมไดอธิบายชัดเจน ดวย, เหมาๆ กันอยู. ที่ชาวบานเขารู คนไมมีศีลธรรม ไมมีธรรม ก็ เรีย กวา ไรศ ีล ธรรม, มีศีล ธรรมก็เ รีย กวา มีศ ีล ธรรม. ถือ เอา ตามความรูสึกสังเกตเห็นก็คือ คําพูดนี้มีการพูดสืบ ๆ กันมา ก็นับวา นานพอสมควรแลว คือ ประพฤติปฏิบัติตามศีลธรรมที่มีอยูในศาสนา ตามสมควรแกสภาพ.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ถาม : ทีนี้จะพูดเลยไปถึงภาษาตางประเทศ เชน ภาษาอังกฤษ เปนตน; นี้ ก็เกิ ด เป น ป ญ หาขึ้น มา. เท าที่ นึ ก ได ในภาษาต างประเทศมี คํ าวา อะไรบาง ที่เล็งถึงศีลธรรม? ตอบ : มีคําวา morality เทาที่ผมนึกออก.
ถาม
: เอา, ใครอีก? ใครนึกไดอะไรอีก? ถานึกไมได เพียงเทานั้นก็พอ. คําวา moral ก็มี, morality ก็มี; แตจะขอบอกวาไมไดตรงกันทีเดียว สูงกวากันบาง ต่ํากวากันบาง หรือ แพรหลายกวากันบาง. คําวาmoral
www.buddhadassa.in.th
การกลับมาแหงศีลธรรม
๖
ดู เหมื อ นวา ถ านอกไปจากเรื่องทํ ามาหากิ น อย างโลก ๆ ก็ดู จะเป น moral ไปหมด, มันกวาง: หรือ morality ก็เรียก. พูดกันลําบากตรง ที่ ค วามหมายไม ค อ ยเท ากั น หรือ ไม ค อยตรงกั น . เดี๋ ยวนี้ เรายั งไม มี ปญหาเกี่ยวกับภาษาตางประเทศนัก จะเวนไวกอนก็ได; เพียงแตจะ บอกใหรูวา ยังหาคําตางประเทศที่ตรงกับคําวา “ศีลธรรม” ในภาษา ไทยเราโดยตรงกัน ทุก กระเบีย ดนิ้ว นั้น ก็ยัง หายาก เดี๋ย วนี้เขาใช คําวา morality; เราเอาไวพูดกันวันหลังก็ไดโดยละเอียด นี้เปนภาษา ชาวบาน มีความหมายพรา ๆ. [๒. ภาษาศาสนา ] ถาม : ทีนี้ถาเปนภาษาทางศาสนา ของบุคคลผูเครงครัดในพระศาสนา ไมใช ภาษาชาวบานกลางตลาด คําวา ศีลธรรมนี้มีความหมายกวาอยางไร? ใครตอบได?
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ตอบ : ศีลธรรมตามภาษาทางศาสนา สวนมากก็หมายถึง การไมทําชั่ว ทํา แต ค วามดี ; ก็ อ ยู ใ นพวกโลกิ ย ธรรม ผมเข า ใจว า ในศาสนา หมายถึงแตนี้ครับ, ศีลธรรมเปนโลกิยธรรม.
ถาม : เอา, ใครอีก ออกความเห็นกันมาไดตามพอใจ ตามสะดวก เทาที่มี ความรูอยูเดี๋ยวนี้, คําวา ศีลธรรม ในแงของศาสนาลวน ๆ หมายถึง อะไร? ตอบ : ศีลธรรมในแงของพุทธศาสนา หมายถึงสิ่งที่ หรือเครื่องทําความปกติ.
www.buddhadassa.in.th
ศีลธรรมคืออะไร ถาม
๗
: ก็ได, แตคําตอบอยางนี้จะกระเดียดไปทางลักษณะของภาษาบาลี. ภาษาศาสนาเราจะหมายถึงทุกศาสนาดีกวา :ศาสนาพุทธ ศาสนาคริสต ศาสนาอิสลาม; ที่นักศาสนาผูเครงครัดในศาสนา เขาเพงเล็งถึงอะไร ในเมื่อเขาพูดถึงศีลธรรม? ลองวามาดูซิ.
ผูตอบที่ ๑
: หมายถึงขอปฏิบัติที่ทําใหสมาชิกในสังคมอยูรวมกันอยางเปนสุข.
ผูตอบที่ ๒
: หมายถึงการไมกระทําความชั่ว.
ถาม : คําตอบนี้ก็ยังเวนการกระทําความดีอยู ยังไมรวมหรือ? ไปคิดดูใหม วา ภาษาศาสนา ในศาสนาทุกศาสนา คําวา “ศีลธรรม” อยางที่เรา พอจะสัง เกตเห็น ได ก็เ หมือ น ๆ กัน ทุก ศาสนา; เพราะวา ศาสนา มุงหมายจะใหอยูกันเปนปกติ แลวก็บัญญัติระเบียบปฏิบัติตาง ๆ ขึ้นมา เพื่อใหสําเร็จประโยชนตามนั้น.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org คํ า วา “ศาสนา” นี ้ต อ งหมายความถึง ศาสนาแรกมี ขึ ้น มาใน โลก ซึ่งเชื่อกันวา ประมาณสัก ๘,๐๐๐ ปมาแลว ที่พอจะเรียกไดวา ศาสนา. ทีนี ้ เมื ่อ หยิบ เอาขอ บัญ ญัต ิข องศาสนาโบรมโบราณเชน นั ้น มาดู ก็ยัง เห็น วา ยัง คงเปน หลัก เกณฑเดีย วกัน ยัง เหลือ อยู ก ระทั ่ง จนบัด นี ้ คือ “ไมป ระทุษ รา ย” คํ า เดีย วก็พ อ : ไมป ระทุษ รา ยตนเอง ไมป ระทุษ รา ยผู อื ่น , ใน ความหมายใด ๆ ก็เรียกวา ไมประทุษราย. เพราะเราไมอาจจะถือเอาภาษาแหง ศาสนานั้น ๆ ไดวา มันเปนภาษาอะไร เราก็เลยไมรูความหมายของตัวพยัญชนะ หรือตัวอักษรในภาษานั้นๆ; คงรูไดแตเพียงอรรถะ คือ ความหมายหรือความมุง หมายของขอบั ญ ญั ติในศาสนานั้น ๆ ซึ่งเห็ น ไดชัดวามุงหมายเพื่ อไม ให
www.buddhadassa.in.th
การกลับมาแหงศีลธรรม
๘
เกิดการเบียดเบียนขึ้น แกผูอื่นเปนสวนใหญ; ที่จะเบียดเบียนตัวเองนั้น บางที ไม ได พู ด ถึ ง ก็ มี ในระบบของศี ล ธรรม บางระบบ บางศาสนา. แต ในพุ ท ธศาสนานี้ ก็จ ะมีห ลัก ที่ต ายตัว เหมือ นกัน วา ตอ งไมเ ปน ไปเพื่อ เบีย นเบีย ด ตนดวย, ไมเบียดเบียนผูอื่นดวย. [ ๓. ภาษาบาลี ] ถาม : ที นี้ จะดู ถึ ง สิ่ ง ที่ เ รี ย กว า “ศี ล ธรรม” ในแง ข องภาษาบาลี โ ดย เฉพาะ เพราะคํา วา “ศีล ธรรม” นี้ก็เ ปน ภาษาบาลี. ขอถามเปน การซอมความเขาใจวา คําวา “สีละ” กับคําวา “ธัมมะ” ภาษาบาลี แปลวาอะไร? ตอบ : คําวา สีละ แปลวา ปกติ , คําวา ธัมมะ แปลวา สิ่ง เพราะฉะนั้น คํ า ว า ศี ล ธรรม ความหมายตามภาษาบาลี ก็ คื อ “สิ่ ง ที่ ทํ า ให ปกติ”
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ถาม : ใครตอบอยางไรอีก? ตองตอวาสักหนอย คํานี้อธิบายไมนอยกวา ๑๐ ครั้ ง แล ว ยั ง จํา ไม ไ ด ยั ง นึ ก ไม อ อก. ใครนึ ก ออก, ใครว า ได ? ยังมีความหมายที่ตอไปอีกวาอยางไร ?
ตอบ : สิ่งที่ทําความปกติ. ถาม
: ก็เหมือนกับที่วามาแลว. ศีลธรรมแปลวาอะไรได?
ตอบ
: ศีลธรรมมีอยู ๓ ความหมาย.
ถาม :เอาตามตัวหนังสือ อยางเอาตามความหมาย.
www.buddhadassa.in.th
ศีลธรรมคืออะไร
๙
ตอบ : ที่แปลในแงเหตุก็วา สิ่งที่ทําใหปกติ, ถาแปลในแงผล ก็วา เปน ภาวะที่ปกติ, หรือวา ถาจะหมายถึงสิ่งที่อยูตามธรรมชาติ ตามปกติ ของมันตามธรรมดา ก็ไดอีกความหมายหนึ่ง ซึ่งใชรากศัพทบาลี จาก คําวาสีละ ที่แปลวา ปกติอยูตามธรรมชาติ; มี ๓ ประเด็นอยูดังนี้. ถาม : ถามซ้ําใหชัดอีกทีหนึ่งวา คําวา ศีลธรรม แปลวาอะไร ? มีกี่นัยะวามา อยางกระทัดรัดสั้น ๆ. ถาไมตอบ ก็จะตอบใหวา โดยนัยะที่ตางกัน ก็มีอยูเปน ๓ อยาง : อยางที่วา สีละ แปลวา ปกติ นี้ยืน พื้น. สวนคําวา ธมฺม หรือ ธรรมะ นั้น มันแปลไดหลายอยาง ตามธรรมดาก็แปลวา “สิ่ง” เฉยๆ; แตในที่นี้คําวา ธรรม นี่ก็แปลวา ภาวะที่ปรากฏอยูในฐานะเปนปรากฎการณตามธรรมดาของธรรมชาติ . ภาวะตามธรรมดาของธรรมชาติ นี ่ ก็ เ รี ย กว า ธรรม, สิ ่ ง ที่ เปนเหตุ ก็เรียกวา ธรรม, ขอปฏิบัติ สิ่งที่เปนผล ก็เรียกวา ธรรม, ขอปฏิบัติ เพื ่ อ จะให ไ ด เ ป น ผลนั้ น ขึ้ น มา ก็ เ รี ย กว า ธรรม. นี่ เ ป น การสอนบาลี กั น นิดหนอย :-
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org นัย ที ่ ๑. ถา แปล ธรรม วา “ภาวะ”; ศีล ธรรมะ ก็คือ ภาวะ แหงความเปนปกติ ที่มีอยูตามธรรมชาติก็ได, หรือที่มนุษยจะทําใหมีขึ้นมาเอง ก็ได, นี่คือ ศีลธรรม ที่เปนภาวะแหงความปกติ.
นัย ที ่ ๒. ศีล ธรรม ในกรณีนี ้ ธรรม แปลวา เหตุ ; ศีล ธรรม แปลวา เหตุแ หง ความปกติ. นี้ก็เ ล็ง ไปยัง การประพฤติก ระทํา ของมนุษ ย
www.buddhadassa.in.th
๑๐
การกลับมาแหงศีลธรรม
โดยมาก เพราะสิ่ง อื ่น ทํ า ใหป กติไ มไ ด; ไดแ กอ ะไร ? ก็ไ ดแ กก ารปฏิบ ัติ ของมนุษ ยนั ่น เอง ที ่ป ฏิบ ัต ิแ ลว ทํา ใหเกิด ความปกติขึ้น มา ในตัว เขา และ กวางขวางออกไปถึงตัวผูอื่น. นัย ที่ ๓. ถา คํา วา ธรรมะ แปลวา ผล ; ศีล ธรรม ก็แ ปลวา ผลคือความปกติ ที่เกิดมาจากการปฏิบัติเพื่อความเปนอยางนั้น. ขอทบทวนใหมอีกครั่งหนึ่งอยางนี้ ใหจําไววา : สภาพตามธรรมชาติ ที ่ ป กติ ก็ ไ ด , การปฏิ บ ั ต ิ ใ ห ป กติ ก็ ไ ด , และผลที ่ เ กิ ด มาจากการ ปฏิบัตินั้น ก็ได, ศีลธรรมอยางนอยแปลเปน ๓ ความหมายอยางนี้. ทํ า ไมมาเสี ย เวลาแยกแยะกั น ให ม ากอย า งนี้ ? ก็ เพราะเป น เรื่อ ง สําคัญอยางที่กลาวมาแลว จึงตองรูจักกันทุกแงทุกมุม จะไดไปทําใหเกิดเปนผลดี ขึ้นมาอยางครบถวนทุกแงทุกมุม : ที่วาเปนภาวะปกติ ของธรรมชาติ ก็จะได ชว ยกัน รัก ษา. ที่วา เปน เหตุข องความปกติ ก็จ ะได ชว ยกัน ปฏิบัติ ชัก จูง กั น ให ป ฏิ บั ติ . ที่ เ ป น ผล, ภาวะปกติ ที่ เ ป น ผลนั้ น เราจะได รั บ ; เราจะ ไดอยูกันเปนผาสุก.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org เมื่อเรามีศีลธรรมครบทั้ง ๓ นัยะ ก็เปนอันวา มีความสมบูรณแหง ศีลธรรมเปนแนนอน ทําใหธรรมชาติเปนปกติ, อะไร ๆ ก็ปกติ ก็เลยสรุปความ ของคําวา “ผล” กันเสียอีกทีหนึ่ง ใหเสร็จไปในคราวเดียวกันนี้ :-
www.buddhadassa.in.th
ศีลธรรมคืออะไร
๑๑
คําวา “ผล” ที่เกิดจากการปฏิบัติศีลธรรมนั้น มีผลเปนปรากฏ การณอ อกมา ใหเ ปน ที ่ส ัง เกตไดที ่อ ะไรบา งลองนึก ดู เรีย กวา เปน การ ทดสอบความจํา. ถาม : ถาเราปฏิบัติศีลธรรมจนเปนผลแลว ผลที่เปนปรากฎการณออกมานั้น พอสังเกตเห็นไดที่อะไรบาง? กี่อยาง? ตอบ : ที่ใจของเราเองอยางหนึ่ง ที่สภาพความปกติสุขของสังคมอีกอยางหนึ่ง. ถาม : ก็ได, ก็ถูก แลวแตจะมองไป; คนนี้วาที่จิตใจของเราเองนี้อยางหนึ่ง, ที่สภาพของสังคมอยางหนึ่ง, รวมมี ๒ อยาง. เอา, คนอื่นวาอยางไร? ตอบ : จุดเดนของศีลธรรมที่เห็นไดชัดก็คือ มิตรภาพ, เราจะมีมิตรภาพขึ้น ในสังคม.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ถาม : นั้นก็เรียกวาแปลกออกไป : มิตรภาพ ; แตก็ตองไมยกเลิก ยกเวน สว นจิต ใจของตัว เอง. เอา , อะไรอีก ? จะเห็น ไดที ่ไ หนอีก ? จะ แสดงอยูที่ไหนอีก? ตอบ : จะแสดงอยูที่กาย และวาจา. ถาม : เอา, คนอื่นละ ไมมีอีกหรือ? ถา ไมม ีใ ครตอบอีก แลว ก็อ ยากจะสรุป ความขอ นี ้. มัน ก็เ นื ่อ งมา จาก ๓ นัยะขางตน ที่วา ภาวะปกติอยูที่อะไรบาง, ทางไหนบาง :-
www.buddhadassa.in.th
๑๒
การกลับมาแหงศีลธรรม ขอที่ ๒. ศีลธรรมที่แสดงผลในสิ่งที่ไมมีชีวิต
ขอ นี้ ก็อ ยากจะใหส ัง เกต มองกวางออกไปจนถึงภาวะความสงบ แมข องสิ ่ง ที ่ไ มม ีช ีว ิต ; วัต ถุที ่ไ มม ีช ีว ิต ทั ้ง หลาย มัน จะอยู ใ นภาวะปกติไ ด เหมือนกัน; ถามนุษยไมไปทําลายมัน ถามนุษยมีศีลธรรม ก็ยอมไมทําลายภาวะปกติของวัตถุทั้งหลาย อยาง ที่ เรีย กวาวิน าศ คื อ ไม เห็ น แก ตั วจนถึ งกั บ ทํ าลายความงามของธรรมชาติ หรือ ความมี อ ยู ของธรรมชาติ เท าที่ ควรจะมี . ฉะนั้ น ถ าเราเห็ น สภาวะของธรรมชาติ ที ่บา นไหน เมือ งไหน เปน ปกติดี เราก็พ อจะพูด ได วา ศีล ธรรมของ คนที่นั้นมันดี : ปาไมยังดี แมน้ํา ลําธาร ยังดี ยังสะอาด ทุก ๆ อยาง ปรากฏการณ ของธรรมชาติ ยั งอยูในลั กษณะของที่ น าดู น าเลื่อ มใส น าเจริญ ตา น า เจริญใจ; ลักษณะของศีลธรรมแสดงอยูที่นั่น.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ขอที่ ๓. ศีลธรรมที่แสดงผลในสิ่งที่มีชีวิต
ที่มีชีวิตนี่ นับตั้งแตชีวิตอยางต่ําที่สุด เชน พืชพันธุธัญญาหาร ตนไม ตนไล, สูงขึ้นไปถึงสัตวเดรัจฉาน, กระทั่งถึงคน, แสดงอยูที่อาการ อากัปกิริยา ภาวะนั้น ๆ.
คน นี ่ ก ็ ค ื อ คนปรกติ มี ค วามเป น ปรกติ อ ยู ที ่ ค น ก็ เ พราะมี ศีลธรรมนั่นเอง ที นี้ สั ต ว มั น ไม ได ศึ กษาเรื่อ งศี ล ธรรม ไม ได ตั้ งในปฏิ บั ติ เรื่อ งศี ล ธรรม; แต มั น ก็ มี ศี ล ธรรมของมั น ตามธรรมชาติ . ถ า มั น ไม มี ศี ล ธรรมตาม
www.buddhadassa.in.th
ศีลธรรมคืออะไร
๑๓
ธรรมชาติ มั น ก็ ต อ งตาย. แต เ ดี ๋ ย วนี ้ เ ราจะย อ นกลั บ ไปว า ถ า คนดี มี ศีล ธรรม สัตวก็จะพลอยเปน ปกติอยูไดดวย แลวก็จะมีปริมาณมากดวย. บานเมืองที่มีศีลธรรม จะเห็นสัตวทั้งหลายมีมากมายและอยูอยางนาดู; ถาบาน เมื องไหนไมมี ศีลธรรม สัตวมันก็จะถูกฆ าตายไป ถูกทํ าให พิการเจ็บปวด. นี่ เรียกวา แมที่สัตวนั้น ก็แสดงอยูซึ่งความมีศีลธรรมของมนุษย. อีก มุม หนึ ่ง สัต วม ัน ก็ต อ งมีศ ีล ธรรมตามแบบสัต ว ซึ ่ง ไม ตอ งสอน เพราะธรรมชาติมัน สอน มัน ควบคุม ; ฉะนั้น สัต วจึง มีชีวิต อยูไ ด อยางสงบสุข ไมเปนโรคภัยไขเจ็บมากเหมือนมนุษย. คิดแลวก็นาสังเวช ที่มนุษย เปนโรคภัยไขเจ็บมากมายเหลือประมาณแปลก ๆ ออกไป ; แตสัตวมันยังคงที่มี เทา ที ่ม ัน มีอ ยู และก็ม ีเปน สว นนอ ย มัน มีศ ีล ธรรมอะไรก็ไ มท ราบ ไปตาม ธรรมชาติของมัน.
มนุษยเรามีความเปนอยูผิดธรรมชาติ ก็เลยมีโรคภัยไขเจ็บ
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org มาก; ขอที่มนุษยอยูอยางผิดธรรมชาตินี้ ก็ควรจะเรียกไดวา เสียหายในสวนศีล
ธรรมไดเ หมือ นกัน . สัต วมัน ยัง ไมเ สีย มัน จึง ยัง ไมคอ ยมีโ รคภัย ไขเ จ็บ เรา ไมคอยเห็นสุนัขหรือแมวปวดหัว หรือปวดฟน หรือเปนอะไรตาง ๆ เหมือนที่คน เขาเปนกัน; ยิ่งพืชพันธุธัญญาหารดวยแลว มันมีศีลธรรมตามธรรมชาติ เพราะ มันไมมีอะไรไปผลักดันปรุงแตง จึงเปนปกติอยูตามธรรมชาติ. อีก ทีห นึ่ง ถา มนุษ ยมีศีล ธรรม พืช พัน ธุธัญ ญาหารเหลา นี้
ก็อยูส บาย ไมคอยถูก เบียดเบีย น . เราจึงถือ วาปรากฏการณที่เปนผลทาง
www.buddhadassa.in.th
การกลับมาแหงศีลธรรม
๑๔
ศีลธรรมนั้น ปรากฏอยูที่สิ่งที่มีชีวิต นับตั้งแตพืชพันธุไม ขึ้นมาถึงสัตวเดรัจฉาน ขึ้นมาถึงมนุษย ขอที่ ๔. ศีลธรรมที่แสดงผลที่สภาพของจิต. ถาม : ทีนี้อีกสิ่งหนึ่งเปนสิ่งที่ 3 ขอถามวา ลองทายดูซิวา มันยังมีอยูที่อะไรอีก ที่น อกไปจากที่ก ลาวมาแลวนี้? มัน ยังมีอ ยูต รงไหนที่เหลือ อยูอีก ที่ให มีศีลธรรม เปนที่แสดงอาการของศีลธรรมอีก? ถาตอบไดก็วามาเร็วๆ. ตอบ
: ก็ ม าถึ ง ศี ล ธรรมที่ มี ใ นคนที่ ลึ ก เข า ไปข า งใน เข า ไปถึ ง จิ ต ใจ และ ความคิดเห็น หรือความปรกติของความคิดเห็นอีกที ข อ นี้ จ ะถื อ ว า เป น ข อ ที่ ๔. คื อ สภาพของจิ ต ที่ ป ระกอบอยู ด ว ย
สติ ปญญา ศรัทธา ทิฏฐิ เปนตน
www.buddhadasa.in.th ทิ ฏ ฐิ ค วามคิ ด ความเห็ น ความเข า ใจ www.buddhadasa.org เป น ส ัม ม าท ิฏ ฐิ ข อ นี้ ไ ม พู ด ถึ ง ตั ว ค น ไ ม พู ด ถึ ง ชี วิ ต ข อ ง ค น แ ล ะ ไ ม พู ด ถึ ง ส ภ า พ จิ ต ข อ งค น ทั่ ว ๆ ไป ต า ม ธ รรม ด า ส า มั ญ . แ ต จ ะ พู ด ถึ งส ภ า พ จิ ต ข อ งบุ ค ค ล ที่ ได อ บ รม ดี เป น พิ เศษในทางศี ล ธรรม; สติ ป ญ ญาของเขาก็ ถู ก ต อ ง คื อ สติ ป ญ ญาของเขา
ประกอบอยู ด ว ยศี ล ธรรม,
ของเขาก็
ไม ว ิป ล า ส นั ่น ค ือ ท ิฏ ฐิข อ งเข า ม ีศ ีล ธ รรม , ค วา ม เชื ่อ ข อ งเข า
ก็เ ชื ่อ ถูก ตอ ง ไมง ม งาย ไมอ ะไรตา ง ๆ, เรีย กวา ศรัท ธาของเขาก็ม ีศ ีล ธรรม . นี ่เ ปน ตัว อยา ง สติ ปญ ญา ศรัท ธา ทิฏ ฐิ ที ่ป ระกอบอยู ก ับ จิต ของบุค คล
ที ่อ บ รม ด ีแ ล ว นั ้น แ ห ล ะ เป น ต ัว ศ ีล ธ ร ร ม ที ่น า เลื ่อ ม ใส , เป น ศ ีล ธ รร ม ใน ความหมายที่ดีที่สุด คืออยูที่สภาพแหงจิตใจของคน.
www.buddhadassa.in.th
ศีลธรรมคืออะไร
๑๕
ถาทบทวนเฉพาะที่ ซึ่งแสดงลักษณะของศี ล ธรรมก็วา ๑. ศี ลธรรม อยูที่ วัตถุที่ไมมีชีวิต ทั่วๆ ไปก็ได; นี้ก็เปนธรรมดาธรรมชาติอยูมาก. ๒. ศีล ธรรมมีอ ยู ที ่ สิ ่ง ที ่ม ีช ีว ิต จะเปน คนเปน สัต วเ ปน ตน ไม อะไรก็ ต าม มั น ก็ ยั ง พอมองเห็ น ว า มั น มี ค วามปกติ ขึ้ น อยู กั บ การจั ด สรรของ มนุษยดวย. ๓. ศีล ธรรมที่ห าที่อื่นไมพ บ ไปดูที่อื่นไมเห็น ตอ งดูที่ ภาวะแหง จิต ของคนที ่อ บรมดีแ ลว เทา นั ้น : คน ๆ นี ้ม ีค วามสงบ ซึ ่ง เปน ผลของ ความถูกตองปรากฏอยูที่ สติ ปญญา ศรัทธา ทิฎฐิ เปนตนของเขา. ถาพูดภาษา ที่เราชอบพูดกันอีกที ก็วา ที่ดวง ”วิญญาณ” ของเขา. นี่เรียกวา ในแงของภาษา แลว สิ่งที่เรียกวา ศี ลธรรม ก็มี อ ยู หลายลักษณะ : ภาษาชาวบานก็ศีลธรรมอยางหนึ่ง, ภาษาศาสนาก็ศีลธรรม ก็มีความหมายอีกอยาง อยางหนึ่ง, เอาตามตัวภาษาบาลี คําวา สีลธมฺม หนึ่ ง ,แจกออกได เป น ๓ อย า ง. ถ า เป น ภาษาอื่ น ซึ่ ง มี อ ยู ก อ นพุ ท ธกาล ก็ มี หรือ ในพุท ธกาลก็ม ี; เขาใชคํ า อื ่น เราก็ไมรูภ าษาของเขา วา จะเปน รูป รา งตัว หนังสือหรือพยัญชนะวาอยางไร. ถาเอาตามพุทธศาสนาที่เปนภาษาบาลีแลว คําวา ศีลธรรมก็มีความหมายอยางนี้, มีคําแปลอยางนี้, มีคําอธิบายอยางนี้; แสดงผล ออกมาใหเปนที่สังเกตเห็นไดวา ศีลธรรมนั้นคืออยางนี้ ๆ.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ที นี ้ ก็ ม าถึ ง หมวดที่ ๒ ว า ด ว ย ศี ล ธรรมในแง ข อง
รูปแบบที่มันปรากฏอยูเปนรูปแบบตาง ๆ กัน.
www.buddhadassa.in.th
๑๖
การกลับมาแหงศีลธรรม
ในโลกนี้ ในเวลานี้ ก็ไ ดเ ห็น แลว วา มัน มีอ ยูห ลายรูป แบบ : ศีลธรรมที่อยูในรูปของปรัชญาก็มี, ศีลธรรมที่อยูในรูปของศาสนาก็มี,ศีลธรรมที่ อยู ใ นรู ป ของสั ง คมศาสตร คื อ วิ ช าสํา หรั บ สั ง คมโดยเฉพาะก็ ม ี , และ ในที่สุด ศีล ธรรมที่อ ยูใ นรูป ของกฎของธรรมชาติ เปน อํา นาจของธรรมชาติ เปนความศักดิ์สิทธิ์ของธรรมชาติ ซึ่งจะรวมเรียกกันวา กฎของธรรมชาติ ก็มี ; อย างน อ ยมั น มี อ ยู ใน ๔ รูป แบบ : คื อ รูป แบบของปรัช ญา รูป แบบของ
ศาสนา รูปแบบของสังคมศาสตร รูปแบบของกฎธรรมชาติ. ขอที่ ๑. ศีลธรรมในรูปแบบของปรัชญา ถาม : ที นี้ อยากจะถามว า ศี ล ธรรมที่ อ ยู ใ นรู ป ของปรั ช ญา ซึ่ ง เคย อธิบายมาหลายครั้งหลายหนแลวนั้นเปนอยางไร? ตอบ : ศีลธรรมในแงของปรัชญา ที่เขากลาวถึง มันเปนสิ่งดีสิ่งประเสริฐ ที่มนุษยควรจะไดรับในชีวิตนี้ เรียกวา Summum bonum, มันมีอยู ๔ ขอ แตไมไดบอกถึงวิธีปฏิบัติ เพื่อใหถึงขั้นสุดยอดของ ๔ อยางนี้ : ขอที่ ๑ คือความสุข, ขอที่ ๒ ก็คือการทํางานเพื่องาน, ขอที่ ๓ ก็ คือความเต็มความสมบูรณ, ขอที่ ๔ ก็คือ ความรักสากล; แตไมได พู ด ถึ ง วิ ธี ป ฏิ บั ติ เพื่ อ ให ไ ปสู จุ ด หมายปลายทางอั น นี้ ; เป น เพี ย ง ปรัชญาวาดวยสิ่งประเสริฐที่มนุษยควรจะไดรับในชีวิตนี้.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ถาม
:ใครจะวาอยางไรอีก ลองวามา ศีลธรรมที่อยูในรูปของปรัชญานั้นคือ อะไร?
ตอบ : เปนการถกเถียงและพูดคุย หาหนทางตาง ๆ ที่จะเขาสูเรื่องผลของ ศีลธรรม แตวาลงเอยกันไมไดสักที.
www.buddhadassa.in.th
ศีลธรรมคืออะไร
๑๗
ถาม : ใครอีก, ยังมีคําตอบวาอยางไรอีก ? คุณยกละ คุณทองละ นิ่งเสียเรื่อย. ถาอยางนั้ นก็จะสรุปความเรื่องนี้อีกครั้งหนึ่ ง ซึ่งก็ไม อยากจะโทษใคร วาทําไมจึงตอบไดนอยนัก; ไมโทษตัวเอง, และไมโทษผูฟง. จะพูด ใหช ัด ลงไปอีก ครั้ง หนึ ่ง ซึ ่ง ผู ศ ึก ษาควรจะจํ า ไวใ หแ มน ยํ า วา ศีลธรรม ที่อยูในรูปของปรัชญา นั้น เปนการบัญ ญัติของคนสมัยปจจุบัน ซึ่งเมาปรัชญา. คนสมัยโบราณไมไดเมาปรัชญามากมายเหมือนคนสมัยปจจุบัน; คือ ความคิด นึก , ลํ า พัง ความคิด นึก ที ่เดิน ไปตามอํ า นาจของเหตุผ ล สํ า หรับ คนที่ไมรูจริงเขาเอามาเถียงกัน. นี ้ต อ งพูด เลยไปถึง ขอ ที ่ว า ถา คนรู เ รื ่อ งอะไรจริง ก็ไ มม ีท างที ่จ ะ เถียงกัน, จะพูดกันรูเรื่องงาย รูเรื่องเร็ว เพราะวาเอาสิ่งที่มีอยูแลวจริง ๆ มา พูดกัน. ทีนี ้ค นที ่ย ัง ไมรู เ รื ่อ งนั ้น แตว า อยากจะพูด ก็จํ า ตอ งพูด ดว ยการยก หรือ การ อา งเหตุผ ล เลยเปน เพีย งปรัช ญาของศีล ธรรม; ไมใ ชต ัว ศีล ธรรม. ถา ตัว ของศีล ธรรมคือ ตัว การปฏิบัติล ะก็ ไมตอ งเถีย งกัน ; มีผ ลอะไรออกมา ก็ รูได เอง. ที นี้ เมื่ อ ไม มี การปฏิ บั ติ แต อ ยากจะพู ด ถึ งเรื่อ งสิ่ งนั้ น ๆ ก็ ต อ งพู ด โดย การอางเหตุผล.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ยกตัว อยา งเชน วา ดี คือ อะไร? ชั่ว คือ อะไร? เขาก็อ า งเหตุผ ล ที่จะบัญญั ติวา ดีคืออยางนั้น ชั่วคืออยางนี้ ไปตามประสาของคนที่ไมเคยรูจักชั่ว หรือ ไมเคยรูจัก ดีดว ยใจจริง . แมเขาทําชั่ว อยู เขาก็ไมรูสึก วาชั่ว, ทําดีก็ไมรูจัก , ก็ทําไปตามที่คิดวาดี มันกลายเปนชั่วเสียก็มี ก็เลยเกิดการถกเถียงกันขึ้นมา วา
www.buddhadassa.in.th
๑๘
การกลับมาแหงศีลธรรม
อะไรดี อะไรชั่ว อะไรอยางไร จึงจะเรียกวาดี, อยางไรจึงจะเรียกวาชั่ว. เหตุผล ที่ยกขึ้นมาอางเหลานี้ เรียกวาวิธีการณปรัชญาในแงของศีลธรรม. ศีลธรรมในแงของปรัชญาแลวก็จะมีการพูดกันอยางพร่ําเพรื่อ จนถึง กับ เพอ เจอ วา เราควรจะมีศีล ธรรมไหม? เราควรจะประพฤติศีล ธรรมไหม? พวกที่ไมอยากประพฤติศีลธรรมก็มีเหตุผลมากมายเปนภูเขาเลากา วาเราไมตอง ประพฤติศีล ธรรม; เราไมมีศีล ธรรม เราก็อ ยูไ ดใ นโลกนี้ ดว ยวิธีก ารอยา ง นั้นๆ ๆ. พวกที่ยึดถือศีลธรรมก็บอกวาไมได, เราตองมีศีลธรรม ตองทําอยาง นั้น ๆ; ในที่สุดก็เถียงกันอยางไมรูจักจบจักสิ้น. นี่เปนลักษณะอาการของสิ่งที่เรียกวา ปรัชญา. สรุปความสั้นๆ วา: ยกเอาเหตุผลเปนกระบิ ๆ มาฟดกัน มาทําลายลางเอาชนะกัน มันก็เคียงคู
กั น ไปเรื่ อ ยอย า งไม รูจั ก จบ ลงเองไม ไ ด . อย า งนี้ คื อ สิ่ ง ที่ เขาเรี ย กกั น ว า ปรัชญา. คนที่มีมันสมองวองไวยอมชอบ และรูสึกเปนสุขเมื่อไดเถียงกัน.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ศีล ธรรมที ่อ ยู ใ นรูป ของปรัช ญา ก็ค ือ คํ า ถามทั ้ง นั้น , มีแ ต
คําถามทั้งนั้น. สวนคําตอบมันไมยุติ เพราะตางคนตางตอบไปตามความพอใจ ของตน. ไปตรวจดูใ นสิ่ง ที่เรีย กวา ปรัช ญาของศีล ธรรม หรือ ศีล ธรรมในรูป ของปรัชญา จะมีแตคําถามทั้งนั้น . คําถามนั้น ก็คือ เหตุผลในทางตรรกะ ซึ่ง เปนอีกเรื่องหนึ่ง จะอธิบายก็ยืดยาว ไมตองอธิบายก็ได ; ถาเปนเหตุผลอยางที่ เด็ก ๆ มันถามกันเลน ก็เรียกวา ตรรกะ ทั้งนั้น.
ถา ปญ หาลึก ซึ ้ง ขึ ้น ไป ก็เปน ตรรกะที ่ล ึก ซึ ้ง ขึ ้น ไป; ถึง จะ คานก็คานดวยเหตุผลทางตรรกะ. เมื่อคนอีกฝายหนึ่งมีเหตุผลไมพอ หรือวานึก
www.buddhadassa.in.th
ศีลธรรมคืออะไร
๑๙
ไมอ อก นึก ไมทัน มัน ก็จ น; ถา นึก ออก ก็แ กอ อกไปเปน ตุเ ปน ตะ; คนหนึ่ง ก็ถามอีก ก็ไลกันไปอีก. เดี ๋ ย ว นี ้ ศ ี ล ธ ร ร ม ม า อ ยู ใ น รู ป ต ร ร ก ะ กั น เสี ย ห ม ด มี ไ ว สํา หรับ ซัก สํา หรับ ถาม สํา หรับ เปน ปรัช ญากัน เสีย หมด; โลกนี้ก็เ ลยไมมี ศีล ธรรม ที ่เปน ตัว แท หรือ เปน ตัว จริง มีแ ตศ ีล ธรรมพูด ศีล ธรรมเถีย งกัน กระทั่ งเป น ศี ล ธรรมแก ตั ว; ในเมื่ อ จะรัก ษาประโยชน ข องตน ๆ ก็ มี ขอ แก ตั ว ; ระหวางบุคคลก็เปนอยางนี้, ระหวางประเทศตอประเทศก็เปนอยางนี้. ฉะนั้น ศี ล ธรรมในรู ป แบบของปรั ช ญาจึ ง มี แ ต คํา พู ด หรื อ การบั ญ ญั ติ ให เ ป น ที่ น า สนใจ จนกระทั่งไมมีใครพู ดไดดีกวา และคํามันก็คางเติ่งอยูที่นั่น; ไม แสดงถึงการปฏิบัติ เพราะวามันเปนปรัชญา. ขอที่ ๒. ศีลธรรมในรูปแบบของศาสนา.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ศี ล ธ ร ร ม ที ่ อ ยู ใ น รู ป ข อ ง ศ า ส น า ที่ เ อาข อ นี้ ม าพู ด ความ ประสงคนี้ก็เพื่อจะ ใหเขาใจคําวา ศาสนา ดีขึ้น. ฉะนั้น ขอใหพินิจพิจารณา กันใหมากเปนพิเศษสักหนอย; เพราะวาคําวาศาสนานั้น มัวเต็มที สลัวเต็มที พราเต็มที มากแงมากมุมจนไมรูวาจะไปลงกันที่ตรงไหน วาศาสนานั้นคืออะไร?
ถาม
: ฉะนั้น อยากจะถามวา ศีลธรรมที่อยูในรูปแบบของศาสนา นั้นคืออะไร? ขอใหตอบมากอน.
ตอบ : ศีลธรรมในรูปแบบศาสนา ก็เปนทางปฏิบัติสายกลาง มัชฌิมาปฏิปทา เพื ่อ ไปสูค วามหมดทุก ข, คือ ไปสูค วามปกติขั้น สุด ทา ย, เปน เรื่อ ง ของการปฏิบัติเพื่อการหลุดพน, นี่เปนศีลธรรมในแงของทางศาสนา.
www.buddhadassa.in.th
๒๐
การกลับมาแหงศีลธรรม
ถาม : มีอะไรอีก ใครมีอะไรอีกวาไป? ศีลธรรมที่อยูในรูปแบบของศาสนา มันตางจากศีลธรรมที่อยูในรูปแบบของปรัชญาอยางไร? คิดอยางนั้น กอนก็ได แลวก็จะมองเห็นเอง. คนที่ ๑ ตอบ : เปนการปฏิบัติตามผูสืบทอดศาสนา ตามคําสอนของผูสืบทอด ศาสนา. คนที่ ๒ ตอบ : ศีลธรรมในแงของศาสนา หมายถึงการปฏิบัติ เพื่อยังใหสังคม นั้นและผูนั้น ถึงซึ่งความเปนปรกติ. ถาม
: เอา วามาอีก ใครมีอะไรวามาอีก. ถาไมมีใครตอบก็จะถาม, คําถาม ที่จะถามตอไป วา พุทธศาสนาของเรานี่เปนปรัชญาหรือเปลา?
ตอบ : พุทธศาสนา มิใชปรัชญาครับ เพราะมันอยูเหนือเหตุผล พุทธศาสนา เกี่ ย วกั บ ความรู สึ ก ที่ เกิ ด ขึ้ น ในตั ว ผู ป ฏิ บั ติ มั น อยู เหนื อ เหตุ ผ ลก็ มิ ใ ช ปรัชญา.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ถาม : ถาอยางนั้น สิ่งที่เขาเรียกกันวา พุทธปรัชญานั้นคืออะไร?
ตอบ : พุทธปรัชญา หมายถึง ปญ ญา หรือความรูที่พ ระพุ ทธเจาไดบัญ ญั ติไว; ปรัชญาตัวนี้ คงจะแปลวา ปญญา. ถาม : มั น ก็ เ ป น เรื่ อ งเพ อ เจ อ ไม มี ก ารปฏิ บั ติ ไม มี จุ ด จบ หรื อ อย า งไร? พุทธปรัชญาเปนอยางไร ?
www.buddhadassa.in.th
ศีลธรรมคืออะไร
๒๑
ตอบ : ไมไดเปนไปในเชิงเพอเจอ คือวาเปนแนวทางเพื่อการปฏิบัติ หาก แตวาผูประพฤติ หรือผูศึกษานั้นเพอเจอไปเอง ในทางปรัชญาอยาง เดียว ไมไดปฏิบัติ. ถาม : คือเราจะเอาพุทธศาสนา มาพูดใหเพอเจอไปเปนปรัชญาไดหรือไม? ไดหรือไม? ตอบ : ไดครับ. ถาม : นี่ใหสังเกตดูใหดีวา เราเอาพุทธศาสนามาพูดใหเปนปรัชญาเพอเจอก็ ได เพราะฉะนั้น พุทธศาสนา กับพุทธปรัชญา ตองตางกันใชไหม? ตอบ : ใชครับ.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ถาม : ตางที่ตรงไหน? ตอบ
: พุท ธศาสนาหมายถึง ขบวนการ วิธีการปฏิบัติ; สว นพุทธปรัช ญา นั้ น หมายถึ ง ปริยั ติ คื อ การพู ด การเรีย น การศึ ก ษากั น ไม ได เน น หนัก ไปในทางปฏิบ ัต ิ. พุท ธศาสนาตอ งหมายถึง ตัว การปฏิบ ัต ิเพื ่อ การหลุดพนอยางพุทธศาสนา; ใชคําวา มีวิมุตติเปนแกนสาร.
ถาม : อยากจะถามวา ปริยัตินั้นมีจุดจบไหม? ตอบ : ปริ ยั ติ ใ นทางพระพุ ท ธศาสนา เอาแต แ ค ว า เพื่ อ วิ ช าที่ เกี่ ย วกั บ การ ปฏิบัติใหพนทุกข คืออริยสัจจ เทานั้นแหละครับ.
www.buddhadassa.in.th
๒๒
การกลับมาแหงศีลธรรม
ถาม : ถาปริยัติมีจุดจบ ปรัชญาไมมีจุดจบ แลวจะเอาปริยัติไปเปนปรัชญาได อยางไร? ตอบ : อันนี้ผมไดเรียนไวแลววา หากแตวาผูศึกษานั้นเพอเจอไปเองครับ. ถาม : หากแตวาผูศึกษาไดเอาปริยัติไปทําใหเพอเจอดังนั้นแลว ปริยัติสวนที่ เพอเจอนั้นจะเปนปริยัติของใคร? ตอบ : เปนเรื่องของคนนึกคิดนั่นเอง ครับ. นั่น แหละ มัน ตองไมใชของพุท ธศาสนา; ปริยัติตองเปน อุป กรณ หรือตองเปนบุพภาคของปฏิบัติ แยกกันไมได เพราะวาการที่เราจะปฏิบัติอะไร ลงไป ตองเปนความรูที่ถูกตอง สําหรับปฏิบัติ. ความรูที่เปนหลักถูกตอ งนั้น มันชวยใหปฏิบัติถูกตอง; ฉะนั้น จึงตองเอาความรู หรือปริยัตินี้มาอยูในฝาย ปฏิบัติ อยาเอาไปใหฝายปรัชญา; เวนแตจะถามวา คําอธิบายหรือ คําพูด ที่ เกี่ยวกับพุทธศาสนาอยางเพอเจอนั้น ก็มีอยู ก็ยกไปใหเปนเรื่องของปรัชญา เขาก็ อาจจะพูดไปดวยเจตนาดี เจตนาที่อยากรูอยางยิ่ง แตมันเปนไปในรูปของปรัชญา; เพราะวาเขาไมรูจักจุดตั้งตน หรือวาจุดจบของสิ่งที่มนุษยควรจะปรารถนา; บุคคล ประเภทนี้ ก็จะพูดใหเพอเจอเปนปรัชญาเรื่อยไป.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org นี ่ก ็พ อจะมองเห็น ไดแ ลว วา ถา เปน ปรัช ญา ก็พ ูด ไปดว ยการ คํ า นึง คํ า นวณ เพราะไมม ีก ารปฏิบ ัต ิ. ถา เปน ศาสนาในความหมายนี ้, ความหมายแห ง ศาสนาที ่ ถู ก ต อ งนี ้ เขาหมายถึ ง การปฏิ บ ั ต ิ ทั ้ ง นั ้ น ;
www.buddhadassa.in.th
ศีลธรรมคืออะไร
๒๓
เพราะวา พระศาสดาของศาสนาไหนก็ตาม จะระบุออกมาเปนการปฏิบัติทั้งนั้น; แล วไม ต องเถี ยงกั น วาทํ าไมจึงต อ งปฏิ บั ติ อ ย างนั้ น , จะถูก หรือ จะผิ ด อย างไร. เพราะวาในรูปแบบของศาสนา ไดวางกฎเกณฑไวอยางนี้ วาพระศาสดาจะบอกระบุ ใหปฏิบัติ. ทีนี ้ มัน จะผิด หรือ จะถูก นั ้น ก็ล องปฏิบ ัต ิซ ิ มัน จะบอกวา ผิด หรือถูกเอง, โดยอาศั ยหลักที่ วา เป น สนฺทิ ฏ ิโก ปจฺจตฺตํ เวทิต พฺ โพ วิฺู หิ เปน ตน . พอปฏิบ ัต ิล งไปแลว มัน จะแสดงออกเองวา ถูก หรือ ไมถูก ; โดย ถื อ เป น หลั ก ว า ถ า มี ผ ลดั บ ทุ ก ข ได เป น ความสุ ข , เห็ น ขึ้ น มาอย า งนี้ แ ล ว ก็
เรียกวา ถูก. ฉะนั้น วิถีทางของศาสนาจึงไมตองอาศัยปรัชญา ซึ่งจะถามเสียตั้งแต แรกแลวอยางไมมีจุดจบ วาทําไปจึงตอ งปฏิบัติอ ยางนั้น , พอบอกแลว ก็ถาม อีกวาทําไมตองเปนอยางนั้น อีก, ทําไมตองเปนอยางนั้น อีก.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ถา เปน ศาสนาจริง ทุก ศาสดาจะไมส อนในรูป ของปรัช ญา,
แต จ ะสอนในรูป ของศาสนา. เท าที่ ท ราบและใช กั น อยู เดี๋ ย วนี้ ศาสนา นั้ น เขา เรีย กกั น ว า religion; พอไปเรี ย กเป น ภาษาฝรั่งเข า ก็ ทํ า ความลํ า บาก เพราะ religion อื่นๆ เขามีพระเจา ซึ่งฝากไวกับความเชื่อ เกินไป. สวนพุทธศาสนานี้ ไมตองมีพระเจาชนิดที่ฝากไวกับความเชื่อ; แตมีการปฏิบัติลงไปจริง ๆ , ไดผล เกิดขึ้นมาจริง ๆ , พิสูจนอยูดวยผลที่เกิดขึ้นมาจริง ๆ, นี่เปนรูปแบบของศาสนา พวกนี้รวมทั้งพุทธศาสนาดวย.
www.buddhadassa.in.th
๒๔
การกลับมาแหงศีลธรรม
ศาสนาที่เกี่ยวกับความเชื่อ ก็เปนศาสนา, ศาสนาที่เกี่ยว กั บ การปฏิ บั ติ ใ ห เห็ น ผลของการปฏิ บั ติ อ ยู ใ นตั ว การปฏิ บั ติ นี้ ก็ เป น ศาสนา. เราอยาเหมาใหศาสนาเปนปรัชญา ; แ ม ศ า ส น า นั ้น จ ะ มี รากฐานอยูที่ค วามเชื่อ . ความเชื่อ มีกัน ไดแ ตใ นแบบของศาสนา จะไมมี ในแบบของปรัชญา; เพราะปรัชญาไมตองเชื่อ และปรัชญาก็ฝากไวกับเหตุผล เรื่อยไป ไมตองเชื่อ ไมตองปลงความเชื่อ. ถาปลงความเชื่อ ก็เชื่ออยูที่เหตุผล ไมไดเชื่ออยูที่ผลของการปฏิบัติที่ปรากฏแกจิตใจ; โดยเหตุนี้เราจะแยกศาสนา ออกจากปรัชญา. แตข อใหเ ขา ใจวา คํา วา “ศาสนา” คํา นี้ หมายถึง ระบบเชน นี้
ซึ่ ง ไม กิ น ความลงไปถึ ง ศาสนาที่ เป น เรื่อ งงมงายก็ มี , หรื อ เอาไปทํ า เป น ปรัช ญาเสีย แลว ก็ม ี. ถา ทํ า อยา งนั ้น แลว จะแยกกัน ไมอ อก; เพราะวา
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ศาสนาที่พูดอยางปรัชญา อยางเพอเจอก็มี. เขาจะเอาพุทธศาสนาไปพูดใหเปน ปรัชญา ก็ทําไดอยางยิ่ง เพราะมีแงมุม ใหพูดใหทําไดอยางยิ่งมากมายเสียอีก; นั้นก็เปนปรัชญาไป ไมเปนพุทธศาสนา ทั้งที่วาเอาหลักของพุทธศาสนาไปพูด ในรูป ของปรัช ญา. พระศาสดาไมไ ดท รงมุง หมายจะใหพูด กัน ไป หรือ เชื่อ กันไป ปฏิบัติกันไป ในลักษณะของปรัชญา.
อย า งที่ มี ก ล าวไว ใน กาลามสู ต ร ว า มา ตกฺ ก เหตุ , มานยเหตุ เปน ตน ; แปลวา อยา เชื่อ ถือ เอาโดยเหตุผ ลทางตรรกะ, อยา เชื่อ ถือ เอาดว ย เหตุผลทางนัยะ คือปรัชญา อยางที่วา. ฉะนั้น พุทธศาสนาจึงไมใชตรรกะ, ไมใช
www.buddhadassa.in.th
๒๖
การกลับมาแหงศีลธรรม
ถาม : เดี๋ยวนี้อยากจะสอบถามความเขาใจ หรือความสังเกต วาตามความรูสึก หรือ ความสังเกตของท านทั้ งหลายนี้ ศี ลธรรมที่ อ ยูในรูป ของสั งคมศาสตร นั้นคืออยางไร? ตอบ : อยูในรูปของระเบียบ ประเพณี วัฒนธรรม ของสังคม แลวก็กฎ บัญญัติของสังคม เชน กฎหมาย. ถาม : เอา ใครอีก? ตอบ : ศีลธรรมในแงของสังคมศาสตร ก็ ใชหลักดั้งเดิมมาวา อยูรวมกัน ชวยเหลือกัน ไมเบียดเบียนซึ่งกันและกัน. คงจะใชหลักเพียงเทานี้. ถาม : เอา ใครอีก?
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ถาไมมีใครตอบก็อยากจะแสดงความคิดเห็นใหฟง เพื่อจะใหเห็นชัด วา สิ่ง ที่เ ราเรีย กวา สัง คมศาสตร นี้ก็แ ยกตัว ออกมาจากศาสนา อยูใ น รูปแบบอันหนึ่ง ซึ่งเปนสิ่งที่จําเปนแกสังคม จึงเรียกวา สังคมศาสตร.
อยากจะพูดเอาเอง แตก็ยืนยันวาถูก หรือคนอื่นอาจจะไมเห็นดวย วา คําวา “ศาสตร”, ศาสตร ที่เราใชกันอยูในภาษาพูดจานี่ มันคือคําวา ศาสตรา; วิทยาศาสตร ภูมิศาสตร ประวัติศาสตร อะไรศาสตรก็ตาม คําวา ศาสตร นั้น แยกตัว มาจากคํา วา ศาสตรา (ของมีค ม) ซึ่ง มนุษ ยรูจัก กอ นวิช าความรู; พอทีหลังมารูจักวิชาความรู; ก็เอา, นี่ก็เปนศาสตราเหมือนกัน - ศาสตราทางจิต
www.buddhadassa.in.th
ศีลธรรมคืออะไร
๒๗
ทางวิญญาณ; ก็เลยเอาคําวา ศาสตรา ของมีคมตามธรรมดา มาใชเปนชื่อของ วิชาความรู จึงเรียกวา วิทยาศาสตรบาง สังคมศาสตรบาง อะไรศาสตรบาง.
สั ง คมศาสตร ก็ คื อ ศาสตราที่ สั ง คมจะต อ งใช ในฐานะเป น ศาสตราคือ อาวุธ ที ่ม ีค ม สํ า หรับ ตัด ปญ หาของมนุษ ยนั ้น ๆ; ฉะนั ้น สัง คมศาสตร จึง มีม ากมายนับ แขนงไมถว น. แขนงสํา คัญ ๆ ที่ส นใจกัน อยู มีไมนอยกวา ๑๕ แขนง คือทุกแขนงที่มนุษยจะตองรู รวมทั้งศาสนา รวมทั้ง ปรัชญา รวมทั้งประวัติศาสตร อะไรดวยทั้งหมดเลย ที่สังคมจะตองรู และมี ประโยชน.
ทีนี้ ศีล ธรรมในฐานะที่เ ปน สัง คมศาสตร ก็ห มายความวา สิ่งที่จ ะตัด ปญ หาของสังคมไดต ามหนาที่ หรือ ตามวัต ถุประสงคของสิ่งนี้. เชนสังคมไมมีความสงบ เกิดเปนปญหาขึ้นมาวา สังคมไมสงบ ก็มีศาสตรอันหนึ่ง ที่จะชวยตัดปญหาอันนี้; เพราะฉะนั้นจึงเรียกวา สังคมศาสตรที่เปนศีลธรรม, หรือ วา ศีล ธรรมที่เ ปน สัง คมศาสตร. สว นเรื่อ งเศรษฐกิจ เรื่อ งการเมือ ง ก็เปนสังคมศาสตร สําหรับแกปญหาอยางอื่น ตามความมุงหมายนั้น ๆ.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ศีล ธรรมซึ ่ง เปน สัง คมศาสตร ก็จ ะมุ ง หมายแกป ญ หาตาม ความหมายของคําวา “ศีล ธรรม” นั่น เอง ; ฉะนั้น ศีล ธรรมเทา ที่จํา เปน
แกสังคม นั่น คื อสังคมศาสตร หรือ ศีล ธรรมที่อ ยูในรูปของสังคมศาสตร. นั ก สังคมศาสตรไมตองการใหประชาชนเรียนศีลธรรม มากไปกวาที่จําเปนแกสังคม; ถาเรียนมากกวานั้น มันก็กลายเปนเรื่องศาสนา สูงขึ้นไปกวาศีลธรรม.
www.buddhadassa.in.th
๒๘
การกลับมาแหงศีลธรรม
นี ้คํ า พูด เกิด แตกแยกกัน ขึ ้น มาแลว และก็กํ า กวม; เราอยากจะ พู ด ว า ทั ้ ง ห ม ด เป น ศี ล ธรรม ; แต ถ า ศี ล ธรรม ที ่ เ ป น สั ง คม ศาสตร นั ้ น จะเหลืออยูเพียงแตที่จําเปนแกสังคม จะเปนบทบัญญัติทางศาสนาโดยตรง หรือ โดยออมก็ได เทาที่สังคมจะตองมีจะตองรู, จะตองรูและจะตองมี, จะตองปฏิบัติ. นี้ เรียกวาศีลธรรมที่อยูในรูปแบบของสังคมศาสตร. เราไปเป ด ดู ห นั ง สื อ พวก social science ที่ มี อ ยู ม ากมาย หลายๆ ชนิ ด ; จะพบคํ า ว า ศี ล ธรรม นี้ อ ยู ด ว ยคํ า หนึ่ ง ในฐานะเป น ศาสตรอั น ดั บ หนึ่ ง ของสัง คม ก็ม องเห็น ไดไ มย าก. มองเห็น ไดว า ศีล ธรรมที ่ม าอยู ใ นรูป แบบ
ของสัง คมศาสตรนั ้น ก็ค ือ ศีล ธรรมเทา ที ่ส ัง คมตอ งการ, ควรจะตอ งการ, หรือ จํ าเป น ที่ จะต อ งการ, หรือ เท าที่ เป น ที่ ย อมรับ กั น ทั่ วไปก็ ได , แต นั่ น มั น จํากั ด อยูสําหรับทุกคนที่ลงความเห็นตรงกัน.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ถาเกิดความเห็นไมตรงกัน คนหนึ่งก็อาจจะแยกออกมาใหมากกวานั้น ก็ได ลึ กไปกวานั้ น ก็ได อยาเอาเป น ประมาณเลย; เอาเป น ประมาณแต เพี ยงวา นักสังคมศาสตร เขาไดบัญญัติลงมติวาเทาไร จะถือวาเปนสังคมศาสตร.
แต แ ล ว ในที่ สุ ด เอาแน น อนไม ไ ด เพราะมั น หลายคน หลายพวก หลายความคิด หลายความเห็น แลวก็ยึดหลักศาสนาตาง ๆ กัน ศาสนาโนนบาง ศาสนานี้บาง ซึ่งไมคอยจะเขากันทีเดียว เลยบัญญัติเหมือนกับตวง หรือวัดเอาดวย เครื ่อ งวัด เครื ่อ งตวง; อยา งนี ้ม ัน ไมไ ด; ไดแ ตป ระเมิน เอาวา สัง คมตอ งการ เท า นี้ ก็ พ อ, เท า นี้ ก็ พ อ และเมื่ อ เป น เรื่อ งของสั งคมแล ว มั น ก็ เปลี่ ย นไปตามยุ ค ตามสมั ย ซึ่ ง สั ง คมมั น เปลี่ ย นแปลง. ศี ล ธรรมที่ อ ยู ใ นรู ป สั ง คมศาสตร ก็ ต อ ง
www.buddhadassa.in.th
ศีลธรรมคืออะไร
๒๙
เปลี่ยนแปลงไปตามรูปแบบของสังคมที่มันเปลี่ยนแปลง มันจึงไมเหมือนกับที่อยู ในรูป ของศาสนา, หรือ ไม เหมื อ นกั บ แม ที่ อ ยู ในรูป ของปรัช ญาซึ่ งมั น เฟ อ หรือ มันเพอไปตามความคิด. ขอที่ ๔. ศีลธรรมที่อยูในรูปของกฎธรรมชาติ. คํ า พูด นี ้อ าจจะหาไมพ บในตํ า ราศีล ธรรมก็ไ ด เพราะวา เขาไมม อง กัน ถึง ขนาดนี ้; แตถ า เราเปน พุท ธบริษ ัท ศึก ษามาตามวิธ ีข องพุท ธบริษ ัท ก็ จ ะไปพบกฎของธรรมชาติ อ ั น ลึ ก ซึ ้ ง ; เช น กฎอิ ท ั ป ป จ จยตา เป น ต น . เราก็มองเห็น วา มัน เกี่ยวกัน กับ สิ่งที่ เรียกวา “ศีลธรรมของมนุษ ย” เราก็เลยรูวา อํานาจสูงสุดของกฎธรรมชาติ นี้บังคับใหมนุษยตองมีศีลธรรม. ถาม : อยากจะถามเพื่อตองการซอมความเขาใจ สักนิด วา ศีลธรรมที่อยูในรูป แบบของกฎธรรมชาติ อั น ตายตั ว นั้ น มี ค วามหมายว า อย า งไร? หรื อ หมายความวาอยางไร?
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ตอบ : ศี ล ธรรมในรู ป แบบของกฎธรรมชาติ มั น เป น กฎตายตั ว ที่ ไ ม เปลี ่ย นแปลง; ซึ ่ง หมายความ วา ธรรมชาติทั ้ง หมด และมนุษ ย ในโลกนี ้ห รือ อะไรก็ต าม จะตอ งทํ า ไมทํ า ไมไ ด แลว ก็ทํ า เพื ่อ ปรกติ ไปสู ค วามสงบ หรือ ความหยุด ทั ้ง นั ้น ครับ . เปน กฎตายตัว เปน ตน วาต อ งกิ น ถ าไม กิ น แล วจะหิ ว กระวนกระวายอยู เรื่อ ย; กิ น แล วปรกติ แล ว ธรรมชาติ มั น วางกฎไว ใ นพวกสั ต ว ชั้ น ต่ํ า เห็ น ได ชั ด มั น ทํ า
www.buddhadassa.in.th
การกลับมาแหงศีลธรรม
๓๐
กระเพาะไวเ ทา นั ้น กิน เทา นั ้น แลว ก็พ อ แลว ก็จ บกัน นี ่เ ปน กฎ อยางหนึ่งของธรรมชาติ. ถาม
: นั่นเปนศีลธรรมสวนตัวสัตวหนึ่ง ๆ หรือบุคลหนึ่ง ๆ ใครวาอยางไร อีก? ใครมี ค วามเห็ น มี ค วามเขาใจวาอยางไรอีก ศี ลธรรมที่ เป น กฎ ธรรมชาติ มีความหมายวาอยางไร?
ตอบ
: เปนความปกติ เปนความหยุด; ถาหากวาไมปกติ มันเปนอยูไมได ตามธรรมชาติ.
ถาม
: เอา อะไรอีก? ไมมีใครวาอีก!
ถาอยางนั้น ก็จะพูดเสียเลย วาที่กลาวมานั้น ถูกตองแลว แตมัน หมดหรื อ ไม ห มด ก็ พ ิ จ ารณาดู เ อง. ศี ล ธรรมที ่ อ ยู ใ นรู ป แห ง กฎของ ธรรมชาติ นี้มันลึกลงไปอีก และมันเขมแข็ง เฉียบขาด ยิ่งขึ้นไปอีก. ถาเรา จะพูด ใหฟงงาย เราก็พูด วา ธรรมชาติบังคับ ไวเด็ดขาดตายตัว วามนุษ ย หรือสัตวก็ตามจะตองทําอยางนั้น ๆ ใหถูกตามกฎของธรรมชาติ มิฉะนั้น แกจะตองตาย หรือไมถึงกับตาย ก็เกือบตาย หรือวา หาความสงบสุขมิได.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ลองสังเกตดูเอาเอง ไมตองเชื่อใครก็ไดวา เราจะตองทําอยางไรบาง ในรูปแบบที่เขาถือกันวาเปนศีลธรรม ถาเราไมทําแลวอะไรจะเกิดขึ้น ตัวอยาง ที่ยกมาเมื่อตะกี้นั้นมันก็ถูกแลว แตมันถูกนิดเดียว เชนวา เราตองกิน ธรรมชาติ บัญญัติไววาตองกิน ไมกินมันก็ตาย นี้ก็เปนศีลธรรมไดเหมือนกัน แตคอนขาง หยาบ.
www.buddhadassa.in.th
ศีลธรรมคืออะไร
๓๑
เราควรจะถามต่ํ าไปอี ก ว ากิ น อย างไรมั น จึ งจะไม มี โทษ? กิ น อย างไร มัน จะมีป ระโยชนถ ึง ที ่ส ุด ? หรือ กิน อยา งไรจึง จะนิพ พาน? อยา งนี ้เ ปน ตน . นี ่เ รื ่อ งกิน . แมเ รื ่อ งอาบ เรื ่อ งถา ย เรื ่อ งอะไรตา ง ๆ อีก สาระพัด อยา ง มัน ก็ อยา งเดีย วกัน อีก ; แตนี ้ม ัน เปน เพีย งเรื ่อ งสว นบุค คล. เมื ่อ มัน เปน เรื ่อ งของ สัง คม มัน ก็ต อ งมีว า สัง คมจะตอ งทํ า อยา งไรจึง จะไมว ิน าศ? สัง คมจะตอ ง ทํ า อยา งไรจึง จะสงบสุข หรือ เจริญ กา วหนา ? เพราะมนุษ ยจ ะวา เอาเองไมไ ด วาฉันตองการอยางนี้ ฉันตองการอยางนั้น, จะวาเอาเองอยางนั้นไมได. มนุษยตองทําใหถูกตามกฎของธรรมชาติ แลวมนุษยก็จะไดอยางนั้น ๆ ตามความประสงค ในสว นบุค คลก็ด ี ในสว นสัง คมทั ้ง หมดก็ด ี. ถา เราเรีย นรู เรื่อ ง กฎอิท ัป ปจ จยตา มาอยา งแจม แจง แลว ก็จ ะเขา ใจไดท ัน ทีว า ทุก อยา ง มัน อยู ใ ตอํ า นาจของกฎอิท ัป ปจ จยตา. กฎนี ้เ หมือ นกับ พระเจา ทีเ ดีย ว ตอ งการอะไรก็ไ ด : ตอ งการฉิบ หายก็ไ ด, ตอ งการเจริญ ก็ได, ตอ งการอยา งนั ้น ก็ไ ด, ตอ งการอยา งนี ้ก ็ไ ด. มัน เปน กฎที ่ม ีอ ยู สํ า หรับ ใชแ กท ุก สิ ่ง ไมย กเวน อะไร เมื่อตองการอยางนี้ ก็ตองทําวิธีนี้, เมื่อตองการอยางนั้นก็ตองทําตามวิธีนั้น เมื ่อ ตอ งการอยา งโนน ก็ทํ า ตามวิธ ีโนน ; ถูก ตอ งตามกฎของอิท ัป ปจ จยตาแลว ผลก็ยอมจะออกมาตามที่ตองการ.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ที นี้ เมื่ อ เราพู ด กั น ถึ งเรื่อ ง ศี ล ธรรม คื อ ความสงบ ความปรกติ วา ของอะไร? ก็ว า ของสัง คม: ฉะนั ้น สัง คมก็ต อ งปฏิบ ัต ิใ หถ ูก ตามกฎของ ธรรมชาติ. ถา มามัว เถีย งกัน อยู ใ นรูป ปรัช ญามัน ก็ไ มเ กิด ขึ ้น เปน ความสงบ; แตถาเรามาปฏิบัติลงไปตามหลักเกณฑ ของศาสนาซึ่งทําไวดีแลวจัดสรรไวดีแลว ไม ต อ งคิ ด นึ ก อะไรอี ก ก็ ไ ด ทํ า ตามนั้ น ไปเถอะ แล ว มั น ก็ จ ะแสดงให เ ห็ น ว า
www.buddhadassa.in.th
การกลับมาแหงศีลธรรม
๓๒
ถูกตอง ไดผล. นี้เปนอันวากฎธรรมชาตินี้มันก็ครอบงํามาถึงศาสนา, หลักเกณฑ ของศาสนา หรื อ การบั ญ ญั ติ ไว ในรู ป แบบของศาสนา, หรือ ครอบงํ า มาถึ ง การ ประพฤติกระทําของสังคม. ถา รูเ รื ่อ งนี ้, รู เ รื ่อ งศีล ธรรมในรูแ บบของกฎของธรรมชาติ ก็ก ลา วไดว า รู เ รื ่อ งศีล ธรรมอยา งลึก ซึ ้ง ที ่ส ุด ; มัน ไมจํ า เปน สํ า หรับ คน ทั ่ ว ไปก็ ไ ด ; แต ถ า ยิ ่ ง รู ม ั น ก็ ยิ ่ ง ดี แ น . เป น หน า ที ่ ข องพระศาสดาทั ้ ง หลายที่ จะเอากฎของธรรมชาติ ม ากล าวไวเป น รูป แบบของศี ล ธรรม ในศาสนาของท า น แตละศาสนา ๆ ไป; เดี๋ยวนี้เรามองขางพระศาสดาเหลานั้นไปยังกฎธรรมชาติ เรา ก็ม องเห็น ศีล ธรรมอัน ลึก ซึ ้ง ที ่อ ยู ใ นรูป แบบของกฎธรรมชาติ; ซึ ่ง พระศาสดา จะบั ญ ญั ติ หรือ ไม บั ญ ญั ติ เราก็ ต อ งทํ า, พระศาสดาจะเกิ ด ขึ้น หรือ มิ ได เกิ ด ขึ้ น ในโลกก็ตาม เราก็ตองทํา; เราตองปฏิบัติใหถูกตองตามกฎเกณฑของศีลธรรม.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org รูป แบบของกฎของธรรมชาติ กฎเกณฑ ข องศี ล ธรรมซึ่ งเป น ไปตามกฎของธรรมชาติ นี้ มั น ปรากฏ อยู ก อ นแล ว ตั้ ง แต ก อ นพระศาสดาองค ใดองค ห นึ่ ง จะเกิ ด ขึ้ น มาโดยสมบู ร ณ ; พระศาสดาคอยคนพบขึ้นมาทีละนิด ๆ จนรูมาก จนไดรับสมมติวา เปนพระศาสดา เลย. ฉะนั ้น ขอใหน ึก ถึง และกลัว เกรงใหม ากที ่ส ุด ตอ ศีล ธรรม ที ่อ ยู ใ น
วา มัน จะมีไ ปในที ่ท ุก หนทุก แหง อยา ง
ตลอดกาล เปนนิรันดรทีเดียว. นี่ เราได ท ดสอบความเข า ใจ เกี่ ย วกั บ สิ่ ง ที่ เรีย กว า ศี ล ธรรม คื อ อะไร มาไดเพียง ๒ หมวด ก็พอดีกับเวลา.
www.buddhadassa.in.th
ศีลธรรมคืออะไร
๓๓
ขอสรุปความวา ศีลธรรมคืออะไร นั้น เราดูในรูปแบบของภาษาก็ได, จะดู ในรู ป แบบของรู ป แบบเองก็ ได ; ดู ใ นแง ข องภาษาก็ ได ดู ใ นแง ข องรู ป แบบ แหงศีลธรรมนั้น ๆ ก็ได. การดูในรูปแบบของภาษา ก็คือดูโดยภาษาชาวบานทั่วไปนี้อยางหนึ่ง, โดยภาษาศาสนาที่บัญญั ติไวเฉพาะศาสนา ซึ่งมันไมตรงกันทุกศาสนาก็ยังได, นี้ก็ อยางหนึ่ง. ทีนี ้ พวกเราพุท ธบริษ ัท ดูใ นรูป แบบของภาษาบาลี; ภาษา บาลีก ็จ ะมีอ ยา งที ่วา คือ สีล ะ - ปรกติ, ธัม มะ - สิ ่ง หมายถึง ภาวะ ก็ไ ด เหตุ ก็ไ ด ผล ก็ไ ด; เราจึง ไดค วามหมายของคํ า วา “ศีล ธรรม” จากตัว บาลี; จากคํ า บาลีวา สีลธมฺม นั้ นเปนสามรูปแบบ. และการดูที่ ผล ของมั นนั้น ดูไดที่ วัตถุ ที่ มี ชีวิตก็ได ที่ไม มีชีวิตก็ได และที่ ภาวะ แห ง จิตใจของมนุ ษ ย หรือ ตัวสติ ปญ ญา ความคิดความเห็นของมนุษยก็ได. นี่ในแงของภาษา. ศีลธรรม เปนอยางนี้.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ที นี้ ในแง ข องรู ป แบบที่ ม นุ ษ ย ไ ด เกี่ ย วข อ งกั บ ศี ล ธรรมอยู แ ล ว ใน ปจ จุบัน นี้, ไดเกี่ย วขอ งกัน ในรูป แบบของปรัช ญา คือ การถกเถีย งที่เพอ เจอ ก็ม ี, ในรูปแบบของศาสนา ไมพูดอะไรมาก ตั้งหนาตั้งตาปฏิบัติตามคําสอนของพระศาสดาแหง ตนก็ม ี, และ ที ่จํา เปน สํ า หรับ โลกมนุษ ยต ลอดอนัน ตกาลนี้
ก็ น า จะกล าวว า ศี ล ธรรมที่ อ ยู ในรู ป แบบของสั ง คมศาสตร นั่ น เอง; แต ต อ ง เปนสังคมที่มีสติปญญา รูจักใชศีลธรรมถูกตอง มาเปนศาสตราสําหรับตัดปญ หา ของสังคมไดทุกอยาง ทุกประการ.
www.buddhadassa.in.th
๓๔
การกลับมาแหงศีลธรรม ในที่ สุ ดก็ จะเห็ น วา ศี ล ธรรมในรูป แบบเดิ ม รูปแบบแท รูป แบบ
เฉียบขาดตลอดอนันตกาลนั้น คือกฎธรรมชาติ นั่นเอง, และวาเขาตองทําอยาง นั้น ๆ จึงจะมีปรกติภาวะในสวนบุคคลบาง ในสวนสังคม คือรวมกันทุกคน หรือวา ทั้งโลกบาง. ในที่ สุ ดนี้ ขอรองว า อย าให การพู ดและการฟ งของเรา หายเป น อากาศธาตุไปเสียมาก ๆ เหมือนอยางที่แลวมา. ขอใหอยูในความจํา ใหมาอยู ในความเขา ใจแจม แจง แลว มาอยูใ นรูป ของการปฏิบัติเ ปน ประจํา วัน แลวเราก็จะไมรูจักลืมหัวขอหรือกฎเกณฑเหลานี้ ในวันนี้ขอยุติไวแตเพียงเทานี้กอน วันเสารหนาก็จะไดพูดตอ เพราะ วายังไมจบ.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ตอไปนี้ก็เปนโอกาสใหพระสงฆทั้งหลาย ทานสวดบทสาธยายที่เปน เครื่องเกื้อกูลแกกําลังจิต ที่จะปฏิบัติศีลธรรม ตามรูปแบบแหงพระพุทธศาสนา. ขอนิมนต.
------------------------------
www.buddhadassa.in.th
การกลับมาแหงศีลธรรม
- ๒ ๑๐ มกราคม ๒๕๑๙
ศีลธรรมคืออะไร (ตอ) [ เมื่อกลาวโดยคานิยม ]
ทานสาธุชน ผูมีความสนใจในธรรม ทั้งหลาย,
การบรรยายประจํ าวั นเสาร ภาคมาฆบู ชา ครั้งที่ ๒ ในวั น นี้ ก็จ ะไดก ลา วโดยหัว ขอ วา ศีล ธรรมคือ อะไร ตอ ไปอีก ครั้ง หนึ ่ง เพราะ วา ยัง ไมจ บ และอยากจะมีก ารบรรยายในรูป ของการสอบถามความ เขาใจเหมือนครั้งที่แลวมา.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org (คําปรารภและทบทวน)
ขอทํ า ความเข า ใจในเบื้ อ งต น สั ก เล็ ก น อ ย ว า ทํ า ไมจึ ง ได ส นใจ พิจ ารณากัน แตเ รื ่อ งศีล ธรรม จนดูค ลา ยกับ วา จะเปน บา เปน หลัง ไปแตใ น เรื่องของศีลธรรม.
๓๕
www.buddhadassa.in.th
๓๖
การกลับมาแหงศีลธรรม
ขอนี้เชื่อวาบางคน บางทาน คงจะพอตอบเองได วาทําไมจึงมัวพูด และพิจ ารณากัน แตเรื่อ งศีล ธรรมเชน นี ้ ; ทั ้ง นี ้ก ็เพราะวา เมื ่อ พิจ ารณาดูแ ลว โลกสมัยนี้ไมมีอะไรที่ขาดแคลนยิ่งไปกวาศีลธรรม จนจะกลาววามันตกต่ํา แทบจะหาไมพบ, จะหามาทํายาหยอดตาก็แทบจะไมได ทั้งที่ยาหยอดตานี่มัน ก็ตอ งการอะไรนอ ยอยูม ากทีเดียว. เดี๋ยวนี้เราก็รูสึก วา เมื่อ กลาวโดยเฉลี่ย กัน ทั้งโลกแลว ศีลธรรมมีนอยมาก จนจะหามาทํายาหยอดตาก็ไมพอ. ทานทั้งหลายคงจะมองไปถึง สภาพที่เปนความวุนวาย ระส่ําระสาย
หาความสงบสุข มิได เห็น ไดวา มัน มีอ ยูม ากนอ ยเพียงไร ; แสดงออกมาใน รูปของอาชญากรรม กระประทุษราย เบียดเบียน นี้ก็มาก, และแสดงอยูในความ เดือ ดรอ นเฉพาะตน เฉพาะคน อยู ภ ายในครอบครัว ของตน หรือ ในหัว ใจ ของตน อยางนี้ก็มีมาก ลวนแตเปน เรื่อ งของความปราศจากศีล ธรรม ทั้ง นั ้น . ในแตแ ลว คนในโลกนี ้ ในเวลานี ้ ก็ไ มม องกัน ในแงนี ้ คือ ไมม องไปใน ทางที่จะเห็นวา มันเปนผลของการปราศจากศีลธรรม.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org เขามองกัน ไปในแงอื ่น ซึ ่ง เปน เพีย งปลายเหตุ เชน มองใน รูปปญหาทางเศรษฐกิจบาง การเมืองบาง การปกครองไมดีบาง นานาประการ ดว ยกัน แตไ มม องใหล ึก ลงไปอีก สัก นิด วา สิ ่ง เหลา นั ้น เกิด ขึ ้น ก็เ พราะ ความไมมีศีลธรรมบาง มีศีลธรรมไมเพียงพอบาง ซึ่งเราเรียกวา ภาวะที่ปราศจาก ศีลธรรมอยูนั่นเอง. นี่ขอใหทบทวนความเขาใจอันนี้ไวเสมอ ๆ ก็จะเขาใจยิ่งขึ้น จนมอง เห็นความจริงในขอนี้ถึงที่สุด.
www.buddhadassa.in.th
ศีลธรรมคืออะไร (ตอ)
๓๗
ขอให ร ะลึ ก ถึ ง ความหมายอั น ถู ก ต อ งของคํ า ว า ศี ล ธรรมไว เปน ประจํ า คือ วา สิ ่ง ที ่จ ะทํ า ความสงบ ในฐานะที ่เ ปน เหตุ ; และผล คือ ความสงบปรากฏออกมาในฐานะที่เปน ผล ; และอัน นี้เ ปน กฎของธรรมชาติ เปนความตองการของธรรมชาติ ดวยซ้ําไป.
ถา จะพูด สมมติใ หธ รรมชาติ หรือ กฎของธรรมชาติ เปน บุ ค คล ก็ ต อ งเรี ย กว า เป น ความต อ งการของพระเจ า . พระเจ า คื อ กฎของธรรมชาติ มีกฎตายตัวอยูวา ถาไมทําอยางนี้ มันก็จะมีผลอีกอยางหนึ่ง ; ถาทําอยางนี้ก็มีผลออยางนี้. สําหรับพระเจาเองนั้น ก็ไมไดรูสึกวาตองการอะไร, ตองการอยางไหน, เปนเพียงแตเจาของกฎวา ถาทําลงไปในอยาง นี้ ผลมันก็เกิด ขึ้นอยางนี้ และก็ในที่ทุกหนทุกแหง ไมวาที่ไหนหมด พระเจาควบคุมอยูตลอด เวลา แมในนรก ก็มีพระเจาไปควบคุมอยู.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ศาสนา เช น ศาสนาคริส เตี ย น ก็ ยั ง กล า วเช น นี้ ว า แม ในนรกก็ มี พระเจา, บนสวรรคก็มีพระเจา, ในที่ทั่ว ๆ ไปก็มีพระเจา ; สวนเราก็พูดกันแบบ ของเราวา มีกฎของธรรมชาติควบคุมอยูในที่ทุกหนทุกแหงในฐานะที่เปนพระเจา, โดยเฉพาะอยางยิ่งกฎอิทัปปจจยตาควบคุมอยูในที่ทุกหนทุกแหง. พระเจานั้นไมมี ความหมายวาดีหรือชั่ว วาสุขหรือทุกข : ตัวพระเจาเองเปนกลางยิ่งกวากลาง ; เพราะฉะนั้น ในนรกก็อยูได บนสวรรคก็อยูได. ถายอมใหพูดอยางหยาบคายที่สุด ก็พูดไดวา ในกองมูลสุนัขก็อยูได. ถาพูดอยางนี้ พวกที่เขาถือพระเจาตามความรูสึกของเขาเอง เขาก็จะโกรธเอา ; แตความจริงมันก็เปนอยางนั้น. เมื่อเขายอมรับวาในนรกก็มีพระเจาไปควบคุมอยู
www.buddhadassa.in.th
๓๘
การกลับมาแหงศีลธรรม
ก็พูดไดอีกวา ของสกปรกเชนมูลสุนัขก็มีพระเจาควบคุมอยู ; ในกองดอกไมก็มี พระเจาควบคุมอยู พระเจาไมรูจักเหม็น ไมรูจักหอม ไมรูจักสุข ไมรูจักทุกข ไมรูจักดี ไมรูจักชั่ว ไมรูจักบุญ ไมรูจักบาป ไมรูจักแบงแยกอะไรอกไปเปนคู ๆ เชนนี้. แตวาเปนพระเจาที่เด็ดขาดที่สุด ในขอที่วา ถาทําลงไปอยางนี้ ผลมัน ก็เกิดขึ้นอยางนี้, ถาทําลงไปอยางนี้ ผลมันก็เกิดขึ้นอยางนี้ ครบทุกอยางทุก ประการ. นี่คือฝไมลายมือของพระเจา คือพระเจายอมรับไดทั้งนั้น ไมวาจะ เปนอะไร ; แตก็ไมค วรจะพูดวา พระเจาตองรับหรือ ตองยอมรับ เพราะเปน สิ่งที่อยูเหนือกฎ เปนสิ่งที่บรรดาลใหสิ่งทั้งปวงเปนไปตามกฎ. ทีนี้ เมื่อมนุษยเราทําลงไปอยางนี้ แลวผลก็เกิดขึ้นอยางนี้ ; อยาง เดี๋ยวนี้ ทํากันอยูในลักษณะที่เราเรียกกันโดยสมมติวา ปราศจากศีลธรรม,
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ผลก็เกิด ขึ้น มาในลัก ษณะที ่ส มกับ ที ่ป ราศจากศีล ธรรม คือ ไมมีค วาม
สงบ ไมมีค วามเปน ปรกติสุข ; เพราะวา ศีล ธรรม แปลวา เปน ปรกติ หรือ ปรกติสุข ดังที่กลาวแลว เมื่อทําลงไปในลักษณะที่ไมปรกติสุข มันก็ตองไม มี ปรกติสุข เปนของธรรมดาสามัญที่สุด. ถามนุษยทนไดเหมือนกับพระเจา ก็ไมมี ปญ หาอะไร อยูในนรกก็ได อยูในสวรรคก็ได อยูในกองมูล สุนัข ก็ได อยูใน กองดอกไมก็ได ; แตเดี๋ย วนี้ม นุษ ยจ ะทนไมไดกระมัง ถาลงอยูในนรก หรือ จมอยูในกองมูลสุนัข ; ฉะนั้น ก็ตองออกมาเสียจากสิ่งเหลานี้ มาอยูในสภาพ ที่ตัวชอบ ที่บัญญัติกันวา เปนความสุขสําหรับมนุษย ตามที่มนุษยก็มีอายตนะ สําหรับจะรูสึกคิดนึกอยางไร.
www.buddhadassa.in.th
ศีลธรรมคืออะไร (ตอ)
๓๙
นี ่แ หละสรุป ความไดว า มัน เปน หนา ที ่ข องมนุษ ยที ่จ ะตอ งทํ า
ลงไป ในลักษณะที่มนุษยพอใจ หรือวา ทนอยูไดดวยความปรกติ. อยา ทํ า ให มั น ผิ ด ไปจากนั้ น , อย า ทํ า ไปในทางที่ ตั ว ทนไม ได จะมี ค วามทุ ก ข . ฉะนั้ น เราตอ งเอามาพิ จารณากันใหเหมาะสมสํารับ มนุษ ย วาจะตอ งทํ าอยางไร จึงจะ เกิ ด ภาวะปรกติ ขึ้ น มา. นี่ เรื่ อ งของศี ล ธรรมที่ เป น ใจความสั้ น ๆ ว า มั น เกี่ ย วกั บ มนุษยอยางนี้ และจะใหใครมาชวยทําใหก็ไมได ตองทําเอง.
ที ่ จ ะให พ ระเจ า ช ว ยนั ้ น มั น เป น ความละเมอเพ อ ฝ น ; พระเจานั้นยอมใหเราทําเองทั้งหมดทุกอยาง แลวแตจะเลือกทําอยางไร, อํานวย ให ทุ กอยาง ; เพราะวา พระเจ าเป นเพี ยงกฎ หรือเจ าของกฎ ดังที่กล าวแล ว จะไปออ นวอนวา ทํ า อยา งนี ้ ๆ แลว จนไดผ ลอยา งนี ้ ๆ ซึ ่ง มัน ผิด กฎนี ้ อยา งนี้ ทําไมได พระเจาไมยอม. ถายอมแลวก็เปนอันวา คนเราทําชั่วกันตามกิเลสของตน แลวก็เรียกรองเอาความดีได.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org อย า งเช น พวกโจร ก็ จ ะทํ า โจรกรรม แล ว ก็ เรี ย กร อ งเอาความชอบ ความดี ความสุข จนเพื่ อ นมนุ ษ ย ด วยกั น ทนไม ไหว ; นี้ เป น สิ่ งที่ พ ระเจาอํ านวย ใหไมได พระเจาจึงมีความเที่ยงตรงยิ่งกวาสิ่งที่เที่ยงตรงใด ๆ วา ทําลงไปอยางนี้ จะมีผ ลอยา งนี ้, ทํ า ลงไปอยา งนี ้ ก็จ ะตอ งมีผ ลอยา งนี ้, แลว แตม นุษ ยจ ะ เลือกเอา.
เมื่ อ มนุ ษ ย ไ ด ทํ า ไปด ว ยความโง เขลา ไม รู เท า ถึ ง การณ อ ย า งใด อย า งหนึ ่ ง แล ว ได ร ั บ ความทุ ก ข ขึ ้ น มา ; มนุ ษ ย ก ็ จ ะเข็ ด หลาบในเวลา อั น ควรจึ งมี ค วามเปลี่ ย นแปลงเกิ ด ขึ้น ในหมู ม นุ ษ ย ก็ ห มุ น ไปหาความสงบสุ ข .
www.buddhadassa.in.th
๔๐
การกลับมาแหงศีลธรรม
เดี๋ยวนี้ มั น เกิดมี สิ่งยั่วหรือลอให มนุ ษ ยเขาใจผิด ไปนิ ย มสิ่งที่ไมถู กตอ ง คือ ไม เป น ไปเพื่อความสงบสุขนั่นเองวาเปนสิ่งที่ดี ก็เลยทําอยางนั้น: อยางนี้เรียกวา ทําบาป เพราะพญามารหรือซาตานจูงจมูกเอาไป. มนุ ษ ย ทํ า บาปจะไปโทษมาร มั น ก็ ดู จ ะไม ไ ด อี ก เหมื อ นกั น ; เพราะ มารก็ ต องมี อยู , และก็ ต องทํ า หน าที่ ของมาร มาสอนให มนุ ษ ย ฉ ลาด ในเวลา อัน เร็ว : ทํ า ผิด ทีเ ดีย ว แลว อยา ทํ า อีก ; ก็ค วรจะขอบใจวา พญามารนี ้ม า ชว ยทํ า ใหม นุษ ยฉ ลาดขึ ้น ๆ. แตบ างคนไมย อมฉลาดขึ ้น มา ; นี ่ม ัน ก็ต อ งโทษ คนนั้นเอง อยาไปโทษพญามารเลย.
ความทุ ก ข นี่ มั น มาสอนให ฉ ลาด แต ค นไม รั บ เอา แล ว ก็ จ ะทํ า อยา งไร. แตค นที ่ม ีส ติป ญ ญา เขารู จ ัก ความทุก ข รู จ ัก เข็ด รู จ ัก หลาบ รู จ ัก กลั ว รู จั ก ละอาย ภายในเวลาอั น สั้ น ก็ เอาตั ว รอดได เร็ ว ก อ นคนอื่ น , มาอยู เหนื อ ความทุ ก ข ในระดั บ ที่ เรีย กว า เป น ที่ น า พอใจ กลายเป น พวกพระอริย เจ าไป พวกหนึ่งทีเดียว ; นี้ก็มีอยูมาก.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org แต เดี๋ ยวนี้ มั นหมุ นไปในทางที่ ตรงกั นข าม คื อมี สิ่ งมายั่ วยวน หลอกลวง ให เ ห็ น แก ค วามรู สึ ก ทางผิ ว หนั ง ทางเนื้ อ หนั ง ความสุ ข ความสนุ ก สนาน เอร็ด อรอ ยทางผิว หนัง ; เหลือ บตาดูไ ปรอบ ๆ ก็พ อเห็น ไดว า มัน คือ อะไร. ขอ ให ล องเหลื อ บตาดู ไป วาคนเรากํ าลั งหลงความสุ ขทางเนื้ อ หนั ง ; แม ไม ใชเป น สิ่ ง ที่จะเปนสุขได ก็เห็นวามันเปนสุข ไปได.
www.buddhadassa.in.th
ศีลธรรมคืออะไร (ตอ)
๔๑
เมื่อเขาใจผิดอยางนี้แลวก็ทําไปอยางนั้น ; เพราะฉะนั้น สิ่งที่เรียกวา ศีลธรรมจึงหายไป ๆจนหามาทํายาหยอดตาก็ไมพอ ดังกลาวแลว. เพราะฉะนั้น อาตมาจึงถือวา มันมีเหตุผลสมควรแลวที่เราจะพูดกันถึงเรื่องศีลธรรมนี้อยางซ้ํา ๆ ซาก ๆ จนบางคนชักจะเบื่อหนายเต็มที่แลว. อาตมาก็ยังฝน หรือขืนใหทําความ เขาใจกันในเรื่องนี้อีกตอไป. ....
....
....
....
ในครั้งที่แลวมา เมื่อวันเสารกอน เราพูดกันโดยหัวขอวา ศีลธรรม คืออะไร และยังไมทันจบ ก็หมดเวลาเสียกอน วันนี้ก็จะพูดในหัวขอนี้ตอไปจนจบ. ในครั้ง ที่แ ลว มาเมื่อ ถามวา ศีล ธรรมคือ อะไร ; ในหมวดที่ ๑ ก็ไดบอกใหดูกัน ในแงของภาษา วา ภาษาชาวบาน ศีลธรรม หมายถึงอะไร, ภาษาศาสนา ศีลธรรม หมายถึงอะไร, โดยเฉพาะอยางยิ่งภาษาบาลี ศีลธรรม หมายถึง อะไร. เราไดพูด กัน แลว ซึ่ง มีท างที่จ ะสัง เกตไดจ ากวัต ถุที่ไ รชีวิต จากสิ่งที่มีชีวิต จากสภาวะจิต หรือสติปญญาของคนเรา อันจะเปนเครื่องทําให สังเกตไดวา มันมีศีลธรรมหรือไมมี ดังที่ปรากฏอยูในการบรรยายนั้น.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org หมวดที่ ๒ ไดพูดกันถึง รูปแบบของศีลธรรมที่ปรากฏอยู ใน
ในโลกปจจุบัน วาศีลธรรมปรากฏอยูในรูปแบบของปรัชญา สําหรับพูดจากัน แตโดยเหตุผล ในทางตรรกลวน ๆ อยางนี้ก็มี, หรือวาศีลธรรมอยูในรูปแบบของ ศาสนาคือการปฏิบัติลงไปจริง ๆ ที่กาย ที่วาจา ที่ใจ ในวิถีทางหรือวิธีการของ วิทยาศาสตร ที่ไมตองมัวแตพูดกันอยูอยางไมรูจบ ก็มี, อีกอยางหนึ่ง ศีลธรรมที่
www.buddhadassa.in.th
การกลับมาแหงศีลธรรม
๔๒
อยูในรูปแบบของสังคมศาสตร คือสิ่งที่จําเปน ที่สังคมจะตองรูและจะตองปฏิบั ติ เพื ่อ สรา งสัง คมนั ้น ๆ ใหเ ปน สัง คมของมนุษ ยที ่น า ปรารถนาคือ เปน สัต บุรุษ ผู ส ร า งสรรค ค วามสงบ ก็ มี , ที นี้ รู ป แบบสุ ด ท า ย ก็ คื อ ศี ล ธรรมที่ เป น กฎ
ตายตัว ของธรรมชาติ เปน กฎของธรรมชาติ วา อยา งนี ้ม ัน สงบ อยา งนี้ มัน ไมส งบ, และโดยปรกติจ ะตอ งอยูกัน อยา งนี้ ซึ่ง เปน กฎที่บ ุค คล หรือ สัง คม ก็ตาม จะตองรูและเอาไปใชใหเปนประโยชนแกมนุษยใหมากที่สุดเทาที่จะมากได. นี้เรียกวา เราไดพูดกันแลวในรูปแบบตาง ๆ ของสิ่งที่เรียกวา ศีลธรรม. [จบคําปรารภและทบทวน]
หมวดที่ ๓ วาดวย คานิยมของศีลธรรม ทีนี ้ก ็ม าถึง หมวดที ่ ๓ ในวัน นี ้ จะพูด กัน ถึง สิ ่ง ที ่เ รีย กวา
คุณ คา. ปทานุกรมจะออกเสียงวา คุณนะคา ; จะไมพูดวา คุณ – นะ - คา ;
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org เพราะไมชอบ, หรือจะเรียกวา คานิยม ก็ตามใจ ก็ไดเหมือนกัน.
ค า นิ ย มก็ ห มายถึ ง ว า คุ ณ ค า ที่ เราได ม องเห็ น , และก็ บั ญ ญั ติ ไ ว อย า งไร ในรูป แบบต า ง ๆ กั น สํ าหรับ สิ่ งที่ เรีย กวา ศี ล ธรรม เท า ที่ มั น เกี่ ย วกั น
กับมนุษย.
ขอให ซั ก ซ อ มความเข า ใจดี ๆ ว า เรากํ า ลั ง จะพู ด กั น ถึ ง คุ ณ ค า ; หรือ จะเรียกอยางสมั ยใหม วา คานิย ม ก็ตามใจ ที่ ม องดู ในหลายรูปแบบ เทาที่ เกี่ยวกับมนุษยผูมีศีลธรรม อยางนี้ก็ได. คานิยมที่จะ มองดูไดที่บุคคลหนึ่งๆ
www.buddhadassa.in.th
ศีลธรรมคืออะไร (ตอ)
๔๓
คือที่เอกชน นี่ก็มี อยู, อีกทางหนึ่งก็ที่จะ มองดู จ ากสั งคม คือ หลาย ๆ คน รวมกันอยู. ....
....
....
....
สวนที่ ๑. ศีลธรรมเมื่อมองดูที่ปจเจกชน. บุ ค คลแต ล ะคนมี ค า นิ ย มของศี ล ธรรมที่ ค วรนิ ย ม มี อ ยู ใ นรู ป แบบ อยา งไรบา ง ; เทา ที ่จ ะเอาพิจ ารณากัน ก็อ ยากจะเสนอใน ๓ รูป แบบ โดย สรุปจากขอความตาง ๆ ที่เราเคยบรรยายกันมาแลว เปนเวลาแรมป ; ๓ รูปแบบ คือ:-
รูป แบบที ่ ๑. คุณ คา ทางศีล ธรรมที ่ม ีอ ยู ใ นสายโลหิต หรือ ที ่เ รีย กวา กรรมพัน ธุ ข องคนแตล ะคน. รูป แบบที ่ ๒. ก็ค ือ คุณ คา ที ่แ สดง ออกมาใหเ ห็น ชัด ตามที ่ป จ จัย ภายนอกมัน จะแวดลอ มอยา งไร. รูป แบบ ที ่ ๓. ก็ค ือ วา ศีล ธรรมเปน สิ ่ง จํ า เปน ที ่จ ะตอ งมีอ ยู ที ่ท ุก อิร ิย าบท หรือ
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ทุกการเคลื่อนไหวของมนุษย นับตั้งแตคลอดออกมาจากทองแม จนกระทั่งตาย ; เปน ๓ หัวขอ ดวยกันอยางนี้. ห ั ว ข อ ที ่ ๑. คุ ณ ค า ข อ ง ศี ล ธ ร ร ม ที ่ ม ี อ ยู ใ น รู ป ข อ ง กรรมพันธุ หรือสายเลือด ถาม : อยากจะขอถามทานวา เปนสิ่งที่ยอมรับไดหรือไมวา แมในสายเลือดที่ เปนกรรมพันธุนั้น ก็มีสิ่งที่เรียกวาศีลธรรม หรือยางนอยก็ เชื้อแหง
www.buddhadassa.in.th
๔๔
การกลับมาแหงศีลธรรม
ศีลธรรม ปรากฏอยูในนั้น ยกตัวอยางมาดูดวย. ขอใหตอบมาในขอนี้ ก อ น คื อ จะยอมรั บ ไหมว า ศี ล ธรรมต อ งตั้ งต น มาแต ในสายเลื อ ดของ บิดามารดา ? ตอบ : เปนไปไดครับ, แลวก็เห็นไดในชีวิตครอบครัวของคนที่พอแมมีศีล มีธ รรม มีก ารปฏิบ ัต ิต ัว ที ่ส งบแลว ลูก หลานที ่อ อกมาก็ม ีจ ิต ใจรัก ความสงบเชนกัน. [ ความมีเชื้อแหงศีลธรรมในสายเลือด ]
นี ่ก ็เ ปน ตัว อยา ง ที ่พ อจะมองเห็น ได คือ ยอมรับ วา สิ ่ง ที ่เ รีย กวา ศีล ธรรม นั ้น จะตอ งมีเ ชื ้อ ขึ ้น มาจากสายเลือ ด. ดูต ัว อยา งที ่สิ ่ง ที ่ไ มใ ช มนุษ ย เชน มะมว ง มะละกอ ขนุน ทุเ รีย น อะไรก็ต าม ถา มัน มีพ ัน ธุ ด ีอ ยู ใน เม ล็ ด นั ้ น แ ล ว มั น ก็ อ อ ก ม าเป น ผ ล ไม ที ่ ด ี . นี ้ เ ข า ใจ ว า ค งไม ม ี ใ ค ร คัดคาน ; พอมาถึงมนุษย ทําไมไมยอมรับอยางนั้นบาง. ทําไมหาวาไมยอมรับ ? เพราะวา ไมส นใจที ่จ ะปรับ ปรุง พืช พัน ธุ นั ้น ใหด ี, หรือ ระมัด ระวัง รัก ษา พืชพันธุนั้นใหดี.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ถา ทา นยอมรับ ก็ค งจะยอมรับ วา การที ่ม ีร ะเบีย บปฏิบ ัต ิป ระจํ า วงศต ระกูล ที ่ด ี ตลอดสายยาวยืด ของวงศต ระกูล นั ้น ๆ ก็เ ปน สิ ่ง ที ่ม ีเ หตุผ ล ดั ง ที่ เขาได เคยกระทํ า กั น มาแล ว ; หากแต ว า เดี๋ ย วนี้ ค นเรามั น เปลี่ ย นความคิ ด เปลี่ยนความเชื่อ ไมคอยจะคํานึงถึงเรื่องพืชพันธุที่ดี ; ไปเห็นเสียวาเราจะทําเอา ไดดวยการศึกษา เปนตน.
ถาม : ขอให ต อบสั้ น ๆ อีก ครั้งหนึ่ งวา ค านิ ย มทางศี ล ธรรมที่ อ ยู ในสายเลื อ ด หรือกรรมพันธุของมนุษยนั้น มันคืออะไร ?
www.buddhadassa.in.th
ศีลธรรมคืออะไร (ตอ)
๔๕
ตอบ :คือความสํานึกรับผิดชอบ. ถาม : เชื้อแหงศีลธรรมที่มีอยูในสายเลือด ที่จะถายทอดไปยังผูสืบสายโลหิตนั้น มันคืออะไร ? ตอบ : คือการปฏิบัติครับ เกี่ยวกับการสั่งสอน ถายทอดกันในอิริยาบทที่ดีสืบไป. ถาม : เอา, คืออะไร ? ใครวาอยางไรอีก ? ตอบ : คือความรักที่ผูใหกําเนิดนั้น มีตอผูที่กําเนิดมาครับ. ถาม : ใครวาคืออะไรอีก ? ตอบ : เขาใจวาเปนสิ่งที่ถายทอดมาจากบิดามารดาถึงบุตรในแงของศีลธรรม ทางสายโลหิต , ซึ ่ง เขา ใจวา เปน ไปตามกฎแหง ธรรมชาติ กฎแหง อิทัปปจจยตา ; หรือตัววิชชาความรูที่ถากลาวตามหลักของชีววิทยาทาง แพทย มันถายทอดกันได ตอนที่แบงเซลลมาผสมกันแลว มีอุปนิสัยใจ คอถายทอดกันได. นั่นทางแงของวัตถุ ; แตทางดานนามธรรมผมไมคอย ทราบ.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org เพียงแตถามวา คืออะไร ? ก็ตอบไดหลายอยาง อยางที่วามาแลว ก็ถูกทั้งนั้นแหละ แตคงจะไมหมด. เมื่อถามวาคืออะไรนั้น มันตางจากที่ถามวา ทําอยางไร. ชั้นนี้อยากจะขอทราบแตเพียงวา คืออะไร.
www.buddhadassa.in.th
การกลับมาแหงศีลธรรม
๔๖
อยากจะสรุ ป ความว า คื อ วิ ญ ญาณแห ง ความเป น มนุ ษ ย ที่ ถ า ย ทอดสืบ ตอ ๆ กัน ไปในลัก ษณะที่ม ัน ดีขึ้น ๆ ดีขึ้น ๆ ไมรูวากี ่รอ ยกี่พ ัน ชั่ว คน มาแล ว ; เป น สิ่ ง สิ่ ง หนึ่ ง ซึ่ ง มี ลั ก ษณะมองไม เห็ น ตั ว ตั้ ง อยู ใ นฐานะที่ เป น เชื้ อ สําหรับความเปนมนุษย ที่จะถายทอดตอ ๆ กันไปได ในลักษณะที่มันดีขึ้น ๆ ดีขึ้น ๆ. [ การเลือกและบํารุงพันธุ ]
ถาม : ที นี้ อ ยากจะถามว า ที่ อ อกมาจากพ อ แม ชั้ น แรกคู ห นึ่ ง นั้ น ทํ า ไมมั น ไม เหมื อนพ อแม หรือเท ากั บ ที่ พ อแม มี อ ยู แต เดิ ม ? ทํ าไมมั นจึ งดี ขึ้ นได ? มันดีขึ้นไดเพราะเหตุอะไร ? ตอบ : เหตุ ที่ ศี ล ธรรมในรู ป หรื อ ในคนรุ น หลั ง ดี ขึ้ น กว า พ อ แม ดี ก ว า เดิ ม นั ้น มัน เปน ไปตามกฎที ่วา มัน ตอ งเปน ไปตามปจ จัย ภายนอก สิ ่ง แวด ลอ มที ่ป รุง แตง ; มัน ไดค วามรู ไดค วามคิด ความเห็น ขึ ้น มาภายหลั ง จากบทเรียนในชีวิต.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ถาม : จะถ ายทอดลงไปในลู ก ได อ ย างไร ? ยั งเป น เพี ยงเชื้ อ ยั งไม มี ตั ว มี ต น เปนกอน เปนดุน จะถายลงไปไดอยางไร, แลวในลักษณะที่ดีขึ้น กวาเชื้อ ที่พอแมถายใหไป.
ถายังนึ กไม อ อกก็อ ยากจะให สังเกตดูเรื่องทางวัต ถุต อ ไปอีก. สมมติ วา ทุเรียนทีแรกก็มีแตพันธุปา ๆ มีคุณสมบัติอยางนั้น ๆ แลวทําไมมันจึงเกิดเปน ทุเรียนที่บาน ที่มันดีขึ้น ๆ จนมันแตกตางกันลิบลับ เหลือที่จะเปรียบกันได ; ทุเรียน พัน ธุ ป า กับ ทุเ รีย นสว นพัน ธุ บ า น ชั ้น ดีข องเขาก็เ ปน ที ่รู และยอมรับ กัน วา มัน มาจากพัน ธุป า . หรือ วา สัต วที ่เอามาเลี ้ย ง : ไกป า เปน ไกบ า น, ควายปา
www.buddhadassa.in.th
ศีลธรรมคืออะไร (ตอ)
๔๗
เปน ควายบา น, มา ปา เปน มา บา น ; ทํา ไมมัน จึง ตา งกัน ลิบ . แมแ ตสุนัข ซึ่งที่แททีแรกก็มีแตในปา จับมาเลี้ยงเปนสุนัขบานหลายชั่วเขา มันกลายเปน สุนัขที่แสนรู และงดงาม ; นี้เพราะอะไรมันจึงดีขึ้นได. ถาม : คําถามถามนิดเดียว วาทําไมมันจึงดีขึ้นได ทําไมมันจึงไมเทาเดิม. ตอบ : เกี่ย วกับ กฎของธรรมชาติที่วา มัน ตอ งวิวัฒ นา. ชีวิต สิ่ง ตา ง ๆ สังขารธาตุ มัน ตอ งปรุงแตงอยูเสมอ ตองวิวัฒ นาการ เปลี่ย นแปลง ไปสูจุดหมายปลายทางที่ดีขึ้นอยูเสมอ มันเปนกฎของธรรมชาติอยูแลว. ถาม : จะตองตอบใหชัดวา พอแมคูนั้น มันมีอะไรดี เพียงเทานี้ แลว พอคลอดลูกออกมา ทําไมมันจึงไมถายออกมาดีเพียงเทาที่พอแมคูนั้น มีอยู. อยางตนทุเรียน ตนที่ออกมาจากพอแมชนิดหนึ่ง ทําไมมันจึง ดีกวาพอแมได และมันจะแทรกเขาไปไดอยางไร จึงเกิดการเปลี่ยน แปลงขึ้น มา ? การผสมสัต วก็มีป รากฏอยูในขอ นี้ ทีทําใหลูก ดีก วา พอแมเรื่อย ๆ ไป จนไดรับรางวัลประกวดที่ ๑ หรือชั้นเลิศ นี่เพราะ เหตุอะไรมันจึงดีกวาพอแม ?
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ตอบ : ผมเขา ใจวา ตอ งเลือ กพัน ธุผ สม ตอ งเลือ กพัน ธุ ตอ งหาพัน ธุที่ดี มาผสมกับพันธุที่ดี.
ถาม : ทําไมไมออกมาเทาพอและแมละ ? ทําไมดีกวาพอแมไปได ? ขอ นี้ สําคัญ มาก ถาเราจับความลับ ขอ นี้ได เราอาจทําใหคนนี่ดีขึ้น ๆ ได, ดีกวาพอแม และโดยเร็ว ; เพราะเหตุไรมันจึงดีขึ้นได ?
www.buddhadassa.in.th
๔๘
การกลับมาแหงศีลธรรม
ตอบ : ถาจะอาศัยหลักที่วา มนุษยชาตินั้น มาจากแหลงเดียวกัน และไป สิ ้น สุด ที ่แ ห ลง เดีย วกัน นั ่น เปน เรื ่อ งของธรรม ชาติ: เพ ราะฉ ะนั ้น ตอ ไป ขา งห นา ๆ นี ่ รุ น ห ลัง นี ่ มัน ตอ งดิ ้น รน เพื ่อ จะใหด ีขึ ้น ไป สู จุด จบของชีว ิต ที ่ว า จากสัง ขตะ ไปสู อ สัง ขตะตามเดิม . ขอ นี ้เ ปน กฎ ธรรม ชาติ วา ม นุษ ยช าตินี ้ม ัน ม าจากจุด แหง เดีย วกัน แล ะไป สู จ ุด หมายปลายทางแหง เดีย วกัน ; ดัง นั ้น ในระยะที ่เ ปน ชีว ิต อยู นี้ ก็ ต อ งมี ก ารปรุ ง แต ง เพื่ อ ให ไ ด ดี อ ยู เ องเสมอ ๆ นอกจากว า ใครจะ ไปถูก หรือไปผิดเทานั้นเอง. ถาม : ถาตอบอยางนั้น มันกลายเปนมีความหมายอยางอื่น คือเปลี่ยนเนื้อเรื่อง ไปแลว วา ทีแ รกมาจากสิ ่ง สูง สุด มาเลวลง ๆ แลว กลับ ไปดีขึ ้น ๆ จนเหมื อ นสิ่ งสู งสุ ด ตามเดิ ม ; นี่ ค นละป ญ หา. เดี๋ ยวนี้ เราจะพู ด ไปในทาง ที่ จ ะเกิ ด ประโยชน ว า เราจะปรั บ ปรุ ง คนให มี ศี ล ธรรมเพิ่ ม ขึ้ น ได
อยา งไร โดยอาศัย การถา ยทอดทางสายโลหิต หรือ กรรมพัน ธุ นี้กอน ?
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ตอบ : ต อ งมี ก ารคั ด เลื อ กครั บ เพราะว า ทั้ ง ชายทั้ ง หญิ ง มี ส ว นดี ที่ ไ ม เหมื อ น กัน . ฉะนั ้น เราจะเลือ กสว นดีข องแตล ะฝา ยมารวมกัน ; ลูก ที ่อ อกมาจะ ไดส ว น เดน ขอ งแตล ะฝา ยไป มัน ก็ด ีก วา ทั ้ง พอ ทั ้ง แม เพ ราะวา ได สวนดีทั้งของพอทั้งแมมา. คํ า ต อ บ ว า “ต อ ง คั ด เลื อ ก ” นี ้ เ ป น คํ า ต อ บ ที ่ ถ ู ก ข อ ห นึ ่ ง แ น ว า ต อ งคั ด เลื อ กพื ช พั น ธุ ที่ ดี ; ฉะนั้ น ปู ย า ตา ยาย ที่ เขาเลื อ กคนที่ จ ะมาเป น
www.buddhadassa.in.th
ศีลธรรมคืออะไร (ตอ)
๔๙
ลู ก เขย ลู ก สะใภ มั น ก็ มี เหตุ ผ ลอยู ; แม วาเขาจะไม ได มุ งหมายลึ ก ซึ้งถึ งอย างนี้ เขาก็ไดทําไปในลักษณะที่มีผลอยางนี้. การผสมสัต วก ็ต อ งเลือ กพัน ธุ . ทีนี ้ พัน ธุ ที ่ม ัน จะดีนี ่ มัน ก็ต อ ง เปน สัต วที ่เกิด อยู แ ลว ไดรับ การอบรมดี ; ตัว ที ่จ ะเปน พอ พัน ธุ แมพ ัน ธุ ก็ไ ด รับ การอบรมดีอ ยู เ รื ่อ ย แลว ผสมไขวพ ัน ธุ ตา งพัน ธุ ก ัน มัน ก็ม ีก ารกระแทก กระทั้น หรือวา attack ตอกัน จนเกิดของใหมได คือไมเหมือนพออยางเดียวไม เหมือนแมอยางเดียว จึงเปลี่ยนไปไดในความไมเหมือน ก็เกิดเปนอยางอื่นขึ้นมา. [ การแวดลอมดวยการอบรม ]
การเปน อยา งอื ่น ขึ ้น มานี ้ เราทํ า อยา งไรจึง จะไดใ นทางที ่ด ี ไม เลวลง ? ก็ต อ งมีสิ ่ง ที ่จ ะตอ งประพ ฤติ กระทํ า แวดลอ ม อยู ด ว ยการ กระทํ า ที ่ด ี มัน จึง ใหสิ ่ง แวดลอ มทั ้ง หมด ปรากฏอยู ใ นลัก ษณะที ่เ ปน ปรกติ หรือเป นความสงบ ที่ เรียกกั นวาดี. ในสมั ยโบราณจึงมี ขนบธรรมเนี ย มประเพณี นานาแบบ ที่ จ ะให ก ารประคบประหงม แก ผู ที่ เ ป น สามี ภ รรยา ให อ ยู แ ต ใ น ลักษณะที่ดี :-
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org พอตั้ งครรภ ขึ้ น มา ก็ ให ทํ าพิ ธีการต าง ๆ ที่ จะกล อ มเกลาจิต ใจหญิ ง มีค รรภนั้น ใหเปน ไปแตในทางดี อยูแ ตในทางดี เขาเรีย กวา พิธีคัพ ภปริห าร ; ไมใชวัต ถุสิ ่ง ของ แตวา รวมทั ้ง วัต ถุสิ ่ง ของก็ได ; โดยเจตนานั ้น คือ การกระทํ า พิธ ีแ วดลอ มจิต ใจของหญิง มีค รรภนั ้น ใหรู ส ึก ไปแตใ นทางที ่ด ี. พบอยู แ ต ในพระบาลี ว า ทํ า พิ ธี คั พ ภปริ ห าร ซึ่ ง แต ก อ นก็ ค งจะเคยมี แม ใ นประเทศ
www.buddhadassa.in.th
๕๐
การกลับมาแหงศีลธรรม
ไทยเรา ซึ่งถายทอดวัฒนธรรมมาจากประเทศอินเดีย แลวมันก็คอยหายไป เลือนไป เพราะคนคอย ๆ หันมานิยมในทางวัตถุมากขึ้น ไมรักษาขนบธรรมเนียมประเพณี ในทางจิตใจเอาไว มันก็หายไป ๆ. ที่เรียกวาหายไปนี้ คือมันเปลี่ยนไป ๆ ก็เปลี่ยนไปในทางวัตถุ เห็น แตท างวัต ถุ ไมเ ปน ไปในทางศีล ธรรมอัน สงบ ; ฉะนั ้น ลูก ออกมาก็ส วย กวาพอแมได ฉลาดกวาพอแมได. แตการรักความสงบ รักความดี รักความจริง มันอาจจะนอยกวาพอแมก็ได ; เพราะสิ่งแวดลอม หรือการกระทําทั้งหลายมัน เปนไปในลักษณะอยางนั้น. พอแมที่นั่งอยูที่นี่ ก็ลองไปคิดดูเถอะวา ตัวมีความมุงหมายอยางไร อธิษฐานจิตอยางไรในการที่ลูกจะเกิดมาและเติบโต. ดูจะมีความมุงหมาย แตจะ ให ส วย ให เก ง ให อ ะไรไปด ว ยกั น เสี ย ทั้ ง นั้ น ไม ค อ ยจะนึ ก คิ ด ถึ ง ศี ล ธรรม ; ฉะนั้น เราไดลูกหลานสมัยนี้ แตในทางที่มันสวยงามเฉลียวฉลาด แตไมคอ ย มีศีล ธรรม. เพราะวา พอ แมเองไมคอ ยไดคิด ถึงศีล ธรรม ; เพราะมัน ยุง มากไป จนไมคอยมีเวลาคิดก็ได, หรือมีเวลา มันก็ไมคิดก็ได ; มันก็หลงไปในทางวัตถุ ทางเนื้อ หนัง ยิ่ง ๆ ขึ้น ไปเหมือ นกัน นี่มัน ทํา ใหพัน ธุเลวลงในสว นศีล ธรรม ; แตมันสวยงามขึ้นในฝายวัตถุธรรม.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ขอนี้คนที่มีอายุสัก ๑๐๐ ป ก็พอจะสังเกตเห็นไดวา เด็ก ๆ สมัยนี้ มันสวยขึ้น สวยขึ้น ทุก ๆ ชั่วอายุคน ; นี่มันทางวัตถุ ทางเนื้อหนัง ; แลวเด็ก ๆ ก็ เรี ย นเก ง ขึ้ น เพราะพ อ แม ก็ เรี ย นเก ง มาก อ น. แต เรื่ อ งทางความสงบรํ า งั บ บั ง คั บ ความรู ส ึ ก ซึ ่ ง เป น รากฐานของศี ล ธรรมนั ้ น มั น ไม ค อ ยมี ; นี ้ จ ึ ง
www.buddhadassa.in.th
ศีลธรรมคืออะไร (ตอ)
๕๑
ไมเปนกรรมพันธุที่ดีเพื่อศีลธรรม, แตเปนกรรมพันธุสําหรับความยุงเหยิง สําหรับ กิเลส สําหรับความยื้อแยง สําหรับความระส่ําระสาย. ขอใหม องดูข อ ที ่ ๑ นี ้ว า คุณ คา ของศีล ธรรมที ่ถ า ยทอดทาง สายเลือดนั้น มันก็สําคัญที่สุดอยูขอหนึ่ง. ....
....
....
....
หั ว ข อ ที่ ๒. คุ ณ ค า ที่ แ สดงออกมาให เ ห็ น ชั ด ตามที่ ปจจัยภายนอกแวดลอม. ทีนี้เมื่อเกิดมาแลว มันก็มีการแวดลอม คือการใหการศึกษา ใหการ อบรม ใหการกระทําตาง ๆ เมื่อเกิดมาแลว ; นี่ก็มีอยูสวนหนึ่งตางหาก.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ถาม : อันไหนจะสําคัญกวากัน คุณคาทางศีลธรรมที่มีมาในสายเลือดกับ คุณคาทางศีลธรรมที่เราจะอบรม เมื่อเขาเกิดออกมาแลว ; ๒ อยางนี้ อยางไหนมันสําคัญกวากัน ? มีความเห็นอยางไรลองวามา ?
ตอบ : เขาใจวา สิ่งแวดลอมที่อยูรอบ ๆ นี้ รูสึกวาจะมีความสําคัญมากกวา. แตวา ไมม ีห ลัก ฐานแนน อน แตรูส ึก วา จะมีค วามสํ า คัญ มากกวา . เพราะมีตัวอยางมาก ที่เด็กคลอดจากพอแมแลว พอแมไมเลี้ยงตั้งแต วันแรกเกิดใหม ๆ แลวไปอยูที่ไหน ไปอยูกับใคร พี่เลี้ยงเปนอยางไร แลวมันมักจะเปนอยางนั้น ซึ่งมีตัวอยางอยูมากมาย.
www.buddhadassa.in.th
การกลับมาแหงศีลธรรม
๕๒
ถาม : เอา, ใครอีก ? มีความเขาใจเปนอยางไรอีก ? กรรมพันธุสําคัญกวา หรือวาการอบรมทีหลังสําคัญกวา ? ตอบ : ผมเขาใจวา ตนเหตุมันอยูที่กรรมพันธุ แตมันประกอบดวยการ อบรมดว ย. เรื่อ งสํา คัญ นี้ผ มเขา ใจวา เปน เรื่อ งความลึก ซึ้ง ของ จิตใจ ; นี่ผมเขาใจนะเปนกรรมพันธุมากกวา. ถาม : เอา, ใครอีก ? ตอบ : ผมรูสึก วา สิ่ง แวดลอ มจะมีอิท ธิพ ลมากครับ คือ วา สามารถที่จ ะ ใหเปลี่ยนแปลงได ทั้งภาวะของจิตใจ และสวนที่เปนรางกาย ;เพราะ เหตุอีกอยางหนึ่งวา ชีวิตนี้ตองการอยูรอด ; ฉะนั้น มันจะตองเปลี่ย น แปลงตามสิ่ง แวดลอ มใหได ; ผมจึงยืน ยัน วา สิ่ง แวดลอ มยังมีความ สําคัญกวา.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ถาม : ใครอีก ?
ตอบ : ผมวามัน เทา ๆ กันครับ เพราะวาถาหากวาดีม าแตกรรมพันธุแลว มันก็ดีไปแลว ๕๐ แลวเหลืออีก ๔๐ คือการที่จะออกมาพบกับปจจัย ภายนอก ซึ่งก็มีความสําคัญเทา ๆ กัน. [ สิ่งแวดลอมสามารถเปลี่ยนแปลงกรรมพันธุ ]
ไดถามวา พวกที่เห็นวา เทา ๆ กันนี่ ออกจะไดเปรียบ เพราะเปน เรื่อ งที่พิสูจ นย ากพิสูจ นไ มไ ด ; แตใ หเ ขา ใจวา คํา วา “สํา คัญ เทา กัน ” นี่ มีขอยกเวนบางอยาง คือมาคนละ ๕๐ เปอรเซ็นต คือครึ่งตอครึ่งจริง แตวา
www.buddhadassa.in.th
ศีลธรรมคืออะไร (ตอ)
๕๓
ครั้ง ที ่แ ลว มานั ่น มัน สิ ้น สุด ไปแลว มัน ผา นพน ไปแลว ; สว น ๕๐ หรือ ครึ่งหลังนี้ มันยังกําลังจะวิวัฒนาการ คือมันยังเปลี่ยนแปลงไดตามสิ่งแวดลอม. นี่เ ปน กฎเรื่อ งกรรม ; เมื ่อ ไดทํา กรรมอะไรลงไป มัน ก็ม ีผ ลเกิด ขึ้น ตามกฎ นั้น ๆ คือเทานั้นอยางถูกตอง. ทีนี้สวนที่คลอดออกมาแลว มันเปนโอกาสที่จะ อบรมไดมาก แมวาคาหรือน้ําหนักจะมีมาอยาง ๕๐ ตอ ๕๐ เทากัน แตซีกหลังนี้ มันมีโอกาสที่จะอบรมเรื่อย เพิ่มขึ้นไดเรื่อย, เพิ่มขึ้นไดเรื่อย, มันจึงเปลี่ยนแปลง ไปตามกฎแหงกรรม จนกระทั่งกลายเปนพระอรหันตไปก็ได. เราอย าลื ม วากรรมพั น ธุ เชื้ อ ที่ ถ ายทอดมาทางสายเลื อ ดนั้ น มั น ก็ สํ าคั ญ มาก ; เช น เดี ย วกั บ ทุ เรีย น ถ าเป น พั น ธุ ที่ ไม ดี แล ว จะมาให ปุ ย บํ ารุงกั น เดี ๋ย วนี ้ม ัน ก็ด ีไ ปไมไ ด. สว นทุเ รีย นพัน ธุ ด ีม าแลว พอปลูก แลว มีก ารบํ า รุง อยางใหม อยางแปลกออกไปอีก มันก็จะดีกวาพอแมเดิมได เพราะอํานาจแหง การกระทําในชั้นหลัง ที่เรียกวา สิ่งแวดลอม คือไดแกสิ่งที่เรียกวา กรรม.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ดั ง นั้ น สํ า หรั บ มนุ ษ ย เ รา เมื่ อ มั น มี ค วามดี ม าในสายเลื อ ด ใน กรรมพันธุ ครึ่งหนึ่งคือ ๕๐…เปอรเซ็นต จากพอแม ; นี้ก็เปนสวนหนึ่งที่ดีแน. พอออกมาแล ว ได รับ การอบรมอย างไร ? ถ าได รับ การอบรมผิ ด มั น ก็ เลวได ; เหมือ นทุเรีย นใสปุย ผิด อะไรผิด มัน ก็เลวได. แตถาไดรับ การอบรมที่ดี มัน ก็ ดีก วาเดิม ได ดีจ นเปน พระอรหัน ตก็ได ; ความสําเร็จ ในระยะหลัง มัน จึงอยูที่ กฎของการกระทํา แลวแตวาจะเอาอะไรใสลงไป. รวมความวา การสํ า เร็จ ประโยชนใ นขั ้น สุด ทา ย นี ้อ ยู ที ่ก าร กระทํา หรือ การอบรม ที่จ ะทํา ใหเ ชื้อ เลวลงก็ไ ด, ใหเ ชื้อ ดีไ ปกวา เดิม ก็ไ ด ;
www.buddhadassa.in.th
๕๔
การกลับมาแหงศีลธรรม
แตก็ไมยกเลิกความดีที่มีมาในกรรมพันธุ ; ฉะนั้น เพื่อใหมนุษยดีในทางศีลธรรม ก็จะตองมีพื ชพั น ธุที่ ดี ที่ เลือกมาแลว ที่ อ บรมมาดี จนมีพื ชพั น ธุที่ ดี คลอดออก มาเปนลูก แลวยังไดรับการอบรมดีอีก มันก็เลยดีถึงที่สุด. ฉะนั้น ขอใหไปพิจารณาดูดวยวา มันเปนไปไดตามนี้หรือไม ? หรือ ถาไมเห็นดวย จะคัดคานเสียเดี๋ยวนี้เลยก็ได มีความเห็นอยางไรก็ลองวามา ในการ ที ่จ ะวางกฎลงไป วา ตอ งทํ า พืช พัน ธุ ใ หด ี ;และพอคลอดออกมาแลว ตอ ง อบรมให ดี ที่ สุ ด , ให เ ป น การกระทํ า ที่ ถู ก ต อ ง ก็ จ ะได ม นุ ษ ย ดี เ ต็ ม ตามที่ เ รา ปรารถนา. นี่เรื่องในสายเลือดหรือกรรมพันธุ คือ สิ่งที่จะถายทอดจากชั่วอายุคน ถึง ชั ่ว อายุค นในแงข อง คุณ สมบัต ิข องความเปน มนุษ ย เราจะตอ งแวดลอ ม ใหดีตลอดเวลา.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ถาม : ที นี้ ในหั วขอ ที่ ๒ ;หั วขอ ที่ ๑ คื อ กรรมพั น ธุห รือ สายเลื อ ด, หั ว ขอ ที่ ๒ คือ เบิกบานออกมาเป นมนุษ ย เปนคนแลว ก็มีป จจัยแวดลอ ม เราลอง ทายดูซิวา สิ่งแวดลอมนี้คืออะไร ?
ตอบ : สิ่งแวดลอมนี้ก็คือ ที่เราเรียกเปนภาษาอยูเดี๋ยวนี้วา คุณคาทางสังคม นี ้ค ือ สิ ่ง แวดลอ ม, จะเรีย กวา เปน ประเพณีห รือ วัฒ นธรรม หรือ อะไรก็ได ที่ ทํ าอยู เดี๋ ย วนี้ ในการกิน การอยู การนอน การเที่ ย ว การ ใช ของอะไรต า ง ๆ ที่ เรีย กว า คุ ณ ค า ในสั งคม ว าอะไรมี ค า อะไรไม มี คา ; นี ่ค ือ สิ ่ง แวดลอ ม ที ่จ ะทํ า ใหเ ด็ก ที ่เ กิด มาใหมนี ้ เปลี ่ย นแปลง ไปตามคุณ คา พวกนี ้แ หละ ; ซึ ่ง ลว นแตม าจากความคิด ความเห็น ที่ เราใหคุณคาแกมันเทานั้นเอง.
www.buddhadassa.in.th
ศีลธรรมคืออะไร (ตอ)
๕๕
ถาเราจะพูดวา การแวดลอมทางสังคม โดยสังคม นี่มันกระโดด เร็ว เกิน ไป ; จะตอ งนึก ถึง การศึก ษา, การอบรมกัน แตออ นแตอ อก เมื ่อ ยัง นอนอยูในเบาะ ใหเปน ขึ้น มาอยางถูก ตอ ง กอนจะไปมีการสัง คมนอกบาน. ขอนี้ก็ถูกแลว ตามตัวหนังสือ จะเรียกวา การสังคมก็ได คือพอเด็กเกิดออกมา ชั่วโมงเดียวเทานั้น มันก็เรียกวามีการสังคมได คือมีพอและแม หรือผูที่เขาไป แตะตอง ; นี่ก็เปนการสังคมได, จะเรียกวาสิ่งแวดลอมได จะเรียกวาสังคมก็ได ; แตยังไมเรียกดีกวา. คําวา “สังคม” เอาไปไวเรียกตอเมื่อเด็กโตแลวไปเลนหัวกับใครได, ไดรับการแวดลอมอยางไรภายในสังคมนั้น ; เพราะตองมีการอบรม ศึกษาอยาง สม่ําเสมออยางถูกตอง ตั้งแตออนแตออกไปจนกระทั่งตาย. แตวาเดี๋ยวนี้จะ ตั้งปญหาขึ้นมาวา การใหการแวดลอมอบรมอยางนี้ นั้นโดยใจความคืออะไร ? โดยใจความนั้น อยากจะใหเล็ง ไปถึง ในขอ ที่วา คือ การตอ นรับ กรรมพัน ธุ, แลวปรับปรุงขยับขยายพัฒนาใหกลายเปนพืชพันธุใหมที่ดี.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org [ การตอนรับและพัฒนากรรมพันธุ ]
การแวดลอ มนี ้ คือ การตอ นรับ กรรมพัน ธุ ที ่ม ีม าแลว ในสาย เลือดของเรา ที่ติดมาในทารกคนนั้น ; การที่เราแวดลอมมัน นั้นคือการตอนรับ คุณคาทางกรรมพันธุที่มีมาแลวในสายเลือด ;คือการยอมตอนรับใหเหมาะสม. ทีนี้ ตอ จากนั้นก็พัฒ นามัน. พัฒ นาคือ ทําใหดีขึ้น ๆ ตอไปใหม ใหเบิกบาน และใหเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี ใหสุดเหวี่ยง อยางนี้มากกวา ; จึงเรียกวา การตอนรับแลวพัฒนามัน. การศึกษาอบรมตั้งแตคลอดออกมา จนกระทั่ง ตายนี้ ก็คือสิ่งนี้.
www.buddhadassa.in.th
การกลับมาแหงศีลธรรม
๕๖
ถาจะถามวา การทําการตอนรับ แวดลอมนี้คืออะไร ? ก็คือตอนรับ ความดี ที่มีมาในกรรมพันธุ, และทําใหวิวัฒนาการตอไปในทางที่ดีขึ้น. แลวเรา จะปฏิบัติอยางไรเกี่ยวกับขอนี้ ? ก็คือบิดามารดานั่นแหละจะตองรูเรื่องนี้ แลวก็ทาํ ใหมันเปนการตอนรับ.ถาตอนรับไมดี ก็อาจจะทําลายบางสวน บางอยางเสีย ก็ได ; เหมือนมือรับของไมดี ทําใหบี้แบนไป ทําใหสกปรกไปก็ได. การพัฒนาก็ตองพัฒนาอยาถูกตองตั้งแตออนแตออกมาอีกเหมือน กัน ; จนเปน เด็ก จนเปน หนุม สาว จนเปน ผูใหญเองแลวก็จะตองพัฒ นากัน เรื่อยไป. นี้คือคาของศีลธรรมที่แสดงออกมา ในเมื่อสัตวนั้นไดรับการตอนรับ และพัฒนา หลังจากที่คลอดมาแลว คือ เพาะปลูกกรรมพันธุนั้นใหเปนพันธุที่ดี เต็มที่ตอไป.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ....
....
....
....
หั ว ข อ ที ่ ๓. คุ ณ ค า ท างศี ล ธรรม ที ่ ม นุ ษ ย จ ะต อ งมี ท ุ ก
อิริยาบถ.
คุณ คาทางศีลธรรมที่มนุษยจะตองมีทุกอิริยาบถ นี้เราไมไดพูดถึง กรรมพันธุ หรือไมไดพูดถึงการอบรมที่แวดลอมโดยตรง ; แตเราพูดถึงความ จํ า เป น ที ่ ม นุ ษ ย จ ะต อ งประพฤติ ก ระทํ า ด ว ยตนเอง หรื อ ด ว ยการช ว ย เห ลื อ ข อ ง ผู ช ว ย เห ลื อ ก็ ต า ม ให ม ี สิ ่ ง ที ่ เ รี ย ก ว า ศี ล ธ รรม นั ้ น อ ยู ท ุ ก อิริยาบถตั้งแตคลอดออกมา จนกระทั่งตาย.
www.buddhadassa.in.th
ศีลธรรมคืออะไร (ตอ)
๕๗
ขอใหลองพิจารณาดูใหดี ใหมองเห็นความจริง เห็นขอเท็จจริงขอนี้ เพื่อวาจะไดทําอยางระมัดระวัง ละเอียดลออถึงที่สุด. เดี๋ยวนี้ตามที่สังเกตเห็นอยู ไดกระทํากันอยางหยาบ ๆ ไมระมัดระวังใหถูกตอง ใหนาชมทุกกระเบียดนิ้ว แลวก็ติดนิสัยเลวอันนี้มาจนกระทั่งโตเปนผูใหญ. บวชเปนพระเปนเถร แลวก็ยัง เลวถึงขนาดที่วาทําอะไรก็ทําหยาบ ๆ หวัด ๆ ; มองขาม ; ไมทําอยางละเอียดลออ ใหแสดงถึงความมีศีลธรรมอยูทุก ๆ อิริยาบถ. เปนผูนําทางธรรม ทางศาสนา อยูแลว ยังทํ าหยาบเสียเอง ไม มีลักษณะแหงศีลธรรมอยูทุ กอิริยาบถ ; แล ว ทําไมจะไปเกณฑใหชาวบานทํา. ขอนี้ตองขอรองเปนพิเศษ วาตองทํา. [ การพัฒนาทารกใหมีศีลธรรมทุกอิริยาบถ ]
คนทุก คนจะตอ งระมัด ระวัง ในการพัฒ นาทารก ที ่ค ลอดออกมา จากทองแม โดยมีหลักที่จะยึดถือทางศีลธรรมวา จะทําอยางละเอียดลออ สุขุม ถึงที่สุด ไมใหยกเวนแมแตกระเบียดนิ้วเดียว ที่จะเปนชองโหวสําหรับความไมมี ศีลธรรม จึงขอใหไปตรวจสอบกันเสียใหม สังคายนาเสียใหม นับตั้งแตวาคลอด ออกมาจากทองแม จะตองไดรับการอบรมแวดลอมใหมีศีลธรรมอยูตลอดเวลา อยาไปทําผิด คือไปแวดลอมดวยสิ่งที่ทําใหไมมีศีลธรรม.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org อย างไรก็ ดี ข อ นี้ ย อมรับ วา มั น เป น ของยาก ที่ ว าใครจะมี ค วามรู ความเขาใจถูกตองสมบูรณ จนถึงชั้นที่จะมาจัดมาทํา ใหทารกที่ออกมานั้น ไดรับ การแวดลอมดวยสิ่งที่สงเสริมศีลธรรม โดยดานเดียว. แตถึงอยางไรก็ดี บรรพบุรุษสมัยกอนโนน เขาก็มีขนบธรรมเนียมประเพณีที่ดี ที่ไดทํากันมาแลว เพื่อมี ผลอยางนี้อยูไมนอย ; เราไปละทิ้งเสียบาง เปลี่ยนแปลงเสียบาง กระทั่งงมงาย โงเขลาไมรูวาจะทําอยางไร มันก็สูญหายไปเสีย. ควรจะรื้อฟนกันขึ้นมาใหม
www.buddhadassa.in.th
๕๘
การกลับมาแหงศีลธรรม
ม าทํ า ให ล ู ก ท ารก นั ้ น ได ร ั บ ก ารแ วด ล อ ม ที ่ ถ ู ก ต อ ง ใน ก ารที ่ จ ะ เป น ผู มี ศีล ธรรมไปตั ้ง แตแ รกคลอดออกมา ; มัน เปน เรื่อ งยืด ยาว มีร ายละเอีย ดมาก พูดที่นี้ก็ลําบาก แตก็จะใหไวแตหัวขอ ซึ่งเอาไปคิดไดเอง. ทีนี ้ต อ มาก็ถ ึง ขั ้น ที ่จ ะมีช ีว ิต อยู ตั ้ง แตเ กิด จนตาย อีก เหมือ นกัน จะต อ งบริห ารรางกาย หรือ เป น อยู ที่ เรีย กกั น ว า : เรื่อ งกิ น เรื่อ งอยู ; กิ น อยู ใช สอย อะไรก็ ต าม จะต องป ระกอบ อยู ด วยศี ล ธรรม จะต องเป น ผู มี หิร ิโ อตตัป ปะอยา งเต็ม ที ่ อยู ใ นจิต ใจ ในความคิด ความนึก . ตอ งไมทํ า ความชั ่ว เมื ่อ ไดโ อกาส คือ คนไมเ ห็น , ฉะนั ้น จะตอ งอบรมใหเ ขามีค วาม ละอาย แมอ ยู ค นเดีย ว ก็ไ มก ลา กระทํ า สิ ่ง ที ่ไ มน า ดู ; นี ้ม ีร ายละเอีย ดมาก ไปศึกษาเอาเอง :ตั้งแตกินอาหาร ถายอุจจาระ ปสสาวะ อาบน้ํา อาบทา อะไร ขอให ทํ า ด ว ยสติ ส ั ม ปชั ญ ญ ะ ที ่ ส ง เสริ ม ศี ล ธรรม. อย า ไปทํ า ตามอะไรก็ ไ ม รู ; ไมรูจะเรียกวาอะไรก็เรียกวา วัฒนธรรมใหม ๆ ,วัฒนธรรมสมัยใหม ซึ่งปราศจาก หิริแ ละโอตตัป ปะ. ในการพูด ในการจา การนุ ง การหม การอะไรตา ง ๆ ที ่ไมมี หิริแ ละโอตตัป ปะนั ้น อยา ใหม ัน มีเ ขา มา. และขอใหส ัง เกตดู จนถึง กับ ไม ดู ถู ก ดู ห มิ่ น วั ฒ นธรรมโบราณ โดยเฉพาะของคนไทยเรา ที่ มี หิ ริ แ ละโอตตั ป ปะ มาก ; เชน วา ขา งนอกนุ ง หม อยา งไร เขา ไปในหอ งน้ํ า หอ งสว มที ่ม ิด ชิด ก็ย ัง มี วั ฒ นธรรมที่ ร ะมั ด ระวั ง อย า งนั้ น อย า งนี้ เป น ต น . นี่ เรี ย กว า ในชี วิ ต ที่ เป น อยู ประจําวันก็มีศีลธรรม.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org
www.buddhadassa.in.th
ศีลธรรมคืออะไร (ตอ)
๕๙
ทีนี้ อันสุดทาย ก็หนาที่การงาน เรามีชีวิตอยูนั้นสวนหนึ่ง และเรา ตองทําการทํางานโดยเฉพาะก็คืออาชีพ ซึ่งมีการขยายวงออกไป ถึงการเกี่ยวของ กับ ผูอื่น หรือ งานสัง คม เรามีห นา ที่ก ารงานจนตาย ; ทีนี้ก็เราก็ร ะมัด ระวัง การงานนั้น ใหมีศีลธรรมอยูในตัวการงาน. สรุปความขอนี้กันเสียทีวา คานิยมในรูปแบบตาง ๆ กัน ของศีลธรรม สํา หรับ มนุษ ย และที่เ กี่ย วกับ มนุษ ยนั้น ใหดูคา นิย มของมัน นับ ตั้ง ตน มา ตั้ง แตก รรมพัน ธุ ที ่ถา ยทอดมาจากบิด ามารดาทางสายโลหิต ; แลว ก็ม าดู ตอนที่คลอดออกมาแลว ไดรับการแวดลอมอยางมีศีลธรรม ; แลวก็ดูใหละเอียด ไมมีชองวางแมแตนิดเดียววา จะตองประกอบอยูดวยศีลธรรมนี้ทุก ๆ อิริยาบถ นับ ตั้งแตเกิด ออกมา นับ ตั้งแตการกิน การอยู เพื่อ มีชีวิต อยู กระทั่งถึงการมี การศึกษา ทําการทํางาน ตามที่มนุษยควรจะทําอยางมนุษยที่จะตองทํา ทําดวย ความมีมนุษยธรรม ; ไมใชวาจําเปนจะตองหาเลี้ยงชีพเพียงอยางเดียว หรือวา เพื่อความสุขสนุกสนาน ทางเนื้อทางหนัง ทางอายตนะอยางเดียว. นี่คือศีลธรรม ที่มีคุณคาในรูปแบบตาง ๆ กัน ที่เกี่ยวกับมนุษยคนหนึ่ง ๆ .
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ทีนี้ สวนที่ ๒. คานิยมของศีลธรรมที่จะมองดู ....
....
....
....
จากสังคม. สิ่งที่เรียกวา ศีลธรรมที่เกี่ยวกับสังคมไดพูดมาแลว อธิบายใหฟง พิจารณาแยกแยะใหฟงจนจําไมไดวากี่สิบครั้งแลว จะยังจําไดอยูหรือไม ? คือ
www.buddhadassa.in.th
๖๐
การกลับมาแหงศีลธรรม
หัวขอที่วา สิ่งที่สังคมจะตองกระทํา ที่เรียกวา กิจของสังคม หรือสังคมกิจ ทุกชนิด นั้ น ไม มี อ ะไรที่ ไม ใ ช ศี ล ธรรม, เอ า , ทํ า ไมต อ งจดเล า ข อ นี้ พู ด มาหลายสิ บ ครั้ ง แลว. ทีนี้ก็เหลือแตจะสอบดู :ถาม : เขาใจวาอยางไรที่วาไมมีอะไรที่ไมใชศีลธรรม ในบรรดากิจที่สังคมจะ ตองทํา ; เห็นดวยหรือคัดคาน, ถามอยางนี้กอน ? ตอบ : ข อ นี้ เห็ น ด ว ย เพราะว าหลั ก ของสั งคมนั้ น คื อ ความปรกติ ; เช น เดี ย ว กับ ความหมายของคํ า วา ศีล ธรรม. เพราะฉะนั ้น นโยบาย หรือ วิธี หรื อ วิ ช าอะไรก็ ต ามในสั ง คม จะเป น วิ ช าเศรษฐกิ จ หรื อ วิ ช าทางการ เมื อ ง หรื อ อะไรก็ ต าม ถ า เป น วิ ช าที่ ถู ก ต อ ง วิ ช าที่ ดี ก็ ต อ งทํ า ให สั ง คม ป รกติ เมื่ อทํ าสั งค ม ป รกติ ได วิ ช านั้ น ก็ ต อ งมี แก น เป น ศี ล ธรรม . นั่ น คื อ ใจความสํ าคั ญ สรุป ได วา กิ จการที่ ม นุ ษ ย จะต อ งทํ าเกี่ ยวกั บ สัง คมทุก ชนิด ไมม ีอ ะไรที ่ม ิใ ชศ ีล ธรรม, ไมม ีอ ะไรที ่ไ มใ ชศ ีล ธรรม. ยอ น นึ ก ไปถึ งส ว นบุ ค คล ที่ ได พู ด มาหยก ๆ วา ไม มี อ ะไรที่ ไม ใช ศี ล ธรรม ตั้ งแต เกิ ด จนตาย ; ตอ งกระทําอะไรอยางที่มีคาทางศีล ธรรม.เดี๋ยวนี้เมื่อ เติบ โตเปนผูใหญ มีความผูกพันกันเปนสังคมมนุษยแลว กิจที่สังคมนั้นจะตองทํา ก็ไมมีอะไรที่มิใช ศีลธรรม.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org แตเ ดี ๋ย วนี ้ มนุษ ยไ ดแ ยกหนา ที ่นั ้น ๆ ออกไปเปน หลาย ๆ อยา ง จนไมม ีคํ า วา ศีล ธรรมเหลือ อยู ; เชน การศึก ษา การประกอบอาชีพ การ ปกครอง การเมือง การเศรษฐกิจ กระทั่งการทําสงครามรบราฆ าฟน เขาก็แยก ออกไปเป น อย า ง ๆ แล ว ความหมายของศี ล ธรรมก็ ห ายไปหมด. เดี ๋ ย วนี้
www.buddhadassa.in.th
ศีลธรรมคืออะไร (ตอ)
๖๑
เรามากระตุกกลับมาใหมวา ทั้งหมดนั้น ทุกอยางนั้น ไมมีอะไรที่ไมใชศีลธรรม, มันเปนศีลธรรม ; การทําหนาที่ของมนุษยทุกอยางเปนเรื่องของศีลธรรม :ก. การศึกษาของมนุษ ย นับตั้งแตเริ่มมีการศึกษาของมนุษ ย, ก็ เปนเรื่องของศีลธรรม. ข. การทําหนาที่ทั่ว ๆ ไปของมนุษยเรา เชนการสงเคราะห, ก็เปน ศีลธรรม. ค. การประกอบอาชีพ ก็คือการดํารงอยูอยางมีศีลธรรม. ง. การดําเนินการปกครองบานเมืองประเทศ นี้ก็เปนศีลธรรม. จ. การเมืองที่ตองทําทั้งในประเทศ นอกประเทศ, นี้ก็เปนศีลธรรม. ฉ. ตัวการเศรษฐกิจนั่นแหละ คือตัวศีลธรรมที่จะตองทําใหดีที่สุด. ช. การทําสงครามกันก็เปนเรื่องศีลธรรม ; ถาทําถูกตองตามความ หมายอันนี้ ก็คือทําสงครามเพื่อความมีอยูแหงความถูกตอง.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org การทํ า สงครามไมใ ชฆ า กัน เลน ดว ยอํ า นาจของกิเ ลส เห็น ประโยชนของตัว แลวก็ฆ าผูอื่นอยางนั้นไมใชศีลธรรม, และไมใชสงครามใน ความหมายนี้ ; และไมใชสิ่งที่มนุษยจะตองทํา ; กระทั่งวา การประหารชีวิต คนกระทําผิด ใหตายไปโดยสมควรแกโทษ นี้ก็เปนศีลธรรม ; หรือการไปรบรา ฆาฟนกันใหเกิดความถูกตองขึ้นมา ในระหวางประเทศชาติในโลกนี้ ก็เรียกวา ศีลธรรม. แตวา เขาจะทําสงครามกันดวยความหมายอันนี้หรือไม มันอีกเรื่อง หนึ่งตางหาก.
www.buddhadassa.in.th
๖๒
การกลับมาแหงศีลธรรม
เดี ๋ ย วนี ้ เ รามาชี ้ เ ฉพาะแง ที ่ ว า ถ า ทํ า อย า งถู ก ต อ งแล ว ก็ เ ป น ศี ล ธรรมไปหมด แม แต การต อ งรบราฆ าฟ น กั น เพราะไม มี ท างเลื อ กอย างอื่ น . เหมือนกับเราจะตองกินยาถาย หรือใหสัตวกินยาถาย ซึ่งจะตองมีสัตวพยาธิตายมาก, ถามันมีความถูกตอง หรือมีเหตุผลที่ถูกตอง หรือทําไปดวยเจตนาเพียงเทานั้น มัน ก็ยังเปน ศีล ธรรมอยูนั่น แหละ ; คือ มีขอ ยกเวน ทางศีล ธรรม ที่ทําใหม นุษ ย กินยาถายได. แมพระก็ฉันยาถายได ทั้ง ๆ ที่วายาถายมันทําใหตัวพยาธิตายไป ; แตถาแกลงฆาสัต วเล็กสัต วนอย อะไรก็ตาม เลนโดยไมมีเหตุผ ลทางศีล ธรรม มันก็ตองเปนบาปเปนกรรม, เปนปาณาติบาติอ ยางนี้. ใหรูจักแยกความหมาย ของคําพูด หรือการกระทําอยางเดียวกันออกเปน ๒ อยาง เพราะมันมีความหมาย เปน ๒ อยาง : ความหมายที่เปนไปในทางศีลธรรม มีเจตนาอยางหนึ่ง, ความ หมายที่ เป น ไปทางกิ เลส ก็ มี เจตนาอี ก อย างหนึ่ ง . สิ่ งที่ อ ยากจะพู ด แล วพู ด อี ก อยากจะใหเ ปน ที ่เ ขา ใจกัน ในขอ นี ้ก ็ส รุป ความอยา งนี ้วา ไมม ีอ ะไรที ่ไ มใ ช ศีลธรรม.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org การศึก ษา ; นับ ตั ้ง แตว า ลูก เด็ก ๆ จะตอ งศึก ษา ผูก พัน กัน เปน หมู เรีย นรว มกัน อะไรอยา งนี ้ มัน ก็ต อ งมีศ ีล ธรรม, ตอ งเปน ไปอยา ง ถูกตองตามเรื่องของศีลธรรม ; มิฉะนั้นก็จะเปนชอ ง เปนโอกาสแหงการทําชั่ว ทํ า เลว อย า งหาชิ ้ น ดี ไ ม ไ ด . ฉะนั ้ น ระวั ง เรื ่ อ งเพศศึ ก ษ า สหศึ ก ษ า อะไรต า ง ๆ ถ า ปราศจากความหมายเพื ่ อ ศี ล ธรรมแล ว ไม ใ ช ก ารศึ ก ษา ในที่นี้ ; ถาเปนการศึกษาในที่นี้ คือถูกตองแลว ตองมีหัวใจเปนศีลธรรม.
www.buddhadassa.in.th
ศีลธรรมคืออะไร (ตอ)
๖๓
การทํา หนาที่ก ารงาน, พอเสร็จจากการศึก ษาแลว เราก็ตอ งทํา หนา ที ่ก ารงาน ; ถา ยัง มีค วามหมายอัน ถูก ตอ งอยู ก็จ ะเต็ม ไปดว ยศีล ธรรม นับตั้งแตวา มีหนาที่การงานที่เหมาะสม ปฏิบัติไดดี ไมมีใครเดือดรอน แมแต ตนเองไม เดื อ ดรอ น ผู อื่ น ไม เดื อ ดรอ น มี ความเจริญ สบายกั น พรอ ม ๆ กั น ไป อยางนี้เปนศีลธรรม. ทีนี้ ดูใหแคบเขามา วา การงานที่ทําเพื่ออาชีพ เลี้ยงปาก เลี้ยง ท อ งของตั ว แท ๆ ก็ ยั งเป น เรื่อ งของศี ล ธรรม ; เพราะว า ศี ล ธรรมมี ค วามหมาย มากมายหลายอยาง และแตละอยางมันกวางเหลือเกิน. ถายังไมลืมเสียใน คําวา สีละ แปลวา ปรกติ ละก็ คงจะเขาใจได ; เพราะมันมีความหมายรวมจุดอยูที่นั่น. เรามีอาชีพก็เพื่อใหมันเกิดการปรกติขึ้นมา ; ถาไมมีอาชีพแลว ก็ไมมีอะไรจะกิน แลวเกิดความลําบากระส่ําระสาย จนกระทั่งถึงตาย. ฉะนั้น บุคคลหรือครอบครัว ตองมีอาชีพ. การทําอาชีพใหรอดชีวิตอยู อยางผาสุก อยางสงบเรียบรอย นี้ก็ เปนศีลธรรม.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org เปน อัน วา การประกอบอาชีพ อยูนั่น แหละ คือ การประพฤติ ศีล ธรรม. ทําไปจะต องแยกเป นคนละอยาง เรียนเป นคนละอยาง แลวทํ ากัน คนละที ; นี ้ก ็ค ือ ความโงที ่ม ัน เพิ ่ง จะเกิด มา. เมื ่อ การศึก ษาเดิน ไปผิด แยก วิชาออกไปหลายแขนง จนไปสุดโตงสุดเหวี่ยงกันอยู แตละแขนง ๆ ไมมารวมจุด อยูที่ศีลธรรมคําเดียว มนุษยนี้ก็เลยไมมีความสงบสุข ไมสมกับวาเปนมนุษย การปกครองบ า นเมื อ ง แบบเผด็ จ การสมบู ร ณาญาสิ ท ธิ ร าช ก็ ด ี ประชาธิ ป ไตย ก็ ด ี ทุ ก แบบถ า เป น การถู ก ต อ งแล ว การครองเมื อ ง
www.buddhadassa.in.th
๖๔
การกลับมาแหงศีลธรรม
นั ้น จะเปน ศีล ธรรม คือ การกระทํ า ใหม ีค วามงา ย ความสะดวกในการที ่ท ุก คน จะอยู ก ัน เปน ผาสุก . เพราะฉะนั ้น การปกครองก็ค ือ การศีล ธรรม. วิช าการ ปกครอง คือ วิช าศีล ธรรมที ่อ ยู อ ยา งลึก จนไมม องกัน ; กระทั ่ง การเมือ ง ซึ่งเดี่ยวนี้ รูจักกันแตในแงสกปรก หลอกลวงทั้งนั้น เลยไมมีศีลธรรมในการเมือง และการเมืองก็เลยไมใชศีลธรรม. แต ถ า เอ าต าม ธรรม ชาติ เ ดิ ม ๆ ของม นุ ษ ย ที ่ บ ริ ส ุ ท ธิ ์ แ ล ว กิจ กรรมที ่เ ปน การเมือ งนั ้น ก็เ ปน ศีล ธรรม ; เพราะวา ผู ที ่ฉ ลาด หรือ มี อํานาจ หรือวาทุ กคนมอบอํานาจ ก็ดํ าเนิน กิจการนี้ไป ในลั กษณะที่ ทุกคนจะมี ความสงบสุข ไดร ับ อิส รภาพ เสรีภ าพ อะไรอยา งถูก ตอ ง. เพราะฉะนั ้น การเมือ งคือ ศีล ธรรมอยา งยิ ่ง อยา งนา บูช า ; แตเ ดี ๋ย วนี ้ม ัน เปลี ่ย นรูป เปน การเมืองสกปรก การเมืองหลอกลวง ก็ไมควรจะเรียกวาการเมือง มันเปนการเมือง เลน ตลกอะไรอยา งหนึ ่ง มากกวา . ถา เรีย กวา การเมือ ง ก็แ ยกตัว ออกไป เปน การเมืองของกิเลส ; ไมใชการเมืองคือศีลธรรมอยางที่กําลังพูดอยูนี้.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ทีนี ้ มาดูสิ ่ง ที ่เ ปน ปญ หาอยา งมากที ่ส ุด ในโลกปจ จุบ ัน นี ้ คือ เรื่ อ ง เศรษฐกิ จ น้ํ า ตาลแพง ข า วสารแพง หมู แ พง อะไรก็ ยุ ง ไปหมด เรื่ อ ง เศรษฐกิจ นี ่. ทํ า นา ทํ า ไร ก็ร วมกัน เรีย กวา เศรษฐกิจ ; ที ่แ ทม ัน เปน เรื ่อ ง ศีล ธรรม. ถา ทุก คนทํ า ไปดว ยเจตนาดี แลว สิ ่ง เหลา นี ้จ ะไมส รา งปญ หาขึ ้น . ความหมายของคํ าวา เศรษฐกิจ ทํ าการค า โดยผู ค า นี้ ก็ เพื่ อ ให ค วามสะดวก ; เพราะว า ต อ งมี ก ารแลกเปลี่ ย น ต อ งเก็ บ รัก ษา ต อ งสนองความต อ งการเมื่ อ ถึ ง โอกาส มัน จึง ตอ งมีก ารคา หรือ การกระทํ า ที ่เกี ่ย วกับ การคา . ฉะนั ้น พอ คา ก็ ไมควรจะเปนผูที่คอยจองโอกาสแตจะหากําไรอยางตาถลน ; นั้นคือไมมีศีลธรรม.
www.buddhadassa.in.th
ศีลธรรมคืออะไร (ตอ)
๖๕
ถาสํานึกตั ววา เราเป นผูจัดการค า เพื่ อใหเกิดการสะดวกในสังคม ใหสังคมไดรับความสะดวก ในการที่จะถายทอดถายเทอะไรซึ่งกันและกัน อยางนี้ แลวการคานั้นก็เปนศีลธรรมทางสังคม เพื่อประโยชนแกเพื่อนมนุษยจะไดสงบสุข. นี ่ , เศรษฐกิ จ ที ่ ป ระกอบไปด ว ยธรรม ก็ เ ป น ศี ล ธรรม ; แต ม ั น หาไม ไ ด ; มันกลายเปนแตโอกาสของบางคนบางพวกที่จะสรางกําไรมหาศาล ; เรื่องเศรษฐกิจ ก็เปนเรื่องเลวทรามไป เปนเรื่องที่ทําใหมนุษยปนปวนยุงยากที่สุด ในหมูมนุษย. โดยเฉพาะในป จ จุ บั น นี้ ที่ วา เกิ ด ฝ ายซ าย ฝ ายขวา เกิ ด นายทุ น เกิ ด ชนกรรมาชี พ อะไรขึ ้ น มา ก็ เ พราะการเศรษฐกิ จ มั น ไม ม ี ศ ี ล ธรรม เสีย เลย. ถา เศรษฐกิจ ยัง คงเปน ศีล ธรรมมีศ ีล ธรรม ปญ หาเหลา นี ้ก ็ม ีไ มไ ด แลวมนุษยก็อยูกันดวยความสงบสุข. การทะเลาะวิวาท ซึ่งขยายตัวเปนการสงครามนี่ ดูใหดีวา ทําไม จะตองทะเลาะวิวาท ? ทะเลาะวิวาทดวยกิเลส หรือวาทะเลาะกันดวยเหตุผล หรือ สติป ญ ญา ? สํ า หรับ การสงคราม ก็ค ือ การทะเลาะวิว าทนั ่น เอง. ถา ทํ า ไปดวยกิเลส มันก็เปนเรื่องฆาฟนกันอยางสัตวเดรัจฉาน ; ถาทําไปดวยสติปญญา ก็จะจัดการอะไรใหเรียบรอยไปได เพื่อความสงบสุขของมนุษย ซึ่งฝายหนึ่งจะตอง กระทํ า กับ ฝา ยหนึ ่ง ซึ ่ง เปน ฝา ยที ่เ ปน พาล หรือ เปน อัน ธพาล ; ฉะนั ้น การ ปองกันตัว หรือปองกันความเปนธรรม นี้ก็เปนศีลธรรม.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org การทํ า ให เ กิ ด ความสงบสุ ข เด็ ด ขาด ราบคาบลงไปได นี ้ ก็ เปน ศีล ธรรม ; หากแตวา ตอ งทํ า ดว ยจิต ใจที่บ ริส ุท ธิ์ หรือ ประกอบอยูดว ย ศีลธรรมนั่นเอง.
www.buddhadassa.in.th
๖๖
การกลับมาแหงศีลธรรม
ดูจะหมดแลวกระมัง ถาพูดใหเห็นไดวา แมแตสงครามก็คือศีลธรรม ดูจะไมมีอะไร ที่จะเปนปญหาวามิใชศีลธรรม. ที นี้ ขนบธรรมเนี ย ม ประเพณี นั้ น เป น เครื่ อ งรองรั บ ศี ล ธ ร ร ม เ ป น เ ป ลื อ ก ข อ ง ศี ล ธ ร ร ม เ ป น ภ า ช น ะ ร อ ง รั บ ศี ล ธ ร ร ม . ศีลธรรมคือการกระทําเพื่อใหเกิดความสงบ หรือความปรกติอยูในรูปตาง ๆ กัน ; พอเราเห็นวาอยางนี้ดี ก็ทําเปนธรรมเนียมประเพณีขึ้นมา. คนทีหลังไมตองคิด ใหมันยุงหัว ทําไปไดตามขนบธรรมเนียมที่ไดมีอ ยูแลว ก็จะอยูกันเป นสุขได. อยางนี้เราเรียกวา ประเพณีหรือขนบธรรมเนียมนั้นเปนภาชนะ หรือเปนเปลือก ที่จะรักษาศีลธรรมไว ใหอยูอยางเดนชัด มั่นคงและงายสําหรับทุกคน แมคนที่ ไมมีสติปญญา. ในสมั ย โบราณ เราจะพบว า เขามี ข นบธรรมเนี ย มประเพณี ที่ดี ๆ มากมาย ซึ่งลวนแตทําใหคนเสียสละ ไมเห็นแกตัว ทําลายความเห็น แกตัว แลวไปสรุปอยูที่ความรูสึกวา เราทุกคนเปนเพื่อนทุกข เกิด แก เจ็บ ตาย ดวยกันทั้งหมดทั้งสิ้น. เขาสอนใหคิดเชนนั้น ใหทองบนเชนนั้น ใหมีการ กระทําเพื่อความเปนอยางนั้น ; มีการทําบุญชนิดที่เจือจาน ในลักษณะที่ถือวา ทุกคนเปนเพื่อนทุกข เกิด แก เจ็บ ตาย ดวยกันทั้งหมดทั้งสิ้น.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org การกระทํ า นั ้ น มั ก จะกระทํ า ในรู ป ของส ว นรวม เช น สร า ง อะไรขึ้น มา หรือ บํ า รุง อะไรขึ้น ไว, รัก ษาอะไรใหค งอยู : แมน้ํา ลํา คลอง หวยหนอง คลองบึงบาง ก็รักษากันไวอยางดี ไมรุกล้ํา ไมเอาเปรียบ ; มีการ
www.buddhadassa.in.th
ศีลธรรมคืออะไร (ตอ)
๖๗
เสียสละ ไมเห็นแกตัว เห็นแกผูอื่น เห็นวาเปนมนุษยดวยกัน สรางวัดสรางวา ขึ้นมา สรางสิ่งนั้นสิ่งนี้ขึ้นมา เพื่อประโยชนแกทุกคน. ขนบธรรมเนียมประเพณีอันนี้มันหายไป หรือมันสูญไปโดยเจตนา เปลี่ยนเปนเรื่องรูปแบบสําหรับกอบโกย หรือเอาเปรียบกันเสีย เปนเรื่องการคา ไปเสีย. แมจะสรางวัดสักวัดหนึ่ง ก็กลายเปนเรื่องการหากําไรของคนหลาย ๆ ฝาย มันก็ผิดความมุงหมายเดิม. นี้ เราก็ ต อ งรูจั ก สิ่ งที่ เรีย กวา ขนบธรรมเนี ย มประเพณี นี้ ให ดี ๆ ; เพราะเดี๋ย วนี้มัก จะรวมเรีย กวา วัฒ นธรรม. ระวังใหดี ถา มีเจตนารมณผิด มัน ไมเ ปน ศีล ธรรม ; เปน วัฒ นธรรมเนื ้อ หนัง ตามใจกิเ ลส สง เสริม กิเ ลส เหมือนที่เรียกกันวา วัฒนธรรมใหม วัฒนธรรมตะวันตก วัฒนธรรมฝรั่ง ที่ทําลาย ศีลธรรม ; วัฒนธรรมเหลานั้นทําลายศีลธรรม.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ขอทําความเขาใจแทรกตรงนี้สักนิดวา เมื่ออาตมาพูดวา “ฝรั่ง” นั่น คือพูดตามธรรมเนียม วาฝรั่งสวนมาก.
ฝรั่งสวนมากนี่นิยมทางวัตถุ รูจักแตวัตถุ สงเสริมกาวหนาแตเรื่อง ทางวัต ถุ ; นี่เ ปน เรื่อ งของฝรั่ง ใหม ๆ. ฝรั่ง เกา ๆ ที่ไ มห ลงนิย มวัต ถุก็ม ี ; เดี๋ย วนี้ฝ รั่งที่ยังดีอ ยูก็มี แตเปน สว นนอ ย. เพราะฝรั่ง เขาเกง ในทางกา วหนา ทางประดิษฐ แลวก็เปนไปในทางวัตถุมากขึ้น จนเกิดวัฒนธรรมลามกอนาจาร เชนที่นําเขามาในประเทศไทยเปนตน.
เมื่อเรียกวาฝรั่ง หมายถึงฝรั่งสวนหนึ่ง จําพวกหนึ่ง, ที่เปนวัตถุนิยม เกินไป ตามใจกิเลสมากเกินไป, ก็จะมีวัฒนธรรมเนื้อหนัง กามารมณ ปราศจาก
www.buddhadassa.in.th
๖๘
การกลับมาแหงศีลธรรม
ศีลธรรมโดยสิ้นเชิง. ฉะนั้น เมื่อพูดวาวัฒ นธรรม ก็ใหรูวา วัฒ นธรรมไหนละ ? วัฒนธรรมอยางไร ? วัฒนธรรมฝายไหน ? วัฒนธรรมฝายที่จะบังคับกิเลส หรือวา วัฒ นธรรมฝายที่จ ะตามใจกิเลส ? ขอใหระวังใหดี ๆ. เดี๋ย วนี้แ มแ ตก ารศึก ษา ก็ไปตามกนฝรั่งในสวนนี้เสียมาก ก็เลยทําใหเปนฝรั่งแบบนี้เลย ; เราก็สูญ เสีย วัฒนธรรมเดิม คือสูญเสียศีลธรรมนั่นเอง. นี่ แ หละการศึ ก ษาก็ คื อ ศี ล ธรรม, การประพฤติ ป ฏิ บั ติ ทุ ก อย า งทุ ก ประการ ก็คือ ศีล ธรรม ; แมก ระทั่ง การเมือ ง การเศรษฐกิจ การสงคราม ก็คือ ศีล ธรรมโดยเจตนารมณ. แตแ ลว มัน ทํ า ผิด หมด ก็เ ลยไมม ีศ ีล ธรรม ; แม วั ฒ นธรรมหรือ ประเพณี ที่ เป น เหมื อ นภาชนะสํ า หรับ รองรับ นั้ น ก็ เปลี่ ย นไป แตกทําลายไป หรือเนาไป ; ไมรักษาศีลธรรมอันดีไวได. ในที่สุดนี้ เปนอันวา เราไดพิจารณากันถึงคาหรือคานิยม ของสิ่งที่ เรี ย กว า ศี ล ธรรม ในรู ป แบบที่ ต า ง ๆ กั น เท า ที่ มั น เกี่ ย วข อ งกั น อยู กั บ มนุ ษ ย ; เดี๋ยวนี้เรามุงหมายจะพูด เทาที่มันเกี่ยวกันอยูกับมนุษย. เราจะตองมองดูสิ่งนั้น ให เ ห็ น ชั ด เสี ย ก อ น แล ว ต อ ไป เราจะเรี ย กมั น กลั บ ม าได ; เพ ราะเรา กําลังพูดกันถึงการกลับมาแหงศีลธรรม.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org เดี ๋ย วนี ้เรากํ า ลัง พูด วา ศีล ธรรมคือ อะไร ; พูด กัน ในรูป ของภาษา มาแลว, พูดกันในรูปแบบของวิทยาการก็แลว, และเดี๋ยวนี้พูดกันในรูปแบบของ คานิยม ในสวนเอกชนก็ดี ในสวนสังคมก็ดี มันมีอยูอยางนี้ ; ซึ่งสรุปความไดวา ไม มี อ ะไรซึ่ ง เป น การเคลื่ อ นไหวของมนุ ษ ย อ ย า งถู ก ต อ งแล ว จะไม
www.buddhadassa.in.th
ศีลธรรมคืออะไร (ตอ)
๖๙
เรีย กวาศีล ธรรมเลย. ถา มองเห็น อยา งนี้ ก็เปน อัน วา ไดม องเห็น คานิย ม ของสิ่งที่เรียกวาศีลธรรมอยางครบถวน ไมมีสวนเหลือ. เปนการสมควรแกเวลาที่จะพิจารณากันในวันนี้ สําหรับสิ่งที่เรียกวา คานิยมของศีลธรรม. การบรรยายแบบมีการสอบถามนี้ ก็พอสมควรแกเวลาแลว.
ขอยุติไวแตเพียงเทานี้ ขอโอกาสใหพระคุณเจาไดสวดบทพระธรรม ที่จะเปนกําลังใจแกการประพฤติธรรม โดยเฉพาะสิ่งที่เรียกวา ศีลธรรม โดยสมควร แกเวลาสืบไป.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org
๖๙
www.buddhadassa.in.th
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org
www.buddhadassa.in.th
การกลับมาแหงศีลธรรม - ๓ ๑๖ มกราคม ๒๕๑๙
ศีลธรรมคืออะไร (ตอ) [ เมื่อกลาวโดยขอควรสังเกต โดยอุปมา ฯลฯ ]
ทานสาธุชน ผูมีความสนใจในธรรม ทั้งหลาย,
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org การบรรยายประจํ าวั นเสาร ภาคมาฆบู ชาเป นครั้งที่ ๓ ในวั นนี้ นั้ น อาตมาจะได ก ล า วโดยหั ว ข อ ว า ศี ล ธรรมคื อ อะไร ต อ จาก ๒ ครั้ ง ที่ แ ล ว มา เพราะวายังไมจบ [ คําปรารภและทบทวน ]
ทานทั้งหลายคงจะประหลาดใจบาง วาทําไมพูดแตเรื่องศีลธรรมคือ อะไร ไมรูจัก จบ ทั้ง นี ้ก็เ พราะวา เราอยากจะพูด กัน ใหล ะเอีย ดละออ ในทุ ก แงทุกมุมที่จะดูกันใหรูจักวา ศีลธรรมนี้มันคืออะไรกันแน.
๗๑
www.buddhadassa.in.th
๗๒
การกลับมาแหงศีลธรรม
ขอซักซอมความเขาใจอยูทุกครั้ง หรือตลอดไป วาเวลานี้เปนยุค เป น ส มั ย ที ่ เ ร า ต อ ง เอ า ใ จ ใ ส ก ั บ สิ ่ ง ที ่ เ รี ย ก ว า ศี ล ธ ร ร ม ; เ พ ร า ะ เหตุการที่ปรากฏอยูตลอดทั่วไปในโลก มีแตวิกฤติการณ คือความยุงยากลําบาก ระส่ําระสาย ถึงกับวินาศไปในบางอยางบางประการ. ทั้งหมดนี้ก็เพราะวาสิ่งที่ เรียกวา “ศีลธรรม” นั่นเอง มันเสื่อมไปในหมูมนุษย คือมนุษยไมมีศีลธรรม ; ถามนุษยเพียงแตมีศีลธรรมอยางเดียวเทานั้น จะแกปญหาตาง ๆ ได. เดี๋ยวนี้ เราไมยอมเขาใจกันเชนนั้น ; เพราะไมรูจักวา ศีลธรรมนั้นคืออะไร. ในวงการศึกษาของโลกทั่ว ๆ ไป รูสึกกันเสียวา ศีลธรรมเปนเรื่อง เล็ก ๆ นอย ๆ สําหรับลูกเด็ก ๆ จดไวในสมุด ก็เลยไมตองสนใจอะไรเกี่ยวกับ ศีลธรรม ในการที่จะทําใหมีขึ้นมา. นี้เ ราก็ไ ดพูด กัน มาแลว ตั้ง ๒ ครั้ง วา ศีล ธรรมคือ อะไร. ใน ครั้งแรกมองดูกันในแงของภาษา ภาษาชาวบาน ภาษาศาสนา ภาษาบาลี ภาษา อื่น ๆ ก็ตาม วาที่เรียกวา ศีลธรรมนั้นคืออะไร ; แลวก็ไดพิจารณากันในรูปแบบ ตาง ๆ ของสิ่งที่เรียกวา ศีลธรรม เพราะบางทีหรือบางแหง ก็เอาศีลธรรมมาพูด อยูในรูปแบบของปรัชญาบาง ของศาสนาบาง ของสังคมศาสตรบาง แมที่สุดแต ในฐานะที่เปนภาวะปรกติของธรรมชาติ ก็ยังเปนสิ่งที่พูดได ; แตสวนมากเขา ก็พูดกันแตในรูปแบบของปรัชญา คือสิ่งที่มีไวสําหรับจะพูดกันอยางเพอเจอเทานั้น เอง ไมมีการปฏิบัติลงไปจริง ๆ เพราะวารูปแบบของปรัชญามันไมใชรูปแบบของ การปฏิบัติ
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org
www.buddhadassa.in.th
ศีลธรรมคืออะไร (ตอ)
๗๓
ในครั้ ง ต อ มาอี ก เราก็ ได พู ด กั น ถึ ง คุ ณ ค า ของศี ล ธรรม ในหลายแง หลายมุม ซึ่ง สรุป ไดวา เปน คุณ คา ที ่เอกชนจะไดรับ อยา งหนึ ่ง คุณ คา ที ่ส ัง คม จะไดรับ อยา งหนึ ่ง . สํ า หรับ คุณ คา ที ่บ ุค คลหนึ ่ง ๆ จะไดรับ นั ้น ก็ไ ดม องดูก ัน ลึก ลงไป ถึง สิ ่ง ที ่เรีย กวา ศีล ธรรมในสายเลือ ด หรือ ศีล ธรรมที ่เปน กรรมพัน ธุ แลว ก็ม องออกมาถึง ศีล ธรรมที ่แ สดงอยู ที ่เนื ้อ ที ่ต ัว เปลี ่ย นแปลงไปตามเหตุ ตามปจ จัย ที ่แ วดลอ ม ; แลว ก็ม องกัน อยา งลึก ซึ ้ง อีก ทางหนึ ่ง วา ศีล ธรรมนั ้น เป น สิ่ ง ที่ ต อ งมี อ ยู ใ นที่ ทุ ก สถาน ทุ ก เวลา และทุ ก อิ ริ ย าบถของมนุ ษ ย ตั้ ง แต คลอดออกมาจากทองแมจนกระทั่งตาย ; แมที่สุดแตจะกินอาหาร จะอาบ จะถาย ก็ตองกระทําใหถูกตองตามหลักเกณฑ ของสิ่งที่เรียกวา ศีลธรรม ; มันมีคุณคาให ไดรับความเปนปรกติสุข ตั้งแตชั้นต่ําที่สุด ไปจนถึงชั้นสูงที่สุดที่มนุษยจะพึงมีได. ที นี้ ในส ว นสั ง คมนั้ น ก็ จ ะถื อ ว า หน า ที่ ข องสั ง คมทุ ก ชนิ ด ล ว นแต เปน ศีล ธรรม ; เพราะวามนุษ ยตั้งใจจะทําสิ่งที่นํามาซึ่งผล คือ ความเปน ปรกติ. คําวา ศีลธรรม แปลวา ความปรกติ ไมมียุงยากลําบาก ระส่ําระสาย.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ทีนี้อะไรบางที่มนุษยไมตองทําเพื่อความเปนอยูเปนปรกติ ? ถาพิจารณา ดู ใ ห ดี แ ล ว ก็ จ ะเห็ น ว า ไม มี อ ะไรเลย ที่ ม นุ ษ ย จ ะไม ต อ งทํ า เพื่ อ จะให เกิ ด ความ ปรกติ: โดยสวนตัวก็เพื่ อรางกาย หรือ จิตใจปรกติ, โดยสวนรวมก็เพื่ อ บานเมือ ง ประเทศชาติ หรือทั้งโลกเป นปรกติ . แม ที่สุด แตการทําสงคราม ถาเป นสงคราม ที่ถูกตอง มีเหตุผล ก็เปนการทําสงครามเพื่อมนุษยจะอยูเปนปรกติ ; เพราะเมื่อ เกิดความไม เป นธรรมหรือไม ถูกตองอะไรขึ้นมาก็ต องแกไข ; เมื่ อ พู ด กันไมรูเรื่อ ง มันก็ตองทํ าสงครามโดยตรง หรือโดยออมก็ตาม เพื่ อ ให ยุติสิ่งที่ขัดแยงเหลานั้ น เพื่อความปรกตินั่นเอง.
www.buddhadassa.in.th
๗๔
การกลับมาแหงศีลธรรม
เมื่อการสงครามก็เปนเรื่องของศีลธรรมแลว เรื่องอื่น ๆ มันก็ตองเปน เรื่องศีลธรรมยิ่งไปกวานั้น เชนการเศรษฐกิจ ถาทําไปดวยกิเลส มันก็เพื่อปาก เพื่ อทอง เพื่ อ ความร่ํารวยของคนนั้ นเอง ; แตถาเศรษฐกิจที่เป นไปตามเหตุผ ล ตามความตองการของคน ผูอยูกันในโลกแลว ก็คือการจัดการทําเพื่อใหเกิดการ สะดวกตาย กิ น อยู ส บาย เป น ปรกติ ไม ใช เพื่ อ ใช เป น โอกาสสํ า หรับ กอบโกย ความร่ํา รวย เหมือ นที ่ทํ า กัน อยู เ ดี ๋ย วนี ้. เศรษฐกิจ ที ่ทํ า ไปดว ยอํ า นาจกิเ ลส มัน ก็เ ปน เศรษฐกิจ ของภูต ผีป ศ าจ ; เศรษฐกิจ ที ่ทํ า ไปความบริส ุท ธิ ์แ ละสติ ปญญาก็เปนเศรษฐกิจของบุคคลที่ควรจะเรียกวามนุษย คือสัตวที่มีใจสูง. เรื่อ งการเมือ งก็เหมือ นกัน ถา เปน เรื่อ งที ่ทํ า อยา งถูก ตอ งบริส ุท ธิ์ แล วก็ ทํ าให บ านเมื อ งปรกติ สุข. ที นี้ คนผู มี อํานาจในการจัด หรือ การควบคุ ม การเมืองทําไปดวยกิเลส มันก็เปนการเมืองของภูตผีปศาจ เปนเรื่องสกปรก นา รังเกียจอยางยิ่ง จนถึงกับมีคนบางคนไดเคยพูดไววา ความเปนมนุษยสิ้นสุดลงที่ การเมือง อยางนี้เปนตน ตั้งหลายรอย หรือพันกวาปแลว. แตถาไดทําไปดวย สติปญ ญา ดวยเหตุผล ดวยความบริสุทธิ์แลว การเมืองก็คือการจัดบานเมือ ง ใหปรกติสุข ; และนี่ก็คือศีลธรรมนั่นเอง.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ถึ ง แม ก ารปกครองเป น ภายในประเทศ ในจั ง หวั ด ในอํ า เภอ ใน ตําบลก็เพื่อ ความปรกติสุข ; ฉะนั้น การปกครองก็คือ ศีล ธรรม เปน สิ่งที่ทําให เกิดความเปนปรกติ ตรงตามความหมายของคําคํานี้ คือคําวา สีละ แปลวา ปรกติ ; คําวา ธรรม แปลวา ภาวะ ก็ได แปลวา เหตุ ก็ได แปลวา ผล ก็ได.
www.buddhadassa.in.th
ศีลธรรมคืออะไร (ตอ)
๗๕
ศีล ธรรมในความหมายวา เปน เหตุข องความเปน ปรกติ, และก็ เปน ผลที่เกิด มาจากเหตุนั้น และก็ เปนภาวะที่อ ยูกัน อยางเปน ปรกติ : นี่คือ ศีล ธรรมสมบูร ณ. การปกครองที ่ถ ูก ตอ งที ่บ ริส ุท ธิ ์นั ้น ก็เ ปน ไปเพื ่อ ความปรกติ ดั ง นั้ น การปกครองนั้ น ก็ คื อ ศี ล ธรรม. เดี๋ ย วนี้ ก ารปกครอง ทํ า ไปโดยอํ า นาจ ของคนมีกิเลส มันก็เลยกลายเปนโอกาส สําหรับกอบโกยอํานาจ หรือประโยชน ใหแ กต น ก็เปน การปกครองของทุรราช หรือ ทรราช หรือ ภูต ผีปศ าจ หรือ อะไร ก็แลวแตจะเรียก ไมใชการปกครองสําหรับมนุษยที่เรียกวาสัตวที่มีใจสูง. ถ า ท า นเข า ใจข อ นี้ ก็ จ ะเห็ น ว า แม แ ต ก ารปกครองก็ เป น ศี ล ธรรม ; แตเ ดี ๋ย วนี ้เ ราไมม องกัน อยา งนี ้ ไมเ รีย กกัน อยา งนี ้. ไปแยกศีล ธรรมไวเ ปน วิ ช าเล็ ก ๆ สํ า หรั บ ลู ก เด็ ก ๆ จดไว ในสมุ ด . ส ว นการปกครอง การเมื อ ง การ เศรษฐกิจ หรือการทําสงคราม นี้กลับใหความหมายไปอยางอื่น : เปนเครื่องมือ สํ า หรับ ทํ า อย า งอื่ น โดยเฉพาะอย า งยิ่ ง ก็ ทํ าไปเพื่ อ อํ านาจหรือ ประโยชน ของ กลุมแหงบุคคลนั้น ๆ อยางไมมีศีลธรรมเลย ทั้งที่ตัวแทของมันก็คือ ศีลธรรม กลาว คือสิ่งที่ทําความปรกติ.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ทีนี ้ อาชีพ ; ถา ทํ า ตามความประสงคอ ัน แทจ ริง ก็ทํ า เพื ่อ เกิด ความปรกติในครอบครัว ในประเทศชาตินั้นอีกเหมือนกัน. ถาแตละคนไมมีอาชีพ หรื อ แต ล ะประเทศไม มี อ าชี พ ให ถู ก ต อ งเพี ย งพอ มั น ก็ ไ ม มี ค วามปรกติ . การ ประกอบอาชีพทุกกระเบียดนิ้ว ถาทําดวยความสุจริตตามความเปนมนุษยที่ถูกตอง ; อาชีพก็คือศีลธรรม. แมแตจะทําไร ทํานา เหงื่อไหลไคลยอยอยูตามทุงนา มันก็ เปนศีลธรรม ; เพราะตองการกระทําไปดวยคุณธรรมหลายอยางหลายประการ เชน ความอดทน ความขยัน ความมีสติรอบคอบ ; มันก็ยังทําเพื่อใหเกิดความปรกติ.
www.buddhadassa.in.th
การกลับมาแหงศีลธรรม
๗๖
มองใหดีจะเห็นวา การที่ประกอบอาชีพหาเลี้ยงชีวิต แมแตของสัตว เชนนก เชนหนู บนตนไม นี้ก็เปนศีลธรรมของมัน ถามันไมทํามันก็ไมอยูไดโดยปรกติ หรือมันจะตองตาย. เมื่อดูที่การศึกษา การศึกษาก็เปนเรื่องของศีลธรรม ไมใชเปนแต เพียงรูหนังสือแลวก็หาประโยชน หาอาชีพ จากการรูวิชาความรูนั้น ; พอเรา เรียนรู เพื่อจะไปทําอะไรอยางหนึ่งอยางใด แลวสิ่งที่ไปทํานั้น จะเปนศีลธรรม เสมอ ; จึงสงเคราะหการศึกษาไวในฐานะเปนศีลธรรมสวนบุพภาค หรือเบื้องตน ที่เราจะตองศึกษาใหรู เพื่อประโยชนแกความมีศีลธรรมทุกความหมาย ; ดังนั้น การศึกษาก็เปนเหตุเปนปจจัย เพื่อความอยูเปนปรกตินั่นเอง. เมื่ อศี ล ธรรมเป น ไปอยางแพรหลายทุ กหั วระแหง เราก็ไปเรียกวา วัฒ นธรรมบาง ขนบธรรมเนียมประเพณี บาง ฉะนั้นขอใหมองวัฒ นธรรมและ ขนบธรรมเนีย มประเพณีนั ้น วา เปน ศีล ธรรมดว ย ในฐานะที ่เ ปน เหตุแ หง ความสงบก็มี ในฐานะที่เปนผลคือความสงบแลวก็มี จึงเห็นไดวา ไมมีอะไรที่ ไมใชศีลธรรม ; จึงถือวา ศีลธรรม เปนสิ่งที่มีคุณคา หรือมีคานิยมของทุกสิ่ง ทุกอยางในบรรดากิจกรรมที่มนุษยจะพึงกระทําในโลกนี้ ในสวนที่เรียกวา สังคม ; แมในสวนที่เปนบุคคล คือปจเจกชนนั้น ก็ยังมีความหมายอยางเดียวกัน คือ ทําเพื่อความสงบ.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org นี่คือขอความที่เราไดพูดกันมาแลว ๒ ครั้ง ของการบรรยายในชุดนี้ [จบคําปรารภและทบทวน]
.... .... .... ....
www.buddhadassa.in.th
ศีลธรรมคืออะไร (ตอ)
๗๗
หมวดที่ ๔ วาดวย ขอควรสังเกตเกี่ยวกับสีลธรรม. หัวขอที่ ๑ : โดยการอุปมา ครูบ าอาจารยแต กาลกอ นท านชอบทํ าอุป มา ก็อ ยากจะพู ด ถึงคํ าวา “อุ ป มา” สั ก นิ ด หนึ่ งอี ก ตามเคย. อุ ป มา คื อ คํ าเปรีย บ ; การเปรีย บนี้ จ ะเปรีย บ จากสิ่งที่เขาใจดี เห็นอยูแลว รูจักดี ไปหาสิ่งที่เรายังไมคอยจะรูจัก หรือเพิ่งจะรูจัก ; หรือเอาสิ่งที่ยังลึกลับอยูมาทําใหเกิดความแจมแจง แลวก็จะหาที่เปรียบ หรือการ ฝากเอาไวก ัน ลืม , ลืม ไมไ ด ; แลว ก็จ ะเปน เครื ่อ งชว ยใหส อน บอกสอนตอ ๆ กั น ไป วิ ธี ก ารอย า งนี้ ทํ า ให ส อนธรรมะ หรื อ สิ่ ง อั น ลึ ก ซึ้ ง ได แม แ ก บุ ค คลที่ ไม รู หนังสือ. ทา นทั ้ง หลายที ่นั ่ง อยู ที ่นี ่ท ุก คน อยา ไดอ วดดีใ หม ัน มากไปเลย ; ใหรู เ สีย เถอะวา บรรพบุร ุษ ของเรานั ้น ไมเ คยรู ห นัง สือ กัน ทั ้ง นั ้น แหละ, เอ า ; ถอยหลั ง ไปหลาย ๆ ชั่ ว เข า มั น ก็ จ ะถึ ง บรรพบุ รุ ษ ที่ ไม รูห นั ง สื อ ; แต แ ล ว ทํา ไมทา นจึง ทําอะไรได และมอบหมายอะไรเปน มรดกตกทอดมา ไมรูกี่สิบ ชั่ว กี่รอยชั่วคน จนมีวิชาความรูดังที่ปรากฏอยูในปจจุบันนี้.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org วิช าหนัง สือ นี ้เ ชื ่อ กัน วา เพิ ่ง จะมีม าไมเ กิน ๒๕๐๐ ป พ อ ๆ กั บ พุ ท ธศาสนา ; ก อ นแต นั้ น ก็ ไม ค อ ยได ใช ห นั งสื อ หรือ เพราะไม มี ห นั งสื อ ใช ; อยางมากก็ ๓๐๐๐ ป ตามหลักฐานที่ปรากฏอยู และก็ใชจารึกอะไรเล็ก ๆ นอย ๆ เท า นั้ น เอง ; ไม ไ ด ใ ช เป น เครื่ อ งมื อ การสื่ อ สาร หรื อ การเล า เรี ย นอย า งสมั ย นี้ เพราะไมมีก ระดาษ ไมมีน้ํา หมึก ไมมีดิน สอ, ทํา ไดแ ตส ลัก หิน สลัก แผน อิฐ ; ก็เปนอันวา บรรพบุรุษของเราไมเคยรูหนังสือ.
www.buddhadassa.in.th
๗๘
การกลับมาแหงศีลธรรม
เขามีวิธีอะไรที่จะสอนกัน หรือมอบหมายอะไรสืบ ๆ กันลงมา ? นั่นก็คือสอนดวยปาก. ถามันจํายากก็ผูกไวเปนคํากลอนใหฟงลื่น จํางาย ; แต ถา เปน เรื ่อ งลึก ซึ ้ง ก็สํ า เร็จ ดว ยการทํ า อุป มา ; ฉะนั ้น พระพุท ธภาษิต จํานวนมากในพระไตรปฎก จึงอยูในรูปของอุปมา. เปน อัน วาสิ่งที่เรียกวา “อุป มา” นั้น ก็ยังมีป ระโยชนอ ยู ; เดี๋ยวก็ ลองสังเกตดู อาจจะเขาใจไดวามันเปรียบเหมือนภาชนะใสอะไรไว ใหยังคงอยู ไมรั่ว ไมหายไปไหนเสีย หรือเปนเครื่องชวยใหงายแกการจดจํา. สํา หรับ อุป มาของสิ่ง ที่เ รีย กวา “ศีล ธรรม” นี่ ก็อ าจจะอุป มา ไดดวยสิ่งสิ่งหนึ่ง ซึ่งเขาชอบนํามาใชเปนวัตถุแหงการอุปมา มาตั้งแตโบราณ จนกระทั่งบัดนี้ ; แมการศึกษาแหงยุคปจจุบันนี้ เมื่อจะสรุปรูปโครงของวิชาใด วิชาหนึ่ง หรือทฤษฎีใดทฤษฎีหนึ่ง ก็จะทําเปนรูปโครงของอุปมา.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ถาม : ที่ใชกันอยูมากที่สุดในโลกนี้ในปจจุบันนี้ คุณ นึกออกไหม วาเปนรูป โครงของอะไร ที่ นิ ย มใช เป น อุ ป มา ? คุ ณ สุ พ น, คุ ณ ประยู ร . ที่ คุ ณ มองขา มสิ ่ง ที ่ใ ชก ัน อยู ทั ่ว ๆ ไป ในวิช าการแทบทุก แขนง นั ่น คือ รูป โครงของตน ไม! นึก ออกแลว หรือ ยัง แมจ ะสอนเรื่อ งชีว วิท ยา เรื่อ งสั ต ว เรื่อ งอะไรต าง ๆก็ จ ะทํ าเป น รูป โครงของต น ไม แยกเป น สาย เปน แขนง เปน อะไรตา ง ๆ ; ใชรูป โครงของตน ไม แลว เรีย กวา ตน ไมข องวิช านั่น ของวิช านี่. เดี๋ย วนี้เ ราจะเอารูป โครงตน ไมม า ทําอุปมา สําหรับเรื่องราวของศีลธรรม.
www.buddhadassa.in.th
ศีลธรรมคืออะไร (ตอ)
๗๙
เอา คุณมาซอมความเขาใจกันเสียกอนวา ตนไมมันมีรูปโครงอยางไร วาไป เร็ว ๆ. ตอบ : ตนไมมีราก มีแกน มีเปลือก มีกระพี้ มีใบ. ถาม : มีประโยชนอะไร ถาไมมีลูก ไมมีดอก ? ตอบ : ก็มีดอก มีลูก. ถาม : ดูใหดีวามันมีรากเพียงรากเดียวหรืออยางไร ? ตอบ : มีรากแกว และรากฝอย. ถาม : รากฝอยมันมีรากเดียวหรืออยางไร ?
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ตอบ : รากฝอยมันมีแยกออกไปมากมาย.
ถาม : รากแกวเปนรากเดี่ยวลึกลงไป ; รากขาง ๆ ก็มีหลายราก เปนรากใหญ ๆ แลวแยกเป น รากฝอย. นี่ , ดู ให ดี ๆ แมแตคํ าวาราก มัน มี รากดิ่งลงไป สํ า หรับ จะหาน้ํ า หรื อ อะไรที่ มั น อยู ลึ ก ๆ หรื อ ว า ยึ ด ทรงต น ของมั น ไว . มั น มี รากออกไปข าง ๆหลายทิ ศ ทางเหมื อ นกั น เป น รากใหญ ๆ ทํ านอง รากแก วและที่ ป ลายของมั น ก็ มี รากฝอย ทํ าหน าที่ ต าง ๆ กั น . รากทุ ก รากมาสรุปรวมกัน อยูที่ตรงไหน ?
www.buddhadassa.in.th
การกลับมาแหงศีลธรรม
๘๐ ตอบ : ที่รากแกว ที่โคนตน ครับ.
ถาม : ที่โคนจะตองถือวาที่จุดเดียว ที่โคน เปนที่รวมของรากทุกราก. หลับตา เห็นรากแกวดิ่งลงไป แลวรากขาง ๆ ออกไป กระทั่งจะเห็นรากฝอย ; นี่เรียกวาราก. สวนราก สรุปแลวก็คือสวนโคน ซึ่งอยูขางลาง. ที นี้ ต รงกลางเป น อย า งไร ? ก็ เ รี ย กว า ลํา ต น : ประกอบ ดวยเปลือก ประกอบดวยกระพี้ ประกอบดวยแกน ประกอบดวยทอ สําหรับ สงน้ํา สําหรับสงอาหารขึ้น สงอาหารลง มันอยูอยางมั่ นคง เปนลําตน. พนจากตัวลําตนขึ้นไป เปนอยางไร ? ตอบ :มีกิ่ง มีใบ. ตรงนี้เราเรียกวา สวนบน มีกิ่งหลาย ๆ กิ่ง เพื่อทําอะไรไดมาก เปนที่เกิดแหงใบ ทําหนาที่ตามหนาที่ของใบ เพื่อใหตนมันอยูได ; เมื่อมันมีใบ สมบูรณแลว มันก็จะมีโอกาสที่จะออกเปนดอกและออกเปนลูกขึ้นมา.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org สรุป ความวา ตน ไมตน หนึ่ง มี ๓ สว น : สว นโคน สว นกลาง และสวนปลาย ; ดอกผลไปอยูที่สวนปลาย. สวนโคนก็เปนสวนที่จะตั้งอยูได, สวนลําตนนี้ก็คือสวนที่จะทรงทุกอยางไว. เดี๋ยวนี้เราก็นั่งอยูทามกลางหมูตนไม ก็ควรจะเขาใจไดดี ; ฉะนั้น ขอใหหลับตามองเห็นตนไม แมสวนที่มันอยูใตดิน วามันมีรูปรางอยางไร ; ก็ลองคิดตอไปวา ถาไมมีสวนราก หรือสวนโคน มันจะ เปนอยางไร. ลูกเด็ก ๆ ก็คงจะทราบได วาถาไมมีรากและไมมีโคนตน แลว มันจะเปนอยางไร ?
www.buddhadassa.in.th
ศีลธรรมคืออะไร (ตอ)
๘๑
ถาม : หนาที่ของรากหรือสวนโคนทั้งหมดนั้นคืออะไร ? ตอบ : คือฐานของชีวิต. ถาม : คือรากฐานของมันที่จะดํารงชีวิตอยูได ; ทีนี้สวนตนจะเรียกวาอะไร ? ตอบ : ถาเปรียบอยางนี้ สวนตนก็เปนตัวชีวิตของตนไม. ถาม : เปนตัวชีวิต ของตนไม ; สวนใบ ดอก ผล นั้นเปนอะไร ? ตอบ : สวนใบเปนที่สําหรับปรุงอาหาร. ถาม : รวมความวาเปนอะไร ใบ ดอก ผล ?
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ตอบ
: ใบ ดอก ผล ก็เปนผลิตผลของชีวิต.
นั่น แหละ เราดูวา มัน ตอ งมี รากฐาน ตอ งมีตัว การ และตอ ง มีตัวประโยชน หรือความมุงหมายของสิ่งทั้งหมด ที่เราจะตองมี.
ตน ไมโ ดยสรุป ก็พ ูด ไดสั ้น ๆ วา มัน มีผ ลไมนั ่น แหละเปน คา หรือเปนคานิยมของมัน ซึ่งก็มีความประหลาดในขอที่วา ไมไดมีความมุงหมาย แกตัวมันเองนัก นอกจากวาอยางใหสูญ พันธุ ; มีผลสําหรับกินได และมีคน หรือมีสัตว ชวยปลูกกันใหม ทําใหแพรหลาย อยาใหสูญ พันธุได. แตสําหรับ
www.buddhadassa.in.th
การกลับมาแหงศีลธรรม
๘๒
คนเราแลว คําวา ผล นี้เป นประโยชน หรือมี คาอะไรมาก ; ซึ่งจะต องดู โดย เฉพาะก็คือ ผลของศีลธรรม. เอา ทีนี้ขอใหตอบคําถามที่สําคัญที่สุด และจะเกณฑใหตอบทั้ง ๔ คน ไมย กเวน วา อะไรเปน ราก หรือ เปน โคนของศีล ธรรม ? วา อะไรเปน ตน หรือ เปนกิ่งของศีลธรรม ? วาอะไรเปนใบ เปนดอกเปนผลของศีลธรรม ? คือ ๓ สวน ของตนไมนั้น เรารูดีอยูแลววา คืออะไร. [ ก. อุปมาของ ราก – โคน ] ถาม : ถามเป น ข อ แรกว า อะไรเป น ส ว นราก หรือ ส ว นโคนของสิ่ งที่ เรีย กว า ศีลธรรม ? หรือถามวา ตนไมศีลธรรม พฤกษาศีลธรรม มันมีอะไรเปน สวนโคน หรือเปนสวนราก.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ตอบ : กรรมพันธุครับ.
ถาม : อีกคนหนึ่ง ?
ตอบ : รากฐานของศีลธรรมก็นาจะเปนสถาบันของผูมีพระคุณ. ถาม : อีกคนหนึ่ง ตอบ ? คนที่ ๓ ตอบ
: การอบรม.
คนที่ ๔ ตอบ : ศาสนาเปนรากฐานของตนไมศีลธรรม.
www.buddhadassa.in.th
ศีลธรรมคืออะไร (ตอ)
๘๓
ถาม : นี่ก็จะเห็นไดแลว คนหนึ่งก็ตอบไปอยางหนึ่ง ๆ ซึ่งยังไมตรงตามความ ประสงคที่ตองการ. ศาสนามันก็เปนตัว ศีลธรรมอยูแลว, การอบรม ก็เปนเครื่องมือชนิดหนึ่ง, กรรมพันธุ มันสวนนอย สวนแรก, คือสวน พืชพันธุที่จะถายทอด ไมใชทั้งหมด. คุณประยูรวาอะไรนะ ลืมแลว ? ตอบ : สถาบันผูมีพระคุณ, ครับ. ถาม : สถาบันผูมีพระคุณ มันก็คือรากฐานสวนหนึ่ง ไมใชทั้งหมด และยังไม ตรงกับที่ตองการ. ขอให นึกดูใหมวา เดี๋ยวนี้เราไมมีศีลธรรมกันแทบ ทั่วทั้งโลก จนพูดวา เมื่อสรุปกันทั้งโลกแลว ศีลธรรมนี้มีนอย จนหา ทํายาหยอดตาก็ไมคอยจะพอ อยาวาแตจะเอามาใชอยางอื่น. นี่มันขาด รากฐานอะไร ? มองดูกันอยางกวาง ๆ เพราะวาเดี๋ยวนี้เราจะพูดกัน ถึงศีลธรรม ที่เปนตัวปญหาอยูจริงในโลกนี้.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ตอบ : รากฐานของศีลธรรม เดี๋ยวนี้ก็เกี่ยวกับความเห็นผิด ความคิดเห็นผิด หลงติด ในวัต ถุนิย ม เปน การทํา ใหไ รศีล ธรรม เพราะฉะนั้น รากฐาน ที่แทจริงของศีลธรรม ตองมีความเห็นถูกตองตามธรรมชาติ.
ถาม : ตองมี ความเห็ นถูกตองตามธรรมชาติ ก็ไดเหมือนกัน ; หรือใครนึ ก อะไรไดอีก.
ตอบ : ตองมีความเอื้อเฟอเผื่อแผ มีเมตตากรุณา ไมมีความเห็นแกตัว.
www.buddhadassa.in.th
๘๔
การกลับมาแหงศีลธรรม
ถาม : ไปสรุปที่ความไมเห็นแกตัว นั่นแหละจะเขมขนขึ้น หรือจะใกลชิดเหตุ อันแทจริงยิ่งขึ้น, ในโลกนี้กําลังเต็มไปดวยความเห็นแกตัว. ตอบ : แตผมวาตองมีความอาย ความกลัว ตอบาปเปนที่ตั้ง. ถาม : นี่ก็ตองมี หิริโอตตัปปะ ความละอาย ความกลัวตอบาปเปนที่ตั้ง, และ จะตองมีความไมเห็นแกตัวเปนที่ตั้ง. แลวทั้งหมดนั้นมันจะมาจากอะไร ได อี ก ที ห นึ่ ง ? ความเมตตากรุ ณ าก็ ดี ความไม เห็ น แก ตั ว ก็ ดี , หิ ริ โอตตัปปะก็ดี. ตอบ : มาจากความเขาใจอันถูกตอง. ถาม : ความเขาใจอันถูกตองก็ดี มันตองมาจากธรรมสัจจะของไหนอีกที ?
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ตอบ : มาจากการทําใจใหแยบคาย คือ โยนิโสมนสิการ.
ถาม : นั้นยังไมทราบวาทําอยางไร, ยังไมทราบวาทําอยางไร ; ตองบอกให ชัดวาทําอยางไร ที่เรียกวาโยนิโสมนสิการ. มันถูกเขาไปทุกทีแลว. ตอบ : เห็นจริงในอริยสัจจ ๔.
เห็น จริง ในอริย สัจ จ ๔ ก็เ ปน พระอรหัน ตเ ลย. นี ่ร ากฐานของ ศีลธรรมที่เคยพูดกันมาหลายครั้งแลว ตามความเห็นของอาตมา เปนความเห็น ของคนคนหนึ่ง จะถูกก็ได จะผิดก็ได ; แตยังอยากจะยืนยันอยูเสมอวา รากฐาน
www.buddhadassa.in.th
ศีลธรรมคืออะไร (ตอ)
๘๕
ของศี ล ธรรมนั ้ น จะต อ งตั ้ ง ต น ด ว ยความจริ ง อั น สู ง สุ ด , ความจริ ง อั น เด็ดขาดอันหนึ่ง ซึ่งเรียกวา บรมสัจจะ หรือธัม มสัจจะ ที่มีอยูในรูปวา “สัตว ทั ้ง หลายเปน เพื ่อ นทุก ข เกิด แก เจ็บ ตาย ดว ยกัน ทั ้ง หมดทั ้ง สิ ้น ” ที่ ลูกเด็ก ๆ เขาบรรยายอะไรกันเมื่อตะกี้นี้. ประโยคที่วา “สัตวทั้งหลายที่เปนเพื่อนทุกข เกิด แก เจ็บ ตาย ดว ยกัน ทั้ง หมดทั้ง สิ้น “นี่ใหดูเอาจาก ขอ เท็จ จริง ของสัต วทั้ง หลายนั่น เอง ; ถามองเห็น ก็เห็น, ถามองไมเห็นก็จะไมมองเห็น. ถาม : ไมมองเห็นวาสัตวทั้งหลายเปนเพื่อนทุกข เกิด แก เจ็บ ตาย ดวยกัน ทั้งหมดทั้งสิ้น, แลวมันจะเกิดความรูสึกอะไรขึ้นมา ? คุณวาจะเกิดความ รูสึ กอะไรขึ้น มา ถาคนนั้ น มั น ไม ม องเห็ น วา “สั ต วทั้ งหลายเป น เพื่ อ น ทุกข เกิด แก เจ็บ ตาย ดวยกันทั้งหมดทั้งสิ้น” แลวในใจของคนนั้น จะเกิดความคิดเห็นอยางไรขึ้นมา ?
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ตอบ : ความคิดเห็นที่จะเห็นแกตัว และรบราฆาฟนกันงาย.
ตอ งมีเ กิด การแบง แยง เปน ตัว ๆ ไป ; เพราะวา ไมใ ชเ ปน เพื ่อ น ดวยกันทั้งหมดทั้งสิ้น คือไมไดเปนตัวเดียวกันทั้งหมดทั้งสิ้น มันก็เลยแยกเปน ตัว ๆ ; นี้ก็เป นความเห็ นผิด . อยางที่ พู ดเมื่ อตะกี้ก็ถูกแลว รากของมั นมาจาก ความเห็นผิด หรือมันมีความเห็นผิดอยางนี้ วาตัวกู ตัวสู ; มันไมมาจากความ เห็น ถูก ที่วา โดยเนื้อ แทแ ลว ทุก คนเปน “เพื่อ นเกิด แก เจ็บ ตาย ดว ยกัน ทั้งหมดทั้งสิ้น”.
www.buddhadassa.in.th
๘๖
การกลับมาแหงศีลธรรม
ขอนี้ตองลดลงไปถึงสัตวเดรัชฉานดวย วาถึงแมสัตวเดรัจฉาน ก็เป น เพื่อนทุกข เกิด แก เจ็บ ตาย ดวยกันทั้งหมดทั้งสิ้น. แล ว ยั งลดลงไปถึ งต น ไม พื ช พั น ธุ ที่ มี ชี วิต ทั้ งหลายด วย วา มั น เป น สิ่ ง ที่ มี ชี วิ ต ที่ อ ยากมี ชี วิ ต มั น ไม อ ยากตาย มั น ดิ้ น รนเพื่ อ จะอยู ดิ้ น รนเพื่ อ มี ความเปนปรกติดวยกันทั้งนั้น. นับวาสิ่งที่มีชีวิตทั้งหลาย ทั้งปวง ตั้งแตตนไมขึ้นมา ถึงสัตวเดรัจฉาน ขึ ้น มา ถึง มนุษ ย เทวดาดว ยก็ไ ด ถา มี ; วา สิ ่ง ที ่ม ีช ีว ิต ทั ้ง หลายเปน เพื ่อ น ทุกข เกิด แก เจ็บ ตาย ดวยกันทั้งหมดทั้งสิ้น. นี่แหละคือ ราก หรือโคนราก ซึ่งเปนรากฐานที่สําคัญที่สุดของสิ่งที่เรียกวา ศีลธรรม ในฐานะที่เปนรากฐาน อันเปนประธาน เหมือนกับรากแกว. ถาม : เอ า , ที นี้ ร ากอื่ น ๆ ล ะ คุ ณ ว า อะไรบ า ง ? ยั ง มี อุ ด มคติ อ ะไรที่ จ ะเป น รากสี่ ทิ ศ ? สมมติ ว า มี ร ากสี่ ทิ ศ ; ก็ อ ย า งที่ เคยนิ ก ออกแล ว ลื ม แล ว .
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ตอบ : สถาบันผูมีพระคุณ, ครับ.
ถาม : ก็ได อะไรก็ได ลองวาไปอีกซิ.
ตอบ : มีหิริโอตตัปปะ มีขันติ. ไดทั้งนั้น แตวามันจะไปรวมอยูที่ความหมายอะไรสักความหมายหนึ่ง เปนหัวขอที่สําคัญ ๆ ในขอที่วา สัตวทั้งหลายเปนเพื่อนทุกข เกิด แก เจ็บ ตายกัน
www.buddhadassa.in.th
ศีลธรรมคืออะไร (ตอ)
๘๗
ทั ้ง หมดทั ้ง สิ ้น . มัน จะเปน รากฐานอยา งไรนั ้น เราไวพ ูด กัน วัน หลัง ดีก วา โดย หัวขอที่วา “รากฐานของศีลธรรม” โดยเฉพาะ. เดี๋ยวนี้ เราจะดูทั้ งหมด ไม เฉพาะรากฐานอยางเดียว ; คือ เมื่ อ ดูส วน ที ่เ ปน รากฐาน ก็จ ะดูอ ะไรอีก บา งสัก ๒-๓ อยา ง ซึ ่ง ลว นแตเปน อุด มคติ. ถา ไม มี อุ ด มคติ เหล านี้ แล วรากฐานจะมี ได ย าก ; แต อุ ด มคติ เหล านี้ ยั งถู ก รังเกี ย จ อยูเสมอ โดยเฉพาะในสมัยที่เปนวัตถุนิยม. พวกนี้เขาหาวาอุดมคตินี้มันกินไมได ; อุด มคติ นี้ จะไปซื้ออะไรก็ไม ได , กิ นเองก็ ไม ได จะไปซื้ออะไรกิ น ก็ไม ได เลยดู ถู ก อุ ด มคติ . นี้ ค งจะเป น เพราะว า เราให ค วามหมายแก คํ า ว า อุ ด มคติ นั้ น มั น ไม ตรงกัน. แตถ า วา โดยที ่แ ทแ ลว มัน ควรจะเขา ใจกัน ได ; อุด มคติ คือ ห ลั ก เก ณ ฑ ที ่ ม ั น ดี ที ่ ส ุ ด ที ่ ค ว ร จ ะ ยึ ด ถื อ ไว เ ป น ห ลั ก ป ร ะ จํ า ใ จ ใ น ก า ร ปฏิบัติ. อุด มคติเ ชน วา มนุษ ยจ ะตอ งไดสิ่ง ที ่ดีที ่สุด ที ่ม นุษ ยค วรจะได ; เมื่อเกิดมาเปนมนุษย ไมเปนแตเพียงคน, จะตองไดสิ่งที่ดีที่สุด ที่มนุษยควรจะได. เดี๋ยวนี้ เขาก็วาเงิน วากิน วากาม วาเกียรติ นี่เปนสิ่งที่ดีที่สุด, เขาไปดีที่สุดอยูที่ นั ่น : เรื ่อ งกิน เรื ่อ งกาม เรื ่อ งเกีย รติ. อุด มคติข องเขามัน เปน อยา งนั ้น จะเปนอุดมคติหรือไม ; ก็ไปคิดดูเอาเอง.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ถาม : เราวางหลักกลาง ๆ วา สิ่งที่ดีที่สุดที่มนุษยควรจะได ; นี่คุณวาหมายถึง อะไร จึงจะถูกตอง ? สิ่งที่ดีที่สุดที่มนุษยควรจะได นั่นหมายถึงอะไร ? ตอบ : ควรจะไดความหมดทุกข.
www.buddhadassa.in.th
๘๘
การกลับมาแหงศีลธรรม
ถาม : ใครอีก ? ตอบ : การอยูรวมกันอยางเปนปรกติสุข. การอยู ร ว มกั น อย า งปรกติ ส ุ ข เป น สิ ่ ง ที ่ ด ี ที ่ ส ุ ด ที ่ ม นุ ษ ย ค วร จะได ก็คือ ศีล ธรรมนั่น เอง. สิ่ง ที่ดีที่สุด ที่ม นุษ ยค วรจะได คือ มีศีล ธรรม ในความหมายที่ ๓ คือภาวะปรกติ. ความหมายที่ ๑ คือเหตุแหงความปรกติ, ความหมายที่ ๒ คือผลที่เกิดมาจากเหตุนั้น, ความหมายที่ ๓ คือภาวะปรกติ : โดยสวนตัวก็คือ ปรกติ, โดยสวนสังคมก็ปรกติ ไมมีปญ หา ไมมีความทุกข ; ถาระบุชื่อสูงสุดก็คือ “นิพพาน”. นิพ พาน แปลวา ไมรอ น หมดความรอ น . ตามตัว หนัง สือ , และความหมายที่แทจริงที่ใชอยูในครั้งสมัยพุทธกาลนั้น คําวา นิพพาน แปลวา หมดรอน, ความเย็นลงของสิ่งที่มีความรอน ; นั่นคือนิพพาน. ทีนี้มาบัญญัติ ทางศาสนา ใหลึกซึ้ง ไปจนฟงยาก เขาใจยาก ; แตก็ไมพนไปจากหลักเกณฑ อันเดิม วา นิพ พาน คือหมดรอน ; กิเลสเปนไฟ ของรอน ; หมดกิเลส ก็คือ นิพ พาน ; นิพ พานคือ เย็น ลงแหง ของรอ น. ทีนี ้ส ว นตัว บุค คล มีข องรอ น ตาง ๆ กัน เชน ความยากจน เปนตน ที่กําลังเปนปญหาอยูในเวลานี้ มันรอน ; ทํา ใหเ ย็น ลง ไมมีปญ หานั้น มัน ก็เ ปน นิพ พานได. หรือ โรคภัย ไขเ จ็บ เปน ของรอ น ไมมีไขเจ็บ ก็เปน นิพ พานได. ความไมเบีย ดเบีย นกัน ไมทํารา ยกัน ไมเปนของรอน ก็เปนนิพพานได.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org
www.buddhadassa.in.th
ศีลธรรมคืออะไร (ตอ)
๘๙
ฉะนั้นศีลธรรมในความหมายที่ ๓ คือ ภาวะปรกติ นี่ เปนสิ่งที่ดี ที ่ส ุด ที ่ม นุษ ยค วรจะได, เปน อุด มคติ วา เกิด มาใหไ ดสิ ่ง ที ่ด ีที ่สุด ที ่ม นุษ ย ควรจะได คือศีลธรรมในความหมายที่ ๓. ถาม : ทีนี้อุดมคติที่รอง ๆ ลงมา ซึ่งจะถามวา มนุษ ยจะตองมีอะไรที่สูง กวาสัตว ? ตอบ : มนุษยตองมีใจที่สูงกวาสัตว. ถาม : ใจชนิดไหน ? ตอบ : ใจที่กิเลสทวมไมถึง. ใจที ่ ส ู ง จนกิ เ ลสท ว มไม ไ ด เรี ย กว า ใจมนุ ษ ย ที ่ ส ู ง กว า สั ต ว ; พูดกวาง ๆ ก็วา มนุษยจะตองมีอะไรที่สัตวไมมี หรือดีกวาที่สัตวมี ก็คือ ภาวะ แหงศีลธรรมนั่นแหละ ซึ่งจะมองเห็นไดงาย ๆ.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ในครั้ง ที ่แ ลว มา เราไดพ ูด กัน วา ภาวะแหง ศีล ธรรมนั ้น มีโ ดย ธรรมชาติก็มี เชน กอ นหิน นี้มีภ าวะแหง ศีล ธรรม. สัต ว คน ก็เ หมือ นกัน ถาปลอยไปตามปรกติ ไมใหมีอะไรมาแทรกแซง ก็มีภาวะศีลธรรมตามธรรมชาติ ตามปรกติ.
ที นี้ ภาวะแห ง ศี ล ธรรมในอี ก ความหมายหนึ่ ง คื อ ที่ ม นุ ษ ย ไดสรางขึ้นมาเปนพิเศษ สรางความปรกติขึ้นมาเปนพิเศษ ซึ่งสัตวไมมีทางจะ สรางได. การที่จะมีกาย วาจา ใจ ปรกติเปนพิเศษนี้ สัตวทําไมได ; แตมนุษย
www.buddhadassa.in.th
๙๐
การกลับมาแหงศีลธรรม
ทําได. ความปรกติ ที่มีความสวยงามกวาธรรมชาติ, สัตวทําไมได ; มนุษ ย ทํา ได. ฉะนั้น จึง เกิด มีศีล ธรรมเปน ๒ ความหมาย คือ ที่มีอ ยูต ามธรรมชาติ นั้นอยางหนึ่ง เกือบจะไมมีปญหาอะไร ; และศีลธรรมที่มนุษยประพฤติปฏิบัติ ขวนขวายกระทําขึ้นมานี้ งดงามนาดูกวา ซึ่งเปนศีลธรรมที่ตองสรางขึ้นมา. มนุษยตองมีศีลธรรมชนิดนี้แหละ: ชนิดที่ตองสรางขึ้นมา ; มนุษย จึง จะสูง กวา สัต ว. ฉะนั้น ขอใหเ รามีอุด มคติวา เปน มนุษ ยจ ะตอ งสูง กวา สัตว และเราทําเหมือนสัตวไมได. เดี๋ยวนี้มีปญหาชนิดที่นาละอายสัตว มนุษยมี สิ่ง ที่นา ละอายตอ สัต วเ ดรัจ ฉานอยูม าก ซึ่ง เดี๋ย วนี้จ ะไดพูด กัน ; จะบอกแต ใจความก็วา สัตวยังคงมีสภาพปรกติตามธรรมชาติ, เปนศีลธรรมตามธรรมชาติ อยูตลอดกาล จนกระทั่งเดี๋ยวนี้ แตสัตวขาดศีล ธรรมชั้น ที่จะสรางขึ้นมาได ; นั้นไมมี. ที นี ้ มนุ ษ ย นั ้ น ขาดทั ้ ง ๒ อย า งเลย : ความปรกติ ต าม ธรรมชาติ มนุษ ยก็ทํา ลายเสีย หมด, ความปรกติช นิด ที่สูง ขึ้น มา ที่ม นุษ ย จะชวยกันสรางขึ้น มนุษยก็ไมสราง. มนุษยก็เลยไมมีศีลธรรมทั้ง ๒ ความหมาย นี้มันนาละอายสัตวเดรัจฉาน ซึ่งมันยังคงรักษาภาวะปรกติตามธรรมชาติอยูได.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org เอาละ, เราจะมองดูกันวา มนุษยควรจะถืออุดมคติวา เราจะตองมี อะไรที่สูงกวาสัตวจริงหรือไม ? ถามีอะไรสูงกวาสัตว มันคือมีอยางไร ? เรื่องกิน เรื่อ งกาม เรื่อ งเกีย รติ นี้สัต วมัน ก็มีกัน ตามความหมายนั้น ; มนุษ ยจ ะตอ ง มีอะไรใหดีกวานั้น.
www.buddhadassa.in.th
ศีลธรรมคืออะไร (ตอ)
๙๑
อุดมคติตัวอยาง สักขอหนึ่งวา เราจะทําโลกนี้ใหงดงาม มนุษยนี่ มีมา เพื่อทําโลกนี้ใหงดงาม. คําวา “งดงาม” ในความหมายภาษาคน ก็วา สวยงาม อยางที่เห็น สวยงาม. ทีนี ้ งดงามอีก ชนิด หนึ ่ง งดงามภาษานามธรรม ภาษาธรรม ; มัน งามนา ดู นา ไหว นานับ ถือ นา เลื่อ มใส ; ไมใชส วยงาม เขีย ว ๆ แดง ๆ ; นั ่น คือ มนุษ ยม ีค วามงามดว ยการประพฤติ การกระทํ า การเปน อยู ทุก ประการที ่เรีย กวา ศีล ธรรม และก็ร วมทั ้ง ความงามตามภาษาคนธรรมดา คือ สวยงาม นาดู ละมุนละไมแชมชอย ไมคลาย ๆ กับสัตวที่ดุราย. ถามนุษยมีอุดมคติยึดมั่นวา เกิดมาเพื่อจะทําโลกนี้ใหงดงาม มันจะ ขโมยไดไหม ? มันจะฆาเขาไดไหม ? มันจะประพฤติลวงละเมิดของรักของเขา ได ไหม ? จะโกหกไหม ? จะกิน เหลาไหม ? ถามนุ ษ ย ถือ วา เราเกิดมาเพื่ อ จะ สรา งโลกนี้ใ หง ดงาม. ถา หากวา อุด มคตินี้ หา มกัน สิ่ง ที่เ ปน อบายเหลา นั้น ได ก็เปนอันวาอุดมคตินั้นสําคัญ สําหรับเปนรากฐานใหมีศีลธรรม.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org แม แ ต อุ ด มคติ ที่ ว า “เราจะต อ งมี อ ะไรที่ สู ง กว า สั ต ว ” ถ า ยั ง ยื ด ถื อ อุดมคตินี้อยู จะฆาเขาไหม ? จะลักขโมยไหม ? จะลวงของรักไหม ? จะโกหกไหม ? จะกินเหลาไหม ? หรือจะทําสิ่งที่ไมควรทําอื่น ๆ ไหม ? ถาเราอยากจะสูงกวาสัตว มันก็ทําสิ่งเหลานั้นไมได แตทําสิ่งที่ตรงกันขามได ; ฉะนั้นศีลธรรมมันก็ตองมี.
อุด มคติที ่ว า “มนุษ ยจ ะตอ งไดสิ ่ง ที ่ด ีที ่ส ุด ” นี ้ก ็เ หมือ นกัน : ถาเนนอยูในใจในขอนี้วา “มนุ ษ ยจะตอ งไดสิ่งที่ ดีที่สุดที่ มนุ ษ ยควรจะได” แลว
www.buddhadassa.in.th
๙๒
การกลับมาแหงศีลธรรม
มันจะไปฆาเขาทําไหม ? จะไปลักขโมยเขาไหม ? จะไปประพฤติผิดในของรักของเขา ไหม ? จะโกหกไหม ? จะกินเหลาไหม ? ยกตัวอยางเพียง ๕ อยาง ; อื่น ๆ ทั้งหมด นั้น เอามารวมไดใน ๕ อยางนี้. แมวา รากชั้น รากแกวของศีล ธรรมที่วา สัต วทั้ง หลายเปน เพื ่อ น ทุ ก ข เกิ ด แก เจ็ บ ตาย ด ว ยกั น ทั้ ง หมดทั้ ง สิ้ น นั บ ตั้ ง แต ต น ไม ขึ้ น มา ถึงสัต วเดรัจฉาน ถึงคน ; ถามัน นึกอยูอ ยางนี้จริง ๆ แลวมันจะฆาเขาไหม ? จะลักเขาไหม ? จะประพฤติผิดในกามไหม ? จะโกหกไหม ? จะกินเหลาไหม ? จะฆาสัตวเลน ๆ สนุกไหม ? จะทําลายปา จะเผาปาใหวินาศไปหมด ไดไหม ? ไปลองคิดดู. การทําธรรมชาติใหสกปรก ทั้งบนบก ทั้งในทะเล ทั้งบนฟา เดี๋ยวนี้ มันสกปรกไปหมดแลว ; เพราะไมนึกกันวา “สัตวทั้งหลายเปนเพื่อนทุกข เกิด แก เจ็บ ตาย ด วยกัน ทั้งหมดทั้งสิ้น ; เขาเอาชีวิตของคนอื่น มาบํ ารุงความ ตองการของตนมากเกินไป.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ขอ นี้ จบกัน เสีย ที สรุป วา โคนรากของศีล ธรรมนั้น คือ สัจ จะ หรือบรมสัจจะ หรือธัมมสัจจะ ที่เปนอุดมคติอยางที่วามาแลว เอารากแกวของมัน ในข อ ที ่ ว า ให ถ ื อ ว า ชี ว ิ ต ทุ ก ชี ว ิ ต เป น เพื ่ อ นทุ ก ข เกิ ด แก เจ็ บ ตาย ดวยกันทั้งหมดทั้งสิ้น, มีปญ หาอยางเดียวกัน มีความตองการอยางเดียวกัน มีหัวอกอยางเดียวกัน มีอะไร ๆ อยางเดียวกันหมดเลย. เรื่องรากเรื่องโคนยุติกันที .... .... .... ....
www.buddhadassa.in.th
ศีลธรรมคืออะไร (ตอ)
๙๓ [ข. อุปมาของ ตน-กิ่ง ]
ถาม : ที นี้ ม าถึ ง เรื่ อ ง ลํา ต น และ กิ่ ง ที่ แ น น หนา ของต น ไม แ ห ง ศีล ธรรม มัน ไดแ กอ ะไร ? พฤกษาศีล ธรรมมีอ ะไรเปน ลํ า ตน และกิ ่ง อันมั่นคง ? มีอะไร ? ตอบ : ลําตนอันมั่นคงมันนาจะไดแก มัชฌิมาปฏิปทา คือ อริยมรรคมีองค ๘ หรือ ศีล สมาธิ ปญญา. ถาม : มัชฌิมาปฏิปทา ; แลวคนอื่นวาอยางไร ? ตอบ : การควบคุมความรูสึก, ครับ. ถาม : การควบคุมความรูสึก ; เอา, ใครวาอยางไรอีก ?
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ตอบ : ตองมีเมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา.
ถาม : วาอยางไร ตอไป อีกคนวาอยางไร ?
ตอบ : ความละอาย, ครับ. หิ ริ โ อตตั ป ปะ ก็ ถู ก ; ตอบไม เหมื อ นกั น นี่ แ หละดี . หิ ริ โ อตตั ป ปะ เมตตากรุณา มัชฌิมาปฏิปทา การควบคุมความรูสึก ; รวมกันแลวอยากจะใชคําวา ถู ก ต อ ง, “ความถู ก ต อ ง” เพี ยงคํ าเดี ย ว ; ถื อ เอาความถู ก ต อ งเป น ลํ าต น และ กิ่งอันหนาแนนของมัน.
www.buddhadassa.in.th
๙๔
การกลับมาแหงศีลธรรม
มัชฌิ ม าปฏิ ป ทา นั้ น คื อ ตัวความถู กต อ ง ๘ ประการ ; อัฎ ฐังคิ ก มรรค ก็คือความถูกตอง ๘ ประการ. ที่ตอบวา ควบคุมความรูสึกไวใหได ไมโลภ ไมโกรธ ไมห ลง อะไรทํานองนี้ นั่นก็คือความถูกตองเหมือนกันแหละ. หิ ริ โ อตตั ป ปะ นี้ ก็ เ ป น ความถู ก ต อ ง ในชั้ น รากฐาน ; ถ า มี หิริโอตตัปปะแลว ทําผิดไมได ก็มีแตความถูกตอง. เมตตากรุณา นี้มันก็เขาหลักของความถูกตอง อยางนอยก็แงหนึ่ง มุมหนึ่ง. ฉะนั้น อยากจะระบุไ ปยัง ความถูก ตอ ง ; เรีย กเปน บาลีห นอ ย ก็วา สมฺมตฺต แปลวา ความถูกตอง ; อาจจะไมเคยไดยินก็ได สมฺมตฺต อานวา สัมมัตตะ แปลวา ความถูกตอง ; มีกี่อยางก็ตามใจ เอามาเปนความถูกตองหมด คือทั้งทางกาย ทางวาจา ทางจิต ก็ตามใจ เอามาเปนความถูกตองหมด.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ที นี้ จ ะแยกสั ก หน อ ยก็ ว า ส ว นบุ ค คล และส ว นสั ง คม : ต อ ง มี ค วามถู ก ต อ งทั้ ง ส ว นบุ ค คลและส ว นสั ง คม. ที่ ต อ งแยกก็ เ พราะว า มั น ไมคอ ยจะเหมือ นกัน : ความถูก ตอ งสว นบุค คลนั้น ไปไดไกลไดลึก กวา ที่จ ะ ผูกพันธกันเปนสังคม ; ความถูกตองทางสังคมยังหลวมกวา. แตถาถือเสียวา สังคมประกอบขึ้นดวยบุคคล ก็ไดเหมือนกัน บุคคลเปนชนิดไหน สังคมก็เปน ชนิดนั้น.
www.buddhadassa.in.th
ศีลธรรมคืออะไร (ตอ)
๙๕
การที ่เ ราตั ้ง ใจจะประพฤติป ฏิบ ัต ิใ หส ุด ความสามารถนั ้น ถา เราแยกเปน สว นบุค คล ก็ทํ า ไดไ กลกวา ลึก กวา หรือ สูง กวา ; ฉะนั ้น จึง แยกวา มีความถูกตอง คือการประพฤติกระทําอยางถูกตองทั้งของบุคคลและสังคม ; นี่เปน ตัวลําตน ที่แ นน หนา. ตามความหมายธรรมดา ความถูก ตอ งก็ห มายถึง ศีลธรรมอยูแลว, ความมีศีลธรรมก็คือความถูกตอง. แตเดี๋ยวนี้เอาความหมาย กลาง ๆ ของมัน ก็คือ การประพฤติก ระทํ า ทางกาย ทางวาจา ทางจิต ที่ ถูกตอง ทั้งสวนบุคคลและสวนสังคม. เดี๋ยวนี้เรากําลังมีอะไรในโลกนี้ ;เรากําลังมีความประพฤติ กระทําที่ ถูกตองทั้งสวนบุคคล และสังคมหรือเปลา ? สงใจไปรอบ ๆ โลก ทั่ว ๆ โลกวา ทั้ง โลกกํา ลัง มีก ารประพฤติ กระทํา ที ่ถูก ตอ งหรือ เปลา ? หรือ โลกนั ่น แหละ มันไมประกอบดวยการประพฤติ กระทํา ที่ถูกตอง ก็เลยไมมีศีลธรรมในสวนที่เปน ลําตน.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org [ ค. อุปมาของใบ-ดอก-ผล ]
ถาม : ที นี้ ส ว นยอด. ส ว นโคน และส ว นกลางเราก็ เห็ น กั น แล ว ; เหลื อ อยู สวนยอด คือ ใบ ดอก ผล ของศีลธรรมนั้นคืออะไร.
ตอบ : ใบ ดอก ผล ก็คือ มรรค ผล นิพพาน. ถาม : คืออะไร ? วากันทุกคนดีกวา. ตอบ : คือภาวะความเปนอยูกันอยางปรกติ ถาม : ก็ได ภาวะปรกติ.
www.buddhadassa.in.th
๙๖
การกลับมาแหงศีลธรรม
ตอบ : ก็คือความถูกตอง. ถาม : ความถู ก ต อ งเป น การกระทํ า เป น ตั ว ลํ า ต น เสี ย แล ว ; ผลของมั น คื อ อะไร ที่เปนผลของความ ถูกตอง. ตอบ : สันติสุขในโลกนี้. นี่ขอใหมองเห็นประโยชน ของการที่เอาคนหลายคนมาตอบคําถาม เพื่อจะไดชวยกันตอบใหมันครบถวน หรือใหมันแปลก ๆ ออกไป ; ถาไมแปลก ในสว นใจความ ก็แ ปลกในสว นพลความ ; ก็เปน อัน วา จะไดฝงใหค รบถว น. มัน ก็ถูก แนน อน ที่วา สว นยอดสุด ก็คือ ผล จะเปน ผลไม หรือ ผลของอะไร ก็ตาม จะตองเปนจุดหลายทางที่เราปรารถนา. เราปรารถนาอะไร สิ ่ง นั ้น แหละคือ ศีล ธรรมสว นยอดสุด ที ่ไ ดทํ า ใหเ กิด ขึ้น ; จะเรีย กวา มรรค ผล นิพ พาน ก็ไ ด. แตคํา เหลา นี้เ ปน ภาษา ที่บัญญัติไวเฉพาะในทางธรรมะชั้นสูงเสียแลว, ก็ลดใหต่ําลงมาถึงชั้นต่ํา ๆ ทั่ว ๆ ไป ก็ ใช คํ า ว า สั น ติ สุ ข ก็ คื อ สั น ติ ภ าพ. ความหมายที่ ใช กั น อยู ในเวลานี้ พ อที่ จ ะ กลาวไดวา เมื่อพูดถึง สันติสุข ก็คือ สวนบุคคล, สันติภาพ ก็คือ สวนโลก หรือ ส วนสั งคมทั้ งหมด ; ให บุ ค คลมี สั น ติ สุ ข กระทั่ ง มรรค ผล นิ พ พาน ; ให สังคมโลกนี้มีสันติภาพ คือเยือกเย็นเปนสุข ตามความหมายสําหรับโลกทั้งโลก.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org จะเยือกเย็นเปนสุขไดอยางไร ? มันคงไมใชมรรค ผล นิพพานแน ; เพราะวา โลกนี้ ยังมี ความผู กพั น กัน มากนั ก : ยังมี เด็กอ อ น มี อะไร มี ค นเขลา
www.buddhadassa.in.th
ศีลธรรมคืออะไร (ตอ)
๙๗
คนพาล อะไรอยู. แตถึงอยางนั้น เขาก็ควรจะมีสันติภาพได, ใหในโลกนี้มัน อยูกัน อยางสงบสุข ไมมีปญ หา นับตั้งแตลูกเด็ก ๆ ขึ้นไป กระทั่งคนเขลา คนพาล คนฉลาด คนทั ้ง หมดมัน อยู ก ัน เปน ปรกติส ุข ; อยา งนี ้เราเรีย กวา สัน ติภ าพของโลก ; สว นสัน ติส ุข ของบุค คล ใหล ึก ซึ ้ง ลงไปถึง มรรค ผล นิพพาน. นี่คือ ใบ ดอก ผล ของศีลธรรม ; แปลวาเรามองศีล ธรรมในรูป ของตนพฤกษา. ไปเขียนรูปตนไมเขา แลวก็บรรจุคําที่แสดงความหมายเหลานี้ ลงไปที่ ส วนหนึ่ ง ๆ ของต น ไม ; ส วนยอดมั น เป น ผลที่ พึ งปรารถนา มั น ก็ มี ทั้ ง อยางต่ํา อยางกลาง อยางสูงสุด. นี้จึงจัดวามันยังเปนใบอยู เปนดอกอยู และ เปนผลแลว, แลวผลก็ยังมีเมล็ดที่จะสืบพันธุตอไปอีก. ถาวาเมล็ดนั้นไดรับการ อบรมแวดลอมมาดี, เมล็ดนั้นก็จะกลายเปนพันธุที่ดีขึ้น ๆ สําหรับศีลธรรมใน อันดับตอไป.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org อยาลืมวาตนไมก็ดี สัตวก็ดี หรือแมแตมนุษยก็ดี ทีแรกมันก็เปน พันธุปาทั้งนั้น คือมีคุณภาพนอย ; แลวมาอยูในการแวดลอมใหม เปลี่ยนแปลง ใหมมันดีขึ้น ๆ เชน ทุเรียนปา กับทุเรียนบาน. อยาอวดดีวาทุเรียนบานมันเกิด ขึ้นมาในบานได ; มันคือเอาทุเรียนปามาดัดแปลง ๆ ๆ มันก็ดีขึ้นจนถึงที่สุดที่มัน จะดีได. สัตว เชน ไก เชนนก เชนกระตาย ก็เคยอยูปา เปน สัตวปา ; แลว มันมาแวดลอมกันใหม มันก็มีการเปลี่ยนแปลง. คนปาก็เปลี่ยนแปลงมาจน เปนคนที่เรียกกันวาเจริญ.
ทีนี ้ ก็ใ ชค วามหมายของคํา เหลา นี ้ใ หถูก ตอ ง : ความเจริญ ที่ ถู ก ต อ ง ; ความถู ก ต อ งที่ มั น ถู ก ต อ ง. การพู ด ว า “ถู ก ต อ ง” ; ถ า เป น เรื่ อ ง
www.buddhadassa.in.th
๙๘
การกลับมาแหงศีลธรรม
ของคนโง ก็ไ มใ ชค วามถูก ตอ ง ; มัน ตอ ง ถูก ตอ งของคนที ่ม ีป ญ ญา มี ความรู. เดี๋ย วนี้เ ราไมรูค วามถูก ตอ งที่ต รงกัน : พวกโจร พวกขโมย เขา ก็ถือวาเขาถูกตองของเขาอยางนั้น ฉะนั้นเขาจึงทําการลักขโมย. อีกคนหนึ่งก็วา ถูกตองนั้นอยางอื่นไมใชอยางนั้น มันก็เลยไมลัก ไมขโมย. ความถูกตองนี่สําคัญ มาก, ความถูกตองแทจริง คือ สัมมาทิฏฐิ หรือวา มัชฌิม าปฏิปทา ก็ได ; เรียกวา ความถูกตองที่แทจริง จึงออกดอก ออกผลมา, แลว ก็ม ีเ ชื ้อ แหง ความถูก ตอ งเพิ ่ม ขึ ้น มัน ก็จ ะถึง จุด หมาย ปลายทางเขาสักวันหนึ่ง สักชั่วอายุคนหนึ่ง ชั่วอายุคนขางหนาโนน หลายชั่วเขา มันก็จะดีมาก ดีมาก จนกวาเกิดมาจากทองมารดา ก็ดีมาก ดีจนถึงที่สุด เพราะ พันธุมันดีขึ้น ๆ ; นี่ปลายสุดยอดของตนไมแหงศีลธรรม. สรุปความสั้น ๆ อีกทีหนึ่งวา อุปมาของตนพฤกษาแหงศีลธรรมนั้น ส ว น โค น ได แ ก อุ ด ม ค ติ ที ่ ถ ู ก ต อ ง, ส ว น ก ล าง ส ว น ต น ได แ ก ก า ร ประพฤติ ก ระทํา ที่ ถู ก ต อ ง, และส ว นปลายยอดก็ คื อ ผลที่ อ อกมาอย า ง ถูกตอง.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org นี่จะจริง หรือ ไมจ ริง ก็เ อาไปคิด ดู. ไปพิจารณาดู ; ถาเห็น จริง ก็ชวยกันเพาะปลูก รดน้ํา พรวนดิน ตนพฤกษาตนนี้ ใหมันเจริญงอกงาม แลว โลกนี้ก็จะมีสันติภาพ คนแตละคนมันก็จะมีสันติสุข ; นี้เปนสิ่งที่นาศึกษาคนควา ที่สุดแลวเอามาประพฤติปฏิบัติ ใหไดผลจริงตามนั้น. นี้เรียกวา อุปมา ; ศีลธรรม เปนอุปมัย คือสิ่งที่ควรทําอุปมา ;
www.buddhadassa.in.th
ศีลธรรมคืออะไร (ตอ)
๙๙
แลวเราทําอุปมาเขากับตนไม ; ตนไมนั้นเปนอุปมา เปนเครื่องเปรียบของอุปมัย คือ ศีลธรรม. ....
....
....
....
ทีนี้ดูกันตอไป เพื่อจะเขาใจสิ่งที่เรียกวา ศีลธรรมคืออะไร ดียิ่งขึ้น ไปอี ก . นี่ เ ราจะต อ งรู คํา ว า “ถู ก ต อ ง” นั่ น แหละ ให มั น ถู ก ให มั น ตรง ยิ่ง ขึ้น . ฉะนั้น เราจะดูวา อะไรเปน ภาวะอัน ถูก ตอ ง, อะไรเปน ภาวะอัน ผิดพลาด ; ภาวะถูกตองกับภาวะผิดพลาด ถาเราเขาใจผิด เปนมิจฉาทิฏ ฐิ ก็ใหความหมายผิด มันก็กลับตรงกันขาม ถึงขนาดที่เรียกวา เห็นกงจักรเปน ดอกบัว, ดอกบัวเปนกงจักรกลับกันอยู.
หัวขอที่ ๒ : ความถูกตองและผิดพลาด.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ทีนี้ถา เรา จะดูค วามถูก ตอ ง กับ ความผิด พลาด เราจะดูกัน ที่ ตรงไหน ? ดู กั น ที่ อ ะไร ? หรื อ ไปทดสอบกั น ที่ ต รงไหน ? ทดสอบกั น ที่ อะไร ? ฉะนั้น เราควรจะรูจักสิ่งที่เราจะใชสําหรับการดูหรือการทดสอบนั้นกอน เพื่อจะรูความถูกตอง และความไมถูกตอง. ถาม : ในป จ จุบั น นี้ ควรจะใชอ ะไรบ าง เป น ตั ววัต ถุป ระสงค เป น ตั ววัต ถุ ที่ เราจะดู จะทดสอบ ; มีอ ะไรกี่อ ยา ง ที่จ ะหยิบ ขึ้น มาเปน วัต ถุ,แต ไมใชเปนกอน, เปนเพียงวัตถุสําหรับทดลอบ เปนวัตถุสําหรับศึกษาคน ควา สําหรับจะพิจารณาหาความถูกตอง. ตอบ
: ก็ดูที่วา การกระทํานั้น ถากอใหเกิดทุกข หรือเพิ่มกิเลส การกระทํา นั้นก็ไมถูกตองแน.
www.buddhadassa.in.th
การกลับมาแหงศีลธรรม
๑๐๐ ถาม : ถาตรงขามก็ถือวาถูกตอง, เอา! ใครอีก ?
ตอบ : ภาวะความเป นอยูของสังคมในป จจุบั น หรือสมั ยใดก็ ตาม หากวา อยูกันดวยความปรกติแลว ก็หมายความวา ภาวะนั้นเปนศีลธรรม,หาก ไมมีความปรกติก็หมายความวาเปนภาวะที่ไร ศีลธรรม. ถาม : เอา, ความเปนอยู ; แลวใครวาอะไรอีก ? ตอบ : ความประพฤติครับ. ถาม : ความประพฤติ , ใช ไ ด ; คล า ย ๆ กั บ ของคุ ณ ทอง. อะไรอี ก ? คุณสุพลวาอะไร ดูที่อะไร ? ตอบ : ดูที่ความปรกติครับ.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ถูก รอ งหรือ ไมถูก ตอ งดูกัน ที่วา ถา ปรกติมัน ก็ถูก ตอ งอยูแ ลว . นี่วัตถุสําหรับดูใหเห็นความถูกตอง หรือวาความผิดพลาด, วัตถุนั้นมันเปนที่ตั้ง แหง ความผิด พลาด หรือ ความถูก ตอ งก็ต าม เราจะไดเอามาดู ; มัน ไมใชมี กฎเกณฑอะไรที่ตายตัว หรือวา ที่มีอยูเปนแบบฉบับก็หามิได คือวาเราตองคิด เอาเอง เราดูเอาเอง.
ขอนี้ เรารวบรวมมา ศึกษา คนควา ดูเอาเองก็ได ; แลวมันอาจ จะไปตรงกันกับในตําราที่ผูเชี่ยวชาญการนั้น ๆ เขาบัญญัติไวแลวก็ได ; แมวาเรายัง
www.buddhadassa.in.th
ศีลธรรมคืออะไร (ตอ)
๑๐๑
ไมทราบ. แตถาวาสิ่งที่เราเอามาดู มาศึกษา มาพูดกันนี้ มันมีเหตุผลอยูในตัว มันเอง วาถาทําแลวมันจะเกิดผลตามที่ตองการได เราก็ตองถือวาถูกตอง ; ไม จําเปนตองเปนนักปราชญ ศาสดาจารยที่ไหนมาพูด. แมวานักปราชญศาสดาจารยไหนมาพูดไว พระพุทธเจาก็ตรัสบอก วา อยา ไปเชื่อ ; ตอ งดูกอ นวา มัน เปน อยา งนั้น ไดจ ริง หรือ ไม ; จึง จะคอ ย เชื่อ. นี่พูดหยาบคายไปสักหนอยไหม ? จวงจาบถึงศาสตราจารย. แมวาใคร จะพูด ไวอยางไร ในตํา ราไหน โดยผูเชี่ยวชาญ มีชื่อ เสีย งทั่ว โลกก็ตาม เรา ไมเชื่อ ; เราจะดูกอนวาเปนอยางนั้นไดจริงหรือไม จึงคอยเชื่อ ; ถายังลังเลอยู ก็ลองทดสอบดู. ทีนี้ ความเห็นของอาตมา อยากจะพูดวา ขอ ที่ ๑ ดูที่การศึกษา เป น ข อ แรก ว า มั น ถู ก ต อ งหรื อ ไม ถ ู ก ต อ ง ; ข อ ที ่ ๒ ดู ที ่ ก ารดํ า รงชี พ เปนอยู การประพฤติ การกระทํา การดํารงชีพอยูวามันถูกตองหรือไมถูกตอง ; ขอ ที่ ๓ ก็ดูที่ การรว มมือ ชว ยเหลือ ซึ่ง กัน และกัน วา ถูก ตอ งหรือ ไมถูก ตอ ง. ดูเหมือ นจะพอแลว กระมัง ; ขอรอ งใหทุก คนวินิจ ฉัย ดู เพีย ง ๓ วัต ถุนี้ มัน จะพอหรือไมพอ.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ถาเราเกิดกลัวขึ้นมา เราอยากคนควา แยกแยะดู ความผิดพลาด และความถูก ตอ ง ; เราจะดูที่วัต ถุ ๓ อยา งนี้ : ดูที่ก ารศึก ษาวา ถูก ตอ งหรือ ไมถูกตอง เสร็จแลวก็ดูที่บุคคลคนหนึ่งวา ดํารงชีวิตอยู อยางไร ? ถูกตองหรือ ไมถ ูก ตอ ง ? และดุที ่ รว มมือ ซึ ่ง กัน และกัน ชว ยเหลือ ซึ ่ง กัน และกัน เปน อยางไร ? วาถูกตองหรือไมถูกตอง ? เพียง ๓ วัตถุนี้ก็ควรจะพอ.
www.buddhadassa.in.th
การกลับมาแหงศีลธรรม
๑๐๒
ดูวามีการศึก ษาอยา งมนุษ ยห รือไม ? มีการดํารงชีพ อยา งมนุษ ย หรือไม ? มีการชวยเหลือรวมมือกันอยางมนุษยหรือไม ? ลองคิดดูเพียง ๓ อยาง ก็พอละกระมัง ? ถาเปนอยางมนุษย หรือถูกตองอยางมนุษยก็พอแลว ; ถามันมี อีกมันก็เฟอ มันเกิน หรือไมจําเปน ไมตองไปเหนื่อยเปลากะมัน. ....
....
....
....
ข อ ที ่ ๑. มี ก า ร ศึ ก ษ า ถู ก ต อ ง ก็ เ ป น สิ ่ ง ที ่ ต อ ง คิ ด ว า เดี๋ยวนี้โลกทั้งโลกมีการศึกษาถูกตองหรือเปลา ? ถาม : คุ ณ ทอง เป น ครู คุ ณ พู ด ที ว า การศึ กษาในโลกเดี๋ ย วนี้ มั น ถู ก ต อ ง หรือไมถูกตอง ? ตอบ : การศึ ก ษาในโลกนี้ ไม เป น การถู ก ต อ ง เพราะมั น เป น การสอนให ค น เห็น แกตัว ทั้ง นั้น . คนไหนที่มีค วามรูค วามสามารถสูง ก็มุง แตพ าตัว ของตัวไปใหรอด แตผูเดียวเทานั้น ; สวนบุคคลที่ลาหลังก็จะตองชวย ตนเองไปอยางเกือบจะชวยไมรอด.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ถาม : นี่ความรูสึกทางการเมือง มันกําลังกลัดกลุม นี่คุณ ก็เปนครูนะ แลว คุณสอนอยางไรคุณก็เปนครู อยูทุกวัน คุณสอนเด็ก ๆ อยางไร ? คุณ ใหการศึกษาเขาอยางไร ก็ไมถูกตองเหมือนกันหรือ ? คุณกําลังทําสิ่งที่ ถูกตองหรือ ? รับเงินเดือนเขามาใชอยู เพื่อทําสิ่งที่ไมถูกตองหรือ ?
ตอบ : กําลังฝกอบรมสั่งสอนใหไมเห็นแกตัวครับ.
www.buddhadassa.in.th
ศีลธรรมคืออะไร (ตอ)
๑๐๓
ถาม : ก็ได, เมื่อเราเปนครู เราพยายามจะดึงการศึกษามาใหถูกตอง เพราะ เห็นอยูแลววา โลกกําลังมีการศึกษา ที่เปลี่ยนไปโดยไมรูสึกตัว สูความ ไมถูก ตอ ง นี้เปน ความเห็น ของคุณ ทอง. คุณ สุพ ลละ คุณ ก็กําลังจะ เปนครู เดี๋ยวนี้โลกมีการศึกษาถูกตองไหม ? การศึกษาของคุณที่เรียกมา แลวถูกตองไหม ? คุณเรียนจบปริญญามาแลว วาไป. ตอบ : การศึกษาในปจจุบัน สวนมากมักจะใหในแงของวิชาชีพ และความรู ที่จะไปประกอบอาชีพ ; ไมไดเนนการที่จ ะมีจิตใจชวยเหลือ ผูอื่นหรือ รับใชประเทศชาติอยางแทจริงเลย มันใหแตสิ่งที่จะพอกพูนสําหรับตัว เองทั้งสิ้นเลย. ถาม : รวมความวา ยังไมถูกตอง และไมถึงที่สุด. คุณประยูรละ ? ตอบ : การศึกษาเดี๋ยวนี้ก็คลาย ๆ อยางที่สองทานตอบแหละครับ คือวา สอน เนน หนัก ไปในทางวิช าชีพ และประดิษ ฐค ิด คน ของใหม แตไ มไ ด สอนในทางจิต ใจ สํา หรับ ควบคุม วา เมื่อ ไดข องพวกนั้น แลว เรา จะรักษาของเหลานั้นอยางไร, จะไปหาไดอ ยางไร,ในอาชีพขางหนา คือวิชาจริยธรรมนั้น ในโรงเรียนชักนอยลง ๆ ไปเรื่อยครับ.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ถาม : คุณล้ําละ มีความเห็นขอนี้ไหม ? ตอบ : ผมเคยถามเด็ก ๆ ที่เรียนทุกระดับ โดยมากการศึกษาไมไดบรรจุวิชา ศีลธรรมเขาไป ตามที่ผมถามมา ไมคอยมีครับ แมระดับสูง ๆ ขึ้นไป.
www.buddhadassa.in.th
๑๐๔
การกลับมาแหงศีลธรรม
ถาม : เทาที่ไดฟงมานี้ก็ทําใหเกิดเปนปญหาขึ้นมา ๒ อยาง ๒ ประเด็น คือ วา ความถูก ตอ งนั ้น มัน จะถูก ตอ งอยา งไร ? สํ า หรับ อะไร ? นี้ อย า งหนึ่ ง ; และการที่ มั น ผิ ด พลาดไป ไม ถู ก ต อ งนั้ น มั น เป น เจตนา ของใคร ? หรือ ว า มี เจตนาดี ที่ สุ ด แล ว มั น ผิ ด พลาดไปโดยไม ได เจตนา เปนปญหาสองขออยางนี้. อยากจะถามวา การศึ กษาที่ เขาให อยู ในเวลานี้ ถู กต องแล ว สําหรับมนุษยจะไปประกอบอาชีพใหดีที่สุด ใชไหม ? ถาใชมันก็ถูกตอง ; การศึ ก ษาที่ เขาให มั น ก็ ถู ก ต อ ง มั น ถู ก ต อ งแต เพี ย งว า จะไปประกอบ อาชี พ เท า นั้ น เองให มั น ถู ก ต อ งได เงิ น มา ได เรื่ อ งกิ น เรื่ อ งกาม เรื่ อ ง เกี ย รติ ที่ ส มบู รณ มั น ก็ ถู ก ต อ งสํ าหรับ ข อ นี้ ที นี้ มั น ยั งไม ถู ก ต อ งสํ าหรับ ขอไหนละ ? ตอบ : สํ า หรั บ ด า นจิ ต ใจ ยั ง ขาดอยู ไม ไ ด ศึ ก ษ าด า นวิ วั ฒ นาการของ จิตใจ หรือความเจริญของจิตใจดวย.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org นี ่เ ปน สิ ่ง ที ่ต อ งมองวา มัน ไมถ ูก ตอ ง ตรงตามวัต ถุป ระสงคที ่ค วร มุ ง หมาย หรือ ถู ก ต อ ง ชนิ ด ที่ นํ า มาซึ่ ง สั น ติ สุ ข หรื อ สั น ติ ภ าพ. การศึ ก ษาในโลก เวลานี้ ทํ า ให รู ห นั ง สื อ เร็ ว รู ห นั ง สื อ มาก, มี ค วามรู จ ริ ง คิ ด ประดิ ษ ฐ สิ่ ง ที่ น า มหัศ จรรยอ ยา งไมน า เชื ่อ ขึ ้น มาเรื่อ ย ๆ เปน เครื่อ งมือ เครื่อ งใชสํ า หรับ ทํ า สิ ่ง ที่ ไมเคยทํา ไดมาแตกอน ก็กลายเปนทําได แลวก็เจริญดวยวัตถุ ; อยางนอยที่สุด เขาก็ประกอบอาชีพได แมที่สุดแตคนตาบอด หูหนวก เขาก็จัดใหมีอาชีพไดดีกวา
www.buddhadassa.in.th
ศีลธรรมคืออะไร (ตอ)
๑๐๕
แตก อ น ; นั ่น การศึก ษาเปน ไปเพื ่อ อาชีพ อยา งดีที ่ส ุด เปน ไปเพื ่อ อาชีพ ; แล ว พอเหลื อ จากนั้ น ก็ เป น ไปเพื่ อ ส ง เสริ ม กิ เลส. เขาไม พู ด ถึ ง ศี ล ธรรมกั น เลย. การศึ ก ษาในโลกเวลานี้ ช ว ยให ทํ า อาชี พ ได ดี ได ทุ ก คน แต ว า ถ า เหลื อ ไปจากที่ จํา เป น แล ว ก็ เ ป น ไปในส ว นกิ เ ลส คื อ ส ว นอบายมุ ข ; ฉะนั้นในโลกนี้มันก็เต็มไปดวยสวนที่เปนกิเลส หรือที่เปนอบายมุขมากขึ้น : เรื่อง สวย เรื่องงาม เรื่องสนุกสนาน เอร็ดอรอยทางวัต ถุ ทางเนื้อ ทางหนัง ; ทําสิ่ง ที่ไมตองทํามากมายมหาศาล: ในเรื่องเครื่องนุงหมก็ดี เรื่องอาหารก็ดี ที่อยูอาศัย ก็ ดี แม แ ต ย าแก โ รคนี้ ก็ ดี ยั ง ถื อ ได ว า เป น ส ว นที่ เฟ อ ; นี้ เรี ย กว า ถู ก ต อ งเพี ย ง ส วนหนึ่ ง คื อ ส วนอาชีพ ; แล วกลายเป น ผิ ด ในเมื่ อ มั น เฟ อ หรือ เหลื อ จากอาชี พ คือกลายเปนเหยื่อของกิเลส. ถ า การศึ ก ษาเป น อยู อ ย า งนี ้ เ รื ่ อ งไป ไม ทํ า ให ค นในโลกนี ้ มี ศีล ธรรม โลกนี ้ก ็จ ะตอ งเดือ นรอ นระส่ํ า ระสาย หรือ ถึง กับ วิน าศในที ่ส ุด เหลืออยูไมกี่คน คอยมาตั้งตัวกันใหม ตามที่กลาวไวในคัมภีร.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org เอาละ ยุ ติ เท านี้ วา การศึ ก ษากํ าลั งไม ถู ก ต อ ง. ใครจะด าก็ ต ามใจ, มาดาอาตมาคนเดียวก็ได ยืนยันขอนี้เสมอ. ....
....
....
....
ขอ ที่ ๒. มนุษ ยดํา รงชีพ อยา งถูก ตอ ง ตามความหมาย แหงมนุษยหรือไม ?
www.buddhadassa.in.th
๑๐๖
การกลับมาแหงศีลธรรม
คําวาดํ ารงชีพ นี้ ไม ใชหมายเพี ยงเรื่อ งกิน ; แต หมายถึงเรื่องเป น เรื่อ งอยู เรื่อ งทุก อยา ง ที ่ม ัน ดํ า รงชีวิต อยู . หลัก อัน นี ้ก ็ค ือ กิน อยู นุ ง หม ใชสอย ประพฤติ กระทํา อะไรก็ตาม ดํารงชีวิตอยูนี่ ถูกตองหรือไม ? มนุษย ดํารงชีวิตถูกตองแลว ผลอะไรจะเกิดขึ้น ? ถาดํารงชีวิตไมถูกตองแลว ผลอะไร จะเกิดขึ้น ? พิจารณาดูขอนี้แลวจะเขาใจ. ถาม : มองดูอยางคลุม ๆ ทีหนึ่งกอนวา มนุษยที่อยูในสภาพปจจุบันนี้ ดํารง ชีวิตอยูในลักษณะอยางนี้ เรียกวาถูกตองหรือยัง ? ผลเปนที่นาพอใจ หรือยัง ? จะเรียกวาดํารงชีวิตอยางมนุษยหรือไม ? คุณเห็นวาอยางไร ? มนุษยกําลังดํารงชีวิตถูกตองตามความหมายของคําวา มนุษยหรือไม ? ตอบ : ถาดูทุกวันนี้ มนุษยกําลังดํารงชีพโดยไมถูกตอง มีการเห็นแกตัวเปน สว นใหญ ทุก ระดับ ; แมแ ตพ อ คา ประชาชน ขา ราชการทุก ระดับ โดยมากดํ า รงชีพ ดว ยการเห็น แกต ัว ทํ า ใหป ระเทศชาติเ ดือ ดรอ น เกี่ยวกับทําเพื่อตัวทั้งนั้น.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ถาม : เอา, ถือวาเปนการดํารงชีวิตอยางไมถูกตอง ; ใครอีก ?
ตอบ : ทุกวันนี้ ทุกคนเกือบจะวาได ดํารงชีวิตอยางไมถูกตอ ง ; ขอให ดูตรงไปยังปจจัยสี่ ลวนแตทําเพื่อความฟุงเฟอ เกินความจําเปนกัน ทั้งนั้น.
ถาม : เพราะฉะนั้นจึงถือวา ไมถูกตอง. ใครอีก ? คนทั้งโลกเวลานี้ ดํารง ชีวิตอยางถูกตองหรือไม ?
www.buddhadassa.in.th
ศีลธรรมคืออะไร (ตอ)
๑๐๗
ตอบ : อยูอยางไม ถูกตอง เพราะวาไปยึดถือ ในสวนเกิน ของปจจัยสี่ มาเป น สวนสําคัญของชีวิตครับ. ถาม : ดีมาก ใครอีก ? ตอบ : คนโดยมากเดี๋ ย วนี้ เห็ น ชัด ๆ อยูวา ไม ถู กต อ ง คื อ ไปใช ไปหลงติ ดใน วัตถุก็ เลยหาแตวัต ถุม ามาก แลวก็ ใชสวนเกิ นไป ไมไดมี ชีวิตอยางงาย ๆ แตกระทําอยางสูง ซึ่งจะไดผลในสังคมมาก. การดํารงชีวิต หมายถึง การเปน อยูห ลังจากมีก ารศึก ษา เสร็จ สิ้น มาแลว มนุษยก็มามีการดํารงตนอยูดวยอาชีพ และดํารงอยูดวยการประพฤติกระทํา ที่เนื่องกันอยูกับอาชีพ หรือในชีวิตนั้น. สรุป แลว เรามองเห็น ความไมถ ูก ตอ งในการดํ า รงชีวิต คือ วา ไปทํ า ในสิ่ง ที ่ไ มค วรทํา คือ สิ่ง ที่ไ มเ ปน ไปเพื่อ สัน ติสุข สัน ติภ าพ เสีย เปน ส วนใหญ . ที่ จ ริงวิ ช าความรูเท า ที่ เรีย นมานี้ มั น ก็ พ อจะทํ าให มี อ าชี พ อยู อ ย า ง ปรกติสุข ได ; ทีนี้เขาก็ทําเกิน นั้นไป เพราะเขาสามารถทําได ; และสวนที่เกิน นั้นมันกลายไปเปนสวนที่ผิด คือทําไปตามความเห็นแกตัว หรือกิเลส สวนเกิน นั้น มัน มากกวา สว นที ่จํา เปน ; การดํ า รงชีวิต ทํา อาชีพ ใหอ ยูไดเทา ที ่จํา เปน นี่ เปนสวนถูกตอง.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org มนุ ษ ย มี ค วามถู ก ต อ งอยู เ พี ย งเท า นี้ คื อ ดํา รงอาชี พ ให ต น อยูไ ด. ที่ไ ปทํา ปจ จัย สว นที่เ หลือ จากนั้น มัน ก็ไ มเ ปน สิ่ง ที่ค วรจะทํา , หรือ
www.buddhadassa.in.th
๑๐๘
การกลับมาแหงศีลธรรม
ทําแลวกลายเปนสิ่งที่ทําลายความปรกติสุขของมนุษย. ฉะนั้นลองพิจารณาดูวา ประโยชนเงิน เดือ นหรือ อะไรก็ตาม ที่ไดรับ มา ไดใชไปในทางอะไรเทาไร. ถา ใชไปแตใ นสว นที่จํา เปน จริง ๆ มัน ก็จ ะตอ งเหลือ ; ทีนี ้ก็ใชไปในสิ่งที ่ไมจํา เปน จะตองทํา ตองใช ; มันก็ไมพอ, ยิ่งไมพอ, ยิ่งไมพอ. ถา คนที ่ม ีร ายไดม าก ก็ไดกิน ไดใชต ามที ่รา งกายตอ งการ ; เหลือ นั ้น ก็เ อาไปทํ า สว นที ่เ รีย กวา ไมต อ งทํ า . ถา ไปทํ า เขา เชน นั ้น ก็เ รีย กวา เกิน หรือเฟอ หรือผิด ; แตเขาก็ตองทํา เพราะเขามีแตความเห็นแกตัว แปลวา ไปตะครุบเอาสวนเกินอันมหาศาลนั่น เพราะความเห็นแกตัว โลกนี้มันกําลังอยู ดว ยความเห็น แกต ัว ที ่เ ปน สว นเกิน ; ความเห็น แกต ัว ที ่เ ปน สว นพอดีนั ้น ไมเปนไร และก็รอดชีวิตอยูได. ทีนี ้สว นเกิน มีข องเลน ของกิน เลน ของสนุก สนาน มากเกิน , มีการประพฤติกระทําที่เกิน, โดยเฉพาะเรื่องกามารมณทั้งหลาย ที่กําลังนิยมกันอยู ในโลกเวลานี ้ เกิน ยิ ่ง กวา เกิน ; ยิ ่ง เกิน เทา ไรก็ยิ ่ง เห็น แกต ัว มากขึ้น , ยิ ่ง เห็น แกตัวมากขึ้น ก็ยิ่งทําสวนเกินมากขึ้นไปอีก. มันก็มีแตอยางนี้ จึงเกิดเศรษฐกิจ ที ่ ไ ร ศ ี ล ธ ร ร ม เกิ ด ก า ร ส ง ค ร า ม ที ่ ไ ร ศ ี ล ธ ร ร ม , เกิ ด ก า ร ดํ า เนิ น ท า ง การเมืองที่ไรศีลธรรม.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org เมื ่อ เห็น แกต ัว มากขึ ้น โลกทั ้ง โลกก็ร อ นระอุเ ปน ไฟ ดํ า รงชีว ิต อยู อ ย า งไม ถู ก ต อ งตามความหมายของคํ า ว า มนุ ษ ย ; แต อ าจจะถู ก ต อ งตาม ความหมายของคํา วา คน เพราะคนมัน ก็เปน สัต วช นิด หนึ่ง ยังไมคอ ยรูอ ะไร ยังทําไปตามอํานาจของกิเลส. เกิดมาแลวเปนคนแน แตยังไมเปนมนุษย จนกวา
www.buddhadassa.in.th
ศีลธรรมคืออะไร (ตอ)
๑๐๙
ใจมัน จะสูง เสีย กอ น ; ฉะนั ้น เราจึง กลา พูด วา การดํ า รงชีว ิต ของเราไม ถูก ตอ งตามความหมายของคํ า วา มนุษ ย ; แตถ ูก ตอ งตามความหมายของ คําวา คน คือโลภมาก ตะกละมาก อยางไมตองมีขอบเขตจํากัด. เป น อั น ส รุ ป ได ว า ม นุ ษ ย กํ า ลั ง ดํ า ร ง ชี พ อ ยู อ ย า ง ไม ถ ู ก ต อ ง ตามอุ ด มคติ ข องมนุ ษ ย เช น เดี ย วกั บ การศึ ก ษาไม ถู ก ต อ ง ตามความหมายของ การศึก ษาอยา งมนุษ ย. เขาศึก ษาแตเ รื ่อ งปากเรื ่อ งทอ ง เพื ่อ ใหเ ฉลีย วฉลาด แตเ พื ่อ ปาก เพื ่อ ทอ ง เพื ่อ กิน เพื ่อ กาม เพื ่อ เกีย รติ, การศึก ษานั ้น ไมถ ูก ตอ ง คือ ไมมีสวนของศีลธรรม ; การดํารงชีพก็เลยพลอยไมถูกตองไปตามนั้น. ....
....
....
....
ข อ ที่ ๓. ที่ จ ะมองกั น อี ก สํ า หรั บ ศึ ก ษาค น คว า พิ นิ จ พิ จ ารณาคื อ การช ว ยเหลื อ ร ว มมื อ ซึ่ ง กั น และกั น ในโลกนี้ ในเวลานี้ กํา ลั ง ถู ก ต อ ง หรือไมถูกตอง.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ถาม : ตามความหมายของคํ าว า มนุ ษ ย , ถามสั้ น ๆ ว าเรากํ าลั งช วยเหลื อ กั น อยางมนุษยหรือไม ?
คนที่ ๑ ตอบ : ขณะนี้ ก ารช ว ยเหลื อ นั้ น เป น ไปอย า งไม ถู ก ต อ ง เพราะอยู ใ น ลั ก ษณะที่ ช วยเหลื อ เพื่ อ ทํ า ลายกั น , ไม ได ช ว ยเหลื อ เพื่ อ ให เป น อั น หนึ่ งอั น เดียวกัน.
คนที่ ๒ ตอบ : การช ว ยเหลื อ ในโลกทุ ก วั น นี ้ ยั ง ไม ก ล า วได ว า เป น การ ชว ยเหลือ ที ่ถ ูก ตอ ง : สว นมากยัง มีก ารชว ยเหลือ เพื ่อ ตัว เองอยู ม าก.
www.buddhadassa.in.th
การกลับมาแหงศีลธรรม
๑๑๐
เปนตนวา เพื่อชื่อเสียงของตัวเอง เพื่อเอาหนา นี้อยางหนึ่ง เทาที่ สังเกตเห็น. ถาม : ใครอีก ? คนที่ ๓ ตอบ : การชวยเหลือเดี๋ยวนี้โดยมาก เปนการชวยเหลือเพื่อประโยชน ตนมากกว า ; ทุ ก ระดั บ ครั บ แม แ ต รั ฐ บาลนี่ ก็ คิ ด ว า จะช ว ยเหลื อ ราษฎร แตโดยมากก็ยังหันเขาตัว เกือบทุกระดับไปเลย. คนที่ ๔ ตอบ : การชวยเหลือซึ่งกันและกันในปจจุบันนี้ ยังมีอีกอยางนอกไป จากที่ทุกทานไดกลาวมาแลว คือชวยเหลือใหหนักเขาไปอีก ไมไดชวย ใหเบาขึ้นมาไดเลย. ยกตัวอยางเชน การทําบุญบวชนาคอยางนี้หรือการ ไปชวยทํางานเพื่อผอนใหงานหนักเปนงานเบา, เปลา ไมไดเปนคนเชน นั้น ; ทําสิ่งที่มันเบาอยูแลว ใหมันหนักยิ่งขึ้น เปนเสียอยางนี้ครับ.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org เทาที่มองเห็นนี่ ก็สรุปวา การชวยเหลือซึ่งกันและกันยังไมถูกตอง ; ถึงอยางไรก็ดี เราควรจะจํากัดความหมายของคํานี้ ใหมันชัดลงไปอีกสักหนอย.
ถาพูดวา “ชวยเหลือ” ก็หมายความวา ชวยใหเขาไดรับประโยชน ; แตถาชวยไปเพื่อเราไดกําไรมากขึ้น อยางนี้ไมเรียกวาชวยเหลือ ; เรียกไดวา มัน เปน การลงทุน ลงทุน ไปเพื่อ กํา ไร, อยา งนั้น ไมเ รีย กวา ชว ยเหลือ . การ ชวยเหลือในโลก เวลานี้มันเปนอยางหลังเสียโดยมาก คือชวยในลักษณะที่เปน การลงทุน ใหตัวผูลงทุนนั้นไดกําไรมากมาย. สวนบุคคลก็เปนอยางนั้น, สวน สังคมก็เปนอยางนั้น, ระหวางประเทศ หรือทั้งโลกก็กําลังเปนอยางนั้น.
www.buddhadassa.in.th
ศีลธรรมคืออะไร (ตอ)
๑๑๑
ถา ชว ยเหลือ ก็ค วรชว ยคนที ่ต อ งการความชว ยเหลือ กํ า ลัง ทุ ก ข ย ากลํ า บาก ให พ น จากความทุ ก ข นั ้ น อย า งหนึ ่ ง . ที นี ้ ช ว ยเหลื อ อี ก อย า งหนึ ่ ง ก็ ช ว ยเหลื อ ซึ ่ ง กั น และกั น เพื ่ อ ทํ า โลกนี ้ ใ ห ง ดงาม เพื ่ อ ทํา ใหโ ลกนี้เ จริญ ; อยา งนี้เ รีย กวา รว มมือ กัน เพื่อ ชว ยเหลือ ซึ่ง กัน และกัน ทําโลกนี้ใหงดงาม. อยางนี้ก็ไมใชลงทุนคา หรือเอาเปรียบอะไร แตเปนการ ชวยเหลือที่กวางขวางออกไป ยิ่งกวาชวยเหลือระหวางคนตอคน. การชวยเหลือ ชนิดที่เปนการลงทุนนั่น คือ การผูกพันกันเปนพวก แลวก็แสวงหาประโยชน โดยการเอาเปรียบตอพวกอื่น ไดกําไรมามากแลวก็แบงกัน ; คนที่เปนหัวหนา ชวยเหลือ ก็เอามาก. อยางเรื่อ งการเมือ งในโลกปจ จุบัน ก็เปน อยางนั้น แบงเปน พรรค เปนพวก คายนั้นคายนี้ แลวก็ชวยเหลือประเทศนั้น ชวยเหลือประเทศนี้ ; ชวยกัน อยางคุยโต คุยโว คุยโม วาเขาชวยเหลืออยางนั้น เขาชวยอยางนี้ ชวยนั้น ชวยนี้ ; แตพอไปดูเนื้อแทของการชวย มันเปนการลงทุน หาประโยชน หากําไร เรียกวา เอาอะไรมาบังหนา “เอาหนังลาไปคลุมราชสีห” อะไรทํานองนั้นมากกวา.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org “การชวยอยางเอาหนังลาไปคลุมตัวราชสีห” ก็ตองเรียกวา การ ชวยเหลือซึ่งกันและกันในโลกนี้ ยังไมถูกตอ ง ยังไมสมกับความเปนมนุษ ย ; มัน ก็ล ดลงมาสูค วามเปน คนอีก คือ เห็น แกตัว เห็น แกป ระโยชนทั้ง นั้น . ถา ชว ยเหลือ ในความหมายที่ถูก ตอ ง มัน ตอ งดับ ทุก ขไ ด และก็มีป ระโยชน สุขรวมกัน อยางที่ไมเปนการเอาเปรียบแกกันและกันมากยิ่งขึ้นไป. ขอใหเขาใจ อยางนี้.
www.buddhadassa.in.th
๑๑๒
การกลับมาแหงศีลธรรม
ขอยกตัวอยาง ; อยาเขาใจวาเปนเรื่องมุงหมายตําหนิ หรือยกยอง ฝา ยใดฝา ยหนึ่ง วาเมื่อ คนมีค วามทุก ข คนอื่น ตอ งชว ย ; อยา งคุณ ทองวา พอเวลามีงานศพ, มีคนตายลง, เพื่อนมาชวยแตวามาชวยกินใหฉิบหาย ; นี่ ก็ชวยเหมือนกัน. ในบทบัญญัติทางศาสนาอิสลามนั้น เขาเขียนไวชัดเจน ดูจะดีกวา พวกเรา ; เชนวา พอมีคนตายลงในครอบครัวหนึ่ง เขาจะตองจัดงานศพใหเสร็จ ไปภายใน ๑๒ ชั่วโมง อะไรทํานองนี้. คนจะมาชวยนั้น ตองมาชวยจริง คือ เอาทุกอยางที่จําเปนมาชวยครอบครัวนี้ในวันนั้น ; เพราะตามบทบัญ ญัตินั้น เขาหามไววา ในครอบตัวที่มีคนตายนั้น ตองไมติดเตาไฟ หุงขางตมแกง. ที่ ไมตองติดเตาไฟ เพราะวาผูที่มาชวยจะนําเอามาใหหมด เปนขาวปลาอาหารอะไร ตาง ๆ ทุกอยาง, เอามาชวยใหไดกิน ไดอะไรเสร็จเรียบรอย ; ใหจัดงานศพเสร็จ ไปไดเร็วภายใน ๑๒ ชั่วโมง เปนตน ; ไมใชมารุมกินกันอยางเมามาย นอนกลิ้ง นอนเกลือกไปอยางนั้น.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org แตเดี๋ยวนี้ประชาชนชาวอิสลาม จะถือบทบัญญัตินี้หรือไม อาตมา ก็ไมทราบ ; แตถาถือบทบัญ ญัติเดิมจะตองทําอยางนั้น. บานที่ตายลงไปนั้น ติดเตาไฟไมได เพราะตองยุงแตเรื่องงานศพโดยเร็ว คนที่มาชวยจึงเอามาใหหมด ทั้งขาวทั้งแกง กับ อะไร ก็ไมตองทํา . ทุก คนชวยกัน ใหงานศพนั้น เสร็จ ไปใน เวลาที่กําหนดไว ; อยางนี้ก็เรียกวา ชวย, โดยประการทั้งปวง.
ทีนี ้ อีก พวกหนึ ่ง มาชว ยกิน ชว ยกิน ทั ้ง เหลา กิน ทั ้ง อะไรตา ง ๆ จนเมามายกลิ้งเกลือก ทําเอาเจาของบานเปนหนี้ตั้งหมื่นบาท สองหมื่นบาท ;
www.buddhadassa.in.th
ศีลธรรมคืออะไร (ตอ)
๑๑๓
นี่ จะช วยให เป น อย างไร ? ก็ จ ะชวยให ล ม จม! นี้ เป น ตั วอย างที่ ให ความหมายวา ชวยกันอยางถูกตองหรือไมถูกตอง. ฉะนั้ น ขอให คิ ด กั น ดู ใหม เถอะ ว า มนุ ษ ย อ ยู ค นเดี ย วในโลกไม ได ; ตอ งชว ยกัน ; เรื ่อ งชว ยกัน นี ้ต อ งชว ยใหถ ูก ตอ ง หรือ ใหด ีขึ ้น ใหสํ า เร็จ ประโยชน ใหแ กป ญ หาตา ง ๆ ได ; อยา มาเพิ ่ม ปญ หา. ในการบวชนาค ก็ด ี ในงานศพก็ด ี แมที ่ส ุด แตก ารแตง งาน งานขึ ้น บา นใหม หรือ อะไรก็ดี อยาใหมาชวยกันทําความฉิบหาย หรือทําหนี้ทําสิน หรือทําการผูกพันยุงยากรุงรัง ไปหมด ; ขอให ม าช ว ยในลั ก ษณะที่ เป น ความเกลี้ ย งเกลา เป น ความเรีย บรอ ย เปนความเยือกเย็น เปนความสุข อยางนี้จึงจะเรียกวาชวยกันอยางถูกตอง. เรื่ อ งช ว ยกั น อย า งถู ก ต อ งนี้ เป น ธรรมะเก า แก โบรมโบราณ ก อ น พุทธกาล หรือวากอนที่จะพูดไดวาอยางไร. ที่จะชวยกันอยางถูกตองนั้น, เดี๋ยวนี้ ดู ก ารช ว ยเหลื อ ซึ่ ง กั น และกั น ของมนุ ษ ย ใ นโลกนี้ มิ ได เป น ไปอย า งถู ก ต อ งตาม ความหมายสําหรับมนุษย.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org สรุปวาเรามีวัตถุที่จะมาพิจารณาดูเกี่ยวกับความถูกตองหรือไมถูกตอง ของการกระทําอยางมนุษยในทางศีลธรรมนั้น มีสามอยาง อยางนี้ก็จะพอแลว : ดูวาการศึกษาถูกตองหรือไมถูกตอง ? การดํารงชีวิตหลังจากการศึกษาแลว ถูกตอง หรือ ไมถ ูก ตอ ง ? การชว ยเหลือ รว มมือ ผูก พัน กัน ในระหวา งมนุษ ยทั ้ง โลกนี ้. มัน ถูกตองหรือไม ถูกต อง ? ถาถูกต อ ง ก็กลาวอยางกําป นทุ บ ดิน ไดเลย วาจะมี แตส ัน ติส ุข สัน ติภ าพ ไมม ีว ิก ฤติก ารณอ ยา งที ่กํ า ลัง มีอ ยู ในโลกเวลานี ้. การใหความรูกัน แลกเปลี่ยนวัฒ นธรรมกัน ชวยเหลือกันในการคนควา ไปโลก
www.buddhadassa.in.th
การกลับมาแหงศีลธรรม
๑๑๔
พระจัน ทรไ ด อะไรไดก ็ต าม ; ถา ไมม ีป ระโยชนแ กส ัน ติภ าพตอ งถือ วา ไม ถูกตองทั้งนั้น ; ถาถูกตอง, ตองเปนไปเพื่อสันติภาพไมเปนไปเพื่อสงคราม. นี่เพราะวา เราไดถือเอาความหมายผิด : ความหมายของคําวาถูกตอง หรือไมถูกตองก็ดี ยังผิดกลับหนาเปนหลัง เห็นกงจักรเปนดอกบัว ดอกบัวเปน กงจั ก ร อยู อ ย า งนี้ ; นี้ ก็ เป น สิ่ ง สํ า คั ญ สิ่ ง หนึ่ ง ซึ่ ง จะต อ งหยิ บ ขึ้ น มาพิ จ ารณา ศึก ษา เพื ่อ ใหรูว า ตัว ศีล ธรรมที ่แ ทจ ริง นั ้น เปน อยา งไร ; ถา เปน ศีล ธรรม แลวตองถูกตอง ผิดไมได ; ถาผิด ก็ไมใชศีลธรรม. สรุป ความไดว า ศีล ธรรมก็ค ือ ความถูก ตอ ง ของการศึก ษา ของการดํารงชีวิตอยู และของการชวยเหลือซึ่งกันและกัน. ทีนี้เวลาที่เหลืออยูนิดหนึ่ง ก็จะขอพูดใหหมดไปเสียเลย เกี่ยวกับคําวา ศีลธรรมในขอที่วาเรากําลังอยูในสภาพเสื่อมทรามทางศีลธรรม.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org หัวขอที่ ๓ : โลกกําลังเสื่อมศีลธรรม.
เทา ที ่พ ูด มาแลว นี ้ มัน ก็ส รุป ความไดแ ลว วา เราโดยสว นตัว หรือ สวนสังคมดวย กําลังอยูในสภาพไรศีลธรรม หรือวาเสื่อมทางศีลธรรม. เสื่อมก็คือ วามันเสื่อมไปมาก ; ถาไร ก็หมายความวาไมมีเหลือเลย. นี้เราอยูในสภาพที่เสื่อม ทางศี ล ธรรม หรือ ไรศี ล ธรรม ? ในบางอย างเราถึ งกับ ไรศี ล ธรรม, ในบางอย าง
www.buddhadassa.in.th
ศีลธรรมคืออะไร (ตอ)
๑๑๕
เราเพียงแตเสื่อมศีลธรรม. รวมความแลวก็วา สภาพเสื่อมศีลธรรมนี้มันไดมีอยู ตามที่เราเขาใจกัน ; ทีนี้เราจะพิสูจนไดดวยอะไร ใหมันชัดยิ่งขึ้นไปอีกวา เรา กําลังอยูในสภาพแหงความเสื่อมของศีลธรรม. ถาม : มีอะไรเปนเครื่องพิสูจน, ลองตอบมาวา มีอะไรเปนเครื่องพิสูจน ? คนที่ ๑ ตอบ : มีสภาพแหงการเปนอยูในสังคม วามีการเปนอยูเปนปรกติสุข หรือไม, เปนเครื่องพิสูจน คนที่ ๒ ตอบ : ดูสิ่งแวดลอม เชน พวกอาชญากรรมตาง ๆ วามันมีมากนอย แคไหน ; ถามันมากขึ้นก็ แปลวา มีภาวะเสื่อมศีลธรรม. คนที่ ๓ ตอบ : ดูการที่สังคมเดือดรอนเพราะการเบียดเบียนซึ่งกันและกันมาก.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org คนที่ ๔ ตอบ : ดู จากการกระทํ าของคนในสั งคม วาจะนํ าไปสู ความพิ น าศ หรือวานําไปสูสันติสุข
ถาม : เราดูแลว เห็นวาอยางไร ? เห็นวากําลังนําไปสูความพินาศ หรือนําไป สูสันติสุข. ตอบ : ดูเห็นแลว ; กําลังนําไปสูความพินาศยอยยับครับ.
ถูกแลว, รูสึกวากําลังนําไปสูความพินาศ ; เพราะฉะนั้นจึงถือวา เดี๋ยวนี้กําลังอยูในสภาพที่เสื่อมศีลธรรม. ที่วาดู ๆ นั้นดูที่อะไรบาง ? ที่วาดูแลว
www.buddhadassa.in.th
การกลับมาแหงศีลธรรม
๑๑๖
เห็น วา นํ า ไปสู ค วามเสื ่อ มความพิน าศของมนุษ ยนั ่น เราดูที ่อ ะไรบา ง. ที ่ด ูนั ้น ดูที ่อ ะไรบา ง ? ก็ด ูที ่ก ารแสดงออกตา ง ๆ คือ แสดงออกทางวัต ถุที ่ป รากฏ อยูในภาวะของวัตถุนี้ก็ได, แลวดูการแสดงออกที่รางกาย ทีเนื้อ ที่ตัว ที่รางกาย ก็ไ ด, แลว ดูก ารแสดงออกของจิต ทางจิต ที ่แ สดงออกมา ซึ ่ง จะเห็น ได เหมือนกัน จะเห็นไดอยูเนื่อง ๆ ที่มันแสดงน้ําใจออกมา. สวนวาจานั้นเราพวงไว ที่รางกาย. [การแสดงออกทางวัตถุ ]
สิ่ง ที ่เ ราตอ งดู เพื่อ พิส ูจ นวา กํา ลัง เสื่อ มนี่ ดูที ่วัต ถุทั ่ว ๆ ไป ; ดู ที่ พื้ น แผ น ดิ น ก็ ได พื้ น แผ น ดิ น โลกทั้ ง โลก กํ า ลั ง เป น อย า งไร พื้ น แผ น ดิ น ของ บา นนี ้ จัง หวัด นี ้ ตํ า บลนี ้ กํ า ลัง เปน อยา งไร. เดี ๋ย วนี ้เรามีถ นน มีต ึก มีอ ะไร ตางๆ ; เราจะเรียกสิ่งเหลานี้วาสภาพเสื่อมศีลธรรม หรือสภาพเจริญทางศีลธรรม.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org หรือวาดูเห็นวาตนไม ปาไม ลําธาร หวยหนอง คลอง บึงบาง กําลัง ถู ก ทํ า ลายไป อย า งนี้ มั น เป น สภาพที่ มี ศี ล ธรรม หรื อ ว า เสื่ อ มศี ล ธรรม ? ต อ ง บัญญัติความหมายของคําวา เสื่อม หรือ เจริญ กันใหถูกตองดวย ; จนถึงกับแยก ได ชั ด ว า เจริญ ทางศี ล ธรรมคื อ อย า งไร, เจริญ ทางวั ต ถุ คื อ อย า งไร, เดี๋ ย วนี้ พื้ น แผนดินของเรากําลังเจริญทางวัตถุหรือกําลังเจริญทางศีลธรรม ? หรือเมื่อเจริญทาง วัตถุแลว ทางศีลธรรมมันไดวินาศไปอยางไร ? ก็ไปตรึกตรองดู นี่เราดุกันที่วัตถุ. [การแสดงออกทางรางกาย ]
ทีนี ้ ดูก ัน ที ่เ นื ้อ ตัว ของคน คนกํ า ลัง เปน อยา งไร มีค วามเสื ่อ ม หรื อ ความเจริ ญ ? เสื้ อ ผ า สวย ๆ แปลก ๆ ใหม ๆ ที่ ปู ย า ตา ยาย ไม เคยใช นั้ น เดี ๋ย วนี ้ม ัน ก็ไ ดม ี เสื ้อ สวย กางเกงสวย อะไรสวย มัน เปน ความเสื ่อ ม หรือ
www.buddhadassa.in.th
ศีลธรรมคืออะไร (ตอ)
๑๑๗
ความเจริญทางศีลธรรม ? กระทั่งกิริยาทาทาง แตงเนื้อแตงตัว การพูดจา การ เลนหัว การรองเพลง การอะไรตาง ๆ นี่ มันเปนลักษณะความเสื่อม หรือความ เจริญของอะไร ? เจริญทางวัตถุคืออยางไร ? เจริญทางศีลธรรมคืออยางไร ? มันจะ ไปพรอมกันไดหรือไม. ถาเจริญทางศีลธรรมแลว ความเจริญทางวัตถุมันจะเปน อยางไร มันจะลดลง หรือมันจะพอดี หรือมันจะเฟอ ? ขอใหไปดูอยางนั้น. อยากจะพูดถึงเสื้อสวย ๆ ลายแปลก ๆ นี้อีกครั้งหนึ่งวา เดี๋ยวนี้เขาไม คอยชอบเสื้อมอฮอมหรือวาเสื้อขาวลวน ๆ เขาขอบเสื้อที่มีสีสันแปลก ๆ ลวดลาย แปลก ๆ ; นั่น แสดงจิต ใจของบุค คลนั้น ไดห รือ ไม ? งานราตรี งานเชื้อ เชิญ กัน มากิ น เลี้ยงค่ําคืน ; เห็ น รูป ถายดอก, ไม เคยไปรวมกับ เขาหรอก ; เสื้ อ ผ า แปลก ๆ เสื้อบางตัวนากลัวยิ่งกวาเสือเสียอีก, ลวดลายของมันนั้น. นี่จะลองพิจารณากันใหมอีกทีวา ทําไปเสือจึงตองมีลายอยางนั้น ? เพราะมัน ไวขูค นอื่น , สัต วที ่มีล วดลายนา กลัว มัน เอาไวขูค นอื่น . นี ้เ ปน สัญชาตญาณอยางสัตว. สัตวบางชนิดไมมีกําลัง ไมมีพิษราย แตมันก็มีสีแปลก ๆ มีเสียงแปลก ๆ มีกลิ่นแปลก ๆ ไวขูคนอื่น.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ทีนี้ม นุษ ยเราพน จากความเปน สัต วขึ้น มา เราจึง ไมทํ า อยา งนั ้น เราจึง มีอ ะไรที่สุภ าพ มีสีไ มนา กลัว มีก ลิ่น ไมนา กลัว มีอ ะไรไมนา กลัว ; นี้เรากลับยอนไปหาความเปนอยางโนน. นี่เราหมดปญญาที่จะเปนมนุษยกันแลว หรืออยางไร จึงตองยอนไปใชระเบียบของสัตว ; มีสี มีกลิ่น มีทาทาง มีอะไร ที่ใหเหมือนกับสัตว.
www.buddhadassa.in.th
๑๑๘
การกลับมาแหงศีลธรรม
ขอใหม องกัน ใหล ึก ถึง ขนาดนี ้วา แมแ ตเสื ้อ ผา ที ่ใ สอ ยู ที ่เนื ้อ ที ่ต ัว ที ่ป ระพฤติก ระทํ า อยู แมแ ตก ารพูด จา มัน เปน อยา งไร คือ มัน เสื ่อ มศีล ธรรม หรือวาเจริญ ด วยศี ล ธรรม ? ถ ามั น เป น ไปเพื่ อ ประโยชน แ กกั น และกั น ก็ เรีย กวา ถูก ทางศีล ธรรม ; ถา มัน ไมเ ปน ไปเพื ่อ ประโยชนแ กก ัน และกัน ตอ งถือ วา ผิด . ถ า ไม เป น ประโยชน หรื อ ไม อ ธิ บ ายได ใ นข อ ที่ ว า เป น ประโยชน , หรื อ ไม เป น ประโยชนแ ลว ก็ย ัง ถามไดว า มัน จํ า เปน หรือ ไมจํ า เปน ? ถา เปลือ งเปลา เสีย เวลาเปลา เพีย งแตเอาความสนุก สนานเทา นั ้น นี่ก ็ไมม ีศ ีล ธรรม ; ทํ า สิ ่ง ที่ ไ ม ต อ ง ทํ า สํ า ห รั บ สั น ติ ภ า พ แ ล ว ก็ ไ ป ทํ า สํ า ห รั บ ค ว า ม วุ น ว า ย ห รื อ วิกฤติการณ : ก็เรียกวาไมมีศีลธรรม. นี่ ข อให ดู ที่ เรามี อ ะไรกั น อยู นี่ มี บ า น มี เรื อ น มี เครื่ อ งใช ไม ส อยใน บ า นในเรื อ น แล ว เราก็ ชั ก ชวนชี้ แ จงส ง เสริ ม แก กั น ให ป ระดั บ ประดา ตกแต ง บ านเรือ น ตกแต งห อ งนอน ตกแต งห อ งอาหาร ตกแต ง จานอาหาร ว า เหล า นี้ เปน ไปเพื ่อ ศีล ธรรมหรือ ไม ? ตรงนี ้ข องดไมต ัด สิน เดี ๋ย วจะถูก ดา มากเกิน ไป. ไปตัด สิน เอาเองก็แ ลว กัน วา ที ่ทํ า อยา งนั ้น มัน สง เสริม ศีล ธรรมหรือ ไม ; หรือ ตั้งปญหาวามันสงเสริมความเจริญทางวัตถุ หรือสงเสริมความเจริญทางจิตใจ คือ ศีลธรรม.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org เดี๋ ย วนี้ โลกกํ า ลั ง มี แ ต อ ย า งนี้ ชั ก ชวนกั น แต อ ย า งนี้ โฆษณากั น แต อย า งนี้ ไม ชั ก ชวนกั น ให กิ น ข า วราดน้ํ า ปลากั บ ถั่ ว ลิ ส ง ; มั น ชั ก ชวนกั น แต กิ น อยา งนี ้ กิน อยา งนั ้น จนไมรูจ ะกิน อยา งไร จนกิน ไมถ ูก . อาตมาจะกิน กับ เขา ไม ถู ก ไม รู ว า กิ น อย า งไร. เรามั ว ชั ก ชวนกั น ไปแต ใ นเรื่ อ งที่ มี ค วามเจริ ญ พรวด พราดหรือ เฟอ ไปทางวัต ถุ ไมช ัก ชวนกัน ไปทางความเจริญ เพื ่อ ปรกติใ น ทางจิตใจ. นี้เรียกวาดูกันที่การกระทํา ที่มันแสดงออกมาใหเห็น.
www.buddhadassa.in.th
ศีลธรรมคืออะไร (ตอ)
๑๑๙ [ การแสดงออกทางจิตใจ ]
ข อ สุ ด ท า ย ขอให ด ู สิ ่ ง ที ่ แ สดงออกมาทางจิ ต ใจ เช น คน หมูบ านนี้เป นอยางไร มันแสดงออกมาไดที่ถนนหนทาง ที่ศาลา ที่บอ น้ํา ที่การ ประพฤติก ารกระทํา ; นั่น มัน แสดงออกมาจากจิต ใจทั้งนั้น แหละ ไมตอ งพบตัว ผู ค นที ่ทํ า หรอก. เพีย งแตเ ราเดิน มาที ่ถ นนนี ้ เราเห็น อะไรวางอยู อยา งนี้ มีอ ะไรวางอยู ส กปรกอยา งนี ้ แสดงอยู อ ยา งนี ้, เราก็รูไ ดว า จิต ใจของคน บ านนี้ มั น เป น อย างไร. ดู สิ่งที่ มั นแสดงออกมาทางจิตใจ เราก็ รูวา มีศี ลธรรม หรื อ ไม มี ศี ล ธรรม ; ศาลาบางศาลา เขี ย นกั น จนไม รู ว า จะเขี ย นอะไร ล ว นแต เรื ่อ งไมม ีศ ีล ธรรมทั ้ง นั ้น . การเขีย นนั ้น มัน ก็ไ มม ีศ ีล ธรรมอยู แ ลว ; แลว ภาพ หรือขอความที่เขียนมันก็แสดงความไมมีศีลธรรมอีก. นี้ก็แสดงใหรูถึงจิตใจของคน ในหมูบานนั้น. ที นี้ ป ระเทศไทย มี อ ะไรเจริ ญ ก า วหน า ? เรื่ อ ง อาบอบนวด เรื่ อ ง ลามกอนาจาร หรือ ยิ ่ง กวา ลามกอนาจาร ที ่แ สดงอยู ใ นที ่ทั ่ว ๆ ไป มัน ก็ ยอ มแสดงถึง จิต ใจของประชาชนคนไทย แหง ยุค ปจ จุบ ัน นี ้. นี ่ด ูท ีสิ ่ง ที ่ม ัน แสดงออกมาจากจิตใจก็รู, และอาจจะพิสูจนไดวา อยูในสภาพที่เสื่อมศีลธรรม.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ดัง นั ้น เมื ่อ ตอ งการใหพ ิส ูจ นก ัน บา ง ก็พ ิส ูจ นด ูที ่สิ ่ง เหลา นี ้ ที ่แ สดง อยู ท างวัต ถุทั ่ว ๆ ไป, ที ่แ สดงที ่เนื ้อ ตัว ของคน, ที ่แ สดงอยู ที ่จ ิต ใจ ที ่ม ัน แสดง เห็นจิตใจของคน โดยไมเห็นตัวคน. ....
....
....
....
เปนอันวา เราพอจะยุติไดวา มีสภาพเสื่อมทรามทางศีลธรรม, และ พร อ ม ๆ กั น นั้ น คนพวกหนึ่ ง เขากลั บ ถื อ ว า นั้ น คื อ ความเจริ ญ . นั่ น คื อ ความ
www.buddhadassa.in.th
การกลับมาแหงศีลธรรม
๑๒๐
ถู ก ต อ งสํ า หรั บ เขา, สํ า หรั บ พวกเขา พวกตามใจตั ว เอง ด ว ยเรื่ อ งกิ เลสก็ ดี พวก แสวงหากํ า ไรก็ ดี อะไรก็ ดี มั น เป น เรื่ อ งถู ก ต อ งสํ า หรั บ เขา. ความเจริ ญ ทางวั ต ถุ ทํ า ใหเ กิด นั ่น เกิด นี ่ขึ ้น ม าเต็ม ไป ห ม ด ; โด ยเฉ พ าะที ่ต ากอากาศ ก็ด ี ห รือ ที่ บั น เทิ ง เริ ง รื่ น อะไรก็ ดี เจริ ญ ๆ ๆ ทางวั ต ถุ และถู ก ต อ งตามแบบของเขา, แต มั น เสื่อมทางศีลธรรม ไมเจริญทางศีลธรรม. ฉะนั้ น จงแยกเอาเองว า อย า งไรเรี ย กว า ตั ว ศี ล ธรรม, อย า งไรเรี ย กว า มีศีลธรรม แลวจะรูไดในที่สุดวา ศีลธรรมนั้นคืออะไร. เราไดพ ูด กัน มาถึง ๓ ครั ้ง แลว ในหัว ขอ วา ศีล ธรรมคือ อะไร, รู ส ึก วา ก็ค วรจะพอกัน ที สํ า หรับ ปญ หาที ่ว า ศีล ธรรมคือ อะไร. ถา มีโ อกาสจะพูด กั น ต อ ไปอี ก คราวหลั ง ก็ จ ะพู ด โดยหั ว ข อ อื่ น เช น ว า รากฐานของศี ล ธรรมคื อ อะไรโดยรายละเอียด ในทุกแงทุกมุมเปนตน.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org การบรรยายในวันนี้ก็พอสมควรแกเวลาแลว.
ขอยุติไว ใหโอกาสพระคุณเจาทั้งหลายไดสวดบทพระธรรมที่สงเสริม กําลังใจในการประพฤติปฏิบัติศีลธรรมตอไป. -----------------------------
www.buddhadassa.in.th
การกลับมาแหงศีลธรรม - ๔ ๒๑ มกราคม ๒๕๑๙
รากฐานของศีลธรรมอันดับหนึ่ง [ ความรูสึกเปนเพื่อน เกิด แก เจ็บ ตาย ดวยกันทั้งหมด : แผนดิน ]
ทานสาธุชน ผูมีความสนใจในธรรม ทั้งหลาย,
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org การบรรยายประจําวันเสารภาคมาฆบูชา เปนครั้งที่ ๔
ในวัน นี ้ ของคํ า บรรยายชุด ซึ ่ง ไดตั ้ง หัว ขอ ไวว า การกลับ มาแหง ศี ล ธรรม เป น การบรรยายในแบบอภิ ป ราย คื อ ช ว ยกั น ซั ก ไซร เ ผื ่ อ ว า จะมีอะไรขาดตกบกพรอง. [ตอไปนี้เปนการทบทวนคําปรารภการกลับมาแหงศีลธรรมไปจนถึงหนา ๑๒๙]
หั ว ข อ ใหญ ว า การกลั บ มาแห ง ศี ล ธรรม แบ ง ออกเป น หั ว ข อ ย อ ย ๆ ตามสมควรแกเรื่อง. ในครั้งที่ ๑ ครั้งที่ ๒ ครั้งที่ ๓ ไดพูดโดยหลักหรือประเด็น
๑๒๑
www.buddhadassa.in.th
๑๒๒
การกลับมาแหงศีลธรรม
ที่ ว า ศี ล ธรรมคื อ อะไร ในแง มุ ม ต า ง ๆ กั น ซึ่ ง จะต อ งทบทวนกั น บ า งในวั น นี้ เพราะวาไดเวนมาหลายวันแลว. ความมุ ง หมายนั้ น จะพู ด ถึ ง การกลั บ มาแห ง ศี ล ธรรม, ซึ่ ง จํ า เป น อย า งยิ ่ ง สํ า ห รั บ โล ก ส มั ย นี ้ โล กส มั ย นี ้ กํ า ลั ง จะวิ น าศ เพ ราะเห ตุ เ พี ย ง อยา งเดีย ว คือ ความไมม ีศ ีล ธรรมของมนุษ ยใ นโลก. เพราะวา ไดจัด การ ศึกษาหรืออะไร ทุก ๆ อยาง เปนไปในทางที่ไมสงเสริมศีลธรรม ; และยังเหยียบย่ํา ศีล ธรรมเสีย อีก จนมนุษ ยใ นระยะรอ ยปนี ่ มีศ ีล ธรรมเสื ่อ มลง ๆ, ในบางแหง หรือ บางพวก แทบจะไมม ีศ ีล ธรรมเหลือ อยู เลย. อาการนี ้กํ า ลัง เปน เหมือ นกับ โรคระบาด ซึ่งกําลังจะระบาดไปทั่วโลกอยางรุนแรง คือแรงขึ้นๆ จนในที่สุดโลกนี้ ก็จ ะถึง ความวิน าศ ; ดัง ที ่ไ ดม ีข อ ความกลา วไวใ นพระบาลี คือ ยุค ที ่ม นุษ ยไ ร ศี ล ธรรม จนถึ งกั บ คํ านวณได วา เขามี อ ายุ เพี ย ง ๑๐ ป เท า นั้ น แล วก็ จ ะฆ ากั น เหมือ นกับ ฆา เนื้อ ฆา ปลา ตายเกือ บหมดโลก แลว ที ่เหลือ ซอ นเรน กัน อยูบ า ง ก็อ อกมาพิ จารณาดูการกระทําของมนุษ ย มีความสังเวช แลวก็ตั้ งตน มีศีล ธรรม กันใหม จนกวาจะเจริญดวยศีลธรรมอีก.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ใน โลกสมัย ที ่ศ ีล ธรรม กํ า ลัง เสื ่อ ม ล ง ๆ ห รือ เริ ่ม เสื ่อ ม ล งนั ้น เรีย กกัน วา กลีย ุค ; ในระยะนี ้ก ็ย ัง เปน ระยะกลีย ุค และก็จ ะเปน กลีย ุค ที ่ม าก ยิ ่ง ขึ ้น หรือ รุน แรงยิ ่ง ขึ ้น ทุก ที. ผู ที ่ไ ดอ า นเรื ่อ งราวอัน เกี ่ย วกับ พระพุท ธเจา ของเรา, ถา ยัง จํ า ได ก็ค งจะยัง จํ า ขอ ความที ่แ ปลกประหลาด หรือ พิเศษ อยู ขอ หนึ่ งวา พระพุ ท ธเจ าพระองค นี้ อุ บั ติ ขึ้น มาในโลกที่ กํ าลั งเป น กลี ยุ ค ;ท านทั้ ง หลายจะเขาใจความขอนี้วาอยางไร ก็ลองคิดดู.
www.buddhadassa.in.th
รากฐานของศีลธรรมอันดับหนึ่ง
๑๒๓
สํา หรับ อาตมานั้น มองเห็น วา พระพุท ธเจา ทรงอุบัติขึ้น มาใน โลกนี ้ ในยุค ที ่โ ลกจะเสื ่อ มดว ยศีล ธรรม. พระองคเ กิด ขึ้น เพื ่อ สั่ง สอนโลก คล า ย ๆ กั บ ว า เกิ ด ขึ ้ น เพื ่ อ ให เ ครื่ อ งคุ ม ครองป อ งกั น ; ถ า สมมติ ว า พระพุทธเจาไมไดเสด็จมาบังเกิดในยุคนี้ ยุคนี้จะไรศีลธรรมยิ่งไปกวานี้. โดย เหตุที่พระองคไดทรงอุบัติขึ้นมาในโลกเมื่อ ๒๕๐๐ ปมาแลว, และทรงแสดงธรรม ไวอยางครบถวนทุกอยางทุกประการ สําหรับจะเปนเครื่องคุมครองโลก แลวก็ คุมครองโลกไดจริง, โลกจึงไมไรศีลธรรมยิ่งไปกวานี้. แตโดยเหตุที่โลกมันเปนโลกในยุคที่เรียกวากลียุค ก็เริ่มเสื่อมจาก พระธรรมคําสอน ของพระผูมีพ ระภาคเจานั้น เปน ลําดับ มา ; จนจะถือ ไดวา เวลานี ้ กํา ลั ง เสื่ อ ม คื อ ไม ม ี ศี ล ธรรมยิ่ ง ขึ้ น เพราะฉลาดแต ใ นทางที ่ จ ะ เห็น แกตัว ; ไมฉ ลาดในทางที่จ ะเห็น แกพ ระธรรม. พระธรรมของพระองค ยังจําเปนสําหรับมนุษยในยุคนี้ ; แตมนุษยก็ยังไมเอาใจใส เพราะวาไปหลงไหล ในความสุข สนุก สนาน ความเจริญ กาวหนา ในทางวัต ถุ ซึ่ง เผอิญ มัน ได เกิดคนควาพบปะ ประดิษฐ สรางสรร ขึ้นมาอยางที่เรียกวานาประหลาด นา อัศ จรรย. สิ ่ง เหลา นั ้น เกิด ขึ้น มาแลว ก็ทํ า ใหม นุษ ยนี ้ห ลงไหล จนจะไมเปน มนุษยอยูแลว ศีลธรรมก็เสื่อมลง ๆ จนมาถึงวันนี้. เราไดเอาผลของความ เสื่อมศีลธรรมมาเปนเครื่องพิจารณาดู ก็รูสึกวามันเปนยุคแหงความเสื่อมทาง ศีลธรรมจริง.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ตัวอยางงาย ๆ ที่ทุกคนจะเห็นไดและยอมรับ วาเมื่อสัก ๔๐-๕๐ ป มานี่ มันยังไมยุงยากลําบากเหมือนอยางเดี๋ยวนี้ ; จะนอนหลับตามใตถุน ตาม โคนไมก็ยังสบาย ปลอดภัย ไมมีอันตราย. เดี๋ยวนี้มันทําไมได แมกลางเมือ ง
www.buddhadassa.in.th
๑๒๔
การกลับมาแหงศีลธรรม
หลวง กลางถนนหนทาง มันก็ยังมีอันตราย ; มีความเบียดเบียนกันโดยตรง โดยออม มากมายมหาศาล จึงเรียกวาเปนยุคที่เสื่อมศีลธรรมอยานาหวาดเสียว. ถาหากวา เหตุการณยังคงดําเนินไปในลักษณะอยางนี้ ก็จะถึงความวินาศเปน แนนอน, คือตางคนตางทนอยูไมได ; ตางฝายตางทนอยูไมได ก็เบียดเบียนซึ่ง กันและกันจนถึงกับวินาศไปในที่สุด. ทีนี ้ เมื ่อ เรามาคํ า นึง ถึง วา พระพุท ธองคไ ดท รงอุบ ัต ิขึ ้น มาใน โลกนี้ เพื่อจะโปรดสัตวในกลียุค ; เราก็ควรจะทําใหสําเร็จตามความมุงหมาย นั้น คือเอาธรรมมะของพระพุทธองคมาประพฤติปฏิบัติ ใหแนนแฟนมั่นคง สุดที่ เราจะกระทําได. เมื่อภาวะการณมันเลวรายลงไปถึงขนาดนี้แลว มันก็ตองกระทํา ไปในลั ก ษณะที่ เป น การต อ สู กั น , หรือ ที่ เขาชอบเรีย กกั น ในสมั ย นี้ วา ทํ า การ รณรงค. รณรงคมันก็คือรบกันนั่นแหละ แตวาตอสูเพื่อผลที่ดี ; ดวยเหตุนี้เอง การบรรยายในหัวขอวา การกลับมาแหงศีลธรรม จึงไดเกิดขึ้น ; หมายความ วา อาตมามุงหมายวา เราจะรณรงคตอสูใหศีลธรรมกลับมา.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org เดี ๋ ย วนี ้ ศ ี ล ธรรมมั น หายไป เราก็ จ ะต อ สู ห รื อ ทํ า การรณรงค เพื ่อ ใหศีล ธรรมกลับ มา. ขอใหทา นทั้ง หลายเขา ใจความมุ ง หมายอัน นี้ไ ว เพื่อ เปน เครื่อ งประกัน ความฟน เฝอ ; เดี๋ย วจะเกิด ฟน เฝอ ขึ้น มาไดวา เราทํา ทําไมกัน.
ทีนี้ ก็อยากจะใหพิจารณาเปนพิเศษในขอ ที่วา การกลับมาแหง ศี ล ธรรมนี ้ จํา เป น ที ่ สุ ด แล ว ไม ม ี อ ะไรจํา เป น ไปกว า นี ้ ; พู ด ตรง ๆ ก็ ว า จํา เป น ยิ่ ง เสี ย กว า การมี ข า วปลาอาหาร. ถ า พู ด อย า งนี้ คนเขา
www.buddhadassa.in.th
รากฐานของศีลธรรมอันดับหนึ่ง
๑๒๕
ไมคอยยอมรับฟง เขาวาขาวปลาอาหารสําคัญกวา มันจะไดมีชีวิต ; มีศีลธรรมนี้ จะสําคัญกวาขาวปลาอาหารไดอยางไร ? ขอนี้มันก็มีความหมายนิดเดียว คือวา ถ า ชี ว ิ ต อยู อ ย า งไม ม ี ศ ี ล ธรรมแล ว จะมี ช ี ว ิ ต อยู ไ ปให เ ลวทรามทํ า ไม ตายเสียยังดีกวา ; ฉะนั้นการมีศีลธรรมนี้ สําคัญยิ่งกวาการมีขาวปลาอาหาร. มองดูใหกวางออกไปก็จะพบวา มันทําใหมนุษยมีความหมาย ให โลกนี้มีความหมาย : ใหมีธรรมะ ใหมีสันติสุขในโลก ไมตองอยูอยางที่เรียกวา เหมือนกับวานอนอยูในกองไฟ รอนอกรอนใจ รอนเนื้อ รอนตัว รอนไปหมด เพราะไมมีศีลธรรมซึ่งเปนความเย็น ; จึงอยากจะพูดอยางไมกลัวใครโกรธ วา การทํา ให ศี ล ธรรมกลั บ มานี่ แ หละ คื อ การบํา เพ็ ญ บุ ญ อั น สู ง สุ ด ในยุ ค นี้ , หรือในสมัยนี้. สรางโบสถ สรางวัด สรางนั่น สรางนี่ ก็เปนบุญเหมือนกัน ; แต ยังไมจําเปน ยังไมสําคัญเทากับการกลับมาแหงศีลธรรม, จึงอยากจะขอรองทาน ทั้งหลายวา ถาใครอยากจะทําบุญอะไรในยุคนี้ในปจจุบันนี้แลว ก็ขอใหนึกถึง การกลั บ มาแห ง ศี ล ธรรม นี่ แ หละก อ นสิ่ ง อื่ น . จงบํา เพ็ ญ บุ ญ ไปในทาง ที่ใหศีลธรรมกลับมา และใหมันโดยตรง หรือโดยเร็วยิ่งขึ้น ; โดยออมนั้นมันยัง ไกลนัก, หรือบางทีมันก็ไปตายดานเสียกอน.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org เชนวา เราจะตองสรางวัดขึ้นมาอยางนี้ ; ถาวัดนั้นไมไดทําใหมี ศีลธรรมดีขึ้น ก็ไมมีประโยชนอะไร, หรือวากวาจะสรางวัดเสร็จมันก็ตายเสียกอน ก็ไมไดสอนใหศีลธรรมกลับมา. เพราะฉะนั้น วางมือ เรื่องการสรางวัด สรางวา สร า งอะไรต า ง ๆ ไว ก อ น มาทํา ชนิ ด ที่ ทํา ให ศี ล ธรรมกลั บ มาทุ ก อย า ง
www.buddhadassa.in.th
๑๒๖
การกลับมาแหงศีลธรรม
ทุกทาง : นับตั้งแตการพูดจาชี้แจง ชักจูง, หรือการะทําอยางอื่น ที่มากไปกวานั้น ; เชน การทําตัวอยางใหดู บีบคั้นเพื่อนฝูง ที่พอจะบีบคั้นกันได ใหมีตั้งอยูใน รอ งรอยของศีล ธรรม, บังคับ ใหเขาชวยกัน เผยแพรวิธีการที่จะทําใหศีล ธรรม กลับมา. เวลานี้มีเรื่องขํา ๆ อยูเรื่องหนึ่ง คือ เขาเรียกกันวาอะไรก็ไมทราบ, เปนการบังคับใหเขียนจดหมายถึงกันทางไปรษณีย : คนหนึ่งไดรับฉบับหนึ่งแลว ตองเขียนถึงคนอื่นอีก ๕ ฉบับ ๑๐ ฉบับ แลวแตเขาตองการ ใหเขียนตอ ๆ กันไป อยางนั้น ; แลวถาใครไมเขียน เสนียดจัญ ไรจะตกอยูที่คนนั้น. คนโงงมงาย มันก็กลัว ก็เขียน ก็เขียนกันใหญ วนไปวนมาดวยการเขียนจดหมายอยางนี้ ; แตก็ยังไมรูวาจะไดประโยชนอะไร. ถาเราเอาวิธีการอันนี้มาใชเขียนจดหมาย ขอรองใหชวยกันทําให ศีลธรรมกลับมา, ตลอดถึงชี้แจงวา มันจะกลับมาไดอยางไร, เขียนสงกันไปให ใครคนหนึ่ง ไดรับแลว ยังขอรองหรือบังคับใหคนนั้น เขียนตอออกไปถึงผูอื่นที่ เปนเพื่อนฝูงของเขา ๓ ฉบับ, ๕ ฉบับ แลวแตจะทําได, ใหมันแพรหลายไป โดยเร็ว เพื่อใหมีความเขาใจในการกระทําและกระทําลงไปจริง ๆ เพื่อใหศีลธรรม กลับมา ; อยางนี้ก็ดูจะมีประโยชนกวา.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ที่ เขี ย นกั น แต เพี ย งสั ก วาด วยความหวาดกลั ว วา จะเป น โชครา ย เปน ตน ; เปน เรื่อ งถือ โชค คือ ลาง หรือ งมงายไปเสีย อีก ไมไดรับ ประโยชน อะไรทางศีลธรรมแกบุคคลใด ; กรมไปรษณียไดแตคาแสตมปมากเทานั้นเอง มัน ยัง ไมคุม กัน , นี่ข อใหไ ปคิด ดูวา คนทุก วัน นี้ก็ก ลัว อะไรอยูอ ยา งงมงาย, กลัวความทุกขอยางงมงาย ; ทําอยางนี้กันก็ได
www.buddhadassa.in.th
รากฐานของศีลธรรมอันดับหนึ่ง
๑๒๗
ทีนี้เอามาปรับปรุงใหมันดีกวานั้น, และชักชวนกันใหทั่วถึงอยางนั้น แตเปนไปในทางที่จะทําใหศีล ธรรมกลับ มา ; อยางที่อ าตมาขอสรุป ความวา เวลานี ้ ถ า ใครจะทํ า บุ ญ อะไร ขอให ทํ า ไปในลั ก ษณ ะที ่ ทํ า ให ศ ี ล ธรรม กลับ มาเถิด . บุญ อยางอื่น มันอาจจะเพอไปแลวก็ได คือ มันเกินไปแลว ; แต การทําใหศีลธรรมกลับมานี้ มันยังขาดอยู. ถา จะเสีย เวลาสัก นาทีห นึ่ง ใหเ ปน บุญ เปน กุศ ลละก็ เสีย เวลา ไปในการทําใหศีลธรรมกลับมา ; หรือวา ถาจะบริจาคทรัพยสักบาทหนึ่ง ก็ขอ ใหบ ริจ าคไปในลัก ษณะที่ทํา ใหศีล ธรรมกลับ มา. หรือ วา จะมีก ารเสีย สละ อยา งอื ่น ใดอีก ก็ต าม ก็เ สีย สละไปในทางที ่ทํ า ใหศ ีล ธรรมกลับ มา. นี ่ค ือ ความมุงหมายที่มีการบรรยายชุดนี้ และเปนคําขอรองพรอมกันไปในตัว วาสิ่งที่ สํ า คั ญ ที ่ ส ุ ด ที ่ ม นุ ษ ย ทั ้ ง โลกควรจะทํ า ในเวลานี ้ นั ้ น ไม ม ี อ ะไรยิ ่ ง ไปกว า การทําใหศีลธรรมกลับมา. นี่เปนหัวขอใหญของเรื่อง.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ....
....
....
....
ทีนี้ เราจะทําความเขาใจในขอนี้กันโดยรายละเอียด จึงมีการบรรยาย ในครั้ง ที่ ๑ ที่ ๒ ที่ ๓ โดยหัว ขอ วา ศีล ธรรมนั้น คือ อะไร. บรรยายกัน ตั้ง ๓ ครั้ง ซึ่งก็นับวามากมาย แตเพียงใหรูวาศีลธรรมนั้นคืออะไรเทานั้น. ที่บ รรยายกัน อยางมากมายนั้น ก็เพื่อ ใหดูทุกแงทุก มุม . ถาทาน ทั้ง หลายระลึก ได วา ไดบ รรยายมาอยา งไร แลว ก็จ ะมีป ระโยชนม าก ; คือ ไดบ รรยายใหรูจัก ศีล ธรรม หรือ สิ่ง ที่เรีย กวา ศีล ธรรมในแงข องภาษา ในแง
www.buddhadassa.in.th
๑๒๘
การกลับมาแหงศีลธรรม
ของตัวหนังสือ ในแงของความหมาย และในแงของภาวะการณที่เปนอยูในโลกนี้ ตามธรรมชาติ. และมนุษ ยไดรูจัก สิ่งนี้ใ นหลายแงห ลายมุม : ไดรูจัก ศีล ธรรม ในแงของศาสนาก็มี, ในแงของปรัชญาก็มี ; ในแงของสังคมศาสตรก็มี ; แตแลว ก็ยังไม ชวยให มี ศี ล ธรรมขึ้น มากได เพราะวาไปรูในแงที่ ไม ค วรจะรู. เราจึ งต อ ง เอามาพูด กันใหห มดจดทุกแงทุก มุม เพื่อจะใหรูวา เราควรจะรูจัก ศีล ธรรมนั้น ในแงไหน ; อยางนี้เปนตน. ศีลธรรมมีรูปแบบตาง ๆ กัน มีที่ตั้งตาง ๆ กัน อยูในสายเลือด ก็มี, แสดงอยูทีเนื้อตัวของบุคคล ตามเหตุปจจัยแวดลอมก็มี, หรือแสดงอยูที่สิ่ง ตาง ๆ ที่เราอาจจะมองดูได จากสิ่งที่มนุษยไดทําขึ้น ; และใหเห็นความจําเปน ที่จะตองมีศีลธรรมอยูทุกลมหายใจเขาออก, และใหเห็นวา ศีลธรรมนั้น เปนทุกสิ่ง ที่ เกี่ ย วข อ งกั บ มนุ ษ ย ไม วาการศึ ก ษา การอาชี พ การปกครอง หรือ การเมื อ ง วัฒ นธรรมประเพณี ; แมที่สุด แตก ารทํา สงคราม ก็ข อใหก ระทํา ไปอยา งมี ศีลธรรม ; ถาไมมีศีลธรรมแลว ทุกสิ่งจะเปนเครื่องทําลายมนุษย, ถามีศีลธรรม แลว ทุกสิ่งจะกลายเปนเครื่องสงเสริมมนุษย.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ในที ่ ส ุ ด สรุ ป ว า ความถู ก ต อ ง ซึ ่ ง เป น ตั ว ศี ล ธรรมนั ้ น เป น ใจความสําคัญ ; ถามีการกระทําถูกตอง ปญหาก็ไมเกิด, และจะมีความถูกตอง ในการศึก ษาเปน รากฐาน, มีก ารถูก ตอ งในการดํา รงชีวิต อยูข องเราเอง เปน รากฐาน, แลว ก็มีค วามถูก ตอ งในการชว ยเหลือ ซึ่ง กัน และกัน เปน รากฐาน ; คือ มีรากฐานเปน ความถูก ตอ งถึง ๓ ประการ ศีล ธรรมก็จ ะตั้ง อยูอ ยางมั ่น คง จนเปรียบกันไดกับตนไมตนนั้น.
www.buddhadassa.in.th
รากฐานของศีลธรรมอันดับหนึ่ง
๑๒๙
ต น ไม จ ะสมบู ร ณ ง อกงาม ก็ ต อ งมี ค วามถู ก ต อ งทั้ ง ที่ โคนต น ทั้ ง ที่ กลางต น ทั้ ง ที่ ป ลายต น ; สร า งต น ไม ศี ล ธรรมขึ้ น มา เป น ภาพอุ ป มา หรื อ เป น ภาพพจนเพื่อใหจดจํางาย วาศีลธรรมพฤกษานี่ มันมีอะไรเปนรากเปนโคน และ เปน ตน เปน กิ ่ง เปน ใบ เปน ดอก ก็ล ว นแตเ ปน ความถูก ตอ งทั ้ง นั ้น . ตน ไม ต น นี ้ มี อ ุ ด มคติ ที ่ ด ี เ ป น รากหรื อ เป น โคน. ต น ไม ต น นี ้ ม ี ก ารประพฤติ ปฏิบัติที่ดี เปน ลํา ตน , และมีผ ลอานิส งคที่ดี เปน ใบ เปน ดอก เปน ลูก ในที่สุด. ขอใหพยายามหลับตาเห็นภาพนี้วา ตนไมตนนี้มันอยูในลักษณะอยางนี้ เรียกวา พฤกษาแหงศีลธรรม. เมื่ อมองเห็ นแล ว ก็จะต องพิ จารณาดู ต อไปวา มั นมี อยูที่ ไหน ? และ มีอยูในโลกนี้หรือไม ? เราอาจจะมองเห็นวา มันมิไดมีอ ยู มันเป นแตมโนภาพที่ เรามองเห็นและหวังอยูเทานั้น จึงจําเปนที่จะตองชวยทําใหมันมีขึ้นมา : ใหมีตน พฤกษาแห งศี ล ธรรมนี้ จ ริง ๆ ขึ้ น มา มี โคน มี ต น มี ป ลาย ที่ ชุ ม ชื้ น มี ชี วิต ชี วา. ทั้ ง หมดนี้ ก็ พ อจะเรี ย กได ว า เรารู จั ก สิ่ ง ที่ เรี ย กว า ศี ล ธรรม อย า งถู ก ต อ ง และ ครบถวนโดยใจความ.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org [ จบคําปรารภทบทวน ]
เมื ่อ รู จ ัก วา ศีล ธรรมคือ อะไร ดัง นี ้แ ลว ; เรื ่อ งที ่จ ะกลา วกัน ตอ ไปนั ้น อาตมาคิด วา เราจะกลา วถึง รากฐานแหง ศีล ธรรม ในการ บรรยายครั้งที่ ๔ นี้.
รากฐานแหงศีล ธรรม มัน มีรายละเอีย ดมาก, มากชนิด ที่เรียกวา จะตองพิจารณากันหลายครั้งหลายหน. ที่จริงควรจะไปพูดคราวอื่น คือจะพู ดถึง
www.buddhadassa.in.th
๑๓๐
การกลับมาแหงศีลธรรม
ความจําเปนที่ตองมีศีลธรรม และ เราพยายามจะใหกลับมาอยางไร ; จึง ตองไปดูที่รากฐานของมัน แลวสรางใหมันมีขึ้น, อยางนั้นมากกวา. แต เ ดี๋ ย วนี้ ร วบรั ด เอาเรื่ อ งนี้ ม าพู ด ก อ น พอให เ ป น ที่ ตั้ ง แห ง การ พิจ ารณาวา เราก็ย ัง ขาดรากฐานแหง ศีล ธรรม พรอ มกัน ไปกับ ที ่เ รามอง เห็นวาเราขาดศีลธรรม ; หรือวาเราขาดศีลธรรมเทานั้น เพราะวาเขาขาดรากฐาน แหง ศีล ธรรม, จึง ชวนกัน มาดูใ หรูวา รากฐานของศีล ธรรมนั้น คือ อะไร ? และเรากําลังขาดรากฐานของศีลธรรมอยางไร ? เทานั้นเอง. ข อ นี้ ต อ งดู ด ว ยสติ ป ญ ญ า ; ไม ใ ช ดู ด ว ยการคาดคะเน, การคิ ด คํานวณ ; ตองดูดวยสติปญ ญาและเห็นเหมือนกับ วาดูดวยตา ; เชนวา เราขาด ตน ไมตน หนึ่ง ก็ห มายความวา เราก็ข าดรากหรือ โคนของตน ไมนั้น ดว ย. ฉะนั ้น คําที่เราพูดวาเราขาดอะไรไปนั้น มันยอมจะหมายถึงความจริงที่วา เราไดขาดราก ฐาน หรือสมุฏฐานแหงสิ่งนั้นดวยเปนธรรมดา.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ยกตัว อยา งงา ย ๆ เชน วา เราขาดเงิน เราไมม ีเ งิน ; นี ้เ ราก็ต อ ง ขาดรากฐานของการมีเงิน , หรือ รากฐานที ่ทํ า ใหเรามีเงิน นั ้น ดว ยเปน ธรรมดา. เราจะขาดแต ก ารมี เงิน โดยไม ข าดรากฐานของการมี เงิน นั้ น เป น ไปไม ได ; แต ถึงอยางนั้นก็ยังตองดูกันใหละเอียดวา รากฐานนั้นมันคืออะไร.
เหตุ ป จ จั ย นี้ มั น มี ม าก ; อย า งเห็ น ต น ไม ต น หนึ่ ง ว า มั น ตั้ ง อยู ไ ด เพราะเหตุปจจัยอะไร ? มันคงไมใชเหตุปจจัยเพียงอยางเดียว ใคร ๆ ก็พอจะมอง เห็น ; เพราะฉะนั้นเราควรจะดูใหทั่วถึง.
www.buddhadassa.in.th
รากฐานของศีลธรรมอันดับหนึ่ง
๑๓๑
ยกตัว อยา งเหมือ นกับ วา ตน ไมที ่ม ีอ ยู ห นาแนน ในที ่นี ้ มัน มีอ ะไร เปนเหตุปจจัย, หรือจะเรียกวารากฐาน, หรือ ที่เรียกวา สมุฏ ฐาน ; ขอใหทาน ทั้งหลายทุก ๆ ทาน ลองนึกไปดวย. อยานึกกันอยางงาย ๆ เชนพูดแตเพียงวา ตนไมตองมีแผนดินเปนรากฐาน เปนที่ตั้งอาศัย ; อยางนี้มันถูกนอยเกินไป. ถา เรามีส ติป ญ ญา หรือ หู ตา ที่อ บรมไวดี มองเห็น รากฐานของ ตนไมไดอยางครบถวนแลวก็คงจะเปนคนฉลาดเพียงพอที่จะมองเห็นรากฐานแหง ศีล ธรรมไดอ ยา งครบถว นดว ยกัน อีก ; เพราะฉะนั ้น ในชั ้น นี ้ ก็ม าตั ้ง ปญ หา งาย ๆ กอน. ถาม : ต น ไม ต น หนึ่ ง ๆ มั น มี เหตุ ป จ จั ย ที่ เป น รากฐาน หรือ เป น สมุ ฏ ฐานนั้ น อะไรบาง ? กี่อยางดวยกัน ? ขอถามทานสามคนนี้. ตอบ : เหตุปจ จัย ของตน ไมใ นแงช องชีว วิท ยาก็มี อาหาร ซึ่ง แยกเปน น้ํา อากาศ ดิน ที่จะทําใหตนไมมีชีวิตได โดยเฉพาะก็คือแสงแดด มองให ลึ ก ไกลไปอี ก อาหารนี้ ม าจากอะไรอี ก ก็ ม าจากน้ํ า พื้ น ดิ น และแสดง แดดสํ า หรับ การปรุง อาหาร. แสงแดดมาจากไหน ก็โ ยงไปถึง พระ อาทิตย เปนเรื่องสําคัญ ผมก็นึกไดเชนนี้ครับ.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ถาม : เอา,คุณ ทอง เปนครูนี่ไม ตอบไมได มี อะไรเปนรากฐานให ดํารงอยูได สําหรับตนไม. ตอบ : ผมยังไมมีคําตอบครับ.
www.buddhadassa.in.th
การกลับมาแหงศีลธรรม
๑๓๒ ถาม : ทําไมไมมี ? คุณแกลงไมตอบนี่. ตอบ : คือตามแงชีวะ คุณหมอก็ไดวาไปหมดแลวครับ. ถาม : ก็ลองวาเปนลําดับใหเห็นงายสําหรับชาวบาน. ตอบ : ดิน อาหาร อากาศ น้ํา.
ถาม : ๔ อย างหมดแล ว ? คุ ณ ล้ํ า ว าตามลํ าดั บโดยสามั ญ สํ านึ ก มี เหตุ ผลถู กต อง ตามทางตรรกวิทยา ที่คนทั้งหลายพอจะมองเห็นได วาไป. ตอบ : ตามความจริงแลว ตนไมก็ตองอาศัยพื้นดิน อากาศ น้ํา ตามที่คุณหมอ ไดพูดมา ; แตจะอาศัย โดยใหยืดยาวหรือยืนนานอยูได จะยืนยงคงอยูได ดวยอาหารอยางเดียวนี้เปนไปไมได. มันตองอาศัยคุณธรรมที่ประกอบ ไปด ว ยสั ต ว โลกต า ง ๆ ที่ อ าศั ย อยู ตั ว อย า งมนุ ษ ย เป น ต น .เนื ่อ งจาก มนุษ ยข าดศีล ธรรม หรือ เห็น แกต ัว เสีย แลว ตน ไมนี ้จ ะอยู ไม ได จะ อาศัยอยูไมได อยางนี้ครับ.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org นี ่ก ็ย ัง ดี ยัง มองเห็น ไกลออกไปกวา ๒ คนแรก ที ่ม องเห็น แตใ นสว น ที่เปนวัตถุเกี่ยวกับตนไมนั้น ; นี่มองเห็นไกลไปถึงสิ่งแวดลอม.
ที นี้ ขอโทษที่ จ ะพู ด ว า พวกเรานี้ ทํ า อะไรหยาบ ๆ หวั ด ๆ มองอะไร ผิว ๆ ; หรือ บางทีก ็ไ มม องเอาเสีย เลย นี ้เ ปน พื ้น ฐาน. หรือ ถา จะมอง ก็ไ มม อง ให มั น ถู ก ต อ งตามกฎเกณฑ คื อ มองตามลํ า ดั บ ของสิ่ ง ที่ มั น มาถึ ง ก อ น มี ก อ น
www.buddhadassa.in.th
รากฐานของศีลธรรมอันดับหนึ่ง
๑๓๓
กอ นสิ ่ง อื ่น แลว จึง มองถึง สิ ่ง ที ่ถ ัด ไป ๆ. นี ้เ ปน สิ ่ง สํ า คัญ มาก ที ่พ ุท ธบริษ ัท เรา ไมคอยจะรูจักธรรมมะ ทั้ง ๆ ที่พูดหรือเกี่ยวของกันอยูกับธรรมะ ; เพราะมันมีการ กระทํ า ที่ ห วั ด ที่ ห ยาบ : ในการศึ ก ษาก็ ดี ในการปฏิ บั ติ ก็ ดี , มั น หวั ด ๆ และ หยาบ ๆ มันเลยจึงไมรู และไมประสบความสําเร็จ.
จงคิดอยางวิธีพุทธบริษัท นี้จึงขอฝากไวในที่นี้ เปนประเด็นพิ เศษปลีกยอยออกไปวา อยาได ทําอะไรอยางหยาบ ๆ หวัด ๆ อยางนี้เลย ทั้งพระทั้งเณร ทั้งอุบาสก ทั้ง อุ บ าสิ ก า ที่ เ ป น พุ ท ธบริ ษั ท ทั้ ง หลาย ที่ แ ล ว มาแต ห นหลั ง นั้ น หยาบ เกิน ไป. มันไมสมกับเปนพุทธบริษัท คือพุทธบริษัทของพระพุทธเจา ผูรู ผูตื่น ผู เบิ ก บาน. เช น บอกว า ให อ ธิ บ ายออกมาว า ต น ไม มั น อยู ไ ด เพราะอะไรเป น ตามลําดับไปตามที่เห็น ; เราก็จะตองคิดตามวิธีการของพุทธบริษัท ผูรู ผูตื่น ผูเบิกบาน วามันมีเรื่องทั้งรูปธรรม, ทั้งนามธรรม.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ฝ า ยรู ป ธรรม มี กี่ อ ย า ง, ฝ า ยนามธรรมมี กี่ อ ย า ง, หรื อ สิ่ ง แวดล อ ม อยางอื่น ๆ มากไปกวานั้น. ฉะนั้น ถือเอาเรื่องนี้แหละ เปนบทเรียนสําหรับฝกฝน การคิดนึกพิจารณา สิ่งทั้งหลายทั้งปวงใหครบถวน และถูกตองตามที่เปนจริง จน เรียกไดวา เห็นดวยปญญาอันชอบตามเปนจริง.
คํ า นี ้เ ปน คํ า สํ า คัญ ที ่ส ุด ในพระพุท ธศาสนา หรือ ในพระไตรปฎ ก ทั้งหมด คือคําวา ยถาภูตํ สัมมัปปญ ญา -ปญ ญาที่เห็นชอบถูกตอ งตามที่ มัน เปน จริง ; นี้ไมใชเรีย นหนังสือ ไมใชเรีย นปริยัติ ไมใชนัก เรียนธรรม ไมใช
www.buddhadassa.in.th
๑๓๔
การกลับมาแหงศีลธรรม
เรียนบาลี ; เรียนนักธรรม เรียนบาลี ไมเกิด “ยถาภูตสัมมัปปญญา” เลยก็ได ; ตอเมื่อเรียนจากสิ่งนั้น ๆ โดยตรง จากธรรมชาติโดยตรง จึงจะมียถาภูตสัมมัปปญญา. ฉะนั้น เราเริ่มวิธีการที่จะศึกษามันตามแนวนี้ นับตั้งแตสิ่งที่เปนวัตถุ งาย ๆ หรือเบื้องตนที่สุด อยางตนไม มีเหตุปจจัย อะไรบาง. ถาม : สิ่งแรกที่สุดที่จะหลุดออกมาเปนคําพูดนั้น เราจะตองตอบวาอะไร ใคร ลองตอบซิวาอะไร ตนไมมันจะตองอาศัยอะไร คุณประยูรวาอะไรกอน ? ตองนึกถึงอะไรกอน ? ตอบ : ตองอาศัยกฎของธรรมชาติกอน. ถาม : นั่นก็ไปไกลลิบไปเลย เอาทางวัตถุกอน, เหมือนกับที่ตอบทีแรกนี่นะ.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ตอบ : อาศัยพื้นดินครับ.
ถาม : ตองอาศัยพื้นดินกอน มานับเบอร ๑, เรียกวาหมายเลขหนึ่งก็วามันตอง อาศัยพื้นดินกอน. ทีนี้มีดินแลว จะตองมีอะไรตอไป ?
ตอบ : มีน้ํา. ถาม : ต องมี น้ํ า เพราะวาน้ํ าเป น ที่ ตั้ งแห งสิ่ งที่ เรีย กวาชีวิต หรือ หล อ เลี้ ย ง ชีวิต ; สิ่งที่ ๒ จึงไดแกน้ํา แลวที่ ๓ ควรจะไดแกอะไร ?
www.buddhadassa.in.th
รากฐานของศีลธรรมอันดับหนึ่ง
๑๓๕
ตอบ : อากาศ. ถาม : อยากใหมีอะไรมากอนอากาศ ; อาฯเหมือนกัน? อาหารรึ? เมื่อตะกี้คุณประยูรพูดไมคอยตรงนัก วาน้ําเปนอาหาร ; น้ําไมใช อาหาร น้ําเปนสื่อสําหรับชักจูงอาหาร. อาหารนั่นคือ สสาร อินทรียวัตถุอยางใด อยางหนึ่ง เปนแร เปนธาตุ เปนเกลือ เปน อะไรก็ต ามนั้น เปนอาหาร. น้ํานี้ เปนเครื่องชวยละลายอาหาร เปนเครื่องชวยใหอาหารแลนไปในลําตนของตนไม ; อาหารจึงไมใชน้ํา. ฉะนั้นเราจึงวาน้ําบริสุทธิ์ แลวก็อาหารที่จะอยูในน้ํา และ ไปเลี้ย งตนไมใหเจริญ เติบ โตได. หลัง จากอาหารแลวจะเปน อะไร ? อากาศ หมายถึงอะไร ? ตอบ : อากาศหมายถึงแสงแดด.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ถาม : หมายถึงแสงสวาง เพราะวาถาไมมีแสงสวาง ตนไมไมกินอาหารได ; ตนไมหุงขาวกินไดแตเฉพาะกลางวันเมื่อมีแสงแดด คือมันเอาอาหารที่ ดูดไปจากใตดิน ไปที่ใบ ใบถูกแสงแดด ก็แปรสภาพธาตุตาง ๆ เหลา นั้น ใหเปนอาหาร กลับมาเลี้ยงลําตน. ฉะนั้นจึงตองมีแสงแดดสําหรับ หุง อาหารเลี้ย งลํา ตน . นี่ ๔ อยา งแลว . ทีนี้ อะไรเปน ที่ ๕ ที่จําเปน กอนเสมอไป ; จะนึกถึงอะไรเปนสิ่งที่ ๕ ? ตอบ : เกี่ยวกับสิ่งแวดลอม. ถาม : สิ่งแวดลอม ?
www.buddhadassa.in.th
๑๓๖
การกลับมาแหงศีลธรรม
ตอบ : เปนตนวา มีพายุ หรือไมมี. ถาม : นั่นก็ได นั่นเปนสิ่งแวดลอมออกไป. สิ่งที่ไมใชแวดลอม แตจําเปนอยู อยางใกลชิด ยังมีอีกสักสิ่ง ซึ่งอยากจะระบุวา อุณหภูมิ, อุณหภูมิตาม ที ่ม ัน ตอ งการ ; อุณ หภูม ิน อ ยเกิน ไป คือ หนาวเกิน ไป มัน ก็อ ยู ไมไ หว ; ถา มัน มากเกิน ไป คือ รอ นเกิน ไปมัน ก็อ ยู ไ มไ หว. นี ่เ อา แตที ่วา มัน จํ า เปน เห็น ไดงา ย ๆ สว นวัต ถุที ่ม ัน เกี ่ย วเนื ่อ งกัน ก็ไ ด ๕ อย า งแล ว คื อ แผ น ดิ น น้ํ า อาหาร อากาศ คื อ แสงสว า ง แล ว ก็ อุณ หภูม ิ. ขาดไปอยา งหนึ ่ง อยา งใด แลว มัน ตาย, มัน อยู ไ มไ ด ผิ ด ไปอย า งใดอย า งหนึ่ ง แล ว มั น ตาย. ต น ไม ที่ เป น วั ต ถุ แ ท ๆ มั น ยั ง เปนอยางนี้ ที่โดยตรงเปนอยางนี้. ที่โดยออมก็สิ่งแวดลอม ประเภทสิ่ง แวดลอ มก็มีสิ่ง แวดลอ มที่ถูก ตอ ง ; เชน มนุษ ยไมเบีย ดเบีย น, แมลง ที่เป น โทษทั้ งหลายไม เบี ยดเบี ย น, ลมพายุไม เบี ยดเบี ย น,อะไรซึ่งเป น ขาศึกนั้น ไมเบียดเบียน ไมมีการเบียดเบียนจากสิ่งแวดลอม.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org นี้เรียกวา มันเปนฝายรูปธรรม ; เหตุปจจัยที่เปนฝายนามธรรม ยัง มีกฎของธรรมชาติ ยังมีอะไรอื่น ๆ อีกมาก แมที่สุดมันจะตองมีพืชพันธุ อยางนี้ เปนตน จัดไวในฝายที่ละเอียดลึกลงไป. ทีนี้ เราพอจะเห็น รูป โครงของเรื่อ งไดวา ปจ จัย ที่ทํา ใหตน ไม อยู ไ ด นี้ แบ ง เป น พวกรู ป ธรรมก็ มี , นามธรรมก็ มี ; คื อ โดยตรงก็ มี โดยออมก็มี. ทีนี ้ เราจะพูด กัน แตโ ดยตรงดีก วา เปน ปจ จัย ๕ อยา ง คือ ตองมีแผนดิน ; ถาไมมีแผนดิน มันก็อยูไมได. ขอใหมองเห็นอยางนี้ มันเปน
www.buddhadassa.in.th
รากฐานของศีลธรรมอันดับหนึ่ง
๑๓๗
ฐานที่ตั้ง เปน วัต ถุที่ตั้ง คือ แผน ดิน ; จะมีน้ํา มีอ ะไรก็ต าม แตถาไมมีแ ผน ดิน ต น ไม มั น ก็ ไม รู จ ะตั้ ง อยู ที่ ไหน. เดี๋ ย วก็ จ ะไปค า นว า ต น ไม น้ํ า ลอยในน้ํ า ไม ได อาศัย แผน ดิน ; อยา งนี ้ก ็เรีย กวา ยัง ไมเขา ใจ. เพราะวา แมวา ไมบ างชนิด จะลอยอยู ใ นน้ํ า ; แตน้ํ า มัน ยัง ตั ้ง อยู บ นดิน . ในน้ํ า นั ้น มัน ก็ม ีธ าตุด ิน ธาตุน้ํ า ธาตุไฟ ธาตุลม ครบอยูในน้ําที่จะเลี้ยงตนไมตนนั้นได. เอาละ สรุ ป เสี ย ที ว า ต น ไม ต อ งอาศั ย แผ น ดิ น เป น หมายเลข ๑, อาศัย น้ํา คือความสดชื่นของชีวิต, และเปนสื่อสําหรับนําอาหาร ; แลวก็อาศัย อาหาร, ป จ จั ย โดยตรงที่ จ ะทํ า ให เป น ใบ เป น เนื้ อ ไม หรื อ อะไรก็ ต าม ; แล ว ก็ อาศัย แสงสวา ง ซึ ่ง ทํ า ใหเ กิด ความเจริญ ขยายตัว และปรุง อาหารกิน ได ; และตอ งมีอ ุณ หภูม ิที ่ถ ูก ตอ งดว ย. อยา งตน ไมเมือ งรอ น ถา เอาไปปลูก เมือ ง หนาวเขาก็ ต อ งทํ า ตู ก ระจกให ในนั้ น มี ค วามร อ น เหมื อ นกะที่ เมื อ งร อ น ; เขาก็ ปลูกมัน ได. ตน ไมเมื องหนาว มาปลูกเมื องรอนก็ลําบากอยางเดี ยวกัน ตอ งทํ า อุณหภูมิใหมันถูกตอง.
ปจจัยสําคัญอยางนอย ๕ ประการ www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ที นี ้ มาดู พ ฤกษ าแห ง ศี ล ธรรมกั น ดี ก ว า ต น ไม แ ห ง ศี ล ธรรม มันจะตองอาศัยเหตุปจจัยอะไรบางในลักษณะ ๕ อยาง ๕ ประการ ในอันดับแรก. ขอ นี ้จ ะแกต ัว วา ไมต อบไมไ ดน ะ ; เพราะวา ไดพ ูด มา ๓ ครั้ง แลว วา ตน ไมแ หง ศีลธรรมนี้ มันคืออะไร. นี่ก็จะตองหลับตาดูใหลึกลงไปวา ตนไมตนนี้ มั น อาศัย อะไรเปน แผน ดิน , ตน ไมนี้มัน อาศัย อะไรเหมือ นกับ น้ํา , ตน ไมตน นี้อ าศัย อะไรที่ เ หมื อ นกั บ อาหาร, อะไรที่ เ หมื อ นกั บ อากาศ, อะไรที่ เ หมื อ นกั บ
www.buddhadassa.in.th
๑๓๘
การกลับมาแหงศีลธรรม
อุณหภูมิ. แมจะไมละเอียดโดยตรงถูกตองนักก็ได ; แตขอใหมันพอเปนคาเงื่อน ที่มองเห็นและลืมยากก็แลวกัน. ถาม : ฉะนั้น จึงตั้งคําถามขอแรกที่สุดวา พฤกษาแหงศีลธรรมนี้มีอะไรเปน แผนดิน เปนปจจัยทีแรก คือแผนดิน ? คุณประยูรตอบ. ตอบ : ตนไมศีลธรรมมีพื้นดินสําหรับรองรับ ก็คือ บรมสัจจะ หรือธรรมสัจจะ ที่มีความหมายวา “สิ่งทั้งหลายทั้งปวง เปนเพื่อนทุกข เกิด แก เจ็บ ตาย ดวยกันทั้งหมดทั้งสิ้น” จงมีความเมตตา. ถาม : เอา, ครูทอง ? ตอบ : มีความถูกตองเปนพื้นดิน.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ถาม : มีความถูกตองเปนพื้นดิน. คุณล้ําละ อันแรกคืออะไร ?
ตอบ : พื้นฐานอันแรกก็คือสิ่งทั้งหลายทั้งปวงไมควรยึดมั่นถือมั่นเปนพื้นฐาน.
ก็ได, ก็ไมมีทางจะผิด ถูกทั้งนั้น, แตมันถูกตรง ๆ หรือถูกออม ๆ หรือมันถูกทีหลัง. คนหนึ่งตอบวา มีธรรมสัจจะ ในขอที่วา สิ่งที่มีชีวิตทั้งหลาย ทั้งปวง เปนสิ่งเดียวกัน เปนเพื่อนเกิด แกเจ็บ ตาย ดวยกัน อีกคนหนึ่งวา มีความถูกตองตาง ๆ ที่เปนเครื่องแวดลอม, และคนหนึ่งวา มีกฎเกณฑที่วาสิ่ง ทั้งหลายทั้งปวงไมควรยึดมั่นถือมั่น เปนหลักและรากฐานสําคัญ ; นี้มันถูกตอง
www.buddhadassa.in.th
รากฐานของศีลธรรมอันดับหนึ่ง
๑๓๙
ทั้ ง นั้ น แหละ ไม มี ผิ ด ; แต ว า ถ า เราจะพู ด ให ง า ยๆ ชั ด ๆ เหมื อ นกั บ วั ต ถุ ที่ ว า ต น ไม มีแผนดินเปนปจจัยทีแรก มันก็ตองไปพูดอีกอยางหนึ่ง. เอาละ, ขออนุ โ มทนาเสี ย ก อ น ในข อ ที่ ว า ต น ไม ศี ล ธรรมนี้ มี ก าร ถื อ ว า ชี วิ ต ทุ ก ชี วิ ต เป น คน ๆ เดี ย วกั น นี้ เ ป น รากฐาน นี่ ถู ก ; เดี๋ ย วจะอภิ ป ราย กันใหชัดเจนในขอนี้. ส ว นที่ ว า มี ค วามถู ก ต อ งในทุ ก ๆ แง ทุ ก ๆ มุ ม เป น เครื่ อ งแวดล อ ม นี ้ก ็ยิ ่ง ถูก , เพ ราะศีล ธรรมมัน คือ ความถูก ตอ ง ; แลว มัน ตอ งมีค วามถูก ตอ ง เปน เนื ้อ เปน ตัว เปน ราก เปน ฐาน ; เพ ราะวา ศีล ธรรม มัน ผิด ไมไ ด. สว น ที่ พูดวาศีลธรรมนี้ ตองมีห ลักวา สิ่ งทั้ งหลายทั้ งปวงยึด มั่ น ถือ มั่ น เป น ตั วเราของเรา ไมไ ด นี ้ม ัน ก็ถ ูก ตอ ง ; แตม ัน ลึก มัน ลึก ไกล ลึก ไปชั ้น ปรมัต ถเ ลย มัน จะไป ในทางที่ ค ล า ย ๆ ว า ใต ดิ น ลงไปอี ก . เหมื อ นต น ไม ต น นี้ ว างอยู บ นดิ น แล ว ใต ดิ น ลงไปอี ก ก็ ต อ งถื อ ว า เป น รากฐานของต น ไม นี้ ด ว ย มั น จะถู ก ชนิ ด ลึ ก อย า งนี้ ซึ่ ง มั น ก็ถ ูก ; ใตด ิน ล งไป มีอ ะไร มีไ ฟ ลุก อ ยู ที ่ใ ตโ ล ก มัน ก็ถ ือ เปน ราก ฐาน ที ่พ ยุง ต น ไม นี้ ไ ว ไ ด เหมื อ นกั น และก็ ถู ก เหมื อ นกั น ถู ก อย า งยิ่ ง . แต ถ า จะเอามาใช เ ป น ประโยชนทําความเขาใจแกคนทั่วไป โดยเฉพาะแกลูกเด็ก ๆ แลว มันก็ยังไมได.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ที่ ว า ความไม ยึ ด มั่ น ถื อ มั่ น เป น รากฐานนั้ น ก็ ถู ก เพราะว า พอยึ ด มั่ น ถื อ มั่ น เป น ตั ว ตนของตนอะไรขึ้ น มา ก็ เ ห็ น แก ตั ว ; เห็ น แก ตั ว ก็ เ กิ ด โลภะ โทสะ โมหะ แล ว ศี ล ธรรมก็ ไ ม มี นี้ ก็ ถู ก อย า งยิ่ ง ไม ใ ช ผิ ด เลย ถู ก อย า งยิ่ ง หรื อ ถู ก เกิ น ธรรมดา ถูก ในชั ้น ปรมัต ถท ีเ ดีย ว. แตใ นชั ้น ศีล ธรรม นี ่เ อาแคแ ผน ดิน เอา แคเ ห็น วา สัต วทั้ง หลายเปน เพื่อ นทุก ข เกิด แก เจ็บ ตาย ดว ยกัน ทั้ง หมด
www.buddhadassa.in.th
๑๔๐
การกลับมาแหงศีลธรรม
ทั้ ง สิ้ น หรื อ ชี วิ ต ทุ ก ชี วิ ต เป น คนเดี ย วกั น ; นี้ ก็ ม าจากความไม เ ห็ น แก ตั ว ซึ่งมาจากความไมยึดมั่นถือมั่นนั้นอีกทีหนึ่ง. ถา จะเอาในระดับ ที่พ อดีใ นระดับ ศีล ธรรมในโลกนี้ก็ต อบวาเอาหลัก ที่วา ชีวิตทั้งหลายเปนชีวิตเดียวกัน คือ เปนเพื่อนทุกข เกิด แก เจ็บ ตาย ดว ยกัน นี ่แ หละเหมือ นกับ แผน ดิน ; แมคํ า ตอบทั ้ง ๓ อยา งนี ้ มัน จะถูก ตอ ง เราก็เลือกเอามาอยางหนึ่ง สําหรับเปนกฎเกณฑ สําหรับศึกษากันอยางงาย ๆ ตอไปใน สังคมมนุษย ที่กําลังมีปญหาเรื่องศีลธรรม. ถาม : ที นี้ ลองว า กั น เสี ย ให ห มดสั ก ที เป น ไร ว า มี อ ะไรเป น น้ํ า ? มี อ ะไรเป น อาหาร ? มี อ ะไรเป น อากาศ ? มี อ ะไรเป น อุ ณ หภู มิ ? ตอบตามความ พ อใจเล ย ต น ไม ศ ี ล ธรรม มี อ ะไรเป น แผ น ดิ น , มี อ ะไรเป น น้ํ า , มีอ ะไรเปน อาหาร, มีอ ะไรเปน อากาศ, มีอ ะไรเปน อุณ หภูม ิ ? ตอบ เถอะ อยากลัว ไมผิดหรอก ไมมีผิดแน ๆ.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ตอบ : น้ํามาจากพรหมวิหาร ๔ คือ เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา.
ถาม : นี้ก็ถูก, มีอะไรเปนอาหาร ?
ตอบ : อาหารก็คงจะใชธรรมะหมวดอื่น ๆ ตอมาอีก เปนตนวา หิริโอตตัปปะ เปนตน ถาม : คนเดียวตอบใหหมดเสียทั้ง ๕ ไมดีกวารึ ; คนเดียวตอบหมดทั้ง ๕ อยาง มีอะไรเปนแผนดิน ?
www.buddhadassa.in.th
รากฐานของศีลธรรมอันดับหนึ่ง
๑๔๑
ตอบ : ตกลงใชบรมสัจจะ ที่วา สัตวทั้งหลายเปนเพื่อน เกิด แก เจ็บ ตาย เปนแผนดินนะครับ. ถาม : มีอะไรเปนน้ํา ? ตอบ : ทีนี้ น้ําก็ควรจะใช พรหมวิหาร ๔ ที่กํานันวา ผมสนับสนุนดวยเต็มที่. ถาม : มีอะไรเปนอาหาร ? ตอบ : ทีนี้อาหารที่จะหลอเลี้ยงตอไป สําหรับทําใหศีลธรรมเจริญงอกงามขึ้น เรื่อย ๆ ก็ไดแกพวก ขันติ ดีกวา คือ ความอดกลั้น อดทน. ถาม : อะไรเปนอากาศ ?
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ตอบ : อากาศ ก็ ข อให เป น หิ ริโอตตั ป ปะ. ที นี้ อุ ณ หภู มิ คื อ ความรอ นที่ ใหความอบอุนแกตนไมระยะหนึ่ง ทําใหมันมีความยั่งยืนอยูไดก็ขอให เปน… อะไรตอนนี้นึกไมออก.
ถาม : นี่ ขอใหดูเถอะ มันเหมือนกับสอบสัมภาษณ เราเรียนพุทธศาสนามา ตั้งมากมายหลายสิบปแลว วันนี้ก็เหมือนกับสอบสัมภาษณ คือ สอบตาม ปฏิภ าณ ไมใชดว ยตํา รา. เอา คุณ ทอง ธรรมพฤกษามีอ ะไรเปน แผนดิน ? ตะกี้ คุณวามีความถูกตองเปนแผนดิน, แลวมีอะไรเปนน้ํา ? ตอบ : มีความถูกตองเปนพื้นดิน ควรจะมีคุณธรรมเปนน้ํา.
www.buddhadassa.in.th
๑๔๒
การกลับมาแหงศีลธรรม
ถาม : คุณธรรม มันกวางนักกระมัง. ตอบ : คือวา โลกนี้หากขาดคุณธรรมเสียแลว ก็เหมือนกับขาดน้ํา, หาความ ชุมชื้นในชีวิตไมได. ถาม : แลวมีอะไรเปนอาหาร ? อยางนี้ ก็สอบสัมภาษณตกหมด ไมมีความรู ทางพุ ท ธศาสนา. เอ า , ให คุ ณ ทองคิ ด ไปพลาง, คุ ณ ล้ํา ก็ ว า มา มีอะไรเปนน้ํา ? คุณวา สพฺเพ ธมฺมา นาลํ อภินิเวสาย เปนแผนดิน แลวมีอะไรเปนน้ํา ? ตอบ : น้ําผมก็ตอบไปแลว พรหมวิหาร. ถาม : มีอะไรเปนอาหาร?
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ตอบ : อาหารผมวา ควรจะเปนศีล สมาธิ ปญญา ครับ.
ถาม : อะไรเปนอากาศ เปนแสงสวาง ?
ตอบ : แสงสวาง ผมวา ก็อยูในปญญาอยูแลว.
ถาม : มีอะไรเปนอุณหภูมิ ? ตอบ : อุณหภูมิคือ ธรรม ๒ อยาง ธรรมคุมครองโลก มีหิริโอตตัปปะครับ. ถาม : เอา, คุณทอง คุณยังไมไดตอบอยู ๒ อยาง หรือวายอมสอบตก
www.buddhadassa.in.th
รากฐานของศีลธรรมอันดับหนึ่ง
๑๔๓
ตอบ : ผมขอผานครับ. เปนอันวาที่เรากําลังพูดจากันอยูนี้ ทําใหไดรูความจริงเพิ่มขึ้นมาอีก อยางหนึ่งวา เราไมคอยเคยคิด เคยนึก ไมเคยพิจารณาธรรมะเหลานี้อยูเปนประจํา ; ถาเราเคยพูด เคยสนทนา เคยคิด เคยอะไรอยูเปนประจําแลว เราจะตอบไดเร็ว กวา นี้ แลว ก็ถูก ตอ งกวา นี้. ที่ต อบอยา งนี้ ไมใ ชผิด แตม ัน ถูก ตอ งนอ ย หรือ ถูกตองชนิดที่ไมเหมาะสมก็ได ; ถึงอยางนั้น มันก็ยังไมเสียหลาย เพราะวายัง เปนประโยชนแกทานทั้งหลาย หลายคนที่นั่งฟง ซึ่งคนเหลานั้นบางคนอาจจะตอบ ไมไดเลยก็ได นี่ยังเกงกวายังตอบได. ที นี้ อี ก ทางหนึ่ งนั้ น เราอย าละอายเลย เรายื น ยั น ไปเถอะว า เรา ตอบวาอยางไร มันก็แสดงภูมิแหงสติปญญาของเรา. ถาสมมติวา สิ่งเหลานี้ถูก บันทึกปรากฏอยูเปนตัวอักษร พิมพแพรหลายไปในที่ตาง ๆ มีใครไดอาน ไดพบ เขา ; เขาก็อ าจจะรู ไ ดท ัน ทีว า เรานี ้ม ีค วามรู เ ทา ไร, มีค วามรู อ ยา งไร. ที่ บานนอกคอกนา เขาคิดกันอยางไร, เขารูกันอยางไร, ที่เมืองหลวงเขารูกันอยางไร, เขาคิดกันอยางไร.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org แต ที่ จ ริ ง กว า นั้ น ก็ คื อ ว า ความรู ข องคนที่ คิ ด อยู เสมอ นั่ น มั น เป น อยา งไร ; ความรูข องคนที่ไ มคอ ยจะคิด มัน เปน อยา งไร. นี่ก็เ ลยมีป ระโยชน แกกันและกัน ทําใหคนเรารูจักซึ่งกันและกันดีขึ้น วามีสติปญญากันไปในแนวไหน, อยางไร. เอาละ, เปน อัน วา ไมเสียหาย, ที่พูด นี้ไมเสียหลาย และไมผิด ดวย มีแตถูกนอย ถูกมาก ถูกตรงเปาหมาย ถูกขาง ๆ คู ๆ ไป ; มันเปนอยางนี้เอง. ขอรองเปนขอสุดทายวา ตอไปนี้อยาขี้เกียจคิด อุตสาหไปคิด ไปนึก ไปทบทวน อะไรเลน ๆ กันอยูเสมอ, เปนของเลน เปนงานอดิเรกก็ได.
www.buddhadassa.in.th
๑๔๔
การกลับมาแหงศีลธรรม
เอาละ, อาตมาก็จะขอแสดงความคิดเห็น มติสวนตัวบาง ; เมื่อคน อื่นแสดงมติสวนตัวโดยมีอิสระอยางไร ; อาตมาก็ควรแสดงมติของตัวโดยอิสระ อยางนั้นบาง. เมื่อพูดถึงปจจัยของตนไมแหงศีลธรรม มันก็มีอยูหลาย ๆ อยาง เราก็จะเอากันแตอยางที่มันเปนชั้นตน ๆ ตรง ๆ, หรือในแงของวัตถุที่มองเห็นได ทั น ที . อย าให เป น ชั้ น ปรมั ต ถ เลย เป น ชั้น ศี ล ธรรมงาย ๆ มองเห็ น ได ทั น ที และ เอียงมาในทางฝายรูปธรรมมากกวาที่จะเปนนามธรรม เหมือนอยางที่เราพูดกับ ตนไม แตถาเราเอาไปพูดกับศีลธรรม ตนไมแหงศีลธรรม แลวมันเปนนามธรรม ไปหมด เพราะสิ่ ง ที่ เ ราเรี ย กว า ศี ล ธรรมนั้ น มั น ไม ใ ช วั ต ถุ สิ่ ง นั้ น มั น เป น นามธรรม. ฉะนั้น เปนเหตุปจจัยทั้งหลายของมันก็เปนนามธรรมไปหมด ; เพราะ ฉะนั ้ น เหตุ ป จ จั ย ของต น ไม พ ฤกษาแห ง ศี ล ธรรม ก็ ค ื อ ธรรมะข อ ใด ขอหนึ่งนั่นเอง แงใดแงหนึ่ง ปริยายใดปริยายหนึ่งนั่นเอง.
ความสําคัญของรากฐาน อันดับหนึ่ง (แผนดิน)
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org สําหรับ ขอ แรก ความรูสึก เกิด ขึ้น มาจากการที่ไดท บทวนอยูแ ลว อยูเลา เปนเวลาหลายป หลายสิบ ป รูสึกวารากฐานของศีลธรรมอันแรกที่สุด ที ่พ อจะเปรีย บไดก ับ แผน ดิน เปน รากฐานแกต น ไมนั ้น ก็ไ ดแ กค วามรูส ึก ที ่วา ชีวิต ทั ้ง หลายเปน ชีวิต เดีย วกัน , หรือ วา สัต วทั ้ง หลายเปน ชีวิต เดีย วกัน , สัต วทั ้ง หลายเปน เพื ่อ นทุก ข เกิด แก เจ็บ ตาย ดว ยกัน ทั ้ง หมดทั ้ง สิ ้น . นี่ขอใหเอาไปคิดดู อาตมามองเห็นอยางนี้ วาไมมีอันไหนจะเปนรากฐานอันแรก ยิ่งไปกวานี้. นี้ ก็ ค วรจะพิ จ ารณาดู กั น สั ก หน อ ย วาความรูสึก ที่ จะเกิ ด ขึ้น มา วา “สัตวทั้งหลายเปนชีวิตเดียวกัน” นี่มันคอนขางจะยาก. ถาเราดูสัตวเดรัจฉาน
www.buddhadassa.in.th
รากฐานของศีลธรรมอันดับหนึ่ง
๑๔๕
ดูจะมีไมได ที่จะเกณฑใหสัตวเดรัจฉานมีความรูสึกวาสัตวทั้งหลายคือชีวิตทั้งหลาย ทุก ตัว นี ้ เปน ชีว ิต เดีย วกัน กับ เรา ; นี ้ค งเปน ไปไมไ ด เพราะมัน คิด ไมเ ปน มัน ไมใ ชม นุษ ย. ฉะนั ้น อัน นี ้เปน จุด แบง แยกระหวา งมนุษ ยก ับ สัต วเ ดรัจ ฉาน เพราะมนุ ษ ย คิ ด ได มั นอาจจะคิ ด ได , มั น อาจจะมองเห็ น ด วยวา ในแงห นึ่ งเรา เปนเพื่อน เกิด แก เจ็บ ตาย ดวยกันจริง ๆ เพราะมนุษยมันมีปญญา. เพราะฉะนั้ น ถื อ วา ธรรมะข อ นี้ เป น เครื่อ งแบ งแยกมนุ ษ ย ให แ ตกต า ง จากสั ตวเดรัจฉาน ควรจะถื อเอาเป นรากฐานอั นแรกที่ สุ ด ; เหมื อ นกั บ วาแผน ดิ น อัน หนาแนน มัน คง เปน ที ่ตั ้ง อาศัย แหง สิ ่ง ทั ้ง หลายทั ้ง ปวง. ถา ใครไมม ีค วาม รู สึ ก อย า งนี้ คื อ ไม มี ค วามรู สึ ก ว า “สั ต ว ทั้ ง หลายเป น เพื่ อ นทุ ก ข เกิ ด แก เจ็ บ ตาย” แลว คนนั ้น เรีย กวา ยัง ไมเ ปน มนุษ ยที ่ส มบูร ณ ดีก วา ควรจะถือ วา เขา ยั ง ไม เป น มนุ ษ ย ก็ ได ยั ง เหมื อ นกั บ สั ต ว เดรัจ ฉานทั่ ว ๆ ไป ที่ มั น ไม มี ค วามคิ ด ว า “สัตวทั้งหลายเปนเพื่อนทุกข เกิด แก เจ็บ ตาย ดวยกันทั้งหมดทั้งสิ้น”.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org นี้ เป น การประเสริฐ ที่ สุ ด ที่ ค นแต ก อ นเขาสอนกั น อย างนี้ เขาท อ งกั น อยู อ ย า งนี้ , บิ ด ามารดา สอนลู ก สอนหลานให ท อ งบทนี้ . นี้ เป น วั ฒ นธรรม เป น ธรรมเนีย มในสมัย โบราณ. เดี ๋ย วนี ้ม ัน หายไป มัน นา เสีย ดาย. ฉะนั ้น ขอให บิ ดามารดาทั้ งหลาย ช วยสอนมนต บทนี้ ให ลู กหลานที่ เพิ่ งคลอดออกมาตาดํ า ๆ รูจั ก ทองมนตบทนี้กันเสียบางวา “สัตวทั้งหลายเปนเพื่อนทุกข เกิด แก เจ็บ ตาย ดวยกันทั้งหมดทั้งสิ้น. มัน จะเขา ใจหรือ ไมเ ขา ใจ ไมสํ า คัญ ไมเ ปน ประมาณหรอก เรา ใหร ากฐานอัน สํ า คัญ ไวก ็แ ลว กัน มัน คอ ย ๆ รูเ องทีห ลัง ได ; สอนนกแกว นก
www.buddhadassa.in.th
การกลับมาแหงศีลธรรม
๑๔๖
ขุน ทอง ใหรอ งอยา งนี้กัน บา งก็ยัง ดี. ถา นกแกว นกขุน ทองมัน รอ งอยา งนี้ไ ด มัน ก็เ ขา หูค น คนก็จ ะเกิด ความคิด ความนึก ขึ้น ได. ใหถ ือ วา นี ้เ ปน เสน เขต, เปนเขตแดน และเปนเครื่องแบงแยกใหคนตางจากสัตว เพราะวาสัตวคิดอยางนี้ ไมเปน คนคิดเปน. ....
....
....
....
ถาม : ทีนี้ จะถามปญหาที่ตอบงายที่สุด วาถาเรามีความรูสึกอยูวา สัตวทั้ง หลายเปนเพื่อน เกิด แก เจ็บ ตาย หัวอกเดียวกันทั้งหมดทั้งสิ้นแลว จะเกิด โลภะ โทสะ โมหะ ไดหรือไม ? ใครตอบกอนก็ได. ตอบ : ถาเรามีความรูสึกอยางนี้ ก็เกิดไมไดครับ. ถาม : วาเปนขอ ๆ ไปเลย วาถาเรามีความรูสึกอยางนี้ เราเกิดโลภะไมได เชน วาอะไรก็วาไปเลย.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ตอบ : เกิดโลภะไมได เพราะวา เพราะถาเราไปโลภแลว ก็ทําใหเพื่อนคนอื่น มันเดือดรอน นี่ขอหนึ่ง. ถาม : แลวไมเกิดโทสะได เปนอยางไร ? ตอบ : ไมเกิดโทสะได ก็หมายความวาเราเกิดความเห็นใจซึ่งกันและกัน มัน ก็ไมโกรธ. ถาม : ไมลืมบางหรือ ไมเผลอบางหรือ ?
www.buddhadassa.in.th
รากฐานของศีลธรรมอันดับหนึ่ง
๑๔๗
ตอบ : นอกจากวา มันจะเผลอสติ. ถาม : ถาเรามีความรูสึกอยางนี้อยู จะไมเกิดโมหะไดอยางไร ? ตอบ : ถามีความรูสึกอยางนี้อยูเรื่อย จะตองมีความรูสึกอยูตลอดเวลา ก็จะ ไมทําอะไรที่มันผิด ๆ โง ๆ ไปก็ไมเกิดโมหะ. ถาม : โอ ! มั น อาจจะทํ า โดยไม รู ก็ ได ก ระมั ง ? ไม รู ใ นสิ่ ง ที่ มั น ยั ง ไม รู แม จ ะ รูส ึก เมตตา กรุณ า เห็น เพื ่อ นเปน เพื ่อ นเกิด แก เจ็บ ตาย ดว ยกัน ทั้ ง หมดทั้งสิ้น แตทําอะไรผิด ๆ ไปก็ไดกระมัง อธิบายเสียใหมซิ. ตอบ : เมื่ อ คนเราไม เกิ ด โลภะ โทสะ ก็ จ ะไม ทํ า ในสิ่ ง ที่ เป น ส ว นเกิ น ; เมื่ อ ไม ทํ า ไปในสิ่ ง ที่ เป น ส ว นเกิ น คื อ จะไม เอามาเกิ น โดยการเห็ น ใจเพื่ อ น แลวไมโกรธคนอื่น ฉะนั้น ความเห็น แกตัว มัน ก็จ ะไมมี ; เมื่อ ความเห็ น แกตัวมันไมมี ก็จะไมทําในสิ่งที่โง ๆ ที่ตัวเองไมรู.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ถาม : นั่นแหละถูกแลว แตใชคําใหมันรวบรัดสักหนอย.
ตอบ : หมายความวา จะไมเห็นแกตัวครับ.
เมื่ อ ไม เ ห็ น แก ต ั ว แล ว จะเป น การถู ก ต อ งโดยอั ต โนมั ต ิ ; เพราะวาปญญาทั้งหลายซึ่งเปนคูมือของผูดับโมหะนั้น มันอยูที่ความไมเห็นแกตัว. ถาเราไมมีความเห็นแกตัวอยางเดียวแลว ก็เรียกวา มีปญญา. ป ญ ญาในพระพุ ท ธศาสนาโดยเฉพาะ มุ ง จะให ม องเห็ น ความ ที่ ไ ม มี ตั ว เพื่ อ จะเห็ น แก ตั ว , ที นี้ เ รามาในทางกลั บ ตรงกั น ข า ม คื อ รั ก สั ต ว
www.buddhadassa.in.th
๑๔๘
การกลับมาแหงศีลธรรม
ทั้งหลายทั้งปวงไมมีที่สุด ไมมีประมาณ วาเปนคนเดียวกัน เปนเพื่อนคนเดียวกัน มั น ก็ เกิ ด ความเห็ น แก ตั วไม ได . ต อ งให ไปในรูป นั้ น มั น จึงจะได ; เพราะวามั น อาจจะไปในทางที่เห็นแกตัว แลวก็ไปรักเขารัก เพื่อนของตัวนั้น. ถาอยางนี้มัน ก็เฉออกไปนอกทาง ฉะนั้น ความหมายที่รัดกุมมันมีอยูเปนสวน ๆ สวน ๆ ตอง แสดงออกมาใหมันชัด. ถาม : คุณทองเปนผูอธิบายอีกครั้งหนึ่งวา เมื่อเรามีความรูสึกวาสัตวทั้งหลาย เปนตัวเดียวกันกับเราอยางนี้แลว เราจะไมเกิดโลภะ ไมเกิดโทสะ ไมเกิด โมหะ ไดอยางไร ? ตอบ : เมื่ อ มี ค วามรู สึ ก ว า สั ต ว ทั้ ง หลายทั้ ง ปวงเป น เพื่ อ นรว มเกิ ด แก เจ็ บ ตาย ดว ยกัน ทั ้ง หมดทั ้ง สิ ้น แลว ความโลภจะไมเกิด ขึ ้น ; เพราะหาก วา ถาเราโลภแลว จะทําใหเพื่อนรวมโลกนี้จะตองขาดแคลน ความโลภ จะเกิดขึ้นมาไมได. โทสะจะไมเกิดขึ้นมา ; เพราะการที่จะบันดาลโทสะ ขึ ้น มา หรือ เกิด โทสะขึ ้น มานั ้น เราก็ร ะลึก วา เพื ่อ นจะตอ งเดือ ดรอ น ; เมื่อ มี ๒ อยา ง คือ ไมมีโลภะ ไมมีโทสะ แลว การที่จ ะมีโมหะขึ้นมาได นั้น ยอมเกิดขึ้นไมไดอยูเอง.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ถาม : เอา, ทีนี้คุณล้ํา อีกที เห็นชัดทั้ง ๓ ขอ.
ตอบ : มนุษยเมื่อมองเห็นถึงการเกิดมา โดยการที่เห็นวา สัตวโลกที่เกิดมามี ความทุ ก ข รว มกั น เกิ ด มารวมความทุ ก ข ความเกิ ด ความแก ความ เจ็บ ความตาย ดวยกันแลว จิตของคนที่มองไดอยางนี้เปนคนที่เห็นถึง ความทุ ก ข ทั่ ว ไปแล ว ความเมตตากรุ ณ าต อ สั ต ว ทั้ ง หลายก็ เกิ ด ขึ้ น ,
www.buddhadassa.in.th
รากฐานของศีลธรรมอันดับหนึ่ง
๑๔๙
และความไม เห็ นแก ตัวก็เกิ ด ขึ้น ความโลภก็ ไม เกิด ความโกรธก็ไม เกิ ด , และความหลงนี่ ถ า มองเห็ น ด วยป ญ ญาที่ ว า เป น เพื่ อ นรวม เกิ ด แก เจ็บ ตาย ด วยกั น ทั้ งหมดทั้ งสิ้ น แล ว ก็ จะไม มี ค วามหลง ด วยป ญ ญา อันนี้. เอาละ, ที่ ว า กั น มานี้ หรื อ ที่ อ ธิ บ ายกั น มานี้ ก็ เรี ย กว า ถู ก ต อ ง มั น เหลืออยูแตวามันไมชัด หรือวาถามันชัด ก็เปนคําพูดยืดยาด. อยากจะไดคําพูด ที่สั้นที่สุด ที่สะดวกที่จะนําไปอบรมสั่งสอน. คุณ ประยูร ก็เปน หมอ ก็ม ีท างที ่จ ะพูด จากับ คนเจ็บ คนปว ย คนไข ได ม าก ; คุ ณ ทองก็ เป น ครู ก็ มี ลู ก ศิ ษ ย มี นั ก เรี ย นมาก ก็ ค วรจะไปพู ด กั บ คน เหลานี้ใหมาก ; คุณล้ําก็เปนกํานัน ก็มีลูกบาน มียุวชน อยูในความปกครองมาก ; ก็ ล องคิ ด ดู ซิ ว า เราจะไปบอกคนเหล า นั้ น รวมทั้ ง เด็ ก ๆ วั ย รุน เหล า นั้ น ให เขา มองเห็นขอเท็จจริงอันนี้ไดอยางไร เพื่อวาศีลธรรมจะกลับมา.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ถาม : เราจะไปบอกคนวัยรุนวาอยางไร ในประโยคสั้น ๆ วา “สัตวทั้งหลายเปน เพื่ อนทุ กข เกิ ด แก เจ็ บ ตาย ด วยกั นทั้ งหมดทั้ งสิ้ น”. เขาจะคิ ดอย างไร ความโลภจึ ง จะไม เกิ ด ขึ้ น ? หรือ วาเขาจะคิ ด อย างไรความโกรธจึ ง จะไม เกิดขึ้น ? และเขาจะคิ ดอย างไรความหลงจึงจะไม เกิ ดขึ้น ? เรียงความกั น ใหมใหสั้นที่สุด.
ตอบ : เราตอ งบอกวา ทุก คนนี ้จ ะตอ งรัก ชีวิต ซึ ่ง กัน และกัน ทุก คนตอ งรัก ชีวิตของตนเอง แลวเมื่อเราเปนเพื่อน เกิด แก เจ็บ ตายดวยกันก็ไมควร จะ, ....เดี๋ยวครับ อยางนี้ยิ่งยาวไปใหญ.
www.buddhadassa.in.th
๑๕๐
การกลับมาแหงศีลธรรม
ถาม : รวบรัดใหได ใหประโยคสั้น ๆ ๓ ประโยค หรือ ๔ ประโยค. ตอบ : ขอใหทุกคนจงรักชีวิตซึ่งกันและกัน และผูที่รักชีวิตเทานั้น จึงจะเปน ผูที่เปนเจาของชีวิต ถาเราไดนึกกันอยางนี้ ก็จะทําอะไรกันไมได. ถาม : ดูจะเฝอใหญแลว ตัดมาเหลือสักประโยคแรกวา ทําอยางไรจึงจะใหเด็ก วัยรุนทั้งหลายเกิดความรูสึกขึ้นมาได วาสัตวทั้งหลายเปนเพื่อนทุกข เกิด แก เจ็บ ตาย ดวยกันทั้งหมดทั้งสิ้น ขอนี้กอน ? ตอบ : ชีวิตทุกชีวิตตองการความสุข ผมวา นาจะใหคิดอยางนี้. ถาม : วาทุกคนตองการความสุข มันก็อยูในสวนของความสุข ; ความทุกข ก็ไม ได พู ด . ทํ าไมจะสมบู รณ วา สั ต วทั้ งหลายเป น เพื่ อ นทุ ก เกิ ด แก เจ็บ ตาย ดว ยกัน ทั ้ง หมดทั ้ง สิ ้น ? ขอใหถ ือ วา อัน นี ้เปน แผน ดิน เปน เหตุปจจัยที่สําคัญที่สุดที่จะมีศีลธรรม ; ฉะนั้น เรายอมเสียเวลาคิดขอนี้ วา “สัต วทั้งหลายเปน เพื่อ นทุก ข เกิด แก เจ็บ ตาย ดวยกัน ทั้งหมด ทั ้ง สิ ้น ”. ถา มีค วามรู ส ึก อัน นี ้แ ลว ก็ เขาจะทํ า ใหผู อื ่น เสีย หายไมไ ด เลยเอาขอสําคัญนี้มาพิจารณากันกอน : ทําอยางไรจึงจะใหคนทั้งหลาย โดยเฉพาะพวกวัยรุนคะนอง เกิดความคิดขึ้นมาวาอยางนี้.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ตอบ : คื อ ชี้ ให เขาเห็ น วา เมื่ อ เรารัก ชี วิต คนอื่ น ก็ ต อ งรัก ชี วิ ต ด ว ย. เพราะ เรายึดหลักพูดกันอยูแลววา เราอยูเปนเพื่อนเกิดแกเจ็บตาย ดวยกัน ; เราก็ต อ งชี ้ใ หเ ขาเห็น วา ทุก คนรัก ชีว ิต เมื ่อ เราไปทํ า ลายชีว ิต กัน เมื่อเราเดือดรอนคนอื่นก็เดือดรอน ผมมีวิธีเดียวเทานี้.
www.buddhadassa.in.th
รากฐานของศีลธรรมอันดับหนึ่ง
๑๕๑
ถาม : คุ ณ ทองล ะ ว า อย า งไร, ทํ า อย า งไรจะให เด็ ก ๆ ของคุ ณ เกิ ด ความคิ ด อยางนี้ได สอนนักเรียนเปนจํานวนมากอยู. ตอบ : ชีวิตนี้ทุกชีวิตตองการความสุข ความสบาย แกกันและกัน เพราะฉะนั้น การไมเบีย ดเบีย นกัน ทั ้ง ในดา นทรัพ ยส ิน และชีว ิต ก็จ ะนํ า ใหท ุก ชีว ิต อยูกันอยางเปนสุขได. ถาม : นั่นแหละดูประโยค ดูตัวบทที่มันเปนหลักวา “สัตวทั้งหลายเปนเพื่อน ทุก ข เปน เพื ่อ นเกิด แก เจ็บ ตาย ดว ยกัน ทั ้ง หมดทั ้ง สิ ้น ” ไมไ ดพ ูด ถึงความสุขเลย ; คุณล้ําละ วาอยางไร พูดกับวัยรุนลูกบาง ? ตอบ : เราจะชี้แนวถึงตอนที่เราเกิดมา : สัตวทั้งหลายที่เกิดมาตองอาศัยกฎนี้ เป น ธรรมดา คื อ ความเกิ ด ความแก ความเจ็ บ ความตาย นี้ เป น ธรรมดา เราเกิด ขั ้น ตน , เราก็เนน หนัก ไปที ่ว า เราเกิด มาเปน มนุษ ย ยัง ดีก วา สัต วเดรัจ ฉาน. เราใหแ นวที ่วา เราเกิด มาเปน สัต วที ่ม ีใ จสูง ไมค วรปลอ ยใหใ จเปน สัต วเ ดรัจ ฉาน ; ถา เราทํ า ความชั ่ว อยา งมี ความโลภ ความโกรธ ความหลงขึ้นมา มั นก็จิตต่ํากวาสัตวเดรัจฉาน ไปอีก นี้ตอนหนึ่งการเกิด.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org นั่ น มั น ไปถึ ง ประเด็ น หลั ง ประเด็ น ที ห ลั ง ที่ ว า ให เกิ ด โลภะ โทสะ โมหะ ; แต นี้ เราเอาประเด็ น แรก ที่ เป น พื้ น ฐาน เป น ที่ รวบรวมของทั้ ง หมด ว า เปน เพื ่อ นทุก ขด ว ยกัน . ทํ า อยา งไรจะใหผู ฟ ง เกิด ความรู ส ึก ขึ ้น มาวา เราเปน เพื่ อ นทุ ก ข ด ว ยกั น ? ขอให สั งเกตความแตกต างตรงนี้ วา ถ าได ยิ น คํ าวา “เป น เพื่อ นทุก ข หรือมีค วามทุกข” นั่น มัน สังเวช มัน เหี่ยวลง. แตพ อไดยิน คําวา เป น เพื่ อ นสุ ข มั น ฟู ขึ้ น ; ความหมายต า งกั น อยู , เพื่ อ นทุ ก ข กั บ เพื่ อ นสุ ข .
www.buddhadassa.in.th
๑๕๒
การกลับมาแหงศีลธรรม
เดี๋ยวนี้ทาน ตองการใหเกิดความสังเวช ; เพราะวา ความสังเวชนี้จะใชเปน พื้นฐานของศีลธรรม ไดดีกวาความคึกคะนอง ทานจึงใชความหมายของความ ทุกขนี่มาเปนเครื่องชักจูงใจ. ถาเรา “เปนเพื่อนทุกข เกิด แก เจ็บ ตาย ดวยกันทั้งหมดทั้งสิ้น” ไมไดพูดวาเราะเปนเพื่อนสุข สนุกสนานอะไรเลย ; ฉะนั้น จะ ตองมีคําพูดที่ ทําใหเกิดความสังเวชแกบุคคลผูฟง. ถาม : เมื่อ คุณ ประยูร เปน หมอ จะมีคํา พูด ใหค นอยา งไร ? เมื่อ คุณ ทอง เปนครู จะมีคําพูดใหเด็ก ๆ ฟงอยางไร ? เมื่อคุณล้ําเปนกํานัน จะพูดให คนในปกครอง โดยเฉพาะเด็กวัยรุน ใหมันเกิดความสังเวชไดอยางไร ? เอาอยางนี้กันดีกวา ; ถาไมเกิดความสังเวชไดแลว ไมมีผลแนแลวคุณ จะใชคําพูดกันอยางไร.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ตอบ : ตองใชคําวา เพื่อนรวมทุกข ; หมายความวา ถาเราไปทําใหใครมี ความทุกข เราเปนเพื่อนรวมทุกขกัน ลงสุดทายผูทํานี้ก็จะมีความทุกข ดวย.
ถาม : นั่ น ก็ ยั ง ไกลไปอี ก ชั้ น หนึ่ ง แล ว . เอาชั้ น ต น กว า นั้ น ซิ ว า อย า งไรล ะ ที่เรียกวาเราจะเปนเพื่อนรวมทุกขกันคือมันเปนอยางไร ? ใหเขาเห็นวา เราทุกคนในโลกนี้เปนเพื่อนมีความทุกขดวยกัน ? ตอบ : โดยชี้ใหเห็นวา ที่อยูเดี๋ยวนี้เรากําลังเปนทุกขดวยกันทั้งนั้น. ถาม : ทุกขอยางไรละ มันไมเห็นนี่ มันไมมองเห็น มันไมสังเวช ?
www.buddhadassa.in.th
รากฐานของศีลธรรมอันดับหนึ่ง
๑๕๓
ตอบ : เปนตนวา กลัวความตาย กลัวทุกข ๑๑ อยาง เราชี้ใหเขาเห็น. ถาม : มันยังสูงไป ยังตองเรียนอีกมาก พูดภาษาชาวบานคําสองคํากันดีกวา. ตอบ : อยางนั้น เอา ๕ อยาง เปนตนวาเรามีความทุกขเพราะตองไปหลงรัก โกรธ เกลียด กลัว และเศรา. ถาม : คุณทอง วาอยางไร ? ใหเด็กเขาเห็นวาเราทุกคนเปนเพื่อนทุกข กําลัง มีทุกข ไมใชแตงกลอน หรือคําประพันธ หรือวาคําเทศน แตเปนคําพูด ธรรมดา ที่ชาวบานใชพูดตามธรรมดา ใหผูฟงฟงแลวหวาดเสียว สลด สังเวช ลงไปทันที. ตอบ : ทุ กชีวิต ในโลกนี้ กํ าลั งพบ กํ าลั งต อ สูอ ยูกั บ อุป สรรค ในการที่ จะมี ชีวิตอยู ดวยกันทั้งนั้น ฉะนั้น ขออยางไดมีการเบียดเบียนเปนการซ้ํา เติมลงไปอีกเลย.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ถาม : เอา, พูดใหมใหพอเหมาะสําหรับนักเรียนชั้นประถมลงมา ไมขึ้นถึง ชั้นมัธยม. เด็กชั้นประถมลงมานี่เราจะใชคําพูดอยางไร ใหเด็ก ๆ เหลา นี้ฟงออก ฟงถูก ใหยอมรับ และรูสึกสังเวชลงไปทีเดียววา เราทุก คน เปน เพื่อ นทุก ข. นึก ถึงขอ เท็จ จริงดูเถิด เด็ก ๆ ในโรงเรีย นมันไมรูจัก ความทุกข มันเลนหัว มันหยอก มันอะไรกัน ลวนแตเปนความสุข. เรา จะไปพูดอยางไรใหเขาเกิดนึกขึ้นมาวา เราเปนเพื่อนรวมความทุกขกัน มากกวา ที่จะเปนเพื่อนรวมสุข ?
www.buddhadassa.in.th
๑๕๔
การกลับมาแหงศีลธรรม
ตอบ : เราทุกคนตางมีชีวิตอยูในโลกนี้ดวยกัน โดยการที่จะตองตอสูดิ้นรน เพื ่อ จะใหอ ยู ใ นโลกนี ้อ ยา งปลอดภัย ; เมื ่อ ทุก คนตอ งรับ ภาระหนัก อยูแลว อันนี้ เราจึงไมควรจะเบียดเบียนซึ่งกันและกัน. ถาม : นี่มันจะฟงถูกกันเฉพาะคนที่เปนครูดวยกันกระมัง เด็กชั้นประถมจะฟง ไมถูกกระมัง มันสูง มันลึกมากไป วาใหมไดไหม สํานวนเด็กประถม เด็กชั้นประถมเลย ? ถายังนึกไมออก รอไวกอนก็ได คุณล้ําอีกที เราจะไปพูด อยางไร ? ใหวัยรุนที่เราพูดดวยอยูทุกวัน มันจะรูสึกไดวาสัตวทั้งหลาย เจาของเปดเจาของไก ที่เราไปขโมยของเขานั่น มันเปนเพื่อนทุกข เกิด แก เจ็บ ตาย ดวยกัน แลวมันจะไดหยุดไปขโมยเปดขโมยไกของเขาเสีย. ตอบ : เอาอย างนี้ ดี ก ว า เรามี ท างที่ จ ะพู ด ได วา เราไม ค วรจะเบี ย ดเบี ย นซึ่ ง กัน และกัน ; เพราะเราเกิด มาในโลกตอ งรับ ความทุก ขด ว ยกัน ทั ้ง นั ้น โดยความเกิ ด โดยความแก โดยความเจ็ บ ความตาย ถึ งใคร ๆ ก็ เป น อยางนั้น เราไมควรเบียดเบียนซึ่งกันและกัน.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ถาม : นั่ น แหละ มั น เป น สํ านวนพู ด ที่ มี อ ยู ในพระคัม ภี รแล ว เด็ กเขาไม รูสึ ก เขาไมเกิดอารมณ อยางนั้น ; เราจะไปพูดเสียใหม ใหเขาเกิดอารมณ อยางนั้น ใหเขารูสึกสลด วูบวาบ ลงไปทีเดียว วาทุกคนเปนเพื่อนทุกข ; ตอ งใชคํ าพู ด เหมื อ นกับ วา จะไปคุ ยกั บ เด็ ก วัย รุน ตอนเย็น ๆ ที่ ราน แห งใดแห งหนึ่ ง พู ด กั น ไปจนให เด็ ก เหล านี้ เปลี่ ย นจิ ต ใจ ไม คิ ด จะ เบียดเบียนผูอื่น ใหเขาเกิดความรูสึกชัดเจนขึ้นมา เปนเพื่อนรวมทุกขกัน
www.buddhadassa.in.th
รากฐานของศีลธรรมอันดับหนึ่ง
๑๕๕
ไมควรจะไปเบียดเบียนกัน. อันนั้นมันสวนหนึ่ง ที่วาเปนเพื่อนรวมทุกข แลว ไมเ บีย ดเบีย น แตนี ้เราถามวา ทํ า อยา งไรใหเ ขารู ส ึก วา เรา เปน เพื ่อ นทุก ข เอาตรงนี ้ก อ น ; พูด ใหเ ด็ก วัย รุ น รู ส ึก วา เราทุก คน เปนเพื่อนทุกข ? ตอบ : ความจริงแลวผมก็เคยพูดบอย ๆ. ถาม : นั่นแหละพูดอยางไร ลองวามาใหชัดขึ้น คนอื่นเขาจะไดจําไปเปน ปทัสถาน. ตอบ : อยางเรื่องความเจ็บ ผมก็บอกวา แมแตเราโกรธใครเราก็ไมตองทํา มันถึงคราวมันก็เจ็บเอง ถึงวันตายมันก็ตายเอง. ผมเคยพูดอยางนี้. ถาม : แลวเปนเพื่อนทุกขอยางไรละ ? นี่มันไกลออกไปจากความหมายวา เพื่อนทุกข.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ตอบ : เมื่อเราเกิดมาในโลกดวยกัน ตองอาศัยซึ่งกันและกัน แลวเราไดรับ ความทุกขดวยกัน เหตุตาง ๆ มันจะมาถึงเอง.
มัน ก็ถ ูก ที ่พ ูด นี ้ถ ูก แตม ัน ยัง ไมช ัด ตอ งการใหพ ูด ใหช ัด . ขอรอ ง ใหทุกคนชวยกันจํา เอาไปคิด ใหแตละคน ๆ เอาไปคิด เพื่อหาคําพูดที่มีน้ําหนัก มีค วามหมายที่พ ูด ออกไปแลว ลูก เด็ก ๆ เขามองเห็น เขารูส ึก และเขาเปลี่ย น จิตใจมาสูหลักเกณฑอันนี้ วาเราเปนเพื่อนทุกข เกิด แก เจ็บ ตาย ดวยกันทั้งหมด ทั้งสิ้น.
www.buddhadassa.in.th
๑๕๖
การกลับมาแหงศีลธรรม
วันนี้จะพู ดกันใหหมดก็ไมได เพราะวาไมไดเคยคิดมากอน หรือวา เคยคิดเคยใชเคยพูดมากอน มันก็ยังไมสมบูรณ จึงฝากไวใหไปคิดดูใหม โดยเฉพาะ สําหรับ ๓ คนนี้ และคนนอกนั้น ผูฟงทั้งหลายก็จําเอาไปคิดดวย วาเราจะเอาไป พูดจากันอยางไรใหทุกคนเกิดความรูสึกขึ้นมาวา เราเปนเพื่อนทุกข เกิด แก เจ็บ ตาย ดว ยกัน ทั ้ง หมดทั ้ง สิ ้น . ถา ใครทํ า สํ า เร็จ ในขอ นี ้ คนนั ้น แหละจะไดชื ่อ วา เปนผูทําบุญกุศลอันใหญหลวงยิ่งกวาสรางโบสถสัก ๑๐ หลัง ยอมใหใครดา ดาก็ ดาอาตมาก็แลวกัน.
ขอใหทําบุญที่ยิ่งกวาสรางโบสถ ๑๐ หลัง อาตมาจะพูด อยา งนี ้ วา ไปชว ยพูด ใหผู ใ หญ เด็ก หนุ ม สาว ทั ้ ง หลาย เกิ ด ความรู ส ึ ก ขึ ้ น มาได ว า “สั ต ว ทั ้ ง หลายเป น เพื ่ อ นทุ ก ข เกิ ด แก เจ็ บ ตาย ด ว ยกั น ทั้ ง หมดทั้ ง สิ้ น ” ได ผ ลจริ ง ๆ จนคนนั้ น เขามี จิ ต ใจสลด สังเวช วูบวาบลงไป จนเบียดเบียนใครไมได แลวจะทําใหผูพูดนั่นแหละไดบุญ ยิ่งกวาสรางโบสถสัก ๑๐ หลัง, หมายถึงสรางโบสถเฉย ๆ นะ.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org นี ่ก ็เ พราะเหตุว า ถา ความรู ส ึก อัน นี ้ม ัน ไดเ กิด ขึ ้น มาในใจจริง ๆ แล ว คนนั้ น จะไม เ กิ ด ความโลภ, คนนั้ น จะไม เ กิ ด ความโกรธ, คนนั้ น จะ ไมเ กิด ความหลง. ทั้ง นี้ก็เ พราะวา ความโลภ ความโกรธ ความหลง นี้ มั น มาจากความเห็ น แก ต ั ว . ข อ นี ้ พ ู ด กั น หลายครั ้ ง แล ว ซ้ํ า ๆ ซากๆ ว า กิเ ลสทั้ง หลายมาจากความเห็น แกตัว ; เห็น แกตัว แลว มัน ก็โ ลภ ในกรณี ที ่ม ัน ชวนใหโ ลก, เห็น แกต ัว แลว มัน ก็โ กรธ ในกรณีที ่ม ัน ชวนใหโ กรธ, เห็นแกตัวแลว มันก็ชวนใหหลง ในกรณีที่มันชวนใหหลง.
www.buddhadassa.in.th
รากฐานของศีลธรรมอันดับหนึ่ง
๑๕๗
ฉะนั้ น เราตั ด บทมั น เสี ย โดยการทํ า ลายความเห็ น แก ตั ว ; เมื่ อ ทํา ลายความเห็น แกตัวได ก็เปน อัน วาตัด ตน ตอรากเงาของกิเลสได. ฉะนั้น จงขวนขวายกัน ใหสุด ฝไ มล ายมือ ในการที่จ ะตัด ตน ตอของกิเ ลส กลา ว คือ การไปทําใหเกิดความรูสึกขึ้นมาวา “สัตวทั้งหลายเปนเพื่อนทุกข เกิด แก เจ็ บ ตาย ด ว ยกั น ทั้ งหมดทั้ ง สิ้ น ”' ; นั บ ตั้ งแต ว า สอนให ลู ก เด็ ก ๆ เขาท อ ง ประโยคนี้ไว เชนเดียวกับโยมของอาตมาก็ไดสอนใหอาตมาทองประโยคนี้ตั้งแต เล็ก ๆ, เมื่อเล็ก ๆ พอจําความได มันเคยทอง. ทานทั้งหลายก็ควรจะนึกดู ไปทําใหเด็กเล็ก ๆ เขาทองได, ใหเขา คิด เปน , และใหรูส ึก อยา งนั ้น จริง ๆ. เดี ๋ย วนี ้ไฟมัน กํา ลัง จะไหมโลกอยูแ ลว และน้ํา ที่ จ ะดั บ ไฟนี้ ไ ม มี อ ะไรอื่ น นอกจาก ธรรมะข อ นี้ : เพื่ อ ให เ ขารู สึ ก ขึ้น มาวา “สัต วทั้ง หลายเปน เพื่อ นทุก ข เกิด แก เจ็บ ตายดว ยกัน ทั้ง หมด ทั้งสิ้น” แลวจะไมมีใครเอาเปรียบใครดวยความโลภ, หรือวา เมื่อนึกถึงขอนี้ อยูแลว มันโลภไมลง ? มันเต็มไปดวยสติปญญาที่ถูกตอง ซึ่งทําใหเกิดความ ไมเห็นแกตัว มันโลภไมลง โกรธไมลง หลงไมลง เพราะเขาถึงความจริงอันสูงสุด เสียแลว มันหลงอีกไมได.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ขอใหถือ วา บทพระธรรมขอ นี้ เปน เหมือ นกับ แผน ดิน สํา หรับ ตนพฤกษาแหงศีลธรรม จะไดตั้งอาศัยอยู เหมือนกับแผนดินเปนที่ตั้งอาศัย แหงตนไมทั้งหลาย.
www.buddhadassa.in.th
๑๕๘
การกลับมาแหงศีลธรรม
ในวัน นี ้เราพิจ ารณากัน ไดแ ตเพีย ง รากฐานของศีล ธรรมอัน ดับ แรก คือรากฐานที่พอจะเปรียบไดวาเหมือนกับแผนดิน เวลามันก็หมดแลว เอาไว สําหรับพิจารณากันในโอกาสหลังถึงขอที่ยังเหลือ.
ในวันนี้ก็ขอยุติการบรรยายและการอภิปรายเรื่องรากฐานแหงศีลธรรม ไวเพียงเทานี้กอน เปนโอกาสใหพระคุณเจาทานสวดบทพระธรรมสําหรับสงเสริม กําลังใจใหคนมีความกลาหาญ พอในในการประพฤติธรรมนั้น ๆ.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org
www.buddhadassa.in.th
การกลับมาแหงศีลธรรม -๕๒๘ กุมภาพันธ ๒๕๑๙
รากฐานของศีลธรรมอันดับสอง [ ความไมเปนทาสของอายตนะ : น้ํา ]
ทานสาธุชน ผูมีความสนใจในธรรม ทั้งหลาย,
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org การบ รรย ายป ระจํ า วั น เส าร ภ าค ม าฆ บู ช าเป น ค รั้ ง ที ่ ๕ ใน วั น นี ้ ยั ง คงกล า วโดยหั ว ข อ ว า การกลั บ มาแห ง ศี ล ธรรม ต อ ไปตาม เดิ ม , และแยกเป น หั ว ข อ ย อ ย ๆ มาถึ ง วั น นี ้ นั ้ น ก็ ค ื อ หั ว ข อ ที ่ ก ล า วถึ ง รากฐานของสิ่งที่เรียกวา ศีลธรรม. [ ตอไปนี้เปนการทบทวนคําปรารภการกลับมาแหงศีลธรรมจนถึงหนา ๑๗๔ ] เราไดกลาวถึงสิ่งที่เปนตัวศีลธรรมกันมาพอสมควรแลว คือพอที่จะ ใหรูวา เรายังขาดสิ่งที่เรียกวา ศีลธรรม อยูในโลกนี้ มันมีอันตรายตาง ๆ เกิดขึ้น, ๑๕๙
www.buddhadassa.in.th
๑๖๐
การกลับมาแหงศีลธรรม
และมีหวังวาโลกนี้จะวินาศ ถาหากวามันเป นไปถึงที่สุด. ดังนั้นเราจึงตองการ การกลับมาแหงศีลธรรม ซึ่งเปนของจําเปนที่สุด หรือจะเรียกวายิ่งกวาจําเปน ที่สุด หรือจะเรียกวายิ่งกวาจําเปนก็ได; คือหมายถึงความวินาศ และไมมีสิ่งใด ที่จําเปน ยิ่งกวาสิ่งนี้ในเวลานี้โดยเฉพาะ. ถาศีลธรรมไมกลับ มา โลกมนุษ ย ก็สูญสิ้นไป เหลือแตโลกของอะไร ยากที่จะกลาวได, ยากที่จะเรียกได. อยางที่เราเคยเปรียบเทียบกันมาแลว หลายครั้งหลายหนวา มนุษย กับ คน นั ้น มัน ตา งกัน : ผู ที ่ม ีค ุณ ธรรมตามความหมายของคํ า วา มนุษ ย จึง จะเรีย กวา มนุษ ย ถาสัก แตวา เกิด มา ก็เรีย กวาคนตามธรรมดาสามัญ สัต ว ทั้งหลายทั่วไป; เมื่อขาดศีลธรรมก็ไมมีความเปนมนุษย ก็เหลือแตคน. ทีนี้ถาคนฆาฟนกันเพราะความไมมีศีลธรรมนั้นมันก็เลวไปกวาสัตว; ก็ ก ลายเป น โลกของสั ต ว ช นิ ด หนึ่ ง ซึ่ ง เลวกว า สั ต ว เดรั จ ฉาน. เพราะว า สั ต ว เดรัจฉานไมเคยคิดจะฆา หรือวาไมสามารถที่จะฆากันใหวินาศ เหมือนกับคนที่ ไมมีศีล ธรรม; เมื่อ คนไมมีศีล ธรรมฆา กัน ยิ่ง กวา สัต วเดรัช ฉาน มีอ ยูใ นโลกนี้ ก็เ ลยไมรูจ ะเรีย กวา โลกนี ้ม ัน เปน โลกของอะไร; คิด ดูเ อาเองก็ไ ด; ดัง นั ้น การกลับมาแหงศีลธรรมจึงจําเปน.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ขอใหมองใหเห็นขอเท็จจริงขอนี้ และจะรูสึกวา เผอิญ เรานี้ไดเกิด มาพอดีกันกับที่โลกกําลังเปนอยางนี้ และจะเปนอยางนี้ยิ่ง ๆ ขึ้นไป; เราจะคิด กันอยางไร ? จะปลอยใหเปนไปตามนั้นจนถึงที่สุด, หรือวาจะชวยกันตานทาน, หรื อ แก ไ ขเอาไว . ถ า ผู ใ ดเห็ น ว า มั น ควรจะช ว ยกั น ต า นทาน ก็ ค วรจะเห็ น
www.buddhadassa.in.th
รากฐานของศีลธรรมอันดับสอง
๑๖๑
ต อ ไปว า การกลั บ มาแห ง ศี ล ธรรมนั่ น แหละเป น หน า ที่ ข องเรา เพื่ อ จะ ชวยโลกนี้ใหรอดอยูได. ดั งนั้ น อาตมาจึ งพู ด ดั ง ๆ วา ขอให ทุ ก คนบํ าเพ็ ญ บุ ญ กุ ศ ลด วยการ กระทําอยา งนี้เถิด การทําบุญ กุศ ลอยา งอื่น นั้น มัน ก็พ อหรือ เฟอ แลว ก็มี; หัน มาทํ า บุ ญ กุ ศ ลอั น นี้ คื อ ช ว ยกั น ให ศี ล ธรรมกลั บ มา; จะโดยวิ ธี ใ ดก็ ไ ด ด ว ยแรงก็ ได ด ว ยเงิ น ก็ ไ ด ด ว ยสติ ป ญ ญาหรื อ ป จ จั ย ใดๆก็ ไ ด ให ศ ี ล ธรรม กลั บ มา ;แลว ยัง ตีราคาของบุญ กุศ ลอัน นี ้ วา ถา ชว ยใหใครกลับ มาเปน ผู มีศ ีล ธรรมขึ ้น ไดสั ก คนหนึ่ ง โดยแท จ ริง นี้ จ ะได กุ ศ ลยิ่ งไปกว า จะสรา งโบสถ ขึ้ น ไว สั ก ๑๐ หลังเฉย ๆ แลวก็ไมไดทําอะไร. คําพู ดอยางนี้ คนที่ชอบสรางโบสถก็คงจะ โกรธมากทีเดียว;ขอนั้นไมเปนไร. ขอให ดู ต อ ไปถึ ง ประโยชน ที่ จ ะได รั บ : สร า งโบสถ ไ ม มี ป ระโยชน เพราะวาไมไดทําหนาที่ตามความมุงหมาย มักจะสักแตวาสรางไวเฉย ๆ หรือทํา พิธีรีต องไปเสีย หมด; อยา งนี้ไ มม ีผ ลที่จ ะทํ า ใหศ ีล ธรรมครองโลก. สมัย นี้เรา จะเห็น ไดวา ยิ ่ง สรา งโบสถก ัน มากขึ ้น ๆ, และศีล ธรรมก็ยิ ่ง หายไป ๆ ไมอ ยู คุ ม ครองโลก; คนเดื อ ดรอ นกั น ไปทั่ ง ทุ ก หั ว ระแหง โดยเฉพาะอย า งยิ่ งในจุ ด ที่ เรียกกันวา เจริญที่สุด เชนในเมืองหลวง ก็ยิ่งมีสภาพที่ไรศีลธรรมปรากฏอยูทั่วไป ไมมี ความปลอดภัย; จึงเห็นวาควรจะคิดกันเสียใหม แมจะตองทําใหกลับหลัง อยางที่เรียกวา “ถอยหลังเขาคลอง”.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org มั น ผิ ด ไป แล ว ก็ ต อ งถอยห ลั ง ม าห าค วาม ถู ก , ค ล อ งนี ้ ค ื อ คลองแห ง ความถู ก . การ “ถอยหลั ง เข า คลอง” ชนิ ด นี้ เป น สิ่ ง ที่ จํา เป น
www.buddhadassa.in.th
การกลับมาแหงศีลธรรม
๑๖๒
อย า งยิ ่ ง สํ า หรั บ สมั ย นี ้ . ฉะนั ้ น เรา ช ว ยกั น จั บ ตั ว เพื ่ อ นฝู ง ของเราให รู จัก ถอยหลัง เขา คลอง มาสู ค ลองของความถูก ตอ ง ศีล ธรรมก็จ ะกลับ มา. ทานทั้ง หลายก็เสีย เวลามามากมายแลว ที่ม านั่งที่นี่ มาฟงเรื่อ งนี้ ก็อยากจะขอรองวา อยาใหมันเสียเปลา. ขอใหเขาใจ และชวยกันทําใหได ใน ขอที่ใหมีศีลธรรมอยูในโลกนี้; แตโดยเฉพาะอยางยิ่งในสมัยปจจุบันนี้ มันมีกรณี รีบดวน ที่ตองทําใหรีบกลับมา มันกําลังจะหายไปอยางรวดเร็ว. ขอใหเขาใจขอ นี้อยางแจมแจง แลวทานก็จะยังคงฟงเรื่องนี้อยางเปนที่พออกพอใจ หรือสนุกสนาน สืบตอไป; ถามิฉะนั้นแลวก็คงจะเบื่อหนาย ระอาใจกันเปนอยางยิ่ง. ....
....
....
....
ที นี้ ก็ พู ด ถึ งเรื่อ งหั วขอ ที่ เรากํ าลั งพู ด เราได พู ด ถึ งเรื่อ งศี ล ธรรมคื อ อะไรมาแลว ๓ ครั้ง. เริ่ม พูดถึงเรื่องรากฐานของศีล ธรรมมาแลว ๓ ครั้ง . วัน นี้ ก็จ ะพูด เรื่อ งเดีย วกัน อีก คือ เรื่อ งรากฐานของศีล ธรรม, เพราะยัง ไมจ บ; สํ า หรั บ หั ว ข อ ของเรื่ อ งทั้ ง หมดนั้ น มั น มี ว า การกลั บ มาแห ง ศี ล ธรรม.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ถ า เราจะทํ า ศี ล ธรรมให ก ลั บ มา เราจะต อ งรู จ ั ก สิ ่ ง ที ่ เ รี ย กว า ศีล ธรรมอยา งถูก ตอ ง ยา งสมบูร ณด ว ย; ไมใ ชส ัก วา ถูก แตใ นบางแงห รือ บางมุม , คําวา “ถูกตอง” นี้ ตอ งสมบู รณ ดวยเสมอ. เมื่อ เรารูจักศีลธรรมอยาง ถูกตองและสมบูรณ แมโดยใจความแลว ก็พอจะมองเห็นวา ศีลธรรมกําลังไมมี จริ ง ๆ ; ที นี ้ ก ็ ด ู ต อ ไปถึ ง ข อ ที ่ ว า ศี ล ธรรมไม ม ี นั ้ น เพราะรากฐานของ ศี ล ธรรมไม มี . ข อ นี้ จ ริ ง หรื อ เปล า ? ก็ ต อ งรู จั ก สิ่ ง ที่ เ รี ย กว า รากฐานของ
www.buddhadassa.in.th
รากฐานของศีลธรรมอันดับสอง
๑๖๓
ศีล ธรรมนั้น อยา งแจม แจง อีก เรื่อ งหนึ่ง จึง จะรูวา มัน มีอ ยูห รือ ไมมี; ถา ไมรู วา มัน คือ อะไร มัน ก็ไ มอ าจจะรูว า มีห รือ ไม เราจึง ตอ งศึก ษาตอ ไป ถึง เรื่อ ง รากฐานของศีล ธรรมพอสมควรกอ น; “พอสมควร” ในที่นี้ก็คือ พอที่จ ะรูวา มัน ไมมีห รือ มี มัน มีห รือ ไมเทา นั้น เอง. สว นที่จ ะรูจ นถึง กับ วา จะสรา งมัน ขึ้น มาไดอยางไร ที่จะใหมันกลับมาโดยแทจริงอยางไรนั้น ไวคอยพูดกันในคราวหลัง ๆ ตอไปอีก. ในตอนนี ้จ ะพูด ถึง เรื่อ ง รากฐานของศีล ธรรม พอใหรูจ นเปน ที่ แนใจไดวา มันกําลังมีหรือไมมี, ที่แทก็คือใหรูวา มันกําลังไมมีนั่นเอง. ที นี ้ เพื ่ อ จะให รู เ รื ่ อ งรากฐานของศี ล ธรรมให ช ั ด แจ ง เราจึ ง ทํา อุป มาวา ตน ไมศ ีล ธรรม หรือ พฤกษาแหง ศีล ธรรมนี้ มัน มีร ากอยา งไร มี ลําตนอยางไร มีใบ ดอกผล อยางไร; นี้ก็จะตองแจมแจงอยูในใจเสมอไป จึง จะมองเห็นสิ่งที่เรียกวารากนั้น อยางเต็มที่ คือ เต็มความหมาย จะไดชวยกัน รักษารากฐานของศีลธรรมนี้ไว.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org เรื่อ งที ่พ ูด มาแลว โดยสรุป เราสรุป วา โคนตน ไมนั ้น คือ อุด มคติข องศีล ธรรม เปน เรื่อ งความรู หรือ เปน เรื่อ งปรัช ญามากกวา ; แตเ ราไม เลยเถิ ด ไปถึ ง ปรัชญาเพ อ เจ อ เป น เพี ย งอุ ด มคติ ที่ พ อจะมองเห็ น วา ศี ล ธรรมนี้ เปน สิ่ง ที่จํา เปน อยา งยิ่ง โดยแทจ ริง , และยัง เห็น ลว งหนา ไปถึง ระดับ สูง สุด อันจะมีไดในอนาคตภายหลัง วาจะเปนสิ่งที่ประเสริฐที่สุดอยางไร.
ถาพูดกันตรงไปตรงมา ตัดลัดใหมันสั้น ไมกินเวลามาก ก็จะกลาว ได ว า ศี ล ธรรมสมบู ร ณ ที ่ ส ุ ด เมื ่ อ ใด; เมื ่ อ นั ้ น ก็ เ ป น โลก หรื อ เป น ศาสนา
www.buddhadassa.in.th
๑๖๔
การกลับมาแหงศีลธรรม
ของพระศรี อ าริ ย เมตไตรยเมื่ อ นั้ น . เอาไปคิ ด ดู , กล า ท า ให คิ ด ดู . ถ า ว า เรา สามารถทําใหศีลธรรมกลับมาโดยสมบูรณในวันนี้ โลกหรือศาสนาของพระศรีอาริย เมตไตรย ก็จ ะเกิด ขึ้น ในวัน นี้อ ยางผลุน ผลัน ทีเดีย ว; ไปคิด ดูใหดี ก็จ ะ เห็นไดเอง. คนโงจ ะเห็ น วาเป นการพู ด เพ อ เจอ ; เพราะเขาไม รูวาศี ล ธรรมคื อ อะไร, ศาสนาหรือโลกพระศรีอาริยเมตไตรยนั้นเปนอยางไร, มันไมรูไปเสียทั้งนั้น. มันไดยินแตวา อีกกี่หมื่นป อีกกี่แสนป ก็ไมรู จึงจะถึงศาสนาหรือโลกของพระศรีอาริยเมตไตรย. แตเดี๋ยวนี้อาตมา มาบอกวา ถาศีลธรรมเต็มเปยมเมื่อไร ก็จ ะมี โลกของพระศรีอาริยเมตไตรยเมื่ อ นั้ น ; ถ ามั วัน นี้ ก็ มี โลกพระศรีอาริย เมตไตรยวันนี้. เขาก็หาวาเราบา; ก็ไปดูเอาเองก็แลวกัน ใครมันบา. ถ า ศึ ก ษาให รู ก็ จ ะรู ไ ด ว า โลกของพระศรี อ าริ ย เมตไตรย คื อ ผลของความเต็ม เปย มทางศีล ธรรม คือ ไมมีกิเ ลสตัณ หา นอนหลับ สบาย ราวกับวาคนคนหนึ่งมีอายุยืนตั้งหมื่นป. ไปศึกษาดูรายละเอียดในเรื่องโลกพระพุทธเจาพระองคนี้ก็จะไดความวาอยางนั้น. เมื่อมนุษยมีอายุยืนแปดหมื่นป จึง เกิดโลกพระศรีอาริยเมตไตรย; นั้นมันเปน เรื่องสําหรับ การคํานวณและเทีย บ เคียง วาเมื่อคนไมมีกิเลสมีความรูสึกสบาย มันไมเรารอน ไมกระหายดวยกิเลส ตัณ หาแลว วัน คืน มัน จึง ดูชา ราวกับ วา เราคนหนึ่ง ๆ มีอ ายุยืน ตั้ง หมื่น ป. นี่เปนอุปมาแตเพียงขอเดียว สําหรับจะเปรียบเทียบก็พอ วาศีลธรรมกลับมาเมื่อไร โลกนี้จะเปลี่ยนแปลงไปอยางตรงกันขาม.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ไดพู ดถึงเรื่องกลียุคมาพอสมควรแลว ในการบรรยายครั้งกอนวา พ ระพุ ทธเจ า ท า นทรงอุ บั ติ ขึ้ น มาในโลกนี้ ในยุ ค ที่ เ รี ย กกั น ว า กลี ยุ ค
www.buddhadassa.in.th
รากฐานของศีลธรรมอันดับสอง
๑๖๕
คือ ศีล ธรรมเหลือ อยู เพีย ง ๑ ใน ๔ ของที ่ค วรจะมี; นี ่เขาเรีย กวา โลกกลียุค . พระพุทธเจาทานก็ไดเกิดขึ้นมา เพื่อจะแกไขปญหาอันนี้ เพื่อจะทรงแสดงธรรม ชวยโลกไว อยาใหถึงกับพินาศฉิบหายไปเสีย. ยุค ที ่เ รีย กวา กลีย ุค ก็ย ัง มีต อ มาจนถึง วัน นี ้ และจะมีต อ ไป ขา งหนา ; จึง เปน ปญ หาเกิด ขึ้น วา เราจะตอ งชว ยกัน อยา งไร มัน จึง จะไม เปนกลียุค จนถึงที่สุดคือวินาศ; แตมันจะคอยถอยหลังกลับ, ถอยหลังกลับ, หรืออยางนอยก็ทรงอยูในภาวะที่พอจะทนได. เปนอันวาศีลธรรมกลับมาเมื่อไร ยุคที่นาพอใจก็จะมีมาเมื่อนั้น; จึงหวังวาถาทานทั้งหลายเขาใจ ก็คงจะยินดี รวมมือกัน ทําใหศีลธรรมกลับมา. การบรรยายนี้ ก็ เ พื่ อ ศี ล ธรรมกลั บ มา. ท า นทั้ ง หลายที่ ม าฟ ง ก็จ งฟงเพื่อ ศีล ธรรมกลับ มา; คือ ฟงแลว เอาไปคิด ไปนึก เขาใจแลวก็ชว ยกัน ทุกอยางทุกทาง ตามที่ไดแสดงใหเห็นนี้ แลวศีลธรรมก็จะกลับมา.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ทําไมตองทําอยางนี้ ก็ขอทาทายเลยวา แลวทําอยางไหนเลาที่มันดี กวา ? คุณ จะทํ า อะไร ทํ า อยา งไหน ที ่จ ะดีก วา , ดีก วา ที ่จ ะทํ า ใหศ ีล ธรรม กลับมา ? และจะมีชีวิตอยูทําไป ในเมื่อเปนโลกที่ไมมีศีลธรรม ? ความปลอด ภัย ชีวิต รา งกาย ทรัพ ยส มบัติมัน จะมีไ ดอ ยา งไร ? ถา วา โลกนี้ มัน ไมมี ศี ล ธรรม; จึ งต อ งช ว ยกั น ให ศี ล ธรรมกลั บ มา แล ว ทุ ก อย า งจะมี ค วามหมาย. ประเทศชาติบานเมือง ทรัพยสมบัติ ชีวิต รางกายอะไรตาง ๆ ก็จะมีความหมาย; เพราะมีศีล ธรรมอยูใ นโลกนี้; จึง ของใหส นใจรากฐานของศีล ธรรม, รูจัก ตัวของศีลธรรม, รูจักผลของศีลธรรม. ....
....
....
....
www.buddhadassa.in.th
๑๖๖
การกลับมาแหงศีลธรรม
รากฐานของมันที่เราเรียกวา อุดมคติ อยูที่โคนนั้น; หมายความ วามันอาศัยอะไรอยู. พูดกันแลววา เปรียบเหมือนกับตนไม อาศัยปจจัยในภายใน ในตัว มัน เอง ที่ไมเรีย กวาสิ่งแวดลอ ม, ที่เรีย กวาตัวมัน เอง. ตน ไมอ าศัย ปจ จัย คือ แผนดิน; ตองตั้งอยูบนแผนดิน มันลอยอยูไมได. อาศัยปจจัยคือ น้ําสําหรับ ทําใหชีวิตยังคงเปนชีวิต คือสดอยูได และก็ละลายอาหาร ดูดซึมเขาไปเลี้ยงตน. แลวก็ยังตองอาศัย อาหาร คือแรธาตุทั้งหลายที่เปนอาหาร ที่ละลายอยูในน้ํา ที่เรา เรียกกันวา ปุย. แลวยังตองอาศัยอากาศ; โดยเฉพาะอยางยิ่ง ก็คือ แสงสวาง. ถาไมมีแสงสวาง ก็ไมมีความเจริญ งอกงามอะไร เพราะวามันไม อาจจะกินอาหาร, ตองมีอาหารมาชวยใหปรุง, ตองมีอากาศมาชวยใหเกิดการปรุง อาหารที่ใบเมื่อถูกแสงแดด ก็กลายเปนสิ่งที่เปนปจจัยหลอเลี้ยงชีวิตทั่วไปทั้งตน; ฉะนั้ น จึ งต อ งการแสงสวาง ขาดไม ได . ถ าขาดต น ไม ก็ ต าย เพราะไม ได กิ น อาหาร หรือกินอาหารไมได. แมวาจะมีน้ําหนักหรือมีอาหารอยูในลําตนของมัน แตก็กินไมได; เหมือนกับที่เราไมอาจจะกินขาวเปลือก ตองหุงเปนขาวสุกกอน จึงจะกินได ฉันใดก็ฉันนั้น.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org นอกจากอากาศแลวยังจะตองมีอุณหภูมิ คือความรอนในระดับหนึ่ง ที่เหมาะสมแตชีวิต : ความรอนนอยไปคือเปนหนาวก็ไมได. ความรอนมากไป จนเปนไฟลุกก็ไมได. ตองมีอุณ หภูมิที่พอดีอยางที่มีอยูในโลกนี้ ในถิ่นที่เราจะ เห็นวา มีตนไมเขียวชะอุมไปหมด; แมวาอุณหภูมิจะผิดกันบาง มันก็ไมถึงกับ ใหตาย เปนเพียงแตทําใหเกิดตนไมที่ตาง ๆ กันไป ตามเขต หรือตามโซนของ
www.buddhadassa.in.th
รากฐานของศีลธรรมอันดับสอง
๑๖๗
อุณ หภูม ิที ่ม ีอ ยู ใ นโลกนี ้. เปน อัน กลา วไดแ นน อนวา มัน ตอ งการอุณ หภูม ิที่ เหมาะสมดวย. .... .... .… .... ในครั้งที่ แ ล วมาเราก็ ได พู ด ถึ งป จ จั ย ที่ ๑ คื อ ดิ น วาต อ งมี ดิ น สํ าหรับ ตน ไม. ทีนี ้ม าถึง ตน ไมแ หง ศีล ธรรม ปจ จัย ของตน ไมแ หง ศีล ธรรมนี ้ ก็แ ยก ออกเปน ๕ อยาง เพื่องายแกการศึกษา. ปจ จัย อยา งแรกที่พ อจะเทีย บไดกับ พื้น ดิน นั้น เราเรีย กวา ศีล ธรรม ที ่ทํ า ใหม ีค วามรู ส ึก วา สัต วทั ้ง หลายเปน เพื ่อ นทุก ข เกิด แก เจ็บ ตาย ดว ยกัน ทั ้ง หมดทั ้ง สิ ้น ; อยา งที ่ปู ยา ตา ยาย ของเรา เคยทอ งบน อยู เ ปน ประจํ า ในบทนี้ . แล ว ลู ก หลานสมั ย นี้ ก็ หั ว เราะว า ปู ย า ตา ยาย เป น คนโงเง า คร่ําครึ วาอะไรก็ไมรู.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ข อ นี้ มั น ก็ จ ริ ง อยู แ น น อนที เดี ย วว า ลู ก หลานสมั ย นี้ ไม อ าจจะเกิ ด ความรูสึกวา “สัตวทั้งหลายเปนเพื่อนทุกข เกิด แก เจ็บ ตาย ดวยกันทั้งหมด ทั ้ง สิ ้น ”; เพราะวา ลูก หลานสมัย นี ้พ อเกิด ขึ ้น มา มัน ก็เห็น แตก ารทะเลาะวิว าท ขบกั ด กั น , ยิ่ งเรีย นมาก มั น ก็ ยิ่ งรูแ ต เรื่อ งการรบราฆ าฟ น การทํ าลายล าง การ จองลางจองผลาญซึ่งกันและกัน ในโลกนี้ระหวางประเทศ.
สิ่งที่เขาเอามาใหเรียนก็คือเรื่องที่จะทําลายลางกันทั้งนั้น : เศรษฐกิจ ก็เพื่อทําลายลาง, การเมืองก็เพื่อทําลายลาง, การทหารก็เพื่อทําลายลาง, อะไร ๆ
www.buddhadassa.in.th
๑๖๘
การกลับมาแหงศีลธรรม
ก็เพื่อทําลายลาง ผูอื่น หรือฝายตรงกันขาม เพื่อใหตัวเองไดเปรียบ หรือที่เขา เรียกกันวา เจริญ เจริญอยางไมมีศีลธรรม. นี่ เด็ ก ๆ ก็ ไม เขาใจความหมายที่ วา “สั ต วทั้ งหลายทั้ งปวง เป น เพื ่อ นหัว อกเดีย วกัน ในความทุก ข คือ เปน เพื ่อ นทุก ข เปน สหายแหง ความ ทุก ข”; เพราะขอ นี้เ ขาเล็ง ถึง ธรรมชาติเ ปน สว นใหญกอ น วา สัต วทั้ง หลาย หรือสิ่งที่มีชีวิตทั้งหลาย มัน เปนเพื่อนทุกขแกกันและกัน. เพราะสิ่งที่เรียกวา ชีว ิต นั ้น เปน การตอ สู อยา งนอ ยก็ต อ สู ก ับ ความเจ็บ ความแก ความตาย ความขาดแคลนทั้งหลาย ไมไดปจจัยเกื้อ กูลแกชีวิตอยางเพียงพอ, และยังมี อันตรายตามธรรมชาติ : ความแก ความเจ็บ ความตาย สําหรับผูที่ไมมีปญญา ไมสามารถจะแกไขมันได และเปนเหมือนกันหมดทุกคน. แตอัน ตรายที่รา ยที่สุด เหนือ อัน ตรายทั้ง หลายนั้น สรุป ไดอ ยูที่ สิ่ง สิ่ง เดีย วคือ กิเลส. กิเลสเรีย กวา อัน ตราย, เรีย กวา ศัต รู, เรีย กวา สิ่ง เลวรายทั้งหมดเลย ไปสมบูรณอ ยูที่กิเลส. คนทุกคนมัน มีกิเลส, รบ สู กับ กิเลสดวยกันทุกคน; อยางที่เรียกวา พายแพแกกิเลสอยูตลอดเวลา.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ทํ า ไปไม ม องกั น ในแง นี ้ ว า เราทุ ก คนเป น เพื ่ อ นแพ แ ก ก ิ เ ลส, ทนทุกขทรมานเพราะอํานาจของกิเลสกันอยูตลอดเวลา. เรามามองเห็นความจริง ขอนี้ แลวก็มีความสมัครสมานสามัคคีกัน เพื่อจะเอาชนะศัตรูรวมกัน คือกิเลส และเราก็จะอยูเปนผาสุก. .... .... .... ....
www.buddhadassa.in.th
รากฐานของศีลธรรมอันดับสอง
๑๖๙
เดี๋ยวนี้คนในโลกนี้มีการศึกษาเปนอยางอื่น, มองเห็นขาศึกอยางอื่น; ไมม องเห็น ขาศึก คือ กิเลส ก็เลยไปเพิ่ม กิเลสใหมัน มากขึ้น อีก : มีกิเลสสําหรับ จะฆาคนอื่น, จะฆาพวกอื่น, จะเอาเปรียบพวกอื่น. มันก็ยิ่งเพิ่มกิเลสยิ่งขึ้นไปทุกที จึง ไมม ีค วามสงบสุข หรือ สัน ติส ุข ไดใ นโลกนี ้ ก็ท นทุก ขม ากยิ ่ง ขึ ้น ทุก ที; แต พรอมกันนั้น ก็ยิ่งไมเห็นวา เปนเพื่อนทุกขแกกันและกันมากขึ้นทุกที เพราะมัน ไปฆาเพื่อนมนุษยดวยกัน ที่มีความทุกขนั่นแหละ เห็นเพื่อนมนุษยดวยกันที่มีความ ทุกขอยางเดียวกันนั่นแหละวาเปนขาศึก ก็มุงหมายแตจะฆาเพื่อนมนุษยดวยกัน อยางนี้ ก็เลยไมถูกขาศึกที่แทจริง คือ กิเลส ซึ่งมีอยูแลวในภายในของคนทุกคน. นี่เรียกวาคนยังโง มันไมเห็นขาศึกที่มีแทจริงที่มีอยูในภายใน; และ ขาศึก ภายในนั้ น มั น ก็ห ลอกให เห็ น ขาศึ ก ในภายนอก แล วมั น ก็ ไปมั วฆ าขาศึ ก ภายนอกกันเสียอยางหลับหูหลับตา; ไมยอนเขามาขางใน ใหมองแลเห็นกิเลส ซึ่ง เปน ขา ศึก อัน แทจ ริง . นี ่เ รีย กวา กิเ ลสมัน ก็ไ ดเ ปรีย บอยู เ รื่อ ย ก็ห นา แนนขึ้นมาเรื่อย; มนุษยก็เปนผูที่ทนทุกขมากขึ้นไปอีกเรื่อย ๆ ไป และก็ ยั งไม ม องเห็ น วา เราจมอยู ในกองทุ ก ข . นี่ เราก็ จ ะต อ งเป น เพื่ อ นทุ ก ข คื อ เป น เพื่อนที่จะชวยกันแกไขความทุกข.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ขอ นี ้ก ็เ ปน เพราะวา คนถูก กิเ ลสหลอกหรือ ปด บัง ไวเ สีย หมด ไมใ หม องเห็น ขอ เท็จ จริง จึง ไมไ ดก ลัว ขา ศึก คือ กิเลส; แตไ ปกลัว คน คนซึ่ง เปนผูขัดขวางประโยชนอยางวัตถุ อยางของโลก ๆ อยูในโลกดวยกันทั้งนั้น เลย ไมเห็นวาตัวเองนี้เปนทุกข หรือวาทุกคนนี้มีความทุกข.
อยากจะเลาใหฟงสักนิดหนึ่งวา นักศึกษาชั้นศาสตราจารยที่เปนฝรั่ง มาจากยุโรป มารองทุกขที่นี่ วาเขาศึกษาพุทธศาสนาเปนที่พอใจอยางยิ่ง; แต
www.buddhadassa.in.th
การกลับมาแหงศีลธรรม
๑๗๐
พอบอกให เพื่ อ นนั ก ศึ กษาด วยกั น มาสนใจในพุ ท ธศาสนา, พวกเพื่ อ น ๆ ก็ ถ ามว า ศึกษาพุทธศาสนาทําไม ? อาจารยคนนั้นก็ตอบไปวา ศึกษาเพื่อจะดับทุกข ดับ ความทุกข: เพื่อน ๆ เขาพากันตบมือโหฮาปา หัวเราะใสหนาวา ศึกษาพุทธศาสนา เพื่อจะดับทุกข เพราะเขาไมรูสึกวา เขามีความทุกข ก็พูดกันไมรูเรื่อง. ศาสตราจารย ค นนั้ น อุ ต สาห ม าถึ ง ที่ นี้ เพื่ อ จะศึ ก ษาอะไรบางอย า ง, พรอมกับที่จะมาถามวา ถาเขาถามเราวาศึกษาพุทธศาสนาทําไม เราจะตอบเขา วา อยา งไรดี. ปญ หามัน เหมือ นกัน แมที่นี่ แมใ นเมือ งไทย ในหมู พ ุท ธบริษ ัท เรานี ่แ หละ ก็ไ มรูวา ศึก ษาพุท ธศาสนาทํ า ไม. ที่วา ศึก ษาพุท ธศาสนาเพื ่อ ดั บทุ กข นั้ น มั นวาตาม ๆ กั นไป คื อวาตามตั วหนั งสื อที่ สวดรองท องบ น แต ละคน ยังมิไดเห็นความทุกข ไมไดรูสึกวามีความทุกข. ทานทั้ งหลายที่ นั่ งฟ งอยูที่ นี่ ก็ ระวังให ดี กําลั งจะตกอยูในอาการอยางนี้ ก็ ได ; พวกพระเณรที่ นุ ง เหลื อ งห ม เหลื อ งเข า มาแล ว นี้ ก็ ดี อาจจะตกอยู ในสภาพ อยา งนี้ก็ไ ด คือ ไมม องเห็น ความทุก ข แลว มาศึก ษาพุท ธศาสนานี้เ พื ่อ ดั บ ทุ ก ข . เพราะฉะนั้ น มั น ไม จ ริ ง ไม จั ง ; แม จ ะเป น พระ เป น เณรก็ ยั ง ทะเลาะ วิ ว าทแก กั น และกั น ในระหว า งบุ ค คล; เพราะอํ า นาจของกิ เ ลสที ่ ทํ า ให ไมเห็นความทุกขนั้น.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org .... .... .... .... ขอให ส นใจในส ว นนี้ แ หละให เป น พิ เศษ ให เห็ น ความทุ ก ข ว า เป น อยา งไร, และใหเ ห็น วา เรากํ า ลัง จมอยู ใ นกองทุก ขนั ้น ในลัก ษณะอยา งไร, คือ กี่มากนอย; และ ใหรูสึกวาเราอยากจะพนจากความทุกขนั้นจริง ๆ.
www.buddhadassa.in.th
รากฐานของศีลธรรมอันดับสอง
๑๗๑
ถาจะเปรียบก็เหมือนกับวา เมื่อเราดํารงไปในน้ําเต็มกลั้นแลว เรา อยากจะโผลขึ้น มาใหพน น้ํา นั้น ; มัน อยากกัน กี่ม ากนอ ย กระทํา ความรูสึก ดูใ หม. กลับ ไปนี ่ไ ปมุด ลงไปในน้ํ า ในคลองก็ไ ด; พอเต็ม กลั ้น แลว คํ า นวณ ดูความรูสึกวา มันอยากจะผุดโผลขึ้นมาใหพนน้ํานี่ มันอยากสักกี่มากนอย. หรื อ จะคํ า นวณดู อี ก อย า งหนึ่ ง ว า มี ค นจั บ เรากดลงไปในน้ํ า แช อ ยู อย า งนั้ น ; แล วเราอยากจะขึ้ น มาให พ น จากน้ํ า นั้ น สั ก กี่ ม ากน อ ย, มี ค วามอยาก กี่ ม ากน อ ยไปคํ า นวณดู , แล ว ก็ ไ ปทํ า จริ ง ๆ ดู จะรู สึ ก ว า มั น ต า งกั น มาก. การ คํ า นวณ มั น คํ า นวณอยู ใ นที่ ไม ถู ก กดอยู ในน้ํ า คํ า นวณมั น น อ ยเกิ น ไป; ต อ งไป คํ า นวณด ว ยการที่ จ มอยู ในน้ํ าจริง ๆ และมั น หายใจไม อ อก มั น จะตาย, และมั น อยากจะขึ้นพนน้ําจริง ๆ มันมีเทาไร. ที นี้ ก็ คํ า นวณดู ต อ ไปว า ถ า ใครมาทํ า กั บ เราอย างนี้ เราควรจะโกรธ เขาสั กเท าไร ? เราควรจะถื อวาเขาเป นศั ตรูกั บ เรากี่ มากน อ ย ? เราควรจะโกรธคน ที่จับเรากดลงไปในน้ํา ไมใหผุดขึ้นมาจนเราจะตายนั้น เราควรจะโกรธเขาสักเทาไร. นี่คือเกลียดกิเลสสักเทาไร.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ถ า เรารู ข อ นี้ แ ล ว จะไม ย ากเลย ในการที่ จ ะเข า ใจคํ า ว า “ความทุ ก ข ” และก็ จ ะเข า ใจการที่ เราทุ ก คนจมอยู ใ นกองทุ ก ข หรื อ ว า เพื่ อ นทุ ก ข ด ว ยกั น และ กัน . พูด ในทางจิต ใจ หรือ ทางพระศาสนาแลว เพื ่อ นสุข นั ้น เกือ บจะไมม ี หรือ ไมม ีค วามหมายอะไร; เพราะวา ความทุก ขม ัน มากกวา . ภาวะของความทุก ข นั ้น มีม ากกวา : เปน ทุก ขด ว ยกัน เปน เพื ่อ นทุก ขด ว ยกัน มัน มาก มากจน
www.buddhadassa.in.th
การกลับมาแหงศีลธรรม
๑๗๒
ลน ไปหมด ไมม ีโ อกาสเปน เพื ่อ นสุข ; จนกวา เมื่อ ไร จะปฏิบ ัติธ รรมสํา เร็จ บรรลุมรรคผลขั้นใดขั้นหนึ่ง จึงจะคอยพูดกันถึงเรื่องความสุข หรือมีเพื่อนสุข. นี้ ต อ งเล็ งถึ งพระอริย เจ า โดยเฉพาะพระอรหั น ต เป น อย างยิ่ งเท านั้ น ที่จะมานั่งมองกันวา เราเปนเพื่อนสุข; ถายังเปนปุถุชนธรรมดาแลว ไมมองเห็นใน แง ไ ห นว า จะเป น เพื่ อนสุ ข แก กั น และกั น โดยแท จริ ง นอกจากเพื่ อนสุ ข อยา งโงเ ขลาไปตามอํ า นาจของกิเ ลส. เพื ่อ นกิน เพื ่อ นเลน เพื ่อ นหัว เพื ่อ น คู ช ีว ิต ชีว า อะไรก็ต าม ที ่เ ขาพูด กัน นั ่น ลว นแตเ ปน เพื ่อ นทุก ขทั ้ง นั ้น ; ฉะนั ้น จึง ถือ วา ถา ยัง เปน ปุถุช นอยู ควรจะพูด วา เปน เพื่อ นทุก ขกัน นั่น แหละ ถูกตอง. ....
....
....
....
นี ้เ รา มองเห็น วา “สัต วทั ้ง หลายเปน เพื ่อ นทุก ข โดยเฉพาะ อยา งยิ่ง เพื่อ นเกิด แก เจ็บ ตาย” ซึ่ง เปน ผลของกิเ ลสทั้ง หลาย; ก็เ ปน อัน วา รูขอ เท็จ จริง ที่ลึก ซึ้ง สูง สุด อยา งยิ่ง เพื่อ เปน รากฐานแหง ศีล ธรรม. เพราะวา เมื ่อ เรารูเรื่อ งนี ้แ ลว หรือ เขา ถึง ความจริง อัน นี ้แ ลว เราเบีย ดเบีย นกัน ไมล ง : จะทํ า ปาณาติบ าต ฆา กัน ก็ไ มล ง, จะทํ า อทิน นาทานลัก ของเพื ่อ น กัน ก็ไมล ง, จะลว งเกิน ประทุษ รา ยของรัก ของผู อื่น ก็ทํ า ไมล ง, จะโกหกกัน ก็ทํ า ไมลง อะไรก็ลวนแตทําไมลง; เพราะวากําลังกลัวตอความทุกข.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org เมื่ อ มองเห็ น ว า ชี วิ ต ทั้ ง หลายเป น ทุ ก ข , เป น เพื่ อ นทุ ก ข ; มั น ก็ เกิ ด ความโลภไมไ ด เกิด ความโกรธไมไ ด แลว ก็ห ลงใหลอะไรอีก ไมไ ด; เพราะวา
www.buddhadassa.in.th
รากฐานของศีลธรรมอันดับสอง
๑๗๓
มัน เขาถึงความจริงนี้ เสียแลว. นี้ ก็เลยป อ งกันการเกิด แห งความโลภ ความโกรธ ความหลง; คนก็มีศีลธรรมเพราะเหตุนั้น. นี่เราไดพูดกันไปเสร็จแลว. ขอทบทวนอย า งนี้ อี ก ครั้ง หนึ่ ง เพื่ อ สรุป ใจความให จํ า งา ย ว า รากฐานของศี ล ธรรมอั น แรกนี้ เราจะถื อ ว า ความจริ ง ที่ ว า “สั ต ว ทั้ ง หลาย เป น เพื่ อ นทุ ก ข เกิ ด แก เจ็ บ ตาย ด ว ยกั น ทั้ ง หมดทั้ ง สิ้ น ” นั่ น แหละ เปน รากฐานอัน แรก เปรีย บเหมือ นกับ แผน ดิน . ชว ยกัน บอกใหล ูก หลาน ทราบขอ นี ้ ใหเขาทอ งไวก อ นก็ย ัง ดีแ มจ ะไมเขา ใจวา มีอ ะไรสัก เทา ไร; ทอ งได ก็ยังดี ตอไปโตขึ้น เด็ก ๆ ก็พอจะเอาไปคิดนึกไดเอง ในบางเวลาบางโอกาสที่มี ความสลดสังเวช. ตรงนี้ อ ยากจะบอกให ท ราบว า บทมนต ทั้ งหลาย หรือ ว าบทธรรมะ อะไรก็ต าม ตามธรรมดา ก็ย ัง ไมเขา ใจความหมายลึก ซึ ้ง แตถ า จํ า ไวไ ด เปน การดี มันจะออกมาเปนความหมายที่ลึกซึ้ง เมื่อถึงโอกาส. เมื่อมีอะไรสบเหมาะ มั น จะเข า ใจถึ งความหมายอั น นั้ น , หรือ เมื่ อ ความทุ ก ข เกิ ด ขึ้ น สิ่ งนั้ น จะออกมา เปน เครื่อ งแสดงความดับ ทุก ข; นี ่ช ว ยกัน จํ า ไว สอนใหล ูก เด็ก ๆ ทอ งไว เปน ของศัก ดิ ์ส ิท ธิ ์ คุ ม ครองอยา งศัก ดิ ์ส ิท ธิ ์ไ ปกอ นก็ไ ด. ใหภ าวนาวา สัต วทั ้ง หลายเปน เพื่อ นทุก ข เกิด แก เจ็บ ตาย ดว ยกัน ทั้ง หมดทั้ง สิ้น แลว ก็ ไปแยกเอาเองวา มันจะมีอะไรเกิดขึ้น. นี่คือการบรรยายในครั้งที่แลวมา.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ที นี้ ท า นทั้ ง หลายก็ จ ะทราบได ทั น ที ว า รากฐานแห ง ศี ล ธรรมข อ นี้ กําลังขาดอยู หรือวาไมขาด ? คงจะตอบไดอยางเชื่อมันวา กําลังขาด.
www.buddhadassa.in.th
การกลับมาแหงศีลธรรม
๑๗๔
ไมมีใครคนไหนที่มานั่งทําความรูสึกวา “สัตวทั้งหลายเปนเพื่อน รวมทุกข เกิด แก เจ็บ ตาย ดวยกันทั้งหมดทั้งสิ้น” แมวามันมีอยูในบทสวด บทภาวนาที่ยังมีเหลืออยูบาง แตมันไมพอที่จะทําใหทุกคนรูสึกเชนนั้น. โดยเฉพาะ ในบานในเมืองที่มันกําลังยุงเหยิง ตอสูอยูดวยการแสวงหาผลประโยชนทางวัตถุ แล ว ไม มี โอกาสที่ จ ะรูสึ ก วา “สั ต วทั้ ง หลายเป น เพื่ อ นทุ ก ข เกิ ด แก เจ็ บ ตาย; มัน มีแ ต “เงิน ของกู ทองของกู ผัว ของมึง เมีย ของกู” ก็ไมม ีโอกาสที ่จ ะคิด วา ทุกคนนี่ มันเหมือนกันในขอนี้ คือเปนเพื่อนทุกขดวยกันทั้งหมดทั้งสิ้น. [ จบคําปรารภทบทวน ]
ทีนี้ก็มาถึง รากฐานขอที่ ๒ ของศีลธรรม. เราเคยกล า วว า ป จ จั ย ที่ ๒ ของต น ไม รองลงมาจากดิ น ก็ค ือ น้ํ า . ตน ไมศ ีล ธรรมจะมีอ ะไรเปน น้ํ า สํ า หรับ ทํ า ใหม ัน สดชื ่น ; ถา น้ํ า มัน ก็ต อ งตรงกัน ขา มกับ ไฟ. ถา ไฟก็ทํ า ใหแ หง ใหไ หม; ถา น้ํ า มัน ก็ต รงกัน ขา ม กับไฟ ก็คือไมแหง ไมไหม แตวาทําใหสดชื่น.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org นี ่เ ราก็เ หลีย วหาดูว า อะไรที ่จ ะเปน รากฐานทางศีล ธรรม ที ่พ อ จะเปรียบกัน ได กับ น้ํ า ที่ทํ าให ตน ไม มี ความสดอยู มี ชีวิต อยู. อยากจะให ทุ กคน ใชค วามคิด ของตัวเอง; ถาบอกใหเสีย เรื่อ ยไป ไมตอ งใชค วามคิด กัน แลว ก็ค ง จะเปนคนที่คิดอะไรไมเปน.
ถาม : ขอถามทานทั้งหลายที่นั่งอยูตรงนี้ ๔ ทานนี่วาลองวามากอนวา ธรรมะ ขอ ไหนที ่เ ปน รากฐานของศีล ธรรม ? ขอ ไหนที ่พ อจะเปรีย บกัน ไดก ับ คําวาน้ํา ซึ่งเปนปจจัยของตนไมตามธรรมดา ? คุณประยูรกอน.
www.buddhadassa.in.th
รากฐานของศีลธรรมอันดับสอง
๑๗๕
ตอบ : ความหมายของน้ํา ตามปจจัยของตนไม ก็สําหรับละลายอาหาร หรือเปนสื่อ นําอาหารในแงของทางวัตถุ ก็เปนสื่อ นําอาหารไปเลี้ย ง ทั่ว ไปของตน ไม. ทีนี้ใ นคุณ ธรรม ตน ไมข องศีล ธรรมในที่นี้ ผม ใครอ ยากจะเอาตัว สติม าใชเ ปน น้ํา สํา หรับ จะไดนํา เอาคุณ ธรรม ตาง ๆ มาใชใหทันทวงทีตามทุกกรณี ชีวิตจะสดชื่นอยู เพราะชีวิต นั้นมีสติครับ ถาไมมีสติแลวก็เหี่ยวแหง. ถาม : คุณทอง วาอะไร ? ตอบ : คุณธรรมความดีงาม เปนสิ่งที่เปรียบไดกับน้ํา ที่จะหลอเลี้ยงจิตใจ ของมนุษยใหเปนผูที่มีความเปนอยูอยางสดชื่น, และเปนรากฐานที่ จะทําใหมนุษยนี้มีความรูสึกวา เราตางก็รวมเกิด แก เจ็บ ตาย ดวย กันทั้งหมดทั้งสิ้น.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ถาม : สรุปสั้น ๆ วาคืออะไร ไดแกอะไร คุณธรรมนั้น ชื่ออะไร ? ตอบ : ความเมตตากรุณา.
ถาม : คือความเมตตากรุณา, คุณล้ํา?
ตอบ : คุณธรรมทางศีลธรรม ที่เกี่ยวกับตนไม ที่จะเปรียบกับน้ําที่เลี้ยงตนไม ก็คือ หิริ โอตตัปปะ คือความละอายกับความกลัวครับ. ถาม : คุณชวน ? ตอบ : กระผมมีความเห็นเหมือนคุณทองครับ คือเมตตากรุณา.
www.buddhadassa.in.th
๑๗๖
การกลับมาแหงศีลธรรม
คนหนึ่งตอบวา สติ จะเปนเหมือนน้ํา ก็ถูกไมผิดหมดหรอก. คนหนึ่ง วา เมตตา ก็มีความหมายถูกเห็นไดชัด. คนหนึ่งวา หิริโอตตัปปะความละอาย บาป กลัวบาป มั นก็พ อจะเป นรากบานของศีลธรรมได. แตเดี๋ยวนี้ อยากจะให เปนวา ทุกคนกลาวตามความรูสึกของตัว เราไมจําเปนจะตองกลาวเหมือนกัน คือไมตองตรงกันทุกคน เพื่อจะทดสอบดูวา ใครเคยคิดกันอยางไร. ทีนี้ ทางฝายอาตมาจะออกความคิดบาง ก็มีอิสระที่จะออกความคิด ไปตามความคิดของตัว; ถาออกมาไมเหมือนกัน มันก็ไมตองผิด เพราะมันถูกได ทุกคน แตเรียกวาตามมากนอยก็ได หรือจะเรียกวาตามที่มันจะเปนประโยชนแก สังคมในยุคนี้มากหรือนอยกวากันก็ได. ถ า หากว า จะมี ก ารแนะให เห็ น ว า ความคิ ด อั น ไหนของผู ใ ดยั ง ไม สมบูร ณ ก็อ ยา โกรธ, อยา เพิ ่ง โกรธ; โดยมากพอไดร ับ คํ า ทัก ทว ง หรือ คํ า ปฏิเ สธ วา ไมถูก แลว ก็มัก จะโกรธ, แลว ก็โ กรธจริง ๆ นั้น แหละมากกวา . ในบานในเมืองก็มีปญหาอยางนี้ ในวัดในวาก็มีปญหาอยางนี้, พอแมทักทวงลูก ก็ไมได, อุปชฌายอาจารยทักทวงลูกศิษยก็ไมได; เพราะมันโกรธเสียแลวและก็ ไมไ ดป ระโยชนอ ะไร และยิ ่ง มีม านะถือ ตัว แรงขึ้น อีก , และตอ ไปก็ยิ ่ง ทัก ทว ง ยากขึ้น อีก. ยิ่งทักทวงก็ยิ่งมีม านะขึ้นไปอีก ฉะนั้น จึงเจริญ ดวยมานะ ความ ลมเหลวมันอยูที่นี่ ความลมเหลวของการที่ไมงอกงามเจริญกาวหนาไปตามทางแหง พระศาสนานั้น มันอยูที่นี่.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ขอใหเปน อัน วา เราไมม ีค วามรู ส ึก อัน นี ้ จึง ควรจะวิจ ารณก ัน ได และถามีการเสนอที่แปลกออกไป ก็ควรจะรับฟงดวย.
www.buddhadassa.in.th
รากฐานของศีลธรรมอันดับสอง
๑๗๗
ถา จะพูด วา สติม ัน ก็ม ีส ว นถูก ; แตว า โดยทั ่ว ๆ ไป คํ า วา สติ ถูกใชในลักษณะเปนเครื่องมือ เครื่องนําเสียมากกวา และมีความหมายกวางไปได ทุกสิ่งทุกอยางที่เปนประโยชน. เราควรจะมองสิ่งที่จํากัดกวานี้. เมตตาเปน เหมือ นน้ํ า นี ่ก ็ถ ูก ตามสํ า นวนโวหาร ที ่ก ลา วกัน อยู ทั่วไปในโลกนี้ หรือวาในยุคพุทธกาลในประเทศอินเดีย ก็ดูจะใหความหมายของ เมตตานี ้วา เย็น เหมือ นกับ น้ํ า ; แตวา มัน เปน ไปในทางเย็น ไมใ ชเ ปน ไปใน ทางหลอเลี้ยงใหสดชื่น หรือเปนสื่อนําอาหารอยางที่เรามุงหมาย ฉะนั้น จะยกเอา ไปไวในอันดับตอไป จะเอาอันดับที่ใกลชิดกวานี้ จะวาอะไร ก็คอยฟง. สํ า หรับ หิ ริและโอตตั ป ปะนี้ เป น ธรรมะที่ อ ยู ในฐานะเป น เครื่อ งมื อ เหมือนกัน , เปนเครื่องมือที่จะนํามาซึ่งสิ่งอื่น, เป นธรรมะที่จะนําธรรมะอื่นมา. คนมี ความละอายบาป มี ความกลั วบาป แล วก็ ประพฤติ ธรรมะ อย างใดอย าง หนึ่งเพราะอํานาจของความละอายบาป หรือกลัวบาป; จะวาเปนน้ําในที่นี้ ก็ได ความหมายถูกในบางสวน. เอาเปนอันวา ไดฟงความคิดเห็นที่อยูกันคนละระดับ หรือคนละทิศทาง พอเปนเครื่องพิจารณาตอไป.
www.buddhadasa.in.th ความไมเปนทาสของอายตนะ www.buddhadasa.org ทีนี้ก็อ ยากจะเปด เผยความเขาใจของตนเองบาง ปจ จัย หรือ ราก ฐานของศี ล ธรรมส ว นที่ ส อง ที่ จ ะเปรี ย บกั น ได กั บ น้ํา นั้ น . อาตมา อยากจะระบุไปยังสิ่งที่เอยถึงแลวๆ เลาๆ บอยๆ หลายครั้งหลายหน แลวก็ยัง จํากันไมได พอพูดออกมาก็รูทันทีวา ไดพูดกันมากี่ครั้งกี่หนแลว ๆ เลา ๆ อยางไร. ขอนั้นคือ ความไมเปนทาสของอายตนะ.
www.buddhadassa.in.th
๑๗๘
การกลับมาแหงศีลธรรม
ถาจะจดหรือจะจํา ก็จดเปนคําสั้น ๆ ประกอบดวยภาษาบาลีอยางนี้ไว ก็ด ี เพราะมัน กะทัด รัด ดี วา “ความไมเ ปน ทาสอายตนะ”. อายตนะ คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ เปนที่ตั้ง เปนประตู เปนที่ติดตอหรืออะไรก็ตาม กับ อารมณ ภายนอก คือ รูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ ธัมมารมณ แลวมันก็ทําให เกิดอัสสาทะขึ้นมา อยางใดอยางหนึ่งเปนธรรมดา, คือเปนเหยื่อที่ลอใหพอใจ. ถ า เราเป น ทาสของอายตนะ ก็ คื อ หลงใหลในรส ในอั ส สาทะอั น อรอยของอายตนะ; หมายถึงอายตนะภายใน อายตนะภายนอก ถึงกันเขาแลว มีผ ัส สะ มีเ วทนา เปน อัส สาทะ. จะตอ งดูใ หเ ห็น วา โลกปจ จุบ ัน นี ้เ ปน ทาส ของอายตนะรุน แรงยิ่ง ขึ้น ; อาชญากรรมทั้ง หลาย เกือ บทั้ง หมดมาจาก การที ่เ ปน ทาสของอายตนะ แลว จึง ไปประกอบอาชญากรรมนั ้น ; เพราะ ฉะนั ้น การเปน ทาสของอายตนะนั ้น มัน ก็เปรีย บคลา ยกับ ไฟ รอ นและไหม; ตรงกันขามจึงจะเปนน้ํา.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ไม เ ป น ท า ส ข อ ง อ า ย ต น ะ จึ ง จ ะ เป น น้ํ า เย็ น ห ล อ เลี ้ ย ง สภ าพ ชี ว ิ ต ; เป น ทาสของอายตนะ คื อ ตา หู จมู ก ลิ ้ น กาย ใจ; เกี่ยวกับรูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ ธัมมารมณ.
เดี ๋ย วนี ้ค นในโลกนี ้ก ็เ ปน ทาสของ ตา หู จมูก ลิ ้น กาย ใจ; แต ใ จนั้ น ไม ต อ งพู ด ถึ ง เพราะจะเห็ น ได ชั ด ว า ไปรุ น แรงอยู ที่ ก ารเป น ทาสของ อายตนะทางผิว หนัง คือ ทางกาย หรือ ทางโผฏฐัพ พะ, ระบุล งไปตรง ๆ วา เรื่องของกามารมณ ระหวางเพศตรงกั น ข าม. ส วน รูป เสี ย ง กลิ่ น รส นั้ น มั น เปนเพียงอุปกรณชวยเหลือเรื่องนี้เสียมากกวา.
www.buddhadassa.in.th
รากฐานของศีลธรรมอันดับสอง
๑๗๙
แมจะแยกออกไปเปนแตละอยาง ๆ ก็ไมรุนแรงเทากับเปนทาสของ อายตนะในทางผิวหนัง คือสัมผัสในทางผิวหนัง และ โดยเฉพาะเรื่องระหวาง เพศ และสิ่งที่แวดลอมเกี่ยวของอื่น ๆ ซึ่งเปนอุปกรณของการประกอบกรรมทาง เพศ. เมื่อกําลังเสียวกระสันอยูดวย รสทางอายตนะนั้น มัน เปน ไฟที่เผา ผลาญอยางยิ่ง ; แตค นไมคอ ยรูสึก ตรงตามที่เปน จริงวาเปน ไฟ. เขาไปเห็น เปนความเอร็ดอรอย ก็เลยเปนสิ่งที่นารัก นาพอใจไป ไมมองเห็นวาเปนไฟ. ถ า ถื อ ตามหลั ก ทางพระศาสนา มาแต โ บราณก อ นพุ ท ธกาล ก็ไ ด : คนมีค วามรูสึก เสีย วกระสัน ในรสทางอายตนะทีไ ร ก็เ กิด ไฟกิเ ลส ชนิดหนึ่งขึ้นแผดเผา ใหชรา ใหรอยหรอไปครั้งหนึ่งเสมอไป; แลวจะตองหา มาทดแทน ชดเชย เสริมเติม เขาไวอีก สําหรับจะเปนเหยื่อของไฟ คือกิเลสนี้ ทุก ๆ คราวไป; เปนทาสของอายตนะทีไร ก็จะเกิดไฟขึ้นเผาผลาญชีวิตใหชรา ในภายใน อยางนี่เรื่อยไป ทุกคราวที่เปนทาสของอายตนะ, จะเปนเอร็ดอรอย ทางตาก็ได อรอยทางหูก็ได ทางจมูกก็ได ทางลิ้นก็ได ซึ่งเปนของไมรุนแรงนัก; แตถึงอยางนั้นก็เปนไฟ.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ไปคิดดูเถอะ แมแตเอร็ดอรอยทางลิ้น เกี่ยวกับอาหารนี่; เรามั น อรอ ย เราก็ไ มรูส ึก วา มัน เปน ไฟ, มัน เปน ไฟเปย ก มัน เปน ไฟเย็น ไฟที่ ซอ นเรน มันก็เผาผลาญ. เปน ทาสของความอรอ ยทางลิ้น เปนไฟเผาจิต ใจ เทาไร ไปคิดดูกอน.
ถา เปน เรื่อ งสัม ผัส ผิว หนัง ระหวา งเพศตรงกัน ขา มแลว เปน ไฟอย า งยิ่ ง ยิ่ ง ไปกว า นั้ น อี ก มากมาย, เป น ไฟเผาให ชํา รุ ด ทรุ ด โทรม
www.buddhadassa.in.th
๑๘๐
การกลับมาแหงศีลธรรม
ลงไปในขณ ะนั ้น ซึ ่ง จะตอ งหาอะไรมาชดเชยมาก มากกวา ทางอายตนะ อื่น ๆ จึงจะฟ นคืนเขามาเปนชีวิตตามธรรมดา สําหรับจะเปนเหยื่อไฟในการกระทํา ครั้งตอไปอีก. ฉะนั ้น ขอใหจํ า ไวสํ า หรับ ไปคิด ดูว า ที ่ม ัน ไมใ ชไ ฟ มัน ตอ งตรง กั น ข า ม คื อ ความไม เ ป น ทาสของอายตนะ ไม เ ป น ทาสตา ไม เ ป น ทาสหู ไมเปน ทาสจมูก ไมเปน ทาสลิ ้น ไมเปน ทาสสัม ผัส ผิว หนัง และไมเปน ทาสใจ. ใจในที่ นี้ คื อ ใจที่ ป ระกอบอยูด วยกิ เลส อวิชชา สํ าหรับ จะไปหลงไหลธัม มารมณ อยา งนั ้น อยา งนี ้. จํ า คํ า คู ไ วว า เปน ทาสของอายตนะ และก็คํ า วา เปน นายเหนืออายตนะ. เราต อ งการความเป น นาเหนื อ อายตนะ จึ ง จะสดชื่ น , พอเป น ทาส ของอายตนะจะเหี ่ย วแหง ; พูด เชน นี ้บ างคนอาจจะเขา ใจความหมายไดท ัน ที ไม ม า ก ก็ น อ ย . พ อ เป น ท า ส ข อ ง อ า ย ต น ะ แ ล ว ก็ จ ะ เห มื อ น กั บ ถู ก เผ า และจะเหี ่ย วแหง อยา งนอ ยก็ในภายใน กระทั ่ง ออกมาทางภายนอก ไมส ดชื่น ; แต เพราะว า มี อั ส สาทะ คื อ ความเอร็ด อรอ ย, เอร็ด อรอ ยซึ่ ง เขาเรีย กวา เหยื่ อ นั้ น หลอกเขาไวอ ยางรุนแรง คนก็ย อมเป น ทาสของอายตนะ, เป น ธรรมดาสามั ญ ใน โลกของปุถุชนคนธรรมดาทั่ว ๆ ไป.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org สัต วเ ดรัจ ฉานก็เ ปน ทาสของอายตนะแตม ัน ชั ่ว ครู ชั ่ว ขณ ะ หรือ แวบเดี ย ว วู บ เดี ย ว; ส ว นคนนี ้ ม ั น เก ง มั น คิ ด เก ง มั น ระลึ ก ได มั น จํ า ได และมัน คิด แตกงอกงามออกไปได; คนจึง เปน ทาสของอายตนะ อยา งยืด เยื ้อ เรื้อ รัง เปน ชั ่ว โมง เปน วัน เปน เดือ น เปน ป หรือ ตลอดเวลา
www.buddhadassa.in.th
รากฐานของศีลธรรมอันดับสอง
๑๘๑
ก็ไ ด, แลว ก็ไ ปหามาสะสมเขา ไว สํา หรับ จะไดเปน ทาสของอายตนะใหห นัก ใหยิ่งขึ้นไป และใหนาน ใหยาวมากขึ้น. ฉะนั้น ไปดูใ นบา นเรือ น หรือ แมใ นวัด วา ในกุฏ ิข องพระของเณร ก็ได วามีอะไรบางที่วางอยูเกะกะ ๆ นั้น ที่มันสงเสริมความเปนทาสของอายตนะ ที่เราไมเคยรูสึก ไมเคยคิด กลัว ; แลว ไปดูซิ จะไดรูส ึก จะไดรูวา มัน เปน สิ่ง ที่ นากลัว; ลวนแตเอามาสงเสริมความเปนทาสของอายตนะ เราจึงยากที่จะเปน นายเหนืออายตนะ. เมื ่อ แบง ออกเปน หมวดวัต ถุห รือ ทางรูป ธรรม ก็ค ือ รูป เสีย ง กลิ ่น รส สัมผัส, นี่พวกหนึ่งอายตนะฝายรูปธรรม. ที นี ้ อายตนะฝ า ยนามธรรม ก็ ค ื อ ใจ กั บ ธั ม มารมณ ; นี ่ ก็ อีกฝายหนึ่งเปนเรื่องใจ ที่ไมเกี่ยวกับเรื่องวัตถุ ถึงแมวา ครั้งแรกมันมีการตั้งตนไป จากวัตถุ แตแลวมันไปอยูที่จิตใจ สะสมไวเปนเรื่องทางจิตใจ ไมตองเกี่ยวของ กับวัตถุ มันก็ทําหนาที่ของมันได เพราะฉะนั้น เราจึงมีความรูสึกคิดนึกที่เลวรายได โดยประการตา ง ๆ โดยเหตุที ่ส ัก วา คิด นึก ขึ ้น มาเทา นั ้น แหละ. นั ่น ก็เปน จิต หรือ ใจ, มโน ได ธัม มารมณ ตามที่มัน สะสมไว สํา หรับ เปน ทาส, สํา หรับ ทําใหคนคนนั้น ใหเจาของของมันนั้นเปนทาส: เดี๋ยวก็เปนทาสแหงความโกรธ, เดี๋ยวก็เปนทาสแหงความรัก, เดี๋ยวก็เปนทาสแหงความกลัว ความเกลียด ความ อิจฉาริษยา มานะ ทิฏฐิ เยอหยิ่ง จองหอง ลวนแตไปเปนทาสของธัมมารมณ เหลานี้, เปนทาสทางนามธรรม ก็รายกาจไปตามแบบของนามธรรม.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org
www.buddhadassa.in.th
๑๘๒
การกลับมาแหงศีลธรรม
ส ว น ทางรูป ธรรม คื อ ตา หู จมู ก ลิ้ น กาย ก็ ไปหนั ก อยู ที่ ก าย เพราะขยายออกไปถึงโผฏฐัพพะทางเพศตรงกันขาม; แตจะเปนทางรูปธรรม ทางนามธรรม ก็ตามเถอะ เปนไฟทั้งนั้นแหละ. เมื่ อ ตกลงเป น ทาสของอายตนะเท า ไร, หรื อ เมื่ อ ไร, ก็ เ ป น ไฟเท า นั้ น หรื อ เมื่ อ นั้ น ; ฉะนั้ น จึ ง เห็ น ว า ความไม เ ป น ทาสทางอายตนะ นี่แหละ คือเปนสิ่งที่จะเปรียบไดกับความสดชื่นของน้ําหลอเลี้ยงชีวิตใหสดชื่นอยู. อยา เปน ทาสของอายตนะเลย ชีวิต นี ้จ ะสดชื่น เหมือ นกับ ถูก รด ดวยน้ํา ที่เย็นอยูเสมอ, แลวก็จะเปนสื่อนําสิ่งที่ดีงามออกไปตามทิศทางตาง ๆ และถา เราไมเปน ทาสของอายตนะแลว เราก็จ ะมีก ารประพฤติก ระทํา การ พูดจา หรืออะไรก็ตามที่ถูกตอง ทุกทิศทาง ทุกกระแส. ถาม
: ทีนี้ เกณฑใหมองและใหตอบ. เมื่อเราไมเปนทาสของอายตนะแลว จะกําจัดโลภะ โทสะ โมหะ ไดอยางไร, หรือจะปองกันโลภะ โมหะ โทสะ ได อยางไร, ยกตั วอยางป จจุบั น และไม ใชคาดคะเน. ไม เป น ทาสของอายตนะ ปองกันและกําจัดความโลภไดอยางไร? คุณประยูร.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ตอบ : เมื่อเราไมเปนทาสของอายตนะ ก็หมายความวา ไมหลง เพลิดเพลิน ยินดีในรูป รส กลิ่น เสียง เชนนี้แลว เราจะหา จะทําสิ่งตางๆก็จะ ทํ า ดว ยอีก แบบหนึ ่ง ; จะเปน ปญ ญา รูจ ัก ทํ า แตค วามพอดีขึ้น ; เอามาใชแตความจําเปน มันจะไมทําใหมีสวนเกินแบบโลภ จนหนัก สมอง. มัน จะมีป ญ ญาเกิด ขึ้น เพราะเราไมไ ดห ลงติเ อามาเปน ทาสของตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ตาง ๆ, ไมหลงติดในความสนุกสนาน
www.buddhadassa.in.th
รากฐานของศีลธรรมอันดับสอง
๑๘๓
เพลิด เพลิน ใน รูป รส กลิ่น เสีย ง. เมื่อ เราไมหลงติด เราก็ทํา แต พอดี. นี่ครับหลังใหญมีเทานี้ มันก็ตัดขอโลภไปไดขอหนึ่งแลว. ถาม : เอา , ทีนี้ เมื่อ ไมโ ลภแลว จะไดทํา สิ่ง ที่เ ปน ความไมโ ลภ ใหก วา ง ออกไปไดอ ยา งไร ? คุณ ทองวา . จะชว ยเหลือ ผู อื ่น ชว ยเหลือ โลก มนุษยไดตอไปอยางไร เมื่อตัวเองมันไมโลภแลว ? ตอบ : หากวาไมเปนทาสของอายตนะเสียเอง คือเราหมดเสียซึ่งความโลภ แลว ยังจะแผสวนที่มีจําเปนเฉพาะตัวใหกับ คนอื่น ก็เปนการชวยสง เสริมใหชีวิตอื่นเปนสุขขึ้นมาได. ถาม : นั่นแหละเราอยากจะใหมองเห็นวา คนในโลกนี้ปจจุบันนี้ โดยเฉพาะใน บ า นในเมื อ ง ที่ เขาว า เจริ ญ กั น นั ก นั้ น มั น ไม ช ว ยเหลื อ คนอื่ น โดย บริส ุท ธิ์ใ จเลย; ไมใ ชก ารชว ยเหลือ ที ่แ ทจ ริง เปน การชว ยเหลือ หลอก ๆ, เชนทําเอาหนานี่ เราไมเรียกวา ชวยเหลือ ; คนเหลานั้น ไมชวยเหลือคนอื่น เพราะวาเขากําลังเปนทาสของอายตนะ ยังไมอิ่ม. ใชไหม ? คนที่มันไมชวยคนอื่นนั้น เปนทาสของอายตนะ ยังไมอิ่ม. แลวเมื่อไรมันจะอิ่มอิ่ม จนพอที่จะไปชวย คนอื่นได ?
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ตอบ : ในเมื่อเขายังไมเบื่อหนาย หรือยังไมพนไปจากความเปนทาส ความ ที่จะอิ่มที่จะพอนั้นยอมไมมี. ถาม : เพราะฉะนั้นเราจะไปรอใหคนที่เปนทาสของอายตนะหมดโลก และชวย ผูอื่น นั้น มัน เปน ไปไม ได. เราจึง ถือ วา เปน สิ่งที่จ ะตอ งแกไข เพื่อ จะใหมันไมโลภ และมันมีเหลือสําหรับชวยผูอื่น.
www.buddhadassa.in.th
การกลับมาแหงศีลธรรม
๑๘๔
ทีนี ้ เมื ่อ ไมเปน ทาสของอายตนะแลว จะปอ งกัน หรือ แกไ ข โทสะ หรือ ความโกรธ ไดอ ยา งไร ? คุณ ล้ํา วา ที เมื่อ ไมเ ปน ทาส ของอายตนะแลว จะปองกันความโกรธ โทสะได อยางไร? ตอบ : เมื่อไมเปนทาสของอายตนะ ก็จะเกิดความรูถึงความเสงี่ยมของตัวเอง แลว ก็เห็น ทุก ขข องผูอื ่น . การเห็น ทุก ขข องผู อื่น นี ่ เปน อัน หนึ ่ง ที ่จ ะ มองถึงความพอดี ถึงปฏิปทาของคนทั่วไป. ถาม : คุณชวนยกตัวอยางคนที่เปนทาสของอายตนะแลวโกรธมาดู. ตอบ : กระผมยังไมแจมแจงในคําถามครับ. ถาม : วาเมื่อเราเปนทาสของอายตนะ ของตา หู จมูก ลิ้น กายแลว เกิดความ โกรธขึ้นมา ฆาฟนคนอื่นไดเชนอยางไร ? มีอยูทั่วไปตามทุงนา ในบาน ในเมือง ในอะไร ทั่วไปทั้งโลก.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ตอบ : สมมตินะครับ.
ถาม : ไมสมมติซิ, ตองพูดจริง อยาสมมติ.
ตอบ : เมื่ อ มี ค นมาล ว งเกิ น ของรัก ของใครข องเรา ก็ เกิ ด ความโกรธขึ้ น มา เลยทําใหฆาฟนเขาได.
www.buddhadassa.in.th
รากฐานของศีลธรรมอันดับสอง
๑๘๕
ถาม : นั่น แหละ มัน ฆา เขาก็ไ ด เพราวา เรารัก ของเรา. เอาอยา งนี ้ดีก วา เอาลู กเด็ ก ๆ ในโรงเรียนของคุ ณ มั นทะเลาะวิวาทกั นอยู บ อย ๆ มั นเป น ทาสของอายตนะขอ ไหน ? อยางไร ? คุ ณ ลองวามาดู ซิ ไม ส มมติ น ะ. เอาเรื่อ งที่โรงเรีย นของคุณ จริง ๆ มัน ทะเลาะชกตอ ยกัน เด็ก คูนั้น ,คน นั้ น , มั น เป นทาสของอายตนะอย างไร ? คุ ณ จะได เขาใจ. เด็ กชกตอย กันในโรงเรียน มีอยูเปนประจํา นี่ เพราะมันเปนทาสของอายตนะอยางไร ? แงไหน ? ตอบ : สวนใหญในแงของความคิดเห็นผิดกัน เถียงหรือละเมิดสิทธิกันและกัน. ถาม : คนที่ไปลวงละเมิดสิทธิของผูอื่นนั้น เปนทาสของอายตนะอยางไร ? ตอบ : คือความอยากไดของของผูอื่น.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ถาม : แลวมันจะไปโกรธกันอยางไร ความอยากได ? มันตองไมไดตามที่มัน อยากนั่ น มั นจึงจะโกรธ; แลวความที่ มั น ไม ได ตามที่ อยากนี่ มัน เป น ทาสของอายตนะอยางไร ? เอา, ถายังนึกไมออก ? ถาคุณทองนึกออก วา มากอ น เรื ่อ งจริง ในโรงเรีย น เด็ก มัน ชกตอ ยกัน นะ ในแงไ หน บ าง ? เป นทาสอายตนะอยางไร ? เรื่อ งมี ทิ ฏ ฐิม านะเห็ นหน ากัน แล ว ชอบหนา แลว ชกตอ ยกัน ก็เปน ทาสของอายตนะ แตมัน ชั้น สูง . เอา ใหต่ํากวานั้น.
ตอบ : เด็ ก ที่ แ ย ง ที่ เล น กั น หรื อ แย ง ของเล น ซึ่ ง กั น และกั น อย า งที่ เรี ย กว า แยงสิทธิกัน.
www.buddhadassa.in.th
๑๘๖
การกลับมาแหงศีลธรรม
ใช คํ าวา “สิ ท ธิ” มั น กวาง มั น สู ง; วาให ซั ด ลงไปซิ วามั น แย งอะไรกั น บาง ละ ที ่ม ัน ชกตอ ยกัน ในโรงเรีย นนะ . นี ่ถ า เราไมเ ขา ใจขอ นี ้ แลว เราก็ค ง จะไม ส ามารถสรางสรรศี ล ธรรมให กลั บมาในโรงเรียนของเราได. เด็กโกรธขึ้น มา เพราะไมไดอยางใจ ความไมไดอยางใจนั่น เพราะวามันอยากอะไรอยูอยางหนึ่ง ถึ ง ขนาดที่ เป น ทาสของอายตนะ; แล วเมื่ อ มั น ไม ได อ ย างที่ มั น อยาก มั น ก็ โกรธ. ถามันไมเปนทาสของอายตนะ มันก็ไมตองอยาก; เพราะมันตองการเทาที่ควรจะ ตอ งการ. ไมเ ปน ทาสของอายตนะมัน ก็ไ มโ กรธ; ถา มัน โกรธ มัน ก็เ ลย ความพอดี หรือความเหมาะสมมัน จึงตอ งโกรธ. นี่เราถือวาโรงเรียนเปนพื้ น ฐาน เบื้ อ งต น สํ า หรับ สรา งอุ ป นิ สั ย ใจคอของมนุ ษ ย ; เราต อ งรูเรื่อ งนี้ อย า ให เขาเป น ทาสของอายตนะหนัก ขึ้น ๆๆ. เด็ก ๆ ยังไมม ีเรื่อ งชูส าว หรือ เรื่อ งทางเพศอะไร นัก มัน ก็ยัง ทะเลาะกัน แกง มัน มีอ ะไร; ถามัน โตขึ้น มีเรื่อ งทางเพศ ทางชูส าว ก็ยิ่งรุนแรงมากขึ้น เปนทาสของอายตนะขนาดหนัก ความโกรธมันก็หนักไปตาม. [ ความเปนทาสอายตนะระดับโลก ]
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ถาม : ทีนี้ มองทั้งโลกดีกวา โลกระหวางซีกโลก คนละครึ่งโลกนี่แหละ มันคิดจะทําลายลางกันดวยความโกรธ ความอาฆาต; เพราะวาแตละ ซีกโลกนี้ มั นเป นทาสของอายตนะ จริงไหม ? ถาจริงยกตั วอยางมาทีวา เชนอะไร ?
ตอบ : ปญหาทางสองซีกโลก ที่ตองการกัน ก็เนื่องจากเปนทาสของอายตนะ หรือ หลงติด ในความสุข ทางเนื ้อ หนัง ; แปลอีก ทีก ็ว า สุข จากการได สัมผัสทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ, แลวเขาเพลิดเพลิน แลวสบายใจ; นี่คือสุขจากวัตถุ. เดี๋ยวนี้ก็พู ดคําวา วัตถุนิย มได หลายคําครับ เพราะ
www.buddhadassa.in.th
รากฐานของศีลธรรมอันดับสอง
๑๘๗
เปน วัต ถุน ิย มดว ยกัน ทั ้ง นั ้น ยื ้อ แยง กัน ในความสุข ทางเนื ้อ หนัง ดว ย กัน ทั ้ง นั ้น ; ทั ้ง สองฝา ยจึง ทะเลาะกัน คือ ฝา ยหนึ ่ง ฝา ยนายทุน ฝา ย ผูมีเงิน ก็อยากจะมีเรื่อย ๆ ๆ เพลิดเพลินในการมีเงิน, เพลิดเพลินในการได ใช เงิน ให มั น เต็ ม ที่ ข องตั ว เอง ในการหาความสุ ข เป น ต น ว า เที่ ย วรอบ โลก ใครมีเงินมาก ก็เที่ยวมาก และใชมากกินมาก สรางบ านแขงเทวดา. ตัว อยา งที ่เห็น ๆ นั ่น แหละ คือ ความสุข ที ่ห ลงติด ในอายตนะของพวก มีเงินพวกนายทุน. ที นี้ อี ก ซี ก หนึ่ ง ฝ า ยตรงกั น ข า ม พวกที่ ไ ม ค อ ยจะมี เ งิ น พวก ตอ งใชแ รงงานพวกนี ้ ก็ห ลงเพลิด เพลิน ติด ในทางอายตนะเหมือ น กั น ติ ด ในทางอบายมุ ข ; และบางพวกก็ อ ยากจะได มี ค วามสนุ ก สนาน เพลิด เพลิน เหมือ นกับ พวกมีเ งิน เหมือ นกัน ก็ม ีก ารยื ้อ แยง กัน ; เลย มี ก ารยื้ อ แย ง ขึ้ น มา เพราะอยากจะได มี ค วามสุ ข ทางอายตนะด ว ยกั น ทั้งนั้น เพราะการติดเปนทาสของอายตนะดังกลาว.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ถ า หากว า ไม เป น ทาสเสี ย แล ว ก็ จ ะทํ า แต ส ว นพอดี : ฝ า ยโลกที่ เป น นายทุ น ที่ ว า ร่ํ า รวยก็ จ ะมี ส ว นช ว ยเหลื อ เอาส ว นเกิ น ที่ ห าได ม า ชว ยเห ลือ ท างดา น คน จน ไดอ ีก ม าก . สว น ดา น ค น จน ท างดา น กรรมกร ทางซีก โลกของกรรมกรนั้น ถา ไมเปน ทาสของอายตนะ แล ว ไม ติ ด ไปทางอบายมุ ขต าง ๆ ก็ จ ะไม ถึ งการยื้ อ แย ง จะมี ก ารขยั น หมั่ น เพี ย ร พยายามทํ างานไป แล ว ก็ ได รั บ ทานเมตตามาจากคนรวย พออีก หนว ยสองฝา ยนี ้จ ะเขา ใจกัน ได คนรวยกับ คนจนจะเขา มาอยู จุดยืดที่อยูใกล ๆ กันได สันติภาพก็เกิดขึ้น.
ถาม : อย า ลื ม ว า เรากํ า ลั ง พู ด กั น ในแง ข องเรื่ อ งกิ เลสที่ ๒ คื อ โกธะ หรื อ โทสะ หรื อ พยาบาท หรื อ อะไรก็ ต าม. การที่ ช าติ ใ หญ ๆ เขาสร า งกองทั พ
www.buddhadassa.in.th
การกลับมาแหงศีลธรรม
๑๘๘
ใหญ ๆ สรา งอาวุธ มาก ๆ คอยจอ งจะฆา กัน อยู ใ นโลกนี ้ท ุก วัน ๆ นี้ มั น มี มู ล มาจากการเป น ทาสของอายตนะข อ ไหนอย างไร ให ชัด เฉพาะ ขอนี้เลย เปนคําตอบสั้นๆ ? คุณทองวาอยางไร ? ตอบ : คือความเห็นแกตัวชัด ๆ. ถาม : ความเห็นแกตัวนี่เปนทาสของอายตนะหรือเปลา ? ตอบ : ความเห็ น แก ตั ว ที่ ผ มจะพู ด นี้ เป น ทาสของอายตนะครั บ คื อ ว า ต อ ง การจะได ม าซึ่ ง อายตนะภายนอกทั้ ง หมดมาปรนเปรออายตนะภายใน; เมื ่อ ไมไ ดด ัง ใจก็โ กรธ ผมมองทั ้ง สองฝา ยอยา งนี ้ไ มว า จะเปน ฝา ย นายทุนหรือลูกจาง. ทีนี้ เอาประเทศใหญ ๆ ที่เขากําลังจะฆ ากันนั้น เปนทาสของอายตนะ อยางไร ? เมื่ อบุ คคลแต ล ะคนมั น มี อ ายตนะ แลวจะมี อายตนะรวมของคนตั้ งทั้ ง ประเทศ ตั้ งครึ่งโลกได อย างไร ชี้ ให เห็ นตรงนี้ หน อย. คนตั้ งหลาย ๆ ชาติ รวมกั น เปนครึ่งโลก เปนทาสของอายตนะเพื่อจะไปฆาฟนผูอื่นนั้น เปนทาสของอายตนะ อยา งไร ? ชี ้ใ หเ ห็น ตรงนี ้ห นอ ย. ถามอยา งนี ้ค ุณ ก็ง งไป; ก็อ ยา งที ่ว า มาแลว นั่น แหละ โดยสว นตัว บุค คลแตล ะคน มัน เปน ทาสของอายตนะ มัน ก็ตอ งการ จะได คนเดี ยวมั น เอาไม ได มั น ก็ ต อ งรวมหั วกั น ก็ เป น กลุ ม ใหญ ที่ จะไปแย งเอา ปจจัยแหงอายตนะมา.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ทีนี ้ เมื ่อ ทางหนึ ่ง ตอ ตา น อีก ทางหนึ ่ง มัน ก็โ กรธ มัน ก็ต อ สู มัน ก็ ฆา ฟน นี ่ค ือ เรื่อ งการเบีย ดเบีย น; เพราะวา แตล ะหนว ย ๆ มัน เปน ทาสของ
www.buddhadassa.in.th
รากฐานของศีลธรรมอันดับสอง
๑๘๙
อายตนะ มันก็มีผลเทากับวาทั้งประเทศ หรือทั้งกลุมหลาย ๆ ประเทศนั้น ลวนแต เปนทาสของอายตนะ. ทีนี้ประโยชนมันขัดแยงกัน ฝายโนนก็เปนทาส, ฝายนี้ ก็เปนทาส, มั นก็แยงที่จะไดป จจัยเพื่ อตนเอง มันจึงฆ ากัน ในความหมายของ คําวา โทสะ หรือโกธะ อไรก็แลวแต. ถาม : เอา, ทีนี้ ดูวา การที่เขาตกลงกันไมได, ในที่ประชุมเพื่ อสันติภาพ เขา ตกลงกั น ไม ได , มั น มี มู ล มาจากการเป น ทาสของอายตนะอย างไรบ าง? เขาใจป ญ หาไหม ? เดี๋ยวนี้เขามี ที่ ประชุมระหวางชาติ พิ จารณากั นในที่ ประชุมนั้น เพื่อจะแกไขสถานการณ เลวรายอยางนั้นอยางนี้, แลวมัน พูด กัน ไมรูเรื่อ ง มัน ตกลงกัน ไมไ ด มัน ยอมกัน ไมไ ด; เรีย กวา มันยอม กันไม ได ในที่ ประชุมนั่ น เพราะมั นเป นทาสของอายตนะอยางไร ?ใครนึ ก ออกกอนตอบกอน. ตอบ : เปนทาสของอายตนะ คือใจไมไดอยางใจ ?
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ถาม : ไมไดอยางใจ, เอาอะไรอีก ?
ตอบ : กระผมวา เนื่องมาจากโมหะของแตละฝาย.
ถาม : เรื่ อ งโมหะ เรายั ง ไม ไ ด พู ด นะ, เรากํ า ลั ง พู ด เรื่ อ งโทสะนะ, เรื่ อ ง โลภะที่๑, เรื่องโทสะที่ ๒, นั่นมีมูลมาจากโทสะอยางไร ? ตอบ : คือ ที ่ต กลงกัน ในที่ป ระชุม ตา ง ๆ แลว เราตกลงกัน ไมได ก็เนื ่อ งจาก ๑. มีโ ลภะ; ตา งฝา ยตา งอยากไดด ี ตอ งการใหม ีผ ลประโยชน
www.buddhadassa.in.th
๑๙๐
การกลับมาแหงศีลธรรม ของตนเอง. เมื่อ ผลประโยชนข องตนเองขาดไป หรือ วา มัน ทํา ให โลภะลดนอย คือมันไมยอม เพราะวาผลประโยชนของตนเอง มัน ถอยไป มัน จึง ตกลงกัน ไมไ ด เกี่ย วกับ ๑ โลภะ, และขอ ๒ เมื่อ แตละคนพยายามจะหากุศโลบายมาพูด เพื่อรักษาผลประโยชนของ ตนเอง เมื่อพูด กันไปพูดกัน มา เมื่อ ขัดผลประโยชน ไมไดอ ยางใจ ก็เกิดเปนโทสะขึ้นมาตามหลัง; ทั้ง ๒ อยางนี้ จึงตกลงกันไมได.
ถาม : ขอแทรกปญหาขอหนึ่งกอน ใหตอบดวยปฏิภาณวา การที่ไมยอมกัน ในที่ประชุมนั้น เพราะเหตุกี่อยาง ? นี่คุณเปนนักการเมืองที่ไมรูเรื่องการ เมืองใชไหม ? เพราะเหตุกี่อยาง ? ตอบ : เนื่องมาจากความขัดแยงกันในอุดมการ, เนื่องมาจากอุดมการทาง การเมืองของกันและกัน.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org อุดมการของการเมืองก็แยกใหเห็นซิวา มันมีอยางไร มันจึงเปนเหตุ ใหไมยอมกัน ? อุดมการมัน ขัด จึงไมย อมกัน อยางนั้นหรือ ? ก็ได; แตวา ที่จริงกวานั้น หรือมันกอนหนานั้นคืออะไร ? อุดมการทางการเมือ งนี้ มันยัง ดิ้น ได, ยืด หยุน ไดม าก. เอาที ่มัน ชัด ๆ เลยก็คือ ประโยชนม ัน ขัด กัน . ที่ม ัน ยอมไมได เพราะเขาเสียประโยชน, ขอแรก. ขอสองที่เขายอมไมได เพราะเขา เสียหนา; คําวา “เสียหนา” นี้ไดยินบอยที่สุดในที่ประชุมสหประชาชาติ “ยอม ไมได เพราะเสียหนา” ทั้ง ๆ ที่เห็นวานี่ถูกแลวควรแลว แตประเทศเรายอมไมได เพราะเสียหนา. อยางที่หนึ่งก็เพราะเสียประโยชน มันจึงไมยอม, อยางที่ ๒ เรียกวามันเสียหนามันไมยอม.
www.buddhadassa.in.th
รากฐานของศีลธรรมอันดับสอง
๑๙๑
ทีนี้ คุณจะเติมอยางที่ ๓ เขามา วาเพราะอุดมการมันขัดกัน นี้มัน ไมมีความหมายที่ตายตัว; เพราะอุดมการมันอยูที่ประโยชน. อุดมคติ อุดมการณ อะไรก็ตาม ของแตละฝาย มันอยูที่ไดประโยชนทั้งนั้น. เมื่อเขาเสียประโยชน แลวเขาก็ไมยอม; อุดมคตินั้นทางการเมืองเปนเรื่องหลอกลวงทั้งนั้น เพราะมัน ไปอยูที่ประโยชน ตางคนตางมีอุดมการอุดมอะไรของตัว เปนฝายตัว ใหฝายตัว ไดประโยชน. ฉะนั้น อุดมการณ นี่จึงไมมีทางตรงกันได เพราะตางฝายตางหา ประโยชนและรักษาประโยชน. เราจึ งมองว าในการที่ เขาไม ย อมกั น ในที่ ป ระชุ ม นั้ น ๆ เพราะเสี ย ประโยชนอยางหนึ่ง, เพราะเสียหนาอยางหนึ่ง. เมื่อเสียประโยชนก็บันดาลโทสะ, เมื่อเสียหนากับบันดาลโทสะ. ถาม : ทีนี้ เหตุของการรูสึกวา เสียประโยชน หรือเสียหนา นี้คือการเปน ทาสของอายตนะ; เรารูสึกวาเสียประโยชน หรือ เรารูสึกวาเสียหน า เพราะเราเปน ทาสของอายตนะอยา งไร ? คุณ เขา ใจแลว หรือ ยัง ? คุณประยูร วาอยางไร ?
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ตอบ : คําวาประโยชนก็คือการผูกพันกัน คือถาเราไปหลงติดสิ่งหนึ่งสิ่งใด ชอบสิ ่ง หนึ ่ง สิ ่ง ใดขึ ้น มา ชอบในรูป ของมัน วา สวย แลว เราชอบ อยากไดสิ่งนั้น ก็เปน ประโยชนกับ เรา. แตถาเราไมห ลงติด ในสิ่งนั้น คํา ว า ประโยชน ก็ เ กิ ด น อ ย. ถ า สิ่ ง นั้ น เราไม ห ลงติ ด แต เ ราใช ทําอะไร ไปตามเหตุต ามปจ จัย ; กับ ที่เราหลงติด มานั้น มัน ตางกัน . แตเดี๋ยวนี้คําวา “ประโยชน” ที่เราใช ที่เราเอามาใชกันนั้น เพราะเรา
www.buddhadassa.in.th
การกลับมาแหงศีลธรรม
๑๙๒
เป น ทาสของอายตนะ; เป น ต น ว า สิ ่ ง ไหนที ่ เ ราว า มี ค ุ ณ ค า มาก ก็วาสิ่งนั้นมีประโยชนมาก; ซึ่งคุณ คานั้นก็แลวแตมนุษ ยที่บัญ ญั ติคาที่ สิ ่ง นั ้น จะหลงติด สิ ่ง นั ้น มากนอ ย แคไ หน. ถา หลงติด มาก เปน ทาสของอายตนะมาก วาสวยมากก็มีคามาก นี่มันเปนอยางนั้น. ถาม : เราพูดไดไหมวา เปนทาสของประโยชนกับเปนทาสของอายตนะ นั้น คือสิ่งเดียวกัน ? ตอบ : อันเดียวกัน ครับ. มัน ก็ต อบอยูใ นตัว เพราะเปน ทาสของประโยชน มัน ก็ห วงไว ซึ่งประโยชน; มันก็ไมยอม แมเพื่อความถูกตอง มันก็ดึงดันที่จะรักษาประโยชน; พอรู ว า จะต อ งเสี ย ประโยชน มั น ก็ ต อ สู ด ว ยความโกรธ. ฉะนั้ น การรั ก ษา ประโยชน อ ย างไม เป น ธรรมนั้ น ก็ คื อ ผิ ด ศี ล ธรรม, คื อ ไม มี ศี ล ธรรม เพราะเกิ ด ความโกรธ. ถ า อย า เป น ทาสของประโยชน มั น ก็ ไ ม เ กิ ด ความโกรธ; เพราะวา ความโกรธนั ้น มาจากความอยาก ความโง. หยุด อยากดว ยความโง เสีย มัน ก็ไ มเ กิด ความโกรธ. ทีนี ้ ไมย อมเพราะเสีย หนา , รูส ึก วา เสีย หนา ; อยางไร ๆ ก็ไมยอม : ผิดก็ไมยอม, ถูกก็ไมยอม, ถาเสียหนา.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ถาม : การรูสึ ก วาเสี ย หน านี่ เป น ทาสของอายตนะข อ ไหน ? คุ ณ ล้ํ า นี่ เรีย น นั ก ธรรมมานานนั ก เลยลื ม เสี ย แล ว . เป น ทาสของอายตนะ ขอไหน ?
www.buddhadassa.in.th
รากฐานของศีลธรรมอันดับสอง
๑๙๓
ตอบ : ขอ ใจ. ถูก , ทํ า ไมตอบชา นัก เลา ; เรีย นนัก ธรรมมาหลายสิบ ป แลว มัน ลืม เห็น ไหม. มัน เปน ทาสของอายตนะ สว นมโน; มัน รู ส ึก วา เสีย หนา ไม เกี่ ยวกั บ รู ป เสี ย ง กลิ่ น รส ในเวลานี้ . เสี ย หน าเป น ความรู สึ ก นั บ เป น ธั ม มารมณ ; จิ ต ใจของเรารู สึ ก เพราะจิ ต ใจของเรากํ า ลั ง เป น ทาสของธั ม มารมณ ข อ นี้ คื อ การ ไดห นา วา เราตอ งดี เราตอ งเดน เราตอ งหนึ ่ง เสมอ. ที ่จ ะใหค นชนิด นั ้น มัน ยอมในที ่ป ระชุม มัน ไมย อม แมผ ิด มัน ก็ไ มย อม แมถ ูก มัน ก็ย ัง ไมย อม; เพราะมั น จะเอาแต ห น า เสี ย เรื่อ ยไป, มั น มุ ง หมายแต จ ะเอาหน า . เราก็ พ อจะมอง เห็น ไดแ ลว วา โด ยเนื ้อ แท ใจค วาม สํ า คัญ นั ้น ; ถา เราไมเ ปน ท าส ข อ ง อายตนะแล ว ก็ ป อ งกั น โทสะ หรื อ ความโกรธ หรื อ พยาบาท หรื อ อะไรได, ในรูปใดก็ตาม. นี่เราควรจะสนใจ. ....
....
....
....
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ถาม : ข อ ต อ ไป คื อ ข อ โมหะ ถ า เราไม เป น ทาสของอายตนะแล ว โมหะ จะ ไมเกิดขึ้น, คุณประยูร ตองตอบกอนคนอื่น?
ตอบ : โมหะ ก็ค ือ ความโง, วา งา ย ๆ. ทีนี ้ถ า เราไมเ ปน ทาสของอายตนะ เราก็จะทําอะไรตามพอดี ที่ผมวามาแลวเมื่อตะกี้.
นั ่น มัน ออ มนัก ทํ า ไมไ มต อบวา ความเปน ทาสของอายตน ะ นั ่น แหละ คือ โมหะ. ทํ า ไมไมต อบอยา งนี ้ ? ความที ่ไ ปเปน ทาสของอายตนะ
www.buddhadassa.in.th
การกลับมาแหงศีลธรรม
๑๙๔
นั ่น แหละ คือ โมหะ, โมหะเหลือ ประมาณ โมหะเหลือ ที ่จ ะเปรีย บแลว ; ฉะนั้น พอไมเปนทาสของอายตนะ ก็คือไมมีโมหะ โมหะก็จะไมเกิดขึ้น. เปน อัน วา เราควบคุม อายตนะได ไมเ ปน ทาสของอายตนะแลว มั น ก็ ป ด กั้ น ทางเกิ ด แห ง โลภะ โทสะ โมหะ, แล ว ก็ จ ะขจั ด โลภะ โทสะ โมหะ ออกไปไดทันที ในเมื่อเรากลับเปนฝายชนะแกอายตนะ. แม วาเรากําลังพายแพ แกอายตนะอยู, เกิด โลภะ โทสะ โมหะ อยาง ใดอยา งหนึ ่ง อยู ; ถา สติม ัน มามัน กลับ ได มัน ไมเปน ทาสขึ้น มาในขณะนั ้น แลว มัน ก็จ ะสลัด ออกไปไดท ัน ที; ฉะนั ้น เราจึง เห็น วา โลภะ ก็ด ี โทสะ โมหะ นี้ เราปองกันได เรากําจัดได เพราะการที่เราไมเปนทาสของอายตนะนั้น. นี่ คือความหมายส วนใหญ ที่ ต อ งการจะพู ด ให เห็ น และจะทํ าความ เขาใจซึ่งกันและกัน, และเป นหลักที่สําคัญ เป นหลักที่เพี ยงพอวา สิ่งนี้ส ามารถ จะปองกัน และแกไขโลภะ โทสะ โมหะ ไดเหมือนกัน จึงถือวาเปนรากฐานของ ศีลธรรมอยางยิ่ง.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ....
....
....
....
ทีนี ้ ยัง เหลือ อีก เล็ก นอ ย จะพูด ถึง คํ า นี ่ โดยความหมายอื ่น อีก : เราเป น ทาสของอายตนะ นั้ น คื อ เป นทาสของสิ่ งทั้ ง ๖ คื อ ตา หู จมู ก ลิ้ น กาย ใจ ซึ ่ง ไปเปน เครื ่อ งสัม พัน ธก ับ รูป เสีย ง กลิ ่น รส โผฏฐัพ พะ ธัม มารมณ; ถาเราอยากจะพูดดวยคําอื่น ทําใหเปนเพียงอยางเดียว ไมใช ๖ อยาง, ไมใชตอง
www.buddhadassa.in.th
รากฐานของศีลธรรมอันดับสอง
๑๙๕
มากถึง ๖ อยาง ตามที่อายตนะมันมี ๖ อยาง; ทีนี้ไมอยากจะพูดถึง ๖ อยาง หรือจะไมใชคําที่มีความหมายแยกออกไปถึง ๖ อยาง, และทั้งยังเปนคําที่เขาใช พูดกันอยูทั่วไปตามถนนหนทาง ตามบาน ตามเมืองนี้ดวยแลว. ถาม : เราควรจะพูดวา เราไมเปนทาสของอะไร ? ตอบ : ไมเปนทาสของเนื้อหนังครับ. ถาม : เราไม เป น ทาสของเนื้ อ หนั ง แล วจิ ต ใจอยู ที่ ไหน ? คํ าวา มโน หรือ ธัมมารมณอยูที่ไหน ? ที่ตอบนี้ ถูกนะ; ไมใชไมถูก แตอธิบายไมไดเห็น ไหม. เพราะ แม จ ะใช “เนื้ อ หนั ง ” มั น ก็ กิ น ความไปถึ ง จิ ต ใจ เพราะ จิตใจมาเปนทาสของเนื้อหนัง; ธัมมารมณมันปรุงไปจากตนเหตุที่เปน เรื่องของวัตถุ ใจมันมาเปนทาสของวัตถุอีกทีหนึ่ง. เดี๋ยวนี้ที่พูดกันมาก ตามที ่ทั่ว ไปนั้น พูด ดว ยคํ า ไหน ? ถา พูด วา ไมเปน ทาสของเนื้อ หนัง นี่มันเปนคําในศาสนา พูดกันในวัด ในวา ในวงศาสนามากกวา. ถา เป น คํ าชาวบ าน แทนที่ จ ะพู ด วา เป น ทาสของเนื้ อ หนั ง เขาจะพู ด ว า เปนทาสของอะไร ?
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ตอบ : เปนทาสของวัตถุ.
ถาม : เปนทาสของวัตถุ นี่เปนภาษาปจจุบันที่สุด เปนทาสของวัตถุนิยม เปน ทาสของความรูสึกที่เปนวัตถุนิยม นี่ถาพูดใหเด็ก ๆ ฟงงายจะพูดวาเปน ทาสของอะไร ? คุณ เปน ครูทั ้ง ๒ คน คุณ ตอ งไปพูด กับ เด็ก ๆ ที่ โรงเรียน คุณจะพูดวาอะไร ใหเด็ก ๆ เขาใจไดทันที ?
www.buddhadassa.in.th
๑๙๖
การกลับมาแหงศีลธรรม
ตอบ : เปนทาสของความอยาก. ถาม : ความอยากก็ ๖ อยาง; ไมเอา เอาคําอื่น, ความอยากทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย ทางใจ. คําที่เด็ก ๆ จะฟงถูกทันที หรือวาคน ที่มีความรูสึกอยางเด็ก ๆ จะฟงถูกไดทันที จะพูดวาไมเปนทาสของอะไร ? ตอบ : ไมเปนทาสของความชั่ว. ถาม : นี่ มั น แสดงผลเป น ความหมายได ไกลออกไปอี ก เด็ ก ก็ ยิ่ งฟ ง ยาก. คุ ณ ประยู ร ภาษาธรรมดา ตามถนนหนทางทั่ ว ไป เด็ ก ๆ ฟ ง ถู ก อย า เป น ทาสของอะไร ? แลวก็จะไมเปนทาสของอายตนะทั้ง ๖. ตอบ : อยาตามใจตนเอง.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ถาม : อย า เป น ทาสของอะไรล ะ ? ...เอ า , เห็ น ไหม พอที่ จ ะนึ ก มั น ก็ นึ ก ไม ได แตเวลาพูดมันก็พูดไดอยูบอย ๆ.
ตอบ : อยาเปนทาสของอารมณ.
ถาม : มัน ก็ ๖ นั ่น แหละ, อารมณก ็ ๖; แตพ อใชไ ด คอ นขา งจะใชไ ด. เวี ย นไปอี ก คุ ณ ล้ํ า อย า เป น ทาสของอะไร ? ภาษาเด็ ก ที่ สุ ด . คุ ณ ทอง คุณชวน ก็ตองไปหา ตองไปคิด. อาตมาอยากจะแนะสักคําวา ถาใหเด็ก ๆ ฟงงาย ก็วาอยาเปนทาสเงิน; เพราะวา เงิน นี ่ม ัน อยา งเดีย ว แลว มัน ไปซื้อ รูป เสีย ง กลิ ่น รส โผฏฐัพ พะ
www.buddhadassa.in.th
รากฐานของศีลธรรมอันดับสอง
๑๙๗
ธัม มารมณ; เงิน อยา งเดีย ว ซื้อ วัต ถุไ ด; อาจจะซื้อ เนื้อ หนัง ได ไปซื้อ รูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ ธัมมารมณได. แตวา เด็กก็คงไมฟงออกทุกคน ตอง อธิบายอีกทีหนึ่ง. คําวา ไมเปนทาสของเงิน มันคืออะไร ขอนี้สําคัญ มากนะ, เพราะวาเด็ก ๆ ของเราทุกคนเปนทาสของเงิน โดยอัตโนมัติ และไมรูสึกตัว; จะขอ ถามใหตอบเสียอีกที, ไมบอกทันที. ถาม : เด็ก ๆ ของเราเปนทาสเงินโดยอัตโนมัติและไมรูสึกตัว คืออยางไร. ทุก คนมีลูกมีหลาน ไปชวยยกเขาหนอย; คือไปดูที่เด็กลูกของเรา เด็ก ๆ ของเราทั้งโรงเรียน. ตอบ : ที่เห็นอยูตอนเชา มักจะไหวพอแมเพราะไดเงิน พอไมไดเงินก็ไมไหว. นั่นปลีกยอยเกินไป. ลูกของเรามันอยากจะเรียนใหมาก อยากจะสอบ ใหสูงสุด มันอยากไดเงินเทานั้นแหละ จริงไหม ? มันไมนึกอะไรมากไปกวานั้น อยากจะไดแตเงินเดือนแพง ๆ ที่เรียนกันอยางเอาเปนเอาตาย และจะเรียนตอ ไปในที่สุด ก็เพราะอยากไดเงินเดือนแพง ๆ นี่มันเตรียมตัวเปนทาสเงิน ไปเสีย ตั้งแตเดี๋ยวนี้; แตเอาเถอะมันก็เปนกําลังแหงจิต ที่มันจะไดเรียนดี เรียนเกง; แตมันก็เปนทาสเงิน, อยากจะเปนทาสเงิน นี่ ชวยใหเรียนดี เรียนเกง.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org แตใหเรารูไววา เด็กกําลังเปนทาสเงินอยูโดยอัตโนมัติ และไมรูสึก ตัว นับตั้งแตเรียนชั้นประถมทีเดียว แลวเปนทาสเงินเรื่อยขึ้นไป จนกระทั่งถึงชั้น มหาวิทยาลัย แลวมันก็ออกมาเปนทาสของเงิน จนกวามันจะรูสึกหรือรูจัก. นี่คือ สวนใหญหรือทั้งหมด. ขอปลีกยอยที่เด็กชกตอย ทะเลาะวิวาทกันนะ สวนมาก มันก็มีมูลมาจากอันนี้คือเงิน หรือวัตถุที่จะไดมาจากเงิน.
www.buddhadassa.in.th
๑๙๘
การกลับมาแหงศีลธรรม
เพราะวาเงินมันใชซื้อวัตถุได อะไรก็ได เดี๋ยวนี้ใชซื้อชื่อเสียงก็ยังได, สมัยนี้มันเลวมากขนาดเงินใชซื้อชื่อเสียงได; ฉะนั้น เรารูความที่เราและลูก ๆ หลาน ๆ ของเรากําลังเปนทาสของอายตนะอยูอยางลึกซึ้ง; เปนทาสของอายตนะทั้ง ๖ แลวมันก็มาสรุปรวมอยูที่ปจจัย ที่จะใหไดเหยื่ออายตนะทั้ง ๖ นั้นมา. เดี๋ยวนี้ เราเรียกกันงาย ๆ วา”เงิน”, เปนทาสของเงินคือของปจจัยที่จะใหไดสิ่งที่ตองการ. ถาม : ทีนี้ระวังอีกทีนะ ระวังอยางใหผิดอีกทีนะ ตองชวยตอบใหถูกที ถา เราไมพูดวาเปนทาสของเงิน เราจะพูดอะไรใหชัดกวานั้น งายกวานั้น ฟงงายกวานั้น เราจะพูดวาอะไร? ตอบ : เปนทาสของกิเลส. ถาม : เป น ทาสของกิ เลส! ถู ก แต สํ า นวนยั ง ไม ดี ไม ใ ช สํ า นวนเด็ ก เอ า ! เปนทาสของอะไร จึงจะฟงงายสําหรับเด็ก ๆ?
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ตอบ : เปนทาสของความชั่ว.
ถาม : ออมออกไปไกลอีกแลว ก็ถูก แตมันออมไป. คุณล้ําตอบ.
ตอบ : เปนทาสของความเห็นแกตัว. ถาม : มั น ยิ่ งกว างไป คุ ณ ประยู รล ะ . เอ า , นี่ เห็ น ไหม มั น งา ยเหมื อ นกั บ ที่จ ะตอบวาเปน ทาสของเงิน แลวก็ไมต อบวา เปน ทาสของเงิน , พอ ไดตอบวาเปนทาสของเงินแลวยังจะใหมันชัดกวานั้น เปนทาสของอะไร ?
www.buddhadassa.in.th
รากฐานของศีลธรรมอันดับสอง
๑๙๙
ตอบ : เปนทาสของปาก. ก็ อ ย า งเดี ย วกั น เสี ย อี ก มั น ก็ เป น เรื่อ งลิ้ น ; นี่ เป น ทาสของความ อรอ ย; นี้ยืม คําของพระพุท ธเจา มา. สัต วโลกนี่มัน เปน ทาสของความอรอ ย: อรอยทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย ทางใจ อะไรก็ตาม; เมื่อเปน เรื่องถูกใจมีความอรอย เราเห็นชัด. เมื่อสิ่งนั้นมันเปนอิฏฐารมณ มันก็ใหเกิด ความเอร็ดอรอย ทางตา ทางหู ทางจมูก ฯลฯ. แตถาสิ่งที่เราโกรธ เราไมชอบ จะเรียกวาเปนทาสของความอรอยไดอยางไร. ถาม
: เรื่องที่เราไมชอบ โกรธเปนฟนเปนไฟ แลวยังทําใหเราเปนทาสของ ความอรอยในกรณีอยางนั้น นั่นหมายความวาอยางไร ?
ตอบ : หมายความวา เราไมไดความอรอยตามตองการ.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ถาม : มันยังออมอยู อยากจะถามวา โกรธนั้นมันอรอยไหม ?
ตอบ : เวลาโกรธมันอรอยเหมือนกัน.
เมื่อยินดีก็อรอยยินรายก็อรอย, เรียนวามนุษยนี้เปนทาสของความ อรอยทั้งในกรณี ของความยินดีและยินราย; นี่ภาษาของพระพุทธเจา ทานใช ภาษาบาลีก็วา เปน ทาสของอัสสาทะ.
ขอนี้เราตองเรียน เราตองศึกษา เพราะวาชาวบานมักจะถือวา สิ่งที่ เราไมชอบ มันไมอรอย; ความรูสึกของคนทั่วไป ภาษาของคนทั่วไป ถาเรา
www.buddhadassa.in.th
๒๐๐
การกลับมาแหงศีลธรรม
ไม ช อบแลวก็ไม อ รอย. ที่ เราไม ชอบจนเราโกรธนั้ น พอเราโกรธ มั นกลั บ อรอ ยขึ้ น มาอีก , นั ่น มัน เปน ความอรอ ยอีก นัย ะหนึ ่ง ; ไดต บ ไดต ี ไดด า ไดทํ า กับ เขา แลว มัน อรอ ย. คนที ่ม ีโ ทสะมาก มัน ยิ ่ง อรอ ย ไดด า คนใช ไดต ีค นใช แลว มันอรอย. ฉะนั้ น จึ ง รวมความได ว า เป น ความอร อ ยทั้ ง ในแง ที่ ยิ น ดี และใน แงที่ ยินราย; และเราก็เป น ทาสของความอรอ ย อยางคุ ณ ชวนหรือใครพู ด วา เป น ทาสของกิ เลส มั น ก็ ถู ก . ถ า เป น ทาสของกิ เลส มั น ก็ จ ะต อ งเป น ทาสของทั้ ง ฝ า ย ยิ น ดี แ ละยิ น รา ย : มี กิ เลสเกิ ด ขึ้ น ทํ า ให ยิ น ดี ก็ เป น ทาสมั น , ทํ า ให ยิ น รา ย ก็ เป น ทาสมัน. เราก็เปนทาสของความอรอย เพราะไดยินดี เพราะไดยินราย. คํ า ว า “อั ส สาทะ” เป น คํ า ที่ แ ปลยาก แปลเป น ไทยยาก; เท า ที่ นึ ก ออกว า “อร อ ย” เป น ทาสของความอร อ ย. ทุ ก อย า งจะให เกิ ด ความอรอ ย คื อ ถ า น า รัก ก็ มี “ความอรอ ย” ไปอย า งหนึ่ ง , ถ า น า ชั ง ก็ ให “ความอรอ ย” ไปอี ก อย า ง หนึ ่ง ; เราก็ม ัว แตร ัก แตช ัง ๆ, อยู ต ลอดชีว ิต . นี ่ธ รรมะตอ งการจะขจัด สิ ่ง นี่ แ หละ อย า ให ไ ฟจากความรั ก ไฟจากความชั ง มั น มาแผดเผาได ; เราต อ ง บังคับตัว อยาใหเปนทาสของอายตนะ.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org การบั ง คั บ ตั ว ไม ใ ห เป น ทาสของอายตนะนี้ มั น ก็ ไ ม เป น ไฟ; เมื่ อ ไม เป น ไฟ, ที่ ต รงกั น ข า มจากไฟ ก็ ต อ งเป น น้ํ า , อาตมาจึ ง ว า การบั ง คั บ อายตนะ ใหค งปรกติอ ยู ไ ดนี ้ จะเปน น้ํ า ที ่ห ลอ เลี ้ย งความสดชื ่น ของชีว ิต ; ในที ่นี ้ห มาย ถึง ศีล ธรรม คือ ชีวิต ที่ป รกติ ที่ถูก ตอ ง จะตอ งหลอ เลี้ย งไวโ ดยน้ํา ที่แ ทจ ริง ซึ ่ง ไมเ ปน ไฟ คือ บัง คับ อายตนะใหย ัง คงเย็น อยู ไ ด, ไมว า จะเปน ในกรณีแ หง ความยินดีหรือกรณีแหงความยินราย ก็ตาม.
www.buddhadassa.in.th
รากฐานของศีลธรรมอันดับสอง
๒๐๑
ขอใหท ุก คนรูจ ัก น้ํ า อัน นี ้ไ ว; น้ํ า นี ้แ หละเย็น แท น้ํ า คือ การที่ บัง คับ อายตนะได เปน น้ํา แท ๆ เย็น แท ๆ, จะรดจิต ใจ รดศีล ธรรมใหยัง คง สดชื่นอยูได; จึงจัดวาเปนรากฐานของสิ่งที่เรียกวาศีลธรรม, เปนอันดับสอง. การบัง คับ อายตนะไดเ ปน อัน ดับ ๒ ตอ มาจากอัน ดับ ๑ คือ ความรูสึกตอปรมัตถธรรม อยางสูงสุดลึกซึ้งวา “สัตวทั้งหลายเปนเพื่อนทุกข เกิด แก เจ็บ ตาย ดว ยกัน ทั้ง หมดทั้ง สิ้น ”. แตถา เราไมบัง คับ อายตนะได เราคงรัก ษาอุด มคตินั้น เอาไวไ มได; เมื่อ บัน ดาลโทสะ หรือ โลภะเสีย เราก็ ไมยอมรับวาเปนเพื่อนทุกข เกิด แก เจ็บ ตาย ของเรา. เพื ่อ ใหเ รายัง คงรัก ษาความจริง ที ่ว า ชีว ิต ทั ้ง หมดเปน เพื ่อ น ทุ ก ข เกิ ด แก เจ็ บ ตาย กั น ได แ ล ว เราก็ ต อ งบั ง คั บ อายตนะ; หรื อ เรียกวาบังคับตัวเรา อยาใหไปเปนทาสของอายตนะ, หรือบังคับอายตนะไว อยาใหมันมาเปนนายของเราได. เลยเกิดเปนคําคูขึ้นมาคูหนึ่งวา เปนทาสของ อายตนะ, หรือวา เปนนายเหนืออายตนะ.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org เดี๋ยวนี้เราตองการความเปนนายเหนืออายตนะ สําหรับหลอเลี้ยง ศีล ธรรมในโลกนี้; เมื่อ ไรคนทั้ง โลกเขาบัง คับ ตัว เองได บัง คับ จิต ได ไมเปน ทาสของอายตนะ เขาก็ ไ ม เ ป น ทาสของวั ต ถุ นิ ย ม, ไม เ ป น ทาสของเงิ น ไมเ ปน ทาสของความอรอ ยดว ยอํา นาจของโมหะ, โลกนี้ก็มีสัน ติภ าพแน; แตยังมีขอปลีกยอยที่จะดูกันในแงอื่นอีกเปนเรื่องที่ ๓ ที่ ๔ ตอไป ไวพูดกันวันหลัง.
วันนี้สมควรแกเวลาแลว ก็ตองยุติไวที่กอน; ใหพระสงฆทานสวด บทพระธรรม เปนเครื่องสงเสริมกําลังใจ สําหรับผูปฏิบัติสืบตอไป.
www.buddhadassa.in.th
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org
www.buddhadassa.in.th
การกลับมาแหงศีลธรรม - ๖ ๖ มีนาคม ๒๕๑๙
รากฐานของศีลธรรมอันดับสาม [ การบังคับกระแสแหงความรูสึก : อาหาร ]
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ทานสาธุชน ผูมีความสนใจในธรรม ทั้งหลาย,
ในการบรรยายครั้ง ที ่ ๖ ประจํ า วัน เสาร ภาคมาฆบูช า โดย หั ว ข อ เรื่ อ งว า การกลั บ ม าแห ง ศี ล ธรรม ในวั น นี ้ นั ้ น อาตมาจะได กล า วโดยหั ว ข อ ย อ ยว า การบั ง คั บ กระแสแห ง ความรู สึ ก ในฐานะเป น รากฐานของศีลธรรมอันดับสาม.
๒๐๓
www.buddhadassa.in.th
๒๐๔
การกลับมาแหงศีลธรรม
ขอใหทานทั้งหลายทบทวนใจความสําคัญของการบรรยายครั้งที่แลว ๆ มา ใหแจม แจงอยูต ลอดเวลาดวย วาเรากําลังพูด กัน ถึงเรื่อ งเกี่ย วกับ ศีล ธรรม ในสวนที่ จําเป น ที่ สุด คือการกลับมาของศีลธรรม ; วาศี ลธรรมกําลังไมมี หรือ กําลังหายไป ๆ จากโลกนี้ ถายังเปนอยูในลักษณะเชนนี้ โลกนี้ก็จะถึงซึ่งความวินาศ. พู ด เพี ยงเท านี้ ทานทั้ งหลายก็พอจะสังเกตเห็ น ได หรือ รูสึก ไดด วยตนเอง. ที นี้ เราจะพูดกันโดยรายละเอียด ใหเขาใจแจมแจงยิ่งขึ้น เพื่อใหเกิดการกลับมาแหง ศีล ธรรม เราตอ งพูด กัน ถึง เรื่อ ง ศีล ธรรม, พอใหรูวา ศีล ธรรมนั ้น คือ อะไร จนกระทั่งรูไดวา มันกําลังไมมีศีลธรรม. [ ตอไปนี้เปนการทบทวนคําปรารภการกลับมาแหงศีลธรรม จนถึงหนา ๒๐๗ ] ในการบรรยายครั้งแรก และ ครั้งที่ ๒ นั้ น ได พู ด ถึ งเรื่อ งศี ล ธรรม โดยตรง. และครั้ง ที่ ๓ ไดพ ูด เกี่ย วไปถึง สิ่ง ที่เ รีย กวา รากฐานของศีล ธรรม ในแงตาง ๆ กัน ; แมกระนั้นก็พู ดเพียงเพื่อใหเห็นวา เรากําลังไมมีสิ่งที่เรียกวา รากฐานของศีล ธรรม เปน สวนใหญ. ยังไมไดมุงหมายจะพูด กัน ถึงการกระทํา ใหเกิดศีลธรรม หรือรากฐานของศีลธรรมโดยตรง.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org เราพูด กัน แตใ นขอ ที ่วา เราไมมีร ากฐานของศีล ธรรม, และเรา ก็ตองพูดกันถึงสิ่งนี้โดยละเอียดพอสมควร จึงจะรูวา เรากําลังไมมีรากฐานของ ศีลธรรม. และเกี่ยวกับเรื่องนี้ เราก็พูดเปรียบเทียบโดยทางวัตถุ คือเปรียบเทียบ กับตนไม วาตนไมมันจะตั้งอยูไดเพราะอะไร ? อะไรเปนรากฐานของการที่ทําให ตน ไมตั ้งอยูได ? จนกระทั ่ง เราพอมองเห็น โดยหลัก ใหญ ๆ ชั้น หนึ ่งกอ น วา ตนไมนี้ตองอาศัยแผนดิน ตองอาศัยน้ํา ตองอาศัยอาหาร ตองอาศัยอากาศ และตองอาศัยอุณหภูมิที่เหมาะสม ดังนี้เปนตน ; มันจึงจะอยูได.
www.buddhadassa.in.th
รากฐานของศีลธรรมอันดับสาม
๒๐๕
ทีนี้ ตนไมแหงศีลธรรมของเรานี้ ก็อยางเดียวกันอีก มันจะตองอาศัย สิ่งที่เปนรากฐานโดยการเปรียบเทียบ กับตนไมนั้น คือวา จะตองอาศัยแผนดิน, จะต อ งอาศั ย น้ํ า , จะต อ งอาศั ย อาหาร อากาศ และอุ ณ หภู มิ . ในแง ข อง นามธรรม ตน ไมแ หง ศีล ธรรม จะอาศัย แผน ดิน คือ อะไร ? เราก็ไ ดพ ูด กัน แลว วาจะตองอาศัยแผนดินคือ ธัมมสัจจะ ขอสําคัญที่สุดขอหนึ่งซึ่งมีอยูวาสัตว ทั้งหลายเปนเพื่อนทุกข เกิด แก เจ็บ ตาย ดวยกันทั้งหมดทั้งสิ้น, ธัมมสัจจะอันนี้ เปนรากฐานของศีลธรรม. ผูใดมีความรูสึกเปนธัมมสัจจะดังนี้แลว เรียกวามีรากฐานของ ศีลธรรมอยูในจิตใจของบุคคลนั้น ; ฉะนั้น เราจึงพยายามทุกอยางทุกประการ ที่ จ ะให เกิ ด มี ค วามรู สึ ก ชนิ ด นั้ น ; ซึ่ ง เมื่ อ เกิ ด แล ว จะป อ งกั น การเกิ ด แห ง โลภะ หรือราคะ โทสะ หรือโกธะ โมหะหรือมานะ อะไรตาง ๆ ได. ที นี้ แล ว เราก็ ม าดู ว า เดี๋ ย วนี้ เรายั ง ขาดรากฐานคื อ ธั ม มสั จ จะอั น นี้ ราวกับวา ตนไมไมมีแผนดินสําหรับจะตั้งอยู หรือมันมีอยูอยางนอยเกินไป อยาง ไมสมประกอบ นั้นอยางหนึ่ง.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ....
....
....
....
ในการบรรยายครั้งตอมา ก็ไดพูดถึงรากฐานขอที่จะเปรียบเหมือน กับน้ํา ที่จะหลอเลี้ยงตนไม วาเราจะตองอาศัยความไมเปนทาสของอายตนะ คื อ ไม เป น ทาสของ ตา หู จมู ก ลิ้ น กาย ใจ ; ซึ่ งสรุป แล วก็ ไม เป น ทาสแห งรส อรอ ยของกิเลส. แตเดี๋ย วนี้ค นบูช ารสอรอ ยของวัต ถุกัน เปน เบื้อ งหนา บูช าเงิน
www.buddhadassa.in.th
๒๐๖
การกลับมาแหงศีลธรรม
หรือ เป น ทาสของเงิน เพราะเห็ น วา เงิ น นี้ จ ะบั น ดาลความเอร็ด อรอ ยต าง ๆ ให ได ; และนั่ นก็ ยั งไม น ากลั ว หรือน าหวาดเสี ยวมาก เท ากั บว ามั นเป นทาสของความอรอย อั น เกิ ด จ า ก กิ เ ล ส : โล ภ ะ ก็ ใ ห ร ส อ ร อ ย , โท ส ะ ก็ ใ ห ร ส อ ร อ ย , โม ห ะ ก็ ใหร สอรอ ย. เมื ่อ คนไมรู จ ัก โทษของความอรอ ยอยา งนี ้ ก็ห ลงบูช าถึง กับ เปน ทาส เลยไม มี ร ากฐานของศี ล ธรรม คื อ ไม เอาศี ล ธรรมเป น หลั ก ; แต เอาความ อรอยทางอายตนะเปนหลัก. ถา จะสรุป อีก อยา งหนึ ่ง ก็ต อ งสรุป วา เปน ทาสของเวทนา ตาม ที่พระพุทธองคไดตรัสไว วาเรื่องสําคัญทุก ๆ เรื่องนั้น มันไปสรุปอยูที่เวทนา ; เพี ย งแต ไ ด เงิ น มาซื้ อ หาความเอร็ ด อร อ ยเป น สุ ข เวทนา นี้ มั น เป น เพี ย งอย า งเดี ย ว เทา นั ้น แตม ัน ก็เ ปน กัน มาก คือ ในโลกนี ้เ ปน กัน มาก หรือ เปน กัน แทบทั ้ง หมด ก็เปนทาสของสุขเวทนา อยางไมมีทางที่จะสรางซา มีแตจะรุนแรงยิ่งขึ้นทุกที. ที นี้ ส ว นทุ ก ขเวทนา มั น ก็ ยั ง เป น ทาสของทุ ก ขเวทนา เพราะมั น ไม รู ว า เป น อย า งไร ก็ ยั ง หลงทํ า ไปในทางที่ จ ะให เกิ ด ทุ ก ขเวทนา คื อ ทํ า สิ่ ง ที่ ไม ต อ งทํ า ทํ าให ลํ าบากเปล า ๆ มั นก็ ยั งทํ า. เพราะทุ กขเวทนามั นก็ มี รสอรอยล อหลอกอยู ข าง หน า ; เช น การทํ า ผิ ด ทํ า ชั่ ว ทั้ ง หลายเป น ทุ ก ขเวทนา มั น ก็ มี ร สอร อ ยฉาบไว ข า ง หน า คนจึ ง หลงบู ช าการทํ า ความชั่ ว . ถ า เป น คนพาลสั น ดานหยาบแล ว ได บั น ดาลโทสะ เป น ต น แล วก็ รู สึ ก ว าอร อ ย เพราะการได ด า เขา ได ตี เขา ได ฆ าเขา อย า งนี้ มั น ก็ อ ร อ ยไปตามประสาของคนอั น ธพาล ; นั้ น มั น ก็ เวทนาชนิ ด หนึ่ ง ด ว ย เหมือนกัน.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org
www.buddhadassa.in.th
รากฐานของศีลธรรมอันดับสาม
๒๐๗
สุข เวทนาก็ยั่ว ยวนไปทางหนึ่ง , ทุก ขเวทนาก็ห ลอกใหทํ า ไปทาง หนึ่ง , แมอ ทุก ขมสุข เวทนา มัน ก็ยัง ชว ยใหเกิด ความโง ความสงสัย ความ หลงใหล มัวเมาอยูในสิ่งที่ตนยังไมแนใจวามันเปนอะไร. ขึ้นชื่อวาเวทนาแลว ยอมชวนใหเกิดความสนใจ ความรูสึกตอสิ่งนั้น ๆ เสมอไป ; เรื่องมันจึงไมรูจัก จบจัก สิ้น. คนก็เปนทาสของเวทนาอยูอ ยางนี้ มัน จึงไมมีแสงสวาง พอที่จ ะ รูวาอะไรเปนอะไร. การเปน ทาสของเวทนา มัน เปน ของรอ น ; ตอ เมื่อ ไมเ ปน ทาส ของเวทนา จึงจะเปนของเย็น ดังนั้นจึงเปรียบเทียบการไมเปนทาสของเวทนา นั้น วาเหมือนกับน้ํา หรือสิ่งซึ่งไมเปนของรอน. เมื ่อ พิจ ารณาดูอ ยา งนี้แ ลว เราก็ยัง เห็น วา ในโลกนี ้เต็ม ไปดว ย การเปน ทาสของอายตนะ : เปน ทาสของเวทนา, เปน ทาสของรสอรอ ยทุก ชนิด, และที่เปน กันโดยมาก หรือ สวนใหญนั้น ก็คือ เปนทาสของเงิน โดยที่ คิดวา เงินจะบันดาลอะไรใหไดทุกอยาง ; อยางนี้ก็แปลวา เปนทาสของอายตนะ ทั้งโดยตรง ทั้งโดยออม จึงมีแตความรอน. สรุปความวา เรากําลังขาดรากฐาน ของศีลธรรมในขอนี้.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org [จบคําปรารภทบทวน ]
ที นี้ มาถึ ง ครั้ ง นี้ จะพู ด ถึ ง รากฐานของศี ล ธรรม ใน ส ว นที่ อ าจจะเปรี ย บกั น ได กั บ อาหารของต น ไม คื อ ต น ไม นอกจากจะมีแผนดินอาศัย แลวยังมีน้ํากิน ; แลวยังจะตองมีอาหาร คือแรธาตุ
www.buddhadassa.in.th
การกลับมาแหงศีลธรรม
๒๐๘
ตาง ๆ ที่มีอยูในดิน ที่ตนไมจะละลายดวยน้ํา แลวก็ดูดขึ้นไปเปนปจจัย สําหรับ ปรุง แตง ลํ า ตน ของมัน ; นั ้น เราเรีย กวา อาหาร คือ สิ ่ง ที ่ล ะลายในน้ํ า ได ตน ไม ก็ดูดขึ้นไปใชใหเปนประโยชน. ทีนี ้ ม าดูถ ึง ตน ไมแ หง ศีล ธรรม ซึ ่ง มัน จะตอ งมีอ าห ารอะไร อยางถูกตองดวยเหมือนกัน ถามีอาหารไมถูกตองมันก็ตองเฉาเหี่ยวตาย ; เหมือน กับตนไมทั้งหลายที่ไมไดอาหาร หรือไมมีปุยเอาเสียเลย มีแตน้ําลวน ๆ มันก็อยู ไม ได มี แ ผ น ดิ น ล ว น ๆ ที่ ไม มี ธ าตุ ไม มี อ าหาร มั น ก็ อ ยู ไม ได ฉั น ใดก็ ฉั น นั้ น ; ฉะนั้น เรามาดูตนไมแหงศีลธรรม วามันตองการอาหารอะไร. อาตมาอยากจะระบุ สิ ่ง ที ่จ ะเปรีย บเทีย บกับ อาหารของตน ไมนี่ วาไดแ ก การบังคับ ความรูสึก หรือ วา ผูใ ดจะมีค วามเห็น วา มีอ ะไรเปน อาหาร ก็ลองวามาดู.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ถาม : คุณประยูร คิดออก หรือมองเห็น วาอะไรเปนอาหารของตนไมแหง ศีลธรรม ?
ตอบ : อาหารในความหมายที่ ทํ า ให ต น ไม แ ห ง ศี ล ธรรมเจริญ งอกงาม เท า ที่ ผมคิดไดก็นาจะเปนอุดมคติของความเปนมนุษย คือถาคนเรามีอุดม-คติ ของความเปน มนุษ ย ที ่ด ี ตน ไมศ ีล ธรรมก็จ ะเติบ โตเจริญ ไดอ ย า ง หนึ่ง เทาที่ผมนึกไดตอนนี้. ถาม : ลองระลุออกไปสักขอวา อุดมคตินั้นวาอะไร ?
www.buddhadassa.in.th
รากฐานของศีลธรรมอันดับสาม
๒๐๙
ตอบ : เช น อุ ด มคติ ว า มนุ ษ ย เราต อ งมี ใ จสู ง กว า สั ต ว ดั งนี้ ค รับ ; แล วเรา ก็จะพยายามทําใหใจสูงกวาสัตว ก็คือมีศีลธรรมขึ้นมา. ถาม : เอา, ทีนี้คุณทอง ? ตอบ : ผมวาควรจะเปนสัมมาทิฏฐิที่มองเห็นความเปนจริงวา ทุกสิ่งทุกอยาง เปนทุกขัง อนิจจัง อนัตตา อันนี้จะเปนอาหารของตนไมศีลธรรม. ถาม : เอา, คุณล้ํา ? ตอบ : อาหารของศีลธรรมเบื้องตนผมเขาใจวา ไดแกความละอายและความ กลัว คือ หิริโอตตัปปะ. ตามที่ ระบุ มานี้ ก็ถู กทั้ งนั้ น ไม มี ทางจะผิด แลวแต วาจะมองกั น อยางไร. อุดมคติคือความเขาใจที่ถูกตอง อยางเดียวกับสัมมาทิฏฐิ. อุดมคตินั้น ก็ตองถูกตอง เพราะไดเห็นถูกเขาใจถูก หรือมีความเชื่อถือถูก ก็เรียกวา สัมมาทิฏฐิ และก็เปนอุดมคติ เปนอาหารแหงศีลธรรม.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ในขอ ที่วา จะทํา ใหเขาเกิด หิริแ ละโอตตัป ปะเปน ตน ขึ้น มา, คน เดี ๋ ย วนี ้ ไ ม ม ี ห ิ ริ โ อตตั ป ปะ ไม ล ะอายความชั ่ ว ยิ่ ง ๆ ขึ้ น ทุ ก ที ทํ า ความ ชั่วโดยเปดเผยขึ้นทุกที ก็เพราะขาดคุณธรรมขอนี้ ; นี้ก็เพราะวาเขาไมมีสัมมาทิฏฐิ หรือไมมีอุดมคตินั่นเอง ; ก็จะเห็นไดวา เปนอาหารของตนไมศีลธรรม ไดดวย กันทั้งนั้น. มันก็เหมือนกับขอที่วา ตนไมธรรมดา ๆ นี้มันกินอาหารหลายอยาง. คนที่เคยทํานา หรือเคยขายปุยเขารูดีวา ตองมีปุยชนิดไหนบาง, จะใสในตนไม
www.buddhadassa.in.th
การกลับมาแหงศีลธรรม
๒๑๐
ชนิ ด ไหน, ใส ต น ข า วชนิ ด ไหน ; ก็ เพราะว า มั น มี อ าหารอยู ห ลายอย า งที่ ต น ไม ตองการ. เทา ที ่ย กมานั ้น ก็ถ ูก ตอ ง ในความหมายที ่ม องเห็น ไดช ัด ๆ หรือ ตรง ๆ ; แลวก็แตกตางกันโดยชื่อ แตก็เปนอาหารไดดวยกันทั้งนั้น. เพราะฉะนั้น จะพิจ ารณากัน ในลัก ษณะอื่น คือ ในลัก ษณะที ่ล ึก ซึ้ง ลงไปกวา นั้น ; สิ่ง เหลา นี้ ก็จะหยิบขึ้นมาพิจารณาในโอกาสตอไป ไมใชจะมองขามไปเสีย หรือปดทิ้งไปเสีย. ขอใหจําไวดวยวา มันมีสิ่งซึ่งเกี่ยวของ เกี่ยวพันหรือสัมพันธกันอยูอยางนี้ คําตอบ นั้นถูกทั้งนั้น เพราะมันเกี่ยวพันกันอยางไมอาจจะแยกกันได ; แตถาพูดกันถึงสวน ที่มันสําคัญ ชั้นที่รุนแรง อยางที่เรียกวา เอาเปนเอาตายกัน มีอะไรบางนั่นแหละ เราจะนึกถึงสิ่งนั้นกอน. ....
....
....
....
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ทีนี้ อาตมาอยากจะยกสิ่งที่เรีย กวา “การบังคับ ความรูสึกไวใหได” นี่เปนปจจัยอันสําคัญ หรือรุนแรง แลวก็เปนที่มาของอาหารชื่ออื่น หรือธรรมะชื่อ อื่ น ได อี ก มากมายหลายอย า ง. แต ที นี้ จ ะพู ด ถึ ง อาหารหลั ก ก็ แ ล ว กั น ; ว า ต น ไม ตอ งการอะไรบา ง ในฐานะเปน อาหารหลัก เราก็จ ะเอาสิ ่ง นั ้น มาพูด กัน กอ น. นอกนั้นก็จะมาถึงเขาตามลําดับเอง ; ฉะนั้น ขอใหสนใจ ทําความเขาใจเกี่ยวกับ สิ่งที่เรียกวาการบังคับความรูสึก. การบั งคับ ความรูสึ กนี้ ก็ไดพู ดกันมาบ างแลว เชื่อ วาบางคนคงจะ ยังจําได วาโลกนี้มันกําลังขาดคุณธรรมขอนี้.
www.buddhadassa.in.th
รากฐานของศีลธรรมอันดับสาม
๒๑๑
ถาม : เอาความเขาใจที่มีอยูแลวกอ น ที่มีอยูแลวเปนพื้ นฐานกอ น การบังคับ ความรูสึกตามความรูสึกของทานทั้งหลายนั้นไดแกอะไร ? คนที่ ๑ ตอบ : การบังคับความรูสึกนี้ ก็คือการทําสมาธิ การทําจิตใหเปนหนึ่ง เปน จิต ที ่เ หมาะสมสํ า หรับ จะทํ า งานได เปน จิต ที ่ไ มม ีสิ ่ง เศรา หมอง เขามารบกวน. ถาม : ใครอีก คนที่ ๒ ตอบ
: เปนจิตที่มีความสะอาด ความสวาง ความสงบ.
ถาม : ใครอีก คนที่ ๓ ตอบ
: คือความอดกลั้น
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ก็ ดู ซิ ตอบได ค นละอย า ง; หลายคน อี ก หลายอย า งก็ ไ ด . บั ง คั บ ความรูสึ ก คื อ ความอดกลั้ น นั้ น เห็ น ความหมายใกล ชิ ด ได ม าก; เพราะอดกลั้ น จึงมีการบังคับความรูสึก
สว นจิต ที ่ส ะอาด สวา ง สงบ นั ้น มัน เปน ผลสุด ทา ย; แตถ า จะ ลดลงมา ก็วาเราพยายามทําใหจิตสะอาด สวาง สงบ เรียกวาบังคับความรูสึกอยางนี้ ก็ไดอยู; แตยังไมตรงจุดที่ตองการโดยทั่วไป. ถาบังคับไดสะอาด สวาง สงบ อยู ก็มาใกล หรือคลายกันกับที่วาทําสมาธิ; ทําสมาธิอยู จิตก็สะอาด สวาง สงบ อยู. การทําสมาธินั้น ใจความแทจริงไมไดมุงที่จะบังคับ จิตโดยตรง เพราะวา คําวา “ทําสมาธิ” นั้นความหมายของมันมากและกวาง หรือสูงไปกวาเพียงแตวาบังคับจิต.
www.buddhadassa.in.th
๒๑๒
การกลับมาแหงศีลธรรม
การทําสมาธินี้ มีการบังคับจิตรวมอยูดวยเปนแนนอน; เพราะวา การฝกฝนจิต มันก็ตองบังคับจิต ใหอยูในระเบียบหรือหลักเกณฑที่เราไดกําหนด ขึ้นไว วาจะใหทําอะไร ใหทําอยางไร. ฉะนั้นการทําสมาธิ ก็ยังมีใจความที่ สู งไป และดิ่ งไปในทางธรรมะชั้ น สู ง ; ยั งไม ต รงกั บ ป ญ หาเฉพาะหน าในโลก ปจจุบันของเรา ที่วา คนในโลกสวนใหญในเวลานี้ ยิ่งไมบังคับความรูสึก ยิ่งขึ้นทุกที คือปลอยไปตามความรูสึกของกิเลสยิ่งขึ้นทุกที. ฉะนั้น ไมใหเอาคํา ในพระคัม ภีรม ากลา ว หรือ ไมใหนึก ถึงคํา ใน พระคั ม ภี ร ก อ น; แต ใ ห นั ก ถึ ง ข อ เท็ จ จริ ง ที่ มี อ ยู จ ริ ง ในคนเรา ในบ า น ในเมือง หรือในโลกในเวลานี้ วาคนทั้งหลายกําลังไมบังคับความรูสึกกัน อยางไร; ถามองเห็น ขอนี้แลว ก็จ ะตอบไดทัน ทีวา การบังคับ ความรูสึก นั้น เปนอยางไร. ถาม : ฉะนั้นตองเกณฑใหทั้ง ๓ คนนี้ตอบใหม วาการบังคับความรูสึกนั้น มันคืออะไร ?
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ตอบ : การบังคับความรูสึกในความหมายนี้ ผมวาคือการทําใจเย็น.
ถาม : เอา, คุณทอง ?
ตอบ : ผมก็ยังมีความรูสึกวา ความอดกลั้นอดทนเปนเรื่องสําคัญ เชนเมื่อมี ความโกรธเกิดขึ้น ก็รูจักอดกลั้นอดทนเอาไว. คนเดี๋ยวนี้เมื่อมีความ อยากอะไรเกิด ขึ ้น มา หรือ มีโ ทสะเกิด ขึ ้น มา ก็ทํ า ไปตามความรู สึกนั้นเลย ผมวา จึงทําใหเดือดรอนกันอยู ?
www.buddhadassa.in.th
รากฐานของศีลธรรมอันดับสาม
๒๑๓
ถาม : เอา, คุณล้ํา ? ตอบ : คือการเห็นแกตัว. ถาม : นั่ น มั น เป น การไม บั งคั บ ความรูสึ ก . พู ด ให แคบเขา มา อย างคาดคะเน หรื อ ว า อย า งเหมา ๆ เอา. การบั ง คั บ ความรูสึ ก น า จะเป น สิ่ ง ที่ เข า ใจ กันเหลือเกินแลว คุณประยูรวาใหม. ตอบ : การบังคับความรูสึกในความหมาย ที่เราใชกันอยูเปนประจําทุกวัน ๆ ก็คือเราหัดเปนคนใจเย็น อยาผันผวนไปตามอารมณไดงายๆ. ก็ ได , อย า งผั น ผวนไปตามอารมณ ง า ย ๆ ก็ ใช ได ; ความหมายมั น เข า อยู ในรอ งรอยนี้ คื อ บั งคั บ ความรูสึ ก . แต อ ย า ใช คํ า จํ ากั ด เกิ น ไปวา ทํ าใจให เย็น; มันตองกินความกวางไปทั้งหมด. “บังคับความรูสึก” คํานี้มันมีความหมาย เฉพาะของมัน คือ มีค วามรู ส ึก ที ่ต อ งบัง คับ ; ไมใ ชบ ัง คับ วา อยา รู ส ึก อะไร เดี๋ยวก็เปนคนตายไป เปนคนสลบไป ไมมีความรูสึกอะไร.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ความรู สึ ก ในที่ นี้ หมายถึ ง ความรู สึ ก ที่ ต อ งบั ง คั บ ไว อย า ใหเ กิด ขึ ้น มา หรือ วา เกิด ขึ ้น มาแลว บัง คับ ใหห ยุด เสีย มิฉ ะนั ้น จะเปน อัน ตรายอยา งยิ ่ง ; ความรูส ึก อะไรเปน ไปในลัก ษณะอยา งนี ้แ ลว ตอ งบัง คับ ; จะเรียกกั นวา บั งคั บ อารมณ ก็ ได. คําใหม ๆ เขาเรียกกัน วา อาเวค ก็มี คื อ จิต ที่เคลื่อนไปดวยความผลักดันของอารมณอยางใดอยางหนึ่ง ซึ่งจะออกไปอยูในรูป
www.buddhadassa.in.th
๒๑๔
การกลับมาแหงศีลธรรม
ของความโลภ ความโกรธ ความหลง เรีย กว า ความรูสึ ก ในที่ นี้ . พู ด อย า ง ธรรมดา ที่เราพูดกันตามประสาชาวบาน ก็บังคับอารมณ บังคับพื้นเพ ของจิต ที่มันจะไหลไป; และรูวาความรูสึกของจิตนี้ ถาไมบังคับมันจะไหลไปทางไหน ไหลไปอยูในรูปของอะไร. ยกตัวอยางเชน เมื่อตาเห็นรูป รูปนั้นสวยก็มี นาเกลียดนาชังก็มี หรือเฉย ๆ ก็มี. เมื่อตาเห็นรูปแลว มันเกิดความรูสึกขึ้นตามสมควรแกการเห็น หรือ ตามสมควรแก ลั กษณะของรูป ที่ ได เห็ น นั้ น ๆ แลวความรูสึ กมั น จะไหลไป อยางไร. ถาม : เทาที่ทราบแลว ความรูสึกจะไหลไปอยางไร กี่อยาง วามาดูกอน? ตอบ : ตามธรรมดาของมนุษยเรา ความรูสึกมักจะไหลไปในทางต่ํา เปนตน วา ตาเห็นรูป มันจะมีความรูสึกวา สวยหรือไมสวย เอาหรือไมเอา จะอยูเฉย ๆ ไมไดครับ จะตองเอาหรือไมเอา ตองมีการเกลียด หรือมี ความรักตอรูปที่เราเห็นตลอดเวลาครบ; ตองเกลียด มิฉะนั้น ก็ตอง รัก ตองเปนไปในทางที่จะเอามาเปนของเราอยูเสมอ.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ถาม : ทั้งทางเอาหรือไมเอาก็ตาม เราเรียกวา ทางต่ํา ทั้งนั้นเลยหรือ ? ตอบ : ก็ถาทําใหเกิดทุกข ก็เปนวา ทางต่ํา ทั้งนั้น. ถาม : คุณ ยืนยังใหชัดลงไปวา ความรูสึกจะเกิดขึ้นในทางที่จะรัก หรือจะ ไมรัก , จะเอาหรือ ไมเอาก็ด ี เรีย กวา เปน ทางต่ํ า ทั ้ง นั ้น . เอา , ทีนี้ คุณทองละ เมื่อเห็นรูปแลวมันจะเกิดความรูสึกอยางไร ?
www.buddhadassa.in.th
รากฐานของศีลธรรมอันดับสาม
๒๑๕
ตอบ : ผมมีความเห็นเหมือนคุณหมอวา. ถาม : คุณล้ําละ; อยาตามเพื่อน อยาไปเอามาจากหนังสือ อยาไปจําอะไร ที่ไหนมา เอาจากที่รูสึกอยูจริง เห็นอยูจริง ? ตอบ : เหมือนตาสัมผัสรูป สวนมากก็ตองพิจารณาไปทางใดทางหนึ่ง แตโดย มาก ถาไมคุมจิตแลว มักจะไปฝายต่ํา. ถาม : ทีนี้ถาคุมจิตเปนอยางไร? ตอบ : ถาคุมจิต ก็เรามีความขมจิตไวไมใหตกไปตามอารมณที่ชั่วที่ต่ําไป. ก็ถูกแหละ, ทีนี้พู ดกันอยางใหเขาใจชัด : เมื่อตาเห็นรูปเปนตน; ความรูสึกจะเกิดขึ้นตามสมควรแกรูปที่ไดเห็น และตามสมควรแกภูมิ ชั้น แหง จิตใจของบุคคล นั้น.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org เดี๋ยวนี้เราพูดเอาตามจิตใจของปุถุชนธรรมดาสามัญเปนหลัก เราจึง พูดไดอยางนั้น; วาเมื่อเห็นรูปเขาแลว มันจะยินดี เมื่อรูปนั้นเปนที่นาพอใจ, และยินรายในเมื่อรูปนั้นไมเปนที่นาพอใจ, หรือวา จะกระสับกระสายอยูโดยไมรู วาอยางไรในเมื่อรูปนั้นไมไดเปนที่นารัก นาพอใจ, หรือไมเปนที่นารัก นาพอใจ; แตมันมีอะไรชวนใหฉงนอยู.
เพราะฉะนั้น ในพระคัมภีรจึงแจกไว ๓ อยาง ตามหลักของเวทนา ว า สุ ข เวทนา ก็ ช วนให ห ลงรั ก หลงพอใจ, ทุ ก ขเวทนา ก็ ช วนให โ กรธ
www.buddhadassa.in.th
การกลับมาแหงศีลธรรม
๒๑๖
ให เกลี ย ด ให คิ ด รายไปตามเรื่อ ง, และถ า อทุ ก ขมสุ ข เวทนา ก็ ชวนให ข อ งใจ สงสัยหรือบางทีถึงกับใหพะวงหลงไหลอยูก็มี เพราะอยากจะรูวามันจะเปนอะไร. สิ่ ง ที่ เราได รูสึ ก ทางตา ให เกิ ด เป น เวทนา ๓ คื อ สุ ข เวทนา, ทุ ก ขเวทนา, อทุกขมสุขเวทนา; ที่เกิด ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางผิวกาย ทางใจ ก็เหมือ นกัน อีก เหมือ นกัน ทั้ง ๖ อายตนะ. ฉะนั ้น เราพูด กัน สัก อายตนะเดีย ว ก็พ อ; วา พอเห็น รูป แลว มัน ก็จ ะตอ งเกิด ความรูส ึก ตามสมควรแกรูป ที ่ไ ดเห็น กับ จิต ใจของบุค คลผู ทํ า การเห็น . ถา เปน พระอรหัน ตแ ลว เห็น ก็รู ส ึก ไปอยา ง หนึ่ง, ถาเปนปุถุชนเห็นก็รูสึกไปอีกอยางหนึ่ง. ....
....
....
....
เดี ๋ย วนี ้เราพูด ถึง เรื่อ งของปุถ ุช น; เพราะวา เรากํ า ลัง พูด ถึง ศีล ธรรม ในโลกของปุถุช น ที่กํา ลัง นา อัน ตราย, หรือ ถา จะใหจํา กัด ความมากไปกวา นั้น ก็วา กํา ลัง พูด ถึง เรื่อ งของบุค คลที่กํา ลัง ตอ งการศีล ธรรม. พระอรหัน ต ท า นไม ต อ งการศี ล ธรรมแล ว เพราะอยู เหนื อ ศี ล ธรรม เหนื อ ความต อ งการศี ล ธรรม. เดี๋ ย วนี้ เ รากํา ลั ง พู ด เรื่ อ งศี ล ธรรม พู ด ถึ ง รากฐานของศี ล ธรรม ฉะนั ้น ความรูสึก ของบุค คลชนิด นี ้ จะรูส ึก อยา งไร; ขอใหศ ึก ษาใหด ี จึง จะเขาใจเรื่องที่จะพูดกันตอไป.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ถาม
: เมื่อตาไดเห็นรูป เปนตน ยอมเกิดความรูสึกอันแรก คือเวทนา; ผัสสะ นั ้น ถือ การไดเ ห็น แลว ก็เ กิด เวทนา. เมื ่อ หลัง จากเกิด เวทนาแลว เกิดอะไร นี่สอบไล ?
www.buddhadassa.in.th
รากฐานของศีลธรรมอันดับสาม
๒๑๗
ตอบ : เกิดตัณหา. ถาม : เกิดอยางไร วาไป ? ตอบ : ตัณหา ก็คือความอยาก ความอยากไดในสิ่งที่เราเห็น. ถาม : ไมหมด อยางนั้นไมหมด. ตอบใหหมด เกิดเวทนาแลวเกิดตัณหา เกิด อยางไร, เกิดเทาไร วาไปใหหมด ? ตอบ : ตั ณ หา ก็ คื อ ความอยากได . ตั ณ หามี ๓ อย า งครั บ ; กามตั ณ หา ภวตัณหา วิภวตัณหา; ตัณหาที่อยากไดนั่นไดนี่ มันเปนทุกขแรง. ถาม : ฟงมามากแลว ยังไมแนใจ ลองสอบไลดู. เอา, คุณประยูร ?
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ตอบ : เมื่อเกิดเวทนาแลว ก็เกิดสัญญาจําไดหมายรูตามหลัง มีความมั่นหมาย ตามหลังขึ้นมา.
ถาม : เกิ ด เวทนาแล วนา; มาถึ งขั้ น ผั ส สะแล ว เกิ ด เวทนาแล ว รูสึ ก พอใจ ไมพ อใจอะไรไปแลว เกิด อะไรอีก ตอ ไป? ถา เกิด สัญ ญาจํ า ได หมายรูวาเปนรูปอะไรนั้น มันจะตองเกิดกอนเวทนา.
ตอบ : ทีนี้เกิดความสําคัญของสิ่งนั้น ในลักษณะแหงความสําคัญมั่นหมาย. ไมใชความจําไดหมายรูเสียแลว. ถาม : นั่นก็เรียกวาสัญญาอีกแบบหนึ่ง.
www.buddhadassa.in.th
๒๑๘
การกลับมาแหงศีลธรรม
ตอบ : เกิดสัญ ญาที่มีความสําคัญ มั่นหมาย แลวก็จึงเกิดสังขารปรุงแตง คิด วา เราควรจะเอา, เราตอ งเอา, หรือ เราจะตอ งทํ า อะไรกับ สิ ่ง นี ้; นี้ เรียกวาสังขาร. พอเกิด สังขารแล ว นี้เรียกวา เกิด ตัณ หาขึ้น มา คือ มี ใจ อยากจะเอาขึ้ น มา. พออยากจะเอาขึ้ น มา ก็ จ ะคิ ด ติ ด อยู กั บ สิ่ ง นั้ น ตลอดเวลา ยึด มั ่น ในสิ ่ง นั ้น ตลอดเวลา ตอนนี ้เ ปน อุป าทานแลว . ตั ณ หาแล วก็ อุปาทาน พอหลั งจากเกิดความยึ ดมั่ นในสิ่ งนั้ นขึ้นมา ก็จะ กอ ใหม ีภ าวะที ่จ ะเปน เจา ของสิ ่ง นั ้น ก็ค ือ เปน ภพ. พอไปเอาสิ ่ง นั ้น ขึ้นมาจริง ๆ หรือวาแสดงตัวตนเป นเจาของสิ่งนั้น จริง ๆ ก็คลอดออกมา เปน ชาติ. พอหลัง จากนั ้น ถา หากวา สิ ่ง นั ้น มัน เปลี ่ย นแปลงไปตาม กฎของสังขารก็กลายเปนชรา มรณะ จนเปนทุกข นั่นจบแลว. นั่นถูกแลว, เรื่องนี้ถาจะพูดใหละเอียดตามหลักเกณฑที่ลึกซึ้ง ก็พูด ตามกระแสแหงปฏิจจสมุปบาท; ฉะนั้น อยูที่วา จะชี้ใหเห็นกระแสแหงปฏิจจสมุป บาท อยา งชัด เจนไดห รือ ไม. เมื ่อ ถามวา เกิด เวทนาแลว จะเกิด อะไร? โดยปรกติก็จะตอบไปในทางวา เกิดตัณหา โดยจะชี้ใหเห็นวาเกิดตัณหาอยางไร ? ถ า เวท น านั ้ น เป น ที ่ ตั ้ ง ท างก าม ารม ณ ก็ เ กิ ด ตั ณ ห าที ่ เ รี ย กว า กาม ตัณ หา, ถา เวทนานั ้น ใหเ กิด ความรู ส ึก ทางความเปน นั ่น เปน นี ่ ก็เ กิด ภวตัณ หา อยากเปน นั่น เปน นี่, ถา เวทนานั่น มัน เลวรา ย ชวนใหไ มอ ยาก เปน อะไร หรือ อยากทํา ลายเสีย ก็เ รีย กวา เกิด ตัณ หาชนิด วิภ วตัณ หา. หลักเหลานี้ควรจะแมนยําอยูในจิตใจของพวกเรา ที่พูดกันมา และฟงกันมาเปนป ๆ แลว ก็ตองตอบอยางนักเลง : เวทนาทําใหเกิดตัณหา ๓ คืออยางนั้น ๆ ไปเลย.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ถาจะไปใชคําวา สังขาร มันก็จะทําใหปนกันมากขึ้น คือ ตัณหามันก็ เปนสังขารชนิดหนึ่ง คือเปนสังขารขันธ; อุปาทาน ภพ ชาติ อะไรก็ลวนแตเปน
www.buddhadassa.in.th
รากฐานของศีลธรรมอันดับสาม
๒๑๙
สังขาร, เป น สังขารขัน ธทั้ งนั้น ; ก็เลยพู ด ให ชัด ลงไปวาเป น ตั ณ หา แลวเป น อุปาทาน แลวเปนทุกข. คําวา สังขารขันธ รวมพวกนี้ไวหมดเลย. ....
.... .... ....
ทีนี้ มาพูดกัน ถึงตัวความรูสึกที่มุงหมายในวันนี้ดีกวา วา เมื่อ เห็นรูปแลว เปนการสัมผัสทางตาโดยสมบูรณแลว เกิดความรูสึกที่เปนเวทนา, เรีย กวา ความรูสึก ที่เปน เวทนา คือ สุข เวทนา ทุก ขเวทนา อทุก ขมเวทนา เกิด ขึ ้น แลว ; ความรูส ึก ที ่เปน เวทนานี ้ จะทํ า ใหเกิด ความรูส ึก ที ่เปน ตัณ หา: อยากไดไปในทางกามก็มี, ในทางเปนนั่นเปนนี่ก็มี, ไมเปนนั่น ไมเปนนี่, อยาก สูญไปเสียก็มี. นี่เปนความรูสึกอันหนึ่งที่จะนําไปสูอุปาทาน คือยึดมั่นถือมั่น. เมื ่ อ รู ส ึ ก ยึ ด มั ่ น ถื อ มั ่ น แล ว ก็ จ ะรู ส ึ ก เป น ตั ว ตนที ่ ส มบู ร ณ ; มัน ก็มีปญ หาเกี่ย วกับ ความเกิด แก เจ็บ ตาย ขึ้น มาทัน ที; ก็ก ลา วไดวา ไปจบลงที่ค วามทุก ข. กระแสแหง ความรูสึก นี้ ถา ปลอ ยใหมัน ไปตามเรื่อ ง ของมัน มันก็ไหลไป ๆ ไปจบลงที่ความทุกข.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org นี ่ เ ราจะต อ งรู จ ั ก บั ง คั บ กระแสแห ง ความรู ส ึ ก นี ้ ไ ว ; อย า ให เกิดขึ้น, หรืออยาใหไหลไปจนถึงความทุกข. ถามัน เกิดขึ้นแลว ก็หยุดเสียได กลางคัน; บังคับไว ก็ไมไปถึงความทุกข.
พอเกิด เวทนาแลว ก็ม ีส ติรู ส ึก ทัน บัง คับ , หรือ วา ปรับ ปรุง , หรือ วาบิดผันใหมันเลี้ยวไปเสียทางอื่น ไมใหเกิดตัณ หา; หรือวาแมวาจะเกิด ตัณหาขึ้นแลว มีสติขึ้นมา ตัณหานั้นก็อาจจะหยุดชะงักหรือดับไปได; แตมันยาก เสียแลว.
www.buddhadassa.in.th
๒๒๐
การกลับมาแหงศีลธรรม
ในพระพุท ธภาษิต ก็ม ีอ ยู ห ลายแหง ที ่ว า เกิด ตัณ หาแลว ก็ด ับ ตั ณ ห านั ้ น เสี ย ได ; เพ ราะส ติ ม ั น ม าทั น เรื ่ อ งก็ ว ก ก ลั บ เป น ไม ไ ห ล ไป หาความทุกข. แตความรูสึกอยางนี้เปนความรูสึกในทางธรรมอันละเอียด, เปน ความรู ส ึก ในธรรมะชั ้น สูง ของบุค คลเฉพาะคน ที ่ต อ งการจะไปสูง จนบรรลุ มรรค ผล นิ พ พาน; เรายั ง ไม พู ด ถึ ง เรื่อ งธรรมะชั้ น สู ง อย า งนี้ . ในเวลานี้ . ใน ปญหาขอนี้ จะพูดถึงเรื่องระดับศีลธรรม ของคนทั่วไปในโลก คือระดับคนสามัญ ธรรมดาหรือปุถุชน เพื่อจะคนใหพบวา เขาไมบังคับความรูสึกกัน ปญหาในสังคม จึงเกิดขึ้น อยางที่ปรากฏอยูอยางนาเกลียด นาชัง นาขยะแขยงที่สุด เต็มไปใน หนาหนังสือพิมพ เปนประจําวัน. ถาม : เพราะฉะนั้ น ให คุ ณ ทองอธิ บ ายว า สั ง คมป จ จุ บั น ชั้ น ทั่ ว ไปนี้ มั น ไม บังคับความรูสึกกันอยางไร ? เอาเด็ก ๆ ของคุณกอนในโรงเรียน. ตอบ : ในแงของความโลภ เห็นเพื่อนมีตุกตามา หรือมีหนังสือ มีภาพใหม ๆ สวย ๆ มา เมื ่อ มีค วามรูส ึก อยากจะดู หรือ อยากจะเอามาเปน เจา ของ ก็ เข าไปยื้ อ แย ง, หรือ ขณะที่ เพื่ อ นเล น ของเล น อยู นั้ น ตั วเองอยากจะได ก็ เข า ไปยื้ อ แย ง เอาเลย นี่ ใ นแง ข องความโลภ. ที นี้ ในแง ข องความ โกรธ โดยที่ ไม ได ยั บ ยั้ ง , เมื่ อ มี ค วามรูสึ ก เช น ว าเมื่ อ เพื่ อ นมากระแทก ลม ลง ไมไ ดส ืบ สาวเคา เงื ่อ นวา ที ่ม ากระแทกนั ้น เหตุม าจากอะไร; เมื่ อ สื บ ไป สื บ มา ได ค วามว า เขา เซถลามาโดยบั งเอิ ญ แต ก็ ถู ก คนที่ เขาเซไปถู ก นั้ น ชกต อ ยเอาแล ว มั น จึ ง ได เกิ ด เรื่ อ งขึ้ น . ที นี้ ในแง ข อง ความหลง ก็คือหลงอยากจะไดเชนนั้น จึงทําใหเกิดเรื่องขึ้น.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ถาม : นี่ของพวกลูกเด็ก ๆ ในโรงเรียนโดยมาก. เอา, คุณ ล้ํา ในฐานะที่เปน กํานัน ลูกบาน ประชาชน ตามถนนหนทาง ตามตลาด.
www.buddhadassa.in.th
รากฐานของศีลธรรมอันดับสาม
๒๒๑
ตอบ : ความอยากได ข องคน ส ว นมากก็ มั น มี ห ลั ก อยู ที่ ก ารเห็ น แก ตั ว ; เมื่ อ เห็น สิ ่ง ที ่เราไมค วรไดก ็อ ยากได โดยไมไ ดค ิด ถึง สิท ธิข องผู อื ่น อัน นี ้ทํ า ให ค นเกิ ด ความโลภโดยไม มี เหตุ ผ ล ด ว ยความอยากได แล ว ก็ ไม ได คิ ด ถึงสิทธิของผูอื่น. ถาม : โดยรายละเดียดบางสวนมันเปนอยางนั้น ; แตเราควรจะพูดโดยหลักที่ กิ น ความรวบหมด ว าเราในฐานะที่ เป น กํ านั น จะปกครองคน เราค น หา มู ลเหตุ อันลึ กซึ้ง วาพวกอาชญากรทั้ งหลายเหล านั้ นประกอบอาชญากรรม เพราะวามันไมบังคับความรูสึก พูดอยางนี้ถูกไหม ? ตอบ : ถูกครับ. ถูก อยางยิ่ง, ถู ก โดยใจความด วยนะ ; ที นี้ ก็ ไปหารายละเอี ยดเอาซิ . ที่มันชกตอยกันก็ดี ที่มันขโมยกันก็ดี, ที่จองลางจองผลาญ กอเวรอะไรกันก็ดี, แม ที่สุดที่มันไมชวยเหลือซึ่งกันและกัน ในกรณี ที่ควรชวยเหลือซึ่งกันและกัน มันเปน อั น ธพาล เป น พลเมื อ งเลว เป น อะไรไปเสี ย หมดก็ ดี ; เพราะล ว นแต ไ ม บั ง คั บ ความรู ส ึก . จึง ขอรอ งใหค ุณ ยกตัว อยา งมาใหฟ ง ตามที ่ม ัน เปน อยู จ ริง ตาม ถนนหนทางทั่ว ๆ ไป มันมีอะไรบาง? เราจะไดรูจักการไมบังคับความรูสึกกันให ถูกตอง แลวเราก็จะไดเกลียดชัง สิ่งเลวรายนี้.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ถาม : ที นี้ คุ ณ ประยู ร ในฐานะที่ เป น หมอ ต อ งแสดงโทษของการไม บั ง คั บ ความรูสึก สวนที่มันเกี่ยวกับหมอดูซิ วาอยางไร ? มีอะไรบาง ? ตอบ : เรื่อ งที ่เ กี ่ย วกับ การที ่ไ มรูจ ัก บัง คับ ความรูส ึก แลว มีผ ลมาถึง สุข ภาพ อนามั ย ที่ เห็ น ได ชั ด ๆ อยู เดี๋ ย วนี้ ก็ คื อ ข อ ๑ ยาเสพติ ด ให โทษ นี่ เห็ น
www.buddhadassa.in.th
๒๒๒
การกลับมาแหงศีลธรรม ได ชั ด ว า เราไม รูจั ก บั งคั บ ความรูสึ ก ตั้ ง แต ย าเสพติ ด อย างแรง ตั้ ง แต เฮโรอี น ลงมาจนกระทั ่ ง ถึ ง สุ ร า เสพติ ด อ อ น ๆ ; นี ่ เ ป น เพราะ ไม รูจั ก บั งคั บ ทั้ ง นั้ น จึ ง ทํ า ให ค นเสี ย สุ ข ภาพอนามั ย เพราะยาเสพติ ด จนมาถึงสุราแยะ นี่ขอที่ ๑. ขอ ที่ ๒. เกี่ ยวกั บ อาหารการกิ น เกี่ ย วกั บ เรื่อ งอาหาร ; เพราะ คนเราเป น ทาสของลิ้ น คื อ ไม รู จั ก บั ง คั บ ความรู สึ ก เกี่ ย วกั บ รสชาติ อาหาร หลงติ ด ในรสชาติ ข องอาหาร มี อ ะไรก็ อ ยากจะให มี ร สอร อ ย ตามที่ของสมัยใหมมันปรุงแตง สงมาขาย. เป น ตนวา ผงชูรส เดี๋ยวนี่กินไปกินมาจนชักจะประกาศวา เริ ่ม มีโ ทษ. นี ่ผ งชูร สปลอมก็ม ีเ ยอะแยะ แลว ก็ใ สเ ขา ไปใหม าก ๆ ยิ ่ง ใสม ากมัน ยิ ่ง หวาน ยิ ่ง อรอ ยเขา เรื่อ ย. เราไมรูจ ัก บัง คับ ความรูส ึก รสชาติใ นอาหารเลยวา แคนี ้ม ัน ก็พ อ ไมจํ า เปน ตอ งไปกิน รสชาติ มัน , อยา งนี ้ไ มเ อาก็ป ลอ ยไปตามรสชาติข องผงชูร ส ก็ใ สเ พิ ่ม เขา ทุ ก วั น ๆ ; จน เดี ๋ ย วนี ้ แม แ ต น้ํ า พ ริ ก ก็ ใ ส ผ งชู ร ส ค รั บ ใส ห ม ด ทุก อยา ง และใสม าก ๆ ดว ย ซึ ่ง ลว นแตจ ะใหโ ทษตอ ไปอีก นาน ที่เปนอยูชัด ๆ.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org อีกอยางหนึ่ง เกี่ยวกับความหิวของอาหาร ตามปรกติ มนุษย เราควรจะกิน อาหารใหเปน มื ้อ เปน เวลา ตามที ่คํ า โบราณ คนเฒา คนแก เขาเขี ยนไว ว า “ไม ควรซื้ อก็ อย าไปพิ ไรซื้ อ ให เป นมื้ อเป นคราว ทั้ งคาวหวาน”. แต เราไม ค อยบั งคั บความรู สึ กเกี่ ยวกั บอาหาร ; เพราะวา เดี๋ ยวนี้มี แม คาเรขายหรืออะไรตาง ๆ เปนอาหารที่ม าใหม ผานหน า บ า นเราสลอนได ทุ ก วั น . เมื่ อ เราเห็ น อะไรก็ จ ะกิ น เสี ย เรื่ อ ยทั้ ง วัน ซึ่ ง จะทํ า ให กิ น บ อ ย ก็ คื อ เด็ ก ในตลาด ทํ า ให กิ น บ อ ย ๆ. อาหารก็
www.buddhadassa.in.th
รากฐานของศีลธรรมอันดับสาม
๒๒๓
ยอยไมคอยไหว, กะเพาะก็ยอยไมคอยไหว, กินไปกินมา ถึงยอยไหว ปริมาณมันก็เกิน จึงกลายเปนโรคอาหารเกิน, หรือไมอยางนั้น ก็เปน โรคอาหารเสีย ; เพราะไปชอบความรูสึกที่ชอบกินอาหารรสอรอย ๆ ซึ่งยังมีอีกหลายอยาง. ถาจะพูดก็ไปอีกนาน ผมขอแค ๓ อยางนี้กอน. ถาม : สามอยางคืออะไร ? ตอบ : คื อ ๑ เกี่ ย วกั บ ยาเสพติ ด ให โทษ ๒ เกี่ ย วกั บ รสอาหาร, สองครับ ไมใชสาม. ถาม : สุราละ, นี่กําลังพูดถึงสุราใชไหม ? ตอบ : ผมรวมไปไวในยาเสพติดอยางเบา ๆ ครับ ๑ ยาเสพติดใหโทษอยาง แรง ๒ สุรา ๓ รสชาติอาหาร.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ถาม : ตามสถิติของทางสาธารณสุข ที่ประกาศอยูปาว ๆ อยูแทบทุกวัน สถิติ เกี่ยวกับกามโรคมากหรือนอยกวาสถิติเกี่ยวกับยาเสพติด ? ตอบ : กามโรคเดี๋ยวนี้มากกวายาเสพติด.
ถาม : ทําไมคุณไมพูดกอน? ตอบ : แตนี้ผมเอาแตที่เห็นชัด ๆ งาย ๆ. ถาม : อันไหนละ ที่ไมเปนการบังคับความรูสึกยิ่งกวากัน ?
www.buddhadassa.in.th
๒๒๔
การกลับมาแหงศีลธรรม
ตอบ : ถาพูดถึงความรุนแรง กามโรคแรงกวาครับ ที่ไมบังคับความรูสึก ; เพราะว า กามโรคเป น โรคที่ ติ ด ต อ ได ท างเดี ย วเท า นั้ น คื อ ทางอวั ย วะ เพศ โดยการสืบ พัน ธ ; แตก ลายเปน วา โรคนี ้ยิ ่ง ระบาดมากขึ ้น ๆ โดยเฉพาะในเด็ก และตั้ง กองควบคุม โรคมาตั้งนานแลว ก็ไมสํา เร็จ สักที. โรคก็ระบาดเพิ่มมากขึ้น ก็แสดงวาบังคับความรูสึกไมไดเพราะ มันไปในทางนั้นทางเดียวครับ ทางอื่นติดตอไมได. ไดยินจากประกาศสารณสุขวา อันตรายจากกามโรคระบาดเขาไป ในโรงเรียนยิ่งกวายาเสพติด เชน เฮโรอีน เปนตนเสียอีก. เราออกชื่อ เอยแต ชื่อก็พอ รายละเอียดไมตองบรรยายก็ได ; เชน ไมบังคับความรูสึก ทางยาเสพติด ทางเพศ ทางกินอยู. นี่มันยังมีอีกมาก สําหรับคนธรรมดาสามัญทั่วไป. ถาอยางไรก็ลองนึกถึง, หลักที่นึกถึงกันไดงาย ๆ เชน อบายมุข ๖ ซึ่งเปนประตูแหงอบาย ถาไปทําเขาแลวก็พลัดตกลงไปในอบาย ดื่มน้ําเมา เที่ยว กลางคื น ดู ก ารเล น เล น การพนั น คบคนชั่ ว เป น มิ ต ร เกี ย จคร า น ทําการงาน อะไรก็ตามที่เปนประตูแหงอบาย แลวก็นํามาซึ่งอันตรายเหลานี้ คือ ยาเสพติดบาง กามโรคบาง การทะเลาะวิวาท ฆาฟนกันบาง ซึ่งเปนปญหาทาง ศีลธรรมโดยตรง.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org อย า ลื ม ว าเรากํ าลั งพู ด ถึ ง ป ญ หาทางศี ล ธรรมโดยตรง และโดย เฉพาะอยางยิ่งของสังคม ; ตองเหลือบตามองไปทางสังคม กอนที่จะมองมา ในปา หรือในวัด ซึ่งมันเปนระดับที่สูงขึ้นไป แลวก็จนเลยระดับของศีลธรรม ไปเสียแลวก็มี. ปญ หามันเกิดขึ้น จนเราตองเอามาอภิปรายกันนี้ คือ ปญ หา ของทางสัง คม ; ฉะนั้น เหลือ บตาดูท างสัง คมไวเ สมอวา สัง คมจะวิน าศ
www.buddhadassa.in.th
รากฐานของศีลธรรมอันดับสาม
๒๒๕
เพราะวา ศีล ธรรมมัน ไมม ี. ศีล ธรรมนี ้กํา ลัง เหมือ นตน ไมที ่ข าดอาหารแลว กําลังจะตาย ; ศีลธรรมไมมีอยูในจิตใจของคนเหลานั้น. ....
....
....
....
วันนี้ก็ระบุกันถึงหัวขอพอสมควรแลว อาจจะเอาไปคิดนึกไดเองแลว ไปขยายออกไปอีกไดเอง จนรูทั่วถึงวา สังคมนี้มันขาดการบังคับความรูสึก. ทีนี้คนเขาใหความสําคัญแกธรรมะขอนี้นอยเกินไป ; คนสมัยนี้ใหความสําคัญแก ธรรมะขอ นี ้ที ่เรีย กวา บัง คับ ความรูส ึก นี ่ มัน นอ ยเกิน ไป, และนอ ยลงทุก ที, เรียกวานอยยิ่งขึ้นทุกที ก็ได. ถาม : มองเห็นขอนี้หรือเปลา วาเดี๋ยวนี้คนในสังคมนี้ ตลอดจนถึงผูจัดการ ศึกษาของสังคม หรือของโลก ใหความสําคัญแกธรรมะขอนี้นอยเกินไป หรือ จนกระทั ่ง ไมม ีเหลือ คือ ไมไ ดใ หค วามสนใจเสีย เลย, คุณ ทอง มองเห็นไหม ขอเท็จจริงอันนี้ ถามองเห็นคุณวาไปดูซิ ?
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ตอบ : สังคมปจจุบัน ถาจะมองโดยเฉพาะในแงของการศึกษา เกือบจะไมได มองกันถึงปญหาเรื่องการระงับความรูสึกนี้เลย.
ถาม : เชน, เชนอะไรบอกมาเลย ? ตอบ : ในโรงเรี ย นเราไม มี ก ารสอนกั น ถึ ง วิ ช าศี ล ธรรมเหล า นี้ เ ลย ; โดย เฉพาะมุงไปในหลัก สูตรที่ทางกระทรวงเขาบังคับ ใหทําการสอน.เรา จะทํ า ไดก็โดยที ่เราทํ า ขึ้น เอง จัด สรรขึ้น มาเอง เพื ่อ ที ่จ ะระงับ ยับ ยั้ ง พวกเหล า นั้ น เสี ย . เขาไปส ง เสริ ม แต เ รื่ อ งที่ ทํ า อย า งไรจึ ง จะมี ,
www.buddhadassa.in.th
๒๒๖
การกลับมาแหงศีลธรรม ทําอยางไรจึงจะไดขึ้นมา ; ไปสงเสริมเสียอยางนั้นเปนสวนมาก. ทีนี้ ในสังคมก็เหมือนกัน อยางบางคนพูดออกมาเลยวา การทําอะไรตามความ รูสึกหรือความตองการของตัวนั้น เปนยอดปรารถนาของเขา ; สังคมเขามา มองอยางนี้.
นี่ถูกอยางยิ่ง. ขอใหทุกคนสังเกตเห็นอันตรายอันรายกาจขอนี้กันไว ว า กํ า ลั งระบาดรุน แรงขึ้ น ; ในโรงเรีย นไม มี เลยที่ จ ะสอน หรือ จะอบรมให เกิ ด ความรูส ึก กลัว สิ ่ง นี ้. แตโ บราณเขามี แมไมม ีก ารสอนโดยตรง ก็ม ีก ารอบรม โดยออม ; เขาสอนเด็ก อบรมเด็ก ใหรูจักกลัวบาป. กลั ว บาป คํ า เดี ย วก็ พ อ มั น จะบั ง คั บ ความรู ส ึ ก อย า งที ่ เ รี ย ก วาฉับพลันได ; พอมันนึก กลัวบาปขึ้นมาเทานั้น มันก็ระงับความรูสึกอันนั้นไว ได. แลวเด็ก ๆ เขาก็แสดงอาการกลัวบาป สะดุงตอบาป ชะงักทันที อยูบอย ๆ ให เพื่ อนเด็ก ๆ กันเห็น ; เด็ก ๆ เพื่ อน ๆ กัน มันก็พลอยติดนิสัยอยางนั้นไปดวย ; พอจะทํา อะไรลงไป เพื ่อ นทัก วา บาป ละก็ห ยุด ชะงัก ; นี ่ก็เลยติด นิสัย ตอ ๆ กันไปที่วา พอบาปแลวก็สะดุง กลัวบาป โดยไมตองมีเหตุผล ไมตองถามเหตุผล. นี้ก็เปนผลดีเรื่อย ๆ มา จนกวาจะมีการศึกษาอยางใหม ที่มุงหนาแตใหเกิดความ กาวหนาในการไดซึ่งผลิตผลอยางเดียว ฉะนั้นแทนที่จะบังคับความรูสึกอยางที่เรา ตองการ มันกลายเปนสงเสริมความรูสึกใหมากยิ่งขึ้นไปอีก.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ฉะนั้น การศึกษา ในโรงเรียนปจจุบันนี้ ประถม มัธยม อุดม หรือ อะไรก็ ต าม ล ว นแต ส ง เสริ ม ความรู สึ ก ให รุ น แรงยิ่ ง ขึ้ น ไปทั้ ง นั้ น ไม บั ง คั บ ความรู สึ ก ไม ห า มล อ ความรู สึ ก จนกระทั่ ง เกิ ด เป น หลั ก ที่ ถื อ กั น อย า งยิ่ ง ว า “ปล อ ยตามความรู สึ ก ละก็ เป น ประชาธิ ป ไตย, ไม ป ล อ ยตามความรู ส ึ ก ละก็เปนเสียเสรีภาพ”.
www.buddhadassa.in.th
รากฐานของศีลธรรมอันดับสาม
๒๒๗
เรื่อ งนี้ มั น เป น เรื่อ งของธรรมชาติ เรื่อ งของกิเลสอยู อ ย างเต็ ม ที่ แล ว เพราะกิเ ลสตามธรรมชาติ มัน อยากจะเอาตามความรูส ึก อยู อ ยา งเต็ม ที่ แลว ; นั่น คือ คนธรรมดาสามัญ . แตค นเดี๋ย วนี้เลวไปกวา ธรรมดาสามัญ คือ ไปสงเสริมความรูสึกเขาอีก ; ฉะนั้นจึงไดรับทุกข ไดรับโทษ ในสังคมนี่ ยิ่งกวา คนสมัยโบราณ ที่เขาปลอยไปตามธรรมดาสามัญ เพราะไมมีอะไรกระตุน หรือ สงเสริมความรูสึกเหมือนคนในสมัยนี้. นี้ถาจะพูดอีก เดี๋ยวก็จะหาวาดาอีก, ดา ก็ได, จะหาดาก็ได. อยากจะพู ด ถึ งสั ต ว เดรัจ ฉานนั่ น แหละ มั น ก็ ป ล อ ยตามความรู สึ ก ของมั น ; แต มั น ไม มี อ ะไรไปกระตุ น ให มั น มากไปกว า ธรรมชาติ ไม มี สิ่ ง อะไร ประดิษ ฐช นิด ที ่พ ิถ ีพ ิถ ัน วิเศษวิโสขึ้น มากวา ธรรมดา. ฉะนั ้น ความรูส ึก ของ สัตวเดรัจฉานก็ยังอยูในระดับธรรมดาไปตามเดิม มันจึงไมมีปญหาเรื่องบังคับความ รูสึกอะไรกี่มากนอย มันก็อยูตามสบายของมันได.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org พอมาถึงมนุษ ยเรา ที่ เป นมนุษ ยสมั ยแรก ๆ ยังไมมี อะไรเจริญ ทาง วัต ถุ ไมม ีอ ะไรยั่ว ความรูส ึก เขาก็บ ัง คับ ความรูส ึก กัน เสีย แลว ; ศีล ธรรม ในชั้นแรกของมนุษย ชนิดที่เราเรียกวาปาเถื่อนนั้น ยังมีศีลธรรมดีกวาของมนุษย สมัยนี้ ที่เรียกวาคนเจริญ.
ถาเราศึกษาประวัติศาสตร ทางศีลธรรมของมนุษยมาตั้งแตแรกเริ่ม เดิม ที จะยิ่งพบวาคนปานั้นมี ศีลธรรมดีกวาคนที่เจริญ แหงยุคปจจุบัน นี้ ; หาม อะไรก็หามไว ในลัก ษณะที่เรีย กวา ตาบู คือ คําหา มของของที่ตอ งหา มอยา ง เด็ ด ขาด ไม ต อ งชี้ เหตุ ผ ล ; เพราะไม อ าจจะชี้ เหตุ ผ ลหรือ อะไร ให แ ก กั น และ
www.buddhadassa.in.th
การกลับมาแหงศีลธรรม
๒๒๘
กันได แตเขาก็กลัวอยางเต็มที่ รักษากฎระเบียบเหลานี้ไวไดอยางเต็มที่ เลยมี ศีลธรรมดีกวาคนสมัยนี้. ฉะนั้น จึงขอแทรกตรงนี้สักหนอยวา อยาไดไปโงใหมาก จนถึงกับ ไปดาใครวาคนปา คนดง. ระวังใหดีเถอะ, คนปาคนดงนั่นแหละมีศีลธรรม ดีกวาคนสมัยนี้ ที่ไปดาใครวาคนปาคนดง ; อาตมาเองก็เคยชอบดาหรือวาเขา วา ชาติปา ชาติเถื่อ น ชาติค นปา คนดงนี่เหมือ นกัน มาแตกอ น. แตเดี๋ย วนี้ มาสังเกตเห็นวา เรามันผิดเสียแลว. ที่ปาดงยังมีศีลธรรมดีกวา ที่ไมปาดงอยางสมัยนี้ ซึ่งเปนทาสของ กิเลสมากเกินไป ; เพราะไมบังคับความรูสึกทางกิเลสกันเสียเลย โดยเฉพาะทาง กามารมณ ฉะนั้น จึงมีการทําผิด เปนอาชญากรรมขึ้นเต็มไปหมดในโลกนี้ ใน เวลานี้ และจะยิ่ง ขึ้น ไปทุก ที. ตน เหตุข องมัน ก็คือ การไมบัง คับ ความรูสึก อยา งที ่ไ ดก ลา วมาแลว ; ฉะนั ้น จึง ขอใหส นใจสิ ่ง ที ่เ รีย กวา การบัง คับ ความรูสึก นี้แหละใหดี ๆ.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ....
....
....
....
ทีนี้ อยากจะใหสังเกตดูตอไปวา มันขึ้นอยูกับรากฐานขอแรก ขอที่ ก อ นหน า นี้ ที่ เ รี ย กว า การไม เ ป น ทาสทางอายตนะ, มั น เนื่ อ งกั น อยู อยางแยกกันไมได. ที่เรียกวาเปนทาสทางอายตนะ, เปนทาสทางตา ทางหู ทางจมูก นั้น ก็เพราะการไมบังคับความรูสึก หรือเพราะไมสามารถบังคับความ รูสึก ฉะนั้นเมื่อเราตองการจะใหมีความไมเปนทาสทางอายตนะนี้ เราก็ตองชี้ใหเห็น
www.buddhadassa.in.th
รากฐานของศีลธรรมอันดับสาม
๒๒๙
ทางใหเขาเห็นวา จะตองทําอยางไร ; ดังนั้น เราจึงจะตองพูดถึงเรื่องนี้ติดกันไป โดยไมแยกกัน. ถ า เมื่ อ ต อ งการจะไม เ ป น ทาสของอายตนะแล ว เราก็ จ ะต อ ง มีการบังคับความรูสึก ฉะนั้นจึงตองเอามาเนื่องกัน ติดกัน แฝดตอกันไปเลย ; เมื่อบังคับความรูสึกไดแลว ก็จะไมเปนทาสทางอายตนะ. นี่พวกอาชญากรทั้งหลาย ไมวาชนิดไหนหมด ประกอบอาชญากรรมนั้น ๆ ก็เพราะวาเขาเปนทาสของอายตนะ ใด อายตนะหนึ่ง ในลักษณะใดลักษณะหนึ่งเสมอ. ถาจะปองกันอาชญากรรมนั้น ก็ตองปองกันความเปนทาสของอายตนะ, หรือจะใหไมเปนทาสของอายตนะ ก็ตองมีการบังคับความรูสึกอยางที่วานี้. ฉะนั ้น เราจะตอ งศึก ษาเรื่อ งของจิต ใจ ในแงนี ้ใ นมุม นี ้ เพื ่อ ให เขาใจไดวามันเกิดความรูสึกขึ้นมาอยางไร ในจิตใจของคนเรา, และมันจะเดินไป อยางไร, ตามปรกติมันจะเดินไปทางฝายต่ํานั้น มันเดินไปอยางไร ; รายละเอียด ก็ค ือ เรื่อ งปฏิจ จสมุป บาท. จงไปศึก ษาเรื่อ งนั ้น เปน พิเ ศษ ก็จ ะเขา ใจราย ละเอียดเปนพิเศษ ; แลวก็มาแยกแยะเอาเฉพาะเรื่อง เฉพาะกรณี เฉพาะยุคสมัย เฉพาะถิ่น ภูมิประเทศอะไรก็ตาม วาจะตองศึกษาฝกฝนเพื่อบังคับความรูสึกกัน อยางไร.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ....
....
....
....
ทีนี ้ก ็ม าถึง ปญ หาใหญ ที ่ว า เดี ๋ย วนี ้เ กิด นิย มการไมบ ัง คับ ความรูส ึก ; มัน ยิ่ง กวา แฟชั่น ไปเสีย อีก ที ่วา เราไมบ ัง คับ ความรูส ึก เราจะ ปลอยตามกิเลส จะเอาตามความสบายใจของเรา.
www.buddhadassa.in.th
การกลับมาแหงศีลธรรม
๒๓๐
นี่เปนเรื่องที่อันตรายมาก เลวรายมากอยูอยางหนึ่งแลว ; ที่เลวราย ยิ่งไปกวานั้นอีก ก็คือวา การศึกษาที่เขาจัดขึ้นในสถานที่ศึกษานั้น ก็ไมมีการ สั่ง สอนเรื่อ งบัง คับ ความรูสึก อยา งที่เราพูด กัน มาแลว ; ซึ่ง ก็เปน อยา งนี้กัน ทั้ ง โลก และเกิ ด มิ จ ฉาทิ ฏ ฐิ อ ย า งแรงร า ย ว า มนุ ษ ย เราต อ งปล อ ยไปตาม ความรูสึก, อยาไปบังคับความรูสึกเขา มันจะหมดความสุขเสีย. นี่พวกลูกเด็ก ๆ ไมรูอิโหนอิเหนอะไร เกิดขึ้นมาถูกสอนอยางนี้ เขา ก็เอากันใหญ คือปลอยไปตามความรูสึก จนไมรูทิศเหนือใต ไมรูดีรูชั่ว รูผิด รู ถ ู ก ; โลกนี ้ จ ึ ง กํ า ลั ง เป น โลกที ่ ไ ม ม ี ก ารบั ง คั บ ความรู ส ึ ก ; มี แ ต จ ะ ส ง เส ริ ม ห รื อ ป ล อ ยไป ต าม ค วาม รู ส ึ ก มั น จึ ง เป น โล ก ที ่ เ ต็ ม ไป ด ว ย อาชญากรรม. นี่ความมุงหมายที่จะพูดกันถึงรากฐานของศีลธรรมขอนี้คืออยางนี้. ....
....
....
....
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ทีนี้ อยากจะพูดใหชัดเจนลงไปในขอที่วา การบังคับความรูสึกนี่ เราจะแบ ง เป น ๒ ระยะคื อ ระยะที่ จ ะไม ใ ห เ กิ ด ความรู สึ ก อั น เลวร า ย นั้ น นั่ น ก็ ต อ งบั ง คั บ ไว , แล ว ก็ บั ง คั บ ความรู สึ ก ที่ มั น ได เ กิ ด ขึ้ น มาแล ว อยา ใหมัน ลุก ลามตอ ไป จนถึง อัน ตราย จนถึง ขีด สุด , นี้ก็อีก ระยะหนึ่ง ; จึงเกิดเปน ๒ ระยะ.
ถาม : การบังคับความรูสึกทั้ง ๒ ระยะนี้ เทาที่เราศึกษาเลาเรียนกันมาแลว จะบังคับดวยอะไร ? ดวยธรรมะชื่ออะไร ? คุณ ทองวามากอนสําหรับ เด็ก ๆ ธรรมะชื่ออะไรที่จะชวยบังคับความรูสึกทั้ง ๒ ระยะ ? คุณประยูรก็ ได คุณทองยังนึกไมออก.
www.buddhadassa.in.th
รากฐานของศีลธรรมอันดับสาม
๒๓๑
ตอบ :
ขันดี.
ถาม :
คุณล้ําละ ?
ตอบ :
โสรัจจะ ความเสงี่ยม.
ถาม :
นั่นมันหางเล็กของขันติ ; เอา, คุณทองอีกที ?
ตอบ :
สําหรับเด็ก ๆ ก็ การไมตามใจตัวเอง.
การไมตามใจตัวเองจะทําไดอยางไร. บังคับความรูสึกไมใหไปตาม ความรูส ึก ของกิเลส บัง คับ ดว ยอะไร, นี ่แ หละคือ การสอบไล ประจํา เดือ น ประจํา ป อะไรก็ตาม. เทา ที่เราไดฟง มาแลว ไดศึกษามาแลว หลายปแ ลว ก็ขอใหไปทบทวนดู จากหลักในพระบาลี ในพระคัมภีรที่อุตสาหนํามาสั่งสอนกัน ก็ดี, หรือวาจากการสังเกตจากภายในจิตใจของตนเองก็ดี มันยอมจะตรงกันถา ถูกตอง. ถาเราสังเกตถูกตอง จับฉวยไดถูกตองมันก็จะตรงกันกับในพระคัมภีรที่ พระพุทธเจาทานตรัสไว.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ถาม : สํ า หรั บ การจะบั ง คั บ ความรู สึ ก นั้ น มี สิ่ ง แรกที่ จ ะต อ งนึ ก ถึ ง ก อ น สิ่งที่เรียกวา ขันติ, สิ่งนั้นคืออะไร.
ตอบ : การขมจิต.
www.buddhadassa.in.th
๒๓๒
การกลับมาแหงศีลธรรม
การข ม จิ ต ก็ คื อ สิ่ ง เดี ย วกั น กั บ ขั น ติ . นี่ เห็ น ไหมว า เราไม ได ฟ ง ให ดี , เราไมไ ดฟ ง ใหด ี, แลว เราก็ไ มไ ดป ญ ญา. อยา วา แตค ุณ แมพ ระเณรในวัด นี้ ก็เหมือ นกัน อยู ใ นสภาพอยา งเดีย วกัน ; ไมอ ยากฟง , หรือ ฟง ก็ฟ ง อยา งไมดี มั น จึ งไม รู หรือ จั บ ฉวยไม ได . ถ า ฟ งดี ม าสั ก หน อ ย มั น ก็ จ ะนึ ก ได ต ามแบบแผน กอ น แลว จะตรงกับ ความจริง ในใจ มัน ก็ต อ งตรงกัน แหละ, คือ สิ ่ง ที ่เรีย กวา สติ. สติ เปน หญา ปากคอกเกิน ไป จนถูก ลืม เสีย บอ ย ๆ. ใหจํ า ไวด ว ย วา สติ นี ่ม ัน ออกจะอาภัพ หรือ อยา งไร ที ่ม ีค า มาก วิเ ศษที ่ส ุด แตค นก็ใ ห ความสนใจนอ ยที ่ส ุด ; จึง ขอสั ่ง กัน ไวเ สีย แตเ ดี ๋ย วนี ้ วา ถา อยา งไร ๆ อยา ลืม คํา วา สติ, ใหนึก ถึง คํา วา สติ ; เพราะเหตุที่วา สตินี ่เ ปน ธรรมะ ที่จ ะแกปญ หาในทุก กรณี จนถึง กับ มีห ลัก ขึ้น มาวา สติ สพฺพ ตฺถ ปตฺถิย า - สติเปนธรรมที่พึงปรารถนาในทุกกรณี.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ที ่ ร ะบุ ไ ว โ ดยตรงก็ ว า สติ เ ป น เครื ่ อ งหั ก ห า ม หรื อ ป ด กั ้ น , สติ นั ่ น และเป น เครื ่ อ งป ด กั ้ น กระแส. นี ่ เ ป น ธรรมะชั ้ น ลึ ก ชั ้ น สู ง ขึ ้ น ไป อย างในโสฬสป ญ หาปารายนวรรค พู ด ถึ งสติ ม าก ในฐานะเป น เครื่อ งป ด กั้ น ซึ่ ง กระแส ; กระแสนี ้ก ็ค ือ กระแสแหง ความรูส ึก . เราจะเกิด ความอดกลั ้น ไมไ ด ถา เราไมม ีส ติม ากอ น ; สติม ากอ น แลว จึง ทํ า ใหเ กิด ความอดกลั ้น ; ฉะนั ้น ตองพูดถึงสติกอน จึงจะเปนความยุติธรรม. สติส ัม ปชัญ ญ ะ รวมอยู ด ว ยกัน ทั ้ง ๒ อยา ง เรีย กวา สติ ; ถ า ป ญ หาอะไรเกิ ด ขึ ้ น สติ เ ป น สิ ่ ง ที ่ ต อ งการทั น ที : ให ร ะลึ ก ขึ ้ น มาได ว า
www.buddhadassa.in.th
รากฐานของศีลธรรมอันดับสาม
๒๓๓
มัน เปน อยา งไร, มัน คือ อะไร, มัน มาจากอะไร, โดยวิธ ีใ ด, ใหร ะลึก ขึ ้น มาได ทัน ที แลว จึง ลงมือ ทํ า ไปตามนั ้น . อยา งจะไป โกรธ เขานี ่ ไมใ ชป อ งกัน ได ด ว ยความอดกลั้ น แต ป อ งกั น ได โ ดยมี ส ติ หรื อ คุ ม สติ ; พอมี ส ติ มั น ก็ อดกลั ้น ได ; หรือ มีโ อกาสที ่จ ะอดกลั ้น . ถา ไมม ีส ติ ไมม ีท างที ่จ ะอดกลั ้น , ความอดกลั้น ก็ไมมีป ระโยชน เพราะไมมีโอกาสจะใช. ถามีส ติแ ลวมัน มีโอกาส ที ่จ ะใชค วามอดกลั ้น หรือ อะไร ๆ ตอ ไปอีก . ฉะนั ้น เราเรีย นใหรู ว า กระแส แหงความรูสึกนั้นเปนอยางไร อยางที่พูดกันเรื่องปฏิจจสมุปบาท. ....
....
....
....
ที นี ้ ม าถึ ง ป ญ หาในสั ง คม, เกี ่ ย วกั บ ความรู ส ึ ก ของคนใน สังคมที่ ไม ถู ก บั งคั บ ไว ไม ถูกควบคุม ไว ถูกปลอ ยไปตามความรูสึก นั่นเพราะ อะไร ? เพราะเขา ขาดความรูใ นเรื่อ งนี ้ ; แตนี ่ก็ไมคอ ยสํา คัญ หรือ ไมคอ ย จริงนักหรอก.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ที ่ ว า ขาด ค วาม รู ใ น เรื ่ อ งนี ้ นั ้ น , ที ่ จ ริ ง ขาด ส ติ ที ่ จ ะเอ าค วาม รู ในเรื่ อ งนี้ ม าใช ม ากกว า ; อะไรดี อะไรชั่ ว อะไรผิ ด อะไรถู ก ก็ รู กั น อยู ทุ ก คน แหละ ไม มี ใครจะแก ตั ว ได . ที่ ไปทํ า ความชั่ ว ชนิ ด ไหนก็ ต าม รู กั น ทั้ งนั้ น ว า เป น ความชั่ว ; แตอดกลั้นไมไดเพราะไมมีสติ, บังคับตัวไวไมได เพราะไมมีสติพอ.
ความสํ า คัญ ไปรวมอยู ที ่สิ ่ง ที ่เ รีย กวา สติ ถา มีม ากพอ ; ยิ ่ง เราไมสอนเรื่องความผิด ถูก ชั่ว ดี แลวยังไมสอนเรื่องการใชสติ ใหถูกตามกาละ เทศะด วย คนในโลกนี้ ก็ เลยไม มี สิ่ งนี้ คื อ ไม มี การบั งคั บ ความรูสึ ก ให อ ยู ในรอ ง
www.buddhadassa.in.th
การกลับมาแหงศีลธรรม
๒๓๔
ในรอย. โลกนี ้ก ็เ ลยไปกัน ในทางที ่จ ะ ตกต่ํ า หรือ เสื ่อ มเสีย , มีผ ลออกมา เป น ความทุ ก ข ย ากลํ า บากกั น ไปทั่ ว ทุ ก หั ว ระแหง เพราะต า งคนต า งไม บั ง คั บ ความรูสึก. ถาใหพูด เลยไปอีก สัก หนอ ยก็อ ยากจะพูด วา เพราะไปบา ประชาธิ ป ไตยกั น มากเกิ น ไป จึ ง เกิ ด ความคิ ด นึ ก ที่ จ ะไม บั ง คั บ อะไร ไม บั ง คั บ แมแ ตค วามรูสึก ของตัว เอง ; เลยหลงไป วา ถา บัง คับ ความรูสึก กัน แลว มันเสียเสรีภาพ เสียอิสรภาพ, มันไมสนุกสนานไมเอร็ดอรอย ตามที่ตัวจะตองการ ได . นี่ ค นเราก็ นิ ย มอิ ส รภาพ เสรี ภ าพในแบบนี้ ม ากขึ้ น ทุ ก ที ; โอกาสที่ จ ะมิ สติสัมปชัญญะ มันก็มีนอยเขาทุกที. นี่เรามองดูกันในฐานะที่เป นสิ่งที่นาเศรา นาสลด นาสังเวชอยางยิ่ง สําหรับ สมั ย นี้, หรือจะมองดูวา มัน เป นโชครายที่ สุด ของมนุ ษ ยแหงยุค นี้ ที่ ไม มี ศาสนา ก็ได ; ทุก ๆ ศาสนาเขาสอนใหมีสติในการบังคับความรูสึก.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ....
....
....
....
ทีนี้ก็เลยพูดกันไปถึงเรื่องศาสนากันเสียเลยดีกวา คือขอที่ขอยืนยันวา ทุ ก ศาสนาล ว นแต มุ ง หมายจะสอนการบั ง คั บ ความรู ส ึ ก ทั ้ ง นั ้ น แต เรียกชื่อแปลก ๆ ออกไป ตาง ๆ กันออกไป จนบางคนฟงไมรูเรื่อง. พุท ธศาสนา อยา งที่เ ราเรีย นกัน มามากมายแลว ก็ไ ปดูเ อาเอง ก็ จ ะพบว า ให บั ง คั บ ความรู สึ ก : ควบคุ ม อิ น ทรี ย คื อ ตา หู จมู ก ลิ้ น
www.buddhadassa.in.th
รากฐานของศีลธรรมอันดับสาม
๒๓๕
กาย ใจ ๖ อย างนี้ , ๖ อย างนี้ เรียกว า อิ น ทรี ย ก็ เพราะว ามั น เป น ตั วรายตั วการ เปน ตัว ใหญ. คํา วา อิน ทรีย มัน แปลวา ใหญ เปน ตัว รา ย ตัว การ ที ่จ ะเกิด เรื่องเกิดราว คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ; จะเกิดนรกที่นั่น จะเกิดสวรรค ที่ นั่ น ก็ เพราะว า มั น จั ด การเกี่ ย วกั บ ตา หู จมู ก ลิ้ น กาย ใจ ถู ก ต อ งหรื อ ไม . ทางพระพุท ธศาสนาจึง สอน ใหบ ัง คับ ความรูส ึก คือ อิน ทรีย เ หลา นี ้ ใหค วบคุม ไว ใหอยูในรองรอยของความถูกตอง. การปฏิบ ัต ิที ่ถ ูก ตอ ง ทั ้ง หมดนี้ อยูที ่ก ารบัง คับ ตา หู จมูก ลิ ้น กาย ใจ ใหดํ า รงอยู ใ นภาวะที ่ม ัน ถูก ตอ ง, กิน ความไปถึง ไมป รุง ใหเ กิด กิ เลส ตั ณ หา ทางตา หู จมู ก ลิ้ น กาย ใจ นั่ น เอง แล ว ก็ ไ ปเข า เรื่ อ งเดี ย วกั น กั บ ที่ เราบรรยายแล ว เมื่ อ วั น ก อ นนี้ ว า การไม เป น ทาสของอายตนะ เพราะเรา บังคับอินทรียได เราก็ไมเปนทาสของอายตนะ. ศาสนาคริ ส เตี ย น ก็ ด ี ศาสนาอิ ส ลาม ก็ ด ี เมื ่ อ ไปถึ ง เนื ้ อ หา สาระอั น แท จ ริ ง ของศาสนา แล ว ก็ อ ยู ที่ นี่ ทั้ ง นั้ น คื อ เป น เรื่ อ งการบั ง คั บ จิ ต ใจให อ ยู ใ จอํา นาจของความรู สึ ก ผิ ด ชอบชั่ ว ดี ด ว ยกั น ทั้ ง นั้ น ; แต ค น ก็ ไ ม ส นใจ ในส ว นที่ เป น หั ว ใจอย า งนี้ ไปสนใจเรื่ อ งปลี ก ย อ ย หรื อ ฝอย หรื อ แขนงน อ ย ๆ เอามาถื อ กั น เป น ใหญ เป น หลั ก เกณฑ เป น เรื่ อ งใหญ โ ต ก็ เลย เหมือนกับไมไดถือศาสนานั้น ๆ.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ถาผู ที่ ถื อศาสนาคริสเตี ยน จะปฏิ บั ติ ให ตรงตามศาสนาคริสเตี ยน มั นก็ ตอ งบัง คับ อิน ทรีย บัง คับ ความรู ส ึก อยา งที ่จ ะไมบ ัน ดาลโทสะ. อยา งพระเยซู
www.buddhadassa.in.th
๒๓๖
การกลับมาแหงศีลธรรม
สอน นี่ สอนรุน แรงไปกวา ของเกา , ของเดิม ๆ ; เชน วา เพีย งแตม องดูก็ผิด ศีลขอกาเมฯ สิกขาบทบัญญัติเดิม ๆ ของศาสนา กอนหนานั้น. ศาสนาพุทธนี่ก็เหมือนกัน มีวา ตองไปรวมประเวณีจึงจะเสียศีลขอ กาเมฯ ; สวนพระเยซูสอนวา เพียงแตมองดูแลวนึกชั่วเทานั้น ก็ผิดศีลขอนี้ แล ว โดยสมบู รณ , และมี อยางนี้ ทุ กขอ เพี ยงแตคิด เทานั้ น ก็ถือ วาผิดเสี ยแล ว. และโกรธไม ไ ด . ถ า เขาตบแก ม ซ า ย ให เ ขาตบแก ม ขวาด ว ย, ให เ ลิ ก ลั ท ธิ ที่วา เขาทํามาเทาไร เราทําไปเทานั้น เสีย. ศาสนาคริสเตียนก็เลยเปนหมันไปในขอนี้ ; เชนเดียวกับพุทธศาสนา ก็เป น หมั น ไปในขอ นี้ คื อ คนที่ ถือ ศาสนานั้ น ๆ ไม ป ระพฤติ ป ฏิ บั ติ ให ถู ก ตรงตาม หั ว ใจของศาสนานั ้ น ๆ คื อ การบั ง คั บ ความรู ส ึ ก ; ถ า บั ง คั บ ความรู ส ึ ก ได ก็ไมมีอะไรเกิดขึ้น.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ถาม : หนังสือแบบเรียนสําหรับลูกเด็ก ๆ สมัยเมื่อไมนามมานี้ มีนิทานอุปมา เรื่อ งการบั งคั บ ความรูสึ ก ดี อ ยู ห ลายเรื่อ ง. เรื่อ งหนึ่ งเช น เรื่อ งอะไรบ า ง ? คุ ณ ทองเช น เรื่ อ งอะไรบ า ง ? นิ ท านธรรมจริ ย า ๒ - ๓ บรรทั ด รู ไหม ? คุ ณ ประยู ร, คุ ณ ล้ํ า ? นี่ แหละเป น ผู ล ะเลย เป น ผู ไม นํ ามาสอนลู ก เด็ ก ๆ ให เ ขามี ศี ล ธรรม มี ร อ งรอยของศี ล ธรรม. ถามจริ ง ๆ เถอะ คุ ณ เคย อา นไหม หนัง สือ ธรรมจริย า เรื ่อ งนับ สิบ กอ น เคยอา นไหม ? ตอบ ไมไ ด. บางทีก ็ไ มเ คยอา น, ทํ า ไมจะไมม ี, สมัย อาตมาเรีย นยัง มีเรื ่อ ง จะโกรธใครใหนับสิบกอน แลวจึงคอยพูดออกไป :
www.buddhadassa.in.th
รากฐานของศีลธรรมอันดับสาม
๒๓๗
เด็ ก ๒ คน ถื อ กระป อ งเมล็ ด ดอกไม จ ะไปปลู ก น อ งทํ า กระป อ งตก พี่ ข องเขาจะดุ ก็ นั บ หนึ่ ง ถึ ง สิ บ ก อ นเขาจึ ง พู ด . ไม เคยอ า นเลยหรื อ ก็ แ ปลกดี อ ยู ; แสดงวาเขาได ยกเลิ กหนั งสื อประเภทนี้ กั นเสี ยแล ว ก อนที่ คุ ณ จะเข ามาเป นนั กเรียน. สมัยอาตมายังมีเรียนเรื่องนับสิบกอน เขาถายมาจากของฝรั่ง. เราจะพบวา การศึก ษาของมนุษ ย ในสมัย ที ่ว ิท ยาศาสตรย ัง ไมเ จริญ นั ้น เขาฝากไวก ับ ศาสนา, เอาศาสนาเปน หลัก สํ า หรับ การศึก ษา จัด การศึก ษาโดยอนุโ ลมกับ ศาสนา ; ฉะนั ้น จึง เปน เรื ่อ งจริย ธรรม เปน ศีล ธรรม ไปหมด คือ ใหก ารบัง คับ ความรู ส ึก . นี ่เ ปน เรื ่อ งจุด ยอด หรือ เปน นิว เคลีย ส ของการศึกษา ; เขาเรียกวา ความเปนสุภาพบุรุษ. การศึ ก ษาเมื่ อ ๒ - ๓ ร อ ยป ม าแล ว มหาวิ ท ยาลั ย ออกซฟอร ด , เคมบริ ด จ , ให ป ริ ญ ญาสู ง สุ ด มุ ง การเป น สุ ภ าพบุ รุ ษ ;เรี ย นจบแล ว ก็ มี ค วามเป น สุ ภ าพบุ รุษ เป น ที่ มุ งหมาย คื อผู ที่ บั งคั บ ความรูสึ กได ไม ทํ าอะไรโดยบั นดาลกิ เลส ; นั่ น ต อ งเป น อย า งนั้ น เพราะว า โรงเรี ย นนั้ น พระจั ด ; พวกพระในศาสนาคริ ส ต จัดใหเปนอยางนั้น.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ที นี้ ออกซฟอร ด เคมบริ ด จ ในสมั ย ต อ ๆ มาอี ก มั น ก็ เ ปลี่ ย นไป ตามความก าวหน าของความเจริญ ทางวัตถุ . เดี๋ ยวนี้ พระไม ได จั ด ก็ มุ งแต เทคโนโลยี วิช าชีพ ชนิด ใดชนิด หนึ ่ง ตามที ่ต อ งการ ; ฉะนั ้น คํ า วา “สุภ าพบุร ุษ ” หรือ ความเปนสุภาพบุรุษที่เปนจุดยอดของการศึกษานั้น เขาเก็บไวในพิพธภัณฑ. นี ่ต อ งไปหาอา นดูจ ากหนัง สือ โบราณ ในครั ้ง กระโนน จึง จะพบวา การเปน
www.buddhadassa.in.th
๒๓๘
การกลับมาแหงศีลธรรม
สุ ภ าพบุ รุษ นั้ น เป น จุ ด หมายสู งสุ ด ของการศึ ก ษา ; แต แล วก็ ก ลายเป น อนุ ส าวรีย หรือเปนสิ่งที่เก็บไปไวในพิพิธภัณฑ. การศึ ก ษาในยุ ค ป จ จุ บั น ไม พู ด ถึ ง การบั ง คั บ ความรู สึ ก ; มี แตส ง เสริม ความรูส ึก ใหรุน แรง และรวดเร็ว ยิ ่ง ขึ ้น ใหท ัน สมัย ใหส มกับ ที ่ม ีก าร กา วหนา ทางวัต ถุ อัน เปน ไปอยา งรุน แรงรวดเร็ว . ฉะนั ้น ขอระบุต รง ๆ อยา วา นั่ น นี่ วาพวกฝรั่งสมั ย โน น เขาก็ บั งคั บ ความรูสึ ก เป น สุ ภ าพบุ รุษ เป น สาวก เป น คริส เตีย นที ่ด ีข องพระเยซู ; สว นฝรั ่ง เดี ๋ย วนี ่ไ มเ ปน อยา งนั ้น ตรงกัน ขา ม จะ ถือศาสนาคริสเตียน คริสตัง ก็แตปาก แตทะเบียน แตบัญชี. นี ่ถ า พูด วา จะตามกน ฝรั่ง ก็ค วรจะตามกน ฝรั่ง สมัย นู น ที ่ม ีศ าสนา มี ศี ล ธรรม มี ก ารบั งคั บ ความรูสึ ก เป น จุ ด หมาย. แต เราก็ ไม ต อ งไปตามก น ฝรั่ง ; เพราะวาพุทธศาสนาเราก็สอนอยางนี้ ปู ยา ตา ยาย ของเราก็ สอน อยางนี้ วัฒ นธรรมประจํา บา น ประจํา เดือ น มาแตเ ดิม ของเราก็ส อน อยา งนี้. เพราะฉะนั้น คนไทยเราจึง เปน คนมีศีล ธรรม บัง คับ กิเ ลส บัง คับ ตัว เอง ; อยางนี้ดีอยูแลว.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org พ อถึ ง ป จ จุ บ ั น นี ้ คนไทยสมั ย นี ้ เกิ ด โง , โง อ ย า งเหลื อ จะโง โงอยางดักดาน ที่ กมหั วลงไปตามกนฝรั่ง ที่เขาทิ้งศาสนากันหมดแลว ไมมี การ บัง คับ ตัว เองเหลือ อยู ในพวกฝรั่ง เหลา นั ้น แลว เราก็ไ ปตามเขา ; ก็พ อดีไ ด ลัทธิที่ไมบังคับความรูสึกมา แลวก็จะตองเดินตามกนเขาเรื่อยไป เดินตามหลังเขา เรื่อ ยไป เพราะสมัค รเอาความเจริญ ทางวัต ถุเ ปน จุด สูง สุด ของการศึก ษา ; มั น จึ งพู ด กั น ไม รูเรื่อ ง. ในประเทศไทยเรานี้ พู ด กั น ไม รูเรื่อ ง ที่ จะให จัด การศึ ก ษา
www.buddhadassa.in.th
รากฐานของศีลธรรมอันดับสาม
๒๓๙
ชนิด ที ่จ ะทํ า ใหจ ิต ใจมีค วามถูก ตอ ง มีค วามเหมาะสมตามทางศาสนา ที ่จ ะไม กออาชญากรรมทั้งหลายขึ้นมา. ทีนี ้ เขาสมัค รไปเปน บริว ารของพวกตามใจความรู ส ึก , เห็น แต ความสุ ข ทางวั ต ถุ ทางเนื้ อ ทางหนั ง อย า งที่ เราเรี ย กว า เป น ทาสของอายตนะ ; เป น ทาสของอายตนะก็ ห มดเนื้ อ หมดตั ว ไม มี อ ะไรเหลื อ มาเป น ทาส ของพระพุ ท ธเจ า พระธรรม พระสงฆ เ ลย. นี ่ โ ทษของการที ่ ไ ม บ ั ง คั บ ความรูสึกก็เปนอยางนี้. อาตมาจึ ง ถื อ ว า นี้ เป น อาหารของต น ไม แ ห ง ศี ล ธรรม คื อ ถ า บั ง คั บ ความ รู สึ ก ได ก็ จ ะยั ง มี อ ะไรดี ๆ เห ลื อ อ ยู , ถ า ไม บั ง คั บ ค วาม รู สึ ก ก็ไมมีอะไรที่ดีที่จะเหลืออยู ที่จะเปนอาหารแหงศีลธรรมได. ถ า จะมี อ าหารหล อ เลี้ ย งจิ ต ใจได ต อ งมี ก ารบั ง คั บ ความรู สึ ก จึง เปน แมบ ทของอาหาร ของสิ ่ง ที ่เ รีย กวา ปุ ย สํ า หรับ ตน ไม. เคมีอ ัน ไหนที่ เป น ประธาน ของการเป น ปุ ย ของต น ไม มั น ก็ จ ะต อ งเที ย บได กั น กั บ การบั ง คั บ ความรู ส ึก อยา งที ่ก ลา วมานี ้ ; ฉะนั ้น จึง ยืน ยัน วา บัง คับ ความรู ส ึก เถิด แลว อะไร ๆ ที่คุณเอยถึงเมื่อตะกี้ก็จะมีมาเอง.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org บั ง คั บ ความรู สึ ก เถิ ด ขั น ติ จ ะมี ม าเอง หิ ริ โ อตตั ป ปะก็ จ ะมี มาเอง, อะไร ๆ ก็จ ะมีม าเอง ; เพราะวา อาหาร หรือ ปุ ย ที ่เ ปน อาหารนี ้ เรา แยกออกไดเ ปน หลายชนิด หลายระดับ . แตโ ดยสรุป โดยใจความสํ า คัญ แลว จะตอ งถือ เอาการบัง คับ ความรู ส ึก นี ้ เปน แมบ ทของสิ ่ง ที ่เ รีย กวา อาหาร, หรือ
www.buddhadassa.in.th
การกลับมาแหงศีลธรรม
๒๔๐
ปจจัยอันเปนที่ตั้ง ที่อาศัย ของตนไมในชื่อเดิม ที่เรียกกันวา อาหารหรือปุยนั้น. ฉะนั้นขอใหพิจารณาดู ใหเห็นความจริงขอนี้กอน วา อันนี้เปนอาหาร ; และ ก็ยังดูในขอตอไปที่วา เรากําลังขาดอาหารนี้หรือไม ? ....
....
....
....
ถาม : ทีนี้ ตองขอถามความคิดเห็น ที่แถลงออกมาประกอบไปดวยเหตุผล ของคุณอีกทั้ง ๓ คน เรากําลังขาดอาหารขอที่เรียกวา การบังคับความรู สึกนี้หรือไม ? มากนอยเทาไร ? เปนการยืนยันครั้งสุดทายกันอีกสักครั้ง หนึ่ง เผื่อวา อาตมามองมันไมทั่วถึง มันมีอะไรเหลืออยู เอา,คุณลอง วาไป เรากําลังขาดอาหารขอนี้หรือไม ? ตอบ : ตอนนี้พูดถึง ขาด มันกําลังขาดแนนอน เพราะวา ดูในแงทั่ว ๆ ไป ทางดา นอาชญากร เมื ่อ กี ้ก ็พ ูด แลว รบราฆา ฟน กัน มาก็เพราะไมมี การยับ ยั ้ง ไมม ีก ารบัง คับ . ทีนี ้ ในแงข องการศึก ษาก็พ ูด แลว ผม เห็น วา ในแงข องการแพทย ยัง มีอ ยู อ ยา งหนึ ่ง ที ่ไมม ีก ารบัง คับ ทาง ดา นจิต ; แตก ลับ สง เสริม ใหจ ิต มีค วามรูส ึก รุน แรงยิ ่ง ขึ ้น ก็โ ดยวิธี การที ่ใ ชอ ยู เดี ๋ย วนี ้ คือ การคุม กํ า เนิด . แทนที ่จ ะใชว ิธ ีก ารบัง คับ จิต แบบสมัย กอ น ๆ โนน ใหเ กิด คุม กํ า หนัด ใหม ัน นอ ยลง ; กลาย เป น มาคุ ม กํ า เนิ ด โดยใช เครื่ อ งมื อ ; แต ก ลายเป น ว า ส ง เสริ ม ความ กําหนัดใหมากขึ้นนั่นเอง นี่เปนอยางหนึ่ง
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ถาม : ถ า พู ด กั น ในฐานะผู ป ฏิ บั ติ ธ รรม ปฏิ บั ติ ธ รรมะ พู ด กั น ในวั ด ก็ ถู ก อยา งยิ ่ง จริง อยา งยิ ่ง ; แตถ า คุณ ไปพูด นอกวัด ที ่อ อฟฟศ คุณ ก็จ ะ ถูกตัดเงินเดือน.
www.buddhadassa.in.th
รากฐานของศีลธรรมอันดับสาม
๒๔๑
ตอบ : ใชครับ ผมขอพูดเฉพาะในที่นี้. ถาม : เอา, คุณทองละ วาอยางไร ? ตอบ : การระงั บ ความรู สึ ก สั ง คมกํ า ลั ง ขาดอยู อ ย า งยิ่ ง . ผมขอยกตั ว อย า ง ลู ก จ า ง หรื อ ผู ที่ มี เงิ น เดื อ นน อ ย จะว า น อ ย ก็ ไ ม ค อ ยถู ก ต อ ง ; เพราะ วา เขาไปเปรีย บกับ คนทีม ีเ งิน เดือ นมาก หรือ ไปเปรีย บกับ นายจา ง เห็น นายจา ง หรือ คนที ่ม ีเ งิน เขามีโ ทรทัศ น มีบ า นที ่อ ยู ผ ิด ไปกวา ตัว ก็ อ ยากมี ขึ้ น มาบ า ง ; เมื่ อ ตั ว อยากมี ขึ้ น มาบ า ง ก็ มี ร ายได น อ ย แต พยายามที ่จ ะใหม ีขึ ้น มาใหไ ด, เปน อยา งนี ้ จึง มีก ารเรีย กรอ งเอาคา จา งใหขึ ้น ใหม ากขึ ้น . แตเ มื ่อ ขึ ้น คา จา งมากขึ ้น เขาก็ไ มบ ัง คับ ความ รู ส ึก ของตน, เขายัง มีค วามอยากตอ ไปอีก แลว เรื ่อ งนี ้จ บกัน ไม ลงครับ.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ถาม : ที่พูดนี้ก็ถูก แตทําไมไมพูดสรุปความสั้น ๆ วา การไมบังคับความรูสึก เป นตนเหตุแหงความปนป วนทางเศรษฐกิจ ทั้งทางฝายลูกจางและฝาย นายจาง พูดอยางนี้จริงไหม ? เอา, คุณล้ํา.
ตอบ : ในแนวของการปกครอง โดยมากก็ ก ารปกครอง เดี๋ ย วนี้ ที่ ว า ประชาธิป ไตยเฟอ นี ่ม ัน เปน เหตุสํ า คัญ อะไร ๆ ก็ป ระชาธิป ไตย. สว น มากคนทุกคนอยากใชสิทธิของตัวเอง โดยไมสงวนสิทธิของผูอื่น แลว โดยไมรู ห นา ที ่. เรื ่อ งของการเห็น แกเ งิน ของผู บ ริห ารประเทศ เป น เรื่อ งสํ า คั ญ นั บ ตั้ ง แต ขั้ น สู งถึ ง ขั้ น ต่ํ า ต า งคนต า งก็ พู ด ถึ ง แต เงิ น ; อยา งนอ ยขา ราชการก็พ ูด แตเ งิน เดือ น นี ่เ ปน ตน เหตุ, แลว เงิน เดื อ นของเจ า หน า ที่ ไม มี ค วามหมาย มั น มี ค วามหมายอยู ที่ เงิ น พิ เศษ
www.buddhadassa.in.th
๒๔๒
การกลับมาแหงศีลธรรม เงิน พิเ ศษมัน ไดม ากกวา เงิน เดือ น จึง ทํ า ใหทุก คนในชาติป น ปว น เดือดรอน เนื่องจาก คนเห็นแกเงิน.
ก็ ถู ก , เป น ปมใหญ ป มหนึ่ ง . ความป น ป ว นในทางการปกครอง ระหวางผูบังคับบัญชา กับผูอยูใตบังคับบัญชา เปนไปไมถูกตอง เปนไปไมราบรื่น หรือวาเปนไปไมไดเลย ; เพราะวาทั้ง ๒ ฝายเปนอยูอยางไมบังคับความรูสึกให ถูกตอง หรือพอดีกับการเปนอยู ก็เปนเหตุผลที่ดี เหตุผลที่ชัดเจนวา เรากําลัง มีการขาดแคลนรากฐานอันสําคัญของศีลธรรม คือการบังคับความรูสึก. ถาม : เอ า , คุ ณ ประยู ร อี ก ที ห นึ่ ง หมด มี อ ะไรอี ก บ า ง เท า ที่ ยั ง ไม ได พู ด เทาที่จะนึกได. เรากําลังขาดการบังคับความรูสึกในอะไรอีก ที่สําคัญ ๆ ในสังคมปจจุบัน ที่จะทําโลกใหวินาศ ? ตอบ : เดี่ยวนี้ที่เปนอยูในสังคม ที่กําลังเดือดรอนอยูทุกวันนี้ ก็เรื่องที่ วาแยง ในแงของแยงอํานาจความเปนใหญ หรือความรูสึกไมยอม. การยอมหรือไมยอมก็อยูที่การบังคับจิตเหมือนกัน. ถาหากวาเราเปน คนที่มีนิสัย ไมย อมอยูต ลอดเวลา แลว ก็จึง ไดมีก ารแกแ คน และ ไมยอม.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ที ่ผ มจะพูด นี ่ หมายความในแง ไมรู จ ัด อดกลั ้น อดทนในแง โท ส ะ ที ่ม ัน เป น ค ด ีร ะเบ ิด ต ูม ต าม ๆ ใน ห น ัง ส ือ พ ิม พ แต ผ ม พ ูด ไม คอ ย ถูก วา จ ะ อ ยา งไร. ม ัน มีค ดีพ วก นี ้ม าก ก ารฆ า ฆ า กัน อ ยา ง งา ย ๆ ไมน า จะฆ า ก็ฆ า กัน ; เพ ราะมัน ขาดการยับ ยั ้ง อารม ณ โ ม โห ชั่ ว วู บ เดี ย ว เดี๋ ย วนี้ ไ ม ค อ ยมี ก ารยั บ ยั้ ง พอโกรธก็ ทํ า เลย โกรธก็ ทํ า เลย แบบนั้น.
www.buddhadassa.in.th
รากฐานของศีลธรรมอันดับสาม
๒๔๓
เดี๋ ยวนี้ มั น มี แฟชั่น พอคิ ด ได ก็ ทํ าเลย พอโกรธขึ้น มาทํ าเลย ไม ต อ ง พู ด ถึ ง บั ง คั บ ความรู สึ ก ; เพราะเขาถื อ ว า มั น ไม มี ป ระโยชน อ ะไร. จะเรี ย กว า โทสะ ก็ไ มค อ ยตรง เรีย กวา มานะทิฏ ฐิ นั ่น แหละตรง ; โลกเจริญ ดว ย มานะทฏฐิ ม ากขึ้ น เพราะไม บั ง คั บ ความรู สึ ก ในส ว นที่ เ กี่ ย วกั บ เกี ย รติ . เมื ่อ พน ปญ หาเรื่อ งกิน เรื่อ งกาม มาแลว ก็ม าถึง ปญ หาเรื่อ งเกีย รติ ; เกิด การ ไมบังคับ ความรูสึกเรื่องเกี่ยวกับเกียรติขึ้นมาแลว ก็จะทํ าอะไรที่เปนการลางโลก หรือทําลายโลกยิ่งไปกวาเรื่องกิน เรื่องกาม ก็ได. เปนอันวาเราไดพูดกัน เพื่อใหมองเห็นขอเท็จจริงอันนี้มาพอสมควรแลว ....
....
....
....
อาตมาก็จะพูดรวมกับคุณดวยเหมือนกันเปนแงที่สุดทาย คือ เกี่ยวกับ ศาสนา.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ศาสนากํ า ลั ง จะวิ น าศ ไม ม ี เ หลื อ ก็ เ พราะการไม บ ั ง คั บ ความรู ส ึก ของภิก ษุส ามเณร ; ยกเวน อุบ าสก อุบ าสิก า ; ไมใ ชจ ะประจบ อุบาสก อุบ าสิกา ที่นั่งอยูแถวนี้. ศาสนาจะวินาศฉิบหาย ก็เพราะการไมบังคับ ความรูสึ ก ในจิ ต ใจของพวกภิ ก ษุ ส ามเณร ; เมื่ อ ภิ ก ษุ ส ามเณรเป น ผู นํ า อุ บ าสก อุบาสิกา เขาเปนผูตาม ; ฉะนั้นเราก็จะไมโทษผูตาม. เหลีย วมาดูที่ภิก ษุ สามเณร ยิ่ง ไมมีก ารบัง คับ ความรูสึก คือ ไมบังคับ กิเลสนั่น แหละมากขึ้น : โดยหลัก ของธรรมะก็ไมบังคับ ความรูสึก . โดยหลักของวินัยก็ไมบังคับความรูสึก.
www.buddhadassa.in.th
๒๔๔
การกลับมาแหงศีลธรรม
ทีนี ้ ความประพฤติท างวิน ัย ก็เ สีย ไป ๆ จนไมเ ห็น กัน วา เปน ของเสีย ; เพราะมัน เคยชิน กัน ไปเสีย มีม ูล มาจากการไมบ ัง คับ ความรู ส ึก . นี่ ก็อ ยางเดี ยวกัน กับ ฆราวาส เรื่อ งกิน เรื่อ งกาม เรื่องเกี ย รติ ก็ ยังมาครอบงําภิ ก ษุ สามเณร : อยากได เล น อยากได กิ น อยากได ส ะดวก อยากได อ ะไร ไปตาม กิเ ลส ในวัด ก็ด ี นอกวัด ก็ด ี บนรถ บนเรือ อะไรก็ด ี ; ไมบ ัง คับ ความรู ส ึก ใหอยูในวินัย มันก็เสียไปในสวนวินัย. ในส ว นธรรมะซึ่ ง ไม ได มี ห า มไว ใ นวิ นั ย มั น ก็ ม ากเหลื อ เกิ น เพราะ ตอ งบัง คับ ความรูส ึก จึง จะเจริญ ดว ยศีล สมาธิ ปญ ญา, หรือ จะเจริญ ดว ยอริย มรรคมีอ งค ๘ ประการ. เมื ่อ ไมบ ัง คับ ความรูส ึก มัน ก็ไมเจริญ ในสว น นี้ ; ฉะนั้ น ทางของการบรรลุ มรรค ผล นิ พ พาน มั น ก็ ป ด ตั น เข า ทุ ก ที คือมันอุดตันปดตันจนมองไมเห็นรูปรางของหนทางยิ่งขึ้นทุกที. ยิ ่ง ไปเห็น แกก ารไดล าภสัก การะ หรือ ไดเ งิน ไดอ ะไรมา ; แม จะได ม าเพื่ อ การปฏิ สั ง ขรณ บู ร ณะวั ด วาอารามก็ ต าม ก็ เป น โทษเท า กั น หมด ; เพราะเปนเหตุใหละเลยธรรมวินัยเหมือนกัน. ถายิ่งจะใหไดมาเพื่อประโยชนสวนตัว ดวยแลว ก็จะรายกาจะไปกวานั้น.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org เดี ๋ย วนี ้ม ัน จึง มีแ ตส องอยา งนี ้ คือ ประพฤติผ ิด ธรรมวิน ัย เพื ่อ ใหไ ดล าภสัก การะมาเพื ่อ ประโยชนส ว นตัว ก็ม ี, หรือ แมเ พื ่อ ประโยชนแ ก การบูร ณะปฏิส ัง ขรณว ัด วาอาราม ในสว นที ่ไ มจํา เปน เลยก็ม ี ; นี ่ม ัน ก็ยิ ่ง ขึ ้น ทุ ก ที ; ก็ เลยไม มี ก ารบั ง คั บ ความรู สึ ก ที่ จ ะทํ า ให มี ศี ล สมาธิ ป ญ ญา เพื่ อ การ บรรลุ มรรค ผล นิพ พาน. ฉะนั ้น สรุป ความไดวา แมพ ระศาสนานี ้ก ็จ ะ
www.buddhadassa.in.th
รากฐานของศีลธรรมอันดับสาม
๒๔๕
วิ น าศอั น ตรธานและสู ญ หายไป เพราะการไม บั งคั บ ความรู สึ ก ของ พุท ธบ ริษ ัท นั ้น ; ซึ ่ง ในบัด นี ้ก ็ม ีภ ิก ษุ สามเณ ร เปน ทัพ หนา เปน แนวหนา เปน ปอ มปราการ เปน ทัพ หลวง ทัพ อะไร เปน หมดแทบทุก อยา งเลย ; จึง เปน ที่นาหวาดเสียว วาพระศาสนาที่เปนที่พึ่งของมนุษยนี้ มันจะสูญหายไป. ศาสนากํ า ลัง จะสูญ หายไปเพราะเหตุเ พีย งอยา งเดีย ว คือ การ ไมบ ัง คับ ความ รู ส ึก คือ การไมบ ัง คับ ตัว ก็ค ือ การไมบ ัง คับ กิเ ลสของพุท ธบริษ ัท ; สมตามที ่พ ระพ ุท ธเจา ทา น ไดต รัส ไวว า ค วาม เสื ่อ ม ห รือ ค วาม อัน ตรธานแหง ศาสนานั ้น มิไ ดม าจากอื ่น เลย แตจ ะมาจากการกระทํ า ของ พุทธบริษัท ๔ ; อยางนี้. ที นี้ เดี๋ ย วนี้ จ ะแสดงให เห็ น ชั ด มากขึ้ น เรื่ อ ย ๆ ใกล เข า มา ๆ, ชั ด ยิ่ ง ขึ้ น ๆ ว า มั น เสื่ อ มไปในส ว นที่ เป น เนื้ อ ตั ว ของธรรมะและวิ นั ย จึ ง ขอกล า วเป น สิ่ ง สุ ด ท า ยว า ก า ร ไ ม บ ั ง ค ั บ ค ว า ม รู ส ึ ก นี ้ จ ะ ทํ า อั น ต ร า ย แ ม แ ก พ ร ะ ศ า ส น า ใ ห ส ู ญ สิ ้ น วิ น า ศ ไ ป ดั ง นี ้ . ถ า เมื ่ อ ใ ด มี ก า ร บั ง คั บ ค ว า ม รู ส ึ ก ; เมื ่ อ นั ้ น ค ว า ม ถู ก ต อ ง มัน จ ะ เกิด ขึ ้น . ค วาม ถูก ตอ งนั ้น เอ งจ ะ เป น เส มือ น อ าห าร ที ่เ ปน แ รธ าตุอั น สํ า คั ญ ที่ จ ะหล อ เลี้ ย งต น ไม แ ห ง ศี ล ธรรม หรื อ ต น ไม แ ห ง พระศาสนาให ยั ง คงอยู ได ; เหมือนแรธาตุทั้งหลาย บํารุงเลี้ยงตนไมบนพื้นผิวโลก ฉันใดก็ฉันนั้น.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org การบรรยายเรื่ อ งรากฐานของศี ล ธรรม โดยเปรี ย บเที ย บกั บ ป จ จั ย ของ ตนไม ในแงที่วา อะไรเปนอาหารของตนไมตนนี้ ในวันนี้ก็พอสมควรแกเวลาแลว.
ขอยุ ติ การบรรยายเรื่องไวเพี ยงเท านี้ เป นโอกาสให พระสงฆ ท านสวด คณสาธยายบทพระธรรม ที่จะใหเกิดกําลังใจในการประพฤติปฏิบัติ เพื่อแกไขปญหา เหลานั้นสืบตอไป. -----------------------------
www.buddhadassa.in.th
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org
www.buddhadassa.in.th
การกลับมาแหงศีลธรรม
- ๗ ๑๓ มีนาคม ๒๕๑๙
รากฐานของศีลธรรมอันดับสี่ [ ยถาภูตสัมมัปปญญา : แสงสวาง ]
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ทานสาธุชน ผูมีความสนใจในธรรม ทั้งหลาย,
การบรรยายประจํ า วัน เสารใ นภาคมาฆบูช าเปน ครั ้ง ที ่ ๗ ใน วั น นี ้ ยั ง คงกล า วโดยหั ว ข อ ใหญ หรื อ หั ว ข อ ชุ ด เรื ่ อ งนี ้ ว า การกลั บ ม า แห ง ศี ล ธรรม อยู ต ามเคย. และในครั ้ ง ที ่ ๗ นี ้ จ ะได ก ล า วโดยหั ว ข อ ยอ ย คือ ยถาภูต สัม มัป ปญ ญา ไดแ กป ญ ญาเห็น ชอบ ถูก ตอ ง ตามที่ เป น จริ ง ซึ ่ ง จะเปรี ย บได ด ว ยแสงสว า ง อั น เป น เครื ่ อ งหล อ เลี ้ ย งต น ไม ให ง อกงามเจริ ญ อยู ไ ด ; ซึ่ ง นั บ เป น รากฐานของศี ล ธรรมอั น ดั บ สี่ .
๒๔๗
www.buddhadassa.in.th
๒๔๘
การกลับมาแหงศีลธรรม [ คําปรารภทบทวนครั้งที่แลวมา ไปจนถึงหนา ๒๕๒ ]
ขอทบทวนคํ า บรรยายเรื่อ งนี ้อ ีก ตามสมควร วา การบรรยายชุด นี้ มุ งหมายจะทํ าความเขาใจเกี่ ยวกับการกลั บมาแห งศี ลธรรม คื อโลกกํ าบั งจะวินาศ เพราะปราศจากศี ล ธรรมยิ่ งขึ้ น ทุ ก ที . ถ า เป น ไปถึ งที่ สุ ด แล ว โลกนี้ จ ะถึ งซึ่ ง ความ วิน าศเปน แนน อน ; เราจะพยายามไมใ หเ ปน อยา งนั ้น จึง ตอ งพูด ถึง เรื ่อ การ กลับมาแหงศีลธรรม. ไดพูดถึงเรื่องศีล ธรรมโดยตรง วาคืออะไร มาหลายครั้ง ก็เพื่อจะใหไดรูจักศีลธรรม และเพื่อจะไดรูตอไปวา ศีลธรรมมันหายไป. ตอมาก็ไดพูดถึงสิ่งที่เรียกวา รากฐานของศีลธรรม เพียงเพื่อใหรูจัก สิ ่ง นั ้น เทา นั ้น ; ทั ้ง นี ้ก ็เ พื ่อ ประโยชนใ นขอ ที ่ว า เราจะไดรู ช ัด ลงไปอีก ชั ้น หนึ ่ง ว า สิ ่ ง ที ่ เ ป น รากฐานของศี ล ธรรมนั ้ น มั น ก็ กํ า ลั ง ไม ม ี กํา ลั ง หายไป จึง เปน เครื ่อ งตอบไดอ ยู ใ นตัว วา เพราะรากฐานแหง ศีล ธรรมไมม ี ศีล ธรรม มันจึงไมมี ; เปนของคูกันอยางนี้.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org เราพูด กัน ถึง เรื ่อ งรากฐานของศีล ธรรม แตเ พีย งเพื ่อ ใหรู จ ัก สิ ่ง นี้ เทา นั้น ยัง จะไมพูด ถึง เรื่อ งการปรับ ปรุง หรือ บํา รุง สง เสริม ศีล ธรรม หรือ รากฐานของศี ลธรรมนั้ นเป นอยางไร ; ฉะนั้ น ขอให ท านทั้ งหลายจงตั้ งใจฟ งให ดี ๆ วาเรากําลังพูดกันถึงสิ่งที่เรารูสึกวามันไมมี.
ในครั้ง กอ น ๆ ก็ไ ดทํ า อุป มาเรื่อ งของศีล ธรรมนี ้ วา เหมือ นกับ เรื่องของพฤกษาชาติ คือตนไมทั้งหลาย เพื่อสะดวกงายดายแกการที่จะทําความ เขาใจ. เรามองดู ตนไม ทั่ ว ๆ ไปในที่ นี้แลว ก็ พอจะเขาใจได วามั นดํารงอยู อยางไร,
www.buddhadassa.in.th
รากฐานของศีลธรรมอันดับสี่
๒๔๙
จนถึงกับเราแบงตนไมออกเปน ๓ สวน : สวนลางสุดคือโคนหรือรากสวนหนึ่ง, ตรงกลางตน หรือ ลํา หรือ กิ่ง , ลํา ตน หรือ กิ่ง ก็สว นหนึ่ง , ขา งบนก็มีใ บ มีด อก มีลูก ก็สวนหนึ่ง. มันเปน ๓ สวนอยูอยางนี้ เมื่อเปนตนไมที่สมบูรณ. ทีนี้ พอมาถึง ตนไมแหงศีลธรรม เราก็ใหมันมีลักษณะที่แบงออก ไดเปน ๓ สวนอยางเดียวกัน: ที่ โ คน หรื อ ที่ ร าก ก็ คื อ อุ ด มคติ ข องศี ล ธรรมนั้ น เราต อ ง รูจักวามีอยูอยางไร จะไดพอใจ จะไดอยากมีศีลธรรม. สว นถัด ขึ ้น ไปที ่เ ปน ลํ า ตน นั ้น ก็ค ือ สุป ฏิป ต ติ ไดแ ก การ ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ในสิ่งที่เรียกวาศีลธรรมนั่นเอง นั่นเปนตัวของศีลธรรม. ทีนี ้ สว นเบื ้อ งบนสุด คือ ผลอานิส งสที ่เ ราพึง จะไดร ับ จากการ ปฏิ บั ติ ศี ล ธรรม เชน ได รับ ความสงบสุ ขส วนบุ ค คล หรือ มี สั น ติ ภ าพในส วนรวม ของมนุ ษ ย ด ว ยกั น ทั้ ง โลก เรี ย กว า เป น ส ว นดอกผล ของตั น พฤกษาแห ง ศีลธรรม ดังนี้.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ตน ไมม ีโ คน มีต น มีย อด ฉัน ใด ตน ไมแ หง ศีล ธรรมก็ต อ งเปน
อยางนั้น. ทีนี้ มาดูกันขั้นรากฐานของตนไมนั้น เราจึงพบปจจัยที่ทําใหตนไม นั ้น ตั ้ง อยู ได ซึ ่ง ไดแ ยกออกใหเห็น เปน ๕ อยา ง พอเปน ตัว อยา ง : วา ตน ไม ตอง อาศัยดิน, แผนดินเปนที่ตั้งที่อาศัย.
www.buddhadassa.in.th
๒๕๐
การกลับมาแหงศีลธรรม
ต น ไม ต อ งอาศั ย น้ํ า เป น เครื่ อ งหล อ เลี้ ย งความสดชื่ น , และสํ า หรั บ ละลายอาหารดูดขึ้นไป. ตนไมตองอาศัยอาหาร คือแรธาตุตาง ๆ ที่อาจจะละลายน้ําได และ ดูดขึ้นไปได. ต น ไม ยั ง จะต อ งการแสงสว า ง โดยเฉพาะก็ คื อ แสงแดด หรื อ แสง สวางพอสมควรเทาที่มันตองการ มันจึงจะกินอาหารได. อันดับสุดทายยังจะตองมีอุณหภูมิที่พอเหมาะพอสม คือมีความรอน ในลักษณะที่พอเหมาะพอสม สําหรับการเจริญเติบโต. อะไรที่เปรียบไดกับ แผนดิน สําหรับตนไมทางศีลธรรม ก็ไดพูด ถึง ความรูสึกที่ถูกตรงตามธรรมชาติ ถึงขนาดที่เรียกไดวา ธัมมสัจจะ อันหนึ่ง คือความรูสึกที่วา สัตวทั้งหลายเปนเพื่อนทุกข เกิด แก เจ็บ ตาย ดวย กัน ทั้งหมดทั้งสิ้น และความรูสึกอันนี้ในใจแหงมนุษยนั่นแหละ จะเปนเหมือ น กับวา แผนดิน สําหรับเปนที่งอกพฤกษาแหงศีลธรรม.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ครั้ น มาถึ ง สิ่ ง ที่ เรี ย กว า น้ํ า เราก็ ไ ด พู ด กั น โดยละเอี ย ดถึ ง ความไม เป นทาสของอายตนะ. ถาเป นทาสของอายตนะ คือ ตา หู จมู ก ลิ้น กาย ใจ มัน ก็เปน กิเลส เปน ของรอ นไป ; ไมเปน น้ํ า ไมทํ า ความสดชื่น ได มัน ตอ งมีน้ํ า ใหตน ไมแห งศีลธรรม คือการที่ทุกคนไม เปนทาสของ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ไมใหโอกาสแกกิเลส.
www.buddhadassa.in.th
รากฐานของศีลธรรมอันดับสี่
๒๕๑
ที นี้ เมื่ อ มาถึ ง สิ่ ง ที่ เ รี ย กว า อาหารโดยตรง คื อ ตั ว แร ธ าตุ ที่ จ ะไป สรา งตน ไมนั ้น ; เรามองดูล งไปยัง การบัง คับ ความ รู ส ึก , วา ตอ งเปน ผู ที่ บั ง คั บ ความรู สึ ก , พร อ มที่ จ ะบั ง คั บ ความรู สึ ก ; ความรู สึ ก บางอย า งอย า ให เกิ ด ขึ ้น มา, ความรู ส ึก บางอยา งก็ใ หเ กิด แตพ อสมควร, อยา ใหค วามรู ส ึก เปน ไป ในทางผิ ด . ถ า บั ง คั บ ได อ ย า งนี้ แ ล ว ก็ มี ป ระโยชน แ ก ก ารที่ จ ะมี ศี ล ธรรมอย า งยิ่ ง ; เหมือ นกับ วา เปน อาหารทีเ ดีย ว. คนเราไมไ ดก ิน อาหาร มัน ก็ต าย ; ตน ไม ก็ เ ห มื อน กั น ; ต น ไม แห งศี ล ธรรม ก็ ต องกิ น อาห าร. ข อ นี้ คื อ “การบั งคั บ ความรูสึก” ใหมันถูกตองอยูเสมอ, มันก็เปนการกินอาหาร. สามอย า งนี้ ได พู ด กั น ไปแล ว อย า งที่ เรี ย กว า ชั ด เจนพอสมควร ที่ จ ะ มองเห็น ไดว า เดี ๋ย วนี ้ใ นโลกนี ้ มีสิ ่ง เหลา นี ้ห รือ ไม ? นี ่ก ็พ อเห็น กัน ไดว า เดี๋ยวนี้ในโลกนี้ มันไมมีความรูสึกที่วา สัตวทั้งหลายเปนเพื่อนทุกข เกิด แก เจ็บ ตาย ดว ยกัน ทั ้ง หมดทั ้ง สิ ้น , มีแ ตค วามรูส ึก ประเภทตัว กู-ของกู เปน เรา เปน เขา พรอ มที ่จ ะทํ า ลายผู อื ่น เพื ่อ ประโยชนข องตน ; และเต็ม ไปดว ยความ พายแพแกอายตนะ เปนทาสของอายตนะ.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ส รุ ป แ ล ว เ ป น ท า ส เ งิ น เ ป น ท า ส วั ต ถ ุ แ ล ะ เ ป น ท า ส ข อ ง ความเอร็ด อรอ ยทางอายตนะนั ้น . ขอใหส ัง เกตในขอ นี ้ไ วเ สมอไปวา ทุก อยา งสรุป อยู ที ่ค วามเอร็ด อรอ ย ที ่เรีย กวา อัส สาทะ ทางไหนก็ไ ด มัน เปน ความอรอ ย ; แล ว คนก็ พ า ยแพ แ ก สิ่ งนี้ ; เป น ทาสของสิ่ ง นี้ ; ความเป น นายเหนื อ อายตนะหาไมพบ.
www.buddhadassa.in.th
๒๕๒
การกลับมาแหงศีลธรรม
ทีนี้ สํา หรับ การบัง คับ กระแสแหง ความรูสึก ก็ยิ่ง หาไมพ บ ; เพราะวาสมัยปจจุบันในโลกนี้ เปนสมัยที่นิยมตามใจตัวเอง, มีความโงเขลาหรือ มืดบอดเขามาครอบงํามนุษยนี้ จนทําใหเกิดความรูสึกวา ถาเราบังคับนั่น นี่แลว มันเสียเสรีภาพ. เขาไมอยากจะเสียเสรีภาพ เขาจึงไมมีการบังคับแมแตตัวเอง ไม บั ง คั บ กิ เ ลส ; นี้ ก็ คื อ ความโง ห ลงเหลื อ ประมาณ. เขาอยากมี เ สรี ภ าพ แตแลวก็ไมบังคับ กิเลส คือ ไมบังคับ ตัวเอง ; มัน ก็เสียเสรีภ าพอยา งหมดสิ้น ไมมีเสรีภ าพอะไรเหลือ อยู คือ เปนทาสของกิเลสไปหมด. ในโลกนี้กําลังเปน อยางนี้ จึงพูดไดวา รากฐานแหงศีลธรรมเหลานี้ มิไดมีอยูในโลกนี้. [เริ่มการบรรยายดวยหัวขอแหงครั้งนี้ ] ทีนี้ จะดูตอไปถึงรากฐานขอที่ ๔ ที่เรียกวา แสงสวาง. เมื่อพูดถึง แสงสวาง เทาที่เกี่ยวกับตนไมตามธรรมชาติธรรมดา ทุ กคนก็พ อจะมองเห็ น ได วา มี ความจําเป น อย างไร. ถ ายิ่ งได เรีย นรูเรื่อ งทาง วิทยาศาสตร เกี่ยวกับชีววิทยามาพอสมควรแลว ก็ยิ่งรูมากขึ้น วาแสงสวางนี้ มันจําเปนแกชีวิตอยางไร.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ชีวิต ทางวัต ถุนี่แ หละ ไมตอ งชีวิต ชนิด ไหน. สํา หรับ สิ่ง มีชีวิต อั น แรกที่ สุ ด ก็ คื อ พื ช พั น ธุ พ ฤกษชาติ มั น ก็ ต อ งการแสงสว า ง ; ไม มี แสงสวา ง มัน ก็ไมเจริญ หรือ ถึง กับ ตายไดใ นที ่ส ุด . ชีวิต เชน สัต วเดรัจ ฉาน หรือ มนุษ ยนี้ก็อ ยา งเดีย วกัน อีก ; ถา ไมมีแ สงสวา งแลว ก็ตอ งตาย ; ไม ใชวา จะอยูอ ยา งไมส บาย เพีย งเทา นั้น ก็ห ามิได. มัน จะตอ งตาย ; แตเรา มองไมเห็น และเราก็ไมรูสึกวา มันมีความหมายมากถึงอยางนั้น.
www.buddhadassa.in.th
รากฐานของศีลธรรมอันดับสี่
๒๕๓
นี้ ต อ งคิ ด กั น บ า ง ต อ งดู กั น บ า ง ว า ถ า ไม มี แ สงแดดเพี ย งอย า งเดี ย ว เทา นั ้น คนเราก็อ ยู ไ มไ ด, สัต วเ ดรัจ ฉานก็อ ยู ไ มไ ด, ตน ไมก ็อ ยู ไ มไ ด ; เมื ่อ ต น ไม อ ยู ไม ได , สั ต ว เดรั จ ฉานก็ อ ยู ไม ได , เมื่ อ สั ต ว เดรั จ ฉานและต น ไม อ ยู ไม ได , คนก็ อ ยู ไ ม ไ ด . แต เราจะไม เสี ย เวลาพิ จ ารณากั น ถึ ง ข อ นี้ ใ ห ม ากนั ก , เพราะเรา ตอ งการจะพูด ใจความอยา งอื ่น . ไปคน ควา หาศึก ษาดูก ็แ ลว กัน ; แตใ นที ่ส ุด ใหสรุปใจความใหไดวา แสงสวางนั้นเปนปจจัยแหงชีวิต. คัมภีรของชาวคริสเตียนก็วา แสงสวางนั้นคือพระเจาผูสรางโลก. แสงสวา งเปน เหตุ เปน ปจ จัย เปน เครื ่อ งเกื ้อ กูล พรอ มกัน ไปในตัว ที ่ทํ า ใหเ กิด สิ่งต าง ๆ ขึ้น มา จนเขากล าวไวในพระคั ม ภี รนั้ น วา พระเจาสรางแสงสวาง ก อ น แตส รา งดวงอาทิต ย หรือ ดวงจัน ทร เสีย อีก . อยา งนี ้ค นโงฟ ง ไมถ ูก แน ; เพราะเขารูจักแตแสงสวางของดวงอาทิตยและดวงจันทร. จะมีแ สงสวา งอะไรอีก ที่ส รา งไดกอ นสรา งดวงอาทิต ยแ ละดวง จั น ท ร ? นี ่ ค ื อ แสงส ว า งในค วาม ห ม าย ที ่ ว า เป น เค รื ่ อ งป รุ ง แต ง ; คล า ย ๆ กั บ คํ า ว า “สั ง ข าร” ในพระพุ ท ธศาสนานี ้ , คื อ สิ ่ ง ที ่ จ ะบั น ดาล ใหสิ ่ง ตา ง ๆ เกิด ขึ ้น . อํ า นาจที ่ทํ า ใหเ ปน อยา งนั ้น ได ก็เ รีย กวา แสงสวา ง ; ไมจําเป นจะตองเป นแสงแดด. ฉะนั้น แสงแดด แสงอาทิตยนี้ เปนแสงสวางที่เพิ่ ง ถูก สรา งทีห ลัง , หลัง จากแสงสวา งชนิด โนน ชนิด ที ่เ ปน ตน ตอทั ้ง เดิม คือ อํานาจที่ทําใหเกิดความงอก หรือวิวัฒนาการ นั่นเอง.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ฉะนั ้ น แสงสว า ง จึ ง เป น สิ ่ ง จํ า เป น แก ก ารตั ้ ง ต น ของสิ ่ ง ที่ เรียกวา ชีวิต และวิวัฒ นาการตอไปจนกวาจะถึงที่สุด. นี่เราเรียกวา “แสงสวาง
www.buddhadassa.in.th
๒๕๔
การกลับมาแหงศีลธรรม
ทางวัต ถุ” จํ า เปน แกช ีว ิต ทางวัต ถุ ไมว า จะเปน ชีว ิต ในระดับ ไหน. ใหเปน อัน ไดค วามเสีย ชั ้น หนึ ่ง กอ น วา ในเรื ่อ งทางฝา ยวัต ถุ คือ มิใ ชเรื่อ งจิต ใจนั ้น สิ ่ง ที่ เรียกวา แสงสวาง ก็เปนตนตอแหงชีวิต หรือวิวัฒนาการ. เมื่ อ พู ด ถึ ง แสงสว า ง ก็ ค วรจะพู ด ถึ ง สิ่ ง ที่ ต รงกั น ข า ม คื อ ไม มี แ สง สวาง - ความมืด. ตรงนี้ก็อยากจะขอใหสังเกตวา กลางคืนที่ถือกันวา เดือนมืด มากที่สุดนั้น ; ถาพูดกันตามความรูสึกของเรา เราก็จะพูดวา ไมมีแสงสวางเลย, ตอเมื่อกลางวันจึงจะมีแสงสวาง. อยางนี้มันยังไมถูก ; เพราะแมจะมืดขนาดนั้น มันก็เปนแสงสวางอยูในระดับหนึ่ง. พิ สูจนได งาย ๆ วา ที่ วากลางคืนมื ดสนิ ทนั้ น มั นยังมี สัตวบางชนิดที่ ลู ก ตาของมั น เห็ น อะไรได ; ก็ ห มายความวา ยั งมี แ สงสว างอยู ช นิ ด หนึ่ งนั่ น เอง. เขาทําฟลมถายรูปชนิดที่ถายรูปเมื่อมีแสงสวางมืดอยางกลางคืน นี่เขาก็ยังทํากันได ; เพราะวาความมื ด เพี ยงขนาดนั้ น มั น ก็ยั งเป นแสงสวางที่ มี อ ยูในระดั บ หนึ่ ง. ต น ไมบ างชนิด หรือ เชื ้อ ราบางชนิด ก็ย ัง เจริญ ไดใ นความมืด ชนิด นั ้น ซึ ่ง เปน แสงสวางที่มีอยูในระดับหนึ่ง.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ฉะนั้นเมื่อพูดกันแลว ตองพูดใหมันถูก ใหมันยุติธรรมวาที่เรา เรียกกันวา มืด ๆ นั้น ยังไมใชมืดโดยไมมีแสงสวางเอาเสียเลย ; มันยังมีอยู คือวัดไดวามีแสงสวางอยูเทาไร ; จึงไปคํานวณเอาเองวา ถามืดสนิทแลว มันคือ อยางไร หรือเทาไหน ซึ่งยากที่คนเราจะไปพบมันได. มืดสนิทนั้นตองถือวา มันไมมีแสงสวางเลย, หรือไมเห็นอะไรไดเลย. แตเดี๋ยวนี้เรายังเห็นอะไรอยู บาง ; ฉะนั้นความมืดนั้นยังไมใชมืดโดยสมบูรณ.
www.buddhadassa.in.th
รากฐานของศีลธรรมอันดับสี่
๒๕๕
ถา วา ความมืด ในทางจิต ใจแลว ก็ห มายถึง ความมืด ในทาง อวิช ชา คือ ไมรู อ ะไรอยา งถูก ตอ งเสีย เลย ; นี ้เ รีย กวา เปน ความมืด โดย ส ม บูร ณ . แ ตถ า รู นั ่น รู นี ่ รู ผ ิด รู ถ ูก รู อ ะ ไร ไป ต า ม เรื ่อ ง ไมต รง ต า ม ความจริง มัน ก็ย ัง เปน แสงสวา งอีก ชนิด หนึ ่ง คือ เปน แสงสวา งที ่ห ลอกลวง, เปน แสงสวา งชนิด ที ่ล วงตา. ถา อยา งนี ้ก ็ถ ือ วา ไมใ ชสิ ่ง ที ่พ ึง ปรารถนา. ถา หากเป นแสงสว างทางวั ตถุ ก็ คงจะทํ าต นไม ให เจริญ อย างปรกติ ไม ได ; คงจะทํ าให ตนไมนั้น พิกลพิการไปในลักษณะใดลักษณะหนึ่งเปนแนนอน. แสงสว า งชนิ ด นี้ แ หละมั น ลวงตา ทํ า ให ค นเรามี อ าการชนิ ด ที่ เรี ย กว า “เห็น กงจัก รเปน ดอกบัว ” พูด แลว ก็น า กลัว ที ่ “เห็น กงจัก รเปน ดอกบัว ” ; แล ว คนที่ ห วั ว นั่ น แหละ กํ า ลั ง “เห็ น กงจั ก รเป น ดอกบั ว ” เสี ย เอง ; ฉะนั้ น อย า หวัวใหมากไปนักเลย. ค น ใน โล ก ส ม ัย นี ้ทั ้ง ห ล าย เอย อ ยา หัว เรา ะ ไป น ัก เล ย ตัว เอ ง กํ า ลัง “เห็น กงจัก รเปน ดอกบัว ”, เห็น สิ ่ง ที ่เ ปน อัน ตรายแกต ัว นั ่น วา เปน สิ ่ง ที่เปน ประโยชน ; ฉะนั้น จึง ไปหลงทํา ในสิ่ง นั้น จนถึง กับ โลกนี้เ ต็ม ไปดว ย สิ่งที่ทําลายโลก ไมมีความสงบสุขหรือสันติภาพ ; เพราะวาคนในโลกทั้งหมด “เห็นกงจักรเปนดอกบัว” ไมมากก็นอย. ถาใครไม “เห็นกงจักรเปนดอกบัว” ก็จะเริ่มอยูเหนือโลก ; นี้ใชคําพูดอยางนี้.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ทีนี้ แสงสวางชนิดที่ถูกตอ ง หรือบริสุทธิ์ ไมหลอกให “เห็น กงจักรเปนดอกบัว” นั่นคือแสงสวางแหงปญญา. ฉะนั้น ทานจึงกลาววา “ไมมีแสงสวางใดที่เสมอกับดวยแสงสวางแหงปญญา” ; ปญญาเลยกลาย
www.buddhadassa.in.th
การกลับมาแหงศีลธรรม
๒๕๖
เปนแสงสวางที่จะตองสองแสงใหพฤกษาแหงศีลธรรมนี้เจริญงอกงาม. เป น อั น ว า เราจะต อ งพู ด กั น แล ว ถึ ง เรื่ อ งแสงสว า ง กล า วคื อ ป ญ ญานี้ ในฐานะที่ จะเปนอาหารของตนไมแหงศีลธรรม. ....
....
....
....
ถาม : จะตั ้ง ปญ หาขึ ้น มาในที ่นี ้ว า ทํ า ไมปญ ญ าจึง เปน แสงสวา ง ? ขอ ใ ห ท ุก ค น ต อ บ ใ ห ไ ด , ม อ ง ใ ห เ ห ็น ใ ห เ ขา ใ จ , แ ล ะ ใ ห ต อ บ ไ ด ว า ทําไมปญญาจึงเปนแสงสวาง คุณประยูรวากอน ? ตอบ : ถ า ฟ ง ตามความหมายของคํ า ว า “สว า ง”, สว า งก็ คื อ มองเห็ น ทาง เอา ใ น แ งที ่ว า ม อ ง เห ็น ม อ ง เห ็น ท า ง ก ็เ ด ิน ไ ด ถ ูก ต อ ง . ท ีนี ้ ป ญ ญ า , ค น เราถ าพ อ ม าถึ งด าน ชี วิ ต ด าน ม นุ ษ ย เรา ชี วิ ต ก็ คื อ ก ารเดิ น ท าง เห มือ น กัน . ต อ น นี ้ถ า ไมม ีป ญ ญ า ก็ไ มส าม ารถ ที ่จ ะ ทํ า อ ะ ไรไป ได ถูก ตอ ง คือ เห็น ไมห มด รู ไ มห มด รู ไ มจ ริง . ถา ไมม ีป ญ ญ า เปน อัน รู ไ ม ห มด รู ไ ม จ ริ ง ก็ ทํ า ไปผิ ด ๆ อย า งที่ ท า นอาจารย ไ ด ก ล า วแล ว ว า เห็น กงจัก รเปน ดอกบัว เมื ่อ ตะกี ้นี ้แ ลว ดัง นั ้น ปญ ญ าจึง เปรีย บเทีย บ ไดกับแสงสวาง ในแงของการเดินทางอยางหนึ่ง.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ถาม : อี ก อย า งหนึ่ ง คื อ อย า งไร ? คุ ณ ทองว า อย า ให ซ้ํ า กั บ ที่ คุ ณ ประยู ร ว า ปญญาเปนแสงสวาง อยางไร ? ตอบ : ตน ไมต อ งใชแ สงสวา งเพื ่อ จะไดป รุง อาหาร มนุษ ยห รือ คนที ่เ กิด มา เมื่ อ ได รั บ อะไรมาแล ว ก็ จ ะต อ งเอามาปรุ ง เข า ที่ ป ญ ญา ; หากป ญ ญา
www.buddhadassa.in.th
รากฐานของศีลธรรมอันดับสี่
๒๕๗
นั้นไมไดรูเห็นไปตามที่เปนจริง ก็ชักนําใหเปนไปในทางที่เรียกวา เห็นกงจักรเปนดอกบัว. ถาม
: ประเดี๋ยวก็ไปพองกันเสียอีก, มันกลายเปนแสงสวางสําหรับสองทาง เดินไปเสีย. เดี๋ยวนี้เราหมายถึงแสงสวางที่ทําใหเกิดขึ้นมา และเจริญ เบิกบาน เติบโตออกไป เหมือนตนไมไดแสงสวาง แลวเจริญ. คุณชวน ชี้ใหเห็นวา ทําไมปญ ญาจึงไดชื่อวา แสงสวาง ; แสงสวางชนิดที่ทํา ใหตนไมเติบโต หรือแสงแดดที่ทําใหตนไมเติบโต ?
ตอบ
: เมื่อเกิดมีแสงสวางขึ้นมา ตาของมนุษยเรายอมมองเห็นสิ่งตาง ๆ ได ทั่วไปหมด ; ปญ ญาก็เหมือนกัน ถาหากวาในดวงจิตดวงใจของเรา มีปญ ญาแลว เราสามารถมองทะลุปรุโปรงวา สิ่งใดถูก สิ่งใดไมถูก. เราอาจจะนํา สิ่งที่ถูก ตอ งมาใชใ นการดํา เนิน ชีวิต ทําใหชีวิต ของเรา ไปในทางที่ถูกตองได.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org นี่, สังเกตใหดีวา แมเราจะพูดวา แสงสวางนี้สองทางเดิน, หรือวา เราจะพูดวา แสงสวางนี้ ทําใหเกิดการเปนอยูไดไมตองตาย นี้มันก็เหมือนกัน. ถาเราพูดกันอยางวัตถุ หรือการเดินทาง ; แสงสวางนี้ก็จะสองใหเดินถูกตอง ไปตามทาง ; แตผลของการเดินถูกตองไปตามทางนั้น คือการทําใหมีความเจริญ ขึ้นมาได.
ใจความสํา คั ญ มั น อยู ที่ มี ค วามเจริ ญ ; ถ า มี ป ญ ญา เราก็ รู วา อะไรเปน อะไร ; อะไรควรทํา อะไรไมค วรทํา , อะไรควรหลีก เสีย อะไร ควรเวนเสีย, นั่นแหละคือปญญา หรือแสงสวาง. มันก็ทําแตสิ่งที่ควรทํา ฉะนั้น ชีวิตนี้จึงรอดได ; เพราะไดปญ ญาชนิดนี้ จึงทําใหชีวิตรอดอยูได ตั้งแตออ น แตออก.
www.buddhadassa.in.th
การกลับมาแหงศีลธรรม
๒๕๘
ถาม : ปญญานี้เราเอามาจากไหน, ตองถามคุณประยูรที่เปนหมอ เราไดแสง สวางชนิดนี้มาจากไหน ?. ตอบ : แสงสวางชนิดที่ทําใหชีวิตใหรอด มาตั้งแตเล็ก ๆ เปนแสงสวางที่ เรียกวา สัญ ชาตญาณ คือมันติดมาเองตามเชื้อสายของสิ่งที่มีชีวิต มัน สืบ ทอดกัน มา ตั ้ง แตพ ัน ธุพ อ แม, ถา ยทอดมาเปน เรื่อ งของ สัญ ชาตญาณ ที ่ไดม าเกี่ย วกับ ความรอดชีวิต ของรา งกายธรรมดา กอนครับ. ถาม : แลวอะไรตอไปอีก เด็ก ๆ เทานั้นไมพอ ? ตอบ
: แลวพอตอจากนั้นก็อาศัยสิ่งแวดลอม ; สิ่งแวดลอมมาชวยใหปญญา ตามหลัง เรียกวา ปญญาที่ฝกอบรมขึ้นมาภายหลังอีก เปนขั้น ๆ ไป จากประสบการณ จากสิ่ง แวดลอ ม จากพอ แม จากครูบ าอาจารย จากอะไรตา ง ๆ ที่รอบตัวเรา ทํ า ใหค นฉลาดขึ้น . เมื่อ โดนเจ็บ ปวด แลว ฉลาดขึ้น ตา ง ๆ นี ้ เรีย กวา ปญ ญาที ่เกิด ขึ้น ภายหลัง เปน การอบรมทีหลัง.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ถาม : นั่ น ก็ เพี ย งเพื่ อ ชี วิ ต รอด ; ที นี้ ใ ห สู ง ขึ้ น มากกว า นั้ น อี ก จนถึ ง กั บ มี ศีลธรรม ?
ตอบ
: ที นี้ ต อมาพอรางกายรอดแลว จิตใจมั นจะรอดหรือ ไม รอด ก็ต อ ง อบรมทางจิตใจ คือวาทางดานจิต ทางดานวิญญาณ ก็ตองยกระดับ จิ ต ให มั น พ น ขึ้ น มาจากความทุ ก ข ; โดยการรู ศึ ก ษาวา ทุ ก ข นั้ น เป น อย า งไร, ทุ ก ข นั้ น เกิ ด อย า งไรจากประสบการณ ที่ ตั ว พบมา ; ก็ ห า
www.buddhadassa.in.th
รากฐานของศีลธรรมอันดับสี่
๒๕๙
กลอุ บ ายเพื่ อ หาวิ ธี ที่ จ ะปฏิ บั ติ ต น เพื่ อ ให ห ลุ ด พ น จากความทุ ก ข ไ ด เปนปญญารอดสูงสุด ที่ยกวิญญาณใหสูงสุด พนจากความทุกข. ลองแสดงให เห็ น วา แสงสว า งของสั ญ ชาตญาณ กั บ แสงสวา งของ ภาวิต ญาณนั้น เปน แสงสวา งดว ยกัน . ถา ยัง ฟง ไมถูก จะบอกใหมวา : ความรู ที ่รูไดโดยสัญ ชาตญาณ สืบ ตอ ไปจากบิด ามารดา. เชน วา เด็ก ดูด นมเปน เอง กิน นมเปน เองได ไมต อ งมีอ ะไรสอน ; อยา งนี ้เ ราเรีย กวา ความรูอ ยา งสัญ ชาตญาณ. ทีนี ้ เมื ่อ เด็ก ไดสิ ่ง แวดลอ มนั ่น นี ่ รูอ ยา งนี ้ ๆ เขา มัน ก็ค อ ยรูอ ะไร ทีหลังตอมา ; นี่ก็เรียกวา ภาวิตญาณขั้นตน ๆ ขั้นออน ๆ. พอโตขึ้น กระทบนั่น กระทบนี ่ มัน สอนอยู ใ นตัว มัน เอง ก็รูอ ะไรมากขึ ้น ; นี ่ก ็เรีย กวา ภาวิต ญาณ ในระดับ กลาง. แลว ตอ มารูจ ัก สูง ขึ ้น ไปถึง เรื่อ งทางธรรม ทางศาสนา จนรูจ ัก ทําชีวิตนี้ใหเย็นได ไมมีความทุกขเลย ก็เปนภาวิตญาณอันสูงสุด.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ถาม : ทีนี้อยากจะใหชี้สักนิดหนึ่งวา แสงสวางอยางสัญชาตญาณ และแสงสวาง อยางภาวิตญาณนั้น มันเปนแสงสวางในความหมายเดียวกันอยางไร ? คุณทองก็ได, คุณชวนก็ได. ตอบ : เทาที่คิดได ก็คิดวา พอที่จะมีชีวิตอยูได. นั ่น แหละ ที ่เราตอ งการ. ที ่เราตอ งการอยา งยิ ่ง ก็เ พื ่อ ใหช ีว ิต มัน รอดอยู ไ ดเ พราะแสงสวา ง. ถา ในเรื่อ งฝา ยวัต ถุ ก็อ ยา งชีวิต ฝา ยวัต ถุ ฝา ย
www.buddhadassa.in.th
การกลับมาแหงศีลธรรม
๒๖๐
เนื้อหนัง ; ถาเรื่องนามธรรม, เรื่องธรรมะ มันก็มีเรื่องชีวิตอยางธรรมะ อยาง ทางวิญญาณ ; ลวนแตตองการแสงสวาง มันจึงมีชีวิตเกิดขึ้น, และชีวิตเจริญ งอกงามตอไปได. ใหรูความหมายของคําวา แสงสวาง วา คือสิ่งที่ทําใหชีวิตตั้งขึ้นมา และเจริญ งอกงามตอไปได. เราตองการลูกคู ชวยขยายความ เหมือนกันกับ เลนลําตัด หรือเลนเพลงอะไร ก็มีลูกคู ชวยย้ําใหใจความมันชัดเจนขึ้น หรือ ชวยถาม ชวยตั้งแงสงสัยใหมันครบถวนบริบูรณ ; เราจึงตองการลูกคูมาชวย กันในการ ปุจฉา วิสัชนา. เพราะฉะนั้น ทานที่เปนลูกคู ก็ตองตั้งอกตั้งใจทํา หนาที่ของตนใหเต็มที่ ; คือทานตองคิดนึกอยูเสมอ. ....
....
....
....
เปน อัน วา ขึ้น ชื่อ วา แสงสวา งแลว จะเปน แสงสวา งชนิด ไหน คื อ ทางวัต ถุ หรือ ทางนามธรรม ก็ ดี ; เป นแสงสวางแห งตะเกีย ง, หรือ แสง สวา งแหง ปญ ญาก็ดี, มัน ทํา หนาที่สํา คัญ อยูอัน หนึ่ง คือ ทํา ชีวิต ใหอ อก มาได ใหเกิด ขึ้น มาได ตั ้ง อยู ไ ด เปน ไปได ; แลว แตวา จะเปน ชีวิต ในทาง รูป ธรรม หรือ ชีวิต ในทางธรรม คือ ทางฝา ยจิต ฝา ยวิญ ญาณ ฝา ยศาสนา หรือฝายศีลธรรม นั่นเอง.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org มนุษยมีชีวิตทางรางกาย ทางเนื้อหนังนั้น มันสวนหนึ่ง แตมีเพียง เทานั้นไมพอ ; และบางทีก็ถูกดาวาไมเปนคน เปนไอชาติอะไรก็ไมรู เพราะมัน มี แตชีวิตชนิ ด นั้ น . ต องมี ชีวิต อีก แบบหนึ่ ง จึงจะไม ถูก ด าทํ านองนั้ น คื อ ชีวิต
www.buddhadassa.in.th
รากฐานของศีลธรรมอันดับสี่
๒๖๑
ทางศีลธรรม ชีวิตที่ถูกตองตามทางศีลธรรม ที่ทําใหเราไดชื่อ ไดนามขึ้นมาวา มนุษย คือสัตวที่มีใจสูง. ทีนี้ เราพูดถึง “ศีลธรรม”, ตนไมแหงศีลธรรมตองการแสงสวางคือ อะไร ? คุ ณ ทอง, เอ า, มั วงงแทนคนอื่ น หมด. นี่ ก็ กํ าลั งพู ด อยู ห ยก ๆ ว า มั น ตองการแสงสวางคือปญญา ; ตนไมทางศีลธรรมมันตองการแสงสวางคือปญญา ; ในเมื ่อ ตน ไมต ามธรรมดา มัน ตอ งการแสงสวา งจากแสงแดด เปน ตน . เอา , ยุติ กันที ในขั้นนี้ วาชีวิตต อ งการแสงสวาง ; ต นไมท างศีล ธรรมมี ชีวิตอยูรอดได ดวยแสงสวาง คือ ปญญา. ....
....
....
....
พูดถึงเรื่องปญญากันตอไป ใหมันละเอียดยิ่งขึ้น.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ถาม : สอบไลเสียหนอยวา ปญญาแปลวาอะไร ? คุณชวน ไมคอยมา ปญญา แปลวาอะไร ?
ตอบ : ปญญาคือความรู ความรูแจงในสิ่งตาง ๆ.
ถาม : คุณทอง ? ตอบ : เหมือนที่คุณชวนวา ? ถาม : เอา, คุณประยูร.
www.buddhadassa.in.th
การกลับมาแหงศีลธรรม
๒๖๒ ตอบ : ปญญา ความหมายทั่ว ๆ ไป ก็ความรู ถาม
: ตัวหนังสือแปลวาอะไร ? โดยตัวหนังสือ คํานี้แยกออกเปนอยางไร ? แปลวา อยา งไร ? นี่แ สดงวา ไมจํา ไมฟง ให ไดปญ ญา แลว ก็จํา ไวไมได ; แมวาเคยบอกมาหลายหนแลววา ปญ ญานี้แยกออกเปน ป กับ ญา, ป แปลวา ทั ่ว ถึง , ญา แปลวา รู ; ฉะนั ้น ป- ญา แปลว า รู อ ย า งทั่ ว ถึ ง เพี ย งพอ รู อ ย า งทั่ ว ถึ ง เพี ย งพอ นี่ ผิ ด ได ไหม
ตอบ : ถารูพอ แลวก็ไมผิด. ถาม
: ต อ งให มั น แน น อนลงไปว า ถ า เรี ย ก ป ญ ญา แล ว ผิ ด ไม ได ; มั น จะรูมากมายสักเทาไรก็ตาม ถามันผิดก็ไมอาจจะเรียกวา ปญญา. ที่วา เพี ย งพอนั้ น เพี ย งพอสํ า หรับ จะทํ า อะไร สํ า หรับ จะไปขโมย ? หรือ สําหรับไปทําอะไร ?
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ตอบ : ในแงของศีลธรรม เพียงพอ ก็คือพอที่ใชดับความทุกขได.
ถาม : ตองเพียงพอสําหรับจะแกปญหาได คือจะดับความทุกขไดในทางที่ถูก ที่ควร เพราะวาถามันผิด แมจะแกปญ หาได มันก็ดับความทุกขไมได มันยิ่งจะผิดมากขึ้น. มันเปนปญหาที่ไมควรจะแกหรือปญหาที่มันผิด ; ตองแกปญหาที่ควรจะแก แกไดหมด แลวก็ไมมีปญหาเหลืออยู เรียก วา ปญญาที่ถูกตอง นี่ก็เลยมีคําวา “ถูกตอง “ มันถูกตองตามอะไร ?
www.buddhadassa.in.th
รากฐานของศีลธรรมอันดับสี่ ตอบ
๒๖๓
: ถ า ถู ก ต อ งจริ ง ๆ ก็ ถู ก ต อ งตามกฎของธรรมชาติ , ถู ก ต อ งตาม ธรรมชาติ.
เพราะฉะนั้ น เขาจึ ง เรี ย กว า ยถาาภู ต สั ม มั ป ป ญ ญา – ป ญ ญาที่ ถู ก ตอ ง: ยถาภูต - ตามที ่เปน จริง , ตามที ่เปน จริง ของอะไร ? ก็ข องธรรมชาติ ; หรือจะเรียกอยางอื่นก็ได แตนี้เราเรียกตามธรรมดาสามัญ ของธรรมชาติ ถูกตอง ตามธรรมชาติ. บาลีคํานี้สําคัญ ที่สุด ชวยจํากันไวทุก ๆ คนวา ยถาภูตสมฺมปฺปฺ, จึง จะรับ ประกัน ไดห มดวา เพีย งพอ และถูก ตอ ง และสํ า เร็จ ประโยชน ; แตเรา มักจะเรียกกันวา ปญ ญา ปญ ญา เฉย ๆ สั้น ๆ ลุน ๆ ก็เลยทําใหไมคอยรูอะไร หรือ รูน อ ยเกิ น ไป. ช วยจํ าไวว า คํ า วา “ป ญ ญา” นี่ ถ า สมบู รณ แ บบ ต อ งขยาย ความออกไปเปน ยถาภูต สัม มัป ปญ ญา คือ ปญ ญาถูก ตอ งตามที ่เ ปน จริง ของสิ่งที่เปนจริง คือธรรมชาติ.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ฉะนั ้น ความเปน แสงสวา งของปญ ญ าชนิด นี ้ ก็ค ือ ความถูก ตอ งตามที ่เ ปน จริง จึง เรีย กวา เปน แสงสวา ง ; ถูก ตอ งตามที ่เ ปน จริง สํ า หรับ อย า งอื่ น มั น ก็ มี ผ ลอย า งอื่ น : ถ า เป น เรื่ อ งการทํ า ความชั่ ว มั น ก็ ถู ก ต อ งตาม ความเปนจริงของการทําความชั่ว, และทําชั่วไดจริงเหมือนกัน. ถาถูกตองตามที่ เปนจริงในการทําความดี หรือทําความดับทุกข, มันก็จะดับทุกขได.
ศี ล ธรรมเหมื อ นกั บ ต น ไม ต อ งการแสงสว า งชนิ ด นี้ เป น เครื่ อ งหล อ เลี้ ยงชี วิต หรือ วาทํ าชี วิต ให เกิ ดมาก็ ได ; แต มั น จะเกิ น ความจํ าเป น , เราไม พู ด .
www.buddhadassa.in.th
การกลับมาแหงศีลธรรม
๒๖๔
พูดวาชีวิตมันรอดอยูได หรือวาเกิดออกมาได นี่ก็เพราะวามันอาศัยปญญาขั้นตน อยางนั้น แลวตอมามันเจริญ ๆๆ, ก็เพราะอาศัยปญญา ที่มันเจริญ ๆๆ งอกงาม ตอไป. ....
....
....
....
ทีนี้ อยากจะใหเขาใจความหมายของคําวา “ยถาภูตสัมมัปปญญา” นี้พอสมควร เปนปญญาชนิดที่ปราศจากโทษ ๑๐ ประการ ; ดังที่พระพุทธเจา ทานไดตรัสไวในสูตรที่เรียกกันวา กาลามสูตร เวนจากโทษ ๑๐ ประการนั้น แลว ก็จะเปนยถาภูตสัมมัปปญญา. ถาม : ฉะนั้น ในฐานะที่เคยฟงมาหลายครั้งหลายหนแลว คุณประยูร วาโทษ ๑๐ ประการนั้นคืออะไร ?
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ตอบ
: โทษ ๑๐ ประการในกาลามสู ต รก็มี : พวกแรกก็ เกี่ ยวกับ ผูอื่ น ก็ มี ๑. อยาเชื่อในขาวลือ ๒. อยาเชื่อตามที่เรานึกวาควรจะเปน.
ถาม : พอที ลําดับไกลหมดแลว คุณทอง นี่สอบไล ?
ตอบ : ผมลําดับไมไดเหมือนกันครับ. ถาม : เอา, คุณชวน. ตอบ : ลําดับไมไดครับ.
www.buddhadassa.in.th
รากฐานของศีลธรรมอันดับสี่
๒๖๕
ถาม : วาใหครบ ๑๐ ไดไหม ? ตอบ : ไมครบครับ. เป น อั น ว า ยั ง สอบไล ไ ม ไ ด ; เรี ย นมาหลายป แ ล ว ยั ง สอบไล เ รื่ อ งนี้ สํ า หรั บ คํ า คํ า นี้ ไม ได . เอาละก็ จํ า เป น จะต อ งว า ใหม เหน็ ด เหนื่ อ ย อย า งไรก็ ต อ ง วา กัน ตอ ไปอีก แหละ. ยัง จํ า ไมไ ด จะทํ า อยา งไรละ ; จะใหม ัน งา ยมากขึ ้น ก็คอยฟงใหดี ๆ โทษ ๑๐ ประการนั้น จะแจกเปน ๔ หมวด:หมวดแรก หรือ หมวดเกี่ยวกับการฟง มีอยู ๓ ประการ ๑. เชื ่อ รู ห รือ ถือ เอา ตามที ่ฟ ง บอกกัน มา คือ บอกกลา วตอ ๆ ตอ ๆ กันมา ตั้งแตครั้งไหนก็ไมรู นี่อยารับเอาวาเปนความจริง.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ๒. ทีนี ้พ ูด ไมบ อก แตไ ด ทํ า ตามกัน มา, ทํ า สืบ อยา งปรัม ปรา, คื อทํ าให เห็ นเป นตั วอย าง แล วทํ าสื บ ๆ กั นมา เช นประเพณี หรือวาอะไรทํ านองนั้ น.
๓. กํ า ลั ง ลื อ กระฉ อ น อยู เ ดี๋ ย วนี้ โจษจั น กั น ที่ นั่ น ที่ นี่ อย า งนั้ น อยางนี้ กระฉอนอยูเดี๋ยวนี้.
ถ า เราไปรั บ เอามาอย า งนี้ ไม เรี ย กว า ป ญ ญา. นี่ ก็ โทษ ๓ ประการ เกี่ ยวกั บ การฟ ง : ฟ งสื บ ๆ กั น มา, ทํ าตาม ๆ กั น มา, และก็ กํ าลั งมี เสี ยงกระฉ อ น อยูที่นี่และเดี๋ยวนี้.
www.buddhadassa.in.th
๒๖๖
การกลับมาแหงศีลธรรม
ทีนี้ หมวดที่ ๒. เปนเรื่องของ หมวดที่เกี่ยวกับตํารา วา อยาฝาก ไวกับตํารา คืออยายึดมั่นตํารา อยามัวอางตํารา ; มันไมรับประกันไดวาถูกตอง จะตองทําอยางอื่นตอไปอีก, คือทําใหมี ยถาภูตสัมมัปปญญา ; เดี๋ยวจะวาทีหลัง. นี่เกี่ยวกับตํารามีอยูขอเดียววา อยาฝากความรู หรือ ความเชื่อ ความถืออะไร ก็ตาม ไวกับตํารา. ทีนี้ หมวดที่ ๓. หรือ หมวดเกี่ยวกับการคํานวณ. ๑. อยา เชื ่อ ดว ยเหตุผ ลทางตรรกวิท ยา การใชเ หตุผ ลตามวิถี ทางตรรกวิทยา เหมือนกับที่เด็ก ๆ เขาก็พูดเปน. ๒. อย า เชื ่ อ ด ว ยเหตุ ผ ลทางปรั ช ญา ซึ ่ ง ใช ก ารอนุ ม านไปยั ง สิ่ง ที่ยัง ไกล ยัง มองไมเห็น ถา ทางตรรกเอาสิ่ง ที่ม องอยูต รงนี้ กลิ้ง ไปกลิ้ง มา อยูที่ตรงนี้ มาจับ มาวัด มาอะไรกัน.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ๓. อย า เชื ่ อ ด ว ยความรู ส ึ ก สามั ญ สํ า นึ ก ชั ่ ว ขณ ะ คื อ ทุ ก คน จะมี ค วามรูสึ กคิ ด ชั่วขณะ ตามสามั ญ สํ านึ กของตน ๆ ด วยกั น ทั้ งสิ้ น อยาเชื่ อ หรือตัดสินใจเชื่อดวยความคิดนึกชนิดนี้.
๔. ก็ ว า อย า เชื ่ อ เพราะเหตุ ว า มั น ตรงกั บ ความคิ ด เห็ น ของ เรา เรายิ่ ง คิ ด ยิ่ ง เห็ น อย า งนั้ น , ยิ่ ง คิ ด ยิ่ ง เห็ น อย า งนั้ น . ข อ นี้ อ ธิ บ ายยากมาก เพราะวาคนเราจะเชื่อ เพราะเห็น วา มัน ตรงกับ ความคิด ของเราเสมอไป ; แต พระพุทธเจาทานยังกันไวอีกวา “อยา, อยาเอาอยางนั้น” เพราะวาทานตองการ
www.buddhadassa.in.th
รากฐานของศีลธรรมอันดับสี่
๒๖๗
ใหเกิด ปญ ญาชั้น สูง ไปกวา นั้น . ขอ นี้จ ะเห็น ไดงา ย เชน วา คนพาล คนโง คนเขลา มันก็มีทางที่จะมีอะไรตรงกับความคิดของเขาได ความคิดนั้นก็ผิดหมด. ทีนี้ หมวดที่ ๔ หมวดเกี่ยวกับบุคคล มีอยู ๒ ขอ. ๑. ผู พ ูด อยู ใ นฐานะที ่ค วรเชื ่อ ได อยา เชื ่อ เพราะวา ผู พ ูด อยู ใ น ฐานะที่ควรจะเชื่อได. ยกตัว อยางกัน เดี๋ยวนี้เลย วาคุณ นะ อยาเชื่อ อาตมา วาอยูในฐานะที่ควรเชื่อได, หรือวาเห็นอยูที่ในฐานะที่ควรจะเชื่อไดก็เชื่อเสียเลย ; อยาทําอยางนั้น มันจะผิดขอนี้ มันจะมีโทษ. ๒. อีก ขอ หนึ ่ง ขอ สุด ทา ยวา อยา เชื ่อ เพราะวา สมณะผู นี้ เปนครูของเรา. ขอทบทวนอีก ทีว า หมวดแรกหรือ หมวด ก. เกี ่ย วกับ การฟง อยาเชื่อเพราะฟงตาม ๆ กันมา, อยาเชื่อเพราะเหตุวาทําตาม ๆ กันมา, อยา เชื่ อ เพราะเขาลื อ กระฉ อ นกั น อยู ทั้ งบ า นทั้ งเมื อ งเดี๋ ย วนี้ ; นี่ เกี่ ย วกั บ การฟ ง .
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org หมวด ข. เรื่อ งตํา ราอยา ฝากเนื้อ ฝากตัว ฝากความคิด จิต ใจ ทั้งหมดไวกับตํารา มันจะติดตัง ; นั่งเปดดูอยูนั่น.
หมวด ค. คือ คํา นวณ คํา นวณทางตรรก เห็น วา ตรงกับ ทาง ตรรกก็ อ ย าเพ อ, ตรงตามนั ยะ คื อ ปรัชญาก็ อ ย าเพ อ , ตรงตามความคิ ด นึ ก สามัญ สํานึกของเรา ก็อยาเพอ, ตรงกับ ที่เรายิ่งคิด แลวมันยิ่งเห็น วาจริง ยิ่ง คิดแลวมันยิ่งตรงกันระหวางความคิดของเรา กับสิ่งที่เขาใหเราเชื่อ, นี้ก็อยาเพอ.
www.buddhadassa.in.th
การกลับมาแหงศีลธรรม
๒๖๘
หมวดสุด ทา ย ง. หมวดบุค คล อยา เชื่อ เพราะวา ผู พ ูด อยูใ น ฐานะที่ ค วรจะเชื่ อ ; อย า เชื่ อ เพราะวา ท า นเป น ครูของเรา ; ข อ นี้ น า กลั ว นะ. ทีนี้ ไลมาทีละขอ ก็จะเขาใจ : ๑. แรกที ่สุด ฟง บอกตาม ๆ กัน มา พูด ตอ ๆ กัน มา ตั้ง แต ครั้งไหนก็ไมรู. นี่มันมีปญหาเกิดขึ้นทันที คือเราเกิดมาในโลกนี้ เราไมอาจจะ รูเองได เราตองเชื่อตามที่ บิดามารดาบอก, บิดามารดาก็เชื่อตามที่บิดามารดา ของบิดามารดาบอก, ก็บอกกันมาเปนทอด ๆ อยางนี้. แลวทําไมพระพุทธเจา ทานยังวามันยังเปนโทษอยู ? ก็เพราะมันอาจจะผิดได โดยเฉพาะที่เปนเรื่อง สูงสุด : เรื่องมรรค ผล นิพพาน แลวมันผิดไดมากทีเดียว. ที่มันผิดไมไดก็เปนเรื่องงาย ๆ เรื่องเล็ก ๆ นอย ๆ ที่เปนมาไดอยาง งาย ๆ ตามที่ฟงบอกกันมาได ; แตคิดดูเถอะ มันมีมากเรื่องเหลือเกิน ที่มัน ไมจ ริง , เรื่อ งผี เรื่อ งสาง อะไรก็ต าม ที่มัน ไมจ ริง , ที่มัน บอก ๆ กัน มานี้ ก็มีอยูมาก ; ความรูชนิดนั้นไมชื่อวาปญ ญาในที่นี้ เพราะมันยังไมตรงตามที่ เปนจริง.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ๒. ทําตาม ๆ กันมา ซึ่งมักจะเปนเรื่องทางไสยศาสตร เปนเรื่อ ง โชคลาง. นี้ไมพูดกันกับ ปาก ; แตทําตาม ๆ กัน มา. ตัวอยางเขาลอ เรียกวา “เถรสองบาตร”. นี้ไม ตองพู ดกัน แตทําตาม ๆ กันมาอยางนั้น . ฉะนั้น เรื่อ ง
www.buddhadassa.in.th
รากฐานของศีลธรรมอันดับสี่
๒๖๙
ตั้งพัน ๆ ป มันก็ยังเหลืออยูไดกระทั่งบัดนี้ ; เพราะทําตาม ๆ กันมา. ความรู ที่ไดจากสิ่งนี้ไมใชปญญา, ไมใชยถาภูตสัมมัปปญญา. ๓. เสี ยงลื อ กระฉ อ น ประเทศไทยก็ มี บ อ ย ประเทศไหนก็ มี บ อ ย เมืองไหนก็มีบอย, แตกตื่นกันอยางนั้นอยางนี้, ผูวิเศษที่นั่นที่นี่, น้ําศักดิ์สิทธิ์ ที่นั่น ที่นี่, แตกตื่น กัน อยูอ ยางนี้. ความเชื่อ หรือ ความรูอัน นั้นไมเปน ยถาภูต สัมมัปปญญา. ไมเปนรากฐานแหงศีลธรรมอยางบริสุทธิ์ได. แตขอนี้จะตองมีการพิจารณาดูใหดี ๆ ; เพราะศีลธรรมในบางระดับ อยูไดเพราะความเชื่ออยางนี้ ก็มีเหมือนกัน แตจะถูกตองอยางสมบูรณไมได. แตเดี๋ย วนี้เรามีห ลัก อยา งอื่น เขา มาชว ย คือ ถา เปน ไปเพื่อ ประโยชนอ ยูบา ง แลว ก็ย อมใหเ ชื่อ ได ; ดีก วา ที่จ ะไมรูจัก เชื่อ อะไรเสีย เลย. ฉะนั้น ศีล ธรรม ในขั้นต่ํา ๆ ตน ๆ มันอยูไดดวยความเชื่อชนิดที่ไมตองใชเหตุผล ไมตองวิพากย วิจ ารณ ; แตถึง อยา งนั ้น มัน จะเปน ศีล ธรรมชั้น สูง สุด ชั้น บริส ุท ธิ์ไ ปไมไ ด. ตองรูจักแบงไว เมื่อเรายังไมมีความรู หรือความเชื่อที่ดีกวา ; ก็ทําไปตามเทาที่ เห็นวาดี ที่เห็นประโยชนอยูชัด.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org อยางเด็ก ๆ ที่เขาจะสอนไมใหทําอะไร เขาก็ตองพูดชนิดที่นากลัว : วาผีจะหลอกเอาบาง, วาเสือจะกัดบาง ; เด็กยังไมรูอะไรมันก็เชื่อ, เชื่อแลว มัน ก็ไ มทํา อยา งที่เ ขาหา ม มัน ก็ป ลอดภัย ไดเ หมือ นกัน . นี่ก็เรีย กวา ทํา ใหมี ศีล ธรรมในขั้น ชนิด นั้น ไดเ หมือ นกัน ; แตใ นที่สุด มัน ไมพ อ. พอโตขึ้น มัน ก็หัวเราะ เพราะมันไมพอ ; มันตองเขยิบขึ้นไปใหถึงระดับที่มันพอ มันจึงมา ถึงระดับที่พระพุทธเจาทานไดตรัสไว ; แลวมันสูงสุด.
www.buddhadassa.in.th
๒๗๐
การกลับมาแหงศีลธรรม
ยกตัวอยางเชน เรื่องลือกระฉอน มาอยางนี้ เรื่องยักษจะมา เรื่องผี จะมา อะไรจะมา ที่ตอ งทํา กัน วุน วายไปทั้ง บา นทั้ง เมือ ง ; แตเ รารูไ มไ ดวา ที่เขาลือกันนี้มันไมจริง, หรือจริง บางทีก็รูไมได ; ฉะนั้น ทําใหนาสงสารอยู มาก แตถาเปนการบอกกลาวจริง ๆ ไมใชเปนเสียงเลาลือทํานองนั้นแลว มัน ก็ไมอยูในขอนี้. เชน ถาเปนเรื่องจริง เขาจะมาทิ้งระเบิดเราอยางนี้ เปนเรื่องจริง อยางนี้ เราก็รับ รู แลวก็พยายามทําใหมัน ตรงตามเรื่อ งนั้น ๆ ; อยางนี้ไมใช เรียกวาลือกระฉอน ดวยความงมงาย เชื่อดวยความงมงาย ที่เขาเรียกวา มงคล ตื่นขาว หรืออะไรทํานองนี้ก็เรียก, คือวาเปนไปในหมูคนที่มีความกลัว มีการ ศึกษานอย รูนอย เต็มไปดวยความงมงาย เต็มไปดวยความขลาดกลัว ; มันก็ ตื่นเตนไปตามเสียงลือกระฉอน. นี่ก็ไมใชปญญาที่ถูกตองตามที่เปนจริง. แตก็อยาลืมวา ไดบอกไวแลวนะ วาบางทีบางอยางมันตรงกับเรื่อง มีประโยชน ก็ทําใหไดรับประโยชนไดเหมือนกัน ; อยางเขาลืออยางไมจริง ๆ วา อหิวาตมาแลว ฉีดยาเร็ว ๆ, ฉีดยาเร็ว ๆ, นี่ก็มีประโยชน ; แมอ หิวาตไมม า มันก็ยังไดประโยชน ; อยางนี้มันก็ไมใชรวมอยูในคําเลาลืออยางงมงาย.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ๔. ที่วา อยา ฝากไวกับ ตํา รา เพราะวา เราไมรูไ ดวา ตํา รานั ้น มันถูกหรือมันผิด. เราจะตองมีความคิดที่แบงไวสวนหนึ่ง ที่จะพิสูจนตํารานั้น อีกทีหนึ่ง. นี่ลองเอามาทําตาม ปฏิบัติตาม หรือคนควาดู ; จริงแลวจึงคอ ย รับ เอา. ฉะนั้น จึง เปน เพีย งวา ครั้ง แรกนี่เอามาลอง, ความรูใ นตํา รา รับ เอามาสําหรับทดลอง. พบความจริงมากขึ้น ๆ จึงกลายเปนความรูของเรา ; ไมใช
www.buddhadassa.in.th
รากฐานของศีลธรรมอันดับสี่
๒๗๑
ความรูในตํารา. เมื่อเราไดคนควาทดลองจริง ๆ จนรูจริง มีอะไรจริง จนถึง ที่สุด แลว ก็เรีย กปญ ญาตามที่เปน จริงขึ้น มาได ; นี้ตอ งใชเวลาดวย. ถามัว แตอางตําราวาใชไดแลว ถาเกิดตํารามันผิด เราก็คงจะแย แลวก็ไดเคยแยกันอยู เพราะเหตุ ที่ ติ ด ตํา รา เชื่ อ ตํา ราหลั บ หู ห ลั บ ตา ก็ ไ ม เ ป น ศี ล ธรรมที่ ดี ไ ด ; แต อ าจจะเป น ศี ล ธรรมขั้ น ต น ๆ ที ่ พ อเป น จุ ด ตั ้ ง ต น ได . เพราะตํ า ราที่ เขาเขียนไวสวนมากมันก็พอถูกตอง ; เพราะเขาพยายามจะเขียนใหมันถูกตอง. แตวาเราจะเชื่อตามนั้นโดยที่ไมตองพิสูจนหรือใครครวญนี้ ก็ไมได มันจะทําให เราเปนคนโง คิดอะไรไมเปน ; ถาเราทองจําแตตําราแลว เราจะคิดอะไรไมเปน แลวเราจะฉลาดไมได. เราจะดื้อตํารา จะพิสูจนตํารา จนกวาจะพบความจริง ตรงตามที่ตําราเขียนไว ; ตําราหลอก ๆ ทั้งหลายก็ทําอะไรเราไมได. ขอ ถัด ไป ๕. อยา ถือ เอาดว ยเหตุผ ลตามทางตรรกะ นี ่คู ก ัน กับ อัน ดับ ถัด ไป คือ ๖. อยา ถือ เอาโดยเหตุผ ลทางนัย ะ. นัย ะนี ่ห มายถึง ปรัช ญา วิธีท างปรัช ญา. ตรรกะคือ วิธีท างตรรก. นี่เ อาเหตุผ ลที่เ ห็น อยู เปนหลัก สมกับหลักที่เห็น ๆ อยู ; แมแตเด็ก ๆ มันก็พูดเปน ที่พูดใหถูกตรรก พอพูด ขัด ตรรก เพื่อ นก็คา นได. สํา หรับ เด็ก ๆ เขาพูด ทดลองกัน ทดลอง มันสมองกัน นั้นก็คือ ตรรก ; แลวตอมามันก็สูงขึ้นไปกวานั้น มีเหตุผลที่สูง ขึ้นไปกวานั้น ; แมมันมีเหตุผลทางตรรก พูดโดยไมผิดทางตรรก แตก็ไมตรง ตามความจริงของธรรมชาติมันก็มี. ฉะนั้นเราจึงไมถือเอาเหตุผลทางตรรก เปน เครื่องตัดสิน.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org
www.buddhadassa.in.th
๒๗๒
การกลับมาแหงศีลธรรม
ทางปรั ช ญาก็ คื อ อนุ ม าน มั น ไปไกล ถึ ง สิ่ ง ที่ ยั ง ไม รู ว า อะไร, ถึง สิ่ง ที่จ ะมาขา งหนา สิ่ง ที่ยัง มองไมเ ห็น ตัว ดว ยซ้ํา ไป, มัน คืบ ออกไปดว ย เหตุ ผ ล ด ว ยการอนุ ม านอย า งนั ้ น ก็ เ รี ย กว า ทางปรั ช ญา. เขาไม เ อา เปนหลักที่แนนอน วามันเปนอยางนั้นอยางนี้. พระพุทธเจาตรัสขอนี้ ก็เพื่อ วาใหรูอยูโดยประจักษ อ ยูในใจ และ เปนเรื่องของการดูใหเห็น ไมใชเปนเรื่องของการใชเหตุผลวา มันจะเปนอยางไร. นี่พ วกเราควรจะทราบขอ นี้ไวดว ย สํา คัญ มาก. ตัว หลัก พระพุท ธศาสนานั้น เป น ไปในทางดู ใ ห เ ห็ น ตามที ่ เ ป น จริ ง ลงไปที ่ สิ ่ ง นั ้ น . ไม ใ ช ใ ห คํ า นวณ ด ว ยการใช เหตุ ผ ล แล ว ฝากไว กั บ เหตุ ผ ล, ซึ่ ง ไม ไ ด ดู ล งไปจริ ง ๆ ที่ สิ่ ง นั้ น . เหตุผ ลมัน ผิด ได ; เพราะฉะนั้น ถา ไดเหตุผ ล หรือ ขอ มูล มาผิด ผลที่ออกจากขอมูลนั้น มันก็ผิดหมด ; การใชเหตุผลจึงตองอาศัยการดู จะฝาก เนื้อฝากตัวกับการใชเหตุผลตะพึดนั้นมันไมได ; มันตองมาเอาที่การดูลงไปตรง ๆ. เช น อนิ จ จั ง นี้ เห็ น อนิ จ จั ง ตรงๆ ; ไม ต อ งคํา นวณเอาโดยเหตุ ผ ลว า มัน ตอ งอนิจ จัง ซึ ่ง เราทํ า กัน มาก สอนกัน มากในโรงเรีย น : “มีเ หตุผ ล อย า งนั้ น ซิ จึ ง ถื อ ว า อนิ จ จั ง ;” อย า งนี้ ไ ม ไ ด . มั น ต อ งดู ล งไป เห็ น ลงไป จริง ๆ วามันเปนอนิจจังจึงจะได.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ตอ งจํา ไววา ถา จะเปน พุท ธบริษ ัท แท แลว ตอ งดูล งไปตรง ๆ ใหเ ห็น อยา ฝากไวก ับ การคํ า นวณดว ยเหตุผ ล ทางตรรก ทางปรัช ญา เปนตน.
www.buddhadassa.in.th
รากฐานของศีลธรรมอันดับสี่
๒๗๓
๗. ขอ ที ่วา อยา ตรึก ตามอาการ หรือ ตามที ่ส ามัญ สํ า นึก จะพา ไป ; นี ่ก ็ไ มป ลอดภัย , พอจะเขา ใจได. ที ่เ ราจะปลอ ยไปตามความคิด มัน จะพาไปตามธรรมดาสามั ญ นี้ ก็ ไม ได ; จึ ง ห า มไว เพราะมั น ไม เป น ป ญ ญา. แตวาบางอยางเราก็ตองใชอยางนั้น คือวาปญญาชนิดตื้น ๆ จนเคยชินตามสามัญ สํา นึก มัน ก็แ กปญ หาไดต ามสมควร ; แตจ ะเอาเปน เด็ด ขาด เปน หลัก สูง สุด ไมได มันไมใชตรงตามที่เปนจริง มันไมอาจที่จะตรงตามที่เปนจริงไดเสมอไป. ๘. ข อ ถั ด ไป คื อ ทนต อ การเพ ง พิ น ิ จ ของเรา เรายิ ่ ง คิ ด ยิ ่ ง เห็น จริง , ยิ่ง คิด ยิ ่ง เห็น จริง , ยิ ่ง คิด ยิ ่ง เห็น จริง ; อยา งนี ้ก ็อ ยา เพอ . เพราะวา เราอาจจะคิ ด ไม เป น ก็ ไ ด , เราคิ ด ผิ ด ทางก็ ไ ด , เพราะว า เรามั น เป น คนมี ห ลั ก เกณฑที่มันผิดมาเสียแลวตั้งแตตน ตลอดเวลา. เราตองฝากไวกอน ตองพิสูจน กันดวยผลที่เกิดขึ้นจริง ๆ เทานั้น. อย า เอาแต เพี ย งว า มั น ทนต อ การพิ นิ จ , แต จ ะไปเอาต อ เมื่ อ มั น มี ผลอยางนั้นจริง, มันตองมีผลอยางนั้นจริง ๆ จึงจะยอมรับวา เปนความรูที่ถูกตอง. ขอ นี ้อ ธิบ ายยาก และปฏิบ ัติย าก ; เพราะเราจะตอ งรับ หรือ เอาตามที ่เราคิด แลวมันมีเหตุผลใหแกเรา มันทนตอความคิดของเรา ; แตพระพุทธเจาทานก็ยัง ไมใหเอา ใหขยักไวอีกทีหนึ่งวา ไปเอาผลที่มันเกิดขึ้นจริง ๆ เปนหลัก.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ตอ จากนี ้ก ็ไ ปถึง เรื ่อ งบุค คล วา ๙. ผู พ ูด อยู ใ นฐานะที ่ค วร เชื่อ ได. ฟง ผิว ๆ เผิน ๆ มัน ก็จ ะรูส ึก วา มัน คา นกับ ที ่เราสอนศีล ธรรม : ให เชื่อ บิด ามารดา ครูบ าอาจารย ; นั ้น ก็ไ มผ ิด . เราจะตอ งเชื่อ บิด ามารดา ครู บาอาจารย โดยไม มี ข อ แม , ไม ต อ งยกเว น ไม มี เงื่ อ นไขอะไร ; เพราะว า เรา
www.buddhadassa.in.th
๒๗๔
การกลับมาแหงศีลธรรม
ยังเปน เด็ก อยู. แตเมื่อ เราโตขึ้น มา เราก็มีสิท ธิ์ที่จะวินิจฉัย ดูวา คนที่เห็น วา ควรจะเชื่อไดนั้น เขาพูดตรงหรือไม ? จริงหรือไม ? ถูกตองหรือไม ? จะเอา แตทาทาง หรือเอาแตความนิยมของสังคม วาคนนี้มีความรู ควรจะเชื่อได นี้ก็ ไม พ อ. แต ในทางศี ล ธรรมชั้น แรก ๆ ก็ เอาไปก อ น : เชื่อ บิ ด ามารดา ครูบ าอาจารย แล ว ไปทํ า ตาม, ไปทํา ตาม, แล ว มั น ก็ พ ิ ส ู จ น เ องว า มี ผ ลจริ ง หรือไม. พอมีผลจริงตามนั้น ก็กลายเปน เชื่อ ตัวเรา เชื่อ ขอ เท็จจริงที่เรามอง เห็น โดยไมตองใชเหตุผล. ๑๐. ขอ สุด ทา ยนี ้น า กลัว ที ่ว า อยา เชื ่อ เพราะสมณะนี ้เ ปน ครู ของเรา. นี้แปลวา พระพุท ธเจา ทานใหเสรีภ าพไวอ ยางสูงสุด จนกระทั่งวา ไมต อ งเชื่อ แมแ ตที ่พ ระพุท ธเจา ทา นตรัส เอง. ผู นั ้น จะตอ งมองเห็น วา ที่ พระพุทธเจาทานตรัสไวนั้น มันเปนอยางนั้นจริง จนกวาเมื่อไรจะเปนอยางนั้นจริง ผูนั้นจะตองรูประจักษดวยใจของตน แลวความเชื่อมันก็เปลี่ยนมาเชื่อตัวเอง.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org เพราะฉะนั้น มัน มีประโยคที่ไดตรัสไว ปรากฏอยูในพระคัมภีร อยูประโยคหนึ่ง ซึ่งนาอัศจรรยที่สุด, คือ ประโยคที่วา “ไมตองพูดตามคําพูด แหง ศาสดาตน” ; จํ า ตัว หนัง สือ ใหไ ดก อ นวา “ไมต อ งพูด ตามคํ า พูด แหง ศาสดาของตน” ; เมื่อ เรามีพ ระพุท ธเจา เปน ศาสดา เราไมตอ งพูด ตามที่ ทานพูด แตเราจะพูดตามที่เราเห็นวา มันเปนอยางนั้นจริง.
ทีแ รกเราก็ต อ งพูด ตามที ่ทา นพูด เพราะเราไมม ีป ญ ญาจะพูด ; ครั้นเราเขาถึงความจริงนั้นแลว เราก็พูดตามที่เราเขาถึงความจริงนั้น, และไมได พูดตามที่พระศาสดาพูด. นี้เปนขั้นสูงสุด หรือขั้นเปนพระอรหันตเทานั้น. เมื่อ
www.buddhadassa.in.th
รากฐานของศีลธรรมอันดับสี่
๒๗๕
เปนพระอรหันตแลว ก็จะไมพูดตามที่พระศาสดาพูด แมวาไดรับเอามา หรืออะไร อยูต ลอดเวลา ; เดี๋ย วนี้ ทานไมไดพ ูด ตามที ่พ ระศาสดาพูด . ทา นพูด ออกมา จากความรูสึกของทาน ที่ไดเขาถึงความจริงแลว. นี่คือคําอธิบายที่วาเราไมถือเอาเพราะเหตุวา “สมณะนี้เปนครูของเรา”. ถา ในแงข องศีล ธรรม โดยเฉพาะในชั้น เด็ก ๆ หรือ ชั้น ผูใ หญ แตยัง เปน เด็ก ในแงข องพระศาสนา ในแงท างธรรมะ มัน ก็จ ะตอ งเชื ่อ และตอ งพูด ตาม พระศาสดาพูด กอ น ; เอามาสอนเอามาศึก ษา เอามาวิพ ากษวิจารณอ ะไรกัน ไป ตามที่พระศาสดาไดตรัสไว. เพราะฉะนั้น ตลอดเวลาที่ยังไมเปนพระอรหันต เราก็ตองพูดไปตาม คําของพระศาสดาไปกอ น, แล วก็พู ด จากความรูภ ายในของเรามากขึ้น ๆ, พู ด ตามคําของพระศาสดานั้นนอยลง ๆ ; จนถึงที่สุดเปนพระอรหันตแลว ก็ไมพู ด ตามคําของพระศาสดาอีกตอไป แตพูดออกมาจากจิตใจของตนเอง, ดังนี้เปน ขอสุดทาย.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ฟง ดูแ ลว นา กลัว แตด ูเถอะแลว ก็จ ะเห็น วา นี ่ค ือ แสงสวา งสูง สุด ไดม ีแ ลว ในจิต ใจแหง บุค คลนั ้น ; บุค คลนั ้น จึง สามารถพูด ตามแสงสวา งนั ้น โดยไมตองพูดตามคําพูดแหงพระศาสดาของตน เปนอันจบกัน เพราะไดถึงแสง สวางอันสูงสุดในขอนั้น.
นี้ เรีย กว า กาลามสู ต ร เป น ป ญ ญาเห็ น ถู ก ต อ งตามที่ เป น จริง ไม ประกอบอยูด วยโทษ ๑๐ ประการ ดังที่กลาวแลว ถาไมเขาใจก็รีบไปทําความ เขาใจเสีย ถายังจําไมไดก็จําเสียใหได พูดกันงาย ๆ ทบทวนอีกครั้งหนึ่งก็วา : -
www.buddhadassa.in.th
การกลับมาแหงศีลธรรม
๒๗๖ -อยาถือตามที่ไดฟงตามกันมา ; -อยาถือเอาตามที่ไดปฏิบัติตามกันมา ;
-อยาถือเอาตามที่ลือกระฉอนอยู ; [ นี้หมวดการฟง ] -อยาถือเอาเพราะมีเขียนไวในพระคัมภีร ; [ นี้หมวดตํารา ] -อยาถือเอาเพราะมันมีเหตุผลทางตรรก ไมมีใครคานไดในทางตรรก ; -อยาถือเอาเพราะวามีเหตุผลทางปรัชญา เพราะเอาหลักปรัชญา มาจับแลวมันถูกตอง ; -อยาถือเอาเพราะเหตุมันเปนสามัญสํานึกที่ทุกคนจะรูสึกอยางนี้ ; -อยาถือเอาเพราะวามันลงกับความเห็นของเราทุกทีไป ; [หมวดคํานวณ]. -อยาถือเอาเพราะวาผูบอกควรจะเชื่อได นาเชื่อ ; -อยาถือเอาเพราะวาผูพูดนั้นเปนครูของเขาเอง ; [หมวดบุคคล].
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org จะขอกําชับ สั กหน อยวา ถ าจะไปสอนลูก เด็ก ๆ อยางนี้ค งไม ได คง วิน าศกวา เดิม ไปก็ได จะไมมีศีล ธรรมเหลือ อยูเลยก็ได ; เด็ก ๆ เขาจะตอ งเชื่อ ไปตามที ่ค วรจะเชื ่อ กอ น จนกวา เขาจะโตขึ ้น ๆ. ฉะนั ้น เด็ก ๆ ก็ม ีแ สงสวา ง น อ ย ๆ ไปตามเรื่อ งของเด็ ก ๆ. โตขึ้ น แสงสวา งนั้ น ก็ จ ะขยายมากขึ้ น ๆ จนเป น แสงสวา งที ่ส มบูร ณ. เมื ่อ แสงสวา งนอ ยก็ม ีศ ีล ธรรมนอ ย หรือ ศีล ธรรมขั ้น ตน , แสงสวางมากก็มีศีลธรรมขั้นสูง. ที่เอามาพูดกันยืดยาว นี่ก็เพื่อจะใหเขาใจคําวา ปญญาที่ถูกตองตามที่เปนจริงนั้น เปนอยางไร. ....
....
....
....
www.buddhadassa.in.th
รากฐานของศีลธรรมอันดับสี่
๒๗๗
ถาม : ที นี ้ จะพู ด ต อ ไปถึ ง เรื่ อ งที ่ ม ั น เนื ่ อ งกั น เรื่ อ งนั ้ น ก็ ค ื อ เรื่ อ งสิ ่ ง ที ่เ รีย กกัน วา สัม มาทิฏ ฐิ ; สัม มาทิฏ ฐิ แปลวา อะไร คุณ ทอง ลองวาไป สัมมาทิฏฐิแปลวาอะไร ? ตอบ : สัมมาทิฏฐิคือการที่มองเห็นสิ่งนั้นตามที่เปนจริง. ถาม : นั่นถูกแลว แตไมใชคําแปลนี่ นั้นมันความหมาย สัมมา แปลวาอะไร ? ตอบ : สัมมา แปลวา ถูกตอง หรือชอบ. ถาม : ทิฏฐิแปลวาอะไร ? ตอบ : ทิฏฐิแปลวาความเห็น.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ถาม : ทิฏฐิแปลวาความเห็น แตไมไดเห็นดวยตา เห็นดวยจิต เห็นตามวิถีทาง ทางจิต . ความเห็น ถูก ตอ งนั้น คือ สัม มาทิฏ ฐิ สัม มาทิฏ ฐินี ้เ ปน แสงสวาง หรือมิใช ? คุณทองนั่นแหละตอบ.
ตอบ : สัมมาทิฏฐิก็เปนแสงสวาง.
ถาม : ความหมายก็อยางเดียวกันกับ ยถาภูตสัมมัปปญญา เปนผลออกมาเปน สัมมาทิฏฐิ เปนความเห็นที่ถูกตอง. ถูกตองตามอะไร ? ตอบ : ตามที่เปนจริง.
www.buddhadassa.in.th
๒๗๘
การกลับมาแหงศีลธรรม
ถาม : ตามที่เปนจริงของอะไร ? ตอบ : ของธรรมชาติ. ถาม : ของธรรมชาติฝายไหนละ คุณประยูร ? ตอบ : ฝายสูงครับ ฝายกุศลธรรม. นี่ จับ ไดแล ว ; ควรจะบอกวา ทุ กฝ าย ทั้ งฝ ายสูง ฝายต่ํ า ฝ ายผิ ด ฝายถูก ฝายเสื่อม ฝายเจริญ ก็ตามเถอะ วาถาทําอยางนี้ ผลจะเกิดขึ้นอยางนี้, ทําอยางนี้ แลวผลจะเกิดขึ้นอยางนี้. ที่วาผิดหรือถูก เสื่อมหรือเจริญนั้น มนุษย วาเอาเอง ตามประโยชนที่มนุษยตองการ. ตรงตามธรรมชาตินั่นพอแลว แตวา ยังมีฝายไหนอีก ? คือฝายที่เรามาวากันวาฝายถูกฝายผิด ฝายสูง ฝายต่ํา ฝายโลก ฝ ายอะไรต าง ๆ ตามที่ สั ม มาทิ ฏ ฐิ เห็ น ชอบตามที่ เป น จริงตามธรรมชาติ .
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ถาม : ทีนี้ มันจะสงเสริมศีลธรรมไดอยางไร ? เปนรากฐานของศีลธรรมได อยางไร ? ถาเห็นตามที่เปนจริงนี่ แลวจะสงเสริมศีลธรรมไดอยางไร ? เปนที่ตั้งแหงศีลธรรมไดอยางไร ? ลองวามาตามที่มองเห็นอยู ทําไม ตองคิดนานนักเลา ? ตอบ : ถาเห็นถูกตองแลว ก็จะตองทําไปตามความคิดเห็นที่ถูกตองครับ. นั่นแหละ ถาเราเห็นอยางไร ก็จะทําอยางนั้น : ถาเห็นผิดก็ตองทํา ไปอยางผิดใชไหม ? เดี๋ยวนี้เห็นถูกตอง มันก็ทําไปตามความเห็นที่ถูกตอง มันก็
www.buddhadassa.in.th
รากฐานของศีลธรรมอันดับสี่
๒๗๙
คือ ศีล ธรรม สิ ่ง ที ่ทํ า ความปรกติ ไมโกลาหลวุ น วาย. ฉะนั ้น สัม มาทิฏ ฐิ จึง เป น สิ่ ง จํา เป น ที่ ม นุ ษ ย จ ะต อ งมี , เพื่ อ ความเป น มนุ ษ ย ที่ ถู ก ต อ ง หรื อ เปน มนุษยที่มีศีลธรรม. ....
....
....
....
ถาม : ทีนี้ ระวังใหดีจะถามคําถามที่สําคัญที่สุด ถาตอบผิดก็เสียภูมิพุทธบริษัท. ตัวตนมีหรือไมมี ? ตอบ : ไมมีครับ. ถาม : ตัวตนไมมี คุณทองละ ? ตอบ : ตัวตนไมมีครับ.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ถาม : คุณประยูร วาตาม ๆ เขาใชไหม ? นี่ วาตาม ๆ เขาใชไหม ?
ตอบ : ไมทราบวา ทานอาจารยจะตั้งปญหาถามในขั้นไหน ? ถาม : ขั้นทั่วไป ครอบจักรวาล วาตัวตนมันมีหรือไมมี ?
ตอบ : คือ ถาขั้นตามความคิดเห็นของคนทั่วไป เขาก็วาตัวตนมีอยู. ถาม
: เอ า , ทํ า ไมต อ งเอาคนทั่ ว ไปล ะ ไปตามคนอื่ น อี ก , ไปฟ ง ตาม ๆ กั น มาตามเขาวา ตามเขาเล า ลื อ, ไม เอา ; เอาตามความรูสึ กที่ รูสึ กอยู จริง.
www.buddhadassa.in.th
๒๘๐
การกลับมาแหงศีลธรรม
ตอบ : ตามธรรมดาที่รูสึกอยูจริง ความรูสึกวามีตัวตนนั้น ไมมีครับ. ถาม : ความรูสึกของใครมี ? ตอบ : ความรูสึกของทุกคนที่อยูตามธรรมดาปรกติอยู ความรูสึกที่วามีตัวตน นี้ไมมี ตามธรรมดา. ถาม : นี่ไปวาตามคนอื่น ตามความรูสึกของคุณเอง เดี๋ยวนี้รูสึกวา วาตัวตน มีหรือไมมี ? ตอบ : ตอนนี้ไมมีครับ. ถาม : ตอนนี้ไมมี ตอนไหนละมี ?
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ตอบ : ตอนเมื่อมีอะไรที่ไมถูกใจเขามาขวาง.
ถาม : “ตอนเมื่อมีอวิชชาครอบงํา”, ตองพูดอยางนี้ซิ ; คือเมื่อมีอารมณมา ถู ก ต อ งแล ว มี อ วิ ช ชาครอบงํา เมื่ อ นั้ น แหละ จะเกิ ด ความคิ ด นึ ก รูสึ ก ประเภทมีตัวตนขึ้นมา ; แตเดี๋ยวนี้ยังไมมี. แตถากลาวโดยหลักทั่วไป ความรูสึกของเรา มันรูสึกวามีตัวตนไหม ? ตอบ : ถากลาวโดยหลักทั่ว ๆ ไป ยังรูสึกวามีตัวตนอยู.
www.buddhadassa.in.th
รากฐานของศีลธรรมอันดับสี่
๒๘๑
ตอ งถื อวา คนธรรมดาสามั ญ จะรูสึ กวามี ตั วตนอยู ; เพราะวาความ รูสึกวามีตัวตนนี้ เปนความรูสึกตามสัญชาตญาณ มีไดเอง เพราะสัญชาตญาณมัน เคยชิน มาอยางนั้ น ไม รูกี่ กัป ป กี่ กั ล ป ม าแล ว. สัญ ชาตญาณถ า ยทอดกั นมาทาง บิดามารดา เกิดความรูสึกวามีตัวตนไดงายที่สุด ; มันเปนสัญชาตญาณตลอดกาล สําหรับทําใหชีวิตนี้ ดิ้นรนขวนขวาย เพื่อความอยูรอดแหงชีวิตนั้น มันจึงมีความ รูสึ ก ว า ตั ว ตน มั น ก็ รั ก ตน มั น ก็ ต อ สู เพื่ อ ตนมี ชี วิ ต รอดอยู . เพราะฉะนั้ น เราจึ ง ตอ งมีค วามรู ส ึก วา ตัว ตนนั ้น เปน แนน อน, และเราก็ต อ งอดทน ทนตอ สู ทนทรมาน เรีย กวา ทนตอ สู น ะ อยู ต ลอดเวลา ; ฉะนั ้น จึง เปน ความรู ส ึก ที่ เปนทุกข. ถ า เราขจั ด ความรู สึ ก ว า ตั ว ตนนี้ อ อกไปเสี ย ได มั น ก็ ไ ม มี ก ารต อ สู และเป น ทุ ก ข ; แต ว า การที่ จ ะตั ด ความรูสึ ก ว า ตั วตนออกไปเสี ย ได นั้ น มั น ยาก. ฉะนั ้น มัน จึง เปน สิ ่ง ที ่ส ูง กวา ศีล ธรรม ; ถา จะจัด ใหเ ปน ศีล ธรรมก็ไ ด คํ า วา ศีล ธรรมมัน ขยายออกไปไดถ ึง นิพ พาน. ถา เราตัด ความรูส ึก วา ตัว ตนออกเสีย ไดก ็เ ปน นิพ พาน, เปน ศีล ธรรมชั ้น นิพ พาน ซึ ่ง ตามธรรมดาก็ไ มม ีใ ครเรีย ก ขั้ น นี้ ว า เป น ขั้ น ศี ล ธรรม ; เขาเรี ย กเป น ขั้ น โลกุ ต ตรธรรมไปหมด แต ต ามตั ว หนังสือนั้นเรียกได.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ถาม : ทีนี้ เรามีศีลธรรมอยางธรรมดาสามัญ ก็ตองอาศัยตัวตน คือทําตัวตน ใหมีศีลธรรม ใชไหม ? ตอบ : ใช ครับ.
www.buddhadassa.in.th
๒๘๒
การกลับมาแหงศีลธรรม
ถา ไมม ีต ัว ตน แลว จะทํ า ใหม ีศ ีล ธรรมที ่ต รงไหนละ ? นี ่เราก็มี ความรูสึกวา เรามีตัวเรานี้เปนพื้นฐานกอน แลวจึงมีความรูสึกวา มีตัวเราอยาง ถูก ตอ ง, มีตัว เราไมผิด พลาด, ซึ่ง จะคอ ยวา กัน อีก ทีห นึ่ง . ฉะนั้น เราจึง เอาหลักงาย ๆ ในขั้นสัมมาทิฏฐิอยางโลก ๆ อยางโลกียะนี้วา ถาทําใหตัวตน ไมตอ งเปน ทุก ขไ ด ตามแบบโลก ๆ, ตามแบบสามัญ ในโลกนี้ ; คือ ทํา ให ตัวตนไมตองเปน ทุกข เดือ ดรอ น เหมือ นกับตกนรกแลว ; ก็เรียกวา “ถูก ” : การกระทํานั้นถูก การพูดนั้นถูก ความคิดนั้นถูก. ถาไปทําใหเปนทุกข เดือดรอน เหมือนกับตกนรก แลวก็วา “ผิด”, การกระทํ า นั ้ น ผิ ด , การพู ด นั ้ น ก็ ผ ิ ด , การคิ ด นั ้ น ก็ ผ ิ ด เรี ย กว า มั น ผิ ด , และการที ่ไ ปคิด อยา งนั ้น ก็เรีย กวา มิจ ฉาทิฏ ฐิอ ยา งโลก ๆ ; นี ่อ ยา ลืม วา อยา งภาษาโลก ๆ ภาษาคนธรรมดา ที่ยัง อยูใ ตสัญ ชาตญาณแหง ความมี ตัวตน.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ความคิดไหนนําไปสูความทุกขตามธรรมดาสามัญ ก็เรียกวา ผิด อยางธรรมดาสามัญ, ทําใหมีความสุขอยางธรรมดาสามัญ ก็เรียกวา ถูกตาม ธรรมดาสามัญ . เพราะฉะนั้น สัมมาทิฏฐิในขั้นตนอยางนี้จึงมีตัวตน ; จะให มีตัวตนที่ดี ก็ตอ งทําตนใหเปน ที่พึ่งแกตน ก็ทํากรรมที่ดี, แลวก็มีตัวตนเปน ผูเสวยผลแหงกรรมนั้น . นี้เปน สัม มาทิฏ ฐิขั้น โลกิย ะ ชั้น โลก ๆ เปน รากฐาน แหงศีลธรรมอยางยิ่ง. ถาม : ถาเรามีความเห็นที่ถูกตองวา ทําดี ดี ทําชั่ว ชั่ว คนทํารับผลแหง กรรมนี้ จะสงเสริมศีลธรรมอยางไร ลองพูดมาใหชัด ?
www.buddhadassa.in.th
รากฐานของศีลธรรมอันดับสี่ ตอบ
๒๘๓
: ถาในระดับโลกนี้ ที่เรายังยึดการกระทําวา ทําชั่ว, ชั่ว ; ทําดี, ดี ; ยังอยูในอํานาจของกรรม คนก็จะไมกลาทําความชั่ว กลัวตอความชั่ว ละอายตอความชั่ว ; ก็หันมาทําความดี ในดานนี้ ก็ทําใหคนนั้นเปน คนดี มีภาวะที่สงบขึ้น.
ถาม : ศีลธรรมในขั้นนี้ คือศีลธรรมในขั้นโลกิยะ มีความรูสึกที่ถูกตองวา ทํา ดี, ดี ; ทํา ชั่ว , ชั่ว ; นี้จ ะกํา จัด หรือ ปอ งกัน โลภะ ไดอ ยา งไร, คุณทอง ? ตอบ : ไมลักขโมยของเขา. ถาม
: จะกําจัดโลภะไดอยางไร ? ถารูวาทําดี ดี, ทําชั่ว ชั่ว ; เขาจะกําจัด ปองกันโลภะไดอยางไร ?
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ตอบ : แลวก็บริจาคเพื่อชวยเหลือผูอื่นดวย. ถาม
: มันตองรูวาโลภะนั้นคืออะไร ? โลภะนั้นไปอยากชนิดที่ทําใหมันเปน ทุกข ใหมันเดือดรอน หรือไมควรจะอยาก. ทีนี้ เมื่อเขาไมอยากจะมี ความทุกข หรือเขาอยากจะดี มันก็ไมกลาทําอยางชนิดที่เรียกวาโลภะ.ที นี้จะปองกันโทสะไดอยางไร ? คุณ ทองวาตอไป สัมมาทิฏฐินี้จะปอง กันโทสะไดอยางไร ?
ตอบ
: ขั้นตน ก็เมื่อคนตองการเพียงเปนคนดี ก็รูวา การที่บันดาลโทสะ หรือ ไปทํ า ใหผูอื่น เดือ ดรอ นดว ยความโกรธนั ้น เปน การกระทํ า ที่ชั่ว ขั้นนี้คนก็เพียงแตไมเปนผูบันดาลโทสะ.
www.buddhadassa.in.th
การกลับมาแหงศีลธรรม
๒๘๔
หมายความวา เขาจะตอ งรู ถ ึง ขนาดที ่ว า โทสะนี ้เ ปน ของชั ่ว ; ถายั งไม ม องเห็ น วาโทสะเป น ของชั่ ว คงจะป อ งกั น ไม ได . เขาจะได เคยเห็ น คนที่ มี โทสะ เพราะในที่ ทั่ ว ๆ ไปนี้ คงได เห็ น คนที่ มี โทสะ ในบางครอบครัว แม ก็ด าพ อ พ อ ก็ ด าแม , เด็ ก ๆ มั น ก็ เห็ น . ถ ารูวาโทสะนั้ น เป น อย างไร คงจะคิ ด ได วามั น ชั่ ว ; ฉะนั ้น ถา รูว า ทํ า ดี, ดี ; ทํ า ชั ่ว , ชั ่ว ; หรือ วา ทํ า ชั ่ว เขา ไปแลว มัน รอ นเปน ไฟ ก็ค งจะปอ งกัน การอยากมีโ ทสะ อยากลุอํ า นาจแกโ ทสะได ; พอมีโ ทสะขึ ้น มา มั น ก็ รีบ หยุ ด เสี ย ได ; ฉะนั้ น สั ม มาทิ ฏ ฐิ มั น ก็ ต อ งส งเสริม รัก ษาความมี อ ยู แ ห ง ศีลธรรมนี่. ถาม : สัมมาทิฏฐิเรื่องมีตัวมีตน มีดี มีชั่ว นี้ปองกันโมหะไดอยางไร คุณประยูร ? ตอบ
: โมหะ ก็ค ือ ความลัง เล ความโง ; สัม มาทิฏ ฐิขั ้น รู ด ีรู ชั ่ว นี ้ ก็ไ มทํ า เรื่ อ งชั่ ว ; การทํ าเรื่ อ งชั่ ว คื อ ค วาม โง . ถ าไม ทํ าค วาม ชั่ ว ค วาม โง ก็ไมมี.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ถาม : ความคิดวา มีตัวตนนี้เปนโมหะหรือเปลา ?
ตอบ
; ความคิดวามีตัวตนที่ดี ตอนนี้ไมเปนโมหะ
ถาม : เอาหลักอะไรมาวา ความคิดวามีตัวตนไมใชเปนโมหะนี้, เอาหลักอะไร มาวา ? ตอบ : เพราะวาระยะนี้ มั นระยะที่ ยั งนึ กถึ งตั วตนอยู และกําลังพยายามที่ จะทํ า ใหม ีต ัว ตนที ่ด ี เปน สัม มาทิฏ ฐิขั ้น โลกนี ้ ก็เ ปน อยา งเราถือ วา เปน สัมมาทิฏฐิ ก็ไมใชโมหะ.
www.buddhadassa.in.th
รากฐานของศีลธรรมอันดับสี่
๒๘๕
ถาม : เมื่อสัมมาทิฏฐิมันแบงไดเปน ๒ ชั้น คําวา โมหะ ก็ควรจะแบงไดเปน ๒ ชั้นใชไหม ? ตอบ : ใชครับ. ถารูวา ทําดี, ดี ; ทําชั่ว, ชั่ว ; นี้ก็ไมใชโมหะอยูแลว มันก็เปนการ กํา จัด โมหะอยูโ ดยอัต โนมัติ ; เพราะมัน รูวา ทํา ดี, ดี ; ทํา ชั่ว , ชั่ว . สว นที่ มันถือวามีตัวตนนั้น อยาเพอไปพูดกับมันเลย ยกใหทีกอน ; เพราะเราพูดกัน ในขั้นที่วา เรามีตัวตน. ตอเมื่อขึ้นไปถึงขั้นที่ไมมีตัวตน จึงถือวาความรูสึกวามี ตัวตนเปนโมหะ ; เมื่อนั้นเราจึงจะพูดกันอีกระดับหนึ่ง ถึงสัมมาทิฏฐิประเภท ที่ ๒ คือสัมมาทิฏฐิประเภทโลกุตตระ. เอาเปน อัน ยุต ิไ ดว า สัม มาทิฏ ฐิ แมใ นขั ้น โลกิย ะนี ้ จะปอ งกัน แ ล ะ ข จั ด โ ล ภ ะ ก็ ไ ด , จ ะ ป อ ง กั น แ ล ะ ข จั ด โ ท ส ะ ก็ ไ ด ; จ ะ ป อ ง กั น และขจัด โมหะก็ได ; ฉะนั้น ถามีสัมมาทิฏ ฐิ หรือยถาภูต สัม มัป ปญ ญา แม ในขั้นโลกิยะนี้ ก็สงเสริมศีลธรรมได.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org เอาละ, ไหน ๆ จะพูดก็พูดเสียใหหมดในคราวเดียวนี้ มันลําบากที่จะ พูดกันหลายหน คือวา เมื่อมีสัมมาทิฏฐิอยางโลกิยะ มีตัวมีตนแลว มันก็ยังไม ดับ ทุก ขสิ้น เชิง ; เพราะไมดับ ตัว ตนนั่น เอง. เพราะฉะนั้น สัม มาทิฏ ฐิที่สูง ขึ้นไปก็คือสัมมาทิฏฐิ ที่จะดับความรูสึกยึดถือวาตัวตน มันจึงเปนสัมมาทิฏฐิ ในชั้นโลกุตตระ ที่จะใหพนตัวตน.
www.buddhadassa.in.th
๒๘๖
การกลับมาแหงศีลธรรม
ตั ว ต น ก็ ค ื อ โ ล ก , โ ล ก ก็ ค ื อ ตั ว ต น . ถ า จ ะ อ ยู เ ห นื อ ตั ว ต น ก็ต อ งมีส ัม มาทิฏ ฐิชั ้น ที ่อ ยู เ หนือ โลก เปน โลกุต ตระ. โดยเปรีย บเทีย บกัน ดู จะเห็นวาอยางโลกิยะนี้มีตัวมีตน, มีอุปาทานวามีตัวตน ยังไมละอุปาทาน นี้จึง มีด ีม ีชั ่ว , มีบ ุญ มีบ าป, มีไ ดม ีเสีย , มีแ พม ีช นะ, อะไรเรื่อ ยไป ; แลว ก็ม ีก รรม เปน หลัก และวา มีผู ก ระทํ า กรรม แลว ก็ม ีผู รับ ผลแหง กรรมนั ้น , อยา ใหม ัน ผิด ในหลักขอนี้. แลวในที่สุด มาพบวา แมเราจะมีกรรมดีมีความสุข มันก็ไมใชดับทุกข สิ้น เชิง ; ยัง มีป ญ หาวา ความสุข นี ้ม ัน จะสูญ หายไป, บุญ กุศ ลนี ้จ ะหมดสิ้น ไป. มี ต ั ว ตนอยู เ พี ย งไร ก็ ต อ งเป น ห ว งตั ว ตนอยู เ พี ย งนั ้ น ; แม จ ะเป น ตั ว ตน ชั้ น ดี ก็ ยิ่ ง ห ว ง ; ยิ่ ง รู สึ ก ว า เราดี ก็ ยิ่ ง รู สึ ก เป น ห ว งมาก ; เพราะกลั ว ว า มั น จะ หายไป ; ยิ่งรวย ก็ยิ่งหวงความรวย, มีชื่อเสียง ก็หวงชื่อเสียง. เพราะฉะนั้ น แม จ ะมี ดี -ดี -ดี นี้ ก็ ไ ม ใ ช ดั บ ทุ ก ข สิ้ น เชิ ง มั น ดั บ ทุ ก ข อยางโลก ๆ อยางชาวบ าน ; มันจึงตอ งเลื่อนชั้นขึ้นไปสูระดับ ที่เรียกวา เหนือ ดี. เหนือชั่วแลวมาติดอยูที่ดี สนุกสนานไปตามแบบดีนั้น. พอเบื่อเขาก็จะตองเหนือดี อีกชั้นหนึ่ง จึงจะเรียกวา เหนือโลก.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ถา เขา ใจขอ นี ้ ก็จ ะเขา ใจพุท ธศาสนาชั ้น หัว ใจของพุท ธศาสนา ซึ่งเป น หั วใจพุ ท ธศาสนาที่ แ ท จ ริง คื อ อยู เหนื อ ดี เหนื อ ชั่ว เหนื อ บุ ญ เหนื อ บาป เหนือสุขเหนือทุกข เหนือโดยประการทั้งปวง.
www.buddhadassa.in.th
รากฐานของศีลธรรมอันดับสี่
๒๘๗
ถาม : มีทางที่จะคิดงาย ๆ ก็คือวา ทั้งดี ทั้งชั่ว ทั้งบุญทั้งบาปนี้ มันเปนเพียง อะไร ลองวาไป ? ตอบ : มันเปนเพียงความทุกข. ถาม : ทั้งดี ทั้งชั่ว ทั้งบุญ ทั้งบาป ทั้งสุข ทั้งทุกข นี่มันเปนเพียงสักวาอะไร ? ตอบ : มันเปนเพียงสักวาธาตุอยางเดียวเทานั้น. ถาม : สักวาธาตุมันก็ถูก ; แตเอาคําอื่น, คํานี้ยังไมชอบ. มันเปนเพียง สักวาอะไร ? คุณทอง ? ตอบ : เปนเพียงปรากฏการณอยางหนึ่งที่ผานเขามา.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ถาม : นี่เปนนักวิทยาศาสตรมาก คุณชวนวาอยางไร ? นี่ไมคอยมาฟง. ตอบ : ตอบไมไดครับ.
ถาม : ตอบไม ไ ด ก็ ดี เ หมื อ นกั น . คุ ณ ประยู ร อี ก ที , มั น เป น สั ก ว า อะไร ? เช น เดี ยวกั บ วา อรอ ยหรือ ไม อ รอ ย มั น ก็ เพี ย งสั ก วา เวทนา นี้ ฟ งถู ก ไหม ? จะอรอยไมอรอยก็เปนเพียงสักวาเวทนา. ที่ดีหรือชั่ว, บุญบาปนี้ มันเปนแตเพียงสักวาอะไร ? ตอบ : สักแตวาความรูสึก ที่เรารูสึกเทานั้น.
www.buddhadassa.in.th
๒๘๘
การกลับมาแหงศีลธรรม
สัก วา เปน ความรูสึก เทา นั้น ก็ได ; สัก วา เปน ธัม มารมณอัน หนึ่ง . แตเมื่อ ๒- ๓ เดือนกอนนั้น คุณคลองปากวา มันเปนเพียง กระแสแหงอิทัปปจจยตา ใชไหม ? คํานั้นก็หายไปแลว. อิทัปปจจยตา ยนเขามาใหเหลือพยางค นอ ยที ่ส ุด เรีย กวา อะไร ? คุณ ทองเคยไดย ิน บา งไหม ? ตถาตา นี ่พ ูด กัน หลายหนแลวนา. สอบไลดูก็คือลืมคําวา “ตถาตา” ? มีความหมายอยางเดียว กับ อิทัปปจจยตา ; เพราะมันเปนอยางนั้น, เปนอยางอื่นไมไดจึงตองเรียกวา ตถาตา. ถาม : เมื่อมันเปนแตอยางนั้น เปนอยางอื่นไมได จะเรียกวา มีตัวตนไดไหม ? ตอบ : ไมได. ถาม : จะเปนตัวตนของคนไปไมได ; แตถาจะวาเปนตัวตนของธรรมะมันก็ไม ควรจะพูด เพราะ “ตัว ตน” มัน เปน ที ่ตั ้ง แหง ความยึด ถือ . เพราะ ฉะนั้ น จึงเป น สิ่ งที่ ไม มี ตัวตน. วางจากตั วตน วางจากของตน เขา เรียกวาอะไรอีกทีหนึ่ง ?
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ตอบ : เรียกวาสุญญตา.
ถาม : ยังจําได, คอยยังชั่วหนอยที่ยังจําไดวา สุญญตา. คําวา “สุญญตา” ที่เราพูดกันมาก ในหมูชาวบานนั้นพูดวา อะไร ?
www.buddhadassa.in.th
รากฐานของศีลธรรมอันดับสี่
๒๘๙
ตอบ : จิตวาง. ถาม : จิตวางนี้ไมคอยมีใครพูดกี่คน กําลังไมมีใครยอมรับกี่คน. ที่เปน คํ า พู ด ตามประเพณี ของประชาชนทั่ วไป เมื่ อ เราพู ด วา “สั ญ ญา” เขา จะพูดวาอะไร ? ตอบ : พูดวา “ธรรมดา” หรือ “เปนอยางนั้นเอง”. ถาม : เอา, “ธรรมดา”, นี้อยางหนึ่ง ; แลวคุณทองจะพูดวาอยางไร ? คน แกขนาดปู ยา ตา ยาย เมื่อเขาพูดถึงสิ่งที่เรียกวา สุญญตา เขาใชคํา อะไรแทน ? เขาใชคําวา อนัตตา แปลวา ไมมีอัตตา. ไมมีอัตตานั่นคือ วา งจากอัต ตา ; แตนี ่ ไมม ีต ัว ตน ไมม ีอ ัต ตา. แลว ใครทํ า กรรมดี หรือชั่ว แลวใครไดรับผลกรรม, ตอบไดไหม ?
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ตอบ
: ถามาถึงขั้นนี้แลว มีแตกรรม มีแตการกระทําอยางเดียวเทานั้น. ผูทํา และผูรับผลนั้นไมมี.
ถาม : ถาผูทําไมมีแลว กรรมจะมีไดอยางไร ?
ตอบ : กรรมนั้นมี แตวาเรียกเปนกิริยาไป. นั่นเมื่อเขาถึงสุญญตาแลว ก็กลายเปนกิริยาไป ไมมีใครกระทํากรรม ; ถามี การเคลื่อนไหวของผูที่ ไม มีเจตนา เพราะเขาถึงสุญ ญตา เรียกวา กิริยาไป.
www.buddhadassa.in.th
๒๙๐
การกลับมาแหงศีลธรรม
หรือจะเรียกใหถูกกวานั้น ก็วา มันมีเพียงกระแสแหงอิทัปปจจยตาเทานั้น ; มัน เปนไปตามกฎธรรมชาติ คือวามีการเคลื่อนไหวไปอยางนั้น ปฏิกิริยาก็เกิดขึ้น อยางนั้นไมมีความหมายแหงกรรมชนิดที่ทําโดยเจตนา และไมมีตัวผูกระทํากรรม. เพราะฉะนั้น เขาจึงไมเปนหวงอะไรเลย. ไมเปนหวงตัวตน, ตัวกูของกู ไมเ ปน หว งดีหว งชั่ว หว งบุญ หว งบาป เพราะไมมีตัว กูแ ละของกู ; เห็นถึงขนาดนี้ เรียกวา สัมมาทิฏฐิยอดสุด สัมมาทิฏฐิประเภทโลกุตตระ. สัมมาทิฏ ฐิอ ยา งแรกมีต ัว ตน, สัม มาทิฏ ฐิอ ยา งหลัง ไมม ีต ัว ตน สรุป ความได อยางนี้. ถาม : ขอถามวา สัมมาทิฏฐิประเภทที่ไมมีตัวตนนั้น จะสงเสริมศีลธรรมได อย า งไร, คุ ณ ประยู ร ? สั ม มาทิ ฏ ฐิ ที่ สู ง ขึ้ น ไปจนกระทั่ ง ไม มี ตั ว ตน จะสงเสริมศีลธรรมไดอยางไร ?
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ตอบ
: เพราะวา เมื่อคนนั้นไมมีตัวตนแลว เขาก็จะทําแตสิ่งที่ถูกตองถึงที่สุด ไมมีก ารทํา สิ่ง ที่ใ หค นอื่น เดือ ดรอ นไดเ ลย ; หรือ วา เขาไมม ีสิ่ง ที่ จะทําอะไร แลวก็ใหโทษแกผูอื่น เพราะตัวเขาเอง ไมมีค วามรูสึก ที่ จะเอาอะไรมาเปนของตน.
ถาม : ไมทําอะไรเพื่อเอาเปนของตน แลวเขาทําทําไม ? ตอบ : ก็ทําเพื่อสวนรวมทั้งหมด ทําตามหนาที่ ที่ตองกระทํา. ถาม : ถาอยางนั้น ก็มีหนาที่ของตน, และยอนไปมีตัวตนเสียอีก ?
www.buddhadassa.in.th
รากฐานของศีลธรรมอันดับสี่
๒๙๑
ตอบ : เปนหนาที่ของธรรม คือธรรมชาติ. ถาเขาทําเพื่อสัมมาทิฏฐิ ทําเพื่อยถาภูตสัมมัปปญญาแลว ก็อยาพูดวา “เขา” ก็ได. ผู ทํ า ในบัด นี ้ก ลายเปน ยถาภูต สัม มัป ปญ ญา หรือ วา สัม มาทิฏ ฐิ ; คือ มีสัม มาทิฏ ฐิอ ยูใ นจิต , แลว ใหจิต กระทํา ใหก ายกระทํ า ใหว าจากระทํ า ก็เลยไมเรียกวากรรม ; แตเปนการเคลื่อนไหวไปตามอํานาจของปญญา. ถ าถามวา มั น ส ง เสริม ศี ล ธรรมอย างไร ? ก็ ต อ งตอบอย างที่ บ อกมา แล ว ว า มั น ส ง เสริ ม ศี ล ธรรมสู ง ขึ้ น ไปอี ก ชั้ น หนึ่ ง . ถ า ไม ส ง เสริ ม ศี ล ธรรมในขั้ น อยา งนี ้อ ีก เดี ๋ย วเขาก็โ หก ัน เลย คือ มัน กลับ ไปมีต ัว ตนอีก . นี ่ม ัน กลายเปน สงเสริมศีลธรรมอีกขั้นหนึ่ง คือขั้นนิพพาน ซึ่งเราไมคอยเรียกวา ศีลธรรม. แต ที่ จ ริง แล ว นิ พ พานเป น ศี ล ธรรมอย า งยิ่ ง เพราะศี ล ธรรมแปลว า สงบ หรือปรกติ ; ไมมีอะไรที่สงบหรือปรกติเทากับนิพพาน.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org เราเคยอ านหนั งสื อ ที่ ฝ รั่งเขี ย น เขาเขีย นลงไปชัด ๆ ประโยคหนึ่ งวา “นิพ พานเปน ยอดสุด ของศีล ธรรมในพุท ธศาสนา ; นี่ฝ รั่ง เขายัง เขีย นได อยา งนี ้น ะ. จะเขีย นดว ยความรูส ึก ผิด ถูก อยา งไรก็ไ มท ราบ ; แตเคยเห็น เขา เขียนอยางนี้. สวนฝายเรากลับไมรูจะพูดวาอยางไร, เห็นไหม ? ถานิพพานเปนศีลธรรมยอดสุดของพุทธศาสนา ก็ตองมองเห็นวา นิพพานเปนศีลธรรมอยางไร ? เปนศีลธรรมระดับที่ปกติจริง ๆ, ไมเปลี่ยนไป
www.buddhadassa.in.th
๒๙๒
การกลับมาแหงศีลธรรม
ตามเหตุปจจัยจริงๆ ; ถาทําดวยสัมมาทิฏฐิชนิดที่เห็นอิทัปปจจยตาสูงสุด ก็ยังคง สงเสริมศีลธรรมได ; แตจะเปนศีลธรรมในระดับสูงสุด. สรุปความสั้น ๆ วา สัมมาทิฏฐิโลกิยะ ก็สงเสริมศีลธรรมอยางโลกิยะ ; สัม มาทิฏ ฐิส ว นโลกุต ตระ ก็ส ง เสริม ศีล ธรรมสว นโลกุต ตระ. เพราะฉะนั ้น ขอใหมีสัมมาทิฏฐิกันเถิด ศีลธรรมก็จะกลับมา. เราพูด วา “ใหศ ีล ธรรมกลับ มา” ดว ยสัม มาทิฏ ฐิค ือ แสงสวา ง ดั ง ที่ ต น ไม ต อ งการทางฟ สิ ค ส คื อ แสงแดด ; แต แ สงสว า งที่ ต น ไม แ ห ง ศี ล ธรรม ตอ งการ ก็ค ือ แสงแหง ปญ ญา ในชั ้น ที ่เ รีย กวา ยถาภูต สัม มัป ปญ ญา ปราศจากโทษ ๑๐ ประการ ตามที่ไดตรัสไวในกาลามสูตรนั้น ก็เลยทําถูกหมด ; แมในสวนโลกิยะก็ทําถูก, ในสวนโลกุตตระก็ทําถูก. ถาเปนยถาภูตสัมมัปปญญา จริง ๆ แลว จะแบงไดเปนชั้นโลกิยะก็ทําถูกอยางโลกิยะ, ชั้นโลกุตตระก็จะทําถูก อยางโลกุตตระ.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ถาม : ทีนี้ปญหาสุดทาย ที่จะตองคิดก็คือวา เรานี่จะเรียนจะศึกษา จะรู จะ ประพฤติ และปฏิ บั ติ นี้ จ ะเอาอย า งไหน ? คุ ณ จะเอาอย า งมี ตั ว ตน หรือเอาอยางไมมีตัวตน เดี๋ยวนี้นะ.
ตอบ
: เรื่อ งนี้ ก็ เป น บางโอกาส สํ าหรับ ตนเองตามธรรมดาทั่ ว ไป ก็ เอาอย า ง มีตัว ตนไวกอ น, อยา งแบบโลกิย ะไวก อ น. แตเ มื ่อ มีป ญ หาทุก ขห นัก เขา มาประสบกับ ตัว เองเขา บางครั้ง ก็ต อ งเอาขั ้น โลกุต ตระมาห า ม มาแก เปนครั้งคราวไปเหมือนกัน ; สลับกันไปเรื่อย ๆ.
www.buddhadassa.in.th
รากฐานของศีลธรรมอันดับสี่ ถาม
๒๙๓
: ตอนนี้ตอบไดดีที่สุด ขอประกาศวา ตอบดีที่สุด ทีหนึ่ง. เมื่อเราอยู อยูอยางโลกิยะ อยูอยางชาวบาน มันก็ตองการอยูอยางชาวบาน ; จะหาดี เวน ชั่ว อยา งชาวบา น. แตถา ความทุก ขเ กิด ขึ้น เพราะเรื่อ งดี-ดี-ดี ดี นั่ น แหละ ; เราก็ แ หงนไปหาสั ม มาทิ ฏ ฐิ ช นิ ด ที่ ไ ม มี ตั ว ตน เอา อนัตตาเขามาดับปญหาเหลานั้น. สําหรับตัวเองก็เตรียมไว เหยียบเรือ สองแคมอยางนี้ใชไหม ?
ตอบ : ใชครับ. ถาม : ทีนี้จะสอนคนอื่น จะทําอยางไร ? ตอบ : เวลาจะไปสอนคนอื่น ก็ดูจังหวะ ดูผูฟง ดูกาละ ดูเทศะ. ถาอยูใน ฐานะที่จะพูดถึงโลกุตตระได ก็พูดทางโลกุตตระไปดวย ; แตถาบุคคล นั้นอยูในฐานะผูฟง ที่ยังเพิ่งเริ่มกันใหม ๆ ก็เอาเพียงโลกิยะ.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ถาม : คุณทอง คุณชวน คุณสอนเด็กเปนฝูง ๆ คุณจะสอนเด็ก ๆ วาอยางไร ? จะสอนใหมีตัวตน หรือไมมีตัวตน.
ตอบ : สําหรับเด็ก ๆ ผมสอนใหมีตัวตนไวกอน ใหยึดความดีเขาไวกอน เพื่อตัวตนจะไดดี.
ถาม : พอเขาสอบไลตก รองไห ทีนี้เราจะวาอยางไร ? ตอบ : ผมก็ พู ด ไปในแงข องความจริงว า นี่ เป น ของธรรมดา. การสอบนั้ น ก็ตองมีการไดการตก อยางนี้เปนธรรมดา.
www.buddhadassa.in.th
การกลับมาแหงศีลธรรม
๒๙๔
ถาม : นั่นเขาไปในเขตโลกุตตระหรือเปลา, ไอที่เรียกวาธรรมดานั้น ? ตอบ
: เขาไปแล วครับ . แต เด็ ก ๆ ก็ ค งยังฟ งออก เพราะอยางวา ตุ ก ตาของ เขาขาด แตกไป เราก็ บ อกว า มั น เป น อย า งนั้ น เอง, มั น ต อ งแตกได . เด็ก ๆ คงจะเขาใจวาเปนของธรรมดาได.
การสอนผูอื่นนี่มีหลายระดับ : เด็กก็อยางหนึ่ง, ผูใหญ ก็อยางหนึ่ ง. แตผู ใ หญที ่เ ปน อยา งเด็ก ก็ม ีเ หมือ นกัน ; ก็ส อนอยา งเด็ก . ผู ใ หญที ่ผ า นโลก มานาน พอที่จะรูวา ลาภยศ สรรเสริญ สุข นี้มันก็อยางนี้เอง ; ที่มันเกิดเปนพิษ ขึ้ น มาบ อ ย ๆ ก็ ใ ห มี เครื่ อ งรางป อ งกั น พิ ษ หรื อ โทษ ไว บ า ง คื อ เรื่ อ งสุ ญ ญตา, อนัตตา, หรือ อิทัปปจจยตา ; แลวแตวา คําไหนจะชวยเขาได. นี่ เรามี เรื่อ งโลกิ ย ะให เขาปฏิ บั ติ เป น พื้ น เพ แล ว มี เรื่อ งโลกุ ต ตระเป น เครื่องรางแขวนคอไว จะได นึ กได บ างในเมื่ อ เกิด ความทุ ก ขขึ้น มา เพราะวาเรื่อ ง ดี ๆ ชั่ ว ๆ นั้ น มั น ช ว ยไม ได แ ล ว . อย า งสอบไล ต ก นี้ มั น ก็ ต อ งนึ ก ถึ ง “ธรรมดา” กันแลว.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org นี่คือ เรื่อ งที่เ ราจะตอ งชว ยกัน เพื่อ ใหศีล ธรรมกลับ มา. เราเอง มีหลักอยางไร ; แลวเมื่อจะสอนผูอื่นนั้นจะตองสอนอยางไร ; โดยเฉพาะอยางยิ่ง ในสมัย ปจ จุบ ัน นี ้ ซึ ่ง เต็ม ไปดว ยตัว ตนอยา งเขม ขน , อยา งรุน แรงทั ่ว ไปทุก หัวระแหง. ขอใหจําไวดวย. ....
....
....
....
www.buddhadassa.in.th
รากฐานของศีลธรรมอันดับสี่
๒๙๕
สรุปความวา ตนไมศีลธรรมที่มีรากฐานดี คือ มีอุดมคติวา “สัตว ทั้งหลายเปนเพื่อนทุกข เกิด แก เจ็บ ตาย ดวยกันทั้งหมดทั้งสิ้น” ; นี้เทา กับ มีพื ้น ดิน สํ า หรับ ใหม ัน งอก ; มีค วามไมเ ปน ทาสแหง อายตนะ เปน เหมือ นน้ํา ที่จ ะรด ; มีก ารบัง คับ ความรูสึก อยูใ นทางที่ถูก ตอ ง, เปน อาหาร ที่จ ะหลอ เลี้ย งมัน ; แลว มีย ถาภูต สัม มัป ปญ ญา มีปญ ญาตามที่เ ปน จริง นี้เปนแสงแดด ; ที่ทําใหตนไมมีชีวิต เจริญงอกงามตอไป อีกอยางหนึ่ง. วันนี้ก็มุงหมายจะกลาวเพียงเทานี้ และก็ไดกลาวแลวตามลําดับมา ; เพราะฉะนั้น ไปทบทวนเรื่องโทษ ๑๐ ประการ ในกาลามสูตรนั่น ใหเขาใจ แจมแจงแมนยํากันตอไปอีก ก็คงจะมี “ยถาภูตสัมมัปปญ ญา” เปนแสงแดด หลอเลี้ยงตนไมแหงศีลธรรมได ทั้งเพื่อตนเองและผูอื่น. การบรรยายในวันนี้ ก็สมควรแกเวลาแลว ขอยุติไวที เปนโอกาส ใหพระคุณเจาทานสวดบทพระธรรม เพื่อสงเสริมกําลังจิตที่จะประพฤติปฏิบัติ ศีลธรรมนั้น ตอไปในบัดนี้.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ---------------------
www.buddhadassa.in.th
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org
www.buddhadassa.in.th
การกลับมาแหงศีลธรรม -๘๒๐ มีนาคม ๒๕๑๙
รากฐานของศีลธรรมอันดับหา [ สัทธาปสันนา : อุณหภูมิ ]
ทานสาธุชน ผูมีความสนใจในธรรม ทั้งหลาย,
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org การบรรยายประจํา วัน เสาร เปน ครั้ง ที่ ๘ แหง ภาคมาฆะบูช า ในวั น นี้ อาตมาก็ ยั ง คงกล า วโดยหั ว ข อ ใหญ ว า การกลั บ มาแห ง ศี ล ธรรม ไปตามเดิ ม และก็ จ ะได ก ล า วโดยหั ว ข อ ย อ ยว า รากฐานของศี ล ธรรม อั น ดั บ ที ่ ห า ซึ ่ ง มี ชื ่ อ ว า สั ท ธ าป สั น น า ได แ ก ค วาม เชื ่ อ แ ล ะ ค วาม เลื่อมใสในสิ่งที่เปนที่ตั้งแหงความเชื่อ ความเลื่อมใส. [ ทบทวนการบรรยายครั้งที่แลว ๆมาไปจนถึงหนา ๓๓๐ ]
ทีนี้ก็จ ะขอทบทวน ขอ ความตามที่ก ลา วมาแลว เพื ่อ ใหเรื่อ งมัน ตอเนื่องกัน. บางอยางก็ตองทบทวนอยางซ้ําซาก โดยไมกลัววาทานผูฟงจะ ๒๙๗
www.buddhadassa.in.th
๒๙๘
การกลับมาแหงศีลธรรม
เบื ่อ หนา ย ; เพราะมัน เปน เรื่อ งที ่เขา ใจยากอยู บ างประการ. เราไดพ ูด กัน ปรารภกัน ปรึกษาหารือกัน ดวยเรื่องของศีลธรรม ในฐานะเปนสิ่งสําคัญที่สุด สําหรับความเปนมนุษย และสําหรับความเปนอยูอยางมีสันติสุข. ในปจจุบันนี้ มนุษยทั้งโลกไดทําความผิดพลาดเกี่ยวกับเรื่องนี้ จน กระทั่ง โลกนี้ไ มมีศีล ธรรม ยิ่ง ไปกวา นั้น ก็คือ วา คนรุน หลัง ไมรูจัก สิ่ง ที่เรีย ก วา “ศีล ธรรม” และโดยเฉพาะลูก เด็ก ๆ ตาดํา ๆ ที่กํา ลัง มีม า ; นี้ทํา ใหโลก เราไมมีศีลธรรมยิ่งขึ้น. เรื่องจะเปนอยางไร ; ก็ขอใหลองคิดดู วาเราไมรูจัก สิ่งที่ทําใหเราเปนมนุษย สําหรับจะอยูกันดวยความสงบสุข. คํา วา “ศีล ธรรม” ขอย้ํา อยูเ สมอ ; และขอบอกสํา หรับ ผูที่ยัง ไมทราบวา แปลวา สิ่งที่ทําความปรกติ. คําวา สีละ แปลวา ปรกติ, คําวา ธรรม ก็ แ ปลว า สิ่ ง เฉย ๆ ก็ พ อ ; สี – ล – ธมฺ ม หรื อ ศี ล ธรรม ; ธรรม หรือ สิ่ง ที่ทํา ความปรกติ ; พอไมมีศีล ธรรมก็เ กิด ความไมเ ปน ปรกติ ในทุก แงทุกมุม.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org คํ า วา “ศีล ธรรม” มีใ จความสํ า คัญ สรุป ไดว า เปน ตัว แทข อง ธรรมชาติ อั น บริ สุ ท ธิ์ , ธรรมชาติ ที่ ไ ม มี ใ ครรบกวนเปลี่ ย นแปลงมั น แล ว ก็ จ ะเป น สิ่ งที่ มี ค วามปรกติ . เราจึ งถื อ ว า ความเป น ปรกติ นั้ น เป น ลั ก ษณะ เฉพาะของธรรมชาติอัน บริส ุท ธิ์ สํา หรับ ทุก สิ่ง ที ่เ ปน ธรรมชาติ หรือ เนื ่อ ง ด วยธรรมชาติ หรือ ต อ งอยู ภ ายใต ก ฎเกณฑ ของธรรมชาติ ; เช น มนุ ษ ย เรานี้ เปนตน.
www.buddhadassa.in.th
รากฐานของศีลธรรมอันดับหา
๒๙๙
ถาทานสังเกตดูใหดีแลว ก็จะพบใจความสําคัญวา ศีลธรรมนั้นคือ สิ ่ ง ที ่ ม นุ ษ ย ต อ งกระทํ า , เป น สิ ่ ง ที ่ ม นุ ษ ย กํ า ลั ง กระทํ า จึ ง จะเป น มนุ ษ ย และเปน สิ ่ง ที ่ม นุษ ยจ ะตอ งทํ า ตอ ไป ไมม ีที ่สิ ้น สุด ; เพราะวา มนุษ ยก ็จ ะ ตองเกิดขึ้นมาใหม ๆ ไมมีที่สิ้นสุด. ศีลธรรมคือสิ่งที่มนุษยตองทํา กําลังทํา และจะทําตอไปใหถูกตองตามกฎเกณฑของธรรมชาติ. ขอใหน ึก ดูถ ึง กิจ ของมนุษ ย ซึ ่ง จะเรีย กมนุษ ยกิจ , คือ กิจ ของ มนุษ ย โดยสว นบุค คลก็ต าม ; หรือ จะนึก ถึง กิจ โดยสว นรวม คือ สัง คมกิจ กิจของสังคมก็ตาม ; ก็ไมเปนอะไรนอกไปจากศีลธรรม หรือสิ่งที่ทานตองทําให ถูก ตอ ง เปน ปรกติ ; ไมวา เพื่อ บุค คลหรือ เพื่อ สังคม. ตัว อยา งอัน แรก ก็คือ การดํารงชีวิตอยู ก็ตองเปนไปอยางมีศีลธรรม. ดํา รงชี วิ ต อย า งถู ก ต อ งนั้ น ต อ งเป น ไปตามกฎของศี ล ธรรม, ศีลธรรมก็คือกฎที่ทําใหมีความถูกตอง ในการดํารงชีวิต : นับตั้งแตวาเราจะหา มารับประทาน และจะรับประทาน จะเปน จะอยู จะนั่ง จะนอน จะยืน จะเดิน จะอาบ จะถาย ; แมแตในหองน้ํา ก็ตองมีศีลธรรมอยางถูกตองตามกิจอันนั้น. นี่เรียกวา มันเปนกฎเกณฑสําหรับการดํารงชีวิตอยู พอจะเห็นไดไมยากนัก.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ทีนี ้ เรื ่อ งการเมือ ง ก็ค ือ ศีล ธรรมที ่ม นุษ ยจ ะตอ งประพฤติ ปฏิบัติใ หถูก ตอ ง ในการที่จ ะเกี่ย วขอ งกัน และกัน ; ถา ไมมีศีล ธรรม ก็ไ มมี ผลในความสงบสุขของการเปนอยูที่เกี่ยวของแกกันและกัน. เดี๋ยวนี้มนุษยโงถึง ที่สุด จนถึงกับแยกการเมืองกับศีลธรรม ออกจากกันเปนคนละเรื่อง ทั้งที่ตัว การเมืองนั้น ก็คื อตัวศีลธรรมที่ มนุษ ยจะตองประพฤติกระทําให ถูกตอ ง. เขา
www.buddhadassa.in.th
๓๐๐
การกลับมาแหงศีลธรรม
แยกออกเปนคนละเรื่อง แลวก็ศึกษาแตการเมืองตามอํานาจของกิเลส มันก็ยิ่งไกล ออกไปจากกั น ทุ ก ที จนในเรื่อ งของการเมื อ งนั้ น ไม มี ศี ล ธรรม ; กลายเป น เพี ย ง เครื่อ งมือ สํ า หรับ เอาเปรีย บกัน เทา นั ้น . นี ่ค วามโงใ นขอ นี ้ คือ แยกสิ ่ง ที ่เรีย กวา ศีล ธรรมออกไปจากการเมือ ง ซึ ่ง มัน ทํ า ไมไ ด ; เพราะวา การเมือ งที ่ถ ูก ตอ งนั ้น ก็ ค ื อ ศี ล ธ รรม แข น งห นึ ่ ง ที ่ จ ะ ต อ งป ระ พ ฤ ติ ต อ กั น ใน ระ ห ว า งห มู ค ณ ะ หรือวาประเทศ ก็ตาม. ที นี้ มองดู ต อ ไปถึ ง เรื่ อ งเศรษฐกิ จ เราก็ ยั ง โง ถึ ง ที่ สุ ด ถึ ง กั บ แยก เรื ่อ งเศรษฐกิจ ออกจากเรื ่อ งศีล ธรรม. เรื ่อ งเศรษฐกิจ นั ้น ก็เ ปน เรื ่อ งศีล ธรรม สําหรับจะชวยใหมนุษยมีความสะดวกสบาย ในการที่เกี่ยวของกัน, เกี่ยวกับวิธีการ ที่ เรี ย กว า การค า , หรื อ การผลิ ต ขึ้ น มา สํ า หรั บ การค า . การค า เป น สิ่ ง ที่ ต อ งมี ตามธรรมชาติ เพราะว า เราไม ส ามารถทํ า อะไรด ว ยตนเองทุ ก อย า งทุ ก สิ่ ง ; จึ ง ตองมีการเกี่ยวของกันเพื่อการแลกเปลี่ยน เปนตน. มันก็จะตองมีศีลธรรมสําหรับ ประพฤติป ฏิบ ัต ิห นา ที ่อ ัน นี ้ ; ฉะนั ้น การคา หรือ การเศรษฐกิจ ในที ่ส ุด ก็ค ือ ตัวศีลธรรม ที่ตองประพฤติใหเปนอยางนั้น.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org เดี๋ ย วนี้ ม นุ ษ ย แ ยกมั น ออกเป น คนละเรื่อ ง ; คื อ ศึ ก ษาเรื่อ งเศรษฐกิ จ ไป ตามวิถ ีท างเศรษฐกิจ ไมม ีศ ีล ธรรม ; ใครอยากมีศ ีล ธรรมก็ไ ปศึก ษา เรื่ อ งศี ล ธรรม, แยกออกไปต า งหาก จากเรื่ อ งเศรษฐกิ จ เป น ต น . มั น ก็ มี แ ต เศรษฐกิ จ ชนิ ด ที่ เป น เครื่ อ งมื อ สํ า หรั บ หากํ า ไร โดยไม ต อ งคํ า นึ ง ถึ ง ผู ใ ดหรื อ ไม คํานึงถึงศีลธรรม ; กลายเปนเศรษฐกิจที่เลวรายสําหรับมนุษยจะใชเปนเครื่องมือ เอาเปรียบกัน ดังนี้.
www.buddhadassa.in.th
รากฐานของศีลธรรมอันดับหา
๓๐๑
ที นี้ จ ะดู กั น ให ถึ ง ที่ สุ ด อี ก สั ก ตั ว อย า งหนึ่ ง ว า แม แ ต ก ารทํ า สงคราม ; ถ า ทํ า ถู ก ต อ งตามความหมายของคํ า คํ า นี้ ก็ ต อ งเป น ไปเพื่ อ รั ก ษาศี ล ธรรมให ยั ง คง มี อ ยู ใ นโลก. ฉะนั้ น จึ ง ทํ า สงครามกั น แต ใ นกรณี ที่ มี ผู ไ ม ป ระพฤติ ใ ห ถู ก ต อ งตาม ศีลธรรม ; และจะตองทําสงครามนั้น โดยอาศัยศีลธรรมเปนเหตุผล. เดี ๋ ย ว นี ้ เ รา ก็ ทํ า ส งค รา ม กั น เพี ย งเพื ่ อ เอ า ป ระ โย ช น เพื ่ อ จั บ กุ ม ผู อื่ น ไว ใ นอํ า นาจ ที่ จ ะบี บ คั้ น ได ต ามชอบใจ. และก็ อ า งเหตุ ว า ป อ งกั น ตั ว บ า ง อย า งอื่ น บ า ง ; และที่ เ ลวร า ยที่ สุ ด ก็ ว า ทํ า สงครามเพื่ อ สั น ติ ภ าพ ; ไม ม องเห็ น เลยว า มั น มี ส งครามชนิ ด ที่ ป ระกอบด ว ยศี ล ธรรม แล ว ยั งมาอ างว า ทํ าสงครามเพื่ อ สั น ติ ภ าพ. ข อ นี้ ค งจะเข า ใจยาก แต ก็ ไ ม เหลื อ วิ สั ย ที่ จ ะมองดู ใ ห เห็ น ว า สงคราม ที ่ถ ูก ตอ ง ก็เ ปน การประพฤติศ ีล ธรรมอัน หนึ ่ง ดว ยเหมือ นกัน , และเปน สิ ่ง ที่กระทําเพื่อใหศีลธรรมยังคงอยู. ถ า เป น เรื่ อ งภายใน เราก็ ทํ า สงครามกั บ กิ เ ลส ฆ า กิ เ ลสให ต ายไป ; ถ า เป น เรื่ อ งภายนอกก็ คื อ ปราบสิ่ ง ที่ ไม เป น ธรรม ให เหลื อ แต สิ่ ง ที่ เป น ธรรม ซึ่ ง เป น หนา ที ่ข องมนุษ ยที ่จ ะตอ งกระทํ า เพื ่อ รัก ษาความเปน ธรรมเอาไว. นี ่ข อใหม อง ถึงขนาดวา แมแตสงคราม ซึ่งเปนการทําลายชีวิตกัน ก็เปนศีลธรรมอันหนึ่ง ถา มัน ถูก ตอ งตามกฎเกณ ฑข องศีล ธรรม หรือ ธรรมชาติอ ัน บริส ุท ธิ ์ ; ฉะนั ้น เราจึ ง มี สิ ท ธิ์ ที่ จ ะกิ น ยาถ า ยตั ว พยาธิ หรื อ จะกํ า จั ด สิ่ ง ที่ ไม ค วรจะมี ที่ เป น อั น ตราย แก ชี วิ ต ; นี้ ไม ถื อ เป น เรื่ อ งผิ ด ศี ล ธรรม . เดี๋ ย วนี้ เราก็ ไ ม รู สึ ก อย า งนี้ ; จึ ง ทํ า สงครามเพียง เพื่อจะทําลายลางกัน เพื่อประโยชนของฝายใดฝายหนึ่ง.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org
www.buddhadassa.in.th
๓๐๒
การกลับมาแหงศีลธรรม
ทีนี้ มองดูอีกทางหนึ่ง ถึงสิ่งที่เราเรียกกันอยูอีกหลาย ๆ ชื่อ เชน คํ า วา วัฒ นธรรม ขนบธรรมเนีย ม ประเพณี กระทั ่ง ถึง แมที ่ส ุด แต พิธ ี ; และเลยไปถึง พิธีรีต อง : นี้ก็เ ปน เรื่อ งของศีล ธรรม. ตามความมุง หมาย อัน แทจ ริง ก็เพื่อ จะใหมีศีล ธรรม ; แมวา จะเปน ศีล ธรรมในขั้น แรก ขั้น ตน ของคนสมัยปาเถื่อน ก็ตองเรียกวาเปนเรื่องของศีลธรรมทั้งนั้น. มันไมมีอะไรที่ไมใชศีลธรรม ; จึงกลาวไดวา ไมมีอะไรที่มนุษยจะ ตองประพฤติกระทํา นอกจากสิ่งสิ่งเดียวคือศีลธรรม นับตั้งแตตัวอยางที่ไดยก มาแล ว กระทั่ ง ถึ ง การแสวงหาอาหาร การกิ น อาหาร การดํ า รงชี วิ ต ให ถู ก ตองการสังคมกันใหถูกตอง เปนไปเพื่อประโยชนเกื้อกูล และมีระเบียบวินัย พิธี ที่จะทําสิ่งนี้ใหตั้งอยูอยางเปนปกแผน. อาตมาก็เลยพูดวา ไมมีอะไรที่ไมใช ศีลธรรม. คนที่ไดยินไดฟง บางคนเขาก็วาพูดอยางคนบา พูดอยางบา ๆ บอ ๆ วาไมมีอะไรที่ไมใชศีลธรรม. อาตมาก็ยังขอยืนยันอยูนั่นเองตลอดเวลา วาไมมี อะไรที ่ไ มใ ชศ ีล ธรรม ; แมแ ตจ ะกระดิก ตัว สัก นิด หนึ ่ง ก็ต อ งใหเ ปน ไป อยางถูกตองตามศีลธรรม ; มิฉะนั้น จะตองไดรับโทษ.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org นี่ส รุป ความกัน เสีย ทีห นึ่ง วา ไมมีอ ะไรที่ไมใชศีล ธรรมในโลกนี้ ; แตเดี๋ยวนี้เขาก็ไมรูจักคํานี้ ในโลกนี้ไมมีการพูด กัน ถึงศีลธรรม : ในที่ประชุม สหประชาชาติก็ดี หรือ ที่ไ หนก็ดี ไมมีใ ครพูด ถึง ปญ หาศีล ธรรม ; เขาพูด ถึงปญหาการเมือง เรื่องสงคราม เรื่องเศรษฐกิจ เรื่องอะไรกันเปนคุงเปนแคว ; ไม เ คยหายใจด ว ยลมหายใจที่ มี ศี ล ธรรม มั น ก็ ทํ า โลกนี้ ใ ห ส งบสุ ข ไม ไ ด .
www.buddhadassa.in.th
รากฐานของศีลธรรมอันดับหา
๓๐๓
ภายในประเทศหนึ่ง ๆ ก็เหมือ นกัน , ในสภาผูแ ทนฯ ก็ไมพูด กัน ถึงศีล ธรรม, รัฐบาลแถลงนโยบายตอ สภาผูแทนฯ ก็ไมมีศีลธรรมสักคําหนึ่ง ในบรรดานโยบายที่แถลงออกไปนั้น. อาตมาอุตสาหทนฟงมาหลายยุค หลาย สมัยแลว. สมัยกอนยังมีคําวา “เพื่อศีลธรรมอันดีของประชาชน” ; มีแตคําพูด ก็ยังดี. เดี๋ยวนี้ไมมีเลย แมแตคําวา “ศีลธรรม”. นั่นแปลวา ไมไดสนใจเรื่อง ศีลธรรม, ก็เปนรัฐบาลที่ไมมีศีลธรรม, เปนสภาผูแทนราษฎรที่ไมมี ศีลธรรม, กระทั่งเปนพลเมืองที่ไมมีศีลธรรม ; แลวอะไรจะเกิดขึ้น ก็พอจะทราบกันไดเอง ; ก็คือสิ่งที่กําลังเกิดขึ้นนี่เอง เปนผลของความไมมีศีลธรรม. ขอสรุป ความวา กิจ ของสัง คม, สัง คมกิจ แลว แตจ ะเรีย ก ทุก ชนิด ทุก แขนง ตอ งเปน ตัว ศีล ธรรมทั้ง นั้น . ขอทบทวนใจความสํา คัญ ของ คําวาศีลธรรม ในลักษณะอยางนี้ไวเสมอ. เรื่อ งที ่เราเคยกลา วกัน มาแลว ตอ ไปก็ค ือ วา ศีล ธรรมอยูที ่ไหน ? ควรจะมองดูใหกวางใหลึกลงไป วามีศีลธรรมในสายโลหิต. คนแก ๆ อาจจะ เขาใจ ; พวกเด็ก ๆ คงจะเขาใจยาก. แตมันก็ไดมีอยูจริง โดยเฉพาะประชาชน ชาวไทยเรา มี ศ ี ล ธรรมอยู ใ นสายเลื อ ด สายโลหิ ต จากบรรพบุ รุ ษ ; เพราะวาบรรพบุรุษของเรา เปนผูมีศีลธรรม และก็ถายมาโดยทางสายโลหิต ; ฉะนั้น ลูกเด็ก ๆ เหลานั้นจึงอบรมงาย.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org มีขนบธรรมเนียมประเพณี ที่ใหมารดาผูตั้งครรภ ตั้งอยูในศีลธรรม อยา งยิ ่ง . ความขอ นี ้ม ีป รากฏอยู แ มใ นพระไตรปฎ ก วา พระพุท ธมารดา สมาทานศี ล ธรรมเป น อย า งยิ่ ง ในขณะที่ ดํ า รงครรภ . เขามี ข นบธรรมเนี ย ม
www.buddhadassa.in.th
๓๐๔
การกลับมาแหงศีลธรรม
ประเพณีอยางนี้เรื่อยมา ในประเทศอินเดีย, แลวก็ตองมีมาถึงประเทศไทยเราดวย ; เพราะวา ประเทศไทยเราก็มีวัฒ นธรรมอิน เดีย มาเต็ม ที่ รวมทั้งพุท ธศาสนาดว ย ซึ่ งก็ ค วรจะถื อ ว า เป น วั ฒ นธรรมอิ น เดี ย ด ว ยเหมื อ นกั น . ฉะนั้ น เราก็ มี อ ะไร ๆ อย างอิน เดีย ในทางวัฒ นธรรม, มี ศีลธรรมกั นมาเป น อยูในสายเลือ ด ; แตเวลา มันตั้ง ๒,๐๐๐ ปมาแลว มันก็มีการเปลี่ยนแปลง. ครั้นมาถึงยุคที่โลกบู ชาวัตถุ ก็หันไปสนใจกันแตในทางวัตถุ ; ความ สนใจในทางศี ล ธรรมก็ จ างไป. บางคนอยากจะเต น รํ า จนถึ ง วั น คลอดก็ ไ ด กระมัง , มีค รรภแ ลว ก็ย ัง อยากจะเตน รํ า ; เพราะวัฒ นธรรมใหม อยากจะ บํารุงบําเรอดวยวัตถุ, มีวัตถุเปนเครื่องบํารุงบําเรอ มันก็ตองเปลี่ยนแปลงไปมาก ในส ว นที่ ว า จะมี ศี ล ธรรมหรื อ ธรรมะ ในสายเลื อ ดสื บ ทอดกั น มา. ขอให ส นใจ สังเกตศึกษาไวสักอยางหนึ่งวา สิ่งที่เรียกวา ศีลธรรมนั้นตองตั้งตนมาตั้งแต ในสายโลหิต.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ที นี ้ พ อ ค ล อ ด อ อ ก ม า เป น ม นุ ษ ย ศี ล ธ ร ร ม ก็ จ ะ ต อ ง มี ใ น ระบบของการศึก ษาอบรม นับ ตั ้ง แตท ารกลืม ตาขึ ้น มาในโลกนี ้ ก็ต อ งใหเ ขา ไดถ ูก แวดลอ ม ดว ยสิ ่ง ที ่เ ปน ศีล ธรรม, หรือ แสดงออกซึ ่ง ศีล ธรรม ; เรีย กวา ในการศึ กษาการอบรม ตั้งแต ออ นแต อ อก มาจนกวาจะสํ าเร็จการศึ กษา ก็เต็ ม ไปดว ยศีล ธรรม. เดี ๋ย วนี ้เราไมท ราบ แลว เราไปทํ า ลายขนบธรรมเนีย ม ที ่เขา ทํ า ไวด ี ; ที ่ทํ า มีศ ีล ธรรมมาตั ้ง แตอ อ นแตอ อก. การศึก ษาของเด็ก ๆ สมัย นี้ เราก็ตัดศีลธรรมออกไป ตามแบบสมัยใหมของพวกที่ไมตองการศีลธรรม.
การศึ กษาของประเทศไทยเรา ไปตามกนพวกตะวันตก จนถึงกับตั ด ศี ล ธรรมออกไปจากระบบของการศึ ก ษา ซึ่ ง เขาถื อ ว า มั น เป น เรื่อ งส ว นตั ว ของ
www.buddhadassa.in.th
รากฐานของศีลธรรมอันดับหา
๓๐๕
บุคคล ; ใครอยากรูก็ไปเรียนรูเอาเอง ไมตองเอามาใสไวในการศึกษาบังคับของ ลูก เด็ก ๆ ; เขาเกิด ความคิด เปลี่ย นตรงกัน ขา มอยางนี้ การศึก ษาศาสนาหรือ ศีลธรรม มันก็หายไปจากการศึกษาของพวกลูกเด็ก ๆ. มันก็เปนความผิดพลาด ในการที่จะมีศีลธรรมอยางยิ่งไปตั้งแตเด็ก. อีกขั้นหนึ่ง ขั้นสุดทาย ก็คือวา เปนผูใหญแลว ตองมีศีลธรรม ในการดํารงชีวิตสืบตอไป จนถึงวาระสุดทายของการดับจิต. ขอใหมี ศีล ธรรมในลัก ษณะ ๓ สมัย ๓ ประเภท ( : ในครรภสมัยเด็ก - ผูใหญ ) ดวยกันอยางนี้. นี่ก็ขอย้ําอยูเสมอ และทบทวนกันอยูเสมอ. ทีนี้ เรามองเห็นแลววา ตองการจะมีศีลธรรม ก็ตองสนใจศึกษา ไปยังตัว สิ่งที่เรีย กวา ศีล ธรรมนั้น . มัน จะมีรูป โครงอยา งไร จะไดจัด การใหถูก ตั้งแตตนจนปลาย ซึ่งไดเปรียบรูปโครงของศีลธรรมนี้กับตนไมทั่ว ๆ ไป จนเรียก ชื่อวาพฤกษาแหงศีลธรรม ; ซึ่งก็ไดวินิจฉัยแลกเปลี่ยนความคิด ความเห็นกัน เป น อั น มากในเรื่อ งนี้ วา มี ต น พฤกษาแห งศี ล ธรรม ซึ่ งมี ต อนโคนหรือ ตอนราก ตอนหนึ ่ง , ตอนที ่เ ปน ลํ า ตน และกิ ่ง นั ้น ตอนหนึ ่ง , ตอนที ่เ ปน ใบเปน ดอก เปนลูก นั้นอีกตอนหนึ่ง.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ตอนที ่เ ปน รากเปน โคน ก็ค ือ อุด มคติที ่ถ ูก ตอ งของศีล ธรรม, หรือความรู ความเขาใจที่ถูกตอง ของสิ่งที่เรียกวา ศีลธรรม ดังที่กลาวมาแลว นั่นเอง. ถาเราไมมองเห็นความจริงอันนี้ มันก็ไมมีอุดมคติอะไรเกิดขึ้น เกี่ยวกับ ศีลธรรม ; ความคิดก็จะเดินไปผิดทาง เพราะไมมีรากของตนไม แลวตนไมจะอยู
www.buddhadassa.in.th
การกลับมาแหงศีลธรรม
๓๐๖
ได อ ย างไร. ที่ เป น ตอนลํ า ต น และเป น กิ่ ง ที่ เนื่ อ งอยู กั บ ลํ า ต น นั้ น เราหมายถึ ง การปฏิ บั ติ ดี ปฏิ บั ติ ช อบ ตามอุ ด มคติ นั้ น ๆ จนกว า จะถึ ง ตอนปลาย ยอด คือ ใบ ดอก ผล คือ อานิส งสต า ง ๆ ที ่เกิด ขึ ้น แกม นุษ ย. สรุป ความแลว ก็ค ือ สัน ติส ุข สว นบุค คล และสัน ติภ าพสว นสัง คมนั ่น เอง. ขอรอ งใหด ูล ัก ษณะ ที่ เป น ภาพพจน , หรือ ภาพอุ ป มา หรือ มโนภาพอะไรก็ สุ ด แท ว า ศี ล ธรรมของเรา ของมนุ ษ ยนี้ เปรีย บเหมื อ นกับ ต น ไม มี ราก มี โคน มี ต น มี กิ่ ง แล วก็ มี ใบ มี ด อก มีลูก ในลักษณะอยางนั้น. ปญ หาก็เ กิด ขึ ้น วา เรากํ า ลัง มีอ ยู ห รือ เปลา ? เรามีต น ไมแ หง ศีลธรรมอยูในใจของมนุษยหรือเปลา ? นี่กําลังทดสอบกันอยูในตอนนี้. ....
....
....
....
ที นี้ เพื่ อ ให ท ดสอบได ง า ยได ล ะเอี ย ดขึ้ น ก็ จ ะแยกเป น รายละเอี ย ด เป น ส ว น ๆ ไป ; ที่ เป น ส ว นรากฐานแท ๆ จะพิ จ ารณากั น ถึ ง ส ว นรากที่ ต น ไม จ ะ อาศัยอยูได.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ทุ ก ค น ม อ งเห็ น ได ว า ต น ไม ต อ งอ าศั ย แผ น ดิ น เป น ข อ แรก ; ไม มี แ ผ น ดิ น ต น ไม จ ะอาศั ย อะไร ; แม ไม มี แ ผ น ดิ น ก็ ต อ งมี อ ะไรทํ า หน า ที่ แ ทน แผ น ดิ น ให ต น ไม มั น เกาะอยู ไ ด ; ยั ง จะต อ งอาศั ย น้ํ า เพื่ อ ทํ า ความสดชื่ น ของ ชี วิ ต หรือ ละลายอาหารได ; ยั งจะต อ งอาศั ย อาหาร คื อ แรธ าตุ ทั้ ง หลายที่ ต น ไม จะไดร ับ ดูด ซึม เขา ไปเลี ้ย งตน ; ยัง จะตอ งอาศัย แสงสวา งที ่ถ ูก ตอ งที ่เ พีย งพอ ต น ไม จึ ง จะเจริญ อยู ได ; และยั ง จะต อ งอาศั ย อุ ณ หภู มิ คื อ ความรอ นที่ พ อเหมาะ
www.buddhadassa.in.th
รากฐานของศีลธรรมอันดับหา
๓๐๗
พอดี ต น ไม จึงจะเจริญ งอกงามอยู ได . นี่ เป น อุป มาแห งป จจั ย เป น ที่ ตั้ ง ที่ อาศั ย แหงตนไมของศีลธรรม. ในครั ้ง สุด ทา ยที ่แ ลว มา เราไดพ ูด ถึง เรื ่อ งแสงสวา ง ซึ ่ง ตน ไม ศีลธรรมตองการ ถาม : ฉะนั้ น ขอสอบความจํ า ความเข า ใจกั น ในตอนนี้ ว า อะไรที่ จ ะเปรีย บ ได ด วยแผ น ดิ น ? อะไรที่ จ ะเปรีย บได ด วยน้ํ า ? อะไรที่ จ ะเปรีย บได ด วย อาหาร ? อะไรที่จะเปรียบไดดวยแสงสวาง ? คุณประยูรวาไปที ? ตอบ
: สิ่ ง ที่ เปรี ย บได กั บ แผ น ดิ น สํ า หรั บ เป น รากฐานรองรั บ ต น ไม นั้ น ก็ คื อ บรมสั จ จะ ความจริ ง อั น สู ง สุ ด ที่ ว า สั ต ว โ ลกทั้ ง หลายนี้ เป น เพื่ อ น รวมทุกข เกิด แก เจ็บ ตาย ดวยกันทั้งหมดทั้งสิ้น. เราควรมีความรัก ความเมตตากัน นั่นคือตัวแผนดิน.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ส วนที่ จะเปรี ยบเที ยบได กั บ น้ํ าของต นไม ก็ คื อสิ่ งที่ ม าให ความเย็ น ซึ่งตรงกันขามกับความรอน สิ่งนั้นก็ไดแก ความไมเปนทาสของอายตนะ. การที่ เ ราเป น ทาสของวั ต ถุ หรื อ เป น ทาสของอายตนะนั ้ น เป รี ย บ ประดุ จ ความรอ น เพราะฉะนั้ น สิ่ งที่ เป น น้ํ า ตรงกั น ข า มกั บ ความร อ น ก็คือ ความไมเปนทาสของอายตนะนั้น ; เรียกวา น้ํา.
สิ่งที่เปนอาหารที่ละลายไปในน้ํา ก็คือ การบังคับความรูสึก. การบังคับ ค ว า ม รู สึ ก นี้ เปรี ย บประดุ จ อาหาร สํ า หรั บ ไปหล อ เลี้ ย งใ ห ต น ไ ม ศีลธรรมเจริญเติบโตได.
www.buddhadassa.in.th
๓๐๘
การกลับมาแหงศีลธรรม แล ว สิ่ ง ที่ ๔ ก็ คื อ ได แ ก อากาศ หรื อ เรี ย กว า แสงสว า ง นั้ น ก็ คื อ ป ญ ญาอั นถู กต อง, หรือป ญ ญาอั นชอบ ที่ เรียกวา ยถาภู ตสั มมั ปป ญ ญา เปน ปญ ญาที ่เ กิด ขึ ้น มาจากความรู ส ึก ของตนเอง มิไ ดเ ปน ปญ ญาที่ เกิด มาจากความเชื ่อ ดา นอื ่น ที ่พ ระพุท ธเจา ไดต รัส ไวใ นกาลามสูต ร ใหเ ราใชป ญ ญาหรือ แสงสวา งที ่ถ ูก ตอ งตามธรรมชาติ และเรารู ส ึก ของเราเองได เรียกวา ยถาภูตสัมมัปปญญา ; นี้เปนแสงสวาง.
นี ่ค ุณ จํ า ไดด ี, หรือ เขา ใจไดด ี ; นี ่เ ปน เพีย งทดสอบ. ขอใหท า น ผูฟงบางทาน ถาสมมติวายังไมเคยฟ ง ขอไดทําความเขาใจในขอนี้ใหมากเปนพิ เศษ เรื ่อ งรากฐานของตน ไมศ ีล ธรรม. ที ่เ ราพูด ถึง ตน ไมนี ่ ก็เ พื ่อ ชว ยใหจํ า งา ยวา ต น ไม ต อ งการแผ น ดิ น ; ต น ไม ต อ งการ น้ํ า ; ต น ไม ต อ งการ อาหาร ; ตน ไมต อ งการแสงสวา ง. ตน ไมต อ งการแผน ดิน , แตต น ไมศ ีล ธรรมตอ งการ แผน ดิน คือ ความเขา ใจอัน ถูก ตอ งวา สัต วทั้งหลายเปน เพื ่อ นทุก ข เกิด แก เจ็บ ตาย ดวยกันทั้งหมดทั้งสิ้น.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ถาม : เดี๋ยวนี้ในโลกนี้ เรามีความรูสึกวา ทุกคนเปนเพื่อนเกิด แก เจ็บ ตาย แกกันและกันทั้งหมดทั้งสิ้นหรือไม ? เอา คุณทอง, คุณวิจารณเรื่องนี้ซิ.
ตอบ : เดี๋ ย วนี้ โลกกํ า ลั ง ขาดความรู สึ ก ที่ ว า “สั ต ว ทั้ ง หลายเป น เพื่ อ น เกิ ด แก เจ็บ ตาย รว มสุข รว มทุก ขด ว ยกัน ทั ้ง หมดทั ้ง สิ ้น ”. พิส ูจ นไ ดโดยที ่ม อง ไป ยัง การเป น อ ยู ท ุก วัน นี ้. ค น ทุก วัน นี ้ มีค วาม โล ภ ไมม ีข ีด ขั ้น , ไม มี อาณาจั กรแห งความเป นโลภ. เมื่ อ ความโลภไม มี อ าณาจั กรเช น นี้ ก็ ย อ มจะมี ก ารขั ด กั น ซึ่ ง ผลประโยชน . เมื่ อ มี ก ารขั ด กั น ก็ ย อ มจะต อ งโกรธ ด ว ยเหตุ ที่ ว า เขาหลงในสิ่ ง ที่ จ ะเป น มาโดยทางวั ต ถุ นั้ น , เพราะฉะนั้ น กระผมจึง เรีย นวา โลกนี ้กํ า ลัง ขาดความรู ส ึก นั ้น ; เพราะวา ทุก คน ตางก็เห็นแกตัว.
www.buddhadassa.in.th
รากฐานของศีลธรรมอันดับหา
๓๐๙
ถาม : นักเรียนทุกคนในโรงเรียนของคุณมีความรูสึกวา สัตวทั้งหลายเปนเพื่อน ทุกข เกิด แก เจ็บ ตาย ดวยกันหรือไม ; คุณ ทองอีก, ในโรงเรียน ของคุณ ? ตอบ : วาที่จริงแลว พื้ นเพของเด็ ก ๆ มี สิ่งนี้ นอ ยมากครับ ลําพั งความเห็ น แกตัว มีเหมือ นกัน แตวา นอ ยกวา ผูใหญม าก ; เพราะวา เด็ก นั้น มี แตเ รื่อ งเลน เรื่อ งกิน เปน สํ า คัญ . ทีนี ้เ รื่อ งเลน นั ้น การเลน ก็จ ะ ตองเขาพวก เขาหมู และการทะเลาะกันเพราะเรื่องเลนนั้นมีนอย ;แต ในหมูของผูใหญมีมาก. ถาม : ในโรงเรียนของคุณมีเด็กกี่คน ที่พูดประโยคนี้ไดวา “สัตวทั้งหลายเปน เพื่อนทุกข เกิด แก เจ็บ ตาย ดวยกันทั้งหมดทั้งสิ้น ?” ตอบ : คําพูดอาจจะไมมี, คําพูดอาจไมมีประโยคนี้ ; แตวาในความรูสึก อาจจะมี ; คือ ที ่เ ขาชว ยเหลือ ซึ่ง กัน และกัน แบง ที ่เ ลน แบง ของ เลน กัน อยา งลูก ฟุต บอลลลูก หนึ่ง เด็ก รว มเลน กัน ไดป ระมาณสัก ๑๐ กวาคนได.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ถาม : นั่นเขารวมกันเลนได เพราะหากเขาไมรวม เขาจะไมมีเพื่อนใชไหม ? ตอบ : ใชครับ. ถาม : หรือวาเขาแบงของใหเพื่อนดวยความรูสึกที่แทจริงวา เปนเพื่อนรวม เกิด แก เจ็บ ตาย ดวยกัน ?
www.buddhadassa.in.th
๓๑๐
การกลับมาแหงศีลธรรม
ตอบ : ก็มีพอ ๆ กัน ครับ เพราะเขารูสึกวา ถาหารเขาขาดเพื่อนแลว การ เลนนั้น จะไมมีรสชาติ, หรือจะเปนไปไมได. ตอ ไปนี ้ก ็ไ ปบอก ใหเ ขาทอ งประโยคนี ้ก ัน เสีย บา ง อยา งที่ สมั ยอาตมาเด็ก ๆ นั้ นท องประโยคนี้ เพราะวาโยมสอนให ทอง หรือบั งคับให ท อง, และก็ ไ ด ยิ น โยมท อ งทุ ก คื น เมื่ อ สวดมนต . เด็ ก ๆ ยั ง ไม ทั น หลั บ จะได ยิ น คํ า ว า “สัตวทั้งหลายเปนเพื่อนทุกข เกิด แก เจ็บ ตาย ดวยกันทั้งหมดทั้งสิ้น” ; และอาตมาในฐานะเปน เด็ก ๆ เล็ก ๆ นี ่ก ็ท อ งได. พอมาถึง สมัย นี ้ ก็ด ูซ ิ, พอ สอบถามกันดู มันก็ไดความอยางนี้. ถาม : นี่คุณเห็นวา ความรูสึกวาสัตวทั้งหลายเปนเพื่อนทุกข เกิด แก เจ็บ ตาย ด ว ยกั น ทั้ ง หมดทั้ ง สิ้ น นี้ มั น จะป อ งกั น ไม ใ ห เกิ ด โลภะ โทสะ โมหะได อย า งไร ? คุ ณ ล้ํ า ตอบสั ก ที เพราะว า เป น กํ า นั น ; มั น จะป อ งกั น ไม ใ ห เกิ ด โลภะ โทสะ โมหะ ได อ ย า งไร ? ถ า เรารูสึ ก ว า เราเป น เพื่ อ นทุ ก ข เกิด แก เจ็บ ตายดวยกัน.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ตอบ : ถาคนมองเห็นถึงความเปนเพื่อน เกิด แก เจ็บ ตาย ดวยกันทั้งหมด ทั ้ง สิ ้น ; ถา มองเห็น อยา งนี ้ โดยเหตุที ่จ ะเห็น นี ่ผ มจะอธิบ ายไป มั น ก็ เป น เรื่ อ งเกี่ ย วโยงกั น มาก ; การเห็ น นี่ ถ า เห็ น มั น จึ ง จะดี . แต ทุ ก วั น นี้ ค นไม เห็ น , คนไม ได เห็ น ความเกิ ด แก เจ็ บ ตาย ด ว ยกั น ทั้ งหมด ทั ้ง สิ ้น . โดยสว นใหญ ชนทุก ระดับ ไมไ ดม องเห็น ถึง เพื ่อ นทุก ข เกิ ด แก เจ็ บ ตาย ด วยกั น ทั้ งหมดทั้ งสิ้ น ; เพราะเหตุ ว า ต างคนต างก็ เห็นแกตัว.
www.buddhadassa.in.th
รากฐานของศีลธรรมอันดับหา
๓๑๑
อั น นี้ ถ า จะพู ด ให ดี แ ล ว ชนชั้ น ทุ ก ระดั บ ตั้ ง แต ชั้ น ปกครอง ระดับสูงลงมาจนถึงระดับต่ํานั้น ผมวาชนชั้นปกครองระดับสูง เปน ชั้น สําคัญ เพราะเปน ตัวอยางของชนระดับ ต่ํา. ถาชนระดับ สูง ไม ไดเห็นถึงเพื่อนเกิด แก เจ็บ ตาย ดวยกันแลว, ชนระดับต่ํา เปน ชนชั้นกรรมาชีพ เปนชนชั้นกรรมกร ก็ไมมีทางที่จะเห็นได. การไมมีทางเห็นไดนี้ จะไมมีทางใหบานเมืองสงบลงได และ จะไมเห็นถึงความเกิด แก เจ็บ ตาย ดวยกันทั้งหมดทั้งสิ้นได เพราะ ชนชั้น ปกครองระดับ สูง เปน ตัว จัก รสํา คัญ . ถา ชนชั้น ปกครอง ชั้นสูงไดเห็นถึงความทุกข ซึ่งมนุษยเกิดมาก็เพื่อความเกิด ความแก ความเจ็บ ความตาย ดวยกันทั้ งหมดทั้ งสิ้นด วยแลว ประชาชนทั่ ว ประเทศหรือทั่วโลก จะไดอยูกันเปนสุข. นี้ดีนี่ เพิ่งนึกขึ้นมาไดใหมวา เราควรจะสังเกตความหมายของคําวา “เพื่อน”. เมื่อคนคนนั้นเองเขาก็ไมรูสึกวา ตัวเองจะตองเกิด แก เจ็บ ตาย แลว เขาจะไปรูสึกวา คนทั้งหลายเปนเพื่อนเกิด แก เจ็บ ตาย ไดอยางไร ; เพราะไม มองเห็นวาตัวเองนี่ก็ตองเกิด แก เจ็บ ตาย. นี่เขาจึงไมนึกถึงการเปนเพื่อนแหง การเกิด แก เจ็บ ตาย กับผูใด ; แลวเขาหันไปอีกทางหนึ่ง ไปมีความเปนเพื่อน กันในลักษณะไหนละ.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ถาม : คุณประยูรวาดูซิ เมื่อไมเปนเพื่อนเกิด แก เจ็บ ตาย กันแลว มันจะ เปนเพื่อนลักษณะไหนอีก ? โดยเฉพาะที่มีอยูจริงในโลกในเวลานี้. ตอบ : เปนเพื่อนที่คอยเอารัดเอาเปรียบซึ่งกันและกัน.
www.buddhadassa.in.th
๓๑๒
การกลับมาแหงศีลธรรม
ถาม : เรียกวา เพื่อน อยางไรละ ? ตอบ : เปนศัตรู. ถาม : เป นศัตรูก็ไมใชเพื่ อน ; เราตองการคําวา เพื่ อน ความหมายของคําวา เพื่อน ในอีกความหมายหนึ่ง. ตอบ : เปนเพื่อนเทียม. ก็ต องเรียกวา เพื่ อน เพื่ อ นกิ น เพื่ อ นเล น เพื่ อ นซ องสุม กัน เป น พวก เปน หมู ค ณะ ไปปลน คนอื ่น ไปเอาประโยชนข องประเทศอื ่น มา ; มัน เกิด เปนเพื่อนในอีกความหมายหนึ่งคือ ไมใชเพื่ อนเกิด แก เจ็บ ตาย ; แตเปนเพื่อน สําหรับจะไมรูจักความเกิด แก เจ็บ ตาย ; แลวก็เปนเพื่อนสําหรับใชกิเลสแกกัน และกัน เปนเพื่อนมีกิเลส, เปนเพื่อนใชกิเลส, เปนเพื่อนทําตามอํานาจของกิเลส ; ก็เปน เพื ่อ นลงอบาย. มัน ก็เปน เพื ่อ นเหมือ นกัน มัน ก็รัก กัน เปน ที ่สุด ในหมู ค น ที่ เป น มิ จ ฉาทิ ฏ ฐิ ; มั น ก็ เป น เพื่ อ นอย า งมิ จ ฉาทิ ฏ ฐิ . มั น เป น ๒ เพื่ อ นอยู ต อ ง จํากัดใหชัดลงไปวา เพื่อน เกิด แก เจ็บ ตาย กําลังไมมีในโลก ; แตวาเพื่อนที่จะ สุมหัวกันคิดราย ประทุษรายผูอื่น กําลังมีแนนอัดอยูในโลก.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org พูด ไดไ หม ? วา ในโลกนี ้กํ า ลัง มีเพื ่อ นที ่ต รงกัน ขา ม จากเพื ่อ นเกิด แก เจ็บ ตาย, มีแ ตเพื ่อ นที ่จ ะใชก ิเลสชวนกัน ลงอบาย. ถา ไมอ ยา งนั ้น โลกนี้ ไมวิ ่ง เร็ว อยา งนี ้ด อก ; โลกกํ า ลัง วิ ่ง เร็ว ไปในทางวัต ถุ ในทางกิเ ลส ; เพราะ เขามีเพื่อนมาก.
www.buddhadassa.in.th
รากฐานของศีลธรรมอันดับหา
๓๑๓
ถาม : เมื่อตะกี้ยังไมไดตอบคําถาม ไดตรงตามคําถามวา ถาหากวาเรามีความรูสึก วา “ทุ กคนเปนเพื่อน เกิด แก เจ็บ ตาย ดวยกันทั้งหมดทั้งสิ้นแลว” ความรูสึกอันนี้จะปองกัน หรือกําจัดโลภะไดอยางไร ? คุณประยูรเปน หมอตองตอบ. ตอบ : เมื่ อ เรามี ค วามรูสึ ก ว า ทุ ก คนเป น เพื่ อ นรวมทุ ก ข เกิ ด แก เจ็ บ ตาย ตองพึ่งพาอาศัยกันแลว เราจะทําสิ่งหนึ่งสิ่งใดที่จะเอามาเปนสวนเกิน หรือ เห็น แกตัว นั้น มัน ทํ าไปไมได ; เพราะจะตอ งเห็น แกค นอื่น ดว ย เทา กับ ตัว เราเอง หรือ อาจจะมากกวา เราเองก็ไ ด. เมื่อ เราเห็น แก คนอื่ น ด ว ย เราก็ ต อ งเจี ย ดส ว นเกิ น เอาส ว นเกิ น นั้ น ไปช ว ยคนอื่ น ; อยา งนี้ค วามโลภมัน ก็เ กิด ขึ้น มาไมไ ด. เมื่อ เราทํา อะไรตามพอดี ก็ไ มเ รีย กวา โลภะ ; ฉะนั ้น ถา เราเจีย ดสว นเกิน ของเราไปใหค น อื่นก็เทากับเปนการปองกันความโลภไปในตัว.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ถาม : พอใชได ; มองเห็นลูทางวามันจะปองกัน และกําจัดโลภะได. ทีนี้ ความรูสึกวาสัตวทั้งหลายเปนเพื่อน เกิด แก เจ็บ ตาย ดวยกันทั้งหมด ทั้งสิ้นนี้ จะปองกันหรือกําจัดโทสะหรือโกธะไดอยางไรละ คุณทอง ? ตอบ : ในเมื่ อ ทุ ก คนรู สึ ก ว า เป น เพื่ อ น ก็ คิ ด ว า ในโลกนี้ ชี วิ ต ก็ คื อ ชี วิ ต เดี ย ว ; เพราะวาสั ต วทั้ งหลายก็เป น เพื่ อ นกัน คิ ดเสียวาชีวิตนี้ ก็เป น ชีวิตเดีย ว ในโลก ยอ มมีค วามตอ งการอะไร ๆ เหมือ นกัน . การที่จ ะเกิด ขัด แยง กัน ในเรื ่อ งผลประโยชน อัน เกิด จากโลภะนั ้น ยอ มไมม ี ; ดัง ที ่ค ุณ หมอไดอ ธิบ ายมาแลว . ทีนี ้ โทสะ, ก็เ มื ่อ เราคิด วา เราเปน เพื ่อ นกัน อยู ร วมในโลกนี ้ด ว ยกัน การที ่จ ะเบีย ดเบีย นปองรา ยกัน นั ้น ก็ย อ ม ไมมีครับ.
www.buddhadassa.in.th
๓๑๔
การกลับมาแหงศีลธรรม
อยากจะใหมองความหมายที่ลึกกวานั้น ; ที่วาเราเปนเพื่อนกันเหมือน กับ วา เปน คนคนเดีย วกัน ในโลกนี้ ก็ถูก . แตอ ยากใหม องลึก กวา นั้น วา เรา เปนเพื่อนทุกข เพื่อนยาก. นี่ความหมายมันยังลึกลงไปอีก เพื่อนทุกข เพื่อนยาก เพื่อนลําบากเพราะการบีบคั้นของความเกิด แก เจ็บ ตาย. ถารูสึกวาเปนเพื่อน ยากดวยกันแลว ก็ยากที่จะโกรธ หรือยากที่จะประทุษรายกันลงคอ. ถาม : ทีนี้ มันคงจะตอบยากสักหนอยวา ถาเรารูสึกวา “สัตวทั้งหลายเปนเพื่อน ทุกข เกิด แก เจ็บ ตาย ดวยกันทั้งหมดทั้งสิ้นแลว” จะปองกันหรือ กําจัดโมหะ ไดอยางไร, คุณล้ํา ? ตอบ : การปองกันโมหะนี่ ความจริงมันตองอาศัยปญญา. เกี่ยวกับการที่เรา เห็น เพื ่อ น เกิด แก เจ็บ ตาย ดว ยกัน แลว เราก็จ ะไดใ หส ติซึ ่ง กัน และกันชี้แนวในทางที่ถูกที่ควร โดยอาศัยความเอื้อเฟอในความเห็นที่ ถูกตองในโดยแนวทางซึ่งพูดยอ ๆ ก็คือ มรรค ๘ คือความเห็นที่ถูกให แกกันและกัน, แลวสังคมหรือบุคคลก็จะไดซึ่งปญญา แลวคนจะไม ตกอยูในความหลง.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org พอฟงออก, สรุปความรูสึกของคุณ ไดวา ถาเรารูสึกวาทุกคนเปน เพื่ อนทุ กข เพื่ อ นยากแกกัน และกันแลว เราก็ชวยกันให เขาได มีค วามรู มีส ติ ปญญา ; เปนการกําจัดโมหะของ เพื่อนยากของเรา, ทุกคนก็จะมีปญญาขึ้นมา.
ถาม : นี้อยากจะใหมองอีกแงหนึ่ง ซึ่งเรียนวา มองยาก ; จะถามคุณวาการที่ เรารูวา “สัตวทั้งหลายเปนเพื่อนทุกข เกิด แก เจ็บ ตาย ดวยกันทั้งหมด ทั้งสิ้น” นี้เปนปญญาหรือเปลา ?
www.buddhadassa.in.th
รากฐานของศีลธรรมอันดับหา
๓๑๕
ตอบ : ก็คือ ปญญา ครับ. ถาม : นั่นแหละคือ ปญญา ; ตองยอมรับอยางนี้เสียกอนวา การที่มองเห็นถึง ขนาดรูสึกวาสัตวทั้งหลายเปนเพื่อน เกิด แก เจ็บ ตาย ดวยกันทั้งหมด ทั้งสิ้นนี้ ก็คือปญ ญาอยางยิ่งแลว ; และปญ ญานี้จะนําใหเกิดความรัก เมตตาสามั ค คี ไม ให เกิ ด โลภะ หรื อ โกธะ เป น ต น แล ว จะนํ า มา ซึ่ ง สันติภาพในโลกนี้ไดไหม ? ตอบ : ไดครับ. ถาม : ตองได! อยาลังเลนะ อยาตอบดวยความลังเล ตองมองเห็นจริง ๆ วา มันได. ทีนี้ สติปญญาทั้งหมดทั้งสิ้นของมนุษย จะมีกี่แขนง มีกี่ประเภท กี่รอยกี่พันประเภทก็ตาม ความมุงหมายของปญญานั้น มุงหมายจะสราง สันติภาพขึ้น ในหมูมนุษยใชไหม ?
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ตอบ : ใชครับ.
ถาวาเรามี สัน ติ ภ าพ ขึ้น ในหมู ม นุ ษ ย แล ว เราก็ ควรถื อ วาเราประสบ ความสําเร็จในการมีปญ ญา ; ฉะนั้น เราไมตองมีปญ ญาไปเสียทุกสิ่งทุกอยาง : เรามีปญ ญาแตเพียงเพื่อเบียดเบียนกันไมลง ไมเกิดโลภะ โทสะ ใสกัน มันก็พอ แลว ; มันเปนปญ ญาอยูในตัว เรียกวา กําจัดโมหะที่เปนขาศึกของมนุษยเราได. ฉะนั ้น ขอใหถ ือ วา ถา เรามีพื ้น ฐานอัน นี ้แ หง จิต ใจวา “สัต วทั ้ง หลายเปน
www.buddhadassa.in.th
๓๑๖
การกลับมาแหงศีลธรรม
เพื ่อ นทุก ข เกิด แก เจ็บ ตายดว ยกัน ทั ้ง หมดทั ้ง สิ ้น ” ก็จ ะปอ งกัน หรือ กําจัดโลภะ โทสะ โมหะ ไดทั้งสามอยาง. ขอใหม องใหเ ห็น และถือ อยู เ ปน หลัก แลว ชว ยไปอบรมนัก เรีย น ลูก เด็ก ๆ ในโรงเรีย น, หรือ ประชาชนที ่เปน ลูก บา นของกํ า นัน , หรือ วา คนเจ็บ คนไขข องหมอในขณะที ่เขานอนเจ็บ อยู นั ่น แหละ ; ใหรูส ึก วา “เราเปน เพื ่อ น ทุกข เกิด แก เจ็บ ตาย ดวยกันทั้งสิ้น” ; มันงายดี. นี่รากฐานแรกและสําคัญ ที่สุดของตนไมแหงศีลธรรมนั้น คือความ เขา ใจอัน นี ้ จะนํ า มาซึ่ง เมตตาเปน หลัก เปน ประธาน. คนเราถา มีเมตตารัก ใคร ซึ ่ง กัน และกัน แลว ปญ หาทางสัง คมจะหมดสิ ้น ; ไมม ีก ารเอาเปรีย บกัน ทางการเมือ ง ทางเศรษฐกิจ ทางสัง คม ทางสงคราม ทางอะไรเลย. มัน ก็มี สั น ติ ภ า พ สั น ติ ส ุ ข ; ถ า มี ศ ี ล ธ ร ร ม แ ล ว ทุ ก อ ย า ง จ ะ เป น ไ ป ด ว ย ดี , ถาไมมีศีลธรรมแลว ไมมีอะไรจะดีได.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org การปกครองระบอบประชาธิป ไตยจะเลวที ่ส ุด ถา ประชาชนไมมี ศี ล ธ ร ร ม ; ยิ ่ ง มี เ ส รี ม า ก เท า ไร ยิ ่ ง เล ว ม า ก เท า นั ้ น ; เพ ร า ะ ค น ไม มี ศี ล ธ รรม มี แ ต ก ิ เ ล ส . ถ า มี ศ ี ล ธ รรม แ ล ว ก็ จ ะ เป น ป ระ ช า ธิ ป ไต ย ที ่ ดี เพราะคนมันรักใครกัน.
ถ า เราจะป อ งกั น หรื อ กํ า จั ด ลั ท ธิ อ ั น ไม พ ึ ง ป รารถนา ก็ ต อ งมี สิ่งที่ดีกวา ; ถาเราตองการจะตองตอตานปราบปรามคอมมิวนิสต เราก็ตองเปน คอมมิว นิส ตที่ดีก วา หรือ เหนือ กวา . ศีล ธรรมนี่แ หละ จะสรา งคอมมิว นิส ต
www.buddhadassa.in.th
รากฐานของศีลธรรมอันดับหา
๓๑๗
ที่ดีกวา, หรือเหนือกวาคอมมิวนิสตปจจุบัน ที่เราไมพ อใจกัน, หรือแม แตสังคม นิยมในความหมายทั่ว ๆ ไปก็ตาม เราตองมีสังคมนิยมที่ดีกวา จึงจะตานทานหรือ ปองกันสังคมนิยม ซึ่งไมพึงปรารถนาได. ถ า มี ศ ี ล ธ ร ร ม แ ล ว จ ะ เกิ ด สั ง ค ม นิ ย ม ที ่ ด ี ก ว า เป น สั ง ค ม นิย มที ่ถ ือ ศีล ธรรมเปน หลัก , จะเปน สัง คมนิย มที ่ด ีก วา จะเปน สัง คมนิย ม ตามแบบของพระศาสนาทุ ก ศาสนา ; โดยเฉพาะอย า งยิ ่ ง พระพุ ท ธศาสนานี้ พระพุ ท ธเจ า เป น สั ง คมนิ ย ม คื อ ถื อ ชี วิ ต ทั้ ง หมดทั้ ง สิ้ น ในสากล จักรวาลเปนหน วยเดียวกัน ทําอะไรต อ งนึกถึงทุ กคน ไมเวนเป น พวกนั้น พวกนี้ พวกโนน . นี่สัง คมนิย มที่มีค วามหมายถูก ตอ ง อยา งนี้เ ราเรีย กวา สัง คมนิย ม ที่ดีกวา สําหรับมาใชกําจัดสังคมนิยมที่งมงาย ถึงกับแบงเปนซายหรือเปนขวา, แลวก็ไดตอสูกัน. สั ง ค ม นิ ย ม ของพ ระพุ ท ธเจ า จะไม ทํ า ให เ กิ ด ซ า ยห รื อ ขวา ขึ ้ น มาได ; ป ญ หามั น ก็ ไ ม ม ี ; เป น สั ง คมนิ ย มที ่ เ หนื อ กว า ดี ก ว า อย า งนี้ ก็จะปองกันและแกไขสังคมนิยมอื่น ๆ ทั้งหลายได, แมสังคมนิยมสุดเหวี่ยงเชน คอมมิวนิสต เปนตน.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ฉะนั้น ขอใหพุ ทธบริษั ททั้ งหลาย มุงหมายมีป ณิ ธานวา เราตองมี ศี ล ธรรม เพื ่ อ ความเป น คอมมิ ว นิ ส ต ที ่ ด ี ก ว า จะป อ งกั น ต า นทานคอมมิว นิส ตไ ด, จะเปน สัง คมนิย มที ่ด ีก วา จะปอ งกัน สัง คมนิย มทั ้ง หลายได, ห รื อ เป น ป ระ ช า ธิ ป ไต ย ที ่ ด ี ก ว า คื อ ป ระ ช าธิ ป ไต ย ที ่ ม ี ศ ี ล ธ รรม ก็ จ ะ
www.buddhadassa.in.th
การกลับมาแหงศีลธรรม
๓๑๘
กํ า จั ด โทษอั น เลวร า ยของประชาธิ ป ไตย ที่ กํ า ลั ง ทํ า ลายโลกอยู ใ นเวลา นี้ได. นี่, ไมมีอะไรแยกออกไปไดจากศีลธรรม หรือวาเราไมตองอาศัย ศีลธรรม ; ฉะนั้น ขอใหหันหนาไปสูศีลธรรม ซึ่งในชั้นนี้มีรากฐานอันแรกที่สุด อันเปรียบเหมือนกับแผนดิน เปนที่ตั้งที่อาศัยของตนไม. ....
....
....
....
ทีนี้ รากฐานขอ ที่ ๒ ตน ไมตอ งมีน้ํา . น้ํา เปน ตัว ละลายอาหาร ใหดูด ซึม ขึ้น ไปได และหลอ เลี้ย งความสดชื่น หรือ ความสดของชีวิต นั่น เอง. ตน ไมศ ีล ธรรมตอ งการน้ํ า รดใหส ด และละลายอาหารกิน ได. น้ํ า นั ้น คือ ความไมเปน ทาสทางอายตนะ. ฟง แตเสีย งอาจจะเขา ใจผิด . คํา วา ทาสนี้ ธา-ตุ ก็อา นวา ทาด, ทา-สะ ก็อา นวา ทาด. ในที่นี้เ ราหมายถึง ทา-สะ คือ ทาส บาว ขี้ขา นั้นเรียกวา ทาส ; อยาไปเปนบาว เปนทาส แกอายตนะ.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ถาม : อายตนะคืออะไรละ คุณทอง ?
ตอบ : อายตนะ คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ครับ.
ถาม : นั่นอายตนะขางใน. ตอบ : อายตนะภายนอกคือ รูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ ธัมมาราณ ครับ.
www.buddhadassa.in.th
รากฐานของศีลธรรมอันดับหา
๓๑๙
เพราะฉะนั้นเรามีทางที่จะเปนทาสสิ่งถึง ๑๒ สิ่ง: เปนทาสตา ทาสหู ทาสจมูก ทาสลิ้น ทาสกาย ทาสใจ, เปนทาสรูป ทาสเสียง ทาสกลิ่น ทาสรส ทาสโผฏฐัพพะ ทาสธัมมารมณ ; รวมแลวก็คือเปนทาสของอายตนะที่ทําความ รูสึก ชนิด ที่เราถูก ใจ. เราถูก อกถูก ใจในความรูสึก ที่มีม าทางอายตนะ. เรา เปนทาสของความรูสึก นี่เรียกวา เปนทาสของอายตนะ ; แมวาคํานี้ จะเปน ภาษาบาลีมีมาแตโบราณ. ถาม : เดี๋ยวนี้คนกําลังเปนทาสของอายตนะหรือไม ? คุณประยูรวาอยางไร ? ตอบ : เดี๋ยวนี้คนในโลกสวนมากกําลังตกเปนทาสของอายตนะ พูดใหฟง งาย ๆ ก็คือกําลังตกเปนทาสของวัตถุ เรียกวาพวกวัตถุนิยม ; หรืออีก สํ า นวนหนึ ่ง ก็วา เดี ๋ย วนี ้ค นกํ า ลัง เปน ทาสของเงิน นับ ถือ เงิน เปน พระเจาอยูตลอดไป.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ถาม : รวมทั้งคุณเอง รวมอยูดวยคนหนึ่งหรือเปลา ?
ตอบ : ก็รวมทั้งผมดวยเปนบางครั้งบางคราว, บางคราวก็มีความรูสึก.
ถาม : ยกเวนใครบาง ?
ตอบ : ยกเวนพระอรหันตครับ. ขอใหเขาใจวา ถายังไม เป นพระอรหัน ตอ ยูเพี ยงใด การเปน ทาส อายตนะจะมีอยูตามสัดสวน. ขอแตอยาใหมากเกินไป จนไมรูจักอะไร นอกจาก จะบูชาแตความเอร็ดอรอยทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ เทานั้นเอง.
www.buddhadassa.in.th
๓๒๐
การกลับมาแหงศีลธรรม
ถาม : ถาเราเปนทาสของอายตนะเสียแลว เราจะเปนทาสของพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ ไดไหมคุณ ทอง ? คุณ ชี้แ จงใหเห็น ที หากเราเปน ทาสของอายตนะเสียแลว จะเปนทาสของพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ ไดไหม ? ตอบ : หากวา ตกไปเปน ทาสขออายตนะ ยอ มจะเปน ทาสของพระพุท ธ พระธรรม พระสงฆไมได ; เพราะเหตุวา พระรัต นตรัยนั้น มีคําสอน มีสิ่งเตือนสติ เพื่อที่จะใหยกความคิดเห็นนั้น ใหพนจากกิเลสเหลานั้น อยู แ ลว . การที ่ต กไปเปน ทาสของกิเลสหรือ วัต ถุน ิย มแลว นั ้น ยอ ม จะเปนทาสของพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ ไมไดครับ. พระเยซูไดตรัสไวอยางดีวา คนใชคนเดียวรับใชนาย ๒ คนไมได. พระเยซูก็หมายความอยางนี้ : พอเราเปนทาสของซาตาน มาร หรือกิเลสตัณหา เสีย แลว รับ ใชซ าตานเสีย แลว เราก็รับ ใชพ ระเปน เจา ไมไ ด ; ฉะนั้น บา ว คนเดียวจะรับใชนาย ๒ คน หรือ ๒ ชนิดนั้นไมได.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org อย า งเราเป น ทาสของอายตนะเสี ย แล ว จะเป น ทาสของ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆไมได. ถาเราเปนทาสของพระพุท ธ พระธรรม พระสงฆ เราต อ งเชื่ อ ฟ งท า น เราต อ งปฏิ บั ติ ต ามท า น ; ถ า เราไม เชื่ อ ฟ ง ไม ปฏิบัติตาม เราก็เปนไมได เพราะวาเราไปเปนทาสของอายตนะเสียแลว. ถาม : ลูกเด็ก ๆ ที่มันไมเชื่อฟงพอแมนั่นนะ มันเปนทาสของอะไร หรือมันไม เปนทาสของอะไร ?
www.buddhadassa.in.th
รากฐานของศีลธรรมอันดับหา
๓๒๑
ตอบ : เปนทาสของอายตนะครับ. ถาม : เด็กนักเรียนของคุณทั้งโรงเรียน มันไมเชื่อฟงครู มันเปนทาสของอะไร ? ตอบ : ก็เปนทาสของกิเลส คือ การเลนสนุกสนาน. ถาม : เปนทาสของการเลนสนุกสนาน นี่ไมใชเปนทาสของอายตนะหรือ ? ตอบ : เปนครับ. ถาม : เปนทาสของอายตนะไหนละ ? ตอบ : รูป หรือ เสียง โดยมากครับ.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ถา เปน เรื ่อ งเลน หัว สนุก สนาน ไปสรุป อยู ที ่ใ ชด ีก วา มัน ก็ไ ปจาก ทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ; แตเมื่อเล็งถึงความรูสึกสนุกสนาน และพอใจในความรู สึก สนุก สนาน ไมเ ชื ่อ ฟง ครูบ าอาจารย บิด ามารดา มัน ก็เ ปน ทาสของ อายตนะทางใจมากกวา. ถาม : เดี๋ยวนี้เราชักชวนคนในโลกนี้ ใหพนจากความเปนทาสของอายตนะนี้ คุณเห็นวาพอจะทําไดไหม ? ตอบ : เกือบจะไมคอยเชื่อในความรูสึกวาทําไดครับ.
www.buddhadassa.in.th
๓๒๒
การกลับมาแหงศีลธรรม
ถาม : คุณประยูรละ คิดวาทําไดไหม ? ตอบ : ในระยะนี้ ถาจะทํา จะทําไมใหคนเปนทาสของอายตนะ ก็รูสึกคลาย ๆ กับวา น้ําเชี่ยวเอาเรือไปขวาง. ถาม : คุณล้ําละ วาจะทําไดไหม ? มีทางทําไดไหม ? ตอบ : ผมว ามี ท างทํ าได แ น แต มั น อยู ที่ ก ารปกครองครับ . การปกครองนี่ ทุกระดับ : การปกครองบานเมืองสําคัญที่สุด เพราะทุกวันนี้อยาวา แต เด็ ก นั ก เรีย น แม แ ต ข าราชการยั งไม เอาไหนเลย ทั่ ว ไปเลยส ว น มาก.ทุกแผนกการก็เนื่องมาจากรัฐบาล แมแตเงินผัน โฆษกรัฐบาล ประกาศโครม ๆ วา ไมตองเสียภาษีอากรแมแตสตางค ; แตทุกวันนี้ เวลานี้ทางสรรพากรเขาเรียกเก็บไปแลว กําลังเรียกเก็บอยู. นี่ตางคน ตางก็เพียงแตทําประจบ เพื่อพรรคเพื่อพวก แลวเพื่อกิน เพื่อกาม เพื่อเกียรติ ของหมูคณะที่ทําไป ; ถาอยางนี้แลวยังทําไมได. แตถา การปกครองเรีย บรอ ย แมแ ตจ ะปกครองแบบไหนก็ต าม แตถา นักปกครองไมเห็นแกตัวแลว ทําไดทุกอยางครับ ทําไดทุกอยาง.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org นี่คุณจะเปนนักปกครองมากเกินไปก็ได เพราะวาอายตนะนี้เปนเรื่อง ทางจิต บังคับ กัน ยาก. การบังคับ ทางการปกครองนั้น มัก จะบัง คับ กัน ไดแ ต ทางภายนอก หรือทางกาย ; สวนทางจิต มัน ลึก ซึ้งอยูขางใน แตะตองไมถึง จะตองนึกถึงเรื่องทางภายใน คือทางจิต ; หาวิถีทางอะไรก็ตามที่จะบังคับลึกลงไป ทางจิต ; บัง คับ แตท างภายนอก คงไมไ ด ; มัน เรื่อ งทางจิต . มัน ตอ งเปน เรื่องของการชักชวน การชี้แจงที่ดี ไมหวังพึ่งอํานาจบังคับ.
www.buddhadassa.in.th
รากฐานของศีลธรรมอันดับหา
๓๒๓
เมื่อถามวามันมีทางที่จะเปนไปไดไหม ? ทุกคนก็พอจะรูสึกและมอง เห็นวามันยากที่จะเปนไปได ; แตถึงอยางนั้นเราก็ยังไมยอมแพ, ยังตองพยายาม ตอไป ที่จะชักชวนเพื่อนเกิด แก เจ็บ ตาย ของเราทุกคน ใหเปนผูพยายาม อยางยิ่ง เพื่อ จะบังคับ อายตนะ ; เพราะวาทางออกทางอื่น มันไมมีเสีย แลว , ทางรอดมันมีอยูแตทางนี้ทางเดียว. ถาเราเปนทาสของอายตนะแลว เราก็ไมเปนทาสของความถูกตองได เพราะไปเปนทางของความเอร็ดอรอยเสียแลว ก็ไมยึดถือความผิด ชอบ ดี ชั่ว ; มันเปนอยางนี้. ที่วามันยาก ก็ยาก ; ควรจะเปรียบเหมือนกับวา กลิ้งครกขึ้น ภูเขา ; หรือวา ถายากกวากลิ้งครกขึ้นภูเขา ก็เหมือนกับวา “จูงชางลอดรูเข็ม” อยางนี้เปนตน. ถาม : ถาถึงขนาดจูงชางลอดรูเข็ม คุณยอมแพไหม ?
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ตอบ : ยอมแพครับ ?
อยางนั้น เปนกํานันที่ดีไมได ; ตองตําหนิตอหนาประชาชน ; ยอม แพไมไ ด. คุณ เปน กํา นัน นะ ตอ งเปน กํา นัน ที่ด ี. แมวา มัน จะขนาด จูง ชา ง ลอดรูเข็ม , หรือ สํา นวนพระเยซูวา จูง อูฐ ลอดรูเข็ม ก็พ ยายามตอ ไปเถอะ. ขอใหทุกคนอยายอมแพ แมขนาดที่วา ตองจูงชางลอดรูเข็ม ซึ่งยากกวากลิ้งครก ขึ้นภูเขา.
www.buddhadassa.in.th
๓๒๔
การกลับมาแหงศีลธรรม
เดี๋ ย วนี้ มั น ถึ ง ขนาดนั้ น จริ ง ๆ ; ในโลกนี้ ที่ เราจะไปชั ก ชวนเพื่ อ น มนุษ ยทั ้ง โลก ใหเ อาชนะอายตนะ. อาตมาเองทั ้ง ถูก ลอ ทั ้ง ถูก ดา ทั ้ง ถูก เปรียบเปรย เมื่อพูดประโยคนั้นออกไปวา เราจะเข็นเพื่อนมนุษยของเรา ออกมา เสียจากอํานาจของวัตถุนิยม. คนเห็นดวยก็มี ที่จะเข็นเพื่อนมนุษยของเรา ออกมา เสียจากวัตถุนิยม. แตสวนมากเขาหาวาเปนไปไมได, บางคนก็หาวา พูดอยาง โงเขลา, พูดอยางหลับตาพูด. แตอ าตมาก็ยังยืน ยัน วา “ตอ งพยายามเข็น เพื่อ นมนุษ ยใ นโลกนี้ ออกมาเสี ย จากอํา นาจของวั ต ถุ นิ ย ม” เพราะว า เราเป น เพื่ อ นทุ ก ข เกิ ด แก เจ็บ ตาย ดว ยกัน ทั ้ง หมดทั ้ง สิ ้น ; เราตอ งทํ า หนา ที ่ ที ่ด ีที ่ส ุด สํ า หรับ เพื่อนของเรา. ฉะนั้น จึงขอใหศึกษาวา เรากําลังเปนทาสของอายตนะ คือ เปนทาสของความเอร็ดอรอย, และเปนทาสของเงินซึ่งเปนปจจัย ใหเกิดความ เอร็ดอรอย กันอยูกี่มากนอย.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ถา อยา เปน ทาสของความเอร็ด อรอ ยตามแบบของวัต ถุ มัน ก็ จะหมดปญหา. เดี๋ยวนี้วัตถุยั่วยวนกําลังสะพรั่งกันขึ้นมาในโลก ; เขาขวนขวาย ประดิษฐกันแตสวนนี้ มันจึงหนาแนนขึ้นมาในโลก, จับยึดคนในโลกเปนทาส ของความเอร็ดอรอย ไมมีเวลาสรางจนกระทั่งตาย.
นี ่ เ ราถื อ ว า ความไม เ ป น ทาสของอายตนะนั ้ น เป น ความ สงบเย็น ; ถา เปน ทาสของอายตนะ มัน เปน โทษ ไมใ ชป ระโยชน ; ตอ ง เอาชนะอายตนะ จึง จะเปน ประโยชน. อัน นี้คือ อาหารที่จ ะหลอ เลี้ย งตน ไม ศีลธรรม. ถาใครอยากใหอ าหารแกตนไมศีลธรรม ก็จงชวยกันเลิกความเป น
www.buddhadassa.in.th
รากฐานของศีลธรรมอันดับหา
๓๒๕
ทาสที ่แ ทจ ริง คือ เปน ทาสอายตนะ ; เปน ทาสอยา งอื ่น ไมน า กลัว , เลิก ทาส ตามธรรมดานั ้น จะเปน เรื ่อ งของเด็ก อมมือ ไป. ถา มาพูด ถึง เรื ่อ งเปน ทาส ขอ งกิ เ ล ส เป น ท าส ขอ งอ าย ต น ะนี ้ ให ญ ห ล วงนั ก . เดี ๋ ย วนี ้ กํ า ลั ง เป น ทาสกัน ทั ้ง โลก และก็ยัง ไมม ีใ ครเลิก ได ; แตเ ราก็ย อมแพไ มไ ด ; เพราะโลก ไม ม ี ท า ง รอ ด อ ย า ง อื ่ น . ต อ ง เอ า ช น ะ อ า ย ต น ะ นี ้ ใ ห ไ ด ต า ม สั ด ส ว น ที่ สมควร ; เอาชนะไดห มดก็เ ปน พระอรหัน ต, รอง ๆ ลงมาเปน พระอริย เจา , รอง ๆลงมาก็เปนปุถุชนชั้นดี ; อยาเปนปุถุชนชั้นเลวก็แลวกัน. ....
....
....
....
ถาม : รากฐานที่ ๓ ของตนไมศีลธรรม อันไดแกอาหารนั้น สอบถามความจํา วาไดแกอะไร คุณประยูร ? ตอบ : ไดแกการบังคับความรูสึกของเราเองครับ.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org การบั ง คั บ ความรู ส ึ ก ของเราเอง นี ่ ม ั น เนื ่ อ งกั น กั บ อายตนะ ; ถาจะไมเปนทาสแกอายตนะ เราตองบังคับความรูสึก. เดี๋ยวนี้มนุษยในโลกกลับ หลังหันจากที่เคยเปนมาแตยุคกอน ; ยุคกอนเขานิยมการบังคับความรูสึก, ยุคนี้ ไมบ ัง คับ ความรู ส ึก ; และนิย มการไมบ ัง คับ ความรู ส ึก นี ่แ หละ วา ยิ ่ง ดี ยิ่ง ถูก ตอ ง, ถือ เปน หลัก การศึก ษาในโรงเรีย น คือ ใหนัก เรีย นไมตอ งบัง คับ ความ รูสึก. นักเรียนอยากจะแสดงอะไรออกมา ก็เปนการถูกตอง ; ถาบังคับความรูสึก เขาวาเสียเสรีภาพ เสียอิสรภาพ ไมถูกตองตามหลักของประชาธิปไตย.
อาตมาไม เห็ น ด ว ย ขอแสดงความคั ด ค า นเกิ น ๑๐๐ เปอรเซนต ว า เป น หลั ก การศึ ก ษาที ่ ผ ิ ด ที ่ ส อนลู ก เด็ ก ๆ ไม ใ ห บ ั ง คั บ ความรู ส ึ ก . และขอ
www.buddhadassa.in.th
๓๒๖
การกลับมาแหงศีลธรรม
เปด เผยความรู ส ึก อัน หนึ ่ง ไวใ นที ่นี ้ ตอ หนา ทา นทั ้ง หลายา รู ส ึก เศรา สลดใจ เปนอันมากที่ผลแหงการไมบังคับความรูสึกไดเปนไปอยางไฟลามทุง. เมื่ อ พระบาทสมเด็ จ พระเจ า อยู หั ว ทรงปราศรัย ในวั น ที่ ๔ ธั น วาคม แก ผู ที่ ไปทู ล ถวายพระพรนั่ น ท านทรงปราศรัย ถึ ง ประโยคหนึ่ งวา “ประเทศไทย เดี ๋ย วนี ้เขาไมเรีย ก ไทยแลนดแ ลว เขาเรีย กตายแลนด” ; มีก ารฮาในหมู ค น สัก สองพัน คนเห็น จะได. และเมื ่อ ทา นตรัส ในตอนหลัง ถึง คํ า วา “ฟน ปลอม” ก็มีฮาอีก. คนเหลานั้นไมบังคับความรูสึก เปนผลมาจากการอบรมการไมบั งคับ ความรู ส ึก ; แมใ นเฉพาะพระพัก ตรป ูช นีย บุค คลขณะนั ้น ก็บ ัง คับ ความรูส ึก ไมได. นี่เราโทษการศึกษาที่สอนมาแลว ไมใหบังคับความรูสึก. ในหลวงทานตรัสเพื่อใหเกิดความสลดสังเวช ความจริงใจ ที่จะตอสู ตานทาน ; แลวไปฮาเสีย ; มันก็เลือนหมด เหมือนกับไมไดตรัส.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ขอใหช ว ยเอาไปพิจ ารณาวา ถูก ผิด อยา งไร ? วา โลกกํ า ลัง เดิน ไป ในทางที ่ถ ูก ตอ งหรือ ผิด อยา งไร ในการที ่ไ มบ ัง คับ ความรูส ึก และนิย มการ ที่ไมบังคับความรูสึกมากขึ้นทุกที ๆ.
ขอใหพ อ แมทั ้ง หลายนี ้ไ ปคิด ดู วา จะปลอ ยใหล ูก เด็ก ๆ เขานิย ม ลัท ธิก ารไมบ ัง คับ ความรู ส ึก กัน ตอ ไปอีก หรือ ไม ? ประจัก ษพ ยานอัน นี้ อาตมาทนฟงวิทยุดวยตนเอง, ไดยินเสียงฮาในวิทยุ ก็สงสัยวาวิทยุของเราจะไมดี. สอบถามคนอื่ น ก็ ได ยิ น อย างเดี ยวกั น ว ามี ค นฮา เมื่ อ ในหลวงท านตรัส ถึ งคํ าว า ตายแลนด และฟนปลอม.
www.buddhadassa.in.th
รากฐานของศีลธรรมอันดับหา
๓๒๗
ถาม : ถาเรามีการบังคับความรูสึก อะไรจะเกิดขึ้น คุณล้ํา ? ตอบ : การบังคับความรูสึกมันอยูที่ความอดทนของคนนั้น. ถาม : อะไรจะเกิดขึ้น ? อะไรจะเปนผลเกิดขึ้น ? ตอบ : ถาบังคับความรูสึก ก็ความสงบจะเกิดขึ้น ; ถาเราไมบังคับความรูสึก ก็ฟุงซานไป. ถาม : ความเห็นของคุณทองวาอยางไร ถาเราบังคับความรูสึกอะไรจะเกิดขึ้น ? ตอบ : เฉพาะตั ว ผู นั้ น ความขั ด แย งจะเกิ ด ขึ้ น เฉพาะตั ว ครับ ; คื อ ความ รูสึก ความตองการ ที่อยากจะไดสิ่งนั้น ก็มีความรูสึกขึ้นมา แตอีก อยางหนึ่ง มาระงับยับ ยั้ง ความขัดแยงในสวนตัวบุคคลนั้นจะเกิด ขึ้น.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ถาม : คุณประยูร วาอยางไร ถาเราบังคับความรูสึก อะไรจะเปนผลเกิดขึ้น ?
ตอบ : ถาเรารูจักบังคับความรูสึกแลว ผลที่เกิดขึ้นก็คือสติ และปญญา จะ ตามมาทัน จะทําใหเราทําสิ่งตาง ๆ ถูกตอง ไมเกิดผลเสีย หรือเกิด ความเสียหายขึ้นแกตัวเราเอง.
ถา เราบัง คับ ความรูส ึก ในชั้น แรกจะเปน โอกาสแหง สติสัม ปชัญ ญะ ไดเ กิด ขึ้น มา, และเกิด ขึ้น มาใครค รวญ ; และเราไมผ ลุน ผลัน ทํา ไปตามอํานาจของกิเลส ซึ่งมีแตจะทําในทางผิดเสมอ, แลวยับยั้งการทําอยาง
www.buddhadassa.in.th
๓๒๘
การกลับมาแหงศีลธรรม
ผลุน ผลัน ในทางผิด ; แลว ใหโอกาสแกส ติส ัม ปชัญ ญะ จะใครค รวญดูวา ควร จะทําอยางไร. ที่ เขาชกต อ ยตี รั น ฟ น แทงกั น นั้ น แทบทั้ ง หมดกล า วได ว า เพราะไม บั ง คั บ ความรู ส ึ ก ; ฉะนั ้ น จึ ง เกิ ด อาชญากรรมมาก เพราะการไม บ ั ง คั บ ความรูสึก . ถา บัง คับ ความรูสึก ได อาชญากรรมประเภทนี้จ ะหายไป ; จึง ขอ ใหพิจารณาเถอะวา การบังคับความรูสึกนั่นแหละ เปนทั้งหมดของความรอด. ศาสนาทุก ศาสนาสอนแตเ รื ่อ งบัง คับ ความรู ส ึก โดยเฉพ าะ พุท ธศาสนาแลว ก็ยิ ่ง ยืน ยัน มากถึง ที ่ส ุด วา เราตอ งควบคุม ความรู ส ึก ที ่จ ะ เกิดขึ้น โดยทางอายตนะทั้ง ๖ : ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ; ใหมีสติสัมปชัญญะ ในขณะแห งการสั มผัสกับ อารมณ นั้น ๆ ; อยาให มัน เปน อวิชชาสัม ผัส คือ สัมผั ส กับ อารมณด ว ยความโง ; แตใ หม ัน เปน วิช ชาสัม ผัส คือ สัม ผัส อารมณนั ้น ๆ ดวยความฉลาด. ถาทําอยางนี้เราก็ควบคุมความรูสึกได.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ฉะนั้น เมื่อเกิดความเวทนาขึ้น เราก็ไมหลง : ไมหลงรักที่นารัก, ไมหลง เกลี ย ดที่ น าเกลี ยด ; มั น เป น กลาง เป น ปรกติ อ ยูเสมอ ก็ มี แต ทํ าอะไรถูก . อะไร ไม ต องทํ าก็ ไม ทํ า ; ถามี การทํ าก็ มี แต ทํ าถู ก . การบั งคั บ ความรูสึ ก จึงมี ค าสู งสุด . พ ระพุ ท ธอ งค ไ ด ท รงย้ํ า แล ว ย้ํ า อี ก ที ่ นั ่ น ที ่ นี ่ เต็ ม ไป ในพ ระไต รป ฎ ก คือ การควบคุมตัวเอง บังคับตัวเอง.
www.buddhadassa.in.th
รากฐานของศีลธรรมอันดับหา
๓๒๙
เดี ๋ย วนี ้ โลกเสรีป ระชาธิป ไตย เขาไมบ ัง คับ ความรูส ึก เพราะ เขาถือวา มันเสียเสรีภาพ ; โลกกําลังหันเหไปไกลกี่มากนอย ไปคํานวณดูจาก เหตุนี้. ถาม : ทําไมเราจึงถือวา การบังคับความรูสึกนี้ มีคุณสมบัติพอจะเปรียบกันได กับสิ่งที่เรียกวาอาหารของตนไม คุณประยูรวาซิ ? ตอบ : เพราะวาหนาที่ของอาหารก็คือ หนาที่ทําความเจริญ เติบโตแกตนไม . การบังคับความรูสึกที่เปรียบกับอาหารได ก็หมายความวา ถาเราบังคับ ความรูสึกได ; ศีลธรรมก็จะเจริญเติบโตงอกงามขึ้นมา จากสติปญญา ที่ มี โ อกาสเข า มาตามหลั ง . ถ า เราบั ง คั บ ได ม าก สติ ป ญ ญาก็ จ ะมี โอกาสเกิด ขึ ้น ไดม าก. มัน เปน สัด สว นกัน กับ ความสามารถบัง คับ ความรูสึกได จึงไดเปรียบการบังคับความรูสึกนี้วาเหมือนอาหาร.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ถาม : สรุปใหสั้นที่สุดก็วา เมื่อมีการบังคับความรูสึก มันก็มีแตความถูกตอง ; เห็นดวยไหม ? ถามีการบังคับความรูสึก จะมีแตความถูกตอง ไมมีการ ผิดพลาด ; ขอนี้เห็นดวยไหม ?
ตอบ : ใชครับ.
ฉะนั้น ความถูกตองเทานั้นแหละที่จะเปนอาหารได ; สวนความผิด พลาดมันก็เปนยาพิษเปนอันตราย. เมื่อมีการบังคับความรูสึกทางอายตนะแลว มัน ก็มีแตความถูกตอง ; ความถูกตองก็เปนอาหารหลอเลี้ยงจิตใจก็ได, หลอเลี้ยง ศี ล ธรรมก็ ได ; เช น เดี ย วกั บ ต น ไม มั น ดู ด เอาแต แ รธ าตุ ที่ เป น ประโยชน แ ก มั น .
www.buddhadassa.in.th
การกลับมาแหงศีลธรรม
๓๓๐
มันรูจักเวนไมดูดเอาแรธาตุที่เปนพิษ เปนอันตรายแกมัน ตนไมจึงรอดชีวิตอยูได. ศีลธรรมของมนุษยก็เหมือนกัน มีจิตใจเปนหลัก จะตองใหอาหารที่เปนอาหาร ; อยา ใหเปน ยาพิษ เขา ไป ; จึง ตอ งมีก ารบัง คับ ความรูสึก ที่มัน จะกลั่น กรอง ใหออกมาแตความถูกตอง ซึ่งเปนอาหารของจิตใจ หรือศีลธรรมนั้นได ; ฉะนั้น มันจึงปองกันโลภะ โทสะ โมหะ ไดอีกตามเคย. ....
....
....
....
ทีนี้ รากฐานที่ ๔ แสงสวาง, ลองไมมีแสงสวางในโลกนี้ ตนไม ก็มีไ มไ ด, สัต วก็มีไ มไ ด. แสงสวา งเปน ปจ จัย สํา คัญ อยา งที่ม นุษ ยไ มคอ ย ใหความเปนธรรม ฉะนั้น ขอใหศึกษาแมในแงของวัตถุธรรม คือทางวัตถุวา แสงแดดนี ่ เ ป น สิ ่ ง จํา เป น ต อ ชี วิ ต . เมื ่ อ เห็ น แล ว ก็ จ ะเห็ น ว า แสงแดด แหงพระธรรม ก็จําเปนแกจิตใจในแงของศีลธรรม อยางเดียวกัน.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ถาม : แสงแดดทางวิญญาณ ทางธรรมนั้นไดแกอะไร ?
ตอบ : ไดแกปญญาอันถูกตอง ที่เรียกวา ยถาภูตสัมมัปปญญา.
นี่ก็ยังจําไดดี, ปญ ญาเปนแสงสวาง. ในแงของพระธรรมทางจิต ทางวิญญาณ ตองมีแสงสวางคือปญญา ตนไมแหงศีลธรรมจึงจะเจริญงอกงาม เหมือนกับตนไมธรรมดาไดแสงแดด. เราจะมีปญญาไดอยางไร ก็ไปศึกษากัน เปนพิเศษ มันเปนรายละเอียดมาก ; วันนี้พูดเพียงวา ปญญา ก็พอแลว. [ ตอไปนี้ เริ่มการบรรยายโดยหัวขอแหงครั้งนี้ ]
www.buddhadassa.in.th
รากฐานของศีลธรรมอันดับหา
๓๓๑
ทีนี้มาถึง รากฐานที่ ๕ คืออุณหภูมิ, ซึ่งจะพูดตอไป. ตน ไมแ มมีแ สงแดดแลว มัน ก็ยัง ไมพ อ ; มัน ตอ งมีอุณ หภูม ิที่ พอเหมาะ ไมเย็น เกิน ไป ไมรอ นเกิน ไป. อุณ หภูมิอ ยางไรพอเหมาะสํา หรับ พืชพันธุทั้งหลายจะยังคงมีอยูในโลก ก็ตองมีอุณหภูมิอยางนั้น. หรือวาเพราะมี อุณหภูมิอยางนั้น ขนาดนั้น ; พืชพันธุพฤกษาชาติทั้งหลาย จึงตั้งตนมีขึ้นมา ในโลก. ตนไมศีลธรรมก็เหมือนกัน จะตองมีอุณหภูมิที่พอเหมาะพอดี. ถาม : ฉะนั้น เอาธรรมะอะไรชื่ออะไร มาเปนอุณหภูมิสําหรับหลอเลี้ยงตนไม แหงศีลธรรม คุณประยูร ใหวาคําเดียว เอาธรรมะขอไหน ? ตอบ : เอาขอมัตตัญุตา. ถาม : มัตตัญุตา ความรูประมาณ ; เอา, คุณทอง ?
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ตอบ : ศรัทธาหรือความเชื่อ ครับ.
ถาม : เอา, คุณล้ํา ?
ตอบ : พรหมวิหาร ๔ เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา. เอาพรหมวิห าร เมตตา กรุณ า มุทิต า อุเบกขา ใหเปน อุณ หภูมิ เพื่ อ ความดํา รงอยู แ ห ง ต น ไม ท างศี ล ธรรม ถู ก ทั้ ง นั้ น . มั น ได ทั้ ง นั้ น แหละ,
www.buddhadassa.in.th
การกลับมาแหงศีลธรรม
๓๓๒
ธรรมะมันเนื่องกัน ในสวนความหมายในภายใน. แตถาจะระบุใหเปนชื่อออก มาตรง ๆ อาตมามีความเห็นพองกับคุณทอง วาอยากจะเล็งมุงไปยังสิ่งที่เรียกวา ศรั ท ธา. เราต อ งมี ศ รั ท ธาความเชื่ อ ความมั่ น ใจ เป น เหตุ ใ ห มี กํา ลั ง ในการกระทํา. ....
....
....
....
มาพูด ถึง ศรัท ธา กัน ตามสมควรแกเ วลา : ศรัท ธา แปลวา ความเชื่อ ; ในพระบาลีจะมาคูกับ คําวา ปสันนา ซึ่งแปลวา ความเลื่อมใส, หรือ ปสาทะ ความเลื่อ มใส. ศรัท ธาปสาทะ ถา เปน บุค คล ก็เปน ศรัท ธาปสันนา คือผูมีความเชื่อ ความเลื่อมใส. ถาม : ถาเชื่อแลว จะเลื่อมใส หรือไมเลื่อมใส ?
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ตอบ : ถาเชื่อแลวเลื่อมใส ครับ.
ถาม : เพราะฉะนั้น จึงมาคูกันได ; ถาเชื่อแลวก็เลื่อมใส ; จะเลื่อมใสโดยไม เชื่อไดไหม ? ตอบ : ไมได ครับ.
ถาม : คุณทอง วาไดไหม เลื่อมใสโดยไมเชื่อ ? ตอบ : ไมไดครับ.
www.buddhadassa.in.th
รากฐานของศีลธรรมอันดับหา
๓๓๓
ถาม : ไมแนใจหรือ ? คุณล้ําละ ? ตอบ : ไดครับ เชื่อโดยหลง ๆ. เลื่ อ มใสโดยไม เชื่ อ ; แต ถ า หลงมั น เชื่ อ ; ความเชื่ อ มั น จึ ง มาก อ น ความเลื ่อ มใส. ความเชื ่อ นี ่ มัน จึง มีไ ดทั ้ง หลง, และไมห ลง ; แตเ ราก็ต อ ง เอาความเชื่ อ ชนิ ด ที่ ไ ม ห ลง. แต ข อให ดู ใ ห ดี ว า ความเชื่ อ อย า งหลงนี่ ถ า มั น บั ง เอิ ญ , ชาวบ า นว า ฟลุ ก , บั ง เอิ ญ ไปตรงกั บ เรื่ อ งที่ ถู ก ต อ ง มั น ก็ มี ป ระโยชน เหมือนกัน ; แตไมถูกตรงตามเรื่องของศรัทธา. ความงมงายอย างบั งเอิ ญ เท านั้ น แหละ ไปตรงกั น เข ากั บ ข อ เท็ จจริง ที ่ม ัน จะมีป ระโยชนไ ด แลว ถือ ตาม ๆ กัน ไป. เพราะฉะนั ้น เราจะตอ งแบง ชั ้น ของศรัท ธาใหเ ปน หลายชั ้น อยา งนอ ย ๒ - ๓ ชั ้น วา ศรัท ธาของผู ที ่ม ีก าร ศึก ษานอ ย ก็ม ีอ ยา งหนึ ่ง , มีก ารศึก ษามาก ก็ไ ปอยา งหนึ ่ง , ศรัท ธาของ ผู ที ่ย ัง มีต ัว ตน ยัง ยึด มั ่น ถือ มั ่น อะไรอยู มัน ก็ม ีไ ปอีก รูป หนึ ่ง , ศรัท ธาของ ผู ที ่ไ มย ึด มั ่น ถือ มั ่น ไมม ีต ัว ตน ไมง มงาย มัน ก็ไ ปอีก แบบหนึ ่ง ; มัน มี หลายแบบ.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org เพราะฉะนั ้น ศรัท ธาแบบที ่ต าม ๆ กัน ไป มัน ก็ม ี ชว ยไมไ ด, มัน ตอ งมี ; เพราะมนุษ ยจ ะเชื ่อ ตัว เองเสมอ. เมื ่อ ไปพบอะไรเขา เปน ที ่พ อใจ เขาก็เชื่อ นี้ก็เรียกวา ศรัทธาเหมือนกัน ; แตเสี่ยงมาก ยากที่จะไปพบ หรือบังเอิญ ไปตรงกัน เขา กับ สิ ่ง ที ่ถ ูก ตอ ง และมีป ระโยชน. ฉะนั ้น จึง แบง บุค คลเปน ๒ พวก : ที่ มี การศึ กษามากและถูก ต อ ง ไม มี ค วามงมงาย, และไม มี ก ารศึ ก ษา หรือมีการศึกษานอย มีความงมงาย.
www.buddhadassa.in.th
๓๓๔
การกลับมาแหงศีลธรรม
แตถึงอยางไรก็ดี ยังมีตรงกลาง ๆ นั้นอีกหลายระดับ เพราะมันยาก ที่วา เราจะมีความงมงายโดยสวนเดียว, หรือไมมีความงมงายโดยสวนเดียว ; ฉะนั้ น เพื่ อ ประโยชน แก ค วามปลอดภั ย ต อ งมี สิ่ งที่ เรีย กวา การศึ ก ษา หรือ ปญญา ที่เต็มที่ ที่เรียกวา ยถาภูตสัมมัปปญญา มาชวย. ในขอที่แลวมา แสงสวางสําหรับตนไม คือ ยถาภูตสัมมัปปญญา อยูแลว, มียถาภูตสัมมัปปญญาเปนแสงสวางสวางอยูแลว ; ฉะนั้น ยถาภูตสัม มัป ปญ ญานี ่จ ะมาทํ า อุณ หภูม ิใ หพ อเหมาะพอดี. ดัง นั ้น ศรัท ธาจึง ตอ ง อาศัย ปญ ญาเปน เครื่อ งทํา ความพอเหมาะพอดีใ หแ กศ รัท ธานั้น . เมื่อ เรา มียถาภูตสัมมัปปญญานํามาแลว ก็ไมตองกลัว ; ศรัทธาจะเปนไปอยางถูกตอง ตามหลัก ของพุท ธศาสนา ที่วา “ศรัท ธาตอ งถูก นํ า โดยปญ ญา รวมกัน เขา เปนสัมมาทิฏฐิ”. สัมมาทิฏฐินั้นคือ ความเชื่อหรือศรัทธาที่นําไปโดยปญญา. ทีนี้ พูดถึง ศรัทธาที่งมงาย ในหมูคนที่มีการศึกษานอย.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ในหมูคนที่มีสัญชาตญาณ แหงการยึดมั่นถือมั่นตัวตนมาก เขาก็ตอง เชื่อวา มีตัวมีตนไปกอน ; ฉะนั้น เราอยาไปโทษ อยาไปปรับเขาเลย วาเขา ไม รู เขาเป น คนโง เขามี ค วามผิ ด ในเรื่อ งนี้ ; ให เขามี ตั วตนไปก อ น ให เขามี ความรู ทําตัวตนใหประพฤติอยางถูกตองก็แลวกัน ; จะมีการกระทําถูกตอ ง และไดรับ ผลของการกระทํา ถูก ตอ ง เพื่อ ความมีตัว ตนที่ตั้ง ไวดี สงวนไวดี คุมครองไวดี. นี ่ค ือ ห ลัก ทั ่ว ไป สํ า ห รับ ค น ระดับ พื ้น ฐาน คือ ยัง ไมใ ช อริยบุคคล ตองมีตัวมีตน จึงตองมีระบบศีลธรรมที่วา ผูมีตัวตนนั้น จะตอ ง
www.buddhadassa.in.th
รากฐานของศีลธรรมอันดับหา
๓๓๕
ประพฤติ ป ฏิ บั ติ อ ย า งไร ; ท า นจึ ง ให มี ห ลั ก สํา หรั บ เชื่ อ สํา หรั บ ยึ ด ถื อ : ยึดถือ พระพุท ธเจา, ยึดถือการตรัสรูของพระพุท ธเจา, เชื่อ กรรม เชื่อ วิบาก, เชื่ออะไรตาง ๆ อยางผูมีตัวตน. นี่คือ ศรัทธาที่ค นธรรมดาสามัญ หรือ ปุถุช น จะตองมี ตองเชื่อกรรม เชื่อผลกรรม เชื่อความที่ตนจะตองเปนผูที่ตองรับผลกรรม โดยแนน อน, เชื่อ การตรัส รูข องพระพุท ธเจา . แมเ ชื่อ พระพุท ธเจา นี้ก็ยัง ไม ตรงตามหลักที่พระพุทธเจาทานตรัสไววา ใหเชื่อตัวเอง ; แตเมื่อเขายังไมอาจ จะเชื่ อ ตั ว เอง จะทํา อย า งไร ? ก็ เ ชื่ อ ผู ที่ ค วรเชื่ อ ไปก อ น ; เพราะฉะนั้ น เราจึง เชื่อ พระพุท ธ เชื่อ พระธรรม เชื่อ พระสงฆ ตามแบบฉบับ ที่ว างไวดี ; ก็มีการคิดถูก ทําถูก พูดถูก. ทีนี้ คําวา “ถูก” นี้ อยาลืมวา ตองมีความหมายวา พอดี ; ที่คุณ ประยู รใชคํ าวา ความรูความพอดี นั้ น มั น ก็ ถู กแล ว. พุ ท ธศาสนามี ห ลั ก อยู ที่ ความพอดี ใชคํา อีก คํา หนึ่ง ก็วา ตรงกลาง. พุท ธศาสนาไมซา ย ไมข วา, ไมเล็งในแงดี ไมเล็งในแงราย, ไมเล็งในแงปฏิเสธ ไมเล็งในแงรับ, ไมเล็งใน สวนสุด โตง ฝายโนน หรือฝายนี้ ; แตอ ยูต รงกลาง. ฉะนั้น พระพุท ธศาสนา ถาพูดอยางการเมืองก็ไมมีซาย ไมมีขวา มีแตความถูกตองที่อยูตรงกลาง, สูงสุด ขึ้นไปถึงวา เราจะไมพูดวาเรามีอยู หรือเราไมมีอยู. นี่เปนศรัทธาขั้นสูงสุดแลว อยูเหนือกรรมแลว ชั่วก็ไมตองการ ดีก็ไมตองการ ; แตอยูเหนือชั่วเหนือดีไปเสีย เลย มันเปนชั้นสูงสุด ยังไมพูดก็ได ; แตถามีคนสนใจในระดับสูงสุด ก็ไปศึกษา ได.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ศรัท ธาอยา งโลกิย ศรัท ธา ก็เ ชื่อ อยา งมีตัว ตน ; ถา เปน อยา ง โลกุต ตรศรัท ธา พน จากความเปน ศรัท ธา ถึง ความเปน ปญ ญา มองเห็น ความไม มี ตั ว ตนแล ว , ป ญ ญารู สึ ก อย า งไร มั น ก็ มี ค วามเชื่ อ อย า งนั้ น เอง
www.buddhadassa.in.th
๓๓๖
การกลับมาแหงศีลธรรม
โดยอัตโนมัติ. ศรัทธานั้นก็ไดกลายเปนความรูสึกของปญญาไปเสีย ไมเปนเพียง ศรัท ธาที ่เชื ่อ หรือ อิง อยู ใ นสิ ่ง ใดสิ ่ง หนึ ่ง . ธรรมดาคนเราก็จ ะตอ งเชื ่อ ไปตาม ความรูสึกแหงภูมิ หรือชั้นแหงจิตใจของตน. ถาม : คุณประยูร ลองทายดูซิ มันจะมีสักกี่ชั้น, สิ่งที่เปนที่ตั้งแหงความ เชื่อ ? ตอบ : สิ่งที่เปนที่ตั้งแหงความเชื่อมีประมาณราวสัก ๓ ชั้น. ถาม : อะไรบาง ? ตอบ : ๑. ชั้นที่ยังมีตัวตนในทางโลก. ถาม : ยังไมตรงความหมาย ไมตรงคําถาม ; ถามวาวัตถุที่เปนที่ตั้งแหงความเชื่อ ถามีเปนชั้น ๆ จะมีสักกี่ชั้น คืออะไรบาง คุณทอง ?
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ตอบ : ผมยังนึกไมออกครับ.
คุณล้ํา ก็ยังนึกไมออก. เทาที่อาตมานึกออกวาที่ตั้งแหงความเชื่อควร จะมีส ัก ๓ ชั ้น ฟง ใหด ี : วัต ถุศ ัก ดิ ์ส ิท ธิ ์ ชั ้น หนึ ่ง , พิธ ีร ีต อง, หรือ การ ก ร ะ ทํ า ที ่ เ นื ่ อ ง ด ว ย สิ ่ ง ศั ก ดิ ์ ส ิ ท ธิ ์ , แ ล ว ก็ บ ุ ค ค ล ศั ก ดิ ์ ส ิ ท ธิ ์ . สํ า ห รั บ พระรัต นตรัย จะเรีย กวาศัก ดิ์สิท ธิ์ หรือ ไมศัก ดิ์สิท ธิ์ ก็แลวแตคุณ ; ใครอยาก จะเรีย กว า ศั ก ดิ์ สิ ท ธิ์ ก็ ศั ก ดิ์ สิ ท ธิ์ . แต ค วามรูสึ ก ของอาตมานี่ ถื อ ว าเหนื อ ความ ศักดิ์สิทธิ์ไปเสียอีก ; สําหรับพระรัตนตรัยตองถือวาสูงไปกวาศักดิ์สิทธิ์.
www.buddhadassa.in.th
รากฐานของศีลธรรมอันดับหา
๓๓๗
วัต ถุศ ัก ดิ ์ส ิท ธิ ์ ก็เ หมือ นที ่ถ ือ ๆ กัน อยู นั ่น นี ่ โนน ที ่เ ปน วัต ถุ ศัก ดิ์สิท ธิ์ ; พิธีก รรมศัก ดิ์สิท ธิ์ คือ พิธีก รรมตา ง ๆ ที่เ กี่ย วกับ วัต ถุศัก ดิ์สิท ธิ์ นั้น ๆ ; บุค คลศัก ดิ์สิท ธิ์ แลว แตเขาจะสมมติใ ครใหมัน ศัก ดิ์สิท ธิ์. พิธีก รรม ตาง ๆ ที่เนื่องดวยบุคคลนั้น ๆ มีทางที่จะงมงายไดดวยกัน ทั้งวัตถุศักดิ์สิทธิ์และ บุคคลศักดิ์สิทธิ์. แตถา พระรัตนตรัยแลว ไมมีทางที่จะงมงายไดเลย จะตอง เรียกวา ศักดิ์สิทธิ์แทจริง หรือพนจากความศักดิ์สิทธิ์ไปเสียอีก. ....
....
....
....
ศรัท ธา ในเวลานี้ม องดูไ ปทั่ว ๆ โลกแลว เขามีใ นวัต ถุศัก ดิ์สิท ธิ์ กันพวกหนึ่ง จนถึงกับลืมพระรัตนตรัยก็มี, และบางพวกก็ในบุคคลศักดิ์สิทธิ์ เอาเสียจนลืมสิ่งอื่นเลย ก็คือลืมพระรัตนตรัยอีกนั่นแหละ. พุ ท ธบริ ษ ั ท เราก็ ม ี พ ระพุ ท ธ พระธรรม พระสงฆ มาแล ว ตั้งแตบรรพบุรุษ ในสายเลือด, พอคลอดออกมา ก็มีการใหยึดถือพระรัตนตรัย ดวยศรัทธานั้น เปนเครื่องรับประกันไวกอน. ควรจะขอบพระคุณบรรพบุรุษที่ได เลือ กสิ่ง นี ้ไวใ หเรา ทั ้ง ที ่เรายัง ไมรูจัก , แลว เราก็ไ ปทํา เอง ใหเขา ใจใหรูจัก พระรัตนตรัย.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org สว นวัต ถุศ ัก ดิ ์ส ิท ธิ์นั ้น ตอ งดูก ัน กอ นวา มัน เนื ่อ งดว ยอะไร ; ถาเนื่องดวยความงมงาย ก็เปนสิ่งที่ตองละ. มีสิ่งที่เรียกวา สีลัพพัตตปรามาส ยึดถือในวัตถุหรือในบุคคล ในฐานะเปนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ปราศจากเหตุผล เปนไปใน ทางศักดิ์สิทธิ์ ; กระทั่งการถือโชคลาง. แตทีนี้มันมีวัตถุศักดิ์สิทธิ์อีกชนิดหนึ่ง
www.buddhadassa.in.th
๓๓๘
การกลับมาแหงศีลธรรม
ที่เนื่องมาจากพระรัตนตรัย. ระวังใหดี ; ถามีวัตถุอะไรที่เนื่องมาจากพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ มาตั้งอยูในฐานะเปนวัตถุศักดิ์สิทธิ์แลว เราตองเขาใจให ถูกตอง ; เชน พระพุทธรูปเปนตน. ถา เราเขา ใจพระพุท ธรูป ผิด จะกลายเปน วัต ถุศัก ดิ์สิท ธิ์อ ยา ง งมงาย ; ถาเราเขาใจพระพุทธรูปถูกตอง ก็จะกลายเปนวัตถุศักดิ์สิทธิ์ ที่จะเปน ประโยชนอยางยิ่งได จนกวาจะพนความจําเปนที่จะตองมีสิ่งนี้. ฉะนั้น วัตถุศักดิ์สิทธิ์ จะตองแยกกันเปน ๒ พวก : พวก งมงาย และไมงมงาย. บุคคลศักดิ์สิทธิ์ ก็เหมือนกัน ; ที่งมงายก็อ ยางที่เขาเรียกกัน ว า สมมติ คนนั่ น เป น นั้ น คนนี่ เ ป น นี่ คนนี้ เ ป น นี่ นี่ มั น งมงาย ; แต ถ า มีคุณสมบัติ พอสําหรับจะศักดิ์สิทธิ์ คือบันดาลสิ่งที่เปนประโยชนใหแกบุคคลได, ก็เปนบุคคลที่ศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งมีประโยชน.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ที นี ้ ส ว น พระรั ต นตรั ย แท นั ้ น เป น ธรรมะทั ้ ง นั ้ น ไม ม ี ต ั ว บุค คล ; พระพุท ธเจา ที ่แ ทจ ริง ไมใ ชบ ุค คล. พระองคต รัส วา ผู ใ ดเห็น ธรรม ผูนั้น เห็น เรา ; ผูใ ดเห็น ปฏิจ จสมุป บาท ผูนั ้น เห็น ธรรม ; ผูใ ดเห็น ธรรมผูนั ้น เห็น เรา ; คือ เห็น ความจริง เกี่ย วกับ ความดับ ทุก ข เรีย กวา เห็น ธรรม, ที่วา “ผูใดเห็นธรรม ผูนั้นเห็นเรา”. พระธรรม ก็คือ ธรรม นั่นแหละ, พระสงฆ ก็คือผูที่มีจิตใจอยางเดียวกับพระพุทธเจานั่นแหละ ; ความหมายก็คือมี ตัวธรรมนั่นเอง ไป ๆ มา ๆ มารวมอยูที่คําวา ธรรม เพียงคําเดียว.
www.buddhadassa.in.th
รากฐานของศีลธรรมอันดับหา
๓๓๙
สิ ่ง ที ่เ ปน ที ่ตั ้ง แหง ความเชื ่อ ความเลื ่อ มใส ก็ค ือ พ ระธรรม แยกตั ว ออกเป น พระพุ ท ธ พระธรรม พระสงฆ ๓ อย า ง. ถ า รวมกั น เข า ก็ เป น อยา งเดีย วคือ พระธรรม จะเรีย กวา ศัก ดิ ์ส ิท ธิ์ก ็ได ; แตม ัน สูง สุด ของศัก ดิ ์ส ิท ธิ์ จนเกินศักดิ์สิทธิ์ เหนือคําพูดธรรมดา.
เราเชื่ อ ในวั ต ถุ ศั ก ดิ์ สิ ท ธิ์ ก็ ไ ด แต ข อให วั ต ถุ นั้ น เนื่ อ งด ว ยสิ่ ง ที่ เ ป น ธรรม. ฟง ถูก ไหมคุณ ทอง ? แขวนพระเครื่อ งทํ า ไม ? ถา เรา มีวัต ถุศ ัก ดิ ์ส ิท ธิ์ ก็ ข อ ใ ห ว ั ต ถุ นั ้ น เนื ่ อ ง ด ว ย ธ ร ร ม , ถ า เร า มี บ ุ ค ค ล ศั ก ดิ ์ ส ิ ท ธิ ์ ก็ ข อ ใ ห บุคคลนั้นเนื่องดวยธรรม. ถาเราจะขามพนไป ก็ไปยังตัวธรรม. ธ รรม ที ่ แ ท จ ริ ง ก็ ค ื อ พ ระ พุ ท ธ พ ระ ธ รรม พ ระ ส ง ฆ อ ยู ใ น ตัว ธรรมที ่แ ทจ ริง ; ปลงศรัท ธา ปลอ ยศรัท ธา วางศรัท ธาลงไปในธรรมนั ้น ไม ต อ งมี เ หลื อ ไม ต อ งขยั ก ไว . แต ถ า ไม ใ ช ใ นธรรม หรื อ ในสิ ่ ง แท จ ริ ง นี้ จะตองขยักไวบาง เผื่อมันผิด ; เพราะวาศรัทธาของเรายังไมไดมีปญ ญาสมบูรณ มั น อ าจจะงม งายก็ ไ ด . ฉ ะนั ้ น ใน ขั ้ น แรก ๆ นี ้ จึ ง ต อ งใช ก าล าม สู ต ร ๑๐ ประการ อยางที่ไดวาใหฟงแลว ; ไปดูเอาเอง.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org มี ศ รั ท ธาที่ ถู ก ต อ ง, ประกอบด ว ยป ญ ญา ก็ จ ะเรี ย กได ว า ศรั ท ธาปสั น นา. ที นี้ ถ างมงายก็ เรีย ก มุ ทุ ป สั น นา -ความเชื่ อ ความเลื่ อ มใสที่ เป น มุ ทุ . มุท ุ แปลวา ออ น ออ นเปย ก, มีม ุท ุป สัน นา นี ้เ ขาวา อยา งไร เชื ่อ หมด ; เป น เหตุ ใ ห ภ ิ ก ษุ อ ั น ธพ าล ห ล อ ก ล วงท ายกท ายิ ก าจนสิ ้ น เนื ้ อ ป ระด าตั ว เพราะวาทายก ทายิกา นั้นมีแตมุทุปสันนา – ศรัทธา ความเชื่อ ความเลื่อมใส ที่มัน ออนเกินไป.
www.buddhadassa.in.th
การกลับมาแหงศีลธรรม
๓๔๐
เรื่อ งอยางนี้ มั น มี ม าแล วแต ค รั้งพุ ท ธกาล เพราะเราเคยอาน พบใน พระบาลี ว า ภิ ก ษุ อ ลั ช ชี ไปหลอกลวงสตรีผู มี มุ ทุ ป สั น นา ให ทํ า บุ ญ ด ว ยเมถุ น ; อยางนี้เปนตน. โทษของมุทุปสันนาเปนอยางนั้น มีมาแลวตั้งแตครั้งพุทธกาล ; และก็ย ัง คงมีจ นถึง บัด นี ้ ที ่ท ายก ทายิก า ผู ม ีม ุท ุป สัน นา จะถูก หลอกลวง ตลอดไป ; จึงตองกันออกไป ไมอยูในคําวา ศรัทธา ไมอาจจะหลอเลี้ยงตนไม แหงศีลธรรมได. ถ า มี ศ รั ท ธาที ่ ป ระกอบไปด ว ยป ญ ญาถู ก ต อ ง ตามหลั ก เกณฑ ที่วา มาแลว ก็ไ มมีชอ งทางที่อ วิช ชา หรือ โมหะจะเขา มาครอบงํา ได ; ฉะนั้น ขอให ทุ กคนสะสาง สอบสวน ศรัท ธาของตนไวเสมอไป เพื่ อ วาศรัทธาที่ แท จะ เป น เหมื อ นอุ ณ หภู มิ คื อ ความรอ นที่ พอเหมาะพอดี ในระดั บ กลาง สํ า หรับ หล อ เลี้ ย งต น ไม ศี ล ธรรม, แล ว ศี ล ธรรมก็ จ ะเจริ ญ งอกงามเป น ที่ พึ่ ง แก เราได . ....
....
....
....
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ถาม : ถามีศรัทธาถูกตองตามหลักของพระพุทธศาสนา จะจํากัดโลภะไดอยางไร ? คุณ ล้ํา , ถามคุณ ดีก วา ถา มีศ รัท ธาอยา งถูก ตอ งในพระพุท ธศาสนา จะกําจัดโลภะไดอยางไร ?
ตอบ : จะกําจัดโลภะได โดยเหตุที่วา เรามีความเชื่อที่ถูกตองตามความเปน จริง แลวโลภะมันจะไมเกิด. ถาม : ทายกคนหนึ่ง ทําบุญทําทาน ปรารถนาวิมาน ๒ - ๓ หลัง เรียกวา โลภะไหม ?
www.buddhadassa.in.th
รากฐานของศีลธรรมอันดับหา
๓๔๑
ตอบ : โลภะ ครับ ถาม : การทําบุญของทายกคนนั้น เรียกวาทําดวยศรัทธาหรือเปลา ? ตอบ : ความจริงเขามีศรัทธา แตศรัทธาชนิดที่เรียกวา มุทุปสันนา. ถาม : นั่ น แหละ, ต อ งแบ ง แยกไว เ สมอ. ฉะนั้ น คนทํ า บุ ญ บาทหนึ่ ง จะเอา วิ ม านหลั ง หนึ่ ง เขาก็ มี ศ รั ท ธาตามความเชื่ อ ในแบบนั้ น ; ว า ทํ า บุ ญ บาทหนึ่ ง จะได วิ ม านหลั ง หนึ่ ง ; แล ว ความรู สึ ก นั้ น เป น ความโลภหรื อ ไม ? ตอบ : เปนความโลภ ครับ. ถาม : ศรัทธาชนิดนั้น กําจัดความโลภหรือไม ? คุณก็ตอบไดเอง. ถามีศรัทธา ถู ก ต อ ง คื อ อาศั ย ป ญ ญาแล ว จะพอดี พอเหมาะพอดี ; ก็ เ กิ ด ศี ล ธรรม มี บุ ญ อย างถู ก ต อ งตามแบบของศี ล ธรรม ไม มี อั น ตรายและกํ าจั ด โลภะได . ทีนี้ศรัทธาจะกําจัด โทสะ หรือ โกธะ ไดหรือไม, คุณประยูร ?
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ตอบ : ถ า ศ รั ท ธาพ อ ดี ห รื อ ศ รั ท ธาป ระกอบ ด วยป ญ ญ าแล ว ย อ ม กํ า จั ด โทสะ ไดแ นน อน ; เพราะวา ศรัท ธาถา ถูก ตอ งพอดี จะประกอบ ดว ย ธ รรม . ถา ป ระ ก อ บ ดว ย ธ รรม ป ระ ก อ บ ดว ย ค ว าม ถูก ตอ ง แลวคนเราจะโกรธไปไมได.
ถาม : อธิ บ ายเหมา ๆ เกิ น ไป. ยกตั ว อย า งง า ย ๆ ลู ก เด็ ก ๆ มี ศ รั ท ธาอย า งไร ? กําจัดโทสะ โกธะ ไดอยางไร ?
www.buddhadassa.in.th
๓๔๒
การกลับมาแหงศีลธรรม
ตอบ : ถ า อย า งเด็ ก ๆ สมมติ ว า เขามี ศ รั ท ธา หรื อ เชื่ อ เชื่ อ ฟ ง ในตั ว พ อ แม ที ่ ถ ู ก ต อ ง แล ว ก็ เ ชื ่ อ โดยถู ก ต อ ง ; เขาก็ จ ะไม ม ี ก ารทะเลาะกั น ในระหวา งพี ่น อ ง เปน ตน วา พอ แมไ ดส อนวา ใหรัก ใครร ะหวา ง พี่นอง เปนตน. ถาม : ทีนี้ สูงขึ้นมาถึงทายก ทายิกา คนแกวัดแกวาทั้งหลาย มีศรัทธาแลวจะ กําจัดโทสะหรือโกธะไดอยางไร ? ตอบ : ทีนี้ พอสูงขึ้นมาถึงทายก ทายิกา ถาศรัทธากลายเปนศรัทธาที่ถูกตอง ศรั ท ธาต อ พระรั ต นตรั ย ก็ จ ะรู ห ลั ก ธรรมว า ความโกรธนั้ น มั น เกิ ด มา จากไหนอยา งไร, สาเหตุข องการโกรธ เปน ตน วา กิเลส เปน สาเหตุ ที่ทํ า ใหโ กรธ รูโ ทษของความโกรธ มัน จะรูแ ละเชื่อ ไปในทางถูก ตอ ง. ก็โกรธไมลง.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ยัง ออ มคอ มนัก ยัง เปน ทายก ทายิก า ที ่ไ มส มบูร ณแ บบ. ถา เขา มี ศ รั ท ธาในพระพุ ท ธ พ ระธรรม พ ระส งฆ เขาละอาย ; พ อจะโกรธ เทา นั ้น ก็ล ะอาย ไมต อ งโกรธ. พอโกรธ เขาละอาย ไมรู จ ะเอาหนา ไปไว ไหน. การมี ศ รัท ธากั น ตามแบบพระพุ ท ธศาสนา ที่ ก ล าวไวในพระบาลี จะเป น อยางนี้ เขาโกรธไมได เขาละอาย, เขามีหิริโอตตัปปะ. ถาม : มีศรัทธาแลวกําจัดโมหะไหม ? ไดอยางไร คุณทอง ? ศรัทธากําจัด โมหะ ปองกันโมหะไดอยางไร คุณทอง ? ตอบ : ศรัทธาประกอบดวยปญญา ที่เรียกวา ยถาภูตสัมมัปปญญา ยอมรูเห็น ตามเปนจริงในสิ่งนั้น ๆ แลวโมหะเกิดไมได.
www.buddhadassa.in.th
รากฐานของศีลธรรมอันดับหา
๓๔๓
นั ่น แหละมัน มาจากอโมหะ, ศรัท ธาชนิด นั ้น มาจากอโมหะ ซึ ่ง เปน ยถาภูต สัม มัป ปญ ญา. ทีนี ้ เดี ๋ย วนี ้ ที ่เราพูด กัน อยู ทั ่ว บา นทั ่ว เมือ งวา ศรัทธา, ศรัทธา ; นี่ไมไดมาจากอโมหะ. แตมันมาจากโมหะ เสียเปนสวนมาก มัน จึงกําจัด โมหะไมได ; เพราะมัน มาจากโมหะเสียเอง. ฉะนั้น เมื่อ เราพูด กัน วา ศรัท ธากํา จัด โลภะ โทสะ โมหะ ได, ตอ งเปน ศรัท ธาอยา งถูก ตอ ง ตามหลักของพระพุทธศาสนา กลาวคือ ออกมาจาก “ยถาภูตสัมมัปปญญา”. ศรั ท ธาชนิ ด นี ้ เ ป น อาหารหล อ เลี้ ย งศี ล ธรรมในโลก ; โลกกํา ลั ง ไม มี ศีลธรรม เพราะเขาไมมีศรัทธาอยางนี้. พวกที่ถือพระเจา ก็ไปเปนทาสของอายตนะเสียแลว ; เขากลาพูดวา พระเจาตายแลว. ฝรั่งที่มาที่นี่หลายตอหลายคน พูดวาพระเจาตายแลว. ถาม วาคุณถือศาสนาอะไร ? เขาวา ขาพเจาไมไดถือศาสนาอะไร. เลนกับพวกนี้ซิ. ก็ไมรูจะไปจดศรัทธาที่ไหน มันไมมีอะไรเปน ที่ตั้ง ; ในที่สุดก็ตองถือ พระเจา เงินตรา หรือพระเจาฮิตาชิ ในเรื่องที่เคยเลาใหฟง. เขาถือฮิตาชิ เพราะเขาทํางาน กับบริษัทฮิตาชิ เขาก็มีฮิตาชิเปนพระเจา และเปนที่ตั้งแหงศรัทธา.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org เอาละ, เปนอันวา เรามีศรัทธาใหถูกตอง. ขอรองใหทานทั้งหลาย ชํา ระชะล า ง สะสาง สอบสวน สิ่ ง ที่ เ รี ย กว า ศรั ท ธากั น เสี ย ใหม จงทุ ก คนเถิด ; จะไดเปนปจจัยเกื้อกูลแกตนไมศีลธรรม เชนเดียวกับอุณหภูมิเกื้อกูล แกความงอกงามของพฤกษาชาติทั้งหลาย. ....
....
....
....
www.buddhadassa.in.th
๓๔๔
การกลับมาแหงศีลธรรม
ทบทวนอีก ทีห นึ ่ง วา ตน ไม ทางศีล ธรรมตอ งอาศัย แผน ดิน คือ ธัม มสัจ จะ ที ่ฝ ง แนน อยู ใ นใจวา “สัต วทั ้ง หลายเปน เพื ่อ นทุก ข เกิด แก เจ็บ ตาย ดวยกันทั้งหมดทั้งสิ้น”. ต น ไม ศี ล ธรรมต อ ง อาศั ย น้ํ า , น้ํ า ในที่ นี้ คื อ ความไม เป น ทาสของ อายตนะ ; มันไมเปนกิเลส มันไมรอน น้ําเปนของเย็น หลอเลี้ยงความสดชื่น. ต น ไม ศ ี ล ธรรม อาศั ย อาหาร คื อ การบั ง คั บ ความรู ส ึ ก ให อ ยู ในอํ า นาจของเรา ใหเ ราชนะความรูส ึก . มัน จะเปน อาหารหลอ เลี ้ย งจิต ใจ ใหเจริญดวยศีลธรรม. ตน ไมศ ีล ธรรม อาศัย แสงสวา ง คือ ยถาภูต สัม มัป ปญ ญ า ; ดัง เชน ตน ไมไ ดแ สงแดด ปรุง อาหารได ไดก ิน ไดเ จริญ งอกงามเติบ โตได, สรางของเขียวอะไร, ที่ใชใหเปนประโยชนได.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ตน ไมแ หง ศีล ธรรมตอ งอาศัย อุณ หภูม ิที ่พ อเหมาะ พอดี คือ มี ศรัทธาที่ถูกตองตามหลักของมัชฌิมาปฏิปทาในพระพุทธศาสนา.
เป น อั น ว า หลั ก การแห งการกลั บ มาของศี ล ธรรม ที่ เราได พิ จ ารณา กั น โดยเฉพาะเจาะจงถึ ง รากฐานของต น ไม ท างศี ล ธรรมนี้ อย า งน อ ยก็ มี ป จ จั ย อยู๕ ประการ ; สําคัญ อยูที่ราก หรือที่โคน ดังไดวิสัชนา วิพากย วิจารณ กันมา พอสมควรแล ว ก็ น ั บ ว า เป น สมควรแก เ วลาในวั น นี ้ . ขอให นํ า ไปพิ จ ารณา ใชใหเปนประโยชนแกทานทั้งหลาย ทุกคนเถิด.
ขอยุติการบรรยาย ; ใหพระสงฆทั้งหลายทานสวดสาธยายบทพระธรรม อันเปนเครื่องสงเสริมกําลังใจ ในการประพฤติศีลธรรมสืบตอไป ณ กาลบัดนี้.
www.buddhadassa.in.th
การกลับมาแหงศีลธรรม - ๙ ๒๗ มีนาคม ๒๕๑๙
ตน ลํา แหงศีลธรรม [ สุปฏิปตติ ]
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ทานสาธุชน ผูมีความสนใจในธรรม ทั้งหลาย,
การบรรยายประจํ า วั น เสาร ภ าคมาฆบู ช า เป น ครั้ ง ที่ ๙ ในวั น นี้ อาตมาก็ ยั ง คงกล า วโดยหั ว ข อ ใหญ ว า การกลั บ มาแห ง ศี ล ธรรม ต อ ไป ตามเดิ ม ; และจะได บ รรยายโดยหั ว ข อ ปลี ก ย อ ยเฉพาะวั น นี้ ถึ ง สิ่ ง ที่ เรียกวา ตน ลํา แหงศีลธรรม. เราไดพ ูด กัน ถึง สิ ่ง ที ่เ รีย กวา รากฐานแหง สิ่ง ที ่เ รีย กวา ศีล ธรรม โดยรายละเอียดมาเปนการเพียงพอแลว ; โดยเฉพาะอยางยิ่ง เพียงพอที่จะใหรู
๓๔๕
www.buddhadassa.in.th
๓๔๖
การกลับมาแหงศีลธรรม
วาเรากําลังขาดรากฐานแหงศีลธรรมโดยประการทั้งปวง ก็วาได ; ในวันนี้จึง ควรจะกลาวถึงสิ่งที่ถัดไป คือ ตัวตนลําแหงศีลธรรม นั่นเอง. [ทบทวนขอความครั้งที่แลวมา ไปจนถึงหนา ๓๕๘ ]
ทําไมเราตองพูดกันถึงการกลับมาแหงศีลธรรม ? ทานที่ไมเคยฟงมา ตั้ง แตค รั้ง แรก ๆ ก็ค งจะยัง ไมเ ขา ใจก็เ ปน ได ; ดัง นั้น จึง อยากจะทบทวน หรือ ขอย้ํา อยูเสมอวา ตอ งมีก ารกลับ มาแหงศีล ธรรม, และจะตอ งพยายาม อยา งยิ ่ง เพื ่อ การกลับ มาแหง ศีล ธรรม อยา งที ่เ ขาเรีย กกัน โดยศัพ ทส มัย ปจ จุบัน นี้วา การรณรงค คือ การขวนขวายตอ สูปอ งกัน ทุก อยางทุก วิถีท าง เพื่อใหเกิดสิ่งที่เราตองการ. เดี๋ยวนี้ เราก็ ตองการการกลับมาแหงศีลธรรม ; เราก็ตองทําทุก อยางในลักษณะที่เรียกวา เปนการรณรงค ตอสูกับอุปสรรคทั้งที่เปนบุคคล หรือ ไมใชบุคคล เชน กิเลส เปนตน ใหประสบความสําเร็จ. และการบบรรยายชุดนี้ ก็มีความมุงหมายใหเปนการรณรงคตอสูอยูในตัวมันเอง ตอตานสิ่งที่มิใชศีลธรรม ;ชักชวนสงเสริมที่เรียกวา ศีลธรรม.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ทําไมเราจึงตองทําอยางนี้ ? คําตอบก็งายนิดเดียววา เวลานี้กําลัง เป น เวลาที ่ ไ ร ศ ี ล ธรรม บางคนก็ ไ ม เ ชื่ อ ; เพราะไม รู จั ก ว า ศี ล ธรรมนั ้ น คือ อยา งไร, เลยไมรูจัก กระทั่งถึง วา เราจะตอ งมีศีล ธรรม. ภาวะปจ จุบัน นี้ เปน ภาวะที่ป ราศจากศีล ธรรม ; สภาพการณที่เ ลวรา ยตา ง ๆ ก็มีม ากขึ้น ตามความไมม ีศ ีล ธรรม. ศีล ธรรม คือ ภาวะปรกติ หรือ ความสงบสุข อนุ โลมตามหลั ก เกณฑ ของธรรมชาติ ; เมื่ อ ไม มี ศี ลธรรมก็ เกิ ด ภาวะที่ วุนวาย ระส่ําระสาย ซึ่งเราเรียกกันวา วิกฤติกาล
www.buddhadassa.in.th
ตนลําแหงศีลธรรม
๓๔๗
คําแปลก ๆ ใหม ๆ เหลานี้ จําไวบ างก็ยังดี เพราะวามั นเป นการ ประหยัดเวลา ไมตองใชคําพูดหลายคํา ก็รูไดวา หมายถึงอะไร ; เชน คําวา รณรงค หรือ วิกฤติกาล อะไรอยางนี้, คําสั้น ๆ แตมีความหมายมากควรจะ จํากันไวพูด เพื่อประหยัดเวลา. เดี ๋ ย วนี ้ เป น วิ ก ฤติ ก ารทางศี ล ธรรม, คื อ ศี ล ธรรมไม ม ี หรื อ ศีลธรรมถูกกระทบกระเทือนจนไมมี ; เปนยุคที่วา ศีลธรรมเหลืออยูนอยมาก จัดเปนกลียุค ซึ่งเดี๋ยวนี้มันก็ยิ่งเหลือนอยมากลงไปอีกทุกวัน ๆ จนจะมีผลคือ ความวิน าศของมนุษ ย. ถา จะปลอ ยใหภ าวะไรศีล ธรรมเปน ไปโดยทํา นองนี้ เรื ่อ ย ๆ ไป มัน ก็ถ ึง วัน หนึ ่ง แน ซึ ่ง ความวิน าศของมนุษ ย หรือ จะเรีย กวา ความพายแพของมนุษยก็ได. มนุษยไมไดวินาศเพราะเหตุอยางอื่น เชนเรื่องทาง การเมื อ ง เป น ต น ; แต ม นุ ษ ย จะวิ น าศโดยแท จ ริ ง เพราะความไม มี ศีลธรรม. ขอใหนึกถึงสวนนี้เปนเบื้องหนา.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org เพื่ อ ให เ ข า ใจง า ยขึ้ น ก็ ค วรจะมองถอยหลั ง ไปดู ว า ภาวะไร ศี ล ธรรมนี้ มั น ตั้ ง ต น ขึ้ น มาอย า งไร ? หรื อ ว า ศี ล ธรรมมั น ค อ ยเสื่ อ มลงไป ทีละเล็กละนอยนั้น มันเพราะเหตุอะไร ? เรื่องนี้ก็ไดพูดกันมามากแลว สรุปเอาแต ใจความก็คือ วา สิ่ง เอร็ด อรอ ย สนุก สนาน ที่ทํา ใหเ กิด ความเห็น แกตัว นั้น มัน ไดเ ริ่ม เกิด ขึ ้น มาในโลก และขยายตัว ยิ ่ง ขึ ้น ทุก ที ; กระทั ่ง มีก ารผลิต อยางมากมาย เพื่อความเปนอยูชนิดเอร็ดอรอย สนุกสนานสะดวกสบาย ซึ่งมัน ลวนแตเพิ่มความเห็นแกตัว
www.buddhadassa.in.th
๓๔๘
การกลับมาแหงศีลธรรม
สิ ่ง ที ่เ ปน ตน เหตุอ ัน แทจ ริง ก็ม ีเ พีย งสิ ่ง เดีย ว คือ ความเห็น แก ต ั ว .. ความเห็ น แก ต ั ว มากขึ ้ น เท า ไร ศี ล ธรรมก็ จ ะลดน อ ยถอยลง ไปเทา นั้น ; เพราะวา ความเห็น แกตัว ทํา ใหอ ะไร ผิด ไปจากที่ค วรจะทํา ตาม กฎเกณฑของธรรมชาติ ; แตมัน ทํา ไปตามกฎเกณฑข องกิเลส หรือ ความเห็น แกตัว. เมื่อมนุษยยังไมเจริญ ความเห็นแกตัวก็มีนอย และสิ่งทั้งหลายในโลก มันก็ยังมีอยูมาก พอที่มนุษยนั้นไมตองดิ้นรนขวนขวายอะไร เพราะคนมันก็ยัง มีน อ ย. พอความเจริญ มีขึ ้น รู จ ัก กิน ดีอ ยู ด ีม ากขึ ้น ติด ในรสอรอ ยของความ เจริญ นั ้น แลว ; จิต ใจของคนก็เ ริ ่ม เปลี ่ย นแปลง คือ เห็น แกต ัว มากขึ ้น เพราะความเอร็ดอรอยนั้นเปนเหตุ. ถา จะพูด กัน ตามภาษาพุท ธศาสนา หรือ ที ่ พระพุท ธเจา ทา น ใชต รัส มากที่สุด ก็ก ลา วไดวา เพราะสิ่ง สิ่ง เดีย ว คือ ผัส สะ, ผัส สะหมาย ถึง การกระทบ การถูก ตอ งของอายตนะ คือ ตากับ รูป หูก ับ เสีย ง จมูก กับ กลิ ่น ลิ ้น กับ รส ผิว หนัง กับ สิ ่ง ที ่ม าสัม ผัส ผิว หนัง และก็ใ จกับ สิ ่ง ที ่ม ารูส ึก ขึ ้น ทางใจ มีดว ยกัน ๖ คู. การกระทบกัน ระหวางสิ่งขา งนอกและขา งใน นี่เรีย ก วา “ผัส สะ” ; คํ า วา ผัส สะคํ า เดีย ว อธิบ ายไดทั ้ง เรื่อ งของโลก ๆ และเรื่อ ง ของธรรม.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ผัสสะ เปนปญ หาอันแรกที่สุดของมนุษย เพราะวาคนตองอยูดวย ผัส สะ และตอ งเปน ไปอยา งถูก ตอ ง ; พอเกิด ผิด ขึ้น มา มัน ก็ส รา งปญ หา. พอมนุ ษ ย รู จั ก เอร็ ด อร อ ยเพิ่ ม ขึ้ น หมายความว า ความเปลี่ ย นแปลงทาง
www.buddhadassa.in.th
ตนลําแหงศีลธรรม
๓๔๙
ผั ส สะมั น ก็ เกิ ด ขึ้ น คื อ อยากจะมี ให ม ากยิ่ ง ๆ ขึ้ น ไป ; คนจึ ง เปลี่ ย นแปลงมา ตามลําดับยุคสมัย จะเปนเวลากี่หมื่นป กี่พันป กี่รอยปมานี้ ก็ตาม มันเปลี่ยน ไมม ีห ยุด ; เพราะความตอ งการในทางผัส สะนั ้น มัน เปลี ่ย น: อยากจะกิน อยางนั้น อยากจะอยูอยางนี้ อยากจะนุงหมอยางโนน มันก็เปลี่ยน ๆ ๆ. ที่นี้ ก็ตองดูวามันเปลี่ยนไปทางไหน ? มันเปลี่ยนในทางที่วา จะมี ศีลธรรม หรือเปลี่ยนไปในทางที่จะไรศีลธรรม ? มันจะเปนดวยเหตุใด ก็อยา ตอ งอธิบ ายใหม ากนัก เลย. มองเห็น ชัด อยูแ ลว วา มัน เปลี่ย นไปในทางที่ เห็น แกตัว : ทุก คนเห็น แกตัว , ทุก คนเห็น แกค วามสนุก สนาน เอร็ด อรอ ย ของตัว , มัน ก็เ ปลี่ย นแตใ นทางที่จ ะใหไ ดสิ่ง นั้น เพื่อ ตัว โดยไมตอ งคํา นึง ถึง ผูอื่น. นี้เรียกวา เปนมาตามธรรมชาติแหงกิเลส. ทีนี้ สิ่งที่จะเรงใหเร็วเขาก็คือ มนุษยมีความรูขยายตัวเพิ่มออกไป ในทางประดิษ ฐสิ ่ง ที ่ไ มเคยมี ใหม ีขึ ้น มา: ; ที ่ไ มยั ่ว ยวนกิเ ลส ก็ใ หยั ่ว ยวน กิเลสขึ้นมา, ที่ไมยั่วยวนกิเลสนัก ก็ใหยั่วยวนกิเลสยิ่งขึ้น ; ฉะนั้น ในโลกนี้ จึง เกิด สิ่ง ที่ยั่ว ยวนกิเ ลสสูง สุด . เมื่อ คนบัง คับ ความรูสึก ไวไ มไ ด ก็ไ ปหลง ในสิ่งตาง ๆเหลานี้ ; ก็เลยไมตองคํานึงวา อะไรผิด อะไรถูก อะไรมีศีลธรรม หรือไมมีศีลธรรม, เอาแตจะใหไดตามที่ตัวเองตองการ ; แลวก็มีการตอสูกันเปน การใหญ ในระหวางบุคคล หรือสังคม หรือหมูคณะ เพื่อใหไดตามที่ตัวเองตองการ ; อางอยางนั้น อางอยางนี้ อางอยางนูน ซึ่งเปนความเท็จทั้งนั้น : วาเพื่อความ ยุ ต ิ ธ รรมบ า ง, เพื ่ อ สั น ติ ส ุ ข บ า ง, จึ ง ได ต อ สู ดิ ้ น รนอย า งนั ้ น อย า งนี ้ ; แตที ่แ ทแ ลว มัน เพื ่อ ความเห็น แกต ัว ของตัว ที ่จ ะใหไ ดด ี มีอ ะไรตามที่ กิเลสของตัวตองการ
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org
www.buddhadassa.in.th
๓๕๐
การกลับมาแหงศีลธรรม
ฉะนั้น ผูที่ช อบอา งสัน ติภ าพ สัน ติสุข ขึ้น มาบัง หนา นั้น ควร จะคิด กัน เสีย ใหม ; เพราะคนเขารูเทา ทัน กัน ขึ้น มากแลว , และตัวเองก็ค วร จะรูจัก กิเลสของตัว เองใหม ากขึ้น กวา แตกอ น. ถา เปน ไดด ัง นี ้ ก็ม ีท างที ่จ ะ ยอนกลับไปหาความมีศีลธรรม. นี่คื อ ขอ เท็ จจริง ที่ มั น ไดมี อ ยูจริง ตลอดเวลาอัน ยื ด ยาวมาจนถึ ง กระทั่งทุกวันนี้. เมื ่อ กอ น มนุษ ยเ กือ บจะไมม ีค วามเห็น แกต ัว ; เปน ไปตาม ธรรมชาติ. จงดูในสัตวเดรัจฉานที่ยังคงมีอยูในบัดนี้ ไมไดเห็นแกตัวอะไรมาก มายนัก กินอิ่มก็พอแลว, ไมมีความคิดที่จะทําลายผูอื่น หรือแผนการณที่จะ ลม ลา งผูอื่น , และไมมีส ติปญ ญาที่จ ะประดิษ ฐสิ่งสวยงาม เอร็ด อรอ ยขึ้น มา มอมเมาตัวเอง. สัต วเดรัจฉานจึงมีค วามเห็นแกตัวนอ ย อยูกัน อยางเงีย บ ๆ งาย ๆ ผาสุกตามประสาเดรัจฉาน. สวนที่เรียกวาคนหรือมนุษย นั้น วิ่งไปไกล อยางที่วามาแลว มันจึงมีความเห็นแกตัวสูงสุด อยางที่เทียบกันไมได.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org นี่ปญ หาของมนุษ ยจึงมีมาก ชนิด ที่ถาสัต วเดรัจฉานมันมองเห็น และมัน พูด ได มัน ก็จ ะหัว เราะเยาะ. เดี๋ย วนี้เ ราก็ย กไวใ หแ ตพ วกผี ปศ าจ นั่นแหละ ที่พอจะหัวเราะเยาะมนุษยได ; เพราะมันเปนคนที่ตายไปแลว มีสติ ปญญาพอที่จะหัวเราะเยาะคนที่อยูขางหลัง วามันชางทําอะไรที่ไมนาทํา คือทํา เพื่อทําลายความสงบสุขของตนเอง.
www.buddhadassa.in.th
ตนลําแหงศีลธรรม
๓๕๑
การที่อุปมาอยางนี้ ก็เพื่อจะฟงงาย ๆ เขาใจงาย ๆ และจําไวไดงาย ๆ วาเรามนุษยนี่กําลังทําสิ่งที่ใหผีหัวเราะเยาะ ; มีความสงบสุขนอยกวาสัตวเดรัจฉาน เพราะมีค วามเห็น แกตัว มาก. คํา พูด อยา งนี้ มิไ ดห มายความวา จะตอ งการ ใหไ ปเปน สัต วเ ดรัจ ฉาน ; แตต อ งการใหเ ทีย บดู วา กิเ ลสนั ้น มัน เกิด ขึ้น มา ไดอยางไรในสิ่งที่มีชีวิต ; เมื่อมีกิเลสมากแลว มันมีผลอะไรเกิดขึ้น. ถ า มี ส ติ ป ญ ญ า ห รื อ ค ว าม รู ไ ม ท ั ด เที ย ม กั น กั บ กิ เ ล ส แ ล ว ก็จ ะตอ งมีค วามทุก ขโ ดยสว นเดีย ว ; ถา เรากา วหนา ในทางของความสุข จากกิเลสตัณหามากเทาไร ก็ตองมีสติปญญาทัดเทียมกัน จึงจะแกปญหาเหลานี้ได. ฉะนั้น ในโลกปจจุบันนี้ หมายความวาเรามีความกาวหนาทางวัตถุเทาไร ก็จะตอง มีค วามรูท างธรรมใหท ัด เทีย มกัน ; เพื ่อ จะควบคุม ความกา วหนา ทางวัต ถุนั ้น อยาใหเปนพิษ เปนโทษ เปนอันตรายขึ้นมาไดนั่นเอง. เดี๋ยวนี้ เพราะความกาวหนาในทางจิตใจ หรือทางธรรมะมีไมพอ ; สว น ความกา วหนา ทางวัต ถุม ากเกิน ไป, โลกจึง มีส ภาพอยา งนี ้ คือ มีแ ต คนที่ ห ลงไหล ในความเอร็ด อรอ ย สนุ ก สนาน สวยงาม สรวลเสเฮฮา ถื อ สิ่ ง เหลานี้เปนสรณะ แลวก็หลงจนถึงขนาดที่ฆาฟนกันเพื่อไดสิ่งเหลานี้.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org เปน อัน วา นี ้เปน เครื่อ งที ่ชี้ใหเห็น อยา งเพีย งพอแลว วา สภาพอัน เลวรา ย มัน มีอ ยู ใ นโลกนี ้ ในเวลานี ้ ในปจ จุบ ัน นี ้ เปน อยา งไร. แมใ นสว น บุ ค คลแท ๆ ก็ ม ี ว ิ ก ฤติ ก ารณ , ระหว า งสั ง คมกั บ สั ง คม ก็ ม ี ว ิ ก ฤติ ก ารณ , จนตลอดทั ้ง โลกมัน ก็เ ต็ม ไปดว ยวิก ฤติก ารณ ; ทํ า สิ ่ง ที ่ไ มจํ า เปน ตอ งทํ า มากขึ้น ไมไ ดตอ งการความสงบสุข ; แตตอ งการความสุข ชนิด ที่เ ปน เรื่อ ง
www.buddhadassa.in.th
๓๕๒
การกลับมาแหงศีลธรรม
ของกิเลส ซึ่งโดยที่แทแลวก็เปนเพียงความเพลิดเพลิน ; ไมรูจักแยกความหมาย ของคําวา เพลิด เพลินนั้นออกไป จากความหมายของคําวา สุข สงบ, แลวก็ ไปหลงเอาความเพลิด เพลิน นั่น แหละมาเปน ความสุข ; ตอ งการความสุข ; ที ่ แ ท ก ็ ค ื อ ต อ งการความเพลิ ด เพลิ น ; เลยพู ด กั น ไม รู เ รื่ อ ง สอนศี ล ธรรม กันไมรูเรื่อง เพราะใชคําพูดที่มีความหมายตางกัน แตวาเปนคําคําเดียวกัน. ขอให ช ว ยสั ง เกตข อ นี้ ไว ด ว ย ว า เรากํ า ลั ง พู ด กั น ไม รูเรื่อ ง ก็ เพราะ ภาษาเปนตนเหตุ คือภาษาของคนที่หลงในความเพลิดเพลิน นี้มันมีอยูระบบหนึ่ง ; และภาษาของคนที่ไมหลงในความเพลิดเพลินเหลานั้น มันก็มีอยูอีกระบบหนึ่ง ; แต โดยเหตุ ที่ ใช คํ าพู ด ปนกั น ไป ก็ เลยทํ าให เข าใจกั น ไม ได : ทั้ ง ๒ ฝ า ยบอกว า ตอ งการความสงบสุข ; แต แลวก็ทํ ากัน อยางตรงกันขาม ทั้ง ๆ ที่ วาตองการสิ่ ง เดียวกัน แตทําไปในลักษณะที่ตรงกันขาม. ขอใหไปคิดดูใหดี. ทีนี้ มาดูถึงสิ่งที่ควรจะดู หรือควรที่จะหยิบขึ้นมาพิจารณา วาโลกนี้ มี ค วามเลวรายทางศี ล ธรรมอย างนี้ จะต อ งทํ า กั น อย า งไร ? ถ า ต อ งการความ สงบสุข มัน ตอ งเปน ชนิด ไหน ? ทา นทั้ง หลายอาจจะนึก อยูใ นใจแลว ก็ไ ดวา “เราจะตอ งถอยหลัง เขา คลอง” ; แตวา คนไมช อบคํ า วา ถอยหลัง เขา คลอง ; เขาตองการใหมีของแปลกของใหมรุดไปขางหนา, นี่มันก็พูดกันไมรูเรื่องในขอนี้.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org สว นอาตมานั ้น ยืน ยัน วา เราตอ งถอยหลัง เขา คลอง ในแบบ หนึ่ง คือ ถอยหลัง ไปหาศีล ธรรม ซึ่ง เปน อยูอ ยา งปรกติ, เปน อยูอ ยา งมีค วาม เห็น แกตัวนอย, ซึ่งไดเคยพู ดมาแลวหลายครั้งหลายหน วาศีลธรรมเป นตัวแท ของธรรมชาติ อั น บริสุ ท ธิ์ , ธรรมชาติ ล ว น ๆ ธรรมชาติ อั น บริสุ ท ธิ์ อ ยู ด ว ยความ
www.buddhadassa.in.th
ตนลําแหงศีลธรรม
๓๕๓
ปรกติ สงบสุข ; ขอให ยังคงความหมายอันนี้ไวให ได. ถาเราอยากจะขยับขยาย อะไรออกไปบ าง เพื่ อความสะดวกสบาย ก็ตองคงความหมายเดิม คือปรกติและ สงบสุขไวใหได. อยา เห็น แกค วามสะดวกสบาย สนุก สนาน แลว สูญ เสีย ความ เป น ปรกติ ; ถ า สู ญ เสี ย ความปรกติ ก็ ห มายความว า ความทุ ก ข ย ากลํ า บาก ระส่ํา ระสายทางจิต จะเกิด ขึ้น อยา งที ่ห ลีก เลี่ย งไมไ ด แลว ความสะดวกสบาย นั้นมันจะมีประโยชนอะไร. ศี ล ธ ร ร ม ต อ ง เ ป น ค ว า ม ป ร ก ติ ส ุ ข ต า ม ห ลั ก เ ก ณ ฑ ข อ ง ธรรมชาติ ; ถา มนุษ ยต อ งการความเปน มนุษ ย ก็ยิ ่ง ตอ งอาศัย ศีล ธรรม. ถาไมตองการความเปนมนุษยก็ตามใจไมไมใครวา ; แตถาตองการความเปนมนุษย ถูกตองตามความหมายของคําวา มนุษยแลว ก็ไมมีอื่น นอกจากจะตองยึดหลักของ ศีลธรรมไวใหไดนั่นเอง.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ม นุ ษ ย ต อ ง ทํ า ใ น สิ ่ ง ที ่ เ รี ย ก ว า ศี ล ธ ร ร ม ; ไ ม อ ย า ง นั ้ น ก็ จ ะ หมดความเปนมนุษ ย ไมมีอะไรที่นาดู. มนุษยไดเคยทํามาแลว และตองกระทํา ตอ ไป ; แต นี่ ม นุษ ยเคยทํ ามาแลว แล วก็ละเสีย และก็ไม อยากจะทําอีก ป ญ หา มั น ก็ เกิ ด ขึ้ น คื อ จะไม มี ค วามสงบสุ ข หรื อ ไม มี ศี ล ธรรม. ศี ล ธรรมนี้ เป น ความ ปรกติ เมื่อไมทําความปรกติ มันก็ตองวุนวาย ตองเดือดรอนระส่ําระสาย. มนุษย สมัยหนึ่งจึงยึดมั่นในเรื่องของศีลธรรม ก็เปนยุคที่เรียกวามีศีลธรรม นาเลื่อมใส ; ตอมาก็เปลี่ยนแปลงไป.
www.buddhadassa.in.th
๓๕๔
การกลับมาแหงศีลธรรม
ม นุ ษ ย ย ุ ค นี ้ จ ะ ต อ ง เรี ย ก ว า มี โ ช ค ร า ย เพ ร า ะ ว า ม า ช ว น กั น เหยีย บย่ํ า ศีล ธรรมโดยไมรู ส ึก ตัว และก็ผ ลิต สิ ่ง ที ่เ ปน ขา ศึก แกศ ีล ธรรมขึ ้น มา มากมายเกินไป จนเรียกไดวามันเต็มไปดวยอบายมุข ; ที่พ ระพุ ท ธเจาท านตรัส สรุป ไว โดยหัวขอ ที่วา ดื่ม น้ําเมา เที่ย วกลางคืน ดูก ารเลน เลน การพนัน คบคนชั่ ว เป น มิ ต ร เกี ย จคร า นทํ า การงาน ; แม มี หั ว ข อ เพี ย ง ๖ ข อ แต ร าย ละเอี ย ดแจกลู ก ออกไปได เป น สิ บ ๆ เป น ร อ ย ๆ ที เดี ย ว ; ไม มี ช อ งทางแห ง ความ เลวรายอะไรนอกไปจากอบายมุขเหลานี้. ขอใหด ูก ัน ในขอ นี ้ใ หม ากเปน พิเ ศษ วา ทํ า ไมเราจึง ไปหลงชอบ และผลิต สิ ่ง ซึ ่ง เปน อบายมุข ขึ ้น มา, และพรอ มกัน นั ้น ก็จ ะตะโกนหาความ สงบสุข. ถาผี หั วเราะมั นก็ หั วเราะในขอที่ วา มั นเป นคนบ า เกิ นกวาที่ จะเรียกวา บา ; ตอ งการความสงบสุข แตผ ลิต สรา งสิ ่ง ที ่เ ปน ขา ศึก แกค วามสงบสุข . คนบ า ก็ ยั ง ไม ทํ า อย า งนั้ น ; นอกจากจะเป น คนบ า ที่ เกิ น ธรรมดาเท า นั้ น : บ า ไป ยิ่ ง กว า คนบ า ; และก็ ไม มี ใครมาว า เรา เพราะว า เราทุ ก คนนั้ น เป น อย า งนี้ กั น เสี ย เองทั ้ง หมด แลว ใครจะมาวา ใคร, แลว ใครจะมาตัก เตือ นใคร ; ในที ่ส ุด มัน ก็ ต อ งจมลงไปในอบาย. คํ า ว า “อบาย” แปลว า หาความสงบสุ ข ไม ไ ด , ก็ตองจมลงไปในอบายยิ่งขึ้นทุกที.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org เดี๋ ย วนี้ การผลิ ต ทางอบายมุ ข มั น ก า วหน า และวิ่ งเร็ว จี๋ ที เดี ย ว. ขอให เที ย บดู กั บ ระยะเวลาแต เพี ย งว า ๕๐ ป ม านี้ มั น ก็ ไม ม ากเหมื อ นเดี๋ ย วนี้ ; ยิ่ งวั น นี้ หรือ พรุง นี ้ ก็จ ะยิ ่ง มากจะยิ ่ง เร็ว ยิ ่ง ขึ ้น ไปอีก สํ า หรับ การผลิต ทางอบายมุข .
www.buddhadassa.in.th
ตนลําแหงศีลธรรม
๓๕๕
เราจะทํ า อยา งไรดี ? อาตมาจึง พูด วา ถา เห็น แกค วามสงบสุข ไมต อ งการ ความวินาศแลวก็ชวยกันเถิด ใหมีการกลับมาแหงศีลธรรม. นี่คือขอปรารภ และขอที่ตองขอทบทวนกันอยูเปนประจํา ใครจะเบื่อ ก็ตามใจ อาตมาเบื่อไมได ไมรูสึกเบื่อในการที่จะพูดถึงการกลับมาแหงศีลธรรม ; ฉะนั้น จึงตั้งความพยายามในการชี้แจง วิพากยวิจารณ ใหเปนที่เขาใจแจมแจง ในเรื่องของศีลธรรมมาหลายเวลาแลว. การบรรยายเปนชุด ๆ เรื่องศีลธรรมนี้ มีม าอยางนอ ยก็ ๕ ชุด ทั้งชุด นี้, ชุด หนึ่ง ก็ห ลาย ๆ ครั้ง ยัง จะตอ งพูด กัน ตอ ไปอีก. ใครจะวาบาก็ตามใจ รูสึกวาไมมีสิ่งอื่นที่จะควรทํานอกจากเรื่องนี้. ....
....
....
....
ทีนี้ การบรรยายในครั้งที่แลว ๆ มา เราพูดกันถึงเรื่องรากฐานของ ศีลธรรม ที่จะตองมีในสายเลือดของคน ติดมาจากบิดามารดาที่มีศีลธรรม ; แลวก็ตอ งมีศีล ธรรมอยูในการศึกษาอบรมลูก เด็ก ๆ ใหเขาไดรับ ความรูเรื่อ ง ศีลธรรมเพียงพอ และตองใหมีศีลธรรมอยูในการดํารงชีวิตของทุกคน จนกระทั้ง ตายเขาโลงไป, ใหมันตายลงไปดวยภาวะของความมีศีลธรรม.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ขอทบทวนอี ก ที ห นึ ่ ง ว า ศี ล ธรรมนั ้ น ต อ งมี ใ นสายเลื อ ดที ่ ต ิ ด มาจากบิ ด ามารดา เป น ข อ แรก, และศี ล ธรรมนั้ น ต อ งมี ใ นการศึ ก ษา การอบรมลูกเด็ก ๆ ใหเขาลืมตา และเจริญขึ้นมาดวยสิ่งที่เรียกวา ศีลธรรม, ใหเขา มี ศี ล ธรรมอยู ที่ ก าย วาจา ใจ ตลอดไป จนกว า จะถึ ง วั น สุ ด ท า ยของ ชีวิต. นี่ศีลธรรมจะตองมีในลักษณะอยางนี้.
www.buddhadassa.in.th
การกลับมาแหงศีลธรรม
๓๕๖
เมื่อเปนดังนี้เราก็จะตองลงทุนกันสักหนอย เพื่อจะศึกษาใหเขาใจ ; เพราะมันเปนเรื่องที่ลึกซึ้งอยูมาก จึงสมมติวาเหมือนกับตนไม ที่จะเจริญงอกงาม อยูได มันตองไดอะไรบาง. ศีลธรรมก็เหมือนกัน มันจะเจริญ รุงเรืองขึ้นมาได เพราะมันไดอะไร ? เมื่อดูกันโดยละเอียดก็เปรียบกับตนไม วา ตนไมนี้สวนที่เปนฐาน รากแท ๆ มัน ตอ งการแผน ดิน , มัน ตอ งการอาหาร ที่มีอ ยูใ นดิน , ตอ งการ น้ํา , ตอ งการแสงแดด, ตอ งการอุณ หภูมิ, ซึ่ง ไมคอ ยมีใ ครจะไปเอาใจใส กับมัน นอกจากผูที่เปนนักศึกษาคนควา. ชาวบานตามธรรมดาก็ไมคอยสนใจ ; เอาเมล็ดเพาะปลูกลงไปเปนตนไม งอกขึ้นมาก็กินลูกกินผล ก็เลยโงอยูมาก ; พูดเรื่องตนไมเองก็ไมเขาใจ. เรื่องของศีลธรรมก็คลาย ๆ กันอีก เมื่อเขาประพฤติป ฏิบัติอ ยูพ อ สมควร มีค วามสงบสุข ไดเปน ที่พ อใจแลว ก็ไ มตอ งรูวา มัน มีอ ะไรที่เ ปน ขอ ปลีกยอยโดยรายละเอียด. นี่เราจึงตองมาพูดกันใหม ; เพราะยิ่งเดี๋ยวนี้มันถึงยุค ที่เรียกวา วิกฤติกาล กําลังเปนปญหาหนัก.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ....
....
....
....
แผน ดิน ของศีล ธรรม คือ อุด มคติ ที ่ถ ือ วา “สัต วทั ้ง หลาย เป น เพื ่ อ นทุ ก ข เกิ ด แก เจ็ บ ตาย ด ว ยกั น ทั ้ ง หมดทั ้ ง สิ ้ น ”. ถ า ยั ง มี ความรูสึกอยางนี้อยูในใจแลว ก็เรียกวามันมีแผนดินใหตนไมงอก ; หมายถึง ตนไมของศีลธรรมมัน จะงอกอยูบนแผน ดิน คือความรูสึก ของคนที่วา “สัต ว
www.buddhadassa.in.th
ตนลําแหงศีลธรรม
๓๕๗
ทั้งหลายเปนเพื่อนทุกข เกิด แก เจ็บ ตาย ดวยกันทั้งหมดทั้งสิ้น “ดังมีรายละเอียด ที่เคยพูดกันมามากแลว. ทีนี้ ตนไมตองมีน้ํากิน ไมมีน้ํามันก็แหงตายหมด ; ตนไมศีลธรรมก็ ตอ งมีน้ํ า กิน คือ ความไมเปน ทาสแกก ิเลส ความไมเปน ทาสแกอ ายตนะ. ความเปน ทาสแกกิเลส มัน รอ น มัน เปน น้ํา ไมได ; ตอ งไมเปน ทาสของกิเลส จึง จะเปน ของเย็น เหมือ นกับ น้ํา ที่จ ะมารดตน ไมศีล ธรรม. เลิก ความเปน ทาส ของอายตนะกันเสีย ก็จะมีน้ํามาใหตนไมตนนี้กิน. ส ว นแร ธ าตุ ที่ เ ป น อาหารในดิ น นั้ น คื อ การบั ง คั บ จิ ต บั ง คั บ ความรูสึก ; อยา ใหค วามรูสึก มัน พลุง พลา นไปตามอารมณ. ฝา ยที่เ ลวรา ย ก็ บั งคั บ ไว โดยเด็ ด ขาด, แม ฝ า ยที่ เรีย กว า ไม เลวรา ย ก็ ต อ งบั ง คั บ ไว ให อ ยู ใน ลักษณะที่พอเหมาะพอดี ; อยางนี้เรียกวามันมีความถูกตองในความเปนอยู เปน เหมือนกับอาหารของตนไมศีลธรรม.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ตองมี แสงแดด ตนไมจึงจะอยูได ตนไมศีลธรรมก็ตองการปญญา ซึ ่ ง เป น แสงสว า ง คื อ ความรู ค วามเข า ใจถู ก ต อ งในสิ ่ ง ทั ้ ง หลายทั ้ ง ปวง ตามที ่เปน จริง วา เปน อยา งไร. นี ้จ ะเปน แสงแดดเลี ้ย งตน ไมศ ีล ธรรมใหเจริญ งอกงาม.
ในที่สุด อุณหภูมิ ที่พอเหมาะพอดี ที่ตนไมจะเกิดจะงอกนี้ เราเล็งถึง ศรัท ธา ความเชื่อ ที่พ อดี หรือ ถูก ตอ ง. อยา มีค วามเชื่อ งมงายอีก ตอ ไปเลย ; มีสติปญญาอยางถูกตองตาที่เปนจริง ในธรรมชาติ ในตัวของธรรมชาติ แลวก็จะ
www.buddhadassa.in.th
๓๕๘
การกลับมาแหงศีลธรรม
มีความรูความเขาใจ ความเชื่อหรือความคิดเห็นอะไรที่ถูกตอง ที่หลอเลี้ยงตนไม ศีลธรรมนี้ใหเจริญได. นี้ สวนที่ เป นรากฐานมี อ ยูเป น หั วขอ ใหญ ๆ อย างนี้ แล วขอ ปลีก ยอ ย มันก็ออกมาอีกไดมาก คือออกมาจาก ๕ อยางนั้นไดอีกมากมายเปนขอปลีกยอย เรีย กวา สิ ่ง ที ่ม าดว ยกัน คือ จะมี หิริ - ความละอายตอ บาป, โอตตัป ปะความกลั ว บาป, เมตตา - ความรั ก เพื ่ อ นมนุ ษ ย , ขั น ติ - ความอดทน , สั จ จะ - ค วาม จริ ง ใจ, ท ม ะ - การบั ง คั บ ตั ว ไว ไ ด , จาคะ – ความ เสี ย สละสิ่งที่ควรเสียสละ, และอะไรอื่นอีกมากมาย กระทั่งสิ่งสุดทายที่จะเรียกก็คือ ความบริสุ ท ธิ์ ; แล ว จะมี ค วามบริสุ ท ธิ์ อ ยู ได ไม มี โทษ ไม มี ค วามผิ ด . ทั้ งหมดนี้ เปนเรื่องรากฐานของศีลธรรม ; ขอย้ําไวอยางนี้. [เริ่มการบรรยายโดยหัวขอแหงครั้งนี้ ]
ศีลธรรม. www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ทีนี้ ก็มาถึงเรื่องที่ตั้งใจจะพูดกันในวันนี้ คือเรื่อง ต น ลํ า ของ
รากของต น ไม ศี ล ธรรม คื อ อุ ด มคติ ที่ ถู ก ต อ ง ต น ลํ า ของต น ไม ศี ล ธรรม นั้ น คื อ การปฏิ บั ติ ที่ ถู ก กต อ ง, ดอก ผล ของ ตนไมศีลธรรม คือ สันติสุขและสันติภาพ ; ขอใหจําไวเปนหลักทั่ว ๆ ไป.
ทีนี ้ จะพูด กัน เฉพ าะสว นที ่จ ะเปน ลํ า ตน ของศีล ธรรม . สิ ่ง ที่ เรียกวา ลําตน คืออะไร ของใหรูความหมาย.
www.buddhadassa.in.th
ตนลําแหงศีลธรรม
๓๕๙
ถาม : มี คํ า ที่ ใ ช กั น อยู ๒ คํ า : ลํ า ต น ก็ มี , ต น ลํ า ก็ มี ; คํ า ว า “ลํ า ต น ” กับคําวา “ตนลํา” นี่มันตางกันอยางไร คุณประยูรวาอยางไร ? ตอบ : ลําตน หรือตนลํา ตอนนี้ผมเขาใจวา มันนาจะเหมือนกัน. ถาม : คุณ ทองวาอยางไร นี่เป นครู คนที่เปนหมอบอกวาเหมือนกัน คนที่ เปนครูวามันตางกันอยางไรไหม ? ตอบ : ลํ าต น กั บ ต น ลํ า ผมวาเหมื อ นกั น คื อ ส วนที่ ต อ มากจากโคน และ ก็เปนทางเดินของอาหารสูปลายตนไม. ถาม : คุณชวน ตนลํา กับ ลําตน เหมือนกันไหม ? ถาตางกันอยางไรก็วาไป. ตอบ : กระผมมีความเห็นวาตางกันครับ. ถาลําตนจะตองมีกิ่ง มีกาน แตก สาขาออกไป แตถา ตน ลํา คงจะหมายถึงตน ไมป ระเภทมีขอ มีลํา มากกวา
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ถาม : คุณล้ํา ตนลํา กับ ลําตน ?
ตอบ : ตนลํา กับ ลําตน ผมเขาใจวา คงจะแตกตางกันบาง. ลําตนก็หมาย ถึง สิ ่ง ที ่ไ มม ีส าขาออกไป คือ เปน ลํ า ตน . ตน ลํ า ก็ห มายถึง สิ ่ง ที ่มี สาขาออกไป มีกิ่งกานสาขาออกไป. ไดทั้งนั้น แลวแตจะพูด ; พูดได. นี่คือความยากลําบากของภาษา มั น เป น เรื่ อ งของภาษา ; แต โดยที่ แ ท แ ล ว มั น จะเหมื อ นกั น ไม ได ; มั น ต อ งมี
www.buddhadassa.in.th
๓๖๐
การกลับมาแหงศีลธรรม
ความหมายตา งกัน . ทีนี้ เราเรีย นภาษาไมพ อ, เรารูภ าษาไมพ อ เราจึง ไมรูความตางของคําวา ตนลํา กับคําวา ลําตน. ลองไปนึกถึงคําพูดบางประโยค ที่เราใชคําเหลานี้พู ดซิ : “เปนตน เปน ลํา , เปน ลํา เปน ตน ”. ตน ลํา กับ ลํา ตน ไมไ ดเ ปน คํา เดีย วกัน แท ; มุง หมายพูด กัน ถึง ความหมายอื่น จากกัน . ตน ลํา ก็คือ วา มัน มีตน มีลํา , มัน ไม เหลวควางไป ในอากาศธาตุ ; มั นมีต น มีลํา ให เห็ นกันอยู, และเรา หมายถึง ตนลําที่มันเปนแกนสาร. เราจะไมเรียกผักบุงวาตนลําก็ได ไมเปน ต น ไม เ ป น ลํา ; แต ต น ไม เ ราเรี ย กมั น เป น ต น เป น ลํา . ที่ เ รี ย กว า ลํา ต น ก็คือ สวนที่มันเปนตน ที่มันใหญ เปนสวนสําคัญ ที่จะทรงตัวมันไว. เดี ๋ย วนี ้ เราจะพูด ถึง ลํ า ตน นี ่ มากกวา ที ่จ ะพูด ถึง ตน ลํ า . “ลํา ตนของศีล ธรรม” แตเราจะพูด วา ตน ลําของศีล ธรรมก็ไดเหมือ นกัน คือ เอาสวนที่มัน เปน ตน เปน ลํา มันไมเควง ควางเปนอากาศธาตุ. แตถาพูด วา ลําตน, เอาตรงที่มันล่ําสัน แนนหนา เขมแข็ง เปนของตั้งมั่นอยูได.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ถาพูดวา “ลํา” เฉย ๆ ก็คือ แสดงถึงรูปราง เปนทรวดทรงที่ตรง ขึ้น ไป และโดยมากก็ห มายถึง กลม ; เชน ลํา ออ ย หมายถึงวา มัน เปน ลํา . แตถาตนไมใหญ ๆ ก็หมายถึงสวนกลางอยางที่เราเห็นอยูสะพรั่งไปในที่นี้ วาลําตน มันอยูตรงไหน. ถาม : ถาถามวา ลําตน อยูที่ตรงไหน ตอบวาอยางไร ? ตอบ : ระหวางโคนกับปลาย ครับ.
www.buddhadassa.in.th
ตนลําแหงศีลธรรม
๓๖๑
นั ่ น แหละถู ก ที ่ ส ุ ด ; ระหว า งรากกั บ กิ ่ ง คื อ ลํ า ต น . ส ว นนั ้ น มันใหญ มันแข็ง มันเปนที่ทรงตัว และควรจะเรียกไดวา ศูนยกลางดวย คือ ตรงกลาง. ขา งลางลงไปเปน รากอันมากมาย, ขางบนขึ้น ไปเปน กิ่ง เปน ใบ อันมากมาย. ที่อยูตรงกลางนี้ เปนลําตน. ถาม : แกนของตนไมอยูที่ตรงไหน คุณประยูร ? ตอบ : แกนของตนไมอยูตรงใจกลางของลําตนอีกทีหนึ่ง. ถาไมรูวา แกน ของตน ไมอ ยูที่ต รงไหน แลวก็ค งจะพูด เรื่อ งนี้กัน ไมได วาแกนของตนไม มันก็อยูที่ลําตนไม ; หมายถึงตนไมมีแกน ; จะแกน ขา งนอกหรือ แกน ขา งใน ก็ลว นแตอ ยูที่ลํา ตน ทั ้ง นั้น . ไมไ ผม ีแ กน ขา งนอก เปนไมประเภทมีแกนขางนอก เราตองเรียกวา มันมีแกนเหมือนกัน. ตนหมาก ตนมะพราว มีแกนขางนอก, ไมที่เขาเรียกกันวา ปาลมทั้งหลายมีแกนขางนอก, ไมธรรมดานี่มีแกนขางใน ขอแตใหมีแกนเปนใชได ; ถาไรแกนก็ใชไมได.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ฉะนั ้ น แก น ของมั น เป น เครื่ อ งทรงตั ว ให แ น น หนา ให ถ าวร ใหดํารงอยูได ; เราจึงควรปรารถนาวา ตนไมศีลธรรมของเรานี้ จะตองมีแกน ; ตนไมแหงศีลธรรม “พฤกษาแหงศีลธรรม” เรียกใหเพราะสักหนอย. ....
....
....
....
ถาม : เมื่อตนไมธรรมดามีแกนอยางที่เราเห็น ๆ กันอยู พฤกษาแหงศีลธรรมนี่ มันมีอะไรเปนแกน ? ใหคุณวาเอาเองกอน นึกเอาเองกอน สันนิษฐาน
www.buddhadassa.in.th
การกลับมาแหงศีลธรรม
๓๖๒
เอาเองกอน, ถารูจ ริงก็บ อกมาเลย วาตน ไมของศีลธรรมนี่ มีอะไร เปนแกน ? ตอบ : ต น ไม แ ห ง ศี ล ธรรมก็ มี วิ มุ ต ติ เป น แก น ; มี ก ารหลุ ด พ น เป น แก น . ถาม : เอา, คุณทอง ? ตอบ : ผมคิดวา หลักของศาสนายอมเปนแกน. ถาม : อะไรบาง เปนหลักของศาสนา ? ตอบ : อยางศาสนาพุทธก็จะตองมีอริยสัจจ ๔ เปนแกน. ถาม : คุณชวน ?
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ตอบ : กระผมมีความเห็นวา เบ็ญ จศีล เบ็ญ จธรรม เปนแกนของศีลธรรม.
ถาม : เอา, คุณล้ําละ มีอะไรเปนแกน ?
ตอบ : มีความถูกตองเปนแกน. ถาม : มีความถูกตองเปนแกน, ถูกตองของอะไร ? ตอบ : ถูกตองของสัจธรรม. ถาม : ถูกตองของสัจธรรม. แลวมันเกี่ยวกับมนุษยอยางไรละ ?
www.buddhadassa.in.th
ตนลําแหงศีลธรรม
๓๖๓
ตอบ : เกี่ยวกับการปฏิบัติ. ก็พูดวา ความถูกตองของการปฏิบัติเสียใหมันรูแลวรูรอดไป ทําไม จึง มัว มาออ มอยูละ . มีค วามถูก ตอ งของการกระทํา ทางกาย ทางวาจา ทางใจเปน แกน . นี้จะพบความหมายเพิ่ม ขึ้น มาอีก อยางหนึ่งที่คุณ ประยูรวา ตามพระบาลี วา มีว ิม ุต ติเ ปน แกน , พรหมจรรยนี ้ม ีว ิม ุต ติเ ปน แกน ก็ หมายถึง ประโยชนสูงสุด ที่มีคา ที่สุด , ตน ไมถ ลกผิวออกไปแลว ถึง เปลือ ก, ถลกเปลือกออกแลวถึงกระพี้, ถลกกระพี้ออกแลว จึงถึงแกน ; ดีที่สุดอยูที่แกน. ส ว นพรหมจรรย นี ้ หรื อ พระพุ ท ธศาสนา มี วิ ม ุ ต ติ เ ป น แก น : มี ศี ล , ในศีลเขาไปเปนสมาธิ, ในสมาธิเขาไปเปนปญญา, ในปญญาเขาไปอีก จึงจะ เปนวิมุตติ นี่เปนการกลาวอยางเปรียบเทียบกับเรื่องของตนไม. เดี๋ยวนี้ เราไมเล็งถึงอยางนั้น เราจะเล็งถึงตัว การประพฤติ การ กระทํา ว า เป น ตั ว แก น ของศี ล ธรรม. ถ า ไปพู ด ถึ ง วิ มุ ต ติ แ ล ว มั น เป น ผล ที่ไดรับ เปนความสงบสุข.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ถาม : ถาพูดถึงผลที่ไดรับเปนความสงบสุขแลว ควรจะเปรียบดวยอะไรของ ตนไม ? คุณทอง ถาเล็งถึงผลคือความสงบสุข ควรจะเปรียบดวยอะไร ของตนไม ?
ตอบ : ดวยลูกของมัน. จะตองเปรียบดวยดอก ดวยลูกอะไรของมัน ที่เปนประโยชนสุดทาย. ถาพูดถึงลําตน เราควรจะเปรียบดวย การประพฤติ หรือ การกระทํา ที่จะทํา
www.buddhadassa.in.th
๓๖๔
การกลับมาแหงศีลธรรม
ให เกิ ด ลู ก เกิ ด ผล ออกมา. ฉะนั้ น ที่ คุ ณ ล้ํ าวานี้ ใกล ชิ ด ที่ สุ ด คื อ ความถู ก ต อ ง ของการกระทํ า นั่ น แหละเป น แก น หรื อ เป น ตั ว ลํ า ต น อั น แข็ ง แกรง ของต น ไม . เพราะฉะนั้น เราหันไปเพงดูความถูกตองของการประพฤติ หรือการกระทํา ใหมัน ยืนหยัดอยูอยางแนนหนาแนนแฟน อยางกะวาเปนลําตน. ถาม : การประพฤติ ก ระทํ า ให ถู ก ต อ งนี้ จะแบ ง ออกไปได สั ก กี่ อ ย า ง กี่ ชั้ น กี่ระดับ ? ตอบ : แบงไดเปน ๔ ชั้น. ถาม : อะไรบาง ? ตอบ : ๑. เอาจากภายนอกเข า ไป คื อ การประพฤติ ป ฏิ บั ติ ใ ห ถู ก ต อ งต อ . สิ่ง ที่เปน วัต ถุอ ยูร อบตัว เราและ, ๒. ถัด เขา ไปก็เ ปน ความประพฤติ ใหถูก ตอ งตอ รา งกายของเราแลว , ๓. เขา ไปขา งในอีก ก็ป ระพฤติ ใหถูกตองกับ จิต ที่เกี่ยวเนื่อ งกับกาย, แลว ๔. ขางในสุดทาย ก็เป น การปฏิ บั ติ ให ถู ก ต อ งต อ จิ ต ส ว นลึ ก ซึ่ ง ทางนี้ ช อบใช คํ า ว า วิ ญ ญาณ คื อ สติ ป ญ ญา ความคิ ด ความเห็ น . ปฏิ บั ติ ต อ จิ ต ส ว นนี้ ให มั น ถู ก ตองดวย ; รวมเปน ๔ ชั้น.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ถาม : คุณ ประยูรเขาแบ งออกเปน ๔ อยาง ใหมีความถูกตองตอวัตถุ หรือ ของวัตถุที่อยูรอบตัวเรา, ใหมีความถูกตองอยูที่เนื้อตัว รางกายของเรา, มีความถูกตองอยูที่จิตใจของเรา, และมีความถูกตองอยูที่วิญญาณหรือสติ ปญ ญาของเรา, ก็ถูก. ถาพูดอยางอื่นจะพู ดอยางไรไดอีก คุณ ทอง ?
www.buddhadassa.in.th
ตนลําแหงศีลธรรม
๓๖๕
ตอบ : มีความถูกตองอยู ๒ อยาง หรือ ๒ ระดับ : ระดับมีตัวตน กับระดับ ที่ความหมดจากมีตัวตน. นี่พูดในรูปแบบของปรัชญาไปแลว : ระดับที่มีตัวตนก็ถูกตองอยาง หนึ่ ง . คนพวกหนึ่ ง มี ตั ว ตน ; เขาก็ มี ค วามถู ก ต อ งของเขาไปแบบหนึ่ ง แน น อน. สวนคนพวกหนึ่งเขาเมองเห็น ความไม มี ตั วตน เห็ น เป น ขัน ธ ธาตุ อายตนะ ตาม ธรรมชาติ ก็ม ีก ารปฏิบ ัต ิที ่ถ ูก ตอ งของเขาอีก แบบหนึ ่ง นี ้ก ็ใ ชไ ด ; แตเปน หลัก ที ่ส ูง ไปสํ า หรับ ประชาชนทั ่ว ๆ ไปจะถือ เปน หลัก . ไมใ ชผ ิด ; แตม ัน ยัง อยู นอกวงของการที่ จ ะเอามาพู ด สํ า หรั บ การปฏิ บั ติ เรื่ อ งศี ล ธรรม ; มั น เป น รู ป แบบ ของปรัชญา. ถาม : คุณชวน จะพูดอยางไร, ความถูกตองของอะไร ? ตอบ : กระผมมี ค วามเห็ น ว า ความถู ก ต อ งมี อ ยู ๒ อย า งเหมื อ นกั น คื อ ถู ก ต อ งในทางปฏิ บั ติ เพื่ อ ตนเอง กั บ ความถู ก ต อ งในทางปฏิ บั ติ เพื่ อ ผู อื่น.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ถาม : นี่ ก็ เป น นั ก สั งคม จึ งบอกว าปฏิ บั ติ ถู ก ต อ งมี อ ยู ๒ ชั้ น คื อ ถู ก ต อ งภายใน ตัวเอง และถูกตองที่มันเกี่ยวออกไปถึงสังคม. คุณล้ําละ ?
ตอบ : ความถูกตองนี่ตองใหพรอมดวย กาย วาจา ใจ, นี่พูดสั้น ๆ. คํ า ว า พร อ มด ว ยกาย วาจา ใจ นี้ เป น หลั ก พื้ น ฐานทั่ ว ไป, ยั ง ไม หมด ; เวนแตจะขยายคําวา “ใจ” ออกไปถึงสติปญญา หรืออะไรดวย.
www.buddhadassa.in.th
๓๖๖
การกลับมาแหงศีลธรรม
เราจะถือตามหลักของพระพุทธศาสนาสําหรับพูดจา งายกวา ไมตอง บั ญ ญั ติ ขึ้ น ใหม แล ว ก็ รู จั ก กั น ทั่ ว ไป ; เอาสิ่ ง ที่ ว า พู ด กั น ติ ด ปาก เป น หญ าปากคอก นั่ นแหละ วา ถูก ตองในที่ นี้ แบ งออกเป น สาม คือ เรื่อ ง ศี ล ขั น ธ - กองศี ล , สมาธิ ข ั น ธ - กองสมาธิ , ป ญ ญาขั น ธ - กองป ญ ญา. ขัน ธก็แ ปลวา ลํา ตน เหมือ นกัน คนที่เรีย นรูบ าลีไดเปรีย บคนที่ไมรู ใชไหม ? อย า ว า เราเอาเปรีย บนะ คื อ ว า พู ด ตามหลั ก พระบาลี ขั น ธ แปลว า ลํ า ต น เหมือ นกัน หรือ กลุ ม หรือ กอง หรือ วา ที ่ม ัน เปน ชิ ้น เปน อัน ได. ศีล ขัน ธ แปลว า กองศี ล , สมาธิ ขั น ธ กองสมาธิ , ป ญ ญาขั น ธ กองป ญ ญา. แตในที่บางแหงคําวา ขันธ แปลวา ลําตน ก็ได ; ก็หมายถึง ความถูกตอ ง ๓ ชั้น ; อยาแปลวา ๓ อยางเลย, แปลวา ๓ ขั้นดีกวา. ความถูกตองชั้นแรก คือ ศีล ขัน ธ หมายถึง ถูกตองทางกาย ทางวาจา, รวมทั้งวัต ถุภ ายนอก ที่เนื่อ งกัน อยูกับ กายและวาจา ; นี่เรีย กวา ชั้นศีล ลําตนในชั้นศีล. ถาจะวาเปนชั้นเปลือกก็ดูจะหยาบคายไปนัก ก็ไมคอย อยากจะพูด ; คือวาลําตนนี่เรามีชั้นเปลือก ชั้นกระพี้ และชั้นแกน. ตนไมตน หนึ่ง มันมีชั้นเปลือกนอก ชั้นกระพี้เนื้อออน, แลวจึงถึงแกน.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ศีล นี ้จ ะเปรีย บดว ยชั ้น เปลือ ก ; เปลือ กมีค วามสํ า คัญ มากนะ ; เดี ๋ย วจะวา “เปลือ ก” แลว ไมม ีค า อะไร. ไมม ีเ ปลือ กแลว ตน ไมอ ยู ไ มไ ด ; ฉะนั้ น ความสํ า คั ญ ชั้ น เปลื อ ก ดู ได ที่ ต น ไม ต ามธรรมดา ว าเปลื อ กนี้ สํ า คั ญ สําหรับ ตนไม คือวา เปนทางเดินของอาหาร ของอะไรบางอยางก็มี ; และ ทําหนาที่สรางกระพี้ขึ้นมา เปลือกคอย ๆ สรางกระพี้ขึ้นมา, แลวกระพี้คอย ๆ สรา งแกน เขา ไป. ถา ไมมีเปลือ ก แลว มัน ไมมีอ ะไรที่จ ะสรา ง ๒ สิ่งนี้ ตน ไม
www.buddhadassa.in.th
ตนลําแหงศีลธรรม
๓๖๗
ก็ตาย ; โดยสวนใหญมันทําหนาที่เอาอาหารที่ปรุงจากใบมาหลอเลี้ยงลําตนทั่วไป กระทั่งราก. เปลือกทําหนาที่เปนชีวิต เปนทางเดินของชีวิต. ทีนี้เอาศีล เปรียบกับ เปลือก ก็อ ยาหาวาทารุณ หรือ วาตี ราคาศี ล น อ ยไปเลย ; ตี ร าคาอย า งสู ง สุ ด ด ว ยเหมื อ นกั น ว า ศี ล นี่ เ ปรี ย บเหมื อ น กับลําตน ชั้นเปลือก ; เอาอาหารที่ป รุงที่ใบโดยแสงแดดไปหลอ เลี้ยงทั่วตน , แลวก็สรางกระพี้ออน ๆ ขึ้นมาเรื่อย, แลวกระพี้คอย ๆ แกเขา แลวกลายเปน ชั้น แกน ; ฉะนั้น เราจึง ถือ วา ศีล ขัน ธ - กองศีล นี่เ ปน ความถูก ตอ งที่ก าย ที่ว าจา, และวัต ถุทั ้ง หลาย อัน แวดลอ มกาย วาจา อยู ; เครื่อ งใชไ มส อย เครื่องนุงหม อะไรก็ตามที่มันเปนวัตถุ ตองพลอยถูกตองไปดวย ตามกาย วาจา. ความถู ก ต อ งชั้ น ๒ ก็ คื อ สมาธิ ขั น ธ -ส ว นที่ เ ป น สมาธิ ; นี ่ค ือ ความถูก ตอ งสว นจิต ใจโดยตรง. มีค วามถูก ตอ งในทางจิต จิต มี สมรรถนะ ทําหนาที่ทางจิต โดยเฉพาะก็คือสิ่งที่เรียกวา สมาธิ นั่นเอง. ถามี สมาธิแลวก็ทําอะไรได ; นี้ก็หมายถึงชั้นกระพี้ที่รองมาจากแกน.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ความถูก ตอ งชั ้น ๓ ก็ค ือ ปญ ญาขัน ธ -กองปญ ญา ; นี ้ค ือ ความถูก ตองทางความคิด ความเชื่อ หรือ ถูก ตอ งของปญ ญา ; ซึ่งเราเรีย ก กันเดี๋ยวนี้วา ทางวิญญาณ ไมไดใชคําวา จิต ; จิตเอาไปใชในเรื่องจิตโดยตรง. นี้เ ปน ปญ ญาของจิต ความรูข องจิต ความคิด ของจิต ก็เ ลยเปน แกน แข็ง อยูขางใน.
ไดลํ า ตน เปน ๓ ชั ้น : ชั ้น เปลือ ก ชั ้น กระพี ้ และชั ้น แกน ; สามอยางนี้แยกกันไมได ขืนแยกออกไปแลว มันก็ลมละลาย. ตนไมนี่แหละ
www.buddhadassa.in.th
การกลับมาแหงศีลธรรม
๓๖๘
จะไปแยกแกนออกจากกระพี้ หรือแยกกระพี้ออกจากเปลือก ; นี้ไมได มันตอง ตายแน . เช น เดี ย วกั บ ศี ล แยกออกจากสมาธิ แ ละป ญ ญาไม ไ ด , สมาธิ แยกออกจากศีลและปญญาไมได ; ปญญาก็แยกออกจากศีลและสมาธิไมได, ทั้ง ๓ อยา งตอ งไปดว ยกัน เสมอ จึง จะเปน ลํา ตน ที่เขม แข็ง ที่ส มบูรณ ที่สําเร็จ ประโยชนได. รวมความวา ตน พฤกษาแหง ศีล ธรรมนี ้ เรามีลํ า ตน คือ ศีล สมาธิ ปญ ญา, อยา งที่เรีย กในพระพุท ธศาสนาวา ไตรสิก ขา, จะขยาย ออกไปเป น มรรคมี ๘ ประการก็ ไ ด , และอย า งอื่ น ๆ ก็ ไ ด อี ก มาก. แต ใจความสําคัญมันอยูที่คําเพียง ๓ คํา คือคําวา ศีล สมาธิ และปญญา ; ศีล คือ ถูกตองทางกาย ทางวาจา และวัตถุที่แวดลอม, สมาธิคือถูกตองทางจิต, ปญญาก็ถูกตองทางสติปญญา ความรู ความคิด ความเชื่อ. ฉะนั้นเราทํากาย วาจา ให ถู ก ต อ งและปรกติ , ทํา จิ ต ให ป รกติ และทํา ป ญ ญาให ป รกติ ; อยาใหเปนมิจฉาทิฏฐิ เราก็มีตนไมแหงศีลธรรม ที่จะพึ่งพาอาศัยได.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ....
....
....
....
ถาม : ที นี้ คํ า ว า ศี ล แปลว า ปรกติ , คํ า ว า ปรกติ กั บ คํ า ว า ถู ก ต อ ง นี้ ตางกันอยางไร ? ชวยคิดดูใหดี ๆ.หนอย. อยาสะเพรา. ความปรกติ กับความถูกตอง นี้ตางกันอยางไร คุณประยูร ? ตอบ : ความถูกตองหมายไปถึงในแงเหตุของมันครับ แลวก็ความปรกตินั้น ควรจะเปนในแงของผล.
www.buddhadassa.in.th
ตนลําแหงศีลธรรม
๓๖๙
ถาม : เอา, คุณทอง ความปรกติกับความถูกตองตางกันอยางไร ? ตอบ : เหมือนกับที่คุณหมอวา. ถาม : คุณชวน ? ตอบ : กระผมมีความเห็นเหมือนกับคุณหมอ. ถาม : เอา, คุณล้ํา คนสุดทาย ? ตอบ : ความปรกติอยูที่ศีลกับสมาธิ, สวนความถูกตองอยูที่ปญญา. เราเรีย นภาษาพรอมกัน ไปในตัว. สามคนที่พูด วา ความถูก ตอ ง เปนเหตุใหเกิดความปรกติ ยอมแสดงอยูแลววา ความถูกตองกับความปรกตินั้น มิใ ชสิ่ง เดีย วกัน ; ตา งกัน โดยที่อัน หนึ่ง เปน เหตุ, อัน หนึ่ง เปน ผล. สํา หรับ ศี ล สมาธิ ป ญ ญา นั้ น ; ศี ล เป น เหตุ ข องสมาธิ , และสมาธิ ก็ เป น เหตุ ข อง ป ญ ญา, หรื อ เป น เหตุ ข องกั น และกั น ได จึ ง คํา ตอบนี้ ยั ง ไม ต รงกั บ ป ญ หา ที่จะชี้ใหเห็นวา ความถูกตองกับความปรกตินั้นตางกันอยางไร. ถาศีลกับสมาธิ เปนเหตุ ปญญาเปนความถูกตอง มันก็ยังไมถูกนักเพราะวามันยังมากกวานั้น ; คือตางฝายตางกลับเปนเหตุกันก็ได
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org นี่ขอถือโอกาสบอกเปนการสอดแทรกตรงนี้หนอยวา ธรรมะทั้งหลาย ไม อ าจจะเป น เพี ย งเหตุ โดยส วนเดี ย ว ไม อ าจจะเป น เพี ย งผลโดยส วนเดี ย ว ; ธรรมะอยางเดียว ชื่อเดียว บางเวลาบางกรณีมันเปนเหตุ, หรือบางกรณีบางเวลา
www.buddhadassa.in.th
๓๗๐
การกลับมาแหงศีลธรรม
มัน เปน ผล, เปน ผลแลว มัน กลายเปน เหตุ. ไมม ีอ ะไรที ่จ ะเปน ไดเ พีย ง อยางเดียว คือเปนเหตุอยางเดียว หรือเปนผลอยางเดียว. ใหจํ า ไวเ หมือ นกับ วา แมก ับ ลูก นั ่น แหละ : แมจ ะเปน เหตุใ ห เกิด ลูก , เดี ๋ย วลูก ก็เ ปน เหตุใ หเ กิด ลูก ตอ ๆ ไปอีก ; คือ ผลัด เปน แม ผลัด เปน ลูก . นั ่น คือ เหตุก ับ ผล : ไมม ีสิ ่ง ใดจะเปน เหตุโ ดยสว นเดีย ว, หรือ เปน ผลโดยสวนเดียวได, ในบรรดาสังขารธรรมทั้งหลาย. เดี๋ยวนี้ เราจะพู ดกันเฉพาะคูเปรียบเทียบวา ความถูกตอง กับความ ปรกตินั้นตางกันอยางไร. ถาจะใชคําวา ความถูกตองเปนเหตุ ความปรกติเปนผล ; มันก็พอจะไดอยู การปฏิบัติใหถูกตองก็จะมีผล คือความปรกติสุข. ถาม : ทีนี้ ๒ อยางนี้แยกกันไดไหม คุณประยูรวาแยกกันไดไหม ?
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ตอบ : แยกกันไมได.
ถาม : แยกกันไมได ทําไมคุณจึงพูดกันไดคนละทีละ ?
ตอบ : ถ า จะแยกในแง ป ริ ยั ติ ในแง ท ฤษฎี พู ด ได ; แต ใ นแง ป ฏิ บั ติ แ ล ว แยก กันไมได เชนเดียวกับแสงสวางและดวงเทียน.
คื อ ว า ในแงของการพู ด จาอย างนี้ เราแยกกั น ได พู ด กั น คนละที ได ; แตโดยพฤติน ัย ที ่เปน ไปอยู จ ริง แยกกัน ไมได. ถา จะมีป รกติส ุข ก็ต อ งมีค วาม ถูก ตอ ง, ถา มีค วามถูก ตอ งก็ต อ งมีค วามปรกติส ุข ; ฉะนั ้น ความเปน อยู จ ริง นี้ ไม แ ยกกั น . แต ถ า จะเป น การพู ด จา หรื อ เป น ทฤษฎี เป น นิ ติ นั ย ก็ พ อจะแยก
www.buddhadassa.in.th
ตนลําแหงศีลธรรม
๓๗๑
กัน ไดว า อัน หนึ ่ง เปน เหตุ, อัน หนึ ่ง เปน ผล. แตเมื ่อ มัน สํ า เร็จ ประโยชนแ ทแ ลว มัน ไมแ ยกกัน , มัน ไมอ าจจะแยกกัน ; ถา แยกกัน มัน จะไมสํ า เร็จ ประโยชน. ถาเหตุอยูเสียทางหนึ่ง ผลอยูเสียทางหนึ่ง มันก็ไมสําเร็จประโยชนขึ้นมาได. ทีนี ้ศ ีล ธรรมมีส ว นที ่เ ปน เหตุ และในสว นที ่เ ปน ผลดว ยเหมือ นกัน ; เราต อ งการผลอะไร เราก็ ต อ งสรางเหตุ ข องสิ่ งนั้ น . ถ าเราต อ งการความสงบสุ ข ; เราก็ตองสรางเหตุของความสงบสุข. ถาม : เมื่อเราพูดวา การกลับมาแหงศีลธรรมนี่ เราหมายถึงศีลธรรมที่เปนเหตุ หรือหมายถึงศีลธรรมที่เปนผล คุณทองวาอยางไร ? ตอบ : ทั้ง ๒ อยางครับ. ถาม : ถูกแลวมันตองมีทั้ง ๒ อยาง. นี่ลองหยั่งถามดูวา ลืมหรือเปลาวา ถามั น แยกกัน แลว มัน ก็ม าไมไ ด เพราะมัน ตอ งมาดว ยกัน เสมอ ? คํ า วา ศี ลธรรมที่ จะต องกลั บมานี้ โดยเฉพาะอย างยิ่ งต องกลั บมาในส วนที่ เป น เห ตุ ก ล า ว คื อ รา ก ฐ า น แ ห ง ศี ล ธ ร ร ม นั ้ น แ ห ล ะ จ ะ ต อ ง ม า , แลว ตัว ศีล ธรรมก็จ ะตอ งมา. ทีนี ้ผ ลที ่จ ะเกิด อีก ในระยะหลัง ก็จ ะยัง มี มาอีก หลายทอด หรือหลายตอนดวยกัน.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ....
....
....
....
ที นี้ จะมาดู ต อ ไปถึ ง เรื่ อ งสิ่ ง ทั้ ง ๓ นี้ คื อ ศี ล สมาธิ ป ญ ญา. นี่ ทั้ ง ๓ อย า งนี้ จํ า หั ว ข อ ให แ ม น ยํ า ก อ น : ศี ล ถู ก ต อ งทางกาย วาจา และวั ต ถุ
www.buddhadassa.in.th
๓๗๒
การกลับมาแหงศีลธรรม
ที่ เนื่ อ งอยู ด ว ย, สมาธิ ถู ก ต อ งทางจิ ต , ป ญ ญาถู ก ต อ งทางความรู ความคิ ด ความเห็น. ทีนี้ สิ่งที่เปนรากฐานของศีลธรรม ที่เปรียบเหมือนกับรากฐานของ ตนไม ขอที่ ๑. คือความยอมรับ ถือ หรือ วารูสึกแลวก็ถือ ยูในจิตใจวา “สัต ว ทั้ ง หลายเป น เพื ่ อ นทุ ก ข เกิ ด แก เจ็ บ ตาย ด ว ยกั น ทั้ ง หมดทั้ ง สิ้ น ” นี้เปนรากฐานของศีลธรรม. ถาม : เมื่อรากฐานอันนี้มีแลว ทําใหมีศีลไดอยางไร ? จะเกิดเปนตนขึ้นมาได อยางไร คุณประยูร ? ตอบ : เมื่ อ เรายอมรับ ความจริงวา “สัต วทั้งหลายเป นเพื่ อ น เกิด แก เจ็บ ตาย ดวยกันทั้งหมดทั้งสิ้น” แลว ศีล ที่เราวาหมายถึงความถูกตอง ของกายและวาจานั้นก็จักมี ; มันจะไปเบียดเบียน ไปทํารายซึ่งกัน และกัน ไมไ ด ในความจริง ขอ นั้น . ฉะนั้น เมื่อ ไมเ บีย ดเบีย น ไม ทําใหคนอื่นเขาเดือดรอน อยางนี้มันก็อยูในความหมายของคําวา ศีล อยูแลว.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ถาม : คําวา “ยอมรับวา” นี่หมายความวา เขาปฏิบัติหรือเปลา ?
ตอบ : การยอมรับอยางนี้ ตองปฏิบัติดวย. ถาม : เขายอมรับ แลวเขาไมปฏิบัติ ไดไหม ? ตอบ : อยางนั้นก็เปน ศรัทธา ที่งมงายอยางที่ไดกลาวเมื่อคราวที่แลว.
www.buddhadassa.in.th
ตนลําแหงศีลธรรม
๓๗๓
ควรจะรูความแตกตางระหวางของ ๒ อยาง : เชนศีล กับกฎหมาย. เรื่ อ งกฎหมายมั น เรื่ อ งบั ง คั บ ; เรื่ อ งศี ล เป น เรื่ อ งของความรู ส ึ ก ผิ ด ชอบ ชั่วดี, หรือความสมัครใจ. ทางกฎหมายนั้น มีกฎหมายแลวตองยอมรับกฎหมาย ; แต แ ล ว ก็ ไ ม ป ฏิ บั ติ ต าม นั่ น มั น ใช ไม ไ ด . แต ถ า เรื่ อ งศี ล ธรรมนั้ น เป น เรื่ อ งของ ความรู ส ึ ก ไม ไ ด เ พี ย งแต ต อ งยอมรั บ ; คื อ มั น รู ส ึ ก ด ว ยใจจริ ง ว า “สั ต ว ทั้ง หลายเปน เพื ่อ นทุก ข เกิด แก เจ็บ ตาย ดว ยกัน ทั ้ง หมดทั ้ง สิ้น ” ; จึง สมัครปฏิบัติ. ถา เปน ความรู ส ึก จากใจจริง ๆ แลว มัน ปฏิบ ัต ิท ัน ที, มัน ตอ ง ปฏิบัติตามความรูสึกเสมอ. สวนการยอมรับนี่, เราอธิบายใหเขายอมรับ หรือเขา รับเพราะเขาไดคิด ไดยิน ไดฟง แตยังไมรูสึกก็ไดเหมือนกัน ; ฉะนั้น ใชคําวา “รูสึก” ปลอดภัยกวา “ยอมรับ” เราไมตองการแตเพียงใหทุกคนในโลกยอมรับ . ขอ นี ้ม ัน ไมพ อ : เราตอ งการใหท ุก คนรู ส ึก ดว ยใจจริง หมดทั ้ง จิต ใจเลยวา “สัตวทั้งหลายเปนเพื่อนทุกข เกิด แก เจ็บ ตาย ดวยกันทั้งหมดทั้งสิ้น.”
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org เมื่ อ มี ค วามรู สึ ก อย า งนี้ แ ล ว ก็ จ ะไม ก ระทํ า ผิ ด ในส ว นศี ล , คื อ ไม ประทุษ รา ยตอ สิ ่ง ใด. คํ า วา ศีล นี ้ มีใ จความที ่เ ราจะสรุป วา ไมป ระทุษ รา ยตอ สิ ่ง ใด จึง จะเปน แมบ ทของศีล ที ่ถ ูก ตอ ง กวา งขวางครอบงํา ไดห มด ; และ ศีล ๕ เปนแมบทของศีลทั้งหลาย. ถาม : การมีศีล ๕ นั้น คือ ไมประทุษรายตออะไรบางละ พูดทบทวนความจํา หรือสอบไลดูทีวา ศีล ๕ คืออะไร ? ตอบ : ศี ล ๕ ข อ ที่ ๑ คื อ การไม ป ระทุ ษ ร า ยต อ ชี วิ ต ของสั ต ว ทั้ ง หลายโดย เจตนา. ข อ ที่ ๒ เป น การไม ป ระทุ ษ ร า ยต อ ทรั พ ย สิ น ของผู อื่ น เขา
www.buddhadassa.in.th
๓๗๔
การกลับมาแหงศีลธรรม โดยเจตนา. ขอ ที่ ๓ เปน การไมป ระทุษ รา ยตอ ของรัก ของใครข อง ผูอื่น โดยเจตนา. ขอ ที่ ๔ เกี่ย วกับ การพูด ปด คือ การไมป ระทุษ รายตอความเที่ยงธรรมของโลก โดยใชวาจาเปนเครื่องมือ. ขอสุดทาย ขอที่ ๕ ก็คือการไมประทุษรายตอสติสัมปชัญญะของตน เอง.
นี่ถาจับใจความแทจริงของศีล ๕ ขอได มันจะออกมาในรูปอยางนี้. ที่พูดวา ไมฆาสัตว, ไมลักทรัพย, ไมทําชูนั้น มันไมสมบูรณ บางทีไมรัดกุม บางที ห ละหลวม ; ฉะนั ้ น ให ถ ื อ หลั ก ว า ไม ม ี ก ารประทุ ษ ร า ย ทั ้ ง ๕ ประการนี้ คื อ มี ศี ล ๕ โดยบริ บู ร ณ ; และศี ล ๕ เป น แม บ ทของศี ล ธรรม ทั้ง หลาย จะขยายออกไปจากศีล ๕ นี้ไ ปเปน ศีล เทา ไรก็ไ ด. ศีล ขอ ที่ ๕ วา ไม ป ระทุ ษ ร า ยต อ สติ สมปฤดี หรื อ สั ม ปชั ญ ญะของตนเอง เพราะว า กินเหลา หรือกินของเมาอะไรเขาไปแลว มันสูญเสียสติสัมปฤดี, เรียกวาคนนั้น มันประทุษรายตอสติสมปฤดีของตนเอง. นี่มันเปนเรื่องของศีล ๕ ขอที่ ๕.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ถาม : ทีนี้ ศีล ๘ เรื่อ งไมใ หป ระดับ ตกแตง ลูบ ทาของหอม ของสวย เปนตน นี่ มันเปนศีล ๕ ขอไหน ? มันออกมาจากศีล ๕ ขอไหน ? หรือมันประทุษรายอะไร ? ตอบ : มั น ออกมาจากศี ล ๕ ข อ ที่ ๕ ที่ ว า ประทุ ษ ร า ยต อ สติ ข องตนเอง.
ถูก นั่น แหละถูก , นี่เ ปน การแจกลูก ที่ถูก , เปน การขยายความ ที่ถูก. เราไปหลงในของหอม ของสวยของอะไรเหลานี้ มันประทุษ รายตอสติ ปญญา ตอสติสมปฤดี ตอสติสัมปชัญญะของตนเอง. ฉะนั้นถาใครผูใดก็ตาม เขาใจความหมายของศีล ๕ ประการแลว จะสามารถสงเคราะหศีล ๘ ศีล ๑๐.
www.buddhadassa.in.th
ตนลําแหงศีลธรรม
๓๗๕
ศีล ๒๒๗ หรือ ศีล อะไรก็ต าม ลงในศีล ๕ นี ้ไ ด ; เราจึง พูด ถึง ศีล ๕ เปน หลัก เปน ประธาน : ไมม ีก ารประทุษ รา ยตนเอง ไมม ีก ารประทุษ รา ยผู อื ่น ในแงข องกาย ของวาจา ของการเปน อยู ; เปน เหมือ นกับ การปรับ พื ้น ฐาน ชั ้น ตน ชั ้น แรกใหด ี เรีย กวา สีล ขัน ธ. นี ้ค ิด ดูใ หค รบทั ้ง ๕ อยา ง ที ่เ รา ยอมรับ บรมสัจ จะวา “สัต วทั้ง หลายเปน เพื ่อ นทุก ข เกิด แก เจ็บ ตาย ดวยกัน ทั ้ ง ห ม ด ทั ้ ง สิ ้ น ” แ ล ว ทํ า ให เ รา มี ศ ี ล ๕ ใน ค วาม ห ม าย ไม ป ระ ทุ ษ ร า ย ๕ ประการ. ถาม : ทีนี้ ถาเราไม เป น ทาสทางอายตนะแลว เราจะมีศี ลไดอ ยางไร ? เรา ไมเป นทาสของกิเลส ไม เปนทาสของอายตะนี่ เราจะมีศีลไดอยางไรล ะ คุณทอง ? ตอบ : การตกเป นทาสของกิ เลส ยอ มทํ าให ผู นั้ น ทํ าทุ ก สิ่ งทุ ก อย าง เพื่ อ การ ตอบสนองโลภะ โทสะ และโมหะของตน ; ฉะนั ้น ผู ที ่ไ มต กเปน ทาสของอายตนะ ก็ยอมตั้งตัวอยูในความเปนปรกติ คือ ศีลทั้ง ๕ ขอ.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ถาม : สรุปความใหสั้นที่สุดวาอยางไร ? คุณชวน, ไมเปนทาสของอายตะแลว ก็มีศีล สรุปความใหสั้นที่สุดวาอยางไร ?
ตอบ : สรุปความวา คนเราถาไมโลภ ไมโกรธ ไมหลง แลวก็อยูในศีล. เราใช คํ าวา ไม เป น ทาสอายตนะ, คื อ ตา หู จมู ก ลิ้ น กาย ใจของ เราไมเปนทาสของความเอร็ดอรอยทางอายตะเราจะมีศีลไดอยางไร ? ตอบใหสั้น ที่สุดก็คือเราไมลุอํานาจของกิเลส ไมทําไปตามอํานาจของความเปนทาสของอายตนะ
www.buddhadassa.in.th
๓๗๖
การกลับมาแหงศีลธรรม
เราก็สํ า รวมไวไ ด. พอเปน ทาสของอายตนะ เราสํ า รวมไวไ มไ ด ก็ไ ปประพฤติ ลวงศีล ประพฤติผิด ประพฤติลวงในสิกขาบท ที่เปนศีล. ถั ด ไปอี ก เราบั ง คั บ ความรู สึ ก ได เราจะมี ศี ล ได อ ย า งไร ? นี่ ยิ่ ง เห็ น ชัด ไมถ าม ; ถา ถามเดี ๋ย วตอบถูก หมด. ที ่นี ้เ รามีย ถาภูต สัม มัป ปญ ญา ซึ ่ง เปรียบเหมือนแสงสวาง เราก็มีศีลได, คนมีปญ ญา มีศีล ไดงายที่สุด. อุณ หภู มิ ประกอบด วยศรัท ธา, เรามี ศ รัท ธาแล วก็มี ศี ล ได ; แต อ ยากจะระบุ ไปยั ง แผ น ดิ น ที ่ว า “สัต วทั ้ง หลายที ่เ ปน เพื ่อ นทุก ข เกิด แก เจ็บ ตาย ดว ยกัน ทั ้ง หมดทั ้ง สิ ้น ” นี้จะทําใหมีศีล นาดู นาบูชา นาพอใจ ที่สุดเลย. ที นี้ อยากจะให ม องไปอี ก นิ ด ว าจากรากฐาน ๕ อย างนั่ น มั น มี ธรรมะ เชน หิริโอตตัปปะ เมตตา อะไรออกมาอีกดวย ; ศีลก็เลยดีใหญ. ที นี้ ถ า จะให คํ า ว า “ศี ล ” มี ค วามหมายเป น ที่ พ อใจระหว า งชาติ คื อ เป น ศี ล สากล, อย า ให เป น ที่ เบื่ อ ระอาสํ า หรั บ คนสมั ย นี้ ; เราจะต อ งให ค วาม หมายของคําวา ศีลนี้อยางไร.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ถาม : เอ า , ถามใหม ว า ทํ า ไมเด็ ก ๆ เขาจึ ง ไม ช อบคํ า ว า ศี ล โดยเฉพาะเด็ ก วัยรุนเสมัยนี้, เด็กวัยรุนสมัยนี้ ทําไมจึงไมชอบคําวา ศีล ?
ตอบ : เพราะเขาเข า ใจศี ล เป น ภาษาทางวั ด ทางธรรม ซึ่ ง เรื่ อ งทางวั ด ทาง ธรรมนั้น เขาถือวาถวงความเจริญ เขาเลยไมสนใจ. ถาม : นั่นเขาใจวาศีลเปนเครื่องถวงความเจริญ. ทีนี้คนที่เขามีความกาวหนา สมัยใหมมีศิวิไลซอะไรสมัยใหม ทําไมเขาจึงไมชอบคําวา ศีล คุณทอง ?
www.buddhadassa.in.th
ตนลําแหงศีลธรรม
๓๗๗
ตอบ : เพราะเขาคิ ด ว า หากไปประพฤติ ป ฏิ บั ติ ใ นแง ข องศี ล ธรรมเสี ย แล ว นั้นยอมบั่นทอนความเอร็ดอรอยทางเนื้อหนัง. ถาม : ดั ง นั้ น ศี ล จึ ง ไม เ ป น ที่ พ อใจอย า งของสากลใช ไ หม ? เดี๋ ย วนี้ ศี ล สิ่ ง ที่ เรียกวา ศี ล กํ าลั งตกอยู ในภาวะ หรือในสถานะที่ เขาเบื่ อระอา ไม อยาก ไดย ิน ; อยา วา จะใหป ฏิบ ัต ิเ ลย, เขาไมอ ยากแมแ ตไ ดย ิน . ทีนี้ เราจะทํ า อย า งไร จึ ง จะทํ า ให คํ า ว า ศี ล นี้ มั น น า รั ก น า พอใจ แก ค น เหลานั้น, คุณประยูร ? ตอบ : ตองพยายามเปลี่ยนคําจํากัดความ หรือความหมายใหมของศีล. ถาม : วาอะไรละ ? ตอบ : ว า ศี ล นี้ เป น สิ่ ง ที่ นํ า ความเจริ ญ รุ ง เรื อ งมาให แ ก ชี วิ ต หรื อ เป น สิ่ ง จํ า เป น ตอชีวิต.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org เขาก็ไ มเ ชื ่อ , หาวา พูด แตป าก ; มัน จะทํ า อยา งไรได ; เพราะวา คํ า ว า “ศี ล ” มั น ฝากไว กั บ ศาสนานี่ . คํ า ว า “ศี ล ” มั น มี อ ยู แ ต ในเรื่อ งของศาสนา. พอได ยิ น คํ า ว า ศี ล เขาก็ นึ ก ถึ ง ศาสนา แล ว เขาก็ ไม ช อบศาสนามาก อ น ; เขาก็ เลยไมชอบศีล.
เดี๋ยวนี้จะใหคําวา “ศีล” กลายมาเปนที่พอใจของคนสมัยใหมไดอยางไร ? ใครนึกออกกอน วากอน.
www.buddhadassa.in.th
๓๗๘
การกลับมาแหงศีลธรรม
ถ า อย า งไร ก็ เอาไปนึ ก ก็ ไ ด . มั น ยั ง มี ท างที่ จ ะต อ งนึ ก อี ก มาก ยั ง มี ความหมายที่เหลือไวสําหรับจะนึกตอไปอีกมาก และก็ตองนึกไดเอง จึงจะสามารถ เอามาใช พ ู ด จาให ม ี ป ระโยชน ได สํ า เร็ จ . ฝากไว ใ ห ท ุ ก คนช ว ยเอาไปคิ ด ว า จะเรี ย กศี ล นี ่ ก ั น เสี ย ใหม อ ย า งไร ; เด็ ก ๆ จึ ง จะชอบ . คนหนุ ม คนสาว สมั ย ป จ จุ บั น จะชอบ, ชาวต า งประเทศจะชอบ, พวกที่ ร่ํ า รวยไปด ว ย ความสุขทางวัตถุนั้น เขาจะชอบ. เรามี คํ า บั ญ ญั ติ ว า ความถู ก ต อ งทางกาย วาจา และ วั ต ถุ ที่ เนื่ อ ง อยู ด ว ยกั น ; นี้ ก็ นั บ ว า ดี ม ากอยู แ ล ว . เขาคงจะสนใจบ าง คื อ คํ า ว า ความถู ก ต อ ง ทางกาย ทางวาจา และวัตถุ ที่ เนื่ องกั นนั้ น มั นมี กลิ่ นไอของศาสนาน อยลง คื อไม ค อ ยไปเนื่ อ งกั บ ศาสนานั ก ; เราพยายามจู ง ไปหาหลั ก ทั่ ว ไป หรือ ธรรมชาติ ข อง มนุษยวา เราจะตองมีความถูกตองของมนุษย แลวจะไมมีความทุกข. ถ า เขานิ ย มคํ า ว า “มารยาท” ซึ่ ง เขาพู ด กั น มากนะ เดี๋ ย วนี้ คํ า ว า “มรรยาท” ; เราก็จ ะพูด วา “ศีล ” คือ ความถูก ตอ งทางมารยาท คือ ทางกาย ทางวาจา ; สมาธิ คือ ความถูก ตอ งทางมรรยาทในทางจิต ; สว นปญ ญา นั้น คือความถูกตองในทางความรู.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org คําวา “มรรยาท” หมายถึงสิ่งที่ตองประพฤติตอกันและกัน อยาง เป น ระเบี ย บเดี ย วกั น หมด คํา ว า “มรรยาท” นี่ แ ปลว า แนวเส น ตรง เสน หนึ ่ง ซึ ่ง ทุก คนจะตอ งยึด ถือ ; หัว คัน นาที ่ค ุณ เดิน เหยีย บย่ํ า อยู บ อ ย ๆ ที่ ในทุ ง นา หั ว คั น นาก็ เ รี ย กว า มรรยาท เป น ศั พ ท บ าลี ว า “มริ ย าท” คื อ มัน เปน เสน เปน แนว เปน แถว ที ่จ ะขีด ขั ้น อะไรใหแ นน อนลงไป วา อะไรเปน อยางไร ; นั่นเขาเรียกวา มรรยาท.
www.buddhadassa.in.th
ตนลําแหงศีลธรรม
๓๗๙
เดี ๋ย วนี ้ มัน ม าม ีเ ส น ม ีแ น วม ีข ีด ขั ้น อ ยู ที ่ก าย ที ่ว าจา เรีย ก วา มรรยาททางกาย ทางวาจา นี ้ค ือ ศีล ; นี ่เ ราพูด ใหเ ขาฟง วา ศีล คือ สิ ่ง ที่ จะทํ า ให เ กิ ด ความถู ก ต อ ง เป น ระเบี ย บเรี ย บร อ ย เป น เส น เป น แนว ลงไปที ่ก าย ที ่ว าจา ; มัน ก็เ ลยกาลายเปน วิท ยาศาสตรไ ป, หรือ กลาย เป น วิ ช ามนุ ษ ยวิ ท ยา สั ง คมวิ ท ยา สากลอะไรไป ; เขาก็ ค งจะรั ง เกี ย จน อ ยลง, หรือไมรังเกียจเลย, สําหรับคําวาศีล. เดี๋ ย วนี้ เราไม ไ ด อ ธิ บ ายคํ า ว า ศี ล ให เขาเข า ใจว า มั น คื อ อะไร ฝากไว แตก ับ ศาสนา ; เมื ่อ เขาเบื ่อ ศาสนา เขาก็พ ลอยเบื ่อ สิ ่ง ที ่เ รีย กวา ศีล เขาก็เ ลย ทํ า ผิด ศีล แลว ก็ต กนรกทั ้ง เปน อยู โดยที ่ไ มรู จ ัก ศีล ; ฉะนั ้น ตอ งชว ยกัน หนอ ย ให รู จั ก ศี ล ; ให ทุ กค น พ อ ใจที่ จะรั บ ศี ล ส ม าท าน ศี ล แล วก็ มี ศี ล . เราจะชี้ ประโยชนข องศีล ใหเ ขามองเห็น ใหจ นได, มัน ไมย าก มัน ไมล ึก ลับ อะไร, จน กระทั่วเขาจะมองเห็นไดวา เขาก็ชอบผลของการมีศีล.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org เดี๋ ย วนี้ เขาก็ เกลี ย ดโทษของการที่ ไม มี ศี ล อยู ด ว ยกั น ทุ ก คนแหละ ; แต แล ว ทํ าไมเขาจึ ง เป น ผู ที่ ไม มี ศี ล เสี ย เองละ ? นี่ แ หละส ว น “ศี ล ” เป น ลํ า ต น ชั้ น นอก คื อ ชั ้ น เป ลื อ ก ; ค ว ร จ ะ ทํ า ให เ ป น ส าก ล เป น ค ว าม รู ส าก ล เป น ก าร ปฏิบ ัต ิส ากล, หรือ เปน เหมือ นอะไร ที ่เ รีย กวา เปน ความนิย ม หรือ เปน คา นิยม อยางสากล ; โลกนี้ก็จะมีศีลธรรมกลับมาในชั้นแรก ชั้นศีล. ที นี้ เมื่ อ พู ด แล ว พู ด ให จ บเสี ย เลยดี ก ว า ว า ในชั้ น สมาธิ , สมาธิ ขั น ธ นี่ คื อ อะไร ? สมาธิ คื อ ความถู ก ต อ งในทางจิ ต ; จิ ต อบรมดี แ ล ว เป น จิ ต ที่ มี ส มรรถนะ ; สามารถทํ า หน า ที่ ข องจิ ต หรื อ ว า เราจะควบคุ ม จิ ต ได ให อ ยู ใ น
www.buddhadassa.in.th
๓๘๐
การกลับมาแหงศีลธรรม
ระเบียบ หรือในมรรยาทของจิต แลวมีผลลึกเขาไปกวาศีล. เมื่อมีสมาธิแลวก็ได รับประโยชนจากสมาธิ มากยิ่งขึ้นไปกวาที่ไดรับประโยชนจากศีลเสียอีก. แตแลว ทําไมคนเขาจึงเกลียดการเจริญสมาธิ, ไมอยากมายุงกับเรื่องของสมาธิ ของภาวนา ของกัมมัฏฐาน. ถาม : คุณทอง เห็นวาเปนเพราะอะไร คนจึงเกลียดสมาธิ ? ตอบ : การที่ ป ล อ ยจิ ต ให ล อ งลอยไปตามกระแสแห งความนึ ก คิ ด หรือ ที่ เรีย ก ว า ฝ น นั้ น มั น เป น ความสุ ข ชนิ ด หนึ่ ง ; ส ว นการที่ จ ะเหนี่ ย วรั้ ง ดึ ง บังคับมานี้ มันเกิดความรูสึกตองอดทน ตองตอสู. ถาม : คุณชวน ทําไมคนทั่วไปจึงเกลียดคําวาสมาธิ หรือการเจริญสมาธิ หรือ เจริญภาวนา ?
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ตอบ : กระผมมีความเห็นวา คนเดี๋ยวนี้ไมมีความอดทนครับ คือมีความอดทน น อ ย. เมื่ อ แปลคํ า วาสมาธิไปในทางฝ ก ฝนตนเองให ห นั ก ขึ้ น คนก็ เลย เบื่อ, ไมอยากจะไดยินคํานี้ ไมอยากจะเอาไปปฏิบัติ.
ถาม : เขายังไมเคยทําสมาธิสักที ทําไมจึงไปรูวา ตองอดทนละ ?
ตอบ : ไดศึกษามาจากภาษา นะครับ. ถาม : ไดย ิน เขาวา , ไดย ิน เขาวา แลว ก็ก ลัว ไวเ สีย กอ น, กลัว วา เราจะ ทนไม ไหว, เราจะสู ไม ไหว. เอ า , คุ ณ ล้ํ า ทํ า ไมคนจึ ง เกลี ย ดสมาธิ ?
www.buddhadassa.in.th
ตนลําแหงศีลธรรม
๓๘๑
ตอบ : เนื่ อ งจากวั ฒ นธรรม มั น เปลี่ ย นแปลงไปมาก แล ว คนส ว นมากก็ ติ ด กับวัตถุ จึงเกลียดตอสมาธิครับ. ถาม : คุณสรุปสั้น ๆ วา คนเขาชอบฟุงซานใชไหม ? คุณประยูรวาอยางไร ? ตอบ : คนที่เกลียดสมาธิ หรือการเจริญภาวนาสมาธิ เพราะเขายังเขาใจความ หมายของคํ าวาสมาธิ ผิ ด ; อาจจะเขาใจจากการอ านตํ ารา หรือ ฟ ง เพื่ อ นว า หรือ จะไปเห็ น ใครเขานั่ งสมาธิ ตั ว แข็ ง ทื่ อ หรือ อะไรต า ง ๆ นั ่น แลว ก็น ึก วา ไออ ยา งนั ้น ไมเ ห็น ไดป ระโยชนอ ะไร. เขาก็เ ลย ไมสนใจ เลยชอบอยูตามสบาย ๆ โดยไมรูความหมายของสมาธิที่แท จริงนั้นเอง. ถาม : นี่คุณยังยืนยันวา สมาธินี้ ยังเปนของดีมีประโยชนอยู แมในยุคนี้หรือ ?
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ตอบ : สมาธิที่แทจริง ในยุคไหน มันก็มีประโยชนตลอดไป แตวาคนไม เขาใจตางหาก.
ถาม : แลวความรูสึกของคุณเอง รูสึกวาสมาธิ ยังใชไดในยุคนี้ ยังมีประโยชน มีคาอยางยิ่งในยุคนี้รึ ?
ตอบ : ในยุคนี้ก็ยังใชไดอยู. ถาม : คุณทํากี่มากนอย ? ตอบ : ก็ ทํ าอยูเรื่อย ๆ. คํ าวา สมาธินี้ หมายความวา ถาพยายามที่ จะทํ าอยู เรื่อ ยไป ; ในเมื่ อ ทํ าอะไรทุ ก ๆ อย า ง ถ าทํ า โดยสมาธิ มี จิ ต ที่ ตั้ งมั่ น
www.buddhadassa.in.th
๓๘๒
การกลับมาแหงศีลธรรม อยู ใ นงานนั ้น มัน ก็ทํ า งานนั ้น ไดด ีขึ ้น . นี ่เ ปน การสมาธิที ่ไ มใ ชไ ปนั ่ง ฝ ก ภาวนา แต เป น สมาธิ ที่ ทํ า กั บ งาน. สมาธิ อ ย า งนี้ มี ป ระโยชน ต ลอด เวลา แลวผมก็พยายามทําอยูเรื่อย ๆ.
นี ้เ ปน สิ ่ง หนึ ่ง ซึ ่ง เราควรจะรื ้อ ฟ น ขึ ้น มา ; คือ คํ า วา “สมาธิ” นั ่น ไมไ ดห มายความวา ตอ งไป นั ่ง ตัว แข็ง อยู ใ นปา . สมาธิ คือ จิต เปน สมาธิ เมื ่อ ทํ า การงาน ; ฉะนั ้น เราฝก ใหจ ิต เปน สมาธิ. เมื ่อ ทํ า การทํ า งานทุก ชนิด งานนั้ น ก็ ทํ าได ดี และ มี ค วามสุ ข ในการงาน. อย า ให เห็ น เป น เรื่อ งของศาสนา ; เพราะวาเขาเกลียดศาสนาเสียแลว สิ่งใดที่เนื่องอยูกับศาสนา เขาก็พลอยเกลียด ; ทีนี้ เราก็ยังไมสามารถจะทํ าใหเขารักศาสนาได เราตองแยกออกมาวา เรื่องสมาธิ นี้ เปน เรื่อ งธรรมชาติ, เปน หลัก เกณฑข องธรรมชาติ ; เปน ความจริง อัน หนึ ่ง ที่ ธ รรมชาติ กํ า หนดไว ว า ถ า เรามี ส มาธิ แ ล ว เราจะเป น สุ ข และเราจะทํ า งานได ดี เราจะคิดดี จําดี อะไรไดดี.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org การทํ า งานทุ ก อย า ง ต อ งมี ส มาธิ อยู ใ นนั้ น ; แม ว า เราจะไม รู สึ ก หรือ ตอ งรู ส ึก วา เรามีส มาธิ มัน ก็ม ี. เชน คนจะตีห ัว ตะปู ใหล งไปบนหัว ตะปู ให ตะปู ลงอย างดี ; นี่ มี ความเป นสมาธิ ม ากเหลื อเกิ น . แต เขาไม รูวามี สมาธิ ; เขารู วา มือ ของเขาเกง ตา งหาก แลว เขาก็ต ีต ะปูล งไปได. โดยแทจ ริง แลว นั ่น คือ มี ค วามเป น สมาธิ โ ดยธรรมชาติ ; ธรรมชาติ ส ร า งให มี ส มาธิ เพิ่ ม ขึ้ น ๆ ตามที่ เรา ทํางานมากขึ้น. เราชํานาญอะไรมากขึ้น ความเปนสมาธิก็มีมากขึ้น.
ที นี้ ย กตั ว อย า ง แม แ ต เ พี ย งว า เด็ ก ๆ เขาจะยิ ง หนั ง สะติ๊ ก ; เขาก็ ต อ งการสมาธิ ในอั ตราที่ เต็ ม บริ บู รณ ที่ จะยิ งหนั งสะติ๊ ก ให มั น ถู ก ได . ขอให เขาเห็ น ประโยชน อ านิ ส งส ข องสมาธิ อ ย า งนี้ , เห็ น ว า เป น เรื่ อ งธรรมชาติ อ ย า งนี้ ไม เหลื อ
www.buddhadassa.in.th
ตนลําแหงศีลธรรม
๓๘๓
วิ สั ย . ที นี้ เราชวนให เขาสร า งสมาธิ ที่ ยิ่ งขึ้ น กว า นั้ น เขาก็ ค งจะพอเข า ใจ ; นี่ คื อ แยกตัวออกมาจากสิ่งที่เรียกวา ศาสนา เสียทีกอน. เพราะวาเขาเอื อมระอาต อสิ่ งที่ เรียกวาศาสนานั กแล ว, ชวนเขามาทํ า สมาธิจากธรรมชาติ, ของธรรมชาติ, ตามธรรมชาติ, กันเสียที เพื่อจะไดทํางาน ไดด ี ; เขาก็ค งจะสนใจ. ทีนี ้เ ราบอกเขาวา ถา จะฝก สมาธิใ หม าก ใหเ ร็ว ใหถ ึง ที ่ส ุด แลว ก็ม าฝก อยา งที ่เ ขาฝก กัน ในปา นั ่น แหละ ; เขาคงจะสนใจใน การฝ ก สมาธิ ในป า บ างไม ม ากก็ น อ ย. เมื่ อ เป น ดั ง นี้ จิ ต ของคนเราในโลกนี้ ก็ จ ะ เปนจิตที่ไดรับการอบรมดี ในสวนของสมาธิ. ทีนี้ อยาลืม วาจะตองทดสอบดวยหลัก ๕ ประการ นั้นเสมอ เชนวา ถาเรามีความรูสึกแทจริงอยูวา “สัตวทั้งหลายเปนเพื่อนทุกข เกิด แก เจ็บ ตาย ดวย กันทั้งหมดทั้งสิ้น” ดังนี้แลว สมาธิจะเปนอยางไร ?
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ถาม : จะเปนขาศึกแกสมาธิ หรือวาจะสงเสริมสมาธิ คุณเห็นวาอยางไร คุณชวน ?
ตอบ : กระผมมีความเห็น วา ถาเรามี ความคิดเห็นวา สัตวทั้งหลายเปนเพื่ อ น ทุกข เกิด แก เจ็บ ตาย ดวยกันทั้งหมดทั้งสิ้นแลว จะเป นการสงเสริม สมาธิไดอยางดีครับ.
ถาม : สงเสริมอยางไร วาใหชัดอีกสักหนอย ? ตอบ : คื อ ว า จะทํ า ให จิ ต ใจของเราสะอาด สว า ง สงบ ปราศจากความทุ ก ข เดือดรอนทางดานจิตใจ แลวก็จะทําใหจิตใจของ เรามีสมาธิดีขึ้น.
www.buddhadassa.in.th
๓๘๔
การกลับมาแหงศีลธรรม
ถาม : ตองอธิบายใหเห็นชัดลงไปจริง ๆ เชนถาเราไปเกิดรูสึกวา “สัตว ทั้งหลายเปนเพื่อน ทุกข เกิด แก เจ็บ ตาย ดวยกันทั้งหมดทั้งสิ้น” ; แลวเราก็ไปกลัววา เราไมไดชวยเขา เราไมสามารถจะชวยเขา จิตใจ ของเราฟุงซานอยู ; อยางนี้มันจะเปนสมาธิไดอยางไร คุณประยูรวา อยางไร ? ถาเรามีความรูสึกอยางนั้น แลวจะสงเสริมสมาธิไดอยางไร หรือวาจะเปนอุปสรรค ? ตอบ : ถาเรามีความรูสึกวา “สัตวทั้งหลายเปนเพื่อนรวมเกิด แก เจ็บ ตาย” แลว เราก็ตั ้ง ใจทํ า ใหจ ิต ของเราเปน ไปในแนวเดีย วนั ้น อยู ต ลอด เวลา เปน การทํา ใหจิต ของเรานี้ไ มฟุง ซา น ; เพราะเราคิด อยูใ น แงเดียว. ฉะนั้น การทําอะไรถามีเปาหมาย มีอุดมการณอยูอยางนั้น อยูในแงเดียว โดยไมเขว, คือไมมีการลังเล เพราะความรูสึกอยาง ที่กลาวมาแลวเมื่อตะกี้ ; อยางนี้ ถาเมื่อจิตไมเขวไปคิดถึงเรื่องอยาง อื่นอยางหนึ่งอยางใด แลว มันก็เปนสมาธิอยูในตัวเสียแลว.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org นี่กระทัด รัดดี และเห็ นงายหนอ ย เพราะฉะนั้ น จะต องไปเล็งถึ ง ลักษณะของความเปนสมาธิ ที่สรุปโดยยอที่สุด. ในชั้นตนก็ตองพูดวา สมาธิ คือความที่จิตไมฟุงซาน ดวยอํานาจแหงนิวรณ. ถาม : นิ ว รณ คื อ อะไร ? คุ ณ ทอง นิ ว รณ คื อ อะไร ลื ม แล ว หรื อ ? เอ า ! นิวรณ ไปเรียนเสียใหม. ลืมก็ได ไมเปนไร. กามฉัน ทะ พยาบาท ถีน มิท ธะ อุท ธัจ จะกุก กุจ จะ วิจ ิก ิจ ฉา คือความรูสึกฟุ งซานตามธรรมดาสามัญ ชนทั้งหลายนั่น เขาเรียกวา นิวรณ :
www.buddhadassa.in.th
ตนลําแหงศีลธรรม
๓๘๕
กามฉัน ทะ –ฟุ ง ซา นดว ยความรู ส ึก ทางกาม, - พยาบาท - ฟุ ง ซา นเพราะ ความไมช อบ, ความชัง คือ พยาบาท, ถีน มิท ธะ - ฟุ ง ซา นเพราะมัน ซึม เซา ไมแ จม ใส, อุท ธัจ จะกุก กุจ จะ - ฟุ ง ซา นเพราะมัน ฟุ ง เกิน กวา ปรกติ, วิจิก ิจ ฉา - ฟุงซานอยูดวยความไมแนใจ ในอะไรสักสิ่งเดียว ; นี่เรียกวานิวรณ. ความฟุ ง ซา นเหลา นี ้ เปน สิ ่ง ที ่ต รงกัน ขา มจากสมาธิ. รากฐาน อันแรก ที่ เราทํ าความรูสึก วา “สั ตวทั้ งหลายที่ เป น เพื่ อ นทุ กข เกิ ด แก เจ็บ ตาย ดว ยกัน ทั ้ง หมดทั ้ง สิ ้น ” นี ้ จะระงับ ความฟุ ง ซา นพื ้น ฐาน ๕ ประการเหลา นั ้น ; หรือมันเริ่มสรางจุดที่แนนอนขึ้นมา สําหรับจิตเราจะไดถือเปนหลัก ยุติวาอะไร. อย าง กามฉั น ทะ นี้ ถ าเห็ น อกเพื่ อ นมนุ ษ ย อ กเดี ย วกั น ด วยการเกิ ด แก เจ็ บตาย แล วกามฉั นทะมั นก็ เกิ ดยาก เป นต น. แล ว พยาบาท นี้ คื อความโกรธ ความเกลีย ด ความริษ ยา ประทุษ รา ย นี ้เ กิด ไมไ ด เพราะเห็น อยู ว า “สัต ว ทั้ งหลายเป น เพื่ อ นทุ ก ข เกิ ด แก เจ็ บ ตาย อยู ด วยกั น ทั้ งหมดทั้ งสิ้น . ถึงแม วา ความรูสึ ก ที่ ซึ ม เซา ก็ ดี ก็ เกิ ด ยาก. ถ าเราไปเห็ น อกเห็ น ใจผู อื่ น อยู ความฟุ งซ า น ไมเ กิด เพราะมัน รู พ อดี รู ถ ูก ตอ ง รู ห นา ที ่, ทํ า ใหส นใจปฏิบ ัต ิ ใหส มกับ ที ่ว า เราเปน เพื ่อ นทุก ข เกิด แก เจ็บ ตาย. เมื ่อ เรามีค วามแนใ จวา เราตอ ง เกิด แก เจ็บ ตาย นี ่เ ราก็ไ ม วิจ ิก ิจ ฉา ในขอ นี ้แ ละขอ อื ่น ที ่เ นื ่อ งกัน ; จะทํ า หนา ที่ ทุกอยาง ที่เปนหนาที่ของมนุษยเรา หรือวาเพื่อตัวเรา และเพื่อผูอื่นดวย.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org สรุ ป แล ว มั น ทํ า ให ใ จคอปรกติ แจ ม ใส มั่ น คงไม ฟุ ง ซ า น ; ก็ เ ป น สวนสงเสริมใหเกิดสมาธิ.
www.buddhadassa.in.th
การกลับมาแหงศีลธรรม
๓๘๖
ส ว น ก า ร ไ ม เ ป น ท า ส ข อ ง อ า ย ต น ก็ ด ี ก า ร บั ง คั บ ค ว า ม รู ส ึ ก ไว ในอํ า นาจก็ ดี ก็ ส งเสริม สมาธิ อ ยู ในตั ว เป น สมาธิ อ ยู ในตั ว แม ย ถาภู ต สั ม มั ป ป ญ ญาก็ ช ว ยให ทํ า สมาธิ ได ม ากขึ้ น เร็ ว ขึ้ น . ศรั ท ธาในสิ่ ง ที่ ต นจะต อ งทํ า ก็ ช ว ย ความเปนสมาธิมากขึ้น. ถาม : ถ าพู ดกับคนสมั ยป จจุบั นนี้ สมั ยใหม เจี๊ยบเลย เราจะพู ดกั บเขาวาสมาธิ มี ประโยชน อ ยางไร ? คุณ ประยู ร ตอบประโยคที่ สั้ น ที่ สุด ไม ยืดยาว ฟุมเฟอย. ตอบ : สมาธินี้เปนพลังจิตอยางหนึ่งที่จะใหทํางานสําเร็จประโยชน. ถาม : ก็ได, มันเปนการโฆษณาที่ดี วาสมาธินี้เปนพลังแหงความสําเร็จ ในการงานทั้งหมด, คุณทองพูดใหดีกวานี้อีก ?
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ตอบ : สมาธินี้เปรียบเหมือนแกวสารพัดนึก.
ถาม : ใช ทํ า อ ะ ไรก็ ไ ด ; นี ้ ต อ งพู ด มี ห ลั ก พ ระพุ ท ธ เจ า ท า น ได ต รั ส ไว อยา งนั ้น วา จิต สิ ่ง เดีย วนี ้ทํ า อะไรไดห มด. ขอใหอ บรมใหถ ูก ตอ ง และเต็ ม ที่ จะเป น เหมื อ นดั ง แก ว สารพั ด นึ ก ได . คุ ณ ชวนตอบที , พู ด อยางไรสมัยนี้ ประโยคเดียว ใหคนทําสมาธิกันเต็มบานเต็มเมืองเลย ?
ตอบ : สมาธิคืออํานาจในการทํางานใหสําเร็จลุลวงไปดวยดี. ถาม : มันคลาย ๆ กับเพื่อนตอบแลวนั่น, เอาคุณล้ํา !
www.buddhadassa.in.th
ตนลําแหงศีลธรรม
๓๘๗
ตอบ : ทุกวันนี้ตองพูดวา ทุกอยางตองใชสมาธิ แมแตการอานหนังสือ การ ทํางานทุกอยาง นี่ตองใชสมาธิ. เขายังไมมองเห็น เขายังไมยอมรับ เราตองทําใหเขารูสึกวามันตรง กับความประสงคของเขาใหชัดกวานั้น. ก็อยางที่ตอบแลวนี่. มันตางกันอยู แตเพียงวารัดกุมหรือไมรัดกุม. สมาธิ เ ป น เครื่ อ งมื อ ให ทํา อะไรได ทุ ก อย า ง, ค อ ย ๆ อธิ บ าย ไปใหเห็นวามันใชทําอะไรไดทุกอยาง : นับตั้งแตเรียนหนังสือ ไปจนถึงประกอบ อาชีพ กระทั่งประดิษฐ, กระทั่งเรื่องทางธรรม บรรลุ มรรค ผล นิพพาน เลย. ฉะนั้นลําตนสวนที่เปนสมาธิ คือเนื้อแข็งชั้นถัดเปลือกเขาไป แตยังไมถึงแกน. ทีนี้ มาถึงลําตนของศีลธรรมชั้นสุดทาย คือ ที่เปน แกนแท เรียก วาปญญา
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ถาม : ตองสอบไล เพราะไดฟงมาหลายหนแลว ; ปญญานี้มีกี่แบบ กี่ชนิด กี่ลักษณะ คุณทอง! ตอบ : ยังนึกไมออกครับ.
ถาม : คุณประยูร ? ตอบ : ปญญาตามตัว แปลวา รูพรอม ; ฉะนั้นมันก็คงจะมีสัก ๒ อยาง คือ ปญ ญาที ่รูพ อ กับ รูไ มพ อ, หรือ รูพ รอ มกับ รูไ มพ รอ ม, รูพ อดี หรือวารูเกิน ; คงจะมี ๒ อยาง อยางนี้.
www.buddhadassa.in.th
๓๘๘
การกลับมาแหงศีลธรรม
ถาม : ที่คุณเคยพูดอยูบอย ๆ ลืมแลวหรือ ? ตอบ : คือปญญาที่ถูกตอง กับไมถูกตอง. ถาม : คุณล้ํา ปญญามีสักกี่แบบ กี่ระดับ กี่ชั้น ที่จะทําใหเกิดความเขาใจผิดได ? ตอบ : ปญญา ผมวามีสองชั้น คือปญญาขั้นตนก็คือ. เอ า , นี่ ส อบไล ต กหมด ; เพราะว า พู ด กั น หลาย ๑๐ ครั้ ง แล ว ว า ปญ ญา นี้ตองระวัง. มันมีปญ ญาชนิดที่เรียกวา เฉโก อยูอันหนึ่ง คือ ปญ ญา สํา หรับ ตลบแตลง ; จะเรีย กวา ไมมีปญ ญาก็ไ มไ ด. ปญ ญาเฉโก คือ ปญ ญา ที ่ อ ยู ภ ายใต อํ า นาจของกิ เ ลส. กิ เ ลสใช ใ ห เ ขาทํ า งาน เขาก็ ใ ช เ ฉโก. นี่ พูด ภาษาไทย, เฉโกที่เปน ภาษาไทย. นี้เรีย กวา เปน ระดับ ต่ํา สุด ของปญ ญา คือเฉโก, ปญญาที่ไปตามอํานาจของกิเลส, ปญญาชนิดไมซื่อตรง.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ทีนี้ ป ญ ญาสูงขึ้นมา คือ ป ญ ญาตามธรรมดา ที่ คนทั่ วไปจะต องมี , จะเรียกวาปญญาเฉย ๆ ก็ได. ป ญ ญาสู ง สุ ด ในพุ ท ธศาสนา เรีย กว า ยถาภู ต สั ม มั ป ป ญ ญา ; ชื่ อ ยาวเฟ อ ย ยถาภูต สัม มัป ปญ ญา, ปญ ญาที ่เห็น อยา งถูก ตอ งตามที ่เปน จริง อยางไร ของสังขารทั้งปวง. เรามี ปญ ญ าเฉโก ซึ ่ง ไมน า ไวใ จ อยา มีก ็ไ ด ; แลว ปญ ญ า ธรรมดา ทํา มาหากิน เลา เรีย นอะไรไป ที่จ ะไดเ ปน ไปโดยสุจ ริต ก็เ รีย กวา
www.buddhadassa.in.th
ตนลําแหงศีลธรรม
๓๘๙
ปญ ญา ; สูง ขึ้น ไป : ปญ ญาทางศาสนา จะเห็น อนิจ จัง ทุก ขัง อนัต ตา นี่เรียกวา ยถาภูตสัมมัปปญญา. ทีนี ้ เรื ่อ งเฉโก ไมูพ ูด , เรื ่อ งปญ ญาชาวบา น ก็ไ มพ ูด ; พูด แต เรื ่อ งปญ ญา อัน บริส ุท ธิ ์ท างศาสนา. เขาก็ย ัง แจกไปวา มีป ญ ญาชนิด ที่ ไดม าจากการศึก ษาเลา เรีย น, และปญ ญาที ่ไ ดม าจากการใชเ หตุผ ล และ ปญญาที่ไดมาจากการเจริญภาวนา. นี่มีถึง ๓ ชั้นอีกเหมือนกัน. เราเล า เรีย นจํ าได ก็ เป น ป ญ ญาชนิ ด หนึ่ ง , แล ว เราคิ ด ค น ก็ เป น ปญญาสูงขึ้นไป, สวนปญญาเพราะเจริญภาวนา เห็นประจักษตามที่เปนจริง คือ ยถาภูต สัม มัป ปญ ญา. อยา งทีแ รกเขาเรีย กวา สุต ามยปญ ญา - ปญ ญาที่ เกิด จาการศึก ษาเลา เรีย น. อยา งที ่ ๒. เขาเรีย กวา จิน ตามยปญ ญ า – ปญ ญ าที ่เ กิด มาจากการคิด คน โดยการใชเ หตุผ ล. อยา งที ่ ๓. เรีย กวา ภาวนามยป ญ ญ า -ป ญ ญ าที ่ ม าจากการเจริ ญ ภ าวนา. อย า งหลั ง สุ ด นี่แหละเปนยถาภูตสัมมัปปญญา.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ถาพู ด ได ครอบหมดทั้ งโลก ก็ต อ งมี ป ญ ญา ๓ คื อ เฉโก, ป ญ ญา ธรรมดา, และยถาภูตสัมมัปปญญา. ยถาภูตสัมมัปปญญา นี้เราจะมีทางหามาได โดยการศึกษาเลาเรียน โดยการคิดคน โดยการเจริญ ภาวนา. นี่คําวา “ปญ ญา” ควรจะรูจักกันอยางนี้. ....
....
....
....
www.buddhadassa.in.th
๓๙๐
การกลับมาแหงศีลธรรม
ทีนี้จะตองพูดตรง ๆ หนอยวา การศึกษาของมนุษยในโลกยุคปจจุบันนี้ มันใหเกิดปญญาชนิดไหน. ถาม : ใครกล าพู ด ลองพู ด ที วาการศึ ก ษาของมนุ ษ ย ในโลกยุ ค ป จ จุ บั น นี้ มั น ใหปญญาชนิดไหน ? เอา, คุณทองนึกออกแลว. ตอบ : เปนปญญาที่อยูภายใตของกิเลส. ถาม : เปนปญญาที่อยูภายใตกิเลส. เอา, คุณทองละ ? ตอบ : ใหปญญาชนิดที่ใหเห็นแกตัวยิ่งขึ้น. ถาม : ปญญาที่เพิ่มความเห็นแกตัวยิ่งขึ้น, ปญญาที่สงเสริมกิเลส. คุณประยูร วาอยางไร ?
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ตอบ : ก็คงจะไปแบบนั้น คือเปนปญญา ที่ทําใหคนหาวิธีที่จะกอบโกยได มาก ๆ ขึ้น นั่นแหละครับ. ถาม : นี่วากันโดยสวนมาก หรือทั้งหมด ; ที่คุณวานี้วากันโดยสวนมาก หรือทั้งหมด ?
ตอบ : ที ่ว า นี ้ จะวา โดยสว นมาก ก็จ ะไดแ ลว เดี ๋ย วนี ้ แตไ มถ ึง กับ ทั ้ง หมด คือ มัน เปน ปญ ญาที ่ศ ึก ษาในทางวัต ถุ ประดิษ ฐค ิด ของใหมอ ยู เ รื ่อ ย โด ย ไม ได มี ป ญ ญ าใน ท างรู เ ท าทั น ท างด าน จิ ต ใจ . ถ าค น ไห น
www.buddhadassa.in.th
ตนลําแหงศีลธรรม
๓๙๑
ไมเขาใจ ตามไมทัน มันก็ติดวัตถุ ฉะนั้น จึงเลยยุงกัน. การศึกษา เดี๋ยวนี้ ใหเกิดปญญาที่เปน ไปในทางวัตถุ ประดิษฐวัตถุใหม ๆ ขึ้น มาเรื่อย ; ฉะนั้น ปญญาที่จะนําไปสู ยถาภูตสัมปปญญาไมมีทางจะ เปนไปได ผมหมายถึงอยางนี้. ถาม : เปนความผิดของใคร ? ตอบ : อยางนี้พูดยากจัง ; ก็เปนความผิดของผูจัดระบบการศึกษา. กระผม พูดไดอยางนี้เทานั้นเอง. ถาม : เปนเจตนาของเขาหรือ ? ตอบ : ก็ ค งจะไม เจตนา, ไม ได เจตนา ; แต มั น เป น การรับ ช ว งมาจากผู ให กําเนิดระบบการศึกษาสมัยใหม อีกเปนทอดไปละครับ.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ถาม : นี่รูไวเสีย ดว ยวา ลัก ษณะอยา งนี้เขาเรีย กวา เปน กรรมแหง วัฏ ฏะ ภาวะตกหนัก อยา งที่วา นี้เ ขาเรีย กวา เปน กรรมวัฏ ฏะ ; คุณ ทอง เขาใจหรือยัง ? กรรมแหงวัฏฏะคือ อยางไร ? คุณ ทอง นึกไมอ อก. ไมเคยไดยินคํานี้เสียเลยหรือ ?
ตอบ : วัฏฏะก็คือ อยากจะได -แลวก็ทํา -แลวก็ไดมา –แลวก็ทํากรรมตอไป อีก ; ก็คือกรรมแลวก็วิบาก. นั่นตัววัฏฏะ ; เดี๋ยวนี้เปนกรรมแหงวัฏฏะ. นี่อีกความหมายหนึ่ง จะพู ด ให ฟ ง , อาจจะยั ง ไม เ คยฟ ง . ถ า เขาพู ด ว า กรรมวั ฏ ฏะ, หรื อ กรรม
www.buddhadassa.in.th
๓๙๒
การกลับมาแหงศีลธรรม
ของวั ฏ ฏะ, หรื อ กรรมในวั ฏ ฏะ ; นั่ น คื อ ว า ไม ไ ด เ ป น เจตนาของใคร ; มันเปนเรื่องของวัฏฏะที่มันหมุนเวียนมาถึงราศีอันนี้ ไมใชเจตนาของใคร ฉะนั้น จะไปปรับแกใครโดยตรงก็ไมได ก็เลยปรับเปนของวัฏฏะ, หรือวาของสัตวโลก ทั้งหมด. สัตวโลกทั้งหมดกําลังเผลอเรอปลอยมาในลักษณะอยางนี้ จึงมาอยู ในสภาพอยางนี้ มาหลงการศึกษาแตทางวัตถุ อยางนี้, แลวก็เพิ่มปญญาชนิดที่ เห็นแกตัว จนกลายเปนเฉโก มีปญญาแตในทางที่จะแสวงประโยชน โดยไมคํานึง ถึงผิดชอบชั่วดี. นี่โลกนี้ก็กําลังเจริญแตปญญาอยางนี้ มันก็ไมถูกธรรมะ จึงไมมี สันติภาพ มีแตวิกฤติการณ. ถาม : ลองตั้ ง คํ า ถามอี ก คํ า หนึ่ ง นะ ; ขออภั ย หน อ ย ว า พวกนั ก การเมื อ ง เขามีปญญา ชนิดไหนกัน, คุณล้ํา ?
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ตอบ : ปญญาชนิดเฉโกครับ.
เพราะว า คุ ณ เป น นั ก การเมื อ งในตั ว มี แ ต ป ญ ญาเฉโก ก็ แ ปลว า สารภาพวา นักการเมืองทั้งหลาย เขาชอบกันแตปญญาเฉโก. แมในที่ประชุม แหง นัก การเมือ งระดับ โลก, ระดับ โลกเลยนะ, อยูที่ไ หนก็ต ามใจ ; อยา ไปออกชื่อ ก็มีแ ตปญ ญาเฉโก, มุง แตจ ะปอ งกัน ประโยชนข องตน อยา งไม คํ า นึง ถึง ธรรมะ. “จะปอ งกัน ประโยชนข องตน” หมายความวา ใหไ ด ประโยชนมาโดยไมคํานึงถึงธรรมะ เพราะมันเปนเฉโก ไมใชปญญา.
www.buddhadassa.in.th
ตนลําแหงศีลธรรม
๓๙๓
ถาม : ปญ ญาของนักประดิษฐคนควา คิดคนสิ่งวิเศษขึ้นมาในโลกปจจุบันนี้ เป น ป ญ ญ าช นิ ด ไห น ? ไป โล ก พ ระ จั น ท ร ไ ด , ทํ า อ ะไรก็ ไ ด , เปนปญญาชนิดไหน ? จะเรียกวาปญญาคดโกง หรือปญญาซื่อตรง ; พูดอยางนั้นกอนดีกวา เฉโกหรือเปลา ? ตอบ : ไม ถึ ง กั บ คดโกง แต ห มายถึ ง หวั ง จะได ชื่ อ เสี ย งของตั ว เอง หรื อ เพื่ อ ประโยชน ; ไมเชนนั้นก็เพื่อประโยชนของสวนรวมก็ยังได. นั่นแหละ อยางบริสุทธิ์ใจ ก็เปนเพียงโลกิยปญ ญา คนควาพบสิ่ง ที่มั น ยังลึ กลั บ อยู ; แต ส วนมากมั กจะมี มู ลมาจากความเห็ นแกตั ว จึงไปดิ้น รน ขวนขวายสิ่งที่จะใชเปนเครื่องขมขู หรือวาย่ํายีผูอื่นได มักจะเปนเสียอยางนั้น. ถาเปน ความคิดบริสุท ธิ์ ก็จัด ใหเปน ปญ ญาบริสุท ธิ ; แตถึงอยางนั้น ก็ยังเปน โลกิยปญญา ใหประโยชนไดแตในเรื่องของโลก ๆ ไมนําไปสูความหลุดพน.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ถาม : ป ญ ญา ที่ เกิ ด ขึ้ น มาที ล ะน อ ย ตามสมควรแก อั ต ภาพของคนที่ เกิ ด มาในโลกนี ้ มีอ ายุม ากขึ ้น ทุก วัน ๆ จนเดี ๋ย วนี ้ ก็ม ีอ ายุตั ้ง ๗๐, ๘๐, ๙๐ แลว ปญญาอยางนี้ เรียกวาปญญาชนิดไหน ?
ตอบ : ปญญาอยางนี้ ควรจะเรียกวา เปนยถาภูตสัมมัปปญญา.
ปญญาอยางนี้คือจุดตั้งตน หรือ ก.ข.ก.กา ของยถาภูตสัมมัปปญญา, ขอใหทานทั้งหลายทุกคน มองเห็นสิ่ง ๆ นี้ วา เราก็มีทางที่จะมียถาภูตสัมมัปปญญา. ขอใหตั้ง ขอสัง เกตไวใ หดี ๆ วา ตั้ง แตเกิด มาเรารูอ ะไร, เราเห็น อะไร, เรารูสึก
www.buddhadassa.in.th
การกลับมาแหงศีลธรรม
๓๙๔
อ ะ ไ ร, อ ย า ง ไร ; “ค ว า ม ผิ ด ก็ เ ป น ค รู , ค ว า ม ถู ก ก็ เ ป น ค รู ” นั ่ น แ ห ล ะ คือ จุดตั้งตนของยถาภูตสัมมัปปญญา. เราเคยผิด มากี ่ร อ ยครั ้ง , เคยถูก มากี ่ร อ ยครั ้ง , จนเดี ๋ย วนี ้เ ราก็รู อะไรมาก, คนแก ๆ รู อ ะไรมาก พอที ่จ ะบอกใหเ ด็ก ๆ ฟง บา ง ; อยา งนี ้เ ปน ยถาภู ต สัม มั ป ป ญ ญา ตั้งต นมาจากโลก ๆ, แลวก็สู งขึ้นมาตามลํ าดั บ จนกระทั่ ง เห็ น วา “ดั บ ไม เหลื อ ” ดี ก วา ไม ต อ งเรีย นอะไรมาก ; แม ไม เคยเรีย นพระไตรป ฎ ก ก็ค งจะรูส ึก วา “ดับ ไมเหลือ ”ดีก วา . นี ้ก ็เปน ยถาภูต สัม มัป ปญ ญา ที ่อ ยู ใ นวิส ัย ในเงื้อมมือของคนธรรมดาทั่วไปทุกคน| ....
....
....
....
ถาม : ทีนี้ ก็จะสรุปความกันสักทีวา เราจะไปบอกคนสมัยนี้วาปญญานี้คืออะไร จึง จะเปน ที ่ส นใจแกเ ขาอยา งยิ ่ง . สิ ่ง ที ่เ รีย กวา ปญ ญ านั ่น คือ อะไร คุณประยูร ?
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ตอบ : สิ่งที่เรียกวา ปญญา ก็คือ สิ่งที่สามารถแกปญหาในชีวิตของทานได ทุกสิ่งทุกอยาง.
ถาม : บ อ ก อ ย างนี้ เขาค งส น ใจ ; แต ยั ง ไม ได บ อ ก ว า ทํ าอ ย างไรน ะ ? แต เขาคงจะสนใจในขั้ น ต น ที่ ว า มั นจะแก ป ญ หาได ห มดทุ กอย าง. คุ ณ ทองวาอยางไร ? ปญญาคืออะไร ? ตอบ : ก็ยังนึกหาคําใหดีกวาที่คุณหมอวา ไมได.
www.buddhadassa.in.th
ตนลําแหงศีลธรรม
๓๙๕
ถาม : คุณชวน ? ตอบ : ปญญา คือความรูที่สามารถแกปญหาในชีวิตประจําวันได. ถาม : คุณล้ํา ? ตอบ : ปญญาคือความรอบรูตาง ๆ ในชีวิต. ถาม : มากไมมีประมาณ ? ตอบ : ครับ. อยางนี้เขาจะสั่นหัว เขาจะมองเห็นวาไมจําเปน หรือมันเหลือวิสัย. ตอ งจํา กัด ความเขา มา : ปญ ญาคือ ความรูที่ถูก ตอ งเพีย งพอ สํา หรับ สิ่ง ที่ ควรจะรู, เปนความรูในสิ่งที่ควรจะรูอยางถูกตองและเพียงพอ. ถาเกินไปนักมันก็ เหนื่อ ยเปลา คือ ไปทํา ในสิ่ง ที่ไ มตอ งทํา ; ฉะนั้น แมจ ะไปโลกพระจัน ทรไ ด เราก็ไมนับถือ เพราะไมทําก็ได ; เหนื่อยเปลา ๆ.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org เราจะเอาเพี ย งวา ป ญ ญาที่แกป ญ หาที่ มั นเป นความทุกข ไม พึ ง ปรารถนา ไดก็พอ ; แตถาเขาชอบมากกวานั้นก็ตามใจเขา. พุทธบริษัทตองการ ความรูที่ถูกตองและเพียงพอ เทาที่ควรจะรู คือแกปญหาที่แทจริง ที่มีอยูจริงได, คือ ดับ ทุก ขได ก็พ อ. อยาใหฉ ลาดถึงกับ เพิ่ม พูน ความสนุก สนานเอร็ด อรอ ย ใหมันมากไป มันจะวกกลับลงไปหาความทุกขอีก.
www.buddhadassa.in.th
การกลับมาแหงศีลธรรม
๓๙๖
ทีนี้ คนที่เขาชอบความสุขทางวัตถุ ทางเนื้อหนัง เขาก็คงจะไมชอบ คงจะไมคอยพอใจนัก. แตเราก็ตอ งยืนยันวา ปญ ญาตามที่เปนจริงนี้ มันจะ บอกให แ ต ใ นขอบเขตที่ ว า ควรจะรู เ ท า นั้ น แหละ เกิ น นั้ น ไปไม ต อ งการ. ถาไมอยางนั้นแลวจะเรียกวา ไมใชรูตามที่เปนจริง. ถารูตามที่เปนจริง มันจะ มีขอบเขตวา ควรจะรูสักเทาไร ; นอกนั้นไมตองไปเหนื่อยใหเสียเวลา. ....
....
....
....
เป น อั น ว า เรามี ป ญ ญาเป น ลํา ต น ของพฤกษาแห ง ศี ล ธรรม ในฐานะเปน แกน , เปน แกน ของลํ า ตน , มีส มาธิเ ปน กระพี ้, มีศ ีล เปน เปลื อ กนอกทุ ก ๆ ชั ้ น ; เปลื อ กนี ้ ม ี ห ลายชั ้ น . แล ว เราก็ ไ ด ต น ไม แ ห ง ศีลธรรม ที่แข็งแกรงที่สุด เหมือ นกับ ตน ไมที่มีแกนมากที่สุด . นี่เรามาถึงตน ไมแหงศีลธรรมแลว.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ทีนี้ ศีล สมาธิ ปญญา จํากัดความกันใหงาย ๆ ก็วา ปรกติ หรือ ความถูกตอง ๓ ชั้น : ความถูกตองของความปรกติ ของ กาย วาจา และวัตถุ ที่เนื่อ งกัน , นี้คือ ศีล . ความถูก ตอ งและปรกติข องจิต ที่มีธ รรมชาติอัน ลึก ซึ้ง เรนลับ, นี่เรียกวาสมาธิ. ความถูกตองและปรกติของปญญา คือวิชชา ที่จะมา เปนความรู ความคิด ความเห็น ความเชื่อของจิต นี้เรียกวาปญญา. รวมเรียก สั้น ๆ วา ศีล สมาธิ ปญญา, ถูกตองทางกายวาจา ใจ และทิฏฐิ.
ถาม
: ศีล สมาธิ ปญญา แยกกันได หรือไมอาจจะแยกกันได ? คุณทองวา อยางไร ?
www.buddhadassa.in.th
ตนลําแหงศีลธรรม
๓๙๗
ตอบ : แยกกันไมไดครับ. ถาม : ชี้ใหเห็นความที่มันแยกกันไมได ? ตอบ : คนที่มีสมาธิไดนั้น จะตองมีความปรกติ คือมีศีล ; เมื่อมีศีล มีสมาธิแลว ก็มีปญญาขึ้นมาเอง. ถาม : ถ า อย า งนั้ น มั น ก็ ค นละที อ ยู ซิ , คนละที มั น ก็ แ ยกกั น ได ซิ ; มี ศี ล สมาธิ ยังไมมีปญญาสักทีเลย ก็แยกกันได อยางคุณวามันคนละที. ถ า คนละที มั น แยกกั น ได น ะ. พู ด ให เ ห็ น ว า มั น แยกกั น ไม ไ ด ซิ , คือตองมาพรอมกันเหมือนกับเชือก ๓ เกลียว. คุณประยูรวาอยางไร ? ตอบ : ในขณะที่ เรามี ส มาธิ ตอนนั้ น ศี ล ก็ มี พ ร อ มอยู ใ นตอนนั้ น คื อ ไม สามารถจะประทุษรายอะไรตอสิ่งหนึ่งสิ่งใดได. หมายความวา มีความ ปรกติท างกาย ทางวาจา อยู ใ นตอนนั ้น ดว ย ในขณะที ่ม ีส มาธิ, และในขณะที่มีสมาธินั้นเอง จิตก็จะมีปญญาคลองวองไวสําหรับจะ ทําอะไรอยูไดตลอดเวลาแลว ในขณะที่กําลังมีสมาธิ คือ มีพรอมกัน ในเวลาเดียวกันหมดทั้ง ๓ อยาง.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ถาจะพูดใหลึกซึ้ง ตองพูดใหมองเห็นวา มันมีอยูพรอมกัน ๓ อยาง, มีคนละทีไมได ; เชนวาจะมีศีล มันตองมีปญญารูวามีอยางไร. นี่ มันมีปญญา เสียแลว. ความที่ตั้งมั่น อยูในศีล มัน เปน สมาธิแ ลว ; ความตั้งใจจะรัก ษาศีล หรือ ความสัง วรระวัง ใหมัน มีอ ยูอ ยา งนี้ นี่ก็เ ปน ศีล , ฉะนั้น ในศีล นั้น ก็มี ทั้งศีล สมาธิ ปญญา.
www.buddhadassa.in.th
๓๙๘
การกลับมาแหงศีลธรรม
ทีนี ้ ในสมาธิก ็เ หมือ นกัน : ความตั ้ง ใจในการคุม จิต ใหเ ปน สมาธินี้ก็เปนศีล, เปนความหมายของศีล, จิตตั้งมั่นอยูในขณะนั้นก็เปนสมาธิ, และความรูวาเราจะตองทําอยางไรตั้งแตทีแรกมา แลวก็รูอยูตลอดเวลา หรือมี สัม ปชัญ ญะในขอ นี้ ก็เปน ปญ ญา. ฉะนั้น คนที่เจริญ สมาธิอ ยู มัน ก็มีทั้ง ศีล สมาธิ ปญญา. ทีนี้ คนที่เ จริญ ปญ ญาอยู นั้น ก็มีศีล เพราะวา จะทํา อะไรผิด ไมได โดยมีความระมัดระวังอยูตลอดเวลา ; แลวจิตเปนสมาธิก็คือเปนพื้นฐาน ของปญญานั่นแหละ ; ปญญามันจะรูได ในเมื่อจิตเปนสมาธิ ; เพราะวาความรู ตั้งอยู บ นสมาธิ คือ ความที่ จิต เป น อย างนั้ น เพี ยงอยางเดี ย ว ; ฉะนั้ น คนที่ มี ปญญา ก็มีทั้งศีล สมาธิ ปญญา. จะมองกันในแงไหน ชั้นไหน คนจะตองมีทั้งศีล สมาธิ ปญ ญา. แมวาเดี๋ยวนี้นั่งฟงการบรรยายอยู : การที่ตั้งใจฟง นี้เปนศีล, แลวจิตมันตั้งได สําเร็จ ก็เพราะอํานาจของสมาธิ, เมื่อมีสมาธิในการฟง แลวก็จะรู – รู – รู - ไป นี้เปนปญญา.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org คนนั่งฟง เทศน นั่งฟง ปาฐกถาอยู ก็ยังมีทั้งศีล สมาธิ ปญ ญา: ในขณะที่เรียกวาประยุกตนั่น มันจะตองมีครบ ; แตในขณะพูดอยางทฤษฎีนั้น ไมต อ งมีค รบ, แยกออกจากกัน ก็ไ ด. เชน แยกพูด วา ศีล ชว ยใหเกิด สมาธิ, สมาธิชว ยใหเกิด ปญ ญา, ปญ ญาวกมาชวยใหเกิด ศีล สมาธิอีก ; อยางนี้ก็ พูดได. แตเมื่อถึงคราวที่มันทําหนาที่ของมันจริง ๆ มันไมเคยแยกกันได ;
www.buddhadassa.in.th
ตนลําแหงศีลธรรม
๓๙๙
ถา เอามาพูด อยา งวิช าความรู ก็พูด ใหแ ยกกัน ได ; แมใ นบาลี ก็ มี พู ด ว า “เมื่ อ ศี ล อบรมดี แ ล ว [ คื อ ช ว ยสมาธิ ดี แ ล ว ] สมาธิ ก็ มี ผ ลใหญ มีอ านิส งสใ หญ ; เมื่อ สมาธิอ บรมดีแ ลว ปญ ญาก็มีผ ลใหญ มีอ านิส งส ใหญ” คลายกับคนละที. แต โดยเนื้ อ แท นั้ น มั นจะทํ าอะไรลงไปสัก นิ ด หนึ่ ง ก็ต อ งมี ทั้ ง ศี ล สมาธิ ปญญา ขนาดเรียกวา ฟนเปนเกลียวกันไป, เหมือนกับเชือก ๓ เกลียว. หรือถาพูดใหถูกกวานั้นอีก ก็จะตองพูดเสียใหมวา มันหุมหอกันอยูเปน ๓ ชั้น เหมือนตนไมของเราตนหนึ่ง มันมีเปลือกอยูขางนอก, มีกระพี้อยูถัดไป, แลวมี แกนอยูขางใน. มันแยกออกจากกันไดเมื่อไร ถายังเปนตนไมเปน ๆ อยู. นี้ ข อให ทุ ก คนมอง ให เ ห็ น ศี ล สมาธิ ป ญ ญา ให ลึ ก ไปกว า ธรรมดา ใหลึกไปกวาที่ม องมาแลว, คือใหลึก ไปกวาที่เพียงแตทอ ง ๆ จํา ๆ ไวโ ดยตัว หนัง สือ . อยา งนั ้น เปน เรื ่อ งปริย ัต ิ ; เดี ๋ย วนี ้เ ปน เรื่อ งปรมัต ถค ือ ความจริง มองเห็นลึกซึ้งตามที่เปนจริง โดยเฉพาะในเวลาที่มันประยุกตกันอยู คือ ขณะใชการใชงานอยู แลวไมเคยแยกกันเลย.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ตัว อยา งในทางวัต ถุ ก็ดูเ ถอะ ; คนทีต ีต าปูล งไปในกระดาน นั่น แหละ มีทั้ง ศีล สมาธิ ปญ ญา. เจตนาที่จ ะตีต าปูล งไปนั้น เปน ศีล ; มันตองสํารวมอยางศีลสังวร. แลวสมาธิจิตก็ตอ งมี ; ไม อยางนั้นจะตีพ ลาด. ปญ ญาก็ตอ งมี, คือ รูวา จะตอ งตีอ ยา งไร, จะตอ งปอ งกัน อยา งไร . นี่ค น ตีตาปูก็ยังจะตองมีทั้งศีล สมาธิ ปญญา ครบไมแยกกันได. เรื่องที่ใหญกวานี้, แปลกไปกวานี้ ก็ยิ่งตองมีเปนแนนอน. ....
....
....
....
www.buddhadassa.in.th
๔๐๐
การกลับมาแหงศีลธรรม
เอา , เวลาลว งไปมากแลว , ก็จ ะขอสรุป วา ศีล สมาธิ ปญ ญา เป น สิ่ ง ที่ แ ยกกั น ไม ไ ด เป น เชื อ กสามเกลี ย ว ; เช น เดี ย วกั บ อริ ย มรรค มี อ งค แ ปด เป น สิ ่ ง ที ่ แ ยกกั น ไม ไ ด เหมื อ นเชื อ ก ๘ เกลี ย ว ; แล ว แต เ รา จะพูดกันในอุปมาอยางไหน. เปน อัน วา ศีล สมาธิ ปญ ญา นี ่ค ือ ความถูก ตอ ง ๓ อยา ง, ๓ ประการ ที ่ ไ ม อ าจจะแยกกั น ได ; แล ว ก็ จ ะตั ้ ง อยู ใ นฐานะเป น ต น ลํ า แหง ศีล ธรรม, เปน ตน พฤกษาแหง ศีล ธรรม. ขอใหรูจัก ไวเ พื่อ จะรูวา เรามี หรือ ไมม ี ; ถา เราไมม ี เราจะตอ งทํ า อยา งไร, เราจะตอ งรูจ ัก ความหมาย ของคําวา “ถูกตอง”, เพราะทุกอยางตองถูกตอง. ถาม : คําวา “ถูกตอง” นี้ควรจะจํากัดความหมายวาอยางไรคุณประยูร ?จึงจะ เปนความถูกตองที่มีประโยชน.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ตอบ : คําวา “ถูกตอง” นี่ควรจะมีความหมายวา ถูกตองตามกฎเกณฑของ ธรรมชาติ จึงจะเปนความถูกตองที่แทจริง.
ถาม : ไมจํากัดปริมาณ ?
ตอบ : มีปริมาณเพียงพอดวยครับ. ถาม : เท า นั้ น พอแล ว หรื อ ? ยั ง ขาดอะไรอี ก คุ ณ ทอง ? ถู ก ต อ งและ เพียงพอนี้พอหรือยัง ? ถูกตองและเหมาะสม เพียงพอหรือยัง ?
www.buddhadassa.in.th
ตนลําแหงศีลธรรม
๔๐๑
ตอบ : ผมยังนึกไมออกครับ. ถาม : คุณชวน, คุณล้ํา ? สิ่งที่มีอยูตามธรรมชาติแท ๆ แลวคุณก็ไมมอง. ตอบ : คือความถูกตองและเหมาะสม. ถาม : แลวอะไรอีก ? ยังขาดสวนสําคัญอีกสวนหนึ่ง ซึ่งวินาศกันก็เพราะสวนนี้ ; คื อ อะไร คุ ณ ชวน ? อย า งที่ ๑ ถู ก ต อ ง, อย า งที่ ๒ เพี ย งพอ หรื อ เหมาะสม, อยางที่ ๓ อะไรคุณประยูร ? ตอบ : ตามเหตุการณ. ถาม : ตามเหตุการณ, ใกลจะถูกแลว. คุณทองละ ?
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ตอบ : ตอบไมไดครับ.
คือ ตอ ง “ทัน แกเ วลา”. ถูก ตอ งนั ้น มัน ถูก ตอ งตามเหตุก ารณ อยูแลว ; ที่วาเพียงพอ ก็เพียงพอ แกเหตุผลอยูแลว ; แตสวนมากเราไมทําทัน แกเวลา ; มาทันในเวลา.
พูด ถึง ชีวิต , ชีวิต หนึ ่ง เราก็ไ มรูอ ะไรทัน แกเ วลา ; เราตาย เสีย กอ น เลยไมไ ดรับ ประโยชนเ ต็ม ที่ใ นการเกิด มา. ทีนี้เ รื่อ งเล็ก ๆ นอ ย ๆ ก็ เหมื อ นกั น , เรามั ก จะทํ า ไม ทั น แก เวลา ไม ต รงตามเวลา. ความล ม เหลว
www.buddhadassa.in.th
๔๐๒
การกลับมาแหงศีลธรรม
ที่มีอยูเปนประจําวัน ทั้งที่บาน ทั้งที่วัด ทั้งในทุงนา ในบานเมืองก็ตาม มันไม ตรงตามเวลา, ไมมาทันแกเวลา. ความรู ที่ ม าไม ทั น แก เ วลานั้ น ก็ เ หมื อ นกั บ ไม รู , แล ว ความ รูที ่รูจ นเกิน ไป มัน ก็ช วนใหผ ิด ได. อยา ชอบที ่ม ัน มากหรือ เกิน ไป ; เปน ความรูเฟอเสียก็มี. แตถึงอยางไรก็ดี เราใชคําวา “ถูกตองและก็พอดี”, ถูกตอง และเพียงพอ นี่คือพอดี. เอาเปน วา “ความรูนั้น ถูก ตอ ง และก็พ อดี” ; แตม าไมทัน เวลา นี่จะทําอยางไร ? รวมความว า ความถู ก ต อ งนี ้ ต อ งเป น สิ ่ ง ที ่ ม ี ค วามหมาย ๓ ประการ คื อ ว า : ตรงตามที ่ เ ป น จริ ง , แล ว ก็ เ พี ย งพอแก เ หตุ ก ารณ หรือ วัต ถุป ระสงค, แลว ตอ งทัน ในเวลา, พลาดนิด เดีย วก็ไ มไ ด, บางอยา ง ชาไป อึดใจหนึ่งก็ไมได ; บางอยาง ชาไปขณะจิตหนึ่ง ก็ไมได.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org เป น อั น ว า วัน นี้ เกิ น เวลาแล ว เลยเวลามามากแล ว ต อ งยุ ติ ก าร
บรรยาย.
สรุปความวา เราพูดถึงเรื่องตนลําของศีลธรรม ตอจากเรื่องรากฐาน ของศีล ธรรม, และรูว า ตน ลํ า แหง ศีล ธรรมในที ่นี ้ เปรีย บกับ ตน ไมแ ลว ก็ค ือ เปลือก คือกะพี้ และคือแกน ; ตอเมื่อไดรวมกันอยูเปน ๓ อยางสนิทสนมแลว
www.buddhadassa.in.th
ตนลําแหงศีลธรรม
๔๐๓
ตน ไมจึง จะมั่น คง และเจริญ งอกงามตอ ไปได. เราศึก ษาไวสํา หรับ ทดสอบ ในการแกไข เพื่อการกลับมาแหงศีลธรรมสืบไป.
อาตมาขอยุติการบรรยายวันนี้ไวเพียงเทานี้ เปนโอกาสใหพระคุณเจา ทั้งหลาย ไดสวดบทพระธรรม ที่จะสงเสริมใหเกิดกําลังใจในการประพฤติหนาที่ ของตน ๆ ตามสมควรแกความเปนพุทธบริษัทตอไป.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org
www.buddhadassa.in.th
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org
www.buddhadassa.in.th
การกลับมาแหงศีลธรรม -๑๐๓ เมษายน ๒๔๑๙
ใบ ดอก ผล แหงศีลธรรม [ มรรค ผล นิพพาน ]
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ทานสาธุชน ผูมีความสนใจในธรรม ทั้งหลาย,
การบรรยายประจํ า วั น เสาร ภ าคมาฆ บู ช าชุ ด นี ้ ได ล ว งเลย เข า มาถึ ง ภาควิ ส าขบู ช าแล ว ; แต เ นื่ อ งจากคํา บรรยายชุ ด การกลั บ มา แห ง ศี ล ธรรม นี้ ยั ง ไม จ บ เห็ น ว า สมควรที่ จ ะพู ด ต อ ไปจนจบ ; ดั ง นั้ น วันนี้จะไดกลาวดวยเรื่อง ใบ ดอก ผล ของศีลธรรม นี้สืบตอไป.
การบรรยายในวัน นี้ เป น ครั้งที่ ๑๐ จะได ก ล าวโดยหั วข อ สื บ ต อ จาก ครั้ ง ที ่ แ ล ว มา. ในครั้ ง ที่ แ ล ว มาพู ด ถึ ง ต น ลํา แห ง ศี ล ธรรม. ในวั น นี ้ จ ะ
๔๐๕
www.buddhadassa.in.th
๔๐๖
การกลับมาแหงศีลธรรม
ไดพูด ถึง ใบ ดอก ผล แหงศีลธรรม ; คําพูด เหลานี้เปน คําเปรีย บหรือ เปน อุปมา ดังที่ทานทั้งหลายก็เห็นไดอยูแลว วาเราเปรียบเทียบศีลธรรมเหมือนกับ ตนไม ตามวิธีเปรียบในการศึกษาสวนมาก เพื่อความเขาใจไดโดยงาย. [ทบทวนคําบรรยายครั้งที่แลวมาไปจนถึงหนา ๔๑๔ ] ตนไมมีรากสวนลาง, มีลําตนสวนกลาง, มีใบ ดอก ผล สวนสุด ; ก็เปนอันวา บัดนี้เรามาพูดกันถึงสวนสุด หรือเปาหมายขั้นสุดทายของศีลธรรม และอยาลืมเสียวา เราจะพูดกันเพียงเพื่อใหรูวาเรายังขาดสิ่งเหลานี้อยูเทานั้น. เรื่อ งนี้ เป น เรื่อ งที่ เอามาพู ด ในโอกาสที่ โลกอยู ในสภาพอย างนี้ ; กลา วไดวา เรามีก ารปรารภถึง วิก ฤติก ารณท างศีล ธรรม ทั่ว ๆ ไปในโลก แหงยุคปจจุบัน. ประเทศไทยเราก็ติดอยูในขายแหงภาวะอันเลวรายนั้น อยางที่ หลีก เลี่ย งไมพ น ดัง ที ่เ ราไดเ คยปรารภแลว ปรารภเลา ใหส ัง เกตดูใ หดี โดยเฉพาะสมัย นี้ วา โลกมัน เหมือ นกับ เล็ก นิด เดีย ว, มีอ ะไรก็เ นื่อ งถึง กัน ไปหมดทั้งโลก ไมเหมือนกับสมัยโบราณ ; ทั้งนี้ก็เพราะวาการคมนาคม หรือ เครื่องมือแหงการคมนาคมนั้น มันเจริญกาวหนามาก : ในทางการขนสงไปมา กันก็ดี, หรือแมการติดตอโดยไมตองมีการไปการมาก็ดี ทําไดสะดวกรวดเร็ว จึง รูอ ะไรถึง กัน รวดเร็ว ; มีอ ะไรเกิด ขึ้น ก็ก ระทบกระเทือ นถึง กัน ไปหมด. นี่เปนสิ่งที่ผิดกันอยูเปนอยางมากอยางหนึ่ง เมื่อเปรียบเทียบกันดูกับโลกในสมัย โบราณ ; ไมใชผิดกันเพียงเทาตัว หรือสองเทาตัว สามเทาตัว, มันผิดกันเปนรอย เทาพันเทา หมื่นเทา ; และก็จะยิ่งเปนอยางนี้ยิ่งขึ้นทุกที. ฉะนั้น ปญ หาของ มนุษยจึงมากกวาแตกอนมาก แลวก็รุนแรงรวดเร็ว.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org
www.buddhadassa.in.th
ใบ ดอก ผล แหงศีลธรรม
๔๐๗
สํา หรับ เรื่อ งที ่ค วรนํ า มาปรารภก็ค ือ เรื่อ งจะอยู ร อดหรือ เรื่อ งจะ วินาศ ของสิ่งที่เรียกวา โลกนั้นเอง. เรายอมรับตรงกันเปนที่แนนอนในขอที่วา โลกกําลังอยูในภาวะที่เลวราย หรือถึงกับจะยอมรับไดเลยไปถึงวา กําลังจะวินาศ ; แตเราไมมีความเห็นตรงกันเลยในขอที่วา เพราะเหตุอะไร ? เรามองเห็น เหตุแ หง ความวิน าศนี้ตา ง ๆ กัน จนไมอ าจจะรว ม มือกันแกไขได ; นอกจากจะไมรวมมือกันแลว ยังไมไดอยูเฉย ๆ เสียอีก กลับ ขัดขวางซึ่งกันและกัน เพราะความเห็นไมตรงกัน : คนหนึ่งจะทําไปเพื่อสันติภาพ หรือ สัน ติสุข ตามความนึก คิดที่ดีที่สุด ของตน, อีกพวกหนึ่งกลับ ไมเห็น ดวย กลับทําไปในทางที่ตรงกันขาม และอางวาเพื่ อสันติภาพ เพื่อสันติสุขนั้นดวย เหมือนกัน. ฉะนั้น โลกนี้ แหงยุคปจจุบัน จึงมีแตการกระทบกระทั่ง. นี่ปรารภเหตุที่ทําใหเราตองพูดกันในหมูพุทธบริษัท หรือวาในหมู ศาสนิก บริษัทแหงศาสนาใด ก็ได มาพูด กัน ถึงเรื่อ งศีล ธรรม ; เพราะถาเปน นักศาสนาแมสักหนอยหนึ่ง ก็ยังจะตองนึกถึงศีลธรรมเปนเบื้องหนา จึงพอจะพูด กันรูเรื่องในระหวางนักศึกษาทางธรรมทางศาสนาคือถือศาสนาเปนหลัก.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ถ า ท า นทั ้ ง หลายไม ม องเห็ น ข อ เท็ จ จริ ง อั น นี ้ แ ล ว เชื ่ อ ว า คง จะเบื่อหนายหรือขี้เกียจ ที่จะมาปรึกษาหารือกันในเรื่องนี้ ถึงกับฟงไมรูเรื่อ ง นั ่ง โงก นั ่ง งว ง นั ่ง งง อยู ก ็ม ี, หรือ ไมย อมรว มมือ กัน แกไ ขสิ ่ง เหลา นี ้ ดัง ที่ กําลังเปนปญหาอยูในปจจุบันนี้ ; แลวการพูดเรื่องนี้ ก็จะกลายเปนสักวาการพูด เทานั้นเอง ไมมีประโยชนอะไรเกิดขึ้น ; จึงขอใหทานทั้งหลายพยายามสังเกตดู ใหดี ๆ ให เห็ นตามที่เปนจริงวา มั นอยูในฐานะที่เป นเรื่องเปน เรื่องตาย ของ
www.buddhadassa.in.th
การกลับมาแหงศีลธรรม
๔๐๘
มนุ ษ ย เราทีเดี ยว. เราไปสนใจ หรือไปสาละวนทํ าเรื่อ งหลายเรื่อ ง อยางสุด ชีวิต จิตใจ ; แตมันไมเปนเรื่องเปนเรื่องตายของมนุษยหรือของโลกของเรา. สวนเรื่อง ที่เปนเรื่องเปน เรื่องตายนั้น กลับไมรูสึกกันวามีความสําคัญเชนนั้น ; เพราะฉะนั้น ภาวะอันเลวรายนี้ ก็จะมีมากยิ่งขึ้นทุกที. เมื่ อมี ความเขาใจขอ นี้ ก็คงจะกระตื อ รือรนหรือหูตาสวาง ในการที่จะคิด จะพูด จะสนทนา เพื่อชวยกันแกไข. ....
....
....
....
ทีนี ้ ก็จ ะขอทบทวนขอ ความสํ า คัญ บางอยา ง ที ่เ ห็น วา จะตอ ง ทบทวนกันอยูเสมอ วาศีลธรรมนั้นมีความหมายมาก หมายถึงหลายสิ่งหลายอยาง ; แต โ ดยเนื ้ อ ห าส าระแล ว ขอ ให ม อ งเห็ น ว า ศี ล ธรรม เป น ตั ว แท ข อ ง ธรรมชาติอัน บริสุท ธิ์ ; ธรรมชาติอัน บริสุท ธิ์ ไมมีอ ะไรนอกจากความสงบ ; ถาไมสงบก็ยังไมใชธรรมชาติ หรือธรรมชาติอันบริสุทธิ์.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ศี ล ธ ร ร ม เป น ตั ว แ ท ข อ ง ธ ร ร ม ช า ติ อ ั น บ ริ ส ุ ท ธิ ์ ก็ เ พ ร า ะ ว า ถ าไม มี ค วามสงบตามธรรมชาติ แ ล ว ก็ ชื่ อ ว า ยั งไม ถึ งหั ว ใจของศี ล ธรรม. แม ว า บุค คลจะประพฤติป ฏิบ ัต ิศ ีล ธรรม เพื ่อ ความประสงคข องตัว เอง ไมถ ึง ตัว แท ของธรรมชาติ ก็อ ยา ไดเขา ใจผิด ไปวา มัน ไมไ ดเกี ่ย วกับ ตัว แทข องธรรมชาติ. ถาเราทํ าถู กเรื่องของธรรมชาติ มั นก็ สงบไปตามกฎเกณฑ ของธรรมชาติ ; เดี๋ ยวนี้ มันผิดกฎเกณฑของธรรมชาติ ผิดและฝนกระแสแหงความสงบ ฝนภาวะแหงความ สงบ ไมไปสูความสงบ จึงไมมีสิ่งที่เรียกวา ศีลธรรม อันแทจริง.
www.buddhadassa.in.th
ใบ ดอก ผล แหงศีลธรรม
๔๐๙
ทีนี้ เราเคยย้ํากันอยูเสมอวา ศีลธรรม นี้เปนสิ่งที่มนุษยตองทํา, และยืน ยันในขอที่วา ไดเคยทํา และกําลังทําอยู, และแนน อนวา จะตอ ง ทําตอไปดวย. ทีเ รีย กวา “ตอ งทํ า ” นั ้น พอจะมองเห็น ไดแ ลว วา ถา ไมทํ า มันก็คือความวินาศ, หรือความไมมีความสงบอยูได ; ดังนั้นจึงเปนสิ่งที่ตองทํา. ที ่ว า “เคยทํ า ” นั ้น ก็ห มายความวา มนุษ ยใ นกาลกอ น หรือ บรรพบุรุษของเราไดเคยกระทํา, และกระทําเปนอยางดีเสียดวย. ที่วา “กํา ลังทํา” นั้น มัน เปน ปญ หาอยูบา ง เวลานี้ มองดูแ ลว ก็ รู ส ึ ก ว า น า สลดสั ง เวช คื อ การประพฤติ ศ ี ล ธรรม หรื อ แก ไ ขให ด ี ขึ้ น นี้ หาดูย ากยิ ่ง ขึ้น ทุก ที ; กํ า ลัง กระทํ า แตบ างสว น บางสิ ่ง บางอยา ง เทา ที่ ความจําเปนบังคับเหลือเกินเทานั้น ก็ยังไมคอยจะสําเร็จ. นี่เรียกวาเปนยุคที่ เลวราย ที่มีอะไรหลาย ๆ อยาง หลาย ๆ ประการ มาทําใหคนไมสนใจศีลธรรม, ไม เห็ นความสําคั ญ ของศี ลธรรม ; ไปเอาสิ่ งที่ ต รงกั น ขามมาเป น เครื่องยึ ด ถื อ เหมือนกับวาเราจะอยูเปนสุขไดเพราะเหตุนั้น.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ขอที่วา กําลังประพฤติกระทําตอศีลธรรมนี้ มันจึงเปนปญหาขึ้นมา ; ถาโชคดีอาจจะมีความเขาใจตรงกัน เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ก็ได และก็จะมีการประพฤติ ศีล ธรรมในยุค ปจ จุบัน นี้อ ยางเพีย งพอ. แตโชคดีนี้มัน จะมาเองคงจะไมไ ด ; คนเราจะตอ งชว ยกัน ทํา ใหมัน เกิด เปน โชคดี หรือ มีม า. ถา เราไมป ฤกษา
www.buddhadassa.in.th
การกลับมาแหงศีลธรรม
๔๑๐
หารือกัน ก็ไมมีทางที่จะทําได ฉะนั้น จึงขึ้นอยูกับการที่ชวยกันปฤกษาหารือ ; แมที่สุดอยางนอยที่เขาเรียกกันวาทําสัมมนา อยางนี้ก็ยังดีกวา ที่จะไมทําเสียเลย. สวนที่วา “ทําตอ ไป” นั้น เปน การพูด ดวยอาศัยหลักวา มนุษ ยค ง จะถึง รอบหรือ จัง หวะที ่จ ะหัน ไปสนใจในทางศีล ธรรมกัน เปน แน, จึงหวังวา ใน กาลอนาคตนั ้ น จะมี ก ารประพฤติ ก ระทํ า ในศี ล ธรรม. ถ า ไม เ ป น ดั ง นั ้ น มัน ก็ต อ งวิน าศแน ; จึง หวัง วา คนในโลกคงจะตื ่น ตัว ในขอ นี ้ และหัน ไปหา พระเจา คือธรรมชาติอันบริสุทธิ์ คือความปรกติหรือความสงบอยางถูกตอง ตาม กฎเกณฑข องธรรมชาตินั ่น เอง. นี ่ข อใหจํ า ไวค ิด นึก กัน ตอ ไปวา เปน สิ ่ง ที่ ตอ งทํ า , ไดเคยกระทํ า มาแลว ดว ย, และกํ า ลัง กระทํ า อยู ด ว ย, และจะตอ ง กระทํ า ตอ ไปเปน แนน อน ; มิฉ ะนั ้น ก็จ ะสูญ เสีย มนุษ ยชาติ หรือ ไมม ีม นุษ ย เหลื อ อยู ในโลก มี แ ต สั ต วอ ะไรก็ ไม รู ซึ่งในที่ สุ ด ก็ ต อ งวอดวายไป โดยไม เหลื อ เปนแนนอน
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ....
....
....
....
ทีนี้ ก็พูดถึง การกระทํา ซึ่งตองกระทําใหถูกตอง
ขอใหเ ขา ใจหรือ สนใจคํ า วา “ถูก ตอ ง” ไวใ หม ากที ่ส ุด . คํ า วา ถู ก ต อ งนี ้ เป น คํ า สํ า คั ญ ที ่ ส ุ ด คํ า ห นึ ่ ง ใน พ ระพุ ท ธศ าส น า ; ใช คํ า ว า สัม มา, “สัม มา” บางทีก็แ ปลกัน วา โดยชอบ ; ตามธรรมดาทา นบัญ ญัติ ใหแ ปลกัน มาแตโ บราณวา โดยชอบ. เดี๋ย วนี้สัง เกตเห็น วา “โดยชอบ” นั้น ฟงยากกวา ที่จะแปลวา “โดยถูกตอง” หรือ “อยางถูกตอง”.
www.buddhadassa.in.th
ใบ ดอก ผล แหงศีลธรรม
๔๑๑
เชน คํา วา สัม มาทิฏ ฐิ -เห็น ชอบ ความเห็น ชอบ ; นี ่ฟ ง ยาก กวา ที่จ ะพูด วา ความเห็น ที่ถูก ตอ ง, สัม มาวาจา -พูด จาชอบ นี้ก็จ ะพูด วา วาจาที่ ถู ก ต อ ง นี่ ฟ ง ง า ยกว า ; จึ ง ขอให ถื อ ว า คํา ว า สั ม มา, สั ม มา นี้แปลวา ถูกตอง กันจะดีกวา. คําวา “ถูกตอง” นี่ มันมีความหมายแวดลอมตัวมันเองอยูอยาง เพีย งพอ : เชน วา ถา ถูก ตอ ง ก็ต รงตามเรื่อ ง ตรงตามเหตุผ ล และก็ เพีย งพอดว ย ; นอกจากเพีย งพอแลว ยัง จะตอ งทัน แกเ วลาดว ย ; ถา ไม ทันแกเวลา ก็ไมถูก ตอ ง. คําวา “ถูกตอ ง” ยังมีความหมายเพีย งพอ สําหรับ ไปใชแกปญ หาไดในทุกกรณี โดยขยายความออกไปชัดเจนทีเดียววา ถาถูก ตองแลว ก็ตองเพียงพอ และก็ตองทันแกเวลา. ทีนี ้ ถูก ตอ งที ่ไ หน ? จะมองเห็น ชัด ลงไปวา ถูก ตอ งในสว น บุค คล คือ สว นตัว บุค คล นั ้น ก็ต อ งใหถ ูก ตอ ง ในฐานะเปน รากฐาน ; และ ความถู ก ต อ งนั้ น จะต อ งขยายออกเป น ส ว นรวม, หรื อ ส ว นสั ง คม, หรื อ กิจ กรรมของสัง คมทั ้ง หมดดว ย. ถูก ตอ งอยู ค นเดีย ว โดยที ่ม ัน ไมถ ูก ตอ ง สํ าหรับ คนอื่ น ด วยแล วมั น ก็ ต อ งกระทบกระทั่ งกั น ในที่ สุ ด มั น ก็ เป น ไปไม ได ; เพราะวาเรายังตองอยูรวมกัน ฉะนั้น จึงมีความถูกตองทั้งทางสวนตัวบุคคล และ สวนสังคม.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org เดี๋ย วนี้ ความถูก ตอ งสว นตัว บุค คลก็ห ายาก เพราะวา ตกอยู ใต อํา นาจของกิ เ ลสมากขึ้ น ทุ ก ที ; ต า งคนต า งเห็ น แก ต ั ว ยกเอาความ เห็ น แก ตั วเป น เบื้ อ งหน า แล วก็ ไม เห็ น แก ค วามถู ก ต อ งของผู อื่ น ใด จึ งทํ า ให
www.buddhadassa.in.th
การกลับมาแหงศีลธรรม
๔๑๒
เกิ ด การกระทบกระทั่ งกั น ขัด ขวางกั น ขัด แยงกั น . เพี ยงเท านี้ ก็ ไรความสงบสุ ข แลว ; จะทํา อะไรใหเปน ความเจริญ กา วหนา ของมนุษ ยม ัน ก็ทํ าไมได. ฉะนั ้น พระพุ ท ธเจ า ท า นจึ ง ได ต รั ส ถ อ ยคํ า ที่ เป น หลั ก ตายตั ว ว า ประโยชน ต นเอง ประโยชนผูอื่น ประโยชนทั้ง ๒ ฝาย คนละครึ่ง มันก็ใหถูกตองไปหมด. ....
....
....
....
ที นี้ ความถู ก ต อ งของศี ล ธรรม หรื อ ว า ตั ว ศี ล ธรรมนั้ น จะตองมีอยูที่ไหน ? จะพาพบที่ไหน ? นี่ก็ไดเคยพูด มาแลว วา ตอ งมีม าตั้ง แตในสายโลหิต : มีพ ืช พัน ธุ ที ่ด ี มีบ รรพบุรุษ ดี มีศ ีล ธรรมทั ้ง เนื ้อ ตัว , มีล ูก หลานออกมาก็ม ีศ ีล ธรรม อยูในสายเลือด นี่อยางหนึ่ง.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ตอ มาก็ม ามีใ นการศึก ษาอบรม นับ ตั ้ง แตล ืม ตาขึ ้น มาในโลกนี้ จากทองของมารดา ก็มีการศึกษาอบรมเรื่อยมา จนกระทั่งเขาโรงเรียน หรือ มี การศึกษาถึงที่สุด ; นี้ตองมีศีลธรรมอยูในระบบการศึกษา.
ตอ จากนั ้น ไปก็ต อ ง มีศ ีล ธรรมอยู ใ นระบบของการดํ า รงชีว ิต : จะเปน เรื่อ งการทํา มาหากิน หรือ การทํา อะไรก็ไ ด. ทุก สิ่ง ทุก อยา งที่ทํา เพื่อ มีชีวิตอยูนั้น เขาเรียกวา การดํารงชีวิต ; จะตองมีศีลธรรมอยูในระบบของการ ดํารงชีวิต.
www.buddhadassa.in.th
ใบ ดอก ผล แหงศีลธรรม
๔๑๓
มองดูแ ลว ก็นาสังเวช เมื่อ มองยอ นหลังไป เห็น วา ในการดํารง ชี วิ ต ของแต ล ะคนนี้ หาศี ล ธรรมได ย ากขึ้ น ทุ ก ที เพราะเข า ใจผิ ด ต อ สิ่ ง นี้ . ที่ในระบบการศึกษาของโลกปจจุบัน นี้ หาศีลธรรมไดยากยิ่งขึ้น ทุกที เพราะ เข า ใจผิ ด มากขึ้ น . ดั ง นั้ น ในสายเลื อ ดของคน จึ ง มี ศี ล ธรรมที่ จ าง, มีพื้นเพ หรือเชื้อสายแหงศีลธรรมที่มันจาง จนมันอาจจะหมดไปก็ได ; เพราะ เมื่อบิดามารดาไมมีศีลธรรมแลว มันจะมีสายเลือดไหนที่จะมีศีลธรรมติดมา. ขอใหดู, แมวามันจะเปนเรื่องที่ชวนเศราเหลือประมาณ ; ยิ่งดูยิ่งสลดสังเวช วามันจะไปในลักษณะไหนกัน. ....
....
....
....
ที นี้ ก็ ม าถึ ง เรื่ อ งพฤกษาแห ง ศี ล ธรรม เป น ภาพพจน ที่ สรางขึ้นมาจากนามธรรม.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org สํ า หรับ ศีล ธรรมก็เ ปน นามธรรม มัน จะงอกขึ ้น อยา งไร, มัน จะ เจริญอยางไร, จะเติบโตเทาไร, จะตองมีอะไรหลอเลี้ยง ก็พูดกันมามากแลว. ที ่ร ากหรือ ที ่โ คนจะตอ งมีอ ะไร ? ก็พ ูด กัน ถึง สิ ่ง ที ่เ ปน แผน ดิน , สิ ่ง ที ่เ ปน เห มื อ น กั บ น้ํ า , สิ ่ ง ที ่ เ ป น เห มื อ น กั บ อ า ห า ร , สิ ่ ง ที ่ เ ป น เห มื อ น กั บ แสงสวาง, และสิ่งที่เปนเหมือนอุณหภูมิ.
นี่ก็ไปทบทวนดูใหม ในรายละเอียดวาตนไมแหงศีลธรรมมันตองการ สิ่ง แวดลอ ม อยา งที่ต น ไมต ามธรรมดามัน ตอ งการในสว นรากฐาน ซึ่ง สรุป แล ว ก็ เรีย กได ว า เป น อุ ด มคติ แ ห ง ศี ล ธรรม อย า งน อ ยที่ สุ ด ก็ ข อ ที่ ว า “สั ต ว
www.buddhadassa.in.th
๔๑๔
การกลับมาแหงศีลธรรม
ทั้งหลาย หรือชีวิตทั้งหลายมันเปนเพื่อนทุกข เกิด แก เจ็บ ตาย ดวยกันทั้งหมด ทั ้ง สิ ้น ” นี ่เ ปน รากฐานอุด มคติ, หรือ อุด มคติชั ้น ที ่เ ปน รากฐาน. ถา ไมมี อุด มคติอ ัน นี ้แ ลว ยากที ่จ ะมีอ ุด มคติอ ัน อื ่น ได, เดี ๋ย วนี ้เ ราก็ไ มม ี. คํ า วา “เพื่อนเกิด แก เจ็บ ตาย” กําลังจะหายไปจากโลก. เมื ่อ พูด ถึง ลํ า ตน หรือ ตน ลํ า ของศีล ธรรม ก็ห มายถึง การ ปฏิบ ัต ิด ีป ฏิบ ัต ิช อบ ซึ ่ง ในหลัก ของศาสนา แจกเปน ศีล สมาธิ ปญ ญา. ปฏิบัติดีป ฏิบัติช อบในสว นรางกาย วาจา เรีย กวา ศีล , ปฏิบัติดีป ฏิบัติชอบ ในสว นที ่เ ปน จิต เรีย กวา สมาธิ, ปฏิบ ัต ิด ีป ฏิบ ัต ิช อบในสว นที ่เ ปน ความรู ความคิ ด ความเห็ น ก็ เรีย กวา ป ญ ญา, ซึ่ งได พู ด กั น มาอย างละเอี ย ด ในการ บรรยายครั้งที่แลวมานี้เอง. [เริ่มการบรรยายโดยหัวขอแหงครั้งนี้ ]
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ที นี้ จะมองเลยขึ้ น ไป ถึ งสิ่ ง ที่ เรี ย กว า ใบ ดอก ผล ของพฤกษา แหงศีลธรรม ซึ่งถาจะถามใหทานทั้งหลายตอบ ก็คงจะตอบได วา หลังจาก ศี ล สมาธิ ป ญ ญา มั น ก็ มี ม รรค ผล นิ พ พาน ; ฉะนั้ น ไม ถ าม.
ทีนี้ จะทําความเขาใจกันใหถูกตองวา เรามีจุดสุดยอดเปนที่มุงหมาย เหมือนกับวาเราปลูกตอนไมไวเอาผล. แตทีนี้อาจจะเกิดความเขาใจผิดหรือตีกันยุง ก็ ได ; เพราะว ามั น มิ ได ก ล า วเป น อย างนั้ น เสมอไป แม ในพระบาลี เอง แม ใน พระพุทธภาษิตเอง ก็มิไดกลาวไวในลักษณะอยางใดอยางหนึ่ง โดยสวนเดียว ; มันแลวแตวา ขอเท็จจริงหรือเรื่องจริงนั้นเรามุงหมายจะกลาวอยางไร.
www.buddhadassa.in.th
ใบ ดอก ผล แหงศีลธรรม
๔๑๕
ถาม : ฉะนั้น ขอใหทานทั้งหลายมองดูเสียกอน, มองใหเห็นเสียกอน วาที่เรา จะเอาประโยชนจากตนไมได ที่เปนชั้นสําคัญหรือเปนสวนสําคัญนั้น มีกี่อยาง ? คุณประยูรนึกไดก็วามากอน ? ตอบ : ประโยชนที่จะไดรับจากตนไม มันไดตั้งแตที่ลําตนขึ้นไป ตั้งแตยัง ไมทัน ออกผล ประโยชนจ ากลํา เราก็ไ ดรับ เอามาใชแ ลว แลว จนกระทั่งถึงกิ่งกาน และจนถึงผลของมันในที่สุด. ถาม : ขออภัย ที่จะตองบอกวา คําตอบนี้ไมตรงกับคําถาม เพราะวาถามไมชัด ก็ได, หรือฟงไมออกก็ได. ขอถามใหมวาในบรรดาตนไมทั้งหลายที่ เขามีกันอยูในโลกนี้ หวังผลแตกตางกันอยูเปนกี่อยาง ดีกวา, คุณทอง, เอา, คุณล้ํา ถานึกออกกอน ? ตอบ : โดยมากก็หวังผล.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ถาม : ตนไมธรรมดานะ หวังผลกี่อยาง เอาที่สวนใหญ ๆ ที่มองเห็นได แลว ก็ที่เรียกไดวา รับรองกันทั่วไป ?
ตอบ : ถาพูดถึงสวนของตนไมนี่มันมีประโยชนทุกอยาง ตั้งแตรากจนถึงผล.
ถาม : นี่คือคําตอบไมตรงความประสงคของคําถาม ที่ใหแยกอยางออกไปโดย เด็ดขาด แลวก็เปนสวนใหญ ๆ ดวย ไมใชโดยรายละเอียด.
www.buddhadassa.in.th
๔๑๖
การกลับมาแหงศีลธรรม
ตอบ : ถาแยกเปนสวนใหญก็มีลําตน กับผล, มี ๒ อยาง. นั่ น แหละอย า เอามารวมต น เดี ย วกั น เสี ย ซี . ไม ใ นป า หรื อ ไม ใ นโลก ประเภทหนึ่งเขาตองการใชเนื้ อไม, อีกประเภทหนึ่งตองการจะเอาผล จะเอามากิน หรื อ เอามาเป น หยู ก เป น ยา หรื อ อะไรก็ สุ ด แท . อย า ไปพู ด มั น เลย เล็ ง ประโยชน ใหญ ๆ เพี ย งว า อย า งหนึ่ ง มั น ต อ งการจะได เนื้ อ ไม , อี ก อย า งหนึ่ ง ต อ งการจะได ผลไม. เดี ๋ย วนี ้ เรากํ า ลัง พูด ถึง พฤกษาแหง ศีล ธรรมนี ้ เรามุ ง หวัง จะ ได ผ ลไม ไม ได มุ ง หวั ง จะเอาแก น ไม ; ถ า เอามาปนกั น มั น ก็ จ ะขั ด ขวางกั น หมด. เพราะเราต องการให มี รากมี ต น แล วก็ มี ใบ มี ดอก มี ลู ก แล วกิ นลู ก ก็ หมายความ ว า เป น ต น ไม ป ระเภทที่ ห วั ง ผลเป น ลู ก เราจึ ง ทํ า อย า งนี้ ; เอาลู ก เป น ผลสุ ด ท า ย. แต ถ าเป นต นไม ประเภทที่ เขาไม ต องการลู ก หรือไม มี ลู กให กิ นได ก็ กลายเป นต อง การแก น ; มั น กลายเป น ว า ของที่ ต อ งการที่ สุ ด มั น อยู ใ นลํ า ต น เสี ย มั น ก็ เป น อี ก ประเภทหนึ่ง. เอามาพูดรวมคราวเดียวกันไมได.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ในบางสูต รพระพุท ธเจา ทา นก็ต รัส ถึง แกน ไม ; แลว กลายเปน วา ยอด หรือ ใบนี ้ เปน สิ ่ง ที ่ใ ชไ มไ ด, คือ มัน ยิ ่ง ไปไกลไปจากแกน . เอาใบออ น เอายอดออน มาทําแกน นี่ก็ตองพูดกันตรง ๆ วามันบา.
ที นี้ ขยั บ ลงมาถึ ง ผิ ว เปลื อ กว า เป น แก น มั น ก็ ไ ม ไ หว, เอาเปลื อ ก เปน แกน ก็ไ มไ หว, เอากระพี ้เ ปน แกน ก็ไ มไ หว, เอากระพี ้ชั ้น ในเปน แกน ก็ยัง ไมไ หว ; ตอ งเอาแกน จริง ๆ เปน แกน แลว ก็ห ยุด อยูที่นั่น . พรหมจรรย
www.buddhadassa.in.th
ใบ ดอก ผล แหงศีลธรรม
๔๑๗
นี้มีวิมุตติเปนแกนสาร นั่นเอง. เอาแกนนี้เปนเรื่องของตนไมเอาแกน. แตนี่ เราไมไดพูดกันถึงตนไมประเภทนี้. ฉะนั้น ทําความเขาใจกันเสียใหดี อยาใหมันปนกันยุง. เรากําลัง พูดถึงตนไมประเภทที่ตองการผลของมัน ; พอจะกลาวไดวา ตนไมทั้งหลาย ที่มีกันอยูในโลกนี้ มันมีอยู ๒ ประเภทอยางนี้ : ประเภทหนึ่งตองการใชเนื้อไม, ประเภทหนึ่งตองการลูกของตนไมผลของตนไมเปนประโยชน, ดู ๆ มันก็มีความ หมายพอ ๆ กั น ; แต เดี๋ ย วนี้ เรากํ า ลั ง พู ด ถึ ง ต น ไม ป ระเภทที่ ต อ งการผลเป น ประโยชน. นี้เราจะตองทําใหมัน มีผลตรงตามที่เราตองการ, เราจะตองปลูก ตนไมศีลธรรม ใหมันเจริญงอกงามจนมีดอกออกผลตามที่เราตองการ. ถาม : ขอย้ําสอบถามอีกทีวา เรามีอะไรเปน ใบ ดอก ผล ของตนไมแหงศีล ธรรม ? คุณ ทอง เรามีอ ะไรเปน ใบ, ดอก, ผล, ของตน ไมแ หง ศีลธรรม, คุณประยูร ?
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ตอบ : ใบ ดอก ผล ก็ น า จะเป น มรรค ผล นิ พ พาน ที่ ได ก ล า วแล ว เมื่ อ ตะกี้.
ถาม : นั่น แหละ ขอย้ํา เทานั้น ไมใชเปลี่ยนอะไร. ใหเพงเล็งใหดีวา เรา ตอ งการ มรรค ผล นิพ พาน ในฐานะเปน ผลไมที ่ต อ งการ, หรือ เปนสิ่งสุดยอดของสิ่งที่ตองการเกี่ยวกับตนไม. ทีนี้ก็จะมองใหเห็นตอไป วา ในโลกนี้เขาตอ งการผลอัน นี้กัน หรือ เปลา ? ในโลกนี้ ปจ จุบัน นี้ เขาตองการผลอันนี้กันหรือเปลา ? ในฐานะที่เปนผลแหงตนไมศีลธรรม นี่เขาตองการ มรรค ผล นิพพาน กันหรือเปลา คุณประยูร ?
www.buddhadassa.in.th
๔๑๘
การกลับมาแหงศีลธรรม
ตอบ : ป จจุบั น นี้ในโลกนี้ จุดหมายปลายทางของชีวิต ของมนุษ ยแต ละคน ไมไดเคยนึกหวังในเรื่อง มรรค ผล นิพพาน ; นี่จากการสังเกตเห็น. ถาม : เอาละจากการสังเกต จากการคํานวณ จากการที่มองเห็นอยูนี่ เขาไมได ตองการผลแหงตนไมศีลธรรม เปนมรรค ผล นิพพาน กันใชไหม ? ตอบ : ใชครับ. ถาม : คุณทองละ ? ตอบ : เขาไมไดนึกถึง มรรค ผล นิพพาน. ถาม : ถึงขนาดที่วา หลับไมรู อยูก็ได ใชไหม ?
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ตอบ : ครับ.
ถาม : คุณล้ํา ละ ?
ตอบ : คําวา มรรค ผล นิพพาน นี่มันปดประตูตายเลยสําหรับคนทั่วไป ครับ.
ถาม : ใชคํา วา ปด ประตูต ายเลย ก็ดีเหมือ นกัน . ทีนี้ปญ หามัน ก็เกิด ขึ้น วาเราละตองการหรือไมตองการ ; เราสามคนนี่ ตองการหรือไมตอง การ ละ ?
www.buddhadassa.in.th
ใบ ดอก ผล แหงศีลธรรม
๔๑๙
ตอบ : ตัวเราเอง ที่นั่งอยูสามคนนี้ รับรอง มีความตองการแนนอนครับ ; ถ า ไม ต อ งการ ก็ ไม ต อ งมากั น อะไรทํ านองนี้ แ หละครับ . เพราะเป น เจตจํ า นงที่ เห็ น ว า ความสงบ ที่ เป น แบบ มรรค ผล นิ พ พาน นั้ น เปนสิ่งจําเปนตอชีวิตครับ. ถาม : ถาอยางนั้นก็หมายความวา ความตองการนี้มันแตกตางกันอยางตรงกัน ขา มเหลือ ประมาณ ถา เราเปน คนดี เขาก็เ ปน คนบา ; ถา เขา เปน คนบา เราก็เ ปน คนดี หรือ วา เราเปน คนบา เขาเปน คนดี คุณ จะวา อยา งไร มัน ตรงกัน ขา มกัน ถึง ขนาดวา ถา คนหนึ่ง บา คนหนึ่ง ก็ตองดี ถาคนหนึ่งดี คนหนึ่งก็ตองบา อยางนั้นใชไหม ? ตอบ : มันก็ควรจะเปนอยางนั้น ถาม : ทําไมจะตองวาควรละ หรือยังไมแนใจ ทีนี้จะตองดูตอไปอีกวา ในโลก นี้ คนเป น อยางไหนกันมาก คื อ ต อ งการผลของศี ล ธรรม เป น มรรคผล นิพพาน มาก หรือตองการเปนอยางอื่นมาก ; มีคนตองการชนิดไหน มากในโลกนี้ ?
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ตอบ : สวนมากในโลกนี้ ไมตองการมรรค ผล นิพพาน เปนสวนมาก.
ถาม : นั่ น แหละ เป น ข อ ที่ จ ะต อ งมองบ า ง เราจะต อ งมองบ า ง ว า จะทํ า ไป ไหวไหม ? มันมีปญหาหนัก หรือเบาอยางไร ? แลวก็สวนใหญหรือตั้ง ๙๕ เปอรเซ็น ต เขาไมต อ งการสิ่งนั้น แลว จะใหเราไปตอ งการสิ่งนั ้น จะไปพยายามทําใหสิ่งนั้นใหมันเกิดขึ้นมา มันก็ยาก ใชไหม ? นี่การ
www.buddhadassa.in.th
๔๒๐
การกลับมาแหงศีลธรรม กลับมาแหงศีลธรรม มันจึงยาก ; เพราะวาคนเขาไมตองการ มันผิด กัน ถึง กับ วา มัน ตอ งบา หรือ ตอ งดีกัน แตฝา ยหนึ่ง นี่โ ดยมรรยาท เราก็จ ะไมวา ใครดี ไมวา ใครบา ดูเ อาเองก็แ ลว กัน ; เพราะมัน ไมมีทางที่จะไปบังคับกันได ยิ่งสมัยเสรีประชาธิปไตยดวยแลวก็บังคับ กั น ไม ได . มั น มี อ ยู แต วาเราชอบอย างไร เห็ น ดี อ ย างไร เราก็ เอาไป อยางนั้น ทําไปอยางนั้น. ทีนี้เมื่อสวนใหญเขาไมตองการ มรรค ผล นิพพาน ในฐานะที่เปนผลแหงตนไมของศีลธรรม เขาก็ตองปลูกตนไม อยางอื่นกันใชไหม ?
ตอบ : ใชครับ ถาม : เขาก็ตองปลูกตนไมอยางอื่น แลวเขาก็รดน้ําพรวนดินใสปุยกันอยางอื่น และมันก็ออกลูกมาเปนอยางอื่น มีคําพิเศษประหลาดอยูคําหนึ่งใน สมุ ด ภาพปริ ศ นาธรรม ∗ เรี ย กว า ต น ไม พิ ษ ขอให ช ว ยจํา คํา นี้ ไวดวย ตนไมพิษ คือตนไมพิษนั่นแหละ แตเขาเรียกสั้น ๆ วา ตนไม พิษ แหงมนุษ ย ตน ไมพิษ ของมนุษ ย ; ตน ไมนั้น รูป รา งเปน อยา งไร คุณทอง ?
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ตอบ : ผมยังไมเห็น.
ถาม : เอา, ไมเห็น, คุณล้ํา ? ตอบ : ตนไมพิษ ถาดูดวยตาแลวสวยมากครับ.
∗
ดูภาพประกอบที่ตีพิมพ ในครั้งนี้ดวย
www.buddhadassa.in.th
ใบ ดอก ผล แหงศีลธรรม
๔๒๑
ถาม : รูปรางเปนอยางไร ? ตอบ : รูปรางก็นากิน นาชม. ถาม : เอา, คุณประยูร ? ตอบ : ตอนนี้ ผ มก็ ยั ง ไม ได เห็ น เหมื อ นกั น แต ว า ถ า จะมองไปทางตรงกั น ข า ม กั บ ต น ไม ศี ล ธรรมของเรา ที่ ว าดกั น แล ว น า จะมี ลํ า ต น เป น กิ น กาม เกี ย รติ อะไรแบบนั้ น แหละครั บ , แล ว ก็ ไปออกดอกออกผลเป น แบบ อาวุธยุทโธปกรณ รบราฆาฟนกัน มันนาจะเปนแบบนั้น. ถาม : จะผิดจังหวะแลว ออกดอกผลเปนกิน กาม เกียรติ ดูจะฟงงายกวา คุณ มาวัดนี้สัก ๕๐ ครั้งไดหรือยัง ?
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ตอบ : กวาแลวครับ.
กวา อีก หรือ แลว ทํ า ไมจึง ไมเ ห็น รูป ภาพรูป นั ้น ในตึก โรงหนัง . นี่ ไมใ ชอ ะไรมาก ; เพีย งแตส อบถามกัน ดูบ า งเปน พิเ ศษ. เขามีเ ขีย นอยู แ ลว เราก็ไ มต อ งเขีย นขึ ้น มาอีก , หรือ ไมต อ งวาดภาพอะไรขึ ้น มาอีก ; เปน ตน ไม ออกกิ่ ง ออกไป ๑๔ กิ่ ง มี หั ว เป น พญานาคทั้ ง นั้ น . จํ า ได ว า เป น อย า งนั้ น เขา เขียนเปนเหมือนกับรูปตนไมเปนกิ่ง ๆ ออกไป ๑๔ กิ่ง, ปลายกิ่งเปนหัวพญานาค ทั้งนั้น. เขาเล็งถึงอกุศลเจตสิก ๑๔ ประการ ที่ปรุงจิตใหเปนอกุศลทั้งหลาย.
นี่ขอใหนึกดูความสนใจหรือความตั้งใจอันแทจริงของ ปู ยา ตา ยาย ของเรา แต ห นหลั ง ; เขาสนใจกั น ถึ ง กั บ คิ ด นึ ก กั บ มั น จนสํ า เร็ จ รู ป ออกมา
www.buddhadassa.in.th
๔๒๒
การกลับมาแหงศีลธรรม
เปนภาพพจน เปนอุปมา เปนอะไรตาง ๆ คือตนไมพิษสําหรับลางผลาญมนุษย, เปนตนไมที่มี ๑๔ กิ่ง, มีหัวเปนพญานาคทุกกิ่ง เปนชื่อของอกุศลเจตสิก นับ ตั้งแตโลภะ โทสะ โมหะ มานะ อะไรเรื่อยไป ๑๔ อยางนั่นแหละ. เขาปลูก ตน ไมพ ิษ ขึ ้น มาในโลก แลว ก็ห ลอ เลี ้ย งรัก ษามัน เปน อยา งดี อยู ใ นปจ จุบ ัน นี ้ ก็ค ือ ความรูส ึก คิด นึก ที ่เ ลวรา ยทั ้ง หลาย ; สรุป ความลงไปไดเปน ๑๔ ชื่อ เปนตนไมพิษแหงมนุษย, เขาปลูกกันแตตนไมพิษ อยางนี้. นี่โลกนี้จึงไมมีพฤกษาแหงศีลธรรม ; เพราะมันมีแตตนไมพิษ สําหรับ ทํา ลายศีล ธรรม เปน ปฏิป ก ษตอ ศีล ธรรม. ฉะนั้น เราจึงพูด กัน ไมรูเรื่อ ง : คน หนึ่งปลูกตนไมอยางนี้, อีกคนหนึ่งจะปลูกตนไมอยางโนน. เราจะปลู ก ต น ไม ที่ มี อุ ด มคติ เมตตา กรุ ณ า เป น รากต น ไม , มีศีล สมาธิ ปญญา เปนลําตนไม, มีมรรค ผล นิพพาน เปนใบ ดอก ผล ของ ต น ไม . แต อี ก พวกหนึ่ ง เขาจะปลู ก ต น ไม ค ล า ย ๆ ต น กะบองเพชร ออกมา เปน๑๔ หัวพญานาค ; นี่เปนภาพพจนจําติดตาไดโดยงาย ; ที่คนแก ๆ เขาใชคาํ วา “บาปพระธรรม” นั่นแหละ ; นาตกใจ.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ปาปธมฺม ๑๔ ประการ, เขาเรีย กเพี ้ย นไปวา บาปพระธรรม ๑๔ ประการ. ในหนัง สือ เลม นั้น ก็เขีย นอยา งนั้น ใชคํา วา “บาปพระธรรม” อา นแลวสะดุง , บาปพระธรรมคลา ย ๆ กับ พระธรรมมีบ าป, หรือ มีบ าปของ พระธรรม. ถาเราจะรักษาคํานี้ไว เราจะตองเรียกวา บาปตอพระธรรม, บาป แกพระธรรมที่มีอยู ๑๔ ประการ. ตัวบาลีแท ๆที่ถูกนั้นคือ ปาปธมฺม ๑๔ ประการ. วันหลังคอยพูดกันเรื่องนี้.
www.buddhadassa.in.th
ใบ ดอก ผล แหงศีลธรรม
๔๒๓
เดี ๋ย วนี ้ม าดูว า เราหาไมพ บ ตน ไมอ ยา งที ่เ ราตอ งการในโลกนี ้ ; ไม พ บแต ต น ไม ช นิ ด นั้ น แล ว ก็ อ อกดอก ออกผลเป น อะไรต า ง ๆ กระทั่ ง จะเป น ความวินาศของโลกในที่สุด ....
....
....
....
ทีนี้ วันนี้เราตองการจะพูดเรื่องใบ เรื่องดอก เรื่องผล แหงศีลธรรม, พฤกษาศีลธรรมที่ถูกตอง ก็ดูกันไปตามเรื่องราวของพวกเรา. ถาม : ถามซอมความเขาใจอีกที ตนไมตนหนึ่งแบงเปนกี่สวน คุณทอง ? ตอบ : ๓ สวน คือ รากฐาน ลําตน และสวนยอดครับ. ถาม : สวนยอด ดอก ผล ในที่สุดนะ ตองเอาตนไมที่เปนผลนะ อยาลืมวาเรา กําลังพูดถึงตนไมที่เปนผล ไมใชตนไมที่ตองการจะใชแกน ฉะนั้นมันจึง มีส ว นราก สว นรากฐาน สว นลา งที ่โ คน แลว ก็ม ีส ว นลํ า ตน สูง ขึ ้น ไป จนถึง กิ ่ง แลว ก็ม ีใ บ มีด อก มีผ ลที ่ก ิน ได. สามสว นนี ้ส ัม พัน ธก ัน อยา งไร เปน สิ ่ง ที ่ต อ งมองใหเห็น ชัด . สามสว นนี ้ส ัม พัน ธก ัน อยา งไร คุณประยูร ?
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ตอบ : สามส ว นนี้ ส ว นที่ สํ า คั ญ เป น พื้ น ฐานก็ คื อ ส ว นโคน ซึ่ ง หมายถึ ง เป น สวนที่ ถาเปนตนไมศีลธรรมก็หมายถึง ความคิดเห็นที่ถูกตอง ที่จะ ทํ า ใหเกิด ลํ า ตน ขึ ้น มาได. ลํ า ตน นี ้เราหมายถึง การปฏิบ ัต ิที ่ถ ูก ตอ ง ; เมื่ อ มี โ คน รากฐาน แล ว ก็ ป ฏิ บั ติ ดี , ย อ มนํ า ผลที่ ไ ด ม า ; เรี ย กว า
www.buddhadassa.in.th
๔๒๔
การกลับมาแหงศีลธรรม ผลจากการปฏิบ ัต ิที ่ถ ูก ตอ ง จะตอ งเกิด แนน อน ก็ค ือ มรรค ผล นิพพาน มีความสัมพันธเกี่ยวเนื่องกันมาอยางนี้ครับ.
ถาม : ถูกแลว แตขอใหตอบดวยคําพูดที่นอย ประโยคที่สั้นที่สุดอีกที สาม สวนนี้สัมพันธกันอยางไร ? ตอบ : เปนปจจัยตอเนื่องกัน สิ่งหนึ่งทําใหเกิดสิ่งหนึ่ง โคนทําใหเกิดลําตน ลําตนทําใหเกิดดอก ผล. ถาม : เอา, คุณทอง วาอยางไร สัมพันธกันอยางไร สามสวนนี้ ? ตอบ : ยอด คื อ ดอกใบ สื บ เนื่ อ งมาจากลํ าต น ลํ าต น สื บ เนื่ อ งมาจากราก หรือโคน.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ถาม : คนหนึ่งลงมาแตทางปลาย, คนหนึ่งขึ้นมาจากทางโคน, ก็ถูกทั้งนั้น. คุณ ล้ําละ วาอยางไร ? มัน สัม พัน ธกัน อยางไร ระหวางรากกับ ตน กับสวนยอดดวย ? ตอบ : สวนราก นี่มันสัมพันธดวยการตั้งตนกันดวยพื้นฐาน. สวนราก ก็เปรีย บเหมือ นฐาน สว นศีล หมายถึง รากฐาน, ลํา ตน การทรงตัว อยูหมายถึงสมาธิ, สวนผลนี่หมายถึงปญญา.
ที่แลวมาเราไมไดพูดอยางนี้นะ. สวนรากฐานของตนไมนี้ หมาย ถึ ง หลั ก เกณ ฑ ห รื อ ธรรมสั จ จะทั ้ ง หลาย ที ่ ถ ู ก ต อ ง ที ่ จ ะยึ ด ถื อ เป น อุดมคติ. ทีนี้สวน ลําตน หมายถึงการปฏิบัติที่ถูกตอง คือศีล สมาธิ ปญญา. สวนปลาย คือวา มรรค ผล นิพพาน เปนใบ เปนดอก เปนผล.
www.buddhadassa.in.th
ใบ ดอก ผล แหงศีลธรรม
๔๒๕
ถามวาทั้งสามสวนนี้สัมพันธกันอยางไร ? โดยดูกันที่ตนไมธรรมดา กอน ; ใหเห็นชัดลึกพอ จากตนไมธรรมดา แลวก็จะเห็นชัดในตนไมศีลธรรม ไดโดยไมยาก. ตอบตามความรูสึกสามัญธรรมดาที่สุดก็ได ตามที่มองเห็นอยูดวยตา. ก็ถูกแลว, ที่ตอบมานี้ก็ถูกแลว รากนี่มันก็เปนพื้นฐาน ซึ่งจะแผออก ไปไกลโดยรอบ กวา งออกไปพอสมควร ไมอ ยา งนั้น มัน ทรงลํา ตน ไวไ มไ ด ; ถารากมั น สั้ น ๆ มั น ก็ล ม ทั้ งที่ มี ราก. มั น ต อ งมี รากที่ ยาว แข็งแรง แน น หนา กวางออกไปพอสมควรเปนฐาน. ทีนี้ก็มาถึงลําตน ผิดไปจากราก มันทําหนาที่คนละอยาง ที่จะทรง ตัวอยู มันไมตองแผกวางไปเหมือนราก. รากเปนรากฐานของลําตน, ลําตนก็ เปนรากฐาน หรือที่ตั้งที่อาศัยของกิ่ง ที่จะแยกออกไปหลาย ๆ กิ่ง. ถาไมแยกออก ไปหลาย ๆ กิ่ ง มั น เป น ใบไม ได มั น ก็ เป น ลู ก เป น ดอก ไม ได ; ลํ า ต น ก็ เป น เครื่องยึด ทรงใบ ดอก ผลไวอีกตอไป ; ใหเห็นวามันเนื่องกันอยางเหนียวแนน อยางแยกจากกันไมได, ดูดวยตา ก็มองเห็น ตนไมก็มีอยูทั่วไป มองดูที่ตนไมซิ วามันแยกขาดจากกันไมได เพราะความที่มันตองเนื่องกันอยูอยางเหนียวแนน อยางนี้.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ....
....
....
....
ทีนี้เราก็อยากจะใหสิ่งที่เรียกวา พฤกษาแหงศีลธรรมนั้น มีความ สัมพันธกันในระหวาง ราก ตน ดอก ใบ อยางนี้เหมือนกัน. รากฐานของตนไม ศีลธรรม เราเรียกวา อุดมคติแหงศีลธรรม มีชื่อเรียกหลายรูปแบบ หรือเรียกวา
www.buddhadassa.in.th
การกลับมาแหงศีลธรรม
๔๒๖
สัจจธรรม นี้ จะถู กที่ สุ ด ; แต ถามั นมามี อ ยูในจิต ใจของมนุ ษ ย มั นมามี อ ยู ในรูป ของสิ่ ง ที่ เราเรี ย กว า ศรั ท ธา เป น ต น . หรื อ ความรู สึ ก อะไรก็ ต าม ที่ มั น ออกมา จาก ธรรมสัจ จะพื ้น ฐาน ; เชน เรามีศ รัท ธา เชื ่อ วา “สัต วทั ้ง หลายเปน เพื่อนทุกข เกิด แก เจ็บ ตาย ดวยกันทั้งหมดทั้งสิ้น,” แลวก็มีเมตตา ความ รูส ึก รัก หวัง ดี ตอ ทุก คน, มัน ก็เ ลยไปถึง ใหท าน ชว ยเหลือ เอื้อ เฟ อ เผื่อ แผ รักใคร สามัคคี อีกมากมายทีเดียว ; อันนี้เปนอุดมคติสําหรับยึดเปนรากฐาน. รากฐานออกมาเปน ลํ า ตน คือ การปฏิบ ัต ิจ ริง ปฏิบ ัต ิถ ูก ตอ ง, เปน ศีล สมาธิ ปญ ญ า ; ที ่ว า ตน นี ้ ก็ม ีทั ้ง เปลือ ก มีทั ้ง กระพี ้ มีทั ้ง แกน เป นชนิด ๆ อยู เราจึงแยกออกเปน ศีล สมาธิ ป ญ ญา หรือจะแยกเปนอะไรก็ได ตามที ่ม องเห็น อยู . ทีนี ้ต น ดี มัน ก็ม ีกิ ่ง ดี มีใ บดี ดอกดี ผลดี, ก็ม ีม รรค ผล นิ พ พาน เท า นั้ น แหละ, ขอให เห็ น ว า มั น สั ม พั น ธ กั น อยู อ ย า งเหนี ย วแน น สําหรับตนไมที่มันมีชีวิตอยู.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org เดี ๋ย วนี ้เ ราไมไ ดทํ า เหมือ นกับ มัน เปน ตน ไมที ่ม ีช ีว ิต อยู มัน เปน แต ตัวหนังสืออยูในกระดาษ เปนตัว ๆ ตัว ๆ ไปเลย, หรือเปนคําพูดก็แยกกันเปนคําพูด อยู เ ปน คํ า ๆ คํ า ๆ. ในพระไตรปฎ กหรือ ในอะไรก็ต าม ตัว แทแ หง ตน ไมนั ้น มันไมมี, พฤกษาแหงศีลธรรมมันยังไมมี ; ฉะนั้น เราจึงไมมีผลที่เราหวังกันนัก. ....
....
....
....
เอา, ทีนี้มาดูตามแนวที่บอกใหดูวา มันสัมพันธกันอยางเหนียวแนน เหมือนกับตนไมตนนี้ ตรงหนาเรานี่ มีราก มีตน มีกิ่ง มีใบ มีดอก มีผล. สรุป ให เป น คํ า พู ด ทั่ ว ไป เพี ย ง ๓ คํ า สํ า หรั บ สั ม พั น ธ กั น ด ว ยดี ก็ คื อ ว า มี ค วามรู
www.buddhadassa.in.th
ใบ ดอก ผล แหงศีลธรรม
๔๒๗
เป น อั น แรก มี ก ารกระทํา เป น อั น ที่ ส อง มี ผ ลของการกระทํา เป น อั น ที่สาม. นี้เปนหลักทั่วไป แมแตจะทํานา ทําไร หรือจะไปหาปลาหาหอย หรือวาจะทําบุญกุศล ที่วัดไหนก็ตามไมวาจะทําอะไร จะตองมีความรู, แลวมี การกระทํา , แลว จึง เกิด ผลของการกระทํา . ถา ความรูผิด การกระทํา ก็ผิด , ผลก็เกิดขึ้นผิด. ถาความรูถูก, การกระทํามันก็ถูก, ผลมันก็เกิดขึ้นถูก. เดี๋ยวนี้ เราอยูไ ดดว ยสิ่ง ทั้ง ๓ นี้ โดยไมรูสึก ตัว ; เราโงกี่ม ากนอ ย ก็คิด ดูเ อาเอง. แตล ะวัน ๆ ในชีวิต ประจํา วัน เราอยูดว ยสิ่ง ทั้ง ๓ นี้แ ท ๆ ทุก กระเบีย ดนิ้ว , ทุก วิน าทีแ หง เวลา ; เราอยู ด ว ยความรู และการกระทํ า ไปตามความรู, และก็ไดรับผลสมแกความรูนั้น ในการกระทํานั้น. ขอใหคิดดู ใครบางที่ไมอยูดวยสิ่งทั้ง ๓ นี้. นั่นแหละคือตัวพฤกษา แหง ศีล ธรรม. จะเปน ตน ไมแ ทห รือ ตน ไมพิษ , หรือ ตน ไมเ ปน พิษ ก็สุด แท มันอยูดวยสิ่งทั้ง ๓ นี้ : ความรูเปนรากฐาน, การกระทําเปนตรงกลางลําตน, และผลจากการกระทํา เปน ชั้น ยอดสุด . แตบ างอยา งเราทํา จนชิน จนไม ตองคิดตองนึก ; เราจึงลืมไปเสียวา เรามีความรู และเราทําตามความรู ; เชน เราจะรับประทานอาหาร จะไปอาบน้ํา จะไปถาน อยางนี้ไมตองนึกถึงความรู มันทําไปจนชินเสียแลว เพราะเปนของงายและตามธรรมดาเราทํากันอยู. แตถา สิ่งที่ไมใชงายอยางนั้น, ไมใชธรรมดาอยางนั้น มันก็ตองมาฟนความรูกันใหม ชําระสะสาง การกระทํากันเสียใหม ใหมันออกผลมาตรงตามที่เราตองการ ; นี่คือขอที่ตองปฏิบัติเกี่ยวกับตนไมแหงศีลธรรม.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org
www.buddhadassa.in.th
การกลับมาแหงศีลธรรม
๔๒๘
เรามีอุดมคติในการเปนอยู ถือหลักอะไรเปนหลักประจําใจเปนความ เชื่ออยู แลวก็ทําอยางนั้น ; จะเปนของเด็ก ของคนหนุมสาว ของผูใหญ คนแก คนเฒา ก็มีหลักอยางนี้ทั้งนั้น. เขามีอุดมคติซึ่งจะผิดก็ได ; แตถาคนนั้นเขาชอบ แลวก็ตองเรียกวาอุดมคติของเขาทั้งนั้นแหละ; อาจถูกก็ได. ถาเผอิญ มันถูก ก็ดีไปถาอุด มคติมัน ผิด ก็ผิด สําหรับ คนนั้น เอง และก็ตอ งมีผ ลราย. แตไมมี ใครอยูโดยปราศจากอุดมคติ เพราะเขามีสิ่งสําหรับยึดถือเปนหลักเกณฑ สําหรับ ดื้อรั้น ; นี้ก็เปนอุดมคติของเขา สําหรับการกระทําจะอนุโลมตาม. เมื่อมันเปน อุดมคติของเขา, เขาก็ทําไปตามอุดมคตินั้น และผลก็เกิดขึ้นอยางเหมาะสม. ....
....
....
....
ทีนี้ เรามีศีล สมาธิ ปญญา เปนตัวการกระทํา. เมื่อพูดถึงคําวาศีล สมาธิ ปญญา ขอใหทานทั้งหลายมองเห็นใหชัดเจนแจมแจงและจําไววา เราเล็ง ถึงตัวการกระทํา, ยังมิใชผลของการกระทํา. อยามามัวคานเหมือนกับที่เคยพูดวา แตละสิ่งละอยางมันเปนเหตุเปนผล, เปนเหตุเปนผลของกันและกัน ; นั่นมัน ถูก แลว . แตใ นกรณีที ่เ ราจะพูด ถึง ตน ไมแ หง ศีล ธรรมนี ้ เราจะจัด ใหศ ีล สมาธิ ปญ ญา เปนแตเพียงตัวการกระทําเทานั้น ยังมิใชผลของการกระทํา ; ตอ เมื่อ เปน ผลของการกระทํา จึง จะเปน มรรค ผล นิพ พาน, ซึ่ง จะพูด ถึง มรรค ผล นิพ พาน กัน โดยชัด แจง ในวัน นี ้ ซึ ่ง เปน ความมุ ง หมาย ของการบรรยายในวันนี้.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ค ว าม รู เ ป น จุ ด ตั ้ ง ต น สํ า หรั บ ก ระ ทํ า ; ที นี ้ พ อ ก ระ ทํ า แล ว ดู ให ดี ๆ เถิ ด มั น จะมี รูเพิ่ ม ขึ้ น อี ก มั น ช วยไม ได มั น ห ามไม ได . ถ าเราไปทํ า
www.buddhadassa.in.th
ใบ ดอก ผล แหงศีลธรรม
๔๒๙
อะไรเขา มัน จะมีค วามรูเพิ ่ม ขึ ้น อีก เสมอไป ; เรามีค วามรูเ ปน ทุน รอนนิด เดีย ว ทําลงไป, พอทําลงไป มันจะใหความรูสวนกลับออกมา แลวมากขึ้น ๆ ยิ่งทํามาก ก็ยิ่งรูมาก. ฉะนั้นแมในตัวการกระทํา ก็มีความรู และมีสิ่งที่คลาย ๆ กับวาเปนผล ; แตยังไมจัดเปนผล เรายังตองกระทําใหชํานาญยิ่งขึ้นไป ยังไมจัดเปนผลแท. เช น เราทํ า นา นี้ เราก็ มี ค วามรู ในการทํ า นามากขึ้ น ๆ ความชํ า นาญ มากขึ้ น ; อั น นี้ ยั ง ไม จั ด เป น ผล. เราไปเอาผลที่ ข า วเปลื อ กโน น คื อ การได ขาวเปลือก. ศีล สมาธิ ปญญา ก็ทําใหเกิดญาณ หรือปญญา ; ปญญาก็เปนญาณ อยูแลว. ปญญาเปนญาณสําหรับใหรูตามที่เปนจริงในสิ่งตาง ๆ ที่แวดลอมเราอยู. เมื่อมีญาณนี้แลว มันจึงจะมีญาณที่เปนผลอันแทจริงออกมา จากความรูตามที่เปน จริงนั้น อีกทีหนึ่ง ; นี่มรรค ผล นิพพาน จะอยูที่ตอนนี้ ....
....
....
....
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ตอนนี้ ข อแทรกหน อ ย ขอบอกกล า วหน อ ยว า หลั ก เกี่ ย วกั บ ญาณ ทานกลาวไวดีมากอยูอยางหนึ่งซึ่งเราไมคอยพูดกัน. ญาณทั้งหลายจะเปนมีกี่สิบ ญาณ กี่ รอ ยญาณ เท าไรญาณก็ ต ามเถอะ จะแจกออกไป เป น เพี ย ง ๒ ระดั บ เท านั้ น เรีย กกวา ธัม มฐิ ติ ญ าณ อยางหนึ่ ง, แล วก็ เรีย กวา นิ พ พานญาณ อี ก อยางหนึ่ ง. ฟ งดู แล วแปลกหูใชไหม ? ไมเคยไดยิน คําวา นิ พ พานญาณ. ญาณ ทั้งหลายจะถูกจัดออกเปน ๒ อยาง อยางนี้ ; อยางเราจะจัดวา ตน ไมทั้งหลาย กี ่รอ ย กี ่พ ัน กี ่ห มื ่น ในโลกนี ้ แบง มัน ออกเปน เพีย ง ๒ พวก, คือ ไมม ีแ กน กับ ไมไมมีแกน ; อยางนี้ มันก็หมดเหมือนกัน.
www.buddhadassa.in.th
การกลับมาแหงศีลธรรม
๔๓๐
ทีนี้ เราจะมองดูที่ญาณ ความรูทั้งหลาย : ญาณประเภทแรก เรียก วา ธัมมฐิติญาณ คือ ญาณในธัมมฐิติ คือ ญาณในกฎของธรรมชาติ. ธัมม ก็ค ือ ธรรมชาติ, ฐิต ิ สิ่ง ที ่ท รงตัว อยู ตั ้ง อยู โดยไมเปลี ่ย นแปลง นี ่ค ือ กฎ. ธัม มฐิติญ าณ ก็คือ กฎของธรรมชาติ, ญาณที่รูจัก กฎของธรรมชาติ. เรื่อ ง หากิน บานเรือนก็ตองมีความรู ที่เปนกฎของธรรมชาติ, เรื่องประพฤติธรรม ในพระศาสนา ก็ ต อ งมี ญ าณ ที่ รู จั ก กฎของธรรมชาติ เช น รู อ นิ จ จั ง ทุก ขัง อนัต ตา เปน ตน , รูวา ขัน ธเปน อยา งไร วา ธาตุเปน อยา งไร. เปลี่ย น แปลงอยา งไร, ปฏิบัติอ ยา งไร, เหลา นี้ก็เรีย กวา รูก ฎของธรรมชาติ. อยา ง เปน ชา งไม ก็ตอ งรู ธัม มฐิติญ าณ คือ รูก ฎของธรรมชาติที่เกี่ย วกับ ไม หรือ การกระทํา ไม หรือ การจะประกอบกัน ขึ้น . ญาณสว นนี้คือ รูต ามที่ธ รรมชาติ มีกฎเกณฑไวใหอยางไร เปนญาณประเภทที่ ๑. ญาณประเภทที ่ ๒ ที ่เ รีย กวา นิพ พานญาณ ก็ค ือ ญาณที ่ต อ ออกมา จากการรูธรรมชาติต ามที่เปน จริง . นี่คือ รูค วามไดรับ ผล เปน ความ สิ้นกิเลส เปนตัว มรรค ผล นิพพาน โดยตรง ; เหมือนกับวาเราไดรูผลที่เรา ไดรับ ; ไดเงิน ก็ดี, ไดขาวเปลือก ก็ดี, ไดเกียรติยศชื่อเสียงอะไร ก็ดี, ไดรู ในสวนนี้ เรียกวา “นิพพานญาณ” คือรูในผลที่เราปรารถนา, และไดรับผลที่ เราปรารถนา สืบตอมาจากญาณที่รูธรรมชาติทั้งหลายทั้งปวงตามที่เปนจริง.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org เอา, มันชักจะยาวหรือเฟอยลําบากจํายากเต็มทีแ ลว . ขอพูด ใหม สั้น ๆ วา ญาณแรกใหรูธรรมชาติตามที่เปนจริง, ญาณที่สองรูสิ่งที่เราทําไดถูก ตรง จนมีผลตามที่เราตองการ ; มีอยู ๒ ญาณเทานั้น. ....
....
....
....
www.buddhadassa.in.th
ใบ ดอก ผล แหงศีลธรรม
๔๓๑
ทีนี้ ที่ลําตนของตนไม เราจัดใหมีศีล สมาธิ ปญญา ; คําวาปญญานี้ เป น เพี ย งการกระทํ า ให รู บางที ยั งไม ทั น รูถึ งที่ สุ ด ก็ มี . แต เอาละ, เป น อั น ว า ปญญานี้ประสบความสําเร็จ รูสิ่งที่ควรจะรู ฉะนั้น จึงมีความรูประเภท ธัมมฐิติญ าณ เปน สว นใหญ : รูต ามที่เ ปน จริง วา อะไรเปน อะไร อะไรเปน อะไร ตามที่เ ปน จริง . นี่ปญ ญา แตยัง ไมมีนิพ พานญาณ คือ รูผ ลที่ทํา ไดสํา เร็จ ไดรับประโยชน หรือความสุข ; ฉะนั้นหลังจากปญญา จึงมี มรรค ผล นิพพาน. ตอนหลังนี้เปน นิพ พานญาณไปหมด แมวาสิ่งที่เรีย กกวามรรคนี้ มันอยูกึ่งกลางระหวางฝายโนนบาง ฝายนี้บาง ก็ไมเปนไร ; เพราะวาสวนใหญ มันเปนฝกฝายของนิพพานญาณ ทั้งนั้น คือฝายที่ประสบความสําเร็จทั้งนั้น. เมื่อ เรามีปญ ญาในการปฏิบัติ นี่ก็เ รีย กวา ญาณในการปฏิบัติ ; เรามีญ าณในการตัด กิเ ลส ก็เ รีย กวา มรรคญาณ ; เราไดรับ ผลของการ ตัดกิเลส ก็เรียกวา ผลญาณ.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org คําวา ญาณ นี้ ใชไดหลายระดับ จะแจกเด็ดขาดกันลงไปไดตาม หนา ที่ข องมัน : ถา รูธ รรมชาติ แลว ก็เ ปน ธัม มฐิติญ าณ, ถา รูผ ลจากการ รูธ รรมชาติ ก็เรีย กวา นิพ พานญาณ. เรารูจัก มัน ไวจ ะไดสง เสริม พอกพูน พัฒ นาใหมัน มากขึ้น ในสว นญาณทั้ง ๒ นี้ เรารูตัว ปญ หา, แลว เรารูก าร แกปญ หา, แลว เราก็รูวา เราแกปญ หาสํา เร็จ . เพราะวา สิ่ง ที่เรีย กวา ชีวิต นี้ ไมมีอะไรนอกจากปญหา ; แตบางอยางมันงายเกินไป จนกลายเปนแกอยูในตัว มัน เองโดยอัต โนมัติ ; นั้น เปน เรื่อ งธรรมดาสามัญ ที่สัต วเ ดรัจ ฉานก็แ กไ ด. ที นี้ เมื่ อ เป น มนุ ษ ย จะมี อ ะไรอยางมนุ ษ ย สู งขึ้น ไปทุ ก ที แล วจะต องรูป ญ หา
www.buddhadassa.in.th
๔๓๒
การกลับมาแหงศีลธรรม
ที่มันลึกลงไปทุกที ; รูการแกปญหาที่มันลึกตอไปอีก เราจะไดรับผลแหงการแก ปญหาที่สูงสุด คือ มรรค ผล นิพพาน ได. ทีนี้ ก็มาถึงคําวา มรรค ผล นิพพาน ที่จะตองพิจารณากันตอไป ตามความมุงหมายของการบรรยายในวันนี้. ถาม : สอบถามความรูที่มีมาแลวแตหนหลังกันอีกที วามรรค นี่แปลวาอะไร คุณทอง ? ตอบ : มรรค แปลวา ทาง ครับ. ถาม : คําวา ผล ละแปลวาอะไร ? ตอบ : ผล คือ ผลจากการที่ไปตามทางครับ.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ถาม : ผล คือ ผลจากการที่เดินไปตามทาง แลวการเดินทางอยูที่ไหนละ ? ตอบ : คือ ปฏิบัติตามมรรคที่มีองค ๘ ครับ.
ถาม : การปฏิบัตินั้นเรียกวา ผล หรือเรียกวามรรค ; การปฏิบัตินั้น เรียกวา ผล หรือเรียกวามรรค ? ตอบ : เรียกวา มรรค ครับ. ถาม : หนทางก็ดี การเดินทางก็ดี รวมอยูในคําวา มรรค ; ที่มีผลอะไรเกิดขึ้น เราเรียกวา ผล ; แลวนิพพานละ คืออะไร ?
www.buddhadassa.in.th
ใบ ดอก ผล แหงศีลธรรม
๔๓๓
ตอบ : คือผลสุดยอด. ถาม : ผลสุ ด ยอด, เดี๋ ย วนี้ ก็ เ รี ย กว า ได ผ ลแล ว นี่ ผลก็ ไ ด ผ ลอยู แ ล ว ผล สุดยอดอยางไรอีก แยกใหดีซิ แยกตัวหนังสือและแยกความหมายใหดี: มีหนทาง, มีการเดินทางไปตามทาง, แลวก็มี การถึงจุดหมายปลายทาง แลวมีอะไรอีก ? ตอบ : หมดครับ. ถาม : ไม ห มด, คุ ณ เดิ น ทางไปถึ ง ทํ า ไม ? เดิ น ไปถึ ง ปลายทาง เพื่ อ อะไร ? เพื่ อ จะทํ า อะไร ? มั น ต อ งมี อ ะไรที่ นั่ น ? แล วได อ ะไรที่ นั่ น ? มั น ได รั บ ผลของการที่ ได ไปถึ ง ปลายทาง แล ว เราก็ เป น สุ ข สบาย หรือ ว า ก็ ห มด ปญ หา หรือวาก็ปลอดภัย หรือวาอะไรทํานองนี้. ตอ งเขาใจ ๓ ระยะนี้ จึ ง จะเข า ใจ คํ า ว า มรรค ผล นิ พ พาน. มรรค คื อ การเดิ น ทาง หรือ ตัว ทางก็ต ามเถอะ, แลว ผล มัน เปน ผลของการเดิน ทางคือ ถึง . ทีนี้ เมื่ อ ถึ ง แล ว เราก็ ส บาย ก็ เป น เรื่ อ งที่ ถู ก ต อ ง ก็ เย็ น อก เย็ น ใจ สบาย ปลอดภัย ไมมีปญหาอีกตอไป. สามอยางนี้ ไมใชสิ่งเดียวกันใชไหม ?
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ตอบ : ครับ ไมใชสิ่งเดียวกัน.
ถาม : แยกใหเห็นชัดซิ วามรรค ผล นิ พพาน นี่มั นตางกันอยางไร ? มันเกี่ยว ขอ งกั น อยู อ ย างไร ? ให เห็ น ชั ด ด วยคํ าพู ด ที่ สั้ น ที่ สุ ด . เอ า, คุ ณ ประยู ร วาไป ?
www.buddhadassa.in.th
๔๓๔
การกลับมาแหงศีลธรรม
ตอบ : มรรค คือทางและการเดินทาง, สวนผลนั้นหมายถึงการถึงปลายทาง ; สวนนิพพาน คือความรูสึกตอสิ่งที่เราถึง นั่นคือ การลิ้มรสพระนิพพาน คือความสบาย. ถาม : ไมเปนกลางพอ เปนคําพูดที่ไมเปนกลางพอ ที่จะใชไดในทุกกรณี ; เรื่องโลก เรื่องธรรม เรื่องหากิน เรื่องบรรลุ มรรค ผล อะไรก็ตาม ลองมองให ชัด ขึ้น มาอีก และพู ด ใหม ให ชัด กวานั้ น ได ไหม คุ ณ ล้ํ า ? เกี่ยวกับ มรรค ผล นิพพาน. ตอบ : มรรค คื อ ทางครั บ , ผล ก็ ห มายถึ ง การถึ ง , นิ พ พาน ก็ ห มายถึ ง ความเย็น. ถาม : เพราะถึงหรือ ?
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ทีนี้ อยากจะพูดเปนเรื่องทั่วไป ไมใชเฉพาะเรื่องพระศาสนา. มรรค คื อ การกระทํ า , ผล คื อ การกระทํ า สํ า เร็ จ , แล ว นิ พ พาน ก็ ค ื อ การ บริโภคความสํ า เร็จ . ถ า มองเห็ น อั น นี้ ชั ด แล วก็ จ ะมองเห็ น คํ า ว า มรรค ผล นิพพาน เกี่ยวของกันอยางไร ; นี่ มันชัดขึ้นไปอีก.
มรรค คือ การกระทํ า เชน การฟน ไร, เปน การกระทํา ; แลว ผล คือการทําไรสําเร็จ เปนขาวโพด เปนอะไรออกมา เปนขาวเปลือกออกมา ; แลว นิพ พาน คือ การกิน ๆ ๆ : มัน ไมใชระยะเดีย วกัน , ไมใชต อนเดียวกัน หรื อ ขายก็ ไ ด กิ น ก็ ไ ด อะไรก็ ไ ด ได รั บ ความสุ ข ความพอใจ ไปทํ า อะไร
www.buddhadassa.in.th
ใบ ดอก ผล แหงศีลธรรม
๔๓๕
ต อ ไปอี ก ก็ ไ ด . นี้ เ ป น คํา อธิ บ ายที่ เ ราพยายามจะปรั บ ปรุ ง ขึ้ น , ให ชั ด เจน ใหงายแกการศึกษา. คํ า ใน พ ร ะ ศ า ส น า มี ค ว าม ห ม า ย สํ า ห รั บ ทุ ก ระ ดั บ อั น นี้ เปนสิ่งไมคอยจะยอมรับกัน ; เชนคําวา นิพพานนี้ เอาไวระดับสูงสุด ไมยอม เอาลงมาที่ระดับพื้นฐาน ก็เลยไมเขาใจนิพพานโดยสมบูรณ. คําวา มรรค ก็เหมือนกัน จะเอาไปเปนอริยมรรค คูกับอริยผล เสียเรื่อย ไมเอาลงมาที่พื้นฐานที่แผนดินนี่เลย ; แตเนื้อแท เนื้อหาของมันนั้น เป น คํ า ที ่ ม ี ค วามหมายแผ ก ว า ง และใช ไ ด ท ุ ก ระดั บ จึ ง พู ด ได ว า มรรค คือ การกระทํา, ทําอะไรก็ตาม ใหมันถูกก็แลวกัน, แลว ผล ก็คือวา สําเร็จ, ความสําเร็จของการกระทํานั้น, นิพพาน ก็คือ ชิม ชิมรสแหงผลของการกระทํา ใชในความหมายอะไรก็ได ; ไดยินคํานี้มาตั้งแตเด็ก ๆ โนน ที่บางคนเขาพูดวา คนนี้ทํางานไมเปนมรรคเปนผล ; ที่จริง ก็เรื่องคาขายอะไรชนิดหนึ่งเทานั้นแหละ, ไมใชปฏิบัติกัมมัฏฐาน.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org “คนนี้ทํา งานไมเ ปน มรรค ไมเ ปน ผล” หมายความวา คนนั้น มัน ทํา งานไมสํา เร็จ ; เขาใชกัน อยา งนี้ก็ม ีน ะ คํา วา มรรค ผล. ทํ า ใหเปน มรรค เปน ผล ก็ห มายความวา ทํา ใหมัน สํา เร็จ ; มรรค ก็คือ ทํา ถูก ตอ ง, ผล ก็คือ ผลที่เกิดขึ้น, นิพพานก็คือการชิม กิน บริโภคผลที่เกิดขึ้น ; ในระดับ ทั่ ว ไป จะต อ งเป น อย า งนี้ . ที่ มั น เป น ตั ว ศี ล ธรรมก็ ว า เราต อ งประพฤติ ศี ล ธรรม, เราต อ งประสบความสํา เร็ จ ในการประพฤติ ศี ล ธรรม ; แล ว เราตองไดรับรส อันประเสริฐของความสําเร็จนั้น คือสันติสุข หรือสันติภาพ.
www.buddhadassa.in.th
การกลับมาแหงศีลธรรม
๔๓๖
ถา เปรีย บดว ยการปลูก ตน ไมศีล ธรรมนี้ ; เราก็ป ลูก ตน ไมใ หม ัน เจริญ งอกงาม สําเร็จเปนออกดอก ออกผล ออกมา, แลวเราก็กินลูก กินผล เปนนิพพาน นี้เปนความหมายทั่วไปในระดับศีลธรรม. ทีนี้ คําวา มรรค ผล นิพพาน ที่เขาจัดไวสําหรับระดับโลกุตตระสูง สุด เหนือ โลกนั้น มัน ก็คํา นี้แ หละ, ๓ คํา นี้อีก เหมือ นกัน . โลกุต ตรธรรมมี ๙ นี่พ ระอาจารยใ นชั้น หลัง ก็วา ไวดี วา โลกุต ตรธรรมมี ๙ คือ มรรค ๔ ผล ๔ นิพ พาน ๑ ; หมายความวา คํา วา มรรค คํา วา ผล คํา วา นิพ พาน นี้ จั ด หมายเฉพาะการปฏิ บั ติ ธ รรมสู ง สุ ด ในพระพุ ท ธศาสนา ; ที่ เ รี ย กว า แกว ๙ ดวง ก็มี คือมรรค ๔ ผล ๔ นิพพาน ๑ เรียกวา แกว ๙ ดวง. เห็น มีอยูในสมุดภาพปริศนาธรรมอีกเหมือนกัน แกว ๙ ดวง มีอยูที่ปราสาท มีอยูที่ ยอดปราสาท ของปราสาทในเมืองยักษ. เขาจะตองฝกฝนการยิงธนู ที่ทําดวย หนวดเตา เขากระตา ย, เอาศรนอกบมายิง ใหไ ดแ กว ๙ ดวง ที ่อ ยู ที ่ย อด ปราสาทของเมืองยักษ แลวเรื่องมันก็จบเทานั้น ตอไปนี้ก็คือครองเมือง.∗
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org สรุป ความวา เมื ่อ ไดยิน คํ า วา มรรค ผล นิพ พาน ก็ด ี หรือ คํ า อะไรที่ ค ล า ยกั น ก็ ดี ขอให รู จั ก แบ ง ความหมายออกไปได ทุ ก ระดั บ ชั้ น : ที ่ทํ า นาก็ไ ด, ทํ า สวน ทํ า ไร, คา ขาย ก็ไ ด, กระทั ่ง วา ปฏิบ ัต ิก ัม มัฏ ฐาน บรรลุมรรค ผล นิพพาน โดยแทจริงไปเลย ที่เรียกวา โลกุตตระ.
การทํานาเพื่อขาวเปลือกนี้ พระพุทธเจาทานยัง ตรัสอุปมาของการทํา นาออกมาเปนนิพพาน ก็มี ; วาการทํานาตามแบบของทาน ผลออกมาแทนที่จะ
∗
ภาพปริศนาธรรมของโบราณ เขียนจําลองไวที่โรงมหรสพทางวิญญาณ สวนโมกขพลาราม อ.ไชยา. (ผูรวบรวม)
www.buddhadassa.in.th
ใบ ดอก ผล แหงศีลธรรม
๔๓๗
เปน ขา วเปลือ ก ; มัน เปน อมตะ คือ นิพ พาน อยา งนี ้ก ็ม ี. เพราะทา นเห็น วา ชาวนาคนนั้ น เขาใจการทํ านา หรือความหมายของการทํ านาดี อ ยู แล ว ก็ เลยตรัส ด ว ยอุ ป มานี้ ว า ทํ า นาแบบของตถาคตนี่ มั น ก็ มี ผ ลออกมาเป น อมตะ, เป น ที่ สุ ด แหงความทุกข, พนจากทุกขทั้งปวง ; ก็เรียกวา “ทํานา” เหมือนกัน. ....
....
....
....
ที นี้ ก็ ดู กั น ไป ที ล ะ อ ย าง ; ดู คํ าว า ม รรค กั น ก อ น : ต า ม ตั ว พยัญ ชนะ ตัว หนัง สือ นั ้น ตอ งแปลวา ทาง. ทีนี ้ อยากจะถามวา เมื ่อ คน ยังไมมีตัวหนังสือใช คําวา มรรค มีหรือไมมี คุณประยูร ? ตอบ : คําวา มรรค มีเปนคําพูดมากอน. มรรค มัน ตอ งมีเ ปน คํ า พูด มากอ น วา “มรรค” ; กอ นแตม นุษ ย จะมี ตั วหนั งสือใช ; ฉะนั้ นการที่ เราจะพู ดวา มรรค มี ความหมายตามตั วหนั งสือนี้ ดู มั น หลั บ ตาพู ด อยู ม าก เพราะว า มั น พู ด มาก อ นการมี ห นั ง สื อ . นี่ เรามั น เพิ่ ง มารู เมื ่อ มีห นัง สือ เปน มรดก ตกทอดกัน มา ก็ช อบอา งตามตัว พยัญ ชนะ ; มัน ก็รู แค นั้ น แหละ บางที จะแค หางอึ่งด วยซ้ํ าไป เพราะคํ าวา มรรค มั น มี ใชพู ดมากอ น การใช ห นั งสื อ กั น . มนุ ษ ย ไม รูจั ก ใช ห นั งสื อ มาเป น หมื่ น ๆ ป , แสน ๆ ป ล ะกระมั ง . เพิ่ ง มารู จั ก ใช ห นั ง สื อ กั น เมื่ อ ไม กี่ พั น ป ม านี่ เอง ถ า จะพู ด ให ดี ก็ ว า มรรค ตาม เสี ย งที่ ใ ช พู ด ของคน ธรรมดาสามั ญ ชาวบ า นทั่ ว ไปนั้ น , มั น หมายถึ ง หนทาง ; เขาก็มี ทางเดิ นกั นมาตั้งแตแรกสรางโลก เดิน ๆ เดิ น ๆ จนเป นทางเกิดขึ้นมาในโลก แล ว ก็ เ รี ย กมั น ว า “ทาง” ในภาษาไทย. ถ า เป น ภาษาบาลี ก็ เ รี ย กว า มรรค ;
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org
www.buddhadassa.in.th
๔๓๘
การกลับมาแหงศีลธรรม
ในภาษาอื่น ก็ ต อ งเรีย กอย างอื่ น แหละ. คํ านี้ คํ าเดี ยวนี้ มี ค วามหมายตรงกัน หมด คือ “ทาง”. ทีนี้ คําวา “ทาง” ตอมามันเปลี่ยนความหมายเปนเรื่องในภาษาธรรม, ภาษานามธรรม. ถาภาษาชาวบานพูดวา ทาง ก็คือถนนหนทาง ที่ชางเดิน มาเดิน ควายเดิน รถเดิน คนเดิน นั่นมันทางตามธรรมดา ; แตในภาษาธรรม มันหมายถึง ทางที่ จิ ตใจเดิ น หรือการกระทํ าเดิ น ก็ เลยมี ค วามหมายเล็ งถึงอั น อื่ น . แต ก็ ยั งคง เรียกวา ทาง ; คือแนวทาง สําหรับกาย วาจา ใจ เดิน นี่ก็เรียกวา ทาง. ทางสํ า หรับ จิต ใจจะพัฒ นาไกลขึ ้น ไป ไกลขึ ้น ไป ก็เรีย กวา ”ทาง” ; นี่ เกิ ด ทางในภาษาธรรมะขึ้ น มา ในอรรถะอย า งเดี ย วกั น ; หรือ วา โดยคํ า พู ด คํ า เดี ย วกั น มั น เกิ ด ความหมายในระดั บ สู ง ขึ้ น มา นี้ เรี ย กว า มรรค. แล ว ที่ ล ะเอี ย ด เบ็ด เตล็ด มีเ รีย กชื ่อ อยา งอื ่น เรีย กกัน มากมายเหมือ นกัน ; ไมจํ า เปน จะตอ ง เอามาพูดทั้งหมด.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org เชน คํ า วา พรหมจรรย นี ้ก ็เ รีย กวา มรรค, การประพฤติป ฏิบ ัติ ศี ล สมาธิ ป ญ ญ า นั่ น ก็ เ รี ย กว า มรรค ; พ รหมจรรย ก็ เ รี ย กว า มรรค, อั ฏ ฐั ง คิ ก มรรค ก็ เรี ย กว า มรรค ; ในบางสู ต รระบุ โ พชฌงค ๗ ประการ ที่ เป น ไปเพื ่อ วิร าคะ นิโ รธะ นี ่ก ็เ รีย ก โพชฌงค ชนิด นี ้ว า มรรค, ในที ่บ างแหง เรี ย กโพ ธิ ป ก ขิ ย ธรรม ทั ้ ง ชุ ด ทั ้ ง กลุ ม ว า ม รรค . ฉะนั ้ น สิ ่ ง ใด ที ่ ทํ า ห น า ที่ เปน ทาง สิ ่ง นั ้น เรีย กวา “มรรค” ไดทั ้ง นั ้น ; รวมความวา เครื ่อ งใหถ ึง , เครื ่ อ งให เ กิ ด การถึ ง เรี ย กว า มรรค ; อย า ไปพู ด ว า ถนนหรื อ หนทาง เสียอยางเดียว มันจะไดแตเรื่องของวัตถุ.
www.buddhadassa.in.th
ใบ ดอก ผล แหงศีลธรรม
๔๓๙
ทีนี้ท างก็ยัง มีวา ทางถูก ทางผิด เปน ธรรมดา ; ที่จ ริง ทางผิด ไมควรจะเรียกวาทาง แตเขาก็ไดเรียกวา ทาง, แลวก็ตองเติมคําวา เปนทาง ที่ผิด. ทีนี้ ยังมีทางที่พิเศษ ยิ่งไปกวาถูกหรือผิด เปนภาษาคลาย ๆ กับวา ภาษาทางวิทยาศาสตรทางตรรกวิทยา ; พระพุทธเจาทานก็ไดใชคํานี้เรียกวา ทางสายกลาง คือ มัช ฌิม าปฏิป ทา ; นั่น แหละคือ ตัว ทางแท หรือ มรรค แท ม รรค อั น ป ระ เส ริ ฐ สุ ด , วิ เ ศ ษ ที่ สุ ด ไม มี ท างที่ จ ะผิ ด ได เรี ย ก ว า “มัชฌิมาปฏิปทา” ; นี้เรียกวา “ทาง”. ถาม : “มัชฌิมาปฏิปทา” ทรงแสดงไวดวยอะไร คุณประยูร ? ตอบ : ดวยอัฏฐังคิกมรรค.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org นี่เรีย กวา หญา ปากคอก ก็ล ืม กิน ไดเหมือ นกัน , ตอ งซอ มไวบ า ง ซอม ๆ ไว. โดยระดับทั่วไปหรือระดับโลกิยะ ทานแสดงไวดวย อัฏฐังคิกมรรคความเปน ไปอยางถูก ตอ ง ๘ ประการ รวมกัน เรีย กวา มรรค มีสัม มาทิฏ ฐิ สัม มาสัง กัป โป สัม มาวาจา สัม มากัม มัน โต สัม มาอาชีโ ว สัม มาวายาโม สัมมาสติ สัมมาสมาธิ, ทางเสนเดียวประกอบไปดวยองค ๘ ประการ. นี้ระดับ ทั่วไป และเปนอยางโลก ๆ และเปนหลักสําหรับผูที่ยึดถือมีตัวตนผูกระทํา, มีตัวตน ผูไดรับผลแหงการกระทํา, อะไรไป เปนทํานองนั้น. ถาม : ทีนี้ ถาเปนมัชฌิมาปฏิปทาชั้นสูงสุด นําไปสูโลกุตตระ ทานทรงแสดง ดวยอะไร ? ตอบไดจะใหรางวัล, คุณทอง.
www.buddhadassa.in.th
๔๔๐
การกลับมาแหงศีลธรรม
ตอบ : ผมตอบไมไดครับ. ถาม : เอา, คุณล้ํา, คุณประยูร ? ตอบ : แสดงโดยอริยมรรค. อริย มรรคก็อ ัน นี ้ อริย มรรคมีอ งค ๘ ก็อ ัน นี ้. เอา , เราไมต อ ง เสี ย รางวั ล แล ว หยุ ด หมดเวลาแล ว . พู ด กั น ตั้ ง หลายหนแล ว ว า ทรงแสดง ดวยปฏิ จจสมุปบาท คือไมใหพู ดวา มี ตั วตน หรือ ไม มี ตั วตน, ไม ให พู ดวามี อ ยู หรือ ไมม ีอ ยู , ไมใ หพ ูด วา นั ้น หรือ นี ้ ไมใ หพ ูด วา เอง ไมใ หพ ูด วา อื ่น ; นั้ น ทรงแสดงด ว ยปฏิ จ จสมุ ป บาท. มั ช ฌิ ม าปฏิ ป ทาระดั บ สู งสุ ด คื อ โลกุ ต ตระ ทา นทรงแสดงไวด ว ยปฏิจ จสมุป บาท นั ้น ก็ค ือ มรรค ; นี ่เ อามาพูด เสีย ให สิ้นกระแสความวา มรรคมันมีอะไรบาง.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ถา เดิน ต าม ม รรค ชั ้น สูง สุด ชั ้น โล กุต ต ระ แลว ค น นั ้น จะไมมี ค วาม รู ส ึ ก ว า อ ยู ห รื อ ต าย , เกิ ด ห รื อ ไม เ กิ ด , ฉั น ห รื อ ค น อื ่ น , ไม ม ี อ ะ ไร ที่เป นคู ๆ อยางนั้ น. นั่ นคื อทางกลาง, ทางสายกลาง ไปสูความหลุดพ น ; เรียกวา “ทาง” เหมือ นกัน มีแ ตเ หตุป จ จัย อาศัย กัน ปรุง แตง ไป : เพราะสิ ่ง นี ้ม ี, สิ ่ง นี้ จึง มี ; เพราะสิ ่ง นี ้ม ี สิ ่ง นี ้จ ึง มี. อยา เรีย กวา อัต ตา หรือ อยา เรีย กวา อะไร ซึ่งตรงกัน ขามกับ อัตตา ; ให เป น เพี ยงกระแสแห งธรรม ปรุงแตงไปตามกฎเกณฑ ของธรรมชาติที่เด็ดขาด. นี่เปนทางสําหรับจิต เดินไปดวยปญญา. นี่ คํ า ว า มรรค เห็ น ไหม คํ า เดี ย วเท า นั้ น หมายถึ ง ถนนที่ ใช เดิ น ด ว ย เท าก็ ได . ภ าษ าธรรม ห ม าย ถึ ง ระบ อ บ ป ฏิ บั ติ ที่ วางไว เ ป น ระบ อ บ ๆ เช น
www.buddhadassa.in.th
ใบ ดอก ผล แหงศีลธรรม
๔๔๑
พรหมจรรย, เชน อัฏ ฐัง คิก มรรค โพชฌงค โพธิปก ขิย ธรรมก็ไ ด. แตถา เปนชั้นสูงสุดเรียกวาโลกุตตระแลว เรียกวา มัชฌิมาปฏิปทาที่เปนโลกุตตระ ไดแกญาณในปฏิจจสมุปบาท ที่แสดงใหเห็นวาไมมีนั่น ไมมีนี่ มีแตกระแสแหง การเปนไปตามกฎเกณฑของธรรมชาติ, หรือวามีแตธรรมชาติที่ปรุงแตงกันไปตาม กฎเกณฑของธรรมชาติ. นี่เกินแลวนะ ; ที่เอาคําอธิบายหรือความหมายของ คําวา “มรรค” มาพูดกันถึงขนาดนี้. มันเกินระบบแหงศีลธรรมแลว ; แตโดยเหตุ ที่มันมีประโยชน จึงถือโอกาสพูดไปเสียในคราวเดียวกัน. ถาม : ทีนี้ ก็จะดูคําวา “มรรค” ที่จะมาเปนประโยชนในตนไมของเรา มรรค ผล นิพ พาน ; ในที่นี้ก็เ ล็ง ถึง มรรค ๔ ผล ๔ นิพ พาน ๑. มรรค ๔ มีชื่อวาอยางไร ซอมความเขาใจ คุณทอง ? ตอบ : มีสกิทาคามิมรรค อนาคามิมรรค โสดาปตติมรรค และ อรหัตตมรรค ครับ.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ถาม : คุณประยูรละ ?
ตอบ : เริ่มโสดาปตติมรรค สกิทาคามิมรรค อนาคามิมรรค และอรหัตตมรรค.
ถาม : คุณล้ําละ เผื่อจะแปลกไปบาง ? ตอบ : ไมแปลกครับ. ถาม : เริ่มขึ้นดวยอะไร ?
www.buddhadassa.in.th
๔๔๒
การกลับมาแหงศีลธรรม
ตอบ : เริ่มตนดวย โสดาปตติมรรค ครับ. คุ ณ ทอง จํ า ฟ น เฝ อ ไปจั ด ลํ า ดั บ เสี ย ใหม ใ ห ถู ก ต อ ง. คํ า ว า มรรค ผลนิพ พาน นั ้น หมายความวา มรรค นี ่เ ริ่ม ตั้ง แตโ สดาปต ติม รรค สกิท าคามิม รรค อนาคามิม รรค อรหัต ตมรรค ; เรารู แ ตเ พีย งสัก มรรคแรกเทา นั ้น แหละมั นก็จะพอ เพราะถาเราถึงมรรคแรก คือ โสดาปต ติมรรคแลว ตอจากนั้ น มัน จะไปเอง, มัน จะไปเอง มัน ไหลกลับ ไมไ ด มัน มีน ิพ พานเปน เบื ้อ งหนา . พระพุทธเจาเปนผูรับประกัน ; ทานตรัสอยางนี้นะ มีพระสูตรที่ชัดอยางนี้ ; แตจะ เอามาอางอิงใหมันเสียเวลาก็ไมควร เพราะเราตองการจะพูดเรื่องศีลธรรม วาโสดาป ตติม รรค นั่ นแหละ ควรจะสนใจเป น อยางยิ่ง เพราะเป นจุดตั้ งต น, ถาถึงนั้ น แลว ไมมีถอยกลับ. โสตา มาเปน ไทยวา โสดา นี ้แ ปลวา กระแส ; โสตะ แปลวา กระแส, ปต ติ แปลวา ถึง หรือ การถึง ; โสตาปต ติม รรค แปลวา มรรคที่ เปน การถึง เปน การเดิน ที่ถึง กระแส. ทีนี้ก ระแสแหงอะไร ? ก็ก ระแสแหง ธรรม ที่นําไปสูความหลุดพน จุดหมายปลายทาง ; กระแสนี้มันเหมือนกับแนวอันหนึ่ง จากที ่นี ่ไ ปถึง จุด หมายปลายทาง คือ นิพ พาน. นี ้เ รีย กวา แนว หรือ กระแส. ถ าใครมาแตะเข าที่ ก ระแสนี้ คนนั้ น เรีย กวา ถึ ง โสดาป ต ติ ม รรค ; คนนั้ น จะต อ ง เดิ น มาถึ ง จุ ด จุ ด หนึ ่ ง นะ ที ่ จ ะเรี ย กได ว า บรรลุ โ สดาป ต ติ ม รรค ; มี ก าร ถูก ตอ ง ๘ ประการ อยา งที ่วา มาแลว วา อัฏ ฐัง คิก มรรค ก็พ อที ่จ ะถึง กระแส แหงธรรม คือ นิพ พาน. ทีนี ้มีคํา ที่น า สนใจที่ส ุด เกี่ย วกับ พระโสดาบัน อยู ๙ คํ า ไม ค อ ยเอามาพู ด กั น ; พู ด ถึ ง พระโสดาบั น แต เพี ย งว า ผู ถึ ง กระแส คื อ กระแส แหงพระนิพพาน.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org
www.buddhadassa.in.th
ใบ ดอก ผล แหงศีลธรรม
๔๔๓
การถึง กระแสแหง พระนิพ พานนี ้ข ยายความออกไปไดเ ปน ๙ คํา ตามที่ปรากฏอยูในพระบาลี :คํ า ที ่ ๑ ทิฏ ิส มฺป นฺโ น -ถึง พรอ มดว ยทิฏ ฐิ หมายความวา มี ทิฏ ฐิที ่ถ ูก ตอ ง จึง จะเรีย กวา ทิฏ ฐิส ัม ปน โน, มีท ิฏ ฐิที ่ถ ูก ตอ งสมบูร ณ ; ทิฏฐิสัมปนโน ถึงพรอมดวยทิฏฐิ, เวนมิจฉาทิฏฐิโดยประการทั้งปวง. คํ า ที ่ ๒ ทสฺส นสมฺป นฺโ น -ถึง พรอ มดว ยทัส สนะ คือ ถึง พรอ ม ด ว ยการเห็ น . อั น ที ่ ๑ ถึ ง พร อ มด ว ยความเห็ น , อั น ที ่ ๒ ถึ ง พร อ มด ว ย การเห็น . ดูภ าษาบาลีซิ มีเ ทคนิค ที่ไ มแ พภ าษาไหน ไมแ พภ าษาปจ จุบัน ; ถึงพรอมดวยความเห็นเสียทีกอน, แลวถึงพรอมดวยการเห็น ดวยความเห็นนั่น อีก ทีห นึ่ง . ความเห็น ชอบนะ. เห็น อยา งไรบา งละ ? เห็น วา อะไรเปน ทุก ข ; อะไรเปนเหตุใหเกิดทุกข ; หรืออะไรก็ตาม มีความเห็นที่สมบูรณ แลวมีการ เห็นสิ่งนั้นแหละโดยสมบูรณอีกทีหนึ่ง จึงเรียกวา ทัสสนะสัมปนโน.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org คํ า ที่ ๓ เรี ย กว า อาคโต อิ มํ สทฺ ธ มฺ มํ -มาถึ ง แล ว ซึ่ ง สั ท ธรรมนี้ ; สัทธรรมนี้คือ พระศาสนานี้. แตไมใชหมายถึงตัวเปลือกนอก หรือตัววัตถุอะไร ของศาสนานี้ ไมใ ชวัด วาอาราม ; ไมใ ชโ บสถวิห าร. สัท ธรรมนี้ห มายถึง ตั ว การปฏิ บ ั ต ิ เ ป น แกนกลาง มี ป ริ ย ั ติ นํ า หน า มี ป ฏิ เ วธอ ยู รั้ ง ท า ย ; นี้เขาเรียกวาสัทธรรม ; มาถึงแลวซึ่งสัทธรรมนี้ คนนี้. สั ท ธรรม ท า นแจกไว เ ป น ๓ ว า ปริ ยั ติ สั ท ธรรม คื อ ความรู , ปฏิ ป ต ติ สั ท ธรรม คื อ การปฏิ บั ติ , ปฏิ เ วธสั ท ธรรม คื อ การรู ผ ลของการ
www.buddhadassa.in.th
๔๔๔
การกลับมาแหงศีลธรรม
ปฏิบ ัต ิ ; แตต ัว สัท ธรรมแท ๆ หมายถึง ตัว การปฏิบ ัต ิ. แตเมื ่อ มาถึง ตัว การ ปฏิบัติแลว มันยอมถึงตัวความรู และผลแหงการปฏิบัติอยูในตัวมันเองดวย. ฉะนั้น ทานจึงใชคําสั้น ๆ วา สัทธรรมก็พอ. มาถึงแลวซึ่งสัทธรรมนี้ คนนี้. ถา ไมอ ยา งนั ้น ก็แ ปลกัน สั ้น ๆ วา ธรรมะของสัต บุรุษ ; แลว ธรรมะของสัตบุรุษ ก็ขยายออกเปน ๓ ความหมายอีก. เรื่องก็เปนอยางเดียวกัน : พระโสดาบันคือผูที่มาถึงแลวซึ่งสัทธรรมนี้, สัทธรรมนี้ คือสัทธรรมที่พระพุทธเจา ทรงแสดงไวเปนระเบียบปฏิบัติสําหรับความดับทุกข. คํา ที่ ๔ ปสฺส ติ อิมํ สทฺธ มฺมํ -ยอ มเห็น ซึ่ง สัท ธรรมนี้, นี่ไ มย อม ใหเสีย logics ไมยอมใหเสียหลักทางตรรกะ, จึงวามาถึงแลวซึ่งสัทธรรมนี้ แลวยัง พูด ทับ อีก วา ยอ มเห็น ซึ่ง สัท ธรรมนี้. ไมตอ งอธิบ าย, เพราะสัท ธรรมมีอ ยู อยางนั้นมาถึงเขาแลว แลวก็เห็น เหมือนมาถึงวัดนี้แลวก็เห็นวัดนี้.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org คํ าที่ ๕ เสกฺ เขน าเณน สมนฺ น าคโต –มาตามพรอ มแล วด วย ญาณอันเปนเสขะ. ญาณ คือความรู ความรูชั้นสูง ; ที่เปนเสขะ นั้นอธิบาย ยาก อธิบายไดมาก. แตพอสรุปความวาเปน บุคคลที่ควรไดรับการยกยองวา เปน นัก ศึก ษา คือ ผู ม ีก ารศึก ษา หรือ ผู ถึง การศึก ษา ; แตไ มใ ชก ารศึก ษา อยา งชาวบา นที่โ รงเรีย น ; หมายถึง การศึก ษาอยา งของพระพุท ธเจา คือ ศีล สมาธิ ปญญา นั่นแหละเรียกวาสิกขา. ทีนี้ก็มาถึง “มาตามพรอมดวยญาณ คือความรูที่เปนของนักศึกษา” ซึ่งในที่นี้หมายถึงพระโสดาบัน พระสกิทาคามี พระอนาคามี ; นั่นคือนักศึกษา, หรือการศึกษาที่ทานเหลานั้นไดรับ คืออยางนี้.
www.buddhadassa.in.th
ใบ ดอก ผล แหงศีลธรรม
๔๔๕
ที นี ้ พระโสดาบั น เป น ผู ป ระกอบพร อ มแล ว ด ว ยญาณของ “นัก ศึก ษา”, หมายถึง นัก ศึก ษาที่แ ทจ ริง ตามแบบของพระพุท ธเจา . ถา ยัง ไมเปนพระโสดาบัน ยังไมเรียกวาเปนนักศึกษา ; คือมันยังไมเสร็จการศึกษา. ไมเขาถึงการศึกษา คือยังไมเขาถึงตัวการศึกษา. ไมใชวาเสร็จการศึกษา. เขา ยัง ไมมีก ารศึก ษาอัน แทจ ริง ; จนกวา จะเปน พระโสดาบัน เสีย กอ น จึง จะ เรียกวา มีการศึกษาอันแทจริง ; แมยังไมเสร็จการศึกษา แตก็ประกอบพรอมแลว ดวยญาณของนักศึกษาอันดับแรก. คํา ที ่ ๖ เสกฺข าย วิชฺช าย สมนฺน าคโต –ประกอบพรอ มแลว ดวยวิชชาของนักศึกษา. ขอกอนนี้ใชคําวา ญาณ, ขอ หลังนี้ใชคําวา วิชชา. นี้เอาความตามลําดับก็ไดวา มีความรู แลวก็มีวิชชา คือรูแจง ; ความรูที่เล็งถึง รูแจง คือถึงระดับที่เขากําหนดไว นี่เรียกวา วิชชา. คนนี้ ลุถึงวิชชานี้. คําที่ ๗ วาธมฺมโสตํ สมาปนฺโน -นี่คือความหมายแทของคําวา โสดาบัน . ธมฺม สสตํ สมาปนฺโ น -ถึง พรอ มซึ่ง กระแสแหง ธรรม. กระแส แหงธรรม นี้คือธรรมที่นําไปสูพระนิพพาน ; เดี๋ยวนี้ทานไดมาถึงโดยสมบูรณ แลว ซึ่ง กระแสแหง ธรรมนั ้น แตย ัง ไมถ ึง ปลายทางนะ ; เพีย งแตถ ึง แลว ซึ ่ง กระแสแหงธรรม.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org คํ า ที่ ๘ ว า อริ โย นิ พฺ เพธิ ก ปฺโ -มี ป ญ ญาเจาะแทงกิ เลสชั้ น ประเสริฐ ; หมายความวาเมื่อมาถึงขั้นนี้แลว กลาวไดวา ผูนั้นเปนผูที่มีปญญา สําหรับเจาะแทงกิเลสคืออวิชชา ; ชั้นประเสริฐที่สุด. ถายังไมมาถึงนี้ ก็ยังไมมี ปญญาอยางนี้ ; ยังไมมีปญญาอยางนี้ ก็ยังไมเรียกวา พระโสดาบันนี้. พระ-
www.buddhadassa.in.th
๔๔๖
การกลับมาแหงศีลธรรม
โสดาบันก็คือผูที่เริ่มมีปญญาอยางนี้ คือเจาะแทงกิเลส เปนปญญาชนิดประเสริฐ ไมใชปญญาโลกิยะ. ขอสุดทายคําที่ ๙ วา อมตทฺวารํ อาหจฺจ ติฏติ -ยืนอยูจุดประตู แหงอมตะ ; ที่เขาชอบพูด ใหเปน วัตถุ ก็วา อมตนคร นครแหงอมตะ นี่เขา เติม ใหมัน เปน ความหมายอยางภาพพจน. ตัว บาลีก็วาประตูแ หง อมตะ คือ ประตู แห งพระนิ พ พาน คื อ ผู ที่ ม ายื น อยู จดประตู แ ห งอมตะ มาถึ งประตู แห ง อมตะแลวก็จะกาวเขาไปในเขตนั้น แลวก็จะไปถึงจุดปลายทางคือ นิพพาน. ถา จะเปรียบดวยเมือง ก็มาถึงประตูเมือง ขามธรณี ประตูเขาไปในเมือง. นี่พระโสดาบัน หรือโสตาปตติมรรค ก็คือการกระทําไดอยางนี้. ทีนี้ผลของการเปนอยางนี้ ก็อาศัยหลักที่วาแลว : มรรค คือการเดิน มา ; ผลก็คือการถึงแลวอยู ที่นั่นแลว.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ทีนี้พระนิ พพานสําหรับชั้นนี้ ก็มี ความเย็นไปตามประสาขอพระ-
โสดาบัน.
เปน อัน วา ทา นไดเดิน มา, แลว ก็ไดถึง , แลว ก็ไดรับ ผลแหง การ ถึง ตามระดับชั้นของทานที่เรียกวา มรรคในขั้นที่เปนโสดาบัน.
ทีนี้ถาต อไปจากนั้น ก็คือ วาเดินเรื่อยไป, เดินเรื่อยไป, ขามธรณี ประตู นั้ นแลว, เดิ น เขาไปเรื่อ ยเดิ น เขาไปเรื่อ ย กวาจะถึงจุด ที่ สุด ท าย. ไปได ระยะหนึ่ง เรีย กวา สกิท าคามี, ไปไดอีก ระยะหนึ่ง เรีย กวา อนาคามี, ไป
www.buddhadassa.in.th
ใบ ดอก ผล แหงศีลธรรม
๔๔๗
ไดอีกระยะหนึ่ง เรียกวา อรหันต คือ ถึงจุดหมายปลายทาง เปนนักศึกษา ที่สมบูรณ, ไมตองมีการศึกษาอีกตอไป. เราไมตองพูดโดยรายละเอียด เพราะเดี๋ยวนี้เรากําลังพูดเรื่องศีลธรรม จึงพูดแตแนวสําหรับใหสังเกตใหเขาใจ อยาใหหลงทางในคําพูด ที่พูดวา มรรค ผล นิพพาน เปนตน. ....
....
....
....
ทีนี้ ถาจะเอามาใชในความหมายทั่วไป แมแตฆราวาสผูครองเรือน คําวา “มรรค” ก็แปลวา การเดินทาง. ในที่นี้ ก็คือการกระทําที่กาวหนาไป, มีการกระทําที่กาวหนาไป เรียกวา การเดินทางโดยผูเดินทาง ; สงเคราะหอยูใน ความหมายของคํา วา มรรค ผล นิพ พาน. เขาทํา ไดเ ทา ไร ก็จ ะไดรับ ผล เท า นั้ น , แล ว เขาก็ จ ะได ชิ ม รสแห ง ผลเท า นั้ น ขอให รั บ เอาคํ า ว า มรรค ผล นิพ พาน ไปใชแมในกรณีธรรมดาสามัญ ทั่วไป สําหรับผูครองเรือ น. พอหมด เรื่องของครองเรือนก็จะมาสูเรื่องของผูไมครองเรือน ปฏิบัติสูงขึ้นไปเต็มอัตรา แหงความหมายของคําคํานี้ คือการบรรลุถึง มรรค ผล นิพพาน ที่แทจริง.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ทีนี้อยากจะใหสังเกตสักนิดหนึ่งวา ผล กับ มรรค นี้ก็เหมือนกัน, เมื่ อ มี ม รรคแล ว จะต อ งมี ผ ลโดยอั ต โนมั ติ . อย า เข า ใจว า มี ม รรค แล ว ยังจะตองพยายามใหเกิดผล. เมื่อมีการเดินทางเสร็จลงหรือถูกตอง มันก็มีการถึง ; เดิ น เท า ไร ก็ ถึ ง เท า นั้ น , เดิ น เท า ไรก็ ถึ ง เท า นั้ น , หรื อ ว า สว า งขึ้ น เท า ไร มืดก็หายไปเทานั้น, หรือวากินเทาไร มันก็มีความอิ่มขึ้นเทานั้น, หรือวา ความ เจ็บหายไปเทาไร ความสบายมันก็เกิดขึ้นเทานั้น โดยอัตโนมัติ.
www.buddhadassa.in.th
การกลับมาแหงศีลธรรม
๔๔๘
ฉะนั ้น มีก ารปฏิบ ัต ิใ นสว นมรรคสํ า เร็จ เทา ไร สว นผลก็เ กิด ขึ ้น เทา นั ้น ; ถา ถึง ขนาดถึง ระดับ ก็เ รีย กวา โสดาปต ติม รรค ซึ ่ง คู ก ับ โสดาปต ติผ ล, สกิท าคามิม รรค ซึ ่ง คู ก ับ สกิท าคามิผ ล เปน ตน . เมื ่อ ถึง ระดับ นั ้น จึงจะเรียกชื่ออยางนั้ น ; ถายังไมถึงระดับนั้น ก็ยังเรียกชื่อวาเป นการเดินทาง หรือ การถึ ง ได ต ามสั ด ส ว น. นี่ เขาจึ ง ยื ม คํ า ว า มรรคผล นี้ ม าใช ได แม ใ นการกระทํ า อยา งชาวบา น, วา ทํ า การงาน ใหเ ปน มรรค ผล. เปน อัน วา เมื ่อ พูด ถึง มรรค ก็ ไ ม ต อ งพู ด ถึ ง ผล ขอให ทํ า ให สํ า เร็ จ ในส ว นม รรคเถิ ด ผลมั น ก็ ม าเอ ง ; เช น เดี ย วกั น ที่ ว า ขอให เป น พระโสดาบั น เถอะ ต อ จากนั้ น ก็ เป น พระอรหั น ต เอง เพราะมัน เขา มาถึง เขตนี ้ ที ่ม ัน ไมถ อยหลัง กลับ ไดอ ีก ตอ ไป มีแ ตร ุด ไปขา งหนา มัน ก็ถ ึง เอง ; ฉะนั ้น จึง เปน จุด สํ า คัญ ของมรรค ที ่ต อ งเขา ใหถ ึง ในครั ้ง แรก คือโสดาปตติมรรค แลวก็มีไปเอง จนถึงที่สุดเขาวันหนึ่ง. ....
....
....
....
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ที นี้ ยั งเหลื อคํ าว า “นิ พพาน” เป นคํ าสุ ดท าย. นี่ ได อธิบายกั นหลายครั้ง แลว หรือ จะหลายสิบ ครั ้ง แลว . คํ า วา นิพ พาน นี ้แ ปลวา เย็น หากเปน คํ า ชาวบา น พ ูด อยู ก อ น มีก ารใชห นัง สือ อีก เห มือ น กัน . อ ยา พ ูด เอาต าม ตัว พยั ญ ชนะ ให มั น เสี ย ความยุ ติ ธ รรม ; เราพู ด เอาตามเสี ย งที่ พู ด เสี ย งที่ ช าวบ า น เขาพูด กัน มา กอ นพุท ธกาลโนน นิพ พาน แปลวา เย็น , เย็น ที ่ไ หน ปากก็พ ูด ออกไปว า นิ พ พานที ่ นั ่ น : ในครั ว ก็ พ ู ด , ที ่ ไ หนก็ พ ู ด , อะไรร อ น ๆ เย็ น ลง ก็เรียกวา นิพพาน ; เปนเรื่องของวัตถุ. เคยอธิ บ ายให ฟ งแล ว วา ถ า นไฟเย็ น ก็ เรีย กวา นิ พ พานของถ านไฟ, สั ต ว เดรั จ ฉานหมดพิ ษ ร า ย ก็ เรี ย กว า นิ พ พาน ของสั ต ว เดรั จ ฉาน, ที นี้ ค นเย็ น
www.buddhadassa.in.th
ใบ ดอก ผล แหงศีลธรรม
๔๔๙
ก็เรียกวา คนถึงนิพ พาน. แตเย็นของคนนี่ มันหลายระดับ : เย็นทางกายก็มี, เย็นทางจิตก็มี, เย็นทางวิญญาณก็มี, แตความหมายเดิม แทจริง เขามุงหมาย ถึงเย็นทางวิญญาณ คือหมดกิเลส. เย็น ทางกายนั ้น ชั ่ว คราว ซึ ่ง ก็ต อ งการเหมือ นกัน อยู ใ นความ หมายเดียวกันวา “เย็น”. เย็น ทางจิต นี ้ค ือ พวกสมาธิส มาบัต ิต า ง ๆ นี ่ก ็เ ย็น ทางจิต : เพราะกิเลสมันหยุดไปชั่วคราว ไมเกิดขึ้นชั่วคราว ไมรบกวน. เย็ น ทางวิ ญ ญาณ ; จํ า เป น ต อ งใช คํ า นี้ ซึ่ งเป น คํ า พิ เศษ ; ไม ใช วิญญาณทาง ตา หู ฯลฯ ; เย็นฝายวิญญาณ คือฝายสติปญญา. นี่เย็นเพราะ ไม มี กิ เ ลส ไม มี อุ ป ธิ นี่ เ ย็ น โดยสมบู ร ณ ก็ คื อ นิ พ พาน เพราะฉะนั้ น เรา จึงพูดไดวา คําวา นิพพานนี้มีความหมายวา “เย็น” แบงออกไดเปน ๒ ประเภท คือโดยตรง และโดยออม ; คือนิพพานโดยเด็ดขาด, หรือนิพพานยังไมเด็ดขาด. แตถา เย็น แลว เปน เรีย กวา นิพ พาน ไดทั้ง นั้น ; ในทางศีล ธรรมก็ค วรจะ กลา หรือวา อาจเอื้อม ยื่นมือเขาไปควาหาสิ่งที่เรียกวา นิพพาน, เพราะมันก็จะ ไดรับความเย็นมา ในลักษณะแหงศีลธรรม ตามลักษณะแหงศีลธรรม ในระบบ แห ง ศี ล ธรรม. เช น เราทํา ให มี ค วามถู ก ต อ งทางศี ล ธรรม ก็ มี ก ารเย็ น ขึ้ น มาในความรูสึก นี้, ทางกาย วาจา ใจนี้, ตามสมควร, หรือ ถา เย็น ไดท าง สังคมก็ยิ่งกวางออกไป.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org
www.buddhadassa.in.th
การกลับมาแหงศีลธรรม
๔๕๐
นี่ความหมายทางศีลธรรม แปลวา เย็น, ถาจะใชใหมีความหมายกลาง ๆ ที่ส ุด เราจะใชคํ า วา อะไรดี ; เพราะคํ า วา “เย็น ” นี ้ มัน เปน ภาษาเดิม ไมรูวา กี่แสนปมาแลวกระมัง. ถาม : “เย็น” พูดกันตั้งหลาย ๆ แสนปมาแลว. ยืมเอาความหมายนี้มาใชกัน เดี๋ยวนี้ คือวาเย็นเมื่อไมมีทุกข จะใชภาษาที่ใหมเอี่ยมสักทีจะไดไหม ? จะวาอยางไร ? ในความของคําวา เย็น หรือ นิพพาน จะใชคําวาอะไร ดี ? ลองคิ ด นึ ก ดู แล ว เอามาประกวดกั น คุ ณ ประยู รจะใช คํ า ว า อะไร แทนคําวาเย็น ? ตอบ : ควรจะใชคําวา สันติสุข. ถาม : เอา, คุณทอง ?
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ตอบ : วา สงบ ครับ.
ถาม : วา สงบ, คุณล้ํา ละ ?
ตอบ : ผมก็วาสงบ.
ถาม
: มันก็ถูก เขาเคยใชมาแลวอยางนั้นทั้งนั้น. นิพพาน หมายถึง สงบอยาง ยิ่ง, สันติอยางยิ่ง ; และที่คุณ ประยูรวา ก็แปลวา สงบนี่แหละ ; สันติ แปลวาสงบ สั น ติ สุขก็ สงบสุ ข ไป ๆ มา ๆ อยู ที่ สงบสุ ข ในความหมาย ของคําวาเย็น ที่ยังมีกลิ่นไอหลายหมื่น หลายแสนปอยูนั่นแหละ, ไมใช
www.buddhadassa.in.th
ใบ ดอก ผล แหงศีลธรรม
๔๕๑
คําพูดปจจุบันแลวกระมัง ; ถาพูดปจจุบันหยก ๆ เดี๋ยวนี้จะใชคําวา อะไรดีใหใชไดทุกกรณี แกทุกคน ทุกระดับ ? ตอบ : ใชปรกติ. ปรกติ ก็ด ี ; แตเ กา ตั ้ง หมื ่น ๆ ปอ ีก นั ่น แหละ. ใชคํ า วา อะไรดี ? เอา, ทีนี้อยากจะตอบเอาเองบาง ที่วาคลายกับประกวดคําพูด. เมื่อถูกฝรั่งเขาซักไซ ไลเลียงหลายหน หลายคราวเขา ไดเคยตอบดวยคําวา “หมดปญหา” : ดูเหมือน เปนที่พอใจ และเขาใจ กวางถึงที่สุดเมื่อใชคําวาหมดปญ หา. นิพพานนั่น คือ หมดปญ หา ; ไมวา ปญ หาชนิด ไหน ปญ หาไมม ีกิน ไมม ีใ ช ปญ หาโรคภัย ไขเจ็บ ปญหาอะไรตาง ๆ นานา ปญหาทั้งหลายนั่นหมด. ถา หมดปญ หานั ่น คือ นิพ พาน ตั ้ง แตใ นโลกนี ้จ นถึง โลกอื ่น จน ถึ ง เหนื อ โลก เป น นิ พ พานโดยแท จ ริ ง คื อ มั น หมดป ญ หา : หมดป ญ หา โดยสวนตัว ก็เปนนิพ พานสวนตัว, หมดปญ หาผูอื่นดวย ก็หมดป ญ หาสิ้นเชิง. ถ า ทางวั ต ถุ ทางเนื้ อ หนั ง ร า งกาย สิ่ ง ของ ก็ ห มด ป ญ หา, และทางจิ ต ทาง วิญญาณ ก็หมดปญหา ; เรียกวา หมดปญหาโดยสิ้นเชิง.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org เดี๋ยวนี้ กําลั งมี ป ญ หาทั้ งทางวัตถุและทางจิต ในโลกนี้ ใชไหม ? ใน โลกนี ้ใ นปจ จุบ ัน นี ้ กํ า ลัง มีป ญ หารุน แรงขึ ้น ทั ้ง ทางวัต ถุ และทางจิต ใจ ไม ม ี น ิ พ พานเลย ; ไม ม ี ร อ งรอยแห ง นิ พ พานเลย. มั น เต็ ม ไปด ว ยป ญ หา อัน รอ นระอุเ ปน ไฟไปหมด. นี ้ส ว นบุค คลก็ม ีป ญ หา, สว นสัง คมทั ้ง โลกก็มี ปญหา, มันรอนไปดวยปญหา ยังไมมีนิพพานเลย.
www.buddhadassa.in.th
๔๕๒
การกลับมาแหงศีลธรรม
ความหมดปญ หา หรือ ความมีนิพ พาน อยา งนี้ คนเขาก็ห วัง กันมาก และหวังอยูตลอดเวลา. สังเกตดูแลวเปนความมุงหมายของทุกศาสนา ; และทุก ๆ ศาสนาไดวางเงื่อนไขอันนี้ เอาไวดวยกันทุกศาสนา คือวา ทุกศาสนา จะมี คํ ากล าวที่ ว า จะยั งมี พ ระศาสดาอี ก องค ห นึ่ ง มาตรัส รูเป น องค สุ ด ท า ย สําหรับยุคนี้ แลวเปนพระศาสดาที่ทําใหหมดปญหาโดยประการทั้งปวง. ถาม : พระพุทธเจาหรือพระศาสดาองคนั้น เขาเรียกชื่อวาอะไร คุณประยูร ? ตอบ : พระศรีอริยเมตไตรย. พระศรีอ ริย เมตไตรย เรีย กสั้น ๆ วา พระศรีอ าริย. เมื่อ ไรพระ ศรีอ าริยม า ปญ หาหมดทั ้ง ฝา ยวัต ถุ และทั้ง ทางฝา ยจิต ใจ. ดูจ ะไดเปรีย บ พระพุทธเจาที่แลว ๆ มา วาพระพุทธเจาที่แลว ๆ มา ปญหาทางจิตใจหมดเกลี้ยง ; แตปญหาทางวัตถุยังไมกลาวไดวา สิ้นไป. นี่คือขอแตกตางกันเล็กนอย. เมื่อ ทานไมตองการเรื่องทางวัตถุ มันก็ไมตองมีดวยเหมือนกัน. เดี๋ยวนี้มนุษยสมัยนี้ ก็ไมยอม เขาตองการความสมบูรณทางวัตถุ. เมื่อตองแกปญหาทางวัตถุ ก็เอา พระศรีอาริยไวให.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ถาม : ในศาสนาพุทธเรียกวา พระศรีอาริย ; ในศาสนาคริสเตียนเรียกวาอะไร เรียกชื่อพระศาสดาองคนั้นวาอะไร คุณทอง ?
ตอบ : ตอบไมไดครับ.
www.buddhadassa.in.th
ใบ ดอก ผล แหงศีลธรรม
๔๕๓
ตอบไมไ ด เพราะไมส นใจศาสนาของเพื ่อ นเสีย เลย. ศาสนายิว ซึ ่ง กอ นคริส เตีย น เขาก็ม ีพ ระศรีอ าริย สํ า รองไว เรีย กวา เมสสิอ าห. พอ พระเยซู เกิ ด ขึ้ น พวกที่ นั บ ถื อ พระเยซู บอกว า พระเยซู นั่ น เองเป น พระศรี อ าริ ย เป น เมสสิอ าห ; พวกยิ วเขาไม ยอม เขาวาไม ใช พระเยซูเป น ตั วปลอม เขาจึงฆ า เสีย . เขารอ พ ระศ รีอ าริย ข อ งเขาตอ ไป คือ เขารอ เม ส สิอ าห ตอ ไป ใน อนาคต. ทีนี ้ ในศาสนาฮิน ดู หรือ ศาสนาพราหมณ ใกล ๆ บา นเรา เขา เรี ย กชื่ อ พระศาสดาองค นั้ น ว า อะไร ? ไม เคยอ า นเสี ย เลยหรือ ? คุ ณ ประยู รอ า น หนั ง สื อ มากกว า เพื่ อ น เขาเรี ย กชื่ อ ว า อะไร ? (ไม มี ใ ครตอบ) ไปดู รู ป ในหนั ง สื อ นารายณ สิ บ ปาง ปางสุ ด ท า ย เขามี กรรติ เกยยะ ขี่ ม า ขาว มาตั ด ป ญ หาโดย ประการทั้งปวง. น าราย ณ ส ิบ ป าง ป างที ่ ๙ นี ้ คือ พ ระพุท ธเจา ; เขารวบ เอ า พระพุ ท ธเจ า ในพุ ท ธศาสนาไปเป น พระอวตารปางที่ ๙. แล ว มี อ วตารปางที่ ๑๐ คือมี กรรติเกยยะที่ มาในรูปของพระศรีอาริย, เป นบุ รุษที่ขี่ม าขาวมา ตัดป ญหาของ โลกทั้งหมดได เขามีพระศรีอาริยที่เขากําลังรออยู ในฝายฮินดูที่ถือพระนารายณ.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org เอาล ะ, เปน อัน วา ศาสนาไหนก็ต าม เข ายัง ทิ ้ง เงื ่อ น ไข ไว อั น หนึ่ ง ว า จะมี ค วามสู ง สุ ด ของความเจริ ญ หรื อ สิ่ ง ที่ ค วรปรารถนา ในอนาคต คื อ ความหมดเสี ย ซึ่ ง ป ญ หา ทั้ ง ทางฝ า ยวั ต ถุ แ ละฝ า ยจิ ต ใจ. ถ า ใน อนาคตทํ า ใหท างวัต ถุพ อดีส ะดวกสบาย แลว ก็ไ มลุ ม หลงกัน แลว ทางจิต ใจนี้ มัน ก็ห มดกิเลสดว ย ; คนที ่ห มดกิเลสเหลา นั ้น ก็ไดส ะดวกสบายดว ยวัต ถุเกื้ อ กู ล
www.buddhadassa.in.th
๔๕๔
การกลับมาแหงศีลธรรม
เต็มที่ เรียกวาหมดปญหาทั้งทางฝายวัตถุและจิตใจ ; เดี๋ยวนี้เรากําลังไมหมดปญหา ทั้งทางฝายวัตถุ และฝายจิตใจ ; ยิ่งเพิ่มปญหาทั้งฝายวัตถุและฝายจิตใจ. ถาม : พูดอยางนี้มองเห็นไหม ? อธิบายวาอยางไร ? เดี๋ยวนี้เรากําลังมีปญหา มากเพิ่มขึ้นทั้งทางฝายวัตถุและจิตใจ คุณประยูรวาอยางไร ? ตอบ : เดี๋ยวนี้เราทําอะไรไปตามอํานาจกิเลส, พอทําไปแลวก็เบียดเบียน ตนเอง อยู ต ลอดเวลา ; นั่ น คื อ ป ญ หาทางวั ต ถุ ที่ ต อ งแย งกั น ; และ ทางจิตใจก็คือเปนทุกข. ทางจิตใจ เรามีกิเลสมากขึ้น, ในทางฝายวัตถุ เราก็พั ฒ นาไปแตใน ทางส ง เสริ ม กิ เลสให ม ากขึ้ น ; เราจึ ง มี ป ญ หาทั้ ง ทางฝ า ยวั ต ถุ และฝ า ยจิ ต ใจ เพราะวาเรายังไมขึ้นไปถึงยอดสุดแหงพฤกษาของศีลธรรม. ถาเราจะพยายามทําไป ๆ ถึ งยอดสุ ด ของต น ไม แ ห งศี ล ธรรม เราก็ จ ะหมดป ญ หาทั้ ง ๒ อย างนี้ ฉะนั้ น จึ ง เปนอันวา เราไดพู ดถึง ใบ ดอก และผลของพฤกษาแหงศีลธรรม ในฐานะเป น มรรค ผล และนิพพาน คือที่จุดจบ หรือ ที่หมดสิ้นแหงปญหานั้นเอง.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org เอาละพอกัน ที วา จุด ยอดของตน ไมแ หง ศีล ธรรม นั ่น คือ ความ หมดปญ หาโดยประการทั ้ง ปวง. นี ่ว ัน นี ้ก ็ไ ดพ ูด เลยเวลามากไป มัน เปน ความจําเปน ถาจะขยักไวสักนิดหนึ่ง มันก็คงจะลําบาก ในการที่จะพูดขึ้นมาอีก. เพราะฉะนั ้น ขอใหผู ฟ ง อดทนบา ง อยา เพอ โกรธ วา ทํ า ไมบางทีพ ูด ยาวไป, บางทีพ ูด สั้น ไป. มัน จํา เปน ที่จ ะตอ งพูด ใหห มดกระแสความ บางอัน จึงยาวไป. ขอใหเอาไปคิดใหไดรับประโยชนเต็มตามเรื่องที่ไดพูดไปทุกประการ. ขอยุ ติ ก ารบรรยายครั้ ง นี้ ไ ว เพี ย งเท า นี้ เป น โอกาสให พ ระคุ ณ เจ า สวด ธรรมสาธยาย ใหกําลังใจในการที่จะกาวขึ้นไปถึงจุดยอดสุด ของพฤกษาแหงศีลธรรม.
www.buddhadassa.in.th
การกลับมาแหงศีลธรรม -๑๑๑๐ เมษายน ๒๕๑๙
การทําความเจริญงอกงามของศีลธรรม [ ปลูกฝง - รักษา - ดอกผล – แพรพันธุ]
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ทานสาธุชน ผูมีความสนใจในธรรม ทั้งหลาย,
การบรรยายประจํ า วั น เสาร ใ นวั น นี้ คงกล า วไปตามหั ว ข อ ที่ เรี ย ก ว า ก ารก ลั บ ม าแ ห งศี ล ธ รรม ต อ ไป ต าม เดิ ม แต จั ก ได ก ล าว โดยหัวขอยอยวา การทําความเจริญงอกงามของศีลธรรม. [ทบทวนขอความครั้งที่แลวมา ไปจนถึงหนา ๔๖๒ ]
ท านทั้ งหลายจักต อ งทบทวน ถึงขอ ความที่ไดกลาวมาแลวในครั้ง กอ น วา เราไดก ลา วถึง ปญ หาทางศีล ธรรม ซึ่ง กํา ลัง มีอ ยูเฉพาะหนา ในที่นี้ ซึ่ง จะตอ งชว ยกัน แกไ ข เพื่อ ใหศีล ธรรมนั้น กลับ มา. เราจะ ตอ งรูจัก สิ่ง ที่ ๔๕๕
www.buddhadassa.in.th
๔๕๖
การกลับมาแหงศีลธรรม
เรียกวาศีลธรรม จนเพียงพอ ที่จะรูวาเปนความจําเปน ที่จะตองกลับมา ; เรา จึงไดพูดกันถึง ลักษณะของศีลธรรม และพูดถึงขอที่จะตองเขาใจอยางแจมแจง เกี ่ย วกับ ศีล ธรรม, และไดเ ปรีย บเทีย บเหมือ นกับ วา เปน ตน ไมต น หนึ ่ง ที ่จ ะ ตอ งชว ยกัน ทํ า ใหเ จริญ งอกงาม เปน เครื่อ งคุม ครองโลก. เพื ่อ ใหรูจัก ดีขึ้น ไปอีก ก็ไ ดพ ิจ ารณากัน เปน สว น ๆ วา ราก ของตน ไมม ัน เปน อยา งไร, ลํา ตน มัน เปน อยางไร, ใบ ดอก ผล เปน อยา งไร ; เพื่อ เราจะไดเขา ใจแจม แจง ถึง กับวา เรายังขาดสิ่งเหลานี้อยูหรือไม. เมื่อมองเห็นวาขาดอยูอ ยางไร ; ก็จะได ชวยกันทําใหเปนเหมือนกับวา ตนไมตนนี้จะเจริญดวยราก ดวยลําตน และดวยใบ ดวยดอก ดวยผล สําเร็จประโยชนแกมนุษยโลก. นี่คือ สิ่ง ที่ทา นทั้ง หลายจะตอ งทบทวน เพื่อ ใหเขา ใจ หรือ รูจัก สิ่ง ที ่จํ า เปน ที ่ส ุด ที ่ม นุษ ยจ ะตอ งมี. บางทา นอาจจะรู ส ึก เฉย ๆ เบื ่อ หนา ยหรือ เกียจคราน ที่จะสนใจกับสิ่งเหลานี้ ; แตแลวก็บนพร่ําอยูไมขาดปาก วาเดี๋ยวนี้ เต็มไปดวยความยุงยาก ความลําบาก เพราะการเบียดเบียนซึ่งกันและกัน มีความ ทารุณโหดรายเพิ่มมากขึ้นในสังคม ถึงกับวาไมนาจะอยู คือไมมีความปลอดภัย เอาเสียเลย.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org เราก็ม องเห็น ชัด เจนยิ่งขึ้น ดวยวา สภาพัน เลวทรามนี้ไดเพิ่มความ รุน แรงยิ ่ง ขึ ้น ทุก ที ; นี ่แ หละคือ สิ ่ง ที ่จ ะตอ งคิด กัน บา งวา ไมส นใจเรื ่อ ง ความมี ศี ล ธรรม แต แ ล ว ก็ บ น อยู ด ว ยโทษหรื อ อั น ตราย ที่ เกิ ด ขึ้ น เป น ประจํ า เพราะความไมมีศีล ธรรม ; อยางนี้มัน ก็ไมเปน ธรรม, ไมเปน ศีล ธรรม หรือ ไม ยุต ิธ รรม. ถา ไมต อ งการผลรา ยอัน เกิด จากความไมม ีศ ีล ธรรม ก็ต อ งชว ยกัน ปองกันแกไข หรือกําจัดสิ่งเหลานั้น.
www.buddhadassa.in.th
การทําความเจริญงอกงามของศีลธรรม
๔๕๗
เพราะฉะนั้ น อาตมาจึ งขอรอ งให ท านทั้ ง หลายสนใจ ให ส มกั บ ที่ ว า เป น ผู ส นใจในธรรม. การสนใจในธรรมในสมั ย นี้ ไม มี อ ะไรดี ก ว า เรื่อ งนี้ ; ไม มี อะไรจําเปน หรือเปนเรื่องดวนเทากับเรื่องนี้ คือเรื่องศีลธรรมที่กําลังหายไป และ เราจะตองชวยกันทําใหกลับมา. ....
....
....
....
เดี๋ ย วนี้ ก็ เป น ที่ ย อมรับ กั น แล ว ว า ทั้ ง โลกเป น เหมื อ น ๆ กั น หมดใน ขอนี้ คือขอที่ไมคอยจะมีศีลธรรมนั่นเอง ; โลกมีความเจริญ หรือจะเรียกวาความ รุงเรืองมากมาย แต เป น ไปในทางที่ ไม ทํ าให มี ศี ล ธรรม ยิ่งเจริญ ด วยความเจริญ ทํ า นองนั ้น ศีล ธรรมก็ยิ ่ง หายไป ; เราจึง เห็น ได หรือ แมแ ตไ ดย ิน ไดฟ ง ใน ลักษณะที่เชื่อได วาโลกนี้กําลังเปนโลกของวิกฤติการณ คือมีความระส่ําระสาย วุนวาย หาความสงบสุขมิไดทั่วไปทั้งโลก.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org องค การระหวางชาติที่ จัดขึ้นเพื่ อแห ป ญ หาในโลก ก็ไม สามารถจะแก อะไรได เพราะว า คนในโลกไม ม ี ศ ี ล ธรรม ; แม แ ต เ จ า หน า ที ่ ที ่ ป ระจํ า องคการนั้น ๆ ก็ยังมีผูที่ไมมีศีลธรรม เพราะวาทําไปแตเพื่อประโยชนแกพวกของ ตัว หรือ วา แกป ระเทศของตัว . ในที ่ป ระชุม ที ่จ ะทํ า สัน ติภ าพใหแ กโลกนั ่น แหละ ถาไมมีศีลธรรมเสียเองแลวจะทําโลกนี้ใหมีสันติภาพไดอยางไร.
เราควรจะพูด กัน ไดเ สีย ทีแ ลว วา โลกนี ้กํ า ลัง ไมม ีที ่พึ ่ง . คนชว ย กัน ทํ า ใหเ ปน โลกที ่ไ มม ีศ ีล ธรรม, ไมม ีพ ระเจา , ไมม ีพ ระเปน เจา เขา มาชว ย คุมครองได ; และคนสวนใหญ ก็เกลียดพระเจา ถือเสียวาพระเจาตายแลว หรือ ไม มี ค วามหมาย ไม มี ป ระโยชน ไม มี ค วามจํ า เป น อะไรที่ เราจะต อ งมี พ ระเจ า .
www.buddhadassa.in.th
๔๕๘
การกลับมาแหงศีลธรรม
คนจํานวนมากเขาพูดกันอยางนี้ ; โชคดีอยูหนอยวา ในเมืองไทยนี้ยังไมเปนถึง อยางนั้น. แตในที่สุดก็ไดรับผลอันเลวรายนี้เสมอ ทั่ว ๆ กันไปหมด เพราะวา โลกสมัยนี้มันเล็กนิดเดียว ; ความกาวหนาทางคมนาคม เปนไปมากเทาไร โลก นี้ก็เล็กลงไปตามสัดสวนอันนั้น. โลกนี้ยิ่งเล็กลงทุกวัน ๆ ตามสวนแหงความกาวหนาของการคมนาคม การติ ด ต อ การแลกเปลี่ ย น, การสั ม พั น ธกั น โดยประการใด ๆ ก็ ต าม. เมื่ อ มี วิก ฤติ ก ารณ เกิด ขึ้น ที่ ไหนก็ แผ ซ านไปทั่ วโลกได ในเวลาอั น สั้ น ; ความกระทบ กระเทือ นเหลา นี้ ก็ถึง กัน หมด มีค วามเดือ ดรอ นถึง กัน หมด. เปน อัน วา สิ่ง เหลา นี้เปน ปญ หาของโลก ซึ่งไมมีใ ครจะปลีก ตัว ออกไปใหพน ได เราจึง สมควรที ่ จ ะหยิ บ ขึ้ น มาเป น ป ญ หา ที ่ จ ะช ว ยแก ไ ข. นี ่ ค ื อ ป ญ หาทาง ศีล ธรรม ซึ่งมีอยูในโลกนี้ใ นเวลานี้ ; เราอาจจะทาทายไดวา ไมมีท างอื่น ที่ จะทําโลกนี้ใหสงบสุขได นอกจากการแกไขทางศีลธรรม.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ทางการเมือ งก็ไ มมีท างที่จ ะชว ยใหโ ลกสงบสุข ได ; มีแ ตจ ะยิ่ง เลวราย เพราะวายิ่งมีคนไมมีศีลธรรมเปนผูดําเนินการเมือง. ทางเศรษฐกิจก็ไม อาจจะชวยโลกนี้ใหสงบสุขได ; เพราะวายิ่งมีคนไมมีศีลธรรมเปนผูดําเนินการ เศรษฐกิจ. แมจะมองไปยัง ความเจริญกาวหนาของการศึกษา ที่เปนเหตุของ การประดิษ ฐสรางสิ่งตาง ๆ ขึ้นมา นี้ก็ไมมองเห็นวา จะชวยใหโลกนี้มีสันติภาพได ; เพราะค น คว า ประดิ ษ ฐ กั น แต ใ นสิ่ ง ที่ ส ง เสริ ม ความไม มี ศีล ธรรม คือ สงเสริม สิ่งเอร็ด อรอ ยทางเนื้อ หนัง ที่เราเรียกกัน วา กามารมณ นั่นเอง.
www.buddhadassa.in.th
การทําความเจริญงอกงามของศีลธรรม
๔๕๙
เขาผลิตกันแตสิ่งนี้ เพราะวาสิ่งนี้มันขายดี มีผูตองการมาก. ทําไม สิ่งนี้จึงขายดีมีผูตองการมาก ? ก็เพราะวามันตรงกันกับกิเลสของคนทุกคน ที่มี กิเลสหนายิ่งขึ้นทุกที. ทํ า ไมคนจึง มีก ิเ ลสหนายิ ่ง ขึ ้น ทุก ที ? เพราะมัน อบรมกัน อยู แ ต ในสิ ่ง เหลา นี ้ ; ไมม ีสิ ่ง ที ่จ ะควบคุม กิเ ลส ปราบปรามกิเ ลส แกไ ขกิเ ลส เอาเสีย เลย. คนในโลกก็ยิ่ง เปน ทาสของกิเ ลสมากขึ้น จนเต็ม ไปทั ้ง โลก ; ดังนั้น สินคาที่จะสงเสริมกิเลส จึงเปนสินคาที่ขายดี ; ผูมีปญญาในทางประดิษฐ ก็ประดิษฐแตสิ่งเหลานี้. อีก ทางหนึ ่ง ถา ไมเปน ไปอยา งนี ้ ก็ป ระดิษ ฐก ัน แตเครื่อ งมือ ที ่จ ะ บี บ คั้ น ผู อื่ น ทํ าลายผู อื่ น ให พ ายแพ แ ก ต น จนถึ งกั บ วา จะตั้ งตั วเป น เจาโลก. การทําอยางนี้ ทําอยางไร เทาไร มัน ก็ไมทําใหโลกนี้มีสัน ติสุขได ; เปน อัน วา เราไมมีหวังที่จะมีสันติสุข ดวยอํานาจของการประพฤติ หรือการกระทํา หรือความ กาวหนาในสิ่งตาง ๆ ที่เขากําลังทํา ๆ กันอยู อยางกาวหนา ราวกับวาวิ่งไปทีเดียว.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ข อ นี้ ห มายความว า ไม ใช ก า วหน า อย า งช า ๆ ; แต ก า วหน า อย า ง รวดเร็ว เหมือนกับวิ่งไปเลยทีเดียว ; แตแลวมันก็วิ่งเขาไปสูวิกฤติการณ คือความ ยุ ง ยาก ลํ า บาก ระส่ํ า ระสาย โกลาหล วุ น วาย. นี ้เ รีย กวา สภาพปจ จุบ ัน ของโลกที่กําลังเปนอยูนี้. ถาผูใดยอมรับ ขอเท็จจริงอันนี้ ผูนั้นคงจะสลดสังเวช เปน แนน อน ; มีค วามรูส ึก สลดสัง เวชมนุษ ยนั ่น แหละ วา กํ า ลัง จะวิน าศ จะไมมีค วามเปน อยูอ ยา งมนุษ ย คือ อยูดว ยความสงบสุข หรือ อยูดว ยจิต ใจ ที่สูงอยูเหนือกิเลสได. ....
....
....
....
www.buddhadassa.in.th
๔๖๐
การกลับมาแหงศีลธรรม
อาตมาขอยืน ยัน อีก ครั ้ง หนึ ่ง วา ถา ทา นผู ใ ดไมม ีค วามรู ส ึก หรือ มองเห็ น ข อ นี้ ก็ จ ะไม ส ลดสั ง เวชในข อ นี้ ; แล ว ท า นก็ จ ะไม ส นใจในการแก ไ ข ป ญ หาทางศี ล ธรรม. แม ว า อาตมาจะพยายามพู ด ถึ ง สิ่ ง เหล า นี้ อย า งชั ด เจน ละเอี ยดลออสั กเท าไร ; ท านก็ จะหาวา เป นการพู ดที่ ละเมอเพ อฝ นบ า ๆ บอ ๆ ไป ไมรูจักสิ้นสุดเทานั้นเอง ; เรื่องมันก็จบกัน คือไมมีทางชวยกันแกไขปญหา ทางศีลธรรม. ฉะนั้ น จึ งหวั งอยู ได แต เพี ยงว า ท านผู ใดมองเห็ น ข อ เท็ จจริงอั น นี้ แล ว มี ค วามรูสึ ก ผิ ด ชอบชั่ ว ดี อ ยู ในตน รูจั ก รับ ผิ ด ชอบในส ว นที่ ค วรจะรั บ ผิ ด ชอบแล ว นั ่น แหละคงจะนึก สลดสัง เวชแลว ก็จ ะยิน ดีม ารว มมือ กัน แกไ ขสิ ่ง เลวรา ยใน โลกนี ้ ซึ ่ง เลวรา ยมากเกิน กวา ที ่จ ะเรีย กวา เสนีย ดจัญ ไร อุป ท วะ หรือ อะไร ๆ ที่ เคยเรี ย กกั น มาก็ ได เพราะว า มั น จะมี ค วามวิ น าศเอาที เดี ย ว, วิ น าศอย า งไม มี อะไรเหลือ.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org เมื่ อ โลกนี้ ไ ม มี ม นุ ษ ยธรรม คื อ ธรรมะสํ า หรั บ มนุ ษ ย แ ล ว มั น ก็ ไ ม มี มนุษ ย. นี้เ รีย ก โลกนี้มัน วิน าศ เพราะไมม ีม นุษ ย ; มีแ ตสัต วอ ะไร ก็ไ มรู ซึ่งทํ าความยุงยาก ลํ าบาก เดื อดรอน กระวนกระวาย ให แก โลกยิ่ งขึ้นทุ กที . นี้ เรา เรียกวา โลกวินาศในสวนจิตใจกอน ; ความเป นมนุษยก็หายไปแลว เหลื อแตสัตว อะไรก็ไมรู. ทีนี้สัตวทั้งหลายเหลานั้นแหละ จะฆาฟนจะทําลายลางกัน ในลักษณะ ที่เรียกกันวามิคสัญญี อีกสักครั้งหนึ่ง ; เหลือมีชีวิตรอดอยูในโลกนี้ไม กี่คน สําหรับ จะกลั บ ตั ว กั น เสี ย ใหม และตั้ ง ต น กั น เสี ย ใหม . ถ า เป น อย า งนี้ ก็ ต อ งเรี ย กว า มั น สายเกินไป สายเกินไปสําหรับการปองกัน.
www.buddhadassa.in.th
การทําความเจริญงอกงามของศีลธรรม
๔๖๑
เราไม ค วรจะปล อ ยให มั น เป น ไปถึ ง อย า งนั้ น มาร ว มมื อ กั น ป อ งกั น และแก ไ ขไปเรื่ อ ย ๆ จะเป น การถู ก ต อ งกว า . เพราะเหตุ นี้ แ หละ อาตมาจึ ง พยายามสุดความสามารถ สุดกําลัง สุดความคิด ที่จะพูดกันถึงเรื่องศีลธรรม ซึ่ง สรุป เปน ใจความสั้น ๆ วา การกลับ มาแหง ศีล ธรรม, และยัง ทา ทายตอ ไป อีกทางหนึ่ งวา ในการบํ าเพ็ ญ บุ ญ กุ ศลอะไรก็ ตาม ในเวลานี้ ในยุ คนี้ ไม มี บุ ญ กุ ศล ชนิ ดไหน จะดี จะสูง จะประเสริฐ เท ากั บ บุ ญ กุ ศ ลที่ ทํ าไป เพื่ อ การกลั บ มาแห ง ศีลธรรม. ขอ นี ้ข อใหเ ขา ใจใหถ ูก ตอ ง วา อาตมาไดก ลา ววา ไมม ีบ ุญ กุศ ล ชนิ ด ไหนจะดี จะประเสริ ฐ หรื อ สู ง สุ ด เท า กั บ บุ ญ กุ ศ ลที่ ทํ า ไปเพื่ อ การกลั บ มา แห ง ศี ล ธรรม ; ไม ไ ด พ ู ด ว า สิ ่ ง อื ่ น ๆ ไม เ ป น บุ ญ ไม เ ป น กุ ศ ล. ข อ นี้ เคยถู ก เขาด า เขาว า เขาหา มาหลายครั้ ง แล ว ว า อาตมาพู ด ว า สร า งวั ด ก็ ไ ม เปน บุญ สรา งโรงเรีย นก็ไ มเ ปน บุญ ทํ า อะไรก็ไ มเ ปน บุญ นอกจากทํ า ให บุคคลเปนสัมมาทิฏฐิ.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ที ่ จ ริ ง ก็ ไ ด พ ู ด ว า ไ ม ม ี อ ะ ไ ร เ ป น กุ ศ ล สู ง สุ ด เ ท า กั บ ทํ า บุ ค ค ล ใ ห ม ี ส ั ม ม า ทิ ฏ ฐิ ; แ ต ก ็ ไ ม ไ ด พ ู ด ว า ส ร า ง โร ง เรี ย น ไม ไ ด บ ุ ญ สรา งโบสถไ มไ ดบ ุญ สรา งวัด ไมไ ดบ ุญ ไมไ ดพ ูด อยา งนั ้น . คนที ่เ มาบุญ ประเภทนั้ น หู เชื อ นแชไปเอง ก็ เลยได ยิ น ไปว า อาตมาว า สรา งวั ด ไม ได บุ ญ สร า ง โรงเรี ย นไม ไ ด บุ ญ . นี่ ก็ เหมื อ นกั น แหละ มั น จะเข า รู ป นั้ น อี ก ก็ ไ ด ; คื อ อาตมา กํ า ลั ง กล า วว า การบํ า เพ็ ญ บุ ญ อย า งอื ่ น นั ้ น ไม ด ี ไม เ ลิ ศ ไม ป ระเสริ ฐ ไมสูงสุด เทากับการทําใหศีลธรรมกลับมา.
www.buddhadassa.in.th
การกลับมาแหงศีลธรรม
๔๖๒
ใครจะทําบุญ สมมติวาลงทุนสักรอยบาท ก็ทําไดตาง ๆ นานา ชนิด ซึ่งจะเรียกวาเปนบุญดวยกันทั้งนั้น ; แตถาใชเงินรอยบาทนั้นใหเปนไปในทางที่ ศีลธรรมจะกลับมาแลว จะถือวาเปนบุญกุศลอันสูงสุดสําหรับยุคนี้ สําหรับสมัยนี้ สําหรับแกปญหาของพวกเราในปจจุบันนี้ทีเดียว. ถา ทา นผูใ ดมองเห็น เขา ใจในขอ นี้แ ลว ก็ข อไดรีบ ทํา บุญ ทํา กุศ ล กัน ในลัก ษณะเชน นี ้เ ถิด คือ ทํา อะไรก็ส ุด แท ตามความรู ตามสติป ญ ญา หรือตามเหตุปจจัย ที่จะพึงแสวงหามาได ; ขอแตใหกระทําไปเพื่อการกลับมา แหงศีล ธรรม. จะกลับ มาไดอ ยางไร เราก็ไดวิพ ากษวิจารณ วินิจ ฉัย กัน มา มากพอสมควรแลว ; ขอใหทบทวนขอเท็จจริงเหลานั้น แลวก็กระทําไปตามที่ จะทําได. [เริ่มการบรรยายโดยหัวขอแหงครั้งนี้ ]
การทําความเจริญงอกงามของศีล www.buddhadasa.in.th ธรรม www.buddhadasa.org การบรรยายเรื่องนี้เปน ครั้งที่ ๑๑ ทั้ง ครั้งนี้ ลวนแตพูด กัน ถึงเรื่อ ง
ศีลธรรม ; มาในวันนี้ก็จะพูดถึง
ตอจากเรื่องที่ไดพูดแลวในวันกอน ๆ.
เรื่องสําคัญที่ไดพูดแลวก็คือวารากฐานของศีลธรรมเปนอยางไร, ตน ลําของศี ลธรรมเป น อยางไร, ใบ ดอก ผล ของศีลธรรมเป น อยางไร. สมมติ เปนตนไม แลวเรารูจักสวนตาง ๆ ของตนไมวาเปนอยางไร ตองการอะไร แลว ก็จะไดชวยกันทําใหมีความถูกตองแกสิ่งนั้น ๆ หรือสวนนั้น ๆ.
www.buddhadassa.in.th
การทําความเจริญงอกงามของศีลธรรม
๔๖๓
ในวั น นี้ ก็ จ ะได ก ล า วโดยสรุป รวมเข า ด ว ยกั น ว า จะทํ า ความเจริ ญ งอกงามแก ต น ไม แ ห ง ศี ล ธรรมนั ้ น อย า งไร เช น จะตั้ ง ป ญ หาว า ข อ ที ่ ๑. ทํ า อย า งไรจึ ง จะเพาะปลู ก ต น ไม แ ห ง ศี ล ธรรมขึ ้ น มาได ใหม ? หลัง จากที ่ม ัน เหี ่ย วแหง ตายไปเกือ บจะหมดโลกอยู แ ลว . ขอ นี ้ต อ งรวม ถึง การเลือ กพัน ธุ เลือ กดิน เลือ กปุ ย อะไร ๆ ดว ยเปน ธรรมดา ; เรีย กวา จะ เพาะปลูก มัน อยา งไร ; ขอ ที ่ ๒ จะบํ า รุง รัก ษามัน ไดอ ยา งไร ; ขอ ที ่ ๓ ก็ว า จะทํ า ใหม ัน ออกดอก ออกผล แลว ผลมัน ติด จนกระทั ่ง มัน สุก งอมกิน ไดนั ้น อยา งไร ; ขอ ที ่ ๔ ซึ ่ง เปน ขอ สุด ทา ยนั ้น ก็จ ะมีป ญ หาวา จะแพรพ ัน ธุ ข อง ตน ไมแ หง ศีล ธรรมนี ้ ใหแ พรห ลายตอ ไป ใหเ ต็ม ทั ้ง โลกไดอ ยา งไร ; นี ้เ ปน ขอสุดทายและเห็นวาควรจะพอกันที. ทบทวนอีก ครั ้ง หนึ ่ง ก็ค ือ วา เราจะเพาะปลูก มัน อยา งไร ? เรา จะบํ า รุ ง รั ก ษามั น อย า งไร ? เราจะทํ า ให มั น ผลิ ด อกออกผล และผลนั้ น ติ ด “ไม กระเทาะหน า แว น หล น เสี ย เปล า ๆ” นี้ อ ย า งไร ? ให มั น อยู ไ ด จ นสุ ก งอมกิ น ได ; และขอ สุด ทา ย ก็จ ะแพรพ ัน ธุ ผ ลไมนี ้ใ หม ัน ทั ่ว ไปทั ้ง โลก ไดอ ยา งไร ? นี ่ค ือ ขอที่จะตองวิสัชนากันใหละเอียดแจมแจง.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org เพื ่อ จะตอบปญ หาเหลา นี ้, ก็จ ะตอ งมองดูซ้ํ า ลงไปอีก ครั ้ง ที ่สิ ่ง ต า ง ๆ ที่ มั น เกี่ ย วเนื่ อ งกั น อยู ที่ เป น รายละเอี ย ดอยู อี ก ส ว นหนึ่ ง ซึ่ ง อาจจะลื ม กั น เสียแลวก็ได จึงจะขอทบทวนอยางยอ ๆ อยางไมรูจักเบื่อหนายในการทบทวนเชนนี้.
ตน ไมข อ งศีล ธ รรม นี ้ม ีร าก ฐ าน คือ อุด ม ค ติที ่ถ ูก ตอ ง ; ตน ไม ศี ล ธรรมมี ลํ า ต น หรื อ ต น ลํ า ของมั น คื อ การปฏิ บั ติ ที่ ถู ก ต อ ง ; และ ใบ ดอกผล
www.buddhadassa.in.th
การกลับมาแหงศีลธรรม
๔๖๔
ของมัน ก็ค ือ สัน ติส ุข หรือ สัน ติภ าพชนิด ที ่แ ทจ ริง ไมใ ชช นิด ที ่ห ลอก ๆ กัน เหมือ นกับ ที ่กํ า ลัง พูด กัน อยู ใ นปจ จุบ ัน นี ้ ; วา ตน ไมข องเราตอ งมีร ากฐานเปน อุดมคติ คือความเขาใจที่ถูกตองจริง ๆ, มีลําตนเปนการปฏิบัติที่ถูกตองจริง ๆ, มีผล ออกมาเปนสันติสุข และสันติภาพอันแทจริง. เราทบทวนแลวก็จะทําให สิ่งเหลานี้ถูก ประยุกตขึ้นมา คือทําใหมันเกิดมีขึ้นจริง ๆ ไมใชเพียงแตรู และก็พูดเทานั้นเอง. ....
....
....
....
ที นี ้ ก ็ จ ะ พู ด ส ว น ที ่ เ ป น ร า ก ฐ า น ที ่ เ ป น อุ ด ม ค ติ ซึ ่ ง จ ะ ต อ ง ทบทวนว า ต น ไม จ ะต อ งอาศั ย ดิ น อาศั ย น้ํ า อาศั ย ปุ ย อาศั ย แสงสว า ง อาศั ย อุณหภูมิ ที่ถูกตอง. ถาม : รากฐานที่ ๑ คื อ อะไรที่ เราควรจะเปรี ย บได กั บ แผ น ดิ น อั น เป น ที่อาศัยของตนไมแหง ศีลธรรม คุณทอง ?
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ตอบ : ธัมมสัจจะขอที่วา “สัตวทั้งหลายในโลกนี้เปนเพื่อนรวม เกิด แก เจ็บ ตาย ซึ่งกันและกัน”.
ธั ม มสั จ จะของธรรมชาติ อั น หนึ่ ง ที่ ว า “สั ต ว ทั้ ง หลายเป น เพื่ อ นทุ ก ข เกิด แก เจ็บ ตาย ดว ยกัน ทั ้ง หมดทั ้ง สิ ้น ”, ที ่เรีย กวา ธัม มสัจ จะ นี ้ ไมใ ชเรา ว า เอาเอง ธรรมชาติ มั น กํ า หนดให หรื อ ว า ธรรมชาติ มี อ ยู อ ย า งนั้ น มั น ไม ย อม เปลี่ ย นแปลงเป น อย า งอื่ น ; ไม ใ ช ห วั ง ประโยชน อ ะไร เรามองไปตามที่ มั น เป น ธรรมชาติ อ ยู เราก็ ยั งมองเห็ น วา “สิ่ งที่ มี ชี วิต ทั้ ง หลายนี้ มั น เป น เพื่ อ นทุ ก ข เกิ ด แก เจ็บ ตาย แกกันและกันดวยกันทั้งหมดทั้งสิ้น”.
www.buddhadassa.in.th
การทําความเจริญงอกงามของศีลธรรม
๔๖๕
ไปดู เอาเองให เข า ใจ ว า มั น เหมื อ นกั น หั ว อกเดี ย วกั น , ป ญ หาอย า ง เดียวกัน และมันอยูลําพังคนเดียวไมได, ลําพังตัวเดียวไมได, ลําพังตนเดียว ก็ไมได. สิ่งมีชีวิต เปน มนุษ ยก็ดี สัต วเดรัจ ฉานก็ดี เปน ตน ไมทั้ง หลายก็ดี ที ่ม ัน มี ชี วิ ต นี่ ; มั น มี อ ยู เป น อยู อย า งที่ เรีย กว า “เป น เพื่ อ นทุ ก ข เกิ ด แก เจ็ บ ตาย ด ว ยกั น ทั้ ง หมดทั้ ง สิ้ น ” ; แม เราจะไม พู ด อย า งนี้ แม จ ะไม มี ใ ครมาสอนอย า งนี้ ธรรมชาติม ัน ก็ย ัง เปน อยา งนั ้น . ขอใหไ ปมองเห็น ขอ นี ้เสีย กอ น แลว ก็จ ะเขา ใจ ว า มั น มี ค วามจํ า เป น กี่ ม ากน อ ย ที่ จ ะต อ งมี ธั ม มสั จ จะข อ นี้ ตั้ ง อยู ใ นฐานะเป น อุดมคติ. ขอใหท บทวน และขอใหม องสอดสอ งออกไปใหทั ่ว ทุก ทิศ ทุก ทาง ว า สิ่ ง เลวร า ย ที่ อ าชญากรทั้ ง หลายกํ า ลั ง ประพฤติ กระทํ า อยู ใ นโลกนี้ ; ถ า อาชญากรแต ละคน ๆ นั่ น มั นมองเห็ นธั มมสั จจะอั นนี้ วา “สั ตวทั้ งหลายเป นเพื่ อน ทุก ข เกิด แก เจ็บ ตาย ดว ยกัน ทั ้ง หมดทั ้ง สิ ้น ” แลว , มัน จะทํ า ลงหรือ ไม ? จะประกอบอาชญากรรมฆ า ฟ น ทํ า ลายชี วิ ต ผู อื่ น ได ห รื อ ไม ? แม ที่ สุ ด แต จ ะทํ า คอร รั ป ชั่ น อย า งที่ เจ า หน า ที่ ทั้ ง หลายกระทํ า กั น อยู อ ย า งนั้ น จะทํ า ลงหรื อ ไม ? เพราะรูดีวา คอรรัปชั่นทั้งหลายนี้ มันทําความลําบากใหแกผูอื่น.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org หรื อ ถ า เขามี น้ํ า ใจที่ สู ง มาก เขาก็ ค งจะคิ ด ว า “เราเป น เพื่ อ นทุ ก ข เพื ่อ นยาก แกเพื ่อ นมนุษ ยทั ้ง หลายเถิด ; อยา มาเปน คนคดโกงร่ํ า รวยคนเดีย ว ใหร วยเปน พิเ ศษเลย แมเ พีย งคอรร ัป ชั ่น ก็ทํ า ไมไ ด”. นี ่ข อใหค ิด ดูว า นี ้เ ปน รากฐานอันสําคั ญ อยางไร สําหรับความคิ ดที่วา “สัตวทั้ งหลายเป นเพื่ อนทุ กข เกิ ด แก เจ็ บ ตาย ด ว ยกั น ทั้ งหมดทั้ งสิ้ น ” เช น นี้ . นี่ ข อ แรกเปรีย บเหมื อ นกั น แผ น ดิ น
www.buddhadassa.in.th
การกลับมาแหงศีลธรรม
๔๖๖
ไดแกความมีน้ําใจกวางขวาง ยอมรับเอาธัมมสัจจะของธรรมชาติในขอที่วา “ทุก คนเปนเพื่อนทุกข เกิด แก เจ็บ ตาย ดวยกันทั้งหมดทั้งสิ้น”. ....
....
....
....
ทีนี้ คนอื่น มีม ากกวาเรา เราคนเดีย วเทานั้น ; ฉะนั้น ประโยชน ของผูอื่นนั่นแหละควรจะสําคัญกวาประโยชนของเรา, หรือประโยชนของคนทั้ง โลกนั่นแหละ ควรจะสําคัญกวาประโยชนของเรา. เราอาจจะยอมเสียสละประโยชน ของเรา เพื่อใหคนทั้งโลกไดรับประโยชน อยางนี้ก็ได ; ถาคิดไปไดไกลอยางนี้ แลว ก็จะรองออกมาทีเดียววา จริงแลว, ถูกแลว ที่ทานสอนวา ใหรักผูอื่นยิ่ง กวาตัว, ที่ทานสอนใหเห็นประโยชนผูอื่นยิ่งกวาตัว. อยางที่คริสตังเขาถือ วา รับ ใชผูอื่น นั้น คือ รับ ใชพ ระเจา , รับ ใชตัว เองนั้น คือ รับ ใชพ ญามาร ; หมาย ความวา เห็นแกผูนั้น แหละคือ ทําเพื่อ พระเจา, แตเห็นแกตัวเองนั้น คือ ทํา เพื่อ ยัก ษเพื่อ มาร เพื่อ กิเลสตัณ หาของตัว. นี่คือ รากฐานของศีล ธรรม ที่เรา จะตองทําใหมีขึ้นมา คือใหมันเปนสิ่งที่ประยุกตขึ้นมาได อยาใหเปนแตคําพูด.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ถาม : ปญญามองเห็นกันอยางไร จึงจะประยุกตธัมมสัจจะขอนี้ขึ้นมาใหเปน ความจริง ; คุณประยูรออกความเห็นกอน ประยุกตขึ้นมาอยางไร มัน จึงจะมีอยูในโลกนี้ ?
ตอบ : เราตองเริ่มตั้งแตในครรภ เรียกวา เริ่มตั้งแตเด็กอยูในครรภ เพื่อเปน การเลื อ กพั น ธุ ที่ ดี ตามแบบที่ เราวา หาพั น ธุที่ ดี ๆ ตั้ งแต เมื่ อ เริ่ม ตั้ ง ครรภ. แมก็ค วรจะไดมีค วามเมตตา ; ยกตัว อยา งวา ไมทํา การ ฆาสัตวเมื่อตั้งทอง เปนการประยุกตที่ทําตั้งแตขั้นตน แลวพอคลอด ออกมา....
www.buddhadassa.in.th
การทําความเจริญงอกงามของศีลธรรม
๔๖๗
ถาม : แลวพอไมมีบางหรือ ? ตอบ : พอก็ตองไมทําชั่วดวยเหมือนกัน เอาในระยะนั้นกอน ถาหากวาทําไป ได ต ลอดไป ในระยะที่ ภรรยามี ค รรภ โดยการเอาอกเอาใจภรรยาไป ดวย โดยการไมทําชั่วใหภรรยาเจ็บช้ําน้ําใจดวย. จะขอสอดแทรกตรงนี้ ห น อ ยว า ได เ คยอ า นพบในพระคั ม ภี ร ใ น ประเทศอิน เดีย เปน วัฒ นธรรมโบราณเกา แก. พอแมบ า นตั ้ง ครรภ เขาก็จ ะ เชิญ พราหมณ พระนั กบวชทั้ งหลายนี่ มาทําพิ ธีสําคัญ อยางยิ่งพิ ธีห นึ่ง เรียกวา พิธ ีค ัพ ภปริห าร, ครรภบ ริห ารนั ่น แหละ ; มีก ารทํ า อยา งเต็ม ที ่ต ามความเชื ่อ ความคิ ด ความยึ ด ถื อ ของคนสมั ย นั้ น ที่ จ ะทํ าให ค รอบครัวนั้ น ในขณะที่ มี ผู ตั้ ง ครรภ ขึ้นมาแลวนี้ ประกอบไปดวยความดี ดวยบุ ญ ดวยกุศล ดวยความสวัสดี ความมีโชคดี อะไรตาง ๆ เรียกวาพิธีคัพภปริหาร.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org นี่อยูในเรื่องนี้ อยูในเรื่องที่ คุณ กําลังพู ดวา จะตอ งเลือกพั นธุที่ดีเมื่ อ มีครรภ แลวจะต องประคบประหงม ใหครรภ นั้ นเป นไปอยางดี อยางน อยก็เป น ไปอย า งปรกติ . พ อ แม อย า กิ น เหล า อย า เล น ไพ อย า ทํ า อะไรชนิ ด ที่ เลวรา ย เปนความรูสึกที่ต่ําทราม แลวลูกในครรภมันจะปรกติ อยางนอยมันก็จะปรกติก็ได อาจจะดียิ่งกวาปรกติก็ได ; ทั้งทางรางกายและจิตของทารกในครรภ. ถาม : พูดตอไปใหจบ วาทําอยางไรตอไป ? ตอบ : เมื่อคลอดออกมาแลว เราก็ตองบํารุงรักษาใหศีลธรรมมันเจริญ งอกงาม ต อ ไปอี ก ก็ คื อ เราเลี้ ยงดู เด็ ก เล น ๆ ตั้ งแต แบเบาะ จนกระทั่ งคื บ คลาน
www.buddhadassa.in.th
การกลับมาแหงศีลธรรม
๔๖๘
ได จนกระทั ่ง เติบ โต ใหอ ยูทา มกลางความเมตตากรุณ าตลอด เวลา เปนตนวา พอเด็กเริ่มรูจักจะเลนกับสัตวเล็ก ๆ เราก็เริ่มสอน ใหเด็กอยาไปรังแกสัตวอยาไปเบียดเบียนสัตว ; เปนตนวา ตัวผีเสื้อ ซึ่งสวย ๆ งาม ๆ ซึ่งเด็กชอบเลน เราก็ไมใหเด็กไปเลน ไปทําลาย. ใหรูจัก ของที่ส วยงาม, ใหเริ่ม รูจัก รัก ชีวิต ผูอื่น นอกจากเรา ตั้ง แต เล็ก ; นั่นเปนการอบรมเมื่อเด็ก ๆ. เราจะเห็นวาเด็กเล็ก ๆ มีสัญชาตญาณติดมาในสันดาน โดยไมตอง สอน. ถาเห็นแมลงตัวเล็ก ๆ คลานเขามามันก็จะบี้ มันก็จะทุบดวยความรูสึก ของสัญชาตญาณ. นี่ควรจะสนใจในขอนี้วา สัญชาตญาณตามธรรมดานั้น มัน กลัวตาย ; ถาอะไรเขามาในลักษณะที่นาระแวง วาจะมาทําอันตรายแกเราแลว มันก็จะเกิดการตอสู. ฉะนั้นเด็ก ๆ จึงรูจักตอสู หรือทําลายชีวิต สิ่งที่เขามาใน ลักษณะที่เปนอันตราย ; เขาจึงรูจักตบยุง รูจักอะไรตาง ๆ.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org เราจะตองสอนใหเขารูวา นั่นเขากําลังทําอะไร, หรือเขาควรจะทําให ดีก วา นั้น นั้น จะตอ งทํา อยา งไร ; ใหเกิด การแวดลอ มเด็ก ทารกแบเบาะ ทั้ง ทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย กระทั่งทางจิต ใหเกิดความรูสึก ชนิด ที่เรียกวาเปนศีลธรรม มีศีลธรรม ประกอบอยูดวยศีลธรรม เรื่อย ๆ มา ใหสุด ความสามารถที่จะทําได ; เด็กนี้ก็จะมีความเจริญงอกงามเพื่อศีลธรรม. ถาม : ตอไปทําอยางไรอีก ? ตอบ : ต อ ไปก็ วั ย เข า โรงเรีย น : เมื่ อ เด็ ก ได รับ การอบรมศึ ก ษาเล า เรี ย นใน โรงเรีย น ชั่ วระยะที่ อ ยู โรงเรีย นนั้ น , เป น เรื่อ งของระบบการศึ ก ษา
www.buddhadassa.in.th
การทําความเจริญงอกงามของศีลธรรม
๔๖๙
และครู ผู ดู แ ล ก็ น า จะได เสริ ม เพิ่ ม เติ ม ถึ ง การที่ ไ ม เ บี ย ดเบี ย นผู อื่ น เพราะเด็ก เริ ่ม วัย หนุ ม ขึ ้น มาแลว . เราจะชี ้เ พิ ่ม เติม ถึง โทษหรือ ภัย ของการเบีย ดเบีย นทํ า ความเดือ ดรอ นแกผู อื ่น นั ้น มีโ ทษภัย อยา งไร บ า งแล ว ก็ จ ะเดื อ ดร อ นมาถึ ง เราด ว ยอย า งไร ; แล ว ก็ รั บ ช ว งศี ล ธรรม ตลอดไป ถึงที่โรงเรียนดวย. คํ า วา “วัย เรีย น” นี ้ เราจะตอ งขยายเวลาออกไป นับ ตั ้ง แตเ วลา ที ่ เ ข า โรงเรี ย นได จ นเข า มหาวิ ท ยาลั ย จนเป น คนหนุ ม คนสาวเต็ ม ที ่ จะ ตองไดรับการอบรมทางศีลธรรม ควบคูกันไปกับวิชาชีพทั้งหลาย. เราได สั ง เกตเห็ น ว า สมั ย ก อ นแม พ วกฝรั่ ง เองก็ ต าม เทิ ด ทู น บู ช า ความเป น สุภ าพบุ รุษ ในฐานะเป น ผลสุดยอดของการศึ กษา ; แม ในระดับ มหาวิทยาลัยอยางที่เคยไดยินไดฟง. ไดเอามาบอกกลาวกันหลายหนแลววา สุดทาย ปลายทางของการศึกษาในมหาวิทยาลัยสําเร็จแลวก็คือ เปนเพียงสุภาพบุรุษ เปน สุ ภ าพบุ รุษ อั น แท จ ริง ไม ใช เพื่ อ มี ป ริญ ญาอาชี พ นั่ น นี่ แล ว รีบ ไปทํ า งานหาเงิน มาก ๆ อยางที่คนเดี๋ยวนี้ตองการ, อยางมหาวิทยาลัยปจจุบันนี้เขานิยมกันอยางนั้น.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org การศึ ก ษาระบบโน น มุ ง หมายเพี ย งความเป น สุ ภ าพบุ รุษ เป น สู งสุ ด นอกนั ้น ก็ทํ า ไปตามเรื ่อ ง. ความเปน สุภ าพบุร ุษ นี ่แ หละ คือ รากฐานของ ศีล ธรรม เขาจะไมก ระทบกระทั ่ง ผู อื ่น แมแ ตท างใด ๆ ทางกาย ทางวาจา ทางใจ ก็ตาม. ถากระทบกระทั่งผูอื่นแลว ก็หมดความเปนสุภ าพบุรุษ ; หรือไม อดกลั ้น ไมอ ดทน ก็ห มดความเปน สุภ าพบุรุษ . การที ่ต อ งอยู ด ว ยกัน ในการที่ จะไมเบีย ดเบีย น ก็ต อ งมีค วามอดกลั ้น อดทน, และมีค วามจริง ใจ มีค วาม อะไรตา ง ๆ. การที ่จ ะใหค นวัย หนุ ม สาวมีศ ีล ธรรมขอ นี ้ ก็ต อ งมีก ารศึก ษาที่
www.buddhadassa.in.th
การกลับมาแหงศีลธรรม
๔๗๐
ถูกตอง, มีการศึกษาที่มีอุดมคติอันถูกตอง มุงหมายการไมกระทบกระทั่งกัน ในฐานะที่เปนสุภาพบุรุษ. สรุปความสั้น ๆ วา การศึกษาตองมุงหมายความมี ศีลธรรม. ขอนี้เปนหลักสําคัญ และบิดามารดา ครูบาอาจารยทั้งหลายก็ชวยกัน แวดลอมใหกุลบุตรเหลานี้ เปนผูมีศีลธรรมขอนี้. ....
....
....
....
ถาม : ทีนี้เปนหนุมเปนสาวแลว ตอไปอะไรอีก ? ตอบ : ตอไปนี้ ถึงวัยประกอบอาชีพทํามาหากิน ; เรื่องนี้ตองอยูกับสิ่งแวด ลอมตาง ๆ เปนเรื่องของทางฝายบานเมือง จะตองจัดใหมีสิ่งแวดลอม ใหอยูทามกลางศีลธรรม ใหคนรูจักสัมมาอาชีวะ. การมีอาชีพที่ถูกตอง เป น อาชี พ ที่ ไม เบี ย ดเบี ย นคนอื่ น ให ค นใช ศี ล ธรรมเป น หลั ก ในการ ประกอบอาชีพ ซึ่งเรื่องนี้ตองเกี่ยวกับทางบานเมืองจัดสิ่งแวดลอ ม ใหเ รื่อ งที ่สง เสริม กิเ ลสนั้น ลดนอ ยลงไป ใหมีแ ตเ รื่อ งสง เสริม ทาง ฝายศีลธรรม เปนตนวา จัดชมรมพุทธศาสตร หรือจัดมีการอภิปราย ธรรมะกันเดือนละครั้ง สองครั้ง นี้เปนเรื่องของฝายผูใหญที่ประกอบ อาชีพ ครับ.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ถาม : ทําไมเราจะไปโยนใหฝายบานเมืองเสียหมดเลย เราไมเก็บเอาไวสักครึ่ง สําหรับเราจะจัดกันเอง ? ตอบ : สําหรับ เราเองก็ศึกษาธรรมะ ปฏิบั ติกันเป น รายบุ คคล ; ถาพู ด โดย สวนรวม ก็ตองจัดเปนการศึกษาของกลุมชน.
www.buddhadassa.in.th
การทําความเจริญงอกงามของศีลธรรม
๔๗๑
มัน ควรจะกลายเปน ระบบการปกครอง หรือ ระบบการเมือ งที่ ถูก ตอ ง ที ่มุ ง หมายใหป ระชาชนมีศ ีล ธรรม ซึ ่ง เมื ่อ กอ นนี ้เ ขามีไ ดโ ดยงา ย เพราะวา เขาบูช าศีล ธรรม หายใจเปน ศีล ธรรม มีเชื ้อ ติด มาแตใ นเลือ ดในเนื ้อ มัน ก็ทํ า งา ย ที ่จ ะใหป ระชาชนมีศ ีล ธรรม. พอถึง ยุค นี ้ มัน จางไป เลือ นไป หายไป กระทั่งไป สาละวนอยูแ ตเรื่อ งที่ไมใชศีล ธรรม ดวยความหวาดกลัว ดวยความโงเขลาเกินไปจนไมรูวาอะไรเปนอันตราย อะไรเปนประโยชน ศีลธรรม มัน ก็ห าย ๆไป. นี ่เ ปน จุด สํ า คัญ อัน หนึ ่ง หรือ เปน จุด ของหัว เลี ้ย วหัว ตอ ก็ไ ด วา จะไปทางไหนกัน . ประชาชนที ่เ จริญ วัย มาถึง ความเปน ผู ป ระกอบอาชีพ ของตน เปน ครอบครัว อยา งนี ้แ ลว ; ถา ยัง ไมม ีศ ีล ธรรมอีก ก็เ รีย กวา จะ หมดหวั ง อยู ม ากที เ ดี ย ว. ฉะนั ้ น ขอให ไ ปสนใจในข อ นี ้ ให เ ป น ครอบครั ว ที่มีศีลธรรม. ....
....
....
....
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ถาม : ตอไปจากนี้อีกสักขั้นหนึ่งละ คืออะไร ?
ตอบ : ต อจากนี้ ก็เขาขั้น ระยะผู เฒ าผู แ ก ซึ่งถาตามหลักให ส มกับ ความเป น มนุษ ยที ่แ ทจ ริง แลว เราก็จ ะไดใ ชป ระสพการณที ่ผ า นชีว ิต มานี ้. รู ความถูก ตอ งแลว วา ศีล ธรรม เปน อยา งไร, ไดผ ลอยา งไร ; เราก็ ทําการเผยแพร. ขอใหผูเฒ าผูแกทั้งหลายจงเปนผูเฒ าผูแกที่เหมาะสม ที่ จ ะคุ ย กั บ ลู ก หลาน สอนให ลู ก หลานพู ด แต เรื่ อ งมี ศี ล ธรรม ความดี ความงาม ทั้ งหมด ใชเวลาทั้ งหมดของชวงชีวิตที่ แกนี้โดยการสั่งสอน ทางศีลธรรมอยางเดียวครับ.
www.buddhadassa.in.th
๔๗๒
การกลับมาแหงศีลธรรม
อยากจะชว ยพูด สนับ สนุน ขอ นี ้ แตว า จะขอเสริม ใหถ ึง ที ่ส ุด วา ขอให ผู ใ หญ ผู เ ฒ า ผู แ ก ทั ้ ง หลายจงเป น เหมื อ นกั น กั บ ป อ มปราการทาง ศีล ธรรมของมนุษ ย. ใหผูเฒา ผูแ กทั้ง หลาย จงเปน คุณ พอ คุณ แม คุณ ปู คุณตา คุณยา คุณยาย อะไรตามชั้น ; ผูเฒาสูงอายุนี้จงตั้งตัวเปนปอมปราการ, คือ มีความหมายเปนที่มั่นที่จะลมละลายไมได, จะยึดหนวงความมีศีลธรรม ในโลกนี้ไว. คนแกนี ้จ ะตอ งเปน ผู ย ืน อยู เ ปน ตัว อยา งที ่ด ี ; ไมต อ งพูด ถึง วา จะไปเปนผูชักจูงใหทําลายศีลธรรมเสียเอง, คือจะไมยอมเปนเด็ดขาดที่จะใหลูก หลานไปทํา ลายศี ล ธรรม. ตั ว เองก็ ตั้ ง อยู อ ย า งมี ศี ล ธรรม เป น แบบฉบั บ ที ่ ด ี แสดงความอดกลั ้ น อดทน, ให เ ป น ตั ว อย า งที ่ ด ี ที ่ จ ะมี ศ ี ล ธรรม ; แลว ก็จ ะพร่ํา สอนไมข าดปาก, ขอรอ งไมข าดปาก ใหล ูก หลานตั ้ง มั ่น อยู ใ น ทางศีลธรรม. นี้แหละบิดามารดาในชั้นสูงอายุ เปนปู เปนตา เปนยา เปนยายนี้ ก็จะกลาย พระเจาผูโปรดสัตวทั้งหลาย ขึ้นมาทีเดียว.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ถาใครดําเนิน ชีวิต ลุลว งปลอดโปรงขึ้น มาถึงขั้น นี้ ก็นับ วาเปน ชีวิต ที ่ป ระเสริฐ ไดเ ปน คนแกที ่เ ปน พระอรหัน ตป ระจํ า บา นเรือ นโดยแทจ ริง ; ตาม พระพุท ธภาษิต ที ่ไดต รัส ไววา บิด ามารดาเปน พระอรหัน ตใ นบา นเรือ น, คือเปนบุคคลสูงสุด ประเสริฐเหมือนกับเปนพระอรหันต (อาหุเนยยบุคคล).
เรามองดูถึง ขอ นี้ที ่จ ะเปน อยา งไร ก็จ ะพบวา เพราะบิด ามารดา, ผูเฒาผูแกทั้งหลาย ตั้งตนอยูในลักษณะอยางนี้ ; เพราะวาตัวเองเคยผิดพลาด, หรือวาเคยถูกตอง, หรือวาเคยมามากมายทั้งผิดทั้งถูก เคยกระทําอยางที่เขาเรียกวา โชกโชน จนรูอ ะไรดี จนละสิ่ งที่ ค วรละไปได , แล วทํ าสิ่ งที่ ค วรกระทํ ามาตลอด
www.buddhadassa.in.th
การทําความเจริญงอกงามของศีลธรรม
๔๗๓
ก็เลยทําใหเปนตัวอยางดวย, แลวก็เปนผูควบคุมลูกเด็ก ๆ ใหเปนไปตามตัวอยางนั้น ดวย, และก็ สมั ค รที่ จะตายกับ สิ่งนี้ โดยไม ย อมเปลี่ ยนแปลง โดยไม ย อมพ ายแพ คือวา ยอมตายกันกับความถูกตองใหเด็ก ๆ ดู เด็ก ๆ ก็จะเกิดนิสัยบูชาความ ถูกตอง แมจะตองเสียชีวิต ก็จะตองเอาความถูกตองไวเปนหลัก. นี ่ ศีล ธรรม ก็จ ะมี จนถึง กับ วา เราจะปลูก ฝง ความรูส ึก ที ่สํ า คัญ ที ่ส ุด คือ “สัต วทั ้ง หลายเปน เพื ่อ นทุก ข เกิด แก เจ็บ ตาย ดว ยกัน ทั ้ง หมด ทั ้ ง สิ ้ น นี ้ ” ล ง ไป ใน จิ ต ใจ ข อ ง กุ ล บุ ต ร กุ ล ธิ ด า ทั ้ ง ห ล า ย ได ; เรี ย ก ว า ประสบความสํ า เร็จ ในการที ่จ ะมีแ ผน ดิน สํ า หรับ ตน ไมแ หง ศีล ธรรม นี ่เราตอ ง ชวยกันกระทําใหมีขึ้นมาในลักษณะอยางนี้ ; นี่เรียกวามีอุดมคติขอแรกวาอยางนี้ ; แลว ตอ งชว ยกัน ทํ า ใหเ ปน ไปตามอุด มคตินั ้น . นี ่ร ากฐานที ่ ๑ ที ่เ ปรีย บกับ แผนดินสําหรับตนไมมีอยูอยางนี้. ....
....
....
....
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ถาม : รากฐานที่ ๒ สําหรับตนไมที่เปรียบกับน้ํา นั้น เรามีวาอยางไร คุณทอง ? ตอบ : คือการไมตกเปนทาสของอายตนะ ครับ.
ถาม : ความที่ ไม ต กเป น ทาสของอายตนะ คุ ณ พู ด ให ชัด วาอะไร ที่ ต กไปเป น ทาสของอายตนะ ? ตอบ : กลาวถึงอายตนะภายในก็ไดแก...
www.buddhadassa.in.th
๔๗๔
การกลับมาแหงศีลธรรม
ถาม : ไมใช, ไมใช, ตัวที่จะตกไปเปนทาสของอายตนะนะมันคืออะไร ; ใคร นึกได คุณล้ํา ? อะไรที่มันตกเปนทาสของอายตนะ ? ตอบ : คือ ใจ ครับ. คือ ใจ, คุณ ทองลืม ไป. ถาพูด อยางสมมติ ก็คือ คน คือ ฉัน คือ นาย ก. นาย ข. นาย ง. มันตกไปเปนทาสของอายตนะ, หรือถาจะพูดอยาง ปรมัต ถ ก็คือ จิต ของคนนั่น แหละ ที่มัน จะตกไปเปน ทาสของอายตนะ. การตกไปเปน ทาสของอายตนะก็คือ เกิด กิเลส เปน ของรอ นเปน ไฟขึ้น มา ; มัน ก็เผาตน ไมต ายหมด. เพราะฉะนั้น เราตอ งทําใหมัน เปน น้ํา ใหมัน เย็น ; อยาตกเปนทาสของอายตนะ. ถาม : เราจะประยุกตขอนี้กันอยางไร คือจะทําใหมันเกิดความไมเปนทาสของ อายตนะ ขึ้นมาไดอยางไร ? สําหรับศีลธรรมในยุคปจจุบันนี้ โดยทั่ว ๆ ไป เราจะทําใหเขาไมตกไปเปนทาสของอายตนะในระดับไหนกอน นึก ออกไหม คุณประยูรนึกออกไหม ?
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ตอบ : ในระดับทางโลกเสียกอน. ถาม : เชนอะไร ? ตอบ : เชนวา เราหัดใหเขารูจักประหยัด อยาใหเขาซื้อของใชฟุมเฟอย. ถาม : ขอแทรกหนอย นั่นมันเปนเรื่องใหทําดี. นี่เอาที่ ละชั่วกันกอน, คือ ไมเปนทาสของอายตนะชนิดที่ไปทําชั่วกันเสียกอน. เมื่อกลาวตามทาง
www.buddhadassa.in.th
การทําความเจริญงอกงามของศีลธรรม
๔๗๕
โลก ๆ อยางต่ํา ๆ แลว ไดแกอะไรบาง ที่เปนทาสของอายตนชั้นต่ํา ที่เลวที่สุด ? คุณล้ํา เคยเรียนมาแลว รูแลว จําไดแลว แลวลืม แลวนึก ไมออก นึกไมทัน. ตอบ : เปนทาสของตันหา. ถาม : นี่กวางไป ; ตองพู ดโดยละเอียดอยางโลก ๆ อยางประชาชนที่เปนลูก บาน ของคุณ กําลังเปนอยูมาก ๆ ในเวลานี้, อะไร ยกตัวอยางชัด ๆ มา สักอยางดีกวา ; จะใหเขาเวนจากอะไร ? ตอบ : ใหเวนจากการเห็นแกตัว. ถาม : มันกวางนัก มันสูงนัก เดี๋ยวก็นิพพานไปเลย, ดวยการไมเห็นแกตัว อะไร, ระบบศีลธรรมต่ํา ๆ วาอะไรละ คุณประยูรนึกออกแลว ?
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ตอบ : ก็ศีลหา.
ถาม : นั่นมันก็สูงไป ต่ํากวานี้อีก. ที่ตองเวนใหต่ําลงไปอีก. ศีลหานั้นมัน ดีไปแลวดีขึ้นมาแลว. ขอทีเอาแรกที่ตองเวน กอ น และเปน พื้นฐาน ทั่วไป คืออะไรละคุณทอง ? ตอบ : ยังนึกไมออกครับ.
ถาม : เราพูดกัน คงหลายสิบครั้งเต็มทีวา ถาจะสรุปพูดใหสั้นที่สุด ใหงาย ที่ สุ ด คื อ ให เขาเว น อบายมุ ข ทั้ ง ๖ ประการ เสี ย ก อ น. อบายมุ ข
www.buddhadassa.in.th
การกลับมาแหงศีลธรรม
๔๗๖
๖ ประการ อะไรบ าง ? คุณ จําไดห รือ เปลา, วาไปดู ซิ อบายมุ ข ๖ ประการ. ตอบ : อบายมุข ๖ : หนึ่ง ไมเลนการพนัน. ไมเอาแลว วาเอาเองอีกแลว อยางนี้ ; ไมเอาตามลําดับ ของพระคัมภีร ของพระพุทธวัจนะ คุณล้ําจําไดหรือไมได. คุณทอง นี่ตองขอตําหนิทั้ง ๓ คนเลย คนหนึ่ งเปนหมอ, คนหนึ่งเป นครู, คนหนึ่งเป นกํานัน ผูปกครอง ; อบายมุ ข ก็ ไ ม รู จั ก . อบายมุ ข ๖ คื อ ดื่ ม น้ํา เมา เที่ ย วกลางคื น ดู ก ารเล น เลน การพนัน คบคนชั่ว เปน มิต ร เกีย จครา นทํา การงาน. เด็ก ๆ เล็ก ๆ ที่ โรงเรียนมันก็ทองไดดื่มน้ําเมามากอน เที่ยวกลางคืน ดูการเลน เลนการพนัน คบคนชั่วเปนมิตร เกียจครานทําการงาน. นี่คือปญหาเฉพาะหนา ของประชาชน ของเราขั้นพื้นฐาน ที่ทําใหเขาเปนคนจน เพราะเขาจมอยูในอบายมุข ; เมื่อเขา จนแลว เขาก็ไปโทษนายทุน วานายทุนเอาเปรียบทําใหเขาจน นี้ก็ไมถูกนัก ; แตอยาเขาใจวา อาตมาจะชวยแกแทนนายทุน.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ตรงนี้ข อสอดแทรก มัน อดสอดแทรกไมไ ด. วัน นี้มัน นึก อะไร ขึ้นมา : อาตมานี้อยูในระหวางเขาควาย พวกหนึ่งเปนอันมาก หาวาอาตมา เป น พวกคอมมิ ว นิ ส ต , ฝ ก ฝ า ยคอมมิ ว นิ ส ต ; เคยไปฟ อ งผู ห ลั ก ผู ใ หญ จะเอากันใหเปนใหตายก็คราวหนึ่ง. แลวเดี๋ยวนี้มีพ วกหนึ่งก็หาวา เปน ฝาย พวกศัก ดิน า เปน พวกนายทุน เพราะวา เปน พระสงฆ แลว เปน เจา คุณ แล ว ก็ ส ง เสริ ม ศั ก ดิ น า , ส ง เสริ ม คนมั ่ ง มี , พู ด อะไรออกไปก็ ทํ า นองจะ ต อ ต า นพวกฝ า ยซ า ย อย า งนี้ ; เขาก็ เลยหาว า เป น ศั ก ดิ น า เป น นายทุ น .
www.buddhadassa.in.th
การทําความเจริญงอกงามของศีลธรรม
๔๗๗
เราไม เ ป น อะไรหมด เราจะเป น ผู ที่ ยึ ด ถื อ ศี ล ธรรมและความถู ก ต อ ง เปนหลักอยางเดียวเทานั้น. ทีนี ้ สํ า หรับ คนจนนั ้น ก็อ ยา ไปโทษใครเลย โทษตัว เองที ่ย ัง เต็ม อยูจ มอยูใ นอบายมุข . ขอใหห ยุด ความเปน ทาสของอายตนะเสีย เถิด , แลวก็จะไมจน. ถาม : ดื่มน้ําเมาเปนทาสของอายตนะอยางไร คุณทอง ? ตอบ : คือ ความเอร็ดอรอยทางลิ้น ครับ. ถาม : เอา, คุณประยูร ดื่มน้ําเมา เปนทาสอายตนะอยางไร ? ตอบ : ดื่มน้ําเมาเปนทาสของอายตะ คือลิ้น หมายความวา ติดในรสของ เครื่องดื่มที่เราดื่ม.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ถาม : คุณล้ํา, บางทีจะตองตอบไดดีกวาเพื่อน เปนทาสของอายตนะอยางไร ดื่มน้ําเมา ?
ตอบ : ดื่มน้ําเมาเปนทาสของอายตนะทางจิต ครับ.
ถาม : คนหนึ่งวาทางลิ้น คนหนึ่งวาทางจิต เห็นไหมคานกันแลว ? ใครถูกกวา, ใครมีเหตุผ ลกวา , เปน ทาสของอายตนะทางจิต ลองวาไปซิ อธิบ าย ไปวาเปนอยางไร ?
www.buddhadassa.in.th
๔๗๘
การกลับมาแหงศีลธรรม
ตอบ : ทางจิต เมื่อเสพน้ําเมาเขาไปมันดูครึกครื้นหนอย ผมคิดอยางนั้น. มัน ครึ้ม มัน ครึก ครื้น , รูสึก วา เปน ใหญเปน โต เปน ยัก ษเปน มาร ขึ้น มา. มัน ไมใ ชอ รอ ยทางลิ้น ไมถูก นา ; มัน ถูก นอ ย. ใครวา น้ํ า เมาอรอ ย ทางลิ้น ; ไมเ ชื่อ . เราจิบ เขา ไปนิด เดีย ว ตอ งบว นทิ้ง ไมเ ห็น อรอ ยเลย ตั้งแตเด็ก ๆ กินไมได ปนน้ําก็ยังกินไมได. ฉะนั้น จึงตองคัดคานวาคงไมใชอรอย ทางลิ้น ; แตมัน อรอ ยทางจิต. พอกิน เขาไปแลว มัน เกิดความรูสึกชนิด หนึ่ง ซึ่งเปนที่พอใจมาก มันก็ติดอันนั้นแลวก็เรียกวาเปนทาสของอายตนะ เปนทางจิต มากกวาทางลิ้น. ถาม : เที่ยวกลางคืนละ เปนทาสอายตนะอยางไร ? ตอบ : เปนทาสของตา หู ๒ อยาง สวนมากเปนตา กับ หู ติดในรูปแลวก็เสียง แลวก็สัมผัสดวย, เปน ๓ อยาง.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org เที่ยวกลางคืน นี่ เขามีความหมายวา แสวงหาความสนุกสนาน ทุก ทาง ทุก อยา งที่จ ะหาไดใ นค่ํา คืน ; มัน อาจจะแจกไปไดห มดทุก อยา ง, แลวแตวาโลกสมัยนี้มันมีอะไร ใหอรอยทาง ตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทาง ผิว หนัง กระทั่ง ทางจิต ใจ อีก เหมือ นกัน ; ไดไ ปเดิน เลน ก็ยัง สบายเสีย แลว รูสึกพอใจแลว จนไมรูจักความพอดี. ขอใหรับ รูไ ววา คํ า วา เที ่ย วกลางคืน นี ่ค วามหมายมัน กวา ง เปนทาสของอายตนะอะไรก็ได. นี่ดื่มน้ําเมา แลวเที่ยวกลางคืน.
www.buddhadassa.in.th
การทําความเจริญงอกงามของศีลธรรม
๔๗๙
ถาม : ทีนี้ ดูการเลน ไมวากลางวัน ไมวากลางคืน ไมวาเวลาไหน. ดูการ เลน เปนทาสของ อายตนะอยางไร คุณทอง ? ตอบ : เป น ทาสของทางตา ทางหู แล ว ทางจิ ต ด ว ยครับ คื อ ว า ได ดู หรื อ ไดยิน ไดประสบกับสิ่งที่ตัวพอใจแลวก็เที่ยวไปเรื่อย ๆ ดูไปเรื่อย ๆ. ถาม : การเลนในที่นี้ หมายถึงการเลนอะไร ? ชนิดไหน ? มีความหมายอะไร, ดูการเลน ? ตอบ : การเลนในที่นี้ จําพวกมหรสพตาง ๆ. ยัง ไมถูก ตอ งที่ใ ชคํา วา มหรสพตา ง ๆ ; เพราะคํา วา มหรสพ นี่มันยังเกินความกวาง ถึงประเภทที่เปนการศึกษาก็ได ; เพราะฉะนั้น จึงตอง เติม คํา จํา กัด ความลงไปวา ดูก ารเลน ชนิด ที่เ ปน ขา ศึก แกกุศ ล. เคยไดยิน คํ า นี ้ไ หม ? เวน จากการดูก ารเลน ชนิด ที ่เปน ขา ศึก แกกุศ ล ในบทสวดมนต แปลก็มี คือวาการเลนชนิดใดก็ตาม หรือวามหรสพชนิดใดก็ตามที่มันเปนขาศึก แกกุศ ล, ในกรณีนี ้ก็ค ือ เปน ขา ศึก แกศ ีล ธรรม ; แลว ไมไ ปดูก ารเลน ชนิด ที่ เปนขาศึกแกศีลธรรม. ถามันไมมีประโยชน ไมสงเสริมศีลธรรม ก็ตองเรียกวา เปนฝายผิดทั้งนั้น ; หรือแมที่วามันมีประโยชน แตถามากเกินไป มันก็ผิดได. ตองแนะใหเด็ก ๆ เขารูจักสังเกตใหดี ๆ วา ที่เกี่ยวกับการเลนนั้น เขาจะตอ ง ระมัดระวังอยางไรจึงจะมีศีลธรรมอยูได.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ถาม : ทีนี้การ เลนการพนัน เปนทาสของอายตนะอยางไร คุณล้ํา ?
www.buddhadassa.in.th
๔๘๐
การกลับมาแหงศีลธรรม
ตอบ : การเลนการพนัน ก็เปนทาสของอายตนะทางกาย และทางจิต. ถาม : นั่นแหละ อยางไร ? ตอบ : โดยจิตอยากไดของผูอื่นมา แลวจะบํารุงบําเรอรางกาย. ถาม : คุณหมายความวา เลนการพนันแลวจะรวยทุกทีอยางนั้นหรือ ? ตอบ : คนเลนนั้นหวังครับ. ถาม : แลวขอเท็จจริง มันรวยทุกทีหรือ ? ตอบ : มันไมรวยทุกที.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ถาม : มันจะไมรวย มันจะไมไดอยางนั้น ; เพราะฉะนั้น ความเปนทาสของ อายตนะ ตองเปนไปในรูปอื่น. คุณ ประยูร วาซิ วามันเปนทาสของ อายตนะอยางไร ?
ตอบ : การเล น การพนั น คนเป น ทาสอายตนะทางใจ ส ว นมากครั บ . เพราะวาคนเลนเวลาเริ่มเลนก็มีความโลภ อยากไดก็เกิดธัมมารมณ เกิดวาดภาพขึ้นมาเพื่อได ก็มาสัมผัสทางใจ อยากได ; เวลาเสียก็ เกิดเดือดเนื้อรอ นใจ แลวก็มีอารมณไดทุกอยาง หรือ กิเลสทุกชนิด ในคนเลน ทั้งดีใจทั้งโกรธ ; บางครั้งรูสึกเหมือนกันวา คิดอะไรโง ๆ เปนโมหะไปไดดวยในตัว.
www.buddhadassa.in.th
การทําความเจริญงอกงามของศีลธรรม
๔๘๑
ถาม : คุณทอง เลนการพนัน เปนทาสของอายตนะอยางไร ? ตอบ : เปนทาสทางจิตอยางหนึ่ง อยากจะสนองความตองการของจิต, คือมัน เปนยาเสพติดชนิดหนึ่งของจิต ซึ่งชักนําอยากจะไดเลนการพนันนั้น ; จะไดมาก็สมอารมณ จะเสียไปก็รูสึกวาสมอารมณของตัวครับ. นี ่น ับ วา มองลึก ซึ ้ง กวา ที ่พ ูด มาแลว ที ่วา แพก ็ส นุก ชนะก็ส นุก ฉะนั้น เราจึงสามารถเลนหมากรุกไดสวาง ไมไดเอาสตางคเลย ไมมีการพนัน เอาสตางคเลย แตเลนหมากรุกไดสวาง นี่ผีพนันมันสิง จนแมแตเลนหมากรุกไม เอาสตางค นี่ก็ยังเลนไดสวาง ; ยิ่งกําลังเลนไพเอาสตางค ก็ยิ่งเกินสวาง, ๓ วัน ๓ คืน ไมลุกขึ้นก็มี ดวยอํานาจของผีการพนัน. นั่นแหละความเปนทาสของ อายตนะ คือเปนทาสของความรูสึกชนิดหนึ่งซึ่งเราเรียกไดวา ผีของการพนัน. บางคนยอมหยาผัวหยาเมียเลย ไมยอมเลิกการพนัน ก็ตองถือวามันรุนแรงมาก สมัครเปนทาสของอายตนะรุนแรงมาก ถึงกับยอมหยาสามีภรรยา หรือวาทนอยู ไดทั้งวันทั้งคืน. ความไมมีศีลธรรมชั้นต่ํามาก ชั้นเลวมากที่ทําถึงขนาดนี้ ไมรู อะไรเปนอะไร อะไรมีประโยชน อะไรไมมีประโยชน ; เปนความไมมีศีลธรรม ประเภทโมหะมากกวาโลภะ ฉะนั้นอยาไปรูจักการพนันแตในแงของโลภะ ; ไดเงิน นั้นยังไมรายเทาโมหะที่มันอยากจะเอาความอรอ ยทางจิตใจ เกิดมาจากการ เลนการพนัน ฉะนั้น จึงเลนไดจนฉิบหาย จนหมดสตางค สตางคสุดทาย.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ถาม : ทีนี้ คบคนชั่วเปนมิตร ลองแสดงใหเห็นซิวา การคบคนชั่วเปนมิตร เรียกวาเปนทาสของอายตนะอยางไร คุณทอง ? คบคนชั่วเปนมิตร. ถา
www.buddhadassa.in.th
การกลับมาแหงศีลธรรม
๔๘๒
เขาใจถูก ต องแล ว จะมองเห็ น ได ชัด เจนเหมื อ นกั น วา เป น ทาสของ อายตนะอยางไร คุณลองอธิบายมาทีวา เปนทาสของอายตนะอยางไร ? เอา, สอบตก, คุณล้ําวาตอไป. ตอบ : เปนทาสของอายตนะทางจิตเหมือนกัน ตกอยูในจิตโมหะ ตกอยูใน ตกอยูในความหลง. ถาม : คุณประยูร ? ตอบ : เพราะวาพวกเราสวนมากก็เปนทาสของอายตนะ ๓ - ๔ ขอที่กลาวมานี้ คือโมหะ อยากจะมีความเอร็ดอรอยในการทําความชั่ว ทีนี้ก็เลยตอง ไปหาคนชั่ว เทานั้น ที่จ ะไดต อบสนองความชั่วที่ตอ งการ เขาเรีย ก วาทางออม. เมื่อตองการความเอร็ดอรอยในการทําความชั่ว ก็เลยติด คนชั่วอีก เพื่อจะไดนําเอาความเอร็ดอรอยเหลานั้น ที่ตัวตองการมา ถึงตัวเองได ; มันเปนทาส ๒ อยางนี้.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ถาม : ใจความนี้ถูกตอง แตสรุปคําพูดใหมันสั้น ๆ สักหนอยไมไดหรือ ?
ตอบ : คบคนชั่ ว เป น มิ ต ร เพื่ อ จะได ป ฏิ บั ติ ค วามชั่ ว เพราะว า ติ ด อยู ใ น ความชั่ว
ค บ ค น ชั ่ ว เป น มิ ต ร เพื ่ อ จะได ม ี โ อกาส ตาม ใจกิ เ ล ส ห รื อ ตามใจตัวแลวก็เอร็ดอรอยอยูดวยการไดตามใจตัว. ถาเราไปคบคนดี ไมมีใคร ตามใจเรา ; เพราะคนดีเขาคอยแตขัดคอหามไมใหไปทําความชั่วหรือไมใหทํา
www.buddhadassa.in.th
๔๘๔
การกลับมาแหงศีลธรรม ทั้งทางกาย ทั้งทางจิต ไมตอ งเคลื่อ นไหว ไมตอ งบริห ารอยางไร ; เขาเกิดมีความรูสึกพอใจในการที่ไดเกียจครานนั้น.
ถาม : อย า งนั้ น ก็ ได ช นะซิ เป น การได ช นะอายตนะ. แพ แ ก อ ายตนะอยู ที่ ตรงไหน คุณประยูร ? ตอบ : คนเกียจครานตอการทํางานนั้น แพแกอายตนะตรงที่วา แพตอกิเลส คือความเห็นแกตัว ครับ. คนเกียจครานก็คือเห็นแกตัว เพราะวา ไมทํางาน แตก็เอาเปรียบเพราะตองใชตองกิน ตองใชที่คนอื่นหามา ให ก็แพแกกิเลสขอที่วา เห็นแกตัว. นั่นมันกวางออกไป มันไกลออกไป เอาที่ชัด ๆ ที่วามันไมทําการงาน ในกรณีที่วา เพราะมัน ชอบขี้เ กีย จ. ทีนี้ มัน ขี้เ กีย จ ไมทํา อะไร นอนเสีย มันก็ชอบความสบาย เพราะไดนอนเสีย โดยไมตองทําการงาน. การไมตองทํา การงาน นี ้ เ ป น ความสบายชนิ ด หนึ ่ ง ; แม จ ะเป น โมหะ. นี ่ เ ขาชอบรส ของความสบายชนิดนั้น เขาก็นอนเสีย ไมทําการงาน.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org อยางนี้เปนใจความที่เจาะจง หรือกระทัดรัด ของคําวาขี้เกียจ ที่เปน ทาสของอายตนะ ; อยางในบทอธิบายก็มีวา อิ่มนักทําไมไหว รอไวกอน ยังไม ทํา การงาน. ทีนี้ร อจนหายอิ่ม แลว ; เอา , ก็หิว อีก แลว , รอไวกอ นยัง ไม ทําการงาน, เชานักยังไมทําการงาน, สายแลวไมควรทําการงาน, เย็นเสียแลว ก็ไมตองทําการงานแลว. นี่เปนความรูสึกที่จะเอาแตความสบาย เพราะไมตองทํา การงาน. นี้เรียกวาเปนอบายมุข คือปากทางแหงอบาย.
www.buddhadassa.in.th
การกลับมาแหงศีลธรรม
๔๘๖
คนในโลกโดยมากเป น ทาสของอายตนะอย า งนี้ . แม พ วกฝรั่ ง ที่เจริญดวยการศึกษา อยางที่พวกไทยไปตามกนเขานี่แหละ ; พวกฝรั่งเหลานั้น ก็ยังเปนทาสของอายตนะ และโดยเฉพาะเปนทาสของอบายมุข ขอนี้แหละเหมือน กันเลย. คนฉลาดก็เปนทาสของอายตนะไปตามแบบของคนฉลาด, บางทีก็ลึกซึ้ง ยิ่งกวาคนโงเสียอีก. คนโดยทั่วไปสวนมากก็โง ก็เปนทาสของอายตนะไปตาม แบบของคนโง ก็เลยขาดอุดมคติขอที่วา “จะไมเปนทาสของอายตนะ” เพื่อเปน รากฐานของศีลธรรม. ถา เปน ทาสของอายตนะแลว ก็ร อ น ตอ เมื ่อ ไมเ ปน ทาสของ อายตนะจึง จะเย็น , จึง จะเปน เหมือ นกับ น้ํา รดตน ไม. นี้ชว ยกัน ไปประยุก ต ใหมัน มีก ารละความเปน ทาสของอายตนะ ; แมขั้น ต่ํา ที่ส ุด คือ อบายมุข ซึ่ง เปน ปญ หามาก เปน ปญ หาใหญ. แกป ญ หานี ้ไ ดป ญ หาเดีย ว โลกนี ้ก ็จ ะ สะอาดขึ้นมากมาย, จะหมดปญหาอาชญากรรมไปมากมายมหาศาลทีเดียวจน เกือบจะไมตองพูดถึงขออื่นแลว. ทีนี้ไมเปนทาสของอายตนะ ที่สูงขึ้นไป ก็เปน เรื่อ งของความดี ที่เ รีย กวา สวรรค จะไปหลงอยูใ นความสุข เอร็ด อรอ ย ทางเนื้อ ทางหนัง ทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ที่ไดมาเพราะการทําความดี. นี่ ก็ ไ ม ส มควรและไม ถู ก ต อ ง ; สู ไ ม เ ป น ทาสไม ไ ด . สิ่ ง ที่ เ รี ย กว า สวรรค ก็ไ มมีอ ะไรมากกวา ความเปน ทางของอายตนะ ; จะพูด ไปมาก็ลํา บาก เดี๋ยวมันจะมีเรื่อง, แลวพระเถรผูเฒา ทานก็ไดหามไว ขอรองไววา คุณอยา พูดเรื่องนี้นัก. เอาละอาตมาไมพูดแลว.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ....
....
....
....
www.buddhadassa.in.th
๔๘๖
การกลับมาแหงศีลธรรม
ราก ฐ าน ที ่ ๓. เป รีย บ เห มือ น กับ ปุ ย ที ่ต น ไมจ ะไดใ ชเ ปน อ า ห า ร สํ า ห รั บ ส ร า ง เนื ้ อ ห นั ง ข อ ง ต น ไ ม ; เร า ร ะ บุ ไ ป ยั ง ก า ร บั ง คั บ จิ ต ใหอยูในรองรอย. การบั งคับจิตนั้ น คือการบั งคับให อยูในรองรอยของความถูกตอง หรือ ของศีล ธรรม. เดี ๋ย วนี ้ป ญ หามีอ ยู ว า ไมม ีก ารบัง คับ จิต เสีย เลย ; ปลอ ย ตามอารมณ ปล อ ยตามความพอใจ ซึ่ งได ส รางขึ้ น มาอย างผิ ด ๆ อย างลู ก เด็ ก ๆ เขาเคยได รับ การปล อ ยตามพอใจ ก็ เหมื อ นกั บ อบรมให ไม ต อ งบั งคั บ จิ ต : อยาก อะไรก็ จะเอาอย างนั้ น , อยากอะไรก็ ทํ าอย างนั้ น , ไม มี การบั งคั บ จิ ต จนเป น นิ สั ย ; พอต อ งบั ง คั บ จิ ต ขึ้ น มา ก็ เลยกลายเป น ต อ สู ไม ย อม ; พ อ แม ก็ บั ง คั บ เขาไม ได , ครูบาอาจารยจะบังคับก็ไมได, ตัวเขาเองก็ไมมีการบังคับตัวเอง. นี ่เ รีย ก วา ไมม ีก ารบัง คับ จิต ดูแ ลว เปน ปญ ห าให ญ , แล ะดู จะยากที่ สุ ด ที่ จ ะให ค นสมั ย นี้ บั ง คั บ จิ ต ; เพราะว า เขาได ล ะทิ้ ง ขนบธรรมเนี ย ม ประเพณี ศีลธรรมที่ดีงาม มาเสียเปนระยะยาว จนถายทอดกันมาอยางผิด ๆ ชั่วอายุ คน, ๒ ชั่ ว อายุ ค น, ๓ ชั่ ว อายุ ค นแล ว กระมั ง ที่ ไ ม ก ลั ว บาป และไม บั ง คั บ จิ ต เหมือนคนโบราณ.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ถาม : ขอถามไปทางอื่ นดี กว า ว าระบบอะไรบ าง หรือโดยเฉพาะ, ที่ จะช วยให เกิ ด การบั ง คั บ จิ ต อย า งที่ ดี ที่ สุ ด ? ตอบได คํ า เดี ย ว ทุ ก คน คุ ณ ประยู ร วาอะไร ?
ตอบ : ระบบไมเรียว ครับ.
www.buddhadassa.in.th
การทําความเจริญงอกงามของศีลธรรม
๔๘๗
ถาม : คุณทอง อะไรที่จะเปนระบบบังคับจิต ? ตอบ : การทําสมาธิ. ถาม : คุณล้ํา ? ตอบ : สําหรับจิต ก็การทําสมาธิ ; ถาสําหรับโลก ก็เผด็จการ. เผด็ จ การนี่ บั ง คั บ กายมากกว า ไม ใ ช บั ง คั บ จิ ต . ไม เรี ย วนั่ น ไม ค อ ย สํ า เร็จ ในการบัง คับ จิต ; ยิ ่ง ตียิ ่ง ดื ้อ ก็ไ ด. เด็ก ที ่ว า งา ย หัว ออ น นั ้น หายาก ที่ จ ะสํ า เร็ จ ได ด ว ยไม เรี ย ว. เราไม ได ห มายอย า งนั้ น นะ แต ห มายถึ ง ผู นั้ น จะต อ ง บังคับจิตของตัวเอง. อาตมาอยากจะตอบเหมื อ นกั น จะตอบคํ า เดี ย วเหมื อ นกั น ไม เอา เปรีย บ, วา “การบวช”. คํ า เดีย วหรือ ไมคํ า เดีย ว ? ไมม ีอ ะไรที ่ด ีก วา การ บวช แต ต อ งเป น การบวชที ่ ถ ู ก ต อ ง จะมี ก ารบั ง คั บ กายวาจา ใจ อย า ง ดีที ่ส ุด และมีผ ลแทจ ริง เปน ที ่ป รากฏมา จนเกิด ขนบธรรมเนีย มประเพณีว า ค น ห นุ ม จ ะ ตอ งบ วช บ วช ชี บ วช พ ระ บ วช อ ะ ไรก็ต าม สัก ระ ย ะ ห นึ ่ง . ตลอดเวลาเหล านั้ น เขาจะมี การบั งคั บ ตั ว คื อ บั งคั บ จิ ต ซึ่ ง จะบั งคั บ กาย บั งคั บ วาจาไดดวย.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ฉะนั ้ น อย า เลิ ก ละขนบธรรมเนี ย มประเพณี ข อง ปู ย า ตา ยาย ที่ ว า คนครบบวชจะต อ งบวช. ถ า ไม อ ย า งนั้ น ไม มี โ อกาสที่ จ ะ
www.buddhadassa.in.th
๔๘๘
การกลับมาแหงศีลธรรม
ฝกฝนการบังคับจิตเลย ; และบวชแลวอยาเปนอยางพระในสมัยนี้โดยมาก, อย าเป นอย างพระสมั ยนี้ โดยมาก ซึ่ งไม บั งคั บจิ ต : เล นหั วอย างฆราวาส, มี ของ ใชส นุก สนานอยา งฆราวาส, มีเ ครื ่อ งดนตรีแ ละเพลง วิท ยุ สะเตริโ อ อะไร อยางฆราวาส, กระทั่งมีอะไร ๆ จะกินอรอยอยางฆราวาส อยางนี้ไมมีการบังคับจิต ไมใชการบวช. เมื ่ อ พู ด ถึ ง การบ วช ต อ งเอาต าม แบ บ ของพ ระพุ ท ธเจ า คื อ เป น พ ระ เป น เณ ร ที ่ แ ท จ ริ ง ; เว น ทุ ก อ ย า งต ามที ่ จ ะต อ งเว น . แล ว ก็ จะมีก ารบัง คับ จิต บัง คับ กาย บัง คับ วาจา เหลือ ประมาณ , ไมช กตอ ย วิว าท ตีรัน ฟน แทงกัน เหมือ นกับ พระเณรสมัย นี ้, และก็จ ะไมป ระพฤติสิ ่ง ที่ เลวรา ยอื ่น ๆ อีก ; เพราะวา เขาไมบ ัง คับ จิต มาตั ้ง แตเ กิด จนมาบวชเปน เณร บวชแล ว ก็ ยั ง ไม บั ง คั บ จิ ต เป น พระก็ ไม บั ง คั บ จิ ต ฉะนั้ น ปรากฏว า ทํ า อาชญากรรมพอ ๆ กันกับฆราวาสชั้นเลว.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org เมื ่อ พูด วา บวช ก็ต อ งหมายถึง การบวชตามแบบของพระพุท ธเจา มี ผ ลให เกิ ด การบั ง คั บ ทุ ก กระเบี ย ดนิ้ ว นั บ ตั้ ง แต ว า กิ น อาหาร ถ า ยอุ จ จาระ ป ส สาวะ การอาบ การถ าย การอะไรต าง ๆ, แล วก็ มี วินั ย กี่ ข อ . คุ ณ ก็ รูอ ยู แ ล ว วาทําตามนั้นแลวมันก็มีการบังคับกี่มากนอย.
ค น โบ รา ณ เข า ม อ ง เห็ น ป ระ โย ช น อ ั น นี ้ เข า จึ ง มี ข น บ ธ รรม เนีย มประเพณีใ หค นหนุ ม จะตอ งบวช ; เพื ่อ เปน เครื ่อ งพิส ูจ นว า เขาได ผานการบังคับจิตมาพอสมควร เขาจึงจะมีความเหมาะสมที่จะออกไปครองเหยาเรือน
www.buddhadassa.in.th
การทําความเจริญงอกงามของศีลธรรม
๔๘๙
เป น ภรรยา สามี ที่ ดี. ฉะนั้ น จึงขอให รื้อ ฟ นการบั งคั บ จิต ซึ่งเรียกวาการบวชนี้ . บวชที่วัดก็ได บวชที่บานก็ได. ถาม : บวชที่บานจะทําอยางไรละ คุณทอง ? ตอบ : คือการเวนในสิ่งที่ควรเวน เชนเดียวกันครับ. นั่ น แหละบวชที่ บ า น คื อ การตั้ ง จิ ต อธิ ษ ฐาน เว น ในสิ่ ง ที่ ตองเวน อยางเฉีย บขาด ตามความหมายของคําวา พรหมจารี. พรหมจารี คํา นี้เขามีค วามหมายวา เปน ผูเวน สิ่งที่ค วรเวน โดยเด็ด ขาด. นี้ก็เปน การบวช ที่บาน, ถาไมสามารถจะบวชที่วัด. ถา เพื ่อ สะดวกก็ บวชที ่วัด ๑ พรรษา, ๒ พรรษา, ๓ พรรษา อยา ง ไมเ หลวไหล ตลอด ๓ ป จะมีก ารบัง คับ จิต อยา งใชไ ด อยา งเปน ผูที่เ รีย กวา มีก ารบัง คับ จิต ที ่เพีย งพอ. นี ่ส ึก ออกไปก็ค งไมไ ปทํ า อะไรเลว ๆ ที ่เปน การผิด ศีลธรรม. เอาละ พูดกันแตหัวขอ เวลามีนอย.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ....
....
....
....
ถาม : ทีนี้ รากฐานที่ ๔ สํา หรับ ตน ไมที่จ ะอยูไ ด คือ แสงสวา ง. ตน ไม แหงศีลธรรมก็ตองการแสงสวางหลอเลี้ยงใหเจริญงอกงาม. เราเคยพูด กันวาอะไรเปนแสงสวางของตนไมแหงศีลธรรม คุณทอง ? ตอบ : คือ ปญญา ครับ.
www.buddhadassa.in.th
๔๙๐
การกลับมาแหงศีลธรรม
ถาม : ปญญา จําไดก็ดี ; คําวา ปญญานี่ ถาใหปลอดภัย ตองเติมบท ประกอบเขาไปใหเต็มความหมาย ; แลวเราจะเรียกมันวาอะไร ทีนี้ คุณ ประยูร ? ตอบ : เรียกวา ยถาภูตสัมมัปปญญา ครับ. เรีย กวา “ยถาภูต สัม มัป ปญ ญา”. เกี่ย วกับ การออกชื่อ ออกเสีย ง คํ า บาลีนี ้ จะขอรอ งตลอดเวลาวา ชว ยระมัด ระวัง ใหด ี อยา ออกเสีย งใหผ ิด , ถ าผิ ด แล วจะแก ยาก. ฉะนั้ น ในขั้ น แรกที่ จะจํ า ให จํ าคํ าเหล านี้ ล งไปให แ ม น ยํ า อยา ออกเสีย งใหผ ิด . อาตมาก็เ คยผิด และเคยลํ า บาก และเคยแกย าก ; เพราะฉะนั้น กลัว จึงขอรองทุกคนตอไปวา จะออกเสียงคําบาลีลงไปละก็ ใหถูก ไปเสียตั้งแตทีแรก, แลวมันจะผิดไมได. ป ญ ญ า เป น คํ า มี ค วามหมายกว า ง ๆ แปลว า รู ร อบ ; แต ถ า ไมป ระกอบดว ยสัจ จะ ดว ยเมตตาแลว ปญ ญา มัก จะเปน ไปในทางเฉโก. เฉโก ก็ แ ปลวา ป ญ ญา แต ห มายถึ งป ญ ญาที่ ไม ได รับ ผิ ด ชอบ ไม ได ค วบคุ ม ไว ด วยศี ล ธรรม. ฉะนั้ น ป ญ ญานี้ จ ะต อ งถู ก ต อ งก อ น แล วมี ก ารรับ ประกั น เข า มา อี ก ที ห นึ่ ง ว า เป น ป ญ ญาที่ เห็ น อย า งถู ก ต อ งตามที่ เป น จริ ง . นี่ ย ถาภู ต สั ม มั ป ป ญ ญ า -เห็ น ชอบ, เห็ น ถู ก ต อ งตามที ่ เ ป น จริ ง ก็ ป ลอดภั ย มั น ก็ ไ ม โ กง ไมอะไร, และก็จะทําสิ่งที่ควรทําไดตามลําพัง.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org บุค คลนั ้น คือ ผู ม ีย ถาภูต สัม มัป ปญ ญา ; แตม ัน ก็ไ มง า ยนัก ที ่จ ะ มีย ถาภูต สัม มัป ปญ ญา ; จะตอ งพยายามกัน ตลอดไป เพราะมัน มีห ลาย ระดั บ หลายชั้ น ลึ ก ลงไป, ลึ ก ลงไป, ลึ ก ลงไป ; ใช คํ า นี้ ไ ด ทั้ ง เรื่ อ งโลก ๆ และ
www.buddhadassa.in.th
การทําความเจริญงอกงามของศีลธรรม
๔๙๑
ทั้ง เรื่อ งธรรมะชั้น สูง สุด ; ชั้น โลกุต ตระ ก็ใ ชคํา นี้ได. ปญ ญาเปน แสงสวา ง ไมมีแสงสวางอะไร เทียบเทากับปญญา ฉะนั้นตนไมศีลธรรมเมื่อไดแสงสวาง อันนี้ก็จะเจริญงอกงามดี เหมือนตนไมธรรมดาที่ไดแสงแดดดี. ทีนี้ เราทํา อยา งไร ควรจะหยิบ ขึ้น มาพิจ ารณาดูดว ยเหมือ นกัน ที่จะทําใหคนในโลกมียถาภูตสัมมัปปญญา ? ถาม : ลองออกความคิด, ลองคิดอยางละเอียด สุขุม แลวก็ลองบอกมาทีวา, ทําอยางไรที่เราจะทําใหเพื่อนมนุษยของเรามียถาภูตสัมมัปปญ ญา, คุณประยูร ? ตอบ : ปญญานี้ตองเกิดมาจากประสบการณในชีวิต. ทีนี้เราจะทําใหปญญา นี้เกิด เราก็ควรจะทําได, นอกจากตัวเราเองแลว เราก็แนะเพื่อนฝูง ใหพ ยายามที่จ ะจํา ความผิด ในชีวิต ไวเปน บทเรีย น ใหผิด มากลาย เปนครู ; และตอไป ปญญาใหมจะเกิดขึ้นมาตาม ๆ กัน ไปสูความ ถูกตองที่สุดของมันเอง.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ถาม : สรุปสั้น ๆ ที่สุด จะพูดวาอยางไรดี ?
ตอบ : สรุป ให สั้ น ก็ คื อ พยายามใช บ ทเรีย นในชี วิ ต ผิ ด เป น ครู เพื่ อ จะได ปญญานี้มา. ถาม : ทําไมขยักสวนที่ถูกเปนครู ไวเสียละ ? ตอบ : ครั้งแรกมันจะไมคอยถูกหรอกครับ มันจะไปถูกครั้งหลัง ๆ.
www.buddhadassa.in.th
๔๙๒
การกลับมาแหงศีลธรรม
แต เราก็ พู ด ไว อย า งไม มี ท างที่ จ ะผิ ด ว า “ผิ ด ก็ เป น ครู ถู ก ก็ เป น ครู ”. ทีนี ้ เราใชป ระสพการณแ ตห นหลัง ที ่ไ ดเ กิด ขึ ้น แกจ ิต ใจนั ้น จริง ๆ ผิด ก็เ ปน ครู ถูก ก็เ ปน ครู คือ ใชสิ ่ง ที ่ไ ดเ คยประสบมาแลว ผา นมาแลว นั ่น แหละเปน หลัก . นี ้ก ็ค ือ ยถาภูต สัม มัป ปญ ญา ที ่ตั ้ง ตน ; เพราะวา สิ ่ง ใดที ่เ ราไดทํ า ผิด ก็ต าม ทํ า ถูก ก็ต าม เรายอ มรู จ ัก มัน ดี. ฉะนั ้น เราจึง มองไปยัง สิ ่ง นั ้น ไดอ ยา งถูก ตอ ง ตามที่ มั น เป น จริ ง แล ว ความรู ก็ เกิ ด ขึ้ น เป น การถู ก ต อ งตามที่ เป น จริ ง ซึ่ ง ถื อ ว า เปนจุดตั้งตนของการมีปญญาถูกตองตามที่เปนจริง. ขอรอ งใหล ูก เด็ก ๆ ตั ้ง ตน เปรีย บเทีย บความผิด ถูก อะไรตา ง ๆ จากที ่เขาไดเคยผา นมาแลว ทั ้ง ทางกาย ทั ้ง ทางจิต . เขาไดผ า นมาแลว อยา งไร นี้ เป นจุ ดตั้ งต นสํ าหรับเปรียบเที ยบต อ ไป ; เช น พอเขามี ความคิ ดอย างนี้ เขาเป น ทุก ข, พอเขามีค วามคิด อยา งอื ่น เขาไมเ ปน ทุก ข, เขาก็จ ะไดรู ว า ตอ ไปเขา ก็จะตองคิดถึงสิ่งที่ไมทําใหเปนทุกข ที่เขาเคยผานมาแลว.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org สรุป ความวา ใหใ ชสิ ่ง ที ่เ ราไดผ า นมาแลว และรูจ ัก ดีเ ปน จุด ตั ้ง ตน สํ า หรับ ขยายตัว ออกไป โดยทางการเปรีย บใหไ กลออกไป กวา งออกไป ก็เลยเรีย กวา ยถาภู ต สั ม มั ป ป ญ ญา มี ได ตั้ งแต เด็ ก ๆ ; แม แต เรื่อ งโลก ๆ ในโลก ในบา น ในเรือ น สูง ขึ ้น ไปจนถึง เรื่อ งศาสนา หลุด พน มรรค ผล นิพ พาน ก็ตาม ; มันจะเปนเรื่องยถาภูตสัมมัปปญญา ; อยางนี้ไมมีทางที่จะเสียหาย.
ถาม : ยกตัวอยางความเสียหายรายแรง ที่เกิดมาจากการไมมียถาภูตสัมมัปปญญา มาใหดู คุณทอง, คุณประยูร ?
www.buddhadassa.in.th
การทําความเจริญงอกงามของศีลธรรม
๔๙๓
ตอบ : ไดแกปญญาของนักศึกษาปจจุบันนี้ ที่สําเร็จมาจากมหาวิทยาลัย เปน ปญ ญาในทางโลก แลว ก็ม าทํ า ในสิ ่ง ที ่ไ มถ ูก ตอ ง. ที ่เ ราเห็น อยู แ ลว เป นตั วอยาง ในหน าหนั งสื อ พิ ม พ เป น ตน วา เดิ นขบวนขับ ไล อ าจารย . ระยะที่กําลังเรียนมหาวิทยาลัย นั่นไมไดใชปญ ญาที่ใชมาแตเดิมวา ครูบ าอาจารยนั้ น เปนผูมีพ ระคุณ อยางไร ๆ หรืออะไรตาง ๆ. ป ญ ญา พวกนั ้น มัน หายไปหมด ปญ ญ าพวกนั ้น ไมเ กิด ; แตป ญ ญ าใน ทางโลกเขามีแนครับ เพราะวาถึงขนาดไดปริญญาแลว ก็ยังมี. ถาม : ที่พูดนี้ก็ถูก แตเดี๋ยวนี้ถามวา ใหยกตัวอยางที่ทั่วไปที่สุด ที่สามัญที่สุด ที ่กํ า ลัง มีอ ยู จ ริง , กวา งขวางที ่ส ุด ซึ ่ง เปน โทษของการขาด ยถาภูต มัปปญญา. ตอบ : ถ า เหตุ ก ารณ ทั่ ว ไป ก็ ไ ด ค วามทุ ก ข ที่ เรากลุ ม ใจอยู นี่ ; ถ า หากว า คน มี ยถาภู ต สั ม มั ป ป ญ ญาแล ว มั นจะผอ นคลายความทุ กขไปได เองครับ . โดยเขาจะรู เ องวา มัน เกิด ขึ ้น มาไดอ ยา งไร, แลว ทํ า ใหเ รารอ นใจได อยางไร, แลวมันดับไดอยางไร, แลวเราจะคอยวาง ๆ ๆ ไป.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ถาม : อันนี้ก็ยังละเอียดไป ยังเปนระดับที่สูงละเอียดไป. เอาต่ํากวานั้นที่กําลัง เปนอยูจริงที่เปนโทษของการขาดยถาภูตสัมมัปปญญา อยูในบานในเมือง ทุกตําบล หมูบาน ทั่วทุกหัวระแหงไดแกอะไร คุณล้ํา ?
ตอบ : ไดแกคนทุกวันนี้ ใชปญญาเฉโก ครับ. ถาม : นั่ น มั น เป น เจตนา ที่ เขามี เจตนาจะเฉโก ; ที่ ไ ม เจตนาจะเฉโก ได แ ก อะไร คุณทอง ?
www.buddhadassa.in.th
การกลับมาแหงศีลธรรม
๔๙๔
ตอบ : ที่ เขาคิ ด วา เงิน นี้ เป น สิ่ งที่ ป ระเสริฐ ที่ สุ ด ฉะนั้ น จึ ง พยายามทํ า ทุ ก อยางเพื่อการใหไดเงินมาครับ. ถาม : ก็ได, ก็ถูก, แตมันอยูในวงจํากัด และก็ยังไมถึงชั้นพื้ นฐาน. อาตมา มุงหมายจะใหมองไปยังโทษที่นาเกลียด นาชัง นาขยะแขยง ที่เกิดจาก การกระทําดวยความงมงายทั้งหลาย คุณรูจักความงมงายไหม ? ตอบ : ความงมงายก็คือการกระทําที่ไมมีเหตุผล. ถาม : นั่นแหละคือ ไมมียถาภูตสัมมัปปญญา ในบานเรา เมืองเรา นี้มีความ งมงายไหม คุณทอง ? ตอบ : มีครับ.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ไมตองยกตัวอยางกระมัง เดี๋ยวก็จะกระทบกระเทือน ; เดี๋ยวก็ตอง ใหพ น หัว ที ใหไ ปรดน้ํ า มนตท ี ใหป ม ะกัน ที. ความงมงายทั ้ง หลาย ใหเกิด ความเสียหาย หรือการกระทําที่นาเกลียด นาชัง มีอยูทั่ว ๆ ไป. นี้เปน ความ งมงายระดั บ พื้ น ฐาน เพราะขาดยถาภู ต สั ม มั ป ป ญ ญา เป น มาตั้ ง แต ค รั้ ง พุทธกาลจนกระทั่งบัดนี้.
ก็อยากจะบอกวา ในกรุงเทพฯ นั้นเอง มีหนาที่สุด มีมากที่สุด . ตัว อยา ง เชน ตื ่น ปม ะคราวนั ้น . ที ่บ า นนอกไมม ีใ ครตื ่น , ที ่ก รุง เทพฯ แตกตื่นจนหนังสือ พิม พไมพ อจะลง. เรื่องปมะวาคนจะตาย. คนปมะจะตาย นั่นคือความงมงาย ; แลวก็มีโทษออกมาอยางทําลายศักดิ์ศรีของมนุษย ของคน
www.buddhadassa.in.th
การทําความเจริญงอกงามของศีลธรรม
๔๙๕
ทั่วไป. แตไมรายกาจเทากับทําลายศักดิ์ศรีของอุบาสก อุบาสิกา จํานวนไมนอย, ที ่เรีย กตัว เองวา อุบ าสุก อุบ าสิก า แตยัง มีค วามงมงายชนิด นั ้น ; นี ้ไมม ีย ถาภูตสัมมัปปญ ญาไมมีแสงสวาง ไมมีความรอนที่จะแผดเผากิเลส, ไมมีแสงสวาง ที่จะทําความเจริญงอกงามของจิตใจ. ถาจะมียถาภูตสัมมัปปญญา ก็ชวยกันขจัดความงมงาย. ความงมงาย เกิ ด ขึ้น มาโดยไม อ าศั ย ขอ เท็ จจริงต าง ๆ ที่ ป รากฏแล วแก ใจ วาอะไรเป น อยางไร อะไรเปน อยา งไร มีเ หตุผ ลอยา งไร เนื ่อ งกัน อยู อ ยา งไร. เพราะวา เขามีแ ต ความหวาดกลั ว ; ความหวาดกลั ว ก็ ส ร า งความมื ด ให แ ก เ ขา. เขาก็ เ ลย ทํ า อะไรไมถ ูก คิด อะไรไมถ ูก ก็เ ลยเชื ่อ ไปตามบุค คล หรือ สิ ่ง ที ่ม ัน นา อัศ จรรย หรือ มัน แปลกดี คือ เขาเขา ใจไมไ ด. เพราะเขาเขา ใจไมไ ด เขาจึง ไปคิดวามันจะดี หรือมันจะชวยเขาได นี่ก็เรียกวาความงมงาย. ถาม : ความงมงายทําลายศีลธรรมไดอยางไร, ความงมงายทําใหไมมีศีลธรรม ไดอยางไร ? หรือวา ทําใหมีศีลธรรมยิ่งขึ้น คุณทองตอบไปซิ ?
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ตอบ : ความงมงายทํ า ใหศ ีล ธรรมเสื ่อ ม ; ยกตัว อยา งวา ผู ที ่ต อ งการ ทํ าบุ ญ เพื่ อ เอาสวรรค , การทํ าบุ ญ เอาสวรรค เขางมงายวา เอาทรัพ ย สมบั ติ ไปแลกมา ด วยการทํ าบุ ญ เข า ไปให ม าก ๆ แต ก ารที่ จ ะได ท รัพ ย สมบั ติ นี้ ม า บางที ก็ ไ ปขอหรื อ ไปเบี ย ดเบี ย นผู อื่ น มา ย อ มเป น การ กระทําใหศีลธรรมเสื่อมครับ.
ถาม : เขาไม ได ไปเบี ย ดเบี ย นใครมา หรือ ไปขโมยใครมา ? เขามี เท าไร เขา เอามาทําบุ ญ ตามแบบของเขา และไม ไดไปขโมยใครมา ? นี่ จะเรียกวา ทําลายศีลธรรมดวยหรือ ?
www.buddhadassa.in.th
๔๙๖
การกลับมาแหงศีลธรรม
ตอบ : ก็เปนการทําลายดวย. ถาม : ทํ า ลายตรงไหนล ะ ? เขาไม ไ ด ไ ปฆ าแกงใคร, ไม ไ ด ไ ปทํ า อะไร ; แตเขาทําบุญตามแบบของเขา, และไมไดไปขโมยใครมา ? ตอบ : ก็ เป น คนชั ก นํ า ให ค นอื่ น เห็ น ว า การทํ า บุ ญ แบบนั้ น ย อ มจะได ส วรรค มาครับ ซึ่งความจริงแลวไมไดเปนเชนนั้น. คนนั้ น ไม มี อ ากั ป กริย า แห งความไม มี ศี ล ธรรม จริง ; แต ว าในจิ ต ใจ ของเขาไมม ีป ญ ญา เขาทํ า ลายประโยชนข องเขาเอง. นี ่เรีย กวา โทษของความ งมงาย หรือศรัทธาประเภทที่ไม มีปญญา หรือมุ ทุปสัมนา เลยขอบเขตไมมีปญญา ก็ทําใหกระทบกระเทือนถึงศีลธรรมในแงอื่น ในมุมอื่น เรียกวา จะไม สรางสันติสุข หรือ สัน ติภ าพดว ยเหมือ นกัน . ฉะนั ้น เราจะตอ งเลิก ความงมงายเสีย ; ความ งมงายนี้เปนสมบัติของปุถุชน.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ถ าอยากจะพ นจากความเป นปุ ถุ ชน จะต องทํ าลายความงมงายเสี ยตาม หลัก ที ่จ ะเปน อริย บุค คล ; แมแ ตพ ระโสดาบัน ก็ต อ งทํ า ลายสัก กายทิฏ ฐิ วิ จ ิ ก ิ จ ฉ า สี ล ั พ พั ต ต ป ราม าส ๓ อย า งนี ้ . ที ่ เ รี ย กว า สี ล ั พ พั ต ต ป ราม าส นั ่น เอง คือ ความงมงายที ่เ รากํ า ลัง พูด ถึง อยู ใ นที ่นี ้ ; แลว ก็เ ปน การทํ า ลาย ศีล ธรรมในระบบสูง ในระบบที ่ป ระณีต ละเอีย ด ที ่เขา ใจยาก. แตถ ึง อยา งไร ก็จ ะตอ งจัด ไวใ นประเภทที ่ว า ไมส ง เสริม ศีล ธรรม, หรือ เปน ขา ศึก แกศ ีล ธรรม ; แตยังจะตองพิจารณาบางอยางบางประการวา ความเชื่อที่งมงายอยูบาง แลวก็มี โชคดี ที่ไดรับการชักนําที่ดี มันก็ทําใหมีศีลธรรมไดเหมือนกัน.
www.buddhadassa.in.th
การทําความเจริญงอกงามของศีลธรรม
๔๙๗
เชน วา คนที ่ก ลัว บาปอยา งแทจ ริง แมแ ตอ ยา งงมงาย เขาก็จ ะมี ศีล ธรรมดีไ ด ; แมว า จะเปน ศีล ธรรมที ่ค อ นขา งงมงาย. เราก็ค วรจะมองดู ในสวนนี้ไวบาง มีขอยกเวนใหบาง ; แตถึงอยางไรก็ไมไดเปนสิ่งที่จะสงเสริมใหมี. ถา เราจะมีก ารทํ า จริง เครง ครัด จริง ก็ข อใหเ ปน ไปดว ยปญ ญา ; อยา ตอ ง เปน ไปดว ยความงมงายเลย. ฉะนั ้น จึง สรุป ความวา ยถาภูต สัม มัป ปญ ญา เป น สิ ่ ง จํ า เป น จะต อ งมี เพื ่ อ รากฐานของศี ล ธรรมอั น มั ่ น คง เหมื อ นกั บ แสงแดด ที่ชวยใหสิ่งที่มีชีวิตนี้รอดอยูได. ....
....
....
....
รากฐานที่ ๕ อุ ณ หภู มิ ที่ พ อเหมาะ ทํา ให สิ่ ง ต า ง ๆ รอดตั ว อยู ได ; อุ ณ หภู มิ ที่ พ อเหมาะทํ าให สิ่ งที่ มี ชี วิต รอดชี วิต อยูได , อุณ หภู มิ ที่ ม ากเกิ น ไป หรือที่นอยเกินไป ยอมทําลายชีวิตนั้น ๆ ไมใหรอดอยูได. ฉะนั้น เราจะพูดไดเลยวา อุณ หภูม ิที ่พ อเหมาะนั ่น แหละเปน รากฐานของความมีชีวิต รอด ของสิ่ง ที ่ม ีชีวิต ทั้งหลาย ; แมแตตนไมตามธรรมดานี้ ก็ตองมีอุณหภูมิที่พอเหมาะแกชนิดของมัน.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ถาม : ทีนี้ตนไมของศีลธรรมตองการอุณหภูมิที่พอเหมาะ คืออะไร, คุณล้ํา ? ตอบ : คือศรัทธาครับ.
ถาม : ศรัทธาชนิดไหนละ ? ตอบ : ศรัทธาที่เปนสัมมาทิฏฐิ.
www.buddhadassa.in.th
๔๙๘
การกลับมาแหงศีลธรรม
ศรัทธาที่ ประกอบดวยป ญ ญามีสั มมาทิฏ ฐิ ! จําไวเถอะวา ศรัทธา หรือ ความเชื ่อ นี ้ม ัน เปน กํ า ลัง ; ไมม ีกํ า ลัง อะไรที ่จ ะแรงเทา กํ า ลัง แหง ความ เชื่อ . ถา วา ความเชื่อ นั้น มัน ผิด มัน ก็แ รงไปในทางผิด . ถา ความเชื่อ นั้น ถูก มันก็แรงไปในทางความถูก ; ฉะนั้น เราตองการศรัทธาที่ประกอบอยูดวยปญญา จึง เรีย กวา ศรัท ธาในพุท ธศาสนา คํ า วา ศรัท ธาในที ่อื ่น อาจจะงมงายได ; แตศรัทธาในพุทธศาสนาแลวตองไมงมงาย มิฉะนั้น จะไมเรียกวาศรัทธา. ถาเอาปญญาหรือยถาภูตสัมมัปปญญามาเปนผูนําแลว ศรัทธานั้นก็จะ ไมงมงาย, หรือใหยิ่งไปกวาศรัทธาก็จะไมงมงาย แลวก็จะมีประโยชน. ฉะนั้น ถา จะมีม ุท ุป สัน นา คือ ศรัท ธาอยา งยิ ่ง อยา งทุ ม เททุ ม เนื ้อ ทุ ม ตัว ก็ข อให ประกอบอยูดว ยปญ ญา. ศาสนาอยูไดเพราะศรัท ธา ใครแยง บา ง ? ศาสนา อยูไดเพราะศรัท ธา ; จะเปนศาสนาในแงรูป แบบหรือ วัต ถุ หรือ เปน ศาสนาใน แงจิตใจก็ตาม มันอยูไดเพราะศรัทธา. ใครคานบาง ?
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ยกตั ว อย า ง ศาสนาอยู ไ ด เ พราะศรั ท ธาที่ ง มงาย มาให ดู สั ก เรื่องหนึ่ง, คุณทอง...
ความเชื่อเรื่องงมงายไดทําใหศาสนาบางศาสนาอยูได หรือบางขณะบาง โอกาสบางสว นอยู ไ ด. คํ า พูด นี ้พ ูด ไปนัก ก็ไ มไ ด มัน กระทบกระเทือ น. เมื ่อ ศาสนาแมแตพุทธศาสนานี่ลวงมาในบางโอกาส บางยุค บางสมัย บางถิ่นแลว ตกไปอยู ภ ายใตคุ ม ครองของศรัท ธาที ่ง มงายก็ม ี ; ฉะนั ้น เราจึง เห็น บางถิ ่น บางแหง บางยุค บางสมัย ถือพุทธศาสนาอยูดวยความงมงายก็มี.
www.buddhadassa.in.th
การทําความเจริญงอกงามของศีลธรรม
๔๙๙
มั น ก็ ยั ง ดี ที่ ไม สู ญ ไปเสี ย เลย. ตรงนี้ ข อขอบใจความงมงายหน อ ย เพราะมั น เป น งมงายที่ โชคดี ไปถู ก กั บ สิ่ งที่ ไม ห ลอกลวง มั น ก็ ง มงายได แล ว ก็ ชว ยใหอ ยู ไ ด ไดเ หมือ นกัน ; แตไ มต อ งประสงค. เราตอ งประสงคค วาม ไมงมงายมีปญ ญาแลว ก็ปลอดภัย : ศรัทธาก็ปลอดภัย มุทุปสันนาก็ปลอดภัย, แมแตสิ่งที่เขาเรียกกันสําหรับศาสนาอื่นวา ความภักดี จงรักภักดีนั้นก็จะปลอดภัย, แมแตการเสียสละ การบริจาคก็จะปลอดภัย. ถา ไมม ีป ญ ญา มีแ ตค วามงมงายแลว การบริจ าค การทํ า บุญ ทํา ทานนั้น ก็ไ มป ลอดภัย , หรือ ถึง กับ เปน อัน ตราย, หรือ ถึง กับ ทํ า ลายศาสนา นั้ น เสี ย เอง. ฉะนั้ น ระวั ง ไว ด ว ย ว า การบริ จ าคที่ ง มงายนั่ น แหละ จะทํ า ลาย ศาสนาเสียเอง ; แตถาไมงมงายแลวก็เปนที่นอนใจได. ถาม : เราจะประยุกตกันอยางไร จัดกันอยางไร ที่ใหความเชื่อของพุทธบริษัท เราพนจากความงมงาย ; ใครมีปญญาลองวามาซิ คุณทอง ?
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ตอบ : พระตองปฏิบัติเปนตัวอยาง และเปนผูมีหนาที่สั่งสอนประชาชน.
ถาม : แลวก็จะไมงมงายอยางไรละ ?
ตอบ : คือ ปฏิบ ัต ิใ หเ ห็น วา การปฏิบ ัต ิอ ยา งถูก ตอ งนั ้น นํ า มาซึ ่ง สัน ติภ าพ, และสอนซึ ่ง เปรีย บเสมือ นการจุด ตะเกีย งไวใ นที ่ม ืด ก็จ ะทํ า ใหมี ศีลธรรมขึ้นมา.
www.buddhadassa.in.th
๕๐๐
การกลับมาแหงศีลธรรม
เดี๋ยวนี้ ที่ เขางมงายนั้ น หมายความวา เขาไม เชื่อ เรา ; สอนจนเขา หาวาจูจี้ แลวเขายังไมเชื่อ เขายังสมัครที่จะงมงาย ; แลวจะทําอยางไรที่จะใหเขา หยุดงมงาย ; หรือวาหมดปญญา ตองปลอยใหงมงาย. เดี๋ ย วนี้ เราจะแก ไ ขให มั น มาสู ค วามถู ก ต อ งว า ศี ล ธรรมจะกลั บ มา อยา ตอ งงมงายเลย จะทํ า อยา งไร ? ใครคิด ออกลองวา มาดู ?.... ไมม ีใ คร คิด ออก ; ยอมแพ ก็เ ปน อัน วา ยอมใหง มงาย. ลองไปคิด ดู อะไรมัน จะ ชว ยแกไ ขได ? มัน ก็ม ีห ลัก ทั ่ว ๆ ไป ที ่เ ราจะตอ งนํ า มาใช. เราจะใหเ ขาเวน หรือ เลิก ละ หรือ วา ชะลา งอะไร เราก็ต อ งแสดงใหเ ห็น โทษของสิ ่ง นั ้น . เชน เราจะให เ ขาละความงมงาย เราจะต อ งแสดงให เ ขาเห็ น โทษของความ งมงาย. ถาม : คุณจะใหใครเปนผูแสดงโทษของความงมงาย ?
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ตอบ : ก็ทุกคนที่เขาใจเรื่องนี้.
นี่ ถู ก แล ว คุ ณ ทอง, ดี ก วาที่ โยนมาให พ ระแต ข างเดี ย ว. ถ าพระเกิ ด อยากไดประโยชนจากคนงมงายแลวพระก็ยิ่งไมสอนซิ ก็ยิ่งสวมรอยใหคนงมงาย, แลวเอาอะไรมาใหพระมาก ๆ ขึ้น. พระก็จะไมชี้โทษของความงมงาย. มั น จะต อ งเป น หน า ที่ ข องทุ ก คน ที่ จ ะหาโอกาสให เหมาะ เวลาให เหมาะ บุ ค คล สถานที่ ให เหมาะ ที่ จ ะชี้ ให เห็ น โทษของความงมงายอยู บ อ ย ๆ เขาก็จะเลิกความงมงายกันได.
www.buddhadassa.in.th
การทําความเจริญงอกงามของศีลธรรม
๕๐๑
ถาม : คุ ณ ทองจะชี้ โทษของความงมงาย ที่ มั ว แต ไหว จ อมปลวกอยู ให เขา หยุดไหวจอมปลวกไดอยางไร ? ตอบ : จะไหว ห รื อ จะป ด ทองสั ก กี่ ค รั้ ง สั ก เท า ไรก็ ต าม ความทุ ก ข นั้ น จะ สรางซาไปจากตัวผูนั้นไมได. เขาจะตองเขาใจอยางนี้ครับ. ข อ นี้ จ ะไม เป น อย า งนั้ น ก็ ได . ถ า เขาเชื่ อ อย า ง ๑๐๐ เปอร เซนต พอ เขาไปปดทองหรือ ไหวจอมปลวกเขาครั้งหนึ่ง เขาก็จะสบายใจ อยางนอยสักครูหนึ่ง สัก พัก หนึ ่ง . นี ่ม ัน ก็รัก ษาความงมงาย หรือ เสริม ความงมงาย ใหยัง คงอยูไ ด. นี่จะตองพยายามกันถึงขนาดที่วา ใหรูวา ถาเปนเรื่องทางจิตแลว มั นหลอกได, มันหลอกใหรูสึกเหมือนกับวา มีประโยชน หรือวาดับทุกขได. เราตอ งแสดงสิ ่ง ที ่ด ีก วา หรือ จริง กวา , คุณ ประยูร เปน หมอ คง รูจั ก ให เขากิ น ยาหลอก ๆ ที่ ให ห ายสบายไปสั ก พั ก หนึ่ ง , แล ว ต อ มาก็ ใ ห ย าที่ แ น นอนกวา นั ้น ที ่ใ หม ัน หายขาดจริง ๆ นี ่เอาวิธ ีก ารอยา งนี ้แ หละมาใช ; ใหเขา มองเห็ น วา หายขาด หายจริง กับ หายชั่วคราวนั้ น มั น เป น อยางไร ก็จะคอ ย ๆ ขูดเกลาความงมงาย ซึ่งที่แทมันก็มีผลทางจิตใจอยูเหมือนกัน.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ถ า เป น คนมี ป ญ ญาน อ ย ; ขออภั ย ที่ ต อ งพู ด ว า โง ม าก มั น ก็ ห ลี ก ไม พ น ที่ จ ะต อ งยึ ด ความงมงายบางอย า งมาเป น สรณะ ; กว า จะแกะออกได นี่ เปน เรื ่อ งใหญโ ตที ่เ ดีย ว. แตเ ดี ๋ย วนี ้เ ราจะตอ งถือ หลัก วา เราเปน พุท ธบริษ ัท นับถือพุทธศาสนา ตองทําอะไรใหตรงตามความหมายของคําวา พุทธะ. ถาม : คําวา พุทธะ แปลวา อะไร คุณทอง ?
www.buddhadassa.in.th
การกลับมาแหงศีลธรรม
๕๐๒ ตอบ : ผูรู ผูตื่น ผูเบิกบาน ครับ.
ความหมายนี ้ห มดจด ถา แปลวา ผู รู ผู ตื ่น ผู เบิก บาน. พุท ธะ ถามฝรั่งดูเถอะ อาตมาแกลงถามหลายคนแลว ฝรั่งที่เขาเรียนมาถูกตอง ฝรั่ง สวนมากจะตอบวา “พุทธะ คือผูตื่นนอน”, ผูตื่นจากหลับ ถูกตองเหมือนกับ ที่ครูบาอาจารยของเราแตกาลกอนไดเคยพูด เคยใชคํานี้ วา พระพุทธเจาเปน อ รหั น ต ผู ตื ่ น จากกิ เ ล ส นิ ท รา ; ตื ่ น จาก ห ลั บ คื อ กิ เ ล ส นั ่ น แ ห ล ะ คื อ พุทธะ. เมื่อเราเปนพุทธบริษัท นับถือพระพุทธเจา ตองมีความเปนพุทธะ คือความตื่นนอน ตื่นจากหลับ ; ถาหลับคืองมงาย ถาตื่นคือหายงมงาย ; นี่ตอง ชว ยกัน ใหตื่น . พระพุท ธเจา เปน ผูตื่น แลว ปลุก คนอื่น ใหตื่น ; ถา สมมติวา เราตื่ น ตามที่ พ ระพุ ท ธเจ า ปลุ ก เราก็ ส ามารถที่ จ ะปลุ ก คนอื่ น ให ตื่ น ต อ ไปอีก,
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ถาม : ฉะนั้น หนาที่ที่จะตองรีบทําที่สุดนั้นคืออะไร คุณประยูร ?
ตอบ : หนาที่ก็คือการปลุกตัวเราเองใหตื่นเสียกอน.
ถาม : หนาที่สําคัญ ที่สุด ที่ดวนที่สุด จําเป นที่สุด ก็คือการปลุกตัวเราเอง ใหตื่นเสียกอน. เดี๋ยวนี้คุณตื่นถึงขนาดที่ปลอดภัยแลวหรือยัง ? ตอบ : ยังไมรับประกันตัวเอง.
www.buddhadassa.in.th
การทําความเจริญงอกงามของศีลธรรม
๕๐๓
ถาม : คุณทอง ? ตอบ : ยังไมรูสึกวาจะปลอดภัยครับ. ถาม : เอา, คุณล้ํา ละ ? ตอบ : ยังไมปลอดภัย ครับ. ถาม : ทั้ง ๓ คน ยอมแพหมด ไมกลายืนยันวา “ขาพเจาเปนผูตื่นในลักษณะ ที่พอจะเรียกไดวาปลอดภัย”. คุณยังหวังวาจะทําผิด ทําอะไรอีกตอไป อยางนั้น หรือ ? คือ ไมป ลอดภัย นะ ยังหาชอ ง หาโอกาส หาอะไร เผื่อใหกลับไปอีกหรือ ? ตอบ : คื อการคิ ด ที่ จะทํ าผิ ด ต อ ไปไม คิ ดแล ว. แต ก ลั ววา สติ มั น จะตามไม คอยทันในบางครั้งบางคราวอยูบาง.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ก็เรียกวาตื่นไมทัน ความรูควรจะเพียงพอ เสียชั้นหนึ่งกอน จะได มีสัจจะที่แนลงไปวา เราไมอยากจะหลับ เราเกลียดความหลับ, เราตองการ จะตื่น. ทีนี้ ก็พยายามใหมันตื่น ใหทันเวลาที่ควรจะตื่น. ถาม : ถาตื่นอยูเสมอ ไมมีหลับอีกตอไป เขาเรียกวาอะไร ? ตอบ : พระอรหันต ครับ.
www.buddhadassa.in.th
การกลับมาแหงศีลธรรม
๕๐๔
พระอรหันตเปนผูตื่นอยูโดยสมบูรณ ; แลวเราไมกลาประกาศตัว เปนพระอรหันต จึงไมกลาบอก วาตื่นอยูในลักษณะที่ปลอดภัย. เรื่องนี้อยาไป ไดคิด โออ วดวา จะเปน พระอรหัน ต ก็พ อแลว . พยายามทํา ความตื่น ใหม าก ที ่ ส ุ ด ให เ ร็ ว ทั น แก เ วลาที ่ ส ุ ด ก็ แ ล ว กั น . นี ่ จ ะเรี ย กว า มี ศ รั ท ธาที ่ ตั ้ ง มั ่ น ที่มั่น คง ; เพราะวามีปญ ญา มีค วามตื่น มีส ติ มารวมกัน อยูที่ศ รัท ธาก็พ อ. อะไร ๆ มารวมอยูที่กําลังของศรัท ธา ; ศรัท ธาที่ถูก ตอ งแลวก็เดินไปในทางที่ ถูกตอง แลวมันก็ขยายตัวออกไป จนกวาจะถึงจุดที่มันจะถูกตองถึงที่สุด. [ตอไปนี้ มีขอความที่แสดงใหเห็นวามีศรัทธาในองคมรรค ]
ถาม : อริยมรรคมีองค ๘ มีอะไรบาง คุณทอง ? ตอบ : จําไมไดหมดครับ.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ถาม : คุณประยูร ?
ตอบ : ทางปญญามี ๒.
ถาม : วาไป, ที่วามีองค ๘ มีอะไรบาง ?
ตอบ : มี ๑. ความคิดเห็นชอบ ๒. ความดําริชอบ ๓. การงานชอบ. ถาม : นี่ก็จําไมไดหมดเหมือนกัน สับสนหมด, คุณ ล้ําละ มรรคมีองค ๘ ?
www.buddhadassa.in.th
การทําความเจริญงอกงามของศีลธรรม
๕๐๕
ตอบ : สัมมาทิฏฐิ ความเห็นชอบ ดําริชอบ วาจาชอบ. เอา, ถาอางบาลีก็วาใหเปนคูไปซิ...นี่ก็จําไมไดเหมือนกัน. นี่พิสูจน ว า ศรัท ธาในพระธรรมนี้ ยั งไม เพี ย งพอ ; ต อ งให ค ะแนนน อ ยหรือ ไม ให เลย. ศรัทธายังไมพอในพระพุทธศาสนา แมแตจะจําคํา ๘ คํา นี้ก็จําไมได : สัมมาทิฏฐิ
-ความเห็นชอบ,
สัมมาสังกัปโป -ดําริชอบ ; สัมมาวาจา
๒ อยางนี้เปนปญญา.
-วาจาชอบ,
สัมมากัมมันโต -การงานชอบ ; สัมมาอาชีโว
-อาชีวะชอบ ;
สัมมาวายาโม
-พากเพียรชอบ,
สัมมาสติ
-สติชอบ,
สัมมาสมาธิ
-สมาธิชอบ ;
๓ อยางนี้เปนศีล.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ๓ อยางนี้เปนสมาธิ.
ถาม : ถูกไหม ? แลวศรัทธาอยูที่ไหน ? ไมเห็นพูดถึงศรัทธาเลย ; มีพูดถึง ทิฎฐิ สังกัปปะ วาจา กัมมันตะ อาชีวะ วายามะ สติ สมาธิ. ทําไม ไมเห็นพูดถึงศรัทธาเลย ศรัทธาอยูที่ไหน ? ตอบ : ตอนนี้ศรัทธาอยูในปญญาครับ.
www.buddhadassa.in.th
๕๐๖
การกลับมาแหงศีลธรรม
เพราะวา ไดพ ูด ถึง ทิฏ ฐิ สัม มาทิฏ ฐิ หรือ ปญ ญาเสีย อยา งเต็ม ที่ แลว ; ไม ตองกลัวที่วาความเชื่อนั่นจะผิดได มั นก็คือ ปญ ญา เห็ นชอบนั่นแหละ มี ค วามหมายแห ง ความเชื่ อ เต็ ม เป ย มอยู นั้ น แล ว . ฉะนั้ น พุ ท ธบรษั ท อุ บ าสก อุบ าสิก า คนไหนก็ต าม อยา ไดเ ขา ใจผิด เรื่อ งนี้ ; เดี ๋ย วจะหาวา ในอริย มรรค มีองค ๘ นั้น ไมมีสิ่งที่เรียกวาศรัทธา แลวตองมาสอนใหศรัทธา ๆ ๆ กันอีก. นี่ก็ไมคัดคานกัน ศรัทธามีอยูแลวโดยสมบูรณ ในคําวา สัมมาทิฏฐิ ; ศรั ท ธานั้ น คื อ สั ม มาทิ ฏ ฐิ ในพระพุ ท ธศาสนา. สํ า หรั บ ศรั ท ธาในพระพุ ท ธ ศาสนาเปน อยา งนี ้. ศรัท ธาในศาสนาอื ่น เราไมรับ ผิด ชอบ คือ วา เราไมรับ รอง ไมย ืน ยัน ; ยืน ยัน แตเ ฉพาะในพระพุท ธศาสนาวา ศรัท ธานั ้น มัน รวมอยู ใ น สัม มาทิฏ ฐิ ; ก็เปน อัน วา ไวใ จได แลว เราไมข าดอะไร, เราไมม ีอ ะไรบกพรอ ง ที่จะประพฤติปฏิบัติ และเราก็จะเปนผูรู ผูตื่น ผูเบิกบาน. ทํ า อยา งไรจะใหม ีศ รัท ธาชนิด นี ้ หรือ มีส ัม มาทิฏ ฐิช นิด นี ้ ? ขอให ไปคิด ไปนึก , ชว ยกัน ไปคิด ไปนึก ไปปรึก ษาหารือ ; ไปปรับ ทุก ข ยิ ่ง กวา ไม มีข า วกิน ยิ ่ง กวา การไมรูห นัง สือ ยิ ่ง กวา ความเจ็บ ไข. อาตมาอยากจะพูด วา คนทั้ง โลกยัง หลับ อยู เพราะกัง วลแตวา ไมรูห นัง สือ เจ็บ ไข ประชาชนจะ ลน โลก ตอ งคุม กํ า เนิด . นี ่ไ มส นใจวา อะไรที ่จ ะชว ยมนุษ ยนี ้ใ หร อด. สัม มาทิฏ ฐิเทา นั้น ที ่จ ะชว ยใหร อด แลว จะมีขา วกิน , แลว จะรูห นัง สือ , แลว จะไมเจ็บ ไมไ ข. แมว า คนจะมีจํ า นวนมากก็ไ มเ ปน ไร เพราะถา มีแ ตค นดี มัน ตอ งชว ย กันได.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org
www.buddhadassa.in.th
การทําความเจริญงอกงามของศีลธรรม
๕๐๗
ฉะนั ้น ขอใหม ีส ัม มาทิฏ ฐิ ยถาภูต สัม มัป ปญ ญ า เปน เครื ่อ ง ชว ยแกป ญ หา ที ่กํ า ลัง กลัว กัน อยู ม าก ; แลว จะแกป ญ หาทางศีล ธรรม ใหมี ศีลธรรม ใหเปนอยูอยางสงบสุขได. นี ่เ รีย กวา รากฐานหรือ อุด มคติข องศีล ธรรม ๕ ประการ ซึ ่ง เราเคย วิพ ากยว ิจ ารณก ัน มาแลว . เดี ๋ย วนี ้ เราก็พ ูด ในแงที ่จ ะประยุก ต คือ ทํ า ใหม ัน มี ขึ ้น มาไดจ ริง ๆ. ขอใหเ อาไปคิด ไปนึก ไปปรึก ษาในเรื ่อ งนี ้ ใหยิ ่ง กวา ที ่จ ะมัว แต ป รึ ก ษา เรื่ อ งไม มี อ ะไรจะกิ น จะเจ็ บ จะไข จะไม รู ห นั ง สื อ เป น ต น นั้ น ไม ใ ช ป ญ หาเลย. ถ ามี สัม มาทิ ฏ ฐิ หรือ ศรัท ธาที่ เป น สั ม มาทิ ฏ ฐิ หรือ มี ยถาภู ต สัม มั ป ปญญาแลว ปญหาเหลานั้นจะหมดไป. ฉะนั้ น เราไม เห็ น ด ว ยกั บ รั ฐ บาลไหนก็ ต ามในโลกนี้ ที่ จ ะมั ว พู ด กั น แตเ รื ่อ งไมรู ห นัง สือ ไมม ีอ าหาร ไมม ีห ยูก ยา อะไรนี ่ เราไมเ ห็น ดว ย. เราจะ พู ด ใ น แ ง ที ่ ว า ทํ า ไม ไม ม ี ศ ี ล ธ ร ร ม , ทํ า ไม ไม ม ี ส ั ม ม า ทิ ฏ ฐิ ที ่ จ ะ ทํ า ใ ห มีศ ีล ธรรม. นี ่เ ราจึง เปน พุท ธบริษ ัท ที ่ย ืน ยัน ความเปน พุท ธบริษ ัท ยึด หลัก ของพระพุ ท ธเจ า ; ไม ไปหลงตามชาวบ า นที่ เห็ น แต เรื่อ งวั ต ถุ เรื่อ งปากเรื่ อ งท อ ง เรื่องทางฝายรางกายอยางเดียว โดยที่ไมรูวาเรื่องทางฝายรางกายนี้แกปญหาไดดวย สติปญญาของจิตใจ.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ขอใหพ ยายาม พัฒ นาจิต ใจ พยายามอบรมจิต ใจ ใหม ีค วามรู อัน เพีย งพอ จะแกป ญ หาเหลา นั ้น ได ; ฉะนั ้น อยา ไปตามกน พวกที ่ม อง เห็นแตปญหาทางวัตถุเลย ; แลวศีลธรรมก็จะกลับมา.
www.buddhadassa.in.th
๕๐๘
การกลับมาแหงศีลธรรม
นี่คือการทําความเจริญงอกงามใหแกศีลธรรม ; ในปญหาทีแรกก็คือ การประยุกตในสวนที่เปนรากฐานของศีลธรรมใหสมบูรณ. วันนี้เราพูดกันไดแต เพียงการจัดการสวนรากฐาน วันหลังเราจะพูดถึงการจัดการเกี่ยวกับสวนที่เปน ลําตน และสวนที่เปนดอกผลตอไป. เดี๋ยวนี้ก็เปนการสมควรแกเวลาแหงการ บรรยายในวันนี้.
ขอยุติไวเพียงเทานี้ ใหโอกาสพระคุณเจาทานจะไดสวดบทพระธรรม ที่เปนกําลังใจ เพื่อจะมีมาใชในการแกไขปญหาตาง ๆ ของพุทธบริษัทใหเพียง พอ.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org
www.buddhadassa.in.th
การกลับมาแหงศีลธรรม -๑๒๑๗ เมษายน ๒๕๑๙
การถอยหลังเขาคลอง [ ปญหาศีลธรรมในยุคปจจุบัน ]
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ทานสาธุชน ผูมีความสนใจในธรรม ทั้งหลาย,
ก า ร บ ร ร ย า ย ป ร ะ จํ า วั น เส า ร ใ น ภ า ค วิ ส า ข บู ช า ค รั ้ ง นี ้ เ ป น ครั้ง ที ่ ๑๒ ของการบรรยายโดยหัว ขอ ใหญที ่วา การกลับ มาแหง ศีล ธรรม ต อ ไปตามเดิ ม ; แต จ ะได ก ล า วโดยหั ว ข อ ย อ ยในวั น นี ้ ว า การถอยหลั ง เขาคลอง และก็เปนการบรรยายครั้งสุดทายของการบรรยายชุดนี้.
๕๐๙
www.buddhadassa.in.th
๕๑๐
การกลับมาแหงศีลธรรม
การบรรยายชุ ดนี้ มุ งหมายเพื่ อจะให เกิ ดความรูความเข าใจ จนสามารถ ปฏิบ ัต ิไ ด เพื ่อ การกลับ มาแหง ศีล ธรรม ; เราไดพ ูด กัน ในแงม ุม ตา ง ๆ เพื ่อ ใหรูจักวาศีลธรรมนั้นคืออะไร, เรายังขาดอยูในลักษณะอยางไร, ไดพิจารณากัน โดยรายละเอีย ดในทุก แงท ุก มุม แลว . ในครั้ง สุด ทา ยนี ้ก ็จ ะไดก ลา วถึง ลัก ษณะ ของการกลับมาแหงศีลธรรมโดยเฉพาะ. ในครั้ง ที ่แ ลว เราไดพ ูด กัน ถึง การทํ า ใหเกิด ความเจริญ งอกงามแก ต น ไม ศี ล ธรรม ในส วนรากฐานหรือ อุ ด มคติ กระทั่ งรูวาจะควรทํ าอย างไร, และ ยังคางอยูไมไดกลาวถึงสวนที่เปนลําตนซึ่งประกอบไปดวยเปลือก กระพี้และแกน รวมทั้งสวนยอดสุดของใบคือ ใบ ดอก และผล. ขอนี้หมายความวา เราจะตองพู ดกันอีกสักหนอย ถึงสิ่งที่เปนลําตน หรือตนลําของพฤกษาแหงศีลธรรม อันไดแก ศีล สมาธิ และปญญา, และใบ ดอก ผล คือ มรรค ผล นิพพาน ก็จะพูดกันไปในคราวเดียวกันวา จะตองทําใหกลับ มาอย า งไร ; และการที่ จ ะทํ า ให ก ลั บ มาในกรณี อย า งนี้ มั น ออกจะแปลก ประหลาด ในการที่จะใชคําวา ตองถอยหลังเขาคลอง.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org [วิธีการณ และความหมายแหงการถอยหลังเขาคลองไปถึงหนา ๕๓๕ ]
คํ า วา “ถอยหลัง เขา คลอง” นี ่ ตามปรกติเ ปน คํ า ที ่ม ีไ วสํ า หรับ ตํ า หนิต ิเ ตีย น และเปน สิ ่ง ที ่เ ขาถือ วา ไมค วรจะกระทํ า ; แตบ ัด นี ้อ าตมากลับ มาระบุ ล งไปว า เป น สิ่ ง จํ า เป น อย า งยิ่ ง . ถ า จะทํ า ให ศี ล ธรรมกลั บ มาในยุ ค นี้ ป จจุ บั นนี้ เราจะต อ งมี การกระทํ า ชนิ ด ที่ เ รี ย กว า ถ อ ย ห ลั งเข าค ล อ ง.
www.buddhadassa.in.th
การถอยหลังเขาคลอง
๕๑๑
ดัง นั ้น ในที ่ส ุด นี ้ อยากจะขอทํ า ความเขา ใจเกี ่ย วกับ คํ า วา “ถอยหลัง เขา คลอง” นี้ ให เป น ที่ แ จ ม แจ งกั น เสี ย ก อ นวามั น มี ค วามหมายอย างไรแน ? เป น ตั ว เสนียดจัญไร หรือวาเปนสิ่งที่จะนํามาซึ่งสวัสดีมงคล ? ขอใหชวยพิจารณาดู. ถาม : ขอตั้ งป ญ หาขึ้ น มา ในชั้น แรกนี้ วา คํ าวา “ถอยหลั งเขาคลอง” นั้ น มี ความหมายอย างไร ? หรือ เขาจะกระทํ าในเมื่ อ มั น มี ส ถานการณ อ ะไร เกิดขึ้น ? ขอถามวา ถอยหลังเขาคลอง คืออะไร คุณประยูร ? ตอบ : “ถอยหลังเขาคลอง” นั้น ถาเอาความหมายตามทางโลก ตามธรรมดา ปุถ ุช นที ่ใ ชก ัน เขาใชใ นทางที ่ไ มด ี ; หมายความวา ไปทํ า ในสิ ่ง ที่ เขาเลิก ทํ า กัน แลว ในสิ ่ง ที ่ไมถ ูก ตอ ง แลว ยอ นกลับ ไปทํ า ใหม เอาสิ ่ง ที่ไมดีกลับมาทําใหมอีก. ถาม : เราจะพูดใหเจาะจงกวานั้นวา ในกรณีเชนไร เราจึงมีการถอยหลังเขา คลอง ?
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ตอบ : ในเมื่อมันเดินผิดทางแลว จึงตองถอยหลังกลับมาเขาคลอง.
ถาม : พู ด ให ชั ด เป น ตั ว อย า ง เช น ว า เรื อ เล น อยู ใ นน้ํ า ในกรณี เช น ไรบ า ง ที่เรือลําหนึ่ง ๆ หรือเรือบางลํานั้นจะตองถอยหลังเขาคลอง ?
ตอบ : ในเมื่อเรือลํานั้นวิ่งหลงทาง ครับ, วิ่งหลบทางที่ไมใชทางที่ถูก ; แต มัน หลงไป พอรูส ึก วา มัน หลงแลว มัน ตอ งถอยกลับ มาหาทางเดิม จึงไปได.
www.buddhadassa.in.th
๕๑๒
การกลับมาแหงศีลธรรม
ถาม : ถอยหลังเขาคลอง คุณทองวาอยางไร ? ตัวอยางที่ชัด ๆ ไมตองสมมติ ก็ได ตัวอยางที่มันมีอยูจริง ที่มันตองถอยหลังเขาคลองนั้น เชนอะไร บาง ? ตอบ : เชนในการเดินเรือครับ ; เมื่อเห็นวา ฝนตั้งเคา หรือมรสุมมันตั้ง เคา ไมอาจที่จะแลนตอไปขางหนาได ; เพราะเหตุวา หากจะแลน ไปแลว จะตองโดนมรสุม เรือจึงตองถอยหลังเขาคลองครับ. ถาม : นี้เปนการทําถูกหรือทําผิด ? ตอบ : ในกรณีนี้ทําถูกครับ. ถาม : คุณล้ํา มีเรื่องอยางไรอีก ที่ตองถอยหลังเขาคลอง ?
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ตอบ : การถอยหลั ง เข า คลอง ในที่ นี้ ก็ ห มายถึ ง การเดิ น ผิ ด ทางในทุ ก แง ทุกมุม เกี่ยวกับการปฏิบัติระบบศีลธรรม.
ถาม : ยังไมพูดถึงการปฏิบัติ. ถอยหลังเขาคลองดวยเรือในน้ําจริง ๆ ไมพูดถึง การปฏิบัติ. ในกรณีอยางไรอีกที่จะตองถอยหลังเขาคลอง ?
ตอบ : หมายถึงการเดินทางไปในทางที่จะเกิดอันตรายแลวมีวิกฤติการณตาง ๆ เรือ ลํา นั้น จวนจะอัป ปางแลว ถา เดิน ไปก็อ ัป ปางแน จึง ถอยหลัง เขาคลองครับ.
www.buddhadassa.in.th
การถอยหลังเขาคลอง
๕๑๓
ถาม : ก็คลาย ๆ กับที่คุณทองวา เห็นวา เคาไมดีแลวมันก็ตองถอยหลัง เขาคลอง ยังมีอะไรอีก ? คุณประยูรวาอีก ในกรณีที่เรือจริง ๆ จะตอง ถอยหลังเขาคลอง ไมไดยกตัวอยางนอกไปจากที่มันมีอยูจริง ? ตอบ : ในกรณีที่เรือโดนพายุแลวไปเกยตื้น ไปไมได ก็ตองถอยหลังเขาคลอง. ถาม : จะโดนพายุหรือไมโดนพายุ ถามันไปเกิดเกยตื้นแลว มันก็ถอยหลังลง คลอง ลงรอ งลึก นี ้. หมายความวา เรือ ลํ า นั ้น ดว ยเหตุอ ะไรก็ต าม มั น ป น ขึ้ น ไปจากรอ งน้ํ า ไปอยู บ นตื้ น ; ไปไม ได มั น ต อ งถอยหลั งเข า คลอง. กรณีอยางนี้เรียกวา ทําถูกหรือผิด ? ตอบ : อยางนี้ถูกครับ. ถาม : เอา, มีอยางไหนอีก การถอยหลังเขาคลอง ? อยากจะขอพูดบาง สัก ตัวอยางหนึ่งเชน รบกัน ออกเรือไปเพื่อจะรบกัน เห็นวาสูไมได แลว ก็ถ อยหลัง เขา คลองกลับ บา น ; นี ้ก ็เ รีย กวา ถอยหลัง เขา คลอง, อยางนี้เปนกรณีที่ทําถูกหรือทําผิด คุณประยูรวาถูกหรือผิด ?
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ตอบ : อยูที่วาไปรบกันเรื่องอะไร.
ถาม : ไปรบด วยเรื่อ งอะไรก็ ต ามใจ ออกจากคลองไปรบกั น แล วเราเห็ น วา สูไมได แลวเราก็ถอยหนี หนีเขาคลองกลับเขาคลองนี่ มันเปนการทําถูก หรือทําผิด ?
www.buddhadassa.in.th
การกลับมาแหงศีลธรรม
๕๑๔
ตอบ : ถาพูดถึงวา การที่รบกันนั้น มันไมใชเรื่องที่จําเปนที่จะตองรบ แลว เราหนีก ลับ เขา มาเขา คลอง ถูก ครับ ; แตว า ถา การรบนั ้น เปน เรื่องที่เราจําเปนจะตองเอาชนะ มันไมถูก. ถาม : คุณทองละ ถูกหรือผิด เห็นวาสูไมไดแน ? ตอบ : ยังเปนการถูกตองอยูครับ เชนวาเรากลับมาเพื่อจะเตรียมสะสมใหม คือถอยหลังตั้งหลักใหมครับ. ถาม : สุ ด แท แ หละ, แต มั น ก็ ถ อยหลั งก็ แ ล ว กั น . คุ ณ ล้ํ า ล ะ ว าถู ก หรือ ผิ ด กรณีที่เห็นวาสูไมไดแลวถอยหลังเขาคลอง ? ตอบ : ถาสูไมได แลวถอยหลังเขาคลอง ผมวาไมควรนะครับ.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ถาม : ไมควรถอย ทําอยางไร เห็นวาสูไมไดอยูแท ๆ ไมควรถอยทําอยางไร วาไป ?
ตอบ : ตองเอาแพ เอาชนะกัน.
นั้นเปนความเห็นสวนตัว. เอาละ, นี่ก็เปนเรื่องที่จะพอมองเห็นกัน อยูทั้งนั้น วาเราออกมาจากคลองจะเดินทางไปในทะเล เห็นวาพายุมันตั้งขึ้นมา เปนอันตรายแน เราถอยหลังเขาคลองเสีย ไปรออยูกอน นี่มันก็ถูก. หรือวา ออกปากน้ําบางแหงรองน้ํามันสับสน มันไปเกยตื้น ; เราก็ตองถอยหลังลงมา หาคลอง. การถอยหลั งลงคลองนี้ ก็ ถู ก แน ; แล วในกรณี ที่ จ ะออกไปรบกั น
www.buddhadassa.in.th
การถอยหลังเขาคลอง
๕๑๕
ทางทะเล เพื่อปองกันบานเมือง เห็นวาสูไมไดก็ถอยหลังเขาคลองเสีย ปลอดภัย ไวกอน มันก็เปนการทําที่ถูกตอง. ถาม : ทีนี้ ยกตัวอยางการถอยหลังเขาคลอง ที่ไมถูกตอง ที่ควรตําหนิ มันคือ อยางไร ? มันคืออยางไรเขาจึงเกลียดชังกันนักหนาวา ถอยหลังเขาคลอง นี่มันใชไมได. มันเชนในกรณีอยางไร คุณทอง ? ตอบ : กระผมไดยินคําเหลานี้ มาจากการที่ผูใหญติเตียนลูกหลาน หรือ เด็ ก ๆ ก็คื อ การทํ างานนั้ น ทุ ก คนหวังที่ จะก าวหน า คื อ ทํ าให ดี ยิ่งขึ้น ๆ ; แตถ า เมื ่อ ทํ า เลวลงแลว ผู ใ หญม ัก จะติง วา ทํ า แลว ไมเ ห็น ดีขึ ้น คือ เปรีย บกับ การถอยหลัง เขา คลอง. ผมไดย ิน คํ า นี ้ม าตั ้ง แตเ ด็ก ๆ คือ ติเตียนอยางนี้ ครับ. ถาม : เอา, การถอยหลังเขาคลองชนิดไหนละ ที่มันไมดี ?
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ตอบ : ในกรณีเชนนี้ คือทําแลวไมดีกวาเดิม.
อันนี้ มั น เป นการทํ างานไปแล ว. เราหมายถึงการถอยหลังดวยเรือ ใน น้ํ า แล ว เข า คลองจริง ๆ ในกรณี อ ย างไร ที่ ว า มั น ไม ดี มั น ใช ไม ได มั น ควรถู ก ติ . อยางที่คุณ วานี้ บางทีไปเอาคําเขามาใชผิดก็ได คือ คําวา “ถอยหลังเขาคลอง”. นี้ เป น คํ าที่ ถู ก ต อ ง ; สอนไปในความหมายที่ ถู ก ต อ งวา ให ถ อยหลั งเข าคลอง จึ ง จะถูกตอง แลวไปยืมคํานี้มาใชอยางผิด ๆ จึงไดเกิดคําพูดอยางนั้นขึ้นมา ; นี่มันก็ มีทางที่จะเปนไปได ; ฉะนั้น ยังไมเปนตัวอยางที่แสดงวา การถอยหลังเขาคลอง แลวมันผิด.
www.buddhadassa.in.th
๕๑๖
การกลับมาแหงศีลธรรม
ถาม : คุณประยูรยกตัวอยางวาเรือถอยหลังเขาคลอง มันผิดอยางไร ในกรณี อยางไร ? ตอบ : เกี่ย วกับ เรือ คือ ตามปรกติ เรือ มัน ตอ งเดิน หนา . ทีนี้ก ารที่จ ะเดิน ถอยหลัง ถือวาเปนการกระทําที่ไมถูกตอง คือมันคงจะรุมรามหรือวา ไมสะดวก อะไรแบบนั้นแหละครับ ในแงของเรือ. ถาม : มันจะมีไดหรือ มันจะเปนไปไดหรือที่ใครมันจะแจวเรือถอยหลัง หรือ วาเรือมันถอยหลังเขาคลอง ในเมื่อ มันไมมีเหตุผ ลสมควร ใครจะ ถอยหลังเขาคลอง ? ตอบ :ที่ผมเคยเห็นถอยหลังไป มีครับ ; เกี่ยวกับน้ําเชี่ยว ๆ ที่น้ําเชี่ยวจริง ๆ แลวถาจะลงตามน้ํามันจะแรงเกินไป และชนกอนหิน เลยตองถอยหลัง โดยใชเครื่องคุมอัตราเร็วของเรือคอย ๆ พยุงไวใหเรือคอย ๆ ถอยลงมา.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ถาม : อย า งนี้ มั น ไม ใ ช ถ อยหลั ง เข า คลอง มั น ถอยหลั ง ออกปากอ า วนี่ . ไมถูก ไมใชเรื่องนี้. คุณล้ําวาอยางไร ?
ตอบ : ผมขอสมมติเ ปน เรือ ลํา หนึ ่ง ก็ม ีเ จา ของเปน คนเกง มีสิน คา เต็ม ลําแลว จะไปคาโดยมีกําไรอยางสวยงาม. แตพอดีหวนคิดถึงความ สนุกสนานทางบาน คิดถึงการเพลิดเพลินทางบาน เปนตนวาเกี่ยว กับผูหญิงหรืออะไรสักอยางหนึ่ง เหนี่ยวรั้งจิตใจ จนทําใหไปไมได จึงถอยหลังเขาคลอง ทําใหของนั้นเสียหาย. ตอนนี้ทําใหตองถอย หลังเขาคลอง ดวยการเห็นแกประโยชนเกี่ยวกับตัณหาราคะ. นี้เปน ต น เหตุ อ ย างหนึ่ ง และเกี่ ยวกั บ ความสนุ ก สนานเพลิ ด เพลิ น ด วย
www.buddhadassa.in.th
การถอยหลังเขาคลอง
๕๑๗
อายตนะที ่เราตอ งการ จึง ไดทิ ้ง สิ ่ง ของโดยการถอยหลัง เขา คลอง นี ้ก็ มีครับ. ถาม : ตัวอยางนี้มันเปนเรื่องของการเลิกลมความตั้งใจ ที่จะทําการคา เพราะ ว า ความคิ ด เลว ๆ มั น เกิ ด ขึ้ น ครอบงํ า ; นี่ เป น ใจความสํ า คั ญ . ไม มี ความหมายของคําวา ถอยหลังเขาคลองโดยสมบูรณ. ตอบ : อีกอันหนึ่งก็มันไปไมรอดจริง ๆ อยางที่วา ลมก็จัดแรง... อย า งนั้ น มั น ก็ ถู ก เสี ย อี ก , มั น เป น เรื่ อ งถู ก เสี ย อี ก . อยากจะเห็ น ว า อยางไรที่เรียกวาถอยหลังเขาคลองแลวมันเปนการผิด. ถาคุณหาตัวอยางมาไมได ก็ตองเปนอันวา จะขอยุตติไวทีหนึ่งกอน วา การถอยหลังเขาคลองนี้ไมมีทาง ผิ ด ไม ใชสิ่งที่ น ารังเกีย จ เป น คํ าพู ดที่ มี อ ยูสําหรับ เตื อ น สํ าหรับ แนะนํ าให แกไข ใหม ัน ถูก ตอ ง. ฉะนั ้น คํ า นี ้ค วรจะถือ วา ลว นแตนํ า มาซึ ่ง ผลดี ไมไ ดนํ า มาซึ ่ง ผลราย เป นสิ่ งที่ ควรถือ ปฏิ บั ติ ให ถูกแกกรณี นั้น ๆ แลวทํ าไมคนจึงพากันเกลีย ด คําวา “ถอยหลังเขาคลอง”. ถามิใชเพราะเอาคํานี้มาตีความกันผิด ๆ มันก็ตองมี ความหมายอย า งอื่ น แล ว เราก็ ยั ง หาไม ได ; ให ห าก็ ห ามาไม ได ก็ ต อ งยุ ติ ไว ว า เปนสิ่งที่ควรกระทํา มองดูในแงที่มันควรกระทํา.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org สรุป ย้ํา อีก ครั้ง หนึ่งวา เชน วา ออกมาปากคลอง เห็นพายุตั้งขึ้น มา ก็ ต อ งถอยหลั งเข าคลอง, หรือ ว า ออกมาติ ด เกยตื้ น เพราะเดิ น ผิ ด คลองก็ ต อ ง ถอยหลัง เขา คลอง, หรือ ออกมาเห็น วา จะพา ยแกขา ศึก ในกรณีอ ยา งนี ้ใ นวัน นี้ ก็ตองถอยหลังเขาคลอง.
www.buddhadassa.in.th
๕๑๘
การกลับมาแหงศีลธรรม
ถาม : สรุปความไดวา คําวา “ถอยหลังเขาคลอง”นี้ เปนเพียงการแกไข ระยะสั้นระยะหนึ่งเทา นั้น ; ไมใชเปนหลักปฏิบัติที่จะตองปฏิบัติ เรื่อยไปอยางไมมีจุดจบ คือเปนเพียงขอปฏิบัติที่จะตองนํามาใชในคราว คับ ขัน ชั่วเวลาหนึ่ งเท านั้ น . ถูก ไหมคุ ณ ทอง ? ไม ใช ขอ ปฏิ บั ติ ที่ จ ะ ใชตลอดไป. ตอบ : ครับ ถูกครับ. ถาม : ไมใชขอปฏิบัติที่จะใชตลอดไป ดังนั้นจึงเปนการถูกตอง. เดี๋ยวนี้มนุษย ในโลกนี้ หรือวาประเทศไทยเราก็ตาม เรียกไดวาอยูในภาวะคับขัน หรือยัง คุณประยูร ? ตอบ : สภาวะเดี๋ยวนี่ จัดวาอยูในภาวะที่คับขันแลว.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ทุกคนควรจะรูสึกอยางนั้นวาอยูในภาวะที่คับขัน หรือวาเกือบจะดับ ขันก็ตาม ลวนแตตองแกไขทั้งนั้น. นี่หมายถึงภาวะทางศีลธรรมที่มันเสื่อมทราม ลง เสื่อ มทรามลง ; เพราะมัน เดิน ไปผิด ทาง คือ ผิด ครรลองของศีล ธรรม อุปมาเหมือนกับอะไรดี ใน ๓ อยางที่เราออกนามมาแลว.
ถาม : ภาวะคั บ ขั น ทางศี ล ธรรม ของประเทศไทย เรานี้ จะเปรี ย บกั บ อุปมาอันไหนดี ใน ๓ อยางนั้น ? ตอบ : ตองเปรียบกับเรือจะออกแลวมันมีมรสุมตั้งเคา ครับ.
www.buddhadassa.in.th
การถอยหลังเขาคลอง
๕๑๙
ถาม : คุณประยูรละ เปรียบกันอันไหนดี ? ตอบ : ตอนนี้ผมเปรียบวา มันเกยตื้นไปไมได. ถาม : เอา, คุณล้ํา ละ ? ตอบ : ผมวาทั้งเกยตื้น และพายุมันกําลังพัดมาแลว. เอ า, ลงคลองกั นที . เพราะว าข าศึ กมา เราต อ ง “ถอยหลั งเข าคลอง” ; มัน ก็พ อจะมองเห็น ได ; คํ า วา ขา ศึก ไมจํ า เปน ตอ งเปน บุค คล หรือ เปน เรื ่อ ง ทางวัต ถุเสมอไป ; เปน เรื ่อ งทางจิต ใจก็ไ ด. ขา ศึก คือ กิเ ลส คือ ความวิน าศนะ มัน กํ า ลัง มาแลว เราจะตอ งเตรีย มสู ใ หด ี. “ถอยหลัง เขา คลอง” หมายความ วา เตรียมตอสูใหดี ; ควรจะมองเห็นในแงนี้ ดวยกันได.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ถาจะถือวาคอมมิวนิสตเป นขาศึก เราจะพ ายแพ แกคอมมิวนิสต เพราะ วาเราเตรียมตอสูไมดี ; ฉะนั้นเราก็ถอยหลังเขาคลองเพื่อจะเปนคอมมิวนิสตที่เหนือ กวา แลวเราก็จะชนะคอมมิวนิสตธรรมดาได. นี่เปนความเห็นของอาตมา. อยากจะฝากไวด วย ว าถ า จะป อ งกั น ต อ สู กั บ คอมมิ วนิ ส ต ก็ ต อ งเป น คอมมิว นิส ต ที ่ด ีก วา , หรือ ถา มีภ ัย จากสัง คมนิย ม เราก็จ ะเปน สัง คมนิย มที่ เหนือ กวา ที ่ม ัน ดีก วา เราก็ช นะได, หรือ แมแ ตป ระชาธิป ไตย ถา มัน เลวรา ย เปน ประชาธิป ไตยที ่เ ลวทราม อยา งที ่เ ห็น ๆ อยู เราก็ต อ งเปน ประชาธิป ไตย ที่เหนือกวา ที่ถูกกวา เราก็จะเอาชนะได.
www.buddhadassa.in.th
การกลับมาแหงศีลธรรม
๕๒๐
เพ ราะ ฉ ะ นั ้น ส รุป ค วา ม ไดว า ตอ งเปน ช นิด ที ่ถ ูก ก วา ดีก วา เหนือ กวา จึง จะเอาชนะได ; ฉะนั ้น การถอยหลัง เขา คลองนี ่ ก็เ พื ่อ จะ เตรียมตั วให มั นถู กต อง ให มั นดี กวา เหนื อกว า สํ าหรับเผชิ ญ หน ากั บข าศึ ก, หรือ การปรั บ ปรุ ง เสี ย ใหม ให มั น ลงคลอง ลงร อ ง ลงรอย ในเมื่ อ มั น มี ก ารเดิ น ผิ ด คลองจนเกยตื้น. รวมความแล ว ก็ เห็ น ว า มั น เป น การกระทํ า ที่ ถู ก ต อ ง, การถอยหลั ง เข า คลองนี ้ เป น การกระทํ า ที ่ ถ ู ก ต อ ง ; ฉะนั ้ น ควรจะนํ า มาใช ไ ด . เป น อั น ยุ ติ กั น ที ว า เรายอมรั บ ว า จะใช วิ ธี “การถอยหลั ง เข า คลอง” แห ง ความถู ก ตอ งกัน เสีย ใหม ; หลัง จากที ่เ ดิน มาผิด ทางก็ด ี, เดิน มาอยา งไมเ หมาะสมก็ด ี, เดิน มาอยา งไมพ รัก พรอ มก็ด ี, หรือ วา ทํ า อะไรผิด พลาดไป ลว นแตม ีท างที่ จะเสีย เปรีย บ ก็ดี ; ถอยหลัง เขา คลองมาเพื ่อ ปรับ ปรุง ใหถูก ตอ งกัน เสีย ใหม แลวจึงจะออกตอไป.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ....
....
....
....
ภาวะศีล ธรรมในประเทศไทยเรา เรีย กวา เสื ่อ มทราม มี อาชญากรรมมากขึ ้น ; ถา ขืน เปน อยู ใ นระดับ นี ้ จะตอ งวิน าศเปน แนน อน. เพื ่อ จะปอ งกัน อัน ตรายนี ้ แกไ ข หรือ วา ระงับ อะไรก็ต าม จะตอ งมีก าร กระทําใหมัน ถูก ตอ ง ในทางศีล ธรรม เรีย กวา ตอ งมีก ารถอยหลังเขาคลองใน ทางศีล ธรรม ; กลับ ไปมีศ ีล ธรรมที ่ถ ูก ตอ ง. นี ่เ รีย กวา เปน เหตุผ ลอยู ใ นตัว แลว มีเหตุผลชัดเจนอยูแลว ; วาเราจะตองถอยหลังเขาคลองอยางหลีกเลี่ยงไมได.
www.buddhadassa.in.th
การถอยหลังเขาคลอง
๕๒๑
อย า งเรื อ เกยตื้ น แล ว ต อ งถอยหลั ง ให ล งคลอง แล ว ค อ ยเดิ น ต อ ไป มั น ก็ จ ะมี ค วามถู ก ต อ ง คื อ มี ก ารกลั บ มาแห ง ศี ล ธรรม ก็ ป ลอดภั ย ได ; เพราะ ฉะนั ้น เราพูด ไดเ ลยวา การกลับ มาแหง ศีล ธรรม คือ การถอยหลัง เขา คลอง. นี่ พู ด เฉพาะกาล เฉพาะเหตุ ที่ มี อ ยู จริงสํ าหรับ พวกเราเวลานี้ หรือ วาทั้ งโลกก็ ได ; แตคงไมมีใครฟง. เราทา ทาย ที ่จ ะพูด วา ทั ้ง โลกก็ไ ด อยู ใ นฐานะที ่จ ะตอ งมีก าร กลับ มาแหง ศีล ธรรม ในลัก ษณะที ่ถ อยหลัง เขา คลอง ; เพราะเราถือ วา แต กอ นนู น เราเคยอยู ใ น คลอง มีศ ีล ธรรม ; โดยเฉ พ าะอยา งยิ ่ง ลว น แต เปน ผู เ ครง ครัด ในศาสนา, หรือ ในวัฒ นธรรม เปน ตน อยู ด ว ยกัน ทุก ชาติ ทุ ก ภาษา ทุ ก มุ ม โลก ; นั บ ตั้ ง แต ค นป า กระทั่ ง ว า คนที่ มั น เจริญ ถึ ง ที่ สุ ด เคยอยู ในคลองของศี ล ธรรม, ถือ ศาสนา เกลีย ดบาปกลัวบาป รักบุ ญ มี จิต ใจประกอบ ไปดว ยธรรม ในยุค หนึ ่ง สมัย หนึ ่ง ; มัน เพิ ่ง มาเปลี ่ย นแปลงในสมัย ที ่ว ัต ถุก า ว หน า สรางความเอร็ดอรอยแก อายตนะมากเกิ นไป จนเกิ น จนเฟ อ จนมนุ ษ ย ลื ม ตัวไป หันไปบูชาวัตถุ ความเอร็ดอรอยทางวัตถุโดยไมคํานึงถึงศีลธรรม.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ศี ลธรรมนี้ เพิ่ งเสี ยไป เพิ่ งเสื่ อมทรามไป เมื่ อวัตถุ นิ ยมเขามา, หรือเมื่ อ มนุ ษ ย เริ่ม เดิ น ออกนอกคลองของศี ล ธรรม มั ว ไปหลงในเรื่อ งของวั ต ถุ นิ ย ม. สรุป ความไดวา มันเคยถูก เคยอยูกันอยางสงบนะ, แลวคอย ๆ ผิด คอย ๆ ผิด คอย ๆ ผิด มากขึ ้น จนผิด เหลือ ที ่จ ะทนได ฉะนั ้น จึง ตอ งถอยหลัง เขา คลอง ; จึง มองไม เห็ น ว า น า ตํ า หนิ ติ เตี ย น หรื อ น า รั ง เกี ย จที่ ต รงไหน สํ า หรั บ คํ า ว า “ถอย หลังเขาคลอง”. ....
....
....
....
www.buddhadassa.in.th
๕๒๒
การกลับมาแหงศีลธรรม
ถาม : ทีนี ้ ดูทั ่ว ๆ ไป เปน หลัก สํ า หรับ สัง เกตครา ว ๆ วา อะไรที ่ทํ า ใหเ ดิน ไป ผิด ไกลออกไปทุก ที จนอยู ใ นลัก ษณะที ่ว า มัน ควรจะเปลี ่ย น หรือ ถอยหลัง กลับ มา ? ในอุป มาของเราเกี ่ย วกับ ตน ไมท างศีล ธรรม เราแบง ตน ไมเ ปน ชั ้น รากฐาน ชั ้น ลํ า ตน และชั ้น สุด ยอด. ชั ้น ราก ฐานเรารวมเรี ย กว า อะไร ? คุ ณ ทองนึ ก ได ห รื อ เปล า ที่ เป น ชั้ น รากฐาน ของตนไม เราเรียกวาอะไร ? ตอบ : อุดมคติ ครับ. ถาม : เรี ย ก อุ ด มคติ ถู ก ต อ ง ที่ เป น รากฐานของต น ไม . ที่ เป น ต น เป น ลํ า ของตนไมเราเรียกวา อะไร ? ตอบ : การปฏิบัติที่ถูกตอง.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ถาม : การปฏิ บั ติ ที่ ถู กต อ ง หรือ สุปฏิ ป ตติ. แลวพอถึงปลายยอดของมัน สุด ยอดของมันเราเรียกวาอะไร ?
ตอบ : สันติภาพ ครับ.
สัน ติส ุข หรือ สัน ติภ าพ ในฐานะเปน ยอดสุด ของตน ไม. นี ่แ สดง วา คุณ ทองเขา ใจ และจับ ฉวยไดเ กง . ขอใหท ุก ๆ คนย้ํ า หัว ขอ นี ้ไ วใ หแ มน ยํ า ว า ต น ไม ท างศี ล ธรรม ขอ งเรา มี ร ากเป น อุ ด มคติ ถ ู ก ต อ ง, มี ต น ลํ า เป น สุ ป ฏิ ป ต ติ ป ฏิ บั ติ ถู กต อ ง, มี ป ล าย ย อ ด เป น สั น ติ สุ ข ห รื อ สั น ติ ภ าพ .
www.buddhadassa.in.th
การถอยหลังเขาคลอง
๕๒๓
นี้ มั น เนื่ อ งกั น มาถึ ง เหตุ ก ารณ ที่ กํ า ลั ง เป น อยู ขอให ค อยฟ ง ให ดี เมื่ อ อาตมาจะกลา ววา เรามีอ ุด มคติที ่ถ ูก ตอ งเปน รา ก็ห มายความวา เรามีสิ ่ง ที่ เขาเรียกกันอยางสมัยใหม คําพูดสมัยใหม ปจจุบันนี้วา “คานิยม”. ประการที่ ๑. เราตองมีคานิยมที่ถูกตอง ; หมายความวา ที่เรา ทํ า ไปทั้ งหมดนั้ น เราต อ งการอะไรเป น ความถู ก ต อ ง. ถ า มั น เป น เรื่อ งวั ต ถุ “ค า นิยม” ของมันก็คือประโยชนที่จะไดจากวัตถุนั้น แตมันมิไดถูกเสมอไป ; ถามันเปน ไปเพื่อกิเลส มันก็ตองเปนคานิยมที่ผิด ; อยางวาจะมีเครื่องใชไมสอย ที่ดีที่แพง ที่ป ระดิ ษ ฐขึ้น ใหม , แต ใชไปในทางที่ ทํ าสัต วให มึ น เมา ให โง ให หลง จนกระทั่ ง เสื่อมเสียศีลธรรม ก็ตองเรียกวา เรามีคานิยมที่ตั้งไวผิด คือเอาเอร็ดอรอยทางเนื้อ ทางหนังเปนคานิยม ; ไมเอาความสงบสุข สันติสุข สันติภาพ วาเปนคานิยม. เหมื อ นกั บ ซื้ อ เครื่ อ งบั น ทึ ก เสี ย งมาเล น เพลง อย า งนี้ , เพราะค า นิย มของคนโง จึง ซื ้อ เครื ่อ งบัน ทึก เสีย งมาเลน เพลง ; แตเ ขาก็ไ มย อมรับ วา อยางนั้น เขาถือวา มันถูก เพราะสตางคของเขา ; เขาก็ซื้อ สิ่งที่แพง ๆ เหลานั้ น มาเล น เพลง และก็ เพลงเลว ๆ ด ว ย. เราอยู ที่ วั ด นี้ จะใช เ ครื่ อ งบั น ทึ ก เสี ย ง สํ า หรับ ทํ างาน ที่ เป น การอบรมสั่ ง สอน เผยแผ อ ย างถู ก ต อ ง ; อย างนี้ ก็ เรีย กว า มันมีคานิยมตางกันมาก.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org หรือ จะเอาที เดี ย วหมดเลยว า ชี วิ ต ของเรานี้ เกิ ด มาทํ า ไม ? ควรจะ ไดอ ะไร, หรือ เพื ่อ อะไร ? เราวาดคา นิย มของการเกิด มา ไวอ ยา งถูก ตอ ง หรืออยางผิดพลาด, หรือวามันต่ําเกินไป มันไมสูงถึงขนาดที่ควรจะสูง. สมัยหนึ่ง เขาเคยมีคานิยมอยางหนึ่งในสิ่งนั้น ๆ ที่เขามี ตอมาถึงสมัยนี้ มันก็ไดเปลี่ยนไป
www.buddhadassa.in.th
๕๒๔
การกลับมาแหงศีลธรรม
เปนอยางอื่น จนถึงกับจะเรียกวา ตรงกันขามเอาเสียทีเดียว. ฉะนั้น การวางคา นิ ย มอย า งผิ ด ๆ กํา หนดกั น อย า งผิ ด ๆ นี ้ ก็ เ ป น ประการหนึ ่ ง ที ่ จ ะต อ ง ถอยหลังเขาคลอง. ไปศึกษาใหรูดีรูชั่ว รูผิดรูถูก รูจักสุขทุกขอยางถูกตองตามกฎเกณฑ ของธรรมชาติ แลวก็จึงจะสามารถกําหนดคานิยมของอะไร ๆ ไดอยางถูกตอง. ถาม : คําวา ถูกตอง นี้เอาอะไรเปนเครื่องวัด เอาอะไรเปนหลัก แลวตัดสิน วาถูกตอง คุณทอง ? ตอบ : เอาความปรกติเปนหลัก ครับ. ถาม : ขยายความของคําวา ปรกติ ออกไปใหคนเขาฟงงายสักหนอย.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ตอบ : คือทุกอยางจะไมกอความเดือดรอน ใหแกตนเองและผูอื่น.
นั่น แหละ ถูก พอแลว อยาพูดมาก ; เทานั้น พอแลว เมื่อ ตนเอง และผูอื่นไมเดือดรอนก็พอแลว. อยาพูดใหมันหลายคําไป มันจะจํายาก. ความ ถูกตองมันอยูที่ไมทําใหใครเดือดรอน, หรือถาจะพูดอีกทีหนึ่ง ก็วา มันไมทํา ให เ กิ ด ป ญ หาขึ้ น มา นั ่ น แหละคื อ ถู ก ต อ ง. ฉะนั ้ น ถ า เรารู จั ก จั ด รู จ ั ก ทํ า สิ ่ง ตา ง ๆ ใหม ีค า นิย มไปในทางจะตัด ปญ หา คือ ความยุ ง ยากลํ า บาก เดื อ ดร อ น ระส่ํ า ระสาย ของมนุ ษ ย ใ ห ห มดไป ให ห ั น มานิ ย มสั น ติ ส ุ ข หรื อ สั น ติ ภ าพ ; นั่ น แหละ เป น ยอดสุ ด ของธรรมะอย า งสมั ย โบราณ ที่เคยเครงครัดในทางศาสนา.
www.buddhadassa.in.th
การถอยหลังเขาคลอง
๕๒๕
เดี๋ยวนี้ เขาไปนิยมเอาเรื่องสวยงาน สนุกสนาน เอร็ดอรอย ยิ่งตาม ใจกิเ ลสไดเ ทา ไรยิ ่ง ดี ; ยิ ่ง สง เสริม ใหเ ขามีก ิเ ลสมาก เขาก็รูส ึก อรอ ยมาก. เขาไปรูวานี่ตองการอยางนี้ นี่คือสิ่งที่ควรจะถูกตอง, อันนี้คือสิ่งที่ควรจะถือ วา ถูก ตอ ง. เรื่อ งอาหารการกิน ก็ดี เรื่อ งเครื่อ งนุง หม ก็ดี ที่อ ยูอ าศัย ก็ดี หยูก ยา ก็ดี, ปจจัยสี่ที่จําเปนมันเปลี่ยนคานิยม ไปเปนเรื่องของการสงเสริมกิเลสเสียหมด ; เรียกวา มีอุดมคติผิด หรือจะเรียกวา มีคานิยมที่ผิด. เมื่ อ อุ ด มการณ มั น ผิ ด ก็ มิ ใช อุ ด มคติ ไม ค วรจะเรีย กว า อุ ด มคติ ; เพราะเราถือกันวา อุดมคติแลวตองถูกตอง. แตถาถือวา อุดมคติผิดได ก็ตอง เปลี่ยนวาใหมันมาเปนอุดมคติที่ถูกตอง ; เมื่อคานิยมมันทําไปดวยความโงเขลา เบาปญญา ก็ตองเปลี่ยนมาใหมันมีคานิยมที่ถูกตอง คือไมทําใหปญญาเกิดขึ้น. ถาม : นี่เปนการถูกตองตามอะไร คุณ ทอง ? ตามกฎตามเกณฑ ตามหลัก ของอะไร ?
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ตอบ : ตามกฎของธรรมชาติ ครับ.
ถ า เราพู ด อย า งนี้ เขาหั ว เราะนา ; แต ว า มั น เป น การถู ก ต อ งที่ สุ ด . ความถู ก ต อ งนี ้ ต อ งถู ก ต อ งตามกฎเกณฑ ข องธรรมชาติ ฝ น ธรรมชาติ ไปไมได. ถา เราจะสรา งสัน ติส ุข สัน ติภ าพ มัน ตอ งถูก ตอ งตามกฎเกณฑข อง ธรรมชาติ ; แตเดี ๋ย วนี ้เราใชคํ า พูด มัน ผิด กัน ตา งกัน . บางคนเขาหัว เราะวา ตามธรรมชาติก็คือไมมีสติปญ ญาอะไรเลย ; ไมรูวา ตามธรรมชาตินั่นแหละคือ
www.buddhadassa.in.th
การกลับมาแหงศีลธรรม
๕๒๖
สติปญ ญา ตายตัว สูง สุด แกไ ขไมไ ด, คือ ถูก ตอ งตามกฎของธรรมชาติ ที่จะทําใหเกิดสันติสุข หรือสันติภาพขึ้นมา. ทีนี้ คนเดี๋ยวนี้ เขาไมเอาถูกตองตามกฎเกณฑ อันนี้ ; เขาเอาถูก ตองตามกิเลสของเขาเทานั้น, เขาจะมีความเอร็ดอรอยทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ไดอ ยา งไร เขาถือ วา นั่น เปน ความถูก ตอ ง. แลว ในยุค ที่ป ระชาธิป ไตย เฟอเปนบาเปนหลังดวยแลว ตางคนตางมีสิทธิ มีเสรีภาพ ที่จะทําไดอยางนั้น ๆ ; คนอื่นอยามาทักทวง อยามาวากลาวเลย ; เราจะมีประชาธิปไตย เรามีเสรีภาพ. ประชาธิปไตยชนิดนี้แหละจะทําลายโลก ไมใหมีธรรมะเหลืออยูเลย. ฉะนั้น คานิยมของประชาธิปไตย ก็ควรจะเปลี่ยนดวยเหมือนกัน, ใหถือวามันมีคาตอเมื่อเปนประชาธิปไตยของบุคคลที่มีศีลธรรม. ถาประชาชน หรื อ บุ ค คลไร ศ ี ล ธรรมแล ว ประชาธิ ป ไตยคื อ สิ ่ ง ที ่ เ ลวร า ยที ่ ส ุ ด ไม มี อะไรเลวร า ยเท า คื อ การที ่ ส ามารถปล อ ยไปได ต ามอํ า นาจของกิ เ ลส ตัณ หาของตน ๆ. ระวัง ใหดี แมแ ตคา นิย มของคํา วา ประชาธิป ไตย ก็จ ะ ต อ งเปลี่ ย น ; แล ว ก็ จ ะมี ค า เฉพาะประชาธิ ป ไตยที ่ ป ระกอบอยู ด ว ย ศีลธรรมเทานั้น.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ปจจัยทั้งหลายมันก็มีคา แลวแตวาเราจะใชมันไปอยางไร ; ใชผิด ก็ทํา ลายบุค คลนั้น , ใชถูก ก็สง เสริม บุค คลนั้น . เปน อัน วา เราจะถอยหลัง เข า คลองเป น ประการแรก ; คื อ เรื่ อ งของค า นิ ย มทั้ ง หลาย ที่ เ ดิ น มาผิ ด นี้จะตองเดินกลับไปสูความหมายที่ถูกตอง มีคานิยมที่ถูกตองในทุกอยางที่มีคา. ....
....
....
....
www.buddhadassa.in.th
การถอยหลังเขาคลอง
๕๒๗
ประการที่ ๒. ทีนี้ ถัดมาอีก พูดอยางสมัยกับเขาบาง นี่กระดาก เต็ ม ที แ ล ว นะ, ขอบอกกั น ด ว ยว ากระดากเต็ ม ที ที่ จ ะพู ด คํ า สมั ย ใหม แต ก็ ต อ ง พู ด . เขาพู ด ว า ค า นิ ย ม ; แล ว ก็ จ ะพู ด ว า จุ ด ยื น , จุ ด ยื น อั น มั ่ น คงอี ก คํ าวา “จุ ด ยื น อั น มั่ น คง” นี่ พู ด กั น ดื่ น ไปหมด ในปากของคนสมั ย นี้ แ ละตามหน า หนังสือพิมพ. จุ ด ยื น ที ่ มั ่ น ค ง ห ม าย ค วาม ว า เรามี ห ลั ก อ ะ ไรอั น ห นึ ่ ง ซึ ่ ง จะยึด ถือ เปน หลัก ตายตัว สํ า หรับ ปฏิบ ัต ิ ; ทีนี ้ก ารปฏิบ ัต ินี ่ มัน ก็เ ปน ไปตาม ทิ ฏ ฐิ หรื อ ความคิ ด ความเห็ น ของคน. เมื ่ อ คนมั น ตกเป น ทาสของวั ต ถุ , มีก ิเ ลสเปน นาย ; แลว จุด ยืน ของมัน ก็ค ือ ที ่นั ่น แหละ ยืน อยู ด ว ยกิเ ลส ยืน อยู ด ว ยความโงเ ขลา, ยึด มั ่น อยู ใ นสิ ่ง เลวรา ยที ่จ ะทํ า ลายตัว เอง กลายเปน ที่ ยืนอันมั่นคง. อยา งนี ้เ รา ไมเ รีย กวา สุป ฏิบ ัต ิ คือ ไมใ ชป ฏิบ ัต ิด ี ป ฏิบ ัติ ชอบ ; เพราะมัน ไมไ ดย ืน อยู อ ยา งถูก ตอ ง. มัน ยืน อยู อ ยา งมั ่น คง ดว ยอํ า นาจ ขอ งกิ เ ล ส และผิ ด ที ่ ส ุ ด , ผิ ด พ ล าด ที ่ ส ุ ด คื อ ยื น อ ยู ใ น ท า ม ก ลางกิ เ ล ส แ ว ด ล อ ม อ ยู ด ว ย กิ เ ล ส ; ใ ห ก ิ เ ล ส จู ง จ มู ก ไ ป , ใ ห ก ิ เ ล ส มั น ไส หั ว ไ ป , ไปทําอะไรตามที่กิเลสมันจะตองการ. เดี๋ยวนี่คนเขามีจุดยืนที่มั่นคงของเขาอยางนี้ ; พูด ใหชัด ก็คือ ประโยชนข องเขานั ้น แหละ ; เขามีจุด ยืน อยูที ่ป ระโยชนข องเขา ที ่เขาจะได ; โดยไมต อ งมองวา จะดีห รือ ชั ่ว จะผิด หรือ จะถูก , จะเปน ธรรม หรือ ไม เป น ธรรม, จะประกอบไปด วยศีลธรรม หรือ ไมประกอบไปด วยศีลธรรม ; เขาไมรู, เขาจะเอาแตประโยชน.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org
www.buddhadassa.in.th
๕๒๘
การกลับมาแหงศีลธรรม
การได ม าซึ ่ ง ประโยชน สํ า หรั บ เขาเท า นั ้ น เป น จุ ด ยื น ที ่ ถ ู ก ตอง ; ตางคนตางเป น อยางนี้ กัน มากขึ้น ๆ ในโลกสมั ยป จจุบั น . จะหาวาด า ก็เอา ไมรูวาจะพูดอยางไร ; ก็ตองยอมรับวา เปนคนดา เปนคนพูดจาหยาบ คาย ; วา คนทั้งโลกกําลังบูชาวัตถุ ก็มีจุดยืนเหนียวแนนมั่นคงอยูที่การไดมา ซึ ่ง วัต ถุ ตามวิธ ีนั ้น ๆ โดยเฉพาะอยา งยิ ่ง คือ การเห็น แกต ัว , แลว เอา เปรียบผูอื่นโดยทุกวิถีทาง. เขายืนอยูบนจุดที่จะไดเปรียบผูอื่นโดยทุกวิถีทาง ; เขาถือวาเปน จุดยืนที่ดีที่สุด ที่ถูกตองที่สุดของเขา แตกอ นนี้มันไมเปนอยางนั้น. สมัยเมื่อ มนุษยในโลกยังเครงครัดในพระศาสนาอยู มันไมเปนอยางนี้ ; คนที่ทําอยางนี้ ถูกแชง ถูกดา ถูกประณามกันทั้งบานทั้งเมือ ง. แตเดี๋ยวนี้ไมมี ไมมีใครแชง ไมมีใครดา ; เพราะมันกลับเปนอยางนั้นกันเสียหมดทั้งบานทั้งเมือง เลยไมรูวา ใครจะดาใคร.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org นี ่เ รีย กวา มนุษ ยทั ้ง หมด หรือ วา โลกทั ้ง หมด มีจุด ยืน ที ่ไ มถ ูก ตอง คือมีจุดยืนสําหรับจะพลัดลงไปในเหว ในอบาย. เราจะตองถอยหลังเขา คลองดวยการเปลี่ย นจุด ยืน เปลี่ย นจุด สําหรับ ที่จ ะยืน กัน เสีย ใหม ; อยาไป ยืน ยัน อยา งนั้น . ตอ งหัน หาความถูก ตอ ง และยึด มั่น อยา งเหนีย วแนน ใน การประพฤติกระทําที่ถูกตอง ; จะเรียกวา พระเจาก็ได จะเรียกวา พระธรรมก็ ได, จะเรียกอยางภาษาวิทยาศาสตรวา ความถูกตอง ก็ได, ใหสมดุลยแลวก็ ไมมีปญหาเกิดขึ้น ; นี้ก็เปนความหมายอยางเดียวกัน.
www.buddhadassa.in.th
การถอยหลังเขาคลอง
๕๒๙
พระเจ า ที ่ ถ ู ก ต อ ง, พระธรรมที ่ ถ ู ก ต อ ง, ก็ ค ื อ ความถู ก ต อ ง ที ่ถ ูก ตอ ง. ควรจะเอาสิ ่ง นี ้ขึ ้น มาเปน เครื่อ งยึด เหนี ่ย ว เปน จุด ยืน ไมใ หก า ว ขาพลาดออกไปจากแนวนี้ จากจุ ด นี้ . ฉะนั้ น เราจะต อ งถอยหลั ง เข า คลอง ประการที ่ ๒ ก็คือ มีจุด ยืน ที่ถูก ตอ ง, กลับ ไปสูห รือ กลับ มาสู แลว แตจ ะเรีย ก. วา กลับสูจุดยืนที่ถูกตอง. ....
....
....
....
ป ระการที ่ ๓ อัน สุด ทา ย เรีย กวา ยอดปลาย. อัน แรกคือ รากฐาน, อัน ที ่ส อง คือ ลํ า ตน อัน ที ่ส ามคือ ยอดปลาย, ดอกกับ ผล ; เรา จะมีสันติ เปนดอกผล ; ฉะนั้นเราจะมีรสนิยมอันถูกตอง. รส นิ ย ม กั บ ค า นิ ย ม ไม เ ห มื อ น กั น ; รส นิ ย ม นี ้ ข อ พู ด ต รง ๆ เลยวาสิ่งที่จะรูสึกดวยลิ้น แตมันเปนลิ้นทางวิญญาณก็ได. ถาลิ้นทางรายกายก็กิน เผ็ด ขม เปรี้ยว หวาน อะไร นี่มั นทางลิ้นธรรมดาสามั ญ ; แตถาลิ้นทางวิญญาณ ทางจิต นั ่น คือ วา เปน ลิ ้น ที ่จ ะรู ร สของสัน ติ คือ นิพ พาน ; สัน ติ แปลวา สงบ เย็น ; นั่นคือนิพพาน.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org รสนิยมที่ถูกตอง สําหรับลิ้นทางวิญ ญาณตองเปลี่ยนใหมันถูกตอ ง ; เคยนิยมรสของบุญกุศล, เคยนิยมรสของ มรรค ผล นิพพานเคยนิยมแตรสอยางนั้น มีสิ่งเหลานั้น เปนรสนิยม ; แลวก็เคยถูกกระทํากันมา. พวกที ่ ม ี พ ระเจ า ก็ บ อกว า การได ไ ปอยู ก ั บ พระเจ า เป น สิ ่ ง ที่ สู ง สุ ด มี ค า ที ่ ส ุ ด ; แล ว ก็ เ ป น รสนิ ย มสู ง สุ ด อยู ที ่ นั ่ น . เขาก็ ห วั ง ที ่ จ ะไป
www.buddhadassa.in.th
๕๓๐
การกลับมาแหงศีลธรรม
อยูรวมกับพระเจาทั้งนั้น. รํารวย สวยงามอยูที่นี่เปนเรื่องเล็กนอย เปนเรื่องขี้ผง พูดภาษาที่โสกโดกสักหนอย ; แตคนเดี๋ยวนี้มันกลับถือ วา เอร็ดอรอยกันที่นี่ นี่เปนเรื่องทั้งหมด เปนเรื่องสูงสุด ; ไปอยูกับพระเจานั่นเปนเรื่องขี้ผง เขาก็เลย ไมสนใจ. เชน เดีย วกับ พุท ธบริษัท ซึ่ง อาจจะเปลี่ย นถึง กับ วา เรื่อ ง มรรค ผล นิพ พาน เปน เรื่อ งขี้ผ ง, เรื่อ งเอร็ด อรอ ย สนุก สนาน สวยงาม ที ่นี่ คือเรื่องประเสริฐที่สุด ; รสที่จะไดมาทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ทางเนื้อทางหนัง นี่คือสิ่งประเสริฐที่สุด ; จนมีคนกลาพูดวา ถาเกิดมาไมไดอิ่มไปดวยกามารมณ แล ว มั น ก็ เสี ย ชาติ เกิ ด ; เขาจึ ง หวั ง ว า อย า งไร ๆ ก็ ต อ งยึ ด เอาเรื่ อ งอิ่ ม ด ว ย กามารมณนี้ไวกอน จึงตั้งหนาตั้งตาหาปจจัยแหงกามารมณ. นี่เรียกวารสนิยมของเขามีอยูเพียงเทานี้ แลวเดินมาจนผิดทาง เปลี่ยน จากที่เคยมีมาแตกาลกอนนูน ซึ่งพอจะพูดไดวา มันเหมือนกับตะโกนกันไดยิน ; ไมใชน าน หรือ ไกลเกิน ไป. มัน พอจะตะโกนกัน ไดยิน , คือ ชั้น ปูข องเรานี้พ อ จะตะโกนกันไดยิน, หรือตอใหอีกชั้น คือวาชั้นพอของปูของเราก็ตะโกนไดยิน.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org เขาไมนิย มบา บอ เหมือ นลูก หลานสมัย นี้ด อก. เขาไมมีร สนิย ม ที่บาบอ เหมือนลูกหลานสมัยนี้ ; รสนิยมของพอของปู ยังมั่นคงในความสงบ ในพระธรรม ในศาสนาอยู นี่ก็ควรจะเรียกวาตะโกนกันไดยินอยูหยก ๆ. ทําไม มัน เปลี่ย นไปถึง ขนาดที่วา ไมรูจัก กัน เลย ? แลว ระวัง ใหดีเ ถอะ แมชั่ว อายุ คนเดี ๋ย วนี ้ มัน ก็ย ัง เปลี ่ย นไปอยา งนา ตกใจ ; รสนิย มก็ด ี คา นิย มก็ด ี มัน เปลี่ยนอยางนาตกใจ. สําหรับความรูสึกของอาตมาเปนอยางนี้.
www.buddhadassa.in.th
การถอยหลังเขาคลอง
๕๓๑
เพิ ่ง สัง เกตเห็น วา มัน เพิ ่ง จะอะไรละ ; ขออภัย เถอะ วา เพิ ่ง จะ บา กัน ขนาดหนัก ก็เ มื ่อ เร็ว ๆ นี ้. เมื ่อ เรายัง เด็ก ๆ มัน ก็ไ มไ ดบ า กัน ขนาดหนัก ถึง อยา งนี ้ ; เพราะคา นิย มมัน ยัง ไมไ ดเ ปลี ่ย น รสนิย มยัง ไมไ ดเ ปลี ่ย น ; คน ยัง หวัง ความสงบกัน อยู ท ุก คน. เดี ๋ย วนี ้ค นหวัง แตป ระโยชน ไมม ีคํ า วา สงบ ฉะนั ้น จึง ฆา กัน ทํ า ลายลา งกัน ทํ า ความเขา ใจกัน ไมไ ด. กํ า ลัง พูด กัน ไมรู เรื่อ ง ในขอวา “ เราจงมาทําความสงบกันเถิด “ นี ่ พ ู ด กั น ไม รู เ รื ่ อ ง ฉ ะ นั ้ น จึ ง มี ก า รฆ า กั น ที ่ เ รี ย ก ว า โด ย ผู ก อ การรา ย หรือ ไมร า ย ห รือ อะไรก็ส ุด แท. มัน มีก ารฆา กัน ม ากขึ ้น ทุก ที ๆ เพ ราะพูด กัน ไมรู เ รื ่อ ง ; แมอ ุด ม ค ติท างการเมือ ง, เรื ่อ งลัท ธิก ารเมือ ง, เกี ่ย วกับ สงคราม เกี ่ย วกับ เศรษฐกิจ อะไรก็ต าม มัน พูด กัน ไมรูเ รื ่อ ง. เพราะ เอาคานิยมทางกิเลส เปนสิ่งสูงสุดกันไปเสียหมด มันก็พูดกันไมรูเรื่อง. ถาเปลี่ยนไปสู รสนิ ยมอันถู กต อง ก็หาความสงบสุ ขตามแบบของความ เสีย สละ, อดกลั ้น อดทน ; ไมต อ งลา งดว ยเลือ ด ลา งดว ยน้ํ า สะอาด มัน ก็ สงบสุข กัน ได. ฉะนั ้น จึง ขอพูด อัน ดับ สุด ทา ยนี ้ว า เราจะ ตอ งเปลี ่ย นรสนิย ม กั น เสี ย ใหม ให ถู ก ต อ ง คื อ ถอยหลั ง เข า คลอง ในทางรสนิ ย มนี้ ใหถ ูก ตอ ง ประการที ่ ๓ ซึ่ง เปน อัน สุด ทา ย คือ ชั ้น ยอด ชั้น ใบ ชั้น ดอก ชั้น ผล ก็เปลี่ยนเสียใหถูกตอง.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ....
....
....
....
ส ว น ที ่ เ ป น รา ก ก็ เ ป ลี ่ ย น ให ถ ู ก ต อ ง, ที ่ เ ป น ลํ า ต น ก็ เ ป ลี ่ ย น ให ถู ก ต อ ง, ที ่ เ ป น ยอดสุ ด ก็ เ ปลี ่ ย นให ถ ู ก ต อ ง ที ่ เ ป น ชั ้ น รากเปลี ่ ย นค า นิ ย ม เสี ย ใ ห ถ ู ก ต อ ง ; ใ ห เ ป น ค า น ิ ย ม ที ่ แ ท จ ริ ง ที ่ ป ร ะ ก อ บ ด ว ย ธ ร ร ม .
www.buddhadassa.in.th
การกลับมาแหงศีลธรรม
๕๓๒
ตรงกลาง คื อ ลํา ต น ก็ ใ ห มั น มี จุ ด ยื น ที่ ถู ก ต อ ง, ประกอบอยู ด ว ยธรรม. ในตอนยอด ก็ ใ ห มั น มี รสนิ ย ม อั น ถู ก ต อ ง. บู ช ารสของความถู ก ต อ ง หวังจะดื่มกินรสจากความถูกตอง, เปนการถอยหลังเขาคลองอยางสมบูรณ คือ ถอยหลังเขาคลองของสิ่งที่เรียกวา อุดมคติ หรือ คานิยม, ความถูกตองของ สุปฏิบัติ, หรือของจุดยืนอันมั่นคง. เมื่อเราพูดวา “คาของสันติภาพหรือรสนิยมอันถูกตอง”, นั่นแหละ เปนหลักใหญ ๆ ที่เราจะตองนึก เราจะตองพูด เราจะตองปรึกษาหารือกัน. ถา เราจะตอ งการใหศ ีล ธรรมกลับ มา เราก็จ ะทํ า ความเขา ใจกัน หนอ ย ใน ระหว า งเพื ่ อ นมนุ ษ ย ทั ้ ง หลายว า เราจงพากั น ถอยหลั ง เข า คลองให ถ ู ก ตอ ง, สํา หรับ ทั้ง ๓ นี้ : คือ ถูก ตอ งทั้ง ที่ร าก ถูก ตอ งทั้ง ที่ลํา ตน ถูก ตอ ง ทั้งที่ยอด และดอก ผล ; แลวก็จะมีการกลับมาแหงศีลธรรม. การกลั บ มาแห ง ศี ล ธรรม ก็ ค ื อ การถอยหลั ง เข า คลองแห ง ความถูก ตอ ง ; เมื่อ ยัง ไมผิด ไมมีก ารผิด พลาด ก็ไ มตอ งมีก ารถอยหลัง เขาคลอง ไมตองเหน็ดเหนื่อยอะไร. ดํารงอยูในคลอง ไมตองเหน็ดเหนื่อยอะไร. ตอ เมื ่อ มัน ผิด คลอง เมื ่อ ใดมัน ผิด คลอง ; เมื ่อ นั ้น จึง จะตอ งเอะอะกัน บา ง เหนื่อ ยกัน บาง เพื่อ จะดึงกลับมาสูค ลอง. ฉะนั้น การถอยหลังเขาคลองนั้น ไมใชสิ่งที่จะตองทําตลอดกาล ; แตเปนสิ่งที่ตอ งทําเฉพาะครูยาม เฉพาะชั่ว ขณะที่ มั น ผิ ด พลาดเท านั้ น . เมื่ อ เดี๋ ย วนี้ ผิ ด พลาด แล ว เราก็ จ ะต อ งทํ า , เป น โอกาสที่จะตองทํา.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ....
....
....
....
www.buddhadassa.in.th
การถอยหลังเขาคลอง
๕๓๓
ที นี ้ อ ะ ไ ร ที ่ จ ะ เป น กํ า ลั ง ใ จ ใ น สิ ่ ง ที ่ เร า จ ะ ต อ ง ทํ า ? มั น เกือบจะไมตองมีอะไรมาเปนกําลังใจแลว ถาวาเรามีความกลัวตอความวินาศ. ขอให ม องดู ทั่ ว ๆ ไป วาที่ เราทํ าอะไรอย างไม เห็ นแก เหน็ ดแก เหนื่ อ ย นั ่น นะ อะไรเปน เครื ่อ งกระตุ น ใหทํ า ; เพราะวา เรากลัว วา ไมม ีอ ะไรจะกิน ไม มี อ ะไรจะใช หรือ ว า เราจะต อ งตาย ; เพราะว า เรากลั ว อย า งนี้ เราจึ งทํ า งาน อย า งไม เ ห็ น แก เ หน็ ด เหนื ่ อ ย. เดี ๋ ย วนี ้ เราต อ งทํ า งานอั น สู ง สุ ด คื อ ทํ า ให ศ ี ล ธ ร รม ก ลั บ ม า ; มั น ก็ ม ี ป จ จั ย คื อ ค ว า ม ก ลั ว ว า มั น จ ะ วิ น า ศ : เราจะวินาศ, โลกนี้จะวินาศ. ค ว า ม ก ลั ว ว า จ ะ วิ น า ศ นี ่ ค ื อ ป จ จั ย สํ า ห รั บ ก ร ะ ตุ น เตื อ น ให ก ระทํ า ; เขาเรี ย กกั น อย า งภาษาธรรมดา ๆ ว า เครื่ อ งกระตุ น หรื อ motive. เครื่อ งกระตุ น นี้ ถ ามั น มี แ ล ว มั น ทํ าให ท นอยู ไม ได ; มั น กระตุ น จนต อ งไปทํ าเป น แน น อน, มั น ต อ งมี อํ า นาจถึ ง ขนาดนั ้ น เราจึ ง จะเรี ย กว า เครื ่ อ งกระตุ น . ถามันมีมาก ในการที่จะใหบรรลุ มรรค ผล นิพพาน มันก็ทนอยูไมได ที่จะตองไป ปฏิบัติอยางขยันขันแข็ง เพื่อจะใหบรรลุมรรค ผล นิพพาน.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org เดี ๋ย วนี ้เ ราไมไ ดต อ งการถึง อยา งนั ้น ; ตอ งการแตเ พีย งสัน ติส ุข หรือ สั น ติ ภ าพในโลก หรือ วากลั วโลกจะวินาศ รวมทั้ งตั วเราด วย ; มั น ก็ กระตุ น ให เราช วยกั น ทํ าเพื่ อ ให ศี ล ธรรมกลั บ มา, ช วยกั น เป น การใหญ ทํ าการถอยหลั ง เขาคลองอยางกุลีกุ จออยางสุ ดความสามารถที เดีย ว : รีบ ถอยมาเสี ยให ถูกทาง อันถูกตองหรือปลอดภัย. ....
....
....
....
www.buddhadassa.in.th
๕๓๔
การกลับมาแหงศีลธรรม
ถา จะถามหาเหตุผ ล มัน ก็มีอัน นี้แ หละเปน เหตุผ ลอยูแ ลว คือ มัน จะวินาศ ที่เห็นอยูไดชัด ๆ แลว ไมตองแสดงดวยเหตุผลอยางอื่น. เหตุผล เชน อาชญากรรมมากขึ้น ๆ อยางที่ไมเคยนึกฝน มันก็เปนเหตุผลที่เพียงพอ แลว ; แลว มองดูอีก ชนิด หนึ่ง มัน เนื่อ งจากความไมมีศีล ธรรม, ศีล ธรรม เสื่อ มไป หายไปจากบุค คลเหลา นั้น ; นี่ก็เ ปน เหตุผ ลพอแลว ที่จ ะชว ยกัน ทําใหศีลธรรมกลับมา. การกลั บ มาแห ง ศี ล ธรรมนี่ เราพู ด กั น ในแง ข องศี ล ธรรม เรา ไม ไ ด พ ู ด กั น ในแง ข องกฎหมาย ; อย า เอาไปปนกั น . เราจะต อ งต อ สู อย า งสงบทางศี ล ธรรม เพื่ อ แก ป ญ หาอั น เลวร า ยนี้ ; เราจะถื อ ดอกบั ว สี เ หลื อ ง เพื ่ อ จะขจั ด ป ญ หา เราไม ถื อ ดอกบั ว สี แ ดงเลื อ ด ; เราจะแก ปญหาของมนุษยดวยดอกบัวสีเหลือง ไมใชดวยดอกบัวสีแดง มันจึงจะเปนเรื่อง ของศีลธรรม.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ถาจะเปนเรื่องของกฎหมายก็เอาซิ ก็ชวนกันออกกฎหมาย บังคับ ลงโทษอย า งหนั ก ที่ จ ะให เ กิ ด การเปลี่ ย นแก ไ ข ; ใครทํา ผิ ด อะไรเล็ ก ๆ น อ ย ๆ แม แ ต ไวผ มยาวอยางนี้ ก็ ล งโทษกั น ด ว ยกฎหมายอย างหนั ก . ถ าทํ า สํ าเร็จ มั น ก็ เป น เรื่อ งการแก ไขด วยอํ านาจของกฎหมาย ไม ใชเรื่อ งศี ล ธรรม. ฉะนั้น เขาก็ควรจะทําไป ถาเขาตองการ มันก็จะชวยใหเร็วขึ้น คือ มีการออก กฎหมายพิ เ ศษ เพื ่ อ ประโยชน แ ก วั ฒ นธรรม หรื อ แก ศ ี ล ธรรมก็ ไ ด ; แตก็ทําไปในวิถีทางของกฎหมาย.
www.buddhadassa.in.th
การถอยหลังเขาคลอง
๕๓๕
เดี ๋ย วนี ้ เราเปน พุท ธบริษ ัท หรือ วา ผู ย ึด ถือ ธรรมะเปน หลัก ; เรามีวิธีก ารอีก ทางหนึ่ง คือ ทางศีล ธรรม นั่น แหละ เพื่อ ไมใ หตอ งมีก ารเจ็บ ปวด เพื่อไมใหตองมีการอะไร ไปทําตามแบบของสัตบุรุษ. นี้จึงชักชวนกันวามา พิจ ารณาในแงข องศีล ธรรม. ถา เสีย สละกัน จริง ชว ยกัน จริง อะไรกัน จริง ก็จ ะมีผ ลแนบเนีย นกวา การที ่จ ะใชก ฎหมายเปน เครื ่อ งมือ ; เพราะ กฎหมายนั้นมันไมบังคับจิตใจได ; มันบังคับแตทางรางกาย. แตถาเปนเรื่องของพระธรรมแลว มันบังคับจิตใจดวย, มันบังคับ จิตใจโดยตรงเสียมากกวา ; และเมื่อจิตใจมันเปลี่ยนแลว มันยอมแลว เรื่องของ ทางรางกาย มั น ก็ เปลี่ ย นไปเอง, นี้ เราจึ งมิ ได มุ งบั งคั บ กั น ที่ ภ ายนอก แต มุ ง บังคับภายใน คือจิตใจ ; ทําอยางนี้จึงเปนเรื่องของศีลธรรม.
ถา ไปจับ ตัว มาลงโทษ มัน ก็เปน เรื่อ งกฎหมาย. ตอ งรูไววา มัน มี อยู ๒ อยาง ; ถาไดทั้ง ๒ อยางชวยกัน มันก็จะเร็วขึ้น มันคงจะเร็วขึ้น แตวา เรามาพูดกันในวันนี้ พูดกันในแงของศีลธรรม ในฝายของศีลธรรม เราจึงยัง ไมพูดถึงกฎหมาย.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ที่นี้เราก็จะมีโครงการตอตาน เพื่อรณรงคหรืออะไรก็ตาม เพื่อการ กลับ มาแหง ศีล ธรรม ; นับ ตั ้ง ตน ตั ้ง แตวา ชํ า ระสะสาง ; เริ่ม ขึ ้น มาที ่ก าร ชําระสะสางความผิด ความเห็น ผิด อะไรผิด ; ใหเห็น วาผิด แลว ก็เปลี่ย น เสีย ใหม ใหม ัน ถูก ก็จ ะเปน เรื ่อ งของศีล ธรรมบริส ุท ธิ ์ ไมต อ งอาศัย กฎหมาย ; ขอทาทายอยางนี้.
www.buddhadassa.in.th
การกลับมาแหงศีลธรรม
๕๓๖
สิ่ งที่ มั น ปราณี ต ละเอี ย ด มั น ก็ ทํ า ได ย ากกวา , สิ่ งที่ ลึ ก ซึ้ ง มั น ก็ ทํ า ไดย ากกวา ; แลว มัน ก็ต อ งคํ า นวณดูว า ที ่ม ัน ปราณีต ละเอีย ดลึก ซึ ้ง มัน ก็ม ีผ ล ที ่ล ะเอีย ดลึก ซึ ้ง และถาวรไวใ จได. แตถ า เปน เรื ่อ งชั ่ว สุก เอาเผากิน อยา ง เรื่ อ งกฎหมายอย า งนี้ มั น ก็ ไ ด รั บ แต ใ นชั่ ว ขณะหนึ่ ง ไม ลึ ก ซึ้ ง หรื อ ไม ยื น ยาว ; ต อ งใช อํ านาจกั น อยู เรื่อ ยไป แล วมั น ก็ มี อ าการที่ น าเกลี ย ด. หมายความวา ต อ ง ฆา ตอ งลงโทษ ตอ งอะไรไปตามเรื ่อ งของกฎหมาย ; ถา เปน นัก ศาสนา เปนนักศีลธรรม ก็มุงหมายที่จะใชอํานาจอันศักดิ์สิทธิ์ของศีลธรรม. ....
....
....
....
[ถอยหลังเขาคลอง ของรากฐานแหงศีลธรรม ]
ที นี้ เราก็ จ ะพู ด กั น ต อ ไปให จ บเรื่อ ง ต อ จากที่ พู ด ค างไวในการบรรยาย ครั้งที่แลวมา.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ในครั ้ง ที ่แ ลว มาเราบรรยายไดโ ดยละเอีย ด ในสว นที ่เ ปน รากฐาน คือวา ทําอยางไรในสวนรากฐานมันจะดี. สวนที่เปรียบเทียบดวยแผนดินสําหรับตนไม นั ้น มัน ก็ค ือ อุด มคติ ที ่ใ หถ ือ กัน เปน หลัก วา “ สัต วทั ้ง หลายที ่เ ปน เพื ่อ นทุก ข เกิด แก เจ็บ ตาย ดวยกันทั้งหมดทั้งสิ้น “.
ไปชว ยกัน หนอ ย ไปชว ยกัน ตามความสามารถของคน ไปชี ้ช วน ชี ้แ จงใหเ ห็น ชัด วา “ สัต วทั ้ง หลายมัน เปน เพื ่อ นทุก ข เกิด แก เจ็บ ตาย ด ว ยกั น ทั้ ง หมดทั้ ง สิ้ น “ อย า ฆ า มั น เลย. อย า ทํ า คอรั ป ชั่ น ต อ มั น เลย, อย า เอา เปรียบมั นเลย, เพราะวามั นเป น “ เพื่ อนทุ กข เกิด แก เจ็บ ตาย ด วยกั นทั้ งหมด ทั้งสิ้น
www.buddhadassa.in.th
การถอยหลังเขาคลอง
๕๓๗
ที่ เปรี ย บด ว ยนํ า สํ า หรั บ ต น ไม นั้ น ก็ คื อ ว า ชวนกั น บอกกั น ว า อยา ไปเปน ทาส ของตา หู จมูก ลิ ้น กาย ใจ เลย. อยา บูช าความ เอร็ด อรอ ยทางเนื ้อ หนัง คือ ทางตา หู จมูก ลิ ้น กาย ใจ เลย. อบรม ลูก เด็ก ๆ ใหเ ขาเห็น วา นั ่น แหละคือ ความเลวทรามที ่ส ุด ของมนุษ ย คือ ความเปนทาสในทางกามารมณ เพื่ อประโยชนแก ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ; นํามาซึ่งความหมดเปลือง, นํามาซึ่งความฉิบหาย, นํามาซึ่งความมีโรคภัย นํามา ซึ่งความอายุสั้น, นํามาซึ่งความเสนียดจัญไร ทุกอยางทุกประการ, ในการที่ไปเปน ทาสของอายตนะทั้ง ๖ นั้น. ทีนี ้ สว นที ่เ ปน เหมือ นกับ ปุ ย สํ า หรับ ตน ไม การบัง คับ จิต , เปนผูยินดีในการบังคับจิต ไมปลอยไปตามอํานาจสามัญสํานึกของจิต ที่เรียกวา สัญ ชาตญาณที่ยัง ไมไดรับ การอบรม. บัง คับ จิต เดิน อยูแ ตในคลองที่ถูก ตอ ง ; หรือวาบังคับจิตเมื่อมันจะมีมากเกินไป เกินความพอดีไป ก็บังคับใหมันอยูแตใน ในความพอดี. รวมความแลว ก็บังคับ จิต ใหอ ยูในความถูก ตอ ง ก็จ ะเกิด ความ ถูกตองทั้งที่กาย ที่วาจา และที่จิตเอง.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ที่เปรีย บเหมือ นกับ แสงสวา ง สํ า หรับ ตน ไม นั่น ก็ค ือ ยถาภูต สัม มั ป ป ญ ญ า -ป ญ ญ าที ่ ถ ื อ เอาความจริ ง ของธรรมชาติ นั ้ น มาเป น หลั ก . อยา กลา อวดดีว า เอาเอง บัญ ญัต ิเ อาเอง ตรัส รู เ อาเองใหม ากนัก ; ตอ ง คอยดู สิ ่ ง ที ่ ม ั น เป น อยู จ ริ ง เป น ไปจริ ง ว า มั น เป น อย า งไร. ถ า ทํ า ลงไป อยา งนี ้ ผลมัน เกิด ขึ้น อยา งไร, ถา ทํา ลงไปอยา งนั้น ผลมัน เกิด ขึ้น อยา งไร ; หรือ เพราะอะไรมี อะไรจึง มี, เพราะอะไรไมม ี อะไรจึง ไมม ี อยา งนี ้ ; เพราะอะไรมี อ ย างไร แล วสิ่ งนี้ จึ งมี ขึ้ น มาอย างนั้ น ; นี้ เป น ต น อย างนี้ เรีย กว า
www.buddhadassa.in.th
การกลับมาแหงศีลธรรม
๕๓๘
ยถาภูตสัมมัปปญญา เปนแสงสวางที่ทําใหตนไมศีลธรรมเจริญงอกงาม เหมือน แสงแดดที่จําเปนแกตนไมทั่ว ๆ ไป. ทีนี้ สิ่งที่เปน อุณ หภูมิที่พ อดี ไมรอ นมากไป ไมรอ นนอ ยไป สิ่ง ทั้งหลายจึงจะทรงชีวิตอยูไดก็คือ ปญญา หรือ ศรัทธา ที่มีพอดี. ปญญาให เกิด ศรัท ธา คือ ความเชื่อ ความมั่น ใจ ความไวใ จ อะไรก็ต าม ; ศรัท ธานี่ ต อ งถู ก ต อ งและพอดี . ศรั ท ธาก็ เ ป น เครื่ อ งกระตุ น อั น แรก, เครื่ อ งกระตุ น ที่มีกําลังแรงอยางหนึ่ง ; ฉะนั้น เราจะตองมีใหพอดี หรือใหถูก, หรืออยางที่ เรียกวา เปนสายกลาง. นี ้ถ า วา มีก ารประยุก ตก ัน เสีย ใหม ใหสิ ่ง เหลา นี ้เ ปลี ่ย นมาสู ความถู ก ต อ ง อย า งนี้ ก็ เ รี ย กว า เป น การถอยหลั ง เข า คลอง ที่ ถู ก ตอ งแลว . ในสวนที่เปน รากฐานของตนไมแ หงศีลธรรม เราก็พูด กัน มามาก แลว ; ที่เหลืออยู คือสวนที่เปนลําตน หรือตนลําซึ่งจะพูดตอไปบัดนี้.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org [การถอยหลังเขาคลอง แหงตนลําของศีลธรรม ]
ถาม : สวนที่เปนลําตนประกอบอยูดวยสวนสําคัญกี่อยาง คุณทอง ?
ตอบ :
๓ อยาง คือ เปลือก กระพี้ และแกน.
เปลือ ก กระพี้ และแกน , คุณ ก็จํา แมน ขึ้น ทุก ที. นี่อ าตมาก็พูด ไม เหนื่ อ ยเปล า เพราะมี ค นจํ า ได หรื อ จั บ ฉวยเอาได . นี้ เราพู ด กั น ถึ ง ต น ไม ธรรมดา ที่จะตองมีเปลือกสวนหนึ่ง, แลวก็มีกระพี้เขาไป, แลวขางในเขาไปมัน มี แ ก น ; แล ว เรากํ า ลั ง พู ด ถึ ง ต น ไม ที่ ป ลู ก เพื่ อ เอาลู ก เอาผล ไม ใ ช ต น ไม เพื่ อ
www.buddhadassa.in.th
การถอยหลังเขาคลอง
๕๓๙
เอาแกน ; แตถ า พูด ถึง ตน ไมที ่เ อาแกน เปน สาระสูง สุด แลว เราตอ งพูด อย า งอื่ น นะ. เดี๋ ย วเราพู ด ถึ ง ต น ไม ที่ ว า เราจะเอาลู ก เอาผล เป น สาระ ; แม กระนั้นก็ตองมีเปลือก มีกระพี้ มีแกน. ถาม : ที นี้ ถ า ต น ไม ข องศี ล ธรรมล ะ ลํ า ต น แห ง ต น ไม ศี ล ธรรม จะมี อ ะไรเป น เปลือก เปนกระพี้ และเปนแกน คุณประยูร ? ตอบ : มีศีล มีสมาธิ มีปญญา. ถาม : ยังจําไดเหมือนกัน วาเราไดพูดกันวา จะมี ศีล สมาธิ ปญญา เปนลําตน ของตน ไมพ ฤกษาแหง ศีล ธรรม. เรื ่อ งที ่จ ะตอ งพูด ก็ค ือ จะประยุก ต กัน อยา งไรให ศีล สมาธิ ปญ ญา นี ้จ ะกลับ มา, ทํ า อยา งไรศีล จึง จะกลับมา คุณล้ํา ?
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ตอบ : อยูที่การปฏิบัติ. ถาม
: การปฏิ บั ติ ศี ล เพื่ อ ให ศี ล กลั บ มา. ที นี้ ถ า เพื่ อ นเขาไม ป ฏิ บั ติ ทํ า อย า งไร จะใหเพื่อนเขาปฏิบัติ, เอา, คุณทอง ?
ตอบ : อั น นี้ แ หละครั บ ผมเท า ที่ ไ ด นั่ ง ฟ ง ท า นอาจารย บ รรยาย อย า งตะกี้ นี้ ผมยั ง นึ ก เสี ย ดายว า เราไม ส ามารถที่ จ ะทํ า ให ค นอื่ น เขาสนใจ ถึ ง กั บ ว า มาลงทุ น ลงแรงปฏิ บั ติ ได เพราะว า ค า นิ ย มที่ ค นเขามี อ ยู ในทุ ก วั น นี้ นั่ น ผิดไปจากจุดเดิมยิ่งขึ้นทุกที ๆ.
www.buddhadassa.in.th
๕๔๐
การกลับมาแหงศีลธรรม
ถาม : ไมเหลือยูสําหรับศีล วาอยางนั้นดีกวา ; มันไมมีเหลืออยูสําหรับศีล แลวตอไปทําอยางไร ? ตอบ : ผมรูสึกวาจนปญญาจริง ๆ ครับ. ถาม : คุณประยูร ? ยอมแพไปคนหนึ่งแลว. ตอบ : การจูงใหคนอื่นปฏิบัติ ถามันใชวิธีที่หนึ่ง พูดใหฟงไมไดเรื่อง, มีวิธี ที่ ๒ ก็ เ ราทํา ให ดู ; ลองว า ไปเท า นั้ น เองครั บ . ถ า เราทํา ให ดู คือ เราเองนั้น เปน ผูมีศีล นี่แ หละคือ เปน การจูง คนอื่น ไปอยา งหนึ่ง แลว ; แลว เอาวิธีสุด ทา ยอีก ก็คือ เราเองสบายใจใหเ ขาเห็น เลย วาเพราะเรามีศีล ; ชีวิตในครอบครัวของเรา, และตัวเราเองที่ปฏิบัติ เรามีค วามสุข ใหเพื ่อ นบา นเขาเห็น วา เรานี ้ส บายใจ ไมม ีเรื่อ ง ทะเลาะเบาะแวงกับใคร.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ถาม : สรุปความวาเรามีศีล กับเสวยผลของศีลใหเขาดู สรุปเปนสั้น ๆ ไดอยางนี้ ; แลวเดี๋ยวนี้ยังติด ขัด อะไรอยูที่เราจะมีศีล ใหเขาดู หรือ เสวยผลของ ศีลใหเขาดู ? ตอบ : ที่ยังติดขัดอยูเดี๋ยวนี้ หมายความวา เราเองจะมีความกลาหาญ หรือ มีความสามารถทําไดมากนอยแคไหน ครับ. ถาม : ก็เราจะปฏิบัติศีลอยูแลว เราจะไมยอมรับวาเราจะเปนผูมีศีลใหได หรือ ? ตอบ : นี้พูดอยางทั่ว ๆ ไปครับ ; คือแตละคนอาจจะไมเหมือนกัน ถาผูหนึ่ง ผูใด มีร ากฐานอัน ดีแ ลว มีอ ุด มคติอ ัน ดี คนนั ้น ก็จ ะปฏิบ ัต ิศ ีล ได อยางดี มีเทานั้น ; ตางกันแตละคน.
www.buddhadassa.in.th
การถอยหลังเขาคลอง
๕๔๑
ถาม : เดี๋ ยวนี้ ขอ เท็ จจริงมั น มี อ ยูวา เขาไม รูวาจะไปดู ค นที่ มี ศี ล ที่ ไหน อยางนั้นหรือ ? ตอบ : นั่นก็เปนเรื่องอยางหนึ่งเหมือนกัน ครับ. ถาม : จริงหรือไมจริง ; มันเปนขอเท็จจริงอยูในเวลานี้หรือเปลา วาเขาไมรู วาจะไปดูคนมีศีลเปนตัวอยาง หรือวาดูคนที่มีความสุขเพราะศีล เปน ตัวอยาง ไดที่ไหน ? เดี๋ยวนี้เขาจะไปดูที่ไหน ? ตอบ : เดี๋ยวนี้เขาก็ยังพอดูไดจากพระเจา พระสงฆ ครับ. ถาม : พระเจา พระสงฆ... ? ตอบ : เลือกดูเอาซิครับ.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ถาม : ที่ฆราวาสไมมีเลยหรือ ?
ตอบ : ที่ฆราวาสก็ยิ่งมีนอยไปใหญ.
คํ า ว า “พระ” ไม ได ห มายถึ ง ว า มี ที่ วั ด หรื อ ที่ บ า น. ถ า ปฏิ บั ติ ดี ปฏิบัติชอบ มีกิเลสเบาบาง ก็เรียกวา พระ ; อยูที่บานก็ได ที่วัดก็ได. ฉะนั้น ก็ตองดูที่ คนที่ปฏิบัติดี ; ฆราวาสบางคนปฏิบัติดี มีความสุขสงบยิ่งกวาพระ โดยมากหรือเกือบทั้งหมดที่วัด ก็ยังมีนะ. ระวังใหดี ๆ ; ฉะนั้น ตองดูที่บุคคล ที่ม ีค วามสงบสุข เพราะศีล . เดี๋ย วนี้ก็ไ ดพ ูด แลว วา โลกมัน ไดเ ปลี่ย นแลว โลกมั น ได ขึ้ น ยุ ค ใหม แ ล ว ไปมึ น เมารสของวัต ถุ นิ ย ม ; มี ตั ว อย า งให เห็ น เต็ ม
www.buddhadassa.in.th
การกลับมาแหงศีลธรรม
๕๔๒
ไปหมด ตําตาเต็มไปหมดทั้งโลก ลวนแตปฏิบัติเพื่อความสุขดวยวัตถุ ทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย ทางใจ. ถาม : ผูที่มึนเมาอยูดวยวัตถุเหลานี้ จะมีศีลไดไหม วาอยางไร คุณ ทอง ? ตอบ : ถาเขาขั้นมึนเมาแลว ไมได ครับ. นี่เปนผูรอบคอบที่ใชถอยคําวา ถาถึงขั้นมึนเมาแลว มีศีลไมได ; แตเ ขาอาจจะมีวัต ถุส มบูร ณ แลว มีศีล ดว ยก็ไ ดนะ ; นั่น แหละคือ ศาสนา พระศรีอาริย ที่เราหวังไวในอนาคต วาคนจะสมบูรณดวยวัตถุ เครื่องอุปกรณ ความผาสุกทั้งหลาย อยางเต็มที่ดวย, แลวมนุษยเหลานั้น ก็จะสมบูรณดวย ศีลธรรมอยางยิ่งดวย, นี่พลเมืองในโลกของพระศรีอาริย. เดี๋ยวนี้ พลเมืองเดี๋ยวนี้ ก็มีแตความสุขสะดวกสบาย สมบูรณแต เรื่องทางเนื้อหนัง ทางวัตถุ มันไมมีศีลธรรม. นี้เปนการชี้ความแตกตางระหวาง พลเมืองของโลกพระศรีอาริย กับโลกที่ไมใชพระศรีอาริย เปนอยางนี้. ถาเปน โลกของพระพุทธเจากอน ๆ โนนอีกแบบหนึ่ง คือสมบูรณแตศีลธรรม, พอใจ มีความสุขอยูแตดวยเรื่องของทางศีลธรรม ; ขาดแคลนทางวัตถุ ปจจัยสี่ก็ขาด แคลน, อยาวาถึงสิ่งสําหรับสํารวยสําราญฟุงเฟอเลย.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org เราควรหลับตามองเห็นภาพอยู ๓ แบบ ๓ โลก : โลกของพระศรีอาริย สมบูรณทั้งวัตถุและศีลธรรม.
www.buddhadassa.in.th
การถอยหลังเขาคลอง
๕๔๓
โลกของพระพุ ท ธเจ า ที ่ ไ ม ใ ช พ ระศรี อ าริ ย สมบู ร ณ ใ นเรื่ อ ง ศีลธรรม ; ในทางวัตถุนั้นพอมียาไสเปนไปได. โลก ของอะไรดีล ะ ของยัก ษข องมาร ไมใ ชข องพระพุท ธเจา องคไ หน สมบูร ณห รือ เฟอ ไปดว ยวัต ถุที่สง เสริม สนับ สนุน กิเ ลส ; หรือ จะ เรียกวา ความสะดวกสบายก็ได, มีแตสิ่งอํานวยความสะดวกสบาย. ทีนี้ พอมัน เฟอ, เฟอ, มันก็ดึงไปหากิเลส เปนทาสของกิเลส ไมมีศีลธรรมเหลือ. สรุปใจความสั้น ๆ ก็คือวา โลกประเภทหนึ่ง สมบูรณทั้งวัตถุและ ศีล ธรรม, โลกอีก ประเภทหนึ่ง สมบูร ณแ ตท างศีล ธรรม ไมส นใจกับ เรื่อ ง วัต ถุ, ทีนี้ โลกอีก ประเภทหนึ่ง สมบูร ณแ ตเ รื่อ งวัต ถุเ หยื่อ ของกิเ ลส ไมมี ศีลธรรมเลย. ถาม : เดี๋ยวนี้ เรากําลังมีโลกชนิดไหนละ คุณทอง คุณกลาพูดไหม ?
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ตอบ : เดี๋ยวนี้เรามีโลกที่เต็มไปดวยวัตถุ แตไมมีศีลธรรม ครับ.
ดี, ดี ชว ยกัน พูด แทนอาตมา ใหถ ูก ดา นอ ยหนอ ย. เดี ๋ย วนี ้เ รา กํา ลัง มีโ ลกชนิด ที่ส มบูร ณท างวัต ถุ, แลว หาศีล ธรรม ทํา ยาหยอดตาก็ไ ม คอ ยจะได. นี่ยังไมมีเหตุผ ลเพีย งพอหรือ ที่วาเรา ควรจะมานึก ถึงการแกไข ป รั บ ป รุ ง เพื ่ อ ใ ห เ กิ ด ก า ร ก ลั บ ม า แ ห ง ศี ล ธ ร ร ม เ พื ่ อ ว า โ ล ก นี ้ จ ะ สมบูรณทั้งวัตถุ และศีลธรรมแลว โลกพระศรีอาริยก็จะกลับมา.
ถาสมมติวา เราทําเสร็จตามที่เราปรารถนา ทําใหประชาชนทั้งโลก นี้กลับมีศีลธรรมอยางยิ่ง ขึ้นมาภายใน ๑๐ ป ; โลกพระศรีอาริยแทจริงก็จะมา
www.buddhadassa.in.th
๕๔๔
การกลับมาแหงศีลธรรม
ในเวลา ๑๐ ป นั่นแหละ ; ไมตองรออีกกี่โกฏิ กี่กัปป อะไรดอก. ขอแตทําให ศีลธรรมกลับมาครองโลกภายใน ๑๐ ป โลกพระศรีอาริยก็จะมาใน ๑๐ ป คือวา สมบูรณทั้งทางศีลธรรม และวัตถุปจ จัยในทางวัต ถุ ที่จะใหเกิด ความผาสุก . รายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องโลกของพระศรีอาริยมีความหมายตรงกันเลย ในสวน ที่อํานวยความสะดวก กับโลกสมัยปจจุบัน คือ ตองการอะไรในทางวัตถุก็ได ; แตไมใชเพื่อกิเลส. เดี๋ยวนี้ เรามีวัตถุเพื่อกิเลสไปเสียหมด. ถาม : ทีนี้ เราจะทําอยางไรจะชักชวนเขาใหพอใจในการมีศีล ในการรักษาศีล จะชักชวนอยางไรเพื่อใหโลกพระศรีอาริยกลับมา เขาจะเอาไหม ? ตอ รองกันวา ทําอยางนี้แหละโลกพระศรีอาริยจะกลับมาใน ๑๐ ป เขา จะเอาไหม ? เขากําลังสนใจอยูในอบายมุข มัวเมาอยูในอบายมุข ; บอกวา หยุด เสีย , หยุด เสีย มาถือ ศีล ประพฤติธ รรมแลว โลก พระศรีอาริยก็จะกลับมาทันที ; ไมตองเลนโป เลนถั่ว ชนไก กัดปลา ไมตองขโมย ไมตองตีรันฟนแทง เขาจะเอาไหม ? คุณประยูรเห็นวา อยางไร ?
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ตอบ : แลวแตระดับจิตใจของแตละคน ทีเดี๋ยวนี้มัวเมาอยูขนาดไหน ถาคน ที่มัวเมามาก ยังไมมีทางที่จะสนใจจะเอา.
ถาม : เพราะฉะนั้น ปญหาหรือมูลเหตุอยูที่ความมัวเมามากหรือนอย ; ก็จะตอง หันไปที่ความมัวเมา วาจะทําใหหายมัวเมาไดอยางไร จะแกความมึนเมา ในอบายมุข หรือ ทุศีล ไดอยางไร ?
www.buddhadassa.in.th
การถอยหลังเขาคลอง
๕๔๕
ตอบ : มีอยูวิธีเดียว ก็คือ ชี้ใหเห็นโทษ ชี้แลวชี้อีก มีเทานั้นเอง ครับ. ถาม : พระพุทธเจาทานมีแตอยางนั้น ทานไมมีกฎหมายที่จะลงโทษ จะถือวา นี่เปนปมดอยของพุทธศาสนาไหม ? ตอบ : ทางศาสนาไมมีปมดอย ครับ เพราะวามันเปนเรื่องของสมัครใจของ แตละบุคคล. ถาม : ทําไมไมมีสิ่งที่จะแกไขความมึนเมาละ ? ตอบ : เพราะว า มี ก ฎของธรรมชาติ ใ ห โ ทษอยู แ ล ว ครั บ . ถ า คนไหนเมา เรื่องอะไร ก็ไดรับโทษเรื่องนั้นอยูแลว ครับ. นี่ก็เปนสิ่งที่จะตองมองดวยเหมือนกัน วามันมีอะไรเปนชั้น ๆ กันอยู บ า ง . ม นุ ษ ย ใ น โล ก นี ้ พ วก ที ่ พ อ จ ะ แก ไ ข ได ก ็ ม ี อ ยู พ วก ห นึ ่ ง , รวม ทั้ง แกไ ขงา ย แกไ ขยาก แกไ ขปานกลาง อะไรก็ต าม. นี่คือ พวกแกไ ขได พอจะแกไขได นี้ก็มีอยูพวกหนึ่ง.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org อี ก พวกหนึ ่ ง เป น พวกที ่ ไ ม อ าจจะแก ไ ขได ซึ ่ ง พู ด ได เ ลยว า พระพุทธเจาทานก็ไมทรงสนใจกับพวกที่แกไขไมได ; ก็บอกก็สอนไปอยางนั้น แหละถามันยังแกไขไมได มันก็ตองรอไปกอน. ถาม : ทีนี้เราจะถือวาเดี๋ยวนี้ มันมีพวกที่จะแกไขไดไหม ?
www.buddhadassa.in.th
การกลับมาแหงศีลธรรม
๕๔๖ ตอบ : ยังพอมีอยูบาง. ถาม : ยังพอมีอยูบาง ; คุณทองละ ? ตอบ : พอจะมีอยูบาง.
ถาม : นี่ปองกันตัวเราใชไหม ? เพราะวาอยางนอยก็ยังมีเรา ๓ คน ? ตอบ : เปลาครับ ผมพอจะมองเห็นวา คนอื่นก็ดูพอจะมีอยูบางครับ. ถาม : ถาพูดถึงทั้งประเทศไทย มีคนพอที่จะแกไขไดเปนจํานวนพอสมควร แก ก าร ที ่ จ ะชั ก ชวนกั น แก ไ ข. เดี ๋ ย วนี ้ ที ่ ก รุ ง เทพฯ เขามี ก าร เคลื่อนไหว หรือรณรงคกัน ที่เรียกวา ระดมธรรม ∗ ตั้งแตวันที่ ๑๓ เมษายนนี้เ ปน ตน ไป ; ชัก ชวนใหห มุน ไปหาศีล ธรรม. ดูรูป ถา ย ในหนาหนังสือพิมพก็มีหลายคนอยูเหมือนกั้น ; ขอใหถือวา มันตอง มีพวกที่พอจะแกไขได.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ทีนี้มันเปนหนาที่ของอีกพวกหนึ่ง ที่จะเสียสละเพื่อจะชวยกันแกไข ไหม ; คุณเสียสละไหม เพื่อจะแกไขเพื่อนมนุษย ?
ตอบ : ผมก็มี ผมยอมครับ.
∗
มีคําบรรยายเกี่ยวกับเรื่องนี้ในภาคผนวก
www.buddhadassa.in.th
การถอยหลังเขาคลอง
๕๔๗
ถาม : คุณทอง ละ ? ตอบ : ผมก็ยอมครับ. ถาม : คุณประยูร ละ ? ตอบ : ตอนนี้ผมก็พยายามทํากันอยูแลวครับ. ถาม : พยายามทํากันอยูแลวนี่ ก็เห็นกันอยูแลว ใครดูก็เห็นอยูแลววา เราก็ ไดพยายามอยูแลวที่ใหเกิดแกไขในทางศีลธรรม ฉะนั้น ก็ทําตอไป ตาม วิถีท างที่พ ระพุท ธเจา ทา นไดต รัส ไว ไมตอ งใชเงิน ใชท องอะไรมาก มาย ; ไมตองตั้งพิธีโหมโรงครึกครื้นอะไรนัก ไมตองจัดมหรสพก็ได. การแกไ ขทางศีล ธรรมนี้ ขอความเสีย สละนี้เปน ตน ทุน ; แลว มัน ก็ ไมใชเสียสละเงินสละทองอะไรนัก ; แตตองสละอะไร คุณทอง ?
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ตอบ : สละความเอร็ดอรอยของตัว, ความเห็นแกตัว.
ถาม : ผูที่จะไปชวยแกไขคนอื่นนั้น เสียสละอะไรเปนสวนใหญ ? เสียสละ ความสุขสวนตัว ; ก็เราไมไดหลงในความเอร็ดอรอยแลวนี่ มันไมตอง พู ด ถึ ง . ที นี้ เ ราจะแก ไ ขผู อื่ น ต อ ไป มั น ต อ งเสี ย สละอะไรต อ ไป ซึ่งไมจําเปนวาจะตองเสียสละเงิน. เสียสละอะไร คุณประยูร ?
ตอบ : เสียสละเรี่ยวแรง กําลังกาย ความสุขสวนตัว.
www.buddhadassa.in.th
การกลับมาแหงศีลธรรม
๕๔๘
ถาม : เสียสละความสุขสวนตัว ไปพยายามใหเขาเกิดความรู ความเขาใจ ; เดี๋ยวนี้เราก็พยายามกระทํากันอยู. เปนอันวา เราไดพยายามอยูแลว ตามที่เราจะทําได นี้เราไดทําถึงที่สุดแลวหรือยัง ? ไดทําถึงที่สุดที่เรา จะเสียสละไดหรือยัง ? ตอบ : ตอนนี้ผมเขาใจวายังครับ. ก็ทําตอ ไป. นี่ฝนกําลังจะมาแลว พูด ไมจบก็ได ในการที่จะเปน ตัวอยางที่ดี สําหรับผูมีศีล เราก็ตองเสียสละทําใหดู มีความสุขใหดู และก็ชักจูง ผูอื่น . นี่คือ ทํา ประโยชนเ พื่อ ผูอื่น เมื่อ ทํา ประโยชนต นแลว ก็ทํา ประโยชน ผูอื่น, ทําประโยชนทั้ง ๒ ฝาย ก็ชักชวนเขาใหมีศีล โดยรายละเอียดที่จะตองพูด กันคราวอื่น. ....
....
....
....
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ถาม : ที นี้ เรื่ อ งสมาธิ ล ะ ; มาถึ ง ขั้ น สมาธิ เดี๋ ย วนี้ ค นส ว นมากในโลกนี้ มีสมาธิหรือไมมีสมาธิ คุณล้ํา ?
ตอบ : สวนมากก็มีสมาธิ. ถาม : คุณทอง ?
ตอบ : ผมรูสึกวา สมาธินี้จะมีนอยลงทุกทีครับ. ถาม : คุณประยูร ?
www.buddhadassa.in.th
การถอยหลังเขาคลอง
๕๔๙
ตอบ : ผมรูสึกวา มีสมาธิ แตวาสมาธิในทางไมถูกตองครับ ; ไมใชสัมมาสมาธิ. ตอบไปคนละอยาง : คุณล้ําก็วามีสมาธิอยูเปนสวนมาก นี่ถูกนะ, ถูกเหมือ นกัน ; คือมีมิจฉาสมาธิ อยูเปนสวนมาก. คนในโลกเวลานี้มีสมาธิ แรงนะ แตเปนมิจฉาสมาธิ มุงเพื่อกิเลส, และคนมีสมาธิเปนสวนนอย อยาง คุณทองวา นี้ก็ถูก, คือคนมีสัมมาสมาธิกันนอย. พูดอยางไมตองตีความกันอีก ก็อยางคุณประยูรวา วาคนในโลกมีสัมมาสมาธินอย สวนใหญมันก็เปนมิจฉาสมาธิ. ฉะนั้น เขาจึงดํารงตนอยูในความถูกตองไมได เพราะเขามีสมาธิผิด. กํา ลัง ของสมาธิมัน แรง ; สมาธิผิด ก็ผ ลัก เขาไปสูก ารกระทํา ตามอํา นาจ ของกิเลส. ฉะนั้น สติปญญาของเขาก็ไมถูกตอง เราก็ตองพยายามใหเขามีสมาธิ ที่ถูกตอง ซึ่งมีรายละเอียดอีกมากเหมือนกัน ไวคอยพูดกันตอไป.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ....
....
....
....
ที นี้ เดี๋ ย วนี้ ม าถึ ง ป ญ ญา, เราจะทํ า อย า งไรดี ใ นป ญ หา เกี่ย วกับ ปญ ญา ? เพราะวา เขามีปญ ญาที่เ ปน ทาสของกิเ ลส ที่เ รีย กวา เฉโก, คือปญญาเฉลียวฉลาดอยางยิ่ง ที่จะทําใหไดตามความประสงคของกิเลส เชนเฉลียวฉลาดในการคดโกง ในการขโมย ในการออกอุบายหลอกลวงตาง ๆ นี้ก็วามีปญญา. โลกกํ าลังมี ป ญ ญาอย างนี้ ม ากขึ้น ทุ กที . องค การนานาชาติ ที่ เขา ประชุม กั น มั ก มี แต ป ญ ญาชนิด นี้ , มี แต ป ญ ญาเพื่ อ จะเอาประโยชน เป น ของ
www.buddhadassa.in.th
๕๕๐
การกลับมาแหงศีลธรรม
ตนทั้ง นั้น , ตอ สู ตา นทาน เพื่อ ปอ งกัน ประโยชนข องประเทศตน, หรือ ดึง เอาประโยชนของผูอื่นมาเปนของตน ; ยิ่งมีแตปญญาอยางนี้ จนเรียกวามึนเมา เหมือนกัน มึนเมาดวยปญญาที่เปนทาสของกิเลส. ฉะนั้น จึงไมมีสันติภาพ ในโลกนี้. ทํา อย า งไร เขาจะมานิ ย มป ญ ญาอั น แท จ ริ ง ของทางศาสนา ? นี้ก็เทากับวา ทําอยางไรจะใหเขาเสียสละประโยชนนั่นเอง ? มันมีอาการเหมือน กับที่เขาพูดกันวา ออยที่เขาไปอยูในปากชาง มันดึงออกมายาก, ความหมาย อัน นี้ มีมากสําหรับ เหตุการณส มัยปจ จุบัน . คนเหลานั้น มีปญ ญา ; แมพ วก ฝรั่ง ก็มีปญ ญา, ใครก็มีปญ ญา มองเห็น อยูวา ที่ถูก ที่แ ทมัน เปน อยา งไร ; แตโ ดยเหตุที่วา ไดไ ปติด พัน กับ ประโยชนเสีย อยา งเหนีย วแนน แลว ; มัน ก็ ไมเอาที่ถูกตอง เอาแตที่ไดประโยชนเสมอไป แลวเขาฝกกันแตปญญาชนิดนี้. ทีนี้ เหลีย วมาดูถึง ตน ตอ ที่เ ปน ตน ตอที่สุด คือ การศึก ษา ; นับตั้งแตการศึกษาของลูกเด็ก ๆ ในโรงเรียนอนุบาล โรงเรียนประถม โรงเรียน มัธยม กระทั่งมหาวิทยาลัย เขาก็สอนกันแตปญญาชนิดนี้ทั้งนั้น ปญญาที่เปนทาส ของกิเลสทั้งนั้น.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org พูด ไปมัน ก็เปน เรื่อ งดา อีก แลว , แตก็ต อ งพูด อยูดี วา การศึก ษา ของมนุษ ยใ นโลก กํา ลัง เปน ทาสของกิเ ลส, จัด การศึก ษาเพื ่อ ความเปน ทาสของกิเ ลส มีป ญ ญาแตช นิด ที ่จ ะเปน ทาสของกิเ ลส ใหค วามรู แ ต สํ า หรับ จะสามารถในทางเปน ทาสของกิเ ลส ; ฉะนั ้น ความรู นี ้ มิใ ช ความรูอันบริสุทธิ์ มิใชปญญาอันบริสุทธิ์ ; จนกวาเมื่อไรการศึกษาในโลกทั้งโลก
www.buddhadassa.in.th
การถอยหลังเขาคลอง
๕๕๑
มัน เปน โชคดี มัน เปลี ่ย นไปเพื ่อ การศึก ษาอัน บริส ุท ธิ์ นิย มความผิด ถูก ชั ่ว ดี อยางแทจริง ไมเอาแตประโยชน แลวก็สอนในปญญาอันบริสุทธิ์นี้ใหมากขึ้น ใหทัดเทียมกับปญญาหากิน. เดี ๋ย วนี ้ส อนกัน แตป ญ ญาหากิน คือ วิช าชีพ เทคโนโลยีทั ้ง หลาย ล ว นแต เ ป น ป ญ หาหากิ น ; แล ว ก็ ไ ปหลงสิ ่ ง ที ่ ไ ด ก ิ น จนกระทั ่ ง ตายไป ดว ยปญ ญาชนิด นั้น . ปญ ญาที่จ ะสอนใหรูจัก ผิด ชอบชั่ว ดี ที่จ ะทํา ใหโ ลก มี สั น ติ ภ าพได นั้ น ไม มี ส อนในโรงเรี ย น ระดั บ ไหนก็ ต าม เพราะมิ ไ ด มี อยูใ นหลัก สูต ร ; เพราะวา คนจัด การศึก ษานั้น เปน ทาสของกิเ ลสเสีย เอง พูดอยางอุปมาหนอยก็วา เดี๋ยวนี้พญามารเขามาจัดการศึกษาในโลกนี้ การศึกษา ในโลกนี้ ทั ้ ง โลกเลย การศึ ก ษาจึ ง เป น ไปแต ใ นทางเป น ทาสของกิ เ ลส, เห็ น แก ตั ว , เห็ น แต ป ระโยชน ข องตั ว ; ไม ม ี ค วามคิ ด ที่ จ ะช ว ยโลก, ไมมีความคิดที่จะเปนปูชนียบุคคลในโลก, มีแตคนจะหาทรัพยหาเงินไปหมด ; ก็เลยไมมีป ญ ญาตามแบบของพระศาสนา ไมม ีป ญ ญาตามแบบของพระพุทธเจา.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ถาม : ที่นี้ ตนไมเปนอยางไร ? คุณทอง, ตนไมตนนี้เปนอยางไร ? ตอบ : ตองเหี่ยว ครับ.
ถาม : คุณประยูร ? ตอบ
: เทากับตนไมไมมีแกน ครับ, ปญญาไมมีก็เทากับไมมีแกน ; ไมมีแกน ตนไมก็ลม.
www.buddhadassa.in.th
๕๕๒
การกลับมาแหงศีลธรรม
ถาม : เหี่ยวหรือไมเหี่ยว ? ตอบ : มันตายไปเลย. ถาม : ไมเหี่ยวก็ได ; ตนไมบางตน อยูดวยเปลือก กระพี้ ขางในไมมีแกน เปนโพรงก็มีอยูนะ, เดี๋ยวนี้เขาดูที่สวยใชไหม ? แตละคนโลดเตนอยู สวยที่สุด งามที่สุด ; เพราะมันเจริญดวยวัตถุ ประดับประดาตกแตง make up อะไรตาง ๆ. ตอบ : ถาแบบนั้นมันก็ไมใชตนไมศีลธรรม ครับ เปนตนไมธรรมดา. ถูก แลวก็วาตนไมที่ไมมีแ กน มัน อยูไดเหมือ นกัน ; ก็ตอ งเปรีย บ ไดอ ีก แหละวา อุบ าสก อุบ าสิก า บางคนไมไ ดม ีศ ีล ธรรม ที ่เ ปน แกน ชั ้น ปญญา ; มีแตประดับประดา หรูหราสวยงามอยูแตผิวนอก ก็ไดเหมือนกัน.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org เชนวา มีแตการปฏิบัติ ทําบุญทําทาน ไปตามธรรมเนียมประเพณี, ไมมีปญ ญาเพื่อมรรค ผล นิพพาน อยางนี้มันก็ไดเหมือนกัน. นี่ยังไมถึงกับ ตาย แตมันเปนโพรงใชไหม ? ก็ตอ งเปรียบดวยตนไมที่เปนโพรง. ฉะนั้นเรา จึงพูดวา มนุษยสวนมากในโลกปจจุบันนี้ ไมมีแกน หรือไมมีแกน ก็แลวแต จะใชคําไหน, มันเปนโพรง ; แตในที่สุดมันก็ตองตายแนนอน. เปน อัน วา เราจะตอ งชว ยกัน ใหม ีป ญ ญาอัน แทจ ริง สํ า หรับ ความเปน มนุษ ยที ่ม ัน กลับ มา ; ก็ช ว ยกัน ไปตามเรื ่อ ง ซึ ่ง มีร ายละเอีย ด สําหรับจะพูดกันอีกมาก.
www.buddhadassa.in.th
การถอยหลังเขาคลอง
๕๕๓
ถาม : นี่ เกี่ ย วกั บ ลํ า ต น คื อ ให มี เปลื อ กดี ให มี ก ระพี้ ดี และมี แ ก น ดี . สํ าหรับ ที่จะกลาวเปนสากล สําหรับที่จะใชเปนคํากลาวอยางสากลของศีล สมาธิ ปญ ญานี ้ เคยพูด กัน มาแลว นะ วา ควรใชคํ า พูด วา อะไรจึง สากล แกคนทั่วไป และทุกศาสนาดวย ? ตอบ : ใช คํ าวา มรรยาท ครับ ; ศี ล คื อ การมี ม รรยาท ทางกายและวาจาดี , สมาธิก็คือ การมีมรรยาททางจิต, ปญญาคือมีมรรยาททางวิญญาณ. มรรยาททางวิญ ญาณ นี่ มั น ฟ งยาก ; ฉะนั้ น เวน ไวก อ น. มี ค วามรู เพีย งพอในสิ ่ง ที ่ค วรจะรู นี ่เ รีย กวา ปญ ญา. ศีล มีม รรยาทดีใ นทางกาย ทางวาจานี ่ใ ชไ ด, คือ การประพฤติก ระทํ า ถูก ตอ งอยู ใ นระเบีย บแบบแผน ที่ ควรจะเปน ; มรรยาท แปลวา แนว หรือระเบียบ. คํ า ว า มรรยาท แปลว า แนว หรื อ แถว ; มั น อยู ใ นแถว ในแนว ของความถู ก ต อ ง ทางกาย ทางวาจา นี้ เรีย กว า ศี ล . ศาสนาไหนก็ ไม รังเกี ย จ คนชนิ ด ไหนก็ ไม รังเกี ย จ ; ที่ จริงนั้ น มี แ ต วามั น จะทํ าหรือ ไม ทํ าเท านั้ น เขาชอบ ดวยกันทุกคน.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ที นี้ มี ม รรยาททางจิ ต หรื อ เป น สมาธิ คื อ จิ ต อยู ใ นระเบี ย บ ก็ มี ความสงบสุขทางจิต ; พู ดแลวก็ไมมีใครรังเกียจ แตแลวเขาก็ไมเอา เขาไปชอบ ความสนุกสนาน ฟุงเฟอ ทางวัตถุ.
ทีนี ้ ปญ ญ า คือ ความรู ที ่เ พีย งพอ ที ่ค วรจะรู ความรู ที ่ม นุษ ย ควรจะรู และก็รูอยางเพียงพอ นี่เราเรียกวาปญ ญา แตไมใชเพียงพอสําหรับไป
www.buddhadassa.in.th
การกลับมาแหงศีลธรรม
๕๕๔
หลงในวัต ถุ ; แตห มายถึง เพีย งพอสํ า หรับ จะแกป ญ หาของมนุษ ยใ หม ีส ัน ติส ุข ใหมีสันติภาพ ตางหาก นี้ก็เรียกวาปญญาอยูในแถวในแนวเหมือนกัน. ฉะนั้ น ศี ล สมาธิ ป ญ ญา ก็ เป น เรื่ อ งที่ ไม ล า สมั ย ไม เก า , จะเป น ของจํ า เปน ตลอดไป ในเมื ่อ โลกมนุษ ย ยัง มีม นุษ ยอ ยู . ควรไปทํ า ความเขา ใจ กั น ในข อ นี้ ; ก็ ค งจะมี ห วั ง บ า ง ที่ จ ะมี ก ารถอยหลั ง เข า คลอง มานิ ย มศี ล สมาธิ ปญญา กันอีก ; ถอยหลังเขาคลองมาสูศีล สมาธิ ปญญา กันอีก. ....
....
....
....
[การถอยหลังเขาคลองเกี่ยวกับ ใบ ดอก ผล แหงศีลธรรม ]
ถาม : ที นี้ หมวดสุ ดท าย คื อ ปลายยอด ใบ ดอก ผล. ส วนสํ าคั ญ มั นก็ อยู ที่ ด อ ก แล ะ ผ ล ; ใบ เอ าอ อ ก เสี ย ก็ ไ ด . มี ด อ ก แล ว ก็ ม ี ผ ล แล ว มี อะไรอี ก จึ ง จะพอ คุ ณ ทอง ? เป น ดอก แล ว เป น ผล แล ว ต อ งเป น อะไร อีก ? หรือมีอะไรอีก จึงจะพอใหครบ ๓ อยาง คุณประยูร ?
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ตอบ : มีเม็ดใน
ถาม : มีเม็ดใน, คุณล้ําละ ? ตอบ : หมายถึงยอด. ถาม : มี ย อดอะไรอี ก ล ะ ไม ต อ งการยอดแล ว ; มี ด อก แล ว มี ผ ล เมื่ อ มี ผ ล แลวมีอะไรอีก คุณทอง ? ตอบ : ยังนึกไมออก ครับ.
www.buddhadassa.in.th
การถอยหลังเขาคลอง
๕๕๕
ถาม : ยังนึกไมออก! ถาเราไปหยิบผลไมมาลูกหนึ่ง แลววางอยูเฉย ๆ กับเรา กัดกินเขาไปมันตางกันอยางไร ? มีดอก แลวมีผล ? ตอบ : แลวมีการเสวยผล ครับ. ตอ งมีร ส มีร สที ่ก ิน ได ที ่บ ริโ ภคได ; ถา มัน เปน ตน ไมที ่ มีร ส บ ริ โ ภ ค ไม ไ ด มั น ก็ ใ ช ไ ด , ห รื อ ว า มั น มี ร ส ที ่ บ ริ โ ภ ค ได แ ต เ ร า ไ ม อาจที่ จ ะบริ โ ภคได ; อย า งนี้ มั น ก็ ไ ม ไ ด เ หมื อ นกั น ; มั น ต อ งมี ค วามเป น ไปได ที่เราจะไดบริโภครสของผลไม. นี่ เราทํ าอุ ป มาเอางาย ๆ วา มรรค ผล นิ พ พาน เปรีย บได กั บ วา ดอกไม ผลไม แลว ก็ร สแหง ผลไม คือ ความมีคา ที่อ ยูใ นผลไม. ดอก คือ มรรค, ผลคือ ผล, นิพ พาน คือ รสของผลไมที่เ รารูสึก ซึ่ง หมายความวา ตองมีการกิน มันจึงจะมีรส. ถาไมมีการกิน ก็เทากับไมมีรส ; ฉะนั้น รสที่อยู ในผลไม ก็ไมมีความหมายอะไร ; ตองมีการกินผลไมไดดวย และไดรูรสนั้นดวย.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org นี ้ม ัน เปน ขั ้น สุด ทา ยเสีย แลว เนื ่อ งอยู ก ับ การปฏิบ ัต ิห รือ กระทําขั้นตน . ถาไมมีการกระทําขั้นตน ขั้นสุดทายนี้มัน ก็ไมมี หรือ มีไมได ; แตเราอาจจะนํามาพูด ในฐานะเปนสิ่งชี้ชวน โฆษณา หรือชวนใหสนใจก็ได เหมือนกัน. ที่นาสนใจที่สุดก็คือพระนิพพาน. ถาม : พระนิพพานมีรสอยางไร คุณทอง ? ตอบ : วางเปลา ครับ.
www.buddhadassa.in.th
๕๕๖
การกลับมาแหงศีลธรรม
ถาม : รสวางเปลา โฆษณาไมได ไมมีใครเอา ; คุณ ประยูร นิพพานมีรส อยางไร ? ตอบ : ตั วพระนิ พ พานเอง จะกล าววามี รสอย างไรไม ได ค รับ นอกจากเรา ผูไดสัมผัสจะรูรสเทานั้นเองครับ คือวา รสเย็นสบาย. ถาม : ที่วาพระนิพพานจะใหเรารูสึกรสอยางไร นั่นคือพระนิพพานจะชวยใหเรา รูสึกรสอยางไร ? ตอบ : สงบ เย็น ครับ. ถาม : ถาถามวา นิพพานมีรสอยางไร ? พูดอยางภาษาคนธรรมดา มีรส สงบเย็น. ทําอยางไรเขาจึงจะพอหยั่งทราบไดวา ไมใชน้ําแข็งละ ?
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ตอบ : คือ เราตองอุปมา หรือเปรียบใหเขาฟงครับ วา รสพระนิพพานเปน อยา งไร โดยเทีย บวา เวลาเรารอ งไห หรือ เราเดือ ดรอ น มัน มีร ส อยางไร ? แลวเวลาเราดีใจ เราตื่นเตนนั้นรสอยางไร ? แลวเวลาที่ เราไมรองไห ไมดีใจ เวลาเราอยูในภาวะเฉย ๆ อยางนั้นแหละครับ เราตองเทียบอุปมาวา นั้นอยูตรงกลาง ; นั้นคือรสพระนิพพาน ครับ. ถาม : คุณทอง มีวิธีพูดอยางไร ถึงรสของพระนิพพานใหเปนที่สนใจ ? ตอบ : ผมไมมีคําพูดครับ. ถาม : นี้เปนลูกศิษยเซ็น พอถามวา นิพพานมีรสอยางไร เขาหุบปากเทานั้น, คุณล้ํา ?
www.buddhadassa.in.th
การถอยหลังเขาคลอง
๕๕๗
ตอบ : มี อี ก อั น หนึ่ ง ที่ พ อจะสั ง เกตได คื อ เวลาตื่ น จากนอน ก อ นที่ จ ะมี อารมณอะไรเกิดขึ้น. นี ้ ก ็ ม ี ค น เ ค ย พ ู ด : ม ี จ ิ ต ใ จ เ ห ม ื อ น กั บ เ ด ็ ก อ อ น ใ น ค ร ร ภ มารดา ; ยัง คิด อะไรไมเ ปน ยัง หยุด นิ ่ง อยู . แลว คุณ ก็เ ปรีย บเทีย บวา แรก ตื่นนอน ยังไมมียุง ในหัว ในอะไรนี้ ก็ไดเหมือนกัน, แตมันยังนอยอยู. เพราะฉะนั้ น ถ าจะพู ดเรื่องของรสของพระนิ พพาน ต องแบ งเป นชั้ น ๆ ; ถ า ว า เป น ชั้ น แท จ ริ ง ละก็ ต อ งหุ บ ปากอย า งคุ ณ ทองว า . แต ถ า เอาชั้ น รองลงมา บัง คับ ใหพ ูด , หรือ จะตอ งพูด ก็พ ูด ไป ตามที ่จ ะมองเห็น วา คนคนนี ้โดยเฉพาะ ที ่พ ูด กับ เรา เขาจะเขา ใจไดอ ยา งไร. แตว า พูด ยาก เพราะมัน ไมอ ยู ใ นวิส ัย ที่ พูดกันอยูตามธรรมดา. นิพ พาน ถา พูด วา เย็น ก็เ ขา ใจไดบ า งแตไ มถ ึง ที ่ส ุด . ถา พูด วา เฉย เขาก็จ ะไมส นใจไปเสีย อีก ; เพราะมัน ไมช อบเฉยนี ่ค นเรา. ถา พูด วา วาง แลวก็ชักจะกลัวไปเสียอีก, กลัวความวาง. ฉะนั้ น จึงมี คําพู ดแบบภาษาคน พูดกันไปตามสมควรแกบุคคล แกเหตุการณ . รวมความแลวก็มีคําพูดวา นิพพาน เปน สุขอยางยิ่ง นี้ก็มี.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org นี ้ก ็ต อ งอธิบ ายกัน อีก ทีว า “อยา งยิ ่ง ” นั ้น คือ อยา งไร ; เพราะ ถา ไมอ ธิบ าย เดี ๋ย วอยา งยิ ่ง มัน สุข ยิ ่ง ไปทางกามารมณก ็ไ ด ; ยิ ่ง ไปในทางอื ่น ซึ ่ ง มิ ใ ช น ิ พ พ า น ก็ ไ ด . พู ด ว า ไ ม ม ี ค ว า ม ทุ ก ข เ ล ย ; นี ่ เ ป น คํ า พู ด ที ่ ถ ู ก เป น ที่ สิ้ น สุ ด แห ง ความทุ ก ข เป น คํ า พู ด ที่ ถู ก ที่ สุ ด ; แต ค นก็ ยั ง เข า ใจผิ ด ได .
www.buddhadassa.in.th
๕๕๘
การกลับมาแหงศีลธรรม
เพราะวาคําวา ความทุกขนี้ มันมีอยูหลายชั้น, ที่เราจะไปพูดใหเขามองเห็นวา แมแตความสุขของชาวบาน นี้ก็เปนความทุกขอยางหนึ่ง เขาก็ไมเขาใจ. ความสุ ขอย างของชาวบ าน เป น สุ ข เวทนา ; ต อ งยึ ด ถื อ ต อ ง หมายมั่น ตองอะไร จึงจะเปนความสุขขึ้นมาได ; ถาเอานั้นเปนความสุข แลว ความสุ ข อย างยิ่ ง มั น ก็ ยิ่ งผิ ด ไปไกล. ฉะนั้ น ไปคิ ด ดู เอาเองวาควรจะพู ด กั บ ใครวาอยางไร. ถาม : ที่ นี่ ไม ต อ งร อ งไห ! ไม ต อ งหั ว เราะ! มี ค นพยายามที่ จ ะ อธิบ ายนิพ พานโดยอุป มาตา ง ๆ. ถา พูด วา นิพ พานไมตอ งเกิด ไมตองแก ตองเจ็บ ตองตาย อยางนี้นาสนใจไหม ? ตอบ : อยางนี้เขาไมเอาเลย.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ก็จะเปนเสียอยางนั้น. ถาเอาก็เอาอยางละเมอ ๆ เหอ ๆ ตาม ๆ กัน ไปวา ไมตอ งเกิด ไมตอ งแก ไมตอ งเจ็บ ไมตอ งตาย ; เพราะโดยความ รูสึกแทจริง เขายังอยากจะเกิดอยู เขาอยากจะเปนอยางนั้น อยากจะเปนอยางนี้ อยากจะมีนั่น จะมีนี่ อยากจะเสวยนั่น เสวยนี่. นั่นแหละเปนเรื่องที่ลําบาก ที่ จ ะบรรยายลั ก ษณะ หรื อ รสหรื อ อะไรของพระนิ พ พาน ; จึ ง มี ส ว นนี้ ที่ตองหุบปาก.
แตถ ึง อยา งไรก็ด ี, เราจะถือ หลัก ไวส ัก อยา งหนึ ่ง วา ถา เขารูจ ัก ความทุ ก ข ช นิ ด ไหนก็ ต าม ; เราบอกว า มั น ไม มี ค วามทุ ก ข ทุ ก ชนิ ด เป น
www.buddhadassa.in.th
การถอยหลังเขาคลอง
๕๕๙
ที ่ส ุด แหง ค วาม ทุก ขท ุก ช นิด ; เอ าค วาม ไมม ีท ุก ขท ุก ช นิด นั ่น แห ล ะ เปน ความสุ ข ในความหมายอี ก แบบหนึ่ ง ; และถื อ ว า เป น ความสุ ข อย า งยิ่ ง . อย า เอา ความสุข ในความหมายตามแบบของชาวบา นทั ่ว ๆ ไป คือ วา ไดก ิน ไดเ ลน ได ส นุ ก สนาน แล ว ก็ เ ป น ความสุ ข ; อย า งนั้ น มั น อี ก ความหมายหนึ่ ง ต า งหาก. ความสุข ชนิด ที ่ไ มม ีค วามทุก ขใ ด ๆ เหลือ อยู ทั ้ง ที ่เ ปน ทุก ขโ ดยตรง เปน ทุก ข โด ยออ ม เปน ทุก ขใ ตด ิน ห รือ บ น ดิน อะไรก็ต าม มัน ไมม ีทั ้ง นั ้น อ ยา งนี้ เรี ย กว า นิ พ พาน. มั น มี ลํ า ดั บ หรื อ ขั้ น ตอนอยู ใ นตั ว ที่ เขาจะต อ งรู จั ก ความทุ ก ข ขึ ้น มา, ตามลํ า ดับ ทุก ๆ ชนิด ของความทุก ข ; แลว ก็ด ับ เสีย ซึ ่ง ความทุก ขชั ้น สุดทาย นี้ก็เรียกวา นิพพานได. ม ัน เป น ก า ร ลํ า บ า ก อ ยู ม า ก ที ่จ ะ โ ฆ ษ ณ า ใ ห ค น ส น ใ จ พ ร ะ นิพ พาน หรือ วา อยากจะไดพ ระนิพ พาน. เราพยายามกัน มาตั ้ง ๔๐ กวา ป ดู ยั ง ไม ไ ด ผ ลในข อ นี้ , คื อ ไม ป ระสบความสํ า เร็ จ ในการโฆษณาให ค นรู จั ก และ อยากไดพระนิพพาน ; แตก็ยังจะตองทําตอไป มันไมมีอะไรที่จะดีกวานี้.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org นี ่ แ ห ล ะ ย อ ด สุ ด ข อ ง พ ฤ ก ษ า แ ห ง ศี ล ธ ร ร ม มี ม ร ร ค คื อ เกิ ด ญ า ณ รู ต า ม ที ่ เ ป น จ ริ ง ใ น สิ ่ ง ทั ้ ง ป ว ง ; แ ล ว ก็ ม ี ผ ล ต ั ด กิ เ ล ส ไ ด , ต ั ด อวิชชา ตั ดกิ เลส อะไรทั้ งหลายได แล วก็ มี รสเย็ นตามความหมายของคํ าวา นิ พพาน คื อปราศจากความรอนโดยสิ้ นเชิ ง รอนทางกาย รอนทางจิ ต รอนทางวิ ญ ญาณอะไร ไมม ีทั ้ง นั ้น . ในมรรค ผล นิพ พาน เกิด ความรู ถ ูก ตอ ง ถึง ขนาดตัด กิเ ลสได, และก็ม ีก ารตัด กิเ ลส แลว ก็ม ีร สชาติข องความไมม ีก ิเ ลส เรีย กวา นิพ พาน ; เปน ของสากลของธรรมชาติ เปน ของจริง ของธรรมชาติ ; แตเ รามาเรีย ก กันวา ของพุทธศาสนา ; ที่จริงมันของธรรมชาติ.
www.buddhadassa.in.th
๕๖๐
การกลับมาแหงศีลธรรม
ถาม : ที่เราเรียกวาของพุทธศาสนานี้ สมควรหรือไมสมควร ? ตอบ : ก็ควรจะสมควรครับ. ถาม : สมควรอยางไร ? ตอบ : เพราะวาในศาสนาอื่นไมมีใคร รูถึงที่สุดอยางนี้. ถาม : หมายความวา ในศาสนาอื่น ไมมีใครรู ธรรมชาติขอนี้หรือ ? ตอบ : ธรรมชาติขอที่เปนพระนิพพาน ไมมีในศาสนาอื่น. อยา พูด อยา งนั ้น มัน อาจจะพลาดไปก็ไ ด. ธรรมะนี ้เ ปน ของ ธ ร ร ม ช า ติ , เ รื่ อ ง ม ร ร ค ผ ล นิ พ พ า น นี ้ เ ป น ข อ ง ธ ร ร ม ช า ติ อ ั น ลึก ซึ้ง ที่สุด ; ที่วา เปน ของพุท ธศาสนา คือ เปน ความรูข องบุค คลที่เปน ผูรู ผูตื่น ผูเบิกบาน ใครก็ได, จะเรียกวาศาสนาชื่ออื่นก็ได, จะเรียกชื่ออยางอื่น ก็ได, ถาเขาเปนผูรู ผูตื่น ผูเบิกบานโดยแทจริง.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ถาสมมติวาพระพุทธเจาองคอื่นเกิดขึ้น แลวสอนอยางเดียวกันแลว ไมเรียกวาพุทธศาสนาก็ได ; ที่เปนเรื่องสมมติตามชื่อบุคคล มันก็ไปอีกอยาง หนึ่ง ; ที่วา ศาสนาของพระสมณโคดมนี้ ก็ไ ปอีก อยา งหนึ่ง ; แตมัน เปน ของจริง ของธรรมชาติ ที่พ ระสมณโคดมพบ แลว มาสอน ; จะวา ของทา น มันก็โดยสมมติ, ในฐานะเปนผูพบแลวนํามาสอน.
www.buddhadassa.in.th
การถอยหลังเขาคลอง
๕๖๑
แตเ นื้อ แทแ ลว นิพ พานเปน ของธรรมชาติ เพราะวา เปน ธรรมธาตุ, ธัมมธาตุ อันหนึ่ง ซึ่งมีอยูตลอดกาล. ถ าเราทํ า ให ค นเข าใจความจริงถึ งข อ นี้ ได ก็ เรีย กวา มี การกลั บ มา แห ง ศี ล ธรรม ถึ ง ที่ สุ ด . เราถอยหลั ง เข า คลองไปหาพระพุ ท ธเจ า ได กี ่พ ัน ปก ็ต ามใจ ; ยอมเรีย กวา ประสบผลสํ า เร็จ ในการแกไ ขความผิด พลาด บกพรอ ง หรือ อะไรก็ต าม ที ่ม ัน ควรจะแกไ ข. มีก ารกลับ มาแหง ศีล ธรรม โดยสมบู ร ณ ; แต เป น ศี ล ธรรมในความหมายอี ก อั น หนึ่ ง ต า งจากที่ ใ ช อ ยู ใ น ภาษาไทย, คือ ศีล ธรรมที ่ม ีค วามหมายอยูท ุก ระดับ ; แมก ระทั ่ง นิพ พานก็ มาอยูใ นคํ า วา ศีล ธรรม. เพราะวา นิพ พาน เปน สิ ่ง ที ่ม ีภ าวะปรกติอ ยา งยิ ่ง จึงเปนศีลธรรมอยางยิ่ง หรือเปนผลของศีลธรรมอยางยิ่ง. ....
....
....
....
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org นี ้เ ปน อัน วา เราไดพ ูด กัน มาดว ยการบรรยายชุด นี ้ ๑๒ ครั้ง แลว ก็เห็นวา ควรจะยุติกันที.
ใหทุกคน สรุปใจความ จนใหไดวา ปญ หาเฉพาะหนาของเรา ของประเทศชาติข องเรา หรือ ของโลก ของเรา ; ใชคํา สมมติวา โลกของเรา คือ กําลั งกาวไปหาความพิ นาศ จนจะสู ญ เสี ยความเป น มนุ ษ ย สูญ เสี ยความ สงบสุข สูญ เสีย ทุก อยา งที ่ม นุษ ยไ มค วรจะสูญ เสีย ; เพราะเหตุสิ ่ง เดีย ว คือ เหตุ ที่ ว า ศี ล ธรรมมั น หายไป เพราะคนไม รู ไม ส นใจ ไม ป ฏิ บั ติ ไม รัก ษา ไม ทะนุ ถ นอม. นี่ แ หละโลกมี แ ต วิก ฤติ การณ คื อ ความทุ ก ข ความยุ ง ยาก ความ ลําบาก ความระสําระสาย ที่เขาเรียกวา วิกฤติการณ มากขึ้นทุกที, มากขึ้นทุกที, แลวจะวินาศในที่สุด ; เพราะวาเห็นแกตัวยิ่งขึ้นทุกที จนจะทําลายลางกันเอง ใหหมดไปทั้งโลก.
www.buddhadassa.in.th
๕๖๒
การกลับมาแหงศีลธรรม
แต ถาศี ล ธรรมกลั บ มา มั น ก็ จะเปลี่ ยนทิ ศทาง ในความหมายวา “ถอยหลังเขาคลอง” หมุนมาสูความถูกตอง ; แลวก็จะดํารงอยูในความถูกตอง เปนโลกที่สมบูรณดีทั้งฝายวัตถุและจิตใจ จนเรียกไดวา โลกของพระศรีอาริยเมตไตรย มีความหายที่ดีที่สุด อยูในตัวเองในคํานั้น. อริย เมตไตรย-ความเปน มิต รอัน ประเสริฐ ; เมตไตรย มาจาก คํ า ว า เม ตตา, ไม ตรี -มิ ต ร นั ่ น เอง, คํ า เดิ ม คื อ คํ า ว า มิ ต ต. อริ ย เมตไตรย อริ ย ไมตรี , อริ ย มตต – มี ม ิ ต รอั น ประเสริ ฐ เพราะไม มี ศัตรูเลย ในโลกทั้งโลกไมมีศัตรูเลยมีแตมิตรอันประเสริฐ. อยางที่บรรยายไวในสูตรนั้น วา พอคนลงจากเรือนของตัว ก็จําไม ไดวาใครเปนใคร ; ตอเมื่อกลับถึงบานตัวเองอีกแลว จึงจะรูวาใครเปนใคร ; เปนผัวของเรา เปนเมียของเรา จึงจะรูได. ถาลงจากเรือนไปแลวรูไมได คือมัน เหมือนกันไปหมด จนไมรูวาใครเปนใคร. นั่นแหละความหมายของอริยเมตไตรย มันเปนมิตรประเสริฐสูงสุดมันเหมือ นกันไปหมด หาศัตรูไมได. ภาวะอยางนี้ จะมีมาเมื่อ ศีลธรรมสมบูรณ ๑๐๐ เปอรเซนต.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ฉะนั้ น ขอให ช ว ยกั น ทุ ก อย า ง ทุ ก ทาง ตามความสมารถ ของตน เพื ่ อ การกลั บ มาแห ง ศี ล ธรรม โดยวิ ธ ี ที ่ ถ อยหลั ง เข า คลองไป หาพระพุ ท ธเจ า รวมทั ้ ง พระธรรม รวมทั ้ ง พระสงฆ . ขอให เ ป น อย า งนี้ แลวการบรรยายแลวบรรยายอีก เหน็ดเหนื่อยทั้งผูพูดและผูฟง นี้ก็จะไมเปนหมัน เปลา. การบรรยายสมควรแกเวลา. ขอยุติการบรรยายใหพระคุณเจาทั้งหลายไดสวดบทพระธรรม เพื่อ เกิดกําลังใจในการปฏิบัติหนาที่ของตนตอไป.
www.buddhadassa.in.th
ภาคผนวก www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org
www.buddhadassa.in.th
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org
www.buddhadassa.in.th
การระดมธรรม บันทึกคําบรรยาย
สวนโมกขฯ ๒๙ เม.ย. ๒๕๑๙
ระดมธรรม [ผูประสานงานระดมธรรม สงกระจายเสียงที่สวนลุมพินี ๒ พ.ค.๑๙ ]
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ทานทั้งหลาย ที่เปนสมาชิกแหงการระดมธรรม ที่กําลังประชุมกันอยูที่นี่,
ข า พ เจ า ข อ แ ส ด ง ค ว า ม ยิ น ดี แ ล ะ อ นุ โ ม ท น า ใน ก ารก ระ ทํ า ใ น ค รั ้ ง นี ้ ใ น ลั ก ษ ณ ะ อ ย า ง นี ้ เพ ร า ะ ว า มั น เป น สิ ่ ง ที ่ ส ม ค ว ร แ ก เ ว ล า และแก ส ถานการณ เ ป น อย า งยิ ่ ง แล ว ; หรื อ ถ า จะให พ ู ด กั น อย า งตรง ๆ ก็ อ ย า ก จ ะ ก ล า ว ว า ค ว ร ก ร ะ ทํ า กั น ตั ้ ง แ ต ก อ น ห น า นี ้ เสี ย น า น แ ล ว ; การที ่เ พิ ่ง กระทํ า ในเวลานี ้ เรีย กวา มัน อยู ใ นลัก ษณะที ่ส ุก งอม ขืน ปลอ ย ไ ว ก ็ เ น า แ ต ก ็ น ั บ ว า พ อ ทั น แ ก เ ว ล า อ ยู ใ น ก า ร ที ่ จ ะ ก ร ะ ทํ า สิ ่ ง ที ่ เ รี ย ก วา “การระดมธรรม” ๕๖๕
www.buddhadassa.in.th
การกลับมาแหงศีลธรรม
๕๖๖
ขา พ เจา ขอรอ งใหช ว ยกัน กระทํ า ใหเ หม าะสม แกภ าวะ ของ พุท ธบ ริษ ัท ห รือ จะเปน ศ าสนิก ใน ศ าส น าไห น ก็ต าม . เดี ๋ย วนี ้ส ว น ให ญ เรีย กวากระทํ ากั น ในฐานะที่ เป น พุ ท ธบริษั ท ก็ ขอรอ งให ก ระทํ าอย างเหมาะสมแก ความเป น พุ ท ธบริ ษั ท คื อ ไม ใ ห เป น เพี ย งพิ ธี รี ต อง ซึ่ ง มี ลั ก ษณะงมงาย หรื อ ว า หลอกตั ว เองเสี ย มากกว า . ถ าทํ า เหมาะสมแก ค วามเป น พุ ท ธบริษั ท แล วก็ ย อ มจะ เหมาะสมแกค วามเปน คนไทย อยูโดยอัต โนมัติ หรือ ถา จะกลา วใหก วา งกวา นั ้น ก็คือเหมาะสมแกความเปนมนุษย ในความหมายของคําวา “มนุษย” ที่ถูกตอง. ข า พเจ า เข า มาร ว มกิ จ กรรมไม ได ด ว ยตนเอง จึ ง ต อ งขอถื อ โอกาสส ง ความคิด เห็น หรือ ความรูส ึก บางประการนี ้ม า โดยอาศัย เครื ่อ งมือ อยา งที ่ท า น ทั้งหลายก็เห็นอยูแลวในเวลานี้ เรียกวาเป นของแทนตั วขาพเจา ผูมาไม ไดด วยเหตุ หลายอยางหลายประการ และสวนใหญก็ขึ้นอยูกับสุขภาพ. ....
....
....
....
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ขา พเจา มีค วามคิด เห็น อยู บ า ง และเชื ่อ วา คงจะเปน ประโยชนบ า ง ไม มากก็นอย เกี่ยวกับการกระทํ าสิ่งที่กําลังกระทําอยูนี้ และมีความรูสึกบางอยาง ที่อยากจะนํามาแถลงใหทราบพรอม ๆ กันไปขอไดโปรดฟงอยางพินิจพิจารณาดวย.
ในชั้ น แรกก็ จ ะพู ด กั น ถึ ง คํ า ว า “การระดมธรรม” ตามความคิ ด เห็ น และความรูส ึก ; เมื ่อ พูด ถึง คํ า วา ระดม ก็พ อจะเขา ใจกัน ไดวา หมายถึง อะไร. ถ า เป น การระดมแท จ ริ ง ก็ คื อ กระทํ า อย า งขยั น ขั น แข็ ง เหมื อ นอย า งว า ระดม กั นดั บไฟที่ กํ าลั งไหม บ าน ก็ ทํ ากั นสุ ดกํ าลั ง หรือสุ ดฝ ไม ลายมื อ ; หรือวาจะระดม กั น ขุ ด คู ขุ ด คลอง ให ทั น แก เวลา, ก็ เป น การระดมกั น อย างสุ ด กํ า ลั ง หรือ สุ ด ฝ ไม -
www.buddhadassa.in.th
ระดมธรรม
๕๖๗
ลายมือ ระดมกําลังงาน ระดมเครื่องมือ ระดมกําลังสติปญญา. แตวาในขณะที่ กําลังระดมนั้น เราไมคอยมีโอกาสคิดนึกใครครวญกันมากนัก ; ก็ตองมีการ ซักซอมกันกอนหนานั้น หรือซักซอมอยูเปนประจํา เมื่อถึงคราวที่จะระดมใหทัน แกเวลา ก็จะทําไดโดยงาย : ยอมใชพลังงานทั้งหมดที่มี ยอมใชเครื่องมือทั้งหมด ที่มี ยอมใชสติปญญาทั้งหมดที่มี และเปนไปโดยอัตโนมัติ ไมมีใครขยักไวได ถามัน มีเหตุการณที่เรียกวา เอาเปนเอาตายกัน ทีเดีย ว. ในการระดมธรรมนี้ ก็ขอใหมีความหมายอยางนี้. สําหรับคําวา “ธรรม” นั้น มีความหมายมาก เกินกวาที่จะเอามา บรรยายกันในเวลาอยางนี้. ขอสรุปเอาแตใจความที่สั้นและถูก ตองที่สุด วา ธรรมนั ้น คือ สิ ่ง ที ่จ ะทรงโลกนี ้ไ วไ ด. นี ้เ ปน ขอ แรก ที ่จ ะทรงโลกนี ้ไ วใ น ลักษณะที่เปนโลก ไมวินาศไป, ไมวาโลกชนิดไหนถารอดอยูได ก็ดวยอํานาจของ สิ ่ ง ที ่ เ รี ย กว า “ธรรม” ; และเมื ่ อ รอดอยู ไ ด แ ล ว ก็ ย ั ง ต อ งประกอบด ว ย สั น ติ คื อ ความสงบสุ ข ; สั น ติ ก็ มี ไ ด ด ว ยสิ่ ง ที่ เ รี ย กว า ธรรม, มี สั น ติ แ ล ว ก็ตองมีความสะดวกสบายพอสมควรดวย.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ความสะดวกสบายที่เกินไปนั้น เป นการทําลายจิตใจของคน ให เหมือนกับคนบา ; ถาสะดวกสบายพอสมควรแลวก็ดีแน ; การที่จะเปนไปพอ สมควรนั้น ก็เ รีย กวา ธรรม ; นี้เ ปน ใจความสํา คัญ ของสิ่ง ที่เ รีย กวา ธรรม คือพอดี แลวอยูตรงกลาง ไมมากก็นอย ไมสุดโตงขางนั้นขางนี้ ดังนี้เปนตน ; ฉะนั้น สิ่ง ที่เ รีย กวา ธรรม จึง จํา เปน สํา หรับ ที่จ ะทรงโลกนี้ไ ว ไมใ หพิน าศ แลวใหอยูดวยสันติ แลวใหอยูดวยความสะดวกสบายพอสมควร.
www.buddhadassa.in.th
๕๖๘
การกลับมาแหงศีลธรรม
ทีนี ้คํ า วา “ธรรม” นั ้น ยัง ไมห มดกระแสความ ; ทา นจะพูด กัน สั้ น ๆ ว า ระดมธรรม ก็ ต ามใจ. ข า พเจ า อยากจะขยายความออกไปอี ก หน อ ย วา .“ระดมพลัง แหง ธรรม” ; ดัง นั ้น เราจะตอ งสนใจคํ า วา “พลัง แหง ธรรม” กัน อีกสักความหมายหนึ่ง. เราตอ งนึก ถึง สิ ่ง ที ่เ รีย กวา “พลัง ”. ถา ไมม ีพ ลัง แลว มัน ทํ า อะไร ไมไ ด ; แต “พลัง ธรรม”นี ้ มัน ยัง มีพ ิเ ศษตรงที ่ว า ไมม ีพ ลัง อะไรจะจริง กวา ดี กวา สูง กวา แนน อนกวา . ขอใหใ ครค รวญดู วา พลัง ที ่ช อบพูด ถึง กัน นัก นั ้น มัน เปน พลัง แหง ความโงก ็ไ ด. มิจ ฉาทิฏ ฐิก ็ไ ด, ใชก ัน ไปอยา งบา ๆ บอ ๆ ขอ อภัยที่ใชคําโสกโดกหยาบคายอยางนี้ ก็เพื่อประหยัดเวลา. พ ลั ง ข อ ง ธ ร ร ม นั ้ น เ ป น พ ลั ง ที ่ จ ริ ง ว า ม ั น เ ป น พ ลั ง ข อ ง ธรรมชาติ ที ่เ ปน ไปอยา งถูก ตอ งตามกฎเกณ ฑข องธรรมชาติ ; ฉะนั ้น จึง จริง กวา . มัน ดีก วา ก็ต รงที ่ว า มัน เปน ธรรม ประกอบไปดว ยธรรม ; และมัน สูง กวาก็ เพราะวาไม มี อะไรที่ จะอยู เหนื อธรรมไปได มั นสู งกวาสิ่ งทั้ งหลายทั้ งปวง จึ ง ควบคุมสิ่งทั้งหลายทั้งปวงได เหมือนกับที่พระเป นเจาอยูเหนือกวา แลวก็คุมครอง โลกได . ฉะนั้ น พลั ง แห ง ธรรมจะเรี ย กอี ก อย า งหนึ่ ง ก็ คื อ พระเป น เจ า ; พลั ง แห ง ธรรมจึง สูง กวา . และที ่ว า แนน อนกวา นั ้น หมายความวา อาศัย ได ไวใ จได พึ ่ง พาได ; พลังอยางอื่นนั้นมันไมแนนอน แตพลังแหงธรรมแลวมันแนนอนอยางนี้.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ระ ด ม ธ รรม ก็ ค ื อ ระ ด ม พ ลั ง แ ห ง ธ รรม ที ่ จ ริ ง ก ว า ดี ก ว า สูงกวา แนนอนกวา.
www.buddhadassa.in.th
ระดมธรรม
๕๖๙
ที นี้ ก็ อ ยากจะให ข ยายความให ชั ด เจนออกไปอี ก นิ ด หนึ่ ง อี ก คื อ แทนที ่จ ะพูด วา ระดมพลัง แหง ธรรม ก็อ ยากจะพูด วา ระดมการใชพ ลัง แหง ธรรม ; ระดมพลัง แหง ธรรมนั ้น มัน ยัง ฟง กํ า กวม เลือ นลางอะไรอยู . ระดม พลังแหงธรรมเราพูดใหชัดเสียเลยวา “ระดมการใชพลังธรรม”. ก า ร ใช พ ลั ง แ ห ง ธ ร ร ม นี ้ เป น ห น า ที ่ ข อ ง ม นุ ษ ย ที ่ รู จ ั ก สิ ่ ง ที่ เรีย กว าธรรม และอย า งถู ก ต อ งด ว ย. อยากจะพู ด แต เพี ย งว า รู จั ก สิ่ ง ที่ เรีย กว า ธรรมก็แ ลว กัน ; ถา รู จ ัก ผิด ๆ ก็เ รีย กวา ไมรู , ถา รู จ ัก ธรรม ธรรมะนี ้ ก็ต อ ง เรียกวารูจักอยางถูกตอง. หนาที่ของมนุษย ที่รูจักสิ่งที่เรียกวาธรรม นั้นก็คือ การระดมกันใชพลังแหงธรรมนั่นเอง. ร ะ ด ม ใ ห ถ ู ก พ ลั ง แ ห ง ธ ร ร ม จ ริ ง ๆ ไ ม ง ม ง า ย ไ ม อ อ น แ อ . เดี๋ ย วนี้ ค นเป น อั น มาก แม ที่ เรี ย กตั ว เองว า พุ ท ธบริ ษั ท ผู ป ระพฤติ ธ รรม ก็ ยั ง มี ความงมงายอยู ม าก, และเนื่ อ งมาจากความอ อ นแอ ไม อ ดกลั้ น อดทน ไม ขยั น ขัน แข็ง ก็พ ูด แตป าก ; ปากก็อ าจจะพูด ไดม าก วา ปฏิบ ัต ิธ รรม ขยัน ขัน แข็ง แต แลวก็ ไม มี ผ ลอะไรเลย. ฉะนั้นขอให ทุ กอย างเป น ไปอยางถูกต อ ง ตามความ หมาย และตามกฎเกณฑของสิ่งนั้น ๆ.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ....
....
....
....
พูด ซ้ํ า กัน อีก ทีห นึ ่ง ก็ว า ระดมธรรม คือ ระดมพลัง แหง ธรรม ; แลว ขยายออกไป เปน ระดมการใชพลังแหงธรรม.
www.buddhadassa.in.th
๕๗๐
การกลับมาแหงศีลธรรม
ทีนี ้ การระดมกัน ใช พลัง แหง ธรรม นั ้น อยากจะระบุไ ปเสีย เลย ว า คื อ พลั ง แห ง สั ม มาทิ ฏ ฐิ . และการกระทํ า ไปตามอํ า นาจของสั ม มาทิฏ ฐินั ้น นั ่น แหละคือ การระดมการใชพ ลัง แหง ธรรม ที ่เ ต็ม ความหมาย. ระดมการใชพ ลัง แหง ธรรม พูด ได ; แตไ มรู ว า ธรรมคือ อะไร ก็ร ะบุเ สีย วา สั ม มาทิ ฏ ฐิ คํ า เดี ย วก็ พ อ. ระดมพลั ง แห ง สั ม มาทิ ฏ ฐิ และการกระทํ า ไปตาม อํานาจแหงสัมมาทิฏฐิ ก็มีสัมมาทิฏฐิเปนพลัง, และใหสัมมาทิฏฐินั้นเปนผูชักจูงไป หรือเปนหลักที่แนนอน ; อยาใชหลักอื่นมาเปนเครื่องยึดถือเลย. สัม มาทิฏ ฐิ คํ า เดีย วก็พ อแลว เพราะพระพุท ธเจา ก็ไ ดต รัส วา สมฺม าทิฏ ิส มาทานา สพฺพ ํ ทุก ฺข ํ อุป จฺจ คุ เรากา วลว งความทุก ขทั ้ง ปวง เพราะการสมาทานสั ม มาทิ ฏ ฐิ . ก า วล ว งทุ ก ข ทั้ ง หลายก็ คื อ ตั ด ป ญ หาทั้ ง หลาย ออกไปได ไม ให มีป ญ หาเหลืออยู ; ขึ้นชื่อวาป ญ หาแล วเป นความทุ กขทั้งนั้น และ ทุ ก ระยะเวลาด ว ย คื อ ทั้ ง อดี ต ทั้ งป จ จุ บั น ทั้ ง อนาคต ต อ งทํ า ให ห มดป ญ หา ; สัมมาทิฏฐิจะทําใหหมดปญหา แตวาตองสมาทานสัมมาทิฏฐิ คือมีไวอยางถูกตอง พรอมมูล.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ที ่เ รีย กวา สมาทาน นั ้น แปลวา การมีไ ว หรือ ถือ เอาไวอ ยา ง ถูก ตอ ง และอยา ง ครบถว น, ถา สมาทานสัม มาทิฏ ฐิ ก็ค ือ มีส ัม มาทิฏ ฐิ อยางถูกตองและครบถวน.
คํ า วา “ถูก ตอ ง “นี ้ ขย าย ค วาม ใหช ัด ดีก วา : ใหถ ูก ตอ ง ให เขม แข็ง ใหม ากพอ แลว ก็ใ หท ัน แกเ วลา ; อยา งนอ ยก็ ๔ นัย แลว . มัน ต อ งถู ก ต อ ง คื อ ตรงตามเรื่อ งราวอย า งที่ เรีย กว า มั น ถู ก ฝาถู ก ตั ว ; เพราะธรรมะ
www.buddhadassa.in.th
ระดมธรรม
๕๗๑
มีมากแงมากมุมมากระดับ, ตองเอามาอยางถูกตอง ถูกฝาถูกตัว แลวก็ตองเอามา อยางเขมแข็ง ไมใชอยางออดแอดออนแอ เหมือนที่เปนอยูกันโดยมาก. ที่เ รีย กวา เครง นั่น แหละ จะตอ งระวัง ใหดี ใหมัน เปน การเครง ที ่ถ ูก ตอ ง. ถา เครง ครัด ก็ย ัง ใชไ ด และเขม แข็ง นี ้ก ็ยิ ่ง แนน อนขึ ้น ไปอีก ; แต เราจะเรียกสั้น ๆ วา มันเขมแข็งก็แลวกัน. ที่วาใหม ากพอนั้น บางทีมีธ รรมะกะปริบ กะปรอยไมม ากพอ หรือ มี ค วามถู ก ต อ ง แต มั น น อ ยไป มั น ไม ม ากพอ ; เพราะฉะนั้ น ต อ งให มั น มี อ ย า ง เพียงพอ. ควรจะทดสอบดูดว ยตนเอง ในการมีธ รรมะของตนเอง แตล ะคน แตละเรื่อง วามันมากพอหรือเปลา ถามันมากพอแลว มันจะตองแกปญหาได ; เดี๋ยวนี้มันถูกตองนิด ๆ หนอย ๆ มันเขมแข็งชั่วครูชั่วขณะ แลวมันก็ไมมากพอดวย.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org อัน สุด ทา ยวา ใหทัน แกเ วลา ; ถา มานอกเวลา ไมท ัน แกเ วลา ก็ไ มแ กป ญ หาอะไรได. พระพุท ธเจา ก็ท รงย้ํ า มากในขอ ที ่ว า ใหม ัน ทัน แก เวลา ; อยา งที่ต รัส หรือ ยอมรับ ที่ค นอื่น กลา ว วา ขโณ โว มา อุป จฺจ คา -ขณะอย า ก า วล ว งท า นทั้ ง หลายไปเลย. เรื่ อ งราวหนึ่ ง ๆ เหตุ ก ารณ อั น หนึ่ ง ประโยชนอันหนึ่ง ลวนแตมีเวลาจํากัดเฉพาะ แลวมันจะตองสําเร็จลงในขณะหนึ่ง เทา นั ้น ; ถา ขณะนี ้พ ลาดไป ก็ยุ ง ไปหมด เพราะมัน เนื ่อ งดว ยสิ ่ง หลายสิ ่ง หรือแมที่สุด ก็เนื่องดวยเวลานั่นเอง เปนสวนสําคัญ ; ตองทันแกเวลา.
www.buddhadassa.in.th
การกลับมาแหงศีลธรรม
๕๗๒
การที่จ ะมี สัม มาทิฏ ฐิ ก็ตอ งใหถูก ตอ ง เขม แข็ง มากพอ และ ทั น แก เ วลา นี้ เ รี ย กว า เป น การระดมการใช พ ลั ง ของสั ม มาทิ ฏ ฐิ อย า ง ถูกตอง. ....
....
....
....
ทีนี ้ ก็ม าดูก ัน ตอ ไป วา เรานี ่ร ะดมพลัง แหง ธรรม นี ้เ พื ่อ ประโยชนอะไร ใหชัดเจนลงไป อีกทีหนึ่ง. เราระดมการใช พ ลั ง แห ง ธรรม ในการแก ป ญ หาเฉพาะหน า ของเรา อยางที่มีการกลาวปรารภแลวในแถลงการณ ที่ไดโฆษณาไปในลักษณะ เป น การเชิ ญ ชวน ในการระดมธรรม, สรุป ความวา เรามี ป ญ หาเฉพาะหน า เหมือนกับวา ไฟไหมห ลังคาบ านอยูที เดี ยว จะตอ งรีบ จัดการใหทันแกเวลา ; ปญหาเฉพาะหนาของเรา ควรจะมองกันใหกวาง ๆ อยางที่เรียกวา ไมเห็นแกตัว.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ป ญ หาเฉพาะหน า ของเรา ในฐานะที่ เ ป น คนไทย ก็ มี ป ญ หา ในการที่ จ ะรั ก ษาความเป น คนไทย คื อ มี ค วามเป น ไทย หรื อ มี เ อกราช ของชนชาติไทย.
ทีนี้ ถาพูดวา เราเปนชาวโลก กับเขาดวยคนหนึ่ง แลวก็มีปญ หา เฉพาะหนา ที่เราจะตอ งทําเพื่อ โลก หรือ เพื่อ มนุษ ยโลก. ใครปฏิเสธได วา เรา ไมเปนชาวโลก และใครจะยอมใหเราปฏิเสธ.
www.buddhadassa.in.th
ระดมธรรม
๕๗๓
แตที ่สํ า คัญ กวา นั ้น เราเปน พุท ธบริษ ัท แลว ก็ม ีห นา ที ่เพื ่อ เปน พุท ธบริษัท จะตอ งแกปญ หาของพุทธบริษัท เพื่อคงความเปน อริยชนเอาไว ใหได. ขอซักซอมอีกทีหนึ่งวา : แกไขปญ หาเฉพาะหนาของเรา ในฐานะ เปนคนไทย ก็แกปญ หาเพื่อความมีเอกราชอยางชนชาติไทย. ในฐานะที่เปน ชาวโลก ก็แ กป ญ หาเฉพาะหนาเพื ่อ มนุษ ยโลก มนุษ ยชาติ. ในฐานะที่เปน พุทธบริษัท ก็แกปญหาเพื่อคงไวซึ่งความเปนอริยชน. เป น พุ ท ธบริ ษ ั ท นั ้ น มี ค วามหมายสํ า คั ญ อยู ที ่ ว า ต อ งเป น อริย ชน คือ คนที ่เ ปน อริย ชาติ ; ถา ไมอ ยา งนั ้น ก็เ ปน คนธรรมดา หรือ เปน บุถุชน ซึ่งมีอะไร ๆ ไมคอยจะแตกตางจากสัตวทั่ว ๆ ไปนัก. เปนมนุษยก็มีใจสูง มีความหมายดีอยูแลว ; แตถาเปนพุทธบริษัทเขามาอีก ความหมายก็เพิ่มมากขึ้น ไปอีก จนถึงกับวาจะเปนอริยชน ขอใหมองเห็นและก็รับรูไวดวย.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org เป นอันวา เราจะสรุปเอาใจความ กันอยางนี้ดีกวา วาการระดม การใชพลังแหงธรรมนั้น เราจะทําไปเพื่อความมุงหมายสัก ๓ ประการ คือ :-
๑. เพื่ อระงับ วิกฤติ ก ารณ ของมนุ ษ ยโลก นี้ เป นประโยชน เพื่ อ โลก
สวนรวม. ๒. เพื่อความปลอดภัยของชนชาติไทย นี้เพื่อประโยชนแกประเทศ ไทย ของคนไทย ในฐานะที่เปนหนาที่ของชนชาติไทย.
www.buddhadassa.in.th
๕๗๔
การกลับมาแหงศีลธรรม
และ ๓. เพื่อ ความสุข สวัส ดีข องแตล ะคน ๆ ไมเ ลือ กชั้น ชาติ ไมเลือกศาสนาก็ได. อยางต่ําที่สุดก็เพื่อบุคคลคนหนึ่ง ; สูงขึ้นมาก็เพื่อชนชาติไทย ทั้งหมด ; สูงขึ้นไปอีกก็เพื่อมนุษยโลกทั้งหมด. ทําไมเราตองแยกออกเปน ๓ ชั้นอยางนี้ ? เพราะวา มันไมอยูในระดับ เดียวกันบาง มันแตกแยกกันไป ตามเหตุผลหรือตามปจจัยที่เนื่องกันอยู ; อยาง เดี๋ยวนี้ถาเรานึกถึงโลกมนุษยแลว ก็รูสึกวานาหวาดเสียว เต็มไปดวยวิกฤติการณ มากขึ้น จนพูดกันไมรูเรื่อง อาจจะทําลายลางกันใหหมดไปจากโลก หรือเกือบ หมดไปจากโลก เมื่อไรก็ได. นี่มันกวางขวางอยางนี้. ทีนี้ ประเทศไทยเราก็เปนสวนหนึ่งของโลก ก็มี ปญ หาที่เนื่องดวย เหตุปจจัยเฉพาะของประเทศไทย ก็ตองแบงแยกเอามา สําหรับจะแกไขกันอีก สวนหนึ่ง ใหเหมาะเจาะ เหมาะสมแกประเทศไทยโดยเฉพาะ.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ทีนี้ ที่วาสําหรับปจเจกชนคนหนึ่ง ๆ นั้น หมายถึงโอกาสที่คนแตละ คนจะทํ าได ม ากกว า ที่ จ ะทํ า รวม ๆ กั น ; เขาก็ มี ป ญ หาเฉพาะตน ซึ่ ง จะต อ ง พยายามแกดวยตนของตนเปนพิเศษ ไมมีใครมารวมวงได เพราะมันเปนปญหา เฉพาะตน. สรุป ไดสั ้น ๆ วา เพื ่อ ระงับ วิก ฤติก ารณข องโลก เปน ขอ แรก, เพื่อ ความปลอดภัย ของประเทศชาติ เปน ขอ ที่ส อง, เพื่อความสุขสวัส ดีเปน พิเศษของคนแตละคน เปนขอที่สาม.
www.buddhadassa.in.th
ระดมธรรม
๕๗๕
ทั้งหมดนี้เรียกวาเปนการปรารภกันในเบื้องตน : ปรารภใจความ ของเรื่อง ที่จะตองทําความเขาใจกันกอน สําหรับกิจกรรมที่เรียกกันวาการระดม ธรรม หรือระดมพลังแหงธรรม หรือระดมการใชพลังแหงธรรม ก็ตาม. ....
....
....
....
ทีนี้ เรามาพูดกันทีละเรื่องใหละเอียดออกไป :เรื่ อ งแรก ก็ คื อ หั ว ข อ แรก ที่ ว า ระดมพลั ง แห ง ธรรม ใน ลั ก ษณะที่ เ ป น การต อ ต า น เพื่ อ ประโยชน แ ก โ ลกเป น ส ว นรวม ; เรียกวาขอแรกนี่นึกถึงโลกทั้งหมดกอน แลวก็ระดมการใชพลังแหงธรรม เพื่อ ผลดีแกโลกทั้งโลก. ขอ แรกจะต อ งนึ ก ถึ งวา โลกของเราควรจะเป น อย างไร ? โลกใน ปจ จุบัน นี้มีลัก ษณะอยา งไร ? โลกในปจ จุบัน นี้ ควรจะผา นเลยไปถึง ความ วิน าศหรือ ไม หรือ ใหห ยุด ยั้ง อยูไ ด ? แลว ก็แ กไ ขใหก ลับ ไปสูค วามสวัส ดี หรือปลอดภัย แมอยางวิธีที่เรียกวาตองถอยหลัง อยางที่เขาเกลียดกันนักวา “ถอยหลังเขาคลอง” ? เดี๋ยวจะไดพูดกันถึงขอนี้.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org เพื่อเขาใจขอนี้ วาโลกจะวินาศหรือไม ? จะตองศึกษากันสักหนอย และใชระยะเวลายืดยาวพอสมควร. มันลําบากอยูที่วา เราไมไดมีอายุยืนตั้ง รอยปพันป หรือหลายพันป ; เราจึงไมเห็นความเปลี่ยนแปลงอยางชัดแจง ดวย ตาของเราเอง, เราจะตองศึกษา หรือตองคํานวณ.
www.buddhadassa.in.th
๕๗๖
การกลับมาแหงศีลธรรม
เดี ๋ย วนี ้ส ัง คมเปน อยา งไร ? ถา เทีย บกัน เมื ่อ สัก ไมกี ่รอ ยปม านี้ ก็จ ะเห็น วา ตา งกัน ไกลลิบ ; พูด แลว ก็นา กลัว ที่จ ะพูด วา กอ นนี้พ วกโจรมีอ ยู ในปา ในเวลาค่ํ า คืน , แตเดี ๋ย วนี ้พ วกโจรมีอ ยู ในกรุง แลว ก็ป ระกอบกิจ กรรม ของเขากลางวัน แสก ๆ นี ่มัน เปลี่ย นถึง ขนาดนี้ แลว จะไมย อมรับ หรือ อยา งไร. คนสมัย โนน ไมใ จดํ า อํ า มหิต อยา งที ่ม ีใ จดํ า อํ า มหิต อยู ใ นโลกเวลานี ้ ; แมใ น กลางกรุงนครหลวงนี้. เมื่อวานนี้ก็ยังไดฟงขาว : เรื่องผัวคนหนึ่งฆาเมียดวยการยิงดวยปน แลวฆาลูกหญิงเล็ก ๆ ดวยการยิงดวยปน แลวก็ฆาตัวเองดวยปนกระบอกเดียวกัน เพราะเหตุแตเพียงวา สงสัยวาเมียมีชู แลวก็ทะเลาะกัน รุนแรงขึ้น จนถึงประกอบ กรรมอัน นี ้ ในสมัย นี ้ที ่ถือ กัน วา มนุษ ยม ีค วามเจริญ . แตวา ในสมัย โนน ที ่ถ ือ กันวามนุษ ยยังโง ยังไมเจริญ นั้น เขาไมทํากันอยางนี้ ; เขามีการอบรมมาดวย ธรรมะอยา งอื่น ซึ่งทํา ใหใหอ ภัย ได หรือ จะหยา กัน โดยอยา งหัว เราะเยาะก็ได ไมมีทางที่จะฆาเมียฆาลูก แลวฆาตัวเอง ดวยความโงเขลาบาหลังอยางเดี๋ยวนี้.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org และในวัน เดีย วกัน นี ้ย ัง มีขา วเรื่อ ง ผู ช ายคนหนึ ่ง ฆา พี ่ส าวดว ยมีด ในครัว เมื่อ กํา ลัง นอนอยู ดว ยเหตุเ พีย งนิด เดีย ว วา ขอเงิน ไปใชไ มไ ด. เขา เปนคนเหลวไหล ไมใครทํางาน พี่สาวไมใหเงินใช ก็โกรธขึ้นมาก็ฆาเสีย แลว ก็พ าขา วของหนีไป. นี่ใ นถิ่น หรือ ในยุค สมัย ที่ถือ กัน วา เจริญ มัน ยัง มีอ ยา งนี้ ; แตแลวมันกลับไมมีในถิ่นหรือในยุคสมัย ที่ถูกประณามวายังไมเจริญ.
ขอให คิ ด ดู เถิ ด มั น จะเป น เครื่อ งวัด ที่ ดี ว า โลกป จ จุ บั น นี้ กํ า ลั งเป น อย า งไร. ถ า เห็ น ว า โลกกํ า ลั ง จะเปลี่ ย นไปสู ค วามวิ น าศ แล ว เราก็ จ ะต อ ง
www.buddhadassa.in.th
ระดมธรรม
๕๗๗
นึก กัน ถึง การแกไ ข ; ถา มัน เดิน ไปผิด เราก็ตอ งถอยหลัง มาหาความถูก ; ยิ่งเดินไปมันก็ยิ่งผิด มากไป หรือจะออกขาง ๆ คู ๆ มัน ก็ค งจะไมถูกได. ถา เมื่อสมัยโบราณแตกาลกอนมันถูก คือมันไมมีเหตุการณอันเลวทรามอยางนี้ ; ก็จําเปนอยูเอง ที่จะตองถอยหลังเขาคลอง ไปหาความถูกนั้น. เรื่องจะรูหนังสือ หรือไมรูหนังสือนั้นไมสําคัญ ; คนสมัยที่ไมคอย รูหนั งสือ กลับ อยูกัน เป นผาสุกมี สัน ติสุข กี่พั น ป มาแลวก็ตามใจ ; แม ในครั้ง พุท ธกาลนี้ ก็เรียกวาไมรูหนังสือ ไมมี การใชห นังสือ ; หรือในประเทศไทยเรา หลายรอ ยปมาแลว ก็เรียกวา ไมรูห นังสือ กัน เปน สวนใหญ ตอ งสอนธรรมะ กั น ด ว ยรู ป ภาพเป น ต น ; แต มั น มี ค วามอยู กั น เป น ผาสุ ก สงบสุ ข มี จิ ต ใจ ประกอบดวยธรรมะ ในทุกแงทุกมุมนั่นเอง. เดี๋ยวนี้มันมีความเปลี่ยนแปลง ในการมีธรรมะของแตละคน. ทีนี้ เราก็จะระดมธรรมนี้ ก็เพื่อโลกปจจุบันนี้ อยาไดเลวตอไปอีก เพราะมันเลวมาก พอแล ว ; ยอนกลับ มาหาความปลอดภั ย เพื่ อจะไดเป นโลกที่ อ ยูในรูป แบบที่ สมบูรณ ที่พึงปรารถนา เรียกวา เปนโลกที่มันมีความสะอาด มีความสวาง มีความ สงบ อยูในจิตใจของมนุษยตามสมควร. ถาคนแตละคนมีความสะอาด สวาง สงบ สามอยางนี้อยูในจิตใจแลว โลกนี้ก็เปนโลกแหงความสะอาด สวาง สงบ โดยไมตองสงสัย. เราอยากจะมีโลกในรูปแบบที่นาชื่นใจ นาปรารถนา เราจึง ตองมีการแกไข.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ทีนี้ เพื่อที่จะใหรูจักสิ่งที่เรียกวาโลกดีขึ้น ชัดเจนยิ่งขึ้น พูดกันรูเรื่อง งา ยขึ้น ขา พเจา อยากจะชี้ห รือ แนะ ใหม องดูสิ่ง ที่เ รีย กวา โลก ๆ นี้ ใน ๓ รูปแบบดวยกัน: -
www.buddhadassa.in.th
๕๗๘
การกลับมาแหงศีลธรรม
แบบที ่ ห นึ ่ ง สมบู ร ณ ท างมโนธรรม แต ไ ม ส มบู ร ณ ท างวั ต ถุ . อี ก แบบ หนึ ่ ง สมบู ร ณ ท างวั ต ถุ แต ไ ม ส มบู ร ณ ท างมโนธรรม . ส ว นอี ก แบ บ ห นึ ่ ง ส ม บู ร ณ ทั ้ ง ท างม โน ธ รรม แล ะท างวั ต ถุ . ขอ ให ด ู ใ ห ด ี มั น เปน สิ ่ง ที ่ค วรสนใจอยา งยิ ่ง เกี ่ย วกับ ปจ จุบ ัน และอนาคต ของเราทุก คน นั่นเอง. ที่ ว า โลกแบบหนึ่ ง สมบู ร ณ ท างจิ ต หรื อ ทางมโนธรรม อย า งสมั ย พุทธกาลเปนตน แตไมสมบูรณ ดวยวัตถุ ปจจัยอุปกรณ เพื่อความสะดวกสบาย. ในยุคที่ศาสนาเกิดขึ้นในโลกหลาย ๆ ศาสนานั้น พอที่จะกลาวไดวา มีปญหาทาง มโนธรรมมากกวา ; เพราะเขาไมม ีเวลา ที่จ ะไปสนใจกับ เรื่อ งทางวัต ถุม ากนัก พออยู กั น ไปได ก็ แล วกั น . เพราะวาความรูยั งไม เจริญ ในทางวัต ถุ แต ก็ ได ช ดเชย ดวยความรูในทางนามธรรม คือทําจิตใจของเขาใหตอสูไดในทุกกรณี ที่จะไมให เกิด ความทุก ขขึ ้น มา, ก็อ ยู ไ ดใ นโลกแบบที ่เ รีย กวา สมบูร ณใ นทางมโนธรรม หรือเพียงพอดวยมโนธรรม แตยังไมสมบูรณในทางวัตถุ.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org แบบที ่ส อง โลกก็ไ ดเ ปลี ่ย นมาเรื ่อ ย จะโดยอะไรก็ต าม สํ า หรับ โลกปจ จุบ ัน นี ้ ควรจะถือ วา สมบูร ณท างวัต ถุ, สมบูร ณเ ลยสมบูร ณจ นเฟอ จน เรี ย กว า บ า ห ลั ง เอาที เ ดี ย ว แต แ ล ว กลั บ ไม ม ี ห รื อ ไม ส ม บู ร ณ ห รื อ ถึงกับ พินาศในทางมโนธรรม.
ขาพเจาพูดอยางนี้ คนเปนอันมากก็หาวา มุงรายเจตนาราย ดีแตดา คนอื ่ น ; ข อ นี ้ จ ะไม ต อบ หรื อ ไม โ ต ต อบ. แต จ ะขอร อ งว า ให ด ู เ อาเองก็ แล ว กั น ว า เดี ๋ ย วนี ้ ส มั ย นี ้ ค นใน โล ก นี ้ ม ี ม โน ธรรม กี ่ ม าก น อ ย ? พึ ง วั ด
www.buddhadassa.in.th
ระดมธรรม
๕๗๙
ด ว ยการเห็ น แก ตั ว หรื อ ไม เห็ น แก ตั ว ยอมเสี ย สละประโยชน สุ ข ส ว นตั ว เพื่ อ ประโยชนผูอื่นหรือไม ? มุงแตจะเอาสวนเกินมาเปนของตนใหหมดหรือ ไม ? โลกกํา ลัง เต็ม ไปดว ยวิก ฤติก ารณ เดือ ดรอ น วุน วาย ระส่ํา ระสาย เพราะ การเบียดเบียน แยงชิง ขมเหง เอาเปรียบหรือไม ? ทั ้ง ๆ ที ่วา โลกนี ้ม ีค วามกา วหนา ทางวัต ถุ มีเ ครื่อ งใชไ มส อย เปนอยู กินอยู อยางที่เรียกวา ไมเคยมีมาแตกาลกอน คลาย ๆ กับเปนของทิพย ของสวรรค เอาทีเ ดีย ว ; แตแ ลว มัน ก็เ ปน ไปเพื่อ พอกพูน ความเห็น แกตัว คือสงเสริมกิเลส. ยิ่งกาวหนาดวยวัตถุอยางนี้ ก็ยิ่งพอกพูนกิเลส แลวจะไดอะไร ขึ้นมา นอกจากความเบียดเบียน ; เบียดเบียนผูอื่นนั้นเห็นไดชัด แตเบียดเบียน ตัวเองนั้น ยิ่งมากกวานั้น แตมันเห็นยาก. คนที ่เ ดือ ดรอ นระส่ํ า ระสาย เปน โรคเสน ประสาทเปน บา ตาย มากขึ ้น ทุก ทีใ นโลกปจ จุบ ัน แมใ นประเทศไทยเรานี ้ ; เพราะวา เขาเบีย ด เบียนตัวเขาเอง อยางไมรูสึกตัว : ไปหลงผิด เปนทาสของวัตถุ, เปนทาสของ เนื้อหนัง, ตองการเกินความจําเปน, แสวงหาเกินความจําเปน, บริโภคเกินความ จําเปน เกินฐานะ, อะไรตาง ๆ มันก็มีปญหาเกิดขึ้น จนเปนโรคเสนประสาท จนเปนบา จนกระทั่งตายไป. นี้เรียกวามันมีความสมบูรณทางวัตถุ แตมันพินาศ ในทางจิตใน หรือทางมโนธรรม.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ที นี ้ ในโลกรู ป แบบ ที ่ ส าม คื อ สมบู ร ณ ทั ้ ง ๒ ทางนั ้ น นี้ เขาเรีย กมาแตกอ นโนน วา โลกสมัย พระศรีอ าริย, หรือ วา โลกพระศรีอ าริย. มีธรรมะสูงตามแบบของพุทธบริษั ท คือมีพระพุ ทธเจาเปนผูสั่งสอน แลวการ
www.buddhadassa.in.th
๕๘๐
การกลับมาแหงศีลธรรม
เป น อยู ข องประชาชนก็ ส มบู รณ ด วยวัต ถุ ป จจั ย เพื่ อ ความสะดวกสบาย ; อย างที่ กล า วไว ม ากมาย จนถึ ง กั บ ว า เปรี ย บเหมื อ นกั บ มี ต น ไม กั ล ปพฤกษ คื อ ต น ไม ที่ ใหสําเร็จความปรารถนาทุกอยางแกทุกคน อยูทั่ วไปทุกมุม เมือ ง จะตองการอะไร ก็ไมขาดแคลน. เราต องตี ความหมายเหล านั้ น: มี ความสะดวกสบายเหมื อนอย างกั บว า น้ํ า ในแมน้ํ า ไหลลงขา งหนึ ่ง ไหลขึ ้น ขา งหนึ ่ง ; มีศ ีล ธรรมดีถ ึง ขนาดวา เมื ่อ คนลงไปจากเรือ นแล ว ก็ จํ า กั น ไม ได ว า ใครเป น ใคร เพราะมั น เหมื อ นกั น ไปหมด ตอกลับมาถึงบ าน ขึ้นบนเรือนของตั วแล ว จึงจะรูวา เอา, บ านของเรา ผั วของเรา เมี ย ของเรา ลู ก ของเรา อย า งนี้ เป น ต น . นั้ น สมบู ร ณ ทั้ ง ทางฝ า ยวั ต ถุ ทางฝ า ย มโนธรรมเรีย กวา โลกพระศรีอ าริย เมตไตรย ; เมตไตรย แปลวา มีค วามเปน มิต ร. อยู ก ัน ดว ยความเปน มิต รไมม ีศ ัต รู แมแ ตก ระผีก เดีย ว ในศาสนาของ พระศรีอาริย หรือโลกพระศรีอาริย เปนอยางนั้น.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ที นี้ ก็ น าหวั วที่ ว า เมื่ อคํ าว า โซเชี ยลลิ สม เข ามาในประเทศเราใหม ๆ มี แ ต ค นแตกตื่ น กั น ว า เป น ลั ท ธิ พ ระศรี อ าริ ย ; แต แ ล ว ก็ ไม ก ล า เชื่ อ ; แล ว ต อ มา มัน ก็พ ิส ูจ นว า พระศรีอ าริย เ ก โซเชีย ลลิส ม หรือ สัง คมนิย ม เพีย งแตใ หท ุก คน มี ใช มี กิ น มี ค วามสะดวกสบายพอ ๆ กัน นั้ น มั น จะเป น โลกพระศรีอ าริย ไปไม ได เพราะมั น เป น ไปแต เรื่ อ งทางวั ต ถุ . เรื่ อ งจิ ต ใจมั น ยั ง เห็ น แก ตั ว หรื อ ว า มั น ยั ง มี กิเลสตัณหา.
ท า นทั้ ง หลายไปคํ า นวณ ดู เ อาเองว า ถ า ทุ ก คนมี กิ น มี ใ ช ส ะดวก สบายไปหมด ; แตถ า มัน มีก ิเ ลสตัณ หามาก แลว มัน จะเปน อยา งไร ? มัน ก็ ยั ง คงเบี ย ดเบี ย นกั น อยู ด ว ยอํ า นาจของกิ เ ลสตั ณ หานั ่ น แหละ : มั น จะ
www.buddhadassa.in.th
ระดมธรรม
๕๘๑
ลวงเกินบุตรภรรยาสามีของบุคคลอื่น อยางนี้เปนตน ; มันก็เปนพระศรีอาริยเก ไมเปนสังคมนิยม ทั้งทางฝายวัตถุทั้งทางฝายมโนธรรม ; มันเปนแตฝายวัตถุ อยางเดียว ก็เปนเรื่องที่นากลัว. จนกระทั่งวันนี้ เดี๋ยวนี้ พวกที่ละเมอเพอฝน ในเรื่องของสังคมนิยม นั้น ไมเ คยมองเลยวา ความสมบูร ณแ ตท างวัต ถุนั้น มัน แกปญ หาไมไ ด มันจะทําใหมนุษยรักใครกันไมได หรือใหมนุษยมีกิเลสเบาบางลง มันก็ทําไมได. มันตองการสิ่งบํารุง บําเรอกิเลสตัณหามากขึ้นไป ; ยิ่งบํารุงบําเรอมากขึ้นไป มันก็ คลายคนบามากขึ้นทุกที ; ฉะนั้นจะมีความผาสุกหรือสันติสุขไปไมได. แตถา เปนโลกพระศรีอาริยโดยแทจริงแลว ก็จะตองถูกตองเหมาะสม ทั้งทางฝายวัตถุ และจิตใจ จึงไมมีปญหา. ในเมื่อ โลกมัน มีอ ยู ๓ แบบ อยางที่ก ลา วมานี้ เราจะระดมธรรม หรือระดมพลังแหงธรรมเพื่อโลกแบบไหน ก็คิดดูเอาเอง. เปนของงาย และ วา เด็ก ๆ ก็พ อจะคิด ออก ; ฉะนั ้น การที ่พ ูด วา เราจะระดมธรรมเพื ่อ โลกมี ความสุ ข สวั ส ดี นี้ มั น ต อ งเป น โลกชนิ ด ที่ ส มบู ร ณ ด ว ยมโนธรรมและวั ต ถุ ในสัดสวนที่กลมกลืนกันไป.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org เปน อัน วา ระดมธรรมในลัก ษณะการตอ ตา น เพื่อ ใหโ ลกรอด อยูไ ดนั ้น จะตอ งไปไกลถึง กับ วา มีค วามถูก ตอ งทั้ง สว นมโนธรรมและสว น วัต ถุ แลว มัน ก็เปน สัง คมนิย มที่ถูก ตอ ง หรือ เปน อะไรที่ถูก ตอ งไปในตัว เอง. เรียกชื่ออยางเดียวกัน ; แตมันผิดได เพราะเหตุนี้.
www.buddhadassa.in.th
๕๘๒
การกลับมาแหงศีลธรรม
ทีนี้ ที่จ ะตอ งดูกัน ตอ ไปเกี่ย วกับ โลกนั้น ก็มีวา โลกนี ้ม ัน เปน สิ่ง ที ่ แ ยกกั น ไม ไ ด จ ากธรรมะ หรื อ จากมโนธรรม หรื อ จากสิ ่ ง ที ่ เ รี ย กว า ศาสนา ; ฉะนั ้น ถา เราตอ สู เ พื ่อ ความอยู ร อดของโลก ก็ค ือ ตอ สู เ พื ่อ ใหโ ลก มัน มีธ รรม มีม โนธรรมหรือ มีศ าสนา. โลกที ่ม ีม โนธรรมเทา นั ้น จะเปน โลกที่ นา อยู หรือ เปน โลกที ่น า ปรารถนา. โลกที ่ป ราศจากธรรมะแลว มัน ก็เปน โลก อยา งเดีย วกับ โลกสัต วเดรัจ ฉาน หรือ จะเลวรา ยไปกวา สัต วเดรัจ ฉาน ; เพราะ คนมันคิดเกงกวาสัตวเดรัจฉานมาก ฉะนั้นคงทําอันตรายกันมากกวาที่สัตวเดรัจฉาน จะทําอันตรายแกกัน. ที นี้ ความลํ า บากอย า งยิ่ ง มั น อยู ที่ ว า สิ่ ง ที่ เ รี ย กว า มโนธรรมนี้ มี หลายขั้นตอน มีหลายระดับ มันเปนความรูสึกของคนที่รูสึกตาง ๆ กัน วาอยางนี้ เรีย กวา มโนธรรม อยา งนั ้น ไมใ ช ; เพีย งเทา นี ้ก ็เ ถีย งกัน ไมห วาดไหวอยู แ ลว เพราะมั นหลายขั้นตอน. ความหมายของคํานี้กํากวม อยูตลอดเวลา ความหมาย มัน ดิ ้น ได เปลี ่ย นไปได ตามการศึก ษาในโลกนี ้ ; โลกนี ้ม ีก ารศึก ษาอยา งไร เขาใจสิ่งตาง ๆ อยางไร ก็บัญญั ติสิ่งที่เรียกวามโนธรรมนั้นไปตามความรูสึกนั้น ๆ. เพราะฉะนั้นจึงเถียงกันไมรูจักจบ วามโนธรรมที่แทจริงที่ถูกตองนั้น คืออยางไร.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org พวกคอมมิ ว นิ ส ต ถื อ ว า มโนธรรมนั้ น คื อ อย า งนั้ น , พวกสั ง คมนิ ย ม หยอ นลงมา ก็ถ ือ วา อยา งนี ้, พวกประชาธิป ไตย ฟุ ม เฟอ ย ก็ถ ือ วา อยา งโนน , เราก็ไ มรู จ ะเอามโนธรรมอยา งไหน ? พุท ธบริษ ัท จะตอ งมีม โนธรรมที ่ถ ูก ต อ ง ตามแบบของพุ ท ธบริ ษ ั ท เรา ; ฉะนั ้ น ขอให เ ราทํ า การรณ รงค ต อ สู ในการระดมธรรม คือ ระดมการใชกํ า ลัง แหง ธรรม ใหม ัน ไดม าซึ ่ง โลกที ่พ ึง
www.buddhadassa.in.th
ระดมธรรม
๕๘๓
ปรารถนา อัน นี้เป น ขอแรก วา ขอใหเราจงระดมธรรม เพื่ อประโยชนแกโลกกัน ในลักษณะอยางนี้เถิด. ....
....
....
....
ที นี้ มาถึ ง ขั้ น ที่ ส อง คื อ เราจะต อ งระดมธรรม ในลั ก ษณะ การตอตานเพื่อประโยชนแกประเทศไทยโดยเฉพาะ. เรื่อ งก็ต อ งดูก ัน กอ นวา ประเทศไทยกํ า ลัง มีป ญ หาอยา งไร ? เรา จะใชอ ะไรเปน เครื่อ งมือ เพื ่อ จะแกป ญ หานั ้น ๆ ? และ เรามีเ หตุผ ลอะไร เป น ของเฉพาะตน ซึ่ งไม เหมื อ นกั บ พวกคนเหล า อื่ น ? ซึ่ ง เราจะต อ งยึ ด ถื อ เป น หลักเพื่อแกไขของเราโดยเฉพาะนั้นใหไดจริง ๆ. ปญ หาของประเทศชาตินั ้น มัน ก็เ หมือ น ๆ กัน ทุก ๆ ประเทศ ก็วาได ; แมวา จะเปนประเทศที่ใหญ เล็กกวากัน โดยหลักทั่วไป มันก็เหมือน ๆ กัน. แตมันมีปญ หาวา มันไมไดอยางนั้น ๆ, ยิ่งไมมีอํานาจ ก็ยิ่งไมไดอยางนั้น ๆ คือ ไมไดอ ยา งที ่ต อ งการมากขึ ้น เรามีป ญ หาของประเทศ เรีย กวา ปญ หาทาง การเมือ ง นี ้ก ็เพื ่อ การอยู ร อด หรือ ความเปน เอกราชของประเทศชาตินั ่น เอง. เรามี ป ญ หาทางเศรษฐกิจ ก็เพื่ อใหประเทศของเรามี กําลัง ที่ จะบั นดาลอะไรได , หรือวาเรามีปญหาทางวัฒนธรรม ทางศีลธรรม นี้ก็เพื่อวาประเทศของเรา จะไดมี ความสงบสุขมีสันติสุข ทั้งสวนปจเจกชนและสวนสังคม.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org มัน มีป ญ หาไมสิ ้น สุด เกี ่ย วกับ สิ ่ง เหลา นี ้ แกไ ขไมต กบา ง รัก ษา ไวไ มไ ดบ า ง มัน ก็ล ว นแตม ีป ญ หาอยู นั ่น เอง. ทีนี ้ป ญ หาเหลา นี ้ม ัน เกี ่ย วขอ ง คื อ พั ว พั น กั น ไปถึ ง ประเทศอื่ น ๆ ที่ เราเรี ย กว า ต า งประเทศ ; ที นี้ แ ต ล ะประเทศ
www.buddhadassa.in.th
๕๘๔
การกลับมาแหงศีลธรรม
ไมเ ทา กัน ไมเ หมือ นกัน เขม แข็ง กวา กัน มีอ ิท ธิพ ลกวา กัน ปญ หามัน ก็เ ลย มากออกไปอี ก . ในที่ สุ ด มี ก ารยื้ อ แย ง กั น เพื่ อ จะเอาอย า งนั้ น เพื่ อ จะเอาอย า งนี้ หรื อ ถึ ง กั บ แย ง กั น เสนอตั ว เข า มาเป น ผู แ ก ป ญ หาของประเทศชาติ มี ก ารยื้ อ แย ง กั น ในระหว า งอุ ด มคติ ต า ง ๆ ลั ท ธิ ก ารเมื อ งต า ง ๆ : ประชาธิ ป ไตยบ า ง สั ง คมนิ ย ม บ า ง คอมมิ ว นิ ส ต บ า ง ; นี่ เ ป น ตั ว อย า งที่ มี อ ยู เ วลานี้ ที่ มี อ ยู จ ริ ง ตลอดเวลา. มี การยื ้อ แยง กัน ระหวา งลัท ธิ ระหวา งอุด มคติ ก็จ ะตอ งมีก ารตอ สู ก ัน เปน ธรรมดา ก็เปนปญหาที่เรารอน ที่แผดเผาที่สุด ; ทุกคนก็มองเห็น. เมื่ อ มองเห็ น แล ว ก็ จ ะรู สึ ก ขึ้ น มาเองว า เราจะต อ งระดมกํ า ลั ง กั น แก ไ ข เหมือ นกับ ชว ยกัน ระดมดับ ไฟ ที ่ม ัน กํ า ลัง ไหมบ า น ; แตจ ะทํ า กัน อยา งนั ้น จริง หรือ เปลา ? ก็ด ูเ อาเอง, ถา ทํ า กัน แตป าก มัน ก็เ หมือ นกับ วา สรา งปญ หา ใหมากขึ้น ; ถามีเจตนาบริสุทธิ์ ก็ตองมุงหมายที่จะแกปญหาเหลานี้ใหได. เราจะใชอ ะไรเปน เครื ่อ งมือ ? เพ ราะเรามีห นา ที ่ที ่จ ะตอ งกระทํ า เพื ่อ แกป ญ หาเหลา นั ้น . เราจะตอ งมีเ ครื ่อ งมือ ในการใช เพื ่อ แกป ญ หาเหลา นั ้น ในลัก ษ ณ ะที ่ต า งกัน มาก แตพ อจะแบง แยกไดเ ปน ๓ อยา ง ๓ ตอนวา ตอ ง ปองกัน, ตองตอตาน, ตองแกไข.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ปองกันไมใหมันเขามา, ถามันเขามาก็ตอตาน, ไดแลวก็ตองแกไข ใหม ัน ถูก ตอ ง. ลัท ธิไมพ ึง ปรารถนาที ่ม าจากขา งนอก หรือ จะเกิด ขึ ้น ขา งใน ลวนแตตองปองกันทั้งนั้น ; ปองกันสิ่งเลวรายเหลานี้, ตอตานสิ่งเลวรายเหลานี้, แกไขสิ่งเลวรายเหลานี้.
www.buddhadassa.in.th
ระดมธรรม
๕๘๕
เ ร า จ ะ แ ก ไ ข ห รื อ ป อ ง กั น ด ว ย สิ ่ ง ช นิ ด ไ ห น ? อ ย า ก จ ะ ถามวา เราจะตอ งใชสิ ่ง ที ่ม ัน ตรงกัน ขา ม นี ้อ ยา งหนึ ่ง , หรือ วา เราจะตอ งใช สิ ่ง ที ่เ ปน ชนิด เดีย วกัน , แตด ีก วา หรือ เหนือ กวา ? หรือ วา เราจะใชสิ ่ง ที ่พ อ ๆ กัน หรือเลวกวา ? สมมติว า เราเกลีย ดลัท ธิก ารเมือ งชนิด นี ้ เราจะใชอ ะไรที ่จ ะขจัด ออกไป ถ าเราจะใชสั นติ วิธี เราจะตองทํ าอยางไร ? ถ าเราจะใชความทารุณโหดราย เราจะตองทําอยางไร ? ถ า เร า ใ ช สิ ่ ง ที ่ ต ร ง กั น ข า ม ก็ ต อ ง ป ะ ท ะ กั น แ ล ะ ฆ า ฟ น กั น เปน ธรรมดา. ถา เราใชสิ ่ง ที ่ด ีก วา หรือ เหนือ กวา แยบยลกวา ก็ไ มต อ ง ฆ าฟ น กัน แลวบางที จะสําเร็จประโยชน เต็ ม ตามความมุ งหมาย. อยางเราเกลีย ด คอมมิว นิส ต ไมช อบ เราก็ต อ งเปน คอมมิว นิส ต ที ่ด ีก วา ที ่เ หนือ กวา เราก็ จะต อ สู ค อมมิ ว นิ ส ต ไ ด . หรื อ ว า ถ า เราเกลี ย ดสั ง คมนิ ย มชนิ ด นั้ น เราก็ ต อ งเป น สัง ค ม นิย ม ชนิด อื ่น ที ่ด ีก วา เห นือ กวา ถูก ก วา แยบ ยล กวา ; เราก็เ อ า ชนะได . หรื อ เราเกลี ย ดประชาธิ ป ไตยเพ อ เจ อ เหมื อ นที่ กํ า ลั ง มี อ ยู เวลานี้ เราก็ ตอ งมีป ระชาธิป ไตย ที ่แ ทจ ริง กวา เหนือ กวา สูง กวา เราก็จ ะเอาชนะได. นี่คือ ความหมายของคํา วา เราจะตอ ตา น ปอ งกัน แกไข ดว ยสิ ่ง ที ่เหนือ กวา นี้อยางหนึ่ง.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ที นี้ เราจะต อ ต า นด ว ยสิ่ ง ที่ พ อ ๆ กั น หรื อ เลวกว า นี้ ไม ต อ งพู ด ก็ ไ ด คื อ มั น เป น ไปไม ได ; มั น เหลื อ อยู แ ต ว า เราจะใช สิ่ ง ที่ ต รงกั น ข า ม จะได ฆ า ฟ น กัน หรือ วา เราจะใชสิ ่ง ชนิด เดีย วกัน แตที ่ม ัน เหนือ กวา หรือ ดีก วา สูง กวา เพื่อแกปญหาใหลุลวงไปไดโดยที่ไมตองฆาฟนกัน.
www.buddhadassa.in.th
๕๘๖
การกลับมาแหงศีลธรรม
ถ า เราม องเห็ น อย า งไหนจะเป น หนทางรอดได แ ล ว ก็ ข อให ช ว ย กั น ร ะ ด ม พ ลั ง แ ห ง ธ ร ร ม ใ น ก า ร ป อ ง กั น ต อ ต า น แ ก ไ ข ใ น ลักษณะเชนนั้นเถิด. ในฐานะที ่เ ราเปน พุท ธบริษ ัท เรามีอ ะไร ? ก็ม ีสิ ่ง ที ่ไ ดเ อย ชื ่อ ถึงมาแตตนแลววา สัมมาทิฏฐิ คือมีความรู ความเห็น ความเขาใจ อันถูกตอง, ถูก ตอ ง จนแกป ญ หาเหลา นั ้น ได โดยกระทํ า ใหม ัน เหนือ กวา หากแตวา เรา จะตอ งมีว ิธ ีข องเราเอง ตามแบบของพุท ธบริษ ัท แลว ก็จ ะตอ งถูก ตอ งตาม เหตุปจจัยอันอื่น. เพราะวาชนชาติไทยเราอยูในประเทศไทยอยางนี้ มีภูมิประเทศ อยางไร ? มีทรัพยในดินอยางไร ? ดินฟาอากาศอยางไร ? วัฒนธรรมในสายเลือด เป นอยางไร ? เราอยูมาถึงทุกวันนี้ แลวปญ หามันเกิดขึ้นอยางนี้ เราตอ งมีอะไร เปน ของเฉพาะ ที ่เ หมาะสมกับ ลัก ษณะเหลา นี ้ อยา ไปหลับ ตาหลงควา เอา อยา งอื ่น ที ่ม ัน เหมาะกับ คนพวกอื ่น สํ า หรับ แกป ญ หาของเขาโดยเฉพาะ เอามาแกปญหาของเรา.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org เราต อ งมี สั ม มาทิ ฏ ฐิ ของเรา ความรู ความเข า ใจ ความเชื่ อ ถื อ อะไรตาง ๆ นี้ ที่จะเรียกรวมสั้น ๆ วา ทิฏฐิ หรือความคิดเห็น ในที่สุดนั้นคือ ความ ถูก ตอ ง. เรามีว ัฒ นธรรม ที ่ถ อดแบบออกมาจากพุท ธศาสนาอยู ใ นสาย เลือ ด ซึ ่ง มีอ หิง สาเปน หลัก คือ มีก ารไมเ บีย ดเบีย นเปน หลัก ; ดัง นั ้น เรา จะตอ งใชด อกบัว สีเ หลือ ง คือ ถือ ดอกบัว สีเ หลือ งเปน การแกป ญ หา. อยา ถื อ ดอกบั ว สี แ ดงเลย อย า ใช ด อกบั ว สี แ ดงเลย มั น จะต อ งหลั่ ง เลื อ ด ; ถ า ใช ดอกบัวสีเหลืองก็ดวยอํานาจของสัมมาทิฏฐิ มันจะแกปญหาได. เขาเปนอะไรมา
www.buddhadassa.in.th
ระดมธรรม
๕๘๗
เราเป น ได เ หนื อ กว า เขาก็ ทํ า อะไรเราไม ไ ด ; เราก็ ช น ะเขาได โ ดยสั น ติ อยูรวมดวยกันโดยสันติ. อย า งสมมติ ว า เขาใช ร ะบบสหกรณ แ บบของเขา เราก็ ต อ งมี แ บบ ของเรา ที ่ด ีก วา เหนือ กวา เพื ่อ ประโยชนแ กพ วกเรา ซึ ่ง มีล ัก ษณะอยา งนี ้ ; เราก็ไม จําเป นจะตองยอมรับระบบอื่นที่ไม เหมาะ โดยเฉพาะอยางยิ่ งแล ว มันแบ ง แยกกันตรงที่ วา เราไม ต องการเบี ยดเบี ยน ไม ต องการการหลั่งเลื อด ตามแบบของ พุ ท ธบริ ษั ท , หรื อ ศาสนาไหนก็ ต าม ล ว นแต ไ ม ต อ งการหลั่ ง เลื อ ด หากแต ว า สาวกในศาสนานั้นเขาใจผิดเอง ทํ าให เกิดการหลั่งเลือดบ อย ๆ นั้ นมันไม ใชเจตนา ของศาสนานั้น หรือของพระศาสดานั้น ๆ จะตองระวังใหดี. ถา เราม ีภ ัย จาก ล ัท ธิอ ะไร เราตอ งม ีค วาม ฉ ล าด ส าม ารถ ใน ลัก ษณะที ่ เหนือ กวา ในรูป แบบเดีย วกัน ที ่เ หนือ กวา สูง กวา ดีก วา เสมอ ไป ; อยา งนี ้อ ยากจะเรีย กวา เพื ่อ ปอ งกัน การหลั ่ง เลือ ดนั ่น เอง. ประเทศ ไทยเราจึ ง จํ า เป น ที ่ จ ะต อ งมี อ ะไรตามแบบ ของไทยเรา คื อ ถื อ พ ระธรรม เปนหลัก จึงย้ําวา เราจะถือดอกบัวสีเหลืองในการแกปญหา
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org รีบ ทํ าความเข าใจกั น ในข อ นี้ ว าอั น นี้ มั น เหมาะอย างยิ่ ง เหมาะเต็ ม ที่ สํ า หรั บ จะใช แ ก ป ญ หาของเรา ซึ่ ง มี อ ะไร ๆ เป น อย า งนี้ ; ดอกบั ว สี แ ดงอาจจะ เหมาะสํ า หรับ พวกอื ่น มีป ญ หาอยา งอื ่น ไมเ หมือ นเรา ไมต รงกับ สิ ่ง ที ่เ รีย กวา นิส ัย สัน ดาน พื ้น ฐาน หรือ กํ า พืด ของเรา. เราตอ งการดอกบัว สีเ หลือ ง เสมอไป.
www.buddhadassa.in.th
การกลับมาแหงศีลธรรม
๕๘๘
นี ่ แ หละคื อ การระดมธรรมที ่ แ ท จ ริ ง เพื ่ อ ประเทศชาติ คื อ ระดมกัน เพาะปลูก ดอกบัว สีเ หลือ ง, ถือ ดอกบัว สีเ หลือ ง เปน อาวุธ ใน การแกปญหา ทั้งทางภายนอกภายใน ไมวาปญหาแขนงไหน ; แมที่สุดแตการ ทําสงคราม ก็ตองใช ดอกบั วสีเหลือ ง ซึ่งหมายความวามั นประกอบไปดวย ธรรมอยูเ สมอ. ระดมพลัง แหง ธรรมในลัก ษณะเชน นี้ เปน วิถีท างที่ดีที่สุด ไมมีอะไรจะดีไปกวานี้. นี้เรียกวา ระดมธรรมในลักษณะตอตาน เพื่อประเทศ ชาติแหงชนชาติไทย. ....
....
....
....
ทีนี้ ก็จ ะไดม องดูตอ ไปถึง การระดมที ่ส าม คือ ระดมใน ลักษณะการตอตาน เพื่อความสุขสวัสดีของแตละคน. คนแตละคน ทําอะไรไมไดมากกวาที่จะผูกพันกันเปนสังคม คือวา ทําไดมากในทางดานมโนธรรม ดานจิตใจ ไปไดไกลเพื่อจะเปนพระอรหันตก็ได ; อยางนี้เรียกวาเราทําได. แตถาผูกพันกันเปนสังคม แลวยากที่จะทําอยางนั้นได มันก็ลดลงมาอยูในระดับที่ต่ํา ; ฉะนั้นประโยชนสวนบุคคล กับประโยชนของ สังคมนั้นมันตางกันอยูอยางนี้.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org เมื่อ พูด โดยบุค คล มัน ก็ม าถึงปญ หาอยางเดียวกัน อีก แหละ คือ ศีล ธรรมสว นบุค คล, ความมีศีล ธรรม หรือ ความไมมีศีล ธรรมสว นบุค คล นั ่ น แหละ มั น ก็ จ ะสร า งโลกนี ้ ใ ห เ กิ ด ขึ้ น มาในลั ก ษณ ะหนึ ่ ง ๆ ; ถ า มี ศีลธรรมมันสรางขึ้นมาในลักษณะหนึ่ง, ถาปราศจากศีลธรรม มันก็สรางขึ้นมา ในลักษณะหนึ่ง ; เพราะวาโลกนี้มันประกอบกันขึ้นดวยหนวยยอยคือคน มันจึง แลวแตวา คนจะเปนอยางไร.
www.buddhadassa.in.th
ระดมธรรม
๕๘๙
ทีนี ้ มาถึง ยุค ที ่ว ัต ถุน ิย มครองโลกนี ้ มัน กระทบกระเทือ นสิ ่ง ที่ เรีย กวา ศีล ธรรมอยา งไร ? ศีล ธรรม นั ้น แปลวา ความสงบ หรือ “ธรรมที่ ทํ า ความสงบ” หรือ เหตุที ่เปน ที ่ตั ้ง ของความสงบ ; เหลา นี ้เราเรีย กวา ศีล ธรรม. ที นี้ ความเจริญ ทางวั ต ถุ จ นเฟ อ นี่ มั น เสี ย ความสงบ เสี ย ความปรกติ , แล วความ ก า วหน า ทางวั ต ถุ นี้ มั น ยั่ ว ยวน มั น ดึ ง คนไปในทางของกิ เลสตั ณ หา หรื อ ตามใจ ตัว เอง ; เมื ่อ คนไมรู ส ึก มัน ก็เ สื ่อ มศีล ธรรมลงไป อยา งที ่ไ มรู ส ึก . ฉะนั ้น ขอให ท า นทั้ ง หลายฟ ง แล ว ก็ สั ง เกตให ดี ที่ สุ ด เท า ที่ จ ะทํ า ได ว า ความเสื่ อ มศี ล ธรรมนั ้น เปน ไปโดยไมรู ส ึก ตัว หรือ ไมรู จ ัก เอาเสีย เลยวา นี ่เ ปน ความเสื ่อ ม แหง ศีล ธรรม ; เราจึง ไดล งไปอยู ใ นปลัก หนองของความไมม ีศ ีล ธรรม ดว ย ความสมัครใจ เพราะเราไมรูวา นี่คือความไมมีศีลธรรม. ขอใหไ ปสัง เกตเถิด ทุก แหง ทุก หน ที ่ม ัน ตกลงไปสู ป ญ หายุ ง ยาก ของกิเ ลสของเนื ้อ หนัง นั ้น ก็เ พราะมัน ไมรู ว า นั ่น มัน เปน อัน ตราย ; ในโวหาร พระศาสนาเขาเรีย กวา “เห็น กงจัก รเปน ดอกบัว ”. เขาเปรีย บดว ยสิ ่ง ที ่มี รู ป ร า งคล า ย ๆ กั น กงจั ก รที่ ผั น อยู นั่ น มั น ดู ค ล า ยดอกบั ว ที่ บ านอยู ก็ ไ ด ; คนไป เขาใจวาดอกบั ว ก็เอามาใสหั วของเขา เขาจึงมี เลือดไหลจากศีรษะอยู ตลอดเวลา. นี่ คื อ สิ่ ง ที่ มั น เป น อยู จ ริ ง และเป น ไปจริ ง เกี่ ย วกั บ ศี ล ธรรมของคน ในยุ ค ที่ วั ต ถุ เจริญ วัตถุกาวหนา จนกระทั่งเฟอ.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org วั ต ถุ นิ ย ม ก็ ห มายความว า ติ ด รสอร อ ยของวั ต ถุ เพราะพั ฒ นาวั ต ถุ เพื ่อ ความเปน อยา งนั ้น เพราะตลาดมัน ตอ งการอยา งนั ้น . วัต ถุพ ัฒ นานี ้ มัน ยิ่งกวากามารมณ เฟ อ ที่ เขาเรียกกันวา oversex รูกันมาตั้งแต สมั ยคนป าคนดอยโน น วา มัน เปน อัน ตราย. คนสมัย นี ้เ ขาไมเ ห็น วา เปน อัน ตราย ก็ม ีก ามารมณเ ฟอ .
www.buddhadassa.in.th
๕๙๐
การกลับมาแหงศีลธรรม
แตก็ยังไม รายกาจเท ากับวัตถุนิ ยมเฟ อ เพราะวามั นบวกที่ไม เกี่ยวกับ กามารมณ เขา ไปดว ย ; มัน มีส ว นที ่เปน กามารมณ เต็ม ที ่เต็ม อัต ราของมัน แลว ยัง บวก วัต ถุป ระเภทที่ มิ ใชกามารมณ แต สํ าหรับ หลงไหลอย างยิ่ ง เขาไปอี กด วย. เรื่อ ง กามารมณนี้หมายถึงเรื่องเพศ วัตถุปจจัยอุปกรณทั้งหลายเพื่อกามารมณนั้น ก็เปน เพื่อกามารมณ จนกระทั่งกามารมณมันเฟอ ในโลกนี้นั่นสวนหนึ่งแลว. ทีนี ้ ของเลน ที ่ไ มเ กี ่ย วกับ กามารมณ ของใช ของสะสม ; อยา ง คนแกชอบสะสมสิ่งสวยงามไมเกี่ยวกับกามารมณ นี้ มันก็หลงไดเทากัน. ปญ หา มัน ก็เพิ ่ม มากขึ ้น ไปอีก ฉะนั ้น จึง เรีย กวา วัต ถุเฟอ นี ้รา ยกาจยิ ่ง กวา กามารมณ เฟ อ เพราะมั นรวมกามารมณ เขาไวดวย และเอาวัตถุที่มิใชกามารมณ เขามาอีก ส ว นหนึ่ งด ว ย ; มั น ก็ ทํ า อั น ตรายแก ม นุ ษ ย ม าก ศี ล ธรรมมั น จึ งเสื่ อ มหนั ก ขึ้ น ไป อีก . อยา งตอ งมีร ถยนตไ วขี ่เ ลน ไมเ กี ่ย วกับ กามารมณ มัน ก็เ ปน วัต ถุเ ฟอ . ส วนที่ มั น เกี่ ยวกั บ กามารมณ เนื่ อ งด ว ยรถยนต นั้ น มั น ก็ มี อ ยู ส วนหนึ่ งแล ว, แต สวนที่ไมเกี่ ยวกับ กามารมณ คนแกเอาไวนั่ งเลน มั น ก็มี อีก. วัต ถุเฟ อ นี้ อันตราย ยิ่งไปกวากามารมณเฟอ.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org เดี ๋ย วนี ้โ ลกเราอยู ใ นยุค ที ่เ รีย กวา วัต ถุเ ฟอ เพราะพัฒ นากัน แตในทางวัต ถุ เราจึง มีป ญ หาหนัก , หนัก กวา ที ่เคยมีม าแลว . ยุค ที ่วัต ถุไมเฟอ คนมีกามารมณเฟอก็ได แตวาศีลธรรมของพวกคนปาสมัยหินโนน เขายังมีบัญญัติ วา “กามารมณ เฟอนี้เปนบาป” นี่คนปาที่ไมสูจะมีปจจัยแหงกามารมณ เขาก็ยัง กลัววา กามารมณ เฟ อ นี้มั น เป น บาป ; แต เดี๋ ยวนี้ เราไม มี ใครกลั ว เราชอบใหมั น เฟ อ เฟ อจนไม รูจะเฟ อ อยางไร จนเป น บ า จนไม มี ศี ล ธรรมเหลือ จนฆ าแกงกั น แมแตวาฆาบิดามารดาของตัวเอง เพราะวามันตกเปนทาสของกามารมณ มากเกินไป.
www.buddhadassa.in.th
ระดมธรรม
๕๙๑
นี่แตละคนตกอยูในลักษณะอยางนี้ ในปญหาอยางนี้ คือความเสื่อม ทางศีลธรรม เรื่อย ๆ มา จนกระทั่งมาถึงยุคที่รุนแรงที่สุด คือ วัตถุเฟอ แลว เปนไปโดยไมรูสึกตัว ไมรูจักเอาเสียเลยวา นี้คืออันตราย. เราต อ งระดมพลั ง แห ง ธรรม เพื่ อ ช ว ยกั น ให มี สั ม มาทิ ฏ ฐิ ใหรูขอเท็ จจริงอัน นี้กัน เสียกอน แลวก็จะตองระดมสิ่งที่จะเป นการแกไข. เรา ตองการ “การกลับมาแหงศีลธรรม” ที่เราไดปลอยปละละเลยจนเลือนหายไป ; นี้คือสิ่งที่จะตองมองใหเห็น. ข อ แรกต อ งมี ก ารกลั บ มาแห ง ศี ล ธรรม ที่ เ ราได ป ล อ ยปละ ละเลยใหมันคอย ๆ เลือนหายไป ; ไมอ ยางนั้นมันก็ไมมีทาง หรือไมมีสิ่งที่จะ หวั ง ได อ ะไรเลย สํา หรั บ จะอยู กั น อย า งสั น ติ . นี้ เ ป น ข อ แรกที่ จ ะต อ งเอา มาพูด คือ การกลับมาแหงศีลธรรม
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ขอ ที่ส องถัด มาอีก ก็จ ะตอ งสรา งพลัง ของธรรมของแตล ะคน ใหเพียงพอแกการแกปญหาของสวนรวม ; พลังธรรมของแตละคน รวมกันแลว อาจจะแกปญ หาของสว นรวม ของประเทศก็ไ ด ของโลกก็ไ ด. เดี๋ย วนี้ค น แตละคนไมมีธรรม, ไมประกอบดวยธรรม, ไมตั้งอยูในธรรม, ก็เลยไมมีพลัง แหง ธรรมของแตล ะคน ; แลว ใครจะแกได ; ทีใหสัง คมไมมีศีล ธรรม ทํา ให โลกไมมีศีล ธรรม. ฉะนั้น มาระดมกัน ใหม สรา งพลัง แหง ธรรมของแตล ะคน รวมกันแลวพอที่จะแกปญหาของโลกได.
www.buddhadassa.in.th
๕๙๒
การกลับมาแหงศีลธรรม
พู ด ถึ ง วิ ธี ก ารต อ ไปอี ก . วิ ธี ก ารนั้ น เราจะยึ ด หลั ก แน น อนว า ถือ ดอกบัว สีเ หลือ ง ไมถือ ดอกบัว สีแ ดง เพราะฉะนั้น จึง เปน เรื่อ งปอ งกัน ชนิดที่ไมตองหลั่งเลือด. ไดเคยพูดกันถึงวิธีการอันหนึ่ง ของบรรพบุรุษ แตโบราณกาล ซึ่ง พู ด ไว ว า “เราจะจุ ด ไฟบ า น เพื่ อ ต อ นรั บ ไฟป า ”. บางคนฟ ง ไม รู เ รื่ อ ง ก็เขาใจผิดไดดวย ; ดังนั้นจะตองรูเรื่องของคนโบราณ: เขาไปอยูในปา เพื่อ ทํามาหากิน เต็มไปดวยพงหญา พงออ, ถึงฤดูแลง ไฟปามันลามมา ไหมบาน ไหมเรือนหมด ไมมีอะไรเหลือ ; เขาจะตองจุดไฟบานรอบ ๆ บานดวยมือของ เขาเอง ใหมันเตียนเรียบรอยไวกอน รอบบานในรัศมีที่พอสมควร ; พอไฟปา มามัน ก็ทํ า อะไรไมได คือ ไมต อ งรบกับ ไฟปา ใหม ัน ไหม ใหม ัน พอง ใหม ัน เดือดรอน ใหมันแสบตา. นี่เ รีย กวา เราจุด ไฟบา น คือ ดอกบัว สีเ หลือ ง, ตอ นรับ ไฟปา คือดอกบัวสีแดง ; ถือเอาเปนหลักอันแนนอนวา จะตองใชหลักการอันนี้ ใน การตอ ตา นลัท ธิอ ัน ไมพ ึง ปรารถนาดว ยทํ า สิ ่ง ที ่ด ีก วา เพื ่อ เอาชนะสิ ่ง นั ้น เสมอไป. การตอ ตา นอยา งเผชิญ หนา นั ้น มีแ ตจ ะตอ งหลั่ง เลือ ด ; มัน ตอ ง เหนือกวา ชนิดที่ไมตองการหลั่งเลือด หรือวาเปลี่ยนพลังอันนั้นใหเปนประโยชน เสียแทนที่จะเปนอันตราย. มีการตอตานอยางนี้ จึงจะเรียกวาถูกตองตามหลัก ของศีลธรรม โดยเฉพาะสําหรับคนไทย ผูมีจิตใจฝงรากอยูดวยพุ ทธศาสนา.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ดูต อ ไปวา เราจะตอ งรอดชีว ิต อยู ใ นรูป แบบที ่ถ ูก ตอ ง คือ ประกอบไปด วยธรรม, ระดมพลั งธรรมเพื่ อ ให เรามี ชี วิต รอดอยู ด วยรูป แบบ
www.buddhadassa.in.th
ระดมธรรม
๕๙๓
ของธรรม. ถ า ไม ม ี ธ รรมก็ ค ื อ ผิ ด ; ถ า ผิ ด ยอมตายเสี ย ดี ก ว า อยู . ถ า อยู ต อ งอยู อ ย า งถู ก ต อ ง ผู ถื อ ธรรมะเขาถื อ กั น อย า งนี้ , ผู ที่ ไ ม ถื อ ธรรมะเขาถื อ กั น อยางอื่น เขาไมยอมตาย, ยอมอยูดวยความเลวราย แมจะเปนการเอาเปรียบคนอื่น. ถ า ให ป ระกอบด ว ยธรรม ก็ ต อ งยึ ด หลั ก ที่ เป น ธรรม ; รอดชี วิ ต อยู นั้ น ต อ งอยู อยางที่ธรรมอยู ธรรมะอยู. ในที่ สุ ด ก็ ม าถึ ง สติ ป ญ ญา ที่ จ ะทํ า ให เป น อย า งนั้ น ได ; ถ า ไม อ าศั ย สติป ญ ญาเปน อยา งนั ้น ไมไ ด. สติป ญ ญาสูง สุด ก็ค ือ สัม มาทิฏ ฐิ ดัง ที ่ก ลา ว แลว ขา งตน ; สัม มาทิฏ ฐิ-ความเห็น ชอบ เห็น ถูก ตอ งนี ้ มัน จะทํ า ใหเรารูไ ดเอง ในตัวของมัน วาเราควรระดมอะไร, และวา ระดมในลักษณะอยางไร. สํ า หรับ ขอ ที ่ว า ระดมอะไร ? พูด กัน อยา งกํ า ป น ทุบ ดิน ในแบบ จองพุ ท ธบริ ษ ั ท ก็ ว า : เว น สิ ่ ง ที ่ ค วรเว น , ทํ า สิ ่ ง ที ่ ค วรทํ า , แล ว ก็ ช ว ย เหลื อ กั น ให เ ป น อย า งนั ้ น , มั น เป น ๓ ข อ อยู น ะ. พวกที ่ พ ู ด กั น แต ว า เวน ควรเวน เจริญ ที ่ค วรเจริญ นี ้ไ มพ อ ; มัน ยัง ขาดอีก อยา งหนึ ่ง คือ ตอ ง ชว ยกัน และกัน ใหทํ า อยา งนั ้น ไดด ว ย. ฉะนั ้น แตล ะคนจะตอ งรับ ผิด ชอบในการ ที่จะชวยผูอื่น ใหทําอยางนั้นไดดวย.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org นี ่ เ ราค วรระด ม อ ย า งนี ้ : ระด ม เว น สิ ่ ง ที ่ ค วรเว น ทํ า สิ ่ ง ที ่ ค วร ทํา แลวระดมชวยกันใหทุกคนทํา อยางนั้นไดดวย.
ทีนี้สว นขอ ที่วา ในลัก ษณะอยา งไร ? เทา ไร ? และเมื ่อ ใด ? นี ้ สัม มาทิฏ ฐิจ ะบอกเอง เฉพาะกรณี ๆ ไป. ความรู อ ัน ถูก ตอ งมีป ระโยชน
www.buddhadassa.in.th
๕๙๔
การกลับมาแหงศีลธรรม
เหลานี้ ซึ่งเทากับรากฐานของศีลธรรมนั้น เราถือตามหลักพระศาสนาเลย วา ศาสนาพระศรีอ าริย ยกมิต รภาพเปน เบื ้อ งหนา ; ศรีอ าริย เมตไตรย: เมตไตรย นั้ น คื อ มิ ต รภาพ, อริ ย -อั น ประเสริ ฐ , ศรี - อั น สู ง สุ ด : ศรี อาริย เมตไตร -มีมิต รภาพอัน เลิศ และสูง สุด . เอาอุด มคตินั้น มา ตามที่มัน มีอยูในทุกศาสนาก็วาได:รากฐานข อ แรกของศี ล ธรรมให ถ ื อ ว า สั ต ว ทั ้ ง หลายเป น เพื ่อ นทุก ข เกิด แก เจ็บ ตาย ดว ยกัน ทั ้ง หมดทั ้ง สิ ้น . บรรดาที ่ม ีช ีว ิต แลว จะเปน คนก็ไ ด เปน สัต วก็ไ ด เปน ตน ไมก็ไ ด เปน อะไรก็ไ ด ใหว าง มาตรฐานไววา มันเปนเพื่อนทุกข เกิด แก เจ็บ ตาย ดวยกันทั้งหมดทั้งสิ้น ที่จะตองชวยเหลือใหอยูดวยกันได. พวกที่ทําลายปาไมเสียวอดวายหมด เพราะเขาไมมีศีลธรรมขอนี้อยู ในจิตใจ แมแตนิดเดียว. เขาฆาสัตวเสียจนไมมีอะไรเหลือ เพราะไมมีศีลธรรม ข อ นี ้ ; และในที ่ ส ุ ด ก็ ฆ า มนุ ษ ย ก ั น เอง เพราะมั น ไม ย อมรั บ ว า “เป น เพื่อนทุกข เกิด แก เจ็บ ตาย ดวยกันทั้งหมดทั้งสิ้น” นั่นเอง.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ถามีความรูสึกอยางนี้เปนหลักแลว มนุษยก็จะไมมีการเบียดเบียนไม ประทุษ รา ยชีวิต รา งกายผูอื่น , ไมป ระทุษ รา ยทรัพ ยส มบัติผูอื่น , ไมป ระทุษ รายของรักของใครของผูอื่น, ไมประทุษรายความเปนธรรมของผูอื่น, กระทั่ง มันไมโงไปประทุษรายสติปญญาของตัวเอง ดวยความมีหลักเกณฑอันถูกตอง วา”ตองอยูกันอยางเปนเพื่อนทุกข เกิด แก เจ็บ ตาย ดวยกันทั้งหมดทั้งสิ้น”.
www.buddhadassa.in.th
ระดมธรรม
๕๙๕
ขอใหเ รง ระดมธรรม ขอ นี ้, เรง ระดมการใชพ ลัง แหง ธรรมขอ นี้ ใหค รอบงํา ทั่ว ไปทั้ง โลก : ใหค นทั้ง โลกมองตากัน ในลัก ษณะที่มีม ิต รภาพ เหมือ นกัน ไปหมดเลย. อยา งที ่พ ูด เมื ่อ ตะกี ้ว า ในศาสนาพระศรีอ าริย นั ้น พอ คนลงจากเรือ นแลว ไมรู ว า ใครเปน ใคร เพราะมัน เปน มิต รไปเสีย หมด ไมมี อะไรที่เปนศัตรู หรือแสดงความเปนศัตรู. รากฐานที ่ ส องของศี ล ธรรม คื อ ต อ งบั ง คั บ ความรู ส ึ ก . มนุษยสมัยนี้ถูกสอนอยางโงเขลาในระบบการศึกษา ไมใหบังคับความรูสึก ไมให อดกลั้ น อดทน ; เขาเรีย กว า ความกดดั น เป น อั น ตราย นั่ น น ะ ยิ่ งส งเสริม กิ เลส. เราตองบังคับความรูสึกตามสัญชาตญาณ, บังคับอยางถูกตอง, บังคับอยางเฉียบขาด, และบั ง คั บ อย า งทั น ควั น หรื อ ทั น ท ว งที ในกรณี ข องราคะก็ ต าม ในกรณี ข อง โทสะก็ตามในกรณีของโมหะก็ตาม. ความรูสึกใดเปนไปเพื่อราคะ คือจะรัก จะเอา จะยึด จะครอง นี้ ก็ เรีย กว า ราคะ, ก็ ต อ งบั งคั บ ความรูสึ ก ; ในกรณี อั น ใดที่ จ ะทํ า ลาย จะฆ า จะ ผลักออกไป จะตี จะเตะ ออกไป นี้ก็เรียกวาโทสะ ; ในกรณี ที่สงสัย ทึ่งสนใจ ไม รูว าจะทํ าอะไร ดี แต มั วเมาอยู ในสิ่ งนั้ น ก็ เรีย กวาโมหะ ; สามอย างนี้ ต อ ง บั ง คั บ . ความรู ส ึ ก ราคะ โทสะ โมหะ นี ้ ต อ งบั ง คั บ : บั ง คั บ ถู ก ต อ ง, บังคับเฉียบขาด, และบังคับทันควัน ; ทําไดอยางนี้ ศีลธรรมจะมี.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ร า ก ฐ า น ที ่ ส า ม ข อ ง ศี ล ธ ร ร ม ต อ ง ไ ม เ ป น ท า ส ข อ ง อายตนะ คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ; อยาไปบํารุงบําเรอในลักษณะที่โงเขลา คื อ ตามใจมั น ทั้ ง ที่ ไม จํ า เป น และเกิ น จํ า เป น จนเป น ทาสของอายตนะ. สิ่ ง ที่
www.buddhadassa.in.th
๕๙๖
การกลับมาแหงศีลธรรม
ไมจํ า เปน จะตอ งมี ตอ งกิน ตอ งใช ก็ไ ปหามา ไมจํ า เปน เลยก็ไ ปหามา ที ่เกิน จํ า เป น ก็ ไ ปหามา ; นี้ เ รี ย กว า เป น ทาสของอายตนะ. คนสมั ย นี้ กํ า ลั ง เทิ ด ทู น ความเป น ทาสของอายตนะ ; สรางค านิ ย ม หรือ รสนิ ย มผิ ด ๆ ขึ้ น มา จนเรีย กวา เหลือ จะผิด ; โลกนี ้ก็ไดเปน โลกระส่ํ า ระสายดว ยวิก ฤตการณ. ขอใหคิด เสีย ให ถูกตอง. รากฐานที ่สี ่ ที ่เ รีย กวา มีป ญ ญาอยา งถูก ตอ งตามที ่เ ปน จริง : หัวใจของพุทธศาสนา ในสวนของการปฏิบัติ เรียกวา ยถาภูตสมฺมปฺปฺา - มี ป ญ ญ า อ ย า ง ถู ก ต อ ง ต า ม ที ่ เ ป น จ ริ ง , ไ ม เ ห็ น ก ง จั ก ร เป น ด อ ก บั ว , ไมเ อาลัท ธิว ัต ถุน ิย มมาเปน พระเจา สรา งโลก, ตอ งเอาธรรมะมาสรา งโลก ไมเห็นกงจักรเปนดอกบัว. ตั ว อย า งเช น ว า เราจะนอนหลั บ โดยปราศจากการรบกวน ของกิเลสนี ้ด ีก วา ; แตค นทั ่ว ไปเขาอยากจะใหก ิเลสรบกวน คือ ยั ่ว เยา ยุแ หย ในเรื่อ งของกามารมณ อ ยู เรื่อ ย ๆ ไป แม น อนไม ห ลั บ ก็ พ อใจ นั้ น เป น ความผิ ด โง เขลาอยางยิ่ง. เราจะตองเห็นคาของการนอนหลับโดยไมมีกิเลสมากวน ; เมื่อนอนก็ นอนหลับสนิ ท ก็จะเป นไปในลักษณะที่ เรียกวา ไม มีกามารมณ เฟ อ ไม มีกามารมณ ฟุ ม เฟอ ย. ถา ถือ หลัก กัน อยา งนี ้แ ลว คงไมต อ งมีร ะบบจัด สรรครอบครัว ดว ย การใชเครื่องคุมกําเนิด จนให วุนวายอยางที่เป นอยูเดี๋ยวนี้ . ถาเรามีความเขาใจถูก ตองตามหลักของธรรมะแลว ก็จะเกลียดชังกามารมณ จะทําแตเหตุผลที่พอสมควร จะทํ า นี้ คงไม ต อ งใช ก ารคุ ม กํ า เนิ ด เป น แน . ไปคิ ด ดู กั น ใหม ก็ พ อจะเข า ใจได .
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org ร า ก ฐ า น ที ่ ห า ข อ ง ศ ี ล ธ ร ร ม นี ้ ส ถ า บ ั น ใ ด ที ่ เ ป น ที ่ ตั ้ ง แ ห ง ค ว า ม รู ส ึก ที ่ป ระ ก อ บ ไป ดว ย ธ รรม ะ แ ลว ชว ย กัน ส นับ ส นุน สง เส ริม สถาบันนั้น ใหแนนแฟนอยูในโลกนี้ ตัวอยางเชน:-
www.buddhadassa.in.th
ระดมธรรม
๕๙๗
สถาบั น แห ง ผู มี พ ระคุ ณ เช น บิ ด ามารดา ครู บ าอาจารย พระเจ า พระสงฆ สงเสริมไวใหมั่นคง ; กระทั่งสถาบัน ชาติ ศาสนา มหากษัตริย. สถาบันที่ทําใหเกิดความกตัญูกตเวที ก็สงเสริมใหมั่นคง. สถาบัน ที ่ทํ า ใหเ กิด ความเคารพ ซึ ่ง กัน และกัน ตามสูง ตามต่ํ า อย า ไปใช สิ ท ธิ เสรีภ าพบ า ๆ บอ ๆ ไม มี สู ง ไม มี ต่ํ า ; ไปรั ก ษาสถาบั น ที่ ทํ า ให เกิ ด ความเคารพกัน ตามฐานะที่ควรเคารพไวใหมั่นคง. สถาบันที่ทําใหเกิดความละอายความชั่ว ชวยรักษาไว สถาบั น ที ่ ทํ า ให เ กิ ด ความอ อ นโยนไม ก ระด า ง ต อ งช ว ยกั น รักษาไว.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org สถาบั น ทั ้ ง หลายเหล า ใด เป น ไปเพื ่ อ ความมี อ ยู แ ห ง ธรรมะ ที่ พึ ง ปรารถนาแล ว ช ว ยกั น รั ก ษาเถิ ด , ช ว ยกั น ระดมธรรมะในข อ นี้ , ช ว ยกั น ระดมทุกอยาง เพื่อกลับมาแหงศีลธรรม และรากฐานแหงศีลธรรม.
สํ า ห รับ วิธ ีก ารนั ้น อยากจะระบุว า : เราตอ งกระทํ า กัน จริง ๆ อยางที่เรียกวา ระดมกันดับไฟ รุนแรง รวดเร็ว เรียบรอย ราเริง ; ตองถูกตอง มั น จึ ง จะร า เริ ง หรื อ เรี ย บร อ ย รวดเร็ ว หรื อ รุ น แรง ; แล ว แก ที่ ต น เหตุ อย า ไปมั ว หลงแกที่ปลายเหตุ.
ในสว น ศีล สว น สมาธิ สว น ปญ ญ า นี ้ต อ งทํ า ใหม ีขึ ้น มา : ส ว นศี ล ทํ า แล ว ก็ เจริ ญ ในส ว นธรรม, ส ว นจิ ต ทรามละเสี ย แล ว ก็ เจริ ญ ในการที่
www.buddhadassa.in.th
การกลับมาแหงศีลธรรม
๕๙๘
มี จิ ต สู ง , ละความเห็ น ผิ ด เสี ย แล ว ก็ เจริ ญ ในส ว นที่ มี ค วามเห็ น ถู ก ; นี่ คื อ ศี ล สมาธิ ปญญา สากล ใชไดตลอดโลก. ทั ้ง หมดนี ้ไ มใ ชพ ิธ ีรีต อง : ตอ งทํ า จริง ตามกฎเกณฑข องธรรมชาติ ในรู ป ลั ก ษณะของวิ ท ยาศาสตร ; ส ว น พิ ธี รี ต อง นั้ น มี ไ ว สํ า หรั บ เด็ ก ๆ มี ไ ว สํ า หรับ ผู ที ่ย ัง ไมเ ขา ถึง แกน แทข องสัจ จะอัน นั ้น เราก็ต อ งมีพ ิธ ีร ีต องบา ง. แตอ ยา ใหห ยุด อยู เพีย งที ่ต รงนั ้น มัน จะไมรูจ ัก เติบ โต ; ในที ่ส ุด ก็ม าสู ข องจริง ซึ่งมิใชพิธีรีตอง. ข อ ให ร ะ ด ม ธ รรม กั น ใน ลั ก ษ ณ ะ ที ่ เ ป น ข อ งจ ริ ง เป น ตั ว จ ริ ง กาวลวงพิธีรีตองขึ้นมาใหไดเถิด ทุกอยางจะเปนไปตามที่ตองการ. เวลาสําหรับจะพูดกันก็พอสมควรแลว ขาพเจาขอยุติการบรรยายโดย รายละเอียด.
www.buddhadasa.in.th www.buddhadasa.org สรุป อีก ครั ้ง หนึ ่ง วา : ตอ งระดมในลัก ษณะที ่ถ ูก ตอ งตามธรรม, เปนการระดมธรรมในลักษณะตอตานเพื่อโลกนี้รอด, ระดมธรรมในลักษณะการ ต อ ต า น เพื ่ อ ประเทศไทยนี ้ อ ยู ร อด, และระดมธรรมในลั ก ษณ ะต อ ต า น เพื ่อ แตล ะคนนี้อ ยูร อดดว ยความสุข สวัส ดี ; เมื ่อ ทํ า ถูก ตอ งตามนี้แ ลว ผลนั ้น ก็จะหวังได. ขอใหเปนไปตามที่เรามุงหมายในการระดมธรรมนี้ทุก ๆ ประการเถิด. ขอยุติไวแตเพียงเทานี้.
www.buddhadassa.in.th