๑ มี.ค. ๕๐
ฉบับที่ ๐๐๙
Free Online Magazine
ธรรมะใกล้ ต ว ั dharma at hand
ธรรมะสำหรับคนยุคใหม่ ที่อยู่ใกล้แค่เอื้อม http://dungtrin.com/dharmaathand/
เตรียมเสบียงไว้เลี้ยงตัว
ธรรมะจากคนสู้กิเลส
เรื่องสั้นอิงธรรมะ
เทวดาประจำตัวมีจริงหรือไม่
ติดตามประสบการณ์การณ์ของคน ‘มาทีหลัง’ ที่ค้นพบทางออกให้กับ ตนเองได้ ใน ทุกข์ของคนเป็นชู้
ติดตามเรื่องราวทำบุญฉายเดี่ยว ของคุณ จำปูน กันต่อใน สังฆทานใจ (2)
หน้า ๑๑
หน้า ๓๕
หน้า ๔๘
ธรรมะจากพระผู้รู้
๘
• จิตประภัสสรหมายถึงจิตเด็กทารกแรกเกิดหรือไม่ จิตของ เด็กทารกกับจิตของพระอรหันต์ต่างกันอย่างไร • คำสอน ‘พบผู้รู้แล้ว ให้ทำลายผู้รู้’ หมายถึงก าร ทำลาย ‘มานะ’ อันเป็นสังโยชน์ข้อ ๘ ใช่หรือไม่ • ทำไมแค่รู้ กิเลสก็สิ้นได้
เตรียมเสบียงไว้เลี้ยงตัว
๑๑
เขียนให้คนเป็นเทวดา
๑๙
ไดอารี่หมอดู
๒๔
กวีธรรม
๒๘
คำคมชวนคิด
๓๑
สัพเพเหระธรรม
๓๒
ธรรมะจากคนสู้กิเลส
๓๕
ของฝากจากหมอ
๔๐
แง่คิดจากหนัง
๔๔
เรื่องสั้นอิงธรรมะ
๔๘
• เทวดาประจำตัวมีจริงหรือไม่ • ฝันถึงเด็กคนหนึ่งต่อเนื่องนับปี ในฝันจะคอยเรียกว่าแม่ๆ และแม้ทำบุญให้หลายครั้ง ก็ยังฝันอยู่เหมือนเดิม อยากทราบว่าควรทำอย่างไร • วิธีเขียนให้เอาไปใช้ ได้จริง
• มาฆบูชารำลึก • วันแห่งความรักที่แท้จริง • ก่อนชีวิตจะสนิ้ • อะไรหนอ
• อยู่ระหว่างทางสองฝงั่ • ทุกข์ของคนเป็นชู้ • จ๊ะเอ๋.. ตัวยงุ่
• คุยเรื่อง “ความรัก” ในหนัง ตำนาน สมเด็จพระนเรศวร (ภาค ๒) • สังฆทานใจ (2)
ธรรมะปฏิบัติ • จิตส ่งออกนอก
ธรรมะใกล้ตัว dhamma at hand
ทีป่ รึกษาและผูจ้ ดุ ประกาย: ศรันย์ ไมตรีเวช หัวหน้าบรรณาธิการ จากใจบ.ก.ใกล้ตวั : อลิสา ฉัตรานนท์ ธรรมะจากพระผูร้ :ู้ อนัญญา เรืองมา เตรียมเสบียงไว้เลีย้ งตัว: อนัญญา เรืองมา เขียนคนให้เป็นเทวดา: อนัญญา เรืองมา ไดอารีห่ มอดู: จรินทร์ธร ธนชัยหิรญ ั ศิริ กวีธรรม: ศิราภรณ์ อภิรฐั คำคมชวนคิด: ศิราภรณ์ อภิรฐั สัพเพเหระธรรม: ชนินทร์ อารีหนู ธรรมะจากคนสูก้ เิ ลส: ณิตชมน ธาราภิบาล ของฝากจากหมอ: พริม ทัพวงศ์ แง่คดิ จากหนัง: เกสรา เติมสินวาณิช นิยาย/เรือ่ งสัน้ อิงธรรมะ: สุปราณี วอง เทีย่ ววัด: เกสรา เติมสินวาณิช ธรรมะปฏิบตั :ิ ชนินทร์ อารีหนู กองบรรณาธิการ: เกสรา เติมสินวาณิช กนกเรขา กฤษฎารักษ์ • กาญจนา สิทธิแพทย์ กานต์พทั ธ์ รัชพันธุ์ • จรินทร์ธร ธนชัยหิรญ ั ศิริ ชนินทร์ อารีหนู • ณัฐชญา บุญมานันท์ ณัฐธีรา ปนิทานเต • ณัฐพร สกุลอุทยั ศักดิ์ ณิตชมน ธาราภิบาล • ทิวตั ถ์ อังสนันรัตนา ปรียาภรณ์ เจริญบุตร • พรดารา ประจง พราวพรรณราย มัลลิกะมาลย์ ทองเลีย่ มนาค พริม ทัพวงศ์ • พิจติ รา โตวิวชิ ญ์ มยุรฉัตร พงษ์ผาตินนั ท์ • เมธี ตัง้ ตรงจิตร วรางคณา บุตรดี • วิภา คำพุก วิมล ถาวรวิภาส • วิมตุ ติยา นิวาดังบงกช ศดานัน จารุพนู ผล • ศิราภรณ์ อภิรฐั สมเจตน์ ศฤงคารรัตนะ • สาริณี สาณะเสน สิทธินนั ท์ ชนะรัตน์ • สุปราณี วอง อนัญญ์อร ยิง่ ชล • อนัญญา เรืองมา อลิสา ฉัตรานนท์ • อัจจนา ผลานุวตั ร ฝ่ายรวบรวมบทความ: สิทธินนั ท์ ชนะรัตน์ ฝ่ายสือ่ เสียงอ่านนิตยสาร: อนุสรณ์ ตรีโสภา ฝ่ายสือ่ เว็บไซต์: ผูอ้ อกแบบ คุณเขมจิรา กฤษฎ์ อักษรวงศ์ • สมเจตน์ ศฤงคารรัตนะ ฝ่ายสือ่ Word และ PDF: สิทธินนั ท์ ชนะรัตน์ กานต์ ศรีสวุ รรณ • พีรยสถ์ อุบลวัตร บุณยศักดิ์ ธีรวงศ์กจิ ฝ่ายระบบ Send mail: สมเจตน์ ศฤงคารรัตนะ และทีมงานอาสาท่านอืน่ ๆ อีกจำนวนมาก
๕๔
ท่านสามารถรับนิตยสารฉบับนี้ ได้ ในรูปแบบ เสียงอ่าน · Word
จากใจบ.ก.ใกล้ตัว อ่านบนเว็บ • ฟังเสียงอ่าน
อีกไม่กี่วัน ก็จะถึง วันมาฆบูชา ซึ่งเป็นวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาอีกวันหนึ่งแล้วนะคะ หลายคนได้หยุดวันจันทร์ด้วย ก็เลยได้อาศัยช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ยาวอย่างนี ้ ปลีกตัวไปเจริญภาวนาต่างจังหวัดกันไม่น้อยทีเดียวค่ะ แต่ลองนึกย้อนไป สักสมัยที่เรายังอยู่รุ่นราวคราวเดียวกับน้อง ๆ “แฟนฉัน” : ) กิจกรรมหลักช่วงนี้ คงไม่พ้นต้องวุ่นอยู่กับการจัดบอร์ด วันมาฆบูชา กันแน่เลยนะคะ : ) “วันมาฆบูชานี่... สำคัญยังไงนะ” อาทิตย์ก่อน ได้ยินเีสียงใครบางคนถามคำถามนี้แว่วเข้าหูมาค่ะ “เออ... ไม่รู้ซิ” “อืม... ไม่แน่ใจเหมือนกันนะ” “ลองเสิร์ชกูเกิ้ลดูซิ...” ฯลฯ ไม่รู้ว่าจะแปลกใจหรือไม่แปลกใจดี แต่วันนั้น จำได้ว่า ไม่ได้ยินคำตอบที่ชัดเจนจากใครสักคนเลยค่ะ ว่าแต่ คุณผู้อ่านล่ะคะ อ่านมาถึงตรงนี้แล้ว ยังจำกันได้อยู่ไหมคะว่า วันมาฆบูชา เป็นวันที่มีความสำัคัญต่อพุทธศาสนาเราอย่างไรบ้าง? (ให้เวลานึก...) : ) มีอยู่เพลงหนึ่งที่คุณครูเคยสอนให้ร้องเมื่อสมัยเด็ก ๆ และยังติดหูมาจนถึงวันนี ้ มีใครร่วมสมัยกับ บ.ก. บ้างไหมคะนี่ : ) “มาฆะ มาฆะบูชา รูก้ นั ว่าวันเพ็ญเดือนสาม คนไทยน้ำใจงาม วันเพ็ญเดือนสามมาทำบุญกัน จาตุรงคสันนิบาต วันประหลาดน่าอัศจรรย์ พระอรหันต์มาชุมนุมกัน พันสองร้อยห้าสิบองค์” มาฆบูชา ถือได้ว่าเป็น วันกำเนิดของพระธรรม เลยทีเดียวค่ะ เพราะเป็นวันที่พระพุทธเจ้าท่านได้ประกาศหลักธรรมคำสั่งสอน เพื่อให้พระอรหันตสาวกทั้งหลายที่ไปชุมนุมกันในวันนั้น ได้นำไปเผยแผ่สืบทอดกันออกไป และก็เป็นวันทีเ่ รียกกันว่าวัน จาตุรงคสันนิบาต ด้วย คือมีการประชุมพร้อมด้วยองค์ ๔ คือ
ธรรมะใกล้ตัว
๑. วันนั้นเป็นวันเพ็ญขึ้น ๑๕ ค่ำกลางเดือนมาฆะ ๒. พระภิกษุ ๑,๒๕๐ รูป มาประชุมกันโดยมิได้นัดหมาย ๓. พระภิกษุทั้งหมดล้วนเป็นพระอรหันต์ ๔. พระภิกษุเหล่านั้นทั้งหมด ได้รับการอุปสมบทจากพระพุทธเจ้าโดยตรง
แต่สิ่งหนึ่ง ที่เพลงที่ร้องตั้งแต่สมัยเยาว์วัยข้างต้น ไม่ได้รวมเข้าไปในเนื้อเพลงด้วย ทว่าเป็นสิ่งที่สำคัญยิ่งอย่างหนึ่งของวันมาฆบูชานี้ ก็คือ วันนี้เอง... เป็นวันที่พระพุทธองค์ทรงแสดง โอวาทปาฏิโมกข์ ซึ่งถือกันว่า เป็นหลักคำสอนที่เป็น “หัวใจของพระพุทธศาสนา” ค่ะ ที่กล่าวว่าเป็นหัวใจของพระพุทธศาสนา ก็เพราะ โอวาทปาฏิโมกข์ ได้กล่าวถึง จุดหมาย หลักการ และวิธีการ ของพระพุทธศาสนาไว้อย่างครบถ้วน คือ ๑. จุดหมาย ของพระพุทธศาสนา คือ พระนิพพาน (พ้นจากทุกข์ทั้งปวงโดยเด็ดขาด ละวางความยึดมั่นถือมั่นทั้งปวงได้โดยสิ้นเชิง) ๒. หลักการ คือ การไม่ทำความชั่วทั้งปวง การทำความดีทั้งปวง และการชำระจิตใจให้สะอาด บริสุทธิ์ ผ่องใส ๓. วิธีการ ที่จะบรรลุจุดหมายคือ ต้องฝึกฝนอบรมตนอย่างต่อเนื่อง ตามทางอันประเสริฐที่เรียกว่า อริยมรรค อันมีองค์ ๘ (คือ เห็นชอบ ดำริชอบ พูดจาชอบ ทำการชอบ เลี้ยงชีพชอบ เพียรชอบ ระลึกชอบ และตั้งใจมั่นชอบ หรือย่นย่อลงมาได้เ็ป็น ศีล สมาธิ ปัญญา นั่นเองค่ะ) ตรงนี้ หลายคนอาจจะเคยได้ยินกันชินหูว่า “มรรค ๘” แต่ถ้าให้ถูกตามหลักจริง ๆ แล้ว ก็น่าจะเรียกว่า “มรรคมีองค์ ๘” ค่ะ เพราะมรรคทุกข้อจะเกี่ยวเนื่องเชื่อมโยงกันทั้งหมด อย่างแยกจากกันไม่ได้ เปรียบเสมือนเชือกเส้นเดียว ที่มีเชือกเล็ก ๆ ๘ เส้น ฟั่นเป็นเกลียวรวมกัน เพื่อให้เชือกเส้นใหญ่นั้น ใช้ประโยชน์ได้ตามที่ต้องการเต็มที่ นั่นคือ ไม่ใช่ว่ามรรคจะมี ๘ ทาง แต่ีที่จริงต้องดำเนินมรรคให้ครบทั้ง ๘ ประการ ขาดข้อใดข้อหนึ่งไม่ได้ จึงจะสามารถบรรลุธรรมอันเป็นจุดมุ่งหมายสูงสุดได้ค่ะ
ธรรมะใกล้ตัว
วันนี้คงไม่ได้มาจัดบอร์ดเรื่อง วันมาฆบูชา บนนิตยสารธรรมะใกล้ตัวหรอกนะคะ : ) เพียงแต่เห็นว่า หลาย ๆ คนรอบตัว แทบไม่มีใครทราบความสำคัญของวันนี้เลย เลยอยากหยิบมาเพื่อให้เราได้รับรู้และตระหนักในความสำคัญของวันนี้กันสักนิด และหันมาใส่ใจในธรรมอันเป็นหัวใจที่พระพุทธองค์ได้ทรงตรัสสอนไว้กันค่ะ อ่าน ๆ ไป อาจจะมีคุณผู้อ่านบางท่านเริ่มรู้สึกมึนกับบอร์ดวิชาการของ บ.ก. : ) จริง ๆ แล้วธรรมะของพระพุทธองค์นั้น ไม่ได้ยุ่งยาก ซับซ้อน ไกลตัว ขนาดนั้นหรอกค่ะ ขอคัดบางส่วนที่หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมฺชฺโช ท่านได้เคยเีขียนไว้สำหรับผู้มาใหม่นะคะ “แท้จริงแล้ว ธรรมะเป็นเรื่องใกล้ตัว ใกล้จนถึงขนาดที่เรียกว่า เป็นเรื่องเกี่ยวกับ ตัวเราเอง และขอบเขตของธรรมะก็มีเพียงนิดเดียวคือ ทำอย่างไรจึงจะไม่เกิดความทุกข์ ถ้าจะศึกษาธรรมะ ก็ศึกษาลงไปเลยว่า “ความทุกข์อยู่ที่ไหน เกิดขึ้นได้อย่างไร และดับไปได้อย่างไร” และความสำเร็จของการศึกษาธรรมะ อยู่ที่ปฏิบัติจนเข้าถึงความพ้นทุกข์ ไม่ใช่เพื่อความรอบรู้รกสมอง หรือเพื่อความสามารถในการอธิบายแจกแจงธรรมได้อย่างวิจิตรพิสดาร แท้จริงแล้ว ความทุกข์ของคนเราอยู่ในกายในจิตของตนนั่นเอง สนามศึกษาธรรมะของเรา จึงอยู่ที่กายที่จิตนี้แหละ แทนที่เราจะเที่ยวเรียนรู้ออกไปภายนอก ก็ให้เราย้อนเข้ามาศึกษาอยู่ในกายในจิตของเรานี้แหละ” “อย่าพากันท้อถอยเสีย เมื่อได้ยินคนอื่นพูดธรรมะแล้วเราฟังเขาไม่รู้เรื่อง เราไม่ต้องรู้อะไรเลยก็ได้ รู้แค่ว่า ทำอย่างไรเราจะไม่ทุกข์ ก็พอแล้ว เพราะนั่นคือใจความทั้งหมดของพระพุทธศาสนา” หลวงพ่อท่านได้เคยเขียนแจกแจงไว้อย่างเรียบง่ายและน่าฟังทีเดียวค่ะ ใครยังไม่เคยอ่านเรื่องนี้เต็ม ๆ ก็อยากให้ลองอ่านดูนะคะ
ธรรมะใกล้ตัว
แด่เธอผู้มาใหม่ : เรื่องเรียบง่ายและธรรมดาที่เรียกว่า ธรรมะ http://www.larndham.net/cgi-bin/kratoo.pl/000373.htm และวิธีการหลัก ๆ ที่หลวงพ่อท่านได้เน้นย้ำอยู่บ่อย ๆ และเสมอ ๆ ก็คือ มรรคในข้อ ระลึกชอบ หรือ สัมมาสติ คือให้มีสติรู้สิ่งต่าง ๆ ที่กำลังปรากฏตามความเป็นจริง นั่นเองค่ะ นอกจาก สัมมาสติ จะทำให้มรรคข้ออื่นหลาย ๆ ข้อ พลอยเกิดขึ้นได้เองแล้ว พระพุทธเจ้าท่านยังได้ตรัสไว้ในตอนท้ายของ มหาสติปัฏฐานสูตร ด้วยนะคะว่า ใครก็ตามที่เจริญสติปัฏฐานทั้ง ๔ อย่างต่อเนื่องแล้ว พึงหวังผลได้เลยว่า อย่างช้าไม่เกิน ๗ ปี จะสามารถบรรลุมรรคผล ได้เป็นพระอนาคามีขึ้นไป คือสามารถตัดราคะ และโทสะได้ และเมือ่ เป็นพระอรหันต์ ก็จะตัดโมหะได้ดว้ ยอย่างเด็ดขาด ซึ่งนั่นก็เท่ากับดับเชื้อของกิเลสทั้งปวง และไม่ต้องกลับมาเวียนตายเวียนเกิดอีกเลย มรรคข้อ ระลึกชอบ หรือ สัมมาสติ นี้ เมื่อเจริญแล้ว จึงเป็นข้อที่ให้ผลใหญ่ยิ่งค่ะ และสำหรับ ธรรมะใกล้ตัว ฉบับนี้ คุณศานตินิจ-ณฎน ก็ได้ร่วมแต่งบทกวี มาฆบูชารำลึก มาเพื่อร่วมน้อมระลึกถึงวันพระธรรมนี้โดยเฉพาะ ในคอลัมน์ บทกลอนธรรมะ ด้วยค่ะ ส่วน ธรรมะจากคนสู้กิเลส สัปดาห์นี้ เป็นเรื่องราวจากคุณ awayfromhell ที่ได้ถ่ายทอดประสบการณ์ผ่านชีวิต มากับเรื่อง ทุกข์ของคนเป็นชู ้ ใครเคยได้ต้องรสและรู้ถึงอำนาจของราคะอันยากจะสลัดให้เป็นอิสระแล้ว คงเข้าใจว่า จะต้องใช้ความอดทนและมีกำลังใจอันเด็ดเดีย่ วเพียงใดกว่าจะผ่านข้ามได้สำเร็จ ลองติดตามดูนะคะว่า เธอสู้จนผ่านและชนะมันมาได้อย่างไร ใครมีนิสัยช่างคิด ช่างค้น กระทั่งช่างหงุดหงิด หรือจริง ๆ แล้ว คือช่างทุกอย่าง... ลองฟังวิธีของคุณ มนสิการ ที่คอยสังเกตสิ่งที่เกิดขึ้นในจิตในใจของเธอดูนะคะว่า การ อยู่ระหว่างทางสองฝั่ง นั้นคืออย่างไร แล้วทางสายกลางนั้นอยู่ตรงไหน วิธีการนี้ อาจจะช่วยทำให้ชีวิตหลาย ๆ คนเบาลงเป็นเรื่องง่ายขึ้นก็ไ้ด้ค่ะ
ธรรมะใกล้ตัว
ว่ากันว่า คนเรา “ทุกข์” เพราะ “ยึด” ว่าแต่ใครยังจำได้บ้างไหมคะว่า แรกเกิดอุแว้แบเบาะออกมาอย่างไม่รู้ความ เราเริ่มรู้จัก “ยึด” เป็นครั้งแรกตั้งแต่เมื่อไหร่กัน? คุณหมอพิม (กุมารแพทย์) ได้เขียนเรื่อง จ๊ะเอ๋...เจ้าตัวยุ่ง ในคอลัมน์ ของฝากจากหมอ โดยเล่าถึงพัฒนาการของความจำ ความปรุง ไปจนถึงความยึด และความทุกข์ ที่เกิดขึ้นแล้วแม้กระทั่งกับเด็กในวัยทารกนี่ล่ะค่ะ บางที โตกันมาจนถึงวันนี้ เราก็อาจจะยังไม่ต่างอะไรจากเจ้าตัวยุ่งมากมาย นอกจากจะมีแต่ยึดมากขึ้น ทุกข์มากขึ้นกันทุกวัน แต่สิ่งหนึ่งที่ต่างกันแน่นอนคือ ถึงวันนี้ เราเรียนรู้วิธีออกจากทุกข์ตรงนั้นได้ อยู่ที่ใครจะมองหา และตั้งใจทวนกระแสได้เพียงใดเท่านั้น ธรรมะสวัสดีในวันมาฆบูชานี้ทุกท่านนะคะ พบกันสัปดาห์หน้าค่่ะ สวัสดีค่ะ
กลางชล
สารบัญ
ธรรมะใกล้ตัว
ธรรมะจากพระผู้รู้ อ่านบนเว็บ • ฟังเสียงอ่าน
ถาม – ที่วา่ เดิมทีจติ ประภัสสรนน้ั หมายถงึ จติ ของเด็กทารกแรกเกิดหรือเปล่า คะ? ถ้าใช่ จิตของเด็กทารกกบั จติ ของพระอรหันต์ตา่ งกนั อย่างไร มีอะไรมาทำให้ แตกต่าง? จิตผรู้ นู้ น่ั แหละครับ คือจติ ประภัสสร มันประภัสสรเพราะมนั ยงั ไม่ถกู อปุ กิเลสจร มาหอ่ หมุ้ ในทางปฏิบตั ิเมือ่ เราสามารถแยก ‘จติ ผรู้ ้’ู กับ ‘อารมณ์ท่ถี กู ร้’ู ออกจากกนั ได้แล้ว จิตจะทรงตัวรู้ ผ่องใส เบิกบานอยู่ในตัวเอง แต่ต รงนถี้ ้าส ังเกตให้ด จี ะพบว่าม ันก ย็ ังเป็นภ พอีกอ ันห นึ่ง จิตย ังข ้อง ยังย ึดอ ยูใ่น ภาวะที่รู้ ว่าง ผ่องใส เบิกบาน นั้น เราไม่สามารถเห็นได้ว่าต รงนี้เป็นภ พอันหนึ่ง เป็น ก้อนทกุ ข์อนั หนึง่ ไม่สามารถมองเห็นตณ ั หาอนั ละเอียดทก่ี อ่ ภพอนั นข้ี น้ึ หากใครปฏิบตั ิ ติดอยู่เพียงแค่น ้ี ก็บางครัง้ บางคราวเท่านัน้ ทีจ่ ติ จะปล่อยวางภพอนั นไ้ี ด้ชว่ั คราว แล้ว จิตพลิกไปอีกสภาพหนึ่ง เป็นความเบา เป็นอิสระ เป็นธรรมชาติอันหนึ่ง แต่ไม่นาน อย่างมากก็สามส่วี นั ตัณหาท่ยี งั มองไม่เห็นกส็ ร้างภพของจติ ผ้รู ้ขู น้ึ มา ใหม่ แล้วก็ติดข้องอยู่ในภพ เพราะมองไม่ออกถึงเงื่อนต้นเงื่อนปลายของมันครับ
๖ ก.ค. ๒๕๔๒ สันตินันท์ (พระ อาจารย์ปราโมทย์ ปาโมชฺโช ในปัจจุบัน) ถาม – จากคำสอนทว่ี า่ ‘ให้คน้ หาตวั ผูร้ ใู้ ห้พบ แล้วทำลายตวั ผูร้ เู้ สีย’ ข้อความ นี้หมายถึงการทำลาย ‘มานะ’ อันเป็นสังโยชน์ข้อ ๘ หรือเปล่าค รับ?
ธรรมะใกล้ตัว
การทำลายผู้รู้ไม่ใช่การทำลายมานะหรอกครับ แต่หมายถึงการปล่อยวางความ ยึดมั่นในจิตผู้รู้ว่าเป็นเรา หรือของเรา คือเห็นว่า กระทั่งจิตก็เป็นเพียงสภาพธรรม อันหนึ่ง มันเป็นของมันอ ยู่อย่างนั้นเอง ถาม – ทำไมแค่รู้ กิเลสกส็ ิ้นได้ครับ? เรา รู ้ เพือ่ เข้าใจสภาพธรรมท่กี ำลังปรากฏตามความเป็นจริงเท่านัน้ คือร้วู า่ สิง่ ทัง้ หลายทเ่ี กิดมานน้ั มันตอ้ งดบั ไปในทส่ี ดุ และไม่เป็นไปตามความอยากของเรา แต่ เป็นไปตามเหตุของมัน เมือ่ จติ รคู้ วามจริง จิตกป็ ล่อยวาง ไม่เข้าไปแทรกแซงสง่ิ ใด คือพอเห็นอารมณ์ใด เกิดข ึ้น ก็ร ู้ว่า “มันก็เท่านั้นเอง” “มันเป็นอย่างนั้นเอง” เมื่อจ ิตรู้จักป ล่อยวาง จิต ก็ไม่ทุกข์ การที่เรารู้ทันกิเลสที่กำลังปรากฏแล้ว กิเลสอ่อนกำลังลงหรือหายไปนั้น ไม่ใช่ เพราะเราไปไล่กิเลสไปหรอกครับ อย่างมีใครสักคนมาด่าคุณ คุณฟังแล้วโกรธ พอ โกรธแล้วก จ็ ะยิ่งเพิ่มค วามสนใจคนที่มาด่าค ุณม ากขึ้น ยิ่งส นใจกย็ ิ่งค ิดย ิ่งแ ค้น ความ โกรธกย็ ิ่งรุนแรงขึ้น แต่เมือ่ ใดคณ ุ ยอ้ นกลับมาเห็นความโกรธท่กี ำลังเกิดขน้ึ แล้วเห็นวา่ มนั ทำให้จติ ใจ ของคณ ุ เป็นทกุ ข์ จิตใจของคณ ุ กจ็ ะไม่คล้อยตามสง่ิ ทก่ี เิ ลสสอนให้ทำ เช่น ไม่ตดั สินใจ โดดชกคนทม่ี าดา่ เรา และในขณะท่รี ทู้ นั กเิ ลสอยูน่ น้ั ความสนใจของเราไม่ได้อยูท่ ่คี น ทีม่ าดา่ เรา ไม่ได้คดิ ปรุงแต่งเพิม่ เติมวา่ เขาไม่ดอี ย่างนน้ั อย่างน ้ี กิเลสกเ็ หมือนไฟทข่ี าด เชื้อ มันกอ็ ่อนกำลังแล้วดับไปเอง เราปฏิบตั ธิ รรมไม่ใช่เพือ่ ละกเิ ลส แต่เพือ่ ละความเห็นผดิ ของจติ ใจท่ไี ปหลงเชือ่ วง่ิ ตามกเิ ลส แล้วพาทกุ ข์มาให้ตวั เอง แต่เรากจ็ ำเป็นตอ้ งรกู้ เิ ลส เพราะถา้ รไู้ ม่ทนั กิเลส มันจะทำพิษเอา คือถา้ มนั ครอบงำจติ ใจได้ มันจะพาคดิ ผดิ พูดผดิ ทำผดิ แล้วจะนำ ความทุกข์ความเดือดร้อนมาให้
ธรรมะใกล้ตัว
การทเ่ี รารกู้ เิ ลสนน้ั เราไม่ได้รเู้ พือ่ จะละมนั เพราะตราบใดยงั มเี ชือ้ ของกเิ ลสหลบ ซ่อนอยู่ในจิตใจส่วนลึกแล้ว หากมันมีผัสสะทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ กิเลสที่ซ่อน นอนก้นอยู่ในจิตใจก็จะผุดขึ้นมา เพื่อกระตุ้น เร่งเร้า ให้เราหลง ให้เรารัก ให้เรา ชัง สิ่งต่างๆ จิตใจกเ็สียความเป็นกลางไป และเราไม่ต้องไปคิดเรื่องตัวผู้รอู้ ะไรหรอกครับ ถ้ากิเลสเกิดแล้วรู้ว่ามกี ิเลส และ รู้ทันจิตใจตนเองว่า มันยินดี ยินร้ายตามกิเลสหรือไม่ มันหลง มันเผลอ มัน อยาก มันยดึ หรือไม่ รู้เรือ่ ยๆ ไป ถึงจดุ หนึง่ จติ มนั จะเข้าใจเองวา่ “ถา้ จติ หลงตาม แรงกระตุ้นข องกิเลส แล้วเกิดค วามอยาก ความยึดข ึ้นม าเมื่อใด ความทุกข์ก เ็กิดข ึ้น เมื่อนั้น” จิตกจ็ ะมีความฉลาดพอ ทีจ่ ะไม่หลงกลกิเลสที่มันรู้ทันแล้วอีกต่อไป
๗ ก.ค. ๒๕๔๒ สันตินันท์ (พระ อาจารย์ปราโมทย์ ปาโมชฺโช ในปัจจุบัน)
10 ธรรมะใกล้ตัว
สารบัญ
เตรียมเสบียงไว้เลี้ยงตัว อ่านบนเว็บ • ฟังเสียงอ่าน
ถาม – เทวดาประจำตัวมีจริงหรือเปล่าคะ? ถ้านึกถึงเทวดาเดินตามต้อยๆไปคอยเป็นองครักษ์พิทักษ์คุณตลอดเวลาล่ะ ก็ แบบนั้นไม่มีหรอกครับ ลองคิดดูถ้าใครสักคนสู้อุตส่าห์ทำบุญจนเกินมนุษย์ ธรรมดา ถึงขนาดตายไปเสวยสวรรค์ได้ สุดท้ายเบื้องบนตกรางวัลโดยให้มาเป็น บอดี้การ์ดคุ้มครองมนุษย์ตลอดเวลา ค่าจ้างค่าออนกไ็ ม่ได้รับกับใครเขา อย่างนี้จะ เป็นเทวดาไปทำไมล่ะครับ เป็นค ุณจะเอาไหมถ้าทำบุญแ ทบตาย แล้วต ้องไปกินบุญ ด้วยการเป็นเงาตามสิ่งมีชีวิตท ี่ศักดิต์ ่ำกว่า อย่างเช่นลิงค่างบ่างชะนี? หากต อบว ่ า ไ ม่ เอา เทวดาก ็ ค งไ ม่ เอาเหมื อ นก ั น และห ากบ อกว ่ า ไ ม่ เห็ น จำเป็น เทวดาก็บอกว่าไม่เห็นจำเป็นเช่นกัน ฉันใดก็ฉันนั้นเลยครับ อย่างไรก็ตาม การช่วยเหลือเกื้อกูลข ้ามมิตภิ พภูมนิ ั้นเป็นไปได้ค รับ ทำนองเดียว กับทค่ี ณ ุ อยูใ่ นภมู มิ นุษย์ สามารถยน่ื มือไปชว่ ยเหลือสตั ว์ในภมู เิ ดรัจฉานได้ ตัง้ แต่สตั ว์ เล็กอย่างมดไปจนกระทั่งสัตว์ใหญ่อย่างปลาวาฬ โดยที่การช่วยเหลืออาจมาในรูป แบบตา่ งๆ เช่น หยิบยน่ื สง่ิ ใดสง่ิ หนึง่ เป็นการชว่ ยชวี ติ พวกมนั ราวกับปาฏิหาริย ์ หรือ อาจมาในรูปข องการฟื้นฟูส ิ่งแวดล้อมทกี่ ำลังย ่ำแย่ หรืออ าจมาในรูปข องการนำพวก มันม าผสมพันธุก์ ันป ้องกันก ารสูญพ ันธุ์ ฯลฯ พวกมันร ับร วู้ ่าเกิดอ ะไรขึ้น แต่ไม่ร เู้ลย ว่าเป็นฝีมือของคุณ พวกเราก็เหมือนกัน วันๆได้แต่ดุ่มเดิมไปตามยถากรรม รับรู้ว่าอะไรเกิดขึ้น เฉพาะหน้า แต่ไม่รวู้ า่ เป็นการบนั ดาลของอะไร ระหว่างความบงั เอิญ กรรมเก่า หรือ เทวดา ว่ากันถึงความบังเอิญ คุณจะยิ่งทึ่งในโลกและจักรวาลมากขึ้น ถ้ารู้ว่าความ กระทบกระทั่งดีร้ายทั้งหลายไม่เคยบังเอิญเลย สิ่งมีชีวิต วัตถุ อากาศ และกาล เวลา ต่างร่วมกันถักทอเหตุการณ์ตามจังหวะการให้ผลของกรรมเสมอ ยกตัวอย่าง
ธรรมะใกล้ตัว 11
เช่น คุณเดินไปเดินมาอยู่ในบ้านว่าง นึกว่าคุณเป็นเอกเทศอยู่ตามลำพัง อยากก้าว เท้าไปทจี่ ุดไหนในเวลาใดก็ได้ ความจริงค ุณอ าจทำหน้าทีเ่หยียบมดชะตาขาดให้ต าย ดับโดยไม่รู้ตัว ในวินาทีใดวินาทีหนึ่ง ณ จุดใดจุดหนึ่ง เท้าคุณเป็นวิบากของเหล่า มดกลุ่มดังกล่าว ทำหน้าที่เครื่องประหาร ส่งไปเกิดใหม่ตามเวลาอันควรของพวก มัน เมือ่ ใดคณ ุ เข้าใจความสมั พันธ์อนั ใกล้ชดิ ระหว่างสง่ิ มชี วี ติ วัตถุ อากาศ และกาล เวลา เมื่อนั้นคุณจะทราบว่าแ ม้ ‘ความบังเอิญ’ ก็ม ีเหตุผลบางอย่างของมันเสมอ ว่ า ก ั น ถ ึ ง ก รรมวิ บ าก แม้ ห ลายค นจ ะเชื ่ อ ว ่ า ท ำด ี ไ ด้ ด ี ทำช ั ่ ว ไ ด้ ช ั ่ ว แต่ เมือ่ ‘ได้ดี’ หรือ ‘ได้ชวั่ ’ แต่ละครั้งก จ็ ะงงๆว่าม ันเกิดข นึ้ ได้อย่างไร กับท งั้ ม องออก นอกตวั ไปเพ่งโทษวา่ เป็นความผดิ ของมนุษย์ดว้ ยกนั เสมอ เรียกหาความยตุ ธิ รรมเพือ่ เอาผิดเอาถกู จากมนุษย์ดว้ ยกนั เสมอ จะมีสกั กค่ี นทพ่ี ดู ออกและบอกถกู วา่ เหตุการณ์ ไหนไหลมาจากกรรมอันใดของตน ว่ากนั ถงึ เทวดา พวกเราในโลกมนุษย์น ้ี มีจำนวนไม่นอ้ ยเลยครับท่สี มั ผัสพลังตา่ ง มิตดิ ว้ ยจติ อาจจะได้กลิน่ หอมแปลก อาจจะยนิ เสียงพเิ ศษ หรือบางคนอาจเห็นความ ผิดปกติของเหตุการณ์บางชนิด แล้วทราบทันทีว่าเป็นการแสดงนิมิตด้วยฤทธิ์ของ เทวดา แต่สมั ผัสเทวดานน้ั แม้จริงกใ็ กล้เคียงกบั อปุ าทานมาก เช่น สายลมโชยกลิน่ หอมรื่นอาจเป็นลมธรรมดาที่หอบกลิ่นดอกไม้มากระทบจมูก แต่จิตคุณปรุงแต่งไป ว่าไม่เคยได้กลิ่นอย่างนี้มาก่อนที่ไหนในโลก ต้องเป็นกลิ่นทิพย์ของเทวดาแน่ๆ ของ แบบนี้ถ้าให้แน่จริงต้องมีตาทิพย์อันคู่ควรกับการเห็นสภาพทิพย์ เมื่อมีตาทิพย์คุณ จะพบว่าอ ากาศว่างหลายๆแห่งไม่ว ่างจริง ต้นไม้ใหญ่ห ลายๆต้นไม่ได้ม แี ค่ก ิ่งใบ โลก ทิพย์จ ะปรากฏต่อหน้าโดยไม่ต ้องรอให้ได้ยิน ได้ก ลิ่น หรือได้ส ัมผัสอ ะไรแปลกๆเสีย ก่อนเลยด้วยซ้ำ คนในโลกส่วนใหญ่พร้อมจะเชื่อว่าเหตุการณ์ดีร้ายต่างๆเกิดขึ้นจากความบังเอิญ หรือไม่กเ็ ทวดาบนั ดาล เพราะไม่ตอ้ งมตี นเองเข้าไปรบั ผิดชอบเหมือนให้เชือ่ วา่ เป็นผล จากกรรมเก่าของตน แม้คนที่ศรัทธากรรมวิบากก็มักเลือกเชื่อเฉพาะเมื่อเกิดเรื่อง ดีๆ ว่าเป็นเพราะบุญเก่าข องตนบันดาล ส่วนเรื่องร้ายๆของตัวน จี่ ะหาแพะ เพ่ง โทษเอาผิดกับมนุษย์ด้วยกัน หรือไม่ก็โบ้ยให้ความบังเอิญและเทวดาเป็นต้นเหตุ ไป ไม่อยากเชื่อว่าตนเคยทำบาปอันใ ดไว้ จึงต้องมาเผชิญท ุกข์อย่างที่กำลังเป็น
12 ธรรมะใกล้ตัว
เมื่อโทษความบังเอิญหรือเทวดา อะไรๆจะอธิบายง่าย ไม่ต้องเหนื่อยพิสูจน์ให้ ยาก แค่ทำใจเชื่อก็ใช้ได้แล้ว นึกว่ารู้จริงแล้ว และด้วยความไม่รู้จริง หรือรู้ครึ่งๆ กลางๆนี่เอง เป็นเหตุใกล้ใ ห้คนจำนวนมากเชื่อเรื่องเทวดาประจำตัว เป็นเทวดา ประเภทที่คอยประกบติดคุ้มครอง คอยดลใจ หรือกระทั่งคอยดลเหตุการณ์ดีร้าย ต่างๆให้เกิดขึ้นอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน มาทำความเข้าใจให้ชัดเจนดีกว่าครับ เริ่มกันที่ความจริงอันเป็นต้นเค้า เรา ต้องทราบว่าเทวดาก็เป็นสัตว์สังคมเช่นเดียวกับมนุษย์ พวกท่านมีเพื่อน มีสามี มี ภรรยา มีเจ้านาย มีบ ริวาร ที่รักแ ละผูกพันก ัน แม้เมื่อญ าติม ิตรจุตจิ ากสวรรค์ล งมา เกิดในมนุษยโลกแล้ว ก็ยังอาลัยอาวรณ์ อาจคอยสอดส่องดูด้วยความห่วงใย เกรง ญาติมิตรของตนจะประสบทุกข์ต่างๆนานา หรือพลาดท่าเสียทีให้กิเลส ทำบาป ทำกรรมอันเป็นเหตุให้ต้องพลัดไปสอู่ บายภูมิได้ วิธสี อดส่องของเทวดานน้ั ถ้าเทียบให้ใกล้เคียงกค็ งคล้ายมนุษย์อาศัยอนิ เตอร์คอม ในการฟงั เสียงลกู นอ้ ยจากอกี หอ้ ง หรือใช้กล้องวงจรปิดในการสงั เกตพฤติกรรมของฝงู สัตว์เลี้ยงจากที่ไกล ต่างแต่ว่าเหล่าเทวดาส่วนใหญ่มีวิถีการรับรู้อันเป็นทิพย์ รู้เรื่อง ไกลตวั ได้โดยไม่จำเป็นตอ้ งพง่ึ อปุ กรณ์ไฮเทคทง้ั หลาย เพียงดว้ ยความหว่ งใยมใี จผกู พัน อาทร ก็จะรขู้ ึ้นเองเมื่อเกิดเรื่องร้ายกับญาติมิตรของตนที่ไปเกิดในมนุษยโลก เมื่อเกิดเรื่องร้ายกับญาติมิตรในโลก เทวดาก็หาได้สามารถช่วยเหลือไปหมดทุก เรือ่ ง ส่วนใหญ่จะเป็นเรือ่ งของการดลใจ หรือโน้มน้าวจติ ของญาติมติ รให้เปลีย่ นจาก อกุศลเป็นกศุ ล เช่น เมือ่ ญาติมติ รกำลังโมโหโกรธาจดั ๆ เทวดากอ็ าจแผ่เมตตา ช่วย บรรเทาความรมุ่ รอ้ นในจติ ใจญาติมติ รให้เยือกเย็นลง ทำนองเดียวกบั บรรดาพระภกิ ษุ ผู้มีพลังเมตตาสูงๆหลายรูป สามารถรวมตัวกันแผ่กระแสความสุขให้ญาติโยมที่มา ประชุมก ัน ระงับค วามทุกข์แ ละความฟุ้งซ่านลงได้ช ั่วคราว เพียงเข้าม าอยูใ่นละแวก ใกล้ ตัวแปรในการดลใจมีหลายระดับ ขึ้นอยู่กับฤทธิ์ของเทวดาเอง ประกอบกับที่ ขณะหนึง่ ๆกเิ ลสหรือวบิ ากของมนุษย์หอ่ หมุ้ อยูห่ นาแน่นเพียงใดดว้ ย หากมนุษย์กำลัง
ธรรมะใกล้ตัว 13
โทสะแรงกล้า หรือกำลังมีวิบากมืดคลุมจิตมิดเม้นให้เห็นผิดรุนแรง แม้เทวดาฤทธิ์ มากก็ดลใจไม่ไหว การดลใจยงั มหี ลายเหตุผล และไม่จำเป็นตอ้ งเคยเป็นญาติมติ รกนั ในชาติใกล้เสมอ ไป เช่น ในมหาปรินิพพานสูตรส่วนที่ว่าด้วยการสร้างเมืองที่ปาฏลิคาม ก็กล่าวไว้ โดยใจความสรุปคอื พระพุทธเจ้าตรัสดว้ ยพระองค์เอง ว่าทา่ นได้เห็นดว้ ยทพิ ยจักษุอนั บริสุทธิ์ล่วงจักษุของมนุษย์ ในการที่เทวดาเป็นอันมากนับเป็นพันๆ หวงแหนพื้นที่ เขตต่างๆในปาฏลิค าม ๑) เทวดาผู้มีศักดิ์ใหญ่หวงแหนที่ในส่วนใด จิตของพระราชาและมหาอำมาตย์ผู้มี ศักดิ์ใหญ่ก็น้อมไปเพื่อจะสร้างนิเวศน์ในส่วนนั้น ๒) เทวดาชั้นกลางหวงแหนที่ในส่วนใด จิตของพระราชาและมหาอำมาตย์ ชั้น กลาง ก็น้อมไปเพื่อสร้างนิเวศน์ในส่วนนั้น ๓) เทวดาชน้ั ตำ่ หวงแหนทใ่ี นสว่ นใด จิตของพระราชาและมหาอำมาตย์ชน้ั ตำ่ ก็นอ้ ม ไปเพื่อสร้างนิเวศน์ในส่วนนั้น กล่าวสรุปโดยย่นย่อคือพระพุทธเจ้าทรงยืนยัน ว่าพื้นที่ส่วนต่างๆของโลกไม่ เหมือนกนั ถ้าบญ ุ ไม่พอก็อยู่ไม่ได้ หรือมีเทวดาดลใจให้ไปอยู่ท่อี น่ื ท่เี หมาะกบั วาสนา บารมีของแต่ละคน โดยที่เทวดาไม่จำเป็นต้องเป็นเทวดาประจำตัวแต่อย่างใด หากคุณมีประสบการณ์ผ่านเข้าไปในหมู่บ้านโจรที่เล่นไสยศาสตร์มืด ก็คงเคย รู้จักกับกระแสยะเยียบทมิฬชวนขนลุกอย่างประหลาด อันนั้นอาจเป็นคลื่นจิตของ วิญญาณชั้นต่ำปนๆกัน ทั้งคนทุศีลและเปรตดุที่อาศัยอยู่ในบริเวณเดียวกัน คนดีที่ เข้าไปจะเหมือนแกะขาวที่ถูกแกะดำหมั่นไส้ นอนหลับอาจถูกรบกวนด้วยเรื่องน่า ขนพองสยองเกล้าเอาได้ ส่วนถ้าคุณมีประสบการณ์ผ่านเข้าไปในเขตวัดที่มีอริยเจ้าพำนัก ก็คงเคยรู้จัก กับกระแสความอบอุ่นสว่างไสว ปลอดโปร่งราวกับอากาศว่างเบาแผ่ขยายออกไป อย่างไร้ขอบเขต อันนั้นอาจเป็นคลื่นจิตของวิญญาณชั้นสูงปนๆกัน ทั้งมนุษย์ทรง ศีล ทั้งเทวดาผู้มีพิมานซ้อนกับเขตวัด ทั้งเทวดาบุญญาธิการสูงเหนือโลกที่หมั่นส่ง
14 ธรรมะใกล้ตัว
ใจลงมาบูชาพระอรหันต์ คนดีไม่พอที่คิดเข้าไปอาศัยวัดหลับนอนหรือปฏิบัติธรรม ชัว่ คราว อาจถกู กระตุกขาหรือได้ยนิ อะไรแปลกๆเพือ่ เตือนสติให้ขยันขน้ึ กว่าเดิม ไม่ นอนขี้เซาเหมือนเดิม โดยรูปแบบการเตือนนั้นอาจทำให้เกรง แต่ไม่ก่อให้เกิดความ รู้สึกสยดสยองพองขนเหมือนตอนเจอวิญญาณชั้นต่ำ สรุปคือนอกจากคำว่า ‘เทวดาประจำตัว’ ซึ่งคุ้นๆก ันแล้ว ยังมี ‘เทวดาประจำ ที่’ อีกด้วย รูปแบบความเกี่ยวข้องกันระหว่างเทวดากับมนุษย์อาจมาทั้งในรูปของ การดลใจ การปกป้อง ตลอดจนการสะกิดเตือนตรงๆ หากจู่ๆคุณรู้สึกมึนงง หรือรู้สึกเหมือนถูกบล็อกความคิดให้ตีบตัน โดยเฉพาะ ขณะต้องทำบุญหรือท ำบาปอันข ัดแย้งกับต ัวตนเดิมม ากๆ ก็เป็นไปได้ครับว่ามีความ เกีย่ วข้องกบั ภตู ผปี ศี าจหรือเทวดานอกตวั แต่สว่ นใหญ่จะเป็นเหตุภายใน เช่น ความ บกพร่องทางกาย หรืออาจเป็นความขัดแย้งกับภาวะจิตใจเดิมๆ เท่านั้นเอง และไม่ว่าจะเชื่อเรื่องภายในหรือภ ายนอก การฝึกมี ‘สติ’ ให้เข้มแข็ง ต้านทาน บาป และหันมาต้อนรับบุญทั้งปวง นับเป็นนโยบายอันควรยึดถือเป็นท ี่สุด แถมอกี หน่อยเป็นการทง้ิ ท้าย วิญญาณทผ่ี กู กรรมสมั พันธ์บางอย่างกบั มนุษย์ ต้อง คอยติดตามมนุษย์นั้นมีอยู่จริง แต่เป็นกรณีที่เกิดขึ้นได้น้อยมาก ระดับหนึ่งในพัน หนึ่งในหมื่น คือต้องเป็นเหตุผลพิเศษจริงๆ เช่น ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งอธิษฐานผูกติดกับ อีกฝ่าย อำนาจการอธิษฐานทีแ่ รงพอจะทำตัวเป็นเสมือนเชือกโยงให้ต้องติดตามไป ทุกหนทุกแห่ง เมื่อหมดกำลังส่งของแรงอธิษฐาน หรือเมื่อฝ่ายมนุษย์เปลี่ยนแปลง ตนเองเป็นคนละคน ‘เงาตามตัว’ ก็จะจำไม่ได้ ต้องหายไปตามหนทางของเขาเอง ครับ ถาม – ฝันถงึ เด็กคนหนึง่ เป็นประจำ ในฝนั จะเรียกแม่ๆ บอกวา่ รกั แม่ อยาก อยูก่ บั แม่ ตัวเองก็อยากได้เด็กไว้เป็นลกู แต่ในความจริงมีลกู หลายคนแล้วและไม่ สามารถมลี กู ได้อกี แม้เคยทำบุญอทุ ศิ สว่ นกศุ ลไปหลายตอ่ หลายครัง้ อธิษฐานขอ ให้เขาไปเกิดใหม่เสียที ก็ยงั คงฝนั อยู่เหมือนเดิม อยากคดิ วา่ ดฉิ นั ฝนั เลอะเทอะไป
ธรรมะใกล้ตัว 15
เอง แต่การฝันซ้ำต่อเนื่องนับปีโดยไม่มีสาเหตุก็ยากจะปลงใจเชื่อเช่นนั้น อยาก ทราบว่าทำอย่างไรจึงจะสบายใจหรือต ัดเขาออกไปจากความฝันได้คะ? โดยส่วนตัวผมสนับสนุนการอยูอ่ ย่างคนธรรมดา เป็นสามัญมนุษย์ทีไ่ ม่พยายาม เอาตัวไปข้องเกี่ยวกับเรื่องมองไม่เห็นและพิสูจน์ยาก เนื่องจากเป็นทางมาของความ งมงาย ตลอดจนตกอยู่ภายใต้การปิดบังของอวิชชาหนาทึบขึ้นเรื่อยๆ อย่างไรก็ตาม ผมรบั ทราบครับวา่ ยงั มคี นในโลกอกี มาก ทีเ่ จอประสบการณ์ทำนอง เดียวกบั คณ ุ ทัง้ ทีไ่ ม่เคยพยายามเอาตวั เข้าไปขอ้ งเกีย่ วดว้ ยเลย ฉะนัน้ จงึ เอาคำแนะนำ ทีป่ รากฏผลคลีค่ ลายไปในทางดแี ล้ว มารวมไว้ใน ‘เตรียมเสบียงไว้เลีย้ งตวั ’ ด้วย โดย เจตนาให้เกิดความเข้าใจ และปรารถนาผลสุดท้ายเป็นอิสรภาพ ไม่ใช่ความยึดติด หลายคนเมื่อเจริญวัยขึ้นจนเป็นพ่อเป็นแม่คนได้ จะมีภาวะดึงดูดอย่างหนึ่ง ซึ่ง เป็นที่รับรู้ได้ในโลกวิญญาณ โดยเฉพาะพวกที่รู้ความ ตลอดจนจำได้ถึงสายสัมพันธ์ เก่า ว่าเคยเป็นลูก และเคยพอใจกับการได้เป็นลูกของใครมาบ้าง วิญญาณเด็กทต่ี ดิ ตามผเู้ คยเป็นพอ่ แม่มจี ริง และเกิดขน้ึ กบั หลายตอ่ หลายคน โดย มากไม่สามารถติดต่อกับพ่อแม่ด้วยวิธีใดๆ แต่อีกส่วนหนึ่งมีบุญบางอย่างส่งให้มา ปรากฏในหว้ งมโนทวารของพอ่ แม่ยามหลับฝนั ได้ ทัง้ นีเ้ พราะขณะหลับฝนั จิตมนุษย์ ผูกพันกับระบบประสาทหยาบน้อยกว่าปกติ และหันเหลี่ยมหันมุมไปสัมผัสกับโลก วิญญาณได้งา่ ยขน้ึ ถูกวญ ิ ญาณภายนอกเหนีย่ วนำให้รเู้ ห็นอะไรเกินขอบเขตประสาท หยาบได้ถนัดกว่ายามตื่นมาก การฝนั เพียงครัง้ สองครัง้ ไม่ใช่เรือ่ งนา่ เชือ่ และไม่ควรยดึ ถืออย่างยง่ิ ขอให้มนั เป็น แค่ลมแล้งเหลวไหลในหัวชั่วข้ามคืน ต่อเมื่อฝันซ้ำๆ จนแน่ใจอยู่กับตัวว ่าม ีบางสิ่งเกิด ขึ้นจริง คุณสัมผัสถึงเจตจำนงเดิมๆที่มาจากภายนอกได้จริง อันนั้นค่อยรับฟังคำที่ ผมจะแนะนำข้างล่างนตี้ ่อ ขอให้ทราบว่าวิญญาณเด็กทีอ่ ยากเป็นลูกใครนั้น ส่วนใหญ่จะปักใจมั่นและรับรู้ อะไรแคบๆแค่ว่าต้องเป็นลูกของพ่อหรือแม่คนนี้ให้ได้ อาจด้วยเหตุเพราะตายด้วย ความฝังใจแบบนั้น กับทั้งร่วมบุญกันมาพอจะรักษาความตั้งใจไว้อย่างคงเส้นคงวา
16 ธรรมะใกล้ตัว
ตามธรรมชาติของจิตและกรรมแบบนี้นะครับ ความยึดมั่นถือมั่นว่าเป็นลูก คุณ คือสภาพทั้งหมดของความเป็นเขา ถ้าตัดความยึดมั่นหรือลืมความจำเดิมๆ ได้ เขาก็เปลี่ยนภพจากความเป็นเช่นน ั้นได้เช่นก ัน ประเด็นคอื คณ ุ ตอ้ งหาทางเชือ่ มโยงกบั เขา สือ่ สารกบั เขาในขณะท่คี ณ ุ ตน่ื เพราะ ตอนฝนั คุณจะพดู กับเขาได้แ ค่ส้นั ๆ เช่น ถ้าม ุ่งหวังให้เขาจากไปสภู่ พอื่น ก็อาจกล่าว เพียง ‘ไปเถอะ อย่าม าอยู่กับแม่เลย’ ซึ่งเท่านี้ไม่พ อให้จ ิตของเขาคลายความยึดม ั่น ลงได้หรอก คุณจำเป็นต้องอาศัยสื่อกลางที่เชื่อมคุณกับเขา อย่างแรกคือชื่อ เมื่อเขาเชื่อว่า คุณเป็นแม่ คุณก็ต้องเป็นคนตั้งชื่อเรียกเขาเอง (เว้นแต่เขาเรียกตัวเองซ้ำๆว่าชื่อ อะไร) ให้เลือกเอาชื่อเล่นส ั้นๆทคี่ ุณร ู้สึกว ่าใช่ต ัวเขา เป็นต ัวเขา เรียกเขาแล้วค ุณเอง รู้สึกเอ็นดู อย่าคิดแบบส่งๆว่าเป็นน้องแดง น้องดำ ให้รอจังหวะที่ใจคุณอ่อนโยน ที่สุด เกิดความเอ็นดูเขาที่สุด ช่วงนั้นคุณมักค ิดออกได้ง่ายที่สุด จากนั้นให้หาตัวเชื่อมที่เป็นรูปธรรม เช่น ของเล่น ให้หาตุ๊กตาน่ารักๆสักตัว ที่ คุณเห็นแล้วรสู้ กึ ว่าอยากให้เขาเป็นข องเล่น เอามาตงั้ ไว้ที่มุมหนึ่ง ซึง่ กำหนดเป็นเขต เฉพาะวา่ มอี ะไรกจ็ ะเอามาให้เขาตรงน ้ี คุณอาจตอ้ งแอบซอ่ นนดิ หนึง่ หากลกู คนอน่ื ยงั อยู่ในวยั ท่เี ห็นตกุ๊ ตาแล้วอยากเล่นหรืออยากได้เป็นเจ้าของ เพราะวญ ิ ญาณเด็กก็อาจ หวงแหนของเล่นของตนได้เท่ากับหรือย ิ่งกว่าเด็กธรรมดา การแสดงความผูกพันข้ามมิติที่รับรู้ได้ง่ายอีกอย่าง เห็นจะได้แก่การให้นม ให้ ขนม ถ้าเป็นน้ำนมของคุณเองจะยิ่งเป็นสื่อเชื่อมจิตได้แรง แต่ฟังจากการเล่า คุณ น่าจะขาดนมแล้ว ซึ่งก็ไม่เป็นไร จะใช้นมผงธรรมดาก็ได้เหมือนกัน การให้ควรให้ เป็นเวลาที่แน่นอน เช่น ช่วงเช้าของทุกวัน ถ้าให้ครั้งเดียวก็ครั้งเดียวตลอด ถ้าให้ สองครั้งก็สองครั้งตลอด ทุกครั้งที่ให้นมหรือขนมกับเขา ให้แยกไปสวดมนต์หน้าพระปฏิมา (ซึ่งควรอยู่ คนละที่ที่ห่างออกไป) เป็นบทสวดอิติปิโสธรรมดานี่แหละ เพราะเป็นการสรรเสริญ พุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ มีผลเป็นกระแสเมตตาเยือกเย็น ปลุกสำนึกให้วญ ิ ญาณ ยึดที่พึ่งอันป ระเสริฐ ขอแนะนำสั้นๆว่าอย่าส วดบทอื่นนอกเหนือจากนี้ เพราะผล
ธรรมะใกล้ตัว 17
จะแตกต่างไป พยากรณ์ยากว่าจะลงเอยท่าไหน เช่น ในที่สุดอาจกระตุ้นให้คุณ อยากเล่นไสยศาสตร์ได้ง่ายๆ เลี้ยงเขาด้วยใจที่คิดให้อย่างแม่ อย่าข ออะไรเขา อย่าค าดหวังอ ะไรจากเขา โดย เฉพาะเรื่องเลขหวย ไม่เช่นนั้นคุณอาจต้องชดใช้ในภายหลังแบบไม่คุ้มกัน ลอง นึกถึงเด็กไม่รคู้ ดิ แต่ถกู ขอหรือถกู ผใู้ หญ่ไหว้วานเกินตัว ความรสู้ กึ เขาจะคอ่ ยๆเปลีย่ น ไป แทนการเห็นคุณเป็นแม่ เขาจะมองคุณเป็นภาระ หรือกระทั่งเป็นล ูกหนี้เอา ในกรณีที่เขามีฤทธิ์บางอย่าง เขาอาจอยากให้อะไรคุณเอง อันนั้นแล้วไป ท่อง ไว้ดีๆว่าอย่าขอ ถ้าเขาให้ได้และอยากให้ค่อยเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ถ้าไม่เชื่อกันตรงนี้ ก็ขอให้ลืมทั้งหมดที่ผมแนะนำมา เนื่องจากจุดนี้เป็นจุดชี้เลยว่าคุณกำลังทำในสิ่งถูก ต้องหรือผิดพลาด เป็นไปในทางกุศลหรืออกุศล เมือ่ คณ ุ เอาใจใส่เลีย้ งเขา ความฝนั เกีย่ วกบั เขาจะแตกตา่ งไปเรือ่ ยๆ คุณอาจพฒ ั นา ความสัมพันธ์ไปตามลำดับ ควบคู่กันไปทั้งตัวคุณและตัวเขา เช่น อาจเอาหนังสือ ธรรมะตั้งทิ้งไว้ หรือมีเวลาก็อ่านธรรมะออกเสียงให้เขาฟังแทนการเล่านิทาน เลือก ที่คณ ุ เองกอ็ า่ นแล้วเข้าใจและปล่อยวางกเิ ลสโลกๆได้นะครับ ถ้าคณ ุ ตง้ั ใจอา่ นธรรมะ ให้เขาฟงั แล้วใจคณ ุ เองมคี วามสว่าง มีความสบาย มีความคลายจากความยดึ มน่ั ถือมั่น จะมีผลให้วิญญาณของเขาจะโตขึ้น สว่างมากขึ้นไปด้วย ธรรมดาของวิญญาณนั้น เมื่อผ่องใสขึ้นด้วยบุญ ก็เหมือนคนตาสว่าง สามารถ ตัดความฝังใจเก่าๆได้ด้วยความสว่างนั้นเอง ถึงจุดหนึ่งเขาจะมีกำลังบุญหนักแน่น พอ แล้วรู้เองว่าถึงเวลาไปเกิดในที่สูงขึ้น แทนการรออย่างสูญเปล่า คุณอาจฝันค รั้ง สุดท้ายเป็นการเห็นเขามาลา หรืออยู่ๆความรู้สึกผูกพันแบบเดิมๆก็สลายตัว กลาย เป็นเมตตาล้วน และไม่ฝันถ ึงเขาอีก ถึงแม้ทั้งหมดจะไม่ใช่เรื่องจริง แต่คุณกจ็ ะสบายใจขึ้นอ ย่างแน่นอน ว่าทำดีที่สุด เท่าที่จะทำได้แทนการไม่รวู้ ่าจ ะทำอย่างไรดีกับฝันซ ้ำๆซากๆแบบเดิมค รับ สารบัญ
18 ธรรมะใกล้ตัว
เขียนให้คนเป็นเทวดา อ่านบนเว็บ • ฟังเสียงอ่าน
วิธีเขียนให้เอาไปใช้ได้จริง โดย ดังตฤณ
บทที่ผ่านมาคุณเรียนรวู้ ่าความฝันเป็นอย่างไร ตรงไหนเป็นไปได้ ตรงไหนเป็นไป ไม่ได้ในโลกความจริง และผมยกตัวอย่างว่าจะนำส่วนที่เป็นไปได้จริงในความฝันมา ‘คิดต ่อ’ ให้เป็นรูปเป็นร่างอย่างไร หากคณ ุ ฝกึ กลัน่ กรองวา่ สว่ นใดของความฝนั ตรงกบั ความจริง ก็เท่ากับฝกึ แยกเอา ส่วนเกินท ี่ไม่จริงทิ้งไป และคุณก็จะพบว่าแม้ย ามตื่น ระบบความคิดของมนุษย์เราก็มี ทัง้ สว่ นทเ่ี หลวไหลไร้สาระ กับสว่ นทเ่ี ป็นแก่นสารนา่ ให้ความสำคัญ เพราะเอาไปใช้ได้ จริง และทำให้ชีวิตดีขึ้น หรือทำให้พ้นท ุกข์ได้ สำหรับบทนี้ ขอบเขตของคำว่า ‘เอาไปใช้ได้จริง’ จะหมายถึง… ๑) การได้แง่คิด คือการทำให้ฉุกใจ เฉลียวใจ มองในมุมที่ต่างไป ที่เคยนึกว่ารู้แล้วก็ เปลี่ยนใจใหม่ เช่น หลายคนสำคัญว ่าส าวสวย รวย เก่งจะเป็นส ุขและภูมิใจในตนเอง ต่อเมือ่ คณ ุ เขียนจาระไนรายละเอียดของชวี ติ สาวประเภทน้ไี ด้ตรงตามจริง จนคนอา่ น ยอมรับว่าคุณสมบัติเลอเลิศอาจนำมาซึ่งทางเลือกอันยุ่งยากน่าสับสน ก็จ ะเกิดแ ง่คิด ว่าความเลอเลิศเป็นเพียงรูปแบบหนึ่งของทุกข์ ความเลอเลิศจะก่อส ุขขึ้นในใจเจ้าตัว ได้ต่อเมื่อเจ้าตัวรู้จักใช้ความเลอเลิศในทางสร้างสรรค์ ทำประโยชน์ให้กับตัวเองและ คนรอบข้างได้ มิฉะนั้นก ็จะงงกับส ิ่งท ี่เกิดข ึ้นในชีวิต และไม่อ ยากมีชีวิตได้เท่าๆกับค น ไร้คุณสมบัตทิ ั่วไปนั่นเอง ๒) การได้เข้าใจ คือการทำให้ร้เู หตุรผู้ ลตามท่เี ป็นจริง เช่น ทราบชดั วา่ ตน้ ตอของความ ทุกข์ทางใจไม่ได้เกิดจากรปู ทต่ี าเห็น ไม่ได้เกิดจากเสียงทห่ี ไู ด้ยนิ ไม่ได้เกิดแม้จากความ คิดท ี่ผุดขึ้นในหัวให้ใจรู้ แต่เกิดจากความทะยานอยากอันเป็นย างเหนียวในอก ยื่น ออกไปยึดติดได้แม้กระทั่งสิ่งที่ไม่น่ายึด ใคร่จะเก็บรักษาแม้สิ่งที่ไม่อาจรักษาตัว เองไว้ ตราบใดที่ยังมียางเหนียวอยูใ่นอก ตราบนั้นใจกับวัตถุภายนอกยังเชื่อมติดก ัน
ธรรมะใกล้ตัว 19
เหนียวเหนอะ แม้ทำดีแค่ไหน มีบุญมากเพียงใด ก็ไม่พ้นต้องเกิดทุกข์ท างใจ ยางยิ่ง เหนียวเท่าไร ใจยิ่งเป็นทุกข์เท่านั้น ๓) การได้ข้อปฏิบัติ คือการทำให้ทราบชัดว่าจ ะต้องทำอย่างไร ณ จุดที่ตนเองกำลัง ยืนอยู่ เช่น ถ้าฟุ้งซ่านจัดๆ หมกมุ่นครุ่นคิดแต่เรื่องของตัวเอง ก็อย่าเพิ่งไปหวังทำ สมาธิ อย่าเพิง่ ไปหวังทำลายความอยากให้สน้ิ จากหวั ใจ แต่ให้ร้วู า่ เพือ่ ทำความฟงุ้ ซ่าน ให้เบาบาง ต้องลดการพูดพร่ำเพรื่อ ลดการเสพหนังเสพละครที่กระตุ้นความวุ่นวาย กับทั้งหันไปเสียสละแรงและเวลาให้คนอื่นบ้าง รู้จักห้ามใจไม่ให้ทำอะไรตามอำนาจ กิเลสสั่ง เมื่อความฟุ้งซ่านและความหมกมุ่นเอาประโยชน์เข้าตัวเบาบางลง จึงค่อย ปลอดโปร่งพอจะทำสมาธิกับเขาไหว สลายเมฆหมอกที่บดบังแสงสว่าง พอจะเกิด ปัญญาเห็นตามจริง รู้ทางสว่าง มองออกว่าเหล่าพระผู้บริสุทธิท์ ่านทำกันอย่างไรจึง พ้นทุกข์พ้นกิเลสได้เด็ดขาด ในทางธรรมนั้น คุณไม่จำเป็นต้องรูท้ ุกอย่าง ขอเพียงรูส้ ิ่งที่ดีที่สุด เป็นไปได้จริง ที่สุด คุณก็เขียนสิ่งที่เป็นประโยชน์ที่สุดได้ ไม่ว่าจะให้แง่คิด ให้ความเข้าใจ หรือให้ ข้อปฏิบัติกับผ ู้รับ และเพื่อรู้สิ่งทดี่ ีที่สุด คุณไม่อาจฝันเอา คุณไม่ใช่ใช้อารมณ์ แต่คุณต้องอยู่กับช ีวิต จริง และใช้สติปัญญารู้จักเหตุรู้จักผ ล ต่อไปนี้เป็นกรอบวิธี ‘ใช้ชีวิต’ เพื่อให้ ‘รู้จักเหตุรู้จักผล’ อันจะนำไปสู่การเขียน ให้อ่านแล้วใช้ได้จริง
๑) ฝึกห้ามใจ ก่อนอื่นต้องเข้าใจว่าที่คนเรามองโลกแล้วไม่เกิดแง่คิด ก็เพราะคนส่วนใหญ่ชิน ที่จะปักใจเชื่ออะไรง่ายๆตามอคติของตัวเองมาตั้งแต่เกิด อย่างเช่นเชื่อว่าใช้ชีวิตให้ ผ่านไปวันๆก็พอ อยากได้อะไรกเ็ร่งหามา ชอบใจใครก็ควรเชียร์ ไม่ชอบใจใครก็ต้อง แช่ง คนเราจึงมองไม่เห็นรายละเอียดอื่นๆ กับทั้งไม่ม ีแก่ใจตั้งข้อส ังเกตใดๆทั้งสิ้น รัก ก็ทำอย่างที่รัก เกลียดกท็ ำอย่างทเี่กลียด ไม่แตกต่างอะไรจากขณะของความฝันท ื่อๆ ตรงไปตรงมา
20 ธรรมะใกล้ตัว
ขณะตื่นเต็ม สิ่งที่ทำให้คุณเป็นคุณ แตกต่างจากตัวต นดิบๆ ก็คือความยั้งค ิดก่อน ทำ เมื่อใดก็ตามหากสามารถห้ามใจตัวเองให้อยู่ในกรอบ ในกติกา อันเป็นไปเพื่อ ความถูกต ้อง เป็นไปเพื่อค วามไม่เดือดร้อน เป็นไปเพื่อป ระโยชน์ส ุขก ับต นเองและ ผูอ้ น่ื ขอให้เขียนแจกแจงอย่างละเอียดวา่ มเี หตุผลอนั ใดอยูเ่ บือ้ งหลังการหา้ มใจของ คุณ และเกิดผลดีอย่างไรบ้าง หลังจากห้ามใจสำเร็จ การบันทึกแง่คิดอันเกิดจากการห้ามใจตนเองสำเร็จในแต่ละครั้ง จะค่อยๆกลั่น ความคิดของคุณให้แยบคายขึ้นเรื่อยๆ และเห็นอะไรได้ตามจริงครอบจักรวาล ยกตัวอย่างเช่นเมื่อคุณจะตัดสินใครสักคนว่าเป็นอย่างไร เมื่อรู้จักและต้อง คบหาใครสักคน คุณจะไม่มองปราดเดียวแล้วคิดอะไรง่ายๆเช่น ยายนี่ท่าทางไฮโซ เอาแต่ใจตัว สมองกลวง หาทแ่ี รดไปวนั ๆ แต่คณ ุ จะใจเย็น มองให้เห็นรายละเอียดตา่ งๆ เช่น ภายนอกที่ดูไฮโซนั้น มาจากฐานะทางบ้านหรือความสามารถหาเงินเอง รสนิยม ในการเลือกของใช้เป็นอย่างไร วิธโี ต้ตอบกบั สถานการณ์ตา่ งๆในแต่ละครัง้ เหมือนเดิม หรือผิดแผกแตกต่างตามกรณี เมื่อเกิดปัญหามีวิธีคิดแ ก้ไขแยบยลหรือมักง่าย ฯลฯ การไม่ด่วนตัดสินคนจะทำให้คุณพบความจริงร้อยแปด เช่นภาพที่เห็นอาจไม่ใช่ ความจริงทั้งหมด ความจริงบางส่วนอาจก่อให้เกิดภาพลวง เมื่อสั่งสมประสบการณ์ การเห็นคนเพิ่มขึ้นในแต่ละวัน ถึงจุดหนึ่งค ุณจะ ‘รู้จักค น’ ด้วยแง่คิดต่างๆนานา เช่น คนเราเปลีย่ นแปลงได้เรือ่ ยๆ ต่อให้วชิ าโหงวเฮ้งแม่นยำเพียงใด ก็ไม่จำเป็นตอ้ งทำนาย ลักษณะคนได้ถูกต ้องเสมอไป ถึงวนั หนึง่ คณ ุ จะพบวา่ คนจริงๆทม่ี เี ลือดเนือ้ และวญ ิ ญาณนน้ั ไม่ใช่พระเอกนางเอก หลังข ่าว แต่ละคนรับใช้ก ิเลสด้วยกันท ั้งสิ้น ใครรับใช้ม ากหรือร ับใช้น ้อยเท่านั้น กับท ั้ง เมื่อมองย้อนเข้ามาดูตัวเอง ก็จะไม่คิดว ่าต ัวเองดีที่สุด เมื่อใดเลิกแ ปะป้ายชอบหรือไม่ชอบใครๆได้อย่างเด็ดขาด คุณจะได้แง่คิดเพิ่มขึ้น แทบทกุ วนั จากการเห็นพฤติกรรมมนุษย์ แต่เมือ่ ใดมคี วามชอบหรือไม่ชอบมาเป็นตวั ตัง้ ความเป็นเขาหรือเธอกจ็ ะเหมือนมมี า่ นมาบดบงั อย่างหนาทบึ ทนั ที และคณ ุ จะไม่ได้แง่ คิดใดๆจากการพบเจอมนุษย์เอาเลย
ธรรมะใกล้ตัว 21
เมื่อเกิดแง่คิดใด คุณค วรเขียนบันทึกไว้ดีๆ เอาให้บ่อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ ในที่สุด คุณจะพบว่าโลกนี้เต็มไปด้วยแง่คิดให้คุณเขียนถึงมากมายเหลือคณานับ และแง่คิด ของคุณจะล้วนมีค่า เพราะทำให้คนที่ยังไม่คิดได้คิดตาม หรือกระตุกให้คนที่คิดเป็น ลบหันมาคิดเป็นบ วกได้หลายต่อห ลายครั้ง
๒) คบหากับนักปฏิบัตจิ ริง ถ้าคุณเอาแต่มั่วสุมกับนักทฤษฎีส่วนหนึ่งที่เป็นเสือกระดาษ ดีแต่พูด ชอบที่จะ ให้คนอื่นท ำตามทตี่ ัวเองพูด แต่ตัวเองไม่ทำในสิ่งที่พูดมาสักอย่าง คุณจะติดน ิสัยของ คนพวกนี้ และแนวโน้มคือคุณจะเติบโตขึ้นในโลกของธรรมะเยี่ยง ‘นักคิด’ ที่ไม่มี ประสบการณ์ตรงเป็นสมบัตติ ิดตัวเอาเลย แต่หากคลุกคลีกับนักปฏิบัติที่รู้ถูกและทำจริง ไม่อวดตัว ชอบที่จะเตือนตนเอง มากกว่าเพ่งโทษผูอ้ ื่น เลือกพูดเฉพาะเท่าที่ทำได้และเห็นประโยชน์สุขแล้ว หรือแม้ เมื่อใครให้สอนก็สอนตัวเองไปพร้อมกับสอนคนอื่น คุณก็จะติดนิสัยไปอีกแบบ และ แนวโน้มคือคุณจะเติบโตขึ้นในโลกของธรรมะเยี่ยง ‘นักทำ’ ที่รไู้ปหมด เห็นไปหมด ว่าทำอะไรจริงๆแล้วเกิดผลใดขึ้นจริงๆตามมา ไม่ว ่าแ ง่ดีแง่เสียใดๆ เมื่อเกิดแรงบันดาลใจอย่างไร งานเขียนของคุณก็จะเป็นไปตามนั้น ถ้าคุณเป็น นักทำ งานเขียนส่วนใหญ่ของคุณจะทำตามได้จริง ส่วนนักคิดไม่มีทางปลอมตัวเป็น นักทำ ถึงปลอมได้ก็เดี๋ยวเดียว ในที่สุดค นก็จับได้ หรือแพ้ภัยตัวเอง ต้องลอกเลียนสิ่ง ที่นักทำทั้งหลายเขียนไว้ก่อนแล้ว พูดไว้ก่อนแล้ว และจะต้องรู้อยู่แก่ใจไปทั้งชีวิตว่า งานของตนก็คือการขโมยงานคนอื่นมาเป็นหน้าเป็นตาให้ตนเองเท่านั้น การพบปะพดู คยุ กบั นกั ปฏิบตั ิ จะทำให้คณ ุ พบกบั ความจริงท่โี ปร่งใสประการหนึง่ คือไม่มใี ครทำอะไรได้ทกุ อย่างโดยปราศจากอปุ สรรค และทกุ คนกต็ อ้ งการรวู้ ธิ เี อาชนะ อุปสรรค ซึ่งจะรู้ได้ลึกซึ้งละเอียดลออก็ต่อเมื่อผ่านประสบการณ์มาแล้วเยี่ยงนักทำ กล่าวได้ว ่าการเป็นนักทำนั่นแหละ ที่จะช่วยให้คุณรู้วิธีเอาชนะอุปสรรค และการ เขียนถึงวิธีการเอาชนะอุปสรรคนั่นแหละ คือสิ่งที่จะทำให้งานเขียนของคุณเป็น ประโยชน์กับผอู้ ื่นได้อย่างแท้จริง
22 ธรรมะใกล้ตัว
อย่างไรก็ตาม โอกาสจะสังสรรค์สมาคมกับนักปฏิบัตจิ ริงนั้นอาจยาก เพราะคน ปฏิบตั ิจริงมนี อ้ ย ไม่วา่ ปฏิบตั ิจริงในเชิงเสียสละ ปฏิบตั ิจริงในเชิงหา้ มใจไม่ให้ประพฤติ ชั่ว ตลอดจนปฏิบัติจริง ในเชิงการภาวนาให้รู้แจ้งเห็นจริงเข้ามาในกายใจ เอาชนะ กิเลส ดับทุกข์ดับโศกได้เด็ดขาด ฉะนั้นสิ่งที่เป็นไปได้โดยไม่ต้องหวังพึ่งผู้อื่น ก็คือศึกษาให้ดีว่าหลักการเสียสละที่ ถูกต้องเป็นอย่างไร ศีลสตั ย์ทค่ี วรรกั ษามอี ะไรบา้ ง การปฏิบตั ธิ รรมภาวนาเขาทำกนั ท่า ไหน แล้วลงมือทำเองให้รู้รายละเอียด ว่าเกิดผลอย่างไรในแต่ละข้อแต่ละขั้น สรุปคือเมื่อทำตัวเป็นนักป ฏิบัติจริง ก็เท่ากับคุณจ ะได้พ บและได้รายละเอียดจาก นักปฏิบัตติ ัวจริงตลอดเวลา และสำหรับแม่บททถี่ ูกต้องเกี่ยวกับท าน ศีล และภาวนา นั้น ผมจะกล่าวถึงในบทต่อๆไปครับ สารบัญ
ธรรมะใกล้ตัว 23
ไดอารีห ่ มอดู
อ่านบนเว็บ • ฟังเสียงอ่าน
ไดอารี่หมอดู หน้าที่ ๙ โดย หมอพีร์
ชีวิตของการเป็นหมอดูมักจะมีลูกค้าแปลกใหม่มาอยู่เรื่อย ๆ แต่มีอยู่สิ่งหนึ่งที่ สังเกตมาตลอดระหว่างที่ดูหมอคือ คนที่เป็นลูกค้ามักจะเป็นกลุ่ม ๆ มีกรรมเหมือน กัน หรือมีความคล้ายกัน ตัวอย่างเช่น อาทิตย์นี้เจอลูกค้าที่เกิดพ.ศ. ๒๕๒๐ ก็จะ เจอทง้ั อาทิตย์ บางชว่ งกจ็ ะเจอเด็ก บางชว่ งกเ็ จอแต่วศิ วะ หรือบางชว่ งกจ็ ะเจอกลุม่ ที่มีกรรมเรื่องความรัก การทเ่ี จอลกู ค้าเป็นกลุม่ ๆ มีขอ้ ดอี ย่างหนึง่ คอื ทำให้เห็นกระบวนการทำงานของ กรรมวิบาก พอได้เห็นบ ่อย ๆ ก็ร ู้สึกสยองเหมือนกันสำหรับลูกค้าบางราย และพอ ต้องมาเจอลูกค้าค นอื่น ๆ ที่เขาไม่เชื่อเรื่องกรรมวิบาก เห็นก รรมไม่มจี ริง เห็นก รรม เป็นเรื่องน่างมงาย ก็รู้สึกสงสาร ก็จะพยายามสรรหาเรื่องในชีวิตเขามาโยงเข้ากับ กรรมเพื่อให้เขาเกิดสะกิดใจเชื่อเรื่องกรรมบ้าง บางครั้งก็ทิ้งเป็นข ้อคิดให้ การที่ดูหมอตามหลักกรรมของมนุษย์ และเห็นผลของกรรมจากลูกค้าเล่าให้ ฟัง มันยิ่งทำให้ฉันยิ่งเชื่อเรื่องกฎแห่งกรรมอย่างสนิทใจ เวลาที่ฉันต้องเจอปัญหา อะไรในชีวิต จะไม่โทษคนอื่นเลยว่าทำไมเขามาทำเรา จะย้อนกลับเข้าม ามองตัวเอง ทันทีว่าสิ่งที่เรากำลังโดนกระทำอยู่คือก รรมของเรา ทำให้ใจให้อภัยเขาได้ง่าย จากการทเ่ี ห็นกระบวนการการให้ผลของกรรม มีบางจดุ ท่ที ำให้เห็นวา่ กรรมท่เี รา มีอยูม่ นั สามารถปรุงแต่งความคดิ จติ ใจของเราอย่างพสิ ดาร เพือ่ ให้เราตอ้ งใช้กรรม ไม่ สามารถชนะกรรมได้ วันนี้ก็มีตัวอย่างลูกค้าหลายราย ที่โดนความคิดจิตใจของ ตัวเอง กันไม่ให้ออกจากกรรมวิบาก จากที่ดูดวงลูกค้าไปส่วนใหญ่ลูกค้าจะรู้อยู่แล้วว่า ตัวเองเป็นคนยังไง มีข้อ บกพร่องตรงไหน มีกรรมอะไรอยู่บ้าง แต่ก็ไม่สามารถเปลี่ยนตัวเองได้ ต้องให้คน อื่นเขามาทักมาทาย และเวลาที่ทักออกไปแล้วมันตรง ทุกคนจะรู้สึกว่าเป็นอย่างที่
24 ธรรมะใกล้ตัว
บอกมาจริง ๆ แต่แก้ไม่ได้ ทัง้ ๆ ที่การดดู วงก็คอื การอา่ นนสิ ยั ท่มี ีอยู่ของตวั เรา ต้อง ให้คนอื่นท ี่ไม่รู้จักเป็นคนมาบอกมาทักถึงจะทำได้ ความเป็นจริงในชีวิตของเรา แค่เปลี่ยนการกระทำหรือความคิดบางจุด ก็ ทำให้ชีวิตเปลี่ยน ดวงเปลี่ยน เส้นทางการให้ผลของกรรมเปลี่ยนไปได้จริง แค่ เราเริ่มเอาชนะแรงต้านในความคิดของเราที่ไม่ชอบทำเรื่องดี คนส่วนใหญ่โดน กิเลสของตัวเองหลอก เช่น ความกลัว ความอยาก ความเกียจคร้าน ความไม่ อดทน ความไม่ขยัน การไม่ให้อภัย ความอาย ทั้ง ๆ ทีส่ ิ่งที่ควรจะเปลี่ยน ไม่ได้ ทำให้ใครเดือดร้อน ไม่ผดิ ศลี ไม่เป็นบาป เป็นแต่เรือ่ งทท่ี ำไปแล้วมแี ต่ผลด ี แค่ลงมือ ทำก็มีแต่จะดีขึ้นไปเรื่อย ๆ หัวใจสำคัญต้องอึด ต้องอดทน ไม่ท ้อแท้นี่แหละ จากหลายเดือนที่ผ่านมา มีตัวอย่างให้เห็นมากเลยเหมือนกัน เช่น มีหลานของ ตัวเองคนหนึ่งมีดวงค้าขายดี แต่จะไม่ชอบขายของเป็นชีวิตจิตใจ มีป้าจะลงทุน ให้ บอกว่าไม่ต้องทำงานบริษัทห รอกเพราะเป็นค นตรง มักจะมีเรื่องกับคน ให้ออก มาขายของ ทำเองขายเองดีกว่า มีทำเลให้ด้วย หลานคนนี้ก็จะบอกแต่ว่า อายไม่ กล้าขายของ อายคนที่มาซื้อ ให้เป็นเจ้าของธุรกิจส่วนตัวแต่อาย แต่พอเมื่อต้นปีที่ ผ่านมา เพิง่ เกิดเรือ่ งใหญ่อย่างไม่นา่ เชือ่ กบั หลานคนนค้ี อื เธอนอกใจสามีไปมชี ู้ พาชู้ เข้าบา้ น พอได้ยนิ ขา่ วตอ้ งถอนหายใจ เฮ้อ... เรือ่ งดกี ลับอายคน แต่เรือ่ งผดิ ศลี ธรรม กลับไม่อายคน ทั้งที่การพาชู้เข้าบ้านนมี่ ันน ่าอัปยศอดสูมาก แต่กย็ ังเห็นเขายิ้มหน้า ระรื่นอยู่เลย และอีกช่วงหนึ่งก็เจอลูกค้าที่มีกรรมเรื่องคน เรื่องสังคม ทางที่จะเปลี่ยนให้ชีวิต ดีขึ้นเรื่องสังคมคือ หมั่นทำบุญกับสังคม มูลนิธิ คนยากไร้ แต่เจ้าของดวงชะตาที่มี กรรมเรือ่ งคนสว่ นใหญ่ มักจะมคี วามคดิ ทว่ี า่ ทำบุญกบั คนไม่ขน้ึ ไม่อยากจะทำ หรือมกั จะได้เจอแต่ขา่ วทม่ี กี ารหลอกลวงอยูเ่ รือ่ ย ๆ หรือบางคนกจ็ ะไม่ชอบเพราะมคี วามคดิ ว่า มีมอื มีเท้าครบทำไมไม่เห็นทำงาน ทัง้ ที่เขาเป็นคนดอ้ ยโอกาสจริง ๆ คนท่มี ีกรรม เรื่องคน มักจะมีความคิดข วางตัวเองเพื่อที่จะขัดขวางการทำบุญกับคน ลูกค้าทผ่ี ดิ ศลี ขอ้ สค่ี อื โกหก กระแนะกระแหน กระทบกระทัง่ นินทา ตะคอกคน อืน่ และใช้อำนาจกบั คนอน่ื ทำให้เป็นคนทเ่ี สียงจะไม่เพราะเสียงแหบแห้ง ทุกคนกจ็ ะ
ธรรมะใกล้ตัว 25
รู้หมดว่าปากไม่ดี แต่ละคนจะบอกว่าอดทนไม่ได้ ที่จะไม่ตอบโต้เพราะคิดว่าเขามา ทำเราตลอด ทนไม่ได้ทจี่ ะไม่ด ่าก ลับ ความจริงถ ้าเราเริ่มห ักห้ามใจเราได้แ ค่ห นึ่งค รั้ง ไม่ตามใจความอยากจะพูดได้หนึ่งครั้ง เราก็จะเริ่มเอาชนะได้และทางแก้เรื่องเสียงให้ ดีขึ้นคือ ต้องพูดจาดีมากขึ้น และลองสวดมนต์ออกเสียงดู แต่ท ุกคนบอกว่าสวดนะ คะแต่สวดในใจไม่ได้ออกเสียง ส่วนคนที่มีกรรมทางศาสนา เช่นปรามาสพระธรรมคำสอน หรือใช้คำพูดขวาง ทางคนให้เข้าหาสิ่งดี ๆ ก็มักจะมีอุปสรรคในการทำบุญให้เกิดการท้อใจในการที่จะ ทำบุญ เช่น หลายคนจะบอกวา่ เวลาไปทำบุญทกุ ครัง้ หลังจากกลับจากการทำบุญมา มักจะเจอแต่เรื่องร้าย มีแต่ด วงซวย ๆ แรงของกรรมไม่อ ยากให้ทำดีบั่นทอนกำลังใจ ในการสร้างกุศล ทั้งทีไ่ม่ท ำความดีคงจะหนักก ว่าน ี้ ถ้าจ ะต้องตายเพราะทำบุญห รือ ทำความด ี ยอมตายดกี ว่าคะ่ เพราะหนทางหลังความตายยอ่ มสว่างแน่นอน ดีกว่าท่ี ทั้งชาติไม่ทำบุญเพราะความเข้าใจผิดว ่า การทำบุญทำให้ตัวเองโชคร้ายเลยไม่ทำ อีกอาทิตย์ต่อมา เจอกลุ่มลูกค้าที่มีจิตใจเฉื่อย ๆ เนือย ๆ หนืด ๆ จิตใจไม่ แข็งแรงอ่อนแอ วันวันก็มีแต่คิดมาก อมทุกข์ไม่สดใสเลย ซึ่งจิตใจแบบนี้ จะทำให้ เกิดความขี้เกียจตามมาแน่นอน ทางที่จะทำให้จิตใจกระปรี้กระเปร่าขึ้น ก็คือการ ออกกำลังกาย ถามทุกคนที่มีจิตแบบนี้ว่าออกกำลังกายบ้างไหม คำตอบคือทุกคน จะไม่ชอบออกกำลังก ายเลยเพราะขี้เกียจ ซึ่งถ ้าห ันม าออกกำลังก ายจิตจะเปลี่ยนไป จากเดิม ทำให้ขยัน สดใส แข็งแรงเป็นโรคยาก ลูกค้าอีกกลุ่มก็จะทำกรรมกับพ่อกับแม่ คือใช้คำพูดที่ไม่ดี ทำให้พ่อแม่เสียใจ ไว้มาก ทุกคนรู้สึกสำนึกผิดกันทั้งนั้น แต่ไม่มีใครกล้าไปขอขมากราบเท้าพ่อแม่ เลย เพราะเอาชนะความอายไม่ได้ ซึ่งฉันเองเมื่อก่อนก็เป็นสมาชิกของกลุ่มอับอาย ทีจ่ ะทำความดเี หมือนกนั แต่ครัน้ บอกกบั ตวั เองวา่ ปล่อยไม่ได้แล้ว ต้องทำให้ได้ คิด ล่วงหน้ากอ่ นกลับบา้ นเป็นเดือน กว่าจะทำได้แทบตาย พอทำแล้ว ทำให้ชอ่ งวา่ งทม่ี ี ปัญหากับแม่กน็ ้อยลงเยอะมาก เรามาลองสังเกตชีวิตของเรากันเถอะว่ามีเรื่องอะไรบ้าง ที่มันเป็นเรื่องดี ๆ ที่ ควรจะแก้ไขและควรจะทำแต่เรามักจะปฏิเสธที่จะทำมาตลอด หรือมีความยาก
26 ธรรมะใกล้ตัว
ลำบากใจในการลงมือท ำ ลองมองอย่างช้า ๆ และพิจารณาด้านทเี่รากำลังจ ะลงมือ ทำวา่ ไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน ถ้าหากเรามองไม่ออกลองให้เพือ่ น ให้ พ่อแม่พน่ี อ้ ง ของเราชี้ให้เราเห็นว่ามีจุดด้อยตรงไหน และลองเริ่มเอาชนะใจเอาชนะกิเลสของตัว เรา ซึ่งอาจจะทำให้ชีวิตของเราเปลี่ยนไปในด้านตรงข้ามที่ดีขึ้น ทำให้เรามีชีวิตใหม่ ที่เปลี่ยนไปในเวลาอันส ั้นก็ได้ เมื่อเราเจอกิเลสเจอจุดด้อยในใจเรา เพื่อนที่สนิทก ันเป็นคนที่ขเี้กียจมาก เฉื่อยมาก ๆ ชวนไปออกกำลังกายหรือต้อง ทำอะไรทอ่ี อกแรง จะเป็นคนทห่ี นีมาตลอด แม้กระทัง่ ตอนทเ่ี รียนมธั ยม หรือประถม ก็จะหนีการออกกำลังก าย กินแรงเพื่อนมาตลอดทำให้เป็นคนที่อ่อนแอ เฉื่อย ๆ ไม่ สดใส แม้กระทัง่ ตลอดเวลาทผ่ี า่ นมากไ็ ม่ชอบออกกำลังกาย แต่พอเดือนทผ่ี า่ นมา ไป สมัครฟติ เนสด้วยจติ ใจท่หี นักแน่น ว่าตอ้ งไปเล่นให้ได้ทกุ วนั จากท่เี ป็นคนท่ขี ้เี กียจก็ ขยันขึ้น แถมยังไม่นอนตื่นส ายแล้ว ทำให้เขาเห็นความแตกต่างได้เร็วมาก ดังนั้นถ้าเห็นข้อบกพร่องในตัวของเราแล้ว แม้ว่าเราจะเป็นเรื่องเล็ก ๆ เราก็ไม่ ควรปล่อยทิ้งไว้ ควรที่จะรีบแก้ไข สิ่งที่สำคัญสุดที่จะทำให้เราผ่านข้อบกพร่องไป ได้ คือ จิตใจทม่ี คี วามหนักแน่นวา่ จะเปลีย่ นแปลงตวั เอง ให้มชี วี ติ ทด่ี ขี น้ึ กว่าเดิม สิง่ ที่ควรจะจำไว้อย่างหนึง่ คอื ทุกคนเกิดมาไม่มีใครทจ่ี ะสมบูรณ์แบบทส่ี ดุ ในโลก ไม่ มีใครดีที่สุดในโลก ทุกคนเกิดมาล้วนมีข้อบกพร่องที่แตกต่างกันไป แต่สิ่งที่จะ ทำให้คนสมบูรณ์ขึ้นมาได้ คือการรู้ข้อบกพร่องและแก้ไขข้อบกพร่องในชีวิตของ ตัวเอง กำลังใจที่สำคัญที่สุดในการเปลี่ยนตัวเรา คือคนใกล้ตัวเรานี่แหละ แค่เราแสดง เจตนา หรือบอกเขาว่าตอนนี้เรากำลังมีความคิดที่จะแก้นิสัยเสีย ๆ ของเรา ให้ดี ขึน้ ทุกคนทอ่ี ยูร่ อบขา้ งมแี ต่จะดใี จกนั และเห็นดีเห็นงามรว่ มกบั เราไปดว้ ย ส่วนหมอดู ก็คล้ายกบั คณ ุ หมอจติ วิทยาเหมือนกนั ทีเ่ ป็นแค่ผชู้ น้ี ำทางแก้ไขให้ แต่ไม่สามารถ เป็นผเู้ปลี่ยนกรรมให้ใครได้ คนที่จะเปลี่ยนได้คือตัวท่านเอง สารบัญ
ธรรมะใกล้ตัว 27
กวีธรรม
อ่านบนเว็บ • ฟังเสียงอ่าน
มาฆบูชารำลึก
โดย ศานตินิจ-ณฎน
กาพย์ฉบัง ๑๖ มาฆบูชาระลึกน ้อม นมัสการพระรัตนตรัย
รวมจิตใจพร้อม
แสดงพระธรรมอำไพ เป็นหลักพ ระศาสนา
พุทธองค์ต รัสไว้
หนึ่งให้หมูป่ วงประชา ใจสู่ปกติพลัน
เว้นอกุศลพา
สองกอปรดีทุกสิ่งสรรพ์ พร้อมรับพระธรรมตามแนว
มีจิตตั้งมั่น
สามชำระจิตผ่องแผ้ว สุดบริสุทธิส์ ดใส
ด้วยปัญญาแกล้ว
ผองสงฆ์รับคำน้อมไป ช่วยสัตว์ข ้ามพ้นสงสาร
โปรดหมูเ่วไนย
ทั่วโลกสวรรค์ฟ ้าบาดาล ดวงจิตเบิกบาน ด้วยธรรมส่องแสงแจ้งใจ คือ “วันพระธรรม” ไสว ล้ำลบภพไตร เอกอุตม์พิสุทธิย์ ิ่งเอย
�
28 ธรรมะใกล้ตัว
วันแห่งความรักที่แท้จริง โดย ศิราภรณ์ อภิรัฐ
๏ จะหาวันแห่งรักส ักเพียงไหน แห่งความรักที่แท้จริงสิ่งโสภา
ก็ม ิได้เช่นว ันอันส ูงค่า วันม าฆบูชาปูรณมี
พุทธองค์ท รงแสดงธรรมเทศนา ละความชั่วในทุกทางสร้างความดี
“โอวาทปาติโมกข์” ล้ำวิถ ี ทำจิตน ี้ให้พิสุทธิ์ผุดผ่องพรรณ
จึงเป็นความรักจริงทยี่ ิ่งใหญ่ ด้วยเมตตากรุณามาแบ่งปัน
ซึ่งมอบให้แก่ทั้งสิ้นชีวินสรรพ์ ด้วยจิตอ ันป รารถนาดีนมี้ อบไป
แม้ม ิมีผกาพันธุ์สรรค์มาฝาก แต่กส็ ุดแสนซึ้งถึงห ัวใจ
ปราศจากมธุพจน์รสหวานใส ชื่นหทัยกำซาบอาบฤดี
เป็นความรักอันเกิดข ึ้นเพื่อความรัก หารักไหนปานเปรียบเทียบทันมี
จึงแน่นห นักยืนยงคงวิถี เท่ารักนี้หามิได้ในโลกเอย
�
ก่อนชีวิตจ ะสิ้น โดย ตรงประเด็น
๏ ก่อนชีพลับล าภพดินกลบหน้า อธิษฐานมั่นไว้ในกมล
ตั้งส ัจจาจุดหมายให้เกิดผ ล กอปรกุศลดาลใจไร้ทุกข์ทน
ด้วยเวลาที่ยังมีชีวเีหลือ หากแม้นส ิ้นเหตุปัจจัยในตัวตน
อุทิศเพื่อธรรมฉายแสงทุกแห่งหน อาจหยุดพ ้นเกิด-ตายไม่อ าทร
จะปล่อยวางเรื่องใดในโลกนี้ จิตแ จ่มใสใจสงบลบนิวรณ์
มุ่งทำดีดั่งคำพระธรรมสอน ทุกข์ถ่ายถอนหายร้อนรุ่มมิกลุ้มใจ
เป็นม นุษย์ส ูงสุดพบพุทธศาสน์ อย่าเสียชาติเกิดมาพาไถล ทุกวันคืนเวลาอย่าล่วงไป ฝึกฝนใจสู่สุขสิ้นทุกข์เอย
ธรรมะใกล้ตัว 29
อะไรหนอ
โดย mind way
๏ อะไรหนอล่อหลอกให้เราหลง อะไรหนอคือจริงแท้แน่นิรันดร์
อะไรหนอเสริมส่งหลงยึดมั่น อะไรหนออะไรนั่นค ืออันใด
โลกลวงล่อก่อเกิดส รรพสัตว์ หลงยึดมั่นถ ือมั่นทกี่ ายใจ
ก่อวิบัติจากอัตตาพาสงสัย แบ่งชั้นไปว่าเธอเขาเราและมัน
จริงจริงแล้วตัวเราแท้มีแน่หรือ มีสัญญาเวทนาประกอบกัน
หรือแค่คือส ่วนผสมของธาตุขันธ์ ลวงว่าเป็นของฉันนั่นข องเธอ สารบัญ
30 ธรรมะใกล้ตัว
คำคมชวนคิด
อ่านบนเว็บ • ฟังเสียงอ่าน
“คนพาลก็เหมือนกับถ่านติดไฟ จับไป ก็ร้อนมือ ตอนไฟดับจับไป มือกด็ ำ”
�
แบ่งปันโดย เนตร
Be the change you want to see in the world. จงเปลี่ยนตน ในแบบที่อยากเห็นโลกเป็น โดย Mahatma Gandhi (มหาตมะ คานธี) สรรหามาฝาก โดย วิมุตฺติยา
�
“When one door of happiness closes, another opens; but often we look so long at the closed door that we do not see the one which has opened for us.” เมื่อประตูแห่งความสุขบานหนึ่งปิดลง ประตูอีกบ านจะเปิดขึ้น แต่พวกเรามักม องประตูที่ปิดไปแล้วนั้นอ ย่างเนิ่นนาน จึงไม่เห็นประตูบานใหม่ท ี่เปิดรอเราอยู่ โดย Helen Keller (เฮเลน เคลเลอร์) นักเขียนและนักม นุษยธรรมชาวอเมริกัน ผู้พิการทั้งตาบอดและหูหนวกตั้งแต่อายุ ๑๙ เดือน สรรหามาฝาก โดย ศิราภรณ์ อภิร ัฐ สารบัญ
ธรรมะใกล้ตัว 31
สัพเพเหระธรรม อ่านบนเว็บ • ฟังเสียงอ่าน
อยู่ระหว่างทางสองฝั่ง โดย มนสิการ
ฉันเป็นคนทมี่ ีนิสัยชอบหาคำตอบและคำอธิบายให้กับทุกสิ่ง พอมีนิสัยแบบนี้ก็จะมีอัตตาของการเป็นผู้เข้าใจทุกสิ่ง และผู้ทสี่ ามารถอธิบายทุกอย่าง แต่พักหลังๆพอเริ่มคิดห าคำตอบขึ้นมาเมื่อไหร่ ก็จ ะมีความรู้สึกที่วิ่งตามมาทันทีคือ การไม่เห็นสาระของการคิดเรื่องนี้เรื่องนั้น ก็ไม่ใช่ว่าเลิกค ิดอะไรไปเลยนะ หมายถึงว่า ฉันยังคิดวางแผน คิดว ่าจ ะทำอะไรเหมือนเดิม เวลาทำงานกย็ ังคิดเหมือนเดิม เพียงแต่ว่า เลิกคิดเรื่องที่ไม่ก่อประโยชน์ให้ชีวิตขึ้นมา เช่น การพยายามเข้าใจพฤติกรรมแปลกๆของคน หรือการพยายามเข้าใจว่าส ิ่งนั้นสิ่งนเี้กิดขึ้นได้เพราะอะไร ตลอดจนการพยายามเข้าใจพฤติกรรมของตัวเองก็ตาม ยิ่งพฤติกรรมของจิตใจด้วยเนี่ย เมื่อก่อนพยายามทำความเข้าใจกับม ันมาก เพราะคิดว่า การเข้าใจมันมากเท่าไหร่ เราก็จะดขี ึ้นเท่านั้น แต่หลังๆกพ็ บว่า เรามีอะไรหลายอย่างที่เกิดขึ้นมาแล้ว การไปพยายามเข้าใจว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร เรากไ็ม่สามารถไปแก้ไขไม่ให้มันเกิดขึ้นมาได้ เพราะฉะนั้นเข้าใจมันไปก็เท่านั้น แค่เฝ้าดูมันเฉยๆก็พอแล้ว
32 ธรรมะใกล้ตัว
มันเหมือนโลกนี้มีอะไรหลายอย่างที่เราควรเป็นแค่ผู้เฝ้ามอง เราไม่ได้เป็นผู้ทเี่กี่ยวข้องกับทุกเรื่อง เราไม่ได้เป็นผู้ที่จะแก้ไขทุกอย่างได้ เราไม่ได้เป็นผู้ยิ่งใหญ่ในโลก เราเป็นแค่ผงธุลที ี่เท่าเทียมกัน การกระทำบางอย่างของเราอาจจะเปลี่ยนแปลงโลกได้ แต่ความคิดบางอย่างของเราก็อาจจะกดเราให้ลืมโลกได้เหมือนกัน วันส องวันนฉี้ ันได้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นในใจ เห็นว่าทางสายกลางมันอยู่ตรงนี้นะ คือ ฉันมีความหงุดหงิดใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น ตั้งแต่เรื่องรถเสีย เรื่องหาหนังสือเรียนภาษาจีนไม่เจอ เรื่องคนขับแท็กซีท่ ี่ท่าทางเป็นคนสุภาพและใจดี แต่ฉันกลับหงุดหงิดด้วย เพราะเค้าพาฉันอ้อมไปอีกทาง ทั้งก ารกลับม าพบว่าห ้องรกเหมือนระเบิดลง ทั้งการทฉี่ ันลืมก ุญแจห้องไว้ในห้องโดยไม่ได้เอาออกมา และการที่ฉันห า key card ไม่เจอ ในท่ามกลางความหงุดหงิดน ั้น ฉันม องเห็นว ่า การมีความหงุดหงิดน ั้นไม่ผิด การสุดโต่งไปทางหนึ่ง คือ การพยายามห้ามความหงุดหงิด หรือการพยายามสร้างอารมณ์ให้ตัวเองใจเย็นลงให้ได้ กับการสุดโต่งไปอีกท างหนึ่ง คือ การระเบิดอารมณ์ใส่คนรอบข้าง สิ่งที่ฉันเคยเป็นค ือ การพยายามสร้างภพของความเป็นคนดีขึ้นม า นั่นคือ เมื่อหงุดหงิดแบบนี้ ก็พยายามสร้างอีกอารมณ์ห นึ่งขึ้นมา ด้วยการพยายามเข้าใจว่า อ๋อ เพราะรถมันเก่า อ๋อ เพราะฉันเก็บห ้องยังไม่เสร็จ เลยหาของไม่เจอ
ธรรมะใกล้ตัว 33
อ๋อ เพราะว่าเส้นทางนั้นว ิ่งไปทางนี้สะดวกกว่า อ๋อ เพราะว่าน้องๆฉันก ็เป็นแบบนี้นี่แหละ หรือ อ๋อ... อ๋อ.... เดี๋ยวนี้ฉันพบว่า แล้วจะไปพยายามเข้าใจโลกขนาดนที้ ำไมเนี่ย วันๆหนึ่งเราเจอเรื่องประมาณล้านแปด แล้วเรากต็ ้องคิดเพื่อหาคำอธิบายให้เรื่องล้านแปดนดี่ ้วยหรือ อันนี้เป็นการสุดโต่งไปทางพยายามทำให้ต ัวเองลำบาก สิ่งทที่ ำคือ ปล่อยให้ตัวเองหงุดหงิดไปเรื่อยๆ อยากหงุดหงิดก็ให้หงุดหงิดไป เดี๋ยวใจกย็ กเอาเรื่องนมี้ าหงุดหงิด เดี๋ยวก็ยกเอาเรื่องโน้นมาหงุดหงิด เพียงแต่ต้องระวังไม่ให้มันหงุดหงิดจนออกมาเป็นพฤติกรรม ทีจ่ ะสร้างความเดือดร้อนให้คนอื่นได้ ความหงุดหงิดนั้นห้ามไม่ได้ก็จริง แต่การห้ามความหงุดหงิดออกมาเป็นพฤติกรรมนั้นเป็นสิ่งควรทำ จะมาบอกว่า อ๋อ เพราะความหงุดหงิดน ั้นห้ามไม่ได้ ทุกคนเลยต้องมารองรับความหงุดหงิดของเรานั้น อย่างนี้ถือว่าสุดโต่งไปทางตามใจกิเลสอีกเหมือนกัน สารบัญ
34 ธรรมะใกล้ตัว
ธรรมะจากคนสู้กิเลส อ่านบนเว็บ • ฟังเสียงอ่าน
ทุกข์ของคนเป็นชู้
โดย awayfromhell
ฉันตกหลุมรักเขาคนนั้นตั้งแต่แรกพบ เราเจอกันโดยบังเอิญด้วยเรื่องงานเพียง สองสามครั้ง และหลังจากนั้นเราก็ไม่ได้พบกันอีกเกือบปี แต่ความประทับใจในตัว เขายังติดอยู่ในใจฉันเสมอ วันหนึ่งฉันส่งข้อความทางมือถือไปให้เขาบอกว่าฉันเพิ่งไป นั่งสมาธิ วิปัสสนา กลับมา และถา้ มโี อกาสเขานา่ จะไปบา้ ง เขาโทรกลับมาและปรากฏวา่ เราคยุ กนั ถกู คอ มาก ต่างคนจงึ ตา่ งยง่ิ สนใจในกนั และกัน และนน่ั คอื จดุ เริม่ ตน้ ของเรือ่ งราวอนั เลวร้าย ที่จะเกิดขึ้นต่อไป วันหนึง่ เขามารบั ฉนั ถงึ บา้ นไปทำสงั ฆทานดว้ ยกนั พอใกล้ถงึ วดั ไม่รทู้ ำไมฉนั ถงึ ถาม เขาออกไปวา่ แต่งงานหรือยงั เขาตอบวา่ แต่งแล้ว มีลกู หนึง่ คนยงั เล็กอยูเ่ ลย ฉันแทบ จะลมใส่แ ละอยากกลับบ ้านเดี๋ยวนั้น แต่ก ฝ็ ืนใจสจู้ นกระทั่งเสร็จธ ุระกลับบ ้าน หัวใจ ของฉันแตกสลาย เสียใจผิดหวัง คิดว่าได้พบคนที่ใช่แสนใช่ คิดว่าได้พบคนที่รอมา นานแล้ว โลกสีชมพูของฉันพ ังทลายลงอย่างไม่มีชิ้นดี กลับถงึ บา้ นเขาสง่ อเี มลมาหา บอกฉนั มากมายเกีย่ วกบั ชวี ติ ครอบครัวอนั ไม่สมหวัง ของเขา ที่ตอ้ งแต่งงานกบั คนทค่ี บกนั มานานเพราะผใู้ หญ่เฝ้าถามวา่ เมือ่ ไหรจ่ ะลงเอย กันเสียที ทั้งๆที่ตอนนั้นเขาไม่ได้รักผู้หญิงค นนั้นแ ล้ว แต่เขาเองก็ไม่มีใครจึงแต่งงาน เสียให้จบเรื่อง เขาหวังเพียงจะเป็นเพื่อนกับฉัน แต่ถ้าฉันไม่ต้องการเขาก็จะทำใจ ยอมรับ ด้วยความทฉ่ี นั ยงั ตดั ใจจากเขาไม่ได้ ฉันจงึ ไปพบเขาอกี เขาเองกเ็ ฝ้าเพียรพยายาม ชวนฉันออกไปทานข้าวด้วยกัน จนกระทั่งความสัมพันธ์ของเราบานปลายออกไป โดยที่ครอบครัวของเขาไม่รู้เลย ฉันเคยเกลียดชังและดูถูกคนที่แย่งแฟน แย่งสามี ชาวบ้าน แต่ตอนนี้ฉันกลับรู้สึกเข้าอกเข้าใจ เห็นใจคนเหล่านั้นเสียเหลือเกิน และ
ธรรมะใกล้ตัว 35
คิดว่าภรรยาหลวงต่างหากที่เป็นฝ่ายผิด ไม่รู้ว่าทำไมฉันถึงได้เห็นผิดเป็นชอบถึง เพียงนั้น นี่เองทพี่ ระท่านว่าไว้ว ่าไม่มีก ิเลสใดทนี่ ่าก ลัวย ิ่งก ว่า “โมหะ” ความหลง อีกแล้ว เมื่อหลงผิดเพียงอย่างเดียว กิเลสตัวอื่นๆจะกำเริบหมด นับวนั ฉนั กเ็ รียกรอ้ งจากเขามากขน้ึ ยิง่ เห็นเขากลับบา้ นตรงเวลา ยิง่ เห็นเขาหา้ ม ไม่ให้ฉันโทรหาในวันหยุด ยิ่งเขาพูดถึงลูกสาวสุดที่รักของเขามากเท่าไหร่ ฉันก็ยิ่ง อิจฉารษิ ยามากขน้ึ เท่านัน้ ฉันอยากให้เขาเป็นของฉนั คนเดียว ได้แต่เฝ้ารอวา่ เมือ่ ไหร่ เขาจะเลิกกบั ผหู้ ญิงคนนน้ั และขอแต่งงานกบั ฉนั คนทเ่ี ขาบอกวา่ รกั เสียที ฉันเกลียดลกู ของเขาที่เขาให้ความสำคัญยิ่งก ว่าสิ่งใด ลูกที่เกิดจากผู้หญิงคนที่ไม่ใช่ฉ ัน... เมื่อฉันทำตัวเป็นผู้หญิงที่เรียกร้อง และไม่สามารถให้ความรักเขาโดยไม่หวังสิ่ง ตอบแทนใดๆอย่างทเ่ี ขาหวังได้ เขากย็ ง่ิ กลัววา่ สกั วนั ฉนั จะเปิดเผยเรือ่ งนก้ี บั ครอบครัว ของเขา เขาพยายามให้เหตุผลมากมายว่าถ้าผู้ใหญ่ที่เลี้ยงเขามาจนโตรู้เรื่องเข้าพวก ท่านจะเสียใจเพียงใด เขาที่เป็นเสาหลักเพียงคนเดียวในบรรดาพี่น้องทั้งหมด และ เป็นที่คาดหวังของทุกคน จึงไม่อาจทำให้พวกท่านผิดหวังได้ เขายิ่งทำตัวเหินห่าง และขี้โมโหกับฉันบ่อยมาก ถ้อยคำหวานและอ่อนโยนกลายเป็นคำก่นด่า ความห่วง หาอาทรกลายเป็นความเย็นชา วันสดุ ท้ายทเ่ี ขาเรียกนดั ฉนั ไปหานน่ั กเ็ พือ่ เรือ่ งอย่างวา่ เพียงอย่างเดียว และเขากไ็ ม่ยอมโทรหาฉนั อกี ฉันโทรตามแต่เขาไม่รบั สาย ฉันจงึ โทร ซ้ำแล้วซำ้ เล่า กระทัง่ เขาโทรกลับมาดา่ ฉนั วา่ เขาทำงานอยู ่ เลิกทำตัวแบบนเ้ี สียที ฉัน ร้องไห้เสียใจมากมาย และหลังจากนน้ั เขากไ็ ม่โทรมาหาอกี เกือบสองเดือน ฉันเองกค็ ดิ ว่าไม่อยากยุ่งกับคนที่ไม่ร ักฉันอีกแล้ว และแล้วในวันเกิดฉันเขากส็ ่งข้อความหวานๆ มาให้ราวกับวา่ เรายงั ดตี อ่ กนั อยู ่ แต่พอฉนั สง่ ขอ้ ความกลับไปและเรียกรอ้ งให้เขากลับ มา เขากลับบอกฉันให้เลิกยุ่งกับเขาเสียที เขารักลูกเขามากกว่าใครและจะไม่ยอม ทำให้ลูกเขาต้องเสียใจเป็นอันขาด เมือ่ เขายำ้ เน้นถงึ ความสำคัญ ของคแู่ ข่งตวั ฉกาจทฉ่ี นั เกลียดนกั หนา และไม่สนใจ ใยดีฉันอ ีกต ่อไป หัวใจของฉันจ ึงแ ตกสลายอย่างไม่ม ีชิ้นด ี แม้ว ่าฉ ันจ ะเคยเลิกก ับเขา หลายครั้ง แต่สุดท้ายก็เป็นฉันเองที่กลับไปหาเขา แม้จะบอกตัวเองว่าฉันจะไม่ยอม อยู่ในสภาพกินน้ำใต้ศอกอันแสนทรมานแบบนี้ตลอดไป เมื่อถึงเวลาเลิกกันจ ริงๆฉัน ก็อดเสียใจไม่ได้ นั่นเป็นความทุกข์ที่แสนสาหัสเหลือเกินสำหรับฉัน ผู้ชายคนที่ฉัน
36 ธรรมะใกล้ตัว
ยอมทำทุกอย่างให้ได้กลับไม่เคยทำอะไรเพื่อฉันได้จริงแม้สักอย่างเดียว นี่อย่างไร ผลของการไม่รักษาศีลให้มั่นคง ทั้งๆที่ก่อนหน้านั้นฉันก็รักษาศีลมาตลอด เคย เจริญวิปัสสนาเสียเปล่า สุดท้ายฉันก็พ่ายแพ้ต่อกิเลสตัณหาของตัวเองถึงขนาดเห็น กงจักรเป็นด อกบัว ใช่ว ่าต ลอดเวลาที่คบกับเขาฉันจ ะมีความสุข ช่วงเวลาที่ได้อยูก่ ับ เขาสั้นๆนั่นอ าจเป็นความสุข แต่ก แ็ ลกด้วยความกังวล และความรู้สึกไม่ม ั่นคง และ ความทุกข์ใจอย่างมหาศาล เมื่อผิดศีลข้อสามเพียงข้อเดียว ข้ออื่นๆก็ตามมา แม้ จะไม่ได้ผิดศีลข้อที่หนึ่งโดยตรง แต่หากภรรยาเขารู้เข้า ก็เท่ากับว่าฉันเป็นคนทำให้ ภรรยาเขาปวดร้าวใจ ศีลข้อสอง ฉันเอาของผู้อื่นมาเป็นของตนโดยมิได้รับอนุญาต จากเจ้าของ ศีลข ้อสี่ฉันต้องโกหกปิดบังค นอื่นเพื่อให้ได้ออกไปเจอเขา นอกจากการ ผิดศีลแล้ว หัวใจที่เคยอ่อนโยนของฉันก็เต็มไปด้วยความเกลียดชังต่อครอบครัวของ เขา เต็มไปดว้ ยความเห็นแก่ตวั อย่างรา้ ยกาจ แต่ในตอนนน้ั ฉนั ไม่รสู้ กึ เดือดร้อนอะไร เท่าไหร่ การทำบาปนั้นช่างง่ายดายกว่าการทำความดียิ่งนัก ยิ่งใจชุ่มด้วยบาป เท่าไร ก็ยิ่งยากที่จะยินดีในการทำความดีเป็นเงาตามตัว ฉันสารภาพเรื่องราวทั้งหมดให้พ่อกับแม่ฟัง พ่อกับแม่กอดฉันไว้ รับฟัง และ สั่งสอนด้วยความเมตตา ท่านไม่ได้ด่าว่าซ้ำเติมในพฤติกรรมอันไม่สมควรของ ฉันเลย ซึ่งทำให้ฉันรู้สึกขอบพระคุณท่านทั้งสองเป็นอย่างยิ่ง ตั้งแต่วันนั้นมาฉัน ปฏิญาณกับตัวเองแล้วว่าจะรักษาศีลให้มั่นคงตลอดชีวิต ฉันงัดเอาวิทยายุทธที่ คุณแม่สิริ ท่านอาจารย์มากมายเคยสั่งสอนมาใช้ พยายามเจริญสติ เดินจงกรม นั่ง สมาธิ และน้อมนำเอาคำสอนของพระพุทธเจ้ามาพิจารณา รวมทั้งไปเข้ารับการ อบรมหลักสูตรของคุณแม่สิริ และหลักสูตรเข้มข้นเมื่อมีโอกาสด้วย สุขภาพจิตที่ เคยเสื่อมโทรมอย่างมากจึงกลับคืนมาเป็นปกติ รวมทั้งความเห็นที่เคยผิดก็กลับมา เป็นถูก ฉันมองเห็นคุณค่าอย่างเหลือเกินในคำสอนของพระพุทธองค์ เห็นความ สำคัญของการปล่อยวางความยึดมั่นถือมั่น และการมองสิ่งต่าง ๆ ตามความ เป็นจริง เมื่อใจของฉันไม่อาจถูกลากไปด้วยอำนาจของกิเลสตัณหาอีกต่อไป ฉัน จึงไม่เป็นทุกข์ ความทุกข์ทั้งมวลในโลกนี้เกิดขึ้นเพราะเราต้องการในสิ่งที่ผิด ธรรมชาติ ธรรมชาติคือความเกิดขึ้นตั้งอยู่แล้วดับไป แต่เราไม่อยากให้มันเป็น อย่างนี้ อยากให้มันเป็นอย่างนั้น เมื่อมันไม่เป็นดังใจเพราะมันไม่ใช่ของเราและ ไม่อาจอยูใ่ นบงั คับของใคร เรากเ็ ป็นทกุ ข์ ทัง้ ๆทถ่ี า้ หากเราเพียงยอมรบั วา่ มนั เป็น
ธรรมะใกล้ตัว 37
ธรรมดาของมนั อย่างนน้ั และไม่คาดหวังให้เป็นอย่างใจอยาก เรากจ็ ะไม่ทกุ ข์ หาก ตอนนั้นฉันยอมรับเสียแต่แรกว่าเรื่องของฉันกับเขาเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ หากยอม รับความผิดหวังเสียแต่ตอนนั้นได้ และมั่นคงต่อการรักษาศีลแล้วล่ะก็ เรื่องทั้งหมด คงไม่เกิดขึ้น แม้จะเลิกกบั เขาแล้ว แต่ฉนั กย็ งั รกั ยังคดิ ถึงเขาอยูเ่ สมอ ไม่มใี ครเข้ามาแทนทเ่ี ขา ในใจฉันได้เลย ฉันเคยคิดอยากจะโทรไปหาเขาสักครั้ง อยากคุยด้วย แต่ก็พยายาม หักห้ามใจ เพราะรู้ดีว่าถ้าเริ่มแม้เพียงครั้งเดียว มันจะมีครั้งอื่นๆตามมา และเรื่อง จะซ้ำรอยเดิมอีก ผ่านไปได้ราวหนึง่ ป ี ฉันกไ็ ด้รบั อีเมล์ จากเขา เขาบอกวา่ ตลอดเวลาเขาคดิ ถึงฉนั มากมาย เคยคิดจ ะแอบไปดทู บี่ ้านเพราะเป็นห ่วงเหลือเกิน เขายังค งคิดถึงวันเวลาที่ เราได้อยู่ดว้ ยกนั อยากมคี วามสมั พันธ์กบั ฉนั แม้คนสว่ นใหญ่จะเห็นวา่ ฉนั เป็นผหู้ ญิง ไม่ดี แต่เขาก็ไม่แคร์ตราบใดที่มันไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน ฉันตอบไปว่าฉันสบาย ดี และดใี จทห่ี ลุดจากวงจรของบาปนเ้ี สียได้ ฉันเสียใจกบั การกระทำของตวั เองทผ่ี า่ น มา และรู้สึกผิดต่อภรรยาเขาเหลือเกิน ฉันบอกเขาว่าฉันขอตัดขาดจากเขาและจะ ไม่ยอมทำผิดอีกแล้ว แล้วก็บอกเขาไปว่า สิ่งที่เขาคิดว่าไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อนนั้น ผิดนัก และอยากให้เขาเลิกหาเรื่องใส่ตัวเป็นรอบที่สองเสียที ความรู้สึกในตอนทฉี่ ันอ่านอีเมล์เขาและตอบเขาไปนั้นช ่างแปลกประหลาด ทั้งๆ ที่ก่อนนี้ฉันเคยคิดถึงเขามากมาย แต่พอเมื่อได้รับการติดต่อจากเขาแล้ว ฉันกลับ รู้สึกรังเกียจบางสิ่งบางอย่างที่บอกไม่ถูกอย่างรุนแรง จนรู้สึกอยากสะบัดให้ตัวเอง หลุดพ้นจ ากสิ่งนั้นโดยพลัน แล้วว ิ่งห นีไปให้ไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้ ฉันร ู้สึกว ่าตัวเขา คือส ิ่งท นี่ ่าร ังเกียจที่สุดเท่าท เี่คยเห็นม าในชีวิต เขาทยี่ ังม จี ิตใจชุ่มอ ยูด่ ้วยบาป ชุ่มอ ยู่ ด้วยกามราคะ โดยไม่สนใจว่าจะผิดลูกผิดเมียใครอย่างไรนั้น ช่างน่ารังเกียจอย่าง เหลือเกิน ความรู้สึกร ักใคร่แ ละปรารถนาในตัวเขาเหือดหายไปหมดสิ้นไม่เหลืออ ะไร อีกแล้ว ฉันคิดว่านั่นอาจเป็นสิ่งที่คุณดังตฤณและท่านอาจารย์บางท่านเคยกล่าวไว้ ว่า เมื่อเราตั้งใจรักษาศีลอย่างมั่นคงแล้ว ศีลจะเป็นสิ่งที่ปกป้องคุ้มครองเรา เอง เราจะรังเกียจการทำผิดศีลนั้นไปเองโดยปริยาย ณ วันนี้ฉันถึงได้เริ่มเข้าใจคำ พูดน้นั อย่างแท้จริง พระพทุ ธศาสนาได้ชว่ ยชวี ติ ฉนั ไว้หลายครัง้ หลายหนในเวลาท่ฉี นั
38 ธรรมะใกล้ตัว
อับจนหนทางอย่างทส่ี ดุ ฉันรสู้ กึ เป็นหนีบ้ ญ ุ คณ ุ ตอ่ พระพทุ ธศาสนาอย่างเหลือเกิน สิง่ ที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้และนำมาเทศน์โปรดนั้นช่างงดงามผุดผ่อง และเป็นจริงอย่าง ที่สุด เดี๋ยวนี้ฉันปล่อยวางสิ่งต่าง ๆ ได้มากมาย และเป็นคนดีได้ยิ่งกว่าก่อนที่จะคบ กับเขาเสียด้วยซ้ำ ฉันจะไม่ปล่อยให้ตัวเองหลงทางอีกแล้ว... สารบัญ
ธรรมะใกล้ตัว 39
ของฝากจากหมอ อ่านบนเว็บ • ฟังเสียงอ่าน
จ๊ะเอ๋.. ตัวย ุ่ง โดย หมอพิม
กว่าจะจบเป็นหมอเด็ก ต้องสอบแล้วส อบเล่าจนแทบถอดใจ ข้อสอบครั้งหนึ่งเป็นภาพยนตร์สั้นราว 1 นาที เด็กชายแก้มยุ้ยกำลังนั่งเล่นบน พืน้ เจ้าหนูหวั เราะรว่ นคว้าของเล่น สักพกั ของตกกร็ อ้ งไห้จา้ นำ้ ตาหยดเผาะ คำถาม คือ น้องหนูอายุเท่าไร คำเฉลยคือ 9 เดือน จะตอบข้อนี้ได้ต้องท่องจำตารางพัฒนาการกล้ามเนื้อมัดใหญ่ กล้ามเนื้อ มัดเล็ก พัฒนาการทางสังคม และการสื่อภาษา ดูจากท่านั่ง ท่าลุกและวิธีจับ ของ อาการมองตามหาช่วงของเล่นตก หาไม่เห็นกเ็สียอกเสียใจยกใหญ่
40 ธรรมะใกล้ตัว
น้องที่เล็กกว่านี้จะยังไม่มีอาการยึด ของเล่นหล่นหายจากสายตาก็คว้าของชิ้น ใหม่ อาการหวงยึดเป็นลักษณะที่พบตั้งแต่ช่วงพัฒนาการโดยเฉลี่ย 8 - 9 เดือน ค่ะ มีชื่อเรียกเพราะๆ จากปรมาจารย์ Jean Piaget ว่า Object permanence Object permanence คือ พัฒนาการทางความคิดและความจำ น้องจำได้วา่ ของนน้ั เคยอยู่ตรงน ้ี แม้ตอนน้ขี องนน้ั ไม่อยู ่ มองหาดูไม่เห็นแต่ก็เชือ่ ว่ามี การจดจำว่านี่คือของของเขา แถมของของเขาหายไปนั่นเองที่ทำให้เขาเสียใจ ร้องไห้จ้า กุมารแพทย์ผู้ดูแลมีหน้าที่ส่งเสริม สนับสนุน และป้องกันเจ้าตัวเล็กให้โตขึ้น สมบูรณ์ที่สุดตามศักยภาพของเขา หลังจากมี Object permanence แล้ว เรา จะแนะนำให้คุณแม่เล่นจ๊ะเอ๋กับน้องบ่อยๆ ค่ะ เขาจะชอบมาก หัวเราะสนุกเชียว ค่ะ วิธีเล่นก็แค่คุณแม่เอาผ้าห่มหรือมือปิดหน้า ตอนนั้นหน้าคุณแม่จะหายไปจาก สายตา แต่เขาจำได้ว่ามีคุณแม่อยู่ พอแป๊บนึงเราเปิดผ้าออกร้องจ๊ะเอ๋ เขาก็จะดีใจ ว่าคุณแม่ของเขากลับมาแล้ว จะใช้ของเล่นสลับบ ้างก็ได้นะคะ เอาของเล่นไปซ่อนก็เรียกว่าเล่นซ ่อนหา เหมือนเอาหน้าคุณแม่ไปซ่อนกเ็รียกว่าเล่นจ๊ะเอ๋ ยังไงละคะ หมอเด็กมีหน้าที่แนะนำล่วงหน้าด ้วย ต้องบอกเขาวา่ อีกไม่นานหลังเขามพี ฒ ั นาการดา้ นความจำแล้ว ต่อไปเขาจะเริม่ มี อาการหวงของ เพราะจำได้แล้ววา่ นค่ี อื ของของเขา หวงคณ ุ แม่ ยึดคณ ุ แม่มากๆ คุณ แม่บางคนลกุ ไปเข้าหอ้ งน้ำกไ็ ม่ได้ เริม่ จดั อนั ดับคนรกั มาก คนรกั นอ้ ย คนไม่รจู้ กั กไ็ ม่ รัก กลายเป็นอาการกลัวคนแปลกหน้า โรงพยาบาลท่หี นูมาตง้ั แต่ยงั ไม่เกิด ก็เกิดจะ จำได้วา่ ที่นเ่ี องชอบฉดี ยาเจ็บๆ น้องบางคนรอ้ งตะเบ็งดน้ิ รนตง้ั แต่โถงชง่ั นำ้ หนัก คุณ แม่กึ่งลากกึ่งอุ้มจนฉีดยาเสร็จ ก็ยังหลับตาปี๋ร้องไห้แทบขาดใจอยู่ ทั้งๆ ที่ฉีดเสร็จ
ธรรมะใกล้ตัว 41
ไปแล้ว ตามมาติดๆ ด้วยการกลัวส ิ่งทเี่ขาไม่ร ู้จัก ความมืด ผ้าม่านไหว พี่หมาตัวโต เสียงฟ้าร้องครืน น้องเล็กๆ ชนิดรบั ดแู ลตง้ั แต่วนั แรกพบทค่ี ณ ุ หมอสตู หิ นีบสายรกหอ้ ยตอ่ งแต่ง อุม้ จากพุงคุณแม่มาส่งให้ ตามด้วยนัดตรวจสุขภาพรับวัคซีนเป็นระยะ ได้เจอกันอย่าง น้อย 6 ครั้งก่อนเขาอายุ 9 เดือน อดใจหายหน่อยๆ ไม่ได้ว่านัดหน้าตอนน้องครบ ขวบ เขาจะเริ่มร้องไห้กลัวป้าห มอ ทีเ่คยขออุ้มขอหอมกันง ่ายๆ อย่าได้หวังเชียว เจ้าความจำ กลายเป็นตัวเริ่มต ้น เริ่มต้นความปรุง ความยึด ความหวง ตามด้วยความทุกข์ กระทั่งในทารกน้อย ใครเคยเลี้ยงน้องเล็กๆ เห็นว ันที่เขาค่อยๆ เติบโตทีละนิดบ ้างเอ่ย หลายคนออกปากตรงกันว ่า น้องอายุราว 4 เดือนน่ารักที่สุดในโลก ไม่ได้เอาแต่หลับอุตุทำคอพับไปมา แต่น้องจะตื่นยาวลืมตาโต เห็นใครก็ยิ้ม กว้าง โชว์เหงือกแดงๆ เล่นด้วยเข้าหน่อยก็หัวเราะดังที่เรียกว่า Social smile ยิ้ม หวานจับใจ อุ้มม าฉีดยาก็ไม่งอแง ร้องเบะปากนิดต อนปักเข็ม เผลอเดี๋ยวเดียวก็ยิ้ม แก้มบุ๋มก ลางวงพี่ๆ พยาบาลแล้ว ดูแ ล้วช ่างเป็นชีวิตที่มีความสุขที่สุดจริงๆ แค่เป็นชีวิตที่ไม่ต้องติดในห้วงความจำ ความยึด ความปรุง ไม่ต้องกังวลไป ล่วงหน้า ไม่คาดการณ์ให้วุ่นวาย อยูเ่ ฉพาะกับของทีอ่ ยู่ตรงหน้า มีนมก็ดูด มีแม่ก็ กอด มีคนจี๋เอวก็หัวเราะจนตายิบหยี ถูกฉีดยาก็ร้องไห้แค่ตอนปักเข็ม หนึ่งอึดใจก็ หายหันไปยิ้มรับเสียงปรบมือชมว่าห นูเก๊ง เก่ง ได้แล้ว อย่าโทษความจำนักเลย หลายท่านเชื่อว่าธรรมชาติสร้างขั้นตอนการกลัว เพื่อปกป้องภัยน้องเล็กที่ยัง ไม่รู้ความ น้องจะได้ไม่เอามือไปจับของที่ไม่รู้จัก ไม่ไปกับคนแปลกหน้า ไม่ทาน อาหารแปลกๆ ทุกอย่างจะได้รับการคัดกรองจากคุณแม่แล้ว เรียกว่ากลัวไว้ก่อน เป็นปลอดภัย
42 ธรรมะใกล้ตัว
จนถึงวันท ี่เขาสามารถจำ คิด เรียนรอู้ ย่างเป็นระบบ วันที่เขาพึ่งตัวเองได้ไม่ต้องอยู่ใต้ร่มเงาใครอีก จนแยกแยะสง่ิ ใดเป็นของแท้ สิง่ ใดเป็นของแปลกปลอมยอ้ มให้ชวี ติ มวั หมองตกต่ำ ได้จริงๆ คือวันที่เขา “รู้ตัว” ความจำ ความกลัว รวมทั้งเจ้า Object permanence เป็นแค่อาวุธช ่วยประคองให้เราก้าวข้ามอะไรสักอย่าง ข้ามฝั่งมาได้ใช้เขาเสร็จ ก็ปล่อยเขาออกจากใจ รู้แล้วก ็ไม่ต้องกลัว ที่กลัวก็เพราะยังไม่รู้ ที่ยังต้องตามหากเ็พราะยังไม่เห็น ถ้าเห็นความจริงแล้วกจ็ ะหยุดมองหา เมื่อไรหนอ มนุษย์น้อยตัวก ระจ้อยร่อยจะ “รู้ตัว” เสียที ค้นในตำรากุมารเวชกรรม ในคลังข ้อสอบเก่าๆ ไม่เห็นเคยมีใครเฉลยได้เลยค่ะ ยังเป็นโจทย์ที่สอบไม่ผ่าน ต้องหาคำตอบอยู่ต่อไปท่ามกลางชีวิตที่รู้บ้าง ไม่รู้ บ้าง หวงยึดของเล่นเก่าๆ ตุ๊กตาหมีห ายกพ็ ะวงหา วุ่นวายร้องไห้จ้าเป็นช ั่วโมงๆ กับ ความเจ็บปวดเล็กๆ แค่เสี้ยววินาทีของชีวิต ทั้งหมดเกิดขึ้นหลังเล่นจ๊ะเอ๋เป็นท ั้งนั้น เจ้า จ๊ะเอ๋.. นี่ตัวยุ่งจริงๆ ว่าไหมคะ สารบัญ
ธรรมะใกล้ตัว 43
แง่คิดจากหนัง
อ่านบนเว็บ • ฟังเสียงอ่าน
คุยเรื่อง “ความรัก” ในหนัง ตำนานสมเด็จพระนเรศวร (ภาค ๒) โดย ชลนิล
น้าตุ้ย - ป้าไปดูหนังพ ระนเรศวร ภาค ๒ หรือย ัง? ป้าภารตี - ยัง...คิดว ่าคงไม่ไปดูหรอก ขี้เกียจ น้าตุ้ย - หนังดีนะป้า...โรแมนตกิ ชะมัดเลย ป้าภารตี - หนังสงครามนี่นะ “โรแมนตกิ ” น้าด ูผิดเรื่องหรือเปล่า น้าตุ้ย - ไม่ผิดหรอก...ถ้าจ ะผิดก ็ผิดค าด คือห นังดีผิดคาดน่ะ ป้าภารตี - ไหน เล่าให้ฟังสิ หนังเป็นยังไง น้าตุ้ย - หนังภาคนี้เริ่มต้นตอนพระเจ้าบุเรงนองตาย… ป้าภารตี - “สวรรคต” ย่ะ หัดใช้คำราชาศัพท์ให้ถ ูกหน่อย น้าตุ้ย - โธ่...ผมไม่เคยเป็นชาววังนะป้า คำราชาศัพท์เลยไม่แข็งแรง ขอพูดแบบ ธรรมดาได้มั้ย คงไม่มีใครเขามาคอยตามจับผิดหรอก ป้าภารตี - เอ้า...ว ่าม า น้าตยุ้ - หนังเริม่ จากเหตุการณ์พระเจ้าบเุ รงนองสวรรคต พระนเรศวรกบั เจ้าเมืองขึน้ ทัง้ หลาย ต่างไปรว่ มพธิ ศี พ และเข้าพธิ ถี อื นำ้ พพิ ฒ ั น์สตั ยา มีแต่เจ้าเมืองคงั เท่านน้ั ที่ แข็งข้อ ไม่ยอมไป
44 ธรรมะใกล้ตัว
พระเจ้านันทบุเรง กษัตริย์หงสาองค์ใหม่เลยสง่ั จดั ทพั ๓ ทัพ มีทพั หงสา ตองอ ู และ อโยธยาให้ไปตีเมืองคัง ทัพไหนตีได้จะมีรางวัลให้ ปรากฏว่าทัพอโยธยาของพระ นเรศวรทำสำเร็จ แต่ก็ยังไม่ได้รับความไว้ว างใจจากทางหงสาอยู่ดี พระนเรศวรโดนลอบปลงพระชนม์ แถมเกือบหลงกลอุบายของหงสา ยังดีที่ได้ รู้ความจริงก่อน จึงชิงตัดหน้า ประกาศอิสรภาพ ไม่ย อมเป็นเมืองขึ้นหงสา แล้วน ำ กองทัพ พาเชลยอโยธยา กับชาวมอญข้ามแม่น้ำส โตง หนีจากทหารหงสาได้สำเร็จ ป้าภารตี - จบหรือยัง น้าตุ้ย - ภาคนี้จบแค่นแี้ หละ
ป้าภารตี - แล้วหนังโรแมนติกตรงไหน? น้าตยุ้ - ถ้าปา้ ไม่มองความโรแมนตกิ เป็นแค่เรือ่ งความรกั ของหนุม่ สาวนะ...เราจะเห็น ความรกั ความกตัญญูทพ่ี ระนเรศวรมตี อ่ พระเจ้าบเุ รงนอง มีตอ่ พระสพุ รรณกลั ยา มี ต่อสหายรว่ มเป็นรว่ มตายอย่างออกญาพระราชมนู มีตอ่ ชาติบา้ นเมือง แผ่นดินเกิด มี ให้กระทั่งชาวมอญที่ยอมเสี่ยงร่วมเคียงบ่าเคียงไหล่กับท่าน
ธรรมะใกล้ตัว 45
ตอนที่ทหารเข้ามารายงานท่านว่า...“เวลานพี้ วกชาวมอญข้ามสะพานหมดแล้ว”… ท่านยังตรัสแก้คำพูดให้เลยว่า… “พวกเรา!” แสดงให้เห็นวา่ ทา่ นไม่แบ่งเขาแบ่งเรา ความทท่ี า่ นมนี ำ้ ใจกว้างขวางแบบน ้ี ทำให้ทา่ น ได้ “ใจ” กลับคืนมาเช่นเดียวกัน ป้าภารตี - อือ...ก็จริงนะ คนเราต่อให้เก่งกาจ ฉลาดหลักแหลมแค่ไหน ถ้าไม่ ได้ “ใจจริง” จากคนรอบข้าง ก็ไม่มีทางทำงานใหญ่ได้ส ำเร็จแน่นอน
น้าตยุ้ - หนังเรือ่ งน้ยี งั แสดงให้เห็นถงึ นำ้ ใจของครู่ กั คูม่ ติ ร และของศตั รู คู่สงคราม ด้วยนะป้า… อย่างตอนที่ออกญาพระราชมนู กับเลอขิ่นร่วมรบ ร่วมเป็นร่วมตายกันอย่างกล้า หาญ ไม่ทอดทิ้งกัน ดูแ ล้วใจฮึกเหิมขึ้นมาเลย ตอนที่พระนเรศวรยอมหันม้ากลับ เพื่อไปช่วยออกญาพระราชมนู ทั้ง ๆ ที่อาจ เป็นการเอาชีวิตพระองค์ไปทิ้ง ท่านก็ยังยอมไป นั่นก็แสดงให้เห็นถึงน้ำพระทัยของ เพื่อนร่วมรบ ร่วมตายจริง ๆ
46 ธรรมะใกล้ตัว
ที่อึ้งสุด คือน้ำใจของคู่สงคราม...ยิงกันโครม ๆ สู้กันจนเลือดนองแผ่นดิน แต่ตอน พักรบ ฝ่ายหงสาพาพวกกลับมาเก็บศพทหารตัวเอง ฝ่ายอโยธยาก็ยังหยุดมือ ไม่ ยิงปืนใหญ่ซ้ำเติม...น้ำใจต่อคู่สงครามแบบนี้ เป็นสิ่งน่าชื่นชมจริง ๆ ไม่รู้จะหาได้ใน ปัจจุบันห รือเปล่า ป้าภ ารตี - ก็ “น้ำใจ” นี่แหละ เป็นส ิ่งห ล่อเลี้ยงมนุษยชาติ เป็นส ิ่งย กระดับค วาม เป็น “คน” ถ้าคนเราขาดน้ำใจต่อกันแ ล้ว มันกไ็ม่ต่างอะไรกับส ัตว์ป่า น้าต ุ้ย - สรุปแ ล้วเป็นห นังท มี่ ีอะไรให้ด มู ากกว่าฉ ากรบ ฉากสงครามนะป้า...ทที่ ำได้ น่าพอใจเลยคือเรื่องของ “คุณธรรม” และ “ความรัก” ป้าภารตี - ที่จริงคุณธรรมกับความรัก จะว่าเป็นของคู่กันก็ไม่ผิด...ความรักที่ กว้างขวาง ไม่แบ่งเขาแบ่งเรา มีน้ำใจให้เสมอด้วยแม่น้ำสายใหญ่ มันก็คือเมตตา ธรรมอย่างหนึ่ง เมตตาธรรมเป็นคุณธรรมค้ำจุนโลก ยังให้สรรพชีวิตอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข แต่ เพราะ “กิเลส” ตัวร ้ายนี่แหละ ทีเ่สี้ยมสอน โกหก หลอกลวงให้ค นเราเห็นผ ิดเป็น ชอบ ก่อชนวนให้เกิดสงคราม ถ้าไม่อยากให้มสี งคราม ต้องรทู้ นั “กเิ ลส” แล้วชว่ ยกนั เผือ่ แผ่ แบ่งปัน ปลูกเมตตา ธรรมขึ้นในจิตใจผู้คน น้าตุ้ย - อืม...แ ล้วป ้าจะไปดูหนังเรื่องนี้มั้ย ป้าภารตี - ไม่ล่ะ...ข ี้เกียจ น้าตุ้ย - อ้าว!...ทำไมล่ะ ป้าภารตี - ป้า “ดูใจ” ตัวเองดกี ว่า...สนุกไม่แ พ้ดูหนังเหมือนกัน! สารบัญ
ธรรมะใกล้ตัว 47
เรื่องสั้นอิงธรรมะ อ่านบนเว็บ • ฟังเสียงอ่าน
สังฆทานใจ (2) โดย จำปูน
ในที่สุดก็ได้ของที่จะนำไปถวายสังฆทานสมใจ จากที่เดินเลือกจนเหงื่อเล็ดเช็ด เสื้อก ันหนาวกันไป เดินอ อกมาด้านนอกร้าน ท้องฟ้าวันนี้ดูโปร่งด ี แสงแดดที่ทอแสง วันนี้ก็ไม่จัดนัก คงเพราะว่าม ีใยของอากาศหนาวช่วยปกคลุม แต่ฉันก็ไม่ล ืมที่จะหยิบ หมวกแก๊ปใบเก่าคใู่ จมาสวมใส่ แล้วเดินตรงไปยงั จดุ มงุ่ หมายของวนั คอื วดั พระสงิ ห์ ฉัน เลือกที่จะเดินเข้าประตูเล็กของวัดที่เปิดไว้ โดยไม่ทราบเช่นกันว่า ด้านไหนคือประตู ด้านหน้า หรือด้านหลัง และก็อดไม่ได้ที่จะชำเลืองอ่านป้ายที่เขียนว่าวัดพระสิงห์ใน ใจ เพราะเกรงว่าเข้าไปแล้วจะกลายเป็นที่อื่นเหมือนกัน จากนน้ั ฉนั จงึ มงุ่ หน้าตรงไปยงั ศาลานอ้ ย ทีค่ าดวา่ นา่ จะเป็นทส่ี ำหรับนง่ั พกั สำหรับ ผู้คนทผี่ ่านมาที่นี่ เมื่อเข้ามาถึงด้านใน ฉันจ ึงจัดแจงเทของจากถุงพลาสติกใบใสจัดใส่ ตะกร้าใบน้อยสีชมพูเพื่อให้สะดวกแก่การยกถวาย ใจความสำคัญใหญ่อยากให้ของ ที่จัดดูประณีตและงดงามเท่าที่คนคนนี้จะทำได้ จากนั้น ฉันจึงรีบจัดของอย่างพัลวัน จับอันนี้ใส่ตรงนั้น จับอันนั้นใส่แทนที่อันนี้ ดูไม่เข้าที่เสียที คล้ายยามที่เราต่อจิกซอ ว์ไม่ถูกตัวยังไงยังงั้น จิตใจที่เมื่อครูจ่ ดจ่ออยูก่ ับการจัดเรียงข้าวของ สักพักมันก็เริ่มไม่ นิ่ง สายตาของฉันก็สอดส่องไปตามจุดต่างๆของอาณาบริเวณวัด อันเนื่องมาจากว่า ตัวฉันเองเป็นหญิงสาวคนเดียวที่ตอนนี้มายืนอยู่ในวัด อันเป็นที่พำนักของเหล่าพระ สงฆ์องค์เจ้า ตาที่สอดส่องสิ่งที่ฉันมองเห็นคือ พระสงฆ์ท่านกำลังประกอบกิจต่างๆ บางรูปกำลังยืนก วาดลานวัด จนใบไม้ไหวปลิวไปตามแรงลมพร้อมสีฝุ่นจางๆ บางรูป ท่านก็นั่งอ่านหนังสือ หลายรูปท่านเดินขวักไขว่ไปมาอยู่ทั่วบริเวณ มองดูแล้วท่านก็ มิได้ใส่ใจ ว่ามีคนแปลกหน้าอย่างฉันที่กำลังยืนสังเกตสังกาท่านอยู่ที่ศาลาน้อยนี้เลย ในใจตัวเอง ณ ขณะนั้นก ค็ ิดไปต่างๆนานาว่า หากท่านแลเห็นเราแล้วจ ะคิดว ่าเราเป็น แม่ค้าขายตรงไหมหนอ แต่งกายแบบนี้สุภาพไหมหนอ ที่เรานั่งอ ยู่นี้เขาจะอนุญาตให้ นัง่ ไหมหนอ หลายหนอผดุ ขน้ึ ในใจพร้อมกนั เพือ่ ไม่ให้หนอตอ่ ไปเกิดขน้ึ ฉันจงึ พาใจตวั
48 ธรรมะใกล้ตัว
เองวกกลับม าทหี่ นอแรก ว่าเมื่อไรจะจัดข องเสร็จเสียทีห นอ ท้ายที่สุดก ล็ งล็อค ไหนๆ ก็ทราบแล้ว ว่าไม่ได้มีใครจบั สงั เกตตัวเรา ฉันจ งึ ทำการซกั ซ้อมถวายสงั ฆทาน โดยเริม่ จากขยับตวั ไปบงั ท่เี สา ยกสงั ฆทานชมพูขน้ึ เหนือหวั รอบแล้วรอบเล่า ผ่านไปสามรอบ เพื่อให้คล่อง ที่สำคัญเพื่อไม่ให้ของหล่นล ง ผลเนื่องมาจากของที่ซื้อมานั้นล ้น เพราะ เก็บร ายละเอียดจากเณรน้อยมาดี จากทแี่ น่ใจแล้วว ่าค ล่องจากการซ้อมเมื่อค รู่ ทีเ่ป็น ทัง้ การซอ้ มใหญ่ซอ้ มยอ่ ยในเวลาไล่เลีย่ กนั เรียกความพร้อมดา้ นการประกอบพธิ กี รรม ให้ฉันไปได้อีกห นึ่งเปลาะ จากการยกขึ้นยกลงจนหนักที่แขน ตอนนี้ความหนักนั้นแล่นขึ้นมาอยู่ที่ใจ มอง ทางซา้ ยก็ต๊เุ จ้า ทางขวากต็ ๊เุ จ้าเต็มไปหมด แล้วพระสงฆ์รปู ไหนนะท่ฉี นั จะเข้าไปถวาย สังฆทาน ความมดื ดำของความคดิ เข้าครอบงำในหวั ของฉนั อกี ครัง้ ทันใดกต็ ดั เป็นฉาก ภาพความคิดว่า ฉันเดินไปถามพระรูปที่นั่งอ ยู่ตรงนั้น พระที่เดินผ่านมาทางน ี้หรือที่ กำลังกวาดอยู่ไม่ไกลตรงนี้ ฉันต ัดฉากจากภาพความคิดในหัวทั้งหมด โดยการก้าวขา ออกมาจากศาลาน้อย ด้วยทีท่าที่มั่นใจเต็มร้อย ทะมัดทะแมง พร้อมอมยิ้มเล็กน้อย แบบเป็นม ิตร ทันใดทกี่ ้าวขาออกมายืนท ลี่ านโล่งของวัด ความมั่นใจที่ว่าเต็มร้อยลด ลงเหลือประมาณหกสิบจุดห้าหากนับไม่ผิด อมยิ้มน้อยๆแบบเป็นมิตรพลิกผันเป็น ยิ้มแห้งๆ ที่แฝงไว้ด ้วยความต้องการมิตรภาพ ไม่เสื่อมน้อยไปกว่าย ิ้มแ รกนั้น พระสงฆ์ หลายรปู เริม่ ชำเลืองมอง สายตาทกุ ค่แู ฝงไว้ดว้ ยคำถามท่แี ตกตา่ ง หากว่าฉนั เดาไม่ผดิ นะ ฉันเริ่มหันมาสำรวจตัวเอง เริ่มจากความคิดและพิจารณาถึงเครื่องแต่งกาย วันนี้ หนอเรามาดว้ ยชดุ กนั หนาว ทีม่ ดิ ชิดทะมัดทะแมงดี เป็นกางเกงสนี ำ้ ตาลเปลือกไม เ้ สือ้ กันหนาวน้ำตาลพรางลายตุ๊กแกบ้านแสนธรรมชาติ รองเท้ากม็ าแบบรักธ รรมชาติแต่ ตัดกับชุดเขียวมาเชียวเรา จุดสุดท้ายที่หยุดพ ิจารณาคือส ังฆทานที่ถืออยู่ในมือ ตกใจ ในสสี รรแห่งความงามนเ้ี ล็กน้อยถงึ ปานกลาง เพราะบรรจุไปดว้ ยขา้ วของหลากสี ทัง้ นี้ ล้วนเป็นแ ต่แม่สที ั้งนั้น เริ่มต ั้งแต่ต ะกร้าน ้อยสีชมพูสะพรั่ง กล่องข้าวของ แดง เหลือง เขียว แจ่มชัดจำรัสจริงเชียว ทั้งคนทั้งของดูงามเกินธรรมชาติสร้าง ฉันจึงรีบเดินให้พ้นจากลานวัดแห่งนี้ ซึ่ง ชัดเจนในความคิดว่า นี่คือจุดที่โดดเด่นหากมีใครเข้ามาเดิน อันแม้แต่อุจจาระของ น้องหมากอ้ นน้อยยังมองดูเด่นหากแค่เหลียวดู จากนนั้ ฉันจึงรีบเดินจ้ำอ้าว เพือ่ พาตัว
ธรรมะใกล้ตัว 49
เองให้พ้นจากจุดนี้ โดยคิดว ่าไปตายเอาดาบหน้า ไม่ก ี่ก้าวที่เดินม า ฉันจึงได้มาหยุดที่ อาคารหนึ่งของวัด สองตาก็สอดส่องมองหา ว่าจะมีใครอยู่ด้านในนั้นบ้างไหมหนอ อย่างน้อยท่านมัคนายกสักท่านก็ยังดี นั่นใครกันน ะ? ฉันใช้สายตามองด้วยความคิดพิจารณาดู พบว่าเป็นห ลวงตากำลัง ยืนก้มเรียงเอกสารแผ่นแล้วแผ่นเล่า โดยฉันเดาว่าท่านคงเยือกเย็นและใจดี ตาฉันก็ มองดูท่านปากก็ว่าจ ะอ้าถ าม แต่ใจคอกต็ ีบตันเพราะนึกคำศัพท์ที่จะใช้พ ูดกับท ่านไม่ ออก เวรกรรมจริงเรา ขณะท่ยี ืนเรียบเรียงคำพูดในใจ หลวงตาทา่ นก็เงยหน้าข้นึ มาพอดี ด้วยความตกใจ ที่ท่านยืนอยู่ในระยะใกล้ ฉันจึงรีบพูดไปด้วยคำที่ติดๆขัดๆ แต่น้ำเสียงที่น่าจะดังฟัง ชัดเจนดี แต่คิดว่าค ำพูดน ่าจะไม่ด ีเท่าที่ควรจะเป็น “กราบนมัสการ สวัสดีเจ้าค่ะ” ใบหน้าที่เปี่ยมด้วยรอยยิ้มของหลวงตามองมาที่ ฉัน แต่ไม่มคี ำพูดอันใด ฉันจ ึงพูดแก้เก้อไปอย่างรวดเร็วว่า “มาถวายสังฆทานเจ้าค ่ะ” จากนั้นห ลวงตาจึงค ่อยๆเดินอ อกมาจากมุมแ ล้วก ล่าว กับฉันเป็นค รั้งแรกว่า “ตามมาด้านนี้โยม” หลวงตาเดินนำหน้าฉันไปยังเก้าอี้ไม้ ซึ่งเมื่อฉันมองเข้าไป ด้านในก็มองเห็นพระพุทธรูปองค์ใหญ่ตั้งตระหง่าน มองดูแล้วทำให้สงบเยือกเย็นใน ใจและลดความประหม่าที่กำลังเกิดขึ้นลงได้เล็กน้อย เมื่อหลวงตาเดินไปนั่งรอที่เก้าอี้ไม้ ด้านหน้าท่านมีโต๊ะไม้วางอยู่ ฉันจึงรีบเดินไป ถอดรองเท้า เพราะเกรงว่า ประเดี๋ยวท่านจะเสียเวลารอนาน ความเร่งร ีบท ำให้ร ะบบ ในสมองของฉันรวนอีกครั้ง มาพร้อมกับความเกรงๆท ี่จะได้ถวายสังฆทานจริงๆแล้ว เพราะองค์ประกอบตอนนพ้ี ร้อมทกุ อย่าง รองเท้าเจ้ากรรมยง่ิ รบี ถอดยง่ิ ถอดยาก เชือก ทีด่ งึ ยง่ิ ดงึ กย็ ง่ิ แน่น กว่าจะถอดได้แค่รองเท้าคเู่ ดียวกท็ ำเอาเหงือ่ ตกไปเลย ถอดรองเท้า แล้วก ถ็ อดหมวก ถอดหมวกกเ็อาลงมาวางเรียงเคียงคกู่ ับร องเท้า ใครมาเห็นค งคิดแ น่ ว่าแปลกดีแท้ หมวกกับรองเท้าฉันจ ึงวางเด่นอยู่คกู่ ันอยู่ด้านหน้าอ าคาร เพราะความ ประหม่าและสติขาดหายของคนเรียง
50 ธรรมะใกล้ตัว
เมื่อท ุกอย่างพร้อม ฉันกไ็ม่ลืมม ารยาทไทยที่เคยได้รับการสอนสั่งเมื่อครั้งวัยเยาว์ จึงค่อยๆคลานเข่าเข้าไปกราบหลวงตาท่าน บทสนทนาระหว่างฉันกับห ลวงตาจึงเริ่ม ต้นขึ้น หลวงตาถามฉันว่า “วันเกิดรึโยม” ฉันรีบตอบไป “ไม่ใช่เจ้าค่ะ วันน ี้หนูม าทำสังฆทานให้พี่” หลวงตาพูดต่อไปด้วยสีหน้าท ี่เรียบเฉย “พตี่ ายแล้วรึ” ด้วยความตกใจกับคำที่ได้ยินหลวงตาพูดม า ฉันจ ึงพูดขึ้นด ้วยเสียงที่ดังว่า “ยังค่ะ เพียงแต่พี่ให้มาทำสังฆทานแทนค่ะ” ด้วยความทช่ี า่ งพดู เป็นเดิมที ฉันจงึ ไม่รง้ั รอท่จี ะกล่าวถงึ เรือ่ งราวตา่ งๆนานาท่เี กิด ขึน้ กบั พใ่ี ห้ทา่ นฟงั ขณะทฉ่ี นั ขยับจะอา้ ปากเล่าเรือ่ งนน้ั ก็ราวกับทา่ นได้หยัง่ รูใ้ จชงิ ถาม ฉันเสียก่อนว่า “พี่โยมชื่ออะไรล่ะ” ฉันจ ึงได้แ จ้งชื่อของพี่ให้ท่านทราบ พิธีการถวาย สังฆทานจงึ เริม่ ขน้ึ หลวงตาสวดเป็นภาษาบาลีพร้อมคำแปลโดยสรุปแล้ววา่ ให้พฉ่ี นั นัน้ หมดทกุ ข์หมดโศกสน้ิ เคราะห์หมดกรรม พิธกี รรมจบลงดว้ ยความรวดเร็วเรียบงา่ ยกว่า ที่ฉันคิดไว้ม ากหลายร้อยเท่า จากนั้นหลวงตาท่านจึงกล่าวชวนสนทนาเล็กน้อย ท่านได้เล่าว่าช่วงนี้ท่านรับกิจนิมนต์ไปหลายที่ไม่ขาด พรุ่งนี้ท่านก็ไป จังหวัดอุบลราชธานีี และไปอกี หลายๆทท่ี ง้ั ในจงั หวัดและตา่ งจงั หวัด ฉันคดิ ในใจวา่ เป็น โชคดีของเราแล้ว ที่วันนี้ได้มาถวายสังฆทานกับท่าน โดยตลอดระยะเวลาตั้งแต่พบ ท่านยืนอยู่ เข้ามานั่งถวายสังฆทาน จนตอนนี้จวนจะสิ้นสุดการสนทนา ฉันก็ยังไม่ได้ ทราบเลยวา่ หลวงตาทา่ นชอ่ื อะไร ดำรงตำแหน่งอะไรของวัดน้ี จนกระทัง่ หลวงตายน่ื หนังสือเล่มหนึ่งให้ฉัน เป็นหนังสือที่ท่านจัดทำเอง เนื้อหาเป็นการรวบรวมคติธรรม ในการดำเนินชีวิต ภายใต้หน้าปกของหนังสือนั้นมีรูปของหลวงตา ระบุว่าท่านคือ เจ้าอาวาสของวัดพระสิงห์แห่งนี้ และเป็นหัวหน้าคณะสงฆ์จังหวัดเชียงราย เดินมา สุ่มๆแท้ๆเรา แบบนี้เรียกว่าแรงศรัทธาดี บุญจึงนำให้เดินมาพบท่านกระมัง ฉันคิด กระหยิ่มในใจ ก่อนที่จะกราบลาท่าน หลวงตาได้ถามฉันว่า “โยมเดินทางมาวัดยังไง”
ธรรมะใกล้ตัว 51
ฉันจึงตอบท่านไปว่า “เดินทางมาด้วยรถเขียวค่ะ” หลวงตาท่านจึงสอบถามถึงราคาค่าต ั๋ว ฉันจ ึงตอบท่านไปว่าสิบห้าบาท เมื่อหลวงตาได้ยินราคา ท่านจึงพูดข ึ้นด้วยน้ำเสียงที่ตกใจว่า “อาตมาคิดว่า ห้าหกบาท” ฉันจ ึงอ ดไม่ได้ทจี่ ะหัวเราะ จากนั้นฉ ันจ ึงก ้มล งกราบลาท่าน และคลานเข่าอ อกมา สวมเอารองเท้าคู่เขียว ขณะทีก่ ำลังก้มหน้าก้มตามัดสายรองเท้าอยู่ พลันก็มองเห็น หลวงตาเดินมาที่ประตู และหันม าพูดก ับฉันด ้วยเสียงเคร่งว่า “ไม่จำเป็นกไ็ม่ต้องมาอีกน ะโยม” ฉันตกใจกับคำพูดของหลวงตาอีกครั้ง พร้อมกับรีบคิดพิจารณาตัวเองว่า มีเรื่อง อันใดที่ตัวเรานี้ทำไม่เหมาะไม่ควรบ้างนะ พลันก็ได้ยินเสียงหลวงตาเอ่ยแทรกเข้ามา ในความคิดว่า “ค่ารถมันแพงจริงๆโยม” ฉันบังคับตัวเองที่จะไม่ยิ้มกับคำของท่านเมื่อครู่ไม่ได้เช่นเคย จากนั้นท่านจึงมอบสายสิญจน์เส้นน้อย สีส ้มสดใสกับฉ ันหนึ่งเส้น ฉันจึงได้ก้มลง กราบทา่ นอกี ครัง้ ท่านกำหนดมาวา่ ให้สวมทแ่ี ขนขวา ฉันมองตามจงึ พบวา่ ที่แขนซา้ ย ของเราไม่ว่างนี่เอง มีกำไลไม้อ ันใหญ่ไร้สาระสวมอยู่ จึงอดสงสัยในใจแบบติดตลกไม่ ได้ว่า ท่านคงไม่อยากให้นำมารวมสวมใส่ก ับกำไลไร้สาระของฉันกระมัง หลังจากกราบลาทา่ น ฉันจงึ กา้ วออกมาจากอาคารดว้ ยหวั ใจท่พี องโตปตี ิสขุ ยง่ิ นกั ฉันยังคงเดินต่อไปภายในวัดที่ไม่ได้กว้างใหญ่มากนัก แวะขึ้นไปกราบพระในอุโบสถ ให้ใจสงบอีกครั้ง จากเดิมทีที่ฉันวางแผนไว้ว่าจะนั่งรถเที่ยวในส่วนต่างๆในเมืองเสีย ก่อน ฉันได้ปรับแผนใหม่เป็นเดินไปที่ท่ารถเพื่อกลับไปยังที่พัก ตลอดระยะเวลาที่นั่ง รถมากับผู้คนที่มากมายนั้น ใจฉันจดจ่ออยู่กับความคิดของตนเอง ทบทวนสิ่งต่างๆที่
52 ธรรมะใกล้ตัว
ได้ทำไปในวันนี้ พบว่าช่างสุขใจเหลือหลาย เป็นแรงบันดาลใจให้อยากกลับมาทำบุญ อีกหลายๆครั้ง หลายๆวัดต ่อไป เมือ่ ภารกิจเสร็จสน้ิ ลง ก็ตอ้ งรายงานไปยงั หน่วยเหนือทส่ี ง่ั การมา เมือ่ ได้เวลาฉนั จงึ ไปคลกิ สง่ ข่าว พร้อมรา่ ยยาวถงึ เรือ่ งราวตา่ งๆทเ่ี กิดขน้ึ พร้อมบทสรุปทแ่ี สนสขุ ใจ และ ในคำ่ คืนน ้นั เอง ขณะทฉ่ี นั น่งั ท บทวนรายการของท่ซี ้อื ถ วายไป อ่านหนังสือทห่ี ลวงตา ให้ม า ก็ได้ร ับโทรศัพท์จ ากแดนไกล พูดข อบอกขอบใจ พร้อมกับบ อกว่าร ู้สึกด ีขึ้นแ ละ สัมผัสได้ถึงผลบุญที่น้องทำ ทิ้งท้ายพี่จึงได้มอบหมายภารกิจทีส่ องให้ฉันทันทีว่า ให้ น้องช่วยไปพิมพ์เรื่องราวทั้งหมดลงในนิตยสารธรรมะออนไลน์นะ เพราะพเี่ค้าคิดว ่า มีสาระแถมตลกดี ฉันก็ตอบสั้นๆง่ายๆว่า สบายมากเดี๋ยวจัดให้เช่นเคย ค่ะ และแล้วสังฆทานใจก็จบไปในหนึ่งตอนสองภารกิจ สังฆทานที่ฉันบรรจงจัด ถวายดว้ ยจติ ใจทม่ี งุ่ มน่ั ศรัทธาและแฝงไว้ดว้ ยคา่ แห่งรกั ทัง้ หมดทง้ั สิน้ ทฉ่ี นั ได้พยายาม ทำ ล้วนเป็นความตั้งม ั่นข องใจมาเป็นท หี่ นึ่ง ตั้งแต่ต ั้งใจรับร ู้เห็นอ กเห็นใจกับป ัญหาที่ เกิดขน้ึ กบั ชวี ติ คนหนึง่ คนทเ่ี ราสดุ รกั ทัง้ หมดลว้ นเป็นแรงผลักให้ฉนั ทำอะไรกไ็ ด้เพือ่ ให้ เขาได้สุขใจ จากที่ทุกข์ตรม ภารกิจนดี้ ูประหนึ่งน้อยนิดแ ต่ฉันก ็ตั้งใจทำสุดชีวิตที่ฉันมี นะคะ ที่สุดแล้วผ ลตอบแทนที่ได้ ก็ค ือ ความปีติสุขทั้งกายใจ ทั้งผู้ให้และผู้รับสมกับ ที่เป็นสังฆทานใจโดยแท้ สารบัญ
ธรรมะใกล้ตัว 53
ธรรมะปฏิบัติ
อ่านบนเว็บ • ฟังเสียงอ่าน
จิตส่งออกนอก โดย สติม า
วันนข้ี อบนั ทึกสง่ิ ทส่ี งั เกตเห็นจากการภาวนา ว่าการทจ่ี ติ สง่ ออกนอก ตามทพ่ี อ่ แม่ ครูบาอาจารย์บอกกล่าวมาว่า มันคือสมุทัย ตัวต้นเหตุแห่งทุกข์นั้นก็คือการที่เราไม่ สามารถรู้อยู่ที่กายใจ ณ ปัจจุบันได้ การทเ่ี ราไม่สามารถร้กู ายใจปจั จุบนั ได้ เพราะเราหลงไปทางอายตนะ หู ตา จมูก ลิ้น กาย ใจ เราจะคอยฟัง คอยเห็น รับรส ได้ก ลิ่น รู้สึก และนึกคิดอยู่แทบจะตลอด เวลาไม่ท างใดก็ทางหนึ่ง แม้ว ่าเราจะหยุดก ารรับร ู้ ด้วยการทำสมาธิภ าวนา ให้ห ยุด อยูใ่ นทใ่ี ดทห่ี นึง่ เช่น ลมหายใจ หรือคำบริกรรมใดๆ เรากจ็ ะอยูไ่ ด้เพียงชว่ั ระยะเวลา หนึ่งๆ เท่านั้น แล้วก็ออกมาหลงส่งออกนอกไปอีก นอกจากส่งออกนอกดังกล่าวมาแล้ว เรายังส่งเข้าในด้วยการเพ่งจ้องภายใน ทำ สมาธิภาวนาจนจติ นง่ิ สงบหรือวา่ งไป แต่ไม่สามารถรกู้ ายใจ ณ ปัจจุบนั ได้อกี ทำให้ เราตกไปจากวิปัสสนา ซึ่งจ ะถือว่าคือก ารส่งออกนอกอีกแ บบหนึ่งก็ไม่ผ ิด ความผิดพลาดที่เราหลงทำผิด ซ้ำๆ ซากๆ นี้เองทำให้การภาวนาไม่ได้ผล เท่าที่ควร หลวงพ่อกล่าวตอบผู้ที่ถามท่านว่าเหตุใดทำให้การภาวนาเนิ่นช้า ท่าน ตอบว่า ปปัญจธรรม เป็นเหตุให้เนิ่นช้า ปปัญจธรรมคือกิเลสที่ทำให้เนิ่นช้า อัน ได้แก่ ตัณหา ทิฏฐิ มานะ ตัณหาคอื การทเ่ี ราพยายามมากไปทจ่ี ะบรรลุธรรม ความพยายามทเ่ี รานกึ วา่ นค่ี อื ความเพียร แต่มนั ประกอบด้วยตณ ั หา ความอยาก ทีเ่ รามองไม่ออก ทำให้ปฏิบตั ไิ ป ก็ทกุ ข์ไปกบั การปฏิบตั ิ จิตไม่ปกติ ไม่ธรรมดา ถ้าไม่หลบเข้าไปสงบเงียบกฟ็ งุ้ ซ่าน แต่ ดูไม่ออก ไม่เห็นไตรลักษณ์ คือการที่เราบังคับไม่ได้
54 ธรรมะใกล้ตัว
ทิฏฐิ ความเห็น ที่ยังเป็นความเห็นผิด เห็นไม่ตรง ยังเข้าใจการปฏิบัติผิด พลาด เช่น การส่งออกนอก จนเราไม่สามารถรู้กายใจปัจจุบันได้นานๆ นั้นคือการ ผิดพลาดแล้ว แต่เรากลับคดิ วา่ การทจ่ี ติ สงบเงียบนน้ั ถกู และด ี การเข้าถึงความวา่ งได้ ในบางขณะ แล้วเราเห็นวา่ นน้ั คอื แนวทางหรือจดุ มงุ่ หมาย นัน่ คอื เราตง้ั ความคดิ เห็น ไว้ผิดทาง ทำให้จิตไปติดอยู่ใน ระดับใด ระดับห นึ่ง อย่างไม่ก้าวหน้า มานะคือความเห็นว่าเราดี เราด้อย หรือเราเสมอกับคนนั้นคนนี้ การตีค่า ตี ราคา และให้ค่าการปฏิบัติที่ล้วนแต่บั่นทอนตัวเอง เห็นว่าด้อยกว่าคนอื่น ก็หมด กำลังใจที่ปฏิบัติ คิดว่าทำไม่ได้ คิดว่าไม่มีวาสนา เห็นว่าตัวเองดีกว่าคนอื่นก็ทำให้ เราไม่สามารถเปิดใจ รับสง่ิ ทจ่ี ะพฒ ั นาตวั เองให้ยง่ิ ๆ ขึน้ ไปเพราะทำตัวเป็นชาลน้ ถ้วย อยู่ แม้แต่เสมอกับคนอื่น ก็ทำให้เรารู้สึกเสมอว่า เรารู้แล้ว เราดีแล้ว แล้วเราก็จะ ก้าวหน้าไปได้อย่างไร เราเพียงแต่ทราบแผนที่การเดินทางคร่าวๆ ทราบอปุ สรรคทท่ี ำให้การเดินทางของ เราตอ้ งลา่ ชา้ หรือไม่ได้ผล และลงมือเดินทางไปเรือ่ ยๆ จุดหมายปลายทางกจ็ ะมาถงึ สักวนั เรามพี อ่ แม่ครูบาอาจารย์ ท่านแนะนำ ชีห้ นทางอยู ่ และปรับความเข้าใจของ ตนเองด้วยการเข้าไปเห็นด้วยตนเอง เราก็จะเข้าใจอะไรมากขึ้น การอยู่กับตัวเองให้มาก และเรียนรู้กลไกการทำงานของกายใจเรานี้เอง ทำให้ เราเข้าใจในหลักธรรมขึ้นอย่างชัดเจน แม้ว่าเราจะอยู่กับคนมาก คนน้อย ไม่ สำคัญ สำคัญวา่ เราตอ้ งเห็นถกู ตอ้ งตามความเป็นจริงของกายใจตวั เองวา่ เขาทำงาน อย่างไรอยู่ ตราบใดทเี่ราสามารถเห็นก ารทำงานของกายใจเราได้ เราจะอยูอ่ ย่างไรก็ ไม่มปี ัญหา ถ้าเรารู้ว่าเรา “หลง” ส่งอ อกนอกไปอย่างไร ถ้าเรายังชอบที่จะฟัง โดยไม่รู้สึกตัว ชอบที่เห็น ที่จะดูสิ่งต่างๆ แล้วลืมตัวเอง ไป ชอบทานอาหารอร่อย โดยทีไ่ ม่เห็นว่า เวลาอร่อยแล้ว อยากได้อีก จำได้แม่น และหาทางที่จะได้ดีกว่านี้ อร่อยกว่านี้ หลงไปกับความอร่อย ลืมกายใจตัวเอง ไปเลย เรายังชอบความสบาย อากาศดี สัมผัสที่นุ่มนวล สะอาดสะอ้าน แล้วลืม กายใจตัวเอง ไม่เห็นใจที่ยินดีกับสัมผัสดีๆ และเกิดความรู้ความจำที่จะเอาอีกได้ดี
ธรรมะใกล้ตัว 55
กว่านี้อีก หลงไปกับมัน แล้วลืมตัวเอง ไม่เห็นความนึกคิดปรุงแต่ง ที่ทยอยเข้ามา เรื่อยๆ อย่างไม่เคยหยุด ทัง้ หมดยงั เป็นการทจ่ี ติ สง่ ออกนอก ออกจากการร้กู ายใจของตวั เองทง้ั หมด ทาง ง่ายๆ สั้นๆ แต่ลัดตรง ตรงนี้เอง แต่ที่เราไม่สามารถเดินทางสายกลางนี้ได้เสีย ที เพราะเรามัวแต่ส่งจิตออกนอกไป ถ้าเราอยู่กับการรู้กายรู้ใจ ด้วยความ เป็นกลาง เห็นอย่างผู้สังเกตการณ์ และเห็นสลับกันไปมา รู้กายชัด รู้ใจชัด ไป เรื่อยๆ อย่างไม่คาดหวังอะไร สิ่งที่เกินคาดหวังก ็จะมาปรากฏให้เราเห็นเอง อาตาปี สติมา สัมปชาโน สารบัญ
56 ธรรมะใกล้ตัว
ร่วมส่งบทความ
สามารถสร้างสรรค์วรรคทองได้เองยิ่งดี เพราะจะ นิตยสารเล่มนี้จะเป็นนิตยสารคุณภาพได้ ก็ด้วยเนื้อ ได้ฝึกริเริ่มวลีสะดุดใจ ซึ่งเป็นแม่บทของกรรมที่ทำ ให้มคี วามคิดสร้างสรรค์ได้อย่างสุดยอด เนือ่ งจากแง่ หาดี ๆ ภายในฉบับที่จัดสรรลงอย่างต่อเนื่องนะคะ คิดดีี ๆ จะช่วยให้คนอ่านคิดดี หรือได้คิดเพื่อเปลี่ยน หากคุณผู้อ่านท่านใด มีความสามารถในการเขียน แปลงชีวิต วิบากที่ย้อนกลับมาสนองตอบแทนคุณ ก็ มีศรัทธา และความเข้าใจในคำสอนของพุทธศาสนา คือการผุดไอเดียเหมือนน้ำพุไม่รู้จบรู้สิ้น กับทั้งเป็นที่ ไม่ว่าจะในระดับเบื้องต้น เบื้องกลาง หรือเบื้องปลาย ยอมรับในวงกว้างด้วย และมี ใจรักที่อยากจะสื่อสารถ่ายทอดสิ่งนั้นให้กับ กติกา: หากเป็นการคัดมาจากที่อื่น หรือแปลมาจาก ผู้อื่นได้ทราบ และได้ประโยชน์จากสิ่งเหล่านั้น เช่น ภาษาอังกฤษ กรุณาระบุแหล่งที่มา หรือชื่อของบุคคล เดียวกับที่เราอาจเคยได้รับจากผู้อื่นมาแล้ว ก็ขอ ผู้เป็นเจ้าของคำคมด้วยนะคะ เชิญทุกท่านส่งบทความมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของ คอลัมน์: สัพเพเหระธรรม ธรรมะใกล้ตัว ด้วยกันนะคะ เนื้อหา: เรื่องราว เรื่องเล่า อาจมาจากฉากหนึ่งใน คุณอาจไม่จำเป็นต้องเป็นนักเขียนฝีมือเลิศ แต่หากมี ชีวิตของคุณ ที่มีเกร็ดข้อคิดทางธรรม หรือข้อคิดดี ๆ ใจที่คิดอยากจะถ่ายทอด มีสิ่งที่คิดว่าอยากแบ่งปัน อันเป็นประโยชน์ อาจเป็นเรื่องเล่าสั้น ๆ ในรูปแบบที่ ความรู้ความเข้าใจนั้นให้กับคนอื่น ๆ ก็ลองเขียนส่ง เสมือนอ่านเล่น ๆ แต่อ่านจบแล้ว ผู้อ่านได้เกร็ดธรรม เข้ามาได้เลยค่ะ หรือข้อคิดดี ๆ ติดกลับไปด้วย
�
๑. คอลัมน์ที่เปิดรับบทความ คอลัมน์: ธรรมะจากคนสู้กิเลส เนื้อหา: เปิดโอกาสให้คุณๆ ได้เล่าประสบการณ์ จริงของตนเอง ว่าผ่านอะไรมาบ้าง มีอะไรเป็นข้อคิด ที่เป็นประโยชน์บ้าง อะไรทำให้คนธรรมดาคนหนึ่ง กลายเป็นคนดีขึ้นมา และทำให้คนมีกิเลสเยอะกลาย เป็นคนกิเลสบางลงได้ มีแต่คนที่เปลี่ยนแปลงตัวเอง แล้วเท่านั้น จึงจะเขียน ธรรมะใกล้ตัว ได้สำเร็จ
คอลัมน์: กวีธรรมะ เนื้อหา: พื้นที่ที่เปิดกว้างสำหรับกวีธรรมะทั้งหลาย โดยไม่จำกัดรูปแบบและความยาวของบทกวี หรือ หากจะคัดเอาบทกวีทน่ี า่ ประทับใจ ให้แง่คดิ อะไรในเชิง บวก ก็สามารถนำมาลงได้เช่นกัน แต่ถ้าให้ดี กลั่น กรองออกมาด้วยตนเองได้ ก็ยิ่งดีค่ะ กติกา: หากเป็นการคัดมาจากที่อื่น ต้องระบุที่มาที่ ไปอย่างชัดเจนด้วยนะคะ
คอลัมน์: เที่ยววัด เนื้อหา: รับหมดไม่ว่าจะเป็นวัดสวยหรือสถานที่ คอลัมน์: นิยาย/เรื่องสั้นอิงธรรมะ เนื้อหา: เปิดโอกาสกว้างสำหรับคนที่ชอบคิดชอบ ปฏิบัติธรรม ข้อมูลข่าวสารจากทั่วประเทศนั้น ไม่มี เขียน โดยเฉพาะอดีตนักฝัน ที่เพิ่งผันตัวมาอยู่ ในโลก วันที่ ใครคนเดียวจะรู้ ได้หมด ถ้าช่วยเป็นหูเป็นตาให้ ธรรมะ เพื่อสร้างสรรค์เรื่องราวให้คนได้ข้อคิดข้อธรรม แก่กัน ก็คงจะมีประโยชน์อย่างมหาศาล ผ่านความสนุกของรูปแบบนิยายหรือเรื่องสั้นได้อย่าง กติกา: นอกจากข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่ บรรยากาศ ปฏิปทา ฯลฯ ของวัดแล้ว ต้องขอรบกวนส่งภาพสวย ๆ เพลิดเพลิน มาประกอบบทความด้วยนะคะ คอลัมน์: คำคมชวนคิด เนื้อหา: รวบรวมข้อคิด หรือคำคมของบุคคลต่าง ๆ คอลัมน์: ธรรมะปฏิบัติ ที่เคยได้ยินมาแล้วสะดุดใจ มาบอกต่อ ยิ่งถ้าใคร เนื้อหา: ร่วมบอกเล่าประสบการณ์จริง ประสบ-
การณ์ตรงจากการปฏิบัติธรรม เพื่อเป็นทั้งธรรมทาน ๒.๑ ตรวจทานคำถูกผิดให้เรียบร้อย และเป็นทั้งกำลังใจ สำหรับผู้ที่กำลังร่วมเดินทางอยู่ ก่อนส่งบทความ รบกวนผูเ้ ขียนทุกท่านช่วยตรวจทาน บนเส้นอริยมรรคเส้นเดียวกันนี้ ให้แน่ ใจก่อนนะคะว่า ไม่มีจุดไหนพิมพ์ตกหล่น พิมพ์ เกิน พิมพ์ผิดพลาด หรือเขียนตัวสะกดไม่ถูกต้อง คอลัมน์: ของฝากจากหมอ ผ่านสายตาของผู้เขียนแล้ว เนื้อหา: นำเสนอข่าวสารในวงการแพทย์ หรือสาระ น่ารูอ้ นั เป็นประโยชน์เกีย่ วกับสุขภาพ ทีค่ นทัว่ ไปสนใจ หากไม่แน่ ใจตัวสะกดของคำไหน สามารถตรวจสอบ หรือนำไปใช้ ได้ เพื่อเป็นวิทยาทานให้กับผู้อ่าน จาก ได้จากที่นี่เลยค่ะ แง่มุมต่าง ๆ ที่แพทย์แต่ละแขนงมีความรู้ความเชี่ยว เว็บเครือข่ายพจนานุกรม ราชบัณฑิตยสถาน ชาญต่าง ๆ กัน http://rirs3.royin.go.th/ridictionary/lookup.html กติกา: • หากเป็ น บทความที ่ แ นะนำให้ ม ี ก ารทดลอง ๒.๒ จัดรูปแบบตามหลักงานเขียนภาษาไทย กินยา หรือแนะนำให้ผู้อ่านปฏิบัติตามด้วย ขอ เพื่อให้ทุกบทความมีลักษณะของการจัดพิมพ์ที่สอด จำกัดเฉพาะผู้เขียน ที่เป็นผู้เรียนหรือทำงานใน คล้องกัน ขอให้ ใช้การจัดรูปแบบในลักษณะดังนีน้ ะคะ สาขาวิชาชีพที่เกี่ยวข้องเท่านั้น เพื่อป้องกันการ • เครื่องหมายคำถาม (?) และเครื่องหมาย นำเสนอข้อมูลทีค่ ลาดเคลือ่ น และอาจส่งผลต่อ ตกใจ (!) ผู้อ่านได้ค่ะ เขียนติดตัวหนังสือด้านหน้า และวรรคด้านหลัง • หากนำเสนอประเด็นที่ยังเป็นที่ถกเถียงอยู่ ใน เช่น “อ้าว! เธอไม่ ได้ ไปกับเขาหรอกหรือ? ฉัน วงการแพทย์ ขอให้มีการอ้างอิงด้วย เช่น มา นึกว่าเธอไปด้วยเสียอีก” จากงานวิจยั ชิน้ ไหน หรือหากเป็นเพียงความเห็น • การตัดคำเมื่อขึ้นบรรทัดใหม่ ส่วนตัวของหมอ ก็กรุณาระบุให้ชัดเจนด้วยค่ะ สำหรับคนที่นิยมเขียนแบบเคาะ [Enter] เพื่อ ตัดขึน้ บรรทัดใหม่ แทนการรวบคำอัตโนมัตขิ อง คอลัมน์: ข่าวประชาสัมพันธ์ โปรแกรมคอมพิวเตอร์ อยากให้ช่วยดูการตัด เนื้อหา: อาจมีทั้งงานบุญ หรือการแสดงเทศนา คำด้วยนะคะว่าตัดได้อย่างเหมาะสม คืออ่าน ธรรมของพระที่น่าเคารพ ในส่วนนี้อาจมีเกร็ดธรรม ได้ลื่น ไม่สะดุด ไม่แยกคำ หรือไม่ขึ้นบรรทัด จากชุมชนคนใกล้ธรรมะ หรือข่าวฝากจากสถานีวิทยุ ใหม่ผ่ากลางวลีที่ควรอ่านต่อเนื่องกัน โดยไม่ “ธรรมะอารีย์” ซึ่งคุณวีรณัฐ โรจนประภา (เจ้าของ จำเป็น เช่น บางกอก) ได้ริเริ่มร่วมทำกับหมู่ญาติธรรมจำนวน หนึ่งด้วย “ฉันไม่อยากให้เธอทำแบบนั้น ก็เลยบอกเธอไปว่าผลกรรม
�
๒. อ่านสักนิด ก่อนคิดเขียน
ข้อกาเมนั้นหนักไม่ ใช่เล่น” “ฉันไม่อยากให้เธอทำแบบนั้น ก็เลยบอกเธอไปว่า ผลกรรมข้อกาเมนั้นหนักไม่ ใช่เล่น” (อ่านง่ายกว่าค่ะ)
เนื่องจากในแต่ละสัปดาห์ มีงานเขียนส่งเข้ามาเป็น จำนวนมากชิ้นขึ้นเรื่อย ๆ ดังนั้น เพื่อเป็นการช่วยลด หรือดูหลักเกณฑ์อื่น ๆ ได้จากที่นี่เพิ่มเติมด้วยก็ ได้ค่ะ เวลา และลดภาระให้กบั อาสาสมัคร ในการเข้ามาช่วย กันคัดเลือก และพิสูจน์อักษรของทุกบทความ ต้อง ราชบัณฑิตยสถาน > หลักเกณฑ์ต่าง ๆ ขอรบกวนผู้ส่งบทความ เรียบเรียงงานเขียนตามแนว http://www.royin.go.th/th/profile/index.php ทางดังนี้ด้วยนะคะ
๒.๓ ความถูกต้องของฉันทลักษณ์สำหรับชิ้นงาน ร้อยกรอง สำหรับท่านที่แต่งร้อยกรองเข้ามาร่วมในคอลัมน์ กวีธรรม ขอให้ตรวจทานให้แน่ ใจสักนิดนะคะว่า บทกลอนนั้น ถูกต้องตามฉันทลักษณ์แล้วหรือยัง จะได้ช่วยกันใส่ ใจและเผยแพร่แต่ ในสิ่งที่ถูกต้องให้ ผู้อื่นกันค่ะ คุณผู้อ่านสามารถตรวจสอบ หรือหาความรู้เพิ่มเติม เกี่ยวกับฉันทลักษณ์ของกวี ไทยได้จากที่นี่ด้วยนะคะ
กระดาน “ส่งบทความ” ได้เลยค่ะ ที่: http://dungtrin.com/forum/viewforum.php?f=2 โดยหัวข้อกระทู้ ขอให้ ใช้ฟอร์แมทลักษณะนี้นะคะ (ชื่อคอลัมน์) ชื่อเรื่อง โดย ชื่อผู้แต่ง เช่น (สัพเพเหระธรรม) เทพธิดาโรงทาน โดย คนไกลวัด (ธรรมะปฏิบัติ) เส้นทางการปฏิบัติ 1 โดย satima (ของฝากจากหมอ) เครียดได้...แต่อย่านาน โดย หมออติ
ร้อยกรองของไทย (โคลง ฉันท์ กาพย์ กลอน ร่าย) http://thaiarc.tu.ac.th/poetry/index.html
เพื่อช่วยให้ทีมงานสามารถจัดหมวดหมู่ของชิ้นงาน ได้เร็วขึ้นค่ะ
กว่าบทความอื่น ๆ และมีการเปลี่ยนฉากอยู่บ้าง อย่า ลืมเบรกสายตาผู้อ่าน โดยการขึ้นย่อหน้าใหม่เมื่อถึง จุดหนึ่ง ๆ ของเรื่องที่เหมาะสมด้วยนะคะ เพราะการ เขียนเป็นพรืด เห็นแต่ตัวหนังสือติด ๆ กันลงมายาว ๆ จะลดทอนความน่ า อ่ า นของบทความไปอย่ า งน่ า เสียดายค่ะ
และหากไฟล์มีขนาดใหญ่ ทำเป็น zip เสียก่อน ก็จะ ช่วยประหยัดพื้นที่ ได้ ไม่น้อยค่ะ
๓.๒ แนบไฟล์ Word มาด้วยทุกครั้ง ๒.๔ ความยาวของบทความ และการจัดย่อหน้า หากแปะเนื้อความลงในกระทู้เลย ฟอร์แมทต่าง ๆ ปกติแล้วเราไม่จำกัดความยาวของชิน้ งานในทุกคอลัมน์ เช่น ตัวหนา ตัวบาง ตัวเอียง จะหายไปค่ะ เพื่อ ค่ะ แต่ก็อยากให้ผู้เขียนใช้ดุลยพินิจดูด้วยค่ะว่า ความ ความสะดวก รบกวนทุกท่านแนบไฟล์ Word ที่พิมพ์ ยาวประมาณใดน่าจะเหมาะสม โดยลองดูจากบทความ ไว้มาด้วยนะคะ (ในหน้าโพสต์ จะมีปุ่ม Browse ที่ลงในเล่ม และลองเทียบเคียงความรู้สึกในฐานะผู้ ให้เลือก Attach File ได้เลยค่ะ) อ่านดูนะคะ ใครมีรูปประกอบ ก็ Attach มาด้วยวิธีเดียวกันนี้เลย สำหรับเรื่องสั้น หรือนวนิยาย ที่อาจมีความยาวมาก นะคะ
�
๔. ส่งแล้วจะได้ลงหรือไม่
ปกติแล้ว เวทีแห่งนี้เป็นเวทีที่เปิดกว้าง หากบทความ นั้น ให้เนื้อหาสาระที่เป็นไปเพื่อเกื้อกูลกันในทางสว่าง หากบทความใด อ่านยาก ๆ หรือมีจุดบกพร่องที่ต้อง และเป็ น แนวทางที ่ ต รงตามแนวทางคำสอนของ แก้ ไขเยอะมาก ๆ ทางทีมงานอาจจะต้องขออนุญาต พระพุทธเจ้า หรือเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านจากผู้รู้จริง เก็บไว้เป็นอันดับหลัง ๆ ก่อนนะคะ ในด้านที่เชี่ยวชาญ ก็จะได้รับการลงแน่นอนค่ะ
�
ทัง้ นี้ รวมถึงความยากง่ายในการอ่านพิจารณาบทความ การแก้ ไขจุดบกพร่องต่าง ๆ ในงานพิสูจน์อักษร หาก ๓.๑ กระดานส่งบทความ เป็นไปอย่างคล่องตัว ก็จะช่วยให้พิจารณาชิ้นงานได้ เมื่อเขียน อ่านทาน และตรวจทาน บทความพร้อมส่ง ง่ายขึ้นด้วยค่ะ เรียบร้อยแล้ว งานเขียนทุกชิ้น สามารถโพสท์ส่งได้ที่
๓. ส่งบทความได้ที่ ไหน อย่างไร
แต่หากบทความใด ยังไม่ ได้รับคัดเลือกให้ลง ก็อย่า เพิ่งหมดกำลังใจนะคะ วันหนึ่ง คุณอาจรู้อะไรดี ๆ และ เขียนอะไรดี ๆ ในมุมที่ ใครยังไม่เห็นเหมือนคุณอีกก็ ได้ค่ะ : ) และถ้ า อยากเริ ่ ม ต้ น การเป็ น นั ก เขี ย นธรรมะที ่ ด ี ก็ลองติดตามอ่านคอลัมน์ เขียนให้คนเป็นเทวดา ที่คุณ ‘ดังตฤณ’ มาช่วยเขียนเป็นนักเขียนประจำให้ ทุกสัปดาห์ดูนะคะ ขออนุโมทนาในจิตอันมีธรรมเป็นทานของทุกท่านค่ะ กอง บ.ก. ๑๕ มกราคม ๒๕๕๐
�
ธรรมะใกล้ตัว dhamma at hand
มาร่วมเป็นอีกหนึ่งกำลัง ที่ช่วยสร้างภาพใหม่ ให้กับพระพุทธศาสนา ด้วยการร่วมส่งบทความ ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ท้ายเล่ม หรือที่ http://dungtrin.com/dharmaathand/