1
2
Once upon A time กาลครั้งหนึ่งเทพนิยายอลเวง Title 1 : Mermaid 's Song. เรื่อง : อมราวตี ภาพประกอบ / ปก : Marchen Piper
สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537
3
เกี่ยวกับผู้เขียน
อมราวตี เป็นนักพยายามหัดเขียน ลดการดอง ละการหมัก เลิก การอู้ (ย้้าว่าทั้งหมดอยู่ในขั้นพยายาม) มีความสนใจในนิยาย และหนังสือการ์ตูนอย่างแรงกล้า จนที่บ้านมีแพลนงานจะต้มให้ กินเร็วๆนี้ แต่ได้ค้านที่บ้านว่าหนังสือเล่มหนึ่งแพงกว่าข้าวสาร นะ จึงยังไม่มีใครต้มให้กิน(รอดไป) ชอบอ่านงานหลายๆแนว ส่วนมากแล้วถ้าใครถามคง บอกว่าไม่จ้ากัด เพราะถ้าถูกโฉลกตัวละคร รู้สึกว่าสนุกเมื่อไร.... ก็หยุดอ่านไม่ได้เอง จึงมีความใฝ่ฝันอยากให้คนที่อ่านงานของ ตัวเองรู้สึกแบบนั้นบ้าง ในสักวัน ปัจจุบันก้าลังพยายามทลายไหที่เรื้อร้างมานานแสนนาน หรือไม่ก็มองไปที่ไหดองแล้วก็ท้าหน้าสงสัยว่าตอนนั้นเราเขียน / ตั้งใจเขียนอะไรลงไปหว่า ? ไหที่แตกแล้ว : สารานุกรมรักฉบับปีศาจ , Once
4
upon a time เล่มนี้ ไหที่ก้าลังกะเทาะ : นาคปักษา (ชื่อเดิมว่ามนตรานาคา ครุฑ ----- เขียนมาจะสิบปี รู้สึกตัวอีกที พอเขียนใหม่มัน กลายเป็นคนละเรื่องไปแล้ว....กลัวโดนคนอ่านฆ่าอ่ะ) , Knight at Night สงครามรัตติกาล , Once upon a time เล่มถัดไป....... (ส่วนไหในนามปากกาอื่นๆไม่นับเป็นการดอง....เพราะ ยังคงพยายามโพสอยู่.....) ตามทวงหนี้ได้ที่ https://www.facebook.com/pages/ โรงเตี๊ยมอี้ฉาง/253943158052163
5
เกี่ยวกับนักวาด
Marchen Piper นักวาดที่ใช้เวลาไปกับงานเขียนพอๆกับงานวาด เพราะ เจ้าตัวต้องการระบายความเป็นแฟนตาซีที่อยู่ในหัวออกมาให้ หมด จะได้เพาะใหม่(?) จึงท้าให้วาดตัวละครออกมาได้ คล่องแคล่วว่องไวมาก จุดแข็งคือ สามารถให้ชีวิต อารมณ์ สีหน้าตัวละครตาม ต้องการได้ไม่มีพลาด จุดอ่อนคือ......ก่อนหน้านั้นต้องไปเข้าทรงตัวละครก่อน เร็วๆนี้มีแพลนจะออกอาร์ตบุ๊คออกมาเล่มหนึ่งด้วย ติดตามข่าวสารได้ที่ www.facebook.com/pages/MarchenPiper/378827192171999
6
7
8
9
10
11
12
Intro เจ้าหญิ งในนิทานถูกแม่มดสาป จากนัน้ เจ้าชายจะมาถอนคาสาป และทัง้ คู่ก็จะครองรักกันอย่างมีความสุข... แต่ถา้ แม่มดในนิทานถูกสาป เจ้าหล่อนก็จะกลายเป็ นเบ๊ให้เจ้า หญิ ง และซวยหนักขึ้นอีกสามเท่า.... เรื ่องราวมีว่าอย่างนีแ้ ล..........
13
Chapter 1 กาลครั้งหนึ่ง บวกไปอีกเจ็ดชัว่ โมงจากเส้นกรี นิซ หรื อทีเ่ ห็นตาม หน้าจอคอมพิวเตอร์ ว่าเวลา GMT+7 ในโลกทีไ่ ม่ใช่ใกล้ๆ แต่ก็ไม่ใช่ไกลๆ ในศตวรรษทีย่ ีส่ ิ บกว่าๆ ยุคทีเ่ ครื ่องปรับอากาศได้ถูกปรับปรุงให้เป็ นเครื ่องสาหรับกรอง แถมฟอกอากาศ ทัง้ หน้าต่างก็ไม่มีช่องไว้เปิ ดรับลมเย็น นอกจากติ ดเป็ น กระจกหรื อฉายภาพทิวทัศน์สวยๆเพือ่ หนีความจริ งจากมลพิษยานพาหนะ ด้านนอก ทัง้ หมดทีว่ ่าไม่นา่ เอือ้ ให้มีฝนุ่ แต่ทงั้ นีก้ ็ยงั มีสาวน้อยคนหนึ่งก้ม หน้าก้มตาถูพืน้ อยู่
14
เจ้าหล่อนต้องถูกจัดเป็ นสิ่ งมหัศจรรย์ของโลกแน่นอน ถ้ามีใครมา พบเข้า เพราะหล่อน...กาลังใช้ผา้ สีปอนๆ มีคราบตุๆ เช็ดพืน้ ไปมา.... อัน บ่งชัดถึงเอกลักษณ์ของระบบ Manual หรื อควบคุมด้วยมือไม่ใช่เครื ่องจักร ! เจ้าหล่อน.......... “พอแล้ว!!!!” หล่อนหันมาเอ็ด “แกจะพากย์หารางวัลลูกกรง ทองคาหรือไงยะ สภาพฉันตอนทางานเนี่ย เออ ฉันถูบ้านอยู่ คุกเข่าถูบ้าน ด้วยสองมือ มีปัญหาไหมยะ !!!” หล่อนหันมาเอ็ด...เปล่า ไม่ได้ว่าคนเขียน แต่เอ็ดกระจกรูปวงรีที่ แปะหราบนฝาผนังด้านตรงข้าม ด้านล่างมีป้ายพะยี่ห้อเด่นชัดว่า “กระจก วิเศษ” นับเป็นการค้นพบอันยิ่งใหญ่ของโลกเวทมนต์....ว่ากระจกมันพูด คาอื่นนอกจากคาว่าสโนไวท์ได้..... มือทีจ่ บั ผ้าขีร้ ิ้ วขีเ้ หร่(คาเรียกตามสภาพมันโดยกระจกวิเศษ)บิ ด แน่น เมือ่ หันมามองด้วยนัยน์ตาสีดาขลับลุกวาว อันเป็ นภาพสะท้อนส่วน หนึ่งของสาวน้อย....ในอีก 10 ปี ข้างหน้า หรื อถ้าพูดภาษามนุษย์ให้ชดั กว่านัน้ ก็คือว่า แรงงานอันแสน อัศจรรย์นีเ้ ป็ นแค่เด็ก 6 ขวบทีป่ ล่อยผมสีดากระเซอะกระเซิ งจนไม่อาจ
15
บรรยายได้ว่าผมสีดาสนิทเป็ นเงางาม หนาซ้ านอกจากดวงตาทีม่ ีไฟโทสะ อยู่ทาให้ดูมีราศีแล้ว ทัง้ หน้า ทัง้ เนือ้ ตัว ล้วนหาอะไรทีเ่ รี ยกว่างามไม่ได้.... “ถ้าแกไม่หุบปากล่ะก็ ฉันสัญญาว่าจะเอาแกไปทิ้งแถวโรงไฟฟ้า นิวเคลียร์” หล่อนเป็ นแม่มด....แม่มดทีร่ ับจ็อบสาปมาแล้วทัง้ เจ้าหญิ งนิทรา กักขังหน่วงเหนีย่ วผูเ้ ยาว์ในเรื ่องราพันเซล ทัง้ ยังปรุงแอปเปิ้ ลจี เอ็มโอใส่ยา ฆ่าแมลงเกิ นขนาดให้สโนไวท์กิน พอๆกับทีข่ ายยาไม่มีอย.ให้กบั เจ้าหญิ ง เงือกน้อย และอีกสุดจะสารพัด มือน้อยของเด็กหกขวบเอื้อมหมับไปจับขอบกระจกด้วยท่าทีพร้อม ปลดทุกขณะ “อีกทีส”ิ เสียงใสของเด็กหญิงอามหิต “ฉันให้โอกาสแกอีกที” เด็กหญิ งคนนีค้ ืออดีตแม่มดผูย้ ิ่ งใหญ่ ซึ่งตอนนีส้ ามารถเรี ยกชือ่ เธอได้สนั้ ๆว่า “ซี” อายุหกขวบ ทีอ่ ยู่คือชัน้ สีส่ ิ บสีข่ องอาคารพักในเขตสีข่ อง เมืองหลวงแคว้นตะวันออกเฉี ยงใต้ สูงหนึ่งร้อยเซนติ เมตร น้าหนัก..... โครม !!! ในที่สุด...กระจกวิเศษช่างเจรจาก็ถูกปลดและทุ่มลงบนพื้น “อ๊ากกกก” เด็กหญิงทึ้งผมบนหัวตัวเองด้วยท่าทางสุดทน “ตอน สร้างแกฉันคิดอะไรอยู่เนี่ย ถึงร่ายมนต์ให้ตกน้าไม่ไหลตกไฟก็ไม่ไหม้ ทุบ เท่าไรก็ไม่พัง ไอ้กระจกเฮงซวย!”
16
แต่ถึงจะไม่พัง กระจกก็ไม่สามารถบรรยายแนะนาตัวได้อีกต่อไป เพราะขณะนี้บาทาเล็กๆกาลังกระโดดเหยียบมันซ้าแล้วซ้าเล่าเฝ้าแต่ เหยียบเป็นการระบายอารมณ์ หล่อนจึงไม่ทันเห็นสัญญาณไฟบนประตูอัตโนมัติที่ส่องแสงสีเขียว วูบ ก่อนจะเปิดออกตามด้วยกลิ่นหอมกรุ่น.... “อะไรกัน ยังทาความสะอาดไม่เสร็จอีกเหรอ แบบนี้จะรีดชุดไป งานเลี้ยงคืนนี้ เตรียมเครื่องประดับ ขัดรองเท้าทันได้ยังไงกัน?” ร่างเล็กหยุดเท้า...เดินลงจากกระจก และตั้งมันขึ้นหันไปทางประตู เหมือนเปิดสวิตซ์การทางาน เพราะทันทีที่ผ้าเก่าๆเช็ดๆมันแต่พอ เป็นพิธี......เงาร่างแบบบางก็ปรากฏในกระจก เจ้าของร่างเป็ นเด็กสาวร่าง โปร่งระหง มีผมสีน้าตาลอ่อนเช่นเดียวกับดวงตาสีอลั มอนด์คู่หวานซึ้ง พร้อมเรี ยวปากอิ่ มทีเ่ ผยอขึ้นเป็ นรอยยิ้ ม ราวคนทีเ่ ชือ่ ในความดีงามทัง้ มวล ของโลกนีโ้ ดยไม่เคยคิ ดสงสัย ผมยาวสีน้าตาลนัน้ ถูกรวบไว้ดว้ ยริ บบิ้ น....ขลิ บทองราคาเมตรละ หลายร้อย เสือ้ ผ้าเป็ นคอลเลคชัน่ ล่าสุดของฤดูร้อนโดยดีไซน์เนอร์ ชนั้ น้า จากภาคพืน้ ตะวันตก ราคาพอให้ซื้อห้องพักทีน่ ีอ่ ยู่ได้ประมาณสิ บชัน้ กับ รองเท้าทีร่ าคาเหมาห้องได้อีกสองห้อง ไม่นบั ถุงช็อปปิ้ งอีกสามถุงทีแ่ ม่เจ้าประคุณถือมาด้วยอันไม่อาจ ประมาณมูลค่าได้
17
“นี่แก” ซีตะแคงหน้าไปหากระจก “เจ้าหญิงบ้านไหนสวมเสื้อเกาะ อกกับกระโปรงสั้นสองคืบ แล้วก็รองเท้าส้นเข็มสีแดงกัน?” สาวน้อยผูง้ ดงามดูหรูหราสมศักดิ์ ฐานะคุณหนูแห่งคหบดีผนู้ ีค้ ือ แอนน์.... “ขอบใจจ้ะ กระจก” แอนน์ยิ้มหวาน และแลเลยมายังร่างเล็กที่จา ใจต้องหอบกระจกขึ้นไปแขวนด้วยตัวเองอยู่ดี “แหมๆ ตอนนี้เธอดูเหมาะ กับฉายาแอสเชนพุสเทล(นางขี้เถ้า – คาเรียกซินเดอเรลล่าฉบับนิทาน กริมม์)ได้เลยนะจ๊ะ ให้เปลี่ยนชื่อไหม” “ไม่ต้อง” ซีเกาแก้ม แล้วกัดฟันกรอด เมื่อแอนน์สะบัดรองเท้ากอง ทิ้งอย่างไม่ไยดีพร้อมถุงของที่สรรซื้อมาแล้ว จากนั้นก็เดินนวยนาดไปนั่ง บนเก้าอี้นวดตัวพลางเปิดสวิตซ์ ทาให้หล่อนต้องหันขวับไปตะโกน “มากไปแล้วนะแอนน์! แค่ถุงของที่ซื้อมาก็เก็บเข้าห้องตัวเองเซ่ ยังไงเธอก็ต้องเข้าไปอยู่แล้วไม่ใช่หรือไง” “เธอก็ต้องเข้าไปรีดเสื้อเตรียมของให้ฉันนี่นา ก็เอาไปเก็บให้ด้วยสิ ซี” แอนน์ว่าขณะขมวดคิ้วมองผิวของตนแล้วหยิบน้ามันมานวด “แต่ฉัน.....จาไม่ได้เลยนะเฟร้ย ว่าเคยสาปหล่อนตั้งแต่เมื่อไร!” ซี แหว “ในเนื้อเรื่องของหล่อนมันมีแต่นางฟ้าโผล่ไม่ใช่เรอะ แล้วตัวร้ายก็คือ แม่เลี้ยงกับพี่สาวต่างหาก แน่จริงหล่อนก็ไปตามหายัยสองคนนั้นแล้วล้าง แค้นเซ่”
18
แอนน์ชะงัก ก่อนเงยหน้าขึ้นขยับรอยยิ้ม นั่นเป็นรอยยิ้มอันเยือกเย็นกับแววตาชวนขนลุกอย่างชนิดที่แม่มด ผู้เคยแต่สาปคนอื่นจนต้องมาอยู่ในร่างเด็กหกขวบยังขนลุก ...อา... ช่าง เป็ นรอยยิ้ มชวนเคลิ้ มฝั นเสียนีก่ ระไรว่าถ้าหากเธอเจอแม่เลีย้ งและพีส่ าว ของเธอจริ งๆ ทัง้ สองจะมีสภาพเช่นไร.... “แกจะไปปลาบปลื้มกับยัยนั่นทุกท่วงท่าทาไม ห๊า ไอ้กระจก” หล่อนแว้ด แล้วหันไปหาคู่สนทนาต่อ “ดังนั้น แปลว่าความจริงแล้วฉันไม่ จาเป็นต้องทางานบ้านแบบนี้ก็ได้ไม่ใช่หรือไง” ไฟสีเขียวด้านหลังคนพูดกะพริบอีกครั้ง และแอนน์ก็สังเกตเห็นมัน หล่อนจึงทิ้งตัวลงนอนปล่อยให้เสียงหวานๆของผู้ที่ก้าวเข้ามาตอบแทนว่า “แต่เธอ...เป็นต้นเหตุที่ทาให้ครั้งหนึ่งฉันเคยทางานบ้านนะ?” อา...เธอผูก้ า้ วเข้ามาคือทีส่ ดุ ของความงามในปฐพี ด้วยผิ วกาย ขาวเหมือนหิ มะ เส้นผมดาขลับอย่างแท้จริ ง กับริ มฝี ปากอวบอิ่ มสีสด... “ไวท์” ซีเค้นเสียงโดยยังไม่หันไป จดจาได้ดีว่าบทบรรยายที่ไอ้ กระจกพูดพล่ามอย่างนี้ย่อมไม่มีใครอื่นนอกจาก....สโนไวท์ แต่หล่อนก็ต้องตะลึงตัวแข็งในวินาทีต่อมา สตรีที่ก้าวตามหลังสโนไวท์เข้ามา...ชวนให้ทุกคนที่มองเธอนึกถึง กลิ่นไอของท้องทะเลอย่างแท้จริง ด้วยเรือนผมสีดาที่เปล่งประกายเหลือบ
19
เขียวกับนัยน์ตาสีท้องทะเลของเธอ บวกกับเครื่องหน้าจิ้มลิ้มพริ้มเพรานั่น ... “เอ่อ... คือ...” และเสียงอ่อนหวาน...ไพเราะ ที่ทาให้ผู้คนเคลิบเคลิ้มนั่น..... “เจ้าหญิงเงือกเรอะ!” ซีหันขวับกลับไปทันที
อา...คาสาปของแม่มดกาลังจะเริ่ มขึ้นอีกครั้งแล้ว... “หุบปาก ไอ้กระจก” เสียงที่เหมือนกรีดร้องของซีดังขัด “ให้กระจกอธิบายก็ดีออก” เสียงสนับสนุนเป็นของแอนน์ “คุณกระจกวิเศษเอ๋ย บอกข้าที เรื่องราวเป็นอย่างไร ใครงามเลิศ ที่สุด” คาถามสุดท้ายไม่เกี่ยวกัน แต่สโนไวท์อยากถามเพื่อความสะใจซะ อย่าง “....” เจ้าหญิงเงือกพูดไม่ทัน
คนทีง่ ามเลิ ศในปฐพีคือ...สโนว์ไวท์
20
และแต่ไหนแต่ไรมา...ก่อนทีโ่ ลกจะอร่ามเรื องด้วยแสงไฟจาก โรงไฟฟ้ า ทัว่ ทุกแห่งหนเคยถูกแต้มแต่งด้วยสีสนั ของแสงแห่งเวทมนต์ และเวทมนต์ทีข่ ึ้นชือ่ ทีส่ ดุ ทีค่ นรุ่นหลังรู้จกั พนันได้เลยว่า ต้องเป็ น เวทมนต์คาสาปทาลายคู่แข่งทางความงามของแม่มด “ไม่จริง!” แม่มดร้อง “แกลืมหนังพ่อมดน้อยแปดภาคในหลาย ศตวรรษก่อนไปได้ไง !” “อย่าขัดน่า” แอนน์ตะปบปิดปากคนขัด “อีกอย่าง ความจริงมันเป็นเจ็ดภาคต่างหาก อันที่แปดมันเป็นเจ็ด จุดสอง” สโนไวท์แก้ให้ “.....พระเอกตอนเด็กน่ารักดีนะคะ แต่ทาไมภาคสี่เขาทาพรายน้า ญาติฉันน่ากลัวจัง” เจ้าหญิงเงือกเพิ่งได้ช่องผสมโรง
ทว่าแม้จะถูกลืมเลือนไปบ้าง สาปเสร็ จก็หมดบทบ้าง ถูกฆ่าตาย ตามแบบตัวร้ายทีด่ ีบา้ ง แม่มดก็ยงั คงอยู่แบบอึดถึกทนจนน่าใจหาย “บรรยายใหม่เดี๋ยวนี้น้า!!!!” ซีแกะมือของแอนน์หลุดจนได้ “ฉัน เป็นตัวเดินเรื่องให้พวกนี้หาผู้ชายดีๆได้ต่างหาก ไม่อย่างนั้นยัยพวกเจ้า หญิงที่วันๆดีแต่นั่งสวยขายความแอ๊บแบ๊วจะจับผู้ชายได้ยัง.....อุ๊บ!!!”
21
มือของเจ้าหญิ งนุม่ นิ่ม...ปิ ดปากแม่มดไม่อยู่ เลยลงเอยทีเ่ ทป สาหรับมัดตัวคนร้ายแทน เรื ่องราวจะได้ดาเนินต่อไปได้เสียที .... กาลครั้งต่อมา หรื อความจริ งเพือ่ ความงงคือมันเป็ นครั้งก่อนจะ เริ่ มเรื ่อง .... สรุปง่ายๆว่าแม่มดโดนย้อนคาสาปซะเอง “อุ๊บบบบบบบบบบ!!! อื้อๆๆๆ อื๋อ อื๋อ อื้ออออ!!!!” (สาหรับท่านที่ เคยเห็นวุ้นแปลภาษา ไอเทมเวทมนต์พิเศษ ท่านจะอ่านประโยคนี้ได้ว่า “ทาไมแกถึงเล่าเรื่องของฉันยังกับสรุปรายงานงั้นในสองวิกัน แถมยังจบ โดยไม่ถึงสองบรรทัดดีอีก ไอ้กระจก!!”) “ท่านแม่มดโดนย้อนคาสาปหรือคะ? แต่...เอ่อ ฉันกาลังมีปัญหา กับเสียงนี่คะ?” เจ้าหญิงเงือกหันนัยน์ตากลมโตมาทางสโนว์ไวท์และแอนน์ ที่จับกุมแม่มดเอาไว้ หญิงสาวผมสีน้าตาลอ่อนสะบัดเรือนผมสวยแล้วกดปุ่มปรับเบาะ นวดให้สูงขึ้นเล็กน้อย ซึ่งนับเป็นเรื่องมหัศจรรย์อย่างหนึ่งที่หล่อนทา ทั้งหมดที่ว่ามาได้ขณะยังปิดปากร่างเล็กไปด้วย ก่อนอธิบาย “มันพูดยากน่ะ เห็นว่าเป็นกลไกของเวทมมนต์อะไรหลายๆอย่าง อยู่ แต่สรุปก็คือ มันทาให้ยัยแม่มดนี่ต้องมาอยู่ในร่างของเด็กหกขวบและ กาลังจะโดนคาสาปที่ตัวเองเที่ยวร่ายสาปชาวบ้านไว้ไล่เล่นงาน”
22
“แล้วคาสาปที่จะมาเล่นงานมันไม่ได้อยู่ในรูปแบบเดียวกับที่ไป สาปคนอื่นเขาไว้ด้วย” สโนว์ไวท์เอ่ยบ้าง “แต่อยู่ในรูปอื่นๆที่เห็นว่าอาจเป็น ภัยพิบัติ ร่างกายไม่สูง พิการ คัพเอไปตลอดกาลอะไรเทือกๆนี้....” “อันหลังนั่นเก็บไว้ใช้กับพวกหล่อนเวลาต้องไปซื้อซิลิโคลนพิเศษ เหอะย่ะ อ๊าย!” เจ้าหญิงเงือกน้อยถึงกับสะดุ้ง... เปล่า ไม่ได้สะดุ้งเมื่อแม่มดผู้แสน ร้ายกาจในความทรงจาของเธอถูกบิดหูจากสองเจ้าหญิงในตานาน แต่ สะดุ้งเพราะเผลอยกมือลูบหน้าอกตัวเอง ดีนะ...ที่เธอไม่ต้องเผชิญความโหดร้ายอะไรแบบนั้น “สรุปก็คือว่า ถ้าฉันไม่ช่วยจัดแจงเรื่องคาสาปให้เธอฉันก็จะซวยซะ เองนั่นแหละ” ซีที่เป็นอิสระในที่สุดลุกขึ้นยืนยืดอก...เท่าที่เด็กหกขวบจะมี ได้ “ดังนั้น...หล่อนจงจัดแจงไปสารภาพรักกับเจ้าชายแล้วก็ครองรักกัน อย่างสุขสมหวังโดยไม่มีอะไรมารบกวนไป๊ ฉันจะได้หมดปมปัญหาไปหนึ่ง อย่างในชีวิต” เจ้าหญิ งเงือกน้อยกะพริ บนัยน์ตากลมโต สีอนั ราวกับหลอมรวม ห้วงทะเลแห่งความลึกล้า รวมกับมุกมณีสมุทรของราชันแห่งท้องทะเลมา ประดับอยู่บนวงหน้าอันงดงามของเธอ ขณะริ มฝี ปากบางระเรื ่อ.... "ปลั๊กของแกอยู่ตรงไหนเนี่ย" แม่มดหันไปหรี่ตามองเขม็งอย่างมุ่ง ร้าย "ฉันต้องหาให้เจอแล้วถอดปลั๊กแกให้ได้"
23
ก่อนแม่มดจะได้ประทุษร้ายกระจก....ไอเทมเวทมนตร์เพียงอย่าง เดียวที่ยังหลงเหลือไว้ประดิษฐานให้คนมองและผู้อ่านทาใจเชื่อลงว่าหล่อน คือแม่มด เจ้าหญิงเงือกก็เอ่ยขึ้นด้วยเสียงของสามัญชนบ้านๆเสียก่อนว่า “แต่...ฉันยังไม่เจอเจ้าชายนะคะ แล้วก็ยังไม่อยากมีความรัก ในตอนนี้ด้วย ฉันอยากทุ่มเทให้กับอะไรที่ฉันรักมากกว่านี่คะ” แม่มดแทบจะหงายหลังในทันใด อ๊า !!!! ...เธอขอสดุดีให้แก่ศตวรรษใหม่ ยุคที่ผู้หญิงออกไปทางาน ด้านนอก การครองคู่ลดลงหลายสิบเปอร์เซนต์แต่เผ่ามนุษย์ก็ไม่ต้องห่วงว่า จะสูญพันธุ์เพราะมันไม่เกี่ยวกัน แค่ความอ่อนหวานในชีวิตแต่งงานการครองคู่มันร่อยหรอลงไป เท่านั้นเอ๊งงง ! “ฉัน...ฉันรักการร้องเพลงมากกว่านี่คะ ถ้า ถ้า...ถ้าต้องมีแฟน ฉัน ก็ต้องเอาเวลาไปเดท ไปทาของขวัญให้เขา คอยจาวันสาคัญของเขา คอยดู ว่าเขากินข้าวหรือยัง เข้าบ้านหรือยัง อาบน้าหรือยัง นอนหรือยัง" "นั่นมันสโตรกเกอร์ไม่ใช่เหรอ" สาวน้อยผู้มีผิวพรรณผุดผาดงดงาม เหมือนหิมะ ไต่ถามสาวน้อยอีกคนที่ไม่มีแม้แต่เสี้ยวของเศษขี้เถ้าติดตัวผู้ ยักไหล่แทนคาตอบ ขณะที่แม่มดค่อยๆหน้าซีดลง....และเจ้าหญิงเงือกยังพูดต่อ
24
"แล้วถ้ามีคนรัก ฉันก็จะซ้อมร้องเพลงทั้งวันไม่ได้ ในหัวฉันจะจา เขาได้มากกว่าโน๊ตเพลง แต่งเพลงใหม่ก็จะมีเขามาวนเวียนอยู่ในหัว.... ฉัน ยังไม่พร้อมและยังไม่อยากมีชีวิตอย่างนั้นค่ะ!” “หล่อนเป็นเจ้าหญิงในเทพนิยายนะยะ ความรักต้องมาก่อนสิ” แม่ มดคัดค้าน “พูดอย่างนั้นมันไม่ให้เกียรติผู้หญิงนะ” สโนว์ไวท์ติง “แถมใครกาหนดล่ะ ว่าเจ้าหญิงในเทพนิยายจะแต่งกับงานไม่ได้” แอนน์ยักไหล่ ซีแทบอยากทรุดตัวนั่งร้องไห้...ถ้าไม่เกรงว่าอิมเมจของแม่มดจะ พังทลายมากกว่านี้ (แม้มันจะไม่ค่อยเหลือแล้วก็ตาม) “ก็เพราะพวกหล่อนเป็นอย่างนี้น่ะสิ ฉันถึงต้องมาอยู่นี่และหาทาง ให้พวกหล่อนมีคู่ลงเอยให้ได้สักที อ๊ากกกก หล่อนจะมายึดคานกันไว้ทาไม เขาสงวนไว้สาหรับแม่มดนะ!” “เอ่อ...คือ....ถึงจะไม่ใช่เรื่องเจ้าชาย แต่ฉันคิดว่าท่านแม่มดก็ต้อง รับผิดชอบนะคะ เพราะ...คอของฉันมีปัญหากาลังจะร้องเพลงไม่ได้ค่ะ” เจ้าหญิงเงือกพยายามดึงเรื่องกลับเข้ามาสู่ประเด็นอีกครั้ง และนั่นทาให้แม่มดขมวดคิ้ว “เล่าให้ละเอียดสิ” ซีว่าพลางลากเก้าอี้ตัวเล็กที่แข็งโป๊กผิดกับ โซฟาของบรรดาเจ้าหญิงคนอื่นมานั่งฟัง
25
ก่อนที่แม่มดจะได้รู้ตัวว่านั่นเป็นคาที่ผิดมหันต์ เพราะเจ้าหญิงเงือกเริ่มเล่า....ได้ทันทีเหมือนกัน แถมยังย้อนกลับ ไปถึงเรื่องที่ว่าหล่อนร้องเพลงมาตั้งแต่กี่ขวบ ประกวดชนะกี่รางวัล กาลัง จะเป็นดาวรุ่งพุ่งแรงแค่ไหน จนเริ่มมีปัญหาเมื่อหลายเดือนก่อน ทาให้ หล่อนพยายามควานหาทุกทาง... “จนกระทั่ง...ฉันเจอเพจนิทานที่คุณสโนว์ไวท์เล่าถึงท่านแม่มด เอาไว้ ฉันถึงคิดว่าต้องใช่แน่ๆค่ะ” หล่อนตบท้ายแต่ไม่ท้ายสุดเมื่อมือน้อยที่ ใส่สร้อยไข่มุกยื่นเอกสารตั้งใหญ่ให้ ฟิลม์เอ็กซเรย์ เอกสารใบรับรองแพทย์ ความเห็นของแพทย์จาก โรงพยาบาลอีกเกือบห้าแห่งแถมมีแต่คาศัพท์เฉพาะทางที่เธออ่านไม่ออก หนังสือคู่มือกายวิภาคส่วนลาคอและอื่นๆ.... ซีหน้ามืด...ตั้งแต่ที่ยัยเจ้าหญิงตรงหน้าเล่าว่าหล่อนไปประกวดที่ ไหน หล่อนผิดใช่ไหม เป็นหล่อนผิดงั้นเหรอ ที่บอกให้แม่นี่เล่าอย่างละเอียด ... หล่อนผิดสินะ.... “กระจก” แม่มดเรียกบริวาร....เป็นทางออกสุดท้าย “สรุปเรื่องที” ....เจ้าหญิ งเงือกน้อยผูง้ ดงามและอ่อนหวานกาลังเศร้าสร้อย เสียง ของนางจะส่งไปไม่ถึงเจ้าชายอีกแล้ว อา...ความจริ งนับแต่เมือ่ หลายเดือน ก่อน ทีห่ ล่อนพร่ าพยายามส่งบทเพลงบรรเลงจากหัวใจไปในการซ้อม
26
ติ ดๆกันสามวันรวดไม่ค่อยพักผ่อน เสียงของหล่อนก็เริ่ มหายไปในยามขับ ขานบทเพลง.....ทัง้ วิ ทยาการนานาแพทย์ใดก็ไม่อาจช่วยเหลือ ....เจ้าหญิ งเงือกน้อยจะทาอย่างไร ถ้าหากเสียงหายไป เธอก็ไม่ อาจจะพบเจ้าชาย ... “ซ้อมสามวัน หล่อนบ้าเรอะเปล่า!” ซีรีบขัดก่อนมันพล่ามต่อ “มันเป็นตารางซ้อมปกติช่วงแข่งนะคะ” เจ้าหญิงเงือกรีบบอกแล้ว หันไปนิ่วหน้าใส่กระจก “อีกอย่าง ฉันไม่ได้ซ้อมเพื่อเจ้าชายนะคะ ฉันซ้อม เพราะจะมีการแข่งต่างหากค่ะ” สโนว์ไวท์ยกน้าแอปเปิ้ลปั่นที่เดินไปหยิบมาอีกรอบหลังหมดไป หนึ่งแก้วขึ้นจิบ ก่อนออกความเห็นบ้าง “อีกอย่างหนึ่ง ถ้ามันเป็นปัญหาเพราะการซ้อม เวลาผ่านไปมันก็ น่าจะหายได้แล้ว แต่นี่หล่อนหาหมอสารพัดหมอ รักษาสารพัดทาง ไม่ว่า ทางไหนมันก็ไม่หาย บวกกับที่ว่าหล่อนเป็นเจ้าหญิงเงือก ก็คิดได้อย่าง เดียวเท่านั้นแหละ ว่ามันเป็นคาสาป” นั่นมันก็ใช่....เพราะจากคาแปลภาษาแพทย์มาเป็นภาษาปุถุชน ลาคอของหล่อนไม่มีอะไรผิดปกติ เส้นเสียง แม้กระทั่งระบบหายใจก็ไม่มี อะไรผิดแปลกไป มันเหมือนกับว่า....อยู่ๆหล่อนก็มีปัญหาทางจิตใจ ไม่ สามารถเปล่งเสียงร้องดังที่เคยเป็นมาได้เท่านั้น เหมือนจะรู้ความคิดของแม่มด เพราะเจ้าหญิงเงือกน้อยรีบเอ่ย
27
“ฉันไม่ได้เกร็งเรื่องการแข่งด้วยนะคะ ฉันคิดง่ายๆว่าแค่พยายาม ค่ะ ดังนั้นที่เสียงมีปัญหาไม่ใช่เรื่องเกี่ยวกับความเครียดแน่ๆค่ะ แล้วก็......” เสียงเพลงขัดเสียงพูดของเจ้าหญิงเงือกน้อย จากเครื่องสื่อสาร เครื่องเล็กที่หล่อนพกมา ให้ต้องรีบก้มหน้าไปดูก่อนเม้มปากนิดๆ “ฉัน...กาลังจะต้องไปโรงพยาบาล ทั้งๆที่ไม่มีผลคืบหน้า แต่ทุกคน ก็ยืนยันให้ฉันไปค่ะ...” ดวงตาสีน้าทะเลเริ่มมีหยาดน้าคลอคลอง “พวกเขา คิดว่าฉันอาจเครียดโดยไม่รู้ตัว แต่มันไม่ใช่แน่ๆค่ะ ท่านแม่มด การร้อง เพลงเป็นชีวิตของฉัน สาหรับฉันแล้วมันก็เหมือนกับการที่หายใจในน้าได้... ความรู้สึกแบบนั้น....” ในที่สุด หยาดน้าใสแวววาวราวอัญมณีแห่งท้องทะเลก็หลั่งรินจาก ดวงตาคู่สวยของเจ้าหญิงเงือก แอนน์ลุกขึ้นเดินไปตบบ่าอีกฝ่ายอย่างปลอบโยน ขณะที่เจ้าหญิง เงือกเพียงแต่สูดจมูกอีกเฮือกก่อนหยิบของอีกอย่างออกมาวาง มันคือกล่องบรรจุชิปข้อมูล....หลังจากที่มวลมนุษย์ค้นพบว่า แม้ จะย่อขนาดที่บรรจุข้อมูลให้เล็กเท่าผมสักเส้นแล้วจุข้อมูลได้มากกว่าเป็น ล้านเท่าเท่าไรก็ไม่มีความหมาย ถ้าผู้คนคอยแต่จะทามันหายเพราะเล็ก เกินไป จึงมีมติผลิตชิปแบบใส่กล่องดีไซน์ต่างๆเหมือนThumb Drive ใน หลายศตวรรษก่อนอีกครั้ง “นี่เป็น...เพลงของฉันค่ะ....”
28
นั่นคือสิ่งสุดท้ายจริงๆที่เจ้าหญิงเงือกมอบให้ ก่อนที่เจ้าหล่อนจะ ขอตัวกลับไป
(ติดตามต่ อได้ ในฉบับเต็ม)
29