6 minute read
CATC Focus
นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล
Advertisement
Mr.Weerasak Wangsuphakijkosol,
นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม
นำาคณะตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายในการดำาเนินงานแก่ สบพ. โดยมี
พลอากาศเอกเผด็จ วงษ์ปิ่นแก้ว ประธานกรรมการ สบพ. นางสาวภัคณัฏฐ์
มากช่วย รองผู้ว่าการฝ่ายบริหาร รักษาการแทนผู้ว่าการ สบพ. และ คณะผู้บริหาร ร่วมให้การต้อนรับ พร้อมร่วมสักการะพระพุทธะจัตตาฬีสะมงคล พระพุทธรูปประจำา สบพ. หลังจากนั้นได้เข้ารับฟังบรรยายสรุปภารกิจ ผลการดำาเนินงานโครงการสำาคัญทั้งในปัจจุบันและอนาคต ยุทธศาสตร์ การดำาเนินงาน ปัญหาและอุปสรรคของ สบพ. พร้อมเยี่ยมชมห้องปฏิบัติการ การเรียนการสอนประจำากองวิชาต่างๆ เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2564 ณ อาคารศูนย์พัฒนาบุคลากรด้านการบิน สบพ. กรุงเทพฯ Mr.Weerasak Suphakijkosol, Deputy Minister of Transport, led the visiting delegates to visit the CATC and transferred policies on the work implementation to the CATC. On the occasion, Air Chief Marshal Padet Wongpinkaew, Chairman Board of Director of the CATC, Miss Pukkanut Makchouy, Vice President of Administrative Affairs, Acting President of CATC, and executives welcomed Deputy Minister of Transport and the delegates. They paid homage to Phra Buddha Jataleesamongkol, a Buddhist Statue of the CATC, and then attended the event to listen to the CATC’s briefings on its missions, performances of current and future important projects, operational strategies, and problems and obstacles regarding to the CATC’s
โดย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า ในฐานะที่ สบพ. เป็น สถาบันเฉพาะทางด้านการบินแห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศไทยที่ได้รับ การรับรองจากองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (International Civil Aviation Organization: ICAO) นั้น สบพ. ควรเพิ่มขีดความสามารถ ในการผลิตและพัฒนาบุคลากรด้านการบิน เน้นการสร้างเครือข่ายทางวิชาการ โดยอาศัยความร่วมมือแลกเปลี่ยนทักษะความรู้ งานวิจัย ตลอดจนนวัตกรรม ด้านเทคโนโลยี จากหน่วยงานในอุตสาหกรรมการบินที่เกี่ยวข้อง เพื่อเป็นการ สร้างความน่าเชื่อถือด้านการบินให้กับประเทศไทย อันจะส่งผลต่อเศรษฐกิจ ในภาพรวม ตามนโยบายของรัฐบาล ที่ต้องการให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลาง การบินระดับภูมิภาคในอนาคต ทั้งนี้ได้มอบนโยบายในการดำาเนินงานแก่ สบพ. ตามแนวทางทั้ง 6 ด้าน ประกอบไปด้วย 1. ให้ สบพ. กำาหนดทิศทางการบริหารองค์กร เพื่อเป็นสถาบันหลัก ของทางภาครัฐในการผลิตบุคลากรด้านการบินต้นแบบ โดยยึดหลักการสำาคัญ คือ คุณภาพและมาตรฐานของบุคลากรด้านบินเน้นผลิตบุคลากรให้มีองค์ความรู้ ทักษะ และมีจำานวนเพียงพอสอดคล้องกับความต้องการของตลาดอุตสาหกรรม ด้านการบิน ภายหลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา (COVID -19) คลี่คลาย เพื่อป้องกันปัญหาการขาดแคลนบุคลากรในอนาคต พร้อมทั้งเดินหน้าสร้างพันธมิตรทางธุรกิจกับหน่วยงานต่างๆ ในอุตสาหกรรม การบิน และสถานศึกษาทั้งภายในและต่างประเทศ 2. พัฒนาศูนย์ฝึกการบินหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ในด้านอาคาร สถานที่ หลักสูตรการเรียนการสอน ตลอดจนบุคลากร ให้มีความพร้อมรองรับ การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของประเทศอย่างทันท่วงที ภายหลังการคลี่คลายของ สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา(COVID-19) และศึกษาทบทวน โครงการจัดตั้งศูนย์ฝึกอบรมบุคลาการด้านการบินและอวกาศอู่ตะเภาให้เกิด ประโยชน์ มีความคุ้มค่ากับเงินลงทุน โปร่งใส ตรวจสอบได้ 3. ให้ สบพ. มีการวิเคราะห์ประเด็นปัญหาและอุปสรรคที่สำาคัญในแต่ละ โครงการที่ไม่สามารถดำาเนินการได้ตามเป้าหมาย พร้อมทั้งให้จัดทำาแผน เพิ่มศักยภาพการดำาเนินงานในทุกโครงการด้วย operations. In addition, they visited workshops and classrooms in different Divisions, on 16 June 2021, at the Building of Aviation Personnel Development Center, CATC, Bangkok. Deputy Minister of Transport said that the CATC which was the first and only specific institute of aviation in Thailand, certified by the International Civil Aviation Organization (ICAO), ought to enhance its competency level in producing, developing aviation personnel and focusing on building up academic networks through cooperation in order to exchange skills, knowledge, research, innovations and technologies from relevant agencies in aviation industry. This was to build up trust in the aviation of Thailand. As a result, the trust in aviation would create positive impacts on economy in an overview, complying with the government’s policies that required Thailand to become a regional aviation hub in the future. In addition, Deputy Minister of Transport transferred policies on the work implementation to the CATC, according to 6 aspects as follows. 1. The CATC was assigned to determine the management directions for its organization in order to become the main center, in the government sector, which produced model aviation personnel. The CATC believed in the key principles involving quality and standard of aviation personnel. It focused on producing aviation personnel in terms of building up knowledge and skills, and producing sufficient number of aviation personnel in order to meet the needs in the aviation industrial market. In the aftermath of the COVID-19 spreading situation, the CATC would prevent the personnel lacking problem in the future. In addition, the CATC was ready to move forward, and build up cooperation and business alliances with various agencies in the aviation industry and educational institutes within the country and overseas. 2. The Flight Training Center in Hua Hin District, Prachuap Khirikhan Province, was developed in terms of sites and buildings, courses, instructions, and personnel, in order to be ready to support the country’s economic recovery immediately after the aftermath of the COVID-19 spreading situation. Moreover, the Aeronautical and Space Training Center (ASTC) U-Tapao Establishment Project was studied and reviewed for the utmost benefit, and to see whether the investment is worth or not. The aforementioned Project had to comply with transparency and accountability. 3. The CATC had to analyze key problems and obstacles in each project which could not be implemented to achieve the set up goals. In addition, the CATC had to prepare plans on the competency enhancement for every project. 4. The CATC had to accelerate and enhance its competency level under the competitive market of aviation industry by considering the development of innovations, the application and adoption of informationtechnology(IT)forsupportinglearningactivities,instructions, and training, and the application of use in the organizational management for tangible efficiency, and effectiveness at a fast pace.
4. ให้ สบพ. เร่งรัดเพิ่มขีดความสามารถภายใต้การแข่งขันในตลาด อุตสาหกรรมการบิน โดยคำานึงถึงการพัฒนารูปแบบนวัตกรรม การนำา เทคโนโลยีสารสนเทศที่ทันสมัยมาปรับใช้ เพื่อสนับสุนการเรียนการสอนและ การฝึกอบรม ตลอดจนการนำามาปรับใช้ในการบริหารจัดการองค์กรให้เกิด ประสิทธิภาพและประสิทธิผลอย่างเป็นรูปธรรมโดยเร็ว 5. ให้ สบพ. เร่งรัดการจัดเปิดหลักสูตรเกี่ยวกับผู้ใช้งานอากาศยานไร้คนขับ (โดรน) เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรองรับการเปลี่ยนแปลงในอนาคต 6. ให้ สบพ. เร่งรัดกำาหนดอัตราค่าธรรมเนียมการศึกษาให้มีความ เหมาะสม สะท้อนต้นทุนที่แท้จริง และสอดคล้องกับสถานการณ์ และสภาพ เศรษฐกิจปัจจุบัน เพื่อช่วยบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายด้านการศึดษาและเพิ่ม ขีดความสามารถในการแข่งขันกับโรงเรียนการบินแห่งอื่นๆ ได้ ทั้งนี้ นางสาวภัคณัฏฐ์ มากช่วย รองผู้ว่าการฝ่ายบริหาร รักษาการแทน ผู้ว่าการ สบพ. ได้กล่าวว่า สบพ. ได้เตรียมมาตรการเตรียมพร้อมรับมือกับ สถานการณ์ COVID-19 เพื่อตอบสนองนโยบายของรัฐบาล สำาหรับผู้ที่ได้รับ ผลกระทบจากวิกฤตินี้ โดย สบพ. จัดมาตรการความปลอดภัยและการเยียวยา ในสถานการณ์นี้ ดังนี้ 1. มาตรการด้านการเรียนการสอนของ สบพ. มีการพิจารณาปรับลด ค่าธรรมเนียมในรายการค่าบำารุงการศึกษาตามมาตรการลดภาระค่าใช้จ่าย ด้านการศึกษาของนักศึกษาในสถาบันอุดมศึกษาภาครัฐและเอกชนตามมติ คณะรัฐมนตรี สถาบันอุดมศึกษาของรัฐจะได้รับส่วนลดเป็นลักษณะร่วมจ่าย ระหว่างรัฐ โดยค่าเล่าเรียน/ค่าธรรมเนียมการศึกษา ส่วนที่ไม่เกิน50,000 บาท ลดร้อยละ 50 และ 50,001-100,000 บาท ลดร้อยละ 30 และ เกิน 100,000 บาท ลดร้อยละ 10 โดยส่วนลดสูงสุดรวมกันไม่เกินร้อยละ 50 (สรุปคือลดค่าเทอมค่าธรรมเนียมการศึกษา) เพื่อให้ความช่วยเหลือกลุ่ม นักศึกษาและผู้ปกครองที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าว 2. มาตรการเฝ้าระวังการระบาดภายในพื้นที่สถาบันการบินพลเรือน มีการจัดหาเครื่องเทอร์มัลสแกนสำาหรับนักศึกษา พนักงาน และผู้มาติดต่อ ราชการ จุดบริการเจลล้างมือบริการ การทำาความสะอาดและพ่นยาฆ่าเชื้อ อย่างต่อเนื่อง เน้นการเว้นระยะห่างทางสังคม Social Distancing ตลอดจน รณรงค์เรื่องการสวมหน้ากากอนามัยขณะอยู่ในพื้นที่โดยตลอดเวลา โดย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ยังได้กล่าวทิ้งท้ายถึงเยาวชน ที่สนใจทำางานในด้านอุตสาหกรรมการบิน ให้มีความมั่นใจว่าการที่จะเข้ามา ศึกษาต่อในหลักสูตรต่างๆ ของ สบพ. จะเป็นที่ต้องการของตลาดใน อุตสาหกรรมการบินอย่างแน่นอน เพราะเมื่อสถานการณ์COVID-19 คลี่คลาย การฟื้นตัวของอุตสาหกรรมการบินที่จะค่อยๆ กลับสู่ปกติ ไปจนถึงความ ต้องการบุคลากรด้านการบินเป็นจำานวนมากในอนาคตนั้น สบพ. ได้เตรียม ความพร้อมรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าว เพื่อรองรับการขับเคลื่อน อุตสาหกรรมการบินในอนาคตเมื่อวิกฤตผ่านพ้นไป 5. The CATC had to accelerate the opening of the courses in Unmanned Aerial Vehicle: UAV (drones), in order to be prepared and ready for the future changes. 6. The CATC had to quickly set up the appropriate rate of educational fee, reflecting the real capital and complying with the current situation and economy. This was to relieve the burdens of educational expenses and enhance the competency level of competitiveness to compete with other aviation schools and institutes. Moreover, Miss Pukkanut Makchouy, Vice President of Administrative Affairs, Acting President of CATC, said that the CATC prepared measures to cope with the COVID-19 situation in order to respond with the government’s policies on relieving the sufferings of people who were affected by the COVID-19 crisis. The CATC initiated measures on safety and relief for the COVID-19 situation, as follows. 1. Measures on the CATC’s instructions: The CATC considered thediscountoftheeducationalsupportingfeeaccordingtothemeasures on the relieving of burdens in the educational expenses of students studying in the government and private educational institutes at a higher educational level. According to the Cabinet’s Resolution, the higher educational institutes in the government sector would get a discount (co-payment with the government). The educational fee which did not exceed 50,000 Baht would get a discount at 50%. The educational fee between 50,001 Baht and 100,000 Baht would get a discount at 30%. The educational fee of more than 100,000 Baht would get the highest discount at no more than 50% (as a summary, the educational fee was discounted in a semester). The discount was made to give financial assistance to students and their parents that were affected by the COVID-19 situation. 2. Vigilant measures against the spreading of COVID-19 in the area of CATC: The CATC provided thermal scanners for taking temperatures of students, employees and people who came to contact the CATC. It also provided hand gels at the servicing points, cleaned its areas and sprayed disinfectants regularly. In addition, the CATC focused on social distancing activity and promoted the hygienic mask wearing in its area at all times. Deputy Minister of Transport also said to the youths, who were interested in working in the aviation industry, that studying the CATC’s courses and study programmes would definitely meet the demands of the aviation industry’s market. After the improving of the COVID-19 situation, the aviation industry would gradually recover and get back to normal. In the future, there would be plenty of demands in aviation personnel. The CATC was ready to handle with the situation in the aftermath of the COVID-19 in order to support the driving of aviation industry in the future.