สารบัญ สถานีแก้ง่วง
1
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว
5
เหมืองแม่เมาะตอนนี้เธอไปอยู่ไหน
9
บอกบุญ
15
วัดเฉลิมพระเกียรติ
18
กาดกองต้า
21
น้องเคยเห็นช้างหรือเปล่า?
27
ยามลมโชยโบกโบยความหิวมา
37
THREE PARK
สถานีแก้ง่วง
1
“ทริปวันแรกที่แวะพักคือคาเฟ่
ชื่ อสุดเท่ว่า ทรีปาร์ค ดูหรู หรา ที่ร้านนี้กาแฟดีแถมมีชา ตระการตาร้านสวยด้วยพันธุ ์ไม้”
“หมู่บ้านดอยช้าง” ตัง้ อยูใ่ นจังหวัดเชียงรายและเป็นส่วนหนึง่ ของพืน้ ทีส่ งู ในภาคเหนื อ เฉกเช่ น หลายๆหมู ่ บ ้ า นซึ่ ง ได้ รั บ พระ มหากรุณาธิคุณจากในหลวงรัชกาลที่ 9 ได้ทรงมีพระราชด�ำริ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2512 ให้เป็นพื้นที่ซึ่งต้องพัฒนาเพื่อความเป็น อยู่ที่ดีขึ้นของประชากร รวมทั้งเพื่อลดการปลูกพืชเสพติดให้ โทษ ดังนั้นในปี พ.ศ. 2512 จึงได้มีการส่งเสริมให้เกษตรกร ชาวเขาปลูกพืชเมืองหนาว เพื่อทดแทนการปลูกฝิ่น รวมทั้งมี การทดลองเริ่มปลูกกาแฟอราบิก้า ตั้งแต่บัดนั้นและได้มีการ ส่งเสริม จากหน่วยงานภาครัฐมาเป็นระยะๆ จนถึง พ.ศ. 2526 ก็ได้มีการช่วยเหลือจากโครงการร่วมมือต่างๆ อาทิ ไทยเยอรมัน , ไทย-เนเธอร์แลนด์ ผ่านกรมประชาสงเคราะห์แต่ เนื่องจากในอดีตกาแฟไทยยังไม่ได้รับการพัฒนาและไม่เป็นที่ ยอมรั บ ในตลาดเท่ า ที่ ค วรการจ� ำ หน่ า ยจึ ง ต้ อ งผ่ า นพ่ อ ค้ า คนกลางเป็นส่วนใหญ่ท�ำให้บางครั้งเกษตรกรถูกเอารัดเอา เปรียบบนพื้นที่ดอยช้างซึ่งมีเกษตรกร 40 ครอบครัวได้รับ พระราชทานพั น ธุ ์ ก าแฟจากพระองค์ ท ่ า นผ่ า นกรม ประชาสงเคราะห์และได้ปลูกกาแฟมาต่อเนือ่ งหลายสิบปีแต่ก็
ร้านนี้ตั้งอยู่ในอ.เด่นชัยก่อนถึงทางแยก ไปล�ำปาง-กรุงเทพ หากมาทางกทม.จะอยู่ ทางขวามือ เปิดบริการทุกวันตั้งแต่ เวลา 08.30 - 17.00 น. เบอร์โทรศัพท์ร้าน 054-613-063
ไม่สามารถขายได้รวมทั้งถูกกดราคาเนื่องจากเกษตรกร ส่วนใหญ่เป็นชาวไทยภูเขาและไม่มีสัญชาติไทย
2
กาแฟดอยช้างจากต้นน�้ำสู่
ถ้วยกาแฟด้วยคุณภาพ
ในแต่ละกระบวนการผลิตและแปรรูปกาแฟดอยช้าง เริ่มต้นตั้งแต่การปลูก การเก็บผล กาแฟสดจากต้นด้วยมือ กระบวนการแปรรูปแบบเปียกถูกคัดสรรจนได้ขั้นตอนที่เหมาะสม ที่สุดในการสร้างสรรค์รสชาติจนท�ำให้กาแฟของดอยช้างเป็นกาแฟอราบิก้าชนิดพิเศษ (Specialty coffee) ที่ปลูกเฉพาะบริเวณดอยช้างเท่านัน้ โดยได้ตรารับรองมาตรฐานระดับ สากลมากมาย ด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตรงกลิ่นที่หอมเป็นพิเศษ เจือรสเปรี้ยว (กรดจากผลไม้) ที่ ดื่มแล้วท�ำให้รู้สึกชุ่มคอ มีสารคาเฟอีนต�่ำ มีรสชาติที่กลมกล่อมสูง เป็นความลงตัวระหว่าง พื้นที่เพาะปลูกกับลักษณะภูมิประเทศที่เป็นที่สูงและมีอากาศหนาวเย็นตลอดปี ประกอบ กับการดูแลเอาใจใส่ในทุกขั้นตอน ท�ำให้ได้กาแฟอราบิก้าที่มีคุณภาพสูง ดังค�ำกล่าวที่ว่า
“กาแฟดอยช้าง เอกลักษณ์กาแฟไทยสุดยอดกาแฟโลก”
รู้หรือไม่ !!
การล้างและคัดแยกผลที่มีเมล็ดสมบู รณ์ 01 ผลกาแฟสด ที่สุกเต็มที่จะถูกเก็บ เกี่ ย วด้ ว ยมื อ น� ำ มาเทลงบ่ อ น�้ ำ เพื่ อ ล้ า ง ท� ำ ความสะอาดและแยกเอาเฉพาะเมล็ด สมบูรณ์ที่จมน�้ำ ส่วนเมล็ดที่ลอยน�้ำจะถูก คัดแยกออกไป
02 การกะเทาะเปลือก ภายหลังได้ผล
กาแฟที่ ส มบู ร ณ์ แ ล้ ว จะต้ อ งน� ำ มาเข้ า สู ่ กระบวนการกะเทาะเปลือกด้วยเครื่องกระ เทาะเปลือกกาแฟสดทันทีภายใน24 ชั่วโมง ภายหลังการเก็บเกี่ยว
03 การหมัก กาแฟกะลาเปียกที่ได้
3
จากขั้นตอนกะเทาะเปลือกจะถูกน�ำมาหมัก แห้งเป็นระยะเวลา 24 ชั่วโมงและน�ำไป หมักเปียกต่ออีก 24 ชั่วโมง กระบวนการ หมั ก จะช่ ว ยในการขจั ด เมื อ กเคลื อ บออก จากกาฟกะลา ในขั้นตอนสุดท้ายจะมีการ แช่พักเมล็ดที่ผ่านการหมักในน�้ำสะอาดอีก 20-24 ชั่ ว โมงเพื่ อ ท� ำ ให้ ก าแฟมี ก ลิ่ น รส สะอาดยิ่งขึ้น
คุยกับคุณหนองหรือบุ ญสนอง กลิ่นขจรศักดิ์ (ทางซ้าย) ภรรยาเจ้าของร้าน Tree Park
04 การตากกาแฟกะลา น� ำ กาแฟ 07การคัดเกรดกาแฟ กาแฟดอยช้าง กะลาที่ผ่านการแช่พักเมล็ดมาเทลงบนลาน ตากที่สะอาดและตากให้แห้งโดยด้วยแสง อาทิตย์เป็นระยะเวลาประมาณ 7-8 วัน ท�ำการพลิกกลับกาแฟกะลาเป็นครั้งคราว เพื่อให้กาแฟกะลาระเหยน�้ำอย่างสม�่ำเสมอ
มีการแยกเกรดของกาแฟออกเป็น4 เกรด ตามขนาดและเมล็ ด กาแฟสารจะต้ อ งมี ความชื้นอยู่ที่ 11.5-12% 08 การคั่วกาแฟ กาแฟที่ถูกคัดเกรด จะถู ก น� ำ มาคั่ ว ด้ ว ยเครื่ อ งคั่ ว คุ ณ ภาพสู ง อัตโนมัติ จากนั้นกาแฟคั่วที่ได้จะถูกบรรจุ 05 การเก็ บ รั ก ษา เมื่ อ ได้ กาแฟที่ มี ลงถุงฟอยล์ 4 ชั้น ที่มีวาลว์ระบายอากาศ ความชื้นในระดับที่ต้องการ กาแฟกะลาจะ ทางเดียว ถูกบรรจุลงในกระสอบที่สะอาดแล้วน�ำไป เก็บรักษาในคลังเก็บที่มีการควบคุมระดับ อุ ณ หภู มิ ที่ เ หมาะสม และควบคุ ม อากาศ ถ่ายเทสะดวกตลอดเวลา
06 การผลิตกาแฟ กระบวน
การผลิตกาแฟจะเริ่มด้วยการสีเอาส่วนของ กะลาแห้งที่หุ้มเมล็ดออกด้วยเครื่องสีกะลา จากนั้นก็จะถูกส่งต่อไปเพื่อคัดแยกขนาด เมล็ดด้วยเครื่องคัดแยกคุณภาพสูง และมี การคัดซ�้ำตรวจสอบด้วยแรงงานคน
THREE PARK REVIEW “ชาเขียวมะนาว”
มีความหอมของกลิ่นชาเขียว และมี รสชาติที่เปรี้ยวก�ำลังพอดี ดื่มแล้วรู้สึก ชุ่มคอ ให้ความรู้สึกสดชื่น
“ชามะนาว”
จะมีกลิ่นชาไทยเฉพาะตัว และหอมกลิ่น น�้ำผึ้ง รสชาติเปรี้ยวหวานก�ำลังพอดี
“เค้กมะพร้าวอ่อน”
ตัวเนื้อเค้กนุ่มนวลลิ้น หอมกลิ่น มะพร้าว ตัวมะพร้าวอ่อนที่บนหน้าเค้ก ให้รสชาติสัมผัสที่ก�ำลังหวานพอดี และ เนือ้ มะพร้าวทีก่ ำ� ลังนิม่ พอดีไม่แข็งและไม่ เละจนเกิ น ไป กิ น แล้ ว รู ้ สึ ก เหมื อ น มะพร้าวฟูในปาก
“ชีสเค้กบราวนี”่
ตั ว เนื้ อ เค้ ก รสชาติ จ ะออก เปรี้ยวๆของชีส และหอมกลิ่นชีสเบาๆ ส่วนตัวบราวนี่ก็มีรสชาติหวานมันก�ำลัง พอดี เข้มข้นถึงใจ หอมกลิ่นโกโก้ ถ้าตัก กิ น พร้ อ มกั น รสชาติ จ ะออกมาดี สุ ด ๆ เปรี้ยวหวานที่ลงตัว
“นิวยอร์คชีสเค้ก”
เค้กที่ส่วนผสมของครีมชีสเข้ม ข้นและซาวน์ครีมอบด้วยน�้ำร้อน ท�ำให้ ตัวเค้กมีเนื้อที่แน่นและฉ�่ำ รสชาติเปรี้ยว มาจากตัวซาวน์ครีม และที่รสชาติเค็ม นิดๆของตัวชีสขูดฝอยที่โรยบนหน้าเค้ก ตั ด กั บ รสเปรี้ ย วของตั ว เนื้ อ เค้ ก ซึ้ ง ให้ รสชาติที่ลงตัว
4
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว
ลลลล ล�ำล�ำลับแล
“ ณ ที่นี้ท่รี ้าน ล�ำล�ำลับแล
5
ชื่ อสุดแปลก ลอ สี่ตัวดูแปลกตา ขายก๋วยเตี๋ยวรสชาติดีอยากให้มา เชื่ อเถอะนะ มาลองชิ มจะติดใจ
”
history of Lum Lum Laplae “เมืองลับแล”
เป็นเมืองที่ อยู่ท่ามกลางหุบเขา หมู่บ้านลึกลับใน ต� ำ นานเมื่ อ หลายคนหลงเขามาแล้ ว มิ อาจหาทางกลับออกไปได้ในต�ำนานเล่า ว่ า มี ช ายหนุ ่ ม หลงเข้ า ไปในเมื อ งลั บ แล แล้วเกิดหลงรักกับสาวลับแล จนท�ำให้ ก�ำเนิดบุตรอยู่กินในเมืองลับแลสืบต่อมา ทั้งสองให้ก�ำเนิดบุตร แต่แล้ววันหนึ่งชาย หนุ่มได้พูดโกหก โดยกล่าวกับลูกว่าแม่ มาแล้วเพื่อให้ลูกหยุดร้องไห้ ชาวเมือง ลับแลได้ยินเข้าเลยขับชายหนุ่มนั้นออก จากเมืองเพราะขัดกับโบราณประเพณี เพราะในเมืองนี้จะไม่มีการกล่าวค�ำโกหก แม้แต่ค�ำเดียว จากต�ำนานเรื่องนี้เมือง ลับแลจึงถูกกล่าวขนานว่า “เมืองห้าม
เมืองลับแล “เขตห้ามพูดโกหก” เมืองที่ ล้อมรอบไปด้วยขุนเขา เป็นแหล่งผลิต ผลไม้ ที่ มี ชื่ อ เสี ย งคื อ ทุ เ รี ย นหลงลั บ แล เนื่องด้วยแหล่งปลูกหอมแดงลับแลอยู่ที่ ลุ่มติดกับภูเขาผลไม้ที่มีชื่อเสียง แหล่งแร่ ธาตุต่างๆเลยไหลสู่นาหอมแดงเป็นที่ก่อ เกิดหอมแดงที่ดีที่สุดในโลก อุดมด้วยแร่ ธาตุนานาชนิด
พูดโกหก”
6
มรดกตกทอดจากชาวลับแลโบราณ
พริกเผาหอมแดงลับแล
มรดกตกทอดจากชาวลับแลโบราณ พริกเผาหอมแดงลับแลซึ่งเป็นวัฒนธรรมการ กินของชาวลับแลกว่า 200 ปี หอมแดงมี สรรพคุณมากมาย
1. ประโยชน์ของหอมแดงช่วยแก้หวัด
รักษาอาการคัดจมูก หายใจติดขัด ลดน�้ำมูก และลดไข้จากอาการหวัด เพียงใช้หอมแดง 2-3 หัว มาทุบพอแหลกแล้วใส่ลงในน�้ำร้อน ใช้สูดดมไอระเหยหรือน�ำหอมแดงที่ทุบพอ แหลกมาห่อผ้าบางๆแล้ววางไว้ใกล้หมอน เวลานอนจะได้กลิ่นหอมแดงก็ช่วยบรรเทา อาการหวัดได้เช่นกัน
2 หอมแดงช่วยเสริมสร้างความจ�ำเพราะ
ฟอสฟอรัสในหอมแดงที่มีปริมาณสูงจะท�ำให้ ความจ�ำดีขึ้นไม่เสื่อมไปตามวัย
6. หอมแดงใช้เป็นยารักษาบาดแผลได้โดย 12. ประโยชน์ของหอมแดงช่วยบรรเทา
อาการคันผดผื่นตามผิวหนังได้ ด้วยการน�ำ หอมแดง 4-5 หัว มาซอยให้ละเอียดผสมกับ เหล้า แล้วใช้พอกบริเวณที่คัน หรือต�ำ หอมแดงพอแหลกคั้นเอาแค่น�้ำ น�ำไปแช่เย็น 7. หอมแดงช่วยบ�ำรุงหัวใจถ้าไม่อยากเป็น สัก 30 นาที น�ำมาใช้ทาบริเวณที่คัน อาการ โรคหลอดเลือดหัวใจอุดตันก็ต้องพยายามกิน คันและเม็ดผดผื่นก็จะค่อยๆ ทุเลาลงจนหาย หอมแดงเป็นประจ�ำและหอมแดงก็ช่วยบ�ำรุง 13. หอมแดงช่วยแก้อาการของโรคหอบหืด หัวใจด้วย 8. หอมแดงมีสรรพคุณป้องกันแบคทีเรีย และอาการไอเรื้อรัง การฝานหอมแดงเป็นแว่นผสมกับน�้ำมัน มะพร้าวและเกลืออย่างละเล็กน้อย แล้วต้ม ในน�้ำเดือดจึงน�ำมาใช้พอกแผล
ในหอมแดงมีสารเคมีที่เป็นประโยชน์ต่อ ร่างกายท�ำให้ช่วยป้องกันการติดเชื้อยับยั้ง 3. สรรพคุณหอมแดงป้องกันมะเร็งได้ มี แบคทีเรียและการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ การวิจัยพบว่า สารเคอร์ซิตินและสารฟลาโว ได้ดี นอยด์ ในหอมแดงมีส่วนช่วยป้องกันโรค 9. หอมแดงมีฤทธิ์ร้อนปรับสมดุลใน มะเร็งได้ ร่างกายได้ เนื่องจากหอมแดงมีรสเผ็ด 4. หอมแดงช่วยแก้ท้องอืด หากน�ำหอมแดง ร้อนจึงมีคุณสมบัติช่วยเพิ่มอุณหภูมิใน 5-10 หัว มาต้มกับน�้ำดื่มจะช่วยบรรเทา ร่างกายท�ำให้ร่างกายอบอุ่น อาการท้องเดิน ท้องอืด แน่น จุกเสียด ช่วย ขับลม และช่วยให้ร่างกายที่ซูบผอมกลับมามี 10. หอมแดงช่วยให้การไหลเวียนของ เลือดดีขึ้น บ�ำรุงเลือดและแก้อาการเวียนหัว เนื้อมีหนังมากขึ้น หน้ามืด ตาลาย เหมือนจะเป็นลม 5. ประโยชน์ของหอมแดงช่วยเจริญอาหาร 11. หอมแดงช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล การกินหอมแดงเป็นประจ�ำจะท�ำให้รู้สึก รักษาระดับไขมันชนิดดี เจริญอาหารและยังช่วยในการย่อยอาหาร
7
14. หอมแดงมีสรรพคุณช่วยรักษาสิว ฝ้า
และลบรอยด่ า งด� ำ จากสิ ว ได้ ดี เ พี ย งน� ำ หอมแดง 4-5 หัว มาล้างน�้ำให้สะอาด ฝา นบางๆ น�ำไปแปะไว้บริเวณที่เป็นสิวหรือ รอยแผลเป็นจากสิว ทิ้งไว้ 10 นาที ท�ำทุกวัน จนครบ 1 สัปดาห์ สิวและรอยด่างด�ำก็จะ เริ่มจางและหายไป
15. หอมแดงแก้อาการแมลงสัตว์กัดต่อย
โดยน�ำหอมแดงมาทุบพอแหลกผสมกับยา หม่อง ใช้ทาบริเวณที่โดนกัดทิ้งไว้ 5 นาที ท�ำ ซ�้ำประมาณ 3-4 ครั้ง อาการก็จะค่อยๆ ดี ขึ้น
Review
LUM LUM LAPLAE
ก๋วยเตี๋ยวต้มย�ำรวมมิตรชีส
อร่อย ไม่ต้องปรุง มีกุ้ง ปลาหมึก หมู ให้เลือก
เกี๊ยวทอด
เกี๊ยวทอดสูตรของทางร้านด้านบนมีมายองเนสราด ด้านบนพร้อมด้วยมาร์ชแมลโลว์ ตัวเกี๊ยวกรอบ ไม่แข็งเกินไปไม่อมน�้ำมัน
ต้มย�ำรวมล�ำล�ำ
ก๋วยเตี๋ยวต้มย�ำที่นี่ปรุงรสชาติมาให้แล้ว รสจัดจ้านไม่ ต้องปรุงเพิ่ม พริกป่นคั่วที่นี่หอมมากๆ กุ้งหมึกเน้นๆ มาชิ้นใหญ่ๆ
ต้มซุปกระดูกหม
น�้ำซุปเคี่ยวจนหอมและมีรสหวาน กระดูกหมูเคี่ยวจน เปื่อยเนื้อไม่เหนียวยุ่ยเคี้ยวง่าย
8
เหมืองแม่เมาะ
ตอนนี้เธอไปอยู่ไหน
“แหล่งท่องเที่ยวไม่ควรพลาดคือที่น่ี สถานที่คอยผลิตให้ไฟฟ้า
อยากให้มาลองดูด้วยสองตา จะพบว่าที่แห่งนี้ช่างใหญ่โต นอกจากนี้ยังมีวิวให้ชวนชม แวะตากลมเล่นสไลด์สบายโข ที่แม่เมาะถ่ายรู ปสวยอย่าเลโล ได้มาโผล่เหมืองแม่เมาะพักหายใจ ” “เหมืองแม่เมาะ” เป็นแหล่งถ่านหิน ซึ่งค้น
พบเมื่อ พ.ศ. 2460 มีปริมาณมากถึง 630 ล้านตัน และถ่านหินมีอายุเก่าแก่ประมาณ 40 ล้านปี ที่ พื้นที่เหมืองทั้งหมดเป็นของกรมป่าไม้ มีประมาณ 20,000 ไร่ สามารถใช้ได้อีกประมาณ 50 ปี บริเวณเหมืองมีโรงไฟฟ้าที่ใช้ถ่านหินชนิดนี้เป็น เชื้อเพลิงอยู่หลายโรง ส�ำหรับสถานที่ท่องเที่ยว อยู่อย่างมากมาย
9
1. เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู ่หัว เพื่อตระหนักถึงความสําคัญของพลังงานจากถ่านหินและความ สําคัญของโรงไฟฟ้าแม่เมาะที่มีต่อความมั่นคง ด้านพลังงานของ ประเทศ เข้าใจถึงกระบวนการผลิตกระแสไฟฟ้า และมาตรการใน การลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และชุมชน อย่างใส่ใจเหมือง ถ่านหินลิกไนต์ อ.แม่เมาะ เป็นแหล่งทรัพยากรธรรมชาติถ่านหิน ขนาดใหญ่ ที่มีความสําคัญขับเคลื่อนพลังงาน โดยนํามาผลิตเป็นก ระแสไฟฟ้าแจกจ่ายให้สู่ประชาชน ทั้งยังให้ความสําคัญต่ อสิ่ง แวดล้อมและชุมชน
10
พิพิธภัณฑ์ถ่านลิกไนต์ zone1
นิ ท ร ร ศ ก า ร ชั่ ว ค ร า ว แ ล ะ นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติพระราชประวัติ และพระราชกรณียกิจที่ส�ำคัญในพระบาท สมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวด้านพลังงาน ผู้ทรงบุกเบิกกิจการพลังงานของไทย ซึ่งมี ความส�ำคัญต่อการพัฒนาประเทศและส่ง ผลต่อความมั่นคงของไทยการส�ำรวจและ ทรงให้สงวนถ่านหิน ไว้ส�ำหรับใช้ในราชการ ไทย เป็นการวางรากฐานด้านพลังงานไทย
zone2
จักรวาล โลก และถ่านหิน ก�ำเนิด จักรวาลจากเหตุการระเบิดครั้งใหญ่ สู่การ รวมตั ว กั น ของมวลสารและพลั ง งาน มหาศาล กลายเป็นดวงดาว กาแล็กซี และ “โลก” ของเรา ความเปลี่ ย นแปลงกว่ า หลายพันล้านปี จนเหมาะสมต่อการด�ำรง ชี วิ ต ข อ ง สิ่ ง มี ชี วิ ต ห ล า ก ห ล า ย ช นิ ด วิ วั ฒ น า ก า ร เ ห ล ่ า นี้ เ อ ง ที่ ท� ำ ใ ห ้ เ กิ ด ทรัพยากรธรรมชาติกลายเป็นแหล่งพลังงาน ทีส่ ำ� คัญของโลกในเวลาต่อมาคือ “ถ่านหิน”
zone3
จากผื น น�้ ำ และแผ่ น ดิ น แอ่ ง แม่เมาะ จ.ล�ำปาง เป็นแหล่งถ่านหินลิกไนต์ ที่ส�ำคัญของประเทศไทย ฟอสซิลสิ่งมีชีวิต ดึกด�ำบรรพ์หลากหลายชนิด เป็นหลักฐาน ส�ำคัญในการศึกษาความเปลี่ยนแปลงทาง ธรณีวิทยาของพื้นที่แห่งนี้ บ่งชี้ถึงความเก่า แก่ของพื้นที่จากแอ่งทะเลสาบน�้ำจืดขนาด ใหญ่สู่ยอดเขาสูงในปัจจุบัน
11
zone4
พลังงานขับเคลื่อนไทย โรงไฟฟ้าแม่เมาะก่อตั้งบนพื้นที่ซึ่ง มีแหล่งทรัพยากรถ่านหินที่อุดมสมบูรณ์ที่สุดในประเทศไทยต้นทุน ธรรมชาติ ที่ส�ำคัญต่อการผลิตกระแสไฟฟ้าแจกจ่ายสู่ประชาชนคน ไทย การพัฒนาเทคโนโลยีตงั้ แต่อดีตและต่อเนือ่ งตัง้ แต่กระบวนการ ผลิตถ่านหิน ไปจนถึงกระบวนการผลิตกระแสไฟฟ้า และมาตราการ ในการควบคุมและฟื้นฟูสิ่งแวดล้อม โรงไฟฟ้าแม่เมาะจึงเป็นฐาน การผลิตพลังงานไฟฟ้าที่ส�ำคัญ เสริมสร้างความมั่นคง
zone5
มุ่งสู่อนาคตพลังงานไฟฟ้าผลิตโดยเชื้อเพลิงหลากหลาย ชนิด ทั้งจากเชื้อเพลิง ฟอสซิล พลังงานนิวเคลียร์ และพลังงาน หมุนเวียน โดยใช้เทคโนโลยีในการผลิตกระแสไฟฟ้าที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับต้นทุนทางทรัพยากรในแต่ละพื้นที่ ซึ่งส่งผลต่อต้นทุนใน การผลิตกระแสไฟฟ้า จึงมีความจ�ำเป็นต้องบริหารจัดการพลังงาน เชื้อเพลิง เพื่อสร้างความยั่งยืนและเสถียรภาพ
zone6
จุดเปลี่ยนโลกและวิทยาศาสตร์พื้นฐานวิวัฒนาการและ การค้นพบไฟฟ้าที่มีมานานนับพันปี จากการค้นพบไฟฟ้าสถิตย์สู่ การพัฒนากระแสไฟฟ้า ที่สามารถน�ำมาใช้ประโยชน์ในชีวิตประจ�ำ วัน เพิ่มความสะดวกสบายในชีวิต และวิทยาศาสตร์พื้นฐานเพื่อ เรียนรู้เรื่องราวเกี่ยวกับไฟฟ้า
zone7
แม่เมาะและชุมชนที่อยู่ร่วมกันอย่างยั่งยืนการไฟฟ้าฝ่าย ผลิตแห่งประเทศไทย แม่เมาะ กับกิจกรรมต่างๆ ร่วมกันกับชุมชน เพื่อการพัฒนาชุมชนโดยรอบ อ.แม่เมาะ โดยค�ำนึงถึงศักยภาพทาง พื้นที่ อัตลักษณ์ทางประเพณีและวัฒนธรรม ควบคู่กับวิถีชีวิตของ คนโดยชุมชนในมิติทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม
12
2.สวนพฤกษชาติ
“
ดอกไม้งามตระการตาดูสดใส หอมชื่ นใจกลิ่นผกางามหนักหนา ธรรมชาติไม่เปลี่ยนผันตามเวลา อยากให้มาสัมผัสดูจะรู ้เลย
”
13
“
3.ทุ่งบัวตอง อยู ่ดินแดนแสนไกลในเมืองหมอก สีเหลืองของดอกบัวตองสวยสง่า น่าเสียดายดอกบัวตองเดือนตุลา พบกันใหม่เดือนหน้าตอนบานเอย
”
14
ห ล่ อ พ ร ะ
บอกบุ ญ ์ าณ วัดป่ าดอนแก้วโพธิญ
เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2560 ได้มีโอกาสไปร่วมงานเททองหล่อ พระประธาน พระมหาจักรพรรดิ ทองเหลือง ห้าตัก 60 นิ้ว ที่วัดป่าดวง แก้วโพธิญาณ ต.บ้านขอ อ.เมืองปาน จ.ล�ำปาง ซึ่งเป็นวัดที่ก�ำลังริเริ่ม ก่อสร้าง มีเพียงศาลาอเนก-ประสงค์ เพียง 1 หลัง และ กุฏิ 1 หลัง มีพระ อยู่ 1 รูป คือ พระครูบาแก้ว
๑. การเตรียมการ
15
-ราชวัติฉัตรธง -ต้นกล้วย ต้นอ้อย -ด้ายสายสิญจน์ ส�ำรับวงบริเวณพิธีและโยงไปที่พระ -พิธีมณฑลต่างหากจากบริเวณเผาหุ่นเททอง -โลหะต่างๆที่จะหล่อพระ -ไทยธรรม -เครื่องใช้ส�ำหรับพิธีสงฆ์ -ธูปเทียนตามจ�ำนวนที่ก�ำหนด
๒. การปฏิบัติ
(ก่อนถึงเวลาฤกษ์เททองประมาณ ๒ ชั่วโมง) เจ้าภาพ -จุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัยในปะร�ำพิธี พิธีกร -อาราธนาศีล เจ้าภาพ -จุดธูปเทียนบูชาเทวดานพเคราะห์ พิธีกร -กล่าวชุมนุมเทวดา (สัคเค กาเม ฯลฯ) -อาราธนาศีล พระสงฆ์ -เจริญพระพุทธมนต์ เจ้าภาพ -จุดเทียนชัยและเทียนมงคล พระสงฆ์ -เจริญพระพุทธมนต์สลับไปกับโหรบูชานพเคราะห์ เจ้าภาพ -จุดเทียน ๔๐ เล่ม ธูป ๔๐ ดอก ที่โต๊ะหน้าเตาหุ่น อธิษฐานให้พระที่จะหล่อนั้นสวยงาม และทรงมหิทธานุ ภาพ ขจัดทุกข์ภัย อ�ำนวยความสุขทุกอย่าง (เมื่อถึงเวลาฤกษ์) พระสงฆ์ -เจริญชัยมงคลคาถา, โส อัตถะลัทโธ, สักกัตวา, นัตถิ เม, ยังกิญจิ,ภะวะตุสัพ เจ้าภาพ -กลับเข้าสู่ปะร�ำพิธี ประเคนไทยธรรม กรวดน�้ำรับพร (เมื่อพระสงฆ์อนุโมทนา)
เสร็จพิธี
“ประเพณีหล่อพระอันศักดิ์สิทธิ์
ศูนย์รวมจิตเป็นหนึ่งเดียวผู กมิตรมั่น น้อมรับพรร่วมท�ำบุ ญคอยแบ่งปั น นับเป็นวันที่ดีปรีดาเอย”
16
วัดเฉลิมพระเกียรติพระจอมเกล้าราชานุสรณ์ รอยพระพุทธบาทแห่งนี้ ต่อมา หลวงพ่อไพบูลย์ สุมังคโล (พระเทพวิสุทธิ “วัดเฉลิมพระเกียรติพระจอม ญาณ) เจ้าอาวาสวัดอนาลโยทิพยาราม เกล้าราชานุสรณ์” หรือช่ื่อเดิมเรียก จังหวัดพะเยาได้เดินทาง มาสักการะรอย ว่า“วัดพระพุทธบาทปู่ผาแดง” ซึ่งตั้งอยู่ที่ พระพุทธบาทโดยการเดินเท้า พลังศรัทธา อ�ำเภอแจ้ห่ม จังหวัดล�ำปาง สิ่งที่โดดเด่น ของวัดนี้จนท�ำให้มีชื่อเสียงโด่งดัง คือ ภาพ ของท่านเป็นที่มาของ การสร้างวัดขึ้น อันงดงามของเจดีย์เล็ก ๆสีขาวสร้างขึ้นบน ประกอบกับในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จ ภูเขาสูงเสียดฟ้า ล้อมรอบไปด้วยทิวเขาสูง พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชสมภพครบ ซึ่งสร้างจากแรงศรัทธาของมนุษย์ เป็นภาพ 200 ปี เมื่อวันที่ 18 ต.ค. 2547 ทางคณะ สงฆ์จึงมีมติให้สร้างวัดเฉลิมพระเกียรติ แด่ ที่ดึงดูดให้ใครหลายคนอยากเดินทางไป วัดเฉลิมพระเกียรติฯ อยู่ในพื้นที่ของเขตห้าม พระองค์ท่านเพื่อน้อมร�ำลึกถึง พระ ล่าสัตว์ป่า ดอยพระบาทบนยอดเขาแห่งนี้มี มหากรุณาธิคุณของพระองค์ที่มีต่อ ปวงชน ชาวไทย จึงได้สร้าง “วัดเฉลิมพระเกียรติ รอยพระพุทธบาทประดิษฐานอยู่ เป็นที่ เคารพบูชาของชาว อ.แจ้ห่ม แต่เมื่อก่อนนี้ พระจอมเกล้า ราชานุสรณ์” ยังไม่มีการท�ำถนนขึ้นสู่ดอยดังนั้น ส่วนตัวอุโบสถมีลักษณะเหมือนวัด พุทธศาสนิกชน ผู้ศรัทธาจึงต้องเดินเท้า ผ่าน ทางล้านนา มีหลังคาลดหลั่นสองชั้น และมี ป่าทึบและหน้าผาสูงขึ้นไปสักการบูชา สิงห์คู่ยืนเฝ้าอยู่บริเวณทางเข้าสู่ลานอุโบสถ วัดที่อยู่บน ยอดเขา
17
ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางของนัก ท่องเที่ยว ซึ่งเป็นส่วนของเจดีย์ที่สร้างราย ล้อมอยู่บนเขา ซึ่งต้องนั่งรถผ่านเส้นทางลาด ชันและแคบ ไปประมาณ 30นาที จากนั้น จากนั้น เดินทางขึ้นบันไดไปอีกประมาณ 300 กว่าขั้น เมื่อมาถึงยอดเขาด้านบน จะ แบ่งเป็น 2 ส่วน 1. คือฝั่งทางขวาจะได้ขึ้นไป นมัสการองค์พระธาตุ ซึ่งต้องเดินขึ้นบันได เล็กๆ ชันๆ ขึ้นไป แต่วิวด้านบนนั้นงดงาม เป็นอย่างยิ่ง มองเห็นทิวทัศน์ของอ�ำเภอ แจ้ห่ม และมองเห็นบริเวณวัดวัดเฉลิมพระ เกียรติฯ ที่อยู่ด้านล่าง 2.คือฝั่งซ้ายเรียกว่าศาลาสวดมนต์ จุดนี้ไม่ได้มีพระสงฆ์จ�ำวัดอยู่ แต่จะเป็น สถานที่ที่พระจะขึ้นมาสวดมนต์ทุกวันแรม 8 ค�่ำ บนศาลาสวดมนต์จะมีพระพุทธรูป ประดิษฐานให้พุทธศาสนิกชนได้กราบไหว้ กัน ผาหินไกลๆ
“ ท้าความสูงขึ้นภูเขามองหาวัด
แสนเหนื่อยจัดเดินขึ้นดอยต้องคอยพัก งามประจักษ์เมื่อไปถึงชั้นบนสุด ขอแวะหยุ ดไหว้พระก่อนลงเอย
”
รายละเอียด ส� ำ ห รั บ ค น ที่ อ ย า ก จ ะ ขึ้ น ไ ป ช ม บรรยากาศของตัววัดบริเวณชั้นบนต้อง จ อ ด ร ถ ไ ว ้ ที่ ล า น จ อ ด ร ถ เ พ ร า ะ ไม่ อ นุ ญ าติ ใ ห้ น� ำ รถส่ ว นตั ว ขึ้ น ไป ต้องใช้บริการรถท้องถิ่นของชาวบ้านซึ่ง จุ ด จอดรถจะอยู ่ ที่ ล านจอดรถของวั ด โดยคิ ด ส� ำ นาค่ า บริ ก ารแบบไปกลั บ คนละ 100 บาท เมื่อมาถึงจุดเดินทางก็ เดิ น ขึ้ น ไปสู ่ ย อดเขาซึ่ ง เป็ น บั น ได ประมาณ 300 กว่าขั้น ระยะทาง 1 กม. ใช้เวลาประมาณ 30 นาที ควรเตรียมน�้ำ ให้พร้อม รถจะเริ่มให้บริการประมาณ 7 โมงเช้า
18
8 เรือ่ งน่ารู ้ของวัดเฉลิมพระเกียรติฯ
7. ต้องเดินเท้าขึ้นไปชมความ สวยงามของสวรรค์บนดิน
การเดินทางขึ้นไปวัดมีเส้นทางเดียว เท่านั้น คือการเดินเท้าจากบริเวณจุดพักรถ ดอยผาหมอก (ชัน้ สองของวัด) ขึน้ ไปถึงยอดมี ระยะทาง 1 กิโลเมตร ซึ่งลักษณะเส้นทางมี ทั้งทางเดินธรรมดา ลัดเลาะตามป่า สลับกับ บันไดเหล็กทีม่ คี วามแข็งแรงในบริเวณโขดหิน ที่มีความชัน ระหว่างทางจะได้เจอกับความ สวยงามของธรรมชาติทอี่ ดุ มสมบูรณ์มากมาย จนไปถึงชั้นสามที่เป็นที่ตั้งของเจดีย์
8. การเดินทางเข้าไปวัดพระบาทปู่ ผาแดง
1. วัดพระบาทปู่ผาแดง
ส�ำหรับการเดินทางมาที่วัดพระบาท ปูผ่ าแดงนัน้ นักท่องเทีย่ วสามารถน�ำรถเข้ามา จอดได้ ใ กล้ ที่ สุ ด เพี ย งชั้ น 1 ซึ่ ง เป็ น ชั้ น ที่ ประดิษฐานเจดีย์ทองของวัด และต้องใช้รถที่ 4. เจดีย์บนยอดเขาเกิดจากแรง มีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ และคนขับรถที่มี ศรัทธาของชาวบ้าน ความช�ำนาญในเส้นทาง พาขึ้นไปบริเวณชั้น เจดีย์ประดิษฐานอยู่บนยอดเขา สองของวัดจากนั้นต้องเดินทางต่อไปอีก 1 มากกว่า 10 องค์ ภายในบรรจุไปด้ว ยสิ่ง กิโลเมตร ศักดิ์สิทธิ์ ที่สร้างด้วยแรงศรัทธาของพระสงฆ์ และชาวบ้าน ซึ่งใช้เวลาก่อสร้างยาวนานนับ 10 ปี
“วัดพระบาทปู่ผาแดง” ชื่อทางการ คือ “วัดเฉลิมพระเกียรติพระจอมเกล้า ราชานุสรณ์” หรือที่ชาวบ้านเรียก “ดอย ปูย่ กั ษ์” ตามชือ่ สถานทีต่ ง้ั ของวัด ทีต่ งั้ อยู่ ในหมู่บ้านทุ่งทอง หมู่ที่ 7 อ�ำเภอแจ้ห่ม จังหวัดล�ำปาง ปัจจุบันมี พระครูสังวรศีล 5. พบรอยพระพุทธบาท คุณ เป็นเจ้าอาวาสวัดพระพุทธบาทปู่ผา มีรอยพระพุทธบาทตั้งอยู่บริเวณ แดง หน้าผาบนยอดเขาสูง ซึ่งการเดินทางขึ้นไป 2. ที่ตั้งของวัดพระบาทปู่ผาแดง สักการะนั้นเส้นทางมีเพียงบันไดไม้และใช้ ตัวศาลาของวัดและเจดีย์ต่าง ๆ ซึ่งมี สองมือช่วยพยุงตัวแล้วค่อย ๆ ปีนขึ้นไปยังที่ ความสูง 815 เมตร จากระดับน�้ำทะเล และ ตั้งของรอยพระพุทธบาทเท่านั้น ซึ่งเป็นเส้น ตั้ ง อยู ่ ภ ายในพื้ น ที่ เ ขตห้ า มล่ า สั ต ว์ ป ่ า ดอย ทางที่ยากล�ำบากและอันตรายมาก ทางวัดจึง พระบาท ไม่อนุญาตให้ขึ้นไปบริเวณรอยพระพุทธบาท
3. สวยงามแบบอลังการในมุม Bird 6. ชมวิวกว้าง 360 องศา Eye View บนจุดสูงสุดของวัดพระบาทปู่ผาแดง ยอดเขาวัดพระบาทปู่ผาแดงมีความ สวยงามแบบอลังการในมุมสูง หรือ Bird Eye View ส�ำหรับนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการถ่าย ภาพมักจะเก็บความสวยงามของวัดจากมุม สูง เช่น การถ่ายจาก เฮลิคอปเตอร์, ใช้โดรน ในการถ่ายภาพ-วิดีโอ รวมทั้งสามารถเก็บ ภาพความสวยงามระหว่างยอดเขาได้ดีอีก ด้วย
19
คือจุดชมวิวที่สวยที่สุด สามารถเก็บภาพ ความงามได้ 360 องศา ซึ่งเบื้องล่างสามารถ มองเห็นตัวอ�ำเภอแจ้ห่ม และแม่น�้ำสายเล็ก กับท้องนาสีเขียวอย่างสวยงาม รวมทั้งยังมี แหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจหลายแห่ง เช่น ถ�้ำ ผาสวรรค์, ปล่องลมมหัศจรรย์, มีลายหินงาม เตาหินปูนแบบโบราณ และมีเมืองโบราณที่ ชื่อว่าเมืองวิเชตนครอยู่ด้วย
REVIEW
วัดเฉลิมพระเกียรติพระจอมเกล้าราชานุสรณ์
จุดชมวิวที่งดงามอีกหนึ่งจุดมองไป เบื้องหน้าเป็นวิวของอ�ำเภอแจ้ห่ม มองไปด้านหลังเป็น เจดีย์องค์เล็กองค์น้อยประดิษฐานอยู่บนยอดภูเขาราวกับมีคนจับวาง เมื่อมองไปทางขวาจะเห็น เป็นวิวขององค์พระธาตุสีทองบนยอดเขา และหากมองมาทางซ้ายจะเห็นเจดีย์สีขาว 5 องค์อยู่ริม ชะง่อนผา หินไกลๆ มองแล้วก็ต้องทึ่งว่าใครหนอช่างมีความพยายามไปสร้างเจดีย์ไว้ในที่ที่แม้แต่ เดินตัวเปล่าก็ยังยากล�ำบากแต่ด้วยแรงศรัทธา ของ มนุษย์ก็สามารถท�ำเรื่องที่ไม่น่าเป็นไปได้ให้ เกิดขึ้นได้อย่างน่ามหัศจรรย์
20
“ว่ากันว่ากองทัพนัน้ เดินด้วยท้อง ขอแวะก่อน ณ กองต้า กาดแห่งนี้ ของกินเพียบแถมอร่อยอิ่มท้องดี แอ่วล�ำปางสักทีห้ามพลาดเลย
”
เที่ยวตลาด
กาดกองต้า กาดกองต้าหรือตลาดจีน เป็นย่าน ส�ำคัญทางเศรษฐกิจเมือ่ หลายสิบปีทแี่ ล้วเป็น ถนนเส้นเลียบแม่น�้ำวังจังหวัดล�ำปางมีความ เป็นมาเก่าแก่มปี ระวัตศิ าสตร์ทนี่ า่ ศึกษา และ มีสถาปัตยกรรมในยุคสมัยเก่าที่สวยงาม เช่น อาคารต่างๆ ในถนนเส้นนี้ ทีค่ วรค่าแก่การมา เยี่ยมชม
21
ชื่ อ กาดกองต้ า แปลเป็ น ไทยว่ า ตลาดตรอกท่าน�้ำ ในสมัยรัชกาลที่ 5 ล�ำปาง เป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจของภาคเหนือ การค้าริมแม่นำ�้ รุง่ เรือง และมีชาวต่างชาติเข้า มาท�ำการค้าในท้องถิ่นเป็นจ�ำนวนมาก โดย บริเวณกาดกองต้า เป็นชุมชนชาวจีนขนาด ใ ห ญ ่ เ ข า จึ ง เ รี ย ก ที่ นี่ ว ่ า ต ล า ด จี น สถาปัตยกรรมที่นี่เป็นแบบผสมผสาน ไทย จีน พม่า ฝรั่ง สะท้อนออกมาตามอาคาร ต่างๆ
ปั จ จุ บั น หลั ง จากพ้ น ยุ ค ของการ คมนาคมทางน�้ำ เมื่อการคมนาคมทางบกมี ความสะดวกมากขึ้น ย่านธุรกิจส�ำคัญของ จังหวัดล�ำปางก็เปลี่ยนแปลงไป ตามยุคสมัย สมัยนึง เมื่อหลายปีมาแล้ว ถนนตลาดจีนไม่ คึกคักเสียเลย จนกระทั่งวันนึง เกิดการรวมกลุ่ม กันของภาคเอกชน จับมือกับภาครัฐผลักดัน ให้เกิดโครงการถนนคนเดิน กาดกองต้าขึ้น ประจ�ำทุกเย็นวันเสาร์และวันอาทิตย์ 7.0022.00 น.เริ่มตั้งแต่ปี พ.ศ.2548 เป็นต้นมา
รู ป7
Moungngwazin building
“อาคารหม่องโง่ยซิ่น” พลิ้วไหวในงานไม้สร้างราว ปีพ.ศ.๒๔๕๑อายุกว่า 103ปี โดยคหบดีพม่าชื่อ หม่องโง่ย ซิ่ น เป็ น อาคารทื่ โ ดนเด่ น ที่สุดในแถบนี้ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ อย่าง น. ณ ปากน�้ำยกย่องว่าเป็นอาคาร ขนมปังขิงริม ถนนที่ งดงาม ที่สุดในประเทศไทย ทั้งยังได้ รับรางวัลสถาปัตยกรรม
ดีเด่นประจ�ำปี๒๕๕๐ ประเภทอาคารอนุรักษ์ สถาปัตยกรรมล้านนา จากกรรมาธิการล้านนา สมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชูปถัมภ์ อาคารหม่องโง่ยซิ่นเป็น เรื่ อ นขนมปั ง ขิ ง หลั ง คา ทรงมะนิ ล า สู ง สามชั้ น ลั ก ษณะครึ่ ง ปู น ค รึ่ ง ไม้ ห้ อ งบนสุ ด คื อ ห้ อ งพระ ประดับด้วยกระจกสี
ความพิเศษของอาคาร หม่องโง่ยซิ่ น อยู่ที่ลายฉลุ ไม้ (Framework) ทาสี ขาวแบบเรือนขนมปังขิง ทั่วไป โดยส่ ว นใหญ่เป็น ลายพรรณพฤกษา ลาย ก้ า นขด ลายปร ะ ดิ ษฐ์ มี ล ายสั ต ว์ แ ล ะ ล า ย สั ญ ลั ก ษณ์ ที่ ห น้ าจั่ ว ประดั บ ตกแต่ ง แทบทุ ก ส่วนของอาคาร ดูหรูหรา พลิ้วไหว
อีกอย่างหนึ่งคือ หน้า จั่วมีการประดับสะระไน อันเป็นลักษณะเด่นของ เรื อ นแบบมะนิ ล า ฝ้ า เพดานบุดว้ ยแฟนดีบกุ ดุน ลายเหมื อ นอย่ า งวั ด ใน พม่า ซุ้มโค้งเหนือประตู ด้ า นในปรุ ง แต่ ง ด้ ว ย ก ร ะ จ ก สี เ ห มื อ น ด ว ง อาทิตย์ก�ำลังแผ่รัศมี
22
Bun Chuay ร้าน บุ ญ ช่ วย
ร้านนีเ้ ป็นร้านทัง้ ขายของและโชว์ ให้ผู้อ่ืนดู ของภายในมีทั้งไปซื้อที่ร้าน ซื้อ จากเน็ต ประมูล ได้จากตามร้านขายของช�ำ ที่ชื่อว่าร้านบุญช่วยเพราะชื่้อพ่อ น�ำมาตั้ง เพื่ อ ความเป็ น สิ ริ ม งคล โดยราคาของที่ แพงที่สุดในร้านอุตร้าแมน ซึ่งมีราคาสูงถึง ราคา 25000 บาท สินค้าที่ราคาถูกที่สุด จะเป็นพวก สบู่ ยางสีฟัน แต่ใช้งานไม่ได้ แล้วมันนานแล้ว หมดอายุแล้ว ยาสีฟันดา กี้ พัฒนามาเป็นยาสีฟนั ดาลี่ ในปัจจุบนั ใน ร้านทีไ่ ม่มแี ล้วอยากมี คือตูย้ าจีนเพราะมัน หายากและราคาแพง
เหล้าแม่โขงขวดใหญ่ 4.50 ลิตร ราคา 1500 บาทขึ้น เนื่องจากสมัยนี้ไม่ ค่อยมีแล้ว ส่วนมากจะเก็บเป็นของสะสม กันเวลาดูแผ่นเสียงว่าแผ่นนี้มีกี่เพลงดูใน แผ่นเลยจะมีเส้นหนาๆอยู่ เส้นหนา 1 เส้น ก็มี 1 เพลงในแผ่นเสียงนั้น แผ่นเสียงราคา อยูท่ ตี่ วั ศิลปินด้วยว่าเป็นใคร อย่างเช่น คา ราบาว ลิฟท์กับออย ราคา800 บาท
คุณต้อย
นายอนิชา อินทราวุ ธ เป็นเจ้าของร้าน
ตลาดกองต้า เปิ ดเฉพาะเสาร์-อาทิตย์ เวลา 17.00-22.00 น.
23
24
กระป๋องฮอลล์
รสชาติฮอลล์
หลังยุคสงครามโลกครัง้ ทีส่ อง แบรนด์ลกู อมเม็ดแข็งจากต่างประเทศเริม่ เข้า มาเปิดตลาดในไทย ฮอลล์เป็นหนึ่งในนั้น น�ำเข้ามาจากอังกฤษเมื่อปี 2503 ในยุคนั้น ลูกอมเม็ดแข็งถือเป็นสินค้าระดับพรีเมียม เข้ามาปุ๊ปก็ขายดีมาก บริษัท อดัมส์ไทย แลนด์ จึงตัดสินใจเปิดโรงงานผลิตในไทย เพื่อรองรับความต้องการสินค้าที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ช่วงยุคแรกที่ ฮอลล์ วางขายนั้น บรรจุภัณฑ์จะเป็นแบบกระป๋องสังกะสีที่มีภาพ “ฮอลล์ เลดี้” อยู่ข้าง กระป๋อง บรรจุลูกอมอยู่ 525 เม็ด และฉากสุดท้ายในโฆษณามักจะปรากฎกระป๋อ งฮอลล์พร้อมมีแบคกราวด์เป็นน�้ำตก เป็นเอกลักษณ์โดดเด่นที่ท�ำให้ผู้คนจดจ�ำฮอลล์ ได้มากที่สุด(ปัจจุบันกระป๋องฮอลล์กลายเป็นของสะสมหายาก ขายกันราคาสูงถึง หลักพัน)
ในช่วงปี 2503 ฮอลล์รสแรกที่วางขายใน ไทยคื อ รสเมนโทลิ ป ตั ส ตามด้ ว ยรสรวมที่ ร วม ผลไม้ ห ลายรสไว้ ใ นกระป๋ อ งเดี ย ว ได้ แ ก่ ร สเชอร์ รี่ รสน�้ ำ ผึ้ ง ผสมกลิ่ น เลม่ อ น รสมะนาว รสขิง รสชะเอม ซึง่ รสชาติทไี่ ด้รบั ความนิยมมากทีส่ ดุ ยุคนั้นคือ ร ส น�้ ำ ผึ้ ง ผ ส ม ก ลิ่ น เ ล ม ่ อ น แ ล ะ รสเมนโทลิปตัส พอเข้าช่วงปี 2533-2543 ฮอลล์ อ อกรสมะนาว รสราสเบอร์ รี่ บลู เ บอร์ รี่ เฟรชมินต์ และ รสกีวี่แอปเปิ้ล เพื่อเข้าถึงกลุ่มคนรุ่น ใ หม่ ใ นยุ ค นั้ น ให้ ม ากยิ่ ง ขึ้ น และฮอลล์ ยั ง แนะน� ำ ผลิตภัณฑ์รูปแบบใหม่ เป็นแบบแท่งและแบบแผง เพื่อให้พกพาสะดวกและเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้า เป็น ยุคที่ฮอลล์เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่มากมายได้แก่ ฮอลล์ ไอซ์ เจาะกลุ่มตลาดผู้บริโภคที่อายุมากขึ้น เสริมสร้างภาพลักษณ์ของคนเมือง ฮอลล์ ฟรุตตี้ ลูกอมสอดไส้รสผลไม้ เพิ่ม ลูกเล่นให้กับผลิตภัณฑ์ฮอลล์ ซอฟต์ ครั้งแรกของ ฮอลล์ ทีอ่ อกลูกอมเคีย้ วหนึบสองรสชาติในหนึง่ เดียว ล่าสุดปี 2557 ฮอลล์เปิดตัวนวัตกรรมใหม่ ‘ฮอลล์ เอ็กซ์เอส’ ลูกอมเม็ดเล็กที่คงความเย็นสดชื่น มาใน กล่องสีด�ำพกพาง่าย ซึ่งประสบความส�ำเร็จด้านยอด ขายเป็นอย่างมาก
เข้าสู่ช่วงปรับจุดขายตัวเอง
ฮอลล์ค่อยๆปรับจุดขายตัวเอง จาก เดิมที่เน้นแก้ปัญหาอาการระคายคอและแก้ เจ็ บ คอ หั น มาเน้ น จุ ด ขายเรื่ อ งความเย็ น สดชื่นชุ่มคอเป็นหลัก ซึ่งเข้าถึงความต้องการ คนได้มากกว่า เพราะเมืองไทยอากาศร้อน ท�ำให้กลุ่มผู้บริโภคขยายกว้างขึ้นและเปลี่ยน บรรจุภณ ั ฑ์ลกู อมเป็นซองพลาสติกฉีกง่าย แต่ ยังคงภาพกระป๋องสังกะสีไว้เพื่อการโฆษณา แต่ในต่างประเทศฮอลล์ยังคงเป็นลูกอมที่ ชูโรงเรื่องช่วยให้ชุ่มคอ
25
คนรุ่นใหม่อาจจ�ำได้ไม่แน่ชัด แต่คน รุ ่ น เก่ า (แต่ ไ ม่ แ ก่ ) คงคุ ้ น หู กั บ ชื่ อ ยาสี ฟ ั น “ดาร์กี”(Darkie) ที่มีรูปโลโก้เป็นชาย หน้าด�ำก�ำลังยิ้มเป็นอย่างดี “ดาร์กี”ถูกเปลี่ยนชื่อเป็น “ดาร์ลี” (Darlie) หลังจากที่บริษัทฮอว์ลีย์แอนด์ฮา เซิลผู้ผลิตเดิมบนเกาะฮ่องกง ถูกบริษัทสินค้า อุ ป โภคยั ก ษ์ ใ หญ่ ข องโลกอย่ า ง คอลเกตปาล์มโอลีฟ จากสหรัฐอเมริกา ซื้อกิจการไป เมื่อปี 1985 สาเหตุที่ท�ำให้ต้องมีการเปลี่ยน ชื่อนั้น มาจากการที่คอลเกต-ปาล์มโอลีฟถูก กดดันอย่างหนัก จากคนผิวสีและนักต่อสูเ้ พือ่ สิทธิมนุษยชน ที่เห็นว่าการตั้งชื่อผลิตภัณฑ์ที่ กล่าวถึงเชือ้ ชาติของคนนัน้ เป็นการเหยียดผิว
ว่ากันว่าผู้ที่จุดเพลิงให้กระแสความ ไม่พอใจขึ้นจนขยายวงกว้าง ก็คือบริษัทคู่ แข่งยักษ์ใหญ่ซึ่งน�ำยาสีฟันสูตรใหม่ออกวาง ตลาดในเวลาเดียวกันกับดาร์กีนั่นเอง เนื่อง จากภาพลักษณ์มีผลกระทบอย่างมากต่อราย ได้คอลเกต-ปาล์มโอลีฟจึงตัดสินใจเปลี่ยนชื่อ ยาสีฟันเป็นดาร์ลี และปรับปรุงภาพโลโก้ จากเดิมที่ทั้งนี้ ปัจจุบันยาสีฟันยี่ห้อนี้ยังคงได้ รับความนิยมเป็นอย่างมากในหลายประเทศ ในทวีปเอเชีย โดยเฉพาะที่ฮ่องกงและไต้หวัน
“อุลตร้าแมน(ULTRAMAN)”
อุลตร้าแมน หรือ อุรุโตร่ามาน ตามการ อ อกเสียงของญี่ปุ่นฮีโร่ร่างยักษ์ซึ่งมีโทนสี แดงสีเงิน ได้คอนเซปต์มาจากพระพุทธรูปใน บ้านเราเขามาจากดาวM78เพื่อช่วยเหลือ โลกมนุษย์ให้พ้นภัย
Ultraman Dyna
ตัวนี้เป็นรุ่นที่เจ้าของร้านมี แล้วก็เป็น ตั ว ที่ ร าคาแพงสุ ด ในร้ า น เป็ น อุ ล ตร้ า แมน ประจ�ำปี 1997 ของญี่ปุ่น มาจาก Dnamic หรือ Dynamite เคยฉายทาง ITV เมื่อปลาย ปี2545 อาซึกะ ซึ่งเป็นหนึ่งในสมาชิกของ Super GUTS ก�ำลังศึกษาบรรยากาศนอก โ ลกอยู ่ นั้ น เขาก็ ถู ก โจมตี โ ดยUFOลึ ก ลั บ แต่กไ็ ด้ Ultraman Dyna เข้ามาช่วยชีวติ และ รวมร่างกับอาซึกะเพื่อต่อสู้กับสัตว์ประหลาด ที่จะเข้ามารุกรานจักรวาล
26
ศูนสถาบัย์นอคชบาลแห่ นุรักงชาติษ์ใชนราชอุ้างไทย ปถัมป์ ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย เดิมทีชื่อว่า ศูนย์ฝึกลูกช้างก่อตั้งในปี พ.ศ.2512 โดย ดร. อ�ำนวย คอวนิช (อดีตผู้อ�ำนวยการ องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้) ขึ้นที่บ้านปางหละ ต.บ้านหวด อ.งาว จ.ล�ำปาง เเละใน ปี พ.ศ. 2534 องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ ได้ขยายพื้นที่การดูเเลช้าง มาจัดตั้งเป็น ศูนย์อนุรักษ์ไทยใน ปัจจุบัน ณ สวนป่าทุ่งเกวียน (หมู่ 6 ต.เวียงตาล อ.ห้างฉัตร จ.ล�ำปาง)
รอบการเเสดงช้าง 10.00 น. 11.00 น. 13.30 น. ช้างอาบน�้ำ 9.45 น. 13.15 น. บริการนั่งช้างชมธรรมชาติ 08.00 - 15.30 น.
ค่ารถ 25 บาท ค่านั่งช้างคนละ 100 บาท ค่าอาหารช้างมัดละ 20 บาท
น้องเคย... เห็นช้างหรือเปล่า?? “ช้าง”เป็นสัตว์สงั คม ชอบอยูก่ นั เป็นฝูง ใน
หนึ่งวันของช้าง ใช้เวลาไปกับการกินอาหาร 20 ชม. อีก 4 ชม.ไว้ในนอน อาหารหลักของ ช้ า งคื อ หญ้ า กิ น อาหารวั น ละ 400-500 กิโลกรัม ช้างที่เรามาแสดงจะเป็นช้างที่อายุ ยังน้อย 10-20 ปี จะเริ่มฝึกอายุ 2-3 ปี ใช้ เวลาในการฝึก 2-3 เดือน เริ่มต้นการฝึกการ ให้คุ้นเคยกับการเจาะเลือดเพื่อเวลาป่วยแล้ว หมอมาตรวจช้างจะได้ไม่ตื่นตระหนก
27
ช้างที่ไว้ใช้บริการนักท่องเที่ยวมีอายุ 20 ขึ้น ไป มีอายุการใช้งานจะสิ้นสุด 50-60 ปี ช้าง สามารถรับน�้ำหนักได้ต�่ำสุด 2000 กิโลกรัม ช้างมีอายุไข 70-80 ปี ช้างตัวผูท้ ตี่ กมัน จะมัด โซ่ไว้ใช้งานหนักๆ ช้างจะกินน�ำ้ ประมาณ 120 ลิตรต่อวัน งวงช้างมาสารถจุน�้ำได้ 5-10 ลิตร ต่อวัน ควาญช้างใช้เวลาในการฝึก 2-3 เดือน แล้วแต่ตัวว่าช้างจะกินอะไรบ้างตัวชอบกิน อ้อย,กล้วย,ข้าวโพด ช้าง 1 เชือกจะมีควาญ ช้างดูแล 2 ตัว ควาญช้างประจ�ำตัวไหนแล้ว ต้องประจ�ำเชือกนั้นตลอด
ช้างมี 2 สายพันธุ์ 1. ช้างเอเซียน�้ำหนัก4000-5000 กิโลกรัม ช้างแอฟริกาน�้ำหนัก 5000-6000 กิโลกรัม แต่มากสุดจะ 7000 กิโลกรัม 2. ช้างแอฟริกาจะมีงาทุกตัว แต่ช้างเอเชียตัว เมียไม่มีงาส่วนตัวผู้บางตัวมีงาบางตัวไม่มีงา ตัวที่ไม่มีงาเรียกว่าสีดอ ตัวที่มีงาเรียกช้าง พ ลายถ้ า เป็ น ตั ว เมี ย เรี ย กช้ า งพั ง ขี้ ช ้ า ง สามารถท�ำมาเป็นกระดาษสาได้ งาช้างจะ ยาว 17 เซนติเมตรทุกปี - ช้างป่า (อยู่ในป่า) – ตัว - ช้างเลี้ยง – เชือก - ช้างหลวง (ของพระมหากษัตริย์) – ช้าง
“ช้างเอ๋ยช้างน้องเคยเห็นมันหรือเปล่า อยากบอกเล่าที่แห่งนี้ช้างมากมาย แหล่งผ่อนคลายแสนน่ารักควรมาดู โชว์สุดหรู แสนหรรษาเบิกบานใจ ”
รูปช้างตัวใหญ่มาก 28
วันช้างไทย วันช้างไทยริเริ่มขึ้นจากคณะ อนุกรรมการประสานงานการอนุรกั ษ์ชา้ ง ไ ทย ซึ่ ง เป็ น หน่ ว ยงานประสานงาน องค์การภาครัฐและเอกชนที่ท�ำงานเกี่ยว กับการอนุรักษ์ช้างไทย คณะกรรมการ เ อกลั ก ษณ์ ข องชาติ ส� ำ นั ก เลขาธิ ก าร นายกรัฐมนตรี เนื่องจากเล็งเห็นว่าหากมี การสถาปนาวันช้างไทยขึ้น จะช่วยให้ ประชาชนคนไทยหันมาสนใจช้าง รักช้าง หวงแหนช้าง ตลอดจนให้ความส�ำคัญต่อ การให้ความช่วยเหลืออนุรักษ์ช้างมากขึ้น
คณะอนุกรรมการจึงได้พจิ ารณาหา วันที่เหมาะสม ซึ่งครั้งแรกได้พิจารณาเอาวัน ที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ท�ำยุทธหัตถีมี ชั ย ชนะเหนื อ พระมหาอุ ป ราชา แต่ วั น ดั ง กล่าวถูกใช้เป็นวันกองทัพไทยไปแล้ว จึงได้ พิจารณาวันอื่น และเห็นว่าวันที่ 13 มีนาคม ซึ่ ง เป็ น วั น ที่ ค ณะกรรมการคั ด เลื อ กสั ต ว์ ประจ�ำชาติ มีมติให้ช้างเผือกเป็นสัญลักษณ์ ของประเทศไทยนั้นมีความเหมาะสม จึงได้ น�ำเสนอมติตามล�ำดับขั้นเข้าสู่คณะรัฐมนตรี
“
ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2541 เห็นชอบให้ วันที่ 13 มีนาคมของทุกปี เป็น “วันช้างไทย” และได้ประกาศส�ำนักนายกรัฐมนตรีลงในราชกิจ จานุเบกษา เมื่อ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2541
”
ผลจากการที่ประเทศไทยมีวันช้าง ไทยเกิดขึ้น นับเป็นการยกย่องให้เกียรติว่า เป็นสัตว์ที่มีความส�ำคัญอีกครั้ง นอกเหนือ จ า ก เ กี ย ร ติ ที่ ช ้ า ง เ ค ย ไ ด ้ รั บ ใ น อ ดี ต ไม่ ว ่ า จะเป็ น ช้ า งเผื อ กในธงชาติ หรื อ ช้ า ง เผือกที่เป็นสัญลักษณ์ของประเทศ หรือสัตว์ คู่พระบารมีของพระมหากษัตริย์
29
ท�ำไมวันช้างไทยจึงส�ำคัญ - ช้างเป็นสัตว์คพู่ ระบารมีของพระมหากษัตริยไ์ ทย ช้างเป็น สัตว์ที่ด�ำรงอยู่คู่กับประเทศไทยมาเป็นเวลานาน ในรัชสมัยพระบาท สมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ 2 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ สยามประเทศเคยใช้ธงชาติเป็นรูปช้างเผือก ชาวไทยเชื่อกันว่าช้าง เผือกเป็นสัตว์คู่พระบารมีของพระมหากษัตริย์ ช้างเผือกจึงได้รับการ ยกย่องเสมือนเจ้านายชั้นเจ้าฟ้า - ช้างเป็นผู้ปกป้องเอกราชแห่งชาติไทย ประวัติศาสตร์ ชาติไทยได้จารึกไว้ว่าช้างได้เข้ามามีส่วนในการปกป้องเอกราชและ ความเป็นชาติให้แก่ชาวไทยหลายยุคหลายสมัย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในสมัยพระบาทสมเด็จพระนเรศวรมหาราชได้ท�ำยุทธหัตถี จึงทรง ประกาศเอกราชและความเป็นชาติ ซึ่งช้างทรงในสมเด็จพระนเรศวร นับว่าเป็นช้างไทยที่ได้รับเกียรติอันสูงสุด โดยได้รับพระราชทานยศ ให้เป็นถึง “เจ้าพระยาปราบหงสาวดี”
วันช้างไทย จัดกิจกรรมอะไรบ้าง หลายสถาบันการศึกษา หน่วยงานราชการในจังหวัดต่าง ๆ มักจะจัดกิจกรรมในวันช้างไทย เพื่อให้คนตระหนักถึงความส�ำคัญ โดยมีการจัดนิทรรศการให้ความรู้ งานสัมมนา กิจกรรมให้เด็ก ๆ ได้ ประกวดการเขียนเรียงความ วาดภาพระบายสี
ขณะที่ตามปางช้างต่าง ๆ จะจัดแสดงโชว์ช้าง เพื่อให้เห็น ความน่ารักและความสามารถหลากหลายของช้าง นอกจากนี้บาง จั ง หวั ด ยั ง มี ก ารจั ด เลี้ ย งโต๊ ะ จี น ให้ ช ้ า งได้ ล ้ อ มวงกิ น ผลไม้ อ ย่ า ง เอร็ดอร่อย
- ช้ า งสร้ า งความสัมพันธไมตรีระหว่างประเทศ ในสมัย รัชกาลที่ 5 เสด็จประพาสสิงคโปร์ และเบตาเวีย (จาการ์ตา) ประเทศ อินโดนีเซีย ได้พระราชทานช้างส�ำริดให้แก่ทั้ง 2 ประเทศนี้
30
ย้อนรอย
พ่อ
ช้างพลายปฐมสมภพ เป็นช้างที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหา ภูมพิ ลอดุลยเดช ทรงพระราชทานชือ่ ให้กบั ลูกช้างพลายทีเ่ กิดจากการผสมเทียม ด้วยน�้ำเชื้อสด เชือกแรกของไทยและในเอเชีย ตั้งแต่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ เสด็จขึน้ ครองราชย์ พ.ศ. 2489-2511 มีชา้ งคูบ่ ารมีเข้ามาในรัชกาลของพระองค์ ท่าน จ�ำนวน 3 ช้าง นับว่าเป็นพระบุญญาธิการองพระองค์ท่าน ที่มีช้างคู่บารมี ได้เกิดในครั้งนี้
31
1
Credit : radioparliament.net
พระเศวตอดุลยเดชพาหนฯ ถูกพบจากทิศหรดี (ตะวันตกเฉียงใต้) จังหวัดกระบี่ เป็นช้างเผือกที่สวยที่สุด สง่างามที่สุด มีลักษณะนิสัยดุกว่า ช้างเชือกอื่นไม่ชอบค�ำหยาบ ฝึกง่าย เรียนรู้เร็ว รักสวยรัก งาม ไม่เกเร และในหลวงรัชกาลที่9 ทรงโปรดมากที่สุด คุณ พระเศวตอดุลยเดชพาหนฯ เป็นช้างที่ได้มาจากการคล้อง ช้างในปี พ.ศ. 2495 ของควาญ แปลก ฟุ้งเฟือง ชาวบ้านใน หมู่บ้านล�ำทับณะที่คล้องช้างอยู่ตามแนวเขานอจู้จี้ ได้ตั้ง คอกช้าง และคล้องช้างได้ 6 ตัว ในจ�ำนวนช้างที่คล้องได้ ก็มี ช้างลักษณะสีประหลาดอยู่ 1 ตัว เป็นช้างติดแม่ ตั้งชื่อว่า พลายแก้ว
เมื่อแรกจับได้เป็นช้างมีลักษณะไม่สมบรูณ์ เนื่องจากตามล�ำ ตัวมีบาดแผลมาก จับยากอีกทั้งไม่ยอมให้ควาญผู้ใดใกล้อีก ด้วย และเมื่อเลี้ยงได้สูงประมาณ160 ซ.ม. อายุประมาณ 9 ปี ทางผู้ใหญ่บ้านล�ำทับ (ในขณะนั้น) เมื่อทราบข่าวว่ามีช้าง ส�ำคัญมาอยู่ในหมู่บ้านของตนก็ได้น�ำความไปแจ้งต่อนาย อ�ำเภอคลองท่อม(ในขณะนั้น คือ นายมังกร ณ ถลาง) นาย อ�ำเภอจึงได้น�ำความไปแจ้งต่อผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ คือ นายอ้วย สุระกุล ได้ทราบ ก็น�ำความไปแจ้งต่อส�ำนักราชวัง ในปี พ.ศ. 2499และเมื่อวันที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2553 คุณ พระเศวตอดุลยเดชพาหนฯ ได้ล้มลงด้วยโรคชรา
32
2
Credit : th.wikipedia.org
พระเศวตวรรัตนกรีฯ พระเศวตวรรัตนกรีฯ จากทิศอุดร (เหนือ) จังหวัดเชียงใหม่ พระเศวตวรรัตนก รีฯ เป็นช้างพลายเผือก เกิดจากแม่ช้างบ้าน ของนายแก้ว ปัญญาคง ทีต่ ำ� บลอ่อนใต้อำ� เภอ สันก�ำแพง จังหวัดเชียงใหม่ ต่อมาพันต�ำรวจ เอกนิ รั น ดร ชั ย นาม ผู ้ ว ่ า ราชการจั ง หวั ด เชี ย งใหม่ ได้ น ้ อ มเกล้ า ถวายเมื่ อ วั น ที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2509 พระบาทสมเด็ จ พระเจ้าอยู่หัวเสด็จราชด�ำเนินทรงประกอบ พิธสี มโภชขึน้ ระวางทีจ่ งั หวัดเชียงใหม่ เมือ่ วัน ที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2509 พระราชนามนาม ว่า
33
“พระเศวตวรรัตนกรี นพีสีสิริพิงคนัทย์
เอกาทัศมงคลสุลักษณ์ ศุภนัขเนตราทิโควรรณ พิษณุพันธ์อัครคชาธาร อัฏฐ์กุลสารดามพหัสดิน ปรมินทรมหาราชพาหน สยามประชาชนสวัสดิคุณ เดชอดุลยเลิศฟ้าฯ พระเศวตวรรัตนกรีฯ ได้ล้มลงที่จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อ พ.ศ. 2510
”
3 พระเศวตสุรคชาธารฯ
Credit : yala-patani-naratiwat.blogspot.com
“พระเศวตสุรคชาธาร บรมนฤบาล สวามิภักดิ์ ศุภลักษณ์เนตราทิคุณ ทศกุลวิศิษ พรหมพงศ์อดุลยวงศดามพหัตถี ประชาชนะ สวัสดีวิบูลยศักดิ์ อัครสยามนาถสุรพาหนฯ” จากทิศทักษิณ(ใต้) จังหวัดยะลา คุณพระ เศวตสุรคชาธาร ได้มาจากการที่ นายเจ๊ะเฮง ได้นำ� ช้างเพศเมียชือ่ พังสะอาด ไปผูกเลีย้ งไว้ บริเวณแนวป่าหลังหมู่บ้านของตน จากนั้นก็ ไปแวะนั่งคุยกับเพื่อนบ้านในหมู่บ้าน และ ชักชวนให้เพื่อนบ้านมาดูช้างที่ผูกไว้
แต่เมื่อมาถึงกับพบว่ามีลูกช้างป่า อายุประมาณ 7 เดือน สูงประมาณ 1 เมตร ไม่ทราบว่าเป็นช้างของผู้ใด ยืนคลอเคลีย ใกล้เคียงช้างพังสะอาด ลักษณะน่าเอ็นดู ก�ำนันเจ๊ะเฮง รีบแก้มัดช้างพังสะอาด แล้ว น�ำกลับบ้าน แต่ลูกช้างน้อยก็วิ่งตาม ก�ำนัน เจ๊ะเฮง จึงตัดสินใจน�ำลูกช้างมาเลี้ยงพร้อม กับฝึกสอนการอยู่ร่วมกับคนได้เป็นอย่างดี ด้วยว่าลูกช้างตัวนี้มีความอัศจรรย์ จึ ง มี ข ่ า วแพร่ ส ะพั ด ออกไปถึ ง หู ท ่ า นผู ้ ว ่ า ราชการจังหวัด จึงมีหนังสือแจ้งให้น�ำลูกช้าง เชือกนี้ไปเลี้ยงไว้ในจวนของท่านก่อน พร้อม มี ห นั ง สื อ แจ้ ง มายั ง ส� ำ นั ก พระราชวั ง ส่ ง ผู ้ ช�ำนาญการตรวจพิจารณาคชลักษณ์ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ของกระทรวงมหาดไทยและเจ้า หน้าที่ของจังหวัดยะลา
ปรากฏว่าลูกช้างตัวนี้มีคชลักษณ์อันเป็น มงคลลูกต้องตามต�ำราพระคชลักษณ์ศาสตร์ เป็นช้างอยู่ตระกูล “พรหมพงศ์” สกุลช้าง 10 หมู่คือดามพหัตถีสมควรน้อมเกล้าฯถวาย ขึ้นระวางเป็นพระยาช้างต้นคู่พระบารมีองค์ พระมหากษัตริย์และได้ท�ำพิธีขึ้นระวาง สมโภชในวันอาทิตย์ ที่ 10 มีนาคม 2511 หลังจากเสร็จพระราชพิธีรับและสมโภชขึ้น ระวางช้างส�ำคัญที่มีพระนามว่า “พระเศวต สุรคชาธารฯ” จวบจนวันอาทิตย์ ที่20 กันยายน พระเศวตสุรคชาธารฯ ได้ล้มลง เนื่องจากท้องเสียอย่างรุนแรงเมื่ออายุ ประมาณ 9 ปี
34
พลายทองสุก ช้างเผือกเชือกล่าสุดในรัชกาลที่ 9 เป็นช้างองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ (อ.อ.ป.) เกิดเมื่อปี พ.ศ. 2517 ที่บวกแม่สุก บ้านปาง หละ อ.งาว จ.ล�ำปาง จากแม่ช้างชื่อ พังยะ เป็นช้างเผือก หรือ ช้างส�ำคัญ ที่ค้นพบโดย บังเอิญ หลังจากที่ตกระก�ำล�ำบากในป่าถึง 17 ปี ถูกฝึกลากไม้ในป่า ฝึกแสดงโชว์นักท่อง เที่ยว กว่าจะได้มาเป็นช้างเจ้า
35
พลายทองสุกหลังจากเมื่อหย่านมแล้วก็ได้ ท�ำการผ่านจ้าน และฝึกตามปกติเหมือนช้าง ทั่วๆไป และก็ย้ายมาอยู่ที่ศูนย์อนุรักษ์ช้าง ไทย อ.ห้างฉัตร จ.ล�ำปาง ในเดือนกันยายน พ.ศ. 2525 ในขณะที่เจ้าหน้ามาตรวจคช ลักษณ์ช้างพลายสมบูรณ์อยู่ พลายทองสุก มาจากไหนไม่ทราบ หลังจากอาบน�้ำเสร็จก็ เดินผ่าเต็นท์เจ้าหน้าที่ที่มาร่วมการตรวจคช ลักษณ์
4 ผู้ช�ำนาญการคชลักษณ์เห็นช้างพลายทองสุก ดูต้องตาดี มีลักษณะดี จึงเฝ้าดูและค่อยๆ ตรวจดูลักษณะต่างๆ โดยสรุปว่าเป็นช้าง ส�ำคัญ อยู่ในตระกูล “พิษณุพงษ์” จ�ำพวก “อัฐคช” ชื่อ “ชมลบ” สีกายชมพูอ่อน ตา แมว อัณฑโกศสีม่วงอ่อน หางเขน ช่องแมงภู่ ลึก 5.6 ซ.ม. ชุมชนกระจายเส้น เสียงร้องดั่ง เสียงโค เสียงกรนดั่งลมพัดในปล้องไม้ไผ่ สูง 2.25 เมตร ควรแก่การขึ้นระวางสมโภชเป็น พาพนะ แต่ก็ยังมิได้มีพระราชพิธีสมโภชขึ้น ระวางช้างส�ำคัญจนกระทั่งถึงปัจจุบันนี้
“ใกล้ปิดฉากทริปท่องเที่ยวแสนสนุก อยากจะหยุ ดเวลานี้ไม่ให้ผ่าน แวะกินข้าวบ้านลมเย็นหน�ำส�ำราญ สุดสราญทัง้ อิ่มท้องแถมอิ่มใจ ”
36
ยามลมโชยโบกโบย
ความหิวมา ลมเย็น แนะน�ำร้าน ร้ า นอาหารลมเย็ น ตั้ ง อยู ่ ที่ ถนนหลวงสาย 11 พิษณุโลก-เด่นชัย ก.ม.100 เลขที่ 173 หมู่ 5 ต�ำบลป่า เซ่า อ�ำเภอเมือง อุตรดิตถ์ เริ่มด�ำเนิน การตั้งแต่ปี พ.ศ. 2530 ด�ำเนินงาน โดย คุณสวงค์ และคุณสนม อุ่นมาก ปัจจุบนั เปิดด�ำเนินงานมาแล้วร่วม 20 กว่าปี การตกแต่งร้านจะเป็นแนวไทย โบราณ
37
CAFE
ประกอบด้วยบ้านทรง ไทย หลายหลั ง อยู ่ ล ้ อ มรอบบริ เ วณร้ า น โดยรอบตั ว ร้ า นเปิ ด โล่ ง รั บ ลมเพื่ อ ความผ่อนคลายบนเก้าอี้ไม้ ล้อมรอบ ด้วยสระน�้ำ และโอ่งน�้ำล้น มีมุมให้นั่ง ทานอาหารกันแบบส่วนตัว และมุมนัง่ พั ก ผ่ อ นชมสวน จะท� ำ ให้ ท ่ า นรู ้ สึ ก เหมือนรับประทานอาหารในสวน
รวมทั้งมีชิงช้าไม้ และสนาม เด็กเล่นส�ำหรับเด็กๆเหมาะกับลูกค้า ที่มาเป็นครอบครัว สิ่งต่างๆเหล่านี้ ท�ำให้ร้านอาหารลมเย็นมีบรรยากาศ ร่มรื่น สวยงาม แตกต่างไม่เหมือนใคร
ต้มมะระ
: น�้ำซุปปรุงรสได้กลมกล่อมทาน แล้วคล่องคอ ส่วนมะระต้มก�ำลังพอดีเคี้ยวง่ายมีรสขมจางๆ ของมะระแต่แซมไปด้วยความหวานของเนื้อหมูที่ใช้สอดไส้
ต้มแซ่บขาหมู : ต้มแซ่บขาหมูตุ๋นได้เปื่อย
ก�ำลังพอดีท�ำให้เคี้ยวง่าย ส่วนมันของขาหมูพอทานเข้าไป เหมือนละลายไปในปาก ตัวน�้ำซุปมีความเปรี้ยวและเผ็ดก�ำลัง พอดี มีการใส่พริกแห้งคั่วเพื่อเพิ่มความหอม
ผัดเห็ดออริจิน : ตัวเห็ดหั่นสไลด์ได้พอดีค�ำ
ตัวเห็ดเวลาที่ผัดออกมาแล้วไม่แข็งไม่นิ่มเกินไปก�ำลังกรุบๆ เคี้ยวแล้วอร่อย ส่วนรสชาติออกเค็มๆหวานๆ หอมกลิ่น น�้ำมันหอย
น�้ำพริกกะปิ ปลาทู : ตัวปลาทูตัวใหญ่
ทอดได้กรอบ แห้ง ไม่คอยมีน�้ำมันติดมา กินได้ทุกส่วนของ ตัวปลาเนื่องจากมันกรอบมาก ตัวน�้ำพริกก�ำลังพอดี ไม่เผ็ด มาก ส่วนตัวผัก ต้มได้เวลาก�ำลังดีท�ำให้ตัวผักไม่เละกินก�ำลัง ดีสดใหม่ ไม่มีกินเขียวของผัก
ผัดผงกะหรี่หมู
: มีรสหวาน หอมกลิ่นผง กะหรี่ได้ชัดมาก ทานเข้าไปรู้สึกถึงไข่ที่ปนเข้าไป ในส่วนของ เนื้อหมูที่ผัดลงไปนั้นมีความแข็งเล็กน้อย
ไอศกรีมแคนตาลูป : ตัวไอติมกลิ่นหอม
มาก ทานเข้าไปแล้วนุ่มรส รสไอติมไม่หวานเกินไปรสชาติ ก�ำลังดี ตอนรับประทานได้รู้สึกเหมือนกินตัวแคนตาลูป เข้าไปทั้งลูก ไม่รู้สึกถึงส่วนผสมอื่นซึ่งถือเป็นเรื่องดีเพราะเขา ผสมส่วนเนื้อแคนตาลูปเยอะ
38
“เที่ยวครัง้ นี้ได้ทัง้ บุ ญได้ทัง้ งาน
เตรียมกลับบ้านหลังที่สองของพวกเรา จากภูเขาสู่พื้นราบแดนมอนอ กลับมาท�ำหน้าที่ต่ออย่างตัง้ ใจ ลากันแล้วแดนไกลเมืองล�ำปาง ความทรงจ�ำไม่เคยจางจะเก็บไว้ กลุ่มพวกเราดงนางฟ้าขอลาไป ทิ้งท้ายไว้กล่าวขอบคุณสุดใจเอย
”
39
40