สารวัดแม่พระกุหลาบทิพย์ ประจำวันอาทิตย์ที่ 31 สิงหาคม ค.ศ.2014

Page 1

ฉบับที่ 542 วันอาทิตย์ที่ 31 สิงหาคม ค.ศ. 2014

ฉบับที่ 542 วันอาทิตย์ที่ 31 สิงหาคม ค.ศ. 2014

สั ปดาห์ ที่ 22 เทศกาลปัสกา (ปี A)

สั ปดาห์ ที่ 22 เทศกาลปัสกา (ปี A)

ถ้ าผู้ใดอยากตามเรา ก็จงเลิกคิดถึงตนเอง จงแบกไม้ กางเขนของตนและติดตามเรา

ถ้ าผู้ใดอยากตามเรา ก็จงเลิกคิดถึงตนเอง จงแบกไม้ กางเขนของตนและติดตามเรา

มธ 16:24

มธ 16:24


สั ปดาห์ ที่ 22 เทศกาลธรรมดา มธ 16:21-27

1. เจ้าซาตาน ถอยไปข้างหลัง แม้เปโตรจะประกาศที่เมืองซีซารียาแห่งฟิ ลปิ ว่า “พระเยซูเจ้าคือพระคริสตเจ้า พระบุตรของพระเจ้าผูท้ รงชีวติ ” (มธ 16:16) แต่ “พระคริสตเจ้า” ตามความคิดของเปโตร นัน้ แตกต่างจากพระเยซูเจ้าอย่างสิน้ เชิง “พระคริส ตเจ้า” (จากภาษากรีก) หรือ “พระเมสสิย าห์” (จากภาษาฮีบรู) ตาม ความคิดของเปโตร คือกษัตริย์นักรบที่พระเจ้าทรงส่งมานํ ากองทัพของชาวยิวขับไล่ชาว โรมันออกจากแผ่นดินปาเลสไตน์ และนําพาชนชาติยวิ ให้กลับมามีอํานาจรุ่งเรืองเหนือชน ชาติอ่นื เพราะฉะนัน้ เมื่อพระเยซูเจ้าตรัสว่าพระเมสสิยาห์ “จะต้องเสด็จไปกรุงเยรูซาเล็ม เพือ่ รับการทรมานอย่างมากจากบรรดาผูอ้ าวุโส หัวหน้าสมณะ และธรรมาจารย์ และจะถูก ประหารชีวติ ” (มธ 16:21) เปโตรจึงยอมรับไม่ได้ และไวเท่าความคิด ท่านพาพระองค์ ออกไปพร้อมกับทูลคัดค้านว่า “เหตุการณ์ น้ีจะไม่เกิดขึ้นกับพระองค์อย่างแน่ นอน” (มธ 16:22) แล้วคําตําหนิอนั หนักหน่วงชนิดทีใ่ ครได้ฟงั แล้วเป็ นต้องหายใจไม่ทวท้ ั ่ องก็ตามมา ทันที “เจ้าซาตาน ถอยไปข้างหลัง” (มธ 16:23) แต่อย่าเพิง่ คิดว่าพระองค์ตรัสด้วยนํ้ าเสียงเกรี้ยวกราดหรือแววตาแดงกํ่าด้วย ความโกรธ ตรงกัน ข้าม พระองค์ท รงตํา หนิ เ ปโตรด้ว ยความปวดร้า ว โศกเศร้า และ ตระหนกจนตัวสัน่ เพราะการประจญทีเ่ คยหลอกหลอนพระองค์ในถิน่ ทุรกันดารก่อนเริม่ ต้นภารกิจ นัน้ ได้หวนกลับมาหาพระองค์อกี ครัง้ หนึ่ง 2

อา. 31 ส.ค. สุ ขสํ าราญ โมทนาคุณพระเจ้า และพระแม่มารี ย ์ 10.00 น. สัตบุรุษวัดแม่พระกุหลาบทิพย์ทุกท่าน มารี อา มารยาท สุ นพิชยั เทเรซา มาลัย ชีวนิชพันธ์ คุณธิดารัตน์ สุ นพิชยั คุณบานเย็น สิ งห์ชาลี ครอบครัวคุณสัณหพล เหลืองอร่ าม ครอบครัวสุ วรรณจิต, อุชชิน, อาดัมส์ อุทศิ แด่ มารี อา สมสุ ข, ลอเรนซ์ สุ นทร สุ นพิชยั มารี อา นิตยา, ยอแซฟ สมบัติ, Thomas Adams แมทธิว เกียรติศกั ดิ์ สุ วรรณจิต มารี อา มยุรี ผลาวงศ์ อลิซาเบท วัลลีย ์ บูรณพันธ์ มารี อา จันทรา สุ เสงี่ยม ยอแซฟ สุ รเทพ สุ เสงี่ยม คุณยุทธนา คํามัน่ ยอแซฟ ประสงค์, ยอแซฟ สมศักดิ์ สมบัติศิริ คุณซี ฮวง, มารี อา กิมลี้, แบร์นาแด๊ต นิภา ฟิ ลิป มุ่ยซิ ม, คุณเช้ง แซ่จึง, เรนาโต ผดุง สุ ขสยาม คุณเส่ ง แซ่ล้ ี, คุณก้านทอง แสงปั ญหา คุณน้อย เปรมสวัสดิ์ คุณโอภาส ฤทธิชยั สําราญ วิญญาณในไฟชําระ และวิญญาณที่ไม่มีผใู้ ดนึกถึง จ. 1 ก.ย. อุทศิ แด่ วิญญาณในไฟชําระ อ. 2 ก.ย. อุทศิ แด่ วิญญาณในไฟชําระ พ. 3 ก.ย. อุทศิ แด่ วิญญาณในไฟชําระ พฤ. 4 ก.ย. สุ ขสํ าราญ มารี อา มาลี วงษ์สง่า ศ. 5 ก.ย. อุทศิ แด่ วิญญาณในไฟชําระ

มาลินี มาลา มาลา วิไลวรรณ กัลยาณี มาลา กัลยาณี กัลยาณี กัลยาณี กัลยาณี วีรยา วีรยา วีรยา ชุติกาญจน์ รุ่ งโรจน์ รุ่ งโรจน์ รุ่ งโรจน์ นิรมาน นิรมาน คค.วงษ์สง่า 11


มิสซาสั ปดาห์ ที่ 22 เทศกาลธรรมดา (ปี A) วันอาทิตย์ ที่ 31 สิ งหาคม ค.ศ. 2014 วัน เดือน ปี รายการมิสซา ส. 30 ส.ค. สุ ขสํ าราญ โมทนาคุณพระเจ้าและพระแม่มารี ย ์ มารี อา องุ่น ตรี มุข 18.00 น. อุทศิ แด่ อันตน สําเริ ง โกญจนาท เปโตร ยรรยง, ลูซีอา ละออ, มารี อา นิตยา อุชชิน ยอแซฟ สมบัติ อุชชิน, มารี อา มยุรี ผลาวงศ์ มัทธิว เกียรติศกั ดิ์ สุ วรรณจิต เอลิซาเบท วัลลี บูรณพันธ์, Thomas Adams วิญญาณในไฟชําระและวิญญาณที่ไม่มีผใู ้ ดนึกถึง อา. 31 ส.ค. สุ ขสํ าราญ โมทนาคุณพระเจ้า และพระแม่มารี ย ์ 08.00 น. อันนา เอื้อพันธ์ ศรี เจริ ญ ครอบครัวศรี เจริ ญ มารี อา ประทุม, คุณสมนึก ใช้สมบุญ และครอบครัว ยอห์น บัปติสตา ปวีร์ ประกอบกิจ ครอบครัวพิทกั ษ์ตนั สกุล ครอบครัวปรี ดาสุ ทธิจิตต์ อุทศิ แด่ โรซา วรี ตันติโกสิ ชฌน์ สตีเฟน จํารู ญ, มารี อา ละมุด เจริ ญพานิช คุณสมนึก ใช้สมบุญ ยอแซฟ บรรจง ศิริยงค์ ยอแซฟ ธวัช วิธีธรรม ยวง บัปติสตา ก๊กเคี้ยง แซ่แพ้, มารี อา กิมฮวย แซ่ ต้ งั ผูล้ ่วงลับครอบครัวพิทกั ษ์ตนั สกุล ผูล้ ่วงลับครอบครัวปรี ดาสุ ทธิจิตต์ บรรพบุรุษครอบครัวธนาพานิชย์ วิญญาณในไฟชําระและวิญญาณที่ไม่มีผใู ้ ดนึกถึง 10

ผู้ขอมิสซา เริ งจิต คค.อุชชิน คค.อุชชิน คค.อุชชิน คค.อุชชิน องุ่น/ลูกพระ สาวิตรี สาวิตรี ลูก อรทัย อรทัย สาวิตรี สาวิตรี อรทัย/สมนึก

ปีศาจรูจ้ ุดอ่อนของทุกคนดีวา่ ไม่มใี ครอยากตายอย่างเจ็บปวดทรมานบนไม้กางเขน มันจึงพยายามล่อลวงพระองค์ให้เลือกวิธที ส่ี บายกว่าในกอบกูม้ นุ ษยชาติ (ดู มธ 4:1-11) - “จงใช้ฤ ทธิ์อํ า นาจทีม่ ีเ ปลีย่ นก้อ นหิน เป็ น ขนมป งั แจกผู้ค นสิ แล้ว พวกเขาจะ ติดตามพระองค์” - “จงแสดงอภินิหารด้วยการกระโดดจากทีส่ งู สิ หากประชาชนรูส้ กึ พิศวง พวกเขาก็ จะเชือ่ ฟงั พระองค์เองแหละ” - “จงยอมก้มหัวให้เราบ้างสิ อย่าเคร่งครัดนัก หัดเอาหูไปนาเอาตาไปไร่บา้ ง คนเขา จะได้ตดิ ตามพระองค์งา่ ยหน่อย” แม้ก่อนถูกจับในสวนเกทเสมนีเพียงไม่กน่ี าที มันก็ยงั ไม่เลิกล่อลวงพระองค์ “ขอให้ ถ้วยนี้พน้ ข้าพเจ้าไปเถิด” (มธ 26:39) แต่ครัง้ นี้ปีศาจมันโหดร้ายสุด ๆ ! มันใช้เปโตรผูเ้ ป็ นศิษย์รกั ศิษย์เอกของพระองค์เองให้ลอ่ ลวงพระองค์ !! ปีศาจตรงกับภาษาฮีบรู “ซาตาน” ซึง่ แปลว่า “ปรปกั ษ์” มันจึงพยายามทุกวิถที างที่ จะทําให้มนุ ษย์หนั เหจากหนทางของพระเจ้าและกลายเป็ นปรปกั ษ์กบั พระองค์ เปโตรถูกปี ศาจทําให้เป็ น “ซาตาน” ผูเ้ ป็ นปรปกั ษ์กบั พระองค์ จนพระองค์ตอ้ งตรัส ว่า “เจ้าเป็ นเครือ่ งกีดขวางเรา เจ้าไม่คดิ อย่างพระเจ้า แต่คดิ อย่างมนุ ษย์” (มธ 16:23) และนี่ คือสาเหตุท่ที ําให้พระองค์ต่ืนตระหนกและปวดร้าวหัวใจมากที่สุด เพราะ ซาตานทีม่ าล่อลวงพระองค์คอื ผูซ้ ึง่ รักพระองค์มากทีส่ ดุ แต่ “ความรักแท้” ย่อมส่งเสริม “คนรัก” ให้อยูใ่ นหนทางของพระเจ้า ไม่ใช่พยายาม ลากพระองค์ออกไปจากพระเจ้าดังทีเ่ ปโตรได้กระทํา ! ความรักแท้ยอ่ มไม่หน่ วงเหนี่ยวอัศวินให้อยูก่ บั บ้าน แต่ยอ่ มปล่อยเขาออกไปผจญ ภัยเพือ่ ชัยชนะและเกียรติยศอันยิง่ ใหญ่ ความรักที่ปกป้องคนรักจากการเป็ นทหารหาญของพระคริสตเจ้า หรือจากการ ดําเนินชีวติ ตามหนทางของพระองค์จงึ ไม่ใช่ “รักแท้” อย่างไรก็ตาม แม้จะถูกดุวา่ เป็ นซาตาน แต่คาํ สังที ่ พ่ ระองค์ทรงใช้ “ขับไล่” เปโตรก็ ยังแฝงไปด้วยคําเชิญชวนและการให้โอกาสกลับมาติดตามพระองค์ ก่ อ นหน้ า นี้ พ ระองค์ท รงขับ ไล่ ปี ศ าจที่ล่ อ ลวงพระองค์ใ นถิ่น ทุ ร กัน ดารว่า “เจ้า ซาตาน จงไปให้พน้ ” (มธ 4:10) ซึ่งตรงกับภาษากรีก “Hupage Satana” (ฮูพาเก ซาตา นา) 3


แต่กบั เปโตร พระองค์ตรัสสังว่ ่ า “เจ้าซาตาน ถอยไปข้างหลัง” (มธ 16:23) ภาษา กรีกคือ “Hupage opiso mou, Satana” (ฮูพาเก โอพีโซ มู, ซาตานา) แม้จะใช้คําสัง่ “ฮูพาเก” เหมือนกัน แต่สงิ่ ที่เพิม่ เข้ามาคือ “โอพีโซ มู” ซึ่งแปลว่า “ข้างหลังฉัน” หมายความว่า พระองค์ทรงขับไล่ปีศาจให้ “ไปแล้วไปลับ” แต่กบั เปโตรไม่ใช่ไป แล้วไปลับ เพียงแค่ให้ “ถอยไปอยูข่ า้ งหลัง” หรืออีกนัยหนึ่งคือ “จงกลับมาติ ดตามเรา !” นี่คอื สิง่ ที่ทําให้เปโตรแตกต่างจากปี ศาจอย่างสิน้ เชิง เพราะปี ศาจมันหยิง่ จองหอง เกินกว่าจะยอมติดตามพระองค์ ส่วนเปโตร แม้จะผิดพลาดครัง้ แล้วครัง้ เล่า แต่ท่านก็หนั กลับมาติดตามพระองค์ทุกครัง้ แล้วเราจะเลือกหนทางแบบเปโตรหรือปี ศาจ ?

2. เงื่อนไขในการติดตามพระคริสตเจ้า คําสอนหลักทีพ่ ระเยซูเจ้าตรัสถึงบ่อยทีส่ ุดคือ “เงือ่ นไขในการติดตามพระองค์” (มธ 10:37-39; มก 8:34-37; ลก 9:23-27; 14:25-27; 17:33; ยน 12:25) ซึง่ มี 3 ประการด้วยกัน 1. เลิ กคิ ดถึงตนเอง หรือ “ปฏิเสธตนเอง” (self-denial) ซึง่ เราคุน้ เคยกันดี แต่ส่วนใหญ่มกั ปฏิเสธตนเองแบบมีขอ้ จํากัด เช่น อดเนื้อ(เฉพาะ)วันศุกร์ หรือทําพลีกรรม ชดเชยบาป(เฉพาะ)เทศกาลมหาพรต เป็ นต้น แต่น่ีเป็ นเพียงเศษเสีย้ วเดียวของการเลิกคิดถึงตนเองตามความหมายของ พระเยซูเจ้า เพราะสําหรับพระองค์ การเลิกคิดถึงตนเองหมายถึงการพูด “ไม่” กับตัวเอง และ “ใช่” กับพระเจ้าทุกลมหายใจตลอดชีวิต ไม่ใช่เลิกคิดถึงตนเองเฉพาะเวลาใดเวลา หนึ่ง ทุกวันและทุกขณะจิต เราต้องพยายามลดความเป็ น “ตัวกู-ของกู” ลง แล้ว อัญเชิญพระเจ้ามาเป็ นหลักในการดําเนินชีวติ ดังแบบอย่างของนักบุญเปาโลที่กล่าวไว้ว่า “ข้าพเจ้าถูกตรึงกางเขนกับพระคริสตเจ้าแล้ว ข้าพเจ้ามีชวี ติ อยู่ มิใช่ตวั ข้าพเจ้าอีกต่อไป แต่ พระคริสตเจ้าทรงดํารงชีวติ อยู่ในตัวข้าพเจ้า ชีวติ ทีข่ า้ พเจ้ากําลังดําเนินอยู่ในร่างกายขณะนี้ ข้า พเจ้า ดํา เนิ น ชีว ิต ในความเชือ่ ถึง พระบุ ต รของพระเจ้า ผู้ท รงรัก ข้า พเจ้า และทรงมอบ พระองค์เพือ่ ข้าพเจ้า” (กท 2:20) 4

ช่วงสายวันพุธที่ 27 สิงหาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงเป็ น ประธานในการเข้าเฝ้าทัว่ ไป ณ ลานหน้ามหาวิหารนักบุญเปโตร วาติกนั ท่ามกลางสัตบุรษุ ที่ ม าร่ ว มกว่ า 12,000 คน โดยวั น นี้ พระสัน ตะปาปาทรงเทศน์ส อนเน้น เรื่ อ ง "ความ แตกแยกในกลุม่ คริสตชน" เป็ นหลัก พระสันตะปาปา ตรัสว่า "ความรูส้ ึกอบอุ่นใจอย่างแรกของพวกเรา เกิดจากความ จริ งที่ว่า พระเยซูทรงสวดภาวนาอย่างมากเพื่อความเป็ นหนึ่งเดียวกันในกลุ่มศิ ษย์ของ พระองค์ นี่คือการภาวนาในการเลี้ยงอาหารคํา่ มื้อสุดท้าย พระเยซูตรัสหลายครั้งว่า 'พระ บิดาเจ้า ขอให้พวกเขาเป็ นหนึง่ เดียวกัน' พระองค์ภาวนาเพื่อความเป็ นหนึง่ เดียวกัน "จากประสบการณ์ที่ผา่ นมา มีบาปมากมายหลายประการที่เกิดจากความแตกแยก ในพระศาสนจักร ขอให้เราอย่าคิดถึงแค่ความแตกแยก แต่ขอให้คิดถึงความผิดพลาดแบบ พื้ น ๆในเขตวัด ของเรา นี่คือ บาปของกลุ่มคริ สตชน เขตวัด ของเราถูกจัดตั้งมาเพื่ อ เป็ น สถานที่แห่งการแบ่งปั น แต่บางครั้ง มันน่าเศร้ามากที่มีการแบ่งฝั กแบ่งฝ่ ายจากการอิจฉา ความริษยา และความเกลียดชัง กล่าวคือ ทุกคนนินทากัน มันต้องไม่มีการนินทาในเขตวัด! พ่อขอยํา้ เลยนะ!” "เราต้องตรวจสอบความรูส้ ึกผิดชอบชัว่ ดีของเราอย่างจริงจัง ความแตกแยกใน กลุม่ คริสตชน หรือจะเป็ นในโรงเรียน, เขตวัด, หน่วยงาน หรือจะเป็ นที่ไหนก็ตาม คือบาป ผิดร้ายแรง เพราะมันคือผลงานของปี ศาจ แต่สาํ หรับพระเจ้าแล้ว พระองค์ตอ้ งการให้เรา เติบโตด้วยการให้อภัยและรักกันและกัน ดังนั้น ขอให้เราดําเนินชีวิตให้เหมือนพระเยซูให้ มากๆ และนี่แหละคือความศักดิ์สิทธิ์ของพระศาสนจักร นัน่ คือ การตระหนักถึงพระฉายา ลักษณ์ของพระเจ้า และได้รบั การเติมเต็มด้วยพระเมตตาและพระหรรษทานของพระองค์” "พี่ นอ้ งที่ รกั ขอให้พระวาจาของพระเยซดู งั ก้องให้หวั ใจเราเสมอ นัน่ คื อ 'เป็นบ ุญของผูส้ ร้างสันติ เพราะเขาจะได้ชื่อว่าเป็นบ ุตรของพระเจ้า' ขอให้เราตัง้ ใจ จริ ง ที่ จ ะวอนขอการอภัย จากพระเจ้า ในท กุ ครัง้ ที่ เ ราเป็ นต้น เหต ใุ ห้เ กิ ด ความ แตกแยกและความไม่เข้าใจกันในกลมุ่ ช ุมชนของเรา ขอให้เราตระหนักว่า เราจะไม่ เป็นหนึ่งเดียวกัน ถ้าไม่มีการกลับใจ” "ว่าแต่ อะไรคือการกลับใจ? ขอให้เราสวดขอพระเจ้า เพื่อพระองค์จะ ประทานให้เรารูว้ ่า การกลับใจคือการไม่พดู จาให้รา้ ยใคร ไม่ด่าใคร ไม่นินทา แต่ เลือกที่ จะรักทกุ คน นี่คือพระหรรษทานที่ พระเจ้ามอบให้เรา นี่คือการกลับใจของ หัวใจเรา" พระสันตะปาปา ตรัสปิดท้าย ขอขอบคุณ Pope Report 9


หนึ่งครั้ งวันอาทิตย์

คุณพ่ อฉลองรั ฐ สั งขรั ตน์ www.facebook/charlongrath Sang Karat 31 สิ งหาคม 2014

บุญทิง้ กับบุญหนั บ สองศรี สามีภรรยาต้ องไปอําเภออีกแล้ ว คราวนี ้ไม่ไว้ ใจ สามี เดี๋ยวจะเจอดีอีก คราวที่แล้ ว “รู ปถ่ายไม่เกิ นสามเดื อน” ไปหนหนึ่งแล้ ว เล่นอับอายขาย หน้ าไปทังอํ ้ าเภอ หนนี ้ พาญาติชาวต่างชาติ มาจดชื่อสกุลเป็ น คนไทย แต่วนั นี ้วันอะไร คนมาอําเภอกันแน่น สอบถามได้ ความว่า ทางการอนุญาตให้ คนเขาคนดอยมาจดชื่อสกุลด้ วย ก็เลยมา แน่นอําเภอ แต่ด้วยความไม่ร้ ู หนังสือ เจ้ าหน้ าที่ก็บดู บึ ้งอารมณ์ไม่ดี แถมยังตังชื ้ ่อสกุล ้ ่อสกุลให้ ตรงนันเลย ้ ไม่เป็ นอีก เจ้ าหน้ าที่ต้องเป็ น “พระครู” ตังชื “นีแ่ ก ได้ชือ่ สกุลอะไร” บุญทิ ้งสอดรู้สอดเห็นถาม “ ขอบพงพนาไพร” คนดอยตอบ เพราะดีแปลความถึงถิ่นที่อยู่ และตระกูลนี ้ เล่นยกหมูบ่ ้ านมากันแน่นที่วา่ การ ลองสอบถามได้ นามสกุลว่า “มาเยอะ” บุญทิ ้งอธิบายว่ามากันเยอะ เลยได้ มาเยอะ มากันทังหมู ้ บ่ ้ าน “และนี ่ แกไปหาอาจารย์ พระครู นามสกุลของเขยฝรั่ ง ท่านว่าอย่างไร” บุญหนับ ถามไถ่ “ คฤจภัคฐ์ คิศถถุงคิษแคธฎ์ ” บุญทิ ้งกางภาษาบาลี ที่อาจารย์ให้ “ มันแปลว่าอะไร บาลีนี”่ บุญหนับถาม “ คิดจะพัก คิดถึงคิดแคท” บุญทิ ้งแปลคล่องปาก มธ.1:1 “หนังสื อลําดับพระวงศ์ของพระเยซูคริ สตเจ้า โอรสของกษัตริ ยด์ าวิด ผูท้ รงสื บ เชื้อสายมาจากอับราฮัม” 8

2. แบกไม้กางเขนของตน นัน่ คือยอมรับภาระทุกอย่างอันเกิดจากการรับใช้ ด้วยความเสียสละ เช่น ยอมละทิ้งความทะเยอทะยานส่วนตัวเพื่อรับใช้พระเยซูเจ้า ยอมสละ เวลาว่างและความบันเทิงส่วนตัวเพือ่ เยีย่ มเยียนผูส้ งู อายุ เด็กกําพร้า ผูพ้ กิ าร ผูข้ ดั สนและด้อย โอกาส ซึง่ ล้วนแล้วแต่เป็ นการรับใช้พระเจ้าทีด่ ที ส่ี ดุ นอกจากภาระอันเกิดจากการรับใช้พระเจ้าแล้ว กางเขนยังหมายรวมถึงภาระ อันเกิดจากหน้าทีก่ ารงานประจําวัน มรสุมชีวติ ตลอดจนการประจญล่อลวงอีกมากมายซึง่ ล้วน แล้วแต่เป็ นโอกาสให้เรา “ชนะ เข้มแข็ง มันคง ่ เป็ นคนดี และประสบความสําเร็จ” เพิม่ มากขึน้ 3. ติ ดตามพระเยซูคริ สตเจ้า คือยอมรับพระองค์เป็ นผูน้ ํ าของเรา และพร้อม นบนอบเชือ่ ฟงั พระองค์ เมื่อ นบนอบเชื่อ ฟ งั พระองค์ ก็เ ท่ า กับ เรากํ า ลัง คิด เหมือ นพระองค์ และ ปรารถนาเหมือนพระองค์ ซึง่ แน่นอนว่าจะนําเราไปสูก่ ารดําเนินชีวติ เหมือนพระองค์ดว้ ย แล้วยังจะมีสงิ่ ใดยิง่ ใหญ่ไปกว่าการดําเนินชีวติ และมี “ชีวิตเหมือนพระเจ้า” อีกเล่า ?!?

3. เคล็ดลับชีวิต นอกจากเงื่อ นไขทัง้ 3 ประการแล้ว พระองค์ย งั ทรงสอนเคล็ด ลับ ในการ “มีชีว ิต ” แก่เราอีกด้วย สําหรับพระองค์ “คนเป็ น” (existing) และ “คนมีชวี ติ ” (living) นัน้ ต่างกัน ทุกคนที่หายใจได้และหัวใจยังเต้นอยู่กถ็ ือว่าเป็ น “คนเป็ น” แล้ว แต่ใช่ว่า “คนเป็ น” ทุกคนจะได้ช่อื ว่า “มีชวี ติ ” เพราะคนที่ “มีชวี ติ ” จําเป็ นต้องมีคุณค่ามากกว่าหายใจได้ เช่น ต้องมีจติ ใจทีส่ งบ ร่าเริงเบิกบาน และเป็ นสุขอยูท่ ุกขณะจิต เคล็ดลับของพระองค์ในการทําให้ “คนเป็ น” มีชวี ติ คือ “การสละชีวิต” ! พระองค์ตรัสว่า “ผูใ้ ดใคร่รกั ษาชีวติ ของตนให้รอดพ้น ก็จะสูญเสียชีวติ นิรนั ดร แต่ถา้ ผูใ้ ดเสียชีวติ ของตนเพราะเรา ก็จะพบชีวติ นิรนั ดร” (มธ 16:25) มัทธิวเขียนพระวรสารราว ค.ศ. 80 - 90 ซึ่งเริม่ มีการเบียดเบียนศาสนาแล้ว ท่านจึง นําพระวาจาของพระเยซูเจ้ามาบันทึกไว้เพือ่ เตือนใจคริสตชนว่า “หากท่านละทิ้งความเชือ่ จริง อยูท่ า่ นอาจรักษาชีวติ ไว้ได้ แต่ทา่ นมีชวี ติ ต่อไปก็เพือ่ รอวันตายและเป็ นความตาย 5


ชัวนิ ่ รนั ดร ตรงกันข้าม หากท่านรักษาความเชือ่ ไว้ ท่านอาจตาย แต่ท่านตายเพือ่ จะมีชวี ติ นิรนั ดร” ทุกวันนี้ แม้โอกาสตายเพื่อยืนยันความเชื่อจะเหลือน้ อยเต็มที แต่เราสามารถ “ตายต่อตัวเอง” ได้ทุกวัน หากเรามัวแต่แสวงหาความสะดวกสบาย เจริญชีวติ ตามใจตัวเอง และตัดสินใจ ตามมาตรฐานชาวโลก เรากําลังปล่อยตัวให้หย่อนยาน เห็นแก่ตวั และยึดติดอยูก่ บั สิง่ ของ ของโลก ซึ่งเป็ นชีวติ ทีส่ วนทางกับพระเจ้าและทําให้ความเป็ น “ฉายาของพระเจ้า” ในตัว เราลดน้อยถอยลงอันส่งผลให้ “ความเป็ นคน” ของเราด้อยค่าลงจนกลายเป็ นคนไร้ค่าไปใน ทีส่ ดุ ในทางกลับกัน เราพบเห็นนักบุญและวีรบุรุษมากมายที่ยอมสูญเสียทุกสิง่ แม้แต่ ชีวติ ของตนเองเพือ่ พระเยซูเจ้า ต่างได้รบั การจารึกชือ่ ไว้อย่างยิง่ ใหญ่ในประวัตศิ าสตร์ หากไม่มผี ู้ใดดําเนินชีวติ ตาม “เคล็ดลับ” ของพระเยซูเจ้า ต่างคนต่างเห็นแก่ ความปลอดภัยของตนเอง ไม่ยอมเสี่ยง ไม่ยอมเสียสละ เราคงไม่มยี ารักษาโรคใหม่ ๆ ไม่มสี งิ่ ประดิษฐ์ใหม่ ๆ ซึง่ คงทําให้ชวี ติ ของเรายากลําบากมากกว่านี้หรืออาจจบสิน้ ไปแล้ว ก็เป็ นได้ หรือหากผูเ้ ป็ นแม่กลัวเจ็บ กลัวถูกลูกรบกวน เลยไม่ยอมคลอดบุตร แล้วเราจะเกิด มาได้อย่างไรกัน ? เพราะฉะนัน้ ผู้ทีพ่ ร้อมเดิ มพันชีวิตของตนเพือ่ พระเจ้าเท่านัน้ แหละที จ่ ะพบ ชีวิต และเป็ นชีวิตทีม่ ีคณ ุ ค่ามากด้วย ! อย่าลืมว่า ทุกครัง้ ทีเ่ ราตัดสินใจกระทําสิง่ ใดสิง่ หนึ่ง เรากําลังทําให้สงิ่ นัน้ กลายเป็ น นิสยั และบุคลิกลักษณะเฉพาะของเราตลอดไป เราจะทําสิง่ นัน้ บ่อย ๆ และทําได้อย่าง คล่องแคล่วจนลืมคิดถึงสิง่ อื่นและไม่สามารถทําสิง่ อื่นได้อกี ตัวอย่างเช่น หากเราเป็ นคน เห็นแก่ตวั ไม่เคยฟงั หรือคิดถึงผูอ้ ่นื เราไม่มที างคาดหวังได้เลยว่าจะกลับกลายเป็ นคน เอือ้ เฟื้อเผือ่ แผ่และรูจ้ กั รับฟงั ความคิดเห็นของผูอ้ ่นื ในบัน้ ปลายชีวติ ของเรา หรือหากเราดําเนินชีวติ ยึดติดอยู่กบั โลก มุ่งแสวงหาตําแหน่ ง ชื่อเสียง เกียรติยศ และทรัพย์ศฤงคาร จนมีอาํ นาจวาสนาและบารมีลน้ เหลือ ผูค้ นนับหน้าถือตา มีคนล้อมหน้า ล้อมหลัง แล้วเรากล้าคาดหวังว่าจะ “ละโลก” หันมาหาพระเจ้าก่อนตายได้ละหรือ ?!?

6

พระเยซูเจ้าจึงทรงเสริม “เคล็ดลับ” ของพระองค์ด้วยการเตือนสติเราทุกคนว่า “มนุ ษย์จะได้ประโยชน์ใดในการทีไ่ ด้โลกทัง้ โลกเป็ นกําไร แต่ตอ้ งเสียชีวติ มนุ ษย์จะต้องให้ สิง่ ใดเพือ่ แลกกับชีวติ ทีส่ ญ ู เสียไปให้กลับคืนมา” (มธ 16:26) คําว่า “แลก” ตรงกับภาษากรีก antallagma (อันตัลลักมา) ซึง่ มีตวั อย่างการใช้ใน พระธรรมเก่ า เช่น “ไม่ม ี antallagma สําหรับ เพือ่ นตาย” (บสร 6:15) และ “ไม่ม ี antallagma สําหรับวิญญาณทีส่ ตั ย์ซอื ่ ” (บสร 26:14) ความหมายในพระธรรมเก่าคือ ไม่มสี งิ ่ ใดมีค่าเพียงพอทีจ่ ะ “แลก” กับเพือ่ นตาย หรือวิญญาณทีส่ ตั ย์ซอื ่ ได้ เมื่อพระเยซูเจ้าทรงนํ าคํา “antallagma” มาใช้ ย่อมหมายความว่า โลกไม่มีค่า เพียงพอทีจ่ ะแลกกับพระองค์ ! เมือ่ พูดถึง “โลก” พระองค์ทรงหมายถึงวัตถุสงิ่ ของซึง่ ถือว่าอยูต่ รงข้ามกับพระเจ้า และเพราะมันอยูต่ รงข้ามกับพระเจ้า เราจึงควรคํานึงอยูเ่ สมอว่า 1. เมื่อวาระสุดท้ายมาถึง เราไม่อาจนํ าสิง่ ใดในโลกติดตัวไปได้เลยนอกจาก ตัวของเราเอง หากเราลดตัวลงไปยึดติดกับสิง่ ทีน่ ํ าติดตัวไปไม่ได้มนั จะน่ าเศร้าและขมขื่น สักเพียงใด ? 2. ในวันทีเ่ ราต้องเผชิญกับมรสุมชีวติ จะมีวตั ถุใดในโลกทีช่ ่วยเยียวยาหัวใจ ซึง่ แตกสลายหรือดวงวิญญาณทีเ่ ปล่าเปลีย่ วของเราได้ ? 3. ยิง่ ถ้าเราได้สงิ่ ของนัน้ มาอย่างไม่ถูกต้องแล้วถูกมโนธรรมติเตียน เราจะ ทนฟงั เสียงติเตียนเหมือนตกนรกทัง้ เป็ นได้หรือ ? พร้อมกับ “เคล็ดลับ” พระองค์ทรงประทานคําเตือนไว้ดว้ ยว่า “บุตรแห่งมนุ ษย์จะ เสด็จกลับมาในพระสิรริ ุ่งโรจน์ ของพระบิดาพร้อมกับบรรดาทูตสวรรค์ เมือ่ นัน้ พระองค์จะ ประทานรางวัลแก่ทุกคนตามความประพฤติของเขา” (มธ 16:27) อย่าลืมว่า ทุก ๆ วินาที ชีวติ ของเรากําลังเคลื่อนทีไ่ ปสู่ “ความตาย” และ “การ พิ พากษา” ไม่มใี ครสามารถรอดพ้นจากสองสิง่ นี้ไปได้สกั คนเดียว ! และเกณฑ์ในการพิพากษาตัดสินของพระเยซูเจ้าคือ “ผู้ใดใคร่รกั ษาชีวิตของตน ให้ รอดพ้น ก็จะสูญเสี ยชี วิตนิ รันดร แต่ ถ้าผู้ใดเสี ยชี วิตของตนเพราะเรา ก็จะพบ ชีวิตนิ รนั ดร” !! 7


ชัวนิ ่ รนั ดร ตรงกันข้าม หากท่านรักษาความเชือ่ ไว้ ท่านอาจตาย แต่ท่านตายเพือ่ จะมีชวี ติ นิรนั ดร” ทุกวันนี้ แม้โอกาสตายเพื่อยืนยันความเชื่อจะเหลือน้ อยเต็มที แต่เราสามารถ “ตายต่อตัวเอง” ได้ทุกวัน หากเรามัวแต่แสวงหาความสะดวกสบาย เจริญชีวติ ตามใจตัวเอง และตัดสินใจ ตามมาตรฐานชาวโลก เรากําลังปล่อยตัวให้หย่อนยาน เห็นแก่ตวั และยึดติดอยูก่ บั สิง่ ของ ของโลก ซึ่งเป็ นชีวติ ทีส่ วนทางกับพระเจ้าและทําให้ความเป็ น “ฉายาของพระเจ้า” ในตัว เราลดน้อยถอยลงอันส่งผลให้ “ความเป็ นคน” ของเราด้อยค่าลงจนกลายเป็ นคนไร้ค่าไปใน ทีส่ ดุ ในทางกลับกัน เราพบเห็นนักบุญและวีรบุรุษมากมายที่ยอมสูญเสียทุกสิง่ แม้แต่ ชีวติ ของตนเองเพือ่ พระเยซูเจ้า ต่างได้รบั การจารึกชือ่ ไว้อย่างยิง่ ใหญ่ในประวัตศิ าสตร์ หากไม่มผี ู้ใดดําเนินชีวติ ตาม “เคล็ดลับ” ของพระเยซูเจ้า ต่างคนต่างเห็นแก่ ความปลอดภัยของตนเอง ไม่ยอมเสี่ยง ไม่ยอมเสียสละ เราคงไม่มยี ารักษาโรคใหม่ ๆ ไม่มสี งิ่ ประดิษฐ์ใหม่ ๆ ซึง่ คงทําให้ชวี ติ ของเรายากลําบากมากกว่านี้หรืออาจจบสิน้ ไปแล้ว ก็เป็ นได้ หรือหากผูเ้ ป็ นแม่กลัวเจ็บ กลัวถูกลูกรบกวน เลยไม่ยอมคลอดบุตร แล้วเราจะเกิด มาได้อย่างไรกัน ? เพราะฉะนัน้ ผู้ทีพ่ ร้อมเดิ มพันชีวิตของตนเพือ่ พระเจ้าเท่านัน้ แหละที จ่ ะพบ ชีวิต และเป็ นชีวิตทีม่ ีคณ ุ ค่ามากด้วย ! อย่าลืมว่า ทุกครัง้ ทีเ่ ราตัดสินใจกระทําสิง่ ใดสิง่ หนึ่ง เรากําลังทําให้สงิ่ นัน้ กลายเป็ น นิสยั และบุคลิกลักษณะเฉพาะของเราตลอดไป เราจะทําสิง่ นัน้ บ่อย ๆ และทําได้อย่าง คล่องแคล่วจนลืมคิดถึงสิง่ อื่นและไม่สามารถทําสิง่ อื่นได้อกี ตัวอย่างเช่น หากเราเป็ นคน เห็นแก่ตวั ไม่เคยฟงั หรือคิดถึงผูอ้ ่นื เราไม่มที างคาดหวังได้เลยว่าจะกลับกลายเป็ นคน เอือ้ เฟื้อเผือ่ แผ่และรูจ้ กั รับฟงั ความคิดเห็นของผูอ้ ่นื ในบัน้ ปลายชีวติ ของเรา หรือหากเราดําเนินชีวติ ยึดติดอยู่กบั โลก มุ่งแสวงหาตําแหน่ ง ชื่อเสียง เกียรติยศ และทรัพย์ศฤงคาร จนมีอาํ นาจวาสนาและบารมีลน้ เหลือ ผูค้ นนับหน้าถือตา มีคนล้อมหน้า ล้อมหลัง แล้วเรากล้าคาดหวังว่าจะ “ละโลก” หันมาหาพระเจ้าก่อนตายได้ละหรือ ?!?

6

พระเยซูเจ้าจึงทรงเสริม “เคล็ดลับ” ของพระองค์ด้วยการเตือนสติเราทุกคนว่า “มนุ ษย์จะได้ประโยชน์ใดในการทีไ่ ด้โลกทัง้ โลกเป็ นกําไร แต่ตอ้ งเสียชีวติ มนุ ษย์จะต้องให้ สิง่ ใดเพือ่ แลกกับชีวติ ทีส่ ญ ู เสียไปให้กลับคืนมา” (มธ 16:26) คําว่า “แลก” ตรงกับภาษากรีก antallagma (อันตัลลักมา) ซึง่ มีตวั อย่างการใช้ใน พระธรรมเก่ า เช่น “ไม่ม ี antallagma สําหรับ เพือ่ นตาย” (บสร 6:15) และ “ไม่ม ี antallagma สําหรับวิญญาณทีส่ ตั ย์ซอื ่ ” (บสร 26:14) ความหมายในพระธรรมเก่าคือ ไม่มสี งิ ่ ใดมีค่าเพียงพอทีจ่ ะ “แลก” กับเพือ่ นตาย หรือวิญญาณทีส่ ตั ย์ซอื ่ ได้ เมื่อพระเยซูเจ้าทรงนํ าคํา “antallagma” มาใช้ ย่อมหมายความว่า โลกไม่มีค่า เพียงพอทีจ่ ะแลกกับพระองค์ ! เมือ่ พูดถึง “โลก” พระองค์ทรงหมายถึงวัตถุสงิ่ ของซึง่ ถือว่าอยูต่ รงข้ามกับพระเจ้า และเพราะมันอยูต่ รงข้ามกับพระเจ้า เราจึงควรคํานึงอยูเ่ สมอว่า 1. เมื่อวาระสุดท้ายมาถึง เราไม่อาจนํ าสิง่ ใดในโลกติดตัวไปได้เลยนอกจาก ตัวของเราเอง หากเราลดตัวลงไปยึดติดกับสิง่ ทีน่ ํ าติดตัวไปไม่ได้มนั จะน่ าเศร้าและขมขื่น สักเพียงใด ? 2. ในวันทีเ่ ราต้องเผชิญกับมรสุมชีวติ จะมีวตั ถุใดในโลกทีช่ ่วยเยียวยาหัวใจ ซึง่ แตกสลายหรือดวงวิญญาณทีเ่ ปล่าเปลีย่ วของเราได้ ? 3. ยิง่ ถ้าเราได้สงิ่ ของนัน้ มาอย่างไม่ถูกต้องแล้วถูกมโนธรรมติเตียน เราจะ ทนฟงั เสียงติเตียนเหมือนตกนรกทัง้ เป็ นได้หรือ ? พร้อมกับ “เคล็ดลับ” พระองค์ทรงประทานคําเตือนไว้ดว้ ยว่า “บุตรแห่งมนุ ษย์จะ เสด็จกลับมาในพระสิรริ ุ่งโรจน์ ของพระบิดาพร้อมกับบรรดาทูตสวรรค์ เมือ่ นัน้ พระองค์จะ ประทานรางวัลแก่ทุกคนตามความประพฤติของเขา” (มธ 16:27) อย่าลืมว่า ทุก ๆ วินาที ชีวติ ของเรากําลังเคลื่อนทีไ่ ปสู่ “ความตาย” และ “การ พิ พากษา” ไม่มใี ครสามารถรอดพ้นจากสองสิง่ นี้ไปได้สกั คนเดียว ! และเกณฑ์ในการพิพากษาตัดสินของพระเยซูเจ้าคือ “ผู้ใดใคร่รกั ษาชีวิตของตน ให้ รอดพ้น ก็จะสูญเสี ยชี วิตนิ รันดร แต่ ถ้าผู้ใดเสี ยชี วิตของตนเพราะเรา ก็จะพบ ชีวิตนิ รนั ดร” !! 7


หนึ่งครั้ งวันอาทิตย์

คุณพ่ อฉลองรั ฐ สั งขรั ตน์ www.facebook/charlongrath Sang Karat 31 สิ งหาคม 2014

บุญทิง้ กับบุญหนั บ สองศรี สามีภรรยาต้ องไปอําเภออีกแล้ ว คราวนี ้ไม่ไว้ ใจ สามี เดี๋ยวจะเจอดีอีก คราวที่แล้ ว “รู ปถ่ายไม่เกิ นสามเดื อน” ไปหนหนึ่งแล้ ว เล่นอับอายขาย หน้ าไปทังอํ ้ าเภอ หนนี ้ พาญาติชาวต่างชาติ มาจดชื่อสกุลเป็ น คนไทย แต่วนั นี ้วันอะไร คนมาอําเภอกันแน่น สอบถามได้ ความว่า ทางการอนุญาตให้ คนเขาคนดอยมาจดชื่อสกุลด้ วย ก็เลยมา แน่นอําเภอ แต่ด้วยความไม่ร้ ู หนังสือ เจ้ าหน้ าที่ก็บดู บึ ้งอารมณ์ไม่ดี แถมยังตังชื ้ ่อสกุล ้ ่อสกุลให้ ตรงนันเลย ้ ไม่เป็ นอีก เจ้ าหน้ าที่ต้องเป็ น “พระครู” ตังชื “นีแ่ ก ได้ชือ่ สกุลอะไร” บุญทิ ้งสอดรู้สอดเห็นถาม “ ขอบพงพนาไพร” คนดอยตอบ เพราะดีแปลความถึงถิ่นที่อยู่ และตระกูลนี ้ เล่นยกหมูบ่ ้ านมากันแน่นที่วา่ การ ลองสอบถามได้ นามสกุลว่า “มาเยอะ” บุญทิ ้งอธิบายว่ามากันเยอะ เลยได้ มาเยอะ มากันทังหมู ้ บ่ ้ าน “และนี ่ แกไปหาอาจารย์ พระครู นามสกุลของเขยฝรั่ ง ท่านว่าอย่างไร” บุญหนับ ถามไถ่ “ คฤจภัคฐ์ คิศถถุงคิษแคธฎ์ ” บุญทิ ้งกางภาษาบาลี ที่อาจารย์ให้ “ มันแปลว่าอะไร บาลีนี”่ บุญหนับถาม “ คิดจะพัก คิดถึงคิดแคท” บุญทิ ้งแปลคล่องปาก มธ.1:1 “หนังสื อลําดับพระวงศ์ของพระเยซูคริ สตเจ้า โอรสของกษัตริ ยด์ าวิด ผูท้ รงสื บ เชื้อสายมาจากอับราฮัม” 8

2. แบกไม้กางเขนของตน นัน่ คือยอมรับภาระทุกอย่างอันเกิดจากการรับใช้ ด้วยความเสียสละ เช่น ยอมละทิ้งความทะเยอทะยานส่วนตัวเพื่อรับใช้พระเยซูเจ้า ยอมสละ เวลาว่างและความบันเทิงส่วนตัวเพือ่ เยีย่ มเยียนผูส้ งู อายุ เด็กกําพร้า ผูพ้ กิ าร ผูข้ ดั สนและด้อย โอกาส ซึง่ ล้วนแล้วแต่เป็ นการรับใช้พระเจ้าทีด่ ที ส่ี ดุ นอกจากภาระอันเกิดจากการรับใช้พระเจ้าแล้ว กางเขนยังหมายรวมถึงภาระ อันเกิดจากหน้าทีก่ ารงานประจําวัน มรสุมชีวติ ตลอดจนการประจญล่อลวงอีกมากมายซึง่ ล้วน แล้วแต่เป็ นโอกาสให้เรา “ชนะ เข้มแข็ง มันคง ่ เป็ นคนดี และประสบความสําเร็จ” เพิม่ มากขึน้ 3. ติ ดตามพระเยซูคริ สตเจ้า คือยอมรับพระองค์เป็ นผูน้ ํ าของเรา และพร้อม นบนอบเชือ่ ฟงั พระองค์ เมื่อ นบนอบเชื่อ ฟ งั พระองค์ ก็เ ท่ า กับ เรากํ า ลัง คิด เหมือ นพระองค์ และ ปรารถนาเหมือนพระองค์ ซึง่ แน่นอนว่าจะนําเราไปสูก่ ารดําเนินชีวติ เหมือนพระองค์ดว้ ย แล้วยังจะมีสงิ่ ใดยิง่ ใหญ่ไปกว่าการดําเนินชีวติ และมี “ชีวิตเหมือนพระเจ้า” อีกเล่า ?!?

3. เคล็ดลับชีวิต นอกจากเงื่อ นไขทัง้ 3 ประการแล้ว พระองค์ย งั ทรงสอนเคล็ด ลับ ในการ “มีชีว ิต ” แก่เราอีกด้วย สําหรับพระองค์ “คนเป็ น” (existing) และ “คนมีชวี ติ ” (living) นัน้ ต่างกัน ทุกคนที่หายใจได้และหัวใจยังเต้นอยู่กถ็ ือว่าเป็ น “คนเป็ น” แล้ว แต่ใช่ว่า “คนเป็ น” ทุกคนจะได้ช่อื ว่า “มีชวี ติ ” เพราะคนที่ “มีชวี ติ ” จําเป็ นต้องมีคุณค่ามากกว่าหายใจได้ เช่น ต้องมีจติ ใจทีส่ งบ ร่าเริงเบิกบาน และเป็ นสุขอยูท่ ุกขณะจิต เคล็ดลับของพระองค์ในการทําให้ “คนเป็ น” มีชวี ติ คือ “การสละชีวิต” ! พระองค์ตรัสว่า “ผูใ้ ดใคร่รกั ษาชีวติ ของตนให้รอดพ้น ก็จะสูญเสียชีวติ นิรนั ดร แต่ถา้ ผูใ้ ดเสียชีวติ ของตนเพราะเรา ก็จะพบชีวติ นิรนั ดร” (มธ 16:25) มัทธิวเขียนพระวรสารราว ค.ศ. 80 - 90 ซึ่งเริม่ มีการเบียดเบียนศาสนาแล้ว ท่านจึง นําพระวาจาของพระเยซูเจ้ามาบันทึกไว้เพือ่ เตือนใจคริสตชนว่า “หากท่านละทิ้งความเชือ่ จริง อยูท่ า่ นอาจรักษาชีวติ ไว้ได้ แต่ทา่ นมีชวี ติ ต่อไปก็เพือ่ รอวันตายและเป็ นความตาย 5


แต่กบั เปโตร พระองค์ตรัสสังว่ ่ า “เจ้าซาตาน ถอยไปข้างหลัง” (มธ 16:23) ภาษา กรีกคือ “Hupage opiso mou, Satana” (ฮูพาเก โอพีโซ มู, ซาตานา) แม้จะใช้คําสัง่ “ฮูพาเก” เหมือนกัน แต่สงิ่ ที่เพิม่ เข้ามาคือ “โอพีโซ มู” ซึ่งแปลว่า “ข้างหลังฉัน” หมายความว่า พระองค์ทรงขับไล่ปีศาจให้ “ไปแล้วไปลับ” แต่กบั เปโตรไม่ใช่ไป แล้วไปลับ เพียงแค่ให้ “ถอยไปอยูข่ า้ งหลัง” หรืออีกนัยหนึ่งคือ “จงกลับมาติ ดตามเรา !” นี่คอื สิง่ ที่ทําให้เปโตรแตกต่างจากปี ศาจอย่างสิน้ เชิง เพราะปี ศาจมันหยิง่ จองหอง เกินกว่าจะยอมติดตามพระองค์ ส่วนเปโตร แม้จะผิดพลาดครัง้ แล้วครัง้ เล่า แต่ท่านก็หนั กลับมาติดตามพระองค์ทุกครัง้ แล้วเราจะเลือกหนทางแบบเปโตรหรือปี ศาจ ?

2. เงื่อนไขในการติดตามพระคริสตเจ้า คําสอนหลักทีพ่ ระเยซูเจ้าตรัสถึงบ่อยทีส่ ุดคือ “เงือ่ นไขในการติดตามพระองค์” (มธ 10:37-39; มก 8:34-37; ลก 9:23-27; 14:25-27; 17:33; ยน 12:25) ซึง่ มี 3 ประการด้วยกัน 1. เลิ กคิ ดถึงตนเอง หรือ “ปฏิเสธตนเอง” (self-denial) ซึง่ เราคุน้ เคยกันดี แต่ส่วนใหญ่มกั ปฏิเสธตนเองแบบมีขอ้ จํากัด เช่น อดเนื้อ(เฉพาะ)วันศุกร์ หรือทําพลีกรรม ชดเชยบาป(เฉพาะ)เทศกาลมหาพรต เป็ นต้น แต่น่ีเป็ นเพียงเศษเสีย้ วเดียวของการเลิกคิดถึงตนเองตามความหมายของ พระเยซูเจ้า เพราะสําหรับพระองค์ การเลิกคิดถึงตนเองหมายถึงการพูด “ไม่” กับตัวเอง และ “ใช่” กับพระเจ้าทุกลมหายใจตลอดชีวิต ไม่ใช่เลิกคิดถึงตนเองเฉพาะเวลาใดเวลา หนึ่ง ทุกวันและทุกขณะจิต เราต้องพยายามลดความเป็ น “ตัวกู-ของกู” ลง แล้ว อัญเชิญพระเจ้ามาเป็ นหลักในการดําเนินชีวติ ดังแบบอย่างของนักบุญเปาโลที่กล่าวไว้ว่า “ข้าพเจ้าถูกตรึงกางเขนกับพระคริสตเจ้าแล้ว ข้าพเจ้ามีชวี ติ อยู่ มิใช่ตวั ข้าพเจ้าอีกต่อไป แต่ พระคริสตเจ้าทรงดํารงชีวติ อยู่ในตัวข้าพเจ้า ชีวติ ทีข่ า้ พเจ้ากําลังดําเนินอยู่ในร่างกายขณะนี้ ข้า พเจ้า ดํา เนิ น ชีว ิต ในความเชือ่ ถึง พระบุ ต รของพระเจ้า ผู้ท รงรัก ข้า พเจ้า และทรงมอบ พระองค์เพือ่ ข้าพเจ้า” (กท 2:20) 4

ช่วงสายวันพุธที่ 27 สิงหาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงเป็ น ประธานในการเข้าเฝ้าทัว่ ไป ณ ลานหน้ามหาวิหารนักบุญเปโตร วาติกนั ท่ามกลางสัตบุรษุ ที่ ม าร่ ว มกว่ า 12,000 คน โดยวั น นี้ พระสัน ตะปาปาทรงเทศน์ส อนเน้น เรื่ อ ง "ความ แตกแยกในกลุม่ คริสตชน" เป็ นหลัก พระสันตะปาปา ตรัสว่า "ความรูส้ ึกอบอุ่นใจอย่างแรกของพวกเรา เกิดจากความ จริ งที่ว่า พระเยซูทรงสวดภาวนาอย่างมากเพื่อความเป็ นหนึ่งเดียวกันในกลุ่มศิ ษย์ของ พระองค์ นี่คือการภาวนาในการเลี้ยงอาหารคํา่ มื้อสุดท้าย พระเยซูตรัสหลายครั้งว่า 'พระ บิดาเจ้า ขอให้พวกเขาเป็ นหนึง่ เดียวกัน' พระองค์ภาวนาเพื่อความเป็ นหนึง่ เดียวกัน "จากประสบการณ์ที่ผา่ นมา มีบาปมากมายหลายประการที่เกิดจากความแตกแยก ในพระศาสนจักร ขอให้เราอย่าคิดถึงแค่ความแตกแยก แต่ขอให้คิดถึงความผิดพลาดแบบ พื้ น ๆในเขตวัด ของเรา นี่คือ บาปของกลุ่มคริ สตชน เขตวัด ของเราถูกจัดตั้งมาเพื่ อ เป็ น สถานที่แห่งการแบ่งปั น แต่บางครั้ง มันน่าเศร้ามากที่มีการแบ่งฝั กแบ่งฝ่ ายจากการอิจฉา ความริษยา และความเกลียดชัง กล่าวคือ ทุกคนนินทากัน มันต้องไม่มีการนินทาในเขตวัด! พ่อขอยํา้ เลยนะ!” "เราต้องตรวจสอบความรูส้ ึกผิดชอบชัว่ ดีของเราอย่างจริงจัง ความแตกแยกใน กลุม่ คริสตชน หรือจะเป็ นในโรงเรียน, เขตวัด, หน่วยงาน หรือจะเป็ นที่ไหนก็ตาม คือบาป ผิดร้ายแรง เพราะมันคือผลงานของปี ศาจ แต่สาํ หรับพระเจ้าแล้ว พระองค์ตอ้ งการให้เรา เติบโตด้วยการให้อภัยและรักกันและกัน ดังนั้น ขอให้เราดําเนินชีวิตให้เหมือนพระเยซูให้ มากๆ และนี่แหละคือความศักดิ์สิทธิ์ของพระศาสนจักร นัน่ คือ การตระหนักถึงพระฉายา ลักษณ์ของพระเจ้า และได้รบั การเติมเต็มด้วยพระเมตตาและพระหรรษทานของพระองค์” "พี่ นอ้ งที่ รกั ขอให้พระวาจาของพระเยซดู งั ก้องให้หวั ใจเราเสมอ นัน่ คื อ 'เป็นบ ุญของผูส้ ร้างสันติ เพราะเขาจะได้ชื่อว่าเป็นบ ุตรของพระเจ้า' ขอให้เราตัง้ ใจ จริ ง ที่ จ ะวอนขอการอภัย จากพระเจ้า ในท กุ ครัง้ ที่ เ ราเป็ นต้น เหต ใุ ห้เ กิ ด ความ แตกแยกและความไม่เข้าใจกันในกลมุ่ ช ุมชนของเรา ขอให้เราตระหนักว่า เราจะไม่ เป็นหนึ่งเดียวกัน ถ้าไม่มีการกลับใจ” "ว่าแต่ อะไรคือการกลับใจ? ขอให้เราสวดขอพระเจ้า เพื่อพระองค์จะ ประทานให้เรารูว้ ่า การกลับใจคือการไม่พดู จาให้รา้ ยใคร ไม่ด่าใคร ไม่นินทา แต่ เลือกที่ จะรักทกุ คน นี่คือพระหรรษทานที่ พระเจ้ามอบให้เรา นี่คือการกลับใจของ หัวใจเรา" พระสันตะปาปา ตรัสปิดท้าย ขอขอบคุณ Pope Report 9


มิสซาสั ปดาห์ ที่ 22 เทศกาลธรรมดา (ปี A) วันอาทิตย์ ที่ 31 สิ งหาคม ค.ศ. 2014 วัน เดือน ปี รายการมิสซา ส. 30 ส.ค. สุ ขสํ าราญ โมทนาคุณพระเจ้าและพระแม่มารี ย ์ มารี อา องุ่น ตรี มุข 18.00 น. อุทศิ แด่ อันตน สําเริ ง โกญจนาท เปโตร ยรรยง, ลูซีอา ละออ, มารี อา นิตยา อุชชิน ยอแซฟ สมบัติ อุชชิน, มารี อา มยุรี ผลาวงศ์ มัทธิว เกียรติศกั ดิ์ สุ วรรณจิต เอลิซาเบท วัลลี บูรณพันธ์, Thomas Adams วิญญาณในไฟชําระและวิญญาณที่ไม่มีผใู ้ ดนึกถึง อา. 31 ส.ค. สุ ขสํ าราญ โมทนาคุณพระเจ้า และพระแม่มารี ย ์ 08.00 น. อันนา เอื้อพันธ์ ศรี เจริ ญ ครอบครัวศรี เจริ ญ มารี อา ประทุม, คุณสมนึก ใช้สมบุญ และครอบครัว ยอห์น บัปติสตา ปวีร์ ประกอบกิจ ครอบครัวพิทกั ษ์ตนั สกุล ครอบครัวปรี ดาสุ ทธิจิตต์ อุทศิ แด่ โรซา วรี ตันติโกสิ ชฌน์ สตีเฟน จํารู ญ, มารี อา ละมุด เจริ ญพานิช คุณสมนึก ใช้สมบุญ ยอแซฟ บรรจง ศิริยงค์ ยอแซฟ ธวัช วิธีธรรม ยวง บัปติสตา ก๊กเคี้ยง แซ่แพ้, มารี อา กิมฮวย แซ่ ต้ งั ผูล้ ่วงลับครอบครัวพิทกั ษ์ตนั สกุล ผูล้ ่วงลับครอบครัวปรี ดาสุ ทธิจิตต์ บรรพบุรุษครอบครัวธนาพานิชย์ วิญญาณในไฟชําระและวิญญาณที่ไม่มีผใู ้ ดนึกถึง 10

ผู้ขอมิสซา เริ งจิต คค.อุชชิน คค.อุชชิน คค.อุชชิน คค.อุชชิน องุ่น/ลูกพระ สาวิตรี สาวิตรี ลูก อรทัย อรทัย สาวิตรี สาวิตรี อรทัย/สมนึก

ปีศาจรูจ้ ุดอ่อนของทุกคนดีวา่ ไม่มใี ครอยากตายอย่างเจ็บปวดทรมานบนไม้กางเขน มันจึงพยายามล่อลวงพระองค์ให้เลือกวิธที ส่ี บายกว่าในกอบกูม้ นุ ษยชาติ (ดู มธ 4:1-11) - “จงใช้ฤ ทธิ์อํ า นาจทีม่ ีเ ปลีย่ นก้อ นหิน เป็ น ขนมป งั แจกผู้ค นสิ แล้ว พวกเขาจะ ติดตามพระองค์” - “จงแสดงอภินิหารด้วยการกระโดดจากทีส่ งู สิ หากประชาชนรูส้ กึ พิศวง พวกเขาก็ จะเชือ่ ฟงั พระองค์เองแหละ” - “จงยอมก้มหัวให้เราบ้างสิ อย่าเคร่งครัดนัก หัดเอาหูไปนาเอาตาไปไร่บา้ ง คนเขา จะได้ตดิ ตามพระองค์งา่ ยหน่อย” แม้ก่อนถูกจับในสวนเกทเสมนีเพียงไม่กน่ี าที มันก็ยงั ไม่เลิกล่อลวงพระองค์ “ขอให้ ถ้วยนี้พน้ ข้าพเจ้าไปเถิด” (มธ 26:39) แต่ครัง้ นี้ปีศาจมันโหดร้ายสุด ๆ ! มันใช้เปโตรผูเ้ ป็ นศิษย์รกั ศิษย์เอกของพระองค์เองให้ลอ่ ลวงพระองค์ !! ปีศาจตรงกับภาษาฮีบรู “ซาตาน” ซึง่ แปลว่า “ปรปกั ษ์” มันจึงพยายามทุกวิถที างที่ จะทําให้มนุ ษย์หนั เหจากหนทางของพระเจ้าและกลายเป็ นปรปกั ษ์กบั พระองค์ เปโตรถูกปี ศาจทําให้เป็ น “ซาตาน” ผูเ้ ป็ นปรปกั ษ์กบั พระองค์ จนพระองค์ตอ้ งตรัส ว่า “เจ้าเป็ นเครือ่ งกีดขวางเรา เจ้าไม่คดิ อย่างพระเจ้า แต่คดิ อย่างมนุ ษย์” (มธ 16:23) และนี่ คือสาเหตุท่ที ําให้พระองค์ต่ืนตระหนกและปวดร้าวหัวใจมากที่สุด เพราะ ซาตานทีม่ าล่อลวงพระองค์คอื ผูซ้ ึง่ รักพระองค์มากทีส่ ดุ แต่ “ความรักแท้” ย่อมส่งเสริม “คนรัก” ให้อยูใ่ นหนทางของพระเจ้า ไม่ใช่พยายาม ลากพระองค์ออกไปจากพระเจ้าดังทีเ่ ปโตรได้กระทํา ! ความรักแท้ยอ่ มไม่หน่ วงเหนี่ยวอัศวินให้อยูก่ บั บ้าน แต่ยอ่ มปล่อยเขาออกไปผจญ ภัยเพือ่ ชัยชนะและเกียรติยศอันยิง่ ใหญ่ ความรักที่ปกป้องคนรักจากการเป็ นทหารหาญของพระคริสตเจ้า หรือจากการ ดําเนินชีวติ ตามหนทางของพระองค์จงึ ไม่ใช่ “รักแท้” อย่างไรก็ตาม แม้จะถูกดุวา่ เป็ นซาตาน แต่คาํ สังที ่ พ่ ระองค์ทรงใช้ “ขับไล่” เปโตรก็ ยังแฝงไปด้วยคําเชิญชวนและการให้โอกาสกลับมาติดตามพระองค์ ก่ อ นหน้ า นี้ พ ระองค์ท รงขับ ไล่ ปี ศ าจที่ล่ อ ลวงพระองค์ใ นถิ่น ทุ ร กัน ดารว่า “เจ้า ซาตาน จงไปให้พน้ ” (มธ 4:10) ซึ่งตรงกับภาษากรีก “Hupage Satana” (ฮูพาเก ซาตา นา) 3


สั ปดาห์ ที่ 22 เทศกาลธรรมดา มธ 16:21-27

1. เจ้าซาตาน ถอยไปข้างหลัง แม้เปโตรจะประกาศที่เมืองซีซารียาแห่งฟิ ลปิ ว่า “พระเยซูเจ้าคือพระคริสตเจ้า พระบุตรของพระเจ้าผูท้ รงชีวติ ” (มธ 16:16) แต่ “พระคริสตเจ้า” ตามความคิดของเปโตร นัน้ แตกต่างจากพระเยซูเจ้าอย่างสิน้ เชิง “พระคริส ตเจ้า” (จากภาษากรีก) หรือ “พระเมสสิย าห์” (จากภาษาฮีบรู) ตาม ความคิดของเปโตร คือกษัตริย์นักรบที่พระเจ้าทรงส่งมานํ ากองทัพของชาวยิวขับไล่ชาว โรมันออกจากแผ่นดินปาเลสไตน์ และนําพาชนชาติยวิ ให้กลับมามีอํานาจรุ่งเรืองเหนือชน ชาติอ่นื เพราะฉะนัน้ เมื่อพระเยซูเจ้าตรัสว่าพระเมสสิยาห์ “จะต้องเสด็จไปกรุงเยรูซาเล็ม เพือ่ รับการทรมานอย่างมากจากบรรดาผูอ้ าวุโส หัวหน้าสมณะ และธรรมาจารย์ และจะถูก ประหารชีวติ ” (มธ 16:21) เปโตรจึงยอมรับไม่ได้ และไวเท่าความคิด ท่านพาพระองค์ ออกไปพร้อมกับทูลคัดค้านว่า “เหตุการณ์ น้ีจะไม่เกิดขึ้นกับพระองค์อย่างแน่ นอน” (มธ 16:22) แล้วคําตําหนิอนั หนักหน่วงชนิดทีใ่ ครได้ฟงั แล้วเป็ นต้องหายใจไม่ทวท้ ั ่ องก็ตามมา ทันที “เจ้าซาตาน ถอยไปข้างหลัง” (มธ 16:23) แต่อย่าเพิง่ คิดว่าพระองค์ตรัสด้วยนํ้ าเสียงเกรี้ยวกราดหรือแววตาแดงกํ่าด้วย ความโกรธ ตรงกัน ข้าม พระองค์ท รงตํา หนิ เ ปโตรด้ว ยความปวดร้า ว โศกเศร้า และ ตระหนกจนตัวสัน่ เพราะการประจญทีเ่ คยหลอกหลอนพระองค์ในถิน่ ทุรกันดารก่อนเริม่ ต้นภารกิจ นัน้ ได้หวนกลับมาหาพระองค์อกี ครัง้ หนึ่ง 2

อา. 31 ส.ค. สุ ขสํ าราญ โมทนาคุณพระเจ้า และพระแม่มารี ย ์ 10.00 น. สัตบุรุษวัดแม่พระกุหลาบทิพย์ทุกท่าน มารี อา มารยาท สุ นพิชยั เทเรซา มาลัย ชีวนิชพันธ์ คุณธิดารัตน์ สุ นพิชยั คุณบานเย็น สิ งห์ชาลี ครอบครัวคุณสัณหพล เหลืองอร่ าม ครอบครัวสุ วรรณจิต, อุชชิน, อาดัมส์ อุทศิ แด่ มารี อา สมสุ ข, ลอเรนซ์ สุ นทร สุ นพิชยั มารี อา นิตยา, ยอแซฟ สมบัติ, Thomas Adams แมทธิว เกียรติศกั ดิ์ สุ วรรณจิต มารี อา มยุรี ผลาวงศ์ อลิซาเบท วัลลีย ์ บูรณพันธ์ มารี อา จันทรา สุ เสงี่ยม ยอแซฟ สุ รเทพ สุ เสงี่ยม คุณยุทธนา คํามัน่ ยอแซฟ ประสงค์, ยอแซฟ สมศักดิ์ สมบัติศิริ คุณซี ฮวง, มารี อา กิมลี้, แบร์นาแด๊ต นิภา ฟิ ลิป มุ่ยซิ ม, คุณเช้ง แซ่จึง, เรนาโต ผดุง สุ ขสยาม คุณเส่ ง แซ่ล้ ี, คุณก้านทอง แสงปั ญหา คุณน้อย เปรมสวัสดิ์ คุณโอภาส ฤทธิชยั สําราญ วิญญาณในไฟชําระ และวิญญาณที่ไม่มีผใู้ ดนึกถึง จ. 1 ก.ย. อุทศิ แด่ วิญญาณในไฟชําระ อ. 2 ก.ย. อุทศิ แด่ วิญญาณในไฟชําระ พ. 3 ก.ย. อุทศิ แด่ วิญญาณในไฟชําระ พฤ. 4 ก.ย. สุ ขสํ าราญ มารี อา มาลี วงษ์สง่า ศ. 5 ก.ย. อุทศิ แด่ วิญญาณในไฟชําระ

มาลินี มาลา มาลา วิไลวรรณ กัลยาณี มาลา กัลยาณี กัลยาณี กัลยาณี กัลยาณี วีรยา วีรยา วีรยา ชุติกาญจน์ รุ่ งโรจน์ รุ่ งโรจน์ รุ่ งโรจน์ นิรมาน นิรมาน คค.วงษ์สง่า 11


 วันอาทิตย์หน้า (7 กันยายน ศกนี้)  หลังมิสซาเช้า พี่นอ้ งท่านใดประสงค์นาํ บุตรหลานที่มีอายุไม่ถึง 7 ปี บริ บูรณ์มารับศีลล้างบาป โปรดติดต่อสํานักงานวัด  เวลา 12.30 น. กลุ่มพลมารี ยข์ อเชิญสมาชิกและผูส้ นใจทุกท่านร่ วม ฉลองเปรสิ เดียมวัดแม่พระกุหลาบทิพย์ ณ ศาลาปี ติการุ ณย์  เปิ ดรับสมัครผูส้ นใจเรี ยนภาษาอังกฤษขั้นพื้นฐาน หลักสู ตร “ภาษาอังกฤษเพื่อ การสื่ อสาร” สอนโดยครู อาสาสมัครชาวต่างประเทศ เรี ยนทุกบ่ายวันอาทิตย์ เวลา 12.30-14.30 น. (12 สัปดาห์) เริ่ มเปิ ดเรี ยนวันแรกวันอาทิตย์ที่ 21 กันยายน ศกนี้ ผูส้ นใจโปรดอ่านรายละเอียดที่บอร์ดหน้าวัด และสมัครได้ที่สาํ นักงานวัด

ฉบับที่ 542 วันอาทิตย์ที่ 31 สิงหาคม ค.ศ. 2014

สั ปดาห์ ที่ 22 เทศกาลธรรมดา (ปี A)

ถ้ าผู้ใดอยากตามเรา ก็จงเลิกคิดถึงตนเอง จงแบกไม้ กางเขนของตนและติดตามเรา มธ 16:24

12


Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.