สารวัดแม่พระกุหลาบทิพย์ ฉบับที่ 489

Page 1

ฉบับที่ 489 วันอาทิตย์ที่ 25 สิงหาคม ค.ศ. 2013

ฉบับที่ 489 วันอาทิตย์ที่ 25 สิงหาคม ค.ศ. 2013

สั ปดาห์ ที่ 21 เทศกาลธรรมดา (ปี C)

สั ปดาห์ ที่ 21 เทศกาลธรรมดา (ปี C)

จงพยายามเข้ าทางประตูแคบ

จงพยายามเข้ าทางประตูแคบ

ลก 13:24

ลก 13:24


สั ปดาห์ ที่ 21 เทศกาลธรรมดา (ปี C)

ลก 13:22-30

ชายคนหนึ่งทูลถามพระเยซูเจ้าว่า “พระเจ้าข้า มีคนน้อยคนใช่ไหมทีร่ อดพ้น ได้” (ลก 13:23) “คนน้อยคน” ในความคิดของเขาหมายถึง “ชาวยิ ว” เท่านัน้ เพราะชาวยิว เป็ นลูกหลานของอับราฮัมผูซ้ ง่ึ พระยาห์เวห์ได้ทรงสัญญาไว้ว่า “เพราะท่านได้ทาํ ดังนี้ คือมิได้หวงบุตรชายคนเดียวของท่านไว้ เราสาบานต่อเราเองว่า เราอวยพรให้ท่าน อย่างมาก” (ปฐก 22:16-17) ส่วนคนต่างชาติต่างศาสนาไม่ใช่ลูกหลานของอับราฮัม จึงไม่มสี ทิ ธิ ์ในมรดก สวรรค์ !! แต่วนั นี้ พระเยซูเจ้าทรงขยายสิทธิ ์นี้ไปสูม่ นุ ษย์ทุกคน พระองค์ตรัสว่า “จะมี คนจากทิศ ตะวัน ออกและทิศ ตะวัน ตก ทิศ เหนื อ และทิศ ใต้ มานัง่ ร่ว มโต๊ ะ ในพระ อาณาจักรของพระเจ้า” (ลก 13:29) อย่างไรก็ดี แม้พระองค์จะให้หลักประกันอันน่ าอุ่นใจแก่เราทุกคนว่ามีสทิ ธิ ์ ทัดเทียมกันในมรดกสวรรค์แล้วก็ตาม พระองค์ยงั ทรงเรียกร้องให้เรา... 1. ดิ้ นรนเพือ่ จะเข้าสวรรค์ พระองค์ตรัสว่า “จงพยายามเข้าทางประตูแคบ” (ลก 13:24) คํา “พยายาม” ตรงกับต้นฉบับภาษากรีก agōnizesthe (อาโกนีเซส เธ) แปลว่า “พยายามทีส่ ุด, ดิ้นรน, ต่อสู,้ ชิงชัย” และเป็ นรากศัพท์ของคํา agony ใน ภาษาอังกฤษซึง่ แปลว่า “ความปวดร้าวทรมาน” 2

วัน เดือน ปี รายการมิสซา อา 25 ส.ค. สุ ขสํ าราญ โมทนาคุณพระเจ้าและพระแม่มารี ย ์ 10.00 น. สัตบุรุษวัดแม่พระกุหลาบทิพย์ทุกท่าน ดอมินิก ภูวนัย หงษ์แก้ว และครอบครัว ยอแซฟ อนันต์ พึ่งผล และครอบครัว คุณสุ รีนา ชวนิตย์ และครอบครัว คุณวิบูลย์ ดาราไทย คุณมาลัย ชีวนิชพันธ์ พลทหาร เกียรติศกั ดิ์ เจียมจิตพลชัย อุทศิ แด่ หลุยส์ พิชยั เจริ ญสุ ข เปาโล พร, อันนา ละม่อม พึ่งผล มารี อา ถนอม ราชกิจ เปโตร สวัสดิ์, อันนา ดารา ราชกิจ มารี อา พยนต์ พุม่ ร่ มบุตร เปาโล ฮั้ว แซ่อ้ ึง, มารี อา ไอ๊ แซ่แต้ มารี อา ไพรัตน์ ฟัดน้อย เทเรซา เทรัตน์ ประกอบกิจ โรซา วรี ตันติโกสิ ชฌน์ คุณนุชนาถ พุม่ พวง มารี อา มยุรีย ์ สายพรหม และญาติผลู้ ่วงลับ คุณสมชาย, คุณจารุ ณี ยิง่ ยงเสถียร ผูล้ ่วงลับครอบครัวบุญเจริ ญ วิญญาณในไฟชําระและวิญญาณที่ไม่มีผใู้ ดนึ กถึง จ. 26 ส.ค. สุ ขสํ าราญ คุณธัชพล ติรณะประกิจ อ. 27 ส.ค. อุทศิ แด่ โรซา วรี ตันติโกสิ ชฌน์ พ. 28 ส.ค. อุทศิ แด่ วิญญาณในไฟชําระ พฤ.29 ส.ค. อุทศิ แด่ วิญญาณในไฟชําระ ศ. 30 ส.ค. อุทศิ แด่ ฟี เดส จิตรา ดารุ ทยาน

ผู้ขอมิสซา วิไลวรรณ เจมส์ เจมส์ มาลินี อัญชลี ชนันต์ธร คค.ราชกิจ คค.ราชกิจ คค.ราชกิจ กฤษณ์ ประวิทย์ ลลิตา ลลิตา ธรรมนูญ มาลินี -

อมรา 11


มิสซาสั ปดาห์ ที่ 21 เทศกาลธรรมดา (ปี C) วันอาทิตย์ ที่ 25 สิ งหาคม ค.ศ. 2013 วัน เดือน ปี รายการมิสซา ส. 24 ส.ค. สุ ขสํ าราญ โมทนาคุณพระเจ้าและพระแม่มารี ย ์ 18.00 น. มารี อา ประทุม, คุณสมนึก ใช้สมบุญ และครอบครัว ครอบครัวดิเรกโรจน์วฒ ุ ิ ครอบครัววรี วงศ์ อุทศิ แด่ อันตน สําเริ ง โกญจนาท ยอแซฟ เสถียร, มารี อา เสาวนีย ์ พงษ์เพิ่มมาศ มารี อา ลักษณา รัตนกรัณฑ์ สตีเฟน จํารู ญ, มารี อา ละมุด เจริ ญพานิช วิญญาณในไฟชําระและวิญญาณที่ไม่มีผใู ้ ดนึกถึง อา. 25 ส.ค. สุ ขสํ าราญ โมทนาคุณพระเจ้า และพระแม่มารี ย ์ 08.00 น. มารี อา เอื้อพันธ์ ศรี เจริ ญ และครอบครัวศรี เจริ ญ ครอบครัวสุ ทธิจิตต์ ครอบครัวธนะสาร, ครอบครัวสาธรกิจ ครอบครัวสุ ทธิโอภาส, ครอบครัวรัตนบรรณสกุล ครอบครัวเขม้นงาน, ครอบครัวเพียรช่างคิด ครอบครัวลิ้มจิตรกร, ครอบครัวเตรี ยมวิชานนท์ ทุกครอบครัวในโลก อุทศิ แด่ คุณอุย้ นิ้ว แซ่เซี้ ยว คุณนวลจันทร์, ด.ช.ธงชัย ธนะสาร ยวง บัปติสต์ เสมียน สาธรกิจ, มารี อา ฮุยเกียว แซ่โง้ว ผูล้ ่วงลับครอบครัวธนะสารและสาธรกิจ โทมัส วิษณุ, มารี อา อารี สุ ทธิจิตต์ ยวง บัปติสตา ก๊กเคี้ยง แซ่แพ้, มารี อา กิมฮวย แซ่ ต้ งั บรรพบุรุษครอบครัวธนาพานิชย์ วิญญาณในไฟชําระและวิญญาณที่ไม่มีผใู ้ ดนึกถึง 10

ผู้ขอมิสซา เริ งจิต วรัญญ์นิช ณัฐวรรณ คค.ศรี เจริ ญ ณัฐวรรณ ณัฐวรรณ ณัฐวรรณ ณัฐวรรณ ณัฐวรรณ ณัฐวรรณ ณัฐวรรณ ณัฐวรรณ ณัฐวรรณ คค.ธนาพานิชย์ คค.ธนาพานิชย์ คค.ธนาพานิชย์

เท่ากับพระองค์ต้องการจะบอกเราว่า ไม่ว่าจะเป็ นยิว เป็ นคริสตชน หรือ เป็ น ผู้ ใ ดก็ ต าม การเข้า สวรรค์ มิไ ด้ เ ป็ น ไปโดยอัต โนมัติ แต่ ต้ อ ง “ดิ้ นรน สุดเหวีย่ ง” แม้จะต้องปวดร้าวทรมานทัง้ กายและใจมากเพียงใดก็ตาม !! ปกติเรามักคิดกันว่าเมื่อ “เชือ่ ” ในพระเยซูเจ้าก็แปลว่าเราเข้าเส้นชัย แล้ว เราบรรลุจุดหมายแล้ว ต่อจากนี้จะพักผ่อนบ้างก็ยอ่ มได้ ซึง่ ความคิดทัง้ หมดนี้ผดิ และเป็ นอันตรายอย่างยิง่ เพราะเราคริสตชนไม่เคยมี “เส้นชัย” ดังกล่าวอยูใ่ นโลกนี้ “เส้นชัย” ของเรายังอยูอ่ กี ยาวไกลในโลกหน้า ! ด้วยเหตุน้ีพระองค์จงึ ทรงเรียกร้องให้เราทุกคน “ดิ้นรน” 1.1 ดิ้ นรนเลือกหนทางลําบากมากกว่าหนทางสบาย เพราะ ไม่เคยมีใครยิง่ ใหญ่ได้ด้วยหนทางง่ายๆ สบายๆ และไม่เคยมีนักกีฬาหน้ าไหนได้ เหรียญทองโดยไม่ตอ้ งออกแรงฝึกซ้อมอย่างหนัก ในโลกนี้ ไม่มหี นทางใดนําไปสูช่ ยั ชนะและความสําเร็จได้เว้น แต่หนทางของการดิน้ รนต่อสูด้ ว้ ยความยากลําบาก ผูใ้ ดก็ตามทีส่ ญ ั ญาว่าจะทําให้เรา พ้นจากความยากจนหรืออยูด่ กี นิ ดีได้โดยไม่ตอ้ งทํางานหนัก ผูน้ นั ้ กําลังหลอกลวงเรา 1.2 ดิ้ นรนเลือกหนทางยาวมากกว่าหนทางสัน้ น้อยครัง้ นัก ที่ความสําเร็จจะได้มาภายในเวลาอันแสนสัน้ ส่วนใหญ่ล้วนเป็ นผลพวงจากความ เพียรพยายาม ความมุมานะ และอุตสาหะเป็ นเวลายาวนาน ขนาดนั ก ปราชญ์ ผู้ย ิ่ง ใหญ่ อ ย่ า งเช่ น เพลโต ยัง ต้อ งเขีย น ประโยคขึน้ ต้นเพียงประโยคเดียวของหนังสือเรื่องสาธารณรัฐ (Republic) มากถึง 13 แบบแตกต่างกันกว่าจะลงตัว และเท่าที่ค้นพบทัง้ 13 แบบก็ล้วนแล้วแต่เขียนด้วย ลายมือของท่านเอง อย่าลืมว่าที่ผ่านมาไม่เคยมีทางลัดสู่การสร้าง “แบรนด์เนม” ดังระดับโลก บางคนอาจใช้กลยุทธ์การตลาดกระพือกระแสสินค้าของตนให้ดงั ชัว่ ข้า มคืน แต่ ร ับ รองว่ า ดัง ได้ไ ม่น านแน่ สมดัง ภาษิต จีน ที่ว่ า “ระยะทางพิสูจ น์ ม้า กาลเวลาพิสจู น์คน” 1.3 ดิ้ นรนเลื อ กหนทางที ม่ ี วิ นั ย มากกว่ า หนทางไร้ วิ นั ย นักกีฬา นักร้อง นักแสดงและคนอีกจํานวนมากไม่สามารถรักษาความสําเร็จไว้ได้ก-็ 3


เพราะขาดวินัย พวกเขาขาดการฝึ กซ้อม ขาดการควบคุมตัวเอง ปล่อยร่างกายให้ ทรุดโทรมหย่อนสมรรถภาพ ภาพพจน์เสื่อมเสีย และสูญเสียชื่อเสียงทีอ่ ุตส่าห์สงสม ั่ มาเป็ นเวลานานไปในทีส่ ดุ หลายคนมี ค วามสามารถมากมายแต่ ไ ม่ เ คยประสบ ความสําเร็จในชีวติ เพราะเขาขาดวินัยทีจ่ ะควบคุมตนเองให้นงั ่ ลงคิด เขียน หรือทํา สิง่ ใดสิง่ หนึ่งให้เป็ นชิน้ เป็ นอัน 1.4 ดิ้ นรนเลื อ กหนทางที ใ่ ช้ ค วามคิ ด มากกว่ า หนทางที ่ สิ้ นคิ ด ทุกคนควรต้องคิดถึงผลทีพ่ งึ ได้ในปจั จุบนั และผลทีจ่ ะตามมาในอนาคตควบคู่ กันไปด้วย ขณะนี้ หนทางสบายหรือ ประตู ก ว้า งดู เ หมือ นจะน่ า เข้า มากกว่า ส่วนหนทางลําบากหรือประตูแคบดูเหมือนจะยากและน่ ากลัว แต่เพื่อจะ ประเมินคุณค่าของหนทางทัง้ สองได้อย่างถูกต้อง เราจะพิจารณาโดยคํานึงถึงโลกนี้ เพียงอย่างเดียวไม่ได้ ต้องคํานึงถึงโลกหน้าด้วย ปรับปรุงชีวิตอยู่เสมอ พวกทีไ่ ม่สามารถผ่านประตูเข้าไปได้ จําต้องยืนอยู่ขา้ งนอก พากัน อ้างว่า “พวกเราได้กนิ ได้ดมื ่ อยู่กบั ท่าน ท่านได้สอนในลานสาธารณะของเรา” (ลก 13:26) นี่เป็ นข้ออ้างของเราคริสตชนด้วย เรามักคิดกันว่าได้กลับใจมาเรียน คําสอนและรับศีลล้างบาปแล้ว ได้มาวัดและแก้บาปรับศีลทุกอาทิตย์แล้ว เราคุน้ เคย กับพระองค์เพราะได้กนิ พระกาย ได้ด่มื พระโลหิต และได้ฟงั พระองค์เทศน์สอนบน ธรรมาสน์แล้ว เพราะฉะนัน้ เรามีขอ้ อ้างมากพอทีจ่ ะเคาะประตูพระอาณาจักร กล่าว ว่า “เปิดประตูให้พวกเราด้วย” (ลก 13:25) แต่เจ้าของบ้านกลับตอบว่า “เราไม่รวู้ ่าพวกเจ้ามาจากทีใ่ ด ไปให้พน้ จากเราเถิด เจ้าทัง้ หลายทีก่ ระทําการชัวช้ ่ า” (ลก 13:27) ความหมายของพระองค์คอื ไม่มคี ําว่า “เพียงพอ” สําหรับการเป็ น คริสตชน !! 2.

4

เงินเดือ นทั้งปี ของเขาในปี 2549 คือหนึ่งแสนเหรี ยญ จัด ว่ าน้อ ยมาก สําหรับหมายเลขหนึง่ ของบริษทั ซีอีโอทัว่ ไปมีรายได้ตอ่ ปี เฉลี่ยเก้าล้านดอลลาร์ เขาบอกว่า สหรัฐอเมริกาจ่ายเงินให้นกั มวยสิบล้านเพื่อที่จะน็อกคู่ตอ่ สูใ้ ห้ ล้มในเวลาสิบวิ นาที แต่ไม่สามารถจ่ายเงินดีแก่ครูที่เก่งที่สดุ พยาบาลที่ดีที่สดุ เป็ นการจ่ายที่ไม่สมเหตุผลอย่างยิ่ง เขาเห็นคุณค่าของการทํางานที่เป็ นประโยชน์ เท่านัน้ ด้วยเหตุนี้ เขาจึงไม่คิดจะย้ายบ้านที่อยู่มาตัง้ แต่หนุม่ ไปอยู่คฤหาสน์ที่ไหน สักแห่ง เขาบอกว่า ซื้อบ้านใหม่ทาํ ไม ในเมื่อเขามีทกุ อย่างที่ตอ้ งการในบ้านหลังนี้ แล้ว การย้ายบ้านเพียงเพื่อให้ ‘สมฐานะ’ ของตัวเองเป็ นเรื่องเหลวไหล หลายปี ก่อนเคยมีการสัมภาษณ์มหาเศรษฐีชนั้ นําของโลกจํานวนหนึง่ และ พบว่ามหาเศรษฐีที่ราํ่ รวยจริง ๆ ล้วนเป็ นคนมัสยัสถ์อย่างยิ่ง ใช้เงินเท่าที่จาํ เป็ น เพราะพวกเขาเห็นว่าเงินทองไม่ใช่ทกุ สิ่งในชีวิต โลกเราเต็มไปด้วยคนรวยกลวง ๆ คนที่พยายามทําตัวให้ดรู วย เมื่อไม่มี เงินก็พยายามกูเ้ งินมา ด้วยค่านิยมที่ว่า “คนที่กเู้ งินได้คือคนที่มเี ครดิต” คนรวยเช่น วอร์เรน บัฟเฟตต์ กลับบอกว่า “จงหลีกห่างจากบัตรเครดิตไปไกล ๆ” ที่แตกต่างจากคนอื่นก็คือ ลูกหลานของเขาจะไม่ได้รับมรดกมากเท่าส่วน บริ จาค เขาบอกว่ า “ผมต้องการให้ล กู หลานของผมมากพอที่ พวกเขารูส้ ึกว่ า สามารถทําอะไรก็ได้ แต่จะไม่มากพอที่ทาํ ให้พวกเขาไม่ทาํ อะไรเลย”

เมื่อเรามองทะล ุวัตถ ุนิยม เราก็จะเริม ่ แลเห็นความหมายและค ุณค่าที่แท้จริงของชีวิต

9


โดย วินทร์ เลียววาริ น

ชายแก่ค นนั้นทํางานในบริ ษัท แต่เ ขาไม่มีโ ทรศัพ ท์มื อ ถื อ ไม่มีเครื่ อ ง คอมพิวเตอร์ ไม่มีคนขับรถ ขับรถคันเก่าไปไหนมาไหนด้วยตัวเอง เขาไม่ใช่คน ยากไร้ ตรงกันข้า มเขาเป็ นคนรํ่า รวยอัน ดับ ที่ ส ามของโลก(จัด โดยนิต ยสาร ฟอร์บส์ ปี 2007) ประมาณว่าความรํา่ รวยราวห้าหมื่นสองพันล้านดอลลาร์ ด้วยเงินของเขาสามารถซื้อเครื่องบินส่วนตัวได้หลายลํา แต่เขาไม่เคยเดินทาง ด้วยเครื่องบินส่วนตัว เขาอาศัยอยู่ในบ้านหลังเดิมที่เขาซื้อเมื่อครึ่งศตรรษที่ แล้ว กินอาหารง่าย ๆ ใช้ชีวิตง่าย ๆ การหย่อนใจของเขาคือ นอนดูโทรทัศน์ รายการโปรดบนโซฟา กินข้าวโพดคัว่ ที่ทาํ เอง เขาไม่ใช่คนขีเ้ หนียว ตรงกันข้ามเขาเพิ่งบริจาคเงิน 83 เปอร์เซ็ นต์ของ เขาให้องค์กรการกุศล (ประมาณสามหมื่นล้านดอลลาร์) เป็ นเงินบริจาคที่สงู ที่สดุ ก้อนหนึง่ ในประวัตศิ าสตร์ ชายแก่คนนัน้ ชือ่ วอร์เรน บัพเฟตต์ วอร์เรน บัฟเฟตต์ เริ่มทํางานครั้งแรกกับพ่อตอนอายุสิบเอ็ดขวบ เป็ น งานนายหน้า ค้า หุน้ ปี นั้น เขาซื้ อ หุน้ ตัว แรก คื อ หุน้ ซิ ตีส์ เซอร์วิ ส เซส หุน้ ละ 38.25 เหรียญ เขาขายเมื่อหุน้ ขึ้นถึ ง 40 เหรียญ และไม่ก่ีปีต่อมามันขึ้นถึ ง 200 เหรียญ สิ่งนีส้ อนให้เขาเห็นค่าของการลงทุนกับหุน้ ที่ดใี นระยะยาว อายุสิบสี่ เขาซื้อที่ดิน 40 เอเคอร์ ราคา 1,200 เหรียญ แล้วให้ชาวนา เช่า ตอนเป็ นนักเรียนมัธยมปลาย เขากับเพื่อนซื้อเครื่องเล่นพินบอลราคา 25 เหรียญ ตั้งในร้านตัดผม ภายในสามเดือนพวกเขามีเครื่องสามเครื่องในร้าน ต่าง ๆ เมือ่ อายุสิบหก เขามีเงินเก็บถึงห้าพันเหรียญ เขารูส้ ึกว่าการเรียนในวิทยาลัยเป็ นความสูญเปล่า แต่ก็ยอมเรียนต่อ เพราะพ่อขอไว้ และเป็ นนักศึกษาระดับต้น ๆ ด้วยคะแนนสูงลิ่ว เมื่อเรียนจบ เขาก็ ไปทํางานไม่กี่ปีก็ ก่อตั้งบริษัทเล็ ก ๆ ในวัยยี่สิบหก สร้างตัวมาจากความไม่มดี ว้ ยสองมือ จนกลายเป็ นซีอีโอของบริษทั ขนาดยักษ์ 8

เป็ นไปได้มากว่าเราอาจดําเนินชีวติ ตามพระบัญญัติ ตามกฎเกณฑ์ หรือตามธรรมเนียมของคริสตชนอย่างเคร่งครัด แต่ไม่ “เพียงพอ” ทีจ่ ะเป็ นคริสตชน อย่างแท้จริง เพราะคริสตชนทีแ่ ท้จริงคือ “ผูท้ ีด่ าํ เนิ นชีวิตเหมือนพระคริ สตเจ้า” ! ฉะนัน้ เราต้องดิ้นรน “ปรับปรุง ” ชีวิตของเราให้ “เหมือน” พระ เยซูค ริสตเจ้ายิง่ วันยิง่ มากขึ้น เพื่อว่าเมื่อพระองค์ปรากฏมา “เราจะเป็ นเหมือน พระองค์” (1 ยน 3:2) ด้วยเหตุน้ี การอ้างว่าได้ไปวัดแก้บาปรับศีลแล้วจึงไม่เพียงพอ แต่เราต้องปรับปรุงและดําเนิ นชีวิตให้เหมือนพระองค์ด้วย !!! 3.

ปรับมาตรฐานใหม่ มาตรฐานสวรรค์แตกต่างจากมาตรฐานของโลกอย่างสิน้ เชิง ดังพระ วาจาทีว่ ่า “พวกทีเ่ ป็ นกลุ่มสุดท้ายจะกลับกลายเป็ นกลุ่มแรก และพวกทีเ่ ป็ นกลุ่มแรก จะกลับกลายเป็ นกลุ่มสุดท้าย” (ลก 13:30) ผูท้ โ่ี ดดเด่นมีช่อื เสียงมากในโลกนี้อาจจะตํ่าต้อยในโลกหน้า ส่วนผูท้ ่ี “โนเนม” ไร้ช่อื เสียงและศักดิ ์ศรีในโลกนี้ จะกลับเป็ นทีต่ น้ ในสวรรค์ มีเรื่องเล่าว่า สุภาพสตรีผหู้ นึ่งเจริญชีวติ อย่างหรูหรา ผูค้ นพากันนับ หน้าถือตา เมื่อเสียชีวติ และเดินทางมาถึงสวรรค์ เทวดาองค์หนึ่งพาเธอไปสูบ่ า้ นพัก ขณะเดินผ่านบ้านใหญ่สวยงามมากมาย หญิงผูน้ นั ้ คิดว่าต้องมีสกั หลังหนึ่งแน่ทเ่ี ตรียม ไว้สาํ หรับเธอ แต่เทวดายังคงพาเธอเดินต่อไปจนเลยถนนใหญ่ เข้าสูบ่ ริเวณรอบนอก ของสวรรค์ซง่ึ บ้านเล็กกว่ามาก ในทีส่ ุดทัง้ สองเดินมาสุดขอบสวรรค์ ทีน่ นั ่ มีกระต๊อบเล็ก ๆ หลังหนึ่ง เทวดาชีใ้ ห้เธอดูพร้อมกับกล่าวว่า “นีแ่ หละบ้านของท่าน” หญิงคนนัน้ ร้องว่า “อะไรนะ ฉันอาศัยในบ้านแบบนี้ไม่ได้ดอก” เทวดาตอบว่า “เสียใจด้วย เราได้พยายามสร้างบ้านหลังนี้อย่างดี ทีส่ ดุ แล้วอาศัยสิง่ ทีท่ า่ นส่งมาให้”

5


อาณาจักรสวรรค์จงึ เป็ นเรื่องที่เราแต่ละคนต้อง “ด้ ิ นรน ปรับปรุง ชีวิต ตามมาตรฐานของพระเยซูเจ้า” อย่างสุดเหวีย่ ง โดยเริม่ ต้นวันนี้ และทุกวัน..ตลอดไป !

..บางคนอาจคิดว่า "เราเป็ นคริสตชนที่ดี เราไปวัดร่วมมิสซาทุกวันอาทิตย์ เราไปตั้งแต่ 11 โมงถึงเที่ยง เราทําโน่น เราทํานี่แบบคริสตชนควรทํา ถ้าเราทํา แบบนี้ มันเหมือนเราทําเพื่อสะสมรางวัลอะไรหรือเปล่า" กระนัน้ ชีวิตคริสตชนไม่ใช่ การนําสิ่งนัน้ สิ่งนีม้ าปะติดปะต่อกันนะ!! ชีวิตคริสตชนคือทุกสิ่งที่ทาํ ต้องเป็ นหนึ่งเดียวกัน พระเยซูทรงฟื้ นฟูจิตใจ และชีวิตของเรา พระองค์ทาํ ให้เราดําเนินชีวิตเปลี่ยนไปในทางที่ดขี นึ้ เราไม่สามารถเป็น "คริสตชนพาร์ทไทม์" (A part time Christian) การเป็น คริสตชนพาร์ทไทม์มนั ไม่เวิรค์ เลยนะ!! (Christian doesn’t work!) เราต้องเป็น คริสตชนแบบฟูลไทม์ (เต็มเวลา) การเป็ นคริสตชนไม่ใช่แค่การทําสิ่งนัน้ สิ่งนี้ (ไม่ใช่แค่การไปร่วมมิสซา) แต่ มันหมายถึงการยอมให้ตนเองได้รบั การฟื้ นฟูโดยพระจิตเจ้า เราจํา เรื่ อ งราวในพระวรสารได้ไ หม มัน มี ก ารสูก้ ัน (ด้ว ยความคิ ด )ว่ า จําเป็ นไหมที่คริ สตชนต้องปฏิบัติศาสนกิจแบบชาวยิวทุกอย่าง ไม่เลย! มันไม่ใช่ แบบนัน้ การเป็ นคริ สตชน การเป็ นผูช้ อบธรรม และการได้เ ข้าสู่พระศาสนจัก ร หมายถึงการรับศีลล้างบาป นี่คือการฟื้ นฟูอันดับแรก และจากนัน้ พระศาสนจักร จะก้าวเดินต่อไปเรื่อยๆ และมอบพื้นที่ให้กบั พระจิตในการฟื้ นฟูโครงสร้างนี้ ดังนัน้ จงอย่ากลัวสิ่งใหม่ๆจากพระวรสาร จงอย่ากลัวสิ่งใหม่ๆที่พระจิต ทํางานในตัวเรา.. ขอบคุณข้ อมูลจาก Pope Report 6

7


อาณาจักรสวรรค์จงึ เป็ นเรื่องที่เราแต่ละคนต้อง “ด้ ิ นรน ปรับปรุง ชีวิต ตามมาตรฐานของพระเยซูเจ้า” อย่างสุดเหวีย่ ง โดยเริม่ ต้นวันนี้ และทุกวัน..ตลอดไป !

..บางคนอาจคิดว่า "เราเป็ นคริสตชนที่ดี เราไปวัดร่วมมิสซาทุกวันอาทิตย์ เราไปตัง้ แต่ 11 โมงถึงเที่ยง เราทําโน่น เราทํานีแ่ บบคริสตชนควรทํา ถ้าเราทําแบบ นี้ มันเหมือนเราทําเพื่อสะสมรางวัลอะไรหรือเปล่า" กระนัน้ ชีวิตคริสตชนไม่ใช่การ นําสิ่งนัน้ สิ่งนีม้ าปะติดปะต่อกันนะ!! ชีวิตคริสตชนคือทุกสิ่งที่ทาํ ต้องเป็ นหนึง่ เดียวกัน พระเยซูทรงฟื้ นฟูจิตใจและชีวิตของเรา พระองค์ทาํ ให้เราดําเนินชีวิต เปลี่ยนไปในทางที่ดขี นึ้ เราไม่สามารถเป็ น "คริสตชนพาร์ทไทม์" (A part time Christian) การเป็ น คริสตชนพาร์ทไทม์มนั ไม่เวิรค์ เลยนะ!! (Christian doesn’t work!) เราต้องเป็ น คริสตชนแบบฟูลไทม์ (เต็มเวลา) การเป็ นคริสตชนไม่ใช่แค่การทําสิ่งนัน้ สิ่งนี้ (ไม่ใช่แค่การไปร่วมมิสซา) แต่ มันหมายถึงการยอมให้ตนเองได้รบั การฟื้ นฟูโดยพระจิตเจ้า หรืออาจจะยืมคําพูด ของพระเยซูมาใช้ นัน่ คือ "เราต้องเป็ นเหล้าองุน่ ใหม่" ในชีวิตคริสตชน หรือแม้แต่ในชีวิตพระศาสนจักร มันมีระบบโบราณๆเยอะ มาก บางระบบก็เป็ นระบบที่ใกล้ตายเต็มทน มันจึงจําเป็ นมากที่ตอ้ งฟื้ นฟูระบบ เหล่านีใ้ หม่ และพระศาสนจักรก็ให้ความสนใจในการฟื้ นฟูนเี้ สมอ เราทําผ่าน ทางการเสวนากันด้วยวัฒนธรรม เราจําเรื่องราวในพระวรสารได้ไหม มันมีการสูก้ นั (ด้วยความคิด)ว่า จําเป็ นไหมที่คริสตชนต้องปฏิบตั ศิ าสนกิจแบบชาวยิวทุกอย่าง ไม่เลย! มันไม่ใช่แบบ นัน้ การเป็ นคริสตชน การเป็ นผูช้ อบธรรม และการได้เข้าสูพ่ ระศาสนจักร หมายถึงการรับศีลล้างบาป นีค่ ือการฟื้ นฟูอนั ดับแรก และจากนัน้ พระศาสนจักรจะ ก้าวเดินต่อไปเรื่อยๆ และมอบพื้นที่ให้กบั พระจิตในการฟื้ นฟูโครงสร้างนี้ 6

7


โดย วินทร์ เลียววาริ น

ชายแก่ค นนั้นทํางานในบริ ษัท แต่เ ขาไม่มีโ ทรศัพ ท์มื อ ถื อ ไม่มีเครื่ อ ง คอมพิวเตอร์ ไม่มีคนขับรถ ขับรถคันเก่าไปไหนมาไหนด้วยตัวเอง เขาไม่ใช่คน ยากไร้ ตรงกันข้า มเขาเป็ นคนรํ่า รวยอัน ดับ ที่ ส ามของโลก(จัด โดยนิต ยสาร ฟอร์บส์ ปี 2007) ประมาณว่าความรํา่ รวยราวห้าหมื่นสองพันล้านดอลลาร์ ด้วยเงินของเขาสามารถซื้อเครื่องบินส่วนตัวได้หลายลํา แต่เขาไม่เคยเดินทาง ด้วยเครื่องบินส่วนตัว เขาอาศัยอยู่ในบ้านหลังเดิมที่เขาซื้อเมื่อครึ่งศตรรษที่ แล้ว กินอาหารง่าย ๆ ใช้ชีวิตง่าย ๆ การหย่อนใจของเขาคือ นอนดูโทรทัศน์ รายการโปรดบนโซฟา กินข้าวโพดคัว่ ที่ทาํ เอง เขาไม่ใช่คนขีเ้ หนียว ตรงกันข้ามเขาเพิ่งบริจาคเงิน 83 เปอร์เซ็ นต์ของ เขาให้องค์กรการกุศล (ประมาณสามหมื่นล้านดอลลาร์) เป็ นเงินบริจาคที่สงู ที่สดุ ก้อนหนึง่ ในประวัตศิ าสตร์ ชายแก่คนนัน้ ชือ่ วอร์เรน บัพเฟตต์ วอร์เรน บัฟเฟตต์ เริ่มทํางานครั้งแรกกับพ่อตอนอายุสิบเอ็ดขวบ เป็ น งานนายหน้า ค้า หุน้ ปี นั้น เขาซื้ อ หุน้ ตัว แรก คื อ หุน้ ซิ ตีส์ เซอร์วิ ส เซส หุน้ ละ 38.25 เหรียญ เขาขายเมื่อหุน้ ขึ้นถึ ง 40 เหรียญ และไม่ก่ีปีต่อมามันขึ้นถึ ง 200 เหรียญ สิ่งนีส้ อนให้เขาเห็นค่าของการลงทุนกับหุน้ ที่ดใี นระยะยาว อายุสิบสี่ เขาซื้อที่ดิน 40 เอเคอร์ ราคา 1,200 เหรียญ แล้วให้ชาวนา เช่า ตอนเป็ นนักเรียนมัธยมปลาย เขากับเพื่อนซื้อเครื่องเล่นพินบอลราคา 25 เหรียญ ตั้งในร้านตัดผม ภายในสามเดือนพวกเขามีเครื่องสามเครื่องในร้าน ต่าง ๆ เมือ่ อายุสิบหก เขามีเงินเก็บถึงห้าพันเหรียญ เขารูส้ ึกว่าการเรียนในวิทยาลัยเป็ นความสูญเปล่า แต่ก็ยอมเรียนต่อ เพราะพ่อขอไว้ และเป็ นนักศึกษาระดับต้น ๆ ด้วยคะแนนสูงลิ่ว เมื่อเรียนจบ เขาก็ ไปทํางานไม่กี่ปีก็ ก่อตั้งบริษัทเล็ ก ๆ ในวัยยี่สิบหก สร้างตัวมาจากความไม่มดี ว้ ยสองมือ จนกลายเป็ นซีอีโอของบริษทั ขนาดยักษ์ 8

เป็ นไปได้มากว่าเราอาจดําเนินชีวติ ตามพระบัญญัติ ตามกฎเกณฑ์ หรือตามธรรมเนียมของคริสตชนอย่างเคร่งครัด แต่ไม่ “เพียงพอ” ทีจ่ ะเป็ นคริสตชน อย่างแท้จริง เพราะคริสตชนทีแ่ ท้จริงคือ “ผูท้ ีด่ าํ เนิ นชีวิตเหมือนพระคริ สตเจ้า” ! ฉะนัน้ เราต้องดิ้นรน “ปรับปรุง ” ชีวิตของเราให้ “เหมือน” พระ เยซูค ริสตเจ้ายิง่ วันยิง่ มากขึ้น เพื่อว่าเมื่อพระองค์ปรากฏมา “เราจะเป็ นเหมือน พระองค์” (1 ยน 3:2) ด้วยเหตุน้ี การอ้างว่าได้ไปวัดแก้บาปรับศีลแล้วจึงไม่เพียงพอ แต่เราต้องปรับปรุงและดําเนิ นชีวิตให้เหมือนพระองค์ด้วย !!! 3.

ปรับมาตรฐานใหม่ มาตรฐานสวรรค์แตกต่างจากมาตรฐานของโลกอย่างสิน้ เชิง ดังพระ วาจาทีว่ ่า “พวกทีเ่ ป็ นกลุ่มสุดท้ายจะกลับกลายเป็ นกลุ่มแรก และพวกทีเ่ ป็ นกลุ่มแรก จะกลับกลายเป็ นกลุ่มสุดท้าย” (ลก 13:30) ผูท้ โ่ี ดดเด่นมีช่อื เสียงมากในโลกนี้อาจจะตํ่าต้อยในโลกหน้า ส่วนผูท้ ่ี “โนเนม” ไร้ช่อื เสียงและศักดิ ์ศรีในโลกนี้ จะกลับเป็ นทีต่ น้ ในสวรรค์ มีเรื่องเล่าว่า สุภาพสตรีผหู้ นึ่งเจริญชีวติ อย่างหรูหรา ผูค้ นพากันนับ หน้าถือตา เมื่อเสียชีวติ และเดินทางมาถึงสวรรค์ เทวดาองค์หนึ่งพาเธอไปสูบ่ า้ นพัก ขณะเดินผ่านบ้านใหญ่สวยงามมากมาย หญิงผูน้ นั ้ คิดว่าต้องมีสกั หลังหนึ่งแน่ทเ่ี ตรียม ไว้สาํ หรับเธอ แต่เทวดายังคงพาเธอเดินต่อไปจนเลยถนนใหญ่ เข้าสูบ่ ริเวณรอบนอก ของสวรรค์ซง่ึ บ้านเล็กกว่ามาก ในทีส่ ุดทัง้ สองเดินมาสุดขอบสวรรค์ ทีน่ นั ่ มีกระต๊อบเล็ก ๆ หลังหนึ่ง เทวดาชีใ้ ห้เธอดูพร้อมกับกล่าวว่า “นีแ่ หละบ้านของท่าน” หญิงคนนัน้ ร้องว่า “อะไรนะ ฉันอาศัยในบ้านแบบนี้ไม่ได้ดอก” เทวดาตอบว่า “เสียใจด้วย เราได้พยายามสร้างบ้านหลังนี้อย่างดี ทีส่ ดุ แล้วอาศัยสิง่ ทีท่ า่ นส่งมาให้”

5


เพราะขาดวินัย พวกเขาขาดการฝึ กซ้อม ขาดการควบคุมตัวเอง ปล่อยร่างกายให้ ทรุดโทรมหย่อนสมรรถภาพ ภาพพจน์เสื่อมเสีย และสูญเสียชื่อเสียงทีอ่ ุตส่าห์สงสม ั่ มาเป็ นเวลานานไปในทีส่ ดุ หลายคนมี ค วามสามารถมากมายแต่ ไ ม่ เ คยประสบ ความสําเร็จในชีวติ เพราะเขาขาดวินัยทีจ่ ะควบคุมตนเองให้นงั ่ ลงคิด เขียน หรือทํา สิง่ ใดสิง่ หนึ่งให้เป็ นชิน้ เป็ นอัน 1.4 ดิ้ นรนเลื อ กหนทางที ใ่ ช้ ค วามคิ ด มากกว่ า หนทางที ่ สิ้ นคิ ด ทุกคนควรต้องคิดถึงผลทีพ่ งึ ได้ในปจั จุบนั และผลทีจ่ ะตามมาในอนาคตควบคู่ กันไปด้วย ขณะนี้ หนทางสบายหรือ ประตู ก ว้า งดู เ หมือ นจะน่ า เข้า มากกว่า ส่วนหนทางลําบากหรือประตูแคบดูเหมือนจะยากและน่ ากลัว แต่เพื่อจะ ประเมินคุณค่าของหนทางทัง้ สองได้อย่างถูกต้อง เราจะพิจารณาโดยคํานึงถึงโลกนี้ เพียงอย่างเดียวไม่ได้ ต้องคํานึงถึงโลกหน้าด้วย ปรับปรุงชีวิตอยู่เสมอ พวกทีไ่ ม่สามารถผ่านประตูเข้าไปได้ จําต้องยืนอยู่ขา้ งนอก พากัน อ้างว่า “พวกเราได้กนิ ได้ดมื ่ อยู่กบั ท่าน ท่านได้สอนในลานสาธารณะของเรา” (ลก 13:26) นี่เป็ นข้ออ้างของเราคริสตชนด้วย เรามักคิดกันว่าได้กลับใจมาเรียน คําสอนและรับศีลล้างบาปแล้ว ได้มาวัดและแก้บาปรับศีลทุกอาทิตย์แล้ว เราคุน้ เคย กับพระองค์เพราะได้กนิ พระกาย ได้ด่มื พระโลหิต และได้ฟงั พระองค์เทศน์สอนบน ธรรมาสน์แล้ว เพราะฉะนัน้ เรามีขอ้ อ้างมากพอทีจ่ ะเคาะประตูพระอาณาจักร กล่าว ว่า “เปิดประตูให้พวกเราด้วย” (ลก 13:25) แต่เจ้าของบ้านกลับตอบว่า “เราไม่รวู้ ่าพวกเจ้ามาจากทีใ่ ด ไปให้พน้ จากเราเถิด เจ้าทัง้ หลายทีก่ ระทําการชัวช้ ่ า” (ลก 13:27) ความหมายของพระองค์คอื ไม่มคี ําว่า “เพียงพอ” สําหรับการเป็ น คริสตชน !! 2.

4

เงินเดือ นทั้งปี ของเขาในปี 2549 คือหนึ่งแสนเหรี ยญ จัด ว่ าน้อ ยมาก สําหรับหมายเลขหนึง่ ของบริษทั ซีอีโอทัว่ ไปมีรายได้ตอ่ ปี เฉลี่ยเก้าล้านดอลลาร์ เขาบอกว่า สหรัฐอเมริกาจ่ายเงินให้นกั มวยสิบล้านเพื่อที่จะน็อกคู่ตอ่ สูใ้ ห้ ล้มในเวลาสิบวิ นาที แต่ไม่สามารถจ่ายเงินดีแก่ครูที่เก่งที่สดุ พยาบาลที่ดีที่สดุ เป็ นการจ่ายที่ไม่สมเหตุผลอย่างยิ่ง เขาเห็นคุณค่าของการทํางานที่เป็ นประโยชน์ เท่านัน้ ด้วยเหตุนี้ เขาจึงไม่คิดจะย้ายบ้านที่อยู่มาตัง้ แต่หนุม่ ไปอยู่คฤหาสน์ที่ไหน สักแห่ง เขาบอกว่า ซื้อบ้านใหม่ทาํ ไม ในเมื่อเขามีทกุ อย่างที่ตอ้ งการในบ้านหลังนี้ แล้ว การย้ายบ้านเพียงเพื่อให้ ‘สมฐานะ’ ของตัวเองเป็ นเรื่องเหลวไหล หลายปี ก่อนเคยมีการสัมภาษณ์มหาเศรษฐีชนั้ นําของโลกจํานวนหนึง่ และ พบว่ามหาเศรษฐีที่ราํ่ รวยจริง ๆ ล้วนเป็ นคนมัสยัสถ์อย่างยิ่ง ใช้เงินเท่าที่จาํ เป็ น เพราะพวกเขาเห็นว่าเงินทองไม่ใช่ทกุ สิ่งในชีวิต โลกเราเต็มไปด้วยคนรวยกลวง ๆ คนที่พยายามทําตัวให้ดรู วย เมื่อไม่มี เงินก็พยายามกูเ้ งินมา ด้วยค่านิยมที่ว่า “คนที่กเู้ งินได้คือคนที่มเี ครดิต” คนรวยเช่น วอร์เรน บัฟเฟตต์ กลับบอกว่า “จงหลีกห่างจากบัตรเครดิตไปไกล ๆ” ที่แตกต่างจากคนอื่นก็คือ ลูกหลานของเขาจะไม่ได้รับมรดกมากเท่าส่วน บริ จาค เขาบอกว่ า “ผมต้องการให้ล กู หลานของผมมากพอที่ พวกเขารูส้ ึกว่ า สามารถทําอะไรก็ได้ แต่จะไม่มากพอที่ทาํ ให้พวกเขาไม่ทาํ อะไรเลย”

เมื่อเรามองทะล ุวัตถ ุนิยม เราก็จะเริม ่ แลเห็นความหมายและค ุณค่าที่แท้จริงของชีวิต

9


มิสซาสั ปดาห์ ที่ 21 เทศกาลธรรมดา (ปี C) วันอาทิตย์ ที่ 25 สิ งหาคม ค.ศ. 2013 วัน เดือน ปี รายการมิสซา ส. 24 ส.ค. สุ ขสํ าราญ โมทนาคุณพระเจ้าและพระแม่มารี ย ์ 18.00 น. มารี อา ประทุม, คุณสมนึก ใช้สมบุญ และครอบครัว ครอบครัวดิเรกโรจน์วฒ ุ ิ ครอบครัววรี วงศ์ อุทศิ แด่ อันตน สําเริ ง โกญจนาท ยอแซฟ เสถียร, มารี อา เสาวนีย ์ พงษ์เพิ่มมาศ มารี อา ลักษณา รัตนกรัณฑ์ สตีเฟน จํารู ญ, มารี อา ละมุด เจริ ญพานิช วิญญาณในไฟชําระและวิญญาณที่ไม่มีผใู ้ ดนึกถึง อา. 25 ส.ค. สุ ขสํ าราญ โมทนาคุณพระเจ้า และพระแม่มารี ย ์ 08.00 น. มารี อา เอื้อพันธ์ ศรี เจริ ญ และครอบครัวศรี เจริ ญ ครอบครัวสุ ทธิจิตต์ ครอบครัวธนะสาร, ครอบครัวสาธรกิจ ครอบครัวสุ ทธิโอภาส, ครอบครัวรัตนบรรณสกุล ครอบครัวเขม้นงาน, ครอบครัวเพียรช่างคิด ครอบครัวลิ้มจิตรกร, ครอบครัวเตรี ยมวิชานนท์ ทุกครอบครัวในโลก อุทศิ แด่ คุณอุย้ นิ้ว แซ่เซี้ ยว คุณนวลจันทร์, ด.ช.ธงชัย ธนะสาร ยวง บัปติสต์ เสมียน สาธรกิจ, มารี อา ฮุยเกียว แซ่โง้ว ผูล้ ่วงลับครอบครัวธนะสารและสาธรกิจ โทมัส วิษณุ, มารี อา อารี สุ ทธิจิตต์ ยวง บัปติสตา ก๊กเคี้ยง แซ่แพ้, มารี อา กิมฮวย แซ่ ต้ งั บรรพบุรุษครอบครัวธนาพานิชย์ วิญญาณในไฟชําระและวิญญาณที่ไม่มีผใู ้ ดนึกถึง 10

ผู้ขอมิสซา เริ งจิต วรัญญ์นิช ณัฐวรรณ คค.ศรี เจริ ญ ณัฐวรรณ ณัฐวรรณ ณัฐวรรณ ณัฐวรรณ ณัฐวรรณ ณัฐวรรณ ณัฐวรรณ ณัฐวรรณ ณัฐวรรณ คค.ธนาพานิชย์ คค.ธนาพานิชย์ คค.ธนาพานิชย์

เท่ากับพระองค์ต้องการจะบอกเราว่า ไม่ว่าจะเป็ นยิว เป็ นคริสตชน หรือ เป็ น ผู้ ใ ดก็ ต าม การเข้า สวรรค์ มิไ ด้ เ ป็ น ไปโดยอัต โนมัติ แต่ ต้ อ ง “ดิ้ นรน สุดเหวีย่ ง” แม้จะต้องปวดร้าวทรมานทัง้ กายและใจมากเพียงใดก็ตาม !! ปกติเรามักคิดกันว่าเมื่อ “เชือ่ ” ในพระเยซูเจ้าก็แปลว่าเราเข้าเส้นชัย แล้ว เราบรรลุจุดหมายแล้ว ต่อจากนี้จะพักผ่อนบ้างก็ยอ่ มได้ ซึง่ ความคิดทัง้ หมดนี้ผดิ และเป็ นอันตรายอย่างยิง่ เพราะเราคริสตชนไม่เคยมี “เส้นชัย” ดังกล่าวอยูใ่ นโลกนี้ “เส้นชัย” ของเรายังอยูอ่ กี ยาวไกลในโลกหน้า ! ด้วยเหตุน้ีพระองค์จงึ ทรงเรียกร้องให้เราทุกคน “ดิ้นรน” 1.1 ดิ้ นรนเลือกหนทางลําบากมากกว่าหนทางสบาย เพราะ ไม่เคยมีใครยิง่ ใหญ่ได้ด้วยหนทางง่ายๆ สบายๆ และไม่เคยมีนักกีฬาหน้ าไหนได้ เหรียญทองโดยไม่ตอ้ งออกแรงฝึกซ้อมอย่างหนัก ในโลกนี้ ไม่มหี นทางใดนําไปสูช่ ยั ชนะและความสําเร็จได้เว้น แต่หนทางของการดิน้ รนต่อสูด้ ว้ ยความยากลําบาก ผูใ้ ดก็ตามทีส่ ญ ั ญาว่าจะทําให้เรา พ้นจากความยากจนหรืออยูด่ กี นิ ดีได้โดยไม่ตอ้ งทํางานหนัก ผูน้ นั ้ กําลังหลอกลวงเรา 1.2 ดิ้ นรนเลือกหนทางยาวมากกว่าหนทางสัน้ น้อยครัง้ นัก ที่ความสําเร็จจะได้มาภายในเวลาอันแสนสัน้ ส่วนใหญ่ล้วนเป็ นผลพวงจากความ เพียรพยายาม ความมุมานะ และอุตสาหะเป็ นเวลายาวนาน ขนาดนั ก ปราชญ์ ผู้ย ิ่ง ใหญ่ อ ย่ า งเช่ น เพลโต ยัง ต้อ งเขีย น ประโยคขึน้ ต้นเพียงประโยคเดียวของหนังสือเรื่องสาธารณรัฐ (Republic) มากถึง 13 แบบแตกต่างกันกว่าจะลงตัว และเท่าที่ค้นพบทัง้ 13 แบบก็ล้วนแล้วแต่เขียนด้วย ลายมือของท่านเอง อย่าลืมว่าที่ผ่านมาไม่เคยมีทางลัดสู่การสร้าง “แบรนด์เนม” ดังระดับโลก บางคนอาจใช้กลยุทธ์การตลาดกระพือกระแสสินค้าของตนให้ดงั ชัว่ ข้า มคืน แต่ ร ับ รองว่ า ดัง ได้ไ ม่น านแน่ สมดัง ภาษิต จีน ที่ว่ า “ระยะทางพิสูจ น์ ม้า กาลเวลาพิสจู น์คน” 1.3 ดิ้ นรนเลื อ กหนทางที ม่ ี วิ นั ย มากกว่ า หนทางไร้ วิ นั ย นักกีฬา นักร้อง นักแสดงและคนอีกจํานวนมากไม่สามารถรักษาความสําเร็จไว้ได้ก-็ 3


สั ปดาห์ ที่ 21 เทศกาลธรรมดา (ปี C)

ลก 13:22-30

ชายคนหนึ่งทูลถามพระเยซูเจ้าว่า “พระเจ้าข้า มีคนน้อยคนใช่ไหมทีร่ อดพ้น ได้” (ลก 13:23) “คนน้อยคน” ในความคิดของเขาหมายถึง “ชาวยิ ว” เท่านัน้ เพราะชาวยิว เป็ นลูกหลานของอับราฮัมผูซ้ ง่ึ พระยาห์เวห์ได้ทรงสัญญาไว้ว่า “เพราะท่านได้ทาํ ดังนี้ คือมิได้หวงบุตรชายคนเดียวของท่านไว้ เราสาบานต่อเราเองว่า เราอวยพรให้ท่าน อย่างมาก” (ปฐก 22:16-17) ส่วนคนต่างชาติต่างศาสนาไม่ใช่ลูกหลานของอับราฮัม จึงไม่มสี ทิ ธิ ์ในมรดก สวรรค์ !! แต่วนั นี้ พระเยซูเจ้าทรงขยายสิทธิ ์นี้ไปสูม่ นุ ษย์ทุกคน พระองค์ตรัสว่า “จะมี คนจากทิศ ตะวัน ออกและทิศ ตะวัน ตก ทิศ เหนื อ และทิศ ใต้ มานัง่ ร่ว มโต๊ ะ ในพระ อาณาจักรของพระเจ้า” (ลก 13:29) อย่างไรก็ดี แม้พระองค์จะให้หลักประกันอันน่ าอุ่นใจแก่เราทุกคนว่ามีสทิ ธิ ์ ทัดเทียมกันในมรดกสวรรค์แล้วก็ตาม พระองค์ยงั ทรงเรียกร้องให้เรา... 1. ดิ้ นรนเพือ่ จะเข้าสวรรค์ พระองค์ตรัสว่า “จงพยายามเข้าทางประตูแคบ” (ลก 13:24) คํา “พยายาม” ตรงกับต้นฉบับภาษากรีก agōnizesthe (อาโกนีเซส เธ) แปลว่า “พยายามทีส่ ุด, ดิ้นรน, ต่อสู,้ ชิงชัย” และเป็ นรากศัพท์ของคํา agony ใน ภาษาอังกฤษซึง่ แปลว่า “ความปวดร้าวทรมาน” 2

วัน เดือน ปี รายการมิสซา อา 25 ส.ค. สุ ขสํ าราญ โมทนาคุณพระเจ้าและพระแม่มารี ย ์ 10.00 น. สัตบุรุษวัดแม่พระกุหลาบทิพย์ทุกท่าน ดอมินิก ภูวนัย หงษ์แก้ว และครอบครัว ยอแซฟ อนันต์ พึ่งผล และครอบครัว คุณสุ รีนา ชวนิตย์ และครอบครัว คุณวิบูลย์ ดาราไทย คุณมาลัย ชีวนิชพันธ์ พลทหาร เกียรติศกั ดิ์ เจียมจิตพลชัย อุทศิ แด่ หลุยส์ พิชยั เจริ ญสุ ข เปาโล พร, อันนา ละม่อม พึ่งผล มารี อา ถนอม ราชกิจ เปโตร สวัสดิ์, อันนา ดารา ราชกิจ มารี อา พยนต์ พุม่ ร่ มบุตร เปาโล ฮั้ว แซ่อ้ ึง, มารี อา ไอ๊ แซ่แต้ มารี อา ไพรัตน์ ฟัดน้อย เทเรซา เทรัตน์ ประกอบกิจ โรซา วรี ตันติโกสิ ชฌน์ คุณนุชนาถ พุม่ พวง มารี อา มยุรีย ์ สายพรหม และญาติผลู้ ่วงลับ คุณสมชาย, คุณจารุ ณี ยิง่ ยงเสถียร ผูล้ ่วงลับครอบครัวบุญเจริ ญ วิญญาณในไฟชําระและวิญญาณที่ไม่มีผใู้ ดนึ กถึง จ. 26 ส.ค. สุ ขสํ าราญ คุณธัชพล ติรณะประกิจ อ. 27 ส.ค. อุทศิ แด่ โรซา วรี ตันติโกสิ ชฌน์ พ. 28 ส.ค. อุทศิ แด่ วิญญาณในไฟชําระ พฤ.29 ส.ค. อุทศิ แด่ วิญญาณในไฟชําระ ศ. 30 ส.ค. อุทศิ แด่ ฟี เดส จิตรา ดารุ ทยาน

ผู้ขอมิสซา วิไลวรรณ เจมส์ เจมส์ มาลินี อัญชลี ชนันต์ธร คค.ราชกิจ คค.ราชกิจ คค.ราชกิจ กฤษณ์ ประวิทย์ ลลิตา ลลิตา ธรรมนูญ มาลินี -

อมรา 11


 วันอาทิตย์หน้า (1 กันยายน ศกนี้) เป็ นวันอาทิตย์ตน้ เดือน o พี่น้องท่านใดประสงค์นาํ บุตรหลานเด็กเล็กมารั บศี ลล้างบาป โปรด ติดต่อสํานักงานวัด ณ ศาลาปี ติการุ ณย์ o กลุ่มวินเซนเดอปอล ขอเชิ ญชวนผูม้ ีจิตศรั ทธาร่ วมช่ วยเหลือผูย้ ากไร้ โดยบริ จาคเงินหรื อสิ่ งของได้ที่หน้าวัด หรื อที่โต๊ะวินเซนเดอปอล ณ ศาลาปี ติการุ ณย์  วันอาทิตย์ที่ 8 กันยายน ศกนี้ กลุ่มพลมารี ย ์ ขอเชิ ญสมาชิ กและพี่น้องทุกท่าน ร่ วมฉลองเปรสิ เดียมวัดแม่พระกุหลาบทิพย์ เวลา 12.30-14.00 น. ณ ศาลาปี ติ การุ ณย์  วันอาทิตย์ที่ 15 กันยายน ศกนี้ เป็ นวันฉลองแม่พระเปนญาฟรานช่า ขอเชิญพี่ น้องร่ วมเทิดเกียรติแม่พระ มิสซา 10.00 น. หลังมิสซามีแห่ เทิดเกียรติแม่พระ และถวายช่อดอกไม้ โอกาสนี้ กลุ่มพิธีกรรมรับสมัครผูห้ ญิงที่มีความสู ง 155165 ซ.ม. จํานวน 4 ท่านเพื่อแบกบุษบกแม่พระเปนญาฟรานช่า ผูส้ นใจโปรด ติดต่อกลุ่มพิธีกรรม หรื อที่สาํ นักงานวัด

ฉบับที่ 489 วันอาทิตย์ที่ 25 สิงหาคม ค.ศ. 2013

สั ปดาห์ ที่ 21 เทศกาลธรรมดา (ปี C)

จงพยายามเข้ าทางประตูแคบ ลก 13:24

12


Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.