ฉบับที่ 490 วันอาทิตย์ที่ 1 กันยายน ค.ศ. 2013
ฉบับที่ 490 วันอาทิตย์ที่ 1 กันยายน ค.ศ. 2013
สั ปดาห์ ที่ 22 เทศกาลธรรมดา (ปี C)
สั ปดาห์ ที่ 22 เทศกาลธรรมดา (ปี C)
ทุกคนทีย่ กตนขึน้ จะถูกกดให้ ตาํ่ ลง แต่ ทุกคนทีถ่ ่ อมตนลงจะได้ รับการยกย่ องให้ สูงขึน้
ทุกคนทีย่ กตนขึน้ จะถูกกดให้ ตาํ่ ลง แต่ ทุกคนทีถ่ ่ อมตนลงจะได้ รับการยกย่ องให้ สูงขึน้
ลก 14:11
ลก 14:11
สั ปดาห์ ที่ 22 เทศกาลธรรมดา (ปี C) ลก 14:1, 7-14
พระเยซูเจ้าเสด็จไปเสวยพระกระยาหารที่บ้านของหัวหน้ าฟาริส ี และทรง รักษาชายคนหนึ่งซึ่งป่วยเป็ นโรคท้องบวมต่อหน้าเจ้าภาพและแขกรับเชิญอีกมาก (ลก 14:1-6) บังเอิญวันนัน้ เป็ นวันสับบาโต ! นับเป็ นครัง้ ที่เจ็ดแล้วที่พระองค์ทรงรักษาคนเจ็บป่วยในวันสับบาโต (มก 1:21; ยน 5:9; 9:14; ลก 4:38; 6:6; 13:13; 14:4) ลําพังการรักษาคนเจ็บป่วยซึ่งถือเป็ นการ “ทํางาน” และเป็ นสิง่ ต้องห้ามใน วันสับบาโตก็หนักหนาอยู่แล้ว แต่พระองค์ยงั ทรงท้าทายชาวฟาริสแี ละนักกฎหมาย ด้วยคําถามทีว่ ่า “ถ้าผูใ้ ดมีบุตรหรือมีโคตกลงไปในบ่อ จะไม่รบี ฉุ ดขึ้นมาทันทีแม้เป็ น วันสับบาโตหรือ” จนพวกเขานิ่งอึ้งตอบไม่ได้ด้วยแล้ว (ลก 14:5) ความเป็ นศัตรู ระหว่างพระองค์กบั พวกเขาก็ปรากฏชัดแจ้งทันที ! ในสายตาของชาวฟาริสแี ละนักกฎหมาย พระองค์คอื คน “แหกกฎ” ที่พวก เขาจะต้องหยุดยัง้ ให้ได้ไม่วา่ จะต้องเสียค่าใช้จา่ ยมากสักเพียงใดก็ตาม กระนัน้ ก็ตาม เมือ่ หัวหน้าฟาริสที ลู เชิญพระองค์ไปเสวยพระกระยาหารทีบ่ า้ น พระองค์ท รงตอบรับ คํา เชิญ เพราะไม่มีท างเลยที่พ ระองค์จ ะปฏิเ สธคํา เชิญ เพื่อ “สัมพันธภาพ” แม้คาํ เชิญนัน้ จะออกมาจากปากของศัตรูกต็ าม ! พระองค์ไม่เคยสิน้ หวังในตัวฟาริสี แม้ความหวังทีจ่ ะเปลีย่ นแปลงจิตใจของ พวกเขาดูเหมือนจะริบหรีช่ นิด “ฝนทังให้ ่ เป็ นเข็ม” ยังง่ายกว่าอีกก็ตาม 2
วัน เดือน ปี อา 1 ก.ย. 10.00 น.
รายการมิสซา สุ ขสํ าราญ โมทนาคุณพระเจ้าและพระแม่มารี ย ์ สัตบุรุษวัดแม่พระกุหลาบทิพย์ทุกท่าน มารี อา พิศมัย หอมวิไล, เปาโล วันชัย แตงอ่อน ฟรังซิ สเซเวียร์ ดนุเดช ศรี เคน อันนา ศิวารี ย ์ แตงอ่อน และครอบครัว ราฟาแอล ชัยพฤกษ์ ประคีนวินชา และครอบครัว คุณสัณหพล เหลืองอร่ าม และครอบครัว คุณจิณห์จุฑา กิตติศิลป์ , เควิน ตัน และครอบครัว คุณนลพรรณ, คุณสาธิต พันธุ์โอภาส อันโตนีโอ จํารู ญ พรสัจจา คุณสิ ทธิพงษ์ ปิ ยจิตรไพรัช และครอบครัว คุณจิรดา จิระดํารง และครอบครัว อุทศิ แด่ หลุยส์ พิชยั เจริ ญสุ ข มารี อา จันทรา ธารี จิตย์, เปโตร บุญมา หอมวิไล อังเยรา อาริ นทร์ มีสุขอําไพรัศมี ยอแซฟ ลิ้มเจียม แซ่ซึง, คุณเอ็ดดี้ ตัน คุณอิม แซ่ต้ งั , คุณสุ ปราณี แซ่ล้ ี เปโตร ยรรยง, ลูซีอา ละออ, มารี อา นิตยา อุชชิน ยอแซฟ สมบัติ อุชชิน, มารี อา มยุรี ผลาวงศ์ มัทธิ ว เกียรติศกั ดิ์ สุ วรรณจิต, Thomas Adams Maria Vanna Xavier, Marcellina Marasri Xavier ฟรังซิ สโก อรุ ณ, อาคาทา นงเยาว์ เจริ ญสุ ข เทเรซา จารุ วรรณ และผูล้ ่วงลับครอบครัวเจริ ญสุ ข คุณเจ๊กพู,่ คุณบุน้ อุ่ยตี้, คุณหวัง่ กิม หล่าน แซ่อุ่ย คุณประพนธ์ แซ่ลิ้ม, คุณประเนตร์ แซ่หลิ่ม ผูล้ ่วงลับครอบครัวเฟื่ องธุระ วิญญาณในไฟชําระและวิญญาณที่ไม่มีผใู้ ดนึ กถึง
ผู้ขอมิสซา วิไลวรรณ วิไลวรรณ วิไลวรรณ ภาณุฉตั ร/อัญชลี ชนันต์ธร พิศมัย สรัลชนา ศิริวรรณ/หมุ่ยอี่/อัญชลี คค.อุชชิน คค.อุชชิน คค.อุชชิน จงรักษ์ จงรักษ์ ธีรดา ธีรดา จงรักษ์ พิศมัย/ธีรดา 11
มิสซาสั ปดาห์ ที่ 22 เทศกาลธรรมดา (ปี C) วันอาทิตย์ ที่ 1 กันยายน ค.ศ. 2013 วัน เดือน ปี รายการมิสซา ผู้ขอมิสซา ส. 31 ส.ค. สุ ขสํ าราญ โมทนาคุณพระเจ้าและพระแม่มารี ย ์ 18.00 น. มารี อา ประทุม, คุณสมนึก ใช้สมบุญ และครอบครัว อันโตนีโอ จํารู ญ พรสัจจา, ทุกครอบครัวในโลก -/มาลินี อุทศิ แด่ พระสังฆราช ยอห์น บอสโก มนัส จวบสมัย สันต์ฤทัย อันตน สําเริ ง โกญจนาท เริ งจิต สตีเฟน จํารู ญ, มารี อา ละมุด เจริ ญพานิช Maria Vanna Xavier, Marcellina Marasri Xavier โทมัส วิจิตร, มารี อา กิมลั้ง, ยอแซฟ สุ จินต์ สันต์ฤทัย วิญญาณในไฟชําระและวิญญาณที่ไม่มีผใู ้ ดนึกถึง ชุมพล อา. 1 ก.ย. สุ ขสํ าราญ โมทนาคุณพระเจ้า และพระแม่มารี ย ์ 08.00 น. มารี อา เอื้อพันธ์ ศรี เจริ ญ และครอบครัวศรี เจริ ญ คค.ศรี เจริ ญ คุณทิพย์วิภา และครอบครัวอรัญญเกษม ทิพย์ ครอบครัวธนาพานิชย์, ครอบครัวพูนประชาสิ น บุญเลิศ ครอบครัวบุญโทแสง, ลิ้มเจริ ญ, โชติธรรมกาล บุญเลิศ ครอบครัวธนะสาร, สาธรกิจ, รัตนบรรณสกุล ณัฐวรรณ ครอบครัวลิ้มจิตรกร, เตรี ยมวิชานนท์, เพียรช่างคิด ณัฐวรรณ ณัฐวรรณ ครอบครัวเขม้นงาน, สุ ทธิโอภาส, ทุกครอบครัวในโลก อุทศิ แด่ ยอแซฟ ทิวากร รักคิด และบรรพบุรุษ วิภาวินี คุณอุย้ นิ้ว แซ่เซี้ ยว, คุณนวลจันทร์ , ด.ช.ธงชัย ธนะสาร ณัฐวรรณ ยวง บัปติสต์ เสมียน สาธรกิจ, มารี อา ฮุยเกียว แซ่โง้ว ณัฐวรรณ ผูล้ ่วงลับครอบครัวธนะสารและสาธรกิจ ณัฐวรรณ อลิซาเบธ อารี ย ์ สังขพงษ์ อมรา ยวง บัปติสตา ก๊กเคี้ยง แซ่แพ้, มารี อา กิมฮวย แซ่ ต้ งั คค.ธนาพานิชย์ บรรพบุรุษครอบครัวธนาพานิชย์ คค.ธนาพานิชย์ วิญญาณในไฟชําระและวิญญาณที่ไม่มีผใู ้ ดนึกถึง คค.ธนาพานิชย์ 10
แต่หลักการอันแน่ วแน่ ของพระองค์กค็ อื “เราไม่มีทางทําให้ศตั รูกลายเป็ น เพือ่ นได้ หากเราไม่พดู คุยกับเขา” เข้าตํารา “ไม่เข้าถํ้าเสือ มีหรือจะได้ลกู เสือ” ในเมือ่ พระองค์ยงั ไม่ส้นิ หวังกับศัตรูของพระองค์ มีหรือทีพ่ ระองค์จะสิ้นหวัง กับเรา ?!? ขอเพียงเราเองอย่าสิ้ นหวัง เท่านัน้ !!! ทีบ่ า้ นของหัวหน้าฟาริสี “ผูท้ อี ่ ยูท่ นี ่ นต่ ั ่ างจ้องมอง” พระองค์ (ลก 14:1) คํากรีกทีใ่ ช้คอื paratēréō (พาราเตแรโอ) หมายถึงการ “เฝ้าดูอย่างใกล้ชดิ ด้วยเจตนาร้าย” ดุจเดียวกับเหยีย่ วเฝ้าติดตามเหยือ่ ชนิดไม่คลาดสายตา หากถูกเฝ้าติดตามหรือจ้องจับผิดเหมือนพระองค์ เราคงหงุดหงิด โกรธ บาง คนอาจถึงขัน้ ประสาทเสียและทนไม่ได้ จนต้องเข้าแจ้งความกับตํารวจก็เคยปรากฏ เป็ นข่าวมาแล้ว แต่พระเยซูเจ้าทรงเผชิญหน้ากับศัตรูผูจ้ ้องจับผิดด้วยจิตใจที่สงบ เบิกบาน และแจ่มใส ยิง่ ไปกว่านัน้ ยังทรงเตือนสติบรรดาศัตรูให้รูจ้ กั รักและช่วยเหลือเพื่อน มนุษย์แม้ในวันสับบาโต อีกทัง้ ทรงสอนพวกเขาให้รจู้ กั สุภาพถ่อมตนซึง่ เป็ นหนทางสู่ เกียรติยศทีย่ งิ่ ใหญ่กว่า พระองค์ตรัสกับพวกเขาว่า “เมือ่ มีใครเชิญท่านไปในงานมงคลสมรส อย่าไป นังในที ่ ท่ มี ่ เี กียรติ” (ลก 14:8) ลองนึกภาพดูสวิ ่าจะ “หน้าแตก” สักแค่ไหนหากเรานัง่ อยู่ในทีท่ ม่ี เี กียรติ แล้ว ถูกเจ้าภาพ “ลดชัน้ ” ด้วยการเชิญไปนัง่ ในทีส่ ุดท้ายเพราะมีแขกผูม้ เี กียรติมากกว่ามา ร่วมงาน ทีก่ ล่าวเช่นนี้ มิได้หมายความว่าพระองค์ทรงสอนให้เรา “สุภาพถ่อมตน” เพื่อ หลีกเลีย่ งอาการ “หน้าแตก” เท่านัน้ แต่เพราะพระองค์ทรงตระหนักดีว่า “ความ สุภาพถ่อมตน” คือ “คุณธรรมทีจ่ าํ เป็ นสําหรับความรอด” ด้วยเหตุน้ี เราจึงได้ยนิ พระองค์เรียกร้องให้เลียนแบบอย่างความสุภาพถ่อม ตนจากพระองค์เองว่า “จงรับแอกของเราแบกไว้ และมาเป็ นศิษย์ของเรา เพราะเรามี ใจสุภาพอ่อนโยนและถ่อมตน จิตใจของท่านจะได้รบั การพักผ่อน” (มธ 11:29) 3
นอกจากนัน้ ความสุภาพถ่อมตนยังเป็ นหนทางสู่พระหรรษทานของพระเจ้า ดังที่นักบุญยากอบกล่าวว่า “พระเจ้าทรงต่อต้านคนเย่อหยิง่ แต่ประทานพระหรรษ ทานแก่ผถู้ ่อมตน” (ยก 4:6) และที่สําคัญ พระองค์เองทรงเลือกหนทางของ “ความสุภาพถ่อมตน” เพื่อ ช่วยมนุ ษย์เราให้รอดพ้น ดังทีน่ ักบุญเปาโลกล่าวว่า “แม้ว่าพระองค์ทรงมีธรรมชาติ พระเจ้า พระองค์กม็ ไิ ด้ทรงถือว่าศักดิศ์ รีเสมอพระเจ้านัน้ เป็ นสมบัตทิ จี ่ ะต้องหวงแหน แต่ทรงสละพระองค์จนหมดสิ้น ทรงรับสภาพดุจทาส เป็ นมนุ ษย์ดุจเรา ทรงแสดง พระองค์ในธรรมชาติมนุ ษย์ ทรงถ่อมพระองค์จนถึงกับทรงยอมรับแม้ความตาย เป็ น ความตายบนไม้กางเขน” (ฟป 2:6-8) อันทีจ่ ริง ประวัตศิ าสตร์ยนื ยันตลอดมาว่าความสุภาพถ่อมตนเป็ นคุณสมบัติ ของบุคคลผูย้ งิ่ ใหญ่จริงๆ เมื่อครัง้ ที่โธมัส ฮาร์ด้ี (1840-1928) กวีและนักเขียนนว นิยายชาวอังกฤษ มีช่อื เสียงมากชนิดที่หนังสือพิมพ์ทุกฉบับพร้อมจ่ายเงินจํานวน มหาศาลเพือ่ แลกกับผลงานของเขา เขากลับส่งผลงานพร้อมกับซองเปล่าติดแสตมป์ จ่าหน้าถึงตัวเอง เผือ่ ว่ากองบรรณาธิการจะไม่ตพี มิ พ์ผลงานของเขา ความสุภาพถ่อมตน (humility) มาจากคําละติน humilitas (ฮูมลี ตี าส) ซึ่ง นักบุญโธมัส อะไควนัสอธิบายว่ามาจาก humus (ฮูมสู ) อันหมายถึง “ดินทีอ่ ยูใ่ ต้เท้า เรา” นี่เอง พระศาสนจัก รสอนว่า “ความสุภ าพถ่ อ มตนคือ คุ ณ ธรรมซึง่ โน้ ม นํ า ให้ผู้ที ่ ตระหนักถึงความบกพร่องของตนเอง ยอมรับว่าตัวเองตํา่ ต้อย และดังนัน้ จึงเต็มใจขึ้น ตรงต่อพระเจ้าและต่อผูอ้ นื ่ เพราะเห็นแก่พระเจ้า” มีผใู้ ห้คาํ แนะนําเพือ่ คงรักษา “ความสุภาพถ่อมตน” ไว้ดงั นี้ 1. ตระหนั ก ถึง ข้ อ เท็จ จริ ง เช่ น แม้เ ราจะมีค วามรู้ม ากมายแต่ เ มื่อ เทียบกับความรูท้ งั ้ หมดทีม่ อี ยูใ่ นโลกจักรวาล ความรูข้ องเรามีแค่หางอึง่ หรือเราอาจเป็ นบุคคลสําคัญ มีตําแหน่ งสําคัญมากก็จริง แต่เมื่อ เกษียณจากตําแหน่งแล้ว เราจะเหลืออะไร ? ยิ่ง ถ้า ความตายมาเยือ นด้ว ยแล้ว ต่ อ ให้ใ หญ่ โ ตแค่ ไ หน ก็ไ ด้โ ลง ขนาดไล่เลีย่ กันเท่านัน้ เอง ! 4
จุดเด่นอีกอย่างของมูจิ คือการใช้แพคเก็จอย่างง่าย ๆ นอกจากเพื่อประหยัด ต้นทุนแล้ว ยังเพื่อช่วยอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมด้วย สํานึกดังกล่าวยังถ่ายทอดลงไปใน กระบวนการผลิตและการจัดจําหน่ายด้วย รูปทรงของสินค้าจากมูจินั้นเรี ยบง่ายมาก จนบางคนมองว่าเชย แต่นี้คือ หัวใจของมูจิก็ว่าได้ เพราะมูจิตอ้ งการเน้นคุณภาพมากกว่ารูปแบบ ใครที่ใช้ของมูจิย่อ มอดไม่ได้ที่จะต้องชมว่าเป็ นของดีจริงๆ อย่างไรก็ตาม แม้รปู แบบจะแสนธรรมดา แต่ ก็แฝงความงดงามเอาไว้ ทั้งๆ ที่ไม่มียี่หอ้ หรือโลโก้ แต่สินค้าจากมูจินนั้ มองปราด เดีย วก็ ร วู้ ่ า มาจากไหน เพราะรูป ทรงนั้น เป็ นเอกลัก ษณ์เ ฉพาะตัว จะว่ า ไปแล้ว ทั้ง รูปแบบและคุณภาพก็บ่งบอกชัดเจนอยู่แล้วว่าเป็ น “ของดีไม่มยี ี่หอ้ ” ถึ ง ไม่ มี ยี่ ห ้อ ก็ เ ป็ นของดี ไ ด้ นี่ คื อ “สาร” จากมูจิ ที่ เ ตื อ นใจผูค้ นได้ดี ม าก โดยเฉพาะในยุคที่ผคู้ นหมกมุ่นหลงใหลในยี่หอ้ จนเข้าใจไปว่ายี่หอ้ กับของดีเป็ นสิ่งคู่ กัน ถึงกับพากันไขว่คว้าหาสินค้ายี่หอ้ ดังๆ มาใช้ หรือไม่ก็มองว่าคนที่ใช้สินค้ายี่หอ้ ดังต้องเป็ นคนเก่งฉลาดหลักแหลม จะว่าไปแล้วมิใช่แต่ยี่ห้อสินค้าเท่านั้น เรายั งหลงใหลติดยึ ดยี่ ห้อของผู ค้ นอี ก ด้วย เจอใครที่ มียี่ห้อดี เช่น เป็ นผู จ้ ัดการ เป็ นดอกเตอร์ หรือเป็ นหมอ ก็สรุปล่วงหน้า แล้วว่าเขาเป็ นคนดีมคี ณ ุ ภาพคับแก้ว แต่ถา้ เจอชาวบ้าน คนกวาดขยะ แม่คา้ ก็มักมอง ว่าเขาเป็ นคนไม่น่าคบหา หรือไม่ฉลาด มูจิยังบอกอีกว่า ของดีไม่มียี่หอ้ ก็ยังขายดีได้ รูปแบบภายนอกนัน้ ไม่สาํ คัญ เท่ากับคุณภาพภายใน แทนที่จะมัวเติมแต่งรูปลักษณ์ ไม่ดีกว่าหรือหากจะมาใส่ใจกับ คุณภาพไม่ว่าของสินค้าหรือตัวคน หากจุดมุ่งหมายของยี่หอ้ คือการประกาศตัวตน มูจิก็เป็ นตัวอย่างดี ท่ี ชี้ว่าการประกาศตัวตนที่ ดีท่ี สุดนัน้ มิใช่ดว้ ยถ้อยคํ า แต่ ดว้ ยคุณภาพภายใน ถ้าเป็ นของดีจริงๆ คนอื่นย่อมรูว้ นั ยังคํ่า
ของดีไม่ตอ้ งพึ่งยีห่ อ้ หรือโฆษณาฉันใด คนดีคนเก่งก็ไม่จําต้องโอ้อวดโฆษณาตัวเองฉันนัน้
9
โดย ภาวัน
เช้าวันหนึง่ “ชอุ่มศรี”กับ “หนวดน้อย”มาเยี่ยม ทัง้ คู่เพิ่งกลับมาจากมาเลเซีย แถมหิ้ ว ของมาฝากด้ว ย เป็ นกระเป๋ าเดิ น ทางสี น ํ้า ตาลมี ล อ้ ลาก รูป ทรงเรี ย บๆ ธรรมดา แต่ชอุ่มศรีภาคภูมิใจมากที่นาํ ของชิ้นนี้มาฝากเพื่อน เพราะเป็ นกระเป๋ าที่ใช้ งานได้ดมี าก ด้านหน้ามีหลายชัน้ เหมาะสําหรับใส่โน้ตบุก๊ และเอกสาร ด้านในใส่เสื้อผ้า และของจิปาถะได้มากมาย ส่วนซิปก็รดู ได้ลื่นมาก เช่นเดียวกับล้อลากที่แค่ออกแรง เบาๆ ก็เคลื่อนตัวอย่างรื่นเรียบและเงียบกริบ นอกจากนัน้ วัสดุที่ใช้ยงั ทนมากด้วย ชอุ่มศรีบอกว่า กว่าจะซื้อกระเป๋ าใบนี้ได้ตอ้ งเข้าแถวยาวทีเดียว แต่นนั ่ ยังไม่ แปลกเท่ากับที่เธอบอกว่า กระเป๋ าใบนี้ไม่มียี่หอ้ สํารวจดูก็เป็ นอย่างที่เธอว่าจริงๆ หาเท่าไรก็ไม่เจอโลโก้ เครื่องหมายการค้า หรือตัวอักษรที่บ่งบอกยี่หอ้ อดพิศวงไม่ได้ ว่าสินค้าไม่มยี ี่หอ้ อย่างนีข้ ายดีได้อย่างไร แล้วหนวดน้อยก็เสริมว่ากระเป๋ าใบนี้ซื้อมาจากร้าน “มูจิ” ซึ่งย่อมาจาก ข้อความว่า “มูจิรชู ิ เรียวฮิน” แปลเป็ นไทยง่ายๆ ว่า “ของดีไม่มียี่หอ้ ” เขายังบอกอีก ว่า ตอนนี้สินค้าจากร้านนี้ขายดีมาก เป็ นที่นิยมไปทัว่ โลก ไม่ใช่แค่กระเป๋ าเท่านัน้ แต่ รวมถึงของใช้จิปาถะ สินค้าไม่มยี ี่หอ้ ไม่เคยเห็นโฆษณาหรือแม้แต่ได้ยินชือ่ เสียงเรียงนามอย่างนีน้ ะ่ หรือ ที่ขายดีไปทัว่ โลก เราอดคิดในใจไม่ได้ แต่เมื่อค้นข้อมูลผ่าน Google ก็พบว่า ปั จจุบันมูจิมียอดขายปี หนึ่งหลายพันล้านบาท นอกจากเชนสโตร์ในญี่ปุ่นเกือบ 300 แห่งแล้ว ยังมีสาขาในอีก 16 ประเทศ รวมทัง้ ประเทศไทยด้วย มูจิเป็ นกิจการที่เติบโต เร็วมาก ปั จจุบนั ผลิตสินค้าถึง 7,000 ชนิด ในยุค ที่ ผ ูค้ นทั ว่ โลกคลั ง่ ไคล้สิ น ค้า แบรนด์เ นม มูจิ เ ป็ นปรากฏการณ์ที่ น่าสนใจมาก ตัง้ แต่ถือกําเนิดเมื่อปี 2523 ผูก้ ่อตัง้ มีปณิธานแน่วแน่ว่า สินค้าของตน จะไม่มียี่หอ้ หรือโลโก้อย่างเด็ดขาด รวมทั้งไม่มีการทุ่มทุนโฆษณาเหมือนสินค้าอื่นๆ ส่วนหนึง่ อาจจะเป็ นเพราะต้องการทวนกระแสบริโภคนิยมที่กระตุน้ ให้คนเสพทุกอย่าง ไม่เว้นแม้กระทัง่ ยี่หอ้ หรือภาพลักษณ์ เมื่อไม่ตอ้ งเสียเงินมหาศาลไปกับการโฆษณา ก็ ทําให้สินค้ามีราคาถูกลง อันเป็ นความตัง้ ใจอีกประการหนึง่ ของผูก้ อ่ ตัง้ 8
2. เปรี ย บเที ย บกับ ผู้ที ค่ รบครัน กว่ า เช่ น เที ย บกับ นั ก ฟุ ต บอล นักแสดง นักร้อง นักดนตรี นักเทศน์ หรือนักธุรกิจระดับโลก แล้วเราจะตระหนักดีว่า ตัวเองยังตํ่าต้อยยิง่ นัก ยิง่ ถ้านําชีวติ ของเราไปเทียบเคียงกับพระเยซูเจ้าด้วยแล้ว ความหยิง่ จองหองมีแต่จะลดหายตายจากไป คงเหลือไว้เพียงเสียงร้องว่า “โปรดทรงพระเมตตา เถิด พระเจ้าข้า....” ที่สุด พระเยซูเจ้าทรงแนะนํ าเจ้าภาพว่า “เมือ่ ท่านจัดงานเลี้ยง จงเชิญคน ยากจน คนพิการ คนง่อย คนตาบอด แล้วท่านจะเป็ นสุข เพราะคนเหล่านัน้ ไม่มสี งิ ่ ใด ตอบแทนท่านได้ ท่านจะได้รบั การตอบแทนจากพระเจ้าเมือ่ ผูช้ อบธรรมกลับคืนชีวติ ” (ลก 14:13-14) พระองค์ตรัสเช่นนี้เท่ากับทรงประสงค์ให้ทุกคนตรวจสอบ “แรงจูงใจ” ของ ตนเมือ่ คิดจะมีน้ําใจหรือเอือ้ อาทรต่อผูอ้ ่นื แรงจูงใจในการ “ให้” อาจมีได้หลายรูปแบบ 1. บางคนถือเป็ น “หน้ าที ”่ ที่จะต้องบริจาคทานแด่พระเจ้าและเพื่อน มนุษย์เสมือนหนึ่งต้องเสียภาษีให้แก่รฐั 2. บางคนหวัง “ผลประโยชน์ ” โดยถือว่าการให้เป็ นการ “ลงทุน” อย่าง หนึ่งเพือ่ จะได้รบั “เครดิต” หรือ “ชือ่ เสียง” ทัง้ จากพระเจ้าและจากเพือ่ นมนุษย์ การให้แ บบนี้ ไ ม่ถือ เป็ น ความใจกว้า ง แต่ เ ป็ น เพีย งความเห็น แก่ ตัวอย่างหนึ่ง 3. บางคนต้องการแสดง “ความเหนื อกว่า” ซึ่งนับว่าเลวร้ายกว่าการ ปฏิเสธความช่วยเหลือเสียอีก เพราะเขากําลังยืนอยู่บนความเหนือชัน้ กว่าแล้วก้มลง มอง “ผูร้ บั ” ด้วยความเหยียดหยาม บางคนถึงกับอบรมสังสอนผู ่ ร้ บั ก่อนให้กม็ ี นี่เป็ นการให้เพือ่ สนองตัณหาและอํานาจของผูใ้ ห้เท่านัน้ เอง พวกรับบีจงึ สอนว่า การให้ทด่ี ที ส่ี ุดเกิดขึน้ เมื่อผูใ้ ห้ไม่รวู้ ่าใครคือผูร้ บั และผูร้ บั ไม่รวู้ า่ ใครคือผูใ้ ห้ ! 5
4. เมื่อใดที่การให้เกิดจาก “ความรัก” ที่หลังไหลพรั ่ งพรู ่ ออกมาจาก หัวใจชนิดไม่อาจควบคุมได้ เมื่อนัน้ การให้แบบที่พระเยซูเจ้าทรงปรารถนาจึงจะ บังเกิดขึน้ เพราะเป็ นการให้แบบเดียวกับพระเจ้าผู้ “ทรงรักโลกอย่างมาก จึง ประทานพระบุตรเพียงพระองค์เดียวของพระองค์ เพือ่ ทุกคนทีม่ คี วามเชือ่ ในพระ บุตรจะไม่พนิ าศ แต่จะมีชวี ติ นิรนั ดร” (ยน 3:16) “ให้เพราะรัก” นีแ่ หละทีพ่ ระเจ้าจะตอบแทนเมือ่ ผูช้ อบธรรมกลับคืน ชีวติ (ลก 14:14) !!!
ตรีวาร วันพฤหัสบดีที่ 12 และวันศุกร์ ที่ 13 กันยายน 2013 ณ วัดน้ อย 18.00 น. สวดสายประคําและบทภาวนาต่อแม่พระเปนญาฟรานช่า (ภาษาอังกฤษ) 18.30 น. สวดสายประคํา (ภาษาไทย) 19.00 น. มิสซา วันเสาร์ ที่ 15 กันยายน 2013 ณ วัดใหญ่ 17.00 น. สวดสายประคําและบทภาวนาต่อแม่พระเปนญาฟรานช่า (ภาษาอังกฤษ) 17.30 น. สวดสายประคํา (ภาษาไทย) 18.00 น. มิสซา
วันอาทิตย์ ที่ 15 กันยายน 2013 วันฉลองแม่ พระเปนญาฟรานช่ า ณ วัดน้ อย 08.00 น. สวดสายประคํา บทภาวนาต่อแม่พระเปนญาฟรานช่า และบทภาวนาต่อพระพักตร์ศกั ดิ์สิทธิ์ 08.30 น. ตั้งศีลมหาสนิท และรําพึงพระวาจา 09.30 น. อวยพรศีลมหาสนิท 09.55 น. อัญเชิญพระรู ปแม่พระเปนญาฟรานช่าไปยังประตูวดั ใหญ่ ณ วัดใหญ่ 08.00 น. มิสซาเช้า 10.00 น. มิสซาฉลองแม่พระเปนญาฟรานช่า แห่และถวายช่อดอกไม้แด่แม่พระเปนญาฟรานช่า หลังมิสซา ขอเชิญรับประทานอาหารเที่ยงร่ วมกัน
6
7
4. เมื่อใดที่การให้เกิดจาก “ความรัก” ที่หลังไหลพรั ่ งพรู ่ ออกมาจาก หัวใจชนิดไม่อาจควบคุมได้ เมื่อนัน้ การให้แบบที่พระเยซูเจ้าทรงปรารถนาจึงจะ บังเกิดขึน้ เพราะเป็ นการให้แบบเดียวกับพระเจ้าผู้ “ทรงรักโลกอย่างมาก จึง ประทานพระบุตรเพียงพระองค์เดียวของพระองค์ เพือ่ ทุกคนทีม่ คี วามเชือ่ ในพระ บุตรจะไม่พนิ าศ แต่จะมีชวี ติ นิรนั ดร” (ยน 3:16) “ให้เพราะรัก” นีแ่ หละทีพ่ ระเจ้าจะตอบแทนเมือ่ ผูช้ อบธรรมกลับคืน ชีวติ (ลก 14:14) !!!
ตรีวาร วันพฤหัสบดีที่ 12 และวันศุกร์ ที่ 13 กันยายน 2013 ณ วัดน้ อย 18.00 น. สวดสายประคําและบทภาวนาต่อแม่พระเปนญาฟรานช่า (ภาษาอังกฤษ) 18.30 น. สวดสายประคํา (ภาษาไทย) 19.00 น. มิสซา วันเสาร์ ที่ 15 กันยายน 2013 ณ วัดใหญ่ 17.00 น. สวดสายประคําและบทภาวนาต่อแม่พระเปนญาฟรานช่า (ภาษาอังกฤษ) 17.30 น. สวดสายประคํา (ภาษาไทย) 18.00 น. มิสซา
วันอาทิตย์ ที่ 15 กันยายน 2013 วันฉลองแม่ พระเปนญาฟรานช่ า ณ วัดน้ อย 08.00 น. สวดสายประคํา บทภาวนาต่อแม่พระเปนญาฟรานช่า และบทภาวนาต่อพระพักตร์ศกั ดิ์สิทธิ์ 08.30 น. ตั้งศีลมหาสนิท และรําพึงพระวาจา 09.30 น. อวยพรศีลมหาสนิท 09.55 น. อัญเชิญพระรู ปแม่พระเปนญาฟรานช่าไปยังประตูวดั ใหญ่ ณ วัดใหญ่ 08.00 น. มิสซาเช้า 10.00 น. มิสซาฉลองแม่พระเปนญาฟรานช่า แห่และถวายช่อดอกไม้แด่แม่พระเปนญาฟรานช่า หลังมิสซา ขอเชิญรับประทานอาหารเที่ยงร่ วมกัน
6
7
โดย ภาวัน
เช้าวันหนึง่ “ชอุ่มศรี”กับ “หนวดน้อย”มาเยี่ยม ทัง้ คู่เพิ่งกลับมาจากมาเลเซีย แถมหิ้ ว ของมาฝากด้ว ย เป็ นกระเป๋ าเดิ น ทางสี น ํ้า ตาลมี ล อ้ ลาก รูป ทรงเรี ย บๆ ธรรมดา แต่ชอุ่มศรีภาคภูมิใจมากที่นาํ ของชิ้นนี้มาฝากเพื่อน เพราะเป็ นกระเป๋ าที่ใช้ งานได้ดมี าก ด้านหน้ามีหลายชัน้ เหมาะสําหรับใส่โน้ตบุก๊ และเอกสาร ด้านในใส่เสื้อผ้า และของจิปาถะได้มากมาย ส่วนซิปก็รดู ได้ลื่นมาก เช่นเดียวกับล้อลากที่แค่ออกแรง เบาๆ ก็เคลื่อนตัวอย่างรื่นเรียบและเงียบกริบ นอกจากนัน้ วัสดุที่ใช้ยงั ทนมากด้วย ชอุ่มศรีบอกว่า กว่าจะซื้อกระเป๋ าใบนี้ได้ตอ้ งเข้าแถวยาวทีเดียว แต่นนั ่ ยังไม่ แปลกเท่ากับที่เธอบอกว่า กระเป๋ าใบนี้ไม่มียี่หอ้ สํารวจดูก็เป็ นอย่างที่เธอว่าจริงๆ หาเท่าไรก็ไม่เจอโลโก้ เครื่องหมายการค้า หรือตัวอักษรที่บ่งบอกยี่หอ้ อดพิศวงไม่ได้ ว่าสินค้าไม่มยี ี่หอ้ อย่างนีข้ ายดีได้อย่างไร แล้วหนวดน้อยก็เสริมว่ากระเป๋ าใบนี้ซื้อมาจากร้าน “มูจิ” ซึ่งย่อมาจาก ข้อความว่า “มูจิรชู ิ เรียวฮิน” แปลเป็ นไทยง่ายๆ ว่า “ของดีไม่มียี่หอ้ ” เขายังบอกอีก ว่า ตอนนี้สินค้าจากร้านนี้ขายดีมาก เป็ นที่นิยมไปทัว่ โลก ไม่ใช่แค่กระเป๋ าเท่านัน้ แต่ รวมถึงของใช้จิปาถะ สินค้าไม่มยี ี่หอ้ ไม่เคยเห็นโฆษณาหรือแม้แต่ได้ยินชือ่ เสียงเรียงนามอย่างนีน้ ะ่ หรือ ที่ขายดีไปทัว่ โลก เราอดคิดในใจไม่ได้ แต่เมื่อค้นข้อมูลผ่าน Google ก็พบว่า ปั จจุบันมูจิมียอดขายปี หนึ่งหลายพันล้านบาท นอกจากเชนสโตร์ในญี่ปุ่นเกือบ 300 แห่งแล้ว ยังมีสาขาในอีก 16 ประเทศ รวมทัง้ ประเทศไทยด้วย มูจิเป็ นกิจการที่เติบโต เร็วมาก ปั จจุบนั ผลิตสินค้าถึง 7,000 ชนิด ในยุค ที่ ผ ูค้ นทั ว่ โลกคลั ง่ ไคล้สิ น ค้า แบรนด์เ นม มูจิ เ ป็ นปรากฏการณ์ที่ น่าสนใจมาก ตัง้ แต่ถือกําเนิดเมื่อปี 2523 ผูก้ ่อตัง้ มีปณิธานแน่วแน่ว่า สินค้าของตน จะไม่มียี่หอ้ หรือโลโก้อย่างเด็ดขาด รวมทั้งไม่มีการทุ่มทุนโฆษณาเหมือนสินค้าอื่นๆ ส่วนหนึง่ อาจจะเป็ นเพราะต้องการทวนกระแสบริโภคนิยมที่กระตุน้ ให้คนเสพทุกอย่าง ไม่เว้นแม้กระทัง่ ยี่หอ้ หรือภาพลักษณ์ เมื่อไม่ตอ้ งเสียเงินมหาศาลไปกับการโฆษณา ก็ ทําให้สินค้ามีราคาถูกลง อันเป็ นความตัง้ ใจอีกประการหนึง่ ของผูก้ อ่ ตัง้ 8
2. เปรี ย บเที ย บกับ ผู้ที ค่ รบครัน กว่ า เช่ น เที ย บกับ นั ก ฟุ ต บอล นักแสดง นักร้อง นักดนตรี นักเทศน์ หรือนักธุรกิจระดับโลก แล้วเราจะตระหนักดีว่า ตัวเองยังตํ่าต้อยยิง่ นัก ยิง่ ถ้านําชีวติ ของเราไปเทียบเคียงกับพระเยซูเจ้าด้วยแล้ว ความหยิง่ จองหองมีแต่จะลดหายตายจากไป คงเหลือไว้เพียงเสียงร้องว่า “โปรดทรงพระเมตตา เถิด พระเจ้าข้า....” ที่สุด พระเยซูเจ้าทรงแนะนํ าเจ้าภาพว่า “เมือ่ ท่านจัดงานเลี้ยง จงเชิญคน ยากจน คนพิการ คนง่อย คนตาบอด แล้วท่านจะเป็ นสุข เพราะคนเหล่านัน้ ไม่มสี งิ ่ ใด ตอบแทนท่านได้ ท่านจะได้รบั การตอบแทนจากพระเจ้าเมือ่ ผูช้ อบธรรมกลับคืนชีวติ ” (ลก 14:13-14) พระองค์ตรัสเช่นนี้เท่ากับทรงประสงค์ให้ทุกคนตรวจสอบ “แรงจูงใจ” ของ ตนเมือ่ คิดจะมีน้ําใจหรือเอือ้ อาทรต่อผูอ้ ่นื แรงจูงใจในการ “ให้” อาจมีได้หลายรูปแบบ 1. บางคนถือเป็ น “หน้ าที ”่ ที่จะต้องบริจาคทานแด่พระเจ้าและเพื่อน มนุษย์เสมือนหนึ่งต้องเสียภาษีให้แก่รฐั 2. บางคนหวัง “ผลประโยชน์ ” โดยถือว่าการให้เป็ นการ “ลงทุน” อย่าง หนึ่งเพือ่ จะได้รบั “เครดิต” หรือ “ชือ่ เสียง” ทัง้ จากพระเจ้าและจากเพือ่ นมนุษย์ การให้แ บบนี้ ไ ม่ถือ เป็ น ความใจกว้า ง แต่ เ ป็ น เพีย งความเห็น แก่ ตัวอย่างหนึ่ง 3. บางคนต้องการแสดง “ความเหนื อกว่า” ซึ่งนับว่าเลวร้ายกว่าการ ปฏิเสธความช่วยเหลือเสียอีก เพราะเขากําลังยืนอยู่บนความเหนือชัน้ กว่าแล้วก้มลง มอง “ผูร้ บั ” ด้วยความเหยียดหยาม บางคนถึงกับอบรมสังสอนผู ่ ร้ บั ก่อนให้กม็ ี นี่เป็ นการให้เพือ่ สนองตัณหาและอํานาจของผูใ้ ห้เท่านัน้ เอง พวกรับบีจงึ สอนว่า การให้ทด่ี ที ส่ี ุดเกิดขึน้ เมื่อผูใ้ ห้ไม่รวู้ ่าใครคือผูร้ บั และผูร้ บั ไม่รวู้ า่ ใครคือผูใ้ ห้ ! 5
นอกจากนัน้ ความสุภาพถ่อมตนยังเป็ นหนทางสู่พระหรรษทานของพระเจ้า ดังที่นักบุญยากอบกล่าวว่า “พระเจ้าทรงต่อต้านคนเย่อหยิง่ แต่ประทานพระหรรษ ทานแก่ผถู้ ่อมตน” (ยก 4:6) และที่สําคัญ พระองค์เองทรงเลือกหนทางของ “ความสุภาพถ่อมตน” เพื่อ ช่วยมนุ ษย์เราให้รอดพ้น ดังทีน่ ักบุญเปาโลกล่าวว่า “แม้ว่าพระองค์ทรงมีธรรมชาติ พระเจ้า พระองค์กม็ ไิ ด้ทรงถือว่าศักดิศ์ รีเสมอพระเจ้านัน้ เป็ นสมบัตทิ จี ่ ะต้องหวงแหน แต่ทรงสละพระองค์จนหมดสิ้น ทรงรับสภาพดุจทาส เป็ นมนุ ษย์ดุจเรา ทรงแสดง พระองค์ในธรรมชาติมนุ ษย์ ทรงถ่อมพระองค์จนถึงกับทรงยอมรับแม้ความตาย เป็ น ความตายบนไม้กางเขน” (ฟป 2:6-8) อันทีจ่ ริง ประวัตศิ าสตร์ยนื ยันตลอดมาว่าความสุภาพถ่อมตนเป็ นคุณสมบัติ ของบุคคลผูย้ งิ่ ใหญ่จริงๆ เมื่อครัง้ ที่โธมัส ฮาร์ด้ี (1840-1928) กวีและนักเขียนนว นิยายชาวอังกฤษ มีช่อื เสียงมากชนิดที่หนังสือพิมพ์ทุกฉบับพร้อมจ่ายเงินจํานวน มหาศาลเพือ่ แลกกับผลงานของเขา เขากลับส่งผลงานพร้อมกับซองเปล่าติดแสตมป์ จ่าหน้าถึงตัวเอง เผือ่ ว่ากองบรรณาธิการจะไม่ตพี มิ พ์ผลงานของเขา ความสุภาพถ่อมตน (humility) มาจากคําละติน humilitas (ฮูมลี ตี าส) ซึ่ง นักบุญโธมัส อะไควนัสอธิบายว่ามาจาก humus (ฮูมสู ) อันหมายถึง “ดินทีอ่ ยูใ่ ต้เท้า เรา” นี่เอง พระศาสนจัก รสอนว่า “ความสุภ าพถ่ อ มตนคือ คุ ณ ธรรมซึง่ โน้ ม นํ า ให้ผู้ที ่ ตระหนักถึงความบกพร่องของตนเอง ยอมรับว่าตัวเองตํา่ ต้อย และดังนัน้ จึงเต็มใจขึ้น ตรงต่อพระเจ้าและต่อผูอ้ นื ่ เพราะเห็นแก่พระเจ้า” มีผใู้ ห้คาํ แนะนําเพือ่ คงรักษา “ความสุภาพถ่อมตน” ไว้ดงั นี้ 1. ตระหนั ก ถึง ข้ อ เท็จ จริ ง เช่ น แม้เ ราจะมีค วามรู้ม ากมายแต่ เ มื่อ เทียบกับความรูท้ งั ้ หมดทีม่ อี ยูใ่ นโลกจักรวาล ความรูข้ องเรามีแค่หางอึง่ หรือเราอาจเป็ นบุคคลสําคัญ มีตําแหน่ งสําคัญมากก็จริง แต่เมื่อ เกษียณจากตําแหน่งแล้ว เราจะเหลืออะไร ? ยิ่ง ถ้า ความตายมาเยือ นด้ว ยแล้ว ต่ อ ให้ใ หญ่ โ ตแค่ ไ หน ก็ไ ด้โ ลง ขนาดไล่เลีย่ กันเท่านัน้ เอง ! 4
จุดเด่นอีกอย่างของมูจิ คือการใช้แพคเก็จอย่างง่าย ๆ นอกจากเพื่อประหยัด ต้นทุนแล้ว ยังเพื่อช่วยอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมด้วย สํานึกดังกล่าวยังถ่ายทอดลงไปใน กระบวนการผลิตและการจัดจําหน่ายด้วย รูปทรงของสินค้าจากมูจินั้นเรี ยบง่ายมาก จนบางคนมองว่าเชย แต่นี้คือ หัวใจของมูจิก็ว่าได้ เพราะมูจิตอ้ งการเน้นคุณภาพมากกว่ารูปแบบ ใครที่ใช้ของมูจิย่อ มอดไม่ได้ที่จะต้องชมว่าเป็ นของดีจริงๆ อย่างไรก็ตาม แม้รปู แบบจะแสนธรรมดา แต่ ก็แฝงความงดงามเอาไว้ ทั้งๆ ที่ไม่มียี่หอ้ หรือโลโก้ แต่สินค้าจากมูจินนั้ มองปราด เดีย วก็ ร วู้ ่ า มาจากไหน เพราะรูป ทรงนั้น เป็ นเอกลัก ษณ์เ ฉพาะตัว จะว่ า ไปแล้ว ทั้ง รูปแบบและคุณภาพก็บ่งบอกชัดเจนอยู่แล้วว่าเป็ น “ของดีไม่มยี ี่หอ้ ” ถึ ง ไม่ มี ยี่ ห ้อ ก็ เ ป็ นของดี ไ ด้ นี่ คื อ “สาร” จากมูจิ ที่ เ ตื อ นใจผูค้ นได้ดี ม าก โดยเฉพาะในยุคที่ผคู้ นหมกมุ่นหลงใหลในยี่หอ้ จนเข้าใจไปว่ายี่หอ้ กับของดีเป็ นสิ่งคู่ กัน ถึงกับพากันไขว่คว้าหาสินค้ายี่หอ้ ดังๆ มาใช้ หรือไม่ก็มองว่าคนที่ใช้สินค้ายี่หอ้ ดังต้องเป็ นคนเก่งฉลาดหลักแหลม จะว่าไปแล้วมิใช่แต่ยี่ห้อสินค้าเท่านั้น เรายั งหลงใหลติดยึ ดยี่ ห้อของผู ค้ นอี ก ด้วย เจอใครที่ มียี่ห้อดี เช่น เป็ นผู จ้ ัดการ เป็ นดอกเตอร์ หรือเป็ นหมอ ก็สรุปล่วงหน้า แล้วว่าเขาเป็ นคนดีมคี ณ ุ ภาพคับแก้ว แต่ถา้ เจอชาวบ้าน คนกวาดขยะ แม่คา้ ก็มักมอง ว่าเขาเป็ นคนไม่น่าคบหา หรือไม่ฉลาด มูจิยังบอกอีกว่า ของดีไม่มียี่หอ้ ก็ยังขายดีได้ รูปแบบภายนอกนัน้ ไม่สาํ คัญ เท่ากับคุณภาพภายใน แทนที่จะมัวเติมแต่งรูปลักษณ์ ไม่ดีกว่าหรือหากจะมาใส่ใจกับ คุณภาพไม่ว่าของสินค้าหรือตัวคน หากจุดมุ่งหมายของยี่หอ้ คือการประกาศตัวตน มูจิก็เป็ นตัวอย่างดี ท่ี ชี้ว่าการประกาศตัวตนที่ ดีท่ี สุดนัน้ มิใช่ดว้ ยถ้อยคํ า แต่ ดว้ ยคุณภาพภายใน ถ้าเป็ นของดีจริงๆ คนอื่นย่อมรูว้ นั ยังคํ่า
ของดีไม่ตอ้ งพึ่งยีห่ อ้ หรือโฆษณาฉันใด คนดีคนเก่งก็ไม่จําต้องโอ้อวดโฆษณาตัวเองฉันนัน้
9
มิสซาสั ปดาห์ ที่ 22 เทศกาลธรรมดา (ปี C) วันอาทิตย์ ที่ 1 กันยายน ค.ศ. 2013 วัน เดือน ปี รายการมิสซา ผู้ขอมิสซา ส. 31 ส.ค. สุ ขสํ าราญ โมทนาคุณพระเจ้าและพระแม่มารี ย ์ 18.00 น. มารี อา ประทุม, คุณสมนึก ใช้สมบุญ และครอบครัว อันโตนีโอ จํารู ญ พรสัจจา, ทุกครอบครัวในโลก -/มาลินี อุทศิ แด่ พระสังฆราช ยอห์น บอสโก มนัส จวบสมัย สันต์ฤทัย อันตน สําเริ ง โกญจนาท เริ งจิต สตีเฟน จํารู ญ, มารี อา ละมุด เจริ ญพานิช Maria Vanna Xavier, Marcellina Marasri Xavier โทมัส วิจิตร, มารี อา กิมลั้ง, ยอแซฟ สุ จินต์ สันต์ฤทัย วิญญาณในไฟชําระและวิญญาณที่ไม่มีผใู ้ ดนึกถึง ชุมพล อา. 1 ก.ย. สุ ขสํ าราญ โมทนาคุณพระเจ้า และพระแม่มารี ย ์ 08.00 น. มารี อา เอื้อพันธ์ ศรี เจริ ญ และครอบครัวศรี เจริ ญ คค.ศรี เจริ ญ คุณทิพย์วิภา และครอบครัวอรัญญเกษม ทิพย์ ครอบครัวธนาพานิชย์, ครอบครัวพูนประชาสิ น บุญเลิศ ครอบครัวบุญโทแสง, ลิ้มเจริ ญ, โชติธรรมกาล บุญเลิศ ครอบครัวธนะสาร, สาธรกิจ, รัตนบรรณสกุล ณัฐวรรณ ครอบครัวลิ้มจิตรกร, เตรี ยมวิชานนท์, เพียรช่างคิด ณัฐวรรณ ณัฐวรรณ ครอบครัวเขม้นงาน, สุ ทธิโอภาส, ทุกครอบครัวในโลก อุทศิ แด่ ยอแซฟ ทิวากร รักคิด และบรรพบุรุษ วิภาวินี คุณอุย้ นิ้ว แซ่เซี้ ยว, คุณนวลจันทร์ , ด.ช.ธงชัย ธนะสาร ณัฐวรรณ ยวง บัปติสต์ เสมียน สาธรกิจ, มารี อา ฮุยเกียว แซ่โง้ว ณัฐวรรณ ผูล้ ่วงลับครอบครัวธนะสารและสาธรกิจ ณัฐวรรณ อลิซาเบธ อารี ย ์ สังขพงษ์ อมรา ยวง บัปติสตา ก๊กเคี้ยง แซ่แพ้, มารี อา กิมฮวย แซ่ ต้ งั คค.ธนาพานิชย์ บรรพบุรุษครอบครัวธนาพานิชย์ คค.ธนาพานิชย์ วิญญาณในไฟชําระและวิญญาณที่ไม่มีผใู ้ ดนึกถึง คค.ธนาพานิชย์ 10
แต่หลักการอันแน่ วแน่ ของพระองค์กค็ อื “เราไม่มีทางทําให้ศตั รูกลายเป็ น เพือ่ นได้ หากเราไม่พดู คุยกับเขา” เข้าตํารา “ไม่เข้าถํ้าเสือ มีหรือจะได้ลกู เสือ” ในเมือ่ พระองค์ยงั ไม่ส้นิ หวังกับศัตรูของพระองค์ มีหรือทีพ่ ระองค์จะสิ้นหวัง กับเรา ?!? ขอเพียงเราเองอย่าสิ้ นหวัง เท่านัน้ !!! ทีบ่ า้ นของหัวหน้าฟาริสี “ผูท้ อี ่ ยูท่ นี ่ นต่ ั ่ างจ้องมอง” พระองค์ (ลก 14:1) คํากรีกทีใ่ ช้คอื paratēréō (พาราเตแรโอ) หมายถึงการ “เฝ้าดูอย่างใกล้ชดิ ด้วยเจตนาร้าย” ดุจเดียวกับเหยีย่ วเฝ้าติดตามเหยือ่ ชนิดไม่คลาดสายตา หากถูกเฝ้าติดตามหรือจ้องจับผิดเหมือนพระองค์ เราคงหงุดหงิด โกรธ บาง คนอาจถึงขัน้ ประสาทเสียและทนไม่ได้ จนต้องเข้าแจ้งความกับตํารวจก็เคยปรากฏ เป็ นข่าวมาแล้ว แต่พระเยซูเจ้าทรงเผชิญหน้ากับศัตรูผูจ้ ้องจับผิดด้วยจิตใจที่สงบ เบิกบาน และแจ่มใส ยิง่ ไปกว่านัน้ ยังทรงเตือนสติบรรดาศัตรูให้รูจ้ กั รักและช่วยเหลือเพื่อน มนุษย์แม้ในวันสับบาโต อีกทัง้ ทรงสอนพวกเขาให้รจู้ กั สุภาพถ่อมตนซึง่ เป็ นหนทางสู่ เกียรติยศทีย่ งิ่ ใหญ่กว่า พระองค์ตรัสกับพวกเขาว่า “เมือ่ มีใครเชิญท่านไปในงานมงคลสมรส อย่าไป นังในที ่ ท่ มี ่ เี กียรติ” (ลก 14:8) ลองนึกภาพดูสวิ ่าจะ “หน้าแตก” สักแค่ไหนหากเรานัง่ อยู่ในทีท่ ม่ี เี กียรติ แล้ว ถูกเจ้าภาพ “ลดชัน้ ” ด้วยการเชิญไปนัง่ ในทีส่ ุดท้ายเพราะมีแขกผูม้ เี กียรติมากกว่ามา ร่วมงาน ทีก่ ล่าวเช่นนี้ มิได้หมายความว่าพระองค์ทรงสอนให้เรา “สุภาพถ่อมตน” เพื่อ หลีกเลีย่ งอาการ “หน้าแตก” เท่านัน้ แต่เพราะพระองค์ทรงตระหนักดีว่า “ความ สุภาพถ่อมตน” คือ “คุณธรรมทีจ่ าํ เป็ นสําหรับความรอด” ด้วยเหตุน้ี เราจึงได้ยนิ พระองค์เรียกร้องให้เลียนแบบอย่างความสุภาพถ่อม ตนจากพระองค์เองว่า “จงรับแอกของเราแบกไว้ และมาเป็ นศิษย์ของเรา เพราะเรามี ใจสุภาพอ่อนโยนและถ่อมตน จิตใจของท่านจะได้รบั การพักผ่อน” (มธ 11:29) 3
สั ปดาห์ ที่ 22 เทศกาลธรรมดา (ปี C) ลก 14:1, 7-14
พระเยซูเจ้าเสด็จไปเสวยพระกระยาหารที่บ้านของหัวหน้ าฟาริส ี และทรง รักษาชายคนหนึ่งซึ่งป่วยเป็ นโรคท้องบวมต่อหน้าเจ้าภาพและแขกรับเชิญอีกมาก (ลก 14:1-6) บังเอิญวันนัน้ เป็ นวันสับบาโต ! นับเป็ นครัง้ ที่เจ็ดแล้วที่พระองค์ทรงรักษาคนเจ็บป่วยในวันสับบาโต (มก 1:21; ยน 5:9; 9:14; ลก 4:38; 6:6; 13:13; 14:4) ลําพังการรักษาคนเจ็บป่วยซึ่งถือเป็ นการ “ทํางาน” และเป็ นสิง่ ต้องห้ามใน วันสับบาโตก็หนักหนาอยู่แล้ว แต่พระองค์ยงั ทรงท้าทายชาวฟาริสแี ละนักกฎหมาย ด้วยคําถามทีว่ ่า “ถ้าผูใ้ ดมีบุตรหรือมีโคตกลงไปในบ่อ จะไม่รบี ฉุ ดขึ้นมาทันทีแม้เป็ น วันสับบาโตหรือ” จนพวกเขานิ่งอึ้งตอบไม่ได้ด้วยแล้ว (ลก 14:5) ความเป็ นศัตรู ระหว่างพระองค์กบั พวกเขาก็ปรากฏชัดแจ้งทันที ! ในสายตาของชาวฟาริสแี ละนักกฎหมาย พระองค์คอื คน “แหกกฎ” ที่พวก เขาจะต้องหยุดยัง้ ให้ได้ไม่วา่ จะต้องเสียค่าใช้จา่ ยมากสักเพียงใดก็ตาม กระนัน้ ก็ตาม เมือ่ หัวหน้าฟาริสที ลู เชิญพระองค์ไปเสวยพระกระยาหารทีบ่ า้ น พระองค์ท รงตอบรับ คํา เชิญ เพราะไม่มีท างเลยที่พ ระองค์จ ะปฏิเ สธคํา เชิญ เพื่อ “สัมพันธภาพ” แม้คาํ เชิญนัน้ จะออกมาจากปากของศัตรูกต็ าม ! พระองค์ไม่เคยสิน้ หวังในตัวฟาริสี แม้ความหวังทีจ่ ะเปลีย่ นแปลงจิตใจของ พวกเขาดูเหมือนจะริบหรีช่ นิด “ฝนทังให้ ่ เป็ นเข็ม” ยังง่ายกว่าอีกก็ตาม 2
วัน เดือน ปี อา 1 ก.ย. 10.00 น.
รายการมิสซา สุ ขสํ าราญ โมทนาคุณพระเจ้าและพระแม่มารี ย ์ สัตบุรุษวัดแม่พระกุหลาบทิพย์ทุกท่าน มารี อา พิศมัย หอมวิไล, เปาโล วันชัย แตงอ่อน ฟรังซิ สเซเวียร์ ดนุเดช ศรี เคน อันนา ศิวารี ย ์ แตงอ่อน และครอบครัว ราฟาแอล ชัยพฤกษ์ ประคีนวินชา และครอบครัว คุณสัณหพล เหลืองอร่ าม และครอบครัว คุณจิณห์จุฑา กิตติศิลป์ , เควิน ตัน และครอบครัว คุณนลพรรณ, คุณสาธิต พันธุ์โอภาส อันโตนีโอ จํารู ญ พรสัจจา คุณสิ ทธิพงษ์ ปิ ยจิตรไพรัช และครอบครัว คุณจิรดา จิระดํารง และครอบครัว อุทศิ แด่ หลุยส์ พิชยั เจริ ญสุ ข มารี อา จันทรา ธารี จิตย์, เปโตร บุญมา หอมวิไล อังเยรา อาริ นทร์ มีสุขอําไพรัศมี ยอแซฟ ลิ้มเจียม แซ่ซึง, คุณเอ็ดดี้ ตัน คุณอิม แซ่ต้ งั , คุณสุ ปราณี แซ่ล้ ี เปโตร ยรรยง, ลูซีอา ละออ, มารี อา นิตยา อุชชิน ยอแซฟ สมบัติ อุชชิน, มารี อา มยุรี ผลาวงศ์ มัทธิ ว เกียรติศกั ดิ์ สุ วรรณจิต, Thomas Adams Maria Vanna Xavier, Marcellina Marasri Xavier ฟรังซิ สโก อรุ ณ, อาคาทา นงเยาว์ เจริ ญสุ ข เทเรซา จารุ วรรณ และผูล้ ่วงลับครอบครัวเจริ ญสุ ข คุณเจ๊กพู,่ คุณบุน้ อุ่ยตี้, คุณหวัง่ กิม หล่าน แซ่อุ่ย คุณประพนธ์ แซ่ลิ้ม, คุณประเนตร์ แซ่หลิ่ม ผูล้ ่วงลับครอบครัวเฟื่ องธุระ วิญญาณในไฟชําระและวิญญาณที่ไม่มีผใู้ ดนึ กถึง
ผู้ขอมิสซา วิไลวรรณ วิไลวรรณ วิไลวรรณ ภาณุฉตั ร/อัญชลี ชนันต์ธร พิศมัย สรัลชนา ศิริวรรณ/หมุ่ยอี่/อัญชลี คค.อุชชิน คค.อุชชิน คค.อุชชิน จงรักษ์ จงรักษ์ ธีรดา ธีรดา จงรักษ์ พิศมัย/ธีรดา 11
จ. 2 ก.ย. อ. 3 ก.ย. พ. 4 ก.ย.
อุทศิ แด่ อุทศิ แด่ อุทศิ แด่ สุ ขสํ าราญ พฤ.5 ก.ย. อุทศิ แด่ ศ. 6 ก.ย. อุทศิ แด่
เปโตร อุทยั ดารุ ทยาน, คุณมานิต ประภาพร หลุยส์ พิชยั เจริ ญสุ ข เปาโล ประจวบ สกุลเกิด คุณประจวบ วรรณพงศ์ คาทาลีนา ริ รินทร์ จิระดํารง, มาริ นนา ลิลลี่ รุ่ งเรื อง เฟริ กซ์ ยอแซฟ มนูญ วงศ์ประดู่
อมรา/ลูก ธมนธรณ์ สมาน อัญชลี อมรา
มธุรส
ฉบับที่ 490 วันอาทิตย์ที่ 1 กันยายน ค.ศ. 2013
วันอาทิตย์น้ ี (1 กันยายน) หลังมิสซาสาย กลุ่มพิธีกรรมขอเชิญผูร้ ับผิดชอบฝ่ าย ต่างๆ และสมาชิ กทุกท่านร่ วมประชุมเพื่อประเมินผลงานและวางแนวทางการ ดําเนินงานของกลุ่ม ณ ห้องประชุม 21 สํานักงานวัด ชั้น 2 วันอาทิตย์หน้า ( 8 กันยายน ศกนี้ ) กลุ่มพลมารี ยข์ อเชิ ญสมาชิ กและพี่น้องทุก ท่านร่ วมฉลองเปรสิ เดียมวัดแม่พระกุหลาบทิพย์ เวลา 12.30-14.00 น. ณ ศาลา ปี ติการุ ณย์ วันอาทิตย์ที่ 15 กันยายน ศกนี้ เป็ นวันฉลองแม่พระเปนญาฟรานช่า ขอเชิญพี่ น้องร่ วมเทิดเกียรติแม่พระ มิสซา 10.00 น. หลังมิสซามีแห่ เทิดเกียรติแม่พระ และถวายช่อดอกไม้ (โปรดอ่ านกําหนดการในสารวัดหน้ า 7) ชมรมฆราวาสอัครสังฆมณฑลกรุ งเทพฯ เขต 2 ขอเชิ ญชวนพี่น้องร่ วมจาริ ก แสวงบุญสักการสถานบุญราศีนิโคลัส บุญเกิด กฤษบํารุ ง แห่ งที่ 2 ณ วัดนักบุญ ยอแซฟ บ้านหัน จ.นครราชสี มา และร่ วมพิธีมิสซา โดย พระสังฆราช ยอแซฟ ชู ศักดิ์ สิ ริสุทธิ์ เป็ นประธาน วันพุธที่ 23 ตุลาคม ศกนี้ (วันหยุดราชการ) ค่าใช้จ่าย เพี ย งท่ า นละ 500 บาท รั บ เพี ย ง 50 ท่ า นเท่ า นั้ น ผู ้ส นใจโปรดสอบถาม รายละเอียดและสํารองที่นงั่ ได้ที่สาํ นักงานวัด ณ ศาลาปี ติการุ ณย์ ตั้งแต่บดั นี้เป็ น ต้นไป 12
สั ปดาห์ ที่ 22 เทศกาลธรรมดา (ปี C)
ทุกคนทีย่ กตนขึน้ จะถูกกดให้ ตาํ่ ลง แต่ ทุกคนทีถ่ ่ อมตนลงจะได้ รับการยกย่ องให้ สูงขึน้ ลก 14:11