ฉบับที่ 481 วันอาทิตย์ที่ 30 มิถนุ ายน ค.ศ. 2013
ฉบับที่ 481 วันอาทิตย์ที่ 30 มิถนุ ายน ค.ศ. 2013
สมโภชนักบุญเปโตรและเปาโลอัครสาวก (ปี C)
สมโภชนักบุญเปโตรและเปาโลอัครสาวก (ปี C)
ท่ านคือศิลา
ท่ านคือศิลา
และบนศิลานี้ เราจะตั้งพระศาสนจักรของเรา
และบนศิลานี้ เราจะตั้งพระศาสนจักรของเรา
มธ 16:18
มธ 16:18
สมโภชนักบุญเปโตรและเปาโลอัครสาวก (ปี C)
มธ 16:13-19
1. ท่านล่ะคิดว่าเราเป็ นใคร เมืองซีซารียาแห่งฟิ ลปิ เดิมชื่อเมืองปานีอาส (Panias) อยูห่ า่ งจากทะเลสาบ กาลิลไี ปทางตะวันออกเฉียงเหนือประมาณ 40 กิโลเมตร พ้นเขตปกครองของกษัตริย์ เฮโรด อันติพาส ประชากรส่วนใหญ่ไม่ใช่ชาวยิว พระเยซูเจ้าจึงมีเวลาอยู่กบั บรรดา อัครสาวกตามลําพัง ที่เมืองปานีอาส เฮโรดมหาราช ผูท้ รงเป็ นพระราชบิดา ได้สร้างวิหารใหญ่ ทําด้วยหินอ่อนสีขาว เพือ่ ถวายแด่ซซี าร์ซง่ึ เป็ นเทพเจ้าแห่งโรม ต่อมาฟิลปิ บุตรชาย ได้ต่อเติมและประดับประดาวิหารนี้ให้สวยตระการตายิง่ ขึน้ ไปอีก แล้วเปลีย่ นชื่อเมือง จากปานีอาสมาเป็ นซีซารียาซึง่ แปลว่าเมืองของซีซาร์ และเพิม่ ชื่อของตนคือฟิลปิ ต่อ ั่ ท้ายเข้าไปด้วย เพือ่ ให้แตกต่างจากเมืองซีซารียาอีกแห่งหนึ่งซึง่ ตัง้ อยูร่ มิ ฝงทะเลเมดิ เตอร์เรเนียน ณ เมืองซีซารียาแห่งฟิลปิ ซึง่ มีวหิ ารยิง่ ใหญ่ตระการตาถวายแด่ซซี าร์ผเู้ กรียง ไกรตัง้ ตระหง่านอยู่เบือ้ งหน้านี้เอง ทีช่ ่างไม้ชาวกาลิลผี ไู้ ร้บา้ น ไร้เงินทอง ไร้อนาคต เพราะถูกกล่าวหาว่าสอนผิดความเชื่อจนต้องนับเวลาถอยหลังรอความตาย กําลังตัง้ คําถามกับบรรดาศิษย์ของตนว่า “คนทัง้ หลายกล่าวว่าบุตรแห่งมนุ ษย์เป็ นใคร” (มธ 16:13) 2
วัน เดือน ปี รายการมิสซา อา 30 มิ.ย. สุ ขสํ าราญ โมทนาคุณพระเจ้าและพระแม่มารี ย ์ 10.00 น. สัตบุรุษวัดแม่พระกุหลาบทิพย์ทุกท่าน คารา ธารวิมล บุญเลิศ ราฟาแอล ชัยพฤกษ์, มีคาแอล ธันวา และครอบครัว เซซี ลีอา เพ็กล้วน แซ่เอี้ยว, ครอบครัวเตียวเจริ ญ คุณอนุสรณ์ แซ่กวั่ และครอบครัว ดอมินิก ภูวนัย หงษ์แก้ว และครอบครัว คุณคําเวียน พงษ์พิศ อุทศิ แด่ หลุยส์ พิชยั เจริ ญสุ ข คุณนุชนารถ พุม่ พวง, แบนาแด๊ด กรรจภรณ์ ทําจันทา คุณจิโรจน์ ธิมา เปโตร บ้วนฮง เตียวเจริ ญ คุณอิม แซ่ต้ งั ยอแซฟ แท่ง พงษ์พิศ, มีคาแอล มานิตย์ พงษ์พิศ บรรพบุรุษตระกูลเอี้ยว วิญญาณในไฟชําระและวิญญาณที่ไม่มีผใู้ ดนึ กถึง จ. 1 ก.ค. อุทศิ แด่ วิญญาณในไฟชําระ อ. 2 ก.ค. สุ ขสํ าราญ เปาโล ภูริศิษฎ์ บุญโทแสง พ. 3 ก.ค. อุทศิ แด่ วิญญาณในไฟชําระ พฤ.4 ก.ค. อุทศิ แด่ วิญญาณในไฟชําระ ศ. 5 ก.ค. สุ ขสํ าราญ คุณพลเชษฐ์ ชีวนิชพันธ์
ผู้ขอมิสซา มาลินี ธีระ ลลิตา ชนันต์ธร ลลิตา ลลิตา หมุ่ยอี่ อัญชลี มาลินี
11
มิสซาสมโภชนักบุญเปโตรและเปาโลอัครสาวก (ปี C) วันอาทิตย์ ที่ 30 มิถุนายน ค.ศ. 2013 วัน เดือน ปี รายการมิสซา ส. 29 มิ.ย. สุ ขสํ าราญ โมทนาคุณพระเจ้าและพระแม่มารี ย ์ 18.00 น. มารี อา ประทุม, คุณสมนึก ใช้สมบุญ และครอบครัว อุทศิ แด่ ยอแซฟ เสถียร, มารี อา เสาวนีย ์ พงษ์เพิ่มมาศ อันตน สําเริ ง โกญจนาท สตีเฟน จํารู ญ, มารี อา ละมุด เจริ ญพานิช วิญญาณในไฟชําระและวิญญาณที่ไม่มีผใู ้ ดนึกถึง อา. 30 มิ.ย. สุ ขสํ าราญ โมทนาคุณพระเจ้า และพระแม่มารี ย ์ 08.00 น. มารี อา เอื้อพันธ์ และครอบครัวศรี เจริ ญ ดอมินิก เสริ ม กิจค้า ลูกหลานของเปโตร สัน สิ งห์สา ลูกหลานของมารี อา ตา แซ่เซี ยว ครอบครัวสิ งหฬ ครอบครัวธนะสาร, ครอบครัวสาธรกิจ ครอบครัวสุ ทธิโอภาส, ครอบครัวบรรณสกุล ครอบครัวเขม้นงาน, ครอบครัวเพียรช่างคิด ครอบครัวลิ้มจิตรกร, ครอบครัวเตรี ยมวิชานนท์ ทุกครอบครัวในโลก อุทศิ แด่ มารี อา มยุรีย ์ สายพรหม คุณอุย้ นิ้ว แซ่เซี้ ยว, คุณโถ เพียรช่างคิด คุณนวลจันทร์, ด.ช.ธงชัย ธนะสาร ยวง บัปติสต์ เสมียน สาธรกิจ, มารี อา ฮุยเกียว แซ่โง้ว ผูล้ ่วงลับครอบครัวสิ งห์สา ยวง บัปติสตา ก๊กเคี้ยง แซ่แพ้, มารี อา กิมฮวย แซ่ ต้ งั บรรพบุรุษครอบครัวธนาพานิชย์ วิญญาณในไฟชําระและวิญญาณที่ไม่มีผใู ้ ดนึกถึง 10
ผู้ขอมิสซา วรัญญ์นิช เริ งจิต วรัญญ์นิช บุญญรัตน์ คค.ศรี เจริ ญ สุ นิตย์ สุ นิตย์ สุ นิตย์ บุญญรัตน์ ณัฐวรรณ ณัฐวรรณ ณัฐวรรณ ณัฐวรรณ ณัฐวรรณ ณัฐวรรณ ณัฐวรรณ ณัฐวรรณ คค.ธนาพานิชย์ คค.ธนาพานิชย์ คค.ธนาพานิชย์
ถ้าพระองค์ไม่ใช่ พระเจ้าจริ งก็คงไม่กล้าตัง้ คําถามแบบนี้ ที น่ ี แ่ ละเวลา อย่างนี้ แน่ ! คําตอบทีไ่ ด้คอื “บ้างกล่าวว่าเป็ นยอห์นผูท้ าํ พิธลี า้ ง” (มธ 16:14) ่ ตดั ศีรษะของ ยอห์นคือผูย้ งิ่ ใหญ่ท่สี ุดในยุคนัน้ จนกษัตริย์เฮโรดซึ่งทรงสังให้ ท่านยังหวาดระแวงว่าพระเยซูเจ้าอาจเป็ น “ยอห์นผูท้ าํ พิธลี า้ งทีก่ ลับคืนชีพจากบรรดา ผูต้ าย” (มธ 14:2) “บ้างกล่าวว่าเป็ นประกาศกเอลียาห์” (มธ 16:14) ชาวยิวถือว่าเอลียาห์คอื ประกาศกยิง่ ใหญ่ทส่ี ดุ ท่านจะกลับมาเพื่อเตรียมทาง ให้แก่พระเมสสิยาห์ (มลค 4:5) ทุกวันนี้ ขณะกินเลีย้ งปสั กาชาวยิวยังเตรียมเก้าอีว้ ่าง ไว้สาํ หรับท่าน โดยหวังว่าท่านยิง่ กลับมาเร็วเท่าใด พระเมสสิยาห์กจ็ ะยิง่ เสด็จมาเร็ว เท่านัน้ “บ้างกล่าวว่าเป็ นประกาศกเยเรมีย”์ (มธ 16:14) ชาวยิวเชื่อกันว่าก่อนบรรพบุรุษของพวกตนจะถูกกวาดต้อนไปกรุงบาบิโลน เยเรมียไ์ ด้นําหีบพันธสัญญาและแท่นกํายานออกจากพระวิหารไปซ่อนไว้ในถํ้าแห่ง หนึ่งแถบภูเขาเนโบ และจะนํ ากลับมาประดิษฐานไว้ก่อนพระเมสสิยาห์จะเสด็จมา เพื่อให้พระสิรริ ุ่งโรจน์ของพระเจ้ากลับมาอยู่ท่ามกลางประชากรอีกครัง้ หนึ่ง (2 มคบ 2:1-12) เมื่อประชาชนคิดว่าพระเยซูเจ้าคือยอห์นผูท้ ําพิธลี า้ ง หรือประกาศกเอลียาห์ หรือ ประกาศกเยเรมีย์ จึงเท่า กับ ว่า พวกเขายกพระองค์ไ ว้ ณ จุด สูง สุด เท่ า ที ่ มนุษย์คนหนึ ง่ พึงได้รบั เพราะท่านเหล่านี้ลว้ นเป็ นผูเ้ ตรียมทางให้แก่พระเมสสิยาห์ผู้ เป็ นบุตรของพระเจ้า ทว่าสิง่ ที่คนอื่นพูดถึงพระองค์มหี รือจะสําคัญเทียบเท่าความเชื่อของตนเอง พระองค์จงึ ตรัสถามบรรดาอัครสาวกว่า “ท่านล่ะคิ ดว่าเราเป็ นใคร” (มธ 16:15) เปโตรทูลตอบว่า “พระองค์คอื พระคริ สตเจ้า พระบุตรของพระเจ้าผูท้ รงชีวติ ” (มธ 16:16) คําตอบของเปโตรคงช่วยให้พระเยซูเจ้าใจชืน้ ขึน้ เป็ นกอง เพราะอย่างน้อยก็ ยังมีคนหนึ่งทีร่ บั รูว้ า่ พระองค์ทรงเป็ นใครและทรงเป็ นอะไร 3
คําว่า “พระคริสตเจ้า” เป็ นภาษากรีก ส่วน “พระเมสสิยาห์” เป็ นภาษาฮีบรู ทัง้ สองคํามีความหมายเดียวกันคือ “ผูท้ ไี ่ ด้รบั การเจิม” เพราะฉะนัน้ หากจะถามว่าพระเยซูเจ้าเป็ นใคร คําตอบแบบเปโตรก็คอื “พระบุตรของพระเจ้าผูท้ รงชีวติ ” และถ้าจะถามว่าพระองค์เป็ นอะไร คําตอบก็คอื “ผูท้ พี ่ ระเจ้าทรงเจิมไว้ให้เป็ นกษัตริย์ เพือ่ กอบกูม้ วลมนุษย์ให้รอดพ้น” จากเหตุการณ์ทเ่ี มืองซีซารียาแห่งฟิ ลปิ เราอาจสรุปแนวทางในการดําเนิน ชีวติ ได้สองประการ กล่าวคือ 1. แม้เราจะยกพระเยซูเจ้าไว้สูงสุดจนเทียบชัน้ กับประกาศกเอลียาห์ และเยเรมียแ์ ล้วก็ตาม แต่ก็ยงั ไม่เพียงพอ เหตุผลเห็นได้จากคําพูดของจักรพรรดิ นโปเลียนทีว่ ่า “ข้าพเจ้ารูจ้ กั มนุ ษย์มากมายหลายคน แต่พระเยซูคริสตเจ้าทรงเป็ น มากกว่ามนุษย์” ด้วยเหตุน้ี พระเยซูเจ้าจึงตรัสว่า “ซีโมน บุตรของยอห์น ท่านเป็ นสุข เพราะไม่ใช่มนุ ษย์ทเี ่ ปิ ดเผยให้ท่านรู้ แต่พระบิดาเจ้าของเราผู้สถิตในสวรรค์ทรง เปิดเผย” (มธ 16:17) พูดง่าย ๆ ก็คอื เป็ นพระบิดาทีท่ รงเปิดเผยให้เปโตรรูจ้ กั พระเยซูเจ้า ดังนัน้ เราจึงต้องหมันวอนขอพระบิ ่ ดาเจ้า โปรดให้เรารูจ้ กั พระเยซู เจ้ามากขึน้ จะได้รกั และดําเนินชีวติ ตามแบบอย่างของพระองค์ยงิ ่ ขึน้ 2. ไม่เป็ นการเพียงพอที่จะรูจ้ กั พระเยซูเจ้าโดยอาศัยคําบอกเล่าของ ผูอ้ ่นื เราต้องค้นให้พบและรูจ้ กั พระองค์ดว้ ยตัวของเราเอง หากพระองค์ตรัสถามว่า “ท่านล่ะคิดว่าเราเป็ นใคร” เราต้องตอบ ด้วยตัวของเราเองให้ได้ ไม่ว่าเรานัน้ จะยิง่ ใหญ่มขี า้ ทาสหรือบริวารมากน้อยเพียงใด ก็ตาม ไม่เว้นแม้แต่ปิลาต ซึง่ ถามพระองค์ว่า “ท่านเป็ นกษัตริยข์ องชาวยิวหรือ” ก็ยงั ต้องกลับไปค้นหาคําตอบด้วยตนเองเพราะพระองค์ทรงย้อนว่า “ท่านถามดังนี้ดว้ ย ตนเอง หรือผูอ้ นื ่ บอกท่านถึงเรือ่ งของเรา” (ยน 18:33-34) เราอาจเป็ นผูเ้ ชีย่ วชาญด้านพระคัมภีร์ เทววิทยา หรือคําสอน แต่ตราบใดที่ เรายังไม่สามารถค้นพบและรูจ้ กั พระองค์ดว้ ยตัวของเราเอง ตราบนัน้ ความรูท้ ร่ี ่าํ -
คริสตชนที่อยากทําตัวเด่นดัง เขาคนนัน้ คิดผิดเต็มๆ “พ่ออยากเตือนสติคนที่คิดว่า ชีวิตคริสตชนของตนต้องเด่นกว่า ต้องเหนือกว่า ผูอ้ ื่น ว่าเป็ นความคิดที่ผดิ พระเยซูตรัสสอนว่า ใครในหมูพ่ วกท่านที่ตอ้ งการเป็ นใหญ่ในหมู่ พี่นอ้ งของตน หรือถ้าหัวใจของเราคิดร้ายกับพี่นอ้ งของเรา มันก็มีบางสิ่งผิดปกติในจิตใจ และต้องได้รับการเปลี่ยนแปลง มันต้องมีการกลับใจ! พระเยซูทรงสอนเราว่า ‘อย่านํา ข้อบกพร่องของคนอื่นมาพูด อย่าใส่รา้ ยป้ายสีผอู้ ื่น อย่าดูถกู ผูอ้ ื่น’ ถ้าเราไม่สามารถที่จะ เก็บปากให้หยุดการนินทา ความก้าวร้าวก็จะเกิดขึน้ เหมือนอย่างที่เราเห็นจากเรื่องกาอินที่ ทําร้ายอาเบล ดังนัน้ พึงระลึกไว้ว่า ไม่ใช่เราเป็ นคนไม่ดี แต่เป็ นเพราะเราเป็ นคนบาปและ อ่อนแอ เราจึงเลือกแก้ปัญหาแบบง่ายๆ ด้วยปาก เราทําเพื่อจะได้จบปั ญหาด้วยการใส่รา้ ย กัน หมิน่ ประมาทกัน แทนที่จะจบปั ญหาด้วยการหาทางออกแบบดีๆ”
จงสวดให้ศตั รู ไม่ใช่ท้ ิงหน้าที่น้ ีให้ซิสเตอร์ชีลบั รับผิดชอบ “เราจะรักศัตรูเราได้อย่างไร? เราจะรักคนที่ตดั สินใจทําลายและฆ่า(จิตใจและชีวิต) คนได้อย่างไร มันยากจริงๆ นะที่จะรักศัตรูค่อู ริของเรา มันยากจริงๆ แต่นี่คือสิ่งที่พระเจ้า ทรงขอร้องเราให้ทาํ แบบนัน้ จริงๆ บ่อยครั้ง เรามักจะคิดว่า ‘พระเยซูทรงขอเรามากไปหรือ เปล่าเนีย่ ?’ จากนัน้ เราก็ผลักหน้าที่นี้ (รักศัตรูและภาวนาให้เขา) ไปให้กบั บรรดาซิสเตอร์ใน อารามชีลับซึ่ งเป็ นผูเ้ ปี่ ยมด้วยความศักดิ์สิทธิ์ เราปล่อยให้นิสัยการรักศัตรูไปเป็ นหน้าที่ ของผูท้ ี่มีจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์เท่านัน้ แต่พระเยซูตรัสชัดเจนว่า ‘ไม่! เราต้องอย่าทําแบบ นัน้ ’ เพราะถ้าเราทําแบบนัน้ เราจะเป็ นเหมือนคนเก็บภาษี ไม่ใช่คริสตชน “พ่อขอเตือนสติทกุ คนว่า ‘การแก้แค้นไม่ใช่นิสยั ของคริสตชน’ แต่คริสตชนต้อง สวดภาวนาให้ศัตรู จงภาวนาให้คนที่กดขี่ขม่ เหงท่าน จงขอพระเจ้าเปลี่ยนจิตใจศัตรูที่เป็ น ‘ใจหิน’ ให้เป็ น ‘ใจเนือ้ ’ “ลองถามตัวเองดูว่า ‘เราอธิษฐานภาวนาให้ศัตรูบา้ งไหม เราภาวนาให้คนที่ไม่รัก เราบ้างหรือเปล่า’ ถ้าเราตอบว่า ‘ใช่ เราภาวนาให้’ พ่อก็จะกล่าวต่อไปว่า ‘ดี จงภาวนาต่อไป ภาวนาให้มากๆ เพราะท่านเดินมาถูกทางแล้ว!’ “แต่ถา้ ท่านตอบว่า ‘ไม่ เราไม่มีวนั สวดให้ศัตรู’ พ่อก็จะบอกว่า ‘แย่นะ! ในเมื่อท่าน ทําแบบนี้ ท่านกําลังจะกลายเป็ นศัตรูของคนอื่นเช่นกัน’”
หุน้ ตกเป็ นทุกข์ แต่เวลาคนตายเพราะอดอยาก กลับไม่รสู้ กึ อะไร “มันเป็ นเรื่องปกติไปแล้วที่เราเห็ นคนไร้ที่อยู่อาศัยนอนตายเพราะความหิวโหย แต่ ในทางกลับกัน ถ้าหากตลาดหุน้ ตกแค่ 10 จุด มันกลับเป็ นข่าวที่คนให้ความสนใจไปได้ แค่ ตลาดหุน้ ตกแค่ 10 จุด มนุษย์ทาํ ยังกับมันเป็ นข่าวสุดเศร้าซะงัน้ !!” ขอบคุณข้ อมูลจาก Pope Report
4
9
เรียนมาก็ยงั คงเป็ นเพียงความรูม้ อื สองที่ช่วยให้เรา “รูเ้ กีย่ วกับ” พระเยซูเจ้าเท่านัน้ แต่ยงั ไม่ “รูจ้ กั ” พระองค์ ! พระศาสนจักรเดินหน้าด้วยใจยากจน ไม่ใช่เดินด้วยใจนักธุรกิจ “งานของพระศาสนจัก รต้อ งก้า วไปข้า งหน้า ด้ว ยการยึ ด ความยากจน ไม่ใ ช่ เดินหน้าด้วยหัวใจของนายหน้านักลงทุนหรื อผูป้ ระกอบการธุร กิจ อย่าลืมนะว่า เวลา ประกาศพระวรสาร นักบุญเปโตรไม่มีบัญชีธนาคารของตน ท่านประกาศด้วยใจยากจน ส่วนนักบุญฟิ ลิป ตอนไปประกาศพระวรสารที่เอธิโอเปี ยและได้พบกับหัวหน้าฝ่ ายการคลัง ของพระราชิ นีที่ นัน่ นัก บุญ ฟิ ลิ ป กล่า วกับ หัว หน้าฝ่ ายการคลังว่า 'ดีเลย เรามาจัดตั้ง หน่วยงานเพื่อประกาศพระวรสารกัน' หลายคนคิดว่า นักบุญฟิ ลิปจะจัดตัง้ หน่วยงานเพื่อ ระดมทุน แต่ไม่ใช่เลย การจัดตัง้ หน่วยงานนี้ นักบุญฟิ ลิปทําโดยโปรดศีลล้างบาปให้คนที่ นัน่ และเมื่อโปรดศีลล้างบาปให้ทกุ คนแล้ว ท่านก็เดินจากไปโดยไม่นาํ สิ่งตอบแทนออกมา เลย ท่านทําด้วยความเรียบง่ายติดดิน ทําเพื่อพระเจ้าแต่เพียงผูเ้ ดียว เราก็ตอ้ งทําแบบนัน้ เช่นกัน”
พระเยซูไม่เคยสั่งให้เปลี่ยนศาสนาคนอื่น แต่ส่งั ให้ประกาศพระวรสาร “พระเจ้าทรงเชิญเราให้เทศนาสัง่ สอน ไม่ใช่ไปเปลี่ยนศาสนาคนอื่น เรื่องนี้ สมเด็จ พระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 เคยตรัสว่า ‘พระศาสนจักรจะไม่เติบโตด้วยการบังคับคน อื่นให้เปลี่ยนศาสนา แต่พระศาสนจักรจะเติบโตด้วยการเป็ นประจักษ์พยานถึงการประกาศ คําสอนของพระเยซู’”
คนทํางานรับใช้พระเจ้าแล้วต้องการตําแหน่ง พวกนี้ทําร้ายพระศาสนจักร “คนที่ทาํ งานรับใช้พระศาสนจักร แล้วหวังมีอํานาจและตําแหน่งสูงๆ คนพวกนี้ สร้า งบาดแผลร้า ยแรงให้พ ระศาสนจัก ร พวกเขาจะใส่ใ จตัว เองก่อ นมากกว่า จะรับ ใช้ ส่วนรวม ใครก็ตามที่ทาํ งานรับใช้พระศาสนจักรแล้วมักใหญ่ใฝ่ สูง พ่อขอประณามคนพวก นีว้ า่ เป็ นคนโรคเรื้อน”
จงเลิกเสแสร้งทําเป็ นพูดดีแต่ใจคิดร้ายกับผูอ้ ่ืนได้แล้ว “การเสแสร้ง ทําทีพดู ดี แต่เจตนาร้าย จัดเป็ นการใช้ภาษาของคนขี้โกง พระเยซู ทรงสอนสาวกเสมอว่า 'พูดให้ชดั ๆ ไปเลย ได้ก็คือได้ ไม่ได้ก็คือไม่ได้ (YES IS YES, NO IS NO)' การแสร้งทําเป็ นพูดดี ไม่ใช่ภาษาแห่งความจริง เพราะความจริงจะไม่ถกู พูดออกไป เพียงอย่างเดียว ความจริงจะต้องถูกพูดออกไปพร้อมความรัก! จงระลึกเสมอว่า ความ รักคือความจริงประการแรก ถ้าไม่มีความรัก ก็ไม่มีความจริง ... พระเยซูตอ้ งการให้เรามี ก็คือความนอบน้อม นี่คือความสุภาพเรียบง่ายเหมือนเด็กๆ เห็ นไหมว่า เด็กๆ ไม่ใช่พวก แสร้งทําเป็ นพูดดี พวกเขาพูดออกมาจากใจ” 8
2. ท่านคือศิลาและบนศิลานี้ เราจะตัง้ พระศาสนจักรของเรา ทีม่ าของพระวาจานี้คอื “ท่านคือ ‘เปตรอส’ และบน ‘เปตรา’ นี้ เราจะตัง้ พระ ศาสนจักรของเรา” (มธ 16:18) คํากรีก “เปตรอส” (Petros) คือ “เปโตร” เป็ นชื่อเฉพาะ ไม่มคี ําแปล ส่ว น “เปตรา” (petra) แปลว่า “ศิลา” หากแปลตามต้นฉบับภาษากรีกจะได้ความว่า “ท่านคือเปโตร และบนศิ ลานี้ เราจะตัง้ พระศาสนจักรของเรา” แต่ดว้ ยเจตนาเล่นคํา ชื่อของ “เปโตร” ในภาษากรีกจึงถูกแปลตามชื่อในภาษา อาราไมอิก “เคฟาส” (Kephas) ซึ่งบังเอิญหมายถึง “ศิลา” เราจึงได้สาํ นวนแปลว่า “ท่านคือศิลาและบนศิลานี้ เราจะตัง้ พระศาสนจักรของเรา” (มธ 16:18) ใช่ เปโตรคือ “ศิลา” แต่ไม่ใช่ “ศิลาหัวมุม” เพราะ “ศิ ลาหัวมุม” คือองค์พระ เยซูเจ้าเอง ดังทีน่ ักบุญเปาโลกล่าวว่า “บรรดาอัครสาวกและประกาศกเป็ นรากฐาน มี พระคริสตเยซูทรงเป็ นศิลาหัวมุม” (อฟ 2:20) ทีถ่ ูกคือ ท่านเป็ น “ศิ ลาแรก” ของพระศาสนาจักรซึง่ พระองค์กําลังสถาปนา ขึน้ เพราะท่านเป็ น “มนุษย์คนแรก” ทีร่ ูแ้ ละเชือ่ ว่าพระเยซูเจ้าคือพระคริสตเจ้า ผู้ เป็ นบุตรของพระเจ้าผูท้ รงชีวติ (มธ 16:16) ด้วยเหตุทเ่ี ปโตรเป็ นสมาชิกคนแรกของพระศาสนจักร ท่านจึงเป็ นรากฐาน และเป็ นเสมือนเชือ้ แป้งทีท่ าํ ให้มสี มาชิกคนอื่นตามมาอีกมากมายทุกยุคทุกสมัย เพราะฉะนัน้ หากเรารักนักบุญเปโตรผู้เป็ นศิ ลาแรกมากเท่ าใด เรายิ ง่ ต้องรักพระเยซูเจ้าผูท้ รงเป็ นศิ ลาหัวมุมมากขึ้นเท่านัน้
5
3. สิทธิและหน้ าที่ของพระศาสนจักร เพื่อให้พระศาสนจักรบนความเชื่อของเปโตรมีความมันคง ่ พระเยซูเจ้าทรง มอบสิทธิและหน้าทีพ่ เิ ศษให้แก่ทา่ นอีกด้วย 1. “เราจะมอบกุญแจอาณาจักรสวรรค์ให้” (มธ 16:19) พระองค์ทรงมอบกุญแจอาณาจักรสวรรค์แก่เปโตร เพื่อให้ท่านเป็ น ผูด้ แู ลและ “เปิ ดประตูต้อนรับคนทุกชาติ ” ทัง้ ทีเ่ ป็ นยิวและไม่ใช่ยวิ ดังที่ท่านได้เปิ ดประตูต้อนรับดวงวิญญาณสามพันดวงในวันเปนเต กอสเต (กจ 2:41) รวมถึงดวงวิญญาณของโครเนลิอสั ซึง่ เป็ นนายทหารต่างชาติ (กจ 10) อีกทัง้ ในการประชุมที่กรุงเยรูซาเล็ม ท่านได้ผลักดันให้ข่าวดีเผยแผ่ไปสู่คนต่าง ศาสนาด้วยการยืนยันว่า “พีน่ ้องทัง้ หลาย ท่านรูแ้ ล้วว่า ตัง้ แต่แรกเริม่ พระเจ้าทรง เลือกสรรข้าพเจ้าในหมู่ท่านทัง้ หลาย เพือ่ ให้คนต่างศาสนาได้ฟงั พระวาจาทีเ่ ป็ นข่าวดี จากปากของข้าพเจ้าและมีความเชือ่ ” (กจ 15:7) 2. “ทุกสิง่ ทีท่ า่ นจะผูกบนแผ่นดินนี้ จะผูกไว้ในสวรรค์ดว้ ย ทุกสิง่ ทีท่ ่านจะ แก้ในแผ่นดินนี้ ก็จะแก้ในสวรรค์ดว้ ย” (มธ 16:19) คําว่า “ผูก” และ “แก้” เป็ นสํานวนที่ชาวยิวนิยมใช้กบั คําตัดสินด้าน กฎหมายของอาจารย์หรือรับบีผู้มชี ่อื เสียง ผูกหมายถึงไม่อนุ ญาต และแก้หมายถึง อนุ ญาต เท่ากับว่าพระเยซูเจ้าทรงมอบภาระรับผิดชอบอันหนักหน่ วงไว้บนบ่า ของเปโตร ท่านต้องให้คาํ แนะนําและนําพาพระศาสนจักร ท่านต้อง “ตัดสิ นใจ” ว่าจะ อนุ ญาตหรือไม่อนุ ญาต ซึ่งการตัดสินใจของท่านย่อมส่งผลอันใหญ่หลวงต่อวิญญาณ ของมนุ ษย์ทงั ้ ในโลกนี้และในโลกหน้า นี ค่ ือความยิ ง่ ใหญ่ของเปโตร !
แสดงว่าท่านไม่ได้คดิ แม้แต่นิดเดียวว่าท่านกําลังจะถูกประหาร แต่กลับคิดว่า ชีวติ ของท่านกําลังจะได้รบั การถวายเป็ นเครือ่ งบูชาแด่พระเจ้า อันทีจ่ ริง หลังจากกลับใจแล้ว ท่านได้ถวายทุกสิง่ ทุกอย่างแด่พระเจ้า ไม่ว่าจะ เป็ น ทรัพ ย์ส ิน เงิน ทอง ความรู้ท่ีไ ด้ร่ํ า เรีย นมา เวลา พลัง กาย พลัง ใจ หรือ แม้แ ต่ สติปญั ญาอันเฉียบแหลมของท่าน ท่านก็ทลู ถวายแด่พระองค์จนหมด เหลือก็เพียงแต่ชวี ติ ของท่านซึ่งยังไม่ได้ถวายแด่พระเจ้า แต่ท่านก็พร้อมและ เต็มใจทีจ่ ะถวายแด่พระองค์ดว้ ยความยินดี ท่านจึงพูดได้อย่างเต็มปากเต็มคําว่า “ข้าพเจ้าต่อสู้มาอย่างดีแล้ว ข้าพเจ้าวิง่ มาถึงเส้นชัยแล้ว ข้าพเจ้ารักษาความเชือ่ ไว้แล้ว ยังเหลืออยูก่ เ็ พียงมงกุฎแห่งความชอบ ธรรม ซึง่ องค์พระผูเ้ ป็ นเจ้าผูท้ รงพิพากษาอย่างเทีย่ งธรรมจะประทานให้ขา้ พเจ้าในวัน นัน้ ” (2 ทธ 4:7-8) และนี ค่ ือความยิ ง่ ใหญ่ของเปาโล ! ทัง้ เปโตรและเปาโลซึง่ เราร่วมใจกันสมโภชในวันนี้ เป็ นผู้ยิง่ ใหญ่กเ็ พราะ ท่านทัง้ สองเป็ นผูส้ ืบสานภารกิ จของพระเยซูคริ สตเจ้า บุตรพระเจ้าผูท้ รงชีวิต !
ส่วนนักบุญเปาโล ท่านกล่าวไว้ในบทอ่านทีส่ องของวันนี้ว่า “ชีวติ ของข้าพเจ้า กําลังจะถูกถวายเป็ นเครือ่ งบูชาอยู่แล้ว ถึงเวลาแล้วทีข่ า้ พเจ้าจะต้องจากไป” (2 ทธ 4:6) 6
7
3. สิทธิและหน้ าที่ของพระศาสนจักร เพื่อให้พระศาสนจักรบนความเชื่อของเปโตรมีความมันคง ่ พระเยซูเจ้าทรง มอบสิทธิและหน้าทีพ่ เิ ศษให้แก่ทา่ นอีกด้วย 1. “เราจะมอบกุญแจอาณาจักรสวรรค์ให้” (มธ 16:19) พระองค์ทรงมอบกุญแจอาณาจักรสวรรค์แก่เปโตร เพื่อให้ท่านเป็ น ผูด้ แู ลและ “เปิ ดประตูต้อนรับคนทุกชาติ ” ทัง้ ทีเ่ ป็ นยิวและไม่ใช่ยวิ ดังที่ท่านได้เปิ ดประตูต้อนรับดวงวิญญาณสามพันดวงในวันเปนเต กอสเต (กจ 2:41) รวมถึงดวงวิญญาณของโครเนลิอสั ซึง่ เป็ นนายทหารต่างชาติ (กจ 10) อีกทัง้ ในการประชุมที่กรุงเยรูซาเล็ม ท่านได้ผลักดันให้ข่าวดีเผยแผ่ไปสู่คนต่าง ศาสนาด้วยการยืนยันว่า “พีน่ ้องทัง้ หลาย ท่านรูแ้ ล้วว่า ตัง้ แต่แรกเริม่ พระเจ้าทรง เลือกสรรข้าพเจ้าในหมู่ท่านทัง้ หลาย เพือ่ ให้คนต่างศาสนาได้ฟงั พระวาจาทีเ่ ป็ นข่าวดี จากปากของข้าพเจ้าและมีความเชือ่ ” (กจ 15:7) 2. “ทุกสิง่ ทีท่ า่ นจะผูกบนแผ่นดินนี้ จะผูกไว้ในสวรรค์ดว้ ย ทุกสิง่ ทีท่ ่านจะ แก้ในแผ่นดินนี้ ก็จะแก้ในสวรรค์ดว้ ย” (มธ 16:19) คําว่า “ผูก” และ “แก้” เป็ นสํานวนที่ชาวยิวนิยมใช้กบั คําตัดสินด้าน กฎหมายของอาจารย์หรือรับบีผู้มชี ่อื เสียง ผูกหมายถึงไม่อนุ ญาต และแก้หมายถึง อนุ ญาต เท่ากับว่าพระเยซูเจ้าทรงมอบภาระรับผิดชอบอันหนักหน่ วงไว้บนบ่า ของเปโตร ท่านต้องให้คาํ แนะนําและนําพาพระศาสนจักร ท่านต้อง “ตัดสิ นใจ” ว่าจะ อนุ ญาตหรือไม่อนุ ญาต ซึ่งการตัดสินใจของท่านย่อมส่งผลอันใหญ่หลวงต่อวิญญาณ ของมนุ ษย์ทงั ้ ในโลกนี้และในโลกหน้า นี ค่ ือความยิ ง่ ใหญ่ของเปโตร !
แสดงว่าท่านไม่ได้คดิ แม้แต่นิดเดียวว่าท่านกําลังจะถูกประหาร แต่กลับคิดว่า ชีวติ ของท่านกําลังจะได้รบั การถวายเป็ นเครือ่ งบูชาแด่พระเจ้า อันทีจ่ ริง หลังจากกลับใจแล้ว ท่านได้ถวายทุกสิง่ ทุกอย่างแด่พระเจ้า ไม่ว่าจะ เป็ น ทรัพ ย์ส ิน เงิน ทอง ความรู้ท่ีไ ด้ร่ํ า เรีย นมา เวลา พลัง กาย พลัง ใจ หรือ แม้แ ต่ สติปญั ญาอันเฉียบแหลมของท่าน ท่านก็ทลู ถวายแด่พระองค์จนหมด เหลือก็เพียงแต่ชวี ติ ของท่านซึ่งยังไม่ได้ถวายแด่พระเจ้า แต่ท่านก็พร้อมและ เต็มใจทีจ่ ะถวายแด่พระองค์ดว้ ยความยินดี ท่านจึงพูดได้อย่างเต็มปากเต็มคําว่า “ข้าพเจ้าต่อสู้มาอย่างดีแล้ว ข้าพเจ้าวิง่ มาถึงเส้นชัยแล้ว ข้าพเจ้ารักษาความเชือ่ ไว้แล้ว ยังเหลืออยูก่ เ็ พียงมงกุฎแห่งความชอบ ธรรม ซึง่ องค์พระผูเ้ ป็ นเจ้าผูท้ รงพิพากษาอย่างเทีย่ งธรรมจะประทานให้ขา้ พเจ้าในวัน นัน้ ” (2 ทธ 4:7-8) และนี ค่ ือความยิ ง่ ใหญ่ของเปาโล ! ทัง้ เปโตรและเปาโลซึง่ เราร่วมใจกันสมโภชในวันนี้ เป็ นผู้ยิง่ ใหญ่กเ็ พราะ ท่านทัง้ สองเป็ นผูส้ ืบสานภารกิ จของพระเยซูคริ สตเจ้า บุตรพระเจ้าผูท้ รงชีวิต !
ส่วนนักบุญเปาโล ท่านกล่าวไว้ในบทอ่านทีส่ องของวันนี้ว่า “ชีวติ ของข้าพเจ้า กําลังจะถูกถวายเป็ นเครือ่ งบูชาอยู่แล้ว ถึงเวลาแล้วทีข่ า้ พเจ้าจะต้องจากไป” (2 ทธ 4:6) 6
7
เรียนมาก็ยงั คงเป็ นเพียงความรูม้ อื สองที่ช่วยให้เรา “รูเ้ กีย่ วกับ” พระเยซูเจ้าเท่านัน้ แต่ยงั ไม่ “รูจ้ กั ” พระองค์ ! พระศาสนจักรเดินหน้าด้วยใจยากจน ไม่ใช่เดินด้วยใจนักธุรกิจ “งานของพระศาสนจัก รต้อ งก้า วไปข้า งหน้า ด้ว ยการยึ ด ความยากจน ไม่ใ ช่ เดินหน้าด้วยหัวใจของนายหน้านักลงทุนหรื อผูป้ ระกอบการธุร กิจ อย่าลืมนะว่า เวลา ประกาศพระวรสาร นักบุญเปโตรไม่มีบัญชีธนาคารของตน ท่านประกาศด้วยใจยากจน ส่วนนักบุญฟิ ลิป ตอนไปประกาศพระวรสารที่เอธิโอเปี ยและได้พบกับหัวหน้าฝ่ ายการคลัง ของพระราชิ นีที่ นัน่ นัก บุญ ฟิ ลิ ป กล่า วกับ หัว หน้าฝ่ ายการคลังว่า 'ดีเลย เรามาจัดตั้ง หน่วยงานเพื่อประกาศพระวรสารกัน' หลายคนคิดว่า นักบุญฟิ ลิปจะจัดตัง้ หน่วยงานเพื่อ ระดมทุน แต่ไม่ใช่เลย การจัดตัง้ หน่วยงานนี้ นักบุญฟิ ลิปทําโดยโปรดศีลล้างบาปให้คนที่ นัน่ และเมื่อโปรดศีลล้างบาปให้ทกุ คนแล้ว ท่านก็เดินจากไปโดยไม่นาํ สิ่งตอบแทนออกมา เลย ท่านทําด้วยความเรียบง่ายติดดิน ทําเพื่อพระเจ้าแต่เพียงผูเ้ ดียว เราก็ตอ้ งทําแบบนัน้ เช่นกัน”
พระเยซูไม่เคยสั่งให้เปลี่ยนศาสนาคนอื่น แต่ส่งั ให้ประกาศพระวรสาร “พระเจ้าทรงเชิญเราให้เทศนาสัง่ สอน ไม่ใช่ไปเปลี่ยนศาสนาคนอื่น เรื่องนี้ สมเด็จ พระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 เคยตรัสว่า ‘พระศาสนจักรจะไม่เติบโตด้วยการบังคับคน อื่นให้เปลี่ยนศาสนา แต่พระศาสนจักรจะเติบโตด้วยการเป็ นประจักษ์พยานถึงการประกาศ คําสอนของพระเยซู’”
คนทํางานรับใช้พระเจ้าแล้วต้องการตําแหน่ง พวกนี้ทําร้ายพระศาสนจักร “คนที่ทาํ งานรับใช้พระศาสนจักร แล้วหวังมีอํานาจและตําแหน่งสูงๆ คนพวกนี้ สร้า งบาดแผลร้า ยแรงให้พ ระศาสนจัก ร พวกเขาจะใส่ใ จตัว เองก่อ นมากกว่า จะรับ ใช้ ส่วนรวม ใครก็ตามที่ทาํ งานรับใช้พระศาสนจักรแล้วมักใหญ่ใฝ่ สูง พ่อขอประณามคนพวก นีว้ า่ เป็ นคนโรคเรื้อน”
จงเลิกเสแสร้งทําเป็ นพูดดีแต่ใจคิดร้ายกับผูอ้ ่ืนได้แล้ว “การเสแสร้ง ทําทีพดู ดี แต่เจตนาร้าย จัดเป็ นการใช้ภาษาของคนขี้โกง พระเยซู ทรงสอนสาวกเสมอว่า 'พูดให้ชดั ๆ ไปเลย ได้ก็คือได้ ไม่ได้ก็คือไม่ได้ (YES IS YES, NO IS NO)' การแสร้งทําเป็ นพูดดี ไม่ใช่ภาษาแห่งความจริง เพราะความจริงจะไม่ถกู พูดออกไป เพียงอย่างเดียว ความจริงจะต้องถูกพูดออกไปพร้อมความรัก! จงระลึกเสมอว่า ความ รักคือความจริงประการแรก ถ้าไม่มีความรัก ก็ไม่มีความจริง ... พระเยซูตอ้ งการให้เรามี ก็คือความนอบน้อม นี่คือความสุภาพเรียบง่ายเหมือนเด็กๆ เห็ นไหมว่า เด็กๆ ไม่ใช่พวก แสร้งทําเป็ นพูดดี พวกเขาพูดออกมาจากใจ” 8
2. ท่านคือศิลาและบนศิลานี้ เราจะตัง้ พระศาสนจักรของเรา ทีม่ าของพระวาจานี้คอื “ท่านคือ ‘เปตรอส’ และบน ‘เปตรา’ นี้ เราจะตัง้ พระ ศาสนจักรของเรา” (มธ 16:18) คํากรีก “เปตรอส” (Petros) คือ “เปโตร” เป็ นชื่อเฉพาะ ไม่มคี ําแปล ส่ว น “เปตรา” (petra) แปลว่า “ศิลา” หากแปลตามต้นฉบับภาษากรีกจะได้ความว่า “ท่านคือเปโตร และบนศิ ลานี้ เราจะตัง้ พระศาสนจักรของเรา” แต่ดว้ ยเจตนาเล่นคํา ชื่อของ “เปโตร” ในภาษากรีกจึงถูกแปลตามชื่อในภาษา อาราไมอิก “เคฟาส” (Kephas) ซึ่งบังเอิญหมายถึง “ศิลา” เราจึงได้สาํ นวนแปลว่า “ท่านคือศิลาและบนศิลานี้ เราจะตัง้ พระศาสนจักรของเรา” (มธ 16:18) ใช่ เปโตรคือ “ศิลา” แต่ไม่ใช่ “ศิลาหัวมุม” เพราะ “ศิ ลาหัวมุม” คือองค์พระ เยซูเจ้าเอง ดังทีน่ ักบุญเปาโลกล่าวว่า “บรรดาอัครสาวกและประกาศกเป็ นรากฐาน มี พระคริสตเยซูทรงเป็ นศิลาหัวมุม” (อฟ 2:20) ทีถ่ ูกคือ ท่านเป็ น “ศิ ลาแรก” ของพระศาสนาจักรซึง่ พระองค์กําลังสถาปนา ขึน้ เพราะท่านเป็ น “มนุษย์คนแรก” ทีร่ ูแ้ ละเชือ่ ว่าพระเยซูเจ้าคือพระคริสตเจ้า ผู้ เป็ นบุตรของพระเจ้าผูท้ รงชีวติ (มธ 16:16) ด้วยเหตุทเ่ี ปโตรเป็ นสมาชิกคนแรกของพระศาสนจักร ท่านจึงเป็ นรากฐาน และเป็ นเสมือนเชือ้ แป้งทีท่ าํ ให้มสี มาชิกคนอื่นตามมาอีกมากมายทุกยุคทุกสมัย เพราะฉะนัน้ หากเรารักนักบุญเปโตรผู้เป็ นศิ ลาแรกมากเท่ าใด เรายิ ง่ ต้องรักพระเยซูเจ้าผูท้ รงเป็ นศิ ลาหัวมุมมากขึ้นเท่านัน้
5
คําว่า “พระคริสตเจ้า” เป็ นภาษากรีก ส่วน “พระเมสสิยาห์” เป็ นภาษาฮีบรู ทัง้ สองคํามีความหมายเดียวกันคือ “ผูท้ ไี ่ ด้รบั การเจิม” เพราะฉะนัน้ หากจะถามว่าพระเยซูเจ้าเป็ นใคร คําตอบแบบเปโตรก็คอื “พระบุตรของพระเจ้าผูท้ รงชีวติ ” และถ้าจะถามว่าพระองค์เป็ นอะไร คําตอบก็คอื “ผูท้ พี ่ ระเจ้าทรงเจิมไว้ให้เป็ นกษัตริย์ เพือ่ กอบกูม้ วลมนุษย์ให้รอดพ้น” จากเหตุการณ์ทเ่ี มืองซีซารียาแห่งฟิ ลปิ เราอาจสรุปแนวทางในการดําเนิน ชีวติ ได้สองประการ กล่าวคือ 1. แม้เราจะยกพระเยซูเจ้าไว้สูงสุดจนเทียบชัน้ กับประกาศกเอลียาห์ และเยเรมียแ์ ล้วก็ตาม แต่ก็ยงั ไม่เพียงพอ เหตุผลเห็นได้จากคําพูดของจักรพรรดิ นโปเลียนทีว่ ่า “ข้าพเจ้ารูจ้ กั มนุ ษย์มากมายหลายคน แต่พระเยซูคริสตเจ้าทรงเป็ น มากกว่ามนุษย์” ด้วยเหตุน้ี พระเยซูเจ้าจึงตรัสว่า “ซีโมน บุตรของยอห์น ท่านเป็ นสุข เพราะไม่ใช่มนุ ษย์ทเี ่ ปิ ดเผยให้ท่านรู้ แต่พระบิดาเจ้าของเราผู้สถิตในสวรรค์ทรง เปิดเผย” (มธ 16:17) พูดง่าย ๆ ก็คอื เป็ นพระบิดาทีท่ รงเปิดเผยให้เปโตรรูจ้ กั พระเยซูเจ้า ดังนัน้ เราจึงต้องหมันวอนขอพระบิ ่ ดาเจ้า โปรดให้เรารูจ้ กั พระเยซู เจ้ามากขึน้ จะได้รกั และดําเนินชีวติ ตามแบบอย่างของพระองค์ยงิ ่ ขึน้ 2. ไม่เป็ นการเพียงพอที่จะรูจ้ กั พระเยซูเจ้าโดยอาศัยคําบอกเล่าของ ผูอ้ ่นื เราต้องค้นให้พบและรูจ้ กั พระองค์ดว้ ยตัวของเราเอง หากพระองค์ตรัสถามว่า “ท่านล่ะคิดว่าเราเป็ นใคร” เราต้องตอบ ด้วยตัวของเราเองให้ได้ ไม่ว่าเรานัน้ จะยิง่ ใหญ่มขี า้ ทาสหรือบริวารมากน้อยเพียงใด ก็ตาม ไม่เว้นแม้แต่ปิลาต ซึง่ ถามพระองค์ว่า “ท่านเป็ นกษัตริยข์ องชาวยิวหรือ” ก็ยงั ต้องกลับไปค้นหาคําตอบด้วยตนเองเพราะพระองค์ทรงย้อนว่า “ท่านถามดังนี้ดว้ ย ตนเอง หรือผูอ้ นื ่ บอกท่านถึงเรือ่ งของเรา” (ยน 18:33-34) เราอาจเป็ นผูเ้ ชีย่ วชาญด้านพระคัมภีร์ เทววิทยา หรือคําสอน แต่ตราบใดที่ เรายังไม่สามารถค้นพบและรูจ้ กั พระองค์ดว้ ยตัวของเราเอง ตราบนัน้ ความรูท้ ร่ี ่าํ
คริสตชนที่อยากทําตัวเด่นดัง เขาคนนัน้ คิดผิดเต็มๆ “พ่ออยากเตือนสติคนที่คิดว่า ชีวิตคริสตชนของตนต้องเด่นกว่า ต้องเหนือกว่า ผูอ้ ื่น ว่าเป็ นความคิดที่ผดิ พระเยซูตรัสสอนว่า ใครในหมูพ่ วกท่านที่ตอ้ งการเป็ นใหญ่ในหมู่ พี่นอ้ งของตน หรือถ้าหัวใจของเราคิดร้ายกับพี่นอ้ งของเรา มันก็มีบางสิ่งผิดปกติในจิตใจ และต้องได้รับการเปลี่ยนแปลง มันต้องมีการกลับใจ! พระเยซูทรงสอนเราว่า ‘อย่านํา ข้อบกพร่องของคนอื่นมาพูด อย่าใส่รา้ ยป้ายสีผอู้ ื่น อย่าดูถกู ผูอ้ ื่น’ ถ้าเราไม่สามารถที่จะ เก็บปากให้หยุดการนินทา ความก้าวร้าวก็จะเกิดขึน้ เหมือนอย่างที่เราเห็นจากเรื่องกาอินที่ ทําร้ายอาเบล ดังนัน้ พึงระลึกไว้ว่า ไม่ใช่เราเป็ นคนไม่ดี แต่เป็ นเพราะเราเป็ นคนบาปและ อ่อนแอ เราจึงเลือกแก้ปัญหาแบบง่ายๆ ด้วยปาก เราทําเพื่อจะได้จบปั ญหาด้วยการใส่รา้ ย กัน หมิน่ ประมาทกัน แทนที่จะจบปั ญหาด้วยการหาทางออกแบบดีๆ”
จงสวดให้ศตั รู ไม่ใช่ท้ ิงหน้าที่น้ ีให้ซิสเตอร์ชีลบั รับผิดชอบ “เราจะรักศัตรูเราได้อย่างไร? เราจะรักคนที่ตดั สินใจทําลายและฆ่า(จิตใจและชีวิต) คนได้อย่างไร มันยากจริงๆ นะที่จะรักศัตรูค่อู ริของเรา มันยากจริงๆ แต่นี่คือสิ่งที่พระเจ้า ทรงขอร้องเราให้ทาํ แบบนัน้ จริงๆ บ่อยครั้ง เรามักจะคิดว่า ‘พระเยซูทรงขอเรามากไปหรือ เปล่าเนีย่ ?’ จากนัน้ เราก็ผลักหน้าที่นี้ (รักศัตรูและภาวนาให้เขา) ไปให้กบั บรรดาซิสเตอร์ใน อารามชีลับซึ่ งเป็ นผูเ้ ปี่ ยมด้วยความศักดิ์สิทธิ์ เราปล่อยให้นิสัยการรักศัตรูไปเป็ นหน้าที่ ของผูท้ ี่มีจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์เท่านัน้ แต่พระเยซูตรัสชัดเจนว่า ‘ไม่! เราต้องอย่าทําแบบ นัน้ ’ เพราะถ้าเราทําแบบนัน้ เราจะเป็ นเหมือนคนเก็บภาษี ไม่ใช่คริสตชน “พ่อขอเตือนสติทกุ คนว่า ‘การแก้แค้นไม่ใช่นิสยั ของคริสตชน’ แต่คริสตชนต้อง สวดภาวนาให้ศัตรู จงภาวนาให้คนที่กดขี่ขม่ เหงท่าน จงขอพระเจ้าเปลี่ยนจิตใจศัตรูที่เป็ น ‘ใจหิน’ ให้เป็ น ‘ใจเนือ้ ’ “ลองถามตัวเองดูว่า ‘เราอธิษฐานภาวนาให้ศัตรูบา้ งไหม เราภาวนาให้คนที่ไม่รัก เราบ้างหรือเปล่า’ ถ้าเราตอบว่า ‘ใช่ เราภาวนาให้’ พ่อก็จะกล่าวต่อไปว่า ‘ดี จงภาวนาต่อไป ภาวนาให้มากๆ เพราะท่านเดินมาถูกทางแล้ว!’ “แต่ถา้ ท่านตอบว่า ‘ไม่ เราไม่มีวนั สวดให้ศัตรู’ พ่อก็จะบอกว่า ‘แย่นะ! ในเมื่อท่าน ทําแบบนี้ ท่านกําลังจะกลายเป็ นศัตรูของคนอื่นเช่นกัน’”
หุน้ ตกเป็ นทุกข์ แต่เวลาคนตายเพราะอดอยาก กลับไม่รสู้ กึ อะไร “มันเป็ นเรื่องปกติไปแล้วที่เราเห็ นคนไร้ที่อยู่อาศัยนอนตายเพราะความหิวโหย แต่ ในทางกลับกัน ถ้าหากตลาดหุน้ ตกแค่ 10 จุด มันกลับเป็ นข่าวที่คนให้ความสนใจไปได้ แค่ ตลาดหุน้ ตกแค่ 10 จุด มนุษย์ทาํ ยังกับมันเป็ นข่าวสุดเศร้าซะงัน้ !!” ขอบคุณข้ อมูลจาก Pope Report
4 9
มิสซาสมโภชนักบุญเปโตรและเปาโลอัครสาวก (ปี C) วันอาทิตย์ ที่ 30 มิถุนายน ค.ศ. 2013 วัน เดือน ปี รายการมิสซา ส. 29 มิ.ย. สุ ขสํ าราญ โมทนาคุณพระเจ้าและพระแม่มารี ย ์ 18.00 น. มารี อา ประทุม, คุณสมนึก ใช้สมบุญ และครอบครัว อุทศิ แด่ ยอแซฟ เสถียร, มารี อา เสาวนีย ์ พงษ์เพิ่มมาศ อันตน สําเริ ง โกญจนาท สตีเฟน จํารู ญ, มารี อา ละมุด เจริ ญพานิช วิญญาณในไฟชําระและวิญญาณที่ไม่มีผใู ้ ดนึกถึง อา. 30 มิ.ย. สุ ขสํ าราญ โมทนาคุณพระเจ้า และพระแม่มารี ย ์ 08.00 น. มารี อา เอื้อพันธ์ และครอบครัวศรี เจริ ญ ดอมินิก เสริ ม กิจค้า ลูกหลานของเปโตร สัน สิ งห์สา ลูกหลานของมารี อา ตา แซ่เซี ยว ครอบครัวสิ งหฬ ครอบครัวธนะสาร, ครอบครัวสาธรกิจ ครอบครัวสุ ทธิโอภาส, ครอบครัวบรรณสกุล ครอบครัวเขม้นงาน, ครอบครัวเพียรช่างคิด ครอบครัวลิ้มจิตรกร, ครอบครัวเตรี ยมวิชานนท์ ทุกครอบครัวในโลก อุทศิ แด่ มารี อา มยุรีย ์ สายพรหม คุณอุย้ นิ้ว แซ่เซี้ ยว, คุณโถ เพียรช่างคิด คุณนวลจันทร์, ด.ช.ธงชัย ธนะสาร ยวง บัปติสต์ เสมียน สาธรกิจ, มารี อา ฮุยเกียว แซ่โง้ว ผูล้ ่วงลับครอบครัวสิ งห์สา ยวง บัปติสตา ก๊กเคี้ยง แซ่แพ้, มารี อา กิมฮวย แซ่ ต้ งั บรรพบุรุษครอบครัวธนาพานิชย์ วิญญาณในไฟชําระและวิญญาณที่ไม่มีผใู ้ ดนึกถึง 10
ผู้ขอมิสซา วรัญญ์นิช เริ งจิต วรัญญ์นิช บุญญรัตน์ คค.ศรี เจริ ญ สุ นิตย์ สุ นิตย์ สุ นิตย์ บุญญรัตน์ ณัฐวรรณ ณัฐวรรณ ณัฐวรรณ ณัฐวรรณ ณัฐวรรณ ณัฐวรรณ ณัฐวรรณ ณัฐวรรณ คค.ธนาพานิชย์ คค.ธนาพานิชย์ คค.ธนาพานิชย์
ถ้าพระองค์ไม่ใช่ พระเจ้าจริ งก็คงไม่กล้าตัง้ คําถามแบบนี้ ที น่ ี แ่ ละเวลา อย่างนี้ แน่ ! คําตอบทีไ่ ด้คอื “บ้างกล่าวว่าเป็ นยอห์นผูท้ าํ พิธลี า้ ง” (มธ 16:14) ่ ตดั ศีรษะของ ยอห์นคือผูย้ งิ่ ใหญ่ท่สี ุดในยุคนัน้ จนกษัตริย์เฮโรดซึ่งทรงสังให้ ท่านยังหวาดระแวงว่าพระเยซูเจ้าอาจเป็ น “ยอห์นผูท้ าํ พิธลี า้ งทีก่ ลับคืนชีพจากบรรดา ผูต้ าย” (มธ 14:2) “บ้างกล่าวว่าเป็ นประกาศกเอลียาห์” (มธ 16:14) ชาวยิวถือว่าเอลียาห์คอื ประกาศกยิง่ ใหญ่ทส่ี ดุ ท่านจะกลับมาเพื่อเตรียมทาง ให้แก่พระเมสสิยาห์ (มลค 4:5) ทุกวันนี้ ขณะกินเลีย้ งปสั กาชาวยิวยังเตรียมเก้าอีว้ ่าง ไว้สาํ หรับท่าน โดยหวังว่าท่านยิง่ กลับมาเร็วเท่าใด พระเมสสิยาห์กจ็ ะยิง่ เสด็จมาเร็ว เท่านัน้ “บ้างกล่าวว่าเป็ นประกาศกเยเรมีย”์ (มธ 16:14) ชาวยิวเชื่อกันว่าก่อนบรรพบุรุษของพวกตนจะถูกกวาดต้อนไปกรุงบาบิโลน เยเรมียไ์ ด้นําหีบพันธสัญญาและแท่นกํายานออกจากพระวิหารไปซ่อนไว้ในถํ้าแห่ง หนึ่งแถบภูเขาเนโบ และจะนํ ากลับมาประดิษฐานไว้ก่อนพระเมสสิยาห์จะเสด็จมา เพื่อให้พระสิรริ ุ่งโรจน์ของพระเจ้ากลับมาอยู่ท่ามกลางประชากรอีกครัง้ หนึ่ง (2 มคบ 2:1-12) เมื่อประชาชนคิดว่าพระเยซูเจ้าคือยอห์นผูท้ ําพิธลี า้ ง หรือประกาศกเอลียาห์ หรือ ประกาศกเยเรมีย์ จึงเท่า กับ ว่า พวกเขายกพระองค์ไ ว้ ณ จุด สูง สุด เท่ า ที ่ มนุษย์คนหนึ ง่ พึงได้รบั เพราะท่านเหล่านี้ลว้ นเป็ นผูเ้ ตรียมทางให้แก่พระเมสสิยาห์ผู้ เป็ นบุตรของพระเจ้า ทว่าสิง่ ที่คนอื่นพูดถึงพระองค์มหี รือจะสําคัญเทียบเท่าความเชื่อของตนเอง พระองค์จงึ ตรัสถามบรรดาอัครสาวกว่า “ท่านล่ะคิ ดว่าเราเป็ นใคร” (มธ 16:15) เปโตรทูลตอบว่า “พระองค์คอื พระคริ สตเจ้า พระบุตรของพระเจ้าผูท้ รงชีวติ ” (มธ 16:16) คําตอบของเปโตรคงช่วยให้พระเยซูเจ้าใจชืน้ ขึน้ เป็ นกอง เพราะอย่างน้อยก็ ยังมีคนหนึ่งทีร่ บั รูว้ า่ พระองค์ทรงเป็ นใครและทรงเป็ นอะไร 3
สมโภชนักบุญเปโตรและเปาโลอัครสาวก (ปี C)
มธ 16:13-19
1. ท่านล่ะคิดว่าเราเป็ นใคร เมืองซีซารียาแห่งฟิ ลปิ เดิมชื่อเมืองปานีอาส (Panias) อยูห่ า่ งจากทะเลสาบ กาลิลไี ปทางตะวันออกเฉียงเหนือประมาณ 40 กิโลเมตร พ้นเขตปกครองของกษัตริย์ เฮโรด อันติพาส ประชากรส่วนใหญ่ไม่ใช่ชาวยิว พระเยซูเจ้าจึงมีเวลาอยู่กบั บรรดา อัครสาวกตามลําพัง ที่เมืองปานีอาส เฮโรดมหาราช ผูท้ รงเป็ นพระราชบิดา ได้สร้างวิหารใหญ่ ทําด้วยหินอ่อนสีขาว เพือ่ ถวายแด่ซซี าร์ซง่ึ เป็ นเทพเจ้าแห่งโรม ต่อมาฟิลปิ บุตรชาย ได้ต่อเติมและประดับประดาวิหารนี้ให้สวยตระการตายิง่ ขึน้ ไปอีก แล้วเปลีย่ นชื่อเมือง จากปานีอาสมาเป็ นซีซารียาซึง่ แปลว่าเมืองของซีซาร์ และเพิม่ ชื่อของตนคือฟิลปิ ต่อ ั่ ท้ายเข้าไปด้วย เพือ่ ให้แตกต่างจากเมืองซีซารียาอีกแห่งหนึ่งซึง่ ตัง้ อยูร่ มิ ฝงทะเลเมดิ เตอร์เรเนียน ณ เมืองซีซารียาแห่งฟิลปิ ซึง่ มีวหิ ารยิง่ ใหญ่ตระการตาถวายแด่ซซี าร์ผเู้ กรียง ไกรตัง้ ตระหง่านอยู่เบือ้ งหน้านี้เอง ทีช่ ่างไม้ชาวกาลิลผี ไู้ ร้บา้ น ไร้เงินทอง ไร้อนาคต เพราะถูกกล่าวหาว่าสอนผิดความเชื่อจนต้องนับเวลาถอยหลังรอความตาย กําลังตัง้ คําถามกับบรรดาศิษย์ของตนว่า “คนทัง้ หลายกล่าวว่าบุตรแห่งมนุ ษย์เป็ นใคร” (มธ 16:13) 2
วัน เดือน ปี รายการมิสซา อา 30 มิ.ย. สุ ขสํ าราญ โมทนาคุณพระเจ้าและพระแม่มารี ย ์ 10.00 น. สัตบุรุษวัดแม่พระกุหลาบทิพย์ทุกท่าน คารา ธารวิมล บุญเลิศ ราฟาแอล ชัยพฤกษ์, มีคาแอล ธันวา และครอบครัว เซซี ลีอา เพ็กล้วน แซ่เอี้ยว, ครอบครัวเตียวเจริ ญ คุณอนุสรณ์ แซ่กวั่ และครอบครัว ดอมินิก ภูวนัย หงษ์แก้ว และครอบครัว คุณคําเวียน พงษ์พิศ อุทศิ แด่ หลุยส์ พิชยั เจริ ญสุ ข คุณนุชนารถ พุม่ พวง, แบนาแด๊ด กรรจภรณ์ ทําจันทา คุณจิโรจน์ ธิมา เปโตร บ้วนฮง เตียวเจริ ญ คุณอิม แซ่ต้ งั ยอแซฟ แท่ง พงษ์พิศ, มีคาแอล มานิตย์ พงษ์พิศ บรรพบุรุษตระกูลเอี้ยว วิญญาณในไฟชําระและวิญญาณที่ไม่มีผใู้ ดนึ กถึง จ. 1 ก.ค. อุทศิ แด่ วิญญาณในไฟชําระ อ. 2 ก.ค. สุ ขสํ าราญ เปาโล ภูริศิษฎ์ บุญโทแสง พ. 3 ก.ค. อุทศิ แด่ วิญญาณในไฟชําระ พฤ.4 ก.ค. อุทศิ แด่ วิญญาณในไฟชําระ ศ. 5 ก.ค. สุ ขสํ าราญ คุณพลเชษฐ์ ชีวนิชพันธ์
ผู้ขอมิสซา มาลินี ธีระ ลลิตา ชนันต์ธร ลลิตา ลลิตา หมุ่ยอี่ อัญชลี มาลินี
11
กําหนดการฉลองวัด ครบรอบ 12 ปี วันเสาร์ ที่ 13 กรกฎาคม 2013 (วันฉลองภายใน) 18.30 น. สวดสายประคําและบทเร้าวิงวอนพระแม่เจ้า ศีลอภัยบาป 19.00 น. พิธีบูชาขอบพระคุณ เสกพระรู ปแม่พระกุหลาบทิพย์ (องค์ใหม่) แห่พระรู ปแม่พระกุหลาบทิพย์รอบวัด และถวายช่อดอกไม้ (หลังมิสซา เชิญรับประทานอาหารร่ วมกัน)
ฉบับที่ 481 วันอาทิตย์ที่ 30 มิถนุ ายน ค.ศ. 2013
สมโภชนักบุญเปโตรและเปาโลอัครสาวก (ปี C)
วันอาทิตย์ที่ 14 กรกฎาคม 2013 15.30 น. สวดภาวนา / ฟัง “เสี ยงวรสาร” ศีลอภัยบาป 17.00 น. พิธีบูชาขอบพระคุณ โดย พระอัครสังฆราช ฟรังซิ สเซเวียร์ เกรี ยงศักดิ์ โกวิทวาณิ ช แห่พระรู ปแม่พระกุหลาบทิพย์ และถวายช่อดอกไม้ (หลังมิสซา เชิญรับประทานอาหารร่ วมกัน) ** วันอาทิตย์ มีมิสซาเช้ า 8.00 น.ตามปกติ งดมิสซาสาย 10.00 น.** พี่นอ้ งผูม้ ีจิตศรัทธาประสงค์จะบริ จาคทรัพย์สินสิ่ งของเพื่อสนับสนุ นการจัดงานฉลองวัด โปรดติดต่อคุณพ่อเจ้าอาวาส หรื อแผนกรับบริ จาคเพื่องานฉลองวัด ณ ศาลาปี ติการุ ณย์ กลุ่ ม เครดิ ต ยูเ นี่ ย นขอเสนอโปรโมชั่น พิ เ ศษสํา หรั บ สมาชิ ก ที่ ต ้อ งการกู้เ งิ น ในช่ วงเดื อ น กรกฎาคม และสิ งหาคม 2013 (เพียงสองเดือนเท่านั้น) ดังนี้ - หกเดือนแรกดอกเบี้ยเพียง 0.5% ต่อเดือน - หลังหกเดือนไปแล้ว ดอกเบี้ย 1% ต่อเดือน โปรดสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่หอ้ งเครดิตยูเนี่ยน หรื อคุณภาณุฉตั ร โทร 08 4546 7772 12
ท่ านคือศิลา และบนศิลานี้ เราจะตั้งพระศาสนจักรของเรา มธ 16:18