ฉบับที่ 479 วันอาทิตย์ที่ 16 มิถนุ ายน ค.ศ. 2013
ฉบับที่ 479 วันอาทิตย์ที่ 16 มิถนุ ายน ค.ศ. 2013
สั ปดาห์ ที่ 11 เทศกาลธรรมดา (ปี C)
สั ปดาห์ ที่ 11 เทศกาลธรรมดา (ปี C)
ความเชื่อของเจ้ าช่ วยเจ้ าให้ รอดพ้นแล้ ว จงไปเป็ นสุ ขเถิด
ความเชื่อของเจ้ าช่ วยเจ้ าให้ รอดพ้นแล้ ว จงไปเป็ นสุ ขเถิด
ลก 7:50
ลก 7:50
สั ปดาห์ ที่ 11 เทศกาลธรรมดา (ปี C) ลก 7:36-50
ซีโมน ผูเ้ ป็ นฟาริส ี ได้ทูลเชิญพระเยซูเจ้าไปเสวยพระกระยาหารทีบ่ า้ นของ เขา (ลก 7:36) บ้านของผูม้ อี นั จะกินมักมีลานจัตุรสั อยู่ตรงกลางบ้าน หลังคาเปิ ด และส่วน ใหญ่จะมีสวนพร้อมกับนํ้ าพุอยู่บริเวณลานกลางบ้านนี้ดว้ ย หากอากาศอบอุ่นพวก เขาจะจัดงานเลีย้ งกันทีน่ ่ี เมือ่ อาจารย์ผมู้ ชี ่อื เสียงมากินเลีย้ งทีบ่ า้ นระดับนี้ ถือเป็ นธรรมเนียมทีเ่ จ้าภาพ จะอนุ ญาตให้ชาวบ้านเข้ามาในบริเวณจัดงาน เพื่อฟงั ปรีชาญาณที่หลังไหลพรั ่ งพรู ่ ออกมาจากปากของท่านอาจารย์ หญิงคนบาปเข้ามาอยูใ่ นงานเลี้ยงได้กเ็ พราะเหตุน้ ีเอง ! ปกติเมื่อแขกรับเชิญมาถึงบ้าน มี 3 สิง่ ทีเ่ จ้าภาพพึงกระทําเพื่อต้อนรับและ ให้เกียรติผมู้ าเยือนคือ 1. แสดงความเคารพ ด้วยการวางมือบนไหล่ของแขกแล้วจูบคํานับ สิง่ นี้จะละเว้นมิได้เลยหากแขกเป็ นอาจารย์ผมู้ ชี ่อื เสียง 2. ล้า งเท้า เนื่ อ งจากถนนในปาเลสไตน์ เ ต็ม ไปด้ว ยฝุ่น ทราย ซึ่ง จะ กลายเป็ นโคลนตมเมื่อฝนตก กอปรกับรองเท้าที่สวมใส่มลี กั ษณะเปิ ดคล้ายรองเท้า แตะ เจ้าภาพจึงต้องเตรียมนํ้าเย็นไว้ลา้ งเท้าก่อนเชิญแขกเข้าบ้าน ซึง่ นอกจากจะทํา ให้สะอาดแล้วยังช่วยทําให้เท้าผ่อนคลายอีกด้วย 2
วัน เดือน ปี อา 16 มิ.ย. 08.00 น.
รายการมิสซา ผู้ขอมิสซา อุทศิ แด่ อักแนส ธานี เศรษฐเสรี อนุกลู ยอแซฟ ฮวงไล้, มารี อา ตา แซ่เซี ยว อนุกลู บรรพบุรุษครอบครัวธนาพานิชย์ คค.ธนาพานิชย์ วิญญาณในไฟชําระและวิญญาณที่ไม่มีผใู้ ดนึกถึง คค.ธนาพานิชย์ อา 16 มิ.ย. สุ ขสํ าราญ โมทนาคุณพระเจ้าและพระแม่มารี ย ์ อดิสยั 10.00 น. สัตบุรุษวัดแม่พระกุหลาบทิพย์ทุกท่าน มารี อา มาลี อดุลศิริสวัสดิ์, คุณทวีศกั ดิ์ ชินธรรมมิตร์ ยอแซฟ มานพ, เปโตร มนัศ อดุลศิริสวัสดิ์ และครอบครัว คุณสมพร สนิทสม ลูซีอา เทเรซา สุ นทรี โรจนประดิษฐ์ ดวงใจ เซซี ลีอา เพ็กล้วน แซ่เอี้ยว, ครอบครัวเตียวเจริ ญ สุ รพงษ์ อันนา สวิตตา สาธร มาลินี คุณทองคํา เพิ่มพูนธนาลาภ, คุณอุบล พลอยขาว มาลินี คุณประชิด ชํานาญธรรม, คุณประจิตร ชูประจักษ์ มารี อา จินดา เส็งเจริ ญ, คุณอรุ ณ เศรษฐเสรี มารี อา ภาณุมาศ พงศ์พนั ธุ์พฒั น์, มารี อา ปนัดดา ลี้ยาง เทเรซา ชนินทร์ มาศ พนอําพน, คุณนารี ปลิดเพ็ชร พลเอก พิจิตร, คุณหญิง วิมล กุลละวณิ ชย์ คุณนรัญจ์ ยินดีงาม และครอบครัว คุณบานเย็น, คุณชวนี, คุณอดุลย์ สิ งห์ชาลี, คุณพิมนภา ชวนี คุณเกรี ยงไกร สิ ทธิทรัพย์, คุณพจนี ฉันทะศิริพร ชวนี คุณศศิธร พรหมสุ นทร, Mrs.Lolita Romero Ferrer ชวนี/คุณจรู ญ, คุณวันชัย กูลศิริ และครอบครัว จินดา คุณสุ วรรณา เส็งเจริ ญ และครอบครัว จินดา อุทศิ แด่ หลุยส์ พิชยั เจริ ญสุ ข ชนันต์ธร คุณกอง เงินลา วันชัย, อัญชลี ฟรังซิ สเซเวียร์ จิรวัฒน์ เสวตรวิทย์ 11
มิสซาสั ปดาห์ ที่ 11 เทศกาลธรรมดา (ปี C) วันอาทิตย์ ที่ 16 มิถุนายน ค.ศ. 2013 วัน เดือน ปี รายการมิสซา ผู้ขอมิสซา ส. 15 มิ.ย. สุ ขสํ าราญ โมทนาคุณพระเจ้าและพระแม่มารี ย ์ 18.00 น. มารี อา ประทุม, คุณสมนึก ใช้สมบุญ และครอบครัว คุณพัชรธนาวรรณ คุม้ ราช อุทศิ แด่ ยอแซฟ เสถียร, มารี อา เสาวนีย ์ พงษ์เพิ่มมาศ วรัญญ์นิช ฟรังซิ สเซเวียร์ จิรวัฒน์ เสวตรวิทย์ อันตน สําเริ ง โกญจนาท เริ งจิต สตีเฟน จํารู ญ, มารี อา ละมุด เจริ ญพานิช คุณกอง เงินลา วิญญาณในไฟชําระและวิญญาณที่ไม่มีผใู ้ ดนึกถึง ประชิด, ประจิต อา. 16 มิ.ย. สุ ขสํ าราญ โมทนาคุณพระเจ้า และพระแม่มารี ย ์ 08.00 น. มารี อา เอื้อพันธ์ และครอบครัวศรี เจริ ญ คค.ศรี เจริ ญ ครอบครัวธนะสาร, ครอบครัวสาธรกิจ ณัฐวรรณ ครอบครัวสุ ทธิโอภาส, ครอบครัวบรรณสกุล ณัฐวรรณ ครอบครัวเขม้นงาน, ครอบครัวเพียรช่างคิด ณัฐวรรณ ครอบครัวลิ้มจิตรกร, ครอบครัวเตรี ยมวิชานนท์ ณัฐวรรณ อุทศิ แด่ ยวง บัปติสตา ก๊กเคี้ยง แซ่แพ้, มารี อา กิมฮวย แซ่ ต้ งั คค.ธนาพานิชย์ อัมโบซี โอ ประชัน, มารี อา ละมัย สังขรัตน์ กิตติ สังขรัตน์ คุณอุย้ นิ้ว แซ่เซี้ ยว, คุณโถ เพียรช่างคิด ณัฐวรรณ คุณนวลจันทร์, ด.ช.ธงชัย ธนะสาร ณัฐวรรณ ยวง บัปติสต์ เสมียน สาธรกิจ, มารี อา ฮุยเกียว แซ่โง้ว ณัฐวรรณ ยอห์น บัปติสต์ ซาวเจ๊อะ ยอแยะ เฌอมือ ยอแซฟ เกียจัว๊ แซ่คู, อันนา เย็น เอี้ยพิน ยอแซฟ ทิวากร รักคิด และบรรพบุรุษ วิภาวินี เปาโล จงออน ตันติโกสิ ชฌน์ มาการิ ตา้ ทิพากร เรี ยวนาร์ 10
3.
เผากํายานหอม หรือไม่กน็ ํานํ้ามันกุหลาบมาเจิมศีรษะของแขก
นีค่ อื สิง่ ทีผ่ มู้ มี ารยาทพึงกระทํา แต่ซโี มนไม่ได้ทาํ สักอย่าง ! ปกติชาวยิวไม่ได้นัง่ กินอาหาร แต่จะเอนนอนโดยใช้ศอกข้างซ้ายหนุ นเบาะ ปล่อยให้มอื ขวาว่างไว้หยิบอาหาร ส่วนเท้านัน้ จะปล่อยให้เหยียดยาวไปข้างหลังโดย ไม่สวมรองเท้า ด้วยท่าเอนนอนลักษณะนี้ หญิงนางนัน้ จึงมาอยู่ดา้ นหลังของพระองค์ใกล้ ๆ พระบาทได้ (ลก 7:38) ซีโมนเป็ นหนึ่งในบรรดาฟาริสซี ง่ึ มีทศั นคติสวนทางกับคําสอนของพระเยซูเจ้า อย่างสิน้ เชิงจนถึงขัน้ เป็ นศัตรูกนั ในที่สุด จึงเป็ นเรื่องแปลกที่เขาทูลเชิญพระองค์ไป เสวยพระกระยาหารทีบ่ า้ นของเขา สาเหตุอาจเป็ นเพราะ 1. เขาอยู่ในกลุ่มฟาริสที ช่ี ่นื ชอบพระเยซูเจ้า เพราะไม่ใช่ฟาริสที ุกคนจะ เป็ นศัตรูกบั พระองค์ ดังทีล่ ูกาเล่าว่า “ชาวฟาริสบี างคนเข้ามาทูลพระเยซูเจ้าว่า ‘ท่าน จงเดินทางออกไปจากทีน่ ีเ่ ถิด เพราะกษัตริยเ์ ฮโรดต้องการจะฆ่าท่าน’” (ลก 13:31) แต่ เ หตุ ผ ลนี้ มีน้ํ า หนัก น้ อ ย เพราะเขาไม่ไ ด้ต้อ นรับ พระองค์อ ย่า ง สมเกียรติเท่าทีค่ วร ! 2. เขาอาจเชิญพระองค์มาเสวยพระกระยาหารเพื่อหวังจับผิดพระองค์ จะได้มมี ลู เหตุกล่าวฟ้องพระองค์ แต่เหตุผลนี้ก็มคี วามเป็ นไปได้น้อยอีกเช่นกัน เพราะเขายังเคารพ และเรียกพระองค์วา่ “อาจารย์” (ลก 7:40) 3. เป็ นได้มากว่าเขาอยากมีช่อื เสียง จึงทูลเชิญพระองค์ซ่งึ กําลังเป็ นที่ กล่าวขวัญทัวแคว้ ่ นกาลิลี แบบกึง่ ชื่นชมกึง่ ดูหมิน่ มาเสวยพระกระยาหารกับเขา นี่คอื เหตุผลว่าทําไมเขาจึงมีความเคารพพระองค์อยู่บา้ ง แต่กลับละ เว้นธรรมเนียมปฏิบตั ทิ พ่ี งึ กระทําต่ออาจารย์ผมู้ ชี ่อื เสียงอย่างพระองค์
3
หญิง นางนั น้ เป็ น คนบาป และเป็ น คนบาปหนั ก เสีย ด้ว ยเพราะนางเป็ น โสเภณี ไม่ต้องสงสัยเลยว่านางเป็ นหนึ่งในฝูงชนทีไ่ ด้ฟงั คําสังสอนของพระเยซู ่ เจ้า และตระหนักดีวา่ พระองค์สามารถช่วยเหลือนางให้รอดพ้นจากวิถชี วี ติ อันขมขืน่ ได้ เฉกเช่นหญิงชาวยิวทุกคน นางมีขวดหินขาวเล็กๆ บรรจุน้ํามันหอมเข้มข้น ราคาแพง แขวนไว้ท่คี อ นางตัง้ ใจจะชโลมพระบาทของพระองค์ดว้ ยนํ้ ามันหอมนี้ เพราะมันเป็ นเพียงสิง่ เดียวทีด่ ที ส่ี ดุ และมีคา่ มากทีส่ ดุ เท่าทีน่ างมี แต่เมือ่ เห็นพระองค์ นํ้าตาของนางกลับไหลพรังพรู ่ รดพระบาทของพระองค์ ! นางจึงใช้ผมทีส่ ยายยาวของนางเช็ดพระบาทของพระองค์ !! สําหรับหญิงชาวยิว การสยายผมออกมาถือว่าไม่สุภาพอย่างยิง่ พวกนาง จึงไม่ยอมปล่อยผมสยายออกมาให้ผอู้ ่นื เห็นเลยหลังจากแต่งงาน การที่นางแก้มดั ผมในที่สาธารณะเพื่อเช็ดพระบาทของพระองค์ แสดงให้ เห็นว่า นางลืมคิ ดถึงทุกสิ ง่ และทุกคน ในหัวใจของนางมีแต่พระเยซูเจ้า !!! เหตุการณ์ครัง้ นี้ แสดงให้เห็นท่าทีของจิตใจมนุษย์ทแ่ี ตกต่างกันอย่างสิน้ เชิง ความรูส้ กึ นึกคิดของซีโมนคือเขาถือตัวว่าเป็ นคนดีทงั ้ ในสายตาของมนุ ษย์ และของพระเจ้า เขาจึงไม่ต้องการพึ่งพระองค์ เมื่อไม่ต้องการพึง่ พระองค์ก็ไม่รกั พระองค์ และเมือ่ ไม่รกั พระองค์เขาจึงไม่ได้รบั การอภัยบาป ส่วนหญิงนางนัน้ สํานึกว่าตนเป็ นคนบาปและต้องการพระเยซูเจ้าอย่างทีส่ ุด หัวใจของนางจึงท่วมท้นไปด้วยความรักต่อพระองค์ซ่งึ เป็ นเพียงผูเ้ ดียวที่สามารถ ช่วยนางได้ และเพราะรักนางจึงได้รบั การอภัยบาป สิง่ หนึ่งซึง่ ปิ ดกัน้ มนุ ษย์เราจากพระเจ้าอย่างเด็ดขาดคือการคิดว่าตัวเอง “ดี พอแล้ว” ! แต่ขอ้ เท็จจริงคือ “คนยิ ง่ ดีจริ ง ยิ ง่ รู้สึกว่าเป็ นคนบาป” !! อย่างเช่นนักบุญเปาโล ซึง่ ได้รบั การยอมรับว่าเป็ นหนึ่งในอัครสาวกผูย้ งิ่ ใหญ่ ทีส่ ดุ ก็ยงั กล่าวว่า “พระคริสตเยซูเสด็จมาในโลกเพือ่ ช่วยคนบาปให้รอดพ้น ข้าพเจ้า เป็ นคนแรกในบรรดาคนบาปเหล่านี้” (1 ทธ 1:15)
เด็กถาม: “ผมอยากรูว้ ่าพระสันตะปาปาชอบสิ่งใดในคณะเยสุอิตครับ ทําไมพระองค์ ถึงเข้าคณะนี”้ พระสันตะปาปาตอบ: “พ่อชอบงานธรรมทูตแพร่ธรรมของคณะนี้ แต่อย่างที่พวก หนูทราบดีว่า พ่อมีปัญหาเกี่ยวกับปอด (เหลือปอดข้างเดียว) ผูใ้ หญ่ของคณะจึงบอก ให้พ่อทํางานอภิบาลในอาร์เจนติน่าซึ่งมันจะดีกว่าไปแพร่ธรรมต่างแดน ... สิ่งที่พ่อ ชอบในความเป็ นเยสุอิตคือความใจกว้างและไม่เห็นแก่ตวั เยสุอิตสอนให้เราเป็ นคนใจ กว้างเหมือ นพระเยซู ไม่ปิ ดกั้นตนเองในการรับใช้ผยู้ ากไร้ เยสุอิตสอนให้พ่ อกล้า เปิ ดตัวเองและอุทิศชีวิตเพื่อคนยากจน” เด็กถาม: “พระสันตะปาปาครับ พระองค์มคี าํ แนะนําให้ผมไหมครับ ถ้าผมตัง้ ใจทําสิ่ง ใดแล้ว มันล้มเหลวและไม่เป็ นไปตามที่ฝันครับ” พระสัน ตะปาปาตอบ: “มีซิ พ่ อ อยากบอกว่ า จงอย่ า กลัว ความล้ม เหลว ความ งดงามของการก้าวเดินอยู่ที่จงอย่าหลีกเลี่ยงความล้มเหลว แต่จงหลีกเลี่ยง ‘การจม ปลัก’ อยู่กบั ความล้มเหลว ถ้าล้มแล้วต้องรีบลุก จงลุกและก้าวเดินอีกครั้ง อย่างไรก็ ตาม มันคงแย่ถา้ เราก้าวเดินคนเดียว มันคงน่าเบื่อไม่นอ้ ย ดังนัน้ จงก้าวเดินไปพร้อม กับเพื่อนๆ ที่รกั เราและคอยช่วยเหลือเรา จงเดินไปกับพวกเขาจนถึงเป้าหมาย” คุณครูถาม: “พระสันตะปาปาที่เคารพ หน้าที่ของคาทอลิกที่มีต่อการเมืองคืออะไร เราคริสตชนต้องทําอะไรบ้าง” พระสันตะปาปาตอบ: “เราคริสตชนต้องมีส่วนร่วมในการเมือง เพราะการเมืองคือ หนึ่ง ในรูปแบบสูงสุดของความรักความเมตตา การเมืองที่ ดีจะแสวงหาสิ่ง ดีๆ ให้ ประชาชน คริสตชนฆราวาสต้องทํางานการเมือง กระนั้น มันไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะ การเมืองมีเรื่องสกปรกมากเกินไป พ่อเคยถามตัวเองว่า ทําไมการเมืองถึงมีแต่เรื่อง เสื่ อ มเสี ย คํา ตอบก็ คื อ เพราะคริ ส ตชนไม่ไ ด้มีส่ว นร่ ว มกับ การเมือ งโดยอาศั ยจิ ต วิ ญ ญาณแห่ ง การประกาศพระวรสาร การทํา งานเพื่ อคุณ ความดีเป็ นหน้าที่ ข อง คริ สตชน และหลายๆครั้ง ที่ ก ารทํา งานเพื่ อ ความดีนี้ สามารถทํา ได้ผ่า นทางงาน การเมือง” ตอนท้ายของการถามตอบครั้งนี้ เด็กๆเขียนข้อความบนกระดาษแผ่นใหญ่ๆเพื่ อให้กาํ ลังใจ พระสันตะปาปา ข้อความน่ารักเหล่านี้มีวา่ ...
“สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงดูเป็ นเด็กเหมือนพวกเรา เพราะพระองค์ยิ้มบ่อย มากๆ พระองค์ทรงเป็ นคนดีและดูใจดีจริงๆ” ส่วนอีกข้อความปิ ดท้ายมีใจความว่า “เรารูว้ ่าหน้าที่ของพระสันตะปาปายากมากๆ แต่พระองค์ทรงทํางานนีไ้ ด้ดที ีเดียว” ขอบคุณข้ อมูลจาก Pope Report
4
9
สัปดาห์ที่แล้ว พระสันตะปาปาทรงให้เด็กนักเรียน พร้อมด้วยผูป้ กครองและ ครูอ าจารย์ก ว่ า 9,000 คนจากโรงเรี ย นของคณะเยสุอิ ต เข้า เฝ้ า ช่ว งหนึ่ ง พระ สันตะปาปาทรงเชิญเด็กๆถามคําถามพระองค์ในสิ่งที่อยากรู้ แล้วพระองค์จะตอบ พวกเขาแบบเป็ นกันเอง เราไปดูกนั ว่า งานนี้ เด็กถามและพระสันตะปาปาตอบ จะสนุก ขนาดไหน..
แน่นอนว่าท่านไม่ใช่คนแรกทีท่ าํ บาป เพราะฉะนัน้ คําว่า “คนแรก” ของท่านจึง หมายถึง “คนบาปทีส่ ดุ ” ! อีกท่านหนึ่งคือนักบุญฟรังซิส อัสซีซี ซึง่ พูดเหมือนกันว่า “ในโลกนี้ ไม่มที าง จะหาคนบาปทีช่ วร้ ั ่ ายและน่าสมเพชมากไปกว่าข้าพเจ้าอีกแล้ว” ความคิดของท่านนักบุญเหล่านี้คอื “บาปหนักทีส่ ดุ คือการคิ ดว่าตนไม่มี บาป” !
วันนี้ เราจะเลือกเป็ น “ซีโมน” หรือ “หญิงคนบาป” ???
เด็ กถาม: “พระสันตะปาปา ฟรังซิส ... พระองค์เคยต้องการจะเป็ นพระสันตะปาปา ไหมคะ” พระสันตะปาปาตอบ: “หนูก็รอู้ ยู่แล้วว่า ใครที่ตอ้ งการเป็ นพระสันตะปาปา คนนัน้ ย่อมสนใจตัวเองมากกว่าพระศาสนจักร ซึ่งพระเจ้าไม่ตอ้ งการคนแบบนี้ สําหรับตัว พ่อเอง พ่อไม่เคยต้องการจะเป็ นพระสันตะปาปาเลย” เด็กถาม: “ทําไมพระองค์ไม่พกั ในวังพระสันตะปาปาคะ” พระสันตะปาปาตอบ: “มันเป็ นเรื่องเกี่ยวกับชีวิตฝ่ ายจิตน่ะ การอยู่ตามลําพังในวัง พระสันตะปาปาทําให้พ่อไม่สามารถแบ่งปั นสิ่งดีๆให้กับเพื่อนพี่นอ้ ง นิสัยของพ่อคือ ชอบอยู่เ ป็ นหมู่ค ณะ (เพราะเป็ นคณะนัก บวชที่ มี จิ ต ตารมณ์อ ยู่เ ป็ นหมู่ค ณะ) พ่ อ พยายามดําเนินชีวิตแบบเรียบง่าย ไม่หรูหรา ไม่ฟุ่มเฟื อย เพื่อที่เราจะได้เหมือนกับผู้ ยากไร้และยึดความยากจนแบบพระเยซู ... เด็กๆที่รัก พ่ออยากเชิญชวนหนูๆใช้ชีวิต แบบเรียบง่าย ลองดูรอบตัวเราซิ มีแต่ความหรูหรา เราถูกป้อนสิ่งฟุ่ มเฟื อยเข้าตัวทุก วัน ลองเปรียบตัวเรากับเด็กที่อดอยากหิวโหยดูซิ มันต่างกันมากนะ พวกหนูมีโอกาส ดีและได้เกิดมาในครอบครัวที่เพียบพร้อม ก็ จงอย่าทําตัวฟุ่ มเฟื อย แต่จงทําตัวให้ เหมือนพระเยซูนะ” เด็ กถาม: “ตอนที่พระสันตะปาปาตัดสินใจเข้าบ้านเณรเยสุอิต มันลําบากใจมากไหม ครับที่ตอ้ งจากพ่อแม่ พี่นอ้ ง และเพื่อนๆ เพื่อเข้าบ้านเณร” พระสันตะปาปาตอบ: “ฟั งนะหนูนอ้ ย มันเป็ นเรื่ องยากอยู่แล้วล่ะสําหรับพ่อ มัน ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย แต่มันยังมีความงดงามที่ซ่อนอยู่ในนั้น พระเยซูทรงช่วยเราให้มี ความสุขและชื่นชมยินดี กระนัน้ มันก็มีช่วงเวลายากลําบากภายในจิตใจเช่นกัน มัน เป็ นอุปสรรคที่ผ่านเข้ามา แต่ความงดงามที่ได้ติดตามพระเยซูและเดินไปบนหนทาง ของพระองค์ได้ชว่ ยพ่อ มันทําให้เกิดความสมดุลกันในหนทางที่เราก้าวเดินไป” 8
5
ให้มีการบันทึกความจําเกี่ยวกับเหตุการณ์นนั้ ฮอร์โมนดังกล่าวหลัง่ ออกมามากเท่าไร ความจําในเรื่องนัน้ ๆ ก็จะยิ่งฝังลึกโดยมีอารมณ์ความรูส้ ึกเข้าไปยํา้
โดย ภาวัน
ในชีวิตของเราย่อมมีเหตุการณ์มากมายที่ยากจะลืมเลือนได้ จะวิเศษเพียงใด หากเหตุการณ์เหล่านัน้ ล้วนเป็ นเรื่องที่หวานชื่นระรื่นใจ แต่ความจริงก็คือมันมักเป็ น เรื่องราวที่ขมขืน่ หนาวเหน็บและเจ็บปวด นึกทีไรความเศร้าโศก โกรธแค้น หรือรูส้ ึก ผิ ด ก็ เ กาะกุม ใจ ครั้ ง แล้ว ครั้ ง เล่ า ที่ อ ยากกํา จั ด มัน ออกไปจากความทรงจํา แต่ยิ่ ง พยายามกําจัด มันก็ ยิ่งประทับแน่น ยิ่งผลักไสมันให้ไกล มันก็ ยิ่ง โผล่หน้ามาหลอก หลอน จะว่าชะตากรรมชอบเล่นตลกกับเราก็ ได้ แต่อันที่จริงแล้วตัวการมิใช่อะไรอื่น เลย หากเป็ นธรรมชาติของใจเราเอง สิ่งใดที่เราเกลียดหรือรูส้ ึกเป็ นปฏิปักษ์ มันจะมี แรงดึง ดูดต่อใจของเรา สังเกตไหมเวลาเราโกรธเกลีย ดใคร เราจะนึกถึ งคนๆ นั้น บ่อยๆ เศร้าโศกเสียใจเรื่องอะไร มันก็จะยิ่งผุดโผล่ขนึ้ มาในใจ แต่นนั ่ ยังไม่เท่าไร ปั ญหา จะเกิดขึ้น เมื่อเราพยายามผลักไสหรื อ กําจัดมัน มันยิ่ง ตามมารบกวนจิ ต ใจบ่ อยขึ้น แม้กระทัง่ ในยามหลับ ที่ออสเตรเลียเคยมีการทดลองกับนักศึกษาจํานวน 100 คน โดยให้แต่ละคน เลือกความนึกคิดมาหนึ่งเรื่องที่เขาไม่ชอบแต่มกั ปรากฏในจิตใจ จากนัน้ ก็ให้นกั ศึกษา ครึ่งหนึ่งกดข่มความคิดนั้นก่อนนอน 5 นาที เมื่อตื่นขึ้นมาให้ทกุ คนรี บเขียนบันทึก เกี่ ย วกั บ ความฝั น ในคื น นั้น ทั น ที การวิ เ คราะห์พ บว่ า นัก ศึ ก ษากลุ่ม หลั ง นี้ ฝั น ถึ ง ความคิดดังกล่าวมากกว่ากลุม่ ทีไ่ ม่ได้กดข่มมัน การทดลองนีย้ ืนยันว่ายิ่งอยากกําจัดความคิดหรือความทรงจําอย่างใดอย่าง หนึง่ มันยิ่งตามมารบกวนทัง้ ในยามตืน่ และหลับ ทําไมถึงเป็ นเช่นนัน้ ? การค้น พบทางด้า นประสาทวิ ท ยาอาจให้คํา ตอบในเรื่ อ งนี้ ไ ด้ เมื่ อ ประสบ เหตุการณ์ที่ทาํ ให้เรารูส้ ึกเจ็ บปวด โกรธแค้น หรือเศร้าโศก ร่างกายจะหลัง่ ฮอร์โมน ความเครียด ซึ่งไปกระตุน้ ให้อามิกดาลา (สมองส่วนที่ทาํ งานเกี่ยวกับอารมณ์) สัง่ การ 6
อารมณ์ความรูส้ ึกที่เกิดจากเหตุการณ์เหล่านัน้ จึงเป็ นตัวการสําคัญที่ตอกยํา้ ความทรงจําให้ประทับแน่นมากขึน้ ยิ่งเจ็บปวดมากเท่าไร ก็ยิ่งลืมเลือนได้ยาก แต่ปัญหา ไม่ไ ด้อ ยู่ต รงนี้เ ท่ า นั้น ตอนที่ ห วนระลึ ก ถึ ง เหตุก ารณ์นั้น อี ก แล้ว เราเกิ ด ความรูส้ ึ ก เจ็ บปวดตามมา แถมยังพยายามจะไปกําจัดมัน ความเครี ยดที่เกิดจากกระบวนการ ดังกล่าว ยิ่งทําให้ความทรงจํานัน้ ฝังลึกมากขึน้ ดังนัน้ ถ้าไม่อยากให้มนั ฝั งลึกมากไปกว่านี้ อย่างแรกที่ตอ้ งทําก็คือ อย่าไปรูส้ ึก เป็ นปฏิ ปั กษ์กับความทรงจําดัง กล่าว เมื่อเหตุการณ์ใ ดๆ ผุดโผล่ขึ้นมาในใจ อย่า ไป หงุดหงิดหรือโกรธเกลียดมัน ปล่อยมันไป ไม่ตอ้ งสนใจมัน รวมทัง้ ไม่ตอ้ งอยากไปกําจัด มันด้วย เพราะถ้าเราหงุดหงิดใส่มนั โกรธเกลียดมัน หรืออยากกําจัดมันเมือ่ ไร ฮอร์โมน ความเครียดจะหลัง่ ออกมาและทําให้ความทรงจําในเรื่องนัน้ ฝังลึกขึน้ เราไม่อาจเปลี่ยนแปลงเหตุการณ์ในอดีตได้ แต่เราสามารถเปลี่ยนแปลงท่าที หรือความรูส้ ึกต่อเหตุการณ์ที่ผา่ นมาได้ แทนที่จะพยายามปฏิเสธมัน หรือผลักไสกดข่ม ความทรงจําเกี่ยวกับเหตุการณ์เหล่านัน้ เราลองหันมายอมรับมันหรือวางใจเป็ นกลาง กับมัน ใหม่ๆอาจทําได้ยาก แต่เราสามารถฝึ กใจได้ ด้วยการนัง่ นิ่งๆ ทําใจให้สงบ แล้ว ค่ อ ยๆ นึ ก ถึ ง เหตุก ารณ์นั้น เมื่ อ ความรู้สึ ก เจ็ บ ปวดเกิ ด ขึ้น ก็ ใ ห้รั บ รู้เ ฉยๆ โดยไม่ พยายามกดข่มหรือปฏิเสธมัน เปิ ดใจต้อนรับเสมือนเป็ นเพื่อนสนิทของเรา หากอยาก ร้องไห้ ก็ขอให้รอ้ งไห้ออกมา หากมีเพื่อนหรือประจักษ์พยานรับรูด้ ว้ ย ก็ยิ่งดี การที่เรา กล้าเปิ ดเผยเรื่องราวเหล่านีใ้ ห้เขาฟั ง แสดงว่าเราทําใจยอมรับมันได้มากขึน้ แล้ว เมื่ อ ใดก็ ต ามที่ เ ราวางใจเป็ นกลาง สงบ ไม่ ห วั น่ ไหวกั บ เหตุก ารณ์ ใ นอดี ต เหตุการณ์เหล่านัน้ ก็ไม่อาจโบยตีหรือหลอกหลอนเราได้อีกต่อไป มันอาจจะไม่เลือนราง ในเร็ ววัน แต่ก็จะรบกวนจิตใจเราน้อยลง ถึงจะมาปรากฏในมโนสํานึกอีก แต่ก็ไร้พิษสง ไม่ทาํ ให้เราเจ็บปวดอีก แต่เดิมที่เคยเป็ นเสมือนแผลเรื้อรัง ที่แตะต้องเมือ่ ไร ก็เจ็บเมื่อนัน้ บัดนีแ้ ผลได้สมานสนิท แม้จะเป็ นแผลเป็ น แต่ก็แตะต้องได้โดยไม่รสู้ ึกเจ็บปวดอีกต่อไป
ความทรงจํา เกี่ ย วกับ ความผิ ด หวั ง พลัด พราก สูญ เสี ย ในอดี ต นั้น ไม่ จําเป็ นต้องพ่วงมากับความรูส้ ึกเจ็บปวด โกรธแค้น เศร้าโศกเสมอไป และมันมิใช่สิ่ง เลวร้ายไปเสียหมด แต่ยังสามารถเป็ นต้นทุนที่เพิ่มประสบการณ์ชีวิต ทําให้เรา เข้มแข็งและมีปัญญามากขึน้ ใช่หรือไม่ว่านีค้ ือหัวใจสูช่ วี ิตที่สงบเย็นและเป็ นสุข 7
ให้มีการบันทึกความจําเกี่ยวกับเหตุการณ์นนั้ ฮอร์โมนดังกล่าวหลัง่ ออกมามากเท่าไร ความจําในเรื่องนัน้ ๆ ก็จะยิ่งฝังลึกโดยมีอารมณ์ความรูส้ ึกเข้าไปยํา้
โดย ภาวัน
ในชีวิตของเราย่อมมีเหตุการณ์มากมายที่ยากจะลืมเลือนได้ จะวิเศษเพียงใด หากเหตุการณ์เหล่านัน้ ล้วนเป็ นเรื่องที่หวานชื่นระรื่นใจ แต่ความจริงก็คือมันมักเป็ น เรื่องราวที่ขมขืน่ หนาวเหน็บและเจ็บปวด นึกทีไรความเศร้าโศก โกรธแค้น หรือรูส้ ึก ผิ ด ก็ เ กาะกุม ใจ ครั้ ง แล้ว ครั้ ง เล่ า ที่ อ ยากกํา จั ด มัน ออกไปจากความทรงจํา แต่ยิ่ ง พยายามกําจัด มันก็ ยิ่งประทับแน่น ยิ่งผลักไสมันให้ไกล มันก็ ยิ่ง โผล่หน้ามาหลอก หลอน จะว่าชะตากรรมชอบเล่นตลกกับเราก็ ได้ แต่อันที่จริงแล้วตัวการมิใช่อะไรอื่น เลย หากเป็ นธรรมชาติของใจเราเอง สิ่งใดที่เราเกลียดหรือรูส้ ึกเป็ นปฏิปักษ์ มันจะมี แรงดึง ดูดต่อใจของเรา สังเกตไหมเวลาเราโกรธเกลีย ดใคร เราจะนึกถึ งคนๆ นั้น บ่อยๆ เศร้าโศกเสียใจเรื่องอะไร มันก็จะยิ่งผุดโผล่ขนึ้ มาในใจ แต่นนั ่ ยังไม่เท่าไร ปั ญหา จะเกิดขึ้น เมื่อเราพยายามผลักไสหรื อ กําจัดมัน มันยิ่ง ตามมารบกวนจิ ต ใจบ่ อยขึ้น แม้กระทัง่ ในยามหลับ ที่ออสเตรเลียเคยมีการทดลองกับนักศึกษาจํานวน 100 คน โดยให้แต่ละคน เลือกความนึกคิดมาหนึ่งเรื่องที่เขาไม่ชอบแต่มกั ปรากฏในจิตใจ จากนัน้ ก็ให้นกั ศึกษา ครึ่งหนึ่งกดข่มความคิดนั้นก่อนนอน 5 นาที เมื่อตื่นขึ้นมาให้ทกุ คนรี บเขียนบันทึก เกี่ ย วกั บ ความฝั น ในคื น นั้น ทั น ที การวิ เ คราะห์พ บว่ า นัก ศึ ก ษากลุ่ม หลั ง นี้ ฝั น ถึ ง ความคิดดังกล่าวมากกว่ากลุม่ ทีไ่ ม่ได้กดข่มมัน การทดลองนีย้ ืนยันว่ายิ่งอยากกําจัดความคิดหรือความทรงจําอย่างใดอย่าง หนึง่ มันยิ่งตามมารบกวนทัง้ ในยามตืน่ และหลับ ทําไมถึงเป็ นเช่นนัน้ ? การค้น พบทางด้า นประสาทวิ ท ยาอาจให้คํา ตอบในเรื่ อ งนี้ ไ ด้ เมื่ อ ประสบ เหตุการณ์ที่ทาํ ให้เรารูส้ ึกเจ็ บปวด โกรธแค้น หรือเศร้าโศก ร่างกายจะหลัง่ ฮอร์โมน ความเครียด ซึ่งไปกระตุน้ ให้อามิกดาลา (สมองส่วนที่ทาํ งานเกี่ยวกับอารมณ์) สัง่ การ 6
อารมณ์ความรูส้ ึกที่เกิดจากเหตุการณ์เหล่านัน้ จึงเป็ นตัวการสําคัญที่ตอกยํา้ ความทรงจําให้ประทับแน่นมากขึน้ ยิ่งเจ็บปวดมากเท่าไร ก็ยิ่งลืมเลือนได้ยาก แต่ปัญหา ไม่ไ ด้อ ยู่ต รงนี้เ ท่ า นั้น ตอนที่ ห วนระลึ ก ถึ ง เหตุก ารณ์นั้น อี ก แล้ว เราเกิ ด ความรูส้ ึ ก เจ็ บปวดตามมา แถมยังพยายามจะไปกําจัดมัน ความเครี ยดที่เกิดจากกระบวนการ ดังกล่าว ยิ่งทําให้ความทรงจํานัน้ ฝังลึกมากขึน้ ดังนัน้ ถ้าไม่อยากให้มนั ฝั งลึกมากไปกว่านี้ อย่างแรกที่ตอ้ งทําก็คือ อย่าไปรูส้ ึก เป็ นปฏิ ปั กษ์กับความทรงจําดัง กล่าว เมื่อเหตุการณ์ใ ดๆ ผุดโผล่ขึ้นมาในใจ อย่า ไป หงุดหงิดหรือโกรธเกลียดมัน ปล่อยมันไป ไม่ตอ้ งสนใจมัน รวมทัง้ ไม่ตอ้ งอยากไปกําจัด มันด้วย เพราะถ้าเราหงุดหงิดใส่มนั โกรธเกลียดมัน หรืออยากกําจัดมันเมือ่ ไร ฮอร์โมน ความเครียดจะหลัง่ ออกมาและทําให้ความทรงจําในเรื่องนัน้ ฝังลึกขึน้ เราไม่อาจเปลี่ยนแปลงเหตุการณ์ในอดีตได้ แต่เราสามารถเปลี่ยนแปลงท่าที หรือความรูส้ ึกต่อเหตุการณ์ที่ผา่ นมาได้ แทนที่จะพยายามปฏิเสธมัน หรือผลักไสกดข่ม ความทรงจําเกี่ยวกับเหตุการณ์เหล่านัน้ เราลองหันมายอมรับมันหรือวางใจเป็ นกลาง กับมัน ใหม่ๆอาจทําได้ยาก แต่เราสามารถฝึ กใจได้ ด้วยการนัง่ นิ่งๆ ทําใจให้สงบ แล้ว ค่ อ ยๆ นึ ก ถึ ง เหตุก ารณ์นั้น เมื่ อ ความรู้สึ ก เจ็ บ ปวดเกิ ด ขึ้น ก็ ใ ห้รั บ รู้เ ฉยๆ โดยไม่ พยายามกดข่มหรือปฏิเสธมัน เปิ ดใจต้อนรับเสมือนเป็ นเพื่อนสนิทของเรา หากอยาก ร้องไห้ ก็ขอให้รอ้ งไห้ออกมา หากมีเพื่อนหรือประจักษ์พยานรับรูด้ ว้ ย ก็ยิ่งดี การที่เรา กล้าเปิ ดเผยเรื่องราวเหล่านีใ้ ห้เขาฟั ง แสดงว่าเราทําใจยอมรับมันได้มากขึน้ แล้ว เมื่ อ ใดก็ ต ามที่ เ ราวางใจเป็ นกลาง สงบ ไม่ ห วั น่ ไหวกั บ เหตุก ารณ์ ใ นอดี ต เหตุการณ์เหล่านัน้ ก็ไม่อาจโบยตีหรือหลอกหลอนเราได้อีกต่อไป มันอาจจะไม่เลือนราง ในเร็ ววัน แต่ก็จะรบกวนจิตใจเราน้อยลง ถึงจะมาปรากฏในมโนสํานึกอีก แต่ก็ไร้พิษสง ไม่ทาํ ให้เราเจ็บปวดอีก แต่เดิมที่เคยเป็ นเสมือนแผลเรื้อรัง ที่แตะต้องเมือ่ ไร ก็เจ็บเมื่อนัน้ บัดนีแ้ ผลได้สมานสนิท แม้จะเป็ นแผลเป็ น แต่ก็แตะต้องได้โดยไม่รสู้ ึกเจ็บปวดอีกต่อไป
ความทรงจํา เกี่ ย วกับ ความผิ ด หวั ง พลัด พราก สูญ เสี ย ในอดี ต นั้น ไม่ จําเป็ นต้องพ่วงมากับความรูส้ ึกเจ็บปวด โกรธแค้น เศร้าโศกเสมอไป และมันมิใช่สิ่ง เลวร้ายไปเสียหมด แต่ยังสามารถเป็ นต้นทุนที่เพิ่มประสบการณ์ชีวิต ทําให้เรา เข้มแข็งและมีปัญญามากขึน้ ใช่หรือไม่ว่านีค้ ือหัวใจสูช่ วี ิตที่สงบเย็นและเป็ นสุข 7
สัปดาห์ที่แล้ว พระสันตะปาปาทรงให้เด็กนักเรียน พร้อมด้วยผูป้ กครองและ ครูอ าจารย์ก ว่ า 9,000 คนจากโรงเรี ย นของคณะเยสุอิ ต เข้า เฝ้ า ช่ว งหนึ่ ง พระ สันตะปาปาทรงเชิญเด็กๆถามคําถามพระองค์ในสิ่งที่อยากรู้ แล้วพระองค์จะตอบ พวกเขาแบบเป็ นกันเอง เราไปดูกนั ว่า งานนี้ เด็กถามและพระสันตะปาปาตอบ จะสนุก ขนาดไหน..
แน่นอนว่าท่านไม่ใช่คนแรกทีท่ าํ บาป เพราะฉะนัน้ คําว่า “คนแรก” ของท่านจึง หมายถึง “คนบาปทีส่ ดุ ” ! อีกท่านหนึ่งคือนักบุญฟรังซิส อัสซีซี ซึง่ พูดเหมือนกันว่า “ในโลกนี้ ไม่มที าง จะหาคนบาปทีช่ วร้ ั ่ ายและน่าสมเพชมากไปกว่าข้าพเจ้าอีกแล้ว” ความคิดของท่านนักบุญเหล่านี้คอื “บาปหนักทีส่ ดุ คือการคิ ดว่าตนไม่มี บาป” !
วันนี้ เราจะเลือกเป็ น “ซีโมน” หรือ “หญิงคนบาป” ???
เด็ กถาม: “พระสันตะปาปา ฟรังซิส ... พระองค์เคยต้องการจะเป็ นพระสันตะปาปา ไหมคะ” พระสันตะปาปาตอบ: “หนูก็รอู้ ยู่แล้วว่า ใครที่ตอ้ งการเป็ นพระสันตะปาปา คนนัน้ ย่อมสนใจตัวเองมากกว่าพระศาสนจักร ซึ่งพระเจ้าไม่ตอ้ งการคนแบบนี้ สําหรับตัว พ่อเอง พ่อไม่เคยต้องการจะเป็ นพระสันตะปาปาเลย” เด็กถาม: “ทําไมพระองค์ไม่พกั ในวังพระสันตะปาปาคะ” พระสันตะปาปาตอบ: “มันเป็ นเรื่องเกี่ยวกับชีวิตฝ่ ายจิตน่ะ การอยู่ตามลําพังในวัง พระสันตะปาปาทําให้พ่อไม่สามารถแบ่งปั นสิ่งดีๆให้กับเพื่อนพี่นอ้ ง นิสัยของพ่อคือ ชอบอยู่เ ป็ นหมู่ค ณะ (เพราะเป็ นคณะนัก บวชที่ มี จิ ต ตารมณ์อ ยู่เ ป็ นหมู่ค ณะ) พ่ อ พยายามดําเนินชีวิตแบบเรียบง่าย ไม่หรูหรา ไม่ฟุ่มเฟื อย เพื่อที่เราจะได้เหมือนกับผู้ ยากไร้และยึดความยากจนแบบพระเยซู ... เด็กๆที่รัก พ่ออยากเชิญชวนหนูๆใช้ชีวิต แบบเรียบง่าย ลองดูรอบตัวเราซิ มีแต่ความหรูหรา เราถูกป้อนสิ่งฟุ่ มเฟื อยเข้าตัวทุก วัน ลองเปรียบตัวเรากับเด็กที่อดอยากหิวโหยดูซิ มันต่างกันมากนะ พวกหนูมีโอกาส ดีและได้เกิดมาในครอบครัวที่เพียบพร้อม ก็ จงอย่าทําตัวฟุ่ มเฟื อย แต่จงทําตัวให้ เหมือนพระเยซูนะ” เด็ กถาม: “ตอนที่พระสันตะปาปาตัดสินใจเข้าบ้านเณรเยสุอิต มันลําบากใจมากไหม ครับที่ตอ้ งจากพ่อแม่ พี่นอ้ ง และเพื่อนๆ เพื่อเข้าบ้านเณร” พระสันตะปาปาตอบ: “ฟั งนะหนูนอ้ ย มันเป็ นเรื่ องยากอยู่แล้วล่ะสําหรับพ่อ มัน ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย แต่มันยังมีความงดงามที่ซ่อนอยู่ในนั้น พระเยซูทรงช่วยเราให้มี ความสุขและชื่นชมยินดี กระนัน้ มันก็มีช่วงเวลายากลําบากภายในจิตใจเช่นกัน มัน เป็ นอุปสรรคที่ผ่านเข้ามา แต่ความงดงามที่ได้ติดตามพระเยซูและเดินไปบนหนทาง ของพระองค์ได้ชว่ ยพ่อ มันทําให้เกิดความสมดุลกันในหนทางที่เราก้าวเดินไป” 8
5
หญิง นางนั น้ เป็ น คนบาป และเป็ น คนบาปหนั ก เสีย ด้ว ยเพราะนางเป็ น โสเภณี ไม่ต้องสงสัยเลยว่านางเป็ นหนึ่งในฝูงชนทีไ่ ด้ฟงั คําสังสอนของพระเยซู ่ เจ้า และตระหนักดีวา่ พระองค์สามารถช่วยเหลือนางให้รอดพ้นจากวิถชี วี ติ อันขมขืน่ ได้ เฉกเช่นหญิงชาวยิวทุกคน นางมีขวดหินขาวเล็กๆ บรรจุน้ํามันหอมเข้มข้น ราคาแพง แขวนไว้ท่คี อ นางตัง้ ใจจะชโลมพระบาทของพระองค์ดว้ ยนํ้ ามันหอมนี้ เพราะมันเป็ นเพียงสิง่ เดียวทีด่ ที ส่ี ดุ และมีคา่ มากทีส่ ดุ เท่าทีน่ างมี แต่เมือ่ เห็นพระองค์ นํ้าตาของนางกลับไหลพรังพรู ่ รดพระบาทของพระองค์ ! นางจึงใช้ผมทีส่ ยายยาวของนางเช็ดพระบาทของพระองค์ !! สําหรับหญิงชาวยิว การสยายผมออกมาถือว่าไม่สุภาพอย่างยิง่ พวกนาง จึงไม่ยอมปล่อยผมสยายออกมาให้ผอู้ ่นื เห็นเลยหลังจากแต่งงาน การที่นางแก้มดั ผมในที่สาธารณะเพื่อเช็ดพระบาทของพระองค์ แสดงให้ เห็นว่า นางลืมคิ ดถึงทุกสิ ง่ และทุกคน ในหัวใจของนางมีแต่พระเยซูเจ้า !!! เหตุการณ์ครัง้ นี้ แสดงให้เห็นท่าทีของจิตใจมนุษย์ทแ่ี ตกต่างกันอย่างสิน้ เชิง ความรูส้ กึ นึกคิดของซีโมนคือเขาถือตัวว่าเป็ นคนดีทงั ้ ในสายตาของมนุ ษย์ และของพระเจ้า เขาจึงไม่ต้องการพึ่งพระองค์ เมื่อไม่ต้องการพึง่ พระองค์ก็ไม่รกั พระองค์ และเมือ่ ไม่รกั พระองค์เขาจึงไม่ได้รบั การอภัยบาป ส่วนหญิงนางนัน้ สํานึกว่าตนเป็ นคนบาปและต้องการพระเยซูเจ้าอย่างทีส่ ุด หัวใจของนางจึงท่วมท้นไปด้วยความรักต่อพระองค์ซ่งึ เป็ นเพียงผูเ้ ดียวที่สามารถ ช่วยนางได้ และเพราะรักนางจึงได้รบั การอภัยบาป สิง่ หนึ่งซึง่ ปิ ดกัน้ มนุ ษย์เราจากพระเจ้าอย่างเด็ดขาดคือการคิดว่าตัวเอง “ดี พอแล้ว” ! แต่ขอ้ เท็จจริงคือ “คนยิ ง่ ดีจริ ง ยิ ง่ รู้สึกว่าเป็ นคนบาป” !! อย่างเช่นนักบุญเปาโล ซึง่ ได้รบั การยอมรับว่าเป็ นหนึ่งในอัครสาวกผูย้ งิ่ ใหญ่ ทีส่ ดุ ก็ยงั กล่าวว่า “พระคริสตเยซูเสด็จมาในโลกเพือ่ ช่วยคนบาปให้รอดพ้น ข้าพเจ้า เป็ นคนแรกในบรรดาคนบาปเหล่านี้” (1 ทธ 1:15)
เด็กถาม: “ผมอยากรูว้ ่าพระสันตะปาปาชอบสิ่งใดในคณะเยสุอิตครับ ทําไมพระองค์ ถึงเข้าคณะนี”้ พระสันตะปาปาตอบ: “พ่อชอบงานธรรมทูตแพร่ธรรมของคณะนี้ แต่อย่างที่พวก หนูทราบดีว่า พ่อมีปัญหาเกี่ยวกับปอด (เหลือปอดข้างเดียว) ผูใ้ หญ่ของคณะจึงบอก ให้พ่อทํางานอภิบาลในอาร์เจนติน่าซึ่งมันจะดีกว่าไปแพร่ธรรมต่างแดน ... สิ่งที่พ่อ ชอบในความเป็ นเยสุอิตคือความใจกว้างและไม่เห็นแก่ตวั เยสุอิตสอนให้เราเป็ นคนใจ กว้างเหมือ นพระเยซู ไม่ปิ ดกั้นตนเองในการรับใช้ผยู้ ากไร้ เยสุอิตสอนให้พ่ อกล้า เปิ ดตัวเองและอุทิศชีวิตเพื่อคนยากจน” เด็กถาม: “พระสันตะปาปาครับ พระองค์มคี าํ แนะนําให้ผมไหมครับ ถ้าผมตัง้ ใจทําสิ่ง ใดแล้ว มันล้มเหลวและไม่เป็ นไปตามที่ฝันครับ” พระสัน ตะปาปาตอบ: “มีซิ พ่ อ อยากบอกว่ า จงอย่ า กลัว ความล้ม เหลว ความ งดงามของการก้าวเดินอยู่ที่จงอย่าหลีกเลี่ยงความล้มเหลว แต่จงหลีกเลี่ยง ‘การจม ปลัก’ อยู่กบั ความล้มเหลว ถ้าล้มแล้วต้องรีบลุก จงลุกและก้าวเดินอีกครั้ง อย่างไรก็ ตาม มันคงแย่ถา้ เราก้าวเดินคนเดียว มันคงน่าเบื่อไม่นอ้ ย ดังนัน้ จงก้าวเดินไปพร้อม กับเพื่อนๆ ที่รกั เราและคอยช่วยเหลือเรา จงเดินไปกับพวกเขาจนถึงเป้าหมาย” คุณครูถาม: “พระสันตะปาปาที่เคารพ หน้าที่ของคาทอลิกที่มีต่อการเมืองคืออะไร เราคริสตชนต้องทําอะไรบ้าง” พระสันตะปาปาตอบ: “เราคริสตชนต้องมีส่วนร่วมในการเมือง เพราะการเมืองคือ หนึ่ง ในรูปแบบสูงสุดของความรักความเมตตา การเมืองที่ ดีจะแสวงหาสิ่ง ดีๆ ให้ ประชาชน คริสตชนฆราวาสต้องทํางานการเมือง กระนั้น มันไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะ การเมืองมีเรื่องสกปรกมากเกินไป พ่อเคยถามตัวเองว่า ทําไมการเมืองถึงมีแต่เรื่อง เสื่ อ มเสี ย คํา ตอบก็ คื อ เพราะคริ ส ตชนไม่ไ ด้มีส่ว นร่ ว มกับ การเมือ งโดยอาศั ยจิ ต วิ ญ ญาณแห่ ง การประกาศพระวรสาร การทํา งานเพื่ อคุณ ความดีเป็ นหน้าที่ ข อง คริ สตชน และหลายๆครั้ง ที่ ก ารทํา งานเพื่ อ ความดีนี้ สามารถทํา ได้ผ่า นทางงาน การเมือง” ตอนท้ายของการถามตอบครั้งนี้ เด็กๆเขียนข้อความบนกระดาษแผ่นใหญ่ๆเพื่ อให้กาํ ลังใจ พระสันตะปาปา ข้อความน่ารักเหล่านี้มีวา่ ...
“สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงดูเป็ นเด็กเหมือนพวกเรา เพราะพระองค์ยิ้มบ่อย มากๆ พระองค์ทรงเป็ นคนดีและดูใจดีจริงๆ” ส่วนอีกข้อความปิ ดท้ายมีใจความว่า “เรารูว้ ่าหน้าที่ของพระสันตะปาปายากมากๆ แต่พระองค์ทรงทํางานนีไ้ ด้ดที ีเดียว” ขอบคุณข้ อมูลจาก Pope Report
4
9
มิสซาสั ปดาห์ ที่ 11 เทศกาลธรรมดา (ปี C) วันอาทิตย์ ที่ 16 มิถุนายน ค.ศ. 2013 วัน เดือน ปี รายการมิสซา ผู้ขอมิสซา ส. 15 มิ.ย. สุ ขสํ าราญ โมทนาคุณพระเจ้าและพระแม่มารี ย ์ 18.00 น. มารี อา ประทุม, คุณสมนึก ใช้สมบุญ และครอบครัว คุณพัชรธนาวรรณ คุม้ ราช อุทศิ แด่ ยอแซฟ เสถียร, มารี อา เสาวนีย ์ พงษ์เพิ่มมาศ วรัญญ์นิช ฟรังซิ สเซเวียร์ จิรวัฒน์ เสวตรวิทย์ อันตน สําเริ ง โกญจนาท เริ งจิต สตีเฟน จํารู ญ, มารี อา ละมุด เจริ ญพานิช คุณกอง เงินลา วิญญาณในไฟชําระและวิญญาณที่ไม่มีผใู ้ ดนึกถึง ประชิด, ประจิต อา. 16 มิ.ย. สุ ขสํ าราญ โมทนาคุณพระเจ้า และพระแม่มารี ย ์ 08.00 น. มารี อา เอื้อพันธ์ และครอบครัวศรี เจริ ญ คค.ศรี เจริ ญ ครอบครัวธนะสาร, ครอบครัวสาธรกิจ ณัฐวรรณ ครอบครัวสุ ทธิโอภาส, ครอบครัวบรรณสกุล ณัฐวรรณ ครอบครัวเขม้นงาน, ครอบครัวเพียรช่างคิด ณัฐวรรณ ครอบครัวลิ้มจิตรกร, ครอบครัวเตรี ยมวิชานนท์ ณัฐวรรณ อุทศิ แด่ ยวง บัปติสตา ก๊กเคี้ยง แซ่แพ้, มารี อา กิมฮวย แซ่ ต้ งั คค.ธนาพานิชย์ อัมโบซี โอ ประชัน, มารี อา ละมัย สังขรัตน์ กิตติ สังขรัตน์ คุณอุย้ นิ้ว แซ่เซี้ ยว, คุณโถ เพียรช่างคิด ณัฐวรรณ คุณนวลจันทร์, ด.ช.ธงชัย ธนะสาร ณัฐวรรณ ยวง บัปติสต์ เสมียน สาธรกิจ, มารี อา ฮุยเกียว แซ่โง้ว ณัฐวรรณ ยอห์น บัปติสต์ ซาวเจ๊อะ ยอแยะ เฌอมือ ยอแซฟ เกียจัว๊ แซ่คู, อันนา เย็น เอี้ยพิน ยอแซฟ ทิวากร รักคิด และบรรพบุรุษ วิภาวินี เปาโล จงออน ตันติโกสิ ชฌน์ มาการิ ตา้ ทิพากร เรี ยวนาร์ 10
3.
เผากํายานหอม หรือไม่กน็ ํานํ้ามันกุหลาบมาเจิมศีรษะของแขก
นีค่ อื สิง่ ทีผ่ มู้ มี ารยาทพึงกระทํา แต่ซโี มนไม่ได้ทาํ สักอย่าง ! ปกติชาวยิวไม่ได้นัง่ กินอาหาร แต่จะเอนนอนโดยใช้ศอกข้างซ้ายหนุ นเบาะ ปล่อยให้มอื ขวาว่างไว้หยิบอาหาร ส่วนเท้านัน้ จะปล่อยให้เหยียดยาวไปข้างหลังโดย ไม่สวมรองเท้า ด้วยท่าเอนนอนลักษณะนี้ หญิงนางนัน้ จึงมาอยู่ดา้ นหลังของพระองค์ใกล้ ๆ พระบาทได้ (ลก 7:38) ซีโมนเป็ นหนึ่งในบรรดาฟาริสซี ง่ึ มีทศั นคติสวนทางกับคําสอนของพระเยซูเจ้า อย่างสิน้ เชิงจนถึงขัน้ เป็ นศัตรูกนั ในที่สุด จึงเป็ นเรื่องแปลกที่เขาทูลเชิญพระองค์ไป เสวยพระกระยาหารทีบ่ า้ นของเขา สาเหตุอาจเป็ นเพราะ 1. เขาอยู่ในกลุ่มฟาริสที ช่ี ่นื ชอบพระเยซูเจ้า เพราะไม่ใช่ฟาริสที ุกคนจะ เป็ นศัตรูกบั พระองค์ ดังทีล่ ูกาเล่าว่า “ชาวฟาริสบี างคนเข้ามาทูลพระเยซูเจ้าว่า ‘ท่าน จงเดินทางออกไปจากทีน่ ีเ่ ถิด เพราะกษัตริยเ์ ฮโรดต้องการจะฆ่าท่าน’” (ลก 13:31) แต่ เ หตุ ผ ลนี้ มีน้ํ า หนัก น้ อ ย เพราะเขาไม่ไ ด้ต้อ นรับ พระองค์อ ย่า ง สมเกียรติเท่าทีค่ วร ! 2. เขาอาจเชิญพระองค์มาเสวยพระกระยาหารเพื่อหวังจับผิดพระองค์ จะได้มมี ลู เหตุกล่าวฟ้องพระองค์ แต่เหตุผลนี้ก็มคี วามเป็ นไปได้น้อยอีกเช่นกัน เพราะเขายังเคารพ และเรียกพระองค์วา่ “อาจารย์” (ลก 7:40) 3. เป็ นได้มากว่าเขาอยากมีช่อื เสียง จึงทูลเชิญพระองค์ซ่งึ กําลังเป็ นที่ กล่าวขวัญทัวแคว้ ่ นกาลิลี แบบกึง่ ชื่นชมกึง่ ดูหมิน่ มาเสวยพระกระยาหารกับเขา นี่คอื เหตุผลว่าทําไมเขาจึงมีความเคารพพระองค์อยู่บา้ ง แต่กลับละ เว้นธรรมเนียมปฏิบตั ทิ พ่ี งึ กระทําต่ออาจารย์ผมู้ ชี ่อื เสียงอย่างพระองค์
3
สั ปดาห์ ที่ 11 เทศกาลธรรมดา (ปี C) ลก 7:36-50
ซีโมน ผูเ้ ป็ นฟาริส ี ได้ทูลเชิญพระเยซูเจ้าไปเสวยพระกระยาหารทีบ่ า้ นของ เขา (ลก 7:36) บ้านของผูม้ อี นั จะกินมักมีลานจัตุรสั อยู่ตรงกลางบ้าน หลังคาเปิ ด และส่วน ใหญ่จะมีสวนพร้อมกับนํ้ าพุอยู่บริเวณลานกลางบ้านนี้ดว้ ย หากอากาศอบอุ่นพวก เขาจะจัดงานเลีย้ งกันทีน่ ่ี เมือ่ อาจารย์ผมู้ ชี ่อื เสียงมากินเลีย้ งทีบ่ า้ นระดับนี้ ถือเป็ นธรรมเนียมทีเ่ จ้าภาพ จะอนุ ญาตให้ชาวบ้านเข้ามาในบริเวณจัดงาน เพื่อฟงั ปรีชาญาณที่หลังไหลพรั ่ งพรู ่ ออกมาจากปากของท่านอาจารย์ หญิงคนบาปเข้ามาอยูใ่ นงานเลี้ยงได้กเ็ พราะเหตุน้ ีเอง ! ปกติเมื่อแขกรับเชิญมาถึงบ้าน มี 3 สิง่ ทีเ่ จ้าภาพพึงกระทําเพื่อต้อนรับและ ให้เกียรติผมู้ าเยือนคือ 1. แสดงความเคารพ ด้วยการวางมือบนไหล่ของแขกแล้วจูบคํานับ สิง่ นี้จะละเว้นมิได้เลยหากแขกเป็ นอาจารย์ผมู้ ชี ่อื เสียง 2. ล้า งเท้า เนื่ อ งจากถนนในปาเลสไตน์ เ ต็ม ไปด้ว ยฝุ่น ทราย ซึ่ง จะ กลายเป็ นโคลนตมเมื่อฝนตก กอปรกับรองเท้าที่สวมใส่มลี กั ษณะเปิ ดคล้ายรองเท้า แตะ เจ้าภาพจึงต้องเตรียมนํ้าเย็นไว้ลา้ งเท้าก่อนเชิญแขกเข้าบ้าน ซึง่ นอกจากจะทํา ให้สะอาดแล้วยังช่วยทําให้เท้าผ่อนคลายอีกด้วย 2
วัน เดือน ปี อา 16 มิ.ย. 08.00 น.
รายการมิสซา ผู้ขอมิสซา อุทศิ แด่ อักแนส ธานี เศรษฐเสรี อนุกลู ยอแซฟ ฮวงไล้, มารี อา ตา แซ่เซี ยว อนุกลู บรรพบุรุษครอบครัวธนาพานิชย์ คค.ธนาพานิชย์ วิญญาณในไฟชําระและวิญญาณที่ไม่มีผใู้ ดนึกถึง คค.ธนาพานิชย์ อา 16 มิ.ย. สุ ขสํ าราญ โมทนาคุณพระเจ้าและพระแม่มารี ย ์ อดิสยั 10.00 น. สัตบุรุษวัดแม่พระกุหลาบทิพย์ทุกท่าน มารี อา มาลี อดุลศิริสวัสดิ์, คุณทวีศกั ดิ์ ชินธรรมมิตร์ ยอแซฟ มานพ, เปโตร มนัศ อดุลศิริสวัสดิ์ และครอบครัว คุณสมพร สนิทสม ลูซีอา เทเรซา สุ นทรี โรจนประดิษฐ์ ดวงใจ เซซี ลีอา เพ็กล้วน แซ่เอี้ยว, ครอบครัวเตียวเจริ ญ สุ รพงษ์ อันนา สวิตตา สาธร มาลินี คุณทองคํา เพิ่มพูนธนาลาภ, คุณอุบล พลอยขาว มาลินี คุณประชิด ชํานาญธรรม, คุณประจิตร ชูประจักษ์ มารี อา จินดา เส็งเจริ ญ, คุณอรุ ณ เศรษฐเสรี มารี อา ภาณุมาศ พงศ์พนั ธุ์พฒั น์, มารี อา ปนัดดา ลี้ยาง เทเรซา ชนินทร์ มาศ พนอําพน, คุณนารี ปลิดเพ็ชร พลเอก พิจิตร, คุณหญิง วิมล กุลละวณิ ชย์ คุณนรัญจ์ ยินดีงาม และครอบครัว คุณบานเย็น, คุณชวนี, คุณอดุลย์ สิ งห์ชาลี, คุณพิมนภา ชวนี คุณเกรี ยงไกร สิ ทธิทรัพย์, คุณพจนี ฉันทะศิริพร ชวนี คุณศศิธร พรหมสุ นทร, Mrs.Lolita Romero Ferrer ชวนี/คุณจรู ญ, คุณวันชัย กูลศิริ และครอบครัว จินดา คุณสุ วรรณา เส็งเจริ ญ และครอบครัว จินดา อุทศิ แด่ หลุยส์ พิชยั เจริ ญสุ ข ชนันต์ธร คุณกอง เงินลา วันชัย, อัญชลี ฟรังซิ สเซเวียร์ จิรวัฒน์ เสวตรวิทย์ 11
อา 16 มิ.ย. 10.00 น.
อุทศิ แด่
ยอแซฟ มานิตย์ วีระวัฒนะ คุณเกี้ยง ฮว่างวัน ธีระ ฟรังซิ สเซเวียร์ วิจิตร กาญจนธานินทร์ วิษณุ คาทาลีอา วงศ์ประยูร เทวารุ ทธ, คุณเส่ ง วชิรจุติพงศ์ วิษณุ โรซา ราตรี ลี้ยาง, อันนา ยีส่ ุ่ น พานิช คุณสอ ชูสอน, คุณวิชยั สายแสง, คุณพัฒนา ทองธิ ว คุณใบ สิ งห์ชาลี, โยเซฟ ชาญ วีระโยธากุณ ชวนี Mr. Lui Boon Phon, Mr. Don P. Shadle ชวนี บรรพบุรุษครอบครัวจุลละมณฑลและครอบครัวลี้ยาง วิญญาณในไฟชําระ และวิญญาณที่ไม่มีผใู้ ดนึกถึง ประชิด, ประจิตร
ปี นี้ ฉลองครบรอบ 12 ปี ของวัดเราตรงกับวันอาทิตย์ที่ 14 กรกฎาคม โดยพระ อัครสังฆราช ฟรังซิสเซเวียร์ เกรี ยงศักดิ์ โกวิทวาณิ ช จะเป็ นประธานพิธี ขอเชิญผูม้ ีจิตศรัทธาทุกท่านมีส่วนร่ วมในงานฉลองวัดปี นี้ ด้วยการ ร่ วมบริ จาคปั จจัย อาหาร ดอกไม้สาํ หรับถวายแม่พระ ฯลฯ ร่ วมเป็ นอาสาสมัครฝ่ ายต่าง ๆ ในการจัดเตรี ยมงาน โปรดแจ้งความจํานงได้ที่แผนกรับบริ จาคเพื่องานฉลองวัด ณ ศาลาปี ติการุ ณย์ และขอขอบคุณพี่นอ้ งล่วงหน้ามา ณ ที่น้ ี
ฉบับที่ 479 วันอาทิตย์ที่ 16 มิถนุ ายน ค.ศ. 2013
สั ปดาห์ ที่ 11 เทศกาลธรรมดา (ปี C)
ความเชื่อของเจ้ าช่ วยเจ้ าให้ รอดพ้ นแล้ ว จงไปเป็ นสุ ขเถิด ลก 7:50
12