สารวัดแม่พระกุหลาบทิพย์ ประจำวันอาทิตย์ที่ 9 มีนาคม 2014

Page 1

ฉบับที่ 517 วันอาทิตย์ที่ 9 มีนาคม ค.ศ. 2014

ฉบับที่ 517 วันอาทิตย์ที่ 9 มีนาคม ค.ศ. 2014

สั ปดาห์ ที่ 1 เทศกาลมหาพรต (ปี A)

สั ปดาห์ ที่ 1 เทศกาลมหาพรต (ปี A)

จงกราบนมัสการองค์พระผูเ้ ป็ นเจ้าพระเจ้าของท่าน และรับใช้พระองค์แต่ผูเ้ ดียวเท่านั้น

จงกราบนมัสการองค์พระผูเ้ ป็ นเจ้าพระเจ้าของท่าน และรับใช้พระองค์แต่ผูเ้ ดียวเท่านั้น

มธ 4:10

มธ 4:10


สั ปดาห์ ที่ 1 เทศกาลมหาพรต (ปี A)

มธ 4:1-11

มีขอ้ สังเกตเกีย่ วกับการทดลองของพระเยซูเจ้าดังนี้ 1. คํ า กรี ก peirazein (เปยราเซน) มี ค วามหมายว่ า “ทดลอง” หรื อ “ทดสอบ” มากกว่าจะแปลว่า “ผจญ, ประจญ, หรือ ล่อลวง” ซึ่งส่อไปในทางชักชวนผูอ้ ่นื ให้ ทําผิด หากเราแปลคํา peirazein ในหนังสือปฐมกาลบทที่ 22 ข้อ 1 เป็ น “ผจญ” ก็จะได้ ความว่าพระเจ้าทรงผจญอับราฮัมให้ถวายอิสอัคบุตรชายเป็ นเครื่องเผาบูชา ซึ่งเป็ นไป ไม่ได้ทพ่ี ระเจ้าจะชักชวนอับราฮัมให้ทาํ ผิด เมื่อเป็ นเช่นนี้ เราจึงควรเปลีย่ นความคิดจากสิง่ ทีเ่ คยเรียกว่า “การผจญ” แล้วมักลงเอยด้วยความพ่ายแพ้และบาปเสียใหม่ ! หากจะส่งนัก บิน สู่อวกาศ เราจะไม่ทดสอบแล้วทดสอบอีกจนแน่ ใจว่า นักบินผูน้ ัน้ มีความสามารถเหมาะสมกับภารกิจอันยิง่ ใหญ่น้ีดอกหรือ เช่นเดียวกัน พระ เจ้าประทานการ “ทดสอบ” แก่ผทู้ พ่ี ระองค์ทรงเลือกสรร ไม่ใช่เพื่อให้ตกในบาป แต่เพื่อให้ ชนะ บริสทุ ธิ ์ เข้มแข็ง และเหมาะสมกับภารกิจทีจ่ ะทรงมอบหมายให้มากขึน้ การทดสอบหรือการทดลองจึงไม่ใช่สงิ่ น่ ากลัวหรือน่ าอับอายที่จะต้อง ปกปิดกันอีกต่อไป แต่เป็ นสิง่ ทีเ่ ราแต่ละคนจะต้องสอบให้ผา่ นและเอาชนะให้จงได้ 2. ถิน่ ทุรกันดารในเหตุการณ์ครัง้ นี้ ตัง้ อยู่ระหว่างกรุงเยรูซาเล็มซึ่งอยู่บนที่ ราบสูงตอนกลางของประเทศกับทะเลตายซึ่งอยู่ทางตะวันออกตํ่ากว่าระดับนํ้ าทะเล มีเนื้อ ทีป่ ระมาณ 1,300 ตารางกิโลเมตร ไม่มผี คู้ นอาศัยอยูใ่ นดินแดนแห่งนี้ 2

วัน เดือน ปี อา 9 มี.ค. 10.00 น.

รายการมิสซา ผู้ขอมิสซา สุ ขสํ าราญ โมทนาคุณพระเจ้า พระแม่มารี ย ์ และ น.คริ สโตเฟอร์ มาลี/จิตตินี สัตบุรุษวัดแม่พระกุหลาบทิพย์ทุกท่าน เซซี ลีอา เพ็กล้วน แซ่เอี้ยว และครอบครัว ครอบครัวสัณหพล เหลืองอร่ าม วิไลวรรณ ฟรังซิ สเซเวียร์ อนุสรณ์ เรี ยบร้อย รสสุ คนธ์ ยวง บัปติสต์ ภูมินทร์ โรจนประดิษฐ์ สุ นทรี ดอมินิก ภูวนัย หงษ์แก้ว และครอบครัว เปาโล ตุย้ นักพรรษา และครอบครัว คุณเลี่ยมเกียว แซ่อ้ ึง, คุณสมเกียรติ, คุณวรรณา สระบัว ครอบครัวธนากรกานต์, ครอบครัวพันธุมจินดา วินิจ/ครอบครัวจิตตินี ฉายาชวลิต อุทศิ แด่ ยอแซฟ ทรง, มารี อา เจิม ศรี สดใส เปโตร บ้วนฮง เตียวเจริ ญ และบรรพบุรุษ ยอแซฟ เรื องฤทธิ์ พนมอุปถัมภ์ เยาวธิดา อันนา ทองสุ ข, ดอมินิโก บัวลา สร้อยสูงเนิน พรรณพัฒน์ ลูโดวีโก ช่วย, มารี อา ฮวย นงค์สวัสดิ์ ทัศนีย ์ เปาโล ผุย นักพรรษา, ยอแซฟ ประเสริ ฐ กุศลส่ ง มารี อา มักดาเลนา วิระวัลย์ ดวงรัตน์ มารี อา ต้ายไถ่ แซ่โฮ, เปาโล จางจือกวง พิศิษฎิ์ คุณสมร ชัยชนะ และญาติที่ล่วงลับ เปโตร สาธิต สถาพรนิรันดร์ , คุณอิม แซ่ต้ งั รสสุ คนธ์/หมุ่ยอี่ มารี อา กนกวรรณ เรี ยบร้อย ยอแซฟ ภิรมย์, โยเซฟ , ยวง พิสิษฐ์ พันธุมจินดา คุณวิรัช, มารี อา เทเรซา นงลักษณ์, เซบัสติโน การุ ณย์ เปโตร ดํา, อัญเจลา ทิพวรรณ จันสวัสดิ์ สาลินี มารี อา โสภาวรรณ, เปโตร กุลพัทย์ จันสวัสดิ์ สาลินี ยอแซฟ สมศักดิ์ อํานสยวิบูลย์ 11


มิสซาสั ปดาห์ ที่ 1 เทศกาลมหาพรต (ปี A) วันอาทิตย์ ที่ 9 มีนาคม ค.ศ. 2014 วัน เดือน ปี ส. 8 มี.ค. 18.00 น.

รายการมิสซา ผู้ขอมิสซา สุ ขสํ าราญ โมทนาคุณพระเจ้า พระแม่มารี ย ์ และนักบุญอันตน มารี อา กอแรตตี พีรดา แพทย์กลุ และครอบครัว มาลินี อุทศิ แด่ อันตน สําเริ ง โกญจนาท เริ งจิต สตีเฟน จํารู ญ, มารี อา ละมุด เจริ ญพานิช ผูล้ ่วงลับครอบครัวเจริ ญพานิช วิญญาณในไฟชําระและวิญญาณที่ไม่มีผใู ้ ดนึกถึง ธนกร อา. 9 มี.ค. สุ ขสํ าราญ โมทนาคุณพระเจ้า และพระแม่มารี ย ์ ลูซีอา 08.00 น. มารี อา เอื้อพันธ์ ศรี เจริ ญ, ครอบครัวศรี เจริ ญ คค.ศรี เจริ ญ มารี อา ธันยพร ศศิสุวรรณ, ยอแซฟ สุ ชารี ย ์ แสงหาญ ลูซีอา นริ สา และครอบครัวใจทอง มารี อา ภาณุมาศ, เทเรซา ชนินทร์ มาศ, คุณวริ นทร์ มารี อา กรรณิ กา, มารี อา ปนัดดา ลี้ยาง พลเอก พิจิตร, คุณหญิง วิมล กุลละวณิ ชย์ คุณนพ ชูสอน, คุณประมวล นามตะ ครอบครัวคุณวราพร เจนใจ, ครอบครัวแสงหาญ อุทศิ แด่ โรซา ราตรี , คุณด้วง ลี้ยาง, คุณสอ ชูสอน, คุณวิชยั อันนา ยีส่ ุ่ น พานิช, คุณพัฒนา ทองธิว โรซา สมจิตร อู๋สวัสดิ์, โดมินิโก สวัสดิ์ อู๋สวัสดิ์ วราพร ลูโดวีโก บุญช่วย, มารี อา กิมฮวย นงค์สวัสดิ์ สุ วารี ยอแซฟ ทิวากร รักคิด และบรรพบุรุษ, อันนา นากู่ วิภาวินี/ผูล้ ่วงลับครอบครัวจุลละมณฑลและครอบครัวลี้ยาง ยวง บัปติสตา ก๊กเคี้ยง แซ่แพ้, มารี อา กิมฮวย แซ่ ต้ งั คค.ธนาพานิชย์ บรรพบุรุษครอบครัวธนาพานิชย์ คค.ธนาพานิชย์ วิญญาณในไฟชําระ และวิญญาณที่ไม่มีผใู ้ ดนึกถึง -

10

พระองค์เสด็จ ไปในดิน แดนที่ไ ร้ผู้ค นเพราะทรงประสงค์จ ะ “อยู่ ต าม ลําพัง” เพื่อพิจารณาหาวิธกี ารในอันทีจ่ ะทําให้ภารกิจทีพ่ ระบิดาทรงมอบหมายสําเร็จลุล่วง ไป น่ าเสียดายที่หลายครัง้ เราดําเนินชีวติ หรือประกอบธุรกิจผิดพลาดเพียง เพราะเราไม่ “อยูต่ ามลําพัง” ในชีวติ นี้ มีบางสิง่ ทีเ่ ราต้องทําเองตามลําพัง และมีบางครัง้ ทีค่ ําแนะนํ าไม่ ว่าของใครก็ชว่ ยเราไม่ได้ เราต้องรูจ้ กั “หยุดทํา” และ “เริม่ คิด” ด้วยตัวเองตามลําพังบ้าง อย่าให้เราผิดพลาดเพียงเพราะไม่มโี อกาสอยูต่ ามลําพังกับพระเจ้า ! 3. พระวรสารสามฉบับเน้นเหมือนกันว่าพระเยซูเจ้าทรงถูกทดลองทันทีหลัง รับ พิธีล้างจากยอห์น โดยเฉพาะมาระโกระบุ ชดั เจนว่า “ทัน ใดนัน้ พระจิต เจ้าทรงดลให้ พระองค์เสด็จเข้าไปในถิน่ ทุรกันดาร” (มก 1:12) เป็ นความจริงว่าเมื่อเราขึ้นสู่จุดสูงสุดหรือผ่านเหตุ การณ์ สําคัญ ที่สุดใน ชีวติ แล้ว จะเกิดปฏิกริ ยิ าตอบโต้ในทางทีเ่ ป็ นภัยมากกว่าเป็ นคุณ เหมือนดอกไม้ไฟทีข่ น้ึ สู่ จุดสูงสุดและสว่างไสวทีส่ ดุ แล้วก็จะมอดดับและร่วงตกลงมาสูพ่ น้ื ดิน พระเยซูเจ้าก็เช่นกัน พระองค์พ่งึ จะได้รบั เกียรติสูงสุด โดยพระจิตเจ้าผู้ เสด็จมาในรูปของนกพิราบทรงรับรองว่าพระองค์เป็ น “บุตรสุดทีร่ กั ” ของพระบิดา และ ทันทีเป็ นพระจิตเจ้าอีกเช่นกันทีท่ รงนําพระองค์สกู่ ารทดลองในถิน่ ทุรกันดาร เราจึง ต้อ งระมัด ระวัง มากเป็ น พิเศษเมือ่ ประสบความสํา เร็จ หรือ ขึ้น สู่ จุดสูงสุดในชีวติ ! 4. การทดลองของพระเยซู เจ้าเป็ น การดิ้น รนต่ อสู้ภ ายในจิตวิญ ญาณของ พระองค์เอง ไม่ ใช่ ส ิ่ง ที่เกิด ขึ้น ภายนอก เหตุ ผ ลคือ ไม่ ม ี “ยอดเขาสูงมาก” จนสามารถ “ทอดพระเนตรอาณาจักรรุง่ เรืองต่าง ๆ ของโลก” ได้ทงั ้ หมด (มธ 4:8) แสดงว่า “ปี ศาจโจมตี จากภายในจิ ตใจของเรา” มันสามารถเจาะแนว ป้องกันของเราเข้ามาได้ และทีร่ า้ ยกาจสุด ๆ ก็คอื มันมี “ความคิ ดและความปรารถนา ของเราเอง” เป็ นพันธมิตรและเป็ นอาวุธของมัน อาจกล่าวได้ว่า สมุนเอกของปี ศาจก็คอื ความคิดและความปรารถนาของ ตัวเรานันเอง ่ !

3


5. อย่าคิดว่าพระเยซูเจ้าทรงถูกทดลองเพียงครัง้ เดียวในชีวติ ทีเ่ มืองซีซารี ยาแห่งฟิลปิ เป็ นเปโตรศิษย์รกั นัน่ เองทีล่ ่อลวงพระองค์ให้เลือกหนทางอื่นทีง่ า่ ยกว่าหนทาง ของไม้กางเขน จนพระองค์ตอ้ งดุวา่ “เจ้าซาตาน ถอยไปข้างหลัง” (มธ 16:21-23) เมื่อใกล้วาระสุดท้าย พระองค์ทรงกล่าวกับบรรดาศิษย์ว่า “ท่านทัง้ หลาย เป็ นผูท้ ยี ่ นื หยัดอยูก่ บั เราในการทดลองทีเ่ ราได้รบั ” (ลก 22:28) และที่หนักสุดคือในสวนเกทเสมนี เมื่อพระองค์ทรงภาวนาว่า “พระบิดา เจ้าข้า ถ้าพระองค์มพี ระประสงค์ โปรดทรงนําถ้วยนี้ไปจากข้าพเจ้าเถิด” (ลก 22:42) เมือ่ เป็ นเช่นนี้เราจึงต้อง “เฝ้ าระวังตลอดชีวิต” ไม่ใช่หลงผิดตัง้ หน้าตัง้ ตาบําเพ็ญตบะหรือทําการใด ๆ เพื่อให้บรรลุขนั ้ ทีเ่ รียกว่า “ปลอดการทดลอง” เพราะพระ เยซูเจ้าเองก็ไม่เคยและไม่พยายามด้วยทีจ่ ะบรรลุถงึ ขัน้ นี้ 6. ปี ศาจรูว้ ่าพระเยซูเจ้าทรงมีฤทธิ์อํานาจพิเศษ และทีส่ าํ คัญพระองค์กท็ รง ทราบด้วยเช่น กัน การทดลองที่เกิด ขึ้น จึงเกี่ยวข้องกับ ฤทธิ์อํานาจหรือ พรสวรรค์ข อง พระองค์เอง แม้เราไม่ ม ีฤ ทธิ์อํ านาจพอที่จ ะทํ า ให้ถู ก ทดลองกระโดดจากที่สูง หรือ เปลีย่ นก้อนหินให้เป็ นขนมปงั เหมือนพระองค์ แต่เราต้องระมัดระวังการใช้พรสวรรค์หรือ ความสามารถพิเศษทีเ่ รามี จงอย่าใช้ในทางทีผ่ ดิ เช่นใช้ความสวยงามหลอกลวงผูอ้ ่นื หรือ ใช้วาทศิลป์เปลีย่ นขาวให้เป็ นดําหรือดําให้เป็ นขาว เป็ นต้น 7. เนื่องจากพระเยซูเจ้าทรงอยู่ตามลําพังในถิน่ ทุรกันดาร ผูท้ ่เี ล่าเรื่องนี้จงึ เป็ นใครอื่นไปไม่ได้นอกจากพระองค์เอง เหตุการณ์ เหล่านี้ จงึ เป็ นเรื่องศักดิ์สิทธิ์เพราะ เกีย่ วข้องกับชีวติ ภายในทีพ่ ระองค์เองทรงเปิดเผยให้เราทราบ และเพราะทรงถูกทดลองมาก่อน พระองค์จงึ ทรงรู้ เข้าใจ และสามารถ ช่วยเราให้ชนะการทดลองต่าง ๆ ได้ ขอยํ้าว่ามี “พระองค์แต่เพียงผูเ้ ดียว” ทีส่ ามารถช่วยเหลือเราได้ !!! ความหมายของการทดลองแต่ละเรือ่ ง เป็ นดังนี้ 1. “จงสังก้ ่ อนหิ นเหล่านี้ ให้กลายเป็ นขนมปังเถิ ด” (มธ 4:3) เนื่องจากถิน่ ทุรกันดารอยู่ใกล้ทะเลตายซึ่งเค็มจัด จึงมีหนิ ปูนก้อนเล็ก ๆ สีขาวคล้ายขนมปงั เกลือ่ นอยูบ่ นผืนทราย แลดูยวยวนน่ ั่ ากิน

โดย ภาวัน

เวลาเรารูส้ ึกไม่ชอบอะไรสักอย่าง ปั ญหาจริงๆ อาจไม่ได้อยู่ที่สิ่งนัน้ แต่เป็ น ความรูส้ ึกไม่ชอบของเราต่างหาก พูดอีกอย่างก็คือ สิ่งนั้นไม่ได้สร้างปั ญหาหรือก่อ ความทุกข์ให้เรามากเท่ากับความรูส้ ึกไม่พอใจมัน หนุ่ม สาวส่ ว นใหญ่ ไ ม่ ช อบสิ ว บนใบหน้า ของตน ที่ จ ริ ง สิ ว ไม่ ได้ทํ า ความ เดือดร้อนให้แก่เขามากมายอะไร แค่ทาํ ให้หน้าตาไม่หมดจดเท่านัน้ แต่หลายคนถึงกับ เครียดจนกินไม่ได้นอนไม่หลับ ในสหรัฐอเมริกา พบว่าร้อยละ 10 ของคนเป็ นสิวบอก ว่า การเป็ นสิวเป็ นสิ่งเลวร้ายที่สดุ ในชีวิต วัยรุ่นเป็ นอันมากมีผลการเรียนตกตํา่ เพราะ ทําใจไม่ได้ บางคนถึงกับฆ่าตัวตาย สิวนัน้ ไม่ทาํ ให้ใครตายได้หรอก แต่ความรังเกียจ ชิงชังสิวต่างหาก ที่สามารถผลักดันให้ผคู้ นปลิดชีวิตตัวเองได้ เวลาประสบปั ญหา บ่อยครั้งวิธีแก้ปัญหาที่ผคู้ นเลือกใช้นนั้ กลับเลวร้ายยํา่ แย่ กว่าตัวปั ญหาเสียอีก ทําไมถึงเป็ นเช่นนัน้ คําตอบก็คือ ความรูส้ ึกชิงชังรังเกียจที่มีต่อ ปั ญ หานั้นๆ เมื่อเกลียดมากๆ ก็ ลืมตัว จนพร้อมจะทําอะไรก็ ได้เพื่อทําให้ปัญ หานั้น หมดไป โดยไม่สนใจว่าจะเกิดผลร้ายตามมา ซึ่งหนักหนาสาหัสกว่าปั ญ หานั้นเสียอีก บางคนเกลียดหนูในบ้านมาก ไล่อย่างไร มันก็ไม่ยอมไป แถมทําลายข้าวของหนักขึ้น ทําให้เขารังเกียจชิงชังมันยิ่งกว่าเดิม สุดท้ายก็ถึงกับใช้ไฟสุมเผารังของมัน แต่ปรากฏ ว่าไฟลุกลามจนไหม้บา้ นเขาทั้งหลัง แม้หนูจะเป็ นตัวสร้างปั ญหา แต่มนั ไม่สามารถ ทําลายบ้านของเขาได้เลย การใช้ไฟไล่หนูต่างหากที่ทาํ ให้เขาสูญเสียบ้านทั้งหลัง และ ทัง้ หมดเกิดขึน้ ได้ก็เพราะ ความรังเกียจชิงชังหนูนนั ่ เอง ความรังเกียจชิงชังมักทําให้เราเผลอทําสิ่งที่เกินเลย (over-react) จนได้ไม่คมุ้ เสีย ดังนั้นก่อนที่จะจัดการกับปั ญ หาใดๆ ควรหันมาสํารวจตนเองเสียก่อนว่า เรามี ความรังเกียจชิงชังมากไปหรือเปล่า มองให้ดีอาจพบว่า สิ่งที่เกิดขึน้ กับเราไม่ได้สร้าง ความทุก ข์ให้แ ก่ เรามากเท่ า กั บ ความรู้สึ ก ลบต่ อ สิ่ ง นั้ น บ่ อ ยครั้ ง เพี ย งแค่ เราลด ความรูส้ ึกดังกล่าวลง สิ่งนัน้ ก็ไม่กลายเป็ นปั ญหาอีกต่อไป

ปั ญหาจึงอาจไม่ได้อยู่ที่คนอื่นหรือสิ่งอื่น แต่อยู่ที่ความรูส้ ึกในใจของเราต่างหาก 4

9


นับจากนี้ไป เราต้องดําเนินชีวติ ให้ขาวบริสุทธิเ์ จิดจ้า แล้วลบสีดาํ ในชีวติ ออกไปให้หมดจด ในถิน่ ทุรกันดาร พระเยซูเจ้าทรงตัดสินพระทัยเด็ดขาดว่าจะไม่ตดิ สินบนมนุ ษย์ จะไม่ใช้วธิ กี ารตื่นเต้นโลดโผน และจะไม่ประนีประนอมคําสอนของพระองค์กบั โลกเพือ่ ชัก จูงโลกให้หนั มาติดตามพระองค์

สํา หรับ พระองค์ หนทางเดี ย วที จ่ ะนํ า เรากลับ ไปหาพระบิ ด าได้ คื อ หนทางของ “กางเขน” !! หนทางอื่น ไม่ต้องพูดถึง...

ขอเชิญพี่นอ้ งร่วมฟ้ ื นฟูจิตใจ หัวข้อ

“จิตภาวนา” และ “ความรักไม่มีส้ นิ ส ุด” เทศน์โดย

ค ุณพ่อ ประเสริฐ โลหะวิรยิ ะศิริ วันเสาร์ที่ 12 เมษายน ศกนี้ เวลา 8.30-19.00 น. ผูส้ นใจโปรดลงชื่อที่สาํ นักงานวัด 8

เมื่อปี ศาจขอให้พระเยซูเจ้าเปลีย่ นก้อนหินเป็ นขนมปงั มันกําลังทดลองพระองค์ 2 เด้งเลยทีเดียว เด้งแรก มันหลอกให้พระองค์ใช้ฤทธิ์อํานาจอย่างเห็นแก่ตวั มนุ ษย์อย่าง เราต้องทํางานหนักกว่าจะได้ขนมปงั สักก้อน แต่พระองค์เสกนิดเดียวก็ได้ขนมปงั เยอะแยะ อย่างนี้เอาเปรียบคนอื่นชัด ๆ เด้งทีส่ อง นอกจากหลอกให้พระองค์ใช้ฤทธิ์อํานาจอย่างเห็นแก่ตวั แล้ว ยัง เป็ นไปเพื่อผลประโยชน์ ส่วนตัวอีกด้วย นัน่ คือไม่ใช่เพื่อดับความหิวของผูอ้ ่นื แต่เพื่อดับ ความหิวของพระองค์เองหลังจากจําศีลอดอาหารมาเป็ นเวลานาน แต่พระองค์ไม่ทรงหลงกลของปีศาจ หลายครัง้ เราเดินสวนทางกับพระองค์ เราใช้พรสวรรค์หรือความสามารถ พิเศษทีพ่ ระเจ้าประทานแก่เราอย่างเห็นแก่ตวั เช่นคนทีม่ นี ้ํ าเสียงดีกต็ งั ้ หน้าตัง้ ตาใช้เสียง ร้องเพลงหาเงินเข้ากระเป๋าอย่างเดียว โดยไม่คดิ จะใช้เสียงนัน้ นําคนอื่นมาหาพระเจ้าหรือให้ ความบรรเทาใจแก่ผดู้ อ้ ยโอกาส เป็ นต้น นอกจากจะไม่ใช้ฤทธิ์อํานาจอย่างเห็นแก่ตวั แล้ว พระเยซูเจ้าในฐานะพระ เมสสิยาห์ยงั ทรงคํานึงถึง “วิธกี าร” ทีจ่ ะนํามนุ ษย์กลับมาหาพระบิดาเจ้าอีกด้วย การชักชวนฝูงชนให้ตดิ ตามพระองค์โดยการแจกขนมปงั หรือวัตถุสงิ่ ของ ย่อมได้ผลอย่างแน่นอน ในอดีตพระเจ้าก็ทรงประทานมานนาเป็ นอาหารเลีย้ งชาวอิสราเอล ในถิน่ ทุรกันดาร ยิง่ ไปกว่านัน้ ประกาศกอิสยาห์ยงั ทํานายว่าพวกเขาจะไม่หวิ และกระหาย อีก (อสย 49:10) ถ้าพระองค์จะใช้วธิ กี ารเดียวกันบ้าง ย่อมมีเหตุผลรองรับเกินพอ แต่พระองค์ “ไม่เลือก” วิธกี าร “ประชานิยม” ทีป่ ี ศาจเสนอมาด้วยเหตุผล สําคัญ 2 ประการคือ 1.1 เป็ นการติดสินบนมนุ ษย์ให้ตดิ ตามพระองค์ ซึง่ ขัดกับวิถที างของ พระองค์ทท่ี รงสอนมนุ ษย์ให้ดาํ เนินชีวติ ด้วยการ “ให้” ไม่ใช่ดว้ ยการ “รับ” 1.2 เป็ นการแก้ปญั หาทีป่ ลายเหตุ การแจกขนมปงั แก่ผหู้ วิ โหยเป็ น การแก้ปญั หาทีป่ ลายเหตุเท่านัน้ แต่พระองค์ตอ้ งการจะแก้ปญั หาที่ “ต้นเหตุ” “ทําไมพวกเขาจึงหิว ?” อาจเป็ นเพราะพวกเขาไม่รูจ้ กั ทํามาหา กิน ไม่ใส่ใจ หรือไม่ยอมปรับปรุงเปลีย่ นแปลงสถานทีห่ รือวิธที าํ มาหากิน ฯลฯ ก็จริง แต่เรา ไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่า “ความเห็นแก่ตวั ” ของคนที่ครอบครองทรัพยากรและสมบัตมิ าก เกินไปโดยไม่ชว่ ยเหลือผูอ้ ่นื ทีม่ นี ้อยเกินไป ก็เป็ นสาเหตุทส่ี าํ คัญด้วย 5


ต้นตอของปญั หาจึงอยู่ทจี ่ ติ วิญ ญาณของมนุ ษย์ ถ้าจิตใจของ มนุ ษย์ดี มีความรัก รูจ้ กั แบ่งปนั กัน ความหิวโหยอดอยากย่อมหมดไป ด้วยเหตุน้ีพระองค์ จึงตอบปี ศาจว่า “มนุ ษย์มไิ ด้ดํารงชีวติ ด้วยอาหารเท่านัน้ แต่ดํารงชีวติ ด้วยพระวาจาทุกคํา ทีอ่ อกจากพระโอษฐ์ของพระเจ้า” (มธ 4:4; ฉธบ 8:3) สําหรับพระองค์แล้ว ลําพังวัตถุสงิ ่ ของไม่อาจทําให้มนุ ษย์มชี วี ติ อย่างแท้จริงได้เลย ! จริงอยู่พระศาสนจักรจําเป็ นต้องส่งเสริมและผลักดันทุกวิถที าง เพื่อให้มนุ ษย์มสี ภาพความเป็ นอยู่ท่ดี ขี ้นึ แต่สงิ่ สําคัญเหนืออื่นใดก็คอื การพัฒนา “ชีวติ วิญญาณ” ของมนุ ษย์ เหตุวา่ เมื่อเขามี “ชีวติ ใหม่” แล้ว สภาพความเป็ นอยู่ใหม่ทด่ี ขี น้ึ ก็จะ ติดตามมาด้วย 2. “จงกระโดดลงไปเบื้องล่างเถิ ด” (มธ 4:6) หากรู้ว่าผู้ใดมีอิท ธิฤ ทธิ์ ไล่ผ ีได้ ใบ้ห วยแม่น หรือ ที่ไหนมีข องแปลก ประหลาดซึ่งอันที่จริงควรเรียกว่าผิดปกติมากกว่า เช่น หมูสองหัว ต้นไม้ประหลาด ฯลฯ แน่นอนว่าผูค้ นต้องหลังไหลไปดู ่ และสักการะเนืองแน่นไปหมด ทุกครัง้ ทีเ่ กิดอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริยไ์ ม่ว่าจะแนวบู๊หรือแนวบุ๋นก็ตาม เรามัก รูส้ กึ ตื่นเต้น เกรงขาม ศรัทธา และส่วนใหญ่มกั เชือ่ หัวชนฝา ถ้าพระองค์แสดงอภินิหารด้วยการกระโดดจากยอดพระวิหารลงมาโดย ไม่ เป็ น อัน ตราย รับ รองว่ า ประชาชนต้ อ งตื่น เต้ น ศรัท ธา เชื่อ และพร้อ มจะติด ตาม “ผูว้ เิ ศษ” อย่างพระองค์แน่นอน การอวดอ้ า งอภิ นิ ห ารเป็ น วิธีก ารที่ พ ระคริส ต์ เที ย มนิ ย มใช้ ก ัน มาก อย่างเช่น เธวดัสได้โอ้อวดกับประชาชนว่าแค่เอ่ยปากคําเดียว เขาก็สามารถแยกนํ้ าใน ั ่ หรือชาวอียปิ ต์ทก่ี ่อการกบฏ (กจ 21:38) ก็อา้ งว่าพวก แม่น้ํ าจอร์แดนออกเป็ นสองฝงได้ เขาสามารถสังให้ ่ กําแพงกรุงเยรูซาเล็มพังทลายลงได้เช่นกัน แต่ทน่ี ่ าเศร้าก็คอื กรณีของซี โมน มากุสทีค่ ุยว่าเหาะได้ แต่ดนั พลาดตกลงมาตายในทีส่ ดุ แม้ประชาชนจะชืน่ ชอบ แต่พระเยซูเจ้า “ไม่เลือก” วิธนี ้ีเด็ดขาดเพราะว่า 2.1 ไม่ ม ี อ นาคต หากพระองค์ ก ระโดดจากที่ สู ง ได้ 3-4 ครัง้ ประชาชนก็จะเริม่ ชินชาและ “หมดอารมณ์” ทีจ่ ะตื่นเต้นอีกแล้ว แล้วศาสนาเทีย่ งแท้จะอิงอยูก่ บั อารมณ์ความรูส้ กึ ชัวครั ่ ง้ ชัวคราว ่ ของมนุ ษย์ได้อย่างไรกัน ? 6

2.2 เป็ นการไม่วางใจพระเจ้า เพราะการกระโดดจากทีส่ งู เป็ นการจง ใจปล่อยตัวเองให้ตกอยู่ในอันตรายเพื่อ “ทดลอง” พระเจ้าว่าจะมีฤทธิ์อํานาจจริงหรือเปล่า จะรักและช่วยเหลือเราจริงหรือไม่ ? พระองค์จงึ ตรัสว่า “อย่าทดลององค์พ ระผู้เป็ นเจ้า พระเจ้าของ ท่านเลย” (มธ 4:7; ฉธบ 6:16) ผูท้ เ่ี รียกร้องต้องการเห็นอัศจรรย์ก่อนจึงจะยอมเชือ่ ย่อมไม่ใช่ผมู้ ี ความเชือ่ อย่างแท้จริง แต่เป็ นเพียงคนขีส้ งสัยทีต่ อ้ งการข้อพิสจู น์เท่านัน้ อย่าลืมว่าฤทธิ์อํานาจในการช่วยเหลือของพระเจ้ามิได้มไี ว้ให้เรา ทดลองหรือพิสจู น์ แต่มไี ว้เพือ่ ให้เรา “วางใจ” ในพระองค์ 3. “ถ้าท่านกราบนมัสการเรา” (มธ 4:9) เหนือที่สูงที่สามารถมองเห็นอาณาจักรต่าง ๆ ทัวโลก ่ ปี ศาจทูลพระเยซู เจ้าทํานองนี้วา่ “ประชาชนในอาณาจักรต่าง ๆ ทีเ่ ห็นล้วนตกอยูใ่ นกํามือของข้าพเจ้า เรามา ตกลงประนีประนอมกันดีกว่า ถ้าพระองค์ยอมลดมาตรฐานลงมาสักหน่ อย อย่าให้สงู มากนัก เมือ่ เห็ น ความผิด บกพร่ อ งก็ทํ า เป็ น เอาหู ไ ปนาเอาตาไปไร่ เสีย บ้ า ง ข้า พเจ้า ก็ จ ะมอบ ประชาชนเหล่านี้ให้ตดิ ตามพระองค์” เพลงสดุดกี ก็ ล่าวไว้มใิ ช่หรือว่า “จงขอจากเราเถิด และเราจะมอบบรรดา ประชาชาติให้เป็ นมรดกของท่าน จะให้ทา่ นมีกรรมสิทธิจ์ นสุดปลายแผ่นดิน” (สดด 2:8) หากพระองค์ ย อมก้ ม กราบปี ศ าจหรือ ประนี ป ระนอมกับ มัน นิ ด เดีย ว พระองค์ก็จะได้ “มนุ ษ ย์ทงั ้ โลก” มาเป็ นกรรมสิทธิ์โดยไม่ต้องออกแรงแบกไม้กางเขนให้ เหนื่อยยากแต่ประการใด !! แต่พ ระองค์ตรัสตอบปี ศาจว่า “จงกราบนมัสการองค์พระผู้เป็ นเจ้า พระ เจ้าของท่าน และรับใช้พระองค์แต่ผเู้ ดียวเท่านัน้ ” (มธ 4:10; ฉธบ 6:13) คําว่า “ผูเ้ ดียวเท่านัน้ ” แปลว่า “ไม่มผี ูอ้ นื ่ ” ซึ่งหมายความว่าพระเจ้าต้อง เป็ นพระเจ้าวันยังคํ่า ถูกก็คอื ถูก ผิดก็คอื ผิด จะเลีย่ งเป็ นอื่นไปไม่ได้เด็ดขาด หลักการของพระองค์คอื “ต้องไม่มกี ารประนีประนอมกับโลก” เราต้องไม่ ลดมาตรฐานด้านศีลธรรมของเราไปหาโลก แต่ตอ้ งพยายามยกระดับมาตรฐานของโลกมาสู่ มาตรฐานของพระองค์ ทุกวันนี้ เรามีแนวโน้มทีจ่ ะมองสิง่ ต่าง ๆ เป็ น “สีเทา” ไปหมด อะไร ๆ ก็หยวนหรือยอมรับได้ไปก่อนแล้วค่อยแก้ปญั หาทีหลัง 7


ต้นตอของปญั หาจึงอยู่ทจี ่ ติ วิญ ญาณของมนุ ษย์ ถ้าจิตใจของ มนุ ษย์ดี มีความรัก รูจ้ กั แบ่งปนั กัน ความหิวโหยอดอยากย่อมหมดไป ด้วยเหตุน้ีพระองค์ จึงตอบปี ศาจว่า “มนุ ษย์มไิ ด้ดํารงชีวติ ด้วยอาหารเท่านัน้ แต่ดํารงชีวติ ด้วยพระวาจาทุกคํา ทีอ่ อกจากพระโอษฐ์ของพระเจ้า” (มธ 4:4; ฉธบ 8:3) สําหรับพระองค์แล้ว ลําพังวัตถุสงิ ่ ของไม่อาจทําให้มนุ ษย์มชี วี ติ อย่างแท้จริงได้เลย ! จริงอยู่พระศาสนจักรจําเป็ นต้องส่งเสริมและผลักดันทุกวิถที าง เพื่อให้มนุ ษย์มสี ภาพความเป็ นอยู่ท่ดี ขี ้นึ แต่สงิ่ สําคัญเหนืออื่นใดก็คอื การพัฒนา “ชีวติ วิญญาณ” ของมนุ ษย์ เหตุวา่ เมื่อเขามี “ชีวติ ใหม่” แล้ว สภาพความเป็ นอยู่ใหม่ทด่ี ขี น้ึ ก็จะ ติดตามมาด้วย 2. “จงกระโดดลงไปเบื้องล่างเถิ ด” (มธ 4:6) หากรู้ว่าผู้ใดมีอิท ธิฤ ทธิ์ ไล่ผ ีได้ ใบ้ห วยแม่น หรือ ที่ไหนมีข องแปลก ประหลาดซึ่งอันที่จริงควรเรียกว่าผิดปกติมากกว่า เช่น หมูสองหัว ต้นไม้ประหลาด ฯลฯ แน่นอนว่าผูค้ นต้องหลังไหลไปดู ่ และสักการะเนืองแน่นไปหมด ทุกครัง้ ทีเ่ กิดอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริยไ์ ม่ว่าจะแนวบู๊หรือแนวบุ๋นก็ตาม เรามัก รูส้ กึ ตื่นเต้น เกรงขาม ศรัทธา และส่วนใหญ่มกั เชือ่ หัวชนฝา ถ้าพระองค์แสดงอภินิหารด้วยการกระโดดจากยอดพระวิหารลงมาโดย ไม่ เป็ น อัน ตราย รับ รองว่ า ประชาชนต้ อ งตื่น เต้ น ศรัท ธา เชื่อ และพร้อ มจะติด ตาม “ผูว้ เิ ศษ” อย่างพระองค์แน่นอน การอวดอ้ า งอภิ นิ ห ารเป็ น วิธีก ารที่ พ ระคริส ต์ เที ย มนิ ย มใช้ ก ัน มาก อย่างเช่น เธวดัสได้โอ้อวดกับประชาชนว่าแค่เอ่ยปากคําเดียว เขาก็สามารถแยกนํ้ าใน ั ่ หรือชาวอียปิ ต์ทก่ี ่อการกบฏ (กจ 21:38) ก็อา้ งว่าพวก แม่น้ํ าจอร์แดนออกเป็ นสองฝงได้ เขาสามารถสังให้ ่ กําแพงกรุงเยรูซาเล็มพังทลายลงได้เช่นกัน แต่ทน่ี ่ าเศร้าก็คอื กรณีของซี โมน มากุสทีค่ ุยว่าเหาะได้ แต่ดนั พลาดตกลงมาตายในทีส่ ดุ แม้ประชาชนจะชืน่ ชอบ แต่พระเยซูเจ้า “ไม่เลือก” วิธนี ้ีเด็ดขาดเพราะว่า 2.1 ไม่ ม ี อ นาคต หากพระองค์ ก ระโดดจากที่ สู ง ได้ 3-4 ครัง้ ประชาชนก็จะเริม่ ชินชาและ “หมดอารมณ์” ทีจ่ ะตื่นเต้นอีกแล้ว แล้วศาสนาเทีย่ งแท้จะอิงอยูก่ บั อารมณ์ความรูส้ กึ ชัวครั ่ ง้ ชัวคราว ่ ของมนุ ษย์ได้อย่างไรกัน ? 6

2.2 เป็ นการไม่วางใจพระเจ้า เพราะการกระโดดจากทีส่ งู เป็ นการจง ใจปล่อยตัวเองให้ตกอยู่ในอันตรายเพื่อ “ทดลอง” พระเจ้าว่าจะมีฤทธิ์อํานาจจริงหรือเปล่า จะรักและช่วยเหลือเราจริงหรือไม่ ? พระองค์จงึ ตรัสว่า “อย่าทดลององค์พ ระผู้เป็ นเจ้า พระเจ้าของ ท่านเลย” (มธ 4:7; ฉธบ 6:16) ผูท้ เ่ี รียกร้องต้องการเห็นอัศจรรย์ก่อนจึงจะยอมเชือ่ ย่อมไม่ใช่ผมู้ ี ความเชือ่ อย่างแท้จริง แต่เป็ นเพียงคนขีส้ งสัยทีต่ อ้ งการข้อพิสจู น์เท่านัน้ อย่าลืมว่าฤทธิ์อํานาจในการช่วยเหลือของพระเจ้ามิได้มไี ว้ให้เรา ทดลองหรือพิสจู น์ แต่มไี ว้เพือ่ ให้เรา “วางใจ” ในพระองค์ 3. “ถ้าท่านกราบนมัสการเรา” (มธ 4:9) เหนือที่สูงที่สามารถมองเห็นอาณาจักรต่าง ๆ ทัวโลก ่ ปี ศาจทูลพระเยซู เจ้าทํานองนี้วา่ “ประชาชนในอาณาจักรต่าง ๆ ทีเ่ ห็นล้วนตกอยูใ่ นกํามือของข้าพเจ้า เรามา ตกลงประนีประนอมกันดีกว่า ถ้าพระองค์ยอมลดมาตรฐานลงมาสักหน่ อย อย่าให้สงู มากนัก เมือ่ เห็ น ความผิด บกพร่ อ งก็ทํ า เป็ น เอาหู ไ ปนาเอาตาไปไร่ เสีย บ้ า ง ข้า พเจ้า ก็ จ ะมอบ ประชาชนเหล่านี้ให้ตดิ ตามพระองค์” เพลงสดุดกี ก็ ล่าวไว้มใิ ช่หรือว่า “จงขอจากเราเถิด และเราจะมอบบรรดา ประชาชาติให้เป็ นมรดกของท่าน จะให้ทา่ นมีกรรมสิทธิจ์ นสุดปลายแผ่นดิน” (สดด 2:8) หากพระองค์ ย อมก้ ม กราบปี ศ าจหรือ ประนี ป ระนอมกับ มัน นิ ด เดีย ว พระองค์ก็จะได้ “มนุ ษ ย์ทงั ้ โลก” มาเป็ นกรรมสิทธิ์โดยไม่ต้องออกแรงแบกไม้กางเขนให้ เหนื่อยยากแต่ประการใด !! แต่พ ระองค์ตรัสตอบปี ศาจว่า “จงกราบนมัสการองค์พระผู้เป็ นเจ้า พระ เจ้าของท่าน และรับใช้พระองค์แต่ผเู้ ดียวเท่านัน้ ” (มธ 4:10; ฉธบ 6:13) คําว่า “ผูเ้ ดียวเท่านัน้ ” แปลว่า “ไม่มผี ูอ้ นื ่ ” ซึ่งหมายความว่าพระเจ้าต้อง เป็ นพระเจ้าวันยังคํ่า ถูกก็คอื ถูก ผิดก็คอื ผิด จะเลีย่ งเป็ นอื่นไปไม่ได้เด็ดขาด หลักการของพระองค์คอื “ต้องไม่มกี ารประนีประนอมกับโลก” เราต้องไม่ ลดมาตรฐานด้านศีลธรรมของเราไปหาโลก แต่ตอ้ งพยายามยกระดับมาตรฐานของโลกมาสู่ มาตรฐานของพระองค์ ทุกวันนี้ เรามีแนวโน้มทีจ่ ะมองสิง่ ต่าง ๆ เป็ น “สีเทา” ไปหมด อะไร ๆ ก็หยวนหรือยอมรับได้ไปก่อนแล้วค่อยแก้ปญั หาทีหลัง 7


นับจากนี้ไป เราต้องดําเนินชีวติ ให้ขาวบริสุทธิเ์ จิดจ้า แล้วลบสีดาํ ในชีวติ ออกไปให้หมดจด ในถิน่ ทุรกันดาร พระเยซูเจ้าทรงตัดสินพระทัยเด็ดขาดว่าจะไม่ตดิ สินบนมนุ ษย์ จะไม่ใช้วธิ กี ารตื่นเต้นโลดโผน และจะไม่ประนีประนอมคําสอนของพระองค์กบั โลกเพือ่ ชัก จูงโลกให้หนั มาติดตามพระองค์

สํา หรับ พระองค์ หนทางเดี ย วที จ่ ะนํ า เรากลับ ไปหาพระบิ ด าได้ คื อ หนทางของ “กางเขน” !! หนทางอื่น ไม่ต้องพูดถึง...

ขอเชิญพี่นอ้ งร่วมฟ้ ื นฟูจิตใจ หัวข้อ

“จิตภาวนา” และ “ความรักไม่มีส้ นิ ส ุด” เทศน์โดย

ค ุณพ่อ ประเสริฐ โลหะวิรยิ ะศิริ วันเสาร์ที่ 12 เมษายน ศกนี้ เวลา 8.30-19.00 น. ผูส้ นใจโปรดลงชื่อที่สาํ นักงานวัด 8

เมื่อปี ศาจขอให้พระเยซูเจ้าเปลีย่ นก้อนหินเป็ นขนมปงั มันกําลังทดลองพระองค์ 2 เด้งเลยทีเดียว เด้งแรก มันหลอกให้พระองค์ใช้ฤทธิ์อํานาจอย่างเห็นแก่ตวั มนุ ษย์อย่าง เราต้องทํางานหนักกว่าจะได้ขนมปงั สักก้อน แต่พระองค์เสกนิดเดียวก็ได้ขนมปงั เยอะแยะ อย่างนี้เอาเปรียบคนอื่นชัด ๆ เด้งทีส่ อง นอกจากหลอกให้พระองค์ใช้ฤทธิ์อํานาจอย่างเห็นแก่ตวั แล้ว ยัง เป็ นไปเพื่อผลประโยชน์ ส่วนตัวอีกด้วย นัน่ คือไม่ใช่เพื่อดับความหิวของผูอ้ ่นื แต่เพื่อดับ ความหิวของพระองค์เองหลังจากจําศีลอดอาหารมาเป็ นเวลานาน แต่พระองค์ไม่ทรงหลงกลของปีศาจ หลายครัง้ เราเดินสวนทางกับพระองค์ เราใช้พรสวรรค์หรือความสามารถ พิเศษทีพ่ ระเจ้าประทานแก่เราอย่างเห็นแก่ตวั เช่นคนทีม่ นี ้ํ าเสียงดีกต็ งั ้ หน้าตัง้ ตาใช้เสียง ร้องเพลงหาเงินเข้ากระเป๋าอย่างเดียว โดยไม่คดิ จะใช้เสียงนัน้ นําคนอื่นมาหาพระเจ้าหรือให้ ความบรรเทาใจแก่ผดู้ อ้ ยโอกาส เป็ นต้น นอกจากจะไม่ใช้ฤทธิ์อํานาจอย่างเห็นแก่ตวั แล้ว พระเยซูเจ้าในฐานะพระ เมสสิยาห์ยงั ทรงคํานึงถึง “วิธกี าร” ทีจ่ ะนํามนุ ษย์กลับมาหาพระบิดาเจ้าอีกด้วย การชักชวนฝูงชนให้ตดิ ตามพระองค์โดยการแจกขนมปงั หรือวัตถุสงิ่ ของ ย่อมได้ผลอย่างแน่นอน ในอดีตพระเจ้าก็ทรงประทานมานนาเป็ นอาหารเลีย้ งชาวอิสราเอล ในถิน่ ทุรกันดาร ยิง่ ไปกว่านัน้ ประกาศกอิสยาห์ยงั ทํานายว่าพวกเขาจะไม่หวิ และกระหาย อีก (อสย 49:10) ถ้าพระองค์จะใช้วธิ กี ารเดียวกันบ้าง ย่อมมีเหตุผลรองรับเกินพอ แต่พระองค์ “ไม่เลือก” วิธกี าร “ประชานิยม” ทีป่ ี ศาจเสนอมาด้วยเหตุผล สําคัญ 2 ประการคือ 1.1 เป็ นการติดสินบนมนุ ษย์ให้ตดิ ตามพระองค์ ซึง่ ขัดกับวิถที างของ พระองค์ทท่ี รงสอนมนุ ษย์ให้ดาํ เนินชีวติ ด้วยการ “ให้” ไม่ใช่ดว้ ยการ “รับ” 1.2 เป็ นการแก้ปญั หาทีป่ ลายเหตุ การแจกขนมปงั แก่ผหู้ วิ โหยเป็ น การแก้ปญั หาทีป่ ลายเหตุเท่านัน้ แต่พระองค์ตอ้ งการจะแก้ปญั หาที่ “ต้นเหตุ” “ทําไมพวกเขาจึงหิว ?” อาจเป็ นเพราะพวกเขาไม่รูจ้ กั ทํามาหา กิน ไม่ใส่ใจ หรือไม่ยอมปรับปรุงเปลีย่ นแปลงสถานทีห่ รือวิธที าํ มาหากิน ฯลฯ ก็จริง แต่เรา ไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่า “ความเห็นแก่ตวั ” ของคนที่ครอบครองทรัพยากรและสมบัตมิ าก เกินไปโดยไม่ชว่ ยเหลือผูอ้ ่นื ทีม่ นี ้อยเกินไป ก็เป็ นสาเหตุทส่ี าํ คัญด้วย 5


5. อย่าคิดว่าพระเยซูเจ้าทรงถูกทดลองเพียงครัง้ เดียวในชีวติ ทีเ่ มืองซีซารี ยาแห่งฟิลปิ เป็ นเปโตรศิษย์รกั นัน่ เองทีล่ ่อลวงพระองค์ให้เลือกหนทางอื่นทีง่ า่ ยกว่าหนทาง ของไม้กางเขน จนพระองค์ตอ้ งดุวา่ “เจ้าซาตาน ถอยไปข้างหลัง” (มธ 16:21-23) เมื่อใกล้วาระสุดท้าย พระองค์ทรงกล่าวกับบรรดาศิษย์ว่า “ท่านทัง้ หลาย เป็ นผูท้ ยี ่ นื หยัดอยูก่ บั เราในการทดลองทีเ่ ราได้รบั ” (ลก 22:28) และที่หนักสุดคือในสวนเกทเสมนี เมื่อพระองค์ทรงภาวนาว่า “พระบิดา เจ้าข้า ถ้าพระองค์มพี ระประสงค์ โปรดทรงนําถ้วยนี้ไปจากข้าพเจ้าเถิด” (ลก 22:42) เมือ่ เป็ นเช่นนี้เราจึงต้อง “เฝ้ าระวังตลอดชีวิต” ไม่ใช่หลงผิดตัง้ หน้าตัง้ ตาบําเพ็ญตบะหรือทําการใด ๆ เพื่อให้บรรลุขนั ้ ทีเ่ รียกว่า “ปลอดการทดลอง” เพราะพระ เยซูเจ้าเองก็ไม่เคยและไม่พยายามด้วยทีจ่ ะบรรลุถงึ ขัน้ นี้ 6. ปี ศาจรูว้ ่าพระเยซูเจ้าทรงมีฤทธิ์อํานาจพิเศษ และทีส่ าํ คัญพระองค์กท็ รง ทราบด้วยเช่น กัน การทดลองที่เกิด ขึ้น จึงเกี่ยวข้องกับ ฤทธิ์อํานาจหรือ พรสวรรค์ข อง พระองค์เอง แม้เราไม่ ม ีฤ ทธิ์อํ านาจพอที่จ ะทํ า ให้ถู ก ทดลองกระโดดจากที่สูง หรือ เปลีย่ นก้อนหินให้เป็ นขนมปงั เหมือนพระองค์ แต่เราต้องระมัดระวังการใช้พรสวรรค์หรือ ความสามารถพิเศษทีเ่ รามี จงอย่าใช้ในทางทีผ่ ดิ เช่นใช้ความสวยงามหลอกลวงผูอ้ ่นื หรือ ใช้วาทศิลป์เปลีย่ นขาวให้เป็ นดําหรือดําให้เป็ นขาว เป็ นต้น 7. เนื่องจากพระเยซูเจ้าทรงอยู่ตามลําพังในถิน่ ทุรกันดาร ผูท้ ่เี ล่าเรื่องนี้จงึ เป็ นใครอื่นไปไม่ได้นอกจากพระองค์เอง เหตุการณ์ เหล่านี้ จงึ เป็ นเรื่องศักดิ์สิทธิ์เพราะ เกีย่ วข้องกับชีวติ ภายในทีพ่ ระองค์เองทรงเปิดเผยให้เราทราบ และเพราะทรงถูกทดลองมาก่อน พระองค์จงึ ทรงรู้ เข้าใจ และสามารถ ช่วยเราให้ชนะการทดลองต่าง ๆ ได้ ขอยํ้าว่ามี “พระองค์แต่เพียงผูเ้ ดียว” ทีส่ ามารถช่วยเหลือเราได้ !!! ความหมายของการทดลองแต่ละเรือ่ ง เป็ นดังนี้ 1. “จงสังก้ ่ อนหิ นเหล่านี้ ให้กลายเป็ นขนมปังเถิ ด” (มธ 4:3) เนื่องจากถิน่ ทุรกันดารอยู่ใกล้ทะเลตายซึ่งเค็มจัด จึงมีหนิ ปูนก้อนเล็ก ๆ สีขาวคล้ายขนมปงั เกลือ่ นอยูบ่ นผืนทราย แลดูยวยวนน่ ั่ ากิน

โดย ภาวัน

เวลาเรารูส้ ึกไม่ชอบอะไรสักอย่าง ปั ญหาจริงๆ อาจไม่ได้อยู่ที่สิ่งนัน้ แต่เป็ น ความรูส้ ึกไม่ชอบของเราต่างหาก พูดอีกอย่างก็คือ สิ่งนั้นไม่ได้สร้างปั ญหาหรือก่อ ความทุกข์ให้เรามากเท่ากับความรูส้ ึกไม่พอใจมัน หนุ่ม สาวส่ ว นใหญ่ ไ ม่ ช อบสิ ว บนใบหน้า ของตน ที่ จ ริ ง สิ ว ไม่ ได้ทํ า ความ เดือดร้อนให้แก่เขามากมายอะไร แค่ทาํ ให้หน้าตาไม่หมดจดเท่านัน้ แต่หลายคนถึงกับ เครียดจนกินไม่ได้นอนไม่หลับ ในสหรัฐอเมริกา พบว่าร้อยละ 10 ของคนเป็ นสิวบอก ว่า การเป็ นสิวเป็ นสิ่งเลวร้ายที่สดุ ในชีวิต วัยรุ่นเป็ นอันมากมีผลการเรียนตกตํา่ เพราะ ทําใจไม่ได้ บางคนถึงกับฆ่าตัวตาย สิวนัน้ ไม่ทาํ ให้ใครตายได้หรอก แต่ความรังเกียจ ชิงชังสิวต่างหาก ที่สามารถผลักดันให้ผคู้ นปลิดชีวิตตัวเองได้ เวลาประสบปั ญหา บ่อยครั้งวิธีแก้ปัญหาที่ผคู้ นเลือกใช้นนั้ กลับเลวร้ายยํา่ แย่ กว่าตัวปั ญหาเสียอีก ทําไมถึงเป็ นเช่นนัน้ คําตอบก็คือ ความรูส้ ึกชิงชังรังเกียจที่มีต่อ ปั ญ หานั้นๆ เมื่อเกลียดมากๆ ก็ ลืมตัว จนพร้อมจะทําอะไรก็ ได้เพื่อทําให้ปัญ หานั้น หมดไป โดยไม่สนใจว่าจะเกิดผลร้ายตามมา ซึ่งหนักหนาสาหัสกว่าปั ญ หานั้นเสียอีก บางคนเกลียดหนูในบ้านมาก ไล่อย่างไร มันก็ไม่ยอมไป แถมทําลายข้าวของหนักขึ้น ทําให้เขารังเกียจชิงชังมันยิ่งกว่าเดิม สุดท้ายก็ถึงกับใช้ไฟสุมเผารังของมัน แต่ปรากฏ ว่าไฟลุกลามจนไหม้บา้ นเขาทั้งหลัง แม้หนูจะเป็ นตัวสร้างปั ญหา แต่มนั ไม่สามารถ ทําลายบ้านของเขาได้เลย การใช้ไฟไล่หนูต่างหากที่ทาํ ให้เขาสูญเสียบ้านทั้งหลัง และ ทัง้ หมดเกิดขึน้ ได้ก็เพราะ ความรังเกียจชิงชังหนูนนั ่ เอง ความรังเกียจชิงชังมักทําให้เราเผลอทําสิ่งที่เกินเลย (over-react) จนได้ไม่คมุ้ เสีย ดังนั้นก่อนที่จะจัดการกับปั ญ หาใดๆ ควรหันมาสํารวจตนเองเสียก่อนว่า เรามี ความรังเกียจชิงชังมากไปหรือเปล่า มองให้ดีอาจพบว่า สิ่งที่เกิดขึน้ กับเราไม่ได้สร้าง ความทุก ข์ให้แ ก่ เรามากเท่ า กั บ ความรู้สึ ก ลบต่ อ สิ่ ง นั้ น บ่ อ ยครั้ ง เพี ย งแค่ เราลด ความรูส้ ึกดังกล่าวลง สิ่งนัน้ ก็ไม่กลายเป็ นปั ญหาอีกต่อไป

ปั ญหาจึงอาจไม่ได้อยู่ที่คนอื่นหรือสิ่งอื่น แต่อยู่ที่ความรูส้ ึกในใจของเราต่างหาก 4

9


มิสซาสั ปดาห์ ที่ 1 เทศกาลมหาพรต (ปี A) วันอาทิตย์ ที่ 9 มีนาคม ค.ศ. 2014 วัน เดือน ปี ส. 8 มี.ค. 18.00 น.

รายการมิสซา ผู้ขอมิสซา สุ ขสํ าราญ โมทนาคุณพระเจ้า พระแม่มารี ย ์ และนักบุญอันตน มารี อา กอแรตตี พีรดา แพทย์กลุ และครอบครัว มาลินี อุทศิ แด่ อันตน สําเริ ง โกญจนาท เริ งจิต สตีเฟน จํารู ญ, มารี อา ละมุด เจริ ญพานิช ผูล้ ่วงลับครอบครัวเจริ ญพานิช วิญญาณในไฟชําระและวิญญาณที่ไม่มีผใู ้ ดนึกถึง ธนกร อา. 9 มี.ค. สุ ขสํ าราญ โมทนาคุณพระเจ้า และพระแม่มารี ย ์ ลูซีอา 08.00 น. มารี อา เอื้อพันธ์ ศรี เจริ ญ, ครอบครัวศรี เจริ ญ คค.ศรี เจริ ญ มารี อา ธันยพร ศศิสุวรรณ, ยอแซฟ สุ ชารี ย ์ แสงหาญ ลูซีอา นริ สา และครอบครัวใจทอง มารี อา ภาณุมาศ, เทเรซา ชนินทร์ มาศ, คุณวริ นทร์ มารี อา กรรณิ กา, มารี อา ปนัดดา ลี้ยาง พลเอก พิจิตร, คุณหญิง วิมล กุลละวณิ ชย์ คุณนพ ชูสอน, คุณประมวล นามตะ ครอบครัวคุณวราพร เจนใจ, ครอบครัวแสงหาญ อุทศิ แด่ โรซา ราตรี , คุณด้วง ลี้ยาง, คุณสอ ชูสอน, คุณวิชยั อันนา ยีส่ ุ่ น พานิช, คุณพัฒนา ทองธิว โรซา สมจิตร อู๋สวัสดิ์, โดมินิโก สวัสดิ์ อู๋สวัสดิ์ วราพร ลูโดวีโก บุญช่วย, มารี อา กิมฮวย นงค์สวัสดิ์ สุ วารี ยอแซฟ ทิวากร รักคิด และบรรพบุรุษ, อันนา นากู่ วิภาวินี/ผูล้ ่วงลับครอบครัวจุลละมณฑลและครอบครัวลี้ยาง ยวง บัปติสตา ก๊กเคี้ยง แซ่แพ้, มารี อา กิมฮวย แซ่ ต้ งั คค.ธนาพานิชย์ บรรพบุรุษครอบครัวธนาพานิชย์ คค.ธนาพานิชย์ วิญญาณในไฟชําระ และวิญญาณที่ไม่มีผใู ้ ดนึกถึง -

10

พระองค์เสด็จ ไปในดิน แดนที่ไ ร้ผู้ค นเพราะทรงประสงค์จ ะ “อยู่ ต าม ลําพัง” เพื่อพิจารณาหาวิธกี ารในอันทีจ่ ะทําให้ภารกิจทีพ่ ระบิดาทรงมอบหมายสําเร็จลุล่วง ไป น่ าเสียดายที่หลายครัง้ เราดําเนินชีวติ หรือประกอบธุรกิจผิดพลาดเพียง เพราะเราไม่ “อยูต่ ามลําพัง” ในชีวติ นี้ มีบางสิง่ ทีเ่ ราต้องทําเองตามลําพัง และมีบางครัง้ ทีค่ ําแนะนํ าไม่ ว่าของใครก็ชว่ ยเราไม่ได้ เราต้องรูจ้ กั “หยุดทํา” และ “เริม่ คิด” ด้วยตัวเองตามลําพังบ้าง อย่าให้เราผิดพลาดเพียงเพราะไม่มโี อกาสอยูต่ ามลําพังกับพระเจ้า ! 3. พระวรสารสามฉบับเน้นเหมือนกันว่าพระเยซูเจ้าทรงถูกทดลองทันทีหลัง รับ พิธีล้างจากยอห์น โดยเฉพาะมาระโกระบุ ชดั เจนว่า “ทัน ใดนัน้ พระจิต เจ้าทรงดลให้ พระองค์เสด็จเข้าไปในถิน่ ทุรกันดาร” (มก 1:12) เป็ นความจริงว่าเมื่อเราขึ้นสู่จุดสูงสุดหรือผ่านเหตุ การณ์ สําคัญ ที่สุดใน ชีวติ แล้ว จะเกิดปฏิกริ ยิ าตอบโต้ในทางทีเ่ ป็ นภัยมากกว่าเป็ นคุณ เหมือนดอกไม้ไฟทีข่ น้ึ สู่ จุดสูงสุดและสว่างไสวทีส่ ดุ แล้วก็จะมอดดับและร่วงตกลงมาสูพ่ น้ื ดิน พระเยซูเจ้าก็เช่นกัน พระองค์พ่งึ จะได้รบั เกียรติสูงสุด โดยพระจิตเจ้าผู้ เสด็จมาในรูปของนกพิราบทรงรับรองว่าพระองค์เป็ น “บุตรสุดทีร่ กั ” ของพระบิดา และ ทันทีเป็ นพระจิตเจ้าอีกเช่นกันทีท่ รงนําพระองค์สกู่ ารทดลองในถิน่ ทุรกันดาร เราจึง ต้อ งระมัด ระวัง มากเป็ น พิเศษเมือ่ ประสบความสํา เร็จ หรือ ขึ้น สู่ จุดสูงสุดในชีวติ ! 4. การทดลองของพระเยซู เจ้าเป็ น การดิ้น รนต่ อสู้ภ ายในจิตวิญ ญาณของ พระองค์เอง ไม่ ใช่ ส ิ่ง ที่เกิด ขึ้น ภายนอก เหตุ ผ ลคือ ไม่ ม ี “ยอดเขาสูงมาก” จนสามารถ “ทอดพระเนตรอาณาจักรรุง่ เรืองต่าง ๆ ของโลก” ได้ทงั ้ หมด (มธ 4:8) แสดงว่า “ปี ศาจโจมตี จากภายในจิ ตใจของเรา” มันสามารถเจาะแนว ป้องกันของเราเข้ามาได้ และทีร่ า้ ยกาจสุด ๆ ก็คอื มันมี “ความคิ ดและความปรารถนา ของเราเอง” เป็ นพันธมิตรและเป็ นอาวุธของมัน อาจกล่าวได้ว่า สมุนเอกของปี ศาจก็คอื ความคิดและความปรารถนาของ ตัวเรานันเอง ่ !

3


สั ปดาห์ ที่ 1 เทศกาลมหาพรต (ปี A)

มธ 4:1-11

มีขอ้ สังเกตเกีย่ วกับการทดลองของพระเยซูเจ้าดังนี้ 1. คํ า กรี ก peirazein (เปยราเซน) มี ค วามหมายว่ า “ทดลอง” หรื อ “ทดสอบ” มากกว่าจะแปลว่า “ผจญ, ประจญ, หรือ ล่อลวง” ซึ่งส่อไปในทางชักชวนผูอ้ ่นื ให้ ทําผิด หากเราแปลคํา peirazein ในหนังสือปฐมกาลบทที่ 22 ข้อ 1 เป็ น “ผจญ” ก็จะได้ ความว่าพระเจ้าทรงผจญอับราฮัมให้ถวายอิสอัคบุตรชายเป็ นเครื่องเผาบูชา ซึ่งเป็ นไป ไม่ได้ทพ่ี ระเจ้าจะชักชวนอับราฮัมให้ทาํ ผิด เมื่อเป็ นเช่นนี้ เราจึงควรเปลีย่ นความคิดจากสิง่ ทีเ่ คยเรียกว่า “การผจญ” แล้วมักลงเอยด้วยความพ่ายแพ้และบาปเสียใหม่ ! หากจะส่งนัก บิน สู่อวกาศ เราจะไม่ทดสอบแล้วทดสอบอีกจนแน่ ใจว่า นักบินผูน้ ัน้ มีความสามารถเหมาะสมกับภารกิจอันยิง่ ใหญ่น้ีดอกหรือ เช่นเดียวกัน พระ เจ้าประทานการ “ทดสอบ” แก่ผทู้ พ่ี ระองค์ทรงเลือกสรร ไม่ใช่เพื่อให้ตกในบาป แต่เพื่อให้ ชนะ บริสทุ ธิ ์ เข้มแข็ง และเหมาะสมกับภารกิจทีจ่ ะทรงมอบหมายให้มากขึน้ การทดสอบหรือการทดลองจึงไม่ใช่สงิ่ น่ ากลัวหรือน่ าอับอายที่จะต้อง ปกปิดกันอีกต่อไป แต่เป็ นสิง่ ทีเ่ ราแต่ละคนจะต้องสอบให้ผา่ นและเอาชนะให้จงได้ 2. ถิน่ ทุรกันดารในเหตุการณ์ครัง้ นี้ ตัง้ อยู่ระหว่างกรุงเยรูซาเล็มซึ่งอยู่บนที่ ราบสูงตอนกลางของประเทศกับทะเลตายซึ่งอยู่ทางตะวันออกตํ่ากว่าระดับนํ้ าทะเล มีเนื้อ ทีป่ ระมาณ 1,300 ตารางกิโลเมตร ไม่มผี คู้ นอาศัยอยูใ่ นดินแดนแห่งนี้ 2

วัน เดือน ปี อา 9 มี.ค. 10.00 น.

รายการมิสซา ผู้ขอมิสซา สุ ขสํ าราญ โมทนาคุณพระเจ้า พระแม่มารี ย ์ และ น.คริ สโตเฟอร์ มาลี/จิตตินี สัตบุรุษวัดแม่พระกุหลาบทิพย์ทุกท่าน เซซี ลีอา เพ็กล้วน แซ่เอี้ยว และครอบครัว ครอบครัวสัณหพล เหลืองอร่ าม วิไลวรรณ ฟรังซิ สเซเวียร์ อนุสรณ์ เรี ยบร้อย รสสุ คนธ์ ยวง บัปติสต์ ภูมินทร์ โรจนประดิษฐ์ สุ นทรี ดอมินิก ภูวนัย หงษ์แก้ว และครอบครัว เปาโล ตุย้ นักพรรษา และครอบครัว คุณเลี่ยมเกียว แซ่อ้ ึง, คุณสมเกียรติ, คุณวรรณา สระบัว ครอบครัวธนากรกานต์, ครอบครัวพันธุมจินดา วินิจ/ครอบครัวจิตตินี ฉายาชวลิต อุทศิ แด่ ยอแซฟ ทรง, มารี อา เจิม ศรี สดใส เปโตร บ้วนฮง เตียวเจริ ญ และบรรพบุรุษ ยอแซฟ เรื องฤทธิ์ พนมอุปถัมภ์ เยาวธิดา อันนา ทองสุ ข, ดอมินิโก บัวลา สร้อยสูงเนิน พรรณพัฒน์ ลูโดวีโก ช่วย, มารี อา ฮวย นงค์สวัสดิ์ ทัศนีย ์ เปาโล ผุย นักพรรษา, ยอแซฟ ประเสริ ฐ กุศลส่ ง มารี อา มักดาเลนา วิระวัลย์ ดวงรัตน์ มารี อา ต้ายไถ่ แซ่โฮ, เปาโล จางจือกวง พิศิษฎิ์ คุณสมร ชัยชนะ และญาติที่ล่วงลับ เปโตร สาธิต สถาพรนิรันดร์ , คุณอิม แซ่ต้ งั รสสุ คนธ์/หมุ่ยอี่ มารี อา กนกวรรณ เรี ยบร้อย ยอแซฟ ภิรมย์, โยเซฟ , ยวง พิสิษฐ์ พันธุมจินดา คุณวิรัช, มารี อา เทเรซา นงลักษณ์, เซบัสติโน การุ ณย์ เปโตร ดํา, อัญเจลา ทิพวรรณ จันสวัสดิ์ สาลินี มารี อา โสภาวรรณ, เปโตร กุลพัทย์ จันสวัสดิ์ สาลินี ยอแซฟ สมศักดิ์ อํานสยวิบูลย์ 11


วัน เดือน ปี อา 9 มี.ค. 10.00 น.

รายการมิสซา ผู้ขอมิสซา อุทศิ แด่ สเตฟานัส เช็งมัง่ แซ่อ้ ึง, ยอแซฟ สมบัติ ทรัพย์อาภารัตน์ ชาคร อันนา ชูศรี เอื้ออุณหะกิจ, คุณธาดา สระบัว ชาคร วิญญาณในไฟชําระ และวิญญาณที่ไม่มีผใู้ ดนึกถึง จ. 10 มี.ค. สุ ขสํ าราญ ครอบครัวจิตตินี ฉายาชวลิต อ. 11 มี.ค. อุทศิ แด่ วิญญาณในไฟชําระ พ. 12 มี.ค. อุทศิ แด่ วิญญาณในไฟชําระ พฤ.13 มี.ค. อุทศิ แด่ มารี อา ราตรี ศรี สดใส ศ. 14 มี.ค. สุ ขสํ าราญ คุณอัฐมา ชีวนิชย์พนั ธ์ มาลินี

 เริ่ มสัปดาห์ น้ ี ตลอดเทศกาลมหาพรต ขอเชิ ญ พี่ น้องทุ กท่ านร่ วมเดิ น รู ป 14 ภาค (มรรคาศักดิ์ สิ ทธิ์ ) เพื่อร่ วมพระมหาทรมานกับพระเยซู เจ้า ทุกวันเสาร์ ก่อนมิสซา เวลา 18.00 น. (งดนพวารแม่ พระนิ จจานุเคราะห์ ตลอดเทศกาลมหาพรต) และทุก วันอาทิตย์เวลา 9.30น. ก่อนมิสซาสาย  วันอาทิตย์ที่ 30 มีนาคม ศกนี้ o คุณพ่อ ปรี ชา ยัง่ ยืน จากคณะคาร์ เมไลท์ นักบวชชาย จะมาถวายมิสซาที่ วัดของเรา เวลา 8.00 น.และ 10.00 น. เพื่ อรณรงค์ด้านกระแสเรี ยกและ ระดมทุนเพื่อสร้างอารามคาร์เมไลท์ (นักบวชชาย) สามพราน o เวลา 12.30 น. หลังอาหารเที่ยงทิพย์ ขอเชิญพี่นอ้ งร่ วมแสวงบุญและเยีย่ ม เยี ย นเด็ ก ด้อ ยโอกาส ณ มู ล นิ ธิ เซนต์ ม าร์ ติ น วัด พระแม่ ม หาการุ ณ ย์ นนทบุรี ผู ้ส นใจ โปรดลงชื่ อ ที่ สํ า นั ก งานวัด ภายในวัน อาทิ ต ย์น้ ี เพื่ อ วางแผนจัดรถสําหรับเดิ นทาง และพี่น้องท่านใดประสงค์จะบริ จาคเงิน เครื่ องอุปโภคบริ โภค และของใช้อื่น ๆ โปรดติดต่อสํานักงานวัด 12

ฉบับที่ 517 วันอาทิตย์ที่ 9 มีนาคม ค.ศ. 2014

สั ปดาห์ ที่ 1 เทศกาลมหาพรต (ปี A)

จงกราบนมัสการองค์พระผูเ้ ป็ นเจ้าพระเจ้าของท่าน และรับใช้พระองค์แต่ผูเ้ ดียวเท่านั้น มธ 4:10


Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.