ฉบับที่ 456 วันอาทิตย์ที่ 6 มกราคม ค.ศ. 2013
ฉบับที่ 456 วันอาทิตย์ที่ 6 มกราคม ค.ศ. 2013
สมโภชพระคริสตเจ้ าแสดงองค์ (ปี C)
สมโภชพระคริสตเจ้ าแสดงองค์ (ปี C)
เขาเข้ าไปในบ้ าน พบพระกุมารกับพระนางมารีย์พระมารดา จึงคุกเข่ าลงนมัสการพระองค์
เขาเข้ าไปในบ้ าน พบพระกุมารกับพระนางมารีย์พระมารดา จึงคุกเข่ าลงนมัสการพระองค์
มธ 2:11
มธ 2:11
สมโภชพระคริสตเจ้ าแสดงองค์
มธ 2:1-12
1. สถานที่ประสูติ “พระเยซูเจ้าประสูตทิ เี ่ มืองเบธเลเฮมในแคว้นยูเดีย” (มธ 2:1) “เบธเลเฮม” แปลว่า “บ้านแห่งขนมปงั ” เดิมชื่อเอฟราธาห์ อยู่ห่างจากกรุง เยรูซาเล็มไปทางทิศใต้ประมาณ 10 กิโลเมตร เป็ นเมืองทีม่ ปี ระวัตศิ าสตร์ยาวนาน เป็ นทีฝ่ งั ศพของนางราเคลภรรยาของยาโคบ (ปฐก 48:7) เป็ นทีอ่ าศัยของนางรูธหลัง แต่งงานกับโบอาซและได้ให้กําเนิดโอเบด ผูเ้ ป็ นบิดาของเจสซี ซึง่ เป็ นบิดาของดาวิด (นรธ 1:22) เหนืออื่นใด เบธเลเฮมเป็ นเมืองของกษัตริยด์ าวิด (1 ซมอ 16:1;17:12; 20:6) ซึ่งพระเจ้าทรงสัญญาจะส่ง “พระผู้ช่วยให้รอด” มาจากเชื้อสายและจากเมืองของ พระองค์ ดังที่ประกาศกมีคาห์ทํานายไว้ว่า “เมืองเบธเลเฮม ดินแดนยูดาห์ เจ้ามิใช่ เล็กทีส่ ุดในบรรดาหัวเมืองแห่งยูดาห์ เพราะผูน้ ํ าคนหนึง่ จะออกมาจากเจ้า ซึง่ จะเป็ น ผูน้ ําอิสราเอล ประชากรของเรา” (มคา 5:2) นักบุญจัสติน ปิ ตาจารย์ผูเ้ กิดใกล้เบธเลเฮมราวปี ค.ศ.100 บันทึกไว้ว่า ชาวเมืองเบธเลเฮมนิยมเจาะภูเขาเป็ นทีพ่ กั อาศัย และมักเจาะหินใต้บา้ นให้กลวงเป็ น ถํ้ า เพื่อใช้เ ลี้ยงสัต ว์ เป็ นไปได้ว่าพระเยซูเ จ้าประสูติใ นถํ้าหินสําหรับ เลี้ยงสัต ว์น้ี (Justin Martyr: Dialogue with Trypho, 78, 304) 2
วัน เดือน ปี อา 6 ม.ค. 10.00 น.
รายการมิสซา อุทศิ แด่ โรซา ราตรี ลี้ยาง, อันนา ยีส่ ุ่ น พานิช คุณวิชยั สายแสง, คุณสอ ชูสอน คุณพัฒนา ทองธิ ว ยอแซฟ จือกิม กิจสมัย ปุญเกลีอา นอแอนนี กิจสมัย เปโตร แหวน, ลูซีอา สังเวียน เกิดวิชยั อลิซาเบธ อารี สังข์พงษ์ คุณอัศวเทพ เทพานนท์ มารี อา มาลัย, คุณสุ รินทร์ ลักษมีวรานนท์ ฟรังซิ สโก วิจิตร กาญจนธานินทร์ คาธารี อา วงศ์ประยูร เทวารุ ทธ คุณเส่ ง วชิรจุติพงศ์ คุณอุย้ นิ้ว แซ่เซี้ ยว คุณนวลจันทร์ ธนะสาร, ด.ช.ธงชัย ธนะสาร เปโตร เหลี่ยวน ฮวาง วัน มาร์ธา เฮียน ฮว่าง ถิ เปโตร บ้วนฮง เตียวเจริ ญ ผูล้ ่วงลับตระกูลจุลละมณฑล ผูล้ ่วงลับครอบครัวธนะสาร ผูล้ ่วงลับครอบครัวสาธรกิจ วิญญาณในไฟชําระ และวิญญาณที่ไม่มีใครคิดถึง สุ ขสํ าราญ เซซี เลีย เจนจิรา ประยูรรัตน์, คุณจิมมี่ ไมเกิ้ล (วันเกิด) จ. 7 ม.ค. อุทศิ แด่ มาริ นนา ลิลลี่ รุ่ งเรื อง อ. 8 ม.ค. สุ ขสํ าราญ คุณกาญจนา สุ ภาไวย์ พ. 9 ม.ค. สุ ขสํ าราญ ฟี เดส จิตรา ดารุ ทยาน พฤ.10 ม.ค. อุทศิ แด่ วิญญาณในไฟชําระ ศ. 11 ม.ค. อุทศิ แด่ วิญญาณในไฟชําระ
ผู้ขอมิสซา อมรา พิชยั ธนกร ธนกร เจนนี่ อมรา อมรา อมรา 15
วัน เดือน ปี อา. 6 ม.ค. 08.00 น.
รายการมิสซา อุทศิ แด่ เปโตร ยรรยง, ลูซีอา ลออ, มารี อา นิตยา อุชชิน ยอแซฟ สมบัติ อุชชิน มารี อา มยุรี ผลาวงศ์, มัทธิว เกียรติศกั ดิ์ สุ วรรณจิต เอลีซาเบธ วัลลีย ์ บูรณพันธ์ บรรพบุรุษและผูล้ ่วงลับครอบครัวธนาพานิชย์ วิญญาณในไฟชําระและวิญญาณที่ไม่มีผใู ้ ดนึกถึง อา. 6 ม.ค. สุ ขสํ าราญ โมทนาคุณพระตรี เอกภาพ และพระแม่มารี ย ์ 10.00 น. โมทนาคุณนักบุญอันตน, นักบุญเทเรซา โมทนาคุณบรรดานักบุญและอารักขเทวดาทั้งหลาย คุณชัชวลี ไมตรี ราฟาแอล ชัยพฤกษ์, มีคาแอล ธันวา และครอบครัว เซชีลียา เพ็กล้วน แซ่เอี้ยว และครอบครัว มารี อา ภาณุมาศ พงศ์พนั ธุ์พฒั น์ เทเรซา ชนินทร์ มาศ พนอําพน มารี อา ปนัดดา ลี้ยาง พลเอก พิจิตร,คุณหญิง วิมล กุลละวณิ ชย์ อันนา สุ ภาภรณ์ กิจสมัย เทเรซา ธีราภรณ์ แซ่โค้ว และครอบครัว เปาโล สรศิลป์ ศรี เคนและครอบครัว มารี อา พิสมัย หอมวิไล, เปาโล วันชัย แตงอ่อน ครอบครัวมาสู่ศิริมงคล, ครอบครัวเรื องรัตน์ ครอบครัวกิจปกครอง, ครอบครัวแสงไพบูลย์ ครอบครัวธนะสาร, ครอบครัวสาธรกิจ ครอบครัวรัตนบรรณสกุล, ครอบครัวเขม้นงาน ครอบครัวสุ ทธิโอภาส, ครอบครัวลิ้มจิตรกร ครอบครัวแสงแพ, ครอบครัวเตรี ยมวิชานนท์ ครอบครัวช่างคิด, ทุกๆครอบครัวในโลก
14
ผู้ขอมิสซา คค.อุชชิน คค.อุชชิน คค.อุชชิน คค.อุชชิน คค. ธนาพานิชย์ คค. ธนาพานิชย์ กนิษฐ์/วิไลวรรณ -/กนิษฐ์ นิราวัล/-
2. โหราจารย์ เฮโรโดตัส นักประวัตศิ าสตร์กล่าวถึง “โหราจารย์” ไว้ว่าเดิมทีเป็ นชาวมีเดียน ซึ่งเป็ นชนส่วนหนึ่งในอาณาจักรเปอร์เซีย เคยก่อการกบฏแต่ล้มเหลวจึงเบนความ สนใจจากอํานาจทางบ้านเมือง มาทําหน้าที่ “สงฆ์” ในเปอร์เซีย ดุจเดียวกับตระกูลเลวี ซึง่ ทําหน้าที่ “สงฆ์” ในอิสราเอล พวกเขาพลิกบทบาทจากนักรบมาเป็ นผู้ศ กั ดิ ์สิทธิแ์ ละผู้รู้ ทําหน้ าที่ถวาย เครือ่ งบูชา สอน และให้คาํ แนะนําแก่กษัตริยเ์ ปอร์เซีย สมัยก่อน โหราศาสตร์มบี ทบาทต่อมนุ ษย์สูงยิง่ พวกเขาเชื่อว่าดาวทุกดวง ต่างเคลื่อนไปตามวงโคจรของมันโดยไม่เปลีย่ นแปลง หากมีการเปลีย่ นแปลงหรือเกิด ปรากฏการณ์พเิ ศษขึน้ ย่อมหมายความว่า “พระเจ้าทรงฝื นระเบียบธรรมชาติเพือ่ จะ บอกบางสิง่ บางอย่างแก่มนุษย์เป็ นพิเศษ” บางคนอาจแปลกใจที่โหราจารย์เดินตามดาวจากแดนไกลเพื่อมานมัสการ กษัตริยถ์ งึ กรุงเยรูซาเล็ม แต่น่ีเป็ นเรือ่ งปกติของคนสมัยก่อน เราจึงไม่ควรด่วนสรุปว่า เหตุการณ์น้ีเป็ นเพียงตํานานเรือ่ งหนึ่ง มิใช่เหตุการณ์ทเ่ี กิดขึน้ จริง อีก เหตุ ผ ลหนึ่ ง ที่ทํา ให้เ ราไม่ค วรด่ ว นสรุ ป เช่ น นั น้ ก็คือ มีห ลัก ฐานระบุ ว่ า กระแสเฝ้าคอยการเสด็จมาของกษัตริยผ์ ยู้ งิ่ ใหญ่แพร่หลายทัวไปในช่ ่ วงเวลาเดียวกัน กับทีพ่ ระเยซูเจ้าประสูติ แม้แต่นกั ประวัตศิ าสตร์โรมันอย่างเช่นซูเอโตนีอุสยังเขียนไว้ ว่า “มีความเชือ่ เก่าแก่แพร่สะพัดไปทัวตะวั ่ นออกว่าจะมีคนจากยูเดียมาปกครองโลก” (Suetonius: Life of Vespasian, 4:5) ตาชีตุสก็ยนื ยันเช่นเดียวกันว่า “มีความเชือ่ มันว่ ่ า ช่วงเวลานี้ ตะวันออกจะมี อํ า นาจยิง่ ใหญ่ ผู้ป กครองจากยู เ ดีย จะครอบครองอาณาจัก รทัว่ โลก” (Tacitus: Histories, 5:13) ส่ว นชาวยิว นั น้ เชื่อ อยู่แ ล้ว ว่า “ช่ว งเวลานี้ จะมีผู้ป กครองโลกออกมาจาก ประเทศของตน” (Josephus: Wars of the Jews, 6:5, 4)
3
3. เฮโรด เป็ นลูกครึง่ ระหว่างยิวและอีดเู มียน เคยร่วมมือกับโรมระหว่างสงครามกลาง เมืองในปาเลสไตน์จนได้รบั ความไว้วางใจแต่งตัง้ เป็ นผูว้ า่ ราชการ 47 ปี ก.ค.ศ. ต่อมา อีก 7 ปี ได้รบั การสถาปนาเป็ นกษัตริยจ์ นสิน้ พระชนม์ในปี ท่ี 4 ก.ค.ศ. รวมระยะเวลา ทีท่ รงครองราชย์นาน 36 ปี เฮโรดได้รบั การขนานนามว่า “มหาราช” ซึ่งสมควรอย่างยิง่ เพราะพระองค์ ทรงทําให้บา้ นเมืองมีระเบียบและเกิดความสงบสุขอย่างแท้จริง ทรงเป็ นนักก่อสร้าง ผูเ้ ก่งกาจ พระวิหารทีก่ รุงเยรูซาเล็มก็เป็ นผลงานของพระองค์ ทรงเป็ นกษัตริยผ์ มู้ นี ้ํา พระทัยกว้างขวาง ยามประชาชนเดือดร้อนก็ทรงลดภาษีให้ และเมื่อประชาชนอด อยากแร้นแค้นใกล้อดตายเพราะความกันดารแห้งแล้งอย่างหนักเมื่อ 25 ปี ก.ค.ศ. พระองค์ทรงสังให้ ่ หลอมจานทองคําเพือ่ นําไปซือ้ ข้าวโพดเลีย้ งพสกนิกรของพระองค์ แต่ขอ้ เสียของเฮโรดคือทรง “ระแวงสงสัย” ว่าจะถูกแย่งชิงบัลลังก์อย่างไม่มี เหตุผล ยิง่ เมือ่ พระชนมายุมากขึน้ ความระแวงสงสัยก็ยงิ่ ทวีมากขึน้ จนกลายเป็ น “คน แก่น่ากลัว” ไปในทีส่ ดุ ทรงกําจัดทุกคนทีส่ งสัยว่าจะเป็ นคู่แข่งชิงอํานาจจากพระองค์ ไม่เว้นแม้แต่มารีอมั เน ผู้เป็ นภรรยา และอเล็กซานดรามารดาของพระนาง อันตี ปาแตร์โอรสหัวปี รวมถึงโอรสอีก 2 องค์คอื อเล็กซานเดอร์และอริสโตบูลุสก็ไม่รอด พ้นจากการถูกประหาร จนจักรพรรดิออกัสตัสแห่งกรุงโรมเอ่ยว่า “เป็ นหมู (hus – ฮูส) ของเฮโรดยังปลอดภัยกว่าเป็ นบุตร (huios – ฮุยออส) ของเฮโรด” เมือ่ พระชนมายุ 70 พรรษา ทรงเกรงว่าจะไม่มผี ใู้ ดไว้ทุกข์รอ้ งไห้เมือ่ พระองค์ สิ้นพระชนม์ จึงทรงสังให้ ่ จบั กุมและกักขังผูม้ ชี ่อื เสียงของเยรูซาเล็มไว้จํานวนหนึ่ง ด้วยข้อหาที่กุขน้ึ มาเอง พร้อมทัง้ กําชับให้ประหารทุกคนทันทีท่สี น้ิ พระชนม์เพื่อให้ ประชาชนเป็ นทุกข์และรํ่าไห้ ! เราคงคาดเดาความรูส้ กึ ของเฮโรดได้ไม่ยากเมื่อโหราจารย์ถามว่า “กษัตริย์ ชาวยิวทีเ่ พิง่ ประสูตอิ ยูท่ ใี ่ ด” ?! (มธ 2:2)
4
มิสซาสมโภชพระคริสตเจ้ าแสดงองค์ (ปี C) วันอาทิตย์ ที่ 6 มกราคม ค.ศ. 2013 วัน เดือน ปี ส. 5 ม.ค. 18.00 น.
รายการมิสซา สุ ขสํ าราญ โมทนาคุณพระเจ้าและพระแม่มารี ย ์ มารี อา ประทุม, คุณสมนึก ใช้สมบุญ และครอบครัว คุณสุ รีนา ชวนิชย์ และครอบครัว ยอแซฟ อนันต์ พึ่งผล และครอบครัว อุทศิ แด่ ยอแซฟ เสถียร, มารี อา เสาวนีย ์ พงษ์เพิ่มมาศ คาทารี นา ริ รินทร์ จิระดํารง ยอแซฟ จอห์น พึ่งผล, คุณสุ ดชนก ชวนิชย์ คุณพิทยาธร ตัณฑวณิ ช, คุณศิริพงษ์ แพทยานนท์ คุณสุ ภกิตติ์ พัฒนาพลกรสกุล คุณพิสิทฐ์ เบญจมงคล สตีเฟน จํารู ญ, มารี อา ละมุด เจริ ญพานิช อันตน สําเริ ง โกญจนาท เปาโล ธีระ ปัญจทรัพย์ วิญญาณในไฟชําระและวิญญาณที่ไม่มีผใู้ ดนึกถึง อา. 6 ม.ค. สุ ขสํ าราญ โมทนาคุณพระตรี เอกภาพ และพระแม่มารี ย ์ 08.00 น. โรส เดอ ลิมา อาจรี ย ์ ศรี เจริ ญ มารี อา เอื้อพันธ์ และครอบครัวศรี เจริ ญ อักแนส ดรุ ณี เจียมประชา มารี อา มาริ สา เสวตรวิทย์ และครอบครัว คุณณัฐธร และขวัญ, คุณจักรกริ ช ยูเนยา อุทศิ แด่ ยอแซฟ ทิวากร รักคิด และบรรพบุรุษ ยวง บัปติสตา ก๊กเคี้ยง แซ่แพ้, มารี อา กิมฮวย แซ่ต้ งั ฟรังซิ สเซเวียร์ จิรวัฒน์ เสวตรวิทย์ ผูล้ ่วงลับครอบครัวโกวงศ์ ผูล้ ่วงลับครอบครัวตันติโกสิ ชฌน์
ผู้ขอมิสซา เจมส์ เจมส์ ปภาวิชญ์ อมรา เจมส์ เจมส์ เจมส์ เจมส์ คค.เจริ ญพานิช เริ งจิต ปัณฑา,ชัญญา คุณอ๊ะ ยุพดี คค.ศรี เจริ ญ คค.ศรี เจริ ญ วิภาวินี คค. ธนาพานิชย์ 13
คุณวิไลวรรณ เตียวเจริ ญ คุณทิพวรรณ ทิวาวรรณวงศ์ คุณมีลยั ทรงกิจเจริ ญผล คุณวรวุฒิ ดีสุดจิตร บริ ษทั ห้างขายยาอังกฤษ (ตรางู) จํากัด คุณจําลอง จ.จิตต์เจริ ญชัย คุณวัชริ นทร์ รุ่ งเรื องกนกุล คุณนพินดา หาญจริ ง บริ ษทั ซี .พี.ฟู้ ดสโตร์ จํากัด
บริ ษทั ยูอาร์ซี (ประเทศไทย) จํากัด คุณปัทมา แทนศรี เกียรติ บริ ษทั เกตุวานิช อุตสาหกรรม จํากัด คุณนิด จิตต์นะกูล คุณฉวีวรรณ ทรงพิทยโยธิน คุณอัญชลี ไมตรี คุณพิมพ์ศิริ บุญเยีย่ ม ครอบครัวพร้อมเจริ ญวัฒนา ครอบครัวศิริปัญโญ
4. บรรดาหัวหน้ าสมณะและธรรมาจารย์ ที่ประชุมบรรดาหัวหน้าสมณะประกอบด้วยมหาสมณะที่เกษียณแล้วทุกคน และผูท้ ไ่ี ด้รบั การคัดเลือกจากสมาชิกของตระกูลชัน้ สูงเพียงไม่กต่ี ระกูลให้เป็ นหัวหน้า สมณะแบบผูกขาด ส่วนธรรมาจารย์คอื ผูเ้ ชีย่ วชาญด้านพระคัมภีรแ์ ละกฎหมาย ---------------------------ทันทีทพ่ี ระเยซูเจ้าประสูติ ปฏิกริ ยิ าของมนุ ษย์แบ่งออกเป็ น 3 กลุ่มอย่างเห็น ได้ชดั เกลียดและเป็ นศัตรู เฮโรดกลัวว่าพระกุมารจะเข้ามาแย่งชิงตําแหน่ ง อํานาจ และอิทธิพล ของพระองค์ จึงพยายามหาช่องทางกําจัดพระกุมารให้พน้ ไปจากชีวติ ของพระองค์ เช่นเดียวกับเฮโรด ยังมีคริสตชนอีกมากที่พร้อมกําจัดพระเยซูเจ้า ออกไปจากชีวติ เพราะเห็นว่าพระองค์เข้ามายุง่ เกีย่ วกับชีวติ ของตนจนไม่อาจทําอะไร ตามใจชอบได้อกี ต่อไป แต่อย่าลืมว่าคนทีท่ าํ อะไรตามใจชอบนัน้ หาได้มคี ุณค่าหรือประโยชน์ อันใดไม่ เขาเป็ นเพียง “ทาส” ของตนเองเท่านัน้ ! ส่วนคริสตชนแท้ต้องเป็ นคนที่ดําเนินชีวติ เหมือนพระคริสตเจ้า และ พร้อมอุทศิ ตนเพือ่ พระอาณาจักรของพระองค์ ดังนัน้ สิง่ ทีเ่ ราพึงวอนขอก่อนอื่นใดหมดก็คอื “พระประสงค์จงสําเร็จ ในแผ่นดิน เหมือนในสวรรค์” (มธ 6:10) 2. เฉย ๆ บรรดาหัวหน้ าสมณะและธรรมาจารย์มวั สลวนอยู่กบั การประกอบ พิธกี รรมในพระวิหาร และถกเถียงกันเรือ่ งกฎหมายจนไม่เห็นพระเยซูเจ้าอยูใ่ นสายตา ทัง้ ๆ ทีร่ ดู้ วี ่าพระองค์ประสูตใิ นเมืองเบธเลเฮม แคว้นยูเดีย แต่พวก เขากลับ “เฉย” 1.
คุณกานดา วงศ์ชาญวุฒิ คุณอัญชลี ภาระนันท์ คุณวัชริ นทร์ รุ่ งเรื องกนกุล คุณจินตนา หุตะพรประเสริ ฐ บริ ษทั ไทยเอกฟาร์ ม จํากัด
คุณสถิตย์ บํารุ งไทย คุณสมชาติ สุ ภาสื บ
12
คุณสุ พรรณี ฤกษ์ภรู ิ ทตั คุณวรรณิ ต องค์ชุมพาพิทกั ษ์ คุณพัชรี ธีระวัฒน์สกุล คุณนุชจรี ย ์ สิ งห์เสน่ห์ คุณอาทิตยาและคุณปุณิกา
คุณกําชัย จินตเสรี วงศ์ และอาสาสมัครทุกท่าน
5
พระองค์จะประสูตทิ ไ่ี หนหรือเมือ่ ใด ไม่มคี วามหมายอะไรทัง้ นัน้ ! ทุกวันนี้ คริสตชนจํานวนไม่น้อยยังประพฤติตนเช่นเดียวกับหัวหน้ า สมณะและธรรมาจารย์ นั น่ คือ มัว สลวนอยู่ ก ับ ธุ ร กิจ ของตนจนพระเยซู เ จ้ า ไม่ มี ความหมายอะไรเลยสําหรับชีวติ ของเขา พวกเขาลืมไปว่า “สิ ง่ สําคัญทีส่ ดุ ในชีวิตคือองค์พระเยซูเจ้า” ไม่ใช่ กิจการ หรือพิธกี าร หรือโครงการอื่นใดทัง้ สิน้ ! ขอให้คําถามของประกาศกเยเรมีย์ดงั ก้องอยู่ใ นจิตใจของเราเสมอ “ดูก่อน ท่านทัง้ หลายทีเ่ ดินผ่านไป ท่านไม่เกิดความรูส้ กึ อะไรบ้างหรือ” (พคค 1:12) 3. ชืน่ ชมยิ นดีและนมัสการ “เมือ่ เห็นดาวอีกครัง้ หนึง่ บรรดาโหราจารย์มคี วามยินดียงิ ่ นัก พวกเขา เข้าไปในบ้าน พบพระกุมารกับพระนางมารียพ์ ระมารดา จึงคุกเข่าลงนมัสการพระองค์ แล้วเปิดหีบสมบัตนิ ําทองคํา กํายาน และมดยอบออกมาถวายพระองค์” (มธ 2:10-11) พวกเขา นํ าสิง่ ทีด่ ที สี ่ ุดในชีวติ มาถวายแทบพระบาทของพระเยซูเจ้า เพือ่ นมัสการพระองค์ แน่นอนว่า หากเราตระหนักถึงความรักของพระเจ้าทีท่ รงแสดงออกใน องค์พระเยซูเจ้าแล้ว สิง่ เดียวทีท่ ุกคนสามารถทําได้กค็ อื “รักและนมัสการพระองค์ ด้วยสิ้ นสุดจิ ตใจ” เท่านัน้ ! เนื่องจากมีของขวัญ 3 อย่าง ตํานานจึงถือว่ามีโหราจารย์ 3 องค์ได้แก่ เมลกี ออร์ผถู้ วายทองคํา คาสเปอร์ผถู้ วายกํายาน และบัลธาซาร์ผถู้ วายมดยอบ ของขวัญทัง้ 3 สิง่ ยังบ่งบอกถึงชีวติ และภารกิจของพระกุมารในอนาคตอีกด้วย 1. ทองคํา ทองคําเป็ นราชาแห่งโลหะ (King of metals) จึงเหมาะสําหรับกษัตริย์ ดังนัน้ พระเยซูเ จ้าจึงประสูติมา “เพื อ่ เป็ นกษัต ริ ย์” เพียงแต่ ท รง ปกครองด้วยความรักไม่ใช่ดว้ ยกําลัง และทรงครองจิตใจมนุ ษย์ไม่ใช่จากพระราชวังแต่ จากไม้กางเขน !! 6
16/12/2012 16/12/2012 23/12/2012 23/12/2012 23/12/2012 23/12/2012
คุณสุ วรรณี แซ่อ้ งั 1,000 คุณสมาน บุบผาวาส 1,000 คุณสุ รพล ประดิษฐ์ศิลป์ 10,000 คุณพัสกร-คุณวรรณษา และครอบครัวธนาคลังหลวง 5,000 คุณรุ่ งนภา เลิศนุวฒั น์ 100 ผูไ้ ม่ประสงค์ออกนาม 2,000
รวมทั้งสิ้น
คุณวรรณา เมธี พิทกั ษ์กลุ ธนาคารทหารไทย จํากัด (มหาชน) คุณณัฐสุ ประวีณ์ พุฒิภคั ภูมิ คุณรสสุ คนธ์ กิจเจริ ญ คุณสมาน ทองไสว คุณสมชาย สุ ธางค์กลู Final Media Co., Ltd. คุณนิรมาน วงศ์ธนะชัย คุณดวงพร ชัยชนะ คุณอนุชา และคุณอัญชลี ภาระนันท์ คุณมาลี อดุลศิริสวัสดิ์ คุณเย็นฤดี เอรา คุณจริ ยา ดิลกวิทยารัตน์ บริ ษทั โกลบอล โปรดักส์ จํากัด คุณวันชัย เวโรจน์
101,200
บาท บาท บาท บาท บาท บาท
บาท
คุณทัศนีย ์ สว่าง คุณณัชชา พุฒิภคั ภูมิ คุณพรภัสสร ชัชวาลวรพงษ์ คุณสุ พรรณี ฤกษ์ภรู ิ ทตั คุณจิราภรณ์ ศันสนะวาณี คุณกนกพร พัฒนกิจสิ ริคุณ คุณมานพ สิ นไชยรัตนากุล คุณนิด จิตต์นะกูล คุณดารณี รุ่ งภูวพัฒน์ คุณมนัสนันท์ คุณวาทิวดา คุณศิวารี ย ์ แตงอ่อน ครอบครัวสาณะเสน คุณวิจิตร กิจปกครอง คุณนิรมาน วงศ์ธนะชัย 11
กํายาน กํายานเป็ นสิง่ ทีพ่ ระสงฆ์ใช้ในพิธกี รรม คํา priest (พระสงฆ์) มาจาก ภาษาลาติน pontifex (ปอนตีเฟ็กซ์) หมายถึง “ผูส้ ร้างสะพาน” นัน่ คือ พระเยซูเจ้าทรงบังเกิดมา “เพือ่ เป็ นพระสงฆ์” หน้าที่ของ พระองค์คอื เปิดหนทางสูพ่ ระเจ้า และสร้างสะพานเชื่อมระหว่างพระเจ้ากับมนุษย์ หากปราศจากพระองค์ หนทางสูพ่ ระเจ้าย่อมมืดมนและถูกตัดขาด ! 3. มดยอบ มดยอบใช้สาํ หรับชโลมศพ ! วันนี้พระกุมารประสูติมาเพื่อเรา วันหน้ าพระองค์ยงั จะสิ้นพระชนม์ เพือ่ เราอีก พระองค์ทรงบังเกิดมาเพื่อมอบทัง้ ชีวติ และความตายของพระองค์แก่ เรา พระองค์ทรงเป็ น “พระผูไ้ ถ่” สําหรับชาวเราโดยแท้ 2.
11/11/2012 11/11/2012 18/11/2012 18/11/2012 18/11/2012 18/11/2012 18/11/2012 18/11/2012 18/11/2012 25/11/2012 25/11/2012 25/11/2012 25/11/2012 2/12/2012 2/12/2012 2/12/2012 2/12/2012 2/12/2012 9/12/2012 9/12/2012 9/12/2012 9/12/2012 16/12/2012 16/12/2012 16/12/2012 10
คุณพยนต์ ถาวรวงศ์ คุณวาริ ณี สาณะเสน คุณสาลินี จันสวัสดิ์ คุณมานพ สิ นไชยรัตนากุล ครอบครัววงษ์สง่า คุณสุ รางค์ บุญญจินดารัตน์ คุณอรอนงค์ ซื่ อเพียรธรรม คุณสุ รเดช อังกุรัตน์ คุณวาศินี ภัทรายุตวรรณน์ คุณวไลพร นาคเกษม คุณธี ระ บุญเลิศ คุณนาถฤดี รุ่ งเรื องผล คุณณัฐพล ผาสุ ข คุณบุญญรัตน์ สิ งหฬ คุณสุ รพล ประดิษฐ์ศิลป์ ครอบครัวใช้สมบุญ คุณประภา ดีสุดจิตร คุณปรี ชา-คุณอรนารถ ประกอบกิจ ครอบครัวตันติโกสิ ชฌน์ ครอบครัวสุ นทรี กลุ พงศ์ ผูไ้ ม่ประสงค์ออกนาม ผูไ้ ม่ประสงค์ออกนาม ผูไ้ ม่ประสงค์ออกนามชาวเวียดนาม ครอบครัวกําเหนิดงาม ครอบครัว สุ ภี อู๋สวัสดิ์ และคุณวราพร เจนใจ
10,000 1,000 1,000 5,000 5,000 500 5,000 2,000 4,000 5,000 2,000 1,000 500 1,000 10,000 1,000 1,000 10,000 1,000 5,000 600 1,000 1,000 5,000 3,500
บาท บาท บาท บาท บาท บาท บาท บาท บาท บาท บาท บาท บาท บาท บาท บาท บาท บาท บาท บาท บาท บาท บาท บาท บาท
จากของขวัญทีโ่ หราจารย์นํามาถวาย เรารูแ้ ละมันใจได้ ่ ว่า พระเยซูเจ้าประสูติ มาเพือ่ เป็ นกษัตริย์ เป็ นมหาสมณะสูงสุด และเป็ นพระผูไ้ ถ่ของชาวเราทุกคน เราจะเป็ นเฮโรด มหาสมณะ หรือโหราจารย์ ก็เลือกเอา !
7
จาก “สุขใจในนาคร”
มีเ หตุผ ลมากมายที่ ทํา ให้ผ คู้ นสมัย นี้เ สพติด อะไรต่อ อะไรไปคนละแบบ ไม่ว่า จะเป็ น โทรศัพท์มือถือ อินเตอร์เนต เกม ฯลฯ ถ้าจะจาระไน คงต้องอาศัยผูร้ หู้ ลายสาขา แต่สาเหตุหนึ่ง ที่สาํ คัญก็คือ ผูค้ นสมัยนีท้ นอยู่กบั ตัวเองไม่ค่อยได้ ถ้าให้อยู่นงิ่ ๆ เฉยๆ คนเดียว ไม่นานจะรูส้ ึก กระสับกระส่ายขึ้นมา ต้องเหลียวซ้ายแลขวาคว้าอะไรมาใส่ปาก หาไม่ก็เปิ ดโทรทัศน์ ฟั งเพลง พูดโทรศัพท์ หรือง่วนกับอะไรก็ได้ ทัง้ นีเ้ พื่อจะได้ไม่ตอ้ งอยูก่ บั ตัวเอง ถ้าถามว่าส่วนไหนของเราที่เราทนได้ยากที่สดุ คําตอบคงไม่ใช่รปู ร่างหน้าตา ยิ่งถ้าเป็ น สาวสวยหนุม่ หล่อด้วยแล้ว กลับอยากจะพิศดูสารรูปของตนนาน ๆ ด้วยซํา้ แต่สิ่งที่เราทนได้ ยากจริง ๆ ก็คือความคิดของเรานัน่ เอง เราทนอยู่เฉย ๆ คนเดียวไม่ได้นานก็เพราะเรากลัว ความฟุ้ งซ่านของตัวเอง เมือ่ ใดที่อยูน่ งิ่ ๆ คนเดียว ความคิดของเรานีแ่ หละที่จะคว้าอะไรต่ออะไร มาประดังประเดใส่หัวเราจนวุ่นวายไปหมด หาไม่ก็พาเราไปจมปลักอยู่กับเรื่องที่ชวนให้วิตก กังวล ทุกข์โศก คับแค้นใจ ทั้ง ๆ ที่ผ่านไปแล้ว หรือบ่อยครั้งก็ยังไม่ทันเกิดขึ้น แต่ปรุงแต่งไป ล่วงหน้าเสียก่อน ความคิดของเราเองนี้แหละที่คอยหาเรื่องมารังควานตัวเราเอง สรรหาความทุกข์มา ทิ่มแทงตัวเอง เอาความโกรธ เกลียด มาเผาลนจิตใจเราเองไม่หยุดหย่อน จนกินไม่ได้นอนไม่ หลับ น่าแปลกก็คือ ทัง้ ๆ ที่มนั เป็ นความคิด ”ของเรา” แต่เรากลับคุมมันแทบไม่ได้ เราไม่รดู้ ว้ ย ซํา้ ว่า อีก 1 นาทีตอ่ จากนี้ มันจะคิดอะไร นอกจากมันจะไม่อยู่ในโอวาทของเราแล้ว บ่อยครั้งมัน กลับทะเลาะเบาะแว้งกับเรา สร้างความสับสนขัดแย้งภายในใจเรา เราทนอยู่กับตัวเองไม่ได้ก็ เพราะเรากลัวว่ามันจะอาละวาดใส่เรา เพราะเหตุนี้เราจึงต้องหาอะไรมาเสพมาบริโภค ทําอะไรก็ ได้เพื่อให้ใจเรา”วุ่น” จะได้ไม่มีชอ่ งให้มนั มารบกวนเราได้ หาไม่ก็ตอ้ งหาอะไรมาปรนเปรอมัน สุด แท้แต่มนั จะชอบอะไร มันจะได้ไม่มาวุน่ วายกับเรา ทั้งหมดที่พดู มาดูราวกับว่า ความคิดของเราช่างแย่เหลือเกิน ที่จริงความคิดของเรา ไม่ได้มีนสิ ยั เป็ นอันธพาลเลย เขาน่าจะเป็ นมิตรที่ประเสริฐของเราด้วยซํา้ แต่อะไรทําให้เขาทําตัว เกเรอย่างนั้น ทารกทุกคนน่ารักทั้งนั้น แต่เหตุใดบางคนพอโตขึ้นกลับมีนิสัยก้าวร้าว หยาบ กระด้าง เอาแต่ใจตัว ใช่หรือไม่ว่าเป็ นเพราะพ่อแม่เลี้ยงดูไม่ถกู ต้อง เอาแต่ทาํ มาหากินจนไม่มี เวลาใส่ใจลูก ฉันใดก็ฉนั นัน้ ความคิดหรือจิตของเราทําตัวเกเรจนเราไม่อยากอยูด่ ว้ ย ก็เพราะเรา ละเลยทอดทิ้งเขานัน่ เอง เราทําอะไรต่ออะไรมากมาย แต่แทบไม่มีเวลาให้กบั จิตใจของเราเลย แม้ เราจะเลี้ยงดูบม่ เพาะความคิดให้เติบใหญ่ มีกาํ ลังและความรูม้ ากมาย แต่กลับไม่อบรมให้ถกู ต้อง ผลจึงไม่ตา่ งจากพ่อแม่ที่ได้แต่สรรหาของดีของแพงมาให้ลกู กิน แต่ไม่ใส่ใจที่จะสัง่ สอนลูก ลูกจึง โตแต่กาย หากจิตใจกลับอ่อนแอปวกเปี ยก ความคิ ดนั้นเป็ นส่วนหนึ่งของเรา ทุกวันนี้คนจํานวนไม่นอ้ ยได้ทําให้ความคิ ดจิต ใจ กลายเป็ นปฏิ ปักษ์กับตนเอง ดังนั้นจึงเท่ากับทําให้ตัวเองเป็ นปฏิปักษ์กับตนเอง ผลก็ คือเกิด ความเดือดร้อนวุ่นวายจนหาความสงบไม่ได้ อยู่ว่าง ๆ คนเดียวเมื่อไร สงครามเป็ นต้องเกิดขึน้ ภายในใจ ด้วยเหตุนี้ใครต่อใครจึงชอบหนีตัวเอง คอยทําตัวไม่ให้ว่าง ถ้าไม่ทาํ งานมาก ๆ ก็ด ู 8
โทรทัศน์เป็ นชัว่ โมง เที่ยวเตร่จนดึกดื่น คุยโทรศัพท์หรือสนทนาอินเตอร์เน็ตจนสายแทบจะไหม้ หนักกว่านัน้ ก็เข้าหายาเสพติดไปเลย วิธีเหล่านี้ยังให้ผลพลอยได้ประการหนึ่งคือ เป็ นโอกาสที่จะ หนีคนรอบข้างด้วย ทั้งนี้เพราะนับวันเราไม่เพียงแต่หมางเมินกับตัวเองเท่านัน้ หากยังแปลกแยก กับคนรอบตัว ไม่เว้นแม้แต่พ่อแม่พี่นอ้ งหรือคู่ครอง สงครามจึงไม่ได้เกิดขึ้นแค่ภายในใจเท่านัน้ หากยังมักเกิดขึ้นในความสัมพันธ์กับผูอ้ ื่นรอบตัวด้วย ฉะนัน้ จึงไม่แปลกที่ผคู้ นต้องหาทางออก ด้วยการไปหมกมุน่ กับสิ่งอื่นแทน แต่ไม่ว่าจะทําอย่างไร เราก็ไม่มีวันที่จะหนีตวั เองได้ และไม่ว่าจะแสวงหาเท่าไร ก็ ไม่มีวัน พบใครที่จะเป็ นมิตรอันประเสริฐไปกว่าตัวเองได้ จะไม่ดีกว่าหรือหากเราจะหันกลับมาเผชิญหน้า และผูกมิตรกับตัวเองเสียที นีเ้ ป็ นวิธีเดียวที่จะสงบศึกภายในใจได้ เรามาสงบศึกและสร้างสันติ ภายในใจเราด้วยการหันมาให้เวลากับชีวิตด้านใน ของตนเองดีไหม ความคิดจิตใจของเราถูกอัดแน่นด้วยข้อมูลข่าวสารมามากจนเต็มอิ่มแล้ว แต่ กลับหิวโหยความสงบสุข ดังนัน้ จึงไม่มีอะไรที่ดีไปกว่าการแสวงหาความสงบสุขมาหล่อเลี้ยงจิตใจ ของเรา ขณะเดียวกันก็ เปิ ดโอกาสให้ความคิดของเราได้พักผ่อนบ้าง การจัดสรรโอกาสเพื่อให้ ความคิดจิตใจได้สงบนิ่งอย่างน้อย 10 นาทีตอ่ วัน เป็ นเงือ่ นไขที่ขาดไม่ได้ของการทําสัญญาสงบ ศึกกับตัวเอง และถ้าต้องการสันติภาพที่ยงั ่ ยืน เราต้องเต็มใจที่จะอุทิศเวลาและความเพียรให้มาก ขึน้ กว่านี้ สิ่งสําคัญที่ขาดไม่ได้สาํ หรับสันติภาพที่แท้จริงก็คือเมตตาหรือความรัก นอกจาก เวลาและความสงบแล้ว เราควรให้ความรักแก่ต นเองมาก ๆ ด้วย อย่ารังเกียจตนเองถึ งแม้ หน้าตาจะไม่สะสวย หุ่นไม่ผอมบาง หรือฉลาดสูค้ นอื่นไม่ได้ แต่ที่สาํ คัญกว่านัน้ ก็คือรูจ้ กั แผ่เมตตา ให้ตนเองเมื่อประสบกับเรื่องที่ไม่น่าพึงพอใจ แทนที่เราจะทําร้ายตัวเองด้วยการเอาความโกรธ เกลียดมาเผาลนจิตใจ หรือเติมฟื นไฟให้มนั พลุ่งพล่านรุนแรงขึ้น ไม่ดีกว่าหรือหากเราจะสงสาร ตัวเอง และนําเมตตาธรรมมาชโลมใจแทน แม้จะแผ่เมตตาให้แก่คนที่เบียดเบียนเราไม่ได้ อย่างน้อยก็นา่ ที่จะแผ่เมตตาให้แก่ตวั เองว่า ขอให้สงบเย็นเป็ นสุขเถิด เพียงถูกเขากระทําแค่นเี้ ราก็ทกุ ข์พอแล้ว นีเ่ ราจะมาซํา้ เติมตัวเองอีกหรือ ยิ่งเราโกรธเกลียดเขามากเท่าไร เราเองก็จะเป็ นฝ่ ายทุกข์มากเท่านัน้ ใช่ว่าเขาจะทุกข์รอ้ นไปด้วยก็ หาไม่ ยิ่งเรารักตัวเอง เมตตาตัวเองมากเพียงใด ยิ่งจําต้องดับไฟแห่งความโกรธเกลียดให้เร็ ว เพียงนัน้ ทัง้ นีด้ ว้ ยการถอนจิตออกไปจากเรื่องนัน้ หรือเอาความคิดไปจดจ่อกับเรื่องอื่นที่สบายใจ กว่าแทน และหากเรามีเมตตามากพอ ก็ควรแผ่ไปให้แก่ผทู้ ี่กระทบใจเราด้วย อย่างน้อยผลดีก็จะ เกิดขึ้นแก่เราเองคือทําให้ใจเราสงบเย็ นขึ้น ถ้าจะเมตตาตัวเองให้เป็ น เราต้องรูจ้ ักเมตตาผูอ้ ื่ น โดยเฉพาะผูท้ ี่เป็ น”ศัตรู”ของเราด้วย สิ่งประเสริฐสุดอย่างหนึ่งที่เราสามารถทําได้ในชีวิตนี้ก็คือ การมอบความเป็ นมิตรให้แก่ ตนเอง นานมาแล้วที่เราเหินห่างหมางเมินกับตนเอง จนบางครั้งถึงกับเป็ นปฏิปักษ์กัน ยังไม่ถึง เวลาอีกหรือที่เราจะหันมาเป็ นมิตรกับตนเอง เพื่อจะได้อยูร่ ่วมกับตนเองอย่างสงบสันติเสียที ปีใหม่น้ ี เป็นโอกาสดีที่เราจะเริ่มต้นคืนดีกบั ตัวเอง ปีแล้วปีเล่าที่ เราให้ของขวัญ ใครต่อใครมากมาย ปีนี้ลองมอบมิตรภาพให้แก่ตวั เองบ้าง แล้วอย่าลืมหันไปคืนดีกบั คน รอบข้างด้วย 9
จาก “สุขใจในนาคร”
มีเ หตุผ ลมากมายที่ ทํา ให้ผ คู้ นสมัย นี้เ สพติด อะไรต่อ อะไรไปคนละแบบ ไม่ว่า จะเป็ น โทรศัพท์มือถือ อินเตอร์เนต เกม ฯลฯ ถ้าจะจาระไน คงต้องอาศัยผูร้ หู้ ลายสาขา แต่สาเหตุหนึ่ง ที่สาํ คัญก็คือ ผูค้ นสมัยนีท้ นอยู่กบั ตัวเองไม่ค่อยได้ ถ้าให้อยู่นงิ่ ๆ เฉยๆ คนเดียว ไม่นานจะรูส้ ึก กระสับกระส่ายขึ้นมา ต้องเหลียวซ้ายแลขวาคว้าอะไรมาใส่ปาก หาไม่ก็เปิ ดโทรทัศน์ ฟั งเพลง พูดโทรศัพท์ หรือง่วนกับอะไรก็ได้ ทัง้ นีเ้ พื่อจะได้ไม่ตอ้ งอยูก่ บั ตัวเอง ถ้าถามว่าส่วนไหนของเราที่เราทนได้ยากที่สดุ คําตอบคงไม่ใช่รปู ร่างหน้าตา ยิ่งถ้าเป็ น สาวสวยหนุม่ หล่อด้วยแล้ว กลับอยากจะพิศดูสารรูปของตนนาน ๆ ด้วยซํา้ แต่สิ่งที่เราทนได้ ยากจริง ๆ ก็คือความคิดของเรานัน่ เอง เราทนอยู่เฉย ๆ คนเดียวไม่ได้นานก็เพราะเรากลัว ความฟุ้ งซ่านของตัวเอง เมือ่ ใดที่อยูน่ งิ่ ๆ คนเดียว ความคิดของเรานีแ่ หละที่จะคว้าอะไรต่ออะไร มาประดังประเดใส่หัวเราจนวุ่นวายไปหมด หาไม่ก็พาเราไปจมปลักอยู่กับเรื่องที่ชวนให้วิตก กังวล ทุกข์โศก คับแค้นใจ ทั้ง ๆ ที่ผ่านไปแล้ว หรือบ่อยครั้งก็ยังไม่ทันเกิดขึ้น แต่ปรุงแต่งไป ล่วงหน้าเสียก่อน ความคิดของเราเองนี้แหละที่คอยหาเรื่องมารังควานตัวเราเอง สรรหาความทุกข์มา ทิ่มแทงตัวเอง เอาความโกรธ เกลียด มาเผาลนจิตใจเราเองไม่หยุดหย่อน จนกินไม่ได้นอนไม่ หลับ น่าแปลกก็คือ ทัง้ ๆ ที่มนั เป็ นความคิด ”ของเรา” แต่เรากลับคุมมันแทบไม่ได้ เราไม่รดู้ ว้ ย ซํา้ ว่า อีก 1 นาทีตอ่ จากนี้ มันจะคิดอะไร นอกจากมันจะไม่อยู่ในโอวาทของเราแล้ว บ่อยครั้งมัน กลับทะเลาะเบาะแว้งกับเรา สร้างความสับสนขัดแย้งภายในใจเรา เราทนอยู่กับตัวเองไม่ได้ก็ เพราะเรากลัวว่ามันจะอาละวาดใส่เรา เพราะเหตุนี้เราจึงต้องหาอะไรมาเสพมาบริโภค ทําอะไรก็ ได้เพื่อให้ใจเรา”วุ่น” จะได้ไม่มีชอ่ งให้มนั มารบกวนเราได้ หาไม่ก็ตอ้ งหาอะไรมาปรนเปรอมัน สุด แท้แต่มนั จะชอบอะไร มันจะได้ไม่มาวุน่ วายกับเรา ทั้งหมดที่พดู มาดูราวกับว่า ความคิดของเราช่างแย่เหลือเกิน ที่จริงความคิดของเรา ไม่ได้มีนสิ ยั เป็ นอันธพาลเลย เขาน่าจะเป็ นมิตรที่ประเสริฐของเราด้วยซํา้ แต่อะไรทําให้เขาทําตัว เกเรอย่างนั้น ทารกทุกคนน่ารักทั้งนั้น แต่เหตุใดบางคนพอโตขึ้นกลับมีนิสัยก้าวร้าว หยาบ กระด้าง เอาแต่ใจตัว ใช่หรือไม่ว่าเป็ นเพราะพ่อแม่เลี้ยงดูไม่ถกู ต้อง เอาแต่ทาํ มาหากินจนไม่มี เวลาใส่ใจลูก ฉันใดก็ฉนั นัน้ ความคิดหรือจิตของเราทําตัวเกเรจนเราไม่อยากอยูด่ ว้ ย ก็เพราะเรา ละเลยทอดทิ้งเขานัน่ เอง เราทําอะไรต่ออะไรมากมาย แต่แทบไม่มีเวลาให้กบั จิตใจของเราเลย แม้ เราจะเลี้ยงดูบม่ เพาะความคิดให้เติบใหญ่ มีกาํ ลังและความรูม้ ากมาย แต่กลับไม่อบรมให้ถกู ต้อง ผลจึงไม่ตา่ งจากพ่อแม่ที่ได้แต่สรรหาของดีของแพงมาให้ลกู กิน แต่ไม่ใส่ใจที่จะสัง่ สอนลูก ลูกจึง โตแต่กาย หากจิตใจกลับอ่อนแอปวกเปี ยก ความคิ ดนั้นเป็ นส่วนหนึ่งของเรา ทุกวันนี้คนจํานวนไม่นอ้ ยได้ทําให้ความคิ ดจิต ใจ กลายเป็ นปฏิ ปักษ์กับตนเอง ดังนั้นจึงเท่ากับทําให้ตัวเองเป็ นปฏิปักษ์กับตนเอง ผลก็ คือเกิด ความเดือดร้อนวุ่นวายจนหาความสงบไม่ได้ อยู่ว่าง ๆ คนเดียวเมื่อไร สงครามเป็ นต้องเกิดขึน้ ภายในใจ ด้วยเหตุนี้ใครต่อใครจึงชอบหนีตัวเอง คอยทําตัวไม่ให้ว่าง ถ้าไม่ทาํ งานมาก ๆ ก็ด ู 8
โทรทัศน์เป็ นชัว่ โมง เที่ยวเตร่จนดึกดื่น คุยโทรศัพท์หรือสนทนาอินเตอร์เน็ตจนสายแทบจะไหม้ หนักกว่านัน้ ก็เข้าหายาเสพติดไปเลย วิธีเหล่านี้ยังให้ผลพลอยได้ประการหนึ่งคือ เป็ นโอกาสที่จะ หนีคนรอบข้างด้วย ทั้งนี้เพราะนับวันเราไม่เพียงแต่หมางเมินกับตัวเองเท่านัน้ หากยังแปลกแยก กับคนรอบตัว ไม่เว้นแม้แต่พ่อแม่พี่นอ้ งหรือคู่ครอง สงครามจึงไม่ได้เกิดขึ้นแค่ภายในใจเท่านัน้ หากยังมักเกิดขึ้นในความสัมพันธ์กับผูอ้ ื่นรอบตัวด้วย ฉะนัน้ จึงไม่แปลกที่ผคู้ นต้องหาทางออก ด้วยการไปหมกมุน่ กับสิ่งอื่นแทน แต่ไม่ว่าจะทําอย่างไร เราก็ไม่มีวันที่จะหนีตวั เองได้ และไม่ว่าจะแสวงหาเท่าไร ก็ ไม่มีวัน พบใครที่จะเป็ นมิตรอันประเสริฐไปกว่าตัวเองได้ จะไม่ดีกว่าหรือหากเราจะหันกลับมาเผชิญหน้า และผูกมิตรกับตัวเองเสียที นีเ้ ป็ นวิธีเดียวที่จะสงบศึกภายในใจได้ เรามาสงบศึกและสร้างสันติ ภายในใจเราด้วยการหันมาให้เวลากับชีวิตด้านใน ของตนเองดีไหม ความคิดจิตใจของเราถูกอัดแน่นด้วยข้อมูลข่าวสารมามากจนเต็มอิ่มแล้ว แต่ กลับหิวโหยความสงบสุข ดังนัน้ จึงไม่มีอะไรที่ดีไปกว่าการแสวงหาความสงบสุขมาหล่อเลี้ยงจิตใจ ของเรา ขณะเดียวกันก็ เปิ ดโอกาสให้ความคิดของเราได้พักผ่อนบ้าง การจัดสรรโอกาสเพื่อให้ ความคิดจิตใจได้สงบนิ่งอย่างน้อย 10 นาทีตอ่ วัน เป็ นเงือ่ นไขที่ขาดไม่ได้ของการทําสัญญาสงบ ศึกกับตัวเอง และถ้าต้องการสันติภาพที่ยงั ่ ยืน เราต้องเต็มใจที่จะอุทิศเวลาและความเพียรให้มาก ขึน้ กว่านี้ สิ่งสําคัญที่ขาดไม่ได้สาํ หรับสันติภาพที่แท้จริงก็คือเมตตาหรือความรัก นอกจาก เวลาและความสงบแล้ว เราควรให้ความรักแก่ต นเองมาก ๆ ด้วย อย่ารังเกียจตนเองถึ งแม้ หน้าตาจะไม่สะสวย หุ่นไม่ผอมบาง หรือฉลาดสูค้ นอื่นไม่ได้ แต่ที่สาํ คัญกว่านัน้ ก็คือรูจ้ กั แผ่เมตตา ให้ตนเองเมื่อประสบกับเรื่องที่ไม่น่าพึงพอใจ แทนที่เราจะทําร้ายตัวเองด้วยการเอาความโกรธ เกลียดมาเผาลนจิตใจ หรือเติมฟื นไฟให้มนั พลุ่งพล่านรุนแรงขึ้น ไม่ดีกว่าหรือหากเราจะสงสาร ตัวเอง และนําเมตตาธรรมมาชโลมใจแทน แม้จะแผ่เมตตาให้แก่คนที่เบียดเบียนเราไม่ได้ อย่างน้อยก็นา่ ที่จะแผ่เมตตาให้แก่ตวั เองว่า ขอให้สงบเย็นเป็ นสุขเถิด เพียงถูกเขากระทําแค่นเี้ ราก็ทกุ ข์พอแล้ว นีเ่ ราจะมาซํา้ เติมตัวเองอีกหรือ ยิ่งเราโกรธเกลียดเขามากเท่าไร เราเองก็จะเป็ นฝ่ ายทุกข์มากเท่านัน้ ใช่ว่าเขาจะทุกข์รอ้ นไปด้วยก็ หาไม่ ยิ่งเรารักตัวเอง เมตตาตัวเองมากเพียงใด ยิ่งจําต้องดับไฟแห่งความโกรธเกลียดให้เร็ ว เพียงนัน้ ทัง้ นีด้ ว้ ยการถอนจิตออกไปจากเรื่องนัน้ หรือเอาความคิดไปจดจ่อกับเรื่องอื่นที่สบายใจ กว่าแทน และหากเรามีเมตตามากพอ ก็ควรแผ่ไปให้แก่ผทู้ ี่กระทบใจเราด้วย อย่างน้อยผลดีก็จะ เกิดขึ้นแก่เราเองคือทําให้ใจเราสงบเย็ นขึ้น ถ้าจะเมตตาตัวเองให้เป็ น เราต้องรูจ้ ักเมตตาผูอ้ ื่ น โดยเฉพาะผูท้ ี่เป็ น”ศัตรู”ของเราด้วย สิ่งประเสริฐสุดอย่างหนึ่งที่เราสามารถทําได้ในชีวิตนี้ก็คือ การมอบความเป็ นมิตรให้แก่ ตนเอง นานมาแล้วที่เราเหินห่างหมางเมินกับตนเอง จนบางครั้งถึงกับเป็ นปฏิปักษ์กัน ยังไม่ถึง เวลาอีกหรือที่เราจะหันมาเป็ นมิตรกับตนเอง เพื่อจะได้อยูร่ ่วมกับตนเองอย่างสงบสันติเสียที ปีใหม่น้ ี เป็นโอกาสดีที่เราจะเริ่มต้นคืนดีกบั ตัวเอง ปีแล้วปีเล่าที่ เราให้ของขวัญ ใครต่อใครมากมาย ปีนี้ลองมอบมิตรภาพให้แก่ตวั เองบ้าง แล้วอย่าลืมหันไปคืนดีกบั คน รอบข้างด้วย 9
กํายาน กํายานเป็ นสิง่ ทีพ่ ระสงฆ์ใช้ในพิธกี รรม คํา priest (พระสงฆ์) มาจาก ภาษาลาติน pontifex (ปอนตีเฟ็กซ์) หมายถึง “ผูส้ ร้างสะพาน” นัน่ คือ พระเยซูเจ้าทรงบังเกิดมา “เพือ่ เป็ นพระสงฆ์” หน้าที่ของ พระองค์คอื เปิดหนทางสูพ่ ระเจ้า และสร้างสะพานเชื่อมระหว่างพระเจ้ากับมนุษย์ หากปราศจากพระองค์ หนทางสูพ่ ระเจ้าย่อมมืดมนและถูกตัดขาด ! 3. มดยอบ มดยอบใช้สาํ หรับชโลมศพ ! วันนี้พระกุมารประสูติมาเพื่อเรา วันหน้ าพระองค์ยงั จะสิ้นพระชนม์ เพือ่ เราอีก พระองค์ทรงบังเกิดมาเพื่อมอบทัง้ ชีวติ และความตายของพระองค์แก่ เรา พระองค์ทรงเป็ น “พระผูไ้ ถ่” สําหรับชาวเราโดยแท้ 2.
11/11/2012 11/11/2012 18/11/2012 18/11/2012 18/11/2012 18/11/2012 18/11/2012 18/11/2012 18/11/2012 25/11/2012 25/11/2012 25/11/2012 25/11/2012 2/12/2012 2/12/2012 2/12/2012 2/12/2012 2/12/2012 9/12/2012 9/12/2012 9/12/2012 9/12/2012 16/12/2012 16/12/2012 16/12/2012 10
คุณพยนต์ ถาวรวงศ์ คุณวาริ ณี สาณะเสน คุณสาลินี จันสวัสดิ์ คุณมานพ สิ นไชยรัตนากุล ครอบครัววงษ์สง่า คุณสุ รางค์ บุญญจินดารัตน์ คุณอรอนงค์ ซื่ อเพียรธรรม คุณสุ รเดช อังกุรัตน์ คุณวาศินี ภัทรายุตวรรณน์ คุณวไลพร นาคเกษม คุณธี ระ บุญเลิศ คุณนาถฤดี รุ่ งเรื องผล คุณณัฐพล ผาสุ ข คุณบุญญรัตน์ สิ งหฬ คุณสุ รพล ประดิษฐ์ศิลป์ ครอบครัวใช้สมบุญ คุณประภา ดีสุดจิตร คุณปรี ชา-คุณอรนารถ ประกอบกิจ ครอบครัวตันติโกสิ ชฌน์ ครอบครัวสุ นทรี กลุ พงศ์ ผูไ้ ม่ประสงค์ออกนาม ผูไ้ ม่ประสงค์ออกนาม ผูไ้ ม่ประสงค์ออกนามชาวเวียดนาม ครอบครัวกําเหนิดงาม ครอบครัว สุ ภี อู๋สวัสดิ์ และคุณวราพร เจนใจ
10,000 1,000 1,000 5,000 5,000 500 5,000 2,000 4,000 5,000 2,000 1,000 500 1,000 10,000 1,000 1,000 10,000 1,000 5,000 600 1,000 1,000 5,000 3,500
บาท บาท บาท บาท บาท บาท บาท บาท บาท บาท บาท บาท บาท บาท บาท บาท บาท บาท บาท บาท บาท บาท บาท บาท บาท
จากของขวัญทีโ่ หราจารย์นํามาถวาย เรารูแ้ ละมันใจได้ ่ ว่า พระเยซูเจ้าประสูติ มาเพือ่ เป็ นกษัตริย์ เป็ นมหาสมณะสูงสุด และเป็ นพระผูไ้ ถ่ของชาวเราทุกคน เราจะเป็ นเฮโรด มหาสมณะ หรือโหราจารย์ ก็เลือกเอา !
7
พระองค์จะประสูตทิ ไ่ี หนหรือเมือ่ ใด ไม่มคี วามหมายอะไรทัง้ นัน้ ! ทุกวันนี้ คริสตชนจํานวนไม่น้อยยังประพฤติตนเช่นเดียวกับหัวหน้ า สมณะและธรรมาจารย์ นั น่ คือ มัว สลวนอยู่ ก ับ ธุ ร กิจ ของตนจนพระเยซู เ จ้ า ไม่ มี ความหมายอะไรเลยสําหรับชีวติ ของเขา พวกเขาลืมไปว่า “สิ ง่ สําคัญทีส่ ดุ ในชีวิตคือองค์พระเยซูเจ้า” ไม่ใช่ กิจการ หรือพิธกี าร หรือโครงการอื่นใดทัง้ สิน้ ! ขอให้คําถามของประกาศกเยเรมีย์ดงั ก้องอยู่ใ นจิตใจของเราเสมอ “ดูก่อน ท่านทัง้ หลายทีเ่ ดินผ่านไป ท่านไม่เกิดความรูส้ กึ อะไรบ้างหรือ” (พคค 1:12) 3. ชืน่ ชมยิ นดีและนมัสการ “เมือ่ เห็นดาวอีกครัง้ หนึง่ บรรดาโหราจารย์มคี วามยินดียงิ ่ นัก พวกเขา เข้าไปในบ้าน พบพระกุมารกับพระนางมารียพ์ ระมารดา จึงคุกเข่าลงนมัสการพระองค์ แล้วเปิดหีบสมบัตนิ ําทองคํา กํายาน และมดยอบออกมาถวายพระองค์” (มธ 2:10-11) พวกเขา นํ าสิง่ ทีด่ ที สี ่ ุดในชีวติ มาถวายแทบพระบาทของพระเยซูเจ้า เพือ่ นมัสการพระองค์ แน่นอนว่า หากเราตระหนักถึงความรักของพระเจ้าทีท่ รงแสดงออกใน องค์พระเยซูเจ้าแล้ว สิง่ เดียวทีท่ ุกคนสามารถทําได้กค็ อื “รักและนมัสการพระองค์ ด้วยสิ้ นสุดจิ ตใจ” เท่านัน้ ! เนื่องจากมีของขวัญ 3 อย่าง ตํานานจึงถือว่ามีโหราจารย์ 3 องค์ได้แก่ เมลกี ออร์ผถู้ วายทองคํา คาสเปอร์ผถู้ วายกํายาน และบัลธาซาร์ผถู้ วายมดยอบ ของขวัญทัง้ 3 สิง่ ยังบ่งบอกถึงชีวติ และภารกิจของพระกุมารในอนาคตอีกด้วย 1. ทองคํา ทองคําเป็ นราชาแห่งโลหะ (King of metals) จึงเหมาะสําหรับกษัตริย์ ดังนัน้ พระเยซูเ จ้าจึงประสูติมา “เพื อ่ เป็ นกษัต ริ ย์” เพียงแต่ ท รง ปกครองด้วยความรักไม่ใช่ดว้ ยกําลัง และทรงครองจิตใจมนุ ษย์ไม่ใช่จากพระราชวังแต่ จากไม้กางเขน !! 6
16/12/2012 16/12/2012 23/12/2012 23/12/2012 23/12/2012 23/12/2012
คุณสุ วรรณี แซ่อ้ งั 1,000 คุณสมาน บุบผาวาส 1,000 คุณสุ รพล ประดิษฐ์ศิลป์ 10,000 คุณพัสกร-คุณวรรณษา และครอบครัวธนาคลังหลวง 5,000 คุณรุ่ งนภา เลิศนุวฒั น์ 100 ผูไ้ ม่ประสงค์ออกนาม 2,000
รวมทั้งสิ้น
คุณวรรณา เมธี พิทกั ษ์กลุ ธนาคารทหารไทย จํากัด (มหาชน) คุณณัฐสุ ประวีณ์ พุฒิภคั ภูมิ คุณรสสุ คนธ์ กิจเจริ ญ คุณสมาน ทองไสว คุณสมชาย สุ ธางค์กลู Final Media Co., Ltd. คุณนิรมาน วงศ์ธนะชัย คุณดวงพร ชัยชนะ คุณอนุชา และคุณอัญชลี ภาระนันท์ คุณมาลี อดุลศิริสวัสดิ์ คุณเย็นฤดี เอรา คุณจริ ยา ดิลกวิทยารัตน์ บริ ษทั โกลบอล โปรดักส์ จํากัด คุณวันชัย เวโรจน์
101,200
บาท บาท บาท บาท บาท บาท
บาท
คุณทัศนีย ์ สว่าง คุณณัชชา พุฒิภคั ภูมิ คุณพรภัสสร ชัชวาลวรพงษ์ คุณสุ พรรณี ฤกษ์ภรู ิ ทตั คุณจิราภรณ์ ศันสนะวาณี คุณกนกพร พัฒนกิจสิ ริคุณ คุณมานพ สิ นไชยรัตนากุล คุณนิด จิตต์นะกูล คุณดารณี รุ่ งภูวพัฒน์ คุณมนัสนันท์ คุณวาทิวดา คุณศิวารี ย ์ แตงอ่อน ครอบครัวสาณะเสน คุณวิจิตร กิจปกครอง คุณนิรมาน วงศ์ธนะชัย 11
คุณวิไลวรรณ เตียวเจริ ญ คุณทิพวรรณ ทิวาวรรณวงศ์ คุณมีลยั ทรงกิจเจริ ญผล คุณวรวุฒิ ดีสุดจิตร บริ ษทั ห้างขายยาอังกฤษ (ตรางู) จํากัด คุณจําลอง จ.จิตต์เจริ ญชัย คุณวัชริ นทร์ รุ่ งเรื องกนกุล คุณนพินดา หาญจริ ง บริ ษทั ซี .พี.ฟู้ ดสโตร์ จํากัด
บริ ษทั ยูอาร์ซี (ประเทศไทย) จํากัด คุณปัทมา แทนศรี เกียรติ บริ ษทั เกตุวานิช อุตสาหกรรม จํากัด คุณนิด จิตต์นะกูล คุณฉวีวรรณ ทรงพิทยโยธิน คุณอัญชลี ไมตรี คุณพิมพ์ศิริ บุญเยีย่ ม ครอบครัวพร้อมเจริ ญวัฒนา ครอบครัวศิริปัญโญ
4. บรรดาหัวหน้ าสมณะและธรรมาจารย์ ที่ประชุมบรรดาหัวหน้าสมณะประกอบด้วยมหาสมณะที่เกษียณแล้วทุกคน และผูท้ ไ่ี ด้รบั การคัดเลือกจากสมาชิกของตระกูลชัน้ สูงเพียงไม่กต่ี ระกูลให้เป็ นหัวหน้า สมณะแบบผูกขาด ส่วนธรรมาจารย์คอื ผูเ้ ชีย่ วชาญด้านพระคัมภีรแ์ ละกฎหมาย ---------------------------ทันทีทพ่ี ระเยซูเจ้าประสูติ ปฏิกริ ยิ าของมนุ ษย์แบ่งออกเป็ น 3 กลุ่มอย่างเห็น ได้ชดั เกลียดและเป็ นศัตรู เฮโรดกลัวว่าพระกุมารจะเข้ามาแย่งชิงตําแหน่ ง อํานาจ และอิทธิพล ของพระองค์ จึงพยายามหาช่องทางกําจัดพระกุมารให้พน้ ไปจากชีวติ ของพระองค์ เช่นเดียวกับเฮโรด ยังมีคริสตชนอีกมากที่พร้อมกําจัดพระเยซูเจ้า ออกไปจากชีวติ เพราะเห็นว่าพระองค์เข้ามายุง่ เกีย่ วกับชีวติ ของตนจนไม่อาจทําอะไร ตามใจชอบได้อกี ต่อไป แต่อย่าลืมว่าคนทีท่ าํ อะไรตามใจชอบนัน้ หาได้มคี ุณค่าหรือประโยชน์ อันใดไม่ เขาเป็ นเพียง “ทาส” ของตนเองเท่านัน้ ! ส่วนคริสตชนแท้ต้องเป็ นคนที่ดําเนินชีวติ เหมือนพระคริสตเจ้า และ พร้อมอุทศิ ตนเพือ่ พระอาณาจักรของพระองค์ ดังนัน้ สิง่ ทีเ่ ราพึงวอนขอก่อนอื่นใดหมดก็คอื “พระประสงค์จงสําเร็จ ในแผ่นดิน เหมือนในสวรรค์” (มธ 6:10) 2. เฉย ๆ บรรดาหัวหน้ าสมณะและธรรมาจารย์มวั สลวนอยู่กบั การประกอบ พิธกี รรมในพระวิหาร และถกเถียงกันเรือ่ งกฎหมายจนไม่เห็นพระเยซูเจ้าอยูใ่ นสายตา ทัง้ ๆ ทีร่ ดู้ วี ่าพระองค์ประสูตใิ นเมืองเบธเลเฮม แคว้นยูเดีย แต่พวก เขากลับ “เฉย” 1.
คุณกานดา วงศ์ชาญวุฒิ คุณอัญชลี ภาระนันท์ คุณวัชริ นทร์ รุ่ งเรื องกนกุล คุณจินตนา หุตะพรประเสริ ฐ บริ ษทั ไทยเอกฟาร์ ม จํากัด
คุณสถิตย์ บํารุ งไทย คุณสมชาติ สุ ภาสื บ
12
คุณสุ พรรณี ฤกษ์ภรู ิ ทตั คุณวรรณิ ต องค์ชุมพาพิทกั ษ์ คุณพัชรี ธีระวัฒน์สกุล คุณนุชจรี ย ์ สิ งห์เสน่ห์ คุณอาทิตยาและคุณปุณิกา
คุณกําชัย จินตเสรี วงศ์ และอาสาสมัครทุกท่าน
5
3. เฮโรด เป็ นลูกครึง่ ระหว่างยิวและอีดเู มียน เคยร่วมมือกับโรมระหว่างสงครามกลาง เมืองในปาเลสไตน์จนได้รบั ความไว้วางใจแต่งตัง้ เป็ นผูว้ า่ ราชการ 47 ปี ก.ค.ศ. ต่อมา อีก 7 ปี ได้รบั การสถาปนาเป็ นกษัตริยจ์ นสิน้ พระชนม์ในปี ท่ี 4 ก.ค.ศ. รวมระยะเวลา ทีท่ รงครองราชย์นาน 36 ปี เฮโรดได้รบั การขนานนามว่า “มหาราช” ซึ่งสมควรอย่างยิง่ เพราะพระองค์ ทรงทําให้บา้ นเมืองมีระเบียบและเกิดความสงบสุขอย่างแท้จริง ทรงเป็ นนักก่อสร้าง ผูเ้ ก่งกาจ พระวิหารทีก่ รุงเยรูซาเล็มก็เป็ นผลงานของพระองค์ ทรงเป็ นกษัตริยผ์ มู้ นี ้ํา พระทัยกว้างขวาง ยามประชาชนเดือดร้อนก็ทรงลดภาษีให้ และเมื่อประชาชนอด อยากแร้นแค้นใกล้อดตายเพราะความกันดารแห้งแล้งอย่างหนักเมื่อ 25 ปี ก.ค.ศ. พระองค์ทรงสังให้ ่ หลอมจานทองคําเพือ่ นําไปซือ้ ข้าวโพดเลีย้ งพสกนิกรของพระองค์ แต่ขอ้ เสียของเฮโรดคือทรง “ระแวงสงสัย” ว่าจะถูกแย่งชิงบัลลังก์อย่างไม่มี เหตุผล ยิง่ เมือ่ พระชนมายุมากขึน้ ความระแวงสงสัยก็ยงิ่ ทวีมากขึน้ จนกลายเป็ น “คน แก่น่ากลัว” ไปในทีส่ ดุ ทรงกําจัดทุกคนทีส่ งสัยว่าจะเป็ นคู่แข่งชิงอํานาจจากพระองค์ ไม่เว้นแม้แต่มารีอมั เน ผู้เป็ นภรรยา และอเล็กซานดรามารดาของพระนาง อันตี ปาแตร์โอรสหัวปี รวมถึงโอรสอีก 2 องค์คอื อเล็กซานเดอร์และอริสโตบูลุสก็ไม่รอด พ้นจากการถูกประหาร จนจักรพรรดิออกัสตัสแห่งกรุงโรมเอ่ยว่า “เป็ นหมู (hus – ฮูส) ของเฮโรดยังปลอดภัยกว่าเป็ นบุตร (huios – ฮุยออส) ของเฮโรด” เมือ่ พระชนมายุ 70 พรรษา ทรงเกรงว่าจะไม่มผี ใู้ ดไว้ทุกข์รอ้ งไห้เมือ่ พระองค์ สิ้นพระชนม์ จึงทรงสังให้ ่ จบั กุมและกักขังผูม้ ชี ่อื เสียงของเยรูซาเล็มไว้จํานวนหนึ่ง ด้วยข้อหาที่กุขน้ึ มาเอง พร้อมทัง้ กําชับให้ประหารทุกคนทันทีท่สี น้ิ พระชนม์เพื่อให้ ประชาชนเป็ นทุกข์และรํ่าไห้ ! เราคงคาดเดาความรูส้ กึ ของเฮโรดได้ไม่ยากเมื่อโหราจารย์ถามว่า “กษัตริย์ ชาวยิวทีเ่ พิง่ ประสูตอิ ยูท่ ใี ่ ด” ?! (มธ 2:2)
4
มิสซาสมโภชพระคริสตเจ้ าแสดงองค์ (ปี C) วันอาทิตย์ ที่ 6 มกราคม ค.ศ. 2013 วัน เดือน ปี ส. 5 ม.ค. 18.00 น.
รายการมิสซา สุ ขสํ าราญ โมทนาคุณพระเจ้าและพระแม่มารี ย ์ มารี อา ประทุม, คุณสมนึก ใช้สมบุญ และครอบครัว คุณสุ รีนา ชวนิชย์ และครอบครัว ยอแซฟ อนันต์ พึ่งผล และครอบครัว อุทศิ แด่ ยอแซฟ เสถียร, มารี อา เสาวนีย ์ พงษ์เพิ่มมาศ คาทารี นา ริ รินทร์ จิระดํารง ยอแซฟ จอห์น พึ่งผล, คุณสุ ดชนก ชวนิชย์ คุณพิทยาธร ตัณฑวณิ ช, คุณศิริพงษ์ แพทยานนท์ คุณสุ ภกิตติ์ พัฒนาพลกรสกุล คุณพิสิทฐ์ เบญจมงคล สตีเฟน จํารู ญ, มารี อา ละมุด เจริ ญพานิช อันตน สําเริ ง โกญจนาท เปาโล ธีระ ปัญจทรัพย์ วิญญาณในไฟชําระและวิญญาณที่ไม่มีผใู้ ดนึกถึง อา. 6 ม.ค. สุ ขสํ าราญ โมทนาคุณพระตรี เอกภาพ และพระแม่มารี ย ์ 08.00 น. โรส เดอ ลิมา อาจรี ย ์ ศรี เจริ ญ มารี อา เอื้อพันธ์ และครอบครัวศรี เจริ ญ อักแนส ดรุ ณี เจียมประชา มารี อา มาริ สา เสวตรวิทย์ และครอบครัว คุณณัฐธร และขวัญ, คุณจักรกริ ช ยูเนยา อุทศิ แด่ ยอแซฟ ทิวากร รักคิด และบรรพบุรุษ ยวง บัปติสตา ก๊กเคี้ยง แซ่แพ้, มารี อา กิมฮวย แซ่ต้ งั ฟรังซิ สเซเวียร์ จิรวัฒน์ เสวตรวิทย์ ผูล้ ่วงลับครอบครัวโกวงศ์ ผูล้ ่วงลับครอบครัวตันติโกสิ ชฌน์
ผู้ขอมิสซา เจมส์ เจมส์ ปภาวิชญ์ อมรา เจมส์ เจมส์ เจมส์ เจมส์ คค.เจริ ญพานิช เริ งจิต ปัณฑา,ชัญญา คุณอ๊ะ ยุพดี คค.ศรี เจริ ญ คค.ศรี เจริ ญ วิภาวินี คค. ธนาพานิชย์ 13
วัน เดือน ปี อา. 6 ม.ค. 08.00 น.
รายการมิสซา อุทศิ แด่ เปโตร ยรรยง, ลูซีอา ลออ, มารี อา นิตยา อุชชิน ยอแซฟ สมบัติ อุชชิน มารี อา มยุรี ผลาวงศ์, มัทธิว เกียรติศกั ดิ์ สุ วรรณจิต เอลีซาเบธ วัลลีย ์ บูรณพันธ์ บรรพบุรุษและผูล้ ่วงลับครอบครัวธนาพานิชย์ วิญญาณในไฟชําระและวิญญาณที่ไม่มีผใู ้ ดนึกถึง อา. 6 ม.ค. สุ ขสํ าราญ โมทนาคุณพระตรี เอกภาพ และพระแม่มารี ย ์ 10.00 น. โมทนาคุณนักบุญอันตน, นักบุญเทเรซา โมทนาคุณบรรดานักบุญและอารักขเทวดาทั้งหลาย คุณชัชวลี ไมตรี ราฟาแอล ชัยพฤกษ์, มีคาแอล ธันวา และครอบครัว เซชีลียา เพ็กล้วน แซ่เอี้ยว และครอบครัว มารี อา ภาณุมาศ พงศ์พนั ธุ์พฒั น์ เทเรซา ชนินทร์ มาศ พนอําพน มารี อา ปนัดดา ลี้ยาง พลเอก พิจิตร,คุณหญิง วิมล กุลละวณิ ชย์ อันนา สุ ภาภรณ์ กิจสมัย เทเรซา ธีราภรณ์ แซ่โค้ว และครอบครัว เปาโล สรศิลป์ ศรี เคนและครอบครัว มารี อา พิสมัย หอมวิไล, เปาโล วันชัย แตงอ่อน ครอบครัวมาสู่ศิริมงคล, ครอบครัวเรื องรัตน์ ครอบครัวกิจปกครอง, ครอบครัวแสงไพบูลย์ ครอบครัวธนะสาร, ครอบครัวสาธรกิจ ครอบครัวรัตนบรรณสกุล, ครอบครัวเขม้นงาน ครอบครัวสุ ทธิโอภาส, ครอบครัวลิ้มจิตรกร ครอบครัวแสงแพ, ครอบครัวเตรี ยมวิชานนท์ ครอบครัวช่างคิด, ทุกๆครอบครัวในโลก
14
ผู้ขอมิสซา คค.อุชชิน คค.อุชชิน คค.อุชชิน คค.อุชชิน คค. ธนาพานิชย์ คค. ธนาพานิชย์ กนิษฐ์/วิไลวรรณ -/กนิษฐ์ นิราวัล/-
2. โหราจารย์ เฮโรโดตัส นักประวัตศิ าสตร์กล่าวถึง “โหราจารย์” ไว้ว่าเดิมทีเป็ นชาวมีเดียน ซึ่งเป็ นชนส่วนหนึ่งในอาณาจักรเปอร์เซีย เคยก่อการกบฏแต่ล้มเหลวจึงเบนความ สนใจจากอํานาจทางบ้านเมือง มาทําหน้าที่ “สงฆ์” ในเปอร์เซีย ดุจเดียวกับตระกูลเลวี ซึง่ ทําหน้าที่ “สงฆ์” ในอิสราเอล พวกเขาพลิกบทบาทจากนักรบมาเป็ นผู้ศ กั ดิ ์สิทธิแ์ ละผู้รู้ ทําหน้ าที่ถวาย เครือ่ งบูชา สอน และให้คาํ แนะนําแก่กษัตริยเ์ ปอร์เซีย สมัยก่อน โหราศาสตร์มบี ทบาทต่อมนุ ษย์สูงยิง่ พวกเขาเชื่อว่าดาวทุกดวง ต่างเคลื่อนไปตามวงโคจรของมันโดยไม่เปลีย่ นแปลง หากมีการเปลีย่ นแปลงหรือเกิด ปรากฏการณ์พเิ ศษขึน้ ย่อมหมายความว่า “พระเจ้าทรงฝื นระเบียบธรรมชาติเพือ่ จะ บอกบางสิง่ บางอย่างแก่มนุษย์เป็ นพิเศษ” บางคนอาจแปลกใจที่โหราจารย์เดินตามดาวจากแดนไกลเพื่อมานมัสการ กษัตริยถ์ งึ กรุงเยรูซาเล็ม แต่น่ีเป็ นเรือ่ งปกติของคนสมัยก่อน เราจึงไม่ควรด่วนสรุปว่า เหตุการณ์น้ีเป็ นเพียงตํานานเรือ่ งหนึ่ง มิใช่เหตุการณ์ทเ่ี กิดขึน้ จริง อีก เหตุ ผ ลหนึ่ ง ที่ทํา ให้เ ราไม่ค วรด่ ว นสรุ ป เช่ น นั น้ ก็คือ มีห ลัก ฐานระบุ ว่ า กระแสเฝ้าคอยการเสด็จมาของกษัตริยผ์ ยู้ งิ่ ใหญ่แพร่หลายทัวไปในช่ ่ วงเวลาเดียวกัน กับทีพ่ ระเยซูเจ้าประสูติ แม้แต่นกั ประวัตศิ าสตร์โรมันอย่างเช่นซูเอโตนีอุสยังเขียนไว้ ว่า “มีความเชือ่ เก่าแก่แพร่สะพัดไปทัวตะวั ่ นออกว่าจะมีคนจากยูเดียมาปกครองโลก” (Suetonius: Life of Vespasian, 4:5) ตาชีตุสก็ยนื ยันเช่นเดียวกันว่า “มีความเชือ่ มันว่ ่ า ช่วงเวลานี้ ตะวันออกจะมี อํ า นาจยิง่ ใหญ่ ผู้ป กครองจากยู เ ดีย จะครอบครองอาณาจัก รทัว่ โลก” (Tacitus: Histories, 5:13) ส่ว นชาวยิว นั น้ เชื่อ อยู่แ ล้ว ว่า “ช่ว งเวลานี้ จะมีผู้ป กครองโลกออกมาจาก ประเทศของตน” (Josephus: Wars of the Jews, 6:5, 4)
3
สมโภชพระคริสตเจ้ าแสดงองค์
มธ 2:1-12
1. สถานที่ประสูติ “พระเยซูเจ้าประสูตทิ เี ่ มืองเบธเลเฮมในแคว้นยูเดีย” (มธ 2:1) “เบธเลเฮม” แปลว่า “บ้านแห่งขนมปงั ” เดิมชื่อเอฟราธาห์ อยู่ห่างจากกรุง เยรูซาเล็มไปทางทิศใต้ประมาณ 10 กิโลเมตร เป็ นเมืองทีม่ ปี ระวัตศิ าสตร์ยาวนาน เป็ นทีฝ่ งั ศพของนางราเคลภรรยาของยาโคบ (ปฐก 48:7) เป็ นทีอ่ าศัยของนางรูธหลัง แต่งงานกับโบอาซและได้ให้กําเนิดโอเบด ผูเ้ ป็ นบิดาของเจสซี ซึง่ เป็ นบิดาของดาวิด (นรธ 1:22) เหนืออื่นใด เบธเลเฮมเป็ นเมืองของกษัตริยด์ าวิด (1 ซมอ 16:1;17:12; 20:6) ซึ่งพระเจ้าทรงสัญญาจะส่ง “พระผู้ช่วยให้รอด” มาจากเชื้อสายและจากเมืองของ พระองค์ ดังที่ประกาศกมีคาห์ทํานายไว้ว่า “เมืองเบธเลเฮม ดินแดนยูดาห์ เจ้ามิใช่ เล็กทีส่ ุดในบรรดาหัวเมืองแห่งยูดาห์ เพราะผูน้ ํ าคนหนึง่ จะออกมาจากเจ้า ซึง่ จะเป็ น ผูน้ ําอิสราเอล ประชากรของเรา” (มคา 5:2) นักบุญจัสติน ปิ ตาจารย์ผูเ้ กิดใกล้เบธเลเฮมราวปี ค.ศ.100 บันทึกไว้ว่า ชาวเมืองเบธเลเฮมนิยมเจาะภูเขาเป็ นทีพ่ กั อาศัย และมักเจาะหินใต้บา้ นให้กลวงเป็ น ถํ้ า เพื่อใช้เ ลี้ยงสัต ว์ เป็ นไปได้ว่าพระเยซูเ จ้าประสูติใ นถํ้าหินสําหรับ เลี้ยงสัต ว์น้ี (Justin Martyr: Dialogue with Trypho, 78, 304) 2
วัน เดือน ปี อา 6 ม.ค. 10.00 น.
รายการมิสซา อุทศิ แด่ โรซา ราตรี ลี้ยาง, อันนา ยีส่ ุ่ น พานิช คุณวิชยั สายแสง, คุณสอ ชูสอน คุณพัฒนา ทองธิ ว ยอแซฟ จือกิม กิจสมัย ปุญเกลีอา นอแอนนี กิจสมัย เปโตร แหวน, ลูซีอา สังเวียน เกิดวิชยั อลิซาเบธ อารี สังข์พงษ์ คุณอัศวเทพ เทพานนท์ มารี อา มาลัย, คุณสุ รินทร์ ลักษมีวรานนท์ ฟรังซิ สโก วิจิตร กาญจนธานินทร์ คาธารี อา วงศ์ประยูร เทวารุ ทธ คุณเส่ ง วชิรจุติพงศ์ คุณอุย้ นิ้ว แซ่เซี้ ยว คุณนวลจันทร์ ธนะสาร, ด.ช.ธงชัย ธนะสาร เปโตร เหลี่ยวน ฮวาง วัน มาร์ธา เฮียน ฮว่าง ถิ เปโตร บ้วนฮง เตียวเจริ ญ ผูล้ ่วงลับตระกูลจุลละมณฑล ผูล้ ่วงลับครอบครัวธนะสาร ผูล้ ่วงลับครอบครัวสาธรกิจ วิญญาณในไฟชําระ และวิญญาณที่ไม่มีใครคิดถึง สุ ขสํ าราญ เซซี เลีย เจนจิรา ประยูรรัตน์, คุณจิมมี่ ไมเกิ้ล (วันเกิด) จ. 7 ม.ค. อุทศิ แด่ มาริ นนา ลิลลี่ รุ่ งเรื อง อ. 8 ม.ค. สุ ขสํ าราญ คุณกาญจนา สุ ภาไวย์ พ. 9 ม.ค. สุ ขสํ าราญ ฟี เดส จิตรา ดารุ ทยาน พฤ.10 ม.ค. อุทศิ แด่ วิญญาณในไฟชําระ ศ. 11 ม.ค. อุทศิ แด่ วิญญาณในไฟชําระ
ผู้ขอมิสซา อมรา พิชยั ธนกร ธนกร เจนนี่ อมรา อมรา อมรา 15
วันเสาร์ ห น้า (12 มกราคม ศกนี้ ) เป็ นวันเด็กแห่ งชาติ ขอเชิ ญพี่น้องทุ ก ท่ านพา ลูกหลานร่ วมงาน “วันเด็กแม่พระกุหลาบทิพย์” ตั้งแต่เวลา 8.30 -12.00 น. พบกับ เกม การละเล่นที่สนุกสนาน รับของที่ระลึก และลุน้ รับรางวัลตลอดงาน ณ ศาลาปี ติ การุ ณย์
ประกาศครั้งที่ 2 พิธีสมรส ณ วัดแม่ พระกุหลาบทิพย์
ฉบับที่ 456 วันอาทิตย์ที่ 6 มกราคม ค.ศ. 2013
สมโภชพระคริสตเจ้ าแสดงองค์ (ปี C)
ยอห์น บัปติส พรศักดิ์ ประสงค์สุขสันต์ บุตร ยวง โง่วฮวด และ มารี อา หมุยลั้ง แซ่อ้ ึง จะเข้าพิธีสมรสกับ นางสาวริ ษา ปิ นตา บุตรี นายชวลิต และ นางทองศรี ปิ นตา วันเสาร์ ที่ 19 มกราคม ค.ศ. 2013 เวลา 10.00 น. **ผู้ใดพบข้ อขัดขวาง โปรดแจ้ งคุณพ่ อเจ้ าอาวาสทราบ**
ข้าแต่พระเจ้า บัดนี้ พระองค์ทรงปล่อยผูร้ บั ใช้ของพระองค์ไปเป็ นสุข เพราะนัยน์ตาของข้าพเจ้าได้เห็นองค์พระผูช้ ่วยให้รอดพ้น ลก 2:29-30
เขาเข้ าไปในบ้ าน พบพระกุมารกับพระนางมารีย์พระมารดา จึงคุกเข่ าลงนมัสการพระองค์ มธ 2:11
16